• [1]
    ***ราชา ***กษัตริย์ ราชา... เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร... ท่านผู้ถึง พร้อมด้วยวิชา และจรณะ... เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่เทวดา และมนุษย์...{อัมพัฏฐสูตร}


    {จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม11/หน้า511/บรรทัด18}
    {จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม11/หน้า434/บรรทัด9}
    {จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม15/หน้า165/บรรทัด3}
    {จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม15/หน้า161/บรรทัด17}
    http://www.tripitaka91.com/11-512-2.html
    http://www.tripitaka91.com/11-511-18.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/15-165-3.html
    http://www.tripitaka91.com/15-164-18.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/91book/book11/501_550.htm#512
    www.tripitaka91.com (เว็ปพระไตรปิฏก)








    >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร]






    ***[พระพุทธเจ้าตรัส]... ดูก่อนอัมพัฏฐะ...ก็คาถานี้นั้น สนังกุมารพรหมขับถูกไม่ผิด... กล่าวไว้ถูกไม่ผิด... ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่ใช่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์...
    [เราเห็นด้วย]








    ***[พระพุทธเจ้าตรัส]... ดูก่อนอัมพัฏฐะ... [ถึงเรา ก็กล่าวเช่นนี้ว่า กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด]... ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ประเสริฐที่สุดในหมู่เทวดา และมนุษย์.





    >>>จบ ภาณวาร ที่ ๑











    >>>>(หมายเหตุ)<<<<<

    ****[อกาลิโก]….หมายความว่า พระธรรมพระวินัยคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกสูตรทุกข้อนั้น….(ไม่มียุคสมัยไม่ประกอบด้วยกาล ไม่มีกำหนดจำกัดอายุกาลเวลา)…. ให้ผลทุกเมื่อทุกโอกาสทุกเวลา ทุกยุคทุกสมัยตามลำดับแห่งการปฏิบัติ…. (จริงแท้อยู่ตลอดอนันตกาล)….ด้วยเหตุนี้ พระธรรมพระวินัย จึงไม่ประกอบด้วยกาล ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา.




    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม34/หน้า186/บรรทัด12-13]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม34/หน้า189/บรรทัด13]
    www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก}
    http://www.tripitaka91.com/34-186-12.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/34-186-13.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/91book/book34/151_200.htm#186









    [2]
    >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร]






    ***[พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า]…. สาวิตฺติ ฉนฺทโส มุขํ ฉันท์ทั้งหลายมีสาวิตติฉันท์ เป็นประมุข เพราะอันผู้สาธยายพระเวททั้งหลายต้องสาธยายก่อน.



    ***พระราชาท่านกล่าวว่า… เป็นประมุข เพราะประเสริฐที่สุดกว่ามนุษย์ทั้งหลาย.



    >>>>เสลสูตรที่ ๗
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม47/หน้า554/บรรทัด8]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม47/หน้า451/บรรทัด23]
    http://www.tripitaka91.com/47-554-8.html
    www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก}






    [3]

    >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร]







    ***อนึ่ง พระราชาผู้เป็นกษัตริย์ แม้ทรงพระเยาว์ … เป็นกษัตริย์ผู้ได้รับ มุรธาภิเษกแล้ว หรือจะเป็นพราหมณ์ก็ตาม ก็เป็นผู้ควรแก่การกราบไหว้ของชนที่เหลือ … ชื่อว่า ชาติวุฑฒะ ผู้เจริญโดยชาติ.




    >>>อ.กิงสีลสูตร
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม47/หน้า277/บรรทัด1]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม47/หน้า221/บรรทัด1]
    http://www.tripitaka91.com/47-277-1.html#middle
    www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก}
    [1] ***ราชา ***กษัตริย์ ราชา... เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร... ท่านผู้ถึง พร้อมด้วยวิชา และจรณะ... เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่เทวดา และมนุษย์...{อัมพัฏฐสูตร} {จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม11/หน้า511/บรรทัด18} {จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม11/หน้า434/บรรทัด9} {จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม15/หน้า165/บรรทัด3} {จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม15/หน้า161/บรรทัด17} http://www.tripitaka91.com/11-512-2.html http://www.tripitaka91.com/11-511-18.html#middle http://www.tripitaka91.com/15-165-3.html http://www.tripitaka91.com/15-164-18.html#middle http://www.tripitaka91.com/91book/book11/501_550.htm#512 www.tripitaka91.com (เว็ปพระไตรปิฏก) >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร] ***[พระพุทธเจ้าตรัส]... ดูก่อนอัมพัฏฐะ...ก็คาถานี้นั้น สนังกุมารพรหมขับถูกไม่ผิด... กล่าวไว้ถูกไม่ผิด... ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่ใช่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์... [เราเห็นด้วย] ***[พระพุทธเจ้าตรัส]... ดูก่อนอัมพัฏฐะ... [ถึงเรา ก็กล่าวเช่นนี้ว่า กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด]... ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ประเสริฐที่สุดในหมู่เทวดา และมนุษย์. >>>จบ ภาณวาร ที่ ๑ >>>>(หมายเหตุ)<<<<< ****[อกาลิโก]….หมายความว่า พระธรรมพระวินัยคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกสูตรทุกข้อนั้น….(ไม่มียุคสมัยไม่ประกอบด้วยกาล ไม่มีกำหนดจำกัดอายุกาลเวลา)…. ให้ผลทุกเมื่อทุกโอกาสทุกเวลา ทุกยุคทุกสมัยตามลำดับแห่งการปฏิบัติ…. (จริงแท้อยู่ตลอดอนันตกาล)….ด้วยเหตุนี้ พระธรรมพระวินัย จึงไม่ประกอบด้วยกาล ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา. [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม34/หน้า186/บรรทัด12-13] [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม34/หน้า189/บรรทัด13] www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก} http://www.tripitaka91.com/34-186-12.html#middle http://www.tripitaka91.com/34-186-13.html#middle http://www.tripitaka91.com/91book/book34/151_200.htm#186 [2] >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร] ***[พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า]…. สาวิตฺติ ฉนฺทโส มุขํ ฉันท์ทั้งหลายมีสาวิตติฉันท์ เป็นประมุข เพราะอันผู้สาธยายพระเวททั้งหลายต้องสาธยายก่อน. ***พระราชาท่านกล่าวว่า… เป็นประมุข เพราะประเสริฐที่สุดกว่ามนุษย์ทั้งหลาย. >>>>เสลสูตรที่ ๗ [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม47/หน้า554/บรรทัด8] [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม47/หน้า451/บรรทัด23] http://www.tripitaka91.com/47-554-8.html www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก} [3] >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร] ***อนึ่ง พระราชาผู้เป็นกษัตริย์ แม้ทรงพระเยาว์ … เป็นกษัตริย์ผู้ได้รับ มุรธาภิเษกแล้ว หรือจะเป็นพราหมณ์ก็ตาม ก็เป็นผู้ควรแก่การกราบไหว้ของชนที่เหลือ … ชื่อว่า ชาติวุฑฒะ ผู้เจริญโดยชาติ. >>>อ.กิงสีลสูตร [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม47/หน้า277/บรรทัด1] [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม47/หน้า221/บรรทัด1] http://www.tripitaka91.com/47-277-1.html#middle www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก}
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้าพเจ้ายังไม่อยากถูกปล้นเอาความเป็นมนุษย์ออกไปจากตัวเองมากไปกว่านี้ ต่อให้มั่นใจว่าไม่ใช่คนเลวนัก คือพอมีความดีในตัวอยู่บ้างแม้นไม่มาก อย่างน้อยก็ไม่ซื้อลอตเตอรี่ ไม่เล่นหวย ไม่เล่นพนันบอล ไม่ส่งชิงโชคทายผลกีฬาและล่ารางวัล ไม่เล่นไพ่ ไม่แทงม้า ไม่หวังลาภลอยจากการพนันทุกรูปแบบ ไม่ใช่เพราะมีเงินเยอะแล้ว แต่เพราะรู้ว่าการพนันคือผีร้าย คือปีศาจ ถ้าลองยอมให้ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของวงจรอุบาทว์ซะแล้ว มันก็จะอาละวาดทำลายล้างให้เรา รวมถึงคนรอบข้างและสังคมกลายเป็นดินแดนแห่งอนารยะ ดังนั้นจึงไม่ยินดีอยากให้เมืองไทยต้องเลวร้ายไปมากกว่าที่เป็นอยู่

    เท่าที่ในปัจจุบันก็แย่จนไม่รู้จะแย่อย่างไรแล้ว ในโลกโซเชียลเต็มไปด้วยสื่อซาตานที่แทรกซึมทั่วทุกหัวระแหง เลื่อนดูอะไรในสมาร์ตโฟนจะต้องเห็นพวกสัญลักษณ์แอบแฝงของนายทุนและแก๊งโจรมิจฉาชีพเหล่านี้เกร่อเต็มไปหมด แล้วคนไทยนี้ใช้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนกันอย่างที่เรียกว่าอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งที่ประชากรน้อยกว่าประเทศอื่นอีกหลายประเทศ แม้แต่เด็กเล็กที่ไม่ควรต้องใช้ก็ยังมีสมาร์ตโฟน ที่พ่อแม่ผู้รังแกลูกหยิบยื่นให้ ด้วยเหตุนี้เยาวชนลูกหลานที่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อความชั่วที่ซ่อนมาหลากหลายรูปแบบ จึงง่ายมากต่อการตกเป็นเหยื่อขบวนการเหล่านี้ ที่จ้องจะดึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นแก้วตาดวงใจของพวกท่าน ให้หลงตกไปอยู่ในนรกของการพนัน

    บางทีมันหลอกล่อมาสารพัดในลักษณะของเกมออนไลน์ การแลกเงินจริงเป็นเงินในเกม การสะสมไอเทม การซื้อสารพัดที่เมื่อเด็กหลงเข้าไปเล่นเข้าสักครั้ง ความหวังที่จะหลุดออกมาได้นั้นยากเย็นกว่าเข็นครกขึ้นเขา ยิ่งติดยิ่งห้ามใจไม่ได้ อยากหาอยากมีไปแข่งไปอวดเพื่อน มันคือปากเหวแห่งหายนะโดยแท้ ที่แน่นอนคือหากยังปล่อยให้มีการเกิดขึ้นของบ่อนกาสิโนหลายแห่งทั้วประเทศ อนาคตที่ข้าพเจ้าไม่กล้าคิดจะเกิดขึ้นและมาถึงในไม่ช้า

    เราอาจเป็นคนหนึ่งที่ถูกปล้นฆ่าได้ตลอดเวลา ไม่ว่าอยู่ภายในบ้านหรือนอกบ้านจากคนทุกเพศทุกวัย เพราะเมื่อใดที่คนไม่มีเงิน แล้วยังติดหนี้การพนัน มันผู้นั้นย่อมขายจิตวิญญาณให้แก่ปีศาจไปแล้ว และสามารถทำได้ทุกสิ่งที่คนปกติไม่กล้าทำ เพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้

    มีเมียมีลูกยังสามารถขายแลกเงินได้ พ่อแม่ญาติพี่น้องมีหรือจะสน แม้แต่ชีวิตตนก็ยังขายตัวเป็นทาสได้ มีที่ดินก็หมดที่ดิน มีทรัพย์สินใดก็หมด เมื่อสิ้นทุกอย่างทีนี้แหละ จะเริ่มปล้นชิงวิ่งราว ขโมยสารพัด คดีทำร้ายร่างกาย ปล้น ฆ่า จะเต็มบ้านเมืองมากกว่าเดิมอย่างทวีคูณ สุดท้ายคนเป็นพ่อแม่หรือคนในครอบครัวของผีพนันก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความทุกข์ทับถมใจหนักหน่วงจะถ่วงความเจริญทางธรรมของคนให้ลดน้อยถอยลง แล้วสังคมโดยรวมก็จะมีแต่ความสาหัสของบาดแผลจากพิษภัยของการพนันจนยากกอบกู้ ให้ดูประเทศเพื่อนบ้านรายล้อมรอบเราว่าเขามีสภาพอย่างไรเถิด อนาคตเราอาจจะแย่ยิ่งกว่านั้น

    ถ้ามีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย จะเกิดนักพนันอายุน้อยขึ้นมาอีกมากมายอย่างน่ากลัว เมื่อเขาเหล่านั้นที่ยังไม่มีรายได้กลายเป็นทายาทผีพนัน ประเทศชาติก็มีแต่จะมุ่งหน้าเข้าหาความฉิบหายล่มจมในท้ายที่สุด

    ในฐานะที่ข้าพเจ้ายังเป็นพุทธมามกะที่ปฏิญาณตนนับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่เคารพของตนไปจนตลอดชีวิต หากยังยินดีกับการเล่นพนันอยู่ อยากให้เกิดบ่อนกาสิโนขึ้นแบบถูกกฎหมายในประเทศ นั่นแสดงว่าข้าพเจ้าเป็นคนผู้ทุรยศต่อสถาบันศาสนาที่ตนเคารพนับถือ และต่อพระศาสดา เป็นคนอกตัญญู เป็นความละอายแก่ใจตนจนเกินกว่าจะกล้าเรียกตนเป็นพุทธศาสนิกชน สู้เป็นคนไม่นับถือศาสนาเสียเลยยังดีกว่า

    เพราะศาสนาพุทธ จะไม่มีทางยอมฮั้ว อี๋อ๋อ ซูฮก ซูเอี๋ย กะลิ้มกะเหลี่ย ปากมันเลียริมฝีปาก น้ำลายไหลยืดย้อย กับความกระสันอยากในเม็ดเงินที่มาจากการพนันทั้งหลายเป็นอันขาด ไม่ว่าจะชาตินี้หรืออีกกี่ชาติ

    #คัดค้านบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย
    #thaitimes
    #บทความ
    #ข้อคิด
    #ต้านบ่อนกาสิโน
    #สร้างป่าดีกว่าสร้างบ่อน
    ข้าพเจ้ายังไม่อยากถูกปล้นเอาความเป็นมนุษย์ออกไปจากตัวเองมากไปกว่านี้ ต่อให้มั่นใจว่าไม่ใช่คนเลวนัก คือพอมีความดีในตัวอยู่บ้างแม้นไม่มาก อย่างน้อยก็ไม่ซื้อลอตเตอรี่ ไม่เล่นหวย ไม่เล่นพนันบอล ไม่ส่งชิงโชคทายผลกีฬาและล่ารางวัล ไม่เล่นไพ่ ไม่แทงม้า ไม่หวังลาภลอยจากการพนันทุกรูปแบบ ไม่ใช่เพราะมีเงินเยอะแล้ว แต่เพราะรู้ว่าการพนันคือผีร้าย คือปีศาจ ถ้าลองยอมให้ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของวงจรอุบาทว์ซะแล้ว มันก็จะอาละวาดทำลายล้างให้เรา รวมถึงคนรอบข้างและสังคมกลายเป็นดินแดนแห่งอนารยะ ดังนั้นจึงไม่ยินดีอยากให้เมืองไทยต้องเลวร้ายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เท่าที่ในปัจจุบันก็แย่จนไม่รู้จะแย่อย่างไรแล้ว ในโลกโซเชียลเต็มไปด้วยสื่อซาตานที่แทรกซึมทั่วทุกหัวระแหง เลื่อนดูอะไรในสมาร์ตโฟนจะต้องเห็นพวกสัญลักษณ์แอบแฝงของนายทุนและแก๊งโจรมิจฉาชีพเหล่านี้เกร่อเต็มไปหมด แล้วคนไทยนี้ใช้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนกันอย่างที่เรียกว่าอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งที่ประชากรน้อยกว่าประเทศอื่นอีกหลายประเทศ แม้แต่เด็กเล็กที่ไม่ควรต้องใช้ก็ยังมีสมาร์ตโฟน ที่พ่อแม่ผู้รังแกลูกหยิบยื่นให้ ด้วยเหตุนี้เยาวชนลูกหลานที่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อความชั่วที่ซ่อนมาหลากหลายรูปแบบ จึงง่ายมากต่อการตกเป็นเหยื่อขบวนการเหล่านี้ ที่จ้องจะดึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นแก้วตาดวงใจของพวกท่าน ให้หลงตกไปอยู่ในนรกของการพนัน บางทีมันหลอกล่อมาสารพัดในลักษณะของเกมออนไลน์ การแลกเงินจริงเป็นเงินในเกม การสะสมไอเทม การซื้อสารพัดที่เมื่อเด็กหลงเข้าไปเล่นเข้าสักครั้ง ความหวังที่จะหลุดออกมาได้นั้นยากเย็นกว่าเข็นครกขึ้นเขา ยิ่งติดยิ่งห้ามใจไม่ได้ อยากหาอยากมีไปแข่งไปอวดเพื่อน มันคือปากเหวแห่งหายนะโดยแท้ ที่แน่นอนคือหากยังปล่อยให้มีการเกิดขึ้นของบ่อนกาสิโนหลายแห่งทั้วประเทศ อนาคตที่ข้าพเจ้าไม่กล้าคิดจะเกิดขึ้นและมาถึงในไม่ช้า เราอาจเป็นคนหนึ่งที่ถูกปล้นฆ่าได้ตลอดเวลา ไม่ว่าอยู่ภายในบ้านหรือนอกบ้านจากคนทุกเพศทุกวัย เพราะเมื่อใดที่คนไม่มีเงิน แล้วยังติดหนี้การพนัน มันผู้นั้นย่อมขายจิตวิญญาณให้แก่ปีศาจไปแล้ว และสามารถทำได้ทุกสิ่งที่คนปกติไม่กล้าทำ เพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้ มีเมียมีลูกยังสามารถขายแลกเงินได้ พ่อแม่ญาติพี่น้องมีหรือจะสน แม้แต่ชีวิตตนก็ยังขายตัวเป็นทาสได้ มีที่ดินก็หมดที่ดิน มีทรัพย์สินใดก็หมด เมื่อสิ้นทุกอย่างทีนี้แหละ จะเริ่มปล้นชิงวิ่งราว ขโมยสารพัด คดีทำร้ายร่างกาย ปล้น ฆ่า จะเต็มบ้านเมืองมากกว่าเดิมอย่างทวีคูณ สุดท้ายคนเป็นพ่อแม่หรือคนในครอบครัวของผีพนันก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความทุกข์ทับถมใจหนักหน่วงจะถ่วงความเจริญทางธรรมของคนให้ลดน้อยถอยลง แล้วสังคมโดยรวมก็จะมีแต่ความสาหัสของบาดแผลจากพิษภัยของการพนันจนยากกอบกู้ ให้ดูประเทศเพื่อนบ้านรายล้อมรอบเราว่าเขามีสภาพอย่างไรเถิด อนาคตเราอาจจะแย่ยิ่งกว่านั้น ถ้ามีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย จะเกิดนักพนันอายุน้อยขึ้นมาอีกมากมายอย่างน่ากลัว เมื่อเขาเหล่านั้นที่ยังไม่มีรายได้กลายเป็นทายาทผีพนัน ประเทศชาติก็มีแต่จะมุ่งหน้าเข้าหาความฉิบหายล่มจมในท้ายที่สุด ในฐานะที่ข้าพเจ้ายังเป็นพุทธมามกะที่ปฏิญาณตนนับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่เคารพของตนไปจนตลอดชีวิต หากยังยินดีกับการเล่นพนันอยู่ อยากให้เกิดบ่อนกาสิโนขึ้นแบบถูกกฎหมายในประเทศ นั่นแสดงว่าข้าพเจ้าเป็นคนผู้ทุรยศต่อสถาบันศาสนาที่ตนเคารพนับถือ และต่อพระศาสดา เป็นคนอกตัญญู เป็นความละอายแก่ใจตนจนเกินกว่าจะกล้าเรียกตนเป็นพุทธศาสนิกชน สู้เป็นคนไม่นับถือศาสนาเสียเลยยังดีกว่า เพราะศาสนาพุทธ จะไม่มีทางยอมฮั้ว อี๋อ๋อ ซูฮก ซูเอี๋ย กะลิ้มกะเหลี่ย ปากมันเลียริมฝีปาก น้ำลายไหลยืดย้อย กับความกระสันอยากในเม็ดเงินที่มาจากการพนันทั้งหลายเป็นอันขาด ไม่ว่าจะชาตินี้หรืออีกกี่ชาติ #คัดค้านบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย #thaitimes #บทความ #ข้อคิด #ต้านบ่อนกาสิโน #สร้างป่าดีกว่าสร้างบ่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • นับหนึ่งปฏิรูปกองทัพ? กลุ่มโรคไม่ต้องจับใบดำ-แดง รื้ออำนาจศาลทหาร
    .
    ไม่แน่ใจว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการปฏิรูปกองทัพหรือไม่ ภายหลังคณะรัฐมนตรีมติเกี่ยวกับการดำเนินการของกองทัพในสองเรื่อสำคัญ ประกอบด้วย 1.การกำหนดให้กลุ่มโรคตุ่มน้ำพอง โรคลําไส้โป่งพองแต่กําเนิด โรคเอนไซม์บนเม็ดเลือดแดง เป็นคนจําพวก 2 ตรวจเลือกทหารกองเกิน และ 2.อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พระธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ ซึ่งกำหนดให้ผู้เสียหายซึ่งมิใช่บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาในศาลทหารได้
    .
    นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ ซึ่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีสาระสําคัญอยู่ที่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 37 (พ.ศ.2561) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 โดยแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจําการเพื่อกําหนดเพิ่มลักษณะอาการของโรค จํานวน 3 กลุ่มโรค ได้แก่ 1.กลุ่มโรคตุ่มน้ำพอง 2.โรคลําไส้โป่งพองแต่กําเนิด และ 3.โรคของเอนไซม์บนเม็ดเลือดแดงผิดปกติชนิด G-6-PD (Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase) กําหนดให้เป็นคนจําพวกที่ 2 เพื่อให้คณะกรรมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองเกินประจําสามารถตรวจวินิจฉัย และกําหนดคนเป็นจําพวกได้ถูกต้องตามที่หลักเกณฑ์กําหนด หมายความว่า บุคคลที่มีอาการ 3 กลุ่มโรคดังกล่าว จะเป็นคนจำพวกที่ 2 ไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการในกรณีที่มีคนจำพวกที่ 1 มีจำนวนเพียงพอกับยอดความต้องการทหารกองประจำการ
    .
    นายคารม ระบุอีกว่า สำหรับกรณีการอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พระธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. นั้น เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 เสียใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอำนาจศาลมณฑลทหารฯ และมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ด้วยตนเองและสิทธิในการได้รับการพิจารณาทบทวนคำพิพากษาโดยศาลที่สูงกว่า จึงเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมโดยให้ผู้เสียหายซึ่งมิใช่บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารสามารถใช้สิทธิในการดำเนินคดีอาญาในศาลทหารได้ด้วยตนเองไม่ว่าจะเป็นกรณีศาลทหารในเวลาปกติและในเวลาไม่ปกติ เว้นแต่ในกรณีศาลอาญาศึกจะเป็นอัยการทหารเท่านั้นที่มีสิทธิฟ้องคดีอาญาต่อศาลได้
    .............
    Sondhi X
    นับหนึ่งปฏิรูปกองทัพ? กลุ่มโรคไม่ต้องจับใบดำ-แดง รื้ออำนาจศาลทหาร . ไม่แน่ใจว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการปฏิรูปกองทัพหรือไม่ ภายหลังคณะรัฐมนตรีมติเกี่ยวกับการดำเนินการของกองทัพในสองเรื่อสำคัญ ประกอบด้วย 1.การกำหนดให้กลุ่มโรคตุ่มน้ำพอง โรคลําไส้โป่งพองแต่กําเนิด โรคเอนไซม์บนเม็ดเลือดแดง เป็นคนจําพวก 2 ตรวจเลือกทหารกองเกิน และ 2.อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พระธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ ซึ่งกำหนดให้ผู้เสียหายซึ่งมิใช่บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาในศาลทหารได้ . นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ ซึ่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีสาระสําคัญอยู่ที่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 37 (พ.ศ.2561) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 โดยแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจําการเพื่อกําหนดเพิ่มลักษณะอาการของโรค จํานวน 3 กลุ่มโรค ได้แก่ 1.กลุ่มโรคตุ่มน้ำพอง 2.โรคลําไส้โป่งพองแต่กําเนิด และ 3.โรคของเอนไซม์บนเม็ดเลือดแดงผิดปกติชนิด G-6-PD (Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase) กําหนดให้เป็นคนจําพวกที่ 2 เพื่อให้คณะกรรมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองเกินประจําสามารถตรวจวินิจฉัย และกําหนดคนเป็นจําพวกได้ถูกต้องตามที่หลักเกณฑ์กําหนด หมายความว่า บุคคลที่มีอาการ 3 กลุ่มโรคดังกล่าว จะเป็นคนจำพวกที่ 2 ไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการในกรณีที่มีคนจำพวกที่ 1 มีจำนวนเพียงพอกับยอดความต้องการทหารกองประจำการ . นายคารม ระบุอีกว่า สำหรับกรณีการอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พระธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. นั้น เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 เสียใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอำนาจศาลมณฑลทหารฯ และมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ด้วยตนเองและสิทธิในการได้รับการพิจารณาทบทวนคำพิพากษาโดยศาลที่สูงกว่า จึงเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมโดยให้ผู้เสียหายซึ่งมิใช่บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารสามารถใช้สิทธิในการดำเนินคดีอาญาในศาลทหารได้ด้วยตนเองไม่ว่าจะเป็นกรณีศาลทหารในเวลาปกติและในเวลาไม่ปกติ เว้นแต่ในกรณีศาลอาญาศึกจะเป็นอัยการทหารเท่านั้นที่มีสิทธิฟ้องคดีอาญาต่อศาลได้ ............. Sondhi X
    Like
    Love
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1290 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภิกษุที่เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยเดรัจฉานวิชา ผลคือ ท่านจะไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เพราะการเลี้ยงชีพของภิกษุคือการขอ และเขาให้ด้วยศรัทธา ภิกษุจึงควรนำเวลาไปศึกษาปริยัติหรือปฏิบัติธรรม ซึ่งคือการทำธุระในพระพุทธศาสนา (คันถธุระและวิปัสสนาธุระ) หากท่านละเลยไม่นำเวลาไปปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ท่านจะห่างจากมรรคผลนิพพาน คือเดินไปคนละทางกับกิจที่ควรทำเพื่อมรรคผลนิพพาน โทษของภิกษุผู้เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาจึงมีแค่นี้

    เดรัจฉานวิชาไม่ใช่อันตรายิกธรรมที่ขวางกั้นพระนิพพานนะ เพราะการขวางกั้นพระนิพพานหมายถึงชาตินี้นิพพานไม่ได้เลย มีเหตุขวางกั้น เช่น อนันตริยกรรม ผู้กระทำอนันตริยกรรม ไม่ว่าจะเพียงปฏิบัติเท่าไหร่ ก็บรรลุมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับพระเจ้าอชาติศัตรู แต่เดรัจฉานวิชาซึ่งภิกษุใช้เลี้ยงชีพ เพียงแค่ท่านเลิกเสียและหันมาปฏิบัติสติปัฏฐานท่านก็เข้าถึงพระนิพพานได้ ครูนัทจึงย้ำเสมอว่า ไม่ควรใช้คำว่า ขวางพระนิพพาน เดรัจฉานวิชาคือเป็นไปในทางขวาง เยี่ยงลำตัวสัตว์เดรัจฉาน ทางไปพระนิพานอยู่หัว ทางทำมาหากินอยู่หาง มันแค่เป็นคนละทางกัน

    พระพุทธเจ้าไม่เคยติเตียนภิกษุที่เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาว่าเป็นโมฆะบุรุษ ไม่ทรงปรับอาบัติในเรื่องนี้ อาบัติจะปรับไปในเรื่องรับเงินรับทองที่เกิดจากการเลี้ยงชีพ ดังนั้นในส่วนของเดรัจฉานวิชาจึงไม่มีในส่วนของพระวินัยอาบัติ

    ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องนี้ เราจะรู้สึกเกลียดชังเกิดโทสะในใจ และออกมาด่าพระเหมือนที่เด็กและคนแก่คนเฒ่าอีกหลายคนทำ แนวคิดนี้ถูกปลูกฝังมาผิดๆ เนิ่นนานมาแล้วและยังคงสืบทอดต่อกันมา

    ด่าพระที่ท่านไม่ได้อาบัติถึงปาราชิก เป็นบาปกรรม เป็นโทษทางธรรมและโทษตามกฎหมาย ถ้ากราดไปหมดจะกลายเป็นดูหมิ่นคณะสงฆ์

    เราควรยึดหลักพระธรรมวินัย ไม่ใช่ยึดหลักความพอใจ ผิดถูกอย่างไรควรใช้ใจที่เป็นธรรมวิพากษ์วิจารณ์...

    #ราหูอมจันทร์ส่องหล้า

    #ผู้เฒ่าตาเดียวกับคนหน้าเหลี่ยม

    #จากซาเล้งพ่วงข้างสู่หนทางพระนิพพาน
    ภิกษุที่เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยเดรัจฉานวิชา ผลคือ ท่านจะไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เพราะการเลี้ยงชีพของภิกษุคือการขอ และเขาให้ด้วยศรัทธา ภิกษุจึงควรนำเวลาไปศึกษาปริยัติหรือปฏิบัติธรรม ซึ่งคือการทำธุระในพระพุทธศาสนา (คันถธุระและวิปัสสนาธุระ) หากท่านละเลยไม่นำเวลาไปปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ท่านจะห่างจากมรรคผลนิพพาน คือเดินไปคนละทางกับกิจที่ควรทำเพื่อมรรคผลนิพพาน โทษของภิกษุผู้เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาจึงมีแค่นี้ เดรัจฉานวิชาไม่ใช่อันตรายิกธรรมที่ขวางกั้นพระนิพพานนะ เพราะการขวางกั้นพระนิพพานหมายถึงชาตินี้นิพพานไม่ได้เลย มีเหตุขวางกั้น เช่น อนันตริยกรรม ผู้กระทำอนันตริยกรรม ไม่ว่าจะเพียงปฏิบัติเท่าไหร่ ก็บรรลุมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับพระเจ้าอชาติศัตรู แต่เดรัจฉานวิชาซึ่งภิกษุใช้เลี้ยงชีพ เพียงแค่ท่านเลิกเสียและหันมาปฏิบัติสติปัฏฐานท่านก็เข้าถึงพระนิพพานได้ ครูนัทจึงย้ำเสมอว่า ไม่ควรใช้คำว่า ขวางพระนิพพาน เดรัจฉานวิชาคือเป็นไปในทางขวาง เยี่ยงลำตัวสัตว์เดรัจฉาน ทางไปพระนิพานอยู่หัว ทางทำมาหากินอยู่หาง มันแค่เป็นคนละทางกัน พระพุทธเจ้าไม่เคยติเตียนภิกษุที่เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาว่าเป็นโมฆะบุรุษ ไม่ทรงปรับอาบัติในเรื่องนี้ อาบัติจะปรับไปในเรื่องรับเงินรับทองที่เกิดจากการเลี้ยงชีพ ดังนั้นในส่วนของเดรัจฉานวิชาจึงไม่มีในส่วนของพระวินัยอาบัติ ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องนี้ เราจะรู้สึกเกลียดชังเกิดโทสะในใจ และออกมาด่าพระเหมือนที่เด็กและคนแก่คนเฒ่าอีกหลายคนทำ แนวคิดนี้ถูกปลูกฝังมาผิดๆ เนิ่นนานมาแล้วและยังคงสืบทอดต่อกันมา ด่าพระที่ท่านไม่ได้อาบัติถึงปาราชิก เป็นบาปกรรม เป็นโทษทางธรรมและโทษตามกฎหมาย ถ้ากราดไปหมดจะกลายเป็นดูหมิ่นคณะสงฆ์ เราควรยึดหลักพระธรรมวินัย ไม่ใช่ยึดหลักความพอใจ ผิดถูกอย่างไรควรใช้ใจที่เป็นธรรมวิพากษ์วิจารณ์... #ราหูอมจันทร์ส่องหล้า #ผู้เฒ่าตาเดียวกับคนหน้าเหลี่ยม #จากซาเล้งพ่วงข้างสู่หนทางพระนิพพาน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภิกษุที่เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยเดรัจฉานวิชา ผลคือ ท่านจะไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เพราะการเลี้ยงชีพของภิกษุคือการขอ และเขาให้ด้วยศรัทธา ภิกษุจึงควรนำเวลาไปศึกษาปริยัติหรือปฏิบัติธรรม ซึ่งคือการทำธุระในพระพุทธศาสนา (คันถธุระและวิปัสสนาธุระ) หากท่านละเลยไม่นำเวลาไปปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ท่านจะห่างจากมรรคผลนิพพาน คือเดินไปคนละทางกับกิจที่ควรทำเพื่อมรรคผลนิพพาน โทษของภิกษุผู้เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาจึงมีแค่นี้

    เดรัจฉานวิชาไม่ใช่อันตรายิกธรรมที่ขวางกั้นพระนิพพานนะ เพราะการขวางกั้นพระนิพพานหมายถึงชาตินี้นิพพานไม่ได้เลย มีเหตุขวางกั้น เช่น อนันตริยกรรม ผู้กระทำอนันตริยกรรม ไม่ว่าจะเพียงปฏิบัติเท่าไหร่ ก็บรรลุมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับพระเจ้าอชาติศัตรู แต่เดรัจฉานวิชาซึ่งภิกษุใช้เลี้ยงชีพ เพียงแค่ท่านเลิกเสียและหันมาปฏิบัติสติปัฏฐานท่านก็เข้าถึงพระนิพพานได้ ครูนัทจึงย้ำเสมอว่า ไม่ควรใช้คำว่า ขวางพระนิพพาน เดรัจฉานวิชาคือเป็นไปในทางขวาง เยี่ยงลำตัวสัตว์เดรัจฉาน ทางไปพระนิพานอยู่หัว ทางทำมาหากินอยู่หาง มันแค่เป็นคนละทางกัน

    พระพุทธเจ้าไม่เคยติเตียนภิกษุที่เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาว่าเป็นโมฆะบุรุษ ไม่ทรงปรับอาบัติในเรื่องนี้ อาบัติจะปรับไปในเรื่องรับเงินรับทองที่เกิดจากการเลี้ยงชีพ ดังนั้นในส่วนของเดรัจฉานวิชาจึงไม่มีในส่วนของพระวินัยอาบัติ

    ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องนี้ เราจะรู้สึกเกลียดชังเกิดโทสะในใจ และออกมาด่าพระเหมือนที่เด็กและคนแก่คนเฒ่าอีกหลายคนทำ แนวคิดนี้ถูกปลูกฝังมาผิดๆ เนิ่นนานมาแล้วและยังคงสืบทอดต่อกันมา

    ด่าพระที่ท่านไม่ได้อาบัติถึงปาราชิก เป็นบาปกรรม เป็นโทษทางธรรมและโทษตามกฎหมาย ถ้ากราดไปหมดจะกลายเป็นดูหมิ่นคณะสงฆ์

    เราควรยึดหลักพระธรรมวินัย ไม่ใช่ยึดหลักความพอใจ ผิดถูกอย่างไรควรใช้ใจที่เป็นธรรมวิพากษ์วิจารณ์...

    #ราหูอมจันทร์ส่องหล้า

    #ผู้เฒ่าตาเดียวกับคนหน้าเหลี่ยม

    #จากซาเล้งพ่วงข้างสู่หนทางพระนิพพาน
    ภิกษุที่เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยเดรัจฉานวิชา ผลคือ ท่านจะไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เพราะการเลี้ยงชีพของภิกษุคือการขอ และเขาให้ด้วยศรัทธา ภิกษุจึงควรนำเวลาไปศึกษาปริยัติหรือปฏิบัติธรรม ซึ่งคือการทำธุระในพระพุทธศาสนา (คันถธุระและวิปัสสนาธุระ) หากท่านละเลยไม่นำเวลาไปปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ท่านจะห่างจากมรรคผลนิพพาน คือเดินไปคนละทางกับกิจที่ควรทำเพื่อมรรคผลนิพพาน โทษของภิกษุผู้เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาจึงมีแค่นี้ เดรัจฉานวิชาไม่ใช่อันตรายิกธรรมที่ขวางกั้นพระนิพพานนะ เพราะการขวางกั้นพระนิพพานหมายถึงชาตินี้นิพพานไม่ได้เลย มีเหตุขวางกั้น เช่น อนันตริยกรรม ผู้กระทำอนันตริยกรรม ไม่ว่าจะเพียงปฏิบัติเท่าไหร่ ก็บรรลุมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับพระเจ้าอชาติศัตรู แต่เดรัจฉานวิชาซึ่งภิกษุใช้เลี้ยงชีพ เพียงแค่ท่านเลิกเสียและหันมาปฏิบัติสติปัฏฐานท่านก็เข้าถึงพระนิพพานได้ ครูนัทจึงย้ำเสมอว่า ไม่ควรใช้คำว่า ขวางพระนิพพาน เดรัจฉานวิชาคือเป็นไปในทางขวาง เยี่ยงลำตัวสัตว์เดรัจฉาน ทางไปพระนิพานอยู่หัว ทางทำมาหากินอยู่หาง มันแค่เป็นคนละทางกัน พระพุทธเจ้าไม่เคยติเตียนภิกษุที่เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาว่าเป็นโมฆะบุรุษ ไม่ทรงปรับอาบัติในเรื่องนี้ อาบัติจะปรับไปในเรื่องรับเงินรับทองที่เกิดจากการเลี้ยงชีพ ดังนั้นในส่วนของเดรัจฉานวิชาจึงไม่มีในส่วนของพระวินัยอาบัติ ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องนี้ เราจะรู้สึกเกลียดชังเกิดโทสะในใจ และออกมาด่าพระเหมือนที่เด็กและคนแก่คนเฒ่าอีกหลายคนทำ แนวคิดนี้ถูกปลูกฝังมาผิดๆ เนิ่นนานมาแล้วและยังคงสืบทอดต่อกันมา ด่าพระที่ท่านไม่ได้อาบัติถึงปาราชิก เป็นบาปกรรม เป็นโทษทางธรรมและโทษตามกฎหมาย ถ้ากราดไปหมดจะกลายเป็นดูหมิ่นคณะสงฆ์ เราควรยึดหลักพระธรรมวินัย ไม่ใช่ยึดหลักความพอใจ ผิดถูกอย่างไรควรใช้ใจที่เป็นธรรมวิพากษ์วิจารณ์... #ราหูอมจันทร์ส่องหล้า #ผู้เฒ่าตาเดียวกับคนหน้าเหลี่ยม #จากซาเล้งพ่วงข้างสู่หนทางพระนิพพาน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • สติให้ดี
    มีสมาธิ
    ได้สงบจิต
    กิจควรนำพา

    ฐานกรรมจิตดี
    มีธรรมปัญญา
    คุ้มครองรักษา
    พาพ้นทุกข์ภัย

    ความดีศีลธรรม
    นำร่วมอาศัย
    คุณประเสริฐได้
    ให้ความเจริญ

    รู้ควรเหมาะได้
    ไร้ความขาดเกิน
    พอเพียงประเสริฐ
    เดินได้ถูกตรง

    ชีวีร่วมอยู่
    รู้คุณดำรง
    ธรรมพาปลดปลง
    ทรงคุณยิ่งใหญ่

    กราบคุณพระพุทธ กรายคุณพระธรรม กราบคุณพระสงฆ์
    สติให้ดี มีสมาธิ ได้สงบจิต กิจควรนำพา ฐานกรรมจิตดี มีธรรมปัญญา คุ้มครองรักษา พาพ้นทุกข์ภัย ความดีศีลธรรม นำร่วมอาศัย คุณประเสริฐได้ ให้ความเจริญ รู้ควรเหมาะได้ ไร้ความขาดเกิน พอเพียงประเสริฐ เดินได้ถูกตรง ชีวีร่วมอยู่ รู้คุณดำรง ธรรมพาปลดปลง ทรงคุณยิ่งใหญ่ กราบคุณพระพุทธ กรายคุณพระธรรม กราบคุณพระสงฆ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • สติหนุนพา
    สมาธิได้
    หนุนปัญญาใช้
    ไว้ดับทุกข์ภัย

    ปัญญาธิคุณ
    หนุนธรรมจริงได้
    รู้เหตุปัจจัย
    ให้พร้อมดำรง

    การงานนอกใน
    กายใจหนุนส่ง
    ธรรมนี้ถูกตรง
    ทรงคุณได้ทำ

    ความดีมีสุข
    ผุดผ่องดื่มด่ำ
    อาศัยพระธรรม
    นำทุกข์ห่างไกล

    จิตภาวนา
    พาปัญญาได้
    ท่านแนะนำไว้
    ให้เพียรขวนขวาย
    สติหนุนพา สมาธิได้ หนุนปัญญาใช้ ไว้ดับทุกข์ภัย ปัญญาธิคุณ หนุนธรรมจริงได้ รู้เหตุปัจจัย ให้พร้อมดำรง การงานนอกใน กายใจหนุนส่ง ธรรมนี้ถูกตรง ทรงคุณได้ทำ ความดีมีสุข ผุดผ่องดื่มด่ำ อาศัยพระธรรม นำทุกข์ห่างไกล จิตภาวนา พาปัญญาได้ ท่านแนะนำไว้ ให้เพียรขวนขวาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • 29 ปี สิ้น “หลวงพ่อเกษม เขมโก” เจ้าแห่งราชวงศ์ทิพย์จักร พระมหาเถราจารย์ สายวิปัสสนานครลำปาง

    ย้อนไปเมื่อ 29 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 ถือเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนไทย ต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อหลวงพ่อเกษม เขมโก พระมหาเถราจารย์ ผู้เป็นที่เคารพรัก ได้ละสังขารลงอย่างสงบ ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลลำปาง สิริอายุ 83 ปี หลังจากที่พักรักษาอาการอาพาธ มาเป็นเวลานาน การจากไปของท่าน ไม่เพียงแต่สร้างความเศร้าโศก ให้กับชาวจังหวัดลำปางเท่านั้น แต่ยังส่งผลสะเทือน ต่อผู้เคารพศรัทธา ทั่วประเทศไทย

    ต้นกำเนิดหลวงพ่อเกษม
    "หลวงพ่อเกษม เขมโก" หรือชื่อเดิม "เจ้าเกษม ณ ลำปาง" เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455 ตรงกับวันพุธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ. 131 ท่านเป็นบุตรของ เจ้าน้อยหนู ณ ลำปาง (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนนามสกุลเป็น "มณีอรุณ") ผู้รับราชการตำแหน่งปลัดอำเภอ และเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง ซึ่งมีเชื้อสายเจ้านาย ในราชวงศ์ทิพย์จักร โดยหลวงพ่อเกษม เขมโก ยังเป็นราชปนัดดา (หลานเหลน) ของ เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้าหลวงผู้ครองนครลำปาง องค์สุดท้าย

    บรรพชาในวัยเยาว์
    ในวัยเด็ก หลวงพ่อเกษม เขมโก ถูกเล่าขานว่า เป็นเด็กที่ซุกซนแต่ฉลาดเฉลียว มีครั้งหนึ่ง ท่านเคยปีนต้นฝรั่ง แล้วพลัดตก จนเกิดแผลเป็นที่ศีรษะ ซึ่งกลายเป็น เครื่องหมายแห่งความทรงจำ ในวัยเยาว์ เมื่อท่านอายุได้ 13 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรครั้งแรก ที่วัดป่าดั๊ว เพื่อบวชหน้าไฟเจ้าอาวาส ที่มรณภาพ หลังจากนั้น 7 วันจึงลาสิกขา ต่อมาเมื่ออายุ 15 ปี ท่านบรรพชาอีกครั้ง และจำวัด ที่วัดบุญยืน จังหวัดลำปาง ในช่วงเวลานี้ ท่านได้เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรม อย่างจริงจัง และสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ ในปี พ.ศ. 2474

    อุปสมบท
    ในปี พ.ศ. 2475 ขณะที่ท่านอายุ 20 ปี หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดบุญวาทย์วิหาร โดยมี พระธรรมจินดานายก (ฝ่าย) เจ้าอาวาสวัดบุญวาทย์วิหาร และอดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า “เขมโก” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้มีธรรมอันเกษม”

    หลังอุปสมบท ท่านเริ่มศึกษาภาษาบาลี ที่วัดศรีล้อม และต่อมาย้ายไปศึกษาในแผนกนักธรรม ที่วัดเชียงราย ท่านสามารถสอบได้ นักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ. 2479 พร้อมความรู้เชี่ยวชาญ ด้านการเขียน และแปลภาษาบาลีอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้ว่า ท่านจะไม่สอบ เอาวุฒิทางวิชาการสูง ๆ ก็ตาม เนื่องจากเป้าหมายของท่าน คือการศึกษาค้นคว้าธรรมะ เพื่อนำไปปฏิบัติ

    วิถีแห่งวิปัสสนา
    หลังจากสำเร็จการศึกษา ด้านปริยัติธรรม หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้แสวงหาครูบาอาจารย์ ที่เชี่ยวชาญในสายวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งท่านได้พบกับ "ครูบาแก่น สุมโน" พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และเริ่มออกธุดงค์ไปยังป่าลึก เพื่อแสวงหาความวิเวก และปฏิบัติธรรม ในสถานที่สงบเงียบ

    ในระหว่างการปฏิบัติธรรม ท่านมีความเคร่งครัด ในธุดงควัตร (ข้อปฏิบัติสำหรับพระธุดงค์) โดยไม่ยึดติดกับสถานที่ หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ การฝึกสมาธิ และการเจริญวิปัสสนาของท่าน เน้นการปฏิบัติจริง เพื่อหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง

    พระสายวิปัสสนาธุระแห่งลำปาง
    ในช่วงชีวิตที่เหลือ "หลวงพ่อเกษม เขมโก" ได้ตัดสินใจปลีกวิเวก และปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ท่านใช้ชีวิตเรียบง่ายในสถานที่แห่งนี้ โดยไม่ยึดติดกับตำแหน่ง หรือยศศักดิ์ใด ๆ แม้กระทั่งตำแหน่ง เจ้าอาวาสที่วัดบุญยืน ซึ่งท่านได้รับแต่งตั้ง ท่านก็ได้ลาออก เพื่อมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม ตามแนวทางของท่านเอง

    ศรัทธาประชาชน
    ด้วยความสมถะ และการปฏิบัติที่เคร่งครัด "หลวงพ่อเกษม เขมโก" ได้รับความเคารพนับถือ จากประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงสมาชิกราชวงศ์ไทย เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งเคยเสด็จ ไปทรงนมัสการหลวงพ่อเกษม ด้วยพระองค์เอง

    ละสังขารปาฏิหาริย์สรีระ
    หลวงพ่อเกษม เขมโก ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 เวลา 19:40 น. ณ โรงพยาบาลลำปาง สร้างความอาลัยอย่างยิ่ง ให้กับสานุศิษย์ทั่วประเทศ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ สรีระของหลวงพ่อเกษม ไม่เน่าเปื่อย และยังคงสภาพสมบูรณ์ ทำให้ผู้ที่เคารพศรัทธา ยังคงเดินทาง มากราบไหว้สรีระของท่าน ณ สุสานไตรลักษณ์ จนถึงปัจจุบัน

    ปณิธานแห่งความเรียบง่าย
    คำสอนของหลวงพ่อเกษม เขมโก เน้นความเรียบง่ายในชีวิต และการยึดมั่นในธรรมะ ท่านสอนให้พุทธศาสนิกชน ละความยึดติดกับวัตถุ และกิเลส รวมถึงการเจริญวิปัสสนา เพื่อความสงบสุข และหลุดพ้น

    มรดกธรรมที่ยังคงอยู่
    แม้จะผ่านมา 29 ปีแล้ว หลังการละสังขารของ หลวงพ่อเกษม เขมโก แต่ความศรัทธา และคำสอนของท่าน ยังคงสืบทอดมาถึงปัจจุบัน ท่านเป็นแบบอย่างของพระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และเป็นสมบัติล้ำค่า ของพระพุทธศาสนาไทย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 150927 ม.ค. 2568

    #หลวงพ่อเกษมเขมโก #พระเกจิอาจารย์ #สายวิปัสสนา #ศรัทธา #ปาฏิหาริย์ #ลำปาง #พระมหาเถราจารย์ #ธรรมะ #พุทธศาสนาไทย #ประวัติศาสตร์
    29 ปี สิ้น “หลวงพ่อเกษม เขมโก” เจ้าแห่งราชวงศ์ทิพย์จักร พระมหาเถราจารย์ สายวิปัสสนานครลำปาง ย้อนไปเมื่อ 29 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 ถือเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนไทย ต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อหลวงพ่อเกษม เขมโก พระมหาเถราจารย์ ผู้เป็นที่เคารพรัก ได้ละสังขารลงอย่างสงบ ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลลำปาง สิริอายุ 83 ปี หลังจากที่พักรักษาอาการอาพาธ มาเป็นเวลานาน การจากไปของท่าน ไม่เพียงแต่สร้างความเศร้าโศก ให้กับชาวจังหวัดลำปางเท่านั้น แต่ยังส่งผลสะเทือน ต่อผู้เคารพศรัทธา ทั่วประเทศไทย ต้นกำเนิดหลวงพ่อเกษม "หลวงพ่อเกษม เขมโก" หรือชื่อเดิม "เจ้าเกษม ณ ลำปาง" เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455 ตรงกับวันพุธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ. 131 ท่านเป็นบุตรของ เจ้าน้อยหนู ณ ลำปาง (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนนามสกุลเป็น "มณีอรุณ") ผู้รับราชการตำแหน่งปลัดอำเภอ และเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง ซึ่งมีเชื้อสายเจ้านาย ในราชวงศ์ทิพย์จักร โดยหลวงพ่อเกษม เขมโก ยังเป็นราชปนัดดา (หลานเหลน) ของ เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้าหลวงผู้ครองนครลำปาง องค์สุดท้าย บรรพชาในวัยเยาว์ ในวัยเด็ก หลวงพ่อเกษม เขมโก ถูกเล่าขานว่า เป็นเด็กที่ซุกซนแต่ฉลาดเฉลียว มีครั้งหนึ่ง ท่านเคยปีนต้นฝรั่ง แล้วพลัดตก จนเกิดแผลเป็นที่ศีรษะ ซึ่งกลายเป็น เครื่องหมายแห่งความทรงจำ ในวัยเยาว์ เมื่อท่านอายุได้ 13 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรครั้งแรก ที่วัดป่าดั๊ว เพื่อบวชหน้าไฟเจ้าอาวาส ที่มรณภาพ หลังจากนั้น 7 วันจึงลาสิกขา ต่อมาเมื่ออายุ 15 ปี ท่านบรรพชาอีกครั้ง และจำวัด ที่วัดบุญยืน จังหวัดลำปาง ในช่วงเวลานี้ ท่านได้เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรม อย่างจริงจัง และสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ ในปี พ.ศ. 2474 อุปสมบท ในปี พ.ศ. 2475 ขณะที่ท่านอายุ 20 ปี หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดบุญวาทย์วิหาร โดยมี พระธรรมจินดานายก (ฝ่าย) เจ้าอาวาสวัดบุญวาทย์วิหาร และอดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า “เขมโก” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้มีธรรมอันเกษม” หลังอุปสมบท ท่านเริ่มศึกษาภาษาบาลี ที่วัดศรีล้อม และต่อมาย้ายไปศึกษาในแผนกนักธรรม ที่วัดเชียงราย ท่านสามารถสอบได้ นักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ. 2479 พร้อมความรู้เชี่ยวชาญ ด้านการเขียน และแปลภาษาบาลีอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้ว่า ท่านจะไม่สอบ เอาวุฒิทางวิชาการสูง ๆ ก็ตาม เนื่องจากเป้าหมายของท่าน คือการศึกษาค้นคว้าธรรมะ เพื่อนำไปปฏิบัติ วิถีแห่งวิปัสสนา หลังจากสำเร็จการศึกษา ด้านปริยัติธรรม หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้แสวงหาครูบาอาจารย์ ที่เชี่ยวชาญในสายวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งท่านได้พบกับ "ครูบาแก่น สุมโน" พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และเริ่มออกธุดงค์ไปยังป่าลึก เพื่อแสวงหาความวิเวก และปฏิบัติธรรม ในสถานที่สงบเงียบ ในระหว่างการปฏิบัติธรรม ท่านมีความเคร่งครัด ในธุดงควัตร (ข้อปฏิบัติสำหรับพระธุดงค์) โดยไม่ยึดติดกับสถานที่ หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ การฝึกสมาธิ และการเจริญวิปัสสนาของท่าน เน้นการปฏิบัติจริง เพื่อหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง พระสายวิปัสสนาธุระแห่งลำปาง ในช่วงชีวิตที่เหลือ "หลวงพ่อเกษม เขมโก" ได้ตัดสินใจปลีกวิเวก และปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ท่านใช้ชีวิตเรียบง่ายในสถานที่แห่งนี้ โดยไม่ยึดติดกับตำแหน่ง หรือยศศักดิ์ใด ๆ แม้กระทั่งตำแหน่ง เจ้าอาวาสที่วัดบุญยืน ซึ่งท่านได้รับแต่งตั้ง ท่านก็ได้ลาออก เพื่อมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม ตามแนวทางของท่านเอง ศรัทธาประชาชน ด้วยความสมถะ และการปฏิบัติที่เคร่งครัด "หลวงพ่อเกษม เขมโก" ได้รับความเคารพนับถือ จากประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงสมาชิกราชวงศ์ไทย เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งเคยเสด็จ ไปทรงนมัสการหลวงพ่อเกษม ด้วยพระองค์เอง ละสังขารปาฏิหาริย์สรีระ หลวงพ่อเกษม เขมโก ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 เวลา 19:40 น. ณ โรงพยาบาลลำปาง สร้างความอาลัยอย่างยิ่ง ให้กับสานุศิษย์ทั่วประเทศ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ สรีระของหลวงพ่อเกษม ไม่เน่าเปื่อย และยังคงสภาพสมบูรณ์ ทำให้ผู้ที่เคารพศรัทธา ยังคงเดินทาง มากราบไหว้สรีระของท่าน ณ สุสานไตรลักษณ์ จนถึงปัจจุบัน ปณิธานแห่งความเรียบง่าย คำสอนของหลวงพ่อเกษม เขมโก เน้นความเรียบง่ายในชีวิต และการยึดมั่นในธรรมะ ท่านสอนให้พุทธศาสนิกชน ละความยึดติดกับวัตถุ และกิเลส รวมถึงการเจริญวิปัสสนา เพื่อความสงบสุข และหลุดพ้น มรดกธรรมที่ยังคงอยู่ แม้จะผ่านมา 29 ปีแล้ว หลังการละสังขารของ หลวงพ่อเกษม เขมโก แต่ความศรัทธา และคำสอนของท่าน ยังคงสืบทอดมาถึงปัจจุบัน ท่านเป็นแบบอย่างของพระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และเป็นสมบัติล้ำค่า ของพระพุทธศาสนาไทย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 150927 ม.ค. 2568 #หลวงพ่อเกษมเขมโก #พระเกจิอาจารย์ #สายวิปัสสนา #ศรัทธา #ปาฏิหาริย์ #ลำปาง #พระมหาเถราจารย์ #ธรรมะ #พุทธศาสนาไทย #ประวัติศาสตร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้พระธรรมเทศนาถวายพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระราชินี

    พระราชปณิธานขององค์สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงส่งเสริมพระพุทธศาสนา แต่มาสมัยนี้ ลูกหลานพระยามาร คิดเห็นผิดด้วยโลภะ โมหะ จะนำอบายมุขมานำเสนอแก่มวลมนุษย์ชาติ ไม่ว่าคนไทยและชาวต่างชาติ
    ข้าพระพุทธเจ้า ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องรักษาบ้านเมือง ได้โปรดดลจิตดลใจให้ผู้มีหน้าที่ กรุณาโปรดทำหน้าที่ หาช่องทำหน้าที่ ให้พญามาร จอมมาร พ่ายแพ้ ต่อธรรม ต่อสัจจะ ต่อกรรม ให้ทำชั่วไม่สำเร็จ อย่าได้เดือดร้อนพลเมืองของชาติ ที่มีเหลือไม่มากด้วยเทริญ สาธุ สาธุ สาธุ
    วันนี้พระธรรมเทศนาถวายพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระราชินี พระราชปณิธานขององค์สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงส่งเสริมพระพุทธศาสนา แต่มาสมัยนี้ ลูกหลานพระยามาร คิดเห็นผิดด้วยโลภะ โมหะ จะนำอบายมุขมานำเสนอแก่มวลมนุษย์ชาติ ไม่ว่าคนไทยและชาวต่างชาติ ข้าพระพุทธเจ้า ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องรักษาบ้านเมือง ได้โปรดดลจิตดลใจให้ผู้มีหน้าที่ กรุณาโปรดทำหน้าที่ หาช่องทำหน้าที่ ให้พญามาร จอมมาร พ่ายแพ้ ต่อธรรม ต่อสัจจะ ต่อกรรม ให้ทำชั่วไม่สำเร็จ อย่าได้เดือดร้อนพลเมืองของชาติ ที่มีเหลือไม่มากด้วยเทริญ สาธุ สาธุ สาธุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิตกทุกข์ร้อนหลายมันยิ่งทุกข์ ..เรามาพึ่งพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ากัน ปฏิบัติกันบ้าง
    วิตกทุกข์ร้อนหลายมันยิ่งทุกข์ ..เรามาพึ่งพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ากัน ปฏิบัติกันบ้าง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ...ดาวพฤหัสบดี(๕) วิปริต พระไตรปิฎกถูกบิดเบือน มีลัทธิแปลกปลอมอาศัยวาทศิลป์อ้างพระธรรมคำสอนสร้างอาณาจักรของตน
    ...ดาวพุธ (๔) วิปริต สื่อมหาชนพาผู้คนคล้อยตามไปสู่อคติ สร้างอกุศลมากมาย
    ...ดาวอังคาร (๓) วิปริต ทหารถูกอำนาจอิทธิพลมืดครอบงำ ต้องฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชาเพื่อรักษาหน้าที่ตน
    #พลัมเฮร่า
    #เรือนเทพพฤกษารื่นรมย์
    ...ดาวพฤหัสบดี(๕) วิปริต พระไตรปิฎกถูกบิดเบือน มีลัทธิแปลกปลอมอาศัยวาทศิลป์อ้างพระธรรมคำสอนสร้างอาณาจักรของตน ...ดาวพุธ (๔) วิปริต สื่อมหาชนพาผู้คนคล้อยตามไปสู่อคติ สร้างอกุศลมากมาย ...ดาวอังคาร (๓) วิปริต ทหารถูกอำนาจอิทธิพลมืดครอบงำ ต้องฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชาเพื่อรักษาหน้าที่ตน #พลัมเฮร่า #เรือนเทพพฤกษารื่นรมย์
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22/12/67

    ลองฝึกสมาธิของอกล้วยคิดว่าดี ถูกจริต เข้าถึงง่าย เลยเอามาฝากค่ะ

    ฝึกสมาธิ
    สรัางบุญอันยิ่งใหญ่ด้วยณาฌที่ฝึกได้ทันที เริ่ม20~50 นาที
    อานันตสมาธิ
    https://youtu.be/xqNyukxzcLQ?si=RexOouMk9lE7ARUv
    ขอขมากรรม

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    3 จบ
    ข้าพูเจ้า ซื่อ ~นามสกุลตัวเอง
    (นางยุพเยาว์ไชยศรีมณีพรรณ)ขอตั้งจิตอธิฐานขอขมากรรมที่ได้กระทำความผิดอกุศล พูดผิด คิดผิด ด้วยกาย วาจา ใจ หากข้าพเจ้าเคยลบหลู่ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์
    เคยลบหลู่ นิดามารดา ครูบาอาจารย์ หรือผู้มีพระคุณ ข้าพเจ้าขอขมาในความไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวต่อบาป ซุบซิปนินทา ใส่ร้ายป้ายสี ชอบเพ็งโทษโยนความผิดให้ผู้อื่น ยุยงส่งเสริมให้แตกความสามัคคี ติดสินบน หักหลังเห็นแก่ตัว ผิดศีล
    บัดนี้ ข้าพเจ้าสำนักผิดแล้วในการกระทำทั้งปวง ด้วยกาย วาจา ใจ ขอให้ท่านทุกรูปทุกนาม ทุกจิต ทุกดวงวิญญาณ ทุกภูมิ โปรดงดโทษ อโหสิกรรมให้เป็นอภัยทาน ให้ขาดจาการกันในชาตินี้
    ข้าพเจ้สจะสำรวมระวังในการคิด การพูด ในการกระทำาต่อไป
    ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐานในสิ่งผิดและถอนคำสาบแช่งทุกชนิดที่กระทำด้วยจิตริษยาอาฆาตพยาบาท กระทำด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลงจองล้างจองผลาญเบียดเบียนผู้อื่น ด้วยกาย วาจา ใจ
    โดยมีอวิชาตัณหา อุปาทาน มานะทิฐิโดยรู้เท่าไม่ถึงกาล
    ข้าพเจ้าขอถอนอธิษฐานสิ่งผิดๆเหล่านี้ณ.บัดนี้
    บัดนี้ข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้วและจะคอยระวังการพูด การคิด การระวัง ในคราวต่อๆไป ไม่ให้ทำผิดซ้ำอีก
    พุธธัง ธัมมัง สังฆัง สะรังนังกะฉามิ
    ต้องรู้จักผิดบาปที่เรากระทำไปชีวิตเราจะได้ดีขึ้นมีอิริโอตะปะ ละอายเกรงกลัวต่อบาป
    กระทำกรรมชั่ว ต้ององได้รับผลชั่วมุ่งกระทำกรมรดี ที่อ.กล้วยสอนนี้ เป็นความดีอันยิ่งใหญ่ เมื่อมีจิตสูงสุดแล้วให้แผ่เมตตา

    แผ่เมตตา
    สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
    ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้ และก่อนหน้านี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ให้บิดามารดา ครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า และสรรพสัตว์ทั้งหลายในทั้ง 3 โลก ให้ญาติมิตรพี่น้อง ให้มิตรสหาย เจ้านายลูกน้อง ให้เทพเทวดาให้พรม ให้ผู้ที่อยู่ในอบายภูมิทั้งปวง และผู้ที่จองล้างจองผลาญ เป็นอริศัตรูของข้าพเจ้ว ขอให้มารับบุญทุกท่าน ขอให้อย่าได้มีความพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ขอให้มีความสุขความเจริญ พ้นทุกข์พ้นภัยทุกท่าน ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้ตัวข้าพเจ้าเองให้พ้นทุกข์ พ้นกรรมทั้งปวง ให้มีชีวิตที่เจริญยื่งขึ้น ด้วยสุขะ พละและนิพพานเทอญ สาธุ
    ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
    cr:อ.กล้วย
    22/12/67 ลองฝึกสมาธิของอกล้วยคิดว่าดี ถูกจริต เข้าถึงง่าย เลยเอามาฝากค่ะ ฝึกสมาธิ สรัางบุญอันยิ่งใหญ่ด้วยณาฌที่ฝึกได้ทันที เริ่ม20~50 นาที อานันตสมาธิ https://youtu.be/xqNyukxzcLQ?si=RexOouMk9lE7ARUv ขอขมากรรม นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 จบ ข้าพูเจ้า ซื่อ ~นามสกุลตัวเอง (นางยุพเยาว์ไชยศรีมณีพรรณ)ขอตั้งจิตอธิฐานขอขมากรรมที่ได้กระทำความผิดอกุศล พูดผิด คิดผิด ด้วยกาย วาจา ใจ หากข้าพเจ้าเคยลบหลู่ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์ เคยลบหลู่ นิดามารดา ครูบาอาจารย์ หรือผู้มีพระคุณ ข้าพเจ้าขอขมาในความไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวต่อบาป ซุบซิปนินทา ใส่ร้ายป้ายสี ชอบเพ็งโทษโยนความผิดให้ผู้อื่น ยุยงส่งเสริมให้แตกความสามัคคี ติดสินบน หักหลังเห็นแก่ตัว ผิดศีล บัดนี้ ข้าพเจ้าสำนักผิดแล้วในการกระทำทั้งปวง ด้วยกาย วาจา ใจ ขอให้ท่านทุกรูปทุกนาม ทุกจิต ทุกดวงวิญญาณ ทุกภูมิ โปรดงดโทษ อโหสิกรรมให้เป็นอภัยทาน ให้ขาดจาการกันในชาตินี้ ข้าพเจ้สจะสำรวมระวังในการคิด การพูด ในการกระทำาต่อไป ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐานในสิ่งผิดและถอนคำสาบแช่งทุกชนิดที่กระทำด้วยจิตริษยาอาฆาตพยาบาท กระทำด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลงจองล้างจองผลาญเบียดเบียนผู้อื่น ด้วยกาย วาจา ใจ โดยมีอวิชาตัณหา อุปาทาน มานะทิฐิโดยรู้เท่าไม่ถึงกาล ข้าพเจ้าขอถอนอธิษฐานสิ่งผิดๆเหล่านี้ณ.บัดนี้ บัดนี้ข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้วและจะคอยระวังการพูด การคิด การระวัง ในคราวต่อๆไป ไม่ให้ทำผิดซ้ำอีก พุธธัง ธัมมัง สังฆัง สะรังนังกะฉามิ ต้องรู้จักผิดบาปที่เรากระทำไปชีวิตเราจะได้ดีขึ้นมีอิริโอตะปะ ละอายเกรงกลัวต่อบาป กระทำกรรมชั่ว ต้ององได้รับผลชั่วมุ่งกระทำกรมรดี ที่อ.กล้วยสอนนี้ เป็นความดีอันยิ่งใหญ่ เมื่อมีจิตสูงสุดแล้วให้แผ่เมตตา แผ่เมตตา สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้ และก่อนหน้านี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ให้บิดามารดา ครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า และสรรพสัตว์ทั้งหลายในทั้ง 3 โลก ให้ญาติมิตรพี่น้อง ให้มิตรสหาย เจ้านายลูกน้อง ให้เทพเทวดาให้พรม ให้ผู้ที่อยู่ในอบายภูมิทั้งปวง และผู้ที่จองล้างจองผลาญ เป็นอริศัตรูของข้าพเจ้ว ขอให้มารับบุญทุกท่าน ขอให้อย่าได้มีความพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ขอให้มีความสุขความเจริญ พ้นทุกข์พ้นภัยทุกท่าน ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้ตัวข้าพเจ้าเองให้พ้นทุกข์ พ้นกรรมทั้งปวง ให้มีชีวิตที่เจริญยื่งขึ้น ด้วยสุขะ พละและนิพพานเทอญ สาธุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด cr:อ.กล้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • อนุสติ (บาลี: อนุสฺสติ) หมายถึง กรรมฐานเป็นเครื่องระลึกถึง มี 10 อย่าง ได้แก่

    พุทธานุสติ การระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า
    ธัมมานุสติ การระลึกถึงพระคุณของพระธรรม
    สังฆานุสติ การระลึกถึงพระคุณของพระสงฆ์
    สีลานุสติ การระลึกถึงศีล ที่ตนเคยรักษาไว้ได้
    จาคานุสติ การระลึกถึงทาน ความดีที่ตนสร้างไว้
    เทวตานุสติ การระลึกถึงคุณที่ทำให้คนเป็นเทวดา เช่น หิริ โอตตัปปะ
    อุปสมานุสติ การระลึกถึงพระคุณของพระนิพพาน
    มรณานุสติ[1][2] การระลึกถึงความตาย
    อานาปานสติ การระลึกถึงลมหายใจเข้าออก (อานาปาน + อนุสสติ = อานาปานุสสติ)
    กายคตาสติ การระลึกถึงความไม่งามปฏิกูลของอาการ 32 มีผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น
    เป็น 10 กรรมฐานในกรรมฐาน 40 กองได้แก่ กสิน 10, อนุสสติ 10, อสุภะ 10, พรหมวิหาร 4, อรูปฌาน 4, จตุธาตุววัตถาน 1, อาหาเรปฏิกูลสัญญา 1

    วิสุทธิมรรคระบุว่า พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ สีลานุสติ จาคานุสติ เทวตานุสติ อุปสมานุสติ มรณสติ เป็นอารมณ์นิมิตทำสมาธิได้สูงสุดที่ระดับอุปจารสมาธิ กายคตาสติเป็นอารมณ์นิมิตรทำสมาธิได้สูงสุดที่ระดับปฐมฌาน (ฌานที่ 1) และอานาปานสติเป็นอารมณ์นิมิตรทำสมาธิได้สูงสุดที่ระดับจตุตถฌาน (ฌานที่ 4)
    อนุสติ (บาลี: อนุสฺสติ) หมายถึง กรรมฐานเป็นเครื่องระลึกถึง มี 10 อย่าง ได้แก่ พุทธานุสติ การระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า ธัมมานุสติ การระลึกถึงพระคุณของพระธรรม สังฆานุสติ การระลึกถึงพระคุณของพระสงฆ์ สีลานุสติ การระลึกถึงศีล ที่ตนเคยรักษาไว้ได้ จาคานุสติ การระลึกถึงทาน ความดีที่ตนสร้างไว้ เทวตานุสติ การระลึกถึงคุณที่ทำให้คนเป็นเทวดา เช่น หิริ โอตตัปปะ อุปสมานุสติ การระลึกถึงพระคุณของพระนิพพาน มรณานุสติ[1][2] การระลึกถึงความตาย อานาปานสติ การระลึกถึงลมหายใจเข้าออก (อานาปาน + อนุสสติ = อานาปานุสสติ) กายคตาสติ การระลึกถึงความไม่งามปฏิกูลของอาการ 32 มีผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น เป็น 10 กรรมฐานในกรรมฐาน 40 กองได้แก่ กสิน 10, อนุสสติ 10, อสุภะ 10, พรหมวิหาร 4, อรูปฌาน 4, จตุธาตุววัตถาน 1, อาหาเรปฏิกูลสัญญา 1 วิสุทธิมรรคระบุว่า พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ สีลานุสติ จาคานุสติ เทวตานุสติ อุปสมานุสติ มรณสติ เป็นอารมณ์นิมิตทำสมาธิได้สูงสุดที่ระดับอุปจารสมาธิ กายคตาสติเป็นอารมณ์นิมิตรทำสมาธิได้สูงสุดที่ระดับปฐมฌาน (ฌานที่ 1) และอานาปานสติเป็นอารมณ์นิมิตรทำสมาธิได้สูงสุดที่ระดับจตุตถฌาน (ฌานที่ 4)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำเริง คำพะอุ อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์สยามรัฐ และอดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย เสียชีวิตที่บ้านพักด้วยโรคชรา รวมอายุได้ 80 ปี พิธีสวดพระอภิธรรมจัดขึ้นที่วัดเสมียนนารี ฌาปนกิจ 9 ธ.ค.

    วันนี้ (5 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายสำเริง คำพะอุ อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์สยามรัฐ และอดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย อายุ 80 ปี เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคชรา ที่บ้านพักย่าน จ.นนทบุรี โดยมีกำหนดสวดพระอภิธรรมและฌาปนกิจ ณ วัดเสมียนนารี ศาลา 4 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ในวันนี้มีพิธีรดน้ำศพเวลา 16.00 น. สวดพระอภิธรรม เวลา 17.00 น. และจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมวันที่ 6-8 ธ.ค. เวลา 18.00 น. (วันที่ 8 ธ.ค. แสดงพระธรรมเทศนา เวลา 17.30 น.) และฌาปนกิจวันที่ 9 ธ.ค. เวลา 17.00 น.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000117160

    #MGROnline #สำเริงคำพะอุ #อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์สยามรัฐ #อดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย
    สำเริง คำพะอุ อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์สยามรัฐ และอดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย เสียชีวิตที่บ้านพักด้วยโรคชรา รวมอายุได้ 80 ปี พิธีสวดพระอภิธรรมจัดขึ้นที่วัดเสมียนนารี ฌาปนกิจ 9 ธ.ค. • วันนี้ (5 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายสำเริง คำพะอุ อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์สยามรัฐ และอดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย อายุ 80 ปี เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคชรา ที่บ้านพักย่าน จ.นนทบุรี โดยมีกำหนดสวดพระอภิธรรมและฌาปนกิจ ณ วัดเสมียนนารี ศาลา 4 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ในวันนี้มีพิธีรดน้ำศพเวลา 16.00 น. สวดพระอภิธรรม เวลา 17.00 น. และจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมวันที่ 6-8 ธ.ค. เวลา 18.00 น. (วันที่ 8 ธ.ค. แสดงพระธรรมเทศนา เวลา 17.30 น.) และฌาปนกิจวันที่ 9 ธ.ค. เวลา 17.00 น. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000117160 • #MGROnline #สำเริงคำพะอุ #อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์สยามรัฐ #อดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • Credit : ดร.ณัฐนันท์ สุดประเสริฐ วันนี้ชมโหนกระแสกันนะคะ ทราบข่าวมาว่า พอจ.สมบูรณ์ ฉนฺทโก วัดเขาสนามชัย ไปออกรายการวันนี้ค่ะทราบมาว่าไม่ใช่การดีเบตนะคะแต่เป็นการชี้แจงพระธรรมวินัยร่วมกับพระมหาวัฒนาซึ่งพระมหาวัฒนานิมนต์ท่านค่ะ
    Credit : ดร.ณัฐนันท์ สุดประเสริฐ วันนี้ชมโหนกระแสกันนะคะ ทราบข่าวมาว่า พอจ.สมบูรณ์ ฉนฺทโก วัดเขาสนามชัย ไปออกรายการวันนี้ค่ะทราบมาว่าไม่ใช่การดีเบตนะคะแต่เป็นการชี้แจงพระธรรมวินัยร่วมกับพระมหาวัฒนาซึ่งพระมหาวัฒนานิมนต์ท่านค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • Credit : ดร.ณัฐนันท์ สุดประเสริฐ กราบ กราบ กราบ เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช ท่านดำรัสถึงคนที่สอนธรรมทุกวันนี้ ขาดองค์ความรู้ ใช้วาทะ คารม ใช้อัตโนมติของตนเองกล่าวตู่พระพุทธพจน์ นับเป็นพฤติกรรมที่บ่อนทำลายพระพุทธศาสนาท่านยังฝากถึงผู้ศึกษารอบในพระปริยัติธรรม ช่วยกันกล่าวโต้แย้งบรรดานักพูดที่บิดเบือนพระธรรมวินัยด้วย ให้สมหน้าที่พุทธสาวกของพระบรมศาสดาสืบไป เกล้าดิฉัน น้อมกราบรับภาระหน้าที่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมศาสดา จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไปhttps://youtu.be/W_o5TMPysx0?si=lv2ZksvhkhsefYp4
    Credit : ดร.ณัฐนันท์ สุดประเสริฐ กราบ กราบ กราบ เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช ท่านดำรัสถึงคนที่สอนธรรมทุกวันนี้ ขาดองค์ความรู้ ใช้วาทะ คารม ใช้อัตโนมติของตนเองกล่าวตู่พระพุทธพจน์ นับเป็นพฤติกรรมที่บ่อนทำลายพระพุทธศาสนาท่านยังฝากถึงผู้ศึกษารอบในพระปริยัติธรรม ช่วยกันกล่าวโต้แย้งบรรดานักพูดที่บิดเบือนพระธรรมวินัยด้วย ให้สมหน้าที่พุทธสาวกของพระบรมศาสดาสืบไป เกล้าดิฉัน น้อมกราบรับภาระหน้าที่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมศาสดา จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไปhttps://youtu.be/W_o5TMPysx0?si=lv2ZksvhkhsefYp4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดังนั้น พระอรหันต์ตามพระธรรมวินัยนี้หรือตามหลักการทางพระพุทธศาสนา ก็คือ ผู้ที่เข้าถึงสัจธรรมความจริงอันประเสริฐสูงสุด จิตหลุดพ้นจากอาสวะกิเลสทั้งปวงอย่างเด็ดขาด พ้นอำนาจจากความเกิด ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ไม่มีความเศร้าหมองขุ่นมัวในดวงใจ ปราศจากความเดือดร้อนใจและความวิตกกังวลกระวนกระวายใดๆ หลุดพ้นจากความทุกข์อย่างสิ้นเชิง มี ๔ ประเภท ได้แก่ ๑.พระอรหันต์สุกขวิปัสสโก พระอรหันต์ประเภทแรกนี้คือผู้ที่จิตหลุดพ้นจากกิเลสสิ้นเชิง แต่ไม่ประกอบด้วยฤทธิ์หรือมีอภิญญามีคุณวิเศษอย่างอื่น คือแม้จิตหลุดพ้นแล้ว แต่อาจไม่มีทิพจักขุ คือไม่มีตาทิพย์ ไม่เห็นนรกสวรรค์ ไม่เห็นภพภูมิอันลี้ลับที่ท่านพรรณนาไว้ แต่คุณธรรมภายในคือความบริสุทธิ์สะอาดภายในดวงจิตของท่านก็ไม่ด้อยกว่าพระอรหันต์ประเภทอื่นแต่อย่างใด
    ดังนั้น พระอรหันต์ตามพระธรรมวินัยนี้หรือตามหลักการทางพระพุทธศาสนา ก็คือ ผู้ที่เข้าถึงสัจธรรมความจริงอันประเสริฐสูงสุด จิตหลุดพ้นจากอาสวะกิเลสทั้งปวงอย่างเด็ดขาด พ้นอำนาจจากความเกิด ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ไม่มีความเศร้าหมองขุ่นมัวในดวงใจ ปราศจากความเดือดร้อนใจและความวิตกกังวลกระวนกระวายใดๆ หลุดพ้นจากความทุกข์อย่างสิ้นเชิง มี ๔ ประเภท ได้แก่ ๑.พระอรหันต์สุกขวิปัสสโก พระอรหันต์ประเภทแรกนี้คือผู้ที่จิตหลุดพ้นจากกิเลสสิ้นเชิง แต่ไม่ประกอบด้วยฤทธิ์หรือมีอภิญญามีคุณวิเศษอย่างอื่น คือแม้จิตหลุดพ้นแล้ว แต่อาจไม่มีทิพจักขุ คือไม่มีตาทิพย์ ไม่เห็นนรกสวรรค์ ไม่เห็นภพภูมิอันลี้ลับที่ท่านพรรณนาไว้ แต่คุณธรรมภายในคือความบริสุทธิ์สะอาดภายในดวงจิตของท่านก็ไม่ด้อยกว่าพระอรหันต์ประเภทอื่นแต่อย่างใด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • ... ก็ที่ต้องออกมานั่งเคลียร์เพราะคนไม่เรียนแต่ออกมาทำคอนเทนต์สอนคนไงคะ หารายได้จากพระธรรมคำสอนแถมยังพูดผิดๆถูกๆ เค้าเลยต้องออกมาช่วยเกลาค่ะ....
    ... ก็ที่ต้องออกมานั่งเคลียร์เพราะคนไม่เรียนแต่ออกมาทำคอนเทนต์สอนคนไงคะ หารายได้จากพระธรรมคำสอนแถมยังพูดผิดๆถูกๆ เค้าเลยต้องออกมาช่วยเกลาค่ะ....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอแสดงมุทิตาจิตกับสามเณรสกาย ในการสำเร็จการศึกษา “นักธรรมชั้นตรี” ขออนุโมทนาและเป็นกำลังใจให้สามเณรสกายได้สำเร็จบรรลุเป้าหมายเปรียญธรรม ๙ ประโยคสมปรารถนา เป็นศาสนทายาทสืบทอดพระธรรมสืบต่อไปผลสอบธรรมสนามหลวง จากสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงโดยความเห็นของมหาเถรสมาคม#สามเณรปลูกปัญญาธรรมรม #บวชเณร #เณรน้อย #น่ารัก #กิจกรรม #ปิดเทอม #อนุโมทนาบุญ #สาธุ #ทรูปลูกปัญญา #truelittlemonk #dhamma
    ขอแสดงมุทิตาจิตกับสามเณรสกาย ในการสำเร็จการศึกษา “นักธรรมชั้นตรี” ขออนุโมทนาและเป็นกำลังใจให้สามเณรสกายได้สำเร็จบรรลุเป้าหมายเปรียญธรรม ๙ ประโยคสมปรารถนา เป็นศาสนทายาทสืบทอดพระธรรมสืบต่อไปผลสอบธรรมสนามหลวง จากสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงโดยความเห็นของมหาเถรสมาคม#สามเณรปลูกปัญญาธรรมรม #บวชเณร #เณรน้อย #น่ารัก #กิจกรรม #ปิดเทอม #อนุโมทนาบุญ #สาธุ #ทรูปลูกปัญญา #truelittlemonk #dhamma
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 582 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่เคยเสื่อมถอย ไม่เคยล้าสมัย 2,600 ปีร่วงมา ..ฟังจากพระสาวกท่านสมัยปัจจุบันเทศน์ก็น่าฟังตลอด
    พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่เคยเสื่อมถอย ไม่เคยล้าสมัย 2,600 ปีร่วงมา ..ฟังจากพระสาวกท่านสมัยปัจจุบันเทศน์ก็น่าฟังตลอด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • บึ้มขวางกวนอิมเทพา ทำลายพหุวัฒนธรรม

    6 โมงเช้า วันที่ 20 พ.ย. คนร้ายลอบวางระเบิดใส่แคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม บ้านปากบางสะกอม หมู่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ต่อมาเวลา 10.30 น และ 10.40 น. เกิดระเบิดลูกที่ 3 และลูกที่4 บริเวณเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุห่างจากที่เกิดเหตุจุดแรกประมาณ 400 เมตร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบจดหมายพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์เป็นภาษาไทยและเมียนมา ระบุว่า "ถ้าใครที่ทำงานในโครงการนี้ที่นี่และในสามจังหวัดชายแดนใต้ เราขอเตือนจงหยุด ไม่งั้นเราจะไม่รับรองชีวิตของท่าน"

    พ.อ.ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามทำลายรูปเคารพทางศาสนา ซึ่งเป็นการทำลายสัญลักษณ์ของความเป็นพหุวัฒนธรรม พยายามสร้างสังคมเชิงเดี่ยวที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและหลักของศาสนาอันดีงาม เชื่อว่าพยายามหยิบความขัดแย้งทางศาสนามาเป็นปัญหาขัดแย้งในพื้นที่ แต่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย แกนนำคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส อ้างว่าไม่ใช่การวางระเบิดแบบปกติ ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่พยายามคัดค้านการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เพราะมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิคมฯ แต่ก็แผ่วลง และเห็นว่าเป็นสิทธิ์ของนายทุน กระทั่งเริ่มลงเสาขนาดใหญ่ในพื้นที่

    เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และครอบครัว ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกเจดีย์สัมฤทธิ์ผลคุ้มลูกกันภัย ณ สถานที่ก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. หรือ 6 วันก่อนเกิดเหตุ โดยมี พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค 4 และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และได้เชิญพระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส แสดงธรรมเทศนา โดยยืนยันว่าจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ เพราะบรรยากาศโดยรอบสวยงามตามธรรมชาติ หาดสวย ทะเลน้ำใส มีเสน่ห์เฉพาะตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

    สำหรับโครงการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เกิดขึ้นเมื่อปี 2565 โดยบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อที่ดิน 65 ไร่ เพื่อก่อสร้าง เช่นเดียวกับเจ้าแม่กวนอิมในต่างประเทศ แต่ต่อมาคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลานำชาวมุสลิมกว่า 4,000 คน ละหมาดฮายัตเพื่อคัดค้านการก่อสร้าง อ้างว่ามีโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะอยู่เบื้องหลัง และอ้างว่าล้อมรอบด้วยชุมชนชาวมุสลิม ทั้งที่ความจริงที่ดินอยู่ห่างไกลจากชุมชนมาก ส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ต สวนยางพารา และสวนมะพร้าวเท่านั้น

    #Newskit #เจ้าแม่กวนอิม #เทพา
    บึ้มขวางกวนอิมเทพา ทำลายพหุวัฒนธรรม 6 โมงเช้า วันที่ 20 พ.ย. คนร้ายลอบวางระเบิดใส่แคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม บ้านปากบางสะกอม หมู่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ต่อมาเวลา 10.30 น และ 10.40 น. เกิดระเบิดลูกที่ 3 และลูกที่4 บริเวณเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุห่างจากที่เกิดเหตุจุดแรกประมาณ 400 เมตร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบจดหมายพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์เป็นภาษาไทยและเมียนมา ระบุว่า "ถ้าใครที่ทำงานในโครงการนี้ที่นี่และในสามจังหวัดชายแดนใต้ เราขอเตือนจงหยุด ไม่งั้นเราจะไม่รับรองชีวิตของท่าน" พ.อ.ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามทำลายรูปเคารพทางศาสนา ซึ่งเป็นการทำลายสัญลักษณ์ของความเป็นพหุวัฒนธรรม พยายามสร้างสังคมเชิงเดี่ยวที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและหลักของศาสนาอันดีงาม เชื่อว่าพยายามหยิบความขัดแย้งทางศาสนามาเป็นปัญหาขัดแย้งในพื้นที่ แต่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย แกนนำคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส อ้างว่าไม่ใช่การวางระเบิดแบบปกติ ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่พยายามคัดค้านการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เพราะมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิคมฯ แต่ก็แผ่วลง และเห็นว่าเป็นสิทธิ์ของนายทุน กระทั่งเริ่มลงเสาขนาดใหญ่ในพื้นที่ เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และครอบครัว ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกเจดีย์สัมฤทธิ์ผลคุ้มลูกกันภัย ณ สถานที่ก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. หรือ 6 วันก่อนเกิดเหตุ โดยมี พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค 4 และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และได้เชิญพระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส แสดงธรรมเทศนา โดยยืนยันว่าจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ เพราะบรรยากาศโดยรอบสวยงามตามธรรมชาติ หาดสวย ทะเลน้ำใส มีเสน่ห์เฉพาะตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สำหรับโครงการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เกิดขึ้นเมื่อปี 2565 โดยบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อที่ดิน 65 ไร่ เพื่อก่อสร้าง เช่นเดียวกับเจ้าแม่กวนอิมในต่างประเทศ แต่ต่อมาคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลานำชาวมุสลิมกว่า 4,000 คน ละหมาดฮายัตเพื่อคัดค้านการก่อสร้าง อ้างว่ามีโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะอยู่เบื้องหลัง และอ้างว่าล้อมรอบด้วยชุมชนชาวมุสลิม ทั้งที่ความจริงที่ดินอยู่ห่างไกลจากชุมชนมาก ส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ต สวนยางพารา และสวนมะพร้าวเท่านั้น #Newskit #เจ้าแม่กวนอิม #เทพา
    Like
    Sad
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1151 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จงอย่าคิดว่าคนอย่างเราไม่มีบุญ

    #แต่ว่าถ้าสมัยนี้บรรดาท่านพุทธบริษัทคนใดมีจิตใจมุ่งหวังพระนิพพานเป็นอารมณ์ #หากว่าท่านเป็นพระโสดาบันก็ดีหรือยังไม่เป็นพระโสดาบันก็ตาม #พยายามมีความเคารพพระพุทธเจ้า #พระธรรม #พระอริยสงฆ์ #ให้มั่นคงนึกถึงความตายไว้เป็นปกติ #ว่าชีวิตมันต้องตายแต่ว่าถ้าตายเมื่อไรขอไปนิพพานเมื่อนั้น #จิตใจรักพระนิพพานเป็นอารมณ์ ถึงแม้ศีลหรือกรรมบถ ๑๐ จะบกพร่องบ้างก็ตาม ถ้าจิตคิดอย่างนี้อยู่ ตายแล้วไม่ลงอบายภูมิแน่ ก็ไปสวรรค์ ถ้าไปสวรรค์แล้วภายในไม่ช้าถ้าไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทวดาหรือนางฟ้าชั้นดาวดึงส์นี่มีอายุ ๑๐๐๐ ปีทิพย์ จะมีอายุในดาวดึงส์ไม่ถึง ๓๐๐ปีทิพย์ #พระศรีอาริย์ฯก็จะตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ตอนนั้นขณะที่ท่านเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า ได้ฟังเทศน์เพียงครั้งเดียวในชีวิตก็สามารถเป็นพระอรหันต์ได้

    นี่ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย จงอย่าคิดว่าคนอย่างเราไม่มีบุญ ถ้าไม่มีบุญจริงๆ ญาติโยมทั้งหลายมานั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ทนไม่ได้เพราะมันเมื่อย เหยียดแข้งเหยียดขาก็ไม่ออก นังก็แสนจะลำบาก อาศัยบุญบารมีเก่าของท่านดีมากจึงสามารถมาทนนั่งอย่างนี้ได้ และตั้งใจโดยเฉพาะว่าเราต้องการบุญกุศล โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้พูดเรื่องพระโสดาบันและนิพพาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง #สำหรับบุคคลใดยังต้องเกิดพระศรีอาริย์ฯท่านเคยบอกฝากไว้ #บอกว่าคนของผมอยู่ในระหว่างของท่านหลายแสนคน #คนที่เกิดทันสมัยท่านบำเพ็ญบารมีมาด้วยกันนะประมาณ๓แสนคน #ผมฝากด้วยขอให้ทุกคนรักษากรรมบถ ๑๐ให้ครบถ้วนทุกวัน

    ถ้าเป็นการบังเอิญครบถ้วนทุกวันไม่ได้ วันปกติบกพร่องบ้างก็ตาม แต่ว่าวันพระอย่าให้บกพร่อง วันพระต้องเต็ม อย่างนี้คนพวกนั้นจะเกิดทันสมัยผม และฟังเทศน์เพียงครั้งเดียว ถ้าอย่างอ่อนฟังเทศน์ครั้งแรกก็เป็นพระโสดาบัน ถ้ารักษากรรมบถ ๑๐ ได้ครบถ้วนตลอดวันทุกวัน ทั้งวันดีวันพระอย่างนี้ฟังเทศน์จบจะเป็นพระอรหันต์ทันที ก็รวมความว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายโดยทั่วหน้า ที่มานั่งวันนี้ตรงนี้ทุกคนก็เป็นคนมีบุญ บุญเก่าทำมาแล้วมากจึงสามารถมานั่งได้ ต่อไปก็ตั้งใจหวังโดยเฉพาะว่าเราต้องการพระนิพพาน

    เอาล่ะบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย เสียงก็ไปไม่ไหว ขอทุกท่านตั้งใจสมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน

    จากหนังสือธรรมปฏิบัติ ๓๘ หน้าที่๘๒~๘๓
    #จงอย่าคิดว่าคนอย่างเราไม่มีบุญ #แต่ว่าถ้าสมัยนี้บรรดาท่านพุทธบริษัทคนใดมีจิตใจมุ่งหวังพระนิพพานเป็นอารมณ์ #หากว่าท่านเป็นพระโสดาบันก็ดีหรือยังไม่เป็นพระโสดาบันก็ตาม #พยายามมีความเคารพพระพุทธเจ้า #พระธรรม #พระอริยสงฆ์ #ให้มั่นคงนึกถึงความตายไว้เป็นปกติ #ว่าชีวิตมันต้องตายแต่ว่าถ้าตายเมื่อไรขอไปนิพพานเมื่อนั้น #จิตใจรักพระนิพพานเป็นอารมณ์ ถึงแม้ศีลหรือกรรมบถ ๑๐ จะบกพร่องบ้างก็ตาม ถ้าจิตคิดอย่างนี้อยู่ ตายแล้วไม่ลงอบายภูมิแน่ ก็ไปสวรรค์ ถ้าไปสวรรค์แล้วภายในไม่ช้าถ้าไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทวดาหรือนางฟ้าชั้นดาวดึงส์นี่มีอายุ ๑๐๐๐ ปีทิพย์ จะมีอายุในดาวดึงส์ไม่ถึง ๓๐๐ปีทิพย์ #พระศรีอาริย์ฯก็จะตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ตอนนั้นขณะที่ท่านเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า ได้ฟังเทศน์เพียงครั้งเดียวในชีวิตก็สามารถเป็นพระอรหันต์ได้ นี่ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย จงอย่าคิดว่าคนอย่างเราไม่มีบุญ ถ้าไม่มีบุญจริงๆ ญาติโยมทั้งหลายมานั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ทนไม่ได้เพราะมันเมื่อย เหยียดแข้งเหยียดขาก็ไม่ออก นังก็แสนจะลำบาก อาศัยบุญบารมีเก่าของท่านดีมากจึงสามารถมาทนนั่งอย่างนี้ได้ และตั้งใจโดยเฉพาะว่าเราต้องการบุญกุศล โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้พูดเรื่องพระโสดาบันและนิพพาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง #สำหรับบุคคลใดยังต้องเกิดพระศรีอาริย์ฯท่านเคยบอกฝากไว้ #บอกว่าคนของผมอยู่ในระหว่างของท่านหลายแสนคน #คนที่เกิดทันสมัยท่านบำเพ็ญบารมีมาด้วยกันนะประมาณ๓แสนคน #ผมฝากด้วยขอให้ทุกคนรักษากรรมบถ ๑๐ให้ครบถ้วนทุกวัน ถ้าเป็นการบังเอิญครบถ้วนทุกวันไม่ได้ วันปกติบกพร่องบ้างก็ตาม แต่ว่าวันพระอย่าให้บกพร่อง วันพระต้องเต็ม อย่างนี้คนพวกนั้นจะเกิดทันสมัยผม และฟังเทศน์เพียงครั้งเดียว ถ้าอย่างอ่อนฟังเทศน์ครั้งแรกก็เป็นพระโสดาบัน ถ้ารักษากรรมบถ ๑๐ ได้ครบถ้วนตลอดวันทุกวัน ทั้งวันดีวันพระอย่างนี้ฟังเทศน์จบจะเป็นพระอรหันต์ทันที ก็รวมความว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายโดยทั่วหน้า ที่มานั่งวันนี้ตรงนี้ทุกคนก็เป็นคนมีบุญ บุญเก่าทำมาแล้วมากจึงสามารถมานั่งได้ ต่อไปก็ตั้งใจหวังโดยเฉพาะว่าเราต้องการพระนิพพาน เอาล่ะบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย เสียงก็ไปไม่ไหว ขอทุกท่านตั้งใจสมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน จากหนังสือธรรมปฏิบัติ ๓๘ หน้าที่๘๒~๘๓
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 853 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,576
    วันอังคาร: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (12 November 2024)

    Photo Album 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดป่าดอยแสงธรรม อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินสามัคคี 12 พ.ย.67)
    02. วัดนาหลวง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 13 พ.ย.67)
    03. วัดต๊ำม่อน อ.เมือง จ.พะเยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    04. วัดทิพยรัฐนิมิตร อ.เมือง จ.อุดรธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    05. วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    06. วัดป่าโสมภาส อ.เมือง จ.มหาสารคาม
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    07. วัดพระธรรมจาริกนากอก อ.บ่อเกลือ จ.น่าน
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    08. วัดล่องกอขาม อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    09. วัดลำกระโดน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    10. วัดวังฆ้อง อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 92 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,576 วันอังคาร: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (12 November 2024) Photo Album 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดป่าดอยแสงธรรม อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินสามัคคี 12 พ.ย.67) 02. วัดนาหลวง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 13 พ.ย.67) 03. วัดต๊ำม่อน อ.เมือง จ.พะเยา (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 04. วัดทิพยรัฐนิมิตร อ.เมือง จ.อุดรธานี (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 05. วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 06. วัดป่าโสมภาส อ.เมือง จ.มหาสารคาม (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 07. วัดพระธรรมจาริกนากอก อ.บ่อเกลือ จ.น่าน (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 08. วัดล่องกอขาม อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 09. วัดลำกระโดน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 10. วัดวังฆ้อง อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 92 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 545 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,576
    วันอังคาร: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (12 November 2024)

    Photo Album 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดป่าดอยแสงธรรม อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินสามัคคี 12 พ.ย.67)
    02. วัดนาหลวง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 13 พ.ย.67)
    03. วัดต๊ำม่อน อ.เมือง จ.พะเยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    04. วัดทิพยรัฐนิมิตร อ.เมือง จ.อุดรธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    05. วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    06. วัดป่าโสมภาส อ.เมือง จ.มหาสารคาม
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    07. วัดพระธรรมจาริกนากอก อ.บ่อเกลือ จ.น่าน
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    08. วัดล่องกอขาม อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    09. วัดลำกระโดน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    10. วัดวังฆ้อง อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 92 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,576 วันอังคาร: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (12 November 2024) Photo Album 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดป่าดอยแสงธรรม อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินสามัคคี 12 พ.ย.67) 02. วัดนาหลวง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 13 พ.ย.67) 03. วัดต๊ำม่อน อ.เมือง จ.พะเยา (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 04. วัดทิพยรัฐนิมิตร อ.เมือง จ.อุดรธานี (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 05. วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 06. วัดป่าโสมภาส อ.เมือง จ.มหาสารคาม (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 07. วัดพระธรรมจาริกนากอก อ.บ่อเกลือ จ.น่าน (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 08. วัดล่องกอขาม อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 09. วัดลำกระโดน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 10. วัดวังฆ้อง อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 92 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 624 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทอดกฐินวัดคีรีวัน นครนายก โดยคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย บูชาธรรม80ปี หลวงพ่อธัมมชโย #กฐิน30000วัดทั่วไทย

    น้อมถวายบุญกิริยาทั้งปวงนี้เป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ถวายบุญนี้แด่มหาปูชนียจารย์ฯ

    เอาบุญมาฝากคุณพ่อคุณแม่หมู่ญาติ ผู้มีคุณทุกท่าน และกัลยาณมิตรทุกท่านนะครับ 😍

    #ตัวแทนพลังบุญ
    #ที่ปรึกษาประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
    #ประกันชีวิตควบการลงทุน
    #ที่ปรึกษาการลงทุน
    #ประสบการณ์ด้านการประกันกว่า20ปี
    #ThaiTimes
    ทอดกฐินวัดคีรีวัน นครนายก โดยคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย บูชาธรรม80ปี หลวงพ่อธัมมชโย #กฐิน30000วัดทั่วไทย น้อมถวายบุญกิริยาทั้งปวงนี้เป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ถวายบุญนี้แด่มหาปูชนียจารย์ฯ เอาบุญมาฝากคุณพ่อคุณแม่หมู่ญาติ ผู้มีคุณทุกท่าน และกัลยาณมิตรทุกท่านนะครับ 😍 #ตัวแทนพลังบุญ #ที่ปรึกษาประกันชีวิตและประกันวินาศภัย #ประกันชีวิตควบการลงทุน #ที่ปรึกษาการลงทุน #ประสบการณ์ด้านการประกันกว่า20ปี #ThaiTimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 786 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts