• อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan

    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้”

    กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย

    แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ

    อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง

    เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน

    และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร

    ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม

    แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว

    มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา

    ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย

    และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้

    วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้

    แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง

    อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม

    วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง

    วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น


    ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483

    #Thaitimes
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้” กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้ วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้ แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา"ฟ้อง"ณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง

    13 พฤศจิกายน 2567- เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ พ1135/2564 ที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท

    กรณีจำเลยเกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500), หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อและ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี

    ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด

    ศาลแพ่ง พิเคราะห์ประเด็นข้อพิพาทที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งหกร่วมกันรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่าร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ ทางทำมาหาได้ และทางเจริญของโจทก์ การกระทำจะเป็นการละเมิดและจำเลยทั้งหกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ ต่อเมื่อข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนความจริงและโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ซึ่งหมายถึงเป็นความเสียหายแก่โจทก์ผู้ฟ้องโดยเฉพาะ มิใช่ความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จำเลยทั้งหกร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์โดยนำข้อความอันเป็นเท็จจัดทำเอกสารไขข่าวแพร่หลายสู่สาธารณะเพื่อมุ่งประสงค์กล่าวหาให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทำเป็นกระบวนการเพื่อใช้ในการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เริ่มจากจำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบและร่วมมือของจำเลยที่ 2 ปั้นแต่งความเท็จขึ้นใส่ความสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการว่าทรงประพฤติตนไม่สมต่อตำแหน่งหน้าที่ ทั้งการใช้พระราชอำนาจสนับสนุนรับรองการรัฐประหารปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการปกครองในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.เพื่อปูทางการเมืองที่ราบรื่นให้แก่สถาบันกษัตริย์ โดยเจตนาเพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำวิทยานิพนธ์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุถึงข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ หน้า 63 วรรคแรก และหน้า 105 วรรคแรก และบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 นำข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ไปพูดในการเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2553 กล่าวหากรมขุนชัยนาทนเรนทรว่าก้าวก่ายรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ด้วยการเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อันเป็นความเท็จ และเมื่อปี 2556 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขอฝันใฝ่ในผันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ.2475-2500) เนื้อหาโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ต่อเนื่องจนถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ด้วยความเท็จ และโจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความอันเป็นเท็จ เนื้อหาหน้า 120 -121 และหน้า 124-125 และเมื่อปี 2563 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี กล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมีข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หลายแห่ง และโจทก์บรรยายฟ้องข้อความอันเป็นเท็จที่หน้า 60,63,66,73,77และข้อความเท็จใต้ภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้า 69 และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 แต่งความเท็จใส่ร้ายกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และสถาบันพระมหากษัตริย์ในหนังสือต่างประเทศที่จำหน่ายทั่วโลก ชื่อ “Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in Thailand” ใส่ร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่ามีส่วนร่วมในการรัฐประหาร ปี 2490 แทรกแซงการเมืองโดยการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี

    เมื่อข้อความอันเป็นเท็จตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ มิได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร ปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้ที่อ่านข้อความในวิทยานิพนธ์และในหนังสือที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเข้าใจผิดในตัวโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยที่ 1 เขียนข้อความเท็จในวิทยานิพนธ์และหนังสือดังกล่าว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นผู้ไม่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝักใฝ่อำนาจทางการเมือง สนับสนุนการรัฐประหาร กระทำการก้าวก่ายการบริหารราชการของรัฐบาล ฟ้องของโจทก์จึงมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้สิ้นพระชนม์แล้วก่อนที่จะมีการกระทำอันเป็นละเมิดตามคำฟ้อง จึงเป็นฟ้องที่กล่าวอ้างว่ามีการกระทำละเมิดต่อหรือความเสียหายของผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้ว แม้โจทก์เป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งสิ้นพระชนม์แล้วและข้อความกล่าวพาดพิงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร

    แม้หากฟังได้ว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง และทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย เพราะข้อความตามคำบรรยายฟ้องมิได้กล่าวหรือแสดงเรื่องราวที่ไม่ตรงต่อความจริงเกี่ยวกับโจทก์และครอบครัวและไม่ได้สื่อความหมายเกี่ยวกับโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ รวมถึงวิทยานิพนธ์ของจำเลยที่ 1 กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ไม่ได้กล่าวถึงโจทก์และทายาทของโจทก์ ข้อเท็จจริงตามข้อความในวิทยานิพนธ์ดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ โจทก์ไม่ทราบเนื่องจากขณะนั้นโจทก์ยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความที่จำเลยที่ 1 แสดงในวิทยานิพนธ์ ในหนังสือ และที่จำเลยที่ 1 นำไปพูดตามคำฟ้องไม่ได้สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานอันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญ

    ส่วนที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมและอาฆาดมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่ที่พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เหตุการณ์ตามภาพข่าวและสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์ ไม่ปรากฏว่าบุคคลผู้ก่อเหตุเป็นใครและการกระทำสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด และที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ถนนวิภาวดีรังสิตปลุกระดมให้มีการยกเลิกชื่อถนนซึ่งเป็นพระนามของพระเจ้าวงวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมสืบเนื่องจากข้อความในวิทยานิพนธ์หรือในหนังสือคดีนี้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์โดยตรง

    ทั้งการฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านถึงมูลเหตุที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000,000 บาท เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงทำคุณความดีและประโยชน์ให้ประเทศไทยเป็นจำนวนมากมายมหาศาล การฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์จึงมิได้มีความสัมพันธ์กับที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความของจำเลยที่ 1 ตามคำฟ้องและไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิ

    ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงตามคำฟ้องทำให้ราชสกุลรังสิต รวมถึงโจทก์ผู้สืบราชสกุลและเป็นผู้แทนราชสกุลได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้ว่าระบุว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นในราชสกุลรังสิตด้วย ทั้งราชสกุลรังสิตก็ไม่ปรากฏว่ามีสภาพบุคคลตามกฎหมายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีนี้ในฐานะส่วนตัว มิได้เป็นการฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นด้วย โจทก์จึงมิอาจกล่าวอ้างความเสียหายของราชสกุลรังสิตซึ่งไม่มีสภาพบุคคล ส่วนที่โจทก์ฟ้องและเบิกความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อมูลนิธิวิภาวดีรังสิต ที่โจทก์เป็นประธานและมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการ กระทบต่อการหารายได้โดยการรับบริจาคเงินจากสาธารณชนซึ่งรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสนั้น เมื่อมูลนิธิดังกล่าวมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างหากจากโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากมูลนิธิ

    โจทก์จึงไม่อาจอ้างว่ามูลนิธิดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ได้รับความเสียหายเพื่อให้มีการใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง

    https://mgronline.com/crime/detail/9670000109449#google_vignette

    #Thaitimes
    ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา"ฟ้อง"ณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง 13 พฤศจิกายน 2567- เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ พ1135/2564 ที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท กรณีจำเลยเกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500), หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อและ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด ศาลแพ่ง พิเคราะห์ประเด็นข้อพิพาทที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งหกร่วมกันรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่าร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ ทางทำมาหาได้ และทางเจริญของโจทก์ การกระทำจะเป็นการละเมิดและจำเลยทั้งหกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ ต่อเมื่อข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนความจริงและโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ซึ่งหมายถึงเป็นความเสียหายแก่โจทก์ผู้ฟ้องโดยเฉพาะ มิใช่ความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จำเลยทั้งหกร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์โดยนำข้อความอันเป็นเท็จจัดทำเอกสารไขข่าวแพร่หลายสู่สาธารณะเพื่อมุ่งประสงค์กล่าวหาให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทำเป็นกระบวนการเพื่อใช้ในการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เริ่มจากจำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบและร่วมมือของจำเลยที่ 2 ปั้นแต่งความเท็จขึ้นใส่ความสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการว่าทรงประพฤติตนไม่สมต่อตำแหน่งหน้าที่ ทั้งการใช้พระราชอำนาจสนับสนุนรับรองการรัฐประหารปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการปกครองในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.เพื่อปูทางการเมืองที่ราบรื่นให้แก่สถาบันกษัตริย์ โดยเจตนาเพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำวิทยานิพนธ์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุถึงข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ หน้า 63 วรรคแรก และหน้า 105 วรรคแรก และบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 นำข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ไปพูดในการเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2553 กล่าวหากรมขุนชัยนาทนเรนทรว่าก้าวก่ายรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ด้วยการเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อันเป็นความเท็จ และเมื่อปี 2556 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขอฝันใฝ่ในผันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ.2475-2500) เนื้อหาโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ต่อเนื่องจนถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ด้วยความเท็จ และโจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความอันเป็นเท็จ เนื้อหาหน้า 120 -121 และหน้า 124-125 และเมื่อปี 2563 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี กล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมีข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หลายแห่ง และโจทก์บรรยายฟ้องข้อความอันเป็นเท็จที่หน้า 60,63,66,73,77และข้อความเท็จใต้ภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้า 69 และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 แต่งความเท็จใส่ร้ายกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และสถาบันพระมหากษัตริย์ในหนังสือต่างประเทศที่จำหน่ายทั่วโลก ชื่อ “Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in Thailand” ใส่ร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่ามีส่วนร่วมในการรัฐประหาร ปี 2490 แทรกแซงการเมืองโดยการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อข้อความอันเป็นเท็จตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ มิได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร ปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้ที่อ่านข้อความในวิทยานิพนธ์และในหนังสือที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเข้าใจผิดในตัวโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยที่ 1 เขียนข้อความเท็จในวิทยานิพนธ์และหนังสือดังกล่าว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นผู้ไม่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝักใฝ่อำนาจทางการเมือง สนับสนุนการรัฐประหาร กระทำการก้าวก่ายการบริหารราชการของรัฐบาล ฟ้องของโจทก์จึงมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้สิ้นพระชนม์แล้วก่อนที่จะมีการกระทำอันเป็นละเมิดตามคำฟ้อง จึงเป็นฟ้องที่กล่าวอ้างว่ามีการกระทำละเมิดต่อหรือความเสียหายของผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้ว แม้โจทก์เป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งสิ้นพระชนม์แล้วและข้อความกล่าวพาดพิงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร แม้หากฟังได้ว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง และทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย เพราะข้อความตามคำบรรยายฟ้องมิได้กล่าวหรือแสดงเรื่องราวที่ไม่ตรงต่อความจริงเกี่ยวกับโจทก์และครอบครัวและไม่ได้สื่อความหมายเกี่ยวกับโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ รวมถึงวิทยานิพนธ์ของจำเลยที่ 1 กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ไม่ได้กล่าวถึงโจทก์และทายาทของโจทก์ ข้อเท็จจริงตามข้อความในวิทยานิพนธ์ดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ โจทก์ไม่ทราบเนื่องจากขณะนั้นโจทก์ยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความที่จำเลยที่ 1 แสดงในวิทยานิพนธ์ ในหนังสือ และที่จำเลยที่ 1 นำไปพูดตามคำฟ้องไม่ได้สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานอันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญ ส่วนที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมและอาฆาดมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่ที่พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เหตุการณ์ตามภาพข่าวและสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์ ไม่ปรากฏว่าบุคคลผู้ก่อเหตุเป็นใครและการกระทำสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด และที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ถนนวิภาวดีรังสิตปลุกระดมให้มีการยกเลิกชื่อถนนซึ่งเป็นพระนามของพระเจ้าวงวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมสืบเนื่องจากข้อความในวิทยานิพนธ์หรือในหนังสือคดีนี้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์โดยตรง ทั้งการฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านถึงมูลเหตุที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000,000 บาท เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงทำคุณความดีและประโยชน์ให้ประเทศไทยเป็นจำนวนมากมายมหาศาล การฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์จึงมิได้มีความสัมพันธ์กับที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความของจำเลยที่ 1 ตามคำฟ้องและไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิ ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงตามคำฟ้องทำให้ราชสกุลรังสิต รวมถึงโจทก์ผู้สืบราชสกุลและเป็นผู้แทนราชสกุลได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้ว่าระบุว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นในราชสกุลรังสิตด้วย ทั้งราชสกุลรังสิตก็ไม่ปรากฏว่ามีสภาพบุคคลตามกฎหมายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีนี้ในฐานะส่วนตัว มิได้เป็นการฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นด้วย โจทก์จึงมิอาจกล่าวอ้างความเสียหายของราชสกุลรังสิตซึ่งไม่มีสภาพบุคคล ส่วนที่โจทก์ฟ้องและเบิกความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อมูลนิธิวิภาวดีรังสิต ที่โจทก์เป็นประธานและมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการ กระทบต่อการหารายได้โดยการรับบริจาคเงินจากสาธารณชนซึ่งรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสนั้น เมื่อมูลนิธิดังกล่าวมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างหากจากโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากมูลนิธิ โจทก์จึงไม่อาจอ้างว่ามูลนิธิดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ได้รับความเสียหายเพื่อให้มีการใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง https://mgronline.com/crime/detail/9670000109449#google_vignette #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา" ฟ้อง"ณัฐพล-ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ ชี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
    ศาลแพ่งยกฟ้อง ม.ร.ว.ปรียนันทนาฟ้องณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำคมวันนี้
    "ยอมรับ แต่ไม่ยอมจำนน ... การยอมรับคือการเข้าใจสภาพการณ์ตามความจริง การไม่ยอมจำนนคือการเลือกที่จะไม่หยุดเดินหน้าต่อ"
    #quotes #quoteoftheday #คำคม #คำคมโดนๆ
    คำคมวันนี้ "ยอมรับ แต่ไม่ยอมจำนน ... การยอมรับคือการเข้าใจสภาพการณ์ตามความจริง การไม่ยอมจำนนคือการเลือกที่จะไม่หยุดเดินหน้าต่อ" #quotes #quoteoftheday #คำคม #คำคมโดนๆ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้อากาศดีครับ
    วันนี้อากาศดีครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทุกวันนี้ ไม่เคยกลัวสิ่งใด นอกจาก "เวลา"
    เพราะเราไม่อาจรู้ว่า มันจะพรากสิ่งที่เรารัก จากไปเมื่อไหร่

    ที่มา เพจอินดี้
    #ทุกวันนี้ ไม่เคยกลัวสิ่งใด นอกจาก "เวลา" เพราะเราไม่อาจรู้ว่า มันจะพรากสิ่งที่เรารัก จากไปเมื่อไหร่ ที่มา เพจอินดี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจห้องพระวันนี้นำเสนอพระของท่านพ่อลีครับ
    :https://thaitimes.co/posts/109434
    เพจห้องพระวันนี้นำเสนอพระของท่านพ่อลีครับ :https://thaitimes.co/posts/109434
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • 13-11-67/01 : หมี CNN / เล่าสู่กันฟัง" EP.12 ตอน "มหาวิบัติกรมตำหนวด กากีผยอง" เอาให้สุดซอย กฎหมาเหนือกฎหมาย อยู่ที่ใครอุ้ม? แฉอีเหลี่ยม หักหลังอีเหลี่ยม เพื่อหวังกลับมาชิมิ? กระแสปั่น อีโจ๊กยังไม่เละ ลุ้นกลับมาพร้อมเยียวยา จริงดิ? ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 3 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ มา 1 ตายยกคอก เรื่องเหี้ยๆ ไม่เคยพ้นอีกากีเสนียดแผ่นดินฉิงๆ สงสารตำหนวดชั้นผู้น้อย ตำหนวดดีดี ที่ต้องอยู่ในดงโจร เพราะมันเป็นโจรกันทั้งกรมไงล่ะ ใครล่ะ สร้างระบบโจรนี้ มรึงต้องย้อนกลับไป ปีที่อีเหลี่ยมเข้ามาจัดระเบียบกรมอีกากีใหม่หมด ทั้งหมดคือแผน CIA ทำลายรากฐาน ต้องปรับโครงสร้างก่อน ความยุติธรรมชั้นต้น สำนวน เริ่มจากอีกากี แล้วปล่อยเชื้อชั่วเข้ากรมอัยกวยต่อ ใช่! เหี้ย C มันจ้องบ่อนทำลายความมั่นคงไทย ผ่านทุกขบวนการยุติธรรม เมื่อต้นน้ำมันเหี้ย รับใช้โจร อย่าหวังจะขาวสะอาด ความยุติธรรมมีแต่ในการ์ตูน เพราะมันอยู่ที่เด็กใคร? แต่อย่าได้หนักใจไป นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบัน เชื้อชั่ว เชื้อเหี้ย ในกรมกากีเสนียดแผ่นดิน ออกลายหมดเกลี้ยง อีตำหนวดชั้นผู้ใหญ่ดาหน้าโดนคุกกันทั่ว เอี่ยมทุนสีเทา ธุรกิจมืด ซ่องโจร บ่อนการพนัน ไม่มีอะไรที่เหี้ย จัญไร ที่ตำหนวดไม่รู้ รู้หมดทุกจุด รู้ทุกอย่าง รู้ว่าของใคร? แต่ที่ไม่ทำห่าอะไร เพราะเงินมันอุดปากอยู่ อยากเลื่อนตำแหน่ง อยากรวย อยากหิวแสง ต้องมีนายใหญ่แบ็คอัพถึงจะรุ่ง อีกรมตำหนวดเนี่ย เป็นเหมือนกันหมดทั้งโลก โดยเฉพาะประเทศคลั่งประชาธิปไตย กฎหมามักจะมาก่อนกฎหมายเสมอ มรึงฆ่าคนตาย จ่าย 100 ล้าน วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง ผ่านไป 1 ปี เรื่องจบ หายเงียบ อีชั่วก็ไปทำชั่วต่อไงล่ะ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน? แต่ยามที่แสงทำงาน จะลากไอ้อีสารพัดเหี้ยทั้งหมด เข้าตาราง ความจริงจะโผล่มา กระแสปัญญาชนจะก่อเกิด อีตำหนวดหมดราคา สภาพไม่ต่างกับโจร? กรมอัยกวยที่หนักแผ่นดิน จะถูกล้างบางในพศ.นี้ ทุกความระบำอัปรีย์จัญไรทั้งหลายที่มรึงประสบมา จะถูกล้างทั้งหมด โดยการ "แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ" ฉบับวังและชาติมาก่อนประชาธิปไตยตอแหล เอาให้สุดซอย สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ประชาชนหมดศรัทธากับขบวนการยุติธรรมต้นน้ำของไทยแล้ว แสงถึงต้องออกโรงเอง งวดนี้ ตายยกโคตรเหี้ย ทั้งขบวนการ ไม่ใช่ใครอื่น ส้นตรีนบู๊ทตรีนโตเข้ามาชำระล้างให้เอง เมื่อมรึงอยู่กันดีดีไม่ได้ ต้องหาเรื่องให้ชาวบ้านเดือดร้อน อันธพาลครองเมือง ก็อย่าได้เสพสุขกันอีกต่อไป สั้นๆ คือทหารจัดระเบียบกรมตำหนวดใหม่หมด ไม่สิ ต้องเรียก "ผู้ใหญ่สั่งตรงมาเอง" เห็นแสงปลายอุโมงค์ชัดเจน มันโดดเด่นมว๊าก! ไม่ว่าจะอีโจ๊กคนอร์ อีขาใหญ่แค่ไหน ก็แค่ขี้ตรีนกองทัพ ฟังๆ ชัด จากปากณัชชาน่ะจ๊ะ "ขี้ตรีนกองทัพ" รถถังออก GMC ผุด โผล่ทุบทั้งสถานีก็เคยมาแล้ว ใหญ่แค่ไหน ก็ไม่พ้นอวสานเซลล์แมน ดีออก? ไม่แปลกที่อีเหลี่ยมถูกหักหลังยับ ทั้งพรรคร่วม ทั้งลูกน้องเก่า ทั้งคนใกล้ชิด เพราะหน้าที่ขี้ข้าคือเอาตัวรอดจ๊ะ..นายจ๋า ขายนายตัวเอง เพื่อไต่เต้าสูงกว่า หรือความอยู่รอดถาวร สันดานขี้ข้า เป็นเช่นนี้ทั่วแกแลคซี่ เผานายเก่าแลกผลงาน จะฆ่าเหี้ย ต้องให้เหี้ยลงมือกันเอง ไม่ต้องเปลืองแรงขยี้ ไม่ต้องเปลืองคนดีดีให้ติดเสนียด สรุปกลกามกรมตำหนวด ปล่อยเหี้ยตัวเล็ก เพื่องับเหี้ยตัวใหญ่ ตัวบงการ เสร็จกิจแล้วค่อยเชือดทีหลัง นี่มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย แผนพิชัยสงคราม ใช้กันบ่อย อีโจ๊กคนอร์สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี เล่นให้เป็น อ่านเกมส์ให้ขาด จะไม่ต๊กกะใจ! ถามสั้นๆ เผาอีเหลี่ยมชาติชั่ว กับเผาอีโจ๊กคนอร์ มรึงอยากให้ใครตายห่าก่อนกันล่ะ? กลวิธีเค้ามี วิธีการไม่สำคัญ เป้าหมายสำเร็จคือชัยชนะ! ใครล่ะ จะฆ่านายใหญ่ได้ หากไม่ใช่ขี้ข้าใกล้ตัว? มหากาพย์ชั้น 14 ก็จะตายห่ายกโคตรเหี้ยก็เพราะเหตุผลนี้เช่นกัน ศรีธนญชัยเดินหมากหลายชั้น ธรรมดาซะที่ไหนกันล่ะ? ไม่อยากพูด แม้แต่ชั้นระดับผู้พิพากษา ก็ถูกเช็คบิลได้เช่นกัน หากมีพิรุจ อุ้มเหี้ย หลักฐานเค้ามี แค่รอเหยื่อดิ้น ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครไว้ใจใครได้อีกแล้ว เหี้ยหักหลังกันเกลื่อน? นี่ล่ะ วังวนเหี้ยแท้จริง! เอ้า..เห้ย ไม่ตรงปกนี่หว่า จะข้ามรุ่นล่อลุงสนธิ ข่าวปล่อยอีเดชอบแดร๊กถั่วดำ ออกมากลางโซเชี่ยล ฮาแตก ชอบไม้ป่าเดียวกันเหรอจ๊ะ..ตะเอง ดูทรงแล้ว สายเหลืองนี่หว่า? 555+ ยังไม่ทันจะเริ่ม ก็เสียหมา เสียทรงซะแว๊ว อยากโดนแฉอีกเหรอจ๊ะ? งวดนี้ อีเด ถูกจัดหนักแน่ เสี้ยนจัดน่ะมรึง! ด้านอีต้มตุ๊ด เยี่ยวแตก ขนาดอีทนายสายบัวตอแหลยังพลิกลิ้น ชิ่งหนีดีกว่า โอกาสตายร่วมสูง หลังอีนุ อีสา ถูกจับมารีด(นมวัว) คายออกหมดเปลือก จะเหลือเหี้ยอะไรอีกเนี่ย สรุปคือ 39 ล้านคือดอกฆ่าจริง 71 ล้านแค่ดอกโหมโรง เพ่อ้อยไม่ถอนฟ้อง ไปสุดซอยเท่านั้น อีเมียดิ้นพล่าน กูไม่รู้ ไม่เกี่ยว สายเกินปุยมุย? เชิญไปอวดรวยกันต่อในคุกน่ะจ๊ะ สายเบ็ดรอมรึงอยู่เพี๊ยบ ข้ามมาดูโลกตอแหลกันต่อ : อีเสี้ยนยาชะตาขาด หมดหนทาง อ้อนอีทรัมปป์ ยกแผ่นดินให้เลย แค่ต่อลมหายใจกูหน่อย? อีทรัมปป์คงสนแผ่นดินเน่าๆ เนี่ยน่ะ เพราะรู้อยู่แล้ว ยังไงรัสเซียเขมือบแน่ ถามส้นตรีนปูตินรึยัง? พวกมรึงมีปัญญาเหรอ? เกมส์อยู่ในมือใคร? ใครกำหนดทิศทางโลกทุกวันนี้ ใช่มรึงเหรอ? จีนเขยิบ รัสเซียขยับ โลกตามทันที ยังไม่สำเหนียก อีทรัมปป์มันมาเพื่อแตกอเมริกา ไม่ได้มากู้อเมริกา แล้วใยกู้ต้องมาช่วยกู้แผ่นดินเน่ามรึงด้วยล่ะ อีเสี้ยนยาจ๋า? ชั่วโมงนี้ ใครกล้าชนรัฐบุรุษปูติน สีจิ้นผิง ไม่มี? แค่ BRICS ยังแห่กันตามหมดทั้งโลก มรึงมัน NOBODY แล้ว ไอ้สัส! พอก่อน พอได้แล้ว อียิวขี้แตกแล้ว โดนทั้งซูเปอร์โซนิค ตามด้วยไฮเปอร์โซนิค แบบลืมหายใจ ถามจริง มรึงมีเยอะเกินไปป่ะ? อะไรน่ะ ยังเหลืออีกเป็นล้านลูก ไอ้สัส! ผลิตออกมาเยอะเกินปุยมั้ย? เอาไปยิงหมาเหรอ? สาย HARDCORE บ่นยับ? ทำไมไม่ฆ่าล้างโคตรมันไปเลย 24 ชม. รอเหี้ยอะไรอยู่ ยึดแผ่นดินแม่งให้เกลี้ยง คำถามนี้ ต้องไปดูว่า ขั้วใหม่ รัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง เค้าต้องการอะไรแท้จริง "หาใช่ชัยชนะในสมรภูมิ" แต่เป็นทุบหม้อข้าวเหี้ย ทำลายคลังแสง คลังเงิน ไอ้อีตะวันตกจนไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก เมื่อหมดตูด มรึงก็แค่ "ไอ้ยาจก" ไม่มีจะแดร๊ก แล้วจะมีปัญญาทำเหี้ยอะไรต่อได้อีก ทุบที่หม้อข้าว นี่คือยุทธศาสตร์หลัก ที่ขั้วใหม่ทำอยู่ อย่าลืมน่ะว่า เหือบครึ่งปีแล้ว ที่ท่าเรือไฮฟา ไม่มีสินค้าเข้ามาเลย เรือขนส่งเข้าไม่ถึง ความช่วยเหลือเข้าไม่ได้ แม้แต่กองเรือเหี้ยยังไม่กล้าเข้ามาผ่านทะเลแดง แปลว่าอะไร ยุทธศาสตร์ อิหร่าน รัสเซีย จีน ครองน่านน้ำ น่านฟ้าไว้หมดแล้ว ภาษาทหารคือ ยึดเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแบบคุณยายละม่อม แต่ไม่ต้องรีบฆ่า บีบให้มันอดอยาก ปากแห้งไปเรื่อยๆ เพื่อดึงขี้ข้าที่หิวโซย้ายขั้วนั่นเอง เมื่อแขนขาถูกหั่น เหี้ยก็จบ ไม่มีเครื่องมือให้ใช้ต่ออีกแล้ว อีโง่ยุโรปก็เช่นกัน หลังอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง อีอัสซูรี่ หมดตูดไปเยอะ เศรษฐกิจพังยับทั้งยุโรป ชาติเล็กๆ แข็งข้อขึ้นมาทันที จะรีบย้ายขั้วไปเกาะรัสเซีย เพราะมั่นคง และมั่นใจกว่าเยอะ แผนแตก EU NATO จึงก่อเกิด เงินไม่มี พลังงานไม่เหลือ ใครจะตามมรึงกันอีกล่ะ? 10 ชาติยุโรปสัญญาปากเปล่ากันแล้ว ไปพร้อมกันทั้งยวง เครมลินเตรียมเปิดวังต้อนรับเสมอ? กลับบ้านเถอะลูก รักรออยู่!

    ปล.มาตามนัด! กูว่าแล้ว ยังไม่ทันจะสาบานตน อีมรัมปป์เรียกโพยแต่หัววัน เตรียมหั่นนายพลทิ้ง เปลืองภาษี เปลืองงบ ตั้งคณะกรรมการโละนายพล(โดยเฉพาะหมารับใช้อีลา ซึ่งมีเพี๊ยบ) เตรียมงัดข้ออีตาเพน กูเดาทางถูกเสมอ? ยังไม่จบ ไอ้อีตัวไหน ใครที่ลากทรัมปปืเข้าคุก ยัดข้อหา ใส่ร้าย ป้ายสี ล่อกู 100 กว่าคดี มรึงเตรียมโดนโละเช่นกัน ผู้พิพากษาเหรอ รัฐไหนเหรอ ใหญ่แค่ไหนเหรอ อีทรัมปป์จะเชือดเหี้ยให้เหี้ยดู เพราะอำนาจกูคือประกาศิต เบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ชำระแค้นก่อน คือทรัมปป์ งานสร้าง TRUMP LAND คือเรื่องต่อไป ข้ามวิกแป๊บ : อย่าดูแค่เปลือก ดร.อาทิตย์(ตัวชงมาเอง) ถามสั้นๆ ข้องใจทำไม ‘พระบรมราชโองการ-คำพิพากษาศาลฎีกา’ ไม่มีความหมาย? ขัดขืน ฝ่าฝืนเพี๊ยบ ดอกนี้ ชงให้ทุกคดีที่อีเหลี่ยม อีลูกสาวร่าน ทำโดยตรง เค้ารู้กัน ศาลรับลูก 15 คดีในมือ โดนทุกดอก "ประหารชีวิตยังน้อยไป" ตัวชงมา ตัวตบรับ มันคือ "ยาเร่ง" บีบให้เหี้ยทั้งหมดเผ่นหนีให้หมด ก่อนศาลจะฟันดาบลงมา จะหนีไม่ทันแล้วน่ะ? ไม่มีบังเอิญ มีแต่บังอาจ กระแสต่อต้านคอรัปชั่นแรงเกินห้ามใจ มันโดดเด่นเสียเหลือเกินช่วงนี้ เพราะแสงอีกแล้วครับท่าน! ทุนเทา ทุนม่วง ตายห่า ศพเกลื่อนศาล ลาก่อน "อีฟิล์มโกดัก" คิดผิด ชีวิตจบ เงิน อำนาจ ตัณหา พามรึงไปตายห่า ใครเล่นการเมือง ชีวิตมีอันเป็นไปหมด ดาราอยากเกิด ไฮโซอยากดัง แตะสิ่งปนเปื้อน สลัดไม่ออก ถูกกลืนเหมือนกันหมด วังวนการเมืองคืออาจมเสนียดแผ่นดิน ใครลองได้เสพ หลงใหลอำนาจ ตายห่าหมดเกลี้ยง? ไอ้สัส! กลัวไทยไม่ดัง ก่อการร้ายอ้าง เตรียมสอยอียิวในเกาะพงัน FULL MOON PARTY ทำไมต้องเลือกงานนี้ เพราะมันดังไประดับโลก หากเป็นข่าว อียิวตายห่ากลางวงปาร์ตี้ กราดยิง ระเบิดลง ดังพลุแตกแน่ แล้วทำไม ถึงบอกล่วงหน้า? จะดึงไทยเข้าร่วมสงครามครูเสดด้วยเหรอจ๊ะ? ตำหนวดไทยเก่ง มรึงช่วยโฆษณาให้ กูยินดี ถามว่าคนทั้งโลกแห่มา เค้าสนมั้ย? คนมันมาเพื่อจะเล่นยา ระเบิดลงหัวก็ไม่กลัวดอก? FULL MOON PARTY แท้จริงคืออะไร? SEX DRUG DRINK DANCE PARTY มันคืองานมั่วสุดสวิงริงโก้อีโต้บั๊ม? ฝรั่งมันชอบ ใครสนกราดยิงกันล่ะ? เพราะกูเมายาอยู่ ไม่รู้เรื่อง? โปรดสังเกตุ อียิวพยายามจะลากไทยเข้ามามีเอี่ยวทุกเรื่อง มรึงรักกูมากมายขนาดนี้เชียวเหรอ น้ำลายหยดมาตั้งแต่ปีพศ.2475 สิน่ะ แห้วแดร๊ก เพราะสมเด็จย่า? สื่อใครลง สื่อใครแฉ นั่นแหละ ตัวปล่อยแผน? แผนเก่าๆ เน่าๆ ยังกล้ามาใช้? หน่วยความมั่นคงเค้ารู้หมดเกลี้ยง เชิญเข้ามาเหอะ เดี๋ยวกูจะให้มรึงมั่วยาเต็มที่ จนลืมกลับบ้านกันไปเลย? รัสเซีย เล่นเกมส์ จับมืออีทรัมปป์ บับให้อีเสี้ยนยาเลือกตั้ง แน่นอนว่า "โปรรัสเซียมาชัวร์ ไม่ต้องเดา" เพราะชาวยูเครนที่เหลือตายห่าเพราะสงครามไปเยอะแล้ว ใครยังอยากจะรบกันต่ออีก นีโอนาซีในยูเครนตายเกลื่อน ปูตินสั่งเน้น เก็บไอ้อีนีโอนาซีทุกตัว ไม่ต้องปราณี ไม่ต้องถามเยอะ เห็นปุ๊บ สอยทันที หนักแผ่นดิน! แผนสร้างปชต.ตอแหลใหม่ แค่เกมส์บังหน้า รัสเซียเค้าวางหมากล่อเหยื่อไว้หมดแล้ว ประกาศ 4 แคว้นเป็นของรัสเซียโดนสมบูรณ์ เลือกตั้งมา คืออีเสี้ยนยาเตรียมเผ่นแน่ ถูกสั่งเก็บจากทั่วโลก อีทรัมปป์ไม่ได้สนใจแผ่นดินยูเครน แต่สนใจว่ารัสเซียจะยอมถอยให้เรื่องอะไรได้บ้าง ข้อดีของอีทรัมปป์คือ ทุกอย่างเจรจาได้หมด แม้แต่ขายลูก ขายเมีย พ่อค้าตัวจริง! ขั้วใหม่ชนะไปแล้ว ตั้งแต่อีทรัมปป์มา แสดงให้โลกเห็นว่า คนเบื่อหน่ายสงคราม และอเมริกาและตะวันตก คือต้นตอของความวินาศฉิบหายทั้งหมด NATO ไร้ราคา ส่วน EU ถังแตกยับเยิน หมดสภาพทั้งคู่ โลกรอแค่ ขั้วใหม่ "ปิดเกมส์" เท่านั้น

    ปล.2 คำถามแก้เครียด? คุณคิดว่าสาวยุคไหน SEXY ที่สุด? 60 'S/70 'S/80 'S/90 'S/00-20 'S

    หมี CNN(อะไรก็ไปไวมาไวเสมอ เพราะแสงทำงานเร็ว ไม่มีอะไรที่จะหนีรอดแสงไปได้ ยามเมื่อสาดส่อง เหี้ยจัญไรทั้งสากลโลกทั้งหลายกำลังถูกแสงแผดเผาทั้งเป็น สงครามจะหยุดขยายวงกว้าง แต่จะเกิดสงครามภายในกันเอง เพราะเกมส์มันถึงทางตันแล้ว หากไม่อยากตายหมู่ ตายยกทวีป ทางรอดเดียวคือ "เคลียร์กันเอง" เมื่อภายในจบ ถึงจะได้ข้อสรุป อยู่ในแผนขั้วใหม่ทั้งสิ้น จีน รัสเซีย ถึงยังไม่ลงมือเองซักกะที รอเหี้ยกัดกันให้พอใจ เหลือตัวสุดท้ายค่อยมาคุยกับกู หมากล้อมจีนชนะ หมากรุกพิฆาตเอาอยู่)
    13 พฤศจิกายน 67
    12.22 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatch
    13-11-67/01 : หมี CNN / เล่าสู่กันฟัง" EP.12 ตอน "มหาวิบัติกรมตำหนวด กากีผยอง" เอาให้สุดซอย กฎหมาเหนือกฎหมาย อยู่ที่ใครอุ้ม? แฉอีเหลี่ยม หักหลังอีเหลี่ยม เพื่อหวังกลับมาชิมิ? กระแสปั่น อีโจ๊กยังไม่เละ ลุ้นกลับมาพร้อมเยียวยา จริงดิ? ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 3 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ มา 1 ตายยกคอก เรื่องเหี้ยๆ ไม่เคยพ้นอีกากีเสนียดแผ่นดินฉิงๆ สงสารตำหนวดชั้นผู้น้อย ตำหนวดดีดี ที่ต้องอยู่ในดงโจร เพราะมันเป็นโจรกันทั้งกรมไงล่ะ ใครล่ะ สร้างระบบโจรนี้ มรึงต้องย้อนกลับไป ปีที่อีเหลี่ยมเข้ามาจัดระเบียบกรมอีกากีใหม่หมด ทั้งหมดคือแผน CIA ทำลายรากฐาน ต้องปรับโครงสร้างก่อน ความยุติธรรมชั้นต้น สำนวน เริ่มจากอีกากี แล้วปล่อยเชื้อชั่วเข้ากรมอัยกวยต่อ ใช่! เหี้ย C มันจ้องบ่อนทำลายความมั่นคงไทย ผ่านทุกขบวนการยุติธรรม เมื่อต้นน้ำมันเหี้ย รับใช้โจร อย่าหวังจะขาวสะอาด ความยุติธรรมมีแต่ในการ์ตูน เพราะมันอยู่ที่เด็กใคร? แต่อย่าได้หนักใจไป นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบัน เชื้อชั่ว เชื้อเหี้ย ในกรมกากีเสนียดแผ่นดิน ออกลายหมดเกลี้ยง อีตำหนวดชั้นผู้ใหญ่ดาหน้าโดนคุกกันทั่ว เอี่ยมทุนสีเทา ธุรกิจมืด ซ่องโจร บ่อนการพนัน ไม่มีอะไรที่เหี้ย จัญไร ที่ตำหนวดไม่รู้ รู้หมดทุกจุด รู้ทุกอย่าง รู้ว่าของใคร? แต่ที่ไม่ทำห่าอะไร เพราะเงินมันอุดปากอยู่ อยากเลื่อนตำแหน่ง อยากรวย อยากหิวแสง ต้องมีนายใหญ่แบ็คอัพถึงจะรุ่ง อีกรมตำหนวดเนี่ย เป็นเหมือนกันหมดทั้งโลก โดยเฉพาะประเทศคลั่งประชาธิปไตย กฎหมามักจะมาก่อนกฎหมายเสมอ มรึงฆ่าคนตาย จ่าย 100 ล้าน วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง ผ่านไป 1 ปี เรื่องจบ หายเงียบ อีชั่วก็ไปทำชั่วต่อไงล่ะ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน? แต่ยามที่แสงทำงาน จะลากไอ้อีสารพัดเหี้ยทั้งหมด เข้าตาราง ความจริงจะโผล่มา กระแสปัญญาชนจะก่อเกิด อีตำหนวดหมดราคา สภาพไม่ต่างกับโจร? กรมอัยกวยที่หนักแผ่นดิน จะถูกล้างบางในพศ.นี้ ทุกความระบำอัปรีย์จัญไรทั้งหลายที่มรึงประสบมา จะถูกล้างทั้งหมด โดยการ "แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ" ฉบับวังและชาติมาก่อนประชาธิปไตยตอแหล เอาให้สุดซอย สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ประชาชนหมดศรัทธากับขบวนการยุติธรรมต้นน้ำของไทยแล้ว แสงถึงต้องออกโรงเอง งวดนี้ ตายยกโคตรเหี้ย ทั้งขบวนการ ไม่ใช่ใครอื่น ส้นตรีนบู๊ทตรีนโตเข้ามาชำระล้างให้เอง เมื่อมรึงอยู่กันดีดีไม่ได้ ต้องหาเรื่องให้ชาวบ้านเดือดร้อน อันธพาลครองเมือง ก็อย่าได้เสพสุขกันอีกต่อไป สั้นๆ คือทหารจัดระเบียบกรมตำหนวดใหม่หมด ไม่สิ ต้องเรียก "ผู้ใหญ่สั่งตรงมาเอง" เห็นแสงปลายอุโมงค์ชัดเจน มันโดดเด่นมว๊าก! ไม่ว่าจะอีโจ๊กคนอร์ อีขาใหญ่แค่ไหน ก็แค่ขี้ตรีนกองทัพ ฟังๆ ชัด จากปากณัชชาน่ะจ๊ะ "ขี้ตรีนกองทัพ" รถถังออก GMC ผุด โผล่ทุบทั้งสถานีก็เคยมาแล้ว ใหญ่แค่ไหน ก็ไม่พ้นอวสานเซลล์แมน ดีออก? ไม่แปลกที่อีเหลี่ยมถูกหักหลังยับ ทั้งพรรคร่วม ทั้งลูกน้องเก่า ทั้งคนใกล้ชิด เพราะหน้าที่ขี้ข้าคือเอาตัวรอดจ๊ะ..นายจ๋า ขายนายตัวเอง เพื่อไต่เต้าสูงกว่า หรือความอยู่รอดถาวร สันดานขี้ข้า เป็นเช่นนี้ทั่วแกแลคซี่ เผานายเก่าแลกผลงาน จะฆ่าเหี้ย ต้องให้เหี้ยลงมือกันเอง ไม่ต้องเปลืองแรงขยี้ ไม่ต้องเปลืองคนดีดีให้ติดเสนียด สรุปกลกามกรมตำหนวด ปล่อยเหี้ยตัวเล็ก เพื่องับเหี้ยตัวใหญ่ ตัวบงการ เสร็จกิจแล้วค่อยเชือดทีหลัง นี่มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย แผนพิชัยสงคราม ใช้กันบ่อย อีโจ๊กคนอร์สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี เล่นให้เป็น อ่านเกมส์ให้ขาด จะไม่ต๊กกะใจ! ถามสั้นๆ เผาอีเหลี่ยมชาติชั่ว กับเผาอีโจ๊กคนอร์ มรึงอยากให้ใครตายห่าก่อนกันล่ะ? กลวิธีเค้ามี วิธีการไม่สำคัญ เป้าหมายสำเร็จคือชัยชนะ! ใครล่ะ จะฆ่านายใหญ่ได้ หากไม่ใช่ขี้ข้าใกล้ตัว? มหากาพย์ชั้น 14 ก็จะตายห่ายกโคตรเหี้ยก็เพราะเหตุผลนี้เช่นกัน ศรีธนญชัยเดินหมากหลายชั้น ธรรมดาซะที่ไหนกันล่ะ? ไม่อยากพูด แม้แต่ชั้นระดับผู้พิพากษา ก็ถูกเช็คบิลได้เช่นกัน หากมีพิรุจ อุ้มเหี้ย หลักฐานเค้ามี แค่รอเหยื่อดิ้น ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครไว้ใจใครได้อีกแล้ว เหี้ยหักหลังกันเกลื่อน? นี่ล่ะ วังวนเหี้ยแท้จริง! เอ้า..เห้ย ไม่ตรงปกนี่หว่า จะข้ามรุ่นล่อลุงสนธิ ข่าวปล่อยอีเดชอบแดร๊กถั่วดำ ออกมากลางโซเชี่ยล ฮาแตก ชอบไม้ป่าเดียวกันเหรอจ๊ะ..ตะเอง ดูทรงแล้ว สายเหลืองนี่หว่า? 555+ ยังไม่ทันจะเริ่ม ก็เสียหมา เสียทรงซะแว๊ว อยากโดนแฉอีกเหรอจ๊ะ? งวดนี้ อีเด ถูกจัดหนักแน่ เสี้ยนจัดน่ะมรึง! ด้านอีต้มตุ๊ด เยี่ยวแตก ขนาดอีทนายสายบัวตอแหลยังพลิกลิ้น ชิ่งหนีดีกว่า โอกาสตายร่วมสูง หลังอีนุ อีสา ถูกจับมารีด(นมวัว) คายออกหมดเปลือก จะเหลือเหี้ยอะไรอีกเนี่ย สรุปคือ 39 ล้านคือดอกฆ่าจริง 71 ล้านแค่ดอกโหมโรง เพ่อ้อยไม่ถอนฟ้อง ไปสุดซอยเท่านั้น อีเมียดิ้นพล่าน กูไม่รู้ ไม่เกี่ยว สายเกินปุยมุย? เชิญไปอวดรวยกันต่อในคุกน่ะจ๊ะ สายเบ็ดรอมรึงอยู่เพี๊ยบ ข้ามมาดูโลกตอแหลกันต่อ : อีเสี้ยนยาชะตาขาด หมดหนทาง อ้อนอีทรัมปป์ ยกแผ่นดินให้เลย แค่ต่อลมหายใจกูหน่อย? อีทรัมปป์คงสนแผ่นดินเน่าๆ เนี่ยน่ะ เพราะรู้อยู่แล้ว ยังไงรัสเซียเขมือบแน่ ถามส้นตรีนปูตินรึยัง? พวกมรึงมีปัญญาเหรอ? เกมส์อยู่ในมือใคร? ใครกำหนดทิศทางโลกทุกวันนี้ ใช่มรึงเหรอ? จีนเขยิบ รัสเซียขยับ โลกตามทันที ยังไม่สำเหนียก อีทรัมปป์มันมาเพื่อแตกอเมริกา ไม่ได้มากู้อเมริกา แล้วใยกู้ต้องมาช่วยกู้แผ่นดินเน่ามรึงด้วยล่ะ อีเสี้ยนยาจ๋า? ชั่วโมงนี้ ใครกล้าชนรัฐบุรุษปูติน สีจิ้นผิง ไม่มี? แค่ BRICS ยังแห่กันตามหมดทั้งโลก มรึงมัน NOBODY แล้ว ไอ้สัส! พอก่อน พอได้แล้ว อียิวขี้แตกแล้ว โดนทั้งซูเปอร์โซนิค ตามด้วยไฮเปอร์โซนิค แบบลืมหายใจ ถามจริง มรึงมีเยอะเกินไปป่ะ? อะไรน่ะ ยังเหลืออีกเป็นล้านลูก ไอ้สัส! ผลิตออกมาเยอะเกินปุยมั้ย? เอาไปยิงหมาเหรอ? สาย HARDCORE บ่นยับ? ทำไมไม่ฆ่าล้างโคตรมันไปเลย 24 ชม. รอเหี้ยอะไรอยู่ ยึดแผ่นดินแม่งให้เกลี้ยง คำถามนี้ ต้องไปดูว่า ขั้วใหม่ รัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง เค้าต้องการอะไรแท้จริง "หาใช่ชัยชนะในสมรภูมิ" แต่เป็นทุบหม้อข้าวเหี้ย ทำลายคลังแสง คลังเงิน ไอ้อีตะวันตกจนไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก เมื่อหมดตูด มรึงก็แค่ "ไอ้ยาจก" ไม่มีจะแดร๊ก แล้วจะมีปัญญาทำเหี้ยอะไรต่อได้อีก ทุบที่หม้อข้าว นี่คือยุทธศาสตร์หลัก ที่ขั้วใหม่ทำอยู่ อย่าลืมน่ะว่า เหือบครึ่งปีแล้ว ที่ท่าเรือไฮฟา ไม่มีสินค้าเข้ามาเลย เรือขนส่งเข้าไม่ถึง ความช่วยเหลือเข้าไม่ได้ แม้แต่กองเรือเหี้ยยังไม่กล้าเข้ามาผ่านทะเลแดง แปลว่าอะไร ยุทธศาสตร์ อิหร่าน รัสเซีย จีน ครองน่านน้ำ น่านฟ้าไว้หมดแล้ว ภาษาทหารคือ ยึดเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแบบคุณยายละม่อม แต่ไม่ต้องรีบฆ่า บีบให้มันอดอยาก ปากแห้งไปเรื่อยๆ เพื่อดึงขี้ข้าที่หิวโซย้ายขั้วนั่นเอง เมื่อแขนขาถูกหั่น เหี้ยก็จบ ไม่มีเครื่องมือให้ใช้ต่ออีกแล้ว อีโง่ยุโรปก็เช่นกัน หลังอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง อีอัสซูรี่ หมดตูดไปเยอะ เศรษฐกิจพังยับทั้งยุโรป ชาติเล็กๆ แข็งข้อขึ้นมาทันที จะรีบย้ายขั้วไปเกาะรัสเซีย เพราะมั่นคง และมั่นใจกว่าเยอะ แผนแตก EU NATO จึงก่อเกิด เงินไม่มี พลังงานไม่เหลือ ใครจะตามมรึงกันอีกล่ะ? 10 ชาติยุโรปสัญญาปากเปล่ากันแล้ว ไปพร้อมกันทั้งยวง เครมลินเตรียมเปิดวังต้อนรับเสมอ? กลับบ้านเถอะลูก รักรออยู่! ปล.มาตามนัด! กูว่าแล้ว ยังไม่ทันจะสาบานตน อีมรัมปป์เรียกโพยแต่หัววัน เตรียมหั่นนายพลทิ้ง เปลืองภาษี เปลืองงบ ตั้งคณะกรรมการโละนายพล(โดยเฉพาะหมารับใช้อีลา ซึ่งมีเพี๊ยบ) เตรียมงัดข้ออีตาเพน กูเดาทางถูกเสมอ? ยังไม่จบ ไอ้อีตัวไหน ใครที่ลากทรัมปปืเข้าคุก ยัดข้อหา ใส่ร้าย ป้ายสี ล่อกู 100 กว่าคดี มรึงเตรียมโดนโละเช่นกัน ผู้พิพากษาเหรอ รัฐไหนเหรอ ใหญ่แค่ไหนเหรอ อีทรัมปป์จะเชือดเหี้ยให้เหี้ยดู เพราะอำนาจกูคือประกาศิต เบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ชำระแค้นก่อน คือทรัมปป์ งานสร้าง TRUMP LAND คือเรื่องต่อไป ข้ามวิกแป๊บ : อย่าดูแค่เปลือก ดร.อาทิตย์(ตัวชงมาเอง) ถามสั้นๆ ข้องใจทำไม ‘พระบรมราชโองการ-คำพิพากษาศาลฎีกา’ ไม่มีความหมาย? ขัดขืน ฝ่าฝืนเพี๊ยบ ดอกนี้ ชงให้ทุกคดีที่อีเหลี่ยม อีลูกสาวร่าน ทำโดยตรง เค้ารู้กัน ศาลรับลูก 15 คดีในมือ โดนทุกดอก "ประหารชีวิตยังน้อยไป" ตัวชงมา ตัวตบรับ มันคือ "ยาเร่ง" บีบให้เหี้ยทั้งหมดเผ่นหนีให้หมด ก่อนศาลจะฟันดาบลงมา จะหนีไม่ทันแล้วน่ะ? ไม่มีบังเอิญ มีแต่บังอาจ กระแสต่อต้านคอรัปชั่นแรงเกินห้ามใจ มันโดดเด่นเสียเหลือเกินช่วงนี้ เพราะแสงอีกแล้วครับท่าน! ทุนเทา ทุนม่วง ตายห่า ศพเกลื่อนศาล ลาก่อน "อีฟิล์มโกดัก" คิดผิด ชีวิตจบ เงิน อำนาจ ตัณหา พามรึงไปตายห่า ใครเล่นการเมือง ชีวิตมีอันเป็นไปหมด ดาราอยากเกิด ไฮโซอยากดัง แตะสิ่งปนเปื้อน สลัดไม่ออก ถูกกลืนเหมือนกันหมด วังวนการเมืองคืออาจมเสนียดแผ่นดิน ใครลองได้เสพ หลงใหลอำนาจ ตายห่าหมดเกลี้ยง? ไอ้สัส! กลัวไทยไม่ดัง ก่อการร้ายอ้าง เตรียมสอยอียิวในเกาะพงัน FULL MOON PARTY ทำไมต้องเลือกงานนี้ เพราะมันดังไประดับโลก หากเป็นข่าว อียิวตายห่ากลางวงปาร์ตี้ กราดยิง ระเบิดลง ดังพลุแตกแน่ แล้วทำไม ถึงบอกล่วงหน้า? จะดึงไทยเข้าร่วมสงครามครูเสดด้วยเหรอจ๊ะ? ตำหนวดไทยเก่ง มรึงช่วยโฆษณาให้ กูยินดี ถามว่าคนทั้งโลกแห่มา เค้าสนมั้ย? คนมันมาเพื่อจะเล่นยา ระเบิดลงหัวก็ไม่กลัวดอก? FULL MOON PARTY แท้จริงคืออะไร? SEX DRUG DRINK DANCE PARTY มันคืองานมั่วสุดสวิงริงโก้อีโต้บั๊ม? ฝรั่งมันชอบ ใครสนกราดยิงกันล่ะ? เพราะกูเมายาอยู่ ไม่รู้เรื่อง? โปรดสังเกตุ อียิวพยายามจะลากไทยเข้ามามีเอี่ยวทุกเรื่อง มรึงรักกูมากมายขนาดนี้เชียวเหรอ น้ำลายหยดมาตั้งแต่ปีพศ.2475 สิน่ะ แห้วแดร๊ก เพราะสมเด็จย่า? สื่อใครลง สื่อใครแฉ นั่นแหละ ตัวปล่อยแผน? แผนเก่าๆ เน่าๆ ยังกล้ามาใช้? หน่วยความมั่นคงเค้ารู้หมดเกลี้ยง เชิญเข้ามาเหอะ เดี๋ยวกูจะให้มรึงมั่วยาเต็มที่ จนลืมกลับบ้านกันไปเลย? รัสเซีย เล่นเกมส์ จับมืออีทรัมปป์ บับให้อีเสี้ยนยาเลือกตั้ง แน่นอนว่า "โปรรัสเซียมาชัวร์ ไม่ต้องเดา" เพราะชาวยูเครนที่เหลือตายห่าเพราะสงครามไปเยอะแล้ว ใครยังอยากจะรบกันต่ออีก นีโอนาซีในยูเครนตายเกลื่อน ปูตินสั่งเน้น เก็บไอ้อีนีโอนาซีทุกตัว ไม่ต้องปราณี ไม่ต้องถามเยอะ เห็นปุ๊บ สอยทันที หนักแผ่นดิน! แผนสร้างปชต.ตอแหลใหม่ แค่เกมส์บังหน้า รัสเซียเค้าวางหมากล่อเหยื่อไว้หมดแล้ว ประกาศ 4 แคว้นเป็นของรัสเซียโดนสมบูรณ์ เลือกตั้งมา คืออีเสี้ยนยาเตรียมเผ่นแน่ ถูกสั่งเก็บจากทั่วโลก อีทรัมปป์ไม่ได้สนใจแผ่นดินยูเครน แต่สนใจว่ารัสเซียจะยอมถอยให้เรื่องอะไรได้บ้าง ข้อดีของอีทรัมปป์คือ ทุกอย่างเจรจาได้หมด แม้แต่ขายลูก ขายเมีย พ่อค้าตัวจริง! ขั้วใหม่ชนะไปแล้ว ตั้งแต่อีทรัมปป์มา แสดงให้โลกเห็นว่า คนเบื่อหน่ายสงคราม และอเมริกาและตะวันตก คือต้นตอของความวินาศฉิบหายทั้งหมด NATO ไร้ราคา ส่วน EU ถังแตกยับเยิน หมดสภาพทั้งคู่ โลกรอแค่ ขั้วใหม่ "ปิดเกมส์" เท่านั้น ปล.2 คำถามแก้เครียด? คุณคิดว่าสาวยุคไหน SEXY ที่สุด? 60 'S/70 'S/80 'S/90 'S/00-20 'S หมี CNN(อะไรก็ไปไวมาไวเสมอ เพราะแสงทำงานเร็ว ไม่มีอะไรที่จะหนีรอดแสงไปได้ ยามเมื่อสาดส่อง เหี้ยจัญไรทั้งสากลโลกทั้งหลายกำลังถูกแสงแผดเผาทั้งเป็น สงครามจะหยุดขยายวงกว้าง แต่จะเกิดสงครามภายในกันเอง เพราะเกมส์มันถึงทางตันแล้ว หากไม่อยากตายหมู่ ตายยกทวีป ทางรอดเดียวคือ "เคลียร์กันเอง" เมื่อภายในจบ ถึงจะได้ข้อสรุป อยู่ในแผนขั้วใหม่ทั้งสิ้น จีน รัสเซีย ถึงยังไม่ลงมือเองซักกะที รอเหี้ยกัดกันให้พอใจ เหลือตัวสุดท้ายค่อยมาคุยกับกู หมากล้อมจีนชนะ หมากรุกพิฆาตเอาอยู่) 13 พฤศจิกายน 67 12.22 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatch
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัยการสูงสุดชี้ขาดฟ้อง 4 ผู้ต้องหาผิดสมคบฟอกเงินคดีพัวพันเว็บพนัน เครือข่าย ‘มินนี่’ ตามความเห็นแย้ง ผบ.ตร. ส่วนคดีที่ ‘บิ๊กโจ๊ก’ และตัว "มินนี่" ตกเป็นผู้ต้องหา สำนวนคดียังอยู่ ป.ป.ช.ไม่คืบหน้าวันนี้ (13 พ.ย.) นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้ส่งสำนวนสอบสวนคดีที่ 724/2566 คดีระหว่าง พ.ต.ท.มนต์ชัย บุญเลิศ กล่าวหา นายณัฐวัตร พิมพ์สวัสดิ์ กับพวกรวม 61 คน ผู้ต้องหา ฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน อันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน มายังสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 เพื่อพิจารณาดำเนินการโดยพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 4 - 7, 15 - 19, 27, 31 – 32, 38 – 39, 44, 49 – 51, 53, 55 และที่ 59 รวม 21 คน และมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้ตัวมา รวม 20 คน คือ ผู้ต้องหาที่ 28, 30, 33 – 36, 40 – 43, 45 – 48, 52, 54, 56 – 58, ที่ 60 ตามข้อกล่าวหาและมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 8 –11 รวม 4 คน (ผู้ต้องหาที่ 9 และ 10 หลบหนี) ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงินต่อมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 8 - 11 และส่งสำนวนมายังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1อัยการสูงสุด พิจารณาแล้วมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้อง ผู้ต้องหาที่ 8 และผู้ต้องหาที่ 11 และชี้ขาดควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 9 และผู้ต้องหาที่ 10 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3, 5, 9, 60 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ตามความเห็นแย้งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งแจ้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหาที่ 9 และ 10 มาดำเนินคดีภายในอายุความ 15 ปี นับแต่วันกระทำความผิดผู้ต้องหาที่ 1 - 3, ที่ 12 - 14, ที่ 20 - 26 และที่ 61 รวม 14 คน สำนวนอยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงาน ป.ป.ช. และผู้ต้องหาที่ 29 และ 37 อีก 2 คน เป็นเยาวชน ส่วนผลความคืบหน้าทางคดีเป็นประการใด สำนักงานอัยการสูงสุดจะแจ้งให้ทราบต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ ผู้ต้องหาที่ 1 - 3, ที่ 12 - 14, ที่ 20 - 26 และ ที่ 61 รวม 14 คน ซึ่งมี พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล เเละ น.ส.ธันยนันท์ หรือสุชานันท์ หรือ "มินนี่" รวมอยู่ด้วยนั้นเป็นกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่ง ป.ป.ช.ขอสำนวนคืนจากอัยการไป ขณะนี้ยังไม่ปรากฎความคืบหน้า
    อัยการสูงสุดชี้ขาดฟ้อง 4 ผู้ต้องหาผิดสมคบฟอกเงินคดีพัวพันเว็บพนัน เครือข่าย ‘มินนี่’ ตามความเห็นแย้ง ผบ.ตร. ส่วนคดีที่ ‘บิ๊กโจ๊ก’ และตัว "มินนี่" ตกเป็นผู้ต้องหา สำนวนคดียังอยู่ ป.ป.ช.ไม่คืบหน้าวันนี้ (13 พ.ย.) นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้ส่งสำนวนสอบสวนคดีที่ 724/2566 คดีระหว่าง พ.ต.ท.มนต์ชัย บุญเลิศ กล่าวหา นายณัฐวัตร พิมพ์สวัสดิ์ กับพวกรวม 61 คน ผู้ต้องหา ฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน อันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน มายังสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 เพื่อพิจารณาดำเนินการโดยพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 4 - 7, 15 - 19, 27, 31 – 32, 38 – 39, 44, 49 – 51, 53, 55 และที่ 59 รวม 21 คน และมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้ตัวมา รวม 20 คน คือ ผู้ต้องหาที่ 28, 30, 33 – 36, 40 – 43, 45 – 48, 52, 54, 56 – 58, ที่ 60 ตามข้อกล่าวหาและมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 8 –11 รวม 4 คน (ผู้ต้องหาที่ 9 และ 10 หลบหนี) ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงินต่อมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 8 - 11 และส่งสำนวนมายังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1อัยการสูงสุด พิจารณาแล้วมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้อง ผู้ต้องหาที่ 8 และผู้ต้องหาที่ 11 และชี้ขาดควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 9 และผู้ต้องหาที่ 10 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3, 5, 9, 60 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ตามความเห็นแย้งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งแจ้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหาที่ 9 และ 10 มาดำเนินคดีภายในอายุความ 15 ปี นับแต่วันกระทำความผิดผู้ต้องหาที่ 1 - 3, ที่ 12 - 14, ที่ 20 - 26 และที่ 61 รวม 14 คน สำนวนอยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงาน ป.ป.ช. และผู้ต้องหาที่ 29 และ 37 อีก 2 คน เป็นเยาวชน ส่วนผลความคืบหน้าทางคดีเป็นประการใด สำนักงานอัยการสูงสุดจะแจ้งให้ทราบต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ ผู้ต้องหาที่ 1 - 3, ที่ 12 - 14, ที่ 20 - 26 และ ที่ 61 รวม 14 คน ซึ่งมี พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล เเละ น.ส.ธันยนันท์ หรือสุชานันท์ หรือ "มินนี่" รวมอยู่ด้วยนั้นเป็นกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่ง ป.ป.ช.ขอสำนวนคืนจากอัยการไป ขณะนี้ยังไม่ปรากฎความคืบหน้า
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็นโพสแบบนี้ ต่อเนื่องมาตลอด ..วันนี้ก็เห็น...และ คน 90 กว่า % เห็นด้วย กับสิ่งนี้...จริงค่ะ ใช่ค่ะ เห็นด้วยครับ...และอื่นๆ...
    🪵 มาดูความจริงกัน.
    ...เศรษฐีที่มีทรัพย์สิน ระดับแสนล้านของไทย...เขากก็มีหนี้สินระดับแสนล้านควบคู่ไปด้วย......
    ...อธิบายง่ายๆ....เขามองจุดคุ้มทุนในเรื่องดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการทั้งหมด...คือ ถ้ามัน cover และมีกำไร ก็น่าลงทุน....
    ...แต่จะไม่ลงทุนด้วยเงินสด หรือเงินตัวเอง ...จะมีบริษัทลูกเกิดขึ้นใหม่....และกู้ โดยมีหลักทรัพย์ของธุรกิจนี้น...เป็นสิ่งค้ำประกัน.....
    ...เพื่ออะไร....สมมุติ มันผิดพลาดพลั้งไป....สถาบันการเงินก็ยึดสิ่งค้ำประกันไป...เขาจะเสียหายไม่มาก...ความเป็นเศรษฐีแสนล้านของเขา..ก็ยังคงอยู่.....
    ...ถ้ามีแสนล้าน และไม่่อยากเป็นหนี้ ลงทุน 7 หมื่นล้าน มี cash flow. สัก 3 หมื่นล้าน..ถามว่า ถ้า cash flow ขาดสภาพคล่อง..ไปยังไงต่อ.
    🌳 ขอไม่สรุปละกัน ท่านเชื่อแบบไหน? ก็ตามสะดวก.
    เห็นโพสแบบนี้ ต่อเนื่องมาตลอด ..วันนี้ก็เห็น...และ คน 90 กว่า % เห็นด้วย กับสิ่งนี้...จริงค่ะ ใช่ค่ะ เห็นด้วยครับ...และอื่นๆ... 🪵 มาดูความจริงกัน. ...เศรษฐีที่มีทรัพย์สิน ระดับแสนล้านของไทย...เขากก็มีหนี้สินระดับแสนล้านควบคู่ไปด้วย...... ...อธิบายง่ายๆ....เขามองจุดคุ้มทุนในเรื่องดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการทั้งหมด...คือ ถ้ามัน cover และมีกำไร ก็น่าลงทุน.... ...แต่จะไม่ลงทุนด้วยเงินสด หรือเงินตัวเอง ...จะมีบริษัทลูกเกิดขึ้นใหม่....และกู้ โดยมีหลักทรัพย์ของธุรกิจนี้น...เป็นสิ่งค้ำประกัน..... ...เพื่ออะไร....สมมุติ มันผิดพลาดพลั้งไป....สถาบันการเงินก็ยึดสิ่งค้ำประกันไป...เขาจะเสียหายไม่มาก...ความเป็นเศรษฐีแสนล้านของเขา..ก็ยังคงอยู่..... ...ถ้ามีแสนล้าน และไม่่อยากเป็นหนี้ ลงทุน 7 หมื่นล้าน มี cash flow. สัก 3 หมื่นล้าน..ถามว่า ถ้า cash flow ขาดสภาพคล่อง..ไปยังไงต่อ. 🌳 ขอไม่สรุปละกัน ท่านเชื่อแบบไหน? ก็ตามสะดวก.
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปานเทพ" น็อก "ทนายปาเกียว"
    เปิดสัญญาเด็ด โยงปม 71ล.
    ย้ำ "เมียตั้ม" รู้เห็นเงินโกงหวยออนไลน์
    .
    "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" ออกรายการโหนกระแส ย้อนรอยที่มาคดีเงิน 71 ล้านบาท ย้ำไม่ใช่ให้โดยเสน่หา ไม่ใช่ทั้งกู้และยืมเงิน สัญญาชัดคุณอ้อยกับผู้ผลิตแพลตฟอร์ม ไม่มีทนายตั้มเกี่ยวข้อง ชี้ถ้ามีไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่เรือนจำ ไม่ได้ประกันตัว ถูกอายัดทรัพย์ ส่วนที่อ้างว่าภรรยาไม่รู้นั้นไม่จริง ยังไงก็รับทราบโดยตลอด
    .
    วันนี้ (13 พ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยผ่านรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ดำเนินรายการโดยนายกรรชัย กำเนิดพลอย ว่า น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย และคณะมาร้องเรียนกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ เนื่องจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีเครือข่ายมาก ถ้าจะมีใครสักคนสามารถเปิดความจริงและต่อสู้ผ่านสื่อน่าจะเป็นค่ายผู้จัดการ ระหว่างนั้นก็เก็บข้อมูล คลิปทั้งหมด แต่ไม่คิดจะเปิดในช่วงแรก เพราะรอให้คดีนี้เข้าสู่ตำรวจสอบสวนกลาง แล้วจะเปิดประเด็นก่อน
    .
    เมื่อนายษิทราและนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ไปออกรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2567 และนายกรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ ถามว่าทำไมนายษิทราจึงรวย มีของแบรนด์เนม นายษิทราหลุดมาว่าให้โดยเสน่หา ซึ่งในตอนเช้านายษิทราโทรศัพท์ไปหาทนายความของ น.ส.จตุพร เพราะรู้ว่ามีการแจ้งความและรู้ว่ามีเรื่องต่อกัน และเมื่อเห็นว่านายษิทราอาศัยรายการดังกล่าวสร้างภาพ และฟอกตัวว่าไม่มีปัญหาต่อกัน ทำให้เครือผู้จัดการตัดสินใจเปิดข้อมูลในช่วงบ่าย โดยนำข้อมูลในรายการไปลงปิดท้ายด้วย ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่ตัดสินใจเปิดประเด็น และจะเปิดสักวันหนึ่งเมื่อคดีคืบหน้าจากทั้งสองฝั่งแล้ว
    .
    เมื่อเปิดข้อมูล ปรากฎว่านายษิทราไปพาดพิงนายสนธิท้าว่าใครแพ้จะให้ดื่มน้ำปัสสาวะ 71 แก้ว ทำให้ต้องเปิดข้อมูลทั้งหมด แล้วนายษิทราก็เงียบหายไป ต่อมานายษิทราไปออกรายการของ อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ อ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา และครั้งที่ 3 ให้สัมภาษณ์ที่กองปราบปราม อ้างว่าให้โดยเสน่หาโดยไม่มีเงื่อนไข และจะมีการจ่ายภาษี 5% ของรายได้ที่เกิน 10 ล้านบาท คำถามก็คือที่กล่าวว่าให้โดยเสน่หามาตลอด เพิ่งมาเปลี่ยนในรายการวานนี้ (12 พ.ย.) ว่าเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน ตกลงเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน หรือเงินยืมเพื่อการลงทุนกันแน่
    .
    ส่วนกรณีที่นายษิทราเคยนำโทรศัพท์มือถือไปให้ อ.ยิ่งศักดิ์อ่าน และนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา นำเอกสารมาให้นายกรรชัย และนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความอ่าน อ้างว่าเป็นแชตสำคัญ ตนรู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นแชตนี้ ไม่ใช่แชตระหว่างนายษิทรากับคุณอ้อย และรู้ว่าไม่สามารถจะเป็นไม้เด็ดได้ หากเป็นไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่ในเรือนจำ ประกันตัวไม่ได้ และอายัดทรัพย์ หลักฐานนี้เป็นการสร้างวาทกรรมการพิมพ์ไลน์ของทนายตั้มเพื่อคุยกับคุณน้อย เลขาส่วนตัว เพื่อสมอ้างว่าได้คุยกับคุณอ้อยแล้ว และข้อความไม่ได้แปลว่าสำเร็จแล้วโดยนายษิทรา เป็นการขอให้คุณน้อยไปเจรจากับคุณอ้อยอีกครั้งหนึ่ง แปลว่ายังไม่ได้เห็นด้วย
    .
    ทั้งนี้ บทสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง วันที่ 28-30 ม.ค. 2566 หลังจากนั้นมีการตกลงกันที่ไม่ใช่ในแชต นายษิทราอ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา 3 ครั้ง โดยจ่ายภาษี 5% แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว เหลือแค่ 2 อย่าง คือการกู้เงินหรือยืมเงิน พลิกไปพลิกมา ทั้งที่การกู้เงินต้องมีสัญญา ส่วนการลงทุนต้องมีผลตอบแทนและสัดส่วนหุ้นชัดเจน หากเป็นการยืมเพื่อลงทุน ก็ถือว่าเป็นการกู้อยู่ดี นายษิทราเป็นนักกฎหมาย เป็นคู่สัญญาในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย ย่อมต้องรู้ว่าจะต้องร่างสัญญากู้เงิน แต่กลับไม่มี แสดงว่าไม่ใช่การกู้ยืมเงิน ส่วนการลงทุน มีการจดทะเบียนทรัพย์สินหรือไม่ ในแชตไลน์นำไปสู่การอ้างว่าจะทำแอปฯ หวยออนไลน์
    .
    แต่ที่ไม่เปิดนอกจากโต้ไม่ได้แล้ว ยังอวดอ้างว่ามีเส้นสายในการรับสัมปทานหวยออนไลน์ ทั้งที่ไม่มีอยู่จริง นอกจากจะพูดคนที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้ข้อกฎหมาย และหลงเชื่อว่ามีเส้นสาย มีคอนเนกชัน มีระบบสัมปทานที่จะทำได้ ก็เลยไม่กล้าเปิด อีกทั้งการลงทุนต้องมีหุ้นในสัดส่วนอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีทางไม่มีสัญญาเพราะนายษิทราเป็นนักกฎหมายและเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคุณอ้อย จะต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคุณอ้อยเดินทางจากประเทศฝรั่งเศสมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 เพื่อเซ็นสัญญากับบริษัทผลิตแอปพลิเคชัน ลงวันที่ 3 ก.พ. 2566 ลงนามจริงวันที่ 5 ก.พ. 2566 ทำขึ้นระหว่างคุณอ้อยกับบริษัทผู้รับจ้างผลิตแอปพลิเคชัน แสดงว่าทรัพย์สินไม่ใช่ของนายษิทรา ที่อ้างว่าเป็นการกู้ยืมเงินจึงเป็นความเท็จทั้งสิ้น
    .
    "คนเราจะตัดสินใจอย่างไร ขึ้นอยู่กับสัญญา ไม่ใช่แชตไลน์คุย เพราะการแชตไลน์คุย คุณอ้างหลักฐานพิมพ์เองว่าตกลงกันแล้วอะไรก็ได้ คุณคุยกับเลขาฯ ไม่ได้คุยกับพี่อ้อยด้วย แต่ผลลัพธ์คือเซ็นสัญญาที่ไม่มีชื่อทนายตั้มเกี่ยวข้องเลย จะมาอ้างว่าเงินกู้ยืมก็ไม่ได้ เงินลงทุนก็ไม่ได้ เพราะสัญญาไม่มีชื่อคุณแม้แต่คำเดียว และที่สำคัญ สัญญานี้ทำการปรับปรุงและแก้ไขจากสำนักงานทนายความษิทรา ลอว์เฟิร์ม ทั้งสิ้น" นายปานเทพ กล่าว
    .
    เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า ใครเป็นคนสั่งให้ทำสัญญานี้ และสัญญานี้คุณอ้อยให้ทำโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงหน่วยงานราชการฝรั่งเศส นำเงินมาให้นายษิทราจริงหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ดีเพราะมีการแอบอ้างว่าสัญญาทำขึ้นเพื่อเป็นนิติกรรมอำพราง เรื่องนี้มีสัญญาชัดเจน คุณอ้อยมาประเทศไทยวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 ภายใต้สัญญานี้ เมื่อกลับไปประเทศฝรั่งเศสก็ไปทำเรื่องถอนเงิน เตรียมขายหลักทรัพย์เพื่อโอนเงินมา เพราะเป็นทรัพย์สินของเขาเอง และการโอนเงินจากฝรั่งเศสมายังประเทศไทย ถ้าเป็นทรัพย์สินของตัวเองไม่ต้องเสียภาษี จ่ายแค่ธรรมเนียม รวมทั้งเงินทำบุญและใช้ส่วนตัวก็หลักการเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องสร้างนิติกรรมอำพราง
    .
    หลังจากนั้นจึงนำเงินไปให้นายษิทราเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 เพราะนายษิทราอ้างว่าเป็นผู้ดำเนินการ โดยที่นายษิทราเป็นคนติดต่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันเอง และติดต่อคุณอ้อยโดยไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเจอกัน โดยอ้างว่ารับเงินมาแล้วไปดำเนินการต่อ เพราะฉะนั้นเงิน 71 ล้านบาทจ่ายไปเพื่อวัตถุประสงค์ตามสัญญาฉบับดังกล่าว และสัญญาดังกล่าวระบุว่าจะต้องมีการจ่ายเงินภายในวันที่ 15 ก.พ. 2566 แต่โอนเงินเข้ามาไม่ทัน ต้องเป็นวันรุ่งขึ้น จึงสอดคล้องกับสัญญานี้ โดยที่คุณอ้อยหลงเชื่อว่าควรจะเป็นทรัพย์สินที่เดินหน้าทำสลากออนไลน์เพราะหลงเชื่อนายษิทรา
    .
    ทั้งนี้ นายษิทราอ้างในไลน์ตลอดว่าทำสลากออนไลน์ พอได้เงินมาเสร็จหลังจากนั้นถอนเงินไปซื้อบ้านด้วยเงินสด กรณีนี้จึงเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกคุณอ้อย เพราะเมื่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันไม่ได้เงินก็ถามว่า ไหนสัญญาบอกว่าจะได้รับเงิน นายษิทรากล่าวว่า คุณอ้อยยกเลิกสัญญาแล้ว ทั้งที่คุณอ้อยไม่ได้ยกเลิกและจ่ายเงินไปแล้ว แต่บริษัทไม่รู้ว่ามีการจ่ายเงิน และเมื่อไม่มีการโอนเงินก็ยุติสัญญา เดิมนายษิทราและภรรยาไปขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านในราคา 43 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 22 มี.ค. 2566 นำเงินก้อนนี้เปลี่ยนจากสินเชื่อกลายเป็นซื้อเงินสด เพราะได้เงินมาจากคุณอ้อย กรณีนี้ถ้าทำกันถึงขนาดนี้คิดว่าเข้าข่ายฉ้อโกง เพราะชี้ขาดว่าใครเป็นคู่สัญญาและเจ้าของทรัพย์สิน แต่นายษิทราเป็นตัวกลางกลับนำเงินตรงนี้ไปใช้ส่วนตัวซื้อบ้านซึ่งไม่เกี่ยว
    .
    เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า รู้เรื่องการโอนเงินไปยังล่ามที่ชื่อจุ๋ม ซึ่งถูกหัก 40% หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า กรณีนี้ทรัพย์สินไม่ใช่คนอื่น เป็นคุณอ้อยโดยตรง แล้วชื่อบัญชีเป็นคุณอ้อย ชื่อสัญญาเป็นคุณอ้อย จะเป็นสัญญาคนอื่นในการโอนตรงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จึงแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าตั้งใจโอนเงินเป็นทรัพย์สินของเขาเอง
    .
    นายปานเทพ กล่าวว่า จากนั้นใกล้ปลายปี 2566 ก็เริ่มคิดเรื่องภาษีว่านายษิทราจะนำเงินที่มา 71 ล้านบาทเป็นอย่างไร จึงมีการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า ขอผ่านเงินสัก 70 ล้านบาทได้ไหม เพื่อที่จะมีบันทึกโดยไม่บอกที่มาที่ไป ต่อมาไม่มีความคืบหน้า มาเจรจาอีกครั้ง 27 ก.พ. 2567 ใกล้ถึงรอบวงจ่ายภาษี นายษิทราเสนอว่าจะเอาเงินผ่านโดยไม่บอกว่าเป็นสัญญาเดิม ครั้งที่หนึ่ง 30 ล้านบาท ครั้งที่สอง 30 ล้านบาท และครั้งที่สาม 11 ล้านบาท แล้วจะให้ค่าตอบแทน 10 ล้านบาท บริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันจึงคิดว่ายอดใกล้ 71 ล้านบาท สงสัยจะฟอกเงินและบริษัทฯ จะเป็นแพะ จึงปฎิเสธ ซึ่งมีบทสนทนา
    .
    พอถึงช่วงที่จะส่งมอบแอปพลิเคชัน กลับไม่มีการส่งมอบ คุณอ้อยจึงดำเนินการทำโนติสถึงนายษิทรา และเมื่อนายษิทราไม่สามารถนำส่งได้ ทั้งที่ได้ดำเนินการและรับเงินไปแล้ว อีกทั้งนายษิทราบอกเองว่าเป็นผู้ประสานงานโครงการนี้ ทำไมถึงยังไม่ได้ ปรากฎว่านายษิทราแชตไลน์ไปพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า มีแพลตฟอร์มนาคี ชื่อเหมือนกันแต่โลโก้เป็นสีเขียว อ้างว่าไปจ้างเขาทำมาเอง เหมือนถูกเลียนแบบ นายษิทราให้ช่วยนำแอปพลิเคชันนี้ส่งให้คุณอ้อย แต่บริษัทปฎิเสธทำไม่ได้ เพราะไม่เคยทำ และไม่ใช่แอปฯ ของบริษัท จะไปหลอกคุณอ้อยแบบนั้นไม่ได้ ก็เลยไม่ทำ เรื่องแบบนี้เป็นการให้โดยเสน่หาได้อย่างไร ให้เพื่อการลงทุนได้อย่างไรเพราะไม่มีของสักอย่างแล้วอุปโลกน์เป็นอย่างอื่น จะเรียกว่าฉ้อโกงหรือไม่
    .
    นายปานเทพ กล่าวว่า ตอนนี้ฝ่ายนายษิทรามีความคิดที่จะประกันตัวนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือเดือน ภรรยา โดยอ้างว่าแค่รับเงินมาซื้อบ้าน ไม่รับรู้ที่ไปที่มา ตนอยากจะบอกว่าไม่จริง เพราะตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ป่านนี้รู้แล้วว่ามีข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และแชตไลน์ทั้งหมดไปหมดแล้ว ยังไงนางปทิตตาอยู่ในคณะทำงานเรื่องหวยออนไลน์และรับทราบโดยตลอด ไม่ใช่ไม่รับรู้ ลองไปยื่นประกันตัวดู ตนเชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานพอที่จะยืนยันได้ว่า นางปทิตตารับรู้โดยตลอดในธุรกรรมนี้ อย่างน้อยที่บอกว่าไม่รู้เรื่องนั้น ไม่จริง รู้แน่นอน หลักฐานตำรวจเขาน่าจะมีในตอนนี้
    .
    Live โหนกระแส อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ มาแล้ว เชื่อทนายปาเกียวกำลังพลิกคดี มั่นใจเมียตั้มมีรู้เห็นทั้งหมด

    https://www.youtube.com/watch?v=7X__nPHGDD0

    #Thaitimes
    "ปานเทพ" น็อก "ทนายปาเกียว" เปิดสัญญาเด็ด โยงปม 71ล. ย้ำ "เมียตั้ม" รู้เห็นเงินโกงหวยออนไลน์ . "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" ออกรายการโหนกระแส ย้อนรอยที่มาคดีเงิน 71 ล้านบาท ย้ำไม่ใช่ให้โดยเสน่หา ไม่ใช่ทั้งกู้และยืมเงิน สัญญาชัดคุณอ้อยกับผู้ผลิตแพลตฟอร์ม ไม่มีทนายตั้มเกี่ยวข้อง ชี้ถ้ามีไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่เรือนจำ ไม่ได้ประกันตัว ถูกอายัดทรัพย์ ส่วนที่อ้างว่าภรรยาไม่รู้นั้นไม่จริง ยังไงก็รับทราบโดยตลอด . วันนี้ (13 พ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยผ่านรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ดำเนินรายการโดยนายกรรชัย กำเนิดพลอย ว่า น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย และคณะมาร้องเรียนกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ เนื่องจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีเครือข่ายมาก ถ้าจะมีใครสักคนสามารถเปิดความจริงและต่อสู้ผ่านสื่อน่าจะเป็นค่ายผู้จัดการ ระหว่างนั้นก็เก็บข้อมูล คลิปทั้งหมด แต่ไม่คิดจะเปิดในช่วงแรก เพราะรอให้คดีนี้เข้าสู่ตำรวจสอบสวนกลาง แล้วจะเปิดประเด็นก่อน . เมื่อนายษิทราและนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ไปออกรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2567 และนายกรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ ถามว่าทำไมนายษิทราจึงรวย มีของแบรนด์เนม นายษิทราหลุดมาว่าให้โดยเสน่หา ซึ่งในตอนเช้านายษิทราโทรศัพท์ไปหาทนายความของ น.ส.จตุพร เพราะรู้ว่ามีการแจ้งความและรู้ว่ามีเรื่องต่อกัน และเมื่อเห็นว่านายษิทราอาศัยรายการดังกล่าวสร้างภาพ และฟอกตัวว่าไม่มีปัญหาต่อกัน ทำให้เครือผู้จัดการตัดสินใจเปิดข้อมูลในช่วงบ่าย โดยนำข้อมูลในรายการไปลงปิดท้ายด้วย ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่ตัดสินใจเปิดประเด็น และจะเปิดสักวันหนึ่งเมื่อคดีคืบหน้าจากทั้งสองฝั่งแล้ว . เมื่อเปิดข้อมูล ปรากฎว่านายษิทราไปพาดพิงนายสนธิท้าว่าใครแพ้จะให้ดื่มน้ำปัสสาวะ 71 แก้ว ทำให้ต้องเปิดข้อมูลทั้งหมด แล้วนายษิทราก็เงียบหายไป ต่อมานายษิทราไปออกรายการของ อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ อ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา และครั้งที่ 3 ให้สัมภาษณ์ที่กองปราบปราม อ้างว่าให้โดยเสน่หาโดยไม่มีเงื่อนไข และจะมีการจ่ายภาษี 5% ของรายได้ที่เกิน 10 ล้านบาท คำถามก็คือที่กล่าวว่าให้โดยเสน่หามาตลอด เพิ่งมาเปลี่ยนในรายการวานนี้ (12 พ.ย.) ว่าเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน ตกลงเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน หรือเงินยืมเพื่อการลงทุนกันแน่ . ส่วนกรณีที่นายษิทราเคยนำโทรศัพท์มือถือไปให้ อ.ยิ่งศักดิ์อ่าน และนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา นำเอกสารมาให้นายกรรชัย และนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความอ่าน อ้างว่าเป็นแชตสำคัญ ตนรู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นแชตนี้ ไม่ใช่แชตระหว่างนายษิทรากับคุณอ้อย และรู้ว่าไม่สามารถจะเป็นไม้เด็ดได้ หากเป็นไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่ในเรือนจำ ประกันตัวไม่ได้ และอายัดทรัพย์ หลักฐานนี้เป็นการสร้างวาทกรรมการพิมพ์ไลน์ของทนายตั้มเพื่อคุยกับคุณน้อย เลขาส่วนตัว เพื่อสมอ้างว่าได้คุยกับคุณอ้อยแล้ว และข้อความไม่ได้แปลว่าสำเร็จแล้วโดยนายษิทรา เป็นการขอให้คุณน้อยไปเจรจากับคุณอ้อยอีกครั้งหนึ่ง แปลว่ายังไม่ได้เห็นด้วย . ทั้งนี้ บทสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง วันที่ 28-30 ม.ค. 2566 หลังจากนั้นมีการตกลงกันที่ไม่ใช่ในแชต นายษิทราอ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา 3 ครั้ง โดยจ่ายภาษี 5% แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว เหลือแค่ 2 อย่าง คือการกู้เงินหรือยืมเงิน พลิกไปพลิกมา ทั้งที่การกู้เงินต้องมีสัญญา ส่วนการลงทุนต้องมีผลตอบแทนและสัดส่วนหุ้นชัดเจน หากเป็นการยืมเพื่อลงทุน ก็ถือว่าเป็นการกู้อยู่ดี นายษิทราเป็นนักกฎหมาย เป็นคู่สัญญาในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย ย่อมต้องรู้ว่าจะต้องร่างสัญญากู้เงิน แต่กลับไม่มี แสดงว่าไม่ใช่การกู้ยืมเงิน ส่วนการลงทุน มีการจดทะเบียนทรัพย์สินหรือไม่ ในแชตไลน์นำไปสู่การอ้างว่าจะทำแอปฯ หวยออนไลน์ . แต่ที่ไม่เปิดนอกจากโต้ไม่ได้แล้ว ยังอวดอ้างว่ามีเส้นสายในการรับสัมปทานหวยออนไลน์ ทั้งที่ไม่มีอยู่จริง นอกจากจะพูดคนที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้ข้อกฎหมาย และหลงเชื่อว่ามีเส้นสาย มีคอนเนกชัน มีระบบสัมปทานที่จะทำได้ ก็เลยไม่กล้าเปิด อีกทั้งการลงทุนต้องมีหุ้นในสัดส่วนอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีทางไม่มีสัญญาเพราะนายษิทราเป็นนักกฎหมายและเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคุณอ้อย จะต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคุณอ้อยเดินทางจากประเทศฝรั่งเศสมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 เพื่อเซ็นสัญญากับบริษัทผลิตแอปพลิเคชัน ลงวันที่ 3 ก.พ. 2566 ลงนามจริงวันที่ 5 ก.พ. 2566 ทำขึ้นระหว่างคุณอ้อยกับบริษัทผู้รับจ้างผลิตแอปพลิเคชัน แสดงว่าทรัพย์สินไม่ใช่ของนายษิทรา ที่อ้างว่าเป็นการกู้ยืมเงินจึงเป็นความเท็จทั้งสิ้น . "คนเราจะตัดสินใจอย่างไร ขึ้นอยู่กับสัญญา ไม่ใช่แชตไลน์คุย เพราะการแชตไลน์คุย คุณอ้างหลักฐานพิมพ์เองว่าตกลงกันแล้วอะไรก็ได้ คุณคุยกับเลขาฯ ไม่ได้คุยกับพี่อ้อยด้วย แต่ผลลัพธ์คือเซ็นสัญญาที่ไม่มีชื่อทนายตั้มเกี่ยวข้องเลย จะมาอ้างว่าเงินกู้ยืมก็ไม่ได้ เงินลงทุนก็ไม่ได้ เพราะสัญญาไม่มีชื่อคุณแม้แต่คำเดียว และที่สำคัญ สัญญานี้ทำการปรับปรุงและแก้ไขจากสำนักงานทนายความษิทรา ลอว์เฟิร์ม ทั้งสิ้น" นายปานเทพ กล่าว . เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า ใครเป็นคนสั่งให้ทำสัญญานี้ และสัญญานี้คุณอ้อยให้ทำโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงหน่วยงานราชการฝรั่งเศส นำเงินมาให้นายษิทราจริงหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ดีเพราะมีการแอบอ้างว่าสัญญาทำขึ้นเพื่อเป็นนิติกรรมอำพราง เรื่องนี้มีสัญญาชัดเจน คุณอ้อยมาประเทศไทยวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 ภายใต้สัญญานี้ เมื่อกลับไปประเทศฝรั่งเศสก็ไปทำเรื่องถอนเงิน เตรียมขายหลักทรัพย์เพื่อโอนเงินมา เพราะเป็นทรัพย์สินของเขาเอง และการโอนเงินจากฝรั่งเศสมายังประเทศไทย ถ้าเป็นทรัพย์สินของตัวเองไม่ต้องเสียภาษี จ่ายแค่ธรรมเนียม รวมทั้งเงินทำบุญและใช้ส่วนตัวก็หลักการเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องสร้างนิติกรรมอำพราง . หลังจากนั้นจึงนำเงินไปให้นายษิทราเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 เพราะนายษิทราอ้างว่าเป็นผู้ดำเนินการ โดยที่นายษิทราเป็นคนติดต่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันเอง และติดต่อคุณอ้อยโดยไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเจอกัน โดยอ้างว่ารับเงินมาแล้วไปดำเนินการต่อ เพราะฉะนั้นเงิน 71 ล้านบาทจ่ายไปเพื่อวัตถุประสงค์ตามสัญญาฉบับดังกล่าว และสัญญาดังกล่าวระบุว่าจะต้องมีการจ่ายเงินภายในวันที่ 15 ก.พ. 2566 แต่โอนเงินเข้ามาไม่ทัน ต้องเป็นวันรุ่งขึ้น จึงสอดคล้องกับสัญญานี้ โดยที่คุณอ้อยหลงเชื่อว่าควรจะเป็นทรัพย์สินที่เดินหน้าทำสลากออนไลน์เพราะหลงเชื่อนายษิทรา . ทั้งนี้ นายษิทราอ้างในไลน์ตลอดว่าทำสลากออนไลน์ พอได้เงินมาเสร็จหลังจากนั้นถอนเงินไปซื้อบ้านด้วยเงินสด กรณีนี้จึงเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกคุณอ้อย เพราะเมื่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันไม่ได้เงินก็ถามว่า ไหนสัญญาบอกว่าจะได้รับเงิน นายษิทรากล่าวว่า คุณอ้อยยกเลิกสัญญาแล้ว ทั้งที่คุณอ้อยไม่ได้ยกเลิกและจ่ายเงินไปแล้ว แต่บริษัทไม่รู้ว่ามีการจ่ายเงิน และเมื่อไม่มีการโอนเงินก็ยุติสัญญา เดิมนายษิทราและภรรยาไปขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านในราคา 43 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 22 มี.ค. 2566 นำเงินก้อนนี้เปลี่ยนจากสินเชื่อกลายเป็นซื้อเงินสด เพราะได้เงินมาจากคุณอ้อย กรณีนี้ถ้าทำกันถึงขนาดนี้คิดว่าเข้าข่ายฉ้อโกง เพราะชี้ขาดว่าใครเป็นคู่สัญญาและเจ้าของทรัพย์สิน แต่นายษิทราเป็นตัวกลางกลับนำเงินตรงนี้ไปใช้ส่วนตัวซื้อบ้านซึ่งไม่เกี่ยว . เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า รู้เรื่องการโอนเงินไปยังล่ามที่ชื่อจุ๋ม ซึ่งถูกหัก 40% หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า กรณีนี้ทรัพย์สินไม่ใช่คนอื่น เป็นคุณอ้อยโดยตรง แล้วชื่อบัญชีเป็นคุณอ้อย ชื่อสัญญาเป็นคุณอ้อย จะเป็นสัญญาคนอื่นในการโอนตรงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จึงแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าตั้งใจโอนเงินเป็นทรัพย์สินของเขาเอง . นายปานเทพ กล่าวว่า จากนั้นใกล้ปลายปี 2566 ก็เริ่มคิดเรื่องภาษีว่านายษิทราจะนำเงินที่มา 71 ล้านบาทเป็นอย่างไร จึงมีการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า ขอผ่านเงินสัก 70 ล้านบาทได้ไหม เพื่อที่จะมีบันทึกโดยไม่บอกที่มาที่ไป ต่อมาไม่มีความคืบหน้า มาเจรจาอีกครั้ง 27 ก.พ. 2567 ใกล้ถึงรอบวงจ่ายภาษี นายษิทราเสนอว่าจะเอาเงินผ่านโดยไม่บอกว่าเป็นสัญญาเดิม ครั้งที่หนึ่ง 30 ล้านบาท ครั้งที่สอง 30 ล้านบาท และครั้งที่สาม 11 ล้านบาท แล้วจะให้ค่าตอบแทน 10 ล้านบาท บริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันจึงคิดว่ายอดใกล้ 71 ล้านบาท สงสัยจะฟอกเงินและบริษัทฯ จะเป็นแพะ จึงปฎิเสธ ซึ่งมีบทสนทนา . พอถึงช่วงที่จะส่งมอบแอปพลิเคชัน กลับไม่มีการส่งมอบ คุณอ้อยจึงดำเนินการทำโนติสถึงนายษิทรา และเมื่อนายษิทราไม่สามารถนำส่งได้ ทั้งที่ได้ดำเนินการและรับเงินไปแล้ว อีกทั้งนายษิทราบอกเองว่าเป็นผู้ประสานงานโครงการนี้ ทำไมถึงยังไม่ได้ ปรากฎว่านายษิทราแชตไลน์ไปพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า มีแพลตฟอร์มนาคี ชื่อเหมือนกันแต่โลโก้เป็นสีเขียว อ้างว่าไปจ้างเขาทำมาเอง เหมือนถูกเลียนแบบ นายษิทราให้ช่วยนำแอปพลิเคชันนี้ส่งให้คุณอ้อย แต่บริษัทปฎิเสธทำไม่ได้ เพราะไม่เคยทำ และไม่ใช่แอปฯ ของบริษัท จะไปหลอกคุณอ้อยแบบนั้นไม่ได้ ก็เลยไม่ทำ เรื่องแบบนี้เป็นการให้โดยเสน่หาได้อย่างไร ให้เพื่อการลงทุนได้อย่างไรเพราะไม่มีของสักอย่างแล้วอุปโลกน์เป็นอย่างอื่น จะเรียกว่าฉ้อโกงหรือไม่ . นายปานเทพ กล่าวว่า ตอนนี้ฝ่ายนายษิทรามีความคิดที่จะประกันตัวนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือเดือน ภรรยา โดยอ้างว่าแค่รับเงินมาซื้อบ้าน ไม่รับรู้ที่ไปที่มา ตนอยากจะบอกว่าไม่จริง เพราะตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ป่านนี้รู้แล้วว่ามีข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และแชตไลน์ทั้งหมดไปหมดแล้ว ยังไงนางปทิตตาอยู่ในคณะทำงานเรื่องหวยออนไลน์และรับทราบโดยตลอด ไม่ใช่ไม่รับรู้ ลองไปยื่นประกันตัวดู ตนเชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานพอที่จะยืนยันได้ว่า นางปทิตตารับรู้โดยตลอดในธุรกรรมนี้ อย่างน้อยที่บอกว่าไม่รู้เรื่องนั้น ไม่จริง รู้แน่นอน หลักฐานตำรวจเขาน่าจะมีในตอนนี้ . Live โหนกระแส อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ มาแล้ว เชื่อทนายปาเกียวกำลังพลิกคดี มั่นใจเมียตั้มมีรู้เห็นทั้งหมด https://www.youtube.com/watch?v=7X__nPHGDD0 #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 1 รีวิว
  • ภาพเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ โดรน Shahed ของรัสเซียโจมตีเคียฟ
    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ขีปนาวุธ Iskander จำนวน 4 ลูก โจมตีเป้าหมายในกรุงเคียฟด้วยเช่นกัน
    ภาพเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ โดรน Shahed ของรัสเซียโจมตีเคียฟ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ขีปนาวุธ Iskander จำนวน 4 ลูก โจมตีเป้าหมายในกรุงเคียฟด้วยเช่นกัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 639 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • พี่หนุ่ม สบายเลยวันนี้
    พี่หนุ่ม สบายเลยวันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ดูโหนกระแส อ.ปานเทพ สุดยอดเลยค่ะ
    วันนี้ดูโหนกระแส อ.ปานเทพ สุดยอดเลยค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตพระเอก ฟิล์ม รัฐภูมิ เดินมาถึงวันนี้ วันที่ดูแล้วอนาคตคงจะจบไม่สวย

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ฟิล์มรัฐภูมิ #เสี่ยอู๊ด #ลุงป้อม #ชีวิตฉาวฟิล์ม
    ชีวิตพระเอก ฟิล์ม รัฐภูมิ เดินมาถึงวันนี้ วันที่ดูแล้วอนาคตคงจะจบไม่สวย #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ฟิล์มรัฐภูมิ #เสี่ยอู๊ด #ลุงป้อม #ชีวิตฉาวฟิล์ม
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 862 มุมมอง 177 0 รีวิว
  • ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดถกเครียด ปมคดี ‘บิ๊กโจ๊ก’ ขอคืนตำแหน่งหลังกระแสข่าวองค์คณะฯ ชุดเล็กมีมติเห็นว่าคำสั่งให้ออกจากราชการไม่ชอบด้วยกฎหมาย

    วันนี้( 13 พ.ย.) ที่ศาลปกครองกลาง ถนนเเจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เวลา 09.30น. นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยมีรายงานว่าจะมีการนำประเด็นข้อกฎหมายในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.), นายกรัฐมนตรีเป็น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมาเข้สพิจารณา

    ซึ่งปรากฏว่าตั้งแต่เช้ามีผู้สื่อข่าวมาติดตามผลการประชุมจำนวนมาก

    โดยเจ้าหน้าที่ศาลปกครอง เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมใหญ่ของตุลาการศาลปกครองสูงสุดและเป็นการประชุมภายใน มีตุลาการศาลปกครองสูงสุดเข้าร่วม 40-50 คน โดยวาระที่จะพิจารณาในวันนี้มี 4-5 วาระ เป็นความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000109260

    #MGROnline #ศาลปกครอง #บิ๊กโจ๊ก #ขอคืนตำแหน่ง
    ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดถกเครียด ปมคดี ‘บิ๊กโจ๊ก’ ขอคืนตำแหน่งหลังกระแสข่าวองค์คณะฯ ชุดเล็กมีมติเห็นว่าคำสั่งให้ออกจากราชการไม่ชอบด้วยกฎหมาย • วันนี้( 13 พ.ย.) ที่ศาลปกครองกลาง ถนนเเจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เวลา 09.30น. นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยมีรายงานว่าจะมีการนำประเด็นข้อกฎหมายในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.), นายกรัฐมนตรีเป็น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมาเข้สพิจารณา • ซึ่งปรากฏว่าตั้งแต่เช้ามีผู้สื่อข่าวมาติดตามผลการประชุมจำนวนมาก • โดยเจ้าหน้าที่ศาลปกครอง เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมใหญ่ของตุลาการศาลปกครองสูงสุดและเป็นการประชุมภายใน มีตุลาการศาลปกครองสูงสุดเข้าร่วม 40-50 คน โดยวาระที่จะพิจารณาในวันนี้มี 4-5 วาระ เป็นความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000109260 • #MGROnline #ศาลปกครอง #บิ๊กโจ๊ก #ขอคืนตำแหน่ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียโจมตีโรงงานผลิตธนบัตรและเหรียญของธนาคารชาติของยูเครน!

    มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียใช้โดรน Shahed รวมทั้งขีปนาวุธ Iskander โจมตีทั่วเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อช่วงเช้าของวันนี้

    หนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญที่โดนโจมตีคือ โรงผลิตธนบัตรและเหรียญของธนาคารแห่งชาติยูเครน! ซึ่งสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับโรงงานผลิตทั้งสองแห่ง

    มีการยืนยันแล้วว่าการโจมตีครั้งนี้ทำให้เครื่องมือที่ใช้พิมพ์ธนบัตรไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของการหมุนเวียนเงินท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจของยูเครนในปัจจุบัน

    ในระหว่างการโจมตี ประชาชนต้องหลบอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
    รัสเซียโจมตีโรงงานผลิตธนบัตรและเหรียญของธนาคารชาติของยูเครน! มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียใช้โดรน Shahed รวมทั้งขีปนาวุธ Iskander โจมตีทั่วเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ หนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญที่โดนโจมตีคือ โรงผลิตธนบัตรและเหรียญของธนาคารแห่งชาติยูเครน! ซึ่งสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับโรงงานผลิตทั้งสองแห่ง มีการยืนยันแล้วว่าการโจมตีครั้งนี้ทำให้เครื่องมือที่ใช้พิมพ์ธนบัตรไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของการหมุนเวียนเงินท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจของยูเครนในปัจจุบัน ในระหว่างการโจมตี ประชาชนต้องหลบอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ชมพู่ อารยา” ควง “น้องแอบิเกล” ออกงานคู่ เผยเส้นไหว้ทุกอย่าง กว่าจะพาออกงานได้ ชมลูกเก่งมากทำตรงบรีฟทุกอย่าง เซอร์ไพรส์แฟนคลับเปิดตัวอาร์ททอย GAIL รอติดตามได้ มีอะไรให้เก็บแน่นอน ลุ้นเป็นกล่องจุ่มไหมยังไม่ชัวร์ ชื่นใจและซาบซึ้งคนรักลูกสาว

    หลังเป็นสาวกของเล่นอาร์ตทอยและกล่องจุ่ม แบบชนิดที่ว่ามีเกือบทุกคอลเลคชั่น ล่าสุด (12 พ.ย. 67) คุณแม่ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ก็ได้มีอาร์ตทอยเป็นของตัวเองแล้ว โดยอาร์ตทอยสุดพิเศษตัวนี้มีชื่อว่า GAIL เป็นผลงานการคอลแลบส์กับ Jessica NG ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากลูกสาว “น้องแอบิเกล” นั่นเอง และงานนี้แม่ชมก็ได้พาน้องเกล มาร่วมเปิดตัวอาร์ตทอยของตัวเองด้วย ในพิธีฉลองเปิดไฟต้นคริสต์มาสยักษ์ ณ ลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนออกมาเปิดใจกับสื่อ ถึงความยากในการพาลูกสาวออกงานด้วยว่า วันนี้ก็ยังเครียดมากเหมือนเดิม

    “เครียดมากเหมือนเดิมค่ะ งานมันดึกก็จะเลยเวลานอนเขาด้วย ร้อนด้วย แม่ก็จะลุ้นนิดหนึ่ง แต่ก็บรีฟกันกับป้าเจี๊ยบว่า ยังไงก็ต้องนอนกลางวัน ช่วงนี้เริ่มโตแล้วก็มีนอนบ้างไม่นอนบ้าง แต่วันนี้ยังไงก็ต้องให้นอน ก็นอนมา 2 ชั่วโมง ก็ทั้งเส้นไหว้ทุกอย่าง พาไปจุ่ม ดีลขนม ดีลทุกอย่าง ดีลสกู๊ตเตอร์คันใหม่ลายเอลซ่า เขาก็รับรู้ แต่พอมาถึงข้างหน้าก็มีงงนิดหนึ่ง เพราะถือว่าเป็นงานใหญ่ที่สุดแล้วตั้งแต่มีคิวมา ซึ่งเขาก็ทำตามบรีฟ 80 เปอร์เซ็นต์นะคะ คะแนนสำหรับ 2 ขวบ ก็ให้ 1,000 เต็ม ให้เกินร้อยเลยคะ ถือว่าเก่งมาก”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000109051

    #MGROnline #ชมพู่อารยา #น้องแอบิเกล #อาร์ททอย #GAIL
    “ชมพู่ อารยา” ควง “น้องแอบิเกล” ออกงานคู่ เผยเส้นไหว้ทุกอย่าง กว่าจะพาออกงานได้ ชมลูกเก่งมากทำตรงบรีฟทุกอย่าง เซอร์ไพรส์แฟนคลับเปิดตัวอาร์ททอย GAIL รอติดตามได้ มีอะไรให้เก็บแน่นอน ลุ้นเป็นกล่องจุ่มไหมยังไม่ชัวร์ ชื่นใจและซาบซึ้งคนรักลูกสาว • หลังเป็นสาวกของเล่นอาร์ตทอยและกล่องจุ่ม แบบชนิดที่ว่ามีเกือบทุกคอลเลคชั่น ล่าสุด (12 พ.ย. 67) คุณแม่ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ก็ได้มีอาร์ตทอยเป็นของตัวเองแล้ว โดยอาร์ตทอยสุดพิเศษตัวนี้มีชื่อว่า GAIL เป็นผลงานการคอลแลบส์กับ Jessica NG ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากลูกสาว “น้องแอบิเกล” นั่นเอง และงานนี้แม่ชมก็ได้พาน้องเกล มาร่วมเปิดตัวอาร์ตทอยของตัวเองด้วย ในพิธีฉลองเปิดไฟต้นคริสต์มาสยักษ์ ณ ลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนออกมาเปิดใจกับสื่อ ถึงความยากในการพาลูกสาวออกงานด้วยว่า วันนี้ก็ยังเครียดมากเหมือนเดิม • “เครียดมากเหมือนเดิมค่ะ งานมันดึกก็จะเลยเวลานอนเขาด้วย ร้อนด้วย แม่ก็จะลุ้นนิดหนึ่ง แต่ก็บรีฟกันกับป้าเจี๊ยบว่า ยังไงก็ต้องนอนกลางวัน ช่วงนี้เริ่มโตแล้วก็มีนอนบ้างไม่นอนบ้าง แต่วันนี้ยังไงก็ต้องให้นอน ก็นอนมา 2 ชั่วโมง ก็ทั้งเส้นไหว้ทุกอย่าง พาไปจุ่ม ดีลขนม ดีลทุกอย่าง ดีลสกู๊ตเตอร์คันใหม่ลายเอลซ่า เขาก็รับรู้ แต่พอมาถึงข้างหน้าก็มีงงนิดหนึ่ง เพราะถือว่าเป็นงานใหญ่ที่สุดแล้วตั้งแต่มีคิวมา ซึ่งเขาก็ทำตามบรีฟ 80 เปอร์เซ็นต์นะคะ คะแนนสำหรับ 2 ขวบ ก็ให้ 1,000 เต็ม ให้เกินร้อยเลยคะ ถือว่าเก่งมาก” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000109051 • #MGROnline #ชมพู่อารยา #น้องแอบิเกล #อาร์ททอย #GAIL
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนไป ตอนปฏิวัติทางการเมืองของจีน..นายพล หยวนซื่อไข่ สู้ไม่ได้ ...ก็ระเห็ดไปอยู่เกาะไต้หวัน...และจุดเริ่มจากวันนั้น..ก็มีไต้หวันในวันนี้....แต่สิ่งสำคัญคือ โบราณวัตถุล้ำค่าของจีน...ที่ตกทอดมาหาลายราชวงศ์ ...ถูกนำไปด้วย...จำนวนมหาศาล....!!
    ...พิพิธภัณฑ์ที่ไต้หวัน..ก็คัดบางส่วน ออกมาจัดแสดงเรื่อยๆ ....และยังมีอีกมากมาย ที่สาธารณะชนยังไม่ได้พบเห็น.



    ย้อนไป ตอนปฏิวัติทางการเมืองของจีน..นายพล หยวนซื่อไข่ สู้ไม่ได้ ...ก็ระเห็ดไปอยู่เกาะไต้หวัน...และจุดเริ่มจากวันนั้น..ก็มีไต้หวันในวันนี้....แต่สิ่งสำคัญคือ โบราณวัตถุล้ำค่าของจีน...ที่ตกทอดมาหาลายราชวงศ์ ...ถูกนำไปด้วย...จำนวนมหาศาล....!! ...พิพิธภัณฑ์ที่ไต้หวัน..ก็คัดบางส่วน ออกมาจัดแสดงเรื่อยๆ ....และยังมีอีกมากมาย ที่สาธารณะชนยังไม่ได้พบเห็น.
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## ผมลอกมาจาก ณัฐพล...!!! ##
    ..
    ..
    คลิปส่วนหนึ่งจาก งานเปิดตัวหนังสือ "ความจริงที่ไม่มีใครพูด กรณีสวรรคต ร.8"
    ..
    ..
    เมื่อ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล สารภาพให้ อาจารย์ วิมลพรรณ ปิตธวัชชัย ผู้เขียนหนังสือ เอกกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ ฟังว่า...
    .
    สิ่งที่ได้กล่าวหาในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่ามีส่วนรู้เห็นในเรื่องรัฐประหารปี 2500 ของจอมพล สฤษดิ์ นั่น...
    .
    .
    “ ผมลอกมาจาก ณัฐพล(ใจจริง)”
    .
    .
    นั่นหล่ะฮะท่านผู้ชม...!!!
    .
    "นักวิชาการล้มเจ้า" ฝั่งนั้น เขาก็ลอกกันไปลอกกันมา Fake News ว่อน โซเชีล ทุกวัน วันละหลายเวลา
    .
    พอมีคนมาจับโป๊ะได้ ก็โดนแหก กะลาระเบิด กันไปเป็นแถวๆ
    .
    แต่...คนที่เขารับข้อมูลผิดๆไป เขาเชื่อไปแล้ว เอาข้อมูลไปส่งต่อเรียบร้อยแล้ว...!!!
    .
    และ เขาไม่ได้มารับรู้ความจริงสุดท้ายด้วยว่า เวลาที่ "นักวิชาการล้มเจ้า" โดนตอกด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงอีกฝั่ง โดนแหกจนกะลาแตก หน้าบู้หมอไม่รับเย็บ เขามีสถาพน่าอนาถอย่างไร...
    ...
    ...
    นี่ล่าสุด ประเด็นที่ "ชาวอนุรักษ์นิยม" ลุกขึ้นมาตีกัน มีปากเสียงกันเอง ก็เนื่องมาจาก นักวิชาการสีส้มนอกประเทศ ณ กรุงโตเกียว ออกมาปล่อยข่าวว่า...
    .
    "......ไฟเขียวแล้ว ไม่งั้นจะกลับเข้ามาในประเทศได้ยังไง และ มีคนจาก....มาคอยดูแล...."
    .
    ผมว่า "ชาวอนุรักษ์นิยม" ควรใจร่มๆ นั่งนิ่งๆ คิดให้ดีซักนิดนึง...
    .
    นักวิชาการสีส้มนอกประเทศ ณ กรุงโตเกียว เป็นคนตั้งกลุ่ม royalist marketplace ด่าเจ้า ปล่อย Fake News โจมตีเจ้าตลอด แทบจะทุกลมหายใจ...
    .
    วันดีคืนดีก็ ไปพบปะพูดคุย ไปยืนกุมเป้า ไม่ด่าทอ อีกทั้งยังชื่นชมเชิดชู...
    .
    พฤติกรรม นี้ผิดปกติหรือไม่...???
    .
    เป็นไปได้มั้ย...???
    .
    ...ว่านี่เป็นแผนที่ โยนประเด็นออกมา เพื่อ แบ่งฝักแบ่งฝ่าย "ชาวอนุรักษ์นิยม" ออกจากกัน...
    .
    ในเมื่อ เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ในหมูชน แตกเป็นกลุ่มก้อน ไม่เข้มแข็ง ไม่รวมใจ ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวแล้ว ไม่สามัคคีกันแล้ว ก็หมดแรง หมดพลัง
    .
    สนิมก่อเกิดแต่เนื้อใน...!!!
    .
    หรือมี สำนวนหนึ่งของ จีน เขาเรียก "จับปลาตอนน้ำขุ่น"
    .
    ข้อมูลจากหลายฝั่งหาอ่านได้ไม่ยากครับ
    .
    เช่น Face Book ของ ดร. Suphanat Aphinyan
    เอาชื่อ Suphanat Aphinyan เซิร์ช ก็เจอแล้วครับ
    .
    คนไทยด้วยกัน ใจร่มๆ รักกันไว้เถอะครับ นับวัน "ชาวอนุรักษ์นิยม" มีแต่จะยิ่งมีจำนวนลดน้อยถอยลง ด้วยอายุขัย ถ้าเราไม่สามารถ ส่งต่อ ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องชอบธรรม ให้ลูกหลานได้ รับรองได้เลยครับ ว่าวันนึง พวกเขาจะตกเป็นเหยื่อของ "นักวิชากการล้มเจ้า" และ แนวร่วม แน่นอน...
    .
    แล้วรอบนี้ ที่ "ชาวอนุรักษ์นิยม" พ่ายแพ้ต่อ แนวรุกของพวก สีส้ม ส่วนหนึ่ง ก็มาจากพวกเรากันเองด้วยแหล่ะครับ ถ้าไม่ตระหนักถึงสิ่งนี้ เราจะหาแนวร่วมเพิ่มเติมไม่ได้ครับ
    .
    เราจะชนะเขา ไม่ใช่แค่เรา มีความรู้ และ พูดความจริง นะครับ ต้องเข้าถึง คนรุ่นใหม่ หรือ คนส่วนใหญ่ของประเทศให้ได้ด้วยครับ...
    .
    เพราะทุกวันนี้ ประเทศเราอยู่ในระบอบที่ เสียงส่วนมาก คือ Winner หรือ ความถูกต้อง...!!!
    .
    (ซึ่งพูดแบบนี้คงจะไม่ถูกต้องนักตามทฤษฎี แต่ ในชีวิตจริงก็ประมาณนั้นแหล่ะครับ)
    .
    ที่พวกเขาชนะรอบนี้ ก็เป็นเพราะ เขา ใช้ยุทธวิธี "แทรกซึม"
    .
    เขา "แทรกซึม" มา 20 กว่าปีแล้ว เพราะการแทรกซึม นั้น ไร้แรงต้าน เหมือนกับ คำที่เขาว่า "พูดความจริงฟังแล้วไม่รื่นหู" นั่นแหล่ะครับ
    .
    ลุงสนธิ ออกมาเปิดโปง เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว มีแต่คนออกมาด่า แล้ววันนี้หล่ะครับ ชัดเจนรึยัง...???
    .
    แล้วมีใครสนมั่ง...???
    .
    😔😔😔😔😔😔
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=dxNES9dw_Bk
    ## ผมลอกมาจาก ณัฐพล...!!! ## .. .. คลิปส่วนหนึ่งจาก งานเปิดตัวหนังสือ "ความจริงที่ไม่มีใครพูด กรณีสวรรคต ร.8" .. .. เมื่อ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล สารภาพให้ อาจารย์ วิมลพรรณ ปิตธวัชชัย ผู้เขียนหนังสือ เอกกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ ฟังว่า... . สิ่งที่ได้กล่าวหาในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่ามีส่วนรู้เห็นในเรื่องรัฐประหารปี 2500 ของจอมพล สฤษดิ์ นั่น... . . “ ผมลอกมาจาก ณัฐพล(ใจจริง)” . . นั่นหล่ะฮะท่านผู้ชม...!!! . "นักวิชาการล้มเจ้า" ฝั่งนั้น เขาก็ลอกกันไปลอกกันมา Fake News ว่อน โซเชีล ทุกวัน วันละหลายเวลา . พอมีคนมาจับโป๊ะได้ ก็โดนแหก กะลาระเบิด กันไปเป็นแถวๆ . แต่...คนที่เขารับข้อมูลผิดๆไป เขาเชื่อไปแล้ว เอาข้อมูลไปส่งต่อเรียบร้อยแล้ว...!!! . และ เขาไม่ได้มารับรู้ความจริงสุดท้ายด้วยว่า เวลาที่ "นักวิชาการล้มเจ้า" โดนตอกด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงอีกฝั่ง โดนแหกจนกะลาแตก หน้าบู้หมอไม่รับเย็บ เขามีสถาพน่าอนาถอย่างไร... ... ... นี่ล่าสุด ประเด็นที่ "ชาวอนุรักษ์นิยม" ลุกขึ้นมาตีกัน มีปากเสียงกันเอง ก็เนื่องมาจาก นักวิชาการสีส้มนอกประเทศ ณ กรุงโตเกียว ออกมาปล่อยข่าวว่า... . "......ไฟเขียวแล้ว ไม่งั้นจะกลับเข้ามาในประเทศได้ยังไง และ มีคนจาก....มาคอยดูแล...." . ผมว่า "ชาวอนุรักษ์นิยม" ควรใจร่มๆ นั่งนิ่งๆ คิดให้ดีซักนิดนึง... . นักวิชาการสีส้มนอกประเทศ ณ กรุงโตเกียว เป็นคนตั้งกลุ่ม royalist marketplace ด่าเจ้า ปล่อย Fake News โจมตีเจ้าตลอด แทบจะทุกลมหายใจ... . วันดีคืนดีก็ ไปพบปะพูดคุย ไปยืนกุมเป้า ไม่ด่าทอ อีกทั้งยังชื่นชมเชิดชู... . พฤติกรรม นี้ผิดปกติหรือไม่...??? . เป็นไปได้มั้ย...??? . ...ว่านี่เป็นแผนที่ โยนประเด็นออกมา เพื่อ แบ่งฝักแบ่งฝ่าย "ชาวอนุรักษ์นิยม" ออกจากกัน... . ในเมื่อ เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ในหมูชน แตกเป็นกลุ่มก้อน ไม่เข้มแข็ง ไม่รวมใจ ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวแล้ว ไม่สามัคคีกันแล้ว ก็หมดแรง หมดพลัง . สนิมก่อเกิดแต่เนื้อใน...!!! . หรือมี สำนวนหนึ่งของ จีน เขาเรียก "จับปลาตอนน้ำขุ่น" . ข้อมูลจากหลายฝั่งหาอ่านได้ไม่ยากครับ . เช่น Face Book ของ ดร. Suphanat Aphinyan เอาชื่อ Suphanat Aphinyan เซิร์ช ก็เจอแล้วครับ . คนไทยด้วยกัน ใจร่มๆ รักกันไว้เถอะครับ นับวัน "ชาวอนุรักษ์นิยม" มีแต่จะยิ่งมีจำนวนลดน้อยถอยลง ด้วยอายุขัย ถ้าเราไม่สามารถ ส่งต่อ ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องชอบธรรม ให้ลูกหลานได้ รับรองได้เลยครับ ว่าวันนึง พวกเขาจะตกเป็นเหยื่อของ "นักวิชากการล้มเจ้า" และ แนวร่วม แน่นอน... . แล้วรอบนี้ ที่ "ชาวอนุรักษ์นิยม" พ่ายแพ้ต่อ แนวรุกของพวก สีส้ม ส่วนหนึ่ง ก็มาจากพวกเรากันเองด้วยแหล่ะครับ ถ้าไม่ตระหนักถึงสิ่งนี้ เราจะหาแนวร่วมเพิ่มเติมไม่ได้ครับ . เราจะชนะเขา ไม่ใช่แค่เรา มีความรู้ และ พูดความจริง นะครับ ต้องเข้าถึง คนรุ่นใหม่ หรือ คนส่วนใหญ่ของประเทศให้ได้ด้วยครับ... . เพราะทุกวันนี้ ประเทศเราอยู่ในระบอบที่ เสียงส่วนมาก คือ Winner หรือ ความถูกต้อง...!!! . (ซึ่งพูดแบบนี้คงจะไม่ถูกต้องนักตามทฤษฎี แต่ ในชีวิตจริงก็ประมาณนั้นแหล่ะครับ) . ที่พวกเขาชนะรอบนี้ ก็เป็นเพราะ เขา ใช้ยุทธวิธี "แทรกซึม" . เขา "แทรกซึม" มา 20 กว่าปีแล้ว เพราะการแทรกซึม นั้น ไร้แรงต้าน เหมือนกับ คำที่เขาว่า "พูดความจริงฟังแล้วไม่รื่นหู" นั่นแหล่ะครับ . ลุงสนธิ ออกมาเปิดโปง เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว มีแต่คนออกมาด่า แล้ววันนี้หล่ะครับ ชัดเจนรึยัง...??? . แล้วมีใครสนมั่ง...??? . 😔😔😔😔😔😔 . https://www.youtube.com/watch?v=dxNES9dw_Bk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้บิ๊กโจ๊ก 500 ลุ้นศาลปกครองสั่งคัมแบ็ก สตช. แต่ไอ้ตั้มแอบลุ้นกว่าโจ๊ก เผื่อกลับมาช่วยโจรทนาย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    วันนี้บิ๊กโจ๊ก 500 ลุ้นศาลปกครองสั่งคัมแบ็ก สตช. แต่ไอ้ตั้มแอบลุ้นกว่าโจ๊ก เผื่อกลับมาช่วยโจรทนาย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยงครึ่งวันนี้ อย่าพลาดชมโหนกระแส อาจารย์ปานเทพไปเอง เรื่องไอ้ตั้มฉ้อโกง และเกมแก้ตัวของมัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    เที่ยงครึ่งวันนี้ อย่าพลาดชมโหนกระแส อาจารย์ปานเทพไปเอง เรื่องไอ้ตั้มฉ้อโกง และเกมแก้ตัวของมัน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 13-11-67
    .
    วันนี้ "สนธิเล่าเรื่อง" จะมาพูดถึงหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวพันกับ "คดีฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ของทนายตั้ม ษิทรา และ การออกมาแก้ข้อกล่าวหาผ่านสื่อของ "ทนายสายหยุด" รวมไปถึง เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของคดีนี้ที่สื่อต่างๆ ยังเข้าไม่ถึง หรือ บางที่สับสนหลงประเด็น
    สนธิเล่าเรื่อง 13-11-67 . วันนี้ "สนธิเล่าเรื่อง" จะมาพูดถึงหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวพันกับ "คดีฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ของทนายตั้ม ษิทรา และ การออกมาแก้ข้อกล่าวหาผ่านสื่อของ "ทนายสายหยุด" รวมไปถึง เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของคดีนี้ที่สื่อต่างๆ ยังเข้าไม่ถึง หรือ บางที่สับสนหลงประเด็น
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    115
    32 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 2586 มุมมอง 5 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 13-11-67
    .
    วันนี้ "สนธิเล่าเรื่อง" จะมาพูดถึงหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวพันกับ "คดีฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ของทนายตั้ม ษิทรา และ การออกมาแก้ข้อกล่าวหาผ่านสื่อของ "ทนายสายหยุด" รวมไปถึง เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของคดีนี้ที่สื่อต่างๆ ยังเข้าไม่ถึง หรือ บางที่สับสนหลงประเด็น
    .
    คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=VzREFfPeWiM
    สนธิเล่าเรื่อง 13-11-67 . วันนี้ "สนธิเล่าเรื่อง" จะมาพูดถึงหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวพันกับ "คดีฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ของทนายตั้ม ษิทรา และ การออกมาแก้ข้อกล่าวหาผ่านสื่อของ "ทนายสายหยุด" รวมไปถึง เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของคดีนี้ที่สื่อต่างๆ ยังเข้าไม่ถึง หรือ บางที่สับสนหลงประเด็น . คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=VzREFfPeWiM
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันพุธ: ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (13 November 2024)

    บรรยากาศ การทำบุญตักบาตรในวันนี้
    ตลาดบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
    วันพุธ: ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (13 November 2024) บรรยากาศ การทำบุญตักบาตรในวันนี้ ตลาดบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๘✨แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ อายุ ๑๐๒ ปี ทูลเกล้าฯ ถวายดอกบัว ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรจังหวัดนครพนม #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #13พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๘✨แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ อายุ ๑๐๒ ปี ทูลเกล้าฯ ถวายดอกบัว ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรจังหวัดนครพนม #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #13พฤศจิกายน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts