• 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷

    #รวมข่าวIT #20251223 #securityonline

    Hardware‑Accelerated BitLocker: ยุคใหม่ของการเข้ารหัสที่ไม่กิน FPS อีกต่อไป
    Microsoft เปิดตัว BitLocker แบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งย้ายภาระการเข้ารหัสจาก CPU ไปยังเอนจินเฉพาะในคอนโทรลเลอร์ NVMe ทำให้ Windows 11 สามารถรักษาความเร็วอ่าน–เขียนระดับเกือบเนทีฟแม้เปิดการเข้ารหัสเต็มระบบ ต่างจากแบบเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์ล้วนและกินทรัพยากรจนกระทบ FPS ในเกมหรือโหลดงานหนักอย่างคอมไพล์โค้ดและเรนเดอร์วิดีโอ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเก็บกุญแจเข้ารหัสในฮาร์ดแวร์ที่แยกตัว ลดโอกาสโจมตีหน่วยความจำ พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยจะเปิดใช้ใน Windows 11 24H2–25H2 บนอุปกรณ์ที่มี NVMe controller รุ่นใหม่และ CPU ที่มี crypto engine ในตัว เช่น Intel Core Ultra, AMD Ryzen และ Snapdragon X ซึ่งหมายความว่า HDD และ SATA SSD จะไม่รองรับแน่นอน
    https://securityonline.info/unlocking-the-speed-of-light-how-hardware-accelerated-bitlocker-saves-your-fps/

    The Payroll Trap: แคมเปญ Quishing ใหม่ใช้ QR + CAPTCHA ปลอมเพื่อขโมยเงินเดือนพนักงาน
    แคมเปญฟิชชิงรูปแบบใหม่กำลังพุ่งเป้าไปที่พนักงานโดยใช้ QR code เพื่อหลบระบบความปลอดภัยขององค์กร ก่อนล่อให้เหยื่อสแกนด้วยมือถือส่วนตัวและพาออกนอกเครือข่ายบริษัท จากนั้นหน้าเว็บปลอมจะใช้ CAPTCHA หลอกเพื่อดึงอีเมลและกระตุ้นให้กรอกรหัสผ่าน โดยโครงสร้างหลังบ้านใช้โดเมนหมุนเวียนและ URL เฉพาะรายเหยื่อ ทำให้สืบสวนได้ยากขึ้น สะท้อนการยกระดับฟิชชิงที่ผสานเทคนิคและจิตวิทยาอย่างแนบเนียน
    https://securityonline.info/the-payroll-trap-new-quishing-campaign-uses-fake-captchas-to-hijack-employee-paychecks

    Zero‑Day Linksys: ช่องโหว่ Auth Bypass เปิดทางแฮ็กเกอร์ยึดเราเตอร์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
    นักวิจัยพบช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Linksys E9450‑SG ที่ทำให้ผู้โจมตีบนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเปิด Telnet และเข้าถึงสิทธิ์ root ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน เพียงส่งคำขอ URL ที่เจาะจงไปยัง endpoint ที่ผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่ถูกโจมตีจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ความเสี่ยงต่อผู้ที่มีผู้ใช้ร่วมเครือข่ายหรือ Wi‑Fi รั่วไหลยังสูงมาก
    https://securityonline.info/zero-day-alert-linksys-auth-bypass-lets-hackers-hijack-routers-without-passwords

    Wonderland: มัลแวร์ Android รุ่นใหม่ใช้ Telegram ควบคุมแบบสองทางเพื่อดูดเงินเหยื่อ
    รายงานจาก Group‑IB เผยการระบาดของมัลแวร์ “Wonderland” ในเอเชียกลาง ซึ่งพัฒนาไปไกลจากโทรจันทั่วไป โดยใช้ dropper ปลอมตัวเป็นไฟล์อัปเดตหรือมีเดียเพื่อหลบการตรวจจับ ก่อนปล่อย payload ที่สื่อสารกับผู้โจมตีแบบ real‑time ผ่าน C2 ทำให้สั่งรัน USSD, ส่ง SMS และขยายการติดเชื้อผ่าน Telegram ของเหยื่อได้โดยอัตโนมัติ แสดงถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมมือถือที่ซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/wonderland-unleashed-new-android-dropper-malware-hijacks-telegram-to-drain-bank-accounts

    EchoGather: แคมเปญจารกรรมไซเบอร์ใช้ XLL + เอกสาร AI‑ปลอมเพื่อเจาะองค์กรรัสเซีย
    กลุ่ม Paper Werewolf ปรับยุทธวิธีใหม่ด้วยการใช้ไฟล์ XLL ซึ่งเป็น DLL ที่ Excel โหลดตรง ทำให้รันโค้ดได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของมาโคร พร้อมเทคนิคหน่วงเวลาการทำงานเพื่อหลบระบบตรวจจับ เมื่อ payload ทำงานจะติดตั้ง backdoor “EchoGather” สำหรับเก็บข้อมูลและสั่งงานผ่าน HTTPS ขณะเดียวกันเอกสารล่อเหยื่อที่แนบมากลับถูกสร้างด้วย AI และมีข้อผิดพลาดหลายจุด สะท้อนการผสมผสานระหว่างเทคนิคขั้นสูงและความลวกของมนุษย์
    https://securityonline.info/ai-generated-decoys-xll-stealth-inside-the-new-echogather-cyber-espionage-campaign

    React2Shell Exploited: EtherRAT ใช้ Node.js ปลอมตัวเพื่อล่าคริปโตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
    แคมเปญโจมตีอัตโนมัติใช้ช่องโหว่ React2Shell เพื่อฝัง EtherRAT บนเซิร์ฟเวอร์ โดยดาวน์โหลด Node.js เวอร์ชันจริงมาติดตั้งเพื่อรันสคริปต์โจมตี ทำให้ยากต่อการตรวจจับ จากนั้นมัลแวร์จะเชื่อมต่อ RPC ของ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมกับสัญญาเฉพาะ เป้าหมายคือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจากระบบที่ถูกยึดแบบไร้การเจาะจงประเทศ ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบ process Node.js แปลกปลอมและโฟลเดอร์ซ่อนใน home path
    https://securityonline.info/react2shell-exploited-new-etherrat-malware-hunts-for-crypto-via-node-js

    M‑Files Identity Hijack: ช่องโหว่ให้พนักงานขโมยตัวตนกันเองได้เงียบ ๆ
    แพลตฟอร์มจัดการเอกสาร M‑Files ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ “ผู้ใช้ภายใน” สามารถดัก session token ของเพื่อนร่วมงานและสวมรอยเข้าถึงข้อมูลลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังแทบเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันอีกช่องโหว่ทำให้ข้อมูลจาก vault เก่ารั่วไหลไปยัง vault ใหม่โดยไม่ตั้งใจ สะท้อนความเสี่ยงของระบบที่องค์กรพึ่งพาในงานเอกสารระดับ mission‑critical และจำเป็นต้องอัปเดตแพตช์ทันทีเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/identity-theft-in-m-files-high-severity-flaw-lets-insiders-hijack-user-accounts-and-access-sensitive-data

    Purchase Order Deception: แคมเปญจารกรรมใช้ loader อเนกประสงค์โจมตีอุตสาหกรรมยุโรป–ตะวันออกกลาง
    รายงานใหม่เผยแคมเปญที่ใช้ “unified commodity loader” เป็นแกนกลางในการส่ง RAT หลายตระกูลเข้าโจมตีบริษัทผลิตและหน่วยงานรัฐในอิตาลี ฟินแลนด์ และซาอุฯ โดยซ่อน payload ไว้ในภาพผ่าน steganography และดัดแปลงไลบรารีโอเพ่นซอร์สให้กลายเป็นม้าโทรจันที่ตรวจจับยาก พร้อมเทคนิคหลอก UAC แบบแนบเนียน ทำให้แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างของการยกระดับ tradecraft ในตลาดมัลแวร์เชิงพาณิชย์
    https://securityonline.info/purchase-order-deception-sophisticated-loader-targets-manufacturing-giants-in-italy-finland-and-saudi-arabia

    Prince of Persia APT กลับมาพร้อมมัลแวร์ควบคุมผ่าน Telegram หลังเงียบไปหลายปี
    กลุ่ม APT สายอิหร่าน “Prince of Persia / Infy” ถูกพบว่ายังปฏิบัติการอยู่และได้อัปเกรดเครื่องมือใหม่ เช่น Tonnerre v50 ที่สื่อสารผ่าน Telegram group และใช้ DGA ซับซ้อนเพื่อหลบการบล็อก โครงสร้างมัลแวร์รุ่นใหม่อย่าง Foudre v34 และ Tonnerre v50 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้ไม่ได้หายไป แต่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่นและตรวจจับยากกว่าเดิม พร้อมหลักฐานว่ามีมนุษย์ควบคุมการโจมตีแบบ real‑time
    https://securityonline.info/iranian-prince-of-persia-apt-resurfaces-with-telegram-controlled-stealth-malware

    Ransomware Cartel: Qilin–DragonForce–LockBit รวมตัวแบบสิ้นหวังท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐ
    ท่ามกลางการกวาดล้างของหน่วยงานรัฐทั่วโลก กลุ่ม Qilin, DragonForce และ LockBit ประกาศตั้ง “คาร์เทล” ร่วมกัน แต่รายงานชี้ว่าการรวมตัวนี้เป็นเพียงความพยายามประคองชื่อเสียงของ LockBit ที่แทบไม่เหลือกิจกรรมจริงแล้ว ขณะที่ Qilin กลับได้ประโยชน์ด้านการตลาดและดึง affiliate ใหม่มากกว่า ภาพรวมสะท้อนการแตกตัวของ ecosystem ransomware และการเปลี่ยนไปสู่โมเดล “ขู่กรรโชกข้อมูลอย่างเดียว” ที่เสี่ยงน้อยกว่าเดิม
    https://securityonline.info/a-desperate-cartel-inside-the-unlikely-alliance-of-qilin-dragonforce-and-a-fading-lockbit

    Scripted Sparrow: เครื่องจักร BEC ระดับอุตสาหกรรมยิงอีเมลหลอกลวงกว่า 3 ล้านฉบับต่อเดือน
    กลุ่มอาชญากร “Scripted Sparrow” ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการส่งอีเมล BEC โดยปลอมเป็นบริษัทเทรนนิ่งผู้บริหาร พร้อมแนบประวัติการสนทนาปลอมระหว่างผู้บริหารกับที่ปรึกษาเพื่อหลอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงิน กลยุทธ์ใหม่คือส่งอีเมล “ลืมแนบไฟล์” เพื่อบังคับให้เหยื่อตอบกลับ ทำให้การสนทนากลายเป็น trusted thread และเปิดทางให้ส่งบัญชีม้าได้อย่างปลอดภัย การวิเคราะห์พบสมาชิกกระจายหลายทวีปและใช้เทคนิคปลอมตำแหน่ง GPS เพื่อหลบการติดตาม
    https://securityonline.info/the-3-million-email-siege-inside-scripted-sparrows-global-industrialized-bec-machine

    MongoDB Memory Leak: ช่องโหว่ zlib ทำข้อมูลหลุดโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน MongoDB (CVE‑2025‑14847) เปิดทางให้ผู้โจมตีดึงข้อมูลจาก heap memory ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงส่งคำขอที่เจาะจงไปยังส่วนที่ใช้ zlib compression ทำให้เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับด้วยข้อมูลที่ยังไม่ได้ล้าง ซึ่งอาจรวมถึง query ล่าสุดหรือ credential ที่ค้างอยู่ใน RAM ช่องโหว่นี้กระทบแทบทุกเวอร์ชันย้อนหลังหลายปี และผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีหรือปิดการใช้ zlib ชั่วคราวเพื่อหยุดการรั่วไหล
    https://securityonline.info/critical-unauthenticated-mongodb-flaw-leaks-sensitive-data-via-zlib-compression

    Anna’s Archive อ้างดูด Spotify 300TB จุดชนวนสอบสวนการรั่วไหลครั้งใหญ่
    กลุ่มเงา Anna’s Archive ระบุว่าสามารถ mirror คลังเพลงของ Spotify ได้กว่า 300TB ครอบคลุม 86 ล้านแทร็กที่คิดเป็น 99.6% ของยอดฟังทั้งหมด โดยใช้วิธีเก็บ metadata 256 ล้านรายการและหลุดไฟล์เสียงบางส่วนผ่านการเลี่ยง DRM แม้ Spotify จะยืนยันเพียงว่ามีการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกนำไปสร้างแพลตฟอร์มสตรีมเถื่อนหรือใช้เทรนโมเดล AI
    https://securityonline.info/annas-archive-claims-300tb-spotify-mirror-forcing-an-investigation-into-a-massive-music-data-leak

    Windows DWM EoP: ช่องโหว่ยกระดับสิทธิ์ด้วยเทคนิค “วาดทับ” พร้อม PoC เผยแพร่แล้ว
    ช่องโหว่ใน Desktop Window Manager (DWM) ของ Windows เปิดทางให้ผู้ใช้ในเครื่องยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น SYSTEM ผ่านการจัดการกราฟิกผิดพลาด โดยมี PoC เผยแพร่แล้วแม้รายงานฉบับเต็มจะถูกล็อกให้เฉพาะผู้สนับสนุน เหตุการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเร่งแพตช์ เพราะเป็นช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ร่วมกับบั๊กอื่นเพื่อยึดระบบได้อย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/windows-dwm-flaw-lets-local-users-paint-their-way-to-system-privileges-poc-publishes

    Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เพื่อควบคุมไฟฟ้าป้อน Gemini และศูนย์ข้อมูล
    Alphabet เดินเกมเชิงโครงสร้างด้วยการซื้อ Intersect Power เพื่อแก้ปัญหาพลังงานที่กำลังกลายเป็นคอขวดของการแข่งขัน AI โดยดีลนี้ทำให้ Google ควบคุมโครงการพลังงานหมุนเวียนหลายกิกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างติดกับดาต้าเซ็นเตอร์ในเท็กซัส การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าศึก AI ไม่ได้วัดกันที่ชิปหรือโมเดลอีกต่อไป แต่คือใครสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วกว่า
    https://securityonline.info/the-grid-is-the-goal-alphabets-4-75b-bet-to-own-the-power-plants-behind-gemini

    Android Toll: Google เก็บค่าติดตั้ง $2.85 ต่อแอปเมื่อใช้ลิงก์ดาวน์โหลดภายนอก
    ภายใต้แรงกดดันจากคดี Epic vs Google ศาลบีบให้ Google เปิด Play Store ให้ลิงก์ออกไปดาวน์โหลดภายนอกได้ แต่ Google เสนอโมเดลใหม่ที่ซับซ้อนและมีค่าธรรมเนียมสูง—คิด $2.85 ต่อการติดตั้งแอป และ $3.65 สำหรับเกม หากผู้ใช้ติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลิกลิงก์ พร้อมเก็บส่วนแบ่ง 10–20% สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบของนักพัฒนาเอง ทำให้แม้จะ “เปิด” ระบบ แต่ต้นทุนจริงอาจสูงจนผู้พัฒนาหลายรายไม่อยากออกจาก ecosystem
    https://securityonline.info/the-android-toll-google-to-charge-2-85-per-install-for-external-app-links
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251223 #securityonline ⚡ Hardware‑Accelerated BitLocker: ยุคใหม่ของการเข้ารหัสที่ไม่กิน FPS อีกต่อไป Microsoft เปิดตัว BitLocker แบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งย้ายภาระการเข้ารหัสจาก CPU ไปยังเอนจินเฉพาะในคอนโทรลเลอร์ NVMe ทำให้ Windows 11 สามารถรักษาความเร็วอ่าน–เขียนระดับเกือบเนทีฟแม้เปิดการเข้ารหัสเต็มระบบ ต่างจากแบบเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์ล้วนและกินทรัพยากรจนกระทบ FPS ในเกมหรือโหลดงานหนักอย่างคอมไพล์โค้ดและเรนเดอร์วิดีโอ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเก็บกุญแจเข้ารหัสในฮาร์ดแวร์ที่แยกตัว ลดโอกาสโจมตีหน่วยความจำ พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยจะเปิดใช้ใน Windows 11 24H2–25H2 บนอุปกรณ์ที่มี NVMe controller รุ่นใหม่และ CPU ที่มี crypto engine ในตัว เช่น Intel Core Ultra, AMD Ryzen และ Snapdragon X ซึ่งหมายความว่า HDD และ SATA SSD จะไม่รองรับแน่นอน 🔗 https://securityonline.info/unlocking-the-speed-of-light-how-hardware-accelerated-bitlocker-saves-your-fps/ 🧾 The Payroll Trap: แคมเปญ Quishing ใหม่ใช้ QR + CAPTCHA ปลอมเพื่อขโมยเงินเดือนพนักงาน แคมเปญฟิชชิงรูปแบบใหม่กำลังพุ่งเป้าไปที่พนักงานโดยใช้ QR code เพื่อหลบระบบความปลอดภัยขององค์กร ก่อนล่อให้เหยื่อสแกนด้วยมือถือส่วนตัวและพาออกนอกเครือข่ายบริษัท จากนั้นหน้าเว็บปลอมจะใช้ CAPTCHA หลอกเพื่อดึงอีเมลและกระตุ้นให้กรอกรหัสผ่าน โดยโครงสร้างหลังบ้านใช้โดเมนหมุนเวียนและ URL เฉพาะรายเหยื่อ ทำให้สืบสวนได้ยากขึ้น สะท้อนการยกระดับฟิชชิงที่ผสานเทคนิคและจิตวิทยาอย่างแนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/the-payroll-trap-new-quishing-campaign-uses-fake-captchas-to-hijack-employee-paychecks 📡 Zero‑Day Linksys: ช่องโหว่ Auth Bypass เปิดทางแฮ็กเกอร์ยึดเราเตอร์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน นักวิจัยพบช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Linksys E9450‑SG ที่ทำให้ผู้โจมตีบนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเปิด Telnet และเข้าถึงสิทธิ์ root ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน เพียงส่งคำขอ URL ที่เจาะจงไปยัง endpoint ที่ผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่ถูกโจมตีจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ความเสี่ยงต่อผู้ที่มีผู้ใช้ร่วมเครือข่ายหรือ Wi‑Fi รั่วไหลยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-day-alert-linksys-auth-bypass-lets-hackers-hijack-routers-without-passwords 📱 Wonderland: มัลแวร์ Android รุ่นใหม่ใช้ Telegram ควบคุมแบบสองทางเพื่อดูดเงินเหยื่อ รายงานจาก Group‑IB เผยการระบาดของมัลแวร์ “Wonderland” ในเอเชียกลาง ซึ่งพัฒนาไปไกลจากโทรจันทั่วไป โดยใช้ dropper ปลอมตัวเป็นไฟล์อัปเดตหรือมีเดียเพื่อหลบการตรวจจับ ก่อนปล่อย payload ที่สื่อสารกับผู้โจมตีแบบ real‑time ผ่าน C2 ทำให้สั่งรัน USSD, ส่ง SMS และขยายการติดเชื้อผ่าน Telegram ของเหยื่อได้โดยอัตโนมัติ แสดงถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมมือถือที่ซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/wonderland-unleashed-new-android-dropper-malware-hijacks-telegram-to-drain-bank-accounts 🧩 EchoGather: แคมเปญจารกรรมไซเบอร์ใช้ XLL + เอกสาร AI‑ปลอมเพื่อเจาะองค์กรรัสเซีย กลุ่ม Paper Werewolf ปรับยุทธวิธีใหม่ด้วยการใช้ไฟล์ XLL ซึ่งเป็น DLL ที่ Excel โหลดตรง ทำให้รันโค้ดได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของมาโคร พร้อมเทคนิคหน่วงเวลาการทำงานเพื่อหลบระบบตรวจจับ เมื่อ payload ทำงานจะติดตั้ง backdoor “EchoGather” สำหรับเก็บข้อมูลและสั่งงานผ่าน HTTPS ขณะเดียวกันเอกสารล่อเหยื่อที่แนบมากลับถูกสร้างด้วย AI และมีข้อผิดพลาดหลายจุด สะท้อนการผสมผสานระหว่างเทคนิคขั้นสูงและความลวกของมนุษย์ 🔗 https://securityonline.info/ai-generated-decoys-xll-stealth-inside-the-new-echogather-cyber-espionage-campaign 💰 React2Shell Exploited: EtherRAT ใช้ Node.js ปลอมตัวเพื่อล่าคริปโตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก แคมเปญโจมตีอัตโนมัติใช้ช่องโหว่ React2Shell เพื่อฝัง EtherRAT บนเซิร์ฟเวอร์ โดยดาวน์โหลด Node.js เวอร์ชันจริงมาติดตั้งเพื่อรันสคริปต์โจมตี ทำให้ยากต่อการตรวจจับ จากนั้นมัลแวร์จะเชื่อมต่อ RPC ของ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมกับสัญญาเฉพาะ เป้าหมายคือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจากระบบที่ถูกยึดแบบไร้การเจาะจงประเทศ ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบ process Node.js แปลกปลอมและโฟลเดอร์ซ่อนใน home path 🔗 https://securityonline.info/react2shell-exploited-new-etherrat-malware-hunts-for-crypto-via-node-js 🕵️‍♂️ M‑Files Identity Hijack: ช่องโหว่ให้พนักงานขโมยตัวตนกันเองได้เงียบ ๆ แพลตฟอร์มจัดการเอกสาร M‑Files ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ “ผู้ใช้ภายใน” สามารถดัก session token ของเพื่อนร่วมงานและสวมรอยเข้าถึงข้อมูลลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังแทบเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันอีกช่องโหว่ทำให้ข้อมูลจาก vault เก่ารั่วไหลไปยัง vault ใหม่โดยไม่ตั้งใจ สะท้อนความเสี่ยงของระบบที่องค์กรพึ่งพาในงานเอกสารระดับ mission‑critical และจำเป็นต้องอัปเดตแพตช์ทันทีเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/identity-theft-in-m-files-high-severity-flaw-lets-insiders-hijack-user-accounts-and-access-sensitive-data 📦 Purchase Order Deception: แคมเปญจารกรรมใช้ loader อเนกประสงค์โจมตีอุตสาหกรรมยุโรป–ตะวันออกกลาง รายงานใหม่เผยแคมเปญที่ใช้ “unified commodity loader” เป็นแกนกลางในการส่ง RAT หลายตระกูลเข้าโจมตีบริษัทผลิตและหน่วยงานรัฐในอิตาลี ฟินแลนด์ และซาอุฯ โดยซ่อน payload ไว้ในภาพผ่าน steganography และดัดแปลงไลบรารีโอเพ่นซอร์สให้กลายเป็นม้าโทรจันที่ตรวจจับยาก พร้อมเทคนิคหลอก UAC แบบแนบเนียน ทำให้แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างของการยกระดับ tradecraft ในตลาดมัลแวร์เชิงพาณิชย์ 🔗 https://securityonline.info/purchase-order-deception-sophisticated-loader-targets-manufacturing-giants-in-italy-finland-and-saudi-arabia 🕌 Prince of Persia APT กลับมาพร้อมมัลแวร์ควบคุมผ่าน Telegram หลังเงียบไปหลายปี กลุ่ม APT สายอิหร่าน “Prince of Persia / Infy” ถูกพบว่ายังปฏิบัติการอยู่และได้อัปเกรดเครื่องมือใหม่ เช่น Tonnerre v50 ที่สื่อสารผ่าน Telegram group และใช้ DGA ซับซ้อนเพื่อหลบการบล็อก โครงสร้างมัลแวร์รุ่นใหม่อย่าง Foudre v34 และ Tonnerre v50 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้ไม่ได้หายไป แต่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่นและตรวจจับยากกว่าเดิม พร้อมหลักฐานว่ามีมนุษย์ควบคุมการโจมตีแบบ real‑time 🔗 https://securityonline.info/iranian-prince-of-persia-apt-resurfaces-with-telegram-controlled-stealth-malware 🤝 Ransomware Cartel: Qilin–DragonForce–LockBit รวมตัวแบบสิ้นหวังท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐ ท่ามกลางการกวาดล้างของหน่วยงานรัฐทั่วโลก กลุ่ม Qilin, DragonForce และ LockBit ประกาศตั้ง “คาร์เทล” ร่วมกัน แต่รายงานชี้ว่าการรวมตัวนี้เป็นเพียงความพยายามประคองชื่อเสียงของ LockBit ที่แทบไม่เหลือกิจกรรมจริงแล้ว ขณะที่ Qilin กลับได้ประโยชน์ด้านการตลาดและดึง affiliate ใหม่มากกว่า ภาพรวมสะท้อนการแตกตัวของ ecosystem ransomware และการเปลี่ยนไปสู่โมเดล “ขู่กรรโชกข้อมูลอย่างเดียว” ที่เสี่ยงน้อยกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/a-desperate-cartel-inside-the-unlikely-alliance-of-qilin-dragonforce-and-a-fading-lockbit 📨 Scripted Sparrow: เครื่องจักร BEC ระดับอุตสาหกรรมยิงอีเมลหลอกลวงกว่า 3 ล้านฉบับต่อเดือน กลุ่มอาชญากร “Scripted Sparrow” ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการส่งอีเมล BEC โดยปลอมเป็นบริษัทเทรนนิ่งผู้บริหาร พร้อมแนบประวัติการสนทนาปลอมระหว่างผู้บริหารกับที่ปรึกษาเพื่อหลอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงิน กลยุทธ์ใหม่คือส่งอีเมล “ลืมแนบไฟล์” เพื่อบังคับให้เหยื่อตอบกลับ ทำให้การสนทนากลายเป็น trusted thread และเปิดทางให้ส่งบัญชีม้าได้อย่างปลอดภัย การวิเคราะห์พบสมาชิกกระจายหลายทวีปและใช้เทคนิคปลอมตำแหน่ง GPS เพื่อหลบการติดตาม 🔗 https://securityonline.info/the-3-million-email-siege-inside-scripted-sparrows-global-industrialized-bec-machine 🛢️ MongoDB Memory Leak: ช่องโหว่ zlib ทำข้อมูลหลุดโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน MongoDB (CVE‑2025‑14847) เปิดทางให้ผู้โจมตีดึงข้อมูลจาก heap memory ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงส่งคำขอที่เจาะจงไปยังส่วนที่ใช้ zlib compression ทำให้เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับด้วยข้อมูลที่ยังไม่ได้ล้าง ซึ่งอาจรวมถึง query ล่าสุดหรือ credential ที่ค้างอยู่ใน RAM ช่องโหว่นี้กระทบแทบทุกเวอร์ชันย้อนหลังหลายปี และผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีหรือปิดการใช้ zlib ชั่วคราวเพื่อหยุดการรั่วไหล 🔗 https://securityonline.info/critical-unauthenticated-mongodb-flaw-leaks-sensitive-data-via-zlib-compression 🎧 Anna’s Archive อ้างดูด Spotify 300TB จุดชนวนสอบสวนการรั่วไหลครั้งใหญ่ กลุ่มเงา Anna’s Archive ระบุว่าสามารถ mirror คลังเพลงของ Spotify ได้กว่า 300TB ครอบคลุม 86 ล้านแทร็กที่คิดเป็น 99.6% ของยอดฟังทั้งหมด โดยใช้วิธีเก็บ metadata 256 ล้านรายการและหลุดไฟล์เสียงบางส่วนผ่านการเลี่ยง DRM แม้ Spotify จะยืนยันเพียงว่ามีการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกนำไปสร้างแพลตฟอร์มสตรีมเถื่อนหรือใช้เทรนโมเดล AI 🔗 https://securityonline.info/annas-archive-claims-300tb-spotify-mirror-forcing-an-investigation-into-a-massive-music-data-leak 🖼️ Windows DWM EoP: ช่องโหว่ยกระดับสิทธิ์ด้วยเทคนิค “วาดทับ” พร้อม PoC เผยแพร่แล้ว ช่องโหว่ใน Desktop Window Manager (DWM) ของ Windows เปิดทางให้ผู้ใช้ในเครื่องยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น SYSTEM ผ่านการจัดการกราฟิกผิดพลาด โดยมี PoC เผยแพร่แล้วแม้รายงานฉบับเต็มจะถูกล็อกให้เฉพาะผู้สนับสนุน เหตุการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเร่งแพตช์ เพราะเป็นช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ร่วมกับบั๊กอื่นเพื่อยึดระบบได้อย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/windows-dwm-flaw-lets-local-users-paint-their-way-to-system-privileges-poc-publishes ⚡ Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เพื่อควบคุมไฟฟ้าป้อน Gemini และศูนย์ข้อมูล Alphabet เดินเกมเชิงโครงสร้างด้วยการซื้อ Intersect Power เพื่อแก้ปัญหาพลังงานที่กำลังกลายเป็นคอขวดของการแข่งขัน AI โดยดีลนี้ทำให้ Google ควบคุมโครงการพลังงานหมุนเวียนหลายกิกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างติดกับดาต้าเซ็นเตอร์ในเท็กซัส การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าศึก AI ไม่ได้วัดกันที่ชิปหรือโมเดลอีกต่อไป แต่คือใครสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วกว่า 🔗 https://securityonline.info/the-grid-is-the-goal-alphabets-4-75b-bet-to-own-the-power-plants-behind-gemini 📱 Android Toll: Google เก็บค่าติดตั้ง $2.85 ต่อแอปเมื่อใช้ลิงก์ดาวน์โหลดภายนอก ภายใต้แรงกดดันจากคดี Epic vs Google ศาลบีบให้ Google เปิด Play Store ให้ลิงก์ออกไปดาวน์โหลดภายนอกได้ แต่ Google เสนอโมเดลใหม่ที่ซับซ้อนและมีค่าธรรมเนียมสูง—คิด $2.85 ต่อการติดตั้งแอป และ $3.65 สำหรับเกม หากผู้ใช้ติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลิกลิงก์ พร้อมเก็บส่วนแบ่ง 10–20% สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบของนักพัฒนาเอง ทำให้แม้จะ “เปิด” ระบบ แต่ต้นทุนจริงอาจสูงจนผู้พัฒนาหลายรายไม่อยากออกจาก ecosystem 🔗 https://securityonline.info/the-android-toll-google-to-charge-2-85-per-install-for-external-app-links
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • Bank of Canada กำหนดกฎใหม่ Stablecoins – ต้องหนุนด้วยสินทรัพย์คุณภาพสูง

    เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา Tiff Macklem กล่าวว่ากฎเกณฑ์ใหม่สำหรับ Stablecoins จะบังคับให้เหรียญดิจิทัลเหล่านี้ต้องมีการหนุนหลังด้วย High-Quality Liquid Assets (HQLA) เช่น พันธบัตรรัฐบาลหรือบัตรเงินคลัง และต้องผูกค่าแบบ 1:1 กับสกุลเงินของธนาคารกลาง เพื่อให้สามารถแลกคืนเป็นเงินสดได้ตลอดเวลา

    รัฐบาลแคนาดาได้ประกาศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนว่าจะออกกฎหมายควบคุม Stablecoins ในปี 2026 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ระบบการเงินทันสมัยและสอดคล้องกับประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ เช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังออกกฎควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน

    Macklem ย้ำว่า “Stablecoins ต้องเป็นเงินที่ดีเหมือนกับธนบัตรหรือเงินฝากธนาคาร” และการกำหนดกฎเกณฑ์นี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและธุรกิจในการใช้ Stablecoins ในการชำระเงิน ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีการวางแผนเชื่อมโยงกับระบบ Real-Time Rail ที่จะเปิดตัวในปี 2026 เพื่อรองรับการชำระเงินแบบทันที

    นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังเตรียมผลักดันระบบ Open Banking เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบและเปลี่ยนธนาคารได้ง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของแคนาดาในยุคดิจิทัล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กฎใหม่สำหรับ Stablecoins
    ต้องหนุนหลังด้วยสินทรัพย์สภาพคล่องคุณภาพสูง (HQLA)
    ต้องผูกค่า 1:1 กับสกุลเงินของธนาคารกลาง

    เป้าหมายของรัฐบาลแคนาดา
    ออกกฎหมายควบคุม Stablecoins ในปี 2026
    ทำให้ระบบการเงินทันสมัยและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

    การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน
    เปิดตัวระบบ Real-Time Rail สำหรับการชำระเงินทันทีในปี 2026
    ผลักดันระบบ Open Banking เพื่อเพิ่มการแข่งขันและความโปร่งใส

    คำเตือนสำหรับผู้ลงทุน Stablecoins
    ต้องตรวจสอบว่าเหรียญที่ถือมีการหนุนหลังด้วยสินทรัพย์คุณภาพจริง
    หากไม่เป็นไปตามกฎใหม่ อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียมูลค่าและการแลกคืน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/17/bank-of-canada-wants-stablecoins-to-be-backed-by-high-quality-liquid-assets
    💵 Bank of Canada กำหนดกฎใหม่ Stablecoins – ต้องหนุนด้วยสินทรัพย์คุณภาพสูง เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา Tiff Macklem กล่าวว่ากฎเกณฑ์ใหม่สำหรับ Stablecoins จะบังคับให้เหรียญดิจิทัลเหล่านี้ต้องมีการหนุนหลังด้วย High-Quality Liquid Assets (HQLA) เช่น พันธบัตรรัฐบาลหรือบัตรเงินคลัง และต้องผูกค่าแบบ 1:1 กับสกุลเงินของธนาคารกลาง เพื่อให้สามารถแลกคืนเป็นเงินสดได้ตลอดเวลา รัฐบาลแคนาดาได้ประกาศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนว่าจะออกกฎหมายควบคุม Stablecoins ในปี 2026 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ระบบการเงินทันสมัยและสอดคล้องกับประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ เช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังออกกฎควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน Macklem ย้ำว่า “Stablecoins ต้องเป็นเงินที่ดีเหมือนกับธนบัตรหรือเงินฝากธนาคาร” และการกำหนดกฎเกณฑ์นี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและธุรกิจในการใช้ Stablecoins ในการชำระเงิน ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีการวางแผนเชื่อมโยงกับระบบ Real-Time Rail ที่จะเปิดตัวในปี 2026 เพื่อรองรับการชำระเงินแบบทันที นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังเตรียมผลักดันระบบ Open Banking เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบและเปลี่ยนธนาคารได้ง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของแคนาดาในยุคดิจิทัล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กฎใหม่สำหรับ Stablecoins ➡️ ต้องหนุนหลังด้วยสินทรัพย์สภาพคล่องคุณภาพสูง (HQLA) ➡️ ต้องผูกค่า 1:1 กับสกุลเงินของธนาคารกลาง ✅ เป้าหมายของรัฐบาลแคนาดา ➡️ ออกกฎหมายควบคุม Stablecoins ในปี 2026 ➡️ ทำให้ระบบการเงินทันสมัยและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ✅ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ➡️ เปิดตัวระบบ Real-Time Rail สำหรับการชำระเงินทันทีในปี 2026 ➡️ ผลักดันระบบ Open Banking เพื่อเพิ่มการแข่งขันและความโปร่งใส ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ลงทุน Stablecoins ⛔ ต้องตรวจสอบว่าเหรียญที่ถือมีการหนุนหลังด้วยสินทรัพย์คุณภาพจริง ⛔ หากไม่เป็นไปตามกฎใหม่ อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียมูลค่าและการแลกคืน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/17/bank-of-canada-wants-stablecoins-to-be-backed-by-high-quality-liquid-assets
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bank of Canada wants stablecoins to be backed by high-quality liquid assets
    OTTAWA, Dec 16 (Reuters) - The Bank of Canada says regulations on future Canadian stablecoins must ensure they are backed by high-quality liquid assets and be pegged one-to-one to a central bank currency, Governor Tiff Macklem said on Tuesday.
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • ข่าว: อังกฤษเตรียมเริ่มกำกับดูแลคริปโตในปี 2027

    กระทรวงการคลังอังกฤษเผยว่าจะเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาในปี 2025 และเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2027 โดยจะขยายกฎเกณฑ์ทางการเงินที่มีอยู่ไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโต เช่น การซื้อขาย, การดูแลทรัพย์สินดิจิทัล และการออกเหรียญใหม่ กฎหมายนี้จะทำให้อังกฤษมีแนวทางใกล้เคียงกับสหรัฐฯ มากกว่าสหภาพยุโรป

    ความแตกต่างกับสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
    ในขณะที่สหรัฐฯ ถูกมองว่ามีท่าที “เป็นมิตรกับคริปโต” มากกว่า อังกฤษเลือกแนวทางที่เข้มงวดขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค ส่วนสหภาพยุโรปได้ใช้กฎหมาย Markets in Cryptoassets (MiCA) ตั้งแต่ปี 2024 ซึ่งเป็นกฎเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตโดยตรง

    การเตรียมการของหน่วยงานกำกับดูแล
    ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และ Financial Conduct Authority (FCA) กำลังจัดทำกฎเฉพาะสำหรับ stablecoins, การซื้อขาย, การป้องกันการใช้ตลาดในทางที่ผิด และการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล โดยตั้งเป้าจะสรุปกฎทั้งหมดภายในสิ้นปี 2026 เพื่อให้บริษัทคริปโตมีเวลาเตรียมตัวก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโต
    ผู้เชี่ยวชาญมองว่ากฎหมายใหม่นี้จะช่วยสร้าง “กฎเกณฑ์ที่ชัดเจน” และทำให้บริษัทคริปโตสามารถวางแผนธุรกิจได้มั่นใจขึ้น แม้จะมีความกังวลว่ากฎเข้มงวดอาจทำให้บางบริษัทเลือกย้ายฐานไปประเทศที่เป็นมิตรกับคริปโตมากกว่า แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้คริปโตเข้าสู่ระบบการเงินอย่างเป็นทางการ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การประกาศของรัฐบาลอังกฤษ
    เริ่มบังคับใช้กฎหมายคริปโตเดือนตุลาคม 2027
    ขยายกฎการเงินเดิมไปยังบริษัทคริปโต

    ความแตกต่างระดับโลก
    สหรัฐฯ มีท่าทีเป็นมิตรกับคริปโตมากกว่า
    สหภาพยุโรปใช้กฎหมาย MiCA ตั้งแต่ปี 2024

    การเตรียมการของหน่วยงานกำกับดูแล
    BoE และ FCA จะสรุปกฎภายในสิ้นปี 2026
    ครอบคลุม stablecoins, การซื้อขาย และการดูแลสินทรัพย์

    คำเตือนและผลกระทบ
    กฎเข้มงวดอาจทำให้บางบริษัทเลือกย้ายฐานไปประเทศอื่น
    นักลงทุนคริปโตควรเตรียมรับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์
    ผู้ใช้ควรตระหนักว่าการลงทุนคริปโตยังมีความเสี่ยงสูง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/15/uk-regulation-of-cryptoassets-to-start-in-october-2027-finance-ministry-says
    🇬🇧 ข่าว: อังกฤษเตรียมเริ่มกำกับดูแลคริปโตในปี 2027 กระทรวงการคลังอังกฤษเผยว่าจะเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาในปี 2025 และเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2027 โดยจะขยายกฎเกณฑ์ทางการเงินที่มีอยู่ไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโต เช่น การซื้อขาย, การดูแลทรัพย์สินดิจิทัล และการออกเหรียญใหม่ กฎหมายนี้จะทำให้อังกฤษมีแนวทางใกล้เคียงกับสหรัฐฯ มากกว่าสหภาพยุโรป 📊 ความแตกต่างกับสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ในขณะที่สหรัฐฯ ถูกมองว่ามีท่าที “เป็นมิตรกับคริปโต” มากกว่า อังกฤษเลือกแนวทางที่เข้มงวดขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค ส่วนสหภาพยุโรปได้ใช้กฎหมาย Markets in Cryptoassets (MiCA) ตั้งแต่ปี 2024 ซึ่งเป็นกฎเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตโดยตรง 🏦 การเตรียมการของหน่วยงานกำกับดูแล ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และ Financial Conduct Authority (FCA) กำลังจัดทำกฎเฉพาะสำหรับ stablecoins, การซื้อขาย, การป้องกันการใช้ตลาดในทางที่ผิด และการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล โดยตั้งเป้าจะสรุปกฎทั้งหมดภายในสิ้นปี 2026 เพื่อให้บริษัทคริปโตมีเวลาเตรียมตัวก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้ 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโต ผู้เชี่ยวชาญมองว่ากฎหมายใหม่นี้จะช่วยสร้าง “กฎเกณฑ์ที่ชัดเจน” และทำให้บริษัทคริปโตสามารถวางแผนธุรกิจได้มั่นใจขึ้น แม้จะมีความกังวลว่ากฎเข้มงวดอาจทำให้บางบริษัทเลือกย้ายฐานไปประเทศที่เป็นมิตรกับคริปโตมากกว่า แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้คริปโตเข้าสู่ระบบการเงินอย่างเป็นทางการ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การประกาศของรัฐบาลอังกฤษ ➡️ เริ่มบังคับใช้กฎหมายคริปโตเดือนตุลาคม 2027 ➡️ ขยายกฎการเงินเดิมไปยังบริษัทคริปโต ✅ ความแตกต่างระดับโลก ➡️ สหรัฐฯ มีท่าทีเป็นมิตรกับคริปโตมากกว่า ➡️ สหภาพยุโรปใช้กฎหมาย MiCA ตั้งแต่ปี 2024 ✅ การเตรียมการของหน่วยงานกำกับดูแล ➡️ BoE และ FCA จะสรุปกฎภายในสิ้นปี 2026 ➡️ ครอบคลุม stablecoins, การซื้อขาย และการดูแลสินทรัพย์ ‼️ คำเตือนและผลกระทบ ⛔ กฎเข้มงวดอาจทำให้บางบริษัทเลือกย้ายฐานไปประเทศอื่น ⛔ นักลงทุนคริปโตควรเตรียมรับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ ⛔ ผู้ใช้ควรตระหนักว่าการลงทุนคริปโตยังมีความเสี่ยงสูง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/15/uk-regulation-of-cryptoassets-to-start-in-october-2027-finance-ministry-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    UK regulation of cryptoassets to start in October 2027, finance ministry says
    LONDON, Dec 15 (Reuters) - Britain will start regulating cryptoassets from October 2027, the finance ministry said on Monday, rules it hopes will give the industry certainty while keeping out "dodgy actors".
    0 Comments 0 Shares 277 Views 0 Reviews
  • คดี Do Kwon ฉ้อโกงคริปโตครั้งใหญ่

    Do Kwon ผู้นำโครงการ Terra และเหรียญ UST Stablecoin ถูกศาลสหรัฐฯ ตัดสินจำคุก 15 ปี หลังจากการล่มสลายของ UST ในปี 2022 ที่สร้างความเสียหายมหาศาลต่อผู้ลงทุนทั่วโลก คดีนี้ถือเป็นหนึ่งใน การฉ้อโกงคริปโตครั้งใหญ่ที่สุด โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 40–60 พันล้านดอลลาร์

    กลไกที่ล้มเหลว
    UST ถูกออกแบบให้มีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้ระบบ “burn-mint” ระหว่างเหรียญ UST และ LUNA แต่เมื่อเกิดแรงขายจำนวนมาก กลไกนี้กลับสร้าง LUNA อย่างมหาศาลจนมูลค่าลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ UST สูญเสียการตรึงค่า (depeg) และเข้าสู่ death spiral ที่ไม่สามารถหยุดได้

    การหลอกลวงนักลงทุน
    ศาลพบว่า Do Kwon บิดเบือนข้อมูล โดยอ้างว่า Terra Protocol จะสามารถรักษาเสถียรภาพของ UST ได้ แต่แท้จริงแล้วเขาใช้บริษัทเทรดความถี่สูง (HFT) ซื้อ UST จำนวนมากเพื่อพยุงราคาอย่างไม่โปร่งใส อีกทั้งแพลตฟอร์ม Anchor ที่เกี่ยวข้องยังสัญญาผลตอบแทนสูงถึง 20% APY ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจที่ไม่ยั่งยืน

    ผลกระทบต่อวงการคริปโต
    การล่มสลายของ Terra และการตัดสินจำคุกครั้งนี้สะท้อนถึง ความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตที่ขาดการกำกับดูแล และเป็นบทเรียนสำคัญให้ทั้งนักลงทุนและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกต้องเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การตัดสินจำคุก Do Kwon
    โทษจำคุก 15 ปี จากคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน

    กลไก UST ที่ล้มเหลว
    ระบบ burn-mint ทำให้เกิดการสร้าง LUNA มหาศาลและมูลค่าลดลง

    การบิดเบือนข้อมูล
    Terra Protocol ถูกอ้างว่าจะรักษาเสถียรภาพ แต่แท้จริงใช้การซื้อขายเพื่อพยุงราคา

    ผลกระทบต่อวงการคริปโต
    เป็นบทเรียนสำคัญต่อการกำกับดูแลและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

    ความเสี่ยงของ Stablecoin
    หากไม่มีสินทรัพย์รองรับจริง อาจเกิดการล่มสลายแบบ UST

    การลงทุนที่ขาดการตรวจสอบ
    ผลตอบแทนสูงผิดปกติ เช่น 20% APY อาจเป็นสัญญาณเตือนของการฉ้อโกง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/usd40-billion-plus-crypto-fraud-scheme-results-in-15-year-prison-sentence-for-its-creator-nine-criminal-counts-include-wire-fraud-and-money-laundering
    ⚖️ คดี Do Kwon ฉ้อโกงคริปโตครั้งใหญ่ Do Kwon ผู้นำโครงการ Terra และเหรียญ UST Stablecoin ถูกศาลสหรัฐฯ ตัดสินจำคุก 15 ปี หลังจากการล่มสลายของ UST ในปี 2022 ที่สร้างความเสียหายมหาศาลต่อผู้ลงทุนทั่วโลก คดีนี้ถือเป็นหนึ่งใน การฉ้อโกงคริปโตครั้งใหญ่ที่สุด โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 40–60 พันล้านดอลลาร์ 💰 กลไกที่ล้มเหลว UST ถูกออกแบบให้มีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้ระบบ “burn-mint” ระหว่างเหรียญ UST และ LUNA แต่เมื่อเกิดแรงขายจำนวนมาก กลไกนี้กลับสร้าง LUNA อย่างมหาศาลจนมูลค่าลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ UST สูญเสียการตรึงค่า (depeg) และเข้าสู่ death spiral ที่ไม่สามารถหยุดได้ 🏦 การหลอกลวงนักลงทุน ศาลพบว่า Do Kwon บิดเบือนข้อมูล โดยอ้างว่า Terra Protocol จะสามารถรักษาเสถียรภาพของ UST ได้ แต่แท้จริงแล้วเขาใช้บริษัทเทรดความถี่สูง (HFT) ซื้อ UST จำนวนมากเพื่อพยุงราคาอย่างไม่โปร่งใส อีกทั้งแพลตฟอร์ม Anchor ที่เกี่ยวข้องยังสัญญาผลตอบแทนสูงถึง 20% APY ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจที่ไม่ยั่งยืน 🌍 ผลกระทบต่อวงการคริปโต การล่มสลายของ Terra และการตัดสินจำคุกครั้งนี้สะท้อนถึง ความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตที่ขาดการกำกับดูแล และเป็นบทเรียนสำคัญให้ทั้งนักลงทุนและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกต้องเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การตัดสินจำคุก Do Kwon ➡️ โทษจำคุก 15 ปี จากคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน ✅ กลไก UST ที่ล้มเหลว ➡️ ระบบ burn-mint ทำให้เกิดการสร้าง LUNA มหาศาลและมูลค่าลดลง ✅ การบิดเบือนข้อมูล ➡️ Terra Protocol ถูกอ้างว่าจะรักษาเสถียรภาพ แต่แท้จริงใช้การซื้อขายเพื่อพยุงราคา ✅ ผลกระทบต่อวงการคริปโต ➡️ เป็นบทเรียนสำคัญต่อการกำกับดูแลและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ‼️ ความเสี่ยงของ Stablecoin ⛔ หากไม่มีสินทรัพย์รองรับจริง อาจเกิดการล่มสลายแบบ UST ‼️ การลงทุนที่ขาดการตรวจสอบ ⛔ ผลตอบแทนสูงผิดปกติ เช่น 20% APY อาจเป็นสัญญาณเตือนของการฉ้อโกง https://www.tomshardware.com/tech-industry/usd40-billion-plus-crypto-fraud-scheme-results-in-15-year-prison-sentence-for-its-creator-nine-criminal-counts-include-wire-fraud-and-money-laundering
    0 Comments 0 Shares 324 Views 0 Reviews
  • การหายตัวไปของผู้สร้าง Bitcoin

    เมื่อปี 2010–2011 บุคคลลึกลับที่ใช้นามแฝง Satoshi Nakamoto ได้หยุดการสื่อสารกับชุมชนคริปโต หลังจากสร้าง Bitcoin และวางรากฐานระบบบล็อกเชนที่เปลี่ยนโลกการเงินไปตลอดกาล ข้อความสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้คือ “I’ve moved on to other things” ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการจากไปโดยไม่หวนกลับมาอีก

    ผลงานที่เปลี่ยนโลก
    Bitcoin ไม่เพียงเป็นสกุลเงินดิจิทัลแรก แต่ยังเป็นการปฏิวัติแนวคิดเรื่อง การเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance) ที่ไม่ต้องพึ่งธนาคารหรือรัฐบาล การออกแบบระบบ Proof-of-Work และบล็อกเชนที่โปร่งใสทำให้เกิดแรงบันดาลใจต่อคริปโตอื่น ๆ และต่อยอดไปสู่เทคโนโลยี Web3, NFT และ DeFi ในปัจจุบัน

    ปริศนาตัวตนที่ยังไม่คลี่คลาย
    แม้มีการคาดเดามากมายว่า Satoshi อาจเป็นนักพัฒนาจากญี่ปุ่น นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่กลุ่มคน แต่จนถึงวันนี้ ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ตัวตนของเขายังคงเป็นหนึ่งในปริศนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกเทคโนโลยี และยิ่งทำให้ตำนานของ Bitcoin มีเสน่ห์มากขึ้น

    มรดกที่ยังคงอยู่
    แม้ผู้สร้างจะหายไป แต่ Bitcoin ยังคงเติบโตและเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่ามหาศาลที่สุดในโลก สะท้อนถึงพลังของแนวคิดที่ถูกวางไว้ตั้งแต่แรก และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่สามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่ต้องมีผู้สร้างคอยควบคุม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การหายตัวไปของ Satoshi Nakamoto
    ทิ้งข้อความสุดท้ายว่า “I’ve moved on to other things”

    ผลงานที่เปลี่ยนโลก
    Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกและวางรากฐานบล็อกเชน

    ปริศนาตัวตน
    ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า Satoshi เป็นใครจนถึงปัจจุบัน

    มรดกที่ยังคงอยู่
    Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก

    ความไม่แน่นอนของตัวตน
    การไม่รู้ว่าใครคือผู้สร้าง อาจทำให้เกิดการคาดเดาและข่าวลือที่บิดเบือน

    ความเสี่ยงในตลาดคริปโต
    การขาดผู้นำที่ชัดเจนทำให้ Bitcoin ขึ้นอยู่กับแรงตลาดและการเก็งกำไร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/bitcoin-creator-satoshi-disappeared-on-this-day-15-years-ago-leaving-a-final-public-message-ive-moved-on-to-other-things-true-identity-of-satoshi-nakamoto-entity-remains-unknown
    🕵️‍♂️ การหายตัวไปของผู้สร้าง Bitcoin เมื่อปี 2010–2011 บุคคลลึกลับที่ใช้นามแฝง Satoshi Nakamoto ได้หยุดการสื่อสารกับชุมชนคริปโต หลังจากสร้าง Bitcoin และวางรากฐานระบบบล็อกเชนที่เปลี่ยนโลกการเงินไปตลอดกาล ข้อความสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้คือ “I’ve moved on to other things” ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการจากไปโดยไม่หวนกลับมาอีก 💻 ผลงานที่เปลี่ยนโลก Bitcoin ไม่เพียงเป็นสกุลเงินดิจิทัลแรก แต่ยังเป็นการปฏิวัติแนวคิดเรื่อง การเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance) ที่ไม่ต้องพึ่งธนาคารหรือรัฐบาล การออกแบบระบบ Proof-of-Work และบล็อกเชนที่โปร่งใสทำให้เกิดแรงบันดาลใจต่อคริปโตอื่น ๆ และต่อยอดไปสู่เทคโนโลยี Web3, NFT และ DeFi ในปัจจุบัน 🌍 ปริศนาตัวตนที่ยังไม่คลี่คลาย แม้มีการคาดเดามากมายว่า Satoshi อาจเป็นนักพัฒนาจากญี่ปุ่น นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่กลุ่มคน แต่จนถึงวันนี้ ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ตัวตนของเขายังคงเป็นหนึ่งในปริศนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกเทคโนโลยี และยิ่งทำให้ตำนานของ Bitcoin มีเสน่ห์มากขึ้น 📈 มรดกที่ยังคงอยู่ แม้ผู้สร้างจะหายไป แต่ Bitcoin ยังคงเติบโตและเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่ามหาศาลที่สุดในโลก สะท้อนถึงพลังของแนวคิดที่ถูกวางไว้ตั้งแต่แรก และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่สามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่ต้องมีผู้สร้างคอยควบคุม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การหายตัวไปของ Satoshi Nakamoto ➡️ ทิ้งข้อความสุดท้ายว่า “I’ve moved on to other things” ✅ ผลงานที่เปลี่ยนโลก ➡️ Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกและวางรากฐานบล็อกเชน ✅ ปริศนาตัวตน ➡️ ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า Satoshi เป็นใครจนถึงปัจจุบัน ✅ มรดกที่ยังคงอยู่ ➡️ Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก ‼️ ความไม่แน่นอนของตัวตน ⛔ การไม่รู้ว่าใครคือผู้สร้าง อาจทำให้เกิดการคาดเดาและข่าวลือที่บิดเบือน ‼️ ความเสี่ยงในตลาดคริปโต ⛔ การขาดผู้นำที่ชัดเจนทำให้ Bitcoin ขึ้นอยู่กับแรงตลาดและการเก็งกำไร https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/bitcoin-creator-satoshi-disappeared-on-this-day-15-years-ago-leaving-a-final-public-message-ive-moved-on-to-other-things-true-identity-of-satoshi-nakamoto-entity-remains-unknown
    0 Comments 0 Shares 347 Views 0 Reviews
  • Strategy บริษัทสะสม Bitcoin ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100

    รายงานจาก The Star ระบุว่า Strategy ซึ่งเป็นบริษัทที่เปลี่ยนจากซอฟต์แวร์มาเป็นการลงทุนใน Bitcoin ตั้งแต่ปี 2020 ยังคงรักษาตำแหน่งในดัชนี Nasdaq 100 ต่อไปในเดือนธันวาคม 2025 แม้ราคาหุ้นจะผันผวนตามการเคลื่อนไหวของ Bitcoin อย่างมาก.

    นักวิเคราะห์บางรายตั้งคำถามว่าโมเดลธุรกิจของ Strategy ที่เน้นการซื้อและถือครอง Bitcoin นั้นใกล้เคียงกับกองทุนลงทุนมากกว่าบริษัทเทคโนโลยีทั่วไป และมีความเสี่ยงสูงต่อความผันผวนของตลาดคริปโต. อย่างไรก็ตาม การที่ Strategy ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100 แสดงให้เห็นถึงมูลค่าตลาดที่ยังคงแข็งแกร่ง.

    ดัชนี Nasdaq 100 มีการปรับเปลี่ยนรายชื่อบริษัท โดยบางบริษัทถูกถอดออก เช่น Biogen และ Lululemon Athletica ขณะที่บริษัทใหม่ ๆ เช่น Seagate Technology และ Western Digital ถูกเพิ่มเข้ามา แต่ Strategy ยังคงอยู่ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด.

    นอกจากนี้ MSCI ผู้จัดทำดัชนีระดับโลกยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการมีอยู่ของบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในดัชนี และจะตัดสินใจในเดือนมกราคม 2026 ว่าจะถอด Strategy และบริษัทลักษณะเดียวกันออกจากดัชนีหรือไม่.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Strategy ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100
    เดิมเป็น MicroStrategy ก่อน pivot มาลงทุน Bitcoin
    ราคาหุ้นผันผวนตามการเคลื่อนไหวของ Bitcoin

    การปรับเปลี่ยนดัชนี Nasdaq 100
    บริษัทบางรายถูกถอดออก เช่น Biogen, Lululemon
    บริษัทใหม่ เช่น Seagate และ Western Digital ถูกเพิ่มเข้ามา

    ความกังวลจากนักวิเคราะห์และ MSCI
    โมเดลธุรกิจคล้ายกองทุนมากกว่าบริษัทเทคโนโลยี
    MSCI อาจพิจารณาถอดออกจากดัชนีในปี 2026

    ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน
    หุ้น Strategy มีความเสี่ยงสูงจากความผันผวนของ Bitcoin
    การเปลี่ยนแปลงดัชนีในอนาคตอาจกระทบต่อมูลค่าการลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/13/bitcoin-hoarder-company-strategy-remains-in-nasdaq-100
    💹 Strategy บริษัทสะสม Bitcoin ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100 รายงานจาก The Star ระบุว่า Strategy ซึ่งเป็นบริษัทที่เปลี่ยนจากซอฟต์แวร์มาเป็นการลงทุนใน Bitcoin ตั้งแต่ปี 2020 ยังคงรักษาตำแหน่งในดัชนี Nasdaq 100 ต่อไปในเดือนธันวาคม 2025 แม้ราคาหุ้นจะผันผวนตามการเคลื่อนไหวของ Bitcoin อย่างมาก. นักวิเคราะห์บางรายตั้งคำถามว่าโมเดลธุรกิจของ Strategy ที่เน้นการซื้อและถือครอง Bitcoin นั้นใกล้เคียงกับกองทุนลงทุนมากกว่าบริษัทเทคโนโลยีทั่วไป และมีความเสี่ยงสูงต่อความผันผวนของตลาดคริปโต. อย่างไรก็ตาม การที่ Strategy ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100 แสดงให้เห็นถึงมูลค่าตลาดที่ยังคงแข็งแกร่ง. ดัชนี Nasdaq 100 มีการปรับเปลี่ยนรายชื่อบริษัท โดยบางบริษัทถูกถอดออก เช่น Biogen และ Lululemon Athletica ขณะที่บริษัทใหม่ ๆ เช่น Seagate Technology และ Western Digital ถูกเพิ่มเข้ามา แต่ Strategy ยังคงอยู่ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด. นอกจากนี้ MSCI ผู้จัดทำดัชนีระดับโลกยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการมีอยู่ของบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในดัชนี และจะตัดสินใจในเดือนมกราคม 2026 ว่าจะถอด Strategy และบริษัทลักษณะเดียวกันออกจากดัชนีหรือไม่. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Strategy ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100 ➡️ เดิมเป็น MicroStrategy ก่อน pivot มาลงทุน Bitcoin ➡️ ราคาหุ้นผันผวนตามการเคลื่อนไหวของ Bitcoin ✅ การปรับเปลี่ยนดัชนี Nasdaq 100 ➡️ บริษัทบางรายถูกถอดออก เช่น Biogen, Lululemon ➡️ บริษัทใหม่ เช่น Seagate และ Western Digital ถูกเพิ่มเข้ามา ✅ ความกังวลจากนักวิเคราะห์และ MSCI ➡️ โมเดลธุรกิจคล้ายกองทุนมากกว่าบริษัทเทคโนโลยี ➡️ MSCI อาจพิจารณาถอดออกจากดัชนีในปี 2026 ‼️ ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน ⛔ หุ้น Strategy มีความเสี่ยงสูงจากความผันผวนของ Bitcoin ⛔ การเปลี่ยนแปลงดัชนีในอนาคตอาจกระทบต่อมูลค่าการลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/13/bitcoin-hoarder-company-strategy-remains-in-nasdaq-100
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bitcoin hoarding company Strategy remains in Nasdaq 100
    Dec 12 (Reuters) - Bitcoin hoarding giant Strategy clung to its place in the Nasdaq 100 on Friday, continuing its year-long stint in the benchmark at a time where analysts have raised questions over its business model.
    0 Comments 0 Shares 241 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251212 #securityonline


    ช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ของ WordPress
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน WordPress โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ระดับต่ำอย่าง “Subscriber” สามารถยกระดับสิทธิ์และเข้ายึดครองเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน penci_update_option ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงการตั้งค่าไซต์สำคัญโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนค่า เช่น เปิดให้ใครก็สมัครสมาชิกได้ และตั้งค่าให้ผู้ใช้ใหม่เป็น “Administrator” ได้ทันที นักพัฒนาของธีมได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 8.6.9.1 โดยเพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ใช้ธีมนี้จึงควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดครอง
    https://securityonline.info/cve-2025-64188-cvss-9-8-critical-soledad-theme-flaw-lets-subscribers-take-over-wordpress-sites

    แคมเปญฟิชชิ่ง Okta SSO ปลอมตัวเป็นการแจ้งผลเงินเดือน
    ในช่วงที่พนักงานกำลังรอการประเมินผลงานสิ้นปี มีการโจมตีฟิชชิ่งที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยใช้การหลอกลวงผ่านอีเมลที่ปลอมเป็นฝ่าย HR หรือระบบเงินเดือน เช่น ADP หรือ Salesforce หัวข้ออีเมลมักจะเป็น “Review Your 2026 Salary & Bonus” เพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบเปิด เมื่อเหยื่อเข้าสู่หน้าเว็บปลอม ระบบฟิชชิ่งนี้จะทำงานเหมือนจริงโดยใช้ proxy เชื่อมต่อกับ Okta ขององค์กร ทำให้หน้าล็อกอินดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นสคริปต์ inject.js จะดักจับรหัสผ่านและคุกกี้ session สำคัญเพื่อยึดครองบัญชี ผู้โจมตียังใช้เทคนิคซ่อนเว็บไซต์ผ่าน Cloudflare เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นการโจมตีที่อันตรายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/sophisticated-okta-sso-phishing-bypasses-defenses-to-steal-session-tokens-with-salary-review-lures

    ValleyRAT หลุดสู่สาธารณะ กลายเป็นอาวุธไซเบอร์ในมืออาชญากร
    ValleyRAT ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสอดแนมระดับสูง ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามสาธารณะหลังตัวสร้าง (builder) ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ใครก็สามารถสร้างและปรับแต่งมัลแวร์นี้ได้เอง รายงานจาก Check Point Research ระบุว่ามีการตรวจพบการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 85% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ ValleyRAT คือปลั๊กอิน Driver ที่ทำงานในระดับ kernel สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของ Windows 11 ได้ และยังลบไดรเวอร์ป้องกันของระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้ด้วย เดิมที ValleyRAT เชื่อมโยงกับกลุ่ม Silver Fox แต่เมื่อโค้ดถูกปล่อยสู่สาธารณะ การระบุแหล่งที่มาแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
    https://securityonline.info/military-grade-valleyrat-goes-rogue-kernel-rootkit-builder-leak-triggers-massive-global-surge

    ช่องโหว่ GeoServer XXE ถูกโจมตีจริง เสี่ยงขโมยข้อมูลและสแกนระบบภายใน

    CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2025-58360 ของ GeoServer เข้าสู่รายการ Known Exploited Vulnerabilities เนื่องจากพบการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำสั่ง XML ที่อ้างอิงภายนอกเพื่ออ่านไฟล์ลับในเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้เป็น SSRF เพื่อเข้าถึงระบบภายในที่ถูกไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ระบบล่มด้วยการโจมตีแบบ DoS ได้อีกด้วย CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ภายในวันที่ 1 มกราคม 2026 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-geoserver-xxe-flaw-under-active-attack-risks-data-theft-internal-network-scanning

    Ransomware 01flip โจมตีโครงสร้างพื้นฐานใน APAC ด้วย Rust และ Sliver
    มีการค้นพบแรนซัมแวร์ใหม่ชื่อ “01flip” ที่ถูกเขียนด้วยภาษา Rust ทำให้สามารถโจมตีได้ทั้ง Windows และ Linux โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์และไต้หวัน กลุ่มผู้โจมตีใช้วิธีเจาะระบบด้วยช่องโหว่เก่าอย่าง CVE-2019-11580 และติดตั้ง Sliver ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับควบคุมระบบจากระยะไกล น่าสนใจว่ามีโค้ดบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเข้ารหัสไฟล์ที่มีนามสกุล “lockbit” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม LockBit หรือเป็นการสร้างหลักฐานปลอม แม้จำนวนเหยื่อยังไม่มาก แต่มีการยืนยันว่ามีข้อมูลรั่วไหลไปขายในดาร์กเว็บแล้ว
    https://securityonline.info/new-01flip-ransomware-hits-apac-critical-infra-cross-platform-rust-weapon-uses-sliver-c2

    ช่องโหว่ Apache Struts 2 เสี่ยงทำเซิร์ฟเวอร์ล่ม
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Struts 2 ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กยอดนิยมสำหรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Java ช่องโหว่นี้ชื่อว่า CVE-2025-66675 เกิดจากการจัดการไฟล์อัปโหลดที่ผิดพลาด ทำให้ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบออก ส่งผลให้พื้นที่ดิสก์เต็มอย่างรวดเร็ว หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ เซิร์ฟเวอร์อาจหยุดทำงานทันที นักวิจัยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Struts 6.8.0 หรือ 7.1.1 และหากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตั้งโฟลเดอร์ชั่วคราวแยกไว้ หรือปิดการใช้งานฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/apache-struts-2-dos-flaw-cve-2025-66775-risks-server-crash-via-file-leak-in-multipart-request-processing

    EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040
    สหภาพยุโรปประกาศข้อตกลงครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2040 ถือเป็นเป้าหมายที่สูงกว่าหลายประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน การเจรจาครั้งนี้มีทั้งเสียงคัดค้านจากบางประเทศที่กังวลเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรม และเสียงสนับสนุนจากประเทศที่เร่งผลักดันการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงนี้ยังมีการผ่อนปรน เช่น เลื่อนการเก็บภาษีคาร์บอนเชื้อเพลิงไปปี 2028 และอนุญาตให้ใช้เครดิตคาร์บอนระหว่างประเทศบางส่วน แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ยุโรปเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050
    https://securityonline.info/eus-green-mandate-parliament-pledges-90-emissions-cut-by-2040

    Instagram เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Your Algorithm” ให้ผู้ใช้ควบคุมฟีดได้เอง
    Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Your Algorithm” ที่ให้ผู้ใช้เห็นและปรับแต่งหัวข้อที่ระบบแนะนำในหน้า Reels ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกดูหัวข้อที่สนใจมากขึ้นหรือน้อยลง รวมถึงแชร์หัวข้อที่ตนสนใจไปยัง Stories ได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ AI เป็นหลักในการปรับแต่ง และถือเป็นครั้งแรกที่ Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Meta ใช้ AI สร้างเนื้อหาที่เกินจริง แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้
    https://securityonline.info/youre-in-control-instagram-launches-your-algorithm-feature-for-reels

    Qualcomm เข้าซื้อ Ventana เสริมทัพพัฒนา CPU RISC-V
    Qualcomm ประกาศเข้าซื้อกิจการ Ventana Micro Systems เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนา CPU โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังได้รับความนิยม การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ Qualcomm สามารถผสานความเชี่ยวชาญของ Ventana เข้ากับการพัฒนา CPU Oryon ของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ AI มากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของ Qualcomm ที่ต้องการลดการพึ่งพา Arm และสร้างอิสระทางเทคโนโลยีในระยะยาว
    https://securityonline.info/qualcomm-buys-ventana-to-double-down-on-risc-v-and-custom-oryon-cpu

    Intel แพ้คดีต่อต้านการผูกขาด ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร
    หลังจากต่อสู้คดีต่อต้านการผูกขาดกับสหภาพยุโรปยาวนานถึง 16 ปี Intel ก็แพ้การอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ศาลตัดสินให้ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยถูกปรับ 376 ล้านยูโร คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดย Intel ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง HP, Acer และ Lenovo เพื่อชะลอหรือหยุดการใช้ชิป AMD ถือเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยตรง แม้ Intel เคยชนะบางส่วนของคดี แต่สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ ซึ่งนับเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์วงการเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/16-year-battle-ends-intel-loses-appeal-must-pay-e237-million-eu-fine

    องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง
    ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026
    https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps

    Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล
    Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม
    https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig

    แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม
    กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล
    https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Zoom Rooms เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Zoom ได้ออกแพตช์แก้ไขด่วนสำหรับ Zoom Rooms หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรเป็นความลับได้ โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Windows ที่มีช่องโหว่ CVE-2025-67460 ซึ่งเกิดจากการป้องกันการ downgrade ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอาจถูกบังคับให้กลับไปใช้เวอร์ชันที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใน macOS ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-67461 ที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลผ่านการจัดการไฟล์ผิดพลาด Zoom ได้ปล่อยเวอร์ชัน 6.6.0 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-zoom-rooms-flaw-risks-privilege-escalation-via-downgrade-protection-bypass

    องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง
    ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026
    https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps

    Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล
    Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม
    https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig

    แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม
    กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล
    https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes


    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251212 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ของ WordPress มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน WordPress โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ระดับต่ำอย่าง “Subscriber” สามารถยกระดับสิทธิ์และเข้ายึดครองเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน penci_update_option ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงการตั้งค่าไซต์สำคัญโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนค่า เช่น เปิดให้ใครก็สมัครสมาชิกได้ และตั้งค่าให้ผู้ใช้ใหม่เป็น “Administrator” ได้ทันที นักพัฒนาของธีมได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 8.6.9.1 โดยเพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ใช้ธีมนี้จึงควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดครอง 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-64188-cvss-9-8-critical-soledad-theme-flaw-lets-subscribers-take-over-wordpress-sites 🎣 แคมเปญฟิชชิ่ง Okta SSO ปลอมตัวเป็นการแจ้งผลเงินเดือน ในช่วงที่พนักงานกำลังรอการประเมินผลงานสิ้นปี มีการโจมตีฟิชชิ่งที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยใช้การหลอกลวงผ่านอีเมลที่ปลอมเป็นฝ่าย HR หรือระบบเงินเดือน เช่น ADP หรือ Salesforce หัวข้ออีเมลมักจะเป็น “Review Your 2026 Salary & Bonus” เพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบเปิด เมื่อเหยื่อเข้าสู่หน้าเว็บปลอม ระบบฟิชชิ่งนี้จะทำงานเหมือนจริงโดยใช้ proxy เชื่อมต่อกับ Okta ขององค์กร ทำให้หน้าล็อกอินดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นสคริปต์ inject.js จะดักจับรหัสผ่านและคุกกี้ session สำคัญเพื่อยึดครองบัญชี ผู้โจมตียังใช้เทคนิคซ่อนเว็บไซต์ผ่าน Cloudflare เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นการโจมตีที่อันตรายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-okta-sso-phishing-bypasses-defenses-to-steal-session-tokens-with-salary-review-lures 💻 ValleyRAT หลุดสู่สาธารณะ กลายเป็นอาวุธไซเบอร์ในมืออาชญากร ValleyRAT ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสอดแนมระดับสูง ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามสาธารณะหลังตัวสร้าง (builder) ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ใครก็สามารถสร้างและปรับแต่งมัลแวร์นี้ได้เอง รายงานจาก Check Point Research ระบุว่ามีการตรวจพบการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 85% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ ValleyRAT คือปลั๊กอิน Driver ที่ทำงานในระดับ kernel สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของ Windows 11 ได้ และยังลบไดรเวอร์ป้องกันของระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้ด้วย เดิมที ValleyRAT เชื่อมโยงกับกลุ่ม Silver Fox แต่เมื่อโค้ดถูกปล่อยสู่สาธารณะ การระบุแหล่งที่มาแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป 🔗 https://securityonline.info/military-grade-valleyrat-goes-rogue-kernel-rootkit-builder-leak-triggers-massive-global-surge 🌐 ช่องโหว่ GeoServer XXE ถูกโจมตีจริง เสี่ยงขโมยข้อมูลและสแกนระบบภายใน CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2025-58360 ของ GeoServer เข้าสู่รายการ Known Exploited Vulnerabilities เนื่องจากพบการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำสั่ง XML ที่อ้างอิงภายนอกเพื่ออ่านไฟล์ลับในเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้เป็น SSRF เพื่อเข้าถึงระบบภายในที่ถูกไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ระบบล่มด้วยการโจมตีแบบ DoS ได้อีกด้วย CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ภายในวันที่ 1 มกราคม 2026 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/cisa-kev-alert-geoserver-xxe-flaw-under-active-attack-risks-data-theft-internal-network-scanning 💥 Ransomware 01flip โจมตีโครงสร้างพื้นฐานใน APAC ด้วย Rust และ Sliver มีการค้นพบแรนซัมแวร์ใหม่ชื่อ “01flip” ที่ถูกเขียนด้วยภาษา Rust ทำให้สามารถโจมตีได้ทั้ง Windows และ Linux โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์และไต้หวัน กลุ่มผู้โจมตีใช้วิธีเจาะระบบด้วยช่องโหว่เก่าอย่าง CVE-2019-11580 และติดตั้ง Sliver ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับควบคุมระบบจากระยะไกล น่าสนใจว่ามีโค้ดบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเข้ารหัสไฟล์ที่มีนามสกุล “lockbit” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม LockBit หรือเป็นการสร้างหลักฐานปลอม แม้จำนวนเหยื่อยังไม่มาก แต่มีการยืนยันว่ามีข้อมูลรั่วไหลไปขายในดาร์กเว็บแล้ว 🔗 https://securityonline.info/new-01flip-ransomware-hits-apac-critical-infra-cross-platform-rust-weapon-uses-sliver-c2 🛡️ ช่องโหว่ Apache Struts 2 เสี่ยงทำเซิร์ฟเวอร์ล่ม มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Struts 2 ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กยอดนิยมสำหรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Java ช่องโหว่นี้ชื่อว่า CVE-2025-66675 เกิดจากการจัดการไฟล์อัปโหลดที่ผิดพลาด ทำให้ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบออก ส่งผลให้พื้นที่ดิสก์เต็มอย่างรวดเร็ว หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ เซิร์ฟเวอร์อาจหยุดทำงานทันที นักวิจัยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Struts 6.8.0 หรือ 7.1.1 และหากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตั้งโฟลเดอร์ชั่วคราวแยกไว้ หรือปิดการใช้งานฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/apache-struts-2-dos-flaw-cve-2025-66775-risks-server-crash-via-file-leak-in-multipart-request-processing 🌍 EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040 สหภาพยุโรปประกาศข้อตกลงครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2040 ถือเป็นเป้าหมายที่สูงกว่าหลายประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน การเจรจาครั้งนี้มีทั้งเสียงคัดค้านจากบางประเทศที่กังวลเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรม และเสียงสนับสนุนจากประเทศที่เร่งผลักดันการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงนี้ยังมีการผ่อนปรน เช่น เลื่อนการเก็บภาษีคาร์บอนเชื้อเพลิงไปปี 2028 และอนุญาตให้ใช้เครดิตคาร์บอนระหว่างประเทศบางส่วน แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ยุโรปเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 🔗 https://securityonline.info/eus-green-mandate-parliament-pledges-90-emissions-cut-by-2040 📱 Instagram เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Your Algorithm” ให้ผู้ใช้ควบคุมฟีดได้เอง Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Your Algorithm” ที่ให้ผู้ใช้เห็นและปรับแต่งหัวข้อที่ระบบแนะนำในหน้า Reels ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกดูหัวข้อที่สนใจมากขึ้นหรือน้อยลง รวมถึงแชร์หัวข้อที่ตนสนใจไปยัง Stories ได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ AI เป็นหลักในการปรับแต่ง และถือเป็นครั้งแรกที่ Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Meta ใช้ AI สร้างเนื้อหาที่เกินจริง แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ 🔗 https://securityonline.info/youre-in-control-instagram-launches-your-algorithm-feature-for-reels 💻 Qualcomm เข้าซื้อ Ventana เสริมทัพพัฒนา CPU RISC-V Qualcomm ประกาศเข้าซื้อกิจการ Ventana Micro Systems เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนา CPU โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังได้รับความนิยม การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ Qualcomm สามารถผสานความเชี่ยวชาญของ Ventana เข้ากับการพัฒนา CPU Oryon ของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ AI มากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของ Qualcomm ที่ต้องการลดการพึ่งพา Arm และสร้างอิสระทางเทคโนโลยีในระยะยาว 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-buys-ventana-to-double-down-on-risc-v-and-custom-oryon-cpu ⚖️ Intel แพ้คดีต่อต้านการผูกขาด ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร หลังจากต่อสู้คดีต่อต้านการผูกขาดกับสหภาพยุโรปยาวนานถึง 16 ปี Intel ก็แพ้การอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ศาลตัดสินให้ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยถูกปรับ 376 ล้านยูโร คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดย Intel ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง HP, Acer และ Lenovo เพื่อชะลอหรือหยุดการใช้ชิป AMD ถือเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยตรง แม้ Intel เคยชนะบางส่วนของคดี แต่สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ ซึ่งนับเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์วงการเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/16-year-battle-ends-intel-loses-appeal-must-pay-e237-million-eu-fine 🧑‍💻 องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026 🔗 https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps 🔐 Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล 🔗 https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes 📹 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Zoom Rooms เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Zoom ได้ออกแพตช์แก้ไขด่วนสำหรับ Zoom Rooms หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรเป็นความลับได้ โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Windows ที่มีช่องโหว่ CVE-2025-67460 ซึ่งเกิดจากการป้องกันการ downgrade ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอาจถูกบังคับให้กลับไปใช้เวอร์ชันที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใน macOS ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-67461 ที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลผ่านการจัดการไฟล์ผิดพลาด Zoom ได้ปล่อยเวอร์ชัน 6.6.0 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-zoom-rooms-flaw-risks-privilege-escalation-via-downgrade-protection-bypass 🧑‍💻 องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026 🔗 https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps 🔐 Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล 🔗 https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes
    0 Comments 0 Shares 688 Views 0 Reviews
  • Robinhood บุกอินโดนีเซียด้วยการซื้อกิจการโบรกเกอร์และผู้ให้บริการคริปโต

    Robinhood Markets ประกาศเข้าซื้อกิจการ Buana Capital Sekuritas (บริษัทโบรกเกอร์ในอินโดนีเซีย) และ Pedagang Aset Kripto (ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต) เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่หนึ่งในตลาดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    อินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีการยอมรับคริปโตสูงมาก โดยมีนักลงทุนในตลาดทุนกว่า 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโตมากกว่า 17 ล้านคน ทำให้ Robinhood มองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตและสอดคล้องกับพันธกิจ “Democratize Finance for All”

    การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยให้ Robinhood สามารถ ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงผลิตภัณฑ์คริปโตได้รวดเร็วขึ้น โดยมี Pieter Tanuri เจ้าของใหญ่ของทั้งสองบริษัทในอินโดนีเซีย เข้ามาร่วมเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ให้กับ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะปิดการซื้อขายในครึ่งแรกของปี 2026

    ดีลนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Robinhood กำลังเติบโตอย่างมาก โดยปี 2025 หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 268% และเพิ่งถูกบรรจุเข้าสู่ดัชนี S&P 500 รวมถึงการขยายไปสู่ตลาดใหม่อย่าง prediction markets อีกด้วย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Robinhood เข้าซื้อกิจการในอินโดนีเซีย
    Buana Capital Sekuritas และ Pedagang Aset Kripto

    ศักยภาพตลาดอินโดนีเซีย
    นักลงทุนตลาดทุน 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโต 17 ล้านคน

    กลยุทธ์การขยายธุรกิจ
    การซื้อกิจการช่วยให้ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและเข้าถึงคริปโตได้เร็วขึ้น

    ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์
    Pieter Tanuri จะร่วมเป็นที่ปรึกษาให้ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น

    การเติบโตของ Robinhood
    หุ้นเพิ่มขึ้น 268% ในปี 2025 และเข้าดัชนี S&P 500

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขันและกฎระเบียบ
    ตลาดอินโดนีเซียมีผู้เล่นคริปโตจำนวนมาก และกฎระเบียบอาจเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/robinhood-to-enter-indonesia-with-brokerage-crypto-trader-acquisition
    💹 Robinhood บุกอินโดนีเซียด้วยการซื้อกิจการโบรกเกอร์และผู้ให้บริการคริปโต Robinhood Markets ประกาศเข้าซื้อกิจการ Buana Capital Sekuritas (บริษัทโบรกเกอร์ในอินโดนีเซีย) และ Pedagang Aset Kripto (ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต) เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่หนึ่งในตลาดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีการยอมรับคริปโตสูงมาก โดยมีนักลงทุนในตลาดทุนกว่า 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโตมากกว่า 17 ล้านคน ทำให้ Robinhood มองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตและสอดคล้องกับพันธกิจ “Democratize Finance for All” การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยให้ Robinhood สามารถ ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงผลิตภัณฑ์คริปโตได้รวดเร็วขึ้น โดยมี Pieter Tanuri เจ้าของใหญ่ของทั้งสองบริษัทในอินโดนีเซีย เข้ามาร่วมเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ให้กับ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะปิดการซื้อขายในครึ่งแรกของปี 2026 ดีลนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Robinhood กำลังเติบโตอย่างมาก โดยปี 2025 หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 268% และเพิ่งถูกบรรจุเข้าสู่ดัชนี S&P 500 รวมถึงการขยายไปสู่ตลาดใหม่อย่าง prediction markets อีกด้วย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Robinhood เข้าซื้อกิจการในอินโดนีเซีย ➡️ Buana Capital Sekuritas และ Pedagang Aset Kripto ✅ ศักยภาพตลาดอินโดนีเซีย ➡️ นักลงทุนตลาดทุน 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโต 17 ล้านคน ✅ กลยุทธ์การขยายธุรกิจ ➡️ การซื้อกิจการช่วยให้ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและเข้าถึงคริปโตได้เร็วขึ้น ✅ ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ ➡️ Pieter Tanuri จะร่วมเป็นที่ปรึกษาให้ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น ✅ การเติบโตของ Robinhood ➡️ หุ้นเพิ่มขึ้น 268% ในปี 2025 และเข้าดัชนี S&P 500 ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขันและกฎระเบียบ ⛔ ตลาดอินโดนีเซียมีผู้เล่นคริปโตจำนวนมาก และกฎระเบียบอาจเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/robinhood-to-enter-indonesia-with-brokerage-crypto-trader-acquisition
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Robinhood to enter Indonesia with brokerage, crypto trader acquisition
    Dec 7 (Reuters) - Robinhood Markets will acquire Indonesian brokerage firm Buana Capital Sekuritas and licensed digital asset trader Pedagang Aset Kripto, marking the retail trading platform's entry into one of Southeast Asia's major crypto hubs, the company said in a blog post on Sunday.
    0 Comments 0 Shares 360 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro
    เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review

    การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3
    ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง
    https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus

    เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli
    นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี
    https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it

    Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX
    เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division

    Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง
    บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way

    AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI
    สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space

    หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac
    Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it

    Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt
    เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it

    Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา
    ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you

    Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง
    หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026
    https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why

    การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware
    หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure

    Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026
    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026

    DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง
    อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player

    Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์
    Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers

    Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI
    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous

    EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring

    ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT
    เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย
    https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors

    แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code

    Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง
    Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้
    https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in

    CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม”
    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem

    ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI
    บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง”
    https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race

    ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt

    ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน
    หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว
    CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร
    หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🪑 เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review 💿 การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3 ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus 📱 เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี 🔗 https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it 💻 Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division 🌐 Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way 🚀 AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space 🤖 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it 🖥️ Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it 💼 Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you 🤖 Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why ⚠️ การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure 📡 Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026 🎶 DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player 📺 Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers 🤔 Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous 🛡️ EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring 📡 ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors 💻 แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code 📱 Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in 🤖 CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม” Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem 🚀 ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง” 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race 🎙️ ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt 📱 ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🛡️ หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 🤖 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️ EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️ ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰 Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    0 Comments 0 Shares 1258 Views 0 Reviews
  • นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เผย คณะกรรมการธุรกรรมยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีสำคัญ มูลค่ารวมกว่า 10,165 ล้านบาท คดีนายเฉิน จื้อ กับพวก ผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group คดีนายก๊ก อาน และคดีน.ส.แตงไทย เชื่อมโยงเส้นทางเงินไปยังนายเบน สมิธ ขยายผลคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เครือข่ายฉ้อโกงออนไลน์ ค้ามนุษย์ ฟอกเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล มีฐานใหญ่ในกัมพูชา ฟอกเงินโดยเปลี่ยนสภาพเงินแต่ละประเทศกับสินทรัพย์ดิจิทัล หลอกลวงหลายรูปแบบ หลายขั้นตอน ในลักษณะ ไฮบริดแสกม รวมถึงคดีที่พบข้อมูลการทำธุรกรรม เชื่อมโยงนายเบน สมิธ โดยทรัพย์สินที่ยึดได้มีหลายรายการ อาทิ ที่ดิน เรือยอร์ช และรถยนต์หรู
    นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เผย คณะกรรมการธุรกรรมยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีสำคัญ มูลค่ารวมกว่า 10,165 ล้านบาท คดีนายเฉิน จื้อ กับพวก ผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group คดีนายก๊ก อาน และคดีน.ส.แตงไทย เชื่อมโยงเส้นทางเงินไปยังนายเบน สมิธ ขยายผลคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เครือข่ายฉ้อโกงออนไลน์ ค้ามนุษย์ ฟอกเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล มีฐานใหญ่ในกัมพูชา ฟอกเงินโดยเปลี่ยนสภาพเงินแต่ละประเทศกับสินทรัพย์ดิจิทัล หลอกลวงหลายรูปแบบ หลายขั้นตอน ในลักษณะ ไฮบริดแสกม รวมถึงคดีที่พบข้อมูลการทำธุรกรรม เชื่อมโยงนายเบน สมิธ โดยทรัพย์สินที่ยึดได้มีหลายรายการ อาทิ ที่ดิน เรือยอร์ช และรถยนต์หรู
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 608 Views 0 0 Reviews
  • วิธีตั้งค่าที่ปลอดภัยในการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล

    บทความจาก Hackread ได้อธิบายแนวทางการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัย โดยเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่มั่นคง การเลือกกระเป๋าเงินที่เหมาะสม และการปฏิบัติที่รอบคอบในการทำธุรกรรม เพื่อป้องกันการสูญเสียจากการโจมตีหรือความผิดพลาดที่เกิดจากความประมาท

    เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบ อุปกรณ์ที่ใช้เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ต้องมั่นใจว่าไม่มีมัลแวร์หรือ keylogger แฝงอยู่ และควรอัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้งานบน Wi-Fi สาธารณะ ที่อาจถูกดักจับข้อมูลได้ง่าย

    ในด้านกระเป๋าเงินดิจิทัล บทความแนะนำให้ใช้ กลยุทธ์ผสมผสานระหว่าง Hot Wallet และ Cold Wallet โดยเก็บจำนวนเล็ก ๆ ไว้ใน Hot Wallet เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรม แต่เก็บสินทรัพย์หลักไว้ใน Cold Wallet ที่ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทั้งปกป้อง Recovery Phrase ด้วยการเขียนเก็บไว้บนกระดาษหรือแผ่นโลหะ และเก็บในที่ปลอดภัย เช่น ตู้เซฟหรือกล่องฝากธนาคาร

    นอกจากนี้ยังเน้นการสร้าง นิสัยที่ปลอดภัยในการทำธุรกรรม เช่น ตรวจสอบที่อยู่ปลายทางทุกครั้งก่อนยืนยัน ใช้เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ และหยุดชั่วคราวหากพบสิ่งผิดปกติ รวมถึงการทบทวนระบบความปลอดภัยเป็นประจำ เพื่อปรับปรุงให้ทันกับภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก Web3

    สรุปสาระสำคัญ
    สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
    อัปเดตระบบและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัย
    หลีกเลี่ยงการใช้งานบน Wi-Fi สาธารณะ

    การเลือกกระเป๋าเงินดิจิทัล
    ใช้ Hot Wallet สำหรับธุรกรรมเล็ก ๆ
    เก็บสินทรัพย์หลักใน Cold Wallet

    การปกป้อง Recovery Phrase
    เขียนเก็บไว้บนกระดาษหรือแผ่นโลหะ
    เก็บในตู้เซฟหรือกล่องฝากธนาคาร

    นิสัยที่ปลอดภัยในการทำธุรกรรม
    ตรวจสอบที่อยู่ปลายทางทุกครั้ง
    ใช้เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้และหยุดหากพบสิ่งผิดปกติ

    ข้อควรระวัง
    หากอุปกรณ์ติดมัลแวร์ กระเป๋าเงินจะถูกเจาะได้ทันที
    การละเลยการทบทวนระบบความปลอดภัยทำให้เสี่ยงต่อภัยคุกคามใหม่ ๆ

    https://hackread.com/what-secure-setup-looks-storing-digital-assets/
    🔐 วิธีตั้งค่าที่ปลอดภัยในการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล บทความจาก Hackread ได้อธิบายแนวทางการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัย โดยเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่มั่นคง การเลือกกระเป๋าเงินที่เหมาะสม และการปฏิบัติที่รอบคอบในการทำธุรกรรม เพื่อป้องกันการสูญเสียจากการโจมตีหรือความผิดพลาดที่เกิดจากความประมาท เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบ อุปกรณ์ที่ใช้เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ต้องมั่นใจว่าไม่มีมัลแวร์หรือ keylogger แฝงอยู่ และควรอัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้งานบน Wi-Fi สาธารณะ ที่อาจถูกดักจับข้อมูลได้ง่าย ในด้านกระเป๋าเงินดิจิทัล บทความแนะนำให้ใช้ กลยุทธ์ผสมผสานระหว่าง Hot Wallet และ Cold Wallet โดยเก็บจำนวนเล็ก ๆ ไว้ใน Hot Wallet เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรม แต่เก็บสินทรัพย์หลักไว้ใน Cold Wallet ที่ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทั้งปกป้อง Recovery Phrase ด้วยการเขียนเก็บไว้บนกระดาษหรือแผ่นโลหะ และเก็บในที่ปลอดภัย เช่น ตู้เซฟหรือกล่องฝากธนาคาร นอกจากนี้ยังเน้นการสร้าง นิสัยที่ปลอดภัยในการทำธุรกรรม เช่น ตรวจสอบที่อยู่ปลายทางทุกครั้งก่อนยืนยัน ใช้เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ และหยุดชั่วคราวหากพบสิ่งผิดปกติ รวมถึงการทบทวนระบบความปลอดภัยเป็นประจำ เพื่อปรับปรุงให้ทันกับภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก Web3 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ➡️ อัปเดตระบบและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัย ➡️ หลีกเลี่ยงการใช้งานบน Wi-Fi สาธารณะ ✅ การเลือกกระเป๋าเงินดิจิทัล ➡️ ใช้ Hot Wallet สำหรับธุรกรรมเล็ก ๆ ➡️ เก็บสินทรัพย์หลักใน Cold Wallet ✅ การปกป้อง Recovery Phrase ➡️ เขียนเก็บไว้บนกระดาษหรือแผ่นโลหะ ➡️ เก็บในตู้เซฟหรือกล่องฝากธนาคาร ✅ นิสัยที่ปลอดภัยในการทำธุรกรรม ➡️ ตรวจสอบที่อยู่ปลายทางทุกครั้ง ➡️ ใช้เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้และหยุดหากพบสิ่งผิดปกติ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ หากอุปกรณ์ติดมัลแวร์ กระเป๋าเงินจะถูกเจาะได้ทันที ⛔ การละเลยการทบทวนระบบความปลอดภัยทำให้เสี่ยงต่อภัยคุกคามใหม่ ๆ https://hackread.com/what-secure-setup-looks-storing-digital-assets/
    HACKREAD.COM
    What a Secure Setup Really Looks Like for Storing Digital Assets
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 282 Views 0 Reviews
  • X เปิดตลาดชื่อผู้ใช้ Premium+

    X (Twitter เดิม) เปิดตลาดซื้อขายชื่อผู้ใช้ (username marketplace) ให้กับสมาชิก Premium+ โดยแบ่งชื่อออกเป็นสองประเภทคือ Priority และ Rare ซึ่งชื่อ Rare เช่น @memelord, @phone หรือ @AIchat มีมูลค่าสูงถึงหลักล้านดอลลาร์ และมีเงื่อนไขการใช้งานเข้มงวดมาก

    X ประกาศเปิดตลาดซื้อขายชื่อผู้ใช้สำหรับสมาชิก Premium+ ที่จ่าย $40/เดือน หรือ $395/ปี โดยสามารถขอชื่อที่เคยถูกใช้งานแต่ปัจจุบันไม่ active แล้ว ระบบแบ่งชื่อออกเป็นสองกลุ่มคือ Priority และ Rare ซึ่งมีวิธีการเข้าถึงแตกต่างกัน

    ความแตกต่างระหว่าง Priority และ Rare
    Priority usernames: ชื่อที่ใกล้เคียงกับชื่อจริง เช่น @kbell หรือ @karissa สามารถขอได้ทันที แต่มีข้อจำกัดว่าผู้ใช้จะมีสิทธิ์ขอเพียงครั้งเดียวตลอดอายุบัญชี

    Rare usernames: ชื่อสั้น ๆ หรือคำเดี่ยว เช่น @memelord, @phone, @AIchat ถูกจัดเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีค่ามากที่สุด ต้องผ่านกระบวนการพิเศษ เช่น public drops, merit-based application หรือการซื้อแบบเชิญเท่านั้น โดยราคามีตั้งแต่ $2,500 จนถึงหลายล้านดอลลาร์

    เงื่อนไขการใช้งานเข้มงวด
    ผู้ที่ได้ชื่อผู้ใช้ใหม่ต้องรักษาสถานะ Premium+, โพสต์เนื้อหาสม่ำเสมอ และห้ามปล่อยบัญชีให้ dormant หากละเมิดเงื่อนไข X มีสิทธิ์ยึดชื่อคืนได้ทันที ทั้งนี้ X ย้ำว่าชื่อผู้ใช้ทั้งหมดถือเป็นทรัพย์สินของแพลตฟอร์ม ไม่ใช่ของผู้ใช้

    ผลกระทบและข้อถกเถียง
    การเปิดตลาดนี้อาจสร้างรายได้ใหม่ให้ X แต่ก็มีข้อถกเถียงเรื่องความโปร่งใสและความเสี่ยงในการเก็งกำไรชื่อผู้ใช้ โดยเฉพาะเมื่อราคาสูงถึงหลักล้านดอลลาร์ และมีเงื่อนไขที่เข้มงวดซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ลังเลที่จะลงทุน

    สรุปสาระสำคัญ
    ตลาดชื่อผู้ใช้ Premium+
    ค่าสมัคร $40/เดือน หรือ $395/ปี
    เปิดให้ขอชื่อที่ inactive ได้

    ประเภทชื่อผู้ใช้
    Priority: ชื่อใกล้เคียงชื่อจริง ขอได้ทันที
    Rare: ชื่อสั้น/คำเดี่ยว ราคาสูงถึงหลักล้าน

    เงื่อนไขการใช้งาน
    ต้องรักษาสถานะ Premium+ และโพสต์สม่ำเสมอ
    X มีสิทธิ์ยึดชื่อคืนได้ทุกเมื่อ

    ผลกระทบ
    สร้างรายได้ใหม่ให้แพลตฟอร์ม
    อาจเกิดการเก็งกำไรและข้อถกเถียงเรื่องความโปร่งใส

    คำเตือนด้านข้อมูล
    การลงทุนซื้อชื่อ Rare มีความเสี่ยงสูงและอาจถูกยึดคืน
    ราคาที่สูงเกินจริงอาจทำให้เกิดการเก็งกำไรและตลาดที่ไม่ยั่งยืน

    https://securityonline.info/x-opens-username-marketplace-to-premium-users-rare-handles-cost-millions/
    📰 X เปิดตลาดชื่อผู้ใช้ Premium+ X (Twitter เดิม) เปิดตลาดซื้อขายชื่อผู้ใช้ (username marketplace) ให้กับสมาชิก Premium+ โดยแบ่งชื่อออกเป็นสองประเภทคือ Priority และ Rare ซึ่งชื่อ Rare เช่น @memelord, @phone หรือ @AIchat มีมูลค่าสูงถึงหลักล้านดอลลาร์ และมีเงื่อนไขการใช้งานเข้มงวดมาก X ประกาศเปิดตลาดซื้อขายชื่อผู้ใช้สำหรับสมาชิก Premium+ ที่จ่าย $40/เดือน หรือ $395/ปี โดยสามารถขอชื่อที่เคยถูกใช้งานแต่ปัจจุบันไม่ active แล้ว ระบบแบ่งชื่อออกเป็นสองกลุ่มคือ Priority และ Rare ซึ่งมีวิธีการเข้าถึงแตกต่างกัน 🎯 ความแตกต่างระหว่าง Priority และ Rare Priority usernames: ชื่อที่ใกล้เคียงกับชื่อจริง เช่น @kbell หรือ @karissa สามารถขอได้ทันที แต่มีข้อจำกัดว่าผู้ใช้จะมีสิทธิ์ขอเพียงครั้งเดียวตลอดอายุบัญชี Rare usernames: ชื่อสั้น ๆ หรือคำเดี่ยว เช่น @memelord, @phone, @AIchat ถูกจัดเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีค่ามากที่สุด ต้องผ่านกระบวนการพิเศษ เช่น public drops, merit-based application หรือการซื้อแบบเชิญเท่านั้น โดยราคามีตั้งแต่ $2,500 จนถึงหลายล้านดอลลาร์ ⚠️ เงื่อนไขการใช้งานเข้มงวด ผู้ที่ได้ชื่อผู้ใช้ใหม่ต้องรักษาสถานะ Premium+, โพสต์เนื้อหาสม่ำเสมอ และห้ามปล่อยบัญชีให้ dormant หากละเมิดเงื่อนไข X มีสิทธิ์ยึดชื่อคืนได้ทันที ทั้งนี้ X ย้ำว่าชื่อผู้ใช้ทั้งหมดถือเป็นทรัพย์สินของแพลตฟอร์ม ไม่ใช่ของผู้ใช้ 🌍 ผลกระทบและข้อถกเถียง การเปิดตลาดนี้อาจสร้างรายได้ใหม่ให้ X แต่ก็มีข้อถกเถียงเรื่องความโปร่งใสและความเสี่ยงในการเก็งกำไรชื่อผู้ใช้ โดยเฉพาะเมื่อราคาสูงถึงหลักล้านดอลลาร์ และมีเงื่อนไขที่เข้มงวดซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ลังเลที่จะลงทุน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ตลาดชื่อผู้ใช้ Premium+ ➡️ ค่าสมัคร $40/เดือน หรือ $395/ปี ➡️ เปิดให้ขอชื่อที่ inactive ได้ ✅ ประเภทชื่อผู้ใช้ ➡️ Priority: ชื่อใกล้เคียงชื่อจริง ขอได้ทันที ➡️ Rare: ชื่อสั้น/คำเดี่ยว ราคาสูงถึงหลักล้าน ✅ เงื่อนไขการใช้งาน ➡️ ต้องรักษาสถานะ Premium+ และโพสต์สม่ำเสมอ ➡️ X มีสิทธิ์ยึดชื่อคืนได้ทุกเมื่อ ✅ ผลกระทบ ➡️ สร้างรายได้ใหม่ให้แพลตฟอร์ม ➡️ อาจเกิดการเก็งกำไรและข้อถกเถียงเรื่องความโปร่งใส ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ การลงทุนซื้อชื่อ Rare มีความเสี่ยงสูงและอาจถูกยึดคืน ⛔ ราคาที่สูงเกินจริงอาจทำให้เกิดการเก็งกำไรและตลาดที่ไม่ยั่งยืน https://securityonline.info/x-opens-username-marketplace-to-premium-users-rare-handles-cost-millions/
    SECURITYONLINE.INFO
    X Opens Username Marketplace to Premium+ Users: Rare Handles Cost Millions?
    X is now letting Premium+ subscribers request dormant usernames, dividing them into 'Priority' and 'Rare' categories with ambiguous rules and rumored costs up to millions.
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • คริปโตเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้น

    รายงานจาก Reuters ที่เผยแพร่โดย The Star ระบุว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ และปริมาณการซื้อขายรายวันราว 197 พันล้านดอลลาร์ กำลังมีความเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายที่สนับสนุนคริปโตของรัฐบาลสหรัฐฯ

    การเติบโตและการยอมรับจากสถาบันการเงิน
    การสนับสนุนคริปโตจากรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้สถาบันการเงินรายใหญ่เริ่มยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ทั้งในรูปแบบการลงทุน การจัดการกองทุน และการใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน ขณะเดียวกันบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพก็เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัลและระบบชำระเงิน เพื่อรองรับการใช้งานในวงกว้าง

    ความเสี่ยงที่มากับการเชื่อมโยง
    แม้คริปโตจะถูกยอมรับมากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ความผันผวนสูงและการขาดการกำกับดูแลที่ชัดเจน อาจสร้างความเสี่ยงต่อระบบการเงินโลก หากเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ นักลงทุนและสถาบันที่ถือครองคริปโตจำนวนมากอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากการฟอกเงิน การโจมตีทางไซเบอร์ และการใช้คริปโตในกิจกรรมผิดกฎหมาย

    บริบทโลกและทิศทางในอนาคต
    หลายประเทศกำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่เพื่อควบคุมคริปโต เช่น การออก CBDC (Central Bank Digital Currency) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความมั่นคงทางการเงิน หากคริปโตยังคงเติบโตและเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้น การกำกับดูแลที่เข้มงวดจะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเติบโตของคริปโต
    มูลค่าตลาดรวมกว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์
    ปริมาณการซื้อขายรายวันราว 197 พันล้านดอลลาร์

    การยอมรับจากสถาบันการเงิน
    ใช้คริปโตเป็นสินทรัพย์ลงทุนและค้ำประกัน
    บริษัทเทคโนโลยีพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการใช้งาน

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    ความผันผวนสูงและการขาดการกำกับดูแลอาจกระทบระบบการเงินโลก
    เสี่ยงต่อการฟอกเงิน การโจมตีไซเบอร์ และการใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/crypto039s-connections-to-the-rest-of-the-financial-system
    💱 คริปโตเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้น รายงานจาก Reuters ที่เผยแพร่โดย The Star ระบุว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ และปริมาณการซื้อขายรายวันราว 197 พันล้านดอลลาร์ กำลังมีความเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายที่สนับสนุนคริปโตของรัฐบาลสหรัฐฯ 📊 การเติบโตและการยอมรับจากสถาบันการเงิน การสนับสนุนคริปโตจากรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้สถาบันการเงินรายใหญ่เริ่มยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ทั้งในรูปแบบการลงทุน การจัดการกองทุน และการใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน ขณะเดียวกันบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพก็เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัลและระบบชำระเงิน เพื่อรองรับการใช้งานในวงกว้าง ⚠️ ความเสี่ยงที่มากับการเชื่อมโยง แม้คริปโตจะถูกยอมรับมากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ความผันผวนสูงและการขาดการกำกับดูแลที่ชัดเจน อาจสร้างความเสี่ยงต่อระบบการเงินโลก หากเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ นักลงทุนและสถาบันที่ถือครองคริปโตจำนวนมากอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากการฟอกเงิน การโจมตีทางไซเบอร์ และการใช้คริปโตในกิจกรรมผิดกฎหมาย 🌍 บริบทโลกและทิศทางในอนาคต หลายประเทศกำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่เพื่อควบคุมคริปโต เช่น การออก CBDC (Central Bank Digital Currency) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความมั่นคงทางการเงิน หากคริปโตยังคงเติบโตและเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้น การกำกับดูแลที่เข้มงวดจะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเติบโตของคริปโต ➡️ มูลค่าตลาดรวมกว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ ➡️ ปริมาณการซื้อขายรายวันราว 197 พันล้านดอลลาร์ ✅ การยอมรับจากสถาบันการเงิน ➡️ ใช้คริปโตเป็นสินทรัพย์ลงทุนและค้ำประกัน ➡️ บริษัทเทคโนโลยีพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการใช้งาน ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ ความผันผวนสูงและการขาดการกำกับดูแลอาจกระทบระบบการเงินโลก ⛔ เสี่ยงต่อการฟอกเงิน การโจมตีไซเบอร์ และการใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/crypto039s-connections-to-the-rest-of-the-financial-system
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Crypto's connections to the rest of the financial system
    PARIS (Reuters) -Cryptocurrency markets have surged in recent years, in part fuelled by the Trump administration's pro-crypto stance which has encouraged wider acceptance among financial institutions.
    0 Comments 0 Shares 368 Views 0 Reviews
  • บิทคอยน์ร่วงหนัก เอลซัลวาดอร์สวนเกมช้อนซื้อเพิ่มกว่า 1,098 BTC , ราคาหลุด 90,000 ดอลลาร์ แต่รัฐบาลยังเดินหน้ายุทธศาสตร์ซื้อวันละ 1 BTC ดันยอดสะสมพุ่งกว่า 7,400 BTC

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110150

    #บิทคอยน์ #คริปโต #เอลซัลวาดอร์ #Bitcoin #สินทรัพย์ดิจิทัล #เศรษฐกิจโลก #News1live #News1
    บิทคอยน์ร่วงหนัก เอลซัลวาดอร์สวนเกมช้อนซื้อเพิ่มกว่า 1,098 BTC , ราคาหลุด 90,000 ดอลลาร์ แต่รัฐบาลยังเดินหน้ายุทธศาสตร์ซื้อวันละ 1 BTC ดันยอดสะสมพุ่งกว่า 7,400 BTC • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110150 • #บิทคอยน์ #คริปโต #เอลซัลวาดอร์ #Bitcoin #สินทรัพย์ดิจิทัล #เศรษฐกิจโลก #News1live #News1
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 299 Views 0 Reviews
  • บิตคอยน์ร่วงหนัก สูญมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

    บิตคอยน์เพิ่งทำสถิติสูงสุดที่กว่า 125,000 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2025 แต่เพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ราคากลับร่วงลงเหลือประมาณ 90,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้ การร่วงลงครั้งนี้ทำให้มูลค่าตลาดหายไปกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการคริปโตทั่วโลก

    ปัจจัยการเมืองและเศรษฐกิจ
    การร่วงลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นหลังจาก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เพื่อตอบโต้การควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน เหตุการณ์นี้ทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวน นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะขายสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโต ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยที่สูงจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก็ทำให้การลงทุนในพันธบัตรและบัญชีออมทรัพย์ดูน่าสนใจกว่าการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล

    ผลกระทบจากการใช้เลเวอเรจ
    นักวิเคราะห์ชี้ว่า การลงทุนที่ใช้เลเวอเรจสูงเป็นตัวเร่งให้ราคาบิตคอยน์ร่วงแรงขึ้น เมื่อราคาตกต่ำ นักลงทุนที่กู้เงินมาเก็งกำไรต้องถูกบังคับขาย (forced liquidation) ส่งผลให้มีการล้างพอร์ตทั้งฝั่ง long และ short รวมมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว

    มุมมองระยะยาว
    แม้ราคาจะร่วงแรง แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่า นี่ไม่ใช่การล่มสลายของตลาดคริปโต หากแต่เป็น “aftershock” จากการล้างพอร์ตครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคม พวกเขาเชื่อว่าผู้ถือครองระยะยาว (HODLers) ยังมีความมั่นใจในพื้นฐานของบิตคอยน์ และตลาดอาจฟื้นตัวได้เมื่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจคลี่คลาย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ราคาบิตคอยน์ร่วงลงเหลือ ~90,000 ดอลลาร์
    สูญมูลค่าตลาดกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์

    ปัจจัยการเมืองและเศรษฐกิจ
    การขู่เพิ่มภาษีสินค้าจีน และอัตราดอกเบี้ยสูงจาก Fed

    แรงกดดันจากการใช้เลเวอเรจ
    การล้างพอร์ตกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว

    ความเสี่ยงจากการลงทุนคริปโต
    การใช้เลเวอเรจสูงอาจทำให้ขาดทุนหนักเมื่อราคาผันผวน

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจดิจิทัล
    ความผันผวนอาจทำให้นักลงทุนรายใหม่ลังเลที่จะเข้ามาในตลาด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/bitcoin-price-plunges-wipes-usd1-trillion-from-value-weeks-after-it-hit-all-time-high-prices-now-near-lowest-level-for-the-year-erasing-2025-gains
    💰 บิตคอยน์ร่วงหนัก สูญมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ บิตคอยน์เพิ่งทำสถิติสูงสุดที่กว่า 125,000 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2025 แต่เพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ราคากลับร่วงลงเหลือประมาณ 90,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้ การร่วงลงครั้งนี้ทำให้มูลค่าตลาดหายไปกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการคริปโตทั่วโลก 🌍 ปัจจัยการเมืองและเศรษฐกิจ การร่วงลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นหลังจาก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เพื่อตอบโต้การควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน เหตุการณ์นี้ทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวน นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะขายสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโต ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยที่สูงจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก็ทำให้การลงทุนในพันธบัตรและบัญชีออมทรัพย์ดูน่าสนใจกว่าการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล ⚠️ ผลกระทบจากการใช้เลเวอเรจ นักวิเคราะห์ชี้ว่า การลงทุนที่ใช้เลเวอเรจสูงเป็นตัวเร่งให้ราคาบิตคอยน์ร่วงแรงขึ้น เมื่อราคาตกต่ำ นักลงทุนที่กู้เงินมาเก็งกำไรต้องถูกบังคับขาย (forced liquidation) ส่งผลให้มีการล้างพอร์ตทั้งฝั่ง long และ short รวมมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว 🔮 มุมมองระยะยาว แม้ราคาจะร่วงแรง แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่า นี่ไม่ใช่การล่มสลายของตลาดคริปโต หากแต่เป็น “aftershock” จากการล้างพอร์ตครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคม พวกเขาเชื่อว่าผู้ถือครองระยะยาว (HODLers) ยังมีความมั่นใจในพื้นฐานของบิตคอยน์ และตลาดอาจฟื้นตัวได้เมื่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจคลี่คลาย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ราคาบิตคอยน์ร่วงลงเหลือ ~90,000 ดอลลาร์ ➡️ สูญมูลค่าตลาดกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ✅ ปัจจัยการเมืองและเศรษฐกิจ ➡️ การขู่เพิ่มภาษีสินค้าจีน และอัตราดอกเบี้ยสูงจาก Fed ✅ แรงกดดันจากการใช้เลเวอเรจ ➡️ การล้างพอร์ตกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว ‼️ ความเสี่ยงจากการลงทุนคริปโต ⛔ การใช้เลเวอเรจสูงอาจทำให้ขาดทุนหนักเมื่อราคาผันผวน ‼️ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจดิจิทัล ⛔ ความผันผวนอาจทำให้นักลงทุนรายใหม่ลังเลที่จะเข้ามาในตลาด https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/bitcoin-price-plunges-wipes-usd1-trillion-from-value-weeks-after-it-hit-all-time-high-prices-now-near-lowest-level-for-the-year-erasing-2025-gains
    0 Comments 0 Shares 478 Views 0 Reviews
  • Crypto Dealer โอกาสทางธุรกิจ เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย, ตลาดคริปโทฯ นอกระบบโตแรง เงินหมุนหมื่นล้านไร้กำกับ ชงออกใบอนุญาต Crypto Dealer ดึงธุรกรรมเข้าสู่ระบบ ลดฟอกเงิน–เพิ่มรายได้รัฐ

    อ่านต่อ…..https://news1live.com/detail/9680000110021

    #News1live #News1 #ปมร้อนข่าวลึก #truthfromthailand #newsupdate #คริปโท #เศรษฐกิจดิจิทัล #กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล
    Crypto Dealer โอกาสทางธุรกิจ เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย, ตลาดคริปโทฯ นอกระบบโตแรง เงินหมุนหมื่นล้านไร้กำกับ ชงออกใบอนุญาต Crypto Dealer ดึงธุรกรรมเข้าสู่ระบบ ลดฟอกเงิน–เพิ่มรายได้รัฐ • อ่านต่อ…..https://news1live.com/detail/9680000110021 • #News1live #News1 #ปมร้อนข่าวลึก #truthfromthailand #newsupdate #คริปโท #เศรษฐกิจดิจิทัล #กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 401 Views 0 Reviews
  • Singapore Exchange เตรียมเปิดตัว Bitcoin และ Ether Perpetual Futures

    Singapore Exchange (SGX) ประกาศว่าจะเปิดให้บริการซื้อขาย Bitcoin และ Ether perpetual futures ผ่านหน่วยงานด้านอนุพันธ์ของตน โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 การซื้อขายนี้จะเปิดให้เฉพาะนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนที่ได้รับการรับรอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในตลาดคริปโตที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ความหมายต่อภูมิภาคและตลาดโลก
    การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของสิงคโปร์ในการยกระดับตนเองเป็น ศูนย์กลางการเงินดิจิทัลในเอเชีย โดย SGX ตั้งเป้าให้ตลาดอนุพันธ์คริปโตมีมาตรฐานสูงเทียบเท่าตลาดการเงินดั้งเดิม การเคลื่อนไหวนี้ยังสะท้อนถึงความพยายามของประเทศในการดึงดูดนักลงทุนสถาบันที่ต้องการความมั่นคงและการกำกับดูแลที่ชัดเจน

    การกำกับดูแลและความเสี่ยง
    แม้จะเป็นโอกาสใหม่ แต่ อนุพันธ์คริปโต ก็มีความเสี่ยงสูง ทั้งด้านความผันผวนของราคาและความซับซ้อนของสัญญา SGX จึงจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงเฉพาะนักลงทุนที่มีคุณสมบัติ เพื่อป้องกันการเก็งกำไรเกินควรและลดความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนรายย่อย การกำกับดูแลที่เข้มงวดนี้อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตที่ยังคงถูกตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส

    แนวโน้มในอนาคต
    นักวิเคราะห์คาดว่า หาก SGX ประสบความสำเร็จ อาจมีการขยายผลิตภัณฑ์อนุพันธ์คริปโตไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ และอาจกระตุ้นให้ตลาดการเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หันมาใช้โมเดลเดียวกัน เพื่อแข่งขันกับตลาดใหญ่ในสหรัฐฯ และยุโรป

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SGX เปิดตัว Bitcoin และ Ether perpetual futures
    เริ่มซื้อขายวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025

    จำกัดสิทธิ์เฉพาะนักลงทุนสถาบันและผู้ได้รับการรับรอง
    เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง

    สิงคโปร์ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการเงินดิจิทัลในเอเชีย
    ยกระดับมาตรฐานตลาดคริปโตให้เทียบเท่าตลาดการเงินดั้งเดิม

    ความเสี่ยงจากความผันผวนของอนุพันธ์คริปโต
    อาจสร้างผลกระทบต่อผู้ลงทุนที่ไม่เข้าใจโครงสร้างสัญญา

    การกำกับดูแลเข้มงวดอาจจำกัดการเข้าถึงของรายย่อย
    ทำให้ตลาดคริปโตยังคงเป็นพื้นที่ของนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/17/singapore-exchange-to-launch-bitcoin-and-ether-perpetual-futures
    💹 Singapore Exchange เตรียมเปิดตัว Bitcoin และ Ether Perpetual Futures Singapore Exchange (SGX) ประกาศว่าจะเปิดให้บริการซื้อขาย Bitcoin และ Ether perpetual futures ผ่านหน่วยงานด้านอนุพันธ์ของตน โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 การซื้อขายนี้จะเปิดให้เฉพาะนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนที่ได้รับการรับรอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในตลาดคริปโตที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 🌍 ความหมายต่อภูมิภาคและตลาดโลก การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของสิงคโปร์ในการยกระดับตนเองเป็น ศูนย์กลางการเงินดิจิทัลในเอเชีย โดย SGX ตั้งเป้าให้ตลาดอนุพันธ์คริปโตมีมาตรฐานสูงเทียบเท่าตลาดการเงินดั้งเดิม การเคลื่อนไหวนี้ยังสะท้อนถึงความพยายามของประเทศในการดึงดูดนักลงทุนสถาบันที่ต้องการความมั่นคงและการกำกับดูแลที่ชัดเจน ⚖️ การกำกับดูแลและความเสี่ยง แม้จะเป็นโอกาสใหม่ แต่ อนุพันธ์คริปโต ก็มีความเสี่ยงสูง ทั้งด้านความผันผวนของราคาและความซับซ้อนของสัญญา SGX จึงจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงเฉพาะนักลงทุนที่มีคุณสมบัติ เพื่อป้องกันการเก็งกำไรเกินควรและลดความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนรายย่อย การกำกับดูแลที่เข้มงวดนี้อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตที่ยังคงถูกตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส 🔮 แนวโน้มในอนาคต นักวิเคราะห์คาดว่า หาก SGX ประสบความสำเร็จ อาจมีการขยายผลิตภัณฑ์อนุพันธ์คริปโตไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ และอาจกระตุ้นให้ตลาดการเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หันมาใช้โมเดลเดียวกัน เพื่อแข่งขันกับตลาดใหญ่ในสหรัฐฯ และยุโรป 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SGX เปิดตัว Bitcoin และ Ether perpetual futures ➡️ เริ่มซื้อขายวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 ✅ จำกัดสิทธิ์เฉพาะนักลงทุนสถาบันและผู้ได้รับการรับรอง ➡️ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง ✅ สิงคโปร์ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการเงินดิจิทัลในเอเชีย ➡️ ยกระดับมาตรฐานตลาดคริปโตให้เทียบเท่าตลาดการเงินดั้งเดิม ‼️ ความเสี่ยงจากความผันผวนของอนุพันธ์คริปโต ⛔ อาจสร้างผลกระทบต่อผู้ลงทุนที่ไม่เข้าใจโครงสร้างสัญญา ‼️ การกำกับดูแลเข้มงวดอาจจำกัดการเข้าถึงของรายย่อย ⛔ ทำให้ตลาดคริปโตยังคงเป็นพื้นที่ของนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/17/singapore-exchange-to-launch-bitcoin-and-ether-perpetual-futures
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Singapore Exchange to launch bitcoin and ether perpetual futures
    SINGAPORE (Reuters) -The derivatives arm of Singapore Exchange (SGX) said on Monday that it would launch bitcoin and ether cryptocurrency perpetual futures trading on its platform.
    0 Comments 0 Shares 380 Views 0 Reviews
  • ญี่ปุ่นรื้อกฎคริปโตครั้งใหญ่ , ดึงเข้ากรอบอินไซเดอร์เทรดดิ้ง–ลดภาษีกำไรเหลือ 20% เทียบตลาดทุน เปิดทางธนาคาร–ประกันขายคริปโต หวังยกระดับโปร่งใส-สกัดปั่นราคา

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109751

    #คริปโต #ญี่ปุ่น #สินทรัพย์ดิจิทัล #กฎคริปโต #ตลาดทุน #News1live #News1
    ญี่ปุ่นรื้อกฎคริปโตครั้งใหญ่ , ดึงเข้ากรอบอินไซเดอร์เทรดดิ้ง–ลดภาษีกำไรเหลือ 20% เทียบตลาดทุน เปิดทางธนาคาร–ประกันขายคริปโต หวังยกระดับโปร่งใส-สกัดปั่นราคา • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109751 • #คริปโต #ญี่ปุ่น #สินทรัพย์ดิจิทัล #กฎคริปโต #ตลาดทุน #News1live #News1
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 388 Views 0 Reviews
  • ส่วนขยาย Chrome ปลอมขโมย Seed Phrase ผ่าน Sui Blockchain

    ทีมวิจัยจาก Socket Threat Research พบส่วนขยาย Chrome ที่อ้างว่าเป็นกระเป๋าเงิน Ethereum ชื่อ Safery: Ethereum Wallet ซึ่งถูกเผยแพร่ใน Chrome Web Store และปรากฏใกล้เคียงกับกระเป๋าเงินที่ถูกต้องอย่าง MetaMask และ Enkrypt จุดอันตรายคือส่วนขยายนี้สามารถ ขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้ ได้ทันทีที่มีการสร้างหรือ Import Wallet

    สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้แตกต่างคือ การซ่อนข้อมูลในธุรกรรมบล็อกเชน Sui โดยส่วนขยายจะเข้ารหัส Seed Phrase ของเหยื่อเป็นที่อยู่ปลอมบน Sui และส่งธุรกรรมเล็กๆ (0.000001 SUI) ไปยังที่อยู่นั้น จากนั้นผู้โจมตีสามารถถอดรหัสกลับมาเป็น Seed Phrase ได้โดยตรงจากข้อมูลบนบล็อกเชน โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์กลางหรือการส่งข้อมูลผ่าน HTTP

    การทำงานเช่นนี้ทำให้การโจมตี ยากต่อการตรวจจับ เพราะทุกอย่างดูเหมือนธุรกรรมปกติบนบล็อกเชน ไม่มีการติดต่อกับ Command & Control Server และไม่มีการส่งข้อมูลแบบ plaintext ออกไปนอกเบราว์เซอร์

    แม้ Socket ได้แจ้ง Google แล้ว แต่ในช่วงเวลาที่รายงานเผยแพร่ ส่วนขยายนี้ยังคงสามารถดาวน์โหลดได้ใน Chrome Web Store ทำให้ผู้ใช้ที่กำลังมองหากระเป๋าเงินเบาๆ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีและสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบส่วนขยายปลอม Safery: Ethereum Wallet
    ปรากฏใน Chrome Web Store ใกล้กับกระเป๋าเงินที่ถูกต้อง
    ทำงานเหมือนกระเป๋าเงินปกติ แต่แอบขโมย Seed Phrase

    วิธีการโจมตี
    เข้ารหัส Seed Phrase เป็นที่อยู่ปลอมบน Sui Blockchain
    ส่งธุรกรรมเล็กๆ เพื่อซ่อนข้อมูลโดยไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์กลาง

    ความยากในการตรวจจับ
    ไม่มีการส่งข้อมูลผ่าน HTTP หรือ C2 Server
    ทุกอย่างดูเหมือนธุรกรรมปกติบนบล็อกเชน

    คำเตือนต่อผู้ใช้งาน
    ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดส่วนขยายนี้เสี่ยงต่อการสูญเสียคริปโตทั้งหมด
    ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของส่วนขยายก่อนติดตั้ง และใช้กระเป๋าเงินจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น

    https://securityonline.info/sui-blockchain-seed-stealer-malicious-chrome-extension-hides-mnemonic-exfiltration-in-microtransactions/
    🕵️‍♂️ ส่วนขยาย Chrome ปลอมขโมย Seed Phrase ผ่าน Sui Blockchain ทีมวิจัยจาก Socket Threat Research พบส่วนขยาย Chrome ที่อ้างว่าเป็นกระเป๋าเงิน Ethereum ชื่อ Safery: Ethereum Wallet ซึ่งถูกเผยแพร่ใน Chrome Web Store และปรากฏใกล้เคียงกับกระเป๋าเงินที่ถูกต้องอย่าง MetaMask และ Enkrypt จุดอันตรายคือส่วนขยายนี้สามารถ ขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้ ได้ทันทีที่มีการสร้างหรือ Import Wallet สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้แตกต่างคือ การซ่อนข้อมูลในธุรกรรมบล็อกเชน Sui โดยส่วนขยายจะเข้ารหัส Seed Phrase ของเหยื่อเป็นที่อยู่ปลอมบน Sui และส่งธุรกรรมเล็กๆ (0.000001 SUI) ไปยังที่อยู่นั้น จากนั้นผู้โจมตีสามารถถอดรหัสกลับมาเป็น Seed Phrase ได้โดยตรงจากข้อมูลบนบล็อกเชน โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์กลางหรือการส่งข้อมูลผ่าน HTTP การทำงานเช่นนี้ทำให้การโจมตี ยากต่อการตรวจจับ เพราะทุกอย่างดูเหมือนธุรกรรมปกติบนบล็อกเชน ไม่มีการติดต่อกับ Command & Control Server และไม่มีการส่งข้อมูลแบบ plaintext ออกไปนอกเบราว์เซอร์ แม้ Socket ได้แจ้ง Google แล้ว แต่ในช่วงเวลาที่รายงานเผยแพร่ ส่วนขยายนี้ยังคงสามารถดาวน์โหลดได้ใน Chrome Web Store ทำให้ผู้ใช้ที่กำลังมองหากระเป๋าเงินเบาๆ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีและสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบส่วนขยายปลอม Safery: Ethereum Wallet ➡️ ปรากฏใน Chrome Web Store ใกล้กับกระเป๋าเงินที่ถูกต้อง ➡️ ทำงานเหมือนกระเป๋าเงินปกติ แต่แอบขโมย Seed Phrase ✅ วิธีการโจมตี ➡️ เข้ารหัส Seed Phrase เป็นที่อยู่ปลอมบน Sui Blockchain ➡️ ส่งธุรกรรมเล็กๆ เพื่อซ่อนข้อมูลโดยไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์กลาง ✅ ความยากในการตรวจจับ ➡️ ไม่มีการส่งข้อมูลผ่าน HTTP หรือ C2 Server ➡️ ทุกอย่างดูเหมือนธุรกรรมปกติบนบล็อกเชน ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้งาน ⛔ ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดส่วนขยายนี้เสี่ยงต่อการสูญเสียคริปโตทั้งหมด ⛔ ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของส่วนขยายก่อนติดตั้ง และใช้กระเป๋าเงินจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น https://securityonline.info/sui-blockchain-seed-stealer-malicious-chrome-extension-hides-mnemonic-exfiltration-in-microtransactions/
    SECURITYONLINE.INFO
    Sui Blockchain Seed Stealer: Malicious Chrome Extension Hides Mnemonic Exfiltration in Microtransactions
    A malicious Chrome extension, Safery: Ethereum Wallet, steals BIP-39 seed phrases by encoding them into synthetic Sui blockchain addresses and broadcasting microtransactions, bypassing HTTP/C2 detection.
    0 Comments 0 Shares 355 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: “SoFi เปิดตัวบริการคริปโต – คลื่นทองคำดิจิทัลดึงสถาบันการเงินเข้าตลาด”

    เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 SoFi ประกาศเปิดตัวบริการซื้อขายคริปโตสำหรับลูกค้าทั่วไป ถือเป็นการเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง หลังจากที่กระแสการลงทุนในคริปโตพุ่งสูงขึ้นทั้งจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน

    สิ่งที่น่าสนใจคือ สถาบันการเงินดั้งเดิมจำนวนมากเริ่มเข้ามาในตลาดคริปโต เพราะกฎระเบียบในหลายประเทศเริ่มชัดเจนขึ้น ทำให้ความเสี่ยงด้านกฎหมายลดลง และการยอมรับจากผู้ใช้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    รายงานระบุว่า แรงผลักดันหลักมาจากสองด้าน
    1️⃣ Retail Momentum – นักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อขายมากขึ้น
    2️⃣ Institutional Entry – สถาบันการเงินใหญ่ ๆ เช่นธนาคารและผู้ให้บริการสินเชื่อ เริ่มเปิดบริการคริปโต

    สิ่งนี้ทำให้ตลาดคริปโตมีการซื้อขายคึกคัก และแพลตฟอร์มอย่าง SoFi ได้รับแรงหนุนมหาศาล

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    SoFi เดิมเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้บริการสินเชื่อและการลงทุนแบบดิจิทัล การเข้าสู่ตลาดคริปโตจึงเป็นการขยายธุรกิจครั้งใหญ่
    การที่สถาบันการเงินเข้ามาในตลาดคริปโตมากขึ้น อาจช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ก็ทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น
    นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า แม้กฎระเบียบจะชัดเจนขึ้น แต่ความผันผวนของคริปโตยังสูงมาก และอาจสร้างความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนที่ไม่เข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง

    SoFi เปิดตัวบริการซื้อขายคริปโต
    เข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง
    ตอบรับกระแสการลงทุนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

    แรงผลักดันของตลาดคริปโต
    นักลงทุนรายย่อยเข้ามามากขึ้น
    สถาบันการเงินดั้งเดิมเริ่มเข้าสู่ตลาด

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    เพิ่มการแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มการเงิน
    สร้างความน่าเชื่อถือให้ตลาดคริปโตมากขึ้น

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    ความผันผวนของคริปโตยังสูง อาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหนัก
    การเข้ามาของสถาบันการเงินอาจทำให้ตลาดถูกครอบงำโดยผู้เล่นรายใหญ่
    แม้กฎระเบียบชัดเจนขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลในบางประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/11/sofi-rolls-out-crypto-trading-as-digital-asset-gold-rush-draws-lenders
    💰 หัวข้อข่าว: “SoFi เปิดตัวบริการคริปโต – คลื่นทองคำดิจิทัลดึงสถาบันการเงินเข้าตลาด” เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 SoFi ประกาศเปิดตัวบริการซื้อขายคริปโตสำหรับลูกค้าทั่วไป ถือเป็นการเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง หลังจากที่กระแสการลงทุนในคริปโตพุ่งสูงขึ้นทั้งจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน สิ่งที่น่าสนใจคือ สถาบันการเงินดั้งเดิมจำนวนมากเริ่มเข้ามาในตลาดคริปโต เพราะกฎระเบียบในหลายประเทศเริ่มชัดเจนขึ้น ทำให้ความเสี่ยงด้านกฎหมายลดลง และการยอมรับจากผู้ใช้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานระบุว่า แรงผลักดันหลักมาจากสองด้าน 1️⃣ Retail Momentum – นักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อขายมากขึ้น 2️⃣ Institutional Entry – สถาบันการเงินใหญ่ ๆ เช่นธนาคารและผู้ให้บริการสินเชื่อ เริ่มเปิดบริการคริปโต สิ่งนี้ทำให้ตลาดคริปโตมีการซื้อขายคึกคัก และแพลตฟอร์มอย่าง SoFi ได้รับแรงหนุนมหาศาล 🧩 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 📌 SoFi เดิมเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้บริการสินเชื่อและการลงทุนแบบดิจิทัล การเข้าสู่ตลาดคริปโตจึงเป็นการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ 📌 การที่สถาบันการเงินเข้ามาในตลาดคริปโตมากขึ้น อาจช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ก็ทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น 📌 นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า แม้กฎระเบียบจะชัดเจนขึ้น แต่ความผันผวนของคริปโตยังสูงมาก และอาจสร้างความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนที่ไม่เข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง ✅ SoFi เปิดตัวบริการซื้อขายคริปโต ➡️ เข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง ➡️ ตอบรับกระแสการลงทุนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ✅ แรงผลักดันของตลาดคริปโต ➡️ นักลงทุนรายย่อยเข้ามามากขึ้น ➡️ สถาบันการเงินดั้งเดิมเริ่มเข้าสู่ตลาด ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ เพิ่มการแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มการเงิน ➡️ สร้างความน่าเชื่อถือให้ตลาดคริปโตมากขึ้น ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ ความผันผวนของคริปโตยังสูง อาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหนัก ⛔ การเข้ามาของสถาบันการเงินอาจทำให้ตลาดถูกครอบงำโดยผู้เล่นรายใหญ่ ⛔ แม้กฎระเบียบชัดเจนขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลในบางประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/11/sofi-rolls-out-crypto-trading-as-digital-asset-gold-rush-draws-lenders
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SoFi rolls out crypto trading as digital asset gold rush draws lenders
    (Reuters) -SoFi on Tuesday announced plans to roll out crypto trading for customers, as the multi-trillion-dollar crypto sector continues to attract traditional financial firms amid clearer regulation and growing adoption.
    0 Comments 0 Shares 332 Views 0 Reviews
  • ขอวิเคราะห์ทิศทางของ Bitcoin ในอนาคตจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมข้อดีและข้อเสียอย่างเป็นกลาง:

    ข้อมองในแง่บวก (Bull Case)

    1. การยอมรับในระดับสถาบัน

    · กองทุนขนาดใหญ่ (BlackRock, Fidelity) เปิดกองทุน Bitcoin ETF
    · บริษัทมหาชนเพิ่ม Bitcoin ในงบดุล (เช่น MicroStrategy, Tesla)
    · ธนาคารกลางหลายประเทศศึกษาสกุลเงินดิจิทัศ (CBDC)

    2. อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น

    · กลไก Halving ลดอุปทานใหม่ทุก 4 ปี
    · มีผู้ใช้งานและนักลงทุนรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    · การใช้เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ (Digital Gold)

    3. นวัตกรรมทางเทคโนโลยี

    · การพัฒนาระบบ Layer 2 (เช่น Lightning Network)
    · การบูรณาการกับ DeFi และ Smart Contract
    · การปรับปรุงความสามารถในการขยายขนาด (Scalability)

    ข้อกังวลในแง่ลบ (Bear Case)

    1. ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ

    · การควบคุมที่เข้มงวดจากรัฐบาลต่างๆ
    · นโยบายการเก็บภาษีที่ยังไม่ชัดเจนในหลายประเทศ
    · ความเสี่ยงจากการแบนในบางเขตอำนาจศาล

    2. ความผันผวนสูง

    · ราคายังคงมีความผันผวนในระดับที่เสี่ยง
    · การเก็งกำไรระยะสั้นมีอิทธิพลต่อราคา
    · ความเชื่อมั่นที่อ่อนไหวต่อข่าวลือและทวีต

    3. ความท้าทายทางเทคนิค

    · ปัญหาการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    · ความเร็วในการทำธุรกรรมที่จำกัด
    · ค่า Fee ที่อาจสูงในช่วงความนิยม

    มุมมองโดยรวม

    ผู้มองในแง่บวก เห็นว่า Bitcoin จะเติบโตเป็น:

    · สินทรัพย์ปลอดภัยรูปแบบดิจิทัล
    · ระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน
    · พื้นฐานของระบบการเงินใหม่

    ผู้มองในแง่ลบ กังวลเกี่ยวกับ:

    · ฟองสบู่ทางราคาที่อาจแตก
    · การแข่งขันจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น
    · ความไม่แน่นอนในระยะยาว

    คำแนะนำการลงทุน

    · ลงทุนเพียงส่วนที่ยอมเสียได้
    · ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด
    · กระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน

    ตลาดคริปโตยังคงมีความไม่แน่นอนสูง การตัดสินใจลงทุนควรอยู่บนพื้นฐานการศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
    ขอวิเคราะห์ทิศทางของ Bitcoin ในอนาคตจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมข้อดีและข้อเสียอย่างเป็นกลาง: ข้อมองในแง่บวก (Bull Case) 1. การยอมรับในระดับสถาบัน · กองทุนขนาดใหญ่ (BlackRock, Fidelity) เปิดกองทุน Bitcoin ETF · บริษัทมหาชนเพิ่ม Bitcoin ในงบดุล (เช่น MicroStrategy, Tesla) · ธนาคารกลางหลายประเทศศึกษาสกุลเงินดิจิทัศ (CBDC) 2. อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น · กลไก Halving ลดอุปทานใหม่ทุก 4 ปี · มีผู้ใช้งานและนักลงทุนรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง · การใช้เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ (Digital Gold) 3. นวัตกรรมทางเทคโนโลยี · การพัฒนาระบบ Layer 2 (เช่น Lightning Network) · การบูรณาการกับ DeFi และ Smart Contract · การปรับปรุงความสามารถในการขยายขนาด (Scalability) ข้อกังวลในแง่ลบ (Bear Case) 1. ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ · การควบคุมที่เข้มงวดจากรัฐบาลต่างๆ · นโยบายการเก็บภาษีที่ยังไม่ชัดเจนในหลายประเทศ · ความเสี่ยงจากการแบนในบางเขตอำนาจศาล 2. ความผันผวนสูง · ราคายังคงมีความผันผวนในระดับที่เสี่ยง · การเก็งกำไรระยะสั้นมีอิทธิพลต่อราคา · ความเชื่อมั่นที่อ่อนไหวต่อข่าวลือและทวีต 3. ความท้าทายทางเทคนิค · ปัญหาการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม · ความเร็วในการทำธุรกรรมที่จำกัด · ค่า Fee ที่อาจสูงในช่วงความนิยม มุมมองโดยรวม ผู้มองในแง่บวก เห็นว่า Bitcoin จะเติบโตเป็น: · สินทรัพย์ปลอดภัยรูปแบบดิจิทัล · ระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน · พื้นฐานของระบบการเงินใหม่ ผู้มองในแง่ลบ กังวลเกี่ยวกับ: · ฟองสบู่ทางราคาที่อาจแตก · การแข่งขันจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น · ความไม่แน่นอนในระยะยาว คำแนะนำการลงทุน · ลงทุนเพียงส่วนที่ยอมเสียได้ · ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด · กระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ตลาดคริปโตยังคงมีความไม่แน่นอนสูง การตัดสินใจลงทุนควรอยู่บนพื้นฐานการศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
    1 Comments 0 Shares 456 Views 0 Reviews
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 341/2568 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยที่การกระทำความผิดทางเทคโนโลยีซับซ้อน มีรูปแบบหลากหลาย เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับเงินที่ได้จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการฟอกเงิน การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เกิดความเสียหายต่อประชาชน ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้การป้องกันปราบปรามมีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ โดยนายกฯ เป็นประธานกรรมการ มีองค์ประกอบคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ รมว.คลัง รมว.การต่างประเทศ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

    -29 มี.ค. เหมาะเลือกตั้ง
    -หวังท่องเที่ยวดึงเศรษฐกิจ
    -งบเหลื่อมปีทุบสถิติ 3 แสนล้าน
    -ร้องรื้อคดีตากใบ
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 341/2568 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยที่การกระทำความผิดทางเทคโนโลยีซับซ้อน มีรูปแบบหลากหลาย เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับเงินที่ได้จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการฟอกเงิน การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เกิดความเสียหายต่อประชาชน ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้การป้องกันปราบปรามมีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ โดยนายกฯ เป็นประธานกรรมการ มีองค์ประกอบคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ รมว.คลัง รมว.การต่างประเทศ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย -29 มี.ค. เหมาะเลือกตั้ง -หวังท่องเที่ยวดึงเศรษฐกิจ -งบเหลื่อมปีทุบสถิติ 3 แสนล้าน -ร้องรื้อคดีตากใบ
    0 Comments 0 Shares 631 Views 0 0 Reviews
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 341/2568 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยที่การกระทำความผิดทางเทคโนโลยีซับซ้อน มีรูปแบบหลากหลาย เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับเงินที่ได้จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการฟอกเงิน การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เกิดความเสียหายต่อประชาชน ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้การป้องกันปราบปรามมีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ โดยนายกฯ เป็นประธานกรรมการ มีองค์ประกอบคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ รมว.คลัง รมว.การต่างประเทศ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

    -29 มี.ค. เหมาะเลือกตั้ง
    -หวังท่องเที่ยวดึงเศรษฐกิจ
    -งบเหลื่อมปีทุบสถิติ 3 แสนล้าน
    -ร้องรื้อคดีตากใบ
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 341/2568 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยที่การกระทำความผิดทางเทคโนโลยีซับซ้อน มีรูปแบบหลากหลาย เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับเงินที่ได้จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการฟอกเงิน การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เกิดความเสียหายต่อประชาชน ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้การป้องกันปราบปรามมีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ โดยนายกฯ เป็นประธานกรรมการ มีองค์ประกอบคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ รมว.คลัง รมว.การต่างประเทศ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย -29 มี.ค. เหมาะเลือกตั้ง -หวังท่องเที่ยวดึงเศรษฐกิจ -งบเหลื่อมปีทุบสถิติ 3 แสนล้าน -ร้องรื้อคดีตากใบ
    0 Comments 0 Shares 500 Views 0 0 Reviews
  • เมื่อ Bitcoin เริ่มชะลอ… นักลงทุนสถาบันหันหลังให้ BTC แล้วหันหน้าสู่ Altcoin และ DeFi

    ปี 2025 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคริปโต เมื่อ Bitcoin ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของการลงทุน เริ่มสูญเสียความเป็นผู้นำในด้าน “dominance” โดยลดลงต่ำกว่า 58% เป็นครั้งแรกในรอบปี ขณะที่ Altcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ กลับได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและหาผลตอบแทนที่สูงกว่า

    Ethereum ETF เพียงอย่างเดียวสามารถดึงเงินลงทุนได้ถึง 3 พันล้านดอลลาร์ภายในสัปดาห์เดียว และตลาด Altcoin โดยรวม (TOTAL3) เติบโตขึ้นกว่า 109% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาด ที่ไม่ได้พึ่งพาแค่ Bitcoin อีกต่อไป

    DeFi และ Stablecoin ก็เป็นอีกสองกลุ่มที่เติบโตโดดเด่น โดย DeFi มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 44.5% และ Stablecoin เพิ่มขึ้น 38.6% ในปีเดียว ขณะที่ DEX (Decentralized Exchange) มีปริมาณการซื้อขายรวมกว่า 1.15 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2025 ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนผ่านจากแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ไปสู่โครงสร้างแบบกระจายอำนาจ

    การขยายตัวของสภาพคล่องทั่วโลก (M2) กว่า 5.6 ล้านล้านดอลลาร์ และการลดดอกเบี้ยในหลายประเทศ ทำให้เงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะ Altcoin ที่มีความผันผวนสูงแต่ให้ผลตอบแทนมากกว่า Bitcoin ถึง 200% ในบางช่วง

    Bitcoin สูญเสียความเป็นผู้นำในตลาดคริปโต
    Dominance ลดลงต่ำกว่า 58% เป็นครั้งแรกในปี 2025
    นักลงทุนสถาบันเริ่มหันไปลงทุนใน Altcoin และ DeFi

    Ethereum ETF ดึงเงินลงทุนมหาศาล
    มี inflow ถึง $3 พันล้านในสัปดาห์เดียว
    สะท้อนความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ใช่ Bitcoin

    Altcoin เติบโตเหนือความคาดหมาย
    TOTAL3 เพิ่มขึ้น 109.43% เมื่อเทียบกับปีก่อน
    Altcoin ให้ผลตอบแทนสูงกว่า Bitcoin ในช่วงดอกเบี้ยต่ำ

    DeFi และ Stablecoin เป็นกลุ่มที่เติบโตเร็ว
    DeFi เพิ่มขึ้น 44.5% / Stablecoin เพิ่มขึ้น 38.6%
    สะท้อนการใช้งานจริงและความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

    DEX กลายเป็นโครงสร้างหลักของการซื้อขาย
    ปริมาณซื้อขายรวมกว่า $1.15 ล้านล้านในปีเดียว
    Ethereum มี volume สูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ $139.63 พันล้าน

    On-chain lending และ staking เติบโตต่อเนื่อง
    Lending TVL เพิ่มขึ้น 65% เป็น $79.8B / AAVE ครองครึ่งตลาด
    ETH ที่ถูก stake รวมกว่า 35.8 ล้าน ETH

    สภาพคล่องทั่วโลกเพิ่มขึ้นจากนโยบายการเงิน
    M2 ขยายตัว $5.6 ล้านล้านในปีเดียว
    เงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะ Altcoin

    https://hackread.com/shifting-pivot-toward-altcoins-bitcoin-slowdown/
    📰 เมื่อ Bitcoin เริ่มชะลอ… นักลงทุนสถาบันหันหลังให้ BTC แล้วหันหน้าสู่ Altcoin และ DeFi ปี 2025 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคริปโต เมื่อ Bitcoin ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของการลงทุน เริ่มสูญเสียความเป็นผู้นำในด้าน “dominance” โดยลดลงต่ำกว่า 58% เป็นครั้งแรกในรอบปี ขณะที่ Altcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ กลับได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและหาผลตอบแทนที่สูงกว่า Ethereum ETF เพียงอย่างเดียวสามารถดึงเงินลงทุนได้ถึง 3 พันล้านดอลลาร์ภายในสัปดาห์เดียว และตลาด Altcoin โดยรวม (TOTAL3) เติบโตขึ้นกว่า 109% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาด ที่ไม่ได้พึ่งพาแค่ Bitcoin อีกต่อไป DeFi และ Stablecoin ก็เป็นอีกสองกลุ่มที่เติบโตโดดเด่น โดย DeFi มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 44.5% และ Stablecoin เพิ่มขึ้น 38.6% ในปีเดียว ขณะที่ DEX (Decentralized Exchange) มีปริมาณการซื้อขายรวมกว่า 1.15 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2025 ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนผ่านจากแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ไปสู่โครงสร้างแบบกระจายอำนาจ การขยายตัวของสภาพคล่องทั่วโลก (M2) กว่า 5.6 ล้านล้านดอลลาร์ และการลดดอกเบี้ยในหลายประเทศ ทำให้เงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะ Altcoin ที่มีความผันผวนสูงแต่ให้ผลตอบแทนมากกว่า Bitcoin ถึง 200% ในบางช่วง ✅ Bitcoin สูญเสียความเป็นผู้นำในตลาดคริปโต ➡️ Dominance ลดลงต่ำกว่า 58% เป็นครั้งแรกในปี 2025 ➡️ นักลงทุนสถาบันเริ่มหันไปลงทุนใน Altcoin และ DeFi ✅ Ethereum ETF ดึงเงินลงทุนมหาศาล ➡️ มี inflow ถึง $3 พันล้านในสัปดาห์เดียว ➡️ สะท้อนความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ใช่ Bitcoin ✅ Altcoin เติบโตเหนือความคาดหมาย ➡️ TOTAL3 เพิ่มขึ้น 109.43% เมื่อเทียบกับปีก่อน ➡️ Altcoin ให้ผลตอบแทนสูงกว่า Bitcoin ในช่วงดอกเบี้ยต่ำ ✅ DeFi และ Stablecoin เป็นกลุ่มที่เติบโตเร็ว ➡️ DeFi เพิ่มขึ้น 44.5% / Stablecoin เพิ่มขึ้น 38.6% ➡️ สะท้อนการใช้งานจริงและความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ✅ DEX กลายเป็นโครงสร้างหลักของการซื้อขาย ➡️ ปริมาณซื้อขายรวมกว่า $1.15 ล้านล้านในปีเดียว ➡️ Ethereum มี volume สูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ $139.63 พันล้าน ✅ On-chain lending และ staking เติบโตต่อเนื่อง ➡️ Lending TVL เพิ่มขึ้น 65% เป็น $79.8B / AAVE ครองครึ่งตลาด ➡️ ETH ที่ถูก stake รวมกว่า 35.8 ล้าน ETH ✅ สภาพคล่องทั่วโลกเพิ่มขึ้นจากนโยบายการเงิน ➡️ M2 ขยายตัว $5.6 ล้านล้านในปีเดียว ➡️ เงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะ Altcoin https://hackread.com/shifting-pivot-toward-altcoins-bitcoin-slowdown/
    HACKREAD.COM
    Shifting Tides: Investors Pivot Toward Altcoins Amid Bitcoin Slowdown
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 482 Views 0 Reviews
  • เชื่อ! ต่างชาติเมิน ‘TouristDigiPay’ ไม่แลก ‘เงินดิจิทัล’ เป็น ‘บาท’ แน่นอน แนะทำ ‘Blockchain Analytics’ ป้องกันฟอกเงิน
    https://www.thai-tai.tv/news/21058/
    .
    #TouristDigiPay #สินทรัพย์ดิจิทัล #คริปโต #ข่าวเศรษฐกิจ #ธนาคารแห่งประเทศไทย #นักวิชาการ #ไทยไทด้วย

    เชื่อ! ต่างชาติเมิน ‘TouristDigiPay’ ไม่แลก ‘เงินดิจิทัล’ เป็น ‘บาท’ แน่นอน แนะทำ ‘Blockchain Analytics’ ป้องกันฟอกเงิน https://www.thai-tai.tv/news/21058/ . #TouristDigiPay #สินทรัพย์ดิจิทัล #คริปโต #ข่าวเศรษฐกิจ #ธนาคารแห่งประเทศไทย #นักวิชาการ #ไทยไทด้วย
    0 Comments 0 Shares 422 Views 0 Reviews
More Results