• จินนี่ ตอนที่ 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 4
    อเมริกากำลังคิดอะไรอยู่ หรืออเมริกา รออะไร
    อเมริกาน่าจะกำลัง “ทำความเข้าใจ หรือทำความรู้จัก” กับศักยภาพกองทัพของรัสเซียของจริง จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง ไม่ใช่จากกระดาษรายงาน ของเหล่านักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญ หรือถังความคิด รายใดรายหนึ่ง
    เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ประมาณ 2 เดือนหลังจากเฝ้าดูลีลาของรัสเซียในตะวันออกกลาง นาย Richard N Haass ประธานถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่งของอเมริกา The Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะที่เชื่อกันว่า น่าจะเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรีตัวจริง ก็ลงมือเขียนรายงาน ชื่อ “Testing Putin in Syria ”
    ท่านประธานถังขยะ สรุปว่า ชัดเจนว่าการเข้าไปในตะวันออกกลางของปูติน เหมือนไปต่อท่อหายใจให้กับอัสสาดของซีเรีย แต่ขณะเดียวกัน ปูตินก็ใช้โอกาสนี้ บอกให้โลกรู้ว่า รัสเซียยังอยู่นะ และอยู่แบบแข็งแรงด้วย เป็นการเบี่ยงเบน จากความจริงว่า เศรษฐกิจในบ้านรัสเซียกำลังหดเหี่ยว และเพื่อให้ผู้คนลืมเรื่องยูเครนไปด้วย ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อสร้างคะแนนเสียงให้กับตัวเองในรัสเซียนั่นแหละ
    มีหลายคนเป็นห่วงว่า การที่รัสเซียเข้าไปในซีเรีย ไม่ใช่จะทำให้ อัสสาดเผด็จการจอมโหดแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกไอซิสโตขึ้นอีกด้วย เพราะการที่รัสเซียมุ่งหน้าแต่จะทำลายศัตรูของอัสสาด เท่ากับเปิดโอกาส ให้ไอซิสขยายพันธ์ง่ายขึ้นอีกด้วย
    นอกจากนี้ยังมีผู้ห่วงว่า รัสเซีย จะเป็นคนเริ่มสงครามเย็นในตะวันออกกลาง ด้วยการปิดล้อม ประเทศที่อยู่คนละฝ่ายกับอัสสาด แต่ท่านประธานถังขยะ บอกว่า ลืมไปได้เลย รัสเซียไม่มีปัญญารับมือกับการเปิดศึกหลายด้านหรอก เพราะนโยบายต่างประเทศแบบนั้น มันมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งสภาพทางเศรษฐกิจ กับสภาพกองทัพของรัสเซีย ไม่เอื้อให้รัสเซียเล่นได้ขนาดนั้น และก็ไม่แน่ว่า ชาวรัสเซียจะสนับสนุนปูติน ให้ทำเช่นนั้นด้วย
    ก็เหลือแต่ว่าปูติน ยังอยากจะเพลินกับการปกครอง แบบรวบอำนาจของตน ไปอีกนานไหมล่ะ ทุกอย่างมันมีขอบเขต และมีราคาทั้งสิ้น และปูตินอย่าลืมว่า เมื่อไอซิสแข็งแรงขึ้น ไม่นานเกินรอ คงได้เห็นนักรบพลีชีพ ไปก่อระเบิดในมอสโคว์แน่นอน (ขณะที่เขียนนี่ มอสโคว์ยังไม่มีระเบิดพลีชีพ แต่เครื่องบินโดยสารของรัสเซียโดนมือมืดสอยร่วงไปแล้ว นับว่าท่านประธานถังขยะ อ่านเกมขาด.!?)
    ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ปูตินคิดเรื่องซีเรีย ถึงขนาดไหน ถึงขนาดจะเอาอัสสาดไว้ ไม่ว่าต้วเองจะฉิบหายแค่ไหนอย่างนั้นหรือ หรือเอาแค่ว่า รัสเซียก็สามารถมีส่วน ในการจัดการตะวันออกกลางด้วย โดยไม่ต้องเอาเรื่องอัสสาดมาเกี่ยว
    ประธานถังขยะ แนะนำว่า ระหว่างที่ท่าทีของรัสเซียยังไม่ชัดเจน อเมริกาเอง ควรเลือกดำเนินการ 2 อย่างควบคู่กันไป ทางหนึ่งคือ จัดการดุลยอำนาจในบริเวณซีเรียเสียใหม่ ด้วยการสนับสนุนชาวเคิร์ด กับพวกสุนนี่บางกลุ่มเหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็เดินหน้าถล่มไอซิสจากทางอากาศต่อไป เหมือนเดิมอีกเหมือนกัน
    ขณะเดียวกัน ก็พยายามดำเนินการทางการทูต เพื่อนำไปสู่ “การแบ่งซีเรีย” !!!!
    โดยแบ่งซีเรียออกเป็นส่วนๆ และแยกการปกครอง ของแต่ละส่วนออกจากกัน น่าจะเป็นสูตรที่เหมาะสมสำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าอเมริกา หรือใคร ก็คงไม่ได้สนใจจริงจังใช่ไหม ที่จะรักษารัฐบาลของซีเรีย ที่มีอำนาจควบคุมซีเรียทั้งหมดหรอก
    และด้วยการดำเนินการอย่างนี้ อเมริกาก็สามารถที่จะให้รัสเซีย และแม้แต่ อิหร่าน ก็เข้ามามีส่วนร่วมในการแบ่ง (เค๊ก) ซีเรียด้วยกัน แบบนี้ ปูตินก็น่าจะพอใจ เพราะได้หน้ากำลังดี คุ้มกับราคาที่เสียไปในการเข้ามาในซีเรีย
    …ดูเหมือน บทความนี้จะเป็นการโยนหินถามทาง ระหว่างที่ท่านหัวหน้าใบตองแห้งกำลังนั่งกัดเล็บ อยู่ในมุมมืดของห้องทำงานที่ทำเนียบขาว รอผลสรุปจากพวกลูกกระเป๋ง ก่อนจะวางยุทธศาสตร์ หาทางเดินให้ตัวเอง….
    แต่ผมขอเพิ่มสักหน่อยว่า บทความของท่านประธานถังขยะ นี่มันยั่วยวน กวนส้นจริงๆ ส่อสันดานอเมริกาของแท้อย่างชัดเจน ทั้งดูถูกเหยียดหยามคนอื่น ไม่มีใครเก่งวิเศษเท่ามึง ที่ดีแต่ปาก แต่ จริงๆก็ขี้ขลาดเอาตัวรอด งก และยังหน้าด้าน เห็นแก่ได้ แม้กระทั่งลางแพ้รออยู่ข้างหน้า … มึงคิดได้ยังไง อยู่ดีๆจะเสนอแบ่งประเทศเขา….. เราต้องจำวิธีคิดแบบนี้ของไอ้ใบตองแห้งให้ดีๆ นะครับ
    เห็นการวิเคราะห์ของฝั่งวอชิงตันแล้ว คราวนี้ลองไปฟัง การวิเคราะห์ของอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกกันบ้างครับ
    2 วัน ก่อนหน้าที่เรื่อง คุณจีนนี่ จะออกมาเป็นข่าว ถังขยะความคิดของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ Chatham House คู่แฝดของ CFR ก็ออกบทความเหมือนกัน ชื่อ Putin’s Gamble in Syria เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ.2015
    สรุปว่า ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสมัยสหภาพโซเวียต หรือเป็นรัสเซียใหม่ ยังไม่เคยมีก้าวไหนของรัสเซียที่ท้าทาย เท่ากับการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของนายปูตินครั้งนี้ ส่วนใหญ่ เวลาที่รัสเซียมีกิจกรรมนอกพื้นที่ตัวเอง ก็มักจะเกี่ยวข้องโดยตรง กับเรื่องของรัสเซียเอง แต่ครั้งนี้ ดูเหมือนไม่ใช่เช่นนั้น
    เมื่อวันที่นายปูติน บินไปนิวยอร์ค เพื่อพบหน้ากับนายโอบามา ในการประชุมใหญ่ของสหประชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูติน พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้น ในวันนั้น กองทัพของรัสเซีย เครื่องบินรบ รวมทั้งนาวิกโยธินของรัสเซีย และเรือบรรทุกครื่องบิน Moskva ทั้งหมด ได้ไปประจำการณ์อยู่ที่ท่าเรือ Latakia/Tartous ที่อยู่ทางเหนือของซีเรีย เรียบร้อยหมดแล้ว และเมื่อปูติน
    พบกับโอบามา เขาก็คงจะบอกกับโอบามา ว่ารัสเซียจะใช้ของที่เอาไปอยู่ตรงนั้นอย่างไร และจริงๆ ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น ฝูงบิน Sukhoi ของรัสเซีย ก็เริ่มโจมตีกลุ่มไอซิส ที่ al-Rakaa แล้ว รวมทั้งโจมตีกลุ่มกองกำลังฝ่ายกบฏซีเรีย ที่อเมริกาและพวก ที่นำโดยซาอุดิอารเบีย และตุรกี เป็นผู้สนับสนุนอีกด้วย
    การจู่โจมของรัสเซีย นับเป็นปรากฏการณ์ ที่น่าตื่นเต้นอย่างมากในตะวันออกกลาง แม้ว่าจะปูตินจะพารัสเซียเข้าไปอยู่ในความเสี่ยงสูง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปูตินยังมียุทธศาสตร์ ในขณะที่โอบามาเอง กำลังนั่งมึนหาทางไปไม่เจอ แต่ปูตินเข้าไปอยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่า ตัวเองจะต้องอยู่ตรงนั้น เมื่อวันตัดสินชะตาของซีเรียเกิดขึ้น แต่โอบามา ยังคงนั่งเงียบอยู่
    ผลกระทบในตะวันออกกลาง จากการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของรัสเซีย มีสูงยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างฝ่ายสุนนี่ที่ต่อต้านอัสสาด (ซาอุดิอารเบีย การ์ตา ตุรกี) กับฝ่ายรัสเซีย ที่สนับสนุน อัสสาด รวมทั้งความไม่เด็ดขาดของโอบามา เมื่อเทียบกับปูติน
    ถังขยะของชาวเกาะบอกว่า มีสิ่งที่น่าสนใจอีก 2 รายการ คือ สัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอียิปต์ ที่ดูเหมือนนับวันจะใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะที่อิทธิพลของอเมริกา ที่มีต่ออียิปต์ดูเหมือนจะจางลง (มิน่า เครื่องบินรัสเซีย ถึงต้องถูกสอยร่วงที่อียิปต์ เดี๋ยวจะใกล้ชิดกันมากไป..)
    แต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ การที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู บินไปหา ปูติน เมื่อปลายเดือนสิงหาคม โดยการแจ้งล่วงหน้าเพียง 24 ชั่วโมง
    หนังสือพิมพ์ Haaretz ซึ่งเป็นสื่อมีเสียงดังมากในอิสราเอล สรุปการเดินทางไปมอสโคว์ของเนทันยาฮูว่า “เป็นการแสดงให้เห็นว่า อำนาจของอเมริกาในตะวันออกกลาง เป็นอดีตไปเสียแล้ว…”
    ถังของชาวเกาะ สรุปส่งท้ายว่า โอกาสที่อเมริกา จะกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม มีแค่ทางเดียว คือ อเมริกาต้องเคลื่อนตัวเองเข้ามาในตะวันออกกลางเสียใหม่ และอย่างรวดเร็ว และจัดการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในซีเรีย
    เป็นถังขยะแฝดกันก็จริง และทุกทีก็มักจะวิเคราะห์แบบประสานเสียงกัน โดยเฉพาะเวลาร้องเพลงด่ารัสเซีย เอ แต่ทำไมเรื่องรัสเซียอุ้มซีเรียคราวนี้ คู่แฝดเหมือนแตกเสียงกัน แต่จะถึงกับแตกคอกันหรือไม่… ดูไปก่อนนะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    6 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 4 อเมริกากำลังคิดอะไรอยู่ หรืออเมริกา รออะไร อเมริกาน่าจะกำลัง “ทำความเข้าใจ หรือทำความรู้จัก” กับศักยภาพกองทัพของรัสเซียของจริง จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง ไม่ใช่จากกระดาษรายงาน ของเหล่านักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญ หรือถังความคิด รายใดรายหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ประมาณ 2 เดือนหลังจากเฝ้าดูลีลาของรัสเซียในตะวันออกกลาง นาย Richard N Haass ประธานถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่งของอเมริกา The Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะที่เชื่อกันว่า น่าจะเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรีตัวจริง ก็ลงมือเขียนรายงาน ชื่อ “Testing Putin in Syria ” ท่านประธานถังขยะ สรุปว่า ชัดเจนว่าการเข้าไปในตะวันออกกลางของปูติน เหมือนไปต่อท่อหายใจให้กับอัสสาดของซีเรีย แต่ขณะเดียวกัน ปูตินก็ใช้โอกาสนี้ บอกให้โลกรู้ว่า รัสเซียยังอยู่นะ และอยู่แบบแข็งแรงด้วย เป็นการเบี่ยงเบน จากความจริงว่า เศรษฐกิจในบ้านรัสเซียกำลังหดเหี่ยว และเพื่อให้ผู้คนลืมเรื่องยูเครนไปด้วย ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อสร้างคะแนนเสียงให้กับตัวเองในรัสเซียนั่นแหละ มีหลายคนเป็นห่วงว่า การที่รัสเซียเข้าไปในซีเรีย ไม่ใช่จะทำให้ อัสสาดเผด็จการจอมโหดแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกไอซิสโตขึ้นอีกด้วย เพราะการที่รัสเซียมุ่งหน้าแต่จะทำลายศัตรูของอัสสาด เท่ากับเปิดโอกาส ให้ไอซิสขยายพันธ์ง่ายขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ห่วงว่า รัสเซีย จะเป็นคนเริ่มสงครามเย็นในตะวันออกกลาง ด้วยการปิดล้อม ประเทศที่อยู่คนละฝ่ายกับอัสสาด แต่ท่านประธานถังขยะ บอกว่า ลืมไปได้เลย รัสเซียไม่มีปัญญารับมือกับการเปิดศึกหลายด้านหรอก เพราะนโยบายต่างประเทศแบบนั้น มันมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งสภาพทางเศรษฐกิจ กับสภาพกองทัพของรัสเซีย ไม่เอื้อให้รัสเซียเล่นได้ขนาดนั้น และก็ไม่แน่ว่า ชาวรัสเซียจะสนับสนุนปูติน ให้ทำเช่นนั้นด้วย ก็เหลือแต่ว่าปูติน ยังอยากจะเพลินกับการปกครอง แบบรวบอำนาจของตน ไปอีกนานไหมล่ะ ทุกอย่างมันมีขอบเขต และมีราคาทั้งสิ้น และปูตินอย่าลืมว่า เมื่อไอซิสแข็งแรงขึ้น ไม่นานเกินรอ คงได้เห็นนักรบพลีชีพ ไปก่อระเบิดในมอสโคว์แน่นอน (ขณะที่เขียนนี่ มอสโคว์ยังไม่มีระเบิดพลีชีพ แต่เครื่องบินโดยสารของรัสเซียโดนมือมืดสอยร่วงไปแล้ว นับว่าท่านประธานถังขยะ อ่านเกมขาด.!?) ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ปูตินคิดเรื่องซีเรีย ถึงขนาดไหน ถึงขนาดจะเอาอัสสาดไว้ ไม่ว่าต้วเองจะฉิบหายแค่ไหนอย่างนั้นหรือ หรือเอาแค่ว่า รัสเซียก็สามารถมีส่วน ในการจัดการตะวันออกกลางด้วย โดยไม่ต้องเอาเรื่องอัสสาดมาเกี่ยว ประธานถังขยะ แนะนำว่า ระหว่างที่ท่าทีของรัสเซียยังไม่ชัดเจน อเมริกาเอง ควรเลือกดำเนินการ 2 อย่างควบคู่กันไป ทางหนึ่งคือ จัดการดุลยอำนาจในบริเวณซีเรียเสียใหม่ ด้วยการสนับสนุนชาวเคิร์ด กับพวกสุนนี่บางกลุ่มเหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็เดินหน้าถล่มไอซิสจากทางอากาศต่อไป เหมือนเดิมอีกเหมือนกัน ขณะเดียวกัน ก็พยายามดำเนินการทางการทูต เพื่อนำไปสู่ “การแบ่งซีเรีย” !!!! โดยแบ่งซีเรียออกเป็นส่วนๆ และแยกการปกครอง ของแต่ละส่วนออกจากกัน น่าจะเป็นสูตรที่เหมาะสมสำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าอเมริกา หรือใคร ก็คงไม่ได้สนใจจริงจังใช่ไหม ที่จะรักษารัฐบาลของซีเรีย ที่มีอำนาจควบคุมซีเรียทั้งหมดหรอก และด้วยการดำเนินการอย่างนี้ อเมริกาก็สามารถที่จะให้รัสเซีย และแม้แต่ อิหร่าน ก็เข้ามามีส่วนร่วมในการแบ่ง (เค๊ก) ซีเรียด้วยกัน แบบนี้ ปูตินก็น่าจะพอใจ เพราะได้หน้ากำลังดี คุ้มกับราคาที่เสียไปในการเข้ามาในซีเรีย …ดูเหมือน บทความนี้จะเป็นการโยนหินถามทาง ระหว่างที่ท่านหัวหน้าใบตองแห้งกำลังนั่งกัดเล็บ อยู่ในมุมมืดของห้องทำงานที่ทำเนียบขาว รอผลสรุปจากพวกลูกกระเป๋ง ก่อนจะวางยุทธศาสตร์ หาทางเดินให้ตัวเอง…. แต่ผมขอเพิ่มสักหน่อยว่า บทความของท่านประธานถังขยะ นี่มันยั่วยวน กวนส้นจริงๆ ส่อสันดานอเมริกาของแท้อย่างชัดเจน ทั้งดูถูกเหยียดหยามคนอื่น ไม่มีใครเก่งวิเศษเท่ามึง ที่ดีแต่ปาก แต่ จริงๆก็ขี้ขลาดเอาตัวรอด งก และยังหน้าด้าน เห็นแก่ได้ แม้กระทั่งลางแพ้รออยู่ข้างหน้า … มึงคิดได้ยังไง อยู่ดีๆจะเสนอแบ่งประเทศเขา….. เราต้องจำวิธีคิดแบบนี้ของไอ้ใบตองแห้งให้ดีๆ นะครับ เห็นการวิเคราะห์ของฝั่งวอชิงตันแล้ว คราวนี้ลองไปฟัง การวิเคราะห์ของอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกกันบ้างครับ 2 วัน ก่อนหน้าที่เรื่อง คุณจีนนี่ จะออกมาเป็นข่าว ถังขยะความคิดของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ Chatham House คู่แฝดของ CFR ก็ออกบทความเหมือนกัน ชื่อ Putin’s Gamble in Syria เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ.2015 สรุปว่า ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสมัยสหภาพโซเวียต หรือเป็นรัสเซียใหม่ ยังไม่เคยมีก้าวไหนของรัสเซียที่ท้าทาย เท่ากับการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของนายปูตินครั้งนี้ ส่วนใหญ่ เวลาที่รัสเซียมีกิจกรรมนอกพื้นที่ตัวเอง ก็มักจะเกี่ยวข้องโดยตรง กับเรื่องของรัสเซียเอง แต่ครั้งนี้ ดูเหมือนไม่ใช่เช่นนั้น เมื่อวันที่นายปูติน บินไปนิวยอร์ค เพื่อพบหน้ากับนายโอบามา ในการประชุมใหญ่ของสหประชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูติน พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้น ในวันนั้น กองทัพของรัสเซีย เครื่องบินรบ รวมทั้งนาวิกโยธินของรัสเซีย และเรือบรรทุกครื่องบิน Moskva ทั้งหมด ได้ไปประจำการณ์อยู่ที่ท่าเรือ Latakia/Tartous ที่อยู่ทางเหนือของซีเรีย เรียบร้อยหมดแล้ว และเมื่อปูติน พบกับโอบามา เขาก็คงจะบอกกับโอบามา ว่ารัสเซียจะใช้ของที่เอาไปอยู่ตรงนั้นอย่างไร และจริงๆ ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น ฝูงบิน Sukhoi ของรัสเซีย ก็เริ่มโจมตีกลุ่มไอซิส ที่ al-Rakaa แล้ว รวมทั้งโจมตีกลุ่มกองกำลังฝ่ายกบฏซีเรีย ที่อเมริกาและพวก ที่นำโดยซาอุดิอารเบีย และตุรกี เป็นผู้สนับสนุนอีกด้วย การจู่โจมของรัสเซีย นับเป็นปรากฏการณ์ ที่น่าตื่นเต้นอย่างมากในตะวันออกกลาง แม้ว่าจะปูตินจะพารัสเซียเข้าไปอยู่ในความเสี่ยงสูง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปูตินยังมียุทธศาสตร์ ในขณะที่โอบามาเอง กำลังนั่งมึนหาทางไปไม่เจอ แต่ปูตินเข้าไปอยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่า ตัวเองจะต้องอยู่ตรงนั้น เมื่อวันตัดสินชะตาของซีเรียเกิดขึ้น แต่โอบามา ยังคงนั่งเงียบอยู่ ผลกระทบในตะวันออกกลาง จากการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของรัสเซีย มีสูงยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างฝ่ายสุนนี่ที่ต่อต้านอัสสาด (ซาอุดิอารเบีย การ์ตา ตุรกี) กับฝ่ายรัสเซีย ที่สนับสนุน อัสสาด รวมทั้งความไม่เด็ดขาดของโอบามา เมื่อเทียบกับปูติน ถังขยะของชาวเกาะบอกว่า มีสิ่งที่น่าสนใจอีก 2 รายการ คือ สัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอียิปต์ ที่ดูเหมือนนับวันจะใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะที่อิทธิพลของอเมริกา ที่มีต่ออียิปต์ดูเหมือนจะจางลง (มิน่า เครื่องบินรัสเซีย ถึงต้องถูกสอยร่วงที่อียิปต์ เดี๋ยวจะใกล้ชิดกันมากไป..) แต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ การที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู บินไปหา ปูติน เมื่อปลายเดือนสิงหาคม โดยการแจ้งล่วงหน้าเพียง 24 ชั่วโมง หนังสือพิมพ์ Haaretz ซึ่งเป็นสื่อมีเสียงดังมากในอิสราเอล สรุปการเดินทางไปมอสโคว์ของเนทันยาฮูว่า “เป็นการแสดงให้เห็นว่า อำนาจของอเมริกาในตะวันออกกลาง เป็นอดีตไปเสียแล้ว…” ถังของชาวเกาะ สรุปส่งท้ายว่า โอกาสที่อเมริกา จะกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม มีแค่ทางเดียว คือ อเมริกาต้องเคลื่อนตัวเองเข้ามาในตะวันออกกลางเสียใหม่ และอย่างรวดเร็ว และจัดการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในซีเรีย เป็นถังขยะแฝดกันก็จริง และทุกทีก็มักจะวิเคราะห์แบบประสานเสียงกัน โดยเฉพาะเวลาร้องเพลงด่ารัสเซีย เอ แต่ทำไมเรื่องรัสเซียอุ้มซีเรียคราวนี้ คู่แฝดเหมือนแตกเสียงกัน แต่จะถึงกับแตกคอกันหรือไม่… ดูไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 6 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่ออินเดียรายงาน ไทยโจมตีคาสิโนหลายแห่ง ที่มีความเชื่อมโยงกับสแกมไซเบอร์ ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ระหว่างความขัดแย้งตามแนวชายแดนที่ยืดเยื้อมากว่า 2 สัปดาห์ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทยประกาศกร้าว่าจะให้ความสำคัญกับปฏิบัติการฉ้อโกงลำดับต้นๆ คำกล่าวอ้างความชอบธรรมที่ทางสำนักข่าวอีโคโนมิคไทม์ส ชี้ว่ามันช่วยหลีกเลี่ยงเสียงประณามจากนานาชาติ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123058

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สื่ออินเดียรายงาน ไทยโจมตีคาสิโนหลายแห่ง ที่มีความเชื่อมโยงกับสแกมไซเบอร์ ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ระหว่างความขัดแย้งตามแนวชายแดนที่ยืดเยื้อมากว่า 2 สัปดาห์ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทยประกาศกร้าว่าจะให้ความสำคัญกับปฏิบัติการฉ้อโกงลำดับต้นๆ คำกล่าวอ้างความชอบธรรมที่ทางสำนักข่าวอีโคโนมิคไทม์ส ชี้ว่ามันช่วยหลีกเลี่ยงเสียงประณามจากนานาชาติ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123058 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอนุทิน ชาญวีระกุล รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีสดุดีและส่งร่าง 2 ทหารกล้า วีรบุรุษจากสมรภูมิเนิน 350 จ.สุรินทร์ กลับภูมิลำเนาอย่างสมเกียรติ หลังพลีชีพจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย–กัมพูชา
    .
    ทหารกล้าทั้งสองนาย ได้แก่ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน และ พลทหารภาณุพัฒน์ เสาร์สา โดยมีครอบครัว ญาติ และกำลังพลร่วมพิธีด้วยความอาลัย ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า
    .
    นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้กองทัพไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้เกือบทั้งหมด และหวังว่าการสูญเสียครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมยืนยันไทยยึดหลักป้องกันตนเอง ไม่รุกรานประเทศเพื่อนบ้าน และพร้อมดูแลเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่
    .
    ชมคลิป >> https://news1live.com/detail/9680000122886
    .
    #News1live #News1 #ทหารกล้า #เนิน350 #ปกป้องอธิปไตย #ชายแดนไทย
    นายอนุทิน ชาญวีระกุล รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีสดุดีและส่งร่าง 2 ทหารกล้า วีรบุรุษจากสมรภูมิเนิน 350 จ.สุรินทร์ กลับภูมิลำเนาอย่างสมเกียรติ หลังพลีชีพจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย–กัมพูชา . ทหารกล้าทั้งสองนาย ได้แก่ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน และ พลทหารภาณุพัฒน์ เสาร์สา โดยมีครอบครัว ญาติ และกำลังพลร่วมพิธีด้วยความอาลัย ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า . นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้กองทัพไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้เกือบทั้งหมด และหวังว่าการสูญเสียครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมยืนยันไทยยึดหลักป้องกันตนเอง ไม่รุกรานประเทศเพื่อนบ้าน และพร้อมดูแลเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่ . ชมคลิป >> https://news1live.com/detail/9680000122886 . #News1live #News1 #ทหารกล้า #เนิน350 #ปกป้องอธิปไตย #ชายแดนไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • โค้งสุดท้ายมาเลเซีย ไกล่เกลี่ยไทย-กัมพูชา

    ในวันที่ 22 ธ.ค. มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน จะจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ระหว่างกัมพูชาและไทย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ จะเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว หลังจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เห็นชอบร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของมาเลเซีย ก่อนหมดวาระและส่งต่อหน้าที่ประธานอาเซียน ให้กับประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2569

    ก่อนหน้านี้ นายอันวาร์โทรศัพท์ไปยังนายอนุทิน และนายฮุน มาเนต ก่อนที่จะกล่าวว่า ขอย้ำถึงความสําคัญสําหรับกัมพูชาและประเทศไทย เพื่อยึดมั่นในจิตวิญญาณของการสนทนา ภูมิปัญญาและความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะยุติความตึงเครียดและรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค การประชุมดังกล่าวเป็นรูปแบบที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ เพื่อให้ทั้งสองประเทศสามารถเจรจาต่อรองได้อย่างเปิดเผย แก้ไขความต่างได้อย่างสันติ และบรรลุทางออกที่เป็นธรรมและยั่งยืน

    อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่กัมพูชาเปิดฉากยิงจรวด BM-21 ไปยังเป้าหมายพลเรือนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เสียชีวิต 12 ราย ถึงบัดนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง ก่อนหน้านี้นายอันวาร์ทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิง และลงนามปฎิญญาสันติภาพ โดยมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสักขีพยาน แต่กัมพูชายังคงลักลอบวางทุ่นระเบิด ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและพิการ กลายเป็นการปะทะรอบสองตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. แม้นายอันวาร์จะประกาศให้หยุดยิง โดยมีนายฮุน มาเนตตอบรับ แต่เมื่อถึงเวลากลับยังมีการปะทะอยู่ นายอันวาร์หน้าแตกมาแล้วถึงสองครั้ง พร้อมกับถูกตั้งคำถามว่าการเข้าแทรกแซงเหมาะสมหรือไม่

    หลังพ้นจากตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2568 ทิศทางการเมืองของรัฐบาลนายอันวาร์ จะกลับไปสู่ความสนใจการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการปฎิรูปการเมือง และการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 16 (General Election หรือ GE16) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในต้นปี 2571 ซึ่งนายอันวาร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งทั่วไปยังเหลืออีกนาน ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ก่อนหน้านี้กลุ่มการเมืองปากาตันฮาราปัน (Pakatan Harapan) ของนายอันวาร์ พ่ายแพ้การเลือกตั้งระดับรัฐแบบยับเยินที่รัฐซาบาห์ และในปี 2569 กำลังจะมีการเลือกตั้งระดับรัฐในรัฐมะละกาและรัฐยะโฮร์

    #Newskit
    โค้งสุดท้ายมาเลเซีย ไกล่เกลี่ยไทย-กัมพูชา ในวันที่ 22 ธ.ค. มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน จะจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ระหว่างกัมพูชาและไทย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ จะเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว หลังจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เห็นชอบร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของมาเลเซีย ก่อนหมดวาระและส่งต่อหน้าที่ประธานอาเซียน ให้กับประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2569 ก่อนหน้านี้ นายอันวาร์โทรศัพท์ไปยังนายอนุทิน และนายฮุน มาเนต ก่อนที่จะกล่าวว่า ขอย้ำถึงความสําคัญสําหรับกัมพูชาและประเทศไทย เพื่อยึดมั่นในจิตวิญญาณของการสนทนา ภูมิปัญญาและความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะยุติความตึงเครียดและรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค การประชุมดังกล่าวเป็นรูปแบบที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ เพื่อให้ทั้งสองประเทศสามารถเจรจาต่อรองได้อย่างเปิดเผย แก้ไขความต่างได้อย่างสันติ และบรรลุทางออกที่เป็นธรรมและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่กัมพูชาเปิดฉากยิงจรวด BM-21 ไปยังเป้าหมายพลเรือนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เสียชีวิต 12 ราย ถึงบัดนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง ก่อนหน้านี้นายอันวาร์ทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิง และลงนามปฎิญญาสันติภาพ โดยมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสักขีพยาน แต่กัมพูชายังคงลักลอบวางทุ่นระเบิด ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและพิการ กลายเป็นการปะทะรอบสองตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. แม้นายอันวาร์จะประกาศให้หยุดยิง โดยมีนายฮุน มาเนตตอบรับ แต่เมื่อถึงเวลากลับยังมีการปะทะอยู่ นายอันวาร์หน้าแตกมาแล้วถึงสองครั้ง พร้อมกับถูกตั้งคำถามว่าการเข้าแทรกแซงเหมาะสมหรือไม่ หลังพ้นจากตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2568 ทิศทางการเมืองของรัฐบาลนายอันวาร์ จะกลับไปสู่ความสนใจการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการปฎิรูปการเมือง และการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 16 (General Election หรือ GE16) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในต้นปี 2571 ซึ่งนายอันวาร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งทั่วไปยังเหลืออีกนาน ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ก่อนหน้านี้กลุ่มการเมืองปากาตันฮาราปัน (Pakatan Harapan) ของนายอันวาร์ พ่ายแพ้การเลือกตั้งระดับรัฐแบบยับเยินที่รัฐซาบาห์ และในปี 2569 กำลังจะมีการเลือกตั้งระดับรัฐในรัฐมะละกาและรัฐยะโฮร์ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 1

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย ( มี 5 ตอน)
    ตอนสุดท้าย 1
    ตกลงข่าวเรื่องกษัตริย์ซาลมานป่วยหนัก รวมทั้งข่าวปฏิวัติในซาอุดิอารเบีย ที่ออกมาเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ มันเป็นข่าวลือ ข่าวลวง โดยใคร และ หวังผลอะไร
    ข่าวที่ว่ากษัตริย์ป่วยหนัก ถึงขนาดไม่รู้ตัว ความจำเสื่อม ทำร้ายตัวเอง จนต้องเอาเข้าไปรักษาตัวในโรง พยาบาล น่าจะเป็นข่าวลือแบบโคมลอย จากผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ต่อทั้งตัวกษัตริย์เอง ราชวงศ์ และประเทศซาอุดิอารเบีย เพราะจริงๆแล้ว เมื่อ 2 วันนี้เอง มีข่าวว่ากษัตริย์ซาลมานเพิ่งพูดโทรศัพท์กับคุณพี่ปูตินของรัสเซีย เกี่ยวกับเรื่องซีเรีย และอื่นๆ
    ใครล่ะ ที่จะได้ประโยชน์จากข่าวลือทำนองนี้ ก็เป็นได้ทั้งจากภายในซาอุเอง จากฝ่ายที่เสียประโยชน์เสียอำนาจ ที่มีตั้งแต่พวกราชวงศ์ด้วยกัน และ ไม่ใช่พวกราชวงศ์ แต่เคยมีอำนาจและเสียอำนาจ จากคำสั่งของกษัตริย์ซาลมาน ที่เปลี่ยนแปลงผู้มีหน้าที่สำคัญหลายคน ทั้งในเดือนมกราคม และเดือนเมษายน
    ส่วนจากภายนอกประเทศ อเมริกาคงไม่แคล้วตกเป็นจำเลย ตัวการให้ปล่อยข่าว เพราะสื่อที่ลงข่าวลือ รายแรกคืออิสราเอล ตามมาด้วยสื่อในตะวันออกกลางและสื่ออังกฤษ ก็เป็นพรรคพวกของของอเมริการะดับชั้นต่างๆ ทั้งนั้น
    ถ้าอเมริกาให้ปล่อยข่าวลือ หรือข่าวลวงนี้ แปลว่า อเมริกาต้องมีความไม่พอใจหรือ ต้องการกดดัน ซาอุดิอารเบีย ถ้าพิจารณาจาก บทความของคุณซีไอเอเขี้ยวยาวแล้ว คงพอเห็นอาการเฟืองขัดเกลียวบิ่น ระหว่างซาอุดิ อารเบียกับอเมริกา ค่อนข้างชัดเจน แม้คำชม หรือคำบอกเล่า ก็ยังมีการแฝงหลายนัย เกินกว่าที่จะแปลว่า เขารักกันจริง คงเป็นแค่ ยังทิ้งกันไม่ได้มากกว่า
    และถ้ามีความไม่พอใจ อเมริกาไม่พอใจซาอุดิอารเบีย เกี่ยวกับการเรื่องราชวงศ์ หรือไม่พอใจ ที่ซาอุดิอารเบีย ไปถล่มเยเมน หรืออเมริกาไม่พอใจ ทั้ง 2 เรื่อง
    คงต้องทำความเข้าใจ กับวิธีการคิดของอเมริกาเสียก่อน อเมริกาไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงในซาอุดิอารเบียว่า จะดีหรือไม่ดีกับซาอุดิอารเบียอย่างไร อเมริกามองกลับทางว่า การเปลี่ยนแปลงนั้น กระทบกับผลประโยชน์ตัวเองหรือไม่ อย่างไร มากกว่า และด้วยความคิดอย่างนี้ อเมริกาจึงให้ความ “สนใจ” กับความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับราชวงศ์ ซาอุดิอารเบียในระดับสูงมาก เพราะราชวงศ์ซาอูด คือ “อำนาจ” ของซาอุดิอารเบีย และอเมริกา กับซาอุดิอารเบีย ก็มีเรื่องเกี่ยวพันกันมากมาย การเปลี่ยนแปลงของ “อำนาจ” ในซาอุดิอารเบีย จึงอาจจะกระทบกับอเมริกามาก มันไม่ใช่เรื่องอเมริกา ชอบ ไม่ชอบใคร
    จะว่าไป อเมริกาก็สนใจมองความเปลี่ยนแปลง ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับ “อำนาจ” ของทุกประเทศ ในวิธีคิดอย่างนี้แหละ สนใจมากน้อย ก็แล้วแต่ “ประโยชน์” ที่อเมริกาจะได้จะเสียในประเทศนั้น มีมากน้อยแค่ไหน และถ้าเราไม่ทำความเข้าใจในความคิดนี้ หรือ “สันดาน” ที่แท้จริงของอเมริกาว่าเป็นอย่างนี้ เราก็คงจะสับสน ไม่เข้าใจพฤติกรรมของอเมริกา และเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญ ถ้าเรื่องนั้นมาเกี่ยวกับบ้านเรา และเราสับสนในพฤติกรรมและสันดานของอเมริกาแล้ว เราก็ไม่แคล้ว ที่จะตกเป็นเหยื่อ หรือ ถูกใช้เป็นพรมเช็ดเท้าของอเมริกา อย่างที่เป็นๆกัน
    เริ่มที่ผู้ปกครองคนใหม่ของซาอุดิอารเบีย ไม่ว่าบทความจะเขียนโดยใคร จากถังขยะความคิด หรือหน่วยงานใดของรัฐบาลอเมริกัน สิ่งที่สรุปได้ คือ อเมริกาอยากรู้ว่า จะพูดกับคนที่มาใหม่รู้เรื่องไหม คนมาใหม่ เชื่อฟังอเมริกาแค่ไหน นโยบายใหม่ของคนใหม่ สอดคล้องกับความต้องการของอเมริกาไหม หรือเอาให้ชัดๆ อเมริกา จะ “สั่ง” หรือ “กำกับ” คนปกครองใหม่ ได้มากน้อยแค่ไหน
    เมื่อขึ้นครองราชย์ในเดือนมกราคม ต้นปี ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมานอายุ 79 ปีแล้ว อเมริกาจึงมองไปที่มงกุฏราชกุมาร อันดับ 1 และอันดับ 2 กับตำแหน่งสำคัญๆ เช่น รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ ผู้ที่คุมความมั่นคง และผู้ที่คุมนโยบายน้ำมันของซาอุดิอารเบีย เพราะตำแหน่งเหล่านี้ มีผลกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกา ทั้งในซาอุดิอารเบีย และในอเมริกาเองด้วย (หมายเหตุ: ตามธรรมเนียม กษัตริย์ซาอุดิอารเบียจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอง)
    สำหรับเจ้าชายมุคริน อายุ 70 ปี มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 1 อเมริกาคุ้นเคยดี และเห็นว่า “คุย” กันได้ น่าจะมีแนวคิดปฏิรูป ตามที่อเมริกาต้องการ
    มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 2 เจ้าชาย บิน นาเยฟ อายุ 55 ปี อเมริกาก็คุ้นเคยอีก แม้จะไม่ชอบพ่อ แต่คิดว่า คุยกับลูกได้
    รัฐมนตรีส่วนใหญ่ไม่มีเปลี่ยนแปลง มีเพียงด้านความมั่นคง ที่กษัตริย์ซาลมาน แต่งตั้งให้ลูกชาย คือ เจ้าชาย บิน ซาลมาน คุมด้านความมั่นคง อเมริกาบอก เป็นไก่อ่อน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่อเมริกาก็ยังไม่ขยับอะไร เพราะอาจสั่งไก่อ่อนซ้ายหัน ขวาหันง่ายดี
    กษัตริย์ใหม่ครองราชย์ยังไม่ถึง 3 เดือนดี ปลายเดือนมีนาคม ค.ศ.2015 ซาอุดิอารเบีย ก็สั่งรวมพล พรรคพวก มีอียิปต์ มอรอคโค จอร์แดน อามิเรต คูเวต การ์ตา บาห์เรน รวมไปถึงซูดาน เพื่อโจมตีพวกฮูตติ ที่ยึดครองเยเมนได้ จากสงครามกลางเมืองในเยเมนที่ยืดเยื้อมาปีกว่า และไล่รัฐบาลเยเมน ที่ซาอุสนับสนุนกระเจิงออกไป
    ซาอุดิอารเบีย ยอมให้พวกฮูตติครอบครองเยเมนไม่ได้ เพราะพวกฮูตตินี้ ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน คู่แข่งสำคัญของซาอุดิ และเยเมนก็อยู่ติดกับซาอุดิอารเบีย ขนาดมองเห็นขนจมูกกัน วันที่ 26 มีนาคม ซาอุอารเบีย จึงสั่งยิงจรวดใส่ฐานทัพอากาศของฮูตติ ที่เมือง Taiz และเมือง Sa’dah
    การยิงจรวดถล่มเยเมน รายการดังกล่าว อเมริการู้เรื่องดี เพราะเป็นคนให้ข้อมูลข่าวกรอง และบอกสภาพพื้นที่แก่ซาอุดิอารเบีย อย่างนี้น่าจะไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่องเป็นประชาธิปไตย ไม่ต้องพูด เพราะพวกราชวงศ์ซาอูดบอกแล้วว่า ยังไม่อยากเป็นเหมือนควีนเอลิ ซาเบธของอังกฤษ รัฐธรรมนูญก็ยังไม่รู้จัก แต่ก็ไม่เป็นไร มีน้ำมันแยะแบบนี้ จะทำอะไรก็ได้ อเมริกาไม่สั่งคว่ำบาตร ไม่ตัดสัมพันธ์ ไม่เดินสายให้นานาชาติช่วยกันด่า แน่นอน รักกันฉิบหายเลย
    คุณทหารช่วยจำไว้นะครับ เคลื่อนทัพคราวหน้า อย่าทำแค่ปฏิวัติ ปิดช่องแคบมะละกามันด้วยเลย หมดเรื่อง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 1 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย ( มี 5 ตอน) ตอนสุดท้าย 1 ตกลงข่าวเรื่องกษัตริย์ซาลมานป่วยหนัก รวมทั้งข่าวปฏิวัติในซาอุดิอารเบีย ที่ออกมาเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ มันเป็นข่าวลือ ข่าวลวง โดยใคร และ หวังผลอะไร ข่าวที่ว่ากษัตริย์ป่วยหนัก ถึงขนาดไม่รู้ตัว ความจำเสื่อม ทำร้ายตัวเอง จนต้องเอาเข้าไปรักษาตัวในโรง พยาบาล น่าจะเป็นข่าวลือแบบโคมลอย จากผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ต่อทั้งตัวกษัตริย์เอง ราชวงศ์ และประเทศซาอุดิอารเบีย เพราะจริงๆแล้ว เมื่อ 2 วันนี้เอง มีข่าวว่ากษัตริย์ซาลมานเพิ่งพูดโทรศัพท์กับคุณพี่ปูตินของรัสเซีย เกี่ยวกับเรื่องซีเรีย และอื่นๆ ใครล่ะ ที่จะได้ประโยชน์จากข่าวลือทำนองนี้ ก็เป็นได้ทั้งจากภายในซาอุเอง จากฝ่ายที่เสียประโยชน์เสียอำนาจ ที่มีตั้งแต่พวกราชวงศ์ด้วยกัน และ ไม่ใช่พวกราชวงศ์ แต่เคยมีอำนาจและเสียอำนาจ จากคำสั่งของกษัตริย์ซาลมาน ที่เปลี่ยนแปลงผู้มีหน้าที่สำคัญหลายคน ทั้งในเดือนมกราคม และเดือนเมษายน ส่วนจากภายนอกประเทศ อเมริกาคงไม่แคล้วตกเป็นจำเลย ตัวการให้ปล่อยข่าว เพราะสื่อที่ลงข่าวลือ รายแรกคืออิสราเอล ตามมาด้วยสื่อในตะวันออกกลางและสื่ออังกฤษ ก็เป็นพรรคพวกของของอเมริการะดับชั้นต่างๆ ทั้งนั้น ถ้าอเมริกาให้ปล่อยข่าวลือ หรือข่าวลวงนี้ แปลว่า อเมริกาต้องมีความไม่พอใจหรือ ต้องการกดดัน ซาอุดิอารเบีย ถ้าพิจารณาจาก บทความของคุณซีไอเอเขี้ยวยาวแล้ว คงพอเห็นอาการเฟืองขัดเกลียวบิ่น ระหว่างซาอุดิ อารเบียกับอเมริกา ค่อนข้างชัดเจน แม้คำชม หรือคำบอกเล่า ก็ยังมีการแฝงหลายนัย เกินกว่าที่จะแปลว่า เขารักกันจริง คงเป็นแค่ ยังทิ้งกันไม่ได้มากกว่า และถ้ามีความไม่พอใจ อเมริกาไม่พอใจซาอุดิอารเบีย เกี่ยวกับการเรื่องราชวงศ์ หรือไม่พอใจ ที่ซาอุดิอารเบีย ไปถล่มเยเมน หรืออเมริกาไม่พอใจ ทั้ง 2 เรื่อง คงต้องทำความเข้าใจ กับวิธีการคิดของอเมริกาเสียก่อน อเมริกาไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงในซาอุดิอารเบียว่า จะดีหรือไม่ดีกับซาอุดิอารเบียอย่างไร อเมริกามองกลับทางว่า การเปลี่ยนแปลงนั้น กระทบกับผลประโยชน์ตัวเองหรือไม่ อย่างไร มากกว่า และด้วยความคิดอย่างนี้ อเมริกาจึงให้ความ “สนใจ” กับความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับราชวงศ์ ซาอุดิอารเบียในระดับสูงมาก เพราะราชวงศ์ซาอูด คือ “อำนาจ” ของซาอุดิอารเบีย และอเมริกา กับซาอุดิอารเบีย ก็มีเรื่องเกี่ยวพันกันมากมาย การเปลี่ยนแปลงของ “อำนาจ” ในซาอุดิอารเบีย จึงอาจจะกระทบกับอเมริกามาก มันไม่ใช่เรื่องอเมริกา ชอบ ไม่ชอบใคร จะว่าไป อเมริกาก็สนใจมองความเปลี่ยนแปลง ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับ “อำนาจ” ของทุกประเทศ ในวิธีคิดอย่างนี้แหละ สนใจมากน้อย ก็แล้วแต่ “ประโยชน์” ที่อเมริกาจะได้จะเสียในประเทศนั้น มีมากน้อยแค่ไหน และถ้าเราไม่ทำความเข้าใจในความคิดนี้ หรือ “สันดาน” ที่แท้จริงของอเมริกาว่าเป็นอย่างนี้ เราก็คงจะสับสน ไม่เข้าใจพฤติกรรมของอเมริกา และเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญ ถ้าเรื่องนั้นมาเกี่ยวกับบ้านเรา และเราสับสนในพฤติกรรมและสันดานของอเมริกาแล้ว เราก็ไม่แคล้ว ที่จะตกเป็นเหยื่อ หรือ ถูกใช้เป็นพรมเช็ดเท้าของอเมริกา อย่างที่เป็นๆกัน เริ่มที่ผู้ปกครองคนใหม่ของซาอุดิอารเบีย ไม่ว่าบทความจะเขียนโดยใคร จากถังขยะความคิด หรือหน่วยงานใดของรัฐบาลอเมริกัน สิ่งที่สรุปได้ คือ อเมริกาอยากรู้ว่า จะพูดกับคนที่มาใหม่รู้เรื่องไหม คนมาใหม่ เชื่อฟังอเมริกาแค่ไหน นโยบายใหม่ของคนใหม่ สอดคล้องกับความต้องการของอเมริกาไหม หรือเอาให้ชัดๆ อเมริกา จะ “สั่ง” หรือ “กำกับ” คนปกครองใหม่ ได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อขึ้นครองราชย์ในเดือนมกราคม ต้นปี ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมานอายุ 79 ปีแล้ว อเมริกาจึงมองไปที่มงกุฏราชกุมาร อันดับ 1 และอันดับ 2 กับตำแหน่งสำคัญๆ เช่น รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ ผู้ที่คุมความมั่นคง และผู้ที่คุมนโยบายน้ำมันของซาอุดิอารเบีย เพราะตำแหน่งเหล่านี้ มีผลกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกา ทั้งในซาอุดิอารเบีย และในอเมริกาเองด้วย (หมายเหตุ: ตามธรรมเนียม กษัตริย์ซาอุดิอารเบียจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอง) สำหรับเจ้าชายมุคริน อายุ 70 ปี มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 1 อเมริกาคุ้นเคยดี และเห็นว่า “คุย” กันได้ น่าจะมีแนวคิดปฏิรูป ตามที่อเมริกาต้องการ มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 2 เจ้าชาย บิน นาเยฟ อายุ 55 ปี อเมริกาก็คุ้นเคยอีก แม้จะไม่ชอบพ่อ แต่คิดว่า คุยกับลูกได้ รัฐมนตรีส่วนใหญ่ไม่มีเปลี่ยนแปลง มีเพียงด้านความมั่นคง ที่กษัตริย์ซาลมาน แต่งตั้งให้ลูกชาย คือ เจ้าชาย บิน ซาลมาน คุมด้านความมั่นคง อเมริกาบอก เป็นไก่อ่อน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่อเมริกาก็ยังไม่ขยับอะไร เพราะอาจสั่งไก่อ่อนซ้ายหัน ขวาหันง่ายดี กษัตริย์ใหม่ครองราชย์ยังไม่ถึง 3 เดือนดี ปลายเดือนมีนาคม ค.ศ.2015 ซาอุดิอารเบีย ก็สั่งรวมพล พรรคพวก มีอียิปต์ มอรอคโค จอร์แดน อามิเรต คูเวต การ์ตา บาห์เรน รวมไปถึงซูดาน เพื่อโจมตีพวกฮูตติ ที่ยึดครองเยเมนได้ จากสงครามกลางเมืองในเยเมนที่ยืดเยื้อมาปีกว่า และไล่รัฐบาลเยเมน ที่ซาอุสนับสนุนกระเจิงออกไป ซาอุดิอารเบีย ยอมให้พวกฮูตติครอบครองเยเมนไม่ได้ เพราะพวกฮูตตินี้ ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน คู่แข่งสำคัญของซาอุดิ และเยเมนก็อยู่ติดกับซาอุดิอารเบีย ขนาดมองเห็นขนจมูกกัน วันที่ 26 มีนาคม ซาอุอารเบีย จึงสั่งยิงจรวดใส่ฐานทัพอากาศของฮูตติ ที่เมือง Taiz และเมือง Sa’dah การยิงจรวดถล่มเยเมน รายการดังกล่าว อเมริการู้เรื่องดี เพราะเป็นคนให้ข้อมูลข่าวกรอง และบอกสภาพพื้นที่แก่ซาอุดิอารเบีย อย่างนี้น่าจะไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่องเป็นประชาธิปไตย ไม่ต้องพูด เพราะพวกราชวงศ์ซาอูดบอกแล้วว่า ยังไม่อยากเป็นเหมือนควีนเอลิ ซาเบธของอังกฤษ รัฐธรรมนูญก็ยังไม่รู้จัก แต่ก็ไม่เป็นไร มีน้ำมันแยะแบบนี้ จะทำอะไรก็ได้ อเมริกาไม่สั่งคว่ำบาตร ไม่ตัดสัมพันธ์ ไม่เดินสายให้นานาชาติช่วยกันด่า แน่นอน รักกันฉิบหายเลย คุณทหารช่วยจำไว้นะครับ เคลื่อนทัพคราวหน้า อย่าทำแค่ปฏิวัติ ปิดช่องแคบมะละกามันด้วยเลย หมดเรื่อง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศุกร์สีฟ้า "เปิดฟ้าใหม่" ฟังเสียงคนไทยไม่ทน : [THE MESSAGE]
    ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผยถึงการเปิดตัวแคมเปญ ศุกร์สีฟ้า “เปิดฟ้าใหม่” ช่วยกันส่งเสียงว่าประเทศไทยจะไม่ทน เป็นแคมเปญแรกของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาการเมืองสีเทาทำให้คนไทยถูกทอดทิ้ง ประชาธิปัตย์จึงอยากเชิญทุกคนมาร่วมสร้างการเมืองที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยใน 2-3 วันนี้ พรรคจะรณรงค์เปิดโพลรับฟังเสียงจากประชาชนว่า สิ่งที่แต่ละคนต้องทนในอดีตมีอะไรบ้าง และจะไม่ทนกับอะไรอีกต่อไป ซึ่งวันที่ 22 ธ.ค. นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นผู้นำแถลงสิ่งที่พรรคจะดำเนินการต่อ ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเป็นสมาชิกพรรค มองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของทุกพรรคมีความหลากหลาย หลายพรรคยังไม่มีความชัดเจน สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์นำเสนอ ครอบคลุมทุกมิติ มองว่า “ไม่แพ้แน่นอน” แคนดิเดตพรรคประชาธิปัตย์สามารถทำภารกิจสำคัญของประเทศชาติได้อย่างดี
    ศุกร์สีฟ้า "เปิดฟ้าใหม่" ฟังเสียงคนไทยไม่ทน : [THE MESSAGE] ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผยถึงการเปิดตัวแคมเปญ ศุกร์สีฟ้า “เปิดฟ้าใหม่” ช่วยกันส่งเสียงว่าประเทศไทยจะไม่ทน เป็นแคมเปญแรกของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาการเมืองสีเทาทำให้คนไทยถูกทอดทิ้ง ประชาธิปัตย์จึงอยากเชิญทุกคนมาร่วมสร้างการเมืองที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยใน 2-3 วันนี้ พรรคจะรณรงค์เปิดโพลรับฟังเสียงจากประชาชนว่า สิ่งที่แต่ละคนต้องทนในอดีตมีอะไรบ้าง และจะไม่ทนกับอะไรอีกต่อไป ซึ่งวันที่ 22 ธ.ค. นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นผู้นำแถลงสิ่งที่พรรคจะดำเนินการต่อ ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเป็นสมาชิกพรรค มองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของทุกพรรคมีความหลากหลาย หลายพรรคยังไม่มีความชัดเจน สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์นำเสนอ ครอบคลุมทุกมิติ มองว่า “ไม่แพ้แน่นอน” แคนดิเดตพรรคประชาธิปัตย์สามารถทำภารกิจสำคัญของประเทศชาติได้อย่างดี
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • แคนดิเดตนายกฯ ภูมิใจไทย!? : [Biz Talk]

    เรื่องใหญ่ ต้องคิดให้ถี่ถ้วน ‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ ขอพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจประเด็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ย้ำเป็นตำแหน่งสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ ต้องคิดรอบด้าน ทบทวนทุกมิติ
    แคนดิเดตนายกฯ ภูมิใจไทย!? : [Biz Talk] เรื่องใหญ่ ต้องคิดให้ถี่ถ้วน ‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ ขอพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจประเด็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ย้ำเป็นตำแหน่งสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ ต้องคิดรอบด้าน ทบทวนทุกมิติ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 7

    “ข่าวลือ ข่าวลวง”
    ตอน 7
    อเมริกาบอกว่า อิสลามกลุ่มวะฮาบีของซาอุดิอารเบีย เป็นอิสลามนิกายสุนนี ที่เคร่งครัดที่สุดในภูมิภาค แต่บัดนี้ กลับมีพวกเคร่งศาสนาอย่างสุดขั้ว ที่ไม่ยอมรับและเกลียดชาวต่างชาติ รุนแรงกว่าพวกวะฮาบี โผล่ขึ้นมาอีก คือ พวกรัฐอิสลาม Islamic State หรือที่เรารู้จักพวกเขาในชื่อ IS พวกนี้ก่อตัวขึ้นในอิรัค และซีเรียในช่วงปี ค.ศ.2014 เป็นกลุ่มใหม่ที่ออกมาท้าทายโลก และอเมริกาเหน็บว่า ดูเหมือนจะท้าทายโครงการฟื้นฟูผู้ก่อการร้ายของ เจ้าชาย บิน นาเยฟ เสียด้วยซ้ำ
    กลุ่ม IS นี้ มีรากมาจากพวกอัลไคดาในเมโสโปเตเมีย (อาณาจักรออโตมานเดิม) และดำดินแอบอยู่เมื่อตอนที่อเมริกาบุกอิรัค ในช่วงปี ค.ศ.2007 จนเมื่ออเมริกาถอยกองกำลังต่างชาติออกไป พวก IS จึงโผล่ขึ้นมาและมีประโคมข่าวการปรากฏตัวของพวกเขาน่าดู
    ในช่วงปี ค.ศ.2012- 2013 พวก IS บุกเข้าไปทลายคุกในอิรัก ที่พวกผู้ก่อการร้ายอัลไคดาถูกคุมขังอยู่ หลังจากคุกแตก ก็มีการรวมตัวมาสร้างฐานใหม่ ขยายออกมาทางซีเรีย
    ในช่วงหน้าร้อนของปี ค.ศ.2014 กลุ่ม IS บุกอย่างรวดเร็ว แบบสายฟ้าแลบ เข้าไปยึดเมืองโมซุล Mosul เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัคได้ และตั้งเป็นรัฐที่มีผู้นำทางศาสนาเป็นผู้ปกครอง caliphate เพื่อปกครองอิสลามทั้งปวง (และเมืองนี้ ก็เป็นเมืองที่มีน้ำมันมากที่สุดเมืองหนึ่งของอิรัค อันนี้ผมเพิ่มเติมให้ เพราะเห็นใบตองแห้งทำเป็นลืมใส่ เรื่องสำคัญ)
    ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 กลุ่ม IS ประกาศว่าพวกเขาจะยึดมัสยิดต่างๆ ในนครเมกกะและเมดินา และจะขับไล่พวกราชวงศ์ซาอูด ออกไปให้หมด
    หลังจากนั้น สื่อตะวันตกลงภาพวิหารกะบะห์ Kaaba ในนครเมกกะ ที่มีธงสีดำของกลุ่ม IS ที่โบกไสวอยู่ด้านบน กองกำลังของกลุ่ม IS ยังโจมตีด่านป้องกันของซาอุดิอารเบียมาตลอดแนวเขตแดนอิรัค และยังส่งนักรบพลีชีพเข้าไปโจมตีมัสยิดของพวกชีอะ ที่อยู่ในซาอุอิอารเบียอีกด้วย เพื่อให้ทั้ง 2 นิกายตีกันเองอีกต่อหนึ่ง
    บิน นาเยฟ ในฐานะรัฐมนตรีมหาดไทย ได้จับกุมกลุ่ม IS ได้หลายร้อยคน และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่ม IS บุกเข้ามาในซาอุดิอารเบีย บิน นาเยฟ ให้สร้างรั้วยาว 600 ไมล์ ตลอดแนวเขตแดน ระหว่างซาอุดิอารเบียกับอิรัค เช่นเดียวกับที่สร้างรั้วกั้นแนวเขต ระหว่างซาอุดิอารเบียกับเยเมน ยาว 1 พันไมล์ เพื่อกันให้อัลไคดาออกไปจากคาบสมุทรอารเบีย
    …อ่านเผินๆ เหมือน อเมริกาจะชมวิธีวิธีการปราบ IS ของซาอุดิอารเบีย แต่ อ่านอีกที น่าจะตรงข้ามกันมากกว่า….
    ระหว่างที่ยังครองราชย์ กษัตริย์อับดุลลาห์ (ที่สิ้นพระชนม์เมื่อเดือนมกราคม ต้นปี ค.ศ.2015) ได้ตั้งน้องต่างมารดา เป็นมงกุฎราชกุมารไป แล้ว 2 คน คือ เจ้าชายสุลต่าน และเจ้าชายนาเยฟ the Black Prince แต่ปรากฏว่า ทั้ง 2 คน กลับสิ้นพระชนม์ก่อนกษัตริย์อับดุลลาห์เสียอีก กษัตริย์ิอับดุลลาห์ จึงตั้งเจ้าชายมุคริน น้องต่าง มารดาอีกคน ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 2 ในปี ค.ศ.2012 ต่อจากมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 คือ เจ้าชายซาลมาน
    ในความเข้าใจของอเมริกา เจ้าชายมุคริน ค่อนข้างใกล้ชิดกับกษัตริยอับดุลลาห์ และเป็นแนวร่วมในการคิดปฏิรูปประเทศเช่นเดียวกัน
    เมื่อเจ้าชายซาลมาน ขึ้นครองราชย์เมื่อเดือนมกราคม ต้นปีนี้ (2015) ก็ตั้ง เจ้าชามุคริน เป็นมงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 1 และแต่งตั้งเจ้าชาย บิน นาเยฟ เป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 2 และมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี เป็นที่คาดหมายกันว่า เจ้าชายมุคริน ลูกชายคนที่ 35 ของ อิบน์ ซาอูด จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อไป และนำประเทศสู่ยุคใหม่ จากรุ่นลูก สู่รุ่นหลาน
    แต่แล้วก็มีข่าวเกี่ยวกับราชวงศ์ซาอูดเกิดขึ้น ที่ทำให้ทั้งในตะวันออกกลางและในตะวันตก โดยเฉพาะที่วอชิงตัน สั่นเสทือนอย่างไม่เคยมีมาก่อน
    เช้ามืดของวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมานประกาศปลดเจ้าชายมุคริน ออกจากตำแหน่งมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 และแต่งตั้งให้เจ้าชาย บิน นาเยฟ ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 แทน และแต่งตั้งลูกชายตนเอง เจ้าชาย มูฮะหมัด บิน ซาลมาน เป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 2
    นี่เป็นครั้งแรก ที่มีการปลดมงกุฏราชกุมาร และโดยไม่มีการบอกเหตุผล
    อเมริกาให้ความสนใจรายการแต่งตั้งนี้มาก เพราะ บิน นาเยฟ มงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 ไม่มีลูกชาย มีแต่ลูกสาว 2 คน และ บิน ซาลมาน ก็อายุยังไม่ถึง 30 บิน ซาลมาน จึง มีโอกาสสูงมาก ที่จะเป็นกษัตริย์คนต่อไป และมีคนคาดการเอาไว้แล้วด้วยซ้ำว่า ไม่แน่หรอกว่า บิน นาเยฟ จะได้ขึ้นครองราชย์ แม้จะเป็นลำดับ 1 วันใดวันหนึ่งเขาก็อาจถูกปลดได้ เพื่อให้แน่ใจ บิน ซาลมาน จะได้ขึ้นมาครองราชย์แน่นอน … เสี้ยมล่วงหน้าเลยนะพี่..
    เจ้าชาย บิน ซาลมาน หรือที่อเมริกาเรียกว่า MBS ละอ่อนวัยไม่ถึง 30 ไม่เป็นที่ปลื้มของญาติพี่น้องด้วยกัน เพราะเขาว่ากันว่า มีนิสัยโหด ยะโส โอหัง นอกจากนี้ บินซาลมาน ยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลนโยบายน้ำมัน ที่เขาไม่มีประสพการณ์เลย แค่นั้นก็ทำให้ญาติๆ และอเมริกา หรี่ตามองแล้ว กษัตริย์ซาลมานยังให้ บิน ซาลมาน คุมความมั่นคง คือดูแลกิจการพระราชวัง และเป็นรัฐมนตรีกลาโหมอีกด้วย
    แล้วรัฐมนตรีกลาโหมใหม่ ก็ฉลองตำแหน่งด้วยการสั่งถล่มเยเมน อย่างที่ซาอุดิ อารเบีย ไม่เคยทำมานานกว่า 70 ปีแล้ว ละอ่อนหนุ่มเลือดพลุ่งแรงจริง
    และสุ้มเสียงของอเมริกา ก็ดูเหมือนจะไม่ปลื้มละอ่อนหนุ่มเอาเสียเลย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    23 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 7 “ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 7 อเมริกาบอกว่า อิสลามกลุ่มวะฮาบีของซาอุดิอารเบีย เป็นอิสลามนิกายสุนนี ที่เคร่งครัดที่สุดในภูมิภาค แต่บัดนี้ กลับมีพวกเคร่งศาสนาอย่างสุดขั้ว ที่ไม่ยอมรับและเกลียดชาวต่างชาติ รุนแรงกว่าพวกวะฮาบี โผล่ขึ้นมาอีก คือ พวกรัฐอิสลาม Islamic State หรือที่เรารู้จักพวกเขาในชื่อ IS พวกนี้ก่อตัวขึ้นในอิรัค และซีเรียในช่วงปี ค.ศ.2014 เป็นกลุ่มใหม่ที่ออกมาท้าทายโลก และอเมริกาเหน็บว่า ดูเหมือนจะท้าทายโครงการฟื้นฟูผู้ก่อการร้ายของ เจ้าชาย บิน นาเยฟ เสียด้วยซ้ำ กลุ่ม IS นี้ มีรากมาจากพวกอัลไคดาในเมโสโปเตเมีย (อาณาจักรออโตมานเดิม) และดำดินแอบอยู่เมื่อตอนที่อเมริกาบุกอิรัค ในช่วงปี ค.ศ.2007 จนเมื่ออเมริกาถอยกองกำลังต่างชาติออกไป พวก IS จึงโผล่ขึ้นมาและมีประโคมข่าวการปรากฏตัวของพวกเขาน่าดู ในช่วงปี ค.ศ.2012- 2013 พวก IS บุกเข้าไปทลายคุกในอิรัก ที่พวกผู้ก่อการร้ายอัลไคดาถูกคุมขังอยู่ หลังจากคุกแตก ก็มีการรวมตัวมาสร้างฐานใหม่ ขยายออกมาทางซีเรีย ในช่วงหน้าร้อนของปี ค.ศ.2014 กลุ่ม IS บุกอย่างรวดเร็ว แบบสายฟ้าแลบ เข้าไปยึดเมืองโมซุล Mosul เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัคได้ และตั้งเป็นรัฐที่มีผู้นำทางศาสนาเป็นผู้ปกครอง caliphate เพื่อปกครองอิสลามทั้งปวง (และเมืองนี้ ก็เป็นเมืองที่มีน้ำมันมากที่สุดเมืองหนึ่งของอิรัค อันนี้ผมเพิ่มเติมให้ เพราะเห็นใบตองแห้งทำเป็นลืมใส่ เรื่องสำคัญ) ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 กลุ่ม IS ประกาศว่าพวกเขาจะยึดมัสยิดต่างๆ ในนครเมกกะและเมดินา และจะขับไล่พวกราชวงศ์ซาอูด ออกไปให้หมด หลังจากนั้น สื่อตะวันตกลงภาพวิหารกะบะห์ Kaaba ในนครเมกกะ ที่มีธงสีดำของกลุ่ม IS ที่โบกไสวอยู่ด้านบน กองกำลังของกลุ่ม IS ยังโจมตีด่านป้องกันของซาอุดิอารเบียมาตลอดแนวเขตแดนอิรัค และยังส่งนักรบพลีชีพเข้าไปโจมตีมัสยิดของพวกชีอะ ที่อยู่ในซาอุอิอารเบียอีกด้วย เพื่อให้ทั้ง 2 นิกายตีกันเองอีกต่อหนึ่ง บิน นาเยฟ ในฐานะรัฐมนตรีมหาดไทย ได้จับกุมกลุ่ม IS ได้หลายร้อยคน และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่ม IS บุกเข้ามาในซาอุดิอารเบีย บิน นาเยฟ ให้สร้างรั้วยาว 600 ไมล์ ตลอดแนวเขตแดน ระหว่างซาอุดิอารเบียกับอิรัค เช่นเดียวกับที่สร้างรั้วกั้นแนวเขต ระหว่างซาอุดิอารเบียกับเยเมน ยาว 1 พันไมล์ เพื่อกันให้อัลไคดาออกไปจากคาบสมุทรอารเบีย …อ่านเผินๆ เหมือน อเมริกาจะชมวิธีวิธีการปราบ IS ของซาอุดิอารเบีย แต่ อ่านอีกที น่าจะตรงข้ามกันมากกว่า…. ระหว่างที่ยังครองราชย์ กษัตริย์อับดุลลาห์ (ที่สิ้นพระชนม์เมื่อเดือนมกราคม ต้นปี ค.ศ.2015) ได้ตั้งน้องต่างมารดา เป็นมงกุฎราชกุมารไป แล้ว 2 คน คือ เจ้าชายสุลต่าน และเจ้าชายนาเยฟ the Black Prince แต่ปรากฏว่า ทั้ง 2 คน กลับสิ้นพระชนม์ก่อนกษัตริย์อับดุลลาห์เสียอีก กษัตริย์ิอับดุลลาห์ จึงตั้งเจ้าชายมุคริน น้องต่าง มารดาอีกคน ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 2 ในปี ค.ศ.2012 ต่อจากมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 คือ เจ้าชายซาลมาน ในความเข้าใจของอเมริกา เจ้าชายมุคริน ค่อนข้างใกล้ชิดกับกษัตริยอับดุลลาห์ และเป็นแนวร่วมในการคิดปฏิรูปประเทศเช่นเดียวกัน เมื่อเจ้าชายซาลมาน ขึ้นครองราชย์เมื่อเดือนมกราคม ต้นปีนี้ (2015) ก็ตั้ง เจ้าชามุคริน เป็นมงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 1 และแต่งตั้งเจ้าชาย บิน นาเยฟ เป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 2 และมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี เป็นที่คาดหมายกันว่า เจ้าชายมุคริน ลูกชายคนที่ 35 ของ อิบน์ ซาอูด จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อไป และนำประเทศสู่ยุคใหม่ จากรุ่นลูก สู่รุ่นหลาน แต่แล้วก็มีข่าวเกี่ยวกับราชวงศ์ซาอูดเกิดขึ้น ที่ทำให้ทั้งในตะวันออกกลางและในตะวันตก โดยเฉพาะที่วอชิงตัน สั่นเสทือนอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช้ามืดของวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมานประกาศปลดเจ้าชายมุคริน ออกจากตำแหน่งมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 และแต่งตั้งให้เจ้าชาย บิน นาเยฟ ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 แทน และแต่งตั้งลูกชายตนเอง เจ้าชาย มูฮะหมัด บิน ซาลมาน เป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 2 นี่เป็นครั้งแรก ที่มีการปลดมงกุฏราชกุมาร และโดยไม่มีการบอกเหตุผล อเมริกาให้ความสนใจรายการแต่งตั้งนี้มาก เพราะ บิน นาเยฟ มงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 ไม่มีลูกชาย มีแต่ลูกสาว 2 คน และ บิน ซาลมาน ก็อายุยังไม่ถึง 30 บิน ซาลมาน จึง มีโอกาสสูงมาก ที่จะเป็นกษัตริย์คนต่อไป และมีคนคาดการเอาไว้แล้วด้วยซ้ำว่า ไม่แน่หรอกว่า บิน นาเยฟ จะได้ขึ้นครองราชย์ แม้จะเป็นลำดับ 1 วันใดวันหนึ่งเขาก็อาจถูกปลดได้ เพื่อให้แน่ใจ บิน ซาลมาน จะได้ขึ้นมาครองราชย์แน่นอน … เสี้ยมล่วงหน้าเลยนะพี่.. เจ้าชาย บิน ซาลมาน หรือที่อเมริกาเรียกว่า MBS ละอ่อนวัยไม่ถึง 30 ไม่เป็นที่ปลื้มของญาติพี่น้องด้วยกัน เพราะเขาว่ากันว่า มีนิสัยโหด ยะโส โอหัง นอกจากนี้ บินซาลมาน ยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลนโยบายน้ำมัน ที่เขาไม่มีประสพการณ์เลย แค่นั้นก็ทำให้ญาติๆ และอเมริกา หรี่ตามองแล้ว กษัตริย์ซาลมานยังให้ บิน ซาลมาน คุมความมั่นคง คือดูแลกิจการพระราชวัง และเป็นรัฐมนตรีกลาโหมอีกด้วย แล้วรัฐมนตรีกลาโหมใหม่ ก็ฉลองตำแหน่งด้วยการสั่งถล่มเยเมน อย่างที่ซาอุดิ อารเบีย ไม่เคยทำมานานกว่า 70 ปีแล้ว ละอ่อนหนุ่มเลือดพลุ่งแรงจริง และสุ้มเสียงของอเมริกา ก็ดูเหมือนจะไม่ปลื้มละอ่อนหนุ่มเอาเสียเลย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 23 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำถามสำหรับการออกเสียงประชามติ เพื่อขอความเห็นชอบจากประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกำหนดคำถามว่า “ท่านเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่”
    .
    รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า การออกเสียงประชามติจะจัดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เพื่อใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างคุ้มค่า ลดภาระงบประมาณ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนใช้สิทธิในคราวเดียว
    .
    ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำข้อมูลประกอบการออกเสียงประชามติให้มีความชัดเจน ก่อนส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเผยแพร่ตามขั้นตอนของกฎหมาย
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121864
    .
    #News1live #News1 #ครม #ประชามติ #รัฐธรรมนูญใหม่ #เลือกตั้ง2569 #การเมืองไทย
    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำถามสำหรับการออกเสียงประชามติ เพื่อขอความเห็นชอบจากประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกำหนดคำถามว่า “ท่านเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” . รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า การออกเสียงประชามติจะจัดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เพื่อใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างคุ้มค่า ลดภาระงบประมาณ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนใช้สิทธิในคราวเดียว . ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำข้อมูลประกอบการออกเสียงประชามติให้มีความชัดเจน ก่อนส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเผยแพร่ตามขั้นตอนของกฎหมาย . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121864 . #News1live #News1 #ครม #ประชามติ #รัฐธรรมนูญใหม่ #เลือกตั้ง2569 #การเมืองไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่า ไทยและกัมพูชาตอบรับเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนัดพิเศษ วันที่ 22 ธันวาคมนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อหารือคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน
    .
    ผู้นำมาเลเซียอ้างว่าการนัดประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อรายงานสถานการณ์และขอแรงสนับสนุนในการโน้มน้าวให้ทั้งสองฝ่ายลดความก้าวร้าว
    .
    อันวาร์ระบุว่า เป้าหมายของการหารือคือการผลักดันให้ไทยและกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงสงบศึก และยุติความตึงเครียดโดยเร็ว พร้อมย้ำมาเลเซียทำหน้าที่ประสาน ไม่ได้สั่งการประเทศสมาชิกอาเซียน
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121656
    .
    #News1live #News1 #อาเซียน #อันวาร์ #ทรัมป์ #ไทยกัมพูชา #ประชุมอาเซียน #การทูต #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่า ไทยและกัมพูชาตอบรับเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนัดพิเศษ วันที่ 22 ธันวาคมนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อหารือคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน . ผู้นำมาเลเซียอ้างว่าการนัดประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อรายงานสถานการณ์และขอแรงสนับสนุนในการโน้มน้าวให้ทั้งสองฝ่ายลดความก้าวร้าว . อันวาร์ระบุว่า เป้าหมายของการหารือคือการผลักดันให้ไทยและกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงสงบศึก และยุติความตึงเครียดโดยเร็ว พร้อมย้ำมาเลเซียทำหน้าที่ประสาน ไม่ได้สั่งการประเทศสมาชิกอาเซียน . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121656 . #News1live #News1 #อาเซียน #อันวาร์ #ทรัมป์ #ไทยกัมพูชา #ประชุมอาเซียน #การทูต #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    Haha
    Sad
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไหวเหรอยศชนัน ลูกสมชายเจ๊แดง

    การเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ในช่วงการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา นอกจากกระแสสังคมจะเงียบเชียบแล้ว แคนดิเดต 3 คนที่เสนอมา สองคนแรกไม่มีอะไรใหม่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่มีผลงานโดดเด่น แม้สมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะอยู่กระทรวงเกรดเอ ในตำแหน่ง รมช.คลัง หนำซ้ำนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทก็ล้มเหลว ส่วนนายสุุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คนที่ติดตามการเมืองมานานจะร้องยี้ เพราะเวียนวนเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยันรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่คุมกระทรวงคมนาคม หนำซ้ำยังถูกเคลือบแคลงสงสัยกรณี CTX9000

    จะมีหน้าใหม่อยู่คนเดียว คือ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ หรือ เชน แม้จะมีโปร์ไฟล์เป็นถึงอดีตรองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีผลงานวิจัยมากมาย แต่สังคมไม่ได้สนใจเท่ากับเป็นลูกชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จึงถูกจับตามองทันทีว่าสืบทอดอำนาจทางการเมืองในตระกูลชินวัตรหรือไม่ หลังครอบครัวและเครือญาติตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีโทษจำคุกคดีโครงการรับจำนำข้าว และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปเสียงนายฮุน เซน แห่งกัมพูชา

    พรรคเพื่อไทยพยายามยกเครื่องพรรคเพื่อสลัดภาพความเป็นพรรครากหญ้า พรรคประชานิยมแจกแหลก ด้วยวาทกรรม "ยกเครื่องประเทศไทย" ออกแบบด้วยวิทยาศาสตร์และเหตุผล ไปสู้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างพรรคประชาชน แต่ก็ยังมีนโยบายประชานิยมติดมาด้วย ทั้งรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ถูกตั้งคำถามว่าจะยั่งยืนหรือไม่ รวมไปถึงนโยบายล้างหนี้ให้คนไทย สูงสุด 100,000 บาท แต่ไม่พูดถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่เป็นบาดแผลของพรรค รวมทั้งปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีข้อกล่าวหาผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างตระกูลชินวัตร กับครอบครัวนายฮุน เซน

    อีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยยังคงเลือดไหลไม่หยุด สส. มากกว่า 10 คน เห็นท่าไม่ดีย้ายไปพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังเหลืออีกส่วนหนึ่งที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับตระกูลชินวัตร แม้นายทักษิณที่เป็นศาสดาของพรรค จะถูกจำคุกในคดีทุจริต รวมทั้งคดีมาตรา 112 ที่อัยการสูงสุดสั่งให้อุทธรณ์ แถมยังแพ้คดีภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ 1.76 หมื่นล้านบาท กลายเป็นมีดปักหลังตระกูลการเมืองผู้มั่งคั่ง ที่หากดึงออกเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น ความล้มเหลวของรัฐบาลแพทองธาร รวมทั้งข้อกล่าวหาขายชาติ อาจทำให้หาเสียงยากที่สุด จึงกลายเป็นคำถามว่า ทั้งคนทั้งพรรคจะเข็นกันไหวหรือ?

    #Newskit
    ไหวเหรอยศชนัน ลูกสมชายเจ๊แดง การเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ในช่วงการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา นอกจากกระแสสังคมจะเงียบเชียบแล้ว แคนดิเดต 3 คนที่เสนอมา สองคนแรกไม่มีอะไรใหม่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่มีผลงานโดดเด่น แม้สมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะอยู่กระทรวงเกรดเอ ในตำแหน่ง รมช.คลัง หนำซ้ำนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทก็ล้มเหลว ส่วนนายสุุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คนที่ติดตามการเมืองมานานจะร้องยี้ เพราะเวียนวนเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยันรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่คุมกระทรวงคมนาคม หนำซ้ำยังถูกเคลือบแคลงสงสัยกรณี CTX9000 จะมีหน้าใหม่อยู่คนเดียว คือ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ หรือ เชน แม้จะมีโปร์ไฟล์เป็นถึงอดีตรองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีผลงานวิจัยมากมาย แต่สังคมไม่ได้สนใจเท่ากับเป็นลูกชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จึงถูกจับตามองทันทีว่าสืบทอดอำนาจทางการเมืองในตระกูลชินวัตรหรือไม่ หลังครอบครัวและเครือญาติตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีโทษจำคุกคดีโครงการรับจำนำข้าว และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปเสียงนายฮุน เซน แห่งกัมพูชา พรรคเพื่อไทยพยายามยกเครื่องพรรคเพื่อสลัดภาพความเป็นพรรครากหญ้า พรรคประชานิยมแจกแหลก ด้วยวาทกรรม "ยกเครื่องประเทศไทย" ออกแบบด้วยวิทยาศาสตร์และเหตุผล ไปสู้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างพรรคประชาชน แต่ก็ยังมีนโยบายประชานิยมติดมาด้วย ทั้งรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ถูกตั้งคำถามว่าจะยั่งยืนหรือไม่ รวมไปถึงนโยบายล้างหนี้ให้คนไทย สูงสุด 100,000 บาท แต่ไม่พูดถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่เป็นบาดแผลของพรรค รวมทั้งปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีข้อกล่าวหาผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างตระกูลชินวัตร กับครอบครัวนายฮุน เซน อีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยยังคงเลือดไหลไม่หยุด สส. มากกว่า 10 คน เห็นท่าไม่ดีย้ายไปพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังเหลืออีกส่วนหนึ่งที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับตระกูลชินวัตร แม้นายทักษิณที่เป็นศาสดาของพรรค จะถูกจำคุกในคดีทุจริต รวมทั้งคดีมาตรา 112 ที่อัยการสูงสุดสั่งให้อุทธรณ์ แถมยังแพ้คดีภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ 1.76 หมื่นล้านบาท กลายเป็นมีดปักหลังตระกูลการเมืองผู้มั่งคั่ง ที่หากดึงออกเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น ความล้มเหลวของรัฐบาลแพทองธาร รวมทั้งข้อกล่าวหาขายชาติ อาจทำให้หาเสียงยากที่สุด จึงกลายเป็นคำถามว่า ทั้งคนทั้งพรรคจะเข็นกันไหวหรือ? #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เผย เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. วันที่ 22 ธ.ค. นี้ ส่วนว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ คาดเปิดตัววันที่ 25 ธ.ค. นี้ รอคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) เห็นชอบ ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคยืนยันว่าจะเสนอครบ 3 รายชื่อ ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาว่าเป็นผู้สมัคร สส.ของพรรคหรือคนนอก ยอมรับ การเลือกตั้งทุกครั้งเป็นโจทย์ยาก เพราะตั้งใจทำการเมืองสุจริตยุติธรรม ไม่เช่นนั้นทั้งเศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคงจะเกิดปัญหา อาจส่งผู้สมัครไม่ครบ 400 เขต เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ยังไม่คาดการณ์ได้ สส. เพิ่มหรือไม่ แม้ผลโพลชี้พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนิยมดีขึ้น เปรียบนักมวยเรายังไม่เห็นคู่ต่อสู้แต่ละเขต การเลือกตั้งครั้งนี้มีเวลากระชั้นชิด ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จะพยายามฟื้นฟูให้พรรคกลับมาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
    นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เผย เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. วันที่ 22 ธ.ค. นี้ ส่วนว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ คาดเปิดตัววันที่ 25 ธ.ค. นี้ รอคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) เห็นชอบ ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคยืนยันว่าจะเสนอครบ 3 รายชื่อ ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาว่าเป็นผู้สมัคร สส.ของพรรคหรือคนนอก ยอมรับ การเลือกตั้งทุกครั้งเป็นโจทย์ยาก เพราะตั้งใจทำการเมืองสุจริตยุติธรรม ไม่เช่นนั้นทั้งเศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคงจะเกิดปัญหา อาจส่งผู้สมัครไม่ครบ 400 เขต เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ยังไม่คาดการณ์ได้ สส. เพิ่มหรือไม่ แม้ผลโพลชี้พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนิยมดีขึ้น เปรียบนักมวยเรายังไม่เห็นคู่ต่อสู้แต่ละเขต การเลือกตั้งครั้งนี้มีเวลากระชั้นชิด ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จะพยายามฟื้นฟูให้พรรคกลับมาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ตำรวจออสเตรเลียเปิดเผยความคืบหน้าเหตุ กราดยิงงานฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ของชาวยิว ที่หาดบอนได เมืองซิดนีย์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2568 และถือเป็นเหตุกราดยิงรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีของประเทศ
    .
    ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 เวลา 21.55 น. ทางการออสเตรเลียระบุว่า คนร้ายเป็น พ่อ–ลูก โดยพบข้อมูลว่า ทั้งสองเพิ่งเดินทางไป ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และเชื่อว่าอาจได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของ กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย รวมถึงมือปืนผู้เป็นพ่อที่ถูกตำรวจวิสามัญ ขณะที่มือปืนผู้เป็นลูกได้รับบาดเจ็บสาหัสและอยู่ระหว่างการรักษา ทั้งนี้ตำรวจพบ อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องและสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับไอเอส ภายในรถของคนร้าย
    .
    นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี แอลเบนีส ระบุว่า เหตุโจมตีครั้งนี้มีลักษณะเป็นการก่อการร้ายที่พุ่งเป้าไปยัง ชุมชนชาวยิว พร้อมประกาศทบทวนมาตรการควบคุมอาวุธปืน หลังพบว่ามือปืนผู้พ่อมีใบอนุญาตครอบครองปืนถูกต้องและมีอาวุธจดทะเบียนหลายกระบอก
    .
    ทางการยังอยู่ระหว่างขยายผลสอบสวนเส้นทางการเดินทาง ความเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรง และกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของผู้ก่อเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคต
    .
    อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000121193
    .
    #News1live #News1 #กราดยิงบอนได #Australia #ก่อการร้าย #กลุ่มรัฐอิสลาม #ความมั่นคงโลก
    ตำรวจออสเตรเลียเปิดเผยความคืบหน้าเหตุ กราดยิงงานฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ของชาวยิว ที่หาดบอนได เมืองซิดนีย์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2568 และถือเป็นเหตุกราดยิงรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีของประเทศ . ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 เวลา 21.55 น. ทางการออสเตรเลียระบุว่า คนร้ายเป็น พ่อ–ลูก โดยพบข้อมูลว่า ทั้งสองเพิ่งเดินทางไป ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และเชื่อว่าอาจได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของ กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) . เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย รวมถึงมือปืนผู้เป็นพ่อที่ถูกตำรวจวิสามัญ ขณะที่มือปืนผู้เป็นลูกได้รับบาดเจ็บสาหัสและอยู่ระหว่างการรักษา ทั้งนี้ตำรวจพบ อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องและสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับไอเอส ภายในรถของคนร้าย . นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี แอลเบนีส ระบุว่า เหตุโจมตีครั้งนี้มีลักษณะเป็นการก่อการร้ายที่พุ่งเป้าไปยัง ชุมชนชาวยิว พร้อมประกาศทบทวนมาตรการควบคุมอาวุธปืน หลังพบว่ามือปืนผู้พ่อมีใบอนุญาตครอบครองปืนถูกต้องและมีอาวุธจดทะเบียนหลายกระบอก . ทางการยังอยู่ระหว่างขยายผลสอบสวนเส้นทางการเดินทาง ความเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรง และกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของผู้ก่อเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคต . อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000121193 . #News1live #News1 #กราดยิงบอนได #Australia #ก่อการร้าย #กลุ่มรัฐอิสลาม #ความมั่นคงโลก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อไทยเปิดตัว “ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 ของพรรค ยืนยันไม่เป็นปัญหาเรื่องเครือญาติตระกูลชินวัตร ชี้เป็นโอกาสและจุดเด่นทางการเมือง
    .
    แกนนำพรรคย้ำชัด ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” พร้อมยืนยันการตัดสินใจเป็นอิสระ ร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค
    .
    “สุริยะ” ยังมั่นใจเป้าหมาย 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ระบุใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน ชนะใจประชาชน พร้อมประกาศสู้ทุกด่าน ทั้งอำนาจรัฐ กระสุน และกระแสชาตินิยม
    .
    “ยศชนัน” ชี้จุดยืนชัด อธิปไตยต้องมาก่อน พร้อมขับเคลื่อนประเทศด้วยนโยบายเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และ AI เพื่อพาไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง
    .
    อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000120955
    .
    #News1live #News1 #เพื่อไทย #ยศชนัน #แคนดิเดตนายก #การเมืองไทย #เลือกตั้ง2568 #พรรคเพื่อไทย
    เพื่อไทยเปิดตัว “ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 ของพรรค ยืนยันไม่เป็นปัญหาเรื่องเครือญาติตระกูลชินวัตร ชี้เป็นโอกาสและจุดเด่นทางการเมือง . แกนนำพรรคย้ำชัด ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” พร้อมยืนยันการตัดสินใจเป็นอิสระ ร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค . “สุริยะ” ยังมั่นใจเป้าหมาย 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ระบุใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน ชนะใจประชาชน พร้อมประกาศสู้ทุกด่าน ทั้งอำนาจรัฐ กระสุน และกระแสชาตินิยม . “ยศชนัน” ชี้จุดยืนชัด อธิปไตยต้องมาก่อน พร้อมขับเคลื่อนประเทศด้วยนโยบายเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และ AI เพื่อพาไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง . อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000120955 . #News1live #News1 #เพื่อไทย #ยศชนัน #แคนดิเดตนายก #การเมืองไทย #เลือกตั้ง2568 #พรรคเพื่อไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • แห่ร้องยี้ Trip.com จับมือกัมพูชาไม่บอกกล่าว

    แพลตฟอร์มออนไลน์ทราเวลเอเจนซี (OTA) สัญชาติจีนอย่าง Trip.com ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก ครองตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ 60-70% และมีแพลตฟอร์มเทียบราคาตั๋วเครื่องบินในเครืออย่าง Skyscanner กำลังเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนักทั้งในจีนและประเทศไทย เมื่อการท่องเที่ยวแห่งชาติกัมพูชา นำโดยนายคิม มีเนีย (Kim Minea) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านการตลาดและดิจิทัลกับ Trip.com โดยมีนายเฉิน กว่านฉี (Chen Guanqi) รองประธานบริษัทฯ เป็นผู้แทน เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา

    ก่อนหน้านี้ ผู้บริหาร Trip.com อย่างนางเจน ซัน (Jane Sun) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไปพบปะนอกรอบกับ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2567 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม 2024 เพื่อแสวงหาความร่วมมือ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนกัมพูชามากขึ้น นอกจากนี้ สายการบินแห่งชาติอย่าง แคมโบเดียอังกอร์แอร์ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับ Trip.com เพื่อจัดตั้งบริการสนามบินอัจฉริยะ ที่สนามบินเสียมราฐ-อังกอร์อีกด้วย

    หลังชาวจีนทราบข่าวผ่านโซเชียลมีเดีย ต่างกังวลถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้งาน อาจถูกนำไปออกแบบแคมเปญและผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวสำหรับกัมพูชา ยิ่งที่ผ่านมาประเทศกัมพูชา ถูกมองว่าเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการสแกมเมอร์ และคอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมาย เคยมีชาวจีนเคยตกเป็นเหยื่อมากมาย เมื่อ Trip.com เดินหน้าความร่วมมือเชิงลึกกับกัมพูชา โดยไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน เกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองข้อมูลแก่ผู้ใช้งาน ทำให้มีผู้ใช้งานในจีนจำนวนมากต่างลบบัญชีผู้ใช้งาน และลบแอปพลิเคชัน เพื่อแสดงจุดยืนไม่ยอมรับความร่วมมือดังกล่าว

    ส่วนประเทศไทย นอกจากความกังวลถึงข้อมูลส่วนบุคคลจะตกไปอยู่ในมือกัมพูชาแล้ว กระแสชาตินิยมต่อต้านกัมพูชาทำสงครามกับไทย และมีทหารไทย รวมทั้งพลเรือนไทยสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิต เมื่อทราบข่าวนี้ก็ทำให้ผู้ใช้งานในไทยจำนวนมากต่างลบบัญชีผู้ใช้งาน และลบแอปพลิเคชันตามมาอีกด้วย

    ร้อนถึง Trip.com Group ต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า การลงนามดังกล่าวเป็นเพียงความร่วมมือโปรโมทการท่องเที่ยวบนแพลตฟอร์ม Ctrip ในประเทศจีนเท่านั้น ซึ่งได้ตกลงความร่วมมือร่วมกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย อีกทั้งความร่วมมือดังกล่าวจำกัดขอบเขตอย่างเคร่งครัด เฉพาะการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวและนำเสนอจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเพื่อรองรับความต้องการของตลาดเท่านั้น ไม่มีการแบ่งปันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ใช้ใดๆ ทั้งสิ้น

    #Newskit
    แห่ร้องยี้ Trip.com จับมือกัมพูชาไม่บอกกล่าว แพลตฟอร์มออนไลน์ทราเวลเอเจนซี (OTA) สัญชาติจีนอย่าง Trip.com ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก ครองตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ 60-70% และมีแพลตฟอร์มเทียบราคาตั๋วเครื่องบินในเครืออย่าง Skyscanner กำลังเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนักทั้งในจีนและประเทศไทย เมื่อการท่องเที่ยวแห่งชาติกัมพูชา นำโดยนายคิม มีเนีย (Kim Minea) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านการตลาดและดิจิทัลกับ Trip.com โดยมีนายเฉิน กว่านฉี (Chen Guanqi) รองประธานบริษัทฯ เป็นผู้แทน เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ผู้บริหาร Trip.com อย่างนางเจน ซัน (Jane Sun) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไปพบปะนอกรอบกับ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2567 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม 2024 เพื่อแสวงหาความร่วมมือ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนกัมพูชามากขึ้น นอกจากนี้ สายการบินแห่งชาติอย่าง แคมโบเดียอังกอร์แอร์ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับ Trip.com เพื่อจัดตั้งบริการสนามบินอัจฉริยะ ที่สนามบินเสียมราฐ-อังกอร์อีกด้วย หลังชาวจีนทราบข่าวผ่านโซเชียลมีเดีย ต่างกังวลถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้งาน อาจถูกนำไปออกแบบแคมเปญและผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวสำหรับกัมพูชา ยิ่งที่ผ่านมาประเทศกัมพูชา ถูกมองว่าเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการสแกมเมอร์ และคอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมาย เคยมีชาวจีนเคยตกเป็นเหยื่อมากมาย เมื่อ Trip.com เดินหน้าความร่วมมือเชิงลึกกับกัมพูชา โดยไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน เกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองข้อมูลแก่ผู้ใช้งาน ทำให้มีผู้ใช้งานในจีนจำนวนมากต่างลบบัญชีผู้ใช้งาน และลบแอปพลิเคชัน เพื่อแสดงจุดยืนไม่ยอมรับความร่วมมือดังกล่าว ส่วนประเทศไทย นอกจากความกังวลถึงข้อมูลส่วนบุคคลจะตกไปอยู่ในมือกัมพูชาแล้ว กระแสชาตินิยมต่อต้านกัมพูชาทำสงครามกับไทย และมีทหารไทย รวมทั้งพลเรือนไทยสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิต เมื่อทราบข่าวนี้ก็ทำให้ผู้ใช้งานในไทยจำนวนมากต่างลบบัญชีผู้ใช้งาน และลบแอปพลิเคชันตามมาอีกด้วย ร้อนถึง Trip.com Group ต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า การลงนามดังกล่าวเป็นเพียงความร่วมมือโปรโมทการท่องเที่ยวบนแพลตฟอร์ม Ctrip ในประเทศจีนเท่านั้น ซึ่งได้ตกลงความร่วมมือร่วมกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย อีกทั้งความร่วมมือดังกล่าวจำกัดขอบเขตอย่างเคร่งครัด เฉพาะการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวและนำเสนอจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเพื่อรองรับความต้องการของตลาดเท่านั้น ไม่มีการแบ่งปันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ใช้ใดๆ ทั้งสิ้น #Newskit
    Haha
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • คู่หูเศรษฐกิจฝ่าวิกฤตสู่ความยั่งยืน “Fiscal-Monetary Synergy in Sight” : คนเคาะข่าว 16-12-68
    .
    : เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    : วิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
    ดำเนินรายการโดย วารินทร์ สัจเดว
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=kq7Wdub_Seo
    คู่หูเศรษฐกิจฝ่าวิกฤตสู่ความยั่งยืน “Fiscal-Monetary Synergy in Sight” : คนเคาะข่าว 16-12-68 . : เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง : วิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ดำเนินรายการโดย วารินทร์ สัจเดว . https://www.youtube.com/watch?v=kq7Wdub_Seo
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรี เรียกหารือด่วน เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา หลังพบประเด็นอ่อนไหวหลายด้าน ทั้งการแทรกซึมของสายลับและทหารรับจ้างกัมพูชา รวมถึงการตรวจยึดระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถีสัญชาติจีน รุ่น GAM-102 LR ในพื้นที่แนวปะทะ
    .
    นายกฯ ย้ำทุกหน่วยต้องเฝ้าระวังพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งติดตามการสกัดกั้นยุทธปัจจัยทางทะเล และยืนยันรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือคนไทยที่ติดค้างในกัมพูชาทุกรูปแบบ หากจำเป็นถึงขั้นเช่าเหมาลำเครื่องบินก็พร้อมดำเนินการทันที เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
    .
    ส่วนกระแสวิจารณ์กรณีการเปิดตัวผู้สมัคร สส.ในช่วงสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด นายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติม
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120461
    .
    #News1live #News1 #นายกรัฐมนตรี #สมช #ความมั่นคง #ชายแดนไทยกัมพูชา #สายลับเขมร #ขีปนาวุธ #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    นายกรัฐมนตรี เรียกหารือด่วน เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา หลังพบประเด็นอ่อนไหวหลายด้าน ทั้งการแทรกซึมของสายลับและทหารรับจ้างกัมพูชา รวมถึงการตรวจยึดระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถีสัญชาติจีน รุ่น GAM-102 LR ในพื้นที่แนวปะทะ . นายกฯ ย้ำทุกหน่วยต้องเฝ้าระวังพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งติดตามการสกัดกั้นยุทธปัจจัยทางทะเล และยืนยันรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือคนไทยที่ติดค้างในกัมพูชาทุกรูปแบบ หากจำเป็นถึงขั้นเช่าเหมาลำเครื่องบินก็พร้อมดำเนินการทันที เพื่อความปลอดภัยของประชาชน . ส่วนกระแสวิจารณ์กรณีการเปิดตัวผู้สมัคร สส.ในช่วงสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด นายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติม . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120461 . #News1live #News1 #นายกรัฐมนตรี #สมช #ความมั่นคง #ชายแดนไทยกัมพูชา #สายลับเขมร #ขีปนาวุธ #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปราสาทตาควาย อยู่ให้เป็น-เย็นให้พอ-รอทวงคืน

    หลังจากที่ประเทศไทยต้องสูญเสียปราสาทตาควาย ชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ตามข้อตกลงหยุดยิงที่นำโดย นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ผลจากทหารกัมพูชายึดตัวปราสาท แลมีทหารไทยหลายนายต้องสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตบนพื้นที่แห่งนี้ ผ่านไปกว่า 4 เดือน ในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง 15 ธ.ค. ทหารไทยสามารถผลักดันทหารกัมพูชาออกจากบริเวณพื้นที่ตัวปราสาทตาควาย และเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้ว นับเป็นข่าวดีแก่คนไทยผู้รักชาติรักแผ่นดินทุกคน

    ที่ผ่านมาการทวงคืนปราสาทตาควายของกองทัพไทยเป็นไปได้ยาก เพราะตัวปราสาทตั้งอยู่บริเวณตีนเนิน 350 ซึ่งเป็นจุดสูงข่ม และมีทหารกัมพูชาคอยวางกำลังอยู่บนนั้น รวมทั้งการยิงสนับสนุนจากกัมพูชา ทั้งการใช้จรวด BM-21 และอาวุธอื่นๆ คอยระดมยิงใส่ทหารไทยไม่มีหยุด อีกทั้งทหารกัมพูชายังตั้งบังเกอร์มากมาย และวางทุ่นระเบิด คอยกันไม่ให้ทหารไทยแทรกซึมเข้าไป ทำให้ในช่วงที่มีข้อตกลงหยุดยิง ทหารไทยทำได้แค่วางกำลัง ห่างจากตัวปราสาทเพียง 30 เมตร ขณะที่ทหารกัมพูชากลับใช้ปราสาทตาควายเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารอยู่ด้านใน พร้อมกับติดตั้งทุ่นระเบิดโดยรอบตัวปราสาท

    อย่างไรก็ตาม ผลของการปะทะครั้งล่าสุดระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ทำให้ตัวปราสาทได้รับความเสียหาย แม้กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ของกัมพูชาจะประท้วง แต่กองทัพบกไทยยืนยันว่า แม้อนุสัญญากรุงเฮก ค.ศ. 1954 จะห้ามโจมตีโบราณสถาน แต่ฝ่ายกัมพูชานำโบราณสถานไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร เช่น การตั้งฐานที่มั่น การควบคุมการปฏิบัติการ การเป็นจุดซุ่มยิง หรือใช้เป็นพื้นที่เตรียมการโจมตี เข้าข่ายเป็นพื้นที่ "สูญเสียความคุ้มครองชั่วคราว" ฝ่ายไทยจึงมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะปกป้องภัยคุกคาม ตามความเหมาะสมและได้สัดส่วนตามหลักกติกาสากล เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้บีบบังคับ

    ส่วนความกังวลเกี่ยวกับตัวปราสาทที่ได้รับความเสียหาย นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร แสดงจุดยืนว่า แม้ไม่ควรมีโบราณสถานแห่งใดในโลก ได้รับความเสียหายจากสงคราม แต่เมื่อกัมพูชาละเลยกติกา เป็นธรรมดาที่ทางฝ่ายไทยต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร เป็นไปตามความจำเป็น ซึ่งก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ แต่กรมศิลปากรยืนยันว่า สามารถบูรณะปราสาทตาควายหรือปราสาทใดๆ ที่เป็นของไทยได้อย่างแน่นอน และก่อนหน้านี้ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมาย และปราสาทหินสด๊กก๊อกธม ที่มีความสลับซับซ้อน มีลวดลายอันวิจิตรมากกว่าปราสาทตาควาย ก็สามารถซ่อมกลับมาได้

    #Newskit
    ปราสาทตาควาย อยู่ให้เป็น-เย็นให้พอ-รอทวงคืน หลังจากที่ประเทศไทยต้องสูญเสียปราสาทตาควาย ชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ตามข้อตกลงหยุดยิงที่นำโดย นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ผลจากทหารกัมพูชายึดตัวปราสาท แลมีทหารไทยหลายนายต้องสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตบนพื้นที่แห่งนี้ ผ่านไปกว่า 4 เดือน ในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง 15 ธ.ค. ทหารไทยสามารถผลักดันทหารกัมพูชาออกจากบริเวณพื้นที่ตัวปราสาทตาควาย และเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้ว นับเป็นข่าวดีแก่คนไทยผู้รักชาติรักแผ่นดินทุกคน ที่ผ่านมาการทวงคืนปราสาทตาควายของกองทัพไทยเป็นไปได้ยาก เพราะตัวปราสาทตั้งอยู่บริเวณตีนเนิน 350 ซึ่งเป็นจุดสูงข่ม และมีทหารกัมพูชาคอยวางกำลังอยู่บนนั้น รวมทั้งการยิงสนับสนุนจากกัมพูชา ทั้งการใช้จรวด BM-21 และอาวุธอื่นๆ คอยระดมยิงใส่ทหารไทยไม่มีหยุด อีกทั้งทหารกัมพูชายังตั้งบังเกอร์มากมาย และวางทุ่นระเบิด คอยกันไม่ให้ทหารไทยแทรกซึมเข้าไป ทำให้ในช่วงที่มีข้อตกลงหยุดยิง ทหารไทยทำได้แค่วางกำลัง ห่างจากตัวปราสาทเพียง 30 เมตร ขณะที่ทหารกัมพูชากลับใช้ปราสาทตาควายเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารอยู่ด้านใน พร้อมกับติดตั้งทุ่นระเบิดโดยรอบตัวปราสาท อย่างไรก็ตาม ผลของการปะทะครั้งล่าสุดระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ทำให้ตัวปราสาทได้รับความเสียหาย แม้กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ของกัมพูชาจะประท้วง แต่กองทัพบกไทยยืนยันว่า แม้อนุสัญญากรุงเฮก ค.ศ. 1954 จะห้ามโจมตีโบราณสถาน แต่ฝ่ายกัมพูชานำโบราณสถานไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร เช่น การตั้งฐานที่มั่น การควบคุมการปฏิบัติการ การเป็นจุดซุ่มยิง หรือใช้เป็นพื้นที่เตรียมการโจมตี เข้าข่ายเป็นพื้นที่ "สูญเสียความคุ้มครองชั่วคราว" ฝ่ายไทยจึงมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะปกป้องภัยคุกคาม ตามความเหมาะสมและได้สัดส่วนตามหลักกติกาสากล เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้บีบบังคับ ส่วนความกังวลเกี่ยวกับตัวปราสาทที่ได้รับความเสียหาย นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร แสดงจุดยืนว่า แม้ไม่ควรมีโบราณสถานแห่งใดในโลก ได้รับความเสียหายจากสงคราม แต่เมื่อกัมพูชาละเลยกติกา เป็นธรรมดาที่ทางฝ่ายไทยต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร เป็นไปตามความจำเป็น ซึ่งก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ แต่กรมศิลปากรยืนยันว่า สามารถบูรณะปราสาทตาควายหรือปราสาทใดๆ ที่เป็นของไทยได้อย่างแน่นอน และก่อนหน้านี้ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมาย และปราสาทหินสด๊กก๊อกธม ที่มีความสลับซับซ้อน มีลวดลายอันวิจิตรมากกว่าปราสาทตาควาย ก็สามารถซ่อมกลับมาได้ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองเชิง ตอนที่ 11

    “ลองเชิง”
    ตอน 11
    แค่ปัญหาเรื่องแก๊ส ระหว่าง ค่าย อิหร่าน อิรัค ซีเรีย กับค่าย กาตาร์ ซาอุ ตุรกี 2 ค่ายนี่ ก็ทำให้อเมริกาเต้นเป็นลิงเกาเห็บแล้ว ยังดันเพิ่มเรื่อง ของอิสราเอลเข้าไปอีกด้วย อย่างนี้ ซีเรีย ไม่เดือดก็ผิดสันดานนักล่า
    อิสราเอล แม้จะถูกอุ้มไปอยู่ในตะวันออกกลาง เป็นกาฝากอยู่แถวทะเลทราย แต่ไม่เคยโชคดีมีน้ำมันท่วมเหมือนพวกเจ้าของถิ่นเขา แต่แล้ว เวลาอะไรมันจะมา ไม่ว่าดี ว่าร้าย (ส่วนมากมักเป็นเรื่องร้าย) มักไม่ค่อยรู้ตัวล่วงหน้า ปี ค.ศ.2009 อิสราเอล ก็ได้ข่าวเหมือนกันว่า โนเบิล เอนเนอร์จี Noble Energy หุ้นส่วนจากเท็กซัส (ของใครนะ) ที่อิสราเอลร่วมทุนให้ทำการสำรวจแหล่งแก๊ส ก็เจอหลุมแก๊ส ทามาร์ Tamar ที่แถวไฮฟา Haifa ทางเหนือของอิสราเอล
    ทามาร์ นับเป็นหลุมแก๊สที่ใหญ่ที่สุด ที่เจอกันในปี ค.ศ.2009 และคาดว่า
    ทามาร์ จะให้ผลผลิตได้ ในปี ค.ศ.2012 อิสราเอลให้ชื่อหลุมแก็สนี้ว่า Leviathan ตามชื่อสัตว์ร้ายในทะเลในพระคัมภึร์ แถมคุยว่า สัตวร้ายตัวนี้ สามารถผลิตแก๊สเลี้ยงอิสราเอลไปได้เป็นร้อยปี
    ในช่วงก่อนเจอสัตว์ร้าย อิสราเอลต้องพึ่งแก๊สจากหลุม Yam Tethys ซึ่งผลิตเลี้ยงประเทศได้ประมา ณ 70% ของความต้องการ และคาดว่าไม่นานเกืน 3 ปี หลุมนี้ก็จะแห้งสนิท และอิสราเอลก็คงเหนื่อย แต่ตอนนี้ชะตาพลิกผัน นอกจากไม่ต้องหน้ามืด หาแเก๊สมาเพิ่มแล้ว อิสราเอลกลับจะกลายเป็นเสี่ยถังแก๊สขึ้นมาเสียอีกด้วย ดังนั้นข่าวเรื่องที่ศัตรูคู่อาฆาต อิหร่าน อิรัค เลบานอน จะจับมือกันต่อท่อแก๊สไปถึงยุโรป จึงเป็นเรื่องที่อิสราเอลไม่พอใจอย่างยิ่ง กำลังฝันหวาน จะหิ้วถังแก๊สไปขายแถวยุโรป เอาเงินมาตุนทอง ทำกำไรอีกต่อ ทำท่าจะไม่เป็นอย่างที่ฝัน เราหิ้วเป็นถัง พวกมันส่งไปทางท่อ จะไปทันมันยังไง โอ้ย ยิวปวดใจ
    คิดไปแล้ว อิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์ของผม นี่ (ปีเตอร์) อู๋ จริงๆนะ มีทั้งนิวเคลียร์ มีทั้งน้ำมัน มีทั้งแก๊ส มิน่า ไอ้พวกใบตองแห้ง มันถึงน้ำลายไหลเยิ้มยืดหกออกมานอกปาก เวลานึกถึงดินแดนของเสี่ยนิวเคลียร์ แล้วแบบนี้ไอ้ใบตองแห้งมันจะปล่อยให้ลอยนวล ไปจับมือกับคุณพี่ปูติน กับ อาเฮียมังกรซ่อนเล็บได้ยังไง
    อิสราเอลคิดว่า ทางเดียวที่ จะหิ้วแก๊สไปขายยุโรปได้สดวกใจ ต้องให้ท่อส่งของเหล่าชีอะบรรลัยไปสิ้น แต่ช่วงนั้น กลุ่มมุสลิม บราเธอร์ฮูด ก็มาอยู่เต็มซีเรียแล้ว และมุสลิมบราเธอร์ฮูด ก็ไม่ถูกกับอิสราเอลอย่างแรง
    แล้วพวกมุสลิมบราเธอ์ฮูด นี่ มาอยู่ในซีเรียได้อย่างไรล่ะ
    ย้อนกลับไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.1950 กว่า เป็นช่วงที่อเมริกาใช้สถานทูตอเมริกาในอิยิปต์ เหมือนเป็นสำนักงานซีไอเอ สาขา 2 ที่เอาไว้ดูแลจัดการตะวันออกกลางและอาฟริกา ให้เป็นไปตามความต้องการของอเมริกา อเมริกาเอาหัวหน้ามุสลิมบราเธอร์ฮูดชาวอิยิปต์ ลี้ภัยออกจากอิยิปป์มาฝากไว้ที่ซาอุดิอารเบีย และก็ทำให้กลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด ผสมพันธ์ุกับกลุ่มวาหะบีของซาอุดิอารเบีย เกิดเป็นนักรบเพื่อศาสนา จีฮาร์ด มุสลิมบราเธอร์ฮูด
    (โฮ้ย! ทำไมมึงมันช่างคิดแผนชั่วได้ตลอดเวลาอย่างนี่นะ ไม่รู้ชีวิตกูที่เหลือนี่ จะแฉความชั่วมึงหมดไหม)
    เมื่อความไม่สงบในซีเรียเริ่มใหม่ๆ ตุรกีรับหน้าที่ เป็นมือเป็นตีนให้กับอเมริกา เขาว่า ก่อนการเลือกตั้งปี ค.ศ.2011 ที่ทำให้พรรค AKP ของนาย ตอยับ เอร์โดดานชนะเลือกตั้ง ได้คุมเสียงข้างมากในสภา และได้เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งการตุรกีได้ตามใจนั้น ราชวงศ์ซาอุด ที่ดูแลนักรบเพื่อศาสนา (แต่จริงๆ ดูเหมือนจะรบเพื่ออเมริกามากก ว่า) ได้มอบเงิน “สนับสนุน” ให้แก่พรรค AKP ของนายตอยับ ถึงหนึ่งหมื่นล้านเหรียญ หลังจากพรรค AKP ชนะขาดลอย นายตอยับ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตุรกี มุสลิมบราเธอร์ฮูดก็ย้ายออกจากซาอุ ไปเข้าแถวออกันเต็ม อยู่ที่ชายแดนของตุรกีที่ติดกับซีเรีย
    ในเดือน ธันวาคม ค.ศ.2011 มีบทความของนาย Philip Giradi อดีตซีไอเอ สรุปว่า
    ….นาโต้ เข้าไปในซีเรียแล้ว โดยมีตุรกี ในฐานะตัวแทนของอเมริกา เป็นหัวหน้านำการรบ นาย Davutoglu รัฐมนตรีการต่างประเทศของตุรกี บอกว่า ประเทศเขาพร้อมบุกซีเรีย เพราะมีข้อตกลงกับประเทศตะวันตก ที่จะดำเนินการเช่นนั้น การบุกจะใช้หลักการเพื่อมนุษยธรรม(หลอก) นำหน้าเข้าไป เช่นเดียวกับวิธีการที่ใช้ตอนบุกลิเบีย และจะเริ่มโดยตั้งแนวเขตกันชน buffer zone ตลอดเส้นแนวเขตระหว่างตุรกี กับซีเรีย หลังจากนั้นก็จะขยายไปเรื่อยๆ และ อาเลปโป Aleppo เมืองใหญ่ของซีเรีย ก็จะกลายเป็นเป้าหมายใหญ่ ที่กลุ่มกบฏซีเรียจะไปยึดครอง
    ….เครื่องบินรบของนาโต้ ที่ไม่ติดเครื่องหมาย บินมาถึงฐานทัพทหารของตุรกี ที่อยู่ใกล้กับเมือง Iskenderum ที่อยู่เขตแดนของซีเรีย เพื่อขนอาวุธที่ยึดมาจากกัดดาฟี หลังจากฆ่าโหดกัดดาฟีไปแล้ว รวมทั้งบรรดาอาสาสมัคร (ที่มีใครจ่ายเงินสนับสนุนให้) ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีเพื่อรบกับกองทหาร เป็นความสามารถที่ได้มาจากการฝึก เอาไว้สู้กับกองทัพของกัดดาฟี….
    …. ที่เมือง Iskenderum ยังมีหน่วยรบพิเศษของฝรั่งเศส และอังกฤษ คอยฝึก ให้กับกลุ่มกบฏของซีเรีย ขณะเดียวกัน ซีไอเอ และหน่วยรบพิเศษ ของอเมริกา ยังคอยเป็นพี่เลี้ยง และช่วยพากลุ่มกบฏ เลี่ยงการปะทะกับกองทัพของซีเรียอีกด้วย…..
    อเมริกาเอง ในช่วงนั้น ก็ดูเหมือนจะให้การสนับสนุนกลุ่มมุสลิม บราเธอร์ฮูด (MB) อย่างไม่ปิดบัง รู้กันทั่วว่า นาง Huma Abedin หัวหน้าฝ่ายบริหาร ของกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา สมัยที่คุณนายคลินตัน นางสิงห์สั่งฆ่า เป็นรัฐมนตรีนั้น นาง Abedin แสดงตัวอย่างเปิดเผยว่า มีความใกล้ชิดกับกลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด และยังมีอีกหลายคน ที่อยู่วงในของคณะทำงานของนายโอบามา ก็สนับสนุนกลุ่ม MB ก็คงสรุปได้ว่า ช่วงนั้น อเมริกาใช้กลุ่ม MB เป็นตัวสกัดเส้นทางการสร้างท่อส่งของกลุ่มอิหร่านซีเรีย
    และขณะเดียวกับที่อเมริกาใช้ตุรกีออกหน้าเข้าฉากซีเรีย ทาง อิสราเอล ซึ่งพักนั้น ไม่ค่อยร้องเพลงทำนองเดียวกับโอ บามา แต่พอมีเรื่องท่อแก๊ส ของซีเรีย โผล่ขึ้นมา อิสราเอล ก็มาเข้าฉากด้วย พอตุรกีบุกซีเรียด้านหนึ่ง หน่วย Israel Defense Force (IDF) ก็สร้างแผนล่อ ด้วยการอัดกองกำลังเข้าไปที่ Golan Height ที่อยู่ตรงเขตแดนระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย เพื่อให้ซีเรีย ห่วงหน้าพะวงหลัง
    แต่เรื่องที่ อเมริกา ใช้ตุรกีออกหน้า รวมทั้ง สมคบกับซาอุ คู่แข่ง ของอิสราเอล ในรายการถล่มซีเรียนี่ ก็ดูเหมือนจะสร้าง “รอย” ระหว่าง อเมริกา กับ อิสราเอล ไว้เหมือนกัน ไอ้ใบตองแห้งนี่ อย่าได้ประเมินความชั่วของมัน ต่ำน้อยไปเชียว
    และ ทั้งหมดก็ เป็นไปตามแผนของอเมริกา ในการสกัดซีเรีย หรือท่อส่งแก๊สกลุ่มอิหร่านซีเรีย โดยอเมริการะดมพล ทั้งกลุ่มนักรบอิสลามสาระพัดพันธ์ุ สาระพัดชื่อ แต่ไม่ว่าพันธุ์ไหน อเมริกาก็มีส่วนกี่ยวข้องทั้งนั้น รวมทั้ง กองกำลังนาโต้ ที่เดินเองพูดเองไม่เป็น ต้องทำตามใบสั่งของอเมริกาเท่านั้น บวกกับ กลุ่มลูกหาบนานาชาติ หรือกลุ่ม 11 ที่มีผลประโยชน์ บุญคุณ หนี้สินติดพันกันเอง และกับอเมริกา
    ผมตกใครไปไหมเนี่ยะ เผื่อมีใครกำลังรวบรวมรายชื่อ ทำบัญชี…
    คนเล่านิทาน
    10 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 11 “ลองเชิง” ตอน 11 แค่ปัญหาเรื่องแก๊ส ระหว่าง ค่าย อิหร่าน อิรัค ซีเรีย กับค่าย กาตาร์ ซาอุ ตุรกี 2 ค่ายนี่ ก็ทำให้อเมริกาเต้นเป็นลิงเกาเห็บแล้ว ยังดันเพิ่มเรื่อง ของอิสราเอลเข้าไปอีกด้วย อย่างนี้ ซีเรีย ไม่เดือดก็ผิดสันดานนักล่า อิสราเอล แม้จะถูกอุ้มไปอยู่ในตะวันออกกลาง เป็นกาฝากอยู่แถวทะเลทราย แต่ไม่เคยโชคดีมีน้ำมันท่วมเหมือนพวกเจ้าของถิ่นเขา แต่แล้ว เวลาอะไรมันจะมา ไม่ว่าดี ว่าร้าย (ส่วนมากมักเป็นเรื่องร้าย) มักไม่ค่อยรู้ตัวล่วงหน้า ปี ค.ศ.2009 อิสราเอล ก็ได้ข่าวเหมือนกันว่า โนเบิล เอนเนอร์จี Noble Energy หุ้นส่วนจากเท็กซัส (ของใครนะ) ที่อิสราเอลร่วมทุนให้ทำการสำรวจแหล่งแก๊ส ก็เจอหลุมแก๊ส ทามาร์ Tamar ที่แถวไฮฟา Haifa ทางเหนือของอิสราเอล ทามาร์ นับเป็นหลุมแก๊สที่ใหญ่ที่สุด ที่เจอกันในปี ค.ศ.2009 และคาดว่า ทามาร์ จะให้ผลผลิตได้ ในปี ค.ศ.2012 อิสราเอลให้ชื่อหลุมแก็สนี้ว่า Leviathan ตามชื่อสัตว์ร้ายในทะเลในพระคัมภึร์ แถมคุยว่า สัตวร้ายตัวนี้ สามารถผลิตแก๊สเลี้ยงอิสราเอลไปได้เป็นร้อยปี ในช่วงก่อนเจอสัตว์ร้าย อิสราเอลต้องพึ่งแก๊สจากหลุม Yam Tethys ซึ่งผลิตเลี้ยงประเทศได้ประมา ณ 70% ของความต้องการ และคาดว่าไม่นานเกืน 3 ปี หลุมนี้ก็จะแห้งสนิท และอิสราเอลก็คงเหนื่อย แต่ตอนนี้ชะตาพลิกผัน นอกจากไม่ต้องหน้ามืด หาแเก๊สมาเพิ่มแล้ว อิสราเอลกลับจะกลายเป็นเสี่ยถังแก๊สขึ้นมาเสียอีกด้วย ดังนั้นข่าวเรื่องที่ศัตรูคู่อาฆาต อิหร่าน อิรัค เลบานอน จะจับมือกันต่อท่อแก๊สไปถึงยุโรป จึงเป็นเรื่องที่อิสราเอลไม่พอใจอย่างยิ่ง กำลังฝันหวาน จะหิ้วถังแก๊สไปขายแถวยุโรป เอาเงินมาตุนทอง ทำกำไรอีกต่อ ทำท่าจะไม่เป็นอย่างที่ฝัน เราหิ้วเป็นถัง พวกมันส่งไปทางท่อ จะไปทันมันยังไง โอ้ย ยิวปวดใจ คิดไปแล้ว อิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์ของผม นี่ (ปีเตอร์) อู๋ จริงๆนะ มีทั้งนิวเคลียร์ มีทั้งน้ำมัน มีทั้งแก๊ส มิน่า ไอ้พวกใบตองแห้ง มันถึงน้ำลายไหลเยิ้มยืดหกออกมานอกปาก เวลานึกถึงดินแดนของเสี่ยนิวเคลียร์ แล้วแบบนี้ไอ้ใบตองแห้งมันจะปล่อยให้ลอยนวล ไปจับมือกับคุณพี่ปูติน กับ อาเฮียมังกรซ่อนเล็บได้ยังไง อิสราเอลคิดว่า ทางเดียวที่ จะหิ้วแก๊สไปขายยุโรปได้สดวกใจ ต้องให้ท่อส่งของเหล่าชีอะบรรลัยไปสิ้น แต่ช่วงนั้น กลุ่มมุสลิม บราเธอร์ฮูด ก็มาอยู่เต็มซีเรียแล้ว และมุสลิมบราเธอร์ฮูด ก็ไม่ถูกกับอิสราเอลอย่างแรง แล้วพวกมุสลิมบราเธอ์ฮูด นี่ มาอยู่ในซีเรียได้อย่างไรล่ะ ย้อนกลับไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.1950 กว่า เป็นช่วงที่อเมริกาใช้สถานทูตอเมริกาในอิยิปต์ เหมือนเป็นสำนักงานซีไอเอ สาขา 2 ที่เอาไว้ดูแลจัดการตะวันออกกลางและอาฟริกา ให้เป็นไปตามความต้องการของอเมริกา อเมริกาเอาหัวหน้ามุสลิมบราเธอร์ฮูดชาวอิยิปต์ ลี้ภัยออกจากอิยิปป์มาฝากไว้ที่ซาอุดิอารเบีย และก็ทำให้กลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด ผสมพันธ์ุกับกลุ่มวาหะบีของซาอุดิอารเบีย เกิดเป็นนักรบเพื่อศาสนา จีฮาร์ด มุสลิมบราเธอร์ฮูด (โฮ้ย! ทำไมมึงมันช่างคิดแผนชั่วได้ตลอดเวลาอย่างนี่นะ ไม่รู้ชีวิตกูที่เหลือนี่ จะแฉความชั่วมึงหมดไหม) เมื่อความไม่สงบในซีเรียเริ่มใหม่ๆ ตุรกีรับหน้าที่ เป็นมือเป็นตีนให้กับอเมริกา เขาว่า ก่อนการเลือกตั้งปี ค.ศ.2011 ที่ทำให้พรรค AKP ของนาย ตอยับ เอร์โดดานชนะเลือกตั้ง ได้คุมเสียงข้างมากในสภา และได้เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งการตุรกีได้ตามใจนั้น ราชวงศ์ซาอุด ที่ดูแลนักรบเพื่อศาสนา (แต่จริงๆ ดูเหมือนจะรบเพื่ออเมริกามากก ว่า) ได้มอบเงิน “สนับสนุน” ให้แก่พรรค AKP ของนายตอยับ ถึงหนึ่งหมื่นล้านเหรียญ หลังจากพรรค AKP ชนะขาดลอย นายตอยับ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตุรกี มุสลิมบราเธอร์ฮูดก็ย้ายออกจากซาอุ ไปเข้าแถวออกันเต็ม อยู่ที่ชายแดนของตุรกีที่ติดกับซีเรีย ในเดือน ธันวาคม ค.ศ.2011 มีบทความของนาย Philip Giradi อดีตซีไอเอ สรุปว่า ….นาโต้ เข้าไปในซีเรียแล้ว โดยมีตุรกี ในฐานะตัวแทนของอเมริกา เป็นหัวหน้านำการรบ นาย Davutoglu รัฐมนตรีการต่างประเทศของตุรกี บอกว่า ประเทศเขาพร้อมบุกซีเรีย เพราะมีข้อตกลงกับประเทศตะวันตก ที่จะดำเนินการเช่นนั้น การบุกจะใช้หลักการเพื่อมนุษยธรรม(หลอก) นำหน้าเข้าไป เช่นเดียวกับวิธีการที่ใช้ตอนบุกลิเบีย และจะเริ่มโดยตั้งแนวเขตกันชน buffer zone ตลอดเส้นแนวเขตระหว่างตุรกี กับซีเรีย หลังจากนั้นก็จะขยายไปเรื่อยๆ และ อาเลปโป Aleppo เมืองใหญ่ของซีเรีย ก็จะกลายเป็นเป้าหมายใหญ่ ที่กลุ่มกบฏซีเรียจะไปยึดครอง ….เครื่องบินรบของนาโต้ ที่ไม่ติดเครื่องหมาย บินมาถึงฐานทัพทหารของตุรกี ที่อยู่ใกล้กับเมือง Iskenderum ที่อยู่เขตแดนของซีเรีย เพื่อขนอาวุธที่ยึดมาจากกัดดาฟี หลังจากฆ่าโหดกัดดาฟีไปแล้ว รวมทั้งบรรดาอาสาสมัคร (ที่มีใครจ่ายเงินสนับสนุนให้) ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีเพื่อรบกับกองทหาร เป็นความสามารถที่ได้มาจากการฝึก เอาไว้สู้กับกองทัพของกัดดาฟี…. …. ที่เมือง Iskenderum ยังมีหน่วยรบพิเศษของฝรั่งเศส และอังกฤษ คอยฝึก ให้กับกลุ่มกบฏของซีเรีย ขณะเดียวกัน ซีไอเอ และหน่วยรบพิเศษ ของอเมริกา ยังคอยเป็นพี่เลี้ยง และช่วยพากลุ่มกบฏ เลี่ยงการปะทะกับกองทัพของซีเรียอีกด้วย….. อเมริกาเอง ในช่วงนั้น ก็ดูเหมือนจะให้การสนับสนุนกลุ่มมุสลิม บราเธอร์ฮูด (MB) อย่างไม่ปิดบัง รู้กันทั่วว่า นาง Huma Abedin หัวหน้าฝ่ายบริหาร ของกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา สมัยที่คุณนายคลินตัน นางสิงห์สั่งฆ่า เป็นรัฐมนตรีนั้น นาง Abedin แสดงตัวอย่างเปิดเผยว่า มีความใกล้ชิดกับกลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด และยังมีอีกหลายคน ที่อยู่วงในของคณะทำงานของนายโอบามา ก็สนับสนุนกลุ่ม MB ก็คงสรุปได้ว่า ช่วงนั้น อเมริกาใช้กลุ่ม MB เป็นตัวสกัดเส้นทางการสร้างท่อส่งของกลุ่มอิหร่านซีเรีย และขณะเดียวกับที่อเมริกาใช้ตุรกีออกหน้าเข้าฉากซีเรีย ทาง อิสราเอล ซึ่งพักนั้น ไม่ค่อยร้องเพลงทำนองเดียวกับโอ บามา แต่พอมีเรื่องท่อแก๊ส ของซีเรีย โผล่ขึ้นมา อิสราเอล ก็มาเข้าฉากด้วย พอตุรกีบุกซีเรียด้านหนึ่ง หน่วย Israel Defense Force (IDF) ก็สร้างแผนล่อ ด้วยการอัดกองกำลังเข้าไปที่ Golan Height ที่อยู่ตรงเขตแดนระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย เพื่อให้ซีเรีย ห่วงหน้าพะวงหลัง แต่เรื่องที่ อเมริกา ใช้ตุรกีออกหน้า รวมทั้ง สมคบกับซาอุ คู่แข่ง ของอิสราเอล ในรายการถล่มซีเรียนี่ ก็ดูเหมือนจะสร้าง “รอย” ระหว่าง อเมริกา กับ อิสราเอล ไว้เหมือนกัน ไอ้ใบตองแห้งนี่ อย่าได้ประเมินความชั่วของมัน ต่ำน้อยไปเชียว และ ทั้งหมดก็ เป็นไปตามแผนของอเมริกา ในการสกัดซีเรีย หรือท่อส่งแก๊สกลุ่มอิหร่านซีเรีย โดยอเมริการะดมพล ทั้งกลุ่มนักรบอิสลามสาระพัดพันธ์ุ สาระพัดชื่อ แต่ไม่ว่าพันธุ์ไหน อเมริกาก็มีส่วนกี่ยวข้องทั้งนั้น รวมทั้ง กองกำลังนาโต้ ที่เดินเองพูดเองไม่เป็น ต้องทำตามใบสั่งของอเมริกาเท่านั้น บวกกับ กลุ่มลูกหาบนานาชาติ หรือกลุ่ม 11 ที่มีผลประโยชน์ บุญคุณ หนี้สินติดพันกันเอง และกับอเมริกา ผมตกใครไปไหมเนี่ยะ เผื่อมีใครกำลังรวบรวมรายชื่อ ทำบัญชี… คนเล่านิทาน 10 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ยืนยันยังไม่มีการหยุดยิงในเวลา 22.00 น. คืนนี้ ตามที่ผู้นำมาเลเซียระบุ ชี้เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากการแถลงของกองทัพเท่านั้น
    .
    นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไทยเป็นฝ่ายถูกรุกราน หากกัมพูชาต้องการหยุดยิง ต้องเสนอแผนมายังประเทศไทยโดยตรง ไม่ควรให้ผู้นำประเทศอื่นออกมาพูดแทน พร้อมย้ำว่าการหยุดยิงต้องเห็นผลในทางปฏิบัติอย่างชัดเจน ไม่ใช่เพียงการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119973
    .
    #News1live #News1 #อนุทิน #หยุดยิง #ชายแดนไทยกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ยืนยันยังไม่มีการหยุดยิงในเวลา 22.00 น. คืนนี้ ตามที่ผู้นำมาเลเซียระบุ ชี้เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากการแถลงของกองทัพเท่านั้น . นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไทยเป็นฝ่ายถูกรุกราน หากกัมพูชาต้องการหยุดยิง ต้องเสนอแผนมายังประเทศไทยโดยตรง ไม่ควรให้ผู้นำประเทศอื่นออกมาพูดแทน พร้อมย้ำว่าการหยุดยิงต้องเห็นผลในทางปฏิบัติอย่างชัดเจน ไม่ใช่เพียงการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119973 . #News1live #News1 #อนุทิน #หยุดยิง #ชายแดนไทยกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความโต้กลับโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันเหตุระเบิดไม่ใช่อุบัติเหตุริมถนน และประเทศไทยจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีภัยคุกคามต่อแผ่นดินและประชาชน พร้อมชี้ว่าการกระทำของไทยในเช้าวันนี้เป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้ว
    .
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังทรัมป์ระบุผ่าน Truth Social ว่าได้หารือกับผู้นำไทยและกัมพูชา และอ้างว่าทั้งสองฝ่ายตกลงยุติการยิง โดยมองเหตุระเบิดก่อนหน้าเป็นอุบัติเหตุ ขณะที่ฝ่ายไทยย้ำจุดยืนด้านความมั่นคงอย่างชัดเจน
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119787
    .
    #News1live #News1 #อนุทินชาญวีรกูล #โดนัลด์ทรัมป์ #ความมั่นคง #ปฏิบัติการทางทหาร #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความโต้กลับโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันเหตุระเบิดไม่ใช่อุบัติเหตุริมถนน และประเทศไทยจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีภัยคุกคามต่อแผ่นดินและประชาชน พร้อมชี้ว่าการกระทำของไทยในเช้าวันนี้เป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้ว . ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังทรัมป์ระบุผ่าน Truth Social ว่าได้หารือกับผู้นำไทยและกัมพูชา และอ้างว่าทั้งสองฝ่ายตกลงยุติการยิง โดยมองเหตุระเบิดก่อนหน้าเป็นอุบัติเหตุ ขณะที่ฝ่ายไทยย้ำจุดยืนด้านความมั่นคงอย่างชัดเจน . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119787 . #News1live #News1 #อนุทินชาญวีรกูล #โดนัลด์ทรัมป์ #ความมั่นคง #ปฏิบัติการทางทหาร #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 423 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดคำถามใหญ่กลางดึก หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ผ่าน Truth Social อ้างว่า ไทยและกัมพูชา “ตกลงหยุดยิงแล้ว” และให้มีผลทันทีในวันศุกร์ (12 ธ.ค.) พร้อมระบุว่า เหตุทหารไทยบาดเจ็บ–เสียชีวิตจากระเบิด เป็นเพียง “อุบัติเหตุ” ก่อนที่ไทยจะตอบโต้กลับอย่างรุนแรง
    .
    ถ้อยแถลงดังกล่าว ขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีไทย “อนุทิน ชาญวีรกูล” เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า ซึ่งยืนยันว่า ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายรุกราน และยังไม่มีการหยุดยิง พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความจริงใจ ถอนทหาร และเก็บกู้ทุ่นระเบิดก่อน
    .
    ขณะเดียวกัน การสู้รบตามแนวชายแดนยังคงดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ท่ามกลางความสับสนจากข้อมูลที่ออกมาคนละทิศทางบนเวทีโลก
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119736
    .
    #News1Live #News1 #ไทยกัมพูชา #หยุดยิง #ทรัมป์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #การเมืองระหว่างประเทศ #TruthFromThailand
    เกิดคำถามใหญ่กลางดึก หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ผ่าน Truth Social อ้างว่า ไทยและกัมพูชา “ตกลงหยุดยิงแล้ว” และให้มีผลทันทีในวันศุกร์ (12 ธ.ค.) พร้อมระบุว่า เหตุทหารไทยบาดเจ็บ–เสียชีวิตจากระเบิด เป็นเพียง “อุบัติเหตุ” ก่อนที่ไทยจะตอบโต้กลับอย่างรุนแรง . ถ้อยแถลงดังกล่าว ขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีไทย “อนุทิน ชาญวีรกูล” เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า ซึ่งยืนยันว่า ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายรุกราน และยังไม่มีการหยุดยิง พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความจริงใจ ถอนทหาร และเก็บกู้ทุ่นระเบิดก่อน . ขณะเดียวกัน การสู้รบตามแนวชายแดนยังคงดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ท่ามกลางความสับสนจากข้อมูลที่ออกมาคนละทิศทางบนเวทีโลก . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119736 . #News1Live #News1 #ไทยกัมพูชา #หยุดยิง #ทรัมป์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #การเมืองระหว่างประเทศ #TruthFromThailand
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองเชิง ตอนที่ 8

    “ลองเชิง”
    ตอน 8
    เขาว่ากันว่า สิ่งที่อเมริกาสนใจ และใส่ใจที่สุดในตะวันออกกลางคือ น้ำมัน กับอิสราเอลเท่านั้น ที่เถียงกันคือ ใน 2 สิ่ง อเมริกาห่วงสิ่งไหนมากกว่ากัน
    ที่เขาว่ากันแบบนั้น ก็คงไม่ผิดในเชิงการเมือง แต่ ในเชิงยุทธศาสตร์ ผมว่าอเมริกาคงสนใจแค่ 1 สิ่ง ในตะวันออกกลาง คืออเมริกา “จะต้องได้” ตะวันออกกลางทั้งหมดต่างหาก อย่างที่ผมเกริ่นมาในตอนก่อนๆ แต่อเมริกาจะกินตะวันออกกลางทั้งหมด อเมริกาก็ต้องวางแผนให้ดี เพราะห่วงว่าจะมีใครย้อนศร ส่วจรวดมาใส่ไข่แดงของอเมริกา ที่อยู่ในตะวันออกกลางคือ อิสราเอล จนเละทั้งใบ
    ไม่ใช่อเมริการักอิสราเอลมากนักหรอก แต่ยิวที่ขี่คอรัฐบาลอเมริกานั่นสิ ที่อเมริกาต้องห่วง และยิวในอเมริกาก็มีมากเสียด้วย เรียกดาราดังๆเชื้อสายยิวๆ มาเข้าฉากทั้งหมด รัฐบาลอเมริกันอาจพังง่ายๆ ตั้งแต่ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ ดาราตุ๊กตาทอง สื่อทุกรูปแบบ อยู่ในมือยิวเกือบทั้งนั้น อาวุธที่ทำให้อเมริกาเซได้ โดยไม่ต้องถล่มตลาดหุ้น หรือใช้จรวดยิง ก็คือ ใช้ดารากับสื่อนี่แหละครับ เอาหน้าเด่นๆ ผลัดกันมาออกรายการ ตีข่าวเข้าไปทุกวัน คนบ้าดารา เคลิ้มตาม เดี๋ยวก็ได้มีการลาออก หรือเปลี่ยนนโยบายกันให้เห็น
    แต่ไม่ได้หมายความว่า อเมริกาจะไม่มีวันทิ้งยิว …
    อัสซาด คนพ่อ Hafez Assad นั้น เป็นนักยุทธศาสตร์ตัวยง เหลี่ยมลึก มองไกล เขาดูแล้วว่า อิสราเอลเป็นจุดสำคัญที่สุดของตะวันออกกลาง ผมจึงชื่นชมอังกฤษ ไอ้ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายนักว่า มันสุดยอด(ชั่ว)จริงๆ ที่เอายิวไปอยู่ในตะวันออกกลางได้ และให้อยู่ในจุดนั้น
    ลองกลับไปดูแผนที่นะครับ และนึกถึงข้อตกลงของอังกฤษกับผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยว่า สมัยนั้น เขาตกลงแบ่งสมบัติกันอย่างไร สรุปว่า ประเทศที่มีทางออกสู่เมดิเตอร์เรเนียนทั้งหมดคือ ตุรกี ซีเรีย เลบานอน และอิสราเอล ยาวมาจนถึงอียิปต์ ตกอยู่ในความดูแลของอังกฤษกับพวก เพื่ออังกฤษและพวกจะได้คุมทางออกไปทะเล จำไว้นะครับ เรื่องการคุมทางออกทะเล เป็นยุทธศาสตร์สำคัญอันหนึ่ง
    แต่มาภายหลัง เมื่อตุรกี ซีเรีย เลบานอน ได้รับเอกราช สามารถปกครองบ้านเมืองตัวเองได้ โดยไม่ต้องฟังอังกฤษกับพวกแล้ว อเมริกาที่รับไม้ดูแลตะวันออกกลางต่อจากอังกฤษ จึงต้องทุ่มสร้างความมั่นคงให้กับอิสราเอล ไข่แดงของตัว และสร้างความมั่นคงให้อิยิปต์ด้วยในช่วงแรก เพื่อเป็นกำแพงพิงหลังให้อิสราเอล ขณะเดียวกัน อเมริกาก็พยายามซื้อเลบานอนอยู่หลายรอบ สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง
    อัสซาด คนพ่อ เห็นอย่างนั้นก็รู้ว่า อิสราเอล แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่ถ้าอเมริกาเสริมเหล็กใ้ห้จนแข็งขนาดนั้น ต่อไปซีเรียจะเหนื่อย เขาจึงสนับสนุนให้มีการสร้างกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ในเลบานอน ที่อยู่ติดหลังบ้านอิสราเอลขึ้นมา ไว้เป็นด่านกั้นให้ซีเรียชั้นหนึ่งก่อน ส่วนเลบานอนก็ไม่ปฏิเสธ เพราะตัวเองยิ่งแย่ใหญ่ หน้าเกือบจะชนก้นอิสราเอลอยู่แล้ว และนี่ ก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้อิสราเอลเกลียดซีเรีย อย่างไม่มีวันเลิก
    กลับมาที่แผนชั่วของอเมริกาใน ตะวันออกกลาง ตัวละครใหญ่สำคัญที่สุด 3 รายคือ อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย นั้น อเมริกาจับมาอยู่ในมือแล้ว คือ 2 รายหลัง เหลือรายแรกคือ อิหร่าน ที่อเมริกาเพียรจับ แต่จับๆ หลุดๆ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1950 กว่าๆ แต่ไม่เคยอยู่หมัดอยู่มือถาวร อเมริกาจึงต้องวางแผนใหม่อยู่เรื่อย
    จะครองโลก ไม่ใช่คิดวันนี้ ครองพรุ่งนี้ เขาวางแผนกันมาหลายสิบปี บางทีร้อยปี ก็มี จะต่อสู้หรือต่อต้าน ก็เช่นเดียวกัน เขาก็ต้องวางแผนนาน สนามซีเรีย ช่วงนี้จะนั่งดูรายวัน ก็ควรทำความเข้าใจก่อนว่า ใครเล่นอะไร ที่ไหน เพราะอะไร ไม่อย่างนั้น ก็แค่รู้ แต่ไม่เข้าใจ
    อเมริกาวางแผนที่จะกินอิหร่านหลายรูปแบบ รูปแบบสุดท้าย คือ เรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นละครซื้อเวลา แผนจริงรุ่นแรก ที่อเมริกาเดินเพื่อกินอิหร่าน คือ แผนบุกอิรัค ของเหยี่ยวกระหายเลือด คาวบอยบุช กับดิกเชนีย์ เมื่อ ปี ค.ศ.2003 ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดระเบียบโลกใหม่ New World Order ที่บุชตัวพ่อ ประกาศ ในปี ค.ศ.1991 เมื่อคิดว่า สหภาพโซเวียตล่มสลายตายสนิท
    แต่ภายหลัง ในช่วงประมาณปี ค.ศ.2000 ไอ้ที่คิดว่าตายสนิท ดันฟื้นเป็นรัสเซีย ที่ทำท่าจะเฟื่องต่อเสียด้วยซ้ำ และไอ้ที่คิดว่าดีแต่ค้าขายอย่างจีน ก็ทำท่าจะโตเร็วเกินไป แผนจัดการอิหร่าน เพื่อยึดตะวันออกกลาง และผ่ากลาง รัสเซียกับจีน จึงต้องรีบดำเนินการ
    แต่อยู่ดีๆ จะไปยึดอิหร่าน ที่ใหญ่เอาเรื่อง และก็ผูกสัมพันธ์กับรัสเซียมาตลอด คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะเซ่อซ่าวิ่งลุยเข้าไปง่ายๆ อเมริกาจึงคิดทุบรอบนอกอิหร่านก่อน และยุทธศาสตร์ทุบรอบนอก หรือทุบข้างในให้น่วมก่อนกิน นี่ ดูเหมือนจะเป็นยุทธศาสตร์ยอดนิยมของค่ายตะวันตก
    อิรัคและซัดดัม จึงถูกเลือกเป็นทั้งเป้าหมายจริง และเป็นเป้าหมายหลอกในขณะเดียวกัน อเมริกาไม่เคยกินเด้งเดียว อเมริกาต้องการครอบครองอิรัค เพื่อเอาน้ำมัน และใช้เป็นสะพานเพื่อเข้าไปบุกซีเรียและอิหร่านอีกต่อหนึ่ง ขณะเดียวกัน ก็เป็นการตัดเส้นทางเลี้ยงกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ ของเลบานอน ที่อยู่ติดกับประตูหลังบ้านของอิสราเอล ที่ทั้งอิหร่านและซีเรียส่งเสียเลี้ยงดู เพื่ออิสราเอลจะได้ปลอดภัย เห็นความแสบ ซับซ้อนของอเมริกาไหมครับ
    แผนนี้ ถ้าสำเร็จ มันจะเป็นการทลายค่ายต่อต้านอเมริกาอย่างถาวร ได้ดูแลยิว และผ่ารัสเซียจากจีน เป็นการตัดตอน 2 ประเทศใหญ่ เตรียมก้าวไปครองโลก คิดแล้วน่าเคลิ้มใจ
    อเมริกา ยังฝันเฟื่องต่อไปอีกว่า เมื่อยึดอิรัค กำจัดซัดดัมแล้ว จะจัดให้อิรัคมีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้อิรัค เป็นมิตรที่ดีของอิสราเอล คอยช่วยเหลืออิสราเอล และช่วยด่าซีเรีย กับด่าอิหร่าน เป็นการปูพื้น เตรียมการให้อเมริกาบุก 2 ประเทศนั้นต่อ ระหว่างที่อ่านย่อหน้านี้ จะได้อารมณ์มาก ถ้านึกถึงหน้าคาวบอยบุซ ไปด้วยนะครับ จะได้ซึ้งถึงฝันเฟื่องของคาวบอย ว่ามัน
    เห่ย ขนาดไหน
    อเมริกา ไม่ได้เพียงประเมินตัวเองผิด อเมริกายังประเมินคู่ต่อสู้ของตัวผิดอีกด้วย การบุกอิรัค จึงกลายเป็นเรื่องหายนะของอเม ริกา และเป็นหายนะของอิรัคด้วย เพราะตามสูตรของอเมริกา เมื่อครอบครองไม่ได้ ก็ทำลายเสีย แล้วอิรัค ก็กลายเป็นรัฐล้มเหลว เช่นเดียวกับลิเบีย และอื่นๆ
    สำหรับอเมริกา ในการจะบุกซีเรีย อเมริกาต้องใช้สูตรสำเร็จ เอาปูนป้ายหน้า
    อัสซาดก่อนว่า ไอ้หมอนี่เป็นผู้นำที่เลว เผด็จการ ขี้โกง ไร้มนุษยธรรม ฯลฯ เหมือนอย่างที้ป้ายหน้า ซัดดัม กัดดาฟี ทำนองนั้น สูตรสำเร็จนี้ คนอ่านนิทานท่องได้ จำขึ้นใจกันแล้วทั้งนั้น
    แต่สำหรับซีเรีย สูตรสำเร็จแค่นั้นคงไม่พอ เพราะซีเรียก็แหลมคม และมีเพื่อน
    แล้วในปี ค.ศ.2005 จึงเกิดเรื่องการวางระเบิดคาร์บอม ใส่ขบวนรถของนายราฟิค ฮาริริ Rafiq Hariri อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน ข่าวบอกว่าเป็นฝีมือของกลุ่มเฮสบอลเลาะห์กองกำลังติดอาวุธของเลบานอน ที่อยู่คนละข้างกับกลุ่มของฮาริริ
    บังเอิญ ฮาริริ ดันเป็นคนที่ (มีคนสั่งให้) ซาอุ (จ่าย) สนับสนุนให้เป็นใหญ่ในเลบานอน เอาไว้เป็นหนาม อยู่กลางกลุ่มพวกอิหร่านและซีเรียในเลบานอน เรื่องมันจึงไม่ใช่การวางระเบิดระดับธรรมดา สื่อฟอกย้อม ลงข่าวว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบ เพราะตอนนั้นซีเรีย ดูแลด้านความมั่นคงให้แก่เลบานอน ตามสัญญา Taif Accord
    แม้จะดมกลิ่นระเบิดไม่ได้จากมือไหน แต่คาร์บอมรายการนี้ ก็ค่อนข้างชัดว่า น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนป้ายสีให้อัสซาด นอกจากนี้ หัวหน้าอาหรับสายสุนนี่ โดยเฉพาะสุนนี่ในเลบานอน ต่างออกมาประสานเสียงกันว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบในการลอบฆ่านี้ ผลสุดท้าย กองทัพซีเรียก็ต้องถอนกำลังออกไปจากเลบานอน และเลบานอนก็อยู่ในความดูแลของ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกองกำลังที่เรียกว่า “กองกำลังร่วม 14 มีนา” ที่ตั้งขึ้นทันที ที่ ฮาริริ ถูกฆ่าตาย และไม่ถูกกับกลุ่มเฮสบอลเลาะห์
    เลบานอน ก็เริ่มมีความวุ่นวาย
    หลังจากนั้น เสียงไม่เอาซีเรีย ไม่เอาอัสซาด ก็เริ่มระบาดดังขึ้นในเลบานอน สื่อในเลบานอน ตีข่าวด่าซีเรียทุกวัน กองกำลังร่วม 14 มีนา ก็แข็งกร้าวขึ้นทุกวัน และกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ปนกลิ่นแพะ ก็ปลิวว่อนในเลบานอน
    นี่คือจุดเริ่มต้นของการรวมกำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ที่มาจากสาระพัดพันธ์ุและสาระพัด เป้าหมาย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 8 “ลองเชิง” ตอน 8 เขาว่ากันว่า สิ่งที่อเมริกาสนใจ และใส่ใจที่สุดในตะวันออกกลางคือ น้ำมัน กับอิสราเอลเท่านั้น ที่เถียงกันคือ ใน 2 สิ่ง อเมริกาห่วงสิ่งไหนมากกว่ากัน ที่เขาว่ากันแบบนั้น ก็คงไม่ผิดในเชิงการเมือง แต่ ในเชิงยุทธศาสตร์ ผมว่าอเมริกาคงสนใจแค่ 1 สิ่ง ในตะวันออกกลาง คืออเมริกา “จะต้องได้” ตะวันออกกลางทั้งหมดต่างหาก อย่างที่ผมเกริ่นมาในตอนก่อนๆ แต่อเมริกาจะกินตะวันออกกลางทั้งหมด อเมริกาก็ต้องวางแผนให้ดี เพราะห่วงว่าจะมีใครย้อนศร ส่วจรวดมาใส่ไข่แดงของอเมริกา ที่อยู่ในตะวันออกกลางคือ อิสราเอล จนเละทั้งใบ ไม่ใช่อเมริการักอิสราเอลมากนักหรอก แต่ยิวที่ขี่คอรัฐบาลอเมริกานั่นสิ ที่อเมริกาต้องห่วง และยิวในอเมริกาก็มีมากเสียด้วย เรียกดาราดังๆเชื้อสายยิวๆ มาเข้าฉากทั้งหมด รัฐบาลอเมริกันอาจพังง่ายๆ ตั้งแต่ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ ดาราตุ๊กตาทอง สื่อทุกรูปแบบ อยู่ในมือยิวเกือบทั้งนั้น อาวุธที่ทำให้อเมริกาเซได้ โดยไม่ต้องถล่มตลาดหุ้น หรือใช้จรวดยิง ก็คือ ใช้ดารากับสื่อนี่แหละครับ เอาหน้าเด่นๆ ผลัดกันมาออกรายการ ตีข่าวเข้าไปทุกวัน คนบ้าดารา เคลิ้มตาม เดี๋ยวก็ได้มีการลาออก หรือเปลี่ยนนโยบายกันให้เห็น แต่ไม่ได้หมายความว่า อเมริกาจะไม่มีวันทิ้งยิว … อัสซาด คนพ่อ Hafez Assad นั้น เป็นนักยุทธศาสตร์ตัวยง เหลี่ยมลึก มองไกล เขาดูแล้วว่า อิสราเอลเป็นจุดสำคัญที่สุดของตะวันออกกลาง ผมจึงชื่นชมอังกฤษ ไอ้ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายนักว่า มันสุดยอด(ชั่ว)จริงๆ ที่เอายิวไปอยู่ในตะวันออกกลางได้ และให้อยู่ในจุดนั้น ลองกลับไปดูแผนที่นะครับ และนึกถึงข้อตกลงของอังกฤษกับผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยว่า สมัยนั้น เขาตกลงแบ่งสมบัติกันอย่างไร สรุปว่า ประเทศที่มีทางออกสู่เมดิเตอร์เรเนียนทั้งหมดคือ ตุรกี ซีเรีย เลบานอน และอิสราเอล ยาวมาจนถึงอียิปต์ ตกอยู่ในความดูแลของอังกฤษกับพวก เพื่ออังกฤษและพวกจะได้คุมทางออกไปทะเล จำไว้นะครับ เรื่องการคุมทางออกทะเล เป็นยุทธศาสตร์สำคัญอันหนึ่ง แต่มาภายหลัง เมื่อตุรกี ซีเรีย เลบานอน ได้รับเอกราช สามารถปกครองบ้านเมืองตัวเองได้ โดยไม่ต้องฟังอังกฤษกับพวกแล้ว อเมริกาที่รับไม้ดูแลตะวันออกกลางต่อจากอังกฤษ จึงต้องทุ่มสร้างความมั่นคงให้กับอิสราเอล ไข่แดงของตัว และสร้างความมั่นคงให้อิยิปต์ด้วยในช่วงแรก เพื่อเป็นกำแพงพิงหลังให้อิสราเอล ขณะเดียวกัน อเมริกาก็พยายามซื้อเลบานอนอยู่หลายรอบ สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง อัสซาด คนพ่อ เห็นอย่างนั้นก็รู้ว่า อิสราเอล แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่ถ้าอเมริกาเสริมเหล็กใ้ห้จนแข็งขนาดนั้น ต่อไปซีเรียจะเหนื่อย เขาจึงสนับสนุนให้มีการสร้างกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ในเลบานอน ที่อยู่ติดหลังบ้านอิสราเอลขึ้นมา ไว้เป็นด่านกั้นให้ซีเรียชั้นหนึ่งก่อน ส่วนเลบานอนก็ไม่ปฏิเสธ เพราะตัวเองยิ่งแย่ใหญ่ หน้าเกือบจะชนก้นอิสราเอลอยู่แล้ว และนี่ ก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้อิสราเอลเกลียดซีเรีย อย่างไม่มีวันเลิก กลับมาที่แผนชั่วของอเมริกาใน ตะวันออกกลาง ตัวละครใหญ่สำคัญที่สุด 3 รายคือ อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย นั้น อเมริกาจับมาอยู่ในมือแล้ว คือ 2 รายหลัง เหลือรายแรกคือ อิหร่าน ที่อเมริกาเพียรจับ แต่จับๆ หลุดๆ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1950 กว่าๆ แต่ไม่เคยอยู่หมัดอยู่มือถาวร อเมริกาจึงต้องวางแผนใหม่อยู่เรื่อย จะครองโลก ไม่ใช่คิดวันนี้ ครองพรุ่งนี้ เขาวางแผนกันมาหลายสิบปี บางทีร้อยปี ก็มี จะต่อสู้หรือต่อต้าน ก็เช่นเดียวกัน เขาก็ต้องวางแผนนาน สนามซีเรีย ช่วงนี้จะนั่งดูรายวัน ก็ควรทำความเข้าใจก่อนว่า ใครเล่นอะไร ที่ไหน เพราะอะไร ไม่อย่างนั้น ก็แค่รู้ แต่ไม่เข้าใจ อเมริกาวางแผนที่จะกินอิหร่านหลายรูปแบบ รูปแบบสุดท้าย คือ เรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นละครซื้อเวลา แผนจริงรุ่นแรก ที่อเมริกาเดินเพื่อกินอิหร่าน คือ แผนบุกอิรัค ของเหยี่ยวกระหายเลือด คาวบอยบุช กับดิกเชนีย์ เมื่อ ปี ค.ศ.2003 ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดระเบียบโลกใหม่ New World Order ที่บุชตัวพ่อ ประกาศ ในปี ค.ศ.1991 เมื่อคิดว่า สหภาพโซเวียตล่มสลายตายสนิท แต่ภายหลัง ในช่วงประมาณปี ค.ศ.2000 ไอ้ที่คิดว่าตายสนิท ดันฟื้นเป็นรัสเซีย ที่ทำท่าจะเฟื่องต่อเสียด้วยซ้ำ และไอ้ที่คิดว่าดีแต่ค้าขายอย่างจีน ก็ทำท่าจะโตเร็วเกินไป แผนจัดการอิหร่าน เพื่อยึดตะวันออกกลาง และผ่ากลาง รัสเซียกับจีน จึงต้องรีบดำเนินการ แต่อยู่ดีๆ จะไปยึดอิหร่าน ที่ใหญ่เอาเรื่อง และก็ผูกสัมพันธ์กับรัสเซียมาตลอด คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะเซ่อซ่าวิ่งลุยเข้าไปง่ายๆ อเมริกาจึงคิดทุบรอบนอกอิหร่านก่อน และยุทธศาสตร์ทุบรอบนอก หรือทุบข้างในให้น่วมก่อนกิน นี่ ดูเหมือนจะเป็นยุทธศาสตร์ยอดนิยมของค่ายตะวันตก อิรัคและซัดดัม จึงถูกเลือกเป็นทั้งเป้าหมายจริง และเป็นเป้าหมายหลอกในขณะเดียวกัน อเมริกาไม่เคยกินเด้งเดียว อเมริกาต้องการครอบครองอิรัค เพื่อเอาน้ำมัน และใช้เป็นสะพานเพื่อเข้าไปบุกซีเรียและอิหร่านอีกต่อหนึ่ง ขณะเดียวกัน ก็เป็นการตัดเส้นทางเลี้ยงกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ ของเลบานอน ที่อยู่ติดกับประตูหลังบ้านของอิสราเอล ที่ทั้งอิหร่านและซีเรียส่งเสียเลี้ยงดู เพื่ออิสราเอลจะได้ปลอดภัย เห็นความแสบ ซับซ้อนของอเมริกาไหมครับ แผนนี้ ถ้าสำเร็จ มันจะเป็นการทลายค่ายต่อต้านอเมริกาอย่างถาวร ได้ดูแลยิว และผ่ารัสเซียจากจีน เป็นการตัดตอน 2 ประเทศใหญ่ เตรียมก้าวไปครองโลก คิดแล้วน่าเคลิ้มใจ อเมริกา ยังฝันเฟื่องต่อไปอีกว่า เมื่อยึดอิรัค กำจัดซัดดัมแล้ว จะจัดให้อิรัคมีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้อิรัค เป็นมิตรที่ดีของอิสราเอล คอยช่วยเหลืออิสราเอล และช่วยด่าซีเรีย กับด่าอิหร่าน เป็นการปูพื้น เตรียมการให้อเมริกาบุก 2 ประเทศนั้นต่อ ระหว่างที่อ่านย่อหน้านี้ จะได้อารมณ์มาก ถ้านึกถึงหน้าคาวบอยบุซ ไปด้วยนะครับ จะได้ซึ้งถึงฝันเฟื่องของคาวบอย ว่ามัน เห่ย ขนาดไหน อเมริกา ไม่ได้เพียงประเมินตัวเองผิด อเมริกายังประเมินคู่ต่อสู้ของตัวผิดอีกด้วย การบุกอิรัค จึงกลายเป็นเรื่องหายนะของอเม ริกา และเป็นหายนะของอิรัคด้วย เพราะตามสูตรของอเมริกา เมื่อครอบครองไม่ได้ ก็ทำลายเสีย แล้วอิรัค ก็กลายเป็นรัฐล้มเหลว เช่นเดียวกับลิเบีย และอื่นๆ สำหรับอเมริกา ในการจะบุกซีเรีย อเมริกาต้องใช้สูตรสำเร็จ เอาปูนป้ายหน้า อัสซาดก่อนว่า ไอ้หมอนี่เป็นผู้นำที่เลว เผด็จการ ขี้โกง ไร้มนุษยธรรม ฯลฯ เหมือนอย่างที้ป้ายหน้า ซัดดัม กัดดาฟี ทำนองนั้น สูตรสำเร็จนี้ คนอ่านนิทานท่องได้ จำขึ้นใจกันแล้วทั้งนั้น แต่สำหรับซีเรีย สูตรสำเร็จแค่นั้นคงไม่พอ เพราะซีเรียก็แหลมคม และมีเพื่อน แล้วในปี ค.ศ.2005 จึงเกิดเรื่องการวางระเบิดคาร์บอม ใส่ขบวนรถของนายราฟิค ฮาริริ Rafiq Hariri อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน ข่าวบอกว่าเป็นฝีมือของกลุ่มเฮสบอลเลาะห์กองกำลังติดอาวุธของเลบานอน ที่อยู่คนละข้างกับกลุ่มของฮาริริ บังเอิญ ฮาริริ ดันเป็นคนที่ (มีคนสั่งให้) ซาอุ (จ่าย) สนับสนุนให้เป็นใหญ่ในเลบานอน เอาไว้เป็นหนาม อยู่กลางกลุ่มพวกอิหร่านและซีเรียในเลบานอน เรื่องมันจึงไม่ใช่การวางระเบิดระดับธรรมดา สื่อฟอกย้อม ลงข่าวว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบ เพราะตอนนั้นซีเรีย ดูแลด้านความมั่นคงให้แก่เลบานอน ตามสัญญา Taif Accord แม้จะดมกลิ่นระเบิดไม่ได้จากมือไหน แต่คาร์บอมรายการนี้ ก็ค่อนข้างชัดว่า น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนป้ายสีให้อัสซาด นอกจากนี้ หัวหน้าอาหรับสายสุนนี่ โดยเฉพาะสุนนี่ในเลบานอน ต่างออกมาประสานเสียงกันว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบในการลอบฆ่านี้ ผลสุดท้าย กองทัพซีเรียก็ต้องถอนกำลังออกไปจากเลบานอน และเลบานอนก็อยู่ในความดูแลของ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกองกำลังที่เรียกว่า “กองกำลังร่วม 14 มีนา” ที่ตั้งขึ้นทันที ที่ ฮาริริ ถูกฆ่าตาย และไม่ถูกกับกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ เลบานอน ก็เริ่มมีความวุ่นวาย หลังจากนั้น เสียงไม่เอาซีเรีย ไม่เอาอัสซาด ก็เริ่มระบาดดังขึ้นในเลบานอน สื่อในเลบานอน ตีข่าวด่าซีเรียทุกวัน กองกำลังร่วม 14 มีนา ก็แข็งกร้าวขึ้นทุกวัน และกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ปนกลิ่นแพะ ก็ปลิวว่อนในเลบานอน นี่คือจุดเริ่มต้นของการรวมกำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ที่มาจากสาระพัดพันธ์ุและสาระพัด เป้าหมาย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย มีกำหนดพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในเวลา 21.20 น. คืนนี้ (12 ธ.ค.) ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาที่ลากยาวเข้าสู่วันที่ 5
    .
    รายงานระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่าสามารถเข้าแทรกแซงเพื่อกอบกู้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศได้อีกครั้ง หลังจากที่เคยมีบทบาทเป็นคนกลางช่วยยุติการสู้รบในอดีต
    .
    ทรัมป์กล่าวในงานเลี้ยงของสภาคองเกรสว่า เขามองตนเองเป็นผู้สร้างสันติภาพ และเชื่อว่าการโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำไทยและกัมพูชาอีกไม่กี่รอบ จะสามารถนำสถานการณ์กลับเข้าสู่เส้นทางหยุดยิงได้
    .
    รอยเตอร์ระบุด้วยว่า การปะทะกันตลอดแนวชายแดนกว่า 817 กิโลเมตรในรอบนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปี มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บกว่า 200 คน และประชาชนจำนวนมากต้องอพยพหนีการสู้รบ
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119408
    .
    #News1live #News1 #ทรัมป์ #อนุทิน #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #การทูต #ความมั่นคง #การเมืองระหว่างประเทศ
    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย มีกำหนดพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในเวลา 21.20 น. คืนนี้ (12 ธ.ค.) ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาที่ลากยาวเข้าสู่วันที่ 5 . รายงานระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่าสามารถเข้าแทรกแซงเพื่อกอบกู้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศได้อีกครั้ง หลังจากที่เคยมีบทบาทเป็นคนกลางช่วยยุติการสู้รบในอดีต . ทรัมป์กล่าวในงานเลี้ยงของสภาคองเกรสว่า เขามองตนเองเป็นผู้สร้างสันติภาพ และเชื่อว่าการโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำไทยและกัมพูชาอีกไม่กี่รอบ จะสามารถนำสถานการณ์กลับเข้าสู่เส้นทางหยุดยิงได้ . รอยเตอร์ระบุด้วยว่า การปะทะกันตลอดแนวชายแดนกว่า 817 กิโลเมตรในรอบนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปี มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บกว่า 200 คน และประชาชนจำนวนมากต้องอพยพหนีการสู้รบ . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119408 . #News1live #News1 #ทรัมป์ #อนุทิน #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #การทูต #ความมั่นคง #การเมืองระหว่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคเพื่อไทยแถลงวิจารณ์การยุบสภา ชี้เป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและสะท้อนความล้มเหลวในการบริหารประเทศ พร้อมประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง โดย “จุลพันธ์” ระบุวันที่ 16 ธ.ค. จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน พร้อมนโยบายชุดแรก ภายใต้แคมเปญ “ยกเครื่องเพื่อไทย เพื่อไทยทำได้”
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119468
    .
    #News1live #News1 #เพื่อไทย #ยุบสภา #เลือกตั้งใหม่ #แคนดิเดตนายก #การเมืองไทย
    พรรคเพื่อไทยแถลงวิจารณ์การยุบสภา ชี้เป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและสะท้อนความล้มเหลวในการบริหารประเทศ พร้อมประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง โดย “จุลพันธ์” ระบุวันที่ 16 ธ.ค. จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน พร้อมนโยบายชุดแรก ภายใต้แคมเปญ “ยกเครื่องเพื่อไทย เพื่อไทยทำได้” . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119468 . #News1live #News1 #เพื่อไทย #ยุบสภา #เลือกตั้งใหม่ #แคนดิเดตนายก #การเมืองไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts