• นักเรียนไทยยุค AI: อยู่รอดอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม?
    โลกยุคใหม่ไม่ได้รอใครอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อนวัตกรรมอย่าง AI เข้ามามีบทบาทในแทบทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่การเรียน ไปจนถึงการทำงานในอนาคต และนักเรียนไทยจะต้องไม่ใช่แค่ “ปรับตัว” แต่ต้อง “เปลี่ยนวิธีคิด” เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในโลกที่ AI ครองเวที

    แล้วนักเรียนต้องพัฒนาอะไรบ้าง?
    1️⃣. AI Literacy – ทักษะความรู้เรื่อง AI
    ไม่ใช่แค่ใช้ ChatGPT ได้ แต่ต้องเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร มีข้อดี ข้อจำกัด และ “อคติ” อย่างไรบ้าง นักเรียนต้องฝึกคิดแบบวิพากษ์ ไม่เชื่อทุกอย่างที่ AI บอกมา ต้องกล้าตั้งคำถาม และตรวจสอบแหล่งข้อมูลให้เป็น

    2️⃣. ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
    AI เก่งในเรื่อง “การจำและประมวลผล” แต่การตั้งคำถาม การตีความ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ยังเป็นทักษะของมนุษย์ นักเรียนควรฝึกคิดในเชิงลึก ฝึกตั้งสมมุติฐาน ทดลอง และปรับปรุง ไม่ใช่แค่หาคำตอบเร็วๆ จากอินเทอร์เน็ต

    3️⃣. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
    AI ช่วยเราคิดได้ แต่ไม่สามารถ “คิดแทนเราได้หมด” การสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เขียนเรื่องราว แต่งเพลง ทำโครงการนวัตกรรม หรือผลงานศิลปะ ยังคงต้องใช้พลังความคิดของมนุษย์อย่างแท้จริง

    4️⃣. การทำงานร่วมกันกับ AI และมนุษย์
    นักเรียนในยุคนี้ต้องทำงานเป็นทีม ทั้งกับคนและกับเทคโนโลยี ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ AI ช่วย และเมื่อไรควรใช้หัวใจของมนุษย์ เช่น การฟังเพื่อน ความเข้าใจอารมณ์ หรือการทำโปรเจกต์ร่วมกัน

    5️⃣. จริยธรรมและความรับผิดชอบ
    การใช้ AI อย่างถูกจริยธรรมเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ไม่คัดลอกเนื้อหาที่ AI สร้างมาโดยไม่เข้าใจ การเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น และรู้เท่าทัน Deepfake หรือข้อมูลบิดเบือนที่อาจเจอในชีวิตประจำวัน

    AI คือเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู
    หลายคนกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน หรือทำให้คนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่ในความเป็นจริง AI คือ “เครื่องมือ” ที่ดีมาก ถ้าเราใช้เป็น มันจะช่วยให้เราเก่งขึ้น ไม่ใช่ถูกแทนที่

    เช่น:
    - นักเรียนสามารถใช้ AI ช่วยสรุปบทเรียน ติวสอบ หรือสร้างไอเดียสำหรับโปรเจกต์
    - ครูสามารถใช้ AI ช่วยตรวจข้อสอบ วางแผนบทเรียน และมีเวลาสอนนักเรียนแบบใกล้ชิดขึ้น
    - โรงเรียนหลายแห่งก็เริ่มใช้ AI อย่าง SplashLearn, ChatGPT หรือ Writable เพื่อช่วยให้การเรียนสนุกและเข้าถึงได้มากขึ้น

    แต่อย่าลืมความเสี่ยง
    แม้ว่า AI จะช่วยได้มาก แต่ก็มีความท้าทาย เช่น:
    - ความเครียดจากการอยู่กับหน้าจอนานๆ
    - ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติจาก AI
    - ความเหลื่อมล้ำเรื่องอุปกรณ์และทักษะในบางพื้นที่ของประเทศ

    ดังนั้น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และภาครัฐต้องร่วมมือกัน สร้างระบบการเรียนรู้ที่ปลอดภัย เท่าเทียม และพัฒนาความรู้รอบด้านไปพร้อมกัน

    สรุปง่ายๆ สำหรับนักเรียนไทยในยุค AI:
    - อย่าใช้ AI แค่ “ให้มันทำให้” แต่ต้อง “ใช้มันเพื่อให้เราเก่งขึ้น”
    - พัฒนาให้รอบด้าน ทั้งสมอง จิตใจ และจริยธรรม
    - ฝึกเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเทคโนโลยีจะไม่หยุดรอเราแน่นอน

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    🎓 นักเรียนไทยยุค AI: อยู่รอดอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม? โลกยุคใหม่ไม่ได้รอใครอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อนวัตกรรมอย่าง AI เข้ามามีบทบาทในแทบทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่การเรียน ไปจนถึงการทำงานในอนาคต และนักเรียนไทยจะต้องไม่ใช่แค่ “ปรับตัว” แต่ต้อง “เปลี่ยนวิธีคิด” เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในโลกที่ AI ครองเวที ✅ แล้วนักเรียนต้องพัฒนาอะไรบ้าง? 1️⃣. AI Literacy – ทักษะความรู้เรื่อง AI ไม่ใช่แค่ใช้ ChatGPT ได้ แต่ต้องเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร มีข้อดี ข้อจำกัด และ “อคติ” อย่างไรบ้าง นักเรียนต้องฝึกคิดแบบวิพากษ์ ไม่เชื่อทุกอย่างที่ AI บอกมา ต้องกล้าตั้งคำถาม และตรวจสอบแหล่งข้อมูลให้เป็น 2️⃣. ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา AI เก่งในเรื่อง “การจำและประมวลผล” แต่การตั้งคำถาม การตีความ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ยังเป็นทักษะของมนุษย์ นักเรียนควรฝึกคิดในเชิงลึก ฝึกตั้งสมมุติฐาน ทดลอง และปรับปรุง ไม่ใช่แค่หาคำตอบเร็วๆ จากอินเทอร์เน็ต 3️⃣. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) AI ช่วยเราคิดได้ แต่ไม่สามารถ “คิดแทนเราได้หมด” การสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เขียนเรื่องราว แต่งเพลง ทำโครงการนวัตกรรม หรือผลงานศิลปะ ยังคงต้องใช้พลังความคิดของมนุษย์อย่างแท้จริง 4️⃣. การทำงานร่วมกันกับ AI และมนุษย์ นักเรียนในยุคนี้ต้องทำงานเป็นทีม ทั้งกับคนและกับเทคโนโลยี ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ AI ช่วย และเมื่อไรควรใช้หัวใจของมนุษย์ เช่น การฟังเพื่อน ความเข้าใจอารมณ์ หรือการทำโปรเจกต์ร่วมกัน 5️⃣. จริยธรรมและความรับผิดชอบ การใช้ AI อย่างถูกจริยธรรมเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ไม่คัดลอกเนื้อหาที่ AI สร้างมาโดยไม่เข้าใจ การเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น และรู้เท่าทัน Deepfake หรือข้อมูลบิดเบือนที่อาจเจอในชีวิตประจำวัน 📌 AI คือเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู หลายคนกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน หรือทำให้คนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่ในความเป็นจริง AI คือ “เครื่องมือ” ที่ดีมาก ถ้าเราใช้เป็น มันจะช่วยให้เราเก่งขึ้น ไม่ใช่ถูกแทนที่ เช่น: - นักเรียนสามารถใช้ AI ช่วยสรุปบทเรียน ติวสอบ หรือสร้างไอเดียสำหรับโปรเจกต์ - ครูสามารถใช้ AI ช่วยตรวจข้อสอบ วางแผนบทเรียน และมีเวลาสอนนักเรียนแบบใกล้ชิดขึ้น - โรงเรียนหลายแห่งก็เริ่มใช้ AI อย่าง SplashLearn, ChatGPT หรือ Writable เพื่อช่วยให้การเรียนสนุกและเข้าถึงได้มากขึ้น 🚨 แต่อย่าลืมความเสี่ยง แม้ว่า AI จะช่วยได้มาก แต่ก็มีความท้าทาย เช่น: - ความเครียดจากการอยู่กับหน้าจอนานๆ - ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติจาก AI - ความเหลื่อมล้ำเรื่องอุปกรณ์และทักษะในบางพื้นที่ของประเทศ ดังนั้น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และภาครัฐต้องร่วมมือกัน สร้างระบบการเรียนรู้ที่ปลอดภัย เท่าเทียม และพัฒนาความรู้รอบด้านไปพร้อมกัน 💡 สรุปง่ายๆ สำหรับนักเรียนไทยในยุค AI: - อย่าใช้ AI แค่ “ให้มันทำให้” แต่ต้อง “ใช้มันเพื่อให้เราเก่งขึ้น” - พัฒนาให้รอบด้าน ทั้งสมอง จิตใจ และจริยธรรม - ฝึกเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเทคโนโลยีจะไม่หยุดรอเราแน่นอน #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • MIT พัฒนาอุปกรณ์ฝังใต้ผิวหนัง ปล่อยฮอร์โมนช่วยชีวิตเมื่อระดับน้ำตาลตก

    ทีมวิศวกรจาก MIT ได้สร้างอุปกรณ์ขนาดเท่าเหรียญที่ฝังใต้ผิวหนัง ซึ่งสามารถปล่อย glucagon—ฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด—ได้ทันทีเมื่อเกิดภาวะ hypoglycemia โดยไม่ต้องรอให้ผู้ป่วยรู้ตัวหรือมีคนช่วยฉีดยา

    อุปกรณ์นี้ประกอบด้วย:
    - แหล่งเก็บ glucagon แบบผง (มีความเสถียรมากกว่าสารละลาย)
    - วัสดุโลหะจำรูปร่าง (shape-memory alloy) ที่เปิดฝาเมื่อถูกความร้อน
    - เสาอากาศที่รับคลื่นวิทยุเฉพาะเพื่อกระตุ้นการปล่อยยา
    - ระบบเชื่อมต่อกับเครื่องวัดน้ำตาลแบบต่อเนื่อง (CGM) เพื่อปล่อยยาอัตโนมัติ

    เมื่อระดับน้ำตาลลดต่ำเกินไป:
    - CGM ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์
    - เกิดกระแสไฟฟ้าเล็กน้อยเพื่อให้โลหะจำรูปร่างร้อนถึง 40°C
    - ฝาเปิดและ glucagon ถูกปล่อยออกมา ละลายและเข้าสู่ร่างกาย

    ในการทดลองกับหนูเบาหวาน อุปกรณ์สามารถฟื้นฟูระดับน้ำตาลได้ภายใน 10 นาที และยังสามารถใช้ปล่อย epinephrine สำหรับกรณีแพ้รุนแรงหรือหัวใจหยุดเต้นได้ด้วย

    แม้ร่างกายจะสร้างพังผืดรอบอุปกรณ์หลังฝัง แต่ทีมวิจัยพบว่าอุปกรณ์ยังทำงานได้ดี และกำลังพัฒนาให้ใช้งานได้นานถึง 1 ปี ก่อนต้องเปลี่ยนใหม่

    https://www.techspot.com/news/108650-mit-engineers-create-implant-automatically-treats-dangerously-low.html
    MIT พัฒนาอุปกรณ์ฝังใต้ผิวหนัง ปล่อยฮอร์โมนช่วยชีวิตเมื่อระดับน้ำตาลตก ทีมวิศวกรจาก MIT ได้สร้างอุปกรณ์ขนาดเท่าเหรียญที่ฝังใต้ผิวหนัง ซึ่งสามารถปล่อย glucagon—ฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด—ได้ทันทีเมื่อเกิดภาวะ hypoglycemia โดยไม่ต้องรอให้ผู้ป่วยรู้ตัวหรือมีคนช่วยฉีดยา อุปกรณ์นี้ประกอบด้วย: - แหล่งเก็บ glucagon แบบผง (มีความเสถียรมากกว่าสารละลาย) - วัสดุโลหะจำรูปร่าง (shape-memory alloy) ที่เปิดฝาเมื่อถูกความร้อน - เสาอากาศที่รับคลื่นวิทยุเฉพาะเพื่อกระตุ้นการปล่อยยา - ระบบเชื่อมต่อกับเครื่องวัดน้ำตาลแบบต่อเนื่อง (CGM) เพื่อปล่อยยาอัตโนมัติ เมื่อระดับน้ำตาลลดต่ำเกินไป: - CGM ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ - เกิดกระแสไฟฟ้าเล็กน้อยเพื่อให้โลหะจำรูปร่างร้อนถึง 40°C - ฝาเปิดและ glucagon ถูกปล่อยออกมา ละลายและเข้าสู่ร่างกาย ในการทดลองกับหนูเบาหวาน อุปกรณ์สามารถฟื้นฟูระดับน้ำตาลได้ภายใน 10 นาที และยังสามารถใช้ปล่อย epinephrine สำหรับกรณีแพ้รุนแรงหรือหัวใจหยุดเต้นได้ด้วย แม้ร่างกายจะสร้างพังผืดรอบอุปกรณ์หลังฝัง แต่ทีมวิจัยพบว่าอุปกรณ์ยังทำงานได้ดี และกำลังพัฒนาให้ใช้งานได้นานถึง 1 ปี ก่อนต้องเปลี่ยนใหม่ https://www.techspot.com/news/108650-mit-engineers-create-implant-automatically-treats-dangerously-low.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New MIT implant automatically treats dangerously low blood sugar in people with type 1 diabetes
    For individuals with type 1 diabetes – an autoimmune condition – maintaining stable blood sugar is a constant challenge. Rapid-acting insulin must be administered, either through injections...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลืม ransomware ไปก่อน—Quantum Computing คือภัยไซเบอร์ที่องค์กรทั่วโลกกลัวที่สุด

    รายงานล่าสุดจาก Capgemini Research Institute ซึ่งสำรวจองค์กรขนาดใหญ่กว่า 1,000 แห่งใน 13 ประเทศ พบว่า 70% ขององค์กรเหล่านี้มองว่า Quantum Computing คือภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรงที่สุดในอนาคต มากกว่าการโจมตีแบบ ransomware ที่เคยเป็นอันดับหนึ่ง

    เหตุผลคือ Quantum Computer จะสามารถ “ถอดรหัส” ระบบเข้ารหัสที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้ทั้งหมด เช่น RSA, ECC และ AES ซึ่งเป็นหัวใจของการรักษาความปลอดภัยในระบบธนาคาร, การสื่อสาร, โครงสร้างพื้นฐาน และแม้แต่ระบบป้องกันประเทศ

    สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือแนวโน้ม “Harvest Now, Decrypt Later” หรือการที่หน่วยงานบางแห่ง (โดยเฉพาะรัฐ) กำลังเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ล่วงหน้า เพื่อรอวันที่ Quantum Computer มีพลังมากพอจะถอดรหัสได้—ซึ่งหลายองค์กรเชื่อว่า “Q-Day” หรือวันที่เกิดเหตุการณ์นี้จะมาถึงภายใน 5–10 ปี

    Capgemini แนะนำให้องค์กรเริ่มเปลี่ยนไปใช้ระบบ “Post-Quantum Cryptography” ตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายในอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นระยะยาว

    ข้อมูลจากข่าว
    - รายงานจาก Capgemini พบว่า 70% ขององค์กรขนาดใหญ่มองว่า Quantum Computing เป็นภัยไซเบอร์อันดับหนึ่ง
    - Quantum Computer สามารถถอดรหัสระบบเข้ารหัสแบบดั้งเดิมได้ เช่น RSA, ECC, AES
    - แนวโน้ม “Harvest Now, Decrypt Later” คือการเก็บข้อมูลไว้ล่วงหน้าเพื่อรอถอดรหัสในอนาคต
    - 65% ขององค์กรกังวลว่า Q-Day จะเกิดภายใน 5 ปี และ 60% เชื่อว่าจะเกิดภายใน 10 ปี
    - องค์กรเริ่มเปลี่ยนไปใช้ Post-Quantum Cryptography เพื่อป้องกันล่วงหน้า
    - Capgemini แนะนำให้เปลี่ยนเร็วเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจและความเชื่อมั่นระยะยาว

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - หากไม่เปลี่ยนระบบเข้ารหัสให้รองรับ Quantum ภายในเวลาอันใกล้ องค์กรอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลมหาศาล
    - ข้อมูลที่ถูกเก็บไว้วันนี้ อาจถูกถอดรหัสในอนาคตโดยไม่มีทางป้องกัน
    - การเปลี่ยนระบบเข้ารหัสต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก องค์กรควรวางแผนล่วงหน้า
    - การรอให้ Q-Day มาถึงก่อนค่อยเปลี่ยนอาจสายเกินไป และส่งผลต่อความมั่นคงของระบบทั้งหมด
    - องค์กรที่ไม่เตรียมตัวอาจเสียเปรียบด้านการแข่งขันและความไว้วางใจจากลูกค้า

    https://www.techradar.com/pro/security/forget-ransomware-most-firms-think-quantum-computing-is-the-biggest-security-risk-to-come
    ลืม ransomware ไปก่อน—Quantum Computing คือภัยไซเบอร์ที่องค์กรทั่วโลกกลัวที่สุด รายงานล่าสุดจาก Capgemini Research Institute ซึ่งสำรวจองค์กรขนาดใหญ่กว่า 1,000 แห่งใน 13 ประเทศ พบว่า 70% ขององค์กรเหล่านี้มองว่า Quantum Computing คือภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรงที่สุดในอนาคต มากกว่าการโจมตีแบบ ransomware ที่เคยเป็นอันดับหนึ่ง เหตุผลคือ Quantum Computer จะสามารถ “ถอดรหัส” ระบบเข้ารหัสที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้ทั้งหมด เช่น RSA, ECC และ AES ซึ่งเป็นหัวใจของการรักษาความปลอดภัยในระบบธนาคาร, การสื่อสาร, โครงสร้างพื้นฐาน และแม้แต่ระบบป้องกันประเทศ สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือแนวโน้ม “Harvest Now, Decrypt Later” หรือการที่หน่วยงานบางแห่ง (โดยเฉพาะรัฐ) กำลังเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ล่วงหน้า เพื่อรอวันที่ Quantum Computer มีพลังมากพอจะถอดรหัสได้—ซึ่งหลายองค์กรเชื่อว่า “Q-Day” หรือวันที่เกิดเหตุการณ์นี้จะมาถึงภายใน 5–10 ปี Capgemini แนะนำให้องค์กรเริ่มเปลี่ยนไปใช้ระบบ “Post-Quantum Cryptography” ตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายในอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นระยะยาว ✅ ข้อมูลจากข่าว - รายงานจาก Capgemini พบว่า 70% ขององค์กรขนาดใหญ่มองว่า Quantum Computing เป็นภัยไซเบอร์อันดับหนึ่ง - Quantum Computer สามารถถอดรหัสระบบเข้ารหัสแบบดั้งเดิมได้ เช่น RSA, ECC, AES - แนวโน้ม “Harvest Now, Decrypt Later” คือการเก็บข้อมูลไว้ล่วงหน้าเพื่อรอถอดรหัสในอนาคต - 65% ขององค์กรกังวลว่า Q-Day จะเกิดภายใน 5 ปี และ 60% เชื่อว่าจะเกิดภายใน 10 ปี - องค์กรเริ่มเปลี่ยนไปใช้ Post-Quantum Cryptography เพื่อป้องกันล่วงหน้า - Capgemini แนะนำให้เปลี่ยนเร็วเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจและความเชื่อมั่นระยะยาว ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - หากไม่เปลี่ยนระบบเข้ารหัสให้รองรับ Quantum ภายในเวลาอันใกล้ องค์กรอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลมหาศาล - ข้อมูลที่ถูกเก็บไว้วันนี้ อาจถูกถอดรหัสในอนาคตโดยไม่มีทางป้องกัน - การเปลี่ยนระบบเข้ารหัสต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก องค์กรควรวางแผนล่วงหน้า - การรอให้ Q-Day มาถึงก่อนค่อยเปลี่ยนอาจสายเกินไป และส่งผลต่อความมั่นคงของระบบทั้งหมด - องค์กรที่ไม่เตรียมตัวอาจเสียเปรียบด้านการแข่งขันและความไว้วางใจจากลูกค้า https://www.techradar.com/pro/security/forget-ransomware-most-firms-think-quantum-computing-is-the-biggest-security-risk-to-come
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิศวกรรัสเซียลอบขโมยข้อมูลชิปจาก ASML และ NXP – ถูกตัดสินจำคุกในเนเธอร์แลนด์

    German Aksenov อดีตวิศวกรวัย 43 ปี ซึ่งเคยทำงานให้กับ ASML และ NXP ถูกศาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินจำคุก 3 ปี ฐานลักลอบนำข้อมูลลับด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ส่งต่อให้กับหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย (FSB)

    Aksenov ไม่ใช่แฮกเกอร์ แต่ใช้วิธีแบบดั้งเดิม:
    - คัดลอกไฟล์จากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท
    - เก็บไว้ใน USB และฮาร์ดดิสก์
    - นำอุปกรณ์เหล่านั้นเดินทางไปมอสโก และส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ FSB

    เขาอ้างว่าเก็บไฟล์ไว้เพื่อ “พัฒนาความรู้ด้านอาชีพ” และไม่ได้ตั้งใจเป็นสายลับ แต่ศาลเห็นว่าการกระทำของเขาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปที่มีต่อรัสเซียตั้งแต่ปี 2014

    ASML เป็นผู้ผลิตเครื่อง EUV lithography เพียงรายเดียวในโลก ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตชิประดับสูง ส่วน NXP เป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ที่ร่วมพัฒนาเทคโนโลยี NFC กับ Sony ทำให้ทั้งสองบริษัทเป็นเป้าหมายสำคัญของการจารกรรมทางอุตสาหกรรม

    แม้จะไม่มีหลักฐานว่า Aksenov ได้รับค่าตอบแทนจากการกระทำดังกล่าว แต่ศาลยังคงลงโทษจำคุก โดยเปิดโอกาสให้เขายื่นอุทธรณ์ภายใน 14 วัน

    ข้อมูลจากข่าว
    - German Aksenov อดีตวิศวกรของ ASML และ NXP ถูกตัดสินจำคุก 3 ปีในเนเธอร์แลนด์
    - เขาลักลอบนำข้อมูลลับด้านการผลิตชิปส่งต่อให้กับ FSB ของรัสเซีย
    - ใช้วิธีคัดลอกไฟล์ลง USB และฮาร์ดดิสก์ แล้วนำไปมอบให้เจ้าหน้าที่ในมอสโก
    - อ้างว่าเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาความรู้ด้านอาชีพ ไม่ได้ตั้งใจเป็นสายลับ
    - ศาลลงโทษจำคุก แม้ไม่มีหลักฐานว่าได้รับค่าตอบแทน
    - ASML และ NXP เป็นเป้าหมายสำคัญของการจารกรรมด้านเทคโนโลยี
    - NXP ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สอบสวน ส่วน ASML ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การลักลอบขโมยข้อมูลจากภายในองค์กรยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง
    - การส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์พกพา เช่น USB ยังเป็นช่องโหว่ที่หลายองค์กรมองข้าม
    - การละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอาจนำไปสู่บทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรง
    - บริษัทเทคโนโลยีควรมีระบบตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลภายในอย่างเข้มงวด
    - พนักงานควรได้รับการอบรมเรื่องจริยธรรมและความปลอดภัยของข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

    https://www.techspot.com/news/108642-russian-engineer-jailed-stealing-chipmaking-secrets-asml-nxp.html
    วิศวกรรัสเซียลอบขโมยข้อมูลชิปจาก ASML และ NXP – ถูกตัดสินจำคุกในเนเธอร์แลนด์ German Aksenov อดีตวิศวกรวัย 43 ปี ซึ่งเคยทำงานให้กับ ASML และ NXP ถูกศาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินจำคุก 3 ปี ฐานลักลอบนำข้อมูลลับด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ส่งต่อให้กับหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย (FSB) Aksenov ไม่ใช่แฮกเกอร์ แต่ใช้วิธีแบบดั้งเดิม: - คัดลอกไฟล์จากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท - เก็บไว้ใน USB และฮาร์ดดิสก์ - นำอุปกรณ์เหล่านั้นเดินทางไปมอสโก และส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ FSB เขาอ้างว่าเก็บไฟล์ไว้เพื่อ “พัฒนาความรู้ด้านอาชีพ” และไม่ได้ตั้งใจเป็นสายลับ แต่ศาลเห็นว่าการกระทำของเขาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปที่มีต่อรัสเซียตั้งแต่ปี 2014 ASML เป็นผู้ผลิตเครื่อง EUV lithography เพียงรายเดียวในโลก ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตชิประดับสูง ส่วน NXP เป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ที่ร่วมพัฒนาเทคโนโลยี NFC กับ Sony ทำให้ทั้งสองบริษัทเป็นเป้าหมายสำคัญของการจารกรรมทางอุตสาหกรรม แม้จะไม่มีหลักฐานว่า Aksenov ได้รับค่าตอบแทนจากการกระทำดังกล่าว แต่ศาลยังคงลงโทษจำคุก โดยเปิดโอกาสให้เขายื่นอุทธรณ์ภายใน 14 วัน ✅ ข้อมูลจากข่าว - German Aksenov อดีตวิศวกรของ ASML และ NXP ถูกตัดสินจำคุก 3 ปีในเนเธอร์แลนด์ - เขาลักลอบนำข้อมูลลับด้านการผลิตชิปส่งต่อให้กับ FSB ของรัสเซีย - ใช้วิธีคัดลอกไฟล์ลง USB และฮาร์ดดิสก์ แล้วนำไปมอบให้เจ้าหน้าที่ในมอสโก - อ้างว่าเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาความรู้ด้านอาชีพ ไม่ได้ตั้งใจเป็นสายลับ - ศาลลงโทษจำคุก แม้ไม่มีหลักฐานว่าได้รับค่าตอบแทน - ASML และ NXP เป็นเป้าหมายสำคัญของการจารกรรมด้านเทคโนโลยี - NXP ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สอบสวน ส่วน ASML ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การลักลอบขโมยข้อมูลจากภายในองค์กรยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง - การส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์พกพา เช่น USB ยังเป็นช่องโหว่ที่หลายองค์กรมองข้าม - การละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอาจนำไปสู่บทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรง - บริษัทเทคโนโลยีควรมีระบบตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลภายในอย่างเข้มงวด - พนักงานควรได้รับการอบรมเรื่องจริยธรรมและความปลอดภัยของข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ https://www.techspot.com/news/108642-russian-engineer-jailed-stealing-chipmaking-secrets-asml-nxp.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Former ASML and NXP engineer jailed for leaking chipmaking secrets to Russia
    German Aksenov, a 43-year-old former employee of ASML and NXP, has been sentenced to three years in prison for sharing sensitive chip manufacturing documents with a contact...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข้อมูลบูมในจอร์เจีย – เทคโนโลยีมา น้ำหาย คนอยู่ลำบาก

    ในชนบทของรัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ พื้นที่ที่เคยเงียบสงบและเต็มไปด้วยต้นไม้ กำลังถูกแทนที่ด้วยอาคารขนาดใหญ่ไร้หน้าต่างที่เต็มไปด้วยเซิร์ฟเวอร์—ศูนย์ข้อมูลที่เป็นหัวใจของโลกดิจิทัลยุคใหม่ โดยเฉพาะในยุค AI และคลาวด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

    แต่เบื้องหลังความก้าวหน้ากลับมีปัญหาใหญ่: การใช้น้ำมหาศาลเพื่อระบายความร้อนให้เซิร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน ศูนย์ข้อมูลแห่งหนึ่งอาจใช้น้ำถึง 5 ล้านแกลลอนต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้น้ำของทั้งเมือง

    ในเมือง Mansfield ชาวบ้านบางคน เช่น Beverly Morris ซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากศูนย์ข้อมูลของ Meta เพียง 400 หลา บ่นว่าบ้านของเธอไม่มีน้ำใช้ และไม่สามารถดื่มน้ำจากบ่อได้อีกต่อไป

    แม้บริษัทต่าง ๆ จะอ้างว่ามีการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด และบางแห่งลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ เช่น liquid cooling หรือการเก็บน้ำฝน แต่ชาวบ้านยังคงไม่ไว้วางใจ และรู้สึกว่าคุณภาพชีวิตของพวกเขาถูกลดทอนเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทเทคโนโลยี

    ปัญหานี้ไม่ได้เกิดแค่ในจอร์เจีย แต่กำลังลุกลามไปทั่วสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาภัยแล้ง และคาดว่าการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    ข้อมูลจากข่าว
    - ศูนย์ข้อมูลในจอร์เจียขยายตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตอบรับการเติบโตของ AI และคลาวด์
    - ใช้น้ำมหาศาลเพื่อระบายความร้อน โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน
    - ชาวบ้านใน Mansfield รายงานว่าบ่อบ้านแห้งและไม่สามารถใช้น้ำได้
    - บริษัทต่าง ๆ อ้างว่ามีการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมและลงทุนในเทคโนโลยีลดการใช้น้ำ
    - มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น liquid cooling และ rainwater harvesting
    - ปัญหานี้เกิดในหลายรัฐของสหรัฐฯ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีภัยแล้ง
    - คาดว่าการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอนาคต

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลอาจกระทบต่อแหล่งน้ำของชุมชนโดยตรง
    - การตรวจสอบสิ่งแวดล้อมที่บริษัทจัดจ้างอาจไม่เป็นกลางหรือโปร่งใส
    - ชาวบ้านบางรายยังคงใช้ “น้ำที่ไม่มั่นใจ” ในการปรุงอาหารและแปรงฟัน
    - การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอาจไม่สมดุลกับคุณภาพชีวิตของประชาชน
    - หากไม่มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด การขยายตัวของศูนย์ข้อมูลอาจทำลายระบบนิเวศท้องถิ่น

    https://www.techspot.com/news/108634-data-center-boom-georgia-sparks-water-worries-resident.html
    ศูนย์ข้อมูลบูมในจอร์เจีย – เทคโนโลยีมา น้ำหาย คนอยู่ลำบาก ในชนบทของรัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ พื้นที่ที่เคยเงียบสงบและเต็มไปด้วยต้นไม้ กำลังถูกแทนที่ด้วยอาคารขนาดใหญ่ไร้หน้าต่างที่เต็มไปด้วยเซิร์ฟเวอร์—ศูนย์ข้อมูลที่เป็นหัวใจของโลกดิจิทัลยุคใหม่ โดยเฉพาะในยุค AI และคลาวด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เบื้องหลังความก้าวหน้ากลับมีปัญหาใหญ่: การใช้น้ำมหาศาลเพื่อระบายความร้อนให้เซิร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน ศูนย์ข้อมูลแห่งหนึ่งอาจใช้น้ำถึง 5 ล้านแกลลอนต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้น้ำของทั้งเมือง ในเมือง Mansfield ชาวบ้านบางคน เช่น Beverly Morris ซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากศูนย์ข้อมูลของ Meta เพียง 400 หลา บ่นว่าบ้านของเธอไม่มีน้ำใช้ และไม่สามารถดื่มน้ำจากบ่อได้อีกต่อไป แม้บริษัทต่าง ๆ จะอ้างว่ามีการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด และบางแห่งลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ เช่น liquid cooling หรือการเก็บน้ำฝน แต่ชาวบ้านยังคงไม่ไว้วางใจ และรู้สึกว่าคุณภาพชีวิตของพวกเขาถูกลดทอนเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทเทคโนโลยี ปัญหานี้ไม่ได้เกิดแค่ในจอร์เจีย แต่กำลังลุกลามไปทั่วสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาภัยแล้ง และคาดว่าการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ✅ ข้อมูลจากข่าว - ศูนย์ข้อมูลในจอร์เจียขยายตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตอบรับการเติบโตของ AI และคลาวด์ - ใช้น้ำมหาศาลเพื่อระบายความร้อน โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน - ชาวบ้านใน Mansfield รายงานว่าบ่อบ้านแห้งและไม่สามารถใช้น้ำได้ - บริษัทต่าง ๆ อ้างว่ามีการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมและลงทุนในเทคโนโลยีลดการใช้น้ำ - มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น liquid cooling และ rainwater harvesting - ปัญหานี้เกิดในหลายรัฐของสหรัฐฯ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีภัยแล้ง - คาดว่าการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอนาคต ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลอาจกระทบต่อแหล่งน้ำของชุมชนโดยตรง - การตรวจสอบสิ่งแวดล้อมที่บริษัทจัดจ้างอาจไม่เป็นกลางหรือโปร่งใส - ชาวบ้านบางรายยังคงใช้ “น้ำที่ไม่มั่นใจ” ในการปรุงอาหารและแปรงฟัน - การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอาจไม่สมดุลกับคุณภาพชีวิตของประชาชน - หากไม่มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด การขยายตัวของศูนย์ข้อมูลอาจทำลายระบบนิเวศท้องถิ่น https://www.techspot.com/news/108634-data-center-boom-georgia-sparks-water-worries-resident.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Data center boom in Georgia sparks water worries and resident backlash
    The rise of data centers is closely tied to the rapid growth of artificial intelligence and cloud computing. But as the demand for digital services increases, so...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อยากทำตัวราวกับไม่แก่" 100 ปีมหาเธร์ โมฮัมหมัด

    ใครจะเชื่อว่าบนโลกนี้ยังมีนักการเมืองอายุยืนถึงเลขสามหลัก เฉกเช่นอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด มีวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 100 ปีเมื่อวันที่ 10 ก.ค. แม้คำอวยพรจะล้นหลาม แต่เขายังคงทำงานตามปกติอยู่ในสำนักงานที่เมืองปุตราจายา แม้จะมีแขกผู้มาเยือนแต่ก็ไม่ได้จัดงานฉลองใหญ่โต มีเพียงคนในสำนักงานนำเค้กก้อนเล็กมอบให้พร้อมร้องเพลงวันเกิด ก่อนที่มหาเธร์จะให้แยกย้ายกลับไปทำงานตามปกติ เคล็ดลับที่ทำให้อายุยืนเขาเชื่อว่ามาจากการไม่สูบบุหรี่ ไม่กินมากเกินไป และออกกำลังกายทั้งกายและใจ รวมทั้งสมอง แม้จะมีประวัติโรคหัวใจ รวมถึงการผ่าตัดบายพาสสองครั้งก็ตาม

    นัยยะที่ทำให้คอการเมืองและผู้สนใจมาเลเซียจับตามอง คือการที่เขากล่าวผ่านพอร์ตแคสต์ว่า ตราบใดที่ยังทำหน้าที่ได้ ก็อยากจะทำหน้าที่ต่อไป อยากจะทำตัวให้ราวกับว่ายังไม่แก่ พยายามใช้ชีวิตแบบเดียวกับตอนที่ยังเด็ก ทำงาน มาที่ออฟฟิศ ไปงานต่างๆ และอะไรต่อมิอะไร คิดว่าการได้ออกกำลังกายคือสิ่งที่ทำให้มีชีวิตชีวา และว่า "ผมเป็นคนแอคทีฟมาตลอด ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงอยากพักผ่อน หมายความว่าไปเที่ยวพักผ่อน ทำอะไรสักอย่าง ไปเที่ยวพักผ่อนที่ได้ทำอะไรบางอย่าง แต่บางคนเกษียณแล้วอยากพักผ่อน การพักผ่อนหมายความว่ายังไง ไม่ทำอะไรเลยเหรอ"

    จากเด็กชายที่เกิดในเมืองอลอร์สตาร์ รัฐเคดะห์ ทางภาคเหนือของมาเลเซีย เขาคือนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งถึง 2 สมัย ปี 2524-2546 และ 2561-2563 สร้างความเปลี่ยนแปลงในมาเลเซีย โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางด่วนเหนือ-ใต้ สาย E1-E2 สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) ตึกแฝดปิโตรนาสที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการพัฒนา การแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งโทรคมนาคม ไฟฟ้า สายการบิน การสร้างแบรนด์รถยนต์แห่งชาติอย่างโปรตอน (Proton) กอบกู้ประเทศจากวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 เลือกพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ ควบคุมเงินทุนและกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินริงกิต ไม่พึ่งพากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

    ถึงกระนั้น การเมืองในมาเลเซียไม่ได้ขาวสะอาด เต็มไปด้วยเกมชิงอำนาจ เส้นทางการเมืองของมหาเธร์ไม่สวยงามนัก เคยถูกตั้งคำถามจากฝ่ายค้านและกลุ่มเอ็นจีโอถึงการรวมอำนาจทางการเมือง กำจัดฝ่ายตรงข้าม จำกัดเสรีภาพประชาชน รวมทั้งในสายตาคนรุ่นใหม่ เชื่อว่ามนต์ขลังของมหาเธร์หมดลงแล้ว เป็นเพียงอดีตผู้นำชราที่ไม่โดนใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในปัจจุบันท่ามกลางปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น การขึ้นภาษี SST สงครามการค้ากับสหรัฐฯ การปฎิรูปการเมืองที่ล้มเหลว หากมหาเธร์จะกลับมาลงสนามเลือกตั้งในวัย 100 ปี จะไหวหรือไม่ ถามใจชาวมาเลเซียดู

    #Newskit
    "อยากทำตัวราวกับไม่แก่" 100 ปีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ใครจะเชื่อว่าบนโลกนี้ยังมีนักการเมืองอายุยืนถึงเลขสามหลัก เฉกเช่นอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด มีวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 100 ปีเมื่อวันที่ 10 ก.ค. แม้คำอวยพรจะล้นหลาม แต่เขายังคงทำงานตามปกติอยู่ในสำนักงานที่เมืองปุตราจายา แม้จะมีแขกผู้มาเยือนแต่ก็ไม่ได้จัดงานฉลองใหญ่โต มีเพียงคนในสำนักงานนำเค้กก้อนเล็กมอบให้พร้อมร้องเพลงวันเกิด ก่อนที่มหาเธร์จะให้แยกย้ายกลับไปทำงานตามปกติ เคล็ดลับที่ทำให้อายุยืนเขาเชื่อว่ามาจากการไม่สูบบุหรี่ ไม่กินมากเกินไป และออกกำลังกายทั้งกายและใจ รวมทั้งสมอง แม้จะมีประวัติโรคหัวใจ รวมถึงการผ่าตัดบายพาสสองครั้งก็ตาม นัยยะที่ทำให้คอการเมืองและผู้สนใจมาเลเซียจับตามอง คือการที่เขากล่าวผ่านพอร์ตแคสต์ว่า ตราบใดที่ยังทำหน้าที่ได้ ก็อยากจะทำหน้าที่ต่อไป อยากจะทำตัวให้ราวกับว่ายังไม่แก่ พยายามใช้ชีวิตแบบเดียวกับตอนที่ยังเด็ก ทำงาน มาที่ออฟฟิศ ไปงานต่างๆ และอะไรต่อมิอะไร คิดว่าการได้ออกกำลังกายคือสิ่งที่ทำให้มีชีวิตชีวา และว่า "ผมเป็นคนแอคทีฟมาตลอด ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงอยากพักผ่อน หมายความว่าไปเที่ยวพักผ่อน ทำอะไรสักอย่าง ไปเที่ยวพักผ่อนที่ได้ทำอะไรบางอย่าง แต่บางคนเกษียณแล้วอยากพักผ่อน การพักผ่อนหมายความว่ายังไง ไม่ทำอะไรเลยเหรอ" จากเด็กชายที่เกิดในเมืองอลอร์สตาร์ รัฐเคดะห์ ทางภาคเหนือของมาเลเซีย เขาคือนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งถึง 2 สมัย ปี 2524-2546 และ 2561-2563 สร้างความเปลี่ยนแปลงในมาเลเซีย โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางด่วนเหนือ-ใต้ สาย E1-E2 สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) ตึกแฝดปิโตรนาสที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการพัฒนา การแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งโทรคมนาคม ไฟฟ้า สายการบิน การสร้างแบรนด์รถยนต์แห่งชาติอย่างโปรตอน (Proton) กอบกู้ประเทศจากวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 เลือกพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ ควบคุมเงินทุนและกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินริงกิต ไม่พึ่งพากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ถึงกระนั้น การเมืองในมาเลเซียไม่ได้ขาวสะอาด เต็มไปด้วยเกมชิงอำนาจ เส้นทางการเมืองของมหาเธร์ไม่สวยงามนัก เคยถูกตั้งคำถามจากฝ่ายค้านและกลุ่มเอ็นจีโอถึงการรวมอำนาจทางการเมือง กำจัดฝ่ายตรงข้าม จำกัดเสรีภาพประชาชน รวมทั้งในสายตาคนรุ่นใหม่ เชื่อว่ามนต์ขลังของมหาเธร์หมดลงแล้ว เป็นเพียงอดีตผู้นำชราที่ไม่โดนใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในปัจจุบันท่ามกลางปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น การขึ้นภาษี SST สงครามการค้ากับสหรัฐฯ การปฎิรูปการเมืองที่ล้มเหลว หากมหาเธร์จะกลับมาลงสนามเลือกตั้งในวัย 100 ปี จะไหวหรือไม่ ถามใจชาวมาเลเซียดู #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์นี้ยังคงพูดถึงนิยาย/ละครแนวเทพเซียน

    เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่าสัตว์เทพที่เราพบเจอในหลายนิยาย/ละครจีน ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอกเก้าหาง นกหงส์ฟ้าเฟิ่งหวง กิเลน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่มีบันทึกไว้ในเอกสารทางประวัติศาสตร์? เอกสารที่ว่านี้คือ “ซานไห่จิง” หรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน หนังสือแบ่งออกเป็นสิบแปดตอนประกอบด้วยบทแห่งขุนเขาและบทแห่งทะเล (Storyฯ เห็นมีแปลเป็นไทยวางขาย เพื่อนเพจที่สนใจสามารถหาอ่านได้)

    วันนี้เรามาเริ่มคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับคัมภีร์ซานไห่จิงด้วย ‘สมาชิก’ ของคัมภีร์ฯ ที่เพื่อนเพจอาจไม่คุ้นหน้า แต่ถ้าใครได้ดูละครเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ก็จะได้เห็นเจ้าสัตว์เทพหน้าตาประหลาดตามรูป (รูปซ้ายล่าง) มีชื่อเรียกว่า “คายหมิงโซ่ว” (开明兽) มันมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจีนที่เราคุ้นหู

    ความมีอยู่ว่า
    ...ที่ยอดเขามิรู้ปรากฎใบหน้าแปลกประหลาดโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใด ตัวคล้ายสิงโต แต่ก็คล้ายสุนัข ที่แปลกที่สุดคือเศียรอันใหญ่ยังรายล้อมไปด้วยเศียรเล็กๆ หน้าตาเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว แต่ละเศียรกำลังเบิ่งตาโตมองสุราและไก่ย่างในมือของพวกเขา ทำท่าราวกับว่ากำลังจะน้ำลายไหลออกมา...
    - จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง
    (หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    จริงๆ แล้วตามคัมภีร์ซานไห่จิงนั้นคายหมิงโซ่วมีลำตัวเป็นเสือยักษ์ (รูปล่างขวาจากบันทึกซันไห่จิง จะเห็นลายพาดกลอนชัดเจน) ไม่ใช่สิงโต ซึ่งต่างจากลักษณะในละคร มีเก้าเศียรและใบหน้าเป็นคน มันเป็นสัตว์เทพที่ดุร้ายมีพละกำลังเกินสัตว์ทั่วไป สามารถสัมผัสได้ถึงทุกสรรพสิ่งที่เข้าใกล้

    คายหมิงโซ่วเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้น ซึ่งตามตำนานนั้นสูงจรดฟ้าอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ด้านตะวันตกมีประตูทางเข้าสู่เขตแดนสวรรค์อยู่เก้าประตู คายหมิงโซ่วมีหน้าที่คอยเฝ้าประตูทั้งเก้านี้ หนึ่งเศียรหันดูหนึ่งประตู ดวงตาไม่เคยหลับ เพื่อปกป้องไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนความสงบของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จึงไม่แปลกที่เราไม่ค่อยเห็นคายหมิงโซ่วออกมาเพ่นพ่านในนิยาย/ละครแนวเทพเซียนทั่วไป เนื่องจากมันมีสถานที่ที่ต้องอยู่โยงเฝ้าประจำนั่นเอง

    วันนี้คุยกันเบาะๆ กับสัตว์เทพที่ไม่ค่อยพบเจอ แต่คราวหน้าเราจะมาคุยกันถึงสัตว์เทพที่เพื่อนเพจส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือจิ้งจอกเก้าหาง ใครเป็นแฟนคลับป๋ายเฉี่ยนแห่งสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่อย่าลืมมาติดตามตอนต่อไปนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.cdramalove.com/love-and-redemption-summary/
    https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a
    https://baike.baidu.com/item/%E5%BC%80%E6%98%8E%E5%85%BD/3390243
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/144025393

    #ปลดผนึกหัวใจ #ตำนานจีน #คายหมิงโซ่ว #ซานไห่จิง #StoryfromStory
    สัปดาห์นี้ยังคงพูดถึงนิยาย/ละครแนวเทพเซียน เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่าสัตว์เทพที่เราพบเจอในหลายนิยาย/ละครจีน ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอกเก้าหาง นกหงส์ฟ้าเฟิ่งหวง กิเลน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่มีบันทึกไว้ในเอกสารทางประวัติศาสตร์? เอกสารที่ว่านี้คือ “ซานไห่จิง” หรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน หนังสือแบ่งออกเป็นสิบแปดตอนประกอบด้วยบทแห่งขุนเขาและบทแห่งทะเล (Storyฯ เห็นมีแปลเป็นไทยวางขาย เพื่อนเพจที่สนใจสามารถหาอ่านได้) วันนี้เรามาเริ่มคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับคัมภีร์ซานไห่จิงด้วย ‘สมาชิก’ ของคัมภีร์ฯ ที่เพื่อนเพจอาจไม่คุ้นหน้า แต่ถ้าใครได้ดูละครเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ก็จะได้เห็นเจ้าสัตว์เทพหน้าตาประหลาดตามรูป (รูปซ้ายล่าง) มีชื่อเรียกว่า “คายหมิงโซ่ว” (开明兽) มันมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจีนที่เราคุ้นหู ความมีอยู่ว่า ...ที่ยอดเขามิรู้ปรากฎใบหน้าแปลกประหลาดโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใด ตัวคล้ายสิงโต แต่ก็คล้ายสุนัข ที่แปลกที่สุดคือเศียรอันใหญ่ยังรายล้อมไปด้วยเศียรเล็กๆ หน้าตาเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว แต่ละเศียรกำลังเบิ่งตาโตมองสุราและไก่ย่างในมือของพวกเขา ทำท่าราวกับว่ากำลังจะน้ำลายไหลออกมา... - จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง (หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) จริงๆ แล้วตามคัมภีร์ซานไห่จิงนั้นคายหมิงโซ่วมีลำตัวเป็นเสือยักษ์ (รูปล่างขวาจากบันทึกซันไห่จิง จะเห็นลายพาดกลอนชัดเจน) ไม่ใช่สิงโต ซึ่งต่างจากลักษณะในละคร มีเก้าเศียรและใบหน้าเป็นคน มันเป็นสัตว์เทพที่ดุร้ายมีพละกำลังเกินสัตว์ทั่วไป สามารถสัมผัสได้ถึงทุกสรรพสิ่งที่เข้าใกล้ คายหมิงโซ่วเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้น ซึ่งตามตำนานนั้นสูงจรดฟ้าอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ด้านตะวันตกมีประตูทางเข้าสู่เขตแดนสวรรค์อยู่เก้าประตู คายหมิงโซ่วมีหน้าที่คอยเฝ้าประตูทั้งเก้านี้ หนึ่งเศียรหันดูหนึ่งประตู ดวงตาไม่เคยหลับ เพื่อปกป้องไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนความสงบของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จึงไม่แปลกที่เราไม่ค่อยเห็นคายหมิงโซ่วออกมาเพ่นพ่านในนิยาย/ละครแนวเทพเซียนทั่วไป เนื่องจากมันมีสถานที่ที่ต้องอยู่โยงเฝ้าประจำนั่นเอง วันนี้คุยกันเบาะๆ กับสัตว์เทพที่ไม่ค่อยพบเจอ แต่คราวหน้าเราจะมาคุยกันถึงสัตว์เทพที่เพื่อนเพจส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือจิ้งจอกเก้าหาง ใครเป็นแฟนคลับป๋ายเฉี่ยนแห่งสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่อย่าลืมมาติดตามตอนต่อไปนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://www.cdramalove.com/love-and-redemption-summary/ https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a https://baike.baidu.com/item/%E5%BC%80%E6%98%8E%E5%85%BD/3390243 https://zhuanlan.zhihu.com/p/144025393 #ปลดผนึกหัวใจ #ตำนานจีน #คายหมิงโซ่ว #ซานไห่จิง #StoryfromStory
    WWW.CDRAMALOVE.COM
    Love And Redemption Summary - C-Drama Love - Show Summary
    Chinese Drama Love And Redemption Summary (琉璃) The drama tells the story of Chu Xuan Ji, a girl born with an incomplete "sixth sense", and Yu
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่น50ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปี2555
    เหรียญหลวงพ่อทวด เนื้อทองแดงรมดำ (สร้าง 5555 เหรียญ โค้ดเลเซอร์ + ยิงเลเซอร์หมายเลข ๒๒๐๕ ) รุ่น50ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปี2555 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก 5 วาระ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาด นิรันตรายสุดยอด ทั้งเมตตามหานิยม โชคลาภมั่งคั่ง ค้าขาย ร่ำรวย เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เจรจาการงาน ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >>

    ** เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่น50ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปี2555 ด้านหน้า หลวงพ่อทวดนั้งสมาธิเต็มองค์ ขอบเหรียญมีเม็กไข่ปลา 180 เม็ด หมายถึง หัวใจของพระคาถาทั้ง 108 พระคาถา ข้างหลัง เป็นรูปใบโพธิ์ ภายใน มีพญาครุฑ เหนือยันต์ "รับทรัพย์" พ่อท่านเขียน ขอบล่าง มียันต์ " นะเงิน นะมี "พ่อท่านเขียว >>

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่น50ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปี2555 เหรียญหลวงพ่อทวด เนื้อทองแดงรมดำ (สร้าง 5555 เหรียญ โค้ดเลเซอร์ + ยิงเลเซอร์หมายเลข ๒๒๐๕ ) รุ่น50ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปี2555 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก 5 วาระ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ แคล้วคลาด นิรันตรายสุดยอด ทั้งเมตตามหานิยม โชคลาภมั่งคั่ง ค้าขาย ร่ำรวย เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เจรจาการงาน ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >> ** เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่น50ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปี2555 ด้านหน้า หลวงพ่อทวดนั้งสมาธิเต็มองค์ ขอบเหรียญมีเม็กไข่ปลา 180 เม็ด หมายถึง หัวใจของพระคาถาทั้ง 108 พระคาถา ข้างหลัง เป็นรูปใบโพธิ์ ภายใน มีพญาครุฑ เหนือยันต์ "รับทรัพย์" พ่อท่านเขียน ขอบล่าง มียันต์ " นะเงิน นะมี "พ่อท่านเขียว >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศรษฐกิจในปี 2024 ไม่ได้โตจากรถสิบล้อวิ่งเข้าโรงงานอีกต่อไป…แต่โตจาก “การเทเงินเข้าไปที่ซอฟต์แวร์, โมเดล AI และสิทธิบัตรทางปัญญา” → รายงานร่วมจาก UN + Luiss Business School เผยว่า ประเทศกว่า 27 แห่งลงทุนในทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตนถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ → โตขึ้นจากปีที่แล้ว (~7.4 ล้านล้าน) แม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซา!

    ประเทศที่ทุ่มสุดคือ สหรัฐฯ → ลงทุนมากกว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และอังกฤษรวมกัน → ส่วน “ประเทศที่เข้มข้นที่สุด” ในแง่สัดส่วน GDP คือ สวีเดน ที่การลงทุนแบบ intangible กินพื้นที่เศรษฐกิจถึง 16% → ตามด้วยสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ (15%) → และอินเดียก็ขยับแซงหลายชาติ EU แล้วด้วยตัวเลขเกือบ 10%

    สิ่งที่โตเร็วที่สุดไม่ใช่แค่โมเดล AI → แต่คือ ซอฟต์แวร์ + ฐานข้อมูล ซึ่งโตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ปี 2013–2022 → เพราะระบบ AI ต้องการ “ดาต้าที่สะอาดและมีลิขสิทธิ์ชัดเจน” มาป้อนให้โมเดลเรียนรู้ → ซึ่งกลายเป็นหัวใจของมูลค่าทรัพย์สินใหม่โลกเทคโนโลยี

    นักวิจัย UN ยังทิ้งท้ายว่า… → ตอนนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุค AI” ไม่ใช่จุดกลางหรือจุดท้าย → ความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านี้อาจยังมาไม่ถึง แต่ต้องเตรียมรับตั้งแต่วันนี้

    การลงทุนในทรัพย์สินไม่มีตัวตน (intangible assets) โต 3 เท่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินจริง (machinery, buildings) ปี 2024  
    • รวมมูลค่าประมาณ $7.6T จาก 27 ประเทศ (โตจาก $7.4T ปี 2023)  
    • ปัจจัยที่ฉุด tangible asset = ดอกเบี้ยสูง, เศรษฐกิจฟื้นช้า

    ประเทศที่ลงทุนสูงสุดใน absolute คือ สหรัฐอเมริกา → มากกว่าทุกประเทศในกลุ่ม G7

    ประเทศที่มีความเข้มข้นสูงสุดด้านทรัพย์สินไร้ตัวตนต่อ GDP:  
    • สวีเดน (16%), สหรัฐฯ–ฝรั่งเศส–ฟินแลนด์ (15%), อินเดีย (~10%)

    ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล เป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม intangible assets (โตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ 2013–2022)

    โมเดล AI ช่วยเร่งการลงทุนแบบ intangible → โดยเฉพาะด้านฐานข้อมูล, ทรัพย์สินทางปัญญา, และการเรียนรู้เชิงลึก

    การโตของ intangible asset มีความเสถียรตลอดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ปี 2008 หรือช่วงโควิด (โตเฉลี่ย 4% ต่อปี)

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/un-investments-rise-in-data-ai-outpacing-physical-assets
    เศรษฐกิจในปี 2024 ไม่ได้โตจากรถสิบล้อวิ่งเข้าโรงงานอีกต่อไป…แต่โตจาก “การเทเงินเข้าไปที่ซอฟต์แวร์, โมเดล AI และสิทธิบัตรทางปัญญา” → รายงานร่วมจาก UN + Luiss Business School เผยว่า ประเทศกว่า 27 แห่งลงทุนในทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตนถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ → โตขึ้นจากปีที่แล้ว (~7.4 ล้านล้าน) แม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซา! ประเทศที่ทุ่มสุดคือ สหรัฐฯ → ลงทุนมากกว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และอังกฤษรวมกัน → ส่วน “ประเทศที่เข้มข้นที่สุด” ในแง่สัดส่วน GDP คือ สวีเดน ที่การลงทุนแบบ intangible กินพื้นที่เศรษฐกิจถึง 16% → ตามด้วยสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ (15%) → และอินเดียก็ขยับแซงหลายชาติ EU แล้วด้วยตัวเลขเกือบ 10% สิ่งที่โตเร็วที่สุดไม่ใช่แค่โมเดล AI → แต่คือ ซอฟต์แวร์ + ฐานข้อมูล ซึ่งโตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ปี 2013–2022 → เพราะระบบ AI ต้องการ “ดาต้าที่สะอาดและมีลิขสิทธิ์ชัดเจน” มาป้อนให้โมเดลเรียนรู้ → ซึ่งกลายเป็นหัวใจของมูลค่าทรัพย์สินใหม่โลกเทคโนโลยี นักวิจัย UN ยังทิ้งท้ายว่า… → ตอนนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุค AI” ไม่ใช่จุดกลางหรือจุดท้าย → ความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านี้อาจยังมาไม่ถึง แต่ต้องเตรียมรับตั้งแต่วันนี้ ✅ การลงทุนในทรัพย์สินไม่มีตัวตน (intangible assets) โต 3 เท่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินจริง (machinery, buildings) ปี 2024   • รวมมูลค่าประมาณ $7.6T จาก 27 ประเทศ (โตจาก $7.4T ปี 2023)   • ปัจจัยที่ฉุด tangible asset = ดอกเบี้ยสูง, เศรษฐกิจฟื้นช้า ✅ ประเทศที่ลงทุนสูงสุดใน absolute คือ สหรัฐอเมริกา → มากกว่าทุกประเทศในกลุ่ม G7 ✅ ประเทศที่มีความเข้มข้นสูงสุดด้านทรัพย์สินไร้ตัวตนต่อ GDP:   • สวีเดน (16%), สหรัฐฯ–ฝรั่งเศส–ฟินแลนด์ (15%), อินเดีย (~10%) ✅ ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล เป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม intangible assets (โตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ 2013–2022) ✅ โมเดล AI ช่วยเร่งการลงทุนแบบ intangible → โดยเฉพาะด้านฐานข้อมูล, ทรัพย์สินทางปัญญา, และการเรียนรู้เชิงลึก ✅ การโตของ intangible asset มีความเสถียรตลอดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ปี 2008 หรือช่วงโควิด (โตเฉลี่ย 4% ต่อปี) https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/un-investments-rise-in-data-ai-outpacing-physical-assets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..การปกครองที่ทำให้ชาวนายากจน,เพราะไม่เคยส่งเสริมและควบคุมต้นทุนการผลิตของชาวนาชาวเกษตรให้ถูกราคาไม่แพงให้แก่ชาวนาได้เลย,อำนวยสร้างให้เอกชนกอบโกยกำไรจากภาคชาวนาตลอดเวลา,ปุ๋ยคือตัวอย่างที่ดีอีกตัวอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่ารัฐไทยตน คือศัตรูของชาวนาตัวจริง,ยิวอิสราเอลว่าเหี้ยที่ทำสงครามสังหารชาติอื่นทั้งทางตรงหรือทางอ้อมแต่ประเทศเขาสามารถส่งเสริมให้ชาวเกษตรเขาซื้อปุ๋ยในราคาไม่แพงได้ถูกๆสบายๆนะ,ต่างจากไทยเอกชนอ้างนั้นนี้สาระพัดหมายอัพราคาอย่างสบายใจง่ายๆบนฐานความทุกข์ยากของชาวนา ส่งผลคือความมั่นคงทางผลผลิตได้ไม่เต็มที่ นั้นคือเอกชนเหล่านี้เสมือนตัวทำลายความมั่นคงทางอาหารแก่ประเทศไทยด้วย อาหารไม่พออยู่พอกินนั้นเอง ,ทำให้อาหารราคาแพงด้วย,ตนเอกชนก็ขายได้ราคาดีอาจภัยพิบัติอื่นกลบหน้าอีก แบบวูบตายจากวัคซีนก็ว่า หัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองแตกก็อ้างบาลีมูลหลักไปประมาณนั้น,
    ..จึงต้องเปลี่ยนนายกฯเป็นนายกฯพระราชทานจริงๆ.ซึ่งเชื่อว่าต้องเป็นคนดีมาช่วยประเทศชาตินั้นเอง.

    https://youtu.be/QBtbuJ7xTRU?si=vfXnjAkdR4F86rc8
    ..การปกครองที่ทำให้ชาวนายากจน,เพราะไม่เคยส่งเสริมและควบคุมต้นทุนการผลิตของชาวนาชาวเกษตรให้ถูกราคาไม่แพงให้แก่ชาวนาได้เลย,อำนวยสร้างให้เอกชนกอบโกยกำไรจากภาคชาวนาตลอดเวลา,ปุ๋ยคือตัวอย่างที่ดีอีกตัวอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่ารัฐไทยตน คือศัตรูของชาวนาตัวจริง,ยิวอิสราเอลว่าเหี้ยที่ทำสงครามสังหารชาติอื่นทั้งทางตรงหรือทางอ้อมแต่ประเทศเขาสามารถส่งเสริมให้ชาวเกษตรเขาซื้อปุ๋ยในราคาไม่แพงได้ถูกๆสบายๆนะ,ต่างจากไทยเอกชนอ้างนั้นนี้สาระพัดหมายอัพราคาอย่างสบายใจง่ายๆบนฐานความทุกข์ยากของชาวนา ส่งผลคือความมั่นคงทางผลผลิตได้ไม่เต็มที่ นั้นคือเอกชนเหล่านี้เสมือนตัวทำลายความมั่นคงทางอาหารแก่ประเทศไทยด้วย อาหารไม่พออยู่พอกินนั้นเอง ,ทำให้อาหารราคาแพงด้วย,ตนเอกชนก็ขายได้ราคาดีอาจภัยพิบัติอื่นกลบหน้าอีก แบบวูบตายจากวัคซีนก็ว่า หัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองแตกก็อ้างบาลีมูลหลักไปประมาณนั้น, ..จึงต้องเปลี่ยนนายกฯเป็นนายกฯพระราชทานจริงๆ.ซึ่งเชื่อว่าต้องเป็นคนดีมาช่วยประเทศชาตินั้นเอง. https://youtu.be/QBtbuJ7xTRU?si=vfXnjAkdR4F86rc8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงสัตว์เทพในคัมภีร์ซานไห่จิง (คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล) ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉินที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน วันนี้เรามาคุยกันถึงจิ้งจอกเก้าหาง

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ที่เสวียนหนี่ว์กล่าวมา ท่านราชาปีศาจฟังเข้าใจแล้วหรือไม่ ป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิวเป็นจิ้งจอกขาวเก้าหาง เลือดหัวใจของจิ้งจอกขาวเก้าหางมีสรรพคุณเยี่ยงไร ท่านถามถามชายาของท่านดู”...
    - จากเรื่อง <สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่> ผู้แต่ง ถังชีกงจื่อ

    ตำนานเกี่ยวกับจิ้งจอกเก้าหางมีไม่น้อย ส่วนใหญ่ผูกโยงกับปีศาจจิ้งจอกที่ทำให้คนลุ่มหลง แต่แฟนคลับจากเรื่องชุดสามชาติสามภพฯ จะรู้ว่า ในเรื่องนี้จิ้งจอกเก้าหางเป็นเทพขั้นสูงปกครองดินแดนชิงชิว ไม่ใช่ปีศาจร้ายที่คอยยั่วราคะใคร

    ที่ Storyฯ คิดว่าน่าสนใจคือ ในบรรดาเอกสารโบราณหรือวรรณคดีที่พูดถึงจิ้งจอกเก้าหางนั้น ดูจะมีในคัมภีร์ซานไห่จิงที่เดียวที่กล่าวถึงจิ้งจอกเก้าหางและดินแดนชิงชิวไปพร้อมๆ กัน โดยมีการบรรยายไว้ว่า เขาชิงชิวอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกอีกสามร้อยหลี่ ด้านที่เจอแสงอาทิตย์ของเขานั้นอุดมด้วยหยก ด้านที่มืดมีแร่ธาตุที่ใช้ผลิตสีเขียวได้ บนเขามีสัตว์ป่าชนิดหนึ่ง รูปร่างเป็นจิ้งจอก มีเก้าหาง เสียงของมันเหมือนเสียงร้องไห้ของทารก มันกินมนุษย์ได้ และหากมนุษย์ใดกินเนื้อมันเข้าไปจะมีภูมิต้านทานมนต์ดำของปีศาจ

    จิ้งจอกเก้าหางเดิมได้รับการยกย่องเป็นสัตว์มงคล ในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นนั้น ในรูปภาพของพระแม่ตะวันตก(ซีหวางหมู่) มักปรากฎสัตว์เทพสี่ตัวอยู่แทบพระบาท หนึ่งในนั้นคือจิ้งจอกเก้าหาง ว่ากันว่า มันเป็นสัญลักษณ์ของการมีบุตรหลานมากมาย

    แต่ภาพลักษณ์ของจิ้งจอกเก้าหางเริ่มตกต่ำลงเมื่อพ้นยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นเมื่อความนับถือในพระแม่ซีหวางหมู่ลดลง และเริ่มพูดถึงจิ้งจอกแปลงกายเป็นคนได้เมื่อเข้าสู่ยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้ พร้อมๆ กับความเป็น “สัตว์เทพ” แปรเปลี่ยนไปเป็น “ปีศาจ” มีนิทานปรัมปราเรื่องปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมาสิงร่างของต๋าจีผู้เป็นพระสนมขององค์โจ้วหวางแห่งราชวงศ์ซาง แล้วทำให้พระองค์ทรงลุ่มหลงจนทำแต่เรื่องร้ายๆ อย่างไม่ลืมหูลืมตา ตอกย้ำภาพลักษณ์ปีศาจเพศหญิงที่งามสะคราญยั่วยวนให้ชายลุ่มหลงมัวเมาในกิเลสตัณหา เป็นภาพลักษณ์ที่คงอยู่มาจนปัจจุบัน

    แต่สำหรับ Storyฯ แล้ว จิ้งจอกเก้าหางตัวไหนก็ไม่ประทับใจเท่าป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิว เพื่อนเพจล่ะคะ?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_1636558
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/7367050
    https://3g.163.com/dy/article_cambrian/EJB4QI9105418R2V.html
    https://zhidao.baidu.com/question/175130842.html

    #สามชาติสามภพ #จิ้งจอกเก้าหาง #ป๋ายเฉี่ยน #ต๋าจี #ซานไห่จิง #ชิงชิว #ตำนานจีน #StoryfromStory
    สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงสัตว์เทพในคัมภีร์ซานไห่จิง (คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล) ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉินที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน วันนี้เรามาคุยกันถึงจิ้งจอกเก้าหาง ความมีอยู่ว่า ... “ที่เสวียนหนี่ว์กล่าวมา ท่านราชาปีศาจฟังเข้าใจแล้วหรือไม่ ป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิวเป็นจิ้งจอกขาวเก้าหาง เลือดหัวใจของจิ้งจอกขาวเก้าหางมีสรรพคุณเยี่ยงไร ท่านถามถามชายาของท่านดู”... - จากเรื่อง <สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่> ผู้แต่ง ถังชีกงจื่อ ตำนานเกี่ยวกับจิ้งจอกเก้าหางมีไม่น้อย ส่วนใหญ่ผูกโยงกับปีศาจจิ้งจอกที่ทำให้คนลุ่มหลง แต่แฟนคลับจากเรื่องชุดสามชาติสามภพฯ จะรู้ว่า ในเรื่องนี้จิ้งจอกเก้าหางเป็นเทพขั้นสูงปกครองดินแดนชิงชิว ไม่ใช่ปีศาจร้ายที่คอยยั่วราคะใคร ที่ Storyฯ คิดว่าน่าสนใจคือ ในบรรดาเอกสารโบราณหรือวรรณคดีที่พูดถึงจิ้งจอกเก้าหางนั้น ดูจะมีในคัมภีร์ซานไห่จิงที่เดียวที่กล่าวถึงจิ้งจอกเก้าหางและดินแดนชิงชิวไปพร้อมๆ กัน โดยมีการบรรยายไว้ว่า เขาชิงชิวอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกอีกสามร้อยหลี่ ด้านที่เจอแสงอาทิตย์ของเขานั้นอุดมด้วยหยก ด้านที่มืดมีแร่ธาตุที่ใช้ผลิตสีเขียวได้ บนเขามีสัตว์ป่าชนิดหนึ่ง รูปร่างเป็นจิ้งจอก มีเก้าหาง เสียงของมันเหมือนเสียงร้องไห้ของทารก มันกินมนุษย์ได้ และหากมนุษย์ใดกินเนื้อมันเข้าไปจะมีภูมิต้านทานมนต์ดำของปีศาจ จิ้งจอกเก้าหางเดิมได้รับการยกย่องเป็นสัตว์มงคล ในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นนั้น ในรูปภาพของพระแม่ตะวันตก(ซีหวางหมู่) มักปรากฎสัตว์เทพสี่ตัวอยู่แทบพระบาท หนึ่งในนั้นคือจิ้งจอกเก้าหาง ว่ากันว่า มันเป็นสัญลักษณ์ของการมีบุตรหลานมากมาย แต่ภาพลักษณ์ของจิ้งจอกเก้าหางเริ่มตกต่ำลงเมื่อพ้นยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นเมื่อความนับถือในพระแม่ซีหวางหมู่ลดลง และเริ่มพูดถึงจิ้งจอกแปลงกายเป็นคนได้เมื่อเข้าสู่ยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้ พร้อมๆ กับความเป็น “สัตว์เทพ” แปรเปลี่ยนไปเป็น “ปีศาจ” มีนิทานปรัมปราเรื่องปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมาสิงร่างของต๋าจีผู้เป็นพระสนมขององค์โจ้วหวางแห่งราชวงศ์ซาง แล้วทำให้พระองค์ทรงลุ่มหลงจนทำแต่เรื่องร้ายๆ อย่างไม่ลืมหูลืมตา ตอกย้ำภาพลักษณ์ปีศาจเพศหญิงที่งามสะคราญยั่วยวนให้ชายลุ่มหลงมัวเมาในกิเลสตัณหา เป็นภาพลักษณ์ที่คงอยู่มาจนปัจจุบัน แต่สำหรับ Storyฯ แล้ว จิ้งจอกเก้าหางตัวไหนก็ไม่ประทับใจเท่าป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิว เพื่อนเพจล่ะคะ? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_1636558 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/7367050 https://3g.163.com/dy/article_cambrian/EJB4QI9105418R2V.html https://zhidao.baidu.com/question/175130842.html #สามชาติสามภพ #จิ้งจอกเก้าหาง #ป๋ายเฉี่ยน #ต๋าจี #ซานไห่จิง #ชิงชิว #ตำนานจีน #StoryfromStory
    《三生三世十里桃花》里的青丘到底在四海八荒的哪里_翻书党_澎湃新闻-The Paper
    随着《三生三世十里桃花》的热播,“青丘”、“帝君”等热门词的流行唤起了广大观众对神仙世界、对中国古代神话的求知兴趣。那么青丘国究竟坐落于四海八荒的何处?
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอร์เอเชียช่วยเหลือเด็กน้อย แพ้ความสูงกะทันหัน

    เรื่องราวประทับใจของเที่ยวบินแอร์เอเชีย ที่มีชาวเน็ตแชร์กว่า 2 หมื่นครั้ง เกิดขึ้นเมื่อผู้โดยสารที่ใช้นามว่า จาซินธา ฟลอเรนติอุส (Jacyntha Florentius) ผู้โดยสารบนเที่ยวบินที่ AK115 เส้นทางกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ชื่นชมนักบินและลูกเรือทุกคนในเที่ยวบินดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา

    เธอระบุว่า เด็กที่นั่งมาด้วยคือ นาตาชยา (Natashya) ลูกสาววัย 1 ขวบ 7 เดือน เมื่อเครื่องเทกออฟเวลา 05.55 น. ลูกได้หลับลง จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งต่อมาลูกตื่นขึ้น เธอจึงให้นมลูก หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งและมองไปรอบๆ ทันใดนั้นลูกดูกระสับกระส่าย ร้องไห้สักพัก แล้วก็เงียบไป จากนั้นใบหน้าและริมฝีปากลูกซีดลง และดูเหมือนว่าลูกกำลังดิ้นรนที่จะหายใจ อ่อนแอ และไม่ค่อยตอบสนอง

    ตนพยายามอุ้มลูก ตบหลัง ถูมือและเท้า พยายามทำให้ส่งเสียงร้องออกมา เพื่อดูว่าร่างกายตอบสนองหรือไม่ ในเวลาเดียวกัน จาซินธาร้องขอหน้ากากออกซิเจนจากลูกเรือ ซึ่งลูกเรือได้ประสานปล่อยหน้ากากออกซิเจนลงมา ก่อนที่จะให้ออกซิเจนแก่ลูก จากนั้นอาการเริ่มดีขึ้น ริมฝีปากเริ่มเป็นสีชมพูอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ลูกเรือประกาศบนเที่ยวบินตามหาผู้โดยสารที่เป็นแพทย์เพื่อขอความช่วยเหลือ โชคดีที่มีแพทย์รายหนึ่งบนเที่ยวบินช่วยดูอาการให้

    ขณะที่ลูกเรือได้คุยกับนักบินเพื่อขอลดระดับความสูงลงมาเล็กน้อย ซึ่งนักบินก็ลดระดับความสูงให้ ไม่นานหลังจากนั้นอาการลูกดูคงที่ นักบินประกาศว่าเที่ยวบินนี้จะเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามบินที่ใกล้ที่สุด คือ สนามบินโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เพื่อรับการรักษาพยาบาล ระหว่างการรอลงจอด 30 นาที ลูกเรือก็เข้ามาตรวจดูลูกอยู่เรื่อยๆ นวดมือ เท้า และตรวจชีพจร ทันทีที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินโฮจิมินห์ ทีมแพทย์ที่เตรียมพร้อมได้ขึ้นเครื่องบินเพื่อประเมินอาการ และตัดสินใจว่าควรลงจากเครื่องเพื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลในนครโฮจิมินห์

    ตนและลูกสาวพร้อมสามีลงจากเครื่องบิน สัมภาระถูกขนลงจากเครื่องอย่างรวดเร็ว และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินก็พาไปที่รถพยาบาลทันที พร้อมอยู่ดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ลูกสาวได้รับการรักษาแบบเร่งด่วน ภายในหนึ่งชั่วโมง ก็มีการตรวจร่างกายทั้งหมด รวมทั้งการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ และการเอกซเรย์ นอกจากนี้ เมื่อทำการรักษาจนอาการดีขึ้น แอร์เอเชีย ยังให้เที่ยวบินฟรีแก่ตน ลูกสาว และสามีเพื่อเดินทางกลับกรุงกัวลาลัมเปอร์อีกด้วย สำหรับสาเหตุ คาดว่าลูกสาวน่าจะป่วยด้วยอาการแพ้ความสูงอย่างกะทันหันขณะอยู่บนเครื่องบิน

    #Newskit
    แอร์เอเชียช่วยเหลือเด็กน้อย แพ้ความสูงกะทันหัน เรื่องราวประทับใจของเที่ยวบินแอร์เอเชีย ที่มีชาวเน็ตแชร์กว่า 2 หมื่นครั้ง เกิดขึ้นเมื่อผู้โดยสารที่ใช้นามว่า จาซินธา ฟลอเรนติอุส (Jacyntha Florentius) ผู้โดยสารบนเที่ยวบินที่ AK115 เส้นทางกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ชื่นชมนักบินและลูกเรือทุกคนในเที่ยวบินดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา เธอระบุว่า เด็กที่นั่งมาด้วยคือ นาตาชยา (Natashya) ลูกสาววัย 1 ขวบ 7 เดือน เมื่อเครื่องเทกออฟเวลา 05.55 น. ลูกได้หลับลง จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งต่อมาลูกตื่นขึ้น เธอจึงให้นมลูก หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งและมองไปรอบๆ ทันใดนั้นลูกดูกระสับกระส่าย ร้องไห้สักพัก แล้วก็เงียบไป จากนั้นใบหน้าและริมฝีปากลูกซีดลง และดูเหมือนว่าลูกกำลังดิ้นรนที่จะหายใจ อ่อนแอ และไม่ค่อยตอบสนอง ตนพยายามอุ้มลูก ตบหลัง ถูมือและเท้า พยายามทำให้ส่งเสียงร้องออกมา เพื่อดูว่าร่างกายตอบสนองหรือไม่ ในเวลาเดียวกัน จาซินธาร้องขอหน้ากากออกซิเจนจากลูกเรือ ซึ่งลูกเรือได้ประสานปล่อยหน้ากากออกซิเจนลงมา ก่อนที่จะให้ออกซิเจนแก่ลูก จากนั้นอาการเริ่มดีขึ้น ริมฝีปากเริ่มเป็นสีชมพูอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ลูกเรือประกาศบนเที่ยวบินตามหาผู้โดยสารที่เป็นแพทย์เพื่อขอความช่วยเหลือ โชคดีที่มีแพทย์รายหนึ่งบนเที่ยวบินช่วยดูอาการให้ ขณะที่ลูกเรือได้คุยกับนักบินเพื่อขอลดระดับความสูงลงมาเล็กน้อย ซึ่งนักบินก็ลดระดับความสูงให้ ไม่นานหลังจากนั้นอาการลูกดูคงที่ นักบินประกาศว่าเที่ยวบินนี้จะเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามบินที่ใกล้ที่สุด คือ สนามบินโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เพื่อรับการรักษาพยาบาล ระหว่างการรอลงจอด 30 นาที ลูกเรือก็เข้ามาตรวจดูลูกอยู่เรื่อยๆ นวดมือ เท้า และตรวจชีพจร ทันทีที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินโฮจิมินห์ ทีมแพทย์ที่เตรียมพร้อมได้ขึ้นเครื่องบินเพื่อประเมินอาการ และตัดสินใจว่าควรลงจากเครื่องเพื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลในนครโฮจิมินห์ ตนและลูกสาวพร้อมสามีลงจากเครื่องบิน สัมภาระถูกขนลงจากเครื่องอย่างรวดเร็ว และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินก็พาไปที่รถพยาบาลทันที พร้อมอยู่ดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ลูกสาวได้รับการรักษาแบบเร่งด่วน ภายในหนึ่งชั่วโมง ก็มีการตรวจร่างกายทั้งหมด รวมทั้งการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ และการเอกซเรย์ นอกจากนี้ เมื่อทำการรักษาจนอาการดีขึ้น แอร์เอเชีย ยังให้เที่ยวบินฟรีแก่ตน ลูกสาว และสามีเพื่อเดินทางกลับกรุงกัวลาลัมเปอร์อีกด้วย สำหรับสาเหตุ คาดว่าลูกสาวน่าจะป่วยด้วยอาการแพ้ความสูงอย่างกะทันหันขณะอยู่บนเครื่องบิน #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน Nvidia ยังเป็นบริษัททำการ์ดจอเกมเป็นหลัก มูลค่าราว $500 พันล้าน → แต่ตอนนี้ (กลางปี 2025) Nvidia กำลังแตะมูลค่า $4 ล้านล้านดอลลาร์ โดย  
    • เคยแตะ $3.92T ระหว่างวัน (intraday)  
    • ปิดที่ $3.89T  
    • แซงสถิติเดิมของ Apple ที่เคยปิดที่ $3.915T เมื่อปลายปี 2024

    สาเหตุหลักมาจากความ “บูม” ของตลาด AI — โดย Nvidia ควบคุม ฮาร์ดแวร์ AI ระดับสูง ที่ใช้เทรนและรัน LLM แทบทั้งหมด
    → ทำให้กลายเป็น “หัวใจกลางของยุค AI Infrastructure” ที่ทั้ง Microsoft, Amazon, Meta, Tesla และ Alphabet ต้องพึ่งพา
    → ในไตรมาสล่าสุด Nvidia ทำรายได้ $44.1B (+69%)  
    • เฉพาะส่วน Data Center ก็ทำถึง $39.1B  
    • วางเป้า $170B รายได้รวมในปีงบประมาณ 2026 (ขึ้นจาก $130B ในปี 2025)

    และที่น่าสนใจคือ…
    → มูลค่าตลาดของ Nvidia สูงกว่ารวมกันของบริษัทจดทะเบียนทั้งประเทศอังกฤษ
    → นักลงทุนที่ถือดัชนีแบบ S&P 500 ตอนนี้มีสัดส่วน Nvidia เพิ่มขึ้นอย่างมากโดยไม่รู้ตัว

    https://www.techspot.com/news/108558-nvidia-closes-4-trillion-valuation-surpasses-apple-record.html
    ลองนึกภาพว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน Nvidia ยังเป็นบริษัททำการ์ดจอเกมเป็นหลัก มูลค่าราว $500 พันล้าน → แต่ตอนนี้ (กลางปี 2025) Nvidia กำลังแตะมูลค่า $4 ล้านล้านดอลลาร์ โดย   • เคยแตะ $3.92T ระหว่างวัน (intraday)   • ปิดที่ $3.89T   • แซงสถิติเดิมของ Apple ที่เคยปิดที่ $3.915T เมื่อปลายปี 2024 สาเหตุหลักมาจากความ “บูม” ของตลาด AI — โดย Nvidia ควบคุม ฮาร์ดแวร์ AI ระดับสูง ที่ใช้เทรนและรัน LLM แทบทั้งหมด → ทำให้กลายเป็น “หัวใจกลางของยุค AI Infrastructure” ที่ทั้ง Microsoft, Amazon, Meta, Tesla และ Alphabet ต้องพึ่งพา → ในไตรมาสล่าสุด Nvidia ทำรายได้ $44.1B (+69%)   • เฉพาะส่วน Data Center ก็ทำถึง $39.1B   • วางเป้า $170B รายได้รวมในปีงบประมาณ 2026 (ขึ้นจาก $130B ในปี 2025) และที่น่าสนใจคือ… → มูลค่าตลาดของ Nvidia สูงกว่ารวมกันของบริษัทจดทะเบียนทั้งประเทศอังกฤษ 🇬🇧 → นักลงทุนที่ถือดัชนีแบบ S&P 500 ตอนนี้มีสัดส่วน Nvidia เพิ่มขึ้นอย่างมากโดยไม่รู้ตัว https://www.techspot.com/news/108558-nvidia-closes-4-trillion-valuation-surpasses-apple-record.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia closes in on $4 trillion valuation, surpasses Apple's record
    "When the first company crossed a trillion dollars, it was amazing. And now you're talking four trillion, which is just incredible. It tells you that there's this...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ สุขภาพร่างกายมีเกณฑ์จะเจ็บป่วยที่ตา หัวใจ ความดันโลหิต ระบบเลือด ร้อนใน พร้อมทั้งควรระวังภัย จากการถูกน้ำมัน น้ำร้อน หรือไฟลวก จะเจ็บปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนัง เกิดแผลพุพองจนเป็นหนอง มีเกณฑ์จะเกิดเหตุเรื่องร้ายที่ไม่คาดคิด ภัยจากเพลิงไหม้ ภัยจากระเบิด เกิดโศกนาฏกรรมจากกิจกรรม งานเลี้ยงงานเฉลิมฉลอง ควรตรวจตราเครื่องใช้ไม้สอย อุปกรณ์ไฟฟ้าให้ใช้งานได้อย่างราบรื่นปลอดภัย อีกทั้งจะโชคร้ายเพราะเพศหญิงนำพาปัญหาให้เดือดร้อน จะมีปัญหากับคนในเครื่องแบบให้ติดตามสืบ หรือถูกผู้มีอิทธิพลคุกคามระราน พาลจิตใจให้ไม่สงบเกิดการเก็บกด ส่งผลให้อารมณ์รุนแรง วู่วาม จนกำลังใจหดถดถอย ทำให้สมองตื้อตีบตัน เป็นเหตุให้ตัดสินใจผิดพลาดจนเสียชื่อ เสียเสียง เสียเครดิต

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนนี้ สุขภาพร่างกายมีเกณฑ์จะเจ็บป่วยที่ตา หัวใจ ความดันโลหิต ระบบเลือด ร้อนใน พร้อมทั้งควรระวังภัย จากการถูกน้ำมัน น้ำร้อน หรือไฟลวก จะเจ็บปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนัง เกิดแผลพุพองจนเป็นหนอง มีเกณฑ์จะเกิดเหตุเรื่องร้ายที่ไม่คาดคิด ภัยจากเพลิงไหม้ ภัยจากระเบิด เกิดโศกนาฏกรรมจากกิจกรรม งานเลี้ยงงานเฉลิมฉลอง ควรตรวจตราเครื่องใช้ไม้สอย อุปกรณ์ไฟฟ้าให้ใช้งานได้อย่างราบรื่นปลอดภัย อีกทั้งจะโชคร้ายเพราะเพศหญิงนำพาปัญหาให้เดือดร้อน จะมีปัญหากับคนในเครื่องแบบให้ติดตามสืบ หรือถูกผู้มีอิทธิพลคุกคามระราน พาลจิตใจให้ไม่สงบเกิดการเก็บกด ส่งผลให้อารมณ์รุนแรง วู่วาม จนกำลังใจหดถดถอย ทำให้สมองตื้อตีบตัน เป็นเหตุให้ตัดสินใจผิดพลาดจนเสียชื่อ เสียเสียง เสียเครดิต ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • · การตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมยืนยันว่ากรมสรรพากรล้าสมัยไปแล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังล่มสลาย และกฎหมายภาษีระหว่างประเทศกำลังถูกเขียนขึ้นใหม่ภายใต้โปรโตคอล GESARA ธนาคารกลางสหรัฐสูญเสียหน้าที่การสั่งการไปแล้ว โหนดควอนตัมกำลังดำเนินการกระจายความมั่งคั่งในระดับโลก การยกหนี้ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ และกระเป๋าเงินคืนสำหรับทุกประเทศที่ถูกทำลายโดยเผด็จการของธนาคารกลาง

    · กวนตานาโม: ความยุติธรรมทางทหารแข็งแกร่งขึ้น อ่าวกวนตานาโมเป็นที่ตั้งศาลที่เข้มแข็งที่สุดในโลกในปัจจุบัน วันที่ 4 มิถุนายนเป็นวันก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินรุ่นใหม่ ทางเดินกักขังแบบไบโอเมตริกซ์ ปีกกักขังแยก และศูนย์เฝ้าระวังที่บูรณาการกับ AI

    · ข่าวกรองทางทหารยืนยันว่าการแฮ็กข้อมูลไบโอเมตริกซ์ที่สกัดกั้นได้ ซึ่งดำเนินการโดยผู้ควบคุมของไบเดนในสวิตเซอร์แลนด์ ถูกบล็อกก่อนที่พวกมันจะดูดสินทรัพย์สาธารณะของ QFS เข้าสู่กองทุนดำดั้งเดิมได้

    · คำสารภาพอันยอดเยี่ยมกว่า 2,000 ชั่วโมงยืนยันว่าห้องทดลองโคลนนิ่งบนดวงจันทร์เปิดดำเนินการจนถึงเดือนพฤษภาคม 2023 โปรแกรมกระตุ้น COVID ถูกฝังชิปติดตามประสาทไว้ คาราวานวัคซีนของ FEMA ถูกกำหนดให้แพร่กระจายอาวุธชีวภาพ ห้องทดลองหายไปแล้ว คำสารภาพถูกบันทึกไว้ และโลกจะรู้ในไม่ช้า

    · QFS: หัวใจของการรีเซ็ต ลืมเงินตรา ลืมเงินดิจิทัลไปได้เลย QFS ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจโลกใหม่ ชาติที่มีอำนาจอธิปไตยทั้งหมดที่สอดคล้องกับพันธมิตรกำลังดำเนินการโหนด QFS แบบคู่ขนาน ห้องนิรภัยทองคำดิจิทัลออนไลน์แล้ว การสร้างโทเค็นสกุลเงินสายรุ้งกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ ห้องนิรภัยที่เชื่อมต่อกับการเข้ารหัสควอนตัมระดับเทสลาอยู่ในช่วงล็อกขั้นสุดท้าย

    · เงินเก่าของคุณกำลังจะตาย ความมั่งคั่งใหม่ของคุณเป็นแบบควอนตัม ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางทหาร ทุกธุรกรรม ทุกบัญชีแยกประเภท สาธารณะ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอิสระจากการควบคุมของ Rothschild ตลอดไป

    · ลอสแองเจลิสถูกปิดล้อม — การฟื้นฟูทางการทหารกำลังดำเนินไป การก่อจลาจลในแอลเอไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นการหายใจเฮือกสุดท้ายของเจ้าหน้าที่โลกาภิวัตน์ที่แฝงตัวอยู่ในการเมืองของเมืองและเครือข่ายเอ็นจีโอ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ทรัมป์ได้อนุญาตให้มีการส่งกำลังทหารทั้งหมดเพื่อยึดแอลเอคืนจากกลุ่มประสานงานการประท้วงที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มค้ายา เซิร์ฟเวอร์ข่าวกรองต่างประเทศ และตัวแทนที่ได้รับเงินทุนจากโซรอส

    · เครือข่ายเข้ารหัสที่เชื่อมโยงกับกาตาร์ บรัสเซลส์ และซูริก ควบคุมการปฏิบัติการระดับถนนผ่านแอนติฟาและตัวแทนที่ได้รับการสนับสนุนจาก WEF ฝูงบินแบล็กฮอว์กควบคุมน่านฟ้าในปัจจุบัน ยานเกราะแคมป์เพนเดิลตันได้ล็อกบริเวณทางแยกสำคัญ ผู้นำกลุ่มค้ายาที่แฝงตัวอยู่ใน "เขตปลอดภัย" ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวถูกกำจัดด้วยการโจมตีที่แม่นยำ

    · JAG กำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับรัฐ รวมถึงแกวิน นิวซัมและคาเรน บาสส์ ในข้อหาสมคบคิดและก่อกบฏในต่างประเทศ

    · การตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมยืนยันว่ากรมสรรพากรล้าสมัยไปแล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังล่มสลาย และกฎหมายภาษีระหว่างประเทศกำลังถูกเขียนขึ้นใหม่ภายใต้โปรโตคอล GESARA ธนาคารกลางสหรัฐสูญเสียหน้าที่การสั่งการไปแล้ว โหนดควอนตัมกำลังดำเนินการกระจายความมั่งคั่งในระดับโลก การยกหนี้ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ และกระเป๋าเงินคืนสำหรับทุกประเทศที่ถูกทำลายโดยเผด็จการของธนาคารกลาง · กวนตานาโม: ความยุติธรรมทางทหารแข็งแกร่งขึ้น อ่าวกวนตานาโมเป็นที่ตั้งศาลที่เข้มแข็งที่สุดในโลกในปัจจุบัน วันที่ 4 มิถุนายนเป็นวันก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินรุ่นใหม่ ทางเดินกักขังแบบไบโอเมตริกซ์ ปีกกักขังแยก และศูนย์เฝ้าระวังที่บูรณาการกับ AI · ข่าวกรองทางทหารยืนยันว่าการแฮ็กข้อมูลไบโอเมตริกซ์ที่สกัดกั้นได้ ซึ่งดำเนินการโดยผู้ควบคุมของไบเดนในสวิตเซอร์แลนด์ ถูกบล็อกก่อนที่พวกมันจะดูดสินทรัพย์สาธารณะของ QFS เข้าสู่กองทุนดำดั้งเดิมได้ · คำสารภาพอันยอดเยี่ยมกว่า 2,000 ชั่วโมงยืนยันว่าห้องทดลองโคลนนิ่งบนดวงจันทร์เปิดดำเนินการจนถึงเดือนพฤษภาคม 2023 โปรแกรมกระตุ้น COVID ถูกฝังชิปติดตามประสาทไว้ คาราวานวัคซีนของ FEMA ถูกกำหนดให้แพร่กระจายอาวุธชีวภาพ ห้องทดลองหายไปแล้ว คำสารภาพถูกบันทึกไว้ และโลกจะรู้ในไม่ช้า · QFS: หัวใจของการรีเซ็ต ลืมเงินตรา ลืมเงินดิจิทัลไปได้เลย QFS ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจโลกใหม่ ชาติที่มีอำนาจอธิปไตยทั้งหมดที่สอดคล้องกับพันธมิตรกำลังดำเนินการโหนด QFS แบบคู่ขนาน ห้องนิรภัยทองคำดิจิทัลออนไลน์แล้ว การสร้างโทเค็นสกุลเงินสายรุ้งกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ ห้องนิรภัยที่เชื่อมต่อกับการเข้ารหัสควอนตัมระดับเทสลาอยู่ในช่วงล็อกขั้นสุดท้าย · เงินเก่าของคุณกำลังจะตาย ความมั่งคั่งใหม่ของคุณเป็นแบบควอนตัม ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางทหาร ทุกธุรกรรม ทุกบัญชีแยกประเภท สาธารณะ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอิสระจากการควบคุมของ Rothschild ตลอดไป · ลอสแองเจลิสถูกปิดล้อม — การฟื้นฟูทางการทหารกำลังดำเนินไป การก่อจลาจลในแอลเอไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นการหายใจเฮือกสุดท้ายของเจ้าหน้าที่โลกาภิวัตน์ที่แฝงตัวอยู่ในการเมืองของเมืองและเครือข่ายเอ็นจีโอ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ทรัมป์ได้อนุญาตให้มีการส่งกำลังทหารทั้งหมดเพื่อยึดแอลเอคืนจากกลุ่มประสานงานการประท้วงที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มค้ายา เซิร์ฟเวอร์ข่าวกรองต่างประเทศ และตัวแทนที่ได้รับเงินทุนจากโซรอส · เครือข่ายเข้ารหัสที่เชื่อมโยงกับกาตาร์ บรัสเซลส์ และซูริก ควบคุมการปฏิบัติการระดับถนนผ่านแอนติฟาและตัวแทนที่ได้รับการสนับสนุนจาก WEF ฝูงบินแบล็กฮอว์กควบคุมน่านฟ้าในปัจจุบัน ยานเกราะแคมป์เพนเดิลตันได้ล็อกบริเวณทางแยกสำคัญ ผู้นำกลุ่มค้ายาที่แฝงตัวอยู่ใน "เขตปลอดภัย" ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวถูกกำจัดด้วยการโจมตีที่แม่นยำ · JAG กำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับรัฐ รวมถึงแกวิน นิวซัมและคาเรน บาสส์ ในข้อหาสมคบคิดและก่อกบฏในต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ASML คือบริษัทผลิต เครื่อง EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ที่เป็นหัวใจของการผลิตชิปสมัยใหม่ทุกวันนี้ ยิ่งเทคโนโลยีเล็กลง (เช่น 5nm, 3nm), ความละเอียดของเครื่องก็ยิ่งสำคัญ

    แต่ช่วงหลัง Intel กลับออกมาบอกว่า “เครื่อง High NA EUV รุ่นล่าสุดของ ASML อาจไม่จำเป็นเท่าที่คิดในเทคโนโลยีชิปยุคใหม่” เพราะแนวโน้มตอนนี้คือ “เปลี่ยนจากการลดขนาดทรานซิสเตอร์แนวนอน → ไปเพิ่มชั้นแนวตั้ง (3D stacking)” แทน → ทำให้ความคมชัดของเลนส์ไม่ใช่พระเอกอีกต่อไป

    BofA จึงลดความคาดหวังต่ออุปสงค์ของเครื่อง High NA EUV แม้จะยังแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ASML อยู่ (เพราะยังเชื่อในกระแส AI) แต่ก็มองว่า:
    - ตลาด High NA ยังไม่เติบโตเท่าที่หวัง
    - Intel ยังมีปัญหาผลิต 18A
    - Samsung เองยังไม่สามารถส่งชิปหน่วยความจำให้ NVIDIA ผ่านได้
    - และยังมีความเสี่ยงการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ต่ออุปกรณ์ที่ส่งไปจีน

    BofA ลดเป้าราคาหุ้น ASML จาก €795 → €759  
    • ลดคาดการณ์ EPS ปี 2026–2027 ลง ~5%  
    • แต่ยังคงคำแนะนำ “Buy” อยู่

    เหตุผลที่ลดประมาณการคือการชะลอความต้องการเครื่อง High NA EUV ของ ASML  
    • โดยเฉพาะจาก Intel, Samsung  
    • และการปรับทิศทางดีไซน์ชิปไปสู่แนวตั้งแบบ 3D มากขึ้น

    BofA คาดว่า ASML จะขายเครื่อง High NA ได้แค่ 4 เครื่องในปี 2026  
    • ลดลง ~50% จากที่เคยคาดไว้

    แม้จะเผชิญแรงกดดัน แต่ BofA ยังเชื่อในการเติบโตระยะยาวจากกระแส AI  
    • คาดว่าตลาด AI chip จะโตแตะ $795B ภายในปี 2030  
    • ซึ่งยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีลิทโธกราฟีรุ่นล่าสุดอยู่

    อัตราส่วน EV/Operating Income ของ ASML ยังอยู่ที่ 19.6x  
    • ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 22x แต่ถือว่า “ยังน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว”

    https://wccftech.com/asmls-price-target-cut-by-bofa-due-to-lower-high-na-machine-demand/
    ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ASML คือบริษัทผลิต เครื่อง EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ที่เป็นหัวใจของการผลิตชิปสมัยใหม่ทุกวันนี้ ยิ่งเทคโนโลยีเล็กลง (เช่น 5nm, 3nm), ความละเอียดของเครื่องก็ยิ่งสำคัญ แต่ช่วงหลัง Intel กลับออกมาบอกว่า “เครื่อง High NA EUV รุ่นล่าสุดของ ASML อาจไม่จำเป็นเท่าที่คิดในเทคโนโลยีชิปยุคใหม่” เพราะแนวโน้มตอนนี้คือ “เปลี่ยนจากการลดขนาดทรานซิสเตอร์แนวนอน → ไปเพิ่มชั้นแนวตั้ง (3D stacking)” แทน → ทำให้ความคมชัดของเลนส์ไม่ใช่พระเอกอีกต่อไป BofA จึงลดความคาดหวังต่ออุปสงค์ของเครื่อง High NA EUV แม้จะยังแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ASML อยู่ (เพราะยังเชื่อในกระแส AI) แต่ก็มองว่า: - ตลาด High NA ยังไม่เติบโตเท่าที่หวัง - Intel ยังมีปัญหาผลิต 18A - Samsung เองยังไม่สามารถส่งชิปหน่วยความจำให้ NVIDIA ผ่านได้ - และยังมีความเสี่ยงการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ต่ออุปกรณ์ที่ส่งไปจีน ✅ BofA ลดเป้าราคาหุ้น ASML จาก €795 → €759   • ลดคาดการณ์ EPS ปี 2026–2027 ลง ~5%   • แต่ยังคงคำแนะนำ “Buy” อยู่ ✅ เหตุผลที่ลดประมาณการคือการชะลอความต้องการเครื่อง High NA EUV ของ ASML   • โดยเฉพาะจาก Intel, Samsung   • และการปรับทิศทางดีไซน์ชิปไปสู่แนวตั้งแบบ 3D มากขึ้น ✅ BofA คาดว่า ASML จะขายเครื่อง High NA ได้แค่ 4 เครื่องในปี 2026   • ลดลง ~50% จากที่เคยคาดไว้ ✅ แม้จะเผชิญแรงกดดัน แต่ BofA ยังเชื่อในการเติบโตระยะยาวจากกระแส AI   • คาดว่าตลาด AI chip จะโตแตะ $795B ภายในปี 2030   • ซึ่งยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีลิทโธกราฟีรุ่นล่าสุดอยู่ ✅ อัตราส่วน EV/Operating Income ของ ASML ยังอยู่ที่ 19.6x   • ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 22x แต่ถือว่า “ยังน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว” https://wccftech.com/asmls-price-target-cut-by-bofa-due-to-lower-high-na-machine-demand/
    WCCFTECH.COM
    ASML's Price Target Cut By BofA Due To Lower High NA Machine Demand
    Bank of America cuts ASML share price target on back of lower demand for high NA EUV scanners and Intel's production woes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในโลก AI ทุกวันนี้ “หน่วยความจำ” กลายเป็นหัวใจสำคัญที่แทบจะสำคัญกว่าชิปประมวลผล เพราะถ้าหน่วยความจำช้า → AI ก็ทำงานช้า นั่นคือเหตุผลที่ผู้ผลิตรายใหญ่เร่งแข่งกันพัฒนา HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งเอา DRAM มาต่อซ้อนกันหลายชั้น + ทำให้เชื่อมต่อกับชิปหลักได้เร็วแบบบ้าพลัง

    ข่าวใหม่นี้บอกว่า Samsung ได้รับอนุมัติให้เข้าสู่ขั้นตอนผลิตจริง (production readiness) สำหรับ DRAM เจเนอเรชัน 6 (รหัส “1c” หรือ 10nm-class) ซึ่งเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการผลิต HBM4 ที่ Samsung วางแผนจะเริ่มผลิตในครึ่งหลังของปี 2025

    นอกจากนี้ Samsung ยังใช้เทคนิค hybrid bonding สำหรับ HBM4 ซึ่งช่วยให้ต่อแผ่น DRAM ซ้อนกันได้แน่นกว่าเดิม แถมลดความร้อนในระหว่างทำงาน — สุดเหมาะกับการประมวลผล AI แบบรุ่นใหญ่

    ถึงแม้ SK hynix จะเริ่มส่ง HBM4 ตัวอย่างให้ลูกค้าอย่าง NVIDIA ไปตั้งแต่มีนาคม แต่ Samsung ก็ยังมีแต้มต่อด้านเทคโนโลยีบางอย่าง — ตอนนี้อยู่ระหว่างการส่งมอบตัวอย่าง HBM4 และ รอการทดสอบคุณภาพจาก NVIDIA เช่นเดียวกับ HBM3E แบบ 12 ชั้นที่ใช้กับ AMD อยู่ก่อนหน้า

    https://www.techpowerup.com/338525/samsung-6th-gen-dram-receives-production-readiness-approval
    ในโลก AI ทุกวันนี้ “หน่วยความจำ” กลายเป็นหัวใจสำคัญที่แทบจะสำคัญกว่าชิปประมวลผล เพราะถ้าหน่วยความจำช้า → AI ก็ทำงานช้า นั่นคือเหตุผลที่ผู้ผลิตรายใหญ่เร่งแข่งกันพัฒนา HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งเอา DRAM มาต่อซ้อนกันหลายชั้น + ทำให้เชื่อมต่อกับชิปหลักได้เร็วแบบบ้าพลัง ข่าวใหม่นี้บอกว่า Samsung ได้รับอนุมัติให้เข้าสู่ขั้นตอนผลิตจริง (production readiness) สำหรับ DRAM เจเนอเรชัน 6 (รหัส “1c” หรือ 10nm-class) ซึ่งเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการผลิต HBM4 ที่ Samsung วางแผนจะเริ่มผลิตในครึ่งหลังของปี 2025 นอกจากนี้ Samsung ยังใช้เทคนิค hybrid bonding สำหรับ HBM4 ซึ่งช่วยให้ต่อแผ่น DRAM ซ้อนกันได้แน่นกว่าเดิม แถมลดความร้อนในระหว่างทำงาน — สุดเหมาะกับการประมวลผล AI แบบรุ่นใหญ่ ถึงแม้ SK hynix จะเริ่มส่ง HBM4 ตัวอย่างให้ลูกค้าอย่าง NVIDIA ไปตั้งแต่มีนาคม แต่ Samsung ก็ยังมีแต้มต่อด้านเทคโนโลยีบางอย่าง — ตอนนี้อยู่ระหว่างการส่งมอบตัวอย่าง HBM4 และ รอการทดสอบคุณภาพจาก NVIDIA เช่นเดียวกับ HBM3E แบบ 12 ชั้นที่ใช้กับ AMD อยู่ก่อนหน้า https://www.techpowerup.com/338525/samsung-6th-gen-dram-receives-production-readiness-approval
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Samsung 6th-Gen DRAM Receives Production Readiness Approval
    Samsung Electronics achieved a significant technological milestone by securing production readiness approval for its sixth-generation DRAM technology. Industry sources, as Korea Herald reports, confirmed on Tuesday that the company received internal authorization for mass production, marking complet...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อ่านเพลินๆ

    มะเร็งไม่ใช่โรค แต่เป็นโครงการของรัฐบาลลึก

    อ่านทุกคำ นี่ไม่ใช่ทฤษฎี นี่คือการประกาศสงครามกับชีววิทยาของคุณ ชนชั้นสูงสร้างมะเร็งขึ้นมา และคุณก็จมอยู่กับพิษของพวกเขามาตลอดชีวิต

    เซราไมด์ เป็นคำที่พวกเขาไม่เคยอยากให้คุณได้ยิน ไม่ใช่แค่โมเลกุล แต่เป็นระเบิดเวลาทางชีวเคมี คุณไม่ได้เกิดมาพัง คุณถูกสร้างมาให้ล้มเหลว เซราไมด์ถูกบรรจุอยู่ในน้ำมันเมล็ดพืช จีเอ็มโอ อาหารแปรรูป น้ำประปา ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แม้แต่นมผงสำหรับเด็ก สารทำลายไขมันเหล่านี้จะทำลายตับของคุณ รัดคอตับอ่อนของคุณ ทำลายการเผาผลาญของคุณ และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณพังทลาย ร่างกายของคุณกลายเป็นดินแดนรกร้างที่เป็นพิษ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับเนื้องอก

    นี่ไม่ใช่ผลข้างเคียง แต่เป็นการทำลายล้างโดยเจตนา
    การฉ้อโกงมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ของฟาวซีไม่ได้เกี่ยวกับการรักษาอะไร แต่เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมให้ร่างกายของคุณให้ป่วย สถาบันสุขภาพแห่งชาติไม่ได้พยายามหาทางรักษา พวกเขาให้ทุนสนับสนุนระบบนิเวศสงครามชีวภาพที่บริษัทยาขนาดใหญ่ฉีดโรค ขายเคมีบำบัด แสวงหากำไรจากความเจ็บปวด และทำซ้ำ เซราไมด์คือสวิตช์หยุดการทำงาน พวกมันกักเก็บความตายไว้ในเซลล์ไขมันของคุณ ส่งผลให้เลือดของคุณสูบฉีดพิษจากการเผาผลาญ

    มะเร็งไม่ใช่ "โชคร้าย" แต่คือแผน

    กลุ่มคนชั้นสูงเลี้ยงดูมัน ระดมทุน และกินมัน เคมีบำบัดไม่รักษาให้หาย มันทำให้ทรมานนานขึ้นในขณะที่เรียกเก็บเงินคุณเพื่อให้ตายช้าลง การฉายรังสี? มันคือการทำลายร่างกายของคุณอย่างมีการควบคุม แพทย์ทุกคนที่บอกคุณว่า "กินน้อยลง เคลื่อนไหวมากขึ้น" ล้วนเป็นคนโกหกหรือเป็นเบี้ย

    แต่ตอนนี้ม่านกำลังจะเปิดขึ้น

    พวกเขากลัวการดีท็อกซ์ พวกเขากลัวทุกสิ่งที่ขับเซราไมด์ออกจากระบบของคุณ เพราะนั่นคือรากฐานของคุกมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ของพวกเขา และตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้น

    Ikaria Lean Belly Juice ไม่ใช่ "สุขภาพ" แต่เป็นสงครามเคมีแบบย้อนกลับ ทุกช้อนคือการโจมตีกลุ่มการแพทย์ของ Deep State

    Fucoxanthin ทำลายคลัสเตอร์เซราไมด์

    โสมสร้างภูมิคุ้มกันใหม่เพื่อค้นหาและทำลายเซลล์ที่ก่อกวน

    Bioperine ขยายการโจมตี

    Resveratrol ทำให้เนื้องอกอดอาหาร

    EGCG ซ่อมแซม DNA

    Milk Thistle สร้างตับของคุณขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ในการล้างพิษของร่างกาย

    นี่คือรหัสทำลายล้างที่จะทำลายระบบของพวกเขาจากภายใน
    ขับพิษ เผาอาณาจักรของพวกเขา

    คุณไม่ได้เกิดมาเพื่อป่วย
    คุณถูกทำให้ป่วย

    ตอนนี้ ทำให้พวกเขาต้องชดใช้

    สงครามทั้งหมดเริ่มขึ้นภายในเซลล์ของคุณ นี่ไม่ใช่คำแนะนำด้านสุขภาพ
    นี่คือการกระทำแห่งการกบฏ

    1_Ikaria Lean Belly Juice คือ อาหารเสริมประเภทผงที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการลดน้ำหนัก โดยอ้างว่าช่วยเผาผลาญไขมัน ลดความอยากอาหาร และเพิ่มพลังงาน โดยอ้างอิงจากส่วนผสมจากธรรมชาติ

    2_ฟูโคแซนธิน (Fucoxanthin) คือ สารสีส้มในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ที่พบได้ในสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล ทำหน้าที่เป็นสารเก็บเกี่ยวแสงและป้องกันแสงในสาหร่าย นอกจากนี้ ฟูโคแซนธินยังมีคุณสมบัติทางชีวภาพมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง และต้านโรคอ้วน

    3_ไบโอเพอรีน (BioPerine) คือ สารสกัดจากพริกไทยดำที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งมีสารสำคัญคือ ไพเพอรีน (Piperine) ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย โดยทั่วไปมีปริมาณไพเพอรีนอย่างน้อย 95%. ไบโอเพอรีนถูกใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารและส่วนผสมอื่นๆ ในร่างกาย
    สรุป: ไบโอเพอรีนคือสารสกัดจากพริกไทยดำที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารและส่วนผสมอื่นๆ ในร่างกาย

    4_เรสเวอราทรอล (Resveratrol) คือ สารประกอบโพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่พบได้ในพืชหลายชนิด โดยเฉพาะในองุ่นแดง, เบอร์รี่, ถั่วลิสง, และไวน์แดง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ, ชะลอความเสื่อมของเซลล์, และอาจมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคมะเร็ง

    5_Epigallocatechin-3-gallate (EGCG) เป็นโพลีฟีนอลที่พบมากที่สุดในชาเขียว EGCG มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านพังผืด ต้านการปรับโครงสร้าง และปกป้องเนื้อเยื่อหลากหลายชนิด โดยอาจมีประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็ง ระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ และการเผาผลาญอาหาร

    6_Silybum marianum เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีหนาม มีชื่อเรียกทั่วไปหลายชนิด ได้แก่ milk thistle, Blessed milkthistle, Marian thistle, Mary thistle, Saint Mary's thistle, Mediterranean milk thistle, variegated thistle และ Scotch thistle พืชชนิดนี้เป็นพืชประจำปีหรือล้มลุกในวงศ์ Asteraceae (คล้ายดอกบานไม่รู้โรยกับไมยราพ ต้องศึกษาสรรพคุณ)
    ..อ่านเพลินๆ มะเร็งไม่ใช่โรค แต่เป็นโครงการของรัฐบาลลึก อ่านทุกคำ นี่ไม่ใช่ทฤษฎี นี่คือการประกาศสงครามกับชีววิทยาของคุณ ชนชั้นสูงสร้างมะเร็งขึ้นมา และคุณก็จมอยู่กับพิษของพวกเขามาตลอดชีวิต เซราไมด์ เป็นคำที่พวกเขาไม่เคยอยากให้คุณได้ยิน ไม่ใช่แค่โมเลกุล แต่เป็นระเบิดเวลาทางชีวเคมี คุณไม่ได้เกิดมาพัง คุณถูกสร้างมาให้ล้มเหลว เซราไมด์ถูกบรรจุอยู่ในน้ำมันเมล็ดพืช จีเอ็มโอ อาหารแปรรูป น้ำประปา ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แม้แต่นมผงสำหรับเด็ก สารทำลายไขมันเหล่านี้จะทำลายตับของคุณ รัดคอตับอ่อนของคุณ ทำลายการเผาผลาญของคุณ และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณพังทลาย ร่างกายของคุณกลายเป็นดินแดนรกร้างที่เป็นพิษ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับเนื้องอก นี่ไม่ใช่ผลข้างเคียง แต่เป็นการทำลายล้างโดยเจตนา การฉ้อโกงมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ของฟาวซีไม่ได้เกี่ยวกับการรักษาอะไร แต่เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมให้ร่างกายของคุณให้ป่วย สถาบันสุขภาพแห่งชาติไม่ได้พยายามหาทางรักษา พวกเขาให้ทุนสนับสนุนระบบนิเวศสงครามชีวภาพที่บริษัทยาขนาดใหญ่ฉีดโรค ขายเคมีบำบัด แสวงหากำไรจากความเจ็บปวด และทำซ้ำ เซราไมด์คือสวิตช์หยุดการทำงาน พวกมันกักเก็บความตายไว้ในเซลล์ไขมันของคุณ ส่งผลให้เลือดของคุณสูบฉีดพิษจากการเผาผลาญ มะเร็งไม่ใช่ "โชคร้าย" แต่คือแผน กลุ่มคนชั้นสูงเลี้ยงดูมัน ระดมทุน และกินมัน เคมีบำบัดไม่รักษาให้หาย มันทำให้ทรมานนานขึ้นในขณะที่เรียกเก็บเงินคุณเพื่อให้ตายช้าลง การฉายรังสี? มันคือการทำลายร่างกายของคุณอย่างมีการควบคุม แพทย์ทุกคนที่บอกคุณว่า "กินน้อยลง เคลื่อนไหวมากขึ้น" ล้วนเป็นคนโกหกหรือเป็นเบี้ย แต่ตอนนี้ม่านกำลังจะเปิดขึ้น พวกเขากลัวการดีท็อกซ์ พวกเขากลัวทุกสิ่งที่ขับเซราไมด์ออกจากระบบของคุณ เพราะนั่นคือรากฐานของคุกมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ของพวกเขา และตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้น Ikaria Lean Belly Juice ไม่ใช่ "สุขภาพ" แต่เป็นสงครามเคมีแบบย้อนกลับ ทุกช้อนคือการโจมตีกลุ่มการแพทย์ของ Deep State Fucoxanthin ทำลายคลัสเตอร์เซราไมด์ โสมสร้างภูมิคุ้มกันใหม่เพื่อค้นหาและทำลายเซลล์ที่ก่อกวน Bioperine ขยายการโจมตี Resveratrol ทำให้เนื้องอกอดอาหาร EGCG ซ่อมแซม DNA Milk Thistle สร้างตับของคุณขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ในการล้างพิษของร่างกาย นี่คือรหัสทำลายล้างที่จะทำลายระบบของพวกเขาจากภายใน ขับพิษ เผาอาณาจักรของพวกเขา คุณไม่ได้เกิดมาเพื่อป่วย คุณถูกทำให้ป่วย ตอนนี้ ทำให้พวกเขาต้องชดใช้ สงครามทั้งหมดเริ่มขึ้นภายในเซลล์ของคุณ นี่ไม่ใช่คำแนะนำด้านสุขภาพ นี่คือการกระทำแห่งการกบฏ 1_Ikaria Lean Belly Juice คือ อาหารเสริมประเภทผงที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการลดน้ำหนัก โดยอ้างว่าช่วยเผาผลาญไขมัน ลดความอยากอาหาร และเพิ่มพลังงาน โดยอ้างอิงจากส่วนผสมจากธรรมชาติ 2_ฟูโคแซนธิน (Fucoxanthin) คือ สารสีส้มในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ที่พบได้ในสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล ทำหน้าที่เป็นสารเก็บเกี่ยวแสงและป้องกันแสงในสาหร่าย นอกจากนี้ ฟูโคแซนธินยังมีคุณสมบัติทางชีวภาพมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง และต้านโรคอ้วน 3_ไบโอเพอรีน (BioPerine) คือ สารสกัดจากพริกไทยดำที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งมีสารสำคัญคือ ไพเพอรีน (Piperine) ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย โดยทั่วไปมีปริมาณไพเพอรีนอย่างน้อย 95%. ไบโอเพอรีนถูกใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารและส่วนผสมอื่นๆ ในร่างกาย สรุป: ไบโอเพอรีนคือสารสกัดจากพริกไทยดำที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารและส่วนผสมอื่นๆ ในร่างกาย 4_เรสเวอราทรอล (Resveratrol) คือ สารประกอบโพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่พบได้ในพืชหลายชนิด โดยเฉพาะในองุ่นแดง, เบอร์รี่, ถั่วลิสง, และไวน์แดง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ, ชะลอความเสื่อมของเซลล์, และอาจมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคมะเร็ง 5_Epigallocatechin-3-gallate (EGCG) เป็นโพลีฟีนอลที่พบมากที่สุดในชาเขียว EGCG มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านพังผืด ต้านการปรับโครงสร้าง และปกป้องเนื้อเยื่อหลากหลายชนิด โดยอาจมีประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็ง ระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ และการเผาผลาญอาหาร 6_Silybum marianum เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีหนาม มีชื่อเรียกทั่วไปหลายชนิด ได้แก่ milk thistle, Blessed milkthistle, Marian thistle, Mary thistle, Saint Mary's thistle, Mediterranean milk thistle, variegated thistle และ Scotch thistle พืชชนิดนี้เป็นพืชประจำปีหรือล้มลุกในวงศ์ Asteraceae (คล้ายดอกบานไม่รู้โรยกับไมยราพ ต้องศึกษาสรรพคุณ)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เตียงmedbeds น่าจะเปิดตัวในไทยเร็วๆนี้เช่นกันและจะดีมากต่อคนรับวัคซีนไปแล้ว,นายกฯคนใหม่ต้องจริงใจประกาศฟื้นฟูสุขภาพการรักษาคนได้รับการบาดเจ็บจากอาวุธชีวภาพจากพิษวัคซีนโควิดได้แล้ว,เปลี่ยนรัฐบาลก็ต้องเปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้นจริงๆ.เช่นกัน,จริงๆให้คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ตั้งเดอะทีมหลักทีมรองทีมย่อยในนามภาคมหามวลประชาชนขึ้นวิจัยทดลองงานบริหารจัดการปกครองประเทศสัก10-20ปีในนามภาคประชาชนแทนภาคนักการเมืองดูก็ดีก็ได้,เพราะสาระพัดสีเสื้อไทยได้รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อประชาชนเพื่อชาติแล้วมากมายหลากหลายคณะที่เจอต้นตอปัญหาจริงทุจริตเห็นด้วยตาจริงในหมู่องค์กรหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ชั่วเลวสมคบคิดกันจึงได้ออกมาประท้วงลงถนนในแต่ละคณะจนมารวมเป็นหมู่คณะมหาภาคใหญ่มากมายในนามคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา,สมควรให้อาสนธิขึ้นเป็นนายกฯก็ได้หากมิใช่คนของdeep stateอะไรก็ว่า,ลูกทักษิณ2คนก็เป็นนายกแล้วกระทั่งตัวทักษิณเอง ,อาสนธิและทีมคณะรักแผ่นดินไทยจะขึ้นบริหารชาติจะเป็นอะไร,จัดชุดทีมรุกรบฉุกเฉินแต่ละทัพหลักทัพย่อยสบายประสานกันลงหน้างานจริงแก่ปัญหาประชาชนจริงทั่วประเทศเพราะยุคใหม่ที่จะมาถึงหนักหนาสาหัสมากจึงจะผ่านพ้นไปได้เพราะความสามัคคีทุกๆฝ่ายที่มีใจรักชาติไทยรักแผ่นดินไทยเราเท่านั้นถึจะตีผ่าออกไปได้,ประชาชนเราพร้อม ทหารตำรวจผู้รักชาติเราพร้อมอยู่แล้ว ,ถีบรัฐบาลสมยอมออกไปแล้วที่ไม่พร้อมห่าเหวอะไรเลย,เรา..ต้องเร่งรีบจัดขบวนทัพใหม่ทันทีจริง.,และสุขภาพคนไทยต้องได้รับการฟื้นฟูรักษาอย่างเร่งด่วนให้ถูกทางควบคู่ขนาดเทคโนโลยีล้ำๆกับสมุนไพรไทยเราด้วยจะฟื้นฟูได้รวดเร็วในการรักษาแน่นอน.
    ..
    ..เปิดตัว IONIC Care ROBERT F. KENNEDY JR: เราจะทำให้ประเทศอเมริกามีสุขภาพดีอีกครั้ง - และเริ่มต้นทันที!

    อเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสุขภาพ โรคเรื้อรังกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีความดันโลหิตสูง เบาหวาน การอักเสบ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง และภาวะทางระบบประสาทที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้าน โรคหัวใจ อาการปวดข้อ และความเหนื่อยล้ากำลังส่งผลกระทบ และยาแผนปัจจุบันไม่เพียงพอ เราต้องการโซลูชันที่ทำงานร่วมกับร่างกายเพื่อการรักษาที่แท้จริง

    นั่นคือเหตุผลที่เราเปิดตัว IONIC Care เพราะชาวอเมริกันสมควรได้รับโซลูชันที่แท้จริง เรากำลังนำการบำบัดด้วยความถี่ขั้นสูงและพลังงานการแพทย์มาสู่ประชาชนโดยตรง โดยใช้พลังของการบำบัดด้วยเทราเฮิรตซ์และการบำบัดด้วยควอนตัมเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว สร้างใหม่ และเจริญเติบโต

    เรากำลังรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 50% เพื่อให้เข้าถึงได้สำหรับผู้คนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    เรายืนหยัดเคียงข้างผู้คนนับล้านที่กลับมาควบคุมและเลือกการรักษาที่แท้จริง ได้เวลาแล้วที่จะกำหนดนิยามการดูแลสุขภาพใหม่และให้การรักษากลับไปอยู่ในมือของประชาชน!

    ..เตียงmedbeds น่าจะเปิดตัวในไทยเร็วๆนี้เช่นกันและจะดีมากต่อคนรับวัคซีนไปแล้ว,นายกฯคนใหม่ต้องจริงใจประกาศฟื้นฟูสุขภาพการรักษาคนได้รับการบาดเจ็บจากอาวุธชีวภาพจากพิษวัคซีนโควิดได้แล้ว,เปลี่ยนรัฐบาลก็ต้องเปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้นจริงๆ.เช่นกัน,จริงๆให้คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ตั้งเดอะทีมหลักทีมรองทีมย่อยในนามภาคมหามวลประชาชนขึ้นวิจัยทดลองงานบริหารจัดการปกครองประเทศสัก10-20ปีในนามภาคประชาชนแทนภาคนักการเมืองดูก็ดีก็ได้,เพราะสาระพัดสีเสื้อไทยได้รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อประชาชนเพื่อชาติแล้วมากมายหลากหลายคณะที่เจอต้นตอปัญหาจริงทุจริตเห็นด้วยตาจริงในหมู่องค์กรหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ชั่วเลวสมคบคิดกันจึงได้ออกมาประท้วงลงถนนในแต่ละคณะจนมารวมเป็นหมู่คณะมหาภาคใหญ่มากมายในนามคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา,สมควรให้อาสนธิขึ้นเป็นนายกฯก็ได้หากมิใช่คนของdeep stateอะไรก็ว่า,ลูกทักษิณ2คนก็เป็นนายกแล้วกระทั่งตัวทักษิณเอง ,อาสนธิและทีมคณะรักแผ่นดินไทยจะขึ้นบริหารชาติจะเป็นอะไร,จัดชุดทีมรุกรบฉุกเฉินแต่ละทัพหลักทัพย่อยสบายประสานกันลงหน้างานจริงแก่ปัญหาประชาชนจริงทั่วประเทศเพราะยุคใหม่ที่จะมาถึงหนักหนาสาหัสมากจึงจะผ่านพ้นไปได้เพราะความสามัคคีทุกๆฝ่ายที่มีใจรักชาติไทยรักแผ่นดินไทยเราเท่านั้นถึจะตีผ่าออกไปได้,ประชาชนเราพร้อม ทหารตำรวจผู้รักชาติเราพร้อมอยู่แล้ว ,ถีบรัฐบาลสมยอมออกไปแล้วที่ไม่พร้อมห่าเหวอะไรเลย,เรา..ต้องเร่งรีบจัดขบวนทัพใหม่ทันทีจริง.,และสุขภาพคนไทยต้องได้รับการฟื้นฟูรักษาอย่างเร่งด่วนให้ถูกทางควบคู่ขนาดเทคโนโลยีล้ำๆกับสมุนไพรไทยเราด้วยจะฟื้นฟูได้รวดเร็วในการรักษาแน่นอน. .. ..เปิดตัว IONIC Care 💥ROBERT F. KENNEDY JR: เราจะทำให้ประเทศอเมริกามีสุขภาพดีอีกครั้ง - และเริ่มต้นทันที! อเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสุขภาพ โรคเรื้อรังกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีความดันโลหิตสูง เบาหวาน การอักเสบ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง และภาวะทางระบบประสาทที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้าน โรคหัวใจ อาการปวดข้อ และความเหนื่อยล้ากำลังส่งผลกระทบ และยาแผนปัจจุบันไม่เพียงพอ เราต้องการโซลูชันที่ทำงานร่วมกับร่างกายเพื่อการรักษาที่แท้จริง นั่นคือเหตุผลที่เราเปิดตัว IONIC Care เพราะชาวอเมริกันสมควรได้รับโซลูชันที่แท้จริง เรากำลังนำการบำบัดด้วยความถี่ขั้นสูงและพลังงานการแพทย์มาสู่ประชาชนโดยตรง โดยใช้พลังของการบำบัดด้วยเทราเฮิรตซ์และการบำบัดด้วยควอนตัมเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว สร้างใหม่ และเจริญเติบโต เรากำลังรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 50% เพื่อให้เข้าถึงได้สำหรับผู้คนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรายืนหยัดเคียงข้างผู้คนนับล้านที่กลับมาควบคุมและเลือกการรักษาที่แท้จริง ได้เวลาแล้วที่จะกำหนดนิยามการดูแลสุขภาพใหม่และให้การรักษากลับไปอยู่ในมือของประชาชน!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สัปดาห์นี้ยังคงพูดถึงนิยาย/ละครแนวเทพเซียน

    เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่าสัตว์เทพที่เราพบเจอในหลายนิยาย/ละครจีน ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอกเก้าหาง นกหงส์ฟ้าเฟิ่งหวง กิเลน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่มีบันทึกไว้ในเอกสารทางประวัติศาสตร์? เอกสารที่ว่านี้คือ “ซานไห่จิง” หรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน หนังสือแบ่งออกเป็นสิบแปดตอนประกอบด้วยบทแห่งขุนเขาและบทแห่งทะเล (Storyฯ เห็นมีแปลเป็นไทยวางขาย เพื่อนเพจที่สนใจสามารถหาอ่านได้)

    วันนี้เรามาเริ่มคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับคัมภีร์ซานไห่จิงด้วย ‘สมาชิก’ ของคัมภีร์ฯ ที่เพื่อนเพจอาจไม่คุ้นหน้า แต่ถ้าใครได้ดูละครเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ก็จะได้เห็นเจ้าสัตว์เทพหน้าตาประหลาดตามรูป (รูปซ้ายล่าง) มีชื่อเรียกว่า “คายหมิงโซ่ว” (开明兽) มันมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจีนที่เราคุ้นหู

    ความมีอยู่ว่า
    ...ที่ยอดเขามิรู้ปรากฎใบหน้าแปลกประหลาดโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใด ตัวคล้ายสิงโต แต่ก็คล้ายสุนัข ที่แปลกที่สุดคือเศียรอันใหญ่ยังรายล้อมไปด้วยเศียรเล็กๆ หน้าตาเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว แต่ละเศียรกำลังเบิ่งตาโตมองสุราและไก่ย่างในมือของพวกเขา ทำท่าราวกับว่ากำลังจะน้ำลายไหลออกมา...
    - จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง
    (หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    จริงๆ แล้วตามคัมภีร์ซานไห่จิงนั้นคายหมิงโซ่วมีลำตัวเป็นเสือยักษ์ (รูปล่างขวาจากบันทึกซันไห่จิง จะเห็นลายพาดกลอนชัดเจน) ไม่ใช่สิงโต ซึ่งต่างจากลักษณะในละคร มีเก้าเศียรและใบหน้าเป็นคน มันเป็นสัตว์เทพที่ดุร้ายมีพละกำลังเกินสัตว์ทั่วไป สามารถสัมผัสได้ถึงทุกสรรพสิ่งที่เข้าใกล้

    คายหมิงโซ่วเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้น ซึ่งตามตำนานนั้นสูงจรดฟ้าอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ด้านตะวันตกมีประตูทางเข้าสู่เขตแดนสวรรค์อยู่เก้าประตู คายหมิงโซ่วมีหน้าที่คอยเฝ้าประตูทั้งเก้านี้ หนึ่งเศียรหันดูหนึ่งประตู ดวงตาไม่เคยหลับ เพื่อปกป้องไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนความสงบของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จึงไม่แปลกที่เราไม่ค่อยเห็นคายหมิงโซ่วออกมาเพ่นพ่านในนิยาย/ละครแนวเทพเซียนทั่วไป เนื่องจากมันมีสถานที่ที่ต้องอยู่โยงเฝ้าประจำนั่นเอง

    วันนี้คุยกันเบาะๆ กับสัตว์เทพที่ไม่ค่อยพบเจอ แต่คราวหน้าเราจะมาคุยกันถึงสัตว์เทพที่เพื่อนเพจส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือจิ้งจอกเก้าหาง ใครเป็นแฟนคลับป๋ายเฉี่ยนแห่งสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่อย่าลืมมาติดตามตอนต่อไปนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.cdramalove.com/love-and-redemption-summary/
    https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a
    https://baike.baidu.com/item/%E5%BC%80%E6%98%8E%E5%85%BD/3390243
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/144025393

    #ปลดผนึกหัวใจ #ตำนานจีน #คายหมิงโซ่ว #ซานไห่จิง #StoryfromStory
    สัปดาห์นี้ยังคงพูดถึงนิยาย/ละครแนวเทพเซียน เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่าสัตว์เทพที่เราพบเจอในหลายนิยาย/ละครจีน ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอกเก้าหาง นกหงส์ฟ้าเฟิ่งหวง กิเลน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่มีบันทึกไว้ในเอกสารทางประวัติศาสตร์? เอกสารที่ว่านี้คือ “ซานไห่จิง” หรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน หนังสือแบ่งออกเป็นสิบแปดตอนประกอบด้วยบทแห่งขุนเขาและบทแห่งทะเล (Storyฯ เห็นมีแปลเป็นไทยวางขาย เพื่อนเพจที่สนใจสามารถหาอ่านได้) วันนี้เรามาเริ่มคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับคัมภีร์ซานไห่จิงด้วย ‘สมาชิก’ ของคัมภีร์ฯ ที่เพื่อนเพจอาจไม่คุ้นหน้า แต่ถ้าใครได้ดูละครเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ก็จะได้เห็นเจ้าสัตว์เทพหน้าตาประหลาดตามรูป (รูปซ้ายล่าง) มีชื่อเรียกว่า “คายหมิงโซ่ว” (开明兽) มันมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจีนที่เราคุ้นหู ความมีอยู่ว่า ...ที่ยอดเขามิรู้ปรากฎใบหน้าแปลกประหลาดโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใด ตัวคล้ายสิงโต แต่ก็คล้ายสุนัข ที่แปลกที่สุดคือเศียรอันใหญ่ยังรายล้อมไปด้วยเศียรเล็กๆ หน้าตาเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว แต่ละเศียรกำลังเบิ่งตาโตมองสุราและไก่ย่างในมือของพวกเขา ทำท่าราวกับว่ากำลังจะน้ำลายไหลออกมา... - จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง (หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) จริงๆ แล้วตามคัมภีร์ซานไห่จิงนั้นคายหมิงโซ่วมีลำตัวเป็นเสือยักษ์ (รูปล่างขวาจากบันทึกซันไห่จิง จะเห็นลายพาดกลอนชัดเจน) ไม่ใช่สิงโต ซึ่งต่างจากลักษณะในละคร มีเก้าเศียรและใบหน้าเป็นคน มันเป็นสัตว์เทพที่ดุร้ายมีพละกำลังเกินสัตว์ทั่วไป สามารถสัมผัสได้ถึงทุกสรรพสิ่งที่เข้าใกล้ คายหมิงโซ่วเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้น ซึ่งตามตำนานนั้นสูงจรดฟ้าอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ด้านตะวันตกมีประตูทางเข้าสู่เขตแดนสวรรค์อยู่เก้าประตู คายหมิงโซ่วมีหน้าที่คอยเฝ้าประตูทั้งเก้านี้ หนึ่งเศียรหันดูหนึ่งประตู ดวงตาไม่เคยหลับ เพื่อปกป้องไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนความสงบของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จึงไม่แปลกที่เราไม่ค่อยเห็นคายหมิงโซ่วออกมาเพ่นพ่านในนิยาย/ละครแนวเทพเซียนทั่วไป เนื่องจากมันมีสถานที่ที่ต้องอยู่โยงเฝ้าประจำนั่นเอง วันนี้คุยกันเบาะๆ กับสัตว์เทพที่ไม่ค่อยพบเจอ แต่คราวหน้าเราจะมาคุยกันถึงสัตว์เทพที่เพื่อนเพจส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือจิ้งจอกเก้าหาง ใครเป็นแฟนคลับป๋ายเฉี่ยนแห่งสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่อย่าลืมมาติดตามตอนต่อไปนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://www.cdramalove.com/love-and-redemption-summary/ https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a https://baike.baidu.com/item/%E5%BC%80%E6%98%8E%E5%85%BD/3390243 https://zhuanlan.zhihu.com/p/144025393 #ปลดผนึกหัวใจ #ตำนานจีน #คายหมิงโซ่ว #ซานไห่จิง #StoryfromStory
    WWW.CDRAMALOVE.COM
    Love And Redemption Summary - C-Drama Love - Show Summary
    Chinese Drama Love And Redemption Summary (琉璃) The drama tells the story of Chu Xuan Ji, a girl born with an incomplete "sixth sense", and Yu
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ คนทรยศ รู้ข่าวล่วงหน้า ว่าโดนสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ น้ำตาแตกกลางวงประชุม ออกมาเจอสื่อจึงมีสภาพตาบวมตามภาพ
    #7ดอกจิก
    #นายกไทยหัวใจเขมร
    #หลานอังเคิลมีน้ำตา
    ♣️ นายกฯ คนทรยศ รู้ข่าวล่วงหน้า ว่าโดนสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ น้ำตาแตกกลางวงประชุม ออกมาเจอสื่อจึงมีสภาพตาบวมตามภาพ #7ดอกจิก #นายกไทยหัวใจเขมร #หลานอังเคิลมีน้ำตา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กลัวความคิดไม่ดี...คือการให้อาหารมันอยู่ทุกวัน"

    หลายคนกังวลใจ
    กลัวว่าตัวเอง คิดไม่ดีบ่อยเกินไป
    ควบคุมไม่ได้ หยุดไม่ได้
    กลัวว่าถ้าตายไปตอนที่ใจยังคิดไม่ดี...
    จะตกนรก!

    แต่ความจริงคือ...
    ❝ ความกลัว ❞
    คืออาหารชั้นดี
    ของความคิดฟุ้งซ่านและอกุศลทั้งหลาย

    คุณยิ่งกลัว…
    มันยิ่งเกาะแน่น
    เพราะคุณกำลัง "ต่อสู้"
    แต่การต่อสู้ในใจ ไม่เคยทำให้สงบ
    มันแค่เติมเชื้อเพลิงให้อารมณ์ร้ายแรงขึ้นเท่านั้น

    สิ่งสำคัญที่ต้องถามคือ...คุณ "เจตนา" หรือไม่?

    ไม่ได้เจตนาเข้าข้างความชั่ว
    แต่แค่ความคิดมันผุดขึ้นมาเอง
    โดยที่คุณไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ
    นั่นไม่ใช่กรรมของคุณ!

    มันเป็นเพียง เงาแห่งความทรงจำ
    แค่เศษเสี้ยวของอดีตที่โผล่มาในรูปของความคิด
    ถ้าคุณไม่ร่วมวงด้วย ไม่คล้อยตามมัน
    มันก็แค่ “เสียงลม” ที่มา แล้วก็ไป...

    แล้วจะทำยังไง ให้จิตคิดดีมากขึ้น?

    หัดสวดมนต์ด้วยหัวใจถวาย ไม่ใช่เพื่อขอ
    โดยเฉพาะบท อิติปิโส
    เพราะเป็นบทที่สรรเสริญคุณพระศรีรัตนตรัย
    ไม่มีคำขอ ไม่มีเงื่อนไข
    มีแต่การแผ่ใจออกไปอย่างบริสุทธิ์

    และเมื่อจิตแผ่ออกด้วยศรัทธาบริสุทธิ์
    จิตจะ กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เอง
    ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายนอก
    แต่เป็นความสว่างจากภายในที่ “แผ่ไล่ความมืด” ได้

    ❝ จิตไม่ใช่บุคคล แต่เป็นสิ่งปรุงแต่ง
    เมื่อจิตน้อมบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด
    จิตย่อมแปรเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเสียเอง ❞

    หยุดกลัวความคิดไม่ดี
    แล้วเริ่มน้อมจิตให้สูง
    ไม่ต้องไล่มัน แค่เปลี่ยนใจเราทั้งดวง
    ให้กลายเป็น “ของดี” ที่อัปมงคลแทรกไม่ได้

    #คิดไม่ดีไม่ใช่บาปถ้าไม่เจตนา
    #ธรรมะแบบเข้าใจหัวใจคนเจอของจริง
    #อิติปิโส
    #สวดมนต์ให้จิตสว่าง
    #พลังพุทธคุณคือพลังพ้นทุกข์
    🌪️ "กลัวความคิดไม่ดี...คือการให้อาหารมันอยู่ทุกวัน" หลายคนกังวลใจ กลัวว่าตัวเอง คิดไม่ดีบ่อยเกินไป ควบคุมไม่ได้ หยุดไม่ได้ กลัวว่าถ้าตายไปตอนที่ใจยังคิดไม่ดี... จะตกนรก! แต่ความจริงคือ... ❝ ความกลัว ❞ คืออาหารชั้นดี ของความคิดฟุ้งซ่านและอกุศลทั้งหลาย คุณยิ่งกลัว… มันยิ่งเกาะแน่น เพราะคุณกำลัง "ต่อสู้" แต่การต่อสู้ในใจ ไม่เคยทำให้สงบ มันแค่เติมเชื้อเพลิงให้อารมณ์ร้ายแรงขึ้นเท่านั้น 🌱 สิ่งสำคัญที่ต้องถามคือ...คุณ "เจตนา" หรือไม่? ไม่ได้เจตนาเข้าข้างความชั่ว แต่แค่ความคิดมันผุดขึ้นมาเอง โดยที่คุณไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ นั่นไม่ใช่กรรมของคุณ! มันเป็นเพียง เงาแห่งความทรงจำ แค่เศษเสี้ยวของอดีตที่โผล่มาในรูปของความคิด ถ้าคุณไม่ร่วมวงด้วย ไม่คล้อยตามมัน มันก็แค่ “เสียงลม” ที่มา แล้วก็ไป... 🕯️ แล้วจะทำยังไง ให้จิตคิดดีมากขึ้น? หัดสวดมนต์ด้วยหัวใจถวาย ไม่ใช่เพื่อขอ โดยเฉพาะบท อิติปิโส เพราะเป็นบทที่สรรเสริญคุณพระศรีรัตนตรัย ไม่มีคำขอ ไม่มีเงื่อนไข มีแต่การแผ่ใจออกไปอย่างบริสุทธิ์ และเมื่อจิตแผ่ออกด้วยศรัทธาบริสุทธิ์ จิตจะ กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เอง ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายนอก แต่เป็นความสว่างจากภายในที่ “แผ่ไล่ความมืด” ได้ ✨ ❝ จิตไม่ใช่บุคคล แต่เป็นสิ่งปรุงแต่ง เมื่อจิตน้อมบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด จิตย่อมแปรเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเสียเอง ❞ หยุดกลัวความคิดไม่ดี แล้วเริ่มน้อมจิตให้สูง ไม่ต้องไล่มัน แค่เปลี่ยนใจเราทั้งดวง ให้กลายเป็น “ของดี” ที่อัปมงคลแทรกไม่ได้ #คิดไม่ดีไม่ใช่บาปถ้าไม่เจตนา #ธรรมะแบบเข้าใจหัวใจคนเจอของจริง #อิติปิโส #สวดมนต์ให้จิตสว่าง #พลังพุทธคุณคือพลังพ้นทุกข์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • แทนที่หมอจะต้องผ่าตัดเปิดหน้าอกแบบเดิม ๆ โดยการเลื่อยกระดูกหน้าอกออก ทีมศัลยแพทย์ของ Baylor ใช้ “หุ่นยนต์ศัลยกรรมขั้นสูง” ควบคุมจากคอนโซลภายนอก เพื่อสั่งให้แขนหุ่นยนต์ขนาดเล็กเข้าไปเจาะจงที่จุดต่าง ๆ รอบช่องอก โดย ไม่ต้องแตะกระดูกหน้าอกแม้แต่นิดเดียว

    ข้อดีคือ:
    - ผู้ป่วยเจ็บน้อยกว่า
    - เสียเลือดน้อยกว่า
    - แผลหายเร็วกว่า และที่สำคัญคือ
    - ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากของผู้ป่วยเปลี่ยนหัวใจที่ต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน

    หมอที่นำทีมชื่อว่า ดร. Kenneth Liao ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านผ่าตัดหัวใจด้วยหุ่นยนต์มานาน กล่าวว่าความแม่นยำและการเคลื่อนไหวของแขนหุ่นยนต์ "สามารถทำสิ่งที่มือมนุษย์ทำไม่ได้ในพื้นที่จำกัด"

    ในการผ่าตัด เข้าทางช่อง preperitoneal space (ช่องว่างใต้อก) แล้วค่อย ๆ ดึงหัวใจเดิมออกและใส่หัวใจใหม่เข้าไปอย่างแม่นยำ — ทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องเปิดอกเลย

    ผู้ป่วยเป็นชายวัย 45 ปีที่เป็นโรคหัวใจระยะสุดท้าย เขาฟื้นตัวเร็วมาก ใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลแค่เดือนเดียว และกลับบ้านได้โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

    เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจแบบใช้หุ่นยนต์เต็มรูปแบบ (fully robotic) ครั้งแรกของสหรัฐฯ  
    • ดำเนินการโดย Baylor St. Luke’s Medical Center, Houston  
    • ใช้หุ่นยนต์ควบคุมจากคอนโซลผ่านแผลเล็ก แทนการเปิดอก

    คนไข้เป็นชายวัย 45 ปีที่ป่วยด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวระยะรุนแรง  
    • นอนโรงพยาบาลมาหลายเดือนก่อนทำการผ่าตัด  
    • ฟื้นตัวเร็วหลังผ่าตัด โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

    หุ่นยนต์ศัลยกรรมสามารถเคลื่อนไหวในมุมที่มือคนทำไม่ได้  
    • ช่วยผ่าตัดในพื้นที่แคบได้อย่างแม่นยำ  
    • ลดอาการปวด, ลดเลือดออก, ลดการต้องใช้เลือดสำรอง

    การผ่าตัดผ่านช่อง preperitoneal space ช่วยหลีกเลี่ยงการตัดกระดูกหน้าอก  
    • ลดผลกระทบด้านโครงสร้างร่างกายและการเคลื่อนไหวหลังผ่าตัด

    โรงพยาบาลคาดว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูเร็วขึ้น  
    • มีแผนขยายการใช้หุ่นยนต์ในศัลยกรรมหัวใจอย่างแพร่หลาย

    https://www.techspot.com/news/108477-us-surgeons-complete-first-ever-heart-transplant-using.html
    แทนที่หมอจะต้องผ่าตัดเปิดหน้าอกแบบเดิม ๆ โดยการเลื่อยกระดูกหน้าอกออก ทีมศัลยแพทย์ของ Baylor ใช้ “หุ่นยนต์ศัลยกรรมขั้นสูง” ควบคุมจากคอนโซลภายนอก เพื่อสั่งให้แขนหุ่นยนต์ขนาดเล็กเข้าไปเจาะจงที่จุดต่าง ๆ รอบช่องอก โดย ไม่ต้องแตะกระดูกหน้าอกแม้แต่นิดเดียว ข้อดีคือ: - ผู้ป่วยเจ็บน้อยกว่า - เสียเลือดน้อยกว่า - แผลหายเร็วกว่า และที่สำคัญคือ - ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากของผู้ป่วยเปลี่ยนหัวใจที่ต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน หมอที่นำทีมชื่อว่า ดร. Kenneth Liao ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านผ่าตัดหัวใจด้วยหุ่นยนต์มานาน กล่าวว่าความแม่นยำและการเคลื่อนไหวของแขนหุ่นยนต์ "สามารถทำสิ่งที่มือมนุษย์ทำไม่ได้ในพื้นที่จำกัด" ในการผ่าตัด เข้าทางช่อง preperitoneal space (ช่องว่างใต้อก) แล้วค่อย ๆ ดึงหัวใจเดิมออกและใส่หัวใจใหม่เข้าไปอย่างแม่นยำ — ทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องเปิดอกเลย ผู้ป่วยเป็นชายวัย 45 ปีที่เป็นโรคหัวใจระยะสุดท้าย เขาฟื้นตัวเร็วมาก ใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลแค่เดือนเดียว และกลับบ้านได้โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน ✅ เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจแบบใช้หุ่นยนต์เต็มรูปแบบ (fully robotic) ครั้งแรกของสหรัฐฯ   • ดำเนินการโดย Baylor St. Luke’s Medical Center, Houston   • ใช้หุ่นยนต์ควบคุมจากคอนโซลผ่านแผลเล็ก แทนการเปิดอก ✅ คนไข้เป็นชายวัย 45 ปีที่ป่วยด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวระยะรุนแรง   • นอนโรงพยาบาลมาหลายเดือนก่อนทำการผ่าตัด   • ฟื้นตัวเร็วหลังผ่าตัด โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน ✅ หุ่นยนต์ศัลยกรรมสามารถเคลื่อนไหวในมุมที่มือคนทำไม่ได้   • ช่วยผ่าตัดในพื้นที่แคบได้อย่างแม่นยำ   • ลดอาการปวด, ลดเลือดออก, ลดการต้องใช้เลือดสำรอง ✅ การผ่าตัดผ่านช่อง preperitoneal space ช่วยหลีกเลี่ยงการตัดกระดูกหน้าอก   • ลดผลกระทบด้านโครงสร้างร่างกายและการเคลื่อนไหวหลังผ่าตัด ✅ โรงพยาบาลคาดว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูเร็วขึ้น   • มีแผนขยายการใช้หุ่นยนต์ในศัลยกรรมหัวใจอย่างแพร่หลาย https://www.techspot.com/news/108477-us-surgeons-complete-first-ever-heart-transplant-using.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US surgeons complete first-ever heart transplant using robotics
    The patient, a 45-year-old man hospitalized for months with severe heart failure, became the first in the United States to receive a heart transplant using a minimally...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..สมุนไพรดีๆปลูกสกัดทำยาให้โรงพยาบาลรัฐบาลไทยเราฟรีๆได้หมด,โดยรัฐบาลนั้นเป็นรัฐบาลภาคประชาชนจริงๆ จะมีวิธีการมากมายสร้างสรรค์สิ่งดีๆต่อประชาชน กระทั่งสร้่งรายได้ช่วยประชาชนอย่างยั่งยืนได้ แต่อดีตและถึงปัจจุบันเหี้ยหมด,เป็นรัฐบาลเพื่อกอบโกยใส่ตัว จากทุจริตโกงกินธรรมดาสู่พัฒนาการโกงกินเชิงนโยบาย แล้วก็พัฒนาการเปิดเผยถึงขนาดแลกอธิปไตยชาติในนามรัฐบาลตนเพื่อผลประโยชน์เดอะแก๊งตนพ้องพวกตนเป็นคณะและโคตรเหง้าวงศ์ตระกูลตนทั้งหมดผ่านอำนาจรัฐบาลที่ตนถือครอง,จึงเป็นอันมากที่เป็นต้นเหตุอัตราคนไทยถือบัตรคนจนพุ่งสูงขึ้น.,ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยเหลือเขาอย่างแท้จริงอะไรมากนัก,มอบสถานะที่บัดสบแก่ประชาชนคนไทยภายใต้การปกครองที่กากๆไม่สร้างสรรค์อะไร มุ่งแต่จะเอาเปรียบประชาชนคนในประเทศตนเอง แต่ยกสมบัติชาติของมีค่ามากเงินตราแก่ต่างชาตต่างประเทศให้เขาร่ำรวยฝ่ายเดียวเช่นบ่อน้ำมันบ่อทองคำเราเป็นต้น ตลอดกัญชาเสรีน้ำมันเขียวยาดีครอบจักรวาลก็ปิดกั้นองค์รู้ประชาชนไม่ตีแผ่ความดีประโยชน์จริงในการใช้ให้ถูกวิธี,สร้างตังรายได้ช่วยเหลือประชาชนก็ได้แต่ก็ทำมาหาแดกเอง.

    สรรพคุณของน้ำมันกัญชา สูตรท่าน อ.หมอเดชา ศิริภัทร

    สามารถหยุดการแพร่กระจายของมะเร็งไม่ให้ลุกลามและกำจัดเซลล์มะเร็งได้
    สามารถรักษาต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม
    สามารถรักษาและป้องกันโรคอัลไซเมอร์
    สามารถช่วยลดอาการอักเสบต่างๆของร่างกาย
    สามารถควบคุมและรักษาโรคลมชัก
    สามารถลดความเจ็บปวดจากโรคระบบประสาทส่วนกลางเสื่อม
    สามารถรักษาโรคโครห์น ความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ได้
    สามารถช่วยควบคุมและรักษาโรคพาร์กินสัน สมองเสื่อม
    สามารถลดความวิตกกังวล คลายเครียดได้
    สามารถช่วยในการยับยั้งการสร้างสารก่อมะเร็งและปรับปรุงสุขภาพปอดได้
    สามารถลดความเจ็บปวดและอาการแพ้จากเคมีบำบัดได้
    สามารถปรับปรุงอาการของโรคลูปัส หรือโรค SLE หรือโรคพุ่มพวงได้
    สามารถช่วยป้องกันสมองจากความเสียหายของโรคหลอดเลือดสมองได้
    สามารถควบคุมกล้ามเนื้อกระตุกได้
    สามารถรักษาโรคลำไส้อักเสบ
    สามารถช่วยขจัดฝันร้ายและนอนไม่หลับ
    สามารถป้องกันสมองจากการถูกกระทบกระแทกและการบาดเจ็บ
    สามารถช่วยให้เจริญอาหารกินข้าวได้
    สามารถช่วยขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม
    สามารถแก้โรคบิดแก้ปวดท้องและโรคท้องร่วง
    สามารถช่วยแก้อาการประจำเดือนไม่ปกติของสตรี
    สามารถแก้โรคผิวหนังกลากเกลื้อนและสะเก็ดเงิน
    สามารถแก้ปวดและรักษาไมเกรน
    สามารถช่วยรักษาการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง
    สามารถช่วยบำบัดผู้ติดยาเสพติดชนิดรุนแรงเช่นเฮโรอีน
    สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตรักษาเบาหวานและโรคความดันสูง
    สามารถช่วยรักษาแผลสดแผลหายยากจากเบาหวานให้แห้งและหายได้
    สามารถช่วยทำให้มีอารมณ์เบิกบานแจ่มใสมีสมาธิและจิตใจสงบ
    สามารถช่วยผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV หรือเอดส์ให้สามารถใช้ชีวิตได้ดีและมีอายุยืนนาน
    สามารถรักษาและช่วยป้องกันโรคตับแข็ง
    สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
    สามารถช่วยรักษาอาการกระดูกหักให้หายไวขึ้นและยังทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นด้วย
    สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายของระบบเส้นประสาททั้งร่างกายและระบบเชื่อมต่อในสมอง
    สามารถช่วยรักษาไทรอยด์เป็นพิษช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน
    สามารถรักษาความอ้วนผิดปกติ
    สามารถรักษาและป้องกันโรคไขมันในเลือดสูง
    สามารถรักษาโรคเก๊าท์ข้อเข่าเสื่อมและรูมาตอยด์ได้
    สามารถทำให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงมากขึ้น
    สามารถรักษาและป้องกันจอประสาทตา
    สามารถรักษาอาการซึมเศร้า รักษาเสถียรภาพทางอารมณ์ โรคสมาธิสั้น และออทิสติก


    ..สมุนไพรดีๆปลูกสกัดทำยาให้โรงพยาบาลรัฐบาลไทยเราฟรีๆได้หมด,โดยรัฐบาลนั้นเป็นรัฐบาลภาคประชาชนจริงๆ จะมีวิธีการมากมายสร้างสรรค์สิ่งดีๆต่อประชาชน กระทั่งสร้่งรายได้ช่วยประชาชนอย่างยั่งยืนได้ แต่อดีตและถึงปัจจุบันเหี้ยหมด,เป็นรัฐบาลเพื่อกอบโกยใส่ตัว จากทุจริตโกงกินธรรมดาสู่พัฒนาการโกงกินเชิงนโยบาย แล้วก็พัฒนาการเปิดเผยถึงขนาดแลกอธิปไตยชาติในนามรัฐบาลตนเพื่อผลประโยชน์เดอะแก๊งตนพ้องพวกตนเป็นคณะและโคตรเหง้าวงศ์ตระกูลตนทั้งหมดผ่านอำนาจรัฐบาลที่ตนถือครอง,จึงเป็นอันมากที่เป็นต้นเหตุอัตราคนไทยถือบัตรคนจนพุ่งสูงขึ้น.,ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยเหลือเขาอย่างแท้จริงอะไรมากนัก,มอบสถานะที่บัดสบแก่ประชาชนคนไทยภายใต้การปกครองที่กากๆไม่สร้างสรรค์อะไร มุ่งแต่จะเอาเปรียบประชาชนคนในประเทศตนเอง แต่ยกสมบัติชาติของมีค่ามากเงินตราแก่ต่างชาตต่างประเทศให้เขาร่ำรวยฝ่ายเดียวเช่นบ่อน้ำมันบ่อทองคำเราเป็นต้น ตลอดกัญชาเสรีน้ำมันเขียวยาดีครอบจักรวาลก็ปิดกั้นองค์รู้ประชาชนไม่ตีแผ่ความดีประโยชน์จริงในการใช้ให้ถูกวิธี,สร้างตังรายได้ช่วยเหลือประชาชนก็ได้แต่ก็ทำมาหาแดกเอง. ☘️☘️🌷🌷👉 สรรพคุณของน้ำมันกัญชา สูตรท่าน อ.หมอเดชา ศิริภัทร 🌱🌷 สามารถหยุดการแพร่กระจายของมะเร็งไม่ให้ลุกลามและกำจัดเซลล์มะเร็งได้ 🌱 🌷 สามารถรักษาต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม 🌱🌷 สามารถรักษาและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ 🌱 🌷 สามารถช่วยลดอาการอักเสบต่างๆของร่างกาย 🌱🌷 สามารถควบคุมและรักษาโรคลมชัก 🌱🌷 สามารถลดความเจ็บปวดจากโรคระบบประสาทส่วนกลางเสื่อม 🌱🌷 สามารถรักษาโรคโครห์น ความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ได้ 🌱🌷 สามารถช่วยควบคุมและรักษาโรคพาร์กินสัน สมองเสื่อม 🌱🌷 สามารถลดความวิตกกังวล คลายเครียดได้ 🌱🌷 สามารถช่วยในการยับยั้งการสร้างสารก่อมะเร็งและปรับปรุงสุขภาพปอดได้ 🌱🌷 สามารถลดความเจ็บปวดและอาการแพ้จากเคมีบำบัดได้ 🌱🌷 สามารถปรับปรุงอาการของโรคลูปัส หรือโรค SLE หรือโรคพุ่มพวงได้ 🌱🌷 สามารถช่วยป้องกันสมองจากความเสียหายของโรคหลอดเลือดสมองได้ 🌱🌷 สามารถควบคุมกล้ามเนื้อกระตุกได้ 🌱🌷 สามารถรักษาโรคลำไส้อักเสบ 🌱🌷 สามารถช่วยขจัดฝันร้ายและนอนไม่หลับ 🌱🌷 สามารถป้องกันสมองจากการถูกกระทบกระแทกและการบาดเจ็บ 🌱🌷 สามารถช่วยให้เจริญอาหารกินข้าวได้ 🌱🌷 สามารถช่วยขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม 🌱🌷 สามารถแก้โรคบิดแก้ปวดท้องและโรคท้องร่วง 🌱🌷 สามารถช่วยแก้อาการประจำเดือนไม่ปกติของสตรี 🌱🌷 สามารถแก้โรคผิวหนังกลากเกลื้อนและสะเก็ดเงิน 🌱🌷 สามารถแก้ปวดและรักษาไมเกรน 🌱🌷 สามารถช่วยรักษาการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง 🌱🌷 สามารถช่วยบำบัดผู้ติดยาเสพติดชนิดรุนแรงเช่นเฮโรอีน 🌱🌷 สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตรักษาเบาหวานและโรคความดันสูง 🌱🌷 สามารถช่วยรักษาแผลสดแผลหายยากจากเบาหวานให้แห้งและหายได้ 🌱🌷 สามารถช่วยทำให้มีอารมณ์เบิกบานแจ่มใสมีสมาธิและจิตใจสงบ 🌱🌷 สามารถช่วยผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV หรือเอดส์ให้สามารถใช้ชีวิตได้ดีและมีอายุยืนนาน 🌱🌷 สามารถรักษาและช่วยป้องกันโรคตับแข็ง 🌱🌷 สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น 🌱🌷 สามารถช่วยรักษาอาการกระดูกหักให้หายไวขึ้นและยังทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นด้วย 🌱🌷 สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายของระบบเส้นประสาททั้งร่างกายและระบบเชื่อมต่อในสมอง 🌱🌷 สามารถช่วยรักษาไทรอยด์เป็นพิษช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน 🌱🌷 สามารถรักษาความอ้วนผิดปกติ 🌱🌷 สามารถรักษาและป้องกันโรคไขมันในเลือดสูง 🌱🌷 สามารถรักษาโรคเก๊าท์ข้อเข่าเสื่อมและรูมาตอยด์ได้ 🌱🌷 สามารถทำให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงมากขึ้น 🌱🌷 สามารถรักษาและป้องกันจอประสาทตา 🌱🌷 สามารถรักษาอาการซึมเศร้า รักษาเสถียรภาพทางอารมณ์ โรคสมาธิสั้น และออทิสติก ☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts