• 🧭 ประวัติที่มาของ "เส้นทางสายไหม" (Silk Road)

    เส้นทางสายไหมคือเครือข่ายเส้นทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เชื่อมระหว่าง จีน กับ เอเชียกลาง ตะวันออกกลาง จนถึงยุโรป โดยเริ่มต้นราว ศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช ในยุคราชวงศ์ฮั่น

    🌏 จุดประสงค์หลักคือการ แลกเปลี่ยนสินค้า เช่น
    * ผ้าไหมจีน (ที่เป็นที่มาของชื่อ “Silk Road”)
    * เครื่องเทศ
    * หยก
    * เครื่องปั้นดินเผา
    * ผลิตภัณฑ์จากตะวันตก เช่น ทองคำ แก้วไวน์ และอัญมณี

    🕌 นอกจากการค้า ยังเป็นเส้นทางของ
    * การแลกเปลี่ยน วัฒนธรรม
    * ศาสนา (เช่น พุทธศาสนาเผยแพร่สู่จีนจากอินเดียผ่านเส้นนี้)
    * เทคโนโลยี และแนวคิดต่างๆ

    🚶‍♂️ เส้นทางนี้ไม่ใช่เพียงสายเดียว แต่เป็นเครือข่ายที่ผ่านเมืองสำคัญอย่าง
    * หลานโจว (จุดเริ่มต้นในจีน)
    * จางเย่ (จุดสำคัญของกองคาราวาน)
    * ตุนหวง (เมืองโอเอซิสริมทะเลทรายที่มีถ้ำโม่เกาคู่กับพระพุทธศาสนา)
    * ถูหลู่ฟาน และ อูรุมฉี (ใจกลางซินเจียงที่เชื่อมต่อเอเชียกลาง)

    ✨ ปัจจุบัน “เส้นทางสายไหม” กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งในโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน ที่รื้อฟื้นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจระดับภูมิภาค

    #เส้นทางสายไหม #ประวัติศาสตร์จีน #SilkRoad #วัฒนธรรมเอเชีย #เมืองโบราณจีน #BeltAndRoadInitiative


    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🧭 ประวัติที่มาของ "เส้นทางสายไหม" (Silk Road) เส้นทางสายไหมคือเครือข่ายเส้นทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เชื่อมระหว่าง จีน กับ เอเชียกลาง ตะวันออกกลาง จนถึงยุโรป โดยเริ่มต้นราว ศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช ในยุคราชวงศ์ฮั่น 🌏 จุดประสงค์หลักคือการ แลกเปลี่ยนสินค้า เช่น * ผ้าไหมจีน (ที่เป็นที่มาของชื่อ “Silk Road”) * เครื่องเทศ * หยก * เครื่องปั้นดินเผา * ผลิตภัณฑ์จากตะวันตก เช่น ทองคำ แก้วไวน์ และอัญมณี 🕌 นอกจากการค้า ยังเป็นเส้นทางของ * การแลกเปลี่ยน วัฒนธรรม * ศาสนา (เช่น พุทธศาสนาเผยแพร่สู่จีนจากอินเดียผ่านเส้นนี้) * เทคโนโลยี และแนวคิดต่างๆ 🚶‍♂️ เส้นทางนี้ไม่ใช่เพียงสายเดียว แต่เป็นเครือข่ายที่ผ่านเมืองสำคัญอย่าง * หลานโจว (จุดเริ่มต้นในจีน) * จางเย่ (จุดสำคัญของกองคาราวาน) * ตุนหวง (เมืองโอเอซิสริมทะเลทรายที่มีถ้ำโม่เกาคู่กับพระพุทธศาสนา) * ถูหลู่ฟาน และ อูรุมฉี (ใจกลางซินเจียงที่เชื่อมต่อเอเชียกลาง) ✨ ปัจจุบัน “เส้นทางสายไหม” กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งในโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน ที่รื้อฟื้นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจระดับภูมิภาค #เส้นทางสายไหม #ประวัติศาสตร์จีน #SilkRoad #วัฒนธรรมเอเชีย #เมืองโบราณจีน #BeltAndRoadInitiative LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
    เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท
    อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป
    ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
    https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
    เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท
    อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป
    ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
    https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
    เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท
    อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป
    ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
    https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุปทาน ในพระพุทธศาสนา หมายถึง ความยึดมั่น เป็นอุปาทาน มี กามุปาทาน (ความติดข้อง) ๑ อัตตวาทุปาทาน (ความยึดถือว่าเป็นตัวตน) ๑ โดยสภาพธรรมของอุปาทาน ได้แก่ โลภะ และ ทิฏฐิ ทั้งโลภะและทิฏฐิ
    อุปทาน ในพระพุทธศาสนา หมายถึง ความยึดมั่น เป็นอุปาทาน มี กามุปาทาน (ความติดข้อง) ๑ อัตตวาทุปาทาน (ความยึดถือว่าเป็นตัวตน) ๑ โดยสภาพธรรมของอุปาทาน ได้แก่ โลภะ และ ทิฏฐิ ทั้งโลภะและทิฏฐิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในพระพุทธศาสนา บุญ หรือ บุณย์ หมายถึง ความดี ความประพฤติชอบทางกายวาจาและใจ เรียกอีกอย่างว่ากุศล ในพระไตรปิฎกมักใช้คำว่า ปุญฺญ ตรงกันข้ามกับคำว่า บาป หรือ อปุญฺญ แต่ในคัมภีร์ชั้นหลังมักใช้คำว่า บาป มากกว่ากัน
    ในพระพุทธศาสนา บุญ หรือ บุณย์ หมายถึง ความดี ความประพฤติชอบทางกายวาจาและใจ เรียกอีกอย่างว่ากุศล ในพระไตรปิฎกมักใช้คำว่า ปุญฺญ ตรงกันข้ามกับคำว่า บาป หรือ อปุญฺญ แต่ในคัมภีร์ชั้นหลังมักใช้คำว่า บาป มากกว่ากัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอบคุณเงินบุญ ต่อทุนอาตมา

    นับเป็นข่าวเสื่อมเสียต่อวงการพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เจ้าคุณแย้ม หรือพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อายุ 70 ปี เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. หลังทราบว่ากำลังจะถูกดำเนินคดีข้อหาทุจริตยักยอกเงินวัด 300 ล้านบาท ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอออกหมายจับข้อหายักยอกทรัพย์ ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ก่อนที่ศาลอนุมัติหมายจับช่วงเที่ยง

    ก่อนหน้านี้ชาวบ้านร้องเรียนตำรวจกองปราบปราม เจ้าคุณแย้มยักยอกเงินวัดไร่ขิงไปเล่นพนันออนไลน์ จึงส่งสายลับแฝงตัวอยู่ในวัดตั้งแต่ปี 2567 ทั้งไปทำบุญและทำกิจกรรมในวัดนานกว่า 8 เดือน สืบสวนพบว่าเจ้าคุณแย้มสั่งให้คณะกรรมการวัดโอนเงินจากบัญชีวัดเข้าบัญชีส่วนตัว แล้วโอนไปให้สีกา คือ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ อายุ 28 ปี นายหน้าเครือข่ายเว็บพนัน เพื่อโอนเข้าบัญชีเว็บพนันออนไลน์เติมเครดิตใช้เล่นบาคาร่า ตรวจสอบเส้นเงินพบว่าตั้งแต่ปี 2564-2568 เงินบัญชีวัดถูกโอนออกหลายครั้ง รวมกว่า 300 ล้านบาท ส่วนเส้นเงินบัญชีเจ้าคุณแย้มกับบัญชีเว็บพนัน พบว่ามียอดโอนเข้า-ออกจากการได้และเสียไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

    เมื่อเงินในบัญชีวัดร่อยหรอ เจ้าคุณแย้มเริ่มหันไปยืมเงินพระผู้ใหญ่วัดอื่นๆ ที่สนิทสนมกัน เพื่อนำมาเล่นพนัน มีตั้งแต่หลักแสนบาท ถึงหลักล้านบาทต่อครั้ง ด้าน น.ส.อรัญญาวรรณ สีการุ่นเอ๊าะ ตรวจสอบเชิงลึกพบว่าเป็นเจ้าของบัญชีและดูแลเส้นเงินธุรกิจพนันออนไลน์ เมื่อปลายปี 2567 เคยถูกตำรวจไซเบอร์จับกุมหลังพัวพันเครือข่ายเว็บพนัน LAGALAXY911 ก่อนประกันตัวสู้คดี ล่าสุดตำรวจกองปราบปรามจับกุมที่บ้านพักในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ฐานเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิด

    สำหรับวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนครชัยศรี มีชื่อเสียงจากพระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิง มีนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้อย่างต่อเนื่อง แต่อีกด้านหนึ่งเป็นที่วิจารณ์ว่ามีเรื่องพุทธพาณิชย์ โดยเฉพาะค่าเช่าแผงค้างานประจำปีวัดไร่ขิง ปี 2565 แผงละ 120,000 บาท ปี 2566 พุ่งสูงถึงแผงละ 400,000 บาท ปี 2567 ย้ายมายังทำเลทองแผงละ 2,300,000 บาท และล่าสุดปลายปี 2567 แผงละ 1,500,000 บาท กลายเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยบนโลกออนไลน์ กรณีวัดไร่ขิงเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง เพราะยังมีอีกหลายวัดในประเทศไทยที่มีลักษณะพุทธพาณิชย์ชัดเจน แต่ก็ยังมีคนไม่รู้ไปบูชาสักการะ และแก้บนด้วยของเซ่นไหว้สิ้นเปลืองมหาศาลอย่างต่อเนื่อง

    #Newskit
    ขอบคุณเงินบุญ ต่อทุนอาตมา นับเป็นข่าวเสื่อมเสียต่อวงการพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เจ้าคุณแย้ม หรือพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อายุ 70 ปี เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. หลังทราบว่ากำลังจะถูกดำเนินคดีข้อหาทุจริตยักยอกเงินวัด 300 ล้านบาท ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอออกหมายจับข้อหายักยอกทรัพย์ ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ก่อนที่ศาลอนุมัติหมายจับช่วงเที่ยง ก่อนหน้านี้ชาวบ้านร้องเรียนตำรวจกองปราบปราม เจ้าคุณแย้มยักยอกเงินวัดไร่ขิงไปเล่นพนันออนไลน์ จึงส่งสายลับแฝงตัวอยู่ในวัดตั้งแต่ปี 2567 ทั้งไปทำบุญและทำกิจกรรมในวัดนานกว่า 8 เดือน สืบสวนพบว่าเจ้าคุณแย้มสั่งให้คณะกรรมการวัดโอนเงินจากบัญชีวัดเข้าบัญชีส่วนตัว แล้วโอนไปให้สีกา คือ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ อายุ 28 ปี นายหน้าเครือข่ายเว็บพนัน เพื่อโอนเข้าบัญชีเว็บพนันออนไลน์เติมเครดิตใช้เล่นบาคาร่า ตรวจสอบเส้นเงินพบว่าตั้งแต่ปี 2564-2568 เงินบัญชีวัดถูกโอนออกหลายครั้ง รวมกว่า 300 ล้านบาท ส่วนเส้นเงินบัญชีเจ้าคุณแย้มกับบัญชีเว็บพนัน พบว่ามียอดโอนเข้า-ออกจากการได้และเสียไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท เมื่อเงินในบัญชีวัดร่อยหรอ เจ้าคุณแย้มเริ่มหันไปยืมเงินพระผู้ใหญ่วัดอื่นๆ ที่สนิทสนมกัน เพื่อนำมาเล่นพนัน มีตั้งแต่หลักแสนบาท ถึงหลักล้านบาทต่อครั้ง ด้าน น.ส.อรัญญาวรรณ สีการุ่นเอ๊าะ ตรวจสอบเชิงลึกพบว่าเป็นเจ้าของบัญชีและดูแลเส้นเงินธุรกิจพนันออนไลน์ เมื่อปลายปี 2567 เคยถูกตำรวจไซเบอร์จับกุมหลังพัวพันเครือข่ายเว็บพนัน LAGALAXY911 ก่อนประกันตัวสู้คดี ล่าสุดตำรวจกองปราบปรามจับกุมที่บ้านพักในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ฐานเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิด สำหรับวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนครชัยศรี มีชื่อเสียงจากพระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิง มีนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้อย่างต่อเนื่อง แต่อีกด้านหนึ่งเป็นที่วิจารณ์ว่ามีเรื่องพุทธพาณิชย์ โดยเฉพาะค่าเช่าแผงค้างานประจำปีวัดไร่ขิง ปี 2565 แผงละ 120,000 บาท ปี 2566 พุ่งสูงถึงแผงละ 400,000 บาท ปี 2567 ย้ายมายังทำเลทองแผงละ 2,300,000 บาท และล่าสุดปลายปี 2567 แผงละ 1,500,000 บาท กลายเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยบนโลกออนไลน์ กรณีวัดไร่ขิงเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง เพราะยังมีอีกหลายวัดในประเทศไทยที่มีลักษณะพุทธพาณิชย์ชัดเจน แต่ก็ยังมีคนไม่รู้ไปบูชาสักการะ และแก้บนด้วยของเซ่นไหว้สิ้นเปลืองมหาศาลอย่างต่อเนื่อง #Newskit
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระบรมครูธรรมเทพโลกอุดร หลวงปู่เทพโลกอุดร วัดม่วงงาม จ.สงขลา
    พระบรมครูธรรมเทพโลกอุดร หลวงปู่เทพโลกอุดร วัดม่วงงาม จ.สงขลา // พระดีพิธีใหญ๋ พระมีประสพการณ์ สร้างแจกประมาณ30000องค์ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณให้โชค ให้ลาภ โภคทรัพย์ ช่วยส่งเสริมให้กิจการค้าขายดี ร่ำรวยเงินทอง ความมั่งคั่ง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ มหาอำนาจ คงกระพัน มหาอุด พระมีประสบการณ์มากมาย >>


    ** พระดีพิธีใหญ๋ หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบน จัดสร้าง หลวงปู่เทพโลกอุดร ได้มาเข้าฝันพระอาจารย์สมนึก ให้ไปสร้างที่วัดม่วงงาม ขณะเข้าพิธีปลุกเสก มีพระธุดงค์หลายรูปมาร่วมปลุกเสก มีทั้งจีวรขาดหลุดรุ่ย พอเสร็จพิธี พระธุดงค์ทั้งหลายได้ออกไปจากวัดและหายตัวไป ไร้ร่องรอย !!!

    ** หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบน สร้างถวาย วัดม่วงงาม สงขลา ปี2540 หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบน เป็นเจ้าพิธีและมวลสารสูตรการสร้างผสมเนื้อ พระมีประสบการณ์มากมาย สร้างแจกประมาณ 30000 องค์ //หลวงปู่เทพโลกอุดรหรือหลวงปู่ใหญ่คือพระภิษุในตำนานที่มีคนกล่าวขานกันว่าเป็นพระอุดรเถระที่เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิกับพระโสณเถระในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อประมาณปีพ.ศ.236 หลายคนเชื่อว่าท่านเป็นพระอรหันต์แต่ยังไม่ดับขันธ์ใช้วิธีเจริญญาณอิทธิบาทสี่เพื่อต่ออายุ เพื่อช่วยเหลือพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงตำนานไม่ปรากฎในพระไตรปิฎกหรือหลักฐานทางประวัติศาสตร์แต่อย่างใดนะครับ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระบรมครูธรรมเทพโลกอุดร หลวงปู่เทพโลกอุดร วัดม่วงงาม จ.สงขลา พระบรมครูธรรมเทพโลกอุดร หลวงปู่เทพโลกอุดร วัดม่วงงาม จ.สงขลา // พระดีพิธีใหญ๋ พระมีประสพการณ์ สร้างแจกประมาณ30000องค์ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณให้โชค ให้ลาภ โภคทรัพย์ ช่วยส่งเสริมให้กิจการค้าขายดี ร่ำรวยเงินทอง ความมั่งคั่ง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ มหาอำนาจ คงกระพัน มหาอุด พระมีประสบการณ์มากมาย >> ** พระดีพิธีใหญ๋ หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบน จัดสร้าง หลวงปู่เทพโลกอุดร ได้มาเข้าฝันพระอาจารย์สมนึก ให้ไปสร้างที่วัดม่วงงาม ขณะเข้าพิธีปลุกเสก มีพระธุดงค์หลายรูปมาร่วมปลุกเสก มีทั้งจีวรขาดหลุดรุ่ย พอเสร็จพิธี พระธุดงค์ทั้งหลายได้ออกไปจากวัดและหายตัวไป ไร้ร่องรอย !!! ** หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบน สร้างถวาย วัดม่วงงาม สงขลา ปี2540 หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบน เป็นเจ้าพิธีและมวลสารสูตรการสร้างผสมเนื้อ พระมีประสบการณ์มากมาย สร้างแจกประมาณ 30000 องค์ //หลวงปู่เทพโลกอุดรหรือหลวงปู่ใหญ่คือพระภิษุในตำนานที่มีคนกล่าวขานกันว่าเป็นพระอุดรเถระที่เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิกับพระโสณเถระในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อประมาณปีพ.ศ.236 หลายคนเชื่อว่าท่านเป็นพระอรหันต์แต่ยังไม่ดับขันธ์ใช้วิธีเจริญญาณอิทธิบาทสี่เพื่อต่ออายุ เพื่อช่วยเหลือพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงตำนานไม่ปรากฎในพระไตรปิฎกหรือหลักฐานทางประวัติศาสตร์แต่อย่างใดนะครับ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • บางคนที่มีทิฐิว่า..พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปแล้วย่อมไม่ปรากฏอีก โดยอ้างพระบาลี "นิพพานัง ปรมังสุญญัง"

    คำว่า สูญ นั้นหมายถึง สูญจากกิเลส

    จิตสูญจากกิเลส จึงจะเข้าพระนิพพานได้ จิตมัวหมอง ไม่รู้ตามความเป็นจริง แปลบาลีผิดจากความหมายพระพุทธองค์ จิตก็หลงทางไปสู่อบายภูมิ เพราะเป็นจิตไม่ฉลาด

    สิ่งที่ไม่มีที่พระนิพพานได้แก่..

    นรก สัตว์ โลก สวรรค์ พรหม

    ธาตุ 4 (ดิน น้ำ ลม ไฟ ) ขันธ์ 5 (รูป-นาม)

    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ราคะ อุปาทาน บาปกรรม

    อวิชชา สังโยชน์ (กิเลสร้อยรัด 10 อย่าง )

    เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    ..สิ่งเหล่านี้ไม่มีในแดนพระนิพพาน

    เราอยู่ในพระพุทธศาสนา จับหลักในคำสอน จับหลักให้จริงก่อน ให้คิดไตร่ตรองก่อน ว่าสิ่งนั้น สิ่งนี้ เป็นจริงไหม แล้วจึงเชื่อ จึงปฏิบัติ

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
    บางคนที่มีทิฐิว่า..พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปแล้วย่อมไม่ปรากฏอีก โดยอ้างพระบาลี "นิพพานัง ปรมังสุญญัง" คำว่า สูญ นั้นหมายถึง สูญจากกิเลส จิตสูญจากกิเลส จึงจะเข้าพระนิพพานได้ จิตมัวหมอง ไม่รู้ตามความเป็นจริง แปลบาลีผิดจากความหมายพระพุทธองค์ จิตก็หลงทางไปสู่อบายภูมิ เพราะเป็นจิตไม่ฉลาด สิ่งที่ไม่มีที่พระนิพพานได้แก่.. นรก สัตว์ โลก สวรรค์ พรหม ธาตุ 4 (ดิน น้ำ ลม ไฟ ) ขันธ์ 5 (รูป-นาม) อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ราคะ อุปาทาน บาปกรรม อวิชชา สังโยชน์ (กิเลสร้อยรัด 10 อย่าง ) เกิด แก่ เจ็บ ตาย ..สิ่งเหล่านี้ไม่มีในแดนพระนิพพาน เราอยู่ในพระพุทธศาสนา จับหลักในคำสอน จับหลักให้จริงก่อน ให้คิดไตร่ตรองก่อน ว่าสิ่งนั้น สิ่งนี้ เป็นจริงไหม แล้วจึงเชื่อ จึงปฏิบัติ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวียนเทียนรอบพระอุโบสถ เนื่องในวันวิสาขบูชา

    วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่ วัดสุทธจินดา วรวิหาร #นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรมทำวัตรสวดมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ เนื่องในวันวิสาขบูชา เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    เวียนเทียนรอบพระอุโบสถ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่ วัดสุทธจินดา วรวิหาร #นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรมทำวัตรสวดมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ เนื่องในวันวิสาขบูชา เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กองทัพภาคที่ 2 จัดพิธีพุทธาภิเษก สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) และทอดผ้าป่าสามัคคี"

    📌กองทัพภาคที่ 2 ร่วมบุญอันยิ่งใหญ่ จัดสร้างสมเด็จพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี)และทอดผ้าป่าสามัคคี ✨ โดยมี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และคุณสุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมผู้มีจิตศรัทธา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ณ สโมสรร่วมเริงชัย ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา🎉

    🌟ได้รับพระเมตตา จาก "4 ดอกบัวบานแดนอีสาน"👍
    🙏หลวงปู่ศิลา วัดพระธาตุหมื่นหิน
    🙏หลวงพ่อสุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น
    🙏พระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง
    🙏พระอาจารย์สุริยัณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี

    ในพิธีมหาพุทธาภิเษก และทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล สมทบทุนสร้าง “สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ” หรือ “หลวงพ่อใหญ่โชคดี” เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน และเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา โดยพระพุทธปฏิมา สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) มีขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร ความสูง 9 เมตร ซึ่งจะประดิษฐาน ณ วัดป่าศรีคุณาราม อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี

    📌วัดป่าศรีคุณารามเป็นวัดป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อันสงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม การสร้างพระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่ ณ วัดแห่งนี้ จึงเป็นการส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษา ปฏิบัติธรรม และเป็นที่พักพิงทางใจของพุทธศาสนิกชนสืบไป🌟👍💂

    #หลวงพ่อใหญ่โชคดี
    #หลวงปู่ศิลา
    #กองทัพภาคที่2
    #วัดป่าศรีคุณาราม
    #มณฑลทหารบกที่21
    #ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่2
    "กองทัพภาคที่ 2 จัดพิธีพุทธาภิเษก สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) และทอดผ้าป่าสามัคคี" 📌กองทัพภาคที่ 2 ร่วมบุญอันยิ่งใหญ่ จัดสร้างสมเด็จพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี)และทอดผ้าป่าสามัคคี ✨ โดยมี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และคุณสุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมผู้มีจิตศรัทธา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ณ สโมสรร่วมเริงชัย ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา🎉 🌟ได้รับพระเมตตา จาก "4 ดอกบัวบานแดนอีสาน"👍 🙏หลวงปู่ศิลา วัดพระธาตุหมื่นหิน 🙏หลวงพ่อสุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น 🙏พระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง 🙏พระอาจารย์สุริยัณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี ในพิธีมหาพุทธาภิเษก และทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล สมทบทุนสร้าง “สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ” หรือ “หลวงพ่อใหญ่โชคดี” เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน และเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา โดยพระพุทธปฏิมา สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) มีขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร ความสูง 9 เมตร ซึ่งจะประดิษฐาน ณ วัดป่าศรีคุณาราม อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี 📌วัดป่าศรีคุณารามเป็นวัดป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อันสงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม การสร้างพระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่ ณ วัดแห่งนี้ จึงเป็นการส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษา ปฏิบัติธรรม และเป็นที่พักพิงทางใจของพุทธศาสนิกชนสืบไป🌟👍💂 #หลวงพ่อใหญ่โชคดี #หลวงปู่ศิลา #กองทัพภาคที่2 #วัดป่าศรีคุณาราม #มณฑลทหารบกที่21 #ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงปู่คล้าย วัดบางนมโค

    ในสมัยก่อนที่หลวงพ่อปานจะบวช ท่านพบพระองค์หนึ่งซึ่งมีปฏิปทาการปฏิบัติดีเป็นพิเศษ พระองค์นี้เดิมทีท่านอยู่จังหวัดธนบุรี ต่อมาท่านได้ออกธุดงค์ที่อยุธยามาถึงก็ปักกลดอยู่ที่วัดบางนมโค

    สมัยนั้นวัดบางนมโคยังเป็นวัดร้างอยู่ ยังไม่มีสิ่งก่อสร้างเป็นถาวรวัตถุอะไร พอท่านมาอยู่ท่านก็เริ่มสร้างกุฏิไว้ 2-3 หลังก่อน แล้วถึงมาสร้างโบสถ์ โดยสร้างทับที่เดิม ก็เป็นอันว่าท่านเป็นผู้เริ่มก่อสร้างวัดบางนมโคเป็นองค์แรก

    พระองค์นี้คือ "หลวงปู่คล้าย" หลวงปู่คล้ายองค์นี้เป็นพระที่มีปาฏิหาริย์มาก มีความสามารถในทางไสยศาสตร์และสมาธิ หมายความว่าท่านจะทำสิ่งของต่าง ๆ ให้เป็นอะไรก็ได้ ถ้าจะกล่าวกันไปตามหลักวิชาการในสมัยนี้ ในทางพุทธศาสนาที่เรารู้กันก็หมายความว่าท่านเป็นผู้ทรงอภิญญานั่นเอง

    และเรื่องราวของหลวงปู่คล้ายหลวงพ่อปานท่านเล่าให้ฟังว่า ในสมัยที่หลวงพ่อปานเข้ามาอยู่เป็นนาคจะบวชพระนั้น วันหนึ่งเขาลองยิงพระกัน (พระเครื่อง) พระองค์ไหนก็ยิงออกหมด หลวงปู่คล้ายเดินไปถึงที่ที่เขากำลังลองพระกัน ท่านก็เปลื้องจีวรออกแล้วก็เอาจีวรวางไว้

    ท่านบอกว่า "ไหนลองยิงจีวรของฉันดูซิ" พวกนั้นใช้ปืนทุกอย่างยิงจีวรของท่านไม่ติด ท่านก็บอกว่า "ทุด ! ไอ้ปืนของพวกมึงนี่มันไม่ดี ยิงพระออก แต่ยิงจีวรของกูไม่ออก ปืนของมึงเสีย" นั่นครั้งหนึ่ง

    อีกครั้งหนึ่งหลวงพ่อปานบอกว่า ขณะที่ท่านกำลังท่องหนังสืออยู่ในป่าช้า ท่องหนังสือขานนาคหรือสวดมนต์ หลวงปู่คล้ายท่านเดินเข้าไปหาท่านถามว่า

    "ปานทำอะไรวะ?"
    "ผมกำลังท่องหนังสือครับ"
    "ปาน แกบวชแล้วแกจะสึกไหม?"
    "ผมบวชแล้วผมไม่อยากสึกครับ"
    "ฮือ...ดี บุคคลที่เขาไม่สึกเขาต้องทำอย่างนี้นะปาน" แล้วท่านก็วางจีวรไว้ท่านถามว่า
    "ปาน...อยากดูช้างไหม?"
    "อยากดูครับ"
    "แกดูจีวรนี่นะ เดี๋ยวมันจะเป็นช้าง"

    ▪️จีวรกลายเป็นช้าง▪️

    พอมองไปประเดี๋ยวเดียวจีวรค่อย ๆ กลายเป็นช้างทีละนิด ๆ ทีแรกมันจะเกิดเป็นงวงมาก่อน สุดงวงแล้วจะเห็นงา เห็นงาแล้วจะเห็นหัว ตัวช้างขาช้าง หางช้าง แล้วช้างมันเดินไปได้ตามความประสงค์

    ท่านก็บอกว่า "ปานอยากขี่ช้างไหม?"
    "อยากขี่ครับ"
    "เอ้า ! เทาลงมาหน่อยให้เขาขี่" หัวช้างก็เทาลงมา แล้วก็ขี่เล่นภายในป่าช้าวนไปวนมาสัก 5 นาทีก็บอกให้ลงจากคอช้าง

    เมื่อลงจากคอช้างแล้วท่านก็พูดว่า
    "ช้าง เอ็งกลับเป็นจีวรตามเดิมซิ ข้าจะกลับไปกุฏิ เดี๋ยวข้าไปไม่มีจีวรห่ม" เท่านั้นเองก็ปรากฏว่าช้างกลายเป็นจีวรตามเดิม

    หลวงพ่อปานท่านเลยถามว่า
    "พระที่ทำอย่างนี้ได้น่ะ ทำได้ทุกองค์ไหมครับ?"
    " ทำไม่ได้ทุกองค์หรอก พระที่จะทำอย่างนี้ได้ต้องเจริญกรรมฐาน"
    "กรรมฐานเป็นอย่างไรครับ?"
    "เอาเถอะ เวลานี้ท่องหนังสือไปก่อน เมื่อเธอบวชแล้วถ้าเธอมีความประสงค์จะทำได้อย่างนี้ ฉันจะสอนให้"

    ท่านบอกว่าเป็นเหตุจับใจที่สุดในการเข้ามาสู่เขตพระพุทธศาสนา ซึ่งไม่เคยทราบมาก่อน ท่านบอกว่ามีความเลื่อมใสมาก คิดไม่ถึงเลยว่าพระจะทำอะไรต่ออะไรได้ทุกอย่าง และท่านก็ถามหลวงปู่คล้ายว่า

    "หลวงพ่อทำได้แต่เพียงเท่านี้หรือครับ?"
    "ทำได้ทุกอย่าง เอาอย่างนี้ไหมล่ะ แกอยากดูไหมว่าฉันสูงแค่ไหน? คอยดูนะ ให้ดูหลังคาศาลาปรก"

    ▪️เมื่อมีสมาธิก็ทำได้ทุกอย่าง▪️

    แล้วท่านก็มายืนอยู่ข้างนอก "หัวฉันจะแค่หลังคาศาลาปรก" มองไปประเดี๋ยวเดียวปรากฏว่าท่านสูงแค่หลังคาศาลาปรก "ฉันจะทำให้สูงกว่ายอดไม้" ประเดี๋ยวเดียวตัวของท่านก็สูงกว่ายอดไม้

    ครู่หนึ่งท่านก็ทำตัวย่อลงมา แล้วก็บอกว่าจะทำตัวให้เล็กนิดเดียว ตัวของท่านก็เล็กนิดเดียวจริง ๆ ปรากฏว่าท่านสูงไม่ถึงคืบ ท่านบอกว่าทำให้เล็กกว่านี้ก็ได้ และในที่สุดท่านก็คลายสมาธิ กลับมาอยู่ในสภาพเดิม

    หลวงพ่อปานถามว่า
    "วิชาอย่างนี้เรียนได้จากไหน หลวงพ่อจะสอนผมได้ไหมครับ?"
    "เมื่อเธอทำสมาธิได้ เธอทำอย่างนี้ได้ แล้วก็ไม่ใช่จะได้เพียงเท่านี้นะ ทำได้ทุกอย่าง จะเหาะเหินเดินอากาศก็ได้ จะดำดิน เดินน้ำทำได้ทุกอย่าง เขาเรียกว่าสมาบัติ"

    ท่านก็จำคำว่า "สมาบัติ" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แล้วก็สนใจในการประพฤติปฏิบัติ แล้วก็พยายามท่องหนังสือหนังหาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ท่านต้องเป็นนาคอยู่ 3 เดือน ต่อมาเมื่อเวลาบวชหลวงปู่คล้ายบอกว่า

    "ถ้าจะบวชก็ไปบอกพ่อแกให้ไปนิมนต์หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล เป็นพระคู่สวดอีกองค์หนึ่งนอกจากฉัน แล้วก็ไปนิมนต์หลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอเป็นพระอุปัชฌาย์ เพราะทั้งสององค์นั้นเก่งกว่าฉัน

    (ตอนหน้า...หลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอ)

    พระราชพรหมยาน,ธัมมวิโมกข์ (2525),23,111-116
    หลวงปู่คล้าย วัดบางนมโค ในสมัยก่อนที่หลวงพ่อปานจะบวช ท่านพบพระองค์หนึ่งซึ่งมีปฏิปทาการปฏิบัติดีเป็นพิเศษ พระองค์นี้เดิมทีท่านอยู่จังหวัดธนบุรี ต่อมาท่านได้ออกธุดงค์ที่อยุธยามาถึงก็ปักกลดอยู่ที่วัดบางนมโค สมัยนั้นวัดบางนมโคยังเป็นวัดร้างอยู่ ยังไม่มีสิ่งก่อสร้างเป็นถาวรวัตถุอะไร พอท่านมาอยู่ท่านก็เริ่มสร้างกุฏิไว้ 2-3 หลังก่อน แล้วถึงมาสร้างโบสถ์ โดยสร้างทับที่เดิม ก็เป็นอันว่าท่านเป็นผู้เริ่มก่อสร้างวัดบางนมโคเป็นองค์แรก พระองค์นี้คือ "หลวงปู่คล้าย" หลวงปู่คล้ายองค์นี้เป็นพระที่มีปาฏิหาริย์มาก มีความสามารถในทางไสยศาสตร์และสมาธิ หมายความว่าท่านจะทำสิ่งของต่าง ๆ ให้เป็นอะไรก็ได้ ถ้าจะกล่าวกันไปตามหลักวิชาการในสมัยนี้ ในทางพุทธศาสนาที่เรารู้กันก็หมายความว่าท่านเป็นผู้ทรงอภิญญานั่นเอง และเรื่องราวของหลวงปู่คล้ายหลวงพ่อปานท่านเล่าให้ฟังว่า ในสมัยที่หลวงพ่อปานเข้ามาอยู่เป็นนาคจะบวชพระนั้น วันหนึ่งเขาลองยิงพระกัน (พระเครื่อง) พระองค์ไหนก็ยิงออกหมด หลวงปู่คล้ายเดินไปถึงที่ที่เขากำลังลองพระกัน ท่านก็เปลื้องจีวรออกแล้วก็เอาจีวรวางไว้ ท่านบอกว่า "ไหนลองยิงจีวรของฉันดูซิ" พวกนั้นใช้ปืนทุกอย่างยิงจีวรของท่านไม่ติด ท่านก็บอกว่า "ทุด ! ไอ้ปืนของพวกมึงนี่มันไม่ดี ยิงพระออก แต่ยิงจีวรของกูไม่ออก ปืนของมึงเสีย" นั่นครั้งหนึ่ง อีกครั้งหนึ่งหลวงพ่อปานบอกว่า ขณะที่ท่านกำลังท่องหนังสืออยู่ในป่าช้า ท่องหนังสือขานนาคหรือสวดมนต์ หลวงปู่คล้ายท่านเดินเข้าไปหาท่านถามว่า "ปานทำอะไรวะ?" "ผมกำลังท่องหนังสือครับ" "ปาน แกบวชแล้วแกจะสึกไหม?" "ผมบวชแล้วผมไม่อยากสึกครับ" "ฮือ...ดี บุคคลที่เขาไม่สึกเขาต้องทำอย่างนี้นะปาน" แล้วท่านก็วางจีวรไว้ท่านถามว่า "ปาน...อยากดูช้างไหม?" "อยากดูครับ" "แกดูจีวรนี่นะ เดี๋ยวมันจะเป็นช้าง" ▪️จีวรกลายเป็นช้าง▪️ พอมองไปประเดี๋ยวเดียวจีวรค่อย ๆ กลายเป็นช้างทีละนิด ๆ ทีแรกมันจะเกิดเป็นงวงมาก่อน สุดงวงแล้วจะเห็นงา เห็นงาแล้วจะเห็นหัว ตัวช้างขาช้าง หางช้าง แล้วช้างมันเดินไปได้ตามความประสงค์ ท่านก็บอกว่า "ปานอยากขี่ช้างไหม?" "อยากขี่ครับ" "เอ้า ! เทาลงมาหน่อยให้เขาขี่" หัวช้างก็เทาลงมา แล้วก็ขี่เล่นภายในป่าช้าวนไปวนมาสัก 5 นาทีก็บอกให้ลงจากคอช้าง เมื่อลงจากคอช้างแล้วท่านก็พูดว่า "ช้าง เอ็งกลับเป็นจีวรตามเดิมซิ ข้าจะกลับไปกุฏิ เดี๋ยวข้าไปไม่มีจีวรห่ม" เท่านั้นเองก็ปรากฏว่าช้างกลายเป็นจีวรตามเดิม หลวงพ่อปานท่านเลยถามว่า "พระที่ทำอย่างนี้ได้น่ะ ทำได้ทุกองค์ไหมครับ?" " ทำไม่ได้ทุกองค์หรอก พระที่จะทำอย่างนี้ได้ต้องเจริญกรรมฐาน" "กรรมฐานเป็นอย่างไรครับ?" "เอาเถอะ เวลานี้ท่องหนังสือไปก่อน เมื่อเธอบวชแล้วถ้าเธอมีความประสงค์จะทำได้อย่างนี้ ฉันจะสอนให้" ท่านบอกว่าเป็นเหตุจับใจที่สุดในการเข้ามาสู่เขตพระพุทธศาสนา ซึ่งไม่เคยทราบมาก่อน ท่านบอกว่ามีความเลื่อมใสมาก คิดไม่ถึงเลยว่าพระจะทำอะไรต่ออะไรได้ทุกอย่าง และท่านก็ถามหลวงปู่คล้ายว่า "หลวงพ่อทำได้แต่เพียงเท่านี้หรือครับ?" "ทำได้ทุกอย่าง เอาอย่างนี้ไหมล่ะ แกอยากดูไหมว่าฉันสูงแค่ไหน? คอยดูนะ ให้ดูหลังคาศาลาปรก" ▪️เมื่อมีสมาธิก็ทำได้ทุกอย่าง▪️ แล้วท่านก็มายืนอยู่ข้างนอก "หัวฉันจะแค่หลังคาศาลาปรก" มองไปประเดี๋ยวเดียวปรากฏว่าท่านสูงแค่หลังคาศาลาปรก "ฉันจะทำให้สูงกว่ายอดไม้" ประเดี๋ยวเดียวตัวของท่านก็สูงกว่ายอดไม้ ครู่หนึ่งท่านก็ทำตัวย่อลงมา แล้วก็บอกว่าจะทำตัวให้เล็กนิดเดียว ตัวของท่านก็เล็กนิดเดียวจริง ๆ ปรากฏว่าท่านสูงไม่ถึงคืบ ท่านบอกว่าทำให้เล็กกว่านี้ก็ได้ และในที่สุดท่านก็คลายสมาธิ กลับมาอยู่ในสภาพเดิม หลวงพ่อปานถามว่า "วิชาอย่างนี้เรียนได้จากไหน หลวงพ่อจะสอนผมได้ไหมครับ?" "เมื่อเธอทำสมาธิได้ เธอทำอย่างนี้ได้ แล้วก็ไม่ใช่จะได้เพียงเท่านี้นะ ทำได้ทุกอย่าง จะเหาะเหินเดินอากาศก็ได้ จะดำดิน เดินน้ำทำได้ทุกอย่าง เขาเรียกว่าสมาบัติ" ท่านก็จำคำว่า "สมาบัติ" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แล้วก็สนใจในการประพฤติปฏิบัติ แล้วก็พยายามท่องหนังสือหนังหาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ท่านต้องเป็นนาคอยู่ 3 เดือน ต่อมาเมื่อเวลาบวชหลวงปู่คล้ายบอกว่า "ถ้าจะบวชก็ไปบอกพ่อแกให้ไปนิมนต์หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล เป็นพระคู่สวดอีกองค์หนึ่งนอกจากฉัน แล้วก็ไปนิมนต์หลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอเป็นพระอุปัชฌาย์ เพราะทั้งสององค์นั้นเก่งกว่าฉัน (ตอนหน้า...หลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอ) พระราชพรหมยาน,ธัมมวิโมกข์ (2525),23,111-116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ผู้ที่จะมาบูรณะวัดท่าซุงในกาลข้างหน้า ท่านบอกว่าในจำนวน ๕ ทหารเสือนี่แหละ ในจำนวน ๒ คนนี้ซึ่งมีเชื้อสายมาจากพุทธภูมิ ในอดีตทั้ง ๒ คนนี้เคยอยู่ที่ อิตาลี และเยอรมัน คนหนึ่งจะได้มาเป็นพระอรหันต์องค์นั้น ส่วนอีกคนจะมาเกิดเป็นพระเจ้าธรรมิกราชตามพุทธพยากรณ์นั้น และสถานที่แห่งนี้หลวงพ่อได้เคยเล่าให้พระฟังหลังจากทำสังฆกรรมในพระอุโบสถเมื่อประมาณ ๒-๓ ปีก่อนว่า สถานที่บริเวณวัดท่าซุงแห่งนี้ตั้งแต่อดีตกาลนานมาแล้ว ได้มีผู้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว ๗๒ องค์ โดยท่านทั้งหมดได้มาปรากฎแล้วบอกให้หลวงพ่อทราบ อีกทั้งหลวงพ่อยังได้ตั้งสัตยาธิษฐานฝากลูกหลานของท่านไว้ดังนี้

    💥💥 "ฉันขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุข พร้อมด้วยพระอริยสงฆ์ทั้งหมด และพรหมและเทพเจ้าทั้งหมด
    🌟ขอทุกท่านจงกำหนดจิตจดจำลูกหลานของฉันไว้ว่า บุคคลใดก็ตาม เมื่อเวลาจะตายขอให้สติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีจิตน้อมไปในกุศลกรรม และขอให้ได้รับผลที่ฉันได้ทำไปแล้วทุกประการแก่ลูกหลานของฉันทุกคน เวลานี้ฉันมองดูแล้วนะ ตรวจดูแล้ว สิ่งที่ฉันต้องการมันสมใจนึกแล้ว ฉันมีความอิ่มใจบอกไม่ถูก ปลื้มใจที่ความปรารถนาสมหวังที่ฉันตั้งใจไว้นาน ปรารถนาไว้นาน คิดว่าจะทำไม่ได้แต่เวลานี้ทำได้แล้ว
    🔆ลูกหลานของฉันทุกคน มีศรัทธาเป็นอจลศรัทธาแล้ว มีความมั่นคงในพระพุทธศาสนาแล้ว มีความดีพอสมควรแล้ว"

    พุทธพยากรณ์อนาคตของวัดท่าซุง

    ☀ "สถานที่นี้จะเป็นศูนย์ที่มีความสำคัญต่อไปในเบื้องหน้า วัดนี้ถ้ามันจะพังจริงๆ ก็ต้องพุทธศักราชสิ้นไป ๔,๕๐๐ ปีเศษ คือ ๔,๕๐๐ ปีเศษวัดนี้จึงจะสลายตัว นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปหลังจากฝังลูกนิมิตในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ แล้ว ท่านบอกว่า "จากนี้ไป ๓ ปี วัดนี้จะมีพระอริยเจ้าประจำตลอดไปจนถึงพระพุทธศาสนาล่วงไปถึง ๔,๕๐๐ ปี หลังจากนั้นจึงขาดพระอริยเจ้า ส่วนคำสอนของวัดท่าซุงจะอยู่เป็นหลักตลอดไปถึง ๔,๕๐๐ ปีเช่นกัน..."

    จากหนังสือ "อนุสรณ์ครบ ๑๐๐ ปีเกิด หลวงพ่อพระราชพรหมยาน"
    (ปกแข็งสีทอง) หน้าที่ ๑๘ - ๑๙
    #ผู้ที่จะมาบูรณะวัดท่าซุงในกาลข้างหน้า ท่านบอกว่าในจำนวน ๕ ทหารเสือนี่แหละ ในจำนวน ๒ คนนี้ซึ่งมีเชื้อสายมาจากพุทธภูมิ ในอดีตทั้ง ๒ คนนี้เคยอยู่ที่ อิตาลี และเยอรมัน คนหนึ่งจะได้มาเป็นพระอรหันต์องค์นั้น ส่วนอีกคนจะมาเกิดเป็นพระเจ้าธรรมิกราชตามพุทธพยากรณ์นั้น และสถานที่แห่งนี้หลวงพ่อได้เคยเล่าให้พระฟังหลังจากทำสังฆกรรมในพระอุโบสถเมื่อประมาณ ๒-๓ ปีก่อนว่า สถานที่บริเวณวัดท่าซุงแห่งนี้ตั้งแต่อดีตกาลนานมาแล้ว ได้มีผู้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว ๗๒ องค์ โดยท่านทั้งหมดได้มาปรากฎแล้วบอกให้หลวงพ่อทราบ อีกทั้งหลวงพ่อยังได้ตั้งสัตยาธิษฐานฝากลูกหลานของท่านไว้ดังนี้ 💥💥 "ฉันขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุข พร้อมด้วยพระอริยสงฆ์ทั้งหมด และพรหมและเทพเจ้าทั้งหมด 🌟ขอทุกท่านจงกำหนดจิตจดจำลูกหลานของฉันไว้ว่า บุคคลใดก็ตาม เมื่อเวลาจะตายขอให้สติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีจิตน้อมไปในกุศลกรรม และขอให้ได้รับผลที่ฉันได้ทำไปแล้วทุกประการแก่ลูกหลานของฉันทุกคน เวลานี้ฉันมองดูแล้วนะ ตรวจดูแล้ว สิ่งที่ฉันต้องการมันสมใจนึกแล้ว ฉันมีความอิ่มใจบอกไม่ถูก ปลื้มใจที่ความปรารถนาสมหวังที่ฉันตั้งใจไว้นาน ปรารถนาไว้นาน คิดว่าจะทำไม่ได้แต่เวลานี้ทำได้แล้ว 🔆ลูกหลานของฉันทุกคน มีศรัทธาเป็นอจลศรัทธาแล้ว มีความมั่นคงในพระพุทธศาสนาแล้ว มีความดีพอสมควรแล้ว" พุทธพยากรณ์อนาคตของวัดท่าซุง ☀ "สถานที่นี้จะเป็นศูนย์ที่มีความสำคัญต่อไปในเบื้องหน้า วัดนี้ถ้ามันจะพังจริงๆ ก็ต้องพุทธศักราชสิ้นไป ๔,๕๐๐ ปีเศษ คือ ๔,๕๐๐ ปีเศษวัดนี้จึงจะสลายตัว นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปหลังจากฝังลูกนิมิตในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ แล้ว ท่านบอกว่า "จากนี้ไป ๓ ปี วัดนี้จะมีพระอริยเจ้าประจำตลอดไปจนถึงพระพุทธศาสนาล่วงไปถึง ๔,๕๐๐ ปี หลังจากนั้นจึงขาดพระอริยเจ้า ส่วนคำสอนของวัดท่าซุงจะอยู่เป็นหลักตลอดไปถึง ๔,๕๐๐ ปีเช่นกัน..." จากหนังสือ "อนุสรณ์ครบ ๑๐๐ ปีเกิด หลวงพ่อพระราชพรหมยาน" (ปกแข็งสีทอง) หน้าที่ ๑๘ - ๑๙
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระปิดตาหลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า
    พระปิดตาหลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า //หลวงปู่เทพโลกอุดร ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ @"

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระปิดตาหลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระปิดตาหลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า พระปิดตาหลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า //หลวงปู่เทพโลกอุดร ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ @" ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระปิดตาหลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประโยชน์ของการบรรลุนิพพานนั้นยิ่งใหญ่และครอบคลุม เป็นจุดหมายสูงสุดของการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา ประโยชน์หลักๆ ได้แก่:

    - การหลุดพ้นจากทุกข์: นี่คือประโยชน์ที่สำคัญที่สุด นิพพานคือการดับทุกข์ทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นทุกข์ทางกาย ทุกข์ทางใจ หรือทุกข์จากการเวียนว่ายตายเกิด ความทุกข์ทั้งหลายที่เกิดจากกิเลส ตัณหา และความยึดมั่นถือมั่นจะหมดสิ้นไป
    - ความสงบสุขที่แท้จริง: ผู้บรรลุนิพพานจะได้รับความสงบสุขอย่างแท้จริง เป็นความสงบที่ไม่ใช่เพียงแค่ความสงบชั่วคราว แต่เป็นความสงบที่ยั่งยืน ปราศจากความกังวล ความกลัว และความไม่แน่นอน
    - ความหลุดพ้นจากวัฏฏะ: การบรรลุนิพพานหมายถึงการหลุดพ้นจากวงจรแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป เป็นการสิ้นสุดของการทนทุกข์ทรมานจากการเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    - ความรู้แจ้งในธรรมชาติของความจริง: ผู้บรรลุนิพพานจะเข้าใจธรรมชาติของความจริงอย่างลึกซึ้ง เข้าใจไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) อย่างถ่องแท้ และสามารถมองโลกได้อย่างถูกต้อง ปราศจากอคติ และความยึดมั่นถือมั่น
    - ความอิสระอย่างแท้จริง: ไม่ถูกผูกมัดด้วยกิเลส ตัณหา หรือความยึดติดใดๆ เป็นอิสระอย่างแท้จริง ทั้งทางกาย และทางใจ
    - ความสุขนิรันดร์: ความสุขที่ได้จากการบรรลุนิพพานเป็นความสุขที่ยั่งยืน ไม่มีวันสิ้นสุด เป็นความสุขที่แท้จริง ที่เหนือกว่าความสุขใดๆ ในโลก

    โดยสรุป ประโยชน์ของการบรรลุนิพพานนั้น เป็นประโยชน์ที่สูงสุด เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ที่ผู้ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาต่างแสวงหา เพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์ และบรรลุสภาวะแห่งความสุข ความสงบ และความอิสระอย่างแท้จริง
    ประโยชน์ของการบรรลุนิพพานนั้นยิ่งใหญ่และครอบคลุม เป็นจุดหมายสูงสุดของการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา ประโยชน์หลักๆ ได้แก่: - การหลุดพ้นจากทุกข์: นี่คือประโยชน์ที่สำคัญที่สุด นิพพานคือการดับทุกข์ทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นทุกข์ทางกาย ทุกข์ทางใจ หรือทุกข์จากการเวียนว่ายตายเกิด ความทุกข์ทั้งหลายที่เกิดจากกิเลส ตัณหา และความยึดมั่นถือมั่นจะหมดสิ้นไป - ความสงบสุขที่แท้จริง: ผู้บรรลุนิพพานจะได้รับความสงบสุขอย่างแท้จริง เป็นความสงบที่ไม่ใช่เพียงแค่ความสงบชั่วคราว แต่เป็นความสงบที่ยั่งยืน ปราศจากความกังวล ความกลัว และความไม่แน่นอน - ความหลุดพ้นจากวัฏฏะ: การบรรลุนิพพานหมายถึงการหลุดพ้นจากวงจรแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป เป็นการสิ้นสุดของการทนทุกข์ทรมานจากการเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า - ความรู้แจ้งในธรรมชาติของความจริง: ผู้บรรลุนิพพานจะเข้าใจธรรมชาติของความจริงอย่างลึกซึ้ง เข้าใจไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) อย่างถ่องแท้ และสามารถมองโลกได้อย่างถูกต้อง ปราศจากอคติ และความยึดมั่นถือมั่น - ความอิสระอย่างแท้จริง: ไม่ถูกผูกมัดด้วยกิเลส ตัณหา หรือความยึดติดใดๆ เป็นอิสระอย่างแท้จริง ทั้งทางกาย และทางใจ - ความสุขนิรันดร์: ความสุขที่ได้จากการบรรลุนิพพานเป็นความสุขที่ยั่งยืน ไม่มีวันสิ้นสุด เป็นความสุขที่แท้จริง ที่เหนือกว่าความสุขใดๆ ในโลก โดยสรุป ประโยชน์ของการบรรลุนิพพานนั้น เป็นประโยชน์ที่สูงสุด เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ที่ผู้ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาต่างแสวงหา เพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์ และบรรลุสภาวะแห่งความสุข ความสงบ และความอิสระอย่างแท้จริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันวิสาขบูชา นับว่าเป็นวันสำคัญสากลทางพระพุทธศาสนา สำหรับชาวพุทธทุกนิกายทั่วโลก เป็นวันหยุดราชการในหลาย ๆ ประเทศ อีกทั้งยังเป็นวันสำคัญในระดับนานาชาติตามข้อมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในปี ๒๕๔๒ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา ๓ เหตุการณ์ ได้แก่ การประสูติ การตรัสรู้ และการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ซึ่งทั้ง ๓ เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นตรงกัน ณ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ (ต่างปีกัน) ชาวพุทธจึงถือว่าเป็นวันที่รวมการเกิดเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ยิ่ง และเรียกการบูชาในวันนี้ว่า วิสาขบูชา ย่อมาจาก วิสาขปุรณมีบูชา หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ
    วันวิสาขบูชา นับว่าเป็นวันสำคัญสากลทางพระพุทธศาสนา สำหรับชาวพุทธทุกนิกายทั่วโลก เป็นวันหยุดราชการในหลาย ๆ ประเทศ อีกทั้งยังเป็นวันสำคัญในระดับนานาชาติตามข้อมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในปี ๒๕๔๒ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา ๓ เหตุการณ์ ได้แก่ การประสูติ การตรัสรู้ และการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ซึ่งทั้ง ๓ เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นตรงกัน ณ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ (ต่างปีกัน) ชาวพุทธจึงถือว่าเป็นวันที่รวมการเกิดเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ยิ่ง และเรียกการบูชาในวันนี้ว่า วิสาขบูชา ย่อมาจาก วิสาขปุรณมีบูชา หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • สายสัมพันธ์ไทย-ภูฏาน สองราชวงศ์เชื่อมใจประชาชน

    การเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ระหว่างวันที่ 25-28 เม.ย. 2568 ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน นับเป็นการกระชับมิตรภาพและความร่วมมืออันใกล้ชิดระหว่างราชอาณาจักรทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จากการมีมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันในความเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาและสายสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ทั้งสอง รวมทั้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ

    พระราชกรณียกิจที่น่าสนใจ อาทิ ทอดพระเนตรโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน เพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชน ได้แก่ โครงการฝึกอบรมเกียลซุง (Gyalsung National Service) ให้เยาวชนทุกคนที่มีอายุ 18 ปี เข้าร่วมการฝึกอบรมระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และมีทักษะประจำตัวในการประกอบอาชีพหรือศึกษาต่อ โครงการจิตอาสาเดซุง (De-suung) เพื่อส่งเสริมให้ชาวภูฏานมีบทบาทในการสร้างชาติและพัฒนาประเทศ มีจิตอาสาทำงานเพื่อสังคมและส่วนรวม ความสมานฉันท์ สามารถทำงานเป็นทีมและมีระเบียบวินัย

    การเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปดอร์เดนมา เพื่อร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล โดยคณะสงฆ์ฝ่ายภูฏานและคณะสงฆ์ไทย ฝ่ายละ 74 รูป การเสด็จพระราชดำเนินไปยังโครงการหลวงเดเชนโชลิง ทอดพระเนตรนิทรรศการความร่วมมือระหว่างมูลนิธิโครงการหลวงของไทย กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภูฏาน ทอดพระเนตรโครงการเดชุง และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์

    การเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังลิงคานา เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน การยิงธนู และกีฬาพื้นบ้าน ทอดพระเนตรงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอของราชอาณาจักรภูฏาน การเสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู ทอดพระเนตรโครงการพัฒนาทักษะอาสาสมัครในโครงการเดซุง ทอดพระเนตรร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร การเสด็จพระราชดำเนินไปยังป้อมดุงการ์ ทรงสักการะพระศากยมุนี ทอดพระเนตรกิจกรรมของราชวิทยาลัย และโครงการพัฒนาเมืองเกเลฟู ให้เป็นเมืองแห่งสติปัญญาในเขตปกครองพิเศษ

    นับเป็นพระราชไมตรีส่วนพระองค์ ที่มีค่านิยมร่วมกันในการพัฒนาประเทศอย่างสมดุล บนพื้นฐานของวัฒนธรรมและศรัทธา​ของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะการน้อมนำหลักการของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศ ตามนโยบายความสุขมวลรวมประชาชาติ (Gross National Happiness) ที่มุ่งเน้นความสุขของประชาชนมากกว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจ

    #Newskit
    สายสัมพันธ์ไทย-ภูฏาน สองราชวงศ์เชื่อมใจประชาชน การเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ระหว่างวันที่ 25-28 เม.ย. 2568 ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน นับเป็นการกระชับมิตรภาพและความร่วมมืออันใกล้ชิดระหว่างราชอาณาจักรทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จากการมีมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันในความเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาและสายสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ทั้งสอง รวมทั้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ พระราชกรณียกิจที่น่าสนใจ อาทิ ทอดพระเนตรโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน เพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชน ได้แก่ โครงการฝึกอบรมเกียลซุง (Gyalsung National Service) ให้เยาวชนทุกคนที่มีอายุ 18 ปี เข้าร่วมการฝึกอบรมระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และมีทักษะประจำตัวในการประกอบอาชีพหรือศึกษาต่อ โครงการจิตอาสาเดซุง (De-suung) เพื่อส่งเสริมให้ชาวภูฏานมีบทบาทในการสร้างชาติและพัฒนาประเทศ มีจิตอาสาทำงานเพื่อสังคมและส่วนรวม ความสมานฉันท์ สามารถทำงานเป็นทีมและมีระเบียบวินัย การเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปดอร์เดนมา เพื่อร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล โดยคณะสงฆ์ฝ่ายภูฏานและคณะสงฆ์ไทย ฝ่ายละ 74 รูป การเสด็จพระราชดำเนินไปยังโครงการหลวงเดเชนโชลิง ทอดพระเนตรนิทรรศการความร่วมมือระหว่างมูลนิธิโครงการหลวงของไทย กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภูฏาน ทอดพระเนตรโครงการเดชุง และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ การเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังลิงคานา เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน การยิงธนู และกีฬาพื้นบ้าน ทอดพระเนตรงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอของราชอาณาจักรภูฏาน การเสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู ทอดพระเนตรโครงการพัฒนาทักษะอาสาสมัครในโครงการเดซุง ทอดพระเนตรร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร การเสด็จพระราชดำเนินไปยังป้อมดุงการ์ ทรงสักการะพระศากยมุนี ทอดพระเนตรกิจกรรมของราชวิทยาลัย และโครงการพัฒนาเมืองเกเลฟู ให้เป็นเมืองแห่งสติปัญญาในเขตปกครองพิเศษ นับเป็นพระราชไมตรีส่วนพระองค์ ที่มีค่านิยมร่วมกันในการพัฒนาประเทศอย่างสมดุล บนพื้นฐานของวัฒนธรรมและศรัทธา​ของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะการน้อมนำหลักการของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศ ตามนโยบายความสุขมวลรวมประชาชาติ (Gross National Happiness) ที่มุ่งเน้นความสุขของประชาชนมากกว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจ #Newskit
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามที่ เกิดเหตุคนร้ายประทุษร้ายสามเณร ณ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันอังคาร ที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๘ ทำให้มีสามเณรถึงมรณภาพ ๑ รูป และอาพาธ ๑ รูป ความทราบตามข่าวสารที่ปรากฏแล้ว นั้นเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงปลงธรรมสังเวชและโปรดประทานผ้าไตร ๑ ไตร พร้อมไม้จันทน์ ๑ ช่อ สำหรับการฌาปนกิจ พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่เจ้าภาพศพสามเณรพงษ์กร ชูมาปาน เพื่อช่วยการบำเพ็ญกุศล อนึ่ง โปรดประทานเหรียญพระรูปแก่สามเณรโภคนิษฐ์ โมราศิลป์ เพื่อเป็นกำลังใจ พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่เป็นคิลานปัจจัยทั้งนี้ มีพระบัญชาโปรดให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้เชิญสิ่งของและกัปปิยภัณฑ์ประทานไปถวายแด่เจ้าคณะจังหวัดสงขลา เพื่อมอบแก่เจ้าภาพศพและสามเณรผู้อาพาธอนึ่ง มีรับสั่งประทานกำลังใจแก่ครอบครัว ญาติมิตรของผู้ถึงมรณภาพ ให้ทุเลาความโศก และความหม่นหมอง อีกทั้งโปรดประทานพรให้เจ้าหน้าที่ ผู้ประสบเหตุ และผู้ตระหนกเสียขวัญจงถึงพร้อมด้วยขันติ สติ และปัญญาอันเข้มแข็ง เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ความสงบร่มเย็นของชาติ และความสถาพรของพระพุทธศาสนาในราชอาณาจักรไทยให้ดำรงมั่นคงอยู่สืบไป
    ตามที่ เกิดเหตุคนร้ายประทุษร้ายสามเณร ณ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันอังคาร ที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๘ ทำให้มีสามเณรถึงมรณภาพ ๑ รูป และอาพาธ ๑ รูป ความทราบตามข่าวสารที่ปรากฏแล้ว นั้นเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงปลงธรรมสังเวชและโปรดประทานผ้าไตร ๑ ไตร พร้อมไม้จันทน์ ๑ ช่อ สำหรับการฌาปนกิจ พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่เจ้าภาพศพสามเณรพงษ์กร ชูมาปาน เพื่อช่วยการบำเพ็ญกุศล อนึ่ง โปรดประทานเหรียญพระรูปแก่สามเณรโภคนิษฐ์ โมราศิลป์ เพื่อเป็นกำลังใจ พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่เป็นคิลานปัจจัยทั้งนี้ มีพระบัญชาโปรดให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้เชิญสิ่งของและกัปปิยภัณฑ์ประทานไปถวายแด่เจ้าคณะจังหวัดสงขลา เพื่อมอบแก่เจ้าภาพศพและสามเณรผู้อาพาธอนึ่ง มีรับสั่งประทานกำลังใจแก่ครอบครัว ญาติมิตรของผู้ถึงมรณภาพ ให้ทุเลาความโศก และความหม่นหมอง อีกทั้งโปรดประทานพรให้เจ้าหน้าที่ ผู้ประสบเหตุ และผู้ตระหนกเสียขวัญจงถึงพร้อมด้วยขันติ สติ และปัญญาอันเข้มแข็ง เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ความสงบร่มเย็นของชาติ และความสถาพรของพระพุทธศาสนาในราชอาณาจักรไทยให้ดำรงมั่นคงอยู่สืบไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ศึกษา​ว่า​อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ
    สัทธรรมลำดับที่ : 967
    ชื่อบทธรรม :- อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=967
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ
    (พระอานนท์ได้เห็นชาณุสโสณีพราหมณ์ นั่งรถขาวเทียมด้วยม้าขาวเครื่องประดับประดาทุกส่วนขาว ถือพัดวาลวีชนีขาว จนกระทั่งประชาชนเห็นแล้วร้องว่า พรหมยาน ว่าลักษณะแห่งพรหมยาน, ดังนี้แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลถามว่า :- )​
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้องค์ผู้เจริญ ! พระผู้มีพระภาค อาจจะบัญญัติพรหมยานขึ้น ในธรรมวินัยนี้ ได้หรือไม่หนอ ?”
    --อาจซิ อานนท์ ! คำว่า พรหมยาน นั้น เป็นอธิวจนะ (คำแทนชื่อ)
    http://etipitaka.com/read/pali/19/6/?keywords=อธิวจนํ
    แห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง;
    เรียกว่า พรหมยาน บ้าง ธรรมยาน บ้าง อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง.
    --อานนท์ ! สัมมาทิฏฐิ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน.
    +--สัมมาสังกัปปะ ....
    +--สัมมาวาจา ....
    +--สัมมากัมมันตะ ....
    +--สัมมาอาชีวะ ....
    +--สัมมาวายามะ ....
    +--สัมมาสติ ....
    +--สัมมาสมาธิ ....
    อันบุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน.
    --อานนท์ ! พึงทราบโดยปริยายนี้แล ว่าคำว่า
    พรหมยาน นั้นเป็น อธิวจนะแห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง ;
    เรียกว่า #พรหมยาน บ้าง #ธรรมยาน บ้าง #อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง.-
    http://etipitaka.com/read/pali/19/7/?keywords=สงฺคามวิชโย

    (ผู้ศึกษาพึงทราบว่า คำว่า พรหมยาน เป็นคำสูงสุดในฝ่ายศาสนาพราหมณ์
    พระอานนท์อยากจะมีคำเช่นนั้นในพระพุทธศาสนานี้บ้าง จึงทูลถาม;
    แต่พระองค์ตรัสตอบอย่างธัมมาธิษฐาน ระบุเอาอัฏฐังคิกมรรคเป็นพรหมยาน,
    และแถมยังมีคำว่า ธรรมยาน และอนุตตรสังคามวิชัย อีกด้วย.
    เราเห็นว่า คำว่า ธรรมยาน สำคัญกว่า จึงยกเอามาเป็นชื่อแห่งหัวข้อนี้.
    อนึ่ง อัฏฐังคิกมรรคนี้ จำแนกความหมายได้หลายอย่าง เช่น
    จำแนกเป็น วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามี
    ดังในหัวข้อ ที่จัด อัฏฐังคิกมรรคเป็นกัลยาณมิตร เป็นต้น บ้าง, และ
    ในหัวข้อทรงจำแนกเป็น ราค - โทส - โมหวินย - ปริโยสานบ้าง,
    ในหัวข้อว่า “อัฏฐังคิกมรรคชนิดที่เจริญแล้ว ทำกิจแห่งอริยสัจสี่พร้อมกันไปในตัว” เป็นต้น
    ทรงจำแนกว่า อมโตคธ อมตปรายน อมตปริโยสาน บ้าง,
    นิพฺพานนินฺน นิพฺพานโปณ นิพฺพานปพฺภาร บ้าง
    )

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/4-5/13-23.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/4/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๖-๗/๑๓-๒๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/6/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=967
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=967
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82
    ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    อริยสาวก​พึง​ศึกษา​ว่า​อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ สัทธรรมลำดับที่ : 967 ชื่อบทธรรม :- อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=967 เนื้อความทั้งหมด :- --อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ (พระอานนท์ได้เห็นชาณุสโสณีพราหมณ์ นั่งรถขาวเทียมด้วยม้าขาวเครื่องประดับประดาทุกส่วนขาว ถือพัดวาลวีชนีขาว จนกระทั่งประชาชนเห็นแล้วร้องว่า พรหมยาน ว่าลักษณะแห่งพรหมยาน, ดังนี้แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลถามว่า :- )​ --“ข้าแต่พระองค์ผู้องค์ผู้เจริญ ! พระผู้มีพระภาค อาจจะบัญญัติพรหมยานขึ้น ในธรรมวินัยนี้ ได้หรือไม่หนอ ?” --อาจซิ อานนท์ ! คำว่า พรหมยาน นั้น เป็นอธิวจนะ (คำแทนชื่อ) http://etipitaka.com/read/pali/19/6/?keywords=อธิวจนํ แห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง; เรียกว่า พรหมยาน บ้าง ธรรมยาน บ้าง อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง. --อานนท์ ! สัมมาทิฏฐิ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน. +--สัมมาสังกัปปะ .... +--สัมมาวาจา .... +--สัมมากัมมันตะ .... +--สัมมาอาชีวะ .... +--สัมมาวายามะ .... +--สัมมาสติ .... +--สัมมาสมาธิ .... อันบุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน. --อานนท์ ! พึงทราบโดยปริยายนี้แล ว่าคำว่า พรหมยาน นั้นเป็น อธิวจนะแห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง ; เรียกว่า #พรหมยาน บ้าง #ธรรมยาน บ้าง #อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง.- http://etipitaka.com/read/pali/19/7/?keywords=สงฺคามวิชโย (ผู้ศึกษาพึงทราบว่า คำว่า พรหมยาน เป็นคำสูงสุดในฝ่ายศาสนาพราหมณ์ พระอานนท์อยากจะมีคำเช่นนั้นในพระพุทธศาสนานี้บ้าง จึงทูลถาม; แต่พระองค์ตรัสตอบอย่างธัมมาธิษฐาน ระบุเอาอัฏฐังคิกมรรคเป็นพรหมยาน, และแถมยังมีคำว่า ธรรมยาน และอนุตตรสังคามวิชัย อีกด้วย. เราเห็นว่า คำว่า ธรรมยาน สำคัญกว่า จึงยกเอามาเป็นชื่อแห่งหัวข้อนี้. อนึ่ง อัฏฐังคิกมรรคนี้ จำแนกความหมายได้หลายอย่าง เช่น จำแนกเป็น วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามี ดังในหัวข้อ ที่จัด อัฏฐังคิกมรรคเป็นกัลยาณมิตร เป็นต้น บ้าง, และ ในหัวข้อทรงจำแนกเป็น ราค - โทส - โมหวินย - ปริโยสานบ้าง, ในหัวข้อว่า “อัฏฐังคิกมรรคชนิดที่เจริญแล้ว ทำกิจแห่งอริยสัจสี่พร้อมกันไปในตัว” เป็นต้น ทรงจำแนกว่า อมโตคธ อมตปรายน อมตปริโยสาน บ้าง, นิพฺพานนินฺน นิพฺพานโปณ นิพฺพานปพฺภาร บ้าง ) #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/4-5/13-23. http://etipitaka.com/read/thai/19/4/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๖-๗/๑๓-๒๓. http://etipitaka.com/read/pali/19/6/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=967 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=967 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82 ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ
    -[ในสูตรอื่น (๑๙/๓๐/๑๐๕) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า พรหมัญญะ. ในสูตรอื่น (๑๙/๓๑/๑๑๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า พรหมจริยะ. ในสูตรอื่น (๑๙/๒๐/๖๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า สัมมัตตะ. ในสูตรอื่น (๑๙/๒๐/๖๔) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า กุสลธัมม. ในสูตรอื่น (๑๙/๒๐/๖๗) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า สัมมาปฏิปทา. ในสูตรอื่น (๑๙/๒๐/๙๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า สัมมาปฏิปัตติ. ในสูตรอื่น (๑๙/๕๒๘/๑๖๖๔) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า มัชฌิมาปฏิปทา. ในสูตรอื่น (๑๔/๕๒๔/๘๒๙) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า สมถะและวิปัสสนา]. อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ (พระอานนท์ได้เห็นชาณุสโสณีพราหมณ์ นั่งรถขาวเทียมด้วยม้าขาวเครื่องประดับประดาทุกส่วนขาว ถือพัดวาลวีชนีขาว จนกระทั่งประชาชนเห็นแล้วร้องว่า พรหมยาน ว่าลักษณะแห่งพรหมยาน, ดังนี้แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลถามว่า :-) “ข้าแต่พระองค์ผู้องค์ผู้เจริญ ! พระผู้มีพระภาค อาจจะบัญญัติพรหมยานขึ้น ในธรรมวินัยนี้ ได้หรือไม่หนอ ?” อาจซิ อานนท์ ! คำว่า พรหมยาน นั้น เป็นอธิวจนะ (คำแทนชื่อ) แห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง; เรียกว่า พรหมยาน บ้าง ธรรมยาน บ้าง อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง. อานนท์ ! สัมมาทิฏฐิ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน. สัมมาสังกัปปะ .... สัมมาวาจา .... สัมมากัมมันตะ .... สัมมาอาชีวะ .... สัมมาวายามะ .... สัมมาสติ .... สัมมาสมาธิ .... อันบุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน. อานนท์ ! พึงทราบโดยปริยายนี้แล ว่าคำว่า พรหมยาน นั้นเป็น อธิวจนะแห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง ; เรียกว่า พรหมยาน บ้าง ธรรมยาน บ้าง อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ 16 เมษายน 2568
    นายนรเศรษฐ รุ่งจรูญ ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง พร้อมด้วยข้าราชการและพนักงานเทศบาลตำบลหลักเมือง ร่วมพิธีอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานฯ และพิธีปลงผม เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตร ให้ ร้อยตำรวจเอก คณิน รุ่งเรือง เพื่ออุปสมบทในพระพุทธศาสนา ณ วัดโพธิ์ราษฎร์บูรณะ ตำบลพงสวาย อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    วันที่ 16 เมษายน 2568 นายนรเศรษฐ รุ่งจรูญ ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง พร้อมด้วยข้าราชการและพนักงานเทศบาลตำบลหลักเมือง ร่วมพิธีอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานฯ และพิธีปลงผม เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตร ให้ ร้อยตำรวจเอก คณิน รุ่งเรือง เพื่ออุปสมบทในพระพุทธศาสนา ณ วัดโพธิ์ราษฎร์บูรณะ ตำบลพงสวาย อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 469 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรามาเกิดทันพระพุทธศาสนาคือบุญของเรา เทพเองยังไม่มาเกิดมาฟังเทศน์อย่างเรา พระพุทธศาสนานาๆ จะบังเกิดอุบัติขึ้น พระศรีอาริย์กว่าจะมาเกิดนานมากๆ
    เรามาเกิดทันพระพุทธศาสนาคือบุญของเรา เทพเองยังไม่มาเกิดมาฟังเทศน์อย่างเรา พระพุทธศาสนานาๆ จะบังเกิดอุบัติขึ้น พระศรีอาริย์กว่าจะมาเกิดนานมากๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบก.ปปป.เผยเร่งประสานอัยการต่างประเทศ ขอตัว"นพรัตน์" อดีต ผอ.พศ. มาดำเนินคดีเงินทอนวัด 17 คดี - ขอสหรัฐฯ ช่วยจับลูก-เมีย มารับโทษคดีฟอกเงินด้วย

    วันนี้ ( 14 เม.ย.) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าประสานขอส่งตัว นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ที่เพิ่งถูก US Marshall จับได้ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยว่า ในส่วนคดีของนายนพรัตน์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ตำรวจ ปปป. 17 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร ยื่นต่ออัยการต่างประเทศเพื่อดำเนินการประสานไปยังสหรัฐอเมริกา ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเป็นล็อตที่สอง ซึ่งจะเป็นคนละส่วนกับคดีของ ป.ป.ช. ซึ่งคาดเอกสารดังกล่าวนั้นจะสามารถรวบรวมสรุปยื่นต่ออัยการต่างประเทศได้ภายในวันที่ 21 เม.ย. ที่จะถึงนี้

    พล.ต.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ในส่วนของ นางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 51 ปี และ น.ส.ณัฏฐาภรณ์ ทุน อายุ 29 ปี ภรรยาและลูกของ นายนพรัตน์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยเช่นกันในคดีสมคบฟอกเงินนั้น ทาง บก.ปปป. เองก็จะรวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ยื่นต่ออัยการต่างประเทศเพื่อประสานกับทางการสหรัฐอเมริกา ให้ช่วยติดตามจับกุมและส่งตัวกลับมาดำเนินคดียังประเทศไทยด้วยเช่นกัน

    #MGROnline #สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ #คดีเงินทอนวัด
    ผบก.ปปป.เผยเร่งประสานอัยการต่างประเทศ ขอตัว"นพรัตน์" อดีต ผอ.พศ. มาดำเนินคดีเงินทอนวัด 17 คดี - ขอสหรัฐฯ ช่วยจับลูก-เมีย มารับโทษคดีฟอกเงินด้วย • วันนี้ ( 14 เม.ย.) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าประสานขอส่งตัว นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ที่เพิ่งถูก US Marshall จับได้ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยว่า ในส่วนคดีของนายนพรัตน์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ตำรวจ ปปป. 17 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร ยื่นต่ออัยการต่างประเทศเพื่อดำเนินการประสานไปยังสหรัฐอเมริกา ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเป็นล็อตที่สอง ซึ่งจะเป็นคนละส่วนกับคดีของ ป.ป.ช. ซึ่งคาดเอกสารดังกล่าวนั้นจะสามารถรวบรวมสรุปยื่นต่ออัยการต่างประเทศได้ภายในวันที่ 21 เม.ย. ที่จะถึงนี้ • พล.ต.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ในส่วนของ นางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 51 ปี และ น.ส.ณัฏฐาภรณ์ ทุน อายุ 29 ปี ภรรยาและลูกของ นายนพรัตน์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยเช่นกันในคดีสมคบฟอกเงินนั้น ทาง บก.ปปป. เองก็จะรวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ยื่นต่ออัยการต่างประเทศเพื่อประสานกับทางการสหรัฐอเมริกา ให้ช่วยติดตามจับกุมและส่งตัวกลับมาดำเนินคดียังประเทศไทยด้วยเช่นกัน • #MGROnline #สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ #คดีเงินทอนวัด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดวงวิญญาณเขาได้รับหมดน้ำไปรดตามธาตุเก็บกระดูก เขาก็ดีใจชื่นใจ

    สำหรับความเป็นมาของการกรวดน้ำนั้น ว่ากันว่ามีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล เมื่อครั้งพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แคว้นมคธ ได้ถวายเวฬุวนอุทยาน วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา แก่พระพุทธเจ้าให้เป็นที่วิหารที่ประทับ โดยในคืนนั้นพระเจ้าพิมพิสารได้ยินเสียงร้องโหยหวน น่าสะพรึง วันต่อมาจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงได้ไขข้อสงสัยว่าเสียงที่ได้ยินนั้น เป็นเสียงของพระญาติในอดีตอันไกลโพ้นของพระเจ้าพิมพิสาร ที่บังเกิดไปเป็นเปรต จึงมาขอส่วนบุญ เนื่องด้วยพระเจ้าพิมพิสารทำบุญแล้ว แต่ไม่ได้อุทิศให้
    ดวงวิญญาณเขาได้รับหมดน้ำไปรดตามธาตุเก็บกระดูก เขาก็ดีใจชื่นใจ สำหรับความเป็นมาของการกรวดน้ำนั้น ว่ากันว่ามีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล เมื่อครั้งพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แคว้นมคธ ได้ถวายเวฬุวนอุทยาน วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา แก่พระพุทธเจ้าให้เป็นที่วิหารที่ประทับ โดยในคืนนั้นพระเจ้าพิมพิสารได้ยินเสียงร้องโหยหวน น่าสะพรึง วันต่อมาจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงได้ไขข้อสงสัยว่าเสียงที่ได้ยินนั้น เป็นเสียงของพระญาติในอดีตอันไกลโพ้นของพระเจ้าพิมพิสาร ที่บังเกิดไปเป็นเปรต จึงมาขอส่วนบุญ เนื่องด้วยพระเจ้าพิมพิสารทำบุญแล้ว แต่ไม่ได้อุทิศให้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • บุกรวบตัวกลางโรงพยาบาลเท็กซัส อดีตผอ.สำนักพุทธฯ ‘นพรัตน’ คดีทุจริตเงินทอนวัด เร่งขอตัวส่งกลับเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เผยระหว่างหลบหนี 8 ปี อยู่อย่างสุขสบายกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่ำรวยผิดปกติกว่า 500 ล้านบาท จากการเข้าไปเกี่ยวพันกับคดีทุจริตโครงการเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด และการพัฒนาวัด (คดีเงินทอนวัด)นอกจากนี้คณะกรรมการ ปปง.มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ นายนพรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายพนม ศรศิลป์ กับพวก ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดไปแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง รวมมูลค่าประมาณ 94.2 ล้านบาท โดยมีรายงานว่า นายนพรัตน์หลบหนีหมายจับไปพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ก่อนปี 2560 จนถึงปัจจุบัน... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5138225#m9fdgqh9rgvhmu5ljbo
    บุกรวบตัวกลางโรงพยาบาลเท็กซัส อดีตผอ.สำนักพุทธฯ ‘นพรัตน’ คดีทุจริตเงินทอนวัด เร่งขอตัวส่งกลับเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เผยระหว่างหลบหนี 8 ปี อยู่อย่างสุขสบายกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่ำรวยผิดปกติกว่า 500 ล้านบาท จากการเข้าไปเกี่ยวพันกับคดีทุจริตโครงการเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด และการพัฒนาวัด (คดีเงินทอนวัด)นอกจากนี้คณะกรรมการ ปปง.มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ นายนพรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายพนม ศรศิลป์ กับพวก ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดไปแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง รวมมูลค่าประมาณ 94.2 ล้านบาท โดยมีรายงานว่า นายนพรัตน์หลบหนีหมายจับไปพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ก่อนปี 2560 จนถึงปัจจุบัน... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5138225#m9fdgqh9rgvhmu5ljbo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'องค์กรปกป้องพระพุทธศาสนา' ค้าน 'ร่างเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ' จี้สภาถอด 'วันนอร์'
    https://www.thai-tai.tv/news/18106/
    'องค์กรปกป้องพระพุทธศาสนา' ค้าน 'ร่างเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ' จี้สภาถอด 'วันนอร์' https://www.thai-tai.tv/news/18106/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts