• บรรยากาศวัดพนัญเชิงยามค่ำคืน พระนครศรีอยุธยา บรรยากาศกลางคืนวันรับเสด็จในหลวง #ผ้าไทย #ชุดผ้าไทย #แฟชั่น #Fashion #ไลฟ์สไตล์
    บรรยากาศวัดพนัญเชิงยามค่ำคืน พระนครศรีอยุธยา บรรยากาศกลางคืนวันรับเสด็จในหลวง #ผ้าไทย #ชุดผ้าไทย #แฟชั่น #Fashion #ไลฟ์สไตล์
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 82 Views 47 0 Reviews
  • บ้านเดี่ยว สไตล์มินิมอล หลังมุม หน้าบ้านและด้านข้างเป็นสวน ไม่ติดใคร
    ทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวก รีโนเวทใหม่ พร้อมอยู่

    เดอะทรัสต์วิลล์ วัชรพล-หทัยราษฎร์

    เพียง 4.79 ล้านบาท

    ✅️รีโนเวทใหม่
    ✅️ฟรีค่าโอน
    ✅️ฟรีบริการยื่นสินเชื่อ
    —————————————————————
    สนใจสอบถามรายละเอียด ,นัดชม
    ติดต่อ: 081-855-8162 (ป๊อก)
    Line: juthamanee_b
    —————————————————————

    เนื้อที่ขนาด 52.4 ตร.วา
    พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม.
    3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ
    1 ห้องอเนกประสงค์ (ชั้นล่าง) / 1 ห้องครัว / 1 ห้องนั่งเล่น
    หน้าบ้านหันทิศใต้
    โครงการสร้างเสร็จ 2012
    ค่าส่วนกลาง 25 บาท/ตร.วา

    ฟรี
    ต่อเติมโซนซักล้าง และโซนครัวไทยไว้แล้ว
    ผ้าม่านและมูลี่
    เคาเตอร์ครัว
    แอร์ 1 เครื่อง
    ปั้มน้ำและแท้งค์น้ำ

    ====================
    การเดินทาง
    เข้าถึงหลายเส้นทาง ถนนหทัยราษฎร์ ถนนลำลูกกา ถนนสายไหม ถนนเลียบคลองสอง และถนนคู้บอน
    5 นาที ถึงมอเตอร์เวย์ (ขึ้นเหนือ ลงใต้ อีสาน ตะวันออก สะดวก)
    10 นาที ถึงทางด่วนจตุโชติ
    อนาคตมีแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสถานีวงแหวนตะวันออก (ต่อจากสถานีคูคต)

    ====================
    สิ่งอำนวยความสะดวก
    สวนสาธารณะ , คลับเฮาส์ , สระว่ายน้ำ, รปภ., CCTV
    ====================

    สถานที่สำคัญใกล้เคียง
    ▪ ใกล้ 3 ตลาดใหญ่รอบหมู่บ้าน ตลาดวงศกร ตลาดมารวย ตลาดมั่งมีทรัพย์
    ▪ ใกล้ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี โลตัส โฮมโปร แม๊กซ์แวลู แฟชั่นไอส์แลนด์ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต
    แม๊กซ์แวลู, สายไหมอะเวนิว
    ▪ เทศบาลลำลูกกา สถานีตำรวจลำลูกกา ไปรษณีย์ลำลูกกา
    ▪ รร.สารสาสน์สายไหม, รร.สาธิตพัฒนา
    ▪ รพ.ซีจีเอช สายไหม รพ.สินแพทย์ลำลูกกา
    ▪ ซาฟารีเวิล์ด

    #ขายบ้านวัชรพล #บ้านมือสอง #บ้านมือสองรีโนเวท #บ้านมือสองสภาพดี #ขายบ้านหทัยราษฎร์ #บ้านรีโนเวทพร้อมอยู่ #บ้านพร้อมอยู่ #ขายบ้านลำลูกกา #บ้านสายไหม #รีโนเวท #บ้านมินิมอล #บ้านสไตล์มินิมอล #บ้านเดี่ยวราคาถูก
    บ้านเดี่ยว สไตล์มินิมอล หลังมุม หน้าบ้านและด้านข้างเป็นสวน ไม่ติดใคร👍 ทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวก รีโนเวทใหม่ พร้อมอยู่ 🔹เดอะทรัสต์วิลล์ วัชรพล-หทัยราษฎร์🔹 เพียง 4.79 ล้านบาท ✅️รีโนเวทใหม่ ✅️ฟรีค่าโอน ✅️ฟรีบริการยื่นสินเชื่อ ————————————————————— สนใจสอบถามรายละเอียด ,นัดชม ติดต่อ: 081-855-8162 (ป๊อก) Line: juthamanee_b ————————————————————— ♦️ เนื้อที่ขนาด 52.4 ตร.วา ♦️ พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ♦️ 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ ♦️ 1 ห้องอเนกประสงค์ (ชั้นล่าง) / 1 ห้องครัว / 1 ห้องนั่งเล่น ♦️ หน้าบ้านหันทิศใต้ ♦️ โครงการสร้างเสร็จ 2012 ♦️ ค่าส่วนกลาง 25 บาท/ตร.วา 🆓ฟรี🆓 ต่อเติมโซนซักล้าง และโซนครัวไทยไว้แล้ว ผ้าม่านและมูลี่ เคาเตอร์ครัว แอร์ 1 เครื่อง ปั้มน้ำและแท้งค์น้ำ ==================== การเดินทาง เข้าถึงหลายเส้นทาง ถนนหทัยราษฎร์ ถนนลำลูกกา ถนนสายไหม ถนนเลียบคลองสอง และถนนคู้บอน 5 นาที ถึงมอเตอร์เวย์ (ขึ้นเหนือ ลงใต้ อีสาน ตะวันออก สะดวก) 10 นาที ถึงทางด่วนจตุโชติ อนาคตมีแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสถานีวงแหวนตะวันออก (ต่อจากสถานีคูคต) ==================== สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ , คลับเฮาส์ , สระว่ายน้ำ, รปภ., CCTV ==================== สถานที่สำคัญใกล้เคียง ▪ ใกล้ 3 ตลาดใหญ่รอบหมู่บ้าน ตลาดวงศกร ตลาดมารวย ตลาดมั่งมีทรัพย์ ▪ ใกล้ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี โลตัส โฮมโปร แม๊กซ์แวลู แฟชั่นไอส์แลนด์ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต แม๊กซ์แวลู, สายไหมอะเวนิว ▪ เทศบาลลำลูกกา สถานีตำรวจลำลูกกา ไปรษณีย์ลำลูกกา ▪ รร.สารสาสน์สายไหม, รร.สาธิตพัฒนา ▪ รพ.ซีจีเอช สายไหม รพ.สินแพทย์ลำลูกกา ▪ ซาฟารีเวิล์ด #ขายบ้านวัชรพล #บ้านมือสอง #บ้านมือสองรีโนเวท #บ้านมือสองสภาพดี #ขายบ้านหทัยราษฎร์ #บ้านรีโนเวทพร้อมอยู่ #บ้านพร้อมอยู่ #ขายบ้านลำลูกกา #บ้านสายไหม #รีโนเวท #บ้านมินิมอล #บ้านสไตล์มินิมอล #บ้านเดี่ยวราคาถูก
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • NOBULL
    Men's Dress Shoes Black Leather Perforated
    (Design in USA)
    Size. US 12.5 /UK 11.5 /EUR 47 /30.5 cm

    Price : 890฿

    คุณสมบัติ :-
    Upper : หนังแท้แบบฟูลเกรนคุณภาพระดับพรีเมียม ฉลุรูระบายอากาศ ปั๊มนูนโลโก้แบรนด์ด้านข้างส้นเท้า
    พื้นรองเท้าชั้นกลาง : EVA มีน้ำหนักเบาและสวมใส่สบาย ช่วยรองรับการยืนหรือเดินเป็นระยะเวลานานๆ
    แผ่นรองพื้นรองเท้าชนิด EVA แบบเรียบขึ้นรูปที่สามารถถอดออกได้
    พื้นรองเท้าชั้นนอก : เป็นชนิด Gum Rubber ปั๊มนูนแบรนด์โลโก้

    เรื่องราว :-
    NoBull เป็นแบรนด์ รองเท้าและเครื่องแต่งกายสำหรับกีฬาจากสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยกลุ่มผู้ที่หลงใหลในโลกฟิตเนสและต้องการสร้างรองเท้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักกีฬาจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึก Crossfit ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเรื่องความเข้มข้นและหลากหลายของการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ปัจจุบันได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์รองเท้าแบบทางการ (dress shoes) เช่น รองเท้าหนังสำหรับใส่ทำงาน หรือรองเท้าสไตล์ formal โดยยังคงจุดเด่นในเรื่องวัสดุการตัดเย็บเพื่อความทนทานในการใช้งาน

    วัสดุและเทคโนโลยี : รองเท้า NoBull มักใช้วัสดุที่ทนทานและมีเทคโนโลยีที่ช่วยรองรับและป้องกันการบาดเจ็บ ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป
    ดีไซน์ : ดีไซน์ของรองเท้า NoBull มักเน้นความเรียบง่ายและฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าความหรูหราหรือแฟชั่น
    ฟังก์ชันการใช้งาน : NoBull ให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก ถูกออกแบบมาให้ทนทาน รองรับแรงกระแทกได้ดี และเหมาะสำหรับการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย
    ขยายตลาด : หลังจากประสบความสำเร็จในกลุ่มนัก Crossfit NoBull ก็เริ่มขยายตลาดไปสู่กลุ่มผู้ใช้อื่นๆ เช่น นักวิ่ง นักยกน้ำหนัก นักกอล์ฟ และคนทำงาน
    ไลน์ผลิตภัณฑ์ : นอกจากรองเท้าแล้ว NoBull ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เสื้อผ้า และอุปกรณ์เสริมสำหรับการออกกำลังกาย
    NOBULL Men's Dress Shoes Black Leather Perforated (Design in USA) Size. US 12.5 /UK 11.5 /EUR 47 /30.5 cm 🔥 Price : 890฿ 👉 คุณสมบัติ :- 🔹Upper : หนังแท้แบบฟูลเกรนคุณภาพระดับพรีเมียม ฉลุรูระบายอากาศ ปั๊มนูนโลโก้แบรนด์ด้านข้างส้นเท้า 🔹พื้นรองเท้าชั้นกลาง : EVA มีน้ำหนักเบาและสวมใส่สบาย ช่วยรองรับการยืนหรือเดินเป็นระยะเวลานานๆ 🔹แผ่นรองพื้นรองเท้าชนิด EVA แบบเรียบขึ้นรูปที่สามารถถอดออกได้ 🔹พื้นรองเท้าชั้นนอก : เป็นชนิด Gum Rubber ปั๊มนูนแบรนด์โลโก้ 👉 เรื่องราว :- NoBull เป็นแบรนด์ รองเท้าและเครื่องแต่งกายสำหรับกีฬาจากสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยกลุ่มผู้ที่หลงใหลในโลกฟิตเนสและต้องการสร้างรองเท้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักกีฬาจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึก Crossfit ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเรื่องความเข้มข้นและหลากหลายของการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ปัจจุบันได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์รองเท้าแบบทางการ (dress shoes) เช่น รองเท้าหนังสำหรับใส่ทำงาน หรือรองเท้าสไตล์ formal โดยยังคงจุดเด่นในเรื่องวัสดุการตัดเย็บเพื่อความทนทานในการใช้งาน 🔹วัสดุและเทคโนโลยี : รองเท้า NoBull มักใช้วัสดุที่ทนทานและมีเทคโนโลยีที่ช่วยรองรับและป้องกันการบาดเจ็บ ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป 🔹ดีไซน์ : ดีไซน์ของรองเท้า NoBull มักเน้นความเรียบง่ายและฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าความหรูหราหรือแฟชั่น 🔹ฟังก์ชันการใช้งาน : NoBull ให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก ถูกออกแบบมาให้ทนทาน รองรับแรงกระแทกได้ดี และเหมาะสำหรับการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย 🔹ขยายตลาด : หลังจากประสบความสำเร็จในกลุ่มนัก Crossfit NoBull ก็เริ่มขยายตลาดไปสู่กลุ่มผู้ใช้อื่นๆ เช่น นักวิ่ง นักยกน้ำหนัก นักกอล์ฟ และคนทำงาน 🔹ไลน์ผลิตภัณฑ์ : นอกจากรองเท้าแล้ว NoBull ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เสื้อผ้า และอุปกรณ์เสริมสำหรับการออกกำลังกาย
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • #เห็นจะเป็นเพราะรัก
    #มนันยา
    #เรื่องสั้น
    #ของขวัญ
    #ของขวัญวันคริสต์มาส
    #thaitimes
    #หนังสือน่าอ่าน

    วันก่อนอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นรวมเรื่องสั้นแนวความรัก ในเล่มมี 27 เรื่องแปลจากฝั่งตะวันตกโดยสำนวนของมนันยา มีภาพประกอบสีสวยการ์ตูนแฟชั่นทุกเรื่อง เกือบทุกเรื่องเป็นรักของชายหญิงหลากหลายอาชีพ หลายวัย ที่มีรูปแบบการแสดงออกอย่างชาวตะวันตก ซึ่งส่วนตัวไม่ได้อินมากด้วยความที่แต่ละเรื่องไม่ยาวเท่าไร จึงไม่มีรายละเอียดมากพอจะทำให้รู้สึกเอาใจช่วยไปกับตัวละครในเรื่องนัก มีที่ชอบอยู่บ้าง แต่มีเรื่องหนึ่งประทับใจมากเป็นพิเศษ ทั้งที่ในเนื้อหานั้นไม่มีความรักแบบชายหนุ่มหญิงสาวที่ดิ้นรนแสวงหาคนเพื่อมาอยู่ข้างกายเลย แต่ความรักที่ปรากฏในเรื่องนี้ช่างงดงามและสร้างพลัง ช่วยชุบชูจิตใจให้รู้สึกอบอุ่น และมีหวังต่อโลกใบนี้ขึ้นมาไม่น้อย

    ตอนดังกล่าวนี้คือเรื่องแรกของเล่มที่มีชื่อว่า ของขวัญ

    เรื่องมีว่า ชายสูงวัยที่สูญเสียเมียที่อยู่ด้วยกันมาหลายสิบปีไป ทำให้เขาทนอยู่บ้านเดิมหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำกับเธอไม่ได้ จึงขายแล้วย้ายมาซื้อบ้านหลังเล็กสำหรับคนเดียว ในตำบลอันห่างไกลริมชายฝั่งซึ่งไร้คนรู้จัก ชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่สุงสิงกับใคร ไม่ชอบร่วมกิจกรรมเข้าสังคมโดยเฉพาะในวันคริสต์มาสและช่วงเทศกาลที่เขาไม่ชอบอย่างยิ่ง เห็นเป็นความสิ้นเปลือง มีแต่กินแล้วก็มอบของขวัญให้กัน ทำให้ห่างไกลใจความสำคัญและความหมายแท้จริง เขาไม่เห็นด้วยกับการให้ของตามใจที่เด็กอยากได้ เพราะสร้างนิสัยให้เด็กคิดว่าต้องได้ของขวัญเสมอในวันคริสต์มาส เขาบอกตัวเองว่าไม่ได้เกลียดวันคริสต์มาสอย่างตาเฒ่าสครูจใน A Christmas Carol จนวิญญาณเพื่อนเก่าที่ตายไปชื่อ เจค็อบ มาร์เลย์ ต้องมาเตือน

    วันคริสต์มาสที่จะมาถึงในคืนนั้น ช่วงกลางวันเขาออกไปซื้อของที่สโตร์ห่างไปไม่ไกล ซึ่งคุ้นเคยกับหญิงเจ้าของร้านอยู่บ้างเพราะต้องมาซื้อข้าวของบ่อย ตอนเดินเข้าไปหญิงเจ้าของร้านยิ้มแย้มต้อนรับ ชวนคุยเกี่ยวกับหุ่นจำลองนกแก้วขนาดยักษ์ที่แขวนห้อยอยู่บนเพดานกลางร้านซึ่งมีสีสันสดสวยและปีกยาวใหญ่ เธอบอกว่าจะให้เป็นของขวัญคริสต์มาส สำหรับผู้ที่ซื้อของปอนด์หนึ่งจะได้รับการเขียนชื่อไว้จับสลาก1 ใบ แล้วเธอจะเขียนชื่อลงในบัตรให้เขาด้วย ชายชราที่นึกรังเกียจเจ้านกยักษ์จำต้องเออออไปกับเธอ บอกว่าเขาเป็นคนไร้โชคมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยถูกรางวัลใด ๆ คงไม่มีหวังหรอก

    หลังเขากลับมาบ้านและกำลังพักผ่อนตามสบายนั้น โทรศัพท์จากหญิงเจ้าของร้านดังขึ้น เมื่อเขารับ เธอบอกด้วยความดีใจว่าเขาต้องไม่เชื่อแน่เลยว่าชื่อที่จับสลากได้นกแก้วตัวนั้นก็คือเขา เธอขอให้เขาขับรถมานำของขวัญกลับบ้าน นี่เป็นเหมือนทุกขลาภที่ตนไม่อยากได้แต่ไม่อาจปฏิเสธน้ำใจ ด้วยเธอคือบุคคลหนึ่งในจำนวนน้อยนิดเพียงไม่กี่คนที่เขารู้จัก ต้องรักษาความเป็นเพื่อนที่ดีไว้ จึงจำใจขับรถกลับไปรับนกแก้วยักษ์ขนาด 6 ฟุตตัวนั้น เมื่อเอาเข้าไปไว้ในรถก็เต็มที่ว่างจนชนกระจก เขาใช้ความคิดอย่างหนักว่าจะกำจัดมันได้อย่างไร จะเอาทิ้งทันทีไม่ได้แน่ของใหญ่อย่างนี้ ไม่นานจะรู้ถึงหูเจ้าของร้าน

    ในที่สุดเขานึกออก ตัดสินใจขับรถมุ่งหน้าไปสถานเลี้ยงเด็กซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยร่วมอยู่ในที่ประชุม และมีคนเสนอให้ขายที่ดินว่างเปล่า แต่เขาคัดค้านเพราะจะทำให้เด็ก ๆ ไม่มีพื้นที่วิ่งเล่น เมื่อไปถึงสถานเลี้ยงเด็ก ผู้ดูแลหญิงเอ่ยทักทาย เธอจำได้ว่าชายชราคือบุคคลหนึ่งซึ่งช่วยให้เด็ก ๆ ยังมีพื้นที่กลางแจ้งไว้สันทนาการ เขารีบบอกว่านำนกแก้วยักษ์มามอบให้เป็นของขวัญคริสต์มาสแก่เด็ก ๆ (ทั้งที่ไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวมาก่อน) แต่ผู้ดูแลสาวจำต้องกล่าวปฏิเสธ แม้จะซาบซึ้งในความมีน้ำใจของเขามากเพราะนกนั้นตัวใหญ่เกินไป

    เธอเล่าว่าถ้าเป็นไก่งวงตัวใหญ่ที่กินได้จะรีบรับไว้เลย ด้วยเหตุว่าทางสถานเลี้ยงเด็กไม่มีเงินมากพอจะจัดอาหารเลี้ยงในคืนวันคริสต์มาส ชายชราจึงควักธนบัตรหลายใบที่มีมูลค่ามากพอสมควรยื่นให้ผู้ดูแล พร้อมบอกว่าขอเป็นเจ้าภาพอุปการะการกินเลี้ยงของเด็ก แม้นเธอจะไม่กล้ารับแต่เขายืนยันบอกว่าตนเองมีพอไม่เดือดร้อน และกำชับว่าช่วยจัดอาหารดี ๆ ให้พวกเขาด้วย สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ แล้วแบกนกแก้วยักษ์กลับขึ้นรถ ขับต่อไปพลางคิดว่าจะกำจัดมันไปที่ไหนดี

    เขานึกถึงโรงเรียนอนุบาล เด็กเล็กต้องชอบแน่เขามั่นใจ จึงมุ่งหน้าไปถึงโรงเรียน จอดรถและแบกนกยักษ์เข้าไป เขามองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงระเบียงจึงตรงเข้าไปถามว่าเธอคือครูใช่ไหม หญิงสาวบอกชื่อและทักทายชายชรา เธอจำได้ว่าเขาคือคนบริจาคเงินให้โรงเรียนตอนที่จัดซื้อรถมินิบัส เขาแปลกใจที่มีคนจำเรื่องนั้นได้ ความจริงเขาทราบจากหญิงเจ้าของร้านขายของว่าโรงเรียนลำบากในการเดินทางพาเด็กไปว่ายน้ำในสระที่อยู่อีกตำบลซึ่งห่างไกล เขาจำได้ว่าตอนเมียยังมีชีวิตมักพูดว่าถ้าชาวบ้านช่วยโรงเรียนได้ก็ควรช่วย เขาจึงบริจาคช่วยไปโดยไม่คิดอะไร

    ครูสาวจำต้องปฏิเสธนกแก้วยักษ์เช่นกัน เธอบอกว่าโรงเรียนคับแคบไม่มีที่พอจะแขวน ลำพังเด็ก35คนวิ่งไปมาก็แทบแย่แล้ว แต่ยังไม่ทันที่ชายชราจะขนนกกลับ เด็กหลายคนมองมาเห็นเข้าจึงพากันเข้ามารุมล้อมชื่นชมนกแก้วตัวใหญ่ด้วยแววตาเป็นประกาย พลางแข่งกันถามมากมายเช่นว่า

    มันกัดไหมค่ะ

    มันบินได้หรือเปล่าฮะ

    ขอผมดูหน่อย

    ขอหนูจับหน่อยนะคะ

    นุ่มไหมฮะ

    ที่สุดครูก็ไม่สามารถจะห้ามเด็กได้ จึงยอมให้เขานำนกเข้าไปในห้องเรียนครู่หนึ่งเพื่อให้เด็กทุกคนได้ชื่นชม จับต้อง เด็กกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่

    " ซ้วยสวย.. ตัวมันใหญ่นะ.."

    ครูสาวถือโอกาสสอนเรื่องสีโดยถามเด็ก ๆ ว่าส่วนต่าง ๆ ของนกแก้วสีอะไรบ้าง เด็กแต่ละคนพยายามหน่วงเหนี่ยวเวลาให้เขาอยู่นานที่สุด โดยเรียกไปชมต้นไม้ที่เขาทำ งานประดิษฐ์ที่อยากอวด ชายชราชมของทุกชิ้นของเด็ก ๆ ก่อนจะนำนกแก้วยักษ์กลับขึ้นรถและนึกหาสถานที่ใหม่ จะมีที่ไหนอีกหนอ

    เขานึกได้ถึงหญิงที่รับจ้างซักรีดให้ตนที่ยากจนและมีลูก 2 คน เมื่อไปถึงบ้านของเธอก็ได้พบว่าเล็กยังกับรูหนู ไม่มีทางเลยที่จะมีที่ให้แขวนนกได้ แม่ของเด็กพูดว่า จะเป็นของอะไรก็ดีทั้งนั้นถ้าวางใต้ต้นคริสต์มาส แต่สามีเธอตกงานมา 3 สัปดาหืแล้ว เธอพยายามหาเงินจนพอซื้อไก่งวงตัวหนึ่ง และวัตถุดิบทำพายได้สัก 2-3 ชิ้น นั่นคือทั้งหมดที่พอจะมีในคืนคริสต์มาสนี้ สามีไม่ยอมให้กู้ยืมใคร ลูกทั้งสองอยากได้จักรยานมานาน แต่เธอต้องสอนให้เขารู้ว่าการอยากได้ กับการได้รับนั้นต่างกัน

    ชายชราบอกว่าเด้กสองคนนิสัยดี สภาพ มักวิ่งมาเปิดประตูรถให้เขาเสมอ ให้เขาเป็นซานต้าให้เด็ก ๆ แล้วกัน พลางหยิบสมุดเช็กออกมาเขียน บอกกับคนเป็นแม่ว่า ซื้อจักรยานดี ๆ ที่เขาอยากได้ให้พวกเด็กคนละคันนะ หญิงสาวไม่กล้ารับ บอกว่าสามีเธอไม่ชอบให้รับบริจาค เขาเกลียดการขอ ชายชราตัดบทว่าเหลวไหล ให้บอกสามีว่าเขาเป็นคนเคี่ยวเข็ยเองให้รับ เพราะเขาไม่มีลูกเลย จากนั้นก็แบกนกแก้วยักษ์ยัดกลับเข้ารถตรงกลับบ้าน บัดนี้เขาไม่รู้จะเอามันไปให้ใคร ไม่สนใจแล้วว่าเจ้าของร้านที่ให้นกมาจะคิดอย่างไร เขาจะเอามันไปโยนลงถังขยะ แต่ถังก้เล้กเกิน เขาจึงจำใจเอานกตัวนั้นกลับบ้านวางกองไว้ในห้องรับแขก พรุ่งนี้ค่อยหาทาง

    เขาพักผ่อนกินของว่าง ชงกาแฟดื่ม ขระที่ดวงตานกยักษืมองจ้องมาตลอดเวลา สุดท้ายเขาจึงคิดว่าปล่อยมันบนพื้นอย่างนี้คงไม่ดี เพราะไม่อยากถูกจ้อง จึงทำห่วงแล้วเอามันห้อยแขวนไว้ชั่วคราว แล้วเขาก้ได้ยินเสียงบางอย่างนอกบ้าน มองออกไปเห็นรถสถานเลี้ยงเด็กมาจอด เด็ก ๆ กรูลงมายืนร้องเพลง โอ ลิตเติลทาวน์ ออฟ เบธเลเฮม ทำเอาหัวใจเขาแปลบ จึงเปิดประตูให้เด็ก ๆ เข้ามา เด็ก ๆ ร้องไซเลนไนท์ ต่อด้วย วี วิช ยู เอ เมอร์รี คริสต์มาส ชายชราสั่งน้ำมูก ผู้ดูแลบอกว่าเด็ก ๆ อยากมาร้องเพลงเพื่อขอบคุณ ทุกคนเข้าไปจับนกที่ห้อยอยู่ก่อนจะกลับ

    ครู่เดียวต่อมา เด็กชายสองคนมาเคาะประตุด้วยความตื่นเต้น เขาเอาพายมาให้ชายชราพร้อมบอกว่า สวัสดีวันคริสต์มาส แม่เด็กยืนโบกมืออยู่ตรงรั้วและกล่าวประโยคเดียวกับลูกของเธอ ชายชราก้มลงบอกว่า หวังว่าวานต้าจะนำของที่หนุอยากได้มาให้นะ แล้วก็ฉงนใจตัวเองนี่เขากำลังทำให้เด็กเกิดความโลภหรือไม่

    เขากลับเข้าบ้านพร้อมจานพานในมือ คุยกับนกแก้วยักษืว่าเสียใจด้วยนะที่แกกินไม่ได้ ต่อจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูอีก คุรครูจากโรงเรียนอนุบาลและเด็ก 4 คน เธอบอกว่าเด็ก ๆ อยากทำอะไรเพื่อให้เขารู้ว่านกแก้วตัวนั้นวิเศษเพียงใดก้เลยวาดรูปมาให้ แล้วก็สวัสดีวันคริสต์มาส ชายชราซาบซึ้งบอกว่าเข้ามาก่อนสิ เขาจะเอาภาพติดฝาผนัง

    เด็กหญิงคนหนึ่งเข้าไปยืนหน้านก ชื่นชมว่านกสวยอย่างไร และแกใช้ทุกสีในการวาด ถึงตอนครูจะพากลับ เด็กหญิงหันมาเปรยบอกหูคิดว่ามันอยากเป็นเพื่อนกับหนู ชายชราเห็นด้วย เด็กหญิงพูดต่อว่า ถ้าจะเป็นเพื่อนกันก็ต้องรู้จักชื่อด้วย ชายชรานิ่งอึ้ง หันไปมองเจ้านกแก้วยักษ์ เหมือนมันจะมองตอบแล้วส่งกระแสอะไรบางอย่าง เขาคิดว่ารู้แล้วว่านกชื่ออะไรจึงยิ้มให้เด็กน้อย พลางตอบว่า

    มันชื่อเจค็อบจ้ะ ..เจค็อบ มาร์เลย์
    #เห็นจะเป็นเพราะรัก #มนันยา #เรื่องสั้น #ของขวัญ #ของขวัญวันคริสต์มาส #thaitimes #หนังสือน่าอ่าน วันก่อนอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นรวมเรื่องสั้นแนวความรัก ในเล่มมี 27 เรื่องแปลจากฝั่งตะวันตกโดยสำนวนของมนันยา มีภาพประกอบสีสวยการ์ตูนแฟชั่นทุกเรื่อง เกือบทุกเรื่องเป็นรักของชายหญิงหลากหลายอาชีพ หลายวัย ที่มีรูปแบบการแสดงออกอย่างชาวตะวันตก ซึ่งส่วนตัวไม่ได้อินมากด้วยความที่แต่ละเรื่องไม่ยาวเท่าไร จึงไม่มีรายละเอียดมากพอจะทำให้รู้สึกเอาใจช่วยไปกับตัวละครในเรื่องนัก มีที่ชอบอยู่บ้าง แต่มีเรื่องหนึ่งประทับใจมากเป็นพิเศษ ทั้งที่ในเนื้อหานั้นไม่มีความรักแบบชายหนุ่มหญิงสาวที่ดิ้นรนแสวงหาคนเพื่อมาอยู่ข้างกายเลย แต่ความรักที่ปรากฏในเรื่องนี้ช่างงดงามและสร้างพลัง ช่วยชุบชูจิตใจให้รู้สึกอบอุ่น และมีหวังต่อโลกใบนี้ขึ้นมาไม่น้อย ตอนดังกล่าวนี้คือเรื่องแรกของเล่มที่มีชื่อว่า ของขวัญ เรื่องมีว่า ชายสูงวัยที่สูญเสียเมียที่อยู่ด้วยกันมาหลายสิบปีไป ทำให้เขาทนอยู่บ้านเดิมหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำกับเธอไม่ได้ จึงขายแล้วย้ายมาซื้อบ้านหลังเล็กสำหรับคนเดียว ในตำบลอันห่างไกลริมชายฝั่งซึ่งไร้คนรู้จัก ชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่สุงสิงกับใคร ไม่ชอบร่วมกิจกรรมเข้าสังคมโดยเฉพาะในวันคริสต์มาสและช่วงเทศกาลที่เขาไม่ชอบอย่างยิ่ง เห็นเป็นความสิ้นเปลือง มีแต่กินแล้วก็มอบของขวัญให้กัน ทำให้ห่างไกลใจความสำคัญและความหมายแท้จริง เขาไม่เห็นด้วยกับการให้ของตามใจที่เด็กอยากได้ เพราะสร้างนิสัยให้เด็กคิดว่าต้องได้ของขวัญเสมอในวันคริสต์มาส เขาบอกตัวเองว่าไม่ได้เกลียดวันคริสต์มาสอย่างตาเฒ่าสครูจใน A Christmas Carol จนวิญญาณเพื่อนเก่าที่ตายไปชื่อ เจค็อบ มาร์เลย์ ต้องมาเตือน วันคริสต์มาสที่จะมาถึงในคืนนั้น ช่วงกลางวันเขาออกไปซื้อของที่สโตร์ห่างไปไม่ไกล ซึ่งคุ้นเคยกับหญิงเจ้าของร้านอยู่บ้างเพราะต้องมาซื้อข้าวของบ่อย ตอนเดินเข้าไปหญิงเจ้าของร้านยิ้มแย้มต้อนรับ ชวนคุยเกี่ยวกับหุ่นจำลองนกแก้วขนาดยักษ์ที่แขวนห้อยอยู่บนเพดานกลางร้านซึ่งมีสีสันสดสวยและปีกยาวใหญ่ เธอบอกว่าจะให้เป็นของขวัญคริสต์มาส สำหรับผู้ที่ซื้อของปอนด์หนึ่งจะได้รับการเขียนชื่อไว้จับสลาก1 ใบ แล้วเธอจะเขียนชื่อลงในบัตรให้เขาด้วย ชายชราที่นึกรังเกียจเจ้านกยักษ์จำต้องเออออไปกับเธอ บอกว่าเขาเป็นคนไร้โชคมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยถูกรางวัลใด ๆ คงไม่มีหวังหรอก หลังเขากลับมาบ้านและกำลังพักผ่อนตามสบายนั้น โทรศัพท์จากหญิงเจ้าของร้านดังขึ้น เมื่อเขารับ เธอบอกด้วยความดีใจว่าเขาต้องไม่เชื่อแน่เลยว่าชื่อที่จับสลากได้นกแก้วตัวนั้นก็คือเขา เธอขอให้เขาขับรถมานำของขวัญกลับบ้าน นี่เป็นเหมือนทุกขลาภที่ตนไม่อยากได้แต่ไม่อาจปฏิเสธน้ำใจ ด้วยเธอคือบุคคลหนึ่งในจำนวนน้อยนิดเพียงไม่กี่คนที่เขารู้จัก ต้องรักษาความเป็นเพื่อนที่ดีไว้ จึงจำใจขับรถกลับไปรับนกแก้วยักษ์ขนาด 6 ฟุตตัวนั้น เมื่อเอาเข้าไปไว้ในรถก็เต็มที่ว่างจนชนกระจก เขาใช้ความคิดอย่างหนักว่าจะกำจัดมันได้อย่างไร จะเอาทิ้งทันทีไม่ได้แน่ของใหญ่อย่างนี้ ไม่นานจะรู้ถึงหูเจ้าของร้าน ในที่สุดเขานึกออก ตัดสินใจขับรถมุ่งหน้าไปสถานเลี้ยงเด็กซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยร่วมอยู่ในที่ประชุม และมีคนเสนอให้ขายที่ดินว่างเปล่า แต่เขาคัดค้านเพราะจะทำให้เด็ก ๆ ไม่มีพื้นที่วิ่งเล่น เมื่อไปถึงสถานเลี้ยงเด็ก ผู้ดูแลหญิงเอ่ยทักทาย เธอจำได้ว่าชายชราคือบุคคลหนึ่งซึ่งช่วยให้เด็ก ๆ ยังมีพื้นที่กลางแจ้งไว้สันทนาการ เขารีบบอกว่านำนกแก้วยักษ์มามอบให้เป็นของขวัญคริสต์มาสแก่เด็ก ๆ (ทั้งที่ไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวมาก่อน) แต่ผู้ดูแลสาวจำต้องกล่าวปฏิเสธ แม้จะซาบซึ้งในความมีน้ำใจของเขามากเพราะนกนั้นตัวใหญ่เกินไป เธอเล่าว่าถ้าเป็นไก่งวงตัวใหญ่ที่กินได้จะรีบรับไว้เลย ด้วยเหตุว่าทางสถานเลี้ยงเด็กไม่มีเงินมากพอจะจัดอาหารเลี้ยงในคืนวันคริสต์มาส ชายชราจึงควักธนบัตรหลายใบที่มีมูลค่ามากพอสมควรยื่นให้ผู้ดูแล พร้อมบอกว่าขอเป็นเจ้าภาพอุปการะการกินเลี้ยงของเด็ก แม้นเธอจะไม่กล้ารับแต่เขายืนยันบอกว่าตนเองมีพอไม่เดือดร้อน และกำชับว่าช่วยจัดอาหารดี ๆ ให้พวกเขาด้วย สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ แล้วแบกนกแก้วยักษ์กลับขึ้นรถ ขับต่อไปพลางคิดว่าจะกำจัดมันไปที่ไหนดี เขานึกถึงโรงเรียนอนุบาล เด็กเล็กต้องชอบแน่เขามั่นใจ จึงมุ่งหน้าไปถึงโรงเรียน จอดรถและแบกนกยักษ์เข้าไป เขามองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงระเบียงจึงตรงเข้าไปถามว่าเธอคือครูใช่ไหม หญิงสาวบอกชื่อและทักทายชายชรา เธอจำได้ว่าเขาคือคนบริจาคเงินให้โรงเรียนตอนที่จัดซื้อรถมินิบัส เขาแปลกใจที่มีคนจำเรื่องนั้นได้ ความจริงเขาทราบจากหญิงเจ้าของร้านขายของว่าโรงเรียนลำบากในการเดินทางพาเด็กไปว่ายน้ำในสระที่อยู่อีกตำบลซึ่งห่างไกล เขาจำได้ว่าตอนเมียยังมีชีวิตมักพูดว่าถ้าชาวบ้านช่วยโรงเรียนได้ก็ควรช่วย เขาจึงบริจาคช่วยไปโดยไม่คิดอะไร ครูสาวจำต้องปฏิเสธนกแก้วยักษ์เช่นกัน เธอบอกว่าโรงเรียนคับแคบไม่มีที่พอจะแขวน ลำพังเด็ก35คนวิ่งไปมาก็แทบแย่แล้ว แต่ยังไม่ทันที่ชายชราจะขนนกกลับ เด็กหลายคนมองมาเห็นเข้าจึงพากันเข้ามารุมล้อมชื่นชมนกแก้วตัวใหญ่ด้วยแววตาเป็นประกาย พลางแข่งกันถามมากมายเช่นว่า มันกัดไหมค่ะ มันบินได้หรือเปล่าฮะ ขอผมดูหน่อย ขอหนูจับหน่อยนะคะ นุ่มไหมฮะ ที่สุดครูก็ไม่สามารถจะห้ามเด็กได้ จึงยอมให้เขานำนกเข้าไปในห้องเรียนครู่หนึ่งเพื่อให้เด็กทุกคนได้ชื่นชม จับต้อง เด็กกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ " ซ้วยสวย.. ตัวมันใหญ่นะ.." ครูสาวถือโอกาสสอนเรื่องสีโดยถามเด็ก ๆ ว่าส่วนต่าง ๆ ของนกแก้วสีอะไรบ้าง เด็กแต่ละคนพยายามหน่วงเหนี่ยวเวลาให้เขาอยู่นานที่สุด โดยเรียกไปชมต้นไม้ที่เขาทำ งานประดิษฐ์ที่อยากอวด ชายชราชมของทุกชิ้นของเด็ก ๆ ก่อนจะนำนกแก้วยักษ์กลับขึ้นรถและนึกหาสถานที่ใหม่ จะมีที่ไหนอีกหนอ เขานึกได้ถึงหญิงที่รับจ้างซักรีดให้ตนที่ยากจนและมีลูก 2 คน เมื่อไปถึงบ้านของเธอก็ได้พบว่าเล็กยังกับรูหนู ไม่มีทางเลยที่จะมีที่ให้แขวนนกได้ แม่ของเด็กพูดว่า จะเป็นของอะไรก็ดีทั้งนั้นถ้าวางใต้ต้นคริสต์มาส แต่สามีเธอตกงานมา 3 สัปดาหืแล้ว เธอพยายามหาเงินจนพอซื้อไก่งวงตัวหนึ่ง และวัตถุดิบทำพายได้สัก 2-3 ชิ้น นั่นคือทั้งหมดที่พอจะมีในคืนคริสต์มาสนี้ สามีไม่ยอมให้กู้ยืมใคร ลูกทั้งสองอยากได้จักรยานมานาน แต่เธอต้องสอนให้เขารู้ว่าการอยากได้ กับการได้รับนั้นต่างกัน ชายชราบอกว่าเด้กสองคนนิสัยดี สภาพ มักวิ่งมาเปิดประตูรถให้เขาเสมอ ให้เขาเป็นซานต้าให้เด็ก ๆ แล้วกัน พลางหยิบสมุดเช็กออกมาเขียน บอกกับคนเป็นแม่ว่า ซื้อจักรยานดี ๆ ที่เขาอยากได้ให้พวกเด็กคนละคันนะ หญิงสาวไม่กล้ารับ บอกว่าสามีเธอไม่ชอบให้รับบริจาค เขาเกลียดการขอ ชายชราตัดบทว่าเหลวไหล ให้บอกสามีว่าเขาเป็นคนเคี่ยวเข็ยเองให้รับ เพราะเขาไม่มีลูกเลย จากนั้นก็แบกนกแก้วยักษ์ยัดกลับเข้ารถตรงกลับบ้าน บัดนี้เขาไม่รู้จะเอามันไปให้ใคร ไม่สนใจแล้วว่าเจ้าของร้านที่ให้นกมาจะคิดอย่างไร เขาจะเอามันไปโยนลงถังขยะ แต่ถังก้เล้กเกิน เขาจึงจำใจเอานกตัวนั้นกลับบ้านวางกองไว้ในห้องรับแขก พรุ่งนี้ค่อยหาทาง เขาพักผ่อนกินของว่าง ชงกาแฟดื่ม ขระที่ดวงตานกยักษืมองจ้องมาตลอดเวลา สุดท้ายเขาจึงคิดว่าปล่อยมันบนพื้นอย่างนี้คงไม่ดี เพราะไม่อยากถูกจ้อง จึงทำห่วงแล้วเอามันห้อยแขวนไว้ชั่วคราว แล้วเขาก้ได้ยินเสียงบางอย่างนอกบ้าน มองออกไปเห็นรถสถานเลี้ยงเด็กมาจอด เด็ก ๆ กรูลงมายืนร้องเพลง โอ ลิตเติลทาวน์ ออฟ เบธเลเฮม ทำเอาหัวใจเขาแปลบ จึงเปิดประตูให้เด็ก ๆ เข้ามา เด็ก ๆ ร้องไซเลนไนท์ ต่อด้วย วี วิช ยู เอ เมอร์รี คริสต์มาส ชายชราสั่งน้ำมูก ผู้ดูแลบอกว่าเด็ก ๆ อยากมาร้องเพลงเพื่อขอบคุณ ทุกคนเข้าไปจับนกที่ห้อยอยู่ก่อนจะกลับ ครู่เดียวต่อมา เด็กชายสองคนมาเคาะประตุด้วยความตื่นเต้น เขาเอาพายมาให้ชายชราพร้อมบอกว่า สวัสดีวันคริสต์มาส แม่เด็กยืนโบกมืออยู่ตรงรั้วและกล่าวประโยคเดียวกับลูกของเธอ ชายชราก้มลงบอกว่า หวังว่าวานต้าจะนำของที่หนุอยากได้มาให้นะ แล้วก็ฉงนใจตัวเองนี่เขากำลังทำให้เด็กเกิดความโลภหรือไม่ เขากลับเข้าบ้านพร้อมจานพานในมือ คุยกับนกแก้วยักษืว่าเสียใจด้วยนะที่แกกินไม่ได้ ต่อจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูอีก คุรครูจากโรงเรียนอนุบาลและเด็ก 4 คน เธอบอกว่าเด็ก ๆ อยากทำอะไรเพื่อให้เขารู้ว่านกแก้วตัวนั้นวิเศษเพียงใดก้เลยวาดรูปมาให้ แล้วก็สวัสดีวันคริสต์มาส ชายชราซาบซึ้งบอกว่าเข้ามาก่อนสิ เขาจะเอาภาพติดฝาผนัง เด็กหญิงคนหนึ่งเข้าไปยืนหน้านก ชื่นชมว่านกสวยอย่างไร และแกใช้ทุกสีในการวาด ถึงตอนครูจะพากลับ เด็กหญิงหันมาเปรยบอกหูคิดว่ามันอยากเป็นเพื่อนกับหนู ชายชราเห็นด้วย เด็กหญิงพูดต่อว่า ถ้าจะเป็นเพื่อนกันก็ต้องรู้จักชื่อด้วย ชายชรานิ่งอึ้ง หันไปมองเจ้านกแก้วยักษ์ เหมือนมันจะมองตอบแล้วส่งกระแสอะไรบางอย่าง เขาคิดว่ารู้แล้วว่านกชื่ออะไรจึงยิ้มให้เด็กน้อย พลางตอบว่า มันชื่อเจค็อบจ้ะ ..เจค็อบ มาร์เลย์
    0 Comments 0 Shares 346 Views 0 Reviews
  • Clarks
    Torbay Point Lace-Ups Mid-Top Suede Shoes
    Size. UK 7G /26(26.5) cm
    ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ Good Condition (85%+)

    Price : 950฿

    ผลงานของสองผู้นำแฟชั่นชั้นนำอย่าง Clarks และ Harris Tweed ได้ร่วมมือกัน ออกรองเท้าหนังกลับแบบผูกเชือกรุ่น Torbay Point Mid-Top ที่มีความคลาสสิกหรูหราในสไตล์ผู้ดีอังกฤษ โดยส่วนบนทำจากหนัง กลับเกรดพรีเมี่ยมนุ่มๆและผ้า Wool ที่โด่งดังในวงการชุดสูทจาก Harris Tweed ทำให้เสริมเติมความสมบูรณ์แบบในระดับพรีเมี่ยมแบบเต็ม 10

    รายละเอียด :-
    แบรนด์ : Clarks
    สำหรับผู้ชาย
    สไตล์ : รองเท้าผูกเชือก Torbay Point
    วัสดุ : ผ้าวูลและหนังกลับ
    โครงสร้างหนัง
    ความสูงส้น : 2 ซม.
    แบบผูกเชือก
    ส่วนรองรับข้อเท้าบุด้วยโฟม
    พื้นรองเท้าบุโฟมสองชั้น พื้นชั้นนอกทำจากยาง
    Clarks Torbay Point Lace-Ups Mid-Top Suede Shoes Size. UK 7G /26(26.5) cm ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ Good Condition (85%+) 🔥 Price : 950฿ ผลงานของสองผู้นำแฟชั่นชั้นนำอย่าง Clarks และ Harris Tweed ได้ร่วมมือกัน ออกรองเท้าหนังกลับแบบผูกเชือกรุ่น Torbay Point Mid-Top ที่มีความคลาสสิกหรูหราในสไตล์ผู้ดีอังกฤษ โดยส่วนบนทำจากหนัง กลับเกรดพรีเมี่ยมนุ่มๆและผ้า Wool ที่โด่งดังในวงการชุดสูทจาก Harris Tweed ทำให้เสริมเติมความสมบูรณ์แบบในระดับพรีเมี่ยมแบบเต็ม 10 👉 รายละเอียด :- 🔹แบรนด์ : Clarks 🔹สำหรับผู้ชาย 🔹สไตล์ : รองเท้าผูกเชือก Torbay Point 🔹วัสดุ : ผ้าวูลและหนังกลับ 🔹โครงสร้างหนัง 🔹ความสูงส้น : 2 ซม. 🔹แบบผูกเชือก 🔹ส่วนรองรับข้อเท้าบุด้วยโฟม 🔹พื้นรองเท้าบุโฟมสองชั้น พื้นชั้นนอกทำจากยาง
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • Pierre Cardin
    Men’s Deluxe Sheepskin in Dark Brown Dress Shoes with Tassels
    Size. EUR 41 /26(26.5) cm

    Price : 970฿

    รองเท้าแบรนด์เก่าแก่จากฝรั่งเศส คู่นี้เป็นเดรสชูส์ที่มาในลุคคลาสสิกสุดหรูหรา ทรงสวมใช้หนังแกะนุ่มๆ ทรงกว้างมาตรฐานขนาด EE สามารถสวมใส่แมทช์กับชุดเสื้อผ้าทั้งแบบทางการและแบบลำลอง

    เรื่องราว :-
    Pierre Cardin (ปิแอร์ การ์แดง) แบรนด์แฟชั่นเก่าแก่ระดับโลกของฝรั่งเศส มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ ศิลปะ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยผู้ก่อตั้ง มิสเตอร์ ปิแอร์ การ์แดง Iconnic แห่งวงการแฟชั่น ผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่นโลกมาอย่างยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์แห่งวงการแฟชั่น ทำให้ผลงานและผลิตภัณฑ์ได้รับการยอมรับและขยายไปยังกว่า 140 ประเทศทั่วโลก มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 1,000 รายการ
    Pierre Cardin Men’s Deluxe Sheepskin in Dark Brown Dress Shoes with Tassels Size. EUR 41 /26(26.5) cm 🔥 Price : 970฿ รองเท้าแบรนด์เก่าแก่จากฝรั่งเศส คู่นี้เป็นเดรสชูส์ที่มาในลุคคลาสสิกสุดหรูหรา ทรงสวมใช้หนังแกะนุ่มๆ ทรงกว้างมาตรฐานขนาด EE สามารถสวมใส่แมทช์กับชุดเสื้อผ้าทั้งแบบทางการและแบบลำลอง 👉 เรื่องราว :- Pierre Cardin (ปิแอร์ การ์แดง) แบรนด์แฟชั่นเก่าแก่ระดับโลกของฝรั่งเศส มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ ศิลปะ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยผู้ก่อตั้ง มิสเตอร์ ปิแอร์ การ์แดง Iconnic แห่งวงการแฟชั่น ผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่นโลกมาอย่างยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์แห่งวงการแฟชั่น ทำให้ผลงานและผลิตภัณฑ์ได้รับการยอมรับและขยายไปยังกว่า 140 ประเทศทั่วโลก มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 1,000 รายการ
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • BLACKSTONE
    Men’s Genuine Leather Boat Shoes
    Size. US 9 /EUR 42 /26.5(27) cm

    Price : 690฿

    รองเท้าหนังแท้ทรง Boat Shoes แบรนด์คุณภาพจากประเทศเนเธอร์แลนด์ วัสดุและการตัดเย็บดีมาก อัพเปอร์ทั้งภายนอกภายในใช้หนังแท้เกรดพรีเมี่ยม มาพร้อมปลอกนวมหุ้มข้อด้วยหนังแท้ช่วยให้ใส่กระชับข้อเท้า แผ่นรองพื้นรองเท้าเป็นยางปิดด้วยหนังแท้ พื้นรองเท้าด้านนอกเป็นยางและหนังกลับ สภาพโดยรวม 85%+ ทรงนี้ใส่เท่สามารถแมทช์กับสไตล์การแต่งตัวทั้งแบบทางการ และไม่ทางการได้

    เรื่องราว :-
    ปี 1926 : บริษัทการค้าหนังของ J.A. de Bruijn ก่อตั้งขึ้นที่เมือง Gouda ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีภารกิจในการจัดหาหนังคุณภาพดีที่สุดให้กับผู้ผลิตและช่างทำรองเท้าในท้องถิ่น
    ปี 1992 : Blackstone Footwear ก่อตั้งขึ้น โดยเริ่มต้นด้วยการออกแบบและผลิตรองเท้าทำงานคุณภาพสูง ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของแบรนด์
    ปี 2003 : Blackstone ได้ขยายการผลิตเพื่อเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ โดยนำเสนอชุดรองเท้าและแฟชั่นเพิ่มเติม ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นในโลกของแฟชั่นและรองเท้า
    ปี 2010 : Blackstone ได้กลับมาที่จุดเริ่มต้น โดยเน้นการใช้หนังธรรมชาติและออกแบบรองเท้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค
    ปี 2018 : Blackstone ได้แนะนำรองเท้าที่มีเอกลักษณ์ใหม่ๆ เช่น รองเท้าหนังแกะและรองเท้า 6" Original boot ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง
    ปี 2023 : Blackstone ได้ประกาศการเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ของแบรนด์และการมีอยู่ทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลก
    BLACKSTONE Men’s Genuine Leather Boat Shoes Size. US 9 /EUR 42 /26.5(27) cm 🔥 Price : 690฿ รองเท้าหนังแท้ทรง Boat Shoes แบรนด์คุณภาพจากประเทศเนเธอร์แลนด์ วัสดุและการตัดเย็บดีมาก อัพเปอร์ทั้งภายนอกภายในใช้หนังแท้เกรดพรีเมี่ยม มาพร้อมปลอกนวมหุ้มข้อด้วยหนังแท้ช่วยให้ใส่กระชับข้อเท้า แผ่นรองพื้นรองเท้าเป็นยางปิดด้วยหนังแท้ พื้นรองเท้าด้านนอกเป็นยางและหนังกลับ สภาพโดยรวม 85%+ ทรงนี้ใส่เท่สามารถแมทช์กับสไตล์การแต่งตัวทั้งแบบทางการ และไม่ทางการได้ 👉 เรื่องราว :- 🔹ปี 1926 : บริษัทการค้าหนังของ J.A. de Bruijn ก่อตั้งขึ้นที่เมือง Gouda ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีภารกิจในการจัดหาหนังคุณภาพดีที่สุดให้กับผู้ผลิตและช่างทำรองเท้าในท้องถิ่น 🔹ปี 1992 : Blackstone Footwear ก่อตั้งขึ้น โดยเริ่มต้นด้วยการออกแบบและผลิตรองเท้าทำงานคุณภาพสูง ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของแบรนด์ 🔹ปี 2003 : Blackstone ได้ขยายการผลิตเพื่อเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ โดยนำเสนอชุดรองเท้าและแฟชั่นเพิ่มเติม ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นในโลกของแฟชั่นและรองเท้า 🔹ปี 2010 : Blackstone ได้กลับมาที่จุดเริ่มต้น โดยเน้นการใช้หนังธรรมชาติและออกแบบรองเท้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค 🔹ปี 2018 : Blackstone ได้แนะนำรองเท้าที่มีเอกลักษณ์ใหม่ๆ เช่น รองเท้าหนังแกะและรองเท้า 6" Original boot ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง 🔹ปี 2023 : Blackstone ได้ประกาศการเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ของแบรนด์และการมีอยู่ทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลก
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • ปิดฉากบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ไม่ต่อที่ดินกลุ่มเซ็นทรัล

    ก่อนหน้านี้ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จะปิดถาวร 2 สาขา ได้แก่ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สุขาภิบาล 3 (แยกบ้านม้า) และบิ๊กซี รังสิต 2 (ตลาดสี่มุมเมือง) ซึ่งเคยเป็นห้างคาร์ฟูร์ในอดีต ล่าสุด นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ จะเปิดให้บริการ 31 ต.ค.เป็นวันสุดท้าย ซึ่งจะย้ายไปยังทำเลใหม่ที่ใกล้เคียง เป็นทำเลทองติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่ดิน Freehold (ที่ดินกรรมสิทธิ์) ในกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2568

    นับเป็นการเปิดฉากยุติสัญญาเช่าที่ดินกับกลุ่มเซ็นทรัลอย่างชัดเจน พร้อมกับปิดตำนานห้างบิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ ที่เปิดให้บริการมานานเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่เปิดวันแรก 10 พ.ย. 2537 เดิมคือห้างเซ็นทรัล ซูเปอร์สโตร์ สาขาที่สองต่อจากสาขาวงศ์สว่าง แต่เมื่อกลุ่มเซ็นทรัลเปิดห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ เป็นสาขาแรก เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2537 จึงต้องเปลี่ยนเป็นบิ๊กซี จากรายงานประจำปี 2556 ของบิ๊กซี พบว่าบริษัท เซ็นทรัลซูเปอร์สโตร์ จำกัด เช่าที่ดินกับบริษัท เซ็นทรัล ธนบุรี จำกัด บริษัทในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป สัญญา 30 ปี เริ่ม 1 พ.ค. 2538 ถึง 30 เม.ย. 2568

    น่าสังเกตว่า ห้างบิ๊กซีบนที่ดินและสิทธิการเช่าของกลุ่มเซ็นทรัลจะอยู่หรือไป เช่น บิ๊กซี โคราช จ.นครราชสีมา เช่ากับบริษัท เตียง จิราธิวัฒน์ จำกัด สัญญา 30 ปี เริ่ม 1 ธ.ค. 2539 ถึง 30 พ.ย. 2569 บิ๊กซี ขอนแก่น เช่ากับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ขอนแก่น จำกัด สัญญา 30 ปี เริ่ม 17 ก.ค. 2539 (ถึง 16 ก.ค. 2569) และยังมีบิ๊กซี วงศ์สว่าง ในมาร์เก็ตเพลสวงศ์สว่าง บิ๊กซี หัวหมาก ในหัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์ บิ๊กซี แฟชั่นไอส์แลนด์ ที่้เช่าช่วงจากสรรพสินค้าเซ็นทรัล บิ๊กซี พัทยาในเซ็นทรัลมารีน่า และบิ๊กซี ชลบุรี 3 ในเซ็นทรัล ชลบุรี (อดีตห้างคาร์ฟูร์) เป็นต้น

    ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหลักทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) พบว่าร้านค้าขนาดใหญ่ (Big Format) ตั้งอยู่บนที่ดินที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ มีจำนวน 66 แห่ง ส่วนร้านค้าขนาดใหญ่และร้านค้าปลีกสมัยใหม่ตั้งอยู่บนที่ดินที่บริษัทฯ เช่า มีจำนวน 123 แห่ง และจากการสืบค้นข้อมูลในแบบ 56-1 เมื่อปี 2558 พบว่าสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่บิ๊กซีเป็นเจ้าของที่ดินมีประมาณ 10 สาขา ได้แก่ แจ้งวัฒนะ ลาดพร้าว บางปะกอก สุขสวัสดิ์ ติวานนท์ บางใหญ่ ลำลูกกา นวนคร สมุทรปราการ บางพลี เป็นต้น

    #Newskit #บิ๊กซีราษฎร์บูรณะ #กลุ่มเซ็นทรัล
    ปิดฉากบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ไม่ต่อที่ดินกลุ่มเซ็นทรัล ก่อนหน้านี้ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จะปิดถาวร 2 สาขา ได้แก่ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สุขาภิบาล 3 (แยกบ้านม้า) และบิ๊กซี รังสิต 2 (ตลาดสี่มุมเมือง) ซึ่งเคยเป็นห้างคาร์ฟูร์ในอดีต ล่าสุด นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ จะเปิดให้บริการ 31 ต.ค.เป็นวันสุดท้าย ซึ่งจะย้ายไปยังทำเลใหม่ที่ใกล้เคียง เป็นทำเลทองติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่ดิน Freehold (ที่ดินกรรมสิทธิ์) ในกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2568 นับเป็นการเปิดฉากยุติสัญญาเช่าที่ดินกับกลุ่มเซ็นทรัลอย่างชัดเจน พร้อมกับปิดตำนานห้างบิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ ที่เปิดให้บริการมานานเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่เปิดวันแรก 10 พ.ย. 2537 เดิมคือห้างเซ็นทรัล ซูเปอร์สโตร์ สาขาที่สองต่อจากสาขาวงศ์สว่าง แต่เมื่อกลุ่มเซ็นทรัลเปิดห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ เป็นสาขาแรก เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2537 จึงต้องเปลี่ยนเป็นบิ๊กซี จากรายงานประจำปี 2556 ของบิ๊กซี พบว่าบริษัท เซ็นทรัลซูเปอร์สโตร์ จำกัด เช่าที่ดินกับบริษัท เซ็นทรัล ธนบุรี จำกัด บริษัทในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป สัญญา 30 ปี เริ่ม 1 พ.ค. 2538 ถึง 30 เม.ย. 2568 น่าสังเกตว่า ห้างบิ๊กซีบนที่ดินและสิทธิการเช่าของกลุ่มเซ็นทรัลจะอยู่หรือไป เช่น บิ๊กซี โคราช จ.นครราชสีมา เช่ากับบริษัท เตียง จิราธิวัฒน์ จำกัด สัญญา 30 ปี เริ่ม 1 ธ.ค. 2539 ถึง 30 พ.ย. 2569 บิ๊กซี ขอนแก่น เช่ากับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ขอนแก่น จำกัด สัญญา 30 ปี เริ่ม 17 ก.ค. 2539 (ถึง 16 ก.ค. 2569) และยังมีบิ๊กซี วงศ์สว่าง ในมาร์เก็ตเพลสวงศ์สว่าง บิ๊กซี หัวหมาก ในหัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์ บิ๊กซี แฟชั่นไอส์แลนด์ ที่้เช่าช่วงจากสรรพสินค้าเซ็นทรัล บิ๊กซี พัทยาในเซ็นทรัลมารีน่า และบิ๊กซี ชลบุรี 3 ในเซ็นทรัล ชลบุรี (อดีตห้างคาร์ฟูร์) เป็นต้น ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหลักทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) พบว่าร้านค้าขนาดใหญ่ (Big Format) ตั้งอยู่บนที่ดินที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ มีจำนวน 66 แห่ง ส่วนร้านค้าขนาดใหญ่และร้านค้าปลีกสมัยใหม่ตั้งอยู่บนที่ดินที่บริษัทฯ เช่า มีจำนวน 123 แห่ง และจากการสืบค้นข้อมูลในแบบ 56-1 เมื่อปี 2558 พบว่าสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่บิ๊กซีเป็นเจ้าของที่ดินมีประมาณ 10 สาขา ได้แก่ แจ้งวัฒนะ ลาดพร้าว บางปะกอก สุขสวัสดิ์ ติวานนท์ บางใหญ่ ลำลูกกา นวนคร สมุทรปราการ บางพลี เป็นต้น #Newskit #บิ๊กซีราษฎร์บูรณะ #กลุ่มเซ็นทรัล
    Like
    6
    1 Comments 0 Shares 309 Views 0 Reviews
  • อำลาบิ๊กซี สุขาภิบาล 3 คาร์ฟูร์สาขาแรกในไทย

    เดือนกันยายน 2567 ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จะปิดสาขาถาวร 2 สาขา ได้แก่ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สุขาภิบาล 3 (แยกบ้านม้า) เปิดให้บริการวันสุดท้าย 15 ก.ย. 2567 และบิ๊กซี รังสิต 2 (ตลาดสี่มุมเมือง) เปิดวันสุดท้าย 30 ก.ย. 2567 ทั้งสองสาขาอดีตเคยเป็นห้างคาร์ฟูร์ 7 สาขา ในยุคที่กลุ่มเซ็นทรัลร่วมทุนกับคาร์ฟูร์ ฝรั่งเศส ก่อนที่กลุ่มเซ็นทรัลจะขายหุ้นออกไปในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เพราะไม่สามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนตามที่บริษัทแม่ต้องการเพื่อขยายสาขาได้

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2539 ห้างคาร์ฟูร์ เปิดสาขาแรกที่ถนนสุขาภิบาล 3 ก่อนขยายสาขาในช่วงปี 2539-2541 ได้แก่ ศรีนครินทร์ สุวินทวงศ์ บางใหญ่ รังสิต เชียงใหม่ (หนองป่าครั่ง) และเพชรเกษม (หนองแขม) เมื่อคาร์ฟูร์ ฝรั่งเศส เป็นเจ้าของเต็มตัว ในช่วงปี 2542-2543 จึงได้ขยายสาขารามอินทรา ตามมาด้วยแจ้งวัฒนะ รัตนาธิเบศร์ ที่ฮือฮามากที่สุดคือ สาขาพระราม 4 เปิดประจันหน้ากับห้างเทสโก้ โลตัส และต่อมายังเช่าที่ดินใจกลางเมืองระยะยาว 30 ปี เปิดห้างคาร์ฟูร์ รัชดาภิเษก

    ผ่านมา 13 ปี เปิดสาขาไปแล้ว 42 สาขา มาถึงปี 2553 คาร์ฟูร์ขายกิจการให้กลุ่มกาสิโนกรุ๊ป เจ้าของห้างบิ๊กซี ด้วยมูลค่า 35,500 ล้านบาท ทำให้ห้างคาร์ฟูร์กลายสภาพเป็นบิ๊กซีในรูปแบบต่างๆ เช่น บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า, บิ๊กซี จัมโบ้ กระทั่งกลุ่มกาสิโน กรุ๊ป ขายกิจการให้กับกลุ่มบีเจซี ของตระกูลสิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มและอสังหาริมทรัพย์ เมื่อปี 2559 ประกอบด้วยไฮเปอร์มาร์เก็ต 125 สาขา ซูเปอร์มาร์เก็ต 55 สาขา ร้านสะดวกซื้อ 391 สาขา

    ปัจจุบัน บิ๊กซีกำลังจะกลับมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ BRC จากข้อมูลเมื่อปี 2565 บิ๊กซี รีเทล มีร้านค้าขนาดใหญ่ (Big Format) บนที่ดินของบริษัทฯ 66 แห่ง เช่าที่ดิน 123 แห่ง และตลาด Open-Air ที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของที่ดิน 2 แห่ง และเช่าที่ดิน 5 แห่ง

    สำหรับบิ๊กซี สมัยที่กลุ่มเซ็นทรัลเป็นเจ้าของ บางสาขาเช่าที่ดินระยะยาวกับกลุ่มเซ็นทรัล 30 ปี กำลังจะหมดสัญญาในปี 2568-2569 ได้แก่ ราษฎร์บูรณะ โคราช และขอนแก่น ส่วนบางสาขายังคงเช่าพื้นที่ต่อเนื่อง ได้แก่ วงศ์สว่าง (เซ็นทรัล ซูเปอร์สโตร์ เดิม) หัวหมาก แฟชั่นไอส์แลนด์ ชลบุรี (เซ็นทรัล ชลบุรี) และพัทยา (เซ็นทรัลมารีน่า) จึงไม่น่าแปลกใจหากนับจากนี้จะได้พบเห็นการปิดสาขาบิ๊กซี เพราะหลังบิ๊กซีซื้อกิจการคาร์ฟูร์ในยุคนั้น มีทำเลของทั้งสองห้างซ้ำซ้อนกันหลายสาขา

    #Newskit #บิ๊กซีสุขาภิบาล3 #คาร์ฟูร์
    อำลาบิ๊กซี สุขาภิบาล 3 คาร์ฟูร์สาขาแรกในไทย เดือนกันยายน 2567 ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จะปิดสาขาถาวร 2 สาขา ได้แก่ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สุขาภิบาล 3 (แยกบ้านม้า) เปิดให้บริการวันสุดท้าย 15 ก.ย. 2567 และบิ๊กซี รังสิต 2 (ตลาดสี่มุมเมือง) เปิดวันสุดท้าย 30 ก.ย. 2567 ทั้งสองสาขาอดีตเคยเป็นห้างคาร์ฟูร์ 7 สาขา ในยุคที่กลุ่มเซ็นทรัลร่วมทุนกับคาร์ฟูร์ ฝรั่งเศส ก่อนที่กลุ่มเซ็นทรัลจะขายหุ้นออกไปในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เพราะไม่สามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนตามที่บริษัทแม่ต้องการเพื่อขยายสาขาได้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2539 ห้างคาร์ฟูร์ เปิดสาขาแรกที่ถนนสุขาภิบาล 3 ก่อนขยายสาขาในช่วงปี 2539-2541 ได้แก่ ศรีนครินทร์ สุวินทวงศ์ บางใหญ่ รังสิต เชียงใหม่ (หนองป่าครั่ง) และเพชรเกษม (หนองแขม) เมื่อคาร์ฟูร์ ฝรั่งเศส เป็นเจ้าของเต็มตัว ในช่วงปี 2542-2543 จึงได้ขยายสาขารามอินทรา ตามมาด้วยแจ้งวัฒนะ รัตนาธิเบศร์ ที่ฮือฮามากที่สุดคือ สาขาพระราม 4 เปิดประจันหน้ากับห้างเทสโก้ โลตัส และต่อมายังเช่าที่ดินใจกลางเมืองระยะยาว 30 ปี เปิดห้างคาร์ฟูร์ รัชดาภิเษก ผ่านมา 13 ปี เปิดสาขาไปแล้ว 42 สาขา มาถึงปี 2553 คาร์ฟูร์ขายกิจการให้กลุ่มกาสิโนกรุ๊ป เจ้าของห้างบิ๊กซี ด้วยมูลค่า 35,500 ล้านบาท ทำให้ห้างคาร์ฟูร์กลายสภาพเป็นบิ๊กซีในรูปแบบต่างๆ เช่น บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า, บิ๊กซี จัมโบ้ กระทั่งกลุ่มกาสิโน กรุ๊ป ขายกิจการให้กับกลุ่มบีเจซี ของตระกูลสิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มและอสังหาริมทรัพย์ เมื่อปี 2559 ประกอบด้วยไฮเปอร์มาร์เก็ต 125 สาขา ซูเปอร์มาร์เก็ต 55 สาขา ร้านสะดวกซื้อ 391 สาขา ปัจจุบัน บิ๊กซีกำลังจะกลับมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ BRC จากข้อมูลเมื่อปี 2565 บิ๊กซี รีเทล มีร้านค้าขนาดใหญ่ (Big Format) บนที่ดินของบริษัทฯ 66 แห่ง เช่าที่ดิน 123 แห่ง และตลาด Open-Air ที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของที่ดิน 2 แห่ง และเช่าที่ดิน 5 แห่ง สำหรับบิ๊กซี สมัยที่กลุ่มเซ็นทรัลเป็นเจ้าของ บางสาขาเช่าที่ดินระยะยาวกับกลุ่มเซ็นทรัล 30 ปี กำลังจะหมดสัญญาในปี 2568-2569 ได้แก่ ราษฎร์บูรณะ โคราช และขอนแก่น ส่วนบางสาขายังคงเช่าพื้นที่ต่อเนื่อง ได้แก่ วงศ์สว่าง (เซ็นทรัล ซูเปอร์สโตร์ เดิม) หัวหมาก แฟชั่นไอส์แลนด์ ชลบุรี (เซ็นทรัล ชลบุรี) และพัทยา (เซ็นทรัลมารีน่า) จึงไม่น่าแปลกใจหากนับจากนี้จะได้พบเห็นการปิดสาขาบิ๊กซี เพราะหลังบิ๊กซีซื้อกิจการคาร์ฟูร์ในยุคนั้น มีทำเลของทั้งสองห้างซ้ำซ้อนกันหลายสาขา #Newskit #บิ๊กซีสุขาภิบาล3 #คาร์ฟูร์
    Like
    Sad
    4
    0 Comments 0 Shares 345 Views 0 Reviews
  • THE MALL KORAT x PRIMA หรูหรา เลอค่า ที่สุดแห่งปี

    วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 เวลา 14.00น. เดอะมอลล์โคราช ร่วมกับ PRIMA จัดงานแฟชั่นโชว์ความงดงามของเครื่องประดับชั้นนำสัญชาติไทย เครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ 99.9% (24K) พร้อมเพชรน้ำงามดีไซน์สุดหรู และหัตถศิลป์ทองคำชั้นสูงจาก PRIMA โดยได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้,นักธุรกิจชื่อดังในจังหวัดนครราชสีมา กว่า 11 ท่าน ให้เกียรติเดินแบบเครื่องประดับ กับ 11 ชุดเครื่องประดับที่รังสรรค์ชิ้นงานสุดประณีต เพื่อส่งมอบชิ้นงานอันทรงคุณค่าในทุกช่วงเวลาพิเศษ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทที่มาโชว์บนรันเวย์

    โดยไฮไลท์ภายในงานคุณพรชนก บุญธรรมเจริญ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ได้สวมใส่ชุดเครื่องเพชร Monarch เดินฟินนาเล่ชุดเครื่องเพชรมูลค่ารวม 10,589,000.- อวดโฉมให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชมถึงแรงบันดาลใจหรูหราดุจราชินีแห่ง DIAMOND ด้วยรูปแบบดีไซน์ที่อ่อนหวานงดงามของเพชรรูปทรงหยดน้ำ ผสมผสานรูปแบบลวดลายความเป็นไทยเพิ่มความสง่างามดุจดั่งต้องมนต์

    ทั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ PRIMA ได้นำเครื่องเพชรมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทมาร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ด้วยให้ชาวโคราชได้ชมและไม่พลาดกับความพิเศษ รวมถึงโปรโมชั่นสุดคุ้มกับโอกาสที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของเครื่องประดับสุดหรูจาก PRIMA GOLD และ PRIMA DIMOND ที่เคาน์เตอร์ PRIMA GOLD ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช
    THE MALL KORAT x PRIMA หรูหรา เลอค่า ที่สุดแห่งปี วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 เวลา 14.00น. เดอะมอลล์โคราช ร่วมกับ PRIMA จัดงานแฟชั่นโชว์ความงดงามของเครื่องประดับชั้นนำสัญชาติไทย เครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ 99.9% (24K) พร้อมเพชรน้ำงามดีไซน์สุดหรู และหัตถศิลป์ทองคำชั้นสูงจาก PRIMA โดยได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้,นักธุรกิจชื่อดังในจังหวัดนครราชสีมา กว่า 11 ท่าน ให้เกียรติเดินแบบเครื่องประดับ กับ 11 ชุดเครื่องประดับที่รังสรรค์ชิ้นงานสุดประณีต เพื่อส่งมอบชิ้นงานอันทรงคุณค่าในทุกช่วงเวลาพิเศษ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทที่มาโชว์บนรันเวย์ โดยไฮไลท์ภายในงานคุณพรชนก บุญธรรมเจริญ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ได้สวมใส่ชุดเครื่องเพชร Monarch เดินฟินนาเล่ชุดเครื่องเพชรมูลค่ารวม 10,589,000.- อวดโฉมให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชมถึงแรงบันดาลใจหรูหราดุจราชินีแห่ง DIAMOND ด้วยรูปแบบดีไซน์ที่อ่อนหวานงดงามของเพชรรูปทรงหยดน้ำ ผสมผสานรูปแบบลวดลายความเป็นไทยเพิ่มความสง่างามดุจดั่งต้องมนต์ ทั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ PRIMA ได้นำเครื่องเพชรมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทมาร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ด้วยให้ชาวโคราชได้ชมและไม่พลาดกับความพิเศษ รวมถึงโปรโมชั่นสุดคุ้มกับโอกาสที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของเครื่องประดับสุดหรูจาก PRIMA GOLD และ PRIMA DIMOND ที่เคาน์เตอร์ PRIMA GOLD ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 219 Views 0 Reviews
  • การไฟฟ้าฯ จะตัดไฟ อำลาตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี

    จากกระแสไวรัลบนโซเชียลฯ ถึงความเงียบเหงาของศูนย์การค้าฝั่งธนบุรี ท่ามกลางคำถามที่ว่าอนาคตจะไปทางไหน ในที่้สุดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี ถนนสิรินธร ย่านบางพลัด แจ้งกับร้านค้าเป็นการภายในเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 ก.ย.) ว่าจำเป็นต้องปิดทำการห้างฯ อาคาร 12 ชั้น ซึ่งมีผลกระทบในพื้นที่ขายทั้งหมด เพราะได้รับหนังสือแจ้งจากการไฟฟ้านครหลวง ขอยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้าในวันอังคารที่ 10 ก.ย. 2567 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

    "ทางบริษัทฯ อยู่ในระหว่างดำเนินการแก้ไขและเจรจากับผู้ร่วมทุนใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ ทางห้างฯ จะเร่งกลับมาเปิดบริการในเร็วๆ นี้ และขออภัยในความไม่สะดวกกับเหตุการณ์ครั้งนี้" ประกาศฉบับดังกล่าว ระบุ

    บรรดาร้านค้าที่ทราบข่าวเตรียมทยอยขนของออกจากห้างฯ โดยเฉพาะร้านขายโทรศัพท์มือถือ ที่ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน กระทั่งได้รับจดหมายแจ้งว่าจะตัดไฟในวันอังคาร ต้องเก็บของย้ายออกจากห้างฯ มีผลกระทบมาก ส่วนร้านหมาล่าสายพาน "ฟุ่ยโหยว หมาล่า" ที่เปิดไม่ถึงครึ่งปี ต้องปรับเป็นบุฟเฟ่ต์แบบขาดทุน ก่อนปิดแบบไม่มีกำหนด กระแสโซเชียลฯ ต่างให้กำลังใจทางร้านและอุดหนุน ทำบางเมนูหมดลงไปแล้ว

    ปริศนาคลี่คลายเมื่อมีชาวเน็ตต่างเผยแพร่ข้อมูลว่า บริษัท สรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง จำกัด ถูกธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ฟ้องต่อศาลแพ่งตลิ่งชัน คดีหมายเลขแดงที่ ผบ.7325/2562 แล้วกรมบังคับคดีได้ประกาศขายทรัพย์รวม 27 แปลง ราคาประเมิน 1,365,690,450 บาท โดยพบว่ามีบุคคลภายนอก (คาดว่ามาจากกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์) ประมูลมาได้ แต่ต่ำกว่าราคาประเมิน ส่วนห้างตั้งฮั่วเส็ง สาขาบางลำภู ก็ขายทอดตลาดไปแล้วเช่นกัน

    ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ก่อตั้งขึ้นในปี 2505 ที่ย่านบางลำพู เดิมเป็นร้านจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์เย็บปักถักร้อย เครื่องสำอาง ผ้าแฟชั่น และอุปกรณ์ตัดเย็บต่างๆ ก่อนจะเปิดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง บางลำพู ภายใต้การบริหารของนายวิโรจน์ จุนประทีปทอง กระทั่งปี 2534 เปิดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี อาคารสูง 10 ชั้น ที่จอดรถมากกว่า 800 คัน ต่อมาในปี 2554 รีโนเวตโดยเปลี่ยนชื่อเป็น T-SQUARE

    ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าบริษัทฯ ขาดทุนทุกปี ส่งงบการเงินปีสุดท้าย 2564 มีรายได้รวม 409,744,106.37 บาท ขาดทุนสุทธิ 43,784,884.68 บาท ขณะที่ นายวิโรจน์ จุนประทีปทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ เสียชีวิตไปนานแล้ว เหลือแต่นายมนัส รณกรกิจอนันต์ ลูกพี่ลูกน้องบริหารร่วมกับครอบครัวจุนประทีปทอง

    #Newskit #ตั้งฮั่วเส็ง #ปิดกิจการ
    การไฟฟ้าฯ จะตัดไฟ อำลาตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี จากกระแสไวรัลบนโซเชียลฯ ถึงความเงียบเหงาของศูนย์การค้าฝั่งธนบุรี ท่ามกลางคำถามที่ว่าอนาคตจะไปทางไหน ในที่้สุดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี ถนนสิรินธร ย่านบางพลัด แจ้งกับร้านค้าเป็นการภายในเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 ก.ย.) ว่าจำเป็นต้องปิดทำการห้างฯ อาคาร 12 ชั้น ซึ่งมีผลกระทบในพื้นที่ขายทั้งหมด เพราะได้รับหนังสือแจ้งจากการไฟฟ้านครหลวง ขอยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้าในวันอังคารที่ 10 ก.ย. 2567 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป "ทางบริษัทฯ อยู่ในระหว่างดำเนินการแก้ไขและเจรจากับผู้ร่วมทุนใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ ทางห้างฯ จะเร่งกลับมาเปิดบริการในเร็วๆ นี้ และขออภัยในความไม่สะดวกกับเหตุการณ์ครั้งนี้" ประกาศฉบับดังกล่าว ระบุ บรรดาร้านค้าที่ทราบข่าวเตรียมทยอยขนของออกจากห้างฯ โดยเฉพาะร้านขายโทรศัพท์มือถือ ที่ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน กระทั่งได้รับจดหมายแจ้งว่าจะตัดไฟในวันอังคาร ต้องเก็บของย้ายออกจากห้างฯ มีผลกระทบมาก ส่วนร้านหมาล่าสายพาน "ฟุ่ยโหยว หมาล่า" ที่เปิดไม่ถึงครึ่งปี ต้องปรับเป็นบุฟเฟ่ต์แบบขาดทุน ก่อนปิดแบบไม่มีกำหนด กระแสโซเชียลฯ ต่างให้กำลังใจทางร้านและอุดหนุน ทำบางเมนูหมดลงไปแล้ว ปริศนาคลี่คลายเมื่อมีชาวเน็ตต่างเผยแพร่ข้อมูลว่า บริษัท สรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง จำกัด ถูกธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ฟ้องต่อศาลแพ่งตลิ่งชัน คดีหมายเลขแดงที่ ผบ.7325/2562 แล้วกรมบังคับคดีได้ประกาศขายทรัพย์รวม 27 แปลง ราคาประเมิน 1,365,690,450 บาท โดยพบว่ามีบุคคลภายนอก (คาดว่ามาจากกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์) ประมูลมาได้ แต่ต่ำกว่าราคาประเมิน ส่วนห้างตั้งฮั่วเส็ง สาขาบางลำภู ก็ขายทอดตลาดไปแล้วเช่นกัน ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ก่อตั้งขึ้นในปี 2505 ที่ย่านบางลำพู เดิมเป็นร้านจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์เย็บปักถักร้อย เครื่องสำอาง ผ้าแฟชั่น และอุปกรณ์ตัดเย็บต่างๆ ก่อนจะเปิดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง บางลำพู ภายใต้การบริหารของนายวิโรจน์ จุนประทีปทอง กระทั่งปี 2534 เปิดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี อาคารสูง 10 ชั้น ที่จอดรถมากกว่า 800 คัน ต่อมาในปี 2554 รีโนเวตโดยเปลี่ยนชื่อเป็น T-SQUARE ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าบริษัทฯ ขาดทุนทุกปี ส่งงบการเงินปีสุดท้าย 2564 มีรายได้รวม 409,744,106.37 บาท ขาดทุนสุทธิ 43,784,884.68 บาท ขณะที่ นายวิโรจน์ จุนประทีปทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ เสียชีวิตไปนานแล้ว เหลือแต่นายมนัส รณกรกิจอนันต์ ลูกพี่ลูกน้องบริหารร่วมกับครอบครัวจุนประทีปทอง #Newskit #ตั้งฮั่วเส็ง #ปิดกิจการ
    Sad
    Like
    5
    0 Comments 2 Shares 452 Views 0 Reviews
  • งาน "Prima Luxury VIP Exclusive"
    กับแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรและทองคำ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

    ในวันเสาร์ 7 ก.ย.2567 ตั้งแต่เวลา 14.00น.เป็นต้นไป
    บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช

    ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณพรชนก บุญธรรมเจริญ
    ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร่วมเดินฟินนาเล่ภายในงาน

    พร้อมด้วยคุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์โคราช
    คุณธัชชนัญ บุญประกอบ ผู้บริหาร PRIMA GOLD ร่วมงาน
    งาน "Prima Luxury VIP Exclusive" กับแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรและทองคำ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ในวันเสาร์ 7 ก.ย.2567 ตั้งแต่เวลา 14.00น.เป็นต้นไป บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณพรชนก บุญธรรมเจริญ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร่วมเดินฟินนาเล่ภายในงาน พร้อมด้วยคุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์โคราช คุณธัชชนัญ บุญประกอบ ผู้บริหาร PRIMA GOLD ร่วมงาน
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • 'ความมั่นใจ' คือสิ่งล้ำค่า
    ที่หลายๆคนพยายามทุ่มเทหลายๆอย่างเพื่อให้ได้มา

    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อซื้อผ้าแฟชั่นทันสมัยเพื่อให้รู้สึกมั่นใจ
    การซื้อรถหรูเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน
    หรือแม้กระทั่งการอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้ เพื่อประดับสมอง

    อย่างที่แอดมินได้เคยบอกไว้ในหลายๆครั้งว่า *ทุกๆอย่างต้องมีความสมดุล*

    เพราะหากว่าความมั่นใจ มีมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่
    จะส่งผลเสียในหลายๆอย่าง

    หากเรามีความมั่นใจน้อยกว่าที่ควร <
    เราจะเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก
    ไม่กล้าแม้กระทั่งออกความคิดเห็นของตัวเอง
    ไม่มีโอกาสได้รักษาในหลายๆสิทธิ์ของตัวเอง

    หากเรามีความมั่นใจมากกว่าที่ควร >
    ในหลายๆครั้งอาจทำให้เราสูญเสียมากกว่าได้รับ
    อย่างเช่นการวางแผนในการทำธุรกิจ โดยที่ความรู้ยังไม่เพียงพอ

    หรือการอ่านหนังสือไม่พอก่อนเข้าสอบ แต่พกความมั่นใจไปเต็มร้อย

    ดังนั้นวิธีแก้ไขคือ การจำลองการลงมือทำจริงๆขึ้นมา
    -สำหรับการทำธุรกิจ ก็เขียนแผนธุรกิจ กำไร-ขาดทุน ให้เจ๊งแค่ในกระดาษ
    -สำหรับการอ่านหนังสือ ก็ทำแบบทดสอบเยอะๆ หรือตั้งโจทย์ขึ้นมาแล้วทำให้มากๆ

    แล้วสำหรับคุณผู้อ่าน มีวิธีควบคุมความมั่นใจ ให้ไม่มากเกินไป-น้อยเกินไปอย่างไรบ้าง มาแชร์ในคอมเม้นกันได้นะคะ ^^

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือคิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง
    #หนังสือน่าอ่าน #Thaitimes
    'ความมั่นใจ' คือสิ่งล้ำค่า ที่หลายๆคนพยายามทุ่มเทหลายๆอย่างเพื่อให้ได้มา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อซื้อผ้าแฟชั่นทันสมัยเพื่อให้รู้สึกมั่นใจ การซื้อรถหรูเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งการอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้ เพื่อประดับสมอง อย่างที่แอดมินได้เคยบอกไว้ในหลายๆครั้งว่า *ทุกๆอย่างต้องมีความสมดุล* เพราะหากว่าความมั่นใจ มีมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่ จะส่งผลเสียในหลายๆอย่าง หากเรามีความมั่นใจน้อยกว่าที่ควร < เราจะเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าแม้กระทั่งออกความคิดเห็นของตัวเอง ไม่มีโอกาสได้รักษาในหลายๆสิทธิ์ของตัวเอง หากเรามีความมั่นใจมากกว่าที่ควร > ในหลายๆครั้งอาจทำให้เราสูญเสียมากกว่าได้รับ อย่างเช่นการวางแผนในการทำธุรกิจ โดยที่ความรู้ยังไม่เพียงพอ หรือการอ่านหนังสือไม่พอก่อนเข้าสอบ แต่พกความมั่นใจไปเต็มร้อย ดังนั้นวิธีแก้ไขคือ การจำลองการลงมือทำจริงๆขึ้นมา -สำหรับการทำธุรกิจ ก็เขียนแผนธุรกิจ กำไร-ขาดทุน ให้เจ๊งแค่ในกระดาษ -สำหรับการอ่านหนังสือ ก็ทำแบบทดสอบเยอะๆ หรือตั้งโจทย์ขึ้นมาแล้วทำให้มากๆ แล้วสำหรับคุณผู้อ่าน มีวิธีควบคุมความมั่นใจ ให้ไม่มากเกินไป-น้อยเกินไปอย่างไรบ้าง มาแชร์ในคอมเม้นกันได้นะคะ ^^ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือคิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง #หนังสือน่าอ่าน #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 541 Views 0 Reviews
  • ”วิว“ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบตมินตันเหรียญเงิน โอลิมปิกปารีส2024 เริ่มรับงานนายแบบ เมื่อเจ้าตัวได้โพสต์ภาพที่ได้ถ่ายแฟชั่นให้กับแบรนด์ดังลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมเผยความรู้สึกว่า
    .
    “มันก็จะเขินๆ หน่อย ฝากติดตามผลงานครั้งแรกของผมในบทบาทใหม่”
    .
    งานนี้ทำเอาแฟนคลับเข้าไปคอมเมนต์ชื่นชมกันแบบรัวๆ เช่น หล่อเลยครับ, ฮยอนบิน อปป้ามากกก โอ่ยยย หล่อเท่สุด ๆ เลยค้าบบบบ,เป็นนายแบบท่านหนึ่งที่ตีแบดได้นิดหน่อย,นักกีฬางานเสิรม งานหลักนายแบบ,ลุคส์นี้ดีงามมากกกกก ไม่เว้นแม้กระทั่งคนในวงการบันเทิง เช่น ดีเจเป้ วิศวะ ที่เข้ามาคอมเมนต์ว่า “โว๊ะ อย่างหล่อ ” รวมถึงแวดวงกีฬาอย่างผู้ประกาศข่าวกีฬาอดีตนักว่ายน้ำทีมชาติ อาย ศรสวรรค์ ก็เข้ามา “กรี๊ดดดดดดด” และนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติ ครีม บุศนันทน์ ก็เข้ามาคอมเมนต์แซว “เท่เกิ้นนนน” เรียกว่างานนี้ได้ใจแฟน ๆ ไปเต็มๆ โดยเฉพาะ สาว ๆ คริๆ

    ที่มา : ไนน์เอ็นเตอร์เทน

    #Thaitimes
    ”วิว“ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบตมินตันเหรียญเงิน โอลิมปิกปารีส2024 เริ่มรับงานนายแบบ เมื่อเจ้าตัวได้โพสต์ภาพที่ได้ถ่ายแฟชั่นให้กับแบรนด์ดังลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมเผยความรู้สึกว่า . “มันก็จะเขินๆ หน่อย 🤭ฝากติดตามผลงานครั้งแรกของผมในบทบาทใหม่” . งานนี้ทำเอาแฟนคลับเข้าไปคอมเมนต์ชื่นชมกันแบบรัวๆ เช่น หล่อเลยครับ, ฮยอนบิน อปป้ามากกก โอ่ยยย หล่อเท่สุด ๆ เลยค้าบบบบ,เป็นนายแบบท่านหนึ่งที่ตีแบดได้นิดหน่อย,นักกีฬางานเสิรม งานหลักนายแบบ,ลุคส์นี้ดีงามมากกกกก ไม่เว้นแม้กระทั่งคนในวงการบันเทิง เช่น ดีเจเป้ วิศวะ ที่เข้ามาคอมเมนต์ว่า “โว๊ะ อย่างหล่อ 🔥🔥🔥” รวมถึงแวดวงกีฬาอย่างผู้ประกาศข่าวกีฬาอดีตนักว่ายน้ำทีมชาติ อาย ศรสวรรค์ ก็เข้ามา “กรี๊ดดดดดดด😍” และนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติ ครีม บุศนันทน์ ก็เข้ามาคอมเมนต์แซว “เท่เกิ้นนนน” เรียกว่างานนี้ได้ใจแฟน ๆ ไปเต็มๆ โดยเฉพาะ สาว ๆ คริๆ ที่มา : ไนน์เอ็นเตอร์เทน #Thaitimes
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 475 Views 0 Reviews
  • ทำไมร่มของญี่ปุ่นส่วนมากเป็นร่มใส่โปร่งแสง

    ฤดูฝนในญี่ปุ่นมาพร้อมกับช่วงซากุระบานในเดือนมีนาคมถึงเมษายน และเข้าสู่ช่วงพายุฝนในเดือนพฤษภาคม ฤดูมรสุมในเดือนมิถุนายน และไต้ฝุ่นในเดือนกรกฎาคมและตุลาคม ในช่วงเวลาเหล่านี้เองที่จะมีทั้ง ฝนโปรย ฝนปรอย ๆ และ ฝนตกหนัก ไปจนถึงฝนที่ตกมาเป็นช่วง ๆ ในระหว่างวัน

    จึงไม่แปลกเลยที่คนญี่ปุ่นจะพกร่ม แต่สิ่งที่แปลกสำหรับคนต่างชาติอย่างเรา ๆ ไม่ใช่การพกร่ม หากแต่เป็นร่มที่โปร่งใส ที่กันแดดก็ไม่ได้ และไม่ได้ทำขึ้นเพื่อเป็นแฟชั่นแต่อย่างใด แต่การทำร่มใส่นี้ มีที่มา

    ร่มใสที่ว่านี้ เริ่มผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1958 และความนิยมในการใช้ร่มใสนี้ก็เพิ่มขึ้นในช่วงการจัดโอลิมปิกในปีค.ศ. 1964

    ร่มชนิดนี้ในตอนแรกเป็นร่มที่ทำด้วยมือ มีวางขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปที่เรียกว่า コンビニエンスストア คนบินิเอนซุสโตอะ (ก็ คอนวีเนียนสโตร์ นี่ล่ะ) เรียกสั้น ๆ ว่า คนบินิ ถามว่าร้านแบบนี้สะดวกแค่ไหน ก็สะดวกชนิดที่ว่ามีร้านประเภทนี้อยู่ทุก 200 เมตร (เป็นคำเปรียบเปรยว่ามีเยอะมากทั่วไป)

    สาเหตุที่ร่มของญี่ปุ่นเป็นร่มใส ก็เพื่อประโยชน์ในการใช้งานล้วน ๆ นั่นคือ

    เพื่อไม่ให้ร่ม บังทัศนียภาพผู้อื่น (อึ้งกับความคิดเพื่อสาธารณะประโยชน์ของเขาไหมล่ะ)

    เพราะหากเวลาที่คนจำนวนมากถือร่มในชุมชน โอกาสที่จะมองไม่เห็นทางข้างหน้าและชนกันย่อมเกิดขึ้นได้มาก หากเป็นร่มทึบ ร่มชนิดนี้เรียกว่า คาซะ มาจากคำว่า วาคาซะ (ที่เป็นร่มกระดาษแบบร่มบ่อสร้างบ้านเรา ปัจจุบันเรามักเห็นการใช่ร่มกระดาษเวลาที่เขาสวมชุดประจำชาติกัน)

    สิ่งที่ทำให้ร่ม คาซะ เป็นที่นิยม ไม่ใช่แฟชั่น แต่เป็น ราคา และ ความสบายใจในการพกพา นั่นคือ นอกจากมันจะมีราคาถูก คันล่ะราว ๆ 300-500 เยน หรือราวๆ 60 - 100 บาทเศษ ๆ ดังนั้น ถ้าพกพาไปแล้วหลงลืมทำหาย ก็จะไม่เสียดายมากนักนั่นเอง

    Vee Chirasreshtha
    ทำไมร่มของญี่ปุ่นส่วนมากเป็นร่มใส่โปร่งแสง ฤดูฝนในญี่ปุ่นมาพร้อมกับช่วงซากุระบานในเดือนมีนาคมถึงเมษายน และเข้าสู่ช่วงพายุฝนในเดือนพฤษภาคม ฤดูมรสุมในเดือนมิถุนายน และไต้ฝุ่นในเดือนกรกฎาคมและตุลาคม ในช่วงเวลาเหล่านี้เองที่จะมีทั้ง ฝนโปรย ฝนปรอย ๆ และ ฝนตกหนัก ไปจนถึงฝนที่ตกมาเป็นช่วง ๆ ในระหว่างวัน จึงไม่แปลกเลยที่คนญี่ปุ่นจะพกร่ม แต่สิ่งที่แปลกสำหรับคนต่างชาติอย่างเรา ๆ ไม่ใช่การพกร่ม หากแต่เป็นร่มที่โปร่งใส ที่กันแดดก็ไม่ได้ และไม่ได้ทำขึ้นเพื่อเป็นแฟชั่นแต่อย่างใด แต่การทำร่มใส่นี้ มีที่มา ร่มใสที่ว่านี้ เริ่มผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1958 และความนิยมในการใช้ร่มใสนี้ก็เพิ่มขึ้นในช่วงการจัดโอลิมปิกในปีค.ศ. 1964 ร่มชนิดนี้ในตอนแรกเป็นร่มที่ทำด้วยมือ มีวางขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปที่เรียกว่า コンビニエンスストア คนบินิเอนซุสโตอะ (ก็ คอนวีเนียนสโตร์ นี่ล่ะ) เรียกสั้น ๆ ว่า คนบินิ ถามว่าร้านแบบนี้สะดวกแค่ไหน ก็สะดวกชนิดที่ว่ามีร้านประเภทนี้อยู่ทุก 200 เมตร (เป็นคำเปรียบเปรยว่ามีเยอะมากทั่วไป) สาเหตุที่ร่มของญี่ปุ่นเป็นร่มใส ก็เพื่อประโยชน์ในการใช้งานล้วน ๆ นั่นคือ เพื่อไม่ให้ร่ม บังทัศนียภาพผู้อื่น (อึ้งกับความคิดเพื่อสาธารณะประโยชน์ของเขาไหมล่ะ) เพราะหากเวลาที่คนจำนวนมากถือร่มในชุมชน โอกาสที่จะมองไม่เห็นทางข้างหน้าและชนกันย่อมเกิดขึ้นได้มาก หากเป็นร่มทึบ ร่มชนิดนี้เรียกว่า คาซะ มาจากคำว่า วาคาซะ (ที่เป็นร่มกระดาษแบบร่มบ่อสร้างบ้านเรา ปัจจุบันเรามักเห็นการใช่ร่มกระดาษเวลาที่เขาสวมชุดประจำชาติกัน) สิ่งที่ทำให้ร่ม คาซะ เป็นที่นิยม ไม่ใช่แฟชั่น แต่เป็น ราคา และ ความสบายใจในการพกพา นั่นคือ นอกจากมันจะมีราคาถูก คันล่ะราว ๆ 300-500 เยน หรือราวๆ 60 - 100 บาทเศษ ๆ ดังนั้น ถ้าพกพาไปแล้วหลงลืมทำหาย ก็จะไม่เสียดายมากนักนั่นเอง Vee Chirasreshtha
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • เสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี ญี่ปุ่น งานคัดเกรดพรีเมี่ยม งานแบรนด์ #งานนำเข้า #แบรนด์แท้เกาหลี #คัดเกรด #ขายปลีกและส่ง
    #วันศุกร์ตลาดถนนคนเดินยี่งอ
    ซอยเซเว่น อยู่กลางๆซอยค่ะ
    เริ่ม 15:30 - 19:30 น.
    #วันเสาร์ตลาดนัดตันหยงมัส
    ข้างๆเซเว่นวงเวียนลองกอง
    เริ่ม 8:00 - 13:00 น.
    #วันจันทร์ตลาดนัดบาเจาะ
    โซนด้านในตลาด พื้นปูหญ้าเทียม
    เริ่ม 9:00 - 17:00 น.
    •UNIQLO
    •GU
    •MUJI
    •ZARA
    •H&M
    •GAP
    •Samansa Mos2
    •Studio Clip
    •closshi
    •amarican holic
    •ko'e
    •rope picnic
    •niko and
    •lowrys farm
    •GLOBAL WORK
    •8Seconds
    •SPAO
    🤎เสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี ญี่ปุ่น งานคัดเกรดพรีเมี่ยม งานแบรนด์ #งานนำเข้า #แบรนด์แท้เกาหลี #คัดเกรด #ขายปลีกและส่ง #วันศุกร์ตลาดถนนคนเดินยี่งอ 🔰ซอยเซเว่น อยู่กลางๆซอยค่ะ 📌เริ่ม 15:30 - 19:30 น. #วันเสาร์ตลาดนัดตันหยงมัส 🔰ข้างๆเซเว่นวงเวียนลองกอง 📌เริ่ม 8:00 - 13:00 น. #วันจันทร์ตลาดนัดบาเจาะ 🔰โซนด้านในตลาด พื้นปูหญ้าเทียม 📌เริ่ม 9:00 - 17:00 น. •UNIQLO •GU •MUJI •ZARA •H&M •GAP •Samansa Mos2 •Studio Clip •closshi •amarican holic •ko'e •rope picnic •niko and •lowrys farm •GLOBAL WORK •8Seconds •SPAO
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 229 Views 0 Reviews
  • Friendly Design – Sustainable Furniture

    เก้าอี้สุดล้ำ
    ทำจากกระดาษลัง กว่า 2000 ปอนด์ !

    ในยุคที่ใคร ๆ ก็ใช้การสั่งของออนไลน์ ทำให้เกิดขยะที่มาจากกล่องพัสดุเป็นจำนวนมากกก บางคนเลือกนำกลับไปใช้ใหม่หลาย ๆ ครั้ง แต่กับศิลปินอย่าง ‘Vadim Kibardin’ เลือกนำกระดาษลังเหล่านั้นมาทำเป็นเก้าอี้

    การทำเก้าอี้แต่ละตัวเขาจะคิดแบบเอง อย่างตัวที่เราเห็นจะมีการนำกระดาษลังมาซ้อนกันแล้วเล่นกับเลเยอร์ ให้ออกมามี Movement ทำให้ดูแฟชั่นและหรูหราขึ้น ที่สำคัญคือเขาทำมือเองทั้งหมด ! ซึ่งเขาใช้เวลาทำไปมากกว่า 5,110 ชั่วโมง ช่วยลดปริมาณการตัดไม้ไปได้มากกว่า 17 ต้น เริ่ดอ่ะ !

    ขอขอบคุณไอเดียดี ๆ จาก
    Klao Vee
    Brand : Vadim Kibardin
    Source: https://www.kibardinart.com/en/
    Friendly Design – Sustainable Furniture เก้าอี้สุดล้ำ ทำจากกระดาษลัง กว่า 2000 ปอนด์ ! ในยุคที่ใคร ๆ ก็ใช้การสั่งของออนไลน์ ทำให้เกิดขยะที่มาจากกล่องพัสดุเป็นจำนวนมากกก บางคนเลือกนำกลับไปใช้ใหม่หลาย ๆ ครั้ง แต่กับศิลปินอย่าง ‘Vadim Kibardin’ เลือกนำกระดาษลังเหล่านั้นมาทำเป็นเก้าอี้ การทำเก้าอี้แต่ละตัวเขาจะคิดแบบเอง อย่างตัวที่เราเห็นจะมีการนำกระดาษลังมาซ้อนกันแล้วเล่นกับเลเยอร์ ให้ออกมามี Movement ทำให้ดูแฟชั่นและหรูหราขึ้น ที่สำคัญคือเขาทำมือเองทั้งหมด ! ซึ่งเขาใช้เวลาทำไปมากกว่า 5,110 ชั่วโมง ช่วยลดปริมาณการตัดไม้ไปได้มากกว่า 17 ต้น เริ่ดอ่ะ ! ขอขอบคุณไอเดียดี ๆ จาก Klao Vee Brand : Vadim Kibardin Source: https://www.kibardinart.com/en/
    0 Comments 0 Shares 246 Views 0 Reviews
  • Friendly Design – Sustainable Furniture

    เก้าอี้สุดล้ำ
    ทำจากกระดาษลัง กว่า 2000 ปอนด์ !

    ในยุคที่ใคร ๆ ก็ใช้การสั่งของออนไลน์ ทำให้เกิดขยะที่มาจากกล่องพัสดุเป็นจำนวนมากกก บางคนเลือกนำกลับไปใช้ใหม่หลาย ๆ ครั้ง แต่กับศิลปินอย่าง ‘Vadim Kibardin’ เลือกนำกระดาษลังเหล่านั้นมาทำเป็นเก้าอี้

    การทำเก้าอี้แต่ละตัวเขาจะคิดแบบเอง อย่างตัวที่เราเห็นจะมีการนำกระดาษลังมาซ้อนกันแล้วเล่นกับเลเยอร์ ให้ออกมามี Movement ทำให้ดูแฟชั่นและหรูหราขึ้น ที่สำคัญคือเขาทำมือเองทั้งหมด ! ซึ่งเขาใช้เวลาทำไปมากกว่า 5,110 ชั่วโมง ช่วยลดปริมาณการตัดไม้ไปได้มากกว่า 17 ต้น เริ่ดอ่ะ !

    ขอขอบคุณไอเดียดี ๆ จาก
    Klao Vee
    Brand : Vadim Kibardin
    Source: https://www.kibardinart.com/en/
    Friendly Design – Sustainable Furniture เก้าอี้สุดล้ำ ทำจากกระดาษลัง กว่า 2000 ปอนด์ ! ในยุคที่ใคร ๆ ก็ใช้การสั่งของออนไลน์ ทำให้เกิดขยะที่มาจากกล่องพัสดุเป็นจำนวนมากกก บางคนเลือกนำกลับไปใช้ใหม่หลาย ๆ ครั้ง แต่กับศิลปินอย่าง ‘Vadim Kibardin’ เลือกนำกระดาษลังเหล่านั้นมาทำเป็นเก้าอี้ การทำเก้าอี้แต่ละตัวเขาจะคิดแบบเอง อย่างตัวที่เราเห็นจะมีการนำกระดาษลังมาซ้อนกันแล้วเล่นกับเลเยอร์ ให้ออกมามี Movement ทำให้ดูแฟชั่นและหรูหราขึ้น ที่สำคัญคือเขาทำมือเองทั้งหมด ! ซึ่งเขาใช้เวลาทำไปมากกว่า 5,110 ชั่วโมง ช่วยลดปริมาณการตัดไม้ไปได้มากกว่า 17 ต้น เริ่ดอ่ะ ! ขอขอบคุณไอเดียดี ๆ จาก Klao Vee Brand : Vadim Kibardin Source: https://www.kibardinart.com/en/
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews