• เพลงที่ทำให้ Evangelion เป็นมากกว่าอนิเมะ: เปิดตำนาน A Cruel Angel’s Thesis

    เพลง “A Cruel Angel’s Thesis” หรือที่รู้จักในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า “Zankoku na Tenshi no Tēze” ถือเป็นหนึ่งในเพลงประกอบอนิเมะที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่นและทั่วโลก เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพลงเปิดของอนิเมะ Neon Genesis Evangelion ที่ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 1995 ทางสถานี TV Tokyo เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงยุคทองของอนิเมะในทศวรรษ 1990s ซึ่งผสมผสานธีมปรัชญา จิตวิทยา และแอ็กชันได้อย่างลงตัว บทความนี้จะพาไปสำรวจประวัติการสร้าง ผลงาน และความโด่งดังของเพลงนี้อย่างละเอียด โดยอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้เห็นภาพรวมการเดินทางจากเพลงประกอบอนิเมะธรรมดาสู่ไอคอนระดับโลก

    ต้นกำเนิดและแรงบันดาลใจของเพลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่อนิเมะ Neon Genesis Evangelion กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต โดยผู้กำกับ Hideaki Anno จากสตูดิโอ Gainax เดิมที Anno ต้องการใช้เพลงคลาสสิกจากโอเปร่ารัสเซียเรื่อง Prince Igor ชื่อ “Polovtsian Dances” ของ Alexander Borodin เป็นเพลงเปิด เพื่อสร้างความแปลกใหม่และทดลอง แต่สถานีโทรทัศน์ปฏิเสธเพราะเห็นว่าเพลงนั้น “ก้าวหน้าจนเกินไป” สำหรับอนิเมะที่ออกอากาศช่วงดึก จึงเปลี่ยนมาใช้เพลง J-Pop ซึ่งเป็นแนวเพลงยอดนิยมในญี่ปุ่นในเวลานั้น

    คำร้องของเพลงเขียนโดย Neko Oikawa ที่ได้รับมอบหมายให้สร้างเนื้อหาที่ “ยากและปรัชญา” เพื่อสะท้อนธีมของอนิเมะที่เกี่ยวกับการต่อสู้ภายในจิตใจมนุษย์ ชะตากรรม และการเติบโต แม้ว่า Oikawa จะมีข้อมูลจำกัด เธอเพียงแค่ได้อ่านแผนเสนอโครงการและดูตอนแรกๆ ของอนิเมะแบบเร่งความเร็ว ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงในการเขียนคำร้องทั้งหมด โดยมองผ่านมุมมองของ “แม่” ที่ไม่อยากให้ลูกเติบโตและออกจากรัง แต่ต้องยอมรับชะตากรรม ชื่อเพลงได้รับแรงบันดาลใจจากมังงะ “A Cruel God Reigns” (Zankoku na Kami ga Shihai Suru) ของ Moto Hagio ซึ่งมีเนื้อหามืดมนเกี่ยวกับเด็กชายวัย 15 ปีที่เผชิญกับความทุกข์ทรมานจากความผิด การใช้ยาเสพติด และการค้าประเวณี แต่ Oikawa เลือกเน้นธีม “แม่และลูก” แทนโดยไม่ใช้ส่วนที่มืดมนเหล่านั้น

    ทำนองเพลงแต่งโดย Hidetoshi Sato และจัดโดย Toshiyuki Omori โดยการผลิตทั้งหมดเกิดขึ้นแยกจากทีมอนิเมะเพื่อรักษาความเป็นอิสระและความสดใหม่ เพลงนี้มีส่วน instrumental ที่น่าสนใจ เช่น คอรัสในภาษาที่ไม่สามารถแปลได้ ซึ่งบางคนเชื่อว่าได้รับแรงบันดาลใจจากภาษาโบราณหรือ Dead Sea Scrolls นอกจากนี้ Anno ยังขอปรับคำร้องบางส่วน เช่น เปลี่ยนจาก “กลายเป็นอาวุธ” เป็น “กลายเป็นตำนาน” เพื่อเน้นความรักของแม่มากขึ้น และตัดคอรัสชายออกไป

    Yoko Takahashi นักร้องนำ ได้รับเลือกแบบสุ่มและบันทึกเสียงโดยไม่ทราบรายละเอียดของอนิเมะมากนัก เธอพบกับ Anno ครั้งแรกในวันบันทึกเสียง และได้ยินเพลงเปิดตัวพร้อมเสียงของตัวเองครั้งแรกตอนออกอากาศทางทีวี เพลงนี้เป็นซิงเกิลที่ 11 ของเธอ และปล่อยออกมาในวันที่ 25 ตุลาคม 1995 ภายใต้ catalog KIDA-116 พร้อมเพลง “Fly Me to the Moon” ซึ่งเป็นเพลงปิดเรื่อง

    กระบวนการผลิตเพลงเกิดขึ้นก่อนที่อนิเมะจะเสร็จสิ้น โดย Toshimichi Otsuki จาก King Records เป็นผู้ดูแลทีมดนตรีแยกต่างหากจาก Anno เพื่อหลีกเลี่ยงการแทรกแซง แม้กระบวนการจะเร่งรีบ เพลงกลับเข้ากับภาพเปิดเรื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีเวอร์ชัน instrumental สองเวอร์ชันในตอนจบของอนิเมะ ได้แก่ “The Heady Feeling of Freedom” ซึ่งเป็นชิ้นเศร้าๆ สำหรับเครื่องสายและกีตาร์ และ “Good, or Don’t Be” ที่เล่นด้วยเปียโนและกีตาร์เบาๆ เวอร์ชันคล้ายกันยังปรากฏในภาพยนตร์ Evangelion: Death and Rebirth

    ตลอดหลายปี เพลงนี้มีเวอร์ชันรีมิกซ์และ cover มากมาย รวมถึงเวอร์ชัน Director’s Edit และเวอร์ชันในภาพยนตร์ Rebuild of Evangelion Takahashi ยังคงฝึกซ้อมร้องเพลงนี้ทุกวัน สูงสุด 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะส่วน a cappella ที่ยาก เพื่อให้การแสดงสดยังคงความสดใหม่เหมือนเดิม ในปี 2021 เธอออกหนังสือสอนร้องเพลงนี้และ “Soul’s Refrain” โดยแนะนำให้เริ่มจาก tempo ช้าๆ และฝึก melody ก่อน

    ความสำเร็จของเพลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังปล่อยออกมา เพลงขึ้นอันดับ 17 ในชาร์ต Oricon และอยู่ในชาร์ตนานถึง 61 สัปดาห์ กลายเป็นเพลงอนิเมะที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น โดยติดอันดับต้นๆ ในโพล anisong และคาราโอเกะอย่างต่อเนื่อง ในปี 2025 เพลงนี้ยังติดอันดับ 4 ในชาร์ตคาราโอเกะ JOYSOUND สำหรับครึ่งปีแรก แสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนแม้ผ่านไปเกือบ 30 ปี ตามข้อมูลจาก Japanese Society for Rights of Authors, Composers and Publishers เพลงนี้ยังคงเป็นเพลงที่สร้างรายได้จากลิขสิทธิ์สูงสุดในญี่ปุ่น

    ในระดับสากล เพลงนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นเพลงเปิดอนิเมะที่จดจำได้มากที่สุด แม้แต่คนที่ไม่เคยดูอนิเมะก็รู้จัก มันกลายเป็น meme บนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในวิดีโอ YouTube และ Reddit ที่นำไป remix หรือ parody นอกจากนี้ยังถูกนำไป sample ในเพลงฮิปฮอป เช่น ในเพลง “Evangelica” ของศิลปินอเมริกัน Albe Back ในปี 2022 ความนิยมยังขยายไปสู่การแสดงสด โดย Takahashi แสดงเพลงนี้ในงานใหญ่ๆ เช่น Anime NYC 2025 ที่เธอชักชวนแฟนๆ ร้องตามทั้งฮอลล์, AnimagiC 2025 ในเยอรมนี และแม้แต่ในรายการปีใหม่ของสถานีโทรทัศน์ตุรกีในปี 2024

    กว่าเกือบสามทศวรรษที่ผ่านมา “A Cruel Angel’s Thesis” ไม่ได้เป็นเพียงเพลงเปิดของ Neon Genesis Evangelion เท่านั้น แต่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมอนิเมะญี่ปุ่นที่หลอมรวมปรัชญา ดนตรี และอารมณ์ของยุคสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม เสียงร้องของ Yoko Takahashi ไม่ได้เพียงปลุกผู้ชมให้ตื่นขึ้นในตอนต้นของทุกตอน แต่ยังปลุกให้คนทั้งรุ่นหันกลับมามอง “ตัวตน” และ “ความหมายของการเติบโต” ที่ Evangelion ต้องการสื่อ

    ทุกครั้งที่เสียงอินโทรแรกดังขึ้น ความทรงจำของแฟน ๆ ทั่วโลกก็ยังคงถ่ายทอดต่อกันเหมือนเทวทูตที่ไม่เคยหลับใหล เพลงนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า “ดนตรี” สามารถสร้างพลังให้ภาพยนตร์หรืออนิเมะกลายเป็นตำนานได้จริง และแม้โลกจะเปลี่ยนไปเพียงใด ท่วงทำนองแห่งเทวทูตผู้โหดร้ายนี้…ก็จะยังคงก้องอยู่ในใจผู้คนตราบนานเท่านาน

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/y5wkebBCwAE
    🎶 เพลงที่ทำให้ Evangelion เป็นมากกว่าอนิเมะ: เปิดตำนาน A Cruel Angel’s Thesis ▶️ เพลง “A Cruel Angel’s Thesis” หรือที่รู้จักในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า “Zankoku na Tenshi no Tēze” ถือเป็นหนึ่งในเพลงประกอบอนิเมะที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่นและทั่วโลก เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพลงเปิดของอนิเมะ Neon Genesis Evangelion ที่ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 1995 ทางสถานี TV Tokyo เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงยุคทองของอนิเมะในทศวรรษ 1990s ซึ่งผสมผสานธีมปรัชญา จิตวิทยา และแอ็กชันได้อย่างลงตัว บทความนี้จะพาไปสำรวจประวัติการสร้าง ผลงาน และความโด่งดังของเพลงนี้อย่างละเอียด โดยอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้เห็นภาพรวมการเดินทางจากเพลงประกอบอนิเมะธรรมดาสู่ไอคอนระดับโลก 🎂 ต้นกำเนิดและแรงบันดาลใจของเพลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่อนิเมะ Neon Genesis Evangelion กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต โดยผู้กำกับ Hideaki Anno จากสตูดิโอ Gainax เดิมที Anno ต้องการใช้เพลงคลาสสิกจากโอเปร่ารัสเซียเรื่อง Prince Igor ชื่อ “Polovtsian Dances” ของ Alexander Borodin เป็นเพลงเปิด เพื่อสร้างความแปลกใหม่และทดลอง แต่สถานีโทรทัศน์ปฏิเสธเพราะเห็นว่าเพลงนั้น “ก้าวหน้าจนเกินไป” สำหรับอนิเมะที่ออกอากาศช่วงดึก จึงเปลี่ยนมาใช้เพลง J-Pop ซึ่งเป็นแนวเพลงยอดนิยมในญี่ปุ่นในเวลานั้น ✍️ คำร้องของเพลงเขียนโดย Neko Oikawa ที่ได้รับมอบหมายให้สร้างเนื้อหาที่ “ยากและปรัชญา” เพื่อสะท้อนธีมของอนิเมะที่เกี่ยวกับการต่อสู้ภายในจิตใจมนุษย์ ชะตากรรม และการเติบโต แม้ว่า Oikawa จะมีข้อมูลจำกัด เธอเพียงแค่ได้อ่านแผนเสนอโครงการและดูตอนแรกๆ ของอนิเมะแบบเร่งความเร็ว ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงในการเขียนคำร้องทั้งหมด โดยมองผ่านมุมมองของ “แม่” ที่ไม่อยากให้ลูกเติบโตและออกจากรัง แต่ต้องยอมรับชะตากรรม ชื่อเพลงได้รับแรงบันดาลใจจากมังงะ “A Cruel God Reigns” (Zankoku na Kami ga Shihai Suru) ของ Moto Hagio ซึ่งมีเนื้อหามืดมนเกี่ยวกับเด็กชายวัย 15 ปีที่เผชิญกับความทุกข์ทรมานจากความผิด การใช้ยาเสพติด และการค้าประเวณี แต่ Oikawa เลือกเน้นธีม “แม่และลูก” แทนโดยไม่ใช้ส่วนที่มืดมนเหล่านั้น 🎼 ทำนองเพลงแต่งโดย Hidetoshi Sato และจัดโดย Toshiyuki Omori โดยการผลิตทั้งหมดเกิดขึ้นแยกจากทีมอนิเมะเพื่อรักษาความเป็นอิสระและความสดใหม่ เพลงนี้มีส่วน instrumental ที่น่าสนใจ เช่น คอรัสในภาษาที่ไม่สามารถแปลได้ ซึ่งบางคนเชื่อว่าได้รับแรงบันดาลใจจากภาษาโบราณหรือ Dead Sea Scrolls นอกจากนี้ Anno ยังขอปรับคำร้องบางส่วน เช่น เปลี่ยนจาก “กลายเป็นอาวุธ” เป็น “กลายเป็นตำนาน” เพื่อเน้นความรักของแม่มากขึ้น และตัดคอรัสชายออกไป 🎤 Yoko Takahashi นักร้องนำ ได้รับเลือกแบบสุ่มและบันทึกเสียงโดยไม่ทราบรายละเอียดของอนิเมะมากนัก เธอพบกับ Anno ครั้งแรกในวันบันทึกเสียง และได้ยินเพลงเปิดตัวพร้อมเสียงของตัวเองครั้งแรกตอนออกอากาศทางทีวี เพลงนี้เป็นซิงเกิลที่ 11 ของเธอ และปล่อยออกมาในวันที่ 25 ตุลาคม 1995 ภายใต้ catalog KIDA-116 พร้อมเพลง “Fly Me to the Moon” ซึ่งเป็นเพลงปิดเรื่อง 💿 กระบวนการผลิตเพลงเกิดขึ้นก่อนที่อนิเมะจะเสร็จสิ้น โดย Toshimichi Otsuki จาก King Records เป็นผู้ดูแลทีมดนตรีแยกต่างหากจาก Anno เพื่อหลีกเลี่ยงการแทรกแซง แม้กระบวนการจะเร่งรีบ เพลงกลับเข้ากับภาพเปิดเรื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีเวอร์ชัน instrumental สองเวอร์ชันในตอนจบของอนิเมะ ได้แก่ “The Heady Feeling of Freedom” ซึ่งเป็นชิ้นเศร้าๆ สำหรับเครื่องสายและกีตาร์ และ “Good, or Don’t Be” ที่เล่นด้วยเปียโนและกีตาร์เบาๆ เวอร์ชันคล้ายกันยังปรากฏในภาพยนตร์ Evangelion: Death and Rebirth 🎗️ตลอดหลายปี เพลงนี้มีเวอร์ชันรีมิกซ์และ cover มากมาย รวมถึงเวอร์ชัน Director’s Edit และเวอร์ชันในภาพยนตร์ Rebuild of Evangelion Takahashi ยังคงฝึกซ้อมร้องเพลงนี้ทุกวัน สูงสุด 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะส่วน a cappella ที่ยาก เพื่อให้การแสดงสดยังคงความสดใหม่เหมือนเดิม ในปี 2021 เธอออกหนังสือสอนร้องเพลงนี้และ “Soul’s Refrain” โดยแนะนำให้เริ่มจาก tempo ช้าๆ และฝึก melody ก่อน 🏆 ความสำเร็จของเพลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังปล่อยออกมา เพลงขึ้นอันดับ 17 ในชาร์ต Oricon และอยู่ในชาร์ตนานถึง 61 สัปดาห์ กลายเป็นเพลงอนิเมะที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น โดยติดอันดับต้นๆ ในโพล anisong และคาราโอเกะอย่างต่อเนื่อง ในปี 2025 เพลงนี้ยังติดอันดับ 4 ในชาร์ตคาราโอเกะ JOYSOUND สำหรับครึ่งปีแรก แสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนแม้ผ่านไปเกือบ 30 ปี ตามข้อมูลจาก Japanese Society for Rights of Authors, Composers and Publishers เพลงนี้ยังคงเป็นเพลงที่สร้างรายได้จากลิขสิทธิ์สูงสุดในญี่ปุ่น 🌏 ในระดับสากล เพลงนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นเพลงเปิดอนิเมะที่จดจำได้มากที่สุด แม้แต่คนที่ไม่เคยดูอนิเมะก็รู้จัก มันกลายเป็น meme บนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในวิดีโอ YouTube และ Reddit ที่นำไป remix หรือ parody นอกจากนี้ยังถูกนำไป sample ในเพลงฮิปฮอป เช่น ในเพลง “Evangelica” ของศิลปินอเมริกัน Albe Back ในปี 2022 ความนิยมยังขยายไปสู่การแสดงสด โดย Takahashi แสดงเพลงนี้ในงานใหญ่ๆ เช่น Anime NYC 2025 ที่เธอชักชวนแฟนๆ ร้องตามทั้งฮอลล์, AnimagiC 2025 ในเยอรมนี และแม้แต่ในรายการปีใหม่ของสถานีโทรทัศน์ตุรกีในปี 2024 ⌛ กว่าเกือบสามทศวรรษที่ผ่านมา “A Cruel Angel’s Thesis” ไม่ได้เป็นเพียงเพลงเปิดของ Neon Genesis Evangelion เท่านั้น แต่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมอนิเมะญี่ปุ่นที่หลอมรวมปรัชญา ดนตรี และอารมณ์ของยุคสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม เสียงร้องของ Yoko Takahashi ไม่ได้เพียงปลุกผู้ชมให้ตื่นขึ้นในตอนต้นของทุกตอน แต่ยังปลุกให้คนทั้งรุ่นหันกลับมามอง “ตัวตน” และ “ความหมายของการเติบโต” ที่ Evangelion ต้องการสื่อ 📻 ทุกครั้งที่เสียงอินโทรแรกดังขึ้น ความทรงจำของแฟน ๆ ทั่วโลกก็ยังคงถ่ายทอดต่อกันเหมือนเทวทูตที่ไม่เคยหลับใหล เพลงนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า “ดนตรี” สามารถสร้างพลังให้ภาพยนตร์หรืออนิเมะกลายเป็นตำนานได้จริง และแม้โลกจะเปลี่ยนไปเพียงใด ท่วงทำนองแห่งเทวทูตผู้โหดร้ายนี้…ก็จะยังคงก้องอยู่ในใจผู้คนตราบนานเท่านาน 💫 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/y5wkebBCwAE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • มันคือการเดินทางของเจ้าหมาน้อย
    มันคือการเดินทางของเจ้าหมาน้อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nike เปิดตัวรองเท้า “Powered Footwear” รุ่นแรกของโลก – เดินหรือวิ่งได้ไกลขึ้นโดยไม่เหนื่อย

    Nike ร่วมมือกับบริษัทหุ่นยนต์ Dephy เปิดตัว Project Amplify ซึ่งเป็นระบบรองเท้าแบบใหม่ที่ผสานรองเท้าวิ่งระดับสูงเข้ากับ “ขาเหล็ก” แบบหุ่นยนต์ โดยมีมอเตอร์, สายพานขับเคลื่อน และแบตเตอรี่แบบสวมที่ข้อเท้า ช่วยให้ผู้ใช้เดินหรือวิ่งได้เร็วขึ้นและไกลขึ้นโดยใช้แรงน้อยลง

    แนวคิดนี้คล้ายกับ e-bike ที่ช่วยให้ปั่นจักรยานได้ง่ายขึ้น โดย Nike ตั้งเป้าให้รองเท้านี้ช่วยคนทั่วไปที่วิ่งช้า (เช่น pace 10–12 นาทีต่อไมล์) ไม่ใช่นักกีฬามืออาชีพ

    ระบบหุ่นยนต์สามารถถอดออกได้ ทำให้รองเท้ากลับมาเป็นรองเท้าวิ่งธรรมดาได้เช่นกัน

    จุดเด่นของ Project Amplify
    รองเท้าวิ่งผสานกับขาเหล็กหุ่นยนต์
    มีมอเตอร์, สายพาน, และแบตเตอรี่ข้อเท้า
    ช่วยลดแรงที่ใช้ในการเดินหรือวิ่ง
    ถอดระบบหุ่นยนต์ออกได้ ใช้เป็นรองเท้าธรรมดา

    เป้าหมายของ Nike
    ช่วยคนทั่วไปเดินหรือวิ่งได้ไกลขึ้น
    ลดความเหนื่อยจากการเดินทางหรือออกกำลังกาย
    เปรียบเทียบกับ e-bike ที่ช่วยให้ปั่นง่ายขึ้น

    ความเป็นไปได้ในอนาคต
    Nike ตั้งใจจะวางขายในวงกว้างในอีกไม่กี่ปี
    อาจกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของ wearable robotics
    คล้ายกับ exoskeleton ที่ใช้ในโรงงาน เช่น Hyundai

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/fancy-an-e-bike-for-your-feet-these-radical-nike-robo-shoes-are-the-worlds-first-powered-footwear
    👟 Nike เปิดตัวรองเท้า “Powered Footwear” รุ่นแรกของโลก – เดินหรือวิ่งได้ไกลขึ้นโดยไม่เหนื่อย Nike ร่วมมือกับบริษัทหุ่นยนต์ Dephy เปิดตัว Project Amplify ซึ่งเป็นระบบรองเท้าแบบใหม่ที่ผสานรองเท้าวิ่งระดับสูงเข้ากับ “ขาเหล็ก” แบบหุ่นยนต์ โดยมีมอเตอร์, สายพานขับเคลื่อน และแบตเตอรี่แบบสวมที่ข้อเท้า ช่วยให้ผู้ใช้เดินหรือวิ่งได้เร็วขึ้นและไกลขึ้นโดยใช้แรงน้อยลง แนวคิดนี้คล้ายกับ e-bike ที่ช่วยให้ปั่นจักรยานได้ง่ายขึ้น โดย Nike ตั้งเป้าให้รองเท้านี้ช่วยคนทั่วไปที่วิ่งช้า (เช่น pace 10–12 นาทีต่อไมล์) ไม่ใช่นักกีฬามืออาชีพ ระบบหุ่นยนต์สามารถถอดออกได้ ทำให้รองเท้ากลับมาเป็นรองเท้าวิ่งธรรมดาได้เช่นกัน ✅ จุดเด่นของ Project Amplify ➡️ รองเท้าวิ่งผสานกับขาเหล็กหุ่นยนต์ ➡️ มีมอเตอร์, สายพาน, และแบตเตอรี่ข้อเท้า ➡️ ช่วยลดแรงที่ใช้ในการเดินหรือวิ่ง ➡️ ถอดระบบหุ่นยนต์ออกได้ ใช้เป็นรองเท้าธรรมดา ✅ เป้าหมายของ Nike ➡️ ช่วยคนทั่วไปเดินหรือวิ่งได้ไกลขึ้น ➡️ ลดความเหนื่อยจากการเดินทางหรือออกกำลังกาย ➡️ เปรียบเทียบกับ e-bike ที่ช่วยให้ปั่นง่ายขึ้น ✅ ความเป็นไปได้ในอนาคต ➡️ Nike ตั้งใจจะวางขายในวงกว้างในอีกไม่กี่ปี ➡️ อาจกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของ wearable robotics ➡️ คล้ายกับ exoskeleton ที่ใช้ในโรงงาน เช่น Hyundai https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/fancy-an-e-bike-for-your-feet-these-radical-nike-robo-shoes-are-the-worlds-first-powered-footwear
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามค้นหายุคใหม่: AI กำลังเปลี่ยนโฉมการท่องเว็บ และท้าทายอำนาจของ Google

    ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวของผู้คนทั่วโลก การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป บทความจาก The Star เผยว่า “การค้นหาออนไลน์” กำลังกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน AI ที่พยายามเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนเข้าถึงข้อมูล และท้าทายอำนาจของ Google Chrome ที่ครองตลาดมากกว่า 70%

    บริษัทอย่าง OpenAI, Microsoft, Perplexity และ Dia ต่างเปิดตัว “เบราว์เซอร์ AI” ที่สามารถค้นหาข้อมูล วิเคราะห์ และดำเนินการแทนผู้ใช้ได้โดยไม่ต้องพิมพ์คำค้นหาแบบเดิมอีกต่อไป เช่น Atlas ของ OpenAI สามารถสร้างรายการซื้อของตามเมนูและจำนวนแขกได้ทันทีจากคำสั่งเดียว

    แม้ Google จะมีฟีเจอร์ AI Overviews และโหมด AI Search ที่ใช้ reasoning และ multimodal แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น “agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนผู้ใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบ

    สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ

    1️⃣ การเปลี่ยนแปลงของการค้นหาออนไลน์
    แนวโน้มใหม่
    เบราว์เซอร์ AI สามารถค้นหาและดำเนินการแทนผู้ใช้ได้
    ไม่ใช่แค่ตอบคำถาม แต่สามารถจัดการงาน เช่น จองร้านอาหารหรือวางแผนการเดินทาง
    เปลี่ยนจาก “search engine” เป็น “action engine”

    คำเตือน
    ผู้ใช้อาจพึ่งพา AI มากเกินไปโดยไม่ตรวจสอบข้อมูล
    ความผิดพลาดจาก AI อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง

    2️⃣ ผู้เล่นหลักในสมรภูมิ AI Search
    เบราว์เซอร์ AI ที่เปิดตัวแล้ว
    Atlas จาก OpenAI
    Comet จาก Perplexity
    Copilot-enabled Edge จาก Microsoft
    Dia และ Neon จากผู้พัฒนารายใหม่

    คำเตือน
    บางเบราว์เซอร์ยังอยู่ในช่วงทดลอง อาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย
    การรวบรวมข้อมูลผู้ใช้เพื่อปรับปรุง AI อาจกระทบความเป็นส่วนตัว

    3️⃣ จุดแข็งและจุดอ่อนของ Google
    จุดแข็งของ Google
    Chrome ครองตลาดเบราว์เซอร์มากกว่า 70%
    Google Search ยังเป็นเครื่องมือหลักในการค้นหาข้อมูล
    มีฟีเจอร์ AI Overviews และโหมด AI Search

    จุดอ่อนที่ถูกท้าทาย
    ยังไม่เข้าสู่ระดับ “agentic AI” ที่ทำงานแทนผู้ใช้ได้
    คู่แข่งสามารถรวบรวมข้อมูลจากการใช้งาน AI เพื่อพัฒนาโมเดลได้เร็วกว่า

    4️⃣ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
    มุมมองจากนักวิเคราะห์
    Avi Greengart: “AI acting in the browser makes sense เพราะแอปส่วนใหญ่ทำงานผ่านเบราว์เซอร์อยู่แล้ว”
    Evan Schlossman: “AI กำลังควบคุมอินเทอร์เฟซของผู้ใช้ เพื่อ streamline ประสบการณ์”
    Thomas Thiele: “การรวมข้อมูลจาก ChatGPT และ Atlas อาจสร้าง Google ใหม่”

    คำเตือน
    การควบคุมอินเทอร์เฟซโดย AI อาจทำให้ผู้ใช้เสียอำนาจในการเลือก
    การรวบรวมข้อมูลมากเกินไปอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/24/online-search-a-battleground-for-ai-titans
    🔍 สงครามค้นหายุคใหม่: AI กำลังเปลี่ยนโฉมการท่องเว็บ และท้าทายอำนาจของ Google ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวของผู้คนทั่วโลก การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป บทความจาก The Star เผยว่า “การค้นหาออนไลน์” กำลังกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน AI ที่พยายามเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนเข้าถึงข้อมูล และท้าทายอำนาจของ Google Chrome ที่ครองตลาดมากกว่า 70% บริษัทอย่าง OpenAI, Microsoft, Perplexity และ Dia ต่างเปิดตัว “เบราว์เซอร์ AI” ที่สามารถค้นหาข้อมูล วิเคราะห์ และดำเนินการแทนผู้ใช้ได้โดยไม่ต้องพิมพ์คำค้นหาแบบเดิมอีกต่อไป เช่น Atlas ของ OpenAI สามารถสร้างรายการซื้อของตามเมนูและจำนวนแขกได้ทันทีจากคำสั่งเดียว แม้ Google จะมีฟีเจอร์ AI Overviews และโหมด AI Search ที่ใช้ reasoning และ multimodal แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น “agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนผู้ใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบ 🔍 สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ 1️⃣ การเปลี่ยนแปลงของการค้นหาออนไลน์ ✅ แนวโน้มใหม่ ➡️ เบราว์เซอร์ AI สามารถค้นหาและดำเนินการแทนผู้ใช้ได้ ➡️ ไม่ใช่แค่ตอบคำถาม แต่สามารถจัดการงาน เช่น จองร้านอาหารหรือวางแผนการเดินทาง ➡️ เปลี่ยนจาก “search engine” เป็น “action engine” ‼️ คำเตือน ⛔ ผู้ใช้อาจพึ่งพา AI มากเกินไปโดยไม่ตรวจสอบข้อมูล ⛔ ความผิดพลาดจาก AI อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง 2️⃣ ผู้เล่นหลักในสมรภูมิ AI Search ✅ เบราว์เซอร์ AI ที่เปิดตัวแล้ว ➡️ Atlas จาก OpenAI ➡️ Comet จาก Perplexity ➡️ Copilot-enabled Edge จาก Microsoft ➡️ Dia และ Neon จากผู้พัฒนารายใหม่ ‼️ คำเตือน ⛔ บางเบราว์เซอร์ยังอยู่ในช่วงทดลอง อาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย ⛔ การรวบรวมข้อมูลผู้ใช้เพื่อปรับปรุง AI อาจกระทบความเป็นส่วนตัว 3️⃣ จุดแข็งและจุดอ่อนของ Google ✅ จุดแข็งของ Google ➡️ Chrome ครองตลาดเบราว์เซอร์มากกว่า 70% ➡️ Google Search ยังเป็นเครื่องมือหลักในการค้นหาข้อมูล ➡️ มีฟีเจอร์ AI Overviews และโหมด AI Search ‼️ จุดอ่อนที่ถูกท้าทาย ⛔ ยังไม่เข้าสู่ระดับ “agentic AI” ที่ทำงานแทนผู้ใช้ได้ ⛔ คู่แข่งสามารถรวบรวมข้อมูลจากการใช้งาน AI เพื่อพัฒนาโมเดลได้เร็วกว่า 4️⃣ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ✅ มุมมองจากนักวิเคราะห์ ➡️ Avi Greengart: “AI acting in the browser makes sense เพราะแอปส่วนใหญ่ทำงานผ่านเบราว์เซอร์อยู่แล้ว” ➡️ Evan Schlossman: “AI กำลังควบคุมอินเทอร์เฟซของผู้ใช้ เพื่อ streamline ประสบการณ์” ➡️ Thomas Thiele: “การรวมข้อมูลจาก ChatGPT และ Atlas อาจสร้าง Google ใหม่” ‼️ คำเตือน ⛔ การควบคุมอินเทอร์เฟซโดย AI อาจทำให้ผู้ใช้เสียอำนาจในการเลือก ⛔ การรวบรวมข้อมูลมากเกินไปอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/24/online-search-a-battleground-for-ai-titans
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Online search a battleground for AI titans
    Tech firms battling for supremacy in artificial intelligence are out to transform how people search the web, challenging the dominance of the Chrome browser at the heart of Google's empire.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Google Wallet รองรับ Live Updates บน Android 16 – แจ้งเตือนเรียลไทม์สำหรับการเดินทางแบบไม่ต้องเปิดแอป!”

    Android 16 เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “Live Updates” ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ที่คล้ายกับ Live Activities บน iOS โดยจะแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น สถานะการเดินทาง การส่งของ หรือการแข่งขันกีฬา บนหน้าจอล็อกหรือแถบด้านบนของหน้าจอ โดยไม่ต้องเปิดแอปให้ยุ่งยาก

    ล่าสุด Google Wallet ก็ประกาศรองรับฟีเจอร์นี้แล้ว! โดยจะสามารถแสดง Live Updates สำหรับ “การเดินทางสำคัญ” เช่น เที่ยวบิน รถไฟ และอีเวนต์ต่าง ๆ ได้ทันทีจากข้อมูลในตั๋วหรือบัตรที่เก็บไว้ในแอป

    ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมี boarding pass อยู่ใน Wallet คุณจะเห็นแถบแจ้งเตือนแสดงความคืบหน้าของเที่ยวบิน หรือถ้ามีตั๋วรถไฟ ก็อาจมีการแจ้งเตือนเรื่องเวลาออกเดินทางหรือความล่าช้าแบบเรียลไทม์

    ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดต Google Play Services เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนกว่าจะปล่อยให้ครบทุกเครื่อง นอกจากนี้ Google Wallet ยังได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ด้วย Material 3 Expressive ที่ดูทันสมัยขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การเพิ่มบัตรผ่านแอปธนาคารโดยไม่ต้องกรอกข้อมูลเอง และการแจ้งเตือนเมื่อมี loyalty pass ถูกนำเข้าจาก Gmail

    ฟีเจอร์ Live Updates บน Google Wallet
    รองรับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์สำหรับเที่ยวบิน รถไฟ และอีเวนต์
    แสดงข้อมูลจากตั๋วที่เก็บไว้ในแอป Google Wallet
    แจ้งเตือนปรากฏบนหน้าจอล็อกหรือแถบด้านบนของหน้าจอ
    ไม่ต้องเปิดแอปเพื่อดูสถานะการเดินทาง
    เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดต Google Play Services เวอร์ชัน 25.41
    คล้ายกับ Live Activities บน iOS

    ฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ ใน Google Wallet
    เพิ่มบัตรผ่านแอปธนาคารโดยไม่ต้องกรอกข้อมูลเอง
    แจ้งเตือนเมื่อมี loyalty pass ถูกนำเข้าจาก Gmail (Android 12 ขึ้นไป)
    ปรับดีไซน์ใหม่ด้วย Material 3 Expressive
    เพิ่มความสะดวกในการใช้งานและความสวยงามของอินเทอร์เฟซ

    ข้อควรระวังและคำเตือน
    ฟีเจอร์อาจยังไม่ปล่อยให้ครบทุกเครื่อง ต้องรอการอัปเดต
    ต้องมีตั๋วหรือบัตรที่รองรับใน Wallet ถึงจะแสดง Live Updates ได้
    ยังไม่แน่ชัดว่า Wallet รองรับ Live Updates แบบ “info chips” หรือไม่
    การแจ้งเตือนอาจขึ้นอยู่กับความแม่นยำของข้อมูลจากผู้ให้บริการ

    https://www.techradar.com/phones/android/google-wallet-is-adding-support-for-one-of-the-best-new-features-in-android-16
    📲 “Google Wallet รองรับ Live Updates บน Android 16 – แจ้งเตือนเรียลไทม์สำหรับการเดินทางแบบไม่ต้องเปิดแอป!” Android 16 เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “Live Updates” ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ที่คล้ายกับ Live Activities บน iOS โดยจะแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น สถานะการเดินทาง การส่งของ หรือการแข่งขันกีฬา บนหน้าจอล็อกหรือแถบด้านบนของหน้าจอ โดยไม่ต้องเปิดแอปให้ยุ่งยาก ล่าสุด Google Wallet ก็ประกาศรองรับฟีเจอร์นี้แล้ว! โดยจะสามารถแสดง Live Updates สำหรับ “การเดินทางสำคัญ” เช่น เที่ยวบิน รถไฟ และอีเวนต์ต่าง ๆ ได้ทันทีจากข้อมูลในตั๋วหรือบัตรที่เก็บไว้ในแอป ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมี boarding pass อยู่ใน Wallet คุณจะเห็นแถบแจ้งเตือนแสดงความคืบหน้าของเที่ยวบิน หรือถ้ามีตั๋วรถไฟ ก็อาจมีการแจ้งเตือนเรื่องเวลาออกเดินทางหรือความล่าช้าแบบเรียลไทม์ ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดต Google Play Services เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนกว่าจะปล่อยให้ครบทุกเครื่อง นอกจากนี้ Google Wallet ยังได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ด้วย Material 3 Expressive ที่ดูทันสมัยขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การเพิ่มบัตรผ่านแอปธนาคารโดยไม่ต้องกรอกข้อมูลเอง และการแจ้งเตือนเมื่อมี loyalty pass ถูกนำเข้าจาก Gmail ✅ ฟีเจอร์ Live Updates บน Google Wallet ➡️ รองรับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์สำหรับเที่ยวบิน รถไฟ และอีเวนต์ ➡️ แสดงข้อมูลจากตั๋วที่เก็บไว้ในแอป Google Wallet ➡️ แจ้งเตือนปรากฏบนหน้าจอล็อกหรือแถบด้านบนของหน้าจอ ➡️ ไม่ต้องเปิดแอปเพื่อดูสถานะการเดินทาง ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดต Google Play Services เวอร์ชัน 25.41 ➡️ คล้ายกับ Live Activities บน iOS ✅ ฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ ใน Google Wallet ➡️ เพิ่มบัตรผ่านแอปธนาคารโดยไม่ต้องกรอกข้อมูลเอง ➡️ แจ้งเตือนเมื่อมี loyalty pass ถูกนำเข้าจาก Gmail (Android 12 ขึ้นไป) ➡️ ปรับดีไซน์ใหม่ด้วย Material 3 Expressive ➡️ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานและความสวยงามของอินเทอร์เฟซ ‼️ ข้อควรระวังและคำเตือน ⛔ ฟีเจอร์อาจยังไม่ปล่อยให้ครบทุกเครื่อง ต้องรอการอัปเดต ⛔ ต้องมีตั๋วหรือบัตรที่รองรับใน Wallet ถึงจะแสดง Live Updates ได้ ⛔ ยังไม่แน่ชัดว่า Wallet รองรับ Live Updates แบบ “info chips” หรือไม่ ⛔ การแจ้งเตือนอาจขึ้นอยู่กับความแม่นยำของข้อมูลจากผู้ให้บริการ https://www.techradar.com/phones/android/google-wallet-is-adding-support-for-one-of-the-best-new-features-in-android-16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครั้งหนึ่งในชีวิต! ล่องเรือรอบโลก เที่ยวครบ 5 ทวีป สัมผัส 25 ประเทศ บนเส้นทางจากญี่ปุ่นถึงนิวยอร์ก ผ่านยุโรปเหนือ–ใต้สุดอลังการ

    🛳 แพ็คเกจ ล่องเรือสำราญ Peace Boat Pacific World ลำที่123 Cruise Only, 105 วัน 104 คืน

    🗓 วันที่ 7 เม.ย. - 20 ก.ค. 2569

    เส้นทาง : ขึ้น-ลง โยโกฮาม่า ญี่ปุ่น การเดินทางอันยิ่งใหญ่สู่ดินแดนเหนือสุดขั้วโลก

    โปรโมชั่นพิเศษ ชำระยอดเต็มเต็มภายใน 31 ตุลาคม 2568
    ปกติราคาเริ่มต้น 574,000 ลดเหลือ 387,000 บาท

    ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (ห้องพักบนเรือสําราญ)
    อาหาร 5 มื้อต่อวัน และน้ำเปล่า (ไม่รวมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์)
    กิจกรรม แลกเปลี่ยน และเรียนรู้วัฒนธรรมบนเรือ
    สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องคาราโอเกะ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : PCBP-105D104N-YOK-YOK-2604071
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/efb48f

    ดูเรือ Peace Boat ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e4a501

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือPeaceBoat #PeaceBoatPacificWorld #PeaceBoat #Europe #Asia #America #Honolulu #Greece #Santorini #Norway #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #ล่องเรือรอบโลก #CruiseDomain
    🌍 ครั้งหนึ่งในชีวิต! ล่องเรือรอบโลก เที่ยวครบ 5 ทวีป สัมผัส 25 ประเทศ บนเส้นทางจากญี่ปุ่นถึงนิวยอร์ก ผ่านยุโรปเหนือ–ใต้สุดอลังการ 🗽 🛳 แพ็คเกจ ล่องเรือสำราญ Peace Boat Pacific World ลำที่123 Cruise Only, 105 วัน 104 คืน 🗓 วันที่ 7 เม.ย. - 20 ก.ค. 2569 📍 เส้นทาง : ขึ้น-ลง โยโกฮาม่า ญี่ปุ่น การเดินทางอันยิ่งใหญ่สู่ดินแดนเหนือสุดขั้วโลก ❄️☃️ โปรโมชั่นพิเศษ ชำระยอดเต็มเต็มภายใน 31 ตุลาคม 2568 💰 ปกติราคาเริ่มต้น 574,000 ลดเหลือ 387,000 บาท ✅ ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (ห้องพักบนเรือสําราญ) ✅ อาหาร 5 มื้อต่อวัน และน้ำเปล่า (ไม่รวมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์) ✅ กิจกรรม แลกเปลี่ยน และเรียนรู้วัฒนธรรมบนเรือ ✅ สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องคาราโอเกะ ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : PCBP-105D104N-YOK-YOK-2604071 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/efb48f ดูเรือ Peace Boat ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e4a501 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือPeaceBoat #PeaceBoatPacificWorld #PeaceBoat #Europe #Asia #America #Honolulu #Greece #Santorini #Norway #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #ล่องเรือรอบโลก #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อำลา Yang Chen-Ning: นักฟิสิกส์ผู้เปลี่ยนโลกและสร้างสะพานวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ"

    Yang Chen-Ning นักฟิสิกส์ระดับโลกและผู้ได้รับรางวัลโนเบลคนแรกของจีน เสียชีวิตอย่างสงบในกรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 103 ปี เขาเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในวงการฟิสิกส์ระดับโลกและการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของจีน

    Yang ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับ Tsung-Dao Lee ในปี 1957 จากทฤษฎี “Parity Non-Conservation” ซึ่งพลิกโฉมความเข้าใจเกี่ยวกับแรงพื้นฐานในธรรมชาติ เขายังเป็นผู้ร่วมพัฒนา “Yang-Mills Theory” ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญของ Standard Model ในฟิสิกส์อนุภาค

    ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยการเดินทางทางวิชาการที่ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่เรียนที่มหาวิทยาลัยชิคาโก ไปจนถึงเป็นศาสตราจารย์ที่ Princeton และ SUNY Stony Brook ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University ในจีน ซึ่งเขาอุทิศตนเพื่อพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์และสร้างโอกาสให้กับนักวิจัยรุ่นใหม่

    Yang ไม่เพียงเป็นนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นผู้เชื่อมโยงโลกวิทยาศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ผ่านการแลกเปลี่ยนนักวิจัยและการให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลจีนในโครงการวิทยาศาสตร์ระดับชาติ

    ประวัติชีวิตและการศึกษา
    เกิดที่ Hefei, Anhui ในปี 1922
    เรียนที่ National Southwestern Associated University และ Tsinghua University
    ได้รับปริญญาเอกจาก University of Chicago ในปี 1948

    เส้นทางอาชีพในต่างประเทศ
    เป็นสมาชิกถาวรของ Institute for Advanced Study ที่ Princeton
    ดำรงตำแหน่ง Albert Einstein Professor ที่ SUNY Stony Brook จนถึงปี 1999
    เป็น visiting professor ที่ Chinese University of Hong Kong ตั้งแต่ปี 1986

    ผลงานทางวิทยาศาสตร์
    ร่วมกับ Tsung-Dao Lee เสนอทฤษฎี Parity Non-Conservation ใน weak interaction
    พัฒนา Yang-Mills Theory ซึ่งเป็นรากฐานของ Standard Model
    ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20

    บทบาทในจีน
    กลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University และเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของ Institute for Advanced Study
    เสนอแนวทางการฟื้นฟูงานวิจัยพื้นฐานให้รัฐบาลจีน
    สนับสนุนทุนการศึกษาให้นักวิจัยจีนไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ
    มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานโยบายวิทยาศาสตร์ระดับชาติ

    ความสูญเสียของวงการวิทยาศาสตร์
    การจากไปของ Yang ถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในระดับโลกและระดับชาติ
    ทิ้งไว้เพียงผลงานและแรงบันดาลใจให้กับนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่

    มรดกทางวิชาการ
    ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 20 แห่งทั่วโลก
    เป็นสมาชิกต่างชาติของสถาบันวิทยาศาสตร์มากกว่า 10 แห่ง
    ผลงานของเขายังคงเป็นรากฐานของฟิสิกส์ยุคใหม่

    https://www.chinadaily.com.cn/a/202510/18/WS68f3170ea310f735438b5bf2.html
    🪦 "อำลา Yang Chen-Ning: นักฟิสิกส์ผู้เปลี่ยนโลกและสร้างสะพานวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ" Yang Chen-Ning นักฟิสิกส์ระดับโลกและผู้ได้รับรางวัลโนเบลคนแรกของจีน เสียชีวิตอย่างสงบในกรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 103 ปี เขาเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในวงการฟิสิกส์ระดับโลกและการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของจีน Yang ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับ Tsung-Dao Lee ในปี 1957 จากทฤษฎี “Parity Non-Conservation” ซึ่งพลิกโฉมความเข้าใจเกี่ยวกับแรงพื้นฐานในธรรมชาติ เขายังเป็นผู้ร่วมพัฒนา “Yang-Mills Theory” ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญของ Standard Model ในฟิสิกส์อนุภาค ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยการเดินทางทางวิชาการที่ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่เรียนที่มหาวิทยาลัยชิคาโก ไปจนถึงเป็นศาสตราจารย์ที่ Princeton และ SUNY Stony Brook ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University ในจีน ซึ่งเขาอุทิศตนเพื่อพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์และสร้างโอกาสให้กับนักวิจัยรุ่นใหม่ Yang ไม่เพียงเป็นนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นผู้เชื่อมโยงโลกวิทยาศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ผ่านการแลกเปลี่ยนนักวิจัยและการให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลจีนในโครงการวิทยาศาสตร์ระดับชาติ ✅ ประวัติชีวิตและการศึกษา ➡️ เกิดที่ Hefei, Anhui ในปี 1922 ➡️ เรียนที่ National Southwestern Associated University และ Tsinghua University ➡️ ได้รับปริญญาเอกจาก University of Chicago ในปี 1948 ✅ เส้นทางอาชีพในต่างประเทศ ➡️ เป็นสมาชิกถาวรของ Institute for Advanced Study ที่ Princeton ➡️ ดำรงตำแหน่ง Albert Einstein Professor ที่ SUNY Stony Brook จนถึงปี 1999 ➡️ เป็น visiting professor ที่ Chinese University of Hong Kong ตั้งแต่ปี 1986 ✅ ผลงานทางวิทยาศาสตร์ ➡️ ร่วมกับ Tsung-Dao Lee เสนอทฤษฎี Parity Non-Conservation ใน weak interaction ➡️ พัฒนา Yang-Mills Theory ซึ่งเป็นรากฐานของ Standard Model ➡️ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20 ✅ บทบาทในจีน ➡️ กลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University และเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของ Institute for Advanced Study ➡️ เสนอแนวทางการฟื้นฟูงานวิจัยพื้นฐานให้รัฐบาลจีน ➡️ สนับสนุนทุนการศึกษาให้นักวิจัยจีนไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ ➡️ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานโยบายวิทยาศาสตร์ระดับชาติ ‼️ ความสูญเสียของวงการวิทยาศาสตร์ ⛔ การจากไปของ Yang ถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในระดับโลกและระดับชาติ ⛔ ทิ้งไว้เพียงผลงานและแรงบันดาลใจให้กับนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ✅ มรดกทางวิชาการ ➡️ ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 20 แห่งทั่วโลก ➡️ เป็นสมาชิกต่างชาติของสถาบันวิทยาศาสตร์มากกว่า 10 แห่ง ➡️ ผลงานของเขายังคงเป็นรากฐานของฟิสิกส์ยุคใหม่ https://www.chinadaily.com.cn/a/202510/18/WS68f3170ea310f735438b5bf2.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทย-ลาว มิตรภาพแน่นแฟ้น

    แม้รัฐบาลจะมีอายุการทำงานเพียงแค่ 4 เดือน และสถานการณ์ความขัดแย้งกับกัมพูชายังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง แต่การเดินทางไปเยือนประเทศลาว ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและคณะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ในวาระครอบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบ 75 ปี ในปี 2568 แสดงให้เห็นว่าลาวยังเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่วางใจได้ ธงชาติไทยสลับกับธงชาติลาวบริเวณประตูไช แลนด์มาร์คสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นภาพที่คนไทยและชาวลาวต่างรู้สึกเป็นบวก เพราะเป็นชาติที่คนไทยแทบไม่ต้องแปลภาษาก็สื่อสารกันง่าย เปรียบดังมองตาก็รู้ใจ

    การเดินทางมาเยือนลาวในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอนุทินลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและลาว 1 ฉบับ ได้แก่ เอ็มโอยูระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารส่งเสริมกสิกรรมแห่ง สปป.ลาว รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงิน 10 ล้านบาท สำหรับโครงการความร่วมมือสกัดกั้นสารตั้งต้นของการผลิตยาเสพติด ไทย-ลาว การส่งมอบเซรุ่มแก้พิษงู มูลค่า 875,000 บาท อุปกรณ์พัฒนาและฝึกอาชีพแรงงาน มูลค่า 1.49 ล้านบาท ความช่วยเหลือทางวิชาการ สำหรับงานออกแบบรายละเอียดโครงการพัฒนาระบบประปาระยะที่ 2 มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท

    นอกจากนี้ ยังยกระดับความร่วมมือกับลาวในด้านต่างๆ เพื่อเปลี่ยนแลนด์ล็อกเป็นแลนด์ลิงก์ เชื่อมโยงด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ และความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น การเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมช้ามชาติ ยาเสพติด ฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ โดยการตั้งศูนย์ Contact point และศูนย์ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขงโดยใช้เทคโนโลยี ตามยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ยืนยันการจัดประชุม COOP ครั้งที่ 8 ส่งเสริมการค้าชายแดน เอสเอ็มอี ตั้งเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2570 สนับสนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และแผนยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ไทย-ลาวอย่างครบวงจร ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ระหว่างทั้งสองประเทศ

    อีกด้านหนึ่ง ประเทศไทยและ สปป.ลาว เตรียมร่วมกันเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ ในช่วงปลายปี 2568 เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ระหว่างไทยกับลาวและภูมิภาคอินโดจีน ไปยังท่าเรือน้ำลึกในประเทศเวียดนาม เช่น ท่าเรือสากลลาว-เวียด หรือท่าเรือหวุงอ๋าง จังหวัดฮาติงห์ ถือเป็นทางออกสู่ทะเลที่ใกล้ที่สุดของลาว และเชื่อมต่อทางตอนใต้ของประเทศจีน

    #Newskit
    ไทย-ลาว มิตรภาพแน่นแฟ้น แม้รัฐบาลจะมีอายุการทำงานเพียงแค่ 4 เดือน และสถานการณ์ความขัดแย้งกับกัมพูชายังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง แต่การเดินทางไปเยือนประเทศลาว ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและคณะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ในวาระครอบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบ 75 ปี ในปี 2568 แสดงให้เห็นว่าลาวยังเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่วางใจได้ ธงชาติไทยสลับกับธงชาติลาวบริเวณประตูไช แลนด์มาร์คสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นภาพที่คนไทยและชาวลาวต่างรู้สึกเป็นบวก เพราะเป็นชาติที่คนไทยแทบไม่ต้องแปลภาษาก็สื่อสารกันง่าย เปรียบดังมองตาก็รู้ใจ การเดินทางมาเยือนลาวในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอนุทินลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและลาว 1 ฉบับ ได้แก่ เอ็มโอยูระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารส่งเสริมกสิกรรมแห่ง สปป.ลาว รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงิน 10 ล้านบาท สำหรับโครงการความร่วมมือสกัดกั้นสารตั้งต้นของการผลิตยาเสพติด ไทย-ลาว การส่งมอบเซรุ่มแก้พิษงู มูลค่า 875,000 บาท อุปกรณ์พัฒนาและฝึกอาชีพแรงงาน มูลค่า 1.49 ล้านบาท ความช่วยเหลือทางวิชาการ สำหรับงานออกแบบรายละเอียดโครงการพัฒนาระบบประปาระยะที่ 2 มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังยกระดับความร่วมมือกับลาวในด้านต่างๆ เพื่อเปลี่ยนแลนด์ล็อกเป็นแลนด์ลิงก์ เชื่อมโยงด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ และความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น การเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมช้ามชาติ ยาเสพติด ฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ โดยการตั้งศูนย์ Contact point และศูนย์ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขงโดยใช้เทคโนโลยี ตามยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ยืนยันการจัดประชุม COOP ครั้งที่ 8 ส่งเสริมการค้าชายแดน เอสเอ็มอี ตั้งเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2570 สนับสนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และแผนยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ไทย-ลาวอย่างครบวงจร ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ระหว่างทั้งสองประเทศ อีกด้านหนึ่ง ประเทศไทยและ สปป.ลาว เตรียมร่วมกันเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ ในช่วงปลายปี 2568 เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ระหว่างไทยกับลาวและภูมิภาคอินโดจีน ไปยังท่าเรือน้ำลึกในประเทศเวียดนาม เช่น ท่าเรือสากลลาว-เวียด หรือท่าเรือหวุงอ๋าง จังหวัดฮาติงห์ ถือเป็นทางออกสู่ทะเลที่ใกล้ที่สุดของลาว และเชื่อมต่อทางตอนใต้ของประเทศจีน #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • กฎหลักของชีวิตในโฮสเทล

    โฮสเทล (Hostel) คือ ที่พักราคาประหยัด ที่นิยมในหมู่แบ็คแพ็กเกอร์ นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่เดินทางคนเดียว (Solo Travelers) ให้บริการแตกต่างจากโรงแรมหรือเกสต์เฮ้าส์อย่างชัดเจน เพราะมีห้องพักรวม (Dormitory Rooms) และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องใช้งานร่วมกัน เช่น ห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวม พื้นที่ส่วนกลาง ห้องครัว หรือพื้นที่นั่งเล่น

    อีกด้านหนึ่ง ผู้เข้าพักมีโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง ถึงกระนั้น การพักอาศัยกับคนแปลกหน้าร่วมกัน ย่อมมีกฎหลักของการใช้ชีวิตในโฮสเทล เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตในพื้นที่จำกัดได้อย่างมีความสุขและเคารพซึ่งกันและกัน สรุปได้ดังนี้

    1. เคารพเวลาพักผ่อนของผู้อื่น โดยเฉพาะช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 08.00 น. ของวันถัดไป ห้ามแพ็คหรือแกะกระเป๋าสัมภาระ ให้เตรียมของไว้ล่วงหน้า หากจำเป็นต้องค้นหาสิ่งของที่ใช้เวลานาน ให้นำกระเป๋าออกไปทำในพื้นที่ส่วนกลาง รวมทั้งใช้แสงไฟอย่างระมัดระวัง ใช้ไฟฉายขนาดเล็กหรือไฟจากโทรศัพท์มือถือ แทนการเปิดไฟส่วนกลาง และห้ามส่งเสียงดัง หลีกเลี่ยงการคุยโทรศัพท์ในห้อง การคุยกระซิบ หรือการส่งเสียงรบกวนใดๆ ส่วนการดูหนัง ฟังเพลง ต้องใช้หูฟังอยู่เสมอ

    2. สุขอนามัยและความเป็นระเบียบ ควรปฎิบัติตามระเบียบของที่พัก เช่น รองเท้าควรวางไว้นอกห้อง ตู้เก็บรองเท้า หรือชั้นวางที่จัดเตรียมไว้ให้ โฮสเทลบางแห่งห้ามสวมรองเท้าเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด เช่น ห้องพัก ทางเดิน หรือห้องน้ำ ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องพักรวม การใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือห้องน้ำ ควรรักษาความสะอาดอยู่เสมอ

    3. เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ห้ามแตะต้องสัมภาระผู้อื่น เช่น กระเป๋า ของใช้บนเตียง อาหารในตู้เย็น รวมทั้งเคารพความต้องการที่จะอยู่คนเดียวของผู้อื่น อย่าเข้าไปแทรกแซงหรือชวนคุยหากพวกเขาใส่หูฟัง หรือกำลังทำกิจกรรมส่วนตัว นอกจากนี้ ให้ระวังทรัพย์สินมีค่าของตัวเอง เช่น กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เก็บไว้ในตู้เก็บของ (ล็อกเกอร์) ของตัวเอง แต่ถ้าเก็บในล็อกเกอร์ไม่ได้ ควรพกติดตัวไปด้วย

    4. เป็นมิตรและมีน้ำใจต่อผู้อื่น พร้อมที่จะยิ้ม ตอบรับ หรือเริ่มต้นบทสนทนาเล็กๆ น้อยๆ กับเพื่อนร่วมห้อง ถ้าห้องพักรวมเป็นปลั๊กไฟส่วนกลาง ควรชาร์จแบตเตอรี่อย่างมีน้ำใจ อย่าผูกขาดปลั๊กไฟโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะหากมีผู้พักคนอื่นต้องการใช้งาน รวมทั้งการแบ่งปันเรื่องเล็กน้อย เช่น เครื่องปรุงอาหาร หรือข้อมูลท่องเที่ยว ทำให้การใช้ชีวิตร่วมกันเต็มไปด้วยความสนุก สะดวกสบาย และมิตรภาพ

    #Newskit
    กฎหลักของชีวิตในโฮสเทล โฮสเทล (Hostel) คือ ที่พักราคาประหยัด ที่นิยมในหมู่แบ็คแพ็กเกอร์ นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่เดินทางคนเดียว (Solo Travelers) ให้บริการแตกต่างจากโรงแรมหรือเกสต์เฮ้าส์อย่างชัดเจน เพราะมีห้องพักรวม (Dormitory Rooms) และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องใช้งานร่วมกัน เช่น ห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวม พื้นที่ส่วนกลาง ห้องครัว หรือพื้นที่นั่งเล่น อีกด้านหนึ่ง ผู้เข้าพักมีโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง ถึงกระนั้น การพักอาศัยกับคนแปลกหน้าร่วมกัน ย่อมมีกฎหลักของการใช้ชีวิตในโฮสเทล เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตในพื้นที่จำกัดได้อย่างมีความสุขและเคารพซึ่งกันและกัน สรุปได้ดังนี้ 1. เคารพเวลาพักผ่อนของผู้อื่น โดยเฉพาะช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 08.00 น. ของวันถัดไป ห้ามแพ็คหรือแกะกระเป๋าสัมภาระ ให้เตรียมของไว้ล่วงหน้า หากจำเป็นต้องค้นหาสิ่งของที่ใช้เวลานาน ให้นำกระเป๋าออกไปทำในพื้นที่ส่วนกลาง รวมทั้งใช้แสงไฟอย่างระมัดระวัง ใช้ไฟฉายขนาดเล็กหรือไฟจากโทรศัพท์มือถือ แทนการเปิดไฟส่วนกลาง และห้ามส่งเสียงดัง หลีกเลี่ยงการคุยโทรศัพท์ในห้อง การคุยกระซิบ หรือการส่งเสียงรบกวนใดๆ ส่วนการดูหนัง ฟังเพลง ต้องใช้หูฟังอยู่เสมอ 2. สุขอนามัยและความเป็นระเบียบ ควรปฎิบัติตามระเบียบของที่พัก เช่น รองเท้าควรวางไว้นอกห้อง ตู้เก็บรองเท้า หรือชั้นวางที่จัดเตรียมไว้ให้ โฮสเทลบางแห่งห้ามสวมรองเท้าเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด เช่น ห้องพัก ทางเดิน หรือห้องน้ำ ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องพักรวม การใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือห้องน้ำ ควรรักษาความสะอาดอยู่เสมอ 3. เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ห้ามแตะต้องสัมภาระผู้อื่น เช่น กระเป๋า ของใช้บนเตียง อาหารในตู้เย็น รวมทั้งเคารพความต้องการที่จะอยู่คนเดียวของผู้อื่น อย่าเข้าไปแทรกแซงหรือชวนคุยหากพวกเขาใส่หูฟัง หรือกำลังทำกิจกรรมส่วนตัว นอกจากนี้ ให้ระวังทรัพย์สินมีค่าของตัวเอง เช่น กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เก็บไว้ในตู้เก็บของ (ล็อกเกอร์) ของตัวเอง แต่ถ้าเก็บในล็อกเกอร์ไม่ได้ ควรพกติดตัวไปด้วย 4. เป็นมิตรและมีน้ำใจต่อผู้อื่น พร้อมที่จะยิ้ม ตอบรับ หรือเริ่มต้นบทสนทนาเล็กๆ น้อยๆ กับเพื่อนร่วมห้อง ถ้าห้องพักรวมเป็นปลั๊กไฟส่วนกลาง ควรชาร์จแบตเตอรี่อย่างมีน้ำใจ อย่าผูกขาดปลั๊กไฟโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะหากมีผู้พักคนอื่นต้องการใช้งาน รวมทั้งการแบ่งปันเรื่องเล็กน้อย เช่น เครื่องปรุงอาหาร หรือข้อมูลท่องเที่ยว ทำให้การใช้ชีวิตร่วมกันเต็มไปด้วยความสนุก สะดวกสบาย และมิตรภาพ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง 1 ปี 2 เดือน
    เรียนท่านผู้อ่านนิทาน
    ผมเขียนนิทานมาให้อ่านกันประมาณ 1 ปี กับ 2 เดือนแล้ว ด้วยความตั้งใจจะให้นิทานทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุก ให้ท่านผู้อ่านลุกขึ้นมามองรอบตัว ให้เห็นภาพกว้างขึ้น เข้าใจเรื่องราวลึกขึ้น เผื่อจะทำให้รู้สึกเบื่อที่จะอยู่แต่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม ที่เขาตั้งใจเอามาครอบหัวเราไว้ ด้วยการศึกษาที่สอนให้เราเรียนอย่างท่องจำ ให้เรากลายเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร จำได้แต่ไม่รู้เรื่อง แทนที่จะสอนให้เราเรี ยนอย่างรู้จักคิด หรือสำหรับท่านที่เบื่อ ที่จะตามอ่าน ตามดูสื่อ ทั้งในและนอกบ้าน ที่ตั้งอกตั้งใจฟอกย้อม จนเราไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องแต่ง หรือเบื่อที่จะฟังจากบางท่าน ที่เรียกตัวเองว่า เป็นนักวิชาการ หรือเป็นผู้รู้ ที่บอกเล่าให้เราฟังจากตำรา ที่ถูกสร้างมาให้ตอนความนึกคิดเรา หรือจากสื่อที่ฟอกมาแล้ว ฯลฯ
    ผมพยายามเขียนเล่าเรื่อง ความเป็นไปของโลกนอกบ้านเรา ที่เต็มไปด้วยการลวง การหลอก ด้วยวิธีการสาระพัด เพื่อที่จะไปครอบครอง ครอบงำ และขโมยทรัพยากรของผู้อื่น โดยการใช้อำนาจ ทั้งด้านการอาวุธทำลาย และอาวุธทางการเงิน แย่งชิงความเป็นใหญ่ ชิงความได้เปรียบกัน เป็นโลกที่แบ่งกันเป็นหลายฝักหลายฝ่าย สลับซับซ้อน
    เรื่องเหล่านี้อาจกระทบถึง เรา สมันน้อย ที่อยู่แต่ในโลกสวยของตัวเอง ไม่สนใจ ไม่เคยรู้หรือไม่รับรู้ว่า เราอยู่โลกใบเดียวกันกับเขาอื่นอีกมากมาย และ ความไม่สนใจรับรู้นี้ มีโอกาสที่อาจทำให้สมันน้อยตกเป็นเหยื่อของเกมการแย่งชิงระหว่างเขาอื่นเหล่านั้น และผจญความยากลำบากอย่างที่สมันน้อยนึกไม่ถึง
    เรื่องที่ผมเขียนมาตลอด 1 ปี 2 เดือน ผมเรียงร้อย ต่อเนื่อง และขยายซึ่งกันและกัน เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น แต่ความที่การเขียนนิทานของผมมันอาจจะฉิวเฉียด เสียดแทง กวนแข้งใครเขาบ้าง นิทานที่เขียนจึงเหลือคาจอเพจอย่างไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แม้จะทำลิงค์อัพเดทหลายครั้ง ก็ถูกกวนเละถูกลบ ถูกขโมยหายอยู่ดี ท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่านระหว่างทาง ก็เลยจะเหมือนการเดินทาง ที่เส้นทางขาด ตกหลุมตกบ่อ ไม่สนุก ไม่ถึงที่หมายอย่างใจนึก เผลอๆจะตกข้างทางเอา
    วันนี้เลยรวบรวมลิงค์ครบชุด ทุกเรื่อง ทุกบทความ มาให้อ่านกัน เคยอ่านแล้ว ก็อ่านซ้ำได้นะครับ ผมสนับสนุน เพราะบางที อ่านครั้งแรกอาจเห็นเรื่องราวที่เขียนยังไม่ชัด ไม่ครบ คราวนี้เอาให้เห็นภาพชัดมากขึ้น ก่อนเรื่องใหญ่ เหตุการณ์ใหญ่จะมานะครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
31 ธค. 2557
    ########################
ลิงค์นิทาน เรียงตามลำดับเริ่มจากตอนล่าสุดตามนี้ครับ
    ผลัดกันล้วง
https://www.dropbox.com/s/aniibapk83rn5s9/deeply.pdf
    รุกฆาตหรือรุกคืบ
https://www.dropbox.com/s/9d54erugjrh8i90/checkmate.pdf
    แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3
https://www.dropbox.com/s/8hti742ugp3qtul/WW3.pdf
    เชื้อหลอน
https://www.dropbox.com/s/juehq74io8nmqd0/spook_virus.pdf
    หลอนกลางแดด
https://www.dropbox.com/s/cqo7p4331so95ct/spook.pdf
    กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
https://www.dropbox.com/s/j5n01c3yj5ppkl3/stuck.pdf
    เหยื่อติดคอ
https://www.dropbox.com/s/1mksvsxw7triet9/victim2.pdf
    เหยื่อ
https://www.dropbox.com/s/i3psv6qf7v9iqew/victim.pdf
    ลูกครึ่งหรือนกสองหัว
https://www.dropbox.com/s/zmqlfon1mxd9rps/twohead.pdf
    หักหน้า หักหลัง
https://www.dropbox.com/s/uvpcetgi2xf2rzo/faceback.pdf
    Chateau Christophe
https://www.dropbox.com/s/kao813jhkdad982/Chateau.pdf
    แหกคอก
https://www.dropbox.com/s/3e0lwq33uub2g4q/free.pdf
    แกะรอยเก่า
https://www.dropbox.com/s/2vqd3mdj4pkhoj5/old_track.pdf
    แกะรอยนักล่า
https://www.dropbox.com/s/g1439ng2lmds2hd/track.pdf
    คำถามในอากาศ
https://www.dropbox.com/s/lo8nsl83yx2ncwo/air.pdf
    ยุทธการกบกระโดด
https://www.dropbox.com/s/wi5dm5zkcoyhhop/forg.pdf
    เมื่อสิงห์โตหอน
https://www.dropbox.com/s/hvvcwwvatkgspdw/lion.pdf
    ยุทธการฝูงผึ้ง
https://www.dropbox.com/s/zrbj9r4g5oe0qr0/bb.pdf
    มายากลยุทธ
https://www.dropbox.com/s/2caruu9rb7amhnn/maya.pdf
    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก
https://www.dropbox.com/s/5s81f1s0t3ianz8/sm.pdf
    เรื่องจิ๊กโก่ปากซอย
https://www.dropbox.com/s/wqogwomlgkle262/jk.pdf
    #######################
ลิงค์บทความ
    ดิ้นพล่าน
https://www.dropbox.com/s/q1xqhxzrvvphtf2/fretfully.pdf
    หวังว่าเป็นแค่ข่าวลือ
https://www.dropbox.com/s/b7ksf90dxnyz71z/blackwater.pdf
    ขี้นต้นเป็นมะลิซ้อน
https://www.dropbox.com/s/b2kxw66kswhbqcp/ISIS.pdf
    บันทึกวันฉลอง
https://www.dropbox.com/s/k54szzffk3g3zqk/celebrate.pdf
    Goodbye Mrs Brown
https://www.dropbox.com/s/1y7xh934uuz1kqd/Goodbye%20Mrs%20Brown.pdf
    เรื่อง 1 ปี 2 เดือน เรียนท่านผู้อ่านนิทาน ผมเขียนนิทานมาให้อ่านกันประมาณ 1 ปี กับ 2 เดือนแล้ว ด้วยความตั้งใจจะให้นิทานทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุก ให้ท่านผู้อ่านลุกขึ้นมามองรอบตัว ให้เห็นภาพกว้างขึ้น เข้าใจเรื่องราวลึกขึ้น เผื่อจะทำให้รู้สึกเบื่อที่จะอยู่แต่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม ที่เขาตั้งใจเอามาครอบหัวเราไว้ ด้วยการศึกษาที่สอนให้เราเรียนอย่างท่องจำ ให้เรากลายเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร จำได้แต่ไม่รู้เรื่อง แทนที่จะสอนให้เราเรี ยนอย่างรู้จักคิด หรือสำหรับท่านที่เบื่อ ที่จะตามอ่าน ตามดูสื่อ ทั้งในและนอกบ้าน ที่ตั้งอกตั้งใจฟอกย้อม จนเราไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องแต่ง หรือเบื่อที่จะฟังจากบางท่าน ที่เรียกตัวเองว่า เป็นนักวิชาการ หรือเป็นผู้รู้ ที่บอกเล่าให้เราฟังจากตำรา ที่ถูกสร้างมาให้ตอนความนึกคิดเรา หรือจากสื่อที่ฟอกมาแล้ว ฯลฯ ผมพยายามเขียนเล่าเรื่อง ความเป็นไปของโลกนอกบ้านเรา ที่เต็มไปด้วยการลวง การหลอก ด้วยวิธีการสาระพัด เพื่อที่จะไปครอบครอง ครอบงำ และขโมยทรัพยากรของผู้อื่น โดยการใช้อำนาจ ทั้งด้านการอาวุธทำลาย และอาวุธทางการเงิน แย่งชิงความเป็นใหญ่ ชิงความได้เปรียบกัน เป็นโลกที่แบ่งกันเป็นหลายฝักหลายฝ่าย สลับซับซ้อน เรื่องเหล่านี้อาจกระทบถึง เรา สมันน้อย ที่อยู่แต่ในโลกสวยของตัวเอง ไม่สนใจ ไม่เคยรู้หรือไม่รับรู้ว่า เราอยู่โลกใบเดียวกันกับเขาอื่นอีกมากมาย และ ความไม่สนใจรับรู้นี้ มีโอกาสที่อาจทำให้สมันน้อยตกเป็นเหยื่อของเกมการแย่งชิงระหว่างเขาอื่นเหล่านั้น และผจญความยากลำบากอย่างที่สมันน้อยนึกไม่ถึง เรื่องที่ผมเขียนมาตลอด 1 ปี 2 เดือน ผมเรียงร้อย ต่อเนื่อง และขยายซึ่งกันและกัน เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น แต่ความที่การเขียนนิทานของผมมันอาจจะฉิวเฉียด เสียดแทง กวนแข้งใครเขาบ้าง นิทานที่เขียนจึงเหลือคาจอเพจอย่างไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แม้จะทำลิงค์อัพเดทหลายครั้ง ก็ถูกกวนเละถูกลบ ถูกขโมยหายอยู่ดี ท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่านระหว่างทาง ก็เลยจะเหมือนการเดินทาง ที่เส้นทางขาด ตกหลุมตกบ่อ ไม่สนุก ไม่ถึงที่หมายอย่างใจนึก เผลอๆจะตกข้างทางเอา วันนี้เลยรวบรวมลิงค์ครบชุด ทุกเรื่อง ทุกบทความ มาให้อ่านกัน เคยอ่านแล้ว ก็อ่านซ้ำได้นะครับ ผมสนับสนุน เพราะบางที อ่านครั้งแรกอาจเห็นเรื่องราวที่เขียนยังไม่ชัด ไม่ครบ คราวนี้เอาให้เห็นภาพชัดมากขึ้น ก่อนเรื่องใหญ่ เหตุการณ์ใหญ่จะมานะครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
31 ธค. 2557 ########################
ลิงค์นิทาน เรียงตามลำดับเริ่มจากตอนล่าสุดตามนี้ครับ ผลัดกันล้วง
https://www.dropbox.com/s/aniibapk83rn5s9/deeply.pdf รุกฆาตหรือรุกคืบ
https://www.dropbox.com/s/9d54erugjrh8i90/checkmate.pdf แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3
https://www.dropbox.com/s/8hti742ugp3qtul/WW3.pdf เชื้อหลอน
https://www.dropbox.com/s/juehq74io8nmqd0/spook_virus.pdf หลอนกลางแดด
https://www.dropbox.com/s/cqo7p4331so95ct/spook.pdf กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
https://www.dropbox.com/s/j5n01c3yj5ppkl3/stuck.pdf เหยื่อติดคอ
https://www.dropbox.com/s/1mksvsxw7triet9/victim2.pdf เหยื่อ
https://www.dropbox.com/s/i3psv6qf7v9iqew/victim.pdf ลูกครึ่งหรือนกสองหัว
https://www.dropbox.com/s/zmqlfon1mxd9rps/twohead.pdf หักหน้า หักหลัง
https://www.dropbox.com/s/uvpcetgi2xf2rzo/faceback.pdf Chateau Christophe
https://www.dropbox.com/s/kao813jhkdad982/Chateau.pdf แหกคอก
https://www.dropbox.com/s/3e0lwq33uub2g4q/free.pdf แกะรอยเก่า
https://www.dropbox.com/s/2vqd3mdj4pkhoj5/old_track.pdf แกะรอยนักล่า
https://www.dropbox.com/s/g1439ng2lmds2hd/track.pdf คำถามในอากาศ
https://www.dropbox.com/s/lo8nsl83yx2ncwo/air.pdf ยุทธการกบกระโดด
https://www.dropbox.com/s/wi5dm5zkcoyhhop/forg.pdf เมื่อสิงห์โตหอน
https://www.dropbox.com/s/hvvcwwvatkgspdw/lion.pdf ยุทธการฝูงผึ้ง
https://www.dropbox.com/s/zrbj9r4g5oe0qr0/bb.pdf มายากลยุทธ
https://www.dropbox.com/s/2caruu9rb7amhnn/maya.pdf ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก
https://www.dropbox.com/s/5s81f1s0t3ianz8/sm.pdf เรื่องจิ๊กโก่ปากซอย
https://www.dropbox.com/s/wqogwomlgkle262/jk.pdf #######################
ลิงค์บทความ ดิ้นพล่าน
https://www.dropbox.com/s/q1xqhxzrvvphtf2/fretfully.pdf หวังว่าเป็นแค่ข่าวลือ
https://www.dropbox.com/s/b7ksf90dxnyz71z/blackwater.pdf ขี้นต้นเป็นมะลิซ้อน
https://www.dropbox.com/s/b2kxw66kswhbqcp/ISIS.pdf บันทึกวันฉลอง
https://www.dropbox.com/s/k54szzffk3g3zqk/celebrate.pdf Goodbye Mrs Brown
https://www.dropbox.com/s/1y7xh934uuz1kqd/Goodbye%20Mrs%20Brown.pdf
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • “โต๊ะพกพา AeroTrac — พับใส่เป้ได้ แต่จะปลอดภัยกับ MacBook Pro $10,000 ไหม?” — เมื่อความคล่องตัวชนกับความเสี่ยงของอุปกรณ์ราคาแพง

    Tether Tools ได้เปิดตัว AeroTrac Workstation System ซึ่งเป็นโต๊ะทำงานแบบพกพาที่ออกแบบมาเพื่อผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการความคล่องตัวในการทำงานนอกสถานที่ โดยโต๊ะนี้สามารถพับเก็บเป็นขนาดเท่ากระดาษ A4 และมีหูหิ้วผ้าใบสำหรับพกพาไปทุกที่ แม้จะดูสะดวก แต่หลายคนตั้งคำถามว่า “จะปลอดภัยแค่ไหนถ้าเอา MacBook Pro ราคา $10,000 ไปวางบนโต๊ะพับกลางแจ้ง?”

    โต๊ะ AeroTrac ทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาเพียง 3.3 ปอนด์ แต่สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 30 ปอนด์ มีระบบรางสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมผ่านช่องเกลียวมาตรฐาน และสามารถติดตั้งบนขาตั้งกล้อง, C-stand หรือรถเข็นได้ อีกทั้งยังมีขาเสริมให้กลายเป็นโต๊ะตั้งพื้นได้ด้วย

    แม้จะมีฟีเจอร์มากมาย แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงกังวลเรื่องความเสี่ยง เช่น การสั่นสะเทือน, ฝุ่น, หรือแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งานกลางแจ้ง ซึ่งอาจไม่เหมาะกับอุปกรณ์ราคาแพงอย่าง MacBook Pro หรือ GPU ระดับสูง

    โต๊ะนี้มีราคาอยู่ที่ $299 และเปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งอุปกรณ์เสริมผ่านไฟล์ 3D print แบบ open-source ซึ่งเหมาะกับช่างภาพ, นักทำวิดีโอ และศิลปินดิจิทัลที่ต้องย้ายสถานที่ทำงานบ่อย ๆ

    Tether Tools เปิดตัว AeroTrac Workstation System โต๊ะพกพาสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์
    พับเก็บได้ขนาด 8.5x11 นิ้ว น้ำหนัก 3.3 ปอนด์
    พื้นโต๊ะขนาด 17x11 นิ้ว รองรับน้ำหนักได้ 30 ปอนด์

    มีระบบรางติดตั้งอุปกรณ์เสริมผ่านช่องเกลียวมาตรฐาน
    ติดตั้งได้บนขาตั้งกล้อง, C-stand หรือรถเข็น

    มีขาเสริมให้กลายเป็นโต๊ะตั้งพื้น
    เหมาะกับช่างภาพ, นักทำวิดีโอ และศิลปินดิจิทัล

    ราคาอยู่ที่ $299 พร้อมไฟล์ 3D print แบบ open-source สำหรับปรับแต่ง
    รองรับการใช้งานแบบโมดูลาร์และพกพา

    มีหูหิ้วผ้าใบและแม่เหล็กพับเก็บง่าย
    ออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง

    https://www.techradar.com/pro/someone-designed-an-open-portable-desk-with-a-canvas-handle-to-carry-your-usd10-000-apple-macbook-pro-laptop-around-but-somehow-i-dont-think-it-is-a-very-good-idea
    💼 “โต๊ะพกพา AeroTrac — พับใส่เป้ได้ แต่จะปลอดภัยกับ MacBook Pro $10,000 ไหม?” — เมื่อความคล่องตัวชนกับความเสี่ยงของอุปกรณ์ราคาแพง Tether Tools ได้เปิดตัว AeroTrac Workstation System ซึ่งเป็นโต๊ะทำงานแบบพกพาที่ออกแบบมาเพื่อผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการความคล่องตัวในการทำงานนอกสถานที่ โดยโต๊ะนี้สามารถพับเก็บเป็นขนาดเท่ากระดาษ A4 และมีหูหิ้วผ้าใบสำหรับพกพาไปทุกที่ แม้จะดูสะดวก แต่หลายคนตั้งคำถามว่า “จะปลอดภัยแค่ไหนถ้าเอา MacBook Pro ราคา $10,000 ไปวางบนโต๊ะพับกลางแจ้ง?” โต๊ะ AeroTrac ทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาเพียง 3.3 ปอนด์ แต่สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 30 ปอนด์ มีระบบรางสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมผ่านช่องเกลียวมาตรฐาน และสามารถติดตั้งบนขาตั้งกล้อง, C-stand หรือรถเข็นได้ อีกทั้งยังมีขาเสริมให้กลายเป็นโต๊ะตั้งพื้นได้ด้วย แม้จะมีฟีเจอร์มากมาย แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงกังวลเรื่องความเสี่ยง เช่น การสั่นสะเทือน, ฝุ่น, หรือแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งานกลางแจ้ง ซึ่งอาจไม่เหมาะกับอุปกรณ์ราคาแพงอย่าง MacBook Pro หรือ GPU ระดับสูง โต๊ะนี้มีราคาอยู่ที่ $299 และเปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งอุปกรณ์เสริมผ่านไฟล์ 3D print แบบ open-source ซึ่งเหมาะกับช่างภาพ, นักทำวิดีโอ และศิลปินดิจิทัลที่ต้องย้ายสถานที่ทำงานบ่อย ๆ ✅ Tether Tools เปิดตัว AeroTrac Workstation System โต๊ะพกพาสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ ➡️ พับเก็บได้ขนาด 8.5x11 นิ้ว น้ำหนัก 3.3 ปอนด์ ➡️ พื้นโต๊ะขนาด 17x11 นิ้ว รองรับน้ำหนักได้ 30 ปอนด์ ✅ มีระบบรางติดตั้งอุปกรณ์เสริมผ่านช่องเกลียวมาตรฐาน ➡️ ติดตั้งได้บนขาตั้งกล้อง, C-stand หรือรถเข็น ✅ มีขาเสริมให้กลายเป็นโต๊ะตั้งพื้น ➡️ เหมาะกับช่างภาพ, นักทำวิดีโอ และศิลปินดิจิทัล ✅ ราคาอยู่ที่ $299 พร้อมไฟล์ 3D print แบบ open-source สำหรับปรับแต่ง ➡️ รองรับการใช้งานแบบโมดูลาร์และพกพา ✅ มีหูหิ้วผ้าใบและแม่เหล็กพับเก็บง่าย ➡️ ออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง https://www.techradar.com/pro/someone-designed-an-open-portable-desk-with-a-canvas-handle-to-carry-your-usd10-000-apple-macbook-pro-laptop-around-but-somehow-i-dont-think-it-is-a-very-good-idea
    WWW.TECHRADAR.COM
    This portable desk holds your MacBook Pro like a coffee tray
    AeroTrac blends precision engineering with a hint of impractical ambition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจรจารักษาอธิปไตย กังวลหลายเรื่องสำคัญ : [NEWS UPDATE]
    นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ เผยถึงความคืบหน้าการเดินทางไปหารือกับประเทศมาเลเซีย ต่อการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งต่อไป ยังมีอีก 2 ประเด็นที่จะไปพูดคุยเพิ่ม คาดว่าจะเดินทางไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันที่ 17 ต.ค. นี้ ไม่กังวล
    กัมพูชาจะไปร้องศาลโลก กรณีไทยฉายภาพยนตร์ เปิดเสียงหลอนในพื้นที่บ้านหนองจาน แต่กังวลใน 4-5 เรื่อง ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่าเป็นเรื่องสําคัญ ถ้าเราจะเดินหน้าความสัมพันธ์ ตอนนี้การเจรจากําลังเดินหน้าเรื่องอธิปไตย เราต้องมุ่งมั่นรักษา


    ขอคนไทยมั่นใจแม่ทัพใหม่

    เข็นเศรษฐกิจแข่งเวลา 4 เดือน

    งบประมาณปี 2570 ส่อล่าช้า

    สอบชุดปฏิบัติการพิเศษดีอี
    เจรจารักษาอธิปไตย กังวลหลายเรื่องสำคัญ : [NEWS UPDATE] นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ เผยถึงความคืบหน้าการเดินทางไปหารือกับประเทศมาเลเซีย ต่อการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งต่อไป ยังมีอีก 2 ประเด็นที่จะไปพูดคุยเพิ่ม คาดว่าจะเดินทางไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันที่ 17 ต.ค. นี้ ไม่กังวล กัมพูชาจะไปร้องศาลโลก กรณีไทยฉายภาพยนตร์ เปิดเสียงหลอนในพื้นที่บ้านหนองจาน แต่กังวลใน 4-5 เรื่อง ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่าเป็นเรื่องสําคัญ ถ้าเราจะเดินหน้าความสัมพันธ์ ตอนนี้การเจรจากําลังเดินหน้าเรื่องอธิปไตย เราต้องมุ่งมั่นรักษา ขอคนไทยมั่นใจแม่ทัพใหม่ เข็นเศรษฐกิจแข่งเวลา 4 เดือน งบประมาณปี 2570 ส่อล่าช้า สอบชุดปฏิบัติการพิเศษดีอี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตก

    เดือนนี้ ภายในบ้านที่อยู่อาศัยควรขจัดสิ่งรกร้างเพื่อป้องกันภัยจากสัตว์มีพิษงูเงี้ยวเขี้ยวขอ เพราะมีโอกาสจะต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล อีกทั้งควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายที่เกี่ยวข้องกับตับ ถุงน้ำดี สะโพก ไขข้อ หอบ ลม ตลอดจนผิวหนังเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเรื่องของการเดินทางไกลควรระมัดระวัง ภัยทางอากาศควรตรวจสภาพภูมิอากาศก่อนการเดินทาง จะมีเหตุวุ่นวายให้คิดไม่ตกหาทางออกได้ยากจนเกิดเป็นความเครียด สาเหตุเพราะเพศหญิงจะทำให้การเงินเสียหายเดือดร้อน เรื่องของความรักยังคงไม่สดใส ทั้งลูกหลานจะไม่อยู่ในโอวาทไม่ยอมรับฟังคำทักท้วงตักเตือนแต่อย่างใด ส่วนงานสร้างสรรค์ที่เคยรุ่งโรจน์จะไม่ก้าวหน้าพัฒนาเดินถดถอย ธุรกิจการงานจะมีอุปสรรคปัญหาให้ไม่ราบรื่น จะค้าจะขายทุนหายกำไรหดขาดทุนส่งผลให้เงินทองติดๆขัดๆไม่ไหลลื่นจนเกิดปรากฏการณ์เช็คปลิวว่อนเด้งติดสปริง

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตก เดือนนี้ ภายในบ้านที่อยู่อาศัยควรขจัดสิ่งรกร้างเพื่อป้องกันภัยจากสัตว์มีพิษงูเงี้ยวเขี้ยวขอ เพราะมีโอกาสจะต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล อีกทั้งควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายที่เกี่ยวข้องกับตับ ถุงน้ำดี สะโพก ไขข้อ หอบ ลม ตลอดจนผิวหนังเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเรื่องของการเดินทางไกลควรระมัดระวัง ภัยทางอากาศควรตรวจสภาพภูมิอากาศก่อนการเดินทาง จะมีเหตุวุ่นวายให้คิดไม่ตกหาทางออกได้ยากจนเกิดเป็นความเครียด สาเหตุเพราะเพศหญิงจะทำให้การเงินเสียหายเดือดร้อน เรื่องของความรักยังคงไม่สดใส ทั้งลูกหลานจะไม่อยู่ในโอวาทไม่ยอมรับฟังคำทักท้วงตักเตือนแต่อย่างใด ส่วนงานสร้างสรรค์ที่เคยรุ่งโรจน์จะไม่ก้าวหน้าพัฒนาเดินถดถอย ธุรกิจการงานจะมีอุปสรรคปัญหาให้ไม่ราบรื่น จะค้าจะขายทุนหายกำไรหดขาดทุนส่งผลให้เงินทองติดๆขัดๆไม่ไหลลื่นจนเกิดปรากฏการณ์เช็คปลิวว่อนเด้งติดสปริง ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพ่อตาหินช้าง รุ่น1 วัดเขาพ่อตา จ.ชุมพร ปี2518
    เหรียญพ่อตาหินช้าง รุ่น1 วัดเขาพ่อตา จ.ชุมพร ปี2518 // พระดีพิธีใหญ่ ศาลเจ้าพ่อตาหินช้าง หรือเรียกอีกชื่อว่า ศาลพ่อศรีหริมงคล ชาวท้องถิ่นมีความเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก จนกระทั่งต้องมีการสร้างศาลและทำพิธีบวงสรวงขึ้น // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเชื่อกันว่าบารมีของพ่อตาหินช้าง ยังสามารถดลบันดาลให้ผู้ที่มาบนบานสมปรารถนา ทำมาหากินจะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยทุกคน ช่วยเสริมส่งให้ชะตาชีวิตดีขึ้น ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน **

    ** ชาวจังหวัดชุมพรมีความเชื่อว่า ศาลเจ้าพ่อตาหินช้างเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพของผู้ที่เดินทางผ่านเส้นทางนี้ โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถบรรทุกและรถโดยสารมักจะแวะทำความเคารพด้วยการจุดประทัด หรือใช้วิธีบีบแตรถสียงดังขณะขับรถผ่านเพื่อขอพรต่างๆ และขอให้การเดินทางถึงจุดหมายปลายทางด้วยความปลอดภัย บริเวณดังกล่าวจึงมีเสียงแตรรถ และเสียงประทัดดังก้องอยู่อย่างไม่ขาด ยังเชื่อกันว่าบารมีของเจ้าพ่อตาหินช้างช่วยให้ผู้ที่มาบนบานนั้นสมหวัง จึงมีผู้นิยมนำรูปปั้นช้างขนาดต่างๆ มาแก้บน **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก น่าเก็บ พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญพ่อตาหินช้าง รุ่น1 วัดเขาพ่อตา จ.ชุมพร ปี2518 เหรียญพ่อตาหินช้าง รุ่น1 วัดเขาพ่อตา จ.ชุมพร ปี2518 // พระดีพิธีใหญ่ ศาลเจ้าพ่อตาหินช้าง หรือเรียกอีกชื่อว่า ศาลพ่อศรีหริมงคล ชาวท้องถิ่นมีความเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก จนกระทั่งต้องมีการสร้างศาลและทำพิธีบวงสรวงขึ้น // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเชื่อกันว่าบารมีของพ่อตาหินช้าง ยังสามารถดลบันดาลให้ผู้ที่มาบนบานสมปรารถนา ทำมาหากินจะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยทุกคน ช่วยเสริมส่งให้ชะตาชีวิตดีขึ้น ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ** ** ชาวจังหวัดชุมพรมีความเชื่อว่า ศาลเจ้าพ่อตาหินช้างเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพของผู้ที่เดินทางผ่านเส้นทางนี้ โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถบรรทุกและรถโดยสารมักจะแวะทำความเคารพด้วยการจุดประทัด หรือใช้วิธีบีบแตรถสียงดังขณะขับรถผ่านเพื่อขอพรต่างๆ และขอให้การเดินทางถึงจุดหมายปลายทางด้วยความปลอดภัย บริเวณดังกล่าวจึงมีเสียงแตรรถ และเสียงประทัดดังก้องอยู่อย่างไม่ขาด ยังเชื่อกันว่าบารมีของเจ้าพ่อตาหินช้างช่วยให้ผู้ที่มาบนบานนั้นสมหวัง จึงมีผู้นิยมนำรูปปั้นช้างขนาดต่างๆ มาแก้บน ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก น่าเก็บ พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Tianwen-2 ถ่ายเซลฟี่กับโลก ก่อนมุ่งหน้าสู่ดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง — ภารกิจจีนที่ทะยานไกลถึงปี 2035”

    จีนได้เปิดตัวภารกิจอวกาศ Tianwen-2 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 โดยเป็นภารกิจลำดับที่สองในโครงการ “Tianwen” ซึ่งแปลว่า “คำถามถึงสวรรค์” จุดมุ่งหมายคือการสำรวจดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง เพื่อไขปริศนาเกี่ยวกับต้นกำเนิดของระบบสุริยะและน้ำบนโลก

    หลังจากออกจากโลกเพียงหนึ่งวัน Tianwen-2 ถ่ายภาพโลกจากระยะ 366,620 ไมล์ และต่อมาได้ถ่าย “เซลฟี่” โดยมีโลกเป็นฉากหลังจากระยะ 26.5 ล้านไมล์ ด้วยกล้องที่ติดตั้งบนแขนหุ่นยนต์ของยาน ภาพนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นภารกิจที่ยาวนานถึง 10 ปี

    เป้าหมายแรกของ Tianwen-2 คือดาวเคราะห์น้อย 469219 Kamoʻoalewa ซึ่งมีวงโคจรใกล้เคียงกับโลก และเชื่อว่าอาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของดวงจันทร์มาก่อน ยานจะไปถึงในเดือนกรกฎาคม 2026 และใช้เวลาหลายเดือนในการสำรวจและเก็บตัวอย่าง ก่อนนำกลับสู่โลกในปี 2027 ผ่านแคปซูลส่งคืน

    หลังจากส่งตัวอย่างกลับมา Tianwen-2 จะใช้แรงโน้มถ่วงของโลกเป็น “สลิง” เพื่อเร่งความเร็วและมุ่งหน้าสู่ดาวหาง 311P/PANSTARRS ในแถบดาวเคราะห์น้อย ซึ่งมีลักษณะทั้งเป็นดาวหางและดาวเคราะห์น้อยในตัวเดียวกัน ยานจะไปถึงในปี 2035 และใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีในการสำรวจ

    ภารกิจนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสำรวจอวกาศระยะยาวของจีน โดย Tianwen-1 เคยสำรวจดาวอังคารในปี 2020 ส่วน Tianwen-3 จะนำตัวอย่างจากดาวอังคารกลับมา และ Tianwen-4 จะสำรวจดาวพฤหัสบดีและดวงจันทร์ของมัน

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Tianwen-2 เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2025 โดย CNSA
    ถ่ายภาพโลกจากระยะ 366,620 ไมล์ และเซลฟี่จากระยะ 26.5 ล้านไมล์
    เป้าหมายแรกคือดาวเคราะห์น้อย Kamoʻoalewa ซึ่งอาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของดวงจันทร์
    จะไปถึง Kamoʻoalewa ในเดือนกรกฎาคม 2026 และส่งตัวอย่างกลับโลกในปี 2027
    ใช้แคปซูลส่งคืนเพื่อนำตัวอย่างกลับมา
    หลังจากนั้นจะมุ่งหน้าสู่ดาวหาง 311P/PANSTARRS ในปี 2035
    ดาวหางนี้มีลักษณะทั้งเป็นดาวหางและดาวเคราะห์น้อย
    Tianwen-2 จะใช้เวลาสำรวจดาวหางอย่างน้อยหนึ่งปี
    เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Tianwen ที่รวมถึงภารกิจไปดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Kamoʻoalewa ถูกค้นพบในปี 2016 และมีวงโคจรใกล้เคียงกับโลก
    ดาวหาง 311P/PANSTARRS มีหางหลายเส้นและอาจมีน้ำแข็งใต้พื้นผิว
    การใช้แรงโน้มถ่วงของโลกเป็น “gravity assist” ช่วยประหยัดพลังงานในการเดินทาง
    Tianwen-2 ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
    ภารกิจนี้ใช้เทคนิคใหม่ในการเก็บตัวอย่าง เช่น anchor-and-attach ซึ่งไม่เคยใช้มาก่อน

    https://www.slashgear.com/1987891/china-tianwen-2-probe-takes-selfie-with-earth/
    🚀 “Tianwen-2 ถ่ายเซลฟี่กับโลก ก่อนมุ่งหน้าสู่ดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง — ภารกิจจีนที่ทะยานไกลถึงปี 2035” จีนได้เปิดตัวภารกิจอวกาศ Tianwen-2 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 โดยเป็นภารกิจลำดับที่สองในโครงการ “Tianwen” ซึ่งแปลว่า “คำถามถึงสวรรค์” จุดมุ่งหมายคือการสำรวจดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง เพื่อไขปริศนาเกี่ยวกับต้นกำเนิดของระบบสุริยะและน้ำบนโลก หลังจากออกจากโลกเพียงหนึ่งวัน Tianwen-2 ถ่ายภาพโลกจากระยะ 366,620 ไมล์ และต่อมาได้ถ่าย “เซลฟี่” โดยมีโลกเป็นฉากหลังจากระยะ 26.5 ล้านไมล์ ด้วยกล้องที่ติดตั้งบนแขนหุ่นยนต์ของยาน ภาพนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นภารกิจที่ยาวนานถึง 10 ปี เป้าหมายแรกของ Tianwen-2 คือดาวเคราะห์น้อย 469219 Kamoʻoalewa ซึ่งมีวงโคจรใกล้เคียงกับโลก และเชื่อว่าอาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของดวงจันทร์มาก่อน ยานจะไปถึงในเดือนกรกฎาคม 2026 และใช้เวลาหลายเดือนในการสำรวจและเก็บตัวอย่าง ก่อนนำกลับสู่โลกในปี 2027 ผ่านแคปซูลส่งคืน หลังจากส่งตัวอย่างกลับมา Tianwen-2 จะใช้แรงโน้มถ่วงของโลกเป็น “สลิง” เพื่อเร่งความเร็วและมุ่งหน้าสู่ดาวหาง 311P/PANSTARRS ในแถบดาวเคราะห์น้อย ซึ่งมีลักษณะทั้งเป็นดาวหางและดาวเคราะห์น้อยในตัวเดียวกัน ยานจะไปถึงในปี 2035 และใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีในการสำรวจ ภารกิจนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสำรวจอวกาศระยะยาวของจีน โดย Tianwen-1 เคยสำรวจดาวอังคารในปี 2020 ส่วน Tianwen-3 จะนำตัวอย่างจากดาวอังคารกลับมา และ Tianwen-4 จะสำรวจดาวพฤหัสบดีและดวงจันทร์ของมัน ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Tianwen-2 เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2025 โดย CNSA ➡️ ถ่ายภาพโลกจากระยะ 366,620 ไมล์ และเซลฟี่จากระยะ 26.5 ล้านไมล์ ➡️ เป้าหมายแรกคือดาวเคราะห์น้อย Kamoʻoalewa ซึ่งอาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของดวงจันทร์ ➡️ จะไปถึง Kamoʻoalewa ในเดือนกรกฎาคม 2026 และส่งตัวอย่างกลับโลกในปี 2027 ➡️ ใช้แคปซูลส่งคืนเพื่อนำตัวอย่างกลับมา ➡️ หลังจากนั้นจะมุ่งหน้าสู่ดาวหาง 311P/PANSTARRS ในปี 2035 ➡️ ดาวหางนี้มีลักษณะทั้งเป็นดาวหางและดาวเคราะห์น้อย ➡️ Tianwen-2 จะใช้เวลาสำรวจดาวหางอย่างน้อยหนึ่งปี ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Tianwen ที่รวมถึงภารกิจไปดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Kamoʻoalewa ถูกค้นพบในปี 2016 และมีวงโคจรใกล้เคียงกับโลก ➡️ ดาวหาง 311P/PANSTARRS มีหางหลายเส้นและอาจมีน้ำแข็งใต้พื้นผิว ➡️ การใช้แรงโน้มถ่วงของโลกเป็น “gravity assist” ช่วยประหยัดพลังงานในการเดินทาง ➡️ Tianwen-2 ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ➡️ ภารกิจนี้ใช้เทคนิคใหม่ในการเก็บตัวอย่าง เช่น anchor-and-attach ซึ่งไม่เคยใช้มาก่อน https://www.slashgear.com/1987891/china-tianwen-2-probe-takes-selfie-with-earth/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    China's Tianwen-2 Probe Takes A Selfie With Earth On Its Way Out Into The Universe - SlashGear
    China’s Tianwen-2 probe captured Earth’s image while traveling to asteroid Kamoʻoalewa. It will explore the solar system collecting samples until 2035.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • “KDE Gear 25.08.2 อัปเดตครั้งใหญ่ — แอป KDE หลายตัวเสถียรขึ้น ใช้งานลื่นไหล พร้อมฟีเจอร์ใหม่เพียบ”

    KDE Project ได้ปล่อยอัปเดต KDE Gear 25.08.2 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2025 ซึ่งเป็นการบำรุงรักษารอบที่สองของชุดแอป KDE Gear 25.08 โดยเน้นการแก้ไขบั๊กและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับแอปยอดนิยมในระบบ KDE Plasma เช่น Dolphin, Kdenlive, Ark, Dragon Player, KMail, Kate, Akregator, KTorrent, Tokodon และ Itinerary

    หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจคือการรองรับการส่งภาพ thumbnail เมื่ออัปโหลดวิดีโอผ่าน NeoChat และการรองรับ keysyms ตัวพิมพ์ใหญ่ใน KDE Connect เพื่อให้การส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์แม่นยำขึ้น นอกจากนี้ Akregator ยังรองรับ mimetype แบบ x-scheme-handler/feed เพื่อให้การจัดการ RSS feed มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    KDE Itinerary ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการค้นหาเส้นทางที่มี funiculars และ aerial lifts (รถรางและกระเช้า) พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่แสดงผลการเดินทางจากปลายทางก่อนเมื่อค้นหาการมาถึง ส่วน KAlarm ได้รับการแก้ไขปัญหา loop ไม่สิ้นสุดเมื่อปฏิทินเป็นแบบ read-only

    Tokodon ซึ่งเป็น Mastodon client ได้รับการแก้ไขการจัดวางแนวตั้งของชื่อหน้าเมื่อใช้ emoji แบบกำหนดเอง และปรับปรุงระบบ push notification ให้เชื่อถือได้มากขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีการอัปเดต library หลายตัว เช่น kpublictransport ที่รองรับ MOTIS 2.5.0 และ timezone parsing, kitinerary ที่สามารถดึงข้อมูลจาก PDF ตั๋วของสายการบินต่าง ๆ ได้แม่นยำขึ้น รวมถึง Keysmith ที่ขอสิทธิ์กล้องเพื่อสแกน QR code ได้โดยตรง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    KDE Gear 25.08.2 เปิดตัวเมื่อ 9 ตุลาคม 2025 เป็นการบำรุงรักษารอบที่สองของเวอร์ชัน 25.08
    Dolphin, Kdenlive, Ark, Dragon Player, KMail, Kate, Akregator, KTorrent, Tokodon และ Itinerary ได้รับการปรับปรุง
    NeoChat รองรับการส่ง thumbnail เมื่ออัปโหลดวิดีโอ
    KDE Connect รองรับ keysyms ตัวพิมพ์ใหญ่สำหรับ portal input
    Akregator รองรับ mimetype แบบ x-scheme-handler/feed
    Itinerary รองรับ funiculars และ aerial lifts ในการค้นหาเส้นทาง
    KAlarm แก้ปัญหา loop เมื่อปฏิทินเป็น read-only
    Tokodon แก้การจัดวางชื่อหน้าและปรับปรุง push notification
    Merkuro แก้ปัญหาการเพิ่ม sub-item ใน task ไม่ทำงาน
    kitinerary รองรับการดึงข้อมูลจาก PDF ตั๋วของสายการบินหลายเจ้า เช่น Ethiad, AirAsia, SNCF
    Keysmith ขอสิทธิ์กล้องเพื่อสแกน QR code ได้โดยตรง
    KSaneCore แก้ปัญหา crash เมื่อไม่มี source/mode options

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    KDE Gear เป็นชุดแอปที่พัฒนาโดยชุมชน KDE และปล่อยอัปเดตทุก 4 เดือน
    MOTIS เป็นระบบจัดการข้อมูลขนส่งที่ใช้ใน kpublictransport
    kitinerary เป็น library ที่ใช้ในแอป Itinerary สำหรับจัดการการเดินทาง
    Akregator เป็นแอปอ่าน RSS feed ที่ได้รับความนิยมใน KDE
    Tokodon เป็น Mastodon client ที่ออกแบบให้ใช้งานบน KDE Plasma ได้ลื่นไหล

    https://9to5linux.com/kde-gear-25-08-2-rolls-out-with-more-improvements-for-your-favorite-kde-apps
    🖥️ “KDE Gear 25.08.2 อัปเดตครั้งใหญ่ — แอป KDE หลายตัวเสถียรขึ้น ใช้งานลื่นไหล พร้อมฟีเจอร์ใหม่เพียบ” KDE Project ได้ปล่อยอัปเดต KDE Gear 25.08.2 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2025 ซึ่งเป็นการบำรุงรักษารอบที่สองของชุดแอป KDE Gear 25.08 โดยเน้นการแก้ไขบั๊กและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับแอปยอดนิยมในระบบ KDE Plasma เช่น Dolphin, Kdenlive, Ark, Dragon Player, KMail, Kate, Akregator, KTorrent, Tokodon และ Itinerary หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจคือการรองรับการส่งภาพ thumbnail เมื่ออัปโหลดวิดีโอผ่าน NeoChat และการรองรับ keysyms ตัวพิมพ์ใหญ่ใน KDE Connect เพื่อให้การส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์แม่นยำขึ้น นอกจากนี้ Akregator ยังรองรับ mimetype แบบ x-scheme-handler/feed เพื่อให้การจัดการ RSS feed มีประสิทธิภาพมากขึ้น KDE Itinerary ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการค้นหาเส้นทางที่มี funiculars และ aerial lifts (รถรางและกระเช้า) พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่แสดงผลการเดินทางจากปลายทางก่อนเมื่อค้นหาการมาถึง ส่วน KAlarm ได้รับการแก้ไขปัญหา loop ไม่สิ้นสุดเมื่อปฏิทินเป็นแบบ read-only Tokodon ซึ่งเป็น Mastodon client ได้รับการแก้ไขการจัดวางแนวตั้งของชื่อหน้าเมื่อใช้ emoji แบบกำหนดเอง และปรับปรุงระบบ push notification ให้เชื่อถือได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการอัปเดต library หลายตัว เช่น kpublictransport ที่รองรับ MOTIS 2.5.0 และ timezone parsing, kitinerary ที่สามารถดึงข้อมูลจาก PDF ตั๋วของสายการบินต่าง ๆ ได้แม่นยำขึ้น รวมถึง Keysmith ที่ขอสิทธิ์กล้องเพื่อสแกน QR code ได้โดยตรง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ KDE Gear 25.08.2 เปิดตัวเมื่อ 9 ตุลาคม 2025 เป็นการบำรุงรักษารอบที่สองของเวอร์ชัน 25.08 ➡️ Dolphin, Kdenlive, Ark, Dragon Player, KMail, Kate, Akregator, KTorrent, Tokodon และ Itinerary ได้รับการปรับปรุง ➡️ NeoChat รองรับการส่ง thumbnail เมื่ออัปโหลดวิดีโอ ➡️ KDE Connect รองรับ keysyms ตัวพิมพ์ใหญ่สำหรับ portal input ➡️ Akregator รองรับ mimetype แบบ x-scheme-handler/feed ➡️ Itinerary รองรับ funiculars และ aerial lifts ในการค้นหาเส้นทาง ➡️ KAlarm แก้ปัญหา loop เมื่อปฏิทินเป็น read-only ➡️ Tokodon แก้การจัดวางชื่อหน้าและปรับปรุง push notification ➡️ Merkuro แก้ปัญหาการเพิ่ม sub-item ใน task ไม่ทำงาน ➡️ kitinerary รองรับการดึงข้อมูลจาก PDF ตั๋วของสายการบินหลายเจ้า เช่น Ethiad, AirAsia, SNCF ➡️ Keysmith ขอสิทธิ์กล้องเพื่อสแกน QR code ได้โดยตรง ➡️ KSaneCore แก้ปัญหา crash เมื่อไม่มี source/mode options ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ KDE Gear เป็นชุดแอปที่พัฒนาโดยชุมชน KDE และปล่อยอัปเดตทุก 4 เดือน ➡️ MOTIS เป็นระบบจัดการข้อมูลขนส่งที่ใช้ใน kpublictransport ➡️ kitinerary เป็น library ที่ใช้ในแอป Itinerary สำหรับจัดการการเดินทาง ➡️ Akregator เป็นแอปอ่าน RSS feed ที่ได้รับความนิยมใน KDE ➡️ Tokodon เป็น Mastodon client ที่ออกแบบให้ใช้งานบน KDE Plasma ได้ลื่นไหล https://9to5linux.com/kde-gear-25-08-2-rolls-out-with-more-improvements-for-your-favorite-kde-apps
    9TO5LINUX.COM
    KDE Gear 25.08.2 Rolls Out with More Improvements for Your Favorite KDE Apps - 9to5Linux
    KDE Gear 25.08.2 is now available as the second maintenance update to the latest KDE Gear 25.08 open-source software suite series.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Sam Altman ชี้ชัด: TSMC คือคำตอบของโลก AI — ยังไม่ถึงเวลาพึ่ง Intel ในการผลิตชิป”

    ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ Stratechery เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2025 Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกพันธมิตรในการผลิตชิปสำหรับยุค AI โดยระบุว่า “อยากให้ TSMC ขยายกำลังการผลิตมากขึ้น” แทนที่จะหันไปพึ่ง Intel Foundry ในตอนนี้ แม้จะไม่ใช่การปฏิเสธโดยสิ้นเชิง แต่ก็สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความเสถียรและความต่อเนื่องของ TSMC

    Altman ยอมรับว่า OpenAI ไม่ได้มีโรงงานผลิตชิปเอง แต่กำลังพัฒนาชิป AI เฉพาะทางที่ใช้เทคโนโลยี 3nm ของ TSMC ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยเขาเน้นว่า “การขยายกำลังผลิตของ TSMC” คือสิ่งที่จำเป็นต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม AI

    แม้ Intel จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และลงทุนกว่า $90 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี 18A node แต่ Altman และผู้บริหารรายอื่น เช่น Jensen Huang (NVIDIA) และ Lisa Su (AMD) ยังไม่แสดงความมั่นใจเต็มที่ใน Intel Foundry สำหรับงานเร่งด่วนในตอนนี้

    อย่างไรก็ตาม Altman ไม่ปิดโอกาสในอนาคต โดยระบุว่า “โอกาสยังมีอยู่เสมอ” และการมีผู้ผลิตชิปหลายรายจะช่วยลดความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะเมื่อ TSMC ต้องใช้เวลาและโลจิสติกส์จำนวนมากในการขยายกำลังผลิตจากไต้หวันไปยังสหรัฐฯ

    ในขณะเดียวกัน Altman ยังมีการเดินทางลับไปยังไต้หวันเพื่อหารือกับ TSMC และ Foxconn เกี่ยวกับการออกแบบชิปและโครงสร้างพื้นฐานของเซิร์ฟเวอร์ AI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Stargate ที่มีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ในการสร้าง “โรงงาน AI” ทั่วโลก

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Sam Altman ระบุว่าอยากให้ TSMC ขยายกำลังการผลิต มากกว่าพึ่ง Intel ในตอนนี้
    OpenAI กำลังพัฒนาชิป AI ที่ใช้เทคโนโลยี 3nm ของ TSMC
    Intel ลงทุนกว่า $90 พันล้านใน 4 ปีเพื่อพัฒนา 18A node
    Altman ไม่ปฏิเสธ Intel แต่ยังไม่เห็นว่าเหมาะกับงานเร่งด่วน
    ผู้บริหารรายอื่น เช่น Jensen Huang และ Lisa Su ก็ยังไม่มั่นใจใน Intel Foundry
    Altman เดินทางไปไต้หวันเพื่อหารือกับ TSMC และ Foxconn
    โครงการ Stargate ของ OpenAI ต้องการชิปจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างโรงงาน AI
    Foxconn จะผลิตฮาร์ดแวร์ให้ Softbank ที่ลงทุนใน OpenAI

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    TSMC เป็นผู้ผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยมีลูกค้าหลักคือ Apple, NVIDIA, AMD
    Intel 18A node เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังอยู่ในช่วงทดสอบด้านประสิทธิภาพและปริมาณ
    การผลิตชิปในสหรัฐฯ ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและแรงงานเมื่อเทียบกับไต้หวัน
    Foxconn เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของ Oracle ซึ่งมีดีล $300 พันล้านกับ OpenAI
    Softbank ลงทุนใน OpenAI และมีแผนสร้างศูนย์ข้อมูลร่วมกับ Foxconn ในสหรัฐฯ

    https://wccftech.com/openai-ceo-says-he-would-prefer-tsmc-to-build-up-chip-production-rather-than-collaborating-with-intel/
    🔧 “Sam Altman ชี้ชัด: TSMC คือคำตอบของโลก AI — ยังไม่ถึงเวลาพึ่ง Intel ในการผลิตชิป” ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ Stratechery เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2025 Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกพันธมิตรในการผลิตชิปสำหรับยุค AI โดยระบุว่า “อยากให้ TSMC ขยายกำลังการผลิตมากขึ้น” แทนที่จะหันไปพึ่ง Intel Foundry ในตอนนี้ แม้จะไม่ใช่การปฏิเสธโดยสิ้นเชิง แต่ก็สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความเสถียรและความต่อเนื่องของ TSMC Altman ยอมรับว่า OpenAI ไม่ได้มีโรงงานผลิตชิปเอง แต่กำลังพัฒนาชิป AI เฉพาะทางที่ใช้เทคโนโลยี 3nm ของ TSMC ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยเขาเน้นว่า “การขยายกำลังผลิตของ TSMC” คือสิ่งที่จำเป็นต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม AI แม้ Intel จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และลงทุนกว่า $90 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี 18A node แต่ Altman และผู้บริหารรายอื่น เช่น Jensen Huang (NVIDIA) และ Lisa Su (AMD) ยังไม่แสดงความมั่นใจเต็มที่ใน Intel Foundry สำหรับงานเร่งด่วนในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม Altman ไม่ปิดโอกาสในอนาคต โดยระบุว่า “โอกาสยังมีอยู่เสมอ” และการมีผู้ผลิตชิปหลายรายจะช่วยลดความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะเมื่อ TSMC ต้องใช้เวลาและโลจิสติกส์จำนวนมากในการขยายกำลังผลิตจากไต้หวันไปยังสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน Altman ยังมีการเดินทางลับไปยังไต้หวันเพื่อหารือกับ TSMC และ Foxconn เกี่ยวกับการออกแบบชิปและโครงสร้างพื้นฐานของเซิร์ฟเวอร์ AI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Stargate ที่มีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ในการสร้าง “โรงงาน AI” ทั่วโลก ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Sam Altman ระบุว่าอยากให้ TSMC ขยายกำลังการผลิต มากกว่าพึ่ง Intel ในตอนนี้ ➡️ OpenAI กำลังพัฒนาชิป AI ที่ใช้เทคโนโลยี 3nm ของ TSMC ➡️ Intel ลงทุนกว่า $90 พันล้านใน 4 ปีเพื่อพัฒนา 18A node ➡️ Altman ไม่ปฏิเสธ Intel แต่ยังไม่เห็นว่าเหมาะกับงานเร่งด่วน ➡️ ผู้บริหารรายอื่น เช่น Jensen Huang และ Lisa Su ก็ยังไม่มั่นใจใน Intel Foundry ➡️ Altman เดินทางไปไต้หวันเพื่อหารือกับ TSMC และ Foxconn ➡️ โครงการ Stargate ของ OpenAI ต้องการชิปจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างโรงงาน AI ➡️ Foxconn จะผลิตฮาร์ดแวร์ให้ Softbank ที่ลงทุนใน OpenAI ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยมีลูกค้าหลักคือ Apple, NVIDIA, AMD ➡️ Intel 18A node เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังอยู่ในช่วงทดสอบด้านประสิทธิภาพและปริมาณ ➡️ การผลิตชิปในสหรัฐฯ ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและแรงงานเมื่อเทียบกับไต้หวัน ➡️ Foxconn เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของ Oracle ซึ่งมีดีล $300 พันล้านกับ OpenAI ➡️ Softbank ลงทุนใน OpenAI และมีแผนสร้างศูนย์ข้อมูลร่วมกับ Foxconn ในสหรัฐฯ https://wccftech.com/openai-ceo-says-he-would-prefer-tsmc-to-build-up-chip-production-rather-than-collaborating-with-intel/
    WCCFTECH.COM
    OpenAI CEO Sam Altman Says Tech Giants Should Rely on TSMC to Expand Chip Capacity, Rather Than Turning to Intel For Now
    OpenAI's CEO has given his verdict on whether the tech giants should look towards an alternative to TSMC, such as Intel Foundry.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • “OpenAI เตือนภัย — กลุ่มแฮกเกอร์จากรัฐต่างชาติใช้ AI เป็นเครื่องมือโจมตีไซเบอร์แบบครบวงจร”

    รายงานล่าสุดจาก OpenAI ในเดือนตุลาคม 2025 ชื่อว่า “Disrupting Malicious Uses of AI” เผยให้เห็นแนวโน้มที่น่ากังวล: กลุ่มภัยคุกคามจากรัฐต่างชาติ เช่น รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และอิหร่าน กำลังใช้เครื่องมือ AI อย่าง ChatGPT และโมเดลอื่น ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการโจมตีไซเบอร์ การหลอกลวง และปฏิบัติการชักจูงทางข้อมูล (influence operations)

    OpenAI พบว่ากลุ่มเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนวิธีการโจมตี แต่ใช้ AI เพื่อทำให้กระบวนการเดิมเร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น เช่น เขียนมัลแวร์ ปรับแต่งข้อความฟิชชิ่ง หรือจัดการเนื้อหาหลอกลวงในโซเชียลมีเดีย โดยใช้ ChatGPT ในขั้นตอนวางแผนและใช้โมเดลอื่นในขั้นตอนปฏิบัติ

    ตัวอย่างที่พบ ได้แก่:

    กลุ่มรัสเซียใช้ ChatGPT เพื่อเขียนโค้ดสำหรับ remote-access tools และ credential stealers โดยหลบเลี่ยงข้อจำกัดของโมเดลด้วยการขอคำแนะนำทีละส่วน

    กลุ่มเกาหลีเหนือใช้ ChatGPT เพื่อ debug โค้ดและสร้างข้อความฟิชชิ่งเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี

    กลุ่มจีนใช้ ChatGPT เพื่อสร้างเนื้อหาฟิชชิ่งหลายภาษา และช่วย debug มัลแวร์ โดยมีเป้าหมายโจมตีสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    นอกจากนี้ยังพบการใช้ AI ในเครือข่ายหลอกลวงขนาดใหญ่ในประเทศกัมพูชา เมียนมา และไนจีเรีย เช่น ใช้ ChatGPT เพื่อแปลข้อความ สร้างโปรไฟล์บริษัทลงทุนปลอม และจัดการกลุ่มแชตปลอมใน WhatsApp

    ที่น่ากังวลที่สุดคือการใช้ AI เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการสอดแนม โดยมีบัญชีที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนขอให้ ChatGPT ช่วยร่างข้อเสนอสำหรับระบบติดตามบุคคล เช่น “แบบจำลองเตือนภัยการเคลื่อนไหวของชาวอุยกูร์” โดยใช้ข้อมูลการเดินทางและตำรวจ

    OpenAI ยืนยันว่าโมเดลของตนตอบกลับเฉพาะข้อมูลสาธารณะ และได้ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานผิดวัตถุประสงค์ไปแล้วกว่า 40 เครือข่าย พร้อมร่วมมือกับ Microsoft Threat Intelligence เพื่อป้องกันการละเมิดในอนาคต

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    OpenAI เผยรายงาน “Disrupting Malicious Uses of AI” เดือนตุลาคม 2025
    พบการใช้ AI โดยกลุ่มภัยคุกคามจากรัฐ เช่น รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และอิหร่าน
    ใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนโจมตี เช่น เขียนโค้ดมัลแวร์และข้อความฟิชชิ่ง
    กลุ่มจีนใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาฟิชชิ่งหลายภาษาและ debug มัลแวร์
    กลุ่มรัสเซียใช้หลายบัญชี ChatGPT เพื่อสร้าง remote-access tools
    กลุ่มเกาหลีเหนือใช้ AI เพื่อพัฒนา VPN และ browser extensions
    เครือข่ายหลอกลวงในกัมพูชา เมียนมา และไนจีเรียใช้ AI เพื่อจัดการกลุ่มแชตปลอม
    พบการใช้ AI เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการสอดแนม เช่น ติดตามชาวอุยกูร์
    OpenAI ปิดบัญชีที่ละเมิดแล้วกว่า 40 เครือข่าย และร่วมมือกับ Microsoft

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    WormGPT, FraudGPT และ SpamGPT เป็นโมเดล AI ที่ถูกใช้ในงานโจมตีโดยเฉพาะ
    MatrixPDF เป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนไฟล์ PDF ธรรมดาให้กลายเป็นมัลแวร์
    Influence operations คือการใช้ข้อมูลเพื่อชักจูงความคิดเห็นสาธารณะ
    “Stop News” และ “Nine emdash Line” เป็นแคมเปญที่ใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาโปรรัสเซียและวิจารณ์ประเทศในเอเชีย
    AI ถูกใช้ในการวางแผนโจมตีแบบ kill chain ตั้งแต่ reconnaissance ถึง execution

    https://hackread.com/openai-ai-tools-exploitation-threat-groups/
    🧠 “OpenAI เตือนภัย — กลุ่มแฮกเกอร์จากรัฐต่างชาติใช้ AI เป็นเครื่องมือโจมตีไซเบอร์แบบครบวงจร” รายงานล่าสุดจาก OpenAI ในเดือนตุลาคม 2025 ชื่อว่า “Disrupting Malicious Uses of AI” เผยให้เห็นแนวโน้มที่น่ากังวล: กลุ่มภัยคุกคามจากรัฐต่างชาติ เช่น รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และอิหร่าน กำลังใช้เครื่องมือ AI อย่าง ChatGPT และโมเดลอื่น ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการโจมตีไซเบอร์ การหลอกลวง และปฏิบัติการชักจูงทางข้อมูล (influence operations) OpenAI พบว่ากลุ่มเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนวิธีการโจมตี แต่ใช้ AI เพื่อทำให้กระบวนการเดิมเร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น เช่น เขียนมัลแวร์ ปรับแต่งข้อความฟิชชิ่ง หรือจัดการเนื้อหาหลอกลวงในโซเชียลมีเดีย โดยใช้ ChatGPT ในขั้นตอนวางแผนและใช้โมเดลอื่นในขั้นตอนปฏิบัติ ตัวอย่างที่พบ ได้แก่: 🔰 กลุ่มรัสเซียใช้ ChatGPT เพื่อเขียนโค้ดสำหรับ remote-access tools และ credential stealers โดยหลบเลี่ยงข้อจำกัดของโมเดลด้วยการขอคำแนะนำทีละส่วน 🔰 กลุ่มเกาหลีเหนือใช้ ChatGPT เพื่อ debug โค้ดและสร้างข้อความฟิชชิ่งเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี 🔰 กลุ่มจีนใช้ ChatGPT เพื่อสร้างเนื้อหาฟิชชิ่งหลายภาษา และช่วย debug มัลแวร์ โดยมีเป้าหมายโจมตีสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนี้ยังพบการใช้ AI ในเครือข่ายหลอกลวงขนาดใหญ่ในประเทศกัมพูชา เมียนมา และไนจีเรีย เช่น ใช้ ChatGPT เพื่อแปลข้อความ สร้างโปรไฟล์บริษัทลงทุนปลอม และจัดการกลุ่มแชตปลอมใน WhatsApp ที่น่ากังวลที่สุดคือการใช้ AI เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการสอดแนม โดยมีบัญชีที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนขอให้ ChatGPT ช่วยร่างข้อเสนอสำหรับระบบติดตามบุคคล เช่น “แบบจำลองเตือนภัยการเคลื่อนไหวของชาวอุยกูร์” โดยใช้ข้อมูลการเดินทางและตำรวจ OpenAI ยืนยันว่าโมเดลของตนตอบกลับเฉพาะข้อมูลสาธารณะ และได้ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานผิดวัตถุประสงค์ไปแล้วกว่า 40 เครือข่าย พร้อมร่วมมือกับ Microsoft Threat Intelligence เพื่อป้องกันการละเมิดในอนาคต ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ OpenAI เผยรายงาน “Disrupting Malicious Uses of AI” เดือนตุลาคม 2025 ➡️ พบการใช้ AI โดยกลุ่มภัยคุกคามจากรัฐ เช่น รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และอิหร่าน ➡️ ใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนโจมตี เช่น เขียนโค้ดมัลแวร์และข้อความฟิชชิ่ง ➡️ กลุ่มจีนใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาฟิชชิ่งหลายภาษาและ debug มัลแวร์ ➡️ กลุ่มรัสเซียใช้หลายบัญชี ChatGPT เพื่อสร้าง remote-access tools ➡️ กลุ่มเกาหลีเหนือใช้ AI เพื่อพัฒนา VPN และ browser extensions ➡️ เครือข่ายหลอกลวงในกัมพูชา เมียนมา และไนจีเรียใช้ AI เพื่อจัดการกลุ่มแชตปลอม ➡️ พบการใช้ AI เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการสอดแนม เช่น ติดตามชาวอุยกูร์ ➡️ OpenAI ปิดบัญชีที่ละเมิดแล้วกว่า 40 เครือข่าย และร่วมมือกับ Microsoft ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ WormGPT, FraudGPT และ SpamGPT เป็นโมเดล AI ที่ถูกใช้ในงานโจมตีโดยเฉพาะ ➡️ MatrixPDF เป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนไฟล์ PDF ธรรมดาให้กลายเป็นมัลแวร์ ➡️ Influence operations คือการใช้ข้อมูลเพื่อชักจูงความคิดเห็นสาธารณะ ➡️ “Stop News” และ “Nine emdash Line” เป็นแคมเปญที่ใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาโปรรัสเซียและวิจารณ์ประเทศในเอเชีย ➡️ AI ถูกใช้ในการวางแผนโจมตีแบบ kill chain ตั้งแต่ reconnaissance ถึง execution https://hackread.com/openai-ai-tools-exploitation-threat-groups/
    HACKREAD.COM
    OpenAI Finds Growing Exploitation of AI Tools by Foreign Threat Groups
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหยื่อติดคอ ตอนที่ 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อติดคอ”
    ตอนที่ 4

    อเมริกาเริ่มมองหาผู้ที่น่าจะเหมาะสมเป็นหุ่นตัวใหม่แทน Shah สาระพัดฑูตและที่ปรึกษาถูกส่งตัวไปเดินหาข่าวแถวอิหร่าน แน่นอนทุกคนต่างหาเรื่องโกหกมาบังหน้าในการเดินเข้าไปอยู่ในสังคมอิหร่าน

    นาย Henry Precht นักการฑูตคนหนึ่ง ซึ่งถูกส่งไปเดินเล่นช่วงนั้น บรรยายถึงการปฏิบัติการดังกล่าว “เป็นปฏิบัติการสร้างหนทางสำหรับให้คนในสังคมการเมืองระดับสูง เข้ามาจัดตั้งรัฐบาลอิหร่านที่สนับสนุนอเมริกา”

    นาย William H. Sullivan ฑูตอเมริกันประจำอิหร่านช่วง ค.ศ.1977 ถึง ค.ศ.1979 พูดถึงช่วงเวลาดังกล่าวไว้ว่า “ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของ ค.ศ.1978 (ประมาณ 1 ปี ก่อนมี Islamic Revolution ) สถานะการณ์ในอิหร่านเกิดการเปลี่ยนแปลง และเราก็คอยโอกาสนั้น……… สถานฑูตเราได้สร้างเครือข่ายติดต่อกับผู้ไม่เห็นด้วย (กับ Shah) และเราก็ทำให้พวกเขาเชื่อมั่น………. พวกเขาส่วนมากแปลกใจที่ความเห็นของเรากับของพวกเขาใกล้เคียงกันมาก……… เขา (Shah) ถามผมบ่อยๆว่า พวกนักสอนศาสนาเพื่อนคุณทำอะไรกันนะ ? ……”

    เมื่อพวกนักเดินเล่น ส่งรายงานกลับไปที่วอซิงตัน พวกเขาสรุปกันว่า อเมริกาควรสนับสนุนพวก Islamic ที่อยู่ตรงกันข้ามกับ Shah พวกนักการเมืองฝ่านค้าน อ่อนแอเกินไป ส่วนพรรคคอมมิวนิตส์ ก็ใกล้ชิดกับสหภาพโซเวียตมากไป พวก Islamic นี้ มีผู้นำชื่อ Ayatollah Ruhollah Khomeini ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมือง Najif ในอิรักมาหลายปี ตั้งแต่ตั้งตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ Shah แต่ใน ค.ศ.1978 Saddam Hussein ไล่เขาออกไปจากอิรัก Khomeini ย้ายไปปักหลักแถวชานเมืองของปารีสที่ฝรั่งเศสชื่อ Neauphle Le Chateau

    เมื่ออยู่ที่เมือง Najif พวกอเมริกันไปแวะเยี่ยม Khomeini บ่อยๆ Richard Cottam พวก CIA กลุ่มที่มีส่วนในการสร้างการปฏิวัติโค่น Massadeq ได้ไปพบ Khomeini ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลอเมริกัน Cottam เข้าใจว่า Khomeini มีความเป็นห่วงคอมมิวนิตส์จะเข้ามาครองอิหร่าน และบอกว่าจะต้องระวังไม่ใช่ไล่ Shah ออกไป แล้วเป็นการเปิดทางให้คอมมิวนิตส์เข้ามาครองอิหร่านแทน Khomeini ขอให้ Cottam สื่อสารกับนายที่วอซิงตันให้รู้เรื่องว่า Khomeini หวังจะได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา หากพวกคอมมิวนิตส์ในอิหร่านต่อต้านการปฏิวัติ

    อเมริกาส่งตัวแทนไปคุยที่ Neauphle Le Chateau ในเดือนตุลาคม ค.ศ.1978 แล้ว Khomeini กับอเมริกา ก็ได้มีตกลงกันเป็นทางการว่า Khomeini ตกลงจะให้ความร่วมมือกับอเมริกา ถ้าอเมริกาจะช่วยเขาโค่น Shah และรับรองว่าหลังจากการปฏิวัติโค่น Shah อเมริกาจะไม่เข้ามายุ่งในกิจการภายในของอิหร่าน อเมริกาตกลงรับคำ
    ประธานาธิบดี Jimmy Carter ส่ง General Robert Huyser ไปอิหร่านเพื่อประสานงานกับพวกนายพลอิหร่าน Huyser ถึงอิหร่านในวันที่ 4 มกราคม ค.ศ.1979 เขาบอกกับนายพลอิหร่านว่า ถ้าพวกคุณไม่สนับสนุนการปฏิวัติของ Khomeini โดยนั่งอยู่เฉยๆแล้วละก้อ พวกคอมมิวนิตส์จะฉวยโอกาสนี้บุกเข้าประเทศคุณ เปลี่ยนอิหร่านเป็นรัฐคอมมิวนิตส์แน่นอน ข้อมูลนี้ปรากฏอยู่ในรายงานของ Al Watan รายงานในหนังสือพิมพ์ Kuwaiti วันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ.1979 ประธานาธิบดี Carter เขียนไว้ในบันทึกความทรงจำของเขาว่า “Huyser มีความเห็นว่า กองทัพอิหร่านเตรียมพร้อมที่จะป้องกันอาวุธพวกเขา (ไม่ไห้ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น) และรับรองว่าจะไม่ออกมาขัดขวางตามถนน”

    Shah เองก็สังหรณ์ใจว่า น่าจะมีอะไรผิดปกติ เขาเขียนในบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับการมาอิหร่านของ General Huyser ในเดือนมกราคม ค.ศ.1979 ว่า “Huyser ไม่แจ้งเราล่วงหน้าถึงการมา เขามาเตหะรานบ่อยมาก และทุกครั้งจะแจ้งตารางการนัดพบล่วงหน้า เพื่อหารือกับเราเกี่ยวกับเรื่อ งการทหาร กับเราและพวกทหาร” แต่การมาคราวนี้ของ Huyser ไม่มีการแจ้งให้ Shah ทราบ Shah ได้เขียนบันทึกต่อไปว่า “Huyser ได้กล่อมให้หัวหน้าเลขาธิการของเรา General Ghara-Baghi ซึ่งพฤติกรรมช่วงหลังของเขา ทำให้เราเชื่อว่าเขาทรยศต่อเราแล้ว Huyser ขอให้ Ghara-Baghi นัดให้เขาพบกับทนายชื่อดังด้านสิทธิมนุษยชนชื่อ Mehdi Bazargan” (ซึ่งภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของรัฐบาล Khomeini)

    “นายพล Ghara-Baghi แจ้งเราเกี่ยวกับเรื่องที่ Huyser ขอให้นัด ก่อนที่เราจะไปจากอิหร่าน และเราไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น เรารู้แต่ว่า Ghara-Baghi ใช้อำนาจของเขา ห้ามกองทัพมิให้ขัดขวาง Khomeini เขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่า มีการตัดสินใจกันอย่างไรและในราคาใด เข้าใจว่าพวกนายพลของเราตอนหลังได้ถูกประหารชีวิตหมด ยกเว้น Ghara-Baghi ที่ได้รับผ่อนผัน คนช่วยเขาก็คือ Mehdi Bazargan นั่นแหละ”

    วันที่ 14 มกราคม ค.ศ.1979 ฑูตอเมริกันได้นัดพบกับ Ebrahin Yazedi ผู้ช่วยของ Khomeini พร้อมด้วยตัวแทนของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา Yazedi อาศัยอยู่ในอเมริกาเป็นเวลานานตั้งแต่ ค.ศ.1961 เขาถูกบังคับให้ลี้ภัยจากอิหร่าน เพราะเขาต่อต้าน Shah หลังจากเข้าไปอยู่ในอเมริกา เขาผูกสัมพันธ์แน่นชิดกับ CIA และกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ตอนหลังเขาได้แปลงสัญชาติเป็นอเมริกัน

    ระหว่างการนัดพบ Warren Zimmerman ในฐานะตัวแทนของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา บอกให้ Yazedi แจ้ง Khomeini ให้คอยก่อน อย่างเพิ่งกลับมาอิหร่าน จนกว่า Huyser จะได้เตี๊ยมกับบรรดาพวกนายพลอิหร่านเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นใน วันที่ 26 มกราคม ค.ศ.1979 นาย Ramsay Clark จากกระทรวงต่างประเทศก็ไปพบ Khomeini ที่ Neauphle Le Chateau หลังจากพบ เขาแจ้งแก่นักข่าวว่า เราหวังว่าการปฏิวัติจะสร้างความเป็นธรรมในสังคมให้กลับมาสู่ชาวอิหร่าน การปฏิวัติได้ถูกเตรียมการพร้อมเดินหน้าแล้ว

    วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1979 Khomeini ก็ขึ้นเครื่องบิน Air France จากปารีสบินเข้าเตหะราน ส่วน Shah รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และคงไม่อยู่ในสภาพที่จะระงับได้ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1979 Khomeini ก็ขึ้นมาเป็นผู้ครองอิหร่าน และตั้งรัฐบาลรักษาการณ์ มี Mehdi Bazargan เป็นหัวหน้ารัฐบาล
    Bazargan เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างพวกปฏิวัติ กับอเมริกา ในช่วง ค.ศ.1978 ตัวแทนของรัฐบาลอเมริกัน เช่น John Stempel, Hurry Precht, Warren Zimmerman และ Richard Cottam ต่างได้มาพบพูดคุยกับขบวนการ Iranian Freedom Movement ซึ่งนำโดย Bazargan อยู่ตลอด อเมริกาติดต่อกับ Bazargan โดยผ่านขบวนการ Freedom Movement นี้ตลอดช่วงเดือนแรกๆ หลังจากการปฏิวัติ

    Bazargan ได้แต่งตั้ง Abbas Amir Entezam ซึ่งอยู่อเมริกามากว่า 20 ปี ให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี Entezam นี้ใกล้ชิดติดต่อกับ CIA มาตั้งแต่สมัยของ Massadeq และเป็นสายข่าวให้แก่ CIA เมื่อมีการสร้างปฏิวัติล้ม Massadeq นอกจากนี้ยังตั้ง Kerim Sanjabi เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ Sanjabi ก็เช่นกัน เป็นผู้ที่คุ้นเคยกับสถานฑูตอเมริกาในกรุงเตหะราน คณะรัฐมนตรีของ Bazargan สรุปแล้วมีคนอิหร่านถือสัญชาติอเมริกันถึง 5 คน

    ในบันทึกความทรงจำของประธานาธิบดี Carter เขียนชื่นชมว่า Bazargan และคณะรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้จบการศึกษาจากตะวันตกว่า ให้ความร่วมมือกับอเมริกาอย่าง ดีเยี่ยม คอยดูแลป้องกันสถานฑูต ดูแลการเดินทางของ General Philip C. Gast ซึ่งมาแทน Huyser และคอยส่งข่าวให้พวกเรา Bazargan เองก็ประกาศชัดเจนว่า ต้องการจะสร้างสัมพันธ์ไมตรีอันดียิ่งกับอเมริกา และอิหร่านก็จะกลับมาส่งน้ำมันให้แก่ลูกค้าตามปกติในเร็วๆนี้

    การปฏิวัติในอิหร่านในปี ค.ศ.1979 เหมือนเป็นการจับคู่ที่เหมาะสม ระหว่างกลุ่มอิสลามที่เคร่งครัดและไม่ชอบระบอบคอมมิวนิตส์ กับจักรวรรดิอเมริกาที่กีดกั้นระบอบคอมมิวนิตส์ แต่ไม่แน่ว่าการจับคู่ถูกในตอนนั้น จะไปลงท้ายด้วยการหย่าและเคียดแค้น หรือถือไม้เท้ายอดทองด้วยกัน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    23 กันยายน 2557
    เหยื่อติดคอ ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อติดคอ” ตอนที่ 4 อเมริกาเริ่มมองหาผู้ที่น่าจะเหมาะสมเป็นหุ่นตัวใหม่แทน Shah สาระพัดฑูตและที่ปรึกษาถูกส่งตัวไปเดินหาข่าวแถวอิหร่าน แน่นอนทุกคนต่างหาเรื่องโกหกมาบังหน้าในการเดินเข้าไปอยู่ในสังคมอิหร่าน นาย Henry Precht นักการฑูตคนหนึ่ง ซึ่งถูกส่งไปเดินเล่นช่วงนั้น บรรยายถึงการปฏิบัติการดังกล่าว “เป็นปฏิบัติการสร้างหนทางสำหรับให้คนในสังคมการเมืองระดับสูง เข้ามาจัดตั้งรัฐบาลอิหร่านที่สนับสนุนอเมริกา” นาย William H. Sullivan ฑูตอเมริกันประจำอิหร่านช่วง ค.ศ.1977 ถึง ค.ศ.1979 พูดถึงช่วงเวลาดังกล่าวไว้ว่า “ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของ ค.ศ.1978 (ประมาณ 1 ปี ก่อนมี Islamic Revolution ) สถานะการณ์ในอิหร่านเกิดการเปลี่ยนแปลง และเราก็คอยโอกาสนั้น……… สถานฑูตเราได้สร้างเครือข่ายติดต่อกับผู้ไม่เห็นด้วย (กับ Shah) และเราก็ทำให้พวกเขาเชื่อมั่น………. พวกเขาส่วนมากแปลกใจที่ความเห็นของเรากับของพวกเขาใกล้เคียงกันมาก……… เขา (Shah) ถามผมบ่อยๆว่า พวกนักสอนศาสนาเพื่อนคุณทำอะไรกันนะ ? ……” เมื่อพวกนักเดินเล่น ส่งรายงานกลับไปที่วอซิงตัน พวกเขาสรุปกันว่า อเมริกาควรสนับสนุนพวก Islamic ที่อยู่ตรงกันข้ามกับ Shah พวกนักการเมืองฝ่านค้าน อ่อนแอเกินไป ส่วนพรรคคอมมิวนิตส์ ก็ใกล้ชิดกับสหภาพโซเวียตมากไป พวก Islamic นี้ มีผู้นำชื่อ Ayatollah Ruhollah Khomeini ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมือง Najif ในอิรักมาหลายปี ตั้งแต่ตั้งตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ Shah แต่ใน ค.ศ.1978 Saddam Hussein ไล่เขาออกไปจากอิรัก Khomeini ย้ายไปปักหลักแถวชานเมืองของปารีสที่ฝรั่งเศสชื่อ Neauphle Le Chateau เมื่ออยู่ที่เมือง Najif พวกอเมริกันไปแวะเยี่ยม Khomeini บ่อยๆ Richard Cottam พวก CIA กลุ่มที่มีส่วนในการสร้างการปฏิวัติโค่น Massadeq ได้ไปพบ Khomeini ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลอเมริกัน Cottam เข้าใจว่า Khomeini มีความเป็นห่วงคอมมิวนิตส์จะเข้ามาครองอิหร่าน และบอกว่าจะต้องระวังไม่ใช่ไล่ Shah ออกไป แล้วเป็นการเปิดทางให้คอมมิวนิตส์เข้ามาครองอิหร่านแทน Khomeini ขอให้ Cottam สื่อสารกับนายที่วอซิงตันให้รู้เรื่องว่า Khomeini หวังจะได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา หากพวกคอมมิวนิตส์ในอิหร่านต่อต้านการปฏิวัติ อเมริกาส่งตัวแทนไปคุยที่ Neauphle Le Chateau ในเดือนตุลาคม ค.ศ.1978 แล้ว Khomeini กับอเมริกา ก็ได้มีตกลงกันเป็นทางการว่า Khomeini ตกลงจะให้ความร่วมมือกับอเมริกา ถ้าอเมริกาจะช่วยเขาโค่น Shah และรับรองว่าหลังจากการปฏิวัติโค่น Shah อเมริกาจะไม่เข้ามายุ่งในกิจการภายในของอิหร่าน อเมริกาตกลงรับคำ ประธานาธิบดี Jimmy Carter ส่ง General Robert Huyser ไปอิหร่านเพื่อประสานงานกับพวกนายพลอิหร่าน Huyser ถึงอิหร่านในวันที่ 4 มกราคม ค.ศ.1979 เขาบอกกับนายพลอิหร่านว่า ถ้าพวกคุณไม่สนับสนุนการปฏิวัติของ Khomeini โดยนั่งอยู่เฉยๆแล้วละก้อ พวกคอมมิวนิตส์จะฉวยโอกาสนี้บุกเข้าประเทศคุณ เปลี่ยนอิหร่านเป็นรัฐคอมมิวนิตส์แน่นอน ข้อมูลนี้ปรากฏอยู่ในรายงานของ Al Watan รายงานในหนังสือพิมพ์ Kuwaiti วันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ.1979 ประธานาธิบดี Carter เขียนไว้ในบันทึกความทรงจำของเขาว่า “Huyser มีความเห็นว่า กองทัพอิหร่านเตรียมพร้อมที่จะป้องกันอาวุธพวกเขา (ไม่ไห้ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น) และรับรองว่าจะไม่ออกมาขัดขวางตามถนน” Shah เองก็สังหรณ์ใจว่า น่าจะมีอะไรผิดปกติ เขาเขียนในบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับการมาอิหร่านของ General Huyser ในเดือนมกราคม ค.ศ.1979 ว่า “Huyser ไม่แจ้งเราล่วงหน้าถึงการมา เขามาเตหะรานบ่อยมาก และทุกครั้งจะแจ้งตารางการนัดพบล่วงหน้า เพื่อหารือกับเราเกี่ยวกับเรื่อ งการทหาร กับเราและพวกทหาร” แต่การมาคราวนี้ของ Huyser ไม่มีการแจ้งให้ Shah ทราบ Shah ได้เขียนบันทึกต่อไปว่า “Huyser ได้กล่อมให้หัวหน้าเลขาธิการของเรา General Ghara-Baghi ซึ่งพฤติกรรมช่วงหลังของเขา ทำให้เราเชื่อว่าเขาทรยศต่อเราแล้ว Huyser ขอให้ Ghara-Baghi นัดให้เขาพบกับทนายชื่อดังด้านสิทธิมนุษยชนชื่อ Mehdi Bazargan” (ซึ่งภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของรัฐบาล Khomeini) “นายพล Ghara-Baghi แจ้งเราเกี่ยวกับเรื่องที่ Huyser ขอให้นัด ก่อนที่เราจะไปจากอิหร่าน และเราไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น เรารู้แต่ว่า Ghara-Baghi ใช้อำนาจของเขา ห้ามกองทัพมิให้ขัดขวาง Khomeini เขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่า มีการตัดสินใจกันอย่างไรและในราคาใด เข้าใจว่าพวกนายพลของเราตอนหลังได้ถูกประหารชีวิตหมด ยกเว้น Ghara-Baghi ที่ได้รับผ่อนผัน คนช่วยเขาก็คือ Mehdi Bazargan นั่นแหละ” วันที่ 14 มกราคม ค.ศ.1979 ฑูตอเมริกันได้นัดพบกับ Ebrahin Yazedi ผู้ช่วยของ Khomeini พร้อมด้วยตัวแทนของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา Yazedi อาศัยอยู่ในอเมริกาเป็นเวลานานตั้งแต่ ค.ศ.1961 เขาถูกบังคับให้ลี้ภัยจากอิหร่าน เพราะเขาต่อต้าน Shah หลังจากเข้าไปอยู่ในอเมริกา เขาผูกสัมพันธ์แน่นชิดกับ CIA และกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ตอนหลังเขาได้แปลงสัญชาติเป็นอเมริกัน ระหว่างการนัดพบ Warren Zimmerman ในฐานะตัวแทนของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา บอกให้ Yazedi แจ้ง Khomeini ให้คอยก่อน อย่างเพิ่งกลับมาอิหร่าน จนกว่า Huyser จะได้เตี๊ยมกับบรรดาพวกนายพลอิหร่านเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นใน วันที่ 26 มกราคม ค.ศ.1979 นาย Ramsay Clark จากกระทรวงต่างประเทศก็ไปพบ Khomeini ที่ Neauphle Le Chateau หลังจากพบ เขาแจ้งแก่นักข่าวว่า เราหวังว่าการปฏิวัติจะสร้างความเป็นธรรมในสังคมให้กลับมาสู่ชาวอิหร่าน การปฏิวัติได้ถูกเตรียมการพร้อมเดินหน้าแล้ว วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1979 Khomeini ก็ขึ้นเครื่องบิน Air France จากปารีสบินเข้าเตหะราน ส่วน Shah รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และคงไม่อยู่ในสภาพที่จะระงับได้ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1979 Khomeini ก็ขึ้นมาเป็นผู้ครองอิหร่าน และตั้งรัฐบาลรักษาการณ์ มี Mehdi Bazargan เป็นหัวหน้ารัฐบาล Bazargan เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างพวกปฏิวัติ กับอเมริกา ในช่วง ค.ศ.1978 ตัวแทนของรัฐบาลอเมริกัน เช่น John Stempel, Hurry Precht, Warren Zimmerman และ Richard Cottam ต่างได้มาพบพูดคุยกับขบวนการ Iranian Freedom Movement ซึ่งนำโดย Bazargan อยู่ตลอด อเมริกาติดต่อกับ Bazargan โดยผ่านขบวนการ Freedom Movement นี้ตลอดช่วงเดือนแรกๆ หลังจากการปฏิวัติ Bazargan ได้แต่งตั้ง Abbas Amir Entezam ซึ่งอยู่อเมริกามากว่า 20 ปี ให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี Entezam นี้ใกล้ชิดติดต่อกับ CIA มาตั้งแต่สมัยของ Massadeq และเป็นสายข่าวให้แก่ CIA เมื่อมีการสร้างปฏิวัติล้ม Massadeq นอกจากนี้ยังตั้ง Kerim Sanjabi เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ Sanjabi ก็เช่นกัน เป็นผู้ที่คุ้นเคยกับสถานฑูตอเมริกาในกรุงเตหะราน คณะรัฐมนตรีของ Bazargan สรุปแล้วมีคนอิหร่านถือสัญชาติอเมริกันถึง 5 คน ในบันทึกความทรงจำของประธานาธิบดี Carter เขียนชื่นชมว่า Bazargan และคณะรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้จบการศึกษาจากตะวันตกว่า ให้ความร่วมมือกับอเมริกาอย่าง ดีเยี่ยม คอยดูแลป้องกันสถานฑูต ดูแลการเดินทางของ General Philip C. Gast ซึ่งมาแทน Huyser และคอยส่งข่าวให้พวกเรา Bazargan เองก็ประกาศชัดเจนว่า ต้องการจะสร้างสัมพันธ์ไมตรีอันดียิ่งกับอเมริกา และอิหร่านก็จะกลับมาส่งน้ำมันให้แก่ลูกค้าตามปกติในเร็วๆนี้ การปฏิวัติในอิหร่านในปี ค.ศ.1979 เหมือนเป็นการจับคู่ที่เหมาะสม ระหว่างกลุ่มอิสลามที่เคร่งครัดและไม่ชอบระบอบคอมมิวนิตส์ กับจักรวรรดิอเมริกาที่กีดกั้นระบอบคอมมิวนิตส์ แต่ไม่แน่ว่าการจับคู่ถูกในตอนนั้น จะไปลงท้ายด้วยการหย่าและเคียดแค้น หรือถือไม้เท้ายอดทองด้วยกัน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 23 กันยายน 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 6 – ซาอุดิฯ 5
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 6”
    ซาอุดิ 5
การป้อน เหยื่อของอเมริกาแบบไม่อั้น ทำให้อังกฤษทนดูไม่ไหว เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1944 นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Winston Churchill ลงทุนบินไปหาประธานาธิบดี Roosevelt เพื่อถามว่าอเมริกาจะเอาอย่างไรในตะวันออกกลาง อังกฤษพร้อมจะถอยจากการแย่งกันป้อนเหยื่อในซาอุดิอารเบีย ถ้า อเมริกา ถอยจากอิหร่านและอิรักเช่นกัน
    หลอด Churchill คงได้คำตอบกลับไปชัดเจน เพราะหลังจากนั้น Aramco Camp ที่อยู่ในเมือง Casoc ของซาอุดิ ก็เปลี่ยนโฉมหน้า กลายเป็นรัฐใหม่ของอเมริกา
    นัก ล่าหน้าใหม่ เรียนรู้จากวิธีการล่าเหยื่อ ของนักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วฯ ว่า แม้จะได้อาณาจักรเขามา แต่ไม่ได้ใจชาวเมือง การดูถูก กดขี่ แบ่งชั้น มีให้เห็นอยู่ตลอด แล้วมันจะกินเหยื่อได้นานอย่างไร
    อเมริกา เปลี่ยนรูปแบบอาณานิคม โดยป้อนวัฒนธรรมอเมริกันให้แทน เหยื่อเสพเข้าไปทุกเมนู โดยไม่รู้ว่านั่นเป็นกับดักการล่าชนิดใหม่ ที่มีอานุภาพรุนแรงเกินต้านทาน อเมริกาเอา International Telephone and Telegraph (ITT) และ Trans World Airways (TWA) เข้าไปให้การสื่อสารและการเดินทางในซาอุดิอารเบียสะดวกขึ้น อูฐและนกพิราบจะได้มีเวลาหยุดพักร้อน อเมริกาส่งความสะดวกทุกอย่างให้เหยื่อ เสพจนติดใจอย่างไม่รู้ตัว ถึงรู้ตัวก็สายเกินถอน
    ในช่วง ค.ศ.1940 กว่าเป็นต้นมา อเมริกาเลี้ยงซาอุดิอารเบีย ด้วยกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์จนอิ่มแปร้ เจ้าหน้าที่สถานฑูตและกองทัพของอเมริกาที่อยู่ในซาอุดิเปิดเผยว่า หน้าที่หลักของพวกเขาคือ ทำอะไรก็ได้ ที่จะทำให้ซาอุดิอาราเบียพอใจและอยู่ใน(กำ) มือของอเมริกาตลอดกาล
    ค.ศ.1945 อเมริกาตั้งฐานทัพที่ Dhahram เป็นฐานทัพที่มีทหารอเมริกันประจำการอยู่เต็มอัตรา Aramco ได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานทัพ เพื่อธุรกิจน้ำมันอย่างสะดวกเช่นกัน เสียงนกเสียงกาบอกว่า ฐานทัพนี้จัดขึ้นเพื่อ Aramco แท้ๆ อย่าไปฟัง มันเป็นเสียงของความอิจฉาหมั่นไส้ทั้งนั้น ด้านทหารบอก ฐานทัพนี้มีไว้เพื่อยุทธศาสตร์การป้องกันตะวันออกกลางและเมดิเตอร์เรเนียน ต่างหาก เป็นการดูแลเชื่อมกันระหว่างยุโรปกับตะวันออกไกล
ไม่รู้ว่าทหารก็ แถเก่ง ไม่ว่าชาติไหน
    วัน หนึ่งใน ค.ศ.1945 กษัตริย์ซาอุดิ จับเข่าถามประธานาธิบดี Roosevelt ที่ Great Bitter Lake (ชื่อไม่เป็นมงคลเลย ! ) กษัตริย์ต้องการคำมั่นในการสนับสนุนจากอเมริกา ประธานาธิบดีรับปากว่า อเมริกาจะป้อนกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ให้กับประเทศท่านตลอดไป และจะสนับสนุนฝ่ายอาหรับในกรณีปาเลสไตน์ รับปากเสร็จ ไม่นานประธานาธิบดี Roosevelt ก็เสียชีวิต
    ประธานาธิบดี Truman มารับงานต่อ เขาไม่ลืมคำรับปากของ Roosevelt เขาป้อนกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ให้ซาอุดิอารเบียต่อ เพียงแต่ขอเปลี่ยนแหล่งส่งกระ ดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ จากกระทรวงต่างประเทศ เป็น Export Import Bank (EXIM) แต่ท่านก็ได้กระดาษสีเขียว ตรานกอินทรีย์เหมือนกันแหละ ไม่ต้องตกใจนะ
    เหยื่อ เสพติดกระดาษสีเขียว จนถอนตัวไม่ขึ้น ก็ยอมรับ เงินให้กู้ ของ EXIM ที่มีเงื่อนไขติดมา ว่าเงินกู้นี้ ต้องใช้ ในการซื้อสินค้า หรือการจ้างงานสัญชาติอเมริกันเท่านั้น !
    การป้อนเหยื่อด้วยวิธีการนี้ ทำให้เศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย ตกอยู่ในวงล้อมและกำมือของอเมริกาโดยสมบูรณ์ ซาอุดิอารเบียกลัวตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ อยากให้อเมริกาเข้ามาช่วย อเมริกาก็มาช่วยสมใจ แต่ซาอุดิอารเบียจะรู้ไหมว่า อาณานิคมแบบใหม่ กับแบบเก่า มันก็เป็นเหยื่อเขาเช่นเดียวกัน
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
15 ก.ย. 57
    เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 6 – ซาอุดิฯ 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 6” ซาอุดิ 5
การป้อน เหยื่อของอเมริกาแบบไม่อั้น ทำให้อังกฤษทนดูไม่ไหว เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1944 นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Winston Churchill ลงทุนบินไปหาประธานาธิบดี Roosevelt เพื่อถามว่าอเมริกาจะเอาอย่างไรในตะวันออกกลาง อังกฤษพร้อมจะถอยจากการแย่งกันป้อนเหยื่อในซาอุดิอารเบีย ถ้า อเมริกา ถอยจากอิหร่านและอิรักเช่นกัน หลอด Churchill คงได้คำตอบกลับไปชัดเจน เพราะหลังจากนั้น Aramco Camp ที่อยู่ในเมือง Casoc ของซาอุดิ ก็เปลี่ยนโฉมหน้า กลายเป็นรัฐใหม่ของอเมริกา นัก ล่าหน้าใหม่ เรียนรู้จากวิธีการล่าเหยื่อ ของนักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วฯ ว่า แม้จะได้อาณาจักรเขามา แต่ไม่ได้ใจชาวเมือง การดูถูก กดขี่ แบ่งชั้น มีให้เห็นอยู่ตลอด แล้วมันจะกินเหยื่อได้นานอย่างไร อเมริกา เปลี่ยนรูปแบบอาณานิคม โดยป้อนวัฒนธรรมอเมริกันให้แทน เหยื่อเสพเข้าไปทุกเมนู โดยไม่รู้ว่านั่นเป็นกับดักการล่าชนิดใหม่ ที่มีอานุภาพรุนแรงเกินต้านทาน อเมริกาเอา International Telephone and Telegraph (ITT) และ Trans World Airways (TWA) เข้าไปให้การสื่อสารและการเดินทางในซาอุดิอารเบียสะดวกขึ้น อูฐและนกพิราบจะได้มีเวลาหยุดพักร้อน อเมริกาส่งความสะดวกทุกอย่างให้เหยื่อ เสพจนติดใจอย่างไม่รู้ตัว ถึงรู้ตัวก็สายเกินถอน ในช่วง ค.ศ.1940 กว่าเป็นต้นมา อเมริกาเลี้ยงซาอุดิอารเบีย ด้วยกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์จนอิ่มแปร้ เจ้าหน้าที่สถานฑูตและกองทัพของอเมริกาที่อยู่ในซาอุดิเปิดเผยว่า หน้าที่หลักของพวกเขาคือ ทำอะไรก็ได้ ที่จะทำให้ซาอุดิอาราเบียพอใจและอยู่ใน(กำ) มือของอเมริกาตลอดกาล ค.ศ.1945 อเมริกาตั้งฐานทัพที่ Dhahram เป็นฐานทัพที่มีทหารอเมริกันประจำการอยู่เต็มอัตรา Aramco ได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานทัพ เพื่อธุรกิจน้ำมันอย่างสะดวกเช่นกัน เสียงนกเสียงกาบอกว่า ฐานทัพนี้จัดขึ้นเพื่อ Aramco แท้ๆ อย่าไปฟัง มันเป็นเสียงของความอิจฉาหมั่นไส้ทั้งนั้น ด้านทหารบอก ฐานทัพนี้มีไว้เพื่อยุทธศาสตร์การป้องกันตะวันออกกลางและเมดิเตอร์เรเนียน ต่างหาก เป็นการดูแลเชื่อมกันระหว่างยุโรปกับตะวันออกไกล
ไม่รู้ว่าทหารก็ แถเก่ง ไม่ว่าชาติไหน วัน หนึ่งใน ค.ศ.1945 กษัตริย์ซาอุดิ จับเข่าถามประธานาธิบดี Roosevelt ที่ Great Bitter Lake (ชื่อไม่เป็นมงคลเลย ! ) กษัตริย์ต้องการคำมั่นในการสนับสนุนจากอเมริกา ประธานาธิบดีรับปากว่า อเมริกาจะป้อนกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ให้กับประเทศท่านตลอดไป และจะสนับสนุนฝ่ายอาหรับในกรณีปาเลสไตน์ รับปากเสร็จ ไม่นานประธานาธิบดี Roosevelt ก็เสียชีวิต ประธานาธิบดี Truman มารับงานต่อ เขาไม่ลืมคำรับปากของ Roosevelt เขาป้อนกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ให้ซาอุดิอารเบียต่อ เพียงแต่ขอเปลี่ยนแหล่งส่งกระ ดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ จากกระทรวงต่างประเทศ เป็น Export Import Bank (EXIM) แต่ท่านก็ได้กระดาษสีเขียว ตรานกอินทรีย์เหมือนกันแหละ ไม่ต้องตกใจนะ เหยื่อ เสพติดกระดาษสีเขียว จนถอนตัวไม่ขึ้น ก็ยอมรับ เงินให้กู้ ของ EXIM ที่มีเงื่อนไขติดมา ว่าเงินกู้นี้ ต้องใช้ ในการซื้อสินค้า หรือการจ้างงานสัญชาติอเมริกันเท่านั้น ! การป้อนเหยื่อด้วยวิธีการนี้ ทำให้เศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย ตกอยู่ในวงล้อมและกำมือของอเมริกาโดยสมบูรณ์ ซาอุดิอารเบียกลัวตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ อยากให้อเมริกาเข้ามาช่วย อเมริกาก็มาช่วยสมใจ แต่ซาอุดิอารเบียจะรู้ไหมว่า อาณานิคมแบบใหม่ กับแบบเก่า มันก็เป็นเหยื่อเขาเช่นเดียวกัน สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
15 ก.ย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล่องเรือแม่น้ำแซน ฝรั่งเศส เส้นทางสุดโรแมนติก จากปารีสสู่นอร์ม็องดี พักผ่อนบนเรือล่องแม่น้ำบริการระดับโรงแรม 6 ดาว อาหารฝรั่งเศสระดับกูร์เมต์ พร้อมไวน์ท้องถิ่นเสิร์ฟทุกมื้อ

    แพ็คเกจเรือล่องเรือ Paris & Normandy พัก S.S. Joie de Vivre By Uniworld River Cruise

    เดินทาง มี.ค. - พ.ย. 2569

    เส้นทางปารีส - ลา โรช - กียง, แวร์นง, ชีแวร์นี่ - รูอ็อง - โกดด์เบค - ออง โก (องเฟลอ แอเทรอตา) - รูอ็อง - มองต์ - ลา - ฌอลี (แวร์ซาย) - ปารีส

    Early Booking ลดสูงสุด 10% (บางช่วงวันเดินทาง)
    ปกติเริ่มต้น 4,299 USD ลดเหลือ เริ่มต้น 3,869 USD

    ค่าที่พักบนเรือตลอดการเดินทาง
    WIFI บนเรือ และ เครื่องดื่มบนเรือ
    รถรับ-ส่ง สนามบิน-ท่าเรือ (กรณีเดินทางมาถึงในวันที่เรือออกเดินทาง)
    กิจกรรมบนเรือ และความบันเทิง
    ค่าภาษีท่าเรือและค่าทิปพนักงานบนเรือ

    รหัสโปรแกรม : UNIP-8D7N-PAR-PAR-2611021
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e79677

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #UniworldRiverCruise #Paris #Normandy #LaRoche #France #Rouen #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    🎼 ล่องเรือแม่น้ำแซน ฝรั่งเศส เส้นทางสุดโรแมนติก จากปารีสสู่นอร์ม็องดี พักผ่อนบนเรือล่องแม่น้ำบริการระดับโรงแรม 6 ดาว อาหารฝรั่งเศสระดับกูร์เมต์ พร้อมไวน์ท้องถิ่นเสิร์ฟทุกมื้อ 🍷🍴 ✨ แพ็คเกจเรือล่องเรือ Paris & Normandy พัก S.S. Joie de Vivre By Uniworld River Cruise 📅 เดินทาง มี.ค. - พ.ย. 2569 📍 เส้นทางปารีส - ลา โรช - กียง, แวร์นง, ชีแวร์นี่ - รูอ็อง - โกดด์เบค - ออง โก (องเฟลอ แอเทรอตา) - รูอ็อง - มองต์ - ลา - ฌอลี (แวร์ซาย) - ปารีส 🎇 Early Booking ลดสูงสุด 10% (บางช่วงวันเดินทาง) 💸 ปกติเริ่มต้น 4,299 USD ลดเหลือ เริ่มต้น 3,869 USD ✅ ค่าที่พักบนเรือตลอดการเดินทาง ✅ WIFI บนเรือ และ เครื่องดื่มบนเรือ ✅ รถรับ-ส่ง สนามบิน-ท่าเรือ (กรณีเดินทางมาถึงในวันที่เรือออกเดินทาง) ✅ กิจกรรมบนเรือ และความบันเทิง ✅ ค่าภาษีท่าเรือและค่าทิปพนักงานบนเรือ 📌 รหัสโปรแกรม : UNIP-8D7N-PAR-PAR-2611021 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e79677 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #UniworldRiverCruise #Paris #Normandy #LaRoche #France #Rouen #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Voyager 1 เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ — เป็นวัตถุจากมนุษย์ชิ้นแรกที่อยู่ห่างจากโลกหนึ่งวันแสงในพฤศจิกายน 2026”

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 กันยายน 1977 NASA ได้ส่งยาน Voyager 1 ขึ้นสู่อวกาศเพื่อศึกษาดาวเคราะห์รอบนอกของระบบสุริยะ โดยใช้เทคนิค “gravity assist” หรือการเหวี่ยงแรงโน้มถ่วงจากดาวเคราะห์เพื่อเพิ่มความเร็ว ซึ่งทำให้ยานสามารถเดินทางออกไปไกลกว่าที่เคยมีมา ปัจจุบัน Voyager 1 เคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 38,000 ไมล์ต่อชั่วโมง และอยู่ห่างจากโลกประมาณ 15.67 พันล้านไมล์

    ในเดือนพฤศจิกายน 2026 ยาน Voyager 1 จะกลายเป็นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นชิ้นแรกที่อยู่ห่างจากโลก “หนึ่งวันแสง” หรือระยะทางที่แสงเดินทางในสุญญากาศเป็นเวลา 24 ชั่วโมง คิดเป็นประมาณ 16.09 พันล้านไมล์ ซึ่งหมายความว่า สัญญาณวิทยุจากโลกจะใช้เวลาทั้งวันในการเดินทางไปถึงยาน และอีกวันในการตอบกลับกลับมายังโลก

    แม้จะอยู่ไกลขนาดนั้น ยานยังคงส่งข้อมูลกลับมาได้ เช่น ข้อมูลสนามแม่เหล็ก รังสีคอสมิก และคลื่นพลาสมา ซึ่งช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจสภาพแวดล้อมในอวกาศระหว่างดาวได้ดีขึ้น โดยใช้เครือข่ายเสาอากาศ Deep Space Network ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ สเปน และออสเตรเลีย

    Voyager 1 เคยผ่านขอบเขตของระบบสุริยะที่เรียกว่า “heliopause” ในปี 2012 และเข้าสู่อวกาศระหว่างดาวอย่างเป็นทางการ โดยในอีก 300 ปีข้างหน้า มันจะเข้าสู่บริเวณใกล้ของ Oort Cloud และอาจใช้เวลาอีก 30,000 ปีในการผ่านออกไปทั้งหมด

    แม้พลังงานของยานจะลดลงเรื่อย ๆ และคาดว่าจะหยุดทำงานในปี 2030–2036 แต่ Voyager 1 จะยังคงล่องลอยต่อไปในอวกาศอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีใครควบคุม มุ่งหน้าไปยังกลุ่มดาว Ophiuchus และจะเข้าใกล้ดาวในกลุ่ม Ursa Minor ในปี ค.ศ. 40,272

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Voyager 1 จะอยู่ห่างจากโลกหนึ่งวันแสงในเดือนพฤศจิกายน 2026
    หนึ่งวันแสงเท่ากับประมาณ 16.09 พันล้านไมล์
    สัญญาณวิทยุใช้เวลา 24 ชั่วโมงในการเดินทางไปยังยาน และอีก 24 ชั่วโมงในการตอบกลับ
    ยานเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 38,000 ไมล์ต่อชั่วโมง
    เคยผ่าน heliopause และเข้าสู่อวกาศระหว่างดาวในปี 2012
    ปัจจุบันยังส่งข้อมูลวิทยาศาสตร์กลับมายังโลกได้
    ใช้เครือข่าย Deep Space Network ใน 3 ประเทศเพื่อรับสัญญาณ
    จะเข้าสู่ Oort Cloud ในอีก 300 ปี และใช้เวลาอีก 30,000 ปีในการผ่านออกไป
    คาดว่าจะหยุดทำงานในปี 2030–2036 เนื่องจากพลังงานหมด
    จะเข้าใกล้ดาวในกลุ่ม Ursa Minor ในปี 40,272

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Voyager 1 ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ RTG ที่แปลงความร้อนจากพลูโตเนียมเป็นไฟฟ้า
    ข้อมูลที่ส่งกลับมาช่วยปรับปรุงโมเดลของสภาพแวดล้อมระหว่างดาว
    Apollo 10 เคยทำความเร็วสูงสุดที่มนุษย์สร้างได้คือ 25,000 ไมล์ต่อชั่วโมง
    แสงจากดวงอาทิตย์ใช้เวลาเพียง 8 นาทีในการเดินทางมายังโลก
    Voyager 1 ยังบรรจุแผ่นทองคำ “Golden Record” ที่บันทึกเสียงและภาพจากโลกเพื่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตต่างดาว

    https://www.slashgear.com/1984279/nasa-voyager-1-light-day-from-earth-november-2026/
    🚀 “Voyager 1 เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ — เป็นวัตถุจากมนุษย์ชิ้นแรกที่อยู่ห่างจากโลกหนึ่งวันแสงในพฤศจิกายน 2026” ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 กันยายน 1977 NASA ได้ส่งยาน Voyager 1 ขึ้นสู่อวกาศเพื่อศึกษาดาวเคราะห์รอบนอกของระบบสุริยะ โดยใช้เทคนิค “gravity assist” หรือการเหวี่ยงแรงโน้มถ่วงจากดาวเคราะห์เพื่อเพิ่มความเร็ว ซึ่งทำให้ยานสามารถเดินทางออกไปไกลกว่าที่เคยมีมา ปัจจุบัน Voyager 1 เคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 38,000 ไมล์ต่อชั่วโมง และอยู่ห่างจากโลกประมาณ 15.67 พันล้านไมล์ ในเดือนพฤศจิกายน 2026 ยาน Voyager 1 จะกลายเป็นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นชิ้นแรกที่อยู่ห่างจากโลก “หนึ่งวันแสง” หรือระยะทางที่แสงเดินทางในสุญญากาศเป็นเวลา 24 ชั่วโมง คิดเป็นประมาณ 16.09 พันล้านไมล์ ซึ่งหมายความว่า สัญญาณวิทยุจากโลกจะใช้เวลาทั้งวันในการเดินทางไปถึงยาน และอีกวันในการตอบกลับกลับมายังโลก แม้จะอยู่ไกลขนาดนั้น ยานยังคงส่งข้อมูลกลับมาได้ เช่น ข้อมูลสนามแม่เหล็ก รังสีคอสมิก และคลื่นพลาสมา ซึ่งช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจสภาพแวดล้อมในอวกาศระหว่างดาวได้ดีขึ้น โดยใช้เครือข่ายเสาอากาศ Deep Space Network ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ สเปน และออสเตรเลีย Voyager 1 เคยผ่านขอบเขตของระบบสุริยะที่เรียกว่า “heliopause” ในปี 2012 และเข้าสู่อวกาศระหว่างดาวอย่างเป็นทางการ โดยในอีก 300 ปีข้างหน้า มันจะเข้าสู่บริเวณใกล้ของ Oort Cloud และอาจใช้เวลาอีก 30,000 ปีในการผ่านออกไปทั้งหมด แม้พลังงานของยานจะลดลงเรื่อย ๆ และคาดว่าจะหยุดทำงานในปี 2030–2036 แต่ Voyager 1 จะยังคงล่องลอยต่อไปในอวกาศอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีใครควบคุม มุ่งหน้าไปยังกลุ่มดาว Ophiuchus และจะเข้าใกล้ดาวในกลุ่ม Ursa Minor ในปี ค.ศ. 40,272 ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Voyager 1 จะอยู่ห่างจากโลกหนึ่งวันแสงในเดือนพฤศจิกายน 2026 ➡️ หนึ่งวันแสงเท่ากับประมาณ 16.09 พันล้านไมล์ ➡️ สัญญาณวิทยุใช้เวลา 24 ชั่วโมงในการเดินทางไปยังยาน และอีก 24 ชั่วโมงในการตอบกลับ ➡️ ยานเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 38,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ➡️ เคยผ่าน heliopause และเข้าสู่อวกาศระหว่างดาวในปี 2012 ➡️ ปัจจุบันยังส่งข้อมูลวิทยาศาสตร์กลับมายังโลกได้ ➡️ ใช้เครือข่าย Deep Space Network ใน 3 ประเทศเพื่อรับสัญญาณ ➡️ จะเข้าสู่ Oort Cloud ในอีก 300 ปี และใช้เวลาอีก 30,000 ปีในการผ่านออกไป ➡️ คาดว่าจะหยุดทำงานในปี 2030–2036 เนื่องจากพลังงานหมด ➡️ จะเข้าใกล้ดาวในกลุ่ม Ursa Minor ในปี 40,272 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Voyager 1 ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ RTG ที่แปลงความร้อนจากพลูโตเนียมเป็นไฟฟ้า ➡️ ข้อมูลที่ส่งกลับมาช่วยปรับปรุงโมเดลของสภาพแวดล้อมระหว่างดาว ➡️ Apollo 10 เคยทำความเร็วสูงสุดที่มนุษย์สร้างได้คือ 25,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ➡️ แสงจากดวงอาทิตย์ใช้เวลาเพียง 8 นาทีในการเดินทางมายังโลก ➡️ Voyager 1 ยังบรรจุแผ่นทองคำ “Golden Record” ที่บันทึกเสียงและภาพจากโลกเพื่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตต่างดาว https://www.slashgear.com/1984279/nasa-voyager-1-light-day-from-earth-november-2026/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    NASA's Voyager 1 Is Set To Hit A Historic Landmark In November 2026 - SlashGear
    In November 2026, Voyager 1 will hit yet another milestone when it becomes the first manmade object to reach a distance of one light day from Earth.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • “StreetViewAI จาก Google ใช้ AI สนทนาเพื่อช่วยผู้พิการทางสายตาเดินทางผ่านภาพถนน — เมื่อการสำรวจโลกไม่ต้องพึ่งสายตาอีกต่อไป”

    Google Research และ DeepMind ได้เปิดตัวระบบใหม่ชื่อว่า “StreetViewAI” ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการพึ่งพาภาพในการใช้งาน Street View ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้พิการทางสายตา โดยระบบนี้ใช้โมเดลมัลติโหมด Gemini Flash 2.0 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสำรวจภาพถนนกว่า 220 พันล้านภาพจากกว่า 100 ประเทศผ่านการสนทนาแบบธรรมชาติ

    StreetViewAI ประกอบด้วย 3 ระบบหลัก ได้แก่

    AI Describer: บรรยายสิ่งของ ความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ และคำแนะนำการเดินทางแบบเรียลไทม์
    AI Chat Agent: ให้ผู้ใช้ถามคำถามเชิงสถานการณ์ เช่น “ทางเดินมีร่มเงาไหม” หรือ “ทางเข้าร้านกาแฟใช้วีลแชร์ได้หรือเปล่า” แล้ว AI ตอบจากภาพก่อนหน้าและบริบทการสนทนา
    AI Tour Guide: เพิ่มข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมให้การสำรวจกลายเป็นการเรียนรู้

    ในการทดสอบจริง มีผู้พิการทางสายตา 11 คนเข้าร่วม โดยใช้ไม้เท้าและ screen reader เป็นประจำ พบว่าผู้ใช้สนทนากับ AI Chat Agent ถึง 917 ครั้ง เทียบกับ 136 ครั้งกับ AI Describer ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการสนทนาเป็นวิธีที่เข้าถึงง่ายและเป็นธรรมชาติที่สุด

    ระบบสามารถตอบคำถามได้ถูกต้องถึง 86.3% โดยคำถามส่วนใหญ่เกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ (27%), การตรวจสอบวัตถุ (26.5%) และการบรรยายภาพแบบเรียลไทม์ (18.4%) ผู้ใช้กว่า 90% เลือกใช้คำสั่งเสียงในการโต้ตอบ

    ผู้ทดสอบหลายคนกล่าวว่า StreetViewAI ไม่เพียงนำทางถึงจุดหมาย แต่ยังบรรยายลักษณะของสถานที่นั้น เช่น สีของประตูหรือความสูงของบันได ซึ่งเป็นสิ่งที่ระบบนำทางทั่วไปไม่สามารถทำได้

    Google มองว่า StreetViewAI เป็นก้าวสำคัญของ AI ที่ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิงหรือผลิตภาพ แต่เพื่อการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม และอาจขยายไปสู่การใช้งานในด้านการศึกษา การท่องเที่ยว และระบบเมืองอัจฉริยะในอนาคต

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    StreetViewAI ใช้โมเดล Gemini Flash 2.0 เพื่อช่วยผู้พิการทางสายตาใช้งาน Street View
    ครอบคลุมภาพถนนกว่า 220 พันล้านภาพจากกว่า 100 ประเทศ
    มี 3 ระบบหลัก: AI Describer, AI Chat Agent, AI Tour Guide
    AI Describer ให้คำบรรยายภาพแบบเรียลไทม์
    AI Chat Agent ตอบคำถามเชิงสถานการณ์จากภาพและบริบท
    AI Tour Guide ให้ข้อมูลเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
    ผู้ใช้โต้ตอบกับ AI Chat Agent มากกว่าระบบอื่นถึง 917 ครั้ง
    ความแม่นยำของ AI อยู่ที่ 86.3% โดยมีข้อผิดพลาดเพียง 3.9%
    คำถามส่วนใหญ่เกี่ยวกับพื้นที่ วัตถุ และการบรรยายภาพ
    ผู้ใช้กว่า 90% เลือกใช้คำสั่งเสียงในการโต้ตอบ
    StreetViewAI บรรยายลักษณะของสถานที่ได้ละเอียดกว่าระบบนำทางทั่วไป

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Gemini Flash 2.0 เป็นโมเดลมัลติโหมดที่รองรับภาพ เสียง และข้อความในบริบทเดียวกัน
    การใช้ AI ในการนำทางช่วยลดการพึ่งพาอุปกรณ์เสริม เช่น GPS หรือแอปแผนที่
    การบรรยายภาพแบบ contextual ช่วยให้ผู้พิการทางสายตาเข้าใจสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น
    StreetViewAI อาจนำไปใช้ในระบบเมืองอัจฉริยะ เช่น ป้ายบอกทางเสียงหรือแผนที่แบบสัมผัส
    การใช้ AI เพื่อการเข้าถึงเป็นแนวทางใหม่ที่กำลังเติบโตในวงการเทคโนโลยี

    https://securityonline.info/streetviewai-googles-multimodal-ai-brings-conversational-street-view-navigation-to-the-visually-impaired/
    🗺️ “StreetViewAI จาก Google ใช้ AI สนทนาเพื่อช่วยผู้พิการทางสายตาเดินทางผ่านภาพถนน — เมื่อการสำรวจโลกไม่ต้องพึ่งสายตาอีกต่อไป” Google Research และ DeepMind ได้เปิดตัวระบบใหม่ชื่อว่า “StreetViewAI” ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการพึ่งพาภาพในการใช้งาน Street View ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้พิการทางสายตา โดยระบบนี้ใช้โมเดลมัลติโหมด Gemini Flash 2.0 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสำรวจภาพถนนกว่า 220 พันล้านภาพจากกว่า 100 ประเทศผ่านการสนทนาแบบธรรมชาติ StreetViewAI ประกอบด้วย 3 ระบบหลัก ได้แก่ 🔰 AI Describer: บรรยายสิ่งของ ความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ และคำแนะนำการเดินทางแบบเรียลไทม์ 🔰 AI Chat Agent: ให้ผู้ใช้ถามคำถามเชิงสถานการณ์ เช่น “ทางเดินมีร่มเงาไหม” หรือ “ทางเข้าร้านกาแฟใช้วีลแชร์ได้หรือเปล่า” แล้ว AI ตอบจากภาพก่อนหน้าและบริบทการสนทนา 🔰 AI Tour Guide: เพิ่มข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมให้การสำรวจกลายเป็นการเรียนรู้ ในการทดสอบจริง มีผู้พิการทางสายตา 11 คนเข้าร่วม โดยใช้ไม้เท้าและ screen reader เป็นประจำ พบว่าผู้ใช้สนทนากับ AI Chat Agent ถึง 917 ครั้ง เทียบกับ 136 ครั้งกับ AI Describer ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการสนทนาเป็นวิธีที่เข้าถึงง่ายและเป็นธรรมชาติที่สุด ระบบสามารถตอบคำถามได้ถูกต้องถึง 86.3% โดยคำถามส่วนใหญ่เกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ (27%), การตรวจสอบวัตถุ (26.5%) และการบรรยายภาพแบบเรียลไทม์ (18.4%) ผู้ใช้กว่า 90% เลือกใช้คำสั่งเสียงในการโต้ตอบ ผู้ทดสอบหลายคนกล่าวว่า StreetViewAI ไม่เพียงนำทางถึงจุดหมาย แต่ยังบรรยายลักษณะของสถานที่นั้น เช่น สีของประตูหรือความสูงของบันได ซึ่งเป็นสิ่งที่ระบบนำทางทั่วไปไม่สามารถทำได้ Google มองว่า StreetViewAI เป็นก้าวสำคัญของ AI ที่ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิงหรือผลิตภาพ แต่เพื่อการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม และอาจขยายไปสู่การใช้งานในด้านการศึกษา การท่องเที่ยว และระบบเมืองอัจฉริยะในอนาคต ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ StreetViewAI ใช้โมเดล Gemini Flash 2.0 เพื่อช่วยผู้พิการทางสายตาใช้งาน Street View ➡️ ครอบคลุมภาพถนนกว่า 220 พันล้านภาพจากกว่า 100 ประเทศ ➡️ มี 3 ระบบหลัก: AI Describer, AI Chat Agent, AI Tour Guide ➡️ AI Describer ให้คำบรรยายภาพแบบเรียลไทม์ ➡️ AI Chat Agent ตอบคำถามเชิงสถานการณ์จากภาพและบริบท ➡️ AI Tour Guide ให้ข้อมูลเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ➡️ ผู้ใช้โต้ตอบกับ AI Chat Agent มากกว่าระบบอื่นถึง 917 ครั้ง ➡️ ความแม่นยำของ AI อยู่ที่ 86.3% โดยมีข้อผิดพลาดเพียง 3.9% ➡️ คำถามส่วนใหญ่เกี่ยวกับพื้นที่ วัตถุ และการบรรยายภาพ ➡️ ผู้ใช้กว่า 90% เลือกใช้คำสั่งเสียงในการโต้ตอบ ➡️ StreetViewAI บรรยายลักษณะของสถานที่ได้ละเอียดกว่าระบบนำทางทั่วไป ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Gemini Flash 2.0 เป็นโมเดลมัลติโหมดที่รองรับภาพ เสียง และข้อความในบริบทเดียวกัน ➡️ การใช้ AI ในการนำทางช่วยลดการพึ่งพาอุปกรณ์เสริม เช่น GPS หรือแอปแผนที่ ➡️ การบรรยายภาพแบบ contextual ช่วยให้ผู้พิการทางสายตาเข้าใจสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น ➡️ StreetViewAI อาจนำไปใช้ในระบบเมืองอัจฉริยะ เช่น ป้ายบอกทางเสียงหรือแผนที่แบบสัมผัส ➡️ การใช้ AI เพื่อการเข้าถึงเป็นแนวทางใหม่ที่กำลังเติบโตในวงการเทคโนโลยี https://securityonline.info/streetviewai-googles-multimodal-ai-brings-conversational-street-view-navigation-to-the-visually-impaired/
    SECURITYONLINE.INFO
    StreetViewAI: Google's Multimodal AI Brings Conversational Street View Navigation to the Visually Impaired
    Google unveiled StreetViewAI, an AI system using Gemini Flash 2.0 to provide visually impaired users with conversational, real-time descriptions and navigational cues for Street View images.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แปรงสีฟันไฟฟ้าอาจทำให้คุณถูก TSA เรียกตรวจ — เมื่อแบตเตอรี่กลายเป็นภัยบนเครื่องบิน”

    หลายคนอาจไม่เคยนึกถึงว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าจะกลายเป็นปัญหาในการเดินทางทางอากาศ แต่ล่าสุด TSA และ FAA ได้ออกคำเตือนถึงผู้โดยสารว่าอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่ลิเธียม เช่น แปรงสีฟันไฟฟ้า อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยบนเครื่องบิน โดยเฉพาะเมื่อเก็บไว้ในกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง

    แบตเตอรี่ลิเธียมมีความเสี่ยงจากปรากฏการณ์ “thermal runaway” ซึ่งเป็นปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้เกิดความร้อนสูงจนลุกไหม้ได้ และในสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันอากาศสูงอย่างห้องเก็บสัมภาระใต้เครื่อง การควบคุมไฟไหม้แทบเป็นไปไม่ได้เลย

    แม้ผู้โดยสารจะยังสามารถนำแปรงสีฟันไฟฟ้าใส่ไว้ในกระเป๋าโหลดได้ แต่ต้องปิดเครื่องให้สนิทและจัดเก็บอย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันการเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม TSA แนะนำให้เก็บไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องจะปลอดภัยกว่า เพราะหากเกิดเหตุ Flight crew จะสามารถสังเกตและรับมือได้ทันที

    นอกจากนี้ TSA ยังเตือนว่าอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม เช่น โทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป กล้อง สมาร์ทวอทช์ และ e-reader ก็ควรเก็บไว้ในกระเป๋าถือเช่นกัน และห้ามนำแบตเตอรี่สำรองหรือแบตเตอรี่ที่ยังไม่ได้ติดตั้งใส่ในกระเป๋าโหลดโดยเด็ดขาด

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    TSA และ FAA เตือนว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมมีความเสี่ยงไฟไหม้
    ปรากฏการณ์ thermal runaway อาจทำให้แบตเตอรี่ลุกไหม้โดยไม่คาดคิด
    แนะนำให้เก็บแปรงสีฟันไฟฟ้าไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องเพื่อความปลอดภัย
    หากต้องโหลดใต้เครื่อง ต้องปิดเครื่องและจัดเก็บให้ปลอดภัย
    อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โทรศัพท์ แล็ปท็อป กล้อง และสมาร์ทวอทช์ ก็ควรอยู่ในกระเป๋าถือ
    ห้ามนำแบตเตอรี่สำรองหรือแบตเตอรี่ที่ยังไม่ได้ติดตั้งใส่ในกระเป๋าโหลด
    TSA เคยแบนอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมแบบไร้สายที่ใช้แก๊สหรือบิวเทนจากการโหลดใต้เครื่อง
    หากไม่แน่ใจ ควรสอบถามเจ้าหน้าที่ TSA ก่อนเดินทาง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    แปรงสีฟันไฟฟ้าสมัยใหม่มักใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเหมือนกับสมาร์ทโฟน
    thermal runaway เกิดจากการลัดวงจรหรือความร้อนสะสมในแบตเตอรี่
    FAA มีข้อกำหนดชัดเจนเกี่ยวกับการขนส่งอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม
    แบตเตอรี่ลิเธียมมีพลังงานสูงในขนาดเล็ก จึงมีความเสี่ยงหากเกิดความเสียหาย
    การเก็บอุปกรณ์ไว้ในกระเป๋าถือช่วยให้ลูกเรือสามารถตรวจสอบและรับมือได้ทันที

    https://www.slashgear.com/1986302/avoid-bringing-electric-toothbrush-through-tsa/
    🧳 “แปรงสีฟันไฟฟ้าอาจทำให้คุณถูก TSA เรียกตรวจ — เมื่อแบตเตอรี่กลายเป็นภัยบนเครื่องบิน” หลายคนอาจไม่เคยนึกถึงว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าจะกลายเป็นปัญหาในการเดินทางทางอากาศ แต่ล่าสุด TSA และ FAA ได้ออกคำเตือนถึงผู้โดยสารว่าอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่ลิเธียม เช่น แปรงสีฟันไฟฟ้า อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยบนเครื่องบิน โดยเฉพาะเมื่อเก็บไว้ในกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง แบตเตอรี่ลิเธียมมีความเสี่ยงจากปรากฏการณ์ “thermal runaway” ซึ่งเป็นปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้เกิดความร้อนสูงจนลุกไหม้ได้ และในสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันอากาศสูงอย่างห้องเก็บสัมภาระใต้เครื่อง การควบคุมไฟไหม้แทบเป็นไปไม่ได้เลย แม้ผู้โดยสารจะยังสามารถนำแปรงสีฟันไฟฟ้าใส่ไว้ในกระเป๋าโหลดได้ แต่ต้องปิดเครื่องให้สนิทและจัดเก็บอย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันการเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม TSA แนะนำให้เก็บไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องจะปลอดภัยกว่า เพราะหากเกิดเหตุ Flight crew จะสามารถสังเกตและรับมือได้ทันที นอกจากนี้ TSA ยังเตือนว่าอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม เช่น โทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป กล้อง สมาร์ทวอทช์ และ e-reader ก็ควรเก็บไว้ในกระเป๋าถือเช่นกัน และห้ามนำแบตเตอรี่สำรองหรือแบตเตอรี่ที่ยังไม่ได้ติดตั้งใส่ในกระเป๋าโหลดโดยเด็ดขาด ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ TSA และ FAA เตือนว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมมีความเสี่ยงไฟไหม้ ➡️ ปรากฏการณ์ thermal runaway อาจทำให้แบตเตอรี่ลุกไหม้โดยไม่คาดคิด ➡️ แนะนำให้เก็บแปรงสีฟันไฟฟ้าไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องเพื่อความปลอดภัย ➡️ หากต้องโหลดใต้เครื่อง ต้องปิดเครื่องและจัดเก็บให้ปลอดภัย ➡️ อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โทรศัพท์ แล็ปท็อป กล้อง และสมาร์ทวอทช์ ก็ควรอยู่ในกระเป๋าถือ ➡️ ห้ามนำแบตเตอรี่สำรองหรือแบตเตอรี่ที่ยังไม่ได้ติดตั้งใส่ในกระเป๋าโหลด ➡️ TSA เคยแบนอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมแบบไร้สายที่ใช้แก๊สหรือบิวเทนจากการโหลดใต้เครื่อง ➡️ หากไม่แน่ใจ ควรสอบถามเจ้าหน้าที่ TSA ก่อนเดินทาง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ แปรงสีฟันไฟฟ้าสมัยใหม่มักใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเหมือนกับสมาร์ทโฟน ➡️ thermal runaway เกิดจากการลัดวงจรหรือความร้อนสะสมในแบตเตอรี่ ➡️ FAA มีข้อกำหนดชัดเจนเกี่ยวกับการขนส่งอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ➡️ แบตเตอรี่ลิเธียมมีพลังงานสูงในขนาดเล็ก จึงมีความเสี่ยงหากเกิดความเสียหาย ➡️ การเก็บอุปกรณ์ไว้ในกระเป๋าถือช่วยให้ลูกเรือสามารถตรวจสอบและรับมือได้ทันที https://www.slashgear.com/1986302/avoid-bringing-electric-toothbrush-through-tsa/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    You May Want To Avoid Bringing Your Electric Toothbrush Through TSA (Here's Why) - SlashGear
    The caution comes down to the inherent and well-documented fire risk of lithium-ion and lithium-metal batteries, which some electric toothbrushes use.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาวเหินจรคู่ผสมระหว่างปีและเดือน ประจำเดือนตุลาคม 2568

    ตั้งแต่วันพุธที่ 8 เดือนตุลาคม ไปจนถึง วันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2568 เป็นเดือนจอไฟ丙戌 (เปียสุก) ธาตุดิน มีกระแสพลังดาวธาตุไม้ 三碧 (ซาเพ็ก) ดาวแห่งการฟ้องร้อง ต่อสู้ แย่งชิง ทะเลาะวิวาท เสียทรัพย์ ทำร้ายกระแสพลังดาว二黑 (หยี่เฮก) ธาตุดิน ดาวป่วยไข้ ดาวแห่งโรคภัย ดาวแห่ง ความเสื่อม ถดถอย ประจำอยู่ที่ปีจรมะเส็งไม้ 乙巳 (อิกจี๋) ธาตุไฟ

    ส่งผลให้บ้านเมืองจะพบอุปสรรคปัญหาจากกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่ยังคงคอยแสวงหาโอกาสเพื่อช่วงชิงอำนาจและผลประโยชน์เข้าพวกตัวเอง ด้วยการสร้างสถานการณ์ให้ไม่สงบบั่นทอนความเชื่อมั่นให้ไม่มั่นใจต่อความเรียบร้อยปลอดภัย พยายามปลุกปั่นกระแสมวลชนให้เกิดความขัดแย้งทะเลาะเบาะแว้งให้ไม่ปรองดองต่อกัน ฝ่ายคุมอำนาจจำเป็นต้องใช้อำนาจทางกฎหมายเข้าควบคุมจัดการบริหารตามสถานการณ์อย่างจริงจังเพื่อป้องปรามให้ไม่เกิดประเด็นบานปลายให้วุ่นวาย ประเทศชาติจะได้ไม่ต้องอมทุกข์เสมือนผู้ป่วยไข้ที่นอนรอรับการรักษา ทั้งเศรษฐกิจและสังคมที่คงอยู่ทุกวันนี้จะได้หลุดพ้นจากหล่มขึ้นจากโคลนตม ส่วนการเดินทางควรตรวจสอบสภาพภูมิอากาศก่อนทุกครั้งเพื่อระมัดระวังอุบัติเหตุเภทภัยทางอากาศ ทางน้ำ หรือแม้แต่ทางรถยนต์ก็ตาม

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ดาวเหินจรคู่ผสมระหว่างปีและเดือน ประจำเดือนตุลาคม 2568 ตั้งแต่วันพุธที่ 8 เดือนตุลาคม ไปจนถึง วันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2568 เป็นเดือนจอไฟ丙戌 (เปียสุก) ธาตุดิน มีกระแสพลังดาวธาตุไม้ 三碧 (ซาเพ็ก) ดาวแห่งการฟ้องร้อง ต่อสู้ แย่งชิง ทะเลาะวิวาท เสียทรัพย์ ทำร้ายกระแสพลังดาว二黑 (หยี่เฮก) ธาตุดิน ดาวป่วยไข้ ดาวแห่งโรคภัย ดาวแห่ง ความเสื่อม ถดถอย ประจำอยู่ที่ปีจรมะเส็งไม้ 乙巳 (อิกจี๋) ธาตุไฟ ส่งผลให้บ้านเมืองจะพบอุปสรรคปัญหาจากกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่ยังคงคอยแสวงหาโอกาสเพื่อช่วงชิงอำนาจและผลประโยชน์เข้าพวกตัวเอง ด้วยการสร้างสถานการณ์ให้ไม่สงบบั่นทอนความเชื่อมั่นให้ไม่มั่นใจต่อความเรียบร้อยปลอดภัย พยายามปลุกปั่นกระแสมวลชนให้เกิดความขัดแย้งทะเลาะเบาะแว้งให้ไม่ปรองดองต่อกัน ฝ่ายคุมอำนาจจำเป็นต้องใช้อำนาจทางกฎหมายเข้าควบคุมจัดการบริหารตามสถานการณ์อย่างจริงจังเพื่อป้องปรามให้ไม่เกิดประเด็นบานปลายให้วุ่นวาย ประเทศชาติจะได้ไม่ต้องอมทุกข์เสมือนผู้ป่วยไข้ที่นอนรอรับการรักษา ทั้งเศรษฐกิจและสังคมที่คงอยู่ทุกวันนี้จะได้หลุดพ้นจากหล่มขึ้นจากโคลนตม ส่วนการเดินทางควรตรวจสอบสภาพภูมิอากาศก่อนทุกครั้งเพื่อระมัดระวังอุบัติเหตุเภทภัยทางอากาศ ทางน้ำ หรือแม้แต่ทางรถยนต์ก็ตาม ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts