• รมว.เกษตรฯ ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของชาวนครฯเขต 8 ที่ให้โอกาสพรรคกล้าธรรมเข้ามารับใช้ ลั่นพร้อมช่วย “บิ๊กโอ” พัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039468

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รมว.เกษตรฯ ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของชาวนครฯเขต 8 ที่ให้โอกาสพรรคกล้าธรรมเข้ามารับใช้ ลั่นพร้อมช่วย “บิ๊กโอ” พัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039468 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ธรรมนัส” นำ “บิ๊กโอ” ประกาศชัยชนะ หลังผลนับคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งฉลุย ขอบคุณชาวนครฯ เขต 8 ที่ให้โอกาสกล้าธรรม ลั่น พร้อมสร้างบ้านแปงเมืองไปกับคนใต้ ชี้ จะใช้กระสุนหรือไม่ ขึ้นอยู่ว่าคนทำผิดถูกจับหรือเปล่า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039467

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ธรรมนัส” นำ “บิ๊กโอ” ประกาศชัยชนะ หลังผลนับคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งฉลุย ขอบคุณชาวนครฯ เขต 8 ที่ให้โอกาสกล้าธรรม ลั่น พร้อมสร้างบ้านแปงเมืองไปกับคนใต้ ชี้ จะใช้กระสุนหรือไม่ ขึ้นอยู่ว่าคนทำผิดถูกจับหรือเปล่า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039467 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • กกต พอใจภาพรวมเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช เปิดผลนับคะแนนเบื้องต้น "ก้องเกียรติ" พรรคกล้าธรรม นำห่าง ตามด้วยผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ประชาชน และประชาธิปัตย์ ตามลำดับ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039458

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กกต พอใจภาพรวมเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช เปิดผลนับคะแนนเบื้องต้น "ก้องเกียรติ" พรรคกล้าธรรม นำห่าง ตามด้วยผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ประชาชน และประชาธิปัตย์ ตามลำดับ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039458 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลการสำรวจล่าสุดจาก Malwarebytes เผยว่า เกือบสามในสี่ของผู้คน ไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลบนสมาร์ทโฟน และ เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ มองว่าบริษัทต่างๆ ก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน ความกังวลนี้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การที่รัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้ Apple เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานที่เข้ารหัส การล้มละลายของบริษัทตรวจสอบพันธุกรรม 23andMe และการใช้ข้อมูลจำนวนมากใน AI chatbot

    ความไม่ไว้วางใจนี้สะท้อนถึงความกังวลของผู้คนเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับรัฐบาลและบริษัทต่างๆ

    ✅ ผลการสำรวจจาก Malwarebytes
    - เกือบสามในสี่ของผู้คนไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
    - เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์มองว่าบริษัทต่างๆ ไม่น่าเชื่อถือ

    ✅ เหตุการณ์ที่กระตุ้นความกังวล
    - รัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้ Apple เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานที่เข้ารหัส
    - การล้มละลายของบริษัทตรวจสอบพันธุกรรม 23andMe
    - การใช้ข้อมูลจำนวนมากใน AI chatbot

    ✅ ผลกระทบต่อความไว้วางใจ
    - ผู้คนกังวลเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในยุคดิจิทัล
    - ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับรัฐบาลและบริษัท

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/most-people-mistrust-governments-and-businesses-on-data-privacy
    ผลการสำรวจล่าสุดจาก Malwarebytes เผยว่า เกือบสามในสี่ของผู้คน ไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลบนสมาร์ทโฟน และ เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ มองว่าบริษัทต่างๆ ก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน ความกังวลนี้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การที่รัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้ Apple เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานที่เข้ารหัส การล้มละลายของบริษัทตรวจสอบพันธุกรรม 23andMe และการใช้ข้อมูลจำนวนมากใน AI chatbot ความไม่ไว้วางใจนี้สะท้อนถึงความกังวลของผู้คนเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับรัฐบาลและบริษัทต่างๆ ✅ ผลการสำรวจจาก Malwarebytes - เกือบสามในสี่ของผู้คนไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล - เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์มองว่าบริษัทต่างๆ ไม่น่าเชื่อถือ ✅ เหตุการณ์ที่กระตุ้นความกังวล - รัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้ Apple เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานที่เข้ารหัส - การล้มละลายของบริษัทตรวจสอบพันธุกรรม 23andMe - การใช้ข้อมูลจำนวนมากใน AI chatbot ✅ ผลกระทบต่อความไว้วางใจ - ผู้คนกังวลเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในยุคดิจิทัล - ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับรัฐบาลและบริษัท https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/most-people-mistrust-governments-and-businesses-on-data-privacy
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Most people mistrust governments and businesses on data privacy
    Almost three-quarters of people surveyed by Internet security software maker Malwarebytes do not trust governments with their data while almost nine in 10 view companies to be just as shady.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงบทบาทของโซเชียลมีเดียที่กลายเป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิตสำหรับวัยรุ่นในสหรัฐฯ โดยผลการศึกษาจาก Pew Research Center พบว่า 34% ของวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิต และ 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย

    โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มสำหรับความบันเทิงอีกต่อไป แต่ยังกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม การใช้งานโซเชียลมีเดียยังมีผลกระทบด้านลบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่รายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย

    ✅ การใช้งานเพื่อสุขภาพจิต
    - 34% ของวัยรุ่นใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพจิต
    - 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย

    ✅ แพลตฟอร์มที่นิยม
    - Instagram, TikTok และ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักที่วัยรุ่นใช้

    ✅ ผลกระทบต่อวัยรุ่น
    - โซเชียลมีเดียกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น
    - ผู้หญิงรายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย

    ✅ การเปลี่ยนแปลงบทบาทของโซเชียลมีเดีย
    - จากแพลตฟอร์มความบันเทิงสู่แหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/social-media-is-a-mental-heath-resource-for-one-in-three-us-teens
    บทความนี้กล่าวถึงบทบาทของโซเชียลมีเดียที่กลายเป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิตสำหรับวัยรุ่นในสหรัฐฯ โดยผลการศึกษาจาก Pew Research Center พบว่า 34% ของวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิต และ 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มสำหรับความบันเทิงอีกต่อไป แต่ยังกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม การใช้งานโซเชียลมีเดียยังมีผลกระทบด้านลบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่รายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย ✅ การใช้งานเพื่อสุขภาพจิต - 34% ของวัยรุ่นใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพจิต - 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย ✅ แพลตฟอร์มที่นิยม - Instagram, TikTok และ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักที่วัยรุ่นใช้ ✅ ผลกระทบต่อวัยรุ่น - โซเชียลมีเดียกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น - ผู้หญิงรายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย ✅ การเปลี่ยนแปลงบทบาทของโซเชียลมีเดีย - จากแพลตฟอร์มความบันเทิงสู่แหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/social-media-is-a-mental-heath-resource-for-one-in-three-us-teens
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Social media is a mental heath resource for one in three US teens
    From Instagram to TikTok to YouTube, social networks are no longer just for posting selfies or dance videos. For more than a third of American teenagers, they've also become the place to find information about mental health, according to a study by the Pew Research Center.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok กำลังเตรียมเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศญี่ปุ่น โดยมีแผนเปิดตัว TikTok Shop ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า บริษัทกำลังเริ่มกระบวนการรับสมัครผู้ขายเพื่อเข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย

    การเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซในญี่ปุ่นของ TikTok เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตที่มุ่งเน้นการสร้างรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์ โดยใช้ความนิยมของแพลตฟอร์มในหมู่ผู้ใช้งานชาวญี่ปุ่นเป็นฐานสำคัญ

    ✅ การเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ
    - TikTok เตรียมเปิดตัว TikTok Shop ในญี่ปุ่นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
    - บริษัทเริ่มรับสมัครผู้ขายเพื่อเข้าร่วมแพลตฟอร์ม

    ✅ เป้าหมายของ TikTok
    - ขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย
    - สร้างรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์

    ✅ ความนิยมของแพลตฟอร์มในญี่ปุ่น
    - ใช้ฐานผู้ใช้งานชาวญี่ปุ่นเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายธุรกิจ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/tiktok-to-enter-japan-e-commerce-nikkei-reports
    TikTok กำลังเตรียมเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศญี่ปุ่น โดยมีแผนเปิดตัว TikTok Shop ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า บริษัทกำลังเริ่มกระบวนการรับสมัครผู้ขายเพื่อเข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย การเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซในญี่ปุ่นของ TikTok เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตที่มุ่งเน้นการสร้างรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์ โดยใช้ความนิยมของแพลตฟอร์มในหมู่ผู้ใช้งานชาวญี่ปุ่นเป็นฐานสำคัญ ✅ การเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ - TikTok เตรียมเปิดตัว TikTok Shop ในญี่ปุ่นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า - บริษัทเริ่มรับสมัครผู้ขายเพื่อเข้าร่วมแพลตฟอร์ม ✅ เป้าหมายของ TikTok - ขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย - สร้างรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์ ✅ ความนิยมของแพลตฟอร์มในญี่ปุ่น - ใช้ฐานผู้ใช้งานชาวญี่ปุ่นเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายธุรกิจ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/tiktok-to-enter-japan-e-commerce-nikkei-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    TikTok to enter Japan e-commerce, Nikkei reports
    (Reuters) -Chinese social media platform TikTok will enter the online shopping industry in Japan within the next few months, Nikkei reported on Sunday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทักษิณ” ฝากบอก “หนูรี” ทำตัวดีๆ เผื่อจะได้เป็นรองนายกฯ กับเขาบ้าง หลัง “เสรีพิศุทธ์” ออกมาขู่จะเอาตัวเข้าคุกคดีชั้น 14 เผยเคยมาขอตำแหน่ง แต่หลังจากนั้นก็โกรธกันมา แต่ไม่เป็นไร ขอให้ใจเย็นๆ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039445
    “ทักษิณ” ฝากบอก “หนูรี” ทำตัวดีๆ เผื่อจะได้เป็นรองนายกฯ กับเขาบ้าง หลัง “เสรีพิศุทธ์” ออกมาขู่จะเอาตัวเข้าคุกคดีชั้น 14 เผยเคยมาขอตำแหน่ง แต่หลังจากนั้นก็โกรธกันมา แต่ไม่เป็นไร ขอให้ใจเย็นๆ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039445
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พีระพันธุ์" ชื่นชมตำรวจเสียสละ ทุ่มเทเพื่อประชาชน ย้ำสื่อยึดจรรยาบรรณ นำเสนอความจริง
    https://www.thai-tai.tv/news/18370/
    "พีระพันธุ์" ชื่นชมตำรวจเสียสละ ทุ่มเทเพื่อประชาชน ย้ำสื่อยึดจรรยาบรรณ นำเสนอความจริง https://www.thai-tai.tv/news/18370/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทพไท ซัด "ดับไฟใต้ เหม็นขี้ฟันทักษิณ" ชี้แก้ปัญหาแบบซื้อเวลา
    https://www.thai-tai.tv/news/18369/
    เทพไท ซัด "ดับไฟใต้ เหม็นขี้ฟันทักษิณ" ชี้แก้ปัญหาแบบซื้อเวลา https://www.thai-tai.tv/news/18369/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหน็บ 'นายกฯอิ๊งค์' ตอบโต้เฉพาะเรื่องชุด-รองเท้า-แว่น แต่ไม่ตอบคำถามใหญ่เรื่องปากท้อง
    https://www.thai-tai.tv/news/18368/
    เหน็บ 'นายกฯอิ๊งค์' ตอบโต้เฉพาะเรื่องชุด-รองเท้า-แว่น แต่ไม่ตอบคำถามใหญ่เรื่องปากท้อง https://www.thai-tai.tv/news/18368/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'บิ๊กป้อม' ยกเครื่องพปชร. เปลี่ยนโลโก้ ยืนแถวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมทันสมัย
    https://www.thai-tai.tv/news/18367/
    'บิ๊กป้อม' ยกเครื่องพปชร. เปลี่ยนโลโก้ ยืนแถวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมทันสมัย https://www.thai-tai.tv/news/18367/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจดัง แฉ!!! 'โรม' สวมโรเล็กซ์ครึ่งล้าน ไม่มีในบัญชีทรัพย์สิน กังขาตั้งแต่เรียนจบไม่ทำอะไรนอกจากเป็นแกนนำม็อบพอมาเป็น สส. มีทรัพย์สินกว่า 13 ล้าน
    https://www.thai-tai.tv/news/18366/
    เพจดัง แฉ!!! 'โรม' สวมโรเล็กซ์ครึ่งล้าน ไม่มีในบัญชีทรัพย์สิน กังขาตั้งแต่เรียนจบไม่ทำอะไรนอกจากเป็นแกนนำม็อบพอมาเป็น สส. มีทรัพย์สินกว่า 13 ล้าน https://www.thai-tai.tv/news/18366/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ Radeon PRO W9000 ที่ออกแบบมาสำหรับงานระดับมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเรนเดอร์ 3D และการพัฒนา AI โดยใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในงานจริง แม้จะมีหน่วยความจำเพียง 32GB ซึ่งน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้า Radeon PRO W7900 ที่มี 48GB แต่ AMD เน้นการให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า

    GPU รุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Navi 48 XTW ที่มีขนาด 356mm² และมีการปรับแต่งเพื่อรองรับงานระดับมืออาชีพ เช่น CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์ โดยมีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน

    อย่างไรก็ตาม RDNA 4 ยังไม่มีการรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม ROCm ของ AMD ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักพัฒนา AI และ Machine Learning

    ✅ การออกแบบและสถาปัตยกรรม
    - ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 และ Navi 48 XTW
    - ขนาด die 356mm² พร้อมการปรับแต่งสำหรับงานระดับมืออาชีพ

    ✅ เป้าหมายของ AMD
    - เน้นประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า
    - ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ไม่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่

    ✅ การใช้งานในงานระดับมืออาชีพ
    - รองรับงาน CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์
    - มีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน

    ✅ การเปิดตัวและการจัดแสดง
    - คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 และงาน “Advancing AI” ของ AMD

    https://www.techradar.com/pro/amd-set-to-launch-new-radeon-pro-w9000-workstation-gpu-to-take-on-nvidias-formidable-rtx-pro-6000-blackwell-workstation-edition
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ Radeon PRO W9000 ที่ออกแบบมาสำหรับงานระดับมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเรนเดอร์ 3D และการพัฒนา AI โดยใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในงานจริง แม้จะมีหน่วยความจำเพียง 32GB ซึ่งน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้า Radeon PRO W7900 ที่มี 48GB แต่ AMD เน้นการให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า GPU รุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Navi 48 XTW ที่มีขนาด 356mm² และมีการปรับแต่งเพื่อรองรับงานระดับมืออาชีพ เช่น CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์ โดยมีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม RDNA 4 ยังไม่มีการรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม ROCm ของ AMD ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักพัฒนา AI และ Machine Learning ✅ การออกแบบและสถาปัตยกรรม - ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 และ Navi 48 XTW - ขนาด die 356mm² พร้อมการปรับแต่งสำหรับงานระดับมืออาชีพ ✅ เป้าหมายของ AMD - เน้นประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า - ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ไม่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่ ✅ การใช้งานในงานระดับมืออาชีพ - รองรับงาน CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์ - มีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน ✅ การเปิดตัวและการจัดแสดง - คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 และงาน “Advancing AI” ของ AMD https://www.techradar.com/pro/amd-set-to-launch-new-radeon-pro-w9000-workstation-gpu-to-take-on-nvidias-formidable-rtx-pro-6000-blackwell-workstation-edition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟูดานในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้พัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชแบบไม่ลบเลือน (Non-Volatile Memory) ที่เร็วที่สุดในโลก โดยใช้ชื่อว่า PoX (Phase-change Oxide) ซึ่งมีความเร็วในการเขียนข้อมูลถึง 400 พิโควินาที (ps) ซึ่งเร็วกว่าหน่วยความจำแบบ SRAM และ DRAM ที่ใช้ในปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้ใช้ช่องกราฟีนสองมิติร่วมกับกลไกการฉีดพาหะร้อน (Hot-Carrier Injection) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งพาหะและการฉีดข้อมูล

    PoX ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาคอขวดในงานประมวลผล AI ที่ต้องการความเร็วสูงและการใช้พลังงานต่ำ โดยสามารถทำงานได้อย่างเสถียรถึง 5.5 ล้านรอบ และเก็บข้อมูลได้ยาวนานถึง 10 ปี ในการทดสอบจำลอง ทีมวิจัยยังวางแผนที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ เพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าและความร้อนที่เกิดจากเทคโนโลยีหน่วยความจำในปัจจุบัน

    ✅ ความเร็วและประสิทธิภาพ
    - ความเร็วในการเขียนข้อมูลถึง 400 พิโควินาที
    - ทำงานได้เสถียรถึง 5.5 ล้านรอบ และเก็บข้อมูลได้ยาวนานถึง 10 ปี

    ✅ การออกแบบและเทคโนโลยี
    - ใช้ช่องกราฟีนสองมิติและกลไกการฉีดพาหะร้อน
    - เพิ่มประสิทธิภาพการเร่งพาหะและการฉีดข้อมูล

    ✅ เป้าหมายของการพัฒนา
    - แก้ปัญหาคอขวดในงานประมวลผล AI
    - ลดความล่าช้าและความร้อนในหน่วยความจำ

    ✅ การนำไปใช้งานในอนาคต
    - วางแผนใช้ในสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์

    https://www.techradar.com/pro/faster-than-sram-new-flash-memory-tech-from-china-is-millions-of-times-faster-than-nand-rivals-from-us-japan-or-korea-but-please-change-its-name
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟูดานในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้พัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชแบบไม่ลบเลือน (Non-Volatile Memory) ที่เร็วที่สุดในโลก โดยใช้ชื่อว่า PoX (Phase-change Oxide) ซึ่งมีความเร็วในการเขียนข้อมูลถึง 400 พิโควินาที (ps) ซึ่งเร็วกว่าหน่วยความจำแบบ SRAM และ DRAM ที่ใช้ในปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้ใช้ช่องกราฟีนสองมิติร่วมกับกลไกการฉีดพาหะร้อน (Hot-Carrier Injection) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งพาหะและการฉีดข้อมูล PoX ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาคอขวดในงานประมวลผล AI ที่ต้องการความเร็วสูงและการใช้พลังงานต่ำ โดยสามารถทำงานได้อย่างเสถียรถึง 5.5 ล้านรอบ และเก็บข้อมูลได้ยาวนานถึง 10 ปี ในการทดสอบจำลอง ทีมวิจัยยังวางแผนที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ เพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าและความร้อนที่เกิดจากเทคโนโลยีหน่วยความจำในปัจจุบัน ✅ ความเร็วและประสิทธิภาพ - ความเร็วในการเขียนข้อมูลถึง 400 พิโควินาที - ทำงานได้เสถียรถึง 5.5 ล้านรอบ และเก็บข้อมูลได้ยาวนานถึง 10 ปี ✅ การออกแบบและเทคโนโลยี - ใช้ช่องกราฟีนสองมิติและกลไกการฉีดพาหะร้อน - เพิ่มประสิทธิภาพการเร่งพาหะและการฉีดข้อมูล ✅ เป้าหมายของการพัฒนา - แก้ปัญหาคอขวดในงานประมวลผล AI - ลดความล่าช้าและความร้อนในหน่วยความจำ ✅ การนำไปใช้งานในอนาคต - วางแผนใช้ในสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ https://www.techradar.com/pro/faster-than-sram-new-flash-memory-tech-from-china-is-millions-of-times-faster-than-nand-rivals-from-us-japan-or-korea-but-please-change-its-name
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI ที่ชื่อว่า RHyME (Retrieval for Hybrid Imitation under Mismatched Execution) ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว โดยเฟรมเวิร์กนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสอนหุ่นยนต์ที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสาธิตทีละขั้นตอน

    RHyME ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อหุ่นยนต์ดูวิดีโอการสาธิตใหม่ เช่น การวางแก้วในอ่างล้างจาน หุ่นยนต์จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายกันในหน่วยความจำ เช่น การหยิบแก้วหรือการวางวัตถุ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อทำงานใหม่ได้สำเร็จ แม้จะไม่เคยเห็นสถานการณ์นั้นมาก่อน

    การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าหุ่นยนต์ที่ใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมถึง 50% และใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที เทียบกับวิธีเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายพันชั่วโมง

    ✅ การเรียนรู้ทักษะใหม่
    - หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว
    - ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน

    ✅ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ
    - หุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าวิธีเดิมถึง 50%
    - ใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที

    ✅ การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ
    - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Google, OpenAI, สำนักงานวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

    ✅ การนำเสนอผลงาน
    - ทีมวิจัยจะนำเสนอผลงานในงาน IEEE International Conference on Robotics and Automation

    https://www.techspot.com/news/107694-robots-use-cornell-rhyme-ai-learn-new-skills.html
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI ที่ชื่อว่า RHyME (Retrieval for Hybrid Imitation under Mismatched Execution) ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว โดยเฟรมเวิร์กนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสอนหุ่นยนต์ที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสาธิตทีละขั้นตอน RHyME ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อหุ่นยนต์ดูวิดีโอการสาธิตใหม่ เช่น การวางแก้วในอ่างล้างจาน หุ่นยนต์จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายกันในหน่วยความจำ เช่น การหยิบแก้วหรือการวางวัตถุ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อทำงานใหม่ได้สำเร็จ แม้จะไม่เคยเห็นสถานการณ์นั้นมาก่อน การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าหุ่นยนต์ที่ใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมถึง 50% และใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที เทียบกับวิธีเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายพันชั่วโมง ✅ การเรียนรู้ทักษะใหม่ - หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว - ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน ✅ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ - หุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าวิธีเดิมถึง 50% - ใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที ✅ การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Google, OpenAI, สำนักงานวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ✅ การนำเสนอผลงาน - ทีมวิจัยจะนำเสนอผลงานในงาน IEEE International Conference on Robotics and Automation https://www.techspot.com/news/107694-robots-use-cornell-rhyme-ai-learn-new-skills.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Robots use Cornell's RHyME AI to learn new skills by watching just one video
    Researchers at Cornell University are now charting a new course with RHyME, an artificial intelligence framework that dramatically streamlines robot learning. An acronym for Retrieval for Hybrid...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • YKK บริษัทผู้ผลิตซิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัวต้นแบบซิปอัตโนมัติที่สามารถรูดขึ้นและลงได้เองด้วยมอเตอร์และรีโมตควบคุมแบบมีสาย โดยซิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น การเชื่อมผ้าหรือวัสดุอื่นๆ ในระดับความสูงที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย

    ต้นแบบซิปอัตโนมัตินี้สามารถรูดซิปขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตร ภายในเวลาเพียง 40 วินาที และยังสามารถเชื่อมต่อเต็นท์ที่มีความสูง 2.5 เมตร และกว้าง 4 เมตร ได้ในเวลาเพียง 50 วินาที อย่างไรก็ตาม ซิปนี้ยังคงมีขนาดใหญ่และต้องใช้พลังงานจากตัวควบคุมที่มีสาย ทำให้ยังไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในตลาดผู้บริโภคทั่วไป

    YKK ยังได้พัฒนานวัตกรรมอื่นๆ เช่น ซิปแม่เหล็กที่สามารถเชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย รวมถึงคลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม

    ✅ การออกแบบและการใช้งาน
    - ซิปอัตโนมัติสามารถรูดขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตรในเวลา 40 วินาที
    - ใช้รีโมตควบคุมแบบมีสายและมอเตอร์ในการทำงาน

    ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม
    - เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก
    - ช่วยลดความเสี่ยงในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง

    ✅ นวัตกรรมอื่นๆ ของ YKK
    - ซิปแม่เหล็กที่เชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย
    - คลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง

    ✅ เป้าหมายของ YKK
    - มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม

    https://www.techspot.com/news/107692-self-propelled-zippers-have-arrived-but-theyre-not.html
    YKK บริษัทผู้ผลิตซิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัวต้นแบบซิปอัตโนมัติที่สามารถรูดขึ้นและลงได้เองด้วยมอเตอร์และรีโมตควบคุมแบบมีสาย โดยซิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น การเชื่อมผ้าหรือวัสดุอื่นๆ ในระดับความสูงที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ต้นแบบซิปอัตโนมัตินี้สามารถรูดซิปขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตร ภายในเวลาเพียง 40 วินาที และยังสามารถเชื่อมต่อเต็นท์ที่มีความสูง 2.5 เมตร และกว้าง 4 เมตร ได้ในเวลาเพียง 50 วินาที อย่างไรก็ตาม ซิปนี้ยังคงมีขนาดใหญ่และต้องใช้พลังงานจากตัวควบคุมที่มีสาย ทำให้ยังไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในตลาดผู้บริโภคทั่วไป YKK ยังได้พัฒนานวัตกรรมอื่นๆ เช่น ซิปแม่เหล็กที่สามารถเชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย รวมถึงคลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ซิปอัตโนมัติสามารถรูดขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตรในเวลา 40 วินาที - ใช้รีโมตควบคุมแบบมีสายและมอเตอร์ในการทำงาน ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม - เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก - ช่วยลดความเสี่ยงในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง ✅ นวัตกรรมอื่นๆ ของ YKK - ซิปแม่เหล็กที่เชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย - คลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง ✅ เป้าหมายของ YKK - มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม https://www.techspot.com/news/107692-self-propelled-zippers-have-arrived-but-theyre-not.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    World's largest zipper maker YKK shows off self-fastening zippers powered by motors and remote controls
    Japanese manufacturer YKK recently announced successful testing results for a prototype automatic zipper. The company suggests that it could help people fasten objects in difficult-to-reach areas.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC ได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีชิป AI รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นในยุค AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง โดยในงาน North American Technology Symposium บริษัทได้แนะนำเทคโนโลยี CoWoS-L (Chip-on-Wafer-on-Substrate) รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถรองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² และรองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks

    เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้มากกว่า 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับชิปที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังมีแผนพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 7,885 mm² ซึ่งสามารถรองรับระบบ 3D-stacked และหน่วยความจำ HBM4 ได้ถึง 12 stacks

    TSMC ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) ที่สามารถรวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานใน AI processors ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

    ✅ เทคโนโลยี CoWoS-L รุ่นใหม่
    - รองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm²
    - รองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks

    ✅ การพัฒนา interposers ขนาดใหญ่
    - ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² รองรับระบบ 3D-stacked และ HBM4

    ✅ เทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X)
    - รวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียวสำหรับ AI processors

    ✅ การจัดการพลังงานและความร้อน
    - ใช้วงจรจัดการพลังงานขั้นสูงและระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว

    https://www.techspot.com/news/107695-tsmc-unveils-plans-giant-ai-chips-meet-surging.html
    TSMC ได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีชิป AI รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นในยุค AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง โดยในงาน North American Technology Symposium บริษัทได้แนะนำเทคโนโลยี CoWoS-L (Chip-on-Wafer-on-Substrate) รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถรองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² และรองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้มากกว่า 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับชิปที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังมีแผนพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 7,885 mm² ซึ่งสามารถรองรับระบบ 3D-stacked และหน่วยความจำ HBM4 ได้ถึง 12 stacks TSMC ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) ที่สามารถรวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานใน AI processors ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ✅ เทคโนโลยี CoWoS-L รุ่นใหม่ - รองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² - รองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks ✅ การพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ - ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² รองรับระบบ 3D-stacked และ HBM4 ✅ เทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) - รวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียวสำหรับ AI processors ✅ การจัดการพลังงานและความร้อน - ใช้วงจรจัดการพลังงานขั้นสูงและระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว https://www.techspot.com/news/107695-tsmc-unveils-plans-giant-ai-chips-meet-surging.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    TSMC unveils plans for giant AI chips to meet surging compute demands
    Today's high-end processors, especially those powering data centers and AI workloads, already rely on multi-chiplet designs to meet soaring demands for performance and memory bandwidth. TSMC's current...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในยูเครน ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในสถานที่ต่างๆ เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ร้านอาหาร และระบบรถไฟใต้ดินในกรุงเคียฟ เกิดการขัดข้องในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับธนาคารที่ดำเนินการระบบนี้ ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์ แม้ว่าในอดีตยูเครนเคยตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซีย

    แอปพลิเคชัน Diya ซึ่งให้บริการออนไลน์แก่ประชาชนก็ไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงเวลานั้น เช่นเดียวกับแอปธนาคารบางแห่งที่มีปัญหาในการทำงาน

    Oleksandr Fediyenko สมาชิกคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน ได้โพสต์วิดีโอใน Telegram โดยยืนยันว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วประเทศและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น
    - ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในสถานที่ต่างๆ เกิดการขัดข้อง
    - แอปพลิเคชัน Diya และแอปธนาคารบางแห่งไม่สามารถใช้งานได้

    ✅ สาเหตุของปัญหา
    - เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร
    - ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ การตอบสนองของเจ้าหน้าที่
    - Oleksandr Fediyenko ยืนยันว่าปัญหาเกิดขึ้นทั่วประเทศ
    - ไม่มีการเชื่อมโยงกับการโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ ผลกระทบต่อประชาชน
    - ประชาชนต้องใช้เงินสดแทนการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/some-electronic-payments-systems-in-ukraine-disrupted
    ในยูเครน ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในสถานที่ต่างๆ เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ร้านอาหาร และระบบรถไฟใต้ดินในกรุงเคียฟ เกิดการขัดข้องในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับธนาคารที่ดำเนินการระบบนี้ ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์ แม้ว่าในอดีตยูเครนเคยตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซีย แอปพลิเคชัน Diya ซึ่งให้บริการออนไลน์แก่ประชาชนก็ไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงเวลานั้น เช่นเดียวกับแอปธนาคารบางแห่งที่มีปัญหาในการทำงาน Oleksandr Fediyenko สมาชิกคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน ได้โพสต์วิดีโอใน Telegram โดยยืนยันว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วประเทศและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น - ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในสถานที่ต่างๆ เกิดการขัดข้อง - แอปพลิเคชัน Diya และแอปธนาคารบางแห่งไม่สามารถใช้งานได้ ✅ สาเหตุของปัญหา - เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร - ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์ ✅ การตอบสนองของเจ้าหน้าที่ - Oleksandr Fediyenko ยืนยันว่าปัญหาเกิดขึ้นทั่วประเทศ - ไม่มีการเชื่อมโยงกับการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ ผลกระทบต่อประชาชน - ประชาชนต้องใช้เงินสดแทนการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/some-electronic-payments-systems-in-ukraine-disrupted
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Some electronic payments systems in Ukraine disrupted
    KYIV (Reuters) -Electronic payments systems in post offices, restaurants and the metro system were out of action in Ukraine early on Saturday, according to officials and Reuters witnesses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์แก่เยาวชนก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการรับมือกับภัยคุกคามจากแรนซัมแวร์ Matt Cooke ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์จาก Proofpoint เน้นว่าการโจมตีไซเบอร์มักเริ่มต้นจากการที่บุคคลในองค์กรถูกโจมตี และการให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงได้

    Cooke ยังชี้ให้เห็นว่าการจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่ และเรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ หยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม นอกจากนี้ เขาแนะนำให้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของบุคคลในองค์กร เช่น การตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย

    ✅ การให้ความรู้แก่เยาวชน
    - เน้นการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน
    - สอนให้พนักงานรู้จักการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม

    ✅ การหยุดการจ่ายค่าไถ่
    - การจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่
    - เรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรหยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม

    ✅ การใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง
    - ใช้ AI ในการตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย
    - AI ช่วยเพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์

    ✅ การสนับสนุนจากรัฐบาล
    - รัฐบาลและหน่วยงานข่าวกรองพูดถึงภัยคุกคามไซเบอร์มากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/teach-young-people-about-ransomware-risks-before-they-enter-work
    บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์แก่เยาวชนก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการรับมือกับภัยคุกคามจากแรนซัมแวร์ Matt Cooke ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์จาก Proofpoint เน้นว่าการโจมตีไซเบอร์มักเริ่มต้นจากการที่บุคคลในองค์กรถูกโจมตี และการให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงได้ Cooke ยังชี้ให้เห็นว่าการจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่ และเรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ หยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม นอกจากนี้ เขาแนะนำให้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของบุคคลในองค์กร เช่น การตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ✅ การให้ความรู้แก่เยาวชน - เน้นการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน - สอนให้พนักงานรู้จักการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม ✅ การหยุดการจ่ายค่าไถ่ - การจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่ - เรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรหยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม ✅ การใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง - ใช้ AI ในการตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย - AI ช่วยเพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ ✅ การสนับสนุนจากรัฐบาล - รัฐบาลและหน่วยงานข่าวกรองพูดถึงภัยคุกคามไซเบอร์มากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/teach-young-people-about-ransomware-risks-before-they-enter-work
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Teach young people about ransomware risks before they enter work
    Organisations out there can do a much better job of defining what normal communications look like for their employees – for example, 'Is it normal for somebody to be sending me a Teams message at four o'clock in the morning?'
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกม The Darkest Files เป็นเกมที่สร้างจากเรื่องจริงในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยผู้เล่นจะรับบทเป็น Esther Katz อัยการที่ทำงานร่วมกับ Fritz Bauer อัยการสูงสุดในแฟรงก์เฟิร์ต ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่มุ่งมั่นในการสืบสวนคดีอาชญากรรมของนาซีในช่วงปี 1950 และ 1960 เกมนี้นำเสนอการสืบสวนคดีที่เกิดขึ้นจริง โดยผู้เล่นต้องค้นหาเอกสาร สัมภาษณ์พยาน และสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    เกมนี้มีจุดเด่นที่การนำเสนอเรื่องราวผ่านกราฟิกสไตล์ graphic novel ที่มีความมืดมนและเข้มข้น ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับความท้าทายในการแก้ปริศนาและการนำเสนอหลักฐานในศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง เกมยังสะท้อนถึงความยากลำบากในการทำงานของทีมอัยการในยุคนั้น รวมถึงการเผชิญกับการต่อต้านจากสังคม

    ✅ เนื้อเรื่องและตัวละคร
    - ผู้เล่นรับบทเป็น Esther Katz อัยการที่ทำงานร่วมกับ Fritz Bauer
    - สืบสวนคดีอาชญากรรมของนาซีที่เกิดขึ้นจริงในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

    ✅ รูปแบบการเล่น
    - ค้นหาเอกสาร สัมภาษณ์พยาน และสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับเหตุการณ์
    - นำเสนอหลักฐานในศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง

    ✅ กราฟิกและการนำเสนอ
    - ใช้กราฟิกสไตล์ graphic novel ที่มืดมนและเข้มข้น
    - สะท้อนถึงความยากลำบากในการทำงานของทีมอัยการ

    ✅ ข้อความสำคัญของเกม
    - เกมเน้นการเตือนถึงความสำคัญของการเรียนรู้จากอดีตและการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอีก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/039the-darkest-files039-investigate-true-crimes-from-the-nazi-era
    เกม The Darkest Files เป็นเกมที่สร้างจากเรื่องจริงในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยผู้เล่นจะรับบทเป็น Esther Katz อัยการที่ทำงานร่วมกับ Fritz Bauer อัยการสูงสุดในแฟรงก์เฟิร์ต ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่มุ่งมั่นในการสืบสวนคดีอาชญากรรมของนาซีในช่วงปี 1950 และ 1960 เกมนี้นำเสนอการสืบสวนคดีที่เกิดขึ้นจริง โดยผู้เล่นต้องค้นหาเอกสาร สัมภาษณ์พยาน และสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกมนี้มีจุดเด่นที่การนำเสนอเรื่องราวผ่านกราฟิกสไตล์ graphic novel ที่มีความมืดมนและเข้มข้น ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับความท้าทายในการแก้ปริศนาและการนำเสนอหลักฐานในศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง เกมยังสะท้อนถึงความยากลำบากในการทำงานของทีมอัยการในยุคนั้น รวมถึงการเผชิญกับการต่อต้านจากสังคม ✅ เนื้อเรื่องและตัวละคร - ผู้เล่นรับบทเป็น Esther Katz อัยการที่ทำงานร่วมกับ Fritz Bauer - สืบสวนคดีอาชญากรรมของนาซีที่เกิดขึ้นจริงในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ✅ รูปแบบการเล่น - ค้นหาเอกสาร สัมภาษณ์พยาน และสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับเหตุการณ์ - นำเสนอหลักฐานในศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง ✅ กราฟิกและการนำเสนอ - ใช้กราฟิกสไตล์ graphic novel ที่มืดมนและเข้มข้น - สะท้อนถึงความยากลำบากในการทำงานของทีมอัยการ ✅ ข้อความสำคัญของเกม - เกมเน้นการเตือนถึงความสำคัญของการเรียนรู้จากอดีตและการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอีก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/039the-darkest-files039-investigate-true-crimes-from-the-nazi-era
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'The Darkest Files': Investigate true crimes from the Nazi era
    Countless video games see players battling Nazis - but rarely are we doing the fighting not with guns, but with the law. "The Darkest Files" aims to turn the true stories of post-war legal investigations into Nazi crimes into entertaining gaming. Can it work?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังพิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังงานลมที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ การลงทุนนี้จะช่วยให้บราซิลกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ท่าเรือ Pecem รัฐ Ceara โดยโครงการนี้มีแผนเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ในระยะที่สอง ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ ByteDance ในซีกโลกตะวันตก

    Casa dos Ventos ได้ขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลใน Pecem แต่ถูกปฏิเสธในเบื้องต้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของบราซิลกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการนี้

    ✅ การลงทุนในบราซิล
    - ByteDance พิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในบราซิล
    - ใช้พลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ

    ✅ การเจรจากับ Casa dos Ventos
    - ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล
    - โครงการเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์

    ✅ ความสำคัญของ Pecem
    - Pecem เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับศูนย์ข้อมูลเนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำและพลังงานหมุนเวียน

    ✅ การตอบสนองของรัฐบาลบราซิล
    - กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/exclusive-tiktok-owner-weighs-data-center-project-in-brazil-sources-say
    ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังพิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังงานลมที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ การลงทุนนี้จะช่วยให้บราซิลกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ท่าเรือ Pecem รัฐ Ceara โดยโครงการนี้มีแผนเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ในระยะที่สอง ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ ByteDance ในซีกโลกตะวันตก Casa dos Ventos ได้ขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลใน Pecem แต่ถูกปฏิเสธในเบื้องต้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของบราซิลกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการนี้ ✅ การลงทุนในบราซิล - ByteDance พิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในบราซิล - ใช้พลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ✅ การเจรจากับ Casa dos Ventos - ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล - โครงการเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ✅ ความสำคัญของ Pecem - Pecem เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับศูนย์ข้อมูลเนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำและพลังงานหมุนเวียน ✅ การตอบสนองของรัฐบาลบราซิล - กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/exclusive-tiktok-owner-weighs-data-center-project-in-brazil-sources-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-TikTok owner weighs data center project in Brazil, sources say
    SAO PAULO/BRASILIA (Reuters) -ByteDance, the Chinese parent company of TikTok, is weighing a major investment in a data center in Brazil, three people familiar with the matter told Reuters, tapping abundant wind energy on the country's northeast coast.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจากสหประชาชาติในชื่อ World Social Report 2025 ได้เปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่ส่งผลต่อสภาพการทำงานและโครงสร้างสังคม โดยแม้แต่ในประเทศที่มีรายได้สูง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสร้างความไม่มั่นคงในงานและเพิ่มงานแบบกิ๊ก (Gig Work) ซึ่งขาดสิทธิและความมั่นคง เช่น การลาป่วยที่ได้รับค่าจ้าง ค่าแรงขั้นต่ำ และการลาคลอด

    นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสถาบันและความไว้วางใจระหว่างบุคคล โดยข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย เช่น WhatsApp ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลและสถาบันต่างๆ รวมถึงการสร้าง "echo chambers" ที่ผู้ใช้งานจะเห็นเฉพาะข้อมูลที่ตรงกับความเชื่อของตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การสุดโต่ง

    เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สหประชาชาติแนะนำให้รัฐบาลลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และระบบสวัสดิการสังคมที่เข้มแข็ง รวมถึงการสร้างสถาบันที่มีความโปร่งใสและรับผิดชอบมากขึ้น

    ✅ ผลกระทบต่อสภาพการทำงาน
    - การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเพิ่มงานแบบกิ๊กที่ขาดสิทธิและความมั่นคง
    - ผู้คนต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต

    ✅ ผลกระทบต่อโครงสร้างสังคม
    - ข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลทำลายความเชื่อมั่นในสถาบัน
    - การสร้าง echo chambers บนโซเชียลมีเดียส่งเสริมความสุดโต่ง

    ✅ ข้อเสนอแนะจากสหประชาชาติ
    - ลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และที่อยู่อาศัย
    - สร้างสถาบันที่โปร่งใสและรับผิดชอบ

    ✅ ความสำคัญของการแก้ไขปัญหา
    - การแก้ไขปัญหานี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในสถาบันและความร่วมมือในสังคม

    https://www.neowin.net/news/digital-transition-creating-weaker-labor-conditions-and-wrecking-social-fabric-report-says/
    รายงานจากสหประชาชาติในชื่อ World Social Report 2025 ได้เปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่ส่งผลต่อสภาพการทำงานและโครงสร้างสังคม โดยแม้แต่ในประเทศที่มีรายได้สูง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสร้างความไม่มั่นคงในงานและเพิ่มงานแบบกิ๊ก (Gig Work) ซึ่งขาดสิทธิและความมั่นคง เช่น การลาป่วยที่ได้รับค่าจ้าง ค่าแรงขั้นต่ำ และการลาคลอด นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสถาบันและความไว้วางใจระหว่างบุคคล โดยข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย เช่น WhatsApp ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลและสถาบันต่างๆ รวมถึงการสร้าง "echo chambers" ที่ผู้ใช้งานจะเห็นเฉพาะข้อมูลที่ตรงกับความเชื่อของตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การสุดโต่ง เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สหประชาชาติแนะนำให้รัฐบาลลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และระบบสวัสดิการสังคมที่เข้มแข็ง รวมถึงการสร้างสถาบันที่มีความโปร่งใสและรับผิดชอบมากขึ้น ✅ ผลกระทบต่อสภาพการทำงาน - การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเพิ่มงานแบบกิ๊กที่ขาดสิทธิและความมั่นคง - ผู้คนต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ✅ ผลกระทบต่อโครงสร้างสังคม - ข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลทำลายความเชื่อมั่นในสถาบัน - การสร้าง echo chambers บนโซเชียลมีเดียส่งเสริมความสุดโต่ง ✅ ข้อเสนอแนะจากสหประชาชาติ - ลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และที่อยู่อาศัย - สร้างสถาบันที่โปร่งใสและรับผิดชอบ ✅ ความสำคัญของการแก้ไขปัญหา - การแก้ไขปัญหานี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในสถาบันและความร่วมมือในสังคม https://www.neowin.net/news/digital-transition-creating-weaker-labor-conditions-and-wrecking-social-fabric-report-says/
    WWW.NEOWIN.NET
    Digital transition creating weaker labor conditions and wrecking social fabric, report says
    The United Nations has published its World Social Report 2025 which lays out the damaging effects that the digital transition is having on labor rights and the fabric of society.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการใช้เงินของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เพื่อการล็อบบี้รัฐบาลในปี 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์และสนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ รายงานจาก OpenSecrets เผยให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Apple, Meta, Microsoft, Amazon, OpenAI, Alphabet และ Samsung ได้ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลในกิจกรรมล็อบบี้ โดย Meta เป็นบริษัทที่ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์

    กิจกรรมล็อบบี้ของบริษัทเหล่านี้ครอบคลุมกฎหมายที่หลากหลาย เช่น กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ (Kids Online Safety Act) กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง (Protect Elections from Deceptive AI Act) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ

    การล็อบบี้ในสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การล็อบบี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงในหลายประเทศ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการทุจริต

    ✅ การใช้เงินในกิจกรรมล็อบบี้
    - Meta ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์
    - Apple ใช้เงิน 7.82 ล้านดอลลาร์ และ Microsoft ใช้เงิน 10.35 ล้านดอลลาร์

    ✅ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    - กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ เช่น Kids Online Safety Act
    - กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง เช่น Protect Elections from Deceptive AI Act

    ✅ เป้าหมายของกิจกรรมล็อบบี้
    - ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท
    - สนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ

    ✅ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ
    - เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ

    https://www.neowin.net/news/here-is-how-much-us-tech-firms-spent-on-lobbying-the-us-government-in-2024/
    บทความนี้กล่าวถึงการใช้เงินของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เพื่อการล็อบบี้รัฐบาลในปี 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์และสนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ รายงานจาก OpenSecrets เผยให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Apple, Meta, Microsoft, Amazon, OpenAI, Alphabet และ Samsung ได้ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลในกิจกรรมล็อบบี้ โดย Meta เป็นบริษัทที่ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์ กิจกรรมล็อบบี้ของบริษัทเหล่านี้ครอบคลุมกฎหมายที่หลากหลาย เช่น กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ (Kids Online Safety Act) กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง (Protect Elections from Deceptive AI Act) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การล็อบบี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงในหลายประเทศ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการทุจริต ✅ การใช้เงินในกิจกรรมล็อบบี้ - Meta ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์ - Apple ใช้เงิน 7.82 ล้านดอลลาร์ และ Microsoft ใช้เงิน 10.35 ล้านดอลลาร์ ✅ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง - กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ เช่น Kids Online Safety Act - กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง เช่น Protect Elections from Deceptive AI Act ✅ เป้าหมายของกิจกรรมล็อบบี้ - ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท - สนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ✅ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ - เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ https://www.neowin.net/news/here-is-how-much-us-tech-firms-spent-on-lobbying-the-us-government-in-2024/
    WWW.NEOWIN.NET
    Here is how much US tech firms spent on lobbying the US government in 2024
    Tech firms in the United States spend hundreds of millions of dollars per year on lobbying efforts to protect their interests. Here is how much.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการพิจารณาของศาลในกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ต้องการให้ Google ขาย Chrome ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 66% การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ถูกตัดสินว่ามีการผูกขาดในตลาดการค้นหา

    Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Chrome ได้ให้การในศาล โดยยืนยันว่า Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google และมีฟีเจอร์สำคัญ เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกละเมิด ซึ่งพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google นอกจากนี้ เธอยังระบุว่า Google ลงทุนใน Chromium ซึ่งเป็นโครงการโอเพ่นซอร์สมากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015

    DOJ ยังเรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง และห้ามการจ่ายเงินเพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Safari ของ Apple

    ✅ การตัดสินใจของ DOJ
    - DOJ ต้องการให้ Google ขาย Chrome เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด
    - เรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง

    ✅ การให้การของ Parisa Tabriz
    - Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google
    - Google ลงทุนใน Chromium มากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015

    ✅ ผลกระทบต่อ Chrome
    - Chrome มีฟีเจอร์สำคัญที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google
    - การขาย Chrome อาจทำให้ฟีเจอร์บางอย่างไม่สามารถใช้งานได้

    ✅ ความสนใจจากบริษัทอื่น
    - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome

    https://www.neowin.net/news/chrome-general-manager-tells-judge-that-only-google-can-run-chrome/
    บทความนี้กล่าวถึงการพิจารณาของศาลในกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ต้องการให้ Google ขาย Chrome ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 66% การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ถูกตัดสินว่ามีการผูกขาดในตลาดการค้นหา Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Chrome ได้ให้การในศาล โดยยืนยันว่า Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google และมีฟีเจอร์สำคัญ เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกละเมิด ซึ่งพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google นอกจากนี้ เธอยังระบุว่า Google ลงทุนใน Chromium ซึ่งเป็นโครงการโอเพ่นซอร์สมากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015 DOJ ยังเรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง และห้ามการจ่ายเงินเพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Safari ของ Apple ✅ การตัดสินใจของ DOJ - DOJ ต้องการให้ Google ขาย Chrome เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด - เรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง ✅ การให้การของ Parisa Tabriz - Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google - Google ลงทุนใน Chromium มากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015 ✅ ผลกระทบต่อ Chrome - Chrome มีฟีเจอร์สำคัญที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google - การขาย Chrome อาจทำให้ฟีเจอร์บางอย่างไม่สามารถใช้งานได้ ✅ ความสนใจจากบริษัทอื่น - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome https://www.neowin.net/news/chrome-general-manager-tells-judge-that-only-google-can-run-chrome/
    WWW.NEOWIN.NET
    Chrome general manager tells Judge that only Google can run Chrome
    The General Manager of Google Chrome testified in court and insisted on the company's unmatched ability to run the Chrome browser.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts