• กองปราบ ส่งสำนวนให้อัยการ สั่งฟ้องทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน พี่อ้อย 17/01/68 #กองปราบ #ทนายตั้ม #คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน #พี่อ้อย
    กองปราบ ส่งสำนวนให้อัยการ สั่งฟ้องทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน พี่อ้อย 17/01/68 #กองปราบ #ทนายตั้ม #คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน #พี่อ้อย
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 698 มุมมอง 43 0 รีวิว
  • ส่งสำนวน "ทนายตั้ม-พวก" ฉ้อโกง-ฟอกเงิน 4 คดีให้อัยการแล้ว เคาะสั่งฟ้องต่อศาลก่อนครบฝากขัง
    .
    กองปราบฯ ส่งสำนวนคดีทนายตั้มร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน ให้อัยการพิเศษสั่งฟ้องต่อศาลก่อนสิ้นเดือนนี้ ครบกำหนดฝากขัง 30 ม.ค.นี้ พบมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นพนักงานโชว์รูมปลอมเอกสาร ส่วนคดีพินัยกรรมยังไม่พบทุจริต
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชเาภิเษก พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนการสอบสวนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหายได้กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันฉ้อโกง และฟอกเงิน มีสำนวนรวม 9,317 แผ่น พร้อมความเห็นทางสมควรสั่งฟ้องนายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม, น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถยนต์ 2 คน ที่ร่วมมือกับทนายตั้มในการปลอมแปลงเอกสาร รวมผู้ต้องหา 7 คน ในคดีฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ไปมอบให้นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนไว้พิจารณา
    .
    พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำนวนคดีทนายตั้มแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร และกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรมี 3 เรื่อง คือ ฉ้อโกงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาทเศษ, คดีกระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ ความเสียหาย 39 ล้านบาทเศษ และสำนวนคดีซื้อรถเบนซ์ จี 400 เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง จำนวน 1,530,000 บาท ส่วนการกระทำผิดในราชอาณาจักร คดีการออกแบบโรงแรม ได้ส่วนต่าง 5,500,000 บาท สำหรับการส่งสำนวน 4 เรื่อง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนที่ร่วมกับทนายตั้มทำการฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
    .
    โดยวันนี้มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในการปลอมเอกสารที่จะต้องเข้ามาพบกับพนักงานอัยการ โดยมีการแจ้งความเพิ่มมา 2 คน เป็นการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถเบนซ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองกระทำผิดในส่วนของการปลอมใบเสร็จการซื้อรถเบนซ์ แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผย ส่วน น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม ที่ได้รับการประกันตัวอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาล จึงไม่ได้ส่งตัววันนี้ ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามที่ทนายตั้มได้ร้องขอให้มีการสอบสวนในพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ตัวผู้ต้องหาแล้ว
    .
    ส่วนคดีพินัยกรรม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเข้ามา แต่ถ้าการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิด ก็จะสอบสวนต่อไป
    .
    ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากการรับมอบสำนวนแล้ว ทางพนักงานอัยการจะส่งมอบให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย 1 ไปพิจารณาเพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้เสร็จภายในระยะเวลาฝากขังผัดสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.นี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อผลการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจะต้องส่งให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005180
    .........
    Sondhi X
    ส่งสำนวน "ทนายตั้ม-พวก" ฉ้อโกง-ฟอกเงิน 4 คดีให้อัยการแล้ว เคาะสั่งฟ้องต่อศาลก่อนครบฝากขัง . กองปราบฯ ส่งสำนวนคดีทนายตั้มร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน ให้อัยการพิเศษสั่งฟ้องต่อศาลก่อนสิ้นเดือนนี้ ครบกำหนดฝากขัง 30 ม.ค.นี้ พบมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นพนักงานโชว์รูมปลอมเอกสาร ส่วนคดีพินัยกรรมยังไม่พบทุจริต . วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชเาภิเษก พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนการสอบสวนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหายได้กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันฉ้อโกง และฟอกเงิน มีสำนวนรวม 9,317 แผ่น พร้อมความเห็นทางสมควรสั่งฟ้องนายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม, น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถยนต์ 2 คน ที่ร่วมมือกับทนายตั้มในการปลอมแปลงเอกสาร รวมผู้ต้องหา 7 คน ในคดีฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ไปมอบให้นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนไว้พิจารณา . พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำนวนคดีทนายตั้มแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร และกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรมี 3 เรื่อง คือ ฉ้อโกงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาทเศษ, คดีกระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ ความเสียหาย 39 ล้านบาทเศษ และสำนวนคดีซื้อรถเบนซ์ จี 400 เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง จำนวน 1,530,000 บาท ส่วนการกระทำผิดในราชอาณาจักร คดีการออกแบบโรงแรม ได้ส่วนต่าง 5,500,000 บาท สำหรับการส่งสำนวน 4 เรื่อง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนที่ร่วมกับทนายตั้มทำการฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน . โดยวันนี้มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในการปลอมเอกสารที่จะต้องเข้ามาพบกับพนักงานอัยการ โดยมีการแจ้งความเพิ่มมา 2 คน เป็นการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถเบนซ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองกระทำผิดในส่วนของการปลอมใบเสร็จการซื้อรถเบนซ์ แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผย ส่วน น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม ที่ได้รับการประกันตัวอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาล จึงไม่ได้ส่งตัววันนี้ ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามที่ทนายตั้มได้ร้องขอให้มีการสอบสวนในพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ตัวผู้ต้องหาแล้ว . ส่วนคดีพินัยกรรม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเข้ามา แต่ถ้าการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิด ก็จะสอบสวนต่อไป . ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากการรับมอบสำนวนแล้ว ทางพนักงานอัยการจะส่งมอบให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย 1 ไปพิจารณาเพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้เสร็จภายในระยะเวลาฝากขังผัดสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.นี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อผลการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจะต้องส่งให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005180 ......... Sondhi X
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 618 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความฝันของนักการเมือง นักโกงเมือง โจรมหาเศรษฐี โจรการเมืองคือ เปิด บ่อน หวย ซ่อง ฟอกเงิน เหรียญเงินลม
    รากหญ้าฝันจะได้ 500-1,000 บาท รอแจกเงิน ไม่ทำงานรอเงินฟรี ฝันพังทลายเป็นทาสโจร 100 ปี
    ความฝันของนักการเมือง นักโกงเมือง โจรมหาเศรษฐี โจรการเมืองคือ เปิด บ่อน หวย ซ่อง ฟอกเงิน เหรียญเงินลม รากหญ้าฝันจะได้ 500-1,000 บาท รอแจกเงิน ไม่ทำงานรอเงินฟรี ฝันพังทลายเป็นทาสโจร 100 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ได้ทำ google doc ออกเสียงความเห็น หวังว่าท่านจะร่วมต่อต้านการพนัน เพื่อนส่งลิ้งค์มา ผมหาข้อมูลมูลนิธิ และทำการร่วมลงชื่อค้าน ขอท่านช่วยกันแชร์ไปต่อๆ หรือจะ copy ไปทางไลน์ ทางเฟส ให้ช่วยๆ กัน แสดงพลังให้นักการเมืองเห็นด้วยครับ

    ร่วมเป็น 1 เสียง แสดงจุดยืนว่า "เราไม่เอากาสิโน"
    จากการที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าผลักดันพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) อันมีกาสิโนเป็นส่วนประกอบหลักเข้าสู่รัฐสภา กฎหมายนี้จะเปิดช่องให้เปิดกาสิโนได้อย่างเสรี และก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมทั้งปัญหาอาชญากรรม การฟอกเงิน การทุจริตคอรัปชั่น การประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ฯลฯ
    หากคุณคือคนไทยคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย กรุณาร่วมกันส่งเสียงต่อรัฐบาลผ่านการลงชื่อแสดงจุดยืนว่า "เราไม่เอากาสิโน"
    ได้ที่ https://forms.gle/PBBBYki6Lbcb4HZh9
    มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ได้ทำ google doc ออกเสียงความเห็น หวังว่าท่านจะร่วมต่อต้านการพนัน เพื่อนส่งลิ้งค์มา ผมหาข้อมูลมูลนิธิ และทำการร่วมลงชื่อค้าน ขอท่านช่วยกันแชร์ไปต่อๆ หรือจะ copy ไปทางไลน์ ทางเฟส ให้ช่วยๆ กัน แสดงพลังให้นักการเมืองเห็นด้วยครับ ร่วมเป็น 1 เสียง แสดงจุดยืนว่า "เราไม่เอากาสิโน" จากการที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าผลักดันพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) อันมีกาสิโนเป็นส่วนประกอบหลักเข้าสู่รัฐสภา กฎหมายนี้จะเปิดช่องให้เปิดกาสิโนได้อย่างเสรี และก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมทั้งปัญหาอาชญากรรม การฟอกเงิน การทุจริตคอรัปชั่น การประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ฯลฯ หากคุณคือคนไทยคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย กรุณาร่วมกันส่งเสียงต่อรัฐบาลผ่านการลงชื่อแสดงจุดยืนว่า "เราไม่เอากาสิโน" ได้ที่ https://forms.gle/PBBBYki6Lbcb4HZh9
    FORMS.GLE
    ร่วมเป็น 1 เสียง แสดงจุดยืนว่า "เราไม่เอากาสิโน"
    รัฐบาลประกาศเดินหน้าผลักดันพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) อันมีกาสิโนเป็นส่วนประกอบหลักเข้าสู่รัฐสภา และมีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่ถูกคัดค้านทั้งจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถเปิดกาสิโนหรือแหล่งพนันอย่างเข้ม ที่เล่นพนันได้มาก หมกมุ่นเป็นเวลานาน และเสียทรัพย์จำนวนมาก กฎหมายนี้จะเปิดช่องให้เปิดกาสิโนได้หลายแห่ง หลายขนาด ในหลายพื้นที่ ไม่มีขีดจำกัด อนุมัติด้วยอำนาจของฝ่ายการเมือง โดยไม่ต้องฟังเสียงประชาชน ขณะที่การกำหนดมาตรการและกลไกในการกำกับดูแลผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาและลดผลกระทบจากการพนัน ก็ดูเบาบาง ประสบการณ์ของทั่วโลกต่างพบแล้วว่า กาสิโนเป็นพื้นที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมหลากระดับ ทั้งการโจรกรรมข้ามชาติ อาชญากรรมระดับประเทศ และการกระทำผิดกฎหมายในท้องที่ท้องถิ่น ทั้งการฉ้อโกง การทุจริตคอรัปชั่น การรับสินบน และการประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย การเปิดให้มีกาสิโนถูกกฎหมายเท่ากับการอนุญาตให้เปิดโรงฟอกเงินแก่กลุ่มอาชญากรรมและผู้กระทำผิด ให้สามารถเปลี่ยนเงินสกปรกให้กลายเป็นเงินสะอาดได้ อันมีส่วนในการเซาะกร่อนบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจการเงินการธนาคารของประเทศได้ หากคุณคือคนไทยคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย กรุณาร่วมกันส่งเสียงต่อรัฐบาลและรัฐสภา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนสีเทาผู้มั่งคั่ง โจ๊ก และทนายตั้ม ป.ป.ง.แจ้งฟอกเงิน : ถอนหมุดข่าว 14/01/68
    คนสีเทาผู้มั่งคั่ง โจ๊ก และทนายตั้ม ป.ป.ง.แจ้งฟอกเงิน : ถอนหมุดข่าว 14/01/68
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมภรรยา ย่องรับทราบข้อกล่าวหา หลัง ปปง.แจ้งเอาผิดคดีฟอกเงิน
    .
    https://shorturl.asia/UsEcX
    “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมภรรยา ย่องรับทราบข้อกล่าวหา หลัง ปปง.แจ้งเอาผิดคดีฟอกเงิน . https://shorturl.asia/UsEcX
    WWW.PPTVHD36.COM
    “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมภรรยา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา คดีฟอกเงินโยงเว็บพนัน
    “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมภรรยา ย่องรับทราบข้อกล่าวหา หลัง ปปง.แจ้งเอาผิดคดีฟอกเงิน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา-ขอยื่นคำให้การภายใน 30 วัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • น.1 ระบุ ปปง.เข้าแจ้งความ "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" หรือ "สุรเชชษฐ์ หักพาล" และ "นางศิรินัดดา หักพาล" อดีตนายตำรวจใหญ่ ข้อหา “ฟอกเงิน“ หลังพบการกระทำความผิด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000003813

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    น.1 ระบุ ปปง.เข้าแจ้งความ "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" หรือ "สุรเชชษฐ์ หักพาล" และ "นางศิรินัดดา หักพาล" อดีตนายตำรวจใหญ่ ข้อหา “ฟอกเงิน“ หลังพบการกระทำความผิด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000003813 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    16
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 902 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานบันเทิงคอมเพล็ก(คาสิโน)
    คือศุนย์รวมอบายมุขกิเลสตัณหา
    การพนันยาเสพติดโสเภณี
    และฟอกเงินแหล่งรวมสายเทา

    นักการเมืองรัฐบาลที่สนับสนุนคือ
    นักการเมืองและรัฐบาลชั่วครับ

    ขอคัดค้านสถาบันเทิงอโคจรมอมเมาสิ่งชั่วครับฮะ
    มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    สถานบันเทิงคอมเพล็ก(คาสิโน) คือศุนย์รวมอบายมุขกิเลสตัณหา การพนันยาเสพติดโสเภณี และฟอกเงินแหล่งรวมสายเทา นักการเมืองรัฐบาลที่สนับสนุนคือ นักการเมืองและรัฐบาลชั่วครับ ขอคัดค้านสถาบันเทิงอโคจรมอมเมาสิ่งชั่วครับฮะ มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10/1/68

    รวย..อย่างชินวัตร
    ตอน ๑ : “รวยลับๆร่อๆ”
    แก้วสรร อติโพธิ

    ถาม มาดามแพ ผู้เป็นนายกฯ ทำมาหากินอะไร พอแจ้งทรัพย์สินแล้ว พบว่ารวยถึง ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท
    ตอบ ทรัพย์สินกองนี้ ในฐานะที่เคยตรวจสอบทรัพย์สินเมื่อครั้งเป็น คตส.มาก่อน ผมพบว่าที่น่าสนใจเป็นกองแรกเลยคือ หนี้สินกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท ที่ปรากฏตัวเจ้าหนี้เป็น คนในครอบครัวชินวัตร แทบทั้งนั้น จึงต้องตรวจสอบต่อไปให้ชัดว่ามาจากการซุกหุ้ น เหมือนคราวทักษิณซุกหุ้ นชินคอร์ป แล้ว
    ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี ๒๕๔๔ หรือไม่
    ถาม ซุกหุ้นคราวขึ้นเป็น นายกฯ นั้น ทักษิณเขาทำอย่างไร

    ตอบ เขาทำเป็นขายหุ้นชินคอร์ปที่ชินวัตรถืออยู่ ๔๙.๖ % ให้ลูกและน้องสาวจนหมด ราคาตลาดหุ้นละ ๑๕๐ บาท แต่ขายให้ในราคาทุน ๑๐ บาท ผู้ซื้อก็ทำหลักฐานว่าไม่มีตังค์ ต้องกู้นเงินผู้ขายมาให้

    ผู้ขาย จากนั้นผู้ซื้อก็เปิดบัญชีรับเงินปันผลขึ้นมาโดยเฉพาะ เงินเข้าเมื่อใดก็ส่งให้ผู้ขายหมด
    อ้างว่าเป็นการผ่อนชำระค่าหุ้น ผ่อนไปทุกปีจนท่วมยอดเงินกู้ เลย ภาพทางบัญชีอย่างนี้ คุณ
    เชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้ นจริงไหม

    ถาม ไม่เชื่อครับ มันเป็นแค่การเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นชินคอร์ปในหมู่ชินวัตร เพื่อให้หัวหน้าครอบครัวขึ้นเป็นนายกฯ โดยไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่มีชื่อถือหุ้นสัมปทานอีกต่อไปเท่านั้น

    ตอบ ในสภาพซุกหุ้นกันอย่างนี้ คุณว่าถ้าลูกทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ เขาจะต้องแจ้ งทรัพย์สินอย่างไร
    ถาม แจ้งว่าถือหุ้นชินคอร์ป ขณะเดียวกันก็เป็นลูกหนี้เงินกู้ จากพ่อด้วย

    ตอบ ถูกต้องครับ แจ้งเมื่อไหร่ภาพเด็กรวยเละ ที่ขึ้นเป็น นายกฯ ก็จะปรากฏให้งงกันทั้งประเทศว่ารวยได้อย่างไรกันในที่สุดถ้าชินวัตรยังรวยแบบลับๆร่อๆอยู่จนทุกวันนี้ จริงอย่างที่ผมสงสัย ยอดหนี้สิน ๔,๐๐๐ ล้าน ในบัญชีทรัพย์สินวันนี้ของ มาดามแพ ที่ปรากฏเคียงข้างคู่กับยอดเงินลงทุนกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้าน จึงน่าสงสัยมากๆ ว่าทรัพย์สินสองยอดนี้แท้ที่จริงแล้ว มาจากพฤติการณ์ที่มาดามแพถูกชินวัตรใช้ชื่อ

    ซุกหุ้นเป็นหมื่นล้านก็เป็นได้คุณว่าใช่หรือไม่
    ถาม ถ้าเป็นอย่างนี้ แท้จริงแล้วเธอก็ไม่ได้ เป็นเจ้าของสินทรัพย์ หรือ เป็นลูกหนี้ใครเลยก็ได้ปปช.มีอำนาจตรวจสอบไหมครับว่า บัญชีนี้จริงเท็จหรือไม่ ประการใด

    ตอบ ต้องตรวจหมดทุกกรณี ว่าได้หุ้นแต่ละก้อนมาอย่างไรจากใคร เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ใช่เงินกู้ กู้อนนี้หรือไม่ คนให้กู้คือคนที่ขายหุ้นให้ ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ ซตพ.ว่าซุกหุ้นแน่นอน


    ถาม มาดามแพ ยังมีชื่อถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์อยู่หรือไม่ครับ
    ตอบ ทราบข่าวว่าขายไปแล้ว ต้องสอบว่าคนซื้อเป็น นอมินีหรือเปล่า หุ้นอัลไพน์นี้โดนชินวัตรฟอกมาตลอด ตอนแรกเมื่อซื้อจากนายเสนาะ ก็ใช้ชื่อคนใช้คนขับรถ ถือหุ้นก่อน หลังเกิดคดีซุกหุ้นชิน คอร์ป และลูกบรรลุนิติภาวะ ถึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อมาดามแพ แล้วเปลี่ยนไปอีกเมื่อมาดามโผล่มาเล่นการเมืองในที่สุด
    ถาม นอกจากหุ้นชินคอร์ป หุ้นอัลไพน์แล้ว มีหุ้นอื่นอีกไหมครับ

    ตอบ ก็มีหุ้นธนาคารทหารไทยอีกก้อน ที่พอธนาคารซวดเซในปี ๒๕๔๕ จนกระทรวงการคลังต้องวางแผนอัดเงินเพิ่มให้หมื่นล้าน โดยจะให้ควบรวมกับไอเอฟซีทีด้วย แต่ปรากฏว่าก่อนจะลงมือจริง ก็มีการนำเงินปันผลชินคอร์ปของชินวัตร ๔๐๐ ล้านบาท ที่อยู่ในบัญชีธนาคารของโอ๊ค ไปช้อนซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยขนานใหญ่ ในชื่อโอ๊คเสียก่อน จากนั้นพอ กระทรวงคลังอัดเงินและ
    ควบรวมแล้ว ราคาหุ้นก็พุ่งสูงลิ่ว แต่ครั้นผลการประเมินภายใน พบว่าผลประกอบการธนาคารไม่กระเตื้อง ชินวัตรก็ออกตัวเร่งทะยอยขายหุ้นธนาคารทหารไทยของชินวัตรในชื่อโอ๊คจนหมด พอหุ้นร่วง แมงเม่าปีกไหม้หมด ก็มีแต่ชินวัตรกำไรอยู่เจ้าเดียวรวม ๗๐ ล้านบาท

    ถาม เห็นตอนควบไอเอฟซีที ก็มีการขายตึกไอเอฟซีที ให้คุณหญิงชินวัตร ด้วยใช่ไหมครับ

    ตอบ ครับ เขาซื้อไปในราคา ๔๒๐ ล้านบาท ต่ำกว่าตลาด ๑๐๐ ล้าน แล้วเอามาให้พรรคชินวัตร ชื่อไทยรักไทยเช่าอยู่จนทุกวันนี้

    ถาม ทราบว่าตอนขายหุ้นชินคอร์ปยกล๊อต ให้เทมาเส็คเมื่อปี ๒๕๔๙ นั้น ก็รวยลับๆร่อๆ กันอีกหรือครับ

    ตอบ ชินวัตรเขาไปจดทะเบียนตั้งบริษัทที่เกาะฟอกเงินชื่อ บริติชเวอร์จิ้น ตั้งเป็นบริษัทชื่อ “วินมาร์ค” คอยเล่นหุ้นไทยอยู่ต่างประเทศผ่านธนาคารสิงค์โปร์ มาตลอด มาในปลายปี ๒๕๔๘ เมื่อให้ สส.ข้าทาสในสภาแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นโทรคมนาคมได้ ๔๙% จนทักษิณเจรจาตกลงเป็นการลับขายหุ้นยกล้อตให้เทมาเส็ค ในราคาหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาท

    จะได้เงินขายหุ้นโดยเปิดเผยกว่า ๗.๓ หมื่นล้านแล้ว ถึงตรงมกราคม ๒๕๔๙ นี้ ก็มีการลงมือรวย ลับๆร่อๆอีก จนได้เงินไปเฉยๆอีกก้อนหนึ่ง เป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท
    ถาม เขาทำอย่างไรครับ

    ตอบ ตามกฎหมายนั้น เมื่อเทมาเส็คซื้อหุ้นก้อนใหญ่ จนหุ้นเปลี่ยนมือถึง ๔๙% อย่างนี้ ก็หุ้นชินคอร์ปจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในราคาที่ซื้อจากชินวัตร คือหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาทด้วย แต่เมื่อชินวัตรทราบล่วงหน้า ก็เลยให้วินมาร์ค กว้านซื้อหุ้ นชินคอร์ป เข้าบัญชีธนาคารในสิงค์โปร์ก่อนเป็นการใหญ่ ในราคาตลาดขณะนั้น ที่หุ้นละ ๓๙ บาท กว้านอยู่ ๑ เดือน จนถือหุ้นชินคอร์ปในมือได้ ๑๑๔ ล้านหุ้น พอประกาศซื้อขายและเปิดรับซื้อ เขาก็เอาหุ้ นที่กวาดไว้ ล่วงหน้ามาขายได้เงินที่รวยลับๆร่อๆ ฉกฉวยเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยไป รวมเป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ในที่สุด

    ถาม เห็นทักษิณเขาคุยที่เวทีเชียงรายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า ก่อนมาเล่นการเมืองเขาก็รวยที่สุดในประเทศไทย มีสินทรัพย์กว่า ๖ หมื่นล้านอยู่แล้ว
    ตอบ เมื่อขึ้นเป็นรองนายกฯในรัฐบาล พลเอก ชวลิต เมื่อ ปี ๒๕๔๐ ผมเห็นเขาแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ ๔ หมื่นล้านบาท นี่แสดงว่าเงินพร่องไป ๒ หมื่นบาทเลยเชียวหรือ
    ถาม อาจลดลง เพราะซุกหุ้นชินคอร์ปไว้ กับคนรถ คนใช้แล้วก็ได้

    ตอบ เอาเถอะครับ เขาจะรวยมาก่อน รวยอย่างไร เห็นเขาลือกันว่ารวยมาจากคราวลดค่าเงินบาทก็ได้
    จริงเท็จ ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ หลังตั้งพรรคลงเล่นการเมืองแล้ว เขาไม่ได้จนลงอย่างที่พูดเลย ก็
    แล้วกันครับ มันมีทั้งรวยโดยเปิดเผยและลับๆร่อๆ มาวันนี้ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างลับๆร่อๆอีก

    ถาม หมายความว่า นอกจากซุกหุ้นแล้ว มาวันนี้ทักษิณเขายังซุกตำแหน่งนายกฯ ไว้ ในชื่อลูกด้วยอย่างนั้นหรือ มีประเทศไหนที่ผู้นำเป็นนายกฯโดยปกปิดชื่อไว้ ครับ

    ตอบ มีประเทศไทยนี่แหละครับ นี่ผมก็รอดูผลสอบของ กกต.อยู่ทุกวันนะครับว่า ข้อหาทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยนี่ เขาสอบสวนกันไปถึงไหนแล้ว
    ถาม กกต.นี่น่าจะย่อมาจาก “กูกลอกตา ” ไม่รู้ไม่เห็นซะดีกว่า ไม่ไหวเลยทำงานกันช้าเหลือเกินครับ

    แล้ววนี่บ้านเมืองจะไปทางไหนได้มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี คนมีอำนาจก็ไม่ต้องรับผิดชอบ คนรับผิดชอบก็ไม่มีอำนาจ ให้สัมภาษณ์ทีไรก็เป็นเช่นสโนว์ไวท์ ต้องให้ พี่เลี้ยงทั้ง ๗ ยืนลุ้นตาลุกโพลงคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา มาวันนี้ สโนว์ไวท์ปลาสติกนี้ก็ยังรวยลับๆร่อๆอีก

    ตอบ คุณรออ่าน “รวย..อย่างชินวัตร” ตอน ๒ : “ รวย โดยมิชอบ” กับ ตอน ๓ : “ รวยจนบ้านเมือง ชิบหาย” ก็แล้วกันครับ
    10/1/68 รวย..อย่างชินวัตร ตอน ๑ : “รวยลับๆร่อๆ” แก้วสรร อติโพธิ ถาม มาดามแพ ผู้เป็นนายกฯ ทำมาหากินอะไร พอแจ้งทรัพย์สินแล้ว พบว่ารวยถึง ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท ตอบ ทรัพย์สินกองนี้ ในฐานะที่เคยตรวจสอบทรัพย์สินเมื่อครั้งเป็น คตส.มาก่อน ผมพบว่าที่น่าสนใจเป็นกองแรกเลยคือ หนี้สินกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท ที่ปรากฏตัวเจ้าหนี้เป็น คนในครอบครัวชินวัตร แทบทั้งนั้น จึงต้องตรวจสอบต่อไปให้ชัดว่ามาจากการซุกหุ้ น เหมือนคราวทักษิณซุกหุ้ นชินคอร์ป แล้ว ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี ๒๕๔๔ หรือไม่ ถาม ซุกหุ้นคราวขึ้นเป็น นายกฯ นั้น ทักษิณเขาทำอย่างไร ตอบ เขาทำเป็นขายหุ้นชินคอร์ปที่ชินวัตรถืออยู่ ๔๙.๖ % ให้ลูกและน้องสาวจนหมด ราคาตลาดหุ้นละ ๑๕๐ บาท แต่ขายให้ในราคาทุน ๑๐ บาท ผู้ซื้อก็ทำหลักฐานว่าไม่มีตังค์ ต้องกู้นเงินผู้ขายมาให้ ผู้ขาย จากนั้นผู้ซื้อก็เปิดบัญชีรับเงินปันผลขึ้นมาโดยเฉพาะ เงินเข้าเมื่อใดก็ส่งให้ผู้ขายหมด อ้างว่าเป็นการผ่อนชำระค่าหุ้น ผ่อนไปทุกปีจนท่วมยอดเงินกู้ เลย ภาพทางบัญชีอย่างนี้ คุณ เชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้ นจริงไหม ถาม ไม่เชื่อครับ มันเป็นแค่การเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นชินคอร์ปในหมู่ชินวัตร เพื่อให้หัวหน้าครอบครัวขึ้นเป็นนายกฯ โดยไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่มีชื่อถือหุ้นสัมปทานอีกต่อไปเท่านั้น ตอบ ในสภาพซุกหุ้นกันอย่างนี้ คุณว่าถ้าลูกทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ เขาจะต้องแจ้ งทรัพย์สินอย่างไร ถาม แจ้งว่าถือหุ้นชินคอร์ป ขณะเดียวกันก็เป็นลูกหนี้เงินกู้ จากพ่อด้วย ตอบ ถูกต้องครับ แจ้งเมื่อไหร่ภาพเด็กรวยเละ ที่ขึ้นเป็น นายกฯ ก็จะปรากฏให้งงกันทั้งประเทศว่ารวยได้อย่างไรกันในที่สุดถ้าชินวัตรยังรวยแบบลับๆร่อๆอยู่จนทุกวันนี้ จริงอย่างที่ผมสงสัย ยอดหนี้สิน ๔,๐๐๐ ล้าน ในบัญชีทรัพย์สินวันนี้ของ มาดามแพ ที่ปรากฏเคียงข้างคู่กับยอดเงินลงทุนกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้าน จึงน่าสงสัยมากๆ ว่าทรัพย์สินสองยอดนี้แท้ที่จริงแล้ว มาจากพฤติการณ์ที่มาดามแพถูกชินวัตรใช้ชื่อ ซุกหุ้นเป็นหมื่นล้านก็เป็นได้คุณว่าใช่หรือไม่ ถาม ถ้าเป็นอย่างนี้ แท้จริงแล้วเธอก็ไม่ได้ เป็นเจ้าของสินทรัพย์ หรือ เป็นลูกหนี้ใครเลยก็ได้ปปช.มีอำนาจตรวจสอบไหมครับว่า บัญชีนี้จริงเท็จหรือไม่ ประการใด ตอบ ต้องตรวจหมดทุกกรณี ว่าได้หุ้นแต่ละก้อนมาอย่างไรจากใคร เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ใช่เงินกู้ กู้อนนี้หรือไม่ คนให้กู้คือคนที่ขายหุ้นให้ ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ ซตพ.ว่าซุกหุ้นแน่นอน ถาม มาดามแพ ยังมีชื่อถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์อยู่หรือไม่ครับ ตอบ ทราบข่าวว่าขายไปแล้ว ต้องสอบว่าคนซื้อเป็น นอมินีหรือเปล่า หุ้นอัลไพน์นี้โดนชินวัตรฟอกมาตลอด ตอนแรกเมื่อซื้อจากนายเสนาะ ก็ใช้ชื่อคนใช้คนขับรถ ถือหุ้นก่อน หลังเกิดคดีซุกหุ้นชิน คอร์ป และลูกบรรลุนิติภาวะ ถึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อมาดามแพ แล้วเปลี่ยนไปอีกเมื่อมาดามโผล่มาเล่นการเมืองในที่สุด ถาม นอกจากหุ้นชินคอร์ป หุ้นอัลไพน์แล้ว มีหุ้นอื่นอีกไหมครับ ตอบ ก็มีหุ้นธนาคารทหารไทยอีกก้อน ที่พอธนาคารซวดเซในปี ๒๕๔๕ จนกระทรวงการคลังต้องวางแผนอัดเงินเพิ่มให้หมื่นล้าน โดยจะให้ควบรวมกับไอเอฟซีทีด้วย แต่ปรากฏว่าก่อนจะลงมือจริง ก็มีการนำเงินปันผลชินคอร์ปของชินวัตร ๔๐๐ ล้านบาท ที่อยู่ในบัญชีธนาคารของโอ๊ค ไปช้อนซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยขนานใหญ่ ในชื่อโอ๊คเสียก่อน จากนั้นพอ กระทรวงคลังอัดเงินและ ควบรวมแล้ว ราคาหุ้นก็พุ่งสูงลิ่ว แต่ครั้นผลการประเมินภายใน พบว่าผลประกอบการธนาคารไม่กระเตื้อง ชินวัตรก็ออกตัวเร่งทะยอยขายหุ้นธนาคารทหารไทยของชินวัตรในชื่อโอ๊คจนหมด พอหุ้นร่วง แมงเม่าปีกไหม้หมด ก็มีแต่ชินวัตรกำไรอยู่เจ้าเดียวรวม ๗๐ ล้านบาท ถาม เห็นตอนควบไอเอฟซีที ก็มีการขายตึกไอเอฟซีที ให้คุณหญิงชินวัตร ด้วยใช่ไหมครับ ตอบ ครับ เขาซื้อไปในราคา ๔๒๐ ล้านบาท ต่ำกว่าตลาด ๑๐๐ ล้าน แล้วเอามาให้พรรคชินวัตร ชื่อไทยรักไทยเช่าอยู่จนทุกวันนี้ ถาม ทราบว่าตอนขายหุ้นชินคอร์ปยกล๊อต ให้เทมาเส็คเมื่อปี ๒๕๔๙ นั้น ก็รวยลับๆร่อๆ กันอีกหรือครับ ตอบ ชินวัตรเขาไปจดทะเบียนตั้งบริษัทที่เกาะฟอกเงินชื่อ บริติชเวอร์จิ้น ตั้งเป็นบริษัทชื่อ “วินมาร์ค” คอยเล่นหุ้นไทยอยู่ต่างประเทศผ่านธนาคารสิงค์โปร์ มาตลอด มาในปลายปี ๒๕๔๘ เมื่อให้ สส.ข้าทาสในสภาแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นโทรคมนาคมได้ ๔๙% จนทักษิณเจรจาตกลงเป็นการลับขายหุ้นยกล้อตให้เทมาเส็ค ในราคาหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาท จะได้เงินขายหุ้นโดยเปิดเผยกว่า ๗.๓ หมื่นล้านแล้ว ถึงตรงมกราคม ๒๕๔๙ นี้ ก็มีการลงมือรวย ลับๆร่อๆอีก จนได้เงินไปเฉยๆอีกก้อนหนึ่ง เป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ถาม เขาทำอย่างไรครับ ตอบ ตามกฎหมายนั้น เมื่อเทมาเส็คซื้อหุ้นก้อนใหญ่ จนหุ้นเปลี่ยนมือถึง ๔๙% อย่างนี้ ก็หุ้นชินคอร์ปจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในราคาที่ซื้อจากชินวัตร คือหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาทด้วย แต่เมื่อชินวัตรทราบล่วงหน้า ก็เลยให้วินมาร์ค กว้านซื้อหุ้ นชินคอร์ป เข้าบัญชีธนาคารในสิงค์โปร์ก่อนเป็นการใหญ่ ในราคาตลาดขณะนั้น ที่หุ้นละ ๓๙ บาท กว้านอยู่ ๑ เดือน จนถือหุ้นชินคอร์ปในมือได้ ๑๑๔ ล้านหุ้น พอประกาศซื้อขายและเปิดรับซื้อ เขาก็เอาหุ้ นที่กวาดไว้ ล่วงหน้ามาขายได้เงินที่รวยลับๆร่อๆ ฉกฉวยเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยไป รวมเป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ในที่สุด ถาม เห็นทักษิณเขาคุยที่เวทีเชียงรายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า ก่อนมาเล่นการเมืองเขาก็รวยที่สุดในประเทศไทย มีสินทรัพย์กว่า ๖ หมื่นล้านอยู่แล้ว ตอบ เมื่อขึ้นเป็นรองนายกฯในรัฐบาล พลเอก ชวลิต เมื่อ ปี ๒๕๔๐ ผมเห็นเขาแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ ๔ หมื่นล้านบาท นี่แสดงว่าเงินพร่องไป ๒ หมื่นบาทเลยเชียวหรือ ถาม อาจลดลง เพราะซุกหุ้นชินคอร์ปไว้ กับคนรถ คนใช้แล้วก็ได้ ตอบ เอาเถอะครับ เขาจะรวยมาก่อน รวยอย่างไร เห็นเขาลือกันว่ารวยมาจากคราวลดค่าเงินบาทก็ได้ จริงเท็จ ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ หลังตั้งพรรคลงเล่นการเมืองแล้ว เขาไม่ได้จนลงอย่างที่พูดเลย ก็ แล้วกันครับ มันมีทั้งรวยโดยเปิดเผยและลับๆร่อๆ มาวันนี้ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างลับๆร่อๆอีก ถาม หมายความว่า นอกจากซุกหุ้นแล้ว มาวันนี้ทักษิณเขายังซุกตำแหน่งนายกฯ ไว้ ในชื่อลูกด้วยอย่างนั้นหรือ มีประเทศไหนที่ผู้นำเป็นนายกฯโดยปกปิดชื่อไว้ ครับ ตอบ มีประเทศไทยนี่แหละครับ นี่ผมก็รอดูผลสอบของ กกต.อยู่ทุกวันนะครับว่า ข้อหาทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยนี่ เขาสอบสวนกันไปถึงไหนแล้ว ถาม กกต.นี่น่าจะย่อมาจาก “กูกลอกตา ” ไม่รู้ไม่เห็นซะดีกว่า ไม่ไหวเลยทำงานกันช้าเหลือเกินครับ แล้ววนี่บ้านเมืองจะไปทางไหนได้มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี คนมีอำนาจก็ไม่ต้องรับผิดชอบ คนรับผิดชอบก็ไม่มีอำนาจ ให้สัมภาษณ์ทีไรก็เป็นเช่นสโนว์ไวท์ ต้องให้ พี่เลี้ยงทั้ง ๗ ยืนลุ้นตาลุกโพลงคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา มาวันนี้ สโนว์ไวท์ปลาสติกนี้ก็ยังรวยลับๆร่อๆอีก ตอบ คุณรออ่าน “รวย..อย่างชินวัตร” ตอน ๒ : “ รวย โดยมิชอบ” กับ ตอน ๓ : “ รวยจนบ้านเมือง ชิบหาย” ก็แล้วกันครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๗ ม.ค.๖๘ - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "รวย..อย่างชินวัตร" มีเนื้อหาดังนี้

    ตอน ๑ : “รวยลับๆร่อๆ”
    ถาม
    มาดามแพ ผู้เป็นนายกฯ ทำมาหากินอะไร พอแจ้งทรัพย์สินแล้ว พบว่ารวยถึง ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท
    ตอบ
    ทรัพย์สินกองนี้ ในฐานะที่เคยตรวจสอบทรัพย์สินเมื่อครั้งเป็น คตส.มาก่อน ผมพบว่าที่น่าสนใจเป็นกองแรกเลยคือ หนี้สินกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท ที่ปรากฏตัวเจ้าหนี้เป็น คนในครอบครัวชินวัตร แทบทั้งนั้น จึงต้องตรวจสอบต่อไปให้ชัดว่ามาจากการซุกหุ้น เหมือนคราวทักษิณซุกหุ้นชินคอร์ป แล้วขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี ๒๕๔๔ หรือไม่

    ถาม
    ซุกหุ้นคราวขึ้นเป็น นายกฯ นั้น ทักษิณเขาทำอย่างไร
    ตอบ
    เขาทำเป็นขายหุ้นชินคอร์ปที่ชินวัตรถืออยู่ ๔๙.๖ % ให้ลูกและน้องสาวจนหมด ราคาตลาดหุ้นละ ๑๕๐ บาท แต่ขายให้ในราคาทุน ๑๐ บาท ผู้ซื้อก็ทำหลักฐานว่าไม่มีตังค์ ต้องกู้เงินผู้ขายมาให้ผู้ขาย จากนั้นผู้ซื้อก็เปิดบัญชีรับเงินปันผลขึ้นมาโดยเฉพาะ เงินเข้าเมื่อใดก็ส่งให้ผู้ขายหมด อ้างว่าเป็นการผ่อนชำระค่าหุ้น ผ่อนไปทุกปีจนท่วมยอดเงินกู้เลย ภาพทางบัญชีอย่างนี้ คุณเชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้นจริงไหม

    ถาม
    ไม่เชื่อครับ มันเป็นแค่การเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นชินคอร์ปในหมู่ชินวัตร เพื่อให้หัวหน้าครอบครัวขึ้นเป็นนายกฯ โดยไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่มีชื่อถือหุ้นสัมปทานอีกต่อไปเท่านั้น
    ตอบ
    ในสภาพซุกหุ้นกันอย่างนี้ คุณว่าถ้าลูกทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ เขาจะต้องแจ้งทรัพย์สินอย่างไร

    ถาม
    แจ้งว่าถือหุ้นชินคอร์ป ขณะเดียวกันก็เป็นลูกหนี้เงินกู้จากพ่อด้วย
    ตอบ
    ถูกต้องครับ แจ้งเมื่อไหร่ภาพเด็กรวยเละ ที่ขึ้นเป็น นายกฯ ก็จะปรากฏให้งงกันทั้งประเทศว่ารวยได้อย่างไรกันในที่สุด
    ถ้าชินวัตรยังรวยแบบลับๆร่อๆอยู่จนทุกวันนี้ จริงอย่างที่ผมสงสัย ยอดหนี้สิน ๔,๐๐๐ ล้าน ในบัญชีทรัพย์สินวันนี้ของ มาดามแพ ที่ปรากฏเคียงข้างคู่กับยอดเงินลงทุนกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้าน จึงน่าสงสัยมากๆ ว่า ทรัพย์สินสองยอดนี้แท้ที่จริงแล้ว มาจากพฤติการณ์ที่มาดามแพถูกชินวัตรใช้ชื่อซุกหุ้นเป็นหมื่นล้านก็เป็นได้ คุณว่าใช่หรือไม่

    ถาม
    ถ้าเป็นอย่างนี้ แท้จริงแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ หรือ เป็นลูกหนี้ใครเลยก็ได้ ปปช.มีอำนาจตรวจสอบไหมครับว่า บัญชีนี้จริงเท็จหรือไม่ ประการใด
    ตอบ
    ต้องตรวจหมดทุกกรณี ว่าได้หุ้นแต่ละก้อนมาอย่างไรจากใคร เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ใช่เงินกู้ก้อนนี้หรือไม่ คนให้กู้คือคนที่ขายหุ้นให้ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ ซตพ.ว่าซุกหุ้นแน่นอน

    ถาม
    มาดามแพ ยังมีชื่อถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์อยู่หรือไม่ครับ
    ตอบ
    ทราบข่าวว่าขายไปแล้ว ต้องสอบว่าคนซื้อเป็น นอมินีหรือเปล่า หุ้นอัลไพน์นี้โดนชินวัตรฟอกมาตลอด ตอนแรกเมื่อซื้อจากนายเสนาะ ก็ใช้ชื่อคนใช้ คนขับรถ ถือหุ้นก่อน หลังเกิดคดีซุกหุ้นชินคอร์ป และลูกบรรลุนิติภาวะ ถึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อมาดามแพ แล้วเปลี่ยนไปอีกเมื่อมาดามโผล่มาเล่นการเมืองในที่สุด

    ถาม
    นอกจากหุ้นชินคอร์ป หุ้นอัลไพน์แล้ว มีหุ้นอื่นอีกไหมครับ
    ตอบ
    ก็มีหุ้นธนาคารทหารไทยอีกก้อน ที่พอธนาคารซวดเซในปี ๒๕๔๕ จนกระทรวงการคลังต้องวางแผนอัดเงินเพิ่มให้หมื่นล้าน โดยจะให้ควบรวมกับไอเอฟซีทีด้วย แต่ปรากฏว่าก่อนจะลงมือจริง ก็มีการนำเงินปันผลชินคอร์ปของชินวัตร ๔๐๐ ล้านบาท ที่อยู่ในบัญชีธนาคารของโอ๊ค ไปช้อนซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยขนานใหญ่ ในชื่อโอ๊คเสียก่อน จากนั้นพอกระทรวงคลังอัดเงินและควบรวมแล้ว ราคาหุ้นก็พุ่งสูงลิ่ว แต่ครั้นผลการประเมินภายใน พบว่าผลประกอบการธนาคารไม่กระเตื้อง ชินวัตรก็ออกตัวเร่งทะยอยขายหุ้นธนาคารทหารไทยของชินวัตรในชื่อโอ๊คจนหมด พอหุ้นร่วง แมงเม่าปีกไหม้หมด ก็มีแต่ชินวัตรกำไรอยู่เจ้าเดียวรวม ๗๐ ล้านบาท

    ถาม
    เห็นตอนควบไอเอฟซีที ก็มีการขายตึกไอเอฟซีที ให้คุณหญิงชินวัตร ด้วยใช่ไหมครับ
    ตอบ
    ครับ เขาซื้อไปในราคา ๔๒๐ ล้านบาท ต่ำกว่าตลาด ๑๐๐ ล้าน แล้วเอามาให้พรรคชินวัตร ชื่อไทยรักไทยเช่าอยู่จนทุกวันนี้

    ถาม
    ทราบว่าตอนขายหุ้นชินคอร์ปยกล้อต ให้เทมาเส็คเมื่อปี ๒๕๔๙ นั้น ก็รวยลับๆร่อๆ กันอีกหรือครับ
    ตอบ
    ชินวัตรเขาไปจดทะเบียนตั้งบริษัทที่เกาะฟอกเงินชื่อ บริติชเวอร์จิ้น ตั้งเป็นบริษัทชื่อ “วินมาร์ค”คอยเล่นหุ้นไทยอยู่ต่างประเทศผ่านธนาคารสิงค์โปร์ มาตลอด
    มาในปลายปี ๒๕๔๘ เมื่อให้ สส.ข้าทาสในสภาแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นโทรคมนาคมได้ ๔๙% จนทักษิณเจรจาตกลงเป็นการลับขายหุ้นยกล้อตให้เทมาเส็ค ในราคาหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาท จะได้เงินขายหุ้นโดยเปิดเผยกว่า ๗.๓ หมื่นล้านแล้ว ถึงตรงมกราคม ๒๕๔๙ นี้ ก็มีการลงมือรวยลับๆร่อๆอีก จนได้เงินไปเฉยๆอีกก้อนหนึ่ง เป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท

    ถาม
    เขาทำอย่างไรครับ
    ตอบ
    ตามกฎหมายนั้น เมื่อเทมาเส็คซื้อหุ้นก้อนใหญ่ จนหุ้นเปลี่ยนมือถึง ๔๙% อย่างนี้ ก็ต้องตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นชินคอร์ปจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในราคาที่ซื้อจากชินวัตร คือหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาทด้วย แต่เมื่อชินวัตรทราบล่วงหน้า ก็เลยให้วินมาร์ค กว้านซื้อหุ้นชินคอร์ป เข้าบัญชีธนาคารในสิงค์โปร์ก่อนเป็นการใหญ่ ในราคาตลาดขณะนั้น ที่หุ้นละ ๓๙ บาท กว้านอยู่ ๑ เดือน จนถือหุ้นชินคอร์ปในมือได้ ๑๑๔ ล้านหุ้น พอประกาศซื้อขายและเปิดรับซื้อ เขาก็เอาหุ้นที่กวาดไว้ล่วงหน้ามาขาย ได้เงินที่รวยลับๆร่อๆ ฉกฉวยเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยไป รวมเป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ในที่สุด

    ถาม
    เห็นทักษิณเขาคุยที่เวทีเชียงรายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า ก่อนมาเล่นการเมืองเขาก็รวยที่สุดในประเทศไทย มีสินทรัพย์กว่า ๖ หมื่นล้านอยู่แล้ว
    ตอบ
    เมื่อขึ้นเป็นรองนายกฯในรัฐบาล พลเอก ชวลิต เมื่อ ปี ๒๕๔๐ ผมเห็นเขาแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ ๔ หมื่นล้านบาท นี่แสดงว่าเงินพร่องไป ๒ หมื่นบาทเลยเชียวหรือ

    ถาม
    อาจลดลง เพราะซุกหุ้นชินคอร์ปไว้กับคนรถ คนใช้แล้วก็ได้
    ตอบ
    เอาเถอะครับ เขาจะรวยมาก่อน รวยอย่างไร เห็นเขาลือกันว่ารวยมาจากคราวลดค่าเงินบาทก็ได้ จริงเท็จ ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ หลังตั้งพรรคลงเล่นการเมืองแล้ว เขาไม่ได้จนลงอย่างที่พูดเลย ก็แล้วกันครับ มันมีทั้งรวยโดยเปิดเผยและลับๆร่อๆ มาวันนี้ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างลับๆร่อๆอีก

    ถาม
    หมายความว่า นอกจากซุกหุ้นแล้ว มาวันนี้ทักษิณเขายังซุกตำแหน่งนายกฯ ไว้ในชื่อลูกด้วย อย่างนั้นหรือ มีประเทศไหนที่ผู้นำเป็นนายกฯโดยปกปิดชื่อไว้ครับ
    ตอบ
    มีประเทศไทยนี่แหละครับ นี่ผมก็รอดูผลสอบของ กกต.อยู่ทุกวันนะครับว่า ข้อหาทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยนี่ เขาสอบสวนกันไปถึงไหนแล้ว

    ถาม
    กกต.นี่น่าจะย่อมาจาก “กูกลอกตา ” ไม่รู้ไม่เห็นซะดีกว่า ไม่ไหวเลยทำงานกันช้าเหลือเกินครับ แล้วนี่บ้านเมืองจะไปทางไหนได้ มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี คนมีอำนาจก็ไม่ต้องรับผิดชอบ คนรับผิดชอบก็ไม่มีอำนาจ ให้สัมภาษณ์ทีไรก็เป็นเช่นสโนวไวท์ ต้องให้พี่เลี้ยงทั้ง ๗ ยืนลุ้นตาลุกโพลงคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา มาวันนี้ สโนว์ไวท์ปลาสติกนี้ก็ยังรวยลับๆร่อๆอีก
    ตอบ
    คุณรออ่าน “รวย..อย่างชินวัตร” ตอน ๒ : “รวยโดยมิชอบ” กับ ตอน ๓ : “รวยจนบ้านเมืองชิบหาย”
    แล้วกันครับ.
    ๗ ม.ค.๖๘ - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "รวย..อย่างชินวัตร" มีเนื้อหาดังนี้ ตอน ๑ : “รวยลับๆร่อๆ” ถาม มาดามแพ ผู้เป็นนายกฯ ทำมาหากินอะไร พอแจ้งทรัพย์สินแล้ว พบว่ารวยถึง ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท ตอบ ทรัพย์สินกองนี้ ในฐานะที่เคยตรวจสอบทรัพย์สินเมื่อครั้งเป็น คตส.มาก่อน ผมพบว่าที่น่าสนใจเป็นกองแรกเลยคือ หนี้สินกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท ที่ปรากฏตัวเจ้าหนี้เป็น คนในครอบครัวชินวัตร แทบทั้งนั้น จึงต้องตรวจสอบต่อไปให้ชัดว่ามาจากการซุกหุ้น เหมือนคราวทักษิณซุกหุ้นชินคอร์ป แล้วขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี ๒๕๔๔ หรือไม่ ถาม ซุกหุ้นคราวขึ้นเป็น นายกฯ นั้น ทักษิณเขาทำอย่างไร ตอบ เขาทำเป็นขายหุ้นชินคอร์ปที่ชินวัตรถืออยู่ ๔๙.๖ % ให้ลูกและน้องสาวจนหมด ราคาตลาดหุ้นละ ๑๕๐ บาท แต่ขายให้ในราคาทุน ๑๐ บาท ผู้ซื้อก็ทำหลักฐานว่าไม่มีตังค์ ต้องกู้เงินผู้ขายมาให้ผู้ขาย จากนั้นผู้ซื้อก็เปิดบัญชีรับเงินปันผลขึ้นมาโดยเฉพาะ เงินเข้าเมื่อใดก็ส่งให้ผู้ขายหมด อ้างว่าเป็นการผ่อนชำระค่าหุ้น ผ่อนไปทุกปีจนท่วมยอดเงินกู้เลย ภาพทางบัญชีอย่างนี้ คุณเชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้นจริงไหม ถาม ไม่เชื่อครับ มันเป็นแค่การเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นชินคอร์ปในหมู่ชินวัตร เพื่อให้หัวหน้าครอบครัวขึ้นเป็นนายกฯ โดยไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่มีชื่อถือหุ้นสัมปทานอีกต่อไปเท่านั้น ตอบ ในสภาพซุกหุ้นกันอย่างนี้ คุณว่าถ้าลูกทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ เขาจะต้องแจ้งทรัพย์สินอย่างไร ถาม แจ้งว่าถือหุ้นชินคอร์ป ขณะเดียวกันก็เป็นลูกหนี้เงินกู้จากพ่อด้วย ตอบ ถูกต้องครับ แจ้งเมื่อไหร่ภาพเด็กรวยเละ ที่ขึ้นเป็น นายกฯ ก็จะปรากฏให้งงกันทั้งประเทศว่ารวยได้อย่างไรกันในที่สุด ถ้าชินวัตรยังรวยแบบลับๆร่อๆอยู่จนทุกวันนี้ จริงอย่างที่ผมสงสัย ยอดหนี้สิน ๔,๐๐๐ ล้าน ในบัญชีทรัพย์สินวันนี้ของ มาดามแพ ที่ปรากฏเคียงข้างคู่กับยอดเงินลงทุนกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้าน จึงน่าสงสัยมากๆ ว่า ทรัพย์สินสองยอดนี้แท้ที่จริงแล้ว มาจากพฤติการณ์ที่มาดามแพถูกชินวัตรใช้ชื่อซุกหุ้นเป็นหมื่นล้านก็เป็นได้ คุณว่าใช่หรือไม่ ถาม ถ้าเป็นอย่างนี้ แท้จริงแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ หรือ เป็นลูกหนี้ใครเลยก็ได้ ปปช.มีอำนาจตรวจสอบไหมครับว่า บัญชีนี้จริงเท็จหรือไม่ ประการใด ตอบ ต้องตรวจหมดทุกกรณี ว่าได้หุ้นแต่ละก้อนมาอย่างไรจากใคร เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ใช่เงินกู้ก้อนนี้หรือไม่ คนให้กู้คือคนที่ขายหุ้นให้ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ ซตพ.ว่าซุกหุ้นแน่นอน ถาม มาดามแพ ยังมีชื่อถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์อยู่หรือไม่ครับ ตอบ ทราบข่าวว่าขายไปแล้ว ต้องสอบว่าคนซื้อเป็น นอมินีหรือเปล่า หุ้นอัลไพน์นี้โดนชินวัตรฟอกมาตลอด ตอนแรกเมื่อซื้อจากนายเสนาะ ก็ใช้ชื่อคนใช้ คนขับรถ ถือหุ้นก่อน หลังเกิดคดีซุกหุ้นชินคอร์ป และลูกบรรลุนิติภาวะ ถึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อมาดามแพ แล้วเปลี่ยนไปอีกเมื่อมาดามโผล่มาเล่นการเมืองในที่สุด ถาม นอกจากหุ้นชินคอร์ป หุ้นอัลไพน์แล้ว มีหุ้นอื่นอีกไหมครับ ตอบ ก็มีหุ้นธนาคารทหารไทยอีกก้อน ที่พอธนาคารซวดเซในปี ๒๕๔๕ จนกระทรวงการคลังต้องวางแผนอัดเงินเพิ่มให้หมื่นล้าน โดยจะให้ควบรวมกับไอเอฟซีทีด้วย แต่ปรากฏว่าก่อนจะลงมือจริง ก็มีการนำเงินปันผลชินคอร์ปของชินวัตร ๔๐๐ ล้านบาท ที่อยู่ในบัญชีธนาคารของโอ๊ค ไปช้อนซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยขนานใหญ่ ในชื่อโอ๊คเสียก่อน จากนั้นพอกระทรวงคลังอัดเงินและควบรวมแล้ว ราคาหุ้นก็พุ่งสูงลิ่ว แต่ครั้นผลการประเมินภายใน พบว่าผลประกอบการธนาคารไม่กระเตื้อง ชินวัตรก็ออกตัวเร่งทะยอยขายหุ้นธนาคารทหารไทยของชินวัตรในชื่อโอ๊คจนหมด พอหุ้นร่วง แมงเม่าปีกไหม้หมด ก็มีแต่ชินวัตรกำไรอยู่เจ้าเดียวรวม ๗๐ ล้านบาท ถาม เห็นตอนควบไอเอฟซีที ก็มีการขายตึกไอเอฟซีที ให้คุณหญิงชินวัตร ด้วยใช่ไหมครับ ตอบ ครับ เขาซื้อไปในราคา ๔๒๐ ล้านบาท ต่ำกว่าตลาด ๑๐๐ ล้าน แล้วเอามาให้พรรคชินวัตร ชื่อไทยรักไทยเช่าอยู่จนทุกวันนี้ ถาม ทราบว่าตอนขายหุ้นชินคอร์ปยกล้อต ให้เทมาเส็คเมื่อปี ๒๕๔๙ นั้น ก็รวยลับๆร่อๆ กันอีกหรือครับ ตอบ ชินวัตรเขาไปจดทะเบียนตั้งบริษัทที่เกาะฟอกเงินชื่อ บริติชเวอร์จิ้น ตั้งเป็นบริษัทชื่อ “วินมาร์ค”คอยเล่นหุ้นไทยอยู่ต่างประเทศผ่านธนาคารสิงค์โปร์ มาตลอด มาในปลายปี ๒๕๔๘ เมื่อให้ สส.ข้าทาสในสภาแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นโทรคมนาคมได้ ๔๙% จนทักษิณเจรจาตกลงเป็นการลับขายหุ้นยกล้อตให้เทมาเส็ค ในราคาหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาท จะได้เงินขายหุ้นโดยเปิดเผยกว่า ๗.๓ หมื่นล้านแล้ว ถึงตรงมกราคม ๒๕๔๙ นี้ ก็มีการลงมือรวยลับๆร่อๆอีก จนได้เงินไปเฉยๆอีกก้อนหนึ่ง เป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ถาม เขาทำอย่างไรครับ ตอบ ตามกฎหมายนั้น เมื่อเทมาเส็คซื้อหุ้นก้อนใหญ่ จนหุ้นเปลี่ยนมือถึง ๔๙% อย่างนี้ ก็ต้องตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นชินคอร์ปจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในราคาที่ซื้อจากชินวัตร คือหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาทด้วย แต่เมื่อชินวัตรทราบล่วงหน้า ก็เลยให้วินมาร์ค กว้านซื้อหุ้นชินคอร์ป เข้าบัญชีธนาคารในสิงค์โปร์ก่อนเป็นการใหญ่ ในราคาตลาดขณะนั้น ที่หุ้นละ ๓๙ บาท กว้านอยู่ ๑ เดือน จนถือหุ้นชินคอร์ปในมือได้ ๑๑๔ ล้านหุ้น พอประกาศซื้อขายและเปิดรับซื้อ เขาก็เอาหุ้นที่กวาดไว้ล่วงหน้ามาขาย ได้เงินที่รวยลับๆร่อๆ ฉกฉวยเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยไป รวมเป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ในที่สุด ถาม เห็นทักษิณเขาคุยที่เวทีเชียงรายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า ก่อนมาเล่นการเมืองเขาก็รวยที่สุดในประเทศไทย มีสินทรัพย์กว่า ๖ หมื่นล้านอยู่แล้ว ตอบ เมื่อขึ้นเป็นรองนายกฯในรัฐบาล พลเอก ชวลิต เมื่อ ปี ๒๕๔๐ ผมเห็นเขาแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ ๔ หมื่นล้านบาท นี่แสดงว่าเงินพร่องไป ๒ หมื่นบาทเลยเชียวหรือ ถาม อาจลดลง เพราะซุกหุ้นชินคอร์ปไว้กับคนรถ คนใช้แล้วก็ได้ ตอบ เอาเถอะครับ เขาจะรวยมาก่อน รวยอย่างไร เห็นเขาลือกันว่ารวยมาจากคราวลดค่าเงินบาทก็ได้ จริงเท็จ ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ หลังตั้งพรรคลงเล่นการเมืองแล้ว เขาไม่ได้จนลงอย่างที่พูดเลย ก็แล้วกันครับ มันมีทั้งรวยโดยเปิดเผยและลับๆร่อๆ มาวันนี้ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างลับๆร่อๆอีก ถาม หมายความว่า นอกจากซุกหุ้นแล้ว มาวันนี้ทักษิณเขายังซุกตำแหน่งนายกฯ ไว้ในชื่อลูกด้วย อย่างนั้นหรือ มีประเทศไหนที่ผู้นำเป็นนายกฯโดยปกปิดชื่อไว้ครับ ตอบ มีประเทศไทยนี่แหละครับ นี่ผมก็รอดูผลสอบของ กกต.อยู่ทุกวันนะครับว่า ข้อหาทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยนี่ เขาสอบสวนกันไปถึงไหนแล้ว ถาม กกต.นี่น่าจะย่อมาจาก “กูกลอกตา ” ไม่รู้ไม่เห็นซะดีกว่า ไม่ไหวเลยทำงานกันช้าเหลือเกินครับ แล้วนี่บ้านเมืองจะไปทางไหนได้ มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี คนมีอำนาจก็ไม่ต้องรับผิดชอบ คนรับผิดชอบก็ไม่มีอำนาจ ให้สัมภาษณ์ทีไรก็เป็นเช่นสโนวไวท์ ต้องให้พี่เลี้ยงทั้ง ๗ ยืนลุ้นตาลุกโพลงคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา มาวันนี้ สโนว์ไวท์ปลาสติกนี้ก็ยังรวยลับๆร่อๆอีก ตอบ คุณรออ่าน “รวย..อย่างชินวัตร” ตอน ๒ : “รวยโดยมิชอบ” กับ ตอน ๓ : “รวยจนบ้านเมืองชิบหาย” แล้วกันครับ.
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘วัชรินทร์’ รอง อธ.อัยการสอบสวน เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" พร้อมเลขาฯ คดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เพิ่มเติม แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ เผยยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 15 ปาก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001772

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ‘วัชรินทร์’ รอง อธ.อัยการสอบสวน เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" พร้อมเลขาฯ คดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เพิ่มเติม แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ เผยยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 15 ปาก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001772 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 996 มุมมอง 1 รีวิว
  • ‘วัชรินทร์’ รอง อธ.อัยการสอบสวน เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" พร้อมเลขาฯ คดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เพิ่มเติม แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ เผยยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 15 ปาก

    วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี คณะทำงานอัยการเเละพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม ร่วมสอบสวนคดี นอกราชอาณาจักร ในคดีที่ นางจตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ฉ้อโกงฯร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

    โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงานคดีนอกราชอาณาจักร

    โดยวันนี้ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐินีพร้อมด้วย น.ส.ปัทมพร แสงฤทธิ์ หรือคุณน้อย เลขานุการส่วนตัวเดินทางมาตามนัดสอบสวนเพิ่มเติม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001772

    #MGROnline #เจ๊อ้อย #ทนายตั้ม #ฉ้อโกง #ฟอกเงิน
    ‘วัชรินทร์’ รอง อธ.อัยการสอบสวน เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" พร้อมเลขาฯ คดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เพิ่มเติม แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ เผยยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 15 ปาก • วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี คณะทำงานอัยการเเละพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม ร่วมสอบสวนคดี นอกราชอาณาจักร ในคดีที่ นางจตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ฉ้อโกงฯร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง • โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงานคดีนอกราชอาณาจักร • โดยวันนี้ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐินีพร้อมด้วย น.ส.ปัทมพร แสงฤทธิ์ หรือคุณน้อย เลขานุการส่วนตัวเดินทางมาตามนัดสอบสวนเพิ่มเติม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001772 • #MGROnline #เจ๊อ้อย #ทนายตั้ม #ฉ้อโกง #ฟอกเงิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ”อัจฉริยะ“ ยื่นร้อง ผบ.ตร.ตรวจสอบการถอนอายัดทรัพย์สินเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์กว่า 700 ล้านบาท โดยมีผบก.สังกัดบช.ไซเบอร์ ลงนามเซ็นคำสั่ง เชื่อมีการใช้อำนาจช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหา

    วันนี้ (6 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพๆงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ให้ตรวจสอบกรณีการถอนอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาเครือข่ายเ็บพนันออนไลน์ โดยเมื่อปี 2565 ครั้งนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล เป็นรอง ผบ.ตร.ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งได้อายัดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้รวมกว่า 700 ล้านบาท แต่ต่อมามีการดำเนินคดีกับหัวหน้าแก๊งที่เป็นชาวจีนในข้อหาปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนเพียงข้อหาเดียว แต่ไม่ดำเนินคดีหัวหน้าแก๊งและเครือข่ายที่เปิดเว็บพนันออนไลน์ อีกทั้งเครือข่ายนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการฟอกเงิน รวมไปถึงกลุ่มทุนจีนสีเทา แต่ทำไมตำรวจถึงยังถอนอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001400

    #MGROnline #อัจฉริยะ #ถอนอายัดทรัพย์สิน #เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
    ”อัจฉริยะ“ ยื่นร้อง ผบ.ตร.ตรวจสอบการถอนอายัดทรัพย์สินเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์กว่า 700 ล้านบาท โดยมีผบก.สังกัดบช.ไซเบอร์ ลงนามเซ็นคำสั่ง เชื่อมีการใช้อำนาจช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหา • วันนี้ (6 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพๆงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ให้ตรวจสอบกรณีการถอนอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาเครือข่ายเ็บพนันออนไลน์ โดยเมื่อปี 2565 ครั้งนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล เป็นรอง ผบ.ตร.ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งได้อายัดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้รวมกว่า 700 ล้านบาท แต่ต่อมามีการดำเนินคดีกับหัวหน้าแก๊งที่เป็นชาวจีนในข้อหาปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนเพียงข้อหาเดียว แต่ไม่ดำเนินคดีหัวหน้าแก๊งและเครือข่ายที่เปิดเว็บพนันออนไลน์ อีกทั้งเครือข่ายนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการฟอกเงิน รวมไปถึงกลุ่มทุนจีนสีเทา แต่ทำไมตำรวจถึงยังถอนอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001400 • #MGROnline #อัจฉริยะ #ถอนอายัดทรัพย์สิน #เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีคนเรียกร้องมากมาย ว่าทำไม เรื่องฟอกเงิน ยังไม่แตะต้องวงการพระ...เพราะวงการนี้ มัน รุ่น เฮฟวี่เวท..ต่างจากวงการอื่นๆ ...ซึ่งเป็นละอ่อนน้อย..ที่ชอบโชว์..มือไม้เส้นสาย ศักยภาพ คนละเรื่องเลย.
    มีคนเรียกร้องมากมาย ว่าทำไม เรื่องฟอกเงิน ยังไม่แตะต้องวงการพระ...เพราะวงการนี้ มัน รุ่น เฮฟวี่เวท..ต่างจากวงการอื่นๆ ...ซึ่งเป็นละอ่อนน้อย..ที่ชอบโชว์..มือไม้เส้นสาย ศักยภาพ คนละเรื่องเลย.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวเลขที่น่าทึ่งมาก—ผู้คนทั่วโลกกว่า 420 ล้านคนเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัล และแนวโน้มนี้ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ! ต่อไปนี้คือข้อมูลเชิงลึกที่น่าประหลาดใจจากสถิติการเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลล่าสุด:1️⃣ อินเดียเป็นผู้นำด้วยจำนวนเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 103 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเงินดิจิทัลกำลังปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่อย่างไร 2️⃣ ประเทศไทย (9.32%)ของจำนวนเจ้าของคริปโต 6.7ล้านคน และบราซิลกับปากีสถาน (6.40%) ตามมาใกล้ชิด ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศพัฒนาแล้วเท่านั้น 3️⃣ ไนจีเรียได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของสกุลเงินดิจิทัลของแอฟริกาอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้ 12.8 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังปฏิวัติการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนอย่างไร สกุลเงินดิจิทัลไม่ใช่แค่สินทรัพย์เท่านั้น เป็นการเคลื่อนไหวที่ปรับเปลี่ยนมุมมองของคนที่มีต่อเงิน อำนาจ และความเป็นเจ้าของ ตั้งแต่การลงทุนไปจนถึงการโอนเงิน กรณีการใช้งานนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ทำไมการนำคริปโตมาใช้จึงเพิ่มขึ้น• การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: ผู้คนในเศรษฐกิจเกิดใหม่มองหาทางเลือกอื่นแทนสกุลเงินเฟียตที่ผันผวน• การทำธุรกรรมไร้พรมแดน: ไม่มีตัวกลาง เพียงแค่มีโซลูชันที่เร็วกว่าและถูกกว่า!• นวัตกรรมฟินเทคที่กำลังเติบโต: แพลตฟอร์มทำให้คริปโตเข้าถึงได้แม้กระทั่งบุคคลที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นที่สังเกตว่าการใช้งานคริปโตเป็นโอกาสของนักลงทุนโลกสีเทาที่มั่งคั่งร่ำรวยจากการฟอกเงินที่ได้จากคอรัปชั่นหรือมาจากขบวนการแก๊ง call center จากบ่อนการพนัน หรือการเรียกค่าไถ่ มัลแวร์ และมาจากการค้าสิ่งผิดกฎหมาย ที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินไม่ได้
    ตัวเลขที่น่าทึ่งมาก—ผู้คนทั่วโลกกว่า 420 ล้านคนเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัล และแนวโน้มนี้ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ! ต่อไปนี้คือข้อมูลเชิงลึกที่น่าประหลาดใจจากสถิติการเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลล่าสุด:1️⃣ อินเดียเป็นผู้นำด้วยจำนวนเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 103 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเงินดิจิทัลกำลังปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่อย่างไร 2️⃣ ประเทศไทย (9.32%)ของจำนวนเจ้าของคริปโต 6.7ล้านคน และบราซิลกับปากีสถาน (6.40%) ตามมาใกล้ชิด ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศพัฒนาแล้วเท่านั้น 3️⃣ ไนจีเรียได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของสกุลเงินดิจิทัลของแอฟริกาอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้ 12.8 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังปฏิวัติการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนอย่างไร สกุลเงินดิจิทัลไม่ใช่แค่สินทรัพย์เท่านั้น เป็นการเคลื่อนไหวที่ปรับเปลี่ยนมุมมองของคนที่มีต่อเงิน อำนาจ และความเป็นเจ้าของ ตั้งแต่การลงทุนไปจนถึงการโอนเงิน กรณีการใช้งานนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ทำไมการนำคริปโตมาใช้จึงเพิ่มขึ้น• การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: ผู้คนในเศรษฐกิจเกิดใหม่มองหาทางเลือกอื่นแทนสกุลเงินเฟียตที่ผันผวน• การทำธุรกรรมไร้พรมแดน: ไม่มีตัวกลาง เพียงแค่มีโซลูชันที่เร็วกว่าและถูกกว่า!• นวัตกรรมฟินเทคที่กำลังเติบโต: แพลตฟอร์มทำให้คริปโตเข้าถึงได้แม้กระทั่งบุคคลที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นที่สังเกตว่าการใช้งานคริปโตเป็นโอกาสของนักลงทุนโลกสีเทาที่มั่งคั่งร่ำรวยจากการฟอกเงินที่ได้จากคอรัปชั่นหรือมาจากขบวนการแก๊ง call center จากบ่อนการพนัน หรือการเรียกค่าไถ่ มัลแวร์ และมาจากการค้าสิ่งผิดกฎหมาย ที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินไม่ได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองอธิบดีดีเอสไอ เผย ผลประชุมร่วม ตร. หลังรับคดีหมอบุญกับพวก เป็นคดีพิเศษ ตามความผิดแชร์ลูกโซ่-ฟอกเงิน เตรียมส่งสำนวนอัยการ ภายใน ม.ค.68

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000736

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รองอธิบดีดีเอสไอ เผย ผลประชุมร่วม ตร. หลังรับคดีหมอบุญกับพวก เป็นคดีพิเศษ ตามความผิดแชร์ลูกโซ่-ฟอกเงิน เตรียมส่งสำนวนอัยการ ภายใน ม.ค.68 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000736 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1400 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไตรรงค์ นำตร.ไซเบอร์ ปราบคอนเทนต์ขยะ ดับซ่า แอล โอรส
    .
    การตายสุดดราม่าของ “แบงค์ เลสเตอร์” ที่ตกเป็นเหยื่อของ “คอนเทนต์ขยะ” จนต้องสังเวยชีวิต
    ไปๆ มาๆ บานปลาย มีคนที่ต้องโดนคดีต่อเนื่องเป็นลูกโซ่
    .
    ไม่ใช่แค่แก๊งอินฟลูฯ เจ้าของคอนเทนต์ขยะเท่านั้น แต่ลามไปถึงคนที่เข้ามาล้างแค้นให้ แบงค์ เลสเตอร์ ด้วย
    .
    คนๆ นั้น ก็คือ นักเลงดังนาม “แอล โอรส” เจ้าของฉายา “รถถังฝั่งธน” ซึ่งปรากฏตัวที่วัดออเงิน ในงานศพวันแรกของแบงค์ เลสเตอร์ พร้อมกับชาวแก๊งตัวลายพร้อย
    แอล โอรส ประกาศจองกฐิน “เบิร์ด วันว่างๆ” กลางวัด โทษฐานที่เบิร์ดเป็นตัวพ่อของคอนเทนต์ขยะ ชอบเอาแบงค์ เลสเตอร์ เป็นตัวชูโรง
    .
    แม้ “เบิร์ด วันว่างๆ” จะนกรู้ไม่ยอมย่างกรายไปวัด แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รอดอยู่ดี โดนชาวแก๊ง ตามไปยำตีน ถ่ายคลิปเอามาแพร่
    .
    พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ เลยต้องออกโรง ใช้กฎหมายดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
    ไล่ตั้งแต่พวกทำคอนเทนต์ขยะ อย่าง “เบิร์ด วันว่างๆ” หรือนายธีระวัฒน์ ศรีรอง โดนข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีลักษณะอันลามก
    .
    เพราะตำรวจเจอหลักฐาน เบิร์ดโพสต์ภาพแบงค์ เลสเตอร์ โดนกลั่นแกล้งให้เปลือยกายล่อนจ้อน
    และ บก.ปคม. ก็จะจัดการ “เบิร์ด วันว่างๆ” ข้อหาค้ามนุษย์ด้วย เนื่องจากเห็นว่าได้รับประโยชน์โดยมิชอบ จากการแพร่ภาพเปลือยของแบงค์ เลสเตอร์
    .
    ส่วน “เอ็ม เอกชาติ” หรือนายเอกชาติ มีพร้อม ที่จ้างแบงค์ เลสเตอร์ กินเหล้า จนเสียชีวิต โดนข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
    พ่วงด้วยข้อหาโฆษณาเว็บพนัน เพราะมีพฤติกรรมแปะลิงค์เชิญชวนเล่นพนัน บนคอนเทนต์ขยะของตัว
    .
    ทั้งนี้ ประวัติของเอ็ม เอกชาติ เป็นคนสีเทาชัดเจน เคยถูก ป.ป.ง. ยึดทรัพย์รถซุเปอร์คาร์และอื่นๆ รวม 45 ล้านบาท
    จากพฤติกรรมเป็นเครือข่ายให้เว็บพนันของ “อั้ม” นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ สามีของนางเอก “แยม” ธมลพรรณ ซึ่งตอนนี้ สองผัวเมียก็ยังติดคุกคดีเว็บพนันอยู่
    .
    ตำรวจไซเบอร์ ยังตามไปจัดการนักเลงอย่างแอล โอรส หรือนายศราวุธ ศรีกำเนิด เอาผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการปล่อยคลิปยำตีนเบิร์ด วันว่างๆ
    .
    ส่วนตำรวจนครบาลก็มุ่งขยายผล เอาผิดข้อหาทำร้ายร่างกายเบิร์ด วันว่างๆ เบื้องต้น เหยื่อตีนอ้างว่า จำได้ มีใครบ้างที่ทำร้ายเขา
    .
    นี่คือบทบาทที่น่าชื่นชมของ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ผู้มาใหม่ อย่าง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ที่รีบใช้กฎหมายออกมาปรามอย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เหล่าคนสีเทา แสดงตัวครองเมือง จัดการกันเอง
    จนเป็น “คอนเทนต์ขยะ” ซ้อน “คอนเทนต์ขยะ” แบบว่า มึงรังแกคนอ่อนแอก่อนเหรอ กูก็จะมารังแกมึงมั่ง ถ่ายคลิปมั่ง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
    .
    ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ถือเป็นหน้าตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กล้าในการนำทีมบุกค้นบ้านของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ซึ่งชื่อชั้นใหญ่กว่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ อย่างเทียบกันไม่ได้
    .
    งานแบบนี้ ไม่กล้าหาญจริง ทำไม่ได้ และหากพยานหลักฐานไม่แน่นหนาเพียงพอจะมัดบิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ก็มีสิทธิ์ถูกเอาคืนถึงหมดอนาคต
    .
    แต่รู้ทั้งรู้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ก็กล้าเดินเข้าบ้านบิ๊กโจ๊ก และเก็บหลักฐานสำคัญในคดีฟอกเงินและรับส่วยเว็บพนัน กลับออกมาเพียบ
    .
    ทั้งนี้ การตายของแบงค์ เลสเตอร์ อย่างน้อยก็มีคุณูปการต่อสังคมไทย ไม่ใช่การตายที่สูญเปล่า
    เพราะช่วยเปิดโปงให้เห็นถึงเครือข่ายคนสีเทา ที่มีวิธีการปั่นกระแสด้วยชีวิตคน เพื่อโกยเงินจากการพนันออนไลน์
    .
    เปิดโอกาสให้ตำรวจไซเบอร์เข้าไปกวาดล้างคนสีเทาพวกนี้ ไม่ให้ลอยหน้าลอยตา เป็นคนเด่นดัง ทั้งที่ก่อกรรมทำเข็ญกับชีวิตคน และหากินกับความฉิบหายของลูกหลานไทย
    ..............
    Sondhi X
    ไตรรงค์ นำตร.ไซเบอร์ ปราบคอนเทนต์ขยะ ดับซ่า แอล โอรส . การตายสุดดราม่าของ “แบงค์ เลสเตอร์” ที่ตกเป็นเหยื่อของ “คอนเทนต์ขยะ” จนต้องสังเวยชีวิต ไปๆ มาๆ บานปลาย มีคนที่ต้องโดนคดีต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ . ไม่ใช่แค่แก๊งอินฟลูฯ เจ้าของคอนเทนต์ขยะเท่านั้น แต่ลามไปถึงคนที่เข้ามาล้างแค้นให้ แบงค์ เลสเตอร์ ด้วย . คนๆ นั้น ก็คือ นักเลงดังนาม “แอล โอรส” เจ้าของฉายา “รถถังฝั่งธน” ซึ่งปรากฏตัวที่วัดออเงิน ในงานศพวันแรกของแบงค์ เลสเตอร์ พร้อมกับชาวแก๊งตัวลายพร้อย แอล โอรส ประกาศจองกฐิน “เบิร์ด วันว่างๆ” กลางวัด โทษฐานที่เบิร์ดเป็นตัวพ่อของคอนเทนต์ขยะ ชอบเอาแบงค์ เลสเตอร์ เป็นตัวชูโรง . แม้ “เบิร์ด วันว่างๆ” จะนกรู้ไม่ยอมย่างกรายไปวัด แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รอดอยู่ดี โดนชาวแก๊ง ตามไปยำตีน ถ่ายคลิปเอามาแพร่ . พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ เลยต้องออกโรง ใช้กฎหมายดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไล่ตั้งแต่พวกทำคอนเทนต์ขยะ อย่าง “เบิร์ด วันว่างๆ” หรือนายธีระวัฒน์ ศรีรอง โดนข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีลักษณะอันลามก . เพราะตำรวจเจอหลักฐาน เบิร์ดโพสต์ภาพแบงค์ เลสเตอร์ โดนกลั่นแกล้งให้เปลือยกายล่อนจ้อน และ บก.ปคม. ก็จะจัดการ “เบิร์ด วันว่างๆ” ข้อหาค้ามนุษย์ด้วย เนื่องจากเห็นว่าได้รับประโยชน์โดยมิชอบ จากการแพร่ภาพเปลือยของแบงค์ เลสเตอร์ . ส่วน “เอ็ม เอกชาติ” หรือนายเอกชาติ มีพร้อม ที่จ้างแบงค์ เลสเตอร์ กินเหล้า จนเสียชีวิต โดนข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พ่วงด้วยข้อหาโฆษณาเว็บพนัน เพราะมีพฤติกรรมแปะลิงค์เชิญชวนเล่นพนัน บนคอนเทนต์ขยะของตัว . ทั้งนี้ ประวัติของเอ็ม เอกชาติ เป็นคนสีเทาชัดเจน เคยถูก ป.ป.ง. ยึดทรัพย์รถซุเปอร์คาร์และอื่นๆ รวม 45 ล้านบาท จากพฤติกรรมเป็นเครือข่ายให้เว็บพนันของ “อั้ม” นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ สามีของนางเอก “แยม” ธมลพรรณ ซึ่งตอนนี้ สองผัวเมียก็ยังติดคุกคดีเว็บพนันอยู่ . ตำรวจไซเบอร์ ยังตามไปจัดการนักเลงอย่างแอล โอรส หรือนายศราวุธ ศรีกำเนิด เอาผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการปล่อยคลิปยำตีนเบิร์ด วันว่างๆ . ส่วนตำรวจนครบาลก็มุ่งขยายผล เอาผิดข้อหาทำร้ายร่างกายเบิร์ด วันว่างๆ เบื้องต้น เหยื่อตีนอ้างว่า จำได้ มีใครบ้างที่ทำร้ายเขา . นี่คือบทบาทที่น่าชื่นชมของ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ผู้มาใหม่ อย่าง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ที่รีบใช้กฎหมายออกมาปรามอย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เหล่าคนสีเทา แสดงตัวครองเมือง จัดการกันเอง จนเป็น “คอนเทนต์ขยะ” ซ้อน “คอนเทนต์ขยะ” แบบว่า มึงรังแกคนอ่อนแอก่อนเหรอ กูก็จะมารังแกมึงมั่ง ถ่ายคลิปมั่ง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง . ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ถือเป็นหน้าตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กล้าในการนำทีมบุกค้นบ้านของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ซึ่งชื่อชั้นใหญ่กว่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ อย่างเทียบกันไม่ได้ . งานแบบนี้ ไม่กล้าหาญจริง ทำไม่ได้ และหากพยานหลักฐานไม่แน่นหนาเพียงพอจะมัดบิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ก็มีสิทธิ์ถูกเอาคืนถึงหมดอนาคต . แต่รู้ทั้งรู้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ก็กล้าเดินเข้าบ้านบิ๊กโจ๊ก และเก็บหลักฐานสำคัญในคดีฟอกเงินและรับส่วยเว็บพนัน กลับออกมาเพียบ . ทั้งนี้ การตายของแบงค์ เลสเตอร์ อย่างน้อยก็มีคุณูปการต่อสังคมไทย ไม่ใช่การตายที่สูญเปล่า เพราะช่วยเปิดโปงให้เห็นถึงเครือข่ายคนสีเทา ที่มีวิธีการปั่นกระแสด้วยชีวิตคน เพื่อโกยเงินจากการพนันออนไลน์ . เปิดโอกาสให้ตำรวจไซเบอร์เข้าไปกวาดล้างคนสีเทาพวกนี้ ไม่ให้ลอยหน้าลอยตา เป็นคนเด่นดัง ทั้งที่ก่อกรรมทำเข็ญกับชีวิตคน และหากินกับความฉิบหายของลูกหลานไทย .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1290 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดอะ สเตรท์สไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นางรอสมาห์ มันซอร์ ภรรยา วัย 72 ปีของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกำลังรับโทษในคดีทุจริตอยู่นั้น ถูกศาลสูงของมาเลเซียตัดสินให้พ้นผิดจากข้อหารวม 12 กระทงในคดีฟอกเงิน มูลค่า 7 ล้านริงกิต (ราว 53.8 ล้านบาท) และอีก 5 กระทงฐานไม่แจ้งรายได้ของตนเองต่อสรรพากร
    เดอะ สเตรท์สไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นางรอสมาห์ มันซอร์ ภรรยา วัย 72 ปีของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกำลังรับโทษในคดีทุจริตอยู่นั้น ถูกศาลสูงของมาเลเซียตัดสินให้พ้นผิดจากข้อหารวม 12 กระทงในคดีฟอกเงิน มูลค่า 7 ล้านริงกิต (ราว 53.8 ล้านบาท) และอีก 5 กระทงฐานไม่แจ้งรายได้ของตนเองต่อสรรพากร
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงาน ปปง. แถลงผลยึดอายัดทรัพย์ "ทนายตั้ม-พวก" ฐานฉ้อโกงปกติธุระและฟอกเงิน เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินในบัญชี 71 ล้าน ส่วน "ดิไอคอน" ขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 286 ล้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120707

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สำนักงาน ปปง. แถลงผลยึดอายัดทรัพย์ "ทนายตั้ม-พวก" ฐานฉ้อโกงปกติธุระและฟอกเงิน เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินในบัญชี 71 ล้าน ส่วน "ดิไอคอน" ขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 286 ล้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120707 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 784 มุมมอง 0 รีวิว
  • 13-12-67/01 : หมี CNN / คอลัมน์ใหม่ "หมีองค์ลง" EP.1 ด่าเฉพาะกิจ เหี้ยมา เหี้ยกลับ ไม่มีโกง ตบหน้าควายไทยบัดซบ ควายโลกตอแหล เอาให้สุดติ่งกระดิ่งหมีกันไปเลยทีเดียว!ไอ้อี ควายไทย ไทยบัดซบ ทั้ง 10 ล้านปรสิต 14 ล้านเดรัจฉาน มรึงอย่ามาตอแหลว่าไม่รู้ อีส้มจ้องล้มเจ้า อีแดงจ้องขายแผ่นดินแดร๊ก นโยบายพ่องไม่มีจริง รับงานเหี้ย CIA มาทั้งนั้น เมืองไทยไม่มีพรรคการเมือง มีแค่บริษัทรับจ้างขายชาติ ขายแผ่นดินเท่านั้น ผ่านกระบวนการที่เหี้ยมันตั้งขึ้นมาว่า "ประชาธิปไตยโคตรพ่อยิว" ไงล่ะ ไอ้สัส! มรึงเลือกตั้งกันไปสิ เหี้ยไป จัญไรมา ไม่รู้จบ เพราะเลือกตั้งคือการซื้อเสียง หมาแถวบ้านกูยังเอือม ใครตั้งระบบนี้ขึ้นมา เอาเสียงมรึงที่ซื้อ ไปใช้อำนาจเปลี่ยนกฎหมายเอื้อนายทุน เชื่อกูเหอะ อัตลักษณ์ของสยามประเทศ ไม่เคยปล่อยให้ชาติต้องล่มสลายด้วยมือควาย กองทัพมีไว้ทำไม มีเอาไว้กระทืบควายที่ขายชาติแดร๊ก มรึงดู ทัพฟ้า ทัพเรือ สะกิดติ่งเหี้ย ให้รู้ตัวแล้ว มรึงเตรียมเจอกูได้เลย ส่วนภาคประชาชน คนของพ่อ(ตัวจริง) พร้อมเอาส้นตรีนลูบหน้าไอ้อีเหี้ยเหลี่ยมขายชาติ ชาติหมาทั้งตระกูล ศึกสุดท้ายนี้ ไม่มีปราณี ต้องตายกันไปข้าง?อีทรัมปป์การละครมาเต็ม ดอดคุยอีเสี้ยนยา มรึงพอเหอะ แบ่งให้เค้าไปก็จบ ถามคำเดียว? มรึงมีสิทธิ์ตัดสินใจเหรอ? เกมส์ทุกอย่างอยู่ในมือปูติน จะขยี้ก็ตายโหง จะปล่อยก็รอด มรึงคิดว่าสู้กันมาเกือบ 3 ปี เพียงเพื่อรอให้มรึงไปจัดตั้งรัฐบาลใหม่โปรเหี้ยตะวันตกต่อจากอีเสี้ยนยาเหรอ? แล้วปัญหามันจะจบมั้ย? ปูตินไม่ใช่เพื่อนเล่นมรึง แต่เป็นพระเจ้าพวกมรึงต่างหาก? หากไม่ใช่โปรรัสเซียดูแลยูเครนต่อ ใครเค้าจะปล่อยให้มรึงทำต่อ ทั้งๆ ที่ กูชนะไปแล้ว อย่าการ์ตูนมากเกินไป เดี๋ยวเจอของจริงแล้วจะขี้แตก! แผ่นดินน่ะ เป็นของปูตินเดิมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องการต่อ คือขยายเข้ายุโรปกลาง ตีเหนือให้แตกกระจาย เดินท่อแก็สอาร์คติคเชื่อมทั้งทวีป พ่วงตะวันออกกลาง เอเซีย แอฟริกา โยงเส้นท่อแก็สทั่วโลก นี่ต่างหาก ที่เค้าเรียก "รุกฆาต" แดร๊กทั้งโลก มาทั้งที ไม่เอาแค่เศษชิ้นเนื้อดอก เค้ามองโลกทั้งใบไว้ก่อนแล้วดีออก! อย่างงี้ก็มีด้วย ตัวเองถูกถล่มเละเป็นโจ๊กคาบ้าน ดาหน้าบุกยึดซีเรียที่ร้าง อ้างชัยชนะ ไอ้เมืองที่ยึดเนี่ย มันคือชุมชนเคิร์กเก่าทั้งนั้น จัดฉาก ปูพรมรอนายใหญ่มา ออกสื่อ ชนะเบ็ดเสร็จ ถามจริง โรคตอแหลลงตับ รักษาไม่เคยหายซักกะที อะไรน่ะ กองทัพซีเรียตายห่าเกลี้ยงเรียบวุธ อ๋อ..ท่าจะจริง กูเห็นหมาตายเกลื่อนเลย คนหายไปไหนหมด! เผลอแป๊บเดียว ที่ราบสูงโกลาน ซัดกันนัว สื่อยิวบอกชนะ กูยึดได้แล้ว กูเก่งจุงเบย โลกอาหรับงง.. กูล้อมมรึงอยู่เห็นๆ จนมรึงกระดิกไม่ได้ ช่างกล้า? หลอกควายจนชิน พูดเหี้ยอะไรก็เชื่อหมด ควายมันเยอะจริงด้วย ทั้งโลกน่าจะมีเกิน 1000 ล้านตัว ตายไปบ้าง โลกคงจะเบาขึ้นเยอะ งั้นมาเชือดควายกันเต๊อะ ลดภาวะโลกเสื่อม ควายคือต้นเหตุของโลกเบี้ยว ไม่มีควาย(คน) โลกไปไกลแล้วรายการจัดฉากมาตรึม ใครอยู่ซีเรียล่ะ? อีเคิร์ก อีเหี้ยมะกัน และขี้ข้าเหี้ย C ทำไม อยู่ดีดี กองทัพไก่งวงบุกโรงงานตะลุยไล่เก็บพื้นที่แหล่งต้นทาง สารตั้งต้น ผลิตยาเสพติด นี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุนึง ที่ย้ายอัสซาดออกไป กวาดล้างบางแหล่งฟอกเงินเหี้ยยิวทั้งหมด ส่งขายยาเสพติด ตอนอยู่อัฟกานิสถาน มรึงก็ไปปลูกไร่ฝิ่นบนภูเขาทั้งลูก มาอยู่ซีเรียก็ทำเหมือนเดิม อีสื่อ CIA รีบเครมทันที หลอกควายหน้าโง่ตัวเดิม ซีเรียคือแหล่งผลิตยาเสพติดที่อัสซาดส่งออก ใครมันจะบอกว่าเป็นของพวกกูกันล่ะ? เชื่อปุ๊บ กลายร่างเป็นควายทันที เพราะควายมันหลอกง่าย มันไม่มีสมอง เกิดมาแค่สืบพันธุ์ควายเท่านั้น ใครชี้เป้าล่ะ ให้กองทัพไก่งวงเข้าไปยึดโรงงานผลิต? ภาพเริ่มชัดขึ้นรึยัง? ว่าทำไม ต้องเป็น กองทัพ ออตโตมาน เท่านั้น หิวแสงจัดให้ ทลายแหล่งฟอกเงินยิว ขอให้บอก ถึงปุ๊บ ทลายปั๊บ ผลงานเข้าตาไทยซ้อมรบไม่มีอะไรมาก แค่ทหารไทยมันเหงา เมื่อยตรีน ไม่ได้กระทืบเหี้ยมานาน อีขะแมร์ อีหม่อง นั่นแค่หางแถว ระดับกองทัพเค้าคุยกัน อย่าล้ำเส้น ละครปาหี่มารายวัน ใครมันจะกล้าท้าชนเพ่ไทย ของเค้าแข็งโป๊ก ย้ำอีกที เผื่อควายไม่รู้ กองทัพไทยในพ่อร.10 แข็งโป๊กยิ่งกว่าหินผา วินัยขั้นเทพ กล้า ใจถึง กว่าที่เพื่อนบ้านจะคาดเดา ไม่ว่าไอ้อีหน้าไหน ทั้งพรรคการเมือง ขี้ข้าเหี้ย CIA เพื่อนบ้านหิวแสง ทั้งหมด แค่ "ขี้ตรีน" ไม่อยากจะบอกว่า อาวุธใหม่ รัสเซีย จีน เค้าเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว หากจะลุย ปักกิ่ง มอสโคว์ จัดไม่อั้น ในความโชคร้ายมักจะมีสิ่งดีดีซ่อนอยู่เสมอ ลองคิดมุมกลับ หากเหี้ยมันไม่เดินสุดซอย มรึงจะได้ปฎิวัติแผ่นดิน ผลัดใบใหม่หรือไม่? ทุกแผนการรบ ล้วนมีเป้าหมายทั้งสิ้น ซีเรียต้องชำระล้าง เพราะเหี้ยมีเยอะเกินไป ส่วนไทยเรา บีบให้เหี้ยเผยร่างแท้จริงออกมา แนวร่วมถึงจะมาหมดทั้งแผ่นดิน ไอ้ที่ต้องลุ้น ไม่ใช่ชัยชนะ เพราะมันชนะชัวร์ ชนะแบเบอร์ แต่ที่ให้ดูคือ จบงานนี้ ควายไทย ไทยบัดซบ จะกลายร่างกลับมาเป็นคนได้ซักเท่าไหร่ อยากให้มันตื่น เอาเพจหมี CNN ให้มันอ่านเยอะๆ เผื่อพอจะมีบุญกับเค้าบ้าง ได้แจ้งเกิด อีควาย 20 กว่าล้าน มันเลือกเอาเอง จะเป็นขยะสังคม หรือจะเป็นคนของพ่อมรึงเห็นยัง? พอซีเรียผลัดใบ เล่นแร่แปรวิญญานปุ๊บ อัฟกานิสถาน ระเบิดพลีชีพก็มาทันที มรึงเห็นรึยัง? ว่าทั้งโลก ทุกชาติพันธุ์ ไม่ได้สู้กับคนในชาติ แต่สู้กับเหี้ยตัวเดียวที่อยู่เบื้องหลังความเหี้ยอัปรีย์ทั้งหมด นั่นคือ CIA ควายรับดอลล่าร์ คนรับหยวน รูเบิล กูแปลให้เสร็จ เมื่อยิวรู้ดีว่าจะต้องย้ายบ้าน สิ่งเดียวที่มันคิดคือ "ทำลายทุกอย่างให้ราบคาบ" มรึงจะก่อ WWIII ได้จริง ต้องออกโรงเอง และต้องแรงพอ ที่จะทำให้จีน รัสเซีย กดปุ่มล้างโคตรเหี้ยมรึงได้ แปลว่าอะไร เหี้ยมันปอดแหก ใจไม่ถึง เกมส์ถึงคาราคาซังอยู่อย่างงี้ จีน รัสเซีย ก็เมตตา สงสาร ถึงได้ช่วยเปิดทางให้มรึงเข้ามาตายไงล่ะ จะได้หาเหตุมาประลองส้นตรีนกันดู หมีไม่ห่วงซีเรีย ไอ้ที่ต้องห่วงคือ "เยรูซาเล็ม" ต่างหาก พอยิวมันแตก มรึงคิดเอาเอง 20 ล้านตัว จะหนีไปไหน 1 ในนั้น คือสยามประเทศชัวร์ เพ่น้องมุสลิมภาคใต้ก็รู้ เค้ามีวิธีจัดการของเค้า หน่วยข่าวกรองถึงกันหมด มรึงคิดว่าอิหร่านมาทำอะไรในเมืองไทยกันล่ะ? เค้าตามเฉพาะกิจ ไอ้พวกยิวเหี้ยมาช้านาน จับตาการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด เราไม่ต้องลงมือ ปล่อยเค้าจัดการภายในกันเอง นิ่งเสียตำลึงทองปล.จับตาดู อีแอร์โดกันได้แจ้งเกิด หลังปูตินไฟเขียว แผนรวมโลกเป็นหนึ่งเดียว อีไก่งวงมีส่วนปกครองบางภูมิภาคในแอฟริกา และบางส่วนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ความฝันกองทัพออตโตมานอันยิ่งใหญ่ กำลังจะได้กลับมาอีกครั้ง แต่ทั้งหมด ต้องอยู่ในกรอบที่ขั้วใหม่เดินร่วมกัน ใครยังคิดล่าอาณานิคมเหมือนยุคเหี้ยแบบเก่าอยู่ มรึงถูกถีบออกชัวร์ ปูตินรู้ดีว่า ต้องใช้ใคร ตอนไหน? เสร็จศึกแบ่งเค็ก วินวินทุกฝ่าย ชาติที่เสียผลประโยชน์คือตะวันตก ช่วงเวลานี้ พูดสั้นๆ คือ กองตุรกี ปะทะกองทัพอิสราเอลและขี้ข้า SAVE ทหารรัสเซีย จีน ซีเรีย อิหร่าน เชิญมรึงสวิงกิ้งกันให้เต็มที่ ขั้วใหม่รออเมริกา อังกฤษ เดินเข้าสู่เกมส์เชือดตัวเอง ฆ่าทางเศรษฐกิจก็เรื่อง แต่จะให้จบอย่างสมบูรณ์ยิ่งใหญ่ อเมริกา อังกฤษ ต้องตาย เพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง ให้ขี้ข้าดู อย่ามาแหยมกับขั้วใหม่เด็ดขาด สภาพวันนี้ มีแต่ข่าวปลอมซะมาก หาความจริงยากยิ่งนัก เพราะสงครามข่าวสารมันปูพื้นมานาน ชัยชนะแท้จริง ไม่ใช่บนสนามรบ แต่เป็นใครที่กำหนดทิศทางโลกได้จริงต่างหากล่ะ? ปล.2 อยากให้ดูผลแห่งกรรม ช่องห่าเหี้ยอะไรที่เคยหาแดร๊ก รับใช้เหี้ย C ดาหน้ากันเลิกจ้าง สปอนเซอร์ไม่เข้า อีปอ อย่าคิดว่ากูไม่รู้น่ะ มรึงอย่าตีเนียน ใครอนุญาตให้อี 3 ชึก แต่งชุดเลียนแบบพ่อท่าน เป็นเจ้าของ มีเหรอไม่รู้ว่าทำอะไร? กูจดชื่อมรึงในบัญชีหนังหมาไว้แล้ว ภาพลักษณ์ดูดี ไส้ในเนรคุณ บาปกรรมตามทัน สื่อเจ๊งเพี๊ยบ เป็นไงล่ะ ปชต.หอมหวล คดีเก่าถูกรื้อจนสิ้น "แตงโมคืนชีพ" ตบหน้าไอ้อีกากีหาแดร๊ก แก้ผิดเป็นถูก ฆาตกร 100% จัดฉากมั่ว จนลืมซะเอง งานนี้ โดนกันทั้งโรงพัก ไอ้ตัวฆาตกร เสี่ยขาใหญ่ไม่รอด อีแม่ที่ห่วงแต่จะแดร๊ก วิญญานพ่อแตงโม มาทวงความยุติธรรมให้ลูกแล้ว อ.ปานเทพ องค์ลง แฉยับ หลักฐานมี ไม่ต้องแถ หมอยอมใจ ทนไม่ไหวแล้ว เปิดหมดเปลือก ใครแต่ง ใครจัดฉาก ไส้สาวออกมาหมดเกลี้ยง ปลายกลียุค เหี้ยต้องพร้อมเดินกลับสู่ขุมนรกที่จากมา มรึงฆ่าแตงโมได้ แต่มรึงฆ่าความจริงไม่ได้ เรื่องนี้ มหากาพย์ของจริง อาจติดคุกกันเป็น 10 ราย ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ยันไปถึงคนในรับงาน งานนี้ ศาลเชือด ไร้ความปราณี!หมี CNN(ช่วงนี้ของมันแรง วิญญานผีห่าซาตาน ดิ้นพล่าน ได้เวลากวักมือเรียกเจ้ากรรมนายเวรมาชดใช้ เวลาตายไป ไม่มีใครรู้ดอกว่า วิญญานมรึงจะถูกเอาไปทรมานที่ไหน เพราะคนดีดี เค้าไม่มีวันได้ลงไปเยี่ยมมรึง สงครามเป็นแค่เครื่องมือผลัดเปลี่ยน โลกความเป็นจริงคือ มรึงอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้ หากไม่พึ่งพาอาศัยกัน โลกอยู่เหมือนเดิม คนต่างหากที่เปลี่ยนไป ตามกาลเวลา)13 ธันวาคม 6711.48 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    13-12-67/01 : หมี CNN / คอลัมน์ใหม่ "หมีองค์ลง" EP.1 ด่าเฉพาะกิจ เหี้ยมา เหี้ยกลับ ไม่มีโกง ตบหน้าควายไทยบัดซบ ควายโลกตอแหล เอาให้สุดติ่งกระดิ่งหมีกันไปเลยทีเดียว!ไอ้อี ควายไทย ไทยบัดซบ ทั้ง 10 ล้านปรสิต 14 ล้านเดรัจฉาน มรึงอย่ามาตอแหลว่าไม่รู้ อีส้มจ้องล้มเจ้า อีแดงจ้องขายแผ่นดินแดร๊ก นโยบายพ่องไม่มีจริง รับงานเหี้ย CIA มาทั้งนั้น เมืองไทยไม่มีพรรคการเมือง มีแค่บริษัทรับจ้างขายชาติ ขายแผ่นดินเท่านั้น ผ่านกระบวนการที่เหี้ยมันตั้งขึ้นมาว่า "ประชาธิปไตยโคตรพ่อยิว" ไงล่ะ ไอ้สัส! มรึงเลือกตั้งกันไปสิ เหี้ยไป จัญไรมา ไม่รู้จบ เพราะเลือกตั้งคือการซื้อเสียง หมาแถวบ้านกูยังเอือม ใครตั้งระบบนี้ขึ้นมา เอาเสียงมรึงที่ซื้อ ไปใช้อำนาจเปลี่ยนกฎหมายเอื้อนายทุน เชื่อกูเหอะ อัตลักษณ์ของสยามประเทศ ไม่เคยปล่อยให้ชาติต้องล่มสลายด้วยมือควาย กองทัพมีไว้ทำไม มีเอาไว้กระทืบควายที่ขายชาติแดร๊ก มรึงดู ทัพฟ้า ทัพเรือ สะกิดติ่งเหี้ย ให้รู้ตัวแล้ว มรึงเตรียมเจอกูได้เลย ส่วนภาคประชาชน คนของพ่อ(ตัวจริง) พร้อมเอาส้นตรีนลูบหน้าไอ้อีเหี้ยเหลี่ยมขายชาติ ชาติหมาทั้งตระกูล ศึกสุดท้ายนี้ ไม่มีปราณี ต้องตายกันไปข้าง?อีทรัมปป์การละครมาเต็ม ดอดคุยอีเสี้ยนยา มรึงพอเหอะ แบ่งให้เค้าไปก็จบ ถามคำเดียว? มรึงมีสิทธิ์ตัดสินใจเหรอ? เกมส์ทุกอย่างอยู่ในมือปูติน จะขยี้ก็ตายโหง จะปล่อยก็รอด มรึงคิดว่าสู้กันมาเกือบ 3 ปี เพียงเพื่อรอให้มรึงไปจัดตั้งรัฐบาลใหม่โปรเหี้ยตะวันตกต่อจากอีเสี้ยนยาเหรอ? แล้วปัญหามันจะจบมั้ย? ปูตินไม่ใช่เพื่อนเล่นมรึง แต่เป็นพระเจ้าพวกมรึงต่างหาก? หากไม่ใช่โปรรัสเซียดูแลยูเครนต่อ ใครเค้าจะปล่อยให้มรึงทำต่อ ทั้งๆ ที่ กูชนะไปแล้ว อย่าการ์ตูนมากเกินไป เดี๋ยวเจอของจริงแล้วจะขี้แตก! แผ่นดินน่ะ เป็นของปูตินเดิมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องการต่อ คือขยายเข้ายุโรปกลาง ตีเหนือให้แตกกระจาย เดินท่อแก็สอาร์คติคเชื่อมทั้งทวีป พ่วงตะวันออกกลาง เอเซีย แอฟริกา โยงเส้นท่อแก็สทั่วโลก นี่ต่างหาก ที่เค้าเรียก "รุกฆาต" แดร๊กทั้งโลก มาทั้งที ไม่เอาแค่เศษชิ้นเนื้อดอก เค้ามองโลกทั้งใบไว้ก่อนแล้วดีออก! อย่างงี้ก็มีด้วย ตัวเองถูกถล่มเละเป็นโจ๊กคาบ้าน ดาหน้าบุกยึดซีเรียที่ร้าง อ้างชัยชนะ ไอ้เมืองที่ยึดเนี่ย มันคือชุมชนเคิร์กเก่าทั้งนั้น จัดฉาก ปูพรมรอนายใหญ่มา ออกสื่อ ชนะเบ็ดเสร็จ ถามจริง โรคตอแหลลงตับ รักษาไม่เคยหายซักกะที อะไรน่ะ กองทัพซีเรียตายห่าเกลี้ยงเรียบวุธ อ๋อ..ท่าจะจริง กูเห็นหมาตายเกลื่อนเลย คนหายไปไหนหมด! เผลอแป๊บเดียว ที่ราบสูงโกลาน ซัดกันนัว สื่อยิวบอกชนะ กูยึดได้แล้ว กูเก่งจุงเบย โลกอาหรับงง.. กูล้อมมรึงอยู่เห็นๆ จนมรึงกระดิกไม่ได้ ช่างกล้า? หลอกควายจนชิน พูดเหี้ยอะไรก็เชื่อหมด ควายมันเยอะจริงด้วย ทั้งโลกน่าจะมีเกิน 1000 ล้านตัว ตายไปบ้าง โลกคงจะเบาขึ้นเยอะ งั้นมาเชือดควายกันเต๊อะ ลดภาวะโลกเสื่อม ควายคือต้นเหตุของโลกเบี้ยว ไม่มีควาย(คน) โลกไปไกลแล้วรายการจัดฉากมาตรึม ใครอยู่ซีเรียล่ะ? อีเคิร์ก อีเหี้ยมะกัน และขี้ข้าเหี้ย C ทำไม อยู่ดีดี กองทัพไก่งวงบุกโรงงานตะลุยไล่เก็บพื้นที่แหล่งต้นทาง สารตั้งต้น ผลิตยาเสพติด นี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุนึง ที่ย้ายอัสซาดออกไป กวาดล้างบางแหล่งฟอกเงินเหี้ยยิวทั้งหมด ส่งขายยาเสพติด ตอนอยู่อัฟกานิสถาน มรึงก็ไปปลูกไร่ฝิ่นบนภูเขาทั้งลูก มาอยู่ซีเรียก็ทำเหมือนเดิม อีสื่อ CIA รีบเครมทันที หลอกควายหน้าโง่ตัวเดิม ซีเรียคือแหล่งผลิตยาเสพติดที่อัสซาดส่งออก ใครมันจะบอกว่าเป็นของพวกกูกันล่ะ? เชื่อปุ๊บ กลายร่างเป็นควายทันที เพราะควายมันหลอกง่าย มันไม่มีสมอง เกิดมาแค่สืบพันธุ์ควายเท่านั้น ใครชี้เป้าล่ะ ให้กองทัพไก่งวงเข้าไปยึดโรงงานผลิต? ภาพเริ่มชัดขึ้นรึยัง? ว่าทำไม ต้องเป็น กองทัพ ออตโตมาน เท่านั้น หิวแสงจัดให้ ทลายแหล่งฟอกเงินยิว ขอให้บอก ถึงปุ๊บ ทลายปั๊บ ผลงานเข้าตาไทยซ้อมรบไม่มีอะไรมาก แค่ทหารไทยมันเหงา เมื่อยตรีน ไม่ได้กระทืบเหี้ยมานาน อีขะแมร์ อีหม่อง นั่นแค่หางแถว ระดับกองทัพเค้าคุยกัน อย่าล้ำเส้น ละครปาหี่มารายวัน ใครมันจะกล้าท้าชนเพ่ไทย ของเค้าแข็งโป๊ก ย้ำอีกที เผื่อควายไม่รู้ กองทัพไทยในพ่อร.10 แข็งโป๊กยิ่งกว่าหินผา วินัยขั้นเทพ กล้า ใจถึง กว่าที่เพื่อนบ้านจะคาดเดา ไม่ว่าไอ้อีหน้าไหน ทั้งพรรคการเมือง ขี้ข้าเหี้ย CIA เพื่อนบ้านหิวแสง ทั้งหมด แค่ "ขี้ตรีน" ไม่อยากจะบอกว่า อาวุธใหม่ รัสเซีย จีน เค้าเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว หากจะลุย ปักกิ่ง มอสโคว์ จัดไม่อั้น ในความโชคร้ายมักจะมีสิ่งดีดีซ่อนอยู่เสมอ ลองคิดมุมกลับ หากเหี้ยมันไม่เดินสุดซอย มรึงจะได้ปฎิวัติแผ่นดิน ผลัดใบใหม่หรือไม่? ทุกแผนการรบ ล้วนมีเป้าหมายทั้งสิ้น ซีเรียต้องชำระล้าง เพราะเหี้ยมีเยอะเกินไป ส่วนไทยเรา บีบให้เหี้ยเผยร่างแท้จริงออกมา แนวร่วมถึงจะมาหมดทั้งแผ่นดิน ไอ้ที่ต้องลุ้น ไม่ใช่ชัยชนะ เพราะมันชนะชัวร์ ชนะแบเบอร์ แต่ที่ให้ดูคือ จบงานนี้ ควายไทย ไทยบัดซบ จะกลายร่างกลับมาเป็นคนได้ซักเท่าไหร่ อยากให้มันตื่น เอาเพจหมี CNN ให้มันอ่านเยอะๆ เผื่อพอจะมีบุญกับเค้าบ้าง ได้แจ้งเกิด อีควาย 20 กว่าล้าน มันเลือกเอาเอง จะเป็นขยะสังคม หรือจะเป็นคนของพ่อมรึงเห็นยัง? พอซีเรียผลัดใบ เล่นแร่แปรวิญญานปุ๊บ อัฟกานิสถาน ระเบิดพลีชีพก็มาทันที มรึงเห็นรึยัง? ว่าทั้งโลก ทุกชาติพันธุ์ ไม่ได้สู้กับคนในชาติ แต่สู้กับเหี้ยตัวเดียวที่อยู่เบื้องหลังความเหี้ยอัปรีย์ทั้งหมด นั่นคือ CIA ควายรับดอลล่าร์ คนรับหยวน รูเบิล กูแปลให้เสร็จ เมื่อยิวรู้ดีว่าจะต้องย้ายบ้าน สิ่งเดียวที่มันคิดคือ "ทำลายทุกอย่างให้ราบคาบ" มรึงจะก่อ WWIII ได้จริง ต้องออกโรงเอง และต้องแรงพอ ที่จะทำให้จีน รัสเซีย กดปุ่มล้างโคตรเหี้ยมรึงได้ แปลว่าอะไร เหี้ยมันปอดแหก ใจไม่ถึง เกมส์ถึงคาราคาซังอยู่อย่างงี้ จีน รัสเซีย ก็เมตตา สงสาร ถึงได้ช่วยเปิดทางให้มรึงเข้ามาตายไงล่ะ จะได้หาเหตุมาประลองส้นตรีนกันดู หมีไม่ห่วงซีเรีย ไอ้ที่ต้องห่วงคือ "เยรูซาเล็ม" ต่างหาก พอยิวมันแตก มรึงคิดเอาเอง 20 ล้านตัว จะหนีไปไหน 1 ในนั้น คือสยามประเทศชัวร์ เพ่น้องมุสลิมภาคใต้ก็รู้ เค้ามีวิธีจัดการของเค้า หน่วยข่าวกรองถึงกันหมด มรึงคิดว่าอิหร่านมาทำอะไรในเมืองไทยกันล่ะ? เค้าตามเฉพาะกิจ ไอ้พวกยิวเหี้ยมาช้านาน จับตาการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด เราไม่ต้องลงมือ ปล่อยเค้าจัดการภายในกันเอง นิ่งเสียตำลึงทองปล.จับตาดู อีแอร์โดกันได้แจ้งเกิด หลังปูตินไฟเขียว แผนรวมโลกเป็นหนึ่งเดียว อีไก่งวงมีส่วนปกครองบางภูมิภาคในแอฟริกา และบางส่วนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ความฝันกองทัพออตโตมานอันยิ่งใหญ่ กำลังจะได้กลับมาอีกครั้ง แต่ทั้งหมด ต้องอยู่ในกรอบที่ขั้วใหม่เดินร่วมกัน ใครยังคิดล่าอาณานิคมเหมือนยุคเหี้ยแบบเก่าอยู่ มรึงถูกถีบออกชัวร์ ปูตินรู้ดีว่า ต้องใช้ใคร ตอนไหน? เสร็จศึกแบ่งเค็ก วินวินทุกฝ่าย ชาติที่เสียผลประโยชน์คือตะวันตก ช่วงเวลานี้ พูดสั้นๆ คือ กองตุรกี ปะทะกองทัพอิสราเอลและขี้ข้า SAVE ทหารรัสเซีย จีน ซีเรีย อิหร่าน เชิญมรึงสวิงกิ้งกันให้เต็มที่ ขั้วใหม่รออเมริกา อังกฤษ เดินเข้าสู่เกมส์เชือดตัวเอง ฆ่าทางเศรษฐกิจก็เรื่อง แต่จะให้จบอย่างสมบูรณ์ยิ่งใหญ่ อเมริกา อังกฤษ ต้องตาย เพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง ให้ขี้ข้าดู อย่ามาแหยมกับขั้วใหม่เด็ดขาด สภาพวันนี้ มีแต่ข่าวปลอมซะมาก หาความจริงยากยิ่งนัก เพราะสงครามข่าวสารมันปูพื้นมานาน ชัยชนะแท้จริง ไม่ใช่บนสนามรบ แต่เป็นใครที่กำหนดทิศทางโลกได้จริงต่างหากล่ะ? ปล.2 อยากให้ดูผลแห่งกรรม ช่องห่าเหี้ยอะไรที่เคยหาแดร๊ก รับใช้เหี้ย C ดาหน้ากันเลิกจ้าง สปอนเซอร์ไม่เข้า อีปอ อย่าคิดว่ากูไม่รู้น่ะ มรึงอย่าตีเนียน ใครอนุญาตให้อี 3 ชึก แต่งชุดเลียนแบบพ่อท่าน เป็นเจ้าของ มีเหรอไม่รู้ว่าทำอะไร? กูจดชื่อมรึงในบัญชีหนังหมาไว้แล้ว ภาพลักษณ์ดูดี ไส้ในเนรคุณ บาปกรรมตามทัน สื่อเจ๊งเพี๊ยบ เป็นไงล่ะ ปชต.หอมหวล คดีเก่าถูกรื้อจนสิ้น "แตงโมคืนชีพ" ตบหน้าไอ้อีกากีหาแดร๊ก แก้ผิดเป็นถูก ฆาตกร 100% จัดฉากมั่ว จนลืมซะเอง งานนี้ โดนกันทั้งโรงพัก ไอ้ตัวฆาตกร เสี่ยขาใหญ่ไม่รอด อีแม่ที่ห่วงแต่จะแดร๊ก วิญญานพ่อแตงโม มาทวงความยุติธรรมให้ลูกแล้ว อ.ปานเทพ องค์ลง แฉยับ หลักฐานมี ไม่ต้องแถ หมอยอมใจ ทนไม่ไหวแล้ว เปิดหมดเปลือก ใครแต่ง ใครจัดฉาก ไส้สาวออกมาหมดเกลี้ยง ปลายกลียุค เหี้ยต้องพร้อมเดินกลับสู่ขุมนรกที่จากมา มรึงฆ่าแตงโมได้ แต่มรึงฆ่าความจริงไม่ได้ เรื่องนี้ มหากาพย์ของจริง อาจติดคุกกันเป็น 10 ราย ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ยันไปถึงคนในรับงาน งานนี้ ศาลเชือด ไร้ความปราณี!หมี CNN(ช่วงนี้ของมันแรง วิญญานผีห่าซาตาน ดิ้นพล่าน ได้เวลากวักมือเรียกเจ้ากรรมนายเวรมาชดใช้ เวลาตายไป ไม่มีใครรู้ดอกว่า วิญญานมรึงจะถูกเอาไปทรมานที่ไหน เพราะคนดีดี เค้าไม่มีวันได้ลงไปเยี่ยมมรึง สงครามเป็นแค่เครื่องมือผลัดเปลี่ยน โลกความเป็นจริงคือ มรึงอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้ หากไม่พึ่งพาอาศัยกัน โลกอยู่เหมือนเดิม คนต่างหากที่เปลี่ยนไป ตามกาลเวลา)13 ธันวาคม 6711.48 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 583 มุมมอง 0 รีวิว
  • MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ เร่งสรุปสำนวนคดี "ดิไอคอน" ผู้ต้องหา 18 บอส ให้ทันปลาย ธ.ค.67 ส่วนคดีฟอกเงิน “สามารถ” อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเอาผิดเพิ่ม

    วันนี้ (11 ธ.ค.) เวลา 08.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่า อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนซึ่งต้องเร่งรัดทำสำนวนและเสนอความเห็นต่ออัยการ ให้ทันก่อนที่จะครบกำหนดฝากขังหลังวันที่ 20 ธ.ค.67 ชื่งขณะะนี้สำนวนมีความสมบูรณ์แล้วประมาณ 80% โดยมีเอกสารประมาณ 3 แสนแผ่น ซึ่งมีเอกสารเต็ม 1 ห้องใหญ่ โดยจะต้องมีการเรียบเรียงเอกสารและทำบัญชีวิเคราะห์ความเสียหายของแต่ละคนว่าเป็นจำนวนเท่าใด ซึ่งต่อจากนั้นจะทำการหารือของคณะพนักงานสอบสวน ในสำนวนที่จะเสนอต่ออัยการในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ในส่วนการให้ปากคำพยานหลักฐานของฝ่ายผู้ต้องหาหรือฝั่งดิไอคอนหรือผู้ที่ต้องการจะแก้ข้อกล่าวได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้หมด ต้องนำเอกสารทั้งหมดไปพิจารณา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000118808

    #MGROnline #อธิบดีดีเอสไอ
    MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ เร่งสรุปสำนวนคดี "ดิไอคอน" ผู้ต้องหา 18 บอส ให้ทันปลาย ธ.ค.67 ส่วนคดีฟอกเงิน “สามารถ” อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเอาผิดเพิ่ม • วันนี้ (11 ธ.ค.) เวลา 08.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่า อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนซึ่งต้องเร่งรัดทำสำนวนและเสนอความเห็นต่ออัยการ ให้ทันก่อนที่จะครบกำหนดฝากขังหลังวันที่ 20 ธ.ค.67 ชื่งขณะะนี้สำนวนมีความสมบูรณ์แล้วประมาณ 80% โดยมีเอกสารประมาณ 3 แสนแผ่น ซึ่งมีเอกสารเต็ม 1 ห้องใหญ่ โดยจะต้องมีการเรียบเรียงเอกสารและทำบัญชีวิเคราะห์ความเสียหายของแต่ละคนว่าเป็นจำนวนเท่าใด ซึ่งต่อจากนั้นจะทำการหารือของคณะพนักงานสอบสวน ในสำนวนที่จะเสนอต่ออัยการในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ในส่วนการให้ปากคำพยานหลักฐานของฝ่ายผู้ต้องหาหรือฝั่งดิไอคอนหรือผู้ที่ต้องการจะแก้ข้อกล่าวได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้หมด ต้องนำเอกสารทั้งหมดไปพิจารณา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000118808 • #MGROnline #อธิบดีดีเอสไอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรงพยาบาลธนบุรี สลัดภาพหมอบุญ

    กลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี ภายใต้ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG อำนาจเบ็ดเสร็จไม่ได้เป็นของกลุ่มหมอบุญ นพ.บุญ วนาสิน ที่หลบหนีคดีฉ้อโกงและฟอกเงินไปอยู่ต่างประเทศอีกต่อไป แต่กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งใน THG ภายใต้การนำของ นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ กำลังเข้ามากอบกู้สถานการณ์ แม้ยี่ห้อหมอบุญกับโรงพยาบาลธนบุรี จะกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังไม่เคยใช้บริการก็ตาม

    ก่อนหน้านี้มีการแต่งตั้ง ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และอดีตรองคณบดีฝ่ายพันธกิจบริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลธนบุรี หลังเกษียณอายุงานเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็เป็นคณะกรรมการบริษัทฯ ในเครือ THG มาตั้งแต่ปี 2559

    นพ.วิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ระบุว่าในปี 2568 จะเปิดคลินิกเฉพาะทาง เริ่มจากคลินิกการนอนหลับ ต่อด้วยกลุ่มเด็กแรกเกิด กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ พร้อมกับเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยที่มีประกันสุขภาพ ลูกค้าองค์กร และผู้ป่วยต่างชาติจากโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง อีกด้านหนึ่ง จะเปิดอาคารผู้ป่วยนอกแห่งใหม่ต้นปี 2568 ดึงบุคลากรรุ่นใหม่ Gen Z เข้ามาเสริมทัพ เปลี่ยนระบบค่าตอบแทนใหม่ และสร้างอินฟลูเอนเซอร์จากบุคลากรในโรงพยาบาล

    สำหรับโครงการของ นพ.บุญที่เกี่ยวข้องกับ THG มีเพียงโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เท่านั้นที่ใช้เงินบริษัทลงทุน ไม่ใช่เงินส่วนตัวของ นพ.บุญ ส่วนธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการที่ไม่มีอยู่จริง นพ.บุญทำเองไม่เกี่ยวกับ THG ด้านศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า และแผนการสร้างโรงพยาบาลในเวียดนาม หลังบริษัทฯ ทำเอ็มโอยูช่วงปี 2565-2566 เมื่อพิจารณาความเป็นไปได้อย่างละเอียดแล้วจึงตัดสินใจไม่ลงทุนทั้งสองโครงการ

    นพ.บุญได้ลาออกจาก THG มาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 2565 จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงาน ส่วนนางจารุวรรณ วนาสิน อดีตภรรยา และ น.ส.นลิน วนาสิน บุตรสาว นพ.บุญ แม้ยังไม่ได้แจ้งขอลาออกจากกรรมการบริษัทฯ และยังไม่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด แต่ทั้งสองไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจ จึงไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ ในนามบริษัทฯ และการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังเป็นปกติ

    ปัจจุบัน นางจารุวรรณถือหุ้น THG จำนวน 14.22% บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด ถือหุ้น 3.70% น.ส.ณวรา กุญชร ณ อยุธยา อดีตลูกสะใภ้ถือหุ้น 3.03% และ นพ.บุญ ถือหุ้น 0.68% ส่วน น.ส.นลินให้การกับตำรวจว่ามีเพียง 10,000 หุ้นเท่านั้น

    #Newskit
    โรงพยาบาลธนบุรี สลัดภาพหมอบุญ กลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี ภายใต้ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG อำนาจเบ็ดเสร็จไม่ได้เป็นของกลุ่มหมอบุญ นพ.บุญ วนาสิน ที่หลบหนีคดีฉ้อโกงและฟอกเงินไปอยู่ต่างประเทศอีกต่อไป แต่กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งใน THG ภายใต้การนำของ นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ กำลังเข้ามากอบกู้สถานการณ์ แม้ยี่ห้อหมอบุญกับโรงพยาบาลธนบุรี จะกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังไม่เคยใช้บริการก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการแต่งตั้ง ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และอดีตรองคณบดีฝ่ายพันธกิจบริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลธนบุรี หลังเกษียณอายุงานเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็เป็นคณะกรรมการบริษัทฯ ในเครือ THG มาตั้งแต่ปี 2559 นพ.วิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ระบุว่าในปี 2568 จะเปิดคลินิกเฉพาะทาง เริ่มจากคลินิกการนอนหลับ ต่อด้วยกลุ่มเด็กแรกเกิด กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ พร้อมกับเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยที่มีประกันสุขภาพ ลูกค้าองค์กร และผู้ป่วยต่างชาติจากโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง อีกด้านหนึ่ง จะเปิดอาคารผู้ป่วยนอกแห่งใหม่ต้นปี 2568 ดึงบุคลากรรุ่นใหม่ Gen Z เข้ามาเสริมทัพ เปลี่ยนระบบค่าตอบแทนใหม่ และสร้างอินฟลูเอนเซอร์จากบุคลากรในโรงพยาบาล สำหรับโครงการของ นพ.บุญที่เกี่ยวข้องกับ THG มีเพียงโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เท่านั้นที่ใช้เงินบริษัทลงทุน ไม่ใช่เงินส่วนตัวของ นพ.บุญ ส่วนธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการที่ไม่มีอยู่จริง นพ.บุญทำเองไม่เกี่ยวกับ THG ด้านศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า และแผนการสร้างโรงพยาบาลในเวียดนาม หลังบริษัทฯ ทำเอ็มโอยูช่วงปี 2565-2566 เมื่อพิจารณาความเป็นไปได้อย่างละเอียดแล้วจึงตัดสินใจไม่ลงทุนทั้งสองโครงการ นพ.บุญได้ลาออกจาก THG มาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 2565 จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงาน ส่วนนางจารุวรรณ วนาสิน อดีตภรรยา และ น.ส.นลิน วนาสิน บุตรสาว นพ.บุญ แม้ยังไม่ได้แจ้งขอลาออกจากกรรมการบริษัทฯ และยังไม่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด แต่ทั้งสองไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจ จึงไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ ในนามบริษัทฯ และการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังเป็นปกติ ปัจจุบัน นางจารุวรรณถือหุ้น THG จำนวน 14.22% บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด ถือหุ้น 3.70% น.ส.ณวรา กุญชร ณ อยุธยา อดีตลูกสะใภ้ถือหุ้น 3.03% และ นพ.บุญ ถือหุ้น 0.68% ส่วน น.ส.นลินให้การกับตำรวจว่ามีเพียง 10,000 หุ้นเท่านั้น #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 634 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 783 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทนายวิฑูรย์” เผยเข้าเยี่ยม "บอสพอล" แจ้งข่าว “สามารถ” ถูกฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คดีฟอกเงิน ยันไม่มีปัญหาต่อกัน ส่วนคำให้การ "ดิไอคอน" มอบดีเอสไอเรียบร้อย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116464

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทนายวิฑูรย์” เผยเข้าเยี่ยม "บอสพอล" แจ้งข่าว “สามารถ” ถูกฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คดีฟอกเงิน ยันไม่มีปัญหาต่อกัน ส่วนคำให้การ "ดิไอคอน" มอบดีเอสไอเรียบร้อย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116464 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 994 มุมมอง 1 รีวิว
  • "ทนาย" พา "พ่อสามารถ" มาเยี่ยมลูกชาย แต่ยังไม่มีชื่อในระบบ จึงฝากสื่อสารให้กบับมาทานข้าว วันละมื้อ ยืนต้องการประกันตัวต่อสู้คดีฟอกเงิน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116431

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ทนาย" พา "พ่อสามารถ" มาเยี่ยมลูกชาย แต่ยังไม่มีชื่อในระบบ จึงฝากสื่อสารให้กบับมาทานข้าว วันละมื้อ ยืนต้องการประกันตัวต่อสู้คดีฟอกเงิน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116431 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 910 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts