• ซัลวัน โมมิกา ผู้ลี้ภัยชาวอิรักที่อาศัยอยู่ในสวีเดน ซึ่งเป็นบุคคลที่รู้จักจากการเผาคัมภีร์อัลกุรอานหลายครั้ง ถูกลอบสังหารด้วยอาวุธปืนที่อพาร์ตเมนต์ของเขาในเมืองเซอเดอร์เทลเย ประเทศสวีเดน เมื่อคืนนี้ ขณะกำลังถ่ายทอดสด

    เขากระทำการเผาอัลกุรอานหลายครั้ง ภายใต้การคุ้มครองของตำรวจ โดยอ้างสิทธิเสรีภาพการพูดในสวีเดน

    เจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านของโมมิกาและเป็นผู้ปิดการถ่ายทอดสดจากกล้อง
    ซัลวัน โมมิกา ผู้ลี้ภัยชาวอิรักที่อาศัยอยู่ในสวีเดน ซึ่งเป็นบุคคลที่รู้จักจากการเผาคัมภีร์อัลกุรอานหลายครั้ง ถูกลอบสังหารด้วยอาวุธปืนที่อพาร์ตเมนต์ของเขาในเมืองเซอเดอร์เทลเย ประเทศสวีเดน เมื่อคืนนี้ ขณะกำลังถ่ายทอดสด เขากระทำการเผาอัลกุรอานหลายครั้ง ภายใต้การคุ้มครองของตำรวจ โดยอ้างสิทธิเสรีภาพการพูดในสวีเดน เจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านของโมมิกาและเป็นผู้ปิดการถ่ายทอดสดจากกล้อง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • 77 ปี ลอบสังหาร “มหาตมา คานธี” นักต่อสู้ผู้ไร้อาวุธ ผู้บุกเบิกแนวคิด “สัตยาเคราะห์”

    “ตาต่อตาฟันต่อฟัน จะทำให้ทั้งโลกมืดบอด” มหาตมา คานธี

    ย้อนไปเมื่อ 77 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2491 นับเป็นวันที่โลกต้องจารึก เมื่อ "มหาตมา คานธี" ผู้นำทางจิตวิญญาณ และนักต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย ถูกลอบสังหารขณะอายุ 78 ปี ภายในบริเวณบ้านพิรลา ในกรุงนิวเดลี เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิต บุคคลผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ของประวัติศาสตร์อินเดีย และขบวนการเคลื่อนไหว เพื่อสิทธิพลเมืองทั่วโลก

    โศกนาฏกรรมแห่งสันติ วันสุดท้ายของมหาตมา คานธี
    ช่วงเย็นของวันที่ 30 มกราคม 2491 "มหาตมา คานธี" เดินไปยังสวนหลังบ้านพิรลา ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เขาใช้จัดการสวดภาวนา เป็นประจำทุกเย็น ท่ามกลางฝูงชน ที่มารอฟังคำสอนของเขา "นถูราม โคฑเส" ชายวัย 30 ปี ผู้เป็นสมาชิกกลุ่มชาตินิยมฮินดู ได้แฝงตัวเข้ามาในฝูงชน และเมื่อคานธี เดินลงจากปะรำพิธี โคฑเสก็ฉวยโอกาส ก้าวออกมากั้นทาง แล้วลั่นไกปืน สามนัดยิงเข้าที่อก และท้องของคานธีระยะเผาขน

    เสียงปืนนั้น เปรียบเสมือนเสียงสะเทือน แห่งประวัติศาสตร์...
    "มหาตมา คานธี" ทรุดลงกับพื้น และกล่าวเพียงว่า "เฮ ราม" (โอ้ พระเจ้า!) ก่อนหมดสติ และจากไปในที่สุด

    เหตุใดโคฑเส จึงลอบสังหารคานธี?
    "นถูราม โคฑเส" เป็นนักชาตินิยมฮินดู และเป็นสมาชิกของ ราษฏรียสวยัมเสวักสงฆ์ (RSS) กลุ่มขวาจัด ที่สนับสนุนการปกครองโดยชาวฮินดู โคฑเสเชื่อว่า คานธีให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิม มากเกินไป และมีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุน การแยกดินแดนอินเดีย และปากีสถาน

    เขาเห็นว่าคานธีเป็นอุปสรรค ต่อความเป็นเอกภาพ ของชาวฮินดูในอินเดีย และการที่คานธี เรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียส่งเงิน 550 ล้านรูปี ให้กับปากีสถาน ยิ่งทำให้เขาโกรธแค้น

    หลังการสังหาร โคฑเสถูกจับกุมทันที และถูกนำตัวขึ้นศาล พร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีกหลายคน ในที่สุด เขาถูกตัดสินประหารชีวิต และถูกแขวนคอ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2492

    บุรุษผู้เปลี่ยนแปลงโลกด้วยสันติวิธี ต้นกำเนิดของนักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่
    "มหาตมา คานธี" หรือ "โมหนทาส กรมจันท์ คานธี" เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2412 ที่รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เติบโตมาในครอบครัวชาวฮินดู และเดินทางไปศึกษากฎหมายที่ อินเนอร์เทมเพิล ลอนดอน ก่อนกลับมาอินเดีย

    ค้นพบ “สัตยาเคราะห์” บนแผ่นดินแอฟริกาใต้
    ขณะที่คานธีทำงานเป็นทนาย ในแอฟริกาใต้ เขาประสบเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติ เมื่อเขาถูกไล่ออกจากตู้รถไฟชั้นหนึ่ง เพียงเพราะเป็นชาวอินเดีย เหตุการณ์นี้ ทำให้คานธี ตระหนักถึงความอยุติธรรม และจุดประกายให้เขาต่อสู้ เพื่อสิทธิพลเมือง

    คานธีพัฒนาแนวคิด “สัตยาเคราะห์” (Satyagraha) ซึ่งหมายถึง “การยึดมั่นในสัจจะ” หรือ “การต่อต้านโดยสันติวิธี” โดยมุ่งเน้นการใช้ความจริง ความรัก และความไม่รุนแรง เป็นอาวุธหลัก

    สัตยาเคราะห์ พลังแห่งสัจจะและสันติ
    สัตยาเคราะห์เป็นหัวใจสำคัญ ในการต่อสู้ของคานธี เพื่อปลดแอกอินเดียจากอังกฤษ โดยมีหลักการสำคัญ ได้แก่

    1. อหิงสา (Ahimsa) การไม่ใช้ความรุนแรง
    คานธีเชื่อว่า ความรุนแรงก่อให้เกิดความเกลียดชัง และการแก้แค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด

    2. สัจจะ (Satya) ความจริง
    เขาเชื่อว่าความจริงคือสิ่งสูงสุด และคนที่ยึดมั่นในความจริง จะได้รับชัยชนะเสมอ

    3. ตบะ (Tapasya) ความอดทนและเสียสละ
    คานธีอดอาหารประท้วงหลายครั้ง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ให้กับคนทุกศาสนา

    ขบวนการอิสระของอินเดีย จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์
    เดินขบวนเกลือ (Salt March) ปี 2473
    คานธีนำประชาชนเดินเท้า เป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อประท้วงกฎหมายภาษีเกลือ ของอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการต่อต้าน ที่ทรงพลังที่สุด

    ขบวนการ “ออกจากอินเดีย” (Quit India Movement) ปี 2485
    คานธีเรียกร้องให้อังกฤษ ถอนตัวจากอินเดีย โดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้อังกฤษจับกุมเขา และผู้สนับสนุนจำนวนมาก

    ในที่สุด วันที่ 15 สิงหาคม 2490 อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ แต่ต้องแลกมา ด้วยการแบ่งประเทศเป็นอินเดีย และปากีสถาน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง และการอพยพครั้งใหญ่

    มรดกของมหาตมา คานธี อิทธิพลต่อโลก
    แม้จะถูกลอบสังหาร แต่แนวคิดของคานธี ได้เป็นแรงบันดาลใจ ให้ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมือง ทั่วโลก เช่น

    ✅ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ขบวนการสิทธิพลเมือง ของคนผิวดำในอเมริกา
    ✅ เนลสัน แมนเดลา การต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว ในแอฟริกาใต้
    ✅ ดาไลลามะ การต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ของทิเบต

    คานธี กับบทเรียนแห่งสันติ
    การลอบสังหารมหาตมา คานธี เป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ แต่แนวคิดของเขายังคงอยู่ และเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนทั่วโลก

    🌏 ความจริงและสันติวิธี เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในการเปลี่ยนแปลงโลก
    🙏 อหิงสา ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือความกล้าหาญ ในการให้อภัย
    💡 สัตยาเคราะห์ เป็นเครื่องมือแห่งการต่อสู้ เพื่อความยุติธรรม

    77 ปี ผ่านไป... ชื่อของคานธี ยังคงเป็นสัญลักษณ์ แห่งสันติภาพ 🕊️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 300857 ม.ค. 2568

    #MahatmaGandhi #Gandhi77Years #Satyagraha #อหิงสา #สันติวิธี #IndiaIndependence #PeaceMovement #QuitIndia #GandhiPhilosophy #GandhiLegacy
    77 ปี ลอบสังหาร “มหาตมา คานธี” นักต่อสู้ผู้ไร้อาวุธ ผู้บุกเบิกแนวคิด “สัตยาเคราะห์” “ตาต่อตาฟันต่อฟัน จะทำให้ทั้งโลกมืดบอด” มหาตมา คานธี ย้อนไปเมื่อ 77 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2491 นับเป็นวันที่โลกต้องจารึก เมื่อ "มหาตมา คานธี" ผู้นำทางจิตวิญญาณ และนักต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย ถูกลอบสังหารขณะอายุ 78 ปี ภายในบริเวณบ้านพิรลา ในกรุงนิวเดลี เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิต บุคคลผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ของประวัติศาสตร์อินเดีย และขบวนการเคลื่อนไหว เพื่อสิทธิพลเมืองทั่วโลก โศกนาฏกรรมแห่งสันติ วันสุดท้ายของมหาตมา คานธี ช่วงเย็นของวันที่ 30 มกราคม 2491 "มหาตมา คานธี" เดินไปยังสวนหลังบ้านพิรลา ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เขาใช้จัดการสวดภาวนา เป็นประจำทุกเย็น ท่ามกลางฝูงชน ที่มารอฟังคำสอนของเขา "นถูราม โคฑเส" ชายวัย 30 ปี ผู้เป็นสมาชิกกลุ่มชาตินิยมฮินดู ได้แฝงตัวเข้ามาในฝูงชน และเมื่อคานธี เดินลงจากปะรำพิธี โคฑเสก็ฉวยโอกาส ก้าวออกมากั้นทาง แล้วลั่นไกปืน สามนัดยิงเข้าที่อก และท้องของคานธีระยะเผาขน เสียงปืนนั้น เปรียบเสมือนเสียงสะเทือน แห่งประวัติศาสตร์... "มหาตมา คานธี" ทรุดลงกับพื้น และกล่าวเพียงว่า "เฮ ราม" (โอ้ พระเจ้า!) ก่อนหมดสติ และจากไปในที่สุด เหตุใดโคฑเส จึงลอบสังหารคานธี? "นถูราม โคฑเส" เป็นนักชาตินิยมฮินดู และเป็นสมาชิกของ ราษฏรียสวยัมเสวักสงฆ์ (RSS) กลุ่มขวาจัด ที่สนับสนุนการปกครองโดยชาวฮินดู โคฑเสเชื่อว่า คานธีให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิม มากเกินไป และมีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุน การแยกดินแดนอินเดีย และปากีสถาน เขาเห็นว่าคานธีเป็นอุปสรรค ต่อความเป็นเอกภาพ ของชาวฮินดูในอินเดีย และการที่คานธี เรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียส่งเงิน 550 ล้านรูปี ให้กับปากีสถาน ยิ่งทำให้เขาโกรธแค้น หลังการสังหาร โคฑเสถูกจับกุมทันที และถูกนำตัวขึ้นศาล พร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีกหลายคน ในที่สุด เขาถูกตัดสินประหารชีวิต และถูกแขวนคอ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2492 บุรุษผู้เปลี่ยนแปลงโลกด้วยสันติวิธี ต้นกำเนิดของนักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่ "มหาตมา คานธี" หรือ "โมหนทาส กรมจันท์ คานธี" เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2412 ที่รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เติบโตมาในครอบครัวชาวฮินดู และเดินทางไปศึกษากฎหมายที่ อินเนอร์เทมเพิล ลอนดอน ก่อนกลับมาอินเดีย ค้นพบ “สัตยาเคราะห์” บนแผ่นดินแอฟริกาใต้ ขณะที่คานธีทำงานเป็นทนาย ในแอฟริกาใต้ เขาประสบเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติ เมื่อเขาถูกไล่ออกจากตู้รถไฟชั้นหนึ่ง เพียงเพราะเป็นชาวอินเดีย เหตุการณ์นี้ ทำให้คานธี ตระหนักถึงความอยุติธรรม และจุดประกายให้เขาต่อสู้ เพื่อสิทธิพลเมือง คานธีพัฒนาแนวคิด “สัตยาเคราะห์” (Satyagraha) ซึ่งหมายถึง “การยึดมั่นในสัจจะ” หรือ “การต่อต้านโดยสันติวิธี” โดยมุ่งเน้นการใช้ความจริง ความรัก และความไม่รุนแรง เป็นอาวุธหลัก สัตยาเคราะห์ พลังแห่งสัจจะและสันติ สัตยาเคราะห์เป็นหัวใจสำคัญ ในการต่อสู้ของคานธี เพื่อปลดแอกอินเดียจากอังกฤษ โดยมีหลักการสำคัญ ได้แก่ 1. อหิงสา (Ahimsa) การไม่ใช้ความรุนแรง คานธีเชื่อว่า ความรุนแรงก่อให้เกิดความเกลียดชัง และการแก้แค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด 2. สัจจะ (Satya) ความจริง เขาเชื่อว่าความจริงคือสิ่งสูงสุด และคนที่ยึดมั่นในความจริง จะได้รับชัยชนะเสมอ 3. ตบะ (Tapasya) ความอดทนและเสียสละ คานธีอดอาหารประท้วงหลายครั้ง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ให้กับคนทุกศาสนา ขบวนการอิสระของอินเดีย จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ เดินขบวนเกลือ (Salt March) ปี 2473 คานธีนำประชาชนเดินเท้า เป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อประท้วงกฎหมายภาษีเกลือ ของอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการต่อต้าน ที่ทรงพลังที่สุด ขบวนการ “ออกจากอินเดีย” (Quit India Movement) ปี 2485 คานธีเรียกร้องให้อังกฤษ ถอนตัวจากอินเดีย โดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้อังกฤษจับกุมเขา และผู้สนับสนุนจำนวนมาก ในที่สุด วันที่ 15 สิงหาคม 2490 อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ แต่ต้องแลกมา ด้วยการแบ่งประเทศเป็นอินเดีย และปากีสถาน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง และการอพยพครั้งใหญ่ มรดกของมหาตมา คานธี อิทธิพลต่อโลก แม้จะถูกลอบสังหาร แต่แนวคิดของคานธี ได้เป็นแรงบันดาลใจ ให้ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมือง ทั่วโลก เช่น ✅ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ขบวนการสิทธิพลเมือง ของคนผิวดำในอเมริกา ✅ เนลสัน แมนเดลา การต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว ในแอฟริกาใต้ ✅ ดาไลลามะ การต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ของทิเบต คานธี กับบทเรียนแห่งสันติ การลอบสังหารมหาตมา คานธี เป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ แต่แนวคิดของเขายังคงอยู่ และเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนทั่วโลก 🌏 ความจริงและสันติวิธี เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในการเปลี่ยนแปลงโลก 🙏 อหิงสา ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือความกล้าหาญ ในการให้อภัย 💡 สัตยาเคราะห์ เป็นเครื่องมือแห่งการต่อสู้ เพื่อความยุติธรรม 77 ปี ผ่านไป... ชื่อของคานธี ยังคงเป็นสัญลักษณ์ แห่งสันติภาพ 🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 300857 ม.ค. 2568 #MahatmaGandhi #Gandhi77Years #Satyagraha #อหิงสา #สันติวิธี #IndiaIndependence #PeaceMovement #QuitIndia #GandhiPhilosophy #GandhiLegacy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูปลักษณ์ภายนอก
    คืออาวุธที่
    ส่งอิทธิพลต่อผู้อื่นได้ไว
    และง่ายที่สุดสำหรับมนุษย์

    จากหนังสือ |คนชนะทำแล้วแก้คนแพ้มัวแต่คิดไม่ได้ทำ

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #คนชนะทำแล้วแก้คนแพ้มัวแต่คิดไม่ได้ทำ
    รูปลักษณ์ภายนอก คืออาวุธที่ ส่งอิทธิพลต่อผู้อื่นได้ไว และง่ายที่สุดสำหรับมนุษย์ จากหนังสือ |คนชนะทำแล้วแก้คนแพ้มัวแต่คิดไม่ได้ทำ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #คนชนะทำแล้วแก้คนแพ้มัวแต่คิดไม่ได้ทำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ตอนแรกเครื่องซักผ้า ครั้งนี้เกมเพลย์"

    สหภาพยุโรปเสนอให้ห้ามจำหน่ายอุปกรณ์วิดีโอเกมให้กับรัสเซียเพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังติดอาวุธของประเทศใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อควบคุมโดรนที่ส่งไปยังยูเครน

    Kaja Kallas หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่าคอนโซล ซึ่งอาจรวมถึง PlayStation ของ Sony และ Xbox ของ Microsoft จะถูกรวมอยู่ในมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปีของปฏิบัติการทางทหารพิเศษของกองกำลังติดอาวุธรัสเซียในอดีตยูเครน
    "ตอนแรกเครื่องซักผ้า ครั้งนี้เกมเพลย์" สหภาพยุโรปเสนอให้ห้ามจำหน่ายอุปกรณ์วิดีโอเกมให้กับรัสเซียเพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังติดอาวุธของประเทศใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อควบคุมโดรนที่ส่งไปยังยูเครน Kaja Kallas หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่าคอนโซล ซึ่งอาจรวมถึง PlayStation ของ Sony และ Xbox ของ Microsoft จะถูกรวมอยู่ในมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปีของปฏิบัติการทางทหารพิเศษของกองกำลังติดอาวุธรัสเซียในอดีตยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียงปืนต่อสู้ดังตลอดทั่วบางส่วนของพื้นที่เมืองโกมา (Goma) สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่โดนกบฏ M23 ร่วมกับกำลังทหารรวันดาบุกยึดแบบสายฟ้าแลบ ขณะที่ผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ เบลเยียม รวันดาในกรุงคินชาซา ส่วนสถานทูตฝรั่งเศสโดนบุกเผาถึงด้านใน
    .
    เอเอฟพีรายงานวันนี้ (27 ม.ค.) ว่า กลุ่มกบโ M23 ที่ย่อมาจากกลุ่ม “23 มีนาคม” ซึ่งมีรวันดาให้การสนับสนุนในวันจันทร์ (26) อ้างว่า สามารถยึดเมืองโกมา (Goma) ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกสำเร็จ
    .
    โกมาของดีอาร์คองโกถือเป็นเมืองสำคัญที่อุดมด้วยแร่ธาตุไม่ต่างจากเกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์กที่ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการอยากได้ เพราะโกมามีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ ทั้งแร่แทนทาลัมและโคลบอลต์ที่สำคัญสำหรับแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้า และยังมีแร่โคลแทน (coltan) และทองคำ
    .
    โคลแทนซึ่งเป็นแร่ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนและเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้อง รวมแบตเตอรี่รถไฟฟ้า
    .
    เอพีรายงานว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มกบฏ M23 สามารถยึดเมืองโกมาได้มากน้อยเพียงใด
    .
    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลดีอาร์คองโกยืนยันการปรากฏตัวของกลุ่มกบฏ M23 ในเมืองโกมาซึ่งห่างจากกรุงคินชาฮา (Kinshasa)ไปทางตะวันออกราว 1,500 กม.
    .
    โฆษกรัฐบาลดีอาร์คองโกออกแถลงการณ์ยืนยันทางแพลตฟอร์ม X จะไม่ยอมเสียพื้นไปแม้แต่ตารางเซนเดียว แต่ไม่ยอมกล่าวว่า กลุ่มกบฏกำลังเข้ายึดเมืองโกมา เอพีรายงาน
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มกบฏ M23 ซึ่งมีทหารจากรวันดาเข้าช่วยเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองโกมาในคืนวันอาทิตย์ (26) หลังใช้เวลาแค่สัปดาห์ในการรุกคืบอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค
    .
    ขณะเดียวกัน ที่กรุงคินชาซา กลุ่มผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตต่างชาติที่ตั้งอยู่ในกลางกรุงทั้งสถานทูตสหรัฐฯ สถานทูตเบลเยียม สถานทูตรวันดา รวมถึงสถานทูตฝรั่งเศส
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า สถานทูตสหรัฐฯ ได้ออกคำแนะนำให้พลเมืองสหรัฐฯ หลบอยู่ในที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการเดินทาง
    .
    ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noel Barrot) ออกมาประณามว่า เป็นการโจมตีอย่างรับไม่ได้ พร้อมเปิดเผยว่า ไฟที่ไหม้ในตึกที่ทำการสถานทูตในเวลานี้อยู่ในการควบคุมแล้ว
    .
    ล่าสุด กลุ่มกบฏ M23 และกองกำลังทหารรวันดาสามารถควบคุมสนามบินโกมาได้สำเร็จในวันอังคาร (28) แหล่งข่าวทางความมั่นคงให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
    .
    “พวกเขาเข้ายึดสนามบิน พวกนักรบกลุ่ม M23 อยู่ที่นั่น” แหล่งข่าวเปิดเผย พร้อมเสริมต่อว่า มีทหารดีอาร์คองโกไม่ต่ำกว่า 1,200 นายยอมจำนน และถูกควบคุมที่ฐานทัพของกองกำลังสหประชาชาติ MONUSC ที่สนามบิน
    .
    โดยในวันอังคาร (28) เสียงปืนต่อสู้ยังคงได้ยินถึงแม้ว่าความหนักหน่วงในการสู้รบจะน้อยลง
    .
    มีนักรบกลุ่ม M23 หลายสิบคนเดินมาร์ชผ่านถนนสายหลักในโกมา มีบางส่วนสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและถืออาวุธของทหารดีอาร์คองโก
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า ชาวโกมาไม่กี่คนออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาโดนปล้นสะดมจากทหารดีอาร์คองโกหรือจากกลุ่มกบฏ
    .
    ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าส่วนใดของโกมาที่โดนยึดโดยกบฏที่ออกมาอ้างว่ายึดได้ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (26)
    .
    มีไม่ต่ำกว่า 17 คนเสียชีวิต และอีก 367 คนได้รับบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้ 2 วันอ้างอิงจากโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่
    .
    องค์การกาชาดออกมาเตือนความเสี่ยงหากตัวอย่างเชื้อไวรัสอีโบลาที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตหลังเลือดไหลออกไม่หยุดจากทั้งปาก จมูก หู ตา ที่มีสาเหตุจากการกินค้างคาวหรือลิง ที่เกิดระบาดอย่างรุนแรงเมื่อปี 2014-2016 ในไลบีเรียจนเห็นคนตายกลาดเกลื่อนถนน และหมออเมริกัน 2 คนซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหมอมิชชันนารีต้องถูกหามส่งกลับสหรัฐฯ อย่างเร่งด่วนเพราะติดเชื้อนั้นอาจหลุดออกไปจากห้องแล็บได้เนื่องมาจากการสู้รบระหว่างกบฏ M23 และทหารรัฐบาลดีอาร์คองโก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009082
    ..............
    Sondhi X
    เสียงปืนต่อสู้ดังตลอดทั่วบางส่วนของพื้นที่เมืองโกมา (Goma) สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่โดนกบฏ M23 ร่วมกับกำลังทหารรวันดาบุกยึดแบบสายฟ้าแลบ ขณะที่ผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ เบลเยียม รวันดาในกรุงคินชาซา ส่วนสถานทูตฝรั่งเศสโดนบุกเผาถึงด้านใน . เอเอฟพีรายงานวันนี้ (27 ม.ค.) ว่า กลุ่มกบโ M23 ที่ย่อมาจากกลุ่ม “23 มีนาคม” ซึ่งมีรวันดาให้การสนับสนุนในวันจันทร์ (26) อ้างว่า สามารถยึดเมืองโกมา (Goma) ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกสำเร็จ . โกมาของดีอาร์คองโกถือเป็นเมืองสำคัญที่อุดมด้วยแร่ธาตุไม่ต่างจากเกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์กที่ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการอยากได้ เพราะโกมามีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ ทั้งแร่แทนทาลัมและโคลบอลต์ที่สำคัญสำหรับแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้า และยังมีแร่โคลแทน (coltan) และทองคำ . โคลแทนซึ่งเป็นแร่ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนและเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้อง รวมแบตเตอรี่รถไฟฟ้า . เอพีรายงานว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มกบฏ M23 สามารถยึดเมืองโกมาได้มากน้อยเพียงใด . อย่างไรก็ตาม รัฐบาลดีอาร์คองโกยืนยันการปรากฏตัวของกลุ่มกบฏ M23 ในเมืองโกมาซึ่งห่างจากกรุงคินชาฮา (Kinshasa)ไปทางตะวันออกราว 1,500 กม. . โฆษกรัฐบาลดีอาร์คองโกออกแถลงการณ์ยืนยันทางแพลตฟอร์ม X จะไม่ยอมเสียพื้นไปแม้แต่ตารางเซนเดียว แต่ไม่ยอมกล่าวว่า กลุ่มกบฏกำลังเข้ายึดเมืองโกมา เอพีรายงาน . เอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มกบฏ M23 ซึ่งมีทหารจากรวันดาเข้าช่วยเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองโกมาในคืนวันอาทิตย์ (26) หลังใช้เวลาแค่สัปดาห์ในการรุกคืบอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค . ขณะเดียวกัน ที่กรุงคินชาซา กลุ่มผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตต่างชาติที่ตั้งอยู่ในกลางกรุงทั้งสถานทูตสหรัฐฯ สถานทูตเบลเยียม สถานทูตรวันดา รวมถึงสถานทูตฝรั่งเศส . เอเอฟพีรายงานว่า สถานทูตสหรัฐฯ ได้ออกคำแนะนำให้พลเมืองสหรัฐฯ หลบอยู่ในที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการเดินทาง . ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noel Barrot) ออกมาประณามว่า เป็นการโจมตีอย่างรับไม่ได้ พร้อมเปิดเผยว่า ไฟที่ไหม้ในตึกที่ทำการสถานทูตในเวลานี้อยู่ในการควบคุมแล้ว . ล่าสุด กลุ่มกบฏ M23 และกองกำลังทหารรวันดาสามารถควบคุมสนามบินโกมาได้สำเร็จในวันอังคาร (28) แหล่งข่าวทางความมั่นคงให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี . “พวกเขาเข้ายึดสนามบิน พวกนักรบกลุ่ม M23 อยู่ที่นั่น” แหล่งข่าวเปิดเผย พร้อมเสริมต่อว่า มีทหารดีอาร์คองโกไม่ต่ำกว่า 1,200 นายยอมจำนน และถูกควบคุมที่ฐานทัพของกองกำลังสหประชาชาติ MONUSC ที่สนามบิน . โดยในวันอังคาร (28) เสียงปืนต่อสู้ยังคงได้ยินถึงแม้ว่าความหนักหน่วงในการสู้รบจะน้อยลง . มีนักรบกลุ่ม M23 หลายสิบคนเดินมาร์ชผ่านถนนสายหลักในโกมา มีบางส่วนสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและถืออาวุธของทหารดีอาร์คองโก . เอเอฟพีรายงานว่า ชาวโกมาไม่กี่คนออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาโดนปล้นสะดมจากทหารดีอาร์คองโกหรือจากกลุ่มกบฏ . ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าส่วนใดของโกมาที่โดนยึดโดยกบฏที่ออกมาอ้างว่ายึดได้ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (26) . มีไม่ต่ำกว่า 17 คนเสียชีวิต และอีก 367 คนได้รับบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้ 2 วันอ้างอิงจากโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ . องค์การกาชาดออกมาเตือนความเสี่ยงหากตัวอย่างเชื้อไวรัสอีโบลาที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตหลังเลือดไหลออกไม่หยุดจากทั้งปาก จมูก หู ตา ที่มีสาเหตุจากการกินค้างคาวหรือลิง ที่เกิดระบาดอย่างรุนแรงเมื่อปี 2014-2016 ในไลบีเรียจนเห็นคนตายกลาดเกลื่อนถนน และหมออเมริกัน 2 คนซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหมอมิชชันนารีต้องถูกหามส่งกลับสหรัฐฯ อย่างเร่งด่วนเพราะติดเชื้อนั้นอาจหลุดออกไปจากห้องแล็บได้เนื่องมาจากการสู้รบระหว่างกบฏ M23 และทหารรัฐบาลดีอาร์คองโก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009082 .............. Sondhi X
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1146 มุมมอง 0 รีวิว
  • 29/1/68

    จาก เฟสบุ๊คของ Akhom Makaranond (อาคม มกรานนท์)
    ..
    เพื่อนพ้องน้องพี่ที่รักครับ

    เวลานี้บ้านเมืองเรากำลังเจอกับฝุ่นพิษ พี.เอ็ม.๒.๕ อย่างหนัก การเดินทางไปไหนมาไหน ก็เหมือนเดินทางฝ่าหมอก รถราติดกันยาวเหยียด ชาวบ้านเจอพิษร้ายคราวนี้ เล่นเอาแย่ไปตามๆกัน หายใจหายคอลำบาก บางรายถึงกับเลือดกำเดาไหล

    รัฐบาลประกาศให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ฟรี ๗ วัน ที่จริงไม่ได้ฟรีตามที่รัฐบาลบอกหรอกนะ เพราะเอางบประมาณมาใช้ชดเชยงานนี้ถึง ๑๔๐ ล้านบาท จะเรียกว่าฟรีได้ยังไง มันเป็นเงินของประชาชนนั่นเอง แถมยังมีคำกล่าวของนายกฯแถมมาให้อีกด้วย
    "เราไม่สามารถดีดนิ้วให้ฝุ่นหายไปได้"
    เป็นคำกล่าวที่น่ารักมากของนายกฯหญิงคนนี้

    เลยขอฝากถึงนายกฯด้วยว่า"เราก็ไม่สามารถเอานิ้วไปดีดปากที่ท่านพูดออกมาได้ แต่เราขอใช้ปากเชิญท่านและพ่องท่านได้ ใช่ไหม? ส่วนจะเชิญไปไหนคิดเอาเอง ไม่ใช่ให้ไปสวรรค์ก็แล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าแช่งกัน

    ถ้าความยุติธรรมในโลกนี้ยังมีอยู่ คนชั่วอย่างคนๆนี้ จะมีทางเลือกแค่"หนีคดีความ และ เข้าไปอยู่ในคุก"เท่านั้น คนชั่วไม่มีสิทธิ์มาลอยนวลอยู่อย่างนี้หรอก

    ว่าแต่ไปทำอะไรเข้า สส.เขียงใหม่ พรรคของตัวเอง "จักรพล ตั้งสุทธิธรรม" ถึงออกมาเล่นงานหัวหน้าพรรคฯตัวเอง ในฐานะนายกฯ หนีการตอบกระทู้ในสภาฯ ทุกวันพฤหัศบดี แม้แต่กระทู้เรื่องฝุ่นพิษที่กำลังระบาดอยู่ในเวลานี้ ก็เลี่ยงไม่มาตอบ

    ท่าน สส.เชียงใหม่ นายกฯจะไปทำไม? ไม่มีอะไรจะตอบ เพราะตอบไม่ได้ ไงล่ะ!

    เรื่องนี้สำคัญกว่า อยานึกว่าเขาไม่รู้ ทางการจีนเขามีคนของเขา ส่งข่าวไปให้รัฐบาลของเขาทราบ เขารู้มานานแล้วว่า ข้าราชการไทย และนักการเมืองพรรคใหญ่ มีเอี่ยวกับพวกจีนเทา

    ข่าวดังกล่าวบ่งชี้ว่า รัฐบาลและข้าราชการไทย เจ้าหน้าที่รัฐ บกพร่อง อ่อนแอ มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับขบวนการสีเทา ยิ่งบริเวณชายแดนไทย-พม่า พวกว้าแดงที่เป็นชนกลุ่มน้อย กองกำลังติดอาวุธ ขบวนการผลิตยาเสพติด มันไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย เพราะนายกฯและ รมต.กลาโหมไทย มันอ่อนเสียจนเขาไม่เกรงกลัวเลย น่าอายจัง

    ถึงเวลาหรือยัง? หยุดตระกูลโกงชาติ ก่อนที่บ้านเมืองจะพังพินาศจนไม่เหลืออะไรเลย

    นี่ก็อีกคน ไม่ทราบว่าเอาสมองส่วนไหนมาคิด "แก้ปัญหา พี.เอ็ม.๒.๕ ด้วยการแจกมุ้งสู้ฝุ่น ๓ หมื่นกว่าหลัง สู้ฝุ่นหรือสู้ยุง

    รัฐบาลชุดนี้ชอบทำอะไรแปลกๆอยู่เสมอ อย่างเรื่องพม่าตัดสินจำคุกลูกเรือประมงไทยที่เกาะสอง

    สื่อเราถามนายกฯว่าจะมีมาตรการอะไรตอบโต้พม่าบ้าง มาตรการตอบโต้ของนายกฯไทย
    ๑. จับพม่าเถื่อนมาขึ้นทะเบียน โดยไม่มีการสอบประวัติอาชญากรรม
    ๒. ให้อยู่ในไทยไม่จำกัดเวลา จะอยู่นานเท่าไรก็ได้
    ๓. ลูกหลานพม่าเรียนฟรี เจ็บป่วยรักษาฟรี
    ส่วนลูกเรือประมงไทย แล้วแต่เวรแต่กรรม พวกพม่าได้ฟังแล้ว พากันกลัวเสียจนเยี่ยวราดกันเป็นแถว

    ประเทศเรา สมรสเท่าเทียมก็มีแล้ว เมื่อไหร่ถึงจะติดคุกเท่าเทียมคนอื่นเขาเสียที รัฐบาลช่วยคิดด้วยสิ

    เวลานี้รัฐบาลจีนกำลังไล่กำจัดพวกคอลเซนเตอร์ เพื่อปกป้องประเทศของเขา

    สหรัฐอเมริกากำลังขับพวกอพยพออกนอกประเทศ

    ประเทศไทย ไม่ได้ทำอะไรเพื่อคนไทย แต่ทำเพื่อคนพม่า

    มันผู้ใดที่ทำร้ายบ้านเมือง ขอให้มันจงฉิบหายทั้งตระกูล สาธุ

    เราจะช่วยกันด่าหรือจะช่วยกันชม ฟังนะ

    นางหนึ่งบอก เรื่องฝุ่น พี.เอ็ม.๒.๕ นี่นะ คิดมาตั้งแต่วันแรกที่มาเป็นนายกฯ และตามที่หาเสียงไว้"เพื่อไทยแก้ฝุ่นที่ต้นตอ"
    นายหนึ่ง (ที่จริงก็พวกเดียวกันนั่นแหละ)บอกว่า"ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าอาสามาเป็นผู้ว่าฯ ผมศึกษามานานถึง ๒ ปี
    พ่อของพรรคก็จ้อหลอกชาวบ้านว่า"ถ้าเพื่อไทยทำไม่ได้ ให้ชี้หน้าด่าได้เลย"

    รัฐบาลประยุทธ์ฯพยายามแก้ปัญหา พี.เอ็ม.๒.๕ ด้วยการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน
    รัฐบาลเพื่อไทยแก้ปัญหาด้วยการ นั่งรถ ขสมก.- รถไฟฟ้าฟรี(ใช้งบ ๑๔๐ ล้านบาท)

    เห็นไหม"สติปัญญาของคนมันต่างกัน"เชื่อหรือยังล่ะ?

    วันนี้จบแค่นี้ก่อน เช่นเคย ขอฝากข้อคิดให้ไปคิดกัน การที่จะให้คนชั่วสูญพันธ์ ต้องใช้แบบนี้
    "คนที่ลืมรากเหง้าของ ตนเอง ทรยศต่อมาตุภูมิ และทำให้ชาติต้องแตกแยก มักจะเจอจุดจบที่ไม่ดี"

    อย่าลืมกันเสียล่ะ ช่วยดูๆกันด้วยนะ ถ้าหน้าแล้งปีนี้ ไม่มีน้ำ "ฝนหลวง"มีงบไม่พอ พี่น้องที่เลือก ๑๐ ล้านเสียง อย่าร้องเอะอะโวยวายนะ "ไอโอดิน" กินแล้วไม่โง่ สิบอกให้

    ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่เลือกพรรคนี้มาเป็นรัฐบาล แทนที่จะได้ฝน กลับได้ฝุ่นมาแทน

    ใครบอก คนตกงานต้องเดินเตะฝุ่น ตอนนี้คนมีงานก็ต้องเดินเตะฝุ่นกันเพียบเลย

    สวัสดี.
    29/1/68 จาก เฟสบุ๊คของ Akhom Makaranond (อาคม มกรานนท์) .. เพื่อนพ้องน้องพี่ที่รักครับ เวลานี้บ้านเมืองเรากำลังเจอกับฝุ่นพิษ พี.เอ็ม.๒.๕ อย่างหนัก การเดินทางไปไหนมาไหน ก็เหมือนเดินทางฝ่าหมอก รถราติดกันยาวเหยียด ชาวบ้านเจอพิษร้ายคราวนี้ เล่นเอาแย่ไปตามๆกัน หายใจหายคอลำบาก บางรายถึงกับเลือดกำเดาไหล รัฐบาลประกาศให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ฟรี ๗ วัน ที่จริงไม่ได้ฟรีตามที่รัฐบาลบอกหรอกนะ เพราะเอางบประมาณมาใช้ชดเชยงานนี้ถึง ๑๔๐ ล้านบาท จะเรียกว่าฟรีได้ยังไง มันเป็นเงินของประชาชนนั่นเอง แถมยังมีคำกล่าวของนายกฯแถมมาให้อีกด้วย "เราไม่สามารถดีดนิ้วให้ฝุ่นหายไปได้" เป็นคำกล่าวที่น่ารักมากของนายกฯหญิงคนนี้ เลยขอฝากถึงนายกฯด้วยว่า"เราก็ไม่สามารถเอานิ้วไปดีดปากที่ท่านพูดออกมาได้ แต่เราขอใช้ปากเชิญท่านและพ่องท่านได้ ใช่ไหม? ส่วนจะเชิญไปไหนคิดเอาเอง ไม่ใช่ให้ไปสวรรค์ก็แล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าแช่งกัน ถ้าความยุติธรรมในโลกนี้ยังมีอยู่ คนชั่วอย่างคนๆนี้ จะมีทางเลือกแค่"หนีคดีความ และ เข้าไปอยู่ในคุก"เท่านั้น คนชั่วไม่มีสิทธิ์มาลอยนวลอยู่อย่างนี้หรอก ว่าแต่ไปทำอะไรเข้า สส.เขียงใหม่ พรรคของตัวเอง "จักรพล ตั้งสุทธิธรรม" ถึงออกมาเล่นงานหัวหน้าพรรคฯตัวเอง ในฐานะนายกฯ หนีการตอบกระทู้ในสภาฯ ทุกวันพฤหัศบดี แม้แต่กระทู้เรื่องฝุ่นพิษที่กำลังระบาดอยู่ในเวลานี้ ก็เลี่ยงไม่มาตอบ ท่าน สส.เชียงใหม่ นายกฯจะไปทำไม? ไม่มีอะไรจะตอบ เพราะตอบไม่ได้ ไงล่ะ! เรื่องนี้สำคัญกว่า อยานึกว่าเขาไม่รู้ ทางการจีนเขามีคนของเขา ส่งข่าวไปให้รัฐบาลของเขาทราบ เขารู้มานานแล้วว่า ข้าราชการไทย และนักการเมืองพรรคใหญ่ มีเอี่ยวกับพวกจีนเทา ข่าวดังกล่าวบ่งชี้ว่า รัฐบาลและข้าราชการไทย เจ้าหน้าที่รัฐ บกพร่อง อ่อนแอ มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับขบวนการสีเทา ยิ่งบริเวณชายแดนไทย-พม่า พวกว้าแดงที่เป็นชนกลุ่มน้อย กองกำลังติดอาวุธ ขบวนการผลิตยาเสพติด มันไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย เพราะนายกฯและ รมต.กลาโหมไทย มันอ่อนเสียจนเขาไม่เกรงกลัวเลย น่าอายจัง ถึงเวลาหรือยัง? หยุดตระกูลโกงชาติ ก่อนที่บ้านเมืองจะพังพินาศจนไม่เหลืออะไรเลย นี่ก็อีกคน ไม่ทราบว่าเอาสมองส่วนไหนมาคิด "แก้ปัญหา พี.เอ็ม.๒.๕ ด้วยการแจกมุ้งสู้ฝุ่น ๓ หมื่นกว่าหลัง สู้ฝุ่นหรือสู้ยุง รัฐบาลชุดนี้ชอบทำอะไรแปลกๆอยู่เสมอ อย่างเรื่องพม่าตัดสินจำคุกลูกเรือประมงไทยที่เกาะสอง สื่อเราถามนายกฯว่าจะมีมาตรการอะไรตอบโต้พม่าบ้าง มาตรการตอบโต้ของนายกฯไทย ๑. จับพม่าเถื่อนมาขึ้นทะเบียน โดยไม่มีการสอบประวัติอาชญากรรม ๒. ให้อยู่ในไทยไม่จำกัดเวลา จะอยู่นานเท่าไรก็ได้ ๓. ลูกหลานพม่าเรียนฟรี เจ็บป่วยรักษาฟรี ส่วนลูกเรือประมงไทย แล้วแต่เวรแต่กรรม พวกพม่าได้ฟังแล้ว พากันกลัวเสียจนเยี่ยวราดกันเป็นแถว ประเทศเรา สมรสเท่าเทียมก็มีแล้ว เมื่อไหร่ถึงจะติดคุกเท่าเทียมคนอื่นเขาเสียที รัฐบาลช่วยคิดด้วยสิ เวลานี้รัฐบาลจีนกำลังไล่กำจัดพวกคอลเซนเตอร์ เพื่อปกป้องประเทศของเขา สหรัฐอเมริกากำลังขับพวกอพยพออกนอกประเทศ ประเทศไทย ไม่ได้ทำอะไรเพื่อคนไทย แต่ทำเพื่อคนพม่า มันผู้ใดที่ทำร้ายบ้านเมือง ขอให้มันจงฉิบหายทั้งตระกูล สาธุ เราจะช่วยกันด่าหรือจะช่วยกันชม ฟังนะ นางหนึ่งบอก เรื่องฝุ่น พี.เอ็ม.๒.๕ นี่นะ คิดมาตั้งแต่วันแรกที่มาเป็นนายกฯ และตามที่หาเสียงไว้"เพื่อไทยแก้ฝุ่นที่ต้นตอ" นายหนึ่ง (ที่จริงก็พวกเดียวกันนั่นแหละ)บอกว่า"ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าอาสามาเป็นผู้ว่าฯ ผมศึกษามานานถึง ๒ ปี พ่อของพรรคก็จ้อหลอกชาวบ้านว่า"ถ้าเพื่อไทยทำไม่ได้ ให้ชี้หน้าด่าได้เลย" รัฐบาลประยุทธ์ฯพยายามแก้ปัญหา พี.เอ็ม.๒.๕ ด้วยการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลเพื่อไทยแก้ปัญหาด้วยการ นั่งรถ ขสมก.- รถไฟฟ้าฟรี(ใช้งบ ๑๔๐ ล้านบาท) เห็นไหม"สติปัญญาของคนมันต่างกัน"เชื่อหรือยังล่ะ? วันนี้จบแค่นี้ก่อน เช่นเคย ขอฝากข้อคิดให้ไปคิดกัน การที่จะให้คนชั่วสูญพันธ์ ต้องใช้แบบนี้ "คนที่ลืมรากเหง้าของ ตนเอง ทรยศต่อมาตุภูมิ และทำให้ชาติต้องแตกแยก มักจะเจอจุดจบที่ไม่ดี" อย่าลืมกันเสียล่ะ ช่วยดูๆกันด้วยนะ ถ้าหน้าแล้งปีนี้ ไม่มีน้ำ "ฝนหลวง"มีงบไม่พอ พี่น้องที่เลือก ๑๐ ล้านเสียง อย่าร้องเอะอะโวยวายนะ "ไอโอดิน" กินแล้วไม่โง่ สิบอกให้ ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่เลือกพรรคนี้มาเป็นรัฐบาล แทนที่จะได้ฝน กลับได้ฝุ่นมาแทน ใครบอก คนตกงานต้องเดินเตะฝุ่น ตอนนี้คนมีงานก็ต้องเดินเตะฝุ่นกันเพียบเลย สวัสดี.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 348 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ.ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยอมรับว่า สหรัฐอเมริกาไม่เคยชนะสงครามเลยแม้แต่ครั้งเดียวในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา!

    “เราเข้าสู่สงครามเยอะมาก แต่ไม่เคยชนะ สหรัฐอเมริกาไม่ได้รับชัยชนะในความขัดแย้งทางทหารแม้แต่ครั้งเดียวในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา ส่วนกลาโหมเองก็ประสบปัญหาครั้งใหญ่ด้านกำลังพล ปัญหาในการจัดซื้ออาวุธที่ไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง เราซื้อเครื่องบินมาในราคาหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งราคาแพงลิ่วจนน่ากลัว กำหนดการส่งมอบก็ล่าช้าเสมอ ดังนั้นมันต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แน่นอนว่าจะมีคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่มีเราจต้องทำ”

    เจ.ดี. แวนซ์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CBS News



    เจ.ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยอมรับว่า สหรัฐอเมริกาไม่เคยชนะสงครามเลยแม้แต่ครั้งเดียวในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา! “เราเข้าสู่สงครามเยอะมาก แต่ไม่เคยชนะ สหรัฐอเมริกาไม่ได้รับชัยชนะในความขัดแย้งทางทหารแม้แต่ครั้งเดียวในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา ส่วนกลาโหมเองก็ประสบปัญหาครั้งใหญ่ด้านกำลังพล ปัญหาในการจัดซื้ออาวุธที่ไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง เราซื้อเครื่องบินมาในราคาหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งราคาแพงลิ่วจนน่ากลัว กำหนดการส่งมอบก็ล่าช้าเสมอ ดังนั้นมันต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แน่นอนว่าจะมีคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่มีเราจต้องทำ” เจ.ดี. แวนซ์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CBS News
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในการสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Il Foglio ของอิตาลี เซเลนสกีได้พูดถึงเรื่องการแลกเปลี่ยนอาวุธนิวเคลียร์ของยูเครนในยุคสหภาพโซเวียต โดยวิจารณ์บันทึกข้อตกลงบูดาเปสต์ในสมัยนั่นว่าเป็นเรื่องโง่เง่า ไร้สาระสิ้นดี:

    “ถ้าผมจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนอะไรสักอย่างกับอาวุธนิวเคลียร์ที่มีอยู่ มันจะต้องเป็นอะไรสักอย่างที่ทรงพลังมาก เป็นอะไรสักอย่างที่ป้องกันจาการโจมตีได้จริงๆ”

    “ยูเครนไม่จำเป็นต้องเสียสละอาวุธนิวเคลียร์ มันโง่เง่า ไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง”

    - แต่สิ่งที่เซเลนสกีไม่ยอมรับรู้ และไม่ยอมพูดถึงคือ อาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดนั่นเป็นของสหภาพโซเวียต ไม่ใช่ของยูเครน!! มันสมควรแล้วที่ต้องกลับไปอยู่ในความครอบครองของรัสเซียในฐานะผู้สืบทอดสหภาพโซเวียต

    - อาวุธนิวเคลียร์ของสหภาพโซเวียต เพียงแค่ตั้งอยู่ในพื้นที่ยูเครน เนื่องจากในยุคนั้น ตะวันตกเป็นภัยคุกคามต่อสหภาพโซเวียต พวกมันจึงถูกตั้งรับอยู่ที่นั่นเพื่อต่อต้านตะวันตก

    - นอกจากนี้ เซียยังรับภาระหนี้ต่างประเทศทั้งหมดของยูเครนจากการแยกตัวออกมา ดังนั้น ยูเครนจึงสามารถเริ่มต้นเป็นประเทศได้ในปี 1991 โดยไม่มีหนี้สินเลย!

    ในการสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Il Foglio ของอิตาลี เซเลนสกีได้พูดถึงเรื่องการแลกเปลี่ยนอาวุธนิวเคลียร์ของยูเครนในยุคสหภาพโซเวียต โดยวิจารณ์บันทึกข้อตกลงบูดาเปสต์ในสมัยนั่นว่าเป็นเรื่องโง่เง่า ไร้สาระสิ้นดี: “ถ้าผมจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนอะไรสักอย่างกับอาวุธนิวเคลียร์ที่มีอยู่ มันจะต้องเป็นอะไรสักอย่างที่ทรงพลังมาก เป็นอะไรสักอย่างที่ป้องกันจาการโจมตีได้จริงๆ” “ยูเครนไม่จำเป็นต้องเสียสละอาวุธนิวเคลียร์ มันโง่เง่า ไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง” - แต่สิ่งที่เซเลนสกีไม่ยอมรับรู้ และไม่ยอมพูดถึงคือ อาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดนั่นเป็นของสหภาพโซเวียต ไม่ใช่ของยูเครน!! มันสมควรแล้วที่ต้องกลับไปอยู่ในความครอบครองของรัสเซียในฐานะผู้สืบทอดสหภาพโซเวียต - อาวุธนิวเคลียร์ของสหภาพโซเวียต เพียงแค่ตั้งอยู่ในพื้นที่ยูเครน เนื่องจากในยุคนั้น ตะวันตกเป็นภัยคุกคามต่อสหภาพโซเวียต พวกมันจึงถูกตั้งรับอยู่ที่นั่นเพื่อต่อต้านตะวันตก - นอกจากนี้ เซียยังรับภาระหนี้ต่างประเทศทั้งหมดของยูเครนจากการแยกตัวออกมา ดังนั้น ยูเครนจึงสามารถเริ่มต้นเป็นประเทศได้ในปี 1991 โดยไม่มีหนี้สินเลย!
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • เมียร์ไชเมอร์: ทรัมป์ไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน!!

    28/1/2025

    นักคิดด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสหรัฐฯ :
    🔹การทำสงครามระหว่างอิสราเอลและสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ยังคงดำเนินต่อไปนั้น จะไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ

    แม้ว่าจะมีกลุ่มหัวรุนแรงอยู่ในคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน

    กลุ่มหัวรุนแรงทั้งหมดในอเมริกาและอิสราเอลต้องการทำลายอิหร่านและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

    ทรัมป์อาจจะพยายามกดดันอิหร่านให้ยอมรับเงื่อนไขของเขาโดยใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจ

    ข้อกล่าวอ้างเกี่ยวกับการทำลายล้างฮิซบุลเลาะห์นั้นเป็นเรื่องโกหก

    การโจมตีของอิสราเอลไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อระบบป้องกันทางอากาศของอิหร่านแต่อย่างใด

    ความเป็นไปได้ที่พวกเขา (ระบอบไซออนิสต์) จะล้มเหลวในการทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้นมีสูง

    ชาวอิสราเอลกำลังมองหาการเผชิญหน้ากับอิหร่าน แต่พวกเขาไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา

    ถ้าฉันเป็นชาวอิหร่าน ฉันจะสร้างอาวุธนิวเคลียร์

    ประเทศสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับอิสราเอลคือซาอุดิอาระเบีย!!

    ข่าวโลกที่3

    isna.ir/xdSLrT
    @isna94
    เมียร์ไชเมอร์: ทรัมป์ไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน!! 28/1/2025 นักคิดด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสหรัฐฯ : 🔹การทำสงครามระหว่างอิสราเอลและสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ยังคงดำเนินต่อไปนั้น จะไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีกลุ่มหัวรุนแรงอยู่ในคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน กลุ่มหัวรุนแรงทั้งหมดในอเมริกาและอิสราเอลต้องการทำลายอิหร่านและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทรัมป์อาจจะพยายามกดดันอิหร่านให้ยอมรับเงื่อนไขของเขาโดยใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจ ข้อกล่าวอ้างเกี่ยวกับการทำลายล้างฮิซบุลเลาะห์นั้นเป็นเรื่องโกหก การโจมตีของอิสราเอลไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อระบบป้องกันทางอากาศของอิหร่านแต่อย่างใด ความเป็นไปได้ที่พวกเขา (ระบอบไซออนิสต์) จะล้มเหลวในการทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้นมีสูง ชาวอิสราเอลกำลังมองหาการเผชิญหน้ากับอิหร่าน แต่พวกเขาไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา ถ้าฉันเป็นชาวอิหร่าน ฉันจะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ประเทศสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับอิสราเอลคือซาอุดิอาระเบีย!! ข่าวโลกที่3 isna.ir/xdSLrT @isna94
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวยูเครนครึ่งหนึ่งอยากประนีประนอมยุติความขัดแย้งกับรัสเซีย ผ่านการเจรจาสันติภาพที่มีคนกลางนานาชาติเกี่ยวข้องด้วย จากผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆของ Socis สำนักโพลของยูเครนเอง
    .
    รายงานจาก Ukrainskaya Pravda หนังสือพิมพ์ออนไลน์ของยูเครนเมื่อวันจันทร์(27ม.ค.) เกี่ยวกับผลสำรวจล่าสุด ที่จัดทำในเดือนธันวาคม 2024 สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของผู้คนในยูเครน โดยมีจำนวนมากขึ้นที่สนับสนุนการหาทางออกทางการทูต ในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานหลายปีกับรัสเซีย และสถานการณ์ที่สิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆในสมรภูมิรบ
    .
    อ้างอิงผลสำรวจ พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถาม 50.6% สนับสนุนการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับพวกผู้นำนานาชาติ เพื่อรับประกันการยุติความขัดแย้ง ตัวเลขดังกล่าวถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 36.1% ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2024
    .
    ในส่วนจำนวนชาวยูเครน ที่สนับสนุนสู้รบจนกว่ายูเครนจะสามารถทวงคืนชายแดนกลับสู่แนวชายแดนช่วงปี 1991 ลดลงอย่างมาก จากระดับ 33.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 สู่ระดับ 14.7% ในเดือนธันวาคมปี 2024
    .
    ผลสำรวจยังพบด้วยว่าเสียงสนับสนุนให้พักความเป็นปรปักษ์และตรึงความขัดแย้งไว้ในแนวหน้าในปัจจุบัน ก็เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา จากระดับ 8.2% เป็น 19.5%
    .
    ขณะเดียวกันผลสำรวจของ Socis พบว่าสัดส่วนของชาวยูเครนที่สนับสนุนการคืนสถานะชายแดนกลับไปก่อนหน้าเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ยังคงค่อนข้างทรงตัว แกว่งตัวอยู่ระหว่าง 8.6% ถึง 13.2% ตลอดทั้งปี
    .
    Ukrainskaya Pravda เน้นว่าหนึ่งในความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดของกระบวนการเจรจา การรับประกันเสียงสนับสนุนจากทั้งประชาชนชาวยูเครนและกองทัพ เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้นำประเทศ
    .
    สื่อมวลชนแห่งนี้อ้างหนึ่งในบุคคลทรงอิทธิพลในคณะทำงานของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ระบุว่าหนึ่งในลำดับความสำคัญหลักๆก็คือ "การรับประกันรูปแบบข้อตกลงหนึ่งๆที่สหรัฐฯให้คำรับประกัน ผ่านการรับรองของสภาคองเกรส" ส่วนอีกภาะสำคัญอีกอย่างคือขัดขืนข้อเรียกร้องของรัสเซีย ที่ต้องการให้ยูเครนกลายเป็นชาติที่เป็นกลาง
    .
    เซเลนสกี บอกก่อนหน้านี้ว่า "กองกำลังรักษาสันติภาพจากยุโรปอย่างน้อยๆ 200,000 นาย มีความจำเป็น เพื่อให้ข้อตกลงหยุดยิงได้รับการยึดถือ"
    .
    มอสโก ปฏิเสธความคิดมีกองกำลังรักษาสันติภาพของตะวันตกในยูเครน หลังมันถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าหาทางออกความขัดแย้งนี้อย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่เขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    ทรัมป์ เรียกร้องมอสโกบรรลุข้อตกลงกับเคียฟ ไม่อย่างนั้นอาจต้องเจอกับมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ แต่เน้นย้ำว่าเขาไม่ต้องการทำร้ายรัสเซีย นอกจากนี้แล้วยังมีรายงานว่า ทรัมป์ ให้เวลา คีธ เคลลอกก์ ทูตพิเศษด้านยูเครนคนใหม่ 100 วัน ในการหาบทสรุปของข้อตกลง อย่างไรก็ตามทางวังเครมลินเผยว่า จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่ได้รับข้อเสนออย่างเจาะจงมาจากวอชิงตัน
    .
    การเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนพังครืนลงในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวหากันและกัน ว่านำเสนอข้อเรียกร้องที่เป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บอกว่ายูเครนต้องกลายมาเป็นชาติเป็นกลาง และละทิ้งคำกล่าวอ้างใดๆเหนืออดีตแคว้น ที่กลายมาเป็นแคว้นใหม่ของรัสเซีย เพื่อให้การเจรจาสันติภาพใดๆประสบความสำเร็จ
    .
    นับตั้งแต่นั้น มอสโก ส่งเสียงซ้ำๆว่าพร้อมกลับมาเจรจา แต่ปฏิเสธอย่างหนักแน่นเกี่ยวกับแนวคิดตรึงความขัดแย้งไว้ชั่วคราว เนื่องจากเชื่อว่ามันรังแต่จะเป็นการเปิดทางให้ยูเครนเติมเต็มคลังอาวุธ
    .
    รัสเซีย เน้นย้ำว่า ยูเครน ต้องละทิ้งความทะเยอทะยานเข้าร่วมนาโต ปลอดจากทหาร (demilitarization) ไม่เป็นนาซี (denazification) และละทิ้งแผนมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008706
    ..............
    Sondhi X
    ชาวยูเครนครึ่งหนึ่งอยากประนีประนอมยุติความขัดแย้งกับรัสเซีย ผ่านการเจรจาสันติภาพที่มีคนกลางนานาชาติเกี่ยวข้องด้วย จากผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆของ Socis สำนักโพลของยูเครนเอง . รายงานจาก Ukrainskaya Pravda หนังสือพิมพ์ออนไลน์ของยูเครนเมื่อวันจันทร์(27ม.ค.) เกี่ยวกับผลสำรวจล่าสุด ที่จัดทำในเดือนธันวาคม 2024 สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของผู้คนในยูเครน โดยมีจำนวนมากขึ้นที่สนับสนุนการหาทางออกทางการทูต ในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานหลายปีกับรัสเซีย และสถานการณ์ที่สิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆในสมรภูมิรบ . อ้างอิงผลสำรวจ พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถาม 50.6% สนับสนุนการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับพวกผู้นำนานาชาติ เพื่อรับประกันการยุติความขัดแย้ง ตัวเลขดังกล่าวถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 36.1% ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2024 . ในส่วนจำนวนชาวยูเครน ที่สนับสนุนสู้รบจนกว่ายูเครนจะสามารถทวงคืนชายแดนกลับสู่แนวชายแดนช่วงปี 1991 ลดลงอย่างมาก จากระดับ 33.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 สู่ระดับ 14.7% ในเดือนธันวาคมปี 2024 . ผลสำรวจยังพบด้วยว่าเสียงสนับสนุนให้พักความเป็นปรปักษ์และตรึงความขัดแย้งไว้ในแนวหน้าในปัจจุบัน ก็เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา จากระดับ 8.2% เป็น 19.5% . ขณะเดียวกันผลสำรวจของ Socis พบว่าสัดส่วนของชาวยูเครนที่สนับสนุนการคืนสถานะชายแดนกลับไปก่อนหน้าเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ยังคงค่อนข้างทรงตัว แกว่งตัวอยู่ระหว่าง 8.6% ถึง 13.2% ตลอดทั้งปี . Ukrainskaya Pravda เน้นว่าหนึ่งในความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดของกระบวนการเจรจา การรับประกันเสียงสนับสนุนจากทั้งประชาชนชาวยูเครนและกองทัพ เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้นำประเทศ . สื่อมวลชนแห่งนี้อ้างหนึ่งในบุคคลทรงอิทธิพลในคณะทำงานของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ระบุว่าหนึ่งในลำดับความสำคัญหลักๆก็คือ "การรับประกันรูปแบบข้อตกลงหนึ่งๆที่สหรัฐฯให้คำรับประกัน ผ่านการรับรองของสภาคองเกรส" ส่วนอีกภาะสำคัญอีกอย่างคือขัดขืนข้อเรียกร้องของรัสเซีย ที่ต้องการให้ยูเครนกลายเป็นชาติที่เป็นกลาง . เซเลนสกี บอกก่อนหน้านี้ว่า "กองกำลังรักษาสันติภาพจากยุโรปอย่างน้อยๆ 200,000 นาย มีความจำเป็น เพื่อให้ข้อตกลงหยุดยิงได้รับการยึดถือ" . มอสโก ปฏิเสธความคิดมีกองกำลังรักษาสันติภาพของตะวันตกในยูเครน หลังมันถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าหาทางออกความขัดแย้งนี้อย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่เขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . ทรัมป์ เรียกร้องมอสโกบรรลุข้อตกลงกับเคียฟ ไม่อย่างนั้นอาจต้องเจอกับมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ แต่เน้นย้ำว่าเขาไม่ต้องการทำร้ายรัสเซีย นอกจากนี้แล้วยังมีรายงานว่า ทรัมป์ ให้เวลา คีธ เคลลอกก์ ทูตพิเศษด้านยูเครนคนใหม่ 100 วัน ในการหาบทสรุปของข้อตกลง อย่างไรก็ตามทางวังเครมลินเผยว่า จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่ได้รับข้อเสนออย่างเจาะจงมาจากวอชิงตัน . การเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนพังครืนลงในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวหากันและกัน ว่านำเสนอข้อเรียกร้องที่เป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บอกว่ายูเครนต้องกลายมาเป็นชาติเป็นกลาง และละทิ้งคำกล่าวอ้างใดๆเหนืออดีตแคว้น ที่กลายมาเป็นแคว้นใหม่ของรัสเซีย เพื่อให้การเจรจาสันติภาพใดๆประสบความสำเร็จ . นับตั้งแต่นั้น มอสโก ส่งเสียงซ้ำๆว่าพร้อมกลับมาเจรจา แต่ปฏิเสธอย่างหนักแน่นเกี่ยวกับแนวคิดตรึงความขัดแย้งไว้ชั่วคราว เนื่องจากเชื่อว่ามันรังแต่จะเป็นการเปิดทางให้ยูเครนเติมเต็มคลังอาวุธ . รัสเซีย เน้นย้ำว่า ยูเครน ต้องละทิ้งความทะเยอทะยานเข้าร่วมนาโต ปลอดจากทหาร (demilitarization) ไม่เป็นนาซี (denazification) และละทิ้งแผนมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008706 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 865 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียใช้โรงฝึกศัลยกรรมสงคราม ที่เปลี่ยนสนามรบเป็นห้องรักษาชีวิตด้วยเทคโนโลยี AI และ VR

    การเปิดตัวห้องปฏิบัติการฝึกทักษะทางการแพทย์ใหม่
    กระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย และ สถาบันศัลยกรรมฉุกเฉินและฟื้นฟู V. K. Gusak เพื่อพัฒนาการฝึกอบรมและวิจัยทางการแพทย์และเพิ่มประสิทธิภาพในการเตรียมความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลใน Donetsk (พื้นที่ผนวกใหม่ของรัสเซียในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร) เพื่อยกระดับการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์จริง โดยเฉพาะในบริบทของภูมิภาคที่เผชิญความขัดแย้งในสงคราม

    เทคโนโลยีหลักที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ
    1. VR และ AI: เพื่อสร้างสถานการณ์จำลองการรักษาผู้ป่วย
    2. อุปกรณ์เสมือนจริง (VR) และอินเทอร์เฟซประสาท (Neurointerfaces) เพื่อสร้างสถานการณ์สมมุติที่ใกล้เคียงกับสนามรบ เช่น การรักษาผู้บาดเจ็บหมู่ภายใต้เสียงระเบิด
    3. เครื่องมือวัดชีวภาพ (Biometric Sensors) ที่ติดตามอัตราการเต้นหัวใจ ความเครียด และการทำงานของกล้ามเนื้อระหว่างฝึก
    4. ปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิง เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการฝึกอย่างเป็นระบบ ลดอคติจากการประเมินด้วยมนุษย์

    วัตถุประสงค์หลัก
    เพื่อเตรียมความพร้อมแพทย์และพยาบาลในภูมิภาคใหม่ที่ต้องทำงานภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ ได้แก่
    1. สภาพแวดล้อมความเครียดสูงจากการรักษาผู้บาดเจ็บจำนวนมากในภาวะฉุกเฉิน
    2. การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ในสถานการณ์เสี่ยง เช่น การผ่าตัดที่ต้องแข่งกับเวลา
    3. ความอดทนต่อการทำงานระยะยาว ผ่านการฝึกใช้กล้ามเนื้อเฉพาะจุดด้วยเครื่องจำลองการผ่าตัด

    ตามคำกล่าวของ รอแมน อิชเชนโก (Roman Ishchenko) ผู้อำนวยการสถาบัน ห้องปฏิบัติการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มทักษะเชิงเทคนิค แต่ยังสร้างความมั่นใจให้บุคลากรเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์จริง โดยระบบเทคโนโลยีจะช่วยวัดผลได้อย่างแม่นยำ เช่น การวิเคราะห์ว่าแพทย์สามารถควบคุมความเครียดขณะผ่าตัดได้ดีเพียงใด

    ความสำคัญเชิงนโยบาย
    การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ดังกล่าวสะท้อนความพยายามของรัสเซียในการพัฒนาระบบสาธารณสุขในดินแดนที่เพิ่งผนวก ซึ่งต้องเผชิญทั้งความท้าทายจากความขัดแย้งและความต้องการบริการสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยห้องปฏิบัติการแห่งนี้อาจเป็นแบบจำลองสำหรับการขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ในอนาคต

    หากด้านหนึ่ง AI ถูกใช้เพื่อสร้างอาวุธทำลายล้าง อีกด้านมันก็เป็นเครื่องมือช่วยเหลือที่ทรงพลังไม่แพ้กัน ห้องปฏิบัติการใน Donesk คือตัวอย่างชัดเจนว่า เทคโนโลยีนี้สามารถเป็น "พันธมิตร" ในการกู้ชีพ แทนที่จะเป็นเพียงผู้สังหาร ทั้งยังท้าทายแนวคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับบทบาทของ AI ในสงคราม

    ที่มา
    https://t.me/minzdravru/12508


    รัสเซียใช้โรงฝึกศัลยกรรมสงคราม ที่เปลี่ยนสนามรบเป็นห้องรักษาชีวิตด้วยเทคโนโลยี AI และ VR การเปิดตัวห้องปฏิบัติการฝึกทักษะทางการแพทย์ใหม่ กระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย และ สถาบันศัลยกรรมฉุกเฉินและฟื้นฟู V. K. Gusak เพื่อพัฒนาการฝึกอบรมและวิจัยทางการแพทย์และเพิ่มประสิทธิภาพในการเตรียมความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลใน Donetsk (พื้นที่ผนวกใหม่ของรัสเซียในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร) เพื่อยกระดับการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์จริง โดยเฉพาะในบริบทของภูมิภาคที่เผชิญความขัดแย้งในสงคราม เทคโนโลยีหลักที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ 1. VR และ AI: เพื่อสร้างสถานการณ์จำลองการรักษาผู้ป่วย 2. อุปกรณ์เสมือนจริง (VR) และอินเทอร์เฟซประสาท (Neurointerfaces) เพื่อสร้างสถานการณ์สมมุติที่ใกล้เคียงกับสนามรบ เช่น การรักษาผู้บาดเจ็บหมู่ภายใต้เสียงระเบิด 3. เครื่องมือวัดชีวภาพ (Biometric Sensors) ที่ติดตามอัตราการเต้นหัวใจ ความเครียด และการทำงานของกล้ามเนื้อระหว่างฝึก 4. ปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิง เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการฝึกอย่างเป็นระบบ ลดอคติจากการประเมินด้วยมนุษย์ วัตถุประสงค์หลัก เพื่อเตรียมความพร้อมแพทย์และพยาบาลในภูมิภาคใหม่ที่ต้องทำงานภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ ได้แก่ 1. สภาพแวดล้อมความเครียดสูงจากการรักษาผู้บาดเจ็บจำนวนมากในภาวะฉุกเฉิน 2. การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ในสถานการณ์เสี่ยง เช่น การผ่าตัดที่ต้องแข่งกับเวลา 3. ความอดทนต่อการทำงานระยะยาว ผ่านการฝึกใช้กล้ามเนื้อเฉพาะจุดด้วยเครื่องจำลองการผ่าตัด ตามคำกล่าวของ รอแมน อิชเชนโก (Roman Ishchenko) ผู้อำนวยการสถาบัน ห้องปฏิบัติการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มทักษะเชิงเทคนิค แต่ยังสร้างความมั่นใจให้บุคลากรเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์จริง โดยระบบเทคโนโลยีจะช่วยวัดผลได้อย่างแม่นยำ เช่น การวิเคราะห์ว่าแพทย์สามารถควบคุมความเครียดขณะผ่าตัดได้ดีเพียงใด ความสำคัญเชิงนโยบาย การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ดังกล่าวสะท้อนความพยายามของรัสเซียในการพัฒนาระบบสาธารณสุขในดินแดนที่เพิ่งผนวก ซึ่งต้องเผชิญทั้งความท้าทายจากความขัดแย้งและความต้องการบริการสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยห้องปฏิบัติการแห่งนี้อาจเป็นแบบจำลองสำหรับการขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ในอนาคต หากด้านหนึ่ง AI ถูกใช้เพื่อสร้างอาวุธทำลายล้าง อีกด้านมันก็เป็นเครื่องมือช่วยเหลือที่ทรงพลังไม่แพ้กัน ห้องปฏิบัติการใน Donesk คือตัวอย่างชัดเจนว่า เทคโนโลยีนี้สามารถเป็น "พันธมิตร" ในการกู้ชีพ แทนที่จะเป็นเพียงผู้สังหาร ทั้งยังท้าทายแนวคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับบทบาทของ AI ในสงคราม ที่มา https://t.me/minzdravru/12508
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามเย็น 'กริพเพน-เอฟ16' กองทัพอากาศ ย้ำจุดยืน เสนอครม.อนุมัติเม.ย.-พ.ค.
    .
    ประเด็นเรื่องการจัดซื้อเครื่องขับไล่ฝูงใหม่ของกองทัพอากาศยังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ภายหลังมีความเคลื่อนไหวที่ออกมาจากพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ซึ่งระบุว่าเงื่อนไขการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของประเทศสวีเดน ยังคงดีที่สุด ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี
    .
    พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการพิจารณาดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพคเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง (direct offset) การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบTactical data link ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ โดยนับตั้งแต่คัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับ กริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพนซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด เราให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า โดยตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม
    .
    ผบ.ทอ. กล่าวว่า คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว
    .
    ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นำคณะผู้แทนกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพลนาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ผู้แทนเหล่าทัพ และ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ร่วมเดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี
    .
    นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการเดินทางขึ้นเรือ USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เห็นถึงศักยภาพ และการใช้อาวุธทางยุทธวิธี และแสนยานุภาพ ที่แข็งแกร่ง ของกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยได้ พาตนชมทุกชั้นของเรือ ดูสะพานเดินเรือ ดูห้องบัญชาการของเรือ และได้มีโอกาสดูเครื่องบิน F-16 และ F-35 ที่ประจำอยู่บนเรือ รวมทั้งได้แสดงโชว์ การบินขึ้น-ลงของเครื่องบินรบที่อยู่ประจำบนเรือ
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่อง F-16 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ คุยกันในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มาเยือนประเทศไทย และการได้มาทำภารกิจต่างๆ
    ..............
    Sondhi X
    สงครามเย็น 'กริพเพน-เอฟ16' กองทัพอากาศ ย้ำจุดยืน เสนอครม.อนุมัติเม.ย.-พ.ค. . ประเด็นเรื่องการจัดซื้อเครื่องขับไล่ฝูงใหม่ของกองทัพอากาศยังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ภายหลังมีความเคลื่อนไหวที่ออกมาจากพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ซึ่งระบุว่าเงื่อนไขการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของประเทศสวีเดน ยังคงดีที่สุด ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี . พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการพิจารณาดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพคเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง (direct offset) การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบTactical data link ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ โดยนับตั้งแต่คัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับ กริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพนซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด เราให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า โดยตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม . ผบ.ทอ. กล่าวว่า คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว . ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นำคณะผู้แทนกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพลนาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ผู้แทนเหล่าทัพ และ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ร่วมเดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี . นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการเดินทางขึ้นเรือ USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เห็นถึงศักยภาพ และการใช้อาวุธทางยุทธวิธี และแสนยานุภาพ ที่แข็งแกร่ง ของกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยได้ พาตนชมทุกชั้นของเรือ ดูสะพานเดินเรือ ดูห้องบัญชาการของเรือ และได้มีโอกาสดูเครื่องบิน F-16 และ F-35 ที่ประจำอยู่บนเรือ รวมทั้งได้แสดงโชว์ การบินขึ้น-ลงของเครื่องบินรบที่อยู่ประจำบนเรือ . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่อง F-16 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ คุยกันในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มาเยือนประเทศไทย และการได้มาทำภารกิจต่างๆ .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    10
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1042 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สั่งระงับอย่างครอบคลุมเงินช่วยเหลือที่มอบแก่ต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอกย้ำนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน"
    .
    "ผมระงับการจ้างงานรัฐบาลกลาง ระงับกฎเกณฑ์รัฐบาลกลาง และระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศ" ทรัมป์บอกกับฝูงชนผู้สนับสนุนลาสเวกัสเมื่อวันเสาร์(25ม.ค.) "และผมจัดตั้งกระทรวงฯใหม่ กระทรวงกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล และเรากำลังจะมีคนดีๆมากมาย"
    .
    ไม่นานหลังจากสาบานตนรับตำแหน่งในวันจันทร์ที่ 20 มกราคม ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารระงับโครงการช่วยเหลือพัฒนาต่างประเทศทั้งหมดเป็นเวลา 90 วัน โดยระหว่างนี้จะดำเนินการทบทวนเพื่อสรุปว่าโครงการช่วยเหลือเหล่านั้นสอดคล้องกับเป้าหมายต่างๆในนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" หรือไม่
    .
    ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ประกาศว่าจะปรับลดการใช้จ่ายที่ไม่ก่อประโยชน์ และปรับโฟกัสของรัฐบาลให้กันมาใส่ใจกับประเด็นภายในประเทศ อย่างเช่นตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ และต่อสู้จัดการกับพวกผู้อพยพผิดกฎหมาย
    .
    ในวันเสาร์(25ม.ค.) มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกบันทึกฉบับหนึ่ง ระงับการเบิกจ่ายเงินผ่านกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ(USAID) แต่มีข้อยกเว้นให้บางส่วน ในนั้นรวมถึงความช่วยเหลือด้านการทหารที่ป้อนแก่อิสราเอลและอียิปต์
    .
    ก่อนหน้านี้ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(22ม.ค.) รูบิโอ กล่าวว่า "ทุกๆดอลลาร์ที่เราใช้จ่าย ทุกๆโครงการที่เราให้เงินสนับสนุน และทุกๆนโยบายที่เราเสาะหา จำเป็นต้องมีความชอบธรรม ด้วยคำตอบใน 3 คำถามง่ายๆ นั่นคือ มันทำให้อเมริกาปลอดภัยขึ้นหรือไม่ มันทำให้อเมริกาเข้มแข็งขึ้นหรือเปล่า และมันทำให้อเมริกาเจริญรุ่งเรืองหรือไม่"
    .
    แม้รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อ้างว่าการระงับเงินช่วยเหลือจะไม่ส่งผลกระทบต่อาวุธที่ส่งมอบแก่ยูเครน แต่สื่อมวลชนหลายแห่งรายงานว่าบันทึกของรูบิโอ ไม่ได้พาดพิงถึงข้อยกเว้นใดๆสำหรับเงินช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนและพันธมิตรหลักอื่นๆ อย่างเช่นไต้หวันและบรรดาชาติสมาชิกนาโต
    .
    ที่ผ่านมา ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน บ่อยครั้ง สำหรับการส่งมอบความช่วยเหลือหลายหมื่้นล้านดอลลาร์แก่ยูเครน พร้อมสัญญาว่าจะผลักดันให้หาทางออกทางการทูตแทน ในวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
    .
    อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ เปิดเผยโดยไม่ขอระบุนามว่า คำสั่งของ ทรัมป์จะทำให้หลายองค์กรต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสุขภาพที่อาจช่วยชีวิตคน การรักษาเอชไอวี โภชนาการ สุขภาพแม่และเด็ก งานด้านการเกษตร การสนับสนุนองค์กรประชาสังคม และด้านการศึกษา
    .
    ตัวเลขจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า อเมริกาคือผู้บริจาคเงินช่วยเหลือต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยพวกเขาบริจาคเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.28 ล้านล้านบาท) ในปี 2023 โดยอิสราเอลได้รับเงินช่วยเหลือทางทหารปีละ 3.3 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่อียิปต์ได้รับ 1.3 พันล้านดอลลาร์
    .
    บรรดาประเทศและดินแดนที่จะได้รับเงินสนับสนุนในลักษณะเดียวกันในปี 2025 ได้แก่ ยูเครน จอร์เจีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม จิบูติ โคลอมเบียมปานามา เอกวาดอร์ อิสราเอล อียิปต์ และจอร์แดน ตามคำขอของรัฐบาลไบเดนที่ยื่นต่อสภาคองเกรส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008314
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สั่งระงับอย่างครอบคลุมเงินช่วยเหลือที่มอบแก่ต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอกย้ำนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" . "ผมระงับการจ้างงานรัฐบาลกลาง ระงับกฎเกณฑ์รัฐบาลกลาง และระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศ" ทรัมป์บอกกับฝูงชนผู้สนับสนุนลาสเวกัสเมื่อวันเสาร์(25ม.ค.) "และผมจัดตั้งกระทรวงฯใหม่ กระทรวงกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล และเรากำลังจะมีคนดีๆมากมาย" . ไม่นานหลังจากสาบานตนรับตำแหน่งในวันจันทร์ที่ 20 มกราคม ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารระงับโครงการช่วยเหลือพัฒนาต่างประเทศทั้งหมดเป็นเวลา 90 วัน โดยระหว่างนี้จะดำเนินการทบทวนเพื่อสรุปว่าโครงการช่วยเหลือเหล่านั้นสอดคล้องกับเป้าหมายต่างๆในนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" หรือไม่ . ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ประกาศว่าจะปรับลดการใช้จ่ายที่ไม่ก่อประโยชน์ และปรับโฟกัสของรัฐบาลให้กันมาใส่ใจกับประเด็นภายในประเทศ อย่างเช่นตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ และต่อสู้จัดการกับพวกผู้อพยพผิดกฎหมาย . ในวันเสาร์(25ม.ค.) มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกบันทึกฉบับหนึ่ง ระงับการเบิกจ่ายเงินผ่านกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ(USAID) แต่มีข้อยกเว้นให้บางส่วน ในนั้นรวมถึงความช่วยเหลือด้านการทหารที่ป้อนแก่อิสราเอลและอียิปต์ . ก่อนหน้านี้ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(22ม.ค.) รูบิโอ กล่าวว่า "ทุกๆดอลลาร์ที่เราใช้จ่าย ทุกๆโครงการที่เราให้เงินสนับสนุน และทุกๆนโยบายที่เราเสาะหา จำเป็นต้องมีความชอบธรรม ด้วยคำตอบใน 3 คำถามง่ายๆ นั่นคือ มันทำให้อเมริกาปลอดภัยขึ้นหรือไม่ มันทำให้อเมริกาเข้มแข็งขึ้นหรือเปล่า และมันทำให้อเมริกาเจริญรุ่งเรืองหรือไม่" . แม้รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อ้างว่าการระงับเงินช่วยเหลือจะไม่ส่งผลกระทบต่อาวุธที่ส่งมอบแก่ยูเครน แต่สื่อมวลชนหลายแห่งรายงานว่าบันทึกของรูบิโอ ไม่ได้พาดพิงถึงข้อยกเว้นใดๆสำหรับเงินช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนและพันธมิตรหลักอื่นๆ อย่างเช่นไต้หวันและบรรดาชาติสมาชิกนาโต . ที่ผ่านมา ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน บ่อยครั้ง สำหรับการส่งมอบความช่วยเหลือหลายหมื่้นล้านดอลลาร์แก่ยูเครน พร้อมสัญญาว่าจะผลักดันให้หาทางออกทางการทูตแทน ในวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน . อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ เปิดเผยโดยไม่ขอระบุนามว่า คำสั่งของ ทรัมป์จะทำให้หลายองค์กรต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสุขภาพที่อาจช่วยชีวิตคน การรักษาเอชไอวี โภชนาการ สุขภาพแม่และเด็ก งานด้านการเกษตร การสนับสนุนองค์กรประชาสังคม และด้านการศึกษา . ตัวเลขจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า อเมริกาคือผู้บริจาคเงินช่วยเหลือต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยพวกเขาบริจาคเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.28 ล้านล้านบาท) ในปี 2023 โดยอิสราเอลได้รับเงินช่วยเหลือทางทหารปีละ 3.3 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่อียิปต์ได้รับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ . บรรดาประเทศและดินแดนที่จะได้รับเงินสนับสนุนในลักษณะเดียวกันในปี 2025 ได้แก่ ยูเครน จอร์เจีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม จิบูติ โคลอมเบียมปานามา เอกวาดอร์ อิสราเอล อียิปต์ และจอร์แดน ตามคำขอของรัฐบาลไบเดนที่ยื่นต่อสภาคองเกรส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008314 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1031 มุมมอง 0 รีวิว
  • สันติภาพที่ปารีส (Peace in Paris)

    เสียงระเบิดยังคงก้อง ในความหลัง เวียดนามทั้งสองฝั่ง ถูกแบ่งด้วยเส้นทาง สงครามเย็นเยือก มหาอำนาจเฝ้าจับจ้อง ในเงาของความหวัง ที่ยังเลือนลาง

    อเมริกาก้าวเข้ามา พร้อมธงเสรี ฐานทัพในไทย ถูกสร้างตามวิถี “คอมมิวนิสต์ต้องถูกหยุด ไว้ตรงนี้” ความขัดแย้งยิ่งพุ่งสูง ในทุกนาที

    * ที่ปารีสคือที่ ที่เราสัญญา หยุดสงคราม หยุดน้ำตา ที่หลั่งรินมา การต่อสู้จบลง ในกระดาษเพียงแผ่นเดียว แต่บาดแผล ยังไม่เคยเลือนลางจริง

    บนผืนดินไทย เคยมีทหารต่างชาติ เสียงเครื่องบินดังกระหึ่ม ในยามดึกดื่น คนไทยยืนหยัดในสายลม ที่พัดแปรปรวน ด้วยหวังให้แสงรุ่งอรุณ ยังคงมาถึง

    การเมืองในเงาอาวุธ และคำสัญญา ผู้นำทหารถือชะตา ของปวงประชา เวียดนามสงบ ไทยยังต้องลุ้นชะตา เมื่อสงครามจบ แต่ความหวาดกลัวยังอยู่

    ซ้ำ *

    ไทยต้องการอิสระ แต่ต้องเผชิญแรงกดดัน บทเรียนจากสงคราม ฝากไว้ให้เราระวัง โลกใบนี้ยังมี สิ่งที่ต้องเข้าใจ การสร้างสันติภาพ ยากกว่าสงครามที่ผ่านไป

    ซ้ำ *

    หลายสิบปีผ่านไป เสียงปืนได้เงียบหาย แต่เสียงแห่งประวัติศาสตร์ ยังร้องจากใจ สงครามจบ แต่คำถามยังไม่สิ้นสุด เราจะเดินไปข้างหน้า หรือย้อนคืนวันเก่า ที่เราผ่านมา

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 270827 ม.ค. 2568

    #สงครามเวียดนาม #สันติภาพปารีส #ประวัติศาสตร์ไทย #สันติภาพและสงคราม #บทเรียนจากสงคราม #คอมมิวนิสต์และเสรีนิยม #การเมืองสงครามเย็น #ไทยในสงครามเวียดนาม #เสียงแห่งประวัติศาสตร์ #เพลงเพื่อสันติภาพ
    สันติภาพที่ปารีส (Peace in Paris) เสียงระเบิดยังคงก้อง ในความหลัง เวียดนามทั้งสองฝั่ง ถูกแบ่งด้วยเส้นทาง สงครามเย็นเยือก มหาอำนาจเฝ้าจับจ้อง ในเงาของความหวัง ที่ยังเลือนลาง อเมริกาก้าวเข้ามา พร้อมธงเสรี ฐานทัพในไทย ถูกสร้างตามวิถี “คอมมิวนิสต์ต้องถูกหยุด ไว้ตรงนี้” ความขัดแย้งยิ่งพุ่งสูง ในทุกนาที * ที่ปารีสคือที่ ที่เราสัญญา หยุดสงคราม หยุดน้ำตา ที่หลั่งรินมา การต่อสู้จบลง ในกระดาษเพียงแผ่นเดียว แต่บาดแผล ยังไม่เคยเลือนลางจริง บนผืนดินไทย เคยมีทหารต่างชาติ เสียงเครื่องบินดังกระหึ่ม ในยามดึกดื่น คนไทยยืนหยัดในสายลม ที่พัดแปรปรวน ด้วยหวังให้แสงรุ่งอรุณ ยังคงมาถึง การเมืองในเงาอาวุธ และคำสัญญา ผู้นำทหารถือชะตา ของปวงประชา เวียดนามสงบ ไทยยังต้องลุ้นชะตา เมื่อสงครามจบ แต่ความหวาดกลัวยังอยู่ ซ้ำ * ไทยต้องการอิสระ แต่ต้องเผชิญแรงกดดัน บทเรียนจากสงคราม ฝากไว้ให้เราระวัง โลกใบนี้ยังมี สิ่งที่ต้องเข้าใจ การสร้างสันติภาพ ยากกว่าสงครามที่ผ่านไป ซ้ำ * หลายสิบปีผ่านไป เสียงปืนได้เงียบหาย แต่เสียงแห่งประวัติศาสตร์ ยังร้องจากใจ สงครามจบ แต่คำถามยังไม่สิ้นสุด เราจะเดินไปข้างหน้า หรือย้อนคืนวันเก่า ที่เราผ่านมา ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 270827 ม.ค. 2568 #สงครามเวียดนาม #สันติภาพปารีส #ประวัติศาสตร์ไทย #สันติภาพและสงคราม #บทเรียนจากสงคราม #คอมมิวนิสต์และเสรีนิยม #การเมืองสงครามเย็น #ไทยในสงครามเวียดนาม #เสียงแห่งประวัติศาสตร์ #เพลงเพื่อสันติภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • อัยการเกาหลีใต้ สั่งฟ้อง ยุน ซ็อกยอล ประธานาธิบดีผู้ถูกถอดถอน ในข้อหาเป็นผู้นำในการก่อกบฏ ด้วยการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้ช่วงสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม จากการเปิดเผยของทนายความของยุนและพรรคฝ่ายค้านหลัก
    .
    ทนายความของยุน วิพากษ์วิจารณ์การสั่งฟ้องครั้งนี้ว่า "เป็นตัวเลือกที่เลวร้าย" ที่ดำเนินการโดยสำนักงานอัยการ แต่ทางพรรคฝ่ายค้านหลักขานรับด้วยความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าว
    .
    การสั่งฟ้องครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของเกาหลีใต้ และถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิด ยุน อาจต้องเผชิญโทษจำคุกสำหรับการประกาศกฎอัยการศึกที่ก่อความตกตะลึงของเขา ในความพยายามหาทางห้ามกิจกรรมทางการเมืองและรัฐสภา รวมถึงควบคุมสื่อมวลชน
    .
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเขา นำมาซึ่งความอลหม่านทางการเมืองในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ถูกถอดถอนเช่นกันและถูกพักอำนาจ นอกจากนี้แล้วยังเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจำนวนหนึ่งถูกสั่งฟ้องจากบทบาทของพวกเขาในคำกล่าวหาก่อกบฏ
    .
    "ประกาศอัยการศึกฉุกเฉินของประธานาธิบดี เป็นคำวิงวอนที่สิ้นหวังที่มีถึงประชาชน ว่าวิกฤตระดับชาติหนึ่งๆ ที่ก่อโดยพวกฝ่ายค้าน กำลังหลุดจากการควบคุม" ทนายความของยุนระบุในถ้อยแถลง
    .
    สำนักงานอัยการยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับการสั่งฟ้องถูกรายงานโดยสื่อมวลชนเกาหลีใต้เช่นกัน
    .
    ทีมสืบสวนต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เสนอให้ตั้งข้อหายุน ที่อยู่ภายใต้การคุมขัง หลังจากถูกถอดถอนโดยรัฐสภาและพักจากการทำหน้าที่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม
    .
    ยุน ซึ่งตัวเองเคยเป็นอัยการสูงสุด ถูกคุมขังเดี่ยวอยู่ที่ทัณฑสถาน ชานกรุงโซล มาตั้งแต่กลายเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง คนแรกที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 มกราคม การจับกุมที่มีขึ้นตามหลังหลายวันของการขัดขืน และการเผชิญหน้าติดอาวุธระหว่างทีมรักษาความปลอดภัยของเขากับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่จับกุมตัว
    .
    เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธอัยการถึง 2 รอบในคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวเขาระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม แต่ด้วยคำสั่งฟ้อง อัยการจึงร้องขออีกครั้งให้คุมขังเขาต่อไป ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น
    .
    การก่อกบฏเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาทางอาญาไม่กี่ข้อกล่าวหา ที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รายหนึ่งๆ ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และมันมีบทลงโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตหรือถึงขั้นประหาร แม้เกาหลีใต้ไม่ได้ประหารชีวิตใครมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม
    .
    "อัยการตัดสินใจสั่งฟ้องยุน ซ็อกยอล ผู้ซึ่งเผชิญข้อกล่าวหาเป็นหัวหน้าแก๊งก่อกบฏ" ฮัน มิน-ซู โฆษกพรรคเดโมแครต ปาร์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าว "เวลานี้การลงโทษหัวหน้าแก๊งก่อกบฏเริ่มต้นขึ้นได้เสียที"
    .
    ยุนและทนายความของเขา โต้แย้ง ณ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการพิจารณาการถอดถอน ว่าเขาไม่เคยมีความตั้งใจบังคับใช้อัยการศึกเต็มรูปแบบ แต่มีเจตนาใช้เป็นแค่มาตรการเตือนเพื่อทลายทางตันทางการเมืองเท่านั้น
    .
    ในความเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกระบวนการทางอาญา ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินรับรองการถอดถอนยุนพ้นจากตำแหน่ง หรือคืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา โดยศาลมีเวลา 180 วัน สำหรับการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว
    .
    รัฐสภาที่นำโดยฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ลงมติถอดถอน ยุน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ส่งผลให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสายอนุรักษนิยมรายที่ 2 ของประเทศ ที่ถูกถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง
    .
    ยุน ถอนประกาศอัยการศึกหลังจากบังคับใช้ไปราวๆ 6 ชั่วโมง หลังบรรดาสมาชิกรัฐสภา ที่เผชิญหน้ากับทหารในรัฐสภา ลงมติคว่ำประกาศดังกล่าว
    .
    ระหว่างการเผชิญหน้าอันน่าตกอกตกใจ ทหารพร้อมปืนไรเฟิล เสื้อกันกระสุนและยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการตอนกลางคืน กำลังทุบบานกระจก ในความพยายามเข้าไปยังอาคารรัฐสภา
    .
    ทั้งนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับรองการถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีจะถูกจัดขึ้นภายใน 60 วัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008311
    ..............
    Sondhi X
    อัยการเกาหลีใต้ สั่งฟ้อง ยุน ซ็อกยอล ประธานาธิบดีผู้ถูกถอดถอน ในข้อหาเป็นผู้นำในการก่อกบฏ ด้วยการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้ช่วงสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม จากการเปิดเผยของทนายความของยุนและพรรคฝ่ายค้านหลัก . ทนายความของยุน วิพากษ์วิจารณ์การสั่งฟ้องครั้งนี้ว่า "เป็นตัวเลือกที่เลวร้าย" ที่ดำเนินการโดยสำนักงานอัยการ แต่ทางพรรคฝ่ายค้านหลักขานรับด้วยความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าว . การสั่งฟ้องครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของเกาหลีใต้ และถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิด ยุน อาจต้องเผชิญโทษจำคุกสำหรับการประกาศกฎอัยการศึกที่ก่อความตกตะลึงของเขา ในความพยายามหาทางห้ามกิจกรรมทางการเมืองและรัฐสภา รวมถึงควบคุมสื่อมวลชน . ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเขา นำมาซึ่งความอลหม่านทางการเมืองในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ถูกถอดถอนเช่นกันและถูกพักอำนาจ นอกจากนี้แล้วยังเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจำนวนหนึ่งถูกสั่งฟ้องจากบทบาทของพวกเขาในคำกล่าวหาก่อกบฏ . "ประกาศอัยการศึกฉุกเฉินของประธานาธิบดี เป็นคำวิงวอนที่สิ้นหวังที่มีถึงประชาชน ว่าวิกฤตระดับชาติหนึ่งๆ ที่ก่อโดยพวกฝ่ายค้าน กำลังหลุดจากการควบคุม" ทนายความของยุนระบุในถ้อยแถลง . สำนักงานอัยการยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับการสั่งฟ้องถูกรายงานโดยสื่อมวลชนเกาหลีใต้เช่นกัน . ทีมสืบสวนต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เสนอให้ตั้งข้อหายุน ที่อยู่ภายใต้การคุมขัง หลังจากถูกถอดถอนโดยรัฐสภาและพักจากการทำหน้าที่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม . ยุน ซึ่งตัวเองเคยเป็นอัยการสูงสุด ถูกคุมขังเดี่ยวอยู่ที่ทัณฑสถาน ชานกรุงโซล มาตั้งแต่กลายเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง คนแรกที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 มกราคม การจับกุมที่มีขึ้นตามหลังหลายวันของการขัดขืน และการเผชิญหน้าติดอาวุธระหว่างทีมรักษาความปลอดภัยของเขากับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่จับกุมตัว . เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธอัยการถึง 2 รอบในคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวเขาระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม แต่ด้วยคำสั่งฟ้อง อัยการจึงร้องขออีกครั้งให้คุมขังเขาต่อไป ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น . การก่อกบฏเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาทางอาญาไม่กี่ข้อกล่าวหา ที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รายหนึ่งๆ ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และมันมีบทลงโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตหรือถึงขั้นประหาร แม้เกาหลีใต้ไม่ได้ประหารชีวิตใครมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม . "อัยการตัดสินใจสั่งฟ้องยุน ซ็อกยอล ผู้ซึ่งเผชิญข้อกล่าวหาเป็นหัวหน้าแก๊งก่อกบฏ" ฮัน มิน-ซู โฆษกพรรคเดโมแครต ปาร์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าว "เวลานี้การลงโทษหัวหน้าแก๊งก่อกบฏเริ่มต้นขึ้นได้เสียที" . ยุนและทนายความของเขา โต้แย้ง ณ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการพิจารณาการถอดถอน ว่าเขาไม่เคยมีความตั้งใจบังคับใช้อัยการศึกเต็มรูปแบบ แต่มีเจตนาใช้เป็นแค่มาตรการเตือนเพื่อทลายทางตันทางการเมืองเท่านั้น . ในความเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกระบวนการทางอาญา ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินรับรองการถอดถอนยุนพ้นจากตำแหน่ง หรือคืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา โดยศาลมีเวลา 180 วัน สำหรับการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว . รัฐสภาที่นำโดยฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ลงมติถอดถอน ยุน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ส่งผลให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสายอนุรักษนิยมรายที่ 2 ของประเทศ ที่ถูกถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง . ยุน ถอนประกาศอัยการศึกหลังจากบังคับใช้ไปราวๆ 6 ชั่วโมง หลังบรรดาสมาชิกรัฐสภา ที่เผชิญหน้ากับทหารในรัฐสภา ลงมติคว่ำประกาศดังกล่าว . ระหว่างการเผชิญหน้าอันน่าตกอกตกใจ ทหารพร้อมปืนไรเฟิล เสื้อกันกระสุนและยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการตอนกลางคืน กำลังทุบบานกระจก ในความพยายามเข้าไปยังอาคารรัฐสภา . ทั้งนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับรองการถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีจะถูกจัดขึ้นภายใน 60 วัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008311 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1031 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล้างบางจีนเทาที่เมียวดี เมืองคนบาป
    .
    ถ้าใครสงสัยว่าทำไม ซิงซิง ถูกแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ล่อลวงไปที่เมียวดี ประเทศพม่า มีอะไรดีที่เมียวดี คำตอบคือว่า ณ เวลานี้ เมียวดีกำลังเป็นเมืองหลวงของแก๊งสแกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งซ่องสุมของบอสจีนเทาที่ชำนาญการหลอกลวงออนไลน์เหยื่อข้ามชาติ คือหลอกคนจีนด้วยกัน และชาติอื่นๆ มาทำงานเยี่ยงทาสอยู่ในเมืองเมียวดี
    .
    ที่น่าตื่นตะลึงก็คือว่า ความแข็งแกร่งของจีนเทาในเมียวดี จากการสนับสนุนของผู้ปกครองเมียวดี ที่กลับไม่ใช่รัฐบาลพม่า หากแต่เป็นชาวกะเหรี่ยง คือชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงเทาผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและเพียบพร้อมด้วยกองกำลังติดอาวุธ เป็นเหมือนรัฐอิสระของคนนอกกฎหมายอันอู้ฟู่ ยากที่รัฐบาลเมียนมาจะปราบปรามได้
    .
    เจ้าพ่อตัวจริงของเมืองเมียวดีวันนี้ คือ พันเอก ซอว์ ชิต ตู (Saw Chit Thu) ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNA มีคฤหาสน์หรูหรา ส่งลูกหลานไปเรียนถึงประเทศสิงคโปร์ รายได้สีเทานำมาจัดซื้ออาวุธทันสมัย เสริมเขี้ยวเล็บให้กองกำลังกะเหรี่ยงของเขา ต้นปี 2567 เขานำกองทัพ DKBA ของเขาแยกตัวออกมาจาก BGF ไม่ยอมขึ้นกับเมียนมาอีก แล้วตั้งชื่อเป็น กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือที่เรียกว่า KNA
    .
    นอกจากนี้ยังมี พลจัตวา ซาย จอ หล่า (Sai Kyaw Hla) หรือ โกซาย ผู้นำหมายเลข 3 ของกะเหรี่ยงพุทธ DKBA มีอิทธิพลอยู่เขตไท่ฉาง ซึ่งเป็นบริเวณที่ดาราจีนซิงซิงถูกล่อลวงไปในเมืองสแกมเมอร์แห่งใหม่ ตรงข้ามกับตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์ไว้รองรับอาชญากร แก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ที่แตกหนีมาจากรัฐฉาน และสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา
    .
    16 มกราคม ที่ผ่านมา นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ออกโรงในเรื่องนี้ โดยพบปะทูต 10 ชาติอาเซียน หารือปราบขบวนการหลอกลวงและพนันออนไลน์ โดยนายหวัง อี้ ย้ำว่า ประเทศที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ จัดการถอนรากถอนโคน เพราะคดีหลอกลวงและการพนันออนไลน์ที่ชายแดนไทย-พม่า เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้ายแรงมาก ทำร้ายชาวจีนและพลเมืองของประเทศต่างๆ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด
    .
    ถ้าเราอ่านความระหว่างบรรทัดของนายหวัง อี้ เราจะตีความได้ว่า หนึ่ง เหตุการณ์ที่คุกคามความปลอดภัยของชาวจีนและประชาชนของประเทศต่างๆ จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด สอง ประเทศที่เกี่ยวข้อง ไทย-พม่า ต้องรับผิดชอบ แต่จะมีประเทศใดบ้าง เรารู้กันดี สาม ประเทศจีนจะมีการปฏิบัติการร่วมกับชาติอาเซียนเพื่อปราบปรามขบวนการผิดกฎหมาย คุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชน และพิทักษ์ความสงบสุขระหว่างประเทศ นี่คือวิธีปฏิบัติของจีนที่เรียกว่า ใช้มารยาทก่อนใช้กำลัง
    .
    ท่านผู้ชมครับ รัฐบาลไทยจะต้องเจรจากับรัฐบาลจีน ท่านทูตหาน จื้อเฉียง ท่านทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งผมรู้จักมักคุ้นสนิทสนมเป็นอย่างดีมาก ท่านเคยพูดกับผมตรงๆ ว่า คุณสนธิ ประเทศจีนไม่พอใจจีนเทามาก พวกนี้เป็นพวกมีปัญหากับสังคมจีน ด้วยเหตุนี้ถึงหนีมาประเทศไทย ท่านใช้ลิ้นการทูตพูด ท่านไม่พูดตรงๆ แต่ท่านบอกว่า พวกนี้อยู่ประเทศไทยสบายกว่าอยู่ประเทศจีน อีกนัยหนึ่งก็คือว่า ทั้งตำรวจ ทั้งทุกคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น จีนเทามั่นใจว่าซื้อได้
    .
    จีนเทากลัวถูกส่งตัวกลับจีน ถ้าเราส่งตัวจีนเทาพร้อมข้อหาความผิดที่สืบสวนได้ส่งกลับให้จีนจัดการ คนพวกนี้จะกลัวมาก กลัวจริงๆ ที่จะถูกส่งกลับ เพราะจีนเขาจัดการขั้นเด็ดขาด หวัง อี้ ประกาศกร้าวไว้แล้ว ดังที่ผมเล่าให้ฟัง
    .
    ทำไมจีนเทาในประเทศไทยถึงเยอะ ท่านผู้ชมรู้ไหม ? จีนเทาในประเทศไทยมันจะมีขาใหญ่ มันจะชวนพรรคพวกที่สีเทาด้วยกัน มาๆๆ มาเมืองไทย ไม่ต้องกังวลเรื่องตำรวจ กูจัดการเอง ตำรวจไทยหมู เรียกเงินกันทั้งนั้น เอาเงินเข้าไปตัวอ่อน เนื้ออ่อนเลย ตำรวจไทยอายบ้างหรือเปล่า
    .
    ปัญหาอยู่ตรงไหน น่าจะรู้แล้วตอนนี้ ไฟฟ้าก็แอบใช้ของไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทำอย่างไร อินเทอร์เน็ตก็ใช้ของไทย ก็สั่งของกินของใช้ให้คนนับพันที่อำเภอแม่สอดและที่อำเภอพบพระ ซึ่งอยู่ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ภายใต้การบริหารงานของผู้บัญชาการภาค 6 เด็กเส้นใหญ่ แต่ทำงานไม่เป็น
    .
    แล้วตำรวจ พวกคุณทำอะไรอยู่? ผมชี้แหล่ง วิธีการสืบสวนสอบสวนให้พวกคุณ แต่พวกคุณก็ไม่สนใจ สนใจอย่างเดียวว่า คุณจ่ายเงินผมเท่าไร แล้วพวกเราจะทำอย่างไร จะทำอย่างไรกับพวกตำรวจไทย
    ล้างบางจีนเทาที่เมียวดี เมืองคนบาป . ถ้าใครสงสัยว่าทำไม ซิงซิง ถูกแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ล่อลวงไปที่เมียวดี ประเทศพม่า มีอะไรดีที่เมียวดี คำตอบคือว่า ณ เวลานี้ เมียวดีกำลังเป็นเมืองหลวงของแก๊งสแกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งซ่องสุมของบอสจีนเทาที่ชำนาญการหลอกลวงออนไลน์เหยื่อข้ามชาติ คือหลอกคนจีนด้วยกัน และชาติอื่นๆ มาทำงานเยี่ยงทาสอยู่ในเมืองเมียวดี . ที่น่าตื่นตะลึงก็คือว่า ความแข็งแกร่งของจีนเทาในเมียวดี จากการสนับสนุนของผู้ปกครองเมียวดี ที่กลับไม่ใช่รัฐบาลพม่า หากแต่เป็นชาวกะเหรี่ยง คือชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงเทาผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและเพียบพร้อมด้วยกองกำลังติดอาวุธ เป็นเหมือนรัฐอิสระของคนนอกกฎหมายอันอู้ฟู่ ยากที่รัฐบาลเมียนมาจะปราบปรามได้ . เจ้าพ่อตัวจริงของเมืองเมียวดีวันนี้ คือ พันเอก ซอว์ ชิต ตู (Saw Chit Thu) ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNA มีคฤหาสน์หรูหรา ส่งลูกหลานไปเรียนถึงประเทศสิงคโปร์ รายได้สีเทานำมาจัดซื้ออาวุธทันสมัย เสริมเขี้ยวเล็บให้กองกำลังกะเหรี่ยงของเขา ต้นปี 2567 เขานำกองทัพ DKBA ของเขาแยกตัวออกมาจาก BGF ไม่ยอมขึ้นกับเมียนมาอีก แล้วตั้งชื่อเป็น กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือที่เรียกว่า KNA . นอกจากนี้ยังมี พลจัตวา ซาย จอ หล่า (Sai Kyaw Hla) หรือ โกซาย ผู้นำหมายเลข 3 ของกะเหรี่ยงพุทธ DKBA มีอิทธิพลอยู่เขตไท่ฉาง ซึ่งเป็นบริเวณที่ดาราจีนซิงซิงถูกล่อลวงไปในเมืองสแกมเมอร์แห่งใหม่ ตรงข้ามกับตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์ไว้รองรับอาชญากร แก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ที่แตกหนีมาจากรัฐฉาน และสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา . 16 มกราคม ที่ผ่านมา นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ออกโรงในเรื่องนี้ โดยพบปะทูต 10 ชาติอาเซียน หารือปราบขบวนการหลอกลวงและพนันออนไลน์ โดยนายหวัง อี้ ย้ำว่า ประเทศที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ จัดการถอนรากถอนโคน เพราะคดีหลอกลวงและการพนันออนไลน์ที่ชายแดนไทย-พม่า เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้ายแรงมาก ทำร้ายชาวจีนและพลเมืองของประเทศต่างๆ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด . ถ้าเราอ่านความระหว่างบรรทัดของนายหวัง อี้ เราจะตีความได้ว่า หนึ่ง เหตุการณ์ที่คุกคามความปลอดภัยของชาวจีนและประชาชนของประเทศต่างๆ จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด สอง ประเทศที่เกี่ยวข้อง ไทย-พม่า ต้องรับผิดชอบ แต่จะมีประเทศใดบ้าง เรารู้กันดี สาม ประเทศจีนจะมีการปฏิบัติการร่วมกับชาติอาเซียนเพื่อปราบปรามขบวนการผิดกฎหมาย คุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชน และพิทักษ์ความสงบสุขระหว่างประเทศ นี่คือวิธีปฏิบัติของจีนที่เรียกว่า ใช้มารยาทก่อนใช้กำลัง . ท่านผู้ชมครับ รัฐบาลไทยจะต้องเจรจากับรัฐบาลจีน ท่านทูตหาน จื้อเฉียง ท่านทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งผมรู้จักมักคุ้นสนิทสนมเป็นอย่างดีมาก ท่านเคยพูดกับผมตรงๆ ว่า คุณสนธิ ประเทศจีนไม่พอใจจีนเทามาก พวกนี้เป็นพวกมีปัญหากับสังคมจีน ด้วยเหตุนี้ถึงหนีมาประเทศไทย ท่านใช้ลิ้นการทูตพูด ท่านไม่พูดตรงๆ แต่ท่านบอกว่า พวกนี้อยู่ประเทศไทยสบายกว่าอยู่ประเทศจีน อีกนัยหนึ่งก็คือว่า ทั้งตำรวจ ทั้งทุกคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น จีนเทามั่นใจว่าซื้อได้ . จีนเทากลัวถูกส่งตัวกลับจีน ถ้าเราส่งตัวจีนเทาพร้อมข้อหาความผิดที่สืบสวนได้ส่งกลับให้จีนจัดการ คนพวกนี้จะกลัวมาก กลัวจริงๆ ที่จะถูกส่งกลับ เพราะจีนเขาจัดการขั้นเด็ดขาด หวัง อี้ ประกาศกร้าวไว้แล้ว ดังที่ผมเล่าให้ฟัง . ทำไมจีนเทาในประเทศไทยถึงเยอะ ท่านผู้ชมรู้ไหม ? จีนเทาในประเทศไทยมันจะมีขาใหญ่ มันจะชวนพรรคพวกที่สีเทาด้วยกัน มาๆๆ มาเมืองไทย ไม่ต้องกังวลเรื่องตำรวจ กูจัดการเอง ตำรวจไทยหมู เรียกเงินกันทั้งนั้น เอาเงินเข้าไปตัวอ่อน เนื้ออ่อนเลย ตำรวจไทยอายบ้างหรือเปล่า . ปัญหาอยู่ตรงไหน น่าจะรู้แล้วตอนนี้ ไฟฟ้าก็แอบใช้ของไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทำอย่างไร อินเทอร์เน็ตก็ใช้ของไทย ก็สั่งของกินของใช้ให้คนนับพันที่อำเภอแม่สอดและที่อำเภอพบพระ ซึ่งอยู่ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ภายใต้การบริหารงานของผู้บัญชาการภาค 6 เด็กเส้นใหญ่ แต่ทำงานไม่เป็น . แล้วตำรวจ พวกคุณทำอะไรอยู่? ผมชี้แหล่ง วิธีการสืบสวนสอบสวนให้พวกคุณ แต่พวกคุณก็ไม่สนใจ สนใจอย่างเดียวว่า คุณจ่ายเงินผมเท่าไร แล้วพวกเราจะทำอย่างไร จะทำอย่างไรกับพวกตำรวจไทย
    Like
    Love
    Haha
    Sad
    24
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยิ้มเปลี่ยนชีวิตได้ ในบางครั้งยังอาจสามารถเปลี่ยนโลก นี่ไม่ต้องลำบากเสาะหาจากที่ไหนให้วุ่นวาย เพราะมีอยู่ในกายทุกผู้คน

    #กระบี่อมตะ
    โก้วเล้ง เขียน / ว.ณ เมืองลุง แปล
    สนพ.สร้างสรรค์บุ๊กส์
    นวนิยายสั้นเล่มเดียวจบ หมวดกำลังภายใน
    เป็นเล่มแรกที่ถูกจัดเข้าในชุดอาวุธของโก้วเล้ง

    ไม่แน่ใจว่าที่แท้แล้ว ผลงานในชุดนี้มีทั้งหมดกี่เล่ม บางแหล่งระบุว่ามี 7 เล่ม บางแหล่งระบุว่ามี 8 เล่ม ซึ่งตามความจริง ล้วนเป็นเหล่า สนพ.ต่าง ๆ จากต้นทาง ที่รวบรวมจัดเข้าชุดกันเองเพื่อหวังในยอดขายเพิ่มขึ้น หาใช่สิ่งที่โก้วเล้งเป็นคนตั้งใจหรือวางแผนไว้แต่แรก มีบางข้อมูลถึงกับระบุว่า เล่มที่โก้วเล้งเป็นคนเขียนเองมีเพียง 2 เรื่องแรกเท่านั้น คือกระบี่อมตะ และเดชขนนกยูง หากข้อมูลดังกล่าวถูกต้อง แล้วเล่มอื่นในชุดใครที่เป็นมือปืนรับจ้างเขียนแทนโดยใช้ชื่อโก้วเล้งเล่า

    นี่คืออีกหนึ่งปริศนาในงานเขียนของปีศาจสุรา ที่ช่วงหลังก่อนเสียชีวิต แต่งเรื่องไว้หลายเรื่องแต่แต่งไม่จบ นับเป็นรอยด่างหรือความมัวหมองในชีวิตงานเขียนประการหนึ่งซึ่งน่าเสียดาย

    วกมาสู่เล่มนี้

    เพิ่งจบเมื่อเช้า ก่อนหน้าไม่เคยอ่านในชุดอาวุธมาเลยสักเล่มเดียว ผ่านตาพบเห็นมาหลายปกตั้งแต่เด็ก แต่ก็นิยมไปอ่านเรื่องยาว หรือเรื่องชุดอื่น ๆ ซะ บัดนี้ตั้งใจว่าจะลองมาลิ้มรสเล่มที่พลาดไป เริ่มต้นด้วยเล่มนี้เป็นเล่มแรกครับ

    เนื้อหากล่าวถึง กลุ่มชายฉกรรจ์ขบวนใหญ่ ต่างที่มาแต่มารวมตัวกันเฉพาะกิจ ด้วยเหตุผลคือตามล่าคนคนหนึ่งซึ่งมีสิ่งของที่ทั้งหมดต้องการแอบซ่อนไว้ เปิดเรื่องที่โรงเตี๊ยมในเมืองซึ่งมีตัวเอกของเรื่อง นามแปะเง็กเกียเดินทางผ่านมาแวะพักค้างอ้างแรม ในมือของมันผู้นี้มีศาสตราวุธสุดยอดเป็นกระบี่ดำเล่มหนึ่ง กระบี่โบราณดูไปไม่มีใดน่าสนใจ ทว่าผู้กล้าและชาวยุทธ์ทั่วหล้าต่างพากันทราบดี ถึงชื่อเสียงเกียรติภูมิที่ได้รับการกล่าวขานถึง นั่นเรียกว่ากระบี่อมตะ ผู้มาที่ไม่ทราบสำนักสังกัดชัด ต่างล้วนทราบดีแก่ใจว่าบุรุษเจ้าของกระบี่เล่มนี้ยากตอแย และมีฝีมือมิใช่ชั่ว ต่างคุมเชิงกันและกันไม่ว่าใครไม่กล้าลงไม้ลงมือก่อน

    มิคาดนอกจากโรงเตี๊ยมแห่งนี้จะมีบุรุษหน้าตาเข้าทีฝีมือรวบรัดมาเยี่ยมเยือนและอุดหนุนแล้ว ยังมีวาสนาได้รับการต้อนรับโกวเนี้ยเยาว์วัยนางหนึ่ง ซึ่งมีบุคลิกที่เรียบร้อยราวคุณหนู และรูปโฉมโนมพรรณที่สามารถสร้างความลุ่มหลงแก่เหล่าบุรุษได้ นางมีชื่อว่าอ้วงจีเยี้ย ไม่แน่ใจเป็นนางที่ไล่ตามแปะเง็กเกียหรือไม่ เพราะเขาจำได้ว่าเคยพบหน้านางมาก่อนแล้วถึงสองครั้งที่โรงเตี๊ยมแห่งอื่น นี่ไม่อาจโทษว่าเขาเป็นชายเจ้าชู้ อย่างไรชายงามย่อมพึงตาต้องใจในสตรีสาวและยังสวยเป็นธรรมดา ที่สำคัญกลับเป็นนางที่เป็นฝ่ายเริ่มต้นเข้าหา เจรจาพาทีกับเขาก่อนด้วย เป็นเรื่องที่เขาเองก็คาดไม่ถึง อย่างน้อยทุกครั้งที่พบหน้า นางส่งรอยยิ้มที่พิมพ์ใจกระไรปานนั้นให้กับเขา

    ทว่าเรื่องราวกับซับซ้อนยอกย้อนยิ่ง ในขณะที่แปะเง็กเกียเข้าใจว่ากลุ่มชายแปลกหน้าท่าทางประหลาดทั้งหลาย ล้วนมีเป้าประสงค์ที่จะมาหาเรื่องกับตน พลันเกิดเหตุลอบฆ่าฟันกันขึ้น มีคนตายและอาวุธที่เข่นฆ่าก็แปลกประหลาด ขณะที่บรรยากาศโดยรอบภายในโรงเตี๊ยมเต็มไปด้วยความตึงเครียด อ้วงจีเยี้ยพลันเอ่ยขอร้องแปะเง็กเกียให้ค้างอยู่ร่วมห้องเดียวกับนาง ให้เหตุผลว่าบัดนี้นางกลัวยิ่ง เช่นนี้ไยมิใช่การบอกใบ้ว่านางยินดีให้แปะเง็กเกีย ไม่ต้องทำตัวเรียบ ๆ ร้อย ๆ กับนางระหว่างคืนใช่หรือไม่ แต่แปะเง็กเกียกลับเรียบร้อยขึ้นมาจริง ๆ มันพานขึ้นไปนอนบนเตียงเรียงคู่กับนาง ทว่าเพียงแค่อ้าปากกล่าววาจาด้วยท่าทีสงวนคำพูดยิ่งนัก

    คืนนั้นเอง อ้วงจี่เยี้ยพลันกล้าเผยความในใจ ปรารถนาให้เมื่ออรุณขึ้น เขาพานางติดตามไปด้วยในทุกที่ หลีกลี้หนีจากวังวนความวุ่นวายทั้งหลาย แปะเง็กเกียกลับรับปากง่ายดาย ก่อนรุ่งสางได้สกัดจุดหลับนางแล้วออกจากห้อง ตั้งใจจะไปตกลงเจรจากับพวกคนเหล่านั้นให้เรียบร้อย ก่อนที่จะพานางที่ตนชมชอบปลีกกายจากไป ไหนเลยมีเรื่องง่ายดายปานนั้น หลังเอ่ยวาจาอ้อมค้อมลดเลี้ยวอยู่เนิ่นนาน แปะเง็กเกียที่เตรียมจะยกถุงผ้าที่บรรจุวัตถุหายากที่มีมูลค่ามหาศาลทั้งหมดให้กับคนประหลาดที่เหลือ หาคาดไม่ที่พวกมันกังวลสนใจกลับเป็นตัวของอ้วงจีเยี้ยเอง แต่ไม่ยอมบอกว่าเป็นสิ่งของใดในตัวนางที่พวกมันกล่าวหาว่าถูกขโมยมา เมื่อการค้าตกลงไม่สำเร็จแปะเง็กเกียจึงลุกเดินกลับห้อง แต่กลับพบเห็นมีเงาชายคนหนึ่งอยู่ในห้องคล้ายเจรจาบางอย่างกับหญิงที่ตนชอบ ด้วยความเสียใจ ขณะจะผละจากไปปรากฏเสียงร้องของนางดังขึ้นด้วยความตกใจ

    แปะเง็กเกียรีบพุ่งปราดเข้าไปจึงพบว่า เป็นคนร้ายที่เป็นตัวประหลาดคนหนึ่ง ทั้งสองต่อสู้กันชั่วครู่ก่อนที่มันจะชิงจังหวะโดดหลบหนีไป พอดีกับที่สหายคนหนึ่งของแปะเง็กเกียเข้าประตูมาเพราะได้ยินเสียง แปะเง็กเกียจึงขอร้องให้มันช่วยดูแลอ้วงจีเยี้ยแทน ก่อนจะโผออกจากห้อง พุ่งทะยานขึ้นหลังคาตามไป

    เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ให้เพื่อน ๆ ไปหาอ่านกันต่อ ขอบอกเพียงว่า เป็นนิยายกำลังภายในขนาดสั้นที่เขียนได้ดีมากเล่มหนึ่ง โดยเฉพาะในแง่ที่มีความเป็นงานแนวสืบสวนสอบสวน มีการพลิกไปพลิกมาของความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว ที่มีเบื้องหลังคือของมีค่าอันเป็นวัตถุชิ้นหนึ่ง ซึ่งวัตถุชิ้นนี้กล่าวโยงไปถึงของสำคัญอันจะมีส่วนสำคัญต่อไปในเล่มที่สองของชุดอาวุธของโก้วเล้ง

    ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะครึ่งเรื่องไปแล้วนั้น ล้วนเต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมของเหล่าบรรดาโจรทั้งหลายที่ต่างหมายของสิ่งเดียวกัน ใครเป็นมิตรกับใคร ใครแฝงตัวหลอกล่อ เป้าจริงคือใคร เป้าลวงไฉนเยอะปานนั้น จะเชื่อใจใครได้บ้าง ศัตรูกลับกลายเป็นมิตร หรือสหายกลับทรยศ หญิงงามความจริงคือผู้ถูกกระทำ หรือคือต้นตอของเหตุเภทภัยทั้งหมดกันแน่ แต่ละบทที่ผ่านไปมีแต่ศพ ที่เพิ่มมากขึ้น คนมีชีวิตกลับยิ่งมายิ่งลดน้อยลง แปะเง็กเกียที่ถูกม้วนเข้าไปในวังวนของแหใหญ่ปากนี้ จะสามารถพาตัวรอดพ้นจากหายนะได้หรือไม่

    ฤาต้องจบชีวิตไปอย่างเลอะเลือนงมงาย ไม่ทราบกระทั่งความจริงว่าตนต้องตายด้วยสาเหตุใด

    สุดท้ายที่นึกว่าจะจบลงแล้ว กลับมีพลิกในพลิกอีกที... นี่มันอะไร

    ไปลองอ่านดูนะครับ

    #โก้วเล้ง
    #วณเมืองลุง
    #นิบายจีน
    #นิยายแปล
    #รีวิวหนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #thaitimes]

    ยิ้มเปลี่ยนชีวิตได้ ในบางครั้งยังอาจสามารถเปลี่ยนโลก นี่ไม่ต้องลำบากเสาะหาจากที่ไหนให้วุ่นวาย เพราะมีอยู่ในกายทุกผู้คน #กระบี่อมตะ โก้วเล้ง เขียน / ว.ณ เมืองลุง แปล สนพ.สร้างสรรค์บุ๊กส์ นวนิยายสั้นเล่มเดียวจบ หมวดกำลังภายใน เป็นเล่มแรกที่ถูกจัดเข้าในชุดอาวุธของโก้วเล้ง ไม่แน่ใจว่าที่แท้แล้ว ผลงานในชุดนี้มีทั้งหมดกี่เล่ม บางแหล่งระบุว่ามี 7 เล่ม บางแหล่งระบุว่ามี 8 เล่ม ซึ่งตามความจริง ล้วนเป็นเหล่า สนพ.ต่าง ๆ จากต้นทาง ที่รวบรวมจัดเข้าชุดกันเองเพื่อหวังในยอดขายเพิ่มขึ้น หาใช่สิ่งที่โก้วเล้งเป็นคนตั้งใจหรือวางแผนไว้แต่แรก มีบางข้อมูลถึงกับระบุว่า เล่มที่โก้วเล้งเป็นคนเขียนเองมีเพียง 2 เรื่องแรกเท่านั้น คือกระบี่อมตะ และเดชขนนกยูง หากข้อมูลดังกล่าวถูกต้อง แล้วเล่มอื่นในชุดใครที่เป็นมือปืนรับจ้างเขียนแทนโดยใช้ชื่อโก้วเล้งเล่า นี่คืออีกหนึ่งปริศนาในงานเขียนของปีศาจสุรา ที่ช่วงหลังก่อนเสียชีวิต แต่งเรื่องไว้หลายเรื่องแต่แต่งไม่จบ นับเป็นรอยด่างหรือความมัวหมองในชีวิตงานเขียนประการหนึ่งซึ่งน่าเสียดาย วกมาสู่เล่มนี้ เพิ่งจบเมื่อเช้า ก่อนหน้าไม่เคยอ่านในชุดอาวุธมาเลยสักเล่มเดียว ผ่านตาพบเห็นมาหลายปกตั้งแต่เด็ก แต่ก็นิยมไปอ่านเรื่องยาว หรือเรื่องชุดอื่น ๆ ซะ บัดนี้ตั้งใจว่าจะลองมาลิ้มรสเล่มที่พลาดไป เริ่มต้นด้วยเล่มนี้เป็นเล่มแรกครับ เนื้อหากล่าวถึง กลุ่มชายฉกรรจ์ขบวนใหญ่ ต่างที่มาแต่มารวมตัวกันเฉพาะกิจ ด้วยเหตุผลคือตามล่าคนคนหนึ่งซึ่งมีสิ่งของที่ทั้งหมดต้องการแอบซ่อนไว้ เปิดเรื่องที่โรงเตี๊ยมในเมืองซึ่งมีตัวเอกของเรื่อง นามแปะเง็กเกียเดินทางผ่านมาแวะพักค้างอ้างแรม ในมือของมันผู้นี้มีศาสตราวุธสุดยอดเป็นกระบี่ดำเล่มหนึ่ง กระบี่โบราณดูไปไม่มีใดน่าสนใจ ทว่าผู้กล้าและชาวยุทธ์ทั่วหล้าต่างพากันทราบดี ถึงชื่อเสียงเกียรติภูมิที่ได้รับการกล่าวขานถึง นั่นเรียกว่ากระบี่อมตะ ผู้มาที่ไม่ทราบสำนักสังกัดชัด ต่างล้วนทราบดีแก่ใจว่าบุรุษเจ้าของกระบี่เล่มนี้ยากตอแย และมีฝีมือมิใช่ชั่ว ต่างคุมเชิงกันและกันไม่ว่าใครไม่กล้าลงไม้ลงมือก่อน มิคาดนอกจากโรงเตี๊ยมแห่งนี้จะมีบุรุษหน้าตาเข้าทีฝีมือรวบรัดมาเยี่ยมเยือนและอุดหนุนแล้ว ยังมีวาสนาได้รับการต้อนรับโกวเนี้ยเยาว์วัยนางหนึ่ง ซึ่งมีบุคลิกที่เรียบร้อยราวคุณหนู และรูปโฉมโนมพรรณที่สามารถสร้างความลุ่มหลงแก่เหล่าบุรุษได้ นางมีชื่อว่าอ้วงจีเยี้ย ไม่แน่ใจเป็นนางที่ไล่ตามแปะเง็กเกียหรือไม่ เพราะเขาจำได้ว่าเคยพบหน้านางมาก่อนแล้วถึงสองครั้งที่โรงเตี๊ยมแห่งอื่น นี่ไม่อาจโทษว่าเขาเป็นชายเจ้าชู้ อย่างไรชายงามย่อมพึงตาต้องใจในสตรีสาวและยังสวยเป็นธรรมดา ที่สำคัญกลับเป็นนางที่เป็นฝ่ายเริ่มต้นเข้าหา เจรจาพาทีกับเขาก่อนด้วย เป็นเรื่องที่เขาเองก็คาดไม่ถึง อย่างน้อยทุกครั้งที่พบหน้า นางส่งรอยยิ้มที่พิมพ์ใจกระไรปานนั้นให้กับเขา ทว่าเรื่องราวกับซับซ้อนยอกย้อนยิ่ง ในขณะที่แปะเง็กเกียเข้าใจว่ากลุ่มชายแปลกหน้าท่าทางประหลาดทั้งหลาย ล้วนมีเป้าประสงค์ที่จะมาหาเรื่องกับตน พลันเกิดเหตุลอบฆ่าฟันกันขึ้น มีคนตายและอาวุธที่เข่นฆ่าก็แปลกประหลาด ขณะที่บรรยากาศโดยรอบภายในโรงเตี๊ยมเต็มไปด้วยความตึงเครียด อ้วงจีเยี้ยพลันเอ่ยขอร้องแปะเง็กเกียให้ค้างอยู่ร่วมห้องเดียวกับนาง ให้เหตุผลว่าบัดนี้นางกลัวยิ่ง เช่นนี้ไยมิใช่การบอกใบ้ว่านางยินดีให้แปะเง็กเกีย ไม่ต้องทำตัวเรียบ ๆ ร้อย ๆ กับนางระหว่างคืนใช่หรือไม่ แต่แปะเง็กเกียกลับเรียบร้อยขึ้นมาจริง ๆ มันพานขึ้นไปนอนบนเตียงเรียงคู่กับนาง ทว่าเพียงแค่อ้าปากกล่าววาจาด้วยท่าทีสงวนคำพูดยิ่งนัก คืนนั้นเอง อ้วงจี่เยี้ยพลันกล้าเผยความในใจ ปรารถนาให้เมื่ออรุณขึ้น เขาพานางติดตามไปด้วยในทุกที่ หลีกลี้หนีจากวังวนความวุ่นวายทั้งหลาย แปะเง็กเกียกลับรับปากง่ายดาย ก่อนรุ่งสางได้สกัดจุดหลับนางแล้วออกจากห้อง ตั้งใจจะไปตกลงเจรจากับพวกคนเหล่านั้นให้เรียบร้อย ก่อนที่จะพานางที่ตนชมชอบปลีกกายจากไป ไหนเลยมีเรื่องง่ายดายปานนั้น หลังเอ่ยวาจาอ้อมค้อมลดเลี้ยวอยู่เนิ่นนาน แปะเง็กเกียที่เตรียมจะยกถุงผ้าที่บรรจุวัตถุหายากที่มีมูลค่ามหาศาลทั้งหมดให้กับคนประหลาดที่เหลือ หาคาดไม่ที่พวกมันกังวลสนใจกลับเป็นตัวของอ้วงจีเยี้ยเอง แต่ไม่ยอมบอกว่าเป็นสิ่งของใดในตัวนางที่พวกมันกล่าวหาว่าถูกขโมยมา เมื่อการค้าตกลงไม่สำเร็จแปะเง็กเกียจึงลุกเดินกลับห้อง แต่กลับพบเห็นมีเงาชายคนหนึ่งอยู่ในห้องคล้ายเจรจาบางอย่างกับหญิงที่ตนชอบ ด้วยความเสียใจ ขณะจะผละจากไปปรากฏเสียงร้องของนางดังขึ้นด้วยความตกใจ แปะเง็กเกียรีบพุ่งปราดเข้าไปจึงพบว่า เป็นคนร้ายที่เป็นตัวประหลาดคนหนึ่ง ทั้งสองต่อสู้กันชั่วครู่ก่อนที่มันจะชิงจังหวะโดดหลบหนีไป พอดีกับที่สหายคนหนึ่งของแปะเง็กเกียเข้าประตูมาเพราะได้ยินเสียง แปะเง็กเกียจึงขอร้องให้มันช่วยดูแลอ้วงจีเยี้ยแทน ก่อนจะโผออกจากห้อง พุ่งทะยานขึ้นหลังคาตามไป เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ให้เพื่อน ๆ ไปหาอ่านกันต่อ ขอบอกเพียงว่า เป็นนิยายกำลังภายในขนาดสั้นที่เขียนได้ดีมากเล่มหนึ่ง โดยเฉพาะในแง่ที่มีความเป็นงานแนวสืบสวนสอบสวน มีการพลิกไปพลิกมาของความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว ที่มีเบื้องหลังคือของมีค่าอันเป็นวัตถุชิ้นหนึ่ง ซึ่งวัตถุชิ้นนี้กล่าวโยงไปถึงของสำคัญอันจะมีส่วนสำคัญต่อไปในเล่มที่สองของชุดอาวุธของโก้วเล้ง ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะครึ่งเรื่องไปแล้วนั้น ล้วนเต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมของเหล่าบรรดาโจรทั้งหลายที่ต่างหมายของสิ่งเดียวกัน ใครเป็นมิตรกับใคร ใครแฝงตัวหลอกล่อ เป้าจริงคือใคร เป้าลวงไฉนเยอะปานนั้น จะเชื่อใจใครได้บ้าง ศัตรูกลับกลายเป็นมิตร หรือสหายกลับทรยศ หญิงงามความจริงคือผู้ถูกกระทำ หรือคือต้นตอของเหตุเภทภัยทั้งหมดกันแน่ แต่ละบทที่ผ่านไปมีแต่ศพ ที่เพิ่มมากขึ้น คนมีชีวิตกลับยิ่งมายิ่งลดน้อยลง แปะเง็กเกียที่ถูกม้วนเข้าไปในวังวนของแหใหญ่ปากนี้ จะสามารถพาตัวรอดพ้นจากหายนะได้หรือไม่ ฤาต้องจบชีวิตไปอย่างเลอะเลือนงมงาย ไม่ทราบกระทั่งความจริงว่าตนต้องตายด้วยสาเหตุใด สุดท้ายที่นึกว่าจะจบลงแล้ว กลับมีพลิกในพลิกอีกที... นี่มันอะไร ไปลองอ่านดูนะครับ #โก้วเล้ง #วณเมืองลุง #นิบายจีน #นิยายแปล #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #thaitimes]
    Like
    Yay
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีกล่าวว่าความช่วยเหลือทางทหารของยูเครนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการระงับความช่วยเหลือต่างประเทศ 90 วันตามคำสั่งบริหารของทรัมป์

    'ผมสนใจแต่ความช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งมันไม่ได้ถูกระงับ ขอบคุณพระเจ้า' เซเลนสกีกล่าวด้วยความโล่งอก

    เซเลนสกีอาจจะพูดถูกแค่ครึ่งเดียว:
    อย่างที่ทุกคนทราบกันดี รัฐบาลไบเดนอนุมัติงบประมาณความช่วยเหลือทางทหารไปหมดแล้วก่อนพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ความช่วยเหลือนั้น โดยเฉพาะด้านอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นการสั่งซื้อจากโรงงานผู้ผลิต ไม่ได้ใช้จากคลังอาวุธส่วนกลาง ซึ่งหมายความว่าอาวุธทั้งหมดจะไม่ได้ถูกถ่ายโอนมาในครั้งเดียว แต่จะมาในรูปแบบทะยอยถ่ายโอนตามคิวที่ผลิตได้ เนื่องจากโรงงานผลิตอาวุธในสหรัฐมีคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายอื่นด้วยเช่นกัน

    สำหรับรัฐบาลของทรัมป์ เขามีคำสั่งยุติความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนไปก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะฉะนั้นในช่วงเวลา 90 วันนับจากนี้ หากยูเครนได้รับอาวุธจากสหรัฐเพิ่มเติม ไม่ใช่เป็นสิทธิพิเศษอะไรจากทรัมป์ที่มีให้เซเลนสกี มันเป็นแค่เพียงผลจากคำสั่งจากรัฐบาลไบเดนเท่านั้น
    เซเลนสกีกล่าวว่าความช่วยเหลือทางทหารของยูเครนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการระงับความช่วยเหลือต่างประเทศ 90 วันตามคำสั่งบริหารของทรัมป์ 'ผมสนใจแต่ความช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งมันไม่ได้ถูกระงับ ขอบคุณพระเจ้า' เซเลนสกีกล่าวด้วยความโล่งอก เซเลนสกีอาจจะพูดถูกแค่ครึ่งเดียว: อย่างที่ทุกคนทราบกันดี รัฐบาลไบเดนอนุมัติงบประมาณความช่วยเหลือทางทหารไปหมดแล้วก่อนพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ความช่วยเหลือนั้น โดยเฉพาะด้านอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นการสั่งซื้อจากโรงงานผู้ผลิต ไม่ได้ใช้จากคลังอาวุธส่วนกลาง ซึ่งหมายความว่าอาวุธทั้งหมดจะไม่ได้ถูกถ่ายโอนมาในครั้งเดียว แต่จะมาในรูปแบบทะยอยถ่ายโอนตามคิวที่ผลิตได้ เนื่องจากโรงงานผลิตอาวุธในสหรัฐมีคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายอื่นด้วยเช่นกัน สำหรับรัฐบาลของทรัมป์ เขามีคำสั่งยุติความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนไปก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะฉะนั้นในช่วงเวลา 90 วันนับจากนี้ หากยูเครนได้รับอาวุธจากสหรัฐเพิ่มเติม ไม่ใช่เป็นสิทธิพิเศษอะไรจากทรัมป์ที่มีให้เซเลนสกี มันเป็นแค่เพียงผลจากคำสั่งจากรัฐบาลไบเดนเท่านั้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • จากกระแสข่าวที่ออกมาว่าอิสราเอลกำลังวางแผนจะโอนอาวุธและกระสุนที่รัสเซียผลิตขึ้นให้แก่ยูเครน ซึ่งยึดมาจากฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนตอนใต้

    โจ วิลสัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ ยืนยันเรื่องนี้และขอบคุณอิสราเอลสำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว
    จากกระแสข่าวที่ออกมาว่าอิสราเอลกำลังวางแผนจะโอนอาวุธและกระสุนที่รัสเซียผลิตขึ้นให้แก่ยูเครน ซึ่งยึดมาจากฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนตอนใต้ โจ วิลสัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ ยืนยันเรื่องนี้และขอบคุณอิสราเอลสำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีคำสั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศแก่ประเทศต่างๆทั้งหมด ยกเว้นอิสราเอลและอียิปต์

    “จะไม่มีข้อผูกมัดเงินทุนใหม่ใดๆเกิดขึ้น หรือแม้แต่การขยายขอบเขตระยะเวลาการสนับสนุนเงินทุนต่างๆ จนกว่าจะมีการพิจารณาใหม่อีกครั้ง” ข้อความจากรายงานบางส่วนตามบันทึกภายในถึงเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

    แต่บันทึกดังกล่าวได้ระบุข้อยกเว้นสำหรับความช่วยเหลือด้านการทหารแก่อิสราเอล ซึ่งแพ็คเกจอาวุธหลักที่สหรัฐฯ มอบให้มาอย่างยาวนานได้ขยายเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่สงครามกาซา และอียิปต์ ซึ่งได้รับเงินทุนด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ จำนวนมากตั้งแต่ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอลในปี 2522

    อิสราเอลได้รับเงินทุนทางทหารจากต่างประเทศประมาณ 3.3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่อียิปต์ได้รับประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์

    แต่ขอบเขตของคำสั่งดังกล่าวยังไม่ชัดเจนว่าเงินทุนใดที่จะถูกตัดออก เนื่องจากรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นผู้กำหนดงบประมาณของรัฐบาลกลาง

    สำหรับประเทศอื่นๆ ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนดังกล่าวในปี 2025 จากการอนมุัติของรัฐบาลไบเดนได้แก่ ยูเครน ไทย จอร์เจีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม จิบูตี โคลอมเบีย ปานามา เอกวาดอร์ อิสราเอล อียิปต์ และจอร์แดน

    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAid) กล่าวว่านี่ “เป็นความโกลาหลครั้งใหญ่ องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ดังนั้นบริการด้านสุขภาพที่ช่วยชีวิตได้ทั้งหมด เอชไอวี/เอดส์ โภชนาการ สุขภาพแม่และเด็ก งานเกษตรทั้งหมด การสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหมด การศึกษา”

    เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ไม่ยอมเอ่ยถึงเงินทุนของสหรัฐที่ผ่าน USAid ในรูปแบบโครงการเพื่อพัฒนาประชาธิบไตยของแต่ละประเทศ ก็ถูกระงับด้วยเช่นกัน เป็นที่ทราบกันดีว่า เงินสนับสนุนในส่วนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความขัดแย้งในแต่ละประเทศโดยผ่านชื่อโครงการอันสวยหรู
    มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีคำสั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศแก่ประเทศต่างๆทั้งหมด ยกเว้นอิสราเอลและอียิปต์ “จะไม่มีข้อผูกมัดเงินทุนใหม่ใดๆเกิดขึ้น หรือแม้แต่การขยายขอบเขตระยะเวลาการสนับสนุนเงินทุนต่างๆ จนกว่าจะมีการพิจารณาใหม่อีกครั้ง” ข้อความจากรายงานบางส่วนตามบันทึกภายในถึงเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แต่บันทึกดังกล่าวได้ระบุข้อยกเว้นสำหรับความช่วยเหลือด้านการทหารแก่อิสราเอล ซึ่งแพ็คเกจอาวุธหลักที่สหรัฐฯ มอบให้มาอย่างยาวนานได้ขยายเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่สงครามกาซา และอียิปต์ ซึ่งได้รับเงินทุนด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ จำนวนมากตั้งแต่ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอลในปี 2522 อิสราเอลได้รับเงินทุนทางทหารจากต่างประเทศประมาณ 3.3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่อียิปต์ได้รับประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์ แต่ขอบเขตของคำสั่งดังกล่าวยังไม่ชัดเจนว่าเงินทุนใดที่จะถูกตัดออก เนื่องจากรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นผู้กำหนดงบประมาณของรัฐบาลกลาง สำหรับประเทศอื่นๆ ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนดังกล่าวในปี 2025 จากการอนมุัติของรัฐบาลไบเดนได้แก่ ยูเครน ไทย จอร์เจีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม จิบูตี โคลอมเบีย ปานามา เอกวาดอร์ อิสราเอล อียิปต์ และจอร์แดน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAid) กล่าวว่านี่ “เป็นความโกลาหลครั้งใหญ่ องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ดังนั้นบริการด้านสุขภาพที่ช่วยชีวิตได้ทั้งหมด เอชไอวี/เอดส์ โภชนาการ สุขภาพแม่และเด็ก งานเกษตรทั้งหมด การสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหมด การศึกษา” เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ไม่ยอมเอ่ยถึงเงินทุนของสหรัฐที่ผ่าน USAid ในรูปแบบโครงการเพื่อพัฒนาประชาธิบไตยของแต่ละประเทศ ก็ถูกระงับด้วยเช่นกัน เป็นที่ทราบกันดีว่า เงินสนับสนุนในส่วนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความขัดแย้งในแต่ละประเทศโดยผ่านชื่อโครงการอันสวยหรู
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • 25 ปี “ก๊อด'ส อาร์มี่” บุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี บทเรียนแห่งความสูญเสีย และความเด็ดขาด

    เช้าตรู่แห่งความเปลี่ยนแปลง
    ย้อนไปเมื่อ 25 ปี ที่ผ่านมา ในเช้าวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 ถือเป็นวันที่ชาวราชบุรี และประเทศไทยทั้งประเทศ ไม่มีวันลืมได้ นายพินิจ ปองมณี คนขับรถบัสสาย 18 ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้พบกับเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ไปตลอดกาล เมื่อชายสองคนโบกรถ และกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของปฏิบัติการก่อการร้าย ที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

    "ก๊อด'ส อาร์มี่" กองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง
    กองกำลัง "ก๊อด'ส อาร์มี่" เป็นกลุ่มติดอาวุธ ที่มีจุดกำเนิดจากชายแดนไทย-พม่า กลุ่มนี้นำโดยคู่แฝด “ลูเธอร์ ทู” และ “จอห์นนี่ ทู” ซึ่งได้รับการยกย่อง จากผู้ติดตามว่าเป็น “นักบุญ” และมีพลังเหนือธรรมชาติ แนวทางของกลุ่มคือ การต่อต้านรัฐบาลพม่า เพื่อเรียกร้องสิทธิปกครองตนเอง ของชาวกะเหรี่ยง

    ด้วยแรงกดดัน จากการโจมตีของกองทัพพม่า กลุ่มนี้หันมาใช้วิธีการรุนแรง เช่น การจับตัวประกัน และบุกยึดสถานที่สำคัญ โดยหวังให้ทั่วโลกสนใจ ประเด็นผู้อพยพชายแดน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนนั้น

    เหตุการณ์การยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี
    เมื่อชายฉกรรจ์ทั้ง 10 คน พร้อมอาวุธครบมือขึ้นรถบัส พวกเขาเริ่มดำเนินแผนการณ์ ด้วยการบุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี สถานที่ที่มีหมอ พยาบาล และผู้ป่วยที่ต้องการการดูแล ในขณะนั้น

    การดำเนินการของกลุ่มก่อการร้าย เป็นไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถควบคุมตัวบุคลากร และผู้ป่วยรวมกว่า 780 คน และตั้งฐานในบริเวณชั้น 2 ของโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมายหลักคือ การบีบบังคับให้รัฐบาลไทย ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง ที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือผู้อพยพ

    ข้อเรียกร้องที่แฝงด้วยความสิ้นหวัง
    ข้อเรียกร้องของ "ก๊อด'ส อาร์มี่" ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสิ้นหวังของพวกเขา
    - ให้หยุดยิงปืนใหญ่ที่ชายแดน ซึ่งกระทบต่อชีวิตผู้อพยพ
    - เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง
    - เปิดชายแดนไทย-พม่า เพื่อให้ผู้อพยพมีที่พักพิง
    - กดดันรัฐบาลพม่า ให้หยุดการสู้รบ
    - นำแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ ไปรักษากองกำลังกะเหรี่ยง ในชายแดน

    แม้ข้อเรียกร้องเหล่านี้ จะดูมีความหมายในแง่มนุษยธรรม แต่การกระทำของพวกเขา ได้ละเมิดอธิปไตยของไทย และสร้างความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของกลุ่ม อย่างร้ายแรง

    แผนปฏิบัติการช่วยเหลือ
    รัฐบาลไทยเผชิญกับ ทางเลือกที่ยากลำบาก ระหว่างการตอบสนอง ต่อข้อเรียกร้องของผู้ก่อเหตุ หรือการใช้กำลัง เพื่อยุติสถานการณ์ ในที่สุด พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ผู้บัญชาการกองทัพบก ในขณะนั้น ได้วางแผนปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 และนเรศวร 261 เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่และช่วยเหลือตัวประกัน

    ปฏิบัติการช่วงชิงเวลา
    ในคืนวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 หลังการเจรจาที่ไม่เป็นผลสำเร็จ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้ตัดสินใจบุกยึดพื้นที่ในช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุเริ่มอ่อนล้า ด้วยการจู่โจมอย่างรวดเร็ว และรัดกุม โดยสามารถสังหารผู้ก่อเหตุทั้งหมด 10 คน และช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จ โดยไม่มีการสูญเสียชีวิต ของพลเรือน

    บทเรียนที่ได้รับ ความสำคัญของการประสานงานหลายฝ่าย
    เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึง การประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระหว่างกองทัพ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลดความสูญเสีย ได้อย่างมาก

    จุดยืนของประเทศไทย
    การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมจำนน ต่อการก่อการร้าย และพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของตน

    ผลกระทบต่อกลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่
    การสูญเสียผู้นำสำคัญ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลให้กลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ อ่อนแอลงอย่างมาก และในที่สุด ก็สลายตัวลงในปีถัดมา

    25 ปีผ่านไป บทเรียนสู่อนาคต
    เหตุการณ์ในวันนั้น ยังคงเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคง และคนไทยทุกคน การเผชิญหน้ากับความท้าทายเช่นนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือ ความเด็ดขาด และความเสียสละ จากทุกฝ่าย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241345 ม.ค. 2568

    #GodsArmy #ราชบุรี #เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ #บุกโรงพยาบาล #ข่าวด่วนราชบุรี #กองกำลังติดอาวุธ #ประเทศไทย
    25 ปี “ก๊อด'ส อาร์มี่” บุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี บทเรียนแห่งความสูญเสีย และความเด็ดขาด เช้าตรู่แห่งความเปลี่ยนแปลง ย้อนไปเมื่อ 25 ปี ที่ผ่านมา ในเช้าวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 ถือเป็นวันที่ชาวราชบุรี และประเทศไทยทั้งประเทศ ไม่มีวันลืมได้ นายพินิจ ปองมณี คนขับรถบัสสาย 18 ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้พบกับเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ไปตลอดกาล เมื่อชายสองคนโบกรถ และกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของปฏิบัติการก่อการร้าย ที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย "ก๊อด'ส อาร์มี่" กองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง กองกำลัง "ก๊อด'ส อาร์มี่" เป็นกลุ่มติดอาวุธ ที่มีจุดกำเนิดจากชายแดนไทย-พม่า กลุ่มนี้นำโดยคู่แฝด “ลูเธอร์ ทู” และ “จอห์นนี่ ทู” ซึ่งได้รับการยกย่อง จากผู้ติดตามว่าเป็น “นักบุญ” และมีพลังเหนือธรรมชาติ แนวทางของกลุ่มคือ การต่อต้านรัฐบาลพม่า เพื่อเรียกร้องสิทธิปกครองตนเอง ของชาวกะเหรี่ยง ด้วยแรงกดดัน จากการโจมตีของกองทัพพม่า กลุ่มนี้หันมาใช้วิธีการรุนแรง เช่น การจับตัวประกัน และบุกยึดสถานที่สำคัญ โดยหวังให้ทั่วโลกสนใจ ประเด็นผู้อพยพชายแดน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนนั้น เหตุการณ์การยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี เมื่อชายฉกรรจ์ทั้ง 10 คน พร้อมอาวุธครบมือขึ้นรถบัส พวกเขาเริ่มดำเนินแผนการณ์ ด้วยการบุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี สถานที่ที่มีหมอ พยาบาล และผู้ป่วยที่ต้องการการดูแล ในขณะนั้น การดำเนินการของกลุ่มก่อการร้าย เป็นไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถควบคุมตัวบุคลากร และผู้ป่วยรวมกว่า 780 คน และตั้งฐานในบริเวณชั้น 2 ของโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมายหลักคือ การบีบบังคับให้รัฐบาลไทย ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง ที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือผู้อพยพ ข้อเรียกร้องที่แฝงด้วยความสิ้นหวัง ข้อเรียกร้องของ "ก๊อด'ส อาร์มี่" ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสิ้นหวังของพวกเขา - ให้หยุดยิงปืนใหญ่ที่ชายแดน ซึ่งกระทบต่อชีวิตผู้อพยพ - เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง - เปิดชายแดนไทย-พม่า เพื่อให้ผู้อพยพมีที่พักพิง - กดดันรัฐบาลพม่า ให้หยุดการสู้รบ - นำแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ ไปรักษากองกำลังกะเหรี่ยง ในชายแดน แม้ข้อเรียกร้องเหล่านี้ จะดูมีความหมายในแง่มนุษยธรรม แต่การกระทำของพวกเขา ได้ละเมิดอธิปไตยของไทย และสร้างความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของกลุ่ม อย่างร้ายแรง แผนปฏิบัติการช่วยเหลือ รัฐบาลไทยเผชิญกับ ทางเลือกที่ยากลำบาก ระหว่างการตอบสนอง ต่อข้อเรียกร้องของผู้ก่อเหตุ หรือการใช้กำลัง เพื่อยุติสถานการณ์ ในที่สุด พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ผู้บัญชาการกองทัพบก ในขณะนั้น ได้วางแผนปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 และนเรศวร 261 เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่และช่วยเหลือตัวประกัน ปฏิบัติการช่วงชิงเวลา ในคืนวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 หลังการเจรจาที่ไม่เป็นผลสำเร็จ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้ตัดสินใจบุกยึดพื้นที่ในช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุเริ่มอ่อนล้า ด้วยการจู่โจมอย่างรวดเร็ว และรัดกุม โดยสามารถสังหารผู้ก่อเหตุทั้งหมด 10 คน และช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จ โดยไม่มีการสูญเสียชีวิต ของพลเรือน บทเรียนที่ได้รับ ความสำคัญของการประสานงานหลายฝ่าย เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึง การประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระหว่างกองทัพ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลดความสูญเสีย ได้อย่างมาก จุดยืนของประเทศไทย การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมจำนน ต่อการก่อการร้าย และพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของตน ผลกระทบต่อกลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ การสูญเสียผู้นำสำคัญ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลให้กลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ อ่อนแอลงอย่างมาก และในที่สุด ก็สลายตัวลงในปีถัดมา 25 ปีผ่านไป บทเรียนสู่อนาคต เหตุการณ์ในวันนั้น ยังคงเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคง และคนไทยทุกคน การเผชิญหน้ากับความท้าทายเช่นนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือ ความเด็ดขาด และความเสียสละ จากทุกฝ่าย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241345 ม.ค. 2568 #GodsArmy #ราชบุรี #เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ #บุกโรงพยาบาล #ข่าวด่วนราชบุรี #กองกำลังติดอาวุธ #ประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกชื่อ "El Capitan" ที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Livermore (LLNL) ในแคลิฟอร์เนีย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกพัฒนามานานกว่าแปดปีและมีความสามารถในการประมวลผลสูงสุดถึง 2.746 exaFLOPS El Capitan ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาและใช้ในการวิจัยที่เป็นความลับ

    El Capitan ใช้พลังงานจากซีพียูและจีพียูมากกว่า 11 ล้านคอร์ที่รวมอยู่ในตัวเร่ง AMD Instinct MI300A กว่า 43,000 ตัว. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้สามารถทำการคำนวณได้ถึง 2.79 quintillion ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นจำนวนที่มากจนถ้าคุณย้อนเวลากลับไป 2.79 quintillion วินาที คุณจะไปถึงกว่า 70 พันล้านปีก่อนการเกิดบิ๊กแบง

    นอกจากการรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์แล้ว El Capitan ยังถูกใช้ในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์วัสดุและฟิสิกส์ รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และการเรียนรู้ของเครื่อง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกสร้างขึ้นด้วยงบประมาณประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกคาดหวังว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Sierra ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2018 ถึง 18 เท่า

    น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การที่ El Capitan สามารถทำการคำนวณได้ในระดับที่สูงมากนี้อาจนำไปสู่การค้นพบใหม่ๆ ที่สำคัญในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/106467-world-fastest-supercomputer-amd-powered-el-capitan-goes.html
    เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกชื่อ "El Capitan" ที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Livermore (LLNL) ในแคลิฟอร์เนีย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกพัฒนามานานกว่าแปดปีและมีความสามารถในการประมวลผลสูงสุดถึง 2.746 exaFLOPS El Capitan ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาและใช้ในการวิจัยที่เป็นความลับ El Capitan ใช้พลังงานจากซีพียูและจีพียูมากกว่า 11 ล้านคอร์ที่รวมอยู่ในตัวเร่ง AMD Instinct MI300A กว่า 43,000 ตัว. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้สามารถทำการคำนวณได้ถึง 2.79 quintillion ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นจำนวนที่มากจนถ้าคุณย้อนเวลากลับไป 2.79 quintillion วินาที คุณจะไปถึงกว่า 70 พันล้านปีก่อนการเกิดบิ๊กแบง นอกจากการรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์แล้ว El Capitan ยังถูกใช้ในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์วัสดุและฟิสิกส์ รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และการเรียนรู้ของเครื่อง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกสร้างขึ้นด้วยงบประมาณประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกคาดหวังว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Sierra ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2018 ถึง 18 เท่า น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การที่ El Capitan สามารถทำการคำนวณได้ในระดับที่สูงมากนี้อาจนำไปสู่การค้นพบใหม่ๆ ที่สำคัญในอนาคต https://www.techspot.com/news/106467-world-fastest-supercomputer-amd-powered-el-capitan-goes.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    World's fastest supercomputer, "El Capitan," goes online to safeguard US nuclear weapons
    El Capitan can reach a peak performance of 2.746 exaFLOPS, making it the National Nuclear Security Administration's first exascale supercomputer. It's the world's third exascale machine after...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอุทธรณ์สหรัฐยกเลิกคำสั่งสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้ถอนการคว่ำบาตร Tornado Cash ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโตมิกเซอร์ โดยคำตัดสินใหม่ระบุว่า “ศาลมีคำสั่งให้คำตัดสินเดิมถูกยกเลิก และส่งกลับไปยังศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการพิจารณาเพิ่มเติม”

    ทั้งนี้ OFAC ทำหน้าที่บริหารและบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าต่อเขตอำนาจศาลและระบอบการปกครองต่างประเทศที่เป็นเป้าหมาย ตลอดจนบุคคลและนิติบุคคลที่กระทำกิจกรรมที่เป็นอันตราย เช่น ผู้ก่อการร้าย ผู้ค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ผู้แพร่ขยายอาวุธทำลายล้างสูง

    สาเหตุคว่ำบาตร Tornado Cash เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2022 Office of Foreign Assets Control (OFAC) ได้กำหนดให้ Tornado Cash เป็นหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้โดยเกาหลีเหนือในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การฟอกเงินจากคริปโตที่ถูกขโมย นอกจากนี้ Alexey Pertsev นักพัฒนาของ Tornado Cash ยังถูกตัดสินจำคุกกว่า 5 ปีในข้อหาฟอกเงิน

    หลังจากการคว่ำบาตร Tornado Cash ผู้ใช้งานชื่อ Joseph Van Loon และผู้ร่วมฟ้องร้องอีก 5 คนได้ยื่นฟ้องต่อกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าการคว่ำบาตรดังกล่าวเกินขอบเขตอำนาจที่กำหนดไว้ใน International Emergency Economic Powers Act (IEEPA)

    โดยข้อถกเถียงหลักอยู่ที่คำจำกัดความของคำว่า “ทรัพย์สิน” ซึ่งในกรณีของ Tornado Cash ศาลอุทธรณ์เห็นว่า smart contracts ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (immutable) ไม่ถือเป็นทรัพย์สินตามคำจำกัดความ

    ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง

    คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล”

    ที่มา: TheBlock ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง

    คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล”

    ที่มา:
    https://storage.courtlistener.com/recap/gov.uscourts.txwd.1211705/gov.uscourts.txwd.1211705.99.0.pdf
    ศาลอุทธรณ์สหรัฐยกเลิกคำสั่งสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้ถอนการคว่ำบาตร Tornado Cash ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโตมิกเซอร์ โดยคำตัดสินใหม่ระบุว่า “ศาลมีคำสั่งให้คำตัดสินเดิมถูกยกเลิก และส่งกลับไปยังศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการพิจารณาเพิ่มเติม” ทั้งนี้ OFAC ทำหน้าที่บริหารและบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าต่อเขตอำนาจศาลและระบอบการปกครองต่างประเทศที่เป็นเป้าหมาย ตลอดจนบุคคลและนิติบุคคลที่กระทำกิจกรรมที่เป็นอันตราย เช่น ผู้ก่อการร้าย ผู้ค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ผู้แพร่ขยายอาวุธทำลายล้างสูง สาเหตุคว่ำบาตร Tornado Cash เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2022 Office of Foreign Assets Control (OFAC) ได้กำหนดให้ Tornado Cash เป็นหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้โดยเกาหลีเหนือในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การฟอกเงินจากคริปโตที่ถูกขโมย นอกจากนี้ Alexey Pertsev นักพัฒนาของ Tornado Cash ยังถูกตัดสินจำคุกกว่า 5 ปีในข้อหาฟอกเงิน หลังจากการคว่ำบาตร Tornado Cash ผู้ใช้งานชื่อ Joseph Van Loon และผู้ร่วมฟ้องร้องอีก 5 คนได้ยื่นฟ้องต่อกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าการคว่ำบาตรดังกล่าวเกินขอบเขตอำนาจที่กำหนดไว้ใน International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) โดยข้อถกเถียงหลักอยู่ที่คำจำกัดความของคำว่า “ทรัพย์สิน” ซึ่งในกรณีของ Tornado Cash ศาลอุทธรณ์เห็นว่า smart contracts ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (immutable) ไม่ถือเป็นทรัพย์สินตามคำจำกัดความ ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล” ที่มา: TheBlock ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล” ที่มา: https://storage.courtlistener.com/recap/gov.uscourts.txwd.1211705/gov.uscourts.txwd.1211705.99.0.pdf
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องปฏิเสธข้อตกลงอิสตันบูล หลังการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียในช่วงเริ่มต้นความขัดแย้ง เนื่องจากปูตินพยายามแทนที่เขาด้วยวิกเตอร์ เมดเวดชุก (Viktor Medvedchuk)

    ▪️รัสเซียเรียกร้องให้เซเลนสกีลาออก และให้วิกเตอร์ เมดเวดชุกเข้ารับตำแหน่งแทน

    ▪️ยูเครนต้องยอมรับดอนบาสทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ยอมรับภาษาของรัสเซีย และปก้ไขรัฐธรรมนูญของยูเครนเพื่อกำหนดสถานะยูเครนให้เป็นกลางทางทหาร

    ▪️สหพันธรัฐรัสเซียยังเรียกร้องให้ลดจำนวนกองทัพยูเครนเหลือ 50,000 นาย รวมถึงการทำลายหรือโอนย้ายอาวุธทั้งหมดออกจากแนวหน้ารัสเซียในระยะ 20 กม.

    ▪️ช่วงเริ่มต้นความขัดแย้ง หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนสามารถจับกุม วิกเตอร์ เมดเวดชุก ได้ เขาเป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่ต่อต้านเซเลนสกี และมีความสนิทสนมกับวลาดิเมียร์ ปูติน

    ▪️ต่อมา เมดเวดชุก เป็นหนึ่งในนักโทษที่ได้รับการแลกเปลี่ยนเชลยสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ขณะนี้เขาพักอาศัยอยู่ในรัสเซีย
    เซเลนสกีเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องปฏิเสธข้อตกลงอิสตันบูล หลังการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียในช่วงเริ่มต้นความขัดแย้ง เนื่องจากปูตินพยายามแทนที่เขาด้วยวิกเตอร์ เมดเวดชุก (Viktor Medvedchuk) ▪️รัสเซียเรียกร้องให้เซเลนสกีลาออก และให้วิกเตอร์ เมดเวดชุกเข้ารับตำแหน่งแทน ▪️ยูเครนต้องยอมรับดอนบาสทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ยอมรับภาษาของรัสเซีย และปก้ไขรัฐธรรมนูญของยูเครนเพื่อกำหนดสถานะยูเครนให้เป็นกลางทางทหาร ▪️สหพันธรัฐรัสเซียยังเรียกร้องให้ลดจำนวนกองทัพยูเครนเหลือ 50,000 นาย รวมถึงการทำลายหรือโอนย้ายอาวุธทั้งหมดออกจากแนวหน้ารัสเซียในระยะ 20 กม. ▪️ช่วงเริ่มต้นความขัดแย้ง หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนสามารถจับกุม วิกเตอร์ เมดเวดชุก ได้ เขาเป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่ต่อต้านเซเลนสกี และมีความสนิทสนมกับวลาดิเมียร์ ปูติน ▪️ต่อมา เมดเวดชุก เป็นหนึ่งในนักโทษที่ได้รับการแลกเปลี่ยนเชลยสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ขณะนี้เขาพักอาศัยอยู่ในรัสเซีย
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐสร้างความประหลาดใจอย่างมาก ด้วยการประกาศแต่งตั้ง ไมเคิล พี. ดิมิโน (Michael P. DiMino) อดีตนักวิเคราะห์ของซีไอเอและเจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้าย เข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนโยบายตะวันออกกลางของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ผู้ซึ่งมีแนวคิดใช้นโยบายทางการทูตมากกว่าการทำสงคราม

    "ตำแหน่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการควบคุมทิศทางภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งหมด โดยที่ดิมิโนจะเป็นผู้รับผิดชอบในการลงนามในข้อตกลงทางทหารต่างประเทศทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดหาอาวุธให้กับประเทศที่สนับสนุนสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงอิสราเอลด้วย"

    การแต่งตั้งครั้งนี้ส่งผลกระทบถึงอิสราเอลและอิหร่านโดยตรง ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าทรัมป์กำลังถอยห่างจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง "แต่อาจสร้างความไม่พอใจให้กับอิสราเอล"

    เนื่องจากการแสดงออกของดิมิโนที่ผ่านมา เคยวิจารณ์รัฐบาลของไบเดนที่ล้มเหลวในการกดดันอิสราเอลให้เปิดการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังฉนวนกาซา ขณะเดียวกัน เขาก็ชื่นชมไบเดนเช่นกันที่ปฏิเสธเข้าร่วมในการโจมตีตอบโต้ของอิสราเอลต่ออิหร่านโดยตรง

    เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ดิมิโนเคยแสดงความเห็นเอาไว้ว่าตะวันออกกลางไม่ได้มีความสำคัญสำหรับผลประโยชน์ของสหรัฐอย่างแท้จริง และบทบาทของสหรัฐในภูมิภาคนี้ก็ไม่ได้ให้ประโยชน์ใดแก่พวกเขาเช่นกัน นอกจากนี้ภัยคุกคามที่สำคัญของสหรัฐในภูมิภาคนี้ คือการทำให้มีความขัดแย้งกันน้อยที่สุดหรือไม่มีเลยยิ่งดี

    ดิมิโนยังแสดงความเห็นอีกว่า เขายังมองไม่เห็นประเด็นในการทิ้งระเบิดกลุ่มฮูตีจากคำสั่งของไบเดน และเชื่อว่าการทูตเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับฉนวนกาซา

    นี่อาจเป็นก้าวใหม่ของสหรัฐที่มีบุคคลที่อาจเข้ามาทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางที่เน้นด้านมนุษยธรรมมากขึ้น
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐสร้างความประหลาดใจอย่างมาก ด้วยการประกาศแต่งตั้ง ไมเคิล พี. ดิมิโน (Michael P. DiMino) อดีตนักวิเคราะห์ของซีไอเอและเจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้าย เข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนโยบายตะวันออกกลางของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ผู้ซึ่งมีแนวคิดใช้นโยบายทางการทูตมากกว่าการทำสงคราม "ตำแหน่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการควบคุมทิศทางภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งหมด โดยที่ดิมิโนจะเป็นผู้รับผิดชอบในการลงนามในข้อตกลงทางทหารต่างประเทศทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดหาอาวุธให้กับประเทศที่สนับสนุนสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงอิสราเอลด้วย" การแต่งตั้งครั้งนี้ส่งผลกระทบถึงอิสราเอลและอิหร่านโดยตรง ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าทรัมป์กำลังถอยห่างจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง "แต่อาจสร้างความไม่พอใจให้กับอิสราเอล" เนื่องจากการแสดงออกของดิมิโนที่ผ่านมา เคยวิจารณ์รัฐบาลของไบเดนที่ล้มเหลวในการกดดันอิสราเอลให้เปิดการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังฉนวนกาซา ขณะเดียวกัน เขาก็ชื่นชมไบเดนเช่นกันที่ปฏิเสธเข้าร่วมในการโจมตีตอบโต้ของอิสราเอลต่ออิหร่านโดยตรง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ดิมิโนเคยแสดงความเห็นเอาไว้ว่าตะวันออกกลางไม่ได้มีความสำคัญสำหรับผลประโยชน์ของสหรัฐอย่างแท้จริง และบทบาทของสหรัฐในภูมิภาคนี้ก็ไม่ได้ให้ประโยชน์ใดแก่พวกเขาเช่นกัน นอกจากนี้ภัยคุกคามที่สำคัญของสหรัฐในภูมิภาคนี้ คือการทำให้มีความขัดแย้งกันน้อยที่สุดหรือไม่มีเลยยิ่งดี ดิมิโนยังแสดงความเห็นอีกว่า เขายังมองไม่เห็นประเด็นในการทิ้งระเบิดกลุ่มฮูตีจากคำสั่งของไบเดน และเชื่อว่าการทูตเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับฉนวนกาซา นี่อาจเป็นก้าวใหม่ของสหรัฐที่มีบุคคลที่อาจเข้ามาทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางที่เน้นด้านมนุษยธรรมมากขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts