• หาดนราทัศน์ จ.นราธิวาส
    จากป่าผืนใหญ่ของนราธิวาส เปลี่ยนบรรยากาศมาชิลล์กับชายหาดสวยกันบ้างดีกว่า หาดนราทัศน์นั้นมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นหาดโค้งยาวเหยียดสุดสายตา บริเวณริมชายหาดมีทิวสนให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งเช็คอินยอดฮิตของชาวนราธิวาสเลยจ้า ตลอดชายหาดมีหมู่บ้านชาวประมงและร้านอาหารให้แวะชมแวะชิมกันไปตลอดทาง แวะมานั่งกินข้าวก็เพลิน อยากมาเดินเล่นชมวิวชิลล์ๆ ก็ได้ ใครเป็นสายแค้มปิ้งก็เอาเต็นท์มากางกันได้ด้วยนะ ครบเบอร์นี้ต้องมาแล้วจ้ะ เป็นอีกที่เที่ยวนราธิวาสที่พลาดไม่ได้เลย

    ความงามของทิวสนขึ้นขนาบเลียบแนวชายหาดสร้างสีสันและความร่มรื่น ตลอดจนความสวยงามของเรือกอและ ศิลปะที่มาคู่กับอาชีพชาวประมงของคนในพื้นที่ที่จอดอยู่มากมาย ชวนให้แวะเวียนเข้าไปถ่ายรูปหรือเก็บเกี่ยวบรรยากาศ
    หาดแห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อสูดอากาศอันบริสุทธิ์ อย่าลืมแวะเวียนมานะคะ
    หาดนราทัศน์ จ.นราธิวาส จากป่าผืนใหญ่ของนราธิวาส เปลี่ยนบรรยากาศมาชิลล์กับชายหาดสวยกันบ้างดีกว่า หาดนราทัศน์นั้นมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นหาดโค้งยาวเหยียดสุดสายตา บริเวณริมชายหาดมีทิวสนให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งเช็คอินยอดฮิตของชาวนราธิวาสเลยจ้า ตลอดชายหาดมีหมู่บ้านชาวประมงและร้านอาหารให้แวะชมแวะชิมกันไปตลอดทาง แวะมานั่งกินข้าวก็เพลิน อยากมาเดินเล่นชมวิวชิลล์ๆ ก็ได้ ใครเป็นสายแค้มปิ้งก็เอาเต็นท์มากางกันได้ด้วยนะ ครบเบอร์นี้ต้องมาแล้วจ้ะ เป็นอีกที่เที่ยวนราธิวาสที่พลาดไม่ได้เลย ความงามของทิวสนขึ้นขนาบเลียบแนวชายหาดสร้างสีสันและความร่มรื่น ตลอดจนความสวยงามของเรือกอและ ศิลปะที่มาคู่กับอาชีพชาวประมงของคนในพื้นที่ที่จอดอยู่มากมาย ชวนให้แวะเวียนเข้าไปถ่ายรูปหรือเก็บเกี่ยวบรรยากาศ หาดแห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อสูดอากาศอันบริสุทธิ์ อย่าลืมแวะเวียนมานะคะ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • กินลมชมสะพาน ร้านอาหารต่อมาเอาใจสาวกคนรักซีฟู้ดสุดๆ ใครที่กำลังมีแพลนจะจูงมือแฟน ไปนั่งเดท กินซีฟู้ดอร่อย ต้องไปลิ้มลองที่นี่ดูสักครั้งค่ะ รับรองว่าจะติดใจอย่างแน่นอน เพราะจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งเมื่อมาร้านนี้ก็คือ วิวสะพานพระราม 8 ที่เปิดไฟสวยงามยามค่ำคืน เป็นค่ำคืนที่น่าประทับใจสุดๆ ไปเลย

    พิกัด : goo.gl/maps/T1xJA47CdZUHPkpv7
    ที่อยู่ : 1/6 ซอยสามเสน 3 วัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ
    โทร : 0-2628-8382
    เปิดบริการ : 11.00 - 24.00 น.

    #กินสาระนัวร์ #ของอร่อย #Thaitimes
    กินลมชมสะพาน ร้านอาหารต่อมาเอาใจสาวกคนรักซีฟู้ดสุดๆ ใครที่กำลังมีแพลนจะจูงมือแฟน ไปนั่งเดท กินซีฟู้ดอร่อย ต้องไปลิ้มลองที่นี่ดูสักครั้งค่ะ รับรองว่าจะติดใจอย่างแน่นอน เพราะจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งเมื่อมาร้านนี้ก็คือ วิวสะพานพระราม 8 ที่เปิดไฟสวยงามยามค่ำคืน เป็นค่ำคืนที่น่าประทับใจสุดๆ ไปเลย พิกัด : goo.gl/maps/T1xJA47CdZUHPkpv7 ที่อยู่ : 1/6 ซอยสามเสน 3 วัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทร : 0-2628-8382 เปิดบริการ : 11.00 - 24.00 น. #กินสาระนัวร์ #ของอร่อย #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ใบพลูเฮาส์
    #ร้านอาหาร
    #อาหารเจ
    #อาหารวีแกน
    #thaitimes
    #ใบพลูเฮาส์ #ร้านอาหาร #อาหารเจ #อาหารวีแกน #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านใบพลูเฮาส์ ร้านอาหารวีแกน เจ มังสวิรัติ ที่มีเมนูหลากหลาย โดยเชฟมืออาชีพที่เคยทำงานที่อเมริกาก่อนจะกลับมาที่เมืองไทย

    รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพ ในช่วงเทศกาลเจที่จะถึงนี้ ขอเชิญชวนลองไปใช้บริการได้ตามรายละเอียดในคลิปครับ

    #thaitimes
    #อาหารเจ
    #ใบพลูเฮาส์
    #กินเจ
    ร้านใบพลูเฮาส์ ร้านอาหารวีแกน เจ มังสวิรัติ ที่มีเมนูหลากหลาย โดยเชฟมืออาชีพที่เคยทำงานที่อเมริกาก่อนจะกลับมาที่เมืองไทย รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพ ในช่วงเทศกาลเจที่จะถึงนี้ ขอเชิญชวนลองไปใช้บริการได้ตามรายละเอียดในคลิปครับ #thaitimes #อาหารเจ #ใบพลูเฮาส์ #กินเจ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 97 0 รีวิว
  • แก้วไก่กรอบ ร้านอาหารอีสานยอดฮิตจากลาดกระบัง มาเปิดสาขาที่ True Digital Park จัดเต็มความโมเดิร์น แต่ยังคงความแซ่บจี๊ดจ๊าดถึงใจ ทางร้านโดดเด่นเรื่องการย่าง ห้ามพลาดเมนูไฮไลต์ ไก่ย่างหนังกรอบ ที่ใช้เทคนิคพิเศษทำให้หนังบางกรอบ เมนูยำ เมนูส้มตำ แซ่บนัวถึงเครื่องทุกเมนู อย่างเมนู ตำทะเลรวม จัดเต็มเครื่องทะเล กินกับส้มตำรสจัดจ้าน ตัวร้านตกแต่งโทนสีแดงสไตล์โมเดิร์นบอกเลยว่าสวยมาก ถูกใจสายถ่ายรูปสุด ๆ

    #กินสาระนัวร์ #ของอร่อย #Thaitimes
    แก้วไก่กรอบ ร้านอาหารอีสานยอดฮิตจากลาดกระบัง มาเปิดสาขาที่ True Digital Park จัดเต็มความโมเดิร์น แต่ยังคงความแซ่บจี๊ดจ๊าดถึงใจ ทางร้านโดดเด่นเรื่องการย่าง ห้ามพลาดเมนูไฮไลต์ ไก่ย่างหนังกรอบ ที่ใช้เทคนิคพิเศษทำให้หนังบางกรอบ เมนูยำ เมนูส้มตำ แซ่บนัวถึงเครื่องทุกเมนู อย่างเมนู ตำทะเลรวม จัดเต็มเครื่องทะเล กินกับส้มตำรสจัดจ้าน ตัวร้านตกแต่งโทนสีแดงสไตล์โมเดิร์นบอกเลยว่าสวยมาก ถูกใจสายถ่ายรูปสุด ๆ #กินสาระนัวร์ #ของอร่อย #Thaitimes
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • Michelin Key ลูกเล่นใหม่มิชลินไกด์

    นับเป็นครั้งแรกที่มิชลินไกด์ (Michelin Guide) คู่มือแนะนำร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก เปิดตัวรางวัลมิชลินคีย์ (Michelin Key) ตราสัญลักษณ์ที่มอบให้กับโรงแรมที่พักในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากแนะนำที่พักมากกว่า 6,000 แห่งใน 120 ประเทศ โดยวัดจาก 1. ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและประสบการณ์ที่ได้รับ 2. มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนถึงคุณลักษณะดั้งเดิมของโรงแรมที่พัก 3. คุณภาพและความสม่ำเสมอในการให้บริการ รวมถึงความสะดวกสบายและการบำรุงรักษา 4. สถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งภายใน และ 5. เป็นจุดหมายปลายทางในตัวเอง มีส่วนนำเสนอความเป็นท้องถิ่น

    ปรากฎว่าในปี 2567 มีโรงแรมในประเทศไทยได้รางวัล 58 แห่ง โดยรางวัลกุญแจ 3 ดอก มี 8 แห่ง ได้แก่ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, เดอะ สยาม กรุงเทพฯ, กีมาลา จ.ภูเก็ต, อมันปุรี จ.ภูเก็ต, โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ต จ.เชียงใหม่, โซเนวา คีรี รีสอร์ท เกาะกูด จ.ตราด, ซามูจาน่า วิลล่า เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ ภูเล เบย์ อะ ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ จ.กระบี่ ส่วนรางวัลกุญแจ 2 ดอก มี 19 แห่ง และรางวัลกุญแจ 1 ดอก มี 31 แห่ง

    แม้โรงแรมที่ได้รับรางวัลมิชลินคีย์ เป็นคนละรางวัลกับโรงแรมที่มีร้านอาหารรางวัลดาวมิชลิน แต่ก็มีโรงแรมได้ทั้งมิชลินคีย์และมิชลินไกด์ปี 2566 อาทิ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (3 ดอก) มีร้านเลอ นอร์ม็องดี บาย อลัง รูซ์ (2 ดาว), ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (2 ดอก) มีร้านเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ (1 ดาว), โคโม เมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ (1 ดอก) มีห้องอาหารน้ำ (1 ดาว), ตรีสรา จ.ภูเก็ต (1 ดอก) มีร้านพรู (1 ดาว) เป็นต้น

    สำหรับคู่มือมิชลินไกด์ ฉบับประจำปีครั้งที่ 8 (2025) มีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายปี 2567 โดยได้เพิ่มร้านอาหารจังหวัดชลบุรี ต่อจากกรุงเทพฯ, ภูเก็ต-พังงา, เชียงใหม่, พระนครศรีอยุธยา, ภาคอีสาน 4 จังหวัด (นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น) และเกาะสมุย-สุราษฎร์ธานี

    โครงการ The Michelin Guide Thailand มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นเจ้าของโครงการ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2560 ทำข้อตกลงสัญญา 5 ปีกับบริษัท Michelin Travel Partner France วงเงิน 4.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อมาวันที่ 5 ต.ค. 2564 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ ททท. ก่อหนี้ผูกพันสนับสนุนการจัดโครงการฯ ประจำปี 2565-2569 วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 135.3 ล้านบาท) โดยแบ่งจ่ายเป็นรายปี ปีละ 820,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 27.06 ล้านบาท)

    #Newskit #MichelinKey #MichelinGuideThailand
    Michelin Key ลูกเล่นใหม่มิชลินไกด์ นับเป็นครั้งแรกที่มิชลินไกด์ (Michelin Guide) คู่มือแนะนำร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก เปิดตัวรางวัลมิชลินคีย์ (Michelin Key) ตราสัญลักษณ์ที่มอบให้กับโรงแรมที่พักในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากแนะนำที่พักมากกว่า 6,000 แห่งใน 120 ประเทศ โดยวัดจาก 1. ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและประสบการณ์ที่ได้รับ 2. มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนถึงคุณลักษณะดั้งเดิมของโรงแรมที่พัก 3. คุณภาพและความสม่ำเสมอในการให้บริการ รวมถึงความสะดวกสบายและการบำรุงรักษา 4. สถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งภายใน และ 5. เป็นจุดหมายปลายทางในตัวเอง มีส่วนนำเสนอความเป็นท้องถิ่น ปรากฎว่าในปี 2567 มีโรงแรมในประเทศไทยได้รางวัล 58 แห่ง โดยรางวัลกุญแจ 3 ดอก มี 8 แห่ง ได้แก่ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, เดอะ สยาม กรุงเทพฯ, กีมาลา จ.ภูเก็ต, อมันปุรี จ.ภูเก็ต, โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ต จ.เชียงใหม่, โซเนวา คีรี รีสอร์ท เกาะกูด จ.ตราด, ซามูจาน่า วิลล่า เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ ภูเล เบย์ อะ ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ จ.กระบี่ ส่วนรางวัลกุญแจ 2 ดอก มี 19 แห่ง และรางวัลกุญแจ 1 ดอก มี 31 แห่ง แม้โรงแรมที่ได้รับรางวัลมิชลินคีย์ เป็นคนละรางวัลกับโรงแรมที่มีร้านอาหารรางวัลดาวมิชลิน แต่ก็มีโรงแรมได้ทั้งมิชลินคีย์และมิชลินไกด์ปี 2566 อาทิ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (3 ดอก) มีร้านเลอ นอร์ม็องดี บาย อลัง รูซ์ (2 ดาว), ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (2 ดอก) มีร้านเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ (1 ดาว), โคโม เมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ (1 ดอก) มีห้องอาหารน้ำ (1 ดาว), ตรีสรา จ.ภูเก็ต (1 ดอก) มีร้านพรู (1 ดาว) เป็นต้น สำหรับคู่มือมิชลินไกด์ ฉบับประจำปีครั้งที่ 8 (2025) มีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายปี 2567 โดยได้เพิ่มร้านอาหารจังหวัดชลบุรี ต่อจากกรุงเทพฯ, ภูเก็ต-พังงา, เชียงใหม่, พระนครศรีอยุธยา, ภาคอีสาน 4 จังหวัด (นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น) และเกาะสมุย-สุราษฎร์ธานี โครงการ The Michelin Guide Thailand มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นเจ้าของโครงการ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2560 ทำข้อตกลงสัญญา 5 ปีกับบริษัท Michelin Travel Partner France วงเงิน 4.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อมาวันที่ 5 ต.ค. 2564 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ ททท. ก่อหนี้ผูกพันสนับสนุนการจัดโครงการฯ ประจำปี 2565-2569 วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 135.3 ล้านบาท) โดยแบ่งจ่ายเป็นรายปี ปีละ 820,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 27.06 ล้านบาท) #Newskit #MichelinKey #MichelinGuideThailand
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิวไผ่คาเฟ่ ร้านอาหารเหนือ ก๋วยเตี๋ยว และ ร้านอาหารอีสาน ย่านอำเภอปากเกร็ด นนทบุรี
    https://youtu.be/Lx_EWZ80EmE
    ทิวไผ่คาเฟ่ ร้านอาหารเหนือ ก๋วยเตี๋ยว และ ร้านอาหารอีสาน ย่านอำเภอปากเกร็ด นนทบุรี https://youtu.be/Lx_EWZ80EmE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิวไผ่คาเฟ่ ร้านอาหารเหนือ ก๋วยเตี๋ยว และ ร้านอาหารอีสาน ย่านอำเภอปากเกร็ด นนทบุรี
    https://www.pracharthai.com/news/archives/18480
    ทิวไผ่คาเฟ่ ร้านอาหารเหนือ ก๋วยเตี๋ยว และ ร้านอาหารอีสาน ย่านอำเภอปากเกร็ด นนทบุรี https://www.pracharthai.com/news/archives/18480
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ร้านอาหารแนะนำ @เกาะเกร็ด นนทบุรี
    #LungDang KhaoChae Kohkret
    #ร้านอาหารแนะนำ @เกาะเกร็ด นนทบุรี #LungDang KhaoChae Kohkret
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านอาหารที่จริงใจ ด้วยความที่หิวมากและรีบกลับกรุงเทพ เลยไม่ได้ถ่ายภาพบรรยากาศภายในร้านมาฝาก แต่ก็มีบางท่านได้รีวิวถึงความอร่อยและราคาที่สบายกระเป๋าเราก็เลยตามมาทาน ปรากฎว่าเป็นไปตามที่รีวิว เราสั่งไปประมาณ 10 เมนู ราคาแค่ 1 ใบเทา เท่านั้น แต่ละเมนูราคาหลักสิบเมนูแพงสุดน่าจะไม่เกิน 300บาท และที่ประทับใจมากๆ เจ้าของร้านใจดีมากๆ ยืนทักทายพูดคุยกับลูกค้า สัมผัสได้ถึงความจริงใจที่มีให้กับลูกค้าค่ะ หากใครแวะมาที่จังหวัดพิษณุโลก อยากให้แวะมาที่ร้านอาหารบ้านสวนริมคลอง ตำบลมะขามสูง รอบหน้าจะกลับไปทานอีกครั้งแน่นอนคะ 🥰
    ร้านอาหารที่จริงใจ ด้วยความที่หิวมากและรีบกลับกรุงเทพ เลยไม่ได้ถ่ายภาพบรรยากาศภายในร้านมาฝาก แต่ก็มีบางท่านได้รีวิวถึงความอร่อยและราคาที่สบายกระเป๋าเราก็เลยตามมาทาน ปรากฎว่าเป็นไปตามที่รีวิว เราสั่งไปประมาณ 10 เมนู ราคาแค่ 1 ใบเทา เท่านั้น แต่ละเมนูราคาหลักสิบเมนูแพงสุดน่าจะไม่เกิน 300บาท และที่ประทับใจมากๆ เจ้าของร้านใจดีมากๆ ยืนทักทายพูดคุยกับลูกค้า สัมผัสได้ถึงความจริงใจที่มีให้กับลูกค้าค่ะ หากใครแวะมาที่จังหวัดพิษณุโลก อยากให้แวะมาที่ร้านอาหารบ้านสวนริมคลอง ตำบลมะขามสูง รอบหน้าจะกลับไปทานอีกครั้งแน่นอนคะ 🥰
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธุรกิจร้านอาหารกำลังเผชิญกับภาวะยอดขายลดลงมากกว่า -30% ในปัจจุบัน จากกำลังซื้อที่หดหายลง ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    ธุรกิจร้านอาหารกำลังเผชิญกับภาวะยอดขายลดลงมากกว่า -30% ในปัจจุบัน จากกำลังซื้อที่หดหายลง ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    Like
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1218 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลิปหนุ่มไทยโดนขโมยกระเป๋าเป้พร้อมโน้ตบุ๊กราคา2แสนที่ร้านอาหารในเกาหลี เสียทั้งของและเสียความรู้สึกอย่างแรงว่า ”คนเกาหลีกรณีนี้เป็นอย่างนี้เหรอ“

    https://m.youtube.com/watch?v=OlZVPR2Egjo

    #Thaitimes
    คลิปหนุ่มไทยโดนขโมยกระเป๋าเป้พร้อมโน้ตบุ๊กราคา2แสนที่ร้านอาหารในเกาหลี เสียทั้งของและเสียความรู้สึกอย่างแรงว่า ”คนเกาหลีกรณีนี้เป็นอย่างนี้เหรอ“ https://m.youtube.com/watch?v=OlZVPR2Egjo #Thaitimes
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1210 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คนไทยหรือเปล่าถามจริงๆทุย
    ทุกวันนี้นะสินค้าทุกตัวต่างต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดขององค์กร
    การที่ได้แน๊กชาลีมาช่วยเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็คือส่วนหนึ่ง
    ที่จะช่วยให้ของเค้าออกจากสต็อกได้มากขึ้น
    1 สินค้า มีพนักงานเป็นร้อย บางที่เป็นพัน
    ต่างมีลูก มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ
    ถ้าการจ้างแน๊กชาลีเป็นพรีเซ้นเตอร์ แล้วไม่ปัง
    เค้าก็เลิกจ้างไปเอง แต่ไม่ใช่วิธีการสกปรกแบบนี้
    เมิงเล่นส่งลิงค์ให้เข้าไปกดดันแบรนด์ต่างๆ
    โดยไม่สนใจต่อชีวิตใครบนโลก
    เมิงทำแบบนี้ แน๊กไม่ได้เดือดร้อนนะ แน๊กรวยมาก
    แต่เมิงทำแบบนี้ ก็คนไทยชาติเดียวกับพวกเมิงนี่แหละ
    ที่เค้าเดือดร้อน เมิงทำกันขนาดนี้แบบไร้สติ
    เพียงเพื่อเอาใจอิสก็อยกิมจิคนนี้จริงๆเหรอ
    มันเป็นเมียของบิดามึงตั้งแต่เมื่อไหร่
    มันสร้างพระคุณอะไรให้ข้าวให้น้ำกับพวกเมิงตอนไหน
    กูแม่ม งงกับสมองของพวกเมิงจริงๆ
    โดนอิโจ มณฑนี จูงจมูก พวกเมิงสนุกสนาน
    และเมิงกำลังทำร้ายคนไทยเป็นอยู่ในบริษัทต่างๆ
    ที่พวกเมิงแห่กันไปแบน นี่ถึงกับเรื่องความเป็นจริงแล้วนะ
    ชีวิตจริง พวกเมิงลองคิดดีๆ ไอ่อิทั้งหลาย
    ถ้าพวกเมิงเปิดร้านอาหารซักร้าน เมิงลงทุนไปมหาศาล
    ปรากฏว่า ร้านนี้มีคนที่มึงอคติกับเค้าเข้าไปช่วยเชียร์ร้าน
    เท่านั้นแหละพวกเมิงแบนร้านเค้า ซึ่งทั้งลูก เมีย คนงาน
    ทุกคนได้รับความเดือดร้อนจากพวกเมิง
    เมิงจะรับผิดชอบกับกรรมที่พวกเมิงก่อยังไง
    ไอ่พวกส้งงงทรีน
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คนไทยหรือเปล่าถามจริงๆทุย ทุกวันนี้นะสินค้าทุกตัวต่างต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดขององค์กร การที่ได้แน๊กชาลีมาช่วยเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็คือส่วนหนึ่ง ที่จะช่วยให้ของเค้าออกจากสต็อกได้มากขึ้น 1 สินค้า มีพนักงานเป็นร้อย บางที่เป็นพัน ต่างมีลูก มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ถ้าการจ้างแน๊กชาลีเป็นพรีเซ้นเตอร์ แล้วไม่ปัง เค้าก็เลิกจ้างไปเอง แต่ไม่ใช่วิธีการสกปรกแบบนี้ เมิงเล่นส่งลิงค์ให้เข้าไปกดดันแบรนด์ต่างๆ โดยไม่สนใจต่อชีวิตใครบนโลก เมิงทำแบบนี้ แน๊กไม่ได้เดือดร้อนนะ แน๊กรวยมาก แต่เมิงทำแบบนี้ ก็คนไทยชาติเดียวกับพวกเมิงนี่แหละ ที่เค้าเดือดร้อน เมิงทำกันขนาดนี้แบบไร้สติ เพียงเพื่อเอาใจอิสก็อยกิมจิคนนี้จริงๆเหรอ มันเป็นเมียของบิดามึงตั้งแต่เมื่อไหร่ มันสร้างพระคุณอะไรให้ข้าวให้น้ำกับพวกเมิงตอนไหน กูแม่ม งงกับสมองของพวกเมิงจริงๆ โดนอิโจ มณฑนี จูงจมูก พวกเมิงสนุกสนาน และเมิงกำลังทำร้ายคนไทยเป็นอยู่ในบริษัทต่างๆ ที่พวกเมิงแห่กันไปแบน นี่ถึงกับเรื่องความเป็นจริงแล้วนะ ชีวิตจริง พวกเมิงลองคิดดีๆ ไอ่อิทั้งหลาย ถ้าพวกเมิงเปิดร้านอาหารซักร้าน เมิงลงทุนไปมหาศาล ปรากฏว่า ร้านนี้มีคนที่มึงอคติกับเค้าเข้าไปช่วยเชียร์ร้าน เท่านั้นแหละพวกเมิงแบนร้านเค้า ซึ่งทั้งลูก เมีย คนงาน ทุกคนได้รับความเดือดร้อนจากพวกเมิง เมิงจะรับผิดชอบกับกรรมที่พวกเมิงก่อยังไง ไอ่พวกส้งงงทรีน #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Sad
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 948 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านหอมปลาเผา ร้านอาหารไทย-อีสาน ซีฟู้ด สุดแซ่บที่ตั้งอยู่ในซอยรัชดา 18 แยก 20 มิถุนา บรรยากาศร้านนั่งสบาย สไตล์อีสาน พร้อมที่จอดรถสะดวก นอกจากนี้เมนูเด็ดในร้านก็มีให้เลือกหลากหลายเมนูเอาใจขาส้มตำสุดๆ โดยเฉพาะตำถาดกุ้งสด และตำถาดหอยแครงลาว ที่แซ่บเด็ด เผ็ดสุดๆ พร้อมเมี่ยงปลาทับทิมรสชาติดี ตบท้ายด้วยไอศกรีมลอดช่องกะทิสด บอกเลยว่า ใช่ !

    พิกัด : ซอยรัชดา 18 (แยก 20 มิถุนา) ถนนรัชดาภิเษก
    ร้านเปิดบริการ : จันทร์-ศุกร์ 16.00-23.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์-วันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.00-23.00 น.
    โทร : 08-9893-2735

    #ส้มตำในกรุงเทพ #กินสารระนัวร์ #ของอร่อย #Thaitimes
    ร้านหอมปลาเผา ร้านอาหารไทย-อีสาน ซีฟู้ด สุดแซ่บที่ตั้งอยู่ในซอยรัชดา 18 แยก 20 มิถุนา บรรยากาศร้านนั่งสบาย สไตล์อีสาน พร้อมที่จอดรถสะดวก นอกจากนี้เมนูเด็ดในร้านก็มีให้เลือกหลากหลายเมนูเอาใจขาส้มตำสุดๆ โดยเฉพาะตำถาดกุ้งสด และตำถาดหอยแครงลาว ที่แซ่บเด็ด เผ็ดสุดๆ พร้อมเมี่ยงปลาทับทิมรสชาติดี ตบท้ายด้วยไอศกรีมลอดช่องกะทิสด บอกเลยว่า ใช่ ! พิกัด : ซอยรัชดา 18 (แยก 20 มิถุนา) ถนนรัชดาภิเษก ร้านเปิดบริการ : จันทร์-ศุกร์ 16.00-23.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์-วันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.00-23.00 น. โทร : 08-9893-2735 #ส้มตำในกรุงเทพ #กินสารระนัวร์ #ของอร่อย #Thaitimes
    Like
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 613 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูกระดึง" ขุนเขามหาเสน่ห์แห่งเมืองเลย ที่ดึงดูดให้ผู้คนไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน
    ภูกระดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย มีลักษณะเป็นภูเขาหินทรายยอดตัดรูปหัวใจ โดยคำว่า ภูกระดึง มาจากคำว่า ภู แปลว่า ภูเขา และ กระดึง แปลว่า กระดิ่ง เป็นภาษาถิ่นของจังหวัดเลย ภูกระดึง จึงแปลได้ว่า ระฆังใหญ่
    ●เส้นทางเดินเท้าขึ้นภูกระดึง มีระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินอีก 3.5 กิโลเมตร เพื่อไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและจุดพักแรม เรียกว่า “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกลาง” บริเวณนั้นจะมีให้บริการทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านค้า ร้านอาหาร
    ■■■■■■■■
    ●ฟิตร่างกายให้พร้อม แล้วแบกเป้ไปพิชิตภูกระดึงกัน แหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนชอบปีนเขา วิวสวย บรรยากาศดี ชีวิตนี้ต้องไปสักครั้ง!
    🗓 เปิดเฉพาะ 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของทุกปี งานนี้ต้องห้ามพลาด!
    ■■■■■■■■
    #ภูกระดึง #ท่องเที่ยวจังหวัดเลย #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    "ภูกระดึง" ขุนเขามหาเสน่ห์แห่งเมืองเลย ที่ดึงดูดให้ผู้คนไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน ภูกระดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย มีลักษณะเป็นภูเขาหินทรายยอดตัดรูปหัวใจ โดยคำว่า ภูกระดึง มาจากคำว่า ภู แปลว่า ภูเขา และ กระดึง แปลว่า กระดิ่ง เป็นภาษาถิ่นของจังหวัดเลย ภูกระดึง จึงแปลได้ว่า ระฆังใหญ่ ●เส้นทางเดินเท้าขึ้นภูกระดึง มีระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินอีก 3.5 กิโลเมตร เพื่อไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและจุดพักแรม เรียกว่า “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกลาง” บริเวณนั้นจะมีให้บริการทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านค้า ร้านอาหาร ■■■■■■■■ ●ฟิตร่างกายให้พร้อม แล้วแบกเป้ไปพิชิตภูกระดึงกัน แหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนชอบปีนเขา วิวสวย บรรยากาศดี ชีวิตนี้ต้องไปสักครั้ง! 🗓 เปิดเฉพาะ 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของทุกปี งานนี้ต้องห้ามพลาด! ■■■■■■■■ #ภูกระดึง #ท่องเที่ยวจังหวัดเลย #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1124 มุมมอง 478 0 รีวิว
  • คลิปนี้ไม่ธรรมดาครับ

    เพราะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง การสั่งล้อคดาว์น การบังคับขืนใจโคขวิด ออกมาสารภาพ ยอมรับเองว่า วิธีที่จะทำให้ทุกคน ยอมฉีดว้าคซวย คือกดดันให้คนที่ยังไม่ฉีด อึดอัด ลำบาก ไม่มีที่ไป

    ทำงานได้อย่างลำบาก หางานใหม่ก็ลำบาก กินข้าวในร้านอาหารไม่ได้ ลูกๆ ก็ไปโรงเรียนไม่ได้

    สุดท้ายค้องยอมจำนน หลับหูหลับตาฉีดๆ มันเข้าไป
    คลิปนี้ไม่ธรรมดาครับ เพราะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง การสั่งล้อคดาว์น การบังคับขืนใจโคขวิด ออกมาสารภาพ ยอมรับเองว่า วิธีที่จะทำให้ทุกคน ยอมฉีดว้าคซวย คือกดดันให้คนที่ยังไม่ฉีด อึดอัด ลำบาก ไม่มีที่ไป ทำงานได้อย่างลำบาก หางานใหม่ก็ลำบาก กินข้าวในร้านอาหารไม่ได้ ลูกๆ ก็ไปโรงเรียนไม่ได้ สุดท้ายค้องยอมจำนน หลับหูหลับตาฉีดๆ มันเข้าไป
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 161 0 รีวิว
  • ร้าน เสวย ท่ามหาราช ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โซนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ของ ท่ามหาราช คอมมูนิตี้ มอลล์ ค่ะ บรรยากาศดีเวอร์ เหมาะสุดๆ สำหรับการพาครอบครัวไปนั่งทานอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดี ริมแม่น้ำ รับลมเย็น โอ้ยย ฟินเฟร่อจ้าา

    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/stg4hrgwzU99awxQA
    ที่อยู่ : ท่ามหาราช คอมมูนิตี้ มอลล์ ชั้น 2 อาคาร G (โซนริมแม่น้ำเจ้าพระยา)
    เปิดบริการ : 11.00 - 22.00 น.
    โทร : 0-2024-1317

    #ร้านอาหารริมน้ำ #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ร้าน เสวย ท่ามหาราช ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โซนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ของ ท่ามหาราช คอมมูนิตี้ มอลล์ ค่ะ บรรยากาศดีเวอร์ เหมาะสุดๆ สำหรับการพาครอบครัวไปนั่งทานอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดี ริมแม่น้ำ รับลมเย็น โอ้ยย ฟินเฟร่อจ้าา พิกัด : https://maps.app.goo.gl/stg4hrgwzU99awxQA ที่อยู่ : ท่ามหาราช คอมมูนิตี้ มอลล์ ชั้น 2 อาคาร G (โซนริมแม่น้ำเจ้าพระยา) เปิดบริการ : 11.00 - 22.00 น. โทร : 0-2024-1317 #ร้านอาหารริมน้ำ #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1250 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไอคอนสยาม ที่นี่มีร้านอาหารที่เหมาะกับการพากันไปหินทั้งครอบครัว กับร้าน GREAT HARBOUR ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ จากไต้หวัน และเป็นร้านบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ที่นี่มีรายการอาหารพรีเมี่ยมกว่า 200 เมนู บอกเลยว่าคุ้มแบบจุกๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น ซีฟู้ด อาหารตะวันตก และอาหารนานาชาติอื่นๆ อีกเพียบ

    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/X3jmCvXPuns6s2LF8
    ที่อยู่ : ชั้น 6 ไอคอนสยาม ถนน เจริญนคร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
    ราคา : ผู้ใหญ่ : 999.- / เด็ก : 499.-
    ร้านเปิดบริการ : 11.30 - 14.30 น. และ 17.30 - 21.30 น.
    สำรองที่นั่ง : 0-2055-1888 / Line: @harbour

    #ร้านอาหารครอบครัว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ไอคอนสยาม ที่นี่มีร้านอาหารที่เหมาะกับการพากันไปหินทั้งครอบครัว กับร้าน GREAT HARBOUR ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ จากไต้หวัน และเป็นร้านบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ที่นี่มีรายการอาหารพรีเมี่ยมกว่า 200 เมนู บอกเลยว่าคุ้มแบบจุกๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น ซีฟู้ด อาหารตะวันตก และอาหารนานาชาติอื่นๆ อีกเพียบ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/X3jmCvXPuns6s2LF8 ที่อยู่ : ชั้น 6 ไอคอนสยาม ถนน เจริญนคร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ราคา : ผู้ใหญ่ : 999.- / เด็ก : 499.- ร้านเปิดบริการ : 11.30 - 14.30 น. และ 17.30 - 21.30 น. สำรองที่นั่ง : 0-2055-1888 / Line: @harbour #ร้านอาหารครอบครัว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราชตฤณมัยสมาคมฯเดินหน้าสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 2แสนล้าน ภายใต้ชื่อโครงการ "The Royal Siam Haven" หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้

    19 กันยายน 2567-รายงานข่าวไทยพีบีเอสระบุว่าราชตฤณมัยสมาคมฯ โดยบริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด แถลงข่าวระบุว่า จะเดินหน้าก่อสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้

    ในการแถลงข่าวยังมีการลงนามร่วมกับกลุ่มแคปปิตัลทรัสต์ รับมอบสิทธิในบัญชีพร็อพเทรด 100 ล้านสิทธิ โดยระบุเป้าหมายเพื่อให้คนไทยเรียนรู้ด้านการลงทุน

    ก่อนหน้านี้ ราชตฤณมัยสมาคมฯ ลงนามเดินหน้าโครงการร่วมกับ บริษัท พาวเวอร์ออลเน็ตเวิร์ค บริษัทลูกของกลุ่ม Foxconn จากฮ่องกง และมีแผนลงนามกับผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาม้าแข่งจากประเทศเกาหลีใต้

    พ.อ.พันธุ์ธัช แสงโชติ ว่าที่เลขาธิการราชตฤณมัยสมาคมฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ จะมีการลงนามกับกลุ่มทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการจัดการแข่งขันม้า และสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอก

    “เราจะไม่รอให้ พ.ร.บ.ผ่านก่อน แต่เราจะสร้างก่อน ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอกเพราะดูแล้วคลองเตยน่าจะใช้เวลานาน”

    ขณะที่ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมสาธารณูปโภค ถนน ระบบน้ำและระบบไฟ เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ประกอบธุรกิจต่าง ๆ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ส่วนประกอบของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทั้งการแสดงโชว์ สเตเดียม ร้านค้า ร้านอาหาร

    เมื่อมาดูร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ และผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จากนี้กระทรวงการคลังจะส่งกลับไปให้ ครม.พิจารณาแก้ไขเป็นรายมาตราต่อไป
    ประเด็นนี้เป็นที่จับตาของภาคประชาชน เพราะมีหลายจุดที่ถูกตัดตอนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ หลายจุด เริ่มตั้งแต่การเพิ่มอำนาจคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่า ซุปเปอร์บอร์ด ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้กำหนดจำนวนใบอนุญาต, เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน, กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน และหากมีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ ก็ยังเสนอให้ ครม.แก้กฎหมายได้และอายุใบอนุญาตเพิ่มจาก 20 ปี เป็น 30 ปี

    นอกจากนี้ ยังเปิดช่องให้ผู้ประกอบการให้สินเชื่อกับผู้เล่นพนันในสถานประกอบการกาสิโนได้

    ส่วนประเด็นสำคัญที่ถูกตัดออกจากร่างเดิมของ กมธ. คือ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ประเด็นนี้ไม่มีในร่างของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

    นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ในระยะเวลานาน เชื่อว่าในระยะถัดไป การบังคับใช้กฎหมายอาจไม่เข้มงวดเท่าช่วงแรก ซึ่งในอนาคตอาจมีภาพทั้งกาสิโนขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งกาสิโนขนาดกลางและขนาดเล็กในท้องถิ่นต่าง ๆ ก็เป็นที่น่ากังวลว่ากฎหมายเปิดช่องขนาดนี้ เรียกว่าเป็นกฎหมาย "บ่อนบนดิน

    #Thaitimes
    ราชตฤณมัยสมาคมฯเดินหน้าสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 2แสนล้าน ภายใต้ชื่อโครงการ "The Royal Siam Haven" หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้ 19 กันยายน 2567-รายงานข่าวไทยพีบีเอสระบุว่าราชตฤณมัยสมาคมฯ โดยบริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด แถลงข่าวระบุว่า จะเดินหน้าก่อสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้ ในการแถลงข่าวยังมีการลงนามร่วมกับกลุ่มแคปปิตัลทรัสต์ รับมอบสิทธิในบัญชีพร็อพเทรด 100 ล้านสิทธิ โดยระบุเป้าหมายเพื่อให้คนไทยเรียนรู้ด้านการลงทุน ก่อนหน้านี้ ราชตฤณมัยสมาคมฯ ลงนามเดินหน้าโครงการร่วมกับ บริษัท พาวเวอร์ออลเน็ตเวิร์ค บริษัทลูกของกลุ่ม Foxconn จากฮ่องกง และมีแผนลงนามกับผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาม้าแข่งจากประเทศเกาหลีใต้ พ.อ.พันธุ์ธัช แสงโชติ ว่าที่เลขาธิการราชตฤณมัยสมาคมฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ จะมีการลงนามกับกลุ่มทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการจัดการแข่งขันม้า และสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอก “เราจะไม่รอให้ พ.ร.บ.ผ่านก่อน แต่เราจะสร้างก่อน ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอกเพราะดูแล้วคลองเตยน่าจะใช้เวลานาน” ขณะที่ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมสาธารณูปโภค ถนน ระบบน้ำและระบบไฟ เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ประกอบธุรกิจต่าง ๆ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ส่วนประกอบของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทั้งการแสดงโชว์ สเตเดียม ร้านค้า ร้านอาหาร เมื่อมาดูร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ และผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จากนี้กระทรวงการคลังจะส่งกลับไปให้ ครม.พิจารณาแก้ไขเป็นรายมาตราต่อไป ประเด็นนี้เป็นที่จับตาของภาคประชาชน เพราะมีหลายจุดที่ถูกตัดตอนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ หลายจุด เริ่มตั้งแต่การเพิ่มอำนาจคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่า ซุปเปอร์บอร์ด ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้กำหนดจำนวนใบอนุญาต, เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน, กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน และหากมีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ ก็ยังเสนอให้ ครม.แก้กฎหมายได้และอายุใบอนุญาตเพิ่มจาก 20 ปี เป็น 30 ปี นอกจากนี้ ยังเปิดช่องให้ผู้ประกอบการให้สินเชื่อกับผู้เล่นพนันในสถานประกอบการกาสิโนได้ ส่วนประเด็นสำคัญที่ถูกตัดออกจากร่างเดิมของ กมธ. คือ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ประเด็นนี้ไม่มีในร่างของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ในระยะเวลานาน เชื่อว่าในระยะถัดไป การบังคับใช้กฎหมายอาจไม่เข้มงวดเท่าช่วงแรก ซึ่งในอนาคตอาจมีภาพทั้งกาสิโนขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งกาสิโนขนาดกลางและขนาดเล็กในท้องถิ่นต่าง ๆ ก็เป็นที่น่ากังวลว่ากฎหมายเปิดช่องขนาดนี้ เรียกว่าเป็นกฎหมาย "บ่อนบนดิน #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1954 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพรจากร้านอาหาร ใน ตปท โดย custom made สไตล์​ฝรั้ง

    #candpceladon
    #cpceladon
    #จานชาม​เซรามิก​
    ภาพรจากร้านอาหาร ใน ตปท โดย custom made สไตล์​ฝรั้ง #candpceladon #cpceladon #จานชาม​เซรามิก​
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • Aspire Erawan Prime : แอสปาย เอราวัณ ไพร์ม, สมุทรปราการ

    คอนโดนี้ยกระดับการอยู่อาศัยด้วยนวัตกรรมที่ทำให้ทุกจังหวะชีวิตง่ายขึ้นกว่าเดิม ด้วยระบบอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันอัจฉริยะเพื่อชีวิตวิถีใหม่ที่ปลอดภัยจากความกังวล ครอบคลุมพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมยังใส่ใจความต้องการของคนทุกไลฟ์สไตล์ ให้การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเหมือนกับการหลีกหนี

    **สิ่งอำนวยความสะดวก**

    - Serene Pavilion
    - Sunken Seat
    - Free Flow Playground
    - Lawn Court
    - Multi-Sport
    - Running Loop
    - Welcome Zone
    - Private Lobby
    - Meeting Reservation Room
    - Co-Working Cafe
    - Mingle Space
    - Smart Locker
    - Battle Room
    - Board Game
    - Private Theatre
    - Breezing Balcony
    - Heath Complex
    - Sauna/Steam
    - Stretching Plaza
    - Pool Terrace
    - Massage Pond
    - Secret Seat
    - Yoga Deck
    - Jacuzzi
    - Swimming Pool
    - Waterside Pavilion
    - Kids Pool
    - Social Court
    - Sunset Parlor
    - Sky Jogging
    - CCTV
    - Key Card Access
    - รปภ. 24 ชม.
    - Wi-Fi บนพื้นที่ส่วนกลาง

    **สถานที่ใกล้เคียง**

    - ร้านสะดวกซื้อ/ร้านกาแฟ/ร้านอาหาร : พื้นที่ร้านค้าหน้าโครงการ
    - Big C Jumbo สำโรง : 2.4 กม.
    - สำโรงเซ็นเตอร์ : 3.6 กม.
    - อิมพีเรียลเวิร์ล สำโรง : 3.7 กม.
    - ตลาดเอี่ยมเจริญ : 5.1 กม.
    - The Coast Village : 6.2 กม.
    - Lotus Plus Mall ศรีนครินทร์ : 6.5 กม.
    - Bitec บางนา : 8.0 กม.
    - Jas Urban : 8.3 กม.
    - เซ็นทรัล บางนา : 9.6 กม.
    - Big C บางนา : 9.7 กม.
    - ศูนย์การค้า ลาซาลสแควร์ : 9.7 กม.
    - Bangkok Mall : 10 กม.
    - SB Design Square : 10.5 กม.
    - Makro ศรีนครินทร์ : 11.0 กม.
    - Big C ศรีนครินทร์ : 11.1 กม.
    - Chic Republic : 11.2 กม.
    - Index Living Mall : 11.4 กม.
    - Paradise Park : 13.2 กม.
    - Mega&Ikea บางนา : 15.5 กม.
    - Seacon Square : 16.8 กม.
    - รร.นายเรือ : 1.1 กม.
    - รร.สตรีสมุทรปราการ : 4.2 กม.
    - รร.อัสสัมชัน สมุทรปราการ : 4.3 กม.
    - รร.เซนต์โยเซฟ ทิพวัล : 4.5 กม.
    - รร.นานาชาติ เซนต์แอนดรูส์ : 6.1 กม.
    - รร.นานาชาติเบิร์คลีย์ : 7.0 กม.
    - รร.บางกอกพัฒนา : 7.8 กม.
    - รร.เซนต์โยเซฟ บางนา : 7.9 กม.
    - รร.ลาซาล : 9.1 กม.
    - รร.นานาชาติเวลล์ส : 10.7 กม.
    - International Community School : 15.1 กม.
    - รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน : 16.9 กม.
    - The American School of Bangkok : 17.4 กม.
    - รพ.ยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ : 1.8 กม.
    - รพ.เมืองสมุทรปราการ : 3.2 กม.
    - รพ.สำโรงการแพทย์ : 3.7 กม.
    - รพ.เปาโล เมโมเรียล สมุทรปราการ : 4.6 กม.
    - รพ.มนารมย์ : 5.6 กม.
    - รพ.ไทยนครินทร์ : 10.1 กม.
    - รพ.ศิครินทร์ : 11.1 กม.
    - รพ.บางนา 1 : 11.9 กม.
    - กศน.อำเภอเมืองสมุทรปราการ : 180 ม.
    - ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ : 2.2 กม.
    - สนง.สรรพกร สมุทรปราการ : 2.4 กม.
    - สนง.ที่ดิน สมุทรปราการ : 2.4 กม.
    - ศาลจังหวัดสมุทรปราการ : 2.5 กม.
    - สภ.เมืองสมุทรปราการ : 2.5 กม.
    - การไฟฟ้านครหลวง สมุทรปราการ : 2.8 กม.
    - สถานีตำรวจ สำโรงเหนือ : 3.6 กม.
    - พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ : 3.3 กม.
    - พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ : 3.4 กม.
    - APT Parking : 6.6 กม.

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามข้อมูลที่
    โทร.081-822-6553
    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    Aspire Erawan Prime : แอสปาย เอราวัณ ไพร์ม, สมุทรปราการ คอนโดนี้ยกระดับการอยู่อาศัยด้วยนวัตกรรมที่ทำให้ทุกจังหวะชีวิตง่ายขึ้นกว่าเดิม ด้วยระบบอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันอัจฉริยะเพื่อชีวิตวิถีใหม่ที่ปลอดภัยจากความกังวล ครอบคลุมพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมยังใส่ใจความต้องการของคนทุกไลฟ์สไตล์ ให้การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเหมือนกับการหลีกหนี **สิ่งอำนวยความสะดวก** - Serene Pavilion - Sunken Seat - Free Flow Playground - Lawn Court - Multi-Sport - Running Loop - Welcome Zone - Private Lobby - Meeting Reservation Room - Co-Working Cafe - Mingle Space - Smart Locker - Battle Room - Board Game - Private Theatre - Breezing Balcony - Heath Complex - Sauna/Steam - Stretching Plaza - Pool Terrace - Massage Pond - Secret Seat - Yoga Deck - Jacuzzi - Swimming Pool - Waterside Pavilion - Kids Pool - Social Court - Sunset Parlor - Sky Jogging - CCTV - Key Card Access - รปภ. 24 ชม. - Wi-Fi บนพื้นที่ส่วนกลาง **สถานที่ใกล้เคียง** - ร้านสะดวกซื้อ/ร้านกาแฟ/ร้านอาหาร : พื้นที่ร้านค้าหน้าโครงการ - Big C Jumbo สำโรง : 2.4 กม. - สำโรงเซ็นเตอร์ : 3.6 กม. - อิมพีเรียลเวิร์ล สำโรง : 3.7 กม. - ตลาดเอี่ยมเจริญ : 5.1 กม. - The Coast Village : 6.2 กม. - Lotus Plus Mall ศรีนครินทร์ : 6.5 กม. - Bitec บางนา : 8.0 กม. - Jas Urban : 8.3 กม. - เซ็นทรัล บางนา : 9.6 กม. - Big C บางนา : 9.7 กม. - ศูนย์การค้า ลาซาลสแควร์ : 9.7 กม. - Bangkok Mall : 10 กม. - SB Design Square : 10.5 กม. - Makro ศรีนครินทร์ : 11.0 กม. - Big C ศรีนครินทร์ : 11.1 กม. - Chic Republic : 11.2 กม. - Index Living Mall : 11.4 กม. - Paradise Park : 13.2 กม. - Mega&Ikea บางนา : 15.5 กม. - Seacon Square : 16.8 กม. - รร.นายเรือ : 1.1 กม. - รร.สตรีสมุทรปราการ : 4.2 กม. - รร.อัสสัมชัน สมุทรปราการ : 4.3 กม. - รร.เซนต์โยเซฟ ทิพวัล : 4.5 กม. - รร.นานาชาติ เซนต์แอนดรูส์ : 6.1 กม. - รร.นานาชาติเบิร์คลีย์ : 7.0 กม. - รร.บางกอกพัฒนา : 7.8 กม. - รร.เซนต์โยเซฟ บางนา : 7.9 กม. - รร.ลาซาล : 9.1 กม. - รร.นานาชาติเวลล์ส : 10.7 กม. - International Community School : 15.1 กม. - รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน : 16.9 กม. - The American School of Bangkok : 17.4 กม. - รพ.ยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ : 1.8 กม. - รพ.เมืองสมุทรปราการ : 3.2 กม. - รพ.สำโรงการแพทย์ : 3.7 กม. - รพ.เปาโล เมโมเรียล สมุทรปราการ : 4.6 กม. - รพ.มนารมย์ : 5.6 กม. - รพ.ไทยนครินทร์ : 10.1 กม. - รพ.ศิครินทร์ : 11.1 กม. - รพ.บางนา 1 : 11.9 กม. - กศน.อำเภอเมืองสมุทรปราการ : 180 ม. - ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ : 2.2 กม. - สนง.สรรพกร สมุทรปราการ : 2.4 กม. - สนง.ที่ดิน สมุทรปราการ : 2.4 กม. - ศาลจังหวัดสมุทรปราการ : 2.5 กม. - สภ.เมืองสมุทรปราการ : 2.5 กม. - การไฟฟ้านครหลวง สมุทรปราการ : 2.8 กม. - สถานีตำรวจ สำโรงเหนือ : 3.6 กม. - พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ : 3.3 กม. - พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ : 3.4 กม. - APT Parking : 6.6 กม. ------------------------------------------- สนใจสอบถามข้อมูลที่ โทร.081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 504 มุมมอง 0 รีวิว
  • A Space Me Rattanathibet : เอ สเปซ มี รัตนาธิเบศร์

    **ราคา/รายละเอียด
    ราคาเริ่มต้น 2,550,000 บาท (1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 25.95 ตรม.)

    รายละเอียดโครงการ

    คอนโดแถวถนนรัตนาธิเบศร์ จุดสังเกตและเป็นข้อได้เปรียบคือ ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับโครงการคือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ทั้งนี้นอกจากห้างสรรพสินค้าแล้ว ก็มีทั้งอาคารสำนักงาน สถานที่ราชการ ร้านค้า ร้านอาหารและบ้านเรือนประชาชน รวมถึงคลองบางซื่อด้วย

    นอกจากนี้ก็ถือว่าเป็นทำเลเดินทางไปมาได้สะดวก เพราะอยู่ระหว่างจุดกลับรถเกือกม้าของทั้งฝั่งที่มาจากแคราย และฝั่งที่มาจากบางบัวทอง และอยู่ใกล้กับถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ไม่ต้องไปกลับรถไกล อีกทั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีแยกนนทบุรี 1 ประมาณ 300 เมตร

    เรียกได้ว่าทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ในจุดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน แม้วันนี้อาจไม่หวือหวาแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเมืองกำลังเติบโต แต่เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ 2 – 3 ปีข้างหน้า จะเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น

    **สิ่งอำนวยความสะดวก

    – ฟิตเนส
    – สระว่ายน้ำ
    – เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ)
    – Pool Seat
    – Pool Bed
    – สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่
    – CCTV
    – ห้องสมุด
    – ห้องประชุมขนาดใหญ่

    **สถานที่ใกล้เคียง

    – เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
    – บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า
    – เทสโก้ โลตัส
    – เอสพลานาด แคราย
    – ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์
    – อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ รัตนาธิเบศร์
    – โรบินสัน สาขารัตนาธิเบศร์
    – บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ 2
    – สถานีแยกนนทบุรี 1
    – สถานีบางกระสอ
    – สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
    – สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
    – โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ อำเภอเมืองนนทบุรี
    – โรงเรียนศรีบุณยานนท์
    –โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี
    – โรงเรียนนครนนท์วิทยา 4 วัดบางแพรกเหนือ
    – โรงเรียนนครนนท์วิทยา 1 วัดท้ายเมือง

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามข้อมูลที่
    โทร.081-822-6553
    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    A Space Me Rattanathibet : เอ สเปซ มี รัตนาธิเบศร์ **ราคา/รายละเอียด ราคาเริ่มต้น 2,550,000 บาท (1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 25.95 ตรม.) รายละเอียดโครงการ คอนโดแถวถนนรัตนาธิเบศร์ จุดสังเกตและเป็นข้อได้เปรียบคือ ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับโครงการคือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ทั้งนี้นอกจากห้างสรรพสินค้าแล้ว ก็มีทั้งอาคารสำนักงาน สถานที่ราชการ ร้านค้า ร้านอาหารและบ้านเรือนประชาชน รวมถึงคลองบางซื่อด้วย นอกจากนี้ก็ถือว่าเป็นทำเลเดินทางไปมาได้สะดวก เพราะอยู่ระหว่างจุดกลับรถเกือกม้าของทั้งฝั่งที่มาจากแคราย และฝั่งที่มาจากบางบัวทอง และอยู่ใกล้กับถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ไม่ต้องไปกลับรถไกล อีกทั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีแยกนนทบุรี 1 ประมาณ 300 เมตร เรียกได้ว่าทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ในจุดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน แม้วันนี้อาจไม่หวือหวาแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเมืองกำลังเติบโต แต่เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ 2 – 3 ปีข้างหน้า จะเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น **สิ่งอำนวยความสะดวก – ฟิตเนส – สระว่ายน้ำ – เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ) – Pool Seat – Pool Bed – สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ – CCTV – ห้องสมุด – ห้องประชุมขนาดใหญ่ **สถานที่ใกล้เคียง – เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ – บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า – เทสโก้ โลตัส – เอสพลานาด แคราย – ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์ – อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ รัตนาธิเบศร์ – โรบินสัน สาขารัตนาธิเบศร์ – บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ 2 – สถานีแยกนนทบุรี 1 – สถานีบางกระสอ – สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี – สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี – โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ อำเภอเมืองนนทบุรี – โรงเรียนศรีบุณยานนท์ –โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี – โรงเรียนนครนนท์วิทยา 4 วัดบางแพรกเหนือ – โรงเรียนนครนนท์วิทยา 1 วัดท้ายเมือง ------------------------------------------- สนใจสอบถามข้อมูลที่ โทร.081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • PITI Sukhumvit 101 : ปีติ สุขุมวิท 101

    **จุดเด่น **

    -โครงการ PITISukhumvit101 พรีเมียมคอนโด High Rise สูง 19 ชั้น มีห้องทั้งหมด168 ยูนิต และมีอาคารฟิตเนสคลับอีก 1 อาคาร ความสูง 2 ชั้น โครงการออกแบบใต้คอนเซ็ปต์ Private Living at your Service เน้นความเป้นส่วนตัวให้ลูกบ้าน
    -อยู่ในทำเลที่มีความครบครัน ใกล้ Lifestyle Stores โรงพยาบาล และ โรงเรียนนานาชาติ อย่าง Berkley International School , St. Andrews International School และ Bangkok Pattana School นอกนั้นความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะเกาะอยู่บนถนนสุขุมวิท อาทิเช่นธนาคาร, ปั๊มน้ำมัน, ร้านค้า ร้านอาหาร, โชว์รูมรถ รวมไปถึง Community Mall และออฟฟิศสำนักงานต่างๆ
    -ดีไซน์โดดเด่นทันสมัยที่มาพร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ Home Automation System
    โดยในแต่ละชั้นถูกออกแบบให้มีห้องพัก อาศัยเพียงฝั่งเดียว และมีเพียงชั้นละ 4-13 ยูนิตเท่านั้น
    -บริเวณ Active Pavillion ถูกออกแบบให้แยกตัวออกมาจากอาคารที่อยู่อาศัย เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนและมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย
    -บนชั้นสูงสุดคุณจะได้พบกับสวนขนาดใหญ่ ที่เรียงรายไปด้วยจุดพักผ่อนใต้ร่มไม้ ให้คุณเต็มอิ่มกับบรรยากาศและความสงบเงียบของธรรมชาติ

    **สิ่งอำนวยความสะดวก**

    -Active Pavilion
    -Fitness
    -Boxing Camp
    -TRX Zone
    -Exclusive Lobby
    -24 hr. Reception
    -24 hrs. Concierge service
    -Waiting Lounge
    -Mailbox
    -Automated Parking
    -EV Charger
    -Co-Hobby Space
    -Sharing Space
    -Meeting Lounge
    -Individual Space
    -Locker for Hobby Equipments
    -Sky Infinity Edge Pool
    -Jacuzzi
    -Kid Pool
    -Sunken Viewpoint
    -Steam Room
    -Sunset Deck
    -เข้า-ออกระบบ RFID + Bluetooth
    -Keycard Access
    -CCTV
    -เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

    **สถานที่ใกล้เคียง**

    -The Phyll สุขุมวิท 54 : 1.5 กม.
    -One อุดมสุข : 1.9 กม.
    -Century Movie Plaza : 2.0 กม.
    -Lotus’s อ่อนนุช : 2.1 กม.
    -Bangkok Mall : 2.2 กม.
    -Gateway เอกมัย : 4.0 กม.
    -Major Cineplex สุขุมวิท : 4.5 กม.
    -Central บางนา : 5.5 กม.
    -Anglo-Singapore International School : 1.1 กม.
    -Well International School : 2.0 กม.
    -Berkley International School : 3.0 กม.
    -Modern Montessori International : 3.6 กม.
    -St. Andrews International School : 5.4 กม.
    -Bangkok Pattana School : 6.2 กม.
    -International Community School (ICS) : 7.3 กม.
    -RAS Raffles American School : 8.2 กม.
    -Thai-Singapore International : 9.0 กม.
    -รพ.กล้วยน้ำไทย 2 : 2.0 กม.
    -รพ.สุขุมวิท : 4.6 กม.
    -รพ.ไทยนครินทร์ : 5.6 กม.
    -Camillian Hospital : 6.8 กม.

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามข้อมูลที่
    โทร.081-822-6553
    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน

    PITI Sukhumvit 101 : ปีติ สุขุมวิท 101 **จุดเด่น ** -โครงการ PITISukhumvit101 พรีเมียมคอนโด High Rise สูง 19 ชั้น มีห้องทั้งหมด168 ยูนิต และมีอาคารฟิตเนสคลับอีก 1 อาคาร ความสูง 2 ชั้น โครงการออกแบบใต้คอนเซ็ปต์ Private Living at your Service เน้นความเป้นส่วนตัวให้ลูกบ้าน -อยู่ในทำเลที่มีความครบครัน ใกล้ Lifestyle Stores โรงพยาบาล และ โรงเรียนนานาชาติ อย่าง Berkley International School , St. Andrews International School และ Bangkok Pattana School นอกนั้นความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะเกาะอยู่บนถนนสุขุมวิท อาทิเช่นธนาคาร, ปั๊มน้ำมัน, ร้านค้า ร้านอาหาร, โชว์รูมรถ รวมไปถึง Community Mall และออฟฟิศสำนักงานต่างๆ -ดีไซน์โดดเด่นทันสมัยที่มาพร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ Home Automation System โดยในแต่ละชั้นถูกออกแบบให้มีห้องพัก อาศัยเพียงฝั่งเดียว และมีเพียงชั้นละ 4-13 ยูนิตเท่านั้น -บริเวณ Active Pavillion ถูกออกแบบให้แยกตัวออกมาจากอาคารที่อยู่อาศัย เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนและมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย -บนชั้นสูงสุดคุณจะได้พบกับสวนขนาดใหญ่ ที่เรียงรายไปด้วยจุดพักผ่อนใต้ร่มไม้ ให้คุณเต็มอิ่มกับบรรยากาศและความสงบเงียบของธรรมชาติ **สิ่งอำนวยความสะดวก** -Active Pavilion -Fitness -Boxing Camp -TRX Zone -Exclusive Lobby -24 hr. Reception -24 hrs. Concierge service -Waiting Lounge -Mailbox -Automated Parking -EV Charger -Co-Hobby Space -Sharing Space -Meeting Lounge -Individual Space -Locker for Hobby Equipments -Sky Infinity Edge Pool -Jacuzzi -Kid Pool -Sunken Viewpoint -Steam Room -Sunset Deck -เข้า-ออกระบบ RFID + Bluetooth -Keycard Access -CCTV -เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. **สถานที่ใกล้เคียง** -The Phyll สุขุมวิท 54 : 1.5 กม. -One อุดมสุข : 1.9 กม. -Century Movie Plaza : 2.0 กม. -Lotus’s อ่อนนุช : 2.1 กม. -Bangkok Mall : 2.2 กม. -Gateway เอกมัย : 4.0 กม. -Major Cineplex สุขุมวิท : 4.5 กม. -Central บางนา : 5.5 กม. -Anglo-Singapore International School : 1.1 กม. -Well International School : 2.0 กม. -Berkley International School : 3.0 กม. -Modern Montessori International : 3.6 กม. -St. Andrews International School : 5.4 กม. -Bangkok Pattana School : 6.2 กม. -International Community School (ICS) : 7.3 กม. -RAS Raffles American School : 8.2 กม. -Thai-Singapore International : 9.0 กม. -รพ.กล้วยน้ำไทย 2 : 2.0 กม. -รพ.สุขุมวิท : 4.6 กม. -รพ.ไทยนครินทร์ : 5.6 กม. -Camillian Hospital : 6.8 กม. ------------------------------------------- สนใจสอบถามข้อมูลที่ โทร.081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขายบ้านพร้อมที่ดิน 50 ไร่ 2 งาน 21 ตรว. ติดถนนทางหลวงชนบท 4023 บ้านเรือนไทย นันทวรรณ-วลี บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ห่างจากมหาวิทยาลัยราชภัฏราชครินทร์ ศูนย์บางคล้า เพียง 1.59 กม.
    **ราคาขาย 252,762,500 บาท**

    ที่ตั้ง : หมู่ 1 ต. หัวไทร อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา

    ✦ รายละเอียด ✦
    ▸ ขายที่ดินพร้อมบ้าน 252,762,500 บาท
    ▸ เนื้อที่ดิน 50 ไร่ 2 งาน 21 ตรว. (20,221 ตร.ว)
    ▸ ที่ดินหน้ากว้างติดถนนสาธารณะ 329 เมตร
    ▸ ลึก 293 เมตร
    ▸ ถนนหน้าที่ดินกว้าง 12 เมตร
    ▸ ที่ดินผังสีเขียว

    ✦ จุดเด่นสำหรับการลงทุน ✦
    ▸ คลังเก็บสินค้า
    ▸ รีสอร์ท
    ▸ สถานที่จัดงานแต่งงาน
    ▸ สถานศึกษา
    ▸ หอพักนักศึกษา
    ▸โรงงาน
    ▸ สนามกอล์ฟ
    ▸ สนามแข่งม้า
    ▸ สนามยิงปืน
    ▸ สนามแข่งรถ

    ✦ สถานที่ใกล้เคียง ✦

    ร้านอาหาร, คาเฟ่ & ตลาด
    ▸ ครัวบางปะกงฟาร์ม 4 กม.
    ▸ บ้านสวนกาแฟ แอนด์ รีสอร์ท 2 กม.
    ▸ ตลาดนัดสามเกลอ 7.4 กม.
    ▸ ตลาดน้ำบางคล้า 9.3 กม.
    ▸ ตลาดแม่เล้ง(บางคล้า) 12 กม.
    ▸ ตลาดนัดวินเทจ บางคล้า 8.1 กม.
    ▸ ตลาดน้ำวัดบางกระเจ็ด 8.9 กม.

    ศูนย์การแพทย์
    ▸ โรงพยาบาลบางคล้า 5.5 กม.
    ▸ โรงพยาบาลคลองเขื่อน 15 กม.
    ▸ โรงพยาบาลราชสาส์น 12 กม.

    สถานที่ราชการและหน่วยงาน
    ▸ สำนักงานเทศบาลตำบลปากน้ำบางคล้า 6 กม.

    *** สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ***
    โทร : 081-822-6553 คุณ ธนชาต
    Line Id : 0818226553


    #ที่ดิน #ขายบ้าน #ขายที่ดิน
    ขายบ้านพร้อมที่ดิน 50 ไร่ 2 งาน 21 ตรว. ติดถนนทางหลวงชนบท 4023 บ้านเรือนไทย นันทวรรณ-วลี บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ห่างจากมหาวิทยาลัยราชภัฏราชครินทร์ ศูนย์บางคล้า เพียง 1.59 กม. **ราคาขาย 252,762,500 บาท** ที่ตั้ง : หมู่ 1 ต. หัวไทร อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ✦ รายละเอียด ✦ ▸ ขายที่ดินพร้อมบ้าน 252,762,500 บาท ▸ เนื้อที่ดิน 50 ไร่ 2 งาน 21 ตรว. (20,221 ตร.ว) ▸ ที่ดินหน้ากว้างติดถนนสาธารณะ 329 เมตร ▸ ลึก 293 เมตร ▸ ถนนหน้าที่ดินกว้าง 12 เมตร ▸ ที่ดินผังสีเขียว ✦ จุดเด่นสำหรับการลงทุน ✦ ▸ คลังเก็บสินค้า ▸ รีสอร์ท ▸ สถานที่จัดงานแต่งงาน ▸ สถานศึกษา ▸ หอพักนักศึกษา ▸โรงงาน ▸ สนามกอล์ฟ ▸ สนามแข่งม้า ▸ สนามยิงปืน ▸ สนามแข่งรถ ✦ สถานที่ใกล้เคียง ✦ ร้านอาหาร, คาเฟ่ & ตลาด ▸ ครัวบางปะกงฟาร์ม 4 กม. ▸ บ้านสวนกาแฟ แอนด์ รีสอร์ท 2 กม. ▸ ตลาดนัดสามเกลอ 7.4 กม. ▸ ตลาดน้ำบางคล้า 9.3 กม. ▸ ตลาดแม่เล้ง(บางคล้า) 12 กม. ▸ ตลาดนัดวินเทจ บางคล้า 8.1 กม. ▸ ตลาดน้ำวัดบางกระเจ็ด 8.9 กม. ศูนย์การแพทย์ ▸ โรงพยาบาลบางคล้า 5.5 กม. ▸ โรงพยาบาลคลองเขื่อน 15 กม. ▸ โรงพยาบาลราชสาส์น 12 กม. สถานที่ราชการและหน่วยงาน ▸ สำนักงานเทศบาลตำบลปากน้ำบางคล้า 6 กม. *** สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม *** โทร : 081-822-6553 คุณ ธนชาต Line Id : 0818226553 #ที่ดิน #ขายบ้าน #ขายที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 647 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขายที่ดินติดถนน1201 ตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัด สุโขทัย 13 ไร่ 28 ตรว.

    **ราคา 12,000,000 บาท**

    รายละเอียด
    - ที่ดินหน้ากว้าง 88.5 เมตร
    - ลึก 365 เมตร โดยประมาณ
    - ถนนหน้าที่ดินกว้าง 3 เมตร

    ** จุดเด่น **
    - ที่ดินใกล้ ถนน1201 เพียง 80 เมตร
    - สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง
    -สามารถสร้าง รีสอร์ท โฮมสเตย์ โฮมออฟฟิต ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ต์ คอฟฟี่ช็อป โกดังเก็บสินค้า โรงพิมพ์ โคกหนองนา ฟาร์มเกษตร ฟาร์มโคนม โรงสีข้าว และอื่นๆ

    ** สถานที่ใกล้เคียง **
    - เทศบาลเมืองสวรรคโลก 1.4 กม.
    - โรงเรียนเทศบาลวัดสวัสดิการตาม(วัดต้นหัด) 400 เมตร
    - สถานีรถไฟสวรรคโลก 1.7 กม.
    - ตลาดสดเทศบาลเมืองสวรรคโลก 2 กม.
    - โลตัส โกเฟรช ซูเปอร์มาร์เก็ต สวรรคโลก 2 กม.
    - โรงพยาบาลสวรรคโลก 2.8 กม.
    - สำนักงานขนส่งจังหวัดสุโขทัยสาขาสวรรคโลก 1.8 กม.
    - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสวรรคโลก 1.9 กม.

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
    โทร : ธนชาต 081-822-6553
    LINE ID: @sundigital
    รับซื้อ ฝาก ขาย ที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์จ ทุกชนิด (มือ 1 และมือ 2) "ฟรี" ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทําเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์
    โดยทีมนักขายมืออาชีพ
    ขายที่ดินติดถนน1201 ตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัด สุโขทัย 13 ไร่ 28 ตรว. **ราคา 12,000,000 บาท** รายละเอียด - ที่ดินหน้ากว้าง 88.5 เมตร - ลึก 365 เมตร โดยประมาณ - ถนนหน้าที่ดินกว้าง 3 เมตร ** จุดเด่น ** - ที่ดินใกล้ ถนน1201 เพียง 80 เมตร - สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง -สามารถสร้าง รีสอร์ท โฮมสเตย์ โฮมออฟฟิต ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ต์ คอฟฟี่ช็อป โกดังเก็บสินค้า โรงพิมพ์ โคกหนองนา ฟาร์มเกษตร ฟาร์มโคนม โรงสีข้าว และอื่นๆ ** สถานที่ใกล้เคียง ** - เทศบาลเมืองสวรรคโลก 1.4 กม. - โรงเรียนเทศบาลวัดสวัสดิการตาม(วัดต้นหัด) 400 เมตร - สถานีรถไฟสวรรคโลก 1.7 กม. - ตลาดสดเทศบาลเมืองสวรรคโลก 2 กม. - โลตัส โกเฟรช ซูเปอร์มาร์เก็ต สวรรคโลก 2 กม. - โรงพยาบาลสวรรคโลก 2.8 กม. - สำนักงานขนส่งจังหวัดสุโขทัยสาขาสวรรคโลก 1.8 กม. - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสวรรคโลก 1.9 กม. ------------------------------------------- สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : ธนชาต 081-822-6553 LINE ID: @sundigital รับซื้อ ฝาก ขาย ที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์จ ทุกชนิด (มือ 1 และมือ 2) "ฟรี" ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทําเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ โดยทีมนักขายมืออาชีพ
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 66 0 รีวิว
  • ขายที่ดินติดถนน1201 ตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัด สุโขทัย 13 ไร่ 28 ตรว.

    **ราคา 12,000,000 บาท**
    รายละเอียด
    - ที่ดินหน้ากว้าง 88.5 เมตร
    - ลึก 365 เมตร โดยประมาณ
    - ถนนหน้าที่ดินกว้าง 3 เมตร

    ** จุดเด่น **
    - ที่ดินใกล้ ถนน1201 เพียง 80 เมตร
    - สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง
    -สามารถสร้าง รีสอร์ท โฮมสเตย์ โฮมออฟฟิต ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ต์ คอฟฟี่ช็อป โกดังเก็บสินค้า โรงพิมพ์ โคกหนองนา ฟาร์มเกษตร ฟาร์มโคนม โรงสีข้าว และอื่นๆ

    ** สถานที่ใกล้เคียง **
    - เทศบาลเมืองสวรรคโลก 1.4 กม.
    - โรงเรียนเทศบาลวัดสวัสดิการตาม(วัดต้นหัด) 400 เมตร
    - สถานีรถไฟสวรรคโลก 1.7 กม.
    - ตลาดสดเทศบาลเมืองสวรรคโลก 2 กม.
    - โลตัส โกเฟรช ซูเปอร์มาร์เก็ต สวรรคโลก 2 กม.
    - โรงพยาบาลสวรรคโลก 2.8 กม.
    - สำนักงานขนส่งจังหวัดสุโขทัยสาขาสวรรคโลก 1.8 กม.
    - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสวรรคโลก 1.9 กม.

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
    โทร : ธนชาต 081-822-6553
    LINE ID: @sundigital
    รับซื้อ ฝาก ขาย ที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์จ ทุกชนิด (มือ 1 และมือ 2) "ฟรี" ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทําเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์
    โดยทีมนักขายมืออาชีพ
    ขายที่ดินติดถนน1201 ตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัด สุโขทัย 13 ไร่ 28 ตรว. **ราคา 12,000,000 บาท** รายละเอียด - ที่ดินหน้ากว้าง 88.5 เมตร - ลึก 365 เมตร โดยประมาณ - ถนนหน้าที่ดินกว้าง 3 เมตร ** จุดเด่น ** - ที่ดินใกล้ ถนน1201 เพียง 80 เมตร - สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง -สามารถสร้าง รีสอร์ท โฮมสเตย์ โฮมออฟฟิต ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ต์ คอฟฟี่ช็อป โกดังเก็บสินค้า โรงพิมพ์ โคกหนองนา ฟาร์มเกษตร ฟาร์มโคนม โรงสีข้าว และอื่นๆ ** สถานที่ใกล้เคียง ** - เทศบาลเมืองสวรรคโลก 1.4 กม. - โรงเรียนเทศบาลวัดสวัสดิการตาม(วัดต้นหัด) 400 เมตร - สถานีรถไฟสวรรคโลก 1.7 กม. - ตลาดสดเทศบาลเมืองสวรรคโลก 2 กม. - โลตัส โกเฟรช ซูเปอร์มาร์เก็ต สวรรคโลก 2 กม. - โรงพยาบาลสวรรคโลก 2.8 กม. - สำนักงานขนส่งจังหวัดสุโขทัยสาขาสวรรคโลก 1.8 กม. - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสวรรคโลก 1.9 กม. ------------------------------------------- สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : ธนชาต 081-822-6553 LINE ID: @sundigital รับซื้อ ฝาก ขาย ที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์จ ทุกชนิด (มือ 1 และมือ 2) "ฟรี" ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทําเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ โดยทีมนักขายมืออาชีพ
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 76 0 รีวิว
  • ขายที่ดินติดถนน1201เมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัด สุโขทัย 13 ไร่ 28 ตรว.

    **ราคา 12,000,000 บาท**

    รายละเอียด
    - ที่ดินหน้ากว้างติดถนน 88.5 เมตร
    - ลึก 365 เมตร โดยประมาณ
    - ถนนหน้าที่ดินกว้าง 3 เมตร

    ** จุดเด่น **
    - ที่ดินใกล้ ถนน1201 เพียง 80 เมตร
    - สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง
    -สามารถสร้าง รีสอร์ท โฮมสเตย์ โฮมออฟฟิต ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ต์ คอฟฟี่ช็อป โกดังเก็บสินค้า โรงพิมพ์ โคกหนองนา ฟาร์มเกษตร ฟาร์มโคนม โรงสีข้าว และอื่นๆ

    สถานที่ใกล้เคียง
    - เทศบาลเมืองสวรรคโลก 1.4 กม.
    - โรงเรียนเทศบาลวัดสวัสดิการตาม(วัดต้นหัด) 400 เมตร
    - สถานีรถไฟสวรรคโลก 1.7 กม.
    - ตลาดสดเทศบาลเมืองสวรรคโลก 2 กม.
    - โลตัส โกเฟรช ซูเปอร์มาร์เก็ต สวรรคโลก 2 กม.
    - โรงพยาบาลสวรรคโลก 2.8 กม.
    - สำนักงานขนส่งจังหวัดสุโขทัยสาขาสวรรคโลก 1.8 กม.
    - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสวรรคโลก 1.9 กม.

    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/U4VJPi9tbPDHxPj98

    -------------------------
    สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
    โทร : ธนชาต 081-822-6553
    LINE ID: @sundigital
    รับซื้อ ฝาก ขาย ที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์จ ทุกชนิด (มือ 1 และมือ 2) "ฟรี" ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทําเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์
    โดยทีมนักขายมืออาชีพ
    ขายที่ดินติดถนน1201เมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัด สุโขทัย 13 ไร่ 28 ตรว. **ราคา 12,000,000 บาท** รายละเอียด - ที่ดินหน้ากว้างติดถนน 88.5 เมตร - ลึก 365 เมตร โดยประมาณ - ถนนหน้าที่ดินกว้าง 3 เมตร ** จุดเด่น ** - ที่ดินใกล้ ถนน1201 เพียง 80 เมตร - สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง -สามารถสร้าง รีสอร์ท โฮมสเตย์ โฮมออฟฟิต ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ต์ คอฟฟี่ช็อป โกดังเก็บสินค้า โรงพิมพ์ โคกหนองนา ฟาร์มเกษตร ฟาร์มโคนม โรงสีข้าว และอื่นๆ สถานที่ใกล้เคียง - เทศบาลเมืองสวรรคโลก 1.4 กม. - โรงเรียนเทศบาลวัดสวัสดิการตาม(วัดต้นหัด) 400 เมตร - สถานีรถไฟสวรรคโลก 1.7 กม. - ตลาดสดเทศบาลเมืองสวรรคโลก 2 กม. - โลตัส โกเฟรช ซูเปอร์มาร์เก็ต สวรรคโลก 2 กม. - โรงพยาบาลสวรรคโลก 2.8 กม. - สำนักงานขนส่งจังหวัดสุโขทัยสาขาสวรรคโลก 1.8 กม. - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสวรรคโลก 1.9 กม. แผนที่ https://maps.app.goo.gl/U4VJPi9tbPDHxPj98 ------------------------- สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : ธนชาต 081-822-6553 LINE ID: @sundigital รับซื้อ ฝาก ขาย ที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์จ ทุกชนิด (มือ 1 และมือ 2) "ฟรี" ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทําเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ โดยทีมนักขายมืออาชีพ
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • Chocolate Ville ร้านดังย่านเลียบด่วน คงไม่ต้องอธิบายอะไรบ้างสำหรับที่นี่ เพราะทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เมนูเด็ดของที่นี่อย่างเมนูขาหมูเยอรมัน ก็นุ่มละมุนในปากไม่น้อย และอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนของที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน รวมไปถึงวิวบรรยากาศก็ชิลสุดๆ มีมุมสวยๆ ให้ถ่ารูปได้ฟีลเหมือนอยู่เมืองนอก เหมาะแก่การมานั่งพูดคุย สังสรรค์ กับครอบครัวและคนรู้ใจสุดๆ เลย
    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/q9LrV9eyEwQAfT1PA
    ที่อยู่ : ถนนประเสริฐมนูญกิจ แขวง รามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ
    ร้านเปิดบริการ : 15.00 - 24.00 น.
    Line : @chocolateville

    #ร้านอาหารครอบครัว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Chocolate Ville ร้านดังย่านเลียบด่วน คงไม่ต้องอธิบายอะไรบ้างสำหรับที่นี่ เพราะทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เมนูเด็ดของที่นี่อย่างเมนูขาหมูเยอรมัน ก็นุ่มละมุนในปากไม่น้อย และอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนของที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน รวมไปถึงวิวบรรยากาศก็ชิลสุดๆ มีมุมสวยๆ ให้ถ่ารูปได้ฟีลเหมือนอยู่เมืองนอก เหมาะแก่การมานั่งพูดคุย สังสรรค์ กับครอบครัวและคนรู้ใจสุดๆ เลย พิกัด : https://maps.app.goo.gl/q9LrV9eyEwQAfT1PA ที่อยู่ : ถนนประเสริฐมนูญกิจ แขวง รามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ ร้านเปิดบริการ : 15.00 - 24.00 น. Line : @chocolateville #ร้านอาหารครอบครัว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ้านน้ำเคียงดิน ร้านอาหารสวย ชื่อดัง ริมถนนอักษะ พุทธมณฑลสาย 4 บรรยากาศร้านถูกตกแต่งออกมาเป็นสไตล์เยอรมันคันทรีไซด์ บรรยากาศดีเหมือนได้ไปนั่งทานข้าวอยู่ที่ต่างประเทศ ที่ร้านจัดสรรที่นั่งภายในร้านได้น่ารักสุดๆ เหมาะกับการไปนั่งกินลมชมบรรยากาศ พร้อมกับทานอาหารอร่อยๆ กับครอบครัว แถมมีพื้นที่สำหรับเจ้าตัวเล็กให้ได้วิ่งเล่น เดินเล่นได้อย่างจุใจเลย

    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/3UyYw8FqWXZtDZXu5
    ที่อยู่ : ถนนอุทยาน แขวง ศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ
    ร้านเปิดบริการ : 17.00 - 23.00 น. (วันหยุด เปิด 11.00 น.)
    โทร : 09-2554-1630

    #ร้านอาหารครอบครัว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    บ้านน้ำเคียงดิน ร้านอาหารสวย ชื่อดัง ริมถนนอักษะ พุทธมณฑลสาย 4 บรรยากาศร้านถูกตกแต่งออกมาเป็นสไตล์เยอรมันคันทรีไซด์ บรรยากาศดีเหมือนได้ไปนั่งทานข้าวอยู่ที่ต่างประเทศ ที่ร้านจัดสรรที่นั่งภายในร้านได้น่ารักสุดๆ เหมาะกับการไปนั่งกินลมชมบรรยากาศ พร้อมกับทานอาหารอร่อยๆ กับครอบครัว แถมมีพื้นที่สำหรับเจ้าตัวเล็กให้ได้วิ่งเล่น เดินเล่นได้อย่างจุใจเลย พิกัด : https://maps.app.goo.gl/3UyYw8FqWXZtDZXu5 ที่อยู่ : ถนนอุทยาน แขวง ศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ร้านเปิดบริการ : 17.00 - 23.00 น. (วันหยุด เปิด 11.00 น.) โทร : 09-2554-1630 #ร้านอาหารครอบครัว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 569 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีใครอยากได้วาปร้านอาหารแบบไหน คอมเมนต์มาได้เลยนะครับ ผมจะไปตามล่าหามาให้คร้าบ #Thaitimes #กินสาระนัวร์
    มีใครอยากได้วาปร้านอาหารแบบไหน คอมเมนต์มาได้เลยนะครับ ผมจะไปตามล่าหามาให้คร้าบ #Thaitimes #กินสาระนัวร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ช่วยน้ำท่วม
    #อาหารแจกน้ำท่วม
    #แตงกวา
    #อาหารบูด
    #thaitimes

    ช่วงนี้มีหลายคน หลายหน่วยงาน ทำอาหารไปแจกให้ชาวบ้านที่ประสบกับภัยน้ำท่วมตามที่ต่างๆ อยากฝากถึงเรื่องนี้ไว้พิจารณาด้วยเถิด แม้นข้าพเจ้าจะเขียนไว้ตั้งแต่ช่วงหน้าร้อน แต่ก็ใช้ได้กับเหตุการณ์ในขณะนี้เช่นกันนั่นคือ

    แตงกวา คือผักที่มักถูกใส่ในเมนูอาหารจานเดียวจำนวนมาก โดยเฉพาะในข้าวผัด หรือตระกูลข้าวหน้าต่างๆ แต่เนื่องจากเมืองไทยอากาศร้อน โดยเฉพาะช่วงนี้ จึงมักทำให้อาหารที่บรรจุกล่อง หรือถุง เปลี่ยนสภาพง่าย ด้วยความที่แตงกวามีน้ำอยู่เยอะนั่นเอง

    ถ้าต้องการให้อาหารที่ทำไม่เสียเร็ว จึงไม่ควรเอาแตงกวาวางโปะบนข้าว ยิ่งอบในกล่องในถุงที่รัดยาง รอลูกค้ามาซื้อตามร้านอาหาร ต้องพิจารณาดีๆ ไม่ควรซื้อหากทราบว่าทางร้านใส่ถุงไว้แต่เช้า แต่เลยเที่ยงไปแล้วยังขายไม่หมด เพราะโอกาสที่ข้าวจะบูดเป็นไปได้สูง ถ้าร้านขายอาหารร้านไหนวางแตงกวาโปะมาบนข้าวที่บรรจุกล่องหรือในถุง ที่ไม่ถึงมือคนกินภายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง สามารถสันนิษฐานไว้ว่าคนทำไม่ใช่มืออาชีพผู้มีความใส่ใจเพียงพอ
    #ช่วยน้ำท่วม #อาหารแจกน้ำท่วม #แตงกวา #อาหารบูด #thaitimes ช่วงนี้มีหลายคน หลายหน่วยงาน ทำอาหารไปแจกให้ชาวบ้านที่ประสบกับภัยน้ำท่วมตามที่ต่างๆ อยากฝากถึงเรื่องนี้ไว้พิจารณาด้วยเถิด แม้นข้าพเจ้าจะเขียนไว้ตั้งแต่ช่วงหน้าร้อน แต่ก็ใช้ได้กับเหตุการณ์ในขณะนี้เช่นกันนั่นคือ แตงกวา คือผักที่มักถูกใส่ในเมนูอาหารจานเดียวจำนวนมาก โดยเฉพาะในข้าวผัด หรือตระกูลข้าวหน้าต่างๆ แต่เนื่องจากเมืองไทยอากาศร้อน โดยเฉพาะช่วงนี้ จึงมักทำให้อาหารที่บรรจุกล่อง หรือถุง เปลี่ยนสภาพง่าย ด้วยความที่แตงกวามีน้ำอยู่เยอะนั่นเอง ถ้าต้องการให้อาหารที่ทำไม่เสียเร็ว จึงไม่ควรเอาแตงกวาวางโปะบนข้าว ยิ่งอบในกล่องในถุงที่รัดยาง รอลูกค้ามาซื้อตามร้านอาหาร ต้องพิจารณาดีๆ ไม่ควรซื้อหากทราบว่าทางร้านใส่ถุงไว้แต่เช้า แต่เลยเที่ยงไปแล้วยังขายไม่หมด เพราะโอกาสที่ข้าวจะบูดเป็นไปได้สูง ถ้าร้านขายอาหารร้านไหนวางแตงกวาโปะมาบนข้าวที่บรรจุกล่องหรือในถุง ที่ไม่ถึงมือคนกินภายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง สามารถสันนิษฐานไว้ว่าคนทำไม่ใช่มืออาชีพผู้มีความใส่ใจเพียงพอ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ยกให้เป็นร้านอาหารกรุงเทพฯ ที่มีเมนู “ข้าวหมูแดง” ลำดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลย ใครที่ชอบกินข้าวหมูแดงฉ่ำ ๆ เนื้อหมูแดงนุ่ม ๆ “หมูกรอบ” เด้ง ๆ หอมอร่อย ไข่ยางมะตูมสีแดง ๆ แนะนำเลยครับ เป็นร้านอาหารกรุงเทพฯ ที่อยู่ในตรอกโรงหมู ราคาไม่แพง แต่คุ้มค่าคุ้มราคา ยิ่งกินกับ “ฟักเป็ดมะนาวดอง” ยิ่งเข้ากันจริง ๆ เลยครับ”

    ที่อยู่: 80 82 ซอย สุกร 1 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
    โทรศัพท์: 081 567 9006
    เวลาทำการ : เปิด 09:00-16.00 น.

    #ข้าวหมูแดง #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    “ยกให้เป็นร้านอาหารกรุงเทพฯ ที่มีเมนู “ข้าวหมูแดง” ลำดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลย ใครที่ชอบกินข้าวหมูแดงฉ่ำ ๆ เนื้อหมูแดงนุ่ม ๆ “หมูกรอบ” เด้ง ๆ หอมอร่อย ไข่ยางมะตูมสีแดง ๆ แนะนำเลยครับ เป็นร้านอาหารกรุงเทพฯ ที่อยู่ในตรอกโรงหมู ราคาไม่แพง แต่คุ้มค่าคุ้มราคา ยิ่งกินกับ “ฟักเป็ดมะนาวดอง” ยิ่งเข้ากันจริง ๆ เลยครับ” ที่อยู่: 80 82 ซอย สุกร 1 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100 โทรศัพท์: 081 567 9006 เวลาทำการ : เปิด 09:00-16.00 น. #ข้าวหมูแดง #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 441 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sep. 13, 2024

    วันนี้เห็นคลิปทหารทุกหมู่เหล่า หน่วยกู้ภัย มูลนิธิต่างๆ และจิตอาสา ต่างระดมกำลังกัน ช่วยชาวบ้านออกจากพื้นที่อันตราย ส่งข้าว ส่งน้ำ และของประทังชีวิตให้ถึงมือทั้งทางเรือ และทางอากาศ
    https://youtu.be/-jaZXpfHsgo?si=YFcFCL5e6vndU-XQ

    มันช่างต่างกับคลิปบ่ายเบี่ยงของนายกคนลูก และออกไปสร้างภาพช่วยผู้ประสบภัยอีกครั้ง หลังจากนายกคนพ่อไปถ่ายรูปสร้างภาพที่สุโขทัยตอนน้ำสูงเท่าพื้นรองเท้า และจัดฉากให้คนนั่งในเรือยกมือไหว้มันซะด้วย ล่อลวงด้วยนโยบายแจกเงินสกุล digital หมื่นนึง ซึ่งบัดนี้กลายเป็นแจกเงินสดที่เลื่อนวันจ่ายออกไปเรื่อยๆ...มันช่างน่าทุเรศใจเหลือเกิน

    คิดย้อนไปถึงตอนก่อนเราจะกลับจาก New York ช่วงพฤศจิกายน 2022 ตอนนั้น Powerball Lotto คือ lottery game ของรัฐที่เข้าร่วมทั้งหมด 45 รัฐ รางวัลที่ฮือฮามากเมื่อก่อน covid คือเกือบ $700 ล้านเหรียญ ถ้าไม่มีใครถูก รางวัลก็จะทบไปเรื่อยๆ จน Jackpot แตกไปเมื่อวันที่ 7 พย. 2022 คือ $2040 ล้านเหรียญ ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา และที่สำคัญ Jackpot winner มีคนเดียวด้วย

    ติ๊ต่างว่าเราคือคนๆนั้นนะ และเราเลือกที่จะไม่รับเบี้ยหัวแตก 30 ปี แต่เราเลือกเอาก้อนเดียวเลย เงินรางวัลเราก็จะได้ครึ่งเดียว คือเหลือ $1020 ล้านเหรียญ จากนั้นก่อนจะอุ้มเงินหนีกลับบ้าน คุณจะโดนหัก state & federal tax อีก 37% ก็จะเหลือกลมๆประมาณ $640 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ตอนนั้น ฿35/$1 ก็คือ ฿22,400 ล้านบาทไทย...ก็เอาละวะ

    ตอนกลับมาไทย เราชอบชวน taxi และคนในพื้นที่ที่ภูเก็ตคุย เราก็จะเล่าเรื่องหวยฝรั่งรางวัลใหญ่ให้พี่ๆ taxi และหลายๆคนฟัง แล้วเราก็นึกสนุกขึ้นมา จึงตั้งคำถามกับ taxi และคนที่ภูเก็ตอีกหลายต่อหลายคนว่า...

    "ถ้าหนูมีเงิน $640 ล้านเหรียญ และในเมืองไทยมีคนอยู่ในประเทศ 70 ล้านคนนะ อ้ะๆ ให้ 80 ล้านคนเลย (เผื่อพม่า ลาว เขมรจะวิ่งเข้ามาด้วย) หนูแจกตังให้ฟรีๆคนละ $1 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยคือคนละ ฿35 ล้านบาท) หนูก็จะเหลือตังอีก $560 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยก็เหลืออีกตั้ง ฿19,600 ล้านบาทไทย) แจกแบบนับจำนวนหัว ไม่ดูอายุกันเลยนะ คุณยายจะตายพรุ่งนี้ก็แจก เด็กเกิดใหม่อายุ 1 วันก็ได้นะ แต่หนูไม่แจกคนที่ติดคุกอยู่ และพระสงฆ์ค่ะ...พี่ว่ามันจะดีมั้ยคะ คิดดีๆก่อนตอบนะ ไม่ต้องรีบ ถามคำถามก่อนตอบก็ได้นะ"

    80% เป็นการตอบแบบไม่หยุดคิดก่อนเลยซักวินาทีเดียว
    "ดีสิครับ" "ดีเด่ะพี่" "โห ผมให้เลขบัญชีคนทั้งครอบครัวพี่เดี๋ยวนี้เลย"
    15% มีการยิงคำถามบ้าง แล้วก็ตอบว่า "ดีครับ ควรแจกครับ"
    มีแค่ 5% ที่คิด-ถาม-คิดอีกที จึงตอบว่า
    "ประเทศเละแน่ๆครับ" "ผมว่าพี่อาจจะโดนยิงตายภายใน 3 วัน" "ผมว่าน่าจะมีหลายคนที่ไม่เคยมี และเขาสามารถทำให้เงินหมดได้ภายในเวลาแป๊บเดียวนะ"

    คราวนี้ตาเราถามพวก 80% แรกกลับบ้าง
    "คำถามแรก ทุกคนมีหนี้นอกระบบพะรุงพะรังถูกมั้ยคะ มีใครคิดจะใช้หนี้ให้หมดก่อนมั้ย หรือคิดว่า ก็เจ้าหนี้ ก็ได้ ฿35 ล้านบาทแล้วไง งั้นก็ไม่ต้องใช้คืนก็ได้
    แล้วหนูบอกว่าหนูแจกทุกคนเลยนะ นักโทษฆ่าข่มขืนเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาหนูก็แจกนะ คนที่แอบทำธุรกิจค้ายาค้ามนุษย์ คนบ้าข้างถนน หนูก็แจกนะคะ ถ้าผัวเมียชาวนามีลูก 8 คน ครอบครัวนั้นจะได้เงิน ฿350 ล้านบาทนะคะ
    คำถามต่อไปคือ พี่ว่าชาวนาจะยังปลูกข้าวอยู่มั้ย พี่ว่าพระจะสึกออกมารับเงินกันกี่รูป พี่ว่าคุณลุงคุณป้าที่ทำร้านอาหารอยู่ แล้วอีกวันเขามีเงินรวมกัน ฿70 ล้านบาท เขาจะเปิดร้านต่อมั้ย พี่เข้าไปร้าน 7-11 แล้วจะมีใครทำงานมั้ย พี่ว่าข้าราชการ ครู ตำรวจ ทหาร จะยังอยากรับใช้ประชาชนแบบเช้าชามเย็นชามเพื่อรอเงินบำนาญอยู่มั้ย พี่ว่ารปภ. คนส่ง Grab คนรับจ้างตัดหญ้า คนรับจ้างกรีดยาง คณะละครร้องรำตามงานวัด จะยังอยากทำงานต่อมั้ย งานวัดจะมีอีกมั้ยเพราะคนทำชิงช้าสวรรค์ ขายสายไหม ซุ้มปาเป้า อาจจะไปเที่ยวยุโรปกันหมดแล้ว ไม่มีใครทำงานแล้ว คนต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทย จะยังได้รับรอยยิ้มสยาม และการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนไทยอยู่อีกมั้ย ทำไมต้องมานั่งนวดฝรั่งริมหาดร้อนๆด้วยเนอะ ชาวประมงใส่นาฬิกา 3 ล้านบาทได้เหมือนนักการเมืองแล้วนะ แถมเหลือตังอีกตั้งแยะ เขาจะยังออกไปจับปลามาขายมั้ย...ที่แย่ที่สุดคือ พี่ว่าคนในครอบครัวจะฆ่ากันเองเพราะโลภอยากได้เงินพี่น้องพ่อแม่หรือผัวเมียตัวเองมั้ย
    ...ตกลงพี่ว่าหนูยังควรแจกตังอยู่มั้ยคะ"
    นี่คือความคิดโง่ๆทุเรศๆของเราเล่นๆ แต่มีคนสนับสนุนความคิดบ้องตื้นของเราถึง 80% เพียงเพราะอยากได้เงินก้อนโต

    เวลาผ่านไป 2 ปี มีนักการเมืองเอาความคิดคล้ายๆกัน แต่จะไปกู้เงินมาหยิบยื่นให้ประชาชน แต่ให้แบบเอาไปทำอะไรก็ไม่ได้ ทุกคนเป็นหนี้ท่วมหัวชั่วลูกชั่วหลานหนักกว่าเดิม แต่คนส่วนนึงก็ยังสนับสนุนความคิดนี้อย่างแข็งขัน เพราะอยากได้เงินแค่หมื่นเดียว

    ตอนนี้ผู้ประสบภัยพิบัติมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีนักการเมืองแวะมาดูๆ ถ่ายรูปตอนมอบถุงยังชีพ 2-3 แชะ แล้วหนูน้อยก็บอกว่า "ตอนนี้น้ำแรงมาก เรือท้องแบนเข้าไปไม่ได้ เมื่อน้ำลดลง พวกเราพร้อมจะเข้าช่วยทันที" อ๋ออออ เรือท้องท้องแบนเข้าไปสู้กับน้ำเชี่ยวๆได้แหละเนอะ น้ำไม่ค่อยแรงหรอก ไว้เรือท้องแบนเข้าได้ แล้วค่อยไปก็ได้ คนไทยอดข้าวอดน้ำ 4-5 วันได้ อึฉี่บนหลังคาบ้านก็ได้ เก่งจะตาย ไม่รีบๆ
    https://x.com/Kawaaii13/status/1834174006418964973?t=Qgom67KE-O0gYasaeateSA&s=19

    ลองเข้าไปดู tiktok ของ @tiktok.thailand89 นะคะ ยอดเยี่ยมมากๆเลยค่ะ ขับ jet ski เก่งมากๆทุกคนเลยค่ะ
    https://www.tiktok.com/@tiktok.thailand89?_t=8pghh09pg0q&_r=1

    นายกหนูน้อยคะ นี่ไงคะ แพร่ลดแล้ว สุโขทัยลดแล้ว เมืองพังเละเทะ ที่ว่าพร้อมจะเข้าช่วยทันที ว้า..แย่จัง ตอนนี้ต้องไปช่วยเชียงรายก่อน ไหนจะต้องแอบเร่งทำเรื่องคาสิโนให้ผ่าน ช่วงที่กำลังอลหม่านเรื่องน้ำท่วมนี่แหละ แถมทีม IO ก็ค่อยๆทยอยลงคลิปเสียงคนโน้นคนนี้ ปล่อยข่าวดาราไทยที่โดนดาราชาติอื่นๆหลอก ฯลฯ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้คนด่านายกหนูน้อยเยอะ มุขมันเก่าไปแล้วค่ะ รายการเจาะลึกทั่วไทย เอาคลิปลุงมาสร้างกระแส เอาจริงๆ ลุงหยุมแกก็อยากเป็นใหญ่ ใครๆก็รู้มาตั้งนานแล้วป่ะ คุณมดดำ ก็สร้างกระแส acting ทำเป็นโกรธดาราเกาหลีมากมาย ได้ตังกันไปเท่าไหร่จ๊ะ

    สังเกตุมั้ย ครอบครัวนี้ขึ้นมามีอำนาจทีไร น้ำท่วมใหญ่ทุกที โดนทั้งอา ทั้งหลานเลย มันคือสัญญาณอะไรเอ่ย คล้ายกับธรรมชาติไม่พอใจพฤติกรรมของมนุษย์ จึงส่งภัยพิบัติมาช่วยเบิกเนตรให้คนตาสว่าง งั้นเราขอถามคำถามตอนนี้ว่า

    ติ๊ต่างนะคะ ว่าตอนนี้มีเงินหมื่นบาทลอยเข้า app เป๋าตังเรียบร้อยแล้ว...แต่ไปซื้อของก็ไม่ได้ เพราะน้ำท่วมร้านค้ามิดหลังคาเลย ได้ข้าวสารมา แต่ไม่มีไฟฟ้าให้หุงข้าว จะหุงด้วยฟืน ฟืนก็เปียกน้ำหมด เหลือแต่ตัวกับเงินหมื่นบาทใน app

    ก็น่าจะเป็นที่ประจักษ์ ของวิญญูชนชัดเจนแล้วว่า การเอาเงินมาแจกให้คน ไม่ว่าจะมากหรือน้อย มันไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องค่ะ หากแต่การให้ความรู้แก่ผู้ใฝ่รู้ที่มีความพยายาม ความอดทน และความมุ่งมั่นต่างหาก ที่จะเป็นทางออกที่แท้จริงให้กับประชาชนและประเทศชาติ

    มีชายท่านนึง ท่านเคยศึกษา และทดลองทำอะไร หลายสิ่งหลายอย่าง มีโครงการมากมายที่ได้ผลสำเร็จ และนำเอาความรู้เหล่านั้นมาเผยแพร่ให้ฟรีๆ และยังเป็นศาสตร์ความรู้ที่นำมาใช้ต่อไปได้ไม่จำกัดกาล แต่คนส่วนใหญ่ กลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่าต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลมันนานเกินไป จนภัยมาถึงตัวในวันนี้

    และนี่อาจจะเป็นเหตุผลนึง ที่ทำให้คนที่มีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน ยังเก็บเงินไว้กับตัว เพราะเขาอาจจะต้องการให้สังคมยังมีความเหลื่อมล้ำมากอยู่ตลอดไป ไม่งั้นจะไปหาคนรองมือรองตีนได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะหาลูกหนี้ได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะไปหาเหยื่อที่เห็นเงินตาโตแล้วร้อยไว้ใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ

    ปล.
    ภูเก็ตก็หนักอยู่ เตรียมรับอีกลูกวันที่ 17 จ้ะ
    ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ
    https://www.facebook.com/share/v/YGS8GsJ3YXbtrxjK/?mibextid=D5vuiz
    Sep. 13, 2024 วันนี้เห็นคลิปทหารทุกหมู่เหล่า หน่วยกู้ภัย มูลนิธิต่างๆ และจิตอาสา ต่างระดมกำลังกัน ช่วยชาวบ้านออกจากพื้นที่อันตราย ส่งข้าว ส่งน้ำ และของประทังชีวิตให้ถึงมือทั้งทางเรือ และทางอากาศ https://youtu.be/-jaZXpfHsgo?si=YFcFCL5e6vndU-XQ มันช่างต่างกับคลิปบ่ายเบี่ยงของนายกคนลูก และออกไปสร้างภาพช่วยผู้ประสบภัยอีกครั้ง หลังจากนายกคนพ่อไปถ่ายรูปสร้างภาพที่สุโขทัยตอนน้ำสูงเท่าพื้นรองเท้า และจัดฉากให้คนนั่งในเรือยกมือไหว้มันซะด้วย ล่อลวงด้วยนโยบายแจกเงินสกุล digital หมื่นนึง ซึ่งบัดนี้กลายเป็นแจกเงินสดที่เลื่อนวันจ่ายออกไปเรื่อยๆ...มันช่างน่าทุเรศใจเหลือเกิน คิดย้อนไปถึงตอนก่อนเราจะกลับจาก New York ช่วงพฤศจิกายน 2022 ตอนนั้น Powerball Lotto คือ lottery game ของรัฐที่เข้าร่วมทั้งหมด 45 รัฐ รางวัลที่ฮือฮามากเมื่อก่อน covid คือเกือบ $700 ล้านเหรียญ ถ้าไม่มีใครถูก รางวัลก็จะทบไปเรื่อยๆ จน Jackpot แตกไปเมื่อวันที่ 7 พย. 2022 คือ $2040 ล้านเหรียญ ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา และที่สำคัญ Jackpot winner มีคนเดียวด้วย ติ๊ต่างว่าเราคือคนๆนั้นนะ และเราเลือกที่จะไม่รับเบี้ยหัวแตก 30 ปี แต่เราเลือกเอาก้อนเดียวเลย เงินรางวัลเราก็จะได้ครึ่งเดียว คือเหลือ $1020 ล้านเหรียญ จากนั้นก่อนจะอุ้มเงินหนีกลับบ้าน คุณจะโดนหัก state & federal tax อีก 37% ก็จะเหลือกลมๆประมาณ $640 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ตอนนั้น ฿35/$1 ก็คือ ฿22,400 ล้านบาทไทย...ก็เอาละวะ ตอนกลับมาไทย เราชอบชวน taxi และคนในพื้นที่ที่ภูเก็ตคุย เราก็จะเล่าเรื่องหวยฝรั่งรางวัลใหญ่ให้พี่ๆ taxi และหลายๆคนฟัง แล้วเราก็นึกสนุกขึ้นมา จึงตั้งคำถามกับ taxi และคนที่ภูเก็ตอีกหลายต่อหลายคนว่า... "ถ้าหนูมีเงิน $640 ล้านเหรียญ และในเมืองไทยมีคนอยู่ในประเทศ 70 ล้านคนนะ อ้ะๆ ให้ 80 ล้านคนเลย (เผื่อพม่า ลาว เขมรจะวิ่งเข้ามาด้วย) หนูแจกตังให้ฟรีๆคนละ $1 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยคือคนละ ฿35 ล้านบาท) หนูก็จะเหลือตังอีก $560 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยก็เหลืออีกตั้ง ฿19,600 ล้านบาทไทย) แจกแบบนับจำนวนหัว ไม่ดูอายุกันเลยนะ คุณยายจะตายพรุ่งนี้ก็แจก เด็กเกิดใหม่อายุ 1 วันก็ได้นะ แต่หนูไม่แจกคนที่ติดคุกอยู่ และพระสงฆ์ค่ะ...พี่ว่ามันจะดีมั้ยคะ คิดดีๆก่อนตอบนะ ไม่ต้องรีบ ถามคำถามก่อนตอบก็ได้นะ" 80% เป็นการตอบแบบไม่หยุดคิดก่อนเลยซักวินาทีเดียว "ดีสิครับ" "ดีเด่ะพี่" "โห ผมให้เลขบัญชีคนทั้งครอบครัวพี่เดี๋ยวนี้เลย" 15% มีการยิงคำถามบ้าง แล้วก็ตอบว่า "ดีครับ ควรแจกครับ" มีแค่ 5% ที่คิด-ถาม-คิดอีกที จึงตอบว่า "ประเทศเละแน่ๆครับ" "ผมว่าพี่อาจจะโดนยิงตายภายใน 3 วัน" "ผมว่าน่าจะมีหลายคนที่ไม่เคยมี และเขาสามารถทำให้เงินหมดได้ภายในเวลาแป๊บเดียวนะ" คราวนี้ตาเราถามพวก 80% แรกกลับบ้าง "คำถามแรก ทุกคนมีหนี้นอกระบบพะรุงพะรังถูกมั้ยคะ มีใครคิดจะใช้หนี้ให้หมดก่อนมั้ย หรือคิดว่า ก็เจ้าหนี้ ก็ได้ ฿35 ล้านบาทแล้วไง งั้นก็ไม่ต้องใช้คืนก็ได้ แล้วหนูบอกว่าหนูแจกทุกคนเลยนะ นักโทษฆ่าข่มขืนเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาหนูก็แจกนะ คนที่แอบทำธุรกิจค้ายาค้ามนุษย์ คนบ้าข้างถนน หนูก็แจกนะคะ ถ้าผัวเมียชาวนามีลูก 8 คน ครอบครัวนั้นจะได้เงิน ฿350 ล้านบาทนะคะ คำถามต่อไปคือ พี่ว่าชาวนาจะยังปลูกข้าวอยู่มั้ย พี่ว่าพระจะสึกออกมารับเงินกันกี่รูป พี่ว่าคุณลุงคุณป้าที่ทำร้านอาหารอยู่ แล้วอีกวันเขามีเงินรวมกัน ฿70 ล้านบาท เขาจะเปิดร้านต่อมั้ย พี่เข้าไปร้าน 7-11 แล้วจะมีใครทำงานมั้ย พี่ว่าข้าราชการ ครู ตำรวจ ทหาร จะยังอยากรับใช้ประชาชนแบบเช้าชามเย็นชามเพื่อรอเงินบำนาญอยู่มั้ย พี่ว่ารปภ. คนส่ง Grab คนรับจ้างตัดหญ้า คนรับจ้างกรีดยาง คณะละครร้องรำตามงานวัด จะยังอยากทำงานต่อมั้ย งานวัดจะมีอีกมั้ยเพราะคนทำชิงช้าสวรรค์ ขายสายไหม ซุ้มปาเป้า อาจจะไปเที่ยวยุโรปกันหมดแล้ว ไม่มีใครทำงานแล้ว คนต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทย จะยังได้รับรอยยิ้มสยาม และการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนไทยอยู่อีกมั้ย ทำไมต้องมานั่งนวดฝรั่งริมหาดร้อนๆด้วยเนอะ ชาวประมงใส่นาฬิกา 3 ล้านบาทได้เหมือนนักการเมืองแล้วนะ แถมเหลือตังอีกตั้งแยะ เขาจะยังออกไปจับปลามาขายมั้ย...ที่แย่ที่สุดคือ พี่ว่าคนในครอบครัวจะฆ่ากันเองเพราะโลภอยากได้เงินพี่น้องพ่อแม่หรือผัวเมียตัวเองมั้ย ...ตกลงพี่ว่าหนูยังควรแจกตังอยู่มั้ยคะ" นี่คือความคิดโง่ๆทุเรศๆของเราเล่นๆ แต่มีคนสนับสนุนความคิดบ้องตื้นของเราถึง 80% เพียงเพราะอยากได้เงินก้อนโต เวลาผ่านไป 2 ปี มีนักการเมืองเอาความคิดคล้ายๆกัน แต่จะไปกู้เงินมาหยิบยื่นให้ประชาชน แต่ให้แบบเอาไปทำอะไรก็ไม่ได้ ทุกคนเป็นหนี้ท่วมหัวชั่วลูกชั่วหลานหนักกว่าเดิม แต่คนส่วนนึงก็ยังสนับสนุนความคิดนี้อย่างแข็งขัน เพราะอยากได้เงินแค่หมื่นเดียว ตอนนี้ผู้ประสบภัยพิบัติมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีนักการเมืองแวะมาดูๆ ถ่ายรูปตอนมอบถุงยังชีพ 2-3 แชะ แล้วหนูน้อยก็บอกว่า "ตอนนี้น้ำแรงมาก เรือท้องแบนเข้าไปไม่ได้ เมื่อน้ำลดลง พวกเราพร้อมจะเข้าช่วยทันที" อ๋ออออ เรือท้องท้องแบนเข้าไปสู้กับน้ำเชี่ยวๆได้แหละเนอะ น้ำไม่ค่อยแรงหรอก ไว้เรือท้องแบนเข้าได้ แล้วค่อยไปก็ได้ คนไทยอดข้าวอดน้ำ 4-5 วันได้ อึฉี่บนหลังคาบ้านก็ได้ เก่งจะตาย ไม่รีบๆ https://x.com/Kawaaii13/status/1834174006418964973?t=Qgom67KE-O0gYasaeateSA&s=19 ลองเข้าไปดู tiktok ของ @tiktok.thailand89 นะคะ ยอดเยี่ยมมากๆเลยค่ะ ขับ jet ski เก่งมากๆทุกคนเลยค่ะ https://www.tiktok.com/@tiktok.thailand89?_t=8pghh09pg0q&_r=1 นายกหนูน้อยคะ นี่ไงคะ แพร่ลดแล้ว สุโขทัยลดแล้ว เมืองพังเละเทะ ที่ว่าพร้อมจะเข้าช่วยทันที ว้า..แย่จัง ตอนนี้ต้องไปช่วยเชียงรายก่อน ไหนจะต้องแอบเร่งทำเรื่องคาสิโนให้ผ่าน ช่วงที่กำลังอลหม่านเรื่องน้ำท่วมนี่แหละ แถมทีม IO ก็ค่อยๆทยอยลงคลิปเสียงคนโน้นคนนี้ ปล่อยข่าวดาราไทยที่โดนดาราชาติอื่นๆหลอก ฯลฯ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้คนด่านายกหนูน้อยเยอะ มุขมันเก่าไปแล้วค่ะ รายการเจาะลึกทั่วไทย เอาคลิปลุงมาสร้างกระแส เอาจริงๆ ลุงหยุมแกก็อยากเป็นใหญ่ ใครๆก็รู้มาตั้งนานแล้วป่ะ คุณมดดำ ก็สร้างกระแส acting ทำเป็นโกรธดาราเกาหลีมากมาย ได้ตังกันไปเท่าไหร่จ๊ะ สังเกตุมั้ย ครอบครัวนี้ขึ้นมามีอำนาจทีไร น้ำท่วมใหญ่ทุกที โดนทั้งอา ทั้งหลานเลย มันคือสัญญาณอะไรเอ่ย คล้ายกับธรรมชาติไม่พอใจพฤติกรรมของมนุษย์ จึงส่งภัยพิบัติมาช่วยเบิกเนตรให้คนตาสว่าง งั้นเราขอถามคำถามตอนนี้ว่า ติ๊ต่างนะคะ ว่าตอนนี้มีเงินหมื่นบาทลอยเข้า app เป๋าตังเรียบร้อยแล้ว...แต่ไปซื้อของก็ไม่ได้ เพราะน้ำท่วมร้านค้ามิดหลังคาเลย ได้ข้าวสารมา แต่ไม่มีไฟฟ้าให้หุงข้าว จะหุงด้วยฟืน ฟืนก็เปียกน้ำหมด เหลือแต่ตัวกับเงินหมื่นบาทใน app ก็น่าจะเป็นที่ประจักษ์ ของวิญญูชนชัดเจนแล้วว่า การเอาเงินมาแจกให้คน ไม่ว่าจะมากหรือน้อย มันไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องค่ะ หากแต่การให้ความรู้แก่ผู้ใฝ่รู้ที่มีความพยายาม ความอดทน และความมุ่งมั่นต่างหาก ที่จะเป็นทางออกที่แท้จริงให้กับประชาชนและประเทศชาติ มีชายท่านนึง ท่านเคยศึกษา และทดลองทำอะไร หลายสิ่งหลายอย่าง มีโครงการมากมายที่ได้ผลสำเร็จ และนำเอาความรู้เหล่านั้นมาเผยแพร่ให้ฟรีๆ และยังเป็นศาสตร์ความรู้ที่นำมาใช้ต่อไปได้ไม่จำกัดกาล แต่คนส่วนใหญ่ กลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่าต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลมันนานเกินไป จนภัยมาถึงตัวในวันนี้ และนี่อาจจะเป็นเหตุผลนึง ที่ทำให้คนที่มีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน ยังเก็บเงินไว้กับตัว เพราะเขาอาจจะต้องการให้สังคมยังมีความเหลื่อมล้ำมากอยู่ตลอดไป ไม่งั้นจะไปหาคนรองมือรองตีนได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะหาลูกหนี้ได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะไปหาเหยื่อที่เห็นเงินตาโตแล้วร้อยไว้ใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ ปล. ภูเก็ตก็หนักอยู่ เตรียมรับอีกลูกวันที่ 17 จ้ะ ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ https://www.facebook.com/share/v/YGS8GsJ3YXbtrxjK/?mibextid=D5vuiz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 846 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัยที่ผมยังเด็ก...

    ในละแวกบ้าน...
    ตึกที่หลังใหญ่สุดแถวนั้น ก็คงจะเป็น "คูย่งล้ง" เป็นตึกที่ผมฝันอยู่ตลอดว่า ถ้าวันหนึ่งได้ขึ้นไปชั้นบนสุด (ตอนนั้น ยังไม่รู้จักคำว่า ดาดฟ้า) แล้วได้มองลงมายังด้านล่าง คงจะแจ่ม น่าดู...

    ตึกนี้ ดูแปลกตา ดูมี"อะไร" มากกว่าตึกแถวในสมัยนั้น
    ผมมีโอกาสได้พูดคุย สอบถาม กับทายาทรุ่นที่3 ของตึกนี้ ได้ความว่า อาคารหลังนี้ ออกแบบโดยสถาปนิก ซึ่งเป็น "อา" ของเจ้าของตึก ซึ่งจบ สถาปัตยกรรมศาสตร์ จากลาดกระบัง .....

    เหมือนที่ผมคิดเลย ว่า อาคารถึงมี ครีบ มีพื้นที่เปิดโล่งกลางตัวบ้าน เพื่อนำแสงธรรมชาติมาให้ความสว่างแก่ภายในอาคาร...

    ถัด"คูย่งล้ง"มาทางเหนือ ตอนนี้ เป็นร้าน บาร์บีกริลล์
    เมื่อก่อนนี้ ส่วนตรงนี้จะเป็นตรอก ลึกเข้าไปข้างใน....

    ในตรอกนี้ มีครอบครับหนึ่ง สามีชื่อแอ้ เมียชื่อ จัน
    ครอบครัวนี้มีอาชีพตัดผ้า เย็บผ้า และเลี้ยงหมู
    เมื่อก่อนนั้น ในตรอกนั้น จะมีโรงหมูด้วย

    ในยามที่เด็กๆ รุ่นราวคราวเดียวกับผม จะไปตกปลาริมตลิ่ง พวกเราก็จะไปขุดเอาไส้เดือนแดงแถวๆโรงหมู เพื่อเอาไปเกี่ยวเบ็ด

    เมื่อเป็นโรงหมู ก็แน่ละครับ กลิ่นตลบอบอวล ไปทั้งย่าน ยิ่งเวลาหน้าฝน อากาศชื้นๆนะครับ ไม่ต้องไปพูดถึงเลย...

    แถวปากตรอกเลี้ยงหมู เคยมีร้านอาหาร ชื่อ"มุ่ยสูน" ไปเปิดอยู่พักนึง
    ร้านนี้ จำหน่ายอาหารจีน อาหารตามสั่ง คงพอจะเทียบได้กับร้านอาหารระดับเหลาได้ เพราะในเวลานั้นร้านอาหารตามสั่งไม่ได้มีดาษดื่นแบบทุกวันนี้

    ร้าน "มุ่ยสูน" นี้ เคยมาเปิด ตรงหัวมุม ที่เป็นร้าน "เตี๋ยวเต็มโต๊ะ" ในปัจจุบัน อยู่พักหนึ่ง

    "มุ่ยสูน" ตรงหัวมุมนี้ เป็นร้านที่ทำให้ผมรู้จัก "เบียร์สิงห์" เป็นครั้งแรกในชีวิต....
    .
    .
    ในปีนั้น ...
    ผมอยู่ชั้น ป3.หรือ ป4.นี่แหละ..

    ปกติแล้วครอบครัวคนจีน มักจะมีประเพณีไหว้บรรพบุรุษ
    ปีนั้น ญาติๆ ทางแม่ ก็มารวมตัวไหว้บรรพบุรุษที่บ้านที่ผมอยู่ เพราะอาม่า เป็นศูนย์กลางของลูกๆ
    พอไหว้เสร็จก็จะเอาอาหารเหล่านั้น มาทานร่วมกัน
    เด็กก็โต๊ะหนึ่ง...
    ผู้ใหญ่ก็โต๊ะหนึ่ง...

    แต่..ผมกลับไม่ได้ไปนั่งทาน
    ผมไปเดินเตร็ดเตร่แถวๆโต๊ะผู้ใหญ่ ญาติๆก็กินไป คุยไป

    คราวนี้ ลุงของผม คือ "ลุงสว่าง" ซึ่งผมเรียกแกว่า "กู๋หว่าง"
    เห็นผมวนเวียนแถวนั้นเลยบอกว่า

    "เฮ้ย ป้อม ลื้อเดินไปซื้อเบียร์ให้อั๊วหน่อย เอาเบียร์สิงห์นะ 2ขวด "
    พร้อมเอาเงินขยุ้มนึง ยัดใส่มือผม
    ผมก็เดินข้ามตรงไปร้าน "มุ่ยสูน" หัวมุมถนน พร้อมซื้อเบียร์สิงห์ตามสั่ง

    ผมยังจำได้...
    ระหว่างหิ้วเบียร์ เดินกลับบ้าน ต้องผ่านร้าน "คูย่งล้ง"
    ด้วยความที่ว่ายังเด็ก ไม่ประสา เดินไปก็เขย่าถุงใส่เบียร์ไป
    จนเถ้าแก่ "คูย่งล้ง" เห็นเข้า เลยร้องเตือนว่า

    "อย่าเขย่านะ เดี๋ยวตอน เปิด มันจะพุ่งออกมา"
    ผมเลยค่อยๆ ประคองเบียร์2ขวด นั้นจนส่งถึงมือ "กู๋หว่าง" พร้อมตังทอน

    แล้วผมก็หันหลัง เพื่อจะไปเล่นกะพี่น้อง เด็กๆ..

    "เดี๋ยวก่อน"
    กู๋หว่างเรียกผม
    "เอาเงินทอนไปกินขนม"....

    โอ้โห!
    ผมนี่ลิงโลดเลยทีเดียว เงิน10กว่า 20บาทสมัย30กว่าปีก่อน นี่ มันเยอะมาก!
    ยิ่งในความรู้สึกของเด็กน้อยที่ได้เงินไปโรงเรียนวันละ2บาท...
    อย่างผม...

    ผมจำได้ว่า...
    ตั้งแต่ปีนั้น เป็นต้นมา ผมวนเวียน รอวิ่งซืี้อเบียร์ ให้ "กู๋หว่าง" ตลอด ....
    จนเข้าไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพ...

    ความทรงจำเกี่ยวกับละแวกบ้านของผม
    ก็ค่อยๆจางลง
    ตามวันเวลาที่ผ่านไป....
    สมัยที่ผมยังเด็ก... ในละแวกบ้าน... ตึกที่หลังใหญ่สุดแถวนั้น ก็คงจะเป็น "คูย่งล้ง" เป็นตึกที่ผมฝันอยู่ตลอดว่า ถ้าวันหนึ่งได้ขึ้นไปชั้นบนสุด (ตอนนั้น ยังไม่รู้จักคำว่า ดาดฟ้า) แล้วได้มองลงมายังด้านล่าง คงจะแจ่ม น่าดู... ตึกนี้ ดูแปลกตา ดูมี"อะไร" มากกว่าตึกแถวในสมัยนั้น ผมมีโอกาสได้พูดคุย สอบถาม กับทายาทรุ่นที่3 ของตึกนี้ ได้ความว่า อาคารหลังนี้ ออกแบบโดยสถาปนิก ซึ่งเป็น "อา" ของเจ้าของตึก ซึ่งจบ สถาปัตยกรรมศาสตร์ จากลาดกระบัง ..... เหมือนที่ผมคิดเลย ว่า อาคารถึงมี ครีบ มีพื้นที่เปิดโล่งกลางตัวบ้าน เพื่อนำแสงธรรมชาติมาให้ความสว่างแก่ภายในอาคาร... ถัด"คูย่งล้ง"มาทางเหนือ ตอนนี้ เป็นร้าน บาร์บีกริลล์ เมื่อก่อนนี้ ส่วนตรงนี้จะเป็นตรอก ลึกเข้าไปข้างใน.... ในตรอกนี้ มีครอบครับหนึ่ง สามีชื่อแอ้ เมียชื่อ จัน ครอบครัวนี้มีอาชีพตัดผ้า เย็บผ้า และเลี้ยงหมู เมื่อก่อนนั้น ในตรอกนั้น จะมีโรงหมูด้วย ในยามที่เด็กๆ รุ่นราวคราวเดียวกับผม จะไปตกปลาริมตลิ่ง พวกเราก็จะไปขุดเอาไส้เดือนแดงแถวๆโรงหมู เพื่อเอาไปเกี่ยวเบ็ด เมื่อเป็นโรงหมู ก็แน่ละครับ กลิ่นตลบอบอวล ไปทั้งย่าน ยิ่งเวลาหน้าฝน อากาศชื้นๆนะครับ ไม่ต้องไปพูดถึงเลย... แถวปากตรอกเลี้ยงหมู เคยมีร้านอาหาร ชื่อ"มุ่ยสูน" ไปเปิดอยู่พักนึง ร้านนี้ จำหน่ายอาหารจีน อาหารตามสั่ง คงพอจะเทียบได้กับร้านอาหารระดับเหลาได้ เพราะในเวลานั้นร้านอาหารตามสั่งไม่ได้มีดาษดื่นแบบทุกวันนี้ ร้าน "มุ่ยสูน" นี้ เคยมาเปิด ตรงหัวมุม ที่เป็นร้าน "เตี๋ยวเต็มโต๊ะ" ในปัจจุบัน อยู่พักหนึ่ง "มุ่ยสูน" ตรงหัวมุมนี้ เป็นร้านที่ทำให้ผมรู้จัก "เบียร์สิงห์" เป็นครั้งแรกในชีวิต.... . . ในปีนั้น ... ผมอยู่ชั้น ป3.หรือ ป4.นี่แหละ.. ปกติแล้วครอบครัวคนจีน มักจะมีประเพณีไหว้บรรพบุรุษ ปีนั้น ญาติๆ ทางแม่ ก็มารวมตัวไหว้บรรพบุรุษที่บ้านที่ผมอยู่ เพราะอาม่า เป็นศูนย์กลางของลูกๆ พอไหว้เสร็จก็จะเอาอาหารเหล่านั้น มาทานร่วมกัน เด็กก็โต๊ะหนึ่ง... ผู้ใหญ่ก็โต๊ะหนึ่ง... แต่..ผมกลับไม่ได้ไปนั่งทาน ผมไปเดินเตร็ดเตร่แถวๆโต๊ะผู้ใหญ่ ญาติๆก็กินไป คุยไป คราวนี้ ลุงของผม คือ "ลุงสว่าง" ซึ่งผมเรียกแกว่า "กู๋หว่าง" เห็นผมวนเวียนแถวนั้นเลยบอกว่า "เฮ้ย ป้อม ลื้อเดินไปซื้อเบียร์ให้อั๊วหน่อย เอาเบียร์สิงห์นะ 2ขวด " พร้อมเอาเงินขยุ้มนึง ยัดใส่มือผม ผมก็เดินข้ามตรงไปร้าน "มุ่ยสูน" หัวมุมถนน พร้อมซื้อเบียร์สิงห์ตามสั่ง ผมยังจำได้... ระหว่างหิ้วเบียร์ เดินกลับบ้าน ต้องผ่านร้าน "คูย่งล้ง" ด้วยความที่ว่ายังเด็ก ไม่ประสา เดินไปก็เขย่าถุงใส่เบียร์ไป จนเถ้าแก่ "คูย่งล้ง" เห็นเข้า เลยร้องเตือนว่า "อย่าเขย่านะ เดี๋ยวตอน เปิด มันจะพุ่งออกมา" ผมเลยค่อยๆ ประคองเบียร์2ขวด นั้นจนส่งถึงมือ "กู๋หว่าง" พร้อมตังทอน แล้วผมก็หันหลัง เพื่อจะไปเล่นกะพี่น้อง เด็กๆ.. "เดี๋ยวก่อน" กู๋หว่างเรียกผม "เอาเงินทอนไปกินขนม".... โอ้โห! ผมนี่ลิงโลดเลยทีเดียว เงิน10กว่า 20บาทสมัย30กว่าปีก่อน นี่ มันเยอะมาก! ยิ่งในความรู้สึกของเด็กน้อยที่ได้เงินไปโรงเรียนวันละ2บาท... อย่างผม... ผมจำได้ว่า... ตั้งแต่ปีนั้น เป็นต้นมา ผมวนเวียน รอวิ่งซืี้อเบียร์ ให้ "กู๋หว่าง" ตลอด .... จนเข้าไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพ... ความทรงจำเกี่ยวกับละแวกบ้านของผม ก็ค่อยๆจางลง ตามวันเวลาที่ผ่านไป....
    Like
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • ติ่งพี่ปู……….เชิญทางนี้ค่าาาา……………!!!!

    ตอนสอง………นักศึกษาชั้นดี…ที่…เข้าตาแมวมอง KGB…!!!

    ชีวิตในมหาวิทยาลัยในระยะแรกๆของปูติน เขาค่อนข้างที่จะเป็นเด็กเรียน ไม่เน้นกิจกรรมอื่น นอกจากยังอยู่ในทีมยูโดที่ฝึกมาตั้งแต่เด็กๆ ทางมหาวิทยาลัยได้เสนอให้เขาเป็นหนึ่งในทีมของมหาวิทยาลัย แต่เขาปฏิเสธ เพราะความผูกพันที่มีกับโค้ชคนเก่า
    ความเป็นดาวยูโด ได้นำพาเขาเข้าสู่การแข่งขันในระดับแคว้น

    ในปี 1972 มาเรียโชคดี ได้ถูกรางวัลล๊อตเตอรี่ เป็นรถยนตร์ Zaporozhets คันกระทัดรัด ที่เธอสามารถขายต่อด้วยราคาถึง
    3,500 รูเบิ้ล แต่ความรักลูกมีเหนืออื่นใด เธอไม่ขาย…
    ยกให้กับปูตินเอาไว้ใช้……
    ในยุคนั้น……คนธรรมดาก็หายากที่จะมีรถยนตร์ใช้ แต่นักศึกษาหน้าใหม่ปูติน……ขับรถปร๋อไปปร๋อมา……
    จัดว่าโก้มาก…มีเพื่อนติดสอยห้อยตามไปโน่นมานี่
    และการขับนั้นก็ไม่ธรรมดา……ห้าวไปตามประสาหนุ่มวัยรุ่น
    หากแต่ความเป็นอยู่ยังเหมือนเดิม ในห้องชุดในอาคารสงเคราะห์ที่ต้องแบ่งครึ่งกับเพื่อนบ้าน
    เขาไม่เคยมีห้องนอนส่วนตัว นอกจากการกั้นม่านมุมหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่ส่วนตัว

    ภายในปี 1973 เขาได้เดินทางไปแข่งยูโดที่ Moldova, Georgia, Komi และไปใช้ชีวิตช่วงปิดภาคในแค้มป์ที่ Abkhazia (Georgia)
    ในเวลาว่าง ก็ไปรับทำงานพิเศษรับจ้างตัดต้นไม้ เพื่อหาสตังค์ไปซื้อเสื้อกันหนาวอย่างดีที่สามารถใช้ได้นานถึงสิบปีอัฟ

    การใช้ชีวิตกับเพื่อนก็เป็นไปตามวัยที่อยากผจญโลก เขาและเพื่อนๆได้ไปล่องเรือมุ่งหน้าสู่ Odessa ด้วยเงินที่มีเพียงน้อยนิด กับอาหารกระป๋องจำนวนไม่มาก นอนตากแดดตากลม ล่องเรือดูดาวอยู่สองวันสองคืน

    สี่ปีในมหาวิทยาลัย ที่วันหนึ่งเขาได้รับโทรศัพท์จากผู้ที่เขาไม่รู้จักมาก่อน ไม่มีการแนะนำตัวเอง แต่บอกสั้นๆว่า
    “ถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกับนายเรื่องงานที่จะต้องมอบหมายให้ทำแล้ว……ไปพบกับเราได้ที่ห้องรับรองที่คณะฯ”
    ปูตินไปตามนัด……เขารอประมาณยี่สิบนาที จนแทบจะแน่ใจว่าโดนหลอก เตรียมตัวกลับ
    จึงปรากฏร่างของชายผู้หนึ่ง…ที่มีท่าทางสุภาพ ขอโทษขอโพยในการล่าช้า ………
    สิ่งที่เขาได้คุยกันนั้น คือ เรื่อง”งาน” ที่ทางราชการได้เฝ้าดูพฤติกรรมของเขามาโดยตลอด และพร้อมที่จะมอบหมายให้
    แต่.…ขั้นตอนต่อไป คือการที่จะต้องไปสัมภาษณ์บิดา มารดา
    รวมทั้งสาวประวัติส่วนตัว ส่วนครอบครัวยาวขึ้นไปสามสี่ชั้น

    ในเดือนมกราคม 1975 เจ้าหน้าที่วัยกลางคน ชื่อว่า Dmitry Gantserov ได้พบกับ Vladimir และ Maria ที่บ้านเป็นการส่วนตัว
    ในการพูดคุย…สังเกตได้ว่า วลาดิเมียร์ผู้พ่อมีความปลาบปลื้มและภูมิใจในตัวบุตรชายมาก เพราะในครอบครัวไม่เคยมีใครได้ร่ำเรียนจนถึงระดับมหาวิทยาลัย
    เมื่อทั้งพ่อและแม่ได้รับการอธิบายถึงเนื้องานและหน้าที่ที่ปูตินน้อยจะได้รับ……
    ผู้พ่อ…ได้หลุดปากเอ่ยเอื้อนความในใจถึงความรักที่มีต่อบุตรชายให้เจ้าหน้าที่ได้รับรู้ว่า
    “ท่านครับ โวโลเดียร์ คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมและภรรยา เขาคือความหวังเดียวที่เรามี ท่านคงทราบแล้วว่า
    เราเคยมีบุตรชายมาก่อนสองคน ที่มาเสียชีวิตเมื่อายุเพียงไม่กี่ขวบ จากการปิดล้อมของเลนินกราด จนเมื่อหมดสงคราม เราได้พยายามมีลูกสืบทอด และ ก็ได้เขามา เราไม่มีความหวังอื่นใดในอนาคตของเราอีกแล้ว นอกจากจะฝากความหวังไว้
    ที่เขาคนเดียว……ผมขอฝากโวโลเดียร์ไว้ในความเมตตาของท่าน……”

    โวโลเดียร์ หรือ ปูตินน้อย ก็เหมือนจะเตรียมตัวกับงานของ KGB มาดี เพราะเขาไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบุหรี่ (เพราะวินัยของนักยูโด) และไม่ใช่อันธพาล (เพราะยังไม่มีโอกาส)
    ไม่เคยประวัติเสียใดๆมาก่อนทั้งในรัสเซีย หรือ นอกเขต(พ่อดุซะขนาดนั้น…)
    เขารู้ดีว่า หน้าที่การทำงานในหน่วยสืบราชการลับนั้น ไม่ใช่ว่ารายได้ดี แต่มันคือหน้าที่ของประชาชนผู้ที่ได้รับเลือกขึ้นมา
    เพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับชาติ

    ในกลางฤดูร้อนของปี 1975 วลาดิเมียร์ ปูติน ได้เข้ารับปริญญา ในตอนนั้น ทางมหาวิทยาลัยได้ประกาศว่า เขาจะต้องไปสอบเอาตั๋วทนาย
    แต่มีเสียงขัดขึ้นมาจากชายคนหนึ่ง ว่า…… คนนี้ไม่ต้อง……
    เพราะมีงานอื่นให้ทำรออยู่แล้ว……

    นั่นคือคำประกาศิต……จากนั้นปูตินได้ก้าวเข้าไปเป็นข้าราชการในหน่วยของ KGB ตามที่สายลับประจำมหาวิทยาลัยได้ตามเฝ้าดูเขาอยู่นานแล้ว
    ปูตินดีใจสุดขีด……เขารีบไปสะกิดเพื่อนรัก Viktor Borisenko
    ให้รีบขึ้นรถ แล้วขับพาไปร้านอาหารเจ้าประจำ และสั่งเหล้าหวานมาจิบคนละแก้ว
    วิคเตอร์……รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เห็นปูตินดื่มเหล้า……
    และมารู้ทีหลัง หลังจากเวลาที่ผ่านไปนานมาก ว่า
    นั่นคือสิ่งที่ปูตินได้เลี้ยงฉลองให้กับหน้าที่การงานใหม่ ที่เพิ่งได้รับมอบหมาย…

    ในช่วงที่ปูตินได้เข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกงานนั้น KGB เป็นองค์กรใหญ่มาก เพราะมีทั้งสายใน-นอกประเทศ , หน่วยประจำเส้นชายแดน ศุลกากร, หน่วยรบพิเศษเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ผู้นำ, สื่อสาร เจาะโค้ดลับ ดักฟังโทรศัพท์ แถมมีหน่วยสืบสายลับซ้อนสายลับกันเองอีกด้วย……
    หน้าที่แรกขอบเขาคือการทำหน้าที่เป็นเลขานุการให้กับหัวหน้าหน่วยฝ่ายบุคคล ประจำที่สำนักงานใหญ่ในเลนินกราด
    ที่เป็นที่เดียวกับที่เขาเคยเดินเบ๋อบ๋าเข้าไปสมัครเมื่อหลายปีก่อน

    แต่ในคราวนี้ ในวัยเพียง 23 ปี เขาคือหนุ่มน้อยเจ้าหน้าที่ KGB
    ตัวจริง ไม่ใช่ฝันลมๆแล้วๆอย่างแต่ก่อน
    และรายล้อมรอบตัวเขา คือ เหล่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เก่าแก่ขนาดจดจำเรื่องคุกที่ไซบีเรีย สมัยสตาลินได้นั่นแหละ
    หน้าที่จริงๆของปูติน คือ รับคำสั่ง และ ต้องหูไว ตาไว
    ในตึกหนึ่งของสำนักงาน ที่ติดกับคลอง Okhta ออกสู่แม่น้ำ Neva มีสภาพเป็นโรงเรียน “ยุทธการเรือดำน้ำ” ที่เหล่านักเรียนนายเรือจะต้องมาอยู่ประจำฝึกร่างกาย เรียนวิชาเฉพาะ นานถึงหกเดือนโดยไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอกเลย

    สองปีผ่านไปในการทำงานด้านเอกสาร พ่อของเขาได้เกษียณจากงานประจำ (รถไฟ) และได้รับที่อยู่ใหม่ เป็นอาคารสงเคราะห์เช่นเดิม หากแต่ย้ายไปที่ Avtovo ที่อยู่ทางใต้ของเลนินกราด แต่คราวนี้ เป็นห้องที่ใหญ่กว่าเดิม และปูตินได้มีห้องเป็นส่วนตัวในครั้งแรกในชีวิต
    ในย่านที่อยู่อาศัย ค่อนข้างหนาแน่น แม้แต่เจ้าหน้าที่ KGB อย่างปูตินก็ไม่มีสิทธิพิเศษแต่อย่างใด
    สิทธิอย่างเดียวที่เขามี คือ สามารถต่อรอง ทอนอำนาจกับตำรวจได้ในแทบทุกกรณี……และทางองค์กรจะเข้ามาดูแลให้ทั้งหมด……

    เมื่อมีเวลา มีเงินเดือนใช้ ไปโน่นมานี่สะดวกเพราะมีรถใช้
    เพื่อนฝูงเยอะ พ่อไม่คุมเข้มอย่างแต่ก่อน
    งานปะทะกับจิ๊กโก๋ตามสี่แยกก็มีตามมา เช่นครั้งหนึ่งเขาไปกับเพื่อนรัก Sergei Roldugin**
    เหตุเกิดคือ การที่อันธพาลคนหนึ่งทำทีว่ามาไถเงินซื้อบุหรี่ ท่าท่าไม่ดี ปูตินเริ่มก่อน เข้าชาร์ทก่อนจับทุ่มลงไปนอนกลางถนน……
    ทั้งกลุ่มได้เข้ามาหมายรุม ……แต่ ปูตินชี้ไปที่รถ บอกว่า เพื่อนกูเป็นตำรวจ……!!
    ทั้งหมดจึงกระเจิงหายไป
    พอขึ้นรถได้…เซอร์เกปากคอสั่น……บอกว่า
    “เมริงง……กูเป็นนักดนตรีนะ ไม่ใช่ตำรวจ……”

    ตอนนั้นเซอร์เกเองก็ไม่เคยรู้ว่าเพื่อที่คบกันมานานนมนั้น ทำงานทำการอะไร แต่ท้าทายได้ในทุกองค์กร เช่นพาเขาเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามต่างๆได้ เช่นชั้นในของในพระวิหารสำคัญ หรือ ที่ทำการรัฐบาลหลายแห่ง และทุกครั้งปูตินจะแนะนำว่าเขาเป็นหมอบ้าง ตำรวจบ้าง……
    จนในที่สุด ปูตินได้บอกกับเขาตามตรงว่า เขาเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรหน่วยรักษาความปลอดภัยของประเทศ ที่เซอร์เกเองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเป็นงานอะไร
    ปูตินตอบว่า……ช่างเถอะ อย่าไปสนใจเลย เอาเป็นว่า เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการอ่านมนุษย์ก็แล้วกัน…แต่ถ้าไปอยู่ในภาวะที่เลี่ยงการปะทะไม่ได้……เราจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไม่คอยให้เสียเวลา……”

    ปี 1979 ปูตินได้รับยศเป็นร้อยเอก และได้ถูกส่งไปยัง Felix Dzerzhinsky (เทียบเท่าโรงเรียนเสธ. KGB ) ที่กรุงมอสโคว์
    ที่จะฝึกให้เขาเป็น มนุษย์ผู้มี a warm heart, a cool head and clean hands (หมายถึง ใจแน่ว , สตินิ่ง, มือปฏิบัติการที่ไร้ร่องรอย…)
    พอจบจากหลักสูตรนี้ เขาถูกส่งตัวกลับไปยังเลนินกราด
    เพื่อรับหน้าที่ในด้านการต่างประเทศ คือ สืบหาสายลับที่มาจากต่างแดน เพราะโซเวียตได้เปิดฉากสงครามกับอัฟกานิสถานในตอนปลายปี ที่โซเวียตสนับสนุนรัฐบาลโปรคอมมิวนิสต์ในกรุง Kabul
    (หมายเหตุ รัสเซียได้เสียทหารไปเป็นจำนวนมากในสงครามครั้งนี้…)

    พอเริ่มปี 1980 ที่โรนัล รีแกน ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สงครามเย็นเริ่มตึงเครียด มีการพูดถึงระเบิดนิวเคลียร์
    โซเวียตมีการตรียมตัวกดปุ่ม ในโค้ดปฏิบัติการว่า RYAN
    ที่เหล่าสายลับทั้งหลายในโลก……ทุกฝ่ายต่างทำงานกันอย่างเต็มสตรีม……
    ปูตินเริ่มอึดอัด เพราะ เขามีอายุ 28 และยังเป็นโสด ซึ่งนับว่าเป็นอุปสรรคที่จะก้าวโตต่อไปในหน้าที่การงาน สำหรับการที่จะไปประจำอยู่ต่างประเทศ (ตามเจตนารมณ์ดั้งเดิม)
    เขาจัดว่าเป็นคนหน้าตาใช้ได้ ฉลาดเฉลียว แต่เรื่องผู้หญิง
    เขากลายเป็นคนไม่ประสีประสา จีบไม่เป็นบางครั้งเข้าขั้นพูดตะกุกตะกัก ติดอ่าง……
    ในช่วงท้ายๆในมหาวิทยาลัย เขามีเพื่อนหญิงคนหนึ่ง ชื่อว่า
    Ludmila Khmarina (คนละคนกับลุดมิลาภริยาที่แต่งงาน) ที่เป็นน้องสาวของเพื่อนรัก ที่เขาได้ขอหมั้น และถึงขั้นที่ไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส
    ครอบครัวเจ้าสาวไปเตรียมตัดชุดแต่งงาน ตัดสูท เตรียมแหวน

    แต่ในที่สุด ปูตินขอยกเลิกงานทั้งหมด โดยเขาให้เหตุผลว่า
    “เลิกกันตอนนี้ดีกว่า ที่เราทั้งคู่จะต้องทนอยู่ด้วยกันไปในอนาคต..”

    ไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริง เพราะปูตินไม่เคยปริปากบอกใคร แต่……เชื่อว่าไม่ใช่ความผิดของฝ่ายชายเพราะเขายังเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ชายของฝ่ายหญิงอย่างไม่เปลี่ยนแปลง..!!!!

    ** Sergei Roldugin เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของปูติน จนถึงทุกวันนี้ เขาเป็นทั้งเพื่อน พ่อสื่อ และพ่อทูนหัวให้กับธิดาของปูติน ฐานะของเขาจากนักดนตรีสีเซลโล่ ปัจจุบันคือ อภิมหาเศรษฐีเข้าขั้นพันล้านคนหนึ่ง

    Wiwanda W. Vichit
    ติ่งพี่ปู……….เชิญทางนี้ค่าาาา……………!!!! ตอนสอง………นักศึกษาชั้นดี…ที่…เข้าตาแมวมอง KGB…!!! ชีวิตในมหาวิทยาลัยในระยะแรกๆของปูติน เขาค่อนข้างที่จะเป็นเด็กเรียน ไม่เน้นกิจกรรมอื่น นอกจากยังอยู่ในทีมยูโดที่ฝึกมาตั้งแต่เด็กๆ ทางมหาวิทยาลัยได้เสนอให้เขาเป็นหนึ่งในทีมของมหาวิทยาลัย แต่เขาปฏิเสธ เพราะความผูกพันที่มีกับโค้ชคนเก่า ความเป็นดาวยูโด ได้นำพาเขาเข้าสู่การแข่งขันในระดับแคว้น ในปี 1972 มาเรียโชคดี ได้ถูกรางวัลล๊อตเตอรี่ เป็นรถยนตร์ Zaporozhets คันกระทัดรัด ที่เธอสามารถขายต่อด้วยราคาถึง 3,500 รูเบิ้ล แต่ความรักลูกมีเหนืออื่นใด เธอไม่ขาย… ยกให้กับปูตินเอาไว้ใช้…… ในยุคนั้น……คนธรรมดาก็หายากที่จะมีรถยนตร์ใช้ แต่นักศึกษาหน้าใหม่ปูติน……ขับรถปร๋อไปปร๋อมา…… จัดว่าโก้มาก…มีเพื่อนติดสอยห้อยตามไปโน่นมานี่ และการขับนั้นก็ไม่ธรรมดา……ห้าวไปตามประสาหนุ่มวัยรุ่น หากแต่ความเป็นอยู่ยังเหมือนเดิม ในห้องชุดในอาคารสงเคราะห์ที่ต้องแบ่งครึ่งกับเพื่อนบ้าน เขาไม่เคยมีห้องนอนส่วนตัว นอกจากการกั้นม่านมุมหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่ส่วนตัว ภายในปี 1973 เขาได้เดินทางไปแข่งยูโดที่ Moldova, Georgia, Komi และไปใช้ชีวิตช่วงปิดภาคในแค้มป์ที่ Abkhazia (Georgia) ในเวลาว่าง ก็ไปรับทำงานพิเศษรับจ้างตัดต้นไม้ เพื่อหาสตังค์ไปซื้อเสื้อกันหนาวอย่างดีที่สามารถใช้ได้นานถึงสิบปีอัฟ การใช้ชีวิตกับเพื่อนก็เป็นไปตามวัยที่อยากผจญโลก เขาและเพื่อนๆได้ไปล่องเรือมุ่งหน้าสู่ Odessa ด้วยเงินที่มีเพียงน้อยนิด กับอาหารกระป๋องจำนวนไม่มาก นอนตากแดดตากลม ล่องเรือดูดาวอยู่สองวันสองคืน สี่ปีในมหาวิทยาลัย ที่วันหนึ่งเขาได้รับโทรศัพท์จากผู้ที่เขาไม่รู้จักมาก่อน ไม่มีการแนะนำตัวเอง แต่บอกสั้นๆว่า “ถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกับนายเรื่องงานที่จะต้องมอบหมายให้ทำแล้ว……ไปพบกับเราได้ที่ห้องรับรองที่คณะฯ” ปูตินไปตามนัด……เขารอประมาณยี่สิบนาที จนแทบจะแน่ใจว่าโดนหลอก เตรียมตัวกลับ จึงปรากฏร่างของชายผู้หนึ่ง…ที่มีท่าทางสุภาพ ขอโทษขอโพยในการล่าช้า ……… สิ่งที่เขาได้คุยกันนั้น คือ เรื่อง”งาน” ที่ทางราชการได้เฝ้าดูพฤติกรรมของเขามาโดยตลอด และพร้อมที่จะมอบหมายให้ แต่.…ขั้นตอนต่อไป คือการที่จะต้องไปสัมภาษณ์บิดา มารดา รวมทั้งสาวประวัติส่วนตัว ส่วนครอบครัวยาวขึ้นไปสามสี่ชั้น ในเดือนมกราคม 1975 เจ้าหน้าที่วัยกลางคน ชื่อว่า Dmitry Gantserov ได้พบกับ Vladimir และ Maria ที่บ้านเป็นการส่วนตัว ในการพูดคุย…สังเกตได้ว่า วลาดิเมียร์ผู้พ่อมีความปลาบปลื้มและภูมิใจในตัวบุตรชายมาก เพราะในครอบครัวไม่เคยมีใครได้ร่ำเรียนจนถึงระดับมหาวิทยาลัย เมื่อทั้งพ่อและแม่ได้รับการอธิบายถึงเนื้องานและหน้าที่ที่ปูตินน้อยจะได้รับ…… ผู้พ่อ…ได้หลุดปากเอ่ยเอื้อนความในใจถึงความรักที่มีต่อบุตรชายให้เจ้าหน้าที่ได้รับรู้ว่า “ท่านครับ โวโลเดียร์ คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมและภรรยา เขาคือความหวังเดียวที่เรามี ท่านคงทราบแล้วว่า เราเคยมีบุตรชายมาก่อนสองคน ที่มาเสียชีวิตเมื่อายุเพียงไม่กี่ขวบ จากการปิดล้อมของเลนินกราด จนเมื่อหมดสงคราม เราได้พยายามมีลูกสืบทอด และ ก็ได้เขามา เราไม่มีความหวังอื่นใดในอนาคตของเราอีกแล้ว นอกจากจะฝากความหวังไว้ ที่เขาคนเดียว……ผมขอฝากโวโลเดียร์ไว้ในความเมตตาของท่าน……” โวโลเดียร์ หรือ ปูตินน้อย ก็เหมือนจะเตรียมตัวกับงานของ KGB มาดี เพราะเขาไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบุหรี่ (เพราะวินัยของนักยูโด) และไม่ใช่อันธพาล (เพราะยังไม่มีโอกาส) ไม่เคยประวัติเสียใดๆมาก่อนทั้งในรัสเซีย หรือ นอกเขต(พ่อดุซะขนาดนั้น…) เขารู้ดีว่า หน้าที่การทำงานในหน่วยสืบราชการลับนั้น ไม่ใช่ว่ารายได้ดี แต่มันคือหน้าที่ของประชาชนผู้ที่ได้รับเลือกขึ้นมา เพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับชาติ ในกลางฤดูร้อนของปี 1975 วลาดิเมียร์ ปูติน ได้เข้ารับปริญญา ในตอนนั้น ทางมหาวิทยาลัยได้ประกาศว่า เขาจะต้องไปสอบเอาตั๋วทนาย แต่มีเสียงขัดขึ้นมาจากชายคนหนึ่ง ว่า…… คนนี้ไม่ต้อง…… เพราะมีงานอื่นให้ทำรออยู่แล้ว…… นั่นคือคำประกาศิต……จากนั้นปูตินได้ก้าวเข้าไปเป็นข้าราชการในหน่วยของ KGB ตามที่สายลับประจำมหาวิทยาลัยได้ตามเฝ้าดูเขาอยู่นานแล้ว ปูตินดีใจสุดขีด……เขารีบไปสะกิดเพื่อนรัก Viktor Borisenko ให้รีบขึ้นรถ แล้วขับพาไปร้านอาหารเจ้าประจำ และสั่งเหล้าหวานมาจิบคนละแก้ว วิคเตอร์……รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เห็นปูตินดื่มเหล้า…… และมารู้ทีหลัง หลังจากเวลาที่ผ่านไปนานมาก ว่า นั่นคือสิ่งที่ปูตินได้เลี้ยงฉลองให้กับหน้าที่การงานใหม่ ที่เพิ่งได้รับมอบหมาย… ในช่วงที่ปูตินได้เข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกงานนั้น KGB เป็นองค์กรใหญ่มาก เพราะมีทั้งสายใน-นอกประเทศ , หน่วยประจำเส้นชายแดน ศุลกากร, หน่วยรบพิเศษเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ผู้นำ, สื่อสาร เจาะโค้ดลับ ดักฟังโทรศัพท์ แถมมีหน่วยสืบสายลับซ้อนสายลับกันเองอีกด้วย…… หน้าที่แรกขอบเขาคือการทำหน้าที่เป็นเลขานุการให้กับหัวหน้าหน่วยฝ่ายบุคคล ประจำที่สำนักงานใหญ่ในเลนินกราด ที่เป็นที่เดียวกับที่เขาเคยเดินเบ๋อบ๋าเข้าไปสมัครเมื่อหลายปีก่อน แต่ในคราวนี้ ในวัยเพียง 23 ปี เขาคือหนุ่มน้อยเจ้าหน้าที่ KGB ตัวจริง ไม่ใช่ฝันลมๆแล้วๆอย่างแต่ก่อน และรายล้อมรอบตัวเขา คือ เหล่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เก่าแก่ขนาดจดจำเรื่องคุกที่ไซบีเรีย สมัยสตาลินได้นั่นแหละ หน้าที่จริงๆของปูติน คือ รับคำสั่ง และ ต้องหูไว ตาไว ในตึกหนึ่งของสำนักงาน ที่ติดกับคลอง Okhta ออกสู่แม่น้ำ Neva มีสภาพเป็นโรงเรียน “ยุทธการเรือดำน้ำ” ที่เหล่านักเรียนนายเรือจะต้องมาอยู่ประจำฝึกร่างกาย เรียนวิชาเฉพาะ นานถึงหกเดือนโดยไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอกเลย สองปีผ่านไปในการทำงานด้านเอกสาร พ่อของเขาได้เกษียณจากงานประจำ (รถไฟ) และได้รับที่อยู่ใหม่ เป็นอาคารสงเคราะห์เช่นเดิม หากแต่ย้ายไปที่ Avtovo ที่อยู่ทางใต้ของเลนินกราด แต่คราวนี้ เป็นห้องที่ใหญ่กว่าเดิม และปูตินได้มีห้องเป็นส่วนตัวในครั้งแรกในชีวิต ในย่านที่อยู่อาศัย ค่อนข้างหนาแน่น แม้แต่เจ้าหน้าที่ KGB อย่างปูตินก็ไม่มีสิทธิพิเศษแต่อย่างใด สิทธิอย่างเดียวที่เขามี คือ สามารถต่อรอง ทอนอำนาจกับตำรวจได้ในแทบทุกกรณี……และทางองค์กรจะเข้ามาดูแลให้ทั้งหมด…… เมื่อมีเวลา มีเงินเดือนใช้ ไปโน่นมานี่สะดวกเพราะมีรถใช้ เพื่อนฝูงเยอะ พ่อไม่คุมเข้มอย่างแต่ก่อน งานปะทะกับจิ๊กโก๋ตามสี่แยกก็มีตามมา เช่นครั้งหนึ่งเขาไปกับเพื่อนรัก Sergei Roldugin** เหตุเกิดคือ การที่อันธพาลคนหนึ่งทำทีว่ามาไถเงินซื้อบุหรี่ ท่าท่าไม่ดี ปูตินเริ่มก่อน เข้าชาร์ทก่อนจับทุ่มลงไปนอนกลางถนน…… ทั้งกลุ่มได้เข้ามาหมายรุม ……แต่ ปูตินชี้ไปที่รถ บอกว่า เพื่อนกูเป็นตำรวจ……!! ทั้งหมดจึงกระเจิงหายไป พอขึ้นรถได้…เซอร์เกปากคอสั่น……บอกว่า “เมริงง……กูเป็นนักดนตรีนะ ไม่ใช่ตำรวจ……” ตอนนั้นเซอร์เกเองก็ไม่เคยรู้ว่าเพื่อที่คบกันมานานนมนั้น ทำงานทำการอะไร แต่ท้าทายได้ในทุกองค์กร เช่นพาเขาเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามต่างๆได้ เช่นชั้นในของในพระวิหารสำคัญ หรือ ที่ทำการรัฐบาลหลายแห่ง และทุกครั้งปูตินจะแนะนำว่าเขาเป็นหมอบ้าง ตำรวจบ้าง…… จนในที่สุด ปูตินได้บอกกับเขาตามตรงว่า เขาเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรหน่วยรักษาความปลอดภัยของประเทศ ที่เซอร์เกเองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเป็นงานอะไร ปูตินตอบว่า……ช่างเถอะ อย่าไปสนใจเลย เอาเป็นว่า เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการอ่านมนุษย์ก็แล้วกัน…แต่ถ้าไปอยู่ในภาวะที่เลี่ยงการปะทะไม่ได้……เราจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไม่คอยให้เสียเวลา……” ปี 1979 ปูตินได้รับยศเป็นร้อยเอก และได้ถูกส่งไปยัง Felix Dzerzhinsky (เทียบเท่าโรงเรียนเสธ. KGB ) ที่กรุงมอสโคว์ ที่จะฝึกให้เขาเป็น มนุษย์ผู้มี a warm heart, a cool head and clean hands (หมายถึง ใจแน่ว , สตินิ่ง, มือปฏิบัติการที่ไร้ร่องรอย…) พอจบจากหลักสูตรนี้ เขาถูกส่งตัวกลับไปยังเลนินกราด เพื่อรับหน้าที่ในด้านการต่างประเทศ คือ สืบหาสายลับที่มาจากต่างแดน เพราะโซเวียตได้เปิดฉากสงครามกับอัฟกานิสถานในตอนปลายปี ที่โซเวียตสนับสนุนรัฐบาลโปรคอมมิวนิสต์ในกรุง Kabul (หมายเหตุ รัสเซียได้เสียทหารไปเป็นจำนวนมากในสงครามครั้งนี้…) พอเริ่มปี 1980 ที่โรนัล รีแกน ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สงครามเย็นเริ่มตึงเครียด มีการพูดถึงระเบิดนิวเคลียร์ โซเวียตมีการตรียมตัวกดปุ่ม ในโค้ดปฏิบัติการว่า RYAN ที่เหล่าสายลับทั้งหลายในโลก……ทุกฝ่ายต่างทำงานกันอย่างเต็มสตรีม…… ปูตินเริ่มอึดอัด เพราะ เขามีอายุ 28 และยังเป็นโสด ซึ่งนับว่าเป็นอุปสรรคที่จะก้าวโตต่อไปในหน้าที่การงาน สำหรับการที่จะไปประจำอยู่ต่างประเทศ (ตามเจตนารมณ์ดั้งเดิม) เขาจัดว่าเป็นคนหน้าตาใช้ได้ ฉลาดเฉลียว แต่เรื่องผู้หญิง เขากลายเป็นคนไม่ประสีประสา จีบไม่เป็นบางครั้งเข้าขั้นพูดตะกุกตะกัก ติดอ่าง…… ในช่วงท้ายๆในมหาวิทยาลัย เขามีเพื่อนหญิงคนหนึ่ง ชื่อว่า Ludmila Khmarina (คนละคนกับลุดมิลาภริยาที่แต่งงาน) ที่เป็นน้องสาวของเพื่อนรัก ที่เขาได้ขอหมั้น และถึงขั้นที่ไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส ครอบครัวเจ้าสาวไปเตรียมตัดชุดแต่งงาน ตัดสูท เตรียมแหวน แต่ในที่สุด ปูตินขอยกเลิกงานทั้งหมด โดยเขาให้เหตุผลว่า “เลิกกันตอนนี้ดีกว่า ที่เราทั้งคู่จะต้องทนอยู่ด้วยกันไปในอนาคต..” ไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริง เพราะปูตินไม่เคยปริปากบอกใคร แต่……เชื่อว่าไม่ใช่ความผิดของฝ่ายชายเพราะเขายังเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ชายของฝ่ายหญิงอย่างไม่เปลี่ยนแปลง..!!!! ** Sergei Roldugin เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของปูติน จนถึงทุกวันนี้ เขาเป็นทั้งเพื่อน พ่อสื่อ และพ่อทูนหัวให้กับธิดาของปูติน ฐานะของเขาจากนักดนตรีสีเซลโล่ ปัจจุบันคือ อภิมหาเศรษฐีเข้าขั้นพันล้านคนหนึ่ง Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 550 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอพูดถึงงานที่ผมทำอยู่ตอนนี้หน่อยครับ
    งานที่ทำอยู่ตอนนี้ คือ งานพัฒนาซอฟต์แวร์ ในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชั่นหรือโปรแกรม API อันนี้เป็นเว็บแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับร้านอาหาร แต่ไปผูกกับร้านอาหาร ถ้าจะทำใหม่ควรจะทำแบบว่ามีข้อมูลร้านอาหาร ข้อมูลตลาดสดและร้านวัตถุดิบ และข้อมูลวัตถุดิบในสต็อก และระบบจัดการที่อัจฉริยะ และระบบสรุปผลยอดขายและยอดการใช้งานวัตถุดิบ และผมอาจจะพัฒนาระบบวัตถุดิบหมดอายุว่า ถ้าหมดอายุ ให้คัดออก ไม่ให้ใช้ทำอาหาร เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของคนกิน อาหารที่ทำ ต้องมีคุณภาพและมาตรฐาน
    ผมรับจ้างเป็นโมดูลละ 1500 บาท แต่โปรแกรมตัวเต็มมีทั้งหมด 4 โมดูล หรือ 4 ส่วนการทำงาน หากส่วนการทำงานมีขอบเขตตามที่ลูกค้าแจ้งมันเยอะและใช้เวลาสร้างนาน ผมขอคิดเพิ่มส่วนการทำงานละ 2500 - 3000 บาท ใครอยากใช้บริการของผมแสดงความคิดเห็นมาด้านล่างผมจะได้รับ Requirement จากลูกค้าหน้าใหม่ครับ
    การแก้ไขงานขอคิดโมดูลละ 1500 บาท และคงราคานี้จนกว่าจะมีการพิจารณาขึ้นราคาหากการแก้ไขหรือรีเมคงานขึ้นมาใหม่และสเกลการแก้ไขเยอะมากเกินกว่าที่กำหนดครับ
    ขอพูดถึงงานที่ผมทำอยู่ตอนนี้หน่อยครับ งานที่ทำอยู่ตอนนี้ คือ งานพัฒนาซอฟต์แวร์ ในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชั่นหรือโปรแกรม API อันนี้เป็นเว็บแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับร้านอาหาร แต่ไปผูกกับร้านอาหาร ถ้าจะทำใหม่ควรจะทำแบบว่ามีข้อมูลร้านอาหาร ข้อมูลตลาดสดและร้านวัตถุดิบ และข้อมูลวัตถุดิบในสต็อก และระบบจัดการที่อัจฉริยะ และระบบสรุปผลยอดขายและยอดการใช้งานวัตถุดิบ และผมอาจจะพัฒนาระบบวัตถุดิบหมดอายุว่า ถ้าหมดอายุ ให้คัดออก ไม่ให้ใช้ทำอาหาร เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของคนกิน อาหารที่ทำ ต้องมีคุณภาพและมาตรฐาน ผมรับจ้างเป็นโมดูลละ 1500 บาท แต่โปรแกรมตัวเต็มมีทั้งหมด 4 โมดูล หรือ 4 ส่วนการทำงาน หากส่วนการทำงานมีขอบเขตตามที่ลูกค้าแจ้งมันเยอะและใช้เวลาสร้างนาน ผมขอคิดเพิ่มส่วนการทำงานละ 2500 - 3000 บาท ใครอยากใช้บริการของผมแสดงความคิดเห็นมาด้านล่างผมจะได้รับ Requirement จากลูกค้าหน้าใหม่ครับ การแก้ไขงานขอคิดโมดูลละ 1500 บาท และคงราคานี้จนกว่าจะมีการพิจารณาขึ้นราคาหากการแก้ไขหรือรีเมคงานขึ้นมาใหม่และสเกลการแก้ไขเยอะมากเกินกว่าที่กำหนดครับ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านอาหารเรณู ร้านอาหารเจ้าเด็ดที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับน้ำตกไทรโยคน้อย เที่ยวน้ำตกเสร็จแล้ว แวะทานได้ชิลๆ ใครที่ชอบทานอาหารไทยพื้นบ้าน ต้องมาที่นี่เลย เพราะเค้ามีเมนูให้เลือกมากกว่า 100 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ปลาคังทอดน้ำปลา หมูป่าผัดเผ็ด ผัดผักพื้นบ้าน แถมราคาก็ไม่แพง สามารถมานั่งทานข้าวได้ทั้งครอบครัว ตัวร้านมีความกว้างขวาง โล่งสบายๆ เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารในอำเภอไทรโยคที่น่าไปลองชิมกันครับ

    พิกัด : https://goo.gl/maps/FPs1LdGD6QvDzwcy6
    ที่อยู่ : 66/2 หมู่ 3 ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
    ร้านเปิดบริการ : 08.00 - 20.00 น.
    โทร : 08-1880-1987

    #แนะนำร้านอาหารกาญจนบุรี #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ร้านอาหารเรณู ร้านอาหารเจ้าเด็ดที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับน้ำตกไทรโยคน้อย เที่ยวน้ำตกเสร็จแล้ว แวะทานได้ชิลๆ ใครที่ชอบทานอาหารไทยพื้นบ้าน ต้องมาที่นี่เลย เพราะเค้ามีเมนูให้เลือกมากกว่า 100 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ปลาคังทอดน้ำปลา หมูป่าผัดเผ็ด ผัดผักพื้นบ้าน แถมราคาก็ไม่แพง สามารถมานั่งทานข้าวได้ทั้งครอบครัว ตัวร้านมีความกว้างขวาง โล่งสบายๆ เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารในอำเภอไทรโยคที่น่าไปลองชิมกันครับ พิกัด : https://goo.gl/maps/FPs1LdGD6QvDzwcy6 ที่อยู่ : 66/2 หมู่ 3 ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ร้านเปิดบริการ : 08.00 - 20.00 น. โทร : 08-1880-1987 #แนะนำร้านอาหารกาญจนบุรี #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 568 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครัวผักหวานบ้านไร่นฤบดินทร์ ใครที่ชื่นชอบผักหวานร้านนี้เค้ามีเมนูผักหวานแสนอร่อยสมชื่อร้านเลย ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำผักหวาน ยำผักหวาน ผักหวานผัดน้ำมันหอย ผักหวานชุบแป้งทอด นอกจากนี้ยังมีอาหารจานเด็ดอื่นๆ อีกมากมาย ที่ต้องไปลองชิมกันให้ได้ เช่น ต้มยำปลาคัง ทอดมันปลากราย แกงป่า ใครแวะไปอำเภอไทรโยค ต้องลองไปเช็คอินร้านนี้เลยครับ

    พิกัด : https://goo.gl/maps/TQMkhaL51cvkDJBb9
    ที่อยู่ : ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
    ร้านเปิดบริการ : 08.00 - 20.00 น.
    โทร : 08-3241-6561
    #อาหารป่า #กินสาระนัวร์ #แนะนำร้านอาหารเด็ด #Thaitimes
    ครัวผักหวานบ้านไร่นฤบดินทร์ ใครที่ชื่นชอบผักหวานร้านนี้เค้ามีเมนูผักหวานแสนอร่อยสมชื่อร้านเลย ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำผักหวาน ยำผักหวาน ผักหวานผัดน้ำมันหอย ผักหวานชุบแป้งทอด นอกจากนี้ยังมีอาหารจานเด็ดอื่นๆ อีกมากมาย ที่ต้องไปลองชิมกันให้ได้ เช่น ต้มยำปลาคัง ทอดมันปลากราย แกงป่า ใครแวะไปอำเภอไทรโยค ต้องลองไปเช็คอินร้านนี้เลยครับ พิกัด : https://goo.gl/maps/TQMkhaL51cvkDJBb9 ที่อยู่ : ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ร้านเปิดบริการ : 08.00 - 20.00 น. โทร : 08-3241-6561 #อาหารป่า #กินสาระนัวร์ #แนะนำร้านอาหารเด็ด #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 572 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานฯภูหินร่องกล้า อดีตพื้นที่ "สีแดง" ปัจุบันมีแต่ความงามสีเขียว

    ในช่วงปี พ.ศ. 2511-2525 “ภูหินร่องกล้า” หรือ “ภูร่องกล้า” นอกจากจะเป็นป่าเขารกชัฏแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ "สีแดง" ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายระหว่างการสู้รบของคน 2 กลุ่ม คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) กับ ฝ่ายความมั่นคง

    บทสรุปของการสู้รบไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะ เพราะสุดท้ายฝ่ายความมั่นคงประกาศนโยบาย 66/2523 และ 65/2525 ที่ใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาประชาชนที่หนีเข้าป่า กลับคืนสู่เมืองมาช่วยกันพัฒนาชาติไทย
    หลังจากนั้นมาดินแดนภูหินร่องกล้าก็ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” อุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 48 ของประเทศไทย ในวันที่ 26 ก.ค. 2527 มีพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ เลย(อ.ด่านซ้าย) เพชรบูรณ์(อ.หล่มสัก) และ พิษณุโลก(อ.นครไทย)

    นับแต่นั้นมาอีกไม่นานจากดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งการต่อสู้ ก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง ป่าไม้ น้ำตก ภูผา หินรูปร่างแปลกตา และรอยอดีตแห่งประวัติศาสตร์ในยุคสมรภูมิเดือด ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้ภูหินร่องกล้าได้แสดงศักยภาพแห่งป่าไพรออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางโรแมนติกฉ่ำฝนที่นอกจากจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามแล้ว บางวันยังมีสายหมอกฝนขาวโพลนให้เราได้ สัมผัสกันอย่างจุใจ

    ในพื้นที่ภูหินร่องกล้ายังมี “โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่นี่มีแปลงปลูกไม้ดอก ไม้เมืองหนาว หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ สตรอเบอร์รี่ พันธุ์ 80 รสสุดหวานฉ่ำ มีต้นนางพญาเสือโคร่งที่จะออกดอกชมพูสะพรั่งในช่วงราวเดือน ธ.ค.-ม.ค.ของทุกฤดูกาล ส่วนในช่วงเดือน ต.ค.-ก.พ.จะมีทุ่งดอกกระดาษออกดอกสวยงามไปทั่วบริเวณริมผา(ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดคือ พ.ย.-ม.ค.)
    ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือบรรดาหน้าผาชมวิวชื่อสุดกิ๊บเก๋ มีทั้ง “ผาไททานิค”, “ผาพบรัก,“ผาบอกรัก”, “ผาคู่รัก”, “ผารักยืนยง” และ“ผาสลัดรัก” ที่เป็นหน้าผาตั้งไล่เรียงไป มีโขดหินให้เดินไปยืนชมทัศนียภาพอันงดงามของขุนเขาผืนป่าใหญ่ ซึ่งเราสามารถมาเที่ยวชมความงามได้ทั้งปีในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป

    ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก

    นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ภูหินร่องกล้ายังโดดเด่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ลานหินแตก” กับลักษณะของธรรมชาติอันแปลกตาของลานหินกว้างมีรอยแตกคล้ายแผ่นดินแยก, “น้ำตกหมันแดง” น้ำตกงาม 13 ชั้น ที่ในช่วงกลางฤดูฝนราวเดือนสิงหาคมจะสวยงามไปด้วย “ดอกลิ้นมังกร” ที่ออกดอกบานสีชมพูสะพรั่งขึ้นกระจายอยู่ตามโขดหินบริเวณธารน้ำตก โดยเฉพาะที่บริเวณโขดหินด้านหน้าของน้ำตกชั้นที่ 5 จะเป็นจุดที่พบดอกลิ้นมังกรบานหนาแน่นมากที่สุด

    “ลานหินปุ่ม” จุดไฮไลท์สำคัญที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูหินร่องกล้า กับลานหินขนาดย่อมริมหน้าผาที่มีรูปร่างลักษณะอันแปลกประหลาด เป็นลานกว้างแล้วมีหินเป็นลูกกลมมนผุดขึ้นมาเป็นลูกๆปุ่มๆละลานเต็มไปหมด สันนิษฐานว่าลานหินปุ่มเกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก แล้วเกิดการสึกกร่อนพร้อมถูกลมฝนกระทำขัดเกลา จนเกิดเป็นลานหินปุ่มขึ้นมา
    นอกจากนี้ลานหินปุ่มยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี กับทิวทัศน์เบื้องล่างอันสวยงามกว้างไกล นับเป็นอีกจุดถ่ายรูปอันโดดเด่นกับเอกลักษณะเฉพาะตัวของปุ่มหินประหลาดที่ไมเหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

    “ผาชูธง” หน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามกว้างไกล โดยเฉพาะจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามไม่เป็นรองใคร ผาชูธงในอดีตเคยเป็นจุดที่ พคท. เมื่อรบชนะทหารไทยจะขึ้นไปชูธงแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ส่วนปัจจุบันบนผามีธงชาติไทยปักอยู่

    ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0 5535 6607,081-5965977 และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัด พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพิษณุโลก(พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก,เพชรบูรณ์) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907

    #ภูหินร่องกล้า
    #พิษณุโลก
    #ท่องเที่ยว

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    https://mgronline.com/travel/detail/9600000072287
    อุทยานฯภูหินร่องกล้า อดีตพื้นที่ "สีแดง" ปัจุบันมีแต่ความงามสีเขียว ในช่วงปี พ.ศ. 2511-2525 “ภูหินร่องกล้า” หรือ “ภูร่องกล้า” นอกจากจะเป็นป่าเขารกชัฏแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ "สีแดง" ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายระหว่างการสู้รบของคน 2 กลุ่ม คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) กับ ฝ่ายความมั่นคง บทสรุปของการสู้รบไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะ เพราะสุดท้ายฝ่ายความมั่นคงประกาศนโยบาย 66/2523 และ 65/2525 ที่ใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาประชาชนที่หนีเข้าป่า กลับคืนสู่เมืองมาช่วยกันพัฒนาชาติไทย หลังจากนั้นมาดินแดนภูหินร่องกล้าก็ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” อุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 48 ของประเทศไทย ในวันที่ 26 ก.ค. 2527 มีพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ เลย(อ.ด่านซ้าย) เพชรบูรณ์(อ.หล่มสัก) และ พิษณุโลก(อ.นครไทย) นับแต่นั้นมาอีกไม่นานจากดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งการต่อสู้ ก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง ป่าไม้ น้ำตก ภูผา หินรูปร่างแปลกตา และรอยอดีตแห่งประวัติศาสตร์ในยุคสมรภูมิเดือด ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้ภูหินร่องกล้าได้แสดงศักยภาพแห่งป่าไพรออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางโรแมนติกฉ่ำฝนที่นอกจากจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามแล้ว บางวันยังมีสายหมอกฝนขาวโพลนให้เราได้ สัมผัสกันอย่างจุใจ ในพื้นที่ภูหินร่องกล้ายังมี “โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่นี่มีแปลงปลูกไม้ดอก ไม้เมืองหนาว หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ สตรอเบอร์รี่ พันธุ์ 80 รสสุดหวานฉ่ำ มีต้นนางพญาเสือโคร่งที่จะออกดอกชมพูสะพรั่งในช่วงราวเดือน ธ.ค.-ม.ค.ของทุกฤดูกาล ส่วนในช่วงเดือน ต.ค.-ก.พ.จะมีทุ่งดอกกระดาษออกดอกสวยงามไปทั่วบริเวณริมผา(ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดคือ พ.ย.-ม.ค.) ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือบรรดาหน้าผาชมวิวชื่อสุดกิ๊บเก๋ มีทั้ง “ผาไททานิค”, “ผาพบรัก,“ผาบอกรัก”, “ผาคู่รัก”, “ผารักยืนยง” และ“ผาสลัดรัก” ที่เป็นหน้าผาตั้งไล่เรียงไป มีโขดหินให้เดินไปยืนชมทัศนียภาพอันงดงามของขุนเขาผืนป่าใหญ่ ซึ่งเราสามารถมาเที่ยวชมความงามได้ทั้งปีในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ภูหินร่องกล้ายังโดดเด่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ลานหินแตก” กับลักษณะของธรรมชาติอันแปลกตาของลานหินกว้างมีรอยแตกคล้ายแผ่นดินแยก, “น้ำตกหมันแดง” น้ำตกงาม 13 ชั้น ที่ในช่วงกลางฤดูฝนราวเดือนสิงหาคมจะสวยงามไปด้วย “ดอกลิ้นมังกร” ที่ออกดอกบานสีชมพูสะพรั่งขึ้นกระจายอยู่ตามโขดหินบริเวณธารน้ำตก โดยเฉพาะที่บริเวณโขดหินด้านหน้าของน้ำตกชั้นที่ 5 จะเป็นจุดที่พบดอกลิ้นมังกรบานหนาแน่นมากที่สุด “ลานหินปุ่ม” จุดไฮไลท์สำคัญที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูหินร่องกล้า กับลานหินขนาดย่อมริมหน้าผาที่มีรูปร่างลักษณะอันแปลกประหลาด เป็นลานกว้างแล้วมีหินเป็นลูกกลมมนผุดขึ้นมาเป็นลูกๆปุ่มๆละลานเต็มไปหมด สันนิษฐานว่าลานหินปุ่มเกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก แล้วเกิดการสึกกร่อนพร้อมถูกลมฝนกระทำขัดเกลา จนเกิดเป็นลานหินปุ่มขึ้นมา นอกจากนี้ลานหินปุ่มยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี กับทิวทัศน์เบื้องล่างอันสวยงามกว้างไกล นับเป็นอีกจุดถ่ายรูปอันโดดเด่นกับเอกลักษณะเฉพาะตัวของปุ่มหินประหลาดที่ไมเหมือนใครและไม่มีใครเหมือน “ผาชูธง” หน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามกว้างไกล โดยเฉพาะจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามไม่เป็นรองใคร ผาชูธงในอดีตเคยเป็นจุดที่ พคท. เมื่อรบชนะทหารไทยจะขึ้นไปชูธงแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ส่วนปัจจุบันบนผามีธงชาติไทยปักอยู่ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0 5535 6607,081-5965977 และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัด พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพิษณุโลก(พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก,เพชรบูรณ์) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907 #ภูหินร่องกล้า #พิษณุโลก #ท่องเที่ยว ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://mgronline.com/travel/detail/9600000072287
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ครัวเคียงคลื่น” ร้านอาหารทะเลเจ้าเด็ด ในชะอำ วิวทะเลหลักล้าน เป็นจุดชมวิวทะเลที่สวยที่สุดของชะอำเลยทีเดียว เมนูเด็ด “กั้งทอดกระเทียม” กั้งเนื้อแน่นเด้ง ทอดกระเทียมมาหอม ๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดอร่อย “ทอดมันปู” ทอดมันเนื้อดีหนึบเหนียวหอมพริกแกง เนื้อปูเน้น ๆ “หมึกทอดน้ำดำ” เนื้อปลาหมึกนุ่มเด้ง ผัดเคล้ากับซอสเค็มปนหวานนิด ๆ รสชาติดีกลมกล่อม อร่อยดีทีเดียว แวะมาชะอำเมื่อไหร่ปักหมุดไว้ได้เลย

    พิกัด : ครัวเคียงคลื่น
    32/1 ถนนชลประทานซีเมนต์ เพชรบุรี (ใกล้โรงแรมชะอำคาบาน่ารีสอร์ท)
    เบอร์โทร : 032-470-710

    #ชวนกิน #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    “ครัวเคียงคลื่น” ร้านอาหารทะเลเจ้าเด็ด ในชะอำ วิวทะเลหลักล้าน เป็นจุดชมวิวทะเลที่สวยที่สุดของชะอำเลยทีเดียว เมนูเด็ด “กั้งทอดกระเทียม” กั้งเนื้อแน่นเด้ง ทอดกระเทียมมาหอม ๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดอร่อย “ทอดมันปู” ทอดมันเนื้อดีหนึบเหนียวหอมพริกแกง เนื้อปูเน้น ๆ “หมึกทอดน้ำดำ” เนื้อปลาหมึกนุ่มเด้ง ผัดเคล้ากับซอสเค็มปนหวานนิด ๆ รสชาติดีกลมกล่อม อร่อยดีทีเดียว แวะมาชะอำเมื่อไหร่ปักหมุดไว้ได้เลย พิกัด : ครัวเคียงคลื่น 32/1 ถนนชลประทานซีเมนต์ เพชรบุรี (ใกล้โรงแรมชะอำคาบาน่ารีสอร์ท) เบอร์โทร : 032-470-710 #ชวนกิน #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาธิปไตยใต้ร่มเงาของคณาธิปไตย………!!!

    ดิฉันไม่ค่อยได้เขียนเรื่องการเมืองของประเทศไทยมากนัก เพราะไม่อยากอยู่ในสภาพของ”ลิง” ที่คิดหาญอยากจะแก้แห
    แต่ต้องเอาซะหน่อย เพราะมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้อง”ประชาธิปไตย” ให้กับบ้านเมือง
    เพราะเรามีรัฐบาลทหารที่กำลังอยู่ในภาวะจัดระเบียบให้แบบเอากฏหมายมาเป็นตัวตั้ง ที่เหมือนจะกำลังตบให้เข้ารูปเข้ารอย โดยการเพิ่มโทษเอาผิดและกางกั้น อุดรอยรั่วตรงนั้นตรงนี้
    ทำไปทำมา……คนในรัฐบาลก็ดันมีพฤติการณ์ที่ไม่โปร่งใส แถมคนที่เป็นหัวหน้ากลับอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ได้ นอกจากเรียกร้องให้สื่อเพลาการให้ข่าวทางด้านลบของพวกตัวเองลงไป
    สรุปว่า……แหนั้นมันยุ่งเหยิงเกิน……ขนาดชั้นหนุมานทหารเอกยังแก้ไม่ไหว……!!

    แล้วดิฉัน……ลิง……เอ๊ย……มนุษย์อาวุโสตัวน้อยๆ จะไปบังอาจได้อย่างไร……ใช่ม๊ะ???

    แต่อยากจะเล่าถึงเรื่องอื่นๆที่เนื้อเรื่องมันช่างโดนใจไทยแท้เป็นอย่างมาก……
    นั่นคือเรื่องกรณีพิพาทระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย ที่บาดหมางถึงขนาดอัปเปหิคณะทูตออกจากประเทศกันแบบชิ้วๆ ให้เก็บของภายในสามวันเจ็ดวันนั่นเชียว

    ถ้าจะให้เล่าต้องอ่านอย่างตั้งใจนิดนึง เพราะเรื่องนี้มีตัวละครหลายตัว ที่เกี่ยวพันโยงใยกันไปหมด เอาเรื่องหลักๆแบบกระชับที่สุดแล้วกันนะคะ

    ขอย้อนเรื่องไปเมื่อครั้ง ปี 2000 ที่ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ร่ำรวยคนหนึ่ง นามว่า Boris Berezovsky ที่มีฐานะร่ำรวยติดอันดับต้นๆของรัสเซีย และเป็นผู้สนับสนุนหลักของพรรค Unity ที่ผลักด้นจนปูตินได้มาเป็นประธานาธิบดีในปีนั้น
    แต่ปูติน……ไม่ได้เห็นนายทุนพรรคสำคัญไปกว่าอุดมการณ์ เขาตลบย้อนหลังด้วยนโยบายกวาดล้างมาเฟียและผู้สนับสนุนท่อน้ำเลี้ยงทั้งหมด ซึ่งมันกระทบกับหลายเครือข่ายของกลุ่มต่างๆ แม้แต่กลุ่มอภิมหาเศรษฐีอย่าง BB (ใช้ชื่อย่อแล้วกันนะคะ) ที่มีธุรกิจมากมายรวมไปถึง
    หลักๆคือ สื่อโทรทัศน์และพลังงานน้ำมัน
    การขัดแย้งเกิดขึ้น มีการแจ้งหาหลายข้อ จน BB ต้องหาเรื่องไป”ทำธุระที่อังกฤษ” แล้วก็ไม่หวนกลับมาขึ้นศาล
    ทางอังกฤษก็อ้าแขนรับ เพราะเงินจำนวนพันๆล้านยูโรที่เขามีอยู่นั้น ได้เปลี่ยนสถานะให้เขาเป็น Oligarch อันหมายถึง ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งต่างกับคำว่า Fugitive อันหมายถึงพวกที่หนีคดีแบบหัวซุกหัวซุน
    ที่ต้องมาขยายในความแตกต่างระหว่างสองคำนั้น เพราะเห็นสื่อต่างๆใช้กันเกร่อ และอ่านแล้วขัดใจทุกทีไป เพราะความหมายผิดไปอย่างสุดโต่ง
    โอลิการ์ช นั้น ไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปไหนเลย แถมยังมีหน้ามีตาอยู่ในสังคมชั้นสูงในประเทศอื่นๆได้ เพราะมีเงินนับพันล้านหมื่นล้าน ไปที่ไหนใครก็ต้อนรับ
    (จะอธิบายถึงระบบการปกครองในแบบต่างๆต่อไป)

    เช่นเดียวกับ BB เมื่อไม่อยากกลับรัสเซียก็ซื้อคฤหาสน์อยู่ที่อังกฤษ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทอง แต่……ก็พกความแค้นเอาไว้ คอยเล่นงานรัฐบาลปูตินในทุกโอกาสที่มีเขาได้ผู้ช่วยที่ดี คือ Alexander Litvinenko อดีต KGB ที่สนิทสนมกัน จนสามารถซื้อใจและนำตัวออกมาจากรัสเซียมาอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ และได้สนับสนุนให้ อเล็กซานเดอร์ ไปทำงานขายความลับของชาติให้กับ MI 6 หน่วยสายลับของอังกฤษ
    เท่านั้นไม่พอ……ทั้ง Alexander Litvinenko และ เพื่อนที่เป็นนักเขียน อเมริกัน-รัสเชี่ยน
    Yuri Felshtinsky ได้ออกหนังสือในชื่อว่า
    Blowing up Russia: The secret to bring back KGB power (2004)** (มีภาพประกอบ)

    ที่ติดอันดับหนังสือขายดีเพียงแค่ข้ามคืน โดยได้รับทุนรอนสนับสนุนจาก BB
    เนื้อความในหนังสือเป็นเรื่องภายในของหน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย และการขยายสาขายิบย่อยออกไปหลายแขนงในชื่อย่อต่างๆกัน รวมทั้งงานต่างๆที่แยกออกไปตามถนัด
    นอกจากนั้น BB ยังให้การสนับสนุนการก่อความไม่สงบทั้งในประเทศและนอกประเทศ อย่างกรณีของสงคราม Chechen ให้ก่อหวอดขึ้นมา เลยเถิดไปถึงการสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในยูเครนเมื่อปี 2004 และ 2010 ที่มีอยู่เพียงสองพรรคการเมือง พรรคที่ต่อต้านรัสเซีย กับพรรคที่สนับสนุนรัสเซีย
    งานนี้เขาทุ่มทุนกับพรรคที่ต่อต้านเต็มที่หมดไปหลายสิบล้านยูโร (แต่ก็แพ้การเลือกตั้ง)
    คือว่าทำทุกอย่างที่โค่นรัฐบาลของปูตินให้ได้……โดยใช้ผืนดินอังกฤษเป็นราก……

    ถามว่ารัฐบาลของปูตินและปูตินรู้สึกอย่างไร……?
    คำตอบคือ……เงียบ แต่เงียบแบบคลื่นใต้น้ำ โดยการ”กำจัด” ออกไปทีละคน เหมือนอย่างกับที่ทำกับสายลับนอกคอกคนอื่นๆ ที่มีเหตุต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันสมควร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก……เฉพาะในอังกฤษที่ชอบฟูมฟักสายลับและโอลิการ์ช จากรัสเซียนั้น
    โดนเก็บไปสิบสี่คนแล้ว โดยที่หน่วยสายลับและตำรวจต่างก็หาสาเหตุไม่ค่อยจะได้ หรืออาจจะได้แต่ไม่ออกสื่อ………

    ราย Alexander Litvinenko (จะเรียกเขาว่า Alex) นั้นมาแบบแปลกและทิ้งความตื่นตระหนกไว้ทั่วบริเตน นั่นคือ โดยยาพิษที่มาในรูปของกัมมันตภาพรังสี ในนามว่า Polonium 210 ที่เคลือบไว้กับกาน้ำชาที่เขาไปทานอาหารในร้านซูชิ เพราะได้นัดเจอกับเพื่อนที่เป็นอดีต KGB ที่มาเยี่ยมเยือนจากรัสเซีย ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2006
    หลังจากที่ได้แยกจากกัน เขาก็ล้มป่วย เกิดอาการขั้นวิกฤติจนต้องส่งโรงพยาบาลด่วนฉุกเฉิน อาการที่แพทย์ต้องวิ่งหาสาเหตุกันจ้าละหวั่น คือ อวัยวะในร่างกายของเขา
    ต่างพากันอ่อนแรง หมดสมรรถภาพไปทีละอย่าง นับจากตับ ไต หัวใจ
    เขาทนได้ถึง 28 วัน จึงเสียชีวิต และทางแพทย์เพิ่งจะรู้คำตอบว่า มันคือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสี
    จึงได้เข้าไปตรวจร่องรอยของเส้นทางหลังจากที่เขาและเพื่อนสองคน พบว่า มีร่องรอยของ
    Polonium 210ในทุกที่ ตั้งแต่โรงแรม ห้องพัก ห้องน้ำ และในร้านอาหาร
    เพื่อนสองคนนั้น คือ Andrei Lugovoi และ Dmitry Kovtun ที่บินกลับไปรัสเซียแล้ว

    ทีนี้ถึงคิวของ BB อภิมหาเศรษฐีที่เหมือนว่าใครจะทำอะไรเขาไม่ได้……แต่……มีอีกคนหนึ่งที่”เหนือเมฆ”กว่า นั่นคือ Roman Abramovich
    คนคนนี้ที่ต้องเรียกว่าเหนือเมฆหรือยอดมนุษย์ก็ไม่ผิดความจริงเท่าไหร่ เพราะ
    เขาจบการศึกษาแค่ชั้นมัธยมปลาย และออกมาทำมาหากินโดยการขายของเล่นเด็ก และ
    ขายยางรถยนตร์เก่า จนอายุย่างเข้าสามสิบปี (1996) เขาเริ่มเป็นปึกแผ่น ร่ำรวย
    จนสามารถเข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นที่ไว้ใจของปธน. Yeltsin จนเขาได้ก้าวขึ้นไปเป็นนายกเทศมนตรีเมือง Chukotka (1999) ที่แสนยากจน……ที่นั่น Roman ได้ควักกระเป๋า เอาเงินส่วนตัวกว่า ร้อยล้านยูโร บริจาคสร้างสาธารณูปโภคให้ใหม่ทั้งเมือง สร้างงานให้ประชาชน
    เมื่อปี 1992 คือปีที่เขาหันมาจับธุรกิจบ่อน้ำมันและได้รู้จักกับ BB และกลุ่มอภิมหาเศรษฐีคนอื่นๆในฐานะผู้ร่วมทุน ในนามของกลุ่มที่มีชื่อว่า Sibneft ที่แยกย่อยออกไปอีกหลายเครือข่ายเช่นการทำกระดาษอลูมินั่ม และเครื่องจักรกล
    ที่สร้างเม็ดเงินให้อย่างมหาศาล จนคนทั้งคู่ (และหุ้นส่วนคนอื่น) รวยจนติดอันดับ Forbes
    แต่เส้นทางต่อมา……คนทั้งสองเดินคนละเส้นทาง แต่ไปอยู่ในที่เดียวกัน คือ อังกฤษ

    Roman ไปในฐานะนักลงทุนข้ามชาติ เพราะไปทำธุรกิจที่จะขยายเม็ดเงิน ร่ำรวยมหาศาลและไปซื้อทีมฟุตบอล Chelsea………!!!
    นอกเหนือจากการเป็นมิตรสหายคนสนิทคนหนึ่งของปูติน
    ส่วน BB นั้น อยู่ในฐานะนักลี้ภัยที่สนับสนุนการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่ยังไม่เลิกละลดต่อความพยาบาท

    Roman ได้ขึ้นฟ้องร้องต่อศาลอังกฤษในปี 2011 ที่ถูก BB โกงเงินจำนวนหลายร้อยล้านปอนด์จากธุรกิจที่เคยทำร่วมกัน รวมทั้งยื่นบัญชีที่ได้ออกเงินช่วย BB ในเรื่องของการหลบหนีมาตั้งหลักปักฐานที่อังกฤษ
    ศาลรับฟ้อง……และว่ากันไปตามหลักฐาน ที่ทางฝ่าย Roman มีมาพร้อมมูล
    ซึ่งต่อมา ศาลได้ตัดสินให้เขาเป็นฝ่ายชนะ (ปี 2012)ที่จะได้รับเงินค่าเสียหายชดใช้จาก BB
    เป็นจำนวน สามพันล้านปอนด์ บวกค่าทนายของทั้งสองฝ่ายอีกร้อยล้านปอนด์

    BB เดินออกจากศาลทั้งน้ำตา เขาบอกกับคนสนิทว่า
    “ฉันควรจะกระโดดตึกหรือเชือดข้อมือ อย่างไหนจะดีกว่ากัน ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนที่ยากจนที่สุดในโลกแล้ว……”

    แต่ BB ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานต่อความยากจนนานนัก เพราะ เขาถูกพบว่าเป็นศพภายในคฤหาสน์ของเขาเองในปีต่อมา 2013 ในสภาพว่า ผูกคอตายในห้องน้ำ……?!!
    ทางฝ่ายนิติเวชได้ออกมาให้ข่าวว่า สภาพศพนั้นผิดไปจากการฆ่าตัวตายธรรมดา เพราะศรีษะมีรอยถูกตี และมีรอยหักที่ซี่โครง

    เหมือนจะเป็นการบอกให้รู้ว่า……เมริงต้องหมดตัวเสียก่อน แล้วค่อยตาย……!!!

    นี่คือเรื่องราวย่อๆที่เกิดขึ้นให้ทราบเค้าโครงเรื่องรอยบาดหมางระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย
    คือ ไม่ว่าใครจะไปลี้ภัยอะไรยังไง อังกฤษอ้าแขนรับหมด ขอให้หอบเงินเข้ามาเถอะ การอำนวยความสะดวกจัดให้เต็มที่
    โดยเฉพาะเหล่าอภิมหาเศรษฐีและเหล่าสายลับนอกคอกจากรัสเซีย
    ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่ตายไม่สวย……ยังมีอีกสองราย เอาไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง
    คือ Sergei Skripal (อดีตสายลับ) และ Badri Patarkatsishvili (อภิมหาเศรษฐี) ที่มัจจุราชจากรัสเซียมาเยือนถึงเกาะอังกฤษ นอกเหนือไปจากรายยิบย่อย
    ที่อังกฤษจับมือใครดมไม่ได้ ………ได้แต่โกรธแค้นรัสเซียที่อาจหาญทำการอุกอาจข้ามประเทศ
    จนมาถึงเรื่องซีเรีย………ที่นับว่าคือจุดของการแตกหัก

    อังกฤษทุกวันนี้ก็นั่งไม่ติด เพราะไม่รู้ว่าจะสู้กับอะไร ศึกจะมาเป็นแบบไหนในบ้านเมือง
    จะมาในรูปของก่อการร้าย หรือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสีที่ยังหาทางรักษาไม่ได้
    นี่คือเหตุผลที่ต้องใช้งบประมาณอย่างมากมายสำหรับการรักษาความปลอดภัยในการจัดงานอภิเษกของเจ้าชายแฮร์รี่ ที่ประชาชนต่างไม่พอใจกับการใช้งบประมาณมากมายมหาศาลในส่วนของภาษีที่เขาจ่าย
    รัฐบาลก็ได้แต่อ้อมแอ้ม……ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเพื่อไม่ให้กลายเป็นการชี้โพรง………

    ทีนี้มาเล่าถึงเรื่องการปกครองระบอบต่างๆในโลกที่แบ่งออกเป็นได้อยู่ 5 ชนิด
    คือ
    1. ระบอบประชาธิปไตย (Democracy) ที่ประชาชนเลือกผู้นำและรัฐบาลผ่านการลงคะแนนเสียง
    2. ระบอบคณาธิปไตย (Oligarchy) คือรัฐบาลที่มาโดยกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลัง
    3. ระบอบเผด็จการ (Autocracy) คือ รัฐบาลที่มีผู้นำคนเดียวที่เป็นผู้ชี้ชะตาประเทศและประชาชน อย่าง ซาอุ
    4. ระบอบกษัตริย์ (Monarchy) คือมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างประเทศไทย คือ constitutional monarchy หมายถึง ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
    5. ระบอบคอมมิวนิสต์ (Communism) คือ ทุกอย่างเป็นของรัฐบาล ประชาชนทุกคนจะมีส่วนแบ่งเท่าๆกันภายใต้การจัดสรรที่เสมอภาค

    ประเทศไทยของเราลักหลั่นมากในเรื่องนี้ เพราะ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราอยู่ในระบอบไหนกันแน่ เพราะนอกจากคอมมิวนิสต์กับเผด็จการแล้ว เราเป็นหมด………
    ประชาธิปไตย……มีมั่ง ไม่มีมั่ง คอยลุ้นเอา สนุกดี
    คณาธิปไตย………แน่นอน มีตลอด ตราบใดที่กลุ่มเจ้าสัวยังขยายกิจการอย่างไม่หยุดยั้ง
    แม้แต่รถกับข้าวก็ไม่เหลือให้ชนชั้นล่างได้เข้ามามีโอกาส
    ระบอบกษัตริย์ หรือ ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญนั้น คือหัวใจที่หล่อเลี้ยงประเทศให้
    เต้นไปตามจังหวะอยู่ในทุกวันนี้

    ประชาชนจะต้องรู้ให้เท่าทันว่า ประเทศของเราอยู่ก้ำกึ่งในสามระบอบนี้ จะได้ทำตัวให้ถูก
    รู้จักการถ่วงดุลย์ รู้จักว่าอย่าให้มันโน้มเอียงไปทางลบ
    อย่ามัวแต่เรียกร้องประชาธิปไตย รอเลือกตั้งจนตัวสั่น เพราะ อย่างไรเสียเราก็สลัดไม่หลุดไปจากกลุ่มคณาธิปไตยที่ไล่แจกนาฬิกาแพงๆให้กับคนในรัฐบาลอย่างที่เห็นๆอยู่

    เคยคุยกับคนอังกฤษ(แก่ๆ) เรื่องพระราชวงค์ของเขา ว่า……ไม่ค่อยเห็นคนออกมาแสดงความไม่พอใจ หรือเรียกร้องจนทำให้พระราชินีต้องเสื่อมเสียพระเกียรติยศ……
    เขาตอบว่า เพราะพระราชวงค์ทรงเป็นเลือดนักสู้……เป็นผู้นำที่เคียงคู่มากับพวกเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามไหนๆ กษัตริย์อังกฤษไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว………

    นี่คือผลพวงจากการศึกษาจริงๆค่ะ คนอังกฤษทุกคนรู้เรื่องประวัติศาสตร์บ้านเมืองของตัวเองเป็นอย่างดี จึงมีความรักชาติที่ฝังลึกสลักแน่นในสายเลือด
    แต่เราก็เขยิบขึ้นมาแล้ว เราก้าวมาเกือบถูกทางแล้ว เพราะออเจ้าได้ทำให้เด็กไทยทั้งประเทศตื่นตัวในการรักชาติ เทิดทูนพระมหากษัตริย์ในอดีต……บูชาความเป็นไทย
    ถึงขนาดทิ้งบัตรประชาชนเก่าๆ จัดแจงแต่งชุดไทยไปถ่ายใบใหม่
    ประกาศให้โลกรู้ว่า……
    เรารุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนะ…ออเจ้าฝรั่งฟรังคีทั้งหลาย !!!

    แหม………จะว่าไปนะ……อีผิน เอ๊ย……ดิฉันก็นึกทึ่งตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่เขียนเรื่องรัสเซีย เรื่องอังกฤษอยู่ดีดี๊………มาจบลงด้วยเรื่องของออเจ้าอย่างหน้าตาเฉย
    อย่างนี้ชิมิคะ……ที่เขาเรียกว่า”โหนกระแส” น่ะ………555555?!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ประชาธิปไตยใต้ร่มเงาของคณาธิปไตย………!!! ดิฉันไม่ค่อยได้เขียนเรื่องการเมืองของประเทศไทยมากนัก เพราะไม่อยากอยู่ในสภาพของ”ลิง” ที่คิดหาญอยากจะแก้แห แต่ต้องเอาซะหน่อย เพราะมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้อง”ประชาธิปไตย” ให้กับบ้านเมือง เพราะเรามีรัฐบาลทหารที่กำลังอยู่ในภาวะจัดระเบียบให้แบบเอากฏหมายมาเป็นตัวตั้ง ที่เหมือนจะกำลังตบให้เข้ารูปเข้ารอย โดยการเพิ่มโทษเอาผิดและกางกั้น อุดรอยรั่วตรงนั้นตรงนี้ ทำไปทำมา……คนในรัฐบาลก็ดันมีพฤติการณ์ที่ไม่โปร่งใส แถมคนที่เป็นหัวหน้ากลับอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ได้ นอกจากเรียกร้องให้สื่อเพลาการให้ข่าวทางด้านลบของพวกตัวเองลงไป สรุปว่า……แหนั้นมันยุ่งเหยิงเกิน……ขนาดชั้นหนุมานทหารเอกยังแก้ไม่ไหว……!! แล้วดิฉัน……ลิง……เอ๊ย……มนุษย์อาวุโสตัวน้อยๆ จะไปบังอาจได้อย่างไร……ใช่ม๊ะ??? แต่อยากจะเล่าถึงเรื่องอื่นๆที่เนื้อเรื่องมันช่างโดนใจไทยแท้เป็นอย่างมาก…… นั่นคือเรื่องกรณีพิพาทระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย ที่บาดหมางถึงขนาดอัปเปหิคณะทูตออกจากประเทศกันแบบชิ้วๆ ให้เก็บของภายในสามวันเจ็ดวันนั่นเชียว ถ้าจะให้เล่าต้องอ่านอย่างตั้งใจนิดนึง เพราะเรื่องนี้มีตัวละครหลายตัว ที่เกี่ยวพันโยงใยกันไปหมด เอาเรื่องหลักๆแบบกระชับที่สุดแล้วกันนะคะ ขอย้อนเรื่องไปเมื่อครั้ง ปี 2000 ที่ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ร่ำรวยคนหนึ่ง นามว่า Boris Berezovsky ที่มีฐานะร่ำรวยติดอันดับต้นๆของรัสเซีย และเป็นผู้สนับสนุนหลักของพรรค Unity ที่ผลักด้นจนปูตินได้มาเป็นประธานาธิบดีในปีนั้น แต่ปูติน……ไม่ได้เห็นนายทุนพรรคสำคัญไปกว่าอุดมการณ์ เขาตลบย้อนหลังด้วยนโยบายกวาดล้างมาเฟียและผู้สนับสนุนท่อน้ำเลี้ยงทั้งหมด ซึ่งมันกระทบกับหลายเครือข่ายของกลุ่มต่างๆ แม้แต่กลุ่มอภิมหาเศรษฐีอย่าง BB (ใช้ชื่อย่อแล้วกันนะคะ) ที่มีธุรกิจมากมายรวมไปถึง หลักๆคือ สื่อโทรทัศน์และพลังงานน้ำมัน การขัดแย้งเกิดขึ้น มีการแจ้งหาหลายข้อ จน BB ต้องหาเรื่องไป”ทำธุระที่อังกฤษ” แล้วก็ไม่หวนกลับมาขึ้นศาล ทางอังกฤษก็อ้าแขนรับ เพราะเงินจำนวนพันๆล้านยูโรที่เขามีอยู่นั้น ได้เปลี่ยนสถานะให้เขาเป็น Oligarch อันหมายถึง ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งต่างกับคำว่า Fugitive อันหมายถึงพวกที่หนีคดีแบบหัวซุกหัวซุน ที่ต้องมาขยายในความแตกต่างระหว่างสองคำนั้น เพราะเห็นสื่อต่างๆใช้กันเกร่อ และอ่านแล้วขัดใจทุกทีไป เพราะความหมายผิดไปอย่างสุดโต่ง โอลิการ์ช นั้น ไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปไหนเลย แถมยังมีหน้ามีตาอยู่ในสังคมชั้นสูงในประเทศอื่นๆได้ เพราะมีเงินนับพันล้านหมื่นล้าน ไปที่ไหนใครก็ต้อนรับ (จะอธิบายถึงระบบการปกครองในแบบต่างๆต่อไป) เช่นเดียวกับ BB เมื่อไม่อยากกลับรัสเซียก็ซื้อคฤหาสน์อยู่ที่อังกฤษ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทอง แต่……ก็พกความแค้นเอาไว้ คอยเล่นงานรัฐบาลปูตินในทุกโอกาสที่มีเขาได้ผู้ช่วยที่ดี คือ Alexander Litvinenko อดีต KGB ที่สนิทสนมกัน จนสามารถซื้อใจและนำตัวออกมาจากรัสเซียมาอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ และได้สนับสนุนให้ อเล็กซานเดอร์ ไปทำงานขายความลับของชาติให้กับ MI 6 หน่วยสายลับของอังกฤษ เท่านั้นไม่พอ……ทั้ง Alexander Litvinenko และ เพื่อนที่เป็นนักเขียน อเมริกัน-รัสเชี่ยน Yuri Felshtinsky ได้ออกหนังสือในชื่อว่า Blowing up Russia: The secret to bring back KGB power (2004)** (มีภาพประกอบ) ที่ติดอันดับหนังสือขายดีเพียงแค่ข้ามคืน โดยได้รับทุนรอนสนับสนุนจาก BB เนื้อความในหนังสือเป็นเรื่องภายในของหน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย และการขยายสาขายิบย่อยออกไปหลายแขนงในชื่อย่อต่างๆกัน รวมทั้งงานต่างๆที่แยกออกไปตามถนัด นอกจากนั้น BB ยังให้การสนับสนุนการก่อความไม่สงบทั้งในประเทศและนอกประเทศ อย่างกรณีของสงคราม Chechen ให้ก่อหวอดขึ้นมา เลยเถิดไปถึงการสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในยูเครนเมื่อปี 2004 และ 2010 ที่มีอยู่เพียงสองพรรคการเมือง พรรคที่ต่อต้านรัสเซีย กับพรรคที่สนับสนุนรัสเซีย งานนี้เขาทุ่มทุนกับพรรคที่ต่อต้านเต็มที่หมดไปหลายสิบล้านยูโร (แต่ก็แพ้การเลือกตั้ง) คือว่าทำทุกอย่างที่โค่นรัฐบาลของปูตินให้ได้……โดยใช้ผืนดินอังกฤษเป็นราก…… ถามว่ารัฐบาลของปูตินและปูตินรู้สึกอย่างไร……? คำตอบคือ……เงียบ แต่เงียบแบบคลื่นใต้น้ำ โดยการ”กำจัด” ออกไปทีละคน เหมือนอย่างกับที่ทำกับสายลับนอกคอกคนอื่นๆ ที่มีเหตุต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันสมควร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก……เฉพาะในอังกฤษที่ชอบฟูมฟักสายลับและโอลิการ์ช จากรัสเซียนั้น โดนเก็บไปสิบสี่คนแล้ว โดยที่หน่วยสายลับและตำรวจต่างก็หาสาเหตุไม่ค่อยจะได้ หรืออาจจะได้แต่ไม่ออกสื่อ……… ราย Alexander Litvinenko (จะเรียกเขาว่า Alex) นั้นมาแบบแปลกและทิ้งความตื่นตระหนกไว้ทั่วบริเตน นั่นคือ โดยยาพิษที่มาในรูปของกัมมันตภาพรังสี ในนามว่า Polonium 210 ที่เคลือบไว้กับกาน้ำชาที่เขาไปทานอาหารในร้านซูชิ เพราะได้นัดเจอกับเพื่อนที่เป็นอดีต KGB ที่มาเยี่ยมเยือนจากรัสเซีย ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2006 หลังจากที่ได้แยกจากกัน เขาก็ล้มป่วย เกิดอาการขั้นวิกฤติจนต้องส่งโรงพยาบาลด่วนฉุกเฉิน อาการที่แพทย์ต้องวิ่งหาสาเหตุกันจ้าละหวั่น คือ อวัยวะในร่างกายของเขา ต่างพากันอ่อนแรง หมดสมรรถภาพไปทีละอย่าง นับจากตับ ไต หัวใจ เขาทนได้ถึง 28 วัน จึงเสียชีวิต และทางแพทย์เพิ่งจะรู้คำตอบว่า มันคือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสี จึงได้เข้าไปตรวจร่องรอยของเส้นทางหลังจากที่เขาและเพื่อนสองคน พบว่า มีร่องรอยของ Polonium 210ในทุกที่ ตั้งแต่โรงแรม ห้องพัก ห้องน้ำ และในร้านอาหาร เพื่อนสองคนนั้น คือ Andrei Lugovoi และ Dmitry Kovtun ที่บินกลับไปรัสเซียแล้ว ทีนี้ถึงคิวของ BB อภิมหาเศรษฐีที่เหมือนว่าใครจะทำอะไรเขาไม่ได้……แต่……มีอีกคนหนึ่งที่”เหนือเมฆ”กว่า นั่นคือ Roman Abramovich คนคนนี้ที่ต้องเรียกว่าเหนือเมฆหรือยอดมนุษย์ก็ไม่ผิดความจริงเท่าไหร่ เพราะ เขาจบการศึกษาแค่ชั้นมัธยมปลาย และออกมาทำมาหากินโดยการขายของเล่นเด็ก และ ขายยางรถยนตร์เก่า จนอายุย่างเข้าสามสิบปี (1996) เขาเริ่มเป็นปึกแผ่น ร่ำรวย จนสามารถเข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นที่ไว้ใจของปธน. Yeltsin จนเขาได้ก้าวขึ้นไปเป็นนายกเทศมนตรีเมือง Chukotka (1999) ที่แสนยากจน……ที่นั่น Roman ได้ควักกระเป๋า เอาเงินส่วนตัวกว่า ร้อยล้านยูโร บริจาคสร้างสาธารณูปโภคให้ใหม่ทั้งเมือง สร้างงานให้ประชาชน เมื่อปี 1992 คือปีที่เขาหันมาจับธุรกิจบ่อน้ำมันและได้รู้จักกับ BB และกลุ่มอภิมหาเศรษฐีคนอื่นๆในฐานะผู้ร่วมทุน ในนามของกลุ่มที่มีชื่อว่า Sibneft ที่แยกย่อยออกไปอีกหลายเครือข่ายเช่นการทำกระดาษอลูมินั่ม และเครื่องจักรกล ที่สร้างเม็ดเงินให้อย่างมหาศาล จนคนทั้งคู่ (และหุ้นส่วนคนอื่น) รวยจนติดอันดับ Forbes แต่เส้นทางต่อมา……คนทั้งสองเดินคนละเส้นทาง แต่ไปอยู่ในที่เดียวกัน คือ อังกฤษ Roman ไปในฐานะนักลงทุนข้ามชาติ เพราะไปทำธุรกิจที่จะขยายเม็ดเงิน ร่ำรวยมหาศาลและไปซื้อทีมฟุตบอล Chelsea………!!! นอกเหนือจากการเป็นมิตรสหายคนสนิทคนหนึ่งของปูติน ส่วน BB นั้น อยู่ในฐานะนักลี้ภัยที่สนับสนุนการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่ยังไม่เลิกละลดต่อความพยาบาท Roman ได้ขึ้นฟ้องร้องต่อศาลอังกฤษในปี 2011 ที่ถูก BB โกงเงินจำนวนหลายร้อยล้านปอนด์จากธุรกิจที่เคยทำร่วมกัน รวมทั้งยื่นบัญชีที่ได้ออกเงินช่วย BB ในเรื่องของการหลบหนีมาตั้งหลักปักฐานที่อังกฤษ ศาลรับฟ้อง……และว่ากันไปตามหลักฐาน ที่ทางฝ่าย Roman มีมาพร้อมมูล ซึ่งต่อมา ศาลได้ตัดสินให้เขาเป็นฝ่ายชนะ (ปี 2012)ที่จะได้รับเงินค่าเสียหายชดใช้จาก BB เป็นจำนวน สามพันล้านปอนด์ บวกค่าทนายของทั้งสองฝ่ายอีกร้อยล้านปอนด์ BB เดินออกจากศาลทั้งน้ำตา เขาบอกกับคนสนิทว่า “ฉันควรจะกระโดดตึกหรือเชือดข้อมือ อย่างไหนจะดีกว่ากัน ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนที่ยากจนที่สุดในโลกแล้ว……” แต่ BB ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานต่อความยากจนนานนัก เพราะ เขาถูกพบว่าเป็นศพภายในคฤหาสน์ของเขาเองในปีต่อมา 2013 ในสภาพว่า ผูกคอตายในห้องน้ำ……?!! ทางฝ่ายนิติเวชได้ออกมาให้ข่าวว่า สภาพศพนั้นผิดไปจากการฆ่าตัวตายธรรมดา เพราะศรีษะมีรอยถูกตี และมีรอยหักที่ซี่โครง เหมือนจะเป็นการบอกให้รู้ว่า……เมริงต้องหมดตัวเสียก่อน แล้วค่อยตาย……!!! นี่คือเรื่องราวย่อๆที่เกิดขึ้นให้ทราบเค้าโครงเรื่องรอยบาดหมางระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย คือ ไม่ว่าใครจะไปลี้ภัยอะไรยังไง อังกฤษอ้าแขนรับหมด ขอให้หอบเงินเข้ามาเถอะ การอำนวยความสะดวกจัดให้เต็มที่ โดยเฉพาะเหล่าอภิมหาเศรษฐีและเหล่าสายลับนอกคอกจากรัสเซีย ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่ตายไม่สวย……ยังมีอีกสองราย เอาไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง คือ Sergei Skripal (อดีตสายลับ) และ Badri Patarkatsishvili (อภิมหาเศรษฐี) ที่มัจจุราชจากรัสเซียมาเยือนถึงเกาะอังกฤษ นอกเหนือไปจากรายยิบย่อย ที่อังกฤษจับมือใครดมไม่ได้ ………ได้แต่โกรธแค้นรัสเซียที่อาจหาญทำการอุกอาจข้ามประเทศ จนมาถึงเรื่องซีเรีย………ที่นับว่าคือจุดของการแตกหัก อังกฤษทุกวันนี้ก็นั่งไม่ติด เพราะไม่รู้ว่าจะสู้กับอะไร ศึกจะมาเป็นแบบไหนในบ้านเมือง จะมาในรูปของก่อการร้าย หรือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสีที่ยังหาทางรักษาไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่ต้องใช้งบประมาณอย่างมากมายสำหรับการรักษาความปลอดภัยในการจัดงานอภิเษกของเจ้าชายแฮร์รี่ ที่ประชาชนต่างไม่พอใจกับการใช้งบประมาณมากมายมหาศาลในส่วนของภาษีที่เขาจ่าย รัฐบาลก็ได้แต่อ้อมแอ้ม……ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเพื่อไม่ให้กลายเป็นการชี้โพรง……… ทีนี้มาเล่าถึงเรื่องการปกครองระบอบต่างๆในโลกที่แบ่งออกเป็นได้อยู่ 5 ชนิด คือ 1. ระบอบประชาธิปไตย (Democracy) ที่ประชาชนเลือกผู้นำและรัฐบาลผ่านการลงคะแนนเสียง 2. ระบอบคณาธิปไตย (Oligarchy) คือรัฐบาลที่มาโดยกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลัง 3. ระบอบเผด็จการ (Autocracy) คือ รัฐบาลที่มีผู้นำคนเดียวที่เป็นผู้ชี้ชะตาประเทศและประชาชน อย่าง ซาอุ 4. ระบอบกษัตริย์ (Monarchy) คือมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างประเทศไทย คือ constitutional monarchy หมายถึง ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ 5. ระบอบคอมมิวนิสต์ (Communism) คือ ทุกอย่างเป็นของรัฐบาล ประชาชนทุกคนจะมีส่วนแบ่งเท่าๆกันภายใต้การจัดสรรที่เสมอภาค ประเทศไทยของเราลักหลั่นมากในเรื่องนี้ เพราะ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราอยู่ในระบอบไหนกันแน่ เพราะนอกจากคอมมิวนิสต์กับเผด็จการแล้ว เราเป็นหมด……… ประชาธิปไตย……มีมั่ง ไม่มีมั่ง คอยลุ้นเอา สนุกดี คณาธิปไตย………แน่นอน มีตลอด ตราบใดที่กลุ่มเจ้าสัวยังขยายกิจการอย่างไม่หยุดยั้ง แม้แต่รถกับข้าวก็ไม่เหลือให้ชนชั้นล่างได้เข้ามามีโอกาส ระบอบกษัตริย์ หรือ ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญนั้น คือหัวใจที่หล่อเลี้ยงประเทศให้ เต้นไปตามจังหวะอยู่ในทุกวันนี้ ประชาชนจะต้องรู้ให้เท่าทันว่า ประเทศของเราอยู่ก้ำกึ่งในสามระบอบนี้ จะได้ทำตัวให้ถูก รู้จักการถ่วงดุลย์ รู้จักว่าอย่าให้มันโน้มเอียงไปทางลบ อย่ามัวแต่เรียกร้องประชาธิปไตย รอเลือกตั้งจนตัวสั่น เพราะ อย่างไรเสียเราก็สลัดไม่หลุดไปจากกลุ่มคณาธิปไตยที่ไล่แจกนาฬิกาแพงๆให้กับคนในรัฐบาลอย่างที่เห็นๆอยู่ เคยคุยกับคนอังกฤษ(แก่ๆ) เรื่องพระราชวงค์ของเขา ว่า……ไม่ค่อยเห็นคนออกมาแสดงความไม่พอใจ หรือเรียกร้องจนทำให้พระราชินีต้องเสื่อมเสียพระเกียรติยศ…… เขาตอบว่า เพราะพระราชวงค์ทรงเป็นเลือดนักสู้……เป็นผู้นำที่เคียงคู่มากับพวกเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามไหนๆ กษัตริย์อังกฤษไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว……… นี่คือผลพวงจากการศึกษาจริงๆค่ะ คนอังกฤษทุกคนรู้เรื่องประวัติศาสตร์บ้านเมืองของตัวเองเป็นอย่างดี จึงมีความรักชาติที่ฝังลึกสลักแน่นในสายเลือด แต่เราก็เขยิบขึ้นมาแล้ว เราก้าวมาเกือบถูกทางแล้ว เพราะออเจ้าได้ทำให้เด็กไทยทั้งประเทศตื่นตัวในการรักชาติ เทิดทูนพระมหากษัตริย์ในอดีต……บูชาความเป็นไทย ถึงขนาดทิ้งบัตรประชาชนเก่าๆ จัดแจงแต่งชุดไทยไปถ่ายใบใหม่ ประกาศให้โลกรู้ว่า…… เรารุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนะ…ออเจ้าฝรั่งฟรังคีทั้งหลาย !!! แหม………จะว่าไปนะ……อีผิน เอ๊ย……ดิฉันก็นึกทึ่งตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่เขียนเรื่องรัสเซีย เรื่องอังกฤษอยู่ดีดี๊………มาจบลงด้วยเรื่องของออเจ้าอย่างหน้าตาเฉย อย่างนี้ชิมิคะ……ที่เขาเรียกว่า”โหนกระแส” น่ะ………555555?!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 738 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่องไวรัลมาเลเซีย 2024

    เฟซบุ๊กเพจ MGAG ในมาเลเซียเปิดเผยอินโฟกราฟิกที่ชื่อว่า "2024 Malaysia Meme Calender" รวบรวมประเด็นไวรัลเด่นที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนของประเทศมาเลเซีย จากการสืบค้นของ Newskit พบว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจดังนี้

    ม.ค. 2567 - Derrick Gan แฟนบอลทีมชาติมาเลเซีย ประกาศขายรถจักรยานยนต์ 4,500 ริงกิต (ประมาณ 34,000 บาท) เพื่อใช้เดินทางไปเชียร์ฟุตบอลเอเชียนคัพ ที่ประเทศกาตาร์ หลังกลับมา ค่าย Modenas มอบรถจักรยานยนต์คันใหม่ให้เขา

    ก.พ. 2567 - คลิปหญิงวัย 23 ปีจากอัมปัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ให้สัมภาษณ์ว่าไปเที่ยวไนต์คลับตั้งแต่อายุ 18 ปี กลับบ้านกับผู้ชายถึงสองครั้ง ถูกวิจารณ์ถึงความเหมาะสม ภายหลังอ้างว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น คลิปดังกล่าวมีจุดประสงค์ทางการตลาดเท่านั้น

    มี.ค. 2567 - ชายชาวจีนที่อาศัยในมาเลเซีย เจ้าของร้านอาหารหมี่โกโล แต่งงานพร้อมกันกับภรรยา 2 คน ที่ทำงานในร้านเดียวกัน ที่เมืองกุชิง รัฐซาราวัก รัฐมนตรีวิจารณ์ว่าผู้ที่มิใช่ชาวมุสลิม ถ้าจดทะเบียนสมรสแล้ว ไม่สามารถมีคู่สมรสหลายคนได้

    เม.ย. 2567 - Aliff Aziz นักร้องและนักแสดงชาวสิงคโปร์ ถูกกรมกิจการอิสลาม (JAWI) จับกุมพร้อมกับ Ruhainies Farehah นักแสดงสาว ขณะที่อดีตภรรยา Bella Astillah ชี้ว่า Aliff โกหกเรื่องเมียน้อยถึง 11 ครั้ง ยื่นฟ้องหย่าเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา

    พ.ค. 2567 - แอดมินเพจร้านอาหารฟาสฟู้ด DarSA Fried Chicken (DFC) ในเมืองราวัง รัฐสลังงอร์ ตอบกลับลูกค้าใช้คำว่า "พวก Type C" ถูกมองว่าเหยียดเชื้อชาติจีนในมาเลเซีย ทางร้านขอโทษและยืนยันว่ายินดีต้อนรับลูกค้าทุกเชื้อชาติและศาสนา

    มิ.ย. 2567 - เจ้าของร้านขายของชำย่านเซเบอรัง จายา รัฐปีนัง กำราบลูกค้าขี้เมาด้วยคำว่า "One by One Gentleman" ภายหลังพบว่าเจ้าของร้านเคยเป็นครูสอนเทควันโดสายดำมาก่อน ส่วนลูกค้าขี้เมาก็กล่าวว่าตนเองเคยเป็นนักคาราเต้สายดำ

    ก.ค. 2567 - เครื่องแต่งกายนักกีฬาทีมชาติมาเลเซีย ที่จะไปแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ถูกวิจารณ์ว่าดีไซน์น่าเกลียด ดูราคาถูก ล้าสมัย และไร้แรงบันดาลใจ ทำให้สภาโอลิมปิกมาเลเซีย ตัดสินใจทำเสื้อแจ็กเก็ตลายใหม่เพื่อลดเสียงวิจารณ์

    ส.ค. 2567 - ขบวนพาเหรดเนื่องในวันชาติมาเลเซีย 2024 ผู้คนให้ความสนใจผู้ชายในเครื่องแบบที่เรียกว่า Abang ปีนี้แข่งกันระหว่าง Abang Bomba ของดับเพลิงและกู้ภัย Abang JPJ ของกรมขนส่งทางบก และ Abang Askar จากกองทัพมาเลเซีย

    #Newskit #Viral #Malaysia
    ส่องไวรัลมาเลเซีย 2024 เฟซบุ๊กเพจ MGAG ในมาเลเซียเปิดเผยอินโฟกราฟิกที่ชื่อว่า "2024 Malaysia Meme Calender" รวบรวมประเด็นไวรัลเด่นที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนของประเทศมาเลเซีย จากการสืบค้นของ Newskit พบว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจดังนี้ ม.ค. 2567 - Derrick Gan แฟนบอลทีมชาติมาเลเซีย ประกาศขายรถจักรยานยนต์ 4,500 ริงกิต (ประมาณ 34,000 บาท) เพื่อใช้เดินทางไปเชียร์ฟุตบอลเอเชียนคัพ ที่ประเทศกาตาร์ หลังกลับมา ค่าย Modenas มอบรถจักรยานยนต์คันใหม่ให้เขา ก.พ. 2567 - คลิปหญิงวัย 23 ปีจากอัมปัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ให้สัมภาษณ์ว่าไปเที่ยวไนต์คลับตั้งแต่อายุ 18 ปี กลับบ้านกับผู้ชายถึงสองครั้ง ถูกวิจารณ์ถึงความเหมาะสม ภายหลังอ้างว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น คลิปดังกล่าวมีจุดประสงค์ทางการตลาดเท่านั้น มี.ค. 2567 - ชายชาวจีนที่อาศัยในมาเลเซีย เจ้าของร้านอาหารหมี่โกโล แต่งงานพร้อมกันกับภรรยา 2 คน ที่ทำงานในร้านเดียวกัน ที่เมืองกุชิง รัฐซาราวัก รัฐมนตรีวิจารณ์ว่าผู้ที่มิใช่ชาวมุสลิม ถ้าจดทะเบียนสมรสแล้ว ไม่สามารถมีคู่สมรสหลายคนได้ เม.ย. 2567 - Aliff Aziz นักร้องและนักแสดงชาวสิงคโปร์ ถูกกรมกิจการอิสลาม (JAWI) จับกุมพร้อมกับ Ruhainies Farehah นักแสดงสาว ขณะที่อดีตภรรยา Bella Astillah ชี้ว่า Aliff โกหกเรื่องเมียน้อยถึง 11 ครั้ง ยื่นฟ้องหย่าเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา พ.ค. 2567 - แอดมินเพจร้านอาหารฟาสฟู้ด DarSA Fried Chicken (DFC) ในเมืองราวัง รัฐสลังงอร์ ตอบกลับลูกค้าใช้คำว่า "พวก Type C" ถูกมองว่าเหยียดเชื้อชาติจีนในมาเลเซีย ทางร้านขอโทษและยืนยันว่ายินดีต้อนรับลูกค้าทุกเชื้อชาติและศาสนา มิ.ย. 2567 - เจ้าของร้านขายของชำย่านเซเบอรัง จายา รัฐปีนัง กำราบลูกค้าขี้เมาด้วยคำว่า "One by One Gentleman" ภายหลังพบว่าเจ้าของร้านเคยเป็นครูสอนเทควันโดสายดำมาก่อน ส่วนลูกค้าขี้เมาก็กล่าวว่าตนเองเคยเป็นนักคาราเต้สายดำ ก.ค. 2567 - เครื่องแต่งกายนักกีฬาทีมชาติมาเลเซีย ที่จะไปแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ถูกวิจารณ์ว่าดีไซน์น่าเกลียด ดูราคาถูก ล้าสมัย และไร้แรงบันดาลใจ ทำให้สภาโอลิมปิกมาเลเซีย ตัดสินใจทำเสื้อแจ็กเก็ตลายใหม่เพื่อลดเสียงวิจารณ์ ส.ค. 2567 - ขบวนพาเหรดเนื่องในวันชาติมาเลเซีย 2024 ผู้คนให้ความสนใจผู้ชายในเครื่องแบบที่เรียกว่า Abang ปีนี้แข่งกันระหว่าง Abang Bomba ของดับเพลิงและกู้ภัย Abang JPJ ของกรมขนส่งทางบก และ Abang Askar จากกองทัพมาเลเซีย #Newskit #Viral #Malaysia
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 746 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัยที่ผมยังเด็ก...

    บ้านที่ผมอาศัยอยู่ กับร้านของเตี่ย อยู่ห่างจากกันไม่ไกลนัก ข้างๆร้านของเตี่ย (กรุงเทพอาภรณ์) นั้น เป็นร้านเก่าแก่ของเมืองนครพนม..

    " ร้าน ไทยสามัคคี"

    ครับ ร้านที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองนครพนม ตั้งอยู่หลัง หอนาฬิกา จังหวัดนครพนม ระหว่างถนนสุนทรวิจิตร กับถนนศรีเทพ
    ร้านไทยสามัคคี นั้น มีชื่อจีนกำกับบนป้ายร้าน ว่า "ฮั่วเพ้ง..."

    ร้านนี้ มีหน้าร้าน2ฟากถนนตามที่ได้เอ่ยไปข้างต้น
    ฟากหนึ่งฝั่ง ถนนศรีเทพ จะเป็นร้านอาหารตามสั่ง พูดถึงร้านอาหารตามสั่ง เราๆท่านๆในปัจจุบันอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่สมัยนั้น ร้านอาหารตามสั่งไม่ได้มีดาษดื่นเช่นทุกวันนี้ ผมยังจำได้เสมอว่า ข้าวผัดหมูจานแรกพร้อมพริกนำ้ปลาถ้วยเล็กๆนั้น มันอร่อยเพียงใด...

    แค่เตี่ยบอกว่า"ไปสั่งข้าวร้านข้างๆมากิน!" เท่านั้นแหละครับ เหมือนถูกหวยเลย!ผมจำได้เสมอ ถึงพ่อครัว2คน ที่ผลัดกัน ผัดอาหาร คนหนึ่งชื่อ ยงค์ หรือ ย้ง นี่แหละ!! คนนี้เสียชีวิตไปไม่นาน ...

    ส่วนอีกคนนั้น ผมเรียกตามเตี่ยผมว่า "เฮียอ่าง" ผมมักจะเลือกไปสั่งอาหารตอนเฮียอ่างอยู่หน้าเตา เพราะรู้สึกว่า เฮียอ่างผัดอร่อยกว่า
    ปัจจุบัน เฮียอ่าง ได้มาเปิดร้านขายสลากกินแบ่งรัฐบาล อยู่ถนนเฟื่องนคร ชื่อร้านคือ "โชควิทยา"

    ส่วนอีกฟากถนนสุนทรวิจิตรนั้น จะเป็นส่วนของร้านกาแฟ ร้านกาแฟนี้ ในสมัยเมื่อ 40 ปีที่แล้วนั้น มักจะมี ข้าราชการน้อยใหญ่มานั่งกินกาแฟ ไข่ลวก ทุกๆเช้า ภาพหนึ่งที่เห็นตอนเช้า ควันไฟจากเตาต้มนำ้ร้อนนั้น อ้อยอิ่งกระทบแสงแดดยามเช้า พร้อมกับกลิ่นกาแฟหอมๆที่ลอยมากับลมอ่อนๆ

    ผมมักจะขอตังอาม่าของผมไปซื้อ นมเย็น ที่ร้านประจำ คนชงนั้นถ้าจำไม่ผิด จะเป็นเจ้าของร้านตัวเล็กๆ หวีผมเสยพร้อมนำ้มันใส่ผม เรียบแปร้...

    คนรุ่นผมน่าจะคุ้นเคยกับการชงกาแฟ หรืออะไรก็ตามใส่กระป๋องนม แล้วเอาเชือกฟางร้อยรูบนฝากระป๋อง ซึ่งผมมักจะบอกคนชงว่า "ชงใส่กระป๋องให้ด้วย..."และผมยังคิดถึงหม้อต้มนำ้เพื่อชงกาแฟที่ทำด้วยทองแดง ไม่ก็ทองเหลืองทรงโบราณอยู่เสมอ...

    อีกภาพที่คุ้นตามากๆ สำหรับ "ร้านไทยสามัคคี" คือ หลังหอนาฬิกา จะมีที่นั่ง ทำด้วยหินขัดเป็นแนวยาวสีครีมเข้มๆ ที่นั่งนี้ จะเต็มไปด้วยคนถีบสามล้อ ที่ไปนั่งเฝ้านอนเฝ้า รอฟังผลหวยออก ซึ่งแน่นอน บริเวณนั้นก็จะเต็มไปด้วยรถสามล้อเช่นกัน...

    ระหว่างที่รอฟังหวย นั้น ถ้าหวยออกตัวไหน เจ้าของร้าน ก็จะเอากระดานสังกะสี ของเป๊บซี่ มาเขียนเลขที่ออกด้วยชอล์กสีขาว ออกตัวไหน ก็จะมีเสียงฮือฮา ของสมาคมสามล้อถีบในบริเวณนั้นเป็นระยะๆ จวบจน "หวยออกครบ" แปลว่า สมาคมย่อยๆนั้น ก็สลายไปพร้อมๆ กับเสียงบ่นพึมพำ ที่ค่อยๆจางลง.....
    จางลง.....
    สมัยที่ผมยังเด็ก... บ้านที่ผมอาศัยอยู่ กับร้านของเตี่ย อยู่ห่างจากกันไม่ไกลนัก ข้างๆร้านของเตี่ย (กรุงเทพอาภรณ์) นั้น เป็นร้านเก่าแก่ของเมืองนครพนม.. " ร้าน ไทยสามัคคี" ครับ ร้านที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองนครพนม ตั้งอยู่หลัง หอนาฬิกา จังหวัดนครพนม ระหว่างถนนสุนทรวิจิตร กับถนนศรีเทพ ร้านไทยสามัคคี นั้น มีชื่อจีนกำกับบนป้ายร้าน ว่า "ฮั่วเพ้ง..." ร้านนี้ มีหน้าร้าน2ฟากถนนตามที่ได้เอ่ยไปข้างต้น ฟากหนึ่งฝั่ง ถนนศรีเทพ จะเป็นร้านอาหารตามสั่ง พูดถึงร้านอาหารตามสั่ง เราๆท่านๆในปัจจุบันอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่สมัยนั้น ร้านอาหารตามสั่งไม่ได้มีดาษดื่นเช่นทุกวันนี้ ผมยังจำได้เสมอว่า ข้าวผัดหมูจานแรกพร้อมพริกนำ้ปลาถ้วยเล็กๆนั้น มันอร่อยเพียงใด... แค่เตี่ยบอกว่า"ไปสั่งข้าวร้านข้างๆมากิน!" เท่านั้นแหละครับ เหมือนถูกหวยเลย!ผมจำได้เสมอ ถึงพ่อครัว2คน ที่ผลัดกัน ผัดอาหาร คนหนึ่งชื่อ ยงค์ หรือ ย้ง นี่แหละ!! คนนี้เสียชีวิตไปไม่นาน ... ส่วนอีกคนนั้น ผมเรียกตามเตี่ยผมว่า "เฮียอ่าง" ผมมักจะเลือกไปสั่งอาหารตอนเฮียอ่างอยู่หน้าเตา เพราะรู้สึกว่า เฮียอ่างผัดอร่อยกว่า ปัจจุบัน เฮียอ่าง ได้มาเปิดร้านขายสลากกินแบ่งรัฐบาล อยู่ถนนเฟื่องนคร ชื่อร้านคือ "โชควิทยา" ส่วนอีกฟากถนนสุนทรวิจิตรนั้น จะเป็นส่วนของร้านกาแฟ ร้านกาแฟนี้ ในสมัยเมื่อ 40 ปีที่แล้วนั้น มักจะมี ข้าราชการน้อยใหญ่มานั่งกินกาแฟ ไข่ลวก ทุกๆเช้า ภาพหนึ่งที่เห็นตอนเช้า ควันไฟจากเตาต้มนำ้ร้อนนั้น อ้อยอิ่งกระทบแสงแดดยามเช้า พร้อมกับกลิ่นกาแฟหอมๆที่ลอยมากับลมอ่อนๆ ผมมักจะขอตังอาม่าของผมไปซื้อ นมเย็น ที่ร้านประจำ คนชงนั้นถ้าจำไม่ผิด จะเป็นเจ้าของร้านตัวเล็กๆ หวีผมเสยพร้อมนำ้มันใส่ผม เรียบแปร้... คนรุ่นผมน่าจะคุ้นเคยกับการชงกาแฟ หรืออะไรก็ตามใส่กระป๋องนม แล้วเอาเชือกฟางร้อยรูบนฝากระป๋อง ซึ่งผมมักจะบอกคนชงว่า "ชงใส่กระป๋องให้ด้วย..."และผมยังคิดถึงหม้อต้มนำ้เพื่อชงกาแฟที่ทำด้วยทองแดง ไม่ก็ทองเหลืองทรงโบราณอยู่เสมอ... อีกภาพที่คุ้นตามากๆ สำหรับ "ร้านไทยสามัคคี" คือ หลังหอนาฬิกา จะมีที่นั่ง ทำด้วยหินขัดเป็นแนวยาวสีครีมเข้มๆ ที่นั่งนี้ จะเต็มไปด้วยคนถีบสามล้อ ที่ไปนั่งเฝ้านอนเฝ้า รอฟังผลหวยออก ซึ่งแน่นอน บริเวณนั้นก็จะเต็มไปด้วยรถสามล้อเช่นกัน... ระหว่างที่รอฟังหวย นั้น ถ้าหวยออกตัวไหน เจ้าของร้าน ก็จะเอากระดานสังกะสี ของเป๊บซี่ มาเขียนเลขที่ออกด้วยชอล์กสีขาว ออกตัวไหน ก็จะมีเสียงฮือฮา ของสมาคมสามล้อถีบในบริเวณนั้นเป็นระยะๆ จวบจน "หวยออกครบ" แปลว่า สมาคมย่อยๆนั้น ก็สลายไปพร้อมๆ กับเสียงบ่นพึมพำ ที่ค่อยๆจางลง..... จางลง.....
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวนทิพย์ ร้านอาหารริมน้ำ นนทบุรี เป็นร้านอาหารที่บรรยากาศร่มรื่นสุดๆ มีกลิ่นอายของความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน การจัดจานอาหาร ที่ร้านพิถีพิถันทุกเมนูเลย ทั้งถูกหลักโภชนาการ เน้นใช้สมุนไพรไทย ข่า ตะไคร้ ขิง แถมยังได้มิชลินสตาร์ด้วย แนะนำให้สั่งเมนูเมี่ยงกลีบบัว แกงบอน ยำสวนทิพย์ แกงขี้เหล็ก ได้รสชาติของความเป็นไทยมากๆ

    ⭐ เปิดบริการ วันจันทร์-อาทิตย์ : 11.00-21.00 น.
    🚗 พิกัด https://maps.app.goo.gl/onjT2ULATAXvwahr8

    #ของกินอร่อย #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    สวนทิพย์ ร้านอาหารริมน้ำ นนทบุรี เป็นร้านอาหารที่บรรยากาศร่มรื่นสุดๆ มีกลิ่นอายของความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน การจัดจานอาหาร ที่ร้านพิถีพิถันทุกเมนูเลย ทั้งถูกหลักโภชนาการ เน้นใช้สมุนไพรไทย ข่า ตะไคร้ ขิง แถมยังได้มิชลินสตาร์ด้วย แนะนำให้สั่งเมนูเมี่ยงกลีบบัว แกงบอน ยำสวนทิพย์ แกงขี้เหล็ก ได้รสชาติของความเป็นไทยมากๆ ⭐ เปิดบริการ วันจันทร์-อาทิตย์ : 11.00-21.00 น. 🚗 พิกัด https://maps.app.goo.gl/onjT2ULATAXvwahr8 #ของกินอร่อย #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 803 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ้านท่าน้ำนนท์ ร้านอาหาร ริมน้ำ แถวนนทบุรีที่เสิร์ฟอาหารไทยหน้าตาน่าทาน แต่งจานมาอย่างสวยงามเลย แนะนำเมนูจะเป็น ขนมจีนแกงเขียวหวาน ข้าวเกรียบปากหม้อ เมี่ยงปลาหมึก สาคูและหมูสะเต๊ะ พร้อมกับวิวริมแม่น้ำที่ถ่ายรูปออกมาสวยแน่นอน ใครเป็นสายปิ้งย่างก็มีหมูกระทะให้บริการด้วย

    เปิดบริการ วันจันทร์-ศุกร์ : 11.00-21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 10.20-21.00 น.
    พิกัด https://maps.app.goo.gl/Tpx41qDyEufTY5qN6

    #บ้านท่าน้ำนนท์ #ของกินอร่อย #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    บ้านท่าน้ำนนท์ ร้านอาหาร ริมน้ำ แถวนนทบุรีที่เสิร์ฟอาหารไทยหน้าตาน่าทาน แต่งจานมาอย่างสวยงามเลย แนะนำเมนูจะเป็น ขนมจีนแกงเขียวหวาน ข้าวเกรียบปากหม้อ เมี่ยงปลาหมึก สาคูและหมูสะเต๊ะ พร้อมกับวิวริมแม่น้ำที่ถ่ายรูปออกมาสวยแน่นอน ใครเป็นสายปิ้งย่างก็มีหมูกระทะให้บริการด้วย เปิดบริการ วันจันทร์-ศุกร์ : 11.00-21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 10.20-21.00 น. พิกัด https://maps.app.goo.gl/Tpx41qDyEufTY5qN6 #บ้านท่าน้ำนนท์ #ของกินอร่อย #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 773 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'หมู่บ้านคีรีวงแหล่งโอโซน เมืองนครศรีธรรมราช'
    ที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในเรื่องของบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามเปรียบได้กับแหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังของประเทศเกาหลีใต้อย่าง ซอรัคซานอุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยลำธารและภูเขาเขียวขจีเช่นเดียวกับสถานที่แห่งนี้ที่รายล้อมไปด้วยความงดงามที่เป็นดั่งมนต์สะกดให้พวกเราหลงใหลไปกับความเงียบของเสียงธรรมชาติที่ฟังแล้วเพลิดเพลินไปได้อย่างผ่อนคลายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและอยากมาสูดอากาศโอโซนให้เต็มปอดก็ต้องมาที่นี่เลย

    ชุมชนบ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ในตำบลกำโลน อำเภอลานสกา เป็นชุมชนที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา หนึ่งในนั้นคือเขาหลวง ซึ่งเป็นภูเขาสูงที่สุดในภาคใต้ เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ มีคลองท่าดีเป็นคลองสายหลักที่ไหลผ่านหมู่บ้าน บ้านคีรีวงมีวิถีชีวิตแบบชาวสวน อยู่กับธรรมชาติ อาชีพหลักคือการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประจำปี พ.ศ. 2541 รางวัลชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจากบ้านคีรีวงมีกลุ่มส่งเสริมอาชีพหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มผ้ามัดย้อม กลุ่มทำสบู่จากเปลือกมังคุด กลุ่มทุเรียนกวน กลุ่มมังคุดกวน กลุ่มทำเครื่องประดับลูกปัดโบราณ และได้พัฒนาการบริการนักท่องเที่ยว จัดนำเที่ยวเดินป่าสู่ยอดเขาหลวง มีลูกหาบ โฮมสเตย์ และศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านคีรีวง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของบ้านคีรีวงได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูกาลผลไม้ เดือนกรกฎาคม-กันยายน

    นอกจากนี้ ตามที่พักต่าง ๆ ในหมู่บ้านคีรีวง ส่วนมากมีจักรยานไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวและผู้เข้าพัก เพื่อปั่นเที่ยวชมบรรยากาศและทัศนียภาพรอบหมู่บ้าน ในหมู่บ้านคีรีวงมีจุดเล่นน้ำหลักอยู่ในบริเวณ “หนานหินท่านาหา” ซึ่งบริเวณนั้นมีสะพานแขวนข้ามลำธารเป็นเอกลักษณ์เด่น ทั้งมีร้านอาหารให้บริการอยู่หลายร้าน จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเมื่อเดินทางมาถึงบ้านคีรีวง คือ “สะพานบ้านคีรีวง คลองท่าดี” ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีต ตั้งอยู่ในบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน เป็นจุดที่มองเห็นลำธารที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านโดยมีทิวเขาน้อยใหญ่เป็นฉากหลังสวยงาม
    🤩
    หยุดยาวปีใหม่นี้ เพื่อนอยากชาจแบตร่างกาย สูดโอโซนบริสุทธิ์ให้เต็มปอด แนะนนำ หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราชเลยย
    รับรอง กลับมาฟิตกว่าเดิมแน่นอน 😍

    #เทพชวนเที่ยว
    #หมู่บ้านคีรีวง
    #นครศรีธรรมราช

    'หมู่บ้านคีรีวงแหล่งโอโซน เมืองนครศรีธรรมราช' ที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในเรื่องของบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามเปรียบได้กับแหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังของประเทศเกาหลีใต้อย่าง ซอรัคซานอุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยลำธารและภูเขาเขียวขจีเช่นเดียวกับสถานที่แห่งนี้ที่รายล้อมไปด้วยความงดงามที่เป็นดั่งมนต์สะกดให้พวกเราหลงใหลไปกับความเงียบของเสียงธรรมชาติที่ฟังแล้วเพลิดเพลินไปได้อย่างผ่อนคลายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและอยากมาสูดอากาศโอโซนให้เต็มปอดก็ต้องมาที่นี่เลย ชุมชนบ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ในตำบลกำโลน อำเภอลานสกา เป็นชุมชนที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา หนึ่งในนั้นคือเขาหลวง ซึ่งเป็นภูเขาสูงที่สุดในภาคใต้ เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ มีคลองท่าดีเป็นคลองสายหลักที่ไหลผ่านหมู่บ้าน บ้านคีรีวงมีวิถีชีวิตแบบชาวสวน อยู่กับธรรมชาติ อาชีพหลักคือการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประจำปี พ.ศ. 2541 รางวัลชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจากบ้านคีรีวงมีกลุ่มส่งเสริมอาชีพหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มผ้ามัดย้อม กลุ่มทำสบู่จากเปลือกมังคุด กลุ่มทุเรียนกวน กลุ่มมังคุดกวน กลุ่มทำเครื่องประดับลูกปัดโบราณ และได้พัฒนาการบริการนักท่องเที่ยว จัดนำเที่ยวเดินป่าสู่ยอดเขาหลวง มีลูกหาบ โฮมสเตย์ และศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านคีรีวง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของบ้านคีรีวงได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูกาลผลไม้ เดือนกรกฎาคม-กันยายน นอกจากนี้ ตามที่พักต่าง ๆ ในหมู่บ้านคีรีวง ส่วนมากมีจักรยานไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวและผู้เข้าพัก เพื่อปั่นเที่ยวชมบรรยากาศและทัศนียภาพรอบหมู่บ้าน ในหมู่บ้านคีรีวงมีจุดเล่นน้ำหลักอยู่ในบริเวณ “หนานหินท่านาหา” ซึ่งบริเวณนั้นมีสะพานแขวนข้ามลำธารเป็นเอกลักษณ์เด่น ทั้งมีร้านอาหารให้บริการอยู่หลายร้าน จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเมื่อเดินทางมาถึงบ้านคีรีวง คือ “สะพานบ้านคีรีวง คลองท่าดี” ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีต ตั้งอยู่ในบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน เป็นจุดที่มองเห็นลำธารที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านโดยมีทิวเขาน้อยใหญ่เป็นฉากหลังสวยงาม 🤩 หยุดยาวปีใหม่นี้ เพื่อนอยากชาจแบตร่างกาย สูดโอโซนบริสุทธิ์ให้เต็มปอด แนะนนำ หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราชเลยย รับรอง กลับมาฟิตกว่าเดิมแน่นอน 😍 #เทพชวนเที่ยว #หมู่บ้านคีรีวง #นครศรีธรรมราช
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาะราชา ภูเก็ต ทะเลสวยน้ำใส อย่าให้พลาดกันเลยทีเดียว ชวนมาเที่ยวกันนะจ๊ะ😍

    เป็นหนึ่งในหมู่เกาะทะเลอันดามัน ซึ่ง National Geographic ได้ให้การจัดอันดับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวยที่สุดในไทย อันดับที่ 10 ของโลก มีชื่อเสียงในเรื่องหาดทรายขาวบริสุทธิ์ และน้ำทะเลใสดุจคริสตัล คือ เกาะราชา ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดภูเก็ต ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำตื้นแบบ One Day Trip ได้ตลอดทั้งวัน

    'เกาะราชา' หรือ 'เกาะรายา' เกาะราชาจะแบ่งออกเป็น 2 เกาะ นั่นคือ เกาะราชาใหญ่ และเกาะราชน้อยซึ่งหากจากเกาะราชาใหญ่ไปประมาณ 6 ก.ม. ถือเป็นที่นิยมศุนย์กลางของการท่องเที่ยวเกาะราชาเป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวสะอาด มีหาดทางด้านตะวันตกอยู่ระหว่างหุบเขาเป็นรูปคล้าย เกือกม้าเรียกว่า อ่าวปะตก มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาดลักษณะคล้ายทะเลแถบหมู่เกาะสิมิลันทางใต้ทางใต้ เกาะราชา ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะภูเก็ต ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งเกาะกว่า3,000 ตารางกิโลเมตร มีพื้นราบ และเนินเขาที่มีความสูงไม่มากนัก ชาวบ้านได้เข้าไปทำการจับจอง ที่ดินทำสวนมะพร้าว สวนผลไม้ และอาศัยอยู่ ที่เกาะราชาใหญ่ประมาณ 16 ครอบครัว ส่วนพื้นที่ราบ ที่อยู่ติด ทะเลชาวบ้าน และนักลงทุนได้พัฒนาบางส่วนเป็นที่พัก และร้านอาหารสำหรับรองรับนักท่องเที่ยว.😊

    และแน่นอนว่าบน 'เกาะราชา' ก็ยังมีกิจกรรมให้เลือกทำกันอีกมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ดำน้ำลึก กว่า 15 แห่ง ดำน้ำตื้น ตกปลา ตกหมึก เดินป่าค้างแรม เป็นต้นค่ะ หนึ่งในลิสต์เกาะสวย ของ ภูเก็ต ที่ไม่มาไม่ได้แล้วนะคะ ใครอยากมาแบบเต็มอิ่มแนะนำว่าหาที่พักสวยๆ นอนบนเกาะกันได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากมาเก็บไฮไลท์ก็มาแบบ One Day Trip โดยการซื้อทัวร์จากบริษัทนำเที่ยวได้เลยค่ะ จะมาแบบไหนก็ฟินกับทะเลสวยๆ ของที่นี่ได้ทั้งนั้นเลย.😘

    การเดินทาง ไปยัง เกาะราชา
    ถ้ามาจากภูเก็ตนั้น จะใช้เวลาประมาณ 30 - 45 นาทีเท่านั้นค่ะ โดยสามารถหาซื้อทัวร์แบบ One Day Trip จากบริษัททัวร์ได้เลยค่ะ ซึ่งทัวร์ก็จะออกมาหลายๆ ท่าเรือด้วยกัน ทั้งบริเวณ ท่าเรืออ่าวฉลอง และท่าเรือหาดราไวย์ ค่ะ โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามประเภทของเรือและจำนวนคนค่ะ ส่วนถ้ามานอนแบบค้างคืนนั้นส่วนใหญ่แล้วจะมีเรือจากที่พักให้บริการรับส่งกันเลยครับ

    อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นแล้ว เผื่อเพื่อนๆยังไม่มีโปรแกรมจะไปเที่ยวไหน ขอเชิญที่เกาะราชาเลย รับรองฟิน แน่นวนจ้า

    #เกาะราชา
    #ท่องเที่ยว
    #ภูเก็ต
    #เทพชวนเที่ยว











    เกาะราชา ภูเก็ต ทะเลสวยน้ำใส อย่าให้พลาดกันเลยทีเดียว ชวนมาเที่ยวกันนะจ๊ะ😍 เป็นหนึ่งในหมู่เกาะทะเลอันดามัน ซึ่ง National Geographic ได้ให้การจัดอันดับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวยที่สุดในไทย อันดับที่ 10 ของโลก มีชื่อเสียงในเรื่องหาดทรายขาวบริสุทธิ์ และน้ำทะเลใสดุจคริสตัล คือ เกาะราชา ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดภูเก็ต ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำตื้นแบบ One Day Trip ได้ตลอดทั้งวัน 'เกาะราชา' หรือ 'เกาะรายา' เกาะราชาจะแบ่งออกเป็น 2 เกาะ นั่นคือ เกาะราชาใหญ่ และเกาะราชน้อยซึ่งหากจากเกาะราชาใหญ่ไปประมาณ 6 ก.ม. ถือเป็นที่นิยมศุนย์กลางของการท่องเที่ยวเกาะราชาเป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวสะอาด มีหาดทางด้านตะวันตกอยู่ระหว่างหุบเขาเป็นรูปคล้าย เกือกม้าเรียกว่า อ่าวปะตก มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาดลักษณะคล้ายทะเลแถบหมู่เกาะสิมิลันทางใต้ทางใต้ เกาะราชา ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะภูเก็ต ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งเกาะกว่า3,000 ตารางกิโลเมตร มีพื้นราบ และเนินเขาที่มีความสูงไม่มากนัก ชาวบ้านได้เข้าไปทำการจับจอง ที่ดินทำสวนมะพร้าว สวนผลไม้ และอาศัยอยู่ ที่เกาะราชาใหญ่ประมาณ 16 ครอบครัว ส่วนพื้นที่ราบ ที่อยู่ติด ทะเลชาวบ้าน และนักลงทุนได้พัฒนาบางส่วนเป็นที่พัก และร้านอาหารสำหรับรองรับนักท่องเที่ยว.😊 และแน่นอนว่าบน 'เกาะราชา' ก็ยังมีกิจกรรมให้เลือกทำกันอีกมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ดำน้ำลึก กว่า 15 แห่ง ดำน้ำตื้น ตกปลา ตกหมึก เดินป่าค้างแรม เป็นต้นค่ะ หนึ่งในลิสต์เกาะสวย ของ ภูเก็ต ที่ไม่มาไม่ได้แล้วนะคะ ใครอยากมาแบบเต็มอิ่มแนะนำว่าหาที่พักสวยๆ นอนบนเกาะกันได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากมาเก็บไฮไลท์ก็มาแบบ One Day Trip โดยการซื้อทัวร์จากบริษัทนำเที่ยวได้เลยค่ะ จะมาแบบไหนก็ฟินกับทะเลสวยๆ ของที่นี่ได้ทั้งนั้นเลย.😘 การเดินทาง ไปยัง เกาะราชา ถ้ามาจากภูเก็ตนั้น จะใช้เวลาประมาณ 30 - 45 นาทีเท่านั้นค่ะ โดยสามารถหาซื้อทัวร์แบบ One Day Trip จากบริษัททัวร์ได้เลยค่ะ ซึ่งทัวร์ก็จะออกมาหลายๆ ท่าเรือด้วยกัน ทั้งบริเวณ ท่าเรืออ่าวฉลอง และท่าเรือหาดราไวย์ ค่ะ โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามประเภทของเรือและจำนวนคนค่ะ ส่วนถ้ามานอนแบบค้างคืนนั้นส่วนใหญ่แล้วจะมีเรือจากที่พักให้บริการรับส่งกันเลยครับ อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นแล้ว เผื่อเพื่อนๆยังไม่มีโปรแกรมจะไปเที่ยวไหน ขอเชิญที่เกาะราชาเลย รับรองฟิน แน่นวนจ้า #เกาะราชา #ท่องเที่ยว #ภูเก็ต #เทพชวนเที่ยว
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4 ร้านดังมื้อเช้า ย่านเสาชิงช้า
    1. โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่ Kope Hya Tai Kee since 1952
    ร้านกาแฟที่เปิดบริการย่านเสาชิงช้ามากว่า 70 ปี บรรยากาศสไตล์สภากาแฟของแท้ สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เมนูอาหารหลากหลาย ทั้งเมนูอาหารเช้าสไตล์จีน ไข่ลวก+กาแฟโบราณ หรือชุดเบรกฟาสต์แบบฝรั่ง กับกาแฟสูตรเฉพาะสไตล์ฟิวชั่น

    2. ร้านอาหารมิตรโกหย่วน
    ร้านอาหารสไตล์ไทยจีนไหหลำ ที่เปิดมายาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นับว่าเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกๆ ในประเทศไทยที่ทำเมนูสไตล์ฟิวชั่นรวมกับอาหารฝรั่ง ซึ่งเป็นสูตรที่เจ้าของร้านได้มาจากอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ในช่วงที่กลับมาจากฝรั่งเศสใหม่ๆ เพราะผู้ก่อตั้งร้านเป็นเพื่อนบ้านของอาจารย์ปรีดีตั้งแต่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    3. ข้าวหมูแดงนายชุน
    ข้าวหมูแดงที่ผ่านกรรมวิธีย่างด้วยเตาถ่านแบบโบราณ และน้ำราดที่เคี่ยวด้วยกลิ่นสมุนไพรจีน คาดเป็นร้านข้าวหมูแดงเจ้าแรกๆ ในเขตพระนคร และยังครองใจขายมาจนถึงทุกวันนี้ ใครที่อยากลิ้มรสข้าวหมูแดงแบบออริจินัลห้ามพลาด

    4. ข้าวหน้าไก่ร้านแซ่พุ้น Poon Cuisine
    ต้นตำรับข้าวหน้าไก่เปิดร้านมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 รวมเป็นเวลากว่า 90 ปี มีเมนูบะหมี่หน้าไก่ เกี๊ยวกุ้งตัวโตๆ และซี่โครงหมูตุ๋น ที่ผ่านกรรมวิธีตุ๋นมาจนเปื่อย พร้อมเสิร์ฟกับน้ำสมุนไพรจีน อิ่มอร่อยจบมื้อในราคาเบาๆ

    #ร้านอาหารดัง #เสาชิงช้า #อาหารเช้า #Thaitimes


    4 ร้านดังมื้อเช้า ย่านเสาชิงช้า 1. โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่ Kope Hya Tai Kee since 1952 ร้านกาแฟที่เปิดบริการย่านเสาชิงช้ามากว่า 70 ปี บรรยากาศสไตล์สภากาแฟของแท้ สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เมนูอาหารหลากหลาย ทั้งเมนูอาหารเช้าสไตล์จีน ไข่ลวก+กาแฟโบราณ หรือชุดเบรกฟาสต์แบบฝรั่ง กับกาแฟสูตรเฉพาะสไตล์ฟิวชั่น 2. ร้านอาหารมิตรโกหย่วน ร้านอาหารสไตล์ไทยจีนไหหลำ ที่เปิดมายาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นับว่าเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกๆ ในประเทศไทยที่ทำเมนูสไตล์ฟิวชั่นรวมกับอาหารฝรั่ง ซึ่งเป็นสูตรที่เจ้าของร้านได้มาจากอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ในช่วงที่กลับมาจากฝรั่งเศสใหม่ๆ เพราะผู้ก่อตั้งร้านเป็นเพื่อนบ้านของอาจารย์ปรีดีตั้งแต่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3. ข้าวหมูแดงนายชุน ข้าวหมูแดงที่ผ่านกรรมวิธีย่างด้วยเตาถ่านแบบโบราณ และน้ำราดที่เคี่ยวด้วยกลิ่นสมุนไพรจีน คาดเป็นร้านข้าวหมูแดงเจ้าแรกๆ ในเขตพระนคร และยังครองใจขายมาจนถึงทุกวันนี้ ใครที่อยากลิ้มรสข้าวหมูแดงแบบออริจินัลห้ามพลาด 4. ข้าวหน้าไก่ร้านแซ่พุ้น Poon Cuisine ต้นตำรับข้าวหน้าไก่เปิดร้านมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 รวมเป็นเวลากว่า 90 ปี มีเมนูบะหมี่หน้าไก่ เกี๊ยวกุ้งตัวโตๆ และซี่โครงหมูตุ๋น ที่ผ่านกรรมวิธีตุ๋นมาจนเปื่อย พร้อมเสิร์ฟกับน้ำสมุนไพรจีน อิ่มอร่อยจบมื้อในราคาเบาๆ #ร้านอาหารดัง #เสาชิงช้า #อาหารเช้า #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 652 มุมมอง 0 รีวิว
  • สตาร์บัคส์ปลดซีอีโอ นายลักษมัน นาราซิมฮาน (Laxman Narasimhan )ออกจากตำแหน่งมีผลทันที แล้วแต่งตั้งคนใหม่ Brian Niccol ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Chipotle เชนร้านอาหารเม็กซิโกซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของเครือยักษ์ใหญ่ร้านกาแฟแห่งนี้ในวันที่ 9 กันยายน เพราะยอดขายของ Starbucks ตกต่ำสุดในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องมาจากผลงานการตลาดและยอดขายที่หดตัวลงมากในสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสองแห่ง

    14 สิงหาคม 2567 -รายงานข่าวcnbc ระบุว่า บริษัทสตาร์บัคส์ ประกาศเมื่อเช้าวันอังคารนี้แถลงการณ์ปลดนายลักษมัน นาราซิมฮาน (Laxman Narasimhan )ออกจากตำแหน่งซีอีโอ โดยมีผลทันที แล้วแต่งตั้งนายไบรอัน นิโคล Brian Niccol ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Chipotle เชนร้านอาหารเม็กซิโก เข้ารับตำแหน่งซีอีโอสตาร์บัคส์ในวันที่ 9 กันยายนนี้

    นาย ลักษมัน นาราซิมฮาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ ซึ่งเตรียมจะลาออกในสองสัปดาห์ข้างหน้า แต่มาโดนไล่ออกทันที หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสที่น่าผิดหวังส่งผลให้ทั้งกำไรและรายรับพลาดเป้าจากที่นักวิเคราะห์ Wall Street คาดการณ์ไว้ นับตั้งแต่รายงานผลประกอบการออกมา หุ้นของบริษัทได้ร่วงลง 17% ลากมูลค่าตลาดลงมาอยู่ที่ 8.28 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท)

    นักวิเคราะห์ต่างประหลาดใจกับผลงานที่ต่ำกว่าคาดของเชนกาแฟรายนี้ และพยายามหาคำอธิบายว่า ทำไมลูกค้าชาวอเมริกันลดการสั่งซื้อของ Starbucks ถึง 7% ในไตรมาสล่าสุด Sara Senatore นักวิเคราะห์จาก Bank of America Securities ระบุว่า อาจเป็นกระแสตีกลับบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับจุดยืนของ Starbucks ต่อความขัดแย้งในสงครามฉนวนกาซาตะวันออกกลาง

    หลังจากข่าวปลด ลักษมัน นาราซิมฮาน หุ้นสตาร์บัคส์ราคาพุ่งขึ้น20% แต่ของบริษัท Chipotleตก10% จากการประกาศลาออกของ Brian Niccol

    สำหรับ Laxman Narasimhan เป็นชาวอินเดีย จบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกล และเรียนต่อบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านภาษาเยอรมัน และการศึกษาระหว่างประเทศ

    ประวัติทำงานบริหารเคยทำงานที่บริษัทแมคคินซีย์ และเป๊ปซี่โค และเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของ Reckitt Benckiser เจ้าของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด Dettol ก่อนที่จะลาออกในเดือนกันยายน 2022 และเริ่มดำรงตำแหน่ง CEO ของสตาร์บัคส์ในวันที่ 1 เมษายน 2023 เป็นต้นมา ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนอย่างมาก เพราะ Narasimhan ยังไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจร้านกาแฟมาก่อน แต่ถือว่ามีความสามารถพูดได้หลายภาษา ได้แก่ อังกฤษ, เยอรมัน, อินเดีย และสเปน และเขายังได้เข้าไปทำงานร่วมกับพนักงานในสาขากว่า 30 แห่ง เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์การเป็นบาริสต้า โดยเมนูที่เขาชอบมากที่สุดคือ Doppio Espresso Macchiato แต่ต่อมา สตาร์บัคส์ได้ฟ้องร้องกล่าวหาว่าสหภาพแรงงานแสดง “การสนับสนุนความรุนแรงที่ก่อขึ้นโดยฮามาส” และอ้างว่าการฟ้องร้องมีความจำเป็นเพื่อปกป้องตนเองจากการใช้ชื่อและโลโก้โดยไม่ได้รับอนุญาต ท่ามกลางข่าวการสนับสนุนทางการเงินทางอ้อมสำหรับอิสราเอล ผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางรายของ Starbucks ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในบริษัทการทหารที่มีความสัมพันธ์กับอิสราเอลอีกด้วย ทำให้ลูกค้าบางส่วนมีการคว่ำบาตรสตาร์บัคส์

    #Thaitimes
    สตาร์บัคส์ปลดซีอีโอ นายลักษมัน นาราซิมฮาน (Laxman Narasimhan )ออกจากตำแหน่งมีผลทันที แล้วแต่งตั้งคนใหม่ Brian Niccol ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Chipotle เชนร้านอาหารเม็กซิโกซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของเครือยักษ์ใหญ่ร้านกาแฟแห่งนี้ในวันที่ 9 กันยายน เพราะยอดขายของ Starbucks ตกต่ำสุดในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องมาจากผลงานการตลาดและยอดขายที่หดตัวลงมากในสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสองแห่ง 14 สิงหาคม 2567 -รายงานข่าวcnbc ระบุว่า บริษัทสตาร์บัคส์ ประกาศเมื่อเช้าวันอังคารนี้แถลงการณ์ปลดนายลักษมัน นาราซิมฮาน (Laxman Narasimhan )ออกจากตำแหน่งซีอีโอ โดยมีผลทันที แล้วแต่งตั้งนายไบรอัน นิโคล Brian Niccol ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Chipotle เชนร้านอาหารเม็กซิโก เข้ารับตำแหน่งซีอีโอสตาร์บัคส์ในวันที่ 9 กันยายนนี้ นาย ลักษมัน นาราซิมฮาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ ซึ่งเตรียมจะลาออกในสองสัปดาห์ข้างหน้า แต่มาโดนไล่ออกทันที หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสที่น่าผิดหวังส่งผลให้ทั้งกำไรและรายรับพลาดเป้าจากที่นักวิเคราะห์ Wall Street คาดการณ์ไว้ นับตั้งแต่รายงานผลประกอบการออกมา หุ้นของบริษัทได้ร่วงลง 17% ลากมูลค่าตลาดลงมาอยู่ที่ 8.28 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท) นักวิเคราะห์ต่างประหลาดใจกับผลงานที่ต่ำกว่าคาดของเชนกาแฟรายนี้ และพยายามหาคำอธิบายว่า ทำไมลูกค้าชาวอเมริกันลดการสั่งซื้อของ Starbucks ถึง 7% ในไตรมาสล่าสุด Sara Senatore นักวิเคราะห์จาก Bank of America Securities ระบุว่า อาจเป็นกระแสตีกลับบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับจุดยืนของ Starbucks ต่อความขัดแย้งในสงครามฉนวนกาซาตะวันออกกลาง หลังจากข่าวปลด ลักษมัน นาราซิมฮาน หุ้นสตาร์บัคส์ราคาพุ่งขึ้น20% แต่ของบริษัท Chipotleตก10% จากการประกาศลาออกของ Brian Niccol สำหรับ Laxman Narasimhan เป็นชาวอินเดีย จบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกล และเรียนต่อบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านภาษาเยอรมัน และการศึกษาระหว่างประเทศ ประวัติทำงานบริหารเคยทำงานที่บริษัทแมคคินซีย์ และเป๊ปซี่โค และเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของ Reckitt Benckiser เจ้าของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด Dettol ก่อนที่จะลาออกในเดือนกันยายน 2022 และเริ่มดำรงตำแหน่ง CEO ของสตาร์บัคส์ในวันที่ 1 เมษายน 2023 เป็นต้นมา ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนอย่างมาก เพราะ Narasimhan ยังไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจร้านกาแฟมาก่อน แต่ถือว่ามีความสามารถพูดได้หลายภาษา ได้แก่ อังกฤษ, เยอรมัน, อินเดีย และสเปน และเขายังได้เข้าไปทำงานร่วมกับพนักงานในสาขากว่า 30 แห่ง เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์การเป็นบาริสต้า โดยเมนูที่เขาชอบมากที่สุดคือ Doppio Espresso Macchiato แต่ต่อมา สตาร์บัคส์ได้ฟ้องร้องกล่าวหาว่าสหภาพแรงงานแสดง “การสนับสนุนความรุนแรงที่ก่อขึ้นโดยฮามาส” และอ้างว่าการฟ้องร้องมีความจำเป็นเพื่อปกป้องตนเองจากการใช้ชื่อและโลโก้โดยไม่ได้รับอนุญาต ท่ามกลางข่าวการสนับสนุนทางการเงินทางอ้อมสำหรับอิสราเอล ผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางรายของ Starbucks ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในบริษัทการทหารที่มีความสัมพันธ์กับอิสราเอลอีกด้วย ทำให้ลูกค้าบางส่วนมีการคว่ำบาตรสตาร์บัคส์ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 584 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรงงานจีนเปิดใหม่พื้นที่ระยอง พนักงานจีน แม่บ้านคนจีน ขนส่งจีน ร้านอาหารจีน หมู่บ้านคนจีน เยี่ยมจริงๆไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    โรงงานจีนเปิดใหม่พื้นที่ระยอง พนักงานจีน แม่บ้านคนจีน ขนส่งจีน ร้านอาหารจีน หมู่บ้านคนจีน เยี่ยมจริงๆไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts