• อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​เหตุทั้งภายใน(โยนิโสมนสิการ )​ และภายนอก(กัล๎ยาณมิตตตา)​
    สัทธรรมลำดับที่ : 1059
    ชื่อบทธรรม :- จงกระทำเหตุทั้งภายในและภายนอก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1059
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --จงกระทำเหตุทั้งภายในและภายนอก
    ก. เหตุภายใน
    --ภิกษุ ท. ! สำหรับภิกษุเสขะ
    ผู้มีความปรารถนาแห่งใจอันยังไม่บรรลุ
    ยังปรารถนาอนุตตรโยคักเขมธรรมอยู่นั้น
    เราไม่มองเห็นองค์ธรรมอื่นแม้หนึ่ง
    ซึ่งเมื่อกระทำให้เป็นองค์ธรรมในภายในแล้ว
    จะมีอุปการะมาก เหมือนอย่าง #โยนิโสมนสิการ
    http://etipitaka.com/read/pali/25/236/?keywords=โยนิโส+มนสิกา
    นี้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุกระทำ
    โยนิโสมนสิการอยู่ ย่อมละอกุศล และทำกุศลให้เจริญ.
    โยนิโสมนสิการธรรม มีอยู่สำหรับภิกษุผู้เสขะ,
    http://etipitaka.com/read/pali/25/237/?keywords=โยนิโส+มนสิกา
    ไม่มีธรรมอื่นมีอุปการะมากเหมือนอย่างนั้น สำหรับการบรรลุประโยชน์อันสูงสุด.
    ภิกษุตั้งจิตไว้โดยแยบคาย พึงบรรลุความสิ้นไปแห่งทุกข์.

    ข. เหตุภายนอก
    --ภิกษุ ท. ! สำหรับภิกษุเสขะ
    ผู้มีความปรารถนาแห่งใจอันยังไม่บรรลุ
    ยังปรารถนาอนุตตรโยคักเขมธรรมอยู่นั้น
    เราไม่มองเห็นองค์ธรรมอื่นแม้หนึ่ง
    ซึ่งเมื่อ กระทำให้เป็นองค์ธรรมในภายนอก แล้ว
    จะมีอุปการะมาก เหมือนอย่าง #กัล๎ยาณมิตตตา
    http://etipitaka.com/read/pali/25/237/?keywords=กลฺยาณมิตฺ
    นี้.
    --ภิกษุ ท. !
    ภิกษุผู้มี กัลยาณมิตร ย่อมละอกุศล และทำกุศลให้เจริญ.
    ภิกษุใด มีกัลยาณมิตรเป็นที่พึ่งเป็นที่เคารพ
    กระทำตามคำของมิตรอยู่ อย่างรู้สึกตัว อย่างมีสติ,
    ภิกษุนั้น พึงบรรลุ ความสิ้นไปแห่งสังโยชน์ทั้งปวง
    โดยลำดับ.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อิติวุ. ขุ. 25/236, 237/194, 195.
    http://etipitaka.com/read/thai/25/236/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อิติวุ. ขุ. ๒๕/๒๓๖, ๒๓๗/๑๙๔, ๑๙๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/236/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%94
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1059
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=92&id=1059
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=92
    ลำดับสาธยายธรรม : 92 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_92.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​เหตุทั้งภายใน(โยนิโสมนสิการ )​ และภายนอก(กัล๎ยาณมิตตตา)​ สัทธรรมลำดับที่ : 1059 ชื่อบทธรรม :- จงกระทำเหตุทั้งภายในและภายนอก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1059 เนื้อความทั้งหมด :- --จงกระทำเหตุทั้งภายในและภายนอก ก. เหตุภายใน --ภิกษุ ท. ! สำหรับภิกษุเสขะ ผู้มีความปรารถนาแห่งใจอันยังไม่บรรลุ ยังปรารถนาอนุตตรโยคักเขมธรรมอยู่นั้น เราไม่มองเห็นองค์ธรรมอื่นแม้หนึ่ง ซึ่งเมื่อกระทำให้เป็นองค์ธรรมในภายในแล้ว จะมีอุปการะมาก เหมือนอย่าง #โยนิโสมนสิการ http://etipitaka.com/read/pali/25/236/?keywords=โยนิโส+มนสิกา นี้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุกระทำ โยนิโสมนสิการอยู่ ย่อมละอกุศล และทำกุศลให้เจริญ. โยนิโสมนสิการธรรม มีอยู่สำหรับภิกษุผู้เสขะ, http://etipitaka.com/read/pali/25/237/?keywords=โยนิโส+มนสิกา ไม่มีธรรมอื่นมีอุปการะมากเหมือนอย่างนั้น สำหรับการบรรลุประโยชน์อันสูงสุด. ภิกษุตั้งจิตไว้โดยแยบคาย พึงบรรลุความสิ้นไปแห่งทุกข์. ข. เหตุภายนอก --ภิกษุ ท. ! สำหรับภิกษุเสขะ ผู้มีความปรารถนาแห่งใจอันยังไม่บรรลุ ยังปรารถนาอนุตตรโยคักเขมธรรมอยู่นั้น เราไม่มองเห็นองค์ธรรมอื่นแม้หนึ่ง ซึ่งเมื่อ กระทำให้เป็นองค์ธรรมในภายนอก แล้ว จะมีอุปการะมาก เหมือนอย่าง #กัล๎ยาณมิตตตา http://etipitaka.com/read/pali/25/237/?keywords=กลฺยาณมิตฺ นี้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุผู้มี กัลยาณมิตร ย่อมละอกุศล และทำกุศลให้เจริญ. ภิกษุใด มีกัลยาณมิตรเป็นที่พึ่งเป็นที่เคารพ กระทำตามคำของมิตรอยู่ อย่างรู้สึกตัว อย่างมีสติ, ภิกษุนั้น พึงบรรลุ ความสิ้นไปแห่งสังโยชน์ทั้งปวง โดยลำดับ.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อิติวุ. ขุ. 25/236, 237/194, 195. http://etipitaka.com/read/thai/25/236/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อิติวุ. ขุ. ๒๕/๒๓๖, ๒๓๗/๑๙๔, ๑๙๕. http://etipitaka.com/read/pali/25/236/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%94 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1059 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=92&id=1059 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=92 ลำดับสาธยายธรรม : 92 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_92.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - จงกระทำเหตุทั้งภายในและภายนอก
    -(ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า บุรุษพริกประเภทที่หนึ่งรู้อริยสัจ แต่ไม่อาจตอบปัญหาในอภิธรรมอภิวินัย และไม่รวยด้วยลาภ. ข้อนี้เป็นเครื่องแสดงอยู่แล้วว่า การรู้อริยสัจนั้นมิได้เนื่องอยู่กับการรู้อภิธรรมอภิวินัยและรวยลาภ). จงกระทำเหตุทั้งภายในและภายนอก ก. เหตุภายใน ภิกษุ ท. ! สำหรับภิกษุเสขะผู้มีความปรารถนาแห่งใจอันยังไม่บรรลุ ยังปรารถนาอนุตตรโยคักเขมธรรมอยู่นั้น เราไม่มองเห็นองค์ธรรมอื่นแม้หนึ่ง ซึ่งเมื่อกระทำให้เป็นองค์ธรรมในภายในแล้ว จะมีอุปการะมาก เหมือนอย่าง โยนิโสมนสิการ นี้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุกระทำโยนิโสมนสิการอยู่ ย่อมละอกุศล และทำกุศลให้เจริญ. โยนิโสมนสิการธรรม มีอยู่สำหรับภิกษุผู้เสขะ, ไม่มีธรรมอื่นมีอุปการะมากเหมือนอย่างนั้น สำหรับการบรรลุประโยชน์อันสูงสุด. ภิกษุตั้งจิตไว้โดยแยบคาย พึงบรรลุความสิ้นไปแห่งทุกข์. ข. เหตุภายนอก ภิกษุ ท. ! สำหรับภิกษุเสขะผู้มีความปรารถนาแห่งใจอันยังไม่บรรลุ ยังปรารถนาอนุตตรโยคักเขมธรรมอยู่นั้น เราไม่มองเห็นองค์ธรรมอื่นแม้หนึ่ง ซึ่งเมื่อ กระทำให้เป็นองค์ธรรมในภายนอก แล้ว จะมีอุปการะมาก เหมือน อย่าง กัล๎ยาณมิตตตา นี้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุผู้มีกัลยาณมิตร ย่อมละอกุศล และทำกุศลให้เจริญ. ภิกษุใด มีกัลยาณมิตรเป็นที่พึ่งเป็นที่เคารพ กระทำตามคำของมิตรอยู่ อย่างรู้สึกตัว อย่างมีสติ, ภิกษุนั้น พึงบรรลุ ความสิ้นไปแห่งสังโยชน์ทั้งปวง โดยลำดับ.
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​มัชฌิมาปฏิปทา(ในความหมายชั้นลึก)
    สัทธรรมลำดับที่ : 692
    ชื่อบทธรรม :- มัชฌิมาปฏิปทา(ในความหมายชั้นลึก)ลักษณะหนทางแห่งความหมดจด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=692
    เนื้อความทั้งหมด :-

    ค. มัชฌิมาปฏิปทา (ในความหมายชั้นลึก)
    (หลักเกณฑ์นี้ อาศัยพระบาลีที่ตรัสโต้ตอบแก่บุคคลผู้มาทูลถาม ซึ่งส่วนมากเป็นพรหมณ์
    ได้ถามเรื่องสิ่งตรงข้ามที่แยกกันเป็นคู่ๆ ;
    เช่นว่า สิ่งทั้งปวงมี หรือไม่มี; สิ่งทั้งปวงเหมือนกัน หรือต่างกัน ;
    ตนเองหรือผู้อื่นเป็นผู้กระทำหรือเสวยผล ;
    การกล่าวลงไปว่า สิ่งนั้นๆเป็นอย่างนั้นโดยส่วนเดียว
    หรือว่าเป็นอย่างอื่นจากความเป็นอย่างนั้นโดยส่วนเดียว ;
    ดังนี้เป็นต้น.
    พระองค์ ตรัสตอบโดยสายกลาง (มชฺเฌน) ไม่ยอมรับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง,
    โดยพระบาลีว่า
    “เอเต เต พฺราหฺมณ อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม มชฺเฌน ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ ฯลฯ” :-
    )​
    --พราหมณ์ ! ตถาคต ย่อม แสดงธรรมโดยสายกลาง (มชฺเฌน)
    http://etipitaka.com/read/pali/16/92/?keywords=มชฺเฌน
    ไม่เข้า ไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือตถาคตย่อมแสดงดังนี้ว่า :-
    (การเกิด)​
    ๑-“เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ;
    ๒-เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ;
    ๓-เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป ;
    ๔-เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ ;
    ๕-เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ ;
    ๖-เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ;
    ๗-เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา ;
    ๘-เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ;
    ๙-เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ ;
    ๑๐-เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ ;
    ๑๑-เพราะมีชาติเป็นปัจจัย, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
    (การดับ)
    ๑-เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือ แห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว, จึงมีความดับแห่งสังขาร ;
    ๒-เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ;
    ๓-เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป ;
    ๔-เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ ;
    ๕-เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ ;
    ๖-เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ;
    ๗-เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ;
    ๘-เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ;
    ๙-เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ;
    ๑๐-เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ;
    ๑๑-เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นเอง, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้”
    ดังนี้.-

    (คำว่า มชฺเฌน โดยพระบาลีข้างบนนี้ ก็คือคำว่า มัชฌิมาปฏิปทา นั่นเอง,
    มัชฌิมาปฏิปทาจึงได้แก่กระแสแห่งปฏิจจสมุปบาท ดังที่กล่าวแล้วในสูตรนี้
    ซึ่งทำให้ไม่อาจกล่าวสิ่งใดๆโดยความเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยส่วนเดียว
    ที่เรียกว่าส่วนสุดข้างหนึ่ง ๆ.
    ความเห็นท่านผู้เรียบเรียงท่านพุทธทาส-อยากจะแนะว่า
    ในการศึกษาเรื่องมัชฌิมาปฏิปทานั้น
    ควรจะศึกษามัชฌิมาปฏิปทาชั้นพื้นฐานทั่วไปคืออัฏฐังคิกมรรค เป็นลำดับแรก,
    แล้วศึกษามัชฌิมาปฏิปทาในความหมายชั้นกว้างคือโพธิปักขิยธรรมทั้งหมด เป็นลำดับที่สอง,
    แล้วจึงศึกษามัชฺมาปฏิปทาในความหมายชั้นลึกคือปฏิจจสมุปบาท เป็นลำดับสุดท้าย ;
    มิฉะนั้นจะลำบาก).
    -- นิทาน. สํ. ๑๖/๙๑,๙๒,๙๐,๒๗,๒๔,๗๒-๗๔/๑๗๓,๑๗๖,๑๗๐,๕๕,๕๐,๑๒๙-๑๓๒.
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - 16/91/173.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/74/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ๑๖/๙๑/๑๗๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/91/?keywords=๑๗๓

    --ลักษณะหนทางแห่งความหมดจด
    ทางมีองค์แปด เป็นทางอันประเสริฐกว่าทางทั้งหลาย.
    บทแห่งอริยสัจสี่ ประเสริฐกว่าบททั้งหลาย.
    วิราคธรรม ประเสริฐกว่าธรรมทั้งหลาย.
    ผู้มีพุทธจักษุ ประเสริฐกว่าสัตว์สองเท้าทั้งหลาย.
    นี่แหละทางเพื่อความหมดจด แห่งทัสสนะ ทางอื่นมิได้มี.
    --เธอทั้งหลาย จงเดินตามทางนั้น อันเป็นที่หลงแห่งมาร ;
    เธอทั้งหลาย เดินตามทางนั้นแล้ว จักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.
    --ทางเราบอกแล้วแก่เธอทั้งหลาย
    เพื่อการรู้จักการถอนซึ่งลูกศร ; ความเพียรเป็นกิจอันเธอทั้งหลายพึงกระทำ
    ตถาคตทั้งหลายเป็นเพียงผู้บอก (วิธีแห่งการกระทำ).
    ผู้มุ่งปฏิบัติแล้ว ย่อมพ้นจากเครื่องผูกแห่งมาร.
    --เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า “สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง” ;
    เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์
    : นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด.
    --เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า “สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์” ;
    เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์
    : นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด.
    --เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า “ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นอนัตตา” ;
    เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์
    : นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/35/30.
    http://etipitaka.com/read/thai/25/35/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๕๑/๓๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/51/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=692
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50&id=692
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50
    ลำดับสาธยายธรรม : 50​ ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_50.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​มัชฌิมาปฏิปทา(ในความหมายชั้นลึก) สัทธรรมลำดับที่ : 692 ชื่อบทธรรม :- มัชฌิมาปฏิปทา(ในความหมายชั้นลึก)ลักษณะหนทางแห่งความหมดจด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=692 เนื้อความทั้งหมด :- ค. มัชฌิมาปฏิปทา (ในความหมายชั้นลึก) (หลักเกณฑ์นี้ อาศัยพระบาลีที่ตรัสโต้ตอบแก่บุคคลผู้มาทูลถาม ซึ่งส่วนมากเป็นพรหมณ์ ได้ถามเรื่องสิ่งตรงข้ามที่แยกกันเป็นคู่ๆ ; เช่นว่า สิ่งทั้งปวงมี หรือไม่มี; สิ่งทั้งปวงเหมือนกัน หรือต่างกัน ; ตนเองหรือผู้อื่นเป็นผู้กระทำหรือเสวยผล ; การกล่าวลงไปว่า สิ่งนั้นๆเป็นอย่างนั้นโดยส่วนเดียว หรือว่าเป็นอย่างอื่นจากความเป็นอย่างนั้นโดยส่วนเดียว ; ดังนี้เป็นต้น. พระองค์ ตรัสตอบโดยสายกลาง (มชฺเฌน) ไม่ยอมรับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง, โดยพระบาลีว่า “เอเต เต พฺราหฺมณ อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม มชฺเฌน ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ ฯลฯ” :- )​ --พราหมณ์ ! ตถาคต ย่อม แสดงธรรมโดยสายกลาง (มชฺเฌน) http://etipitaka.com/read/pali/16/92/?keywords=มชฺเฌน ไม่เข้า ไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือตถาคตย่อมแสดงดังนี้ว่า :- (การเกิด)​ ๑-“เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ; ๒-เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ; ๓-เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป ; ๔-เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ ; ๕-เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ ; ๖-เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ; ๗-เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา ; ๘-เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ; ๙-เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ ; ๑๐-เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ ; ๑๑-เพราะมีชาติเป็นปัจจัย, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. (การดับ) ๑-เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือ แห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว, จึงมีความดับแห่งสังขาร ; ๒-เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ; ๓-เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป ; ๔-เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ ; ๕-เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ ; ๖-เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ; ๗-เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ; ๘-เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; ๙-เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; ๑๐-เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; ๑๑-เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นเอง, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้” ดังนี้.- (คำว่า มชฺเฌน โดยพระบาลีข้างบนนี้ ก็คือคำว่า มัชฌิมาปฏิปทา นั่นเอง, มัชฌิมาปฏิปทาจึงได้แก่กระแสแห่งปฏิจจสมุปบาท ดังที่กล่าวแล้วในสูตรนี้ ซึ่งทำให้ไม่อาจกล่าวสิ่งใดๆโดยความเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยส่วนเดียว ที่เรียกว่าส่วนสุดข้างหนึ่ง ๆ. ความเห็นท่านผู้เรียบเรียงท่านพุทธทาส-อยากจะแนะว่า ในการศึกษาเรื่องมัชฌิมาปฏิปทานั้น ควรจะศึกษามัชฌิมาปฏิปทาชั้นพื้นฐานทั่วไปคืออัฏฐังคิกมรรค เป็นลำดับแรก, แล้วศึกษามัชฌิมาปฏิปทาในความหมายชั้นกว้างคือโพธิปักขิยธรรมทั้งหมด เป็นลำดับที่สอง, แล้วจึงศึกษามัชฺมาปฏิปทาในความหมายชั้นลึกคือปฏิจจสมุปบาท เป็นลำดับสุดท้าย ; มิฉะนั้นจะลำบาก). -- นิทาน. สํ. ๑๖/๙๑,๙๒,๙๐,๒๗,๒๔,๗๒-๗๔/๑๗๓,๑๗๖,๑๗๐,๕๕,๕๐,๑๒๙-๑๓๒. อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - 16/91/173. http://etipitaka.com/read/thai/16/74/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ๑๖/๙๑/๑๗๓. http://etipitaka.com/read/pali/16/91/?keywords=๑๗๓ --ลักษณะหนทางแห่งความหมดจด ทางมีองค์แปด เป็นทางอันประเสริฐกว่าทางทั้งหลาย. บทแห่งอริยสัจสี่ ประเสริฐกว่าบททั้งหลาย. วิราคธรรม ประเสริฐกว่าธรรมทั้งหลาย. ผู้มีพุทธจักษุ ประเสริฐกว่าสัตว์สองเท้าทั้งหลาย. นี่แหละทางเพื่อความหมดจด แห่งทัสสนะ ทางอื่นมิได้มี. --เธอทั้งหลาย จงเดินตามทางนั้น อันเป็นที่หลงแห่งมาร ; เธอทั้งหลาย เดินตามทางนั้นแล้ว จักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้. --ทางเราบอกแล้วแก่เธอทั้งหลาย เพื่อการรู้จักการถอนซึ่งลูกศร ; ความเพียรเป็นกิจอันเธอทั้งหลายพึงกระทำ ตถาคตทั้งหลายเป็นเพียงผู้บอก (วิธีแห่งการกระทำ). ผู้มุ่งปฏิบัติแล้ว ย่อมพ้นจากเครื่องผูกแห่งมาร. --เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า “สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง” ; เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ : นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด. --เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า “สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์” ; เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ : นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด. --เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า “ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นอนัตตา” ; เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ : นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/35/30. http://etipitaka.com/read/thai/25/35/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๕๑/๓๐. http://etipitaka.com/read/pali/25/51/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=692 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50&id=692 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50 ลำดับสาธยายธรรม : 50​ ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_50.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ลักษณะหนทางแห่งความหมดจด
    -(มัชฌิมาปฏิปทาตามที่ทรงแสดงไว้ในสูตรนี้ เห็นได้ว่า ทรงแสดงส่วนสุดสองข้างไว้ด้วยอาฬ๎หปฏิปทา คือความตกไปในกาม และนิชฌามปฏิปทา คือ วัตรปฏิบัติของ อเจลกะซึ่งเรียกกันโดยทั่วๆ ไปว่า อัตตกิลมถานุโยค หรือตปัสสีวัตร ซึ่งมีรายละเอียดหาดูได้ในหนังสือ พุ. โอ. ที่หน้า ๕๖-๕๗. ในที่นี้จะเห็นได้ว่า โพธิปักขิยธรรมทั้งสามสิบเจ็ดข้อ นั่นแหละคือมัชฌิมาปฏิปทา ; หรือถึงกับจะกล่าวได้ว่า ข้อปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งหมดในพระพุทธศาสนา ซึ่งรวมกันแล้วเรียกได้ว่า ศีล สมาธิ ปัญญา หรือพรหมจรรย์ทั้งสิ้น, นั่นแหละคือ มัชฌิมาปฏิปทา). ค. มัชฌิมาปฏิปทา (ในความหมายชั้นลึก) (หลักเกณฑ์นี้ อาศัยพระบาลีที่ตรัสโต้ตอบแก่บุคคลผู้มาทูลถาม ซึ่งส่วนมากเป็นพรหมณ์ ได้ถามเรื่องสิ่งตรงข้ามที่แยกกันเป็นคู่ๆ ; เช่นว่า สิ่งทั้งปวงมี หรือไม่มี; สิ่งทั้งปวงเหมือนกัน หรือต่างกัน ; ตนเองหรือผู้อื่นเป็นผู้กระทำหรือเสวยผล ; การกล่าวลงไปว่า สิ่งนั้นๆเป็นอย่างนั้นโดยส่วนเดียว หรือว่าเป็นอย่างอื่นจากความเป็นอย่างนั้นโดยส่วนเดียว ; ดังนี้เป็นต้น. พระองค์ ตรัสตอบโดยสายกลาง (มชฺเฌน) ไม่ยอมรับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง, โดยพระบาลีว่า “เอเต เต พฺราหฺมณ อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม มชฺเฌน ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ ฯลฯ” :-) พราหมณ์ ! ตถาคต ย่อม แสดงธรรมโดยสายกลาง (มชฺเฌน) ไม่เข้า ไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือตถาคตย่อมแสดงดังนี้ว่า : “เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ; เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ; เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป ; เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ ; เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ ; เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ; เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา ; เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ; เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ ; เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ ; เพราะมีชาติเป็นปัจจัย, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือ แห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว, จึงมีความดับแห่งสังขาร ; เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ; เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป ; เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ ; เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ ; เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ; เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ; เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นเอง, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้” ดังนี้. นิทาน. สํ. ๑๖/๙๑,๙๒,๙๐,๒๗,๒๔,๗๒-๗๔/๑๗๓,๑๗๖,๑๗๐,๕๕,๕๐,๑๒๙-๑๓๒. (คำว่า มชฺเฌน โดยพระบาลีข้างบนนี้ ก็คือคำว่า มัชฌิมาปฏิปทา นั่นเอง, มัชฌิมาปฏิปทาจึงได้แก่กระแสแห่งปฏิจจสมุปบาท ดังที่กล่าวแล้วในสูตรนี้ ซึ่งทำให้ไม่อาจกล่าวสิ่งใดๆโดยความเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยส่วนเดียว ที่เรียกว่าส่วนสุดข้างหนึ่ง ๆ. รายละเอียดเกี่ยวกับสุดโต่งเป็นคู่ๆนี้ หาดูได้จากหนังสือ พุ. โอ. ตั้งแต่หน้า ๒๔๗ ถึงหน้า ๒๕๒. อยากจะแนะว่า ในการศึกษาเรื่องมัชฌิมาปฏิปทานั้น ควรจะศึกษามัชฌิมาปฏิปทาชั้นพื้นฐานทั่วไปคืออัฏฐังคิกมรรค เป็นลำดับแรก, แล้วศึกษามัชฌิมาปฏิปทาในความหมายชั้นกว้างคือโพธิปักขิยธรรมทั้งหมด เป็นลำดับที่สอง, แล้วจึงศึกษามัชฺมาปฏิปทาในความหมายชั้นลึกคือปฏิจจสมุปบาท เป็นลำดับสุดท้าย ; มิฉะนั้นจะลำบาก). ลักษณะหนทางแห่งความหมดจด ทางมีองค์แปด เป็นทางอันประเสริฐกว่าทางทั้งหลาย. บทแห่งอริยสัจสี่ ประเสริฐกว่าบททั้งหลาย. วิราคธรรม ประเสริฐกว่าธรรมทั้งหลาย. ผู้มีพุทธจักษุ ประเสริฐกว่าสัตว์สองเท้าทั้งหลาย. นี่แหละทางเพื่อความหมดจด แห่งทัสสนะ ทางอื่นมิได้มี. เธอทั้งหลาย จงเดินตามทางนั้น อันเป็นที่หลงแห่งมาร ; เธอทั้งหลาย เดินตามทางนั้นแล้ว จักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้. ทางเราบอกแล้วแก่เธอทั้งหลาย เพื่อการรู้จักการถอนซึ่งลูกศร ; ความเพียรเป็นกิจอันเธอทั้งหลายพึงกระทำ ตถาคตทั้งหลายเป็นเพียงผู้บอก (วิธีแห่งการกระทำ). ผู้มุ่งปฏิบัติแล้ว ย่อมพ้นจากเครื่องผูกแห่งมาร. เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า “สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง” ; เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ : นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด. เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า “สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์” ; เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ : นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด. เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า “ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นอนัตตา” ; เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ : นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด.
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าในทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับอกุศลมูล(โลภะ โทสะ​และโมหะ)​
    สัทธรรมลำดับที่ : 323
    ชื่อบทธรรม :- ทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับอกุศลมูล
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=323
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับอกุศลมูล
    --ภิกษุ ท. ! อกุศลมูล ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่างเหล่าไหนเล่า? สามอย่างคือ
    โลภะ เป็น อกุศลมูล
    โทสะ เป็น อกุศลมูล
    โมหะ เป็น อกุศลมูล.
    --ภิกษุ ท. ! แม้ โลภะ นั้น ก็เป็น อกุศล. คนโลภแล้ว
    ประกอบกรรมใดทางกาย ทางวาจา ทางใจ แม้ กรรมนั้น ก็เป็น อกุศล.
    คนโลภถูกความโลภครอบงำแล้ว มีจิตอันความโลภกลุ้มรุมแล้ว
    ทำความทุกข์ให้แก่ผู้อื่น โดยที่ไม่ควรจะมี ด้วยการฆ่าบ้าง ด้วยการจองจำบ้าง
    ด้วยการให้เสื่อมเสียบ้าง ด้วยการติเตียนบ้าง ด้วยการขับไล่บ้าง
    โดยการถือว่า เรามีกำลังเหนือกว่า ดังนี้
    แม้กรรมนี้ก็เป็น อกุศล
    : อกุศลธรรมอันลามกเป็นอเนก ที่เกิดจากความโลภ
    มีความโลภเป็นเหตุ มีความโลภเป็นสมุทัย(เหตุ)​ มีความโลภเป็นปัจจัย เหล่านี้
    ย่อมเกิดขึ้นแก่เขา ด้วยอาการอย่างนี้.

    (ในกรณีแห่ง โทสะ และ โมหะ ก็ได้ตรัสไว้ด้วยข้อความทำนองเดียวกัน
    อย่างที่กล่าวได้ว่า ทุกตัวอักษร ผิดกันแต่ชื่อเท่านั้น).

    --ภิกษุ ท. ! บุคคลชนิดนี้นั้น ควรถูกเรียกว่า เป็น
    อกาลวาที บ้าง อภูตวาที บ้าง อนัตถวาที บ้าง อธัมมวาที บ้าง อวินยวาที บ้าง.
    เพราะเหตุไร จึงควรถูกเรียกอย่างนั้น ? เพราะเหตุว่าบุคคลนี้ทำความทุกข์ให้แก่ผู้อื่น โดยที่ไม่ควรจะมี ด้วยการฆ่าบ้าง ด้วยการจองจำบ้าง ด้วยการให้เสื่อมเสียบ้าง
    ด้วยการติเตียนบ้าง ด้วยการขับไล่บ้าง โดยการถือว่า เรามีกำลังเหนือกว่า ดังนี้ ;
    และเมื่อ เขาถูกกล่าวหาอยู่ด้วยเรื่องที่เป็นจริง ก็บิดพลิ้วไม่ยอมรับ ;
    เมื่อถูกกล่าวหาอยู่ด้วยเรื่องที่ไม่เป็นจริง ก็ไม่พยายามที่จะทำให้แจ้งชัด
    ออกไปว่านั่นไม่ตรง นั่นไม่จริง อย่างนี้ ๆ.
    เพราะฉะนั้นบุคคลชนิดนี้ จึงควรถูกเรียกว่า เป็น
    อกาลวาทีบ้าง อภูติวาทีบ้าง อนัตถวาทีบ้าง อธัมมวาทีบ้าง อวินยวาทีบ้าง.
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลชนิดนี้ ถูกอกุศลธรรมอันลามกซึ่งเกิดมาจากความโลภครอบงำแล้ว
    มีจิตอันอกุศลธรรมอันลามกที่เกิดจากโลภะกลุ้มรุมแล้วย่อม อยู่เป็นทุกข์
    มีความลำบาก มีความคับแค้น มีความเร่าร้อน ในทิฏฐธรรม นั่นเทียว,
    ภายหลังแต่การตาย เพราะการทำลายแห่งกาย ย่อมหวังได้แต่ทุคติ.
    (ในกรณีแห่ง ความโกรธ และ ความหลง ก็ตรัสไว้โดยข้อความทำนองเดียวกัน
    อย่างที่กล่าวได้ว่าทุกตัวอักษร ผิดกันแต่ชื่อเท่านั้น).
    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ ๆ เช่นต้นสาละ ตันธวะ หรือต้นผันทนะก็ดี
    ถูกเครือเถามาลุวาสามชนิดขึ้นคลุมแล้ว รัดรึงแล้ว ย่อมถึงความพินาศฉิบหาย,
    ฉันใดก็ฉันนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล อกุศลมูล ๓ อย่าง.

    (พระองค์ยังได้ตรัสข้อความเป็นปฏิปักขนัยฝ่ายตรงกันข้ามอีก
    ซึ่งผู้ศึกษาหาดูได้จากหัวข้อว่า “#ปรินิพพานในทิฏฐธรรมด้วยการตัดอกุศลมูล”)​

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. 20/192/509.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/192/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. ๒๐/๒๕๘/๕๐๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/258/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=323
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22&id=323
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22
    ลำดับสาธยายธรรม : 22 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_22.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าในทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับอกุศลมูล(โลภะ โทสะ​และโมหะ)​ สัทธรรมลำดับที่ : 323 ชื่อบทธรรม :- ทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับอกุศลมูล https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=323 เนื้อความทั้งหมด :- --ทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับอกุศลมูล --ภิกษุ ท. ! อกุศลมูล ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่างเหล่าไหนเล่า? สามอย่างคือ โลภะ เป็น อกุศลมูล โทสะ เป็น อกุศลมูล โมหะ เป็น อกุศลมูล. --ภิกษุ ท. ! แม้ โลภะ นั้น ก็เป็น อกุศล. คนโลภแล้ว ประกอบกรรมใดทางกาย ทางวาจา ทางใจ แม้ กรรมนั้น ก็เป็น อกุศล. คนโลภถูกความโลภครอบงำแล้ว มีจิตอันความโลภกลุ้มรุมแล้ว ทำความทุกข์ให้แก่ผู้อื่น โดยที่ไม่ควรจะมี ด้วยการฆ่าบ้าง ด้วยการจองจำบ้าง ด้วยการให้เสื่อมเสียบ้าง ด้วยการติเตียนบ้าง ด้วยการขับไล่บ้าง โดยการถือว่า เรามีกำลังเหนือกว่า ดังนี้ แม้กรรมนี้ก็เป็น อกุศล : อกุศลธรรมอันลามกเป็นอเนก ที่เกิดจากความโลภ มีความโลภเป็นเหตุ มีความโลภเป็นสมุทัย(เหตุ)​ มีความโลภเป็นปัจจัย เหล่านี้ ย่อมเกิดขึ้นแก่เขา ด้วยอาการอย่างนี้. (ในกรณีแห่ง โทสะ และ โมหะ ก็ได้ตรัสไว้ด้วยข้อความทำนองเดียวกัน อย่างที่กล่าวได้ว่า ทุกตัวอักษร ผิดกันแต่ชื่อเท่านั้น). --ภิกษุ ท. ! บุคคลชนิดนี้นั้น ควรถูกเรียกว่า เป็น อกาลวาที บ้าง อภูตวาที บ้าง อนัตถวาที บ้าง อธัมมวาที บ้าง อวินยวาที บ้าง. เพราะเหตุไร จึงควรถูกเรียกอย่างนั้น ? เพราะเหตุว่าบุคคลนี้ทำความทุกข์ให้แก่ผู้อื่น โดยที่ไม่ควรจะมี ด้วยการฆ่าบ้าง ด้วยการจองจำบ้าง ด้วยการให้เสื่อมเสียบ้าง ด้วยการติเตียนบ้าง ด้วยการขับไล่บ้าง โดยการถือว่า เรามีกำลังเหนือกว่า ดังนี้ ; และเมื่อ เขาถูกกล่าวหาอยู่ด้วยเรื่องที่เป็นจริง ก็บิดพลิ้วไม่ยอมรับ ; เมื่อถูกกล่าวหาอยู่ด้วยเรื่องที่ไม่เป็นจริง ก็ไม่พยายามที่จะทำให้แจ้งชัด ออกไปว่านั่นไม่ตรง นั่นไม่จริง อย่างนี้ ๆ. เพราะฉะนั้นบุคคลชนิดนี้ จึงควรถูกเรียกว่า เป็น อกาลวาทีบ้าง อภูติวาทีบ้าง อนัตถวาทีบ้าง อธัมมวาทีบ้าง อวินยวาทีบ้าง. --ภิกษุ ท. ! บุคคลชนิดนี้ ถูกอกุศลธรรมอันลามกซึ่งเกิดมาจากความโลภครอบงำแล้ว มีจิตอันอกุศลธรรมอันลามกที่เกิดจากโลภะกลุ้มรุมแล้วย่อม อยู่เป็นทุกข์ มีความลำบาก มีความคับแค้น มีความเร่าร้อน ในทิฏฐธรรม นั่นเทียว, ภายหลังแต่การตาย เพราะการทำลายแห่งกาย ย่อมหวังได้แต่ทุคติ. (ในกรณีแห่ง ความโกรธ และ ความหลง ก็ตรัสไว้โดยข้อความทำนองเดียวกัน อย่างที่กล่าวได้ว่าทุกตัวอักษร ผิดกันแต่ชื่อเท่านั้น). --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ ๆ เช่นต้นสาละ ตันธวะ หรือต้นผันทนะก็ดี ถูกเครือเถามาลุวาสามชนิดขึ้นคลุมแล้ว รัดรึงแล้ว ย่อมถึงความพินาศฉิบหาย, ฉันใดก็ฉันนั้น. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล อกุศลมูล ๓ อย่าง. (พระองค์ยังได้ตรัสข้อความเป็นปฏิปักขนัยฝ่ายตรงกันข้ามอีก ซึ่งผู้ศึกษาหาดูได้จากหัวข้อว่า “#ปรินิพพานในทิฏฐธรรมด้วยการตัดอกุศลมูล”)​ #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. 20/192/509. http://etipitaka.com/read/thai/20/192/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. ๒๐/๒๕๘/๕๐๙. http://etipitaka.com/read/pali/20/258/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=323 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22&id=323 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22 ลำดับสาธยายธรรม : 22 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_22.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับอกุศลมูล
    -ทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับอกุศลมูล ภิกษุ ท. ! อกุศลมูล ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่างเหล่าไหนเล่า? สามอย่างคือ โลภะ เป็น อกุศลมูล โทสะ เป็น อกุศลมูล โมหะ เป็น อกุศลมูล. ภิกษุ ท. ! แม้ โลภะ นั้น ก็เป็น อกุศล. คนโลภแล้ว ประกอบกรรมใดทางกาย ทางวาจา ทางใจ แม้ กรรมนั้น ก็เป็น อกุศล. คนโลภถูกความโลภครอบงำแล้ว มีจิตอันความโลภกลุ้มรุมแล้ว ทำความทุกข์ให้แก่ผู้อื่น โดยที่ไม่ควรจะมี ด้วยการฆ่าบ้าง ด้วยการจองจำบ้าง ด้วยการให้เสื่อมเสียบ้าง ด้วยการติเตียนบ้าง ด้วยการขับไล่บ้าง โดยการถือว่า เรามีกำลังเหนือกว่า ดังนี้ แม้กรรมนี้ก็เป็น อกุศล : อกุศลธรรมอันลามกเป็นอเนก ที่เกิดจากความโลภ มีความโลภเป็นเหตุ มีความโลภเป็นสมุทัย มีความโลภเป็นปัจจัย เหล่านี้ ย่อมเกิดขึ้นแก่เขา ด้วยอาการอย่างนี้. (ในกรณีแห่ง โทสะ และ โมหะ ก็ได้ตรัสไว้ด้วยข้อความทำนองเดียวกันอย่างที่กล่าวได้ว่า ทุกตัวอักษร ผิดกันแต่ชื่อเท่านั้น). ภิกษุ ท. ! บุคคลชนิดนี้นั้น ควรถูกเรียกว่าเป็นอกาลวาที บ้าง อภูตวาที บ้าง อนัตถวาที บ้าง อธัมมวาที บ้าง อวินยวาที บ้าง. เพราะเหตุไร จึงควรถูกเรียกอย่างนั้น ? เพราะเหตุว่าบุคคลนี้ทำความทุกข์ให้แก่ผู้อื่น โดยที่ไม่ควรจะมี ด้วยการฆ่าบ้าง ด้วยการจองจำบ้าง ด้วยการให้เสื่อมเสียบ้าง ด้วยการติเตียนบ้าง ด้วยการขับไล่บ้าง โดยการถือว่า เรามีกำลังเหนือกว่า ดังนี้ ; และเมื่อ เขาถูกกล่าวหาอยู่ด้วยเรื่องที่เป็นจริง ก็บิดพลิ้วไม่ยอมรับ ; เมื่อถูกกล่าวหาอยู่ด้วยเรื่องที่ไม่เป็นจริง ก็ไม่พยายามที่จะทำให้แจ้งชัด ออกไปว่า นั่นไม่ตรง นั่นไม่จริง อย่างนี้ ๆ. เพราะฉะนั้นบุคคลชนิดนี้ จึงควรถูกเรียกว่า เป็นอกาลวาทีบ้าง อภูติวาทีบ้าง อนัตถวาทีบ้าง อธัมมวาทีบ้าง อวินยวาทีบ้าง. ภิกษุ ท. ! บุคคลชนิดนี้ ถูกอกุศลธรรมอันลามกซึ่งเกิดมาจากความโลภครอบงำแล้ว มีจิตอันอกุศลธรรมอันลามกที่เกิดจากโลภะกลุ้มรุมแล้วย่อม อยู่เป็นทุกข์ มีความลำบาก มีความคับแค้น มีความเร่าร้อน ในทิฏฐธรรม นั่นเทียว, ภายหลังแต่การตาย เพราะการทำลายแห่งกาย ย่อมหวังได้แต่ทุคติ. (ในกรณีแห่ง ความโกรธ และ ความหลง ก็ตรัสไว้โดยข้อความทำนองเดียวกัน อย่างที่กล่าวได้ว่าทุกตัวอักษร ผิดกันแต่ชื่อเท่านั้น). ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ ๆ เช่นต้นสาละ ตันธวะ หรือต้นผันทนะก็ดี ถูกเครือเถามาลุวาสามชนิดขึ้นคลุมแล้ว รัดรึงแล้ว ย่อมถึงความพินาศฉิบหาย, ฉันใดก็ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล อกุศลมูล ๓ อย่าง. (พระองค์ยังได้ตรัสข้อความเป็นปฏิปักขนัยฝ่ายตรงกันข้ามอีก ซึ่งผู้ศึกษาหาดูได้จากหัวข้อว่า “ปรินิพพานในทิฏฐธรรมด้วยการตัดอกุศลมูล” ในภาค ๓ แห่งหนังสือเล่มนี้).
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/MFKo2RdQLlk?si=R1OysEWkZWtJ44Kl
    https://youtu.be/MFKo2RdQLlk?si=R1OysEWkZWtJ44Kl
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/J1C83cltWiQ?si=qYJOLbhVtoaAzn5M
    https://youtu.be/J1C83cltWiQ?si=qYJOLbhVtoaAzn5M
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/narCG1Ci5q8?si=CAiqChgAeXE7v4QX
    https://youtu.be/narCG1Ci5q8?si=CAiqChgAeXE7v4QX
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/yU1YVpsTFoQ?si=3CBep9P-HRHNsRW4
    https://youtu.be/yU1YVpsTFoQ?si=3CBep9P-HRHNsRW4
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/C_kz_1hMNHM?si=TVnm3yFTF_sAzR5P
    https://youtu.be/C_kz_1hMNHM?si=TVnm3yFTF_sAzR5P
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • หนึ่งในใบหน้าที่คนเห็นมากที่สุดในประวัติศาสตร์

    เจนนี โจเซฟ (Jenny Joseph) ศิลปินกราฟิกวัย 28 ปีของ The Times-Picayune (หนังสือพิมพ์อเมริกันที่ตีพิมพ์ในนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา) ในช่วงเวลาที่ Columbia Pictures ต้องการนางแบบโลโก้ใหม่ในปี 1992 (พ.ศ.2535) แม้เธอไม่เคยเป็นนางแบบมาก่อน แต่ตกลงช่วยในช่วงพักกลางวัน

    ทีมงานคลุมผ้าให้เธอ และให้ถือโคมไฟตั้งโต๊ะธรรมดา แล้วโพสท่าถ่ายรูป จากนั้นศิลปินก็ใช้ภาพอ้างอิงเหล่านั้นมาวาดเป็นโลโก้ นับเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เธอได้เป็นนางแบบ

    ตอนนี้ผู้คนหลายพันล้านคนได้เห็นใบหน้าของเธอก่อนชมภาพยนตร์ทุกเรื่องของโคลัมเบียพิคเจอร์ส เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในช่วงพักกลางวันที่แสนธรรมดา

    ภาพ : Project Nightfall
    ข้อมูล : Columbia Pictures
    ถอดความ : เรื่อย เปื่อย เดย์
    #ภาพประวัติศาสตร์ #ColumbiaPictures
    หนึ่งในใบหน้าที่คนเห็นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เจนนี โจเซฟ (Jenny Joseph) ศิลปินกราฟิกวัย 28 ปีของ The Times-Picayune (หนังสือพิมพ์อเมริกันที่ตีพิมพ์ในนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา) ในช่วงเวลาที่ Columbia Pictures ต้องการนางแบบโลโก้ใหม่ในปี 1992 (พ.ศ.2535) แม้เธอไม่เคยเป็นนางแบบมาก่อน แต่ตกลงช่วยในช่วงพักกลางวัน ทีมงานคลุมผ้าให้เธอ และให้ถือโคมไฟตั้งโต๊ะธรรมดา แล้วโพสท่าถ่ายรูป จากนั้นศิลปินก็ใช้ภาพอ้างอิงเหล่านั้นมาวาดเป็นโลโก้ นับเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เธอได้เป็นนางแบบ ตอนนี้ผู้คนหลายพันล้านคนได้เห็นใบหน้าของเธอก่อนชมภาพยนตร์ทุกเรื่องของโคลัมเบียพิคเจอร์ส เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในช่วงพักกลางวันที่แสนธรรมดา 📸ภาพ : Project Nightfall 🙏ข้อมูล : Columbia Pictures 🖋️ถอดความ : เรื่อย เปื่อย เดย์ #ภาพประวัติศาสตร์ #ColumbiaPictures
    0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews
  • โจห์ โลว์ นักธุรกิจผู้อื้อฉาว ซุกเชี่ยงไฮ้-ใช้ชื่อปลอม

    โจห์ โลว์ (Jho Low) หรือ โลว์ เต็ก โจห์ (Low Taek Jho) นักธุรกิจชาวปีนัง ประเทศมาเลเซียวัย 43 ปี ในฐานะผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบี (1MDB) กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวของมาเลเซีย 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ตำรวจสากล (Interpol) ต้องการตัวมาตั้งแต่ปี 2561 ล่าสุดสองนักข่าวสายสืบสวนอย่าง แบรดลีย์ โฮป (Bradley Hope) และ ทอม ไรต์ (Tom Wright) เปิดเผยผ่านพอดแคสต์ Finding Jho Low เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ว่ายังคงใช้ชีวิตอย่างหรูหราในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และใช้หนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย

    ทั้งสองอ้างว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค แนะนำให้โลว์หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แม้จะเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในย่านกรีนฮิลล์ (Green Hills) ซึ่งเป็นย่านเศรษฐี มีบ้านสไตล์อเมริกันและเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ รวมทั้งขับรถยนต์หรู และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวจีน 2 คนคอยดูแล นอกจากนี้ ยังเปิดเผยเอกสารที่ได้รับมาใหม่ เป็นหนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ใช้ชื่อภาษากรีกว่า คอนสเตนติโนส อคิลลีส (Constantinos Achilles) อีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของสำนักข่าวเบอร์นามา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ไม่ทราบอย่างเป็นทางการว่า โจห์ โลว์ หนีไปประเทศจีน ต้องตรวจสอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน ส่วนสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (DFAT) และตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียเพื่อสอบถามเพิ่มเติม กลับไม่ยืนยันว่าทราบเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาออสเตรเลียเคยขับไล่ทูตอิสราเอลออกไปเมื่อปี 2553 เพราะหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล (Mossad) ใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลียปลอมลอบ สังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

    สำหรับโจห์ โลว์ ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจเพลย์บอยคนหนึ่งในมาเลเซีย ยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบีไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหราในสหรัฐฯ รวมถึงงานศิลปะ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และเรือยอทช์สุดหรูที่ชื่อว่า อีควลนิมิตี (Equanimity) ซึ่งถูกทางการอินโดนีเซียกักบริเวณนอกชายฝั่งเกาะบาหลี ก่อนขายทอดตลาดและนำเงินคืนรัฐบาลมาเลเซีย รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street (คนจะรวย ช่วยไม่ได้) ในปี 2556 นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ซึ่งต่อมากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อ้างว่าได้รับเงินทุนจากเงินมาเลเซียที่ยักยอกมา ปัจจุบันยังคงถูกทางการมาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐฯ ออกหมายจับ

    #Newskit
    โจห์ โลว์ นักธุรกิจผู้อื้อฉาว ซุกเชี่ยงไฮ้-ใช้ชื่อปลอม โจห์ โลว์ (Jho Low) หรือ โลว์ เต็ก โจห์ (Low Taek Jho) นักธุรกิจชาวปีนัง ประเทศมาเลเซียวัย 43 ปี ในฐานะผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบี (1MDB) กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวของมาเลเซีย 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ตำรวจสากล (Interpol) ต้องการตัวมาตั้งแต่ปี 2561 ล่าสุดสองนักข่าวสายสืบสวนอย่าง แบรดลีย์ โฮป (Bradley Hope) และ ทอม ไรต์ (Tom Wright) เปิดเผยผ่านพอดแคสต์ Finding Jho Low เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ว่ายังคงใช้ชีวิตอย่างหรูหราในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และใช้หนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ทั้งสองอ้างว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค แนะนำให้โลว์หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แม้จะเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในย่านกรีนฮิลล์ (Green Hills) ซึ่งเป็นย่านเศรษฐี มีบ้านสไตล์อเมริกันและเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ รวมทั้งขับรถยนต์หรู และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวจีน 2 คนคอยดูแล นอกจากนี้ ยังเปิดเผยเอกสารที่ได้รับมาใหม่ เป็นหนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ใช้ชื่อภาษากรีกว่า คอนสเตนติโนส อคิลลีส (Constantinos Achilles) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของสำนักข่าวเบอร์นามา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ไม่ทราบอย่างเป็นทางการว่า โจห์ โลว์ หนีไปประเทศจีน ต้องตรวจสอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน ส่วนสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (DFAT) และตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียเพื่อสอบถามเพิ่มเติม กลับไม่ยืนยันว่าทราบเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาออสเตรเลียเคยขับไล่ทูตอิสราเอลออกไปเมื่อปี 2553 เพราะหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล (Mossad) ใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลียปลอมลอบ สังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำหรับโจห์ โลว์ ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจเพลย์บอยคนหนึ่งในมาเลเซีย ยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบีไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหราในสหรัฐฯ รวมถึงงานศิลปะ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และเรือยอทช์สุดหรูที่ชื่อว่า อีควลนิมิตี (Equanimity) ซึ่งถูกทางการอินโดนีเซียกักบริเวณนอกชายฝั่งเกาะบาหลี ก่อนขายทอดตลาดและนำเงินคืนรัฐบาลมาเลเซีย รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street (คนจะรวย ช่วยไม่ได้) ในปี 2556 นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ซึ่งต่อมากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อ้างว่าได้รับเงินทุนจากเงินมาเลเซียที่ยักยอกมา ปัจจุบันยังคงถูกทางการมาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐฯ ออกหมายจับ #Newskit
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • 2/
    เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น

    วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้

    วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    2/ เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้ วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 0 Reviews
  • 1/
    เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น

    วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้

    วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    1/ เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้ วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 0 Reviews
  • สตง.มาแปลกบี้ EXIM BANK สอบจ่ายเงินแม่บ้าน-คนขับรถ

    องค์กรที่ถูกสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความโปร่งใส หลังโครงการอาคารสำนักงานถล่ม คนงานเสียชีวิตเกือบ 100 ศพ เฉกเช่นสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบคดีตึก สตง.ถล่มไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเกิดเรื่องวุ่นวายกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ (EXIM BANK) เมื่อ สตง. สั่งให้เอ็กซิมแบงก์แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด แก่พนักงาน 22 คน (ไม่รวมกรรมการผู้จัดการใหญ่) กรณีจ่ายเงินช่วยเหลือรายเดือนให้กับบุคคลที่มิใช่พนักงานของเอ็กซิมแบงก์ ประกอบด้วย ผู้จัดการสาขาสำนักงานใหญ่ สาขาทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวม 9 แห่ง และพนักงานธุรการที่เกี่ยวข้อง

    สืบเนื่องมาจากในอดีต ธนาคารฯ มีการจ้างพนักงานภายนอก หรือเอาต์ซอร์ส (Outsource) บางกลุ่ม เช่น พนักงานทำความสะอาด พนักงานเดินเอกสารภายในสำนักงาน พนักงานรับ-ส่งเอกสาร และพนักงานขับรถ ผ่านทางบริษัทภายนอก แต่ทางธนาคารฯ ในยุคนั้นมีความเห็นใจว่า พนักงานกลุ่มนี้ได้เงินค่าตอบแทนน้อย หากจะจ่ายผ่านบริษัทฯ จะไม่ถึงมือพนักงาน ทำให้ในสมัยที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเอ็กซิมแบงก์ ได้มีการอนุมัติให้จ่ายเงินช่วยเหลือแก่พนักงานกลุ่มนี้โดยตรงมาตั้งแต่ปี 2537 เดือนละประมาณ 800 ถึง 1,500 บาท โดยทางธนาคารฯ จะออกคำสั่งให้ผู้จัดการธนาคารแต่ละสาขาดำเนินการจ่ายเงินก้อนนี้มาทุกปี และมีการทำเช่นนี้เป็นธรรมเนียมเรื่อยมา

    ผ่านมาเกือบ 30 ปี เมื่อปี 2567 สตง. ตรวจสอบบัญชีเอ็กซิมแบงก์ ก่อนระบุว่าการจ่ายเงินบุคคลที่มิใช่พนักงานของเอ็กซิมแบงก์ ในปีงบประมาณ 2565 ไม่เป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลัง และสั่งการให้ธนาคารฯ เอาผิดทางวินัยกลุ่มพนักงาน 22 คน ทั้งที่ทั้งหมดทำตามบันทึกภายในที่อนุมัติโดยกรรมการผู้จัดการในอดีต และทำกันมานาน แม้ว่าเอ็กซิมแบงก์จะทำหนังสือชี้แจง แต่เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. สตง. สั่งการให้ธนาคารฯ ต้องเอาผิดพนักงานกลุ่มดังกล่าวทั้งหมด ภายใน 30 วัน อ้างว่าทำให้รัฐเสียหาย 2.87 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นจะเสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ลงโทษทางปกครอง ทำให้ธนาคารฯ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และให้พนักงานกลุ่มดังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นเวลากระชั้นชิด ขณะนี้พนักงานทั้งหมดได้ทำหนังสือขอขยายเวลาชี้แจง รวมถึงขอความเป็นธรรมแล้ว

    #Newskit
    สตง.มาแปลกบี้ EXIM BANK สอบจ่ายเงินแม่บ้าน-คนขับรถ องค์กรที่ถูกสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความโปร่งใส หลังโครงการอาคารสำนักงานถล่ม คนงานเสียชีวิตเกือบ 100 ศพ เฉกเช่นสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบคดีตึก สตง.ถล่มไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเกิดเรื่องวุ่นวายกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ (EXIM BANK) เมื่อ สตง. สั่งให้เอ็กซิมแบงก์แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด แก่พนักงาน 22 คน (ไม่รวมกรรมการผู้จัดการใหญ่) กรณีจ่ายเงินช่วยเหลือรายเดือนให้กับบุคคลที่มิใช่พนักงานของเอ็กซิมแบงก์ ประกอบด้วย ผู้จัดการสาขาสำนักงานใหญ่ สาขาทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวม 9 แห่ง และพนักงานธุรการที่เกี่ยวข้อง สืบเนื่องมาจากในอดีต ธนาคารฯ มีการจ้างพนักงานภายนอก หรือเอาต์ซอร์ส (Outsource) บางกลุ่ม เช่น พนักงานทำความสะอาด พนักงานเดินเอกสารภายในสำนักงาน พนักงานรับ-ส่งเอกสาร และพนักงานขับรถ ผ่านทางบริษัทภายนอก แต่ทางธนาคารฯ ในยุคนั้นมีความเห็นใจว่า พนักงานกลุ่มนี้ได้เงินค่าตอบแทนน้อย หากจะจ่ายผ่านบริษัทฯ จะไม่ถึงมือพนักงาน ทำให้ในสมัยที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเอ็กซิมแบงก์ ได้มีการอนุมัติให้จ่ายเงินช่วยเหลือแก่พนักงานกลุ่มนี้โดยตรงมาตั้งแต่ปี 2537 เดือนละประมาณ 800 ถึง 1,500 บาท โดยทางธนาคารฯ จะออกคำสั่งให้ผู้จัดการธนาคารแต่ละสาขาดำเนินการจ่ายเงินก้อนนี้มาทุกปี และมีการทำเช่นนี้เป็นธรรมเนียมเรื่อยมา ผ่านมาเกือบ 30 ปี เมื่อปี 2567 สตง. ตรวจสอบบัญชีเอ็กซิมแบงก์ ก่อนระบุว่าการจ่ายเงินบุคคลที่มิใช่พนักงานของเอ็กซิมแบงก์ ในปีงบประมาณ 2565 ไม่เป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลัง และสั่งการให้ธนาคารฯ เอาผิดทางวินัยกลุ่มพนักงาน 22 คน ทั้งที่ทั้งหมดทำตามบันทึกภายในที่อนุมัติโดยกรรมการผู้จัดการในอดีต และทำกันมานาน แม้ว่าเอ็กซิมแบงก์จะทำหนังสือชี้แจง แต่เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. สตง. สั่งการให้ธนาคารฯ ต้องเอาผิดพนักงานกลุ่มดังกล่าวทั้งหมด ภายใน 30 วัน อ้างว่าทำให้รัฐเสียหาย 2.87 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นจะเสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ลงโทษทางปกครอง ทำให้ธนาคารฯ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และให้พนักงานกลุ่มดังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นเวลากระชั้นชิด ขณะนี้พนักงานทั้งหมดได้ทำหนังสือขอขยายเวลาชี้แจง รวมถึงขอความเป็นธรรมแล้ว #Newskit
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • “โอกาสที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์อยู่ที่ 100%” : คนเคาะข่าว 21-07-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    https://www.youtube.com/watch?v=x8wcbnHvQlU
    “โอกาสที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์อยู่ที่ 100%” : คนเคาะข่าว 21-07-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ https://www.youtube.com/watch?v=x8wcbnHvQlU
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Evidence shows Jeju Air pilots shut off less-damaged engine before crash, source says อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่รู้ข้อมูลการสอบสวน ซึ่งระบุว่า การสอบสวนที่นำโดยเกาหลีใต้เกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบินเจจูแอร์เมื่อเดือน ธ.ค. 2567 มีหลักฐานชัดเจนว่า นักบินได้ดับเครื่องยนต์ที่ได้รับความเสียหายน้อยกว่าหลังจากถูกนกชน

    “หลักฐานต่างๆ ซึ่งรวมถึงเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน ข้อมูลคอมพิวเตอร์ และสวิตช์เครื่องยนต์ที่พบในซากเครื่องบิน แสดงให้เห็นว่า นักบินได้ดับเครื่องยนต์ด้านซ้ายแทนที่จะเป็นด้านขวาขณะกำลังดำเนินการฉุกเฉินหลังจากถูกนกชนก่อนกำหนดลงจอด ทีมสอบสวนมีหลักฐานชัดเจนและข้อมูลสำรอง ดังนั้นผลการตรวจสอบจะไม่เปลี่ยนแปลง” แหล่งข่าวกล่าว ซึ่งขอให้ข้อมูลโดยไม่เปิดเผยชื่อ เนื่องจากคณะทำงานสอบสวนยังไม่ได้เผยแพร่รายงานอย่างเป็นทางการซึ่งรวมถึงหลักฐานนี้

    เหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ตกที่สนามบินมูอัน เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2567 คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือเกือบทั้งหมด โดยเหลือผู้รอดชีวิตเพียง 2 ราย ถือเป็นภัยพิบัติทางอากาศที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ ซึ่งแหล่งข่าวจากรัฐบาลกล่าวว่า จากการตรวจสอบเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่กู้คืนมา พบว่าไม่มีข้อบกพร่องใดๆ เกิดขึ้นก่อนเกิดเหตุนกชนและตก

    ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวอีกรายหนึ่งที่เข้าร่วมการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2568 เจ้าหน้าที่สอบสวนได้แจ้งต่อสมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่า เครื่องยนต์ด้านขวาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากการถูกนกชนมากกว่าเครื่องยนต์ด้านซ้าย แต่กลับมีหลักฐานแวดล้อมที่บ่งชี้ว่านักบินได้ปิดเครื่องยนต์ด้านซ้ายซึ่งได้รับความเสียหายน้อยกว่า ซึ่งช่วงวันที่ 19 – 20 ก.ค. 2568 สื่อเกาหลีใต้หลายสำนัก รวมถึง MBN และยอนฮัป รายงานข้อมูลดังกล่าว

    คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุทางการบินและทางรถไฟของเกาหลีใต้ (ARAIB) ซึ่งเป็นผู้นำการสอบสวน ไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอแสดงความคิดเห็นในทันที ขณะที่โบอิ้งได้ส่งคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินตกไปยัง ARAIB ส่วน CFM International ผู้ผลิตเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง GE และ Safran ของฝรั่งเศส ก็ยังไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นในทันที ด้านสายการบินเจจูแอร์ระบุว่ากำลังให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันกับการสอบสวนของ ARAIB และกำลังรอการประกาศผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการ

    รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า อุบัติเหตุทางอากาศส่วนใหญ่เกิดจากหลายปัจจัย และภายใต้กฎระเบียบระหว่างประเทศ คาดว่าจะมีรายงานสรุปภายใน 1 ปีนับจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ ส่วนรายงานเบื้องต้นที่เผยแพร่ในเดือน ม.ค. 2568 ระบุว่าพบซากเป็ดในเครื่องยนต์ทั้งสองข้างของเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์หลังจากเที่ยวบินที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย ตกที่สนามบินมวน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับขอบเขตของซากเป็ดหรือความเสียหายที่พบในเครื่องยนต์แต่ละเครื่อง

    อนึ่ง เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2568 หน่วยงานสอบสวนของเกาหลีใต้ได้ยกเลิกแผนการเผยแพร่รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเครื่องยนต์เท่าที่ทราบมาจนถึงปัจจุบันต่อสื่อมวลชน ขณะที่ทนายความของกลุ่มญาติเหยื่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ให้ข้อมูลว่า ญาติของเหยื่อได้รับแจ้งเกี่ยวกับรายงานดังกล่าวก่อนที่จะเผยแพร่ตามแผน แต่คัดค้านการเผยแพร่ โดยระบุว่ารายงานดูเหมือนจะโยนความผิดให้กับนักบินโดยไม่ได้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

    เที่ยวบินของสายการบินเจจูแอร์ได้พุ่งออกนอกรันเวย์ของสนามบินมูอันขณะลงจอดฉุกเฉินและชนเข้ากับคันดินที่ติดตั้งอุปกรณ์นำทาง ทำให้เกิดเพลิงไหม้และระเบิดบางส่วน ซึ่งตัวแทนของครอบครัวเหยื่อและสหภาพนักบินของสายการบินเจจูแอร์กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การสอบสวนจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่คันดินดังกล่าวด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการบินระบุว่าน่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจำนวนมาก

    สหภาพนักบินสายการบินเจจูแอร์ กล่าวว่า ARAIB กำลังทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด โดยระบุว่าเครื่องยนต์ด้านซ้ายไม่มีปัญหา เนื่องจากพบร่องรอยซากนกในเครื่องยนต์ทั้ง 2 เครื่อง อีกทั้ง พยายามทำให้นักบินกลายเป็นแพะรับบาปด้วยการไม่ให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ระบุว่าเครื่องบินสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัยหากติดเครื่องยนต์ด้านซ้ายเพียงอย่างเดียว

    “อุบัติเหตุทางอากาศเป็นเหตุการณ์ที่ซับซ้อนซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยหลายประการ และจนถึงขณะนี้ผู้สอบสวนยังไม่ได้นำเสนอหลักฐานที่สนับสนุนนัยที่ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นผลมาจากความผิดพลาดของนักบิน และจนถึงขณะนี้ผู้สอบสวนยังคงนิ่งเฉยต่อความรับผิดชอบขององค์กร” สหภาพนักบินสายการบินเจจูแอร์ กล่าว

    รายงานข่าวทิ้งท้ายว่า หน่วยงานที่เป็นตัวแทนของครอบครัวผู้สูญเสียกล่าวในแถลงการณ์ว่ามีข้อความบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุของอุบัติเหตุในข่าวประชาสัมพันธ์ที่วางแผนไว้ ซึ่งอาจตีความได้ว่าได้ข้อสรุปขั้นสุดท้ายแล้ว และข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ต้องได้รับการชี้แจงให้ชัดเจน

    ที่มา :
    https://www.reuters.com/business/aerospace-defense/evidence-shows-jeju-air-pilots-shut-off-less-damaged-engine-before-crash-source-2025-07-21/
    สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Evidence shows Jeju Air pilots shut off less-damaged engine before crash, source says อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่รู้ข้อมูลการสอบสวน ซึ่งระบุว่า การสอบสวนที่นำโดยเกาหลีใต้เกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบินเจจูแอร์เมื่อเดือน ธ.ค. 2567 มีหลักฐานชัดเจนว่า นักบินได้ดับเครื่องยนต์ที่ได้รับความเสียหายน้อยกว่าหลังจากถูกนกชน “หลักฐานต่างๆ ซึ่งรวมถึงเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน ข้อมูลคอมพิวเตอร์ และสวิตช์เครื่องยนต์ที่พบในซากเครื่องบิน แสดงให้เห็นว่า นักบินได้ดับเครื่องยนต์ด้านซ้ายแทนที่จะเป็นด้านขวาขณะกำลังดำเนินการฉุกเฉินหลังจากถูกนกชนก่อนกำหนดลงจอด ทีมสอบสวนมีหลักฐานชัดเจนและข้อมูลสำรอง ดังนั้นผลการตรวจสอบจะไม่เปลี่ยนแปลง” แหล่งข่าวกล่าว ซึ่งขอให้ข้อมูลโดยไม่เปิดเผยชื่อ เนื่องจากคณะทำงานสอบสวนยังไม่ได้เผยแพร่รายงานอย่างเป็นทางการซึ่งรวมถึงหลักฐานนี้ เหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ตกที่สนามบินมูอัน เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2567 คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือเกือบทั้งหมด โดยเหลือผู้รอดชีวิตเพียง 2 ราย ถือเป็นภัยพิบัติทางอากาศที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ ซึ่งแหล่งข่าวจากรัฐบาลกล่าวว่า จากการตรวจสอบเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่กู้คืนมา พบว่าไม่มีข้อบกพร่องใดๆ เกิดขึ้นก่อนเกิดเหตุนกชนและตก ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวอีกรายหนึ่งที่เข้าร่วมการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2568 เจ้าหน้าที่สอบสวนได้แจ้งต่อสมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่า เครื่องยนต์ด้านขวาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากการถูกนกชนมากกว่าเครื่องยนต์ด้านซ้าย แต่กลับมีหลักฐานแวดล้อมที่บ่งชี้ว่านักบินได้ปิดเครื่องยนต์ด้านซ้ายซึ่งได้รับความเสียหายน้อยกว่า ซึ่งช่วงวันที่ 19 – 20 ก.ค. 2568 สื่อเกาหลีใต้หลายสำนัก รวมถึง MBN และยอนฮัป รายงานข้อมูลดังกล่าว คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุทางการบินและทางรถไฟของเกาหลีใต้ (ARAIB) ซึ่งเป็นผู้นำการสอบสวน ไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอแสดงความคิดเห็นในทันที ขณะที่โบอิ้งได้ส่งคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินตกไปยัง ARAIB ส่วน CFM International ผู้ผลิตเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง GE และ Safran ของฝรั่งเศส ก็ยังไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นในทันที ด้านสายการบินเจจูแอร์ระบุว่ากำลังให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันกับการสอบสวนของ ARAIB และกำลังรอการประกาศผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการ รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า อุบัติเหตุทางอากาศส่วนใหญ่เกิดจากหลายปัจจัย และภายใต้กฎระเบียบระหว่างประเทศ คาดว่าจะมีรายงานสรุปภายใน 1 ปีนับจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ ส่วนรายงานเบื้องต้นที่เผยแพร่ในเดือน ม.ค. 2568 ระบุว่าพบซากเป็ดในเครื่องยนต์ทั้งสองข้างของเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์หลังจากเที่ยวบินที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย ตกที่สนามบินมวน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับขอบเขตของซากเป็ดหรือความเสียหายที่พบในเครื่องยนต์แต่ละเครื่อง อนึ่ง เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2568 หน่วยงานสอบสวนของเกาหลีใต้ได้ยกเลิกแผนการเผยแพร่รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเครื่องยนต์เท่าที่ทราบมาจนถึงปัจจุบันต่อสื่อมวลชน ขณะที่ทนายความของกลุ่มญาติเหยื่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ให้ข้อมูลว่า ญาติของเหยื่อได้รับแจ้งเกี่ยวกับรายงานดังกล่าวก่อนที่จะเผยแพร่ตามแผน แต่คัดค้านการเผยแพร่ โดยระบุว่ารายงานดูเหมือนจะโยนความผิดให้กับนักบินโดยไม่ได้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เที่ยวบินของสายการบินเจจูแอร์ได้พุ่งออกนอกรันเวย์ของสนามบินมูอันขณะลงจอดฉุกเฉินและชนเข้ากับคันดินที่ติดตั้งอุปกรณ์นำทาง ทำให้เกิดเพลิงไหม้และระเบิดบางส่วน ซึ่งตัวแทนของครอบครัวเหยื่อและสหภาพนักบินของสายการบินเจจูแอร์กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การสอบสวนจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่คันดินดังกล่าวด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการบินระบุว่าน่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจำนวนมาก สหภาพนักบินสายการบินเจจูแอร์ กล่าวว่า ARAIB กำลังทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด โดยระบุว่าเครื่องยนต์ด้านซ้ายไม่มีปัญหา เนื่องจากพบร่องรอยซากนกในเครื่องยนต์ทั้ง 2 เครื่อง อีกทั้ง พยายามทำให้นักบินกลายเป็นแพะรับบาปด้วยการไม่ให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ระบุว่าเครื่องบินสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัยหากติดเครื่องยนต์ด้านซ้ายเพียงอย่างเดียว “อุบัติเหตุทางอากาศเป็นเหตุการณ์ที่ซับซ้อนซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยหลายประการ และจนถึงขณะนี้ผู้สอบสวนยังไม่ได้นำเสนอหลักฐานที่สนับสนุนนัยที่ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นผลมาจากความผิดพลาดของนักบิน และจนถึงขณะนี้ผู้สอบสวนยังคงนิ่งเฉยต่อความรับผิดชอบขององค์กร” สหภาพนักบินสายการบินเจจูแอร์ กล่าว รายงานข่าวทิ้งท้ายว่า หน่วยงานที่เป็นตัวแทนของครอบครัวผู้สูญเสียกล่าวในแถลงการณ์ว่ามีข้อความบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุของอุบัติเหตุในข่าวประชาสัมพันธ์ที่วางแผนไว้ ซึ่งอาจตีความได้ว่าได้ข้อสรุปขั้นสุดท้ายแล้ว และข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ต้องได้รับการชี้แจงให้ชัดเจน ที่มา : https://www.reuters.com/business/aerospace-defense/evidence-shows-jeju-air-pilots-shut-off-less-damaged-engine-before-crash-source-2025-07-21/
    1 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • ศูนย์ปฎิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติออกแถลงการณ์แจงภาพที่กัมพูชานำมาเผยแพร่ อ้างว่าทหารไทยวางทุ่นระเบิดนั้น แท้จริงเป็นการสอนกำลังพลหลักสูตรสงครามทุ่นระเบิดเท่านั้น ชี้จงใจบิดเบือนทำให้ไทยเสียหาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068675

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ศูนย์ปฎิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติออกแถลงการณ์แจงภาพที่กัมพูชานำมาเผยแพร่ อ้างว่าทหารไทยวางทุ่นระเบิดนั้น แท้จริงเป็นการสอนกำลังพลหลักสูตรสงครามทุ่นระเบิดเท่านั้น ชี้จงใจบิดเบือนทำให้ไทยเสียหาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068675 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • โปรโครตจะคุ้มๆๆๆๆๆ คุ้มกว่านี้จะหาที่ไหนนนนนโปรหมึกกะตอย 1 แถม 1 จับคู่ กุนเชียงครึ่งโล ใน Tiktok https://vt.tiktok.com/ZSBwFYpRd/โปรหมึกกะตอย 1 แถม 1 จับคู่ กุนเชียงครึ่งโล ใน Shopee https://th.shp.ee/JrjcrQwถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนน…ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยครับร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8yDIw0654gK&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    โปรโครตจะคุ้มๆๆๆๆๆ คุ้มกว่านี้จะหาที่ไหนนนนนโปรหมึกกะตอย 1 แถม 1 จับคู่ กุนเชียงครึ่งโล ใน Tiktok https://vt.tiktok.com/ZSBwFYpRd/โปรหมึกกะตอย 1 แถม 1 จับคู่ กุนเชียงครึ่งโล ใน Shopee https://th.shp.ee/JrjcrQwถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนน…ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยครับ😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ😍🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8yDIw0654gK&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 0 Reviews
  • ประวัติศาสตร์สอนไว้ สมรภูมิ 'นิรโทษกรรม' เกมนี้ยังไว้ใจไม่ได้ : ถอนหมุดข่าว 21/07/68
    ประวัติศาสตร์สอนไว้ สมรภูมิ 'นิรโทษกรรม' เกมนี้ยังไว้ใจไม่ได้ : ถอนหมุดข่าว 21/07/68
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 0 Reviews
  • ‘ภูมิธรรม‘ นายกฯชั่วคราวเบ่งกล้ามรายวันขู่ย้ายขรก.ระวังจะตกเก้าอี้เหมือนนาย : ข่าวลึกปมลับ 21/07/68
    ‘ภูมิธรรม‘ นายกฯชั่วคราวเบ่งกล้ามรายวันขู่ย้ายขรก.ระวังจะตกเก้าอี้เหมือนนาย : ข่าวลึกปมลับ 21/07/68
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 0 Reviews
  • “แพทองธาร” ไม่ทราบ“ทักษิณ” ร่วมงานดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลพรุ่งนี้ เหน็บ “ฮุน เซน” เคลมไอเดีย "ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ" ถามเป็นของเขาได้อย่างไร ซัดเหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068652

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    “แพทองธาร” ไม่ทราบ“ทักษิณ” ร่วมงานดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลพรุ่งนี้ เหน็บ “ฮุน เซน” เคลมไอเดีย "ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ" ถามเป็นของเขาได้อย่างไร ซัดเหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068652 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ แถลงการณ์โต้ "กัมพูชา" บิดเบือนข้อเท็จจริง นำภาพการฝึกภาคสนามมากล่าวหา "ทหารไทย" เป็นผู้ฝังทุ่นระเบิด 20 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mines Action Center หรือ TMAC) ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงกังวล อย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ว่า โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการลักลอบเข้ามาดำเนินการวางทุ่นระเบิด สังหารบุคคลในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยไทยเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลของกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย โดยในจำนวนนี้ 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสูญเสียอวัยวะและกลายเป็นผู้พิการถาวรจากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดใหม่ ซึ่งเพิ่งถูกวางขึ้น โดยจัดวางในลักษณะสนามทุ่นระเบิด และกระจายตัวหลายจุดตามแนวชายแดนในเขตพื้นที่อธิปไตยไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาว่าทั้งราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ต่างเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาฉบับนี้ และได้ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างครบถ้วน อันรวมถึง การยุติการใช้และสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตลอดจนการดำเนินการเก็บกู้ และทำลายทุ่นระเบิดที่ยังตกค้างภายในประเทศ เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนโดยรวมในระยะยาวในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศไทยด้านปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ราชอาณาจักรกัมพูชาแสดง ความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านรวมถึงดำเนินมาตรการทางกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้อีกในอนาคตนอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดการขัดขวาง การปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยตามแนวชายแดน และให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการดำเนินงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และความมั่นคงให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบร่วมกันในฐานะรัฐภาคี ของอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งต่างมีพันธกิจในการสนับสนุนสันติภาพ ความมั่นคงของมนุษยชาติ และลดผลกระทบจากอาวุธที่ไร้ความจำแนกต่อพลเรือน
    ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ แถลงการณ์โต้ "กัมพูชา" บิดเบือนข้อเท็จจริง นำภาพการฝึกภาคสนามมากล่าวหา "ทหารไทย" เป็นผู้ฝังทุ่นระเบิด 20 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mines Action Center หรือ TMAC) ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงกังวล อย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ว่า โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการลักลอบเข้ามาดำเนินการวางทุ่นระเบิด สังหารบุคคลในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยไทยเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลของกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย โดยในจำนวนนี้ 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสูญเสียอวัยวะและกลายเป็นผู้พิการถาวรจากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดใหม่ ซึ่งเพิ่งถูกวางขึ้น โดยจัดวางในลักษณะสนามทุ่นระเบิด และกระจายตัวหลายจุดตามแนวชายแดนในเขตพื้นที่อธิปไตยไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาว่าทั้งราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ต่างเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาฉบับนี้ และได้ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างครบถ้วน อันรวมถึง การยุติการใช้และสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตลอดจนการดำเนินการเก็บกู้ และทำลายทุ่นระเบิดที่ยังตกค้างภายในประเทศ เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนโดยรวมในระยะยาวในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศไทยด้านปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ราชอาณาจักรกัมพูชาแสดง ความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านรวมถึงดำเนินมาตรการทางกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้อีกในอนาคตนอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดการขัดขวาง การปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยตามแนวชายแดน และให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการดำเนินงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และความมั่นคงให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบร่วมกันในฐานะรัฐภาคี ของอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งต่างมีพันธกิจในการสนับสนุนสันติภาพ ความมั่นคงของมนุษยชาติ และลดผลกระทบจากอาวุธที่ไร้ความจำแนกต่อพลเรือน
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • “เฮง รัตนา” โบ้ย! ยันเขมรทำตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างแข็งขัน กำจัดทุ่นระเบิดในประเทศไปแล้วนับล้านลูก พร้อมอ้างมาตรา 5 ของอนุสัญญาฯ ระเบิดอยู่ในดินแดนใครก็ต้องรับผิดชอบเอง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068632


    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    “เฮง รัตนา” โบ้ย! ยันเขมรทำตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างแข็งขัน กำจัดทุ่นระเบิดในประเทศไปแล้วนับล้านลูก พร้อมอ้างมาตรา 5 ของอนุสัญญาฯ ระเบิดอยู่ในดินแดนใครก็ต้องรับผิดชอบเอง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068632 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • กกต. ยันไม่ล่าช้า คดี “หมอเกศ” ชี้การจัดทำคำวินิจฉัย -ยื่นฟ้องศาลเป็นไปตามกรอบเวลากม.กำหนด ไม่ได้เลือกปฎิบัติ ไม่มีใครกดดัน เผยเร่งยื่นศาลฎีกาแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068643

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กกต. ยันไม่ล่าช้า คดี “หมอเกศ” ชี้การจัดทำคำวินิจฉัย -ยื่นฟ้องศาลเป็นไปตามกรอบเวลากม.กำหนด ไม่ได้เลือกปฎิบัติ ไม่มีใครกดดัน เผยเร่งยื่นศาลฎีกาแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068643 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • ..ถ้าเป็นข่าวจริงนะ แสดงว่าเปิดหน้าชัดเจนในการทำลายขวัญกำลังใจทหาร ถือว่ารัฐบาลคือพรรคแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาลเป็นภัยคุกคามอธิปไตยชาติไทยตนเอง,ไม่ต่างจากคลิปนายกฯที่พักงาน ว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามเรา,เปลี่ยนรัฐบาลทันทีเถอะและจริงๆต้องเปลี่ยนทันทีตั้งแต่นากยฯถูกศาลตัดสินให้พักงานแล้ว,อดีตเสมือนสิ้นสถานะแล้ว ถือว่าศาลเมตตามากๆ,จริงๆมันชัดเจนว่าทั้งรัฐบาลต้องไปหมด,มันคือภัยแผ่นดินไทยชัดเจนในบริบทมากมายหลากหลายนัยยะ,น่าเบื่อหน่ายการปกครองเรามากๆ,เพราะไม่สามารถจัดการคนชั่วเลวบนแผ่นดินไทยเรานี้ให้เด็ดขาดไม่ได้เลย,ตรงกันข้ามกลับเพาะเลี้ยงบำรุงรักษาไว้ให้ดีให้มั่นคง.อนาถสิ้นดีจริงๆ.

    https://youtube.com/shorts/DfiiubZ16Ag?si=EEI0pQor8LM3ebzG
    ..ถ้าเป็นข่าวจริงนะ แสดงว่าเปิดหน้าชัดเจนในการทำลายขวัญกำลังใจทหาร ถือว่ารัฐบาลคือพรรคแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาลเป็นภัยคุกคามอธิปไตยชาติไทยตนเอง,ไม่ต่างจากคลิปนายกฯที่พักงาน ว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามเรา,เปลี่ยนรัฐบาลทันทีเถอะและจริงๆต้องเปลี่ยนทันทีตั้งแต่นากยฯถูกศาลตัดสินให้พักงานแล้ว,อดีตเสมือนสิ้นสถานะแล้ว ถือว่าศาลเมตตามากๆ,จริงๆมันชัดเจนว่าทั้งรัฐบาลต้องไปหมด,มันคือภัยแผ่นดินไทยชัดเจนในบริบทมากมายหลากหลายนัยยะ,น่าเบื่อหน่ายการปกครองเรามากๆ,เพราะไม่สามารถจัดการคนชั่วเลวบนแผ่นดินไทยเรานี้ให้เด็ดขาดไม่ได้เลย,ตรงกันข้ามกลับเพาะเลี้ยงบำรุงรักษาไว้ให้ดีให้มั่นคง.อนาถสิ้นดีจริงๆ. https://youtube.com/shorts/DfiiubZ16Ag?si=EEI0pQor8LM3ebzG
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • ..นี้คือภาพชัดๆ
    ..เปลี่ยนรัฐบาลเถอะ,พักงานนักการเมืองทั้งสภาทันที,สัก10-20ปี,ปิดด่านถาวรตลอดพรมแดนเขมรทันทีด้วยสัก10-20ปี,คว่ำบาตารทั้งหมด,ไม่เอาเขมร ถ้ารบยึดทันทีทั้งหมด จะไม่มีชื่อเขมรบนแผ่นที่โลก,คนเขมรทั้งหมดจะให้ไปอยู่บนเกาะติดเวียดนามทั้งหมด,ไทยไม่รับขึ้นเป็นพลเมืองไทยทุกๆกรณี,ย้อนอดีตถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เขมรก็อดคิดไม่ได้ว่า,เราข่วยเหลือเขมรทำไมนะ,ถ้าจะเป็นแบบนี้.

    ..https://youtube.com/shorts/vAObMvyROfo?si=DyeMjZQfc1MXtJki
    ..นี้คือภาพชัดๆ ..เปลี่ยนรัฐบาลเถอะ,พักงานนักการเมืองทั้งสภาทันที,สัก10-20ปี,ปิดด่านถาวรตลอดพรมแดนเขมรทันทีด้วยสัก10-20ปี,คว่ำบาตารทั้งหมด,ไม่เอาเขมร ถ้ารบยึดทันทีทั้งหมด จะไม่มีชื่อเขมรบนแผ่นที่โลก,คนเขมรทั้งหมดจะให้ไปอยู่บนเกาะติดเวียดนามทั้งหมด,ไทยไม่รับขึ้นเป็นพลเมืองไทยทุกๆกรณี,ย้อนอดีตถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เขมรก็อดคิดไม่ได้ว่า,เราข่วยเหลือเขมรทำไมนะ,ถ้าจะเป็นแบบนี้. ..https://youtube.com/shorts/vAObMvyROfo?si=DyeMjZQfc1MXtJki
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
More Results