• อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าทุกข์โทษที่เกิดจากกาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 311
    ชื่อบทธรรม :- ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=311
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม
    --ภิกษุ ท. ! โทษของกามทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! กุลบุตรในโลกนี้ สำเร็จการเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพศิลปะใด ๆ เช่น
    ศิลปะแห่งการใช้สัญญาด้วยมือ,
    ศิลปะแห่งการคำนวณ,
    ศิลปะแห่งการพยากรณ์,
    การทำกสิกรรม พาณิชยกรรม และโครักขกรรม,
    ศิลปะแห่งศัสตราวุธ,
    และการทำราชการ และศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง ;
    เพราะการประกอบอาชีพนั้น ๆ เขาต้องเผชิญหน้าต่อความหนาว ความร้อน
    เผชิญหน้าด้วย เหลือบ ยุง ลม แดด และสัมผัสด้วยสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย
    ซูบผอมอยู่ หิวระหายอยู่ เพราะการไม่ได้บริโภคตามเวลา.
    --ภิกษุ ท. ! นี้ เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายามอยู่อย่างนี้,
    โภคทรัพย์ ก็ยังไม่สำเร็จแก่เขา,
    เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอก ร่ำไห้ ถึงความมืดมัวอยู่ ว่า
    “ความขยันของเรา เป็นหมันหนอ,
    ความพยายามของเราไร้ผลหนอ”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายาม อยู่อย่างนี้,
    โภคทรัพย์ ก็สำเร็จแก่เขาด้วย เขา ก็จะต้องเสวยทุกข์ โทมนัส
    เพราะการอารักขาโภคทรัพย์เหล่านั้นเป็นต้นเหตุ ด้วยหวังอยู่ ว่า
    “พระราชาจะไม่ริบทรัพย์เหล่านั้นไป,
    โจร จะไม่ปล้นทรัพย์เหล่านั้นไป,
    ไฟ จะไม่ไหม้ทรัพย์เหล่านั้น,
    น้ำ จะไม่ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้น ;
    ทายาทที่ไม่พอใจ จะไม่ยื้อแย่งทรัพย์เหล่านั้นไป”
    ดังนี้.
    เมื่อกุลบุตรนั้น ทำการอารักขาคุ้มครองอยู่อย่างนี้
    พระราชา ริบเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม,
    โจร ปล้นเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม,
    ไฟ ไหม้ทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม,
    น้ำ ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม,
    หรือทายาทที่ไม่พอใจ ยื้อแย่งเอาทรัพย์เหล่านั้นไปได้ก็ตาม,
    เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอกร่ำไห้ ถึงความมืดมัวรำพันอยู่ ว่า
    “ ทรัพย์ใดได้มีแล้วแก่เรา ทรัพย์นั้นไม่มีเสียแล้ว”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย
    เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว
    :พระราชา ย่อมวิวาทกับพระราชาบ้าง,
    กษัตริย์ย่อมวิวาทกับกษัตริย์บ้าง,
    พราหมณ์ย่อมวิวาทกับพราหมณ์บ้าง,
    คฤหบดีย่อมวิวาทกับคฤหบดีบ้าง,
    มารดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง,
    บุตรย่อมวิวาทกับมารดาบ้าง,
    บิดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง,
    บุตรย่อมวิวาทกับบิดาบ้าง,
    พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง,
    พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องหญิงบ้าง,
    พี่น้องหญิงย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง,
    สหายย่อมวิวาทกับสหายบ้าง ;
    คนเหล่านั้น ทำการทะเลาะ วิวาท บาดหมางกันแล้ว
    ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยมือบ้าง,
    ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยก้อนดินบ้าง,
    ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยท่อนไม้บ้าง,
    ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยศัสตราบ้าง, อยู่ในที่นั้นๆ.
    เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุ เพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว
    : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร แบ่งกันเป็นสองกองทัพ
    พุ่งเข้าทำสงครามกัน.
    เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่,
    คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง,
    ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตายหรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษ ของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว
    : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร วิ่งขึ้นปีนเชิงเทิน (เพื่อปล้นเอาเมือง), เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่,
    คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง,
    ราดกันด้วยเถ้าถ่านโคมัยอันร้อนบ้าง.
    ปล่อยของหนักให้ตกลงทับทีเดียวตายทั้งหมู่บ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง,
    ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้นย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.
    --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว

    : คนทั้งหลาย ย่อมตัดช่อง ย่องเบา ปล้นสะดมในเรือนหลังเดียว
    คอยดักทำร้ายในที่เปลี่ยว และล่วงภรรยาผู้อื่น.
    พระราชา จับคนเหล่านั้นมาแล้ว ให้ลงกรรมกรณ์หลายวิธีด้วยกัน
    เช่นเฆี่ยนด้วยหวายบ้าง, หวดด้วยเชือกหนังบ้าง, ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง, ตัดมือเสียบ้าง,
    ตัดเท้าเสียบ้าง, ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง, ตัดหูบ้าง, ตัดจมูกบ้าง, ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง,
    ยอมทำโทษโดยวิธี หม้อเคี่ยวน้ำส้ม-๑ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ขอดสังข์๒ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ปากราหู-๓ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี มาลัยไฟ-๔ บ้าง.
    ย่อมทำโทษ โดยวิธี คบมือ-๕ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ริ้วส่าย-๖ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี นุ่งเปลือกไม้-๗ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ยืนกวาง-๘ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี เกี่ยวเหยื่อเบ็ด-๙ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี เหรียญกษปณ์-๑๐ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ทาเกลือบ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี แปรงแสบ-๑๑ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี กางเกวียน-๑๒ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ตั่งฟาง๑๓ บ้าง,
    ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อนๆ บ้าง,
    ย่อมปล่อยให้สุนัขทึ้ง-๑๔ บ้าง,
    ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ บ้าง,
    ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง.
    เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย
    เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ
    เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว
    : คนทั้งหลาย ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ.
    ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจแล้ว,
    เขาเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เบื้องหน้าแต่การตาย
    เพราะการแตกสลายแห่งกาย.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย
    เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เองมีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว,.
    ดังนี้แล.-

    ! --
    ©หมายเหตุ ตามนัยอรรถกถาและพระไตรปิฎกแปลของ ม.อำไพจริต.
    -๑. หม้อเคี่ยวน้ำส้ม คือต่อยหัวขมองแยกออก แล้วใช้คีมคีบก้อนเหล็กที่ลุกแดงใส่ลงไปให้มันสมองเดือดพลุ่งขึ้น เหมือนน้ำส้มเดือดล้นหม้อ.-
    -๒. ขอดสังข์ คือตัดหนังควั่นไปให้รอบจอนหูทั้งสองข้าง และหลุมคอ แล้วรวบผมทั้งหมดขมวดไว้ ใช้ไม้สอดหมุ ยกขึ้น ให้หนังหลุดติดขึ้นมาพร้อมกับผมแล้วใช้ทรายหยาบขัดกระโหลกศีรษะล้างให้ขาว ดั่งสังข์.-
    -๓. ปากราหู คือใช้ขอเหล็กง้างปากให้อ้าแล้วจุดไฟในปาก. อีกอย่างหนึ่ง ใช้สิ่วตอกเจาะตั้งแต่จอนหูเข้าไปจนถึงปาก ให้โลหิตไหลออกมาเต็มปาก ดูปากอ้า ดั่งปากราหู.-
    -๔. มาลัยไฟ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันจนทั่วตัวแล้วจุดไฟ-
    -๕. คบมือ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันมือทั่วสองข้างจนทั่ว แล้วจุดไฟ.-
    -๖. ริ้วส่าย คือเชือดหนังลอกออกเป็นริ้วๆ ตั้งแต่ใต้คอไปจนถึงข้อเท้า แล้วเอาเชือกผูกฉุดคร่าไป นักโทษเดินเหยียบริ้วหนังของตัวล้มลุกคลุกคลานไปกว่าจะตาย-
    -๗. นุ่งเปลือกไม้ คือเชือดหนังเป็นริ้ว ๆ อย่างบทก่อน แต่ทำเป็นสองตอน ตั้งแต่ใต้คอจนถึงเอวตอนหนึ่ง ตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้าตอนหนึ่ง ริ้วหนังตอนบนห้อยคลุมลงมาปิดกายตอนล่าง ดูดั่งนุ่งเปลือกไม้-
    -๘. ยืนกวาง คือใช้ห่วงเหล็กรัดศอกทั้งสอง และเข่าทั้งสอง ตรึงติดไว้กับหลักเหล็กสี่หลักบนพื้นดิน ดูดั่ง กวางถูกตรึง แล้วก่อไฟล้อมลนไปกว่าจะตาย.-
    -๙. เกี่ยวเหยื่อเบ็ด คือใช้เบ็ดมีเงี่ยงสองข้าง เกี่ยวตัวดึงเอาหนังเนื้อและเอ็นออกมาให้หมด.-
    -๑๐. เหรียญกษาปณ์ คือใช้มีดคมเชือดเนื้อออกเป็นแว่นๆ ขนาดเท่าเงินเหรียญจนกว่าจะตาย.-
    -๑๑. แปรงแสบ คือฟันสับเสียให้ยับทั่วกาย แล้วใช้แปรงชุบน้ำแสบ (มีน้ำเกลือเป็นต้น) ถูครูดสีไปมาให้หนังเนื้อเอ็น ขาดหลุดออกมาหมด เหลือแต่กระดูก.-
    -๑๒. กางเกวียน คือให้นอนตะแคง แล้วใช้หลาวเหล็กตอกเข้าช่องหูให้ทะลุ ลงไปตรึงแน่นอยู่กับดิน แล้วจับเท้าทั้งสองยกเดินเวียน.-
    -๑๓. ตั่งฟาง คือใช้ลูกหินบดทับตัว บดให้กระดูกแตกละเอียด แต่ไม่ให้หนังขาด แล้วจับผมรวบขึ้นเขย่าๆ ให้เนื้อรวมเข้าเป็นกอง แล้วใช้ผมนั่นแหละพันตะล่อมวางไว้ เหมือนดั่งที่ทำด้วยฟางสำหรับเช็ดเท้า.-
    -๑๔. ให้สุนัขทึ้ง คือขังฝูงสุนัขให้อดหิวโซหลายวัน แล้วปล่อยให้ออกมารุมทึ้ง พักเดียวเหลือแต่กระดูก.
    ---!

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/116/198.
    http://etipitaka.com/read/thai/12/116/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๑๖๙/๑๙๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/169/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม..
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=311
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21&id=311
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21
    ลำดับสาธยายธรรม : 21 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_21.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าทุกข์โทษที่เกิดจากกาม สัทธรรมลำดับที่ : 311 ชื่อบทธรรม :- ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=311 เนื้อความทั้งหมด :- --ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม --ภิกษุ ท. ! โทษของกามทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! กุลบุตรในโลกนี้ สำเร็จการเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพศิลปะใด ๆ เช่น ศิลปะแห่งการใช้สัญญาด้วยมือ, ศิลปะแห่งการคำนวณ, ศิลปะแห่งการพยากรณ์, การทำกสิกรรม พาณิชยกรรม และโครักขกรรม, ศิลปะแห่งศัสตราวุธ, และการทำราชการ และศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง ; เพราะการประกอบอาชีพนั้น ๆ เขาต้องเผชิญหน้าต่อความหนาว ความร้อน เผชิญหน้าด้วย เหลือบ ยุง ลม แดด และสัมผัสด้วยสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ซูบผอมอยู่ หิวระหายอยู่ เพราะการไม่ได้บริโภคตามเวลา. --ภิกษุ ท. ! นี้ เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายามอยู่อย่างนี้, โภคทรัพย์ ก็ยังไม่สำเร็จแก่เขา, เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอก ร่ำไห้ ถึงความมืดมัวอยู่ ว่า “ความขยันของเรา เป็นหมันหนอ, ความพยายามของเราไร้ผลหนอ” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายาม อยู่อย่างนี้, โภคทรัพย์ ก็สำเร็จแก่เขาด้วย เขา ก็จะต้องเสวยทุกข์ โทมนัส เพราะการอารักขาโภคทรัพย์เหล่านั้นเป็นต้นเหตุ ด้วยหวังอยู่ ว่า “พระราชาจะไม่ริบทรัพย์เหล่านั้นไป, โจร จะไม่ปล้นทรัพย์เหล่านั้นไป, ไฟ จะไม่ไหม้ทรัพย์เหล่านั้น, น้ำ จะไม่ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้น ; ทายาทที่ไม่พอใจ จะไม่ยื้อแย่งทรัพย์เหล่านั้นไป” ดังนี้. เมื่อกุลบุตรนั้น ทำการอารักขาคุ้มครองอยู่อย่างนี้ พระราชา ริบเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม, โจร ปล้นเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม, ไฟ ไหม้ทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม, น้ำ ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม, หรือทายาทที่ไม่พอใจ ยื้อแย่งเอาทรัพย์เหล่านั้นไปได้ก็ตาม, เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอกร่ำไห้ ถึงความมืดมัวรำพันอยู่ ว่า “ ทรัพย์ใดได้มีแล้วแก่เรา ทรัพย์นั้นไม่มีเสียแล้ว” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว :พระราชา ย่อมวิวาทกับพระราชาบ้าง, กษัตริย์ย่อมวิวาทกับกษัตริย์บ้าง, พราหมณ์ย่อมวิวาทกับพราหมณ์บ้าง, คฤหบดีย่อมวิวาทกับคฤหบดีบ้าง, มารดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง, บุตรย่อมวิวาทกับมารดาบ้าง, บิดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง, บุตรย่อมวิวาทกับบิดาบ้าง, พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง, พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องหญิงบ้าง, พี่น้องหญิงย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง, สหายย่อมวิวาทกับสหายบ้าง ; คนเหล่านั้น ทำการทะเลาะ วิวาท บาดหมางกันแล้ว ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยมือบ้าง, ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยก้อนดินบ้าง, ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยท่อนไม้บ้าง, ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยศัสตราบ้าง, อยู่ในที่นั้นๆ. เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุ เพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร แบ่งกันเป็นสองกองทัพ พุ่งเข้าทำสงครามกัน. เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่, คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง, ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตายหรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษ ของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร วิ่งขึ้นปีนเชิงเทิน (เพื่อปล้นเอาเมือง), เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่, คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง, ราดกันด้วยเถ้าถ่านโคมัยอันร้อนบ้าง. ปล่อยของหนักให้ตกลงทับทีเดียวตายทั้งหมู่บ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง, ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้นย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ย่อมตัดช่อง ย่องเบา ปล้นสะดมในเรือนหลังเดียว คอยดักทำร้ายในที่เปลี่ยว และล่วงภรรยาผู้อื่น. พระราชา จับคนเหล่านั้นมาแล้ว ให้ลงกรรมกรณ์หลายวิธีด้วยกัน เช่นเฆี่ยนด้วยหวายบ้าง, หวดด้วยเชือกหนังบ้าง, ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง, ตัดมือเสียบ้าง, ตัดเท้าเสียบ้าง, ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง, ตัดหูบ้าง, ตัดจมูกบ้าง, ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง, ยอมทำโทษโดยวิธี หม้อเคี่ยวน้ำส้ม-๑ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ขอดสังข์๒ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ปากราหู-๓ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี มาลัยไฟ-๔ บ้าง. ย่อมทำโทษ โดยวิธี คบมือ-๕ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ริ้วส่าย-๖ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี นุ่งเปลือกไม้-๗ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ยืนกวาง-๘ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี เกี่ยวเหยื่อเบ็ด-๙ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี เหรียญกษปณ์-๑๐ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ทาเกลือบ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี แปรงแสบ-๑๑ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี กางเกวียน-๑๒ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ตั่งฟาง๑๓ บ้าง, ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อนๆ บ้าง, ย่อมปล่อยให้สุนัขทึ้ง-๑๔ บ้าง, ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ บ้าง, ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง. เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ. ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจแล้ว, เขาเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เบื้องหน้าแต่การตาย เพราะการแตกสลายแห่งกาย. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เองมีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว,. ดังนี้แล.- ! -- ©หมายเหตุ ตามนัยอรรถกถาและพระไตรปิฎกแปลของ ม.อำไพจริต. -๑. หม้อเคี่ยวน้ำส้ม คือต่อยหัวขมองแยกออก แล้วใช้คีมคีบก้อนเหล็กที่ลุกแดงใส่ลงไปให้มันสมองเดือดพลุ่งขึ้น เหมือนน้ำส้มเดือดล้นหม้อ.- -๒. ขอดสังข์ คือตัดหนังควั่นไปให้รอบจอนหูทั้งสองข้าง และหลุมคอ แล้วรวบผมทั้งหมดขมวดไว้ ใช้ไม้สอดหมุ ยกขึ้น ให้หนังหลุดติดขึ้นมาพร้อมกับผมแล้วใช้ทรายหยาบขัดกระโหลกศีรษะล้างให้ขาว ดั่งสังข์.- -๓. ปากราหู คือใช้ขอเหล็กง้างปากให้อ้าแล้วจุดไฟในปาก. อีกอย่างหนึ่ง ใช้สิ่วตอกเจาะตั้งแต่จอนหูเข้าไปจนถึงปาก ให้โลหิตไหลออกมาเต็มปาก ดูปากอ้า ดั่งปากราหู.- -๔. มาลัยไฟ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันจนทั่วตัวแล้วจุดไฟ- -๕. คบมือ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันมือทั่วสองข้างจนทั่ว แล้วจุดไฟ.- -๖. ริ้วส่าย คือเชือดหนังลอกออกเป็นริ้วๆ ตั้งแต่ใต้คอไปจนถึงข้อเท้า แล้วเอาเชือกผูกฉุดคร่าไป นักโทษเดินเหยียบริ้วหนังของตัวล้มลุกคลุกคลานไปกว่าจะตาย- -๗. นุ่งเปลือกไม้ คือเชือดหนังเป็นริ้ว ๆ อย่างบทก่อน แต่ทำเป็นสองตอน ตั้งแต่ใต้คอจนถึงเอวตอนหนึ่ง ตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้าตอนหนึ่ง ริ้วหนังตอนบนห้อยคลุมลงมาปิดกายตอนล่าง ดูดั่งนุ่งเปลือกไม้- -๘. ยืนกวาง คือใช้ห่วงเหล็กรัดศอกทั้งสอง และเข่าทั้งสอง ตรึงติดไว้กับหลักเหล็กสี่หลักบนพื้นดิน ดูดั่ง กวางถูกตรึง แล้วก่อไฟล้อมลนไปกว่าจะตาย.- -๙. เกี่ยวเหยื่อเบ็ด คือใช้เบ็ดมีเงี่ยงสองข้าง เกี่ยวตัวดึงเอาหนังเนื้อและเอ็นออกมาให้หมด.- -๑๐. เหรียญกษาปณ์ คือใช้มีดคมเชือดเนื้อออกเป็นแว่นๆ ขนาดเท่าเงินเหรียญจนกว่าจะตาย.- -๑๑. แปรงแสบ คือฟันสับเสียให้ยับทั่วกาย แล้วใช้แปรงชุบน้ำแสบ (มีน้ำเกลือเป็นต้น) ถูครูดสีไปมาให้หนังเนื้อเอ็น ขาดหลุดออกมาหมด เหลือแต่กระดูก.- -๑๒. กางเกวียน คือให้นอนตะแคง แล้วใช้หลาวเหล็กตอกเข้าช่องหูให้ทะลุ ลงไปตรึงแน่นอยู่กับดิน แล้วจับเท้าทั้งสองยกเดินเวียน.- -๑๓. ตั่งฟาง คือใช้ลูกหินบดทับตัว บดให้กระดูกแตกละเอียด แต่ไม่ให้หนังขาด แล้วจับผมรวบขึ้นเขย่าๆ ให้เนื้อรวมเข้าเป็นกอง แล้วใช้ผมนั่นแหละพันตะล่อมวางไว้ เหมือนดั่งที่ทำด้วยฟางสำหรับเช็ดเท้า.- -๑๔. ให้สุนัขทึ้ง คือขังฝูงสุนัขให้อดหิวโซหลายวัน แล้วปล่อยให้ออกมารุมทึ้ง พักเดียวเหลือแต่กระดูก. ---! #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/116/198. http://etipitaka.com/read/thai/12/116/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๑๖๙/๑๙๘. http://etipitaka.com/read/pali/12/169/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม.. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=311 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21&id=311 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21 ลำดับสาธยายธรรม : 21 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_21.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (เรื่องนี้ควรจะอยู่ในหมวดนิโรธ แต่นำมาใส่ไว้ต่อท้ายเรื่องนี้ซึ่งเป็นหมวดสมุทัยก็เพื่อความสะดวกแก่การศึกษา คือศึกษาพร้อมกัน อันจะเป็นการง่าย ได้ผลดีกว่าที่จะแยกกัน.
    -(เรื่องนี้ควรจะอยู่ในหมวดนิโรธ แต่นำมาใส่ไว้ต่อท้ายเรื่องนี้ซึ่งเป็นหมวดสมุทัยก็เพื่อความสะดวกแก่การศึกษา คือศึกษาพร้อมกัน อันจะเป็นการง่าย ได้ผลดีกว่าที่จะแยกกัน. แต่ยังมีลักษณะแห่งจิตของผู้ที่เรียกว่าอยู่คนเดียวที่ลึกซึ้งกว่า ประณีตกว่าเรื่องนี้ในหมวดนิโรธ หรือภาค ๓ ขอให้ดูจากที่นั้น ที่หน้า ๖๙๕ โดยหัวข้อว่า “ผู้อยู่คนเดียวคือผู้ไม่ข้องติดอยู่ในธรรมทั้งปวง”). ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม ภิกษุ ท. ! โทษของกามทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! กุลบุตรในโลกนี้ สำเร็จการเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพศิลปะใด ๆ เช่นศิลปะแห่งการใช้สัญญาด้วยมือ, ศิลปะแห่งการคำนวณ, ศิลปะแห่งการพยากรณ์, การทำกสิกรรม พาณิชยกรรม และโครักขกรรม, ศิลปะแห่งศัสตราวุธ, และการทำราชการ และศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง ; เพราะการประกอบอาชีพนั้น ๆ เขาต้องเผชิญหน้าต่อความหนาว ความร้อน เผชิญหน้าด้วย เหลือบ ยุง ลม แดด และสัมผัสด้วยสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ซูบผอมอยู่ หิวระหายอยู่ เพราะการไม่ได้บริโภคตามเวลา. ภิกษุ ท. ! นี้ เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายามอยู่อย่างนี้, โภคทรัพย์ ก็ยังไม่สำเร็จแก่เขา, เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอก ร่ำไห้ ถึงความมืดมัวอยู่ ว่า “ความขยันของเรา เป็นหมันหนอ, ความพยายามของเราไร้ผลหนอ” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายาม อยู่อย่างนี้, โภคทรัพย์ ก็สำเร็จแก่เขาด้วย เขา ก็จะต้องเสวยทุกข์ โทมนัสเพราะการอารักขาโภคทรัพย์เหล่านั้นเป็นต้นเหตุ ด้วยหวังอยู่ ว่า “พระราชาจะไม่ริบทรัพย์เหล่านั้นไป, โจร จะไม่ปล้นทรัพย์เหล่านั้นไป, ไฟ จะไม่ไหม้ทรัพย์เหล่านั้น, น้ำ จะไม่ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้น ; ทายาทที่ไม่พอใจ จะไม่ยื้อแย่งทรัพย์เหล่านั้นไป” ดังนี้. เมื่อกุลบุตรนั้น ทำการอารักขาคุ้มครองอยู่อย่างนี้ พระราชา ริบเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม, โจร ปล้นเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม, ไฟ ไหม้ทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม, น้ำ ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม, หรือทายาทที่ไม่พอใจ ยื้อแย่งเอาทรัพย์เหล่านั้นไปได้ก็ตาม, เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอกร่ำไห้ ถึงความมืดมัวรำพันอยู่ ว่า “ ทรัพย์ใดได้มีแล้วแก่เรา ทรัพย์นั้นไม่มีเสียแล้ว” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : พระราชา ย่อมวิวาทกับพระราชาบ้าง, กษัตริย์ย่อมวิวาทกับกษัตริย์บ้าง, พราหมณ์ย่อมวิวาทกับพราหมณ์บ้าง, คฤหบดีย่อมวิวาทกับคฤหบดีบ้าง, มารดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง, บุตรย่อมวิวาทกับมารดาบ้าง, บิดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง. บุตรย่อมวิวาทกับบิดาบ้าง, พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง, พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องหญิงบ้าง, พี่น้องหญิงย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง, สหายย่อมวิวาทกับสหายบ้าง ; คนเหล่านั้น ทำการทะเลาะ วิวาท บาดหมางกันแล้ว ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยมือบ้าง, ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยก้อนดินบ้าง ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยท่อนไม้บ้าง, ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยศัสตราบ้าง, อยู่ในที่นั้นๆ. เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุ เพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร แบ่งกันเป็นสองกองทัพ พุ่งเข้าทำสงครามกัน. เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่, คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง, ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตายหรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษ ของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร วิ่งขึ้นปีนเชิงเทิน (เพื่อปล้นเอาเมือง), เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่, คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง, ราดกันด้วยเถ้าถ่านโคมัยอันร้อนบ้าง. ปล่อยของหนักให้ตกลงทับทีเดียวตายทั้งหมู่บ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง, ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้นย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ย่อมตัดช่อง ย่องเบา ปล้นสะดมในเรือนหลังเดียว คอยดักทำร้ายในที่เปลี่ยว และล่วงภรรยาผู้อื่น. พระราชา จับคนเหล่านั้นมาแล้ว ให้ลงกรรมกรณ์หลายวิธีด้วยกัน เช่นเฆี่ยนด้วยหวายบ้าง, หวดด้วยเชือกหนังบ้าง, ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง, ตัดมือเสียบ้าง, ตัดเท้าเสียบ้าง, ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง, ตัดหูบ้าง, ตัดจมูกบ้าง, ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง, ยอมทำโทษโดยวิธี หม้อเคี่ยวน้ำส้ม๑ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ขอดสังข์๒ บ้าง. ย่อมทำโทษ ๑. หม้อเคี่ยวน้ำส้ม คือต่อยหัวขมองแยกออก แล้วใช้คีมคีบก้อนเหล็กที่ลุกแดงใส่ลงไปให้มันสมองเดือดพลุ่งขึ้น เหมือนน้ำส้มเดือดล้นหม้อ. ๒. ขอดสังข์ คือตัดหนังควั่นไปให้รอบจอนหูทั้งสองข้าง และหลุมคอ แล้วรวบผมทั้งหมดขมวดไว้ ใช้ไม้สอดหมุ ยกขึ้น ให้หนังหลุดติดขึ้นมาพร้อมกับผมแล้วใช้ทรายหยาบขัดกระโหลกศีรษะล้างให้ขาว ดั่งสังข์. โดยวิธี ปากราหู๓ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี มาลัยไฟ๔ บ้าง. ย่อมทำโทษ โดยวิธีคบมือ๕ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ริ้วส่าย๖ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี นุ่งเปลือกไม้๗ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ยืนกวาง๘ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธีเกี่ยวเหยื่อเบ็ด๙ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี เหรียญกษปณ์๑๐ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ทาเกลือบ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี แปรงแสบ๑๑ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี กางเกวียน๑๒ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ตั่งฟาง๑๓ บ้าง, ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อนๆ บ้าง, ย่อมปล่อยให้สุนัขทึ้ง๑๔ บ้าง, ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ บ้าง, ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง. เขาเหล่านั้น ย่อม ๓. ปากราหู คือใช้ขอเหล็กง้างปากให้อ้าแล้วจุดไฟในปาก. อีกอย่างหนึ่ง ใช้สิ่วตอกเจาะตั้งแต่จอนหูเข้าไปจนถึงปาก ให้โลหิตไหลออกมาเต็มปาก ดูปากอ้า ดั่งปากราหู. ๔. มาลัยไฟ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันจนทั่วตัวแล้วจุดไฟ ๕. คบมือ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันมือทั่วสองข้างจนทั่ว แล้วจุดไฟ. ๖. ริ้วส่าย คือเชือดหนังลอกออกเป็นริ้วๆ ตั้งแต่ใต้คอไปจนถึงข้อเท้า แล้วเอาเชือกผูกฉุดคร่าไป นักโทษเดินเหยียบริ้วหนังของตัวล้มลุกคลุกคลานไปกว่าจะตาย ๗. นุ่งเปลือกไม้ คือเชือดหนังเป็นริ้ว ๆ อย่างบทก่อน แต่ทำเป็นสองตอน ตั้งแต่ใต้คอจนถึงเอวตอนหนึ่ง ตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้าตอนหนึ่ง ริ้วหนังตอนบนห้อยคลุมลงมาปิดกายตอนล่าง ดูดั่งนุ่งเปลือกไม้ ๘. ยืนกวาง คือใช้ห่วงเหล็กรัดศอกทั้งสอง และเข่าทั้งสอง ตรึงติดไว้กับหลักเหล็กสี่หลักบนพื้นดิน ดูดั่ง กวางถูกตรึง แล้วก่อไฟล้อมลนไปกว่าจะตาย. ๙. เกี่ยวเหยื่อเบ็ด คือใช้เบ็ดมีเงี่ยงสองข้าง เกี่ยวตัวดึงเอาหนังเนื้อและเอ็นออกมาให้หมด. ๑๐. เหรียญกษาปณ์ คือใช้มีดคมเชือดเนื้อออกเป็นแว่นๆ ขนาดเท่าเงินเหรียญจนกว่าจะตาย. ๑๑. แปรงแสบ คือฟันสับเสียให้ยับทั่วกาย แล้วใช้แปรงชุบน้ำแสบ (มีน้ำเกลือเป็นต้น) ถูครูดสีไปมาให้หนังเนื้อเอ็น ขาดหลุดออกมาหมด เหลือแต่กระดูก. ๑๒. างเกวียน คือให้นอนตะแคง แล้วใช้หลาวเหล็กตอกเข้าช่องหูให้ทะลุ ลงไปตรึงแน่นอยู่กับดิน แล้วจับเท้าทั้งสองยกเดินเวียน. ๑๓. ตั่งฟาง คือใช้ลูกหินบดทับตัว บดให้กระดูกแตกละเอียด แต่ไม่ให้หนังขาด แล้วจับผมรวบขึ้นเขย่าๆ ให้เนื้อรวมเข้าเป็นกอง แล้วใช้ผมนั่นแหละพันตะล่อมวางไว้ เหมือนดั่งที่ทำด้วยฟางสำหรับเช็ดเท้า. ๑๔. ให้สุนัขทึ้ง คือขังฝูงสุนัขให้อดหิวโซหลายวัน แล้วปล่อยให้ออกมารุมทึ้ง พักเดียวเหลือแต่กระดูก, -นัยอรรถกถา และพระไตรปิฎกแปลของ ม.อำไพจริต. ถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ. ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจแล้ว, เขาเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เบื้องหน้าแต่การตาย เพราะการแตกสลายแห่งกาย. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เองมีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว, ดังนี้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมิน IO ยุยงปลุกปั่น ทหารสัมพันธ์แน่นแฟ้น : [NEWS UPDATE]

    พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก(ทบ.) เผยกรณีพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) อยากให้ลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี เพื่อสัมผัสพื้นที่จริง 2 ส่วน คือ 1.ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ และ 2.ความพร้อมทางทหารและฝ่ายปกครอง ยังไม่ได้รับรายงานกรณีมีปากเสียงในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ผู้ปฏิบัติงานทั้งไทยและกัมพูชาในพื้นที่ ส่วนใหญ่รู้จักกัน ปัญหากระทบกระทั่งกันนิดหน่อย ไม่ได้มีความพยายามตั้งใจให้เกิดความรุนแรงจนน่ากังวล ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวหาว่า ไทยรุกรานพื้นที่กัมพูชา เรามีจุดยืนในการนำเสนอข้อมูล ต้องไม่ขยายความขัดแย้ง ต้องสื่อสารข้อเท็จจริง ส่วนผู้รับสารก็ต้องใช้วิจารณญาณ

    -คลิปอีกด้านสมยอม/ขืนใจ

    -ถอนจริงหรือรอเสียง สส.

    -คาดโทษโก่งราคาที่พัก

    -ไทยยังมีหวังลดภาษี
    เมิน IO ยุยงปลุกปั่น ทหารสัมพันธ์แน่นแฟ้น : [NEWS UPDATE] พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก(ทบ.) เผยกรณีพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) อยากให้ลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี เพื่อสัมผัสพื้นที่จริง 2 ส่วน คือ 1.ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ และ 2.ความพร้อมทางทหารและฝ่ายปกครอง ยังไม่ได้รับรายงานกรณีมีปากเสียงในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ผู้ปฏิบัติงานทั้งไทยและกัมพูชาในพื้นที่ ส่วนใหญ่รู้จักกัน ปัญหากระทบกระทั่งกันนิดหน่อย ไม่ได้มีความพยายามตั้งใจให้เกิดความรุนแรงจนน่ากังวล ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวหาว่า ไทยรุกรานพื้นที่กัมพูชา เรามีจุดยืนในการนำเสนอข้อมูล ต้องไม่ขยายความขัดแย้ง ต้องสื่อสารข้อเท็จจริง ส่วนผู้รับสารก็ต้องใช้วิจารณญาณ -คลิปอีกด้านสมยอม/ขืนใจ -ถอนจริงหรือรอเสียง สส. -คาดโทษโก่งราคาที่พัก -ไทยยังมีหวังลดภาษี
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • วิเคราะห์เชิงลึก: จุดเริ่มต้นของ TI ภายใต้ TOR 2003

    1. TOR 2003 ข้อ 1.1.3 ระบุให้ใช้ “แผนที่มาตราส่วน 1:200,000” เป็นฐาน

    แม้รัฐบาลอภิสิทธิ์จะไม่ยอมรับ Annex I Map แต่ไม่ได้เสนอแก้ TOR ดังนั้น

    > ทุก TI ที่จัดทำภายใต้ TOR นี้ ต้องตีความให้ “สอดคล้องกับ” แผนที่ 1:200,000




    ---

    2. เอกสารประชุม JBC ชุดที่คุณแนบ (ปี 2552)

    แสดงให้เห็นว่า:

    ฝ่ายไทยยินยอมให้มีการจัดทำ "แผนที่ร่วม" (Joint Map) โดยใช้ ข้อมูล GPS, ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto)

    จุดประสงค์คือเพื่อให้สามารถ “อ้างอิงได้” กับ TOR เดิม โดยเฉพาะในเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน


    > ตรงนี้เองที่แม้ ไทยจะไม่ยอมรับแผนที่เดิมของฝรั่งเศส (Annex I Map) โดยเปิดเผย
    แต่กลับ ยอมเข้าสู่กระบวนการจัดทำแผนที่ที่อ้าง TOR เดิมเป็นกรอบอ้างอิงทางกฎหมาย




    ---

    3. นี่คือที่มาของ "ร่าง TI" หรือ “Technical Instruction”

    ในภายหลัง TI ถูกพัฒนาโดยคณะทำงานร่วมไทย–กัมพูชา (JWG) และต่อมาใช้ในการหารือภายใต้ JBC
    โดยยังอยู่ภายใต้ TOR 2003
    ซึ่งทำให้ไทยต้องเข้าสู่ระบบที่อ้างอิงแผนที่ 1:200,000 โดยปริยาย


    ---

    สรุปทางการ

    > ❝แม้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะแสดงความเห็นแย้งทางการเมืองต่อการใช้แผนที่ 1:200,000 ภายใต้ TOR 2003 แต่การดำเนินการทางเทคนิค เช่น การจัดทำ
    ร่าง TI และแผนที่ร่วมในยุคนั้น ยังอยู่ภายใต้กรอบ TOR เดิม และต้องตีความให้สอดคล้องกับ TOR 2003 โดยเฉพาะข้อ 1.1.3 ที่ระบุชัดเจนถึงการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000❞

    สาระสำคัญของร่าง TI ปี 2552–2553 (ภายใต้ JWG)

    1. จุดประสงค์ของ TI

    เป็นคู่มือเทคนิค (Technical Instruction) สำหรับ:

    การจัดทำแผนที่ร่วม (Joint Map Production)

    การใช้ ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto) และ ระบบพิกัด GPS

    เพื่อกำหนด “เส้นแบ่งเขตแดน” ตามกรอบ TOR 2003



    ---

    2. กรอบอ้างอิงหลักของ TI

    TI ฉบับนี้ ผูกพันโดยตรงกับ TOR 2003 โดยเฉพาะ ข้อ 1.1.3

    ซึ่งระบุให้ใช้ แผนที่ 1:200,000 เป็นมาตรฐานอ้างอิง

    แม้จะนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Orthophoto / GPS เข้ามาใช้ แต่ “ผลลัพธ์สุดท้าย” ต้อง อิงเส้นและจุดจากแผนที่ 1:200,000



    ---

    3. โครงสร้าง TI (ตามรายงานการประชุม)

    TI ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก ได้แก่:

    การเก็บข้อมูลภาคสนามด้วย GPS และสถานีอ้างอิง

    การตีความภาพถ่ายทางอากาศและเทียบกับแผนที่เดิม

    การประเมินและอนุมัติเส้นเขตแดนโดยคณะกรรมาธิการ (JBC) หลังผ่าน JWG



    ---

    4. ข้อสังเกตจากฝ่ายไทยในที่ประชุม

    ฝ่ายไทย มีความกังวล ว่า TI อาจทำให้ไทย “ผูกพันโดยปริยาย” กับแผนที่ 1:200,000

    มีการเสนอให้ “เพิ่มถ้อยคำสงวนสิทธิ์” (reservation) ในการใช้ข้อมูล

    ไม่มีการลงนามใน TI อย่างสมบูรณ์ ณ ช่วงปี 2552–2553 แต่มีความพยายามผลักดันต่อเนื่องโดยฝ่ายเทคนิค



    ---

    สรุปสาระสำคัญ (เชิงราชการ)

    > ❝ร่าง Technical Instruction (TI) ที่จัดทำในช่วงปี 2552–2553 โดยคณะทำงานร่วม (JWG) มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนที่ร่วมบนพื้นฐานของภาพถ่ายทางอากาศและระบบ GPS โดยยังคงอ้างอิงข้อกำหนดของ TOR 2003 โดยเฉพาะแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ทั้งนี้แม้ฝ่ายไทยมิได้ให้สัตยาบัน TI อย่างเป็นทางการ แต่การเข้าร่วมในกระบวนการดังกล่าวสะท้อนถึงการยอมรับกรอบทางเทคนิคภายใต้ TOR ที่มีผลผูกพันอยู่❞




    --- วิเคราะห์ความเสี่ยงทางกฎหมายจาก TI + TOR 2003

    1. TOR 2003 เป็นพันธกรณีระหว่างประเทศ

    TOR (Terms of Reference) ปี 2003 เป็นเอกสารที่ลงนามโดยรัฐบาลไทยและกัมพูชา

    มีผลผูกพันตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ (Vienna Convention on the Law of Treaties 1969)

    ข้อ 1.1.3 ของ TOR กำหนดให้ใช้ “แผนที่มาตราส่วน 1:200,000” เป็นกรอบอ้างอิงหลักในการปักปัน

    การที่ไทยไม่เคย “ยกเลิก” หรือ “ถอนตัว” ออกจาก TOR = ยังคงมีพันธะตามกฎหมาย


    ความเสี่ยง: การตีความโดยอนุญาโตตุลาการหรือศาลระหว่างประเทศ อาจถือว่าไทย ยอมรับแผนที่ 1:200,000 หากยังคงปฏิบัติตาม TOR โดยไม่คัดค้านอย่างเป็นทางการ


    ---

    2. TI (Technical Instruction) ทำหน้าที่ “แปลงเจตนาทางการเมืองให้เป็นข้อเท็จจริงทางเทคนิค”

    แม้รัฐบาลไทย (เช่น ยุคอภิสิทธิ์) จะคัดค้าน “แผนที่ฝรั่งเศส” แต่ TI เป็นเครื่องมือที่ทำให้ฝ่ายเทคนิคต้องดำเนินงานให้ตรงกับ TOR

    TI นำภาพถ่าย Orthophoto + GPS มาปรับเส้นให้ “อิงตำแหน่งเดิม” ที่อยู่บนแผนที่ 1:200,000


    ความเสี่ยง: แม้ไม่ลงนามใน TI แต่การ “ร่วมจัดทำ” และ “ยอมให้ JWG ทำงาน” = ยินยอมโดยพฤตินัย
    หากเกิดข้อพิพาทในอนาคต ไทยจะลำบากในการปฏิเสธผลของ TI


    ---

    3. การไม่มีข้อสงวน (reservation) หรือการตีความ TOR ใหม่

    ในช่วงการประชุม JBC–JWG ไทยไม่ได้เสนอ ตีความ TOR ใหม่ หรือเสนอแผนที่มาตรฐานอื่น

    การไม่สงวนสิทธิอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร = ความเสี่ยงในทางกฎหมาย ว่าไทย “นิ่งเฉย” ต่อสิ่งที่อาจเสียเปรียบ


    ความเสี่ยง: หลัก “estoppel” ในกฎหมายระหว่างประเทศอาจถูกใช้หักล้างไทย เช่น

    > “ถ้าคุณนิ่งและเข้าร่วม ก็ถือว่าคุณยอมรับ”




    ---

    4. การจัดทำ TI อาจกลายเป็น “พฤติการณ์ประกอบยินยอม”

    ศาลโลก (ICJ) เคยใช้ พฤติการณ์ เช่น “การเจรจา”, “การเข้าร่วมคณะทำงาน”, “การไม่คัดค้าน”
    เป็นหลักฐานว่า “รัฐยินยอมแล้ว”


    ความเสี่ยง: แม้ไทยจะไม่เคยลงนามใน TI อย่างเป็นทางการ
    แต่การส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วม, การเสนอข้อมูล, การเดินแนวพิกัด อาจกลายเป็นพฤติการณ์ที่ศาลใช้ตีความว่า “ประเทศไทยยอมรับเส้นแบ่งที่สอดคล้องกับ TOR”


    ---

    บทสรุปความเสี่ยงทางกฎหมาย (แบบราชการ)

    > ❝การดำเนินการตาม TOR 2003 ร่วมกับการจัดทำร่าง Technical Instruction (TI) โดย JWG ในช่วงปี 2552–2553 ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางกฎหมายอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากแม้ไม่มีการลงนามอย่างเป็นทางการ แต่การที่ไทยมิได้ถอนตัวจาก TOR และยังคงเข้าร่วมกระบวนการเทคนิคโดยมิได้สงวนสิทธิอย่างชัดแจ้ง อาจทำให้ผลของแผนที่ร่วมที่จัดทำขึ้นภายใต้กรอบดังกล่าว มีผลผูกพันในทางกฎหมายระหว่างประเทศในอนาคต❞

    🔍 วิเคราะห์เชิงลึก: จุดเริ่มต้นของ TI ภายใต้ TOR 2003 ✅ 1. TOR 2003 ข้อ 1.1.3 ระบุให้ใช้ “แผนที่มาตราส่วน 1:200,000” เป็นฐาน แม้รัฐบาลอภิสิทธิ์จะไม่ยอมรับ Annex I Map แต่ไม่ได้เสนอแก้ TOR ดังนั้น > ทุก TI ที่จัดทำภายใต้ TOR นี้ ต้องตีความให้ “สอดคล้องกับ” แผนที่ 1:200,000 --- ✅ 2. เอกสารประชุม JBC ชุดที่คุณแนบ (ปี 2552) แสดงให้เห็นว่า: ฝ่ายไทยยินยอมให้มีการจัดทำ "แผนที่ร่วม" (Joint Map) โดยใช้ ข้อมูล GPS, ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto) จุดประสงค์คือเพื่อให้สามารถ “อ้างอิงได้” กับ TOR เดิม โดยเฉพาะในเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน > ✳️ ตรงนี้เองที่แม้ ไทยจะไม่ยอมรับแผนที่เดิมของฝรั่งเศส (Annex I Map) โดยเปิดเผย แต่กลับ ยอมเข้าสู่กระบวนการจัดทำแผนที่ที่อ้าง TOR เดิมเป็นกรอบอ้างอิงทางกฎหมาย --- ✅ 3. นี่คือที่มาของ "ร่าง TI" หรือ “Technical Instruction” ในภายหลัง TI ถูกพัฒนาโดยคณะทำงานร่วมไทย–กัมพูชา (JWG) และต่อมาใช้ในการหารือภายใต้ JBC โดยยังอยู่ภายใต้ TOR 2003 ซึ่งทำให้ไทยต้องเข้าสู่ระบบที่อ้างอิงแผนที่ 1:200,000 โดยปริยาย --- 🎯 สรุปทางการ > ❝แม้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะแสดงความเห็นแย้งทางการเมืองต่อการใช้แผนที่ 1:200,000 ภายใต้ TOR 2003 แต่การดำเนินการทางเทคนิค เช่น การจัดทำ ร่าง TI และแผนที่ร่วมในยุคนั้น ยังอยู่ภายใต้กรอบ TOR เดิม และต้องตีความให้สอดคล้องกับ TOR 2003 โดยเฉพาะข้อ 1.1.3 ที่ระบุชัดเจนถึงการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000❞ 📘 สาระสำคัญของร่าง TI ปี 2552–2553 (ภายใต้ JWG) 1. จุดประสงค์ของ TI เป็นคู่มือเทคนิค (Technical Instruction) สำหรับ: การจัดทำแผนที่ร่วม (Joint Map Production) การใช้ ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto) และ ระบบพิกัด GPS เพื่อกำหนด “เส้นแบ่งเขตแดน” ตามกรอบ TOR 2003 --- 2. กรอบอ้างอิงหลักของ TI TI ฉบับนี้ ผูกพันโดยตรงกับ TOR 2003 โดยเฉพาะ ข้อ 1.1.3 ซึ่งระบุให้ใช้ แผนที่ 1:200,000 เป็นมาตรฐานอ้างอิง แม้จะนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Orthophoto / GPS เข้ามาใช้ แต่ “ผลลัพธ์สุดท้าย” ต้อง อิงเส้นและจุดจากแผนที่ 1:200,000 --- 3. โครงสร้าง TI (ตามรายงานการประชุม) TI ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก ได้แก่: การเก็บข้อมูลภาคสนามด้วย GPS และสถานีอ้างอิง การตีความภาพถ่ายทางอากาศและเทียบกับแผนที่เดิม การประเมินและอนุมัติเส้นเขตแดนโดยคณะกรรมาธิการ (JBC) หลังผ่าน JWG --- 4. ข้อสังเกตจากฝ่ายไทยในที่ประชุม ฝ่ายไทย มีความกังวล ว่า TI อาจทำให้ไทย “ผูกพันโดยปริยาย” กับแผนที่ 1:200,000 มีการเสนอให้ “เพิ่มถ้อยคำสงวนสิทธิ์” (reservation) ในการใช้ข้อมูล ไม่มีการลงนามใน TI อย่างสมบูรณ์ ณ ช่วงปี 2552–2553 แต่มีความพยายามผลักดันต่อเนื่องโดยฝ่ายเทคนิค --- 📌 สรุปสาระสำคัญ (เชิงราชการ) > ❝ร่าง Technical Instruction (TI) ที่จัดทำในช่วงปี 2552–2553 โดยคณะทำงานร่วม (JWG) มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนที่ร่วมบนพื้นฐานของภาพถ่ายทางอากาศและระบบ GPS โดยยังคงอ้างอิงข้อกำหนดของ TOR 2003 โดยเฉพาะแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ทั้งนี้แม้ฝ่ายไทยมิได้ให้สัตยาบัน TI อย่างเป็นทางการ แต่การเข้าร่วมในกระบวนการดังกล่าวสะท้อนถึงการยอมรับกรอบทางเทคนิคภายใต้ TOR ที่มีผลผูกพันอยู่❞ ---⚖️ วิเคราะห์ความเสี่ยงทางกฎหมายจาก TI + TOR 2003 🔹 1. TOR 2003 เป็นพันธกรณีระหว่างประเทศ TOR (Terms of Reference) ปี 2003 เป็นเอกสารที่ลงนามโดยรัฐบาลไทยและกัมพูชา มีผลผูกพันตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ (Vienna Convention on the Law of Treaties 1969) ข้อ 1.1.3 ของ TOR กำหนดให้ใช้ “แผนที่มาตราส่วน 1:200,000” เป็นกรอบอ้างอิงหลักในการปักปัน การที่ไทยไม่เคย “ยกเลิก” หรือ “ถอนตัว” ออกจาก TOR = ยังคงมีพันธะตามกฎหมาย 📌 ความเสี่ยง: การตีความโดยอนุญาโตตุลาการหรือศาลระหว่างประเทศ อาจถือว่าไทย ยอมรับแผนที่ 1:200,000 หากยังคงปฏิบัติตาม TOR โดยไม่คัดค้านอย่างเป็นทางการ --- 🔹 2. TI (Technical Instruction) ทำหน้าที่ “แปลงเจตนาทางการเมืองให้เป็นข้อเท็จจริงทางเทคนิค” แม้รัฐบาลไทย (เช่น ยุคอภิสิทธิ์) จะคัดค้าน “แผนที่ฝรั่งเศส” แต่ TI เป็นเครื่องมือที่ทำให้ฝ่ายเทคนิคต้องดำเนินงานให้ตรงกับ TOR TI นำภาพถ่าย Orthophoto + GPS มาปรับเส้นให้ “อิงตำแหน่งเดิม” ที่อยู่บนแผนที่ 1:200,000 📌 ความเสี่ยง: แม้ไม่ลงนามใน TI แต่การ “ร่วมจัดทำ” และ “ยอมให้ JWG ทำงาน” = ยินยอมโดยพฤตินัย หากเกิดข้อพิพาทในอนาคต ไทยจะลำบากในการปฏิเสธผลของ TI --- 🔹 3. การไม่มีข้อสงวน (reservation) หรือการตีความ TOR ใหม่ ในช่วงการประชุม JBC–JWG ไทยไม่ได้เสนอ ตีความ TOR ใหม่ หรือเสนอแผนที่มาตรฐานอื่น การไม่สงวนสิทธิอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร = ความเสี่ยงในทางกฎหมาย ว่าไทย “นิ่งเฉย” ต่อสิ่งที่อาจเสียเปรียบ 📌 ความเสี่ยง: หลัก “estoppel” ในกฎหมายระหว่างประเทศอาจถูกใช้หักล้างไทย เช่น > “ถ้าคุณนิ่งและเข้าร่วม ก็ถือว่าคุณยอมรับ” --- 🔹 4. การจัดทำ TI อาจกลายเป็น “พฤติการณ์ประกอบยินยอม” ศาลโลก (ICJ) เคยใช้ พฤติการณ์ เช่น “การเจรจา”, “การเข้าร่วมคณะทำงาน”, “การไม่คัดค้าน” เป็นหลักฐานว่า “รัฐยินยอมแล้ว” 📌 ความเสี่ยง: แม้ไทยจะไม่เคยลงนามใน TI อย่างเป็นทางการ แต่การส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วม, การเสนอข้อมูล, การเดินแนวพิกัด อาจกลายเป็นพฤติการณ์ที่ศาลใช้ตีความว่า “ประเทศไทยยอมรับเส้นแบ่งที่สอดคล้องกับ TOR” --- 🟥 บทสรุปความเสี่ยงทางกฎหมาย (แบบราชการ) > ❝การดำเนินการตาม TOR 2003 ร่วมกับการจัดทำร่าง Technical Instruction (TI) โดย JWG ในช่วงปี 2552–2553 ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางกฎหมายอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากแม้ไม่มีการลงนามอย่างเป็นทางการ แต่การที่ไทยมิได้ถอนตัวจาก TOR และยังคงเข้าร่วมกระบวนการเทคนิคโดยมิได้สงวนสิทธิอย่างชัดแจ้ง อาจทำให้ผลของแผนที่ร่วมที่จัดทำขึ้นภายใต้กรอบดังกล่าว มีผลผูกพันในทางกฎหมายระหว่างประเทศในอนาคต❞
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมคนเราชอบขอคู่บุญ…แต่กลับสร้างคู่เวร?

    มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลก
    อยากมีความสุข…แต่เบื่อความสงบ
    อยากมีรักดีๆ…แต่แอบอยากลองทำตัวร้ายๆ
    พูดดีๆ ก็ไม่สนุก ต้องมีอารมณ์คันๆบ้างถึงจะสะใจ

    แม้แต่ดาราระดับโลก
    ยังยอมรับว่า “เบื่อชีวิตดีๆ อยากรู้จักชีวิตพังๆ”
    แล้วเราคนธรรมดา จะหลุดพ้นวงเวียนนั้นได้หรือ?

    จริงคือ…
    แนวโน้มจะสร้างคู่เวร มันฝังอยู่ในใจคนทุกคน
    ขณะที่ความอยากได้ “คู่บุญ” มักเป็นแค่แสงวูบของความหวัง
    ไม่ใช่ความเพียรพยายามที่จะสร้างมันจริงๆ

    หลายคนขอพรอยากได้ “เจ้าหญิง-เจ้าชายในฝัน”
    ทั้งที่มีคนธรรมดาๆ คนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า
    พร้อมจะปรับตัวไปกับเรา
    แค่เราไม่เคยเห็นค่าความพยายามของเขาเท่านั้นเอง

    คุณจะรู้ว่ากำลัง “ขัดแย้งกับตัวเอง”
    ถ้าแอบภาวนาขอเนื้อคู่ในฝัน
    ทั้งที่ยังไม่รู้จักลงมือสร้างคู่จริงกับคนที่มีอยู่

    แต่...

    คุณจะรู้ว่ามี “ใจเดียว”
    ก็ต่อเมื่อเลิกฝันหา
    แล้วเริ่มศรัทธาในสิ่งที่จับต้องได้
    พร้อมจะลงทุน สร้างบุญด้วยกันในทุกวัน

    ไม่มีใครอยากได้ “คู่เวร”
    แต่มีน้อยคนนัก ที่จะอดทนสร้าง “คู่บุญ”
    เพราะรักแท้ไม่ใช่สิ่งที่ขอ
    แต่เป็นสิ่งที่ต้อง สร้าง

    #ธรรมะแทงใจแต่ไม่ทิ้งใจ
    #คู่บุญหรือคู่เวร
    #อยากได้หรืออยากสร้าง
    #เนื้อคู่ไม่เกิดเองแต่เกิดจากการร่วมบุญ
    #ธรรมะเข้าใจชีวิต
    💔 ทำไมคนเราชอบขอคู่บุญ…แต่กลับสร้างคู่เวร? มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลก อยากมีความสุข…แต่เบื่อความสงบ อยากมีรักดีๆ…แต่แอบอยากลองทำตัวร้ายๆ พูดดีๆ ก็ไม่สนุก ต้องมีอารมณ์คันๆบ้างถึงจะสะใจ แม้แต่ดาราระดับโลก ยังยอมรับว่า “เบื่อชีวิตดีๆ อยากรู้จักชีวิตพังๆ” แล้วเราคนธรรมดา จะหลุดพ้นวงเวียนนั้นได้หรือ? จริงคือ… 💥 แนวโน้มจะสร้างคู่เวร มันฝังอยู่ในใจคนทุกคน ขณะที่ความอยากได้ “คู่บุญ” มักเป็นแค่แสงวูบของความหวัง ไม่ใช่ความเพียรพยายามที่จะสร้างมันจริงๆ หลายคนขอพรอยากได้ “เจ้าหญิง-เจ้าชายในฝัน” ทั้งที่มีคนธรรมดาๆ คนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมจะปรับตัวไปกับเรา แค่เราไม่เคยเห็นค่าความพยายามของเขาเท่านั้นเอง 🪞 คุณจะรู้ว่ากำลัง “ขัดแย้งกับตัวเอง” ถ้าแอบภาวนาขอเนื้อคู่ในฝัน ทั้งที่ยังไม่รู้จักลงมือสร้างคู่จริงกับคนที่มีอยู่ แต่... 🌱 คุณจะรู้ว่ามี “ใจเดียว” ก็ต่อเมื่อเลิกฝันหา แล้วเริ่มศรัทธาในสิ่งที่จับต้องได้ พร้อมจะลงทุน สร้างบุญด้วยกันในทุกวัน ❤️ ไม่มีใครอยากได้ “คู่เวร” แต่มีน้อยคนนัก ที่จะอดทนสร้าง “คู่บุญ” เพราะรักแท้ไม่ใช่สิ่งที่ขอ แต่เป็นสิ่งที่ต้อง สร้าง #ธรรมะแทงใจแต่ไม่ทิ้งใจ #คู่บุญหรือคู่เวร #อยากได้หรืออยากสร้าง #เนื้อคู่ไม่เกิดเองแต่เกิดจากการร่วมบุญ #ธรรมะเข้าใจชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัดศึกษา​ว่ามรรคอุทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
    สัทธรรมลำดับที่ : 674
    ชื่อบทธรรม :- มรรคอุทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=674
    เนื้อความทั้งหมด :-
    หมวด ก. ว่าด้วยอุทเทศ นิทเทศ ของมรรคอุทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
    --ภิกษุ ท. ! ความจริงอันประเสริฐ คือ
    ทางดำเนินให้ถึงความดับ ไม่เหลือแห่งทุกข์
    เป็นอย่างไรเล่า?
    +--ภิกษุ ท. ! หนทางอันประเสริฐประกอบด้วยองค์แปดประการนั่นเอง,
    http://etipitaka.com/read/pali/20/228/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค
    ได้แก่ สิ่งเหล่านี้คือ
    ความเห็นชอบ ความดำริชอบ ;
    การพูดจาชอบ การทำการงานชอบ การดำรงชีพชอบ ;
    ความพยายามชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งจิตมั่นชอบ ;
    อันนี้เราเรียกว่า
    #ความจริงอันประเสริฐคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.-

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ติก.อํ. 20/170/501
    http://etipitaka.com/read/thai/20/170/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ติก.อํ. ๒๐/๒๒๘/๕๐๑
    http://etipitaka.com/read/pali/20/228/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=674
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=48&id=674
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=48
    ลำดับสาธยายธรรม : 48 ฟังเสียง
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_48.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัดศึกษา​ว่ามรรคอุทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ สัทธรรมลำดับที่ : 674 ชื่อบทธรรม :- มรรคอุทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=674 เนื้อความทั้งหมด :- หมวด ก. ว่าด้วยอุทเทศ นิทเทศ ของมรรคอุทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ --ภิกษุ ท. ! ความจริงอันประเสริฐ คือ ทางดำเนินให้ถึงความดับ ไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า? +--ภิกษุ ท. ! หนทางอันประเสริฐประกอบด้วยองค์แปดประการนั่นเอง, http://etipitaka.com/read/pali/20/228/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค ได้แก่ สิ่งเหล่านี้คือ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ ; การพูดจาชอบ การทำการงานชอบ การดำรงชีพชอบ ; ความพยายามชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งจิตมั่นชอบ ; อันนี้เราเรียกว่า #ความจริงอันประเสริฐคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.- #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ติก.อํ. 20/170/501 http://etipitaka.com/read/thai/20/170/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ติก.อํ. ๒๐/๒๒๘/๕๐๑ http://etipitaka.com/read/pali/20/228/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=674 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=48&id=674 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=48 ลำดับสาธยายธรรม : 48 ฟังเสียง http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_48.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - นิทเทศแห่งมัคคอริยสัจ นิทเทศ ๑๓ ว่าด้วย ข้อความนำเรื่องมรรค (มี ๒๙ เรื่อง) หมวด ก. ว่าด้วยอุทเทศ นิทเทศ ของมรรคอุทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
    -นิทเทศแห่งมัคคอริยสัจ นิทเทศ ๑๓ ว่าด้วย ข้อความนำเรื่องมรรค (มี ๒๙ เรื่อง) หมวด ก. ว่าด้วยอุทเทศ นิทเทศ ของมรรคอุทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ภิกษุ ท. ! ความจริงอันประเสริฐ คือทางดำเนินให้ถึงความดับ ไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า? ภิกษุ ท. ! หนทางอันประเสริฐประกอบด้วยองค์แปดประการนั่นเอง, ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ การพูดจาชอบ การทำการงานชอบ การดำรงชีพชอบ ความพยายามชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งใจมั่นชอบ ; อันนี้เราเรียกว่า ความจริงอันประเสริฐ คือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดิมที XDR เกิดขึ้นจากความพยายามรวมเครื่องมือด้านความปลอดภัยแยก ๆ อย่าง EDR (endpoint), NDR (network), SIEM (log) และ threat intel มารวมไว้ในแพลตฟอร์มเดียว เพื่อให้เห็น “ภาพรวมของภัย” แล้วตอบโต้ได้รวดเร็วขึ้น

    แต่ตอนนี้ตลาด XDR กำลังเข้าสู่ “การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่” ที่ผู้ใช้ต้องจับตา:

    - ฟีเจอร์เยอะแต่ซับซ้อน → ทำให้หลายองค์กรโดยเฉพาะ SMB ใช้ไม่ไหว
    - ผู้ให้บริการเลยเริ่มเปิดบริการ “XDR-as-a-Service” ที่มีทีมพร้อมช่วยดูแล
    - ผู้ผลิตหลายเจ้ากำลังยัด AI เข้า XDR เพื่อให้แจ้งเตือนแม่นขึ้น
    - แต่พอบริษัททุกเจ้าพูดว่า “เราใส่ AI แล้ว!” — คนเริ่มงงว่าเจ้าไหนดีกว่ากัน
    - เกิดการควบรวมกิจการระหว่าง EDR-SIEM-NDR เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม All-in-one
    - บริษัทที่ไม่อยากถูกผูกติดเจ้าหนึ่ง เริ่มใช้ Open XDR ที่เปิดให้ต่อกับโซลูชันอื่นได้

    XDR กำลังกลายเป็น “สนามแข่งใหม่ของ vendor ความปลอดภัย” ที่ทุกเจ้ากำลังพยายามสร้างจุดต่าง ขยายบริการ และรองรับลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น

    AI กลายเป็นปัจจัยเร่งความสามารถของ XDR  
    • ใช้วิเคราะห์พฤติกรรม, กรอง false positive, enrich context และ trigger การตอบโต้

    เกิดการควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่อง เช่น:  
    • SentinelOne ซื้อ Attivo  
    • CrowdStrike ขยายไปด้าน identity  
    • Palo Alto และ Microsoft ใช้กลยุทธ์ integration แทน acquisition

    แนวโน้ม Open XDR มาแรง — ออกแบบให้ทำงานข้ามระบบกับโซลูชันอื่นได้ง่ายขึ้น  
    • ใช้เทคโนโลยีเปิด เช่น Elasticsearch, Fluentd, Kafka

    เริ่มมีการใช้ “Managed XDR” ที่คล้าย XDR-as-a-Service แต่รวมการบริหารจัดการทั้งหมด (automation + human analyst)  
    • เน้นตอบโจทย์องค์กรที่ไม่มีทีมความปลอดภัยของตัวเอง

    XDR ส่วนใหญ่ไม่ได้ “พร้อมใช้” ทันที — ต้องปรับจูน, เขียน policy, เชื่อมระบบ ฯลฯ  
    • องค์กรที่ไม่มีทีม SOC จะใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ

    XDR-as-a-Service หรือ Managed XDR ถ้าบริหารไม่ดี อาจกลายเป็น “จุดล่าช้าแทนที่จะลื่น”  
    • เช่น แบ่งสิทธิ์ไม่ชัด, แจ้งเตือนซ้ำซ้อน, ความสัมพันธ์กับระบบที่ใช้เดิมไม่ดี

    คำว่า “XDR ที่ใช้ AI” เริ่มถูกใช้ในเชิงการตลาดมากกว่าการใช้งานจริง  
    • ผู้ซื้อควรตรวจสอบว่า AI ถูกใช้ในระดับไหน: แค่ enrich log หรือ detect แบบพฤติกรรมจริง ๆ?

    แพลตฟอร์ม XDR แบบ proprietary อาจ lock-in กับ vendor รายใดรายหนึ่ง  
    • การเลือก Open XDR ช่วยลดข้อจำกัดแต่ซับซ้อนในการดูแลมากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/4012841/6-key-trends-redefining-the-xdr-market.html
    เดิมที XDR เกิดขึ้นจากความพยายามรวมเครื่องมือด้านความปลอดภัยแยก ๆ อย่าง EDR (endpoint), NDR (network), SIEM (log) และ threat intel มารวมไว้ในแพลตฟอร์มเดียว เพื่อให้เห็น “ภาพรวมของภัย” แล้วตอบโต้ได้รวดเร็วขึ้น แต่ตอนนี้ตลาด XDR กำลังเข้าสู่ “การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่” ที่ผู้ใช้ต้องจับตา: - ฟีเจอร์เยอะแต่ซับซ้อน → ทำให้หลายองค์กรโดยเฉพาะ SMB ใช้ไม่ไหว - ผู้ให้บริการเลยเริ่มเปิดบริการ “XDR-as-a-Service” ที่มีทีมพร้อมช่วยดูแล - ผู้ผลิตหลายเจ้ากำลังยัด AI เข้า XDR เพื่อให้แจ้งเตือนแม่นขึ้น - แต่พอบริษัททุกเจ้าพูดว่า “เราใส่ AI แล้ว!” — คนเริ่มงงว่าเจ้าไหนดีกว่ากัน - เกิดการควบรวมกิจการระหว่าง EDR-SIEM-NDR เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม All-in-one - บริษัทที่ไม่อยากถูกผูกติดเจ้าหนึ่ง เริ่มใช้ Open XDR ที่เปิดให้ต่อกับโซลูชันอื่นได้ XDR กำลังกลายเป็น “สนามแข่งใหม่ของ vendor ความปลอดภัย” ที่ทุกเจ้ากำลังพยายามสร้างจุดต่าง ขยายบริการ และรองรับลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น ✅ AI กลายเป็นปัจจัยเร่งความสามารถของ XDR   • ใช้วิเคราะห์พฤติกรรม, กรอง false positive, enrich context และ trigger การตอบโต้ ✅ เกิดการควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่อง เช่น:   • SentinelOne ซื้อ Attivo   • CrowdStrike ขยายไปด้าน identity   • Palo Alto และ Microsoft ใช้กลยุทธ์ integration แทน acquisition ✅ แนวโน้ม Open XDR มาแรง — ออกแบบให้ทำงานข้ามระบบกับโซลูชันอื่นได้ง่ายขึ้น   • ใช้เทคโนโลยีเปิด เช่น Elasticsearch, Fluentd, Kafka ✅ เริ่มมีการใช้ “Managed XDR” ที่คล้าย XDR-as-a-Service แต่รวมการบริหารจัดการทั้งหมด (automation + human analyst)   • เน้นตอบโจทย์องค์กรที่ไม่มีทีมความปลอดภัยของตัวเอง ‼️ XDR ส่วนใหญ่ไม่ได้ “พร้อมใช้” ทันที — ต้องปรับจูน, เขียน policy, เชื่อมระบบ ฯลฯ   • องค์กรที่ไม่มีทีม SOC จะใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ ‼️ XDR-as-a-Service หรือ Managed XDR ถ้าบริหารไม่ดี อาจกลายเป็น “จุดล่าช้าแทนที่จะลื่น”   • เช่น แบ่งสิทธิ์ไม่ชัด, แจ้งเตือนซ้ำซ้อน, ความสัมพันธ์กับระบบที่ใช้เดิมไม่ดี ‼️ คำว่า “XDR ที่ใช้ AI” เริ่มถูกใช้ในเชิงการตลาดมากกว่าการใช้งานจริง   • ผู้ซื้อควรตรวจสอบว่า AI ถูกใช้ในระดับไหน: แค่ enrich log หรือ detect แบบพฤติกรรมจริง ๆ? ‼️ แพลตฟอร์ม XDR แบบ proprietary อาจ lock-in กับ vendor รายใดรายหนึ่ง   • การเลือก Open XDR ช่วยลดข้อจำกัดแต่ซับซ้อนในการดูแลมากขึ้น https://www.csoonline.com/article/4012841/6-key-trends-redefining-the-xdr-market.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    6 key trends redefining the XDR market
    X marks the spot: Extended detection and response (XDR) continues to evolve, with XDR-as-a-service on the rise, AI developments reshaping what’s possible, and vendor movements aplenty.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอิสราเอลสั่งชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากตอนเหนือของกาซาไปยังเขตมนุษยธรรมอัล-มาวาซีทางใต้ ก่อนยกระดับการทำลายล้างฮามาส ขณะที่ทรัมป์เรียกร้องยุติสงคราม โดยอียิปต์และกาตาร์ได้เริ่มฟื้นความพยายามผลักดันข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000061305

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กองทัพอิสราเอลสั่งชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากตอนเหนือของกาซาไปยังเขตมนุษยธรรมอัล-มาวาซีทางใต้ ก่อนยกระดับการทำลายล้างฮามาส ขณะที่ทรัมป์เรียกร้องยุติสงคราม โดยอียิปต์และกาตาร์ได้เริ่มฟื้นความพยายามผลักดันข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000061305 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Sad
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1078 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่ปรึกษาของคาเมเนอีพูดหลังจากรอดชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล: “พวกเขารู้ว่าทำไมถึงมาหาฉัน”

    อาลี ชัมคานี ที่ปรึกษาอาวุโสของคาเมเนอี เพิ่งให้สัมภาษณ์ทางทีวีเป็นครั้งแรกหลังจากรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารของอิสราเอล

    เขาเล่าย้อนเหตุการณ์ว่าเขาถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังเป็นเวลา 3 ชั่วโมงและได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก ในตอนนั้นเขาคิดว่าเป็นแค่แผ่นดินไหว

    ชัมคานี กล่าวต่ออีกว่า “พวกไซออนิสต์รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงเล็งเป้าผม และผมก็รู้เช่นกัน ผมทำให้ชีวิตพวกเขา(ไซออนิสต์)ต้องทุกข์ยาก”

    ภาพในวิดีโอแสดงให้เห็นว่าเขาใช้เครื่องช่วยหายใจแบบใช้ออกซิเจนเพื่อฟื้นฟูการทำงานของปอด

    เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ชัมคานีถูกประกาศว่าเสียชีวิตจากการลอบสังหารของอิสราเอล
    ที่ปรึกษาของคาเมเนอีพูดหลังจากรอดชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล: “พวกเขารู้ว่าทำไมถึงมาหาฉัน” อาลี ชัมคานี ที่ปรึกษาอาวุโสของคาเมเนอี เพิ่งให้สัมภาษณ์ทางทีวีเป็นครั้งแรกหลังจากรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารของอิสราเอล เขาเล่าย้อนเหตุการณ์ว่าเขาถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังเป็นเวลา 3 ชั่วโมงและได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก ในตอนนั้นเขาคิดว่าเป็นแค่แผ่นดินไหว ชัมคานี กล่าวต่ออีกว่า “พวกไซออนิสต์รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงเล็งเป้าผม และผมก็รู้เช่นกัน ผมทำให้ชีวิตพวกเขา(ไซออนิสต์)ต้องทุกข์ยาก” ภาพในวิดีโอแสดงให้เห็นว่าเขาใช้เครื่องช่วยหายใจแบบใช้ออกซิเจนเพื่อฟื้นฟูการทำงานของปอด เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ชัมคานีถูกประกาศว่าเสียชีวิตจากการลอบสังหารของอิสราเอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศว่าไม่มีความจำเป็นต้องเจรจากับอิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอีกต่อไป เพราะถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว!!

    ทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐจะพบกับอิหร่านอีกครั้งในสัปดาห์หน้า แต่เขาไม่คิดว่าจำเป็นต้องมีการเจรจาเพิ่มเติมหรือข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐและอิหร่านอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ "ถูกทำลาย" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการโจมตีของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และจะไม่มีความพยายามในการสร้างอาวุธนิวเคลียร์จากอิหร่านอีก
    ทรัมป์ประกาศว่าไม่มีความจำเป็นต้องเจรจากับอิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอีกต่อไป เพราะถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว!! ทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐจะพบกับอิหร่านอีกครั้งในสัปดาห์หน้า แต่เขาไม่คิดว่าจำเป็นต้องมีการเจรจาเพิ่มเติมหรือข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐและอิหร่านอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ "ถูกทำลาย" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการโจมตีของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และจะไม่มีความพยายามในการสร้างอาวุธนิวเคลียร์จากอิหร่านอีก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • ..ข่าวอีกมุม.

    ..เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2025 หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางทหารภายใต้ชื่อรหัสปฏิบัติการสโตนไฟร์ได้ทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มดีพสเตตในเจนีวา เทลอาวีฟ และเทือกเขาร็อกกี้โคโลราโด

    ภายในพื้นที่สีแดงเหล่านี้ ได้แก่ ห้องโคลนนิ่งมนุษย์ ศูนย์ควบคุมจิตใจของอาร์พาเน็ต และบันทึกการค้ามนุษย์นอกโลก ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในมือของหน่วยข่าวกรองทางทหารของทรัมป์แล้ว

    ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมที่ถูกดักจับได้เผยให้เห็นการโจมตีด้วยอาวุธชีวภาพและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่วางแผนไว้สำหรับวันเสาร์ที่ 21 หรือวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน เป้าหมายคือ ดัลลาส แอตแลนตา ชิคาโก คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายระบบ QFS ปิดเมือง และทำให้การสื่อสารเป็นอัมพาต มีการเตรียมเชื้อโรคสังเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์จากระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงด้วย mRNA

    ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน กองทัพได้สกัดกั้นขบวนรถอาวุธชีวภาพสองขบวนใกล้กับเอลปาโซระหว่างทางไปยังไซต์ใต้ดินที่เชื่อมโยงกับโซรอสในออสติน เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกจากอิหร่านซึ่งปลอมตัวเป็นผู้รับจ้างถูกจับกุมตามพิธีสาร GITMO

    21 มิถุนายน 2025: ทรัมป์อนุมัติการโจมตีเต็มรูปแบบต่อสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน - ฟอร์โดว์ นาตันซ์ อิสฟาฮาน เรือดำน้ำและเครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลท์ได้ประจำการอยู่แล้ว ในเวลาเดียวกัน ระบบป้องกัน Star Link ก็เปิดใช้งานเพื่อต่อต้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและการโจมตีทางไซเบอร์

    Cyber ​​Command ปิดช่องโหว่เฟิร์มแวร์ที่เชื่อมโยงกับไฟฟ้าดับล่าสุดในฟีนิกซ์ ดีทรอยต์ และฟลอริดา - ซ้อมรบเพื่อไฟฟ้าดับทั่วประเทศ

    วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน: ทรัมป์รักษาสันติภาพระหว่างอิหร่านและอิสราเอล
    วันอังคารที่ 24 มิถุนายน: อิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยทิ้งระเบิดที่เตหะราน อิหร่านตอบโต้ด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธ แต่ระบอบการปกครองก็ล่มสลายไปแล้ว พลเรือนอิหร่านปฏิเสธสงคราม ผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองและเข้าร่วม GCR

    ทรัมป์รู้ดีว่าความโกลาหลดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อหยุดเตียงพยาบาล ทำลาย GESARA และปิดกั้นการออกอากาศฉุกเฉิน

    แต่กลับกระตุ้นให้เกิดการไต่สวนของ GITMO โหนด AI ที่เชื่อมโยงกับปฏิบัติการของวาติกันถูกทำลาย เครือข่ายต่อต้านถูกเปิดใช้งานทั่วโลก

    ความพยายามของเนทันยาฮูในการสร้างอิสราเอลที่ยิ่งใหญ่ขึ้น — สงครามกับจอร์แดน เลบานอน และปาเลสไตน์ — ถูกปฏิเสธโดยพันธมิตรในตะวันออกกลาง เพื่อเข้าร่วม Global Currency Reset สงครามไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป

    วันอังคารที่ 10 มิถุนายน การเปิดเผยต่อสาธารณะครั้งแรกที่ได้รับการยืนยันโดย QFS เริ่มต้นขึ้น ไม่มี CNN ไม่มี BBC มีเพียงหลักฐานดิบๆ เช่น การโคลนนิ่ง การค้ามนุษย์ การฟ้องร้องที่ปิดผนึก ทุกชื่อ ทุกอาชญากรรม

    ขณะนี้ทรัมป์ยืนเป็นผู้บัญชาการที่การประชุมสุดยอดนาโต ไม่ใช่หุ่นเชิด มีการจับกุมเกิดขึ้นทั่วประเทศ Five Eyes ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูง พิธีกรสื่อ ผู้อำนวยการเอ็นจีโอ — ถูกตั้งข้อหาอาวุธชีวภาพ การทดลองกับมนุษย์ การโจรกรรมทางการเงิน

    เจ้าหน้าที่สหรัฐอย่างน้อย 14 คนและผู้บริหาร 5 คนถูกควบคุมตัวแล้ว
    EBS เตรียมพร้อมแล้ว: 87+ ประเทศพร้อมแล้ว การทดสอบครั้งสุดท้าย: 5 มิถุนายน

    การซ้อมดับไฟ 72 ชั่วโมงกำลังจะเริ่มขึ้นในเร็วๆ นี้
    ทรัมป์นำ ผู้รักชาติเตรียมพร้อม
    ..ข่าวอีกมุม. ..เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2025 หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางทหารภายใต้ชื่อรหัสปฏิบัติการสโตนไฟร์ได้ทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มดีพสเตตในเจนีวา เทลอาวีฟ และเทือกเขาร็อกกี้โคโลราโด ภายในพื้นที่สีแดงเหล่านี้ ได้แก่ ห้องโคลนนิ่งมนุษย์ ศูนย์ควบคุมจิตใจของอาร์พาเน็ต และบันทึกการค้ามนุษย์นอกโลก ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในมือของหน่วยข่าวกรองทางทหารของทรัมป์แล้ว ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมที่ถูกดักจับได้เผยให้เห็นการโจมตีด้วยอาวุธชีวภาพและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่วางแผนไว้สำหรับวันเสาร์ที่ 21 หรือวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน เป้าหมายคือ ดัลลาส แอตแลนตา ชิคาโก คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายระบบ QFS ปิดเมือง และทำให้การสื่อสารเป็นอัมพาต มีการเตรียมเชื้อโรคสังเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์จากระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงด้วย mRNA ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน กองทัพได้สกัดกั้นขบวนรถอาวุธชีวภาพสองขบวนใกล้กับเอลปาโซระหว่างทางไปยังไซต์ใต้ดินที่เชื่อมโยงกับโซรอสในออสติน เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกจากอิหร่านซึ่งปลอมตัวเป็นผู้รับจ้างถูกจับกุมตามพิธีสาร GITMO 21 มิถุนายน 2025: ทรัมป์อนุมัติการโจมตีเต็มรูปแบบต่อสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน - ฟอร์โดว์ นาตันซ์ อิสฟาฮาน เรือดำน้ำและเครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลท์ได้ประจำการอยู่แล้ว ในเวลาเดียวกัน ระบบป้องกัน Star Link ก็เปิดใช้งานเพื่อต่อต้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและการโจมตีทางไซเบอร์ Cyber ​​Command ปิดช่องโหว่เฟิร์มแวร์ที่เชื่อมโยงกับไฟฟ้าดับล่าสุดในฟีนิกซ์ ดีทรอยต์ และฟลอริดา - ซ้อมรบเพื่อไฟฟ้าดับทั่วประเทศ วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน: ทรัมป์รักษาสันติภาพระหว่างอิหร่านและอิสราเอล วันอังคารที่ 24 มิถุนายน: อิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยทิ้งระเบิดที่เตหะราน อิหร่านตอบโต้ด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธ แต่ระบอบการปกครองก็ล่มสลายไปแล้ว พลเรือนอิหร่านปฏิเสธสงคราม ผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองและเข้าร่วม GCR ทรัมป์รู้ดีว่าความโกลาหลดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อหยุดเตียงพยาบาล ทำลาย GESARA และปิดกั้นการออกอากาศฉุกเฉิน แต่กลับกระตุ้นให้เกิดการไต่สวนของ GITMO โหนด AI ที่เชื่อมโยงกับปฏิบัติการของวาติกันถูกทำลาย เครือข่ายต่อต้านถูกเปิดใช้งานทั่วโลก ความพยายามของเนทันยาฮูในการสร้างอิสราเอลที่ยิ่งใหญ่ขึ้น — สงครามกับจอร์แดน เลบานอน และปาเลสไตน์ — ถูกปฏิเสธโดยพันธมิตรในตะวันออกกลาง เพื่อเข้าร่วม Global Currency Reset สงครามไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป วันอังคารที่ 10 มิถุนายน การเปิดเผยต่อสาธารณะครั้งแรกที่ได้รับการยืนยันโดย QFS เริ่มต้นขึ้น ไม่มี CNN ไม่มี BBC มีเพียงหลักฐานดิบๆ เช่น การโคลนนิ่ง การค้ามนุษย์ การฟ้องร้องที่ปิดผนึก ทุกชื่อ ทุกอาชญากรรม ขณะนี้ทรัมป์ยืนเป็นผู้บัญชาการที่การประชุมสุดยอดนาโต ไม่ใช่หุ่นเชิด มีการจับกุมเกิดขึ้นทั่วประเทศ Five Eyes ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูง พิธีกรสื่อ ผู้อำนวยการเอ็นจีโอ — ถูกตั้งข้อหาอาวุธชีวภาพ การทดลองกับมนุษย์ การโจรกรรมทางการเงิน เจ้าหน้าที่สหรัฐอย่างน้อย 14 คนและผู้บริหาร 5 คนถูกควบคุมตัวแล้ว EBS เตรียมพร้อมแล้ว: 87+ ประเทศพร้อมแล้ว การทดสอบครั้งสุดท้าย: 5 มิถุนายน การซ้อมดับไฟ 72 ชั่วโมงกำลังจะเริ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ ทรัมป์นำ ผู้รักชาติเตรียมพร้อม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้นึกได้ว่าเคยได้รับช็อป เกียร์ และแหวน เพราะความสามารถในการจับกลุ่มพากันกัดฟันสู้ทนฝ่าฟัน ร้องเพลงลั่น คอแทบแห้ง กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆ ตอนรับเนกไทไม่ได้ยืนอย่างลำบาก แต่ตอนรับการสวมช็อป แหวน เกียร์ จากรุ่นพี่ ผมพยายามยืนให้นิ่งที่สุดเพื่อฝึกสมาธิสั่นตัว ทำให้กลายเป็นที่จดจำตลอดกาล สุดท้ายเวลาที่ผมดิ่งดาวน์ลง ผมนึกถึงรุ่นพี่ นึกถึงความยากลำบากที่ทำให้ได้เสื้อช็อป เกียร์ แหวน ทำให้ผมมีแรงฮึดสู้ชีวิตต่อ และสิ่งที่ได้มาจากความพยายาม มุมานะ มุ่งมั่น บากบั่น อดทน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็มีค่ากว่าเงินเดือนอยู่เสมอ เงินเดือนน้อย เงินเดือนมาก ไม่เกี่ยว หารายได้ต่อเดือนมากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ดังนั้นผมตั้งตั้งมั่น ตั้งปณิธานในการฝึกฝน เคี่ยวเข็ญตัวเองเพื่อให้ไปสู่จุดที่ผมมองว่าสำเร็จแล้ว หลังเรียนจบผมคิดว่ายังไม่สำเร็จทั้งหลักสูตร เลยต้องเรียนรู้สิ่งที่ขาดหายไป และเรียนรู้เพิ่มเติม จนกว่าจะครบครันในองค์ความรู้และภูมิความรู้
    ผมยอมรับว่าเคยโชว์ภูมิทั้งๆที่ภูมิความรู้ไม่น้อยและไม่ขวนวายให้มากกว่านี้ สุดท้ายผมไม่โชว์ภูมิ อวดภูมิ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการรับงานรับจ้างออนไลน์ รีโมท
    วันนี้นึกได้ว่าเคยได้รับช็อป เกียร์ และแหวน เพราะความสามารถในการจับกลุ่มพากันกัดฟันสู้ทนฝ่าฟัน ร้องเพลงลั่น คอแทบแห้ง กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆ ตอนรับเนกไทไม่ได้ยืนอย่างลำบาก แต่ตอนรับการสวมช็อป แหวน เกียร์ จากรุ่นพี่ ผมพยายามยืนให้นิ่งที่สุดเพื่อฝึกสมาธิสั่นตัว ทำให้กลายเป็นที่จดจำตลอดกาล สุดท้ายเวลาที่ผมดิ่งดาวน์ลง ผมนึกถึงรุ่นพี่ นึกถึงความยากลำบากที่ทำให้ได้เสื้อช็อป เกียร์ แหวน ทำให้ผมมีแรงฮึดสู้ชีวิตต่อ และสิ่งที่ได้มาจากความพยายาม มุมานะ มุ่งมั่น บากบั่น อดทน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็มีค่ากว่าเงินเดือนอยู่เสมอ เงินเดือนน้อย เงินเดือนมาก ไม่เกี่ยว หารายได้ต่อเดือนมากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ดังนั้นผมตั้งตั้งมั่น ตั้งปณิธานในการฝึกฝน เคี่ยวเข็ญตัวเองเพื่อให้ไปสู่จุดที่ผมมองว่าสำเร็จแล้ว หลังเรียนจบผมคิดว่ายังไม่สำเร็จทั้งหลักสูตร เลยต้องเรียนรู้สิ่งที่ขาดหายไป และเรียนรู้เพิ่มเติม จนกว่าจะครบครันในองค์ความรู้และภูมิความรู้ ผมยอมรับว่าเคยโชว์ภูมิทั้งๆที่ภูมิความรู้ไม่น้อยและไม่ขวนวายให้มากกว่านี้ สุดท้ายผมไม่โชว์ภูมิ อวดภูมิ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการรับงานรับจ้างออนไลน์ รีโมท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • *****.....พระปิดตา.....เหนือดวง.....สายเขาอ้อ.....ปี.....2555.....*****

    *****.....ต่อไป..จะต้องเป็น...ตำนาน.... ในการจัดสร้างวัตถุมงคล...รุ่นเหนือดวง...ครั้งแรก...ของการปลุกเสกด้วย...ตำราพิชัยสมบัติ...พิชัยสงคราม...ว่าด้วย...วิชาเหนือดวง...อัญเชิญ...เทพเทวดา...มหาเทพ... พระอรหันต์...บรรจุลงในองค์พระ...พลิก...ชีวิต...พลิก...ดวงชะตา...เปิดตำนาน...สำนักตักศิลาเขาอ้อ...วิชาเหนือดวง...สำนักเขาอ้อเป็น...สำนักสอนวิชา...ไสยศาสตร์...มาตั้งแต่ครั้งสมัยศรีวิชัย...จนถึงสมัยสุโขทัย...สมัยศรีอยุธยา...กรุงธนบุรี...จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์...ในปัจจุบัน...พระอาจารย์สำนัก...เขาอ้อ...ทุกๆองค์...เป็นปรมาจารย์อันเลื่องลือ...ของชาวพุทธภาคใต้...ตั้งแต่เมืองไชยา...ลงไปถึงแหลมมาลายู...ปรากฏว่า...ไปเรียนวิชาไสยศาสตร์ จากสำนักเขาอ้อ...หรือใช้ตำราที่มาจากสำนักเขาอ้อทั้งหมด...พระอาจารย์สำนักเขาอ้อ...ทุกๆองค์...จะมีความรู้...ความสามารถ...คล้ายคลึงกัน...เพราะได้ศึกษาต่อกันมาไม่ขาดระยะ...ตำราและความรู้ที่เป็นหลัก...คือ...พระอาจารย์เขาอ้อทุกองค์...สอนเวทย์มนต์...คาถา...ที่เป็นหลักเริ่มตั้งแต่...ธาตุ4 ธาตุทั้ง5 แม่ธาตุ...การตั้งธาตุ...หนุนธาตุ...แปลงธาตุ...และ...ตรวจธาตุ...วิชาคงกระพันชาตรี... แคล้วคลาด...มหาอุตฆ์...สอนให้รู้ถึงที่มาของ...เลขยันต์...อักขระยันต์ต่างๆ...ซึ่งต้องใช้ความพยายาม...และต้องอยู่ปฏิบัติอาจารย์...จนอาจารย์...เห็นความพยายาม...ที่รักในวิชาของศิษย์...จึงจะสอนให้...และยังสอนวิชาความรู้เกี่ยวกับ...ยารักษาโรค...วิชาไสยศาสตร์...ที่เป็นหลักของสำนักเขาอ้อ...ซึ่งเป็นคุณวิเศษประจำพระอาจารย์ทุกๆองค์ ...(ยกตัวอย่าง)...ดังนี้.....1.เสกน้ำมันงาดิบ...ให้เดือด...ให้แข็ง...ทำพิธีป้อนให้ศิษย์เป็นคงกระพัน.....2.อาบน้ำว่าน แช่ยา...เป็นคงกระพันกันโรคภัย.....3.หุงข้าวเหนียวดำ...เป็นคงกระพันอายุวัฒนะ...และ...อีกหลายวิชา...ครั้งแรก...ของการปลุกเสก...ว่าด้วยวิชา.....เหนือดวง.....ตามตำราวิชาสำนักเขาอ้อ...ว่าด้วย วิชากำเนิด 3 คือ.....1.ดวงกำเนิดมนุษย์หญิง-ชาย.....2.ดวงกำเนิดเทวดา.....3.ดวงกำเนิดพระอรหันต์...ยันต์ดวงกำเนิดมนุษย์หญิง-ชาย ใช้ได้...ทุกผู้ทุกนาม ฯลฯ...เมื่อท่านใช้อาราธนา...ด้วยอำนาจแห่งครูอาจารย์เขาอ้อ.....อาจารย์คล้อย อโนโม.....ด้วยอำนาจแห่งวิชา... เหมือนท่านได้เกิดใหม่อีกครั้ง...ด้วยอำนาจแห่งคุณ...พระพุทธ...ยันต์ดวงกำเนิดเทวา...เป็นการอัญเชิญ...เทวดา...องค์เทพ...องค์มหาเทพ มาประจำองค์พระ...เพื่อเป็นเทวดา...ปกป้อง...คุ้มครอง...หนุนดวงชะตา...ให้กับร้ายกลายเป็นดี...ส่งเสริมให้มีเกรียติยศ...และ...ชื่อเสียง ฯลฯ...แล้วแต่จะอธิฐานต่อ... ยันต์องค์กำเนิดพระอรหัน...เป็นการอัญเชิญ...ขอบารมี...ของพระพุทธเจ้า...พระอรหันต์...ลงมาปกป้องคุ้มครอง...ประทานพร...ประทานอำนาจ...วาสนา...บารมี...ฯลฯ.....*****

    *****.....ไอดี ไลน์.....oak_999.....ข้อความ.....หรือโทร...089-471-5666.....*****

    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #พระปิดตา #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....พระปิดตา.....เหนือดวง.....สายเขาอ้อ.....ปี.....2555.....***** *****.....ต่อไป..จะต้องเป็น...ตำนาน.... ในการจัดสร้างวัตถุมงคล...รุ่นเหนือดวง...ครั้งแรก...ของการปลุกเสกด้วย...ตำราพิชัยสมบัติ...พิชัยสงคราม...ว่าด้วย...วิชาเหนือดวง...อัญเชิญ...เทพเทวดา...มหาเทพ... พระอรหันต์...บรรจุลงในองค์พระ...พลิก...ชีวิต...พลิก...ดวงชะตา...เปิดตำนาน...สำนักตักศิลาเขาอ้อ...วิชาเหนือดวง...สำนักเขาอ้อเป็น...สำนักสอนวิชา...ไสยศาสตร์...มาตั้งแต่ครั้งสมัยศรีวิชัย...จนถึงสมัยสุโขทัย...สมัยศรีอยุธยา...กรุงธนบุรี...จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์...ในปัจจุบัน...พระอาจารย์สำนัก...เขาอ้อ...ทุกๆองค์...เป็นปรมาจารย์อันเลื่องลือ...ของชาวพุทธภาคใต้...ตั้งแต่เมืองไชยา...ลงไปถึงแหลมมาลายู...ปรากฏว่า...ไปเรียนวิชาไสยศาสตร์ จากสำนักเขาอ้อ...หรือใช้ตำราที่มาจากสำนักเขาอ้อทั้งหมด...พระอาจารย์สำนักเขาอ้อ...ทุกๆองค์...จะมีความรู้...ความสามารถ...คล้ายคลึงกัน...เพราะได้ศึกษาต่อกันมาไม่ขาดระยะ...ตำราและความรู้ที่เป็นหลัก...คือ...พระอาจารย์เขาอ้อทุกองค์...สอนเวทย์มนต์...คาถา...ที่เป็นหลักเริ่มตั้งแต่...ธาตุ4 ธาตุทั้ง5 แม่ธาตุ...การตั้งธาตุ...หนุนธาตุ...แปลงธาตุ...และ...ตรวจธาตุ...วิชาคงกระพันชาตรี... แคล้วคลาด...มหาอุตฆ์...สอนให้รู้ถึงที่มาของ...เลขยันต์...อักขระยันต์ต่างๆ...ซึ่งต้องใช้ความพยายาม...และต้องอยู่ปฏิบัติอาจารย์...จนอาจารย์...เห็นความพยายาม...ที่รักในวิชาของศิษย์...จึงจะสอนให้...และยังสอนวิชาความรู้เกี่ยวกับ...ยารักษาโรค...วิชาไสยศาสตร์...ที่เป็นหลักของสำนักเขาอ้อ...ซึ่งเป็นคุณวิเศษประจำพระอาจารย์ทุกๆองค์ ...(ยกตัวอย่าง)...ดังนี้.....1.เสกน้ำมันงาดิบ...ให้เดือด...ให้แข็ง...ทำพิธีป้อนให้ศิษย์เป็นคงกระพัน.....2.อาบน้ำว่าน แช่ยา...เป็นคงกระพันกันโรคภัย.....3.หุงข้าวเหนียวดำ...เป็นคงกระพันอายุวัฒนะ...และ...อีกหลายวิชา...ครั้งแรก...ของการปลุกเสก...ว่าด้วยวิชา.....เหนือดวง.....ตามตำราวิชาสำนักเขาอ้อ...ว่าด้วย วิชากำเนิด 3 คือ.....1.ดวงกำเนิดมนุษย์หญิง-ชาย.....2.ดวงกำเนิดเทวดา.....3.ดวงกำเนิดพระอรหันต์...ยันต์ดวงกำเนิดมนุษย์หญิง-ชาย ใช้ได้...ทุกผู้ทุกนาม ฯลฯ...เมื่อท่านใช้อาราธนา...ด้วยอำนาจแห่งครูอาจารย์เขาอ้อ.....อาจารย์คล้อย อโนโม.....ด้วยอำนาจแห่งวิชา... เหมือนท่านได้เกิดใหม่อีกครั้ง...ด้วยอำนาจแห่งคุณ...พระพุทธ...ยันต์ดวงกำเนิดเทวา...เป็นการอัญเชิญ...เทวดา...องค์เทพ...องค์มหาเทพ มาประจำองค์พระ...เพื่อเป็นเทวดา...ปกป้อง...คุ้มครอง...หนุนดวงชะตา...ให้กับร้ายกลายเป็นดี...ส่งเสริมให้มีเกรียติยศ...และ...ชื่อเสียง ฯลฯ...แล้วแต่จะอธิฐานต่อ... ยันต์องค์กำเนิดพระอรหัน...เป็นการอัญเชิญ...ขอบารมี...ของพระพุทธเจ้า...พระอรหันต์...ลงมาปกป้องคุ้มครอง...ประทานพร...ประทานอำนาจ...วาสนา...บารมี...ฯลฯ.....***** *****.....ไอดี ไลน์.....oak_999.....ข้อความ.....หรือโทร...089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #พระปิดตา #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพความเสียหายที่ทางเข้าเรือนจำเอวินในเตหะรานหลังจากการโจมตีของอิสราเอลวันนี้

    เรือนจำแห่งนี้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษการเมืองจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลและการจารกรรม การโจมตีครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเจาะกำแพงของเรือนจำและอำนวยความสะดวกในการแหกคุกเพื่อจุดชนวนความไม่สงบเพิ่มเติมในอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ความพยายามดังกล่าวล้มเหลว และขณะนี้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างสมบูรณ์
    ภาพความเสียหายที่ทางเข้าเรือนจำเอวินในเตหะรานหลังจากการโจมตีของอิสราเอลวันนี้ เรือนจำแห่งนี้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษการเมืองจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลและการจารกรรม การโจมตีครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเจาะกำแพงของเรือนจำและอำนวยความสะดวกในการแหกคุกเพื่อจุดชนวนความไม่สงบเพิ่มเติมในอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ความพยายามดังกล่าวล้มเหลว และขณะนี้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างสมบูรณ์
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • ช่วงนี้อิสราเอลกำลังเผชิญการโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือปฏิบัติการไซเบอร์ หนึ่งในแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามคือ... แฮ็กกล้องวงจรปิดตามบ้านของประชาชน โดยเฉพาะกล้องที่ใช้รหัสผ่านเดิมจากโรงงาน หรือรหัสง่าย ๆ เดาง่าย เช่น “123456”

    สิ่งที่แฮกเกอร์ทำคือ เจาะกล้องเพื่อ ดูว่า “มิสไซล์ที่ยิงไปตกตรงไหน”, มีการเคลื่อนไหวของรถทหารหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบจุดยุทธศาสตร์ที่ถูก blackout ข้อมูลในสื่อ กระทรวงไซเบอร์ของอิสราเอลยอมรับว่า มีความพยายามเจาะระบบกล้องเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่วันหลังการยิงขีปนาวุธ

    ย้อนไปปี 2022 เคยมีการเตือนแล้วว่า “กล้องกว่า 66,000 ตัวในอิสราเอลยังใช้รหัสผ่านเริ่มต้น” — และหลายหมู่บ้านที่ถูกบุกในปีถัดมาก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร จนกลายเป็นปัญหาข้อมูลรั่ววงกว้าง

    รัฐบาลจึงขอให้ประชาชน ปิดกล้องที่ไม่จำเป็น, เปลี่ยนรหัสผ่าน, เปิด two-factor authentication และถ้าเป็นไปได้... อย่าติดตั้งกล้องที่ “สตรีมออนไลน์” ได้เอง เพราะอาจกลายเป็นหน้าต่างเปิดให้ศัตรูมองย้อนกลับมา

    กรณีนี้ไม่ได้เกิดแค่ในอิสราเอล — ในยูเครน เคยมีการแบนกล้องวงจรปิด เพราะพบว่ารัสเซียใช้วิดีโอแบบ live มา “ปรับทิศการโจมตีอากาศ” แบบทันทีได้เช่นกัน

    รัฐบาลอิสราเอลเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดที่ไม่จำเป็น” หรืออย่างน้อยให้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่  
    • ลดความเสี่ยงที่กลุ่มอิหร่านเจาะเข้าไปดู live feed เพื่อเก็บข้อมูล

    พบว่าแฮกเกอร์จากอิหร่านพยายามแฮกกล้องเพื่อดูผลกระทบของมิสไซล์ และการเคลื่อนไหวทางทหาร  
    • เป็นการเจาะระบบในช่วงสื่อถูกจำกัดการเผยข้อมูล

    เคยมีการเตือนเมื่อปี 2022 ว่ามีกล้อง 66,000 ตัวใช้รหัสผ่านจากโรงงาน (default password)  
    • ส่วนใหญ่ไม่ถูกเปลี่ยนแม้มีคำเตือน

    รัฐบาลสามารถปิดการทำงานของกล้องภาครัฐและส่วนบุคคลในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พรมแดน หรือโครงสร้างสำคัญแล้ว
    • ใช้กฎหมายพิเศษในช่วงภัยพิบัติ

    กรณีคล้ายกันเคยเกิดในยูเครน — เมื่อรัสเซียใช้วิดีโอจากกล้องสาธารณะเพื่อเจาะพิกัดเป้าหมาย

    ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เลือกกล้องที่มีระบบความปลอดภัยดี รองรับการตั้งค่ารหัส, การเข้ารหัส และปิดการสตรีมออนไลน์ได้

    https://www.techspot.com/news/108401-israel-urges-citizens-turn-off-home-cameras-iran.html
    ช่วงนี้อิสราเอลกำลังเผชิญการโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือปฏิบัติการไซเบอร์ หนึ่งในแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามคือ... แฮ็กกล้องวงจรปิดตามบ้านของประชาชน โดยเฉพาะกล้องที่ใช้รหัสผ่านเดิมจากโรงงาน หรือรหัสง่าย ๆ เดาง่าย เช่น “123456” สิ่งที่แฮกเกอร์ทำคือ เจาะกล้องเพื่อ ดูว่า “มิสไซล์ที่ยิงไปตกตรงไหน”, มีการเคลื่อนไหวของรถทหารหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบจุดยุทธศาสตร์ที่ถูก blackout ข้อมูลในสื่อ กระทรวงไซเบอร์ของอิสราเอลยอมรับว่า มีความพยายามเจาะระบบกล้องเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่วันหลังการยิงขีปนาวุธ ย้อนไปปี 2022 เคยมีการเตือนแล้วว่า “กล้องกว่า 66,000 ตัวในอิสราเอลยังใช้รหัสผ่านเริ่มต้น” — และหลายหมู่บ้านที่ถูกบุกในปีถัดมาก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร จนกลายเป็นปัญหาข้อมูลรั่ววงกว้าง รัฐบาลจึงขอให้ประชาชน ปิดกล้องที่ไม่จำเป็น, เปลี่ยนรหัสผ่าน, เปิด two-factor authentication และถ้าเป็นไปได้... อย่าติดตั้งกล้องที่ “สตรีมออนไลน์” ได้เอง เพราะอาจกลายเป็นหน้าต่างเปิดให้ศัตรูมองย้อนกลับมา กรณีนี้ไม่ได้เกิดแค่ในอิสราเอล — ในยูเครน เคยมีการแบนกล้องวงจรปิด เพราะพบว่ารัสเซียใช้วิดีโอแบบ live มา “ปรับทิศการโจมตีอากาศ” แบบทันทีได้เช่นกัน ✅ รัฐบาลอิสราเอลเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดที่ไม่จำเป็น” หรืออย่างน้อยให้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่   • ลดความเสี่ยงที่กลุ่มอิหร่านเจาะเข้าไปดู live feed เพื่อเก็บข้อมูล ✅ พบว่าแฮกเกอร์จากอิหร่านพยายามแฮกกล้องเพื่อดูผลกระทบของมิสไซล์ และการเคลื่อนไหวทางทหาร   • เป็นการเจาะระบบในช่วงสื่อถูกจำกัดการเผยข้อมูล ✅ เคยมีการเตือนเมื่อปี 2022 ว่ามีกล้อง 66,000 ตัวใช้รหัสผ่านจากโรงงาน (default password)   • ส่วนใหญ่ไม่ถูกเปลี่ยนแม้มีคำเตือน ✅ รัฐบาลสามารถปิดการทำงานของกล้องภาครัฐและส่วนบุคคลในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พรมแดน หรือโครงสร้างสำคัญแล้ว • ใช้กฎหมายพิเศษในช่วงภัยพิบัติ ✅ กรณีคล้ายกันเคยเกิดในยูเครน — เมื่อรัสเซียใช้วิดีโอจากกล้องสาธารณะเพื่อเจาะพิกัดเป้าหมาย ✅ ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เลือกกล้องที่มีระบบความปลอดภัยดี รองรับการตั้งค่ารหัส, การเข้ารหัส และปิดการสตรีมออนไลน์ได้ https://www.techspot.com/news/108401-israel-urges-citizens-turn-off-home-cameras-iran.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Israel urges citizens to turn off home cameras as Iran hacks surveillance systems
    In the aftermath of recent Iranian missile strikes on Tel Aviv, concerns about the vulnerability of internet-connected cameras have intensified. "We know that in the past two...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนประณามสหรัฐอย่างรุนแรงต่อการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านภายใต้การคุ้มครองของ IAEA

    การกระทำของสหรัฐฯ ถือเป็นการละเมิดวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น

    จีนเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้ง โดยเฉพาะอิสราเอล บรรลุข้อตกลงหยุดยิงโดยเร็วที่สุด รับรองความปลอดภัยของพลเรือน และเริ่มการเจรจา

    จีนพร้อมที่จะร่วมมือกับชุมชนระหว่างประเทศเพื่อรวมความพยายามร่วมกันและรักษาความยุติธรรม และทำงานเพื่อฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
    จีนประณามสหรัฐอย่างรุนแรงต่อการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านภายใต้การคุ้มครองของ IAEA การกระทำของสหรัฐฯ ถือเป็นการละเมิดวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น จีนเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้ง โดยเฉพาะอิสราเอล บรรลุข้อตกลงหยุดยิงโดยเร็วที่สุด รับรองความปลอดภัยของพลเรือน และเริ่มการเจรจา จีนพร้อมที่จะร่วมมือกับชุมชนระหว่างประเทศเพื่อรวมความพยายามร่วมกันและรักษาความยุติธรรม และทำงานเพื่อฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญา NPT อย่างโจ่งแจ้ง” และกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถหยุดการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติของอิหร่านลงได้”

    .

    แถลงการณ์ฉบับเต็มขององค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI - The Atomic Energy Organization of Iran):

    'หลังจากการโจมตีอย่างโหดร้ายโดยศัตรูไซออนิสต์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ของประเทศที่ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ถูกโจมตีเมื่อเช้านี้โดยศัตรูของอิหร่าน ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT)

    การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศนั้นอย่าง
    ชัดเจน และช่างน่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นท่ามกลางความเฉยเมย และยังเป็นการสมรู้ร่วมคิดของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)

    ศัตรูของเราออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีฐานปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องของ IAEA ตามข้อตกลงการป้องกันและสนธิสัญญา NPT

    เราหวังว่าจะได้เห็นการประณามจากนานาประเทศ และสนับสนุนอิหร่านในการบรรลุสิทธิอันชอบธรรมของตน

    องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านขอรับรองต่อชาติอิหร่านที่ยิ่งใหญ่ว่า แม้จะมีแผนการชั่วร้ายของศัตรู แต่ด้วยความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิวัติวงการและกระตือรือร้นนับพันคน องค์การจะไม่ยอมให้การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติซึ่งเป็นผลจากเลือดของผู้พลีชีพเพื่อนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง
    องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญา NPT อย่างโจ่งแจ้ง” และกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถหยุดการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติของอิหร่านลงได้” . แถลงการณ์ฉบับเต็มขององค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI - The Atomic Energy Organization of Iran): 'หลังจากการโจมตีอย่างโหดร้ายโดยศัตรูไซออนิสต์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ของประเทศที่ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ถูกโจมตีเมื่อเช้านี้โดยศัตรูของอิหร่าน ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศนั้นอย่าง ชัดเจน และช่างน่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นท่ามกลางความเฉยเมย และยังเป็นการสมรู้ร่วมคิดของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ศัตรูของเราออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีฐานปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องของ IAEA ตามข้อตกลงการป้องกันและสนธิสัญญา NPT เราหวังว่าจะได้เห็นการประณามจากนานาประเทศ และสนับสนุนอิหร่านในการบรรลุสิทธิอันชอบธรรมของตน องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านขอรับรองต่อชาติอิหร่านที่ยิ่งใหญ่ว่า แม้จะมีแผนการชั่วร้ายของศัตรู แต่ด้วยความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิวัติวงการและกระตือรือร้นนับพันคน องค์การจะไม่ยอมให้การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติซึ่งเป็นผลจากเลือดของผู้พลีชีพเพื่อนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่
    สัทธรรมลำดับที่ : 660
    ชื่อบทธรรม : -อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ)
    --ภิกษุ ท. !
    +--ส่วนบุคคล
    เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง ๑.จักษุ ตามที่เป็นจริง.
    เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง รูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง,
    เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง จักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง,
    เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง,
    เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย
    อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริงแล้ว ;
    เขาย่อมไม่กำหนัดในจักษุ, ไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย,
    ไม่กำหนัดในจักขุวิญญาณ, ไม่กำหนัดในจักขุสัมผัส, และ
    ไม่กำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย
    อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม.
    เมื่อบุคคลนั้นไม่กำหนัดแล้ว ไม่ติดพันแล้ว ไม่ลุ่มหลงแล้ว
    ตามเห็นอาทีนวะ (โทษของสิ่งเหล่านั้น) อยู่เนือง ๆ ,
    ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความไม่ก่อเกิดต่อไป ;
    และตัณหา อันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่
    อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน
    เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ นั้นอันเขาย่อมละเสียได้ ;
    +--ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้,
    ความกระวนกระวายแม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ;
    +--ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้,
    ความแผดเผา แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ;
    +-ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้,
    ความเร่าร้อน แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้.

    +--บุคคลนั้นย่อม เสวยซึ่งความสุข อันเป็นไป ทางกายด้วย.
    ซึ่งความสุขอันเป็นไป ทางจิต ด้วย.
    +--เมื่อบุคคลเป็นเช่นนั้นแล้ว
    ทิฏฐิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาทิฏฐิ ;
    ความดำริของเขา ย่อมเป็นสัมมาสังกัปปะ;
    ความพยายาม ของเขา ย่อมเป็นสัมมาวายามะ;
    สติ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสติ ;
    สมาธิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสมาธิ ;
    ส่วน กายกรรม วจีกรรม และ อาชีวะ
    ของเขา เป็นธรรมบริสุทธิ์อยู่ก่อนแล้วนั่นเทียว.
    ด้วยอาการอย่างนี้ เป็นอันว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้
    ของเขานั้น ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ.
    +--เมื่อเขาทำอริยอัฏฐังคิกมรรค ให้เจริญอยู่ด้วยอาการอย่างนี้,
    สติปัฏฐาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ;
    สัมมัปปธาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    อิทธิบาท แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    อินทรีย์ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    พละ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    โพชฌงค์ แม้ทั้ง ๗ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ.

    +--ธรรมทั้งสองคือ #สมถะและวิปัสสนา ของเขานั้น ย่อมเป็นธรรมเคียงคู่กันไป.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=สมโถ+วิปสฺสนา
    +--บุคคลนั้น ย่อม
    กำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ;
    ย่อมละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง ;
    ย่อมทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง;
    ย่อม ทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง.
    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู ้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า ปัญจุปาทานขันธ์ ทั้งหลาย กล่าวคือ
    อุปาทานขันธ์คือรูป
    อุปาทานขันธ์คือเวทนา
    อุปาทานขันธ์คือสัญญา
    อุปาทานขันธ์คือสังขาร
    อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วย ปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า อวิชชา ด้วย ภวตัณหา ด้วย :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า สมถะ ด้วย วิปัสสนา ด้วย :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า วิชชา ด้วย วิมุตติ ด้วย :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    (ในกรณีที่เกี่ยวกับ
    ๒.โสต ๓.ฆาน ๔.ชิวหา ๕.กาย ๖.มโน และ สหคตธรรมแห่งอายตนะมีโสต เป็นต้น
    ก็มีเนื้อความเหมือนกับที่กล่าวแล้วในกรณีแห่ง ๑.จักษุและสหคตธรรมของจักษุ
    ดังที่กล่าวข้างต้นนี้ทุกประการ พึงขยายความเอาเองให้เต็มตามนั้น
    ).-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/395-398/828-831.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/395/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๕๒๓-๕๒๖/๘๒๘-๘๓๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/523/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98
    ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/14/526/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%93%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46&id=660
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46
    ลำดับสาธยายธรรม : 46 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_46.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่ สัทธรรมลำดับที่ : 660 ชื่อบทธรรม : -อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ) --ภิกษุ ท. ! +--ส่วนบุคคล เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง ๑.จักษุ ตามที่เป็นจริง. เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง รูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง จักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริงแล้ว ; เขาย่อมไม่กำหนัดในจักษุ, ไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย, ไม่กำหนัดในจักขุวิญญาณ, ไม่กำหนัดในจักขุสัมผัส, และ ไม่กำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม. เมื่อบุคคลนั้นไม่กำหนัดแล้ว ไม่ติดพันแล้ว ไม่ลุ่มหลงแล้ว ตามเห็นอาทีนวะ (โทษของสิ่งเหล่านั้น) อยู่เนือง ๆ , ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความไม่ก่อเกิดต่อไป ; และตัณหา อันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ นั้นอันเขาย่อมละเสียได้ ; +--ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความกระวนกระวายแม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; +--ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความแผดเผา แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; +-ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความเร่าร้อน แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้. +--บุคคลนั้นย่อม เสวยซึ่งความสุข อันเป็นไป ทางกายด้วย. ซึ่งความสุขอันเป็นไป ทางจิต ด้วย. +--เมื่อบุคคลเป็นเช่นนั้นแล้ว ทิฏฐิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาทิฏฐิ ; ความดำริของเขา ย่อมเป็นสัมมาสังกัปปะ; ความพยายาม ของเขา ย่อมเป็นสัมมาวายามะ; สติ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสติ ; สมาธิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสมาธิ ; ส่วน กายกรรม วจีกรรม และ อาชีวะ ของเขา เป็นธรรมบริสุทธิ์อยู่ก่อนแล้วนั่นเทียว. ด้วยอาการอย่างนี้ เป็นอันว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้ ของเขานั้น ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. +--เมื่อเขาทำอริยอัฏฐังคิกมรรค ให้เจริญอยู่ด้วยอาการอย่างนี้, สติปัฏฐาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ; สัมมัปปธาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อิทธิบาท แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อินทรีย์ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; พละ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; โพชฌงค์ แม้ทั้ง ๗ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. +--ธรรมทั้งสองคือ #สมถะและวิปัสสนา ของเขานั้น ย่อมเป็นธรรมเคียงคู่กันไป. http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=สมโถ+วิปสฺสนา +--บุคคลนั้น ย่อม กำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อมละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อมทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง; ย่อม ทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู ้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า ปัญจุปาทานขันธ์ ทั้งหลาย กล่าวคือ อุปาทานขันธ์คือรูป อุปาทานขันธ์คือเวทนา อุปาทานขันธ์คือสัญญา อุปาทานขันธ์คือสังขาร อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วย ปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า อวิชชา ด้วย ภวตัณหา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า สมถะ ด้วย วิปัสสนา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า วิชชา ด้วย วิมุตติ ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง. (ในกรณีที่เกี่ยวกับ ๒.โสต ๓.ฆาน ๔.ชิวหา ๕.กาย ๖.มโน และ สหคตธรรมแห่งอายตนะมีโสต เป็นต้น ก็มีเนื้อความเหมือนกับที่กล่าวแล้วในกรณีแห่ง ๑.จักษุและสหคตธรรมของจักษุ ดังที่กล่าวข้างต้นนี้ทุกประการ พึงขยายความเอาเองให้เต็มตามนั้น ).- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/395-398/828-831. http://etipitaka.com/read/thai/14/395/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๕๒๓-๕๒๖/๘๒๘-๘๓๑. http://etipitaka.com/read/pali/14/523/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98 ถึง http://etipitaka.com/read/pali/14/526/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%93%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46&id=660 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46 ลำดับสาธยายธรรม : 46 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_46.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่--ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ
    -(ในสูตรถัดไป (๑๘/๒๖๔/๓๘๕) ทรงแสดง ที่เกิดของเวทนาทั้งสาม ว่าได้แก่ “ผัสสะ” แทนที่จะทรงแสดงว่าได้แก่ “กาย” เหมือนที่ทรงแสดงไว้ในสูตรข้างบนนี้, ส่วนเนื้อความนอกนั้น ก็เหมือนกับข้อความแห่งสูตรข้างบนนี้ ทุกประการ). อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่ ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ ภิกษุ ท. ! ....ส่วนบุคคล เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักษุ ตามที่เป็นจริง. เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง รูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง จักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริงแล้ว ; เขาย่อมไม่กำหนัดในจักษุ, ไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย, ไม่กำหนัดในจักขุวิญญาณ, ไม่กำหนัดในจักขุสัมผัส, และไม่กำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม. เมื่อบุคคลนั้นไม่กำหนัดแล้ว ไม่ติดพันแล้ว ไม่ลุ่มหลงแล้ว ตามเห็นอาทีนวะ (โทษของสิ่งเหล่านั้น) อยู่เนือง ๆ , ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความไม่ก่อเกิดต่อไป ; และตัณหา อัน เป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ นั้นอันเขาย่อมละเสียได้ ; ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความกระวนกระวายแม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความแผดเผา แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความเร่าร้อน แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้. บุคคลนั้นย่อม เสวยซึ่งความสุข อันเป็นไป ทางกายด้วย. ซึ่งความสุขอันเป็นไป ทางจิต ด้วย. เมื่อบุคคลเป็นเช่นนั้นแล้ว ทิฏฐิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาทิฏฐิ ; ความดำริของเขา ย่อมเป็นสัมมาสังกัปปะ; ความพยายาม ของเขา ย่อมเป็นสัมมาวายามะ; สติ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสติ ; สมาธิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสมาธิ ; ส่วน กายกรรม วจีกรรม และ อาชีวะ ของเขา เป็นธรรมบริสุทธิ์อยู่ก่อนแล้วนั่นเทียว. ด้วยอาการอย่างนี้ เป็นอันว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้ ของเขานั้น ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. เมื่อเขาทำอริยอัฏฐังคิกมรรค ให้เจริญอยู่ด้วยอาการอย่างนี้, สติปัฏฐาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ; สัมมัปปธาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อิทธิบาท แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อินทรีย์ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; พละ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; โพชฌงค์ แม้ทั้ง ๗ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. ธรรมทั้งสองคือ สมถะ และวิปัสสนา ของเขานั้น ย่อมเป็นธรรมเคียงคู่กันไป. บุคคลนั้น ย่อม กำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อม ละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อมทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง; ย่อม ทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู ้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า ปัญจุปาทานขันธ์ ทั้งหลาย กล่าวคืออุปาทานขันธ์คือรูป อุปาทานขันธ์คือเวทนา อุปาทานขันธ์คือสัญญา อุปาทานขันธ์คือสังขาร อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรม อันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วย ปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า อวิชชา ด้วย ภวตัณหา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า สมถะ ด้วย วิปัสสนา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า วิชชา ด้วย วิมุตติ ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง. (ในกรณีที่เกี่ยวกับ โสต ฆาน ชิวหา กาย มโน และ สหคตธรรมแห่งอายตนะมีโสตเป็นต้น ก็มีเนื้อความเหมือนกับที่กล่าวแล้วในกรณีแห่ง จักษุและสหคตธรรมของจักษุ ดังที่กล่าวข้างบนนี้ทุกประการ พึงขยายความเอาเองให้เต็มตามนั้น).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลิปเสียงเรื่องร้ายแรง ปั่น 2 ชาติแตกแยก : [NEWS UPDATE]

    นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยกรณีคลิปเสียงหลุดทำลายความเชื่อใจระหว่างกันอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ และความพยายามใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ปัญหาตามแนวปฏิบัติสากล เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งนี้ กัมพูชาใช้การสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ เพื่อปลุกระดมความนิยมจากประชาชน สร้างความแตกแยกให้สังคมของทั้งสองประเทศหรือประเทศอื่น แสดงถึงการไม่เคารพหลักการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี การกระทำเช่นนี้ไม่ควรได้รับการยอมรับ และความไว้วางใจจากประชาคมระหว่างประเทศ

    -สยบลือปฏิวัติรัฐประหาร

    -ไม่เคยขอโควตาเพิ่ม

    -ไม่ผลีผลามสละเรือ

    -กัมพูชาเสียมากกว่าได้
    คลิปเสียงเรื่องร้ายแรง ปั่น 2 ชาติแตกแยก : [NEWS UPDATE] นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยกรณีคลิปเสียงหลุดทำลายความเชื่อใจระหว่างกันอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ และความพยายามใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ปัญหาตามแนวปฏิบัติสากล เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งนี้ กัมพูชาใช้การสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ เพื่อปลุกระดมความนิยมจากประชาชน สร้างความแตกแยกให้สังคมของทั้งสองประเทศหรือประเทศอื่น แสดงถึงการไม่เคารพหลักการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี การกระทำเช่นนี้ไม่ควรได้รับการยอมรับ และความไว้วางใจจากประชาคมระหว่างประเทศ -สยบลือปฏิวัติรัฐประหาร -ไม่เคยขอโควตาเพิ่ม -ไม่ผลีผลามสละเรือ -กัมพูชาเสียมากกว่าได้
    Like
    Haha
    4
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 566 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • กต.เรียกทูตกัมพูชารับหนังสือประท้วง “ฮุนเซน” ปล่อยคลิปเสียงคุย “อุ๊งอิ๊งค์” ชี้ขัดจรรยามารยาทพื้นฐาน ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างเพื่อนบ้าน ไม่เคารพแนวปฏิบัติสากล ย้ำเป็นปัญหาระหว่างรัฐ ไม่เกี่ยวกับประชาชน แต่กัมพูชากลับปลุกระดมหาความนิยม สร้างความแตกแยก

    วันนี้(19 มิ.ย.) เวลาประมาณ 12.00 น. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาว่า ตามที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาต่อสาธารณชนเมื่อบ่ายวานนี้ โดยฝ่ายกัมพูชา

    ฝ่ายไทยเห็นว่าการกระทําดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณและมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นการทําลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้ง 2 ฝ่าย ตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000057732

    #MGROnline #ทูตกัมพูชา #ฮุนเซน #คลิปเสียง #อุ๊งอิ๊งค์
    กต.เรียกทูตกัมพูชารับหนังสือประท้วง “ฮุนเซน” ปล่อยคลิปเสียงคุย “อุ๊งอิ๊งค์” ชี้ขัดจรรยามารยาทพื้นฐาน ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างเพื่อนบ้าน ไม่เคารพแนวปฏิบัติสากล ย้ำเป็นปัญหาระหว่างรัฐ ไม่เกี่ยวกับประชาชน แต่กัมพูชากลับปลุกระดมหาความนิยม สร้างความแตกแยก • วันนี้(19 มิ.ย.) เวลาประมาณ 12.00 น. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาว่า ตามที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาต่อสาธารณชนเมื่อบ่ายวานนี้ โดยฝ่ายกัมพูชา • ฝ่ายไทยเห็นว่าการกระทําดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณและมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นการทําลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้ง 2 ฝ่าย ตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000057732 • #MGROnline #ทูตกัมพูชา #ฮุนเซน #คลิปเสียง #อุ๊งอิ๊งค์
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือการแปลเอกสารราชการฉบับนี้:**เลขที่ 1303/1419**กระทรวงการต่างประเทศ ขอแสดงความเคารพต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา และมีเกียรติแจ้งดังต่อไปนี้:"รัฐบาลไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่การสนทนาทางโทรศัพท์ส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับบุคคลสำคัญจากกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายเป็นรากฐานสำคัญของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและการปฏิบัติต่อกันระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวขัดต่อแนวปฏิบัติที่ยอมรับกันในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหาด้วยเจตนาที่ดี"กระทรวงการต่างประเทศใช้โอกาสนี้ยืนยันต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาถึงการให้ความเคารพในระดับสูงสุดกระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568เรียน สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา **กรุงเทพฯ**
    นี่คือการแปลเอกสารราชการฉบับนี้:**เลขที่ 1303/1419**กระทรวงการต่างประเทศ ขอแสดงความเคารพต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา และมีเกียรติแจ้งดังต่อไปนี้:"รัฐบาลไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่การสนทนาทางโทรศัพท์ส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับบุคคลสำคัญจากกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายเป็นรากฐานสำคัญของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและการปฏิบัติต่อกันระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวขัดต่อแนวปฏิบัติที่ยอมรับกันในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหาด้วยเจตนาที่ดี"กระทรวงการต่างประเทศใช้โอกาสนี้ยืนยันต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาถึงการให้ความเคารพในระดับสูงสุดกระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568เรียน สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา **กรุงเทพฯ**
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอกสารรัฐบาลไทยประท้วงผู้นำกัมพูชา กรณีฮุนเซนเผยแพร่คลิปลับเสียงนายกฯแพทองธาร ชินวัตรว่า “กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งต่อสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาว่า “รัฐบาลไทยผิดหวังอย่างยิ่ง ที่การสนทนาทางโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับผู้นำระดับสูงของกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองถือเป็นพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและความประพฤติปฏิบัติระหว่างประเทศต่าง ๆ.การกระทำดังกล่าวขัดแย้งกับแนวปฏิบัติที่ยอมรับในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามอย่างต่อเนื่องของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหานี้ด้วยความสุจริตใจ
    เอกสารรัฐบาลไทยประท้วงผู้นำกัมพูชา กรณีฮุนเซนเผยแพร่คลิปลับเสียงนายกฯแพทองธาร ชินวัตรว่า “กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งต่อสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาว่า “รัฐบาลไทยผิดหวังอย่างยิ่ง ที่การสนทนาทางโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับผู้นำระดับสูงของกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองถือเป็นพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและความประพฤติปฏิบัติระหว่างประเทศต่าง ๆ.การกระทำดังกล่าวขัดแย้งกับแนวปฏิบัติที่ยอมรับในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามอย่างต่อเนื่องของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหานี้ด้วยความสุจริตใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​พึงทำความสมดุลย์ของสมถะและวิปัสสนา
    สัทธรรมลำดับที่ : 1026
    ชื่อบทธรรม :- พึงทำความสมดุลย์ของสมถะและวิปัสสนา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1026
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --พึงทำความสมดุลย์ของสมถะและวิปัสสนา
    --ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก.
    สี่จำพวกอย่างไรเล่า ? สี่คือ
    http://etipitaka.com/read/pali/21/121/?keywords=อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาย+เจโตสมถสฺส
    ๑.บุคคลบางคน ได้เจโตสมถะในภายใน แต่ไม่ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญา;
    ๒.บุคคลบางคน ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญา แต่ไม่ได้เจโตสมถะในภายใน;
    ๓.บุคคลบางคน ไม่ได้ทั้งเจโตสมถะในภายในและไม่ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญาด้วย;
    ๔.บุคคลบางคน ได้ทั้งเจโตในภายในด้วยและได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญาด้วย.

    --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาบุคคล ๔ จำพวกนั้น
    +--๑. บุคคลผู้ได้เจโตสมถะ ในภายใน แต่ไม่ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญานั้น
    บุคคลนั้น ควรดำรงตน อยู่ในเจโตสมถะในภายใน
    แล้วประกอบความเพียรในธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญาเถิด.
    สมัยต่อมาเขาก็จะเป็นผู้ได้ทั้งเจโตสมถะในภายใน และได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วย.
    +--๒. ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนา แต่ไม่ได้เจโตสมถะในภายในนั้น
    บุคคลนั้น ควรดำรงตนอยู่ในอธิปัญญาธัมมวิปัสสนา
    แล้วประกอบความเพียรในเจโตสมถะในภายใน.
    สมัยต่อมา เขาจะเป็นผู้ได้ทั้งอธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วย และได้เจโตสมถะในภายในด้วย.
    +--๓. ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ไม่ได้ทั้งเจโตสมถะในภายใน และไม่ได้ อธิปัญญาธัมมวิปัสสนานั้น บุคคลนั้น
    เพื่อให้ได้ซึ่งกุศลธรรมทั้งสองอย่างนั้น พึง
    -กระทำโดยประมาณอันยิ่งซึ่ง ฉันทะ (ความพอใจ)
    -วายามะ (ความพยายาม)
    -อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี (ความขะมักเขม้น)
    -อัปปฏิวาณี (ความไม่ถอยหลัง)
    -สติ และสัมปชัญญะ
    ให้เหมือนกับคนมีไฟลุกโพลงที่เสื้อผ้าหรือที่ศีรษะ พึงกระทำซึ่ง
    ฉันทะ วายามะ อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี อัปปฏิวาณี สติ สัมปะชัญญะ โดยประมาณอันยิ่ง
    เพื่อจะดับไฟอันลุกโพลงที่เสื้อผ้าหรือที่ศีรษะนั้นเสีย, ฉันใดก็ฉันนั้น.
    สมัยต่อมา เขาจะเป็นผู้ได้ทั้งเจโตสมถะในภายใน และได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วย.
    +--๔. ภิกษุ ท. ! ส่วน
    บุคคลผู้ใด ได้ทั้งเจโตสมถะในภายในด้วย และได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วยนั้น
    บุคคลนั้น ควรดำรงอยู่ในกุศลธรรมทั้งสองนั้นแล้วประกอบความเพียร
    เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ให้ยิ่งขึ้นไป.
    --ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้แล มีอยู่ หาอยู่ ในโลก.-
    http://etipitaka.com/read/pali/21/121/?keywords=อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาย+เจโตสมถสฺส

    (ในพระบาลีบางแห่ง
    (มชฺฌิม. อุ. ๑๔/๕๒๔/๘๒๙​ )​ http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%99
    ตรัสระบุอริยมรรคหรืออริยสัจที่สี่ว่าได้แก่ สมถะและวิปัสสนา.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=สมโถ+วิปสฺสนา
    ข้อความที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้เกี่ยวข้องกับสมถะและวิปัสสนา จึงนำมาใส่ไว้ในหมวดนี้
    ).
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/93/93.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/93/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๒๑/๙๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/121/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%93
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1026
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1026
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89
    ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​พึงทำความสมดุลย์ของสมถะและวิปัสสนา สัทธรรมลำดับที่ : 1026 ชื่อบทธรรม :- พึงทำความสมดุลย์ของสมถะและวิปัสสนา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1026 เนื้อความทั้งหมด :- --พึงทำความสมดุลย์ของสมถะและวิปัสสนา --ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่จำพวกอย่างไรเล่า ? สี่คือ http://etipitaka.com/read/pali/21/121/?keywords=อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาย+เจโตสมถสฺส ๑.บุคคลบางคน ได้เจโตสมถะในภายใน แต่ไม่ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญา; ๒.บุคคลบางคน ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญา แต่ไม่ได้เจโตสมถะในภายใน; ๓.บุคคลบางคน ไม่ได้ทั้งเจโตสมถะในภายในและไม่ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญาด้วย; ๔.บุคคลบางคน ได้ทั้งเจโตในภายในด้วยและได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญาด้วย. --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาบุคคล ๔ จำพวกนั้น +--๑. บุคคลผู้ได้เจโตสมถะ ในภายใน แต่ไม่ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญานั้น บุคคลนั้น ควรดำรงตน อยู่ในเจโตสมถะในภายใน แล้วประกอบความเพียรในธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญาเถิด. สมัยต่อมาเขาก็จะเป็นผู้ได้ทั้งเจโตสมถะในภายใน และได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วย. +--๒. ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนา แต่ไม่ได้เจโตสมถะในภายในนั้น บุคคลนั้น ควรดำรงตนอยู่ในอธิปัญญาธัมมวิปัสสนา แล้วประกอบความเพียรในเจโตสมถะในภายใน. สมัยต่อมา เขาจะเป็นผู้ได้ทั้งอธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วย และได้เจโตสมถะในภายในด้วย. +--๓. ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ไม่ได้ทั้งเจโตสมถะในภายใน และไม่ได้ อธิปัญญาธัมมวิปัสสนานั้น บุคคลนั้น เพื่อให้ได้ซึ่งกุศลธรรมทั้งสองอย่างนั้น พึง -กระทำโดยประมาณอันยิ่งซึ่ง ฉันทะ (ความพอใจ) -วายามะ (ความพยายาม) -อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี (ความขะมักเขม้น) -อัปปฏิวาณี (ความไม่ถอยหลัง) -สติ และสัมปชัญญะ ให้เหมือนกับคนมีไฟลุกโพลงที่เสื้อผ้าหรือที่ศีรษะ พึงกระทำซึ่ง ฉันทะ วายามะ อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี อัปปฏิวาณี สติ สัมปะชัญญะ โดยประมาณอันยิ่ง เพื่อจะดับไฟอันลุกโพลงที่เสื้อผ้าหรือที่ศีรษะนั้นเสีย, ฉันใดก็ฉันนั้น. สมัยต่อมา เขาจะเป็นผู้ได้ทั้งเจโตสมถะในภายใน และได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วย. +--๔. ภิกษุ ท. ! ส่วน บุคคลผู้ใด ได้ทั้งเจโตสมถะในภายในด้วย และได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วยนั้น บุคคลนั้น ควรดำรงอยู่ในกุศลธรรมทั้งสองนั้นแล้วประกอบความเพียร เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ให้ยิ่งขึ้นไป. --ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้แล มีอยู่ หาอยู่ ในโลก.- http://etipitaka.com/read/pali/21/121/?keywords=อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาย+เจโตสมถสฺส (ในพระบาลีบางแห่ง (มชฺฌิม. อุ. ๑๔/๕๒๔/๘๒๙​ )​ http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%99 ตรัสระบุอริยมรรคหรืออริยสัจที่สี่ว่าได้แก่ สมถะและวิปัสสนา. http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=สมโถ+วิปสฺสนา ข้อความที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้เกี่ยวข้องกับสมถะและวิปัสสนา จึงนำมาใส่ไว้ในหมวดนี้ ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/93/93. http://etipitaka.com/read/thai/21/93/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๒๑/๙๓. http://etipitaka.com/read/pali/21/121/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%93 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1026 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1026 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89 ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - พึงทำความสมดุลย์ของสมถะและวิปัสสนา
    -(ขอให้สังเกตเห็นใจความสำคัญที่ว่า แม้จะเป็น เตรียมพระโสดาบัน (คือธัมมานุสารี และสัทธานุสารีก็ตาม) หรือเป็นพระโสดาบันแล้วก็ตาม ยังมีกิจคือความไม่ประมาทที่จะต้องกระทำสืบต่อยิ่งขึ้นไป ความข้อความในพระสูตรนี้ ให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ด้วยความไม่ประมาทอยู่เสมอ. ข้อปฏิบัติเหล่านั้นมีใจความสำคัญอยู่ที่ว่า กลางวันมีวิเวก คือสงัดจากความรบกวนภายนอก กลางคืนมีปฏิสัลลาณะ คือจิตไม่ฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ต่าง แต่มากำหนดอยู่ที่ธรรมอันควรกำหนดอยู่ตลอดเวลา จนเกิดผลตามลำดับ นับตั้งแต่ความปราโมทย์ ไปจนถึงความปรากฏแห่งธรรมที่ยังไม่เคยปรากฏ. อริยสาวกชั้นที่สูงขึ้นไปก็มีหลักปฏิบัติทำนองนี้ คือกลางวันมีวิเวิก กลางคืนมีปฏิสัลลาณะ เพื่อบรรลุธรรมชั้นที่สูงขึ้นไปกว่าที่บรรลุอยู่ จนกระทั่งถึงชั้นพระอรหันต์. แม้ชั้นพระอรหันต์ซึ่งเป็นชั้นที่ถึงที่สุดแห่งความไม่ประมาทแล้ว ก็ยังมีวิเวกในกลางวัน มีปฏิสัลลาณะในกลางคืน เพื่อความอยู่เป็นผาสุกของบุคคลผู้ถึงที่สุดแห่งพรหมจรรย์. ขอให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการอยู่อย่างมีวิเวกและมีปฏิสัลลาณะ ว่าเป็นฐานรากในการสืบต่อความไม่ประมาทให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปในตัวเอง โดยไม่ต้องลำบากมากมายนัก). พึงทำความสมดุลย์ของสมถะและวิปัสสนา ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่จำพวกอย่างไรเล่า ? สี่คือ บุคคลบางคน ได้เจโตสมถะในภายใน แต่ไม่ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญา; บุคคลบางคน ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญา แต่ไม่ได้เจโตสมถะในภายใน; บุคคลบางคน ไม่ได้ทั้งเจโตสมถะในภายในและไม่ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญาด้วย; บุคคลบางคน ได้ทั้งเจโตในภายในด้วยและได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญาด้วย. ภิกษุ ท. ! ในบรรดาบุคคล ๔ จำพวกนั้น ๑. บุคคลผู้ได้เจโตสมถะ ในภายใน แต่ไม่ได้ธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญานั้น บุคคลนั้น ควรดำรงตน อยู่ในเจโสมถะในภายใน แล้วประกอบความเพียรในธัมมวิปัสสนาด้วยอธิปัญญา เถิด. สมัยต่อมาเขาก็จะเป็นผู้ได้ทั้งเจโตสมถะในภายใน และได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วย. ๒. ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนา แต่ไม่ได้เจโตสมถะในภายในนั้น บุคคลนั้น ควรดำรงตนอยู่ในอธิปัญญาธัมมวิปัสสนา แล้วประกอบความเพียรในเจโตสมถะในภายใน. สมัยต่อมา เขาจะเป็นผู้ได้ทั้งอธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วย และได้เจโตสมถะในภายในด้วย. ๓. ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ไม่ได้ทั้งเจโตสมถะในภายใน และไม่ได้ อธิปัญญาธัมมวิปัสสนานั้น บุคคลนั้น เพื่อให้ได้ซึ่งกุศลธรรมทั้งสองอย่างนั้น พึง กระทำโดยประมาณอันยิ่งซึ่งฉันทะ (ความพอใจ) วายามะ (ความพยายาม) อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี (ความขะมักเขม้น) อัปปฏิวาณี (ความไม่ถอยหลัง) สติ และสัมปชัญญะ ให้เหมือนกับคนมีไฟลุกโพลงที่เสื้อผ้าหรือที่ศีรษะ พึงกระทำซึ่งฉันทะ วายามะ อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี อัปปฏิวาณี สติ สัมปะชัญญะ โดยประมาณอันยิ่ง เพื่อจะดับไฟอันลุกโพลงที่เสื้อผ้าหรือที่ศีรษะนั้นเสีย, ฉันใดก็ฉันนั้น. สมัยต่อมา เขาจะเป็นผู้ได้ทั้งเจโตสมถะในภายใน และได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วย. ๔. ภิกษุ ท. ! ส่วน บุคคลผู้ได้ได้ทั้งเจโตสมถะในภายในด้วย และได้อธิปัญญาธัมมวิปัสสนาด้วยนั้น บุคคลนั้น ควรดำรงอยู่ในกุศลธรรมทั้งสองนั้นแล้วประกอบความเพียร เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ให้ยิ่งขึ้นไป. ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้แล มีอยู่ หาอยู่ ในโลก.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าตอนนี้เราเริ่มบ่นว่า “เซิร์ฟเวอร์มันร้อน” อีกไม่กี่ปีข้างหน้า—อาจต้องเรียกวิศวกรนิวเคลียร์มาช่วยออกแบบห้องเซิร์ฟเวอร์กันเลยทีเดียว

    เพราะรายงานจาก KAIST (สถาบันวิจัยของเกาหลีใต้) ชี้ว่า TDP (Thermal Design Power) ของชิป AI ในอนาคตอาจพุ่งไปถึง 15,360W ภายในปี 2032 ซึ่งสูงกว่าชิป H100 ของ NVIDIA ปัจจุบัน (700–800W) ถึง 20 เท่า

    ตอนนี้ NVIDIA Blackwell ใช้พลังงาน 1,400W แล้ว Rubin Ultra ที่จะมาในปี 2027 จะพุ่งไป 3,600W และ Feynman ในปี 2029 จะทะลุ 6,000W ได้เลย โดยทั้งหมดนี้ยัง “ใช้แค่น้ำหล่อเย็น (liquid cooling)” ได้อยู่

    แต่หลังจากปี 2030 เป็นต้นไป จะเริ่มใช้เทคโนโลยี Immersion Cooling (จุ่มชิปในของเหลวพิเศษ) และเมื่อถึงปี 2032… ต้องฝังระบบทำความเย็นลงไปในชิปเลย (Embedded Cooling)

    และไม่ใช่แค่ตัวประมวลผลที่กินไฟครับ—โมดูลหน่วยความจำ HBM ก็จะใช้ไฟกว่า 2,000W ด้วย นั่นแปลว่าชิป AI 1 ตัวอาจใช้ไฟมากกว่บ้าน 2 หลังรวมกัน!

    TDP ของชิป AI เพิ่มจากร้อย → พัน → หมื่นวัตต์ในทศวรรษเดียว  
    • Blackwell Ultra (2025): 1,400W  
    • Rubin Ultra (2027): 3,600W  
    • Feynman Ultra (2029): 6,000W  
    • Post-Feynman Ultra (2032): 15,360W

    แนวโน้มเทคโนโลยีหล่อเย็น AI ตามระดับความร้อน  
    • เริ่มจาก liquid cooling → immersion cooling → embedded cooling  
    • KAIST เสนอแนวคิดฝัง "ท่อน้ำหล่อเย็น" และ “ฟลูอิด TSV” ลงในชิป

    การเพิ่มจำนวน chiplet และ HBM stack เป็นสาเหตุหลักของพลังงานมหาศาล  
    • HBM6 stack หนึ่งใช้ไฟถึง 120W และอาจมีมากถึง 16 stack ต่อชิป  
    • ระบบต้องติดเซ็นเซอร์ความร้อนแบบเรียลไทม์

    แนวคิดอนาคต: GPU ซ้อนชั้นสองด้าน + ท่อนำความร้อนฝังใน interposer  
    • เพิ่มพลังโดยไม่เพิ่มพื้นที่ชิป  
    • เน้นดึงความร้อนออกจาก “core” ก่อน แล้วค่อยระบายออกนอกตัวระบบ

    พลังงานระดับนี้อาจต้องใช้ระบบจ่ายไฟระดับ “โรงไฟฟ้าขนาดย่อม”  
    • หนึ่ง GPU rack อาจกินไฟ 50kW+ → ส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานของ data center ทั่วโลก

    ความท้าทายเรื่อง “คาร์บอนฟุตพรินต์” และสิ่งแวดล้อมจะหนักขึ้น  
    • แม้จะมีความพยายามใช้ cooling แบบปิดระบบ แต่การผลิตและใช้ชิปเหล่านี้ยังสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล

    Immersion cooling ยังเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง – ไม่แพร่หลายเท่าที่ควร  
    • ต้องใช้ของเหลวเฉพาะ แพง และต้องมีระบบควบคุมพิเศษ  
    • อาจไม่เหมาะกับองค์กรทั่วไป

    ยังไม่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมด้าน embedded cooling ที่ชัดเจน  
    • หากใช้ต่างแนวทางกัน อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/future-ai-processors-said-to-consume-up-to-15-360w-massive-power-draw-will-demand-exotic-immersion-and-embedded-cooling-tech
    ถ้าตอนนี้เราเริ่มบ่นว่า “เซิร์ฟเวอร์มันร้อน” อีกไม่กี่ปีข้างหน้า—อาจต้องเรียกวิศวกรนิวเคลียร์มาช่วยออกแบบห้องเซิร์ฟเวอร์กันเลยทีเดียว 🤯 เพราะรายงานจาก KAIST (สถาบันวิจัยของเกาหลีใต้) ชี้ว่า TDP (Thermal Design Power) ของชิป AI ในอนาคตอาจพุ่งไปถึง 15,360W ภายในปี 2032 ซึ่งสูงกว่าชิป H100 ของ NVIDIA ปัจจุบัน (700–800W) ถึง 20 เท่า ตอนนี้ NVIDIA Blackwell ใช้พลังงาน 1,400W แล้ว Rubin Ultra ที่จะมาในปี 2027 จะพุ่งไป 3,600W และ Feynman ในปี 2029 จะทะลุ 6,000W ได้เลย โดยทั้งหมดนี้ยัง “ใช้แค่น้ำหล่อเย็น (liquid cooling)” ได้อยู่ แต่หลังจากปี 2030 เป็นต้นไป จะเริ่มใช้เทคโนโลยี Immersion Cooling (จุ่มชิปในของเหลวพิเศษ) และเมื่อถึงปี 2032… ต้องฝังระบบทำความเย็นลงไปในชิปเลย (Embedded Cooling) และไม่ใช่แค่ตัวประมวลผลที่กินไฟครับ—โมดูลหน่วยความจำ HBM ก็จะใช้ไฟกว่า 2,000W ด้วย นั่นแปลว่าชิป AI 1 ตัวอาจใช้ไฟมากกว่บ้าน 2 หลังรวมกัน! ✅ TDP ของชิป AI เพิ่มจากร้อย → พัน → หมื่นวัตต์ในทศวรรษเดียว   • Blackwell Ultra (2025): 1,400W   • Rubin Ultra (2027): 3,600W   • Feynman Ultra (2029): 6,000W   • Post-Feynman Ultra (2032): 15,360W ✅ แนวโน้มเทคโนโลยีหล่อเย็น AI ตามระดับความร้อน   • เริ่มจาก liquid cooling → immersion cooling → embedded cooling   • KAIST เสนอแนวคิดฝัง "ท่อน้ำหล่อเย็น" และ “ฟลูอิด TSV” ลงในชิป ✅ การเพิ่มจำนวน chiplet และ HBM stack เป็นสาเหตุหลักของพลังงานมหาศาล   • HBM6 stack หนึ่งใช้ไฟถึง 120W และอาจมีมากถึง 16 stack ต่อชิป   • ระบบต้องติดเซ็นเซอร์ความร้อนแบบเรียลไทม์ ✅ แนวคิดอนาคต: GPU ซ้อนชั้นสองด้าน + ท่อนำความร้อนฝังใน interposer   • เพิ่มพลังโดยไม่เพิ่มพื้นที่ชิป   • เน้นดึงความร้อนออกจาก “core” ก่อน แล้วค่อยระบายออกนอกตัวระบบ ‼️ พลังงานระดับนี้อาจต้องใช้ระบบจ่ายไฟระดับ “โรงไฟฟ้าขนาดย่อม”   • หนึ่ง GPU rack อาจกินไฟ 50kW+ → ส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานของ data center ทั่วโลก ‼️ ความท้าทายเรื่อง “คาร์บอนฟุตพรินต์” และสิ่งแวดล้อมจะหนักขึ้น   • แม้จะมีความพยายามใช้ cooling แบบปิดระบบ แต่การผลิตและใช้ชิปเหล่านี้ยังสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล ‼️ Immersion cooling ยังเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง – ไม่แพร่หลายเท่าที่ควร   • ต้องใช้ของเหลวเฉพาะ แพง และต้องมีระบบควบคุมพิเศษ   • อาจไม่เหมาะกับองค์กรทั่วไป ‼️ ยังไม่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมด้าน embedded cooling ที่ชัดเจน   • หากใช้ต่างแนวทางกัน อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/future-ai-processors-said-to-consume-up-to-15-360w-massive-power-draw-will-demand-exotic-immersion-and-embedded-cooling-tech
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • *****.....เหรียญ.....พ่อท่าน คล้อย.....วัดภูเขาทอง.....หน้าหนุ่ม.....ว่าด้วยวิชา.....เหนือดวง.....สายเขาอ้อ.....จ.พัทลุง.....*****

    *****.....ต่อไป..จะต้องเป็น...ตำนาน.... ในการจัดสร้างวัตถุมงคล...รุ่นเหนือดวง...ครั้งแรก...ของการปลุกเสกด้วย...ตำราพิชัยสมบัติ...พิชัยสงคราม...ว่าด้วย...วิชาเหนือดวง...อัญเชิญ...เทพเทวดา...มหาเทพ... พระอรหันต์...บรรจุลงในองค์พระ...พลิก...ชีวิต...พลิก...ดวงชะตา...เปิดตำนาน...สำนักตักศิลาเขาอ้อ...วิชาเหนือดวง...สำนักเขาอ้อเป็น...สำนักสอนวิชา...ไสยศาสตร์...มาตั้งแต่ครั้งสมัยศรีวิชัย...จนถึงสมัยสุโขทัย...สมัยศรีอยุธยา...กรุงธนบุรี...จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์...ในปัจจุบัน...พระอาจารย์สำนัก...เขาอ้อ...ทุกๆองค์...เป็นปรมาจารย์อันเลื่องลือ...ของชาวพุทธภาคใต้...ตั้งแต่เมืองไชยา...ลงไปถึงแหลมมาลายู...ปรากฏว่า...ไปเรียนวิชาไสยศาสตร์ จากสำนักเขาอ้อ...หรือใช้ตำราที่มาจากสำนักเขาอ้อทั้งหมด...พระอาจารย์สำนักเขาอ้อ...ทุกๆองค์...จะมีความรู้...ความสามารถ...คล้ายคลึงกัน...เพราะได้ศึกษาต่อกันมาไม่ขาดระยะ...ตำราและความรู้ที่เป็นหลัก...คือ...พระอาจารย์เขาอ้อทุกองค์...สอนเวทย์มนต์...คาถา...ที่เป็นหลักเริ่มตั้งแต่...ธาตุ4 ธาตุทั้ง5 แม่ธาตุ...การตั้งธาตุ...หนุนธาตุ...แปลงธาตุ...และ...ตรวจธาตุ...วิชาคงกระพันชาตรี... แคล้วคลาด...มหาอุตฆ์...สอนให้รู้ถึงที่มาของ...เลขยันต์...อักขระยันต์ต่างๆ...ซึ่งต้องใช้ความพยายาม...และต้องอยู่ปฏิบัติอาจารย์...จนอาจารย์...เห็นความพยายาม...ที่รักในวิชาของศิษย์...จึงจะสอนให้...และยังสอนวิชาความรู้เกี่ยวกับ...ยารักษาโรค...วิชาไสยศาสตร์...ที่เป็นหลักของสำนักเขาอ้อ...ซึ่งเป็นคุณวิเศษประจำพระอาจารย์ทุกๆองค์ ...(ยกตัวอย่าง)...ดังนี้.....1.เสกน้ำมันงาดิบ...ให้เดือด...ให้แข็ง...ทำพิธีป้อนให้ศิษย์เป็นคงกระพัน.....2.อาบน้ำว่าน แช่ยา...เป็นคงกระพันกันโรคภัย.....3.หุงข้าวเหนียวดำ...เป็นคงกระพันอายุวัฒนะ...และ...อีกหลายวิชา...ครั้งแรก...ของการปลุกเสก...ว่าด้วยวิชา.....เหนือดวง.....ตามตำราวิชาสำนักเขาอ้อ...ว่าด้วย วิชากำเนิด 3 คือ.....1.ดวงกำเนิดมนุษย์หญิง-ชาย.....2.ดวงกำเนิดเทวดา.....3.ดวงกำเนิดพระอรหันต์...ยันต์ดวงกำเนิดมนุษย์หญิง-ชาย ใช้ได้...ทุกผู้ทุกนาม ฯลฯ...เมื่อท่านใช้อาราธนา...ด้วยอำนาจแห่งครูอาจารย์เขาอ้อ.....อาจารย์คล้อย อโนโม.....ด้วยอำนาจแห่งวิชา... เหมือนท่านได้เกิดใหม่อีกครั้ง...ด้วยอำนาจแห่งคุณ...พระพุทธ...ยันต์ดวงกำเนิดเทวา...เป็นการอัญเชิญ...เทวดา...องค์เทพ...องค์มหาเทพ มาประจำองค์พระ...เพื่อเป็นเทวดา...ปกป้อง...คุ้มครอง...หนุนดวงชะตา...ให้กับร้ายกลายเป็นดี...ส่งเสริมให้มีเกรียติยศ...และ...ชื่อเสียง ฯลฯ...แล้วแต่จะอธิฐานต่อ... ยันต์องค์กำเนิดพระอรหัน...เป็นการอัญเชิญ...ขอบารมี...ของพระพุทธเจ้า...พระอรหันต์...ลงมาปกป้องคุ้มครอง...ประทานพร...ประทานอำนาจ...วาสนา...บารมี...ฯลฯ.....*****

    *****.....ไอดี ไลน์.....oak_999.....ข้อความ.....หรือโทร...089-471-5666.....*****

    #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #พระปิดตา #เหนือดวง #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....เหรียญ.....พ่อท่าน คล้อย.....วัดภูเขาทอง.....หน้าหนุ่ม.....ว่าด้วยวิชา.....เหนือดวง.....สายเขาอ้อ.....จ.พัทลุง.....***** *****.....ต่อไป..จะต้องเป็น...ตำนาน.... ในการจัดสร้างวัตถุมงคล...รุ่นเหนือดวง...ครั้งแรก...ของการปลุกเสกด้วย...ตำราพิชัยสมบัติ...พิชัยสงคราม...ว่าด้วย...วิชาเหนือดวง...อัญเชิญ...เทพเทวดา...มหาเทพ... พระอรหันต์...บรรจุลงในองค์พระ...พลิก...ชีวิต...พลิก...ดวงชะตา...เปิดตำนาน...สำนักตักศิลาเขาอ้อ...วิชาเหนือดวง...สำนักเขาอ้อเป็น...สำนักสอนวิชา...ไสยศาสตร์...มาตั้งแต่ครั้งสมัยศรีวิชัย...จนถึงสมัยสุโขทัย...สมัยศรีอยุธยา...กรุงธนบุรี...จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์...ในปัจจุบัน...พระอาจารย์สำนัก...เขาอ้อ...ทุกๆองค์...เป็นปรมาจารย์อันเลื่องลือ...ของชาวพุทธภาคใต้...ตั้งแต่เมืองไชยา...ลงไปถึงแหลมมาลายู...ปรากฏว่า...ไปเรียนวิชาไสยศาสตร์ จากสำนักเขาอ้อ...หรือใช้ตำราที่มาจากสำนักเขาอ้อทั้งหมด...พระอาจารย์สำนักเขาอ้อ...ทุกๆองค์...จะมีความรู้...ความสามารถ...คล้ายคลึงกัน...เพราะได้ศึกษาต่อกันมาไม่ขาดระยะ...ตำราและความรู้ที่เป็นหลัก...คือ...พระอาจารย์เขาอ้อทุกองค์...สอนเวทย์มนต์...คาถา...ที่เป็นหลักเริ่มตั้งแต่...ธาตุ4 ธาตุทั้ง5 แม่ธาตุ...การตั้งธาตุ...หนุนธาตุ...แปลงธาตุ...และ...ตรวจธาตุ...วิชาคงกระพันชาตรี... แคล้วคลาด...มหาอุตฆ์...สอนให้รู้ถึงที่มาของ...เลขยันต์...อักขระยันต์ต่างๆ...ซึ่งต้องใช้ความพยายาม...และต้องอยู่ปฏิบัติอาจารย์...จนอาจารย์...เห็นความพยายาม...ที่รักในวิชาของศิษย์...จึงจะสอนให้...และยังสอนวิชาความรู้เกี่ยวกับ...ยารักษาโรค...วิชาไสยศาสตร์...ที่เป็นหลักของสำนักเขาอ้อ...ซึ่งเป็นคุณวิเศษประจำพระอาจารย์ทุกๆองค์ ...(ยกตัวอย่าง)...ดังนี้.....1.เสกน้ำมันงาดิบ...ให้เดือด...ให้แข็ง...ทำพิธีป้อนให้ศิษย์เป็นคงกระพัน.....2.อาบน้ำว่าน แช่ยา...เป็นคงกระพันกันโรคภัย.....3.หุงข้าวเหนียวดำ...เป็นคงกระพันอายุวัฒนะ...และ...อีกหลายวิชา...ครั้งแรก...ของการปลุกเสก...ว่าด้วยวิชา.....เหนือดวง.....ตามตำราวิชาสำนักเขาอ้อ...ว่าด้วย วิชากำเนิด 3 คือ.....1.ดวงกำเนิดมนุษย์หญิง-ชาย.....2.ดวงกำเนิดเทวดา.....3.ดวงกำเนิดพระอรหันต์...ยันต์ดวงกำเนิดมนุษย์หญิง-ชาย ใช้ได้...ทุกผู้ทุกนาม ฯลฯ...เมื่อท่านใช้อาราธนา...ด้วยอำนาจแห่งครูอาจารย์เขาอ้อ.....อาจารย์คล้อย อโนโม.....ด้วยอำนาจแห่งวิชา... เหมือนท่านได้เกิดใหม่อีกครั้ง...ด้วยอำนาจแห่งคุณ...พระพุทธ...ยันต์ดวงกำเนิดเทวา...เป็นการอัญเชิญ...เทวดา...องค์เทพ...องค์มหาเทพ มาประจำองค์พระ...เพื่อเป็นเทวดา...ปกป้อง...คุ้มครอง...หนุนดวงชะตา...ให้กับร้ายกลายเป็นดี...ส่งเสริมให้มีเกรียติยศ...และ...ชื่อเสียง ฯลฯ...แล้วแต่จะอธิฐานต่อ... ยันต์องค์กำเนิดพระอรหัน...เป็นการอัญเชิญ...ขอบารมี...ของพระพุทธเจ้า...พระอรหันต์...ลงมาปกป้องคุ้มครอง...ประทานพร...ประทานอำนาจ...วาสนา...บารมี...ฯลฯ.....***** *****.....ไอดี ไลน์.....oak_999.....ข้อความ.....หรือโทร...089-471-5666.....***** #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #พระปิดตา #เหนือดวง #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำเนียบขาวกำลังหารือกับอิหร่านถึงความเป็นไปได้ของการพบปะกันในสัปดาห์นี้ระหว่างสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนสหรัฐฯ และอับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ตามแหล่งข่าวสี่รายที่ได้รับข้อมูลในประเด็นนี้

    -axios


    วัตถุประสงค์คือการหารือเกี่ยวกับการกลับมาเจรจาทางการทูตที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงนิวเคลียร์และการยุติสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านกันอีกครั้ง เนื่องจากการประชุมยังไม่แล้วเสร็จ และนี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของทรัมป์ที่ต้องการออกจากสงครามและกลับมาสู่การทำข้อตกลง

    คาดว่าทรัมป์จะใช้ระเบิดบังเกอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา เป็นจุดสำคัญในการโน้มน้าวให้อิหร่านบรรลุข้อตกลง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าว

    สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ ทรัมป์ยังคงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโดยตรงกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน แต่เขาก็ยังยืนยันชัดเจนว่า อิหร่านจะต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
    ทำเนียบขาวกำลังหารือกับอิหร่านถึงความเป็นไปได้ของการพบปะกันในสัปดาห์นี้ระหว่างสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนสหรัฐฯ และอับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ตามแหล่งข่าวสี่รายที่ได้รับข้อมูลในประเด็นนี้ -axios วัตถุประสงค์คือการหารือเกี่ยวกับการกลับมาเจรจาทางการทูตที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงนิวเคลียร์และการยุติสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านกันอีกครั้ง เนื่องจากการประชุมยังไม่แล้วเสร็จ และนี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของทรัมป์ที่ต้องการออกจากสงครามและกลับมาสู่การทำข้อตกลง คาดว่าทรัมป์จะใช้ระเบิดบังเกอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา เป็นจุดสำคัญในการโน้มน้าวให้อิหร่านบรรลุข้อตกลง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าว สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ ทรัมป์ยังคงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโดยตรงกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน แต่เขาก็ยังยืนยันชัดเจนว่า อิหร่านจะต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts