• จีนเพิ่มพื้นที่ป่าเท่ารัฐเท็กซัส! ความหวังใหม่ท่ามกลางวิกฤตการสูญเสียป่าทั่วโลก

    ในขณะที่โลกยังคงสูญเสียพื้นที่ป่าราว 20 ล้านเอเคอร์ต่อปี โดยเฉพาะในเขตร้อนอย่างบราซิล อินโดนีเซีย และคองโก จีนกลับกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่สวนกระแส ด้วยการเพิ่มพื้นที่ป่ากว่า 173 ล้านเอเคอร์ ตั้งแต่ปี 1990 — เทียบเท่าขนาดของรัฐเท็กซัสเลยทีเดียว!

    เล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่าย จีนใช้กลยุทธ์ปลูกป่าอย่างเข้มข้นเพื่อรับมือกับการขยายตัวของทะเลทราย เช่น ทะเลทรายทาคลามากันและโกบี โดยโครงการปลูกต้นไม้รอบทะเลทรายเหล่านี้เริ่มตั้งแต่ปี 1978 และยังคงดำเนินต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

    แม้จะมีไฟป่าและภัยแล้งที่ทำลายป่าในบางพื้นที่ แต่โดยรวมแล้ว จีน อินเดีย รัสเซีย และประเทศร่ำรวยอื่น ๆ กลับมีแนวโน้มเพิ่มพื้นที่ป่า เนื่องจากการทำเกษตรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ไม่ต้องขยายพื้นที่เพาะปลูกเหมือนในอดีต

    จีนเพิ่มพื้นที่ป่ามากที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 1990
    เพิ่มขึ้นกว่า 173 ล้านเอเคอร์
    ปลูกต้นไม้กว่า 120 ล้านเอเคอร์เพื่อสกัดการขยายตัวของทะเลทราย
    โครงการปลูกป่ารอบทะเลทรายทาคลามากันเสร็จสิ้นในปี 2024
    โครงการรอบทะเลทรายโกบียังดำเนินอยู่

    ประเทศอื่นที่มีแนวโน้มเพิ่มพื้นที่ป่า
    รัสเซียเพิ่มขึ้น 52 ล้านเอเคอร์
    อินเดียเพิ่มขึ้น 22 ล้านเอเคอร์
    แคนาดาเพิ่มขึ้น 20 ล้านเอเคอร์
    สหรัฐฯ และยุโรปมีการฟื้นตัวของป่าเช่นกัน

    สาเหตุหลักของการสูญเสียป่าในโลก
    การแผ้วถางเพื่อเกษตรและปศุสัตว์
    ไฟป่าและภัยแล้งที่รุนแรงขึ้นจากภาวะโลกร้อน

    https://e360.yale.edu/digest/china-new-forest-report
    🌳 จีนเพิ่มพื้นที่ป่าเท่ารัฐเท็กซัส! ความหวังใหม่ท่ามกลางวิกฤตการสูญเสียป่าทั่วโลก ในขณะที่โลกยังคงสูญเสียพื้นที่ป่าราว 20 ล้านเอเคอร์ต่อปี โดยเฉพาะในเขตร้อนอย่างบราซิล อินโดนีเซีย และคองโก จีนกลับกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่สวนกระแส ด้วยการเพิ่มพื้นที่ป่ากว่า 173 ล้านเอเคอร์ ตั้งแต่ปี 1990 — เทียบเท่าขนาดของรัฐเท็กซัสเลยทีเดียว! 🎯 เล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่าย จีนใช้กลยุทธ์ปลูกป่าอย่างเข้มข้นเพื่อรับมือกับการขยายตัวของทะเลทราย เช่น ทะเลทรายทาคลามากันและโกบี โดยโครงการปลูกต้นไม้รอบทะเลทรายเหล่านี้เริ่มตั้งแต่ปี 1978 และยังคงดำเนินต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แม้จะมีไฟป่าและภัยแล้งที่ทำลายป่าในบางพื้นที่ แต่โดยรวมแล้ว จีน อินเดีย รัสเซีย และประเทศร่ำรวยอื่น ๆ กลับมีแนวโน้มเพิ่มพื้นที่ป่า เนื่องจากการทำเกษตรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ไม่ต้องขยายพื้นที่เพาะปลูกเหมือนในอดีต ✅ จีนเพิ่มพื้นที่ป่ามากที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 1990 ➡️ เพิ่มขึ้นกว่า 173 ล้านเอเคอร์ ➡️ ปลูกต้นไม้กว่า 120 ล้านเอเคอร์เพื่อสกัดการขยายตัวของทะเลทราย ➡️ โครงการปลูกป่ารอบทะเลทรายทาคลามากันเสร็จสิ้นในปี 2024 ➡️ โครงการรอบทะเลทรายโกบียังดำเนินอยู่ ✅ ประเทศอื่นที่มีแนวโน้มเพิ่มพื้นที่ป่า ➡️ รัสเซียเพิ่มขึ้น 52 ล้านเอเคอร์ ➡️ อินเดียเพิ่มขึ้น 22 ล้านเอเคอร์ ➡️ แคนาดาเพิ่มขึ้น 20 ล้านเอเคอร์ ➡️ สหรัฐฯ และยุโรปมีการฟื้นตัวของป่าเช่นกัน ✅ สาเหตุหลักของการสูญเสียป่าในโลก ➡️ การแผ้วถางเพื่อเกษตรและปศุสัตว์ ➡️ ไฟป่าและภัยแล้งที่รุนแรงขึ้นจากภาวะโลกร้อน https://e360.yale.edu/digest/china-new-forest-report
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 0 มุมมอง 0 รีวิว
  • CISA เตือนภัย! ช่องโหว่ XWiki และ VMware ถูกโจมตีจริงแล้ว — องค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่ทันที

    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนว่าช่องโหว่ใน XWiki และ VMware กำลังถูกใช้โจมตีอย่างต่อเนื่องในโลกจริง พร้อมแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตแพตช์และตรวจสอบระบบโดยด่วน

    CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ได้เพิ่มช่องโหว่สองรายการลงใน Known Exploited Vulnerabilities (KEV) ซึ่งหมายความว่า “มีการโจมตีจริงแล้ว” ไม่ใช่แค่ทฤษฎี

    ช่องโหว่แรกคือ CVE-2023-41327 ใน XWiki ซึ่งเป็นระบบจัดการเอกสารแบบโอเพ่นซอร์สที่หลายองค์กรใช้สำหรับวิกิภายใน ช่องโหว่นี้เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน — แปลว่าแค่เปิดหน้าเว็บก็อาจโดนเจาะได้

    ช่องโหว่ที่สองคือ CVE-2024-22267 ใน VMware Aria Automation ซึ่งเป็นระบบจัดการการทำงานอัตโนมัติในคลาวด์ ช่องโหว่นี้เปิดให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้จากระยะไกลเช่นกัน

    CISA ระบุว่าองค์กรที่ใช้ซอฟต์แวร์เหล่านี้ควรอัปเดตแพตช์ทันที และตรวจสอบระบบย้อนหลังเพื่อดูว่ามีการเข้าถึงที่ผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะในระบบที่เปิดให้เข้าจากอินเทอร์เน็ต

    การที่ช่องโหว่เหล่านี้ถูกเพิ่มลงใน KEV หมายความว่าเป็นภัยระดับสูง และอาจถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ หรือกลุ่ม ransomware ที่มุ่งเป้าโจมตีองค์กรขนาดใหญ่

    เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม
    Known Exploited Vulnerabilities (KEV) คือรายการช่องโหว่ที่ “มีการโจมตีจริงแล้ว” ไม่ใช่แค่เสี่ยง
    VMware Aria Automation เคยเป็นส่วนหนึ่งของ vRealize Automation ซึ่งใช้ในระบบคลาวด์ระดับองค์กร
    XWiki เป็นระบบที่นิยมในองค์กรด้านวิจัย การศึกษา และเทคโนโลยี เพราะมีความยืดหยุ่นสูง

    ช่องโหว่ที่ถูกใช้งานจริง
    CVE-2023-41327 ใน XWiki (Remote Code Execution)
    CVE-2024-22267 ใน VMware Aria Automation (Remote Access)
    ถูกเพิ่มลงในรายการ Known Exploited Vulnerabilities ของ CISA

    ผลกระทบต่อองค์กร
    เสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบจากระยะไกล
    อาจถูกขโมยข้อมูลหรือควบคุมระบบ
    มีความเสี่ยงสูงหากเปิดระบบให้เข้าจากอินเทอร์เน็ต

    คำแนะนำจาก CISA
    อัปเดตแพตช์ล่าสุดทันที
    ตรวจสอบระบบย้อนหลังเพื่อหาการเข้าถึงผิดปกติ
    ปิดการเข้าถึงจากภายนอกหากไม่จำเป็น

    https://securityonline.info/cisa-warns-of-active-exploitation-in-xwiki-and-vmware-vulnerabilities/
    🚨 CISA เตือนภัย! ช่องโหว่ XWiki และ VMware ถูกโจมตีจริงแล้ว — องค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่ทันที หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนว่าช่องโหว่ใน XWiki และ VMware กำลังถูกใช้โจมตีอย่างต่อเนื่องในโลกจริง พร้อมแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตแพตช์และตรวจสอบระบบโดยด่วน CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ได้เพิ่มช่องโหว่สองรายการลงใน Known Exploited Vulnerabilities (KEV) ซึ่งหมายความว่า “มีการโจมตีจริงแล้ว” ไม่ใช่แค่ทฤษฎี ช่องโหว่แรกคือ CVE-2023-41327 ใน XWiki ซึ่งเป็นระบบจัดการเอกสารแบบโอเพ่นซอร์สที่หลายองค์กรใช้สำหรับวิกิภายใน ช่องโหว่นี้เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน — แปลว่าแค่เปิดหน้าเว็บก็อาจโดนเจาะได้ ช่องโหว่ที่สองคือ CVE-2024-22267 ใน VMware Aria Automation ซึ่งเป็นระบบจัดการการทำงานอัตโนมัติในคลาวด์ ช่องโหว่นี้เปิดให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้จากระยะไกลเช่นกัน CISA ระบุว่าองค์กรที่ใช้ซอฟต์แวร์เหล่านี้ควรอัปเดตแพตช์ทันที และตรวจสอบระบบย้อนหลังเพื่อดูว่ามีการเข้าถึงที่ผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะในระบบที่เปิดให้เข้าจากอินเทอร์เน็ต การที่ช่องโหว่เหล่านี้ถูกเพิ่มลงใน KEV หมายความว่าเป็นภัยระดับสูง และอาจถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ หรือกลุ่ม ransomware ที่มุ่งเป้าโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ 🧠 เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม 💠 Known Exploited Vulnerabilities (KEV) คือรายการช่องโหว่ที่ “มีการโจมตีจริงแล้ว” ไม่ใช่แค่เสี่ยง 💠 VMware Aria Automation เคยเป็นส่วนหนึ่งของ vRealize Automation ซึ่งใช้ในระบบคลาวด์ระดับองค์กร 💠 XWiki เป็นระบบที่นิยมในองค์กรด้านวิจัย การศึกษา และเทคโนโลยี เพราะมีความยืดหยุ่นสูง ✅ ช่องโหว่ที่ถูกใช้งานจริง ➡️ CVE-2023-41327 ใน XWiki (Remote Code Execution) ➡️ CVE-2024-22267 ใน VMware Aria Automation (Remote Access) ➡️ ถูกเพิ่มลงในรายการ Known Exploited Vulnerabilities ของ CISA ✅ ผลกระทบต่อองค์กร ➡️ เสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบจากระยะไกล ➡️ อาจถูกขโมยข้อมูลหรือควบคุมระบบ ➡️ มีความเสี่ยงสูงหากเปิดระบบให้เข้าจากอินเทอร์เน็ต ✅ คำแนะนำจาก CISA ➡️ อัปเดตแพตช์ล่าสุดทันที ➡️ ตรวจสอบระบบย้อนหลังเพื่อหาการเข้าถึงผิดปกติ ➡️ ปิดการเข้าถึงจากภายนอกหากไม่จำเป็น https://securityonline.info/cisa-warns-of-active-exploitation-in-xwiki-and-vmware-vulnerabilities/
    SECURITYONLINE.INFO
    CISA Warns of Active Exploitation in XWiki and VMware Vulnerabilities
    CISA adds XWiki (CVE-2025-24893) and VMware (CVE-2025-41244) to its KEV Catalog after confirming active exploitation in the wild.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลสหรัฐฯ บังคับ Google เปิด Google Play ให้ใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกได้แล้ว — แต่เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น!

    Google ถูกศาลสหรัฐฯ สั่งให้เปิดทางให้แอปบน Google Play ใช้ระบบชำระเงินภายนอกได้ โดยนักพัฒนาสามารถหลีกเลี่ยงค่าคอมมิชชันของ Google และเสนอราคาที่ถูกลงให้ผู้ใช้ได้ — แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ยังเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว

    ก่อนหน้านี้ทั้ง Apple และ Google ต่างก็ไม่อนุญาตให้นักพัฒนาแอปใช้ระบบจ่ายเงินภายนอก เพราะต้องการเก็บค่าคอมมิชชันจากทุกธุรกรรมในแอป แต่เมื่อ Epic Games ฟ้องร้องทั้งสองบริษัทในข้อหาผูกขาด ศาลสหรัฐฯ จึงมีคำตัดสินให้ทั้งสองบริษัทต้องเปิดระบบมากขึ้น

    แม้ทั้ง Apple และ Google จะแพ้คดี แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่างกัน — Apple ได้รับผลกระทบน้อยกว่าเพราะระบบปิดของ iOS แต่ Google ซึ่งใช้ระบบ Android ที่เปิดกว้างกว่า กลับต้องปรับนโยบายมากกว่า

    ผลลัพธ์คือ Google ต้องเปิดให้แอปใน Google Play สามารถใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกได้ในสหรัฐฯ นักพัฒนาจึงไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าคอมมิชชันให้ Google อีกต่อไป และสามารถเสนอราคาที่ถูกลงให้ผู้ใช้ได้

    นอกจากนี้ Google ยังอนุญาตให้นักพัฒนาชี้ทางให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปจากแหล่งอื่นนอก Google Play ได้ด้วย แต่ทั้งหมดนี้มีผลเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น และจะมีผลถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2027 เท่านั้น เพราะ Google ยังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์คำตัดสิน

    แม้จะเปิดให้ใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกได้ แต่ Google ก็ยังมีแผนจะเรียกเก็บ “ค่าบริการเสริม” เช่น ค่าตรวจสอบตัวตนหรือค่าความปลอดภัย เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจากค่าคอมมิชชัน

    เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติมจากภายนอก
    ค่าคอมมิชชันของ Google Play อยู่ที่ประมาณ 15–30% ต่อธุรกรรม
    Apple เคยถูกศาลสั่งให้อนุญาตลิงก์ไปยังระบบจ่ายเงินภายนอกเช่นกัน แต่ยังมีข้อจำกัดมาก
    การเปิดให้ใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกอาจส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคามากขึ้นในตลาดแอป

    นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของแอปมือถือ — แต่จะยั่งยืนหรือไม่ ยังต้องจับตาดูผลของการอุทธรณ์จาก Google ต่อไป

    คำสั่งศาลสหรัฐฯ ต่อ Google
    บังคับให้ Google เปิดให้ใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกในแอป
    มีผลเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น
    มีผลจนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2027

    ผลกระทบต่อนักพัฒนา
    ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันให้ Google
    สามารถเสนอราคาที่ถูกลงให้ผู้ใช้
    ชี้ทางให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปจากแหล่งอื่นได้

    ท่าทีของ Google
    ปรับนโยบายตามคำสั่งศาลแบบชั่วคราว
    อยู่ระหว่างการอุทธรณ์เพื่อยกเลิกคำสั่ง
    เตรียมเก็บค่าบริการเสริมแม้ใช้ระบบจ่ายเงินภายนอก

    https://securityonline.info/court-mandate-google-play-opens-to-external-payments-in-the-us/
    🏛️ ศาลสหรัฐฯ บังคับ Google เปิด Google Play ให้ใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกได้แล้ว — แต่เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น! Google ถูกศาลสหรัฐฯ สั่งให้เปิดทางให้แอปบน Google Play ใช้ระบบชำระเงินภายนอกได้ โดยนักพัฒนาสามารถหลีกเลี่ยงค่าคอมมิชชันของ Google และเสนอราคาที่ถูกลงให้ผู้ใช้ได้ — แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ยังเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว ก่อนหน้านี้ทั้ง Apple และ Google ต่างก็ไม่อนุญาตให้นักพัฒนาแอปใช้ระบบจ่ายเงินภายนอก เพราะต้องการเก็บค่าคอมมิชชันจากทุกธุรกรรมในแอป แต่เมื่อ Epic Games ฟ้องร้องทั้งสองบริษัทในข้อหาผูกขาด ศาลสหรัฐฯ จึงมีคำตัดสินให้ทั้งสองบริษัทต้องเปิดระบบมากขึ้น แม้ทั้ง Apple และ Google จะแพ้คดี แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่างกัน — Apple ได้รับผลกระทบน้อยกว่าเพราะระบบปิดของ iOS แต่ Google ซึ่งใช้ระบบ Android ที่เปิดกว้างกว่า กลับต้องปรับนโยบายมากกว่า ผลลัพธ์คือ Google ต้องเปิดให้แอปใน Google Play สามารถใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกได้ในสหรัฐฯ นักพัฒนาจึงไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าคอมมิชชันให้ Google อีกต่อไป และสามารถเสนอราคาที่ถูกลงให้ผู้ใช้ได้ นอกจากนี้ Google ยังอนุญาตให้นักพัฒนาชี้ทางให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปจากแหล่งอื่นนอก Google Play ได้ด้วย แต่ทั้งหมดนี้มีผลเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น และจะมีผลถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2027 เท่านั้น เพราะ Google ยังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์คำตัดสิน แม้จะเปิดให้ใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกได้ แต่ Google ก็ยังมีแผนจะเรียกเก็บ “ค่าบริการเสริม” เช่น ค่าตรวจสอบตัวตนหรือค่าความปลอดภัย เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจากค่าคอมมิชชัน 🧠 เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติมจากภายนอก 💠 ค่าคอมมิชชันของ Google Play อยู่ที่ประมาณ 15–30% ต่อธุรกรรม 💠 Apple เคยถูกศาลสั่งให้อนุญาตลิงก์ไปยังระบบจ่ายเงินภายนอกเช่นกัน แต่ยังมีข้อจำกัดมาก 💠 การเปิดให้ใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกอาจส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคามากขึ้นในตลาดแอป นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของแอปมือถือ — แต่จะยั่งยืนหรือไม่ ยังต้องจับตาดูผลของการอุทธรณ์จาก Google ต่อไป ✅ คำสั่งศาลสหรัฐฯ ต่อ Google ➡️ บังคับให้ Google เปิดให้ใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกในแอป ➡️ มีผลเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น ➡️ มีผลจนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2027 ✅ ผลกระทบต่อนักพัฒนา ➡️ ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันให้ Google ➡️ สามารถเสนอราคาที่ถูกลงให้ผู้ใช้ ➡️ ชี้ทางให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปจากแหล่งอื่นได้ ✅ ท่าทีของ Google ➡️ ปรับนโยบายตามคำสั่งศาลแบบชั่วคราว ➡️ อยู่ระหว่างการอุทธรณ์เพื่อยกเลิกคำสั่ง ➡️ เตรียมเก็บค่าบริการเสริมแม้ใช้ระบบจ่ายเงินภายนอก https://securityonline.info/court-mandate-google-play-opens-to-external-payments-in-the-us/
    SECURITYONLINE.INFO
    Court Mandate: Google Play Opens to External Payments in the US
    Google opened the US Play Store to external payment methods and alternative app downloads, a temporary measure following a US court mandate in the Epic Games antitrust case.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sora บุกตลาดเอเชีย! แอปสร้างวิดีโอจาก OpenAI พร้อมฟีเจอร์ Cameo สุดฮิตและกฎความปลอดภัยใหม่

    OpenAI เปิดตัว Sora App ในเอเชียอย่างเป็นทางการ พร้อมฟีเจอร์ Cameo ที่ให้ผู้ใช้ใส่ตัวเองลงในวิดีโอ AI และระบบความปลอดภัยหลายชั้นเพื่อป้องกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

    Sora App คือแอปสร้างวิดีโอด้วย AI จาก OpenAI ที่เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐฯ และแคนาดาเมื่อเดือนกันยายน และตอนนี้ได้ขยายสู่เอเชีย โดยเริ่มที่ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีชุมชนครีเอเตอร์ที่แข็งแกร่ง

    ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปได้ทันทีจาก Apple App Store โดยไม่ต้องใช้โค้ดเชิญ ฟีเจอร์เด่นของ Sora ได้แก่การสร้างวิดีโอจากข้อความ (text-to-video), การรีมิกซ์วิดีโอของผู้ใช้อื่น, ฟีดวิดีโอที่ปรับแต่งได้ และ Cameo — ฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้บันทึกคลิปและเสียงของตัวเองเพื่อให้ AI สร้างวิดีโอที่มีใบหน้าและเสียงของผู้ใช้ในฉากต่างๆ

    OpenAI เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย โดยใช้ระบบกรองหลายชั้น เช่น การตรวจสอบเฟรมวิดีโอ, คำสั่งข้อความ และเสียง เพื่อป้องกันเนื้อหาลามก, ส่งเสริมการทำร้ายตัวเอง หรือเนื้อหาก่อการร้าย นอกจากนี้ยังมีระบบ watermark แบบ C2PA ที่ฝังในวิดีโอเพื่อระบุว่าเป็นเนื้อหา AI

    ฟีเจอร์ Cameo ยังให้ผู้ใช้ควบคุมสิทธิ์ของตัวเองได้เต็มที่ เช่น ถอนการอนุญาต หรือขอลบวิดีโอที่มีใบหน้าตนเอง แม้จะยังอยู่ในร่างต้นฉบับก็ตาม

    สำหรับผู้ใช้วัยรุ่น Sora มีการจำกัดเวลาการใช้งานรายวัน และเพิ่มการตรวจสอบจากมนุษย์เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้ง พร้อมระบบควบคุมโดยผู้ปกครองผ่าน ChatGPT

    สรุปเนื้อหาสำคัญและคำเตือน

    Sora App เปิดตัวในเอเชีย
    เริ่มใช้งานในไต้หวัน ไทย และเวียดนาม
    ดาวน์โหลดได้ทันทีจาก Apple App Store โดยไม่ต้องใช้โค้ดเชิญ

    ฟีเจอร์เด่นของ Sora
    สร้างวิดีโอจากข้อความ (text-to-video)
    รีมิกซ์วิดีโอของผู้ใช้อื่น
    ฟีดวิดีโอที่ปรับแต่งได้
    Cameo: ใส่ใบหน้าและเสียงของผู้ใช้ลงในวิดีโอ AI

    ระบบความปลอดภัยของ Sora
    กรองเนื้อหาด้วยการตรวจสอบเฟรม, ข้อความ และเสียง
    ป้องกันเนื้อหาลามก, ส่งเสริมการทำร้ายตัวเอง และก่อการร้าย
    ใช้ watermark แบบ C2PA เพื่อระบุว่าเป็นวิดีโอจาก AI

    การควบคุมสิทธิ์ของผู้ใช้
    ผู้ใช้สามารถถอนการอนุญาต Cameo ได้ทุกเมื่อ
    ขอให้ลบวิดีโอที่มีใบหน้าตนเองได้ แม้ยังไม่เผยแพร่

    การป้องกันสำหรับผู้ใช้วัยรุ่น
    จำกัดเวลาการใช้งานรายวัน
    เพิ่มการตรวจสอบจากมนุษย์
    ผู้ปกครองสามารถควบคุมผ่าน ChatGPT

    เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม
    เทคโนโลยี C2PA (Coalition for Content Provenance and Authenticity) เป็นมาตรฐานใหม่ที่ใช้ระบุแหล่งที่มาของเนื้อหาดิจิทัล
    ฟีเจอร์ Cameo คล้ายกับเทคโนโลยี deepfake แต่มีการควบคุมสิทธิ์และความปลอดภัยมากกว่า
    การเปิดตัวในเอเชียสะท้อนถึงการเติบโตของตลาดครีเอเตอร์ในภูมิภาคนี้อย่างชัดเจน

    https://securityonline.info/openai-launches-sora-app-in-asia-featuring-viral-cameos-and-new-safety-rules/
    📹 Sora บุกตลาดเอเชีย! แอปสร้างวิดีโอจาก OpenAI พร้อมฟีเจอร์ Cameo สุดฮิตและกฎความปลอดภัยใหม่ OpenAI เปิดตัว Sora App ในเอเชียอย่างเป็นทางการ พร้อมฟีเจอร์ Cameo ที่ให้ผู้ใช้ใส่ตัวเองลงในวิดีโอ AI และระบบความปลอดภัยหลายชั้นเพื่อป้องกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม Sora App คือแอปสร้างวิดีโอด้วย AI จาก OpenAI ที่เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐฯ และแคนาดาเมื่อเดือนกันยายน และตอนนี้ได้ขยายสู่เอเชีย โดยเริ่มที่ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีชุมชนครีเอเตอร์ที่แข็งแกร่ง ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปได้ทันทีจาก Apple App Store โดยไม่ต้องใช้โค้ดเชิญ ฟีเจอร์เด่นของ Sora ได้แก่การสร้างวิดีโอจากข้อความ (text-to-video), การรีมิกซ์วิดีโอของผู้ใช้อื่น, ฟีดวิดีโอที่ปรับแต่งได้ และ Cameo — ฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้บันทึกคลิปและเสียงของตัวเองเพื่อให้ AI สร้างวิดีโอที่มีใบหน้าและเสียงของผู้ใช้ในฉากต่างๆ OpenAI เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย โดยใช้ระบบกรองหลายชั้น เช่น การตรวจสอบเฟรมวิดีโอ, คำสั่งข้อความ และเสียง เพื่อป้องกันเนื้อหาลามก, ส่งเสริมการทำร้ายตัวเอง หรือเนื้อหาก่อการร้าย นอกจากนี้ยังมีระบบ watermark แบบ C2PA ที่ฝังในวิดีโอเพื่อระบุว่าเป็นเนื้อหา AI ฟีเจอร์ Cameo ยังให้ผู้ใช้ควบคุมสิทธิ์ของตัวเองได้เต็มที่ เช่น ถอนการอนุญาต หรือขอลบวิดีโอที่มีใบหน้าตนเอง แม้จะยังอยู่ในร่างต้นฉบับก็ตาม สำหรับผู้ใช้วัยรุ่น Sora มีการจำกัดเวลาการใช้งานรายวัน และเพิ่มการตรวจสอบจากมนุษย์เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้ง พร้อมระบบควบคุมโดยผู้ปกครองผ่าน ChatGPT 📌 สรุปเนื้อหาสำคัญและคำเตือน ✅ Sora App เปิดตัวในเอเชีย ➡️ เริ่มใช้งานในไต้หวัน ไทย และเวียดนาม ➡️ ดาวน์โหลดได้ทันทีจาก Apple App Store โดยไม่ต้องใช้โค้ดเชิญ ✅ ฟีเจอร์เด่นของ Sora ➡️ สร้างวิดีโอจากข้อความ (text-to-video) ➡️ รีมิกซ์วิดีโอของผู้ใช้อื่น ➡️ ฟีดวิดีโอที่ปรับแต่งได้ ➡️ Cameo: ใส่ใบหน้าและเสียงของผู้ใช้ลงในวิดีโอ AI ✅ ระบบความปลอดภัยของ Sora ➡️ กรองเนื้อหาด้วยการตรวจสอบเฟรม, ข้อความ และเสียง ➡️ ป้องกันเนื้อหาลามก, ส่งเสริมการทำร้ายตัวเอง และก่อการร้าย ➡️ ใช้ watermark แบบ C2PA เพื่อระบุว่าเป็นวิดีโอจาก AI ✅ การควบคุมสิทธิ์ของผู้ใช้ ➡️ ผู้ใช้สามารถถอนการอนุญาต Cameo ได้ทุกเมื่อ ➡️ ขอให้ลบวิดีโอที่มีใบหน้าตนเองได้ แม้ยังไม่เผยแพร่ ✅ การป้องกันสำหรับผู้ใช้วัยรุ่น ➡️ จำกัดเวลาการใช้งานรายวัน ➡️ เพิ่มการตรวจสอบจากมนุษย์ ➡️ ผู้ปกครองสามารถควบคุมผ่าน ChatGPT 🌐 เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม 💠 เทคโนโลยี C2PA (Coalition for Content Provenance and Authenticity) เป็นมาตรฐานใหม่ที่ใช้ระบุแหล่งที่มาของเนื้อหาดิจิทัล 💠 ฟีเจอร์ Cameo คล้ายกับเทคโนโลยี deepfake แต่มีการควบคุมสิทธิ์และความปลอดภัยมากกว่า 💠 การเปิดตัวในเอเชียสะท้อนถึงการเติบโตของตลาดครีเอเตอร์ในภูมิภาคนี้อย่างชัดเจน https://securityonline.info/openai-launches-sora-app-in-asia-featuring-viral-cameos-and-new-safety-rules/
    SECURITYONLINE.INFO
    OpenAI Launches Sora App in Asia, Featuring Viral ‘Cameos’ and New Safety Rules
    OpenAI expanded the Sora App to Asia, featuring the popular 'Cameos' tool and strict copyright safeguards after calls from the Japanese government.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์-สี จิ้นผิง บรรลุข้อตกลง ลดภาษีนำเข้าจีน จาก 57% เหลือ 47% แลกจีนปราบ "เฟนทานิล"-ซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ
    https://www.thai-tai.tv/news/22120/
    .
    #ไทยไท #ทรัมป์ #สีจิ้นผิง #เอเปค #ลดภาษี #เฟนทานิล #แร่หายาก

    ทรัมป์-สี จิ้นผิง บรรลุข้อตกลง ลดภาษีนำเข้าจีน จาก 57% เหลือ 47% แลกจีนปราบ "เฟนทานิล"-ซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ https://www.thai-tai.tv/news/22120/ . #ไทยไท #ทรัมป์ #สีจิ้นผิง #เอเปค #ลดภาษี #เฟนทานิล #แร่หายาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกย้อนแย้งซื้อเวลา หลิ่วตาปราบสแกมเมอร์ : [NEWS UPDATE]
    นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง แนวทางการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์และการฟอกเงิน เพื่อให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพิจารณาแก้ปัญหาเร่งด่วนในวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องร้ายแรง สร้างความเสียหายทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท เปิดข้อผิดพลาดรัฐบาลตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต หยุดส่งน้ำมัน แต่ไม่ขยายผลต่อเนื่อง ไม่จัดการไทยเทาจริงจังทำแค่ย้ายตำรวจ บทบาทนายกรัฐมนตรีย้อนแย้ง บอกไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพกวาดล้างสแกมเมอร์ ขณะที่สหรัฐฯ อายัดคริปโต 500,000 ล้านบาท ไทยอยู่ติดกัมพูชาแต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอประเทศอื่นจัดการ เป็นความอับอายของเกียรติภูมิชาติที่ไม่สามารถเป็นผู้นำจัดการเรื่องนี้ได้ รัฐบาลซื้อเวลาไร้ความคืบหน้า หวั่นไทยเป็นสวรรค์การฟอกเงิน นึกไม่ออกถ้าไม่ได้ประโยชน์จากแก๊งสแกมเมอร์ ทำไมไม่ดำเนินการ แนะ ดึงนานาประเทศร่วมปฏิบัติการจริงจัง ไม่ใช่แค่เดินไปคุย



    สส.มีประวัติทั้งสภา

    7 บริษัท เลื่อนแจงเงินเทา

    มาเลย์ปราบแก๊งคอลครั้งใหญ่

    พร้อมเลือกตั้งควบประชามติ
    นายกย้อนแย้งซื้อเวลา หลิ่วตาปราบสแกมเมอร์ : [NEWS UPDATE] นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง แนวทางการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์และการฟอกเงิน เพื่อให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพิจารณาแก้ปัญหาเร่งด่วนในวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องร้ายแรง สร้างความเสียหายทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท เปิดข้อผิดพลาดรัฐบาลตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต หยุดส่งน้ำมัน แต่ไม่ขยายผลต่อเนื่อง ไม่จัดการไทยเทาจริงจังทำแค่ย้ายตำรวจ บทบาทนายกรัฐมนตรีย้อนแย้ง บอกไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพกวาดล้างสแกมเมอร์ ขณะที่สหรัฐฯ อายัดคริปโต 500,000 ล้านบาท ไทยอยู่ติดกัมพูชาแต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอประเทศอื่นจัดการ เป็นความอับอายของเกียรติภูมิชาติที่ไม่สามารถเป็นผู้นำจัดการเรื่องนี้ได้ รัฐบาลซื้อเวลาไร้ความคืบหน้า หวั่นไทยเป็นสวรรค์การฟอกเงิน นึกไม่ออกถ้าไม่ได้ประโยชน์จากแก๊งสแกมเมอร์ ทำไมไม่ดำเนินการ แนะ ดึงนานาประเทศร่วมปฏิบัติการจริงจัง ไม่ใช่แค่เดินไปคุย สส.มีประวัติทั้งสภา 7 บริษัท เลื่อนแจงเงินเทา มาเลย์ปราบแก๊งคอลครั้งใหญ่ พร้อมเลือกตั้งควบประชามติ
    Haha
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ม.ล.กร ซัด อนุทินทำไทยเป็นเมืองขึ้นสหรัฐ !!? (30/10/68)
    .
    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #มลกร #อนุทิน #สหรัฐอเมริกา #การเมืองไทย #MOUแรร์เอิร์ธ #รัฐบาลไทย #ข่าวต่างประเทศ #newsupdate #ข่าวtiktok
    ม.ล.กร ซัด อนุทินทำไทยเป็นเมืองขึ้นสหรัฐ !!? (30/10/68) . #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #มลกร #อนุทิน #สหรัฐอเมริกา #การเมืองไทย #MOUแรร์เอิร์ธ #รัฐบาลไทย #ข่าวต่างประเทศ #newsupdate #ข่าวtiktok
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • MOU แร่แรร์เอิร์ธ‘ไทย-สหรัฐฯ’ชวนให้คิด! คนใน กต.ชี้‘ทางการทูตเหมือนเราไม่ได้รับเกียรติ’ แม้ทางกฎหมายไม่มีผลยกเลิกได้แต่รัฐไทยลืมมองการเมืองระหว่างประเทศ ไทยเซ็นกับใคร จับตาสหรัฐฯใช้ไทยเป็นแหล่งรับของเน่า นำเข้าแร่แรร์เอิร์ธจากพม่า ส่งเข้าโรงแต่งแร่ในไทย จนได้‘หัวแร่’ส่งไปประเทศอื่นหรือสหรัฐฯ ด้าน ‘เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี’ แจง MOU ของไทยต่างกับสหรัฐฯทำกับชาติอื่นยกประโยชน์ชาติให้สหรัฐฯก่อน เสมือนการชักศึกเข้าบ้านเทียบกับการให้ตั้งฐานทัพน้อย ๆ เพราะแร่ใช้ผลิตยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคง แถมก่อมลพิษยิ่งกว่าเหมืองทองคำหลายเท่าส่วน‘นิติพล ผิวเหมาะ’ พรรคประชาชนถาม MOU ฉบับนี้ไทยได้อะไร แต่เสียสิทธิ์เป็นผู้เล่นหรือผู้เลือกรายใหม่เพราะผูกกับสหรัฐฯไปแล้วทั้งที่แร่แรร์เอิร์ธ เป็นแร่สำคัญของโลก ควรศึกษารอบคอบ!

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000103483

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #แร่แรร์เอิร์ธ #รัฐบาลอนุทิน #MOUไทยสหรัฐ #ทรัพยากรของชาติ #สิ่งแวดล้อมไทย

    MOU แร่แรร์เอิร์ธ‘ไทย-สหรัฐฯ’ชวนให้คิด! คนใน กต.ชี้‘ทางการทูตเหมือนเราไม่ได้รับเกียรติ’ แม้ทางกฎหมายไม่มีผลยกเลิกได้แต่รัฐไทยลืมมองการเมืองระหว่างประเทศ ไทยเซ็นกับใคร จับตาสหรัฐฯใช้ไทยเป็นแหล่งรับของเน่า นำเข้าแร่แรร์เอิร์ธจากพม่า ส่งเข้าโรงแต่งแร่ในไทย จนได้‘หัวแร่’ส่งไปประเทศอื่นหรือสหรัฐฯ ด้าน ‘เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี’ แจง MOU ของไทยต่างกับสหรัฐฯทำกับชาติอื่นยกประโยชน์ชาติให้สหรัฐฯก่อน เสมือนการชักศึกเข้าบ้านเทียบกับการให้ตั้งฐานทัพน้อย ๆ เพราะแร่ใช้ผลิตยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคง แถมก่อมลพิษยิ่งกว่าเหมืองทองคำหลายเท่าส่วน‘นิติพล ผิวเหมาะ’ พรรคประชาชนถาม MOU ฉบับนี้ไทยได้อะไร แต่เสียสิทธิ์เป็นผู้เล่นหรือผู้เลือกรายใหม่เพราะผูกกับสหรัฐฯไปแล้วทั้งที่แร่แรร์เอิร์ธ เป็นแร่สำคัญของโลก ควรศึกษารอบคอบ! อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000103483 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #แร่แรร์เอิร์ธ #รัฐบาลอนุทิน #MOUไทยสหรัฐ #ทรัพยากรของชาติ #สิ่งแวดล้อมไทย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.) เปิดเผยว่าเขาให้ไฟเขียวพันธมิตรอย่างเกาหลีใต้ สร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ หนึ่งวันหลังจาก 2 ประเทศ บรรลุข้อตกลงการค้าอย่างครอบคลุม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103525

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.) เปิดเผยว่าเขาให้ไฟเขียวพันธมิตรอย่างเกาหลีใต้ สร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ หนึ่งวันหลังจาก 2 ประเทศ บรรลุข้อตกลงการค้าอย่างครอบคลุม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103525 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังไม่หยุดเอ่ยปากชมความเป็นผู้นำของมาเลเซีย ภายใต้นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ต่อบทบาทของกัวลาลัมเปอร์ ที่นำมาซึ่งข้อตกลงสันติภาพประวัติศาสตร์ระหว่างกัมพูชาและไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของเบอร์นามา สื่อมวลชนมาเลเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103516

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire


    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังไม่หยุดเอ่ยปากชมความเป็นผู้นำของมาเลเซีย ภายใต้นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ต่อบทบาทของกัวลาลัมเปอร์ ที่นำมาซึ่งข้อตกลงสันติภาพประวัติศาสตร์ระหว่างกัมพูชาและไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของเบอร์นามา สื่อมวลชนมาเลเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103516 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • MOU แร่แรร์เอิร์ธ‘ไทย-สหรัฐฯ’ชวนให้คิด! คนใน กต.ชี้‘ทางการทูตเหมือนเราไม่ได้รับเกียรติ’ แม้ทางกฎหมายไม่มีผลยกเลิกได้แต่รัฐไทยลืมมองการเมืองระหว่างประเทศ ไทยเซ็นกับใคร จับตาสหรัฐฯใช้ไทยเป็นแหล่งรับของเน่า นำเข้าแร่แรร์เอิร์ธจากพม่า ส่งเข้าโรงแต่งแร่ในไทย จนได้‘หัวแร่’ส่งไปประเทศอื่นหรือสหรัฐฯ ด้าน ‘เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี’ แจง MOU ของไทยต่างกับสหรัฐฯทำกับชาติอื่นยกประโยชน์ชาติให้สหรัฐฯก่อน เสมือนการชักศึกเข้าบ้านเทียบกับการให้ตั้งฐานทัพน้อย ๆ เพราะแร่ใช้ผลิตยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคง แถมก่อมลพิษยิ่งกว่าเหมืองทองคำหลายเท่าส่วน‘นิติพล ผิวเหมาะ’ พรรคประชาชนถาม MOU ฉบับนี้ไทยได้อะไร แต่เสียสิทธิ์เป็นผู้เล่นหรือผู้เลือกรายใหม่เพราะผูกกับสหรัฐฯไปแล้วทั้งที่แร่แรร์เอิร์ธ เป็นแร่สำคัญของโลก ควรศึกษารอบคอบ!
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103514

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    MOU แร่แรร์เอิร์ธ‘ไทย-สหรัฐฯ’ชวนให้คิด! คนใน กต.ชี้‘ทางการทูตเหมือนเราไม่ได้รับเกียรติ’ แม้ทางกฎหมายไม่มีผลยกเลิกได้แต่รัฐไทยลืมมองการเมืองระหว่างประเทศ ไทยเซ็นกับใคร จับตาสหรัฐฯใช้ไทยเป็นแหล่งรับของเน่า นำเข้าแร่แรร์เอิร์ธจากพม่า ส่งเข้าโรงแต่งแร่ในไทย จนได้‘หัวแร่’ส่งไปประเทศอื่นหรือสหรัฐฯ ด้าน ‘เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี’ แจง MOU ของไทยต่างกับสหรัฐฯทำกับชาติอื่นยกประโยชน์ชาติให้สหรัฐฯก่อน เสมือนการชักศึกเข้าบ้านเทียบกับการให้ตั้งฐานทัพน้อย ๆ เพราะแร่ใช้ผลิตยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคง แถมก่อมลพิษยิ่งกว่าเหมืองทองคำหลายเท่าส่วน‘นิติพล ผิวเหมาะ’ พรรคประชาชนถาม MOU ฉบับนี้ไทยได้อะไร แต่เสียสิทธิ์เป็นผู้เล่นหรือผู้เลือกรายใหม่เพราะผูกกับสหรัฐฯไปแล้วทั้งที่แร่แรร์เอิร์ธ เป็นแร่สำคัญของโลก ควรศึกษารอบคอบ! . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103514 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลยืนยันว่ายังคงยึดมั่นต่อข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่มีสหรัฐฯสนับสนุน แม้เพิ่งเปิดปฏิบัติการแก้แค้นให้กับนายทหารยิวที่เสียชีวิตรายหนึ่ง ด้วยการถล่มฉนวนปาเลสไตน์ตลอดทั้งวัน สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 104 ราย ความเคลื่อนไหวที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ รุดออกมากลบกระแสความกังวล บอกเป็นแค่การตอบโต้กลับและเชื่อว่าข้อตกลงหยุดยิงยังไม่เสี่ยงพังครืน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103513

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    อิสราเอลยืนยันว่ายังคงยึดมั่นต่อข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่มีสหรัฐฯสนับสนุน แม้เพิ่งเปิดปฏิบัติการแก้แค้นให้กับนายทหารยิวที่เสียชีวิตรายหนึ่ง ด้วยการถล่มฉนวนปาเลสไตน์ตลอดทั้งวัน สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 104 ราย ความเคลื่อนไหวที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ รุดออกมากลบกระแสความกังวล บอกเป็นแค่การตอบโต้กลับและเชื่อว่าข้อตกลงหยุดยิงยังไม่เสี่ยงพังครืน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103513 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • MOU แร่หายาก ไทย–สหรัฐ เปิดดีลเสี่ยงติดหล่ม : ข่าวลึกปมลับ 29/10/68
    MOU แร่หายาก ไทย–สหรัฐ เปิดดีลเสี่ยงติดหล่ม : ข่าวลึกปมลับ 29/10/68
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 4 – 5
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 4

    หลังจากนายTrotsky ออกเดินทางจากนครนิวยอร์คได้ไม่นาน เมื่อเรือ S S Kristainiafjord มาถึงเมือง Halifax ประเทศแคนาดา ในวันที่ 3 เมษายน 1917 Trotsky ก็ถูกทางการแคนาดานำตัวขึ้นจากเรือ คราวนี้เขาถูกตั้งข้อหาว่า เป็นนักโทษสงครามชาวเยอรมัน และถูกคุมตัวไว้ที่เมือง Amherst ที่ ค่ายกักกันนักโทษเยอรมัน ไม่ใช่อยู่คุกแบบชั้นหนี่งอีกแล้ว ส่วนเมียของ Trotsky และลูก อีก 2 คน รวมทั้งพรรคพวกอีก 5 คน ซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นคนรัสเซีย ก็ถูกส่งไปอยู่ที่ค่ายกักกันนี้ด้วย

    เจ้าหน้าที่แคนาดาได้บันทึกราย ละเอียดเกี่ยวกับ Trotsky ไว้ในแบบฟอร์ม LB-1V หมายเลข 1098 ว่า “อายุ 37 ปี ลี้ภัยการเมือง อาชีพสื่อ เกิดที่เมือง Gromskty, Chuson รัสเซีย สัญชาติรัสเซีย” และTrotsky ได้เขียนชื่อเต็มของตัวเองในแบบฟอร์ม ว่า Leon Bromstein Trotsky

    Trotsky และคณะ ถูกให้นำตัวขึ้นจากเรือ S S Kristainiafjord โดยคำสั่งทางโทรเลขลงวันที่ 29 มี ค 1917 ส่งมาจากกองทัพเรือของอังกฤษ ทีลอนดอน มาที่ด่าน Halifax ในโทรเลขระบุว่า

    “ให้นำขึ้นจากเรือและคุมตัวไว้ เพื่อรอคำสั่ง เนื่องจากพวกสังคมนิยมกลุ่มนี้ กำลังเดินทางเพื่อไปทำการปฏิวัติรัฐบาลรัสเซียชุดปัจจุบัน โดย Trotsky รับเงินจำนวน 1 หมื่นเหรียญ มาจากพวกสังคมนิยมเยอรมัน”

    หลังจากรับโทรเลขของกองทัพเรือ กัปตัน O M Makins ก็แจ้งกลับไปทาง Halifax เมื่อวันที่ 1 เม.ย 1917 ว่า ได้ตรวจดูผู้โดยสารชาวรัสเซียที่มากับเรือ S S Kristainiafjord แล้ว พบว่ามี 6 คน ที่บอกว่าตนเองเป็นพวกสังคมนิยม และกัปตันเตรียมที่จะเชิญคนพวกนี้ขึ้นไปจากเรือ พร้อมด้วยเมียนาย Trotsky และลูก 2 คน เมื่อถึงเมือง Halifax

    วันที่ 7 เม.ย. 1917 เจ้าหน้าที่เมือง Ottawa บันทึกเกี่ยวกับเรื่องการกักตัวพวกสังคมนิยมชาวรัสเซียว่า ” เราได้รับโทรเลขยาวเหยียด จากกงสุลรัสเซียประจำ Montreal ประท้วง การกักตัวบุคคลดังกล่าว เนื่องจากบุคคลดังกล่าว ถือพาสปอร์ตที่ออกโดยกงสุลใหญ่รัสเซียประจำเมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา และเราจะต้องปล่อยตัวพวกเขา เมื่อมีข้อพิสูจน์ว่า พวกเขาไม่ได้เป็นชาวเยอรมัน แต่เป็นพวกสัมพันธมิตร ”

    (หมายเหตุ: ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้ง ที่ 1 รัสเซีย อยู่ฝ่ายเดียวกับอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ฯลฯ ที่เรียกกันว่า ฝ่าย “สัมพันธมิตร” เพื่อรบ กับอีกฝ่าย ที่นำโดย เยอรมันและ ออสเตรีย ฮังการี ฯลฯ )

    ข้อมูลชักเริ่มไปคนละทาง
    นอกจากนี้ ยังมีโทรเลขจากทนายความในนิวยอร์ค ชื่อ N. Aleinikoff แจ้งไปยัง R.M. Coulter นายด่านที่เมือง Ottawa “ชาวรัสเซียลี้ภัยทางการเมือง ถูกกักตัวที่ Halifax และอยู่ค่ายกักกัน Amherst โปรดตรวจสอบสาเหตุของการกักตัว และแจ้งรายชื่อมาด้วย เชื่อว่าในฐานะเป็นผู้รักเสรีภาพ คุณคงจะดูแลพวกเขาอย่างดี”

    วันที่ 11 เม.ย. R.M. Coulter โทรเลขกลับไปหานาย Aleinikoff ว่า “ได้รับโทรเลขแล้ว จะเขียนกลับไปหาบ่ายนี้ คุณคงได้รับพรุ่งนี้เย็น”

    จดหมายของ R.M. Coulter ถึง Aleinikoff มีข้อความน่าสนใจ “……พวกเขาต้องสงสัยว่า โฆษณาชวนเชื่อให้คัดค้านรัฐบาลรัสเซียปัจจุบัน และถูกสงสัยว่า เป็นสายลับของเยอรมัน แต่พวกเขาคงไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกอ้าง พวกเขาไม่ได้ถูกกักตัวโดยแคนาดา แต่เป็นคำสั่งมาจากนายใหญ่ที่อังกฤษ และเราจะดูแลเขาอย่างดี….”

    Aleinikoff ติดต่อกับ Coulter อีกหลายครั้ง เพื่อบอกว่าตนเองสนิทสนมกับ Trotsky เป็นอย่างดี และการที่กลุ่มของ Trotsky แสดงอาการที่ดูเหมือนไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย ก็เพราะไม่พอใจการกระทำของรัสเซียสมัยซาร์ ต่อพวกยิว แต่ขณะนี้พวกเขาก็ดูจะไม่มีปฏิกริยารุนแรงต่อผู้บริหารปัจจุบันของรัสเซีย(หมายถึงกลุ่ม Kerensky) จึงขอให้ Coulter ช่วยหาทางติดต่อพูดกับนายใหญ่ต ่อไปด้วย ในที่สุด R.M. Coulter ก็ส่งจดหมายทั้งหมดของ Aleinikoff ไปให้นายใหญ่ของตน คือ Major General Willoughby Gwatkin ที่แคนาดา ให้พิจารณา

    วันที่ 21 เม.ย. Gwatkin แจ้ง Coulter ว่า “เพื่อนของเรา พวกสังคมนิยมชาวรัสเซีย จะได้รับการปล่อยตัว และจะมีการจัดการให้พวกเขาเดินทางไปยุโรป ผู้ที่อนุมัติการปล่อยตัวกลุ่ม Trotsky คือนายใหญ่ที่ลอนดอน หวังว่าข่าวนี้คงเป็นที่พอใจกับทางนิวยอร์คอย่างยิ่ง”

    นาย Trotsky นี่ นอกจากน่าสงสัยว่า มีปลอกคอแล้ว เขาคงมีเส้นใหญ่อีกด้วย Coulter และ Gwatkin ถึงออกแรงเต็มที่ เพื่อให้ปล่อยตัว

    พวกเขาเกี่ยว หรือพัวพัน กันอย่างไร ?!!

    จากเอกสารที่ทางแคนาดา เปิดเผยภายหลังระบุว่า Coulter เป็นแพทย์ชาวไอริช จบแพทย์จากสก๊อตแลนด์ ส่วน Major General Willoughby Gwatkin เป็นทหารอังกฤษ ถูกส่งให้มาประจำอยู่ที่แคนาดา ตั้งแต่ ค.ศ.1905 ถึง 1918 ดูแล้วยังไม่เห็นความเชื่อมโยง ความเกี่ยว ความพัน ที่จะต้องให้ทั้ง 2 คน ช่วยกันออกแรง ให้มีการปล่อยตัวกลุ่มนายTrotsky

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 5
    เรื่องการปล่อยตัวนาย Trotsky มันน่าสงสัย แต่ไม่มีฝ่ายใดออกมาชี้แจง ผ่านไปปีกว่า มีคนขี้สงสัย ออกมาเขียนทวง

    ในปี ค.ศ.1918 Colonel John Bayne Maclean นักธุรกิจชาวแคนาดา เจ้าของโรงพิมพ์ใหญ่ และมีความคุ้นเคยอย่างดี กับพวกข่าวกรองของแคนาดา ทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาเขียนบทความเมื่อปี ค.ศ.1918 ลงในนิตยสารของเขาเอง เรื่อง “Why did We let Trotsky Go?” ทำไมเราถึงปล่อยตัว Trotsky?

    ใครคือ Trotsky ? Maclean บอกว่า Trotsky ไม่ใช่คนรัสเซีย แต่เป็นคนเยอรมัน เขาพูดภาษาเยอรมันได้ดีกว่าภาษารัสเซียเสียอีก เขาอยู่ในกลุ่ม “Black Bond” ของเยอรมัน แต่ภายหลังเล่นละครว่า ถูกไล่ออกมาจากเบอร์ลินในปี ค.ศ.1914 แล้วมาโผล่อยู่ที่อเมริกา เพื่อรวบรวมพรรคพวกที่อเมริกาและแคนาดา จากกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นรัสเซีย แต่ความจริง คนพวกนั้นเป็นเยอรมันกับออสเตรีย เพื่อไปทำการปฏิวัติที่รัสเซีย

    นาย Maclean บรรยายต่อไปว่า: ทางการอังกฤษ รู้จากพรรคพวกที่เป็นคนรัสเซียว่า ทั้ง Kerensky, Lenin และหัวหน้าย่อยๆลงมา ต่างได้รับค่าจ้างจากเยอรมันทั้งนั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1915 และมารู้ข้อมูลเพิ่มเติมในปี ค.ศ.1916 ว่า Trotsky หลบมาอาศัยอยู่ที่นิวยอร์ค จากนั้น กลุ่ม Bomb Squad ของอเมริกา ก็ตามต่อ ต้นปี ค.ศ. 1916 มีรายงานหลุดมาว่า มีเจ้าหน้าที่เยอรมันคนหนึ่ง กำลังนั่งเรือเพื่อมานิวยอร์ค ฝ่ายข่าวกรองอังกฤษประกบติดคนเยอรมันดังกล่าว ซึ่งถูกกักตัวไว้ที่ Halifax ภายหลังมีการขอโทษที่กักตัวไว้ และในที่สุดก็ปล่อยตัวไป ฝ่ายข่าวกรองไม่ยอมปล่อยมือ ทำการแกะรอยตามต่อ ไปพบตัวอยู่ในสำนักพิมพ์เก่าๆ แถวนิวยอร์คใช้ชื่อว่า Trotsky และรู้ว่าชื่อจริงคือ Braustein และเป็นคนเยอรมัน ไม่ใช่คนรัสเซีย

    Maclean บอกว่า เงินลึกลับ 1 หมื่นเหรียญ มาจากพวกเยอรมันในนิวยอร์ค และการปล่อยตัว Trotsky มาจากคำขอร้องของ Kerensky ซึ่งพวกอังกฤษเข้าใจว่า การปฏิวัติของ Kerensky จะทำให้รัสเซียยังอยู่ในกลุ่มสัมพันธมิตร และร่วมกันต่อสู้เยอรมัน แต่หลังจากมีการปล่อยตัว Trotsky ไปแล้วหลายเดือน ทหารแคนาดาที่ประจำการอยู่ที่รัสเซียและสามารถพูดภาษารัสเซียได้ รายงานไปทางลอนดอนและวอชิงตันว่า Kerensky เองก็เป็นคนเยอรมัน !
    ข่าวของนาย Maclean นี่ สงสัยต้องกรองแยะหน่อย

    ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวลือมาจากวงในระดับสูง ว่า Trotsky ได้ รับการปล่อยตัวจากคำร้องขอ ของสถานฑูตอังกฤษในวอชิงตัน ซึ่งถูกขอร้องโดยกระทรวงต่างประเทศอเมริกัน ซึ่งทำการแทนใครบางคน…อีกต่อหนึ่ง ฝ่ายแคนาดาถูกสั่งให้แจ้งแก่สื่อว่า การปล่อยตัว Trotsky เป็นไปตามคำสั่งของกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา

    ข่าวนี้จริงหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่น่าสนใจกว่าข่าวของนาย Maclean

    ข้อมูลเกี่ยวกับนาย Trotsky เท่าที่มีจนถึงตอนนี้ มาจากหลายฝ่ายและดูสับสน แต่ก็พอจับความได้ว่า นาย Trotsky กำลังเดินทางจากนิวยอร์คไป Petrograd (คือเมือง St Petersberg ในปัจจุบัน) ด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา ที่มีการอ้างว่า ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกาเป็นคนจัดการให้ โดยมีการพูดกันว่า นาย Trotsky จะไปทำการปฏิวัติรัสเซีย ให้สมบูรณ์ (ปฏิวัติรอบ 2 ?) ส่วนรัฐบาลอังกฤษ มีส่วนสำคัญในการปล่อยตัว Trotsky จากแคนาดา ในเดือน เม.ย. 1917 ด้วยเหตุผลใดยังไม่รู้

    ส่วนนาย Cranes คงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่ง เกี่ยวกับการปฏิวัติในรัสเซีย ด้านหนึ่ง คงเชื่อมกับ Lincoln Steffens และอีกด้านอาจจะเชื่อมกับ Trotsky ขณะที่ Cranes ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่ลูกชายของ Cranes เป็นผู้ช่วย ของรัฐมนตรีต่างประเทศ Robert Lansing ที่ได้รับการไว้วางใจอย่างยิ่ง และ Cranes คนพ่อ ได้รับการรายงานเกี่ยวกับปฏิวัติบอลเซวิกอย่างละเอียดจากทางการ นอกจากนี้ Cranes น่าจะมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลอเมริกัน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล

    ความน่าสนใจ ไม่ใช่แค่การเชื่อมโยง ของบุคคลด้านอเมริกา กับTrotsky นักปฏิวัติรัสเซียเท่านั้น แต่การที่ Trotsky บอกว่า รัฐบาลเฉพาะกาล Provisional ของ Kerensky คงเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลชั่วคราว และเหมือนจะมีการปฏิวัติซ้ำตามมานั้น ตกลงมันเป็นเรื่องรู้กันอยู่ มวยล้มต้มคนดู ตั้งแต่ต้นอย่างนั้นหรือ

    แต่ประเด็นสำคัญ ที่ต้องตามดูอย่างยิ่งคือ ตกลง Trotsky ทำการปฏิวัติรัสเซียให้ใคร มันเป็นการปฏิวัติ ตามอุดมการณ์ของตัวเขาเอง หรือเขาเป็นเพียง “ผู้รับจ้าง” ให้ทำการปฏิวัติ และถ้าเป็น “ผู้รับจ้าง” ใครเป็นผู้จ้างเขา และผู้จ้าง Trotsky ทำไปเพื่ออะไร หรือ Trotsky เล่นบท 2 หน้า

    มีรายงานวันที่ 20 มีนาคม 1918 จากมอสโคว์ จากข่าวของ นสพ รัสเซีย Russkoe Slovo ว่า ได้มีการสัมภาษณ์ Trotsky ซึ่งพูดชัดเจนว่า การเป็นพันธมิตรกับอเมริกาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โซเวียตไม่มีทางเป็นมิตรกับพวกทุนนิยมอย่างอเมริกา มันเป็นการทรยศต่ออุดมการณ์ และเป็นไปไม่ได้ ที่อเมริกาจะมาสร้างสัมพันธ์กับเรา ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ ที่เราจะคบค้ากับประเทศที่เป็นสังคมนายทุน

    ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานมาจากทางมอสโคว์เช่นเดียวกัน เป็นโทรเลขลงวันที่ 17 มีนาคม 1918 จากฑูต Francis ของอเมริกา ที่ประจำอยู่ที่รัสเซีย แจ้งไปทางกระทรวงต่างประเทศอเมริกาว่า “Trotsky ขอให้ทางเราส่งเจ้าหน้าที่อเมริกันมา 5 คน เพื่อมาช่วยสำรวจกองทัพ รวมทั้งส่งคนและสิ่งของมาเพื่อจัดการเรื่องทางรถไฟ”

    โทรเลขดังกล่าวของฑูต Francis ดูเป็นการขัดและสวนทางกับการให้สัมภาษณ์ของ Trotsky ต้องมีฝ่ายหนึ่งที่พูดไม่จริง

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    24 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 4 – 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 4 หลังจากนายTrotsky ออกเดินทางจากนครนิวยอร์คได้ไม่นาน เมื่อเรือ S S Kristainiafjord มาถึงเมือง Halifax ประเทศแคนาดา ในวันที่ 3 เมษายน 1917 Trotsky ก็ถูกทางการแคนาดานำตัวขึ้นจากเรือ คราวนี้เขาถูกตั้งข้อหาว่า เป็นนักโทษสงครามชาวเยอรมัน และถูกคุมตัวไว้ที่เมือง Amherst ที่ ค่ายกักกันนักโทษเยอรมัน ไม่ใช่อยู่คุกแบบชั้นหนี่งอีกแล้ว ส่วนเมียของ Trotsky และลูก อีก 2 คน รวมทั้งพรรคพวกอีก 5 คน ซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นคนรัสเซีย ก็ถูกส่งไปอยู่ที่ค่ายกักกันนี้ด้วย เจ้าหน้าที่แคนาดาได้บันทึกราย ละเอียดเกี่ยวกับ Trotsky ไว้ในแบบฟอร์ม LB-1V หมายเลข 1098 ว่า “อายุ 37 ปี ลี้ภัยการเมือง อาชีพสื่อ เกิดที่เมือง Gromskty, Chuson รัสเซีย สัญชาติรัสเซีย” และTrotsky ได้เขียนชื่อเต็มของตัวเองในแบบฟอร์ม ว่า Leon Bromstein Trotsky Trotsky และคณะ ถูกให้นำตัวขึ้นจากเรือ S S Kristainiafjord โดยคำสั่งทางโทรเลขลงวันที่ 29 มี ค 1917 ส่งมาจากกองทัพเรือของอังกฤษ ทีลอนดอน มาที่ด่าน Halifax ในโทรเลขระบุว่า “ให้นำขึ้นจากเรือและคุมตัวไว้ เพื่อรอคำสั่ง เนื่องจากพวกสังคมนิยมกลุ่มนี้ กำลังเดินทางเพื่อไปทำการปฏิวัติรัฐบาลรัสเซียชุดปัจจุบัน โดย Trotsky รับเงินจำนวน 1 หมื่นเหรียญ มาจากพวกสังคมนิยมเยอรมัน” หลังจากรับโทรเลขของกองทัพเรือ กัปตัน O M Makins ก็แจ้งกลับไปทาง Halifax เมื่อวันที่ 1 เม.ย 1917 ว่า ได้ตรวจดูผู้โดยสารชาวรัสเซียที่มากับเรือ S S Kristainiafjord แล้ว พบว่ามี 6 คน ที่บอกว่าตนเองเป็นพวกสังคมนิยม และกัปตันเตรียมที่จะเชิญคนพวกนี้ขึ้นไปจากเรือ พร้อมด้วยเมียนาย Trotsky และลูก 2 คน เมื่อถึงเมือง Halifax วันที่ 7 เม.ย. 1917 เจ้าหน้าที่เมือง Ottawa บันทึกเกี่ยวกับเรื่องการกักตัวพวกสังคมนิยมชาวรัสเซียว่า ” เราได้รับโทรเลขยาวเหยียด จากกงสุลรัสเซียประจำ Montreal ประท้วง การกักตัวบุคคลดังกล่าว เนื่องจากบุคคลดังกล่าว ถือพาสปอร์ตที่ออกโดยกงสุลใหญ่รัสเซียประจำเมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา และเราจะต้องปล่อยตัวพวกเขา เมื่อมีข้อพิสูจน์ว่า พวกเขาไม่ได้เป็นชาวเยอรมัน แต่เป็นพวกสัมพันธมิตร ” (หมายเหตุ: ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้ง ที่ 1 รัสเซีย อยู่ฝ่ายเดียวกับอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ฯลฯ ที่เรียกกันว่า ฝ่าย “สัมพันธมิตร” เพื่อรบ กับอีกฝ่าย ที่นำโดย เยอรมันและ ออสเตรีย ฮังการี ฯลฯ ) ข้อมูลชักเริ่มไปคนละทาง นอกจากนี้ ยังมีโทรเลขจากทนายความในนิวยอร์ค ชื่อ N. Aleinikoff แจ้งไปยัง R.M. Coulter นายด่านที่เมือง Ottawa “ชาวรัสเซียลี้ภัยทางการเมือง ถูกกักตัวที่ Halifax และอยู่ค่ายกักกัน Amherst โปรดตรวจสอบสาเหตุของการกักตัว และแจ้งรายชื่อมาด้วย เชื่อว่าในฐานะเป็นผู้รักเสรีภาพ คุณคงจะดูแลพวกเขาอย่างดี” วันที่ 11 เม.ย. R.M. Coulter โทรเลขกลับไปหานาย Aleinikoff ว่า “ได้รับโทรเลขแล้ว จะเขียนกลับไปหาบ่ายนี้ คุณคงได้รับพรุ่งนี้เย็น” จดหมายของ R.M. Coulter ถึง Aleinikoff มีข้อความน่าสนใจ “……พวกเขาต้องสงสัยว่า โฆษณาชวนเชื่อให้คัดค้านรัฐบาลรัสเซียปัจจุบัน และถูกสงสัยว่า เป็นสายลับของเยอรมัน แต่พวกเขาคงไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกอ้าง พวกเขาไม่ได้ถูกกักตัวโดยแคนาดา แต่เป็นคำสั่งมาจากนายใหญ่ที่อังกฤษ และเราจะดูแลเขาอย่างดี….” Aleinikoff ติดต่อกับ Coulter อีกหลายครั้ง เพื่อบอกว่าตนเองสนิทสนมกับ Trotsky เป็นอย่างดี และการที่กลุ่มของ Trotsky แสดงอาการที่ดูเหมือนไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย ก็เพราะไม่พอใจการกระทำของรัสเซียสมัยซาร์ ต่อพวกยิว แต่ขณะนี้พวกเขาก็ดูจะไม่มีปฏิกริยารุนแรงต่อผู้บริหารปัจจุบันของรัสเซีย(หมายถึงกลุ่ม Kerensky) จึงขอให้ Coulter ช่วยหาทางติดต่อพูดกับนายใหญ่ต ่อไปด้วย ในที่สุด R.M. Coulter ก็ส่งจดหมายทั้งหมดของ Aleinikoff ไปให้นายใหญ่ของตน คือ Major General Willoughby Gwatkin ที่แคนาดา ให้พิจารณา วันที่ 21 เม.ย. Gwatkin แจ้ง Coulter ว่า “เพื่อนของเรา พวกสังคมนิยมชาวรัสเซีย จะได้รับการปล่อยตัว และจะมีการจัดการให้พวกเขาเดินทางไปยุโรป ผู้ที่อนุมัติการปล่อยตัวกลุ่ม Trotsky คือนายใหญ่ที่ลอนดอน หวังว่าข่าวนี้คงเป็นที่พอใจกับทางนิวยอร์คอย่างยิ่ง” นาย Trotsky นี่ นอกจากน่าสงสัยว่า มีปลอกคอแล้ว เขาคงมีเส้นใหญ่อีกด้วย Coulter และ Gwatkin ถึงออกแรงเต็มที่ เพื่อให้ปล่อยตัว พวกเขาเกี่ยว หรือพัวพัน กันอย่างไร ?!! จากเอกสารที่ทางแคนาดา เปิดเผยภายหลังระบุว่า Coulter เป็นแพทย์ชาวไอริช จบแพทย์จากสก๊อตแลนด์ ส่วน Major General Willoughby Gwatkin เป็นทหารอังกฤษ ถูกส่งให้มาประจำอยู่ที่แคนาดา ตั้งแต่ ค.ศ.1905 ถึง 1918 ดูแล้วยังไม่เห็นความเชื่อมโยง ความเกี่ยว ความพัน ที่จะต้องให้ทั้ง 2 คน ช่วยกันออกแรง ให้มีการปล่อยตัวกลุ่มนายTrotsky นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 5 เรื่องการปล่อยตัวนาย Trotsky มันน่าสงสัย แต่ไม่มีฝ่ายใดออกมาชี้แจง ผ่านไปปีกว่า มีคนขี้สงสัย ออกมาเขียนทวง ในปี ค.ศ.1918 Colonel John Bayne Maclean นักธุรกิจชาวแคนาดา เจ้าของโรงพิมพ์ใหญ่ และมีความคุ้นเคยอย่างดี กับพวกข่าวกรองของแคนาดา ทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาเขียนบทความเมื่อปี ค.ศ.1918 ลงในนิตยสารของเขาเอง เรื่อง “Why did We let Trotsky Go?” ทำไมเราถึงปล่อยตัว Trotsky? ใครคือ Trotsky ? Maclean บอกว่า Trotsky ไม่ใช่คนรัสเซีย แต่เป็นคนเยอรมัน เขาพูดภาษาเยอรมันได้ดีกว่าภาษารัสเซียเสียอีก เขาอยู่ในกลุ่ม “Black Bond” ของเยอรมัน แต่ภายหลังเล่นละครว่า ถูกไล่ออกมาจากเบอร์ลินในปี ค.ศ.1914 แล้วมาโผล่อยู่ที่อเมริกา เพื่อรวบรวมพรรคพวกที่อเมริกาและแคนาดา จากกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นรัสเซีย แต่ความจริง คนพวกนั้นเป็นเยอรมันกับออสเตรีย เพื่อไปทำการปฏิวัติที่รัสเซีย นาย Maclean บรรยายต่อไปว่า: ทางการอังกฤษ รู้จากพรรคพวกที่เป็นคนรัสเซียว่า ทั้ง Kerensky, Lenin และหัวหน้าย่อยๆลงมา ต่างได้รับค่าจ้างจากเยอรมันทั้งนั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1915 และมารู้ข้อมูลเพิ่มเติมในปี ค.ศ.1916 ว่า Trotsky หลบมาอาศัยอยู่ที่นิวยอร์ค จากนั้น กลุ่ม Bomb Squad ของอเมริกา ก็ตามต่อ ต้นปี ค.ศ. 1916 มีรายงานหลุดมาว่า มีเจ้าหน้าที่เยอรมันคนหนึ่ง กำลังนั่งเรือเพื่อมานิวยอร์ค ฝ่ายข่าวกรองอังกฤษประกบติดคนเยอรมันดังกล่าว ซึ่งถูกกักตัวไว้ที่ Halifax ภายหลังมีการขอโทษที่กักตัวไว้ และในที่สุดก็ปล่อยตัวไป ฝ่ายข่าวกรองไม่ยอมปล่อยมือ ทำการแกะรอยตามต่อ ไปพบตัวอยู่ในสำนักพิมพ์เก่าๆ แถวนิวยอร์คใช้ชื่อว่า Trotsky และรู้ว่าชื่อจริงคือ Braustein และเป็นคนเยอรมัน ไม่ใช่คนรัสเซีย Maclean บอกว่า เงินลึกลับ 1 หมื่นเหรียญ มาจากพวกเยอรมันในนิวยอร์ค และการปล่อยตัว Trotsky มาจากคำขอร้องของ Kerensky ซึ่งพวกอังกฤษเข้าใจว่า การปฏิวัติของ Kerensky จะทำให้รัสเซียยังอยู่ในกลุ่มสัมพันธมิตร และร่วมกันต่อสู้เยอรมัน แต่หลังจากมีการปล่อยตัว Trotsky ไปแล้วหลายเดือน ทหารแคนาดาที่ประจำการอยู่ที่รัสเซียและสามารถพูดภาษารัสเซียได้ รายงานไปทางลอนดอนและวอชิงตันว่า Kerensky เองก็เป็นคนเยอรมัน ! ข่าวของนาย Maclean นี่ สงสัยต้องกรองแยะหน่อย ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวลือมาจากวงในระดับสูง ว่า Trotsky ได้ รับการปล่อยตัวจากคำร้องขอ ของสถานฑูตอังกฤษในวอชิงตัน ซึ่งถูกขอร้องโดยกระทรวงต่างประเทศอเมริกัน ซึ่งทำการแทนใครบางคน…อีกต่อหนึ่ง ฝ่ายแคนาดาถูกสั่งให้แจ้งแก่สื่อว่า การปล่อยตัว Trotsky เป็นไปตามคำสั่งของกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา ข่าวนี้จริงหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่น่าสนใจกว่าข่าวของนาย Maclean ข้อมูลเกี่ยวกับนาย Trotsky เท่าที่มีจนถึงตอนนี้ มาจากหลายฝ่ายและดูสับสน แต่ก็พอจับความได้ว่า นาย Trotsky กำลังเดินทางจากนิวยอร์คไป Petrograd (คือเมือง St Petersberg ในปัจจุบัน) ด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา ที่มีการอ้างว่า ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกาเป็นคนจัดการให้ โดยมีการพูดกันว่า นาย Trotsky จะไปทำการปฏิวัติรัสเซีย ให้สมบูรณ์ (ปฏิวัติรอบ 2 ?) ส่วนรัฐบาลอังกฤษ มีส่วนสำคัญในการปล่อยตัว Trotsky จากแคนาดา ในเดือน เม.ย. 1917 ด้วยเหตุผลใดยังไม่รู้ ส่วนนาย Cranes คงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่ง เกี่ยวกับการปฏิวัติในรัสเซีย ด้านหนึ่ง คงเชื่อมกับ Lincoln Steffens และอีกด้านอาจจะเชื่อมกับ Trotsky ขณะที่ Cranes ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่ลูกชายของ Cranes เป็นผู้ช่วย ของรัฐมนตรีต่างประเทศ Robert Lansing ที่ได้รับการไว้วางใจอย่างยิ่ง และ Cranes คนพ่อ ได้รับการรายงานเกี่ยวกับปฏิวัติบอลเซวิกอย่างละเอียดจากทางการ นอกจากนี้ Cranes น่าจะมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลอเมริกัน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ความน่าสนใจ ไม่ใช่แค่การเชื่อมโยง ของบุคคลด้านอเมริกา กับTrotsky นักปฏิวัติรัสเซียเท่านั้น แต่การที่ Trotsky บอกว่า รัฐบาลเฉพาะกาล Provisional ของ Kerensky คงเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลชั่วคราว และเหมือนจะมีการปฏิวัติซ้ำตามมานั้น ตกลงมันเป็นเรื่องรู้กันอยู่ มวยล้มต้มคนดู ตั้งแต่ต้นอย่างนั้นหรือ แต่ประเด็นสำคัญ ที่ต้องตามดูอย่างยิ่งคือ ตกลง Trotsky ทำการปฏิวัติรัสเซียให้ใคร มันเป็นการปฏิวัติ ตามอุดมการณ์ของตัวเขาเอง หรือเขาเป็นเพียง “ผู้รับจ้าง” ให้ทำการปฏิวัติ และถ้าเป็น “ผู้รับจ้าง” ใครเป็นผู้จ้างเขา และผู้จ้าง Trotsky ทำไปเพื่ออะไร หรือ Trotsky เล่นบท 2 หน้า มีรายงานวันที่ 20 มีนาคม 1918 จากมอสโคว์ จากข่าวของ นสพ รัสเซีย Russkoe Slovo ว่า ได้มีการสัมภาษณ์ Trotsky ซึ่งพูดชัดเจนว่า การเป็นพันธมิตรกับอเมริกาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โซเวียตไม่มีทางเป็นมิตรกับพวกทุนนิยมอย่างอเมริกา มันเป็นการทรยศต่ออุดมการณ์ และเป็นไปไม่ได้ ที่อเมริกาจะมาสร้างสัมพันธ์กับเรา ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ ที่เราจะคบค้ากับประเทศที่เป็นสังคมนายทุน ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานมาจากทางมอสโคว์เช่นเดียวกัน เป็นโทรเลขลงวันที่ 17 มีนาคม 1918 จากฑูต Francis ของอเมริกา ที่ประจำอยู่ที่รัสเซีย แจ้งไปทางกระทรวงต่างประเทศอเมริกาว่า “Trotsky ขอให้ทางเราส่งเจ้าหน้าที่อเมริกันมา 5 คน เพื่อมาช่วยสำรวจกองทัพ รวมทั้งส่งคนและสิ่งของมาเพื่อจัดการเรื่องทางรถไฟ” โทรเลขดังกล่าวของฑูต Francis ดูเป็นการขัดและสวนทางกับการให้สัมภาษณ์ของ Trotsky ต้องมีฝ่ายหนึ่งที่พูดไม่จริง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 24 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • MOUแรร์เอิร์ธเรื่องผ่านครม. แต่ประชาชนงงตาแตก (29/10/68)
    .
    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #MOUแรร์เอิร์ธ #RareEarth #รัฐบาลไทย #อนุทิน #สหรัฐอเมริกา #เศรษฐกิจไทย #ข่าวเศรษฐกิจ #newsupdate #ข่าวtiktok
    MOUแรร์เอิร์ธเรื่องผ่านครม. แต่ประชาชนงงตาแตก (29/10/68) . #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #MOUแรร์เอิร์ธ #RareEarth #รัฐบาลไทย #อนุทิน #สหรัฐอเมริกา #เศรษฐกิจไทย #ข่าวเศรษฐกิจ #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รองหัวหน้า พปชร. หวั่น MOU แรร์เอิร์ธ เปิดช่องสหรัฐฯ แทรกแซงข้อมูลทรัพยากร ส่อ "เลือกข้าง" มหาอำนาจ
    https://www.thai-tai.tv/news/22101/
    .
    #ไทยไท #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #MOUแร่หายาก #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #เลือกข้าง #ภูมิรัฐศาสตร์ #สแกมเมอร์

    รองหัวหน้า พปชร. หวั่น MOU แรร์เอิร์ธ เปิดช่องสหรัฐฯ แทรกแซงข้อมูลทรัพยากร ส่อ "เลือกข้าง" มหาอำนาจ https://www.thai-tai.tv/news/22101/ . #ไทยไท #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #MOUแร่หายาก #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #เลือกข้าง #ภูมิรัฐศาสตร์ #สแกมเมอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สหรัฐ–ญี่ปุ่นจับมือสลายอิทธิพลจีนในตลาดแร่หายาก พร้อมเร่งพลังงานนิวเคลียร์รับยุค AI”

    ในวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านแร่หายากและพลังงานนิวเคลียร์ ณ กรุงโตเกียว โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการลดการพึ่งพาจีน ซึ่งครองตลาดการกลั่นและผลิตแม่เหล็กจากแร่หายากกว่า 85% ของโลก แม้จีนจะมีเพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณแร่หายากดิบทั่วโลก แต่กลับควบคุมกระบวนการผลิตที่สำคัญเกือบทั้งหมด

    ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นก่อนการพบกันระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐในการสร้างเส้นทางใหม่ด้านทรัพยากรและพลังงาน โดยเฉพาะแร่ neodymium และ praseodymium ที่จำเป็นต่อการผลิตแม่เหล็กถาวรในมอเตอร์ EV และฮาร์ดไดรฟ์

    นอกจากแร่หายากแล้ว ข้อตกลงยังรวมถึงความร่วมมือในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) โดยเฉพาะแบบ BWRX-300 ที่พัฒนาโดย GE Vernova และ Hitachi ซึ่งได้รับอนุมัติให้สร้างในอเมริกาเหนือแล้ว และกำลังเป็นที่สนใจของบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Google, Amazon และ Microsoft ที่ต้องการพลังงานมหาศาลเพื่อรองรับการประมวลผล AI

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    สหรัฐและญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงด้านแร่หายากและพลังงานนิวเคลียร์
    เป้าหมายคือลดการพึ่งพาจีนที่ครองตลาดการกลั่นแร่หายากกว่า 85%
    เน้นแร่ neodymium และ praseodymium สำหรับแม่เหล็กถาวร
    ข้อตกลงเกิดก่อนการประชุมระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิง

    ความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์
    เน้นการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR)
    แบบ BWRX-300 ได้รับอนุมัติแล้วในอเมริกาเหนือ
    บริษัทเทคโนโลยีใหญ่กำลังลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับ AI

    ความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    OpenAI, xAI และ TSMC Arizona ต้องการพลังงานเฉพาะสำหรับศูนย์ข้อมูล
    พลังงานนิวเคลียร์กลายเป็น “ปัจจัยด้านฮาร์ดแวร์” สำหรับการสร้าง GPU และเซิร์ฟเวอร์ AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/us-and-japan-move-to-pry-rare-earths-from-chinas-grip
    🌏 “สหรัฐ–ญี่ปุ่นจับมือสลายอิทธิพลจีนในตลาดแร่หายาก พร้อมเร่งพลังงานนิวเคลียร์รับยุค AI” ในวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านแร่หายากและพลังงานนิวเคลียร์ ณ กรุงโตเกียว โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการลดการพึ่งพาจีน ซึ่งครองตลาดการกลั่นและผลิตแม่เหล็กจากแร่หายากกว่า 85% ของโลก แม้จีนจะมีเพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณแร่หายากดิบทั่วโลก แต่กลับควบคุมกระบวนการผลิตที่สำคัญเกือบทั้งหมด ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นก่อนการพบกันระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐในการสร้างเส้นทางใหม่ด้านทรัพยากรและพลังงาน โดยเฉพาะแร่ neodymium และ praseodymium ที่จำเป็นต่อการผลิตแม่เหล็กถาวรในมอเตอร์ EV และฮาร์ดไดรฟ์ นอกจากแร่หายากแล้ว ข้อตกลงยังรวมถึงความร่วมมือในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) โดยเฉพาะแบบ BWRX-300 ที่พัฒนาโดย GE Vernova และ Hitachi ซึ่งได้รับอนุมัติให้สร้างในอเมริกาเหนือแล้ว และกำลังเป็นที่สนใจของบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Google, Amazon และ Microsoft ที่ต้องการพลังงานมหาศาลเพื่อรองรับการประมวลผล AI ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ สหรัฐและญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงด้านแร่หายากและพลังงานนิวเคลียร์ ➡️ เป้าหมายคือลดการพึ่งพาจีนที่ครองตลาดการกลั่นแร่หายากกว่า 85% ➡️ เน้นแร่ neodymium และ praseodymium สำหรับแม่เหล็กถาวร ➡️ ข้อตกลงเกิดก่อนการประชุมระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิง ✅ ความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์ ➡️ เน้นการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) ➡️ แบบ BWRX-300 ได้รับอนุมัติแล้วในอเมริกาเหนือ ➡️ บริษัทเทคโนโลยีใหญ่กำลังลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับ AI ✅ ความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ➡️ OpenAI, xAI และ TSMC Arizona ต้องการพลังงานเฉพาะสำหรับศูนย์ข้อมูล ➡️ พลังงานนิวเคลียร์กลายเป็น “ปัจจัยด้านฮาร์ดแวร์” สำหรับการสร้าง GPU และเซิร์ฟเวอร์ AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/us-and-japan-move-to-pry-rare-earths-from-chinas-grip
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    US and Japan move to loosen China’s rare earths grip — nations partner to build alternative pathways to power, resource independence
    Tokyo pact pairs magnet supply chain resilience with new nuclear cooperation, days before Trump meets Xi.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Nvidia ผนึกกำลัง Oracle สร้าง 7 ซูเปอร์คอม AI ให้รัฐบาลสหรัฐ – รวมพลังทะลุ 2,200 ExaFLOPS ด้วย Blackwell กว่าแสนตัว!”

    Nvidia ประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่กับ Oracle และกระทรวงพลังงานสหรัฐ (DOE) เพื่อสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI จำนวน 7 ระบบ โดยเฉพาะที่ Argonne National Laboratory ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของ “Equinox” และ “Solstice” สองระบบหลักที่ใช้ GPU Blackwell รวมกันกว่า 100,000 ตัว ให้พลังประมวลผลรวมสูงถึง 2,200 ExaFLOPS สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ

    Equinox จะเริ่มใช้งานในปี 2026 โดยใช้ GPU Blackwell จำนวน 10,000 ตัว ส่วน Solstice จะเป็นระบบขนาด 200 เมกะวัตต์ ที่ใช้ GPU Blackwell มากกว่า 100,000 ตัว และเมื่อเชื่อมต่อกับ Equinox จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่ที่สุดของ DOE

    ระบบเหล่านี้จะถูกใช้ในการสร้างโมเดล AI ขนาด 3 ล้านล้านพารามิเตอร์ และพัฒนา “agentic scientists” หรือ AI ที่สามารถค้นคว้าและตั้งสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ด้วยตนเอง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Nvidia และ Oracle สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI 7 ระบบให้รัฐบาลสหรัฐ
    ใช้ GPU Blackwell รวมกว่า 100,000 ตัว
    พลังประมวลผลรวม 2,200 ExaFLOPS (FP4 สำหรับ AI)
    ระบบหลักคือ Equinox (10,000 GPU) และ Solstice (100,000+ GPU)
    Equinox จะเริ่มใช้งานในปี 2026

    จุดประสงค์ของโครงการ
    สนับสนุนการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และความมั่นคง
    พัฒนาโมเดล AI ขนาด 3 ล้านล้านพารามิเตอร์
    สร้าง “agentic AI” ที่สามารถตั้งสมมติฐานและทดลองได้เอง
    ขับเคลื่อนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ด้วย AI

    ความร่วมมือและการลงทุน
    ใช้โมเดล public-private partnership ระหว่าง Nvidia, Oracle และ DOE
    Oracle เป็นผู้สร้างระบบ Equinox และ Solstice
    ระบบจะใช้ซอฟต์แวร์ของ Nvidia เช่น Megatron-Core และ TensorRT

    ระบบอื่นในโครงการ
    Argonne ยังจะได้ระบบใหม่อีก 3 ตัว: Tara, Minerva และ Janus
    ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ Argonne Leadership Computing Facility

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/nvidia-and-partners-to-build-seven-ai-supercomputers-for-the-u-s-govt-with-over-100-000-blackwell-gpus-combined-performance-of-2-200-exaflops-of-compute
    🚀 “Nvidia ผนึกกำลัง Oracle สร้าง 7 ซูเปอร์คอม AI ให้รัฐบาลสหรัฐ – รวมพลังทะลุ 2,200 ExaFLOPS ด้วย Blackwell กว่าแสนตัว!” Nvidia ประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่กับ Oracle และกระทรวงพลังงานสหรัฐ (DOE) เพื่อสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI จำนวน 7 ระบบ โดยเฉพาะที่ Argonne National Laboratory ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของ “Equinox” และ “Solstice” สองระบบหลักที่ใช้ GPU Blackwell รวมกันกว่า 100,000 ตัว ให้พลังประมวลผลรวมสูงถึง 2,200 ExaFLOPS สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ Equinox จะเริ่มใช้งานในปี 2026 โดยใช้ GPU Blackwell จำนวน 10,000 ตัว ส่วน Solstice จะเป็นระบบขนาด 200 เมกะวัตต์ ที่ใช้ GPU Blackwell มากกว่า 100,000 ตัว และเมื่อเชื่อมต่อกับ Equinox จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่ที่สุดของ DOE ระบบเหล่านี้จะถูกใช้ในการสร้างโมเดล AI ขนาด 3 ล้านล้านพารามิเตอร์ และพัฒนา “agentic scientists” หรือ AI ที่สามารถค้นคว้าและตั้งสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ด้วยตนเอง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Nvidia และ Oracle สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI 7 ระบบให้รัฐบาลสหรัฐ ➡️ ใช้ GPU Blackwell รวมกว่า 100,000 ตัว ➡️ พลังประมวลผลรวม 2,200 ExaFLOPS (FP4 สำหรับ AI) ➡️ ระบบหลักคือ Equinox (10,000 GPU) และ Solstice (100,000+ GPU) ➡️ Equinox จะเริ่มใช้งานในปี 2026 ✅ จุดประสงค์ของโครงการ ➡️ สนับสนุนการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และความมั่นคง ➡️ พัฒนาโมเดล AI ขนาด 3 ล้านล้านพารามิเตอร์ ➡️ สร้าง “agentic AI” ที่สามารถตั้งสมมติฐานและทดลองได้เอง ➡️ ขับเคลื่อนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ด้วย AI ✅ ความร่วมมือและการลงทุน ➡️ ใช้โมเดล public-private partnership ระหว่าง Nvidia, Oracle และ DOE ➡️ Oracle เป็นผู้สร้างระบบ Equinox และ Solstice ➡️ ระบบจะใช้ซอฟต์แวร์ของ Nvidia เช่น Megatron-Core และ TensorRT ✅ ระบบอื่นในโครงการ ➡️ Argonne ยังจะได้ระบบใหม่อีก 3 ตัว: Tara, Minerva และ Janus ➡️ ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ Argonne Leadership Computing Facility https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/nvidia-and-partners-to-build-seven-ai-supercomputers-for-the-u-s-govt-with-over-100-000-blackwell-gpus-combined-performance-of-2-200-exaflops-of-compute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Nvidia เปิดตัวซูเปอร์คอม Vera Rubin สำหรับห้องแล็บ Los Alamos – ชิงพื้นที่จาก AMD ในสนามวิจัย AI และความมั่นคง”

    Nvidia ประกาศความร่วมมือกับ HPE ในการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่ 2 เครื่องให้กับ Los Alamos National Laboratory (LANL) โดยใช้แพลตฟอร์ม Vera Rubin ซึ่งประกอบด้วย CPU Vera รุ่นใหม่และ GPU Rubin ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานวิจัยด้าน AI และความมั่นคงระดับชาติ

    สองระบบนี้มีชื่อว่า “Mission” และ “Vision” โดย Mission จะถูกใช้โดย National Nuclear Security Administration เพื่อจำลองและตรวจสอบความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์โดยไม่ต้องทดสอบจริง ส่วน Vision จะรองรับงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์เปิดและ AI โดยต่อยอดจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Venado ที่เคยติดอันดับ 19 ของโลก

    ระบบ Vera Rubin จะใช้เทคโนโลยี NVLink Gen6 สำหรับการเชื่อมต่อภายใน และ QuantumX 800 InfiniBand สำหรับการเชื่อมต่อภายนอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลแบบขนานและการสื่อสารระหว่างโหนด

    แม้ Nvidia ยังไม่เปิดเผยตัวเลขประสิทธิภาพของ Mission และ Vision แต่จากการเปรียบเทียบกับ Venado ที่มีพลัง FP64 ถึง 98.51 PFLOPS คาดว่า Vision จะมีพลังประมวลผลมากกว่า 2 เท่า และยังคงเน้นการรองรับ HPC แบบ FP64 ควบคู่กับ AI แบบ low-precision

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Nvidia ร่วมกับ HPE สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “Mission” และ “Vision” ให้กับ LANL
    ใช้แพลตฟอร์ม Vera Rubin: CPU Vera + GPU Rubin
    ใช้ NVLink Gen6 และ QuantumX 800 InfiniBand สำหรับการเชื่อมต่อ
    Mission ใช้ในงานด้านความมั่นคงนิวเคลียร์ (NNSA)
    Vision ใช้ในงานวิจัยวิทยาศาสตร์เปิดและ AI

    ความสามารถที่คาดการณ์ได้
    Vision จะต่อยอดจาก Venado ที่มีพลัง FP64 98.51 PFLOPS
    คาดว่าจะมีพลังประมวลผลมากกว่า 2 เท่า
    รองรับทั้ง HPC แบบ FP64 และ AI แบบ FP4/FP8

    ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์
    Mission เป็นระบบที่ 5 ในโครงการ AI ด้านความมั่นคงของ LANL
    Vision จะช่วยผลักดันงานวิจัย AI และวิทยาศาสตร์แบบเปิด
    เป็นการลงทุนสำคัญของสหรัฐในด้านความมั่นคงและวิทยาศาสตร์

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    Nvidia ยังไม่เปิดเผยสเปกละเอียดหรือตัวเลขประสิทธิภาพจริง
    การพัฒนาและติดตั้งระบบจะใช้เวลาหลายปี – Mission คาดว่าจะใช้งานได้ในปี 2027
    การแข่งขันกับ AMD ยังดำเนินต่อ โดย AMD เพิ่งประกาศชัยชนะในโครงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของกระทรวงพลังงาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/nvidia-unveils-vera-rubin-supercomputers-for-los-alamos-national-laboratory-announcement-comes-on-heels-of-amds-recent-supercomputer-wins
    🧠 “Nvidia เปิดตัวซูเปอร์คอม Vera Rubin สำหรับห้องแล็บ Los Alamos – ชิงพื้นที่จาก AMD ในสนามวิจัย AI และความมั่นคง” Nvidia ประกาศความร่วมมือกับ HPE ในการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่ 2 เครื่องให้กับ Los Alamos National Laboratory (LANL) โดยใช้แพลตฟอร์ม Vera Rubin ซึ่งประกอบด้วย CPU Vera รุ่นใหม่และ GPU Rubin ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานวิจัยด้าน AI และความมั่นคงระดับชาติ สองระบบนี้มีชื่อว่า “Mission” และ “Vision” โดย Mission จะถูกใช้โดย National Nuclear Security Administration เพื่อจำลองและตรวจสอบความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์โดยไม่ต้องทดสอบจริง ส่วน Vision จะรองรับงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์เปิดและ AI โดยต่อยอดจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Venado ที่เคยติดอันดับ 19 ของโลก ระบบ Vera Rubin จะใช้เทคโนโลยี NVLink Gen6 สำหรับการเชื่อมต่อภายใน และ QuantumX 800 InfiniBand สำหรับการเชื่อมต่อภายนอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลแบบขนานและการสื่อสารระหว่างโหนด แม้ Nvidia ยังไม่เปิดเผยตัวเลขประสิทธิภาพของ Mission และ Vision แต่จากการเปรียบเทียบกับ Venado ที่มีพลัง FP64 ถึง 98.51 PFLOPS คาดว่า Vision จะมีพลังประมวลผลมากกว่า 2 เท่า และยังคงเน้นการรองรับ HPC แบบ FP64 ควบคู่กับ AI แบบ low-precision ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Nvidia ร่วมกับ HPE สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “Mission” และ “Vision” ให้กับ LANL ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม Vera Rubin: CPU Vera + GPU Rubin ➡️ ใช้ NVLink Gen6 และ QuantumX 800 InfiniBand สำหรับการเชื่อมต่อ ➡️ Mission ใช้ในงานด้านความมั่นคงนิวเคลียร์ (NNSA) ➡️ Vision ใช้ในงานวิจัยวิทยาศาสตร์เปิดและ AI ✅ ความสามารถที่คาดการณ์ได้ ➡️ Vision จะต่อยอดจาก Venado ที่มีพลัง FP64 98.51 PFLOPS ➡️ คาดว่าจะมีพลังประมวลผลมากกว่า 2 เท่า ➡️ รองรับทั้ง HPC แบบ FP64 และ AI แบบ FP4/FP8 ✅ ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ Mission เป็นระบบที่ 5 ในโครงการ AI ด้านความมั่นคงของ LANL ➡️ Vision จะช่วยผลักดันงานวิจัย AI และวิทยาศาสตร์แบบเปิด ➡️ เป็นการลงทุนสำคัญของสหรัฐในด้านความมั่นคงและวิทยาศาสตร์ ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ Nvidia ยังไม่เปิดเผยสเปกละเอียดหรือตัวเลขประสิทธิภาพจริง ⛔ การพัฒนาและติดตั้งระบบจะใช้เวลาหลายปี – Mission คาดว่าจะใช้งานได้ในปี 2027 ⛔ การแข่งขันกับ AMD ยังดำเนินต่อ โดย AMD เพิ่งประกาศชัยชนะในโครงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของกระทรวงพลังงาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/nvidia-unveils-vera-rubin-supercomputers-for-los-alamos-national-laboratory-announcement-comes-on-heels-of-amds-recent-supercomputer-wins
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “OpenAI เรียกร้องให้สหรัฐสร้างไฟฟ้าเพิ่ม 100 GW ต่อปี – ชี้พลังงานคืออาวุธลับในสงคราม AI กับจีน”

    OpenAI ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดผ่านบล็อก “Seizing the AI Opportunity” พร้อมยื่นข้อเสนอถึงทำเนียบขาว เรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาเร่งสร้างกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 100 กิกะวัตต์ต่อปี เพื่อรับมือกับการแข่งขันด้าน AI กับจีน โดยระบุว่า “ไฟฟ้าไม่ใช่แค่สาธารณูปโภค แต่คือทรัพย์สินเชิงยุทธศาสตร์” ที่จะกำหนดผู้นำเทคโนโลยีแห่งอนาคต

    OpenAI เตือนว่า “ช่องว่างพลังงาน” หรือ “electron gap” กำลังขยายตัวอย่างน่ากังวล โดยในปี 2024 จีนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ถึง 429 GW ขณะที่สหรัฐเพิ่มเพียง 51 GW ซึ่งอาจทำให้สหรัฐเสียเปรียบในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ต้องใช้พลังงานมหาศาล

    นอกจากการเรียกร้องให้สร้างโรงไฟฟ้าใหม่ OpenAI ยังเสนอให้เร่งกระบวนการอนุมัติโครงการพลังงานโดยใช้ AI ช่วยตรวจสอบเอกสารและลดขั้นตอนราชการ พร้อมเสนอให้ใช้ “อำนาจฉุกเฉิน” เพื่อเร่งการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินของรัฐบาลกลาง

    OpenAI ยังเสนอให้จัดตั้ง “คลังสำรองวัตถุดิบ” สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI เช่น ทองแดง อะลูมิเนียม และแร่หายาก เพื่อป้องกันการพึ่งพาจีนในด้านวัตถุดิบที่สำคัญ

    ข้อเสนอหลักจาก OpenAI
    สร้างกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 100 GW ต่อปี
    ใช้ AI ช่วยเร่งกระบวนการอนุมัติโครงการพลังงาน
    ปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อ “ปลดล็อก” การลงทุนด้านพลังงาน
    ใช้อำนาจฉุกเฉินเพื่อเร่งการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม

    เหตุผลที่ต้องเร่งสร้างพลังงาน
    จีนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า 429 GW ในปีเดียว
    สหรัฐเพิ่มเพียง 51 GW – เกิด “ช่องว่างพลังงาน” ที่อาจทำให้เสียเปรียบ
    โครงสร้างพื้นฐาน AI เช่นศูนย์ข้อมูล ต้องใช้ไฟฟ้าปริมาณมหาศาล

    ข้อเสนอเสริมเพื่อความมั่นคงด้าน AI
    จัดตั้งคลังสำรองวัตถุดิบ เช่น ทองแดง แร่หายาก
    ลดการพึ่งพาจีนในด้านวัตถุดิบสำคัญ
    สร้างโอกาสงานใหม่ในสายอาชีพช่าง เช่น ช่างไฟ ช่างกล ช่างเชื่อม

    สั้นๆ สำหรับลุง คุณแซมคนนี้ไม่ใช่คนดีแน่ๆ ..

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/openai-calls-on-u-s-to-build-100-gigawatts-of-additional-power-generating-capacity-per-year-says-electricity-is-a-strategic-asset-in-ai-race-against-china
    ⚡ หัวข้อข่าว: “OpenAI เรียกร้องให้สหรัฐสร้างไฟฟ้าเพิ่ม 100 GW ต่อปี – ชี้พลังงานคืออาวุธลับในสงคราม AI กับจีน” OpenAI ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดผ่านบล็อก “Seizing the AI Opportunity” พร้อมยื่นข้อเสนอถึงทำเนียบขาว เรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาเร่งสร้างกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 100 กิกะวัตต์ต่อปี เพื่อรับมือกับการแข่งขันด้าน AI กับจีน โดยระบุว่า “ไฟฟ้าไม่ใช่แค่สาธารณูปโภค แต่คือทรัพย์สินเชิงยุทธศาสตร์” ที่จะกำหนดผู้นำเทคโนโลยีแห่งอนาคต OpenAI เตือนว่า “ช่องว่างพลังงาน” หรือ “electron gap” กำลังขยายตัวอย่างน่ากังวล โดยในปี 2024 จีนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ถึง 429 GW ขณะที่สหรัฐเพิ่มเพียง 51 GW ซึ่งอาจทำให้สหรัฐเสียเปรียบในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ต้องใช้พลังงานมหาศาล นอกจากการเรียกร้องให้สร้างโรงไฟฟ้าใหม่ OpenAI ยังเสนอให้เร่งกระบวนการอนุมัติโครงการพลังงานโดยใช้ AI ช่วยตรวจสอบเอกสารและลดขั้นตอนราชการ พร้อมเสนอให้ใช้ “อำนาจฉุกเฉิน” เพื่อเร่งการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินของรัฐบาลกลาง OpenAI ยังเสนอให้จัดตั้ง “คลังสำรองวัตถุดิบ” สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI เช่น ทองแดง อะลูมิเนียม และแร่หายาก เพื่อป้องกันการพึ่งพาจีนในด้านวัตถุดิบที่สำคัญ ✅ ข้อเสนอหลักจาก OpenAI ➡️ สร้างกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 100 GW ต่อปี ➡️ ใช้ AI ช่วยเร่งกระบวนการอนุมัติโครงการพลังงาน ➡️ ปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อ “ปลดล็อก” การลงทุนด้านพลังงาน ➡️ ใช้อำนาจฉุกเฉินเพื่อเร่งการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม ✅ เหตุผลที่ต้องเร่งสร้างพลังงาน ➡️ จีนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า 429 GW ในปีเดียว ➡️ สหรัฐเพิ่มเพียง 51 GW – เกิด “ช่องว่างพลังงาน” ที่อาจทำให้เสียเปรียบ ➡️ โครงสร้างพื้นฐาน AI เช่นศูนย์ข้อมูล ต้องใช้ไฟฟ้าปริมาณมหาศาล ✅ ข้อเสนอเสริมเพื่อความมั่นคงด้าน AI ➡️ จัดตั้งคลังสำรองวัตถุดิบ เช่น ทองแดง แร่หายาก ➡️ ลดการพึ่งพาจีนในด้านวัตถุดิบสำคัญ ➡️ สร้างโอกาสงานใหม่ในสายอาชีพช่าง เช่น ช่างไฟ ช่างกล ช่างเชื่อม สั้นๆ สำหรับลุง คุณแซมคนนี้ไม่ใช่คนดีแน่ๆ .. https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/openai-calls-on-u-s-to-build-100-gigawatts-of-additional-power-generating-capacity-per-year-says-electricity-is-a-strategic-asset-in-ai-race-against-china
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวร้อนวงการไอที: “DRAM เซิร์ฟเวอร์พุ่ง 50% เพราะ AI แย่งซื้อ – ยักษ์ใหญ่ยังได้ของไม่ครบ!”

    ตลาดหน่วยความจำกำลังสั่นสะเทือน เมื่อความต้องการจากฝั่ง AI ทำให้ราคา DRAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงถึง 50% ในไตรมาส 4 นี้ แม้แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ และจีนก็ยังได้รับสินค้าเพียง 70% ของที่สั่งซื้อไว้ สะท้อนถึงวิกฤตซัพพลายที่กำลังลุกลามไปทั่วอุตสาหกรรม

    เบื้องหลังความปั่นป่วนนี้คือการที่ผู้ผลิตอย่าง Samsung และ SK hynix หันไปทุ่มทรัพยากรให้กับหน่วยความจำ HBM และ DDR5 RDIMM ที่ใช้ในระบบ AI ทำให้หน่วยความจำแบบทั่วไปขาดตลาด ราคาพุ่ง และผู้ซื้อรายย่อยต้องดิ้นรนหาสินค้าจากตลาดมืดหรือรอไปถึงปี 2026

    สถานการณ์ตลาด DRAM ปัจจุบัน
    ราคา DRAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงถึง 50% ใน Q4
    ผู้ซื้อรายใหญ่ในสหรัฐฯ และจีนได้รับสินค้าเพียง 70% ของคำสั่งซื้อ
    DDR5 16GB จากราคา $7–8 พุ่งเป็น $13 ภายในเดือนเดียว

    สาเหตุหลักจากความต้องการของ AI
    ความต้องการ HBM และ DDR5 RDIMM สำหรับ AI ทำให้ผู้ผลิตเบนกำลังการผลิต
    Samsung และ SK hynix ปรับราคาขึ้นทั้ง SSD และ DRAM
    ความต้องการจากศูนย์ข้อมูลและคลาวด์ยังคงสูงต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่อผู้ซื้อรายย่อย
    OEM ขนาดเล็กและผู้ค้าช่องทางเห็นอัตราการส่งมอบเพียง 35–40%
    ถูกผลักให้ไปซื้อจากตลาด spot ที่ราคาแพงกว่า
    อาจต้องรอจนถึงปี 2026 กว่าจะมีสินค้าพร้อม

    สัญญาณจากผู้ผลิตและนักวิเคราะห์
    Micron เตือนว่าอุตสาหกรรม DRAM จะยัง “ตึงตัว” ไปจนถึงสิ้นปีหน้า
    TrendForce คาดว่าจะมีการ “หยุดเสนอราคา” บางโมดูลในจีน
    ราคาขายปลีก DDR5 ยังไม่มีแนวโน้มจะนิ่งในปีนี้

    สถานะของ DDR4
    Nanya Technology เผยว่า DDR4 เหลือส่วนแบ่งตลาดเพียง 20%
    ไม่ได้รับการผลิตในปริมาณมากอีกต่อไป

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานและนักลงทุน
    ราคาหน่วยความจำอาจยังพุ่งต่อเนื่องจนถึงปี 2026
    ผู้ใช้งานทั่วไปอาจได้รับผลกระทบจากราคาพีซีและโน้ตบุ๊กที่สูงขึ้น
    การลงทุนในฮาร์ดแวร์ช่วงนี้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/server-dram-prices-surge-50-percent
    📈 ข่าวร้อนวงการไอที: “DRAM เซิร์ฟเวอร์พุ่ง 50% เพราะ AI แย่งซื้อ – ยักษ์ใหญ่ยังได้ของไม่ครบ!” ตลาดหน่วยความจำกำลังสั่นสะเทือน เมื่อความต้องการจากฝั่ง AI ทำให้ราคา DRAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงถึง 50% ในไตรมาส 4 นี้ แม้แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ และจีนก็ยังได้รับสินค้าเพียง 70% ของที่สั่งซื้อไว้ สะท้อนถึงวิกฤตซัพพลายที่กำลังลุกลามไปทั่วอุตสาหกรรม เบื้องหลังความปั่นป่วนนี้คือการที่ผู้ผลิตอย่าง Samsung และ SK hynix หันไปทุ่มทรัพยากรให้กับหน่วยความจำ HBM และ DDR5 RDIMM ที่ใช้ในระบบ AI ทำให้หน่วยความจำแบบทั่วไปขาดตลาด ราคาพุ่ง และผู้ซื้อรายย่อยต้องดิ้นรนหาสินค้าจากตลาดมืดหรือรอไปถึงปี 2026 ✅ สถานการณ์ตลาด DRAM ปัจจุบัน ➡️ ราคา DRAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงถึง 50% ใน Q4 ➡️ ผู้ซื้อรายใหญ่ในสหรัฐฯ และจีนได้รับสินค้าเพียง 70% ของคำสั่งซื้อ ➡️ DDR5 16GB จากราคา $7–8 พุ่งเป็น $13 ภายในเดือนเดียว ✅ สาเหตุหลักจากความต้องการของ AI ➡️ ความต้องการ HBM และ DDR5 RDIMM สำหรับ AI ทำให้ผู้ผลิตเบนกำลังการผลิต ➡️ Samsung และ SK hynix ปรับราคาขึ้นทั้ง SSD และ DRAM ➡️ ความต้องการจากศูนย์ข้อมูลและคลาวด์ยังคงสูงต่อเนื่อง ✅ ผลกระทบต่อผู้ซื้อรายย่อย ➡️ OEM ขนาดเล็กและผู้ค้าช่องทางเห็นอัตราการส่งมอบเพียง 35–40% ➡️ ถูกผลักให้ไปซื้อจากตลาด spot ที่ราคาแพงกว่า ➡️ อาจต้องรอจนถึงปี 2026 กว่าจะมีสินค้าพร้อม ✅ สัญญาณจากผู้ผลิตและนักวิเคราะห์ ➡️ Micron เตือนว่าอุตสาหกรรม DRAM จะยัง “ตึงตัว” ไปจนถึงสิ้นปีหน้า ➡️ TrendForce คาดว่าจะมีการ “หยุดเสนอราคา” บางโมดูลในจีน ➡️ ราคาขายปลีก DDR5 ยังไม่มีแนวโน้มจะนิ่งในปีนี้ ✅ สถานะของ DDR4 ➡️ Nanya Technology เผยว่า DDR4 เหลือส่วนแบ่งตลาดเพียง 20% ➡️ ไม่ได้รับการผลิตในปริมาณมากอีกต่อไป ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานและนักลงทุน ⛔ ราคาหน่วยความจำอาจยังพุ่งต่อเนื่องจนถึงปี 2026 ⛔ ผู้ใช้งานทั่วไปอาจได้รับผลกระทบจากราคาพีซีและโน้ตบุ๊กที่สูงขึ้น ⛔ การลงทุนในฮาร์ดแวร์ช่วงนี้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/server-dram-prices-surge-50-percent
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Server DRAM prices surge up to 50% as AI-induced memory shortage hits hyperscaler supply — U.S. and Chinese customers only getting 70% order fulfillment
    U.S. and China buyers now see just 70% order fulfillment, as AI demand drives DDR5 shortages and PC parts follow suit.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เมื่อการคาดการณ์กลายเป็นธุรกิจ: Truth Predict กำลังจะมา!”

    Trump Media and Technology Group ประกาศเปิดตัว “Truth Predict” — ตลาดทำนายเหตุการณ์ (Prediction Markets) บนแพลตฟอร์ม Truth Social โดยร่วมมือกับ Crypto.com เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถลงทุนจากการคาดการณ์เหตุการณ์ต่างๆ เช่น กีฬา การเมือง บันเทิง และเศรษฐกิจ

    ระบบนี้จะเริ่มทดลองใช้งาน (Beta) เร็วๆ นี้ ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในสหรัฐฯ และมีแผนขยายสู่ระดับโลกในอนาคต โดยใช้แพลตฟอร์ม Truth+ สำหรับสตรีมมิ่ง และ Truth.Fi สำหรับบริการด้านการเงิน

    Prediction Markets เป็นตลาดที่ให้ผู้คนซื้อขาย “สัญญา” ตามผลลัพธ์ของเหตุการณ์ในอนาคต เช่น การเลือกตั้ง หรือผลการแข่งขันกีฬา ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2024 และถูกมองว่าอาจแม่นยำกว่าการสำรวจความคิดเห็นแบบดั้งเดิมในบางกรณี

    Devin Nunes ซีอีโอของ Trump Media กล่าวว่า “Truth Predict จะเปลี่ยนเสรีภาพในการพูดให้กลายเป็นพลังแห่งการคาดการณ์” โดยเน้นการกระจายอำนาจจากกลุ่มทุนใหญ่สู่ประชาชนทั่วไป

    สาระเพิ่มเติม: ตลาดทำนายเหตุการณ์มีความคล้ายคลึงกับการลงทุนในหุ้น แต่แทนที่จะลงทุนในบริษัท นักลงทุนจะลงทุนใน “ความน่าจะเป็น” ของเหตุการณ์ เช่น “ใครจะชนะเลือกตั้ง” หรือ “ราคาน้ำมันจะเกิน $100 ในเดือนหน้า”

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/29/trump-media-to-enter-prediction-markets-business
    📊🔮 “เมื่อการคาดการณ์กลายเป็นธุรกิจ: Truth Predict กำลังจะมา!” Trump Media and Technology Group ประกาศเปิดตัว “Truth Predict” — ตลาดทำนายเหตุการณ์ (Prediction Markets) บนแพลตฟอร์ม Truth Social โดยร่วมมือกับ Crypto.com เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถลงทุนจากการคาดการณ์เหตุการณ์ต่างๆ เช่น กีฬา การเมือง บันเทิง และเศรษฐกิจ ระบบนี้จะเริ่มทดลองใช้งาน (Beta) เร็วๆ นี้ ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในสหรัฐฯ และมีแผนขยายสู่ระดับโลกในอนาคต โดยใช้แพลตฟอร์ม Truth+ สำหรับสตรีมมิ่ง และ Truth.Fi สำหรับบริการด้านการเงิน Prediction Markets เป็นตลาดที่ให้ผู้คนซื้อขาย “สัญญา” ตามผลลัพธ์ของเหตุการณ์ในอนาคต เช่น การเลือกตั้ง หรือผลการแข่งขันกีฬา ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2024 และถูกมองว่าอาจแม่นยำกว่าการสำรวจความคิดเห็นแบบดั้งเดิมในบางกรณี Devin Nunes ซีอีโอของ Trump Media กล่าวว่า “Truth Predict จะเปลี่ยนเสรีภาพในการพูดให้กลายเป็นพลังแห่งการคาดการณ์” โดยเน้นการกระจายอำนาจจากกลุ่มทุนใหญ่สู่ประชาชนทั่วไป 💡 สาระเพิ่มเติม: ตลาดทำนายเหตุการณ์มีความคล้ายคลึงกับการลงทุนในหุ้น แต่แทนที่จะลงทุนในบริษัท นักลงทุนจะลงทุนใน “ความน่าจะเป็น” ของเหตุการณ์ เช่น “ใครจะชนะเลือกตั้ง” หรือ “ราคาน้ำมันจะเกิน $100 ในเดือนหน้า” https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/29/trump-media-to-enter-prediction-markets-business
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump Media to enter prediction markets business
    (Reuters) -Trump Media and Technology Group said on Tuesday it will introduce prediction markets on its social media platform Truth Social through a partnership with Crypto.com, as event-driven markets continue to make inroads into mainstream finance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Foxconn x Nvidia: โรงงานอัจฉริยะกับหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์กำลังมา!”

    Foxconn ผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นพันธมิตรหลักของ Nvidia ในการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ได้ประกาศว่าจะเริ่มติดตั้งหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ในโรงงานที่เมืองฮิวสตัน สหรัฐอเมริกา ภายในไตรมาสแรกของปี 2026 โดยหุ่นยนต์เหล่านี้จะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี NVIDIA Isaac GR00T N ซึ่งเป็นระบบ AI ขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานในสายการผลิตโดยเฉพาะ

    เป้าหมายของโครงการนี้คือการสร้าง “โรงงานอัจฉริยะต้นแบบระดับโลก” ที่สามารถผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำสูงสุด โดยไม่ต้องพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในขั้นตอนหลักของการผลิต

    นอกจากโรงงานฮิวสตันแล้ว Foxconn ยังมีแผนขยายการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ไปยังรัฐเท็กซัส วิสคอนซิน และแคลิฟอร์เนีย เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในยุค AI

    สาระเพิ่มเติม: หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ (Humanoid Robots) คือหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างและการเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับมนุษย์ ซึ่งสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ เช่น การประกอบชิ้นส่วน การตรวจสอบคุณภาพ หรือแม้แต่การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ในโรงงาน

    Foxconn เตรียมติดตั้งหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ในโรงงานฮิวสตัน
    ใช้เทคโนโลยี NVIDIA Isaac GR00T N
    เริ่มใช้งานในไตรมาสแรกของปี 2026

    เป้าหมายคือสร้างโรงงานอัจฉริยะต้นแบบระดับโลก
    ลดการพึ่งพาแรงงานมนุษย์
    เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI

    ขยายการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ไปยังรัฐอื่นในสหรัฐฯ
    เท็กซัส
    วิสคอนซิน
    แคลิฟอร์เนีย

    Foxconn เป็นพันธมิตรหลักของ Nvidia ในการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI
    รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในยุค AI
    ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลของสหรัฐฯ

    ความท้าทายในการใช้หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ในสายการผลิต
    ความปลอดภัยในการทำงานร่วมกับมนุษย์
    การบำรุงรักษาและการจัดการระบบ AI ที่ซับซ้อน
    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและข้อมูลในระบบอัจฉริยะ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/29/foxconn-to-deploy-humanoid-robots-at-houston-ai-server-plant
    🤖🏭 “Foxconn x Nvidia: โรงงานอัจฉริยะกับหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์กำลังมา!” Foxconn ผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นพันธมิตรหลักของ Nvidia ในการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ได้ประกาศว่าจะเริ่มติดตั้งหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ในโรงงานที่เมืองฮิวสตัน สหรัฐอเมริกา ภายในไตรมาสแรกของปี 2026 โดยหุ่นยนต์เหล่านี้จะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี NVIDIA Isaac GR00T N ซึ่งเป็นระบบ AI ขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานในสายการผลิตโดยเฉพาะ เป้าหมายของโครงการนี้คือการสร้าง “โรงงานอัจฉริยะต้นแบบระดับโลก” ที่สามารถผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำสูงสุด โดยไม่ต้องพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในขั้นตอนหลักของการผลิต นอกจากโรงงานฮิวสตันแล้ว Foxconn ยังมีแผนขยายการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ไปยังรัฐเท็กซัส วิสคอนซิน และแคลิฟอร์เนีย เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในยุค AI 💡 สาระเพิ่มเติม: หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ (Humanoid Robots) คือหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างและการเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับมนุษย์ ซึ่งสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ เช่น การประกอบชิ้นส่วน การตรวจสอบคุณภาพ หรือแม้แต่การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ในโรงงาน ✅ Foxconn เตรียมติดตั้งหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ในโรงงานฮิวสตัน ➡️ ใช้เทคโนโลยี NVIDIA Isaac GR00T N ➡️ เริ่มใช้งานในไตรมาสแรกของปี 2026 ✅ เป้าหมายคือสร้างโรงงานอัจฉริยะต้นแบบระดับโลก ➡️ ลดการพึ่งพาแรงงานมนุษย์ ➡️ เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ✅ ขยายการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ไปยังรัฐอื่นในสหรัฐฯ ➡️ เท็กซัส ➡️ วิสคอนซิน ➡️ แคลิฟอร์เนีย ✅ Foxconn เป็นพันธมิตรหลักของ Nvidia ในการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ➡️ รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในยุค AI ➡️ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลของสหรัฐฯ ‼️ ความท้าทายในการใช้หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ในสายการผลิต ⛔ ความปลอดภัยในการทำงานร่วมกับมนุษย์ ⛔ การบำรุงรักษาและการจัดการระบบ AI ที่ซับซ้อน ⛔ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและข้อมูลในระบบอัจฉริยะ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/29/foxconn-to-deploy-humanoid-robots-at-houston-ai-server-plant
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Foxconn to deploy humanoid robots at Houston AI server plant
    TAIPEI (Reuters) -Foxconn, the world's largest electronics maker and Nvidia's key AI server maker, said on Tuesday it will deploy humanoid robots at its Houston plant that produces AI servers for Nvidia.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วนเหตุการณ์จริงจากคนในUSA สหรัฐกำลังยับเยิน คนไทยอยากรู้ว่านายกไทยไปกลัวอะไรมัน (29/10/68)
    .
    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #สหรัฐอเมริกา #อนุทิน #รัฐบาลไทย #ข่าวต่างประเทศ #การเมืองโลก #newsupdate #ข่าวtiktok
    ด่วนเหตุการณ์จริงจากคนในUSA สหรัฐกำลังยับเยิน คนไทยอยากรู้ว่านายกไทยไปกลัวอะไรมัน (29/10/68) . #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #สหรัฐอเมริกา #อนุทิน #รัฐบาลไทย #ข่าวต่างประเทศ #การเมืองโลก #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เด็กวัยรุ่นอเมริกันถูกฟ้องในคดีอาชญากรรมไซเบอร์เครือข่าย 764 — รวมข้อหาหนักทั้งการฉ้อโกง, ขโมยข้อมูล และการฟอกเงิน

    บทความจาก HackRead รายงานว่า วัยรุ่นชายชาวอเมริกันถูกตั้งข้อหาในคดีอาชญากรรมไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย 764 ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านการโจมตีเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว, ข้อมูลการเงิน และการขายข้อมูลในตลาดมืด โดยคดีนี้ถือเป็นหนึ่งในคดีที่ใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนในสหรัฐฯ

    วัยรุ่นถูกตั้งข้อหาหลายกระทงรวมถึงการฉ้อโกงและการฟอกเงิน
    ใช้เทคนิค phishing และ social engineering เพื่อเข้าถึงบัญชีของเหยื่อ
    ขโมยข้อมูลบัตรเครดิต, ข้อมูลบัญชีธนาคาร และข้อมูลส่วนตัว

    เครือข่าย 764 มีการจัดการแบบองค์กร
    มีการแบ่งหน้าที่ เช่น ผู้สร้างมัลแวร์, ผู้จัดการบัญชี, และผู้ขายข้อมูล
    ใช้แพลตฟอร์ม Discord และ Telegram เป็นช่องทางสื่อสารและขายข้อมูล

    วัยรุ่นรายนี้มีบทบาทสำคัญในเครือข่าย
    เป็นผู้พัฒนาเครื่องมือโจมตีและจัดการการเงินของกลุ่ม
    มีการใช้ cryptocurrency เพื่อฟอกเงินและหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ

    เจ้าหน้าที่สืบสวนพบหลักฐานจากการตรวจสอบอุปกรณ์และบัญชีออนไลน์
    รวมถึงไฟล์มัลแวร์, รายชื่อเหยื่อ, และบันทึกการโอนเงิน
    มีการเชื่อมโยงกับการโจมตีหลายครั้งในสหรัฐฯ และยุโรป

    เยาวชนสามารถเข้าถึงเครื่องมือแฮกได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส
    เครื่องมือบางตัวถูกแชร์ใน GitHub หรือฟอรัมโดยไม่มีการควบคุม
    การเรียนรู้ด้านเทคนิคโดยไม่มีจริยธรรมอาจนำไปสู่การกระทำผิด

    การใช้ cryptocurrency ไม่ได้ทำให้การฟอกเงินปลอดภัยจากการตรวจสอบ
    หน่วยงานด้านการเงินสามารถติดตามธุรกรรมผ่าน blockchain
    การใช้ crypto เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายอาจเพิ่มโทษทางอาญา

    การสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มเช่น Discord ไม่ปลอดภัยจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
    แม้จะใช้ชื่อปลอมหรือ VPN ก็ยังสามารถถูกติดตามได้
    เจ้าหน้าที่สามารถขอข้อมูลจากแพลตฟอร์มผ่านหมายศาล

    https://hackread.com/us-teen-indicted-764-network-case-crimes/
    ⚖️ เด็กวัยรุ่นอเมริกันถูกฟ้องในคดีอาชญากรรมไซเบอร์เครือข่าย 764 — รวมข้อหาหนักทั้งการฉ้อโกง, ขโมยข้อมูล และการฟอกเงิน บทความจาก HackRead รายงานว่า วัยรุ่นชายชาวอเมริกันถูกตั้งข้อหาในคดีอาชญากรรมไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย 764 ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านการโจมตีเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว, ข้อมูลการเงิน และการขายข้อมูลในตลาดมืด โดยคดีนี้ถือเป็นหนึ่งในคดีที่ใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนในสหรัฐฯ ✅ วัยรุ่นถูกตั้งข้อหาหลายกระทงรวมถึงการฉ้อโกงและการฟอกเงิน ➡️ ใช้เทคนิค phishing และ social engineering เพื่อเข้าถึงบัญชีของเหยื่อ ➡️ ขโมยข้อมูลบัตรเครดิต, ข้อมูลบัญชีธนาคาร และข้อมูลส่วนตัว ✅ เครือข่าย 764 มีการจัดการแบบองค์กร ➡️ มีการแบ่งหน้าที่ เช่น ผู้สร้างมัลแวร์, ผู้จัดการบัญชี, และผู้ขายข้อมูล ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม Discord และ Telegram เป็นช่องทางสื่อสารและขายข้อมูล ✅ วัยรุ่นรายนี้มีบทบาทสำคัญในเครือข่าย ➡️ เป็นผู้พัฒนาเครื่องมือโจมตีและจัดการการเงินของกลุ่ม ➡️ มีการใช้ cryptocurrency เพื่อฟอกเงินและหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ✅ เจ้าหน้าที่สืบสวนพบหลักฐานจากการตรวจสอบอุปกรณ์และบัญชีออนไลน์ ➡️ รวมถึงไฟล์มัลแวร์, รายชื่อเหยื่อ, และบันทึกการโอนเงิน ➡️ มีการเชื่อมโยงกับการโจมตีหลายครั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ‼️ เยาวชนสามารถเข้าถึงเครื่องมือแฮกได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส ⛔ เครื่องมือบางตัวถูกแชร์ใน GitHub หรือฟอรัมโดยไม่มีการควบคุม ⛔ การเรียนรู้ด้านเทคนิคโดยไม่มีจริยธรรมอาจนำไปสู่การกระทำผิด ‼️ การใช้ cryptocurrency ไม่ได้ทำให้การฟอกเงินปลอดภัยจากการตรวจสอบ ⛔ หน่วยงานด้านการเงินสามารถติดตามธุรกรรมผ่าน blockchain ⛔ การใช้ crypto เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายอาจเพิ่มโทษทางอาญา ‼️ การสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มเช่น Discord ไม่ปลอดภัยจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ⛔ แม้จะใช้ชื่อปลอมหรือ VPN ก็ยังสามารถถูกติดตามได้ ⛔ เจ้าหน้าที่สามารถขอข้อมูลจากแพลตฟอร์มผ่านหมายศาล https://hackread.com/us-teen-indicted-764-network-case-crimes/
    HACKREAD.COM
    US Teen Indicted in 764 Network Case Involving Exploitation Crimes
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts