• Intel ได้ประกาศยกเลิกการเปิดตัว GPU Falcon Shores สำหรับงาน AI และ HPC โดยจะใช้เป็นชิปทดสอบภายในเพื่อพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับรุ่นต่อไปที่ชื่อว่า Jaguar Shores แทน การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาด้านซอฟต์แวร์ที่ทำให้ Gaudi 3 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ AI ของ Intel มีการใช้งานจำกัด

    Michelle Johnston Holthaus รักษาการ CEO ของ Intel กล่าวว่าการตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากความคิดเห็นของอุตสาหกรรม และ Falcon Shores จะถูกใช้เป็นชิปทดสอบภายในเพื่อพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับศูนย์ข้อมูล AI โดยใช้ Jaguar Shores แทน

    Falcon Shores ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิภาพต่อวัตต์เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ AI และ HPC ของ Intel แต่ Intel ตัดสินใจไม่เปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้เชิงพาณิชย์เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท

    Falcon Shores เป็นการออกแบบแบบ multi-chiplet ที่มี Xe-HPC GPU chiplets สำหรับงาน AI และ HPC ที่มีการประมวลผลแบบขนานสูง การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Intel ในการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับงาน AI และ HPC ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-cancels-falcon-shores-gpu-for-ai-workloads-jaguar-shores-to-be-successor
    Intel ได้ประกาศยกเลิกการเปิดตัว GPU Falcon Shores สำหรับงาน AI และ HPC โดยจะใช้เป็นชิปทดสอบภายในเพื่อพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับรุ่นต่อไปที่ชื่อว่า Jaguar Shores แทน การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาด้านซอฟต์แวร์ที่ทำให้ Gaudi 3 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ AI ของ Intel มีการใช้งานจำกัด Michelle Johnston Holthaus รักษาการ CEO ของ Intel กล่าวว่าการตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากความคิดเห็นของอุตสาหกรรม และ Falcon Shores จะถูกใช้เป็นชิปทดสอบภายในเพื่อพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับศูนย์ข้อมูล AI โดยใช้ Jaguar Shores แทน Falcon Shores ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิภาพต่อวัตต์เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ AI และ HPC ของ Intel แต่ Intel ตัดสินใจไม่เปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้เชิงพาณิชย์เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท Falcon Shores เป็นการออกแบบแบบ multi-chiplet ที่มี Xe-HPC GPU chiplets สำหรับงาน AI และ HPC ที่มีการประมวลผลแบบขนานสูง การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Intel ในการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับงาน AI และ HPC ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-cancels-falcon-shores-gpu-for-ai-workloads-jaguar-shores-to-be-successor
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานลิขสิทธิ์สหรัฐฯ (US Copyright Office) ประกาศว่าเนื้อหาที่สร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยไม่มีการแทรกแซงจากมนุษย์จะไม่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์เลย การตัดสินใจนี้มีผลกระทบต่อภาพยนตร์และงานสร้างสรรค์อื่นๆ ที่สร้างขึ้นโดยใช้ AI ยกเว้นในกรณีที่เครื่องมือ AI ถูกใช้เพื่อพัฒนางานที่มีอยู่ก่อนแล้ว

    สำนักงานลิขสิทธิ์สหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายงานฉบับที่สองเกี่ยวกับลิขสิทธิ์และปัญญาประดิษฐ์ โดยเน้นที่ระดับการมีส่วนร่วมของมนุษย์ในงานที่สร้างโดย AI ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการตัดสินว่าลิขสิทธิ์สามารถนำไปใช้กับงานเหล่านั้นได้หรือไม่ รายงานระบุว่าการใช้ AI เพื่อช่วยในกระบวนการสร้างสรรค์ไม่จำกัดการคุ้มครองลิขสิทธิ์ แต่การใช้ AI เพื่อสร้างงานที่มีการตัดสินใจเชิงสร้างสรรค์ต้องการการวิเคราะห์เพิ่มเติม

    นอกจากนี้ รายงานยังกล่าวถึงความคิดเห็นจากสมาคมภาพยนตร์และองค์กรการค้าอื่นๆ เกี่ยวกับการใช้ระบบ AI ในการปรับอายุของนักแสดง การลบวัตถุออกจากฉาก และอื่นๆ การใช้ AI ในลักษณะนี้ไม่จำกัดการคุ้มครองลิขสิทธิ์ แต่การใช้ AI เพื่อสร้างงานที่มีการตัดสินใจเชิงสร้างสรรค์ต้องการการวิเคราะห์เพิ่มเติม

    การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ให้ทันสมัยและเหมาะสมกับยุคของปัญญาประดิษฐ์ โดยมีการเรียกร้องให้มีกฎหมายใหม่เพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดจากการใช้ AI ในการสร้างเนื้อหา

    สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ รายงานฉบับแรกที่เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคมได้เรียกร้องให้มีกฎหมายใหม่เพื่อจัดการกับปัญหา deepfake และรายงานฉบับที่สามที่จะเผยแพร่ในอนาคตจะเน้นที่การฝึกอบรมโมเดล AI และการใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ในการฝึกอบรมโมเดล AI โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์

    การบันทึกขั้นตอนการทำงานของคุณกับ AI เป็นสิ่งที่สำคัญและมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการยืนยันว่ามีการมีส่วนร่วมของมนุษย์ในกระบวนการสร้างเนื้อหา

    https://www.techspot.com/news/106562-us-copyright-office-rules-out-copyright-ai-created.html
    สำนักงานลิขสิทธิ์สหรัฐฯ (US Copyright Office) ประกาศว่าเนื้อหาที่สร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยไม่มีการแทรกแซงจากมนุษย์จะไม่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์เลย การตัดสินใจนี้มีผลกระทบต่อภาพยนตร์และงานสร้างสรรค์อื่นๆ ที่สร้างขึ้นโดยใช้ AI ยกเว้นในกรณีที่เครื่องมือ AI ถูกใช้เพื่อพัฒนางานที่มีอยู่ก่อนแล้ว สำนักงานลิขสิทธิ์สหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายงานฉบับที่สองเกี่ยวกับลิขสิทธิ์และปัญญาประดิษฐ์ โดยเน้นที่ระดับการมีส่วนร่วมของมนุษย์ในงานที่สร้างโดย AI ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการตัดสินว่าลิขสิทธิ์สามารถนำไปใช้กับงานเหล่านั้นได้หรือไม่ รายงานระบุว่าการใช้ AI เพื่อช่วยในกระบวนการสร้างสรรค์ไม่จำกัดการคุ้มครองลิขสิทธิ์ แต่การใช้ AI เพื่อสร้างงานที่มีการตัดสินใจเชิงสร้างสรรค์ต้องการการวิเคราะห์เพิ่มเติม นอกจากนี้ รายงานยังกล่าวถึงความคิดเห็นจากสมาคมภาพยนตร์และองค์กรการค้าอื่นๆ เกี่ยวกับการใช้ระบบ AI ในการปรับอายุของนักแสดง การลบวัตถุออกจากฉาก และอื่นๆ การใช้ AI ในลักษณะนี้ไม่จำกัดการคุ้มครองลิขสิทธิ์ แต่การใช้ AI เพื่อสร้างงานที่มีการตัดสินใจเชิงสร้างสรรค์ต้องการการวิเคราะห์เพิ่มเติม การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ให้ทันสมัยและเหมาะสมกับยุคของปัญญาประดิษฐ์ โดยมีการเรียกร้องให้มีกฎหมายใหม่เพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดจากการใช้ AI ในการสร้างเนื้อหา สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ รายงานฉบับแรกที่เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคมได้เรียกร้องให้มีกฎหมายใหม่เพื่อจัดการกับปัญหา deepfake และรายงานฉบับที่สามที่จะเผยแพร่ในอนาคตจะเน้นที่การฝึกอบรมโมเดล AI และการใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ในการฝึกอบรมโมเดล AI โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ การบันทึกขั้นตอนการทำงานของคุณกับ AI เป็นสิ่งที่สำคัญและมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการยืนยันว่ามีการมีส่วนร่วมของมนุษย์ในกระบวนการสร้างเนื้อหา https://www.techspot.com/news/106562-us-copyright-office-rules-out-copyright-ai-created.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US Copyright Office rules out copyright for AI created content without human input
    Movies and other complex works created through AI means cannot be copyrighted, except when these AI tools are used to further develop pre-existing content. The US Copyright...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI มาแรงอย่างปฏิเสธไม่ได้ Goldman Sachs ได้ว่าจ้าง Daniel Marcu จาก Amazon.comมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก เพื่อช่วยพัฒนาและปรับปรุงแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท ก่อนหน้านี้ Marcu เคยดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายบริการเว็บและความรู้ใน Alexa Information และ Amazon Artificial General Intelligence

    การว่าจ้าง Marcu เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Goldman Sachs ในการใช้โซลูชันปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงเทคโนโลยีของบริษัท นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังได้เปิดตัวผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่า GS AI assistant ให้กับพนักงานประมาณ 10,000 คน โดยมีเป้าหมายที่จะให้พนักงานทุกคนในบริษัทใช้ในปีนี้

    Marcu มีประสบการณ์มากกว่าสามทศวรรษในองค์กรวิจัยและพัฒนา รวมถึงตำแหน่งผู้นำในสถาบันการศึกษา สตาร์ทอัพ และบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติขนาดใหญ่ เขายังเคยทำงานที่ Information Sciences Institute และ University of Southern California กว่า 20 ปี

    การว่าจ้าง Marcu แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Goldman Sachs ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดการเงิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/goldman-sachs-hires-amazon-exec-in-senior-ai-engineering-role
    AI มาแรงอย่างปฏิเสธไม่ได้ Goldman Sachs ได้ว่าจ้าง Daniel Marcu จาก Amazon.comมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก เพื่อช่วยพัฒนาและปรับปรุงแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท ก่อนหน้านี้ Marcu เคยดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายบริการเว็บและความรู้ใน Alexa Information และ Amazon Artificial General Intelligence การว่าจ้าง Marcu เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Goldman Sachs ในการใช้โซลูชันปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงเทคโนโลยีของบริษัท นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังได้เปิดตัวผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่า GS AI assistant ให้กับพนักงานประมาณ 10,000 คน โดยมีเป้าหมายที่จะให้พนักงานทุกคนในบริษัทใช้ในปีนี้ Marcu มีประสบการณ์มากกว่าสามทศวรรษในองค์กรวิจัยและพัฒนา รวมถึงตำแหน่งผู้นำในสถาบันการศึกษา สตาร์ทอัพ และบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติขนาดใหญ่ เขายังเคยทำงานที่ Information Sciences Institute และ University of Southern California กว่า 20 ปี การว่าจ้าง Marcu แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Goldman Sachs ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดการเงิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/goldman-sachs-hires-amazon-exec-in-senior-ai-engineering-role
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Goldman Sachs hires Amazon exec in senior AI engineering role
    NEW YORK (Reuters) - Goldman Sachs has hired Daniel Marcu from Amazon.com as its global head of artificial intelligence engineering and science to help develop and refine artificial intelligence platforms and products, according to a memo seen by Reuters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้พิพากษาสั่งระงับคำสั่งทรัมป์ในการพักการให้เงินกู้ เงินให้เปล่า และความช่วยเหลือทางการเงินอื่นๆ ของรัฐบาลกลางเป็นการชั่วคราว ตามการฟ้องร้องของกลุ่มที่เป็นตัวแทนองค์กรไม่หวังผลกำไร บุคลากรทางการแพทย์ และธุรกิจขนาดเล็กที่ระบุว่า คำสั่งของทำเนียบขาวอาจกระทบต่อโครงการที่ให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันหลายสิบล้านคน
    .
    ลอเรน อาลีข่าน ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ สั่งให้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระงับการขัดขวางการให้เงินช่วยเหลือโครงการต่างๆ จนถึงวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งจะมีการให้การในศาลที่วอชิงตัน
    .
    คำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ในส่วนนี้เป็นขั้นตอนล่าสุดของความพยายามยกเครื่องรัฐบาลกลาง โดยก่อนหน้านี้เขาสั่งระงับการให้ความช่วยเหลือต่างชาติ ระงับการจ้างงาน และยกเลิกโครงการความหลากหลายในหน่วยงานรัฐบาลหลายสิบแห่ง
    .
    พรรคเดโมแครตโจมตีคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือว่า เป็นการโจมตีอำนาจของคองเกรสในการกำกับดูแลการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งทำให้การจ่ายเงินให้แพทย์และครูที่ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนหยุดชะงัก ทว่า รีพับลิกันอ้างว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียงของทรัมป์ในการควบคุมงบประมาณที่มากผิดปกติของรัฐบาล
    .
    นอกจากนั้น คณะบริหารของทรัมป์ยังยืนยันว่า โปรแกรมที่มอบสิทธิพิเศษที่สำคัญให้แก่ประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบ
    .
    ทว่า วุฒิสมาชิกรอน ไวเดน จากพรรคเดโมแครต เผยว่า ได้รับการยืนยันจากแพทย์จากทั้ง 50 รัฐว่า ไม่ได้รับเงินจากโครงการเมดิแคร์ที่ให้การประกันสุขภาพชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำ 70 ล้านคน
    .
    แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า รัฐบาลกลางรับรู้ว่า พอร์ทัลเมดิเคดเกิดการขัดข้องและจะกลับมาออนไลน์ได้ตามปกติเร็วๆ นี้ พร้อมยืนยันว่า การจ่ายเงินไม่ได้รับผลกระทบ
    .
    คำสั่งดังกล่าวที่ปรากฏอยู่ในบันทึกของสำนักงานงบประมาณทำเนียบขาวระบุให้ระงับเงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลกลางนับจากเวลา 17.00 น. วันอังคาร (28 ม.ค.) โดยครอบคลุมถึงเงินช่วยเหลือต่างชาติ
    .
    และองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) พร้อมสั่งการให้หน่วยงาน 55 แห่งตรวจสอบโครงการเงินให้เปล่ากว่า 2,600 โครงการ
    .
    ทำเนียบขาวยืนยันว่า การระงับเงินช่วยเหลือจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินของโครงการสวัสดิการสังคม หรือเมดิแคร์ที่ให้แก่ผู้สูงวัยหรือความช่วยเหลือโดยตรงแก่ประชาชน เช่น ความช่วยเหลือด้านอาหารและโครงการสวัสดิการสำหรับผู้ยากไร้
    .
    ทั้งนี้ เงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลมีความสำคัญต่อทุกแง่มุมชีวิตของคนอเมริกันอย่างแท้จริง โดยเงินนับล้านล้านดอลลาร์ถูกอัดฉีดให้โครงการด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และการต่อสู้กับความยากจน ให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย บรรเทาทุกข์ในเหตุการณ์ภัยพิบัติ สนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานและอื่นๆ อีกมากมาย
    .
    ในบันทึกฉบับที่สอง ทำเนียบขาวระบุว่า เงินสนับสนุนสำหรับโครงการเมดิเคด เกษตรกร ธุรกิจขนาดเล็ก ความช่วยเหลือสำหรับผู้จ่ายค่าเช่า และโครงการเฮดสตาร์ตสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีการหยุดชะงัก
    .
    ทว่า วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟีย์ จากพรรคเดโมแครต ระบุว่า ระบบเบิกจ่ายของโครงการเฮดสตาร์ตในรัฐคอนเน็กติกัตของตนถูกปิด ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ได้
    .
    ขณะเดียวกัน ซารา แรตเนอร์ จากบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ โนมิ เฮลธ์ สำทับว่า หากรัฐบาลกลางระงับเงินช่วยเหลือแก่ผู้รับเหมาสัญญาเมดิเคด อาจทำให้บริษัทเหล่านั้นต้องปิดกิจการตามๆ กัน
    .
    บันทึกของทำเนียบขาวดูเหมือนไม่มีข้อยกเว้นในการตัดความช่วยเหลือสำหรับภัยพิบัติให้แก่พื้นที่อย่างลอสแองเจลิสและด้านตะวันตกของรัฐนอร์ธแคโรไลนาที่เสียหายหนักจากภัยธรรมชาติ แม้ทรัมป์ให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนระหว่างเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยทั้งสองแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม
    .
    ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพยายามทำความเข้าใจว่า จะดำเนินการตามคำสั่งใหม่ของคณะบริหารอย่างไร
    .
    พรรครีพับลิกันของทรัมป์พยายามผลักดันการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลมาโดยตลอด แม้ทรัมป์ให้สัญญาว่า จะไม่แตะต้องโครงการสวัสดิการสังคมและเมดิแคร์ที่เป็นองค์ประกอบเกือบ 1 ใน 3 ของงบประมาณก็ตาม
    .
    ทว่า เดโมแครตวิจารณ์ว่า การระงับการใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอันตราย เนื่องจากครอบครัวอเมริกันชนคือผู้ที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด
    .
    อนึ่ง รัฐธรรมนูญของอเมริกาให้อำนาจคองเกรสในการควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาล ทว่า ทรัมป์ประกาศระหว่างหาเสียงว่า เขาเชื่อว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจในการระงับการใช้จ่ายในโครงการที่ตนเองไม่ชอบ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009485
    ..............
    Sondhi X
    ผู้พิพากษาสั่งระงับคำสั่งทรัมป์ในการพักการให้เงินกู้ เงินให้เปล่า และความช่วยเหลือทางการเงินอื่นๆ ของรัฐบาลกลางเป็นการชั่วคราว ตามการฟ้องร้องของกลุ่มที่เป็นตัวแทนองค์กรไม่หวังผลกำไร บุคลากรทางการแพทย์ และธุรกิจขนาดเล็กที่ระบุว่า คำสั่งของทำเนียบขาวอาจกระทบต่อโครงการที่ให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันหลายสิบล้านคน . ลอเรน อาลีข่าน ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ สั่งให้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระงับการขัดขวางการให้เงินช่วยเหลือโครงการต่างๆ จนถึงวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งจะมีการให้การในศาลที่วอชิงตัน . คำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ในส่วนนี้เป็นขั้นตอนล่าสุดของความพยายามยกเครื่องรัฐบาลกลาง โดยก่อนหน้านี้เขาสั่งระงับการให้ความช่วยเหลือต่างชาติ ระงับการจ้างงาน และยกเลิกโครงการความหลากหลายในหน่วยงานรัฐบาลหลายสิบแห่ง . พรรคเดโมแครตโจมตีคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือว่า เป็นการโจมตีอำนาจของคองเกรสในการกำกับดูแลการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งทำให้การจ่ายเงินให้แพทย์และครูที่ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนหยุดชะงัก ทว่า รีพับลิกันอ้างว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียงของทรัมป์ในการควบคุมงบประมาณที่มากผิดปกติของรัฐบาล . นอกจากนั้น คณะบริหารของทรัมป์ยังยืนยันว่า โปรแกรมที่มอบสิทธิพิเศษที่สำคัญให้แก่ประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบ . ทว่า วุฒิสมาชิกรอน ไวเดน จากพรรคเดโมแครต เผยว่า ได้รับการยืนยันจากแพทย์จากทั้ง 50 รัฐว่า ไม่ได้รับเงินจากโครงการเมดิแคร์ที่ให้การประกันสุขภาพชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำ 70 ล้านคน . แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า รัฐบาลกลางรับรู้ว่า พอร์ทัลเมดิเคดเกิดการขัดข้องและจะกลับมาออนไลน์ได้ตามปกติเร็วๆ นี้ พร้อมยืนยันว่า การจ่ายเงินไม่ได้รับผลกระทบ . คำสั่งดังกล่าวที่ปรากฏอยู่ในบันทึกของสำนักงานงบประมาณทำเนียบขาวระบุให้ระงับเงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลกลางนับจากเวลา 17.00 น. วันอังคาร (28 ม.ค.) โดยครอบคลุมถึงเงินช่วยเหลือต่างชาติ . และองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) พร้อมสั่งการให้หน่วยงาน 55 แห่งตรวจสอบโครงการเงินให้เปล่ากว่า 2,600 โครงการ . ทำเนียบขาวยืนยันว่า การระงับเงินช่วยเหลือจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินของโครงการสวัสดิการสังคม หรือเมดิแคร์ที่ให้แก่ผู้สูงวัยหรือความช่วยเหลือโดยตรงแก่ประชาชน เช่น ความช่วยเหลือด้านอาหารและโครงการสวัสดิการสำหรับผู้ยากไร้ . ทั้งนี้ เงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลมีความสำคัญต่อทุกแง่มุมชีวิตของคนอเมริกันอย่างแท้จริง โดยเงินนับล้านล้านดอลลาร์ถูกอัดฉีดให้โครงการด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และการต่อสู้กับความยากจน ให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย บรรเทาทุกข์ในเหตุการณ์ภัยพิบัติ สนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานและอื่นๆ อีกมากมาย . ในบันทึกฉบับที่สอง ทำเนียบขาวระบุว่า เงินสนับสนุนสำหรับโครงการเมดิเคด เกษตรกร ธุรกิจขนาดเล็ก ความช่วยเหลือสำหรับผู้จ่ายค่าเช่า และโครงการเฮดสตาร์ตสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีการหยุดชะงัก . ทว่า วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟีย์ จากพรรคเดโมแครต ระบุว่า ระบบเบิกจ่ายของโครงการเฮดสตาร์ตในรัฐคอนเน็กติกัตของตนถูกปิด ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ได้ . ขณะเดียวกัน ซารา แรตเนอร์ จากบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ โนมิ เฮลธ์ สำทับว่า หากรัฐบาลกลางระงับเงินช่วยเหลือแก่ผู้รับเหมาสัญญาเมดิเคด อาจทำให้บริษัทเหล่านั้นต้องปิดกิจการตามๆ กัน . บันทึกของทำเนียบขาวดูเหมือนไม่มีข้อยกเว้นในการตัดความช่วยเหลือสำหรับภัยพิบัติให้แก่พื้นที่อย่างลอสแองเจลิสและด้านตะวันตกของรัฐนอร์ธแคโรไลนาที่เสียหายหนักจากภัยธรรมชาติ แม้ทรัมป์ให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนระหว่างเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยทั้งสองแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม . ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพยายามทำความเข้าใจว่า จะดำเนินการตามคำสั่งใหม่ของคณะบริหารอย่างไร . พรรครีพับลิกันของทรัมป์พยายามผลักดันการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลมาโดยตลอด แม้ทรัมป์ให้สัญญาว่า จะไม่แตะต้องโครงการสวัสดิการสังคมและเมดิแคร์ที่เป็นองค์ประกอบเกือบ 1 ใน 3 ของงบประมาณก็ตาม . ทว่า เดโมแครตวิจารณ์ว่า การระงับการใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอันตราย เนื่องจากครอบครัวอเมริกันชนคือผู้ที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด . อนึ่ง รัฐธรรมนูญของอเมริกาให้อำนาจคองเกรสในการควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาล ทว่า ทรัมป์ประกาศระหว่างหาเสียงว่า เขาเชื่อว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจในการระงับการใช้จ่ายในโครงการที่ตนเองไม่ชอบ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009485 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 777 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายเดชา เผยศาลสืบพยานจำเลยคดีแตงโม 2 ปากสุดท้าย พิจารณา 2 เดือนครึ่งก่อนมีคำพิพากษา พร้อมยื่นคำร้องไต่สวน"ปานเทพ-อัจฉริยะ-หมอธวัชชัย" จำลองเหตุการณ์ตกเรือละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ส่วนทนาย แซน วิศาพัช ยื่นไต่สวนนักอาชญวิทยาดังให้สัมภาษณ์
    .
    วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวที่ตกเรือสปีดโบ้ทเสียชีวิต เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี ในนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งวันนี้เป็นการสืบพยานจำเลย นัดสุดท้ายรวม 2 ปาก ประกอบด้วย น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม กับ นายภีม ธรรมศรี หรือเอ็ม โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มี น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน และนางภนิดา เดินทางมาร่วมฟังการพิจารณาคดีเมื่อเวลา 9.00 น.
    .
    นายเดชา กล่าวว่า การสืบพยานจำเลยในวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากจำเลยจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือให้ศาลรับฟัง ซึ่งเป็นไปตามข้อเท็จจริง ส่วนจะสืบพยานแล้วเสร็จในวันนี้เลยหรือไม่ ศาลจะเป็นผู้พิจารณา ขั้นตอนหลังจากนี้ ศาลจะใช้เวลาพิจารณาคดีอีกประมาณ 2 เดือนครึ่ง ก่อนที่จะมีคำพิพากษา และเท่าที่ได้คุยกับนายพรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า วันนี้จะมีการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน
    .
    สำนวนแรก เป็นเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา
    .
    ส่วนอีกสำนวน เป็นกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าว นายพรศักดิ์ ทนายความแซน วิศาพัช จะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
    .
    ส่วนความพยายามรื้อคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ของนายอัจฉริยะและพวก นายเดชาระบุว่า ที่ผ่านมามีการพูดคุยกับนายอัจฉริยะ เบื้องต้นยืนยันว่าการรื้อคดีเหตุแห่งการเสียชีวิต น่าจะมีความยุ่งยากซับซ้อนในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นในชั้นต้นและอุทธรณ์ แต่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีความบกพร่อง หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการยื่นเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้ว
    .
    ส่วนกรณีที่ทนายโจทก์ ทนายจำเลยในคดีเดียวกัน หารือกันในข้อกฎหมาย แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับข้อกฎหมาย สามารถทำได้ เพราะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนคดี ส่วนการตัดพยานบางปากออกจากสำนวน เป็นความประสงค์ของนางพนิดา แม่ของแตงโม เนื่องจากมองว่ามีพยานที่เป็นหมอมาเบิกความจำนวนหลายปากแล้ว ทำให้เสียเวลาในการสืบพยาน
    .
    นายเดชา ยังกล่าวว่า กรณีแม่ของแตงโมก็เห็นด้วย ถ้าหากมีพยานหลักฐานใหม่ ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับฝั่งของนายอัจฉริยะ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009329
    .........
    Sondhi X
    ทนายเดชา เผยศาลสืบพยานจำเลยคดีแตงโม 2 ปากสุดท้าย พิจารณา 2 เดือนครึ่งก่อนมีคำพิพากษา พร้อมยื่นคำร้องไต่สวน"ปานเทพ-อัจฉริยะ-หมอธวัชชัย" จำลองเหตุการณ์ตกเรือละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ส่วนทนาย แซน วิศาพัช ยื่นไต่สวนนักอาชญวิทยาดังให้สัมภาษณ์ . วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวที่ตกเรือสปีดโบ้ทเสียชีวิต เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี ในนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งวันนี้เป็นการสืบพยานจำเลย นัดสุดท้ายรวม 2 ปาก ประกอบด้วย น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม กับ นายภีม ธรรมศรี หรือเอ็ม โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มี น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน และนางภนิดา เดินทางมาร่วมฟังการพิจารณาคดีเมื่อเวลา 9.00 น. . นายเดชา กล่าวว่า การสืบพยานจำเลยในวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากจำเลยจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือให้ศาลรับฟัง ซึ่งเป็นไปตามข้อเท็จจริง ส่วนจะสืบพยานแล้วเสร็จในวันนี้เลยหรือไม่ ศาลจะเป็นผู้พิจารณา ขั้นตอนหลังจากนี้ ศาลจะใช้เวลาพิจารณาคดีอีกประมาณ 2 เดือนครึ่ง ก่อนที่จะมีคำพิพากษา และเท่าที่ได้คุยกับนายพรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า วันนี้จะมีการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน . สำนวนแรก เป็นเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา . ส่วนอีกสำนวน เป็นกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าว นายพรศักดิ์ ทนายความแซน วิศาพัช จะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ . ส่วนความพยายามรื้อคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ของนายอัจฉริยะและพวก นายเดชาระบุว่า ที่ผ่านมามีการพูดคุยกับนายอัจฉริยะ เบื้องต้นยืนยันว่าการรื้อคดีเหตุแห่งการเสียชีวิต น่าจะมีความยุ่งยากซับซ้อนในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นในชั้นต้นและอุทธรณ์ แต่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีความบกพร่อง หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการยื่นเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้ว . ส่วนกรณีที่ทนายโจทก์ ทนายจำเลยในคดีเดียวกัน หารือกันในข้อกฎหมาย แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับข้อกฎหมาย สามารถทำได้ เพราะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนคดี ส่วนการตัดพยานบางปากออกจากสำนวน เป็นความประสงค์ของนางพนิดา แม่ของแตงโม เนื่องจากมองว่ามีพยานที่เป็นหมอมาเบิกความจำนวนหลายปากแล้ว ทำให้เสียเวลาในการสืบพยาน . นายเดชา ยังกล่าวว่า กรณีแม่ของแตงโมก็เห็นด้วย ถ้าหากมีพยานหลักฐานใหม่ ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับฝั่งของนายอัจฉริยะ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009329 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 950 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นทางการ!
    ทรัมป์เชิญเนทันยาฮูไปทำเนียบขาวในฐานะผู้นำต่างประเทศคนแรก


    "ผมขอเชิญคุณไปทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ผมหวังว่าจะได้หารือถึงวิธีที่เราจะนำสันติภาพมาสู่อิสราเอลและเพื่อนบ้าน และความพยายามในการต่อต้านศัตรูร่วมกันของเรา

    ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะต้อนรับคุณในฐานะผู้นำต่างประเทศคนแรกของผมในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง"
    เป็นทางการ! ทรัมป์เชิญเนทันยาฮูไปทำเนียบขาวในฐานะผู้นำต่างประเทศคนแรก "ผมขอเชิญคุณไปทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ผมหวังว่าจะได้หารือถึงวิธีที่เราจะนำสันติภาพมาสู่อิสราเอลและเพื่อนบ้าน และความพยายามในการต่อต้านศัตรูร่วมกันของเรา ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะต้อนรับคุณในฐานะผู้นำต่างประเทศคนแรกของผมในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง"
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • "บลิงเคนพยายามจุดชนวนสงครามระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย"
    ทักเกอร์ คาร์ลสัน นักข่าวชาวอเมริกัน กล่าวระหว่างการสัมภาษณ์กับแมตต์ ไทบี

    “ผมรู้ว่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา บลิงเคนทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อเร่งให้เกิดสงครามระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย และความพยายามนี้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน”

    "บลิงเคนเป็นบุคคลที่ชั่วร้ายมาก และโง่เขลาอย่างเห็นได้ชัด ร่องรอยของเขามีอยู่ในทุกเหตุการณ์"

    คาร์ลสันยังกล่าวอีกว่า โดยพฤตินัยแล้ว บลิงเคนคือผู้นำฝ่ายบริหารของไบเดนอย่างแท้จริง เขามีบทบาทอย่างสูงในฐานะตำแหน่งตัวแทนของไบเดนซึ่งแทบจะไม่เห็นเขาในตำแหน่งประธานาธิบดีเลยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

    ทักเกอร์ คาร์ลสัน ยังกล่าวอีกว่าความพยายามของแอนโธนี บลิงเคน อาจถึงขั้นวางแผนลอบสังหารวลาดิมีร์ ปูติน เพื่อเร่งให้เกิดสงครามกับรัสเซีย

    แม้ว่าคาร์ลสันจะไม่มีหลักฐานมาสนับสนุนคำพูดของเขา แต่เราทุกคนทราบดีว่า นี่คือวิธีที่ทำเนียบขาวมักจะใช้วางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ โดยใช้ความโกลาหลที่เกิดขึ้นเป็นฉากบังหน้า

    เขายังกล่าวอีกว่าวอชิงตันอยู่เบื้องหลังการโจมตีท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม ซึ่งเรื่องนี้คนทั้งโลกทราบกันดี มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เชื่อว่ารัสเซียคือตัวการ!
    "บลิงเคนพยายามจุดชนวนสงครามระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย" ทักเกอร์ คาร์ลสัน นักข่าวชาวอเมริกัน กล่าวระหว่างการสัมภาษณ์กับแมตต์ ไทบี “ผมรู้ว่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา บลิงเคนทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อเร่งให้เกิดสงครามระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย และความพยายามนี้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน” "บลิงเคนเป็นบุคคลที่ชั่วร้ายมาก และโง่เขลาอย่างเห็นได้ชัด ร่องรอยของเขามีอยู่ในทุกเหตุการณ์" คาร์ลสันยังกล่าวอีกว่า โดยพฤตินัยแล้ว บลิงเคนคือผู้นำฝ่ายบริหารของไบเดนอย่างแท้จริง เขามีบทบาทอย่างสูงในฐานะตำแหน่งตัวแทนของไบเดนซึ่งแทบจะไม่เห็นเขาในตำแหน่งประธานาธิบดีเลยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทักเกอร์ คาร์ลสัน ยังกล่าวอีกว่าความพยายามของแอนโธนี บลิงเคน อาจถึงขั้นวางแผนลอบสังหารวลาดิมีร์ ปูติน เพื่อเร่งให้เกิดสงครามกับรัสเซีย แม้ว่าคาร์ลสันจะไม่มีหลักฐานมาสนับสนุนคำพูดของเขา แต่เราทุกคนทราบดีว่า นี่คือวิธีที่ทำเนียบขาวมักจะใช้วางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ โดยใช้ความโกลาหลที่เกิดขึ้นเป็นฉากบังหน้า เขายังกล่าวอีกว่าวอชิงตันอยู่เบื้องหลังการโจมตีท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม ซึ่งเรื่องนี้คนทั้งโลกทราบกันดี มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เชื่อว่ารัสเซียคือตัวการ!
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • “ฉีเคอะ” ประกาศ “ก๊วยเจ๋ง” ต้อง “เซียวจ้าน” คนเดียวเท่านั้น !
    ​​
    หลังจากประกาศงานการสร้าง ที่มีแม่ทัพคือ "ฉีเคอะ" ที่นั่งหัวโต๊ะรับหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้กำกับระดับตำนานแห่งภาพยนตร์จีน ที่เลื่องชื่อในเรื่องความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างสรรค์ที่ "อุทิศจิตวิญญาณ" แม้จะอายุ 75 แล้ว เขายังคงมีพลังล้นเหลือและมาตรฐานที่สูง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบฉากหรือกระบวนท่าต่อสู้ เขาก็ลงมือทำเองทั้งหมด ขัดเกลาทั้งวันทั้งคืน เพียงเพื่อสร้างภาพยนตร์ "มังกรหยก" ให้เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่สมการรอคอย และสิ่งสำคัญที่สุด "ฉีเคอะ" สตีเว่น สปิลเบิร์ก แห่งเมืองจีน ฟันธงก๊วยเจ๋งของเขาต้องเป็น "เซียวจ้าน" เท่านั้น
    ​​
    "เซียวจ้าน" ซุปเปอร์สตาร์ดาราหนุ่มผู้ที่มาพร้อมกับวลีเด็ดติดปาก "ขออีกทีครับ!" ความมุ่งมั่น ความมีวินัย และความใส่ใจในทุกรายละเอียด เซียวจ้านได้พิสูจน์ให้ฉีเคอะเห็นมาตลอดว่าเขาไม่คิดที่จะหยุดอยู่กับที่ เขาพร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า! และความพยายามอย่างไม่ย่อท้อนี้เองคือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจมหาชนของวงการบันเทิงจีน!

    คำกล่าวของฉีเคอะที่ว่า "โอกาสไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นให้ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องไขว่คว้ามาเอง" ได้รับการพิสูจน์แล้วโดยเซียวจ้าน ! กับบทบาท "ก๊วยเจ๋ง" จึงเหมาะสมกับเขาอย่างไม่มีข้อกังขา ! เขาได้พิชิตใจฉีเคอะ พิชิตใจทีมงาน และกำลังจะเข้าไปพิชิตใจผู้ชมทั่วโลก !

    จากบทประพันธ์สุดลือลั่นของกิมย้ง ด้วยมหึมาทุนสร้าง 2,000 ล้านบาท
    นี่คือภาพยนตร์มังกรหยกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค
    มหาศึกระหว่างเหล่าจอมยุทธกับทัพใหญ่มองโกล
    ผลงานของผู้กำกับมือเทพ “ฉีเคอะ”

    “เซียวจ้าน” เป็น ก๊วยเจ๋ง ใน
    “The Legend of the Condor Heroes : The Gallants”
    “มังกรหยก จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่”
    ระเบิดพลังยุทธกอบกู้แผ่นดิน
    20 กุมภาพันธ์นี้ ต้องไปชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

    #มังกรหยกจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ #จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่
    #LegendsofTheCondorHeroes #มังกรหยก2025
    #LegendsoftheCondorHeroesTheGallants
    #มังกรหยกเซียวจ้าน2025 #XiaoZhan
    #XiaoZhan肖战 #เซียวจ้าน #肖战
    #XiaoZhanxGuoJing #มังกรหยก
    #ก๊วยเจ๋ง #กัวจึ้ง #GuoJing
    “ฉีเคอะ” ประกาศ “ก๊วยเจ๋ง” ต้อง “เซียวจ้าน” คนเดียวเท่านั้น ! ​​ หลังจากประกาศงานการสร้าง ที่มีแม่ทัพคือ "ฉีเคอะ" ที่นั่งหัวโต๊ะรับหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้กำกับระดับตำนานแห่งภาพยนตร์จีน ที่เลื่องชื่อในเรื่องความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างสรรค์ที่ "อุทิศจิตวิญญาณ" แม้จะอายุ 75 แล้ว เขายังคงมีพลังล้นเหลือและมาตรฐานที่สูง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบฉากหรือกระบวนท่าต่อสู้ เขาก็ลงมือทำเองทั้งหมด ขัดเกลาทั้งวันทั้งคืน เพียงเพื่อสร้างภาพยนตร์ "มังกรหยก" ให้เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่สมการรอคอย และสิ่งสำคัญที่สุด "ฉีเคอะ" สตีเว่น สปิลเบิร์ก แห่งเมืองจีน ฟันธงก๊วยเจ๋งของเขาต้องเป็น "เซียวจ้าน" เท่านั้น ​​ "เซียวจ้าน" ซุปเปอร์สตาร์ดาราหนุ่มผู้ที่มาพร้อมกับวลีเด็ดติดปาก "ขออีกทีครับ!" ความมุ่งมั่น ความมีวินัย และความใส่ใจในทุกรายละเอียด เซียวจ้านได้พิสูจน์ให้ฉีเคอะเห็นมาตลอดว่าเขาไม่คิดที่จะหยุดอยู่กับที่ เขาพร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า! และความพยายามอย่างไม่ย่อท้อนี้เองคือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจมหาชนของวงการบันเทิงจีน! คำกล่าวของฉีเคอะที่ว่า "โอกาสไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นให้ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องไขว่คว้ามาเอง" ได้รับการพิสูจน์แล้วโดยเซียวจ้าน ! กับบทบาท "ก๊วยเจ๋ง" จึงเหมาะสมกับเขาอย่างไม่มีข้อกังขา ! เขาได้พิชิตใจฉีเคอะ พิชิตใจทีมงาน และกำลังจะเข้าไปพิชิตใจผู้ชมทั่วโลก ! จากบทประพันธ์สุดลือลั่นของกิมย้ง ด้วยมหึมาทุนสร้าง 2,000 ล้านบาท นี่คือภาพยนตร์มังกรหยกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค มหาศึกระหว่างเหล่าจอมยุทธกับทัพใหญ่มองโกล ผลงานของผู้กำกับมือเทพ “ฉีเคอะ” “เซียวจ้าน” เป็น ก๊วยเจ๋ง ใน “The Legend of the Condor Heroes : The Gallants” “มังกรหยก จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่” ระเบิดพลังยุทธกอบกู้แผ่นดิน 20 กุมภาพันธ์นี้ ต้องไปชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น #มังกรหยกจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ #จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ #LegendsofTheCondorHeroes #มังกรหยก2025 #LegendsoftheCondorHeroesTheGallants #มังกรหยกเซียวจ้าน2025 #XiaoZhan #XiaoZhan肖战 #เซียวจ้าน #肖战 #XiaoZhanxGuoJing #มังกรหยก #ก๊วยเจ๋ง #กัวจึ้ง #GuoJing
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ประกาศว่าจะยุติการใช้งานฟีเจอร์ Chrome Sync ในต้นปี 2025 สำหรับเวอร์ชันของ Chrome ที่มีอายุมากกว่าสี่ปี ฟีเจอร์ Chrome Sync ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซิงค์ข้อมูลต่างๆ เช่น บุ๊กมาร์ก รหัสผ่าน ประวัติการเข้าชม แท็บที่เปิดอยู่ การตั้งค่า และข้อมูลการชำระเงินของ Google Pay ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ที่ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เดียวกัน

    การยุติการใช้งานนี้มีเป้าหมายเพื่อบังคับให้ผู้ใช้ที่ยังคงใช้เวอร์ชันเก่าของ Chrome ที่มีช่องโหว่และไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยให้ทำการอัปเดตเบราว์เซอร์ของตนให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด Google ระบุว่า ผู้ใช้ที่ยังคงใช้เวอร์ชันเก่าของ Chrome จะเริ่มเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาดที่ระบุว่า "อัปเดต Chrome เพื่อเริ่มการซิงค์" หรือ "อัปเดต Chrome เพื่อใช้ข้อมูล Chrome ในบัญชี Google ของคุณต่อไป"

    ผู้ใช้ที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ Chrome Sync ต่อไปจะต้องอัปเดตเบราว์เซอร์ของตนให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด หากไม่สามารถอัปเดตเบราว์เซอร์ได้ ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ Chrome Sync บนอุปกรณ์นั้นได้อีกต่อไป

    การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Google ในการบังคับให้ผู้ใช้ที่ยังคงใช้เวอร์ชันเก่าของ Chrome ที่มีช่องโหว่และไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยให้ทำการอัปเดตเบราว์เซอร์ของตนให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

    https://www.bleepingcomputer.com/news/google/google-to-kill-chrome-sync-on-older-chrome-browser-versions/
    Google ประกาศว่าจะยุติการใช้งานฟีเจอร์ Chrome Sync ในต้นปี 2025 สำหรับเวอร์ชันของ Chrome ที่มีอายุมากกว่าสี่ปี ฟีเจอร์ Chrome Sync ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซิงค์ข้อมูลต่างๆ เช่น บุ๊กมาร์ก รหัสผ่าน ประวัติการเข้าชม แท็บที่เปิดอยู่ การตั้งค่า และข้อมูลการชำระเงินของ Google Pay ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ที่ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เดียวกัน การยุติการใช้งานนี้มีเป้าหมายเพื่อบังคับให้ผู้ใช้ที่ยังคงใช้เวอร์ชันเก่าของ Chrome ที่มีช่องโหว่และไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยให้ทำการอัปเดตเบราว์เซอร์ของตนให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด Google ระบุว่า ผู้ใช้ที่ยังคงใช้เวอร์ชันเก่าของ Chrome จะเริ่มเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาดที่ระบุว่า "อัปเดต Chrome เพื่อเริ่มการซิงค์" หรือ "อัปเดต Chrome เพื่อใช้ข้อมูล Chrome ในบัญชี Google ของคุณต่อไป" ผู้ใช้ที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ Chrome Sync ต่อไปจะต้องอัปเดตเบราว์เซอร์ของตนให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด หากไม่สามารถอัปเดตเบราว์เซอร์ได้ ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ Chrome Sync บนอุปกรณ์นั้นได้อีกต่อไป การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Google ในการบังคับให้ผู้ใช้ที่ยังคงใช้เวอร์ชันเก่าของ Chrome ที่มีช่องโหว่และไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยให้ทำการอัปเดตเบราว์เซอร์ของตนให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด https://www.bleepingcomputer.com/news/google/google-to-kill-chrome-sync-on-older-chrome-browser-versions/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Google to kill Chrome Sync on older Chrome browser versions
    Google announced that the Chrome Sync feature will be discontinued in early 2025 for Chrome versions older than four years.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์ค รุตต์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) และ เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก เห็นพ้องระหว่างการพบปะประชุมกันว่าพันธมิตรแห่งนี้จำเป็นต้องมุ่งเน้นเสริมความเข้มแข็งแก่การป้องกันตนเองในอาร์กติก ท่ามกลางการแสดงออกอย่างชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ปรารถนาอยากได้เกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์ก ไว้ในครอบครอง
    .
    แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการหารือ เปิดเผยหลังการประชุมระหว่าง รุตต์ กับ เฟรเดอริกเซน ว่า "ทั้ง 2 คน เห็นพ้องกันว่าในความพยายามนี้ พันธมิตรทั้งมวลต้องมีบทบาท"
    .
    การพบปะพูดคุยครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจมาตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยในเดือนพฤศจิกายน ในการทำให้เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา
    .
    "เราหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อเสริมความมั่นคงในทะเลบอลติก สนับสนุนยูคเรน และลงทุนเพิ่มเติมในด้านกลาโหม ในนั้นรวมถึงในแถบอาร์กติก" รุตต์เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์หลังเสร็จสิ้นการประชุม
    .
    ทรัมป์ บอกว่าเกาะกรีนแลนด์ มีความสำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐฯและเดนมาร์กควรยอมสละการควบคุมเกาะยุทธศาสตร์สำคัญในอาร์กติกแห่งนี้ ทั้งนี้ผู้นำอเมริกาไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารหรือพลังอำนาจทางเศรษฐกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
    .
    ที่ผ่านมา ทรัมป์ ก็อยู่ในความขัดแย้งกับบรรดาพันธมิตรนาโตและยุโรป เกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม และบอกว่าภายใต้การเป็นประธานาธิบดีของเขา สหรัฐฯจะทบทวนโดยพื้นฐานกี่ยวกับวัตถุประสงค์และภารกิจของนาโต
    .
    ในส่วนของเดนมาร์ก ได้แถลงเมื่อวันจันทร์(27ม.ค.) จะใช้จ่ายงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย
    .
    "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง
    .
    เมตเต เฟรเดอริกเซน ยังได้พบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และบอกว่าพวกผู้นำทางการเมืองในยุโรปและที่อื่นๆ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับหลักการแห่งการธำรงไว้ซึ่งความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ
    .
    ผลสำรวจความคิดเห็นหนึ่งที่เผยแพร่ในวันอังคาร(28ม.ค.) พบว่ามีชาวกรีนแลนด์ถึง 85% ที่ไม่ปรารถนาให้เกาะแอตแลนติกแห่งนี้ ซึ่งเป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์ก เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ตามรายงานของ Berlingske หนังสือพิมพ์เดนมาร์ก
    .
    โพลที่จัดทำโดย Verian ตามที่ได้รับมอบหมายจาก Berlingske พบว่ามีชาวกรีนแลนด์แค่ 6% ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ส่วนที่เหลืออีก 9% บอกว่ายังไม่ตัดสินใจ
    .
    เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีขนาดใหญ่กว่าเม็กซิโก และมีประชากร 57,000 คน ได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างกว้างขวางในปี 2009 ในนั้นรวมถึงสิทธิในการประกาศเอกราชจากเดนมาร์กผ่านการทำประชามติ
    .
    มูเต เอเกเด นายกรัฐมนตรีเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งยกระดับผลักดันความเป็นเอกราช เน้นย้ำว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย และขึ้นอยู่กับประชาชนของเกาะที่จะตัดสินใจอนาคตของตนเอง
    .
    สำหรับกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009085
    ..............
    Sondhi X
    มาร์ค รุตต์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) และ เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก เห็นพ้องระหว่างการพบปะประชุมกันว่าพันธมิตรแห่งนี้จำเป็นต้องมุ่งเน้นเสริมความเข้มแข็งแก่การป้องกันตนเองในอาร์กติก ท่ามกลางการแสดงออกอย่างชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ปรารถนาอยากได้เกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์ก ไว้ในครอบครอง . แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการหารือ เปิดเผยหลังการประชุมระหว่าง รุตต์ กับ เฟรเดอริกเซน ว่า "ทั้ง 2 คน เห็นพ้องกันว่าในความพยายามนี้ พันธมิตรทั้งมวลต้องมีบทบาท" . การพบปะพูดคุยครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจมาตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยในเดือนพฤศจิกายน ในการทำให้เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา . "เราหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อเสริมความมั่นคงในทะเลบอลติก สนับสนุนยูคเรน และลงทุนเพิ่มเติมในด้านกลาโหม ในนั้นรวมถึงในแถบอาร์กติก" รุตต์เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์หลังเสร็จสิ้นการประชุม . ทรัมป์ บอกว่าเกาะกรีนแลนด์ มีความสำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐฯและเดนมาร์กควรยอมสละการควบคุมเกาะยุทธศาสตร์สำคัญในอาร์กติกแห่งนี้ ทั้งนี้ผู้นำอเมริกาไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารหรือพลังอำนาจทางเศรษฐกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว . ที่ผ่านมา ทรัมป์ ก็อยู่ในความขัดแย้งกับบรรดาพันธมิตรนาโตและยุโรป เกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม และบอกว่าภายใต้การเป็นประธานาธิบดีของเขา สหรัฐฯจะทบทวนโดยพื้นฐานกี่ยวกับวัตถุประสงค์และภารกิจของนาโต . ในส่วนของเดนมาร์ก ได้แถลงเมื่อวันจันทร์(27ม.ค.) จะใช้จ่ายงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย . "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง . เมตเต เฟรเดอริกเซน ยังได้พบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และบอกว่าพวกผู้นำทางการเมืองในยุโรปและที่อื่นๆ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับหลักการแห่งการธำรงไว้ซึ่งความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ . ผลสำรวจความคิดเห็นหนึ่งที่เผยแพร่ในวันอังคาร(28ม.ค.) พบว่ามีชาวกรีนแลนด์ถึง 85% ที่ไม่ปรารถนาให้เกาะแอตแลนติกแห่งนี้ ซึ่งเป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์ก เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ตามรายงานของ Berlingske หนังสือพิมพ์เดนมาร์ก . โพลที่จัดทำโดย Verian ตามที่ได้รับมอบหมายจาก Berlingske พบว่ามีชาวกรีนแลนด์แค่ 6% ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ส่วนที่เหลืออีก 9% บอกว่ายังไม่ตัดสินใจ . เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีขนาดใหญ่กว่าเม็กซิโก และมีประชากร 57,000 คน ได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างกว้างขวางในปี 2009 ในนั้นรวมถึงสิทธิในการประกาศเอกราชจากเดนมาร์กผ่านการทำประชามติ . มูเต เอเกเด นายกรัฐมนตรีเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งยกระดับผลักดันความเป็นเอกราช เน้นย้ำว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย และขึ้นอยู่กับประชาชนของเกาะที่จะตัดสินใจอนาคตของตนเอง . สำหรับกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009085 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 989 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสอบสวนพบซากนกเป็ดน้ำไบคาลติดอยู่ในเครื่องยนต์ 2 ตัวของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินเชจูแอร์เที่ยวบินออกจากกรุงเทพฯ-มูอัน เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.และตกลงที่สนามบินมูอันของเกาหลีใต้ มีผู้เสียชีวิต 179 คน รอดตายแค่ 2 คน
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่า รายงานการสอบสวนเบื้องต้นที่เผยแพร่วานนี้ (27) ชี้ให้เห็นว่า เครื่องบินสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) เที่ยวบิน 7C2216 ซึ่งเดินทางออกจากกรุงเทพ-มูอัน เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้ชนนกเป็ดน้ำก่อนที่จะตกลงหลังพบซากนกติดอยู่ในเครื่องยนต์ทั้ง 2 ตัว
    .
    รายงานสอบสวนระบุว่า มีการพบขนนกและเลือดอยู่ด้านในเครื่องยนต์ของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800
    .
    “ตัวอย่างถูกส่งไปยังหน่วยงานผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ DNA และหน่วยงานภายในประเทศได้บ่งชี้ตัวอย่างเหล่านี้ว่าเป็นของนกเป็ดน้ำไบคาล” คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุทางรางและทางอากาศเกาหลีใต้ (South Korea’s Aviation and Railway Accident Investigation Board) กล่าวในรายงาน
    .
    ทั้งนี้ นกเป็ดน้ำไบคาล (Baikal Teal) เป็นนกอพยพที่มักพบในแถบไซบีเรียของรัสเซียและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ มักอพยพมาเป็นฝูงใหญ่ที่เกาหลีใต้ช่วงฤดูหนาว
    .
    นักบินได้ขออนุญาตลงจอดฉุกเฉินระหว่างพยายามที่จะร่อนลงจอดและได้รับการเตือนอาจเจอปัญหานกบิน ซึ่งเครื่องบินตกนั้นสามารถเกิดได้ไม่กี่ปัจจัยและหนึ่งในนั้นเกิดปัญหาจากนกชนได้ถือเป็นเรื่องตลก
    .
    รายงานจำนวน 6 หน้าไม่ได้เปิดเผยมากไปกว่ารายละเอียดของข้อเท็จจริงในขณะที่ปัญหาไม่กี่ข้อยังคงมีอยู่ต่อไปเป็นว่า เหตุใดเครื่องบินถึงยกเลิกความพยายามลงแลนดิ้งครั้งแรกก่อนที่จะหันไปลงจอดในรันเวย์เดียวกันแต่เป็นทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นได้น้อยจากการที่นักบินมักจะลงจอดในทิศทางที่มุ่งสู่ลมที่จะช่วยเหลือทางด้านความเสถียรของเครื่องและการเบรก
    .
    เครื่องลงจอดที่ปลายรันเวย์ในสภาพความเร็วสูงโดยไม่มีการใช้เกียร์แลนดิ้ง และไม่มีการใช้ wing flap หรือปีกสร้างแรงยก ที่จะช่วยเหลือในการร่อนลงจอดของเครื่อง
    .
    และหลังจากเครื่องบินเชจูแอร์ได้ไถลไปตามรันเวย์และเครื่องบินได้เกิดชนเข้ากับที่กั้นคอนกรีตที่ปลายสุดของรันเวย์และเกิดระเบิดขึ้น
    .
    ทีมสอบสวนไม่สามารถใช้ข้อมูลจากกล่องดำได้เป็นเพราะกล่องดำเกิดหยุดการบันทึก 4 นาทีก่อนเครื่องบินเกิดระเบิด โดยมักจะมาจากปัญหาอิเล็กทรอนิกส์บนเครื่องเกิดขัดข้องก่อนหน้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009079
    ..............
    Sondhi X
    การสอบสวนพบซากนกเป็ดน้ำไบคาลติดอยู่ในเครื่องยนต์ 2 ตัวของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินเชจูแอร์เที่ยวบินออกจากกรุงเทพฯ-มูอัน เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.และตกลงที่สนามบินมูอันของเกาหลีใต้ มีผู้เสียชีวิต 179 คน รอดตายแค่ 2 คน . เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่า รายงานการสอบสวนเบื้องต้นที่เผยแพร่วานนี้ (27) ชี้ให้เห็นว่า เครื่องบินสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) เที่ยวบิน 7C2216 ซึ่งเดินทางออกจากกรุงเทพ-มูอัน เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้ชนนกเป็ดน้ำก่อนที่จะตกลงหลังพบซากนกติดอยู่ในเครื่องยนต์ทั้ง 2 ตัว . รายงานสอบสวนระบุว่า มีการพบขนนกและเลือดอยู่ด้านในเครื่องยนต์ของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 . “ตัวอย่างถูกส่งไปยังหน่วยงานผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ DNA และหน่วยงานภายในประเทศได้บ่งชี้ตัวอย่างเหล่านี้ว่าเป็นของนกเป็ดน้ำไบคาล” คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุทางรางและทางอากาศเกาหลีใต้ (South Korea’s Aviation and Railway Accident Investigation Board) กล่าวในรายงาน . ทั้งนี้ นกเป็ดน้ำไบคาล (Baikal Teal) เป็นนกอพยพที่มักพบในแถบไซบีเรียของรัสเซียและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ มักอพยพมาเป็นฝูงใหญ่ที่เกาหลีใต้ช่วงฤดูหนาว . นักบินได้ขออนุญาตลงจอดฉุกเฉินระหว่างพยายามที่จะร่อนลงจอดและได้รับการเตือนอาจเจอปัญหานกบิน ซึ่งเครื่องบินตกนั้นสามารถเกิดได้ไม่กี่ปัจจัยและหนึ่งในนั้นเกิดปัญหาจากนกชนได้ถือเป็นเรื่องตลก . รายงานจำนวน 6 หน้าไม่ได้เปิดเผยมากไปกว่ารายละเอียดของข้อเท็จจริงในขณะที่ปัญหาไม่กี่ข้อยังคงมีอยู่ต่อไปเป็นว่า เหตุใดเครื่องบินถึงยกเลิกความพยายามลงแลนดิ้งครั้งแรกก่อนที่จะหันไปลงจอดในรันเวย์เดียวกันแต่เป็นทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นได้น้อยจากการที่นักบินมักจะลงจอดในทิศทางที่มุ่งสู่ลมที่จะช่วยเหลือทางด้านความเสถียรของเครื่องและการเบรก . เครื่องลงจอดที่ปลายรันเวย์ในสภาพความเร็วสูงโดยไม่มีการใช้เกียร์แลนดิ้ง และไม่มีการใช้ wing flap หรือปีกสร้างแรงยก ที่จะช่วยเหลือในการร่อนลงจอดของเครื่อง . และหลังจากเครื่องบินเชจูแอร์ได้ไถลไปตามรันเวย์และเครื่องบินได้เกิดชนเข้ากับที่กั้นคอนกรีตที่ปลายสุดของรันเวย์และเกิดระเบิดขึ้น . ทีมสอบสวนไม่สามารถใช้ข้อมูลจากกล่องดำได้เป็นเพราะกล่องดำเกิดหยุดการบันทึก 4 นาทีก่อนเครื่องบินเกิดระเบิด โดยมักจะมาจากปัญหาอิเล็กทรอนิกส์บนเครื่องเกิดขัดข้องก่อนหน้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009079 .............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 968 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นจำนวนเรือนหมื่นเรือนแสน หลั่งไหลกันเดินทางไปตามถนนสายหลัก เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้วเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) หลังจากกลุ่มฮามาสตกลงส่งมอบตัวประกันชาวอิสราเอลอีก 3 คนในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้ และกองทหารรัฐยิวก็เริ่มถอนกำลังออกจากการปิดกั้นช่องทางซึ่งสกัดไม่ให้ผู้พลัดถิ่นเหล่านี้ได้เดินทาง
    .
    ประชาชนจำนวนมากมาย บางคนอุ้มทารกเอาไว้ในอ้อมแขน หรือไม่แบกสมบัติข้าวของที่ยังเหลืออยู่เอาไว้บนบ่า มุ่งหน้าเดินเท้าขึ้นเหนือ ไปตามถนนสายที่ทอดยาวเลียบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
    .
    “มันเหมือนกับฉันเกิดใหม่ขึ้นครั้ง และเราได้รับชัยชนะอีกครั้ง” เป็นคำกล่าวของ อุมม์ โมฮัมเหม็ด อาลี คุณแม่ชาวปาเลสไตน์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของฝูงชนซึ่งเดินตามกันไปอย่างช้าๆ เป็นแถวยาวเหยียดหลายกิโลเมตรบนถนนเลียบทะเลสายดังกล่าว
    .
    พวกผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชาวบ้านคนแรกเดินมาถึงเมืองกาซาซิตี้ในตอนเช้าตรู่ หลังจากจุดข้ามจากตอนใต้ของกาซา เปิดขึ้นเมื่อเวลา 7 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเที่ยงวัน เวลาเมืองไทย) สำหรับจุดข้ามอีกจุดหนึ่งเปิดขึ้นในอีก 3 ชั่วโมงถัดมา โดยเป็นทางสำหรับยวดยานต่างๆ
    .
    “หัวใจผมกำลังเต้นแรง ผมคิดว่าผมจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว” เป็นคำพูดของ โอซามา วัย 50 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนและเป็นคุณพ่อของลูก 5 คน ขณะที่เขาเดินทางถึงกาซาซิตี้ “ไม่ว่าการหยุดยิงนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เราก็จะไม่ยอมออกจากกาซาซิตี้และทางตอนเหนือนี่อีกแล้ว ถึงแม้อิสราเอลจะส่งรถถังมาเล่นงานพวกเราแต่ละคนก็ตาม ไม่มีการพลัดถิ่นที่อยู่กันอีกแล้ว”
    .
    หลังจากถูกสั่งให้ออกจากที่พำนักชั่วคราวซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดระยะเวลา 15 เดือนของสงครามครั้งนี้ ก็มีเสียงเชียร์เสียงโห่ร้องยินดีปะทุขึ้นจากที่พักพิงหลบภัยและเต็นท์ค่ายพักต่างๆ เมื่อครอบครัวชาวปาเลสไตน์ได้ยินข่าวที่ว่าจุดข้ามจะเปิดให้เดินทางผ่านแล้ว
    .
    “นอนไม่หลับเลย ฉันเก็บข้าวของทุกอย่างและพร้อมเดินทางตั้งแต่แสงตะวันแรกของวันแล้ว” เป็นคำกล่าวของ กอดา คุณแม่ลูก 5 “อย่างน้อยที่สุดเราก็กำลังจะกลับบ้าน ตอนนี้ฉันพูดได้แล้วว่าสงครามยุติแล้ว และฉันหวังว่ามันจะอยู่ในความสงบต่อไปอีก” เธอบอกกับรอยเตอร์ผ่านแอปแชต
    .
    ทั้งพวกเจ้าหน้าที่ฮามาสและชาวกาซาที่เป็นประชาชนธรรมดา ต่างปฏิเสธไม่เอาด้วยกับคำแนะนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้จอร์แดนและอียิปต์ รับชาวปาเลไสตน์จากดินแดนที่พินาศยับเยินจากสงครามแห่งนี้ อพยพเข้าไปพำนักอาศัยให้มากขึ้น มิหนำซ้ำยังเป็นการกระตุ้นความหวาดกลัวซึ่งมีมายาวนานของชาวปาเลสไตน์ที่ว่า พวกเขากำลังจะถูกผลักไสให้ออกจากบ้านของพวกเขาไปตลอดกาล
    .
    ตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิงที่กระทำกันคราวนี้ ผู้ที่พำนักอาศัยในตอนเหนือกาซา จะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ท่ผ่านมา ทว่าในวันอาทิตย์ (26 ) อิสราเอลขัดขวางเรื่องนี้ โดยกล่าวหาฮามาสละเมิดเงื่อนไขในข้อตกลง
    .
    อย่างไรก็ดี ถึงตอนค่ำวันเดียวกัน สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า สามารถตกลงกับฮามาสได้แล้ว โดยฮามาสจะปล่อย อาร์เบล เยฮุด ตัวประกันที่เป็นพลเรือนหญิงที่เดิมคาดว่า จะได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับตัวประกันอีก 3 คนในวันพฤหัสฯ (30) และปล่อยเพิ่มอีก 3 คนในวันเสาร์ (1 ก.พ.)
    .
    คำแถลงยังระบุว่า อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์เดินทางได้ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ ซึ่งฮามาสระบุว่าเป็น “ชัยชนะสำหรับชาวปาเลสไตน์ และสัญญาณความล้มเหลวของแผนการยึดครองและบังคับย้ายถิ่นฐาน”
    .
    สำหรับคำแนะนำของทรัมป์นั้น อยู่ในลักษณะของการที่เขาเสนอไอเดียกับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางบนเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซ วัน เมื่อวันเสาร์ (25) ว่า จอร์แดนและอียิปต์ ควรอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ราว 2.4 ล้านคนจากกาซาที่พังพินาศจากสงครามที่ทำให้ประชาชนนับหมื่นเสียชีวิตและนำไปสู่วิกฤตมนุษยธรรมเลวร้าย
    .
    ประมุขทำเนียบขาวเสริมว่า จะดึงชาติอาหรับบางชาติเข้ามามีส่วนร่วม และสร้างที่พักอาศัยเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ก่อนสำทับว่า แนวทางนี้อาจเป็นได้ทั้งแนวทางชั่วคราวหรือถาวร
    .
    ปัจจุบัน จอร์แดนรองรับชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนอยู่แล้ว ขณะที่มีชาวปาเลสไตน์อีกหลายหมื่นคนอาศัยอยู่ในอียิปต์ อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศรวมถึงชาติอาหรับอื่นๆ ต่างปฏิเสธแนวคิดในการย้ายชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาไปยังประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกันชาวปาเลสไตน์ก็ต้องการให้กาซาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต
    .
    ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ก็แสดงท่าทีคัดค้านแนวคิดดังกล่าว ทางด้าน เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอลที่สังกัดพรรคขวาจัด บอกว่า “การคิดนอกกรอบ” เท่านั้นที่จะทำให้เกิดสันติภาพได้จริง และกล่าวยกย่องข้อเสนอของทรัมป์เป็น “ไอเดียเยี่ยมยอด” ซึ่งจะทำให้ชาวปาเลสไตน์มีโอกาสสร้างชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นในประเทศอื่น พร้อมเสริมว่า จะวางแผนเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอนี้
    .
    สำหรับ ฟรานเชสกา อัลบานีส ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การกวาดล้างเผ่าพันธุ์ก็เป็นการคิดนอกกรอบ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหนก็ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และไร้ความรับผิดชอบ
    .
    บาเซม นาอิม สมาชิกกลุ่มการเมืองของฮามาส ยืนกรานว่า ชาวปาเลสไตน์ไม่มีวันยอมรับข้อเสนอของทรัมป์ที่ดูเหมือนเจตนาดีภายใต้ข้ออ้างในการฟื้นฟูกาซา ขณะที่ซามี อาบู ซูฮ์รี เจ้าหน้าที่อีกคน เรียกร้องทรัมป์ไม่ให้เสนอไอเดียผิดพลาดแบบที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยพยายามมาก่อน
    .
    สันนิบาตอาหรับคัดค้านไอเดียของทรัมป์เช่นเดียวกัน โดยเตือนว่า ความพยายามบังคับให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากถิ่นฐานเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์
    .
    อัยมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน รวมทั้งกระทรวงต่างประเทศอียิปต์ ยืนยันจุดยืนในการต่อต้านการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไม่ว่าระยะยาวหรือระยะสั้น
    .
    ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ประณามไอเดียของทรัมป์ และประกาศว่า ชาวปาเลสไตน์จะไม่ยอมทิ้งบ้านเกิดอย่างแน่นอน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008688
    ..............
    Sondhi X
    ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นจำนวนเรือนหมื่นเรือนแสน หลั่งไหลกันเดินทางไปตามถนนสายหลัก เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้วเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) หลังจากกลุ่มฮามาสตกลงส่งมอบตัวประกันชาวอิสราเอลอีก 3 คนในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้ และกองทหารรัฐยิวก็เริ่มถอนกำลังออกจากการปิดกั้นช่องทางซึ่งสกัดไม่ให้ผู้พลัดถิ่นเหล่านี้ได้เดินทาง . ประชาชนจำนวนมากมาย บางคนอุ้มทารกเอาไว้ในอ้อมแขน หรือไม่แบกสมบัติข้าวของที่ยังเหลืออยู่เอาไว้บนบ่า มุ่งหน้าเดินเท้าขึ้นเหนือ ไปตามถนนสายที่ทอดยาวเลียบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน . “มันเหมือนกับฉันเกิดใหม่ขึ้นครั้ง และเราได้รับชัยชนะอีกครั้ง” เป็นคำกล่าวของ อุมม์ โมฮัมเหม็ด อาลี คุณแม่ชาวปาเลสไตน์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของฝูงชนซึ่งเดินตามกันไปอย่างช้าๆ เป็นแถวยาวเหยียดหลายกิโลเมตรบนถนนเลียบทะเลสายดังกล่าว . พวกผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชาวบ้านคนแรกเดินมาถึงเมืองกาซาซิตี้ในตอนเช้าตรู่ หลังจากจุดข้ามจากตอนใต้ของกาซา เปิดขึ้นเมื่อเวลา 7 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเที่ยงวัน เวลาเมืองไทย) สำหรับจุดข้ามอีกจุดหนึ่งเปิดขึ้นในอีก 3 ชั่วโมงถัดมา โดยเป็นทางสำหรับยวดยานต่างๆ . “หัวใจผมกำลังเต้นแรง ผมคิดว่าผมจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว” เป็นคำพูดของ โอซามา วัย 50 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนและเป็นคุณพ่อของลูก 5 คน ขณะที่เขาเดินทางถึงกาซาซิตี้ “ไม่ว่าการหยุดยิงนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เราก็จะไม่ยอมออกจากกาซาซิตี้และทางตอนเหนือนี่อีกแล้ว ถึงแม้อิสราเอลจะส่งรถถังมาเล่นงานพวกเราแต่ละคนก็ตาม ไม่มีการพลัดถิ่นที่อยู่กันอีกแล้ว” . หลังจากถูกสั่งให้ออกจากที่พำนักชั่วคราวซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดระยะเวลา 15 เดือนของสงครามครั้งนี้ ก็มีเสียงเชียร์เสียงโห่ร้องยินดีปะทุขึ้นจากที่พักพิงหลบภัยและเต็นท์ค่ายพักต่างๆ เมื่อครอบครัวชาวปาเลสไตน์ได้ยินข่าวที่ว่าจุดข้ามจะเปิดให้เดินทางผ่านแล้ว . “นอนไม่หลับเลย ฉันเก็บข้าวของทุกอย่างและพร้อมเดินทางตั้งแต่แสงตะวันแรกของวันแล้ว” เป็นคำกล่าวของ กอดา คุณแม่ลูก 5 “อย่างน้อยที่สุดเราก็กำลังจะกลับบ้าน ตอนนี้ฉันพูดได้แล้วว่าสงครามยุติแล้ว และฉันหวังว่ามันจะอยู่ในความสงบต่อไปอีก” เธอบอกกับรอยเตอร์ผ่านแอปแชต . ทั้งพวกเจ้าหน้าที่ฮามาสและชาวกาซาที่เป็นประชาชนธรรมดา ต่างปฏิเสธไม่เอาด้วยกับคำแนะนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้จอร์แดนและอียิปต์ รับชาวปาเลไสตน์จากดินแดนที่พินาศยับเยินจากสงครามแห่งนี้ อพยพเข้าไปพำนักอาศัยให้มากขึ้น มิหนำซ้ำยังเป็นการกระตุ้นความหวาดกลัวซึ่งมีมายาวนานของชาวปาเลสไตน์ที่ว่า พวกเขากำลังจะถูกผลักไสให้ออกจากบ้านของพวกเขาไปตลอดกาล . ตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิงที่กระทำกันคราวนี้ ผู้ที่พำนักอาศัยในตอนเหนือกาซา จะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ท่ผ่านมา ทว่าในวันอาทิตย์ (26 ) อิสราเอลขัดขวางเรื่องนี้ โดยกล่าวหาฮามาสละเมิดเงื่อนไขในข้อตกลง . อย่างไรก็ดี ถึงตอนค่ำวันเดียวกัน สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า สามารถตกลงกับฮามาสได้แล้ว โดยฮามาสจะปล่อย อาร์เบล เยฮุด ตัวประกันที่เป็นพลเรือนหญิงที่เดิมคาดว่า จะได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับตัวประกันอีก 3 คนในวันพฤหัสฯ (30) และปล่อยเพิ่มอีก 3 คนในวันเสาร์ (1 ก.พ.) . คำแถลงยังระบุว่า อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์เดินทางได้ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ ซึ่งฮามาสระบุว่าเป็น “ชัยชนะสำหรับชาวปาเลสไตน์ และสัญญาณความล้มเหลวของแผนการยึดครองและบังคับย้ายถิ่นฐาน” . สำหรับคำแนะนำของทรัมป์นั้น อยู่ในลักษณะของการที่เขาเสนอไอเดียกับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางบนเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซ วัน เมื่อวันเสาร์ (25) ว่า จอร์แดนและอียิปต์ ควรอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ราว 2.4 ล้านคนจากกาซาที่พังพินาศจากสงครามที่ทำให้ประชาชนนับหมื่นเสียชีวิตและนำไปสู่วิกฤตมนุษยธรรมเลวร้าย . ประมุขทำเนียบขาวเสริมว่า จะดึงชาติอาหรับบางชาติเข้ามามีส่วนร่วม และสร้างที่พักอาศัยเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ก่อนสำทับว่า แนวทางนี้อาจเป็นได้ทั้งแนวทางชั่วคราวหรือถาวร . ปัจจุบัน จอร์แดนรองรับชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนอยู่แล้ว ขณะที่มีชาวปาเลสไตน์อีกหลายหมื่นคนอาศัยอยู่ในอียิปต์ อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศรวมถึงชาติอาหรับอื่นๆ ต่างปฏิเสธแนวคิดในการย้ายชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาไปยังประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกันชาวปาเลสไตน์ก็ต้องการให้กาซาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต . ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ก็แสดงท่าทีคัดค้านแนวคิดดังกล่าว ทางด้าน เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอลที่สังกัดพรรคขวาจัด บอกว่า “การคิดนอกกรอบ” เท่านั้นที่จะทำให้เกิดสันติภาพได้จริง และกล่าวยกย่องข้อเสนอของทรัมป์เป็น “ไอเดียเยี่ยมยอด” ซึ่งจะทำให้ชาวปาเลสไตน์มีโอกาสสร้างชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นในประเทศอื่น พร้อมเสริมว่า จะวางแผนเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอนี้ . สำหรับ ฟรานเชสกา อัลบานีส ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การกวาดล้างเผ่าพันธุ์ก็เป็นการคิดนอกกรอบ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหนก็ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และไร้ความรับผิดชอบ . บาเซม นาอิม สมาชิกกลุ่มการเมืองของฮามาส ยืนกรานว่า ชาวปาเลสไตน์ไม่มีวันยอมรับข้อเสนอของทรัมป์ที่ดูเหมือนเจตนาดีภายใต้ข้ออ้างในการฟื้นฟูกาซา ขณะที่ซามี อาบู ซูฮ์รี เจ้าหน้าที่อีกคน เรียกร้องทรัมป์ไม่ให้เสนอไอเดียผิดพลาดแบบที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยพยายามมาก่อน . สันนิบาตอาหรับคัดค้านไอเดียของทรัมป์เช่นเดียวกัน โดยเตือนว่า ความพยายามบังคับให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากถิ่นฐานเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ . อัยมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน รวมทั้งกระทรวงต่างประเทศอียิปต์ ยืนยันจุดยืนในการต่อต้านการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไม่ว่าระยะยาวหรือระยะสั้น . ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ประณามไอเดียของทรัมป์ และประกาศว่า ชาวปาเลสไตน์จะไม่ยอมทิ้งบ้านเกิดอย่างแน่นอน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008688 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 851 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมิชิแกนได้ผ่านกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐต้องเปิดสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างน้อยหนึ่งวิชาเริ่มตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคต

    กฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon และ Microsoft รวมถึงกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไรที่พวกเขาสนับสนุน เช่น Code.org นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมครูวิทยาการคอมพิวเตอร์และกลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น TechNet ซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัทใหญ่ๆ เช่น Apple, Google, Meta และอื่นๆ

    กฎหมายนี้กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐมิชิแกนต้องมีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในรูปแบบการเรียนการสอนในห้องเรียนตามมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการการศึกษาของรัฐ หากไม่สามารถจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ สามารถใช้ตัวเลือกการเรียนการสอนแบบเสมือนจริงได้ ยกเว้นโรงเรียนที่เป็นออนไลน์ทั้งหมด

    นอกจากนี้ รัฐมิชิแกนยังได้ผ่านกฎหมายอีกฉบับที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในรัฐ กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างงานในรัฐมิชิแกน

    การที่รัฐมิชิแกนกำหนดให้มีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนมัธยมแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคตและการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ

    https://www.techspot.com/news/106514-michigan-passes-law-mandating-computer-science-classes-high.html
    รัฐมิชิแกนได้ผ่านกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐต้องเปิดสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างน้อยหนึ่งวิชาเริ่มตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคต กฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon และ Microsoft รวมถึงกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไรที่พวกเขาสนับสนุน เช่น Code.org นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมครูวิทยาการคอมพิวเตอร์และกลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น TechNet ซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัทใหญ่ๆ เช่น Apple, Google, Meta และอื่นๆ กฎหมายนี้กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐมิชิแกนต้องมีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในรูปแบบการเรียนการสอนในห้องเรียนตามมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการการศึกษาของรัฐ หากไม่สามารถจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ สามารถใช้ตัวเลือกการเรียนการสอนแบบเสมือนจริงได้ ยกเว้นโรงเรียนที่เป็นออนไลน์ทั้งหมด นอกจากนี้ รัฐมิชิแกนยังได้ผ่านกฎหมายอีกฉบับที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในรัฐ กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างงานในรัฐมิชิแกน การที่รัฐมิชิแกนกำหนดให้มีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนมัธยมแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคตและการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ https://www.techspot.com/news/106514-michigan-passes-law-mandating-computer-science-classes-high.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Michigan new law mandates Computer Science classes in high schools
    The bipartisan bill, signed into law last week by Governor Gretchen Whitmer, aims to increase technological literacy across the state. It mandates that every Michigan high school...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียใช้โรงฝึกศัลยกรรมสงคราม ที่เปลี่ยนสนามรบเป็นห้องรักษาชีวิตด้วยเทคโนโลยี AI และ VR

    การเปิดตัวห้องปฏิบัติการฝึกทักษะทางการแพทย์ใหม่
    กระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย และ สถาบันศัลยกรรมฉุกเฉินและฟื้นฟู V. K. Gusak เพื่อพัฒนาการฝึกอบรมและวิจัยทางการแพทย์และเพิ่มประสิทธิภาพในการเตรียมความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลใน Donetsk (พื้นที่ผนวกใหม่ของรัสเซียในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร) เพื่อยกระดับการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์จริง โดยเฉพาะในบริบทของภูมิภาคที่เผชิญความขัดแย้งในสงคราม

    เทคโนโลยีหลักที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ
    1. VR และ AI: เพื่อสร้างสถานการณ์จำลองการรักษาผู้ป่วย
    2. อุปกรณ์เสมือนจริง (VR) และอินเทอร์เฟซประสาท (Neurointerfaces) เพื่อสร้างสถานการณ์สมมุติที่ใกล้เคียงกับสนามรบ เช่น การรักษาผู้บาดเจ็บหมู่ภายใต้เสียงระเบิด
    3. เครื่องมือวัดชีวภาพ (Biometric Sensors) ที่ติดตามอัตราการเต้นหัวใจ ความเครียด และการทำงานของกล้ามเนื้อระหว่างฝึก
    4. ปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิง เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการฝึกอย่างเป็นระบบ ลดอคติจากการประเมินด้วยมนุษย์

    วัตถุประสงค์หลัก
    เพื่อเตรียมความพร้อมแพทย์และพยาบาลในภูมิภาคใหม่ที่ต้องทำงานภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ ได้แก่
    1. สภาพแวดล้อมความเครียดสูงจากการรักษาผู้บาดเจ็บจำนวนมากในภาวะฉุกเฉิน
    2. การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ในสถานการณ์เสี่ยง เช่น การผ่าตัดที่ต้องแข่งกับเวลา
    3. ความอดทนต่อการทำงานระยะยาว ผ่านการฝึกใช้กล้ามเนื้อเฉพาะจุดด้วยเครื่องจำลองการผ่าตัด

    ตามคำกล่าวของ รอแมน อิชเชนโก (Roman Ishchenko) ผู้อำนวยการสถาบัน ห้องปฏิบัติการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มทักษะเชิงเทคนิค แต่ยังสร้างความมั่นใจให้บุคลากรเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์จริง โดยระบบเทคโนโลยีจะช่วยวัดผลได้อย่างแม่นยำ เช่น การวิเคราะห์ว่าแพทย์สามารถควบคุมความเครียดขณะผ่าตัดได้ดีเพียงใด

    ความสำคัญเชิงนโยบาย
    การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ดังกล่าวสะท้อนความพยายามของรัสเซียในการพัฒนาระบบสาธารณสุขในดินแดนที่เพิ่งผนวก ซึ่งต้องเผชิญทั้งความท้าทายจากความขัดแย้งและความต้องการบริการสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยห้องปฏิบัติการแห่งนี้อาจเป็นแบบจำลองสำหรับการขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ในอนาคต

    หากด้านหนึ่ง AI ถูกใช้เพื่อสร้างอาวุธทำลายล้าง อีกด้านมันก็เป็นเครื่องมือช่วยเหลือที่ทรงพลังไม่แพ้กัน ห้องปฏิบัติการใน Donesk คือตัวอย่างชัดเจนว่า เทคโนโลยีนี้สามารถเป็น "พันธมิตร" ในการกู้ชีพ แทนที่จะเป็นเพียงผู้สังหาร ทั้งยังท้าทายแนวคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับบทบาทของ AI ในสงคราม

    ที่มา
    https://t.me/minzdravru/12508


    รัสเซียใช้โรงฝึกศัลยกรรมสงคราม ที่เปลี่ยนสนามรบเป็นห้องรักษาชีวิตด้วยเทคโนโลยี AI และ VR การเปิดตัวห้องปฏิบัติการฝึกทักษะทางการแพทย์ใหม่ กระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย และ สถาบันศัลยกรรมฉุกเฉินและฟื้นฟู V. K. Gusak เพื่อพัฒนาการฝึกอบรมและวิจัยทางการแพทย์และเพิ่มประสิทธิภาพในการเตรียมความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลใน Donetsk (พื้นที่ผนวกใหม่ของรัสเซียในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร) เพื่อยกระดับการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์จริง โดยเฉพาะในบริบทของภูมิภาคที่เผชิญความขัดแย้งในสงคราม เทคโนโลยีหลักที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ 1. VR และ AI: เพื่อสร้างสถานการณ์จำลองการรักษาผู้ป่วย 2. อุปกรณ์เสมือนจริง (VR) และอินเทอร์เฟซประสาท (Neurointerfaces) เพื่อสร้างสถานการณ์สมมุติที่ใกล้เคียงกับสนามรบ เช่น การรักษาผู้บาดเจ็บหมู่ภายใต้เสียงระเบิด 3. เครื่องมือวัดชีวภาพ (Biometric Sensors) ที่ติดตามอัตราการเต้นหัวใจ ความเครียด และการทำงานของกล้ามเนื้อระหว่างฝึก 4. ปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิง เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการฝึกอย่างเป็นระบบ ลดอคติจากการประเมินด้วยมนุษย์ วัตถุประสงค์หลัก เพื่อเตรียมความพร้อมแพทย์และพยาบาลในภูมิภาคใหม่ที่ต้องทำงานภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ ได้แก่ 1. สภาพแวดล้อมความเครียดสูงจากการรักษาผู้บาดเจ็บจำนวนมากในภาวะฉุกเฉิน 2. การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ในสถานการณ์เสี่ยง เช่น การผ่าตัดที่ต้องแข่งกับเวลา 3. ความอดทนต่อการทำงานระยะยาว ผ่านการฝึกใช้กล้ามเนื้อเฉพาะจุดด้วยเครื่องจำลองการผ่าตัด ตามคำกล่าวของ รอแมน อิชเชนโก (Roman Ishchenko) ผู้อำนวยการสถาบัน ห้องปฏิบัติการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มทักษะเชิงเทคนิค แต่ยังสร้างความมั่นใจให้บุคลากรเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์จริง โดยระบบเทคโนโลยีจะช่วยวัดผลได้อย่างแม่นยำ เช่น การวิเคราะห์ว่าแพทย์สามารถควบคุมความเครียดขณะผ่าตัดได้ดีเพียงใด ความสำคัญเชิงนโยบาย การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ดังกล่าวสะท้อนความพยายามของรัสเซียในการพัฒนาระบบสาธารณสุขในดินแดนที่เพิ่งผนวก ซึ่งต้องเผชิญทั้งความท้าทายจากความขัดแย้งและความต้องการบริการสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยห้องปฏิบัติการแห่งนี้อาจเป็นแบบจำลองสำหรับการขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ในอนาคต หากด้านหนึ่ง AI ถูกใช้เพื่อสร้างอาวุธทำลายล้าง อีกด้านมันก็เป็นเครื่องมือช่วยเหลือที่ทรงพลังไม่แพ้กัน ห้องปฏิบัติการใน Donesk คือตัวอย่างชัดเจนว่า เทคโนโลยีนี้สามารถเป็น "พันธมิตร" ในการกู้ชีพ แทนที่จะเป็นเพียงผู้สังหาร ทั้งยังท้าทายแนวคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับบทบาทของ AI ในสงคราม ที่มา https://t.me/minzdravru/12508
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัยการเกาหลีใต้ สั่งฟ้อง ยุน ซ็อกยอล ประธานาธิบดีผู้ถูกถอดถอน ในข้อหาเป็นผู้นำในการก่อกบฏ ด้วยการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้ช่วงสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม จากการเปิดเผยของทนายความของยุนและพรรคฝ่ายค้านหลัก
    .
    ทนายความของยุน วิพากษ์วิจารณ์การสั่งฟ้องครั้งนี้ว่า "เป็นตัวเลือกที่เลวร้าย" ที่ดำเนินการโดยสำนักงานอัยการ แต่ทางพรรคฝ่ายค้านหลักขานรับด้วยความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าว
    .
    การสั่งฟ้องครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของเกาหลีใต้ และถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิด ยุน อาจต้องเผชิญโทษจำคุกสำหรับการประกาศกฎอัยการศึกที่ก่อความตกตะลึงของเขา ในความพยายามหาทางห้ามกิจกรรมทางการเมืองและรัฐสภา รวมถึงควบคุมสื่อมวลชน
    .
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเขา นำมาซึ่งความอลหม่านทางการเมืองในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ถูกถอดถอนเช่นกันและถูกพักอำนาจ นอกจากนี้แล้วยังเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจำนวนหนึ่งถูกสั่งฟ้องจากบทบาทของพวกเขาในคำกล่าวหาก่อกบฏ
    .
    "ประกาศอัยการศึกฉุกเฉินของประธานาธิบดี เป็นคำวิงวอนที่สิ้นหวังที่มีถึงประชาชน ว่าวิกฤตระดับชาติหนึ่งๆ ที่ก่อโดยพวกฝ่ายค้าน กำลังหลุดจากการควบคุม" ทนายความของยุนระบุในถ้อยแถลง
    .
    สำนักงานอัยการยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับการสั่งฟ้องถูกรายงานโดยสื่อมวลชนเกาหลีใต้เช่นกัน
    .
    ทีมสืบสวนต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เสนอให้ตั้งข้อหายุน ที่อยู่ภายใต้การคุมขัง หลังจากถูกถอดถอนโดยรัฐสภาและพักจากการทำหน้าที่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม
    .
    ยุน ซึ่งตัวเองเคยเป็นอัยการสูงสุด ถูกคุมขังเดี่ยวอยู่ที่ทัณฑสถาน ชานกรุงโซล มาตั้งแต่กลายเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง คนแรกที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 มกราคม การจับกุมที่มีขึ้นตามหลังหลายวันของการขัดขืน และการเผชิญหน้าติดอาวุธระหว่างทีมรักษาความปลอดภัยของเขากับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่จับกุมตัว
    .
    เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธอัยการถึง 2 รอบในคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวเขาระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม แต่ด้วยคำสั่งฟ้อง อัยการจึงร้องขออีกครั้งให้คุมขังเขาต่อไป ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น
    .
    การก่อกบฏเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาทางอาญาไม่กี่ข้อกล่าวหา ที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รายหนึ่งๆ ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และมันมีบทลงโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตหรือถึงขั้นประหาร แม้เกาหลีใต้ไม่ได้ประหารชีวิตใครมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม
    .
    "อัยการตัดสินใจสั่งฟ้องยุน ซ็อกยอล ผู้ซึ่งเผชิญข้อกล่าวหาเป็นหัวหน้าแก๊งก่อกบฏ" ฮัน มิน-ซู โฆษกพรรคเดโมแครต ปาร์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าว "เวลานี้การลงโทษหัวหน้าแก๊งก่อกบฏเริ่มต้นขึ้นได้เสียที"
    .
    ยุนและทนายความของเขา โต้แย้ง ณ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการพิจารณาการถอดถอน ว่าเขาไม่เคยมีความตั้งใจบังคับใช้อัยการศึกเต็มรูปแบบ แต่มีเจตนาใช้เป็นแค่มาตรการเตือนเพื่อทลายทางตันทางการเมืองเท่านั้น
    .
    ในความเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกระบวนการทางอาญา ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินรับรองการถอดถอนยุนพ้นจากตำแหน่ง หรือคืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา โดยศาลมีเวลา 180 วัน สำหรับการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว
    .
    รัฐสภาที่นำโดยฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ลงมติถอดถอน ยุน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ส่งผลให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสายอนุรักษนิยมรายที่ 2 ของประเทศ ที่ถูกถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง
    .
    ยุน ถอนประกาศอัยการศึกหลังจากบังคับใช้ไปราวๆ 6 ชั่วโมง หลังบรรดาสมาชิกรัฐสภา ที่เผชิญหน้ากับทหารในรัฐสภา ลงมติคว่ำประกาศดังกล่าว
    .
    ระหว่างการเผชิญหน้าอันน่าตกอกตกใจ ทหารพร้อมปืนไรเฟิล เสื้อกันกระสุนและยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการตอนกลางคืน กำลังทุบบานกระจก ในความพยายามเข้าไปยังอาคารรัฐสภา
    .
    ทั้งนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับรองการถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีจะถูกจัดขึ้นภายใน 60 วัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008311
    ..............
    Sondhi X
    อัยการเกาหลีใต้ สั่งฟ้อง ยุน ซ็อกยอล ประธานาธิบดีผู้ถูกถอดถอน ในข้อหาเป็นผู้นำในการก่อกบฏ ด้วยการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้ช่วงสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม จากการเปิดเผยของทนายความของยุนและพรรคฝ่ายค้านหลัก . ทนายความของยุน วิพากษ์วิจารณ์การสั่งฟ้องครั้งนี้ว่า "เป็นตัวเลือกที่เลวร้าย" ที่ดำเนินการโดยสำนักงานอัยการ แต่ทางพรรคฝ่ายค้านหลักขานรับด้วยความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าว . การสั่งฟ้องครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของเกาหลีใต้ และถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิด ยุน อาจต้องเผชิญโทษจำคุกสำหรับการประกาศกฎอัยการศึกที่ก่อความตกตะลึงของเขา ในความพยายามหาทางห้ามกิจกรรมทางการเมืองและรัฐสภา รวมถึงควบคุมสื่อมวลชน . ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเขา นำมาซึ่งความอลหม่านทางการเมืองในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ถูกถอดถอนเช่นกันและถูกพักอำนาจ นอกจากนี้แล้วยังเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจำนวนหนึ่งถูกสั่งฟ้องจากบทบาทของพวกเขาในคำกล่าวหาก่อกบฏ . "ประกาศอัยการศึกฉุกเฉินของประธานาธิบดี เป็นคำวิงวอนที่สิ้นหวังที่มีถึงประชาชน ว่าวิกฤตระดับชาติหนึ่งๆ ที่ก่อโดยพวกฝ่ายค้าน กำลังหลุดจากการควบคุม" ทนายความของยุนระบุในถ้อยแถลง . สำนักงานอัยการยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับการสั่งฟ้องถูกรายงานโดยสื่อมวลชนเกาหลีใต้เช่นกัน . ทีมสืบสวนต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เสนอให้ตั้งข้อหายุน ที่อยู่ภายใต้การคุมขัง หลังจากถูกถอดถอนโดยรัฐสภาและพักจากการทำหน้าที่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม . ยุน ซึ่งตัวเองเคยเป็นอัยการสูงสุด ถูกคุมขังเดี่ยวอยู่ที่ทัณฑสถาน ชานกรุงโซล มาตั้งแต่กลายเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง คนแรกที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 มกราคม การจับกุมที่มีขึ้นตามหลังหลายวันของการขัดขืน และการเผชิญหน้าติดอาวุธระหว่างทีมรักษาความปลอดภัยของเขากับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่จับกุมตัว . เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธอัยการถึง 2 รอบในคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวเขาระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม แต่ด้วยคำสั่งฟ้อง อัยการจึงร้องขออีกครั้งให้คุมขังเขาต่อไป ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น . การก่อกบฏเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาทางอาญาไม่กี่ข้อกล่าวหา ที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รายหนึ่งๆ ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และมันมีบทลงโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตหรือถึงขั้นประหาร แม้เกาหลีใต้ไม่ได้ประหารชีวิตใครมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม . "อัยการตัดสินใจสั่งฟ้องยุน ซ็อกยอล ผู้ซึ่งเผชิญข้อกล่าวหาเป็นหัวหน้าแก๊งก่อกบฏ" ฮัน มิน-ซู โฆษกพรรคเดโมแครต ปาร์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าว "เวลานี้การลงโทษหัวหน้าแก๊งก่อกบฏเริ่มต้นขึ้นได้เสียที" . ยุนและทนายความของเขา โต้แย้ง ณ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการพิจารณาการถอดถอน ว่าเขาไม่เคยมีความตั้งใจบังคับใช้อัยการศึกเต็มรูปแบบ แต่มีเจตนาใช้เป็นแค่มาตรการเตือนเพื่อทลายทางตันทางการเมืองเท่านั้น . ในความเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกระบวนการทางอาญา ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินรับรองการถอดถอนยุนพ้นจากตำแหน่ง หรือคืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา โดยศาลมีเวลา 180 วัน สำหรับการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว . รัฐสภาที่นำโดยฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ลงมติถอดถอน ยุน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ส่งผลให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสายอนุรักษนิยมรายที่ 2 ของประเทศ ที่ถูกถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง . ยุน ถอนประกาศอัยการศึกหลังจากบังคับใช้ไปราวๆ 6 ชั่วโมง หลังบรรดาสมาชิกรัฐสภา ที่เผชิญหน้ากับทหารในรัฐสภา ลงมติคว่ำประกาศดังกล่าว . ระหว่างการเผชิญหน้าอันน่าตกอกตกใจ ทหารพร้อมปืนไรเฟิล เสื้อกันกระสุนและยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการตอนกลางคืน กำลังทุบบานกระจก ในความพยายามเข้าไปยังอาคารรัฐสภา . ทั้งนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับรองการถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีจะถูกจัดขึ้นภายใน 60 วัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008311 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 996 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซามิ อาบู ซูห์รี (Sami Abu Zuhri) ผู้นำกลุ่มฮามาส ตอบโต้ทรัมป์กรณีแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกนอกกาซา

    "ชาวกาซาต้องทนทุกข์ทรมานจากความตายหลังจากพวกเขาถูกกดันให้ย้ายถิ่นฐานออกจากบ้านเกิดเมืองนอน พวกเขาจะไม่จากไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด

    ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับโครงการต่างๆ เพราะไบเดนเคยพยายามทำมาหมดแล้ว และนั่นมีแต่จะทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไปอีก

    การปฏิบัติตามและรักษาข้อตกลงก็เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาของกาซาได้แล้ว ส่วนความพยายามอื่นๆไม่มีค่าอะไรทั้งสิ้น"
    ซามิ อาบู ซูห์รี (Sami Abu Zuhri) ผู้นำกลุ่มฮามาส ตอบโต้ทรัมป์กรณีแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกนอกกาซา "ชาวกาซาต้องทนทุกข์ทรมานจากความตายหลังจากพวกเขาถูกกดันให้ย้ายถิ่นฐานออกจากบ้านเกิดเมืองนอน พวกเขาจะไม่จากไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับโครงการต่างๆ เพราะไบเดนเคยพยายามทำมาหมดแล้ว และนั่นมีแต่จะทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไปอีก การปฏิบัติตามและรักษาข้อตกลงก็เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาของกาซาได้แล้ว ส่วนความพยายามอื่นๆไม่มีค่าอะไรทั้งสิ้น"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการเปิดตัว CPU รุ่นใหม่ของ Intel ที่ชื่อว่า Core Ultra 5 230F ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น CPU รุ่นนี้มีการออกแบบที่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ในตระกูลเดียวกัน โดยมีการใช้ heatspreader ที่แตกต่างกันและมีบรรจุภัณฑ์สีดำที่ดูหรูหรา

    Core Ultra 5 230F มีการจัดเรียงคอร์แบบ 10 คอร์ โดยแบ่งเป็น 6 P-cores และ 4 E-cores โดย P-cores มีความเร็วเริ่มต้นที่ 3.4 GHz และสามารถเพิ่มความเร็วได้สูงสุดถึง 5 GHz ส่วน E-cores มีความเร็วเริ่มต้นที่ 2.9 GHz และสามารถเพิ่มความเร็วได้สูงสุดถึง 4.4 GHz นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มขนาดแคชให้มากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่น Core Ultra 5 225(F)

    การเปิดตัว CPU รุ่นนี้เป็นการยืนยันถึงความพยายามของ Intel ในการตอบสนองความต้องการของตลาดจีน และยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างและน่าสนใจ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/china-exclusive-arrow-lake-cpu-poses-for-photos-core-ultra-5-230f-debuts-in-sleek-black-box
    มีการเปิดตัว CPU รุ่นใหม่ของ Intel ที่ชื่อว่า Core Ultra 5 230F ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น CPU รุ่นนี้มีการออกแบบที่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ในตระกูลเดียวกัน โดยมีการใช้ heatspreader ที่แตกต่างกันและมีบรรจุภัณฑ์สีดำที่ดูหรูหรา Core Ultra 5 230F มีการจัดเรียงคอร์แบบ 10 คอร์ โดยแบ่งเป็น 6 P-cores และ 4 E-cores โดย P-cores มีความเร็วเริ่มต้นที่ 3.4 GHz และสามารถเพิ่มความเร็วได้สูงสุดถึง 5 GHz ส่วน E-cores มีความเร็วเริ่มต้นที่ 2.9 GHz และสามารถเพิ่มความเร็วได้สูงสุดถึง 4.4 GHz นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มขนาดแคชให้มากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่น Core Ultra 5 225(F) การเปิดตัว CPU รุ่นนี้เป็นการยืนยันถึงความพยายามของ Intel ในการตอบสนองความต้องการของตลาดจีน และยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างและน่าสนใจ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/china-exclusive-arrow-lake-cpu-poses-for-photos-core-ultra-5-230f-debuts-in-sleek-black-box
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังเสนอแนวคิดใหม่เกี่ยวกับมาตรฐานโมดูลาร์สำหรับแล็ปท็อปและมินิพีซี เพื่อปรับปรุงความสามารถในการซ่อมแซมและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แนวคิดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปเกรดและเปลี่ยนส่วนประกอบต่าง ๆ ของแล็ปท็อปได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ทั้งหมด เช่น การอัปเกรดเมนบอร์ดและพอร์ตต่าง ๆ

    Intel เชื่อว่าการนำมาตรฐานโมดูลาร์มาใช้จะช่วยลดต้นทุนและขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในการซ่อมแซม ซึ่งเป็นการต่อต้านความพยายามของผู้ผลิตในการปิดกั้นการซ่อมแซมและบำรุงรักษาโดยผู้ใช้หรือผู้ขายฮาร์ดแวร์บุคคลที่สาม

    https://www.techspot.com/news/106495-intel-proposes-new-modular-standards-laptops-mini-pcs.html
    Intel กำลังเสนอแนวคิดใหม่เกี่ยวกับมาตรฐานโมดูลาร์สำหรับแล็ปท็อปและมินิพีซี เพื่อปรับปรุงความสามารถในการซ่อมแซมและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แนวคิดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปเกรดและเปลี่ยนส่วนประกอบต่าง ๆ ของแล็ปท็อปได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ทั้งหมด เช่น การอัปเกรดเมนบอร์ดและพอร์ตต่าง ๆ Intel เชื่อว่าการนำมาตรฐานโมดูลาร์มาใช้จะช่วยลดต้นทุนและขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในการซ่อมแซม ซึ่งเป็นการต่อต้านความพยายามของผู้ผลิตในการปิดกั้นการซ่อมแซมและบำรุงรักษาโดยผู้ใช้หรือผู้ขายฮาร์ดแวร์บุคคลที่สาม https://www.techspot.com/news/106495-intel-proposes-new-modular-standards-laptops-mini-pcs.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel proposes new modular standards for laptops and mini PCs to improve repairability
    Intel recently outlined its ideas for allowing users to upgrade and replace individual laptop components. If widely adopted, the new standards could reduce costs and e-waste.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวลาหนึ่งชัวโมงของแต่ละคนมากน้อยแตกต่างกัน
    ขึ้นอยู่กับการนำเวลานั้นไปใช้กับอะไร
    หากใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดีย อาจให้ความรู้สึกไม่นาน
    แต่หากเอาไปพัฒนาตัวเอง อาจรู้สึกว่าไม่หมดเวลาสักที
    .
    แต่ความแตกต่างที่เวลาหนึ่งชั่วโมงต่อวันให้กับเรา
    มันสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในระยะยาวได้ไม่น้อย
    หากเราแบ่งเวลาเพียงแค่ “หนึ่งชั่วโมง” เพื่อทักษะบางอย่าง
    ในระยะเวลา 1 ปี เราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้
    .
    หากมองว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน จะเปลี่ยนแปลงได้ยังไง
    มองตามหลักคณิตศาสตร์ มันคือ 7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
    30 ชั่วโมงต่อเดือน และ 365 ชั่วโมงต่อปี หากแปลงเป็นวัน
    นั่นคือ 15 วันเต็มๆ ที่คุณจะได้พัฒนาทักษะในหนึ่งปี
    .
    เมื่อครบปี เราจะพบว่า เพียงวันละ 1 ชั่วโมงที่เราใช้กับทักษะใดๆก็ตาม
    เพียงพอที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมาก
    และยังสามารถช่วยเพิ่มระดับทักษะให้เราได้อย่างแท้จริง
    .
    แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่ทำสิ่งนี้ก็เพราะว่า
    เรามักมองข้ามก้าวเล็ก ๆ ของเรา แล้วมองไปที่เป้าหมายยิ่งใหญ่
    เรามักจะใช้เวลาไปกับสิ่งที่เราคุ้นเคย เช่นการเล่นโซเชียลมีเดีย
    เรามักกลัวว่าจะล้มเหลว ผิดพลาด ดูโง่เขลา และเสียเวลา
    เรามักจะทำตัวเหมือนไม่มีเวลา ดูยุ่งกับทุกอย่างไปหมด แต่ไม่ใช่เลย
    .
    แท้จริงแล้วการแบ่งเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อมาพัฒนาทักษะ
    เราไม่จำเป็นต้องมีพรสรรค์ใดๆ ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์
    แต่สิ่งที่เราต้องมีคือ เวลา ความสม่ำเสมอและความอดทน
    .
    สุดท้ายแล้ว แม้ในระยะสั้น เราจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ
    แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป สิ่งนี้จะรวมกันเป็นสิ่งที่พิเศษมาก
    ด้วยความมหัศจรรย์ของความพยายามเล็กๆน้อยๆที่สม่ำเสมอ
    ดังนั้นแล้ว คุณจะทำอะไรกับ 3,600 วินาทีถัดไป
    .
    เล็กน้อย x สม่ำเสมอ = มหาศาล
    .
    เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
    #theinsider #selfimprovement #1hour
    .
    Source
    - https://medium.com/@royphang/how-60-minutes-a-day-can-change-your-life-959279aef1e1
    เวลาหนึ่งชัวโมงของแต่ละคนมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการนำเวลานั้นไปใช้กับอะไร หากใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดีย อาจให้ความรู้สึกไม่นาน แต่หากเอาไปพัฒนาตัวเอง อาจรู้สึกว่าไม่หมดเวลาสักที . แต่ความแตกต่างที่เวลาหนึ่งชั่วโมงต่อวันให้กับเรา มันสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในระยะยาวได้ไม่น้อย หากเราแบ่งเวลาเพียงแค่ “หนึ่งชั่วโมง” เพื่อทักษะบางอย่าง ในระยะเวลา 1 ปี เราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้ . หากมองว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน จะเปลี่ยนแปลงได้ยังไง มองตามหลักคณิตศาสตร์ มันคือ 7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 30 ชั่วโมงต่อเดือน และ 365 ชั่วโมงต่อปี หากแปลงเป็นวัน นั่นคือ 15 วันเต็มๆ ที่คุณจะได้พัฒนาทักษะในหนึ่งปี . เมื่อครบปี เราจะพบว่า เพียงวันละ 1 ชั่วโมงที่เราใช้กับทักษะใดๆก็ตาม เพียงพอที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมาก และยังสามารถช่วยเพิ่มระดับทักษะให้เราได้อย่างแท้จริง . แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่ทำสิ่งนี้ก็เพราะว่า เรามักมองข้ามก้าวเล็ก ๆ ของเรา แล้วมองไปที่เป้าหมายยิ่งใหญ่ เรามักจะใช้เวลาไปกับสิ่งที่เราคุ้นเคย เช่นการเล่นโซเชียลมีเดีย เรามักกลัวว่าจะล้มเหลว ผิดพลาด ดูโง่เขลา และเสียเวลา เรามักจะทำตัวเหมือนไม่มีเวลา ดูยุ่งกับทุกอย่างไปหมด แต่ไม่ใช่เลย . แท้จริงแล้วการแบ่งเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อมาพัฒนาทักษะ เราไม่จำเป็นต้องมีพรสรรค์ใดๆ ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ แต่สิ่งที่เราต้องมีคือ เวลา ความสม่ำเสมอและความอดทน . สุดท้ายแล้ว แม้ในระยะสั้น เราจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป สิ่งนี้จะรวมกันเป็นสิ่งที่พิเศษมาก ด้วยความมหัศจรรย์ของความพยายามเล็กๆน้อยๆที่สม่ำเสมอ ดังนั้นแล้ว คุณจะทำอะไรกับ 3,600 วินาทีถัดไป . เล็กน้อย x สม่ำเสมอ = มหาศาล . เรียบเรียงโดย: THE INSIDER #theinsider #selfimprovement #1hour . Source - https://medium.com/@royphang/how-60-minutes-a-day-can-change-your-life-959279aef1e1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากทรัมป์ลงนาม "คำสั่งฝ่ายบริหาร" เพื่อเปิดเผยความลับของเอกสารการลอบสังหาร JFK

    "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" (Operation Northwoods) ซึ่งเป็นปฏิบัติการลับของ CIA ในช่วงปี 1962 (พ.ศ.2505) เพื่อเข้าแทรกแซงทางทหารในคิวบากลับมาได้รับความสนใจในโซเชียลอีกครั้ง

    แต่สุดท้ายแล้ว "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" ถูกประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดีปฏิเสธทั้งหมด แม้ว่าจะลงนามโดยคณะเสนาธิการทหารร่วมในปี 1962 แล้วก็ตาม

    หน่วยงาน CIA ร่วมมือกับกองทัพสหรัฐ วางแผน "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" มาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1960 รายละเอียดบางส่วนของแผนการในครั้งนั้น เพื่อโยนความผิดให้กับคิวบา และเพื่อสร้างเหตุผลความชอบธรรมในการทำสงครามกับคิวบา และกำจัด "ฟิเดล คาสโตร" ผู้นำคิวบา:

    - วางแผนจัดฉากหรือสร้างเรื่องโจมตีก่อการร้ายในเมืองต่างๆของสหรัฐฯ หรือโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ รวมทั้งพลเมืองสหรัฐฯทั้งในและต่างประเทศ

    - การสร้างเหตุการณ์ที่เครื่องบินสหรัฐฯ ถูกยิงตกหรือก่อวินาศกรรม ซึ่งจะพยายามทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำของคิวบา

    - การจัดฉากโจมตีในไมอามี เมืองอื่นๆ ในฟลอริดา และอาจรวมถึงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย

    - วางแผนการให้มีการสังหารทหารสหรัฐฯ โดยระเบิดเรือในอ่าวกวนตานาโม แล้วโยนความผิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับหน่วยก่อวินาศกรรมของคิวบา

    - จัดฉากการจี้เครื่องบินจนเกิดเหตุการณ์บานปลายทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตเพื่อโยนความผิดให้คิวบา

    - จัดฉากว่ากองทัพอากาศคิวบาโจมตีเครื่องบินโดยสารพลเรือน

    มีรายงานว่าเคนเนดีตกใจกับแนวทางนี้และไม่ยอมรับโดบเด็ดขาด ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับผู้นำกองทัพตึงเครียดอย่างมาก

    แม้ว่าเอกสารนี้จะถูกเผยแพร่มาแล้วตั้งแต่ปี 2001 แต่กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งในช่วงเวลานี้ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ที่เป็น “การเปิดโปงการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯในคิวบา”

    การวางแผนของหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐ มักจะเกิดจากความพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศขึ้นก่อน หลังจากนั้นจะตามมาด้วยการใช้ข้ออ้างกำลังทหารเข้ายุติปัญหา
    หลังจากทรัมป์ลงนาม "คำสั่งฝ่ายบริหาร" เพื่อเปิดเผยความลับของเอกสารการลอบสังหาร JFK "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" (Operation Northwoods) ซึ่งเป็นปฏิบัติการลับของ CIA ในช่วงปี 1962 (พ.ศ.2505) เพื่อเข้าแทรกแซงทางทหารในคิวบากลับมาได้รับความสนใจในโซเชียลอีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้ว "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" ถูกประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดีปฏิเสธทั้งหมด แม้ว่าจะลงนามโดยคณะเสนาธิการทหารร่วมในปี 1962 แล้วก็ตาม หน่วยงาน CIA ร่วมมือกับกองทัพสหรัฐ วางแผน "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" มาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1960 รายละเอียดบางส่วนของแผนการในครั้งนั้น เพื่อโยนความผิดให้กับคิวบา และเพื่อสร้างเหตุผลความชอบธรรมในการทำสงครามกับคิวบา และกำจัด "ฟิเดล คาสโตร" ผู้นำคิวบา: - วางแผนจัดฉากหรือสร้างเรื่องโจมตีก่อการร้ายในเมืองต่างๆของสหรัฐฯ หรือโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ รวมทั้งพลเมืองสหรัฐฯทั้งในและต่างประเทศ - การสร้างเหตุการณ์ที่เครื่องบินสหรัฐฯ ถูกยิงตกหรือก่อวินาศกรรม ซึ่งจะพยายามทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำของคิวบา - การจัดฉากโจมตีในไมอามี เมืองอื่นๆ ในฟลอริดา และอาจรวมถึงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย - วางแผนการให้มีการสังหารทหารสหรัฐฯ โดยระเบิดเรือในอ่าวกวนตานาโม แล้วโยนความผิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับหน่วยก่อวินาศกรรมของคิวบา - จัดฉากการจี้เครื่องบินจนเกิดเหตุการณ์บานปลายทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตเพื่อโยนความผิดให้คิวบา - จัดฉากว่ากองทัพอากาศคิวบาโจมตีเครื่องบินโดยสารพลเรือน มีรายงานว่าเคนเนดีตกใจกับแนวทางนี้และไม่ยอมรับโดบเด็ดขาด ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับผู้นำกองทัพตึงเครียดอย่างมาก แม้ว่าเอกสารนี้จะถูกเผยแพร่มาแล้วตั้งแต่ปี 2001 แต่กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งในช่วงเวลานี้ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ที่เป็น “การเปิดโปงการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯในคิวบา” การวางแผนของหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐ มักจะเกิดจากความพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศขึ้นก่อน หลังจากนั้นจะตามมาด้วยการใช้ข้ออ้างกำลังทหารเข้ายุติปัญหา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • 83 ปี ไทยเข้าร่วมสงครามโลก ครั้งที่สอง ประกาศรบ "อังกฤษ-อเมริกา"

    เมื่อย้อนเวลากลับไป 83 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2485 นับเป็นเหตุการณ์สำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย เมื่อรัฐบาลไทยในขณะนั้น นำโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ประกาศสงครามกับ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ในบริบทของสงครามโลก ครั้งที่สอง เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบ ในช่วงเวลานั้น แต่ยังมีผลต่ออนาคตทางการเมือง และการทูตของประเทศไทย อย่างมหาศาล

    การรุกรานของญี่ปุ่น จุดเริ่มต้นความขัดแย้ง
    วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ญี่ปุ่นได้เริ่มบุกประเทศไทย โดยยกพลขึ้นบก ในหลายพื้นที่ริมฝั่งอ่าวไทย เช่น ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสงขลา การรุกรานครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการรบในแปซิฟิก ของญี่ปุ่น ซึ่งมีเป้าหมายโจมตีพม่า (ขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ) ผ่านเส้นทางประเทศไทย

    รัฐบาลไทยในขณะนั้น ซึ่งนำโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เลือกที่จะยอมให้ญี่ปุ่น ใช้เส้นทางผ่านประเทศไทย หลังจากกองกำลังทหารไทย ต่อต้านได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง การตัดสินใจครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อ หลีกเลี่ยงการสูญเสียครั้งใหญ่ และปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ในสถานการณ์ที่กำลังเสียเปรียบ

    การร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่น
    หลังจากยินยอมให้ญี่ปุ่น ใช้ดินแดนเพื่อเคลื่อนทัพ ไทยได้ลงนามใน สัญญาพันธมิตรกับญี่ปุ่น โดยหวังที่จะได้รับผลประโยชน์ เช่น การได้คืนพื้นที่บางส่วนของไทย ที่เคยเสียให้กับอังกฤษ ได้แก่ ไทรบุรี ปะลิส ตรังกานู กลันตัน และพื้นที่ในแคว้นไทยใหญ่ เช่น เชียงตุงและเมืองพาน

    อย่างไรก็ตาม การร่วมมือกับญี่ปุ่น นำไปสู่ความขัดแย้งภายในรัฐบาล เนื่องจากบุคคลสำคัญบางคน เช่น นายปรีดี พนมยงค์ และ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งทำให้เกิด ขบวนการเสรีไทย ในเวลาต่อมา

    25 มกราคม 2485: ประกาศสงคราม
    รัฐบาลของจอมพล ป. ตัดสินใจประกาศสงครามกับ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่า ทั้งสองประเทศ ได้ทำการรุกรานไทย เช่น การโจมตีทางอากาศ และการระดมยิงราษฎร

    ในคำประกาศสงคราม ของรัฐบาลไทย มีข้อความอ้างถึง ความเสียหายที่ไทยได้รับ จากการโจมตีทางอากาศของอังกฤษว่า

    “ไทยถูกโจมตีทางอากาศ 30 ครั้ง และโจมตีทางบกถึง 36 ครั้ง ระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม ถึง 20 มกราคม”

    แต่ในทางปฏิบัติ สหรัฐอเมริกาไม่ได้ตอบโต้ ด้วยการประกาศสงครามกับไทย แต่อย่างใด เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ถือว่าไทย เป็นดินแดนที่ถูกญี่ปุ่นครอบครอง

    ขบวนการเสรีไทย ความหวังของชาติ
    หลังจากรัฐบาลไทย ประกาศสงคราม มีคนไทยกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาล และก่อตั้ง "ขบวนการเสรีไทย" เพื่อร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตร ในการต่อต้านญี่ปุ่น

    ผู้นำสำคัญ ของขบวนการเสรีไทย ในต่างประเทศ ได้แก่ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ซึ่งดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ในเวลานั้น ได้ปฏิเสธที่จะยื่นคำประกาศสงคราม ของรัฐบาลไทยต่อสหรัฐฯ และประกาศตัดขาด จากรัฐบาลกรุงเทพฯ พร้อมร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตร อย่างเปิดเผย

    ผลกระทบหลังสงคราม
    หลังสงครามโลก ครั้งที่สอง สิ้นสุดในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ไทยได้รับผลกระทบ น้อยกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากความพยายาม ของขบวนการเสรีไทย ที่ช่วยให้ประเทศไทย สามารถเจรจาต่อรอง สถานะของตนเอง กับฝ่ายสัมพันธมิตร

    - วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2489 ไทยเจรจาเลิกสถานะสงครามกับอังกฤษ
    - วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489 ไทยเลิกสถานะสงครามกับฝรั่งเศส

    บทเรียนจากประวัติศาสตร์
    การเข้าร่วมสงครามโลก ครั้งที่สอง ของไทย สะท้อนถึงความท้าทาย ทางการเมืองระหว่างประเทศ ในยุคที่ประเทศเล็กๆ ต้องรับมือกับอิทธิพล ของชาติมหาอำนาจ ไทยในยุคนั้น ต้องเลือกหนทางที่ดีที่สุดในสถานการณ์ ที่ไม่มีทางเลือกที่ดี อย่างแท้จริง

    คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับเหตุการณ์สงครามโลก ครั้งที่สอง ของไทย
    1. ทำไมไทยถึงยอมให้ญี่ปุ่น ใช้ดินแดนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง?
    ไทยไม่สามารถต่อต้าน กำลังพลของญี่ปุ่นได้ เนื่องจากมีกำลังพลน้อยกว่าอย่างมาก การยอมรับข้อเรียกร้องของญี่ปุ่น จึงเป็นทางเลือก เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายร้ายแรง

    2. ขบวนการเสรีไทย มีบทบาทสำคัญอย่างไร?
    ขบวนการเสรีไทย ช่วยประสานงานกับฝ่ายสัมพันธมิตร ในการต่อต้านญี่ปุ่น และยังมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยให้ไทย รอดพ้นจากการถูกลงโทษ หลังสงคราม

    3. สหรัฐอเมริกาถือว่าไทยเป็นศัตรู ในสงครามโลก ครั้งที่สองหรือไม่?
    สหรัฐฯ ไม่ได้ประกาศสงครามกับไทย และมองว่าไทย เป็นประเทศที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพล ของญี่ปุ่น

    4. การประกาศสงครามของไทย มีผลกระทบอย่างไรบ้าง?
    การประกาศสงคราม ทำให้ไทยถูกโจมตีทางอากาศ จากฝ่ายสัมพันธมิตร และสร้างความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งภายในและต่างประเทศ

    การประกาศสงคราม ในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2485 เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึง การดิ้นรนของไทย ในยุคที่มหาอำนาจ กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด แม้ว่าประเทศไทย จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่การดำเนินงานของขบวนการเสรีไทย และการเจรจาหลังสงคราม ได้ช่วยฟื้นฟูสถานภาพของไทย ในเวทีโลก

    🎖️ “เรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยในอนาคต” 🎖️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 250803 ม.ค. 2568

    #สงครามโลกครั้งที่สอง #ไทยในสงครามโลก #เสรีไทย #จอมพลปพิบูลสงคราม #การประกาศสงคราม #ประวัติศาสตร์ไทย #WWII #ThaiHistory #FreeThai #ThailandWWII









    83 ปี ไทยเข้าร่วมสงครามโลก ครั้งที่สอง ประกาศรบ "อังกฤษ-อเมริกา" เมื่อย้อนเวลากลับไป 83 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2485 นับเป็นเหตุการณ์สำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย เมื่อรัฐบาลไทยในขณะนั้น นำโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ประกาศสงครามกับ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ในบริบทของสงครามโลก ครั้งที่สอง เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบ ในช่วงเวลานั้น แต่ยังมีผลต่ออนาคตทางการเมือง และการทูตของประเทศไทย อย่างมหาศาล การรุกรานของญี่ปุ่น จุดเริ่มต้นความขัดแย้ง วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ญี่ปุ่นได้เริ่มบุกประเทศไทย โดยยกพลขึ้นบก ในหลายพื้นที่ริมฝั่งอ่าวไทย เช่น ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสงขลา การรุกรานครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการรบในแปซิฟิก ของญี่ปุ่น ซึ่งมีเป้าหมายโจมตีพม่า (ขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ) ผ่านเส้นทางประเทศไทย รัฐบาลไทยในขณะนั้น ซึ่งนำโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เลือกที่จะยอมให้ญี่ปุ่น ใช้เส้นทางผ่านประเทศไทย หลังจากกองกำลังทหารไทย ต่อต้านได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง การตัดสินใจครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อ หลีกเลี่ยงการสูญเสียครั้งใหญ่ และปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ในสถานการณ์ที่กำลังเสียเปรียบ การร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่น หลังจากยินยอมให้ญี่ปุ่น ใช้ดินแดนเพื่อเคลื่อนทัพ ไทยได้ลงนามใน สัญญาพันธมิตรกับญี่ปุ่น โดยหวังที่จะได้รับผลประโยชน์ เช่น การได้คืนพื้นที่บางส่วนของไทย ที่เคยเสียให้กับอังกฤษ ได้แก่ ไทรบุรี ปะลิส ตรังกานู กลันตัน และพื้นที่ในแคว้นไทยใหญ่ เช่น เชียงตุงและเมืองพาน อย่างไรก็ตาม การร่วมมือกับญี่ปุ่น นำไปสู่ความขัดแย้งภายในรัฐบาล เนื่องจากบุคคลสำคัญบางคน เช่น นายปรีดี พนมยงค์ และ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งทำให้เกิด ขบวนการเสรีไทย ในเวลาต่อมา 25 มกราคม 2485: ประกาศสงคราม รัฐบาลของจอมพล ป. ตัดสินใจประกาศสงครามกับ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่า ทั้งสองประเทศ ได้ทำการรุกรานไทย เช่น การโจมตีทางอากาศ และการระดมยิงราษฎร ในคำประกาศสงคราม ของรัฐบาลไทย มีข้อความอ้างถึง ความเสียหายที่ไทยได้รับ จากการโจมตีทางอากาศของอังกฤษว่า “ไทยถูกโจมตีทางอากาศ 30 ครั้ง และโจมตีทางบกถึง 36 ครั้ง ระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม ถึง 20 มกราคม” แต่ในทางปฏิบัติ สหรัฐอเมริกาไม่ได้ตอบโต้ ด้วยการประกาศสงครามกับไทย แต่อย่างใด เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ถือว่าไทย เป็นดินแดนที่ถูกญี่ปุ่นครอบครอง ขบวนการเสรีไทย ความหวังของชาติ หลังจากรัฐบาลไทย ประกาศสงคราม มีคนไทยกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาล และก่อตั้ง "ขบวนการเสรีไทย" เพื่อร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตร ในการต่อต้านญี่ปุ่น ผู้นำสำคัญ ของขบวนการเสรีไทย ในต่างประเทศ ได้แก่ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ซึ่งดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ในเวลานั้น ได้ปฏิเสธที่จะยื่นคำประกาศสงคราม ของรัฐบาลไทยต่อสหรัฐฯ และประกาศตัดขาด จากรัฐบาลกรุงเทพฯ พร้อมร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตร อย่างเปิดเผย ผลกระทบหลังสงคราม หลังสงครามโลก ครั้งที่สอง สิ้นสุดในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ไทยได้รับผลกระทบ น้อยกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากความพยายาม ของขบวนการเสรีไทย ที่ช่วยให้ประเทศไทย สามารถเจรจาต่อรอง สถานะของตนเอง กับฝ่ายสัมพันธมิตร - วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2489 ไทยเจรจาเลิกสถานะสงครามกับอังกฤษ - วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489 ไทยเลิกสถานะสงครามกับฝรั่งเศส บทเรียนจากประวัติศาสตร์ การเข้าร่วมสงครามโลก ครั้งที่สอง ของไทย สะท้อนถึงความท้าทาย ทางการเมืองระหว่างประเทศ ในยุคที่ประเทศเล็กๆ ต้องรับมือกับอิทธิพล ของชาติมหาอำนาจ ไทยในยุคนั้น ต้องเลือกหนทางที่ดีที่สุดในสถานการณ์ ที่ไม่มีทางเลือกที่ดี อย่างแท้จริง คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับเหตุการณ์สงครามโลก ครั้งที่สอง ของไทย 1. ทำไมไทยถึงยอมให้ญี่ปุ่น ใช้ดินแดนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง? ไทยไม่สามารถต่อต้าน กำลังพลของญี่ปุ่นได้ เนื่องจากมีกำลังพลน้อยกว่าอย่างมาก การยอมรับข้อเรียกร้องของญี่ปุ่น จึงเป็นทางเลือก เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายร้ายแรง 2. ขบวนการเสรีไทย มีบทบาทสำคัญอย่างไร? ขบวนการเสรีไทย ช่วยประสานงานกับฝ่ายสัมพันธมิตร ในการต่อต้านญี่ปุ่น และยังมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยให้ไทย รอดพ้นจากการถูกลงโทษ หลังสงคราม 3. สหรัฐอเมริกาถือว่าไทยเป็นศัตรู ในสงครามโลก ครั้งที่สองหรือไม่? สหรัฐฯ ไม่ได้ประกาศสงครามกับไทย และมองว่าไทย เป็นประเทศที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพล ของญี่ปุ่น 4. การประกาศสงครามของไทย มีผลกระทบอย่างไรบ้าง? การประกาศสงคราม ทำให้ไทยถูกโจมตีทางอากาศ จากฝ่ายสัมพันธมิตร และสร้างความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งภายในและต่างประเทศ การประกาศสงคราม ในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2485 เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึง การดิ้นรนของไทย ในยุคที่มหาอำนาจ กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด แม้ว่าประเทศไทย จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่การดำเนินงานของขบวนการเสรีไทย และการเจรจาหลังสงคราม ได้ช่วยฟื้นฟูสถานภาพของไทย ในเวทีโลก 🎖️ “เรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยในอนาคต” 🎖️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 250803 ม.ค. 2568 #สงครามโลกครั้งที่สอง #ไทยในสงครามโลก #เสรีไทย #จอมพลปพิบูลสงคราม #การประกาศสงคราม #ประวัติศาสตร์ไทย #WWII #ThaiHistory #FreeThai #ThailandWWII
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงบริเวณทางแยกบนทางหลวง T-0504 ระหว่างเส้นทาง Pokrovsk - Kostyantynivka

    ทางแยกนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ฝ่ายยูเครนมีความพยายามจะตอบโต้ เพื่อใช้เส้นทางนี้
    ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงบริเวณทางแยกบนทางหลวง T-0504 ระหว่างเส้นทาง Pokrovsk - Kostyantynivka ทางแยกนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ฝ่ายยูเครนมีความพยายามจะตอบโต้ เพื่อใช้เส้นทางนี้
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    สถานการณ์ไฟป่า Hughes fire กำลังลุกลามเผาผลาญบนเทือกเขาทางเหนือของลอสแองเจลิส และครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 40 ตารางกิโลเมตร (มากกว่า 10,000 เอเคอร์)

    สภาพอากาศที่มีลมแรง เป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางความพยายามดับเพลิงของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ประชาชนกว่า 50,000 คน ต้องเตรียมพร้อมอพยพ

    รายงานเบื้องต้นระบุว่า มีบุคคลต้องสงสัย 2 คน ซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ไม่นานก่อนที่ไฟไหม้ป่า Hughes filres จะก่อตัวขึ้น
    3/ สถานการณ์ไฟป่า Hughes fire กำลังลุกลามเผาผลาญบนเทือกเขาทางเหนือของลอสแองเจลิส และครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 40 ตารางกิโลเมตร (มากกว่า 10,000 เอเคอร์) สภาพอากาศที่มีลมแรง เป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางความพยายามดับเพลิงของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ประชาชนกว่า 50,000 คน ต้องเตรียมพร้อมอพยพ รายงานเบื้องต้นระบุว่า มีบุคคลต้องสงสัย 2 คน ซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ไม่นานก่อนที่ไฟไหม้ป่า Hughes filres จะก่อตัวขึ้น
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • 2/
    สถานการณ์ไฟป่า Hughes fire กำลังลุกลามเผาผลาญบนเทือกเขาทางเหนือของลอสแองเจลิส และครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 40 ตารางกิโลเมตร (มากกว่า 10,000 เอเคอร์)

    สภาพอากาศที่มีลมแรง เป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางความพยายามดับเพลิงของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ประชาชนกว่า 50,000 คน ต้องเตรียมพร้อมอพยพ

    รายงานเบื้องต้นระบุว่า มีบุคคลต้องสงสัย 2 คน ซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ไม่นานก่อนที่ไฟไหม้ป่า Hughes filres จะก่อตัวขึ้น
    2/ สถานการณ์ไฟป่า Hughes fire กำลังลุกลามเผาผลาญบนเทือกเขาทางเหนือของลอสแองเจลิส และครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 40 ตารางกิโลเมตร (มากกว่า 10,000 เอเคอร์) สภาพอากาศที่มีลมแรง เป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางความพยายามดับเพลิงของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ประชาชนกว่า 50,000 คน ต้องเตรียมพร้อมอพยพ รายงานเบื้องต้นระบุว่า มีบุคคลต้องสงสัย 2 คน ซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ไม่นานก่อนที่ไฟไหม้ป่า Hughes filres จะก่อตัวขึ้น
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • 1/
    สถานการณ์ไฟป่า Hughes fire กำลังลุกลามเผาผลาญบนเทือกเขาทางเหนือของลอสแองเจลิส และครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 40 ตารางกิโลเมตร (มากกว่า 10,000 เอเคอร์)

    สภาพอากาศที่มีลมแรง เป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางความพยายามดับเพลิงของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ประชาชนกว่า 50,000 คน ต้องเตรียมพร้อมอพยพ

    รายงานเบื้องต้นระบุว่า มีบุคคลต้องสงสัย 2 คน ซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ไม่นานก่อนที่ไฟไหม้ป่า Hughes filres จะก่อตัวขึ้น
    1/ สถานการณ์ไฟป่า Hughes fire กำลังลุกลามเผาผลาญบนเทือกเขาทางเหนือของลอสแองเจลิส และครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 40 ตารางกิโลเมตร (มากกว่า 10,000 เอเคอร์) สภาพอากาศที่มีลมแรง เป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางความพยายามดับเพลิงของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ประชาชนกว่า 50,000 คน ต้องเตรียมพร้อมอพยพ รายงานเบื้องต้นระบุว่า มีบุคคลต้องสงสัย 2 คน ซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ไม่นานก่อนที่ไฟไหม้ป่า Hughes filres จะก่อตัวขึ้น
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts