• แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ฉบับที่ 001/2567
    เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง

    ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้

    ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ

    ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด
    ​​
    ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม
    ​​
    ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น

    ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์

    ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
    ​​
    ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง

    ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง
    ​​
    สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว

    สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง

    ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย

    ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น

    ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่
    ​​
    พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร)

    สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง
    ​​
    สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป
    ​​
    จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน

    ด้วยความปรารถนาดี
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    23 สิงหาคม 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/?
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ฉบับที่ 001/2567 เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้ ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด ​​ ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน ​​ อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม ​​ ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์ ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ​​ ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง ​​ สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่ ​​ พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน ​​ นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร) สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง ​​ สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด ​​ นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่ ​​ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป ​​ จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน ด้วยความปรารถนาดี วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 23 สิงหาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/? วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมกระทรวงการต่างประเทศ ถึงบังอาจแถลงข่าวตัดตอนพระบรมราชโองการสมัย รัชกาลที่ 9?/ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    จากเอกสารของกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ในประเด็นพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน

    น่าประหลาดใจตรงที่มีการนำเสนอสไลด์ลำดับที่ 12 ในหัวข้อภาพว่า “พระบรมราชโองการการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของไทย พ.ศ. 2516“

    โดยทั้งข้อความมีการขีดเส้นว่า “สิทธิอธิปไตย” ในตอนต้นของพระบรมราชโองการ และมีการนำเสนอพระบรมราชโองการย่อหน้าที่ 3 โดยการ “เน้น”เป็นกรอบสี่เหลี่ยมสีแดงว่า “จุดเริ่มต้นของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน“

    อีกทั้งยังได้มีแถบไฮไลท์สีเหลืองเพื่อเน้นย้ำว่า “เป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน”ด้วย

    การเขียนข้อความดังกล่าวอาจทำให้สังคมหรือคณะรัฐมนตรี “หลงประเด็น“ไปว่า พระบรมราชโองการประกาศเขตไหล่ทวีปอาจเปิดทางให้ตกลงกันอย่างไรก็ได้ อันเป็นการดำเนินการตามในรูปแบบของ MOU 2544 ก็ได้

    แต่ความจริงแล้วการนำเสนอของกระทรวงการต่างประเทศในภาพนี้ มีเจตนานำเสนอ ”เน้นไม่ครบคำ“ ตามพระบรมราชโองการที่มีข้อความในฉบับเต็มว่า

    ”จุดเริ่มต้นของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958“

    ดังนั้นพระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของไทย พ.ศ. 2516 จึงมีความหมายคือ

    1.ราชอาณาจักรไทย “ปฏิเสธ” การประกาศเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ที่ไม่ได้ยึดกฎหมายทะเลสากล เพราะรุกล้ำทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูดไทย รุกล้ำเขตทะเลต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูดไทย และรุกล้ำเส้นมัธยะ (Median Line) ที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุม ระหว่างเกาะกูดของไทยกับ เกาะกงของกัมพูชา ซึ่งไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958

    2.ราชอาณาจักรไทย ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปโดยยึดกฎหมายทะเลสากลในเวลานั้นคือ บทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ซึ่งราชอาณาจักรไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้ว เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2511

    3.หาก “จะ” มีการเจรจาเรื่องเส้นเขตไหล่ทวีปกับประเทศใกล้เคียงใน “อนาคต” จะต้องยึดมูลฐานจากฎหมายทะเลสากลเท่านั้น คือ บทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 และย่อมไม่ใช่การเส้นเขตแดนตามประกาศเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ในปี พ.ศ. 2515

    และมีความหมายด้วยว่าไม่ได้เปิดโอกาสให้นักการเมืองไปเจรจากับชาติใดตามอำเภอใจ โดยไม่ยึดมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958

    การลงนามใน MOU 2544 จึงแตกต่างจาก 3 หลักการเดิมของพระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของไทย พ.ศ. 2516 ดังนี้

    1.MOU 2544 ได้ทำให้พื้นที่ซึ่งเป็นของราชอาณาจักรไทยตั้งแต่ปี 2516 ซึ่ง “เคยปฏิเสธ” เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ให้กลายเป็น “รับรู้” โดย “ไม่ปฏิเสธ”เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ใน MOU 2544 ซึ่งกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนเกินจริงไปอย่างมหาศาล และเท่ากับ

    1.1 รัฐบาลไทย “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” การรุกล้ำทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูดไทย “รับรู้”และ“ไม่ปฏิเสธ”การรุกล้ำเขตทะเลต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูดไทย และ “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” การรุกล้ำเส้นกลาง (Median Line) ที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุม ระหว่างเกาะกูดของไทยกับ เกาะกงของกัมพูชา

    1.2 รัฐบาลไทย “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” การขีดเส้นของกัมพูชาซึ่งไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958

    2. ราชอาณาจักรไทย เปลี่ยนหลักการใหญ่ ให้ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปโดยยึดบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 เป็นมูลฐานเดียวในการเจรจา ให้กลายเป็น “มูลฐานอื่น” ที่ใช้การเจรจาตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา ตาม MOU 2544 ที่มีการขีดเส้นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนเกินจริง จึงไม่เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958

    ต่างชาติพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลไทย-มาเลเซีย ที่ต่างเคารพการอ้างอนุสัญญาด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 จึงเป็นการอ้างสิทธิทับซ้อนที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ส่งผลทำให้มีการตกลงกำหนดให้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วมกับไทย-มาเลเซียเป็นผลสำเร็จ

    ส่งผลทำให้พื้นที่ซึ่งแน่ชัดตามพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ว่าเป็น ทะเลอาณาเขตของราชอาณาจักรไทย เขตทะเลต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทย และเขตเศรษฐกิจจำเพาะของราชอาณาจักรไทย กลายเป็นพื้นที่ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นของราชอาณาจักรไทยหรือกัมพูชา มีจำนวนมากถึง 26,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งรวมถึงสิทธิการประมง สิทธิการเดินทาง และการสำรวจและการแสวงหาใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่เคยเป็นของไทย กลายเป็นพื้นที่ซึ่งของไทยหรือกัมพูชา หรือไม่ก็ให้ถอยออกจากพื้นที่ทั้ง 2 ประเทศ

    การขีดเส้นแบบนี้ โดยรับรู้และไม่ปฏิเสธ แม้อ้างว่าเกาะกูดเป็นของไทย แต่ต่อไปใครไปนั่งที่ด้านทิศใต้เกาะกูด ใครเอาเท้าจุ่มในทะเล ก็จะเกิดข้อพิพาทว่าที่เท้าจุ่มลงไปนั้น อยู่ในทะเลไทยหรือทะเลกัมพูชา

    จนเกิดข้อสงสัยว่าภาพแถลงกรมสนธิสัญญา กระทรวงการต่างประเทศ บังอาจแถลงข่าวเน้นตัดตอนพระบรมราชโองการสมัย รัชกาลที่ 9 นั้น กำลังทำตัวเป็นกรมสนธิสัญญาเพื่อประโยชน์ของรัฐบาลชาติใดกันแน่?

    ด้วยจิตคารวะ
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    5 พฤศจิกายน 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1088203086006724/?
    ทำไมกระทรวงการต่างประเทศ ถึงบังอาจแถลงข่าวตัดตอนพระบรมราชโองการสมัย รัชกาลที่ 9?/ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จากเอกสารของกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ในประเด็นพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน น่าประหลาดใจตรงที่มีการนำเสนอสไลด์ลำดับที่ 12 ในหัวข้อภาพว่า “พระบรมราชโองการการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของไทย พ.ศ. 2516“ โดยทั้งข้อความมีการขีดเส้นว่า “สิทธิอธิปไตย” ในตอนต้นของพระบรมราชโองการ และมีการนำเสนอพระบรมราชโองการย่อหน้าที่ 3 โดยการ “เน้น”เป็นกรอบสี่เหลี่ยมสีแดงว่า “จุดเริ่มต้นของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน“ อีกทั้งยังได้มีแถบไฮไลท์สีเหลืองเพื่อเน้นย้ำว่า “เป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน”ด้วย การเขียนข้อความดังกล่าวอาจทำให้สังคมหรือคณะรัฐมนตรี “หลงประเด็น“ไปว่า พระบรมราชโองการประกาศเขตไหล่ทวีปอาจเปิดทางให้ตกลงกันอย่างไรก็ได้ อันเป็นการดำเนินการตามในรูปแบบของ MOU 2544 ก็ได้ แต่ความจริงแล้วการนำเสนอของกระทรวงการต่างประเทศในภาพนี้ มีเจตนานำเสนอ ”เน้นไม่ครบคำ“ ตามพระบรมราชโองการที่มีข้อความในฉบับเต็มว่า ”จุดเริ่มต้นของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958“ ดังนั้นพระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของไทย พ.ศ. 2516 จึงมีความหมายคือ 1.ราชอาณาจักรไทย “ปฏิเสธ” การประกาศเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ที่ไม่ได้ยึดกฎหมายทะเลสากล เพราะรุกล้ำทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูดไทย รุกล้ำเขตทะเลต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูดไทย และรุกล้ำเส้นมัธยะ (Median Line) ที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุม ระหว่างเกาะกูดของไทยกับ เกาะกงของกัมพูชา ซึ่งไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 2.ราชอาณาจักรไทย ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปโดยยึดกฎหมายทะเลสากลในเวลานั้นคือ บทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ซึ่งราชอาณาจักรไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้ว เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2511 3.หาก “จะ” มีการเจรจาเรื่องเส้นเขตไหล่ทวีปกับประเทศใกล้เคียงใน “อนาคต” จะต้องยึดมูลฐานจากฎหมายทะเลสากลเท่านั้น คือ บทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 และย่อมไม่ใช่การเส้นเขตแดนตามประกาศเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ในปี พ.ศ. 2515 และมีความหมายด้วยว่าไม่ได้เปิดโอกาสให้นักการเมืองไปเจรจากับชาติใดตามอำเภอใจ โดยไม่ยึดมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 การลงนามใน MOU 2544 จึงแตกต่างจาก 3 หลักการเดิมของพระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของไทย พ.ศ. 2516 ดังนี้ 1.MOU 2544 ได้ทำให้พื้นที่ซึ่งเป็นของราชอาณาจักรไทยตั้งแต่ปี 2516 ซึ่ง “เคยปฏิเสธ” เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ให้กลายเป็น “รับรู้” โดย “ไม่ปฏิเสธ”เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ใน MOU 2544 ซึ่งกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนเกินจริงไปอย่างมหาศาล และเท่ากับ 1.1 รัฐบาลไทย “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” การรุกล้ำทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูดไทย “รับรู้”และ“ไม่ปฏิเสธ”การรุกล้ำเขตทะเลต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูดไทย และ “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” การรุกล้ำเส้นกลาง (Median Line) ที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุม ระหว่างเกาะกูดของไทยกับ เกาะกงของกัมพูชา 1.2 รัฐบาลไทย “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” การขีดเส้นของกัมพูชาซึ่งไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 2. ราชอาณาจักรไทย เปลี่ยนหลักการใหญ่ ให้ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปโดยยึดบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 เป็นมูลฐานเดียวในการเจรจา ให้กลายเป็น “มูลฐานอื่น” ที่ใช้การเจรจาตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา ตาม MOU 2544 ที่มีการขีดเส้นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนเกินจริง จึงไม่เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ต่างชาติพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลไทย-มาเลเซีย ที่ต่างเคารพการอ้างอนุสัญญาด้วยทะเลอาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 จึงเป็นการอ้างสิทธิทับซ้อนที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ส่งผลทำให้มีการตกลงกำหนดให้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วมกับไทย-มาเลเซียเป็นผลสำเร็จ ส่งผลทำให้พื้นที่ซึ่งแน่ชัดตามพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ว่าเป็น ทะเลอาณาเขตของราชอาณาจักรไทย เขตทะเลต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทย และเขตเศรษฐกิจจำเพาะของราชอาณาจักรไทย กลายเป็นพื้นที่ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นของราชอาณาจักรไทยหรือกัมพูชา มีจำนวนมากถึง 26,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งรวมถึงสิทธิการประมง สิทธิการเดินทาง และการสำรวจและการแสวงหาใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่เคยเป็นของไทย กลายเป็นพื้นที่ซึ่งของไทยหรือกัมพูชา หรือไม่ก็ให้ถอยออกจากพื้นที่ทั้ง 2 ประเทศ การขีดเส้นแบบนี้ โดยรับรู้และไม่ปฏิเสธ แม้อ้างว่าเกาะกูดเป็นของไทย แต่ต่อไปใครไปนั่งที่ด้านทิศใต้เกาะกูด ใครเอาเท้าจุ่มในทะเล ก็จะเกิดข้อพิพาทว่าที่เท้าจุ่มลงไปนั้น อยู่ในทะเลไทยหรือทะเลกัมพูชา จนเกิดข้อสงสัยว่าภาพแถลงกรมสนธิสัญญา กระทรวงการต่างประเทศ บังอาจแถลงข่าวเน้นตัดตอนพระบรมราชโองการสมัย รัชกาลที่ 9 นั้น กำลังทำตัวเป็นกรมสนธิสัญญาเพื่อประโยชน์ของรัฐบาลชาติใดกันแน่? ด้วยจิตคารวะ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 5 พฤศจิกายน 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1088203086006724/?
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • editing the red color post 🤩 from App
    editing the red color post 🤩 from App
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • Text post test with hashtags and mention @sabarees #test #thaitimes #post
    Text post test with hashtags and mention @sabarees #test #thaitimes #post
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเตือน ปีนี้หนาวจนปากสั่น ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูง เชื้อไวรัส แบคทีเรียและฝุ่นPM 2.5จะสูงด้วย..ระวังตัวด้วย

    1.มวลความกดอากาศสูงหรืออากาศเย็นจากแผ่นดินใหญ่ประเทศจีนกำลังแรงพัด ลงมาสู่ประเทศไทยและทิศทางลมเปลี่ยนมาเป็นลมพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่ความชื้นในอากาศมีปริมาณมาก (เนื่องจากที่ผ่านมาฝนตกมากและมีน้ำท่วมขังนาน) จึงทำให้มีอากาศหนาวเย็นเพิ่มมากขึ้นด้วย(อากาศเย็นผสมความชื้น)โดยเฉพาะในพื้นที่สูงในภาคเหนือและภาคตะ วันออกเฉียงเหนือ

    2.ความชื้นที่สะสมในอากาศอาจจะมีเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสอยู่จำนวนมาก เมื่อมวลอากาศเย็นกดทับลงมาบนผิวโลกจะทำให้การระบายของอากาศต่างๆบนผิวโลกในแนวดิ่งทำได้ยากยิ่งขึ้น ขณะที่มีความชื้นที่ผสมอากาศเย็นมีเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสต่างๆเจริญเติบโตได้ดีในละ อองความชื้นเอยู่ในบนผิวโลกเพิ่มมากขึ้นด้วยดังนั้นหากประชาชนหายใจเข้าไปโดยที่ไม่ระมัดระวังตัวอาจจะป่วยเป็นโรคไข้หวัด หรือโควิดได้...ต้องระวังตัว

    3. ขณะที่ฝุ่น PM 2.5 จากการจราจรในเมืองใหญ่ การเผาไหม้ในพื้นที่เกษตร กรรมและการเผาไหม้ในพื้นที่เขตป่าอนุ รักษ์ รวมทั้งจะมีฝุ่นข้ามแดนก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้นในระหว่างช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนเมษายน ฝุ่น PM 2.5 ประเทศไทยจะเพิ่มมากขึ้น

    4. การเดินทางบนถนนที่มีการจราจรหนาแน่นหรือถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีการเผาไหม้รวมทั้งในพื้นที่ที่มีคุณ PM 2.5 สูงควรจะต้องสวมหน้ากาก N95 จะดีกว่าหน้ากากอนา มัยทั่วไปเนื่องจากสามารถป้องกันทั้งฝุ่น PM 2.5 และเชื้อไวรัสแบคทีเรียได้ด้วย

    ที่มา https://www.facebook.com/100000260097650/posts/pfbid07sk935D5iWKb7VcUfWqTQb4Hp6c6k3wY2JvjiwpsZpG33PGXWyC88XjttpdadpXtl/?

    #Thaitimes
    ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเตือน ปีนี้หนาวจนปากสั่น ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูง เชื้อไวรัส แบคทีเรียและฝุ่นPM 2.5จะสูงด้วย..ระวังตัวด้วย 1.มวลความกดอากาศสูงหรืออากาศเย็นจากแผ่นดินใหญ่ประเทศจีนกำลังแรงพัด ลงมาสู่ประเทศไทยและทิศทางลมเปลี่ยนมาเป็นลมพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่ความชื้นในอากาศมีปริมาณมาก (เนื่องจากที่ผ่านมาฝนตกมากและมีน้ำท่วมขังนาน) จึงทำให้มีอากาศหนาวเย็นเพิ่มมากขึ้นด้วย(อากาศเย็นผสมความชื้น)โดยเฉพาะในพื้นที่สูงในภาคเหนือและภาคตะ วันออกเฉียงเหนือ 2.ความชื้นที่สะสมในอากาศอาจจะมีเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสอยู่จำนวนมาก เมื่อมวลอากาศเย็นกดทับลงมาบนผิวโลกจะทำให้การระบายของอากาศต่างๆบนผิวโลกในแนวดิ่งทำได้ยากยิ่งขึ้น ขณะที่มีความชื้นที่ผสมอากาศเย็นมีเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสต่างๆเจริญเติบโตได้ดีในละ อองความชื้นเอยู่ในบนผิวโลกเพิ่มมากขึ้นด้วยดังนั้นหากประชาชนหายใจเข้าไปโดยที่ไม่ระมัดระวังตัวอาจจะป่วยเป็นโรคไข้หวัด หรือโควิดได้...ต้องระวังตัว 3. ขณะที่ฝุ่น PM 2.5 จากการจราจรในเมืองใหญ่ การเผาไหม้ในพื้นที่เกษตร กรรมและการเผาไหม้ในพื้นที่เขตป่าอนุ รักษ์ รวมทั้งจะมีฝุ่นข้ามแดนก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้นในระหว่างช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนเมษายน ฝุ่น PM 2.5 ประเทศไทยจะเพิ่มมากขึ้น 4. การเดินทางบนถนนที่มีการจราจรหนาแน่นหรือถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีการเผาไหม้รวมทั้งในพื้นที่ที่มีคุณ PM 2.5 สูงควรจะต้องสวมหน้ากาก N95 จะดีกว่าหน้ากากอนา มัยทั่วไปเนื่องจากสามารถป้องกันทั้งฝุ่น PM 2.5 และเชื้อไวรัสแบคทีเรียได้ด้วย ที่มา https://www.facebook.com/100000260097650/posts/pfbid07sk935D5iWKb7VcUfWqTQb4Hp6c6k3wY2JvjiwpsZpG33PGXWyC88XjttpdadpXtl/? #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤตหนาวนี้โหดสุด ยูเครนเสี่ยงนั่งหนาวในความมืด 20 ชั่วโมงต่อวัน

    โรงไฟฟ้าถูกถล่มราบ ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ห้องเทอร์ไบน์ขนาดสองสนามฟุตบอลพังยับเยิน นี่คือภาพที่ Dmytro วัย 41 ปี เห็นหลังการโจมตีของรัสเซีย "น้ำตาไหลเลย" เขาบอก ก่อนที่คนงาน 700 คนจะเร่งซ่อมแซมอย่างสุดชีวิต

    แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้น... รัสเซียถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานจนยูเครนสูญเสียกำลังผลิตไฟฟ้าไปครึ่งหนึ่ง ต้องพึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ไร้การป้องกันจากขีปนาวุธ และไม่มีเวลาพอจะติดตั้งระบบป้องกันก่อนหน้าหนาว

    "ผมกังวลมาก" Oleksandr Kharchenko ที่ปรึกษารัฐบาลด้านพลังงานบอก หากรัสเซียถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และอากาศหนาวจัด ยูเครนจะเผชิญไฟดับนาน 20 ชั่วโมงต่อวัน นั่นหมายถึงบ้านไร้ความอบอุ่น โรงงานผลิตอาวุธหยุดชะงัก และผู้คนต้องอพยพหนีหนาว

    สถานการณ์ย่ำแย่ขึ้นเมื่อผู้ค้าตะวันตกไม่กล้าเก็บก๊าซสำรองในยูเครนเพราะกลัวการโจมตี และไม่มีใครรู้ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหน แต่หากอุณหภูมิต่ำกว่า -10 องศา และรัสเซียถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ ยูเครนก็อาจต้องนั่งหนาวในความมืดนานถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน

    "คนจะทิ้งยูเครนไปลี้ภัยในยุโรปมากขึ้น" Viktoriya Gryb สมาชิกสภาผู้แทนฯ กล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่า "ผู้คนจะตายในบ้านตัวเอง เพราะรัสเซียทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน"


    https://web.facebook.com/groups/194174770388504/posts/362257713580208/
    วิกฤตหนาวนี้โหดสุด ยูเครนเสี่ยงนั่งหนาวในความมืด 20 ชั่วโมงต่อวัน โรงไฟฟ้าถูกถล่มราบ ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ห้องเทอร์ไบน์ขนาดสองสนามฟุตบอลพังยับเยิน นี่คือภาพที่ Dmytro วัย 41 ปี เห็นหลังการโจมตีของรัสเซีย "น้ำตาไหลเลย" เขาบอก ก่อนที่คนงาน 700 คนจะเร่งซ่อมแซมอย่างสุดชีวิต แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้น... รัสเซียถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานจนยูเครนสูญเสียกำลังผลิตไฟฟ้าไปครึ่งหนึ่ง ต้องพึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ไร้การป้องกันจากขีปนาวุธ และไม่มีเวลาพอจะติดตั้งระบบป้องกันก่อนหน้าหนาว "ผมกังวลมาก" Oleksandr Kharchenko ที่ปรึกษารัฐบาลด้านพลังงานบอก หากรัสเซียถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และอากาศหนาวจัด ยูเครนจะเผชิญไฟดับนาน 20 ชั่วโมงต่อวัน นั่นหมายถึงบ้านไร้ความอบอุ่น โรงงานผลิตอาวุธหยุดชะงัก และผู้คนต้องอพยพหนีหนาว สถานการณ์ย่ำแย่ขึ้นเมื่อผู้ค้าตะวันตกไม่กล้าเก็บก๊าซสำรองในยูเครนเพราะกลัวการโจมตี และไม่มีใครรู้ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหน แต่หากอุณหภูมิต่ำกว่า -10 องศา และรัสเซียถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ ยูเครนก็อาจต้องนั่งหนาวในความมืดนานถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน "คนจะทิ้งยูเครนไปลี้ภัยในยุโรปมากขึ้น" Viktoriya Gryb สมาชิกสภาผู้แทนฯ กล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่า "ผู้คนจะตายในบ้านตัวเอง เพราะรัสเซียทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน" https://web.facebook.com/groups/194174770388504/posts/362257713580208/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาชิกสภาฯ หญิงท้า ถึงเวลาเกณฑ์ทหารหญิงแล้ว!

    Maryana Bezuhla เจ้าแม่ดราม่ายูเครนออกโรงสนับสนุนการเกณฑ์ทหารหญิงอย่างถึงพริกถึงขิง "รัฐธรรมนูญไม่ได้แบ่งพลเมืองเป็นสองประเภท ตอนนี้เราเลือกปฏิบัติกับผู้ชายอย่างผิดกฎหมาย" เธอยังแซวผู้ชายว่า "ถ้าผู้หญิงถูกเกณฑ์ด้วย พวกคุณก็จะถูกเกณฑ์น้อยลงนะ นี่เป็นเหตุผลที่ควรสนับสนุน!"

    เธอเสนอให้เริ่มจากตำแหน่งหลังแนวรบก่อน เช่น งานเอกสาร งานบุคคล หน่วยรักษาการณ์ "ตอนนี้มีผู้ชายนับพันที่ 'จ่ายใต้โต๊ะ' เพื่อหลบอยู่หลังแนวรบ ในขณะที่หน่วยรบกำลังรอคอย แต่กลับต้องดึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาเป็นทหารราบ ทำให้กองทัพสูญเสียความเชี่ยวชาญ"

    "สงครามไม่ใช่เรื่องของคนกลุ่มเดียว โดยเฉพาะเมื่อไม่ใช่แค่เรื่องดินแดน แต่เป็นเรื่องการดำรงอยู่ของชาติ" เธอเผย เคยเสนอแก้กฎหมายหลายครั้งแต่ถูกปัดตก "ตลกร้ายที่กระทรวงกลาโหมทำพังเรื่องเกณฑ์ทหาร นายพลทำลายทหารด้วยการตัดสินใจไร้สติ แต่ไม่มีใครกล้าพูดเพราะเป็นเรื่อง 'ละเอียดอ่อน' บางทีถ้าผู้หญิงถูกเกณฑ์ อาจจะมาจัดการความวุ่นวายนี้ได้"
    ความเท่าเทียมอย่างแท้จริงกำลังจะเกิดขึ้นที่ยูเครนแล้ว

    https://web.facebook.com/groups/194174770388504/posts/362604156878897/
    สมาชิกสภาฯ หญิงท้า ถึงเวลาเกณฑ์ทหารหญิงแล้ว! Maryana Bezuhla เจ้าแม่ดราม่ายูเครนออกโรงสนับสนุนการเกณฑ์ทหารหญิงอย่างถึงพริกถึงขิง "รัฐธรรมนูญไม่ได้แบ่งพลเมืองเป็นสองประเภท ตอนนี้เราเลือกปฏิบัติกับผู้ชายอย่างผิดกฎหมาย" เธอยังแซวผู้ชายว่า "ถ้าผู้หญิงถูกเกณฑ์ด้วย พวกคุณก็จะถูกเกณฑ์น้อยลงนะ นี่เป็นเหตุผลที่ควรสนับสนุน!" เธอเสนอให้เริ่มจากตำแหน่งหลังแนวรบก่อน เช่น งานเอกสาร งานบุคคล หน่วยรักษาการณ์ "ตอนนี้มีผู้ชายนับพันที่ 'จ่ายใต้โต๊ะ' เพื่อหลบอยู่หลังแนวรบ ในขณะที่หน่วยรบกำลังรอคอย แต่กลับต้องดึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาเป็นทหารราบ ทำให้กองทัพสูญเสียความเชี่ยวชาญ" "สงครามไม่ใช่เรื่องของคนกลุ่มเดียว โดยเฉพาะเมื่อไม่ใช่แค่เรื่องดินแดน แต่เป็นเรื่องการดำรงอยู่ของชาติ" เธอเผย เคยเสนอแก้กฎหมายหลายครั้งแต่ถูกปัดตก "ตลกร้ายที่กระทรวงกลาโหมทำพังเรื่องเกณฑ์ทหาร นายพลทำลายทหารด้วยการตัดสินใจไร้สติ แต่ไม่มีใครกล้าพูดเพราะเป็นเรื่อง 'ละเอียดอ่อน' บางทีถ้าผู้หญิงถูกเกณฑ์ อาจจะมาจัดการความวุ่นวายนี้ได้" ความเท่าเทียมอย่างแท้จริงกำลังจะเกิดขึ้นที่ยูเครนแล้ว https://web.facebook.com/groups/194174770388504/posts/362604156878897/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • Post check
    Post check
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • #post บันทึกไว้ สวัสดีกับ แพลตฟอร์มใหม่ของคนไทย
    #post บันทึกไว้ สวัสดีกับ แพลตฟอร์มใหม่ของคนไทย
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดีขโมยทรัพย์หักสวาทกับกลิ่นตุๆ 10 ปมพิรุธ ปกปิดทรัพย์สินเมียบิ๊กตำรวจ
    .
    22 ตุลาคมนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ คุณธนัฎฐา ยอดเยี่ยม หรือ หนิง อายุ 50 ปี อาชีพเป็นถึงอาจารย์พิเศษ อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นครปฐมไปออกรายการ ถกไม่เถียง มีคุณทิน โชคกมลกิจ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ผู้หญิงคนนี้มาแฉว่าเมียบิ๊กตำรวจมาเล่นชู้กับสามีตัวเองที่เป็นตำรวจเช่นกัน ในคอนโดฯ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ มิหนำซ้ำยังขโมยทรัพย์สินเป็นทองคำกว่า 120 บาท และเงินสดอีก 6 แสนบาท มูลค่ารวม 5 ล้านกว่าบาท
    .
    ผมอยากให้ท่านผู้ชมเห็นพิรุธของคนทั้งสามคนนี้ คือในเรื่องขโมยทรัพย์หักสวาทเรื่องนี้มันมีกลิ่นตุๆ ซุกซ่อนอยู่ในนี้หลายประเด็น
    .
    หนึ่ง เท่าที่ผมรู้ ดร.ศิรินัดดา ขจัดพาล ให้การกับตำรวจขณะมามอบตัวว่ามีการเช่าคอนโดฯ ห้องที่เกิดเหตุกับพ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามีคุณหนิงตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2567ต้นปี ตกลงเช่ากันไว้ 1 ปี ในราคาเดือนละ 10,000 บาท แต่ได้จ่ายค่าเช่าเป็นเงิน 120,000 บาท แสดงว่าการเช่าสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า (2568) เพราะฉะนั้นแล้วการเอากระสอบสีรุ้ง 5 ใบ ก็สามารถเก็บไว้ได้ตามอายุสัญญาเช่า ไม่จำเป็นต้องเอาออกไปแต่อย่างใด
    .
    สอง ตามคำให้การของคุณหนิง พบว่าคุณหนิงกับสามี พ.ต.อ.ภีมพจน์ มีการเข้าห้องที่เกิดเหตุตั้งหลายครั้ง ทำไม ดร.ศิรินัดดา ไม่มีการแจ้งความในข้อหาบุกรุกกับสองคนผัวเมีย
    .
    สาม ถ้ามีการเช่า ทำไมไม่เปลี่ยนกุญแจคีย์การ์ดล็อกได้อีกชั้น ถ้าไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายในห้องนี้
    .
    สี่ ในซอยสุขุมวิท 101 ซอยย่อย 47 ดร.ศิรินัดดา มีคอนโดฯอีก 3 ห้อง ซึ่งใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอยู่ซอย 21 ทำไมถึงไม่เอาเงินทอง 5 ถุงไปเก็บไว้ที่มีตำรวจตัวเอง
    .
    ห้า ข้อมูลเชิงลึก ดร.ศิรินัดดาหรือมาดามกุ๊กคบหารู้จักสามีคุณหนิงตั้งแต่เป็นสารวัตร รับราชการที่จังหวัดสงขลา จนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง
    .
    หก เรื่องซื้อขายทองตามปรากฏ post-it ในถุงสีรุ้ง ดันไปตรงกับข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ที่ พ.ต.ต.ชานนท์ รายงานการซื้อขายทอง ตรงกับหลักฐานที่ ปปง. มีอยู่ จึงเชื่อได้ว่าทองคำที่คุณหนิงอ้างว่าถูกมาดามกุ๊กขโมยไปนั้น ไม่น่าจะเป็นทองของคุณหนิง แต่เป็นทองของสุรเชชษฐ์ กับมาดามกุ๊กมากกว่า แต่ทำไมคุณหนิงแต่งเรื่องเพื่อแบล็กเมล ใช่หรือเปล่า
    .
    เจ็ด ตัวคุณหนิงเองก็เคยมีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดี ถูกฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์เกือบสิบคดี และเบื้องหลังคุณหนิงกับสามีก็ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จะเอาทองคำ 120 บาท กับเงิน 6 แสนบาท มาจากไหนครับและหลักฐานที่จะแสดงถึงว่าคุณซื้อทองยังไม่มีเลย
    .
    แปด ตรรกะง่ายๆ เมียที่ไหนจับได้ว่าผู้หญิงเอาผัวตัวไปทำชู้พร้อมหลักฐานชัดเจน แต่ไม่อาละวาด เคลียร์กันเงียบๆ แล้วแยกย้ายจากกัน ดูเป็นแม่พระเหลือเกิน ต่างกับตอนมาออกรายการโหนกระแส ธาตุแท้ยิ่งกว่าตลาด บุคลากรแบบนี้หรือที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจนำมาสั่งสอนนักเรียนนายร้อยตำรวจ ดีแล้วที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่ให้คุณทำการสอนต่อ
    .
    เก้า คุณหนิงกับสามีรับลูกกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยในรายการ “โหนกระแส” ทั้งๆ ที่มันเป็นความผิดร้ายแรงของระบบราชการที่มีการคบซ้อนเชิงชู้สาว ร้ายแรงถึงออกจากราชการ แต่ทั้งคู่ไม่ได้แคร์ เหมือนกับรู้ว่าจะได้ลาภก้อนใหญ่จนกระทั่งไม่สนชีวิตราชการ แม้กระทั่งเงินบำเหน็จบำนาญ
    .
    สิบ ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ มันขมวดถึงข้อพิรุธและความน่าสงสัยของการพยายามปกปิดทรัพย์สิน ร่ำรวยเกินกว่าเหตุของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และ ดร.ศิรินัดดา รวมถึงเส้นทางทางการเงินที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายมินนี่ หรือ BNK Master เรื่องคดีพวกนี้ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ผมก็ยังงงกับหน่วยงานที่ไปตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือ ปปง. ที่ยังเชื่องช้าเหมือนเด็กหัดเดิน ทำอะไร พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่ได้เต็มข้อเสียที ทั้งๆ ที่ตำรวจขนหลักฐานไปให้ไม่รู้เท่าไร พวกคุณรออะไรกันอยู่ หรือจะรอให้มันโยกเงินโยกทองหนีออกนอกประเทศไปก่อน
    .
    เรื่องคดีอาญาที่ ปปง. ดำเนินการ ไปถึงไหนแล้ว บทเรียนมีไม่ใช่หรือ ว่ามันโยกเงินแม้กระทั่งจากกรมธรรม์ประกันชีวิต มันก็ทำไปแล้ว ไม่เห็นหรือ นี่คือข้อสังเกตของผม ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่าเรื่องนี้มันทะแม่งๆ น่าสนใจมาก
    คดีขโมยทรัพย์หักสวาทกับกลิ่นตุๆ 10 ปมพิรุธ ปกปิดทรัพย์สินเมียบิ๊กตำรวจ . 22 ตุลาคมนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ คุณธนัฎฐา ยอดเยี่ยม หรือ หนิง อายุ 50 ปี อาชีพเป็นถึงอาจารย์พิเศษ อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นครปฐมไปออกรายการ ถกไม่เถียง มีคุณทิน โชคกมลกิจ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ผู้หญิงคนนี้มาแฉว่าเมียบิ๊กตำรวจมาเล่นชู้กับสามีตัวเองที่เป็นตำรวจเช่นกัน ในคอนโดฯ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ มิหนำซ้ำยังขโมยทรัพย์สินเป็นทองคำกว่า 120 บาท และเงินสดอีก 6 แสนบาท มูลค่ารวม 5 ล้านกว่าบาท . ผมอยากให้ท่านผู้ชมเห็นพิรุธของคนทั้งสามคนนี้ คือในเรื่องขโมยทรัพย์หักสวาทเรื่องนี้มันมีกลิ่นตุๆ ซุกซ่อนอยู่ในนี้หลายประเด็น . หนึ่ง เท่าที่ผมรู้ ดร.ศิรินัดดา ขจัดพาล ให้การกับตำรวจขณะมามอบตัวว่ามีการเช่าคอนโดฯ ห้องที่เกิดเหตุกับพ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามีคุณหนิงตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2567ต้นปี ตกลงเช่ากันไว้ 1 ปี ในราคาเดือนละ 10,000 บาท แต่ได้จ่ายค่าเช่าเป็นเงิน 120,000 บาท แสดงว่าการเช่าสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า (2568) เพราะฉะนั้นแล้วการเอากระสอบสีรุ้ง 5 ใบ ก็สามารถเก็บไว้ได้ตามอายุสัญญาเช่า ไม่จำเป็นต้องเอาออกไปแต่อย่างใด . สอง ตามคำให้การของคุณหนิง พบว่าคุณหนิงกับสามี พ.ต.อ.ภีมพจน์ มีการเข้าห้องที่เกิดเหตุตั้งหลายครั้ง ทำไม ดร.ศิรินัดดา ไม่มีการแจ้งความในข้อหาบุกรุกกับสองคนผัวเมีย . สาม ถ้ามีการเช่า ทำไมไม่เปลี่ยนกุญแจคีย์การ์ดล็อกได้อีกชั้น ถ้าไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายในห้องนี้ . สี่ ในซอยสุขุมวิท 101 ซอยย่อย 47 ดร.ศิรินัดดา มีคอนโดฯอีก 3 ห้อง ซึ่งใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอยู่ซอย 21 ทำไมถึงไม่เอาเงินทอง 5 ถุงไปเก็บไว้ที่มีตำรวจตัวเอง . ห้า ข้อมูลเชิงลึก ดร.ศิรินัดดาหรือมาดามกุ๊กคบหารู้จักสามีคุณหนิงตั้งแต่เป็นสารวัตร รับราชการที่จังหวัดสงขลา จนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง . หก เรื่องซื้อขายทองตามปรากฏ post-it ในถุงสีรุ้ง ดันไปตรงกับข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ที่ พ.ต.ต.ชานนท์ รายงานการซื้อขายทอง ตรงกับหลักฐานที่ ปปง. มีอยู่ จึงเชื่อได้ว่าทองคำที่คุณหนิงอ้างว่าถูกมาดามกุ๊กขโมยไปนั้น ไม่น่าจะเป็นทองของคุณหนิง แต่เป็นทองของสุรเชชษฐ์ กับมาดามกุ๊กมากกว่า แต่ทำไมคุณหนิงแต่งเรื่องเพื่อแบล็กเมล ใช่หรือเปล่า . เจ็ด ตัวคุณหนิงเองก็เคยมีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดี ถูกฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์เกือบสิบคดี และเบื้องหลังคุณหนิงกับสามีก็ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จะเอาทองคำ 120 บาท กับเงิน 6 แสนบาท มาจากไหนครับและหลักฐานที่จะแสดงถึงว่าคุณซื้อทองยังไม่มีเลย . แปด ตรรกะง่ายๆ เมียที่ไหนจับได้ว่าผู้หญิงเอาผัวตัวไปทำชู้พร้อมหลักฐานชัดเจน แต่ไม่อาละวาด เคลียร์กันเงียบๆ แล้วแยกย้ายจากกัน ดูเป็นแม่พระเหลือเกิน ต่างกับตอนมาออกรายการโหนกระแส ธาตุแท้ยิ่งกว่าตลาด บุคลากรแบบนี้หรือที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจนำมาสั่งสอนนักเรียนนายร้อยตำรวจ ดีแล้วที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่ให้คุณทำการสอนต่อ . เก้า คุณหนิงกับสามีรับลูกกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยในรายการ “โหนกระแส” ทั้งๆ ที่มันเป็นความผิดร้ายแรงของระบบราชการที่มีการคบซ้อนเชิงชู้สาว ร้ายแรงถึงออกจากราชการ แต่ทั้งคู่ไม่ได้แคร์ เหมือนกับรู้ว่าจะได้ลาภก้อนใหญ่จนกระทั่งไม่สนชีวิตราชการ แม้กระทั่งเงินบำเหน็จบำนาญ . สิบ ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ มันขมวดถึงข้อพิรุธและความน่าสงสัยของการพยายามปกปิดทรัพย์สิน ร่ำรวยเกินกว่าเหตุของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และ ดร.ศิรินัดดา รวมถึงเส้นทางทางการเงินที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายมินนี่ หรือ BNK Master เรื่องคดีพวกนี้ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ผมก็ยังงงกับหน่วยงานที่ไปตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือ ปปง. ที่ยังเชื่องช้าเหมือนเด็กหัดเดิน ทำอะไร พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่ได้เต็มข้อเสียที ทั้งๆ ที่ตำรวจขนหลักฐานไปให้ไม่รู้เท่าไร พวกคุณรออะไรกันอยู่ หรือจะรอให้มันโยกเงินโยกทองหนีออกนอกประเทศไปก่อน . เรื่องคดีอาญาที่ ปปง. ดำเนินการ ไปถึงไหนแล้ว บทเรียนมีไม่ใช่หรือ ว่ามันโยกเงินแม้กระทั่งจากกรมธรรม์ประกันชีวิต มันก็ทำไปแล้ว ไม่เห็นหรือ นี่คือข้อสังเกตของผม ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่าเรื่องนี้มันทะแม่งๆ น่าสนใจมาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4/11/67

    เปิดแล้ว! "ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์" หน้าซีคอน บางแค

    ห้างซีคอน บางแค เดินหน้าสานต่อโครงการ “ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์” แห่งแรกของฝั่งธน รับได้ 40 คน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ

    ห้างสรรพสินค้าซีคอน บางแค เปิดบริการป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของฝั่งธน (Seacon Air Condition Solar Bus Station) ป้ายรถเมล์ที่เป็นมากกว่าจุดรถรับส่งผู้โดยสาร
    สำหรับป้ายรถเมล์อัจฉริยะแห่งนี้เป็นการต่อยอดมาจาก โครงการป้ายรถเมล์ติดแอร์แห่งแรก “Sabuy Square” ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ และเป็นแห่งที่สองของโครงการ เป็นต้นแบบของการนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีต้นทุนต่อสังคมและองค์กรน้อยที่สุด แต่เกิดเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมสาธารณะ จึงได้นำมาประยุกต์ปรับใช้กับการเดินทางในชีวิตประจำวันของคนเมือง

    สำหรับป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค ถนนเพชรเกษม MRT สถานีภาษีเจริญ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.30 – 23.00 น. มีพื้นที่พักคอยทั้งภายในและภายนอกรวมขนาดพื้นที่ 56 ตารางเมตร สามารถรองรับจำนวนคนกว่า 40 คน

    โดยได้ออกแบบวางระบบเพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้พักพิงระหว่างรอคอยเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะโดยเฉพาะ พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองอย่างครบครัน ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศ KUKU พลังงานแสงอาทิตย์ บริการ Free Wi-Fi จากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ที่เสียบ USB สำหรับซาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ ตู้กดน้ำดื่มสาธารณะ กล้อง CCTV เชื่อมต่อระบบไปยังศูนย์บริหารจัดการ ระบบสัญญาณเตือนฉุกเฉิน (Panic Button) จอแสดงสายรถเมล์ที่กำลังจะมาถึง ตัวโครงสร้างช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดและลมฝน ปกป้องจากสภาวะมลพิษฝุ่นควัน PM2.5 รวมถึงช่วยป้องกันอันตรายจากท้องถนนอีกด้วย
    ขอบคุณ:www.posttofay.com
    4/11/67 เปิดแล้ว! "ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์" หน้าซีคอน บางแค ห้างซีคอน บางแค เดินหน้าสานต่อโครงการ “ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์” แห่งแรกของฝั่งธน รับได้ 40 คน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ห้างสรรพสินค้าซีคอน บางแค เปิดบริการป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของฝั่งธน (Seacon Air Condition Solar Bus Station) ป้ายรถเมล์ที่เป็นมากกว่าจุดรถรับส่งผู้โดยสาร สำหรับป้ายรถเมล์อัจฉริยะแห่งนี้เป็นการต่อยอดมาจาก โครงการป้ายรถเมล์ติดแอร์แห่งแรก “Sabuy Square” ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ และเป็นแห่งที่สองของโครงการ เป็นต้นแบบของการนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีต้นทุนต่อสังคมและองค์กรน้อยที่สุด แต่เกิดเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมสาธารณะ จึงได้นำมาประยุกต์ปรับใช้กับการเดินทางในชีวิตประจำวันของคนเมือง สำหรับป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค ถนนเพชรเกษม MRT สถานีภาษีเจริญ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.30 – 23.00 น. มีพื้นที่พักคอยทั้งภายในและภายนอกรวมขนาดพื้นที่ 56 ตารางเมตร สามารถรองรับจำนวนคนกว่า 40 คน โดยได้ออกแบบวางระบบเพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้พักพิงระหว่างรอคอยเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะโดยเฉพาะ พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองอย่างครบครัน ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศ KUKU พลังงานแสงอาทิตย์ บริการ Free Wi-Fi จากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ที่เสียบ USB สำหรับซาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ ตู้กดน้ำดื่มสาธารณะ กล้อง CCTV เชื่อมต่อระบบไปยังศูนย์บริหารจัดการ ระบบสัญญาณเตือนฉุกเฉิน (Panic Button) จอแสดงสายรถเมล์ที่กำลังจะมาถึง ตัวโครงสร้างช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดและลมฝน ปกป้องจากสภาวะมลพิษฝุ่นควัน PM2.5 รวมถึงช่วยป้องกันอันตรายจากท้องถนนอีกด้วย ขอบคุณ:www.posttofay.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • มารู้จักตัวนี้กัน อยุใน P กับ A
    ⏩เชื้อทริพาโนโซมา (Trypanosoma) เป็นโปรโตซัวที่มีหางยาวช่วยในการเคลื่อนที่
    👉อาศัยอยู่ในเลือดและภายในเซลล์ของคนและสัตว์ มีหลายสายพันธุ์ และมีแมลงเป็นพาหะนำโรค
    📌นาน ๆ ครั้งจะพบผู้ติดเชื้อจากการรับเลือด, การปลูกถ่ายอวัยวะ, และทางมารดาสู่ทารก
    📌เพราะเชื้อทริพาโนโซมาอาศัยอยู่ในเลือด และสามารถผ่านรกไปสู่ทารกในครรภ์ได้ ทารกที่ติดเชื้อแต่กำเนิดมักแท้งหรือเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก
    💢อาการแบ่งได้เป็น 2 ระยะ
    ✅ระยะที่หนึ่ง
    📌มีต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงบวมโตอักเสบ แผลจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองในเวลาหลายสัปดาห์ ถ้าเป็นเชื้อ T. b. gambiense จะไม่ค่อยพบแผลแบบนี้
    📌หลังรับเชื้อจะเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้มีไข้สูงเป็น ๆ หาย ๆ คล้ายไข้มาลาเรีย
    ⏩ระยะนี้ผู้ป่วยจะอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ เหงื่อออกมากกว่าปกติ ซีด และต่อมน้ำเหลืองโตทั่วไปโดยเฉพาะบริเวณคอ (posterior cervical glands) เรียกว่า Winter-bottom's sign
    ⏩บางรายอาจมีผื่นแดงจาง ๆ ที่ผิวหนังนานเป็นเดือน ถ้าเจาะเลือดจะพบเม็ดเลือดขาวต่ำ
    📌ระยะนี้ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ❗️กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis)
    และ ❗️หน่วยไตอักเสบ (glomerulonephritis)
    ✅ระยะที่สอง เชื้อจะเข้าสู่สมอง
    👉ผู้ป่วยจะปวดศีรษะตลอดเวลา ทานยาอะไรก็ไม่หาย
    ⏩กลางคืนนอนไม่หลับ แต่เซื่องซึม ง่วงเหงาหาวนอนตอนกลางวัน จึงเป็นที่มาของชื่อโรคว่า Sleeping sickness 📌หรือโรคเหงาหลับ
    💢ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมเปลี่ยน อารมณ์แปรปรวน บางรายอาจวุ่นวายสับสน บางรายอาจซึมเศร้า เบื่ออาหาร ผอมลง ม้ามโต
    📌ในเด็กมักพบมี "ชัก"
    ในระยะท้ายสมองจะบวม มีจุดเลือดออกในเนื้อสมอง
    📌พบเซลล์อักเสบทั่วไปในชั้นเยื่อหุ้มสมอง ประสาทรับสัมผัสจะเสียไป การเดินและทรงตัวผิดปกติ หากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะเสียชีวิต
    http://mutualselfcare.org/.../inf.../trypanosomiasis.aspx...
    เครดิต เฟสบุ๊ก ภูสณิตา วิเศษปุณรัตน์
    มารู้จักตัวนี้กัน อยุใน P กับ A ⏩เชื้อทริพาโนโซมา (Trypanosoma) เป็นโปรโตซัวที่มีหางยาวช่วยในการเคลื่อนที่ 👉อาศัยอยู่ในเลือดและภายในเซลล์ของคนและสัตว์ มีหลายสายพันธุ์ และมีแมลงเป็นพาหะนำโรค 📌นาน ๆ ครั้งจะพบผู้ติดเชื้อจากการรับเลือด, การปลูกถ่ายอวัยวะ, และทางมารดาสู่ทารก 📌เพราะเชื้อทริพาโนโซมาอาศัยอยู่ในเลือด และสามารถผ่านรกไปสู่ทารกในครรภ์ได้ ทารกที่ติดเชื้อแต่กำเนิดมักแท้งหรือเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก 💢อาการแบ่งได้เป็น 2 ระยะ ✅ระยะที่หนึ่ง 📌มีต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงบวมโตอักเสบ แผลจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองในเวลาหลายสัปดาห์ ถ้าเป็นเชื้อ T. b. gambiense จะไม่ค่อยพบแผลแบบนี้ 📌หลังรับเชื้อจะเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้มีไข้สูงเป็น ๆ หาย ๆ คล้ายไข้มาลาเรีย ⏩ระยะนี้ผู้ป่วยจะอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ เหงื่อออกมากกว่าปกติ ซีด และต่อมน้ำเหลืองโตทั่วไปโดยเฉพาะบริเวณคอ (posterior cervical glands) เรียกว่า Winter-bottom's sign ⏩บางรายอาจมีผื่นแดงจาง ๆ ที่ผิวหนังนานเป็นเดือน ถ้าเจาะเลือดจะพบเม็ดเลือดขาวต่ำ 📌ระยะนี้ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ❗️กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) และ ❗️หน่วยไตอักเสบ (glomerulonephritis) ✅ระยะที่สอง เชื้อจะเข้าสู่สมอง 👉ผู้ป่วยจะปวดศีรษะตลอดเวลา ทานยาอะไรก็ไม่หาย ⏩กลางคืนนอนไม่หลับ แต่เซื่องซึม ง่วงเหงาหาวนอนตอนกลางวัน จึงเป็นที่มาของชื่อโรคว่า Sleeping sickness 📌หรือโรคเหงาหลับ 💢ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมเปลี่ยน อารมณ์แปรปรวน บางรายอาจวุ่นวายสับสน บางรายอาจซึมเศร้า เบื่ออาหาร ผอมลง ม้ามโต 📌ในเด็กมักพบมี "ชัก" ในระยะท้ายสมองจะบวม มีจุดเลือดออกในเนื้อสมอง 📌พบเซลล์อักเสบทั่วไปในชั้นเยื่อหุ้มสมอง ประสาทรับสัมผัสจะเสียไป การเดินและทรงตัวผิดปกติ หากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะเสียชีวิต http://mutualselfcare.org/.../inf.../trypanosomiasis.aspx... เครดิต เฟสบุ๊ก ภูสณิตา วิเศษปุณรัตน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพแรก
    ซ้าย ไม่มี ฟลูออไรด์
    ขวา มี ฟลูออไรด์
    โลกคือมายา #ลวงทั้งโลก
    ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ⁉️
    ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานการวิจัยที่ว่าด้วยฟลูออไรด์ต่อการลดความสามารถทางปัญญาในเด็กได้ถึง 32 หน้าฟรี ๆ ที่นี่
    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3491930/
    Source :
    https://youtu.be/KLsjwWo1F2I
    --------------------------------------------------
    โดยทั่วไป #ฟลูออไรด์ เป็นสารทำลายต่อมไร้ท่อเนื่องจากฟลูออไรด์เป็นฮาไลด์ (halide)เช่นกัน มันจึงแข่งขันกับฮาไลด์ตัวอื่นที่ตัวรับเดียวกันในต่อมไทรอยด์ และที่อื่นๆ เพื่อจับกับไอโอดีน สิ่งนี้จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ
    มีการพิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อ
    แต่ความจริงข้อนี้ถูกละเลยโดยหน่วยงาน และสมาคมที่ยังคงส่งเสริมการใช้ฟลูออไรด์ต่อไป
    จากรายงานของ National Research Council of the National Academies ในปี 2549
    ฟลูออไรด์ "เป็นตัวทำลายต่อมไร้ท่อในแง่กว้างโดยปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อที่เป็นปกติ"
    ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และต่อมไพเนียลรวมถึงต่อมหมวกไต ตับอ่อน และต่อมใต้สมอง
    ต่อมไทรอยด์ของคุณ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการรักษาอัตราการเผาผลาญโดยรวมของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติ เนื่องจากเซลล์ที่มีการเผาผลาญทั้งหมดต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อการทำงานที่เหมาะสม
    การหยุดชะงักของระบบนี้ อาจมีผลกระทบที่หลากหลายต่อแทบทุกระบบในร่างกายของคุณ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดของโรคต่อมไร้ท่อ
    การใช้ฟลูออไรด์ในอดีต เป็นการแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับ Hyperthyroid
    จนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปได้กำหนดให้ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อลดอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในผู้ป่วยที่มีต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์งานหนึ่งรายงานว่า
    ปริมาณฟลูออไรด์เพียง 2 - 3 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก ถ้าได้รับอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอที่จะลดกิจกรรมของต่อมไทรอยด์ในผู้ป่วยได้
    การใช้ฟลูออไรด์เพื่อการรักษาต่อมไทรอยด์ได้รับการกระตุ้นโดยการวิจัยที่เริ่มต้นในปี 1800 ซึ่งเชื่อมโยงการบริโภคฟลูออไรด์กับคอพอก การบวมของต่อมไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
    ในรายงานเมื่อปี 2549 Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards, the National Research Council (NRC) รายงานว่า
    "ข้อมูลหลายบรรทัด แสดงถึงผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์" โดยเฉพาะรายงานที่กล่าวถึงการวิจัยแสดงให้เห็นว่า
    "การได้รับฟลูออไรด์ในมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของ TSH ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความแพร่หลายของคอพอก และเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ T4 และ T3" นอกจากนั้นยังมีผลที่คล้ายกันใน T4 และ T3 รายงานในสัตว์ทดลอง
    นอกจากนี้ NRC ยังกล่าวถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงฟลูออไรด์ กับผลกระทบต่อกิจกรรมของพาราไธรอยด์ การด้อยค่าของการทนต่อกลูโคส และระยะเวลาของการคงไว้ซึ่งสภาวะทางเพศ
    จากการค้นพบเหล่านี้ คณะกรรมการ NRC แนะนำว่า "ผลกระทบของฟลูออไรด์ในแง่มุมต่างๆ ต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ ควรได้รับการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ในการพัฒนาโรคต่างๆ
    อย่างไรก็ตามผู้เสนอให้ใช้ฟลูออไรด์ยังคงเพิกเฉยต่อวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นอันตราย
    ฟลูออไรด์จำนวนเล็กน้อย เปลี่ยนการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ
    การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการได้รับฟลูออไรด์ในระดับต่ำถึง 0.05 - 0.1 มก. ฟลูออไรด์ต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน (มก. / กก. / วัน) หรือ 0.03 มก. / กก. / วัน
    สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม (154 ปอนด์) หมายความว่าฟลูออไรด์ 3.5 มก. ต่อวัน (หรือฟลูออไรด์ 0.7 มก. ต่อวันที่มีการขาดไอโอดีน) อาจทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
    การวิเคราะห์โดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ประมาณการว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปบริโภคฟลูออไรด์เกือบ 3 มิลลิกรัมทุกวัน และบางคนบริโภคเป็นประจำวันละ 6 มก. ขึ้นไป
    สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 14 กิโลกรัม (30 ปอนด์) ฟลูออไรด์ที่ได้รับมากกว่า 0.7 มก. ต่อวัน (หรือ 0.14 มก. ต่อวันหากขาดไอโอดีน) ทำให้เด็กเสี่ยงต่อความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ
    และ EPA (2010) ได้ทำการประเมินว่าเด็กที่อยู่ในช่วงน้ำหนักนี้ (อายุ 1- 3 ปี) ได้บริโภคฟลูออไรด์มากกว่า 1.5 มก. ในแต่ละวัน หรือมากกว่า 2 เท่า ของจำนวนที่จำเป็นในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลง การได้รับอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและตลอดชีวิตต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ทางสังคม ทางเพศ และทางกายภาพโดยรวมของเด็ก
    การศึกษาจำนวนมากพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฟลูออไรด์ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และการลด IQ ในเด็ก แม้แต่ระดับฟลูออไรด์ที่น้อยกว่า 1.0 มก. / ล. ก็มีความสัมพันธ์กับ IQ ที่ลดลง และความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภาวะไทรอยด์ทำงานในเด็กที่มีอาการขาดสารไอโอดีน
    การพิจารณาอย่างจริงจัง ว่าต่อมไทรอยด์ของคุณอาจเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางที่สุดในร่างกายของคุณต่อฟลูออไรด์ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ
    ฟลูออไรด์สะสมในต่อมไทรอยด์ของคุณมากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ
    ฟลูออไรด์อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณโดยตรง หรือโดยอ้อมด้วยการกระทำที่เป็นไปได้ รวมถึงความสามารถของฟลูออไรด์ในการเลียนแบบฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH)
    - ทำลาย G-proteins ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยการสร้างของตัวรับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ
    -ทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ของคุณ
    -ทำลาย DNA ของคุณ
    -รบกวนการแปลงจากไทรอยด์ฮอร์โมน (T4) ที่ไม่ได้ใช้งานไปเป็นแบบฟอร์มที่ต้องใช้งาน (T3)
    จากข้อมูลของ PubMed Health พบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดภาวะพร่อง หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ เกือบ 4% ของประชากรสหรัฐอเมริกา
    มากกว่า 11 ล้านคน มีภาวะไทรอยด์ทำงานหนักเกินจริง นอกจากนี้ 10% ของประชากรทั่วไป 21 ล้านคน มีภาวะพร่องที่ไม่แสดงอาการซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาต่อมาของภาวะพร่องไทรอยด์
    แม้จะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่อัตราการเกิดภาวะพร่องของ hypothyroidism ทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นเกือบ 75% ในช่วง 2ทศวรรษที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ส่งผลกระทบต่อ 1 ในทุกๆ 2,370 ของการเกิดภาวะพร่องในทารกแรกเกิดที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อน การชะลอการเจริญเติบโต และปัญหาหัวใจ
    เด็กที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือเยาวชน ได้รับรายงานว่ามีการล่าช้าของการงอกของฟัน หรือข้อบกพร่องในการเคลือบฟัน แม้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างการค้นพบเหล่านี้กับผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อไทรอยด์ยังไม่ได้ทำการศึกษา
    สิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างความรุนแรงของอาการที่ไม่แสดงอาการในหญิงตั้งครรภ์และ IQ ที่ลดลงของบุตรหลาน
    การพร่องของมารดายังได้รับการเสนอให้เป็นสาเหตุ หรือผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาออทิสติก
    ศักยภาพของฟลูออไรด์ที่จะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกหลายประการ
    ดังนั้นวิธีการใช้ฟลูออไรด์วิธีการแบบไม่เจาะจง / การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มสาธารณะโดยเจตนา / การผสมเข้าไปในยาสีฟัน / การเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ เป็นปัญหาอย่างยิ่ง
    เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ หรือความอ่อนไหวส่วนตัว และเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของเภสัชวิทยาสมัยใหม่
    -----------------------------------
    Andersson M, de Benoist B,Delange F, Zupan J. 2007.Prevention and control of iodine deficiency in pregnant and lactating women and in children less
    Bharaktiya S, et al., 2010.Hypothyroidism. Medscape Reference.
    Delange F. 2004. Optimal iodine nutrition during pregnancy, lactation and neonatal period. Int J Endocrinol Metab 89:3851.
    Drugs.com. Undated. Top-selling drugs of 2009.
    IOM (Institute of Medicine). 2001. Dietary Reference Intakes for Vitamin A, Vitamin K, Arsenic, Boron, Chromium, Copper, Iodine, Iron, Manganese
    Larsen PR, Davies TF, Schlumberger MJ, Hay ID. 2002. Thyroid physiology and diagnostic evaluation of patients with thyroid disorders. Pp. 331-373
    PubMed Health. 2009. Neonatal hypothyroidism.
    PubMed Health. 2010. Hypothyroidism.
    Wang H, Yang Z, Zhou B, et al. 2009. Fluoride-induced thyroid dysfunction in rats: roles of dietary protein and calcium level. Toxicol Ind Health
    Zimmermann MB. 2009. Iodine deficiency in pregnancy and the effects of maternal iodine supplementation on the offspring: a review. Am J Clin Nutr
    1 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 507 pp.
    2 Maumené E. 1854. Compt Rend Acad Sci 39:538. May W. 1935. Antagonismus Zwischen Jod und Fluor im Organismus. Klinische Wochenschrift 14:790-92.
    3 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    4 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    5 EPA (U.S. Environmental Protection Agency). 2010. Fluoride: Exposure and Relative Source Contribution Analysis.
    6 Connett P, Beck J, Micklem HS. 2010. The Case Against Fluoride. How Hazardous Waste Ended Up in Our Drinking Water and the Bad Science
    7 Lin FF, Aihaiti HX, Zhao J, et al. 1991. The relationship of a low-iodine and high-fluoride environment to subclinical cretinism in Xinjiang.
    8 ICCIDD (International Council for the Control of Iodine Deficiency Disorders). 2011. Iodine Deficiency.
    9 Hollowell JG, Staehling NW, Hannon WH, et al. 1998. Iodine nutrition in the United States. Trends and public health implications: iodine excretion
    10 Lee SL, et al. 2009. Iodine Deficiency. Medscape Reference.
    11 Caldwell KL, Miller GA, Wang RY, et al. 2008. Iodine status of the U.S. population, National Health and Nutrition Examination Survey 2003-2004.
    12 Shashi A. 1988. Biochemical effects of Fluoride on thyroid gland duringexperimental fluorosis. Fluoride 21:127–130.
    13 Monsour PA, Kruger BJ. 1985. Effect of fluoride on soft tissue in vertebrates. Fluoride 18:53-61. / Call RA, Greenwood DA, LeCheminant H, et al. 1965.
    14 Ge Y, Ning H, Wang S, Wang J. 2005. DNA damage in thyroid gland cells of rats exposed to long-term intake of high fluoride and low iodine. Fluoride
    15 Gas'kov A, Savchenkov MF, Lushkov NN. 2005. [The specific features of the development of iodine deficiencies in children living under pollution]
    16 Aoki Y, Belin RM, Clickner R, et al. 2007. Serum TSH and total T4 in the United States population
    17 Olney RS, Grosse SD, Vogt RF. 2010. Prevalence of Congenital Hypothyroidism—Current Trends and Future Directions: Workshop Summary. Pediatrics 125
    18 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    19 Klein RZ, Sargent JD, Larsen PR, et al. 2001. Relation of severity of maternal hypothyroidism to cognitive development in offspring. J Med Screen
    20 Román GC. 2007. Autism: Transient in utero hypothyroxinemia related to maternal flavonoid ingestion during pregnancy.
    Biological Trace Element Research :
    https://www.researchgate.net/.../345973053_In_Vitro...
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58
    https://youtu.be/AYAJJSOmdJo
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ปฏิวัติสุขภาพกับอ.ปานเทพ เรื่อง ฟลูออไรด์ ภัยเงียบในน้ำดื่มน้ำใช้ยาสีฟัน
    https://youtu.be/741TFbVWJwQ
    https://youtu.be/s-ElDeuDl1I
    https://youtu.be/Y5Ad9L-B21c
    https://youtu.be/1KgS-_E05YE
    https://youtu.be/KLsjwWo1F2I
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดย อ.สันติ มานะดี
    https://www.facebook.com/10000435.../posts/1352913331530352/
    ✨✨✨✨✨✨✨
    สารฟลูโอไรด์ ( Fluoride )
    Little Girl Healthy SHOP - สินค้าส่งตรงจากอเมริกา
    กราฟแสดงระดับความรุนแรงของสารตะกั่ว สารหนูและฟลูโอไรด์
    ค่าระดับความเป็นพิษของฟลูโอไรด์ที่พุ่งแรงแซงสารตะกั่วไปอยู่ที่ระดับ 4 เกือบๆ 5 นั่นแปลว่า มันเป็นพิษมากจนถึงขั้นรุนแรง! ยิ่งถ้าบ้านใครมียาฆ่าหนูและแมลงสาบลองพลิกดูที่ส่วนผสมข้างกล่อง คุณอาจจะช็อกตาค้างมากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนูคือฟลูโอไรด์
    ซึ่งความจริงแล้ว ฟลูออไรด์ได้นำมาใช้ครั้งแรกในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นยาเบื่อหนู ถามว่า.. แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในยาสีฟันล่ะ?
    จริงๆแล้วฟลูออไรด์ที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่างแท้จริงมันคือ “แคลเซียมฟลูออไรด์ “ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันมันคือ "โซเดียมฟลูออไรด์"
    เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นในโรงงานซึ่งมีราคาถูกกว่า
    และถ้าใครที่คิดว่าฟลููโอไรด์ช่วยให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ แบบที่เคยได้ยินกันจนคุ้นหูคุ้นตาในโฆษณาทีวีตั้งแต่เด็กๆคงต้องคิดใหม่ เพราะมันกลับเป็นตัวการทำให้เกิดฟันตกกระที่เรียกว่า Dental Fluorosis เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างที่ผิวฟันจากการสะสมของสารพิษฟลูโอไรด์ในระยะยาว แถมยังมีผลต่อกระดูกทำให้กระดูกพรุนด้วย ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ของรัฐนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า มีการใช้สารฟลูออไรด์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) แต่ผลกลับกลายเป็นว่า อัตราการเกิดกระดูกตะโพกร้าวสูงขึ้นกว่าปกติ
    และในปี 1993 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาต่อต้านการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและอาหาร นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ยืนยันว่า ฟลูออไรด์ไม่ได้ป้องกันฟันผุ ผลตรงกันข้าม กลับมีเหตุการณ์แน่ชัดว่า มันเป็นตัวก่อมะเร็งได้ http://www.biowish.net/pages/med.htm
    เคยมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองผสมฟลูโอไรด์ในน้ำของค่ายกักกันที่รัซเซียในยุคคอมมิวนิสต์และอีกที่ในช่วงยุคนาซีที่เยอร์มัน มีจุดประสงค์ในการทดลองเพื่อจะดูว่าถ้านักโทษผู้โชคร้ายทั้งหลายกินน้ำผสมฟลูโอไรด์เข้าไปแล้วนักโทษจะเป็นยังไง
    ผลปรากฎว่า อารมณ์รุนแรงของนักโทษลดลงอย่างเห็นได้ชัด เปลี่ยนจากนักโทษโหดๆเป็นแมวหง่าวนั่งหงอย ไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างใดๆ ไม่ยกพวกตีกันเหมือนก่อน
    ฟังแล้วดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ.. แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวซะมากกว่า เพราะว่าฟลูโอไรด์มันมีผลโดยตรงต่อสมองน่ะสิ โดยมันเข้าไปทำลายต่อมไพนีล (Pineal gland) หรือเรียกว่าดวงตาที่ 3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารณ์ต่างๆ เช่นความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์
    ดังนั้นเมื่อต่อมนี้โดนทำลาย จึงทำให้เกิดความท้อแท้ หมดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม เป็นตัวลดไอคิว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาลครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ฟลูโอไรด์เลยมาอยู่ในยาสีฟันให้เราใช้กันทุกวัน เปรียบได้กับอาวุธของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนโง่และเป็นการควบคุมประชากรไปในตัว ในบางประเทศอย่างไอร์แลนด์ อเมริกา ถึงกับโดนมัดมือชกให้กินน้ำผสมยาพิษฟลูโอไรด์กันเลยทีเดียว
    โดยผสมมันลงในน้ำประปาสาธารณะ โดยอ้างว่าหวังดีอยากป้องกันโรคฟันผุให้ประชาชน แต่มีการพิสูจน์แล้วโดยเปรียบเทียบสุขภาพฟันของคนอังกฤษและอเมริกัน ปรากฎว่าสุขภาพฟันไม่ต่างกันเลยทั้งๆที่น้ำในประเทศอังกฤษไม่มีการฟลูโอไรด์ลงในน้ำ การกระทำที่มีนัยยะแอบแฝงแบบนี้เลยสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคนในหลายประเทศที่ไม่เต็มใจจะโดนวางยาพิษในน้ำก๊อกที่ทำให้โง่และเป็นโรค แถมการเอาน้ำไปต้มให้เดือดก็ไม่ได้ช่วยอะไรยกเว้นเพิ่มความแรงของสารพิษให้สูงขึ้นอึก 7 เท่าตัว
    เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าอีคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านมากไปป่ะ? ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย! Fluoride Alert .Org
    แคลเซียมฟลูออไรด์เป็นธาตุที่จำเป็น พบเป็นส่วนใหญ่ในกระดูก และเคลือบฟัน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และทำให้ฟันทนต่อการผุมากขึ้น แคลเซียมฟลูออไรด์อาจช่วยป้องกันโรคปริทันต์ด้วย และป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมฟลูออไรด์พบในธรรมชาติ ในรูปของแคลเซียมคลอไรด์ มีอยู่ในพืชทุกชนิด สัตว์ น้ำ และ ดิน
    โซเดียมฟลูออไรด์ (Sodium Fluoride) เป็นสารอนินทรีย์ที่เกิดจากธาตุฟลูออรีน (Fluorine) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำเอาโซเดียมฟลูออไรด์ไปผสมกับผลิตภัณฑ์ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากด้วยโซเดียมฟลูออไรด์
    การได้รับฟลูออรีน จะเกิดการสะสมของฟลูออรีนไว้ในร่างกายทีละน้อย จะทำให้เกิดความเสียหายและข้อบกพร่องขึ้นกับระบบโครงกระดูกและฟันสำหรับความผิดปกติของฟัน
    เกิดขึ้นโดยฟันจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขุ่นๆ ซึ่งเดิมมีลักษณะใส นอกจากนี้ยังทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ฟันจึงมักชำรุดแตกบิ่นง่าย ส่วนในระบบโครงกระดูกอาการที่พบคือ กระดูกจะเจริญเร็วมาก ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากกระดูกขา กราม กระดูกซี่โครง ขากระเผลก เดินลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการเจริญมากเกินไปของกระดูกหรือเกิดจากที่หินปูนไปจับกับเอ็นและข้อต่อของขา จึงทำให้ขาแข็ง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นอาการแบบถาวร
    แหล่งอาหาร แคลเซียมฟลูออไรด์ ตามธรรมชาติ
    1. ข้าวต่างๆ
    2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่
    3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง
    4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่
    5. เมล็ดทานตะวัน
    6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล
    #สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันก่อให้เกิดมะเร็ง จริงหรือไม่?
    ☠️☠️
    ทำไมเด็กในอเมริกาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 นักวิจัยหลายๆท่านที่อเมริกา รวมทั้ง Charlotte Gerson ได้ไปทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า ยาสีฟันที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปรวมทั้งยี่ห้อที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
    Charlotte ให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งที่คลีนิคของเธอทุกคนเลิกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ เธอยังบอกอีกว่าไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ทำไมเด็กในอเมริกาเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เพราะยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ ผสม สารฟลูออไรด์ แล้วยังใส่รสชาติเหมือนขนมหวานให้เด็กๆติดใจและอยากจะใช้ยาสีฟันแบบนี้
    🚑🚑
    เธอบอกความจริงว่าถ้าผู้บริโภคไม่มีใครป่วยเป็นโรคอะไรเลยแล้วผู้ผลิตยาจะทำธุรกิจได้กำไรจากที่ไหน ลองไปดูสิคะผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกันกับผู้ผลิตยานั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่หมอฟันใช้กับคนไข้ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้อุดฟันล้วนแล้วเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น
    🎗🎗
    ใครที่เป็นมะเร็งอยู่ก็ดูยาสีฟันกันหน่อยนะคะ
    ⛑⛑
    (ปีนี้ 2018 Charlotte Gerson เธออายุ 96 ปียังแข็งแรงและเดินสายสัมมนาเรื่องมะเร็ง นับถือจริงๆ)
    ด้วยความปรารถนาดี
    ...โค้ชนาตาลี
    ❤️❤️
    อ่านต่อ...
    From the book: Never Fear Cancer again by Raymond Francis
    ..........
    Fluoride Fluoride both switches on and drives cancer. Federal health officials continue to call fluoridation one of the ten great public-health achievements of the twentieth century, while it has long been known as one of our greatest public-health blunders. The scientific evidence that fluoride causes cancer is overwhelming, and this has been known for decades, despite attempts to obscure it.
    💉💉
    For example, recorded in the Congressional Record of 21 July 1976, the chief chemist of the National Cancer Institute, Dr. Dean Burke, stated before Congress, “In point of fact, fluoride causes more cancer death, and causes it faster than any other chemical.”
    ☠️☠️
    Fluoride is a general cellular poison, doing catastrophic biological damage that is beyond the scope of this chapter to describe, yet many of us are now ingesting daily amounts that far exceed even the government’s inadequate safety standards. Hundreds of studies have found a connection between fluoride and cancer; cities that fluoridate their water have significantly more cancer deaths than cities that do not fluoridate.
    ☠️☠️
    ***Fluoride causes cancer by reacting with enzymes, changing their shape and disabling them.***
    ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️

    ด้วยรักและยาสีฟัน
    เวชหนุ่ม
    ภาพแรก ซ้าย ไม่มี ฟลูออไรด์ ขวา มี ฟลูออไรด์ โลกคือมายา #ลวงทั้งโลก ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ⁉️ ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานการวิจัยที่ว่าด้วยฟลูออไรด์ต่อการลดความสามารถทางปัญญาในเด็กได้ถึง 32 หน้าฟรี ๆ ที่นี่ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3491930/ Source : https://youtu.be/KLsjwWo1F2I -------------------------------------------------- โดยทั่วไป #ฟลูออไรด์ เป็นสารทำลายต่อมไร้ท่อเนื่องจากฟลูออไรด์เป็นฮาไลด์ (halide)เช่นกัน มันจึงแข่งขันกับฮาไลด์ตัวอื่นที่ตัวรับเดียวกันในต่อมไทรอยด์ และที่อื่นๆ เพื่อจับกับไอโอดีน สิ่งนี้จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ มีการพิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อ แต่ความจริงข้อนี้ถูกละเลยโดยหน่วยงาน และสมาคมที่ยังคงส่งเสริมการใช้ฟลูออไรด์ต่อไป จากรายงานของ National Research Council of the National Academies ในปี 2549 ฟลูออไรด์ "เป็นตัวทำลายต่อมไร้ท่อในแง่กว้างโดยปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อที่เป็นปกติ" ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และต่อมไพเนียลรวมถึงต่อมหมวกไต ตับอ่อน และต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ของคุณ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการรักษาอัตราการเผาผลาญโดยรวมของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติ เนื่องจากเซลล์ที่มีการเผาผลาญทั้งหมดต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อการทำงานที่เหมาะสม การหยุดชะงักของระบบนี้ อาจมีผลกระทบที่หลากหลายต่อแทบทุกระบบในร่างกายของคุณ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดของโรคต่อมไร้ท่อ การใช้ฟลูออไรด์ในอดีต เป็นการแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับ Hyperthyroid จนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปได้กำหนดให้ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อลดอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในผู้ป่วยที่มีต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์งานหนึ่งรายงานว่า ปริมาณฟลูออไรด์เพียง 2 - 3 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก ถ้าได้รับอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอที่จะลดกิจกรรมของต่อมไทรอยด์ในผู้ป่วยได้ การใช้ฟลูออไรด์เพื่อการรักษาต่อมไทรอยด์ได้รับการกระตุ้นโดยการวิจัยที่เริ่มต้นในปี 1800 ซึ่งเชื่อมโยงการบริโภคฟลูออไรด์กับคอพอก การบวมของต่อมไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ในรายงานเมื่อปี 2549 Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards, the National Research Council (NRC) รายงานว่า "ข้อมูลหลายบรรทัด แสดงถึงผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์" โดยเฉพาะรายงานที่กล่าวถึงการวิจัยแสดงให้เห็นว่า "การได้รับฟลูออไรด์ในมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของ TSH ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความแพร่หลายของคอพอก และเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ T4 และ T3" นอกจากนั้นยังมีผลที่คล้ายกันใน T4 และ T3 รายงานในสัตว์ทดลอง นอกจากนี้ NRC ยังกล่าวถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงฟลูออไรด์ กับผลกระทบต่อกิจกรรมของพาราไธรอยด์ การด้อยค่าของการทนต่อกลูโคส และระยะเวลาของการคงไว้ซึ่งสภาวะทางเพศ จากการค้นพบเหล่านี้ คณะกรรมการ NRC แนะนำว่า "ผลกระทบของฟลูออไรด์ในแง่มุมต่างๆ ต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ ควรได้รับการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ในการพัฒนาโรคต่างๆ อย่างไรก็ตามผู้เสนอให้ใช้ฟลูออไรด์ยังคงเพิกเฉยต่อวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นอันตราย ฟลูออไรด์จำนวนเล็กน้อย เปลี่ยนการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการได้รับฟลูออไรด์ในระดับต่ำถึง 0.05 - 0.1 มก. ฟลูออไรด์ต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน (มก. / กก. / วัน) หรือ 0.03 มก. / กก. / วัน สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม (154 ปอนด์) หมายความว่าฟลูออไรด์ 3.5 มก. ต่อวัน (หรือฟลูออไรด์ 0.7 มก. ต่อวันที่มีการขาดไอโอดีน) อาจทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ การวิเคราะห์โดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ประมาณการว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปบริโภคฟลูออไรด์เกือบ 3 มิลลิกรัมทุกวัน และบางคนบริโภคเป็นประจำวันละ 6 มก. ขึ้นไป สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 14 กิโลกรัม (30 ปอนด์) ฟลูออไรด์ที่ได้รับมากกว่า 0.7 มก. ต่อวัน (หรือ 0.14 มก. ต่อวันหากขาดไอโอดีน) ทำให้เด็กเสี่ยงต่อความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ และ EPA (2010) ได้ทำการประเมินว่าเด็กที่อยู่ในช่วงน้ำหนักนี้ (อายุ 1- 3 ปี) ได้บริโภคฟลูออไรด์มากกว่า 1.5 มก. ในแต่ละวัน หรือมากกว่า 2 เท่า ของจำนวนที่จำเป็นในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลง การได้รับอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและตลอดชีวิตต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ทางสังคม ทางเพศ และทางกายภาพโดยรวมของเด็ก การศึกษาจำนวนมากพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฟลูออไรด์ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และการลด IQ ในเด็ก แม้แต่ระดับฟลูออไรด์ที่น้อยกว่า 1.0 มก. / ล. ก็มีความสัมพันธ์กับ IQ ที่ลดลง และความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภาวะไทรอยด์ทำงานในเด็กที่มีอาการขาดสารไอโอดีน การพิจารณาอย่างจริงจัง ว่าต่อมไทรอยด์ของคุณอาจเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางที่สุดในร่างกายของคุณต่อฟลูออไรด์ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ ฟลูออไรด์สะสมในต่อมไทรอยด์ของคุณมากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ ฟลูออไรด์อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณโดยตรง หรือโดยอ้อมด้วยการกระทำที่เป็นไปได้ รวมถึงความสามารถของฟลูออไรด์ในการเลียนแบบฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) - ทำลาย G-proteins ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยการสร้างของตัวรับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ -ทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ของคุณ -ทำลาย DNA ของคุณ -รบกวนการแปลงจากไทรอยด์ฮอร์โมน (T4) ที่ไม่ได้ใช้งานไปเป็นแบบฟอร์มที่ต้องใช้งาน (T3) จากข้อมูลของ PubMed Health พบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดภาวะพร่อง หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ เกือบ 4% ของประชากรสหรัฐอเมริกา มากกว่า 11 ล้านคน มีภาวะไทรอยด์ทำงานหนักเกินจริง นอกจากนี้ 10% ของประชากรทั่วไป 21 ล้านคน มีภาวะพร่องที่ไม่แสดงอาการซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาต่อมาของภาวะพร่องไทรอยด์ แม้จะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่อัตราการเกิดภาวะพร่องของ hypothyroidism ทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นเกือบ 75% ในช่วง 2ทศวรรษที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ส่งผลกระทบต่อ 1 ในทุกๆ 2,370 ของการเกิดภาวะพร่องในทารกแรกเกิดที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อน การชะลอการเจริญเติบโต และปัญหาหัวใจ เด็กที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือเยาวชน ได้รับรายงานว่ามีการล่าช้าของการงอกของฟัน หรือข้อบกพร่องในการเคลือบฟัน แม้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างการค้นพบเหล่านี้กับผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อไทรอยด์ยังไม่ได้ทำการศึกษา สิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างความรุนแรงของอาการที่ไม่แสดงอาการในหญิงตั้งครรภ์และ IQ ที่ลดลงของบุตรหลาน การพร่องของมารดายังได้รับการเสนอให้เป็นสาเหตุ หรือผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาออทิสติก ศักยภาพของฟลูออไรด์ที่จะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกหลายประการ ดังนั้นวิธีการใช้ฟลูออไรด์วิธีการแบบไม่เจาะจง / การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มสาธารณะโดยเจตนา / การผสมเข้าไปในยาสีฟัน / การเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ เป็นปัญหาอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ หรือความอ่อนไหวส่วนตัว และเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของเภสัชวิทยาสมัยใหม่ ----------------------------------- Andersson M, de Benoist B,Delange F, Zupan J. 2007.Prevention and control of iodine deficiency in pregnant and lactating women and in children less Bharaktiya S, et al., 2010.Hypothyroidism. Medscape Reference. Delange F. 2004. Optimal iodine nutrition during pregnancy, lactation and neonatal period. Int J Endocrinol Metab 89:3851. Drugs.com. Undated. Top-selling drugs of 2009. IOM (Institute of Medicine). 2001. Dietary Reference Intakes for Vitamin A, Vitamin K, Arsenic, Boron, Chromium, Copper, Iodine, Iron, Manganese Larsen PR, Davies TF, Schlumberger MJ, Hay ID. 2002. Thyroid physiology and diagnostic evaluation of patients with thyroid disorders. Pp. 331-373 PubMed Health. 2009. Neonatal hypothyroidism. PubMed Health. 2010. Hypothyroidism. Wang H, Yang Z, Zhou B, et al. 2009. Fluoride-induced thyroid dysfunction in rats: roles of dietary protein and calcium level. Toxicol Ind Health Zimmermann MB. 2009. Iodine deficiency in pregnancy and the effects of maternal iodine supplementation on the offspring: a review. Am J Clin Nutr 1 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 507 pp. 2 Maumené E. 1854. Compt Rend Acad Sci 39:538. May W. 1935. Antagonismus Zwischen Jod und Fluor im Organismus. Klinische Wochenschrift 14:790-92. 3 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 4 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 5 EPA (U.S. Environmental Protection Agency). 2010. Fluoride: Exposure and Relative Source Contribution Analysis. 6 Connett P, Beck J, Micklem HS. 2010. The Case Against Fluoride. How Hazardous Waste Ended Up in Our Drinking Water and the Bad Science 7 Lin FF, Aihaiti HX, Zhao J, et al. 1991. The relationship of a low-iodine and high-fluoride environment to subclinical cretinism in Xinjiang. 8 ICCIDD (International Council for the Control of Iodine Deficiency Disorders). 2011. Iodine Deficiency. 9 Hollowell JG, Staehling NW, Hannon WH, et al. 1998. Iodine nutrition in the United States. Trends and public health implications: iodine excretion 10 Lee SL, et al. 2009. Iodine Deficiency. Medscape Reference. 11 Caldwell KL, Miller GA, Wang RY, et al. 2008. Iodine status of the U.S. population, National Health and Nutrition Examination Survey 2003-2004. 12 Shashi A. 1988. Biochemical effects of Fluoride on thyroid gland duringexperimental fluorosis. Fluoride 21:127–130. 13 Monsour PA, Kruger BJ. 1985. Effect of fluoride on soft tissue in vertebrates. Fluoride 18:53-61. / Call RA, Greenwood DA, LeCheminant H, et al. 1965. 14 Ge Y, Ning H, Wang S, Wang J. 2005. DNA damage in thyroid gland cells of rats exposed to long-term intake of high fluoride and low iodine. Fluoride 15 Gas'kov A, Savchenkov MF, Lushkov NN. 2005. [The specific features of the development of iodine deficiencies in children living under pollution] 16 Aoki Y, Belin RM, Clickner R, et al. 2007. Serum TSH and total T4 in the United States population 17 Olney RS, Grosse SD, Vogt RF. 2010. Prevalence of Congenital Hypothyroidism—Current Trends and Future Directions: Workshop Summary. Pediatrics 125 18 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 19 Klein RZ, Sargent JD, Larsen PR, et al. 2001. Relation of severity of maternal hypothyroidism to cognitive development in offspring. J Med Screen 20 Román GC. 2007. Autism: Transient in utero hypothyroxinemia related to maternal flavonoid ingestion during pregnancy. Biological Trace Element Research : https://www.researchgate.net/.../345973053_In_Vitro... ✨✨✨✨✨✨✨ ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo ✨✨✨✨✨✨✨ ปฏิวัติสุขภาพกับอ.ปานเทพ เรื่อง ฟลูออไรด์ ภัยเงียบในน้ำดื่มน้ำใช้ยาสีฟัน https://youtu.be/741TFbVWJwQ https://youtu.be/s-ElDeuDl1I https://youtu.be/Y5Ad9L-B21c https://youtu.be/1KgS-_E05YE https://youtu.be/KLsjwWo1F2I ✨✨✨✨✨✨✨ ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดย อ.สันติ มานะดี https://www.facebook.com/10000435.../posts/1352913331530352/ ✨✨✨✨✨✨✨ สารฟลูโอไรด์ ( Fluoride ) Little Girl Healthy SHOP - สินค้าส่งตรงจากอเมริกา กราฟแสดงระดับความรุนแรงของสารตะกั่ว สารหนูและฟลูโอไรด์ ค่าระดับความเป็นพิษของฟลูโอไรด์ที่พุ่งแรงแซงสารตะกั่วไปอยู่ที่ระดับ 4 เกือบๆ 5 นั่นแปลว่า มันเป็นพิษมากจนถึงขั้นรุนแรง! ยิ่งถ้าบ้านใครมียาฆ่าหนูและแมลงสาบลองพลิกดูที่ส่วนผสมข้างกล่อง คุณอาจจะช็อกตาค้างมากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนูคือฟลูโอไรด์ ซึ่งความจริงแล้ว ฟลูออไรด์ได้นำมาใช้ครั้งแรกในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นยาเบื่อหนู ถามว่า.. แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในยาสีฟันล่ะ? จริงๆแล้วฟลูออไรด์ที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่างแท้จริงมันคือ “แคลเซียมฟลูออไรด์ “ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันมันคือ "โซเดียมฟลูออไรด์" เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นในโรงงานซึ่งมีราคาถูกกว่า และถ้าใครที่คิดว่าฟลููโอไรด์ช่วยให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ แบบที่เคยได้ยินกันจนคุ้นหูคุ้นตาในโฆษณาทีวีตั้งแต่เด็กๆคงต้องคิดใหม่ เพราะมันกลับเป็นตัวการทำให้เกิดฟันตกกระที่เรียกว่า Dental Fluorosis เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างที่ผิวฟันจากการสะสมของสารพิษฟลูโอไรด์ในระยะยาว แถมยังมีผลต่อกระดูกทำให้กระดูกพรุนด้วย ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ของรัฐนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า มีการใช้สารฟลูออไรด์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) แต่ผลกลับกลายเป็นว่า อัตราการเกิดกระดูกตะโพกร้าวสูงขึ้นกว่าปกติ และในปี 1993 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาต่อต้านการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและอาหาร นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ยืนยันว่า ฟลูออไรด์ไม่ได้ป้องกันฟันผุ ผลตรงกันข้าม กลับมีเหตุการณ์แน่ชัดว่า มันเป็นตัวก่อมะเร็งได้ http://www.biowish.net/pages/med.htm เคยมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองผสมฟลูโอไรด์ในน้ำของค่ายกักกันที่รัซเซียในยุคคอมมิวนิสต์และอีกที่ในช่วงยุคนาซีที่เยอร์มัน มีจุดประสงค์ในการทดลองเพื่อจะดูว่าถ้านักโทษผู้โชคร้ายทั้งหลายกินน้ำผสมฟลูโอไรด์เข้าไปแล้วนักโทษจะเป็นยังไง ผลปรากฎว่า อารมณ์รุนแรงของนักโทษลดลงอย่างเห็นได้ชัด เปลี่ยนจากนักโทษโหดๆเป็นแมวหง่าวนั่งหงอย ไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างใดๆ ไม่ยกพวกตีกันเหมือนก่อน ฟังแล้วดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ.. แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวซะมากกว่า เพราะว่าฟลูโอไรด์มันมีผลโดยตรงต่อสมองน่ะสิ โดยมันเข้าไปทำลายต่อมไพนีล (Pineal gland) หรือเรียกว่าดวงตาที่ 3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารณ์ต่างๆ เช่นความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์ ดังนั้นเมื่อต่อมนี้โดนทำลาย จึงทำให้เกิดความท้อแท้ หมดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม เป็นตัวลดไอคิว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาลครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ฟลูโอไรด์เลยมาอยู่ในยาสีฟันให้เราใช้กันทุกวัน เปรียบได้กับอาวุธของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนโง่และเป็นการควบคุมประชากรไปในตัว ในบางประเทศอย่างไอร์แลนด์ อเมริกา ถึงกับโดนมัดมือชกให้กินน้ำผสมยาพิษฟลูโอไรด์กันเลยทีเดียว โดยผสมมันลงในน้ำประปาสาธารณะ โดยอ้างว่าหวังดีอยากป้องกันโรคฟันผุให้ประชาชน แต่มีการพิสูจน์แล้วโดยเปรียบเทียบสุขภาพฟันของคนอังกฤษและอเมริกัน ปรากฎว่าสุขภาพฟันไม่ต่างกันเลยทั้งๆที่น้ำในประเทศอังกฤษไม่มีการฟลูโอไรด์ลงในน้ำ การกระทำที่มีนัยยะแอบแฝงแบบนี้เลยสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคนในหลายประเทศที่ไม่เต็มใจจะโดนวางยาพิษในน้ำก๊อกที่ทำให้โง่และเป็นโรค แถมการเอาน้ำไปต้มให้เดือดก็ไม่ได้ช่วยอะไรยกเว้นเพิ่มความแรงของสารพิษให้สูงขึ้นอึก 7 เท่าตัว เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าอีคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านมากไปป่ะ? ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย! Fluoride Alert .Org แคลเซียมฟลูออไรด์เป็นธาตุที่จำเป็น พบเป็นส่วนใหญ่ในกระดูก และเคลือบฟัน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และทำให้ฟันทนต่อการผุมากขึ้น แคลเซียมฟลูออไรด์อาจช่วยป้องกันโรคปริทันต์ด้วย และป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมฟลูออไรด์พบในธรรมชาติ ในรูปของแคลเซียมคลอไรด์ มีอยู่ในพืชทุกชนิด สัตว์ น้ำ และ ดิน โซเดียมฟลูออไรด์ (Sodium Fluoride) เป็นสารอนินทรีย์ที่เกิดจากธาตุฟลูออรีน (Fluorine) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำเอาโซเดียมฟลูออไรด์ไปผสมกับผลิตภัณฑ์ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากด้วยโซเดียมฟลูออไรด์ การได้รับฟลูออรีน จะเกิดการสะสมของฟลูออรีนไว้ในร่างกายทีละน้อย จะทำให้เกิดความเสียหายและข้อบกพร่องขึ้นกับระบบโครงกระดูกและฟันสำหรับความผิดปกติของฟัน เกิดขึ้นโดยฟันจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขุ่นๆ ซึ่งเดิมมีลักษณะใส นอกจากนี้ยังทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ฟันจึงมักชำรุดแตกบิ่นง่าย ส่วนในระบบโครงกระดูกอาการที่พบคือ กระดูกจะเจริญเร็วมาก ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากกระดูกขา กราม กระดูกซี่โครง ขากระเผลก เดินลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการเจริญมากเกินไปของกระดูกหรือเกิดจากที่หินปูนไปจับกับเอ็นและข้อต่อของขา จึงทำให้ขาแข็ง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นอาการแบบถาวร แหล่งอาหาร แคลเซียมฟลูออไรด์ ตามธรรมชาติ 1. ข้าวต่างๆ 2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่ 3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง 4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่ 5. เมล็ดทานตะวัน 6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล #สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันก่อให้เกิดมะเร็ง จริงหรือไม่? ☠️☠️ ทำไมเด็กในอเมริกาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 นักวิจัยหลายๆท่านที่อเมริกา รวมทั้ง Charlotte Gerson ได้ไปทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า ยาสีฟันที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปรวมทั้งยี่ห้อที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง Charlotte ให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งที่คลีนิคของเธอทุกคนเลิกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ เธอยังบอกอีกว่าไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ทำไมเด็กในอเมริกาเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เพราะยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ ผสม สารฟลูออไรด์ แล้วยังใส่รสชาติเหมือนขนมหวานให้เด็กๆติดใจและอยากจะใช้ยาสีฟันแบบนี้ 🚑🚑 เธอบอกความจริงว่าถ้าผู้บริโภคไม่มีใครป่วยเป็นโรคอะไรเลยแล้วผู้ผลิตยาจะทำธุรกิจได้กำไรจากที่ไหน ลองไปดูสิคะผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกันกับผู้ผลิตยานั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่หมอฟันใช้กับคนไข้ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้อุดฟันล้วนแล้วเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น 🎗🎗 ใครที่เป็นมะเร็งอยู่ก็ดูยาสีฟันกันหน่อยนะคะ ⛑⛑ (ปีนี้ 2018 Charlotte Gerson เธออายุ 96 ปียังแข็งแรงและเดินสายสัมมนาเรื่องมะเร็ง นับถือจริงๆ) ด้วยความปรารถนาดี ...โค้ชนาตาลี ❤️❤️ อ่านต่อ... From the book: Never Fear Cancer again by Raymond Francis .......... Fluoride Fluoride both switches on and drives cancer. Federal health officials continue to call fluoridation one of the ten great public-health achievements of the twentieth century, while it has long been known as one of our greatest public-health blunders. The scientific evidence that fluoride causes cancer is overwhelming, and this has been known for decades, despite attempts to obscure it. 💉💉 For example, recorded in the Congressional Record of 21 July 1976, the chief chemist of the National Cancer Institute, Dr. Dean Burke, stated before Congress, “In point of fact, fluoride causes more cancer death, and causes it faster than any other chemical.” ☠️☠️ Fluoride is a general cellular poison, doing catastrophic biological damage that is beyond the scope of this chapter to describe, yet many of us are now ingesting daily amounts that far exceed even the government’s inadequate safety standards. Hundreds of studies have found a connection between fluoride and cancer; cities that fluoridate their water have significantly more cancer deaths than cities that do not fluoridate. ☠️☠️ ***Fluoride causes cancer by reacting with enzymes, changing their shape and disabling them.*** ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ด้วยรักและยาสีฟัน เวชหนุ่ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าเพิ่งด่วนเชื่อองค์การอนามัยโลกไปทุกเรื่อง:

    https://www.blockdit.com/posts/64a0e1755ede9bdd237f4dc1?fbclid=IwY2xjawGUWCdleHRuA2FlbQIxMAABHZbO9eS1SqOH3j0KuqwW28WWHA-vzOIbPE3QS2acWAZV4W2h--Do3hM4HQ_aem_nIQZ4b60joZGqhchXQ2veQ
    อย่าเพิ่งด่วนเชื่อองค์การอนามัยโลกไปทุกเรื่อง: https://www.blockdit.com/posts/64a0e1755ede9bdd237f4dc1?fbclid=IwY2xjawGUWCdleHRuA2FlbQIxMAABHZbO9eS1SqOH3j0KuqwW28WWHA-vzOIbPE3QS2acWAZV4W2h--Do3hM4HQ_aem_nIQZ4b60joZGqhchXQ2veQ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ตอนนั้น​ ถึงขั้น​ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม**

    (โพสต์​นี้​ รูปแรก ใช้รูปของคนอื่นประกอบ​ เพราะตอนที่พาสปอร์ต​ตก​ในห้องน้ำ​ ตกใจอยู่​ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้)​

    มีครั้งหนึ่งที่ผมไป #ไต้หวัน ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่เมือง #เกาสง เพื่อขึ้น #รถไฟความเร็วสูง กลับไปที่ #ไทเป ด้วยความเร่งรีบ ผมจึงลืมปิดกระเป๋าพอเดินไปเข้าห้องน้ำที่พื้นมีน้ำนองอยู่ที่พื้น สูงประมาณครึ่งซม. พาสปอร์ตที่อยู่ในกระเป๋า ก็หล่นลงไปที่พื้น ที่มีน้ำเจิ่งนอง

    ตอนนั้นผมใจหายวาบ รีบเก็บเล่มพาสปอร์ตขึ้นมาดู และ คิดในใจว่า "งานต้องเข้าแล้ว" คิดว่า "คงต้องไปทำธุระแทนที่จะได้เที่ยวแล้ว"

    แต่พอเช็คดู เล่มพาสปอร์ตยังปกติยังไม่ทันเปียกน้ำ เพราะผมใช้ Passport Holder แบรนด์ Signature ที่ตัวปกกันน้ำได้ และมีความหนาพอควร จึงทำให้น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นประมาณครึ่งซม. ยังไม่ทันเข้าไปโดนตัวเล่ม จึงรอดไป จากงานที่จ่อเตรียมเข้า

    จึงทำให้ผมคิดได้ว่า หากตอนนั้นไม่ได้ใช้ Passport Holder และ เล่มพาสปอร์ตเกิดเปียก ผมควรต้องทำอย่าไรบ้างเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงทำให้เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพราะตอนไปต่างประเทศ เราก็ต้องสัมผัสกับน้ำ และเข้าห้องน้ำทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดปัญหา #พาสปอร์ตตกน้ำ หรือ #พาสปอร์ตเปียก น้ำได้ง่ายกว่า ปัญหารูปแบบอื่นๆ

    ---------

    4 ขั้นตอน หลังพบว่า #เล่มพาสปอร์ตเปียก ตอนอยู่ต่างประเทศ

    1. รีบเช็ดให้แห้ง และ ตรวจสอบความเสียหาย

    นำพาสปอร์ตออกจากน้ำทันที เช็ดน้ำออกให้มากที่สุด ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำ

    เมื่อซับน้ำแล้ว ให้วางพาสปอร์ตในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เพื่อป้องกัน "กระดาษย่นหรือ ซีลพลาสติกพัง" ที่จะส่งผลให้ เล่มพาสปอร์ตทำงานไม่ได้

    2. ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้แห้ง ก่อนที่เล่มจะเสียหาย

    หากมีไดร์เป่าผม สามารถใช้ "ไดร์เป่า ลมเย็น" เป่าพาสปอร์ตเพื่อช่วยให้น้ำแห้งเร็วขึ้น ** ห้ามใช้ลมร้อนโดยเด็ดขาด** เพราะอาจทำให้พาสปอร์ต เสียหายมากกว่าเดิม

    ถ้ามีซองดูดความชื้นให้ใส่พาสปอร์ตในถุงพร้อมซองดูดความชื้น วิธีนี้จะช่วยให้พาสปอร์ตแห้งโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียรูป

    3. ตรวจสอบความชัดเจน ของข้อมูลบนพาสปอร์ต

    ตรวจสอบ "หน้าแรกที่มีรูปถ่าย และ ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่ายังชัดเจนดีไหม" ถ้าหมึกเลือนหรือเสียหาย การยืนยันตัวตนอาจมีปัญหาเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าออกระหว่างประเทศ

    หากข้อมูลเริ่มไม่ชัดเจนหรือพาสปอร์ตบวมจากความชื้น ควรเตรียมตัวขอเอกสารใหม่

    4. ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย​ ในประเทศนั้นๆ

    ควรรีบติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยใกล้ที่สุด แจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำ หากจำเป็นอาจต้อง ขอเอกสารชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย

    ทางสถานทูตจะช่วยเหลือในการออก #เอกสารทดแทน (Emergency Travel Document) ซึ่งสามารถใช้แทนพาสปอร์ตในกรณีฉุกเฉิน

    ---------

    #พาสปอร์ต ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญสูงสุด ในการเดินทางต่างประเทศ การป้องกันความเสียหายแก่เอกสารนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นงานที่ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

    หากคุณกำลังมองหา #PassportHolder ที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง สีสันสวยงาม มี 17 สีให้เลือกสรร การตัดเย็บดีเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังออกแบบให้สนับสนุนการจัดเก็บและจัดการเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คุณสะดวกในการใช้งาน

    The Signature Passport Holder อาจเป็น Passport Holder ที่ตอบโจทย์ของคุณ

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes

    --------

    เพิ่มเติม

    ตัวอย่างปรากฏการณ์จริง ที่แสดงให้เห็นว่า พอ #พาสปอร์ตเปียกน้ำ แล้วยุ่งยาก เสี่ยงทริปล่มแค่ไหน อ่านได้ ตามลิงค์ด้านล่าง

    https://www.facebook.com/TravelNews.th/posts/pfbid02mdjSeF6DMwgDxj5UkzVhwJ7sFWEerVjas3Zuz2Ax67XGwUD6meH3NXC8JjW2RHpBl

    ขอบคุณข้อมูลจากเพจ #TravelNews ครับ
    **ตอนนั้น​ ถึงขั้น​ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม** (โพสต์​นี้​ รูปแรก ใช้รูปของคนอื่นประกอบ​ เพราะตอนที่พาสปอร์ต​ตก​ในห้องน้ำ​ ตกใจอยู่​ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้)​ มีครั้งหนึ่งที่ผมไป #ไต้หวัน ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่เมือง #เกาสง เพื่อขึ้น #รถไฟความเร็วสูง กลับไปที่ #ไทเป ด้วยความเร่งรีบ ผมจึงลืมปิดกระเป๋าพอเดินไปเข้าห้องน้ำที่พื้นมีน้ำนองอยู่ที่พื้น สูงประมาณครึ่งซม. พาสปอร์ตที่อยู่ในกระเป๋า ก็หล่นลงไปที่พื้น ที่มีน้ำเจิ่งนอง ตอนนั้นผมใจหายวาบ รีบเก็บเล่มพาสปอร์ตขึ้นมาดู และ คิดในใจว่า "งานต้องเข้าแล้ว" คิดว่า "คงต้องไปทำธุระแทนที่จะได้เที่ยวแล้ว" แต่พอเช็คดู เล่มพาสปอร์ตยังปกติยังไม่ทันเปียกน้ำ เพราะผมใช้ Passport Holder แบรนด์ Signature ที่ตัวปกกันน้ำได้ และมีความหนาพอควร จึงทำให้น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นประมาณครึ่งซม. ยังไม่ทันเข้าไปโดนตัวเล่ม จึงรอดไป จากงานที่จ่อเตรียมเข้า จึงทำให้ผมคิดได้ว่า หากตอนนั้นไม่ได้ใช้ Passport Holder และ เล่มพาสปอร์ตเกิดเปียก ผมควรต้องทำอย่าไรบ้างเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงทำให้เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพราะตอนไปต่างประเทศ เราก็ต้องสัมผัสกับน้ำ และเข้าห้องน้ำทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดปัญหา #พาสปอร์ตตกน้ำ หรือ #พาสปอร์ตเปียก น้ำได้ง่ายกว่า ปัญหารูปแบบอื่นๆ --------- 4 ขั้นตอน หลังพบว่า #เล่มพาสปอร์ตเปียก ตอนอยู่ต่างประเทศ 1. รีบเช็ดให้แห้ง และ ตรวจสอบความเสียหาย นำพาสปอร์ตออกจากน้ำทันที เช็ดน้ำออกให้มากที่สุด ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำ เมื่อซับน้ำแล้ว ให้วางพาสปอร์ตในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เพื่อป้องกัน "กระดาษย่นหรือ ซีลพลาสติกพัง" ที่จะส่งผลให้ เล่มพาสปอร์ตทำงานไม่ได้ 2. ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้แห้ง ก่อนที่เล่มจะเสียหาย หากมีไดร์เป่าผม สามารถใช้ "ไดร์เป่า ลมเย็น" เป่าพาสปอร์ตเพื่อช่วยให้น้ำแห้งเร็วขึ้น ** ห้ามใช้ลมร้อนโดยเด็ดขาด** เพราะอาจทำให้พาสปอร์ต เสียหายมากกว่าเดิม ถ้ามีซองดูดความชื้นให้ใส่พาสปอร์ตในถุงพร้อมซองดูดความชื้น วิธีนี้จะช่วยให้พาสปอร์ตแห้งโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียรูป 3. ตรวจสอบความชัดเจน ของข้อมูลบนพาสปอร์ต ตรวจสอบ "หน้าแรกที่มีรูปถ่าย และ ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่ายังชัดเจนดีไหม" ถ้าหมึกเลือนหรือเสียหาย การยืนยันตัวตนอาจมีปัญหาเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าออกระหว่างประเทศ หากข้อมูลเริ่มไม่ชัดเจนหรือพาสปอร์ตบวมจากความชื้น ควรเตรียมตัวขอเอกสารใหม่ 4. ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย​ ในประเทศนั้นๆ ควรรีบติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยใกล้ที่สุด แจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำ หากจำเป็นอาจต้อง ขอเอกสารชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย ทางสถานทูตจะช่วยเหลือในการออก #เอกสารทดแทน (Emergency Travel Document) ซึ่งสามารถใช้แทนพาสปอร์ตในกรณีฉุกเฉิน --------- #พาสปอร์ต ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญสูงสุด ในการเดินทางต่างประเทศ การป้องกันความเสียหายแก่เอกสารนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นงานที่ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ หากคุณกำลังมองหา #PassportHolder ที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง สีสันสวยงาม มี 17 สีให้เลือกสรร การตัดเย็บดีเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังออกแบบให้สนับสนุนการจัดเก็บและจัดการเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คุณสะดวกในการใช้งาน The Signature Passport Holder อาจเป็น Passport Holder ที่ตอบโจทย์ของคุณ #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes -------- เพิ่มเติม ตัวอย่างปรากฏการณ์จริง ที่แสดงให้เห็นว่า พอ #พาสปอร์ตเปียกน้ำ แล้วยุ่งยาก เสี่ยงทริปล่มแค่ไหน อ่านได้ ตามลิงค์ด้านล่าง https://www.facebook.com/TravelNews.th/posts/pfbid02mdjSeF6DMwgDxj5UkzVhwJ7sFWEerVjas3Zuz2Ax67XGwUD6meH3NXC8JjW2RHpBl ขอบคุณข้อมูลจากเพจ #TravelNews ครับ
    Like
    1
    6 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ตอนนั้น​ ถึงขั้น​ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม**

    (โพสต์​นี้​ รูปแรก ใช้รูปของคนอื่นประกอบ​ เพราะตอนที่พาสปอร์ต​ตก​ในห้องน้ำ​ ตกใจอยู่​ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้)​

    มีครั้งหนึ่งที่ผมไป #ไต้หวัน ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่เมือง #เกาสง เพื่อขึ้น #รถไฟความเร็วสูง กลับไปที่ #ไทเป ด้วยความเร่งรีบ ผมจึงลืมปิดกระเป๋าพอเดินไปเข้าห้องน้ำที่พื้นมีน้ำนองอยู่ที่พื้น สูงประมาณครึ่งซม. พาสปอร์ตที่อยู่ในกระเป๋า ก็หล่นลงไปที่พื้น ที่มีน้ำเจิ่งนอง

    ตอนนั้นผมใจหายวาบ รีบเก็บเล่มพาสปอร์ตขึ้นมาดู และ คิดในใจว่า "งานต้องเข้าแล้ว" คิดว่า "คงต้องไปทำธุระแทนที่จะได้เที่ยวแล้ว"

    แต่พอเช็คดู เล่มพาสปอร์ตยังปกติยังไม่ทันเปียกน้ำ เพราะผมใช้ Passport Holder แบรนด์ Signature ที่ตัวปกกันน้ำได้ และมีความหนาพอควร จึงทำให้น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นประมาณครึ่งซม. ยังไม่ทันเข้าไปโดนตัวเล่ม จึงรอดไป จากงานที่จ่อเตรียมเข้า

    จึงทำให้ผมคิดได้ว่า หากตอนนั้นไม่ได้ใช้ Passport Holder และ เล่มพาสปอร์ตเกิดเปียก ผมควรต้องทำอย่าไรบ้างเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงทำให้เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพราะตอนไปต่างประเทศ เราก็ต้องสัมผัสกับน้ำ และเข้าห้องน้ำทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดปัญหา #พาสปอร์ตตกน้ำ หรือ #พาสปอร์ตเปียก น้ำได้ง่ายกว่า ปัญหารูปแบบอื่นๆ

    ---------

    4 ขั้นตอน หลังพบว่า #เล่มพาสปอร์ตเปียก ตอนอยู่ต่างประเทศ

    1. รีบเช็ดให้แห้ง และ ตรวจสอบความเสียหาย

    นำพาสปอร์ตออกจากน้ำทันที เช็ดน้ำออกให้มากที่สุด ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำ

    เมื่อซับน้ำแล้ว ให้วางพาสปอร์ตในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เพื่อป้องกัน "กระดาษย่นหรือ ซีลพลาสติกพัง" ที่จะส่งผลให้ เล่มพาสปอร์ตทำงานไม่ได้

    2. ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้แห้ง ก่อนที่เล่มจะเสียหาย

    หากมีไดร์เป่าผม สามารถใช้ "ไดร์เป่า ลมเย็น" เป่าพาสปอร์ตเพื่อช่วยให้น้ำแห้งเร็วขึ้น ** ห้ามใช้ลมร้อนโดยเด็ดขาด** เพราะอาจทำให้พาสปอร์ต เสียหายมากกว่าเดิม

    ถ้ามีซองดูดความชื้นให้ใส่พาสปอร์ตในถุงพร้อมซองดูดความชื้น วิธีนี้จะช่วยให้พาสปอร์ตแห้งโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียรูป

    3. ตรวจสอบความชัดเจน ของข้อมูลบนพาสปอร์ต

    ตรวจสอบ "หน้าแรกที่มีรูปถ่าย และ ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่ายังชัดเจนดีไหม" ถ้าหมึกเลือนหรือเสียหาย การยืนยันตัวตนอาจมีปัญหาเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าออกระหว่างประเทศ

    หากข้อมูลเริ่มไม่ชัดเจนหรือพาสปอร์ตบวมจากความชื้น ควรเตรียมตัวขอเอกสารใหม่

    4. ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย​ ในประเทศนั้นๆ

    ควรรีบติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยใกล้ที่สุด แจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำ หากจำเป็นอาจต้อง ขอเอกสารชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย

    ทางสถานทูตจะช่วยเหลือในการออก #เอกสารทดแทน (Emergency Travel Document) ซึ่งสามารถใช้แทนพาสปอร์ตในกรณีฉุกเฉิน

    ---------

    #พาสปอร์ต ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญสูงสุด ในการเดินทางต่างประเทศ การป้องกันความเสียหายแก่เอกสารนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นงานที่ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

    หากคุณกำลังมองหา #PassportHolder ที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง สีสันสวยงาม มี 17 สีให้เลือกสรร การตัดเย็บดีเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังออกแบบให้สนับสนุนการจัดเก็บและจัดการเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คุณสะดวกในการใช้งาน

    The Signature Passport Holder อาจเป็น Passport Holder ที่ตอบโจทย์ของคุณ

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ

    -------

    เพิ่มเติม

    ตัวอย่างปรากฏการณ์จริง ที่แสดงให้เห็นว่า พอ #พาสปอร์ตเปียกน้ำ แล้วยุ่งยาก เสี่ยงทริปล่มแค่ไหน อ่านได้ ตามลิงค์ด้านล่าง

    https://www.facebook.com/TravelNews.th/posts/pfbid02mdjSeF6DMwgDxj5UkzVhwJ7sFWEerVjas3Zuz2Ax67XGwUD6meH3NXC8JjW2RHpBl

    ขอบคุณข้อมูลจากเพจ #TravelNews ครับ
    **ตอนนั้น​ ถึงขั้น​ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม** (โพสต์​นี้​ รูปแรก ใช้รูปของคนอื่นประกอบ​ เพราะตอนที่พาสปอร์ต​ตก​ในห้องน้ำ​ ตกใจอยู่​ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้)​ มีครั้งหนึ่งที่ผมไป #ไต้หวัน ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่เมือง #เกาสง เพื่อขึ้น #รถไฟความเร็วสูง กลับไปที่ #ไทเป ด้วยความเร่งรีบ ผมจึงลืมปิดกระเป๋าพอเดินไปเข้าห้องน้ำที่พื้นมีน้ำนองอยู่ที่พื้น สูงประมาณครึ่งซม. พาสปอร์ตที่อยู่ในกระเป๋า ก็หล่นลงไปที่พื้น ที่มีน้ำเจิ่งนอง ตอนนั้นผมใจหายวาบ รีบเก็บเล่มพาสปอร์ตขึ้นมาดู และ คิดในใจว่า "งานต้องเข้าแล้ว" คิดว่า "คงต้องไปทำธุระแทนที่จะได้เที่ยวแล้ว" แต่พอเช็คดู เล่มพาสปอร์ตยังปกติยังไม่ทันเปียกน้ำ เพราะผมใช้ Passport Holder แบรนด์ Signature ที่ตัวปกกันน้ำได้ และมีความหนาพอควร จึงทำให้น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นประมาณครึ่งซม. ยังไม่ทันเข้าไปโดนตัวเล่ม จึงรอดไป จากงานที่จ่อเตรียมเข้า จึงทำให้ผมคิดได้ว่า หากตอนนั้นไม่ได้ใช้ Passport Holder และ เล่มพาสปอร์ตเกิดเปียก ผมควรต้องทำอย่าไรบ้างเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงทำให้เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพราะตอนไปต่างประเทศ เราก็ต้องสัมผัสกับน้ำ และเข้าห้องน้ำทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดปัญหา #พาสปอร์ตตกน้ำ หรือ #พาสปอร์ตเปียก น้ำได้ง่ายกว่า ปัญหารูปแบบอื่นๆ --------- 4 ขั้นตอน หลังพบว่า #เล่มพาสปอร์ตเปียก ตอนอยู่ต่างประเทศ 1. รีบเช็ดให้แห้ง และ ตรวจสอบความเสียหาย นำพาสปอร์ตออกจากน้ำทันที เช็ดน้ำออกให้มากที่สุด ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำ เมื่อซับน้ำแล้ว ให้วางพาสปอร์ตในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เพื่อป้องกัน "กระดาษย่นหรือ ซีลพลาสติกพัง" ที่จะส่งผลให้ เล่มพาสปอร์ตทำงานไม่ได้ 2. ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้แห้ง ก่อนที่เล่มจะเสียหาย หากมีไดร์เป่าผม สามารถใช้ "ไดร์เป่า ลมเย็น" เป่าพาสปอร์ตเพื่อช่วยให้น้ำแห้งเร็วขึ้น ** ห้ามใช้ลมร้อนโดยเด็ดขาด** เพราะอาจทำให้พาสปอร์ต เสียหายมากกว่าเดิม ถ้ามีซองดูดความชื้นให้ใส่พาสปอร์ตในถุงพร้อมซองดูดความชื้น วิธีนี้จะช่วยให้พาสปอร์ตแห้งโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียรูป 3. ตรวจสอบความชัดเจน ของข้อมูลบนพาสปอร์ต ตรวจสอบ "หน้าแรกที่มีรูปถ่าย และ ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่ายังชัดเจนดีไหม" ถ้าหมึกเลือนหรือเสียหาย การยืนยันตัวตนอาจมีปัญหาเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าออกระหว่างประเทศ หากข้อมูลเริ่มไม่ชัดเจนหรือพาสปอร์ตบวมจากความชื้น ควรเตรียมตัวขอเอกสารใหม่ 4. ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย​ ในประเทศนั้นๆ ควรรีบติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยใกล้ที่สุด แจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำ หากจำเป็นอาจต้อง ขอเอกสารชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย ทางสถานทูตจะช่วยเหลือในการออก #เอกสารทดแทน (Emergency Travel Document) ซึ่งสามารถใช้แทนพาสปอร์ตในกรณีฉุกเฉิน --------- #พาสปอร์ต ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญสูงสุด ในการเดินทางต่างประเทศ การป้องกันความเสียหายแก่เอกสารนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นงานที่ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ หากคุณกำลังมองหา #PassportHolder ที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง สีสันสวยงาม มี 17 สีให้เลือกสรร การตัดเย็บดีเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังออกแบบให้สนับสนุนการจัดเก็บและจัดการเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คุณสะดวกในการใช้งาน The Signature Passport Holder อาจเป็น Passport Holder ที่ตอบโจทย์ของคุณ #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ ------- เพิ่มเติม ตัวอย่างปรากฏการณ์จริง ที่แสดงให้เห็นว่า พอ #พาสปอร์ตเปียกน้ำ แล้วยุ่งยาก เสี่ยงทริปล่มแค่ไหน อ่านได้ ตามลิงค์ด้านล่าง https://www.facebook.com/TravelNews.th/posts/pfbid02mdjSeF6DMwgDxj5UkzVhwJ7sFWEerVjas3Zuz2Ax67XGwUD6meH3NXC8JjW2RHpBl ขอบคุณข้อมูลจากเพจ #TravelNews ครับ
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพวิดีโอใหม่แบบไม่เซ็นเซอร์
    ชายวัย 25 ปี ซึ่งเป็นแฟนบอลทีมดอดเจอร์สได้รับบาดเจ็บที่มืออย่างรุนแรง ขณะพยายามจุดพลุไฟเพื่อฉลองชัยชนะในเวิลด์ซีรีส์ของทีมดอดเจอร์สเหนือทีมแยงกี้

    ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนครลอสแองเจลิส แฟนบอลรายดังกล่าว "ได้รับบาดเจ็บที่มือย่างรุนแรง"
    .
    ลิ้งค์ข่าวเมื่อเช้า
    https://thaitimes.co/posts/86631
    ภาพวิดีโอใหม่แบบไม่เซ็นเซอร์ ชายวัย 25 ปี ซึ่งเป็นแฟนบอลทีมดอดเจอร์สได้รับบาดเจ็บที่มืออย่างรุนแรง ขณะพยายามจุดพลุไฟเพื่อฉลองชัยชนะในเวิลด์ซีรีส์ของทีมดอดเจอร์สเหนือทีมแยงกี้ ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนครลอสแองเจลิส แฟนบอลรายดังกล่าว "ได้รับบาดเจ็บที่มือย่างรุนแรง" . ลิ้งค์ข่าวเมื่อเช้า https://thaitimes.co/posts/86631
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 74 0 รีวิว
  • 'ดร.นิว' แฉความลับกัมพูชาที่คนไทยควรรู้!

    31 ต.ค.2567 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ความลับกัมพูชาที่คนไทยทุกคนควรต้องรู้” ระบุว่า กัมพูชาเป็นเพียงประเทศเดียวในภูมิภาคแทบนี้ ที่ไม่ยอมเข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 หรือ United Nations Convention on the Law Of the Sea (UNCLOS) อ่านออกเสียงตัวอักษรย่อ UNCLOS ว่า "อันโคลซ" ซึ่งปัจจุบันนับได้ว่าเป็นอนุสัญญาสหประชาชาติสำคัญ เป็นที่ยอมรับในการแบ่งเขตแดนทางทะเลของแต่ละประเทศอันเป็นหลักสากล โปร่งใส และมีความเป็นธรรม สามารถช่วยแก้ไข ตลอดจนระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างประเทศได้อย่างสันติ

    เหตุผลประการสำคัญที่กัมพูชาไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS เป็นเพราะทางกัมพูชาทราบดีว่าจะเสียเปรียบในการเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน โดย ดร.วันนาริธ ชเฮียง นักวิชาการชื่อดังชาวกัมพูชาเป็นผู้ยอมรับเอง ยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชากลัวการเข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล UNCLOS จะทำให้กัมพูชาเสียเปรียบในการเจรจากำหนดเขตแดนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังที่กัมพูชาพยายามอ้างสิทธิ์ตามเส้นเขตแดนที่ลากขึ้นในสมัยที่ยังเป็นรัฐอารักขาของประเทศฝรั่งเศส

    เมื่อทราบความจริงดังนี้ ประเทศไทยของเราจึงไม่ควรเจรจากับกัมพูชาเป็นอย่างยิ่งตราบใดที่กัมพูชายังไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS เพราะไทยจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสียเองหากยังคงยึดข้อพิพาทเดิมตามแนวทาง MOU 2544 ที่ล้าสมัยไปแล้ว ขนาดรัฐบาลกัมพูชายังไม่ยอมเสียเปรียบไทย ถ้ารัฐบาลไทยยอมเสียเปรียบกัมพูชา ยอมยกผลประโยชน์ของประเทศชาติและปวงชนชาวไทยมูลค่านับล้านล้านบาทให้กับกัมพูชา กล้าเสนอหน้าไปเจรจาโดยที่กัมพูชายังไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS จะเรียกว่า "โง่" หรือ "ขายชาติ" ดีครับ?

    ดังนั้น UNCLOS จึงเป็นหลักสำคัญในการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชา ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนจะจบลงทันที เพราะเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาภายใต้ UNCLOS เป็นสากลอยู่แล้ว สิ่งที่เหลือให้ไทยและกัมพูชายังต้องเจรจาตกลงกัน คือ หลุมน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่วางตัวอยู่ในแนวเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลของทั้งสองประเทศ นอกจากไทยเราจะไม่เสียเกาะกูดเป็นแน่แล้ว ยังจะสามารถครองพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นข้อพิพาท รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติในท้องทะเล ทั้งน้ำมันดิบและก๊าชธรรมชาติส่วนใหญ่จะตกเป็นของไทย
    ขนาดนักวิชาการกัมพูชายังยืนยันชัดเจนว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่เข้าร่วม UNCLOS เพราะกลัวเสียเปรียบ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนจึงควรตระหนักรู้เกี่ยวกับ UNCLOS เพื่อให้รัฐบาลไทยยื่นข้อเสนอให้กัมพูชาเข้าร่วม UNCLOS เสียก่อนเท่านั้น แล้วจึงค่อยเปิดการเจรจาที่เป็นธรรม!

    ที่มา https://www.thaipost.net/x-cite-news/682589/

    #Thaitimes
    'ดร.นิว' แฉความลับกัมพูชาที่คนไทยควรรู้! 31 ต.ค.2567 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ความลับกัมพูชาที่คนไทยทุกคนควรต้องรู้” ระบุว่า กัมพูชาเป็นเพียงประเทศเดียวในภูมิภาคแทบนี้ ที่ไม่ยอมเข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 หรือ United Nations Convention on the Law Of the Sea (UNCLOS) อ่านออกเสียงตัวอักษรย่อ UNCLOS ว่า "อันโคลซ" ซึ่งปัจจุบันนับได้ว่าเป็นอนุสัญญาสหประชาชาติสำคัญ เป็นที่ยอมรับในการแบ่งเขตแดนทางทะเลของแต่ละประเทศอันเป็นหลักสากล โปร่งใส และมีความเป็นธรรม สามารถช่วยแก้ไข ตลอดจนระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างประเทศได้อย่างสันติ เหตุผลประการสำคัญที่กัมพูชาไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS เป็นเพราะทางกัมพูชาทราบดีว่าจะเสียเปรียบในการเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน โดย ดร.วันนาริธ ชเฮียง นักวิชาการชื่อดังชาวกัมพูชาเป็นผู้ยอมรับเอง ยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชากลัวการเข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล UNCLOS จะทำให้กัมพูชาเสียเปรียบในการเจรจากำหนดเขตแดนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังที่กัมพูชาพยายามอ้างสิทธิ์ตามเส้นเขตแดนที่ลากขึ้นในสมัยที่ยังเป็นรัฐอารักขาของประเทศฝรั่งเศส เมื่อทราบความจริงดังนี้ ประเทศไทยของเราจึงไม่ควรเจรจากับกัมพูชาเป็นอย่างยิ่งตราบใดที่กัมพูชายังไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS เพราะไทยจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสียเองหากยังคงยึดข้อพิพาทเดิมตามแนวทาง MOU 2544 ที่ล้าสมัยไปแล้ว ขนาดรัฐบาลกัมพูชายังไม่ยอมเสียเปรียบไทย ถ้ารัฐบาลไทยยอมเสียเปรียบกัมพูชา ยอมยกผลประโยชน์ของประเทศชาติและปวงชนชาวไทยมูลค่านับล้านล้านบาทให้กับกัมพูชา กล้าเสนอหน้าไปเจรจาโดยที่กัมพูชายังไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS จะเรียกว่า "โง่" หรือ "ขายชาติ" ดีครับ? ดังนั้น UNCLOS จึงเป็นหลักสำคัญในการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชา ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนจะจบลงทันที เพราะเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาภายใต้ UNCLOS เป็นสากลอยู่แล้ว สิ่งที่เหลือให้ไทยและกัมพูชายังต้องเจรจาตกลงกัน คือ หลุมน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่วางตัวอยู่ในแนวเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลของทั้งสองประเทศ นอกจากไทยเราจะไม่เสียเกาะกูดเป็นแน่แล้ว ยังจะสามารถครองพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นข้อพิพาท รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติในท้องทะเล ทั้งน้ำมันดิบและก๊าชธรรมชาติส่วนใหญ่จะตกเป็นของไทย ขนาดนักวิชาการกัมพูชายังยืนยันชัดเจนว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่เข้าร่วม UNCLOS เพราะกลัวเสียเปรียบ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนจึงควรตระหนักรู้เกี่ยวกับ UNCLOS เพื่อให้รัฐบาลไทยยื่นข้อเสนอให้กัมพูชาเข้าร่วม UNCLOS เสียก่อนเท่านั้น แล้วจึงค่อยเปิดการเจรจาที่เป็นธรรม! ที่มา https://www.thaipost.net/x-cite-news/682589/ #Thaitimes
    WWW.THAIPOST.NET
    'ดร.นิว' แฉความลับกัมพูชาที่คนไทยควรรู้!
    ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 0 รีวิว
  • จ้างเชอ ธรรมเนียมกีดขวางรถเจ้าสาว

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับเกร็ดเล็กๆ ว่าด้วยการแต่งงานจีนโบราณ

    เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> คงจำได้ว่าในฉากที่องค์หญิงหลี่หรงแต่งงานนั้น องค์ชายรัชทายาทหลี่ชวนได้นั่งรถม้านำขบวนรถเจ้าสาวพร้อมโปรยเงินให้ชาวบ้านที่มาอออยู่เต็มถนน จริงๆ แล้วพวกชาวบ้านไม่ได้มารอรับขบวนเสด็จขององค์หญิง หากแต่มันเป็นประเพณีการกีดขวางรถเจ้าสาวหรือที่เรียกว่า ‘จ้างเชอ’ (障车 แปลตรงตัวว่า ขวางรถ)

    พวกเราส่วนใหญ่คุ้นเคยกับประเพณีการกั้นประตูตอนเจ้าบ่าวมารับตัวเจ้าสาว ซึ่งเป็นการกั้นก่อนที่เจ้าบ่าวจะเข้าถึงตัวเจ้าสาว แต่การกีดขวางรถเจ้าสาวหรือจ้างเชอนี้เป็นการกีดขวางขบวนรถเจ้าสาวหลังจากที่เจ้าบ่าวรับตัวเจ้าสาวแล้วและกำลังจะพาเจ้าสาวเดินทางกลับบ้านเจ้าบ่าวเพื่อเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ทั้งนี้ ตามประเพณีดั้งเดิม การกีดขวางรถนี้เป็นการกระทำโดยครอบครัวฝ่ายหญิงเพื่อแสดงออกถึงความอาลัยอาวรณ์ในตัวเจ้าสาว

    แต่เดิมในสมัยโบราณนั้น พิธีการแต่งงานจะเน้นเรียบขรึมสุขุมเพราะมองว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ครึกครื้นเอิกเกริกและไม่มีการกีดขวางขบวนเจ้าสาว ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้จึงเกิดประเพณีกีดขวางขบวนเจ้าสาวหรือจ้างเชอนี้ขึ้น และเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยสุยและถัง โดยในสมัยถังนั้น เป็นยุคสมัยที่เน้นความครึกครื้นและนิยมการแต่งกลอน มีการให้เจ้าบ่าวแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวหรือ ‘ชุยจวงซือ’ ก่อนจะเข้าถึงตัวเจ้าสาวได้ (Storyฯ เคยเขียนถึงธรรมเนียมคล้ายคลึงกันในสมัยซ่ง https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid05s41d5RQU7QjyxytQ3KKM5YDxA5cE2wNCLQDJZtP6YXRh844ki7rSrhXaGPr3zLil) และเมื่อรับตัวเจ้าสาวแล้วก็จะถูกกั้นขบวนหรือจ้างเชอ และเจ้าบ่าวต้องแต่งกลอนเพื่อขอให้เปิดทาง ต่อมาพัฒนามาเป็นการกีดขวางเพื่อให้ฝ่ายชายต้องจ่ายเงินก่อนจะพาขบวนรถเจ้าสาวออกไปได้และอาจแห่กันมายืนออกันทั้งหมู่บ้าน ไม่ใช่แค่ครอบครัวของเจ้าสาว

    และเมื่อมาถึงบ้านเจ้าบ่าวแล้ว ในสมัยถังจะมีการเดินบนพรมที่มีคนนำมาสลับวางอย่างที่เห็นในเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> เรียกว่า ‘จ่วนสี’ (转席) เป็นเคล็ดว่าให้สืบทอดรุ่นต่อรุ่น

    แน่นอนว่าธรรมเนียมปฏิบัติเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและตามพื้นที่ จากเดิมใช้รถม้ารับเจ้าสาวก็เปลี่ยนมาเป็นใช้เกี้ยวในสมัยซ่ง และในบางพื้นที่ก็เปลี่ยนจากการให้บ่าวสาวเดินบนพรมที่สลับวางมาเป็นให้เจ้าสาวก้าวข้ามอานม้า (ซึ่งออกเสียงใกล้กับคำว่า ‘อัน’ ที่แปลว่าปลอดภัยสุขสงบ) หรือก้าวข้ามเตาเป็นเคล็ดว่าให้แคล้วคลาดจากสิ่งอัปมงคลแทน
    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://today.line.me/tw/v2/article/x2wrzLn
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://paper.people.com.cn/rmlt/html/2023-07/01/content_26011443.htm
    https://baike.baidu.com/item/障车/1624835
    https://m.thepaper.cn/baijiahao_15953346#:~:text=新娘上了车,女方,之为“转席”。
    https://zqb.cyol.com/html/2020-11/10/nw.D110000zgqnb_20201110_1-10.htm

    #องค์หญิงใหญ่ #พิธีแต่งงานจีนโบราณ #รับตัวเจ้าสาวจีนโบราณ #สาระจีน

    จ้างเชอ ธรรมเนียมกีดขวางรถเจ้าสาว สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับเกร็ดเล็กๆ ว่าด้วยการแต่งงานจีนโบราณ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> คงจำได้ว่าในฉากที่องค์หญิงหลี่หรงแต่งงานนั้น องค์ชายรัชทายาทหลี่ชวนได้นั่งรถม้านำขบวนรถเจ้าสาวพร้อมโปรยเงินให้ชาวบ้านที่มาอออยู่เต็มถนน จริงๆ แล้วพวกชาวบ้านไม่ได้มารอรับขบวนเสด็จขององค์หญิง หากแต่มันเป็นประเพณีการกีดขวางรถเจ้าสาวหรือที่เรียกว่า ‘จ้างเชอ’ (障车 แปลตรงตัวว่า ขวางรถ) พวกเราส่วนใหญ่คุ้นเคยกับประเพณีการกั้นประตูตอนเจ้าบ่าวมารับตัวเจ้าสาว ซึ่งเป็นการกั้นก่อนที่เจ้าบ่าวจะเข้าถึงตัวเจ้าสาว แต่การกีดขวางรถเจ้าสาวหรือจ้างเชอนี้เป็นการกีดขวางขบวนรถเจ้าสาวหลังจากที่เจ้าบ่าวรับตัวเจ้าสาวแล้วและกำลังจะพาเจ้าสาวเดินทางกลับบ้านเจ้าบ่าวเพื่อเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ทั้งนี้ ตามประเพณีดั้งเดิม การกีดขวางรถนี้เป็นการกระทำโดยครอบครัวฝ่ายหญิงเพื่อแสดงออกถึงความอาลัยอาวรณ์ในตัวเจ้าสาว แต่เดิมในสมัยโบราณนั้น พิธีการแต่งงานจะเน้นเรียบขรึมสุขุมเพราะมองว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ครึกครื้นเอิกเกริกและไม่มีการกีดขวางขบวนเจ้าสาว ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้จึงเกิดประเพณีกีดขวางขบวนเจ้าสาวหรือจ้างเชอนี้ขึ้น และเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยสุยและถัง โดยในสมัยถังนั้น เป็นยุคสมัยที่เน้นความครึกครื้นและนิยมการแต่งกลอน มีการให้เจ้าบ่าวแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวหรือ ‘ชุยจวงซือ’ ก่อนจะเข้าถึงตัวเจ้าสาวได้ (Storyฯ เคยเขียนถึงธรรมเนียมคล้ายคลึงกันในสมัยซ่ง https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid05s41d5RQU7QjyxytQ3KKM5YDxA5cE2wNCLQDJZtP6YXRh844ki7rSrhXaGPr3zLil) และเมื่อรับตัวเจ้าสาวแล้วก็จะถูกกั้นขบวนหรือจ้างเชอ และเจ้าบ่าวต้องแต่งกลอนเพื่อขอให้เปิดทาง ต่อมาพัฒนามาเป็นการกีดขวางเพื่อให้ฝ่ายชายต้องจ่ายเงินก่อนจะพาขบวนรถเจ้าสาวออกไปได้และอาจแห่กันมายืนออกันทั้งหมู่บ้าน ไม่ใช่แค่ครอบครัวของเจ้าสาว และเมื่อมาถึงบ้านเจ้าบ่าวแล้ว ในสมัยถังจะมีการเดินบนพรมที่มีคนนำมาสลับวางอย่างที่เห็นในเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> เรียกว่า ‘จ่วนสี’ (转席) เป็นเคล็ดว่าให้สืบทอดรุ่นต่อรุ่น แน่นอนว่าธรรมเนียมปฏิบัติเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและตามพื้นที่ จากเดิมใช้รถม้ารับเจ้าสาวก็เปลี่ยนมาเป็นใช้เกี้ยวในสมัยซ่ง และในบางพื้นที่ก็เปลี่ยนจากการให้บ่าวสาวเดินบนพรมที่สลับวางมาเป็นให้เจ้าสาวก้าวข้ามอานม้า (ซึ่งออกเสียงใกล้กับคำว่า ‘อัน’ ที่แปลว่าปลอดภัยสุขสงบ) หรือก้าวข้ามเตาเป็นเคล็ดว่าให้แคล้วคลาดจากสิ่งอัปมงคลแทน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://today.line.me/tw/v2/article/x2wrzLn Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://paper.people.com.cn/rmlt/html/2023-07/01/content_26011443.htm https://baike.baidu.com/item/障车/1624835 https://m.thepaper.cn/baijiahao_15953346#:~:text=新娘上了车,女方,之为“转席”。 https://zqb.cyol.com/html/2020-11/10/nw.D110000zgqnb_20201110_1-10.htm #องค์หญิงใหญ่ #พิธีแต่งงานจีนโบราณ #รับตัวเจ้าสาวจีนโบราณ #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://community-api-production.whoscall.com/v1/posts/share/973ebd8d-3c65-4683-b3bb-b526be02a2d9
    https://community-api-production.whoscall.com/v1/posts/share/973ebd8d-3c65-4683-b3bb-b526be02a2d9
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 30-10-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.11 ตอน "NEW HERO BORN IN EVERYDAY" ไม่ใช่ MARVEL ไม่ใช่ DC แต่เป็นทหารราชองครักษ์ สั่งสอนเด็กอมมือ ไม่รู้กาลเทศะ มือกัน ไม่ให้เดินเทียบเจ้า ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ รหัสลับ DNA ตามพ่องแม่งเป๊ะเด๊ะ ครั้งนึง ในงานเลี้ยงส่วนพระองค์กับแขกอาคันตุกะทั่วโลก อีพ่อเหลี่ยมไม่ได้ถูกเชิญ แต่เสือกเสนอหน้า อยากจะเกิด แต่เสือกดับกลางหน้าประตูงานเลี้ยง เพราะมันงานเลี้ยงของพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่หน้าที่นายกฯ บรรดากษัตริย์ ราชวงศ์ชั้นสูงจากทั่วโลก แห่กันเข้ามาร่วมแสดงความยินดี อีเหลี่ยมหัวหมอ อยากยกระดับโดยไม่เจียมกะลาหัวตัวเอง เป็นแค่นายกฯ ใต้ตรีนฝ่าพระบาท โดนเจ้าหน้าที่วังถีบออก สั่งไสหัวออกไป นั่นคือจุดเดือด ความเครียดแค้นที่มีต่อวังนับแต่นั้นมา หมายังรู้ มรึงแค่ขี้ข้าเหี้ย CIA ขึ้นมาได้เพราะเงินวอชิงตัน ซื้อเสียงมาทั้งนั้น หลอกควายไทยบัดซบ 10 ล้านเสียง ครั้นอีลูกสาวร่านขึ้นแท่นบ้าง อยากจะเดินตามรอยพ่อเหลี่ยมเหี้ยบ้าง คิดวัดรอยตรีน แต่งวดนี้ หน้าแหก หมอไม่รับเย็บ โดนท่านปีใหม่ เอาแขนกันไว้ ไม่ให้เดินเทียบ ภาษาแถวบ้านเรียก "เสียหมา" ระดับนายก ก็แค่ข้าราชบริพาร อย่าริสะเออะเสนอหน้าเทียบเจ้า มรึงเป็นได้แค่เศษสวะ คิดล้มเจ้าทั้งตระกูล ฝันเปียกไปเหอะ ตระกูลมรึงจะสิ้นชาติพันธุ์ในพศ.นี้แหละ เหมือนทหารแตงโม ถูกแช่ ถูกดองกันเกลื่อนยามนี้ รู้ชะตากรรม วังเล่นบทพระเดชแล้ว อย่าต๊กกะใจ พ่อท่านร.10 ทรงมีเมตตาต่อทุกสรรพสิ่ง แต่จะไม่ละเว้นไอ้อีที่คิดกบฎขายชาติ ขายแผ่นดิน เชื่อกูเหอะว่า "ใครที่พ่อท่านไม่ปลื้ม" มรึงเตรียมเยี่ยวแตกได้เลย ระดับท่านไม่เสียเวลาดอก แค่ราชองครักษ์มรึงก็เละเทะแล้ว วังไม่ใช่เพื่อนเล่นมรึง ดีออก! จำใส่กระโหลกสมองหมาปัญญาควายมรึงไว้ให้ดีดี! กูว่าแล้ว ทรงมันมาชัวร์ ทำไมไทยต้องสร้าง "ซูปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เริ่ดสุด เร็วสุด แรงสุดในอาเซียน" ไทยถูกจีนวางตัวเป็นศูนย์กลางผลิตชิปแห่งอาเซียนนั่นเอง เทคโนโลยีเราได้จากจีนมาเต็มตรีน บวกมันสมองคนไทยที่ต่อยอดสำเร็จ เรากำลังจะกลายเป็นฮับอาเซียน แล้วฮับอาเซียนต้องมีอะไรล่ะ? ศูนย์กลางพลังงาน ศูนย์กลางเทคโนโลยี ศูนย์กลางอาหาร ศูนย์การตลาดอาเซียนเชื่อมโลก ศูนย์กลางเงิน ศูนย์การธนาคารอาเซียน เงินบาทหอมหวล ยังจะแข็งโป๊กได้อีกยาวไป ศูนย์กลางโลจิสติค ขนส่ง ไทยเรามีหมด ที่มาว่าทำไม เมื่อเราโตขึ้น สิ่งที่ตามมาคือภาคแรงงานมหาศาล และเพื่อนบ้านจะแห่กันเข้ามาอยู่เมืองไทยเพี๊ยบ เพราะหาเงินคล้อง เศรษฐกิจพุ่ง การค้าดี มั่นคง ร่มเย็น เป็นสุข แถมของอร่อยมีมากที่สุดในโลก ชีวิตดี๊ดี! ใครมาหลงเสน่ห์หมด ไม่อยากกลับบ้าน ขนาดหมูเด้ง ฮิปโปแคระยังดังระดับจักรวาลมาเวล ใครมาก็แจ้งเกิดได้ง่ายดาย เมืองไทย มันคือ "ที่สุดของที่สุดความหลากหลายโลก" ข้ามมาสู่โลกความเป็นจริงต่อ : อิเหนาโชว์ป๋า! สั่งห้ามขายไอโฟน 16 เพราะผิดเงื่อนไขสัญญา ไม่เป็นตามข้อตกลง ที่ต้องใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ 40% นั่นคือข้ออ้าง แท้จริงคือตบหน้าสั่งสอนเหี้ยนั่นเอง เพราะมันคือเครื่องมือดักฟัง สอดแนมของเหี้ย CIA ใครยังจะโง่ใช้อีไอโฟนอยู่อีก หัวเว่ย มาแรง แซงทะลุนรกไปแล้ว ดีกว่า เริ่ดกว่า แจ่มกว่า คุ้มค่าและประสิทธิภาพเทียบกันไม่ติด 6G กลายเป็นเรื่องรองทันที ยิ่งหัวเว่ยออก HARMONY 5.0 ปฎิบัติการอนาคต ทุบ ANDROID ทิ้งไปเลย มันคือระบบมือถือแห่งอนาคต ที่เชื่อมทั้งโลกเข้าหากันอย่างสมบูรณ์ แถวบ้านกูยังใช้กระป๋องผูกเชือกอยู่เลย เสียงดัง ฟังชัด ยกเว้นตอนฝนตก! ทำไม อิเหนา ถึงได้ช่างกล้าขนาดนี้ คำตอบคือ SU-35/ S-400 กำลังจะเข้ามาเติม พ่วงเรือรบใหม่ เรือดำน้ำนิวเคลียร์ เพราะอิเหนามีหมู่เกาะเยอะมาก เรือดำน้ำจำเป็น และมีท่าเรือน้ำลึกมากมาย ใครจะวัดกับอิเหนา ไม่ง่ายอีกต่อไป อิเหนาพึ่งพาจีนด้านการลงทุน พึ่งพารัสเซีย ด้านพลังงาน อาวุธ เวียดนามตามรอยทันที ไม่แปลก รายชื่อสมาชิกใหม่ BRICS ถึงมีอาเซียนไปโผล่เพี๊ยบ เพราะเค้าคุยกันมาก่อนแล้ว แค่รอดูจังหวะเวลาที่ใช่ ค่อยประกาศตัว? ไอ้สัส! กลัวจุงเบย อย่าขู่กูน่ะ กูยิ่งปอดแหกอยู่ หลังล่าสุด อีวอชิงตันขู่อิหร่าน ห้ามโจมตีกลับอียิวเหี้ยเด็ดขาด หลังเพิ่งจะโชว์โง่ เสียหมา ดาหน้าบินไปถล่มเค้า แต่ถูกสกัดได้หมด หมากว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แต่ดันเสือกกลัวเค้าเอาคืน? อิหร่านกลัวจัด เลยรีบสั่ง 3 ฮอ ดาหน้าถล่มยับทันที ภายใน 24 ชม. ท่าเรือ สนามบิน ศูนย์บัญชาการย่อย คลังแสงย่อย โดนอีก ไม่เหลือเป้าหมายแล้วลวกเพ่? อย่าขู่กูบ่อย มือมันสั่น มือมันลั่น เดี๋ยวมรึงจะตายห่าไม่มีเหลือ แค่กดปุ่ม ชีวิตเปลี่ยนเลยมรึง? ด้านพรมแดนเลบานอน กองทัพอียิวลากสังขารถอยหลังไปอีก 20 กม. จากไปรุกรานเค้า กลับเสียดินแดนหน้าด่านจนเกลี้ยง เลบานอนรุกกลับกินพื้นที่เข้าไปในแผ่นดินมรึงแล้ว งวดนี้ ไม่ต้องถามสื่อ ถามกูนี่แหละ ดอกนี้ อียิวตายห่าไปแล้ว 3000 ตัว ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มาว่าทำไมต้องสั่งเกณฑ์ทหารใหม่เพิ่มรอบที่ 6 เหลือแต่หมาแล้วมั้ง? โลกอาหรับ อิหร่าน คุยกันรู้เรื่อง ค่อยๆ บดขยี้ กินมันไปเรื่อยๆ จนมันอ่อนแรง บีบให้มันย้ายออกไปดีดี จะได้ไม่ต้องสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ ล่าสุด ตัวเลขพลเรือนอิสราเอล ที่เสียชีวิต นับตั้งแต่ฮามาสจุดเค็กวันเกิดฉลอง ตอนนี้ ตายห่าไปแล้วกว่า 30000 ตัว สื่อไม่มาบอกมรึงดอก เพราะมันถูกซากตึกทับตายกันเกลื่อน ส่วนอีไทยเนรคุณ ที่เสือกไปรับจ้างรบให้อิสราเอล ไม่ต้องถาม มันตายห่าตั้งแต่วันแรกแล้ว สูตรอียิว ส่งทหารรับจ้างไปตายห่าก่อน ทหารอียิวเหลือน้อย มีเอาไว้แค่สั่งการ ตายห่าไปเหอะ มรึงไม่ใช่คนไทย แค่อาศัยแผ่นดินพ่อกูมาเกิด แต่ไม่ได้ทำประโยชน์ห่าอะไรให้กับแผ่นดินเกิดมรึงเลย มีแต่จะชักศึกเข้าบ้าน จงตายห่าไปซะน่ะ กูไม่สนชีวิตเหี้ยๆ ของมรึงดอก ไอ้ระยำ?

    ปล.ลุงสนธิ ฝากมาบอก อีชาติชั่ว มรึงเตรียมแดร๊กเยี่ยวแล้วรึยัง? ท้าใครไม่ท้า 71 แก้ว แก้วเดียวมรึงก็อ๊วกแตกแล้ว! กรรมชั่ว ทำระยำ โกหกตอแหล ปลิ้นปล้อน 18 มงกุฎ ตายเพราะปากมรึงเอง! อยู่ดีดี ก็เอาเรตติ้งมาให้สนธิ ทอล์ก NEWS1 พุ่งกระฉูด ทุกสำนักข่าวต้องมาลากไส้อีทนายเหี้ยผ่านลุงสนธิ อาจารย์ปานเทพ เพราะเจ้าทุกข์ขอเอง กูจะคุยกับลุงสนธิเท่านั้น จ่ายค่าจ้างสุดถูก ไวน์ราคา 100 ล้าน ช็อคโกแลตราคาพันล้าน รวยมั้ย ไอ้สัส! บิดเบือนกันจัง ดีออก? เพ่อ้อย สุดท้ายก็ต้องพึ่งคนจริง ใครเดือดร้อน มีที่ไหนที่เป็นปากกระบอกเสียงได้จริง ดังนั้น ตอนนี้ งานเข้า NEWS1 กับอีโหนกระแส อีหนุ่มบอก กูอาจจะตายวันไหนไม่ยู้? ล่อแต่ละดอก ของหนักทั้งนั้น! จำเอาไว้ว่า "อะไรที่โกงเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป" อะไรที่ไม่ใช่ของตน ยึดครองไว้ก็คือคำสาปแช่ง ชีวิตคนแค่ 100 ปี แต่สิ่งที่รอลงโทษมรึงอยู่ ไร้กาลเวลา คุ้มค่ามั้ยล่ะ? เพราะขาดสติ จึงไร้ปัญญา เพราะโลภ จึงมองไม่เห็นความจริง! ไอ้อี ที่เคยอวดมั่ง อวดมี โชว์ป๋า โชว์บินส่วนตัว บ้านคฤหาสน์ มันใช่ของมรึงจริงๆ มั้ยล่ะ? เสพสุขแค่ชั่วคืน เสพคุกทั้งชีวิต อิสรภาพคือสิ่งที่มนุษย์ขาดมิได้ อยากรู้ ให้ไปถามไอ้อีทะลุเหี้ยทั้งหลาย แดร๊กบาทาอร่อยเช้าเย็น ชีวิตบัดซบ ยิ่งกว่าตาย? ล่าสุด ไอ้อี 3 นิ้วครึ่งที่ล้มเจ้า ที่แห่หนีไปต่างแดน ชีวิตตกระกำลำบาก เงินเดือนไม่ให้ ดิ้นรน เลี้ยงปากท้องเอง อยู่แบบผิดกฎหมาย ทำงานไม่ได้ เหี้ยไม่เลี้ยงคือบีบให้กลับบ้านไปตายเอาดาบหน้าไงล่ะ หมาซะยิ่งกว่าหมา ขนาดอีพรรคส้มเน่ายังไม่เหลือ กระแสดิ่งเหว ควายตื่น ไทยบัดซบตื่น โง่กว่าควายคือกู! ชีวิตพอเพียงไม่เอา จะอยากอยู่คุกตลอดชีวิต ความโง่ที่มรึงคู่ควร แค่เศษเงินซื้อมรึงได้ ชีวิตมรึงก็แค่ "ขี้หมา" ไร้ราคา สุดท้ายนี้ ขอไว้อาลัย แด่วีรชน ผู้กล้าทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปก่อนหน้านี้ สิ่งที่ทุกท่านทำไป มันคือคุณประโยชน์ต่อชาติ แผ่นดิน ระลึกถึงเสมอ 7 ตุลาคม มิเคยลืมเลือน เทียนแห่งธรรมถูกจุดขึ้นนับแต่นั้นมา เสียใจกับเพ่โสและครอบครัว ไม่อยากพูด แต่อดไม่ได้ เพ่โส แฉเหี้ยมานมนาน จนคนตื่นรู้ ขออานิสงค์แห่งปัญญาส่งดวงวิญญานผู้กล้าทุกท่าน ไปสู่ดวงดาวแห่งสรวงสวรรค์ ภพภูมิที่ดีกว่านี้ หน้าที่ของท่านจบลงแล้วบนแผ่นดินโลก เป็นหน้าที่รับไม้ต่อสู่ลูกหลานไทย ไม่มีมรึง ก็ไม่มีกู ไม่มีพ่อ ก็ไม่มีแผ่นดิน นี่คือรุ่นสุดท้ายของศตวรรษนี้แล้ว ปลายกลียุค ทุกอย่างของความอัปรีย์จัญไร สิ่งโสมม ทั้งสากลโลก จะต้องจบในพศ.นี้ ต้องจบในรุ่นนี้เท่านั้น จะไม่ปล่อยผ่านไปให้ถึงมือลูกหลานต้องมานั่งแก้ปัญหาต่อเด็ดขาด จบที่กูกับมรึง! ไม่มีถูก ไม่มีผิด มีแค่ ความจริง ศรัทธา และความถูกต้องชอบธรรม ที่จะดำรงอยู่

    หมี CNN(ฮีโร่ที่แท้จริง อยู่ในใจเราทุกคน ผู้ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ล้วนมีสิ่งนี้อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว แค่มันยังไม่ถึงเวลาออกมาใช้ในยามจำเป็นแท้จริง ดังนั้น เมื่อถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ย่อมจะก่อเกิดฮีโร่เสมอ เพราะสายเลือดหมู่บ้านบางระจัน มันฝังอยู่ใน DNA ลูกหลานไทยทุกคน คิดดี ได้ดี ปกป้องแผ่นดินเกิด เชิดชู สถาบันสูงสุด คือหน้าที่ของคนไทยทุกคน ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญระบุชัดเจน กฎอะไรก็ไม่สำคัญเท่า หากมีพ่อปกครองลูก ร่มเย็น เป็นสุข ด้วยพระบารมี ราชวงศ์จักรี ยั้งยืนยง ชั่วกาลปาวสาน)
    30 ตุลาคม 67
    10.59 น.

    https://linevoom.line.me/post/1173026253201001564
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    30-10-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.11 ตอน "NEW HERO BORN IN EVERYDAY" ไม่ใช่ MARVEL ไม่ใช่ DC แต่เป็นทหารราชองครักษ์ สั่งสอนเด็กอมมือ ไม่รู้กาลเทศะ มือกัน ไม่ให้เดินเทียบเจ้า ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ รหัสลับ DNA ตามพ่องแม่งเป๊ะเด๊ะ ครั้งนึง ในงานเลี้ยงส่วนพระองค์กับแขกอาคันตุกะทั่วโลก อีพ่อเหลี่ยมไม่ได้ถูกเชิญ แต่เสือกเสนอหน้า อยากจะเกิด แต่เสือกดับกลางหน้าประตูงานเลี้ยง เพราะมันงานเลี้ยงของพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่หน้าที่นายกฯ บรรดากษัตริย์ ราชวงศ์ชั้นสูงจากทั่วโลก แห่กันเข้ามาร่วมแสดงความยินดี อีเหลี่ยมหัวหมอ อยากยกระดับโดยไม่เจียมกะลาหัวตัวเอง เป็นแค่นายกฯ ใต้ตรีนฝ่าพระบาท โดนเจ้าหน้าที่วังถีบออก สั่งไสหัวออกไป นั่นคือจุดเดือด ความเครียดแค้นที่มีต่อวังนับแต่นั้นมา หมายังรู้ มรึงแค่ขี้ข้าเหี้ย CIA ขึ้นมาได้เพราะเงินวอชิงตัน ซื้อเสียงมาทั้งนั้น หลอกควายไทยบัดซบ 10 ล้านเสียง ครั้นอีลูกสาวร่านขึ้นแท่นบ้าง อยากจะเดินตามรอยพ่อเหลี่ยมเหี้ยบ้าง คิดวัดรอยตรีน แต่งวดนี้ หน้าแหก หมอไม่รับเย็บ โดนท่านปีใหม่ เอาแขนกันไว้ ไม่ให้เดินเทียบ ภาษาแถวบ้านเรียก "เสียหมา" ระดับนายก ก็แค่ข้าราชบริพาร อย่าริสะเออะเสนอหน้าเทียบเจ้า มรึงเป็นได้แค่เศษสวะ คิดล้มเจ้าทั้งตระกูล ฝันเปียกไปเหอะ ตระกูลมรึงจะสิ้นชาติพันธุ์ในพศ.นี้แหละ เหมือนทหารแตงโม ถูกแช่ ถูกดองกันเกลื่อนยามนี้ รู้ชะตากรรม วังเล่นบทพระเดชแล้ว อย่าต๊กกะใจ พ่อท่านร.10 ทรงมีเมตตาต่อทุกสรรพสิ่ง แต่จะไม่ละเว้นไอ้อีที่คิดกบฎขายชาติ ขายแผ่นดิน เชื่อกูเหอะว่า "ใครที่พ่อท่านไม่ปลื้ม" มรึงเตรียมเยี่ยวแตกได้เลย ระดับท่านไม่เสียเวลาดอก แค่ราชองครักษ์มรึงก็เละเทะแล้ว วังไม่ใช่เพื่อนเล่นมรึง ดีออก! จำใส่กระโหลกสมองหมาปัญญาควายมรึงไว้ให้ดีดี! กูว่าแล้ว ทรงมันมาชัวร์ ทำไมไทยต้องสร้าง "ซูปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เริ่ดสุด เร็วสุด แรงสุดในอาเซียน" ไทยถูกจีนวางตัวเป็นศูนย์กลางผลิตชิปแห่งอาเซียนนั่นเอง เทคโนโลยีเราได้จากจีนมาเต็มตรีน บวกมันสมองคนไทยที่ต่อยอดสำเร็จ เรากำลังจะกลายเป็นฮับอาเซียน แล้วฮับอาเซียนต้องมีอะไรล่ะ? ศูนย์กลางพลังงาน ศูนย์กลางเทคโนโลยี ศูนย์กลางอาหาร ศูนย์การตลาดอาเซียนเชื่อมโลก ศูนย์กลางเงิน ศูนย์การธนาคารอาเซียน เงินบาทหอมหวล ยังจะแข็งโป๊กได้อีกยาวไป ศูนย์กลางโลจิสติค ขนส่ง ไทยเรามีหมด ที่มาว่าทำไม เมื่อเราโตขึ้น สิ่งที่ตามมาคือภาคแรงงานมหาศาล และเพื่อนบ้านจะแห่กันเข้ามาอยู่เมืองไทยเพี๊ยบ เพราะหาเงินคล้อง เศรษฐกิจพุ่ง การค้าดี มั่นคง ร่มเย็น เป็นสุข แถมของอร่อยมีมากที่สุดในโลก ชีวิตดี๊ดี! ใครมาหลงเสน่ห์หมด ไม่อยากกลับบ้าน ขนาดหมูเด้ง ฮิปโปแคระยังดังระดับจักรวาลมาเวล ใครมาก็แจ้งเกิดได้ง่ายดาย เมืองไทย มันคือ "ที่สุดของที่สุดความหลากหลายโลก" ข้ามมาสู่โลกความเป็นจริงต่อ : อิเหนาโชว์ป๋า! สั่งห้ามขายไอโฟน 16 เพราะผิดเงื่อนไขสัญญา ไม่เป็นตามข้อตกลง ที่ต้องใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ 40% นั่นคือข้ออ้าง แท้จริงคือตบหน้าสั่งสอนเหี้ยนั่นเอง เพราะมันคือเครื่องมือดักฟัง สอดแนมของเหี้ย CIA ใครยังจะโง่ใช้อีไอโฟนอยู่อีก หัวเว่ย มาแรง แซงทะลุนรกไปแล้ว ดีกว่า เริ่ดกว่า แจ่มกว่า คุ้มค่าและประสิทธิภาพเทียบกันไม่ติด 6G กลายเป็นเรื่องรองทันที ยิ่งหัวเว่ยออก HARMONY 5.0 ปฎิบัติการอนาคต ทุบ ANDROID ทิ้งไปเลย มันคือระบบมือถือแห่งอนาคต ที่เชื่อมทั้งโลกเข้าหากันอย่างสมบูรณ์ แถวบ้านกูยังใช้กระป๋องผูกเชือกอยู่เลย เสียงดัง ฟังชัด ยกเว้นตอนฝนตก! ทำไม อิเหนา ถึงได้ช่างกล้าขนาดนี้ คำตอบคือ SU-35/ S-400 กำลังจะเข้ามาเติม พ่วงเรือรบใหม่ เรือดำน้ำนิวเคลียร์ เพราะอิเหนามีหมู่เกาะเยอะมาก เรือดำน้ำจำเป็น และมีท่าเรือน้ำลึกมากมาย ใครจะวัดกับอิเหนา ไม่ง่ายอีกต่อไป อิเหนาพึ่งพาจีนด้านการลงทุน พึ่งพารัสเซีย ด้านพลังงาน อาวุธ เวียดนามตามรอยทันที ไม่แปลก รายชื่อสมาชิกใหม่ BRICS ถึงมีอาเซียนไปโผล่เพี๊ยบ เพราะเค้าคุยกันมาก่อนแล้ว แค่รอดูจังหวะเวลาที่ใช่ ค่อยประกาศตัว? ไอ้สัส! กลัวจุงเบย อย่าขู่กูน่ะ กูยิ่งปอดแหกอยู่ หลังล่าสุด อีวอชิงตันขู่อิหร่าน ห้ามโจมตีกลับอียิวเหี้ยเด็ดขาด หลังเพิ่งจะโชว์โง่ เสียหมา ดาหน้าบินไปถล่มเค้า แต่ถูกสกัดได้หมด หมากว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แต่ดันเสือกกลัวเค้าเอาคืน? อิหร่านกลัวจัด เลยรีบสั่ง 3 ฮอ ดาหน้าถล่มยับทันที ภายใน 24 ชม. ท่าเรือ สนามบิน ศูนย์บัญชาการย่อย คลังแสงย่อย โดนอีก ไม่เหลือเป้าหมายแล้วลวกเพ่? อย่าขู่กูบ่อย มือมันสั่น มือมันลั่น เดี๋ยวมรึงจะตายห่าไม่มีเหลือ แค่กดปุ่ม ชีวิตเปลี่ยนเลยมรึง? ด้านพรมแดนเลบานอน กองทัพอียิวลากสังขารถอยหลังไปอีก 20 กม. จากไปรุกรานเค้า กลับเสียดินแดนหน้าด่านจนเกลี้ยง เลบานอนรุกกลับกินพื้นที่เข้าไปในแผ่นดินมรึงแล้ว งวดนี้ ไม่ต้องถามสื่อ ถามกูนี่แหละ ดอกนี้ อียิวตายห่าไปแล้ว 3000 ตัว ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มาว่าทำไมต้องสั่งเกณฑ์ทหารใหม่เพิ่มรอบที่ 6 เหลือแต่หมาแล้วมั้ง? โลกอาหรับ อิหร่าน คุยกันรู้เรื่อง ค่อยๆ บดขยี้ กินมันไปเรื่อยๆ จนมันอ่อนแรง บีบให้มันย้ายออกไปดีดี จะได้ไม่ต้องสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ ล่าสุด ตัวเลขพลเรือนอิสราเอล ที่เสียชีวิต นับตั้งแต่ฮามาสจุดเค็กวันเกิดฉลอง ตอนนี้ ตายห่าไปแล้วกว่า 30000 ตัว สื่อไม่มาบอกมรึงดอก เพราะมันถูกซากตึกทับตายกันเกลื่อน ส่วนอีไทยเนรคุณ ที่เสือกไปรับจ้างรบให้อิสราเอล ไม่ต้องถาม มันตายห่าตั้งแต่วันแรกแล้ว สูตรอียิว ส่งทหารรับจ้างไปตายห่าก่อน ทหารอียิวเหลือน้อย มีเอาไว้แค่สั่งการ ตายห่าไปเหอะ มรึงไม่ใช่คนไทย แค่อาศัยแผ่นดินพ่อกูมาเกิด แต่ไม่ได้ทำประโยชน์ห่าอะไรให้กับแผ่นดินเกิดมรึงเลย มีแต่จะชักศึกเข้าบ้าน จงตายห่าไปซะน่ะ กูไม่สนชีวิตเหี้ยๆ ของมรึงดอก ไอ้ระยำ? ปล.ลุงสนธิ ฝากมาบอก อีชาติชั่ว มรึงเตรียมแดร๊กเยี่ยวแล้วรึยัง? ท้าใครไม่ท้า 71 แก้ว แก้วเดียวมรึงก็อ๊วกแตกแล้ว! กรรมชั่ว ทำระยำ โกหกตอแหล ปลิ้นปล้อน 18 มงกุฎ ตายเพราะปากมรึงเอง! อยู่ดีดี ก็เอาเรตติ้งมาให้สนธิ ทอล์ก NEWS1 พุ่งกระฉูด ทุกสำนักข่าวต้องมาลากไส้อีทนายเหี้ยผ่านลุงสนธิ อาจารย์ปานเทพ เพราะเจ้าทุกข์ขอเอง กูจะคุยกับลุงสนธิเท่านั้น จ่ายค่าจ้างสุดถูก ไวน์ราคา 100 ล้าน ช็อคโกแลตราคาพันล้าน รวยมั้ย ไอ้สัส! บิดเบือนกันจัง ดีออก? เพ่อ้อย สุดท้ายก็ต้องพึ่งคนจริง ใครเดือดร้อน มีที่ไหนที่เป็นปากกระบอกเสียงได้จริง ดังนั้น ตอนนี้ งานเข้า NEWS1 กับอีโหนกระแส อีหนุ่มบอก กูอาจจะตายวันไหนไม่ยู้? ล่อแต่ละดอก ของหนักทั้งนั้น! จำเอาไว้ว่า "อะไรที่โกงเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป" อะไรที่ไม่ใช่ของตน ยึดครองไว้ก็คือคำสาปแช่ง ชีวิตคนแค่ 100 ปี แต่สิ่งที่รอลงโทษมรึงอยู่ ไร้กาลเวลา คุ้มค่ามั้ยล่ะ? เพราะขาดสติ จึงไร้ปัญญา เพราะโลภ จึงมองไม่เห็นความจริง! ไอ้อี ที่เคยอวดมั่ง อวดมี โชว์ป๋า โชว์บินส่วนตัว บ้านคฤหาสน์ มันใช่ของมรึงจริงๆ มั้ยล่ะ? เสพสุขแค่ชั่วคืน เสพคุกทั้งชีวิต อิสรภาพคือสิ่งที่มนุษย์ขาดมิได้ อยากรู้ ให้ไปถามไอ้อีทะลุเหี้ยทั้งหลาย แดร๊กบาทาอร่อยเช้าเย็น ชีวิตบัดซบ ยิ่งกว่าตาย? ล่าสุด ไอ้อี 3 นิ้วครึ่งที่ล้มเจ้า ที่แห่หนีไปต่างแดน ชีวิตตกระกำลำบาก เงินเดือนไม่ให้ ดิ้นรน เลี้ยงปากท้องเอง อยู่แบบผิดกฎหมาย ทำงานไม่ได้ เหี้ยไม่เลี้ยงคือบีบให้กลับบ้านไปตายเอาดาบหน้าไงล่ะ หมาซะยิ่งกว่าหมา ขนาดอีพรรคส้มเน่ายังไม่เหลือ กระแสดิ่งเหว ควายตื่น ไทยบัดซบตื่น โง่กว่าควายคือกู! ชีวิตพอเพียงไม่เอา จะอยากอยู่คุกตลอดชีวิต ความโง่ที่มรึงคู่ควร แค่เศษเงินซื้อมรึงได้ ชีวิตมรึงก็แค่ "ขี้หมา" ไร้ราคา สุดท้ายนี้ ขอไว้อาลัย แด่วีรชน ผู้กล้าทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปก่อนหน้านี้ สิ่งที่ทุกท่านทำไป มันคือคุณประโยชน์ต่อชาติ แผ่นดิน ระลึกถึงเสมอ 7 ตุลาคม มิเคยลืมเลือน เทียนแห่งธรรมถูกจุดขึ้นนับแต่นั้นมา เสียใจกับเพ่โสและครอบครัว ไม่อยากพูด แต่อดไม่ได้ เพ่โส แฉเหี้ยมานมนาน จนคนตื่นรู้ ขออานิสงค์แห่งปัญญาส่งดวงวิญญานผู้กล้าทุกท่าน ไปสู่ดวงดาวแห่งสรวงสวรรค์ ภพภูมิที่ดีกว่านี้ หน้าที่ของท่านจบลงแล้วบนแผ่นดินโลก เป็นหน้าที่รับไม้ต่อสู่ลูกหลานไทย ไม่มีมรึง ก็ไม่มีกู ไม่มีพ่อ ก็ไม่มีแผ่นดิน นี่คือรุ่นสุดท้ายของศตวรรษนี้แล้ว ปลายกลียุค ทุกอย่างของความอัปรีย์จัญไร สิ่งโสมม ทั้งสากลโลก จะต้องจบในพศ.นี้ ต้องจบในรุ่นนี้เท่านั้น จะไม่ปล่อยผ่านไปให้ถึงมือลูกหลานต้องมานั่งแก้ปัญหาต่อเด็ดขาด จบที่กูกับมรึง! ไม่มีถูก ไม่มีผิด มีแค่ ความจริง ศรัทธา และความถูกต้องชอบธรรม ที่จะดำรงอยู่ หมี CNN(ฮีโร่ที่แท้จริง อยู่ในใจเราทุกคน ผู้ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ล้วนมีสิ่งนี้อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว แค่มันยังไม่ถึงเวลาออกมาใช้ในยามจำเป็นแท้จริง ดังนั้น เมื่อถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ย่อมจะก่อเกิดฮีโร่เสมอ เพราะสายเลือดหมู่บ้านบางระจัน มันฝังอยู่ใน DNA ลูกหลานไทยทุกคน คิดดี ได้ดี ปกป้องแผ่นดินเกิด เชิดชู สถาบันสูงสุด คือหน้าที่ของคนไทยทุกคน ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญระบุชัดเจน กฎอะไรก็ไม่สำคัญเท่า หากมีพ่อปกครองลูก ร่มเย็น เป็นสุข ด้วยพระบารมี ราชวงศ์จักรี ยั้งยืนยง ชั่วกาลปาวสาน) 30 ตุลาคม 67 10.59 น. https://linevoom.line.me/post/1173026253201001564 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 564 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวอเมริกันเกือบ 70% ขาดความเชื่อมั่นในสื่อ!!

    ผลสำรวจล่าสุดของ Gallup พบว่าชาวอเมริกันเกือบ 70% ขาดความเชื่อมั่นในสื่อ “ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าสื่อมีอคติ และเป็นอาชีพที่ในปัจจุบันได้รับความไว้วางใจน้อยที่สุด”

    Washington Post ไม่กลัวสูญเสียประชาชนที่สนับสนุนจะเลิกติดตาม ประกาศยกเลิกสนับสนุนผู้สมัครประธานาธิบดี และเลิกเสนอข่าวเอนเอียงทางการเมือง

    เรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นหลังจาก "เจฟฟ์ เบโซส์" ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ Washington Post ตัดสินใจไม่ให้บรรณาธิการรายงานข่าวที่มีเนื้อหาสนับสนุน คามาลา แฮร์ริส เป็นประธานาธิบดี จนเป็นเหตุให้ subscribers กว่า 200,000 คน หรือประมาณ 8% ของจำนวน subscribers ทั้งหมด ได้ยกเลิกการสมัครรับข่าวสารของ นสพ. Washington Post รวมถึงคอลัมนิสต์จำนวนหนึ่งได้ลาออกด้วยเช่นกัน

    เมื่อวันที่ 25 ต.ค. วิล ลูอิส หนึ่งในผู้บริหารออกมาประกาศว่า ต่อไปนี้ Washington Post จะไม่ให้การสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อๆ ไปด้วย
    “เรากำลังย้อนกลับไปสู่ประเพณีอันกีงามของสื่อที่มีมาตั้งแต่ในอดีต นั่นคือการไม่สนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใด” ลูอิส กล่าว

    ทางด้าน เจฟฟ์ เบโซส์ เจ้าของ Amazon นิตยสาร Forbes รวมทั้ง หนังสือพิมพ์ Washington Post ชี้แจงเหตุผลของเขาผ่านทาง Washington Post หลังจากต้องเผชิญกับปฏิกิริยาตอบโต้ด้านลบจากพนักงานในปัจจุบันและอดีต รวมทั้งประชาชนที่สนับสนุน "นางคามาลา" โดยระบุว่า ผลสำรวจล่าสุดของ Gallup พบว่าชาวอเมริกันเกือบ 70% ขาดความเชื่อมั่นในสื่อ “ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าสื่อมีอคติ และเป็นอาชีพที่ในปัจจุบันได้รับความไว้วางใจน้อยที่สุด”

    “การสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งแต่อย่างใด แต่กลับสร้างความรู้สึกที่ประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ได้ถึงอคติทางการเมือง การรับรู้ถึงความไม่เป็นอิสระของสื่อ ดังนั้นการยุติการสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจึงเป็นการตัดสินใจที่มีหลักการ และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง”

    ชาวอเมริกันเกือบ 70% ขาดความเชื่อมั่นในสื่อ!! ผลสำรวจล่าสุดของ Gallup พบว่าชาวอเมริกันเกือบ 70% ขาดความเชื่อมั่นในสื่อ “ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าสื่อมีอคติ และเป็นอาชีพที่ในปัจจุบันได้รับความไว้วางใจน้อยที่สุด” Washington Post ไม่กลัวสูญเสียประชาชนที่สนับสนุนจะเลิกติดตาม ประกาศยกเลิกสนับสนุนผู้สมัครประธานาธิบดี และเลิกเสนอข่าวเอนเอียงทางการเมือง เรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นหลังจาก "เจฟฟ์ เบโซส์" ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ Washington Post ตัดสินใจไม่ให้บรรณาธิการรายงานข่าวที่มีเนื้อหาสนับสนุน คามาลา แฮร์ริส เป็นประธานาธิบดี จนเป็นเหตุให้ subscribers กว่า 200,000 คน หรือประมาณ 8% ของจำนวน subscribers ทั้งหมด ได้ยกเลิกการสมัครรับข่าวสารของ นสพ. Washington Post รวมถึงคอลัมนิสต์จำนวนหนึ่งได้ลาออกด้วยเช่นกัน เมื่อวันที่ 25 ต.ค. วิล ลูอิส หนึ่งในผู้บริหารออกมาประกาศว่า ต่อไปนี้ Washington Post จะไม่ให้การสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อๆ ไปด้วย “เรากำลังย้อนกลับไปสู่ประเพณีอันกีงามของสื่อที่มีมาตั้งแต่ในอดีต นั่นคือการไม่สนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใด” ลูอิส กล่าว ทางด้าน เจฟฟ์ เบโซส์ เจ้าของ Amazon นิตยสาร Forbes รวมทั้ง หนังสือพิมพ์ Washington Post ชี้แจงเหตุผลของเขาผ่านทาง Washington Post หลังจากต้องเผชิญกับปฏิกิริยาตอบโต้ด้านลบจากพนักงานในปัจจุบันและอดีต รวมทั้งประชาชนที่สนับสนุน "นางคามาลา" โดยระบุว่า ผลสำรวจล่าสุดของ Gallup พบว่าชาวอเมริกันเกือบ 70% ขาดความเชื่อมั่นในสื่อ “ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าสื่อมีอคติ และเป็นอาชีพที่ในปัจจุบันได้รับความไว้วางใจน้อยที่สุด” “การสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งแต่อย่างใด แต่กลับสร้างความรู้สึกที่ประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ได้ถึงอคติทางการเมือง การรับรู้ถึงความไม่เป็นอิสระของสื่อ ดังนั้นการยุติการสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจึงเป็นการตัดสินใจที่มีหลักการ และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝากเพจ บนไทยไทม์ด้วยนะคะ https://thaitimes.co/posts/84194
    ฝากเพจ บนไทยไทม์ด้วยนะคะ https://thaitimes.co/posts/84194
    THAITIMES.CO
    พิศุทธิ์ศิลป์เก้ามหามงคล - หลวงปู่สมบัติ ปริสุทโธ...
    หลวงปู่สมบัติ ปริสุทโธ #พระผู้เปี่ยมด้วยเมตตากราบได้ด้วยความสนิทใจ ท่านเมตตาจัดสร้างเหรียญรุ่นแรกพระครูวิกรมสังฆกิจ(หลวงปู่สมบัติปริสุทโธ) รุ่นคลังสมบัติ ด้านหลังเป็นพระพรหม ประจำวัดปากน้ำแขมหนู อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หรือที่เรียกกันว่า วัดโบสถ์สีน้ำเงิน สถานที่ท่องเที่ยวทำบุญ 1 ในอันซีนของจ....
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## จีนลงโทษผู้ทุจริต 589,000 รายใน 9 เดือนแรกของปีนี้ ##
    ..
    ..
    หน่วยงานต่อต้านการทุจริตของจีน ลงโทษประชาชน 589,000 รายในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ฐานละเมิดวินัย รวมถึงการรับ หรือ เสนอสินบน
    .
    คณะกรรมการกลางตรวจสอบวินัยระบุในแถลงการณ์บนเว็บไซต์เมื่อวันเสาร์มี่ผ่านมาว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีหรือเทียบเท่า 53 คนที่ถูกลงโทษ
    .
    คณะกรรมการฯ แถลงว่า มีคดีรวม 2,972 คดี ถูกส่งตัวให้อัยการดำเนินการสอบสวนต่อไป
    .
    แคมเปญต่อต้านการทุจริตครั้งใหญ่ล่าสุดของจีน ได้ดึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้องในจำนวนมากเป็นประวัติการณ์เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมการเงิน
    .
    ทางการได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ธนาคารบางคนว่าเป็น "พวกชอบเสพสุข" และได้จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินงานปราบปรามการทุจริตทางการเงินชุดใหม่ ซึ่งบ่งบอกถึงการผลักดันให้มีการกำกับดูแลภาคส่วนนี้อย่างถาวรมากขึ้น
    .
    26/10/2567
    ...
    ...
    https://www.bangkokpost.com/world/2890622/china-punished-589-000-people-for-graft-in-nine-months
    ## จีนลงโทษผู้ทุจริต 589,000 รายใน 9 เดือนแรกของปีนี้ ## .. .. หน่วยงานต่อต้านการทุจริตของจีน ลงโทษประชาชน 589,000 รายในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ฐานละเมิดวินัย รวมถึงการรับ หรือ เสนอสินบน . คณะกรรมการกลางตรวจสอบวินัยระบุในแถลงการณ์บนเว็บไซต์เมื่อวันเสาร์มี่ผ่านมาว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีหรือเทียบเท่า 53 คนที่ถูกลงโทษ . คณะกรรมการฯ แถลงว่า มีคดีรวม 2,972 คดี ถูกส่งตัวให้อัยการดำเนินการสอบสวนต่อไป . แคมเปญต่อต้านการทุจริตครั้งใหญ่ล่าสุดของจีน ได้ดึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้องในจำนวนมากเป็นประวัติการณ์เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมการเงิน . ทางการได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ธนาคารบางคนว่าเป็น "พวกชอบเสพสุข" และได้จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินงานปราบปรามการทุจริตทางการเงินชุดใหม่ ซึ่งบ่งบอกถึงการผลักดันให้มีการกำกับดูแลภาคส่วนนี้อย่างถาวรมากขึ้น . 26/10/2567 ... ... https://www.bangkokpost.com/world/2890622/china-punished-589-000-people-for-graft-in-nine-months
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮิซบุลเลาะห์ประกาศ ยิงโดรนตรวจการณ์ Hermes 900 ตก ด้วยขีปนาวุธพื้นสู่อากาศที่เมืองอัลมาร์จายูน และมีคนเห็นโดรนดังกล่าวกำลังลุกไหม้

    ตามรายงานของ Jerusalem Post โดรนดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ
    ฮิซบุลเลาะห์ประกาศ ยิงโดรนตรวจการณ์ Hermes 900 ตก ด้วยขีปนาวุธพื้นสู่อากาศที่เมืองอัลมาร์จายูน และมีคนเห็นโดรนดังกล่าวกำลังลุกไหม้ ตามรายงานของ Jerusalem Post โดรนดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตลกชิบ... โพสต์ใน FB ถูกเตือนว่าเป็น False Information

    รายละเอียดเดียวกันกับใน Thaitime
    https://thaitimes.co/posts/81169
    ตลกชิบ... โพสต์ใน FB ถูกเตือนว่าเป็น False Information รายละเอียดเดียวกันกับใน Thaitime https://thaitimes.co/posts/81169
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • @sabareeswaran Mariappan test mention..#new #post #thai
    @sabareeswaran Mariappan test mention..#new #post #thai
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ควรหรือไม่ควร
    https://linevoom.line.me/post/1173011650195761374
    ควรหรือไม่ควร https://linevoom.line.me/post/1173011650195761374
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • โอ้โห!
    วางแผนให้ลูกตัวเอง ไปเป็นลูกบุญธรรมพี่อ้อย
    https://thaitimes.co/posts/81557
    โอ้โห! วางแผนให้ลูกตัวเอง ไปเป็นลูกบุญธรรมพี่อ้อย https://thaitimes.co/posts/81557
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองปลัด "เดชา" ไฟแรง มอบนโยบายการทำงานพุ่งเป้า Outcome
    https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1183537473244115
    รองปลัด "เดชา" ไฟแรง มอบนโยบายการทำงานพุ่งเป้า Outcome https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1183537473244115
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'พิพัฒน์'สั่งการปลัดกระทรวงแรงงาน เร่งช่วยเหลือทายาทเหตุปั้นจั่นเฉี่ยวลูกจ้างเสียชีวิตที่สมุทรปราการ ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย
    https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1183539033243959
    'พิพัฒน์'สั่งการปลัดกระทรวงแรงงาน เร่งช่วยเหลือทายาทเหตุปั้นจั่นเฉี่ยวลูกจ้างเสียชีวิตที่สมุทรปราการ ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1183539033243959
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.linkedin.com/posts/boonyoung-iamkamol-a05851a9_ep-1-clone-pcborpcb-reverse-engineering-activity-7160932158084190208-UDWj?utm_source=share&utm_medium=member_desktop
    https://www.linkedin.com/posts/boonyoung-iamkamol-a05851a9_ep-1-clone-pcborpcb-reverse-engineering-activity-7160932158084190208-UDWj?utm_source=share&utm_medium=member_desktop
    WWW.LINKEDIN.COM
    How to clone PCB board and reverse engineering | Boonyoung Iamkamol posted on the topic | LinkedIn
    EP .1 Clone PCB or PCB Reverse Engineering Clone pcb sound like dark side, Call "Reverse Engineering" might be good listen. Clone PCB ,it's necessary for…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • 27-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.6

    อยากแจ้งเกิด แต่เสือก "แจ้งดับ" คาสายตาทั่วโลก เหี้ยขี้ข้ามะกัน ขนขีปนาวุธตัวตึง ตัวเด่น ตัวดัง มาเพี๊ยบ แม้จะโชว์เติมน้ำมันกลางอากาศ กะเพิ่มระยะโจมตีให้อียิว งานนี้ อียิวต้องได้เกิด หวังถล่มอิหร่านเละเทะ สุดท้าย "หมาเห่าใบตองแห้ง" หมาทั้งยิว หมาทั้งอเมริควาย เจอ S-350s/ S-400 เอาอยู่หมัด สกัดหมดเกลี้ยง ไม่มีเล็ดลอดไปได้ซักกะลูก ขี้ข้าเหี้ยประจักษ์ อยู่ต่อไม่ไหวแย้ว นายใหญ่ "โคตรกระจอก" ตากูบ้างน่ะ อิหร่านเตรียม 1000 ลูก พ่วงไฮเปอร์โซนิคขยี้อียิวให้หายซ่าส์ ล่อฐานทัพเหี้ยมะกันทั่วตะวันออกกลาง กระจอกแล้วยังเสือกมากร่าง ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง? ขั้วใหม่ดาหน้ารุกฆาต หลัง BRICS ประชุมเปิดตัวสมาชิกใหม่เพิ่ม ส่งไฟเขียวอาเซียนของกู ดีออก? ถามจริง? เหี้ยยังเหลือเหี้ยอะไรมาอวดได้อีก นุ๊กก็เก่า ความเร็วก็ต่ำ ยิงก็มั่ว หาเรดาร์ไม่เจอ สู้เพื่อจุดจบ! หลัง JOHN KIM เล่นละครปาหี่ เฮียสีจิ้งผิงร่วมด้วย ส่งหน่วยพิเศษ อาวุธ ไซเบอร์ จัดเต็ม เข้าพื้นที่ยูเครน ช่วยอะไรรัสเซียได้บ้าง? ชี้เป้าหมดเกลี้ยง อะไรอยู่ที่ไหน อาวุธหนักอยู่ตรงไหน เคลื่อนไหวยังไง? มาเพื่อชี้้เป้า ลูกยาวลง หน่วยเก็บกวาดเดินหน้า โสมแดงไม่ได้เสี่ยงเหี้ยอะไรเลย งานนี้ เติมลูกปืนใหญ่ไม่อั้น ยิงเป็นล้านนัดก็ยังเหลือ? อียูเครนมันตายคาตรีนไปนานแล้ว ยังจะซ้ำกูอยู่อีกเหรอ? อีโปลเปลี่ยนท่าทีทันที อังกฤษ อเมริกา อิสราเอล กระจอกเกินกุมกะลาหัวได้ ถอยยังรอด เปิดทางให้คือผ่อนหนักเป็นเบา ใครซวยล่ะ? อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีสิงโตง่อย งานนี้คาตรีนเครมลิน! ของจริง ไม่มีตอแหล อียิวสั่งถอยพรมแดนเลบานาน หลังตายห่ายกกองพัน เฮซบอเลาะห์โหดจัด ถล่มลูกยาวไม่พอ ตามเก็บกวาดแบบไม่มีเหลือ ศพหายไปเพี๊ยบ? อย่าว่าจะบุกรุกเค้าเลย ยังไม่มีปัญญาข้ามพรมแดนก็ตายห่านับ 1000 แล้ว อาวุธเสียหายหนักเกินเยียวยา เจอโจมตีทุกระบบเอาไม่อยู่ ไปบุกเค้า เจอล่อกับดักตายคาวงตรีนเลบานอน เสธ.เหี้ยมะกัน เตือนแล้ว อย่าแหยมเฮซบอเลาะห์ กระดูกคนละเบอร์ ความเขี้ยวคนละชั้น ผลลัพธ์ตบหน้าอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ ไอ้ที่หลงตัวเองมานาน ว่ากูเจ๋ง ที่แท้โคตรกระจอก ไม่รู้เหี้ยอะไรเลยเกี่ยวกับศัตรู ข้ามวิกแป๊บ : ฝันอีป้อมจบลงแล้ว! บุญไม่ถึง บังลังก์สูงเกินไป แหวนอีแม่ นาฬิกาอีเพื่อน ปปช.งับสุดตรีน ไล่เบี้ยจนสุดตรอก ใบสั่งอีแดงเอาคืนให้สาสม อี ไอ(คอน)สัส โดนแรง ทั้งปปช. ปปง. DSI ลากยาวทั้งขบวนการ แหล่งฟอกเงินชัด รู้ตัวเบื้องหลัง ทั้งไทย และเทศ หางโผล่กันหมด ดิ้นพล่านซื้อคดีเพี๊ยบ ติดกับดัก 2 ชั้น แฉไปมา ยิ่งพูดยิ่งลาก งานนี้ระดับชาติ ใครอุ้ม "หัวขาด" กระแส DSI เคาะกะลา ตัวอย่างมีให้เห็น อีหัวหน้าใหญ่ติดคุกไปแล้ว ใครจะเป็นรายต่อไปดีล่ะ? กลียุคกำลังจะไป ทิ้งทวน อยากเห็นต้องได้เห็น เรื่องที่ไม่คาดคิด? SOFT POWER THAI กระฉ่อนโลก เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567 เห็นทั้งโลก นี่คือ "สยามประเทศ" ส่งสัญญาน 1 ในอาเซียน ประเพณี วัฒนธรรม สรวจสวรรค์ บนแผ่นดินทอง ผีห่าซาตานเตรียมเผ่นกันหมด แสงขจรกระจายไปทั่วหล้า อัตลักษณ์ความเป็นไทย ที่ลูกหลานควายไทยที่ถูกเหี้ยล้างสมองไม่เข้าใจ! เพราะมันมีแค่ 1 เดียวในโลก ไทยเจริญรุ่งเรือง เพราะพระบารมี! ล่าสุด มาตามนัด อีพ่อนักบุญปลอมตอแหล ถูกสรรพากรถามหา ได้มาเยอะนี่มรึง? ไอ้อีที่หาแดร๊กบนความทุกข์ร้อนของชาวบ้านมีอันเป็นไปหมด โง่เพราะเสพสื่อ โง่เพราะฟังเค้ามา สติไม่มี ปัญญาไม่เกิด ความโลภทั้งนั้น! กลับมาโลกโสมมของเหี้ยต่อ : ผลกระทบ WWIII ที่เหี้ยยังคาดไม่ถึง โดยเฉพาะธุรกิจอียิวที่แบกดอลล่าร์จนหลังอ่วม ขั้วใหม่ไม่ได้แค่ทุบดอลล่าร์ตายคาตรีน แต่ยังส่งผลถึงการค้าทั้งโลก ที่ไม่ผูกดอลล่าร์ด้วย เท่ากับแย่งตลาดโลกไปจากเหี้ยยิวนั่นเองเพราะวัตถุดิบและแหล่งแร่ อาหาร พลังงาน อยู่ในเอเซียทั้งหมด แถมยังได้ใช้เงินสกุล BRICS ใหม่ แล้วขี้ข้าเหี้ยที่ไม่มีเงินสกุลนี้มันจะซื้อหาจากแหล่งต้นทางได้ยังไง? ต้องซื้อผ่านตัวกลาง เท่ากับมรึงเสียเปรียบดุลการค้านั่นเอง เพราะจ่ายแพงกว่าเค้า จะเอาเหี้ยอะไรไปสู้ ของเหี้ยจะขายได้เฉพาะชาติขี้ข้าเหี้ยเท่านั้น เท่ากับจำกัดวงผู้บริโภคนั่นเอง ไม่ใช่ทั้งโลกเหมือนแต่เก่าก่อน! ดอกนี้ ขั้วใหม่วางแผนมาดี จีนถึงได้ขยายโลจิสติคโลกใหม่ เชื่อมแอฟริกา ตะวันออกกลาง ลาติน เข้าหากันหมดไงล่ะ? โดยมีเวเนฯ คิวบา เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน มีสมาชิกของเข้าร่วมกลุ่มเงินดิจิตอลแล้วกว่า 10 ชาติ ทั้งอเมริกาใต้ และอเมริกากลาง ใครๆ ก็ต้องการแหล่งพลังงานที่มั่นคง และค่าเงินที่เป็นธรรม ขอไว้อาลัยให้อีเมสซี่แลนด์ ที่มันถูกแยกออกจากโลกลาตินโดยสมบูรณ์แล้ว ไต้หวันขาสั่น อยู่ดีดี จีน รัสเซีย อิหร่าน และทั้งตะวันออกกลางก็มา มรึงจะเอาให้กูหายไปจากแผนที่โลกเลยเหรอ? ก๊กมินตั๋ง เตรียมยึดสภาล่างไม่อนุมัติก่อสงครามกับจีน มาตามใบเสร็จปักกิ่ง ยิ่งสู้ ยิ่งจบเร็ว อีไล่ ชิง เต๋อ แค่หุ่นเชิด อีไช่ รอดแล้วแค่ในไต้หวัน ออกนอกมรึงโดนแน่! เหมือนอีเสี้ยนยา อีเนรคุณทันยา ชะตากรรมเดียวกัน คือถูกเก็บแน่ ใครจะปล่อยมรึงไว้ล่ะ?

    ปล.เป็นอันแน่ชัด! เมื่ออียิวและเหี้ยมะกันตัดสินใจโจมตีอิหร่านรอบใหม่ นั่นคือใบเสร็จที่อิหร่านจะใช้สิทธิ์ป้องกันตัว ขีปนาวุธ 100000 ลูก ที่คาเมเนอีเคยลั่นเอาไว้ จะได้ใช้ก็งานนี้แหละ เพราะทุกอย่างมันสุกงอมแล้ว ทำไมอียิวถึงยอมฆ่าตัวตาย รู้ดีว่าอิหร่านสกัดได้อยู่แล้ว เหตุผลเดียวคือ ยกระดับสงครามขยายวงกว้างนั่นเอง แต่ WWIII ไม่มา เพราะอิหร่าน และโลกอาหรับลงแขกยิวเท่านั้น จีน รัสเซีย ยืนดู เติมอาวุธให้ เค้ารออะไร? รอเหี้ยมะกันยกกองทัพใหญ่มาช่วยอียิวทั้งหมดไงล่ะ แต่มันนกรู้ เสือกไม่ยอมยกมาให้หมด กลัวหลังบ้านเปิด แล้วจะโดนสวนดาก วอชิงตันตายคาที่ ต่างฝ่ายรู้มือกันดี ว่ามรึงล่อกูออกมาทำไม? เรื่องถึงต้องจบที่อียิวสิ้นชาติพันธุ์ไปไง ย้ายออกจากแผ่นดินคานาอันโดยไม่มีเงื่อนไข แล้วอีเหี้ยมะกันก็เตรียมเปิดบ้านต้องรับยิว แต่ก่อนจะเข้ามา ขอทำความสะอาดบ้านก่อนน่ะ CIVIL WAR หากไม่ฆ่ากันเองก่อนทั้งแผ่นดิน อียิวก็เข้ามาไม่ได้? หลังเลือกตั้งคือ D-DAY แผนแตกอเมริกาไงล่ะ? แล้วอีโง่ยุโรป มันจะอยู่ต่อยังไง? อีเบียร์เจ๊ง อีเศษฝรั่งเจ๊ง มรึงจะไปหาเจ้ามือใหม่เค้าก็ไม่รับ ไม่เอา จะคบเหี้ยต่อ จะอุ้มเหี้ยต่อ ก็เสี่ยงสูญพันธุ์ สิ้นชาติโดยเปล่าประโยชน์ ทำได้แค่ ปล่อยวาง EU ภายในก็จ้องจะแตกอยู่แล้ว สุดท้ายตัวใครตัวมัน? ยุโรปจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ปชต.จะตายห่า กษัตริย์จะกลับคืนบังลังก์ ราชวงศ์ฮับบรูกเตรียมชงเต็มที่! เศรษฐกิจอิสราเอลเจ๊งหมดแล้ว ทั้งโรงงานผลิต ท่าเรือสินค้า ไปหมดเกลี้ยง แถมถูกชาวโลกแบนต่อต้านสินค้ายิว ที่มาว่าทำไม มันต้องก่อสงครามเพื่อหนีหนี้ ยิวตายไม่พอลากอเมริกา อังกฤษ ยุโรป ตายห่าไปพร้อมกันด้วย เพราะแบกดอลล่าร์จนหลังแอ่น ยูโร ปอนด์ เยน ไปหมด มีแต่ตัวเลข เม็ดเงินจริงไม่มีเหลือ นี่ไง "ทุนนิยมเหี้ยสามานย์" แค่ลงทุนหาเหยื่อมาแบกหนี้ แล้วชิ่งหนี ควายก็เป็นเหยื่อไปสิ เห็นๆ กันอยู่ทุกวี่วัน ไม่มีอะไรลงทุนแล้วได้ทันที ได้มาก ได้เร็ว หากไม่โกงเค้ามาดอกน่ะ สติมี แต่ความโลภมันบังตา เสร็จหมด สูตรหาแดร๊กอียิวมัน ที่ใช้ดอกนี้ทั่วโลกมาเป็นศตวรรษ ยิ่งโลกขัดแย้งกันเยอะ นานาชาติชิงแห่ขอเข้า BRICS เพื่อการคุมครองระยะยาว มีทั้ง SCO กองทัพโลก มีทั้ง AIIB แหล่งเงินลงทุนพร้อมสรรพ เจ้ามือคือ "หยวน" สถานการณ์โลกชี้ชัด ขั้วใหม่ชนะแบเบอร์ แต่ไม่บุ่มบ่าม ไม่เร่งรีบเกินไป ค่อยๆ กลืน ค่อยๆ เชือด จนเหี้ยสิ้นเนื้อประดาตัว จริงดิ? อเมริกาวิกฤตสมองไหล? คนเก่ง คนดังแต่ละสาขาอาชีพ แห่เข้าจีน? ถามกลับ ไอ้ที่อยู่เนี่ย หน้าตาฝรั่ง หรือเอเซีย อ้าว! ไม่ตรงปก จีนวางยาไว้เมื่อ 30 ปี ก่อน เมื่อจะสู้กับเหี้ย ต้องรู้ให้มากกว่าเหี้ย เกจิดัง ศาตราจารย์ PROF. ระดับหัวกะทิระดับโลก หัวดำทั้งนั้น หน้าตาเอเซียชัดเจน แล้วไปทำห่าอะไรที่นั่น มาเพื่อดูดวิชากลับ แล้วสานต่อบ้านเกิดไงล่ะ ดังนั้น จะพูดให้ถูกคือ "ได้เวลากลับบ้านแล้วต่างหาก" เพราะทุกวันนี้ จีนเจริญไปไกลว่าตะวันตกเยอะ จนเทียบไม่ติด เมื่อตัวตึง ตัวดัง แห่กลับบ้านเกิด อเมริกา อังกฤษ จะเหลือเหี้ยอะไรอีก กลับคืนสู่ยุคมืดอีกครั้ง เป็นไปตามวิบากกรรมที่มรึงก่อนั่นเอง!

    หมี CNN(ตะวันออกกลางอิหร่านคุมเกมส์ เอเซียใต้ จีนเอาอยู่ รัสเซียคุมยุโรป เวเนฯ คุมลาติน เกือบจะหมดโลกแล้วมั้ง? เหลือให้เหี้ยมันแดร๊กบ้าง ไม่งั้นกูจะระเบิดฆ่าตัวตาย ลากทั้งโลกตายไปด้วย นั่นแหละ ที่เค้ารอให้มรึงทำอยู่ ไอ้ควาย! สื่อเหี้ยอับอายไม่รู้จะแถยังไงต่อได้อีก แพ้ยับ แพ้ไม่ปรึกษาใคร ยิ่งแถ ยิ่งหมา แต่ก็ยังมีควายตาม สมกับเป็นควาย เกิดมาทำไมไม่รู้?)
    27 ตุลาคม 67
    16.15 น.

    https://linevoom.line.me/post/1173008015093750275
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    27-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.6 อยากแจ้งเกิด แต่เสือก "แจ้งดับ" คาสายตาทั่วโลก เหี้ยขี้ข้ามะกัน ขนขีปนาวุธตัวตึง ตัวเด่น ตัวดัง มาเพี๊ยบ แม้จะโชว์เติมน้ำมันกลางอากาศ กะเพิ่มระยะโจมตีให้อียิว งานนี้ อียิวต้องได้เกิด หวังถล่มอิหร่านเละเทะ สุดท้าย "หมาเห่าใบตองแห้ง" หมาทั้งยิว หมาทั้งอเมริควาย เจอ S-350s/ S-400 เอาอยู่หมัด สกัดหมดเกลี้ยง ไม่มีเล็ดลอดไปได้ซักกะลูก ขี้ข้าเหี้ยประจักษ์ อยู่ต่อไม่ไหวแย้ว นายใหญ่ "โคตรกระจอก" ตากูบ้างน่ะ อิหร่านเตรียม 1000 ลูก พ่วงไฮเปอร์โซนิคขยี้อียิวให้หายซ่าส์ ล่อฐานทัพเหี้ยมะกันทั่วตะวันออกกลาง กระจอกแล้วยังเสือกมากร่าง ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง? ขั้วใหม่ดาหน้ารุกฆาต หลัง BRICS ประชุมเปิดตัวสมาชิกใหม่เพิ่ม ส่งไฟเขียวอาเซียนของกู ดีออก? ถามจริง? เหี้ยยังเหลือเหี้ยอะไรมาอวดได้อีก นุ๊กก็เก่า ความเร็วก็ต่ำ ยิงก็มั่ว หาเรดาร์ไม่เจอ สู้เพื่อจุดจบ! หลัง JOHN KIM เล่นละครปาหี่ เฮียสีจิ้งผิงร่วมด้วย ส่งหน่วยพิเศษ อาวุธ ไซเบอร์ จัดเต็ม เข้าพื้นที่ยูเครน ช่วยอะไรรัสเซียได้บ้าง? ชี้เป้าหมดเกลี้ยง อะไรอยู่ที่ไหน อาวุธหนักอยู่ตรงไหน เคลื่อนไหวยังไง? มาเพื่อชี้้เป้า ลูกยาวลง หน่วยเก็บกวาดเดินหน้า โสมแดงไม่ได้เสี่ยงเหี้ยอะไรเลย งานนี้ เติมลูกปืนใหญ่ไม่อั้น ยิงเป็นล้านนัดก็ยังเหลือ? อียูเครนมันตายคาตรีนไปนานแล้ว ยังจะซ้ำกูอยู่อีกเหรอ? อีโปลเปลี่ยนท่าทีทันที อังกฤษ อเมริกา อิสราเอล กระจอกเกินกุมกะลาหัวได้ ถอยยังรอด เปิดทางให้คือผ่อนหนักเป็นเบา ใครซวยล่ะ? อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีสิงโตง่อย งานนี้คาตรีนเครมลิน! ของจริง ไม่มีตอแหล อียิวสั่งถอยพรมแดนเลบานาน หลังตายห่ายกกองพัน เฮซบอเลาะห์โหดจัด ถล่มลูกยาวไม่พอ ตามเก็บกวาดแบบไม่มีเหลือ ศพหายไปเพี๊ยบ? อย่าว่าจะบุกรุกเค้าเลย ยังไม่มีปัญญาข้ามพรมแดนก็ตายห่านับ 1000 แล้ว อาวุธเสียหายหนักเกินเยียวยา เจอโจมตีทุกระบบเอาไม่อยู่ ไปบุกเค้า เจอล่อกับดักตายคาวงตรีนเลบานอน เสธ.เหี้ยมะกัน เตือนแล้ว อย่าแหยมเฮซบอเลาะห์ กระดูกคนละเบอร์ ความเขี้ยวคนละชั้น ผลลัพธ์ตบหน้าอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ ไอ้ที่หลงตัวเองมานาน ว่ากูเจ๋ง ที่แท้โคตรกระจอก ไม่รู้เหี้ยอะไรเลยเกี่ยวกับศัตรู ข้ามวิกแป๊บ : ฝันอีป้อมจบลงแล้ว! บุญไม่ถึง บังลังก์สูงเกินไป แหวนอีแม่ นาฬิกาอีเพื่อน ปปช.งับสุดตรีน ไล่เบี้ยจนสุดตรอก ใบสั่งอีแดงเอาคืนให้สาสม อี ไอ(คอน)สัส โดนแรง ทั้งปปช. ปปง. DSI ลากยาวทั้งขบวนการ แหล่งฟอกเงินชัด รู้ตัวเบื้องหลัง ทั้งไทย และเทศ หางโผล่กันหมด ดิ้นพล่านซื้อคดีเพี๊ยบ ติดกับดัก 2 ชั้น แฉไปมา ยิ่งพูดยิ่งลาก งานนี้ระดับชาติ ใครอุ้ม "หัวขาด" กระแส DSI เคาะกะลา ตัวอย่างมีให้เห็น อีหัวหน้าใหญ่ติดคุกไปแล้ว ใครจะเป็นรายต่อไปดีล่ะ? กลียุคกำลังจะไป ทิ้งทวน อยากเห็นต้องได้เห็น เรื่องที่ไม่คาดคิด? SOFT POWER THAI กระฉ่อนโลก เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567 เห็นทั้งโลก นี่คือ "สยามประเทศ" ส่งสัญญาน 1 ในอาเซียน ประเพณี วัฒนธรรม สรวจสวรรค์ บนแผ่นดินทอง ผีห่าซาตานเตรียมเผ่นกันหมด แสงขจรกระจายไปทั่วหล้า อัตลักษณ์ความเป็นไทย ที่ลูกหลานควายไทยที่ถูกเหี้ยล้างสมองไม่เข้าใจ! เพราะมันมีแค่ 1 เดียวในโลก ไทยเจริญรุ่งเรือง เพราะพระบารมี! ล่าสุด มาตามนัด อีพ่อนักบุญปลอมตอแหล ถูกสรรพากรถามหา ได้มาเยอะนี่มรึง? ไอ้อีที่หาแดร๊กบนความทุกข์ร้อนของชาวบ้านมีอันเป็นไปหมด โง่เพราะเสพสื่อ โง่เพราะฟังเค้ามา สติไม่มี ปัญญาไม่เกิด ความโลภทั้งนั้น! กลับมาโลกโสมมของเหี้ยต่อ : ผลกระทบ WWIII ที่เหี้ยยังคาดไม่ถึง โดยเฉพาะธุรกิจอียิวที่แบกดอลล่าร์จนหลังอ่วม ขั้วใหม่ไม่ได้แค่ทุบดอลล่าร์ตายคาตรีน แต่ยังส่งผลถึงการค้าทั้งโลก ที่ไม่ผูกดอลล่าร์ด้วย เท่ากับแย่งตลาดโลกไปจากเหี้ยยิวนั่นเองเพราะวัตถุดิบและแหล่งแร่ อาหาร พลังงาน อยู่ในเอเซียทั้งหมด แถมยังได้ใช้เงินสกุล BRICS ใหม่ แล้วขี้ข้าเหี้ยที่ไม่มีเงินสกุลนี้มันจะซื้อหาจากแหล่งต้นทางได้ยังไง? ต้องซื้อผ่านตัวกลาง เท่ากับมรึงเสียเปรียบดุลการค้านั่นเอง เพราะจ่ายแพงกว่าเค้า จะเอาเหี้ยอะไรไปสู้ ของเหี้ยจะขายได้เฉพาะชาติขี้ข้าเหี้ยเท่านั้น เท่ากับจำกัดวงผู้บริโภคนั่นเอง ไม่ใช่ทั้งโลกเหมือนแต่เก่าก่อน! ดอกนี้ ขั้วใหม่วางแผนมาดี จีนถึงได้ขยายโลจิสติคโลกใหม่ เชื่อมแอฟริกา ตะวันออกกลาง ลาติน เข้าหากันหมดไงล่ะ? โดยมีเวเนฯ คิวบา เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน มีสมาชิกของเข้าร่วมกลุ่มเงินดิจิตอลแล้วกว่า 10 ชาติ ทั้งอเมริกาใต้ และอเมริกากลาง ใครๆ ก็ต้องการแหล่งพลังงานที่มั่นคง และค่าเงินที่เป็นธรรม ขอไว้อาลัยให้อีเมสซี่แลนด์ ที่มันถูกแยกออกจากโลกลาตินโดยสมบูรณ์แล้ว ไต้หวันขาสั่น อยู่ดีดี จีน รัสเซีย อิหร่าน และทั้งตะวันออกกลางก็มา มรึงจะเอาให้กูหายไปจากแผนที่โลกเลยเหรอ? ก๊กมินตั๋ง เตรียมยึดสภาล่างไม่อนุมัติก่อสงครามกับจีน มาตามใบเสร็จปักกิ่ง ยิ่งสู้ ยิ่งจบเร็ว อีไล่ ชิง เต๋อ แค่หุ่นเชิด อีไช่ รอดแล้วแค่ในไต้หวัน ออกนอกมรึงโดนแน่! เหมือนอีเสี้ยนยา อีเนรคุณทันยา ชะตากรรมเดียวกัน คือถูกเก็บแน่ ใครจะปล่อยมรึงไว้ล่ะ? ปล.เป็นอันแน่ชัด! เมื่ออียิวและเหี้ยมะกันตัดสินใจโจมตีอิหร่านรอบใหม่ นั่นคือใบเสร็จที่อิหร่านจะใช้สิทธิ์ป้องกันตัว ขีปนาวุธ 100000 ลูก ที่คาเมเนอีเคยลั่นเอาไว้ จะได้ใช้ก็งานนี้แหละ เพราะทุกอย่างมันสุกงอมแล้ว ทำไมอียิวถึงยอมฆ่าตัวตาย รู้ดีว่าอิหร่านสกัดได้อยู่แล้ว เหตุผลเดียวคือ ยกระดับสงครามขยายวงกว้างนั่นเอง แต่ WWIII ไม่มา เพราะอิหร่าน และโลกอาหรับลงแขกยิวเท่านั้น จีน รัสเซีย ยืนดู เติมอาวุธให้ เค้ารออะไร? รอเหี้ยมะกันยกกองทัพใหญ่มาช่วยอียิวทั้งหมดไงล่ะ แต่มันนกรู้ เสือกไม่ยอมยกมาให้หมด กลัวหลังบ้านเปิด แล้วจะโดนสวนดาก วอชิงตันตายคาที่ ต่างฝ่ายรู้มือกันดี ว่ามรึงล่อกูออกมาทำไม? เรื่องถึงต้องจบที่อียิวสิ้นชาติพันธุ์ไปไง ย้ายออกจากแผ่นดินคานาอันโดยไม่มีเงื่อนไข แล้วอีเหี้ยมะกันก็เตรียมเปิดบ้านต้องรับยิว แต่ก่อนจะเข้ามา ขอทำความสะอาดบ้านก่อนน่ะ CIVIL WAR หากไม่ฆ่ากันเองก่อนทั้งแผ่นดิน อียิวก็เข้ามาไม่ได้? หลังเลือกตั้งคือ D-DAY แผนแตกอเมริกาไงล่ะ? แล้วอีโง่ยุโรป มันจะอยู่ต่อยังไง? อีเบียร์เจ๊ง อีเศษฝรั่งเจ๊ง มรึงจะไปหาเจ้ามือใหม่เค้าก็ไม่รับ ไม่เอา จะคบเหี้ยต่อ จะอุ้มเหี้ยต่อ ก็เสี่ยงสูญพันธุ์ สิ้นชาติโดยเปล่าประโยชน์ ทำได้แค่ ปล่อยวาง EU ภายในก็จ้องจะแตกอยู่แล้ว สุดท้ายตัวใครตัวมัน? ยุโรปจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ปชต.จะตายห่า กษัตริย์จะกลับคืนบังลังก์ ราชวงศ์ฮับบรูกเตรียมชงเต็มที่! เศรษฐกิจอิสราเอลเจ๊งหมดแล้ว ทั้งโรงงานผลิต ท่าเรือสินค้า ไปหมดเกลี้ยง แถมถูกชาวโลกแบนต่อต้านสินค้ายิว ที่มาว่าทำไม มันต้องก่อสงครามเพื่อหนีหนี้ ยิวตายไม่พอลากอเมริกา อังกฤษ ยุโรป ตายห่าไปพร้อมกันด้วย เพราะแบกดอลล่าร์จนหลังแอ่น ยูโร ปอนด์ เยน ไปหมด มีแต่ตัวเลข เม็ดเงินจริงไม่มีเหลือ นี่ไง "ทุนนิยมเหี้ยสามานย์" แค่ลงทุนหาเหยื่อมาแบกหนี้ แล้วชิ่งหนี ควายก็เป็นเหยื่อไปสิ เห็นๆ กันอยู่ทุกวี่วัน ไม่มีอะไรลงทุนแล้วได้ทันที ได้มาก ได้เร็ว หากไม่โกงเค้ามาดอกน่ะ สติมี แต่ความโลภมันบังตา เสร็จหมด สูตรหาแดร๊กอียิวมัน ที่ใช้ดอกนี้ทั่วโลกมาเป็นศตวรรษ ยิ่งโลกขัดแย้งกันเยอะ นานาชาติชิงแห่ขอเข้า BRICS เพื่อการคุมครองระยะยาว มีทั้ง SCO กองทัพโลก มีทั้ง AIIB แหล่งเงินลงทุนพร้อมสรรพ เจ้ามือคือ "หยวน" สถานการณ์โลกชี้ชัด ขั้วใหม่ชนะแบเบอร์ แต่ไม่บุ่มบ่าม ไม่เร่งรีบเกินไป ค่อยๆ กลืน ค่อยๆ เชือด จนเหี้ยสิ้นเนื้อประดาตัว จริงดิ? อเมริกาวิกฤตสมองไหล? คนเก่ง คนดังแต่ละสาขาอาชีพ แห่เข้าจีน? ถามกลับ ไอ้ที่อยู่เนี่ย หน้าตาฝรั่ง หรือเอเซีย อ้าว! ไม่ตรงปก จีนวางยาไว้เมื่อ 30 ปี ก่อน เมื่อจะสู้กับเหี้ย ต้องรู้ให้มากกว่าเหี้ย เกจิดัง ศาตราจารย์ PROF. ระดับหัวกะทิระดับโลก หัวดำทั้งนั้น หน้าตาเอเซียชัดเจน แล้วไปทำห่าอะไรที่นั่น มาเพื่อดูดวิชากลับ แล้วสานต่อบ้านเกิดไงล่ะ ดังนั้น จะพูดให้ถูกคือ "ได้เวลากลับบ้านแล้วต่างหาก" เพราะทุกวันนี้ จีนเจริญไปไกลว่าตะวันตกเยอะ จนเทียบไม่ติด เมื่อตัวตึง ตัวดัง แห่กลับบ้านเกิด อเมริกา อังกฤษ จะเหลือเหี้ยอะไรอีก กลับคืนสู่ยุคมืดอีกครั้ง เป็นไปตามวิบากกรรมที่มรึงก่อนั่นเอง! หมี CNN(ตะวันออกกลางอิหร่านคุมเกมส์ เอเซียใต้ จีนเอาอยู่ รัสเซียคุมยุโรป เวเนฯ คุมลาติน เกือบจะหมดโลกแล้วมั้ง? เหลือให้เหี้ยมันแดร๊กบ้าง ไม่งั้นกูจะระเบิดฆ่าตัวตาย ลากทั้งโลกตายไปด้วย นั่นแหละ ที่เค้ารอให้มรึงทำอยู่ ไอ้ควาย! สื่อเหี้ยอับอายไม่รู้จะแถยังไงต่อได้อีก แพ้ยับ แพ้ไม่ปรึกษาใคร ยิ่งแถ ยิ่งหมา แต่ก็ยังมีควายตาม สมกับเป็นควาย เกิดมาทำไมไม่รู้?) 27 ตุลาคม 67 16.15 น. https://linevoom.line.me/post/1173008015093750275 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.facebook.com/100008345866956/posts/pfbid0FE6WHU21zkuYUVtiVG1buSNpv7R7hQKbL5qoMSRrDV3dqcMnkneG2MJMKezdBSZ4l/?app=fbl
    https://www.facebook.com/100008345866956/posts/pfbid0FE6WHU21zkuYUVtiVG1buSNpv7R7hQKbL5qoMSRrDV3dqcMnkneG2MJMKezdBSZ4l/?app=fbl
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.facebook.com/100008345866956/posts/pfbid0RegZVSEMT84VYjLGezvJKgxtVbUzaR4Sop7t3kpcWhoduuJyYFd3VAeLSxwz2cnAl/?app=fbl
    https://www.facebook.com/100008345866956/posts/pfbid0RegZVSEMT84VYjLGezvJKgxtVbUzaR4Sop7t3kpcWhoduuJyYFd3VAeLSxwz2cnAl/?app=fbl
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ่าโต้ว สบู่จีนโบราณ

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> คงจะฟินจิกหมอนไม่น้อยกับฉากอาบน้ำของพระเอกนางเอก ในซีรีส์ไม่ได้พูดถึง แต่ในนิยายตอนที่องค์หญิงหลี่หรงสั่งให้สาวใช้เตรียมของใช้สำหรับอาบน้ำจังหวะนี้ นอกจากกลีบดอกไม้แล้ว ยังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘เจ่าโต้ว’ (澡豆) แปลตรงตัวว่าถั่วอาบน้ำ ซึ่งก็คือสบู่โบราณนั่นเอง วันนี้เรามาคุยกันเรื่องนี้

    แต่ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงวัฒนธรรมการอาบน้ำ ปัจจุบันการอาบน้ำทั่วไปเรียกว่า ‘สีเจ่า’ (洗澡) แต่ถ้าอาบแบบแช่น้ำในอ่างทั้งตัวเรียกเป็น ‘มู่อวี้’ (沐浴) ซึ่งคำว่า ‘มู่อวี้’ นี้เป็นศัพท์ที่มีมาแต่โบราณและคำว่าห้องอาบน้ำ (浴室/อวี้ซึ) ปรากฏเป็นอักขระบนกระดูกโบราณมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง ดังนั้น วัฒนธรรมการอาบน้ำมีมาอย่างน้อยสามพันกว่าปีในประเทศจีน

    ในเอกสารสมัยราชวงศ์ฮั่นระบุจำแนกไว้ว่า ‘มู่’ คือการสระผม ‘อวี้’ คือการอาบชำระร่างกาย ‘สี่’ คือการล้างเท้า และ ‘เจ่า’ คือการล้างมือ ต่อมาคำว่า ‘เจ่า’ จึงค่อยๆ ถูกใช้สำหรับการชำระล้างส่วนอื่นๆ ด้วย

    การอาบน้ำแบบโบราณหรือมู่อวี้ โดยทั่วไปคือการอาบน้ำอุ่นในถังอาบน้ำ อาจแช่ทั้งตัวหรือนั่งราดอาบก็ได้ ดังที่เราเห็นในซีรีส์จีนว่าต้องมีการต้มน้ำไปใส่อ่าง หรืออย่างในวังจะมีสระน้ำร้อนให้ใช้ และชาวจีนโบราณก็ไม่ได้อาบน้ำทุกวัน (จะว่าไปแล้ว ชาติอื่นก็เหมือนกัน) โดยหลักปฏิบัติคือสามวันให้สระผมหนึ่งครั้ง ห้าวันอาบน้ำหนึ่งครั้ง ในสมัยฮั่นถึงกับกำหนดเป็นกฎที่ต้องปฏิบัติของข้าราชการโดยจะหยุดพักงานทุกห้าวัน เป็นนัยว่าหยุดเพื่อให้อยู่บ้านอาบน้ำ และวันหยุดนี้เรียกว่า ‘ซิวมู่’ (休沐 แปลตรงตัวว่าพักอาบน้ำ)

    นอกจากนี้ ก่อนเข้าร่วมพิธีสำคัญก็ต้องอาบน้ำโดยเฉพาะพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากกาย โดยในเอกสารโบราณมีระบุรายละเอียดเพิ่มเติมถึงขั้นตอนการอาบน้ำ เป็นต้นว่า การอาบน้ำนั้น ท่อนบนของร่างกายใช้ผ้าใยเนื้อละเอียดเช็ดถู ท่อนล่างใช้ผ้าใยเนื้อหยาบ สุดท้ายคือยืนล้าง (ขัด) เท้าบนเสื่อหญ้าหยาบ เมื่อเช็ดแห้งเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วให้ดื่มชาหรือน้ำเพื่อปรับอุณภูมิในร่างกายและชดเชยการเสียเหงื่อด้วย

    ในช่วงสมัยราชวงศ์เหนือใต้ ปรากฏว่าตามวัดพุทธมีการขุดบ่อเป็นสระอาบน้ำรวมให้พระภิกษุใช้อาบทุกวันก่อนไหว้พระ และเนื่องจากในสมัยโบราณชาวบ้านนิยมเที่ยววัด จึงค่อยๆ กลายเป็นว่าชาวบ้านหรือข้าราชการก็ไปใช้บริการอาบน้ำที่วัด เสร็จแล้วก็นั่งดื่มชาสนทนากัน ต่อมาวัฒนธรรมการอาบน้ำรวมนี้เป็นที่นิยมมาก ในสมัยซ่งมีสระอาบน้ำสาธารณะในเมืองที่ชาวบ้านสามารถมาจ่ายเงินใช้บริการได้โดยแบ่งเป็นสระน้ำอุ่นและสระน้ำเย็นให้เลือกใช้ได้ตามใจชอบ และในสมัยหมิงถึงกับมีคนรับจ้างช่วยถูหลังสระผมตัดเล็บเลยทีเดียว

    ว่ากันว่า แรกเริ่มเลยในสมัยซางและฮั่น คนโบราณใช้น้ำซาวข้าวอาบน้ำสระผม ต่อมาในสมัยราชวงศ์เหนือใต้มีการพัฒนาใช้เครื่องหอมต่างๆ จึงสันนิษฐานว่าสบู่โบราณเจ่าโต้วถูกพัฒนาขึ้นในสมัยนั้นเช่นกัน แต่ว่าแรกเริ่มมันเป็นของหรูที่มีใช้ในวังเท่านั้นและใช้สำหรับล้างมือ ต่อมาจึงแพร่สู่ชาวบ้านธรรมดา ใช้ได้ทั้งอาบน้ำสระผมล้างหน้าล้างมือล้างเท้า และใช้ซักเสื้อผ้าอีกด้วย

    สบู่เจ่าโต้วนี้ถูกเรียกว่า ‘ถั่วอาบน้ำ’ เพราะว่าส่วนผสมหลักของมันก็คือถั่วหรือธัญพืชบดละเอียด ผสมด้วย เครื่องหอม เครื่องเทศและยาสมุนไพรหลากหลาย และสูตรโบราณนี้นอกจากจะเป็นสครับขัดผิวให้ขาวเนียนและบำรุงผิวพรรณได้ดีแล้ว ยังล้างคราบได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคราบดินโคลน คราบมัน คราบเลือด และคราบเครื่องสำอาง ต่อมาภายหลังจึงใช้หันไปใช้ขี้เถ้าไม้และไขมันสัตว์เป็นส่วนผสมหลักเรียกว่า ‘อี๋จื่อ’ (胰子) ซึ่งเป็นพัฒนากลายมาเป็นสบู่ปัจจุบัน

    สูตรการทำเจ่าโต้วถูกพัฒนาขึ้นอย่างหลากหลาย แต่สามารถสรุปรวมได้ดังนี้ คือ (1) ธัญพืชและถั่วสารพัดชนิด บ้างต้มสุกบ้างใช้ถั่วดิบ บดละเอียด (2) สมุนไพรหรือเครื่องเทศบดละเอียด เช่น กานพลู การบูร อบเชย (3) เครื่องหอมที่ต้องการ เช่นไม้หอมอบแห้ง กลีบดอกไม้แห้ง บดละเอียดหรือหากเป็นดอกไม้อาจบดหยาบ (4) น้ำหรือน้ำแร่ ต้มเคี่ยวกับน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง (5) เอาส่วนผสมทั้งหมดผสมแล้วคลุกให้สม่ำเสมอ ปั้นเป็นลูกกลอนแล้วเอาไปตากแห้งหลายๆ วัน เป็นอันจบขั้นตอน เวลาจะใช้ก็ชุบน้ำให้เปียกแล้วบี้แตกถูตามร่างกาย

    Storyฯ ผ่านตาคลิปของพ่อหนุ่มที่ทำสบู่โบราณนี้ เป็นคนเดียวกับที่เคยทำกระบอกจุดไฟและกระโปรงหม่าเมี่ยนที่ Storyฯ เคยเขียนถึง (ค้นอ่านบทความเก่าได้จากสารบัญ) เข้าไปดูได้ตามลิ้งค์ข้างล่างค่ะ

    จะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วเจ่าโต้วทำไม่ยาก แต่สาเหตุที่เดิมเป็นของฟุ่มเฟือยเพราะส่วนผสมหลายอย่างมีราคาสูงเกินกว่าที่ชาวบ้านธรรมดาจะนำมาใช้ในกิจวัตรประจำวัน สู้ใช้พวกดินโคลนหินทรายจะง่ายกว่าและประหยัดทรัพย์ โดยส่วนตัวแล้ว Storyฯ คิดว่าส่วนผสมของเจ่าโต้วนี้ดูน่าใช้กว่าสบู่รุ่นหลังที่ทำจากไขมันสัตว์และขี้เถ้าไม้เสียอีก แต่ยังไม่ได้ทดลองทำดูนะ ใครลองทำแล้วได้ผลอย่างไรอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะคะ หรือถ้าใครรู้ว่าภูมิปัญญาไทยโบราณใช้อะไรทำสบู่ แตกต่างมากน้อยอย่างไรกับเจ่าโต้วนี้ ก็มาเล่าให้ฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    คลิปสาธิตการทำเจ่าโต้ว: https://www.youtube.com/watch?v=kuCYk0hoAdY
    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://k.sina.cn/article_2277596227_87c15c4304001633w.html
    https://kknews.cc/zh-my/history/p6b6orj.html
    https://baike.sogou.com/v8330278.htm
    https://zabar.pixnet.net/blog/post/64707721
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_23937607
    https://baike.baidu.com/item/澡豆/687918
    https://kknews.cc/zh-cn/history/qxyaj9b.html
    https://k.sina.cn/article_6395568294_17d34a0a600100cs21.html
    https://baike.baidu.com/item/胰子/5249378

    #องค์หญิงใหญ่ #เจ่าโต้ว #สบู่จีนโบราณ #อาบน้ำจีนโบราณ #สาระจีน

    เจ่าโต้ว สบู่จีนโบราณ สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> คงจะฟินจิกหมอนไม่น้อยกับฉากอาบน้ำของพระเอกนางเอก ในซีรีส์ไม่ได้พูดถึง แต่ในนิยายตอนที่องค์หญิงหลี่หรงสั่งให้สาวใช้เตรียมของใช้สำหรับอาบน้ำจังหวะนี้ นอกจากกลีบดอกไม้แล้ว ยังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘เจ่าโต้ว’ (澡豆) แปลตรงตัวว่าถั่วอาบน้ำ ซึ่งก็คือสบู่โบราณนั่นเอง วันนี้เรามาคุยกันเรื่องนี้ แต่ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงวัฒนธรรมการอาบน้ำ ปัจจุบันการอาบน้ำทั่วไปเรียกว่า ‘สีเจ่า’ (洗澡) แต่ถ้าอาบแบบแช่น้ำในอ่างทั้งตัวเรียกเป็น ‘มู่อวี้’ (沐浴) ซึ่งคำว่า ‘มู่อวี้’ นี้เป็นศัพท์ที่มีมาแต่โบราณและคำว่าห้องอาบน้ำ (浴室/อวี้ซึ) ปรากฏเป็นอักขระบนกระดูกโบราณมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง ดังนั้น วัฒนธรรมการอาบน้ำมีมาอย่างน้อยสามพันกว่าปีในประเทศจีน ในเอกสารสมัยราชวงศ์ฮั่นระบุจำแนกไว้ว่า ‘มู่’ คือการสระผม ‘อวี้’ คือการอาบชำระร่างกาย ‘สี่’ คือการล้างเท้า และ ‘เจ่า’ คือการล้างมือ ต่อมาคำว่า ‘เจ่า’ จึงค่อยๆ ถูกใช้สำหรับการชำระล้างส่วนอื่นๆ ด้วย การอาบน้ำแบบโบราณหรือมู่อวี้ โดยทั่วไปคือการอาบน้ำอุ่นในถังอาบน้ำ อาจแช่ทั้งตัวหรือนั่งราดอาบก็ได้ ดังที่เราเห็นในซีรีส์จีนว่าต้องมีการต้มน้ำไปใส่อ่าง หรืออย่างในวังจะมีสระน้ำร้อนให้ใช้ และชาวจีนโบราณก็ไม่ได้อาบน้ำทุกวัน (จะว่าไปแล้ว ชาติอื่นก็เหมือนกัน) โดยหลักปฏิบัติคือสามวันให้สระผมหนึ่งครั้ง ห้าวันอาบน้ำหนึ่งครั้ง ในสมัยฮั่นถึงกับกำหนดเป็นกฎที่ต้องปฏิบัติของข้าราชการโดยจะหยุดพักงานทุกห้าวัน เป็นนัยว่าหยุดเพื่อให้อยู่บ้านอาบน้ำ และวันหยุดนี้เรียกว่า ‘ซิวมู่’ (休沐 แปลตรงตัวว่าพักอาบน้ำ) นอกจากนี้ ก่อนเข้าร่วมพิธีสำคัญก็ต้องอาบน้ำโดยเฉพาะพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากกาย โดยในเอกสารโบราณมีระบุรายละเอียดเพิ่มเติมถึงขั้นตอนการอาบน้ำ เป็นต้นว่า การอาบน้ำนั้น ท่อนบนของร่างกายใช้ผ้าใยเนื้อละเอียดเช็ดถู ท่อนล่างใช้ผ้าใยเนื้อหยาบ สุดท้ายคือยืนล้าง (ขัด) เท้าบนเสื่อหญ้าหยาบ เมื่อเช็ดแห้งเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วให้ดื่มชาหรือน้ำเพื่อปรับอุณภูมิในร่างกายและชดเชยการเสียเหงื่อด้วย ในช่วงสมัยราชวงศ์เหนือใต้ ปรากฏว่าตามวัดพุทธมีการขุดบ่อเป็นสระอาบน้ำรวมให้พระภิกษุใช้อาบทุกวันก่อนไหว้พระ และเนื่องจากในสมัยโบราณชาวบ้านนิยมเที่ยววัด จึงค่อยๆ กลายเป็นว่าชาวบ้านหรือข้าราชการก็ไปใช้บริการอาบน้ำที่วัด เสร็จแล้วก็นั่งดื่มชาสนทนากัน ต่อมาวัฒนธรรมการอาบน้ำรวมนี้เป็นที่นิยมมาก ในสมัยซ่งมีสระอาบน้ำสาธารณะในเมืองที่ชาวบ้านสามารถมาจ่ายเงินใช้บริการได้โดยแบ่งเป็นสระน้ำอุ่นและสระน้ำเย็นให้เลือกใช้ได้ตามใจชอบ และในสมัยหมิงถึงกับมีคนรับจ้างช่วยถูหลังสระผมตัดเล็บเลยทีเดียว ว่ากันว่า แรกเริ่มเลยในสมัยซางและฮั่น คนโบราณใช้น้ำซาวข้าวอาบน้ำสระผม ต่อมาในสมัยราชวงศ์เหนือใต้มีการพัฒนาใช้เครื่องหอมต่างๆ จึงสันนิษฐานว่าสบู่โบราณเจ่าโต้วถูกพัฒนาขึ้นในสมัยนั้นเช่นกัน แต่ว่าแรกเริ่มมันเป็นของหรูที่มีใช้ในวังเท่านั้นและใช้สำหรับล้างมือ ต่อมาจึงแพร่สู่ชาวบ้านธรรมดา ใช้ได้ทั้งอาบน้ำสระผมล้างหน้าล้างมือล้างเท้า และใช้ซักเสื้อผ้าอีกด้วย สบู่เจ่าโต้วนี้ถูกเรียกว่า ‘ถั่วอาบน้ำ’ เพราะว่าส่วนผสมหลักของมันก็คือถั่วหรือธัญพืชบดละเอียด ผสมด้วย เครื่องหอม เครื่องเทศและยาสมุนไพรหลากหลาย และสูตรโบราณนี้นอกจากจะเป็นสครับขัดผิวให้ขาวเนียนและบำรุงผิวพรรณได้ดีแล้ว ยังล้างคราบได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคราบดินโคลน คราบมัน คราบเลือด และคราบเครื่องสำอาง ต่อมาภายหลังจึงใช้หันไปใช้ขี้เถ้าไม้และไขมันสัตว์เป็นส่วนผสมหลักเรียกว่า ‘อี๋จื่อ’ (胰子) ซึ่งเป็นพัฒนากลายมาเป็นสบู่ปัจจุบัน สูตรการทำเจ่าโต้วถูกพัฒนาขึ้นอย่างหลากหลาย แต่สามารถสรุปรวมได้ดังนี้ คือ (1) ธัญพืชและถั่วสารพัดชนิด บ้างต้มสุกบ้างใช้ถั่วดิบ บดละเอียด (2) สมุนไพรหรือเครื่องเทศบดละเอียด เช่น กานพลู การบูร อบเชย (3) เครื่องหอมที่ต้องการ เช่นไม้หอมอบแห้ง กลีบดอกไม้แห้ง บดละเอียดหรือหากเป็นดอกไม้อาจบดหยาบ (4) น้ำหรือน้ำแร่ ต้มเคี่ยวกับน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง (5) เอาส่วนผสมทั้งหมดผสมแล้วคลุกให้สม่ำเสมอ ปั้นเป็นลูกกลอนแล้วเอาไปตากแห้งหลายๆ วัน เป็นอันจบขั้นตอน เวลาจะใช้ก็ชุบน้ำให้เปียกแล้วบี้แตกถูตามร่างกาย Storyฯ ผ่านตาคลิปของพ่อหนุ่มที่ทำสบู่โบราณนี้ เป็นคนเดียวกับที่เคยทำกระบอกจุดไฟและกระโปรงหม่าเมี่ยนที่ Storyฯ เคยเขียนถึง (ค้นอ่านบทความเก่าได้จากสารบัญ) เข้าไปดูได้ตามลิ้งค์ข้างล่างค่ะ จะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วเจ่าโต้วทำไม่ยาก แต่สาเหตุที่เดิมเป็นของฟุ่มเฟือยเพราะส่วนผสมหลายอย่างมีราคาสูงเกินกว่าที่ชาวบ้านธรรมดาจะนำมาใช้ในกิจวัตรประจำวัน สู้ใช้พวกดินโคลนหินทรายจะง่ายกว่าและประหยัดทรัพย์ โดยส่วนตัวแล้ว Storyฯ คิดว่าส่วนผสมของเจ่าโต้วนี้ดูน่าใช้กว่าสบู่รุ่นหลังที่ทำจากไขมันสัตว์และขี้เถ้าไม้เสียอีก แต่ยังไม่ได้ทดลองทำดูนะ ใครลองทำแล้วได้ผลอย่างไรอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะคะ หรือถ้าใครรู้ว่าภูมิปัญญาไทยโบราณใช้อะไรทำสบู่ แตกต่างมากน้อยอย่างไรกับเจ่าโต้วนี้ ก็มาเล่าให้ฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) คลิปสาธิตการทำเจ่าโต้ว: https://www.youtube.com/watch?v=kuCYk0hoAdY Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://k.sina.cn/article_2277596227_87c15c4304001633w.html https://kknews.cc/zh-my/history/p6b6orj.html https://baike.sogou.com/v8330278.htm https://zabar.pixnet.net/blog/post/64707721 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_23937607 https://baike.baidu.com/item/澡豆/687918 https://kknews.cc/zh-cn/history/qxyaj9b.html https://k.sina.cn/article_6395568294_17d34a0a600100cs21.html https://baike.baidu.com/item/胰子/5249378 #องค์หญิงใหญ่ #เจ่าโต้ว #สบู่จีนโบราณ #อาบน้ำจีนโบราณ #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันแบงค็อก กับห้าง‘หลง’ที่สุด

    จากความตั้งใจของเสี่ยเจริญ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่อยากให้ประเทศไทยมีแลนด์มาร์คพิเศษ ที่ทำให้ชาวโลกรู้สึกชื่นชมที่จะนำความเจริญ และความภาคภูมิใจมาสู่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นำมาสู่ วันแบงค็อก (One Bangkok) โครงการอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดในไทย มูลค่าการลงทุนกว่า 120,000 ล้านบาท บนที่ดินกว่า 108 ไร่ ซึ่งเช่าระยะยาวจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2567

    พื้นที่ค้าปลีกกว่า 190,000 ตารางเมตร ที่เปิดให้บริการมี 2 โซน ได้แก่ โซนพาเหรด (Parade) โซนเดอะสตอรี่ส์ (The Storeys) ที่ยังไม่เปิดคือโซนโพสต์ไนน์ทีนไนน์ตี้เอท (POST 1928) เสียงวิจารณ์ที่ตามมานอกจากทำถนนวิทยุ ถนนพระรามที่ 4 และถนนสาทร รถติดหนักกว่าเดิมแล้ว โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่และแยกเป็นหลายอาคาร ทำให้คนที่มาเยือนครั้งแรกเกิดหลงทางทันที จากเดิมที่เซ็นทรัลเวิลด์ครองแชมป์เดินแล้วหลง เจอวันแบงค็อกเข้าไปต้องเรียกพี่

    แนะนำว่าถ้ามาครั้งแรก ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานีลุมพินี ทางออก 1 ดีที่สุด มีทางเชื่อมใต้ดินไปยังโครงการ และจำไว้ว่า MRT ตั้งอยู่ในโซนพาเหรด ชั้น B1 อาคาร Tower 3 ฝั่งถนนพระรามที่ 4

    ชั้น B1 พบกับบิ๊กซีมินิ ร้านอาหาร เดินเลี้ยวขวาสุดทางเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ดฮอลล์สัญชาติญี่ปุ่น มิตซูโคชิ เดปาจิกะ (Mitsukoshi Depachika) ชั้น G เป็นลานพาเหรดสแควร์ (Parade Square) สำหรับจัดงานมินิคอนเสิร์ต ชั้น 1-2 เป็นคิงเพาเวอร์ ซิตี้บูติก (King Power City Boutique) จำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรี สินค้าซื้อแล้วรับกลับทันที ชั้น 3 เป็นห้างสารพัดไทย ของคิงเพาเวอร์ ชั้น 5 เป็นโรงภาพยนตร์วันอัลตร้าสกรีน (One Ultra Screen) และศูนย์อาหารฟู้ดสตรีท (Food Street)

    เดินไปทางซ้ายจะเป็นโซนเดอะสตอรี่ส์ ฝั่งถนนวิทยุ ประกอบด้วยร้านอาหาร ร้านค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ซึ่งทั้งสองโซนจะเชื่อมถึงกัน ตรงกลางจะเป็นวันแบงค็อกพาร์ค (One Bangkok Park) พื้นที่จัดกิจกรรมกลางแจ้ง ทางเข้าอาคาร Tower 4

    ถัดไปจะเป็นวันแบงค็อกบูเลอวาร์ด (One Bangkok Boulevard) อาคารโพสต์ไนน์ทีนไนน์ตี้เอท อาคาร Tower 5 และอาคารวันแบงค็อกฟอรั่ม (One Bangkok Forum) ศูนย์ประชุมและจัดคอนเสิร์ต โดยชั้น G มีบิ๊กซี บางกอก มาร์เช่ (Big C Bangkok Marché) โมเดลฟู้ดเพลสรูปแบบใหม่ แต่ยังไม่เปิดเต็มรูปแบบ อยู่ใกล้ทางเชื่อมทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านลุมพินีมากที่สุด นับจากนี้จะมีโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ตามมา และอาคารสูงที่สุดในประเทศไทย ปี 2569

    #Newskit #OneBangkok
    วันแบงค็อก กับห้าง‘หลง’ที่สุด จากความตั้งใจของเสี่ยเจริญ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่อยากให้ประเทศไทยมีแลนด์มาร์คพิเศษ ที่ทำให้ชาวโลกรู้สึกชื่นชมที่จะนำความเจริญ และความภาคภูมิใจมาสู่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นำมาสู่ วันแบงค็อก (One Bangkok) โครงการอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดในไทย มูลค่าการลงทุนกว่า 120,000 ล้านบาท บนที่ดินกว่า 108 ไร่ ซึ่งเช่าระยะยาวจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2567 พื้นที่ค้าปลีกกว่า 190,000 ตารางเมตร ที่เปิดให้บริการมี 2 โซน ได้แก่ โซนพาเหรด (Parade) โซนเดอะสตอรี่ส์ (The Storeys) ที่ยังไม่เปิดคือโซนโพสต์ไนน์ทีนไนน์ตี้เอท (POST 1928) เสียงวิจารณ์ที่ตามมานอกจากทำถนนวิทยุ ถนนพระรามที่ 4 และถนนสาทร รถติดหนักกว่าเดิมแล้ว โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่และแยกเป็นหลายอาคาร ทำให้คนที่มาเยือนครั้งแรกเกิดหลงทางทันที จากเดิมที่เซ็นทรัลเวิลด์ครองแชมป์เดินแล้วหลง เจอวันแบงค็อกเข้าไปต้องเรียกพี่ แนะนำว่าถ้ามาครั้งแรก ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานีลุมพินี ทางออก 1 ดีที่สุด มีทางเชื่อมใต้ดินไปยังโครงการ และจำไว้ว่า MRT ตั้งอยู่ในโซนพาเหรด ชั้น B1 อาคาร Tower 3 ฝั่งถนนพระรามที่ 4 ชั้น B1 พบกับบิ๊กซีมินิ ร้านอาหาร เดินเลี้ยวขวาสุดทางเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ดฮอลล์สัญชาติญี่ปุ่น มิตซูโคชิ เดปาจิกะ (Mitsukoshi Depachika) ชั้น G เป็นลานพาเหรดสแควร์ (Parade Square) สำหรับจัดงานมินิคอนเสิร์ต ชั้น 1-2 เป็นคิงเพาเวอร์ ซิตี้บูติก (King Power City Boutique) จำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรี สินค้าซื้อแล้วรับกลับทันที ชั้น 3 เป็นห้างสารพัดไทย ของคิงเพาเวอร์ ชั้น 5 เป็นโรงภาพยนตร์วันอัลตร้าสกรีน (One Ultra Screen) และศูนย์อาหารฟู้ดสตรีท (Food Street) เดินไปทางซ้ายจะเป็นโซนเดอะสตอรี่ส์ ฝั่งถนนวิทยุ ประกอบด้วยร้านอาหาร ร้านค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ซึ่งทั้งสองโซนจะเชื่อมถึงกัน ตรงกลางจะเป็นวันแบงค็อกพาร์ค (One Bangkok Park) พื้นที่จัดกิจกรรมกลางแจ้ง ทางเข้าอาคาร Tower 4 ถัดไปจะเป็นวันแบงค็อกบูเลอวาร์ด (One Bangkok Boulevard) อาคารโพสต์ไนน์ทีนไนน์ตี้เอท อาคาร Tower 5 และอาคารวันแบงค็อกฟอรั่ม (One Bangkok Forum) ศูนย์ประชุมและจัดคอนเสิร์ต โดยชั้น G มีบิ๊กซี บางกอก มาร์เช่ (Big C Bangkok Marché) โมเดลฟู้ดเพลสรูปแบบใหม่ แต่ยังไม่เปิดเต็มรูปแบบ อยู่ใกล้ทางเชื่อมทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านลุมพินีมากที่สุด นับจากนี้จะมีโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ตามมา และอาคารสูงที่สุดในประเทศไทย ปี 2569 #Newskit #OneBangkok
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://linevoom.line.me/post/1172994040889577913
    https://linevoom.line.me/post/1172994040889577913
    LINEVOOM.LINE.ME
    PRACHACHAT | LINE VOOM
    Check out PRACHACHAT's post on LINE VOOM.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • What To Write In A Holiday Card

    Just as we look forward to presents and parties this time of year, we can’t get enough of holiday cards! We love them all: from colorful cards sent by snail mail to animated emails to newsletters summing up what everyone in the family has been up to all year. Fun fact: the very first holiday card in 1843 depicted children toasting with wine—oops!

    But when it comes to sending your own holiday cards this season, it can be confusing to know how to get them just right. The fear of accidentally offending someone or leaving someone off your list can be daunting.

    That’s why we’ve put together these dos and don’ts to kickstart (or improve) your holiday writing tradition.

    Do start early

    You’ll want to leave yourself time to get (or make, if you’re ambitious) cards, write a message, and sign them. If your holiday card includes a picture of your adorable family in matching elf costumes, you’ll need even more time to get the costumes, take the photo, and have it printed. Keep that in mind!

    If you’re planning on sending your holiday cards via the post, it’s recommended you mail them before December 17. So think about the time you have, and what you can reasonably accomplish, which leads us to …

    Don’t be overly ambitious

    Maybe you’re one of these people who, like Martha Stewart, can handcraft a card for each person on your 40-person list and still get them out on time. But most of us mere mortals are not Martha Stewart (sadly).

    People are happy to get a holiday card because it shows you care about them and are thinking about them. Whether it’s store-bought or handmade, it’s the thought that counts.

    Now that we’ve set reasonable expectations, let’s get into the details of writing those holiday cards.

    Do write the recipient’s name

    Even if it’s a store-bought card with a pre-printed message, you want to be sure to write the recipient’s name(s) at the top of the card. You can be formal or informal, depending on the context.

    For a less formal card, you can use the formula of “Dear” plus first names: e.g., Dear Jack & Jill.

    If you’re writing a more formal card, then you’ll want to use honorifics and last names: e.g., Dear Mr. & Dr. Falldownhill or Dear Ms. Dalloway.

    Don’t guess the spelling

    When you’re writing the recipient’s name, make sure you get it right. If it’s a name you’re unfamiliar with or one that has multiple spellings, double-check your address book or other references (social media works) to ensure that you haven’t left out a letter or put in one too many. It’s not a good look.

    Do include a personal message

    Even if your holiday card comes from a box or is an online widget, you should include a personal message to the recipient. This can be short and sweet, as simple as:

    - Wishing you and your family a happy holiday season!
    - The holidays come but once a year: enjoy!
    - Thinking of you over the holidays.
    - Hoping you have a joyous and peaceful holiday.
    - Have a wonderful New Year!
    - Let the spirit of the season inspire you.
    - Warm wishes for the holiday and New Year.
    - Hope this season is filled with joy and cheer!
    - Sending you good luck into the New Year!

    Stock phrases are a good starting point, but you can also include some personal details. For instance, you might consider adding:

    - the important things that happened to you or your family this year, like marriages or births;
    - a wish for the recipient’s health, especially if you know they’ve been under the weather this year;
    - or a note about your desire to see them if they live far away.

    All that said, unless you’re writing a holiday letter, your holiday card note shouldn’t be too long. Aim for no more than 150 words.

    If you’re writing a holiday letter, keep it to a single page long (about 400 words). Nobody needs to know about every detail of your year, trust us.

    Don’t assume everyone celebrates the same holidays

    If you’re sending cards to people you know well, you probably know what holidays they celebrate, so feel free to write “Merry Christmas” and “Happy Hanukkah.” [Is it Tis the Season or ’Tis the Season? Find out!]

    But if you’re sending cards to coworkers, family, or friends you know less well, don’t assume they celebrate the same holidays you do. That can cause unnecessary offense.

    If you’re unsure, stick to the more generic happy holidays or season’s greetings. Make it easy on yourself. Or, as the Emily Post Institute suggests, you can also opt to send a more secular greeting for the new year.

    Do be funny (if you want)

    You can absolutely send formal holiday cards. In which case, we don’t recommend you include jokes.

    But if you’re sending cards to friends and family, a little bit of levity can be nice. That said, avoid any jokes that could be offensive. For example, many people include humorous pictures of their family on their holiday cards. It’s a little cheesy, but also kind of wonderful.

    Don’t be depressing

    Unless you’re Eeyore, you should try to keep a positive, happy tone in your holiday card message.

    Don’t write “This year has sucked” or “Everything is garbage.” If you feel that way, we get it—the holidays can be tough. But holiday cards are a place where the maxim If you don’t have anything nice to say, don’t say anything at all rules.

    If you’re too bummed out to think of any good news to share, just write a generic message like the ones we suggested above.

    Do have everyone in the family sign the card

    After you’ve written your short, thoughtful note in your card, be sure to sign it. If it’s just you, that’s simple enough.

    If you’re sending the card on behalf of your entire immediate family and are going the paper route, pass the card around the family to have them sign. If you’re sending an online card, just include everyone’s name in the signature line.

    Don’t boast

    Holiday cards and letters are an opportunity to reach out to the people you love and care about. It’s not an opportunity for you to boast about how wonderful you and your family are (although we are sure they are wonderful).

    This isn’t a resumé, it’s a highlight reel. Instead of listing every good deed every family member has done all year, pick one or two of the most important things to mention in your message. Moves, weddings, graduations, and births are worth mentioning. Volunteer work at the local soup kitchen, while admirable, is not.

    We wish you the best of luck with your holiday cards this season. Sometimes the cards are as hectic as the holidays … so grab a cup of eggnog and get writing!

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    What To Write In A Holiday Card Just as we look forward to presents and parties this time of year, we can’t get enough of holiday cards! We love them all: from colorful cards sent by snail mail to animated emails to newsletters summing up what everyone in the family has been up to all year. Fun fact: the very first holiday card in 1843 depicted children toasting with wine—oops! But when it comes to sending your own holiday cards this season, it can be confusing to know how to get them just right. The fear of accidentally offending someone or leaving someone off your list can be daunting. That’s why we’ve put together these dos and don’ts to kickstart (or improve) your holiday writing tradition. Do start early You’ll want to leave yourself time to get (or make, if you’re ambitious) cards, write a message, and sign them. If your holiday card includes a picture of your adorable family in matching elf costumes, you’ll need even more time to get the costumes, take the photo, and have it printed. Keep that in mind! If you’re planning on sending your holiday cards via the post, it’s recommended you mail them before December 17. So think about the time you have, and what you can reasonably accomplish, which leads us to … Don’t be overly ambitious Maybe you’re one of these people who, like Martha Stewart, can handcraft a card for each person on your 40-person list and still get them out on time. But most of us mere mortals are not Martha Stewart (sadly). People are happy to get a holiday card because it shows you care about them and are thinking about them. Whether it’s store-bought or handmade, it’s the thought that counts. Now that we’ve set reasonable expectations, let’s get into the details of writing those holiday cards. Do write the recipient’s name Even if it’s a store-bought card with a pre-printed message, you want to be sure to write the recipient’s name(s) at the top of the card. You can be formal or informal, depending on the context. For a less formal card, you can use the formula of “Dear” plus first names: e.g., Dear Jack & Jill. If you’re writing a more formal card, then you’ll want to use honorifics and last names: e.g., Dear Mr. & Dr. Falldownhill or Dear Ms. Dalloway. Don’t guess the spelling When you’re writing the recipient’s name, make sure you get it right. If it’s a name you’re unfamiliar with or one that has multiple spellings, double-check your address book or other references (social media works) to ensure that you haven’t left out a letter or put in one too many. It’s not a good look. Do include a personal message Even if your holiday card comes from a box or is an online widget, you should include a personal message to the recipient. This can be short and sweet, as simple as: - Wishing you and your family a happy holiday season! - The holidays come but once a year: enjoy! - Thinking of you over the holidays. - Hoping you have a joyous and peaceful holiday. - Have a wonderful New Year! - Let the spirit of the season inspire you. - Warm wishes for the holiday and New Year. - Hope this season is filled with joy and cheer! - Sending you good luck into the New Year! Stock phrases are a good starting point, but you can also include some personal details. For instance, you might consider adding: - the important things that happened to you or your family this year, like marriages or births; - a wish for the recipient’s health, especially if you know they’ve been under the weather this year; - or a note about your desire to see them if they live far away. All that said, unless you’re writing a holiday letter, your holiday card note shouldn’t be too long. Aim for no more than 150 words. If you’re writing a holiday letter, keep it to a single page long (about 400 words). Nobody needs to know about every detail of your year, trust us. Don’t assume everyone celebrates the same holidays If you’re sending cards to people you know well, you probably know what holidays they celebrate, so feel free to write “Merry Christmas” and “Happy Hanukkah.” [Is it Tis the Season or ’Tis the Season? Find out!] But if you’re sending cards to coworkers, family, or friends you know less well, don’t assume they celebrate the same holidays you do. That can cause unnecessary offense. If you’re unsure, stick to the more generic happy holidays or season’s greetings. Make it easy on yourself. Or, as the Emily Post Institute suggests, you can also opt to send a more secular greeting for the new year. Do be funny (if you want) You can absolutely send formal holiday cards. In which case, we don’t recommend you include jokes. But if you’re sending cards to friends and family, a little bit of levity can be nice. That said, avoid any jokes that could be offensive. For example, many people include humorous pictures of their family on their holiday cards. It’s a little cheesy, but also kind of wonderful. Don’t be depressing Unless you’re Eeyore, you should try to keep a positive, happy tone in your holiday card message. Don’t write “This year has sucked” or “Everything is garbage.” If you feel that way, we get it—the holidays can be tough. But holiday cards are a place where the maxim If you don’t have anything nice to say, don’t say anything at all rules. If you’re too bummed out to think of any good news to share, just write a generic message like the ones we suggested above. Do have everyone in the family sign the card After you’ve written your short, thoughtful note in your card, be sure to sign it. If it’s just you, that’s simple enough. If you’re sending the card on behalf of your entire immediate family and are going the paper route, pass the card around the family to have them sign. If you’re sending an online card, just include everyone’s name in the signature line. Don’t boast Holiday cards and letters are an opportunity to reach out to the people you love and care about. It’s not an opportunity for you to boast about how wonderful you and your family are (although we are sure they are wonderful). This isn’t a resumé, it’s a highlight reel. Instead of listing every good deed every family member has done all year, pick one or two of the most important things to mention in your message. Moves, weddings, graduations, and births are worth mentioning. Volunteer work at the local soup kitchen, while admirable, is not. We wish you the best of luck with your holiday cards this season. Sometimes the cards are as hectic as the holidays … so grab a cup of eggnog and get writing! Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • If Yuo’re Albe To Raed Tihs, You Might Have Typoglycemia

    Ever heard of typoglycemia? Even if you haven’t, chances are you’ll recognize one of the viral puzzles that explains this phenomenon. Starting around 2003, an email circulated through what seems like every inbox claiming that scrambled English words are just as easy to read as the original words.

    However, as cool as the original email was, it didn’t actually tell the whole truth. There’s more to scrambled words than meets the eye.

    What is typoglycemia?

    That viral email tested our ability to read scrambled words. Here’s what it looks like:

    Aoccdrnig to a rscheearch at Cmabrigde Uinervtisy, it deosn’t mttaer in waht oredr the ltteers in a wrod are, the olny iprmoetnt tihng is taht the frist and lsat ltteer be at the rghit pclae. The rset can be a toatl mses and you can sitll raed it wouthit porbelm. Tihs is bcuseae the huamn mnid deos not raed ervey lteter by istlef, but the wrod as a wlohe.

    Could you read it? Even with a mistake in this viral email (rscheearch cannot spell researcher), the truth is pretty much every fluent English-speaker can read and understand it.

    The word-scrambling phenomenon has a punny name: typoglycemia, playing mischievously with typo and glycemia, the condition of having low blood sugar. Typoglycemia is the ability to read a paragraph like the one above despite the jumbled words.

    Is typoglycemia real or a trick?

    Does it take you nanoseconds to solve the Word Jumble in the newspaper? No? While your brain can breeze through some word-scrambles, it’s more complicated than that click-bait email suggests.

    Matt Davis, a researcher at the MRC Cognition and Brain Sciences Unit at Cambridge University, will help us sort it out. Here’s what they believe the email got right: unless you have a rare brain disorder, people read words as whole units, not letter-by-letter. That’s one of the factors explaining why we can “magically” read the message.

    But here’s where Davis reminds us why the daily Word Jumble still manages to scramble our brains for breakfast. That trending email led us to believe all we need is for “the first and last letters to be in the right place” and nothing else matters. Actually a lot else matters.

    What makes a scrambled word easier to read?

    Here are some other factors a jumbled passage needs in order for everyone to easily read it:

    1. The words need to be relatively short.
    2. Function words (be, the, a, and other words that provide grammatical structure) can’t be messed up, otherwise the reader struggles.
    3. Switching (or transposing) the letters makes a big difference. Letters beside each other in a word can be switched without much difficulty for the reader to understand. When letters farther apart are switched, it’s harder. Take porbelm vs. pelborm (for “problem”).
    4. We understand scrambled words better when their sounds are preserved: toatl vs. talot (for “total”).
    5. Here’s a big one: the passage is readable because it’s predictable (especially because we’ve seen it so many times)!

    Other factors play into it as well, like preserving double letters. For example, in the word according, the scrambled email keeps the cc intact (“aoccdrnig”). Double letters are contextual markers that give good hints. But we could also scramble it up this way: “ancdircog.” Breaking up the cc makes it harder, right?

    All told, we’re code-making machines (we speak the code of English) and we’re wired to find meaning out of nonsense, in part by looking at contextual cues. However the codes can only be scrambled to a certain degree before we get lost.

    Try these two (tougher) word puzzles

    Try your hand at two hard-scrambled passages below which prove your brain needs more than just the first and last letters of a scrambled word to read it quickly.

    With these, you’ll see why our brains can only handle typoglycemia to a point. The answers at the bottom; try not to cheat!

    1. A dootcr has aimttded the magltheuansr of a tageene ceacnr pintaet who deid aetfr a hatospil durg blendur.
    2. In the Vcraiiton are, a levloy eamlred geren, pirlaalty frmoueltad form asirnec, was uesd in fcaibrs and ppaluor falrol hresesdeads.

    The first example is from that blog post by Matt Davis. The second is our re-scrambling of a fascinating Jezebel lead. And they’re not easy! Research shows that typos definitely interfere with reading speed. (There’s a reason we have spell-checkers!) Tricky jumble puzzles that can take hours to complete also prove that, in the end, letter order and spelling absolutely make or break our comprehension of a word.

    Ready for the answers?

    1. A doctor has admitted the manslaughter of a teenage cancer patient who died after a hospital drug blunder.
    2. In the Victorian era, a lovely emerald green, partially formulated from arsenic, was used in fabrics and popular floral headdresses.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    If Yuo’re Albe To Raed Tihs, You Might Have Typoglycemia Ever heard of typoglycemia? Even if you haven’t, chances are you’ll recognize one of the viral puzzles that explains this phenomenon. Starting around 2003, an email circulated through what seems like every inbox claiming that scrambled English words are just as easy to read as the original words. However, as cool as the original email was, it didn’t actually tell the whole truth. There’s more to scrambled words than meets the eye. What is typoglycemia? That viral email tested our ability to read scrambled words. Here’s what it looks like: Aoccdrnig to a rscheearch at Cmabrigde Uinervtisy, it deosn’t mttaer in waht oredr the ltteers in a wrod are, the olny iprmoetnt tihng is taht the frist and lsat ltteer be at the rghit pclae. The rset can be a toatl mses and you can sitll raed it wouthit porbelm. Tihs is bcuseae the huamn mnid deos not raed ervey lteter by istlef, but the wrod as a wlohe. Could you read it? Even with a mistake in this viral email (rscheearch cannot spell researcher), the truth is pretty much every fluent English-speaker can read and understand it. The word-scrambling phenomenon has a punny name: typoglycemia, playing mischievously with typo and glycemia, the condition of having low blood sugar. Typoglycemia is the ability to read a paragraph like the one above despite the jumbled words. Is typoglycemia real or a trick? Does it take you nanoseconds to solve the Word Jumble in the newspaper? No? While your brain can breeze through some word-scrambles, it’s more complicated than that click-bait email suggests. Matt Davis, a researcher at the MRC Cognition and Brain Sciences Unit at Cambridge University, will help us sort it out. Here’s what they believe the email got right: unless you have a rare brain disorder, people read words as whole units, not letter-by-letter. That’s one of the factors explaining why we can “magically” read the message. But here’s where Davis reminds us why the daily Word Jumble still manages to scramble our brains for breakfast. That trending email led us to believe all we need is for “the first and last letters to be in the right place” and nothing else matters. Actually a lot else matters. What makes a scrambled word easier to read? Here are some other factors a jumbled passage needs in order for everyone to easily read it: 1. The words need to be relatively short. 2. Function words (be, the, a, and other words that provide grammatical structure) can’t be messed up, otherwise the reader struggles. 3. Switching (or transposing) the letters makes a big difference. Letters beside each other in a word can be switched without much difficulty for the reader to understand. When letters farther apart are switched, it’s harder. Take porbelm vs. pelborm (for “problem”). 4. We understand scrambled words better when their sounds are preserved: toatl vs. talot (for “total”). 5. Here’s a big one: the passage is readable because it’s predictable (especially because we’ve seen it so many times)! Other factors play into it as well, like preserving double letters. For example, in the word according, the scrambled email keeps the cc intact (“aoccdrnig”). Double letters are contextual markers that give good hints. But we could also scramble it up this way: “ancdircog.” Breaking up the cc makes it harder, right? All told, we’re code-making machines (we speak the code of English) and we’re wired to find meaning out of nonsense, in part by looking at contextual cues. However the codes can only be scrambled to a certain degree before we get lost. Try these two (tougher) word puzzles Try your hand at two hard-scrambled passages below which prove your brain needs more than just the first and last letters of a scrambled word to read it quickly. With these, you’ll see why our brains can only handle typoglycemia to a point. The answers at the bottom; try not to cheat! 1. A dootcr has aimttded the magltheuansr of a tageene ceacnr pintaet who deid aetfr a hatospil durg blendur. 2. In the Vcraiiton are, a levloy eamlred geren, pirlaalty frmoueltad form asirnec, was uesd in fcaibrs and ppaluor falrol hresesdeads. The first example is from that blog post by Matt Davis. The second is our re-scrambling of a fascinating Jezebel lead. And they’re not easy! Research shows that typos definitely interfere with reading speed. (There’s a reason we have spell-checkers!) Tricky jumble puzzles that can take hours to complete also prove that, in the end, letter order and spelling absolutely make or break our comprehension of a word. Ready for the answers? 1. A doctor has admitted the manslaughter of a teenage cancer patient who died after a hospital drug blunder. 2. In the Victorian era, a lovely emerald green, partially formulated from arsenic, was used in fabrics and popular floral headdresses. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • 25-10-67/01 : หมี CNN / เทพเจ้าสายฟ้า "THOR เด้ง" มารายงานตัวเจ้าค่ะ ไอ้สัส! อียิวมันเหี้ยสุดตรีนฉิงๆ จนหมูเด้งทนไม่ไหว ต้องกลายร่างเป็น "เทพเจ้าสายฟ้า" ลงมาเพื่อเอา "อัสนีบาต" ทะลวงดากอียิวให้ขี้แตก!

    BRICS จัดใหญ่ อีนายกปลอมไทยหายหัว เค้าไม่ได้เชิญ หรือรู้น้ำหน้าตัวเอง

    ไอ้สัส! แรงเกิน แค่วันแรก 30 ชาติประกาศเทดอลล่าร์พร้อม อียิวเยี่ยวแตก!

    อีไก่งวงโดน! ก่อการร้ายบุกการบินตุรกี ใบสั่งใครล่ะ? จะหนี NATO เหรอ?

    ดี ชั่ว กลียุคเปิดหน้าหมด พ่อพระในคราบเดรัจฉาน ช่วยแล้วรวย โกงจนได้ดี

    หมา! ซะยิ่งกว่าหมา 600 ยิว ตายโหงคาพรมแดนเลบานอน ไหน ปากเก่ง?

    เงินสกุลใหม่โลกมาแว๊ว! ส่งผลโดยตรงกับทองพุ่งทะยานฟ้า ดอลล่าร์เน่า!

    แอร์โดกัน สั่งเอาคืน PKK 32 ฐาน มรึงโดนกูแน่ เล่นทีเผลอเยือนมอสโคว์

    หัวเว่ย ปฎิบัติการใหม่ ฆ่า IOS โดยตรง สอดแนมมีแห้ว ติดตามมีเหว๋อ โดน

    EU อนุมัติเงินหนุนอียูเครน ควายยุโรปถาม มันเป็นพ่องเหรอ? เงินมรึงเหรอ?

    เดือนหน้า เลือกตั้งใหญ่เหี้ย แผนแตกมาเต็ม อีลอน มัคก์ อีกมลา ซัดกันนัว

    BRICS เพิ่มอีก 13 ประเทศ อาเซียนโผล่ตรึม สัญญานชัด ถิ่นนี้ของใคร?

    กับดัก ตั้งใจปล่อยให้หลุด ต่ออายุตากใบ เกมส์ยังไม่จบ นี่แค่ "จุดเริ่มต้น"
    (หลักฐานใหม่ขนมาเพี๊ยบ เปิดวาระใหม่ พยานใหม่ เปลี่ยนแนวคดี ล่อซื้อ)

    ประชุม BRICS วันนี้ สอดไส้คาราเมล ขี้ข้าเหี้ยโผล่เฉย เตรียมหักหลังระนาว

    ละครตามมา สีจิ้นผิง ไม่ปลื้ม JOHN KIM ส่งทหารช่วยรัสเซีย จริงดิ? ตีบทแตก เล่นให้เนียน กูเป็นกลาง แผนวางมาแบบนี้ บทพระเอก บทตัวร้าย

    อีกทม. แถ ไม่เลิก น้ำท่วมซ้ำซาก วัดพระแก้วท่วม เสียหมาผู้ว่า หมาได้อีก

    อะไรน่ะ? อเมริกันเตรียมก่อสงครามใหญ่ เปล่า? ฆ่ากันเอง โชว์ให้รัสเซียดู

    อีโมดี้ เปลี่ยนสี สำนึกผิด ชะเลียหัวยันตรีน I LOVE BRICS รู้ชะตากรรมดี?

    สกุลเงิน BRICS ซื้อขายในกลุ่ม ใครจะสั่ง ต้องมีเงิน BRICS ชัดพอมุย?

    อิหร่านโชว์ มีอาวุธร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ จริงดิ? แค่ดับทั้งแผ่นดิน ยุคหิน!

    หุ้นโลกป่วน ปั่นจนเละเทะ ถอนการลงทุน มีแต่ตัวเลข เม็ดเงินไม่มี ยิวเดี้ยง

    ควายส้ม สาวกส้มช็อค เห็นพม่าดีกว่ากู สติเริ่มกลับ กูโง่ยิ่งกว่าควายซะอีก?

    ปล.ทักทายยามสาย โลกเริ่มเปลี่ยน ควายกลายร่างแล้ว อดทนไม่นาน สมดุลจะกลับมา เหตุการณ์โลกถึงขีดสุด เหตุการณ์ไทยยังตอแหลไม่เลิก จุดจบอยู่ที่ปากท้อง จะรบกัน แล้วจะเอาห่าอะไรแดร๊ก? เหี้ยจนตรอกแล้ว จะเล่นใหญ่ จัดหนัก ยิ่งฉิบหาย ถึงขั้นสิ้นชาติพันธุ์ ทุกเรื่องราวบัดซบที่เกิดในตอนนี้ ใช่ บทสรุปน่ะจ๊ะ นี่แค่เพิ่งจะเริ่มจุดเริ่มต้นเท่านั้น มันคือการล้างบางสิ่งสกปรกโสมม ออกไปจนหมดสิ้น อะไรที่คิดว่าจบแล้ว คิดว่าเป็นไปไม่ได้จะเกิดขึ้น มรึงรอดู ขี้เกียจพูดแล้ว เบื่อ เพราะแสงทำงานเมื่อไหร่ เหี้ยไอ้อีทั้งหมด ไม่มีรอด คดีจบแล้วก็เปิดใหม่ได้ อะไรผ่านไปแล้ว ก็ตามกลับมาได้เสมอ หากแสงจะทำงานซะอย่าง พูดง่ายๆ กรรม ไม่มีสิ้นสุดจ๊ะ มรึงมองด้วยตา ก็จะเห็นแค่ตา หากมรึงมองดูสติ และปัญญา ศรัทธา มรึงจะเห็นทุกอย่าง

    หมี CNN(THOR เด้งสุดจะทน เดี๋ยวจะไปลากเอาสายฟ้ายัดตูดเหี้ยไอ้อีขายชาติให้หมด เอาให้เกรียมไปเลย ดูภาพ ให้ดูทุกมิติ คิดนอกกรอบบ้าง เพราะศัตรูมรึงก็ทำแบบเดียวกัน ใครบอกล่ะ ว่ามีแค่ 1+1 = 2 ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่วิธีคิดแตกต่างกัน งวดนี้ ขั้วใหม่เค้าเล่นจนสุดทางแน่ เดินหน้าไม่มีถอย ใครขวางก็ตายโหงชัวร์ โลกเดินตามขั้วใหม่แล้ว อำนาจเหี้ยลดลงทุกวัน ขี้ข้ากล้าตายตามนายมรึงมั้ยล่ะ?)
    25 ตุลาคม 67
    11.23 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172983374485551710
    ------------------------------------------------------------------------—
    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    25-10-67/01 : หมี CNN / เทพเจ้าสายฟ้า "THOR เด้ง" มารายงานตัวเจ้าค่ะ ไอ้สัส! อียิวมันเหี้ยสุดตรีนฉิงๆ จนหมูเด้งทนไม่ไหว ต้องกลายร่างเป็น "เทพเจ้าสายฟ้า" ลงมาเพื่อเอา "อัสนีบาต" ทะลวงดากอียิวให้ขี้แตก! BRICS จัดใหญ่ อีนายกปลอมไทยหายหัว เค้าไม่ได้เชิญ หรือรู้น้ำหน้าตัวเอง ไอ้สัส! แรงเกิน แค่วันแรก 30 ชาติประกาศเทดอลล่าร์พร้อม อียิวเยี่ยวแตก! อีไก่งวงโดน! ก่อการร้ายบุกการบินตุรกี ใบสั่งใครล่ะ? จะหนี NATO เหรอ? ดี ชั่ว กลียุคเปิดหน้าหมด พ่อพระในคราบเดรัจฉาน ช่วยแล้วรวย โกงจนได้ดี หมา! ซะยิ่งกว่าหมา 600 ยิว ตายโหงคาพรมแดนเลบานอน ไหน ปากเก่ง? เงินสกุลใหม่โลกมาแว๊ว! ส่งผลโดยตรงกับทองพุ่งทะยานฟ้า ดอลล่าร์เน่า! แอร์โดกัน สั่งเอาคืน PKK 32 ฐาน มรึงโดนกูแน่ เล่นทีเผลอเยือนมอสโคว์ หัวเว่ย ปฎิบัติการใหม่ ฆ่า IOS โดยตรง สอดแนมมีแห้ว ติดตามมีเหว๋อ โดน EU อนุมัติเงินหนุนอียูเครน ควายยุโรปถาม มันเป็นพ่องเหรอ? เงินมรึงเหรอ? เดือนหน้า เลือกตั้งใหญ่เหี้ย แผนแตกมาเต็ม อีลอน มัคก์ อีกมลา ซัดกันนัว BRICS เพิ่มอีก 13 ประเทศ อาเซียนโผล่ตรึม สัญญานชัด ถิ่นนี้ของใคร? กับดัก ตั้งใจปล่อยให้หลุด ต่ออายุตากใบ เกมส์ยังไม่จบ นี่แค่ "จุดเริ่มต้น" (หลักฐานใหม่ขนมาเพี๊ยบ เปิดวาระใหม่ พยานใหม่ เปลี่ยนแนวคดี ล่อซื้อ) ประชุม BRICS วันนี้ สอดไส้คาราเมล ขี้ข้าเหี้ยโผล่เฉย เตรียมหักหลังระนาว ละครตามมา สีจิ้นผิง ไม่ปลื้ม JOHN KIM ส่งทหารช่วยรัสเซีย จริงดิ? ตีบทแตก เล่นให้เนียน กูเป็นกลาง แผนวางมาแบบนี้ บทพระเอก บทตัวร้าย อีกทม. แถ ไม่เลิก น้ำท่วมซ้ำซาก วัดพระแก้วท่วม เสียหมาผู้ว่า หมาได้อีก อะไรน่ะ? อเมริกันเตรียมก่อสงครามใหญ่ เปล่า? ฆ่ากันเอง โชว์ให้รัสเซียดู อีโมดี้ เปลี่ยนสี สำนึกผิด ชะเลียหัวยันตรีน I LOVE BRICS รู้ชะตากรรมดี? สกุลเงิน BRICS ซื้อขายในกลุ่ม ใครจะสั่ง ต้องมีเงิน BRICS ชัดพอมุย? อิหร่านโชว์ มีอาวุธร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ จริงดิ? แค่ดับทั้งแผ่นดิน ยุคหิน! หุ้นโลกป่วน ปั่นจนเละเทะ ถอนการลงทุน มีแต่ตัวเลข เม็ดเงินไม่มี ยิวเดี้ยง ควายส้ม สาวกส้มช็อค เห็นพม่าดีกว่ากู สติเริ่มกลับ กูโง่ยิ่งกว่าควายซะอีก? ปล.ทักทายยามสาย โลกเริ่มเปลี่ยน ควายกลายร่างแล้ว อดทนไม่นาน สมดุลจะกลับมา เหตุการณ์โลกถึงขีดสุด เหตุการณ์ไทยยังตอแหลไม่เลิก จุดจบอยู่ที่ปากท้อง จะรบกัน แล้วจะเอาห่าอะไรแดร๊ก? เหี้ยจนตรอกแล้ว จะเล่นใหญ่ จัดหนัก ยิ่งฉิบหาย ถึงขั้นสิ้นชาติพันธุ์ ทุกเรื่องราวบัดซบที่เกิดในตอนนี้ ใช่ บทสรุปน่ะจ๊ะ นี่แค่เพิ่งจะเริ่มจุดเริ่มต้นเท่านั้น มันคือการล้างบางสิ่งสกปรกโสมม ออกไปจนหมดสิ้น อะไรที่คิดว่าจบแล้ว คิดว่าเป็นไปไม่ได้จะเกิดขึ้น มรึงรอดู ขี้เกียจพูดแล้ว เบื่อ เพราะแสงทำงานเมื่อไหร่ เหี้ยไอ้อีทั้งหมด ไม่มีรอด คดีจบแล้วก็เปิดใหม่ได้ อะไรผ่านไปแล้ว ก็ตามกลับมาได้เสมอ หากแสงจะทำงานซะอย่าง พูดง่ายๆ กรรม ไม่มีสิ้นสุดจ๊ะ มรึงมองด้วยตา ก็จะเห็นแค่ตา หากมรึงมองดูสติ และปัญญา ศรัทธา มรึงจะเห็นทุกอย่าง หมี CNN(THOR เด้งสุดจะทน เดี๋ยวจะไปลากเอาสายฟ้ายัดตูดเหี้ยไอ้อีขายชาติให้หมด เอาให้เกรียมไปเลย ดูภาพ ให้ดูทุกมิติ คิดนอกกรอบบ้าง เพราะศัตรูมรึงก็ทำแบบเดียวกัน ใครบอกล่ะ ว่ามีแค่ 1+1 = 2 ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่วิธีคิดแตกต่างกัน งวดนี้ ขั้วใหม่เค้าเล่นจนสุดทางแน่ เดินหน้าไม่มีถอย ใครขวางก็ตายโหงชัวร์ โลกเดินตามขั้วใหม่แล้ว อำนาจเหี้ยลดลงทุกวัน ขี้ข้ากล้าตายตามนายมรึงมั้ยล่ะ?) 25 ตุลาคม 67 11.23 น. https://linevoom.line.me/post/1172983374485551710 ------------------------------------------------------------------------— หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พิพัฒน์ เปิดเวทีประชุมระดับชาติ สร้างความยั่งยืนกองทุนประกันสังคม ไม่ล่มสลาย แลกเปลี่ยนความเห็น รวมพรรคการเมือง นักวิชาการ ทั้งไทยและเทศ SSO SUSTAINABLE FOR ALL
    https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1180495040215025
    “พิพัฒน์ เปิดเวทีประชุมระดับชาติ สร้างความยั่งยืนกองทุนประกันสังคม ไม่ล่มสลาย แลกเปลี่ยนความเห็น รวมพรรคการเมือง นักวิชาการ ทั้งไทยและเทศ SSO SUSTAINABLE FOR ALL https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1180495040215025
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✍️ วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ตอนที่ 1 https://mgronline.com/qol/detail/9670000048189
    ตอนที่ 2 https://mgronline.com/qol/detail/9670000049444
    ตอนที่ 3 https://mgronline.com/qol/detail/9670000051574
    ✍️วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
    https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานพบมะเร็งกลับมาปะทุหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000090347
    ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY
    https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/WBMQJxa?utm_source=lineshare
    ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway
    https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk
    ✍️ มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512
    ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน โดย หมอดื้อ
    (ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต )
    (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749
    (ตอนที่ 2) https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2797034
    (ตอนที่ 3) https://mgronline.com/daily/detail/9670000057723
    ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/
    ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2771028?fbclid=IwAR1pkyxDX_jFkVEQbzXjfGtceZzJ2mJE03F3MQRJnzU38cqYXvISepZSd_Q_aem_AZrEdPuBNjgPV7MJ4YsCNlQdS6JfmK9SPSAsH1-_vYAWA1vdDg2EVOLz8hIq-Nevma4
    ตอนที่ 2 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2772908?fbclid=IwAR13RoEjgxf3CrrgF51ohoVxNhLK3yURY7dpOLy13mzqW9ol2A4-PYBZ-RA_aem_AZoGDrOXN2rMfSOoqsup5ND7MgibhvqyTau7W7IHunslXHmzdppoFuhBkbdhlBadsdI
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653
    ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767
    ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435
    ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง”
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178
    ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://thaitimes.co/posts/14521
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid02XMZdF6acF3Z7EV1GgbYnJDACMe27eGRq2afjnUVLtNGcPqndkQZYrD51D9jAqJ3Pl/?
    ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674
    ✍️งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร
    https://youtu.be/S32-hkJBJKA
    ✍️วัคซีน HPV และ วัคซีนในเด็กควรฉีดไหม โดยคุณหมอ เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1173
    ✍️วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1112
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยหลักฐานสำคัญ ควรหยุดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นได้แล้ว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000061963
    ✍️ทำไมคนไทย ”ตายมากขึ้นผิดปกติ“ หลังปีที่ฉีดวัคซีน และมากกว่าช่วงโควิดปี 2564?
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000073098#lznh19i1h5g4estdokj
    ✍️หมอธีระวัฒน์” เผยไข้หวัดนกชนิดแรงระบาดในสหรัฐฯ พร้อมพบการเปลี่ยนพันธุกรรม WHO สั่งเตรียมวัคซีนหลายร้อยล้านโดส
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000075983
    ✍️ยาฆ่าพยาธิ ฤทธิ์ต้านไวรัส และร่วมต้านมะเร็ง และร่วมรักษาพาร์กินสัน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000074387
    ✍️สมองเสื่อมและตัวแปรที่น่ากลัว / นายแพทย์ภาสิน เหมะจุฑา MBBS(UK)วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญประสาทวิทยา
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078581
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยชาวแคนาดารวมกลุ่มฟ้องรัฐบาลแล้ว หลังวัคซีนส่งผลกระทบรุนแรง 3 ใน 1 หมื่นราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000080993
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยผลศึกษา วัคซีนไม่ช่วยป้องกันการเกิดลองโควิด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082608
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงาน “หัวน้ำนม” ป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085233
    ✍️คอรัปชั่นในวงการแพทย์หรือไม่? / อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/scS2cbEX9nQ?si=RP5gqQranGVPyXkY
    ✍️กราฟีนออกไซด์ / อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/Lq3EFdNxKvE?si=Jy-Io5EwXedrB5RY
    ✍️วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกาย & ใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW
    ✍️เปิดข้อมูลความจริง ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตราย จากพิษของวัคซีน | ปากซอย105 สัมภาษณ์ หมอดื้อ
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=skv5OJVtk7-b5HWW
    ✍️ อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​
    https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/
    แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc
    ✍️การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    รวมหลักฐานการลดประชากรโลก
    https://www.rookon.com/?p=936
    ✍️วันที่ 23 ก.ย. 2567 ส่งจดหมาย ❗คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk
    ✍️แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากกมาย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000089378
    ✍️ไลฟ์สดเรื่อง CDS โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/watch?v=HOW9VLeS-7g
    CDS ปลอดภัยไหม
    https://www.youtube.com/watch?v=VabfaTTsK6o
    https://fb.watch/uPOe7rQYRN/?
    หมอบอกว่ากิน CDS แล้วตาย... จริงหรือ?
    https://www.youtube.com/live/wAaEXilj4qg?si=p8CD7sqmnlC6L3u8
    https://www.facebook.com/share/v/pkhiVpNEraX7irMi/
    ✍️คุยคุ้ยคน สัมภาษณ์ อ.ทวีสุข ธรรมศักดิ์ | องค์กรลับสงครามโลก | สุดช็อคองค์กรลับชักใยโลก
    Part 1 https://youtu.be/8GZSMb5Zvxw?si=_uqYZ0nvIwS80Y9W
    Part 2 https://youtu.be/O3OIYuL6130?si=MB7nbRARpKiLqJa9
    Part 3 https://youtu.be/RVY25QTPUfY?si=DDG_APyA7IRdAOEc
    Part 4 https://youtu.be/Ooar7acY4Yo?si=jCARkGbrqCRX3qM9
    ✍️เพราะวิทยาศาสตร์ สังคม การเมือง และสุขภาพคือเรื่องเดียวกัน / ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000092617
    ✍️ การอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากขณะนี้ |พม่า โดย คุณอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/kVsXLYGQVXg?si=WBya3O-WVJcWy2mm
    https://fb.watch/uY-aBuRhe5/?
    ✍️ไลฟ์สดเรื่อง ทำไมหลอกลวงภาวะโลกร้อน โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=qSGV0tUlCXM
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” อธิบายสาเหตุ วัคซีนโควิด ยิ่งฉีดมากยิ่งอ่อนแอ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000094384
    ✍️จิตวิทยาในการหลอกลวง พวกอีริทกำลังทำอะไร QFS | เงินฝ่ายแสงมีจริงไหม โดยอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/jhgiGqmslts?si=USH-UNinDlvb_cNU
    https://fb.watch/v3IvfIFvs1/?
    ✍️ CDS , คาบาล , เราจะทำอย่างไรต่อ?
    https://www.youtube.com/live/cJSCI-6A6kA?si=j8TwPX6vnNvY_s6t
    https://fb.watch/v6cVR3d2hw/?
    ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ 5G โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/lucS8vQVgM0?si=AnJw7_9KFgRTv5GG
    https://fb.watch/v8Wh_pUjB6/?
    ✍️“หมอธีระวัฒน์”งง วัคซีนโควิดฉีดเยอะตายเยอะแต่ก็ยังรณรงค์ให้ฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000097895
    ✍️ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY
    https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/
    ✍️เตรียมตัวในปี 2025 | ปลุกล้านพลังไทย
    https://www.facebook.com/share/v/pdz3AHf3MfQbXT85/
    https://www.youtube.com/live/rvOIwsPhhkY?si=rg9F0HacCcidFagV
    ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ อัตราการตายคนไทยสูงมาก,กฎระเบียบการแพทย์ที่จะเกิดขึ้นมีผลต่อการล้างพิษที่จะถูกปิดบัง,และงานสัมมนา 24พ.ย.ที่จะเกิดขึ้น การออกมาฟ้องของผู้ได้รับผลกระทบ โดย อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง และคุณอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/4-dTBuIzwOw?si=6sgo-SRvYRgCP-nC
    https://www.facebook.com/share/v/2boaciW95YT6z6yM/
    ✍️ความพยายามทำลายฟ้าทะลายโจร กับการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน? / อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000100293
    ✍️ฉีดทำไม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000100995
    ✍️ วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ตอนที่ 1 https://mgronline.com/qol/detail/9670000048189 ตอนที่ 2 https://mgronline.com/qol/detail/9670000049444 ตอนที่ 3 https://mgronline.com/qol/detail/9670000051574 ✍️วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานพบมะเร็งกลับมาปะทุหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA https://mgronline.com/qol/detail/9670000090347 ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/WBMQJxa?utm_source=lineshare ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk ✍️ มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512 ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน โดย หมอดื้อ (ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ) (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749 (ตอนที่ 2) https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2797034 (ตอนที่ 3) https://mgronline.com/daily/detail/9670000057723 ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/ ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2771028?fbclid=IwAR1pkyxDX_jFkVEQbzXjfGtceZzJ2mJE03F3MQRJnzU38cqYXvISepZSd_Q_aem_AZrEdPuBNjgPV7MJ4YsCNlQdS6JfmK9SPSAsH1-_vYAWA1vdDg2EVOLz8hIq-Nevma4 ตอนที่ 2 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2772908?fbclid=IwAR13RoEjgxf3CrrgF51ohoVxNhLK3yURY7dpOLy13mzqW9ol2A4-PYBZ-RA_aem_AZoGDrOXN2rMfSOoqsup5ND7MgibhvqyTau7W7IHunslXHmzdppoFuhBkbdhlBadsdI ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653 ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767 ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435 ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง” https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178 ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://thaitimes.co/posts/14521 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid02XMZdF6acF3Z7EV1GgbYnJDACMe27eGRq2afjnUVLtNGcPqndkQZYrD51D9jAqJ3Pl/? ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674 ✍️งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร https://youtu.be/S32-hkJBJKA ✍️วัคซีน HPV และ วัคซีนในเด็กควรฉีดไหม โดยคุณหมอ เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1173 ✍️วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1112 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยหลักฐานสำคัญ ควรหยุดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นได้แล้ว https://mgronline.com/qol/detail/9670000061963 ✍️ทำไมคนไทย ”ตายมากขึ้นผิดปกติ“ หลังปีที่ฉีดวัคซีน และมากกว่าช่วงโควิดปี 2564? https://mgronline.com/daily/detail/9670000073098#lznh19i1h5g4estdokj ✍️หมอธีระวัฒน์” เผยไข้หวัดนกชนิดแรงระบาดในสหรัฐฯ พร้อมพบการเปลี่ยนพันธุกรรม WHO สั่งเตรียมวัคซีนหลายร้อยล้านโดส https://mgronline.com/qol/detail/9670000075983 ✍️ยาฆ่าพยาธิ ฤทธิ์ต้านไวรัส และร่วมต้านมะเร็ง และร่วมรักษาพาร์กินสัน https://mgronline.com/qol/detail/9670000074387 ✍️สมองเสื่อมและตัวแปรที่น่ากลัว / นายแพทย์ภาสิน เหมะจุฑา MBBS(UK)วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญประสาทวิทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000078581 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยชาวแคนาดารวมกลุ่มฟ้องรัฐบาลแล้ว หลังวัคซีนส่งผลกระทบรุนแรง 3 ใน 1 หมื่นราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000080993 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม? https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยผลศึกษา วัคซีนไม่ช่วยป้องกันการเกิดลองโควิด https://mgronline.com/qol/detail/9670000082608 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงาน “หัวน้ำนม” ป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000085233 ✍️คอรัปชั่นในวงการแพทย์หรือไม่? / อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/scS2cbEX9nQ?si=RP5gqQranGVPyXkY ✍️กราฟีนออกไซด์ / อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/Lq3EFdNxKvE?si=Jy-Io5EwXedrB5RY ✍️วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกาย & ใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW ✍️เปิดข้อมูลความจริง ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตราย จากพิษของวัคซีน | ปากซอย105 สัมภาษณ์ หมอดื้อ https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=skv5OJVtk7-b5HWW ✍️ อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​ https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc ✍️การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv รวมหลักฐานการลดประชากรโลก https://www.rookon.com/?p=936 ✍️วันที่ 23 ก.ย. 2567 ส่งจดหมาย ❗คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk ✍️แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากกมาย https://mgronline.com/qol/detail/9670000089378 ✍️ไลฟ์สดเรื่อง CDS โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=HOW9VLeS-7g CDS ปลอดภัยไหม https://www.youtube.com/watch?v=VabfaTTsK6o https://fb.watch/uPOe7rQYRN/? หมอบอกว่ากิน CDS แล้วตาย... จริงหรือ? https://www.youtube.com/live/wAaEXilj4qg?si=p8CD7sqmnlC6L3u8 https://www.facebook.com/share/v/pkhiVpNEraX7irMi/ ✍️คุยคุ้ยคน สัมภาษณ์ อ.ทวีสุข ธรรมศักดิ์ | องค์กรลับสงครามโลก | สุดช็อคองค์กรลับชักใยโลก Part 1 https://youtu.be/8GZSMb5Zvxw?si=_uqYZ0nvIwS80Y9W Part 2 https://youtu.be/O3OIYuL6130?si=MB7nbRARpKiLqJa9 Part 3 https://youtu.be/RVY25QTPUfY?si=DDG_APyA7IRdAOEc Part 4 https://youtu.be/Ooar7acY4Yo?si=jCARkGbrqCRX3qM9 ✍️เพราะวิทยาศาสตร์ สังคม การเมือง และสุขภาพคือเรื่องเดียวกัน / ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/daily/detail/9670000092617 ✍️ การอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากขณะนี้ |พม่า โดย คุณอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/kVsXLYGQVXg?si=WBya3O-WVJcWy2mm https://fb.watch/uY-aBuRhe5/? ✍️ไลฟ์สดเรื่อง ทำไมหลอกลวงภาวะโลกร้อน โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=qSGV0tUlCXM ✍️“หมอธีระวัฒน์” อธิบายสาเหตุ วัคซีนโควิด ยิ่งฉีดมากยิ่งอ่อนแอ https://mgronline.com/qol/detail/9670000094384 ✍️จิตวิทยาในการหลอกลวง พวกอีริทกำลังทำอะไร QFS | เงินฝ่ายแสงมีจริงไหม โดยอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/jhgiGqmslts?si=USH-UNinDlvb_cNU https://fb.watch/v3IvfIFvs1/? ✍️ CDS , คาบาล , เราจะทำอย่างไรต่อ? https://www.youtube.com/live/cJSCI-6A6kA?si=j8TwPX6vnNvY_s6t https://fb.watch/v6cVR3d2hw/? ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ 5G โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/lucS8vQVgM0?si=AnJw7_9KFgRTv5GG https://fb.watch/v8Wh_pUjB6/? ✍️“หมอธีระวัฒน์”งง วัคซีนโควิดฉีดเยอะตายเยอะแต่ก็ยังรณรงค์ให้ฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000097895 ✍️ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/ ✍️เตรียมตัวในปี 2025 | ปลุกล้านพลังไทย https://www.facebook.com/share/v/pdz3AHf3MfQbXT85/ https://www.youtube.com/live/rvOIwsPhhkY?si=rg9F0HacCcidFagV ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ อัตราการตายคนไทยสูงมาก,กฎระเบียบการแพทย์ที่จะเกิดขึ้นมีผลต่อการล้างพิษที่จะถูกปิดบัง,และงานสัมมนา 24พ.ย.ที่จะเกิดขึ้น การออกมาฟ้องของผู้ได้รับผลกระทบ โดย อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง และคุณอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/4-dTBuIzwOw?si=6sgo-SRvYRgCP-nC https://www.facebook.com/share/v/2boaciW95YT6z6yM/ ✍️ความพยายามทำลายฟ้าทะลายโจร กับการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน? / อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9670000100293 ✍️ฉีดทำไม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/qol/detail/9670000100995
    MGRONLINE.COM
    วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง (ตอนที่ 1).
    รายงานจนกระทั่งถึงปลายเดือนเมษายน 2024 ตอกย้ำความเชื่อมโยงของวัคซีน mRNA กับอัตรา ตายสูงขึ้นอย่างผิดปกติ (statistically significant increases) ของมะเร็งทุกชนิดโดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen- related canc
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 700 มุมมอง 2 รีวิว
  • หยุดฝ่าฝืนพระบรมราชโองการ หยุดละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาเขตทะเลไทย / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    การที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกำลัง “เร่งรัด” เจรจาด้านผลประโยชน์พลังงานในอ่าวไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ภายใต้บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ค.ศ. 2001 หรือที่เรียกว่า “MOU 2544” นั้น อาจสุ่มเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายของประเทศไทย ฝ่าฝืนพระบรมราชโองการ และอาจทำให้ประเทศชาติและประชาชนอาจจะสูญเสียผลประโยชน์ตามมาได้ด้วย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบรมราชโองการสมัยรัชกาลที่ 9 ได้ทรงประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2516 โดยมีจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการนั้น ได้ทำให้เห็นว่า พื้นที่ทางทะเลซึ่งกำลังมีการเจรจาผลประโยชน์ระหว่างไทยและกัมพูชาตาม MOU 2544 อยู่ในขณะนี้มี จำนวน 26,000 ตารางกิโลเมตร อยู่ในเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยฝ่ายเดียวตามกฎหมายสากลทั้งสิ้น ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาดังที่พยายามเจรจากันอยู่ในขณะนี้ ดังมีรายละเอียดดังนี้

    ประการแรก พระบรมราชโองการสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ไม่สามารถลบล้างด้วยข้อตกลงหรือการเจรจากันเองของนักการเมืองหรือข้าราชการได้

    หากมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นต้องเป็นไปโดยเงื่อนไขที่กำหนดโดย “พระบรมราชโองการ” เท่านั้น

    ประการที่สอง พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 นั้น ได้ระบุวัตถุประสงค์อย่างชัดเจนว่าเพื่อใช้ “สิทธิอธิปไตยของประเทศไทย” จึงต้องตระหนักว่าพระบรมราชโองการประกาศฉบับนี้มี 3 คำสำคัญประกอบกัน คือ “สิทธิ” , “อธิปไตย” ตลอดจนคำว่า ”ของประเทศไทย“

    ดังนั้นพระบรมราชโองการประกาศฉบับนี้ไม่ใช่เรื่อง “อธิปไตย“ของประเทศไทยแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องรวมถึง “สิทธิ”ของประเทศไทย ไม่ใช่ “อธิปไตย” ของชาติอื่นและไม่ใช่“สิทธิ”ของชาติอื่นมาผสมปะปนได้

    โดยมีข้อความระบุเฉพาะถึงขอบเขตอย่างชัดเจนด้วยว่า “การใช้สิทธิอธิปไตยของประเทศไทย”นั้นเพื่อใช้ “ในการสำรวจและการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ“ ในอ่าวไทย

    ภายใต้พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 มีสาระสำคัญในเรื่อง “สิทธิอธิปไตยในการสำรวจและการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย“ ดังนั้นทรัพยากรธรรมชาติภายใต้การประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยย่อมต้องเป็นของราชอาณาจักรไทยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น

    ดังนั้นผู้สำรวจ ผู้รับสัมปทาน หรือมีผู้แสวงหาผลประโยชน์ในทรัพยากรในอ่าวไทยจะต้องทำสัญญากับอธิปไตยได้เพียงรัฐเดียวเท่านั้นคือ ”ประเทศไทย“

    การบิดเบือนให้ “สิทธิอธิปไตยในการสำรวจและการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย” ที่เดิมต้องลงนามโดยรัฐบาลประเทศไทยเพียงรัฐเดียว ให้กลายเป็นสิทธิในการสำรวจและแสวงหาผลประโยชน์ทางพลังงานที่ต้องลงนามโดยรัฐบาล 2 ประเทศ คือประเทศไทยร่วมกับประเทศกัมพูชานั้น ย่อมเท่ากับว่ารัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยได้สละ “สิทธิ” และ “อธิปไตย” ในการอนุญาตสำรวจและแสวงหาผลประโยชน์ทางทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยฝ่ายเดียว

    การกระทำดังที่กล่าวมานี้อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายและฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งที่ได้ทรงประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516

    ประการที่สาม พระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศตามกฎหมายสากลเท่านั้น ปรากฏเป็นข้อความเป็นหลักการว่า

    “ยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศ อันเป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไป ตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 และประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้ว เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2511“

    ทั้งนี้ บทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 นั้น ต่อมาได้ถูกรับรองโดยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ด้วย

    ประกอบกับจุดเริ่มต้นของประเทศไทยในการแบ่งแยกระหว่างราชอาณาจักรไทย กับราชอาณาจักรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 ข้อ 2 นั้น ได้ระบุอย่างชัดแจ้งว่า “เกาะกูดเป็นของสยาม” อย่างแน่นอนความว่า

    “รัฐบาลฝรั่งเศสยอมยกดินแดนเมืองด่านซ้ายและเมืองตราด กับเกาะทั้งหลายซึ่งอยู่ภายใต้แหลมสิงลงไป จนถึงเกาะกูดนั้น ให้แก่กรุงสยาม ตามกำหนดเขตร์แดนดังว่าไว้ ในข้อ 2 ของสัญญาว่าด้วยปักปันเขตร์แดนดังกล่าวมาแล้ว“

    นอกจากนั้นยังมีหลักฐานเป็น “แผนที่” แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาที่ได้กำหนดแผนที่แสดง “เส้นเขตไหล่ทวีป” ของราชอาณาจักรกัมพูชา ฉบับเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 และพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาซึ่งได้ประกาศกำหนดแผนที่แสดง “เส้นทะเลอาณาเขต”ของกัมพูชา ฉบับเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2515 โดยมีข้อความด้านซ้ายแผนที่ภาพเกาะกูดเป็นภาษาอังกฤษคำว่า “Koh Kut” โดยมีวงเล็บอยู่ด้านล่างกำกับด้วยคำว่า “สยาม” เป็นภาษาอังกฤษว่า ”(SIAM)“ ทั้ง 2 ฉบับ ย่อมเป็นการยืนยันโดยราชอาณาจักรกัมพูชาว่า “เกาะกูด” เป็นของสยามประเทศอย่างแน่นอน

    เมื่อเกาะกูดเป็นของสยามประเทศ สยามประเทศจึงย่อมต้องมี ”ทะเลอาณาเขต“ จากเส้นฐานของเกาะกูดไปอีก 12 ไมล์ทะเล และมี ”เขตทะเลต่อเนื่อง“จากเส้นฐานของเกาะกูด 24 ไมล์ทะเล “รอบเกาะกูด” ตามบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ซึ่งต่อมาหลักการนี้ได้ถูกรับรองโดยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ด้วย

    อย่างไรก็ตาม “เกาะกูด” ของสยาม และ “เกาะกง” ของกัมพูชา คือเกาะที่มีดินแดนยื่นออกมาในทะเลใกล้ที่สุดจากหลักเขตที่ 73 บนแผ่นดิน ซึ่งเป็นหลักเขตสุดท้ายทางทิศใต้ร่วมกันระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ที่บ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่จังหวัดตราด

    ดังนั้นพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 จึงได้ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 จึงปรากฏแผนที่การลากเส้นเขตไหล่ทวีปตาม ”กฎหมายสากล“ คือ เริ่มลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดและเกาะกง

    การลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดและเกาะกงนั้น ก็เป็นการดำเนินไปตามกฎหมายสากลด้วยทั้งสิ้น คือบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ซึ่งต่อมาได้ถูกรับรองโดยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ด้วย

    ดังนั้นพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาได้กำหนดแผนที่ “เส้นเขตไหล่ทวีป” ของราชอาณาจักรกัมพูชา ฉบับเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 ที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 มาประชิดเกาะกูดด้านตะวันตก แล้วอ้อมเกาะกูดไปด้านล่างแล้ววกกลับมาเป็นรูปตัว U แล้วลากเส้นต่อเนื่องไปยังทิศตะวันออกของเกาะกูดลึกเข้าไปในอ่าวไทยก็ดี หรือพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาฝ่ายเดียวซึ่งกำหนดแผนที่แสดงการลาก “เส้นทะเลอาณาเขต” ของกัมพูชาจากหลักเขตที่ 73 ประชิดด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด ฉบับเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2515 ก็ดี ล้วนเป็นแผนที่กำหนดเส้นเขตแดนทางทะเลที่ “ละเมิดสิทธิและละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย“ทั้งสิ้น และยังไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล และไม่เป็นไปตามบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ด้วยเพราะมีผลตามมาดังนี้

    1.ละเมิด ทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด

    2.ละเมิดเขตทะเลต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด

    3.ละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะของราชอาณาจักรไทยที่มีการแบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดกับเกาะกงจากหลักเขตที่ 73

    ดังนั้นหากราชอาณาจักรไทยยินยอมหรือรับรู้ โดยไม่ปฏิเสธการลากเส้นที่ละเมิดทะเลอาณาเขตรอบเกาะกูด ไม่ปฏิเสธการลากเส้นที่ละเมิดเขตทะเลต่อเนื่องรอบเกาะกูด และไม่ปฏิเสธการลากเส้นที่ละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางพื้นที่ด้านทิศทะวันตกเส้นแบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดและเกาะกง ย่อมเป็นการสุ่มเสี่ยงที่ราชอาณาจักรไทยจะสูญเสียสิทธิและอธิปไตยทะเลอาณาเขตรอบเกาะกูด สุ่มเสี่ยงสูญเสียสิทธิและอธิปไตยเขตทะเลต่อเนื่อง สุ่่มเสี่ยงสูญเสียพื้นที่ทะเลในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ

    เมื่อสละกฎหมายทะเลสากลรอบเกาะกูดทั้งหมด ก็จะส่งผลทำให้เกิดความสุ่่มเสี่ยงที่จะเกิดข้อพิพาท “ดินแดนเกาะกูด” ในฐานะที่ราชอาณาจักรไทย “นิ่งเฉย” ต่อการละเมิดพื้นที่ทะเลอาณาเขต ละเมิดพื้นที่ทะเลต่อเนื่อง และการละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะรอบเกาะกูด มีความสุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลกัมพูชาอาจอ้างกฎหมายปิดปากให้เกาะกูดตกเป็นของกัมพูชาในอนาคตได้ ดังที่ราชอาณาจักรไทยได้เคยสูญเสียปราสาทพระวิหารและสูญเสียพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารโดยศาลโลกเมื่อปี พ.ศ. 2505 มาแล้ว

    ดังนั้นหากยังฝ่าฝืนดำเนินการ MOU 2544 ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการตกลงใดๆที่อยู่นอกเหนือแผนที่ตามประกาศภายใต้พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 อาจสุ่มเสี่ยงว่าเป็นการดำเนินที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และไม่เป็นการยึดถือตามบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ด้วย

    ประการที่สี่ พื้นที่ทับซ้อนสามารถเจรจาแบ่งผลประโยชน์ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายสากลเท่านั้น ไม่ใช่ทำตามอำเภอใจ

    พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 นั้นได้ “เปิดช่องให้มีการเจรจาตกลงกันได้”

    แต่จะต้องยึดถือมูลฐานจาก บทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 เท่านั้น และต้องไม่ใช้เงื่อนไขอื่นในการตกลงกันความว่า

    “สำหรับสิทธิอธิปไตยในส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขตซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตใกล้เคียงอันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958“

    เพราะตามบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 สามารถเกิดพื้นที่ทับซ้อนกันได้ จึงอาจเกิดพื้นที่ลักษณะอ้างสิทธิทับซ้อนกันได้จริงดังที่ได้เกิดขึ้นกับพื้นที่การพัฒนาร่วมระหว่างไทย-มาเลเซีย

    แต่เมื่อ MOU 2544 ไทย-กัมพูชา แตกต่างจากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย เพราะ MOU 2544 ระหว่างไทย-กัมพูชา ได้เกิดพื้นที่โดยรับรู้เส้นไหล่ทวีปอ้างสิทธิของราชอาณาจักรกัมพูชาที่กำหนดเขตไหล่ทวีปที่ลากเส้น ”ละเมิด“ สิทธิและอธิปไตยทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด ละเมิดเขตทะเลต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด และละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะของราชอาณาจักรไทยที่มีการแบ่งครึ่งมุมจากหลักเขตที่ 73 เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาจึงย่อมไม่มีทางเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ได้เลย

    หากจะมีพื้นที่ทับซ้อนในทางเทคนิกก็ต้องเป็นไปตามมูลฐานของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 เท่านั้น จึงจะสามารถเริ่มเจรจาได้ ซึ่งแปลว่าก็ต้องมีความใกล้เคียงกับแผนที่แนบท้ายพระบรมราชโองการทรงประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยฉบับเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เท่านั้น

    ดังนั้นการเจรจาตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ลากเส้นโดยไม่ยึดถือตามมูลฐานของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 หรือทำให้ฝ่ายไทยสูญเสียสิทธิและอธิปไตยเกินกว่าพระบรมราชโองการย่อมกระทำไม่ได้

    และหากรัฐบาลยังฝ่าฝืนดำเนินต่อไป ก็ย่อมมีความเสี่ยงว่าจะเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง เพราะเป็นการฝ่าฝืนพระบรมราชโองการของในหลวงรัชกาลที่ 9 ยินยอมให้มีการละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาเขตทะเลไทย

    ด้วยจิตคารวะ
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    23 ตุลาคม 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1079446800215686/?

    #Thaitimes
    หยุดฝ่าฝืนพระบรมราชโองการ หยุดละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาเขตทะเลไทย / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ การที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกำลัง “เร่งรัด” เจรจาด้านผลประโยชน์พลังงานในอ่าวไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ภายใต้บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ค.ศ. 2001 หรือที่เรียกว่า “MOU 2544” นั้น อาจสุ่มเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายของประเทศไทย ฝ่าฝืนพระบรมราชโองการ และอาจทำให้ประเทศชาติและประชาชนอาจจะสูญเสียผลประโยชน์ตามมาได้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบรมราชโองการสมัยรัชกาลที่ 9 ได้ทรงประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2516 โดยมีจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการนั้น ได้ทำให้เห็นว่า พื้นที่ทางทะเลซึ่งกำลังมีการเจรจาผลประโยชน์ระหว่างไทยและกัมพูชาตาม MOU 2544 อยู่ในขณะนี้มี จำนวน 26,000 ตารางกิโลเมตร อยู่ในเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยฝ่ายเดียวตามกฎหมายสากลทั้งสิ้น ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาดังที่พยายามเจรจากันอยู่ในขณะนี้ ดังมีรายละเอียดดังนี้ ประการแรก พระบรมราชโองการสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ไม่สามารถลบล้างด้วยข้อตกลงหรือการเจรจากันเองของนักการเมืองหรือข้าราชการได้ หากมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นต้องเป็นไปโดยเงื่อนไขที่กำหนดโดย “พระบรมราชโองการ” เท่านั้น ประการที่สอง พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 นั้น ได้ระบุวัตถุประสงค์อย่างชัดเจนว่าเพื่อใช้ “สิทธิอธิปไตยของประเทศไทย” จึงต้องตระหนักว่าพระบรมราชโองการประกาศฉบับนี้มี 3 คำสำคัญประกอบกัน คือ “สิทธิ” , “อธิปไตย” ตลอดจนคำว่า ”ของประเทศไทย“ ดังนั้นพระบรมราชโองการประกาศฉบับนี้ไม่ใช่เรื่อง “อธิปไตย“ของประเทศไทยแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องรวมถึง “สิทธิ”ของประเทศไทย ไม่ใช่ “อธิปไตย” ของชาติอื่นและไม่ใช่“สิทธิ”ของชาติอื่นมาผสมปะปนได้ โดยมีข้อความระบุเฉพาะถึงขอบเขตอย่างชัดเจนด้วยว่า “การใช้สิทธิอธิปไตยของประเทศไทย”นั้นเพื่อใช้ “ในการสำรวจและการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ“ ในอ่าวไทย ภายใต้พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 มีสาระสำคัญในเรื่อง “สิทธิอธิปไตยในการสำรวจและการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย“ ดังนั้นทรัพยากรธรรมชาติภายใต้การประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยย่อมต้องเป็นของราชอาณาจักรไทยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น ดังนั้นผู้สำรวจ ผู้รับสัมปทาน หรือมีผู้แสวงหาผลประโยชน์ในทรัพยากรในอ่าวไทยจะต้องทำสัญญากับอธิปไตยได้เพียงรัฐเดียวเท่านั้นคือ ”ประเทศไทย“ การบิดเบือนให้ “สิทธิอธิปไตยในการสำรวจและการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย” ที่เดิมต้องลงนามโดยรัฐบาลประเทศไทยเพียงรัฐเดียว ให้กลายเป็นสิทธิในการสำรวจและแสวงหาผลประโยชน์ทางพลังงานที่ต้องลงนามโดยรัฐบาล 2 ประเทศ คือประเทศไทยร่วมกับประเทศกัมพูชานั้น ย่อมเท่ากับว่ารัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยได้สละ “สิทธิ” และ “อธิปไตย” ในการอนุญาตสำรวจและแสวงหาผลประโยชน์ทางทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยฝ่ายเดียว การกระทำดังที่กล่าวมานี้อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายและฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งที่ได้ทรงประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ประการที่สาม พระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศตามกฎหมายสากลเท่านั้น ปรากฏเป็นข้อความเป็นหลักการว่า “ยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศ อันเป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไป ตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 และประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้ว เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2511“ ทั้งนี้ บทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 นั้น ต่อมาได้ถูกรับรองโดยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ด้วย ประกอบกับจุดเริ่มต้นของประเทศไทยในการแบ่งแยกระหว่างราชอาณาจักรไทย กับราชอาณาจักรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 ข้อ 2 นั้น ได้ระบุอย่างชัดแจ้งว่า “เกาะกูดเป็นของสยาม” อย่างแน่นอนความว่า “รัฐบาลฝรั่งเศสยอมยกดินแดนเมืองด่านซ้ายและเมืองตราด กับเกาะทั้งหลายซึ่งอยู่ภายใต้แหลมสิงลงไป จนถึงเกาะกูดนั้น ให้แก่กรุงสยาม ตามกำหนดเขตร์แดนดังว่าไว้ ในข้อ 2 ของสัญญาว่าด้วยปักปันเขตร์แดนดังกล่าวมาแล้ว“ นอกจากนั้นยังมีหลักฐานเป็น “แผนที่” แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาที่ได้กำหนดแผนที่แสดง “เส้นเขตไหล่ทวีป” ของราชอาณาจักรกัมพูชา ฉบับเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 และพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาซึ่งได้ประกาศกำหนดแผนที่แสดง “เส้นทะเลอาณาเขต”ของกัมพูชา ฉบับเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2515 โดยมีข้อความด้านซ้ายแผนที่ภาพเกาะกูดเป็นภาษาอังกฤษคำว่า “Koh Kut” โดยมีวงเล็บอยู่ด้านล่างกำกับด้วยคำว่า “สยาม” เป็นภาษาอังกฤษว่า ”(SIAM)“ ทั้ง 2 ฉบับ ย่อมเป็นการยืนยันโดยราชอาณาจักรกัมพูชาว่า “เกาะกูด” เป็นของสยามประเทศอย่างแน่นอน เมื่อเกาะกูดเป็นของสยามประเทศ สยามประเทศจึงย่อมต้องมี ”ทะเลอาณาเขต“ จากเส้นฐานของเกาะกูดไปอีก 12 ไมล์ทะเล และมี ”เขตทะเลต่อเนื่อง“จากเส้นฐานของเกาะกูด 24 ไมล์ทะเล “รอบเกาะกูด” ตามบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ซึ่งต่อมาหลักการนี้ได้ถูกรับรองโดยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ด้วย อย่างไรก็ตาม “เกาะกูด” ของสยาม และ “เกาะกง” ของกัมพูชา คือเกาะที่มีดินแดนยื่นออกมาในทะเลใกล้ที่สุดจากหลักเขตที่ 73 บนแผ่นดิน ซึ่งเป็นหลักเขตสุดท้ายทางทิศใต้ร่วมกันระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ที่บ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่จังหวัดตราด ดังนั้นพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 จึงได้ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 จึงปรากฏแผนที่การลากเส้นเขตไหล่ทวีปตาม ”กฎหมายสากล“ คือ เริ่มลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดและเกาะกง การลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดและเกาะกงนั้น ก็เป็นการดำเนินไปตามกฎหมายสากลด้วยทั้งสิ้น คือบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ซึ่งต่อมาได้ถูกรับรองโดยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ด้วย ดังนั้นพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาได้กำหนดแผนที่ “เส้นเขตไหล่ทวีป” ของราชอาณาจักรกัมพูชา ฉบับเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 ที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 มาประชิดเกาะกูดด้านตะวันตก แล้วอ้อมเกาะกูดไปด้านล่างแล้ววกกลับมาเป็นรูปตัว U แล้วลากเส้นต่อเนื่องไปยังทิศตะวันออกของเกาะกูดลึกเข้าไปในอ่าวไทยก็ดี หรือพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาฝ่ายเดียวซึ่งกำหนดแผนที่แสดงการลาก “เส้นทะเลอาณาเขต” ของกัมพูชาจากหลักเขตที่ 73 ประชิดด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด ฉบับเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2515 ก็ดี ล้วนเป็นแผนที่กำหนดเส้นเขตแดนทางทะเลที่ “ละเมิดสิทธิและละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย“ทั้งสิ้น และยังไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล และไม่เป็นไปตามบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ด้วยเพราะมีผลตามมาดังนี้ 1.ละเมิด ทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด 2.ละเมิดเขตทะเลต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด 3.ละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะของราชอาณาจักรไทยที่มีการแบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดกับเกาะกงจากหลักเขตที่ 73 ดังนั้นหากราชอาณาจักรไทยยินยอมหรือรับรู้ โดยไม่ปฏิเสธการลากเส้นที่ละเมิดทะเลอาณาเขตรอบเกาะกูด ไม่ปฏิเสธการลากเส้นที่ละเมิดเขตทะเลต่อเนื่องรอบเกาะกูด และไม่ปฏิเสธการลากเส้นที่ละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางพื้นที่ด้านทิศทะวันตกเส้นแบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดและเกาะกง ย่อมเป็นการสุ่มเสี่ยงที่ราชอาณาจักรไทยจะสูญเสียสิทธิและอธิปไตยทะเลอาณาเขตรอบเกาะกูด สุ่มเสี่ยงสูญเสียสิทธิและอธิปไตยเขตทะเลต่อเนื่อง สุ่่มเสี่ยงสูญเสียพื้นที่ทะเลในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ เมื่อสละกฎหมายทะเลสากลรอบเกาะกูดทั้งหมด ก็จะส่งผลทำให้เกิดความสุ่่มเสี่ยงที่จะเกิดข้อพิพาท “ดินแดนเกาะกูด” ในฐานะที่ราชอาณาจักรไทย “นิ่งเฉย” ต่อการละเมิดพื้นที่ทะเลอาณาเขต ละเมิดพื้นที่ทะเลต่อเนื่อง และการละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะรอบเกาะกูด มีความสุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลกัมพูชาอาจอ้างกฎหมายปิดปากให้เกาะกูดตกเป็นของกัมพูชาในอนาคตได้ ดังที่ราชอาณาจักรไทยได้เคยสูญเสียปราสาทพระวิหารและสูญเสียพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารโดยศาลโลกเมื่อปี พ.ศ. 2505 มาแล้ว ดังนั้นหากยังฝ่าฝืนดำเนินการ MOU 2544 ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการตกลงใดๆที่อยู่นอกเหนือแผนที่ตามประกาศภายใต้พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 อาจสุ่มเสี่ยงว่าเป็นการดำเนินที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และไม่เป็นการยึดถือตามบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ด้วย ประการที่สี่ พื้นที่ทับซ้อนสามารถเจรจาแบ่งผลประโยชน์ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายสากลเท่านั้น ไม่ใช่ทำตามอำเภอใจ พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 นั้นได้ “เปิดช่องให้มีการเจรจาตกลงกันได้” แต่จะต้องยึดถือมูลฐานจาก บทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 เท่านั้น และต้องไม่ใช้เงื่อนไขอื่นในการตกลงกันความว่า “สำหรับสิทธิอธิปไตยในส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขตซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตใกล้เคียงอันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958“ เพราะตามบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 สามารถเกิดพื้นที่ทับซ้อนกันได้ จึงอาจเกิดพื้นที่ลักษณะอ้างสิทธิทับซ้อนกันได้จริงดังที่ได้เกิดขึ้นกับพื้นที่การพัฒนาร่วมระหว่างไทย-มาเลเซีย แต่เมื่อ MOU 2544 ไทย-กัมพูชา แตกต่างจากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย เพราะ MOU 2544 ระหว่างไทย-กัมพูชา ได้เกิดพื้นที่โดยรับรู้เส้นไหล่ทวีปอ้างสิทธิของราชอาณาจักรกัมพูชาที่กำหนดเขตไหล่ทวีปที่ลากเส้น ”ละเมิด“ สิทธิและอธิปไตยทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด ละเมิดเขตทะเลต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด และละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะของราชอาณาจักรไทยที่มีการแบ่งครึ่งมุมจากหลักเขตที่ 73 เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาจึงย่อมไม่มีทางเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 ได้เลย หากจะมีพื้นที่ทับซ้อนในทางเทคนิกก็ต้องเป็นไปตามมูลฐานของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 เท่านั้น จึงจะสามารถเริ่มเจรจาได้ ซึ่งแปลว่าก็ต้องมีความใกล้เคียงกับแผนที่แนบท้ายพระบรมราชโองการทรงประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยฉบับเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เท่านั้น ดังนั้นการเจรจาตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ลากเส้นโดยไม่ยึดถือตามมูลฐานของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 หรือทำให้ฝ่ายไทยสูญเสียสิทธิและอธิปไตยเกินกว่าพระบรมราชโองการย่อมกระทำไม่ได้ และหากรัฐบาลยังฝ่าฝืนดำเนินต่อไป ก็ย่อมมีความเสี่ยงว่าจะเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง เพราะเป็นการฝ่าฝืนพระบรมราชโองการของในหลวงรัชกาลที่ 9 ยินยอมให้มีการละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาเขตทะเลไทย ด้วยจิตคารวะ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 23 ตุลาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1079446800215686/? #Thaitimes
    Like
    17
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 690 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23 ตุลาคม 2567-นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ ออกบทความเรื่องล่าสุด "ยุบพรรคเพื่อไทย??? : ความชอบธรรมและความเป็นไปได้ทางกฎหมาย" ในลักษณะถาม-ตอบ มีเนื้อหาว่า

    ถาม ทำไมจะไปยุบพรรคเพื่อไทยโดยอ้างว่าถูกทักษิณครอบงำ ก็เขาเป็นคนตั้งพรรค
    รวมผู้คนมาตั้งแต่แรก แล้วใจคอจะไม่ให้ฟังกันบ้างเลยหรืออย่างไร
    ตอบ ทักษิณถูกจำคุกตามคำพิพากษาคดีคอร์รัปชัน สิ้นสิทธิทางการเมืองเป็นคนนอกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เขาจะพูดจะแนะนำอะไร คณะกรรมการพรรคก็ยังรับฟังได้กฎหมายไม่ห้าม แต่ต้องไม่ถึงขั้นถูกครอบงำถึงขนาดขาดอิสระ ทักษิณชี้นกเป็นไม้ ก็ยอมหมด อย่างนี้กฎหมายรับไม่ได้

    ถาม แล้วมันผิดที่ตรงไหน ที่ไปฟังทักษิณ
    ตอบ พรรคการเมืองมีตัวตนอยู่ที่ “ความคิด” ประชาธิปไตยเสนอกันที่ความคิด เมื่อความคิดใครชนะคนนั้นต้องเป็นคนทำ รัฐธรรมนูญไทยเอาจริงถึงขั้นบังคับให้ สส.ต้องสังกัดพรรค และพรรคต้องเสนอชื่อนายกฯไว้ล่วงหน้าเลย
    เมื่อพรรคคือ “ความคิด” พรรคจึงต้องคิดเองตัดสินใจเอง จะเป็นแค่หุ่นเชิดของคนนอกพรรคไม่ได้ ถ้ายอมให้เชิดกันอย่างนี้ได้ ประชาธิปไตยในพรรคก็พลอยจะสิ้นความหมายไปด้วย

    ถาม กกต.ต้องพิสูจน์อะไรให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นบ้าง ว่าพรรคเพื่อไทยถูกทักษิณครอบงำ
    ตอบ อะไรที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการพรรค ถ้าพิสูจน์ว่าทักษิณสั่งได้ ก็โดนหมดล่ะครับ ทั้งการกำหนดนโยบายทางการเมือง, การตั้งคณะกรรมการบริหาร,การคัดเลือกส่งคนลงสมัคร สส., การเข้าร่วมรัฐบาล, การเลือกผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี, การเสนอร่างกฎหมาย เหล่านี้ล้วนเกิดเป็นเรื่องกล่าวหาได้ทั้งนั้น

    ถาม แล้วชัดเจนถึงขนาดไหนล่ะครับ ถึงจะฟังได้ว่าเป็นการ “ครอบงำ” ผมเห็นคนพรรคเพื่อไทยเขาท้าทายว่า มีพยานหลักฐานชัดเจนไหมว่า เมื่อวันนั้นวันนี้ ทักษิณสั่งนายโน้นนายนี้ใหทำอย่างนั้นอย่างนี้
    ตอบ นี่ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นคดีคุ้มครองประชาธิปไตยในบ้านเมือง ถ้าพรรคใดยอมตนเป็นหุ่นให้อิทธิพลทุจริต เราก็ต้องยุบพรรคนั้น ถ้าพยานหลักฐานมันแวดล้อมให้เชื่อได้เช่นนั้น ทั้งตั้งลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคโดยไม่มีที่มาที่ไปทางคุณสมบัติ ทั้งเรื่องที่ทักษิณโผล่หน้ามาชี้แจงนโยบายพรรคต่อคนทั้งประเทศ ทั้งเรื่องมีบทบาทคัดคนลงสมัคร นายก อบจ.หรือ สส.สั่งเปลี่ยนโผให้เป็นโน้นคนนี้ หรือแม้กระทั่งเรียกทุกพรรคมาประชุมจันทร์ส่องหล้า แล้วตกลงตั้งรัฐบาลในสูตรเดิม ทั้งหมดนี้ ถ้าคุณเป็นศาลรัฐธรรมนูญ คุณว่ามันพอหรือไม่ ที่จะตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ใต้บงการของคนชื่อทักษิณ

    ถาม ถ้ามองเป็นเรื่องบงการกันอย่างนี้ การที่พรรคร่วมรัฐบาลแห่ไปพบทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วตกลงร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยต่อไปเหมือนเดิม ก็ไม่ใช่เรื่องต้องถูกยุบพรรคใช่ไหมครับ
    ตอบ ถูกต้องครับ พรรคเหล่านี้เขาแค่ไปคุยแล้วตกลงกับทักษิณว่าเราจะรักษาสูตรรัฐบาลไว้ต่อไปเท่านั้นหรือไม่ นี่เป็นเริ่องไปเจรจาตกลง ไม่ใช่เรื่องอยู่ใต้บงการทักษิณแต่อย่างใด
    คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า ความผิดมันไม่ใช่อยู่ที่เห็นตรงกับทักษิณ หรือไปคุยกับทักษิณ แต่มันอยู่ตรงที่ความสัมพันธ์ทางอำนาจว่ามีพรรคไหนไปอยู่ใต้บงการเขาหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลใดนอกจากเพื่อไทยเท่านั้น ที่มีปัญหาว่าไปเป็นขี้ข้าเขาแบบนั้นหรือไม่

    ถาม แล้ว กกต. ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเพื่อไทยเลยได้ไหมครับ ข้างพรรคเพื่อไทยจะเถียงอะไรก็ให้ไปว่ากันในศาล
    ตอบ งานนี้เป็นเรื่องชี้ขาดกันด้วยพยานแวดล้อม ถ้าพยานหลักฐานแต่ละเรื่องมันล้อมเข้ามาจนชัดเจน และรู้กันทั่วไป เพียงเท่านี้ กกต.ก็ฟ้องได้แล้วครับว่า แต่ละพฤติการณ์ประกอบกันเข้ามาให้เชื่อได้แล้วว่า ทักษิณคือผู้ครอบครองพรรคเพื่อไทย

    ถาม เห็น รองนายกฯภูมิธรรม เขาบอกว่าไม่น่ามาร้องเรียนอะไรกันเลย รัฐบาลลุยจนเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นอยู่แล้ว
    ตอบ ฟื้นจริงไหม? ฟื้นเพื่อใคร? มีใครที่ครอบงำพรรคแล้วรอเสวยประโยชน์อยู่โดยทุจริตหรือไม่ ทั้งเรื่อง สัมปทานบ่อน และ เจรจาพื้นที่ทับซ้อนกับเขมร?
    ตรงนี้เป็นปัญหาความสะอาด ความเลว ความชั่ว ในระบบรัฐบาล ที่ต้องเคลียร์ให้ได้ชัดเจนจริงๆ
    เศรษฐกิจมันฟื้นจากพื้นฐานที่สกปรกไม่ได้ รู้จักมียางอายกันบ้างเถิดครับ

    https://www.thaipost.net/hi-light/677990/

    #Thaitimes
    23 ตุลาคม 2567-นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ ออกบทความเรื่องล่าสุด "ยุบพรรคเพื่อไทย??? : ความชอบธรรมและความเป็นไปได้ทางกฎหมาย" ในลักษณะถาม-ตอบ มีเนื้อหาว่า ถาม ทำไมจะไปยุบพรรคเพื่อไทยโดยอ้างว่าถูกทักษิณครอบงำ ก็เขาเป็นคนตั้งพรรค รวมผู้คนมาตั้งแต่แรก แล้วใจคอจะไม่ให้ฟังกันบ้างเลยหรืออย่างไร ตอบ ทักษิณถูกจำคุกตามคำพิพากษาคดีคอร์รัปชัน สิ้นสิทธิทางการเมืองเป็นคนนอกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เขาจะพูดจะแนะนำอะไร คณะกรรมการพรรคก็ยังรับฟังได้กฎหมายไม่ห้าม แต่ต้องไม่ถึงขั้นถูกครอบงำถึงขนาดขาดอิสระ ทักษิณชี้นกเป็นไม้ ก็ยอมหมด อย่างนี้กฎหมายรับไม่ได้ ถาม แล้วมันผิดที่ตรงไหน ที่ไปฟังทักษิณ ตอบ พรรคการเมืองมีตัวตนอยู่ที่ “ความคิด” ประชาธิปไตยเสนอกันที่ความคิด เมื่อความคิดใครชนะคนนั้นต้องเป็นคนทำ รัฐธรรมนูญไทยเอาจริงถึงขั้นบังคับให้ สส.ต้องสังกัดพรรค และพรรคต้องเสนอชื่อนายกฯไว้ล่วงหน้าเลย เมื่อพรรคคือ “ความคิด” พรรคจึงต้องคิดเองตัดสินใจเอง จะเป็นแค่หุ่นเชิดของคนนอกพรรคไม่ได้ ถ้ายอมให้เชิดกันอย่างนี้ได้ ประชาธิปไตยในพรรคก็พลอยจะสิ้นความหมายไปด้วย ถาม กกต.ต้องพิสูจน์อะไรให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นบ้าง ว่าพรรคเพื่อไทยถูกทักษิณครอบงำ ตอบ อะไรที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการพรรค ถ้าพิสูจน์ว่าทักษิณสั่งได้ ก็โดนหมดล่ะครับ ทั้งการกำหนดนโยบายทางการเมือง, การตั้งคณะกรรมการบริหาร,การคัดเลือกส่งคนลงสมัคร สส., การเข้าร่วมรัฐบาล, การเลือกผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี, การเสนอร่างกฎหมาย เหล่านี้ล้วนเกิดเป็นเรื่องกล่าวหาได้ทั้งนั้น ถาม แล้วชัดเจนถึงขนาดไหนล่ะครับ ถึงจะฟังได้ว่าเป็นการ “ครอบงำ” ผมเห็นคนพรรคเพื่อไทยเขาท้าทายว่า มีพยานหลักฐานชัดเจนไหมว่า เมื่อวันนั้นวันนี้ ทักษิณสั่งนายโน้นนายนี้ใหทำอย่างนั้นอย่างนี้ ตอบ นี่ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นคดีคุ้มครองประชาธิปไตยในบ้านเมือง ถ้าพรรคใดยอมตนเป็นหุ่นให้อิทธิพลทุจริต เราก็ต้องยุบพรรคนั้น ถ้าพยานหลักฐานมันแวดล้อมให้เชื่อได้เช่นนั้น ทั้งตั้งลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคโดยไม่มีที่มาที่ไปทางคุณสมบัติ ทั้งเรื่องที่ทักษิณโผล่หน้ามาชี้แจงนโยบายพรรคต่อคนทั้งประเทศ ทั้งเรื่องมีบทบาทคัดคนลงสมัคร นายก อบจ.หรือ สส.สั่งเปลี่ยนโผให้เป็นโน้นคนนี้ หรือแม้กระทั่งเรียกทุกพรรคมาประชุมจันทร์ส่องหล้า แล้วตกลงตั้งรัฐบาลในสูตรเดิม ทั้งหมดนี้ ถ้าคุณเป็นศาลรัฐธรรมนูญ คุณว่ามันพอหรือไม่ ที่จะตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ใต้บงการของคนชื่อทักษิณ ถาม ถ้ามองเป็นเรื่องบงการกันอย่างนี้ การที่พรรคร่วมรัฐบาลแห่ไปพบทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วตกลงร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยต่อไปเหมือนเดิม ก็ไม่ใช่เรื่องต้องถูกยุบพรรคใช่ไหมครับ ตอบ ถูกต้องครับ พรรคเหล่านี้เขาแค่ไปคุยแล้วตกลงกับทักษิณว่าเราจะรักษาสูตรรัฐบาลไว้ต่อไปเท่านั้นหรือไม่ นี่เป็นเริ่องไปเจรจาตกลง ไม่ใช่เรื่องอยู่ใต้บงการทักษิณแต่อย่างใด คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า ความผิดมันไม่ใช่อยู่ที่เห็นตรงกับทักษิณ หรือไปคุยกับทักษิณ แต่มันอยู่ตรงที่ความสัมพันธ์ทางอำนาจว่ามีพรรคไหนไปอยู่ใต้บงการเขาหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลใดนอกจากเพื่อไทยเท่านั้น ที่มีปัญหาว่าไปเป็นขี้ข้าเขาแบบนั้นหรือไม่ ถาม แล้ว กกต. ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเพื่อไทยเลยได้ไหมครับ ข้างพรรคเพื่อไทยจะเถียงอะไรก็ให้ไปว่ากันในศาล ตอบ งานนี้เป็นเรื่องชี้ขาดกันด้วยพยานแวดล้อม ถ้าพยานหลักฐานแต่ละเรื่องมันล้อมเข้ามาจนชัดเจน และรู้กันทั่วไป เพียงเท่านี้ กกต.ก็ฟ้องได้แล้วครับว่า แต่ละพฤติการณ์ประกอบกันเข้ามาให้เชื่อได้แล้วว่า ทักษิณคือผู้ครอบครองพรรคเพื่อไทย ถาม เห็น รองนายกฯภูมิธรรม เขาบอกว่าไม่น่ามาร้องเรียนอะไรกันเลย รัฐบาลลุยจนเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นอยู่แล้ว ตอบ ฟื้นจริงไหม? ฟื้นเพื่อใคร? มีใครที่ครอบงำพรรคแล้วรอเสวยประโยชน์อยู่โดยทุจริตหรือไม่ ทั้งเรื่อง สัมปทานบ่อน และ เจรจาพื้นที่ทับซ้อนกับเขมร? ตรงนี้เป็นปัญหาความสะอาด ความเลว ความชั่ว ในระบบรัฐบาล ที่ต้องเคลียร์ให้ได้ชัดเจนจริงๆ เศรษฐกิจมันฟื้นจากพื้นฐานที่สกปรกไม่ได้ รู้จักมียางอายกันบ้างเถิดครับ https://www.thaipost.net/hi-light/677990/ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23-10-67/01 : หมี CNN / ((( ขอสดุดี "พระปิยะมหาราช" )))

    - ไม่มีพ่อปิยะ มรึงกะกู อาจจะยังเป็นทาสอยู่ก็ได้ทุกวันนี้ ทาสในเมืองไทยไม่มีแล้ว มีแต่ทาสในอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล แม่งไม่พัฒนาไปไหนเลย ดีออก ล่าอาณานิคมอย่างเดียว จนวันนี้ ถูกเค้าล่าคืน สาแก่ใจอีช้อยทั่วโลก!

    - ใครกันล่ะ? ที่เปลี่ยนแผ่นดินสยามให้เทียบเคียงนานาประเทศ สาเหตุคือ ไม่ให้ชาติตะวันตกมาใช้ข้ออ้างว่าล้าหลัง แล้วเข้ามายึดเป็นชาติบริวาร หมวกต้องสวม ไม้เท้าต้องมี เสื้อต้องใส่ ไม่ได้เห่อฝรั่ง แต่ไม่ให้มันมาดูถูก

    - ลูกหลานไทยฟังเอาไว้ มรึงเกิดไม่ทัน แต่ใช่ว่ามรึงจะไม่สำนึกบุญคุณพ่อปิยะ ความเจริญด้านวัตถุ สร้างง่ายดาย แต่ความเจริญด้านจิตใจ สำคัญกว่า มรึงดูชาติตะวันตก นับวันยิ่งกว่าไร้อารยธรรม สิทธิโคตรพ่อง โคตรแม่ง อ้างกันไป เพื่อเพียงสนองตัณหาตัวเองเท่านั้น แหกกฎหมายก็ได้ ฆ่าใครก็ได้ กราดยิงก็ได้ ไล่ข่มขืนใครก็ได้ กฎหมาทั้งนั้น กฎหมายทำให้คนไม่กลายเป็นสัดเดรัจฉาน กฎหมาย ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ปชต.มาเพื่อทำลายสิ่งเหล่านี้ มรึงอย่าหลงรูป รส กลิ่น เสียงให้มาก พ่อปิยะ ท่านวางถุงเงิน ถุงแดง รับไม้ต่อจากพ่อร.4 เพื่อการณ์ใหญ่ในวันข้างหน้า มาจนถึงพ่อร.10 คลังไทยถึงมีทองคำล้นพระคลัง จนมรึงจินตนาการไม่ออกดอกว่า มหาศาล! แต่ชาติปชต.จน อดอยาก เพราะก่อแต่สงคราม ไล่ล่าไม่รู้จบ หาสันติสุขไม่ได้

    - ใครที่ทำให้พ่อปิยะของกูและมรึง ต้องทนทุกข์ใจ ต้องยอมแบ่งดินแดนส่วนน้อยเพื่อรักษาพื้นแผ่นดินหลักเอาไว้ กูมิลืมเลือน จากนี้ไป นับตั้งแต่พ่อร.10 เราจะดูดคืนทุกอย่างที่เสียไป กลับคืนมา มากกว่าเดิม ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จะไม่ทำให้พ่อปิยะ ต้องเสียใจอีกแล้ว พ่อปิยะต้องภาคภูมิใจในลูกหลานราชวงศ์จักรีแน่นอน เพราะไทยเราหรือสยามประเทศ จะกลายเป็นมหาอำนาจอาเซียนในเร็ววันนี้ TOP10 ที่นานาชาติจะต้องเกรงใจ ไม่ต้องไปปล้นแผ่นดินเค้า ไม่ต้องใช้กำลัง ชนเผ่ารอบทิศแผ่นดินจะขอมาอาศัยอยู่ ใต้ร่มโพธิ์ของพ่อหลวงชัวร์ เราจะขยายพื้นที่โดยการค้า และผนวกดินแดนเพิ่มไปเรื่อยๆ จากความสมัครใจของเพื่อนบ้าน รวมกันเราอยู่ รวมกันเราโต เพราะรากฐานการปกครองไทย พ่อปกครองลูก เป็นที่ยืนยันแน่ชัดแล้วว่า "ดีที่สุดในโลก" เชิญเอาปชต.ตอแหลอัปรีย์จัญไร ไปไกลๆ ส้นตรีนคนไทยซะ

    - นับตั้งแต่ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ชี้ให้เห็นชัดว่า พระอัจฉริยะภาพของพ่อหลวงท่านทุกพระองค์ สุดยอดแห่งแนวทางการปกครอง ที่ยืดหยุ่น และเมตตาธรรม ราชวงศ์จักรีถือกำเนิดบนโลก และจะกลายเป็นราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทุกราชวงศ์ที่เคยมีมา รวมทั้งเป็นต้นแบบโมเดล เรียกคืนราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก ให้ฟื้นคืนชีพ หลังถูกปชต.จอมปลอมหลอกแดร๊กควายมาปั่นกว่าศตวรรษ ปชต.คืออียิวมันคิด เพื่อให้ควบคุมโลก ใครยังเสพปชต.อยู่ ชาตินี้ มรึงไม่มีวันได้เห็นฟ้าสีทองผ่องอำไพ แม้แต่รัสเซีย จีน ไม่มีระบบกษัตริย์แล้ว แต่สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง ทำนั้น คือ "รูปแบบพ่อปกครองลูก" ชัดเจน ปูตินมาเยือนพ่อร.9 รู้เห็นทุกอย่าง เข้าใจ จึงนำไปปฎิบัติใช้จนได้ผล กลับมาส่งออกข้าวสาลีมากที่สุดในโลก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ส่วนสีจิ้นผิง ปฎิวัติแผ่นดินครั้งใหญ่ กวาดล้างบางคอรัปชั่น ใหญ่แค่ไหนก็แค่ใต้ตรีนพรรคคอมมิวนิสค์จีน ชัดเจนว่า ผู้นำดี ชาติเจริญ ปูติน และสีจิ้นผิง เปรียบเหมือนบิดาแห่งชาติ ที่เอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เอาแผ่นดินมาตุภูมิมาเป็นตัวกำหนด ทุกการกระทำ นี่คืออัตลักษณ์ของผู้นำแบบพ่อปกครองลูก เราถึงเข้ากันได้ดี เพราะเคมีมันใช่เลย ตรงกันเป๊ะเด๊ะ!

    - พ่อปิยะ คือผู้นำการเปลี่ยนสยามประเทศครั้งใหญ่ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จะถูกเค้ากลืนหรือจะเป็นพวกเดียวกับเค้า ทัดเทียมกัน พ่อทำสำเร็จอย่างงดงาม ไทยเราเจริญเทียบเท่าญี่ปุ่นในยุคนั้น ธรรมดาที่ไหน การสื่อสาร ขนส่ง การค้า ระเบียบสากลมาเต็ม ลูกหลานไทยไปนอก สั่งสอน มรึงคือคนไทย กูไม่ได้ส่งมรึงไปให้เป็นฝรั่ง แต่กูให้มรึงสำเหนียกเอาไว้ว่า มรึงคือคนไทยที่มีความรู้เทียบเท่าฝรั่ง ไม่ให้มันมาเอาเปรียบเราได้ รู้ทันโลก 23 ตุลาคม คือวันคล้ายวันสวรรคตของพ่อท่าน เราลูกหลานอโยธยาทุกไอ้อี ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ไม่มีพ่อท่าน เราคงตายห่าไปนานแล้ว ไม่มีพ่อท่าน คงไม่มีพ่อหลวงร.7 ร.9 ที่ฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ ขอบคุณแผ่นดินสวรรค์ ที่ได้ส่งพระอัฉริยะภาพพ่อหลวงทุกพระองค์มาปกครองแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองนี้ มรึงและกู โคตรจะมีบุญ ที่ได้มาเกิดในยุครัชสมัยพ่อร.9 "ยุคแห่งพระคุณ" และยิ่งมีบุญมากขึ้น ที่ได้ยังอยู่เห็น "ยุคพระเดช" ในรัชสมัยพ่อร.10 ดังนั้น คน 2 แผ่นดิน ไม่รักพ่อ แล้วจะให้ไปรักใครได้อีก

    ขอเชิดชู ทุกการกระทำ ทุกการเสียสละ ทุกความเพียร และการตัดสินใจครั้งใหญ่ ครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลก ไม่มีพ่อปิยะ ก็คงไม่มีสยามประเทศในวันนี้ ไม่มีราชวงศ์จักรี ก็คงไม่มีลูกหลานไทยให้สืบต่อไปจนชั่วกาลปาวสาน จงรักสถาบันสูงสุดยิ่งกว่าชีวิตมรึง เพราะแผ่นดินนี้ ไม่มีกษัตริย์ ไม่ได้ แผ่นดินนี้ คือแผ่นดินสวรรค์ ไอ้อี ใครคิดร้าย มรึงจะถูกธรณีสูบลงขุมนรก โดนไฟนรกแผดเผาไปตลอดกาล ทำดี ต้องได้ดี ทำเหี้ย ต้องชดใช้กรรมไม่สิ้นสุด หยุด ลด ละ เลิก ตั้งสติ และแผ่เมตตาธรรมให้ทั่วหล้า อานิสงค์แห่งบุญนี้ จะทำให้เหี้ยไอ้อีทุกตัวมันร้อนจนอยู่ต่อไม่ได้ ต้องเผ่นออกนอกกันจนหมดสิ้น ขอราชวงศ์จักรี เจริญรุ่งเรือง ไปตลอดกาลเถิด ลูกหลานไทย จะรักษาคำมั่นเอาไว้ จากลูกสู่หลาน ส่งต่อปณิธานของพ่อไม่สิ้นสุด

    หมี CNN(รักพ่อปิยะ กุหลาบแดงจัดมา บุหรี่ เหล้าพร้อมเพรียง กราบไหว้ท่าน ระลึกถึงท่าน แสดงให้ท่านรู้ ว่าพระคุณของท่านยิ่งใหญ่ ลูกหลานไทยไม่เคยลืมเลือน ปลดแอกทาส พ่อทำให้ เพื่อให้อิสระพวกมรึง อิสรภาพ เสรีภาพ ของจริงคือแผ่นดินนี้ หาใช่อเมริกา อังกฤษ ตะวันตก ตอแหล อย่าถูกเหี้ยหลอกง่าย ลูกพ่อหลวง เก่ง ฉลาด มีสติ มีปัญญา มากกว่าพวกมันเยอะ เพราะพวกเราคือคนของสวรรค์นั่นเอง ถึงได้อยู่ในแผ่นดินร่มเย็นนี้ได้)
    23 ตุลาคม 67(วันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพ่อปิยะ ที่รักของปวงชนชาวไทย)
    09.55 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172965228578622743
    23-10-67/01 : หมี CNN / ((( ขอสดุดี "พระปิยะมหาราช" ))) - ไม่มีพ่อปิยะ มรึงกะกู อาจจะยังเป็นทาสอยู่ก็ได้ทุกวันนี้ ทาสในเมืองไทยไม่มีแล้ว มีแต่ทาสในอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล แม่งไม่พัฒนาไปไหนเลย ดีออก ล่าอาณานิคมอย่างเดียว จนวันนี้ ถูกเค้าล่าคืน สาแก่ใจอีช้อยทั่วโลก! - ใครกันล่ะ? ที่เปลี่ยนแผ่นดินสยามให้เทียบเคียงนานาประเทศ สาเหตุคือ ไม่ให้ชาติตะวันตกมาใช้ข้ออ้างว่าล้าหลัง แล้วเข้ามายึดเป็นชาติบริวาร หมวกต้องสวม ไม้เท้าต้องมี เสื้อต้องใส่ ไม่ได้เห่อฝรั่ง แต่ไม่ให้มันมาดูถูก - ลูกหลานไทยฟังเอาไว้ มรึงเกิดไม่ทัน แต่ใช่ว่ามรึงจะไม่สำนึกบุญคุณพ่อปิยะ ความเจริญด้านวัตถุ สร้างง่ายดาย แต่ความเจริญด้านจิตใจ สำคัญกว่า มรึงดูชาติตะวันตก นับวันยิ่งกว่าไร้อารยธรรม สิทธิโคตรพ่อง โคตรแม่ง อ้างกันไป เพื่อเพียงสนองตัณหาตัวเองเท่านั้น แหกกฎหมายก็ได้ ฆ่าใครก็ได้ กราดยิงก็ได้ ไล่ข่มขืนใครก็ได้ กฎหมาทั้งนั้น กฎหมายทำให้คนไม่กลายเป็นสัดเดรัจฉาน กฎหมาย ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ปชต.มาเพื่อทำลายสิ่งเหล่านี้ มรึงอย่าหลงรูป รส กลิ่น เสียงให้มาก พ่อปิยะ ท่านวางถุงเงิน ถุงแดง รับไม้ต่อจากพ่อร.4 เพื่อการณ์ใหญ่ในวันข้างหน้า มาจนถึงพ่อร.10 คลังไทยถึงมีทองคำล้นพระคลัง จนมรึงจินตนาการไม่ออกดอกว่า มหาศาล! แต่ชาติปชต.จน อดอยาก เพราะก่อแต่สงคราม ไล่ล่าไม่รู้จบ หาสันติสุขไม่ได้ - ใครที่ทำให้พ่อปิยะของกูและมรึง ต้องทนทุกข์ใจ ต้องยอมแบ่งดินแดนส่วนน้อยเพื่อรักษาพื้นแผ่นดินหลักเอาไว้ กูมิลืมเลือน จากนี้ไป นับตั้งแต่พ่อร.10 เราจะดูดคืนทุกอย่างที่เสียไป กลับคืนมา มากกว่าเดิม ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จะไม่ทำให้พ่อปิยะ ต้องเสียใจอีกแล้ว พ่อปิยะต้องภาคภูมิใจในลูกหลานราชวงศ์จักรีแน่นอน เพราะไทยเราหรือสยามประเทศ จะกลายเป็นมหาอำนาจอาเซียนในเร็ววันนี้ TOP10 ที่นานาชาติจะต้องเกรงใจ ไม่ต้องไปปล้นแผ่นดินเค้า ไม่ต้องใช้กำลัง ชนเผ่ารอบทิศแผ่นดินจะขอมาอาศัยอยู่ ใต้ร่มโพธิ์ของพ่อหลวงชัวร์ เราจะขยายพื้นที่โดยการค้า และผนวกดินแดนเพิ่มไปเรื่อยๆ จากความสมัครใจของเพื่อนบ้าน รวมกันเราอยู่ รวมกันเราโต เพราะรากฐานการปกครองไทย พ่อปกครองลูก เป็นที่ยืนยันแน่ชัดแล้วว่า "ดีที่สุดในโลก" เชิญเอาปชต.ตอแหลอัปรีย์จัญไร ไปไกลๆ ส้นตรีนคนไทยซะ - นับตั้งแต่ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ชี้ให้เห็นชัดว่า พระอัจฉริยะภาพของพ่อหลวงท่านทุกพระองค์ สุดยอดแห่งแนวทางการปกครอง ที่ยืดหยุ่น และเมตตาธรรม ราชวงศ์จักรีถือกำเนิดบนโลก และจะกลายเป็นราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทุกราชวงศ์ที่เคยมีมา รวมทั้งเป็นต้นแบบโมเดล เรียกคืนราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก ให้ฟื้นคืนชีพ หลังถูกปชต.จอมปลอมหลอกแดร๊กควายมาปั่นกว่าศตวรรษ ปชต.คืออียิวมันคิด เพื่อให้ควบคุมโลก ใครยังเสพปชต.อยู่ ชาตินี้ มรึงไม่มีวันได้เห็นฟ้าสีทองผ่องอำไพ แม้แต่รัสเซีย จีน ไม่มีระบบกษัตริย์แล้ว แต่สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง ทำนั้น คือ "รูปแบบพ่อปกครองลูก" ชัดเจน ปูตินมาเยือนพ่อร.9 รู้เห็นทุกอย่าง เข้าใจ จึงนำไปปฎิบัติใช้จนได้ผล กลับมาส่งออกข้าวสาลีมากที่สุดในโลก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ส่วนสีจิ้นผิง ปฎิวัติแผ่นดินครั้งใหญ่ กวาดล้างบางคอรัปชั่น ใหญ่แค่ไหนก็แค่ใต้ตรีนพรรคคอมมิวนิสค์จีน ชัดเจนว่า ผู้นำดี ชาติเจริญ ปูติน และสีจิ้นผิง เปรียบเหมือนบิดาแห่งชาติ ที่เอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เอาแผ่นดินมาตุภูมิมาเป็นตัวกำหนด ทุกการกระทำ นี่คืออัตลักษณ์ของผู้นำแบบพ่อปกครองลูก เราถึงเข้ากันได้ดี เพราะเคมีมันใช่เลย ตรงกันเป๊ะเด๊ะ! - พ่อปิยะ คือผู้นำการเปลี่ยนสยามประเทศครั้งใหญ่ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จะถูกเค้ากลืนหรือจะเป็นพวกเดียวกับเค้า ทัดเทียมกัน พ่อทำสำเร็จอย่างงดงาม ไทยเราเจริญเทียบเท่าญี่ปุ่นในยุคนั้น ธรรมดาที่ไหน การสื่อสาร ขนส่ง การค้า ระเบียบสากลมาเต็ม ลูกหลานไทยไปนอก สั่งสอน มรึงคือคนไทย กูไม่ได้ส่งมรึงไปให้เป็นฝรั่ง แต่กูให้มรึงสำเหนียกเอาไว้ว่า มรึงคือคนไทยที่มีความรู้เทียบเท่าฝรั่ง ไม่ให้มันมาเอาเปรียบเราได้ รู้ทันโลก 23 ตุลาคม คือวันคล้ายวันสวรรคตของพ่อท่าน เราลูกหลานอโยธยาทุกไอ้อี ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ไม่มีพ่อท่าน เราคงตายห่าไปนานแล้ว ไม่มีพ่อท่าน คงไม่มีพ่อหลวงร.7 ร.9 ที่ฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ ขอบคุณแผ่นดินสวรรค์ ที่ได้ส่งพระอัฉริยะภาพพ่อหลวงทุกพระองค์มาปกครองแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองนี้ มรึงและกู โคตรจะมีบุญ ที่ได้มาเกิดในยุครัชสมัยพ่อร.9 "ยุคแห่งพระคุณ" และยิ่งมีบุญมากขึ้น ที่ได้ยังอยู่เห็น "ยุคพระเดช" ในรัชสมัยพ่อร.10 ดังนั้น คน 2 แผ่นดิน ไม่รักพ่อ แล้วจะให้ไปรักใครได้อีก ขอเชิดชู ทุกการกระทำ ทุกการเสียสละ ทุกความเพียร และการตัดสินใจครั้งใหญ่ ครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลก ไม่มีพ่อปิยะ ก็คงไม่มีสยามประเทศในวันนี้ ไม่มีราชวงศ์จักรี ก็คงไม่มีลูกหลานไทยให้สืบต่อไปจนชั่วกาลปาวสาน จงรักสถาบันสูงสุดยิ่งกว่าชีวิตมรึง เพราะแผ่นดินนี้ ไม่มีกษัตริย์ ไม่ได้ แผ่นดินนี้ คือแผ่นดินสวรรค์ ไอ้อี ใครคิดร้าย มรึงจะถูกธรณีสูบลงขุมนรก โดนไฟนรกแผดเผาไปตลอดกาล ทำดี ต้องได้ดี ทำเหี้ย ต้องชดใช้กรรมไม่สิ้นสุด หยุด ลด ละ เลิก ตั้งสติ และแผ่เมตตาธรรมให้ทั่วหล้า อานิสงค์แห่งบุญนี้ จะทำให้เหี้ยไอ้อีทุกตัวมันร้อนจนอยู่ต่อไม่ได้ ต้องเผ่นออกนอกกันจนหมดสิ้น ขอราชวงศ์จักรี เจริญรุ่งเรือง ไปตลอดกาลเถิด ลูกหลานไทย จะรักษาคำมั่นเอาไว้ จากลูกสู่หลาน ส่งต่อปณิธานของพ่อไม่สิ้นสุด หมี CNN(รักพ่อปิยะ กุหลาบแดงจัดมา บุหรี่ เหล้าพร้อมเพรียง กราบไหว้ท่าน ระลึกถึงท่าน แสดงให้ท่านรู้ ว่าพระคุณของท่านยิ่งใหญ่ ลูกหลานไทยไม่เคยลืมเลือน ปลดแอกทาส พ่อทำให้ เพื่อให้อิสระพวกมรึง อิสรภาพ เสรีภาพ ของจริงคือแผ่นดินนี้ หาใช่อเมริกา อังกฤษ ตะวันตก ตอแหล อย่าถูกเหี้ยหลอกง่าย ลูกพ่อหลวง เก่ง ฉลาด มีสติ มีปัญญา มากกว่าพวกมันเยอะ เพราะพวกเราคือคนของสวรรค์นั่นเอง ถึงได้อยู่ในแผ่นดินร่มเย็นนี้ได้) 23 ตุลาคม 67(วันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพ่อปิยะ ที่รักของปวงชนชาวไทย) 09.55 น. https://linevoom.line.me/post/1172965228578622743
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://thaitimes.co/posts/70401
    https://thaitimes.co/posts/70401
    THAITIMES.CO
    #NewsHour Live ย้อนเทียบ..คำพิพากษาคดีแชร์ลูกโซ่ดัง ใครรอด-ไม่รอด :...
    ## The icon ภาค 2 โดย อาจารย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ## .. .. วิเคราะห์เจาะลึก โดย อาจารย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ครั้งที่ 2 คดี The icon . อาจารย์ปานเทพ ละเอียดยิบเช่นเดิมครับ... . จากรายการ News Hour 18-10-67 : ย้อนเทียบ..คำพิพากษาคดีแชร์ลูกโซ่ดัง ใครรอด-ไม่รอด ....
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากแหล่งช่าวในกัมพูชา คือ กัมพูชาเดลี่ และขแมร์ไทมส์ และข่าวจาก เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ ลงข่าวตรงกันว่ารัฐบาลไทยเป็นฝ่ายเร่งรีบเจรจาพื้นที่ทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาในอ่าวไทย การกระทำเช่นนี้ย่อมเสี่ยงเป็นการยกพื้นที่ทางทะเลของไทย ให้กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนของไทย-กัมพูชา ผลคือเราแทบไม่ได้อะไร พลังงานที่จะตกอยู่กับผู้รับสัมปทานเดิม คือยกให้เชฟรอนของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับสัญญาสัปทานที่ไทยเสียเปรียบเมื่อ 50 ปีก่อน โดยที่ฝ่ายไทยไม่ได้เงื่อนไขการยกเลิกสัญญาจนถึงวันนี้ โดยในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐกำลังเสื่อมถอย และในขณะที่ BRICS กำลังสถาปนาสกุลเงินของโลกใหม่ ย่อมเท่ากับไทยประกาศให้แหล่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่ของโลกตรึงอยู่กับเงินดอลลาร์สหรัฐ(ปิโตรดอลลาร์)ไปโดยปริยาย ดังนั้นประเทศไทยจะไม่ได้อะไรอย่างที่กล่าวอ้าง ประชาชนไม่ได้อะไรเรื่องค่าไฟฟ้า เพราะปัจจุบันปัญหาที่แท้จริงคือโรงไฟฟ้าเราก็ผลิตล้นเกินจนค่าไฟแพงมหาศาล แหล่งปิโตรเลียมราคาขายให้ประชาชนก็อิงราคาตลาดโลก ก๊าซธรรมชาติผ่านโรงแยกก๊าซก็จะมอบให้อุตสาหกรรมปิโตรเลียมก่อนประชาชน มีแต่สหรัฐอเมริกาจะอาศัยสิทธิ์ให้มีกองกำลังเข้ามาคุ้มครองแหล่งปิโตรเลียมในอ่าวไทย เหมือนกับที่จีนเข้ามาคุ้มครองท่อก๊าซธรรมชาติในเมียนมา การใช้นโยบายต่างประเทศเช่นนี้จึงป็นการชักศึกเข้าบ้านในสถานการเประาบางอ่อนไหวในทางภูมิรัฐศาสตร์ จะมาอ้างไม่ได้ว่าเป็นการเจรจาร่วมเรื่องพลังงานอย่างเดียวไม่เกี่ยวกับเขตแดน คำถามคือ แล้วแหล่งพลังงานที่เคยเป็นของไทยแท้ๆ ผู้รับสัมปทานหรือแบ่งปันผลผลิตจะเป็นการเซ็นสัญญากับชาติใด? ถ้าเป็นของไทยก็ต้องเซ็นกับรัฐบาลไทยเท่านั้น ถ้ายอมรับว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ก็ต้องเซ็นลงนาม 2 ประเทศ การกระทำเช่นนี้จึงย่อมเท่ากับยกทรัพยากรของไทยในประเทศไทย ให้กลายเป็นของทั้ง 2 ประเทศ เป็นการสละทะเลอาณาเขตของไทย ทั้งๆที่กัมพูชาขีดเส้นทางทะเลอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายสากลคร่อมเกาะกูดประเทศไทย กองทัพเรือและประชาชนชาวไทยจะยอมได้อย่างไร

    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    22 ตุลาคม 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1078558973637802/?
    จากแหล่งช่าวในกัมพูชา คือ กัมพูชาเดลี่ และขแมร์ไทมส์ และข่าวจาก เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ ลงข่าวตรงกันว่ารัฐบาลไทยเป็นฝ่ายเร่งรีบเจรจาพื้นที่ทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาในอ่าวไทย การกระทำเช่นนี้ย่อมเสี่ยงเป็นการยกพื้นที่ทางทะเลของไทย ให้กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนของไทย-กัมพูชา ผลคือเราแทบไม่ได้อะไร พลังงานที่จะตกอยู่กับผู้รับสัมปทานเดิม คือยกให้เชฟรอนของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับสัญญาสัปทานที่ไทยเสียเปรียบเมื่อ 50 ปีก่อน โดยที่ฝ่ายไทยไม่ได้เงื่อนไขการยกเลิกสัญญาจนถึงวันนี้ โดยในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐกำลังเสื่อมถอย และในขณะที่ BRICS กำลังสถาปนาสกุลเงินของโลกใหม่ ย่อมเท่ากับไทยประกาศให้แหล่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่ของโลกตรึงอยู่กับเงินดอลลาร์สหรัฐ(ปิโตรดอลลาร์)ไปโดยปริยาย ดังนั้นประเทศไทยจะไม่ได้อะไรอย่างที่กล่าวอ้าง ประชาชนไม่ได้อะไรเรื่องค่าไฟฟ้า เพราะปัจจุบันปัญหาที่แท้จริงคือโรงไฟฟ้าเราก็ผลิตล้นเกินจนค่าไฟแพงมหาศาล แหล่งปิโตรเลียมราคาขายให้ประชาชนก็อิงราคาตลาดโลก ก๊าซธรรมชาติผ่านโรงแยกก๊าซก็จะมอบให้อุตสาหกรรมปิโตรเลียมก่อนประชาชน มีแต่สหรัฐอเมริกาจะอาศัยสิทธิ์ให้มีกองกำลังเข้ามาคุ้มครองแหล่งปิโตรเลียมในอ่าวไทย เหมือนกับที่จีนเข้ามาคุ้มครองท่อก๊าซธรรมชาติในเมียนมา การใช้นโยบายต่างประเทศเช่นนี้จึงป็นการชักศึกเข้าบ้านในสถานการเประาบางอ่อนไหวในทางภูมิรัฐศาสตร์ จะมาอ้างไม่ได้ว่าเป็นการเจรจาร่วมเรื่องพลังงานอย่างเดียวไม่เกี่ยวกับเขตแดน คำถามคือ แล้วแหล่งพลังงานที่เคยเป็นของไทยแท้ๆ ผู้รับสัมปทานหรือแบ่งปันผลผลิตจะเป็นการเซ็นสัญญากับชาติใด? ถ้าเป็นของไทยก็ต้องเซ็นกับรัฐบาลไทยเท่านั้น ถ้ายอมรับว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ก็ต้องเซ็นลงนาม 2 ประเทศ การกระทำเช่นนี้จึงย่อมเท่ากับยกทรัพยากรของไทยในประเทศไทย ให้กลายเป็นของทั้ง 2 ประเทศ เป็นการสละทะเลอาณาเขตของไทย ทั้งๆที่กัมพูชาขีดเส้นทางทะเลอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายสากลคร่อมเกาะกูดประเทศไทย กองทัพเรือและประชาชนชาวไทยจะยอมได้อย่างไร ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ 22 ตุลาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1078558973637802/?
    Like
    Love
    Sad
    Angry
    15
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 742 มุมมอง 0 รีวิว
  • วารสารถูกตั้งคำถามว่ามีความเที่ยงตรงหรือไม่?

    ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา วงการวิชาการ อาทิ แพทย์ วิทยาศาสตร์เป็นต้น จะให้ความเชื่อถือว่า บทความใดที่ตีพิมพ์ในวารสาร ที่เรียกว่า peer reviewed journal เป็นที่เชื่อถือได้
    เพราะมีคณะกรรมการที่อ่าน บทความ และพิจารณาหลักฐานที่มากระบวนการศึกษา และจะทำการให้ความเห็นว่า จะไม่รับ หรือรับ แต่มีเงื่อนไข ประเด็นต้องแก้ไขใหญ่ หรือเล็ก หรือต้องมีการทำการทดลองใหม่ในบางส่วนหรือไม่
    วารสารที่มีชื่อเหล่านี้จะถูกนำไปอ้างอิงในวงวิชาการต่างๆทำให้รับรู้กันทั่วไป

    ในการส่งบทความเพื่อ ไปตีพิมพ์ในวารสารนั้น
    ผู้วิจัยจะต้องประกาศว่ามีผลประโยชน์ใดหรือไม่อย่างไร กับ บริษัทผลิตภัณฑ์ ยา วัคซีน รวมทั้งได้ค่าตอบแทนในรูปลักษณะใด ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา รับเงิน หรือสิ่งตอบแทน รวมค่าเดินทางค่าที่พัก เวลาไปบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ และเชื่อมโยงมาถึงการใช้ผลิตภัณฑ์หรือวัคซีนเป็นต้น

    แต่กรรมการผู้พิจารณา กลับไม่ต้องมีการแจงรายละเอียดชัดเจน เหล่านี้อาจมีเพียงแต่ว่า มีประเด็นที่ขัดแย้ง กับผู้ส่งบทความหรือผู้ทำวิจัย หรือไม่ หรือทำวิจัยในเรื่องเดียวกัน ที่อาจจะเป็นการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตนได้

    บทความนี้ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน (journal of American Medical Association JAMA) วันที่ 10 ตุลาคม 2024 ได้รายงานถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรรมการผู้พิจารณาบทความ (reviewers) ว่า แท้จริงแล้ว เกินครึ่งของบุคคลกรรมการเหล่านี้ ต่างได้รับเงินสนับสนุนในการศึกษาวิจัย หรือเงินสนับสนุนในด้านผลิตภัณฑ์เครื่องมือ ต่างๆ จากบริษัทที่ตรงมาเข้าบุคคลนั้น หรือที่เข้ามายังบุคคลนั้น และสถาบันที่บุคคลนั้นอยู่

    และเป็นประเด็นที่ตั้งคำถามถึง ความเที่ยงตรง integrity และ ความมีอิสระเที่ยงตรงในการตัดสิน ในการที่จะไม่รับ หรือรับตีพิมพ์บทความที่ส่งเข้ามา

    และหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ จากหลายสถาบัน ในต่างประเทศ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอังกฤษ ต่างให้ข้อมูลที่ตนเองประสบและถ่ายทอดในสื่อต่างๆโดยเฉพาะที่ประสบในช่วงโควิด
    ที่เกี่ยวข้องกับการไม่ให้ลงตีพิมพ์ การใช้ยาบางตัว ที่มีการทดสอบแล้วว่าได้ผลทั้งๆที่ราคาถูก เข้าถึงได้ และจนกระทั่งถึงงานที่ตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการถอดออก และ ที่สำคัญก็คือเรื่องผลกระทบของวัคซีนที่ ถึงชีวิตหรือพิการ
    วารสารที่ถูกเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ ที่กรรมการพิจารณาบทความได้รับเงินสนับสนุน ต่างก็เป็นวารสารชั้นนำ เช่น British Medical journal Lancet New England journal เป็นต้น
    โดยมูลค่าของเงินสนับสนุนเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1,000,000,000 เหรียญสหรัฐ

    สูตรสำเร็จ เช่น เมื่อมีการพูด ผลกระทบของวัคซีน จะมีกลุ่มที่ออกมาวิจารณ์ว่า ไม่ได้ลงตีพิมพ์ในวารสารชั้นดี หรือตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการสั่งถอดออกแสดงว่า เชื่อถือไม่ได้

    แม้กระทั่ง บทความเรื่องโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์หลังได้รับวัคซีนโควิดไปภายในช่วงสองสัปดาห์และเสียชีวิตภายในเวลาห้าเดือน จากคณะ ชองProf Luc Montagnier ซึ่งได้รับ รางวัล โนเบล จากการค้นพบไวรัสเอดส์ ถูกไม่รับพิจารณาในวารสาร จนกระทั่งตีพิมพ์ในวรสารในระดับรองลงมาและข้อมูลหลักฐานประกอบในบทความเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่คงเลือกได้ว่าน่าตื่นเต้นและประทับใจในการค้นพบและเชื่อมโยงการเกิดโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์กับวัคซีนได้อย่างชัดเจน

    https://jamanetwork.com/journals/jama/article-abstract/2824834?utm_source=substack&utm_medium=email

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    เชื่อถือได้หรือ? “หมอธีระวัฒน์” เผยวารสารการแพทย์ชื่อดังปล่อย กก.พิจารณาบทความรับผลประโยชน์จากบริษัทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000100753





    Two years ago, we discussed the lack of evidence supporting the idea that peer review improves the quality of scientific research. 
    Peer review is meant to guarantee the publication of high-quality research and enhance the quality of published manuscripts. The process should involve independent experts evaluating and assessing research for its quality and reliability.
    However, a recent JAMA publication questions the integrity and independence of peer review. The research letter addresses the Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals.
    The authors identified peer reviewers for The BMJ, JAMA, The Lancet, and The New England Journal of Medicine (NEJM) using each journal’s 2022 reviewer list. They then used a US Open payments database to identify whether reviewers had received industry payments.
    What did they find?
    Between 2020 and 2022, 1155/1962 peer reviewers (59%) received at least one industry payment. More than half (54%) accepted general payments, while 32% received research payments.
    Between 2020 and 2022, reviewers received over $1.2 billion in industry payments, including $1 billion to individuals or their institutions. Over the three years, the median general payment was $7,614.  
    What does this mean?
    Journals such as the BMJ pride themselves on their competing interest policy. Readers should know the author's competing interests if they publish an article. They ask reviewers to provide a fair, honest, and unbiased assessment of the manuscript's strengths and weaknesses. But how is that possible if you're on the payroll of pharma?
    Furthermore, no one can identify who is being paid as there is no central database like the US where you can look up who is paying who. The voluntary nature of the system means companies can often conceal payments. For example, the drug industry’s self-regulatory body reprimanded  Novo Nordisk for failing to disclose approximately 500 payments worth £7.8m to over 150 recipients between 2020 and 2022.
    This latest publication further enhances the status of peer review: it is broken.
    A system that dates back over 200 years persists because no one can be bothered to address its shortcomings, and too many journals make hefty profits out of its inadequacies to affect the status quo.
    THE JAMA authors consider that ‘additional research and transparency regarding industry payments in the peer review process are needed.” We think this will be another smokescreen to permit the current system to limp on. 
    Editorial peer reviews are largely untested; their effects are uncertain and tainted by industry influence. The system needs a radical overhaul which starts with abandoning the current journal system that sucks in vast amounts of cash and distorts the research agenda.
    The main reasons for the survival of a broken system are tied to the biomedical publication industry. For editors, peer review is a Kevlar shield, a sloping shoulders device - “it ain’t me guv” cop-out clause. For academic authors who have to climb the greasy pole, it’s a system that works both ways; for industry and all those who have to sell something, it’s a cheap advert chance. You only need to read our Antivirals series to understand how the system works and how the public was sold and continues to sell dummies. Rotten decision-makers only have to point to ghost-written trials in mega journals to justify their decisions.
    You only have to look at our recent Zum Zum posts to see the devastating effects of this broken system. Or look up the Comirnaty series, which was written without data published in journals—it was regulatory data, the closest we are ever going to get to reality.
    This post was written by two old geezers who have been peer-viewed and have peer-reviewed countless times.
    Consider becoming a paid subscriber to receive new posts and support our work.

    October 10, 2024
    Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals
    David-Dan Nguyen, MDCM, MPH1,2; Anju Muramaya3,4; Anna-Lisa Nguyen, BHSc5; et al
    วารสารถูกตั้งคำถามว่ามีความเที่ยงตรงหรือไม่? ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา วงการวิชาการ อาทิ แพทย์ วิทยาศาสตร์เป็นต้น จะให้ความเชื่อถือว่า บทความใดที่ตีพิมพ์ในวารสาร ที่เรียกว่า peer reviewed journal เป็นที่เชื่อถือได้ เพราะมีคณะกรรมการที่อ่าน บทความ และพิจารณาหลักฐานที่มากระบวนการศึกษา และจะทำการให้ความเห็นว่า จะไม่รับ หรือรับ แต่มีเงื่อนไข ประเด็นต้องแก้ไขใหญ่ หรือเล็ก หรือต้องมีการทำการทดลองใหม่ในบางส่วนหรือไม่ วารสารที่มีชื่อเหล่านี้จะถูกนำไปอ้างอิงในวงวิชาการต่างๆทำให้รับรู้กันทั่วไป ในการส่งบทความเพื่อ ไปตีพิมพ์ในวารสารนั้น ผู้วิจัยจะต้องประกาศว่ามีผลประโยชน์ใดหรือไม่อย่างไร กับ บริษัทผลิตภัณฑ์ ยา วัคซีน รวมทั้งได้ค่าตอบแทนในรูปลักษณะใด ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา รับเงิน หรือสิ่งตอบแทน รวมค่าเดินทางค่าที่พัก เวลาไปบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ และเชื่อมโยงมาถึงการใช้ผลิตภัณฑ์หรือวัคซีนเป็นต้น แต่กรรมการผู้พิจารณา กลับไม่ต้องมีการแจงรายละเอียดชัดเจน เหล่านี้อาจมีเพียงแต่ว่า มีประเด็นที่ขัดแย้ง กับผู้ส่งบทความหรือผู้ทำวิจัย หรือไม่ หรือทำวิจัยในเรื่องเดียวกัน ที่อาจจะเป็นการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตนได้ บทความนี้ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน (journal of American Medical Association JAMA) วันที่ 10 ตุลาคม 2024 ได้รายงานถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรรมการผู้พิจารณาบทความ (reviewers) ว่า แท้จริงแล้ว เกินครึ่งของบุคคลกรรมการเหล่านี้ ต่างได้รับเงินสนับสนุนในการศึกษาวิจัย หรือเงินสนับสนุนในด้านผลิตภัณฑ์เครื่องมือ ต่างๆ จากบริษัทที่ตรงมาเข้าบุคคลนั้น หรือที่เข้ามายังบุคคลนั้น และสถาบันที่บุคคลนั้นอยู่ และเป็นประเด็นที่ตั้งคำถามถึง ความเที่ยงตรง integrity และ ความมีอิสระเที่ยงตรงในการตัดสิน ในการที่จะไม่รับ หรือรับตีพิมพ์บทความที่ส่งเข้ามา และหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ จากหลายสถาบัน ในต่างประเทศ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอังกฤษ ต่างให้ข้อมูลที่ตนเองประสบและถ่ายทอดในสื่อต่างๆโดยเฉพาะที่ประสบในช่วงโควิด ที่เกี่ยวข้องกับการไม่ให้ลงตีพิมพ์ การใช้ยาบางตัว ที่มีการทดสอบแล้วว่าได้ผลทั้งๆที่ราคาถูก เข้าถึงได้ และจนกระทั่งถึงงานที่ตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการถอดออก และ ที่สำคัญก็คือเรื่องผลกระทบของวัคซีนที่ ถึงชีวิตหรือพิการ วารสารที่ถูกเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ ที่กรรมการพิจารณาบทความได้รับเงินสนับสนุน ต่างก็เป็นวารสารชั้นนำ เช่น British Medical journal Lancet New England journal เป็นต้น โดยมูลค่าของเงินสนับสนุนเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1,000,000,000 เหรียญสหรัฐ สูตรสำเร็จ เช่น เมื่อมีการพูด ผลกระทบของวัคซีน จะมีกลุ่มที่ออกมาวิจารณ์ว่า ไม่ได้ลงตีพิมพ์ในวารสารชั้นดี หรือตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการสั่งถอดออกแสดงว่า เชื่อถือไม่ได้ แม้กระทั่ง บทความเรื่องโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์หลังได้รับวัคซีนโควิดไปภายในช่วงสองสัปดาห์และเสียชีวิตภายในเวลาห้าเดือน จากคณะ ชองProf Luc Montagnier ซึ่งได้รับ รางวัล โนเบล จากการค้นพบไวรัสเอดส์ ถูกไม่รับพิจารณาในวารสาร จนกระทั่งตีพิมพ์ในวรสารในระดับรองลงมาและข้อมูลหลักฐานประกอบในบทความเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่คงเลือกได้ว่าน่าตื่นเต้นและประทับใจในการค้นพบและเชื่อมโยงการเกิดโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์กับวัคซีนได้อย่างชัดเจน https://jamanetwork.com/journals/jama/article-abstract/2824834?utm_source=substack&utm_medium=email ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เชื่อถือได้หรือ? “หมอธีระวัฒน์” เผยวารสารการแพทย์ชื่อดังปล่อย กก.พิจารณาบทความรับผลประโยชน์จากบริษัทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000100753 Two years ago, we discussed the lack of evidence supporting the idea that peer review improves the quality of scientific research.  Peer review is meant to guarantee the publication of high-quality research and enhance the quality of published manuscripts. The process should involve independent experts evaluating and assessing research for its quality and reliability. However, a recent JAMA publication questions the integrity and independence of peer review. The research letter addresses the Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals. The authors identified peer reviewers for The BMJ, JAMA, The Lancet, and The New England Journal of Medicine (NEJM) using each journal’s 2022 reviewer list. They then used a US Open payments database to identify whether reviewers had received industry payments. What did they find? Between 2020 and 2022, 1155/1962 peer reviewers (59%) received at least one industry payment. More than half (54%) accepted general payments, while 32% received research payments. Between 2020 and 2022, reviewers received over $1.2 billion in industry payments, including $1 billion to individuals or their institutions. Over the three years, the median general payment was $7,614.   What does this mean? Journals such as the BMJ pride themselves on their competing interest policy. Readers should know the author's competing interests if they publish an article. They ask reviewers to provide a fair, honest, and unbiased assessment of the manuscript's strengths and weaknesses. But how is that possible if you're on the payroll of pharma? Furthermore, no one can identify who is being paid as there is no central database like the US where you can look up who is paying who. The voluntary nature of the system means companies can often conceal payments. For example, the drug industry’s self-regulatory body reprimanded  Novo Nordisk for failing to disclose approximately 500 payments worth £7.8m to over 150 recipients between 2020 and 2022. This latest publication further enhances the status of peer review: it is broken. A system that dates back over 200 years persists because no one can be bothered to address its shortcomings, and too many journals make hefty profits out of its inadequacies to affect the status quo. THE JAMA authors consider that ‘additional research and transparency regarding industry payments in the peer review process are needed.” We think this will be another smokescreen to permit the current system to limp on.  Editorial peer reviews are largely untested; their effects are uncertain and tainted by industry influence. The system needs a radical overhaul which starts with abandoning the current journal system that sucks in vast amounts of cash and distorts the research agenda. The main reasons for the survival of a broken system are tied to the biomedical publication industry. For editors, peer review is a Kevlar shield, a sloping shoulders device - “it ain’t me guv” cop-out clause. For academic authors who have to climb the greasy pole, it’s a system that works both ways; for industry and all those who have to sell something, it’s a cheap advert chance. You only need to read our Antivirals series to understand how the system works and how the public was sold and continues to sell dummies. Rotten decision-makers only have to point to ghost-written trials in mega journals to justify their decisions. You only have to look at our recent Zum Zum posts to see the devastating effects of this broken system. Or look up the Comirnaty series, which was written without data published in journals—it was regulatory data, the closest we are ever going to get to reality. This post was written by two old geezers who have been peer-viewed and have peer-reviewed countless times. Consider becoming a paid subscriber to receive new posts and support our work. October 10, 2024 Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals David-Dan Nguyen, MDCM, MPH1,2; Anju Muramaya3,4; Anna-Lisa Nguyen, BHSc5; et al
    JAMANETWORK.COM
    Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals
    This study characterizes payments by drug and medical device manufacturers to US peer reviewers of major medical journals.
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • Krishna Vinjam colored post mobile
    [Krishnaezify] colored post mobile
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts