• พท.หวัง ร่างกม.นิรโทษกรรมฯ เป็นแนวทางทำให้สังคมกลับมาสมานฉันท์-เดินหน้าประเทศอีกครั้ง
    https://www.thai-tai.tv/news/19864/
    พท.หวัง ร่างกม.นิรโทษกรรมฯ เป็นแนวทางทำให้สังคมกลับมาสมานฉันท์-เดินหน้าประเทศอีกครั้ง https://www.thai-tai.tv/news/19864/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน้าที่หลักของนายกรัฐมนตรี (Prime Minister) ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล ตามระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (เช่น ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น) มีดังนี้:

    1. **เป็นหัวหน้ารัฐบาล:**
    * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดิน
    * กำหนดนโยบายของคณะรัฐมนตรี (Cabinet) และรับผิดชอบต่อการดำเนินนโยบายนั้น
    * คุมทิศทางและประสานงานการทำงานของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ

    2. **คัดเลือกและจัดตั้งคณะรัฐมนตรี:**
    * เป็นผู้เสนอชื่อบุคคลเพื่อพระมหากษัตริย์ (ในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ) หรือประมุขแห่งรัฐ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี
    * มีอำนาจปรับเปลี่ยน (reshuffle) คณะรัฐมนตรี โดยการแต่งตั้งหรือถอดถอนรัฐมนตรี

    3. **เป็นผู้นำในรัฐสภา:**
    * แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา
    * ตอบคำถามและชี้แจงนโยบายในการอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา (เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ)
    * เสนอร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาลต่อรัฐสภา

    4. **เป็นโฆษกหลักของรัฐบาล:**
    * ชี้แจงนโยบายและสถานการณ์สำคัญของประเทศต่อสาธารณชน
    * เป็นตัวแทนของรัฐบาลในการแถลงข่าวหรือสื่อสารในประเด็นเร่งด่วนหรือสำคัญระดับชาติ

    5. **เป็นผู้แทนประเทศในเวทีระหว่างประเทศ:**
    * เป็นตัวแทนสูงสุดของรัฐบาลในการเยือนต่างประเทศและต้อนรับผู้นำต่างประเทศ
    * เข้าร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างประเทศ (เช่น การประชุมอาเซียน สหประชาชาติ G20)

    6. **เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี:**
    * เรียกประชุมและเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี
    * นำเสนอวาระการประชุมและชี้ขาดในกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีความเห็นไม่ตรงกัน

    7. **รับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติ:**
    * เป็นประธานในคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง (เช่น คณะกรรมการนโยบายต่างประเทศ คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ - ในบางประเทศ)
    * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพในยามสงบ (ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ) หรือประสานงานกับฝ่ายทหาร (ในประเทศที่ประมุขแห่งรัฐเป็นผู้บัญชาการสูงสุด เช่น ไทย)

    8. **การใช้อำนาจตามกฎหมาย:**
    * ลงนามในพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง และเอกสารราชการสำคัญต่างๆ ร่วมกับรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ
    * ใช้อำนาจอื่นๆ ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด

    9. **การแก้ไขวิกฤต:**
    * เป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจและแก้ไขวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือภัยธรรมชาติ

    10. **การรับผิดชอบทางการเมือง:**
    * ต้องรับผิดชอบทางการเมืองต่อรัฐสภาและประชาชน หากรัฐบาลบริหารงานผิดพลาดหรือนโยบายล้มเหลว นายกรัฐมนตรีมักจะเป็นผู้ที่ต้องลาออกหรือถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนใคร

    **หมายเหตุ:**
    * รายละเอียดหน้าที่และอำนาจอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและประเพณีทางการเมืองของประเทศนั้นๆ
    * ในประเทศไทย หน้าที่และอำนาจของนายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2560) โดยเฉพาะในมาตรา 171, 172, 173 และหมวด 6 ว่าด้วยคณะรัฐมนตรี
    * นายกรัฐมนตรีต้องดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในประเทศไทย

    สรุปได้ว่า นายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญที่สุดในฝ่ายบริหาร ในการกำหนดทิศทางประเทศ นำการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่างๆ ของชาติ
    หน้าที่หลักของนายกรัฐมนตรี (Prime Minister) ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล ตามระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (เช่น ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น) มีดังนี้: 1. **เป็นหัวหน้ารัฐบาล:** * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดิน * กำหนดนโยบายของคณะรัฐมนตรี (Cabinet) และรับผิดชอบต่อการดำเนินนโยบายนั้น * คุมทิศทางและประสานงานการทำงานของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ 2. **คัดเลือกและจัดตั้งคณะรัฐมนตรี:** * เป็นผู้เสนอชื่อบุคคลเพื่อพระมหากษัตริย์ (ในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ) หรือประมุขแห่งรัฐ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี * มีอำนาจปรับเปลี่ยน (reshuffle) คณะรัฐมนตรี โดยการแต่งตั้งหรือถอดถอนรัฐมนตรี 3. **เป็นผู้นำในรัฐสภา:** * แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา * ตอบคำถามและชี้แจงนโยบายในการอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา (เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ) * เสนอร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาลต่อรัฐสภา 4. **เป็นโฆษกหลักของรัฐบาล:** * ชี้แจงนโยบายและสถานการณ์สำคัญของประเทศต่อสาธารณชน * เป็นตัวแทนของรัฐบาลในการแถลงข่าวหรือสื่อสารในประเด็นเร่งด่วนหรือสำคัญระดับชาติ 5. **เป็นผู้แทนประเทศในเวทีระหว่างประเทศ:** * เป็นตัวแทนสูงสุดของรัฐบาลในการเยือนต่างประเทศและต้อนรับผู้นำต่างประเทศ * เข้าร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างประเทศ (เช่น การประชุมอาเซียน สหประชาชาติ G20) 6. **เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี:** * เรียกประชุมและเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี * นำเสนอวาระการประชุมและชี้ขาดในกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีความเห็นไม่ตรงกัน 7. **รับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติ:** * เป็นประธานในคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง (เช่น คณะกรรมการนโยบายต่างประเทศ คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ - ในบางประเทศ) * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพในยามสงบ (ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ) หรือประสานงานกับฝ่ายทหาร (ในประเทศที่ประมุขแห่งรัฐเป็นผู้บัญชาการสูงสุด เช่น ไทย) 8. **การใช้อำนาจตามกฎหมาย:** * ลงนามในพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง และเอกสารราชการสำคัญต่างๆ ร่วมกับรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ * ใช้อำนาจอื่นๆ ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด 9. **การแก้ไขวิกฤต:** * เป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจและแก้ไขวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือภัยธรรมชาติ 10. **การรับผิดชอบทางการเมือง:** * ต้องรับผิดชอบทางการเมืองต่อรัฐสภาและประชาชน หากรัฐบาลบริหารงานผิดพลาดหรือนโยบายล้มเหลว นายกรัฐมนตรีมักจะเป็นผู้ที่ต้องลาออกหรือถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนใคร **หมายเหตุ:** * รายละเอียดหน้าที่และอำนาจอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและประเพณีทางการเมืองของประเทศนั้นๆ * ในประเทศไทย หน้าที่และอำนาจของนายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2560) โดยเฉพาะในมาตรา 171, 172, 173 และหมวด 6 ว่าด้วยคณะรัฐมนตรี * นายกรัฐมนตรีต้องดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในประเทศไทย สรุปได้ว่า นายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญที่สุดในฝ่ายบริหาร ในการกำหนดทิศทางประเทศ นำการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่างๆ ของชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..แกนนำรวมพลังแผ่นดิน,ไปสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์เรียลไทม์เลย,แบบเฉพาะกิจ มีกดปุ่มลงมติไล่ออกรัฐบาลนี้กับปุ่มให้อยู่บริหารต่อเลย,มาดูว่าอะไรมากกว่ากัน,มติประชาชนกว่า32ล้านคนบอกว่ารัฐบาลต้องออกไปคือจบ,ในนัันอาจผูกมุกว่า,แบนสส.ตัดสิทธิสส.ทั้งสภาให้หมดเช่นกัน,จะสส.ฝ่ายค้านเองหรือสส.ฝ่ายรัฐบาลก็ตามตลอดสว.ด้วยที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้,ทั้งหมดต้องถูกล้างกระดานหมด,พักสถานะไปสัก10ปีจึงสามารถมาลงสมัครเลือกตั้งได้อีก,เห็นอธิปไตยชาติเป็นของล่อเล่นไม่จริงใจ,สส.ฝ่ายค้านกล้าลาออกจากสถานะสส.ฝ่ายค้านในสภา องค์ประชุมก็จบสิ้น,สส.ฝ่ายรัฐบาลลาออกจากสถานะสส.เพื่อแสดงจุดยืนในอธิปไตยชาติไทยตนเองต้องมาก่อนก็ไม่ครบองค์สส.จำนวนสส.ในการเป็นรัฐบาลจัดตั้งก็สิ้นสถานะจบล้างทันที,แต่นี้อะไรปัจจุบัน ทั้งหมดของตัวคนสส.ต่างเห็นแก่ตัวเอาประโยชน์ตนเป็นที่ตั้งมากกว่าอธิปไตยชาติ ไร้สำนึกพื้นฐานละอายแก่ใจใดๆเบื้องต้น,เมื่อประชาชนเราลงมติในแพลตฟอร์มเราที่คณะรวมพลังแผ่นดินสร้างแอปสร้างเครื่องมือแพลตฟอร์มนี้รุ่นเฉพาะกิจฉุกเฉินลงโทษคนทรยศเนรคุณในอธิปไตยไทยของตนเอง การสิ้นสถานะรัฐบาลก็สิ้นสุดลงทันทีเพื่อเสียข้างมากจากอำนาจตรงของประชาชนลงมติให้สิ้นสถานะบริหารชาติแล้ว,
    ..กระบวนการเลือกตั้งสส.เราผิดผีทั้งหมดจริงๆ
    ..จริงๆต้องมีเพียงสส.ที่เลือกตรงจากภาคประชาชนเท่านั้นที่ชนะการเลือกตั้งแล้วได้สิทธิชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาล,สว.ไม่จำเป็นต้องมีที่ชื่อว่าสภาสูงห่าเหวอะไร,ประชาธิปไตยคือมาจากประชาชน สว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเดียว,นายกฯต้องเลือกตั้งกาตรงจากประชาชนไม่ใช่ผีบ้าแบบปัจจุบันนี้,จัดตั้งรัฐบาลได้ต้องชนะการเลือกตั้งและยืนที่1มาเท่านั้น,สส.อำเภอละ1คนพอก็แค่878คนเอง
    จบ.นี้คือตัวแทนประชาชนจริงระดับใกล้ชิดปัญหา,รัฐมนตรพิเศษมี77คนใกล้ชิดจังหวัด.สายภาคการเมืองประสานงานสายธุรการระดับระบบราชการไทยชัดเจนด้วย,คณะรัฐมนตรีปกครองกระทรวงก็ปกติ,ซึ่งประสานงานกับรัฐมนตรีพิเศษนั้นๆ,รัฐมนตรีพิเศษและปกติต้องมาจากสส.878คนในนััน,สส.ไม่ต้องสังกัดพรรค,แต่พรรคสามารถสร้างสส.ประจำพรรคได้.รัฐบาลจะเกิดขึ้นได้ต้องมีสส.รวมกันเกินครึ่งหนึ่งของ878คน,จากนั้นสามารถสร้างทีมงานตนขึ้นบริหารจัดการได้,แม้สถานะสส.ไม่ถึงครึ่งหนึ่งในตอนแรกที่จัดตั้งรัฐบาล เพื่อการปกครองมีสภาพคล่อง,เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ,จนครบวาระ,ประชาชนสามารถลงชื่อออนไลน์เกิน60%ของผู้มีสิทธเลือกตั้งสามารถเป็นมติให้รัฐบาลชุดนั้นพ้นตำแหน่งแล้วเลือกตั้งใหม่ทันทีได้.,อบต.อบจ.ยุบทั้งหมดทั่วประเทศไม่มีความจำเป็น ทับซ้อนหน้าที่กันเสียเปล่าไม่ต้องมีคานอำนาจแบบในอดีต,ขยายธุรกรรมงานอำเภอจังหวัดให้ครอบคลุมพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนเพิ่มมากขึ้นประสานแก้ไขปัญหาร่วมกับสส.ในพื้นที่ ซึ่งสส.มีอำนาจเด็ดขาดเหนือกว่านายอำเภอทั้งหมด.สั่งการตรงแก่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ในพื้นที่ของตนเอง.เสมือนนายอำเภอสั่งการเอง.สส.เป็นนาย,นายอำเภอเป็นรองนาย.,รองจากผู้ว่าจังหวัดรองจากรัฐมนตรีพิเศษประจำจังหวัดนั้นๆ,ซึ่งประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงใกล้ชิดผู้มาแก้ไขปัญหาช่วยเหลือตนได้,และประชาชนในพื้นที่สามารถลงมติไล่ออกสส.ในพื้นที่ตนเองได้เช่นกันทางแพลตฟอร์มออนไลน์เกิน60%ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่นั่นๆ,รัฐมนตรีพิเศษเกิน60%ของทั้งจังหวัดนั้นๆ,แต่สถานะเดิมให้สิทธิพิเศษละเว้นอัตโนมัติไม่นำมาใช้พิจารณา เป็นต้น,นี้คือมุมมองหนึ่งในการปกครองที่ประชาชนมีส่วนร่วมจริงสร้างสรรค์วิถีปกครองร่วมกันได้ควบคุมอำนาจตรงได้,ผ่านอำนาจตัวแทนที่อาจใช้ไปทางที่ผิดเช่นปัจจุบัน ไม่มีในนโยบายพรรคหลักเลยแต่จะสร้างบ่อนคาสิโนในประเทศไทยซึ่งมองข้ามประชาชนอย่างมากและจิตสำนึกชั่วดีว่าอะไรเสื่อมกิจการงานใดไม่ดีต่อสังคมชุมชนในชาติ ประชาชนสามารถลงโทษผู้ปกครองได้ทันทีเช่นกันนั้นเองโดยสร้างทางเลือกให้ซึ่งปัจจุบันไม่มีจริงอย่างชัดเจน,เป็นแต่พิธีวลีความให้ดูดีแค่นั้น,ยุ่งยากด้วย,เข้าถึงลำบาก ต่างจากลงมติเรียลไทม์รู้ผลเลยทันทีทั่วประเทศ.
    ..คณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถใช้ตังบริจาคนี้แบ่งบางส่วนว่าจ้างผู้รู้ผู้เก่งกล้าสามารถสนับสนุนปัจจัยแรงกายที่สร้างแพลตฟอร์มนั้นเพื่อแผ่นดินไทยของภาคประชาชนเราขึ้นมาคานอำนาจปกครองของรัฐบาลที่บริหารไปทางกากๆเสี่ยงภัยต่ออธิปไตยไทยตนเองหรือสาระพัดกิจกรรมเหี้ยๆนั้นได้,เช่นบ่อน้ำมันต้องโมฆะสัมปทานทั้งหมดเพราะเป็นไปดำเนินไปไม่ถูกหลักพื้นฐานสากลทางประชาธิปไตยที่เราปกครองในระบบประชาธิปไตยจากประชาชนคนส่วนมาก ไม่ผ่านอภิปรายและลงมติจากเสียงของประชาชนไทยเลยในสภาผู้แทนราษฎรเรา,สภา.สส.เรา,สามารถโมฆะอย่างชอบธรรมกว่าMOU43,44โน้น,บ่อน้ำมันแค่เราทำเองขายเองถูกๆภายในประเทศไทยเราเองแบบอิหร่านจะเบนซินหรือดีเชลไม่เกินลิตรละ1-2บาท,ทั่วประเทศไทยเราจะฟื้นฟูทางเศรษฐกิจขนาดไหนอาจเพียงแค่1-2ปีประเทศไทยเราจะรุ่งโรจน์ภายในประเทศทันทีมีกินมีใช้อยู่อย่างสุขสบายไม่ลำบากยากจนอีก,สามารถส่งขายน้ำมันปิโตรเลียมในราคาตลาดโลกได้อีก,สินค้าไทยเราจะแข่งขันได้อย่างสบายๆด้วย,นี้คือวิถีปกครองที่เหมาะสมแห่งธรรม ที่ปกติต้องดำเนินไปเช่นนั้น,แต่เพราะผิดผีผิดแบบมาอย่างยาวนานและไม่เคยปรับปรุงห่าอะไร,มองประชาชนเฉยๆไร้ค่าอีก มีค่าแค่ต้องการอำนาจเอาไปหาแดกโกงกินชาตินั้นล่ะ,เรา..ประชาชนจึงต้องจบมันจริงๆ.
    ..นี้ก็เหี้ย ชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายไม่ดี ไม่สำนึกดีชั่วอะไรเลย สีข้างอยากเชียร์คนชั่วตนเข้าไส้แต่แผลเยอะไปเลยได้แค่นั่น,คนไทยเราชั่วเลวก็มีไม่น้อยปะปนในสังคมไทยเราใช่จิตใจดีทุกๆคน หยาบหนาบางมีต่างกัน,ดูกันยาวๆด้วย,แล้วก็เผยธาตุแท้ตนออกมา,สัญชาติไทยใจส้นตีนเป็นต่างชาติมันมีเยอะแยะจริงๆบ้านเมืองเรามีคนพวกนี้บนแผ่นดินไทยมากเกินไปจนมึนมาขึ้นปกครองประเทศได้เลยเสียหายหายนะพังพินาศไม่ยากอะไรเลยถ้าคนไทยดีๆเราไม่ออกมาจัดการบ้าง.,อนาคตต้องสร้างเครื่องมือของภาคประชาชนที่ง่ายในการจัดการพวกนี้สะดวกส่งไปพบพระเจ้าของมันง่ายๆก็ว่า,เรา..ประชาชนไม่ใช่หน้าที่ต้องอภัยโทษคนชั่วเลว หน้าที่เราส่งมันไปพบพระเจ้าของมันให้อภัยกันเอาเอง.
    ..https://youtu.be/-vDvSDywY4M?si=01E9wZFU9eJ5K2Un
    ..แกนนำรวมพลังแผ่นดิน,ไปสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์เรียลไทม์เลย,แบบเฉพาะกิจ มีกดปุ่มลงมติไล่ออกรัฐบาลนี้กับปุ่มให้อยู่บริหารต่อเลย,มาดูว่าอะไรมากกว่ากัน,มติประชาชนกว่า32ล้านคนบอกว่ารัฐบาลต้องออกไปคือจบ,ในนัันอาจผูกมุกว่า,แบนสส.ตัดสิทธิสส.ทั้งสภาให้หมดเช่นกัน,จะสส.ฝ่ายค้านเองหรือสส.ฝ่ายรัฐบาลก็ตามตลอดสว.ด้วยที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้,ทั้งหมดต้องถูกล้างกระดานหมด,พักสถานะไปสัก10ปีจึงสามารถมาลงสมัครเลือกตั้งได้อีก,เห็นอธิปไตยชาติเป็นของล่อเล่นไม่จริงใจ,สส.ฝ่ายค้านกล้าลาออกจากสถานะสส.ฝ่ายค้านในสภา องค์ประชุมก็จบสิ้น,สส.ฝ่ายรัฐบาลลาออกจากสถานะสส.เพื่อแสดงจุดยืนในอธิปไตยชาติไทยตนเองต้องมาก่อนก็ไม่ครบองค์สส.จำนวนสส.ในการเป็นรัฐบาลจัดตั้งก็สิ้นสถานะจบล้างทันที,แต่นี้อะไรปัจจุบัน ทั้งหมดของตัวคนสส.ต่างเห็นแก่ตัวเอาประโยชน์ตนเป็นที่ตั้งมากกว่าอธิปไตยชาติ ไร้สำนึกพื้นฐานละอายแก่ใจใดๆเบื้องต้น,เมื่อประชาชนเราลงมติในแพลตฟอร์มเราที่คณะรวมพลังแผ่นดินสร้างแอปสร้างเครื่องมือแพลตฟอร์มนี้รุ่นเฉพาะกิจฉุกเฉินลงโทษคนทรยศเนรคุณในอธิปไตยไทยของตนเอง การสิ้นสถานะรัฐบาลก็สิ้นสุดลงทันทีเพื่อเสียข้างมากจากอำนาจตรงของประชาชนลงมติให้สิ้นสถานะบริหารชาติแล้ว, ..กระบวนการเลือกตั้งสส.เราผิดผีทั้งหมดจริงๆ ..จริงๆต้องมีเพียงสส.ที่เลือกตรงจากภาคประชาชนเท่านั้นที่ชนะการเลือกตั้งแล้วได้สิทธิชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาล,สว.ไม่จำเป็นต้องมีที่ชื่อว่าสภาสูงห่าเหวอะไร,ประชาธิปไตยคือมาจากประชาชน สว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเดียว,นายกฯต้องเลือกตั้งกาตรงจากประชาชนไม่ใช่ผีบ้าแบบปัจจุบันนี้,จัดตั้งรัฐบาลได้ต้องชนะการเลือกตั้งและยืนที่1มาเท่านั้น,สส.อำเภอละ1คนพอก็แค่878คนเอง จบ.นี้คือตัวแทนประชาชนจริงระดับใกล้ชิดปัญหา,รัฐมนตรพิเศษมี77คนใกล้ชิดจังหวัด.สายภาคการเมืองประสานงานสายธุรการระดับระบบราชการไทยชัดเจนด้วย,คณะรัฐมนตรีปกครองกระทรวงก็ปกติ,ซึ่งประสานงานกับรัฐมนตรีพิเศษนั้นๆ,รัฐมนตรีพิเศษและปกติต้องมาจากสส.878คนในนััน,สส.ไม่ต้องสังกัดพรรค,แต่พรรคสามารถสร้างสส.ประจำพรรคได้.รัฐบาลจะเกิดขึ้นได้ต้องมีสส.รวมกันเกินครึ่งหนึ่งของ878คน,จากนั้นสามารถสร้างทีมงานตนขึ้นบริหารจัดการได้,แม้สถานะสส.ไม่ถึงครึ่งหนึ่งในตอนแรกที่จัดตั้งรัฐบาล เพื่อการปกครองมีสภาพคล่อง,เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ,จนครบวาระ,ประชาชนสามารถลงชื่อออนไลน์เกิน60%ของผู้มีสิทธเลือกตั้งสามารถเป็นมติให้รัฐบาลชุดนั้นพ้นตำแหน่งแล้วเลือกตั้งใหม่ทันทีได้.,อบต.อบจ.ยุบทั้งหมดทั่วประเทศไม่มีความจำเป็น ทับซ้อนหน้าที่กันเสียเปล่าไม่ต้องมีคานอำนาจแบบในอดีต,ขยายธุรกรรมงานอำเภอจังหวัดให้ครอบคลุมพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนเพิ่มมากขึ้นประสานแก้ไขปัญหาร่วมกับสส.ในพื้นที่ ซึ่งสส.มีอำนาจเด็ดขาดเหนือกว่านายอำเภอทั้งหมด.สั่งการตรงแก่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ในพื้นที่ของตนเอง.เสมือนนายอำเภอสั่งการเอง.สส.เป็นนาย,นายอำเภอเป็นรองนาย.,รองจากผู้ว่าจังหวัดรองจากรัฐมนตรีพิเศษประจำจังหวัดนั้นๆ,ซึ่งประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงใกล้ชิดผู้มาแก้ไขปัญหาช่วยเหลือตนได้,และประชาชนในพื้นที่สามารถลงมติไล่ออกสส.ในพื้นที่ตนเองได้เช่นกันทางแพลตฟอร์มออนไลน์เกิน60%ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่นั่นๆ,รัฐมนตรีพิเศษเกิน60%ของทั้งจังหวัดนั้นๆ,แต่สถานะเดิมให้สิทธิพิเศษละเว้นอัตโนมัติไม่นำมาใช้พิจารณา เป็นต้น,นี้คือมุมมองหนึ่งในการปกครองที่ประชาชนมีส่วนร่วมจริงสร้างสรรค์วิถีปกครองร่วมกันได้ควบคุมอำนาจตรงได้,ผ่านอำนาจตัวแทนที่อาจใช้ไปทางที่ผิดเช่นปัจจุบัน ไม่มีในนโยบายพรรคหลักเลยแต่จะสร้างบ่อนคาสิโนในประเทศไทยซึ่งมองข้ามประชาชนอย่างมากและจิตสำนึกชั่วดีว่าอะไรเสื่อมกิจการงานใดไม่ดีต่อสังคมชุมชนในชาติ ประชาชนสามารถลงโทษผู้ปกครองได้ทันทีเช่นกันนั้นเองโดยสร้างทางเลือกให้ซึ่งปัจจุบันไม่มีจริงอย่างชัดเจน,เป็นแต่พิธีวลีความให้ดูดีแค่นั้น,ยุ่งยากด้วย,เข้าถึงลำบาก ต่างจากลงมติเรียลไทม์รู้ผลเลยทันทีทั่วประเทศ. ..คณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถใช้ตังบริจาคนี้แบ่งบางส่วนว่าจ้างผู้รู้ผู้เก่งกล้าสามารถสนับสนุนปัจจัยแรงกายที่สร้างแพลตฟอร์มนั้นเพื่อแผ่นดินไทยของภาคประชาชนเราขึ้นมาคานอำนาจปกครองของรัฐบาลที่บริหารไปทางกากๆเสี่ยงภัยต่ออธิปไตยไทยตนเองหรือสาระพัดกิจกรรมเหี้ยๆนั้นได้,เช่นบ่อน้ำมันต้องโมฆะสัมปทานทั้งหมดเพราะเป็นไปดำเนินไปไม่ถูกหลักพื้นฐานสากลทางประชาธิปไตยที่เราปกครองในระบบประชาธิปไตยจากประชาชนคนส่วนมาก ไม่ผ่านอภิปรายและลงมติจากเสียงของประชาชนไทยเลยในสภาผู้แทนราษฎรเรา,สภา.สส.เรา,สามารถโมฆะอย่างชอบธรรมกว่าMOU43,44โน้น,บ่อน้ำมันแค่เราทำเองขายเองถูกๆภายในประเทศไทยเราเองแบบอิหร่านจะเบนซินหรือดีเชลไม่เกินลิตรละ1-2บาท,ทั่วประเทศไทยเราจะฟื้นฟูทางเศรษฐกิจขนาดไหนอาจเพียงแค่1-2ปีประเทศไทยเราจะรุ่งโรจน์ภายในประเทศทันทีมีกินมีใช้อยู่อย่างสุขสบายไม่ลำบากยากจนอีก,สามารถส่งขายน้ำมันปิโตรเลียมในราคาตลาดโลกได้อีก,สินค้าไทยเราจะแข่งขันได้อย่างสบายๆด้วย,นี้คือวิถีปกครองที่เหมาะสมแห่งธรรม ที่ปกติต้องดำเนินไปเช่นนั้น,แต่เพราะผิดผีผิดแบบมาอย่างยาวนานและไม่เคยปรับปรุงห่าอะไร,มองประชาชนเฉยๆไร้ค่าอีก มีค่าแค่ต้องการอำนาจเอาไปหาแดกโกงกินชาตินั้นล่ะ,เรา..ประชาชนจึงต้องจบมันจริงๆ. ..นี้ก็เหี้ย ชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายไม่ดี ไม่สำนึกดีชั่วอะไรเลย สีข้างอยากเชียร์คนชั่วตนเข้าไส้แต่แผลเยอะไปเลยได้แค่นั่น,คนไทยเราชั่วเลวก็มีไม่น้อยปะปนในสังคมไทยเราใช่จิตใจดีทุกๆคน หยาบหนาบางมีต่างกัน,ดูกันยาวๆด้วย,แล้วก็เผยธาตุแท้ตนออกมา,สัญชาติไทยใจส้นตีนเป็นต่างชาติมันมีเยอะแยะจริงๆบ้านเมืองเรามีคนพวกนี้บนแผ่นดินไทยมากเกินไปจนมึนมาขึ้นปกครองประเทศได้เลยเสียหายหายนะพังพินาศไม่ยากอะไรเลยถ้าคนไทยดีๆเราไม่ออกมาจัดการบ้าง.,อนาคตต้องสร้างเครื่องมือของภาคประชาชนที่ง่ายในการจัดการพวกนี้สะดวกส่งไปพบพระเจ้าของมันง่ายๆก็ว่า,เรา..ประชาชนไม่ใช่หน้าที่ต้องอภัยโทษคนชั่วเลว หน้าที่เราส่งมันไปพบพระเจ้าของมันให้อภัยกันเอาเอง. ..https://youtu.be/-vDvSDywY4M?si=01E9wZFU9eJ5K2Un
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาตัวแทนคู่บ่าวสาว แจ้งความตำรวจ บก.สอท.1 ถูกช่างแต่งหน้าหลอกรับเงินมัดจำ แล้วเบี้ยวไม่มาตามนัด

    วันนี้ (27 มิ.ย.) นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย น.ส.ชฎาภรณ์ พงศ์ทองเมือง ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ฯ พาตัวแทนคู่บ่าวสาวผู้เสียหายกว่า 40 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 กรณีถูกช่างแต่งหน้าเจ้าของรางวัลรองชนะเลิศเวทีประกวดช่างแต่งหน้าหลอกลวงรับเงินมัดจำค่าแต่งหน้าแล้วเบี้ยวไม่มาแต่งให้ตามนัด

    ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า เห็นผลงานของช่างแต่งหน้าดังกล่าวจากเฟซบุ๊กจึงได้ติดต่อสอบถาม เนื่องจากมีการจัดโปรโมชั่นอยู่ที่ 35,900 บาท และจ่ายค่ามัดจําเป็นเงิน 13,000 บาท จากนั้นได้มีการพูดคุยกับเพื่อนจนทราบว่าช่างแต่งหน้าดังกล่าวเป็นคนเดียวกับที่มีการหลอกเอาเงินค่ามัดจําผู้เสียหายรายอื่น แต่โชคดีที่ทราบก่อนวันแต่งงาน 3 อาทิตย์ จึงมีการหาช่างแต่งหน้าสํารองไว้ อีกทั้งวันที่นัดแต่งหน้า ตนเองเพิ่งทราบทีหลังว่ามีการรับงานซ้อนอีกด้วยทั้งที่ตนเองจ้างทั้งวัน อย่างไรก็ตามตนเองและผู้เสียหายคู่อื่นๆพยายามติดต่อเพื่อขอเงินคืนแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000060531

    #Thaitimes #MGROnline #คู่บ่าวสาว #ช่างแต่งหน้า
    รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาตัวแทนคู่บ่าวสาว แจ้งความตำรวจ บก.สอท.1 ถูกช่างแต่งหน้าหลอกรับเงินมัดจำ แล้วเบี้ยวไม่มาตามนัด • วันนี้ (27 มิ.ย.) นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย น.ส.ชฎาภรณ์ พงศ์ทองเมือง ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ฯ พาตัวแทนคู่บ่าวสาวผู้เสียหายกว่า 40 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 กรณีถูกช่างแต่งหน้าเจ้าของรางวัลรองชนะเลิศเวทีประกวดช่างแต่งหน้าหลอกลวงรับเงินมัดจำค่าแต่งหน้าแล้วเบี้ยวไม่มาแต่งให้ตามนัด • ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า เห็นผลงานของช่างแต่งหน้าดังกล่าวจากเฟซบุ๊กจึงได้ติดต่อสอบถาม เนื่องจากมีการจัดโปรโมชั่นอยู่ที่ 35,900 บาท และจ่ายค่ามัดจําเป็นเงิน 13,000 บาท จากนั้นได้มีการพูดคุยกับเพื่อนจนทราบว่าช่างแต่งหน้าดังกล่าวเป็นคนเดียวกับที่มีการหลอกเอาเงินค่ามัดจําผู้เสียหายรายอื่น แต่โชคดีที่ทราบก่อนวันแต่งงาน 3 อาทิตย์ จึงมีการหาช่างแต่งหน้าสํารองไว้ อีกทั้งวันที่นัดแต่งหน้า ตนเองเพิ่งทราบทีหลังว่ามีการรับงานซ้อนอีกด้วยทั้งที่ตนเองจ้างทั้งวัน อย่างไรก็ตามตนเองและผู้เสียหายคู่อื่นๆพยายามติดต่อเพื่อขอเงินคืนแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000060531 • #Thaitimes #MGROnline #คู่บ่าวสาว #ช่างแต่งหน้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชุมกรมการจังหวัดฯ ครั้งที่ 6/2568

    วันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมประชุมกรมการจังหวัดนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ประจำเดือนมิถุนายน เพื่อติดตามผลการดำเนินงานพร้อมทั้งร่วมหารือระหว่างส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายในการบริหารงานของจังหวัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

    โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธาน พร้อมด้วย รองผวจ.นครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน ร่วมประชุม

    ในโอกาสนี้ อบจ.นครราชสีมา ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนในสังกัดฯ ที่ได้รับรางวัล ดังนี้ 🎉

    ⭕️ โรงเรียนบัวใหญ่ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การประกวดวงดนตรีเยาวชนเพื่อการรณรงค์ "ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่ดื่ม" STOP DRINK MUSIC AWARDS 2025 รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี

    ⭕️โรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (โตนดพิทยาคม ) น.ส.วริศรา ทางไธสง ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมการเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี (ASEAN U16 GIRL'S CHAMPIONSHIP 2025)

    ⭕️โรงเรียนวัดประชานิมิตร ได้รับรางวัลการประกวดเยาวชนต้นแบบด้านมารยาทไทย และมารยาทสังคม ระดับจังหวัด ประจำปี 2568

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    ประชุมกรมการจังหวัดฯ ครั้งที่ 6/2568 วันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมประชุมกรมการจังหวัดนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ประจำเดือนมิถุนายน เพื่อติดตามผลการดำเนินงานพร้อมทั้งร่วมหารือระหว่างส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายในการบริหารงานของจังหวัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธาน พร้อมด้วย รองผวจ.นครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน ร่วมประชุม ในโอกาสนี้ อบจ.นครราชสีมา ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนในสังกัดฯ ที่ได้รับรางวัล ดังนี้ 🎉 ⭕️ โรงเรียนบัวใหญ่ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การประกวดวงดนตรีเยาวชนเพื่อการรณรงค์ "ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่ดื่ม" STOP DRINK MUSIC AWARDS 2025 รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี ⭕️โรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (โตนดพิทยาคม ) น.ส.วริศรา ทางไธสง ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมการเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี (ASEAN U16 GIRL'S CHAMPIONSHIP 2025) ⭕️โรงเรียนวัดประชานิมิตร ได้รับรางวัลการประกวดเยาวชนต้นแบบด้านมารยาทไทย และมารยาทสังคม ระดับจังหวัด ประจำปี 2568 #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • Magnetic child.

    ..ผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยเราอำมหิตมากๆหากดูแค่คลิปตัวอย่างนี้,เด็กๆในไทยเราฉีดเกือบหมดในทุกๆโรงเรียนตั้งแต่อนุบาล,นี้คือคำสั่งจากคนปกครองชัดเจน,
    ..เห็นในต่างชาติว่าผู้ปกครองประเทศนั้นๆนี้โง่จริงๆบัดสบด้วยหรือคงส้นตีนขี้ข้าใต้ปกครองมัน,หันมาดูประเทศตนเองก็ไม่ต่างจากด่าประเทศอื่นๆ,เด็กๆผู้บริสุทธิ์เหล่านี้อนาคตต้องเจอสาระพัดโรคภัยไข้เจ็บป่วยซ้ำซากแน่นอน,อยากได้ค่ารักษาจากคนไทยมากมายบนความเจ็บป่วยและตายจริงๆ.,ข่าวต่างประเทศกูรูแฉตรึมเสือกไม่ใส่ใจพิจารณาค่าเท็จหรือค่าจริง,เครื่องมือเครื่องไม่เต็มตีนเต็มมือจากอำนาจปกครองตน,เสือกตกการข่าวกรอก,เหี้ยจริงๆ.,คนไทยจึงยากจนและโดนกฎหมายมากมายกดขี่ประชาชนคนไทย,ตีตราออกมาแบบเอาค่าปรับเยอะๆติดคุกหนักๆ ไม่สวมหมวกปรับ2,000แบบนั่นล่ะ.,และไม่เคยจริงใจยกเลิกกฎหมายที่ออกมาผิดพลาดหรือรับผิดชอบสังคมประชาชนคนไทยเรา,กูถูกเสมอและไม่ผิด.
    ..ลูกหลานเราถูกกระทำเลวหรือฆ่าล้างลูกหลานไทยทั้งประเทศนะนอกจากประชาชนคนไทยทั่วไปก็ถูกฉีกวัคซีนด้วยเป็นมนุษย์แม่เหล็กเหมือนกัน,และโอกาสเกิดโรคภัยไข้เจ็บคุกคามร่างกายชีวิต รุกรานสุขภาพชีวิตตนเองตลอดชีพในอนาคตจากวัคซีนนี้นั่นไม่ได้รับรองงานวิจัยใดๆผลวิจัยใดๆว่าปลอดภัยจริงห่าอะไร,กัญชาเสรีเสือกดัดจริตสันดานว่าต้องผลวิจัยรองรับความปลอดภัยนะจ๊ะจึงพิจารณาตกลงได้พะนะสัก5ปี,นี้ห่าอะไรไม่มีงานวิจัยใดๆรองรับเสือกกระตือรือร้นนำเข้ามาฉีดคนไทยกว่า60ล้านคนโน้น. ,ใครปกครองล่ะ.
    Magnetic child. ..ผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยเราอำมหิตมากๆหากดูแค่คลิปตัวอย่างนี้,เด็กๆในไทยเราฉีดเกือบหมดในทุกๆโรงเรียนตั้งแต่อนุบาล,นี้คือคำสั่งจากคนปกครองชัดเจน, ..เห็นในต่างชาติว่าผู้ปกครองประเทศนั้นๆนี้โง่จริงๆบัดสบด้วยหรือคงส้นตีนขี้ข้าใต้ปกครองมัน,หันมาดูประเทศตนเองก็ไม่ต่างจากด่าประเทศอื่นๆ,เด็กๆผู้บริสุทธิ์เหล่านี้อนาคตต้องเจอสาระพัดโรคภัยไข้เจ็บป่วยซ้ำซากแน่นอน,อยากได้ค่ารักษาจากคนไทยมากมายบนความเจ็บป่วยและตายจริงๆ.,ข่าวต่างประเทศกูรูแฉตรึมเสือกไม่ใส่ใจพิจารณาค่าเท็จหรือค่าจริง,เครื่องมือเครื่องไม่เต็มตีนเต็มมือจากอำนาจปกครองตน,เสือกตกการข่าวกรอก,เหี้ยจริงๆ.,คนไทยจึงยากจนและโดนกฎหมายมากมายกดขี่ประชาชนคนไทย,ตีตราออกมาแบบเอาค่าปรับเยอะๆติดคุกหนักๆ ไม่สวมหมวกปรับ2,000แบบนั่นล่ะ.,และไม่เคยจริงใจยกเลิกกฎหมายที่ออกมาผิดพลาดหรือรับผิดชอบสังคมประชาชนคนไทยเรา,กูถูกเสมอและไม่ผิด. ..ลูกหลานเราถูกกระทำเลวหรือฆ่าล้างลูกหลานไทยทั้งประเทศนะนอกจากประชาชนคนไทยทั่วไปก็ถูกฉีกวัคซีนด้วยเป็นมนุษย์แม่เหล็กเหมือนกัน,และโอกาสเกิดโรคภัยไข้เจ็บคุกคามร่างกายชีวิต รุกรานสุขภาพชีวิตตนเองตลอดชีพในอนาคตจากวัคซีนนี้นั่นไม่ได้รับรองงานวิจัยใดๆผลวิจัยใดๆว่าปลอดภัยจริงห่าอะไร,กัญชาเสรีเสือกดัดจริตสันดานว่าต้องผลวิจัยรองรับความปลอดภัยนะจ๊ะจึงพิจารณาตกลงได้พะนะสัก5ปี,นี้ห่าอะไรไม่มีงานวิจัยใดๆรองรับเสือกกระตือรือร้นนำเข้ามาฉีดคนไทยกว่า60ล้านคนโน้น. ,ใครปกครองล่ะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • ฮุนเซน ไม่ติดหนี้อะไรไทยจริงหรอ?

    ทั้งที่เคย ทูลขอไปยังเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร(พระยศขณะนั้น)ให้ทรงช่วยเหลือกัมพูชาด้านสาธารณสุข และการศึกษาต่อไป” สำนักข่าวซึ่งเป็นของรัฐบาล กล่าว

    พล.อ.วาภิรมย์ นายทหารเกษียนราชการวัย 65 ปี ได้ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการ โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่กัมพูชาด้านการศึกษา โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธาน

    โครงการนี้ได้ช่วยกัมพูชาก่อสร้างโรงเรียนมัธยมกัมปงเฌอเตียล (Kampong Chheuteal) ใน จ.กัมปงธม ตามแนวพระราชดำริ โดยเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2543 พระองค์เสด็จฯ กัมพูชาหลายครั้งมาตั้งแต่นั้น รวมทั้งเสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนในเดือน พ.ย.2548 ร่วมกับ นรม.กัมพูชา

    โรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอย่างเป็นทางการ มาตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 และจากชื่อเดิม คือ โรงเรียนมัธยมปราสาทซอมบอร์ ได้กลายมาเป็นโรงเรียนมัธยมกัมปงเฉอเตียลและเป็นวิทยาลัยกัมปงเฌอเตียลในปัจจุบัน

    ในแต่ละปีวิทยาลัยกัมปงเฌอเตียล รับนักเรียนเข้าเรียนกว่า 1,000 คน สอนตามหลักสูตรของกัมพูชาโดยครูอาจารย์ทั้งชาวไทยและชาวเขมร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดหาอุปกรณ์และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นต่างๆ ตลอดมา

    กัมปงเฌอเตียล ได้กลายเป็นสถานศึกษาตัวอย่าง ซึ่งนอกจากจะฝึกสอนวิชาการแล้วยังเน้นการอบรมนักเรียนด้านความสะอาด การรักษาสุขภาพอนามัย การมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม

    และเนื่องจากประชาคมแห่งนั้นเป็นที่ตั้งของปราสาทซอมบอร์ (Sambor Prey Kuk) ที่สร้างมาก่อนยุคเมืองพระนคร (นครวัด) การเรียนการสอนจึงเน้นในด้านการอนุรักษ์โบราณสถานอีกด้วย
    ฮุนเซน ไม่ติดหนี้อะไรไทยจริงหรอ? ทั้งที่เคย ทูลขอไปยังเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร(พระยศขณะนั้น)ให้ทรงช่วยเหลือกัมพูชาด้านสาธารณสุข และการศึกษาต่อไป” สำนักข่าวซึ่งเป็นของรัฐบาล กล่าว พล.อ.วาภิรมย์ นายทหารเกษียนราชการวัย 65 ปี ได้ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการ โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่กัมพูชาด้านการศึกษา โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธาน โครงการนี้ได้ช่วยกัมพูชาก่อสร้างโรงเรียนมัธยมกัมปงเฌอเตียล (Kampong Chheuteal) ใน จ.กัมปงธม ตามแนวพระราชดำริ โดยเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2543 พระองค์เสด็จฯ กัมพูชาหลายครั้งมาตั้งแต่นั้น รวมทั้งเสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนในเดือน พ.ย.2548 ร่วมกับ นรม.กัมพูชา โรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอย่างเป็นทางการ มาตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 และจากชื่อเดิม คือ โรงเรียนมัธยมปราสาทซอมบอร์ ได้กลายมาเป็นโรงเรียนมัธยมกัมปงเฉอเตียลและเป็นวิทยาลัยกัมปงเฌอเตียลในปัจจุบัน ในแต่ละปีวิทยาลัยกัมปงเฌอเตียล รับนักเรียนเข้าเรียนกว่า 1,000 คน สอนตามหลักสูตรของกัมพูชาโดยครูอาจารย์ทั้งชาวไทยและชาวเขมร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดหาอุปกรณ์และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นต่างๆ ตลอดมา กัมปงเฌอเตียล ได้กลายเป็นสถานศึกษาตัวอย่าง ซึ่งนอกจากจะฝึกสอนวิชาการแล้วยังเน้นการอบรมนักเรียนด้านความสะอาด การรักษาสุขภาพอนามัย การมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม และเนื่องจากประชาคมแห่งนั้นเป็นที่ตั้งของปราสาทซอมบอร์ (Sambor Prey Kuk) ที่สร้างมาก่อนยุคเมืองพระนคร (นครวัด) การเรียนการสอนจึงเน้นในด้านการอนุรักษ์โบราณสถานอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • ม.ราชภัฏโคราช จับมือ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ Mancool Technology ร่วมสร้างสรรค์สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยนวัตกรรม E-Bike สู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว
    .
    วันที่ 26 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ บริษัท Mancool Technology จำกัด สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และบริษัท Mancool Technology จำกัด จัดให้มีโครงการลดคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยมี รศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวเปิดงาน นายธนกร สิริบุญสุข อุปนายกสมาคมการค้าไทย - จีนกวางตุ้ง มอบเสื้อที่ระลึก จากนั้นเป็นการการทดลองใช้รถจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) มาใช้ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษ และสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นภายในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
    .
    ทั้งนี้ บริษัท Mancool Technology จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจักรยานไฟฟ้า เป็นผู้สนับสนุนจักรยานไฟฟ้า เพื่อให้บริการแก่นักศึกษา บุคลากร และผู้มาเยือน การนำ E-Bike มาใช้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางภายในมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    .
    มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และสมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันความร่วมมือครั้งนี้ให้เกิดขึ้น โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ในสถาบันการศึกษา ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอนาคต โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตภายในมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้และเมืองสีเขียวอย่างแท้จริง การนำนวัตกรรม E-Bike มาใช้ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมลดคาร์บอน ลด
    ม.ราชภัฏโคราช จับมือ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ Mancool Technology ร่วมสร้างสรรค์สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยนวัตกรรม E-Bike สู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว . วันที่ 26 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ บริษัท Mancool Technology จำกัด สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และบริษัท Mancool Technology จำกัด จัดให้มีโครงการลดคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยมี รศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวเปิดงาน นายธนกร สิริบุญสุข อุปนายกสมาคมการค้าไทย - จีนกวางตุ้ง มอบเสื้อที่ระลึก จากนั้นเป็นการการทดลองใช้รถจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) มาใช้ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษ และสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นภายในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา . ทั้งนี้ บริษัท Mancool Technology จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจักรยานไฟฟ้า เป็นผู้สนับสนุนจักรยานไฟฟ้า เพื่อให้บริการแก่นักศึกษา บุคลากร และผู้มาเยือน การนำ E-Bike มาใช้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางภายในมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก . มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และสมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันความร่วมมือครั้งนี้ให้เกิดขึ้น โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ในสถาบันการศึกษา ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอนาคต โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตภายในมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้และเมืองสีเขียวอย่างแท้จริง การนำนวัตกรรม E-Bike มาใช้ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมลดคาร์บอน ลด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'เพื่อไทย' จมูกไว ชะลอดัน 'กาสิโน' วางเป้าใหม่ 'นิรโทษกรรม'
    .
    อีกไม่กี่วันสมัยประชุมสภาสามัญปีที่ 3 จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งหลายฝ่ายจับตาว่าพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจในเรื่องร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรอย่างไร ปรากฎว่าล่าสุดรัฐบาลเริ่มส่งสัญญาณถอยออกมาแล้ว ว่าเห็นควรที่จะเลื่อน พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ฯ ออกไปก่อน โดยจะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้ามาเป็นเรื่องแรกแทน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000060024

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    'เพื่อไทย' จมูกไว ชะลอดัน 'กาสิโน' วางเป้าใหม่ 'นิรโทษกรรม' . อีกไม่กี่วันสมัยประชุมสภาสามัญปีที่ 3 จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งหลายฝ่ายจับตาว่าพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจในเรื่องร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรอย่างไร ปรากฎว่าล่าสุดรัฐบาลเริ่มส่งสัญญาณถอยออกมาแล้ว ว่าเห็นควรที่จะเลื่อน พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ฯ ออกไปก่อน โดยจะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้ามาเป็นเรื่องแรกแทน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000060024 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 954 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 5 แสนบาท ขยายโอกาส สร้างอาชีพ สร้างชีวิตอย่างเท่าเทียม แก่ชาวขอนแก่นต่อเนื่อง
    มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ มอบวีลแชร์แก่ผู้พิการ มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และมอบหุ่นจำลองช่วยฟื้นคืนชีพผู้ใหญ่และเครื่องช่วยสาธิตกระตุกไฟฟ้าหัวใจ พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการฟรี
    .
    วานนี้ (วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง โดยมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ จำนวน 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 397,610 บาท เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครออกหน่วยให้บริการประชาชนในพื้นที่ฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ พร้อมกันนี้ มูลนิธิฯ ยังได้มอบหุ่นจำลองช่วยฟื้นคืนชีพผู้ใหญ่และเครื่องช่วยสาธิตกระตุกไฟฟ้าหัวใจ จำนวน 2 ชุด (4 ชิ้น) ในโครงการ “สนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์” ให้แก่ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา เพื่อใช้ในหลักสูตรฝึกอบรมทักษะอาชีพดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้ง มอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการ จำนวน 10 ราย และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวม 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวขอนแก่นในครั้งนี้ทั้งสิ้น 596,362 บาท (ห้าแสนเก้าหมื่นหกพันสามร้อยหกสิบสองบาทถ้วน) โดยมี ผศ.ดร.พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร ที่ปรึกษาอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พร้อมด้วย นายสงวน สุธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 5 นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ และอาสาสมัครเฉพาะกิจมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา จังหวัดขอนแก่น
    .
    นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก ในการคัดกรองผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม เสริมทักษะอาชีพ โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 5 แสนบาท ขยายโอกาส สร้างอาชีพ สร้างชีวิตอย่างเท่าเทียม แก่ชาวขอนแก่นต่อเนื่อง มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ มอบวีลแชร์แก่ผู้พิการ มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และมอบหุ่นจำลองช่วยฟื้นคืนชีพผู้ใหญ่และเครื่องช่วยสาธิตกระตุกไฟฟ้าหัวใจ พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการฟรี . วานนี้ (วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง โดยมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ จำนวน 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 397,610 บาท เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครออกหน่วยให้บริการประชาชนในพื้นที่ฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ พร้อมกันนี้ มูลนิธิฯ ยังได้มอบหุ่นจำลองช่วยฟื้นคืนชีพผู้ใหญ่และเครื่องช่วยสาธิตกระตุกไฟฟ้าหัวใจ จำนวน 2 ชุด (4 ชิ้น) ในโครงการ “สนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์” ให้แก่ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา เพื่อใช้ในหลักสูตรฝึกอบรมทักษะอาชีพดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้ง มอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการ จำนวน 10 ราย และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวม 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวขอนแก่นในครั้งนี้ทั้งสิ้น 596,362 บาท (ห้าแสนเก้าหมื่นหกพันสามร้อยหกสิบสองบาทถ้วน) โดยมี ผศ.ดร.พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร ที่ปรึกษาอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พร้อมด้วย นายสงวน สุธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 5 นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ และอาสาสมัครเฉพาะกิจมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา จังหวัดขอนแก่น . นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก ในการคัดกรองผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม เสริมทักษะอาชีพ โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อดีตนายกฯทวีเราไม่เกี่ยวหรอกแค่เชื่อมรอยต่อว่า อดีตนายกฯหญิงถูกยึดอำนาจจากใครแล้วก็ลดลงไปเรื่อยๆถึงอดีตนายกฯชวนขึ้นมาถึงโทนี่.,mouจะสี่อะไรจริงๆสามารถยกเลิกได้หมดในสภาหรือการยึดอำนาจสมบูรณ์หากพิจารณาชัดเจนแล้วว่าไม่เป็นคุณเป็นธรรมต่อประเทศไทยเราหรือหยามเกียรติศักดิ์ศรีอธิปไตยชาติไทยเรา,แม้ตอนนี้เวลานี้ก็สามารถยกเลิกได้ทันที,ยิ่งอเมริกาไม่ให้ค่าศาลโลก,รัสเชียจีนยิ่งปฏิเสธอีกก็ว่า,องค์กรโลกผีบ้าหาความยุติธรรมไม่ได้หรอก.
    ..ทหารไทยเราคงพอกับอดีตที่ผิดพลาดของหัวหน้าตนเองได้แล้ว,หัวหน้าอะไรปล่อยเขมรมารุกรานคุกคามอธิปไตยไทยเราอิสระเสรีขนาดนี้,มันกะจะรุกรานคุกคามเวลาไหนก็เอาที่สบายใจมันง่ายๆงั้นเหรอ,อยากได้อะไรเดี๋ยวรัฐบาลจัดให้ใช่มั้ย,คงได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่คุยกันในที่ลับจนเคยชินมาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่เด็ก,มันคุยกันง่ายๆแบบนี้เองระดับคนมีอำนาจผู้นำผู้ปกครองในบ้านในเมืองนี้,และสามารถแลกอธิปไตยกันง่ายๆกับผลประโยชน์ตนเองด้วยเอาชาติไทยตนเป็นเครื่องสร้างรายได้เนาะ.,เขาพระวิหารมหากาฬนั้นต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังมาแน่นอนเช่นกัน.จนเกิดข้อตกลงผีบ้านั้นขึ้นพร้อมส่งมุกเปิดช่องให้อีกฝ่ายง่ายต่อวลีคำบาลีอ้างให้สามารถชนะความได้เพราะเดอะแก๊งคณะทั้งหมดนี้สมยอมสมรู้ร่วมคิดกับมันตลอดแกล้งโง่ก็ด้วย.วิถีปกครองที่วางแผนล้มล้างแผ่นดินไทยตนเองและทำลายชุมชนสังคมภายในตนเองบนอำนาจมั่งคั่งยั่งยืนสืบไป.,แต่เหี้ยกรรมตามทันแพ้ภัยตนเอง ดับอนาถทุกรายเพราะแผ่นดินไทยเรานี้ศักดิ์สิทธิ์นัก,เขาปล่อยให้สะสมเรเวลกรรมหนักไปเรื่อยๆแค่นั้นล่ะอิสระสะสมกรรมรุ่นxxlvipนรก.ก็ว่า.
    ..อดีตนายกฯทวีเราไม่เกี่ยวหรอกแค่เชื่อมรอยต่อว่า อดีตนายกฯหญิงถูกยึดอำนาจจากใครแล้วก็ลดลงไปเรื่อยๆถึงอดีตนายกฯชวนขึ้นมาถึงโทนี่.,mouจะสี่อะไรจริงๆสามารถยกเลิกได้หมดในสภาหรือการยึดอำนาจสมบูรณ์หากพิจารณาชัดเจนแล้วว่าไม่เป็นคุณเป็นธรรมต่อประเทศไทยเราหรือหยามเกียรติศักดิ์ศรีอธิปไตยชาติไทยเรา,แม้ตอนนี้เวลานี้ก็สามารถยกเลิกได้ทันที,ยิ่งอเมริกาไม่ให้ค่าศาลโลก,รัสเชียจีนยิ่งปฏิเสธอีกก็ว่า,องค์กรโลกผีบ้าหาความยุติธรรมไม่ได้หรอก. ..ทหารไทยเราคงพอกับอดีตที่ผิดพลาดของหัวหน้าตนเองได้แล้ว,หัวหน้าอะไรปล่อยเขมรมารุกรานคุกคามอธิปไตยไทยเราอิสระเสรีขนาดนี้,มันกะจะรุกรานคุกคามเวลาไหนก็เอาที่สบายใจมันง่ายๆงั้นเหรอ,อยากได้อะไรเดี๋ยวรัฐบาลจัดให้ใช่มั้ย,คงได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่คุยกันในที่ลับจนเคยชินมาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่เด็ก,มันคุยกันง่ายๆแบบนี้เองระดับคนมีอำนาจผู้นำผู้ปกครองในบ้านในเมืองนี้,และสามารถแลกอธิปไตยกันง่ายๆกับผลประโยชน์ตนเองด้วยเอาชาติไทยตนเป็นเครื่องสร้างรายได้เนาะ.,เขาพระวิหารมหากาฬนั้นต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังมาแน่นอนเช่นกัน.จนเกิดข้อตกลงผีบ้านั้นขึ้นพร้อมส่งมุกเปิดช่องให้อีกฝ่ายง่ายต่อวลีคำบาลีอ้างให้สามารถชนะความได้เพราะเดอะแก๊งคณะทั้งหมดนี้สมยอมสมรู้ร่วมคิดกับมันตลอดแกล้งโง่ก็ด้วย.วิถีปกครองที่วางแผนล้มล้างแผ่นดินไทยตนเองและทำลายชุมชนสังคมภายในตนเองบนอำนาจมั่งคั่งยั่งยืนสืบไป.,แต่เหี้ยกรรมตามทันแพ้ภัยตนเอง ดับอนาถทุกรายเพราะแผ่นดินไทยเรานี้ศักดิ์สิทธิ์นัก,เขาปล่อยให้สะสมเรเวลกรรมหนักไปเรื่อยๆแค่นั้นล่ะอิสระสะสมกรรมรุ่นxxlvipนรก.ก็ว่า.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ครั้งหนึ่งและช่วงหนึ่งระหว่างโควิดมาใหม่,จะมีภาพข่าวเหล่านี้เป็นอันมากในอเมริกาโดยเฉพาะพวกฮอลลีวูดที่แดกอะดริโนโครมเด็กๆเลือดเด็กๆการทารุนเด็กๆเพื่อเอาเลือด,เด็กบางคนตายจากขณะทารุน,บวกพวกมันแดกเนื้อเด็กๆด้วย,คนเหล่านี้น่าจะตายไปหมดแล้วทั้งฮอลลีวูด,และถูกไล่ล่าเด็ดหัวเป็นอันมากชนิดไร้การอภัยโทษใดๆเลย,ยืนยันโดยพวกใส่รองเท้าแบบนี้ล่ะ กำไลนักโทษนั้นเอง มีทั้งโทษเบาจนถึงหนักสาหัสรอการประหารชีวิตได้ตลอดเวลา,คนทั่วไปเห็นมันจะอ้างปัดไปว่า ประสบอุบัติเหตุข้อเท้าอักเสบเจ็บมีปัญหา,ปัญหามันจริงๆเตรียมตัวลงโทษถึงขั้นสูงสุดประหารชีวิตระหว่างทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงกันและมีในมือเต็มที่แล้ว.
    ..ในไทยเราดารานักร้องลูกหลานเจ้าสัวคนร่ำรวยที่เข้ารีตลัทธิซาตานนี้มีไม่น้อย,เดินโชว์ออกสื่อออกข่าวตรึมก็มี,ชนชั้นสูงหลายคนก็ไม่รอดคือตายสถานเดียว,เข้าไล่ล่าเด็ดหัวเด็ดชีวิตจริง,แล้วเอาตัวปลอมตัวโคลนแทนที่หากเกี่ยวข้องกับสถานะทางสังคมมากเกินไป,เช่นผู้นำระดับประเทศต่างๆตลอดคนวงการต่างๆเช่นไอ้มาร์คfb,ไอ้เก็ตๆไมโครซอฟ,หรืออีลอนมาร์คก็ด้วย,ตัวจริงตายหมดแล้วและGitmoหลายสาขาสร้างรองรับตรึมทั่วโลกตลอดเรือสำราญเรเวลคุกบันเทิงทั่วโลกก็ว่า.
    ..พวกนี้ปะปนในโลกเราตรึมอาจมนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นแต่ใส่ชุดชาวโลกเรา,ต่างดาวสายพันธุ์อื่นก็ว่าที่มองชาวโลกมนุษย์ปัจจุบันคือแหล่งอาหารทำแดกของมัน.,ไฮบริดจ์รุ่นผสมระหว่างแรปทีเลี่ยนกับเผ่าพื้นเมืองต่างๆก็ว่าสาระพัดต่างดาวเลวชั่วหมายฆ่าพวกเราปกครองเราให้เป็นทาสอาหารมันนั่นเอง.
    ..ครั้งหนึ่งและช่วงหนึ่งระหว่างโควิดมาใหม่,จะมีภาพข่าวเหล่านี้เป็นอันมากในอเมริกาโดยเฉพาะพวกฮอลลีวูดที่แดกอะดริโนโครมเด็กๆเลือดเด็กๆการทารุนเด็กๆเพื่อเอาเลือด,เด็กบางคนตายจากขณะทารุน,บวกพวกมันแดกเนื้อเด็กๆด้วย,คนเหล่านี้น่าจะตายไปหมดแล้วทั้งฮอลลีวูด,และถูกไล่ล่าเด็ดหัวเป็นอันมากชนิดไร้การอภัยโทษใดๆเลย,ยืนยันโดยพวกใส่รองเท้าแบบนี้ล่ะ กำไลนักโทษนั้นเอง มีทั้งโทษเบาจนถึงหนักสาหัสรอการประหารชีวิตได้ตลอดเวลา,คนทั่วไปเห็นมันจะอ้างปัดไปว่า ประสบอุบัติเหตุข้อเท้าอักเสบเจ็บมีปัญหา,ปัญหามันจริงๆเตรียมตัวลงโทษถึงขั้นสูงสุดประหารชีวิตระหว่างทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงกันและมีในมือเต็มที่แล้ว. ..ในไทยเราดารานักร้องลูกหลานเจ้าสัวคนร่ำรวยที่เข้ารีตลัทธิซาตานนี้มีไม่น้อย,เดินโชว์ออกสื่อออกข่าวตรึมก็มี,ชนชั้นสูงหลายคนก็ไม่รอดคือตายสถานเดียว,เข้าไล่ล่าเด็ดหัวเด็ดชีวิตจริง,แล้วเอาตัวปลอมตัวโคลนแทนที่หากเกี่ยวข้องกับสถานะทางสังคมมากเกินไป,เช่นผู้นำระดับประเทศต่างๆตลอดคนวงการต่างๆเช่นไอ้มาร์คfb,ไอ้เก็ตๆไมโครซอฟ,หรืออีลอนมาร์คก็ด้วย,ตัวจริงตายหมดแล้วและGitmoหลายสาขาสร้างรองรับตรึมทั่วโลกตลอดเรือสำราญเรเวลคุกบันเทิงทั่วโลกก็ว่า. ..พวกนี้ปะปนในโลกเราตรึมอาจมนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นแต่ใส่ชุดชาวโลกเรา,ต่างดาวสายพันธุ์อื่นก็ว่าที่มองชาวโลกมนุษย์ปัจจุบันคือแหล่งอาหารทำแดกของมัน.,ไฮบริดจ์รุ่นผสมระหว่างแรปทีเลี่ยนกับเผ่าพื้นเมืองต่างๆก็ว่าสาระพัดต่างดาวเลวชั่วหมายฆ่าพวกเราปกครองเราให้เป็นทาสอาหารมันนั่นเอง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทต่าง ๆ ทุ่มงบกับ Cybersecurity เป็นพันล้าน แต่สุดท้ายระบบกลับถูกทะลวงด้วย “มนุษย์” ที่อยู่ด่านหน้าอย่างพนักงาน Call Center — ที่มักจะเป็นแรงงาน outsource ค่าแรงต่ำ และเข้าถึงข้อมูลลูกค้าโดยตรง

    เคสที่เด่นชัดที่สุดคือการโจมตี Call Center ที่ดูแลบัญชีลูกค้า Coinbase ซึ่งรับงานจากบริษัท TaskUs แฮกเกอร์เสนอสินบนอย่างน้อย $2,500 แลกกับการเปิดทางเข้าระบบหลังบ้าน และทำให้ข้อมูลลูกค้า มากถึง 97,000 ราย ถูกขโมยไป

    จากนั้นแฮกเกอร์ใช้ข้อมูลดังกล่าว ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ Coinbase โทรหาลูกค้า พร้อมข้อมูลจริงครบถ้วน จนเหยื่อหลงเชื่อและโอนคริปโตให้กับกระเป๋าของคนร้าย

    วิธีโจมตีไม่ได้มีแค่การติดสินบน—บางกรณีแฮกเกอร์แค่ถามพนักงานว่ารันซอฟต์แวร์อะไร แล้วไปเจอว่า มี Extension ที่มีช่องโหว่ ก็ใช้ช่องนั้น inject script เพื่อดูดข้อมูลแบบ mass

    นอกจากนั้นยังมีเคสใน UK ที่กลุ่มโจรไซเบอร์ปลอมเป็นผู้บริหารจาก M&S และ Harrods เพื่อสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายซัพพอร์ตเปิดทางเข้าระบบ (เทคนิคแบบเดียวกับที่ใช้โจมตี MGM Resorts ปี 2023)

    ✅ แฮกเกอร์เปลี่ยนเป้าหมายจากระบบ มาเป็น “คน” ในสายซัพพอร์ตค่าแรงต่ำ  
    • เสนอสินบนหลักพันดอลลาร์เพื่อให้เข้าถึงระบบบริษัท

    ✅ Coinbase ถูกเจาะข้อมูลผ่านพนักงาน TaskUs จนกระทั่งลูกค้าเสียหายกว่า 97,000 ราย  
    • แฮกเกอร์ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่จริง พร้อมข้อมูลละเอียด

    ✅ มีการใช้เทคนิคอื่น เช่นแอบ inject code ผ่าน Extension ที่พนักงานใช้ใน Call Center  
    • เริ่มจากการถามว่านายใช้ซอฟต์แวร์อะไร

    ✅ UK ก็มีเคสที่แฮกเกอร์ปลอมเป็นผู้บริหารโทรหาเจ้าหน้าที่ให้เปิดระบบให้  
    • เป็น “วิศวกรรมสังคม” แบบสายตรง

    ✅ บริษัทบางแห่งพบว่า แม้จะไล่พนักงานออกแล้ว คน ๆ นั้นสามารถหางานใหม่ได้ง่ายมากในตลาด outsource  
    • ทำให้การป้องกันด้านบุคคลทวีความยากขึ้น

    ✅ แม้มี Cybersecurity ขั้นสูง แต่ Human Interaction ยังคงเป็นจุดอ่อนที่สุดของระบบ  
    • กล่าวโดยผู้เชี่ยวชาญจาก ReliaQuest

    ‼️ การจ้าง outsource ที่ไม่มีระบบตรวจสอบจริยธรรมอาจเปิดทางให้คนในขายข้อมูล  
    • ความเสี่ยงไม่ได้อยู่แค่ในเทคโนโลยี แต่เป็นการจัดการแรงงาน

    ‼️ แฮกเกอร์เริ่มเก่งในการปลอมตัวและใช้ข้อมูลจริงโทรหลอกลูกค้า  
    • ต้องเพิ่มการยืนยันตัวตนหลายขั้น แม้จะดูยุ่งยาก

    ‼️ พนักงานที่ถูกไล่ออกมักหางานในบริษัท outsource อื่นได้ง่าย  
    • ขาดระบบ blacklist หรือ shared warning system ระหว่างบริษัท

    ‼️ การละเลยการอัปเดตซอฟต์แวร์ หรือใช้ Extension ที่มีช่องโหว่ในเครื่อง Call Center อาจเปิดช่องให้โดนดูดข้อมูลแบบ mass scale

    https://www.techspot.com/news/108387-low-wage-support-workers-become-new-gateway-cyberattacks.html
    บริษัทต่าง ๆ ทุ่มงบกับ Cybersecurity เป็นพันล้าน แต่สุดท้ายระบบกลับถูกทะลวงด้วย “มนุษย์” ที่อยู่ด่านหน้าอย่างพนักงาน Call Center — ที่มักจะเป็นแรงงาน outsource ค่าแรงต่ำ และเข้าถึงข้อมูลลูกค้าโดยตรง เคสที่เด่นชัดที่สุดคือการโจมตี Call Center ที่ดูแลบัญชีลูกค้า Coinbase ซึ่งรับงานจากบริษัท TaskUs แฮกเกอร์เสนอสินบนอย่างน้อย $2,500 แลกกับการเปิดทางเข้าระบบหลังบ้าน และทำให้ข้อมูลลูกค้า มากถึง 97,000 ราย ถูกขโมยไป จากนั้นแฮกเกอร์ใช้ข้อมูลดังกล่าว ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ Coinbase โทรหาลูกค้า พร้อมข้อมูลจริงครบถ้วน จนเหยื่อหลงเชื่อและโอนคริปโตให้กับกระเป๋าของคนร้าย วิธีโจมตีไม่ได้มีแค่การติดสินบน—บางกรณีแฮกเกอร์แค่ถามพนักงานว่ารันซอฟต์แวร์อะไร แล้วไปเจอว่า มี Extension ที่มีช่องโหว่ ก็ใช้ช่องนั้น inject script เพื่อดูดข้อมูลแบบ mass นอกจากนั้นยังมีเคสใน UK ที่กลุ่มโจรไซเบอร์ปลอมเป็นผู้บริหารจาก M&S และ Harrods เพื่อสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายซัพพอร์ตเปิดทางเข้าระบบ (เทคนิคแบบเดียวกับที่ใช้โจมตี MGM Resorts ปี 2023) ✅ แฮกเกอร์เปลี่ยนเป้าหมายจากระบบ มาเป็น “คน” ในสายซัพพอร์ตค่าแรงต่ำ   • เสนอสินบนหลักพันดอลลาร์เพื่อให้เข้าถึงระบบบริษัท ✅ Coinbase ถูกเจาะข้อมูลผ่านพนักงาน TaskUs จนกระทั่งลูกค้าเสียหายกว่า 97,000 ราย   • แฮกเกอร์ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่จริง พร้อมข้อมูลละเอียด ✅ มีการใช้เทคนิคอื่น เช่นแอบ inject code ผ่าน Extension ที่พนักงานใช้ใน Call Center   • เริ่มจากการถามว่านายใช้ซอฟต์แวร์อะไร ✅ UK ก็มีเคสที่แฮกเกอร์ปลอมเป็นผู้บริหารโทรหาเจ้าหน้าที่ให้เปิดระบบให้   • เป็น “วิศวกรรมสังคม” แบบสายตรง ✅ บริษัทบางแห่งพบว่า แม้จะไล่พนักงานออกแล้ว คน ๆ นั้นสามารถหางานใหม่ได้ง่ายมากในตลาด outsource   • ทำให้การป้องกันด้านบุคคลทวีความยากขึ้น ✅ แม้มี Cybersecurity ขั้นสูง แต่ Human Interaction ยังคงเป็นจุดอ่อนที่สุดของระบบ   • กล่าวโดยผู้เชี่ยวชาญจาก ReliaQuest ‼️ การจ้าง outsource ที่ไม่มีระบบตรวจสอบจริยธรรมอาจเปิดทางให้คนในขายข้อมูล   • ความเสี่ยงไม่ได้อยู่แค่ในเทคโนโลยี แต่เป็นการจัดการแรงงาน ‼️ แฮกเกอร์เริ่มเก่งในการปลอมตัวและใช้ข้อมูลจริงโทรหลอกลูกค้า   • ต้องเพิ่มการยืนยันตัวตนหลายขั้น แม้จะดูยุ่งยาก ‼️ พนักงานที่ถูกไล่ออกมักหางานในบริษัท outsource อื่นได้ง่าย   • ขาดระบบ blacklist หรือ shared warning system ระหว่างบริษัท ‼️ การละเลยการอัปเดตซอฟต์แวร์ หรือใช้ Extension ที่มีช่องโหว่ในเครื่อง Call Center อาจเปิดช่องให้โดนดูดข้อมูลแบบ mass scale https://www.techspot.com/news/108387-low-wage-support-workers-become-new-gateway-cyberattacks.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Low-wage tech support workers become a new gateway for cyberattacks
    Hackers are increasingly turning the very systems designed to help customers – outsourced tech support and call centers – into powerful tools for cybercrime. Recent incidents in...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มโนเลยว่า,วัคซีนโควิดมันออกฤทธิ์แล้ว,คนไทยหลายคนทำการรักษาบำบัดแบบไม่เป็นข่าวจำนวนมากและสารพัดโรคมีมาแปลกๆด้วย คนเดียวเป็นมากกว่า1โรคหรือ2โรคซึ่งผิดปกติก่อนมีโควิดมากและก่อนคนไทยจะเริ่มรับวัคซีนโควิด,
    ..หากได้นายกฯคนใหม่แบบมาทางพิเศษฉุกเฉินหรือสุดซอยยึดอำนาจโดยประขาชนโดยมาทหารยืนเคียงข้างร่วมกัน แล้วประกาศชัดอย่างเป็นทางการว่า วัคซีนโควิดที่คนไทยรับไปคือภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพคือภาวะสงครามชีวภาพฉุกเฉินเพื่อเยี่ยวบาดแผลและพิษร้ายของอาวุธได้ตรงจุดรับมือถูกทางด้วย.,การรักษาก็จะมารอบด้านสาระพัดทางเพื่อกำจัดโรคร่วมกันในคนไทยเราด้วยผู้นำผู้ปกครองนายกฯที่มาจากภาคประชาชนรักคนไทยจริงมิใช่รักอำนาจทางการเมืองเพื่อคตโกงทุจริตตังแผ่นดินและสัญญาข้อตกลงต่างๆให้ตนได้มาซึ่งผลประโยชน์อันมหาศาลในภาวะอำนาจตำแหน่งที่ตนถือครองเพื่อกระทำชั่วเลวทั้งแบบอ้างกฎหมายอย่างชอบธรรมเพราะกูสั่งให้เขียนกฎหมายเข้าข้างกูเองเปิดทางให้กูเอง,กฎหมายมากมายจึงต้องฉีกทิ้งด้วยอำนาจพืเศษทันทีได้เช่นกัน,หากอำนาจปกติด้วยสันดานนิสัยเดิมของสถาบันนักการเมืองฝันไปเลยมันจะแก้ไขเพราะเจ้าสัวเอย นายใหญ่มันเองในระบบราชการไทยที่ส่งคนของมันแบบมันคุมจะจัดการสมุนแบบกูแน่,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เช่นผู้ปกครองสั่งนำเข้าวัคซีนโควิดมาฉีดในไทยนี้ล่ะ,กัญชาเสรียังวิจัยพิษภัยถึง5ปี,เหี้ยวัคซีนไม่มีงานวิจัยว่าปลอดภัยอะไร100%เลย,ปัจจุบันความจริงมากมายแฉออกมาทั่วโลกแต่รัฐบาลไทยกลับทำตาบอดหูหนวกขององค์รูรอบรู้จากข่าวสารจริงทั่วโลก ไม่บอกกล่าวความจริงอะไรแก่ประชาชนอย่างเป็นทางการผ่านอำนาจรัฐตน,พิษวัคซีนมีคดีความที่ชนะในแต่ละประเทศมากมาย,บริษัทวัคซีนก็ยอมรับผิดจริงเป็นข่าวออกมาแล้ว,วงการแพทย์ไทยก็ปล่อยปะละเลยไม่ยอมรับต้นเหตุของสารก่อโรคจริง,ระบุแค่สภาวะโรคที่เกิดหลังคนไทยตายจริงไปแล้ว,น่าอนาถบนวิถีผู้นำผู้ปกครองที่กากในอดีตสิ้นดี,ทรยศคนไทยจริง เป็นภัยคุกคามในชีวิตคนไทยจริงด้วย คนไทยตายหมดแผ่นดินนี้ก็จะถูกยึดครองโดยคนชาติอื่นทันทีและเสียอธิปไตยแบบไม่ต้องรบเลยก็ได้ เดินมายึดเนียนก็ยังได้กว่าเขมรปะทะพรมแดนไทยในขณะนี้อีก,โรคมากมายมาจากต่าวด้าว คนไทยภูมิคุ้มกันตกต่ำก็เป็นสาระพัดโรคได้สบาย,ปัจจุบันพ่อแม่เสียชีวิตก่อนเด็กเยาวชนได้เป็นไม่น้อย เจ็บป่วยทำงานปกติลำบากพักงานลาพักตรึมสูญเสียงานสูญเสียรายได้มาจ่ายค่าอาหารค่าข้าวค่าน้ำค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะสังคมเมืองเงินคือปัจจัยจำเป็นสำคัญสิ่งแรกนอกจากตังมารักษาตนเองจากสาระพัดโรคต่างๆ,เอดส์ มะเร็ง ฝีดาษ งูสวัด และอีก1,291โรคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากกำแพงป้องกันอ่อนแอคือnkcellตนตกต่ำลง,ชาวบ้านประชาชนคือเหยื่อผู้บริสุทธิ์ในสงครามนี้,ผู้นำนายกฯที่สั่งฉีดวัคซีนยุคนั้นๆและถึงปัจจุบันต้องรับผิดชอบเพราะสมคบคิดกันชัดเจนเจตนาก้าวข้ามศพคนไทยเหยียบย่ำความเจ็บป่วยคนไทยไม่เยียวยาดูแลให้ถูกทางเพื่อกำจัดโรค,ตัดงบประมาณมากมายอีก ทำกำไรหารายได้ค้าความตายค้ายาค้าชีวิตคนด้วยการเจ็บป่วยของคนไทย,หากไม่เกิดเรื่องพรมแดน เรื่องถีบกระบวนการรักษาคนไทยที่ฟรีจะเริ่มถูกกำจัดทิ้ง คนไทยจะเริ่มเสียตังเป็นอันมากเองเพื่อรักษาตัวเอง,กำไรมหาศาลจะตกแก่กิจการบริษัทยาและโรงพยาบาลที่เป็นทั้งของรัฐและเอกชน ยิ่งเอกชนในตลาดหุ้นยิ่งยินดีมากรายได้กำไรจะทวีคูณทันที,
    ..แค่เรามีนายกฯคนใหม่จะพลิกทันที,ระบบการรักษาสามารถฟรีตลอดชีพทุกๆโรคก็ได้,อย่าลืมว่าสมุนไพรไทยมันสกัดทางยาเทียบคุณภาพทางเคมีได้สบาย,ทำให้สะดวกต่อการรักษาหลากหลายวิธี,คนไทยมีสุขภาพดี มีแรงสร้างชาติไทยร่วมกันมีแรงทำงานมีแรงค้าขายมีสมองร่างกายไม่เจ็บป่วย ลูกหลายไม่กำพร้าพ่อแม่จากการเสียชีวิต อยู่ร่วมในครบหน้าพร้อมครอบครัวอย่างมีความสุขเบิกบานร่าเริง การเรียนวิชาก็เล่าเรียนฟรีสูงสุดในระบบยุคล้ำๆได้ เด็กๆเล่าเรียนไร้ภาวะค่าเล่าเรียนค่าใช้จ่ายใดๆ,ผู้ปกครองมีทุนสัมมาอาชีพกู้ยืมไร้ดอกเบี้ยมีแหล่งตังอหล่งเงินทุนไปประกอบอาชีพได้อิสระ,ทั้งประเทศขับเคลื่อนได้หมด,มิใช่แบบปัจจุบันนี้ทั้งตายผ่อนส่งบาดเจ็บด้วยโรคภัยจากอาวุธชีวะภาพอักเสบทั้งทางร่างกายและจิตใจของตนเองและคนที่ตนรักตนห่วงหรือรักษาตน,กังวลค่ารักษาพยาบาลตังไม่มีไปหาหมอเดินทางออกจากบ้านก็ใช้ตังหมด,รถรับส่งสาธารณะฟรีๆก็ไม่มีในแต่ละชุมชนหมู่บ้านสู่ตัวเมืองตัวจังหวัดซึ่งเราประเทศต้องมีบริการแล้ว,แม้ใครจะมีรถเป็นของตนเองก็ตาม,สุดท้ายทุกๆคนมาใช้บริการฟรีๆรับส่งสาธารณะเข้าตัวจังหวัดอำเภอ เชื้อเพลิงก็ประหยัดเป็นภาพรวม.รถไฟฟ้าพลังกลจลน์ศักย์ไอน้ำไฮโดรเจนหรือแม่เหล็กมอเตอร์ลมแสงอาทิตย์ฟรีๆตรึมมีอันมาก นี้คือวิสัยทัศน์ของผู้นำผู้ปกครองมิใช่กระตุ้นการทำกำไรสร้างรายได้ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคณะใดคณะหนึ่งบริษัทกิจการผูกขาดใดผูกขาดหนึ่ง,ที่ผ่านมาประเทศเรามีวิถีปกครองที่ล้มเหลว,วัคซีนคือสงครามชีวภาพก็นำมาฆ่ามาทำลายคนไทยตนเองมันอำมหิตมาก.

    https://youtu.be/ddHrCkhNABY?si=zC0Gcs5TnYylt_TU
    ..มโนเลยว่า,วัคซีนโควิดมันออกฤทธิ์แล้ว,คนไทยหลายคนทำการรักษาบำบัดแบบไม่เป็นข่าวจำนวนมากและสารพัดโรคมีมาแปลกๆด้วย คนเดียวเป็นมากกว่า1โรคหรือ2โรคซึ่งผิดปกติก่อนมีโควิดมากและก่อนคนไทยจะเริ่มรับวัคซีนโควิด, ..หากได้นายกฯคนใหม่แบบมาทางพิเศษฉุกเฉินหรือสุดซอยยึดอำนาจโดยประขาชนโดยมาทหารยืนเคียงข้างร่วมกัน แล้วประกาศชัดอย่างเป็นทางการว่า วัคซีนโควิดที่คนไทยรับไปคือภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพคือภาวะสงครามชีวภาพฉุกเฉินเพื่อเยี่ยวบาดแผลและพิษร้ายของอาวุธได้ตรงจุดรับมือถูกทางด้วย.,การรักษาก็จะมารอบด้านสาระพัดทางเพื่อกำจัดโรคร่วมกันในคนไทยเราด้วยผู้นำผู้ปกครองนายกฯที่มาจากภาคประชาชนรักคนไทยจริงมิใช่รักอำนาจทางการเมืองเพื่อคตโกงทุจริตตังแผ่นดินและสัญญาข้อตกลงต่างๆให้ตนได้มาซึ่งผลประโยชน์อันมหาศาลในภาวะอำนาจตำแหน่งที่ตนถือครองเพื่อกระทำชั่วเลวทั้งแบบอ้างกฎหมายอย่างชอบธรรมเพราะกูสั่งให้เขียนกฎหมายเข้าข้างกูเองเปิดทางให้กูเอง,กฎหมายมากมายจึงต้องฉีกทิ้งด้วยอำนาจพืเศษทันทีได้เช่นกัน,หากอำนาจปกติด้วยสันดานนิสัยเดิมของสถาบันนักการเมืองฝันไปเลยมันจะแก้ไขเพราะเจ้าสัวเอย นายใหญ่มันเองในระบบราชการไทยที่ส่งคนของมันแบบมันคุมจะจัดการสมุนแบบกูแน่,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เช่นผู้ปกครองสั่งนำเข้าวัคซีนโควิดมาฉีดในไทยนี้ล่ะ,กัญชาเสรียังวิจัยพิษภัยถึง5ปี,เหี้ยวัคซีนไม่มีงานวิจัยว่าปลอดภัยอะไร100%เลย,ปัจจุบันความจริงมากมายแฉออกมาทั่วโลกแต่รัฐบาลไทยกลับทำตาบอดหูหนวกขององค์รูรอบรู้จากข่าวสารจริงทั่วโลก ไม่บอกกล่าวความจริงอะไรแก่ประชาชนอย่างเป็นทางการผ่านอำนาจรัฐตน,พิษวัคซีนมีคดีความที่ชนะในแต่ละประเทศมากมาย,บริษัทวัคซีนก็ยอมรับผิดจริงเป็นข่าวออกมาแล้ว,วงการแพทย์ไทยก็ปล่อยปะละเลยไม่ยอมรับต้นเหตุของสารก่อโรคจริง,ระบุแค่สภาวะโรคที่เกิดหลังคนไทยตายจริงไปแล้ว,น่าอนาถบนวิถีผู้นำผู้ปกครองที่กากในอดีตสิ้นดี,ทรยศคนไทยจริง เป็นภัยคุกคามในชีวิตคนไทยจริงด้วย คนไทยตายหมดแผ่นดินนี้ก็จะถูกยึดครองโดยคนชาติอื่นทันทีและเสียอธิปไตยแบบไม่ต้องรบเลยก็ได้ เดินมายึดเนียนก็ยังได้กว่าเขมรปะทะพรมแดนไทยในขณะนี้อีก,โรคมากมายมาจากต่าวด้าว คนไทยภูมิคุ้มกันตกต่ำก็เป็นสาระพัดโรคได้สบาย,ปัจจุบันพ่อแม่เสียชีวิตก่อนเด็กเยาวชนได้เป็นไม่น้อย เจ็บป่วยทำงานปกติลำบากพักงานลาพักตรึมสูญเสียงานสูญเสียรายได้มาจ่ายค่าอาหารค่าข้าวค่าน้ำค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะสังคมเมืองเงินคือปัจจัยจำเป็นสำคัญสิ่งแรกนอกจากตังมารักษาตนเองจากสาระพัดโรคต่างๆ,เอดส์ มะเร็ง ฝีดาษ งูสวัด และอีก1,291โรคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากกำแพงป้องกันอ่อนแอคือnkcellตนตกต่ำลง,ชาวบ้านประชาชนคือเหยื่อผู้บริสุทธิ์ในสงครามนี้,ผู้นำนายกฯที่สั่งฉีดวัคซีนยุคนั้นๆและถึงปัจจุบันต้องรับผิดชอบเพราะสมคบคิดกันชัดเจนเจตนาก้าวข้ามศพคนไทยเหยียบย่ำความเจ็บป่วยคนไทยไม่เยียวยาดูแลให้ถูกทางเพื่อกำจัดโรค,ตัดงบประมาณมากมายอีก ทำกำไรหารายได้ค้าความตายค้ายาค้าชีวิตคนด้วยการเจ็บป่วยของคนไทย,หากไม่เกิดเรื่องพรมแดน เรื่องถีบกระบวนการรักษาคนไทยที่ฟรีจะเริ่มถูกกำจัดทิ้ง คนไทยจะเริ่มเสียตังเป็นอันมากเองเพื่อรักษาตัวเอง,กำไรมหาศาลจะตกแก่กิจการบริษัทยาและโรงพยาบาลที่เป็นทั้งของรัฐและเอกชน ยิ่งเอกชนในตลาดหุ้นยิ่งยินดีมากรายได้กำไรจะทวีคูณทันที, ..แค่เรามีนายกฯคนใหม่จะพลิกทันที,ระบบการรักษาสามารถฟรีตลอดชีพทุกๆโรคก็ได้,อย่าลืมว่าสมุนไพรไทยมันสกัดทางยาเทียบคุณภาพทางเคมีได้สบาย,ทำให้สะดวกต่อการรักษาหลากหลายวิธี,คนไทยมีสุขภาพดี มีแรงสร้างชาติไทยร่วมกันมีแรงทำงานมีแรงค้าขายมีสมองร่างกายไม่เจ็บป่วย ลูกหลายไม่กำพร้าพ่อแม่จากการเสียชีวิต อยู่ร่วมในครบหน้าพร้อมครอบครัวอย่างมีความสุขเบิกบานร่าเริง การเรียนวิชาก็เล่าเรียนฟรีสูงสุดในระบบยุคล้ำๆได้ เด็กๆเล่าเรียนไร้ภาวะค่าเล่าเรียนค่าใช้จ่ายใดๆ,ผู้ปกครองมีทุนสัมมาอาชีพกู้ยืมไร้ดอกเบี้ยมีแหล่งตังอหล่งเงินทุนไปประกอบอาชีพได้อิสระ,ทั้งประเทศขับเคลื่อนได้หมด,มิใช่แบบปัจจุบันนี้ทั้งตายผ่อนส่งบาดเจ็บด้วยโรคภัยจากอาวุธชีวะภาพอักเสบทั้งทางร่างกายและจิตใจของตนเองและคนที่ตนรักตนห่วงหรือรักษาตน,กังวลค่ารักษาพยาบาลตังไม่มีไปหาหมอเดินทางออกจากบ้านก็ใช้ตังหมด,รถรับส่งสาธารณะฟรีๆก็ไม่มีในแต่ละชุมชนหมู่บ้านสู่ตัวเมืองตัวจังหวัดซึ่งเราประเทศต้องมีบริการแล้ว,แม้ใครจะมีรถเป็นของตนเองก็ตาม,สุดท้ายทุกๆคนมาใช้บริการฟรีๆรับส่งสาธารณะเข้าตัวจังหวัดอำเภอ เชื้อเพลิงก็ประหยัดเป็นภาพรวม.รถไฟฟ้าพลังกลจลน์ศักย์ไอน้ำไฮโดรเจนหรือแม่เหล็กมอเตอร์ลมแสงอาทิตย์ฟรีๆตรึมมีอันมาก นี้คือวิสัยทัศน์ของผู้นำผู้ปกครองมิใช่กระตุ้นการทำกำไรสร้างรายได้ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคณะใดคณะหนึ่งบริษัทกิจการผูกขาดใดผูกขาดหนึ่ง,ที่ผ่านมาประเทศเรามีวิถีปกครองที่ล้มเหลว,วัคซีนคือสงครามชีวภาพก็นำมาฆ่ามาทำลายคนไทยตนเองมันอำมหิตมาก. https://youtu.be/ddHrCkhNABY?si=zC0Gcs5TnYylt_TU
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก

    ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’

    วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ)

    เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า

    ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า

    วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย

    แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ?

    ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน

    แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความเก่า:
    ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944
    https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756
    https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html

    #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ) เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ? ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความเก่า: ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076 Credit รูปภาพจาก: https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944 https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756 https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลิปเสียงเรื่องร้ายแรง ปั่น 2 ชาติแตกแยก : [NEWS UPDATE]

    นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยกรณีคลิปเสียงหลุดทำลายความเชื่อใจระหว่างกันอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ และความพยายามใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ปัญหาตามแนวปฏิบัติสากล เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งนี้ กัมพูชาใช้การสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ เพื่อปลุกระดมความนิยมจากประชาชน สร้างความแตกแยกให้สังคมของทั้งสองประเทศหรือประเทศอื่น แสดงถึงการไม่เคารพหลักการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี การกระทำเช่นนี้ไม่ควรได้รับการยอมรับ และความไว้วางใจจากประชาคมระหว่างประเทศ

    -สยบลือปฏิวัติรัฐประหาร

    -ไม่เคยขอโควตาเพิ่ม

    -ไม่ผลีผลามสละเรือ

    -กัมพูชาเสียมากกว่าได้
    คลิปเสียงเรื่องร้ายแรง ปั่น 2 ชาติแตกแยก : [NEWS UPDATE] นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยกรณีคลิปเสียงหลุดทำลายความเชื่อใจระหว่างกันอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ และความพยายามใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ปัญหาตามแนวปฏิบัติสากล เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งนี้ กัมพูชาใช้การสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ เพื่อปลุกระดมความนิยมจากประชาชน สร้างความแตกแยกให้สังคมของทั้งสองประเทศหรือประเทศอื่น แสดงถึงการไม่เคารพหลักการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี การกระทำเช่นนี้ไม่ควรได้รับการยอมรับ และความไว้วางใจจากประชาคมระหว่างประเทศ -สยบลือปฏิวัติรัฐประหาร -ไม่เคยขอโควตาเพิ่ม -ไม่ผลีผลามสละเรือ -กัมพูชาเสียมากกว่าได้
    Like
    Haha
    4
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • Storyฯ เพิ่งดูละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ตอนที่หนึ่งเปิดตัวพระนางด้วยการแข่งขันอันเร้าใจของเกมกีฬาที่เรียกว่า ‘ชู่จวี’ (蹴鞠 หรือที่ BBC เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Kickball) เป็นศัพท์จีนที่จำตัวเขียนได้ยากมาก ไปทำการบ้านมาจึงพบว่าในเว็บจีนต่างพูดถึงเกมชู่จวีนี้ว่าเป็นต้นกำเนิดของฟุตบอล

    แต่เนื่องจากเพื่อนชาวอังกฤษของ Storyฯ พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าฟุตบอลเป็นกีฬาของอังกฤษ Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่านาย Kevin Moore ผู้อำนวยการของ National Football Museum แห่งอังกฤษกล่าวไว้หลายปีแล้วดังนี้ค่ะ “While England is the birthplace of the modern game as we know it, we have always acknowledged that the origins of the game lie in China” ซึ่งหมายความว่า วิธีการเล่น/แข่งฟุตบอลในรูปแบบปัจจุบันนั้นถือกำเนิดจากอังกฤษก็จริง แต่ฟุตบอลมีรากฐานมาจากจีน

    กลับมาที่ชู่จวีกันดีกว่า

    ความ ‘เอ๊ะ’ เกิดขึ้นเมื่อเห็นในละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ที่รูปร่างหน้าตาของ ‘บอล’ มันเหมือนตะกร้อมากเลย คือดูจะเป็นหวายสาน (ตามรูปขวาบนจากในละคร) แต่ Storyฯ เคยเห็นในละครเรื่องอื่นดูวัสดุคล้ายผ้าก็มี ก็เลยต้องไปทำการบ้านอีก

    เลยมีรูปจากพิพิธภัณฑ์กีฬาส่านซีมาฝาก (รูปขวาล่าง) เป็นรูปของลูกบอลที่ใช้ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล – ปีค.ศ. 220, คือลูกซ้าย) และราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907, คือลูกขวา) สังเกตได้ว่าการตัดเย็บไม่เหมือนกัน แต่สรุปว่าทั้งคู่ทำมาจากหนังนะจ๊ะ ส่วนไส้ในนั้นจะเป็นขนเป็ดขนไก่

    ในสมัยราชวงศ์ฮั่น การเล่นชู่จวีสามารถเล่นแบบโชว์เดี่ยว เป็นการแสดงทักษะและลีลาของผู้เล่น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถังจึงมีการเล่นแข่งเป็นทีม ซึ่งวิธีเล่นโดยหลักคือแข่งกันเตะลูกเข้าโกล โกลเป็นห่วงทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งฟุต ตั้งอยู่ตรงกลางสนาม เรียกว่า เฟิงหลิวเหยี่ยน (Eye of the Flowing Wind) สูงเหนือพื้นประมาณสิบเมตร มีเอกสารทางประวัติศาสตร์จากสมัยราชวงศ์ซ่งไม่น้อยที่บรรยายถึงกฎกติกาการเล่นชู่จวีอย่างชัดเจน

    ชู่จวีเป็นกิจกรรมกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น แต่ว่ากันว่ายุคเฟื่องฟูของมันจริงๆ คือสมัยราชวงศ์ถัง-ซ่ง เพราะงานเลี้ยงในวังหรืองานเลี้ยงฉลองต้อนรับทูตสัมพันธไมตรีจากแคว้นต่างๆ มักจัดให้มีการเล่นชู่จวี นอกจากนี้ยังมีการเล่นกันอย่างแพร่หลายในสังคมเมืองใหญ่อีกด้วย ผู้เล่นเดิมเป็นลูกหลานตระกูลผู้ดี เป็นผู้หญิงก็เล่นได้ (ในสมัยราชวงศ์ถัง) ต่อมาจึงมีนักเล่นมืออาชีพมาร่วมทีมด้วย แต่เมื่อผ่านยุคสมัยราชวงศ์ซ่งก็ค่อยๆ คลายความนิยมลง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://mydramalist.com/photos/eN5EY_3
    https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.bbc.com/news/magazine-35409594
    https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html
    https://www.epochtimes.com/gb/16/6/18/n8010456.htm
    http://view.inews.qq.com/a/20200915A0HSBN00?tbkt=B3&uid=

    #สตรีหาญฉางเกอ #ชู่จวี #ราชวงศ์ถัง #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    Storyฯ เพิ่งดูละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ตอนที่หนึ่งเปิดตัวพระนางด้วยการแข่งขันอันเร้าใจของเกมกีฬาที่เรียกว่า ‘ชู่จวี’ (蹴鞠 หรือที่ BBC เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Kickball) เป็นศัพท์จีนที่จำตัวเขียนได้ยากมาก ไปทำการบ้านมาจึงพบว่าในเว็บจีนต่างพูดถึงเกมชู่จวีนี้ว่าเป็นต้นกำเนิดของฟุตบอล แต่เนื่องจากเพื่อนชาวอังกฤษของ Storyฯ พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าฟุตบอลเป็นกีฬาของอังกฤษ Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่านาย Kevin Moore ผู้อำนวยการของ National Football Museum แห่งอังกฤษกล่าวไว้หลายปีแล้วดังนี้ค่ะ “While England is the birthplace of the modern game as we know it, we have always acknowledged that the origins of the game lie in China” ซึ่งหมายความว่า วิธีการเล่น/แข่งฟุตบอลในรูปแบบปัจจุบันนั้นถือกำเนิดจากอังกฤษก็จริง แต่ฟุตบอลมีรากฐานมาจากจีน กลับมาที่ชู่จวีกันดีกว่า ความ ‘เอ๊ะ’ เกิดขึ้นเมื่อเห็นในละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ที่รูปร่างหน้าตาของ ‘บอล’ มันเหมือนตะกร้อมากเลย คือดูจะเป็นหวายสาน (ตามรูปขวาบนจากในละคร) แต่ Storyฯ เคยเห็นในละครเรื่องอื่นดูวัสดุคล้ายผ้าก็มี ก็เลยต้องไปทำการบ้านอีก เลยมีรูปจากพิพิธภัณฑ์กีฬาส่านซีมาฝาก (รูปขวาล่าง) เป็นรูปของลูกบอลที่ใช้ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล – ปีค.ศ. 220, คือลูกซ้าย) และราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907, คือลูกขวา) สังเกตได้ว่าการตัดเย็บไม่เหมือนกัน แต่สรุปว่าทั้งคู่ทำมาจากหนังนะจ๊ะ ส่วนไส้ในนั้นจะเป็นขนเป็ดขนไก่ ในสมัยราชวงศ์ฮั่น การเล่นชู่จวีสามารถเล่นแบบโชว์เดี่ยว เป็นการแสดงทักษะและลีลาของผู้เล่น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถังจึงมีการเล่นแข่งเป็นทีม ซึ่งวิธีเล่นโดยหลักคือแข่งกันเตะลูกเข้าโกล โกลเป็นห่วงทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งฟุต ตั้งอยู่ตรงกลางสนาม เรียกว่า เฟิงหลิวเหยี่ยน (Eye of the Flowing Wind) สูงเหนือพื้นประมาณสิบเมตร มีเอกสารทางประวัติศาสตร์จากสมัยราชวงศ์ซ่งไม่น้อยที่บรรยายถึงกฎกติกาการเล่นชู่จวีอย่างชัดเจน ชู่จวีเป็นกิจกรรมกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น แต่ว่ากันว่ายุคเฟื่องฟูของมันจริงๆ คือสมัยราชวงศ์ถัง-ซ่ง เพราะงานเลี้ยงในวังหรืองานเลี้ยงฉลองต้อนรับทูตสัมพันธไมตรีจากแคว้นต่างๆ มักจัดให้มีการเล่นชู่จวี นอกจากนี้ยังมีการเล่นกันอย่างแพร่หลายในสังคมเมืองใหญ่อีกด้วย ผู้เล่นเดิมเป็นลูกหลานตระกูลผู้ดี เป็นผู้หญิงก็เล่นได้ (ในสมัยราชวงศ์ถัง) ต่อมาจึงมีนักเล่นมืออาชีพมาร่วมทีมด้วย แต่เมื่อผ่านยุคสมัยราชวงศ์ซ่งก็ค่อยๆ คลายความนิยมลง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://mydramalist.com/photos/eN5EY_3 https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.bbc.com/news/magazine-35409594 https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html https://www.epochtimes.com/gb/16/6/18/n8010456.htm http://view.inews.qq.com/a/20200915A0HSBN00?tbkt=B3&uid= #สตรีหาญฉางเกอ #ชู่จวี #ราชวงศ์ถัง #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าบรรเทาทุกข์จากสภาวะอากาศร้อนแก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร รุดส่งมอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น พร้อมค่าพาหนะ ค่าติดตั้งพัดลม แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนเพิ่มอีก 5 จังหวัด รวมมูลค่ากว่า 9 แสนบาท
    .
    ระหว่างวันที่ 13 -19 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก พร้อมด้วย นายชูเดช เตชะไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการฯ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่มอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น ในโครงการ พัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร ครั้งที่ 2 ให้แก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร ประกอบด้วยจังหวัดสมุทรสาคร เพชรบุรี ระยอง ตราด และสระแก้ว รวม 5 จังหวัด 25 โรงเรียน พร้อมมอบค่าพาหนะให้แก่โรงเรียนๆ ละ 2,000 บาท และค่าติดตั้งพัดลมแก่โรงเรียนๆ ละ 3,000 บาท นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้มอบชุดนักเรียน ให้แก่นักเรียนทั้ง 25 โรงเรียน รวม 750 ชุด รวมงบประมาณทั้งสิ้น 987,050 บาท (เก้าแสนแปดหมื่นเจ็ดพันห้าสิบบาทถ้วน) เพื่อลดสภาวะอากาศร้อนภายในโรงเรียน ให้นักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนได้คลายร้อนและมีสมาธิในการเรียนการสอน โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี
    .
    โครงการพัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ห่วงใยนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษาถิ่นทุรกันดารที่ขาดแคลนพัดลม จึงมอบหมายให้คณะกรรมการมูลนิธิฯ จัดทีมฝ่ายสังคมสงเคราะห์ เร่งดำเนินการโครงการ พัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร นำร่องเมื่อปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา โดยมอบชุดพัดลมแก่สถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี รวม 5 จังหวัด 25 โรงเรียน และได้ขยายพื้นที่บรรเทาทุกข์ต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2568 รวมการดำเนินการโครงการพัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดารแล้ว 10 จังหวัด 50 โรงเรียน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าบรรเทาทุกข์จากสภาวะอากาศร้อนแก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร รุดส่งมอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น พร้อมค่าพาหนะ ค่าติดตั้งพัดลม แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนเพิ่มอีก 5 จังหวัด รวมมูลค่ากว่า 9 แสนบาท . ระหว่างวันที่ 13 -19 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก พร้อมด้วย นายชูเดช เตชะไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการฯ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่มอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น ในโครงการ พัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร ครั้งที่ 2 ให้แก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร ประกอบด้วยจังหวัดสมุทรสาคร เพชรบุรี ระยอง ตราด และสระแก้ว รวม 5 จังหวัด 25 โรงเรียน พร้อมมอบค่าพาหนะให้แก่โรงเรียนๆ ละ 2,000 บาท และค่าติดตั้งพัดลมแก่โรงเรียนๆ ละ 3,000 บาท นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้มอบชุดนักเรียน ให้แก่นักเรียนทั้ง 25 โรงเรียน รวม 750 ชุด รวมงบประมาณทั้งสิ้น 987,050 บาท (เก้าแสนแปดหมื่นเจ็ดพันห้าสิบบาทถ้วน) เพื่อลดสภาวะอากาศร้อนภายในโรงเรียน ให้นักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนได้คลายร้อนและมีสมาธิในการเรียนการสอน โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี . โครงการพัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ห่วงใยนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษาถิ่นทุรกันดารที่ขาดแคลนพัดลม จึงมอบหมายให้คณะกรรมการมูลนิธิฯ จัดทีมฝ่ายสังคมสงเคราะห์ เร่งดำเนินการโครงการ พัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร นำร่องเมื่อปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา โดยมอบชุดพัดลมแก่สถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี รวม 5 จังหวัด 25 โรงเรียน และได้ขยายพื้นที่บรรเทาทุกข์ต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2568 รวมการดำเนินการโครงการพัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดารแล้ว 10 จังหวัด 50 โรงเรียน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..คนดีๆคนบริสุทธิ์ของทั้งสองฝ่ายไม่สมควรเป็นเครื่องมือให้อีลิทdeep state,นี้ล่ะจึงสมควรให้นักเรียนเยาวชนไทยเรารับรู้ความจริงได้เรียนรู้ว่าคนชั่วเลวนั่นมีอยู่จริงปะปนบนโลกของเราและสามารถทำลายสันติภาพความสุขความสงบของทุกๆสังคมชุมชนใดๆก็ได้ที่คนชั่วเลวมีตัวตนอยู่และเราประเทศไทยไม่ให้คนไทยรับการศึกษาค่าจริงนี้เลย.ปกปิดและปิดบัง.,ล่วงรู้ไม่ทันกาลแผนชั่วเลวมันได้.,ปกครองในสถานะโง่ของประชาชนคนไทยนั่นเองแบบแดกบ่อน้ำมันไทยจนร่ำรวยไง,ให้สถานะบัตรคนจนยากจนแก่คนส่วนใหญ่ของประเทศไทยตน.


    ❗️ขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่านโจมตีศูนย์การแพทย์โซโรคาในอิสราเอลตอนใต้ ก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาล

    ภาพจาก IRNA
    ..คนดีๆคนบริสุทธิ์ของทั้งสองฝ่ายไม่สมควรเป็นเครื่องมือให้อีลิทdeep state,นี้ล่ะจึงสมควรให้นักเรียนเยาวชนไทยเรารับรู้ความจริงได้เรียนรู้ว่าคนชั่วเลวนั่นมีอยู่จริงปะปนบนโลกของเราและสามารถทำลายสันติภาพความสุขความสงบของทุกๆสังคมชุมชนใดๆก็ได้ที่คนชั่วเลวมีตัวตนอยู่และเราประเทศไทยไม่ให้คนไทยรับการศึกษาค่าจริงนี้เลย.ปกปิดและปิดบัง.,ล่วงรู้ไม่ทันกาลแผนชั่วเลวมันได้.,ปกครองในสถานะโง่ของประชาชนคนไทยนั่นเองแบบแดกบ่อน้ำมันไทยจนร่ำรวยไง,ให้สถานะบัตรคนจนยากจนแก่คนส่วนใหญ่ของประเทศไทยตน. ❗️ขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่านโจมตีศูนย์การแพทย์โซโรคาในอิสราเอลตอนใต้ ก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาล ภาพจาก IRNA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ช่วงหลังมีงานวิจัยหลายชิ้นเตือนเรื่อง “เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป” ว่าทำให้เด็กเศร้า หวาดระแวง หรือเสี่ยงคิดสั้น แต่การศึกษาใหม่ในวารสาร JAMA ชี้ว่า เวลาอาจไม่ใช่ตัวการหลัก เพราะเด็กที่ใช้มือถือหรือโซเชียลแค่วันละนิด แต่ใช้แบบ “เลิกไม่ได้” ก็เสี่ยงสูงเช่นกัน

    ทีมนักวิจัยจาก Weill Cornell Medical College ตามข้อมูลเด็กกว่า 4,000 คน ตั้งแต่อายุ 10–14 ปี พบว่าเด็กที่มีพฤติกรรม “เสพติดมือถือ” (เช่น วางไม่ลง ขาดแล้วกระวนกระวาย หรือใช้เพิ่มเรื่อย ๆ) มีโอกาสคิดสั้นหรือทำร้ายตัวเองเพิ่มขึ้น 2–3 เท่า แม้จะไม่ได้ใช้หน้าจอนานมาก

    กลุ่มเสี่ยงมากที่สุดคือเด็กที่เริ่มติดตั้งแต่อายุ 11 ปี และยิ่งแย่ขึ้นในช่วงวัย 14 ปี ซึ่งสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ โดยเฉพาะส่วน prefrontal cortex ที่คุมการหักห้ามใจ

    และที่น่าคิดคือ…การเอามือถือออกจากมือลูกแบบหักดิบ อาจไม่ได้ช่วย แถมสร้างความขัดแย้งในบ้านอีกต่างหาก นักวิจัยแนะนำให้เน้น “บำบัดพฤติกรรมเสพติด” เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) แทนการห้ามใช้อย่างเดียว

    ✅ งานวิจัยใหญ่ชี้ว่า “พฤติกรรมเสพติด” ไม่ใช่ “เวลาอยู่หน้าจอ” คือปัจจัยเสี่ยงหลักของสุขภาพจิตเด็ก  
    • การวางไม่ลง / ต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณอันตราย  
    • เด็กที่มีพฤติกรรมนี้เสี่ยงคิดสั้นมากขึ้น 2–3 เท่า

    ✅ เกือบครึ่งของเด็กในงานวิจัยมีพฤติกรรมติดมือถือระดับสูงตั้งแต่อายุ 11  
    • อีก 25% เริ่มติดภายหลังและพุ่งขึ้นเร็วในช่วงวัยรุ่น

    ✅ การวัด screen time อย่างเดียวอาจพลาดกลุ่มเสี่ยงที่ใช้ “น้อยแต่ติด”  
    • ต้องติดตามพฤติกรรมแบบ “ต่อเนื่อง” เพื่อจับสัญญาณก่อนสาย

    ✅ ทีมวิจัยแนะนำให้เน้นการบำบัดพฤติกรรมแทนการยึดมือถือ  
    • เช่น การใช้ CBT เพื่อช่วยเด็กควบคุมการใช้งาน  
    • พ่อแม่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่จัดการเองอย่างหักดิบ

    ✅ มีการเรียกร้องให้ผู้ให้บริการออกแบบแอป/อุปกรณ์ให้เหมาะกับวัย (Age-Appropriate Design)  
    • ลดกลไกดึงดูดแบบ loop ไม่มีที่สิ้นสุด เช่น infinite scroll  
    • อังกฤษมีการออกโค้ดแนวทางนี้แล้วตั้งแต่ปี 2020

    ✅ ความเสี่ยงติดมือถือพบบ่อยในกลุ่มครอบครัวยากจนหรือพ่อแม่ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย  
    • เป็นภาระซ้อนของสภาพแวดล้อมทางสังคม

    ‼️ ผลวิจัยยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า “ติดมือถือทำให้คิดสั้น” หรือไม่  
    • เพราะเป็นงานแบบสังเกต ไม่ใช่ทดลองควบคุม  • แต่พบว่าพฤติกรรมเสพติดมาก่อนอาการทางจิตชัดเจน

    ‼️ การจำกัด screen time โดยไม่เข้าใจ “เหตุผลที่เด็กใช้งาน” อาจไม่แก้ปัญหา  
    • ต้องดูว่าเด็กใช้เพื่อหนีปัญหาในชีวิตจริงหรือไม่

    ‼️ การพูดเรื่อง screen time อย่างเดียว อาจโยนภาระทั้งหมดให้พ่อแม่  
    • ทั้งที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการออกแบบแอปให้ดึงดูดเกินพอดี

    ‼️ การตัดสินจากแค่ “ชั่วโมงหน้าจอ” อาจพลาดกลุ่มเด็กที่เสพติดเชิงพฤติกรรมแบบลึก ๆ  
    • เช่น ใช้น้อยแต่รู้สึกหงุดหงิดมากถ้าขาดมือถือ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/real-risk-to-youth-mental-health-is-addictive-use-not-screen-time-alone-study-finds
    ช่วงหลังมีงานวิจัยหลายชิ้นเตือนเรื่อง “เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป” ว่าทำให้เด็กเศร้า หวาดระแวง หรือเสี่ยงคิดสั้น แต่การศึกษาใหม่ในวารสาร JAMA ชี้ว่า เวลาอาจไม่ใช่ตัวการหลัก เพราะเด็กที่ใช้มือถือหรือโซเชียลแค่วันละนิด แต่ใช้แบบ “เลิกไม่ได้” ก็เสี่ยงสูงเช่นกัน ทีมนักวิจัยจาก Weill Cornell Medical College ตามข้อมูลเด็กกว่า 4,000 คน ตั้งแต่อายุ 10–14 ปี พบว่าเด็กที่มีพฤติกรรม “เสพติดมือถือ” (เช่น วางไม่ลง ขาดแล้วกระวนกระวาย หรือใช้เพิ่มเรื่อย ๆ) มีโอกาสคิดสั้นหรือทำร้ายตัวเองเพิ่มขึ้น 2–3 เท่า แม้จะไม่ได้ใช้หน้าจอนานมาก กลุ่มเสี่ยงมากที่สุดคือเด็กที่เริ่มติดตั้งแต่อายุ 11 ปี และยิ่งแย่ขึ้นในช่วงวัย 14 ปี ซึ่งสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ โดยเฉพาะส่วน prefrontal cortex ที่คุมการหักห้ามใจ และที่น่าคิดคือ…การเอามือถือออกจากมือลูกแบบหักดิบ อาจไม่ได้ช่วย แถมสร้างความขัดแย้งในบ้านอีกต่างหาก นักวิจัยแนะนำให้เน้น “บำบัดพฤติกรรมเสพติด” เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) แทนการห้ามใช้อย่างเดียว ✅ งานวิจัยใหญ่ชี้ว่า “พฤติกรรมเสพติด” ไม่ใช่ “เวลาอยู่หน้าจอ” คือปัจจัยเสี่ยงหลักของสุขภาพจิตเด็ก   • การวางไม่ลง / ต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณอันตราย   • เด็กที่มีพฤติกรรมนี้เสี่ยงคิดสั้นมากขึ้น 2–3 เท่า ✅ เกือบครึ่งของเด็กในงานวิจัยมีพฤติกรรมติดมือถือระดับสูงตั้งแต่อายุ 11   • อีก 25% เริ่มติดภายหลังและพุ่งขึ้นเร็วในช่วงวัยรุ่น ✅ การวัด screen time อย่างเดียวอาจพลาดกลุ่มเสี่ยงที่ใช้ “น้อยแต่ติด”   • ต้องติดตามพฤติกรรมแบบ “ต่อเนื่อง” เพื่อจับสัญญาณก่อนสาย ✅ ทีมวิจัยแนะนำให้เน้นการบำบัดพฤติกรรมแทนการยึดมือถือ   • เช่น การใช้ CBT เพื่อช่วยเด็กควบคุมการใช้งาน   • พ่อแม่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่จัดการเองอย่างหักดิบ ✅ มีการเรียกร้องให้ผู้ให้บริการออกแบบแอป/อุปกรณ์ให้เหมาะกับวัย (Age-Appropriate Design)   • ลดกลไกดึงดูดแบบ loop ไม่มีที่สิ้นสุด เช่น infinite scroll   • อังกฤษมีการออกโค้ดแนวทางนี้แล้วตั้งแต่ปี 2020 ✅ ความเสี่ยงติดมือถือพบบ่อยในกลุ่มครอบครัวยากจนหรือพ่อแม่ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย   • เป็นภาระซ้อนของสภาพแวดล้อมทางสังคม ‼️ ผลวิจัยยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า “ติดมือถือทำให้คิดสั้น” หรือไม่   • เพราะเป็นงานแบบสังเกต ไม่ใช่ทดลองควบคุม  • แต่พบว่าพฤติกรรมเสพติดมาก่อนอาการทางจิตชัดเจน ‼️ การจำกัด screen time โดยไม่เข้าใจ “เหตุผลที่เด็กใช้งาน” อาจไม่แก้ปัญหา   • ต้องดูว่าเด็กใช้เพื่อหนีปัญหาในชีวิตจริงหรือไม่ ‼️ การพูดเรื่อง screen time อย่างเดียว อาจโยนภาระทั้งหมดให้พ่อแม่   • ทั้งที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการออกแบบแอปให้ดึงดูดเกินพอดี ‼️ การตัดสินจากแค่ “ชั่วโมงหน้าจอ” อาจพลาดกลุ่มเด็กที่เสพติดเชิงพฤติกรรมแบบลึก ๆ   • เช่น ใช้น้อยแต่รู้สึกหงุดหงิดมากถ้าขาดมือถือ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/real-risk-to-youth-mental-health-is-addictive-use-not-screen-time-alone-study-finds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Real risk to youth mental health is ‘addictive use’, not screen time alone, study finds
    Researchers found children with highly addictive use of phones, video games or social media were two to three times as likely to have thoughts of suicide or to harm themselves.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศก.ทก. ไหวไหมทีมไทยแลนด์

    เมื่อนายกฯ ฟันน้ำนม แพทองธาร ชินวัตร ถูกสังคมก่นด่าที่ไทยเสียท่ากัมพูชาต่อปัญหาชายแดนหลายครั้ง แบบไม่ทันเกมไม่ทันใจ มีอะไรเคลือบแคลงสงสัย ที่สุดแล้วจึงตัดสินใจใช้บริการน้องรักลุงตู่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม สร้าง "ทีมไทยแลนด์" มอนิเตอร์ข่าวสารทั้งหมดและดำเนินการต่างๆ เพื่อย้ำว่ารัฐบาลกับกองทัพไม่มีปัญหากัน ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนกองทัพและรัฐบาลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้านหนึ่งหวังให้คนกลุ่มหนึ่งคลายความหวาดระแวง ที่ตระกูลชินวัตรมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตระกูลฮุนของกัมพูชา อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนว่า แพทองธารทำงานไม่เป็น ฮุน เซนเย้ยหยันว่าคุมกองทัพไม่ได้

    ในที่สุดทีมไทยแลนด์ของบิ๊กเล็กจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศก.ทก) ประชุมทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ตอนเช้า ยกเว้นวันประชุม ครม. จะประชุมตอนบ่าย แล้วแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางช่องเอ็นบีที เหมือนสมัยรัฐบาลลุงตู่รายงานสถานการณ์โควิด-19 เปี๊ยบ เพียงแต่วันเสาร์-อาทิตย์ไม่มีประชุม ถ้ามีอะไรให้ทุกคนสแตนบายคุยผ่านออนไลน์แทน ส่วนกรอบการทำงานเน้นบูรณาการและขับเคลื่อนงานระยะสั้น ติดตามและให้ข้อเสนอแนะและสนับสนุนงานระยะยาว แต่ย้ำว่าไม่ใช่ส่วนการบังคับบัญชา ทำงานระบบโต๊ะกลม เมื่อถึงเวลาก็จะจบภารกิจ

    ศก.ทก. มีบทบาทให้ข้อเสนอแนะ ข้อพิจารณา และประสานการสื่อสารให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างไทยและกัมพูชา จะเร่งกำหนดแนวทางที่ชัดเจน กำหนดเวลาเผยแพร่ข่าวสารอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สื่อมวลชนและสาธารณชนได้รับข้อมูลตรงกัน ลดความสับสนที่อาจส่งผลต่อความเข้าใจระหว่างสองประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน

    พล.อ.ณัฐพล ยังเห็นว่าในอนาคตอยากให้จัดเวทีสัมมนา ประสานงานกับสมาคมสื่อฯ เชิญนักวิชาการมาแลกเปลี่ยนถึงการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะตอนนี้มุมมองความคิดเห็นไปคนละทิศทาง รัฐบาลทำงานลำบาก เพราะประชาชนเชื่อนักวิชาการ พอรัฐบาลทำตามนักวิชาการก็ถูกต่อว่า จึงอยากได้ความคิดเห็นจากนักวิชาการหลายคนมาเป็นข้อสรุป เพื่อเป็นทิศทางเดียวกัน นำมาเป็นแนวทางในการทำงานต่อไป

    อย่างไรก็ตาม บทบาทของบิ๊กเล็กในช่วงที่ผ่านมาไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่เคยจำขี้ปากนายใหญ่ว่าแผ่นดินไทยคือ No Man's Land มาแล้ว นับจากนี้ต้องดูว่าการทำงานจะราบรื่นและสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ด้วยความหวังว่าสุดท้าย ศก.ทก. จะไม่กลายเป็นศูนย์โศกทุกข์ เพราะไทยแพ้คดีและเสียดินแดน

    #Newskit
    ศก.ทก. ไหวไหมทีมไทยแลนด์ เมื่อนายกฯ ฟันน้ำนม แพทองธาร ชินวัตร ถูกสังคมก่นด่าที่ไทยเสียท่ากัมพูชาต่อปัญหาชายแดนหลายครั้ง แบบไม่ทันเกมไม่ทันใจ มีอะไรเคลือบแคลงสงสัย ที่สุดแล้วจึงตัดสินใจใช้บริการน้องรักลุงตู่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม สร้าง "ทีมไทยแลนด์" มอนิเตอร์ข่าวสารทั้งหมดและดำเนินการต่างๆ เพื่อย้ำว่ารัฐบาลกับกองทัพไม่มีปัญหากัน ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนกองทัพและรัฐบาลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้านหนึ่งหวังให้คนกลุ่มหนึ่งคลายความหวาดระแวง ที่ตระกูลชินวัตรมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตระกูลฮุนของกัมพูชา อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนว่า แพทองธารทำงานไม่เป็น ฮุน เซนเย้ยหยันว่าคุมกองทัพไม่ได้ ในที่สุดทีมไทยแลนด์ของบิ๊กเล็กจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศก.ทก) ประชุมทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ตอนเช้า ยกเว้นวันประชุม ครม. จะประชุมตอนบ่าย แล้วแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางช่องเอ็นบีที เหมือนสมัยรัฐบาลลุงตู่รายงานสถานการณ์โควิด-19 เปี๊ยบ เพียงแต่วันเสาร์-อาทิตย์ไม่มีประชุม ถ้ามีอะไรให้ทุกคนสแตนบายคุยผ่านออนไลน์แทน ส่วนกรอบการทำงานเน้นบูรณาการและขับเคลื่อนงานระยะสั้น ติดตามและให้ข้อเสนอแนะและสนับสนุนงานระยะยาว แต่ย้ำว่าไม่ใช่ส่วนการบังคับบัญชา ทำงานระบบโต๊ะกลม เมื่อถึงเวลาก็จะจบภารกิจ ศก.ทก. มีบทบาทให้ข้อเสนอแนะ ข้อพิจารณา และประสานการสื่อสารให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างไทยและกัมพูชา จะเร่งกำหนดแนวทางที่ชัดเจน กำหนดเวลาเผยแพร่ข่าวสารอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สื่อมวลชนและสาธารณชนได้รับข้อมูลตรงกัน ลดความสับสนที่อาจส่งผลต่อความเข้าใจระหว่างสองประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน พล.อ.ณัฐพล ยังเห็นว่าในอนาคตอยากให้จัดเวทีสัมมนา ประสานงานกับสมาคมสื่อฯ เชิญนักวิชาการมาแลกเปลี่ยนถึงการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะตอนนี้มุมมองความคิดเห็นไปคนละทิศทาง รัฐบาลทำงานลำบาก เพราะประชาชนเชื่อนักวิชาการ พอรัฐบาลทำตามนักวิชาการก็ถูกต่อว่า จึงอยากได้ความคิดเห็นจากนักวิชาการหลายคนมาเป็นข้อสรุป เพื่อเป็นทิศทางเดียวกัน นำมาเป็นแนวทางในการทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม บทบาทของบิ๊กเล็กในช่วงที่ผ่านมาไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่เคยจำขี้ปากนายใหญ่ว่าแผ่นดินไทยคือ No Man's Land มาแล้ว นับจากนี้ต้องดูว่าการทำงานจะราบรื่นและสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ด้วยความหวังว่าสุดท้าย ศก.ทก. จะไม่กลายเป็นศูนย์โศกทุกข์ เพราะไทยแพ้คดีและเสียดินแดน #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ถ้าจริงในกรณีไปตกลงmouกัน,เป็นข้อหาร้ายแรงระดับชาติทันทีเลย,นั้นคือไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่ออธิปไตยดินแดนและความมั่นคงของประเทศชาติไทยขัดเจน,เป็นบริบทขององค์พระมหากษัตริย์ไทยเราเท่านั้นแต่องค์เดียวที่จะว่าด้วยแผ่นดินไทยนี้,รัฐบาลไทยไม่สิทธิขาดจะตกลงสมยอมยินยอมเจรจาแบ่งปันดินแดนไทยต่อกันและกันได้,ทหารไทยมีสิทธิขาดเต็มที่ในการทำลายร้ายผู้ทำลายอธิปไตยในภัยคุกคามร้ายแรงนี้ทั้งรัฐบาลไทยสามารถยึดอำนาจประกาศกฎอัยการศึกได้ทันทีเพื่อยุติอำนาจรัฐบาลและโมฆะข้อตกลงที่เป็นภัยร้ายแรงต่ออธิปไตยของแผ่นดินไทยและขับไล่ศัตรูผู้รุกรานแผ่นดินไทยในทันทีได้,ไม่น่าเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะอาการหนักและพฤติกรรมหนาสาหัสสาการขนาดนี้,วงศ์ตระกูลนี้ทั้งหมดตลอดถึงเครือญาติไม่ออกมาประนามประฌามใดๆเลยไม่ออกมาต่อว่า ว่ากล่าวตักเตือนใดๆด้วย,เสมือนลุแก่อำนาจอย่างแสนสาหัสลบหลู่บุรพระมหากษัตริย์ไทยที่ต่อสู้ร่วมกับคนไทยสละเนื้อและเนื้อตลอดถึงพลีชีพเป็นอันมากเพื่อปกป้องแม้ตารางนิ้วเดียวที่เป็นราชอาณาจักรผืนแผ่นดินประเทศไทยเราและของตนแห่งเราชาวไทยจนถึงที่สุด,โคตรเหง้าตระกูลนี้ตลอดจนพรรคร่วมรัฐบาลและสส.ทั้งหมดที่เป็นฝ่ายรัฐบาลชุดปัจจุบันต้องถูกลงโทษทั้งระดับเบื้องต้นคือยึดทรัพย์ทั้งหมดของวงศ์ตระกูลทุกๆคน,ไม่ยอมลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลที่กระทำผิด,รู้ว่ากระทำผิดก็สมยอมร่วมคณะร่วมพรรครัฐบาลถึงที่สุดจนเป็นการกระทำการสมยอมเพื่อเสียไปซึ่งอธิปไตยแดนดินประเทศไทยตนจึงมีลักษณะความผิดเบื้องต้นชัดเจน,ตลอดขนาดใหญ่คือลงโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือตัวคณะแกนนำส่วนหัวทั้งหมดต้องประหารชีวิตทันทีให้เป็นแบบอย่างในประวัติศาสตร์ของคนยุคปัจจุบันที่เลอะเทอะต่อการอ้างตนเป็นตัวแทนเพื่อบริหารดูแลประเทศไทยและปกป้องประเทศไทยด้วยมานานแล้ว,เล่นการเมืองแบบเล่นๆมากเกินไป,ขาดจิตสำนึกดีงามขั้นพื้นฐานเป็นปัจจัยเบื้องต้นโดยมาก นำพาสังคมไทยชุมชนไทยผิดลู่ผิดทางจนทำลายชาติตนทั้งภายในและภายนอกจากการได้อำนาจมาเพื่อปกครองบริหารแทนประชาชนส่วนใหญ่ทั่วประเทศทั้งหมด.ผิดนีัยิ่งใหญ่นักและจากกรณีเสียเขาพระวิหารยังไม่สะท้อนว่ารัฐบาลผิด,ย่ามใจในตนว่าข้าคือรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลชุดใดๆแต่ไม่สำเนียกใจเป็นบทอุทาหรณ์ตนจะต้องรักษาอธิปไตยไทยให้คงมั่นเมื่อเข้ามามีโอกาสได้เป็นรัฐบาลในภายภาคหน้าและอาจดูรายละเอียดพร้อมยกเลิกทันทีได้เป็นให้ได้คืนมาซึ่งอธิปไตยตนที่สูญเสียไปอย่างถูกปล้นชิงแย่งชิงไปอย่างอยุติธรรมบนเวทีโลกที่ไม่ซื่อสัตย์ในการกระทำกิจกรรมตนบนหน้าที่เป็นกลางอย่างชัดเจนจนเรา..ประเทศไทยต้องเสียดินแดนไทยไปอย่างอยุติธรรมและพร้อมดำเนินลงโทษเอาผิดคนไทยตนที่กระทำการลุแก่อำนาจหน้าที่ตนไปสมยอมยิยยอมสมประโยชน์ตนโดยไม่เอาชาติไทยและประเทศชาติไทยตนเป็นเอกเป็นที่ตั้งหลักชัดเจนไว้ก่อน.,นี้รัฐบาลใหม่ถึงปัจจุบันที่เข้ามาบริหารประเทศต้องสำเนียกท่าทีที่ชัดเจนพร้อมบริบทที่มีหลักมีฐานมั่นคงชัดต่ออธิปไตยแผ่นดินไทยตน.,ความผิดนี้โดยเพียงใช้จิตสำนึกเด็กๆพื้นฐานมันชัดเจนอยู่แล้วว่ามีความผิดร้ายแรงมีโทษมหันต์หนักชัดเจน,ที่ดินที่บ้านหากมีคนรุกล้ำเข้ามาแล้วไปบอกไปตกลงเขาสมยอมให้เขารุกล้ำมาได้เลยนะมันใช่เหรอ,นี้ไม่ร่วมว่าปู่ย่าตายายถูกมือที่สามปล้นไปอีกเมื่อโจรจะคืนต้องคืนให้เจ้าของเดิมมิใช่ไปคืนให้อีกคนคือคนที่ปัจจุบันมารุกล้ำบ้านเรานั้นล่ะ,จริงๆเราสามารถอ้างเอารุ่นปู่ย่าตายายทวงคืนที่มือที่สามคืนที่ดินนั้นที่ปล้นเราไปคืนมาให้ถูกคนถูกเจ้าของเดิมด้วยและคนที่ว่านั้นไม่มีสิทธิจะเอาไปเป็นของตนและอ้างเอาเป็นของตนจนถึงปัจจุบันด้วย.
    ..ทหารไทยเราไปคุยกันให้ชัดเจนได้แล้ว,เข้ามาในจังหวะเวลานี้สมควรแล้ว,จะรอให้มีการตายการฆ่าฟันกันก่อนเหรอ,จะอำมะหิตเพื่อต้องการเห็นเลือดเห็นคนตายบูชาอสูรซาตานก่อนเหรอ.

    https://youtube.com/shorts/d5jlPcPDHLM?si=iE35SP0NhRwQM9vD
    ..ถ้าจริงในกรณีไปตกลงmouกัน,เป็นข้อหาร้ายแรงระดับชาติทันทีเลย,นั้นคือไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่ออธิปไตยดินแดนและความมั่นคงของประเทศชาติไทยขัดเจน,เป็นบริบทขององค์พระมหากษัตริย์ไทยเราเท่านั้นแต่องค์เดียวที่จะว่าด้วยแผ่นดินไทยนี้,รัฐบาลไทยไม่สิทธิขาดจะตกลงสมยอมยินยอมเจรจาแบ่งปันดินแดนไทยต่อกันและกันได้,ทหารไทยมีสิทธิขาดเต็มที่ในการทำลายร้ายผู้ทำลายอธิปไตยในภัยคุกคามร้ายแรงนี้ทั้งรัฐบาลไทยสามารถยึดอำนาจประกาศกฎอัยการศึกได้ทันทีเพื่อยุติอำนาจรัฐบาลและโมฆะข้อตกลงที่เป็นภัยร้ายแรงต่ออธิปไตยของแผ่นดินไทยและขับไล่ศัตรูผู้รุกรานแผ่นดินไทยในทันทีได้,ไม่น่าเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะอาการหนักและพฤติกรรมหนาสาหัสสาการขนาดนี้,วงศ์ตระกูลนี้ทั้งหมดตลอดถึงเครือญาติไม่ออกมาประนามประฌามใดๆเลยไม่ออกมาต่อว่า ว่ากล่าวตักเตือนใดๆด้วย,เสมือนลุแก่อำนาจอย่างแสนสาหัสลบหลู่บุรพระมหากษัตริย์ไทยที่ต่อสู้ร่วมกับคนไทยสละเนื้อและเนื้อตลอดถึงพลีชีพเป็นอันมากเพื่อปกป้องแม้ตารางนิ้วเดียวที่เป็นราชอาณาจักรผืนแผ่นดินประเทศไทยเราและของตนแห่งเราชาวไทยจนถึงที่สุด,โคตรเหง้าตระกูลนี้ตลอดจนพรรคร่วมรัฐบาลและสส.ทั้งหมดที่เป็นฝ่ายรัฐบาลชุดปัจจุบันต้องถูกลงโทษทั้งระดับเบื้องต้นคือยึดทรัพย์ทั้งหมดของวงศ์ตระกูลทุกๆคน,ไม่ยอมลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลที่กระทำผิด,รู้ว่ากระทำผิดก็สมยอมร่วมคณะร่วมพรรครัฐบาลถึงที่สุดจนเป็นการกระทำการสมยอมเพื่อเสียไปซึ่งอธิปไตยแดนดินประเทศไทยตนจึงมีลักษณะความผิดเบื้องต้นชัดเจน,ตลอดขนาดใหญ่คือลงโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือตัวคณะแกนนำส่วนหัวทั้งหมดต้องประหารชีวิตทันทีให้เป็นแบบอย่างในประวัติศาสตร์ของคนยุคปัจจุบันที่เลอะเทอะต่อการอ้างตนเป็นตัวแทนเพื่อบริหารดูแลประเทศไทยและปกป้องประเทศไทยด้วยมานานแล้ว,เล่นการเมืองแบบเล่นๆมากเกินไป,ขาดจิตสำนึกดีงามขั้นพื้นฐานเป็นปัจจัยเบื้องต้นโดยมาก นำพาสังคมไทยชุมชนไทยผิดลู่ผิดทางจนทำลายชาติตนทั้งภายในและภายนอกจากการได้อำนาจมาเพื่อปกครองบริหารแทนประชาชนส่วนใหญ่ทั่วประเทศทั้งหมด.ผิดนีัยิ่งใหญ่นักและจากกรณีเสียเขาพระวิหารยังไม่สะท้อนว่ารัฐบาลผิด,ย่ามใจในตนว่าข้าคือรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลชุดใดๆแต่ไม่สำเนียกใจเป็นบทอุทาหรณ์ตนจะต้องรักษาอธิปไตยไทยให้คงมั่นเมื่อเข้ามามีโอกาสได้เป็นรัฐบาลในภายภาคหน้าและอาจดูรายละเอียดพร้อมยกเลิกทันทีได้เป็นให้ได้คืนมาซึ่งอธิปไตยตนที่สูญเสียไปอย่างถูกปล้นชิงแย่งชิงไปอย่างอยุติธรรมบนเวทีโลกที่ไม่ซื่อสัตย์ในการกระทำกิจกรรมตนบนหน้าที่เป็นกลางอย่างชัดเจนจนเรา..ประเทศไทยต้องเสียดินแดนไทยไปอย่างอยุติธรรมและพร้อมดำเนินลงโทษเอาผิดคนไทยตนที่กระทำการลุแก่อำนาจหน้าที่ตนไปสมยอมยิยยอมสมประโยชน์ตนโดยไม่เอาชาติไทยและประเทศชาติไทยตนเป็นเอกเป็นที่ตั้งหลักชัดเจนไว้ก่อน.,นี้รัฐบาลใหม่ถึงปัจจุบันที่เข้ามาบริหารประเทศต้องสำเนียกท่าทีที่ชัดเจนพร้อมบริบทที่มีหลักมีฐานมั่นคงชัดต่ออธิปไตยแผ่นดินไทยตน.,ความผิดนี้โดยเพียงใช้จิตสำนึกเด็กๆพื้นฐานมันชัดเจนอยู่แล้วว่ามีความผิดร้ายแรงมีโทษมหันต์หนักชัดเจน,ที่ดินที่บ้านหากมีคนรุกล้ำเข้ามาแล้วไปบอกไปตกลงเขาสมยอมให้เขารุกล้ำมาได้เลยนะมันใช่เหรอ,นี้ไม่ร่วมว่าปู่ย่าตายายถูกมือที่สามปล้นไปอีกเมื่อโจรจะคืนต้องคืนให้เจ้าของเดิมมิใช่ไปคืนให้อีกคนคือคนที่ปัจจุบันมารุกล้ำบ้านเรานั้นล่ะ,จริงๆเราสามารถอ้างเอารุ่นปู่ย่าตายายทวงคืนที่มือที่สามคืนที่ดินนั้นที่ปล้นเราไปคืนมาให้ถูกคนถูกเจ้าของเดิมด้วยและคนที่ว่านั้นไม่มีสิทธิจะเอาไปเป็นของตนและอ้างเอาเป็นของตนจนถึงปัจจุบันด้วย. ..ทหารไทยเราไปคุยกันให้ชัดเจนได้แล้ว,เข้ามาในจังหวะเวลานี้สมควรแล้ว,จะรอให้มีการตายการฆ่าฟันกันก่อนเหรอ,จะอำมะหิตเพื่อต้องการเห็นเลือดเห็นคนตายบูชาอสูรซาตานก่อนเหรอ. https://youtube.com/shorts/d5jlPcPDHLM?si=iE35SP0NhRwQM9vD
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มแล้วยกระดับคุมเข้มชายแดน จ.สระแก้วห้ามคนไทยทำงานบ่อนปอยเปตผ่าน กองกำลังบูรพา ออกมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนชายแดนสระแก้วขั้นสูงสุด สั่งห้ามคนไทยทุกประเภทที่เป็นพนักงานในบ่อนการพนัน กาสิโน หรือสถานบันเทิงในกรุงปอยเปต เดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2568 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เป็นคำสั่งที่ออกโดยกองกำลังบูรพา มีหนังสือถึงผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เรื่อง “มาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร/จุดผ่อนปรนเพื่อการค้าฯ ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว” เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณแนวชายแดน โดยเฉพาะในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีจุดผ่านแดนสำคัญหลายแห่ง เช่น จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ และจุดผ่อนปรนการค้าอื่น ๆ ในพื้นที่ โดยสั่งการให้หน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ชายแดน เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมบุคคลที่จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนไทยที่มีสถานะเป็นพนักงาน บ่อนการพนัน กาสิโน สถานบันเทิงทุกประเภท ในกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยให้ห้ามออกนอกประเทศผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่จังหวัดสระแก้วไม่ว่ากรณีใด ๆ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากทางกองกำลังบูรพาโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ด่านตรวจทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ต้องร่วมกันบังคับใช้มาตรการนี้อย่างเคร่งครัด ทำการตรวจสอบเอกสารและจุดประสงค์การเดินทางของผู้ที่ผ่านเข้า-ออกประเทศอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวกองกำลังบูรพาย้ำว่า มาตรการครั้งนี้เป็นเพียงการควบคุมเพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทย โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าขายหรือการเดินทางของประชาชนทั่วไปที่มีจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากการทำงานในบ่อนและสถานบันเทิง#JBC #ชายแดนไทยเขมร ที่มา : ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
    เริ่มแล้วยกระดับคุมเข้มชายแดน จ.สระแก้วห้ามคนไทยทำงานบ่อนปอยเปตผ่าน กองกำลังบูรพา ออกมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนชายแดนสระแก้วขั้นสูงสุด สั่งห้ามคนไทยทุกประเภทที่เป็นพนักงานในบ่อนการพนัน กาสิโน หรือสถานบันเทิงในกรุงปอยเปต เดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2568 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เป็นคำสั่งที่ออกโดยกองกำลังบูรพา มีหนังสือถึงผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เรื่อง “มาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร/จุดผ่อนปรนเพื่อการค้าฯ ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว” เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณแนวชายแดน โดยเฉพาะในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีจุดผ่านแดนสำคัญหลายแห่ง เช่น จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ และจุดผ่อนปรนการค้าอื่น ๆ ในพื้นที่ โดยสั่งการให้หน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ชายแดน เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมบุคคลที่จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนไทยที่มีสถานะเป็นพนักงาน บ่อนการพนัน กาสิโน สถานบันเทิงทุกประเภท ในกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยให้ห้ามออกนอกประเทศผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่จังหวัดสระแก้วไม่ว่ากรณีใด ๆ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากทางกองกำลังบูรพาโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ด่านตรวจทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ต้องร่วมกันบังคับใช้มาตรการนี้อย่างเคร่งครัด ทำการตรวจสอบเอกสารและจุดประสงค์การเดินทางของผู้ที่ผ่านเข้า-ออกประเทศอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวกองกำลังบูรพาย้ำว่า มาตรการครั้งนี้เป็นเพียงการควบคุมเพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทย โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าขายหรือการเดินทางของประชาชนทั่วไปที่มีจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากการทำงานในบ่อนและสถานบันเทิง#JBC #ชายแดนไทยเขมร ที่มา : ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • BIG Story | จิตรลดาเสียงสวรรค์สั่ง

    ย้อนรอยคดีสะเทือนขวัญ "จิตรลดา" หญิงจิตเภทบุกแทงนักเรียนผู้บริสุทธิ์ถึงในโรงเรียน 4 ราย เมื่อปี 2548 อ้างได้ยินเสียงจากสวรรค์สั่งให้ลงมือ ผ่านมา 15 ปี ระบบคุมและบำบัดยังไร้ประสิทธิภาพ เธอกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง จุดคำถามใหญ่ต่อความปลอดภัยในสังคมและช่องโหว่ของกระบวนการดูแลผู้ป่วยจิตเวชรุนแรง

    📲 ติดตามสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: จิตรลดาเสียงสวรรค์สั่ง ได้ที่ Thaitimes App

    #BigStory #จิตรลดาเสียงสวรรค์สั่ง #คดีสะเทือนขวัญ #ผู้ป่วยจิตเวช #ความปลอดภัยในสังคม #ช่องโหว่ระบบดูแล #ThaiTimes
    BIG Story | จิตรลดาเสียงสวรรค์สั่ง ย้อนรอยคดีสะเทือนขวัญ "จิตรลดา" หญิงจิตเภทบุกแทงนักเรียนผู้บริสุทธิ์ถึงในโรงเรียน 4 ราย เมื่อปี 2548 อ้างได้ยินเสียงจากสวรรค์สั่งให้ลงมือ ผ่านมา 15 ปี ระบบคุมและบำบัดยังไร้ประสิทธิภาพ เธอกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง จุดคำถามใหญ่ต่อความปลอดภัยในสังคมและช่องโหว่ของกระบวนการดูแลผู้ป่วยจิตเวชรุนแรง 📲 ติดตามสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: จิตรลดาเสียงสวรรค์สั่ง ได้ที่ Thaitimes App #BigStory #จิตรลดาเสียงสวรรค์สั่ง #คดีสะเทือนขวัญ #ผู้ป่วยจิตเวช #ความปลอดภัยในสังคม #ช่องโหว่ระบบดูแล #ThaiTimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 841 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • อิตาลีสอบสวน DeepSeek เรื่องความเสี่ยงของข้อมูลเท็จ
    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันและสิทธิผู้บริโภคของอิตาลี (AGCM) ได้เปิดการสอบสวน DeepSeek ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพ AI จากจีน เนื่องจากไม่ได้แจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับความเสี่ยงของข้อมูลที่อาจไม่ถูกต้องหรือถูกสร้างขึ้นโดย AI.

    รายละเอียดการสอบสวน
    ✅ AGCM ระบุว่า DeepSeek ไม่ได้ให้คำเตือนที่ชัดเจนเกี่ยวกับ "Hallucinations" ของ AI ซึ่งหมายถึงข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีแหล่งที่มา.
    ✅ DeepSeek ไม่ตอบกลับคำขอความคิดเห็นจากสื่อ หลังจากมีการสอบสวน.
    ✅ ก่อนหน้านี้ หน่วยงานคุ้มครองข้อมูลของอิตาลีเคยสั่งให้ DeepSeek ปิดการเข้าถึงแชทบอท เนื่องจากข้อกังวลด้านนโยบายความเป็นส่วนตัว.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ‼️ AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือบิดเบือน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้.
    ‼️ DeepSeek อาจเผชิญกับมาตรการทางกฎหมายและข้อจำกัดเพิ่มเติม หากไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้.
    ‼️ การใช้ AI ในการให้ข้อมูลต้องมีมาตรฐานที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลผิดพลาด.

    แนวทางป้องกันสำหรับผู้ใช้
    ✅ ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลที่ได้รับจาก AI โดยเปรียบเทียบกับแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้.
    ✅ ใช้ AI อย่างระมัดระวัง โดยไม่พึ่งพาข้อมูลจาก AI เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจที่สำคัญ.
    ✅ ติดตามการพัฒนาและมาตรการกำกับดูแล AI เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปรับปรุงด้านความโปร่งใสและความถูกต้อง.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI
    ✅ หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุม AI เช่น สหภาพยุโรปที่มี AI Act เพื่อกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย.
    ✅ บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ เช่น OpenAI และ Google กำลังพัฒนาแนวทางป้องกันข้อมูลเท็จใน AI.
    ‼️ AI ที่ไม่มีมาตรการตรวจสอบอาจถูกใช้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อสังคมและเศรษฐกิจ.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/17/italy-regulator-probes-deepseek-over-false-information-risks
    อิตาลีสอบสวน DeepSeek เรื่องความเสี่ยงของข้อมูลเท็จ หน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันและสิทธิผู้บริโภคของอิตาลี (AGCM) ได้เปิดการสอบสวน DeepSeek ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพ AI จากจีน เนื่องจากไม่ได้แจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับความเสี่ยงของข้อมูลที่อาจไม่ถูกต้องหรือถูกสร้างขึ้นโดย AI. รายละเอียดการสอบสวน ✅ AGCM ระบุว่า DeepSeek ไม่ได้ให้คำเตือนที่ชัดเจนเกี่ยวกับ "Hallucinations" ของ AI ซึ่งหมายถึงข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีแหล่งที่มา. ✅ DeepSeek ไม่ตอบกลับคำขอความคิดเห็นจากสื่อ หลังจากมีการสอบสวน. ✅ ก่อนหน้านี้ หน่วยงานคุ้มครองข้อมูลของอิตาลีเคยสั่งให้ DeepSeek ปิดการเข้าถึงแชทบอท เนื่องจากข้อกังวลด้านนโยบายความเป็นส่วนตัว. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือบิดเบือน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้. ‼️ DeepSeek อาจเผชิญกับมาตรการทางกฎหมายและข้อจำกัดเพิ่มเติม หากไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้. ‼️ การใช้ AI ในการให้ข้อมูลต้องมีมาตรฐานที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลผิดพลาด. แนวทางป้องกันสำหรับผู้ใช้ ✅ ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลที่ได้รับจาก AI โดยเปรียบเทียบกับแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้. ✅ ใช้ AI อย่างระมัดระวัง โดยไม่พึ่งพาข้อมูลจาก AI เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจที่สำคัญ. ✅ ติดตามการพัฒนาและมาตรการกำกับดูแล AI เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปรับปรุงด้านความโปร่งใสและความถูกต้อง. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI ✅ หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุม AI เช่น สหภาพยุโรปที่มี AI Act เพื่อกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย. ✅ บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ เช่น OpenAI และ Google กำลังพัฒนาแนวทางป้องกันข้อมูลเท็จใน AI. ‼️ AI ที่ไม่มีมาตรการตรวจสอบอาจถูกใช้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อสังคมและเศรษฐกิจ. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/17/italy-regulator-probes-deepseek-over-false-information-risks
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Italy regulator probes DeepSeek over false information risks
    ROME (Reuters) -Italy's antitrust watchdog AGCM said on Monday it had opened an investigation into Chinese artificial intelligence startup DeepSeek for allegedly failing to warn users that it may produce false information.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts