• ชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ
    .
    คุณชูวิทย์เขาเล่าให้ผมฟังว่า ชีวิตเขาถูกหลอกใช้มาตลอด เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น เขาถูกคนที่ชื่อ สุชาติ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของคีรี บอกว่าจะเอาเรื่องการคอร์รัปชันไหม เขามีข้อมูลให้พร้อม ก็เลยเอาข้อมูลมาให้ชูวิทย์ นั่นคือที่มาของการโจมตี ช.การช่าง และการคอร์รัปชัน รวมไปจนถึงการมีงานโอนเงินค่าคอมมิชันไปที่สิงคโปร์ เป็นฝีมือที่มาจากคนที่ให้ข่าวเขาทั้งสิ้น “แล้วมันก็ทิ้งผมไป หลังจากใช้ผมได้เรียบร้อยแล้ว”
    .
    เขาค่อนข้างเจ็บช้ำน้ำใจมากหลายๆเรื่อง โดนฟ้องอยู่หลายคดี สันธนะ ประยูรรัตน์ก็ฟ้องเขา และที่สำคัญคือเรื่องเขากระโดง เขาก็โดนฟ้องที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์
    .
    ผมไม่ได้อยู่ในสถานภาพที่จะพูดอะไรในเรื่องนี้ได้ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่า คนที่อยู่ในสภาพอย่างชูวิทย์ คนที่เป็นเจ้าทุกข์ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกคุณจะทำบุญทำกุศลกัน เพราะคุณชูวิทย์เขาอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตแล้ว
    .
    ความแค้นไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณมีความสุขหรอก ณ วันนี้ ถ้าคุณจะทำไปเพื่อล้างแค้นที่ชูวิทย์เขาว่าอะไรคุณ ก็เชิญตามสบาย คนเรามันจะแค้นอะไรกันนักกันหนา หรือทั้งคุณเนวิน และคุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไม่ยอมรับว่าชีวิตคุณเองก็มีการทำผิดพลาดเยอะมากพอสมควร อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่คุณชูวิทย์พูดเรื่องเขากระโดงก็เป็นความจริง
    .
    ผมสงสารและเห็นใจเขา เขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรนะ ไม่ได้เรียกร้องคุณศักดิ์สยามและคุณเนวิน คุณคงอยากให้คุณชูวิทย์คลานเข้าไปแล้วกราบเท้าคุณใช่ไหม ซึ่งถ้าเขาทำผิดกฎหมายเพราะเขาไปหมิ่นประมาทคุณ อันนั้นคือกฎหมาย แต่ที่อยู่เหนือกฎหมาย คือคุณธรรม ความเห็นอกเห็นใจ คุณจะเรียกว่าความเวทนาก็ได้ ที่คุณชูวิทย์เขาเจ็บไข้ได้ป่วยหนักขนาดนี้ ที่สามารถจะตายได้ทุกเมื่อ ตรงนี้ต่างหากที่มันอยู่เหนือกฎหมาย นั่นคือความเป็นมนุษย์
    .
    คุณชูวิทย์อาจจะพูดอะไร แล้วคุณเจ็บใจแค้นใจมาก ผมเข้าใจดี รวมไปถึงคุณสันธนะด้วย ขนาดคุณชูวิทย์นั่งข้างๆ คุณ แล้วมาขอโทษคุณบนเก้าอี้รถเข็น ใจคอคุณบอกยังไม่ให้ ผมไม่รู้ว่าจิตใจพวกคุณทั้งหลายทำด้วยอะไร
    .
    สำหรับผมแล้ว ชูวิทย์เป็นคนที่มีคุณูปการต่อสังคม การทำงานของชูวิทย์นั้น จะดีจะชั่วก็ยังดีกว่านักการเมืองเลวๆ บางคนที่เอาอำนาจทางการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ ยึดที่ดินของรัฐเข้าไปเป็นของครอบครัวตัวเอง ผมว่าชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ พวกนั้นอีก

    ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ

    #Thaitimes
    ชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ . คุณชูวิทย์เขาเล่าให้ผมฟังว่า ชีวิตเขาถูกหลอกใช้มาตลอด เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น เขาถูกคนที่ชื่อ สุชาติ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของคีรี บอกว่าจะเอาเรื่องการคอร์รัปชันไหม เขามีข้อมูลให้พร้อม ก็เลยเอาข้อมูลมาให้ชูวิทย์ นั่นคือที่มาของการโจมตี ช.การช่าง และการคอร์รัปชัน รวมไปจนถึงการมีงานโอนเงินค่าคอมมิชันไปที่สิงคโปร์ เป็นฝีมือที่มาจากคนที่ให้ข่าวเขาทั้งสิ้น “แล้วมันก็ทิ้งผมไป หลังจากใช้ผมได้เรียบร้อยแล้ว” . เขาค่อนข้างเจ็บช้ำน้ำใจมากหลายๆเรื่อง โดนฟ้องอยู่หลายคดี สันธนะ ประยูรรัตน์ก็ฟ้องเขา และที่สำคัญคือเรื่องเขากระโดง เขาก็โดนฟ้องที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ . ผมไม่ได้อยู่ในสถานภาพที่จะพูดอะไรในเรื่องนี้ได้ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่า คนที่อยู่ในสภาพอย่างชูวิทย์ คนที่เป็นเจ้าทุกข์ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกคุณจะทำบุญทำกุศลกัน เพราะคุณชูวิทย์เขาอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตแล้ว . ความแค้นไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณมีความสุขหรอก ณ วันนี้ ถ้าคุณจะทำไปเพื่อล้างแค้นที่ชูวิทย์เขาว่าอะไรคุณ ก็เชิญตามสบาย คนเรามันจะแค้นอะไรกันนักกันหนา หรือทั้งคุณเนวิน และคุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไม่ยอมรับว่าชีวิตคุณเองก็มีการทำผิดพลาดเยอะมากพอสมควร อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่คุณชูวิทย์พูดเรื่องเขากระโดงก็เป็นความจริง . ผมสงสารและเห็นใจเขา เขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรนะ ไม่ได้เรียกร้องคุณศักดิ์สยามและคุณเนวิน คุณคงอยากให้คุณชูวิทย์คลานเข้าไปแล้วกราบเท้าคุณใช่ไหม ซึ่งถ้าเขาทำผิดกฎหมายเพราะเขาไปหมิ่นประมาทคุณ อันนั้นคือกฎหมาย แต่ที่อยู่เหนือกฎหมาย คือคุณธรรม ความเห็นอกเห็นใจ คุณจะเรียกว่าความเวทนาก็ได้ ที่คุณชูวิทย์เขาเจ็บไข้ได้ป่วยหนักขนาดนี้ ที่สามารถจะตายได้ทุกเมื่อ ตรงนี้ต่างหากที่มันอยู่เหนือกฎหมาย นั่นคือความเป็นมนุษย์ . คุณชูวิทย์อาจจะพูดอะไร แล้วคุณเจ็บใจแค้นใจมาก ผมเข้าใจดี รวมไปถึงคุณสันธนะด้วย ขนาดคุณชูวิทย์นั่งข้างๆ คุณ แล้วมาขอโทษคุณบนเก้าอี้รถเข็น ใจคอคุณบอกยังไม่ให้ ผมไม่รู้ว่าจิตใจพวกคุณทั้งหลายทำด้วยอะไร . สำหรับผมแล้ว ชูวิทย์เป็นคนที่มีคุณูปการต่อสังคม การทำงานของชูวิทย์นั้น จะดีจะชั่วก็ยังดีกว่านักการเมืองเลวๆ บางคนที่เอาอำนาจทางการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ ยึดที่ดินของรัฐเข้าไปเป็นของครอบครัวตัวเอง ผมว่าชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ พวกนั้นอีก ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 585 Views 0 Reviews
  • ศาลทุจริตฯรับไต่สวนคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช.จงใจปกปิดสอบสวนสำนวนคดี ‘นาฬิกาเพื่อน’
    .
    อังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งให้รับคดีคุณวีระ สมความคิด ที่ฟ้อง ป.ป.ช. ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 95/2567 ลงวันที่ 22 ตุลาคม ในคำสั่งระบุว่า ตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาทุจริตภาค 1 ฟ้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ 2559 มาตรา 15 จึงเห็นควรรับฟ้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง
    .
    กรณี "แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน" ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งแต่ปี 2561 ว่าคดีเรื่องการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน หนี้สิน ข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงนั้น ป.ป.ช. มีมติว่าไม่มีมูลเพียงพอ สร้างแรงสั่นสะเทือนและข้อกังขาให้ผู้คนในสังคมวงกว้าง
    .
    จนกระทั่ง "นักร้องระดับชาติ" คุณวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นเรื่องให้มีการเปิดเผยสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว แต่ ป.ป.ช. ไม่ยอมให้เสียที แม้กระทั่งมีคำสั่งศาลปกครองแล้ว ศาลสั่งปรับก็แล้ว องค์กร ป.ป.ช. ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กับนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่เกษียณแล้วทั้งคู่ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ยังใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆจงใจปกปิดข้อมูล
    .
    กรณีนี้เนื่องจากคุณวีระ สมความคิด เป็นผู้เสียหายโดยตรงอย่างชัดเจน เพราะมีคำสั่งศาลมาแล้วในหลายครั้ง กรณีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงต้องรับไว้ไต่สวนมูลฟ้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    .
    อย่างไรก็ตาม คุณวีระ ก็มีข้อจำกัด คือต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งศาลให้ได้ภายใน 7 วัน คือภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 คุณวีระ ต้องรวบรวมเอกสารส่งศาลให้ครบถ้วน ซึ่งเวลาก็รวบรัดมาก คดีนี้พวกเรามาให้กำลังใจคุณวีระ กันหน่อยครับ ถือว่าเป็นคดีที่คุณวีระ สุ่มเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตอย่างมาก เพราะถ้าคุณวีระตายคนเดียว อีก 12 คน ก็จะรอด แต่ถ้าคุณวีระรอด อีก 12 คน ก็อาจจะตายแทนก็ได้ครับ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iXeVUMagHP8Ewo9T/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ศาลทุจริตฯรับไต่สวนคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช.จงใจปกปิดสอบสวนสำนวนคดี ‘นาฬิกาเพื่อน’ . อังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งให้รับคดีคุณวีระ สมความคิด ที่ฟ้อง ป.ป.ช. ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 95/2567 ลงวันที่ 22 ตุลาคม ในคำสั่งระบุว่า ตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาทุจริตภาค 1 ฟ้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ 2559 มาตรา 15 จึงเห็นควรรับฟ้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง . กรณี "แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน" ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งแต่ปี 2561 ว่าคดีเรื่องการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน หนี้สิน ข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงนั้น ป.ป.ช. มีมติว่าไม่มีมูลเพียงพอ สร้างแรงสั่นสะเทือนและข้อกังขาให้ผู้คนในสังคมวงกว้าง . จนกระทั่ง "นักร้องระดับชาติ" คุณวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นเรื่องให้มีการเปิดเผยสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว แต่ ป.ป.ช. ไม่ยอมให้เสียที แม้กระทั่งมีคำสั่งศาลปกครองแล้ว ศาลสั่งปรับก็แล้ว องค์กร ป.ป.ช. ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กับนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่เกษียณแล้วทั้งคู่ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ยังใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆจงใจปกปิดข้อมูล . กรณีนี้เนื่องจากคุณวีระ สมความคิด เป็นผู้เสียหายโดยตรงอย่างชัดเจน เพราะมีคำสั่งศาลมาแล้วในหลายครั้ง กรณีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงต้องรับไว้ไต่สวนมูลฟ้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ . อย่างไรก็ตาม คุณวีระ ก็มีข้อจำกัด คือต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งศาลให้ได้ภายใน 7 วัน คือภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 คุณวีระ ต้องรวบรวมเอกสารส่งศาลให้ครบถ้วน ซึ่งเวลาก็รวบรัดมาก คดีนี้พวกเรามาให้กำลังใจคุณวีระ กันหน่อยครับ ถือว่าเป็นคดีที่คุณวีระ สุ่มเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตอย่างมาก เพราะถ้าคุณวีระตายคนเดียว อีก 12 คน ก็จะรอด แต่ถ้าคุณวีระรอด อีก 12 คน ก็อาจจะตายแทนก็ได้ครับ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iXeVUMagHP8Ewo9T/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 618 Views 0 Reviews
  • ศาลทุจริตฯรับไต่สวนคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช.จงใจปกปิดสอบสวนสำนวนคดี ‘นาฬิกาเพื่อน’
    .
    อังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งให้รับคดีคุณวีระ สมความคิด ที่ฟ้อง ป.ป.ช. ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 95/2567 ลงวันที่ 22 ตุลาคม ในคำสั่งระบุว่า ตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาทุจริตภาค 1 ฟ้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ 2559 มาตรา 15 จึงเห็นควรรับฟ้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง
    .
    กรณี "แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน" ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งแต่ปี 2561 ว่าคดีเรื่องการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน หนี้สิน ข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงนั้น ป.ป.ช. มีมติว่าไม่มีมูลเพียงพอ สร้างแรงสั่นสะเทือนและข้อกังขาให้ผู้คนในสังคมวงกว้าง
    .
    จนกระทั่ง "นักร้องระดับชาติ" คุณวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นเรื่องให้มีการเปิดเผยสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว แต่ ป.ป.ช. ไม่ยอมให้เสียที แม้กระทั่งมีคำสั่งศาลปกครองแล้ว ศาลสั่งปรับก็แล้ว องค์กร ป.ป.ช. ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กับนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่เกษียณแล้วทั้งคู่ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ยังใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆจงใจปกปิดข้อมูล
    .
    กรณีนี้เนื่องจากคุณวีระ สมความคิด เป็นผู้เสียหายโดยตรงอย่างชัดเจน เพราะมีคำสั่งศาลมาแล้วในหลายครั้ง กรณีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงต้องรับไว้ไต่สวนมูลฟ้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    .
    อย่างไรก็ตาม คุณวีระ ก็มีข้อจำกัด คือต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งศาลให้ได้ภายใน 7 วัน คือภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 คุณวีระ ต้องรวบรวมเอกสารส่งศาลให้ครบถ้วน ซึ่งเวลาก็รวบรัดมาก คดีนี้พวกเรามาให้กำลังใจคุณวีระ กันหน่อยครับ ถือว่าเป็นคดีที่คุณวีระ สุ่มเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตอย่างมาก เพราะถ้าคุณวีระตายคนเดียว อีก 12 คน ก็จะรอด แต่ถ้าคุณวีระรอด อีก 12 คน ก็อาจจะตายแทนก็ได้ครับ
    ศาลทุจริตฯรับไต่สวนคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช.จงใจปกปิดสอบสวนสำนวนคดี ‘นาฬิกาเพื่อน’ . อังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งให้รับคดีคุณวีระ สมความคิด ที่ฟ้อง ป.ป.ช. ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 95/2567 ลงวันที่ 22 ตุลาคม ในคำสั่งระบุว่า ตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาทุจริตภาค 1 ฟ้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ 2559 มาตรา 15 จึงเห็นควรรับฟ้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง . กรณี "แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน" ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งแต่ปี 2561 ว่าคดีเรื่องการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน หนี้สิน ข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงนั้น ป.ป.ช. มีมติว่าไม่มีมูลเพียงพอ สร้างแรงสั่นสะเทือนและข้อกังขาให้ผู้คนในสังคมวงกว้าง . จนกระทั่ง "นักร้องระดับชาติ" คุณวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นเรื่องให้มีการเปิดเผยสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว แต่ ป.ป.ช. ไม่ยอมให้เสียที แม้กระทั่งมีคำสั่งศาลปกครองแล้ว ศาลสั่งปรับก็แล้ว องค์กร ป.ป.ช. ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กับนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่เกษียณแล้วทั้งคู่ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ยังใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆจงใจปกปิดข้อมูล . กรณีนี้เนื่องจากคุณวีระ สมความคิด เป็นผู้เสียหายโดยตรงอย่างชัดเจน เพราะมีคำสั่งศาลมาแล้วในหลายครั้ง กรณีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงต้องรับไว้ไต่สวนมูลฟ้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ . อย่างไรก็ตาม คุณวีระ ก็มีข้อจำกัด คือต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งศาลให้ได้ภายใน 7 วัน คือภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 คุณวีระ ต้องรวบรวมเอกสารส่งศาลให้ครบถ้วน ซึ่งเวลาก็รวบรัดมาก คดีนี้พวกเรามาให้กำลังใจคุณวีระ กันหน่อยครับ ถือว่าเป็นคดีที่คุณวีระ สุ่มเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตอย่างมาก เพราะถ้าคุณวีระตายคนเดียว อีก 12 คน ก็จะรอด แต่ถ้าคุณวีระรอด อีก 12 คน ก็อาจจะตายแทนก็ได้ครับ
    Like
    8
    0 Comments 0 Shares 886 Views 0 Reviews
  • 23 ตุลาคม 2567-นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ ออกบทความเรื่องล่าสุด "ยุบพรรคเพื่อไทย??? : ความชอบธรรมและความเป็นไปได้ทางกฎหมาย" ในลักษณะถาม-ตอบ มีเนื้อหาว่า

    ถาม ทำไมจะไปยุบพรรคเพื่อไทยโดยอ้างว่าถูกทักษิณครอบงำ ก็เขาเป็นคนตั้งพรรค
    รวมผู้คนมาตั้งแต่แรก แล้วใจคอจะไม่ให้ฟังกันบ้างเลยหรืออย่างไร
    ตอบ ทักษิณถูกจำคุกตามคำพิพากษาคดีคอร์รัปชัน สิ้นสิทธิทางการเมืองเป็นคนนอกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เขาจะพูดจะแนะนำอะไร คณะกรรมการพรรคก็ยังรับฟังได้กฎหมายไม่ห้าม แต่ต้องไม่ถึงขั้นถูกครอบงำถึงขนาดขาดอิสระ ทักษิณชี้นกเป็นไม้ ก็ยอมหมด อย่างนี้กฎหมายรับไม่ได้

    ถาม แล้วมันผิดที่ตรงไหน ที่ไปฟังทักษิณ
    ตอบ พรรคการเมืองมีตัวตนอยู่ที่ “ความคิด” ประชาธิปไตยเสนอกันที่ความคิด เมื่อความคิดใครชนะคนนั้นต้องเป็นคนทำ รัฐธรรมนูญไทยเอาจริงถึงขั้นบังคับให้ สส.ต้องสังกัดพรรค และพรรคต้องเสนอชื่อนายกฯไว้ล่วงหน้าเลย
    เมื่อพรรคคือ “ความคิด” พรรคจึงต้องคิดเองตัดสินใจเอง จะเป็นแค่หุ่นเชิดของคนนอกพรรคไม่ได้ ถ้ายอมให้เชิดกันอย่างนี้ได้ ประชาธิปไตยในพรรคก็พลอยจะสิ้นความหมายไปด้วย

    ถาม กกต.ต้องพิสูจน์อะไรให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นบ้าง ว่าพรรคเพื่อไทยถูกทักษิณครอบงำ
    ตอบ อะไรที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการพรรค ถ้าพิสูจน์ว่าทักษิณสั่งได้ ก็โดนหมดล่ะครับ ทั้งการกำหนดนโยบายทางการเมือง, การตั้งคณะกรรมการบริหาร,การคัดเลือกส่งคนลงสมัคร สส., การเข้าร่วมรัฐบาล, การเลือกผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี, การเสนอร่างกฎหมาย เหล่านี้ล้วนเกิดเป็นเรื่องกล่าวหาได้ทั้งนั้น

    ถาม แล้วชัดเจนถึงขนาดไหนล่ะครับ ถึงจะฟังได้ว่าเป็นการ “ครอบงำ” ผมเห็นคนพรรคเพื่อไทยเขาท้าทายว่า มีพยานหลักฐานชัดเจนไหมว่า เมื่อวันนั้นวันนี้ ทักษิณสั่งนายโน้นนายนี้ใหทำอย่างนั้นอย่างนี้
    ตอบ นี่ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นคดีคุ้มครองประชาธิปไตยในบ้านเมือง ถ้าพรรคใดยอมตนเป็นหุ่นให้อิทธิพลทุจริต เราก็ต้องยุบพรรคนั้น ถ้าพยานหลักฐานมันแวดล้อมให้เชื่อได้เช่นนั้น ทั้งตั้งลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคโดยไม่มีที่มาที่ไปทางคุณสมบัติ ทั้งเรื่องที่ทักษิณโผล่หน้ามาชี้แจงนโยบายพรรคต่อคนทั้งประเทศ ทั้งเรื่องมีบทบาทคัดคนลงสมัคร นายก อบจ.หรือ สส.สั่งเปลี่ยนโผให้เป็นโน้นคนนี้ หรือแม้กระทั่งเรียกทุกพรรคมาประชุมจันทร์ส่องหล้า แล้วตกลงตั้งรัฐบาลในสูตรเดิม ทั้งหมดนี้ ถ้าคุณเป็นศาลรัฐธรรมนูญ คุณว่ามันพอหรือไม่ ที่จะตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ใต้บงการของคนชื่อทักษิณ

    ถาม ถ้ามองเป็นเรื่องบงการกันอย่างนี้ การที่พรรคร่วมรัฐบาลแห่ไปพบทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วตกลงร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยต่อไปเหมือนเดิม ก็ไม่ใช่เรื่องต้องถูกยุบพรรคใช่ไหมครับ
    ตอบ ถูกต้องครับ พรรคเหล่านี้เขาแค่ไปคุยแล้วตกลงกับทักษิณว่าเราจะรักษาสูตรรัฐบาลไว้ต่อไปเท่านั้นหรือไม่ นี่เป็นเริ่องไปเจรจาตกลง ไม่ใช่เรื่องอยู่ใต้บงการทักษิณแต่อย่างใด
    คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า ความผิดมันไม่ใช่อยู่ที่เห็นตรงกับทักษิณ หรือไปคุยกับทักษิณ แต่มันอยู่ตรงที่ความสัมพันธ์ทางอำนาจว่ามีพรรคไหนไปอยู่ใต้บงการเขาหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลใดนอกจากเพื่อไทยเท่านั้น ที่มีปัญหาว่าไปเป็นขี้ข้าเขาแบบนั้นหรือไม่

    ถาม แล้ว กกต. ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเพื่อไทยเลยได้ไหมครับ ข้างพรรคเพื่อไทยจะเถียงอะไรก็ให้ไปว่ากันในศาล
    ตอบ งานนี้เป็นเรื่องชี้ขาดกันด้วยพยานแวดล้อม ถ้าพยานหลักฐานแต่ละเรื่องมันล้อมเข้ามาจนชัดเจน และรู้กันทั่วไป เพียงเท่านี้ กกต.ก็ฟ้องได้แล้วครับว่า แต่ละพฤติการณ์ประกอบกันเข้ามาให้เชื่อได้แล้วว่า ทักษิณคือผู้ครอบครองพรรคเพื่อไทย

    ถาม เห็น รองนายกฯภูมิธรรม เขาบอกว่าไม่น่ามาร้องเรียนอะไรกันเลย รัฐบาลลุยจนเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นอยู่แล้ว
    ตอบ ฟื้นจริงไหม? ฟื้นเพื่อใคร? มีใครที่ครอบงำพรรคแล้วรอเสวยประโยชน์อยู่โดยทุจริตหรือไม่ ทั้งเรื่อง สัมปทานบ่อน และ เจรจาพื้นที่ทับซ้อนกับเขมร?
    ตรงนี้เป็นปัญหาความสะอาด ความเลว ความชั่ว ในระบบรัฐบาล ที่ต้องเคลียร์ให้ได้ชัดเจนจริงๆ
    เศรษฐกิจมันฟื้นจากพื้นฐานที่สกปรกไม่ได้ รู้จักมียางอายกันบ้างเถิดครับ

    https://www.thaipost.net/hi-light/677990/

    #Thaitimes
    23 ตุลาคม 2567-นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ ออกบทความเรื่องล่าสุด "ยุบพรรคเพื่อไทย??? : ความชอบธรรมและความเป็นไปได้ทางกฎหมาย" ในลักษณะถาม-ตอบ มีเนื้อหาว่า ถาม ทำไมจะไปยุบพรรคเพื่อไทยโดยอ้างว่าถูกทักษิณครอบงำ ก็เขาเป็นคนตั้งพรรค รวมผู้คนมาตั้งแต่แรก แล้วใจคอจะไม่ให้ฟังกันบ้างเลยหรืออย่างไร ตอบ ทักษิณถูกจำคุกตามคำพิพากษาคดีคอร์รัปชัน สิ้นสิทธิทางการเมืองเป็นคนนอกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เขาจะพูดจะแนะนำอะไร คณะกรรมการพรรคก็ยังรับฟังได้กฎหมายไม่ห้าม แต่ต้องไม่ถึงขั้นถูกครอบงำถึงขนาดขาดอิสระ ทักษิณชี้นกเป็นไม้ ก็ยอมหมด อย่างนี้กฎหมายรับไม่ได้ ถาม แล้วมันผิดที่ตรงไหน ที่ไปฟังทักษิณ ตอบ พรรคการเมืองมีตัวตนอยู่ที่ “ความคิด” ประชาธิปไตยเสนอกันที่ความคิด เมื่อความคิดใครชนะคนนั้นต้องเป็นคนทำ รัฐธรรมนูญไทยเอาจริงถึงขั้นบังคับให้ สส.ต้องสังกัดพรรค และพรรคต้องเสนอชื่อนายกฯไว้ล่วงหน้าเลย เมื่อพรรคคือ “ความคิด” พรรคจึงต้องคิดเองตัดสินใจเอง จะเป็นแค่หุ่นเชิดของคนนอกพรรคไม่ได้ ถ้ายอมให้เชิดกันอย่างนี้ได้ ประชาธิปไตยในพรรคก็พลอยจะสิ้นความหมายไปด้วย ถาม กกต.ต้องพิสูจน์อะไรให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นบ้าง ว่าพรรคเพื่อไทยถูกทักษิณครอบงำ ตอบ อะไรที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการพรรค ถ้าพิสูจน์ว่าทักษิณสั่งได้ ก็โดนหมดล่ะครับ ทั้งการกำหนดนโยบายทางการเมือง, การตั้งคณะกรรมการบริหาร,การคัดเลือกส่งคนลงสมัคร สส., การเข้าร่วมรัฐบาล, การเลือกผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี, การเสนอร่างกฎหมาย เหล่านี้ล้วนเกิดเป็นเรื่องกล่าวหาได้ทั้งนั้น ถาม แล้วชัดเจนถึงขนาดไหนล่ะครับ ถึงจะฟังได้ว่าเป็นการ “ครอบงำ” ผมเห็นคนพรรคเพื่อไทยเขาท้าทายว่า มีพยานหลักฐานชัดเจนไหมว่า เมื่อวันนั้นวันนี้ ทักษิณสั่งนายโน้นนายนี้ใหทำอย่างนั้นอย่างนี้ ตอบ นี่ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นคดีคุ้มครองประชาธิปไตยในบ้านเมือง ถ้าพรรคใดยอมตนเป็นหุ่นให้อิทธิพลทุจริต เราก็ต้องยุบพรรคนั้น ถ้าพยานหลักฐานมันแวดล้อมให้เชื่อได้เช่นนั้น ทั้งตั้งลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคโดยไม่มีที่มาที่ไปทางคุณสมบัติ ทั้งเรื่องที่ทักษิณโผล่หน้ามาชี้แจงนโยบายพรรคต่อคนทั้งประเทศ ทั้งเรื่องมีบทบาทคัดคนลงสมัคร นายก อบจ.หรือ สส.สั่งเปลี่ยนโผให้เป็นโน้นคนนี้ หรือแม้กระทั่งเรียกทุกพรรคมาประชุมจันทร์ส่องหล้า แล้วตกลงตั้งรัฐบาลในสูตรเดิม ทั้งหมดนี้ ถ้าคุณเป็นศาลรัฐธรรมนูญ คุณว่ามันพอหรือไม่ ที่จะตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ใต้บงการของคนชื่อทักษิณ ถาม ถ้ามองเป็นเรื่องบงการกันอย่างนี้ การที่พรรคร่วมรัฐบาลแห่ไปพบทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วตกลงร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยต่อไปเหมือนเดิม ก็ไม่ใช่เรื่องต้องถูกยุบพรรคใช่ไหมครับ ตอบ ถูกต้องครับ พรรคเหล่านี้เขาแค่ไปคุยแล้วตกลงกับทักษิณว่าเราจะรักษาสูตรรัฐบาลไว้ต่อไปเท่านั้นหรือไม่ นี่เป็นเริ่องไปเจรจาตกลง ไม่ใช่เรื่องอยู่ใต้บงการทักษิณแต่อย่างใด คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า ความผิดมันไม่ใช่อยู่ที่เห็นตรงกับทักษิณ หรือไปคุยกับทักษิณ แต่มันอยู่ตรงที่ความสัมพันธ์ทางอำนาจว่ามีพรรคไหนไปอยู่ใต้บงการเขาหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลใดนอกจากเพื่อไทยเท่านั้น ที่มีปัญหาว่าไปเป็นขี้ข้าเขาแบบนั้นหรือไม่ ถาม แล้ว กกต. ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเพื่อไทยเลยได้ไหมครับ ข้างพรรคเพื่อไทยจะเถียงอะไรก็ให้ไปว่ากันในศาล ตอบ งานนี้เป็นเรื่องชี้ขาดกันด้วยพยานแวดล้อม ถ้าพยานหลักฐานแต่ละเรื่องมันล้อมเข้ามาจนชัดเจน และรู้กันทั่วไป เพียงเท่านี้ กกต.ก็ฟ้องได้แล้วครับว่า แต่ละพฤติการณ์ประกอบกันเข้ามาให้เชื่อได้แล้วว่า ทักษิณคือผู้ครอบครองพรรคเพื่อไทย ถาม เห็น รองนายกฯภูมิธรรม เขาบอกว่าไม่น่ามาร้องเรียนอะไรกันเลย รัฐบาลลุยจนเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นอยู่แล้ว ตอบ ฟื้นจริงไหม? ฟื้นเพื่อใคร? มีใครที่ครอบงำพรรคแล้วรอเสวยประโยชน์อยู่โดยทุจริตหรือไม่ ทั้งเรื่อง สัมปทานบ่อน และ เจรจาพื้นที่ทับซ้อนกับเขมร? ตรงนี้เป็นปัญหาความสะอาด ความเลว ความชั่ว ในระบบรัฐบาล ที่ต้องเคลียร์ให้ได้ชัดเจนจริงๆ เศรษฐกิจมันฟื้นจากพื้นฐานที่สกปรกไม่ได้ รู้จักมียางอายกันบ้างเถิดครับ https://www.thaipost.net/hi-light/677990/ #Thaitimes
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 528 Views 0 Reviews
  • มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ประกอบด้วย

    1. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ์ อัยการอาวุโส เป็นประธานกรรมการ
    2.พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ
    3. นายนิรันต์ ยั่งยืน รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน เป็นกรรมการ
    4.นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (น.ส.จิราพร สินธุไพร) เป็นกรรมการ
    5. พ.ต.ต.จตุพล บงกชมาศ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกรรมการ
    6. นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นกรรมการ
    7. นายปวริศ ผุดผ่อง คณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการ
    8 นายวิสุทธิ์ ฉัตรานุฉัตร ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบกลาง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เลขานุการ

    โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้
    ข้อ 1.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเชิญผู้บริหาร พนักงานเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน
    คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือให้ข้อเท็จจริงและมีอำนาจ
    เรียกเอกสารใด ๆ จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือหน่วยงานใด ๆ เพื่อประกอบ
    การพิจารณา และให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะต่อรองนายกรัฐมนตรี
    (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
    ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้ออกคำสั่ง ในกรณีจำเป็นรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง)
    อาจมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาออกไปได้อีกตามที่เห็นสมควร
    ข้อ 2.คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ รวมทั้งผู้ช่วยเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อพิจารณาศึกษาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้

    ข้อ 3.ให้คณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ได้รับเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักนายกรัฐมนตรี
    ข้อ 4 ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายชาติพงษ์ จีระพันธุ ถูกตั้งขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เคยเป็นอดีตรองอัยการสูงสุด มีชื่อเสียงเรื่องปราบการทุจริตคอร์รัปชัน มีประสบการณ์มากมาย เคยเป็นรองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ ,เเละอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าคณะทำงานที่คุมคดีสำคัญของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี ,คดีนิติบุคคล ฟิลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งขณะนี้มีกรณีพิพาท ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฟิลิปปินส์ ในเรื่องนี้ที่องค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ,คดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเกี่ยวพันถึงคดีทุจริตฟอกเงินเครือข่ายวัดธรรมกาย ,คดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ,คดีทุจริตการฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ,เคยเป็นกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องคดีลูกนักธุรกิจชื่อดังขับรถชนคนตาย

    ล่าสุดช่วงที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีเคย มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีการเข้าค้นบ้านพักอดีตรองผบ.ตร.ด้วย

    #Thaitimes
    มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ประกอบด้วย 1. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ์ อัยการอาวุโส เป็นประธานกรรมการ 2.พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ 3. นายนิรันต์ ยั่งยืน รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน เป็นกรรมการ 4.นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (น.ส.จิราพร สินธุไพร) เป็นกรรมการ 5. พ.ต.ต.จตุพล บงกชมาศ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกรรมการ 6. นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นกรรมการ 7. นายปวริศ ผุดผ่อง คณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการ 8 นายวิสุทธิ์ ฉัตรานุฉัตร ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบกลาง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เลขานุการ โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้ ข้อ 1.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเชิญผู้บริหาร พนักงานเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือให้ข้อเท็จจริงและมีอำนาจ เรียกเอกสารใด ๆ จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือหน่วยงานใด ๆ เพื่อประกอบ การพิจารณา และให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะต่อรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้ออกคำสั่ง ในกรณีจำเป็นรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) อาจมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาออกไปได้อีกตามที่เห็นสมควร ข้อ 2.คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ รวมทั้งผู้ช่วยเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อพิจารณาศึกษาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้ ข้อ 3.ให้คณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ได้รับเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักนายกรัฐมนตรี ข้อ 4 ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายชาติพงษ์ จีระพันธุ ถูกตั้งขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เคยเป็นอดีตรองอัยการสูงสุด มีชื่อเสียงเรื่องปราบการทุจริตคอร์รัปชัน มีประสบการณ์มากมาย เคยเป็นรองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ ,เเละอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าคณะทำงานที่คุมคดีสำคัญของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี ,คดีนิติบุคคล ฟิลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งขณะนี้มีกรณีพิพาท ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฟิลิปปินส์ ในเรื่องนี้ที่องค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ,คดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเกี่ยวพันถึงคดีทุจริตฟอกเงินเครือข่ายวัดธรรมกาย ,คดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ,คดีทุจริตการฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ,เคยเป็นกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องคดีลูกนักธุรกิจชื่อดังขับรถชนคนตาย ล่าสุดช่วงที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีเคย มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีการเข้าค้นบ้านพักอดีตรองผบ.ตร.ด้วย #Thaitimes
    สำนักนายกฯ ตั้ง ‘ชาติพงษ์’ อดีตรอง อสส.นั่ง ปธ.สอบข้อเท็จจริงคดี ‘ดิไอคอน’ จ่ายส่วยเทวดาเป็นค่าคุ้มครอง มีอำนาจเรียกสอบ-เอกสาร จาก สคบ.หน่วยงานเกี่ยวข้อง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000099909

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 385 Views 0 Reviews
  • โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง……“จากสนธิ ลิ้มทองกุล ถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์"
    .
    ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" เมื่อวันพุธที่2ตุลาคมที่ผ่านมา ผมพูดจาโดยตรงกับท่านนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ที่ท่านพูดโอดครวญว่าทำงานยังไม่ถึงเดือนเลย ผมจะมาไล่ท่านแล้วหรือ ท่านใช้ความเป็นเด็ก ความน่าสงสาร ทำให้ตัวท่านเหมือนกับถูกผู้ใหญ่อย่างผมรังแก ฟังเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้รังแกอะไรเขา เขาทำตัวเขาเองทั้งสิ้น
    .
    ท่านนายกฯ แพทองธารครับ ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องใช้สติปัญญาในการพิจารณาข้อความ เรื่องราวต่างๆ ของท่าน ท่านอย่าไปเที่ยวให้นักข่าวถามท่าน หรือว่าให้คนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี
    .
    ในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ผมบอกว่าผมจะทำ 3 เรื่อง -เรื่องแรกที่ผมจะทำก็คือว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ผมจะไปยื่นขอความเป็นธรรมกับกรณีที่ผมโดนลอบสังหาร เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 โดนยิง 200 นัด บาดเจ็บสาหัส จากวันนั้นถึงวันนี้คดีความไม่ไปไหนเลย
    .
    -เรื่องที่สอง เรื่องปริมาณพม่าลี้ภัยเข้ามาในเมืองไทยเยอะเหลือเกิน สมุทรปราการ มหาชัย แม่สอดกลายเป็นเมืองพม่า พม่าเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการหลายกิจการ อันนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ พรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แห่ง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงมหาดไทย แล้วเรามีพรรคการเมือง คือ พรรคประชาชน (พม่า) หนุนหลังพวกลี้ภัยพม่าพวกนี้ทั้งหมดเลย นี่คือความเป็นห่วงที่ผมมีอยู่ นั่นคือจดหมายคำร้องเรียนเรื่องที่สองที่จะตามไป
    .
    เรื่องสุดท้ายผมบอกว่าผมจะติดตามการทำงานของท่านนายกฯ แพทองธารตลอดเวลา แล้วถ้าท่านทำถูกต้อง ผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขายชาติ ขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กับเขมร ซึ่งท่านนายกฯ แพทองธารก็ต้องรู้ว่า ตระกูล "ชินวัตร" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อของท่าน มีความสนิทสนมกับสมเด็จฮุน เซน มาก
    .
    ตรงนี้ถ้าท่านนายกฯ ไม่ลงมาจัดการหรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมเบ็ดเสร็จ รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่า ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านนายกฯ
    .
    แต่ถ้าท่านยังรักพ่อมากกว่ารักชาติ ซึ่งเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่ประหลาดใจ ทิศทางมันน่าจะไปทางด้านนั้น แต่ผมบอกท่านนายกฯแล้วหลายเรื่องนะ การคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใสในการทำงาน ความที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมที่ควรจะได้รับ เหมือนผมโดนยิงไปแล้ว 12 ปี ไม่ได้รับความยุติธรรม ผมกำลังจะทดสอบท่านว่าท่านจะหาความยุติธรรมให้ผมได้หรือเปล่า มีที่ไหน โดนลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม 200 นัด 12 ปีแล้ว เรื่องราวไม่ได้ไปไหนเลย
    .
    แต่ที่สำคัญที่สุด นอกเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ท่านต้องไม่ขายชาติ ท่านต้องไม่ยกแผ่นดินเกาะกูดให้กับเขมร เพื่อแลกกับสิทธิในการขุดน้ำมันด้วยกัน พื้นที่ทับซ้อนในทะเลเขมรยอมรับว่าที่นี้เป็นที่ของไทย ไม่รุกเข้ามา เมื่อยอมรับแล้ว การเจรจาเพื่อที่จะลงทุนร่วมกันในที่นั้นย่อมเป็นไปได้ ถูกไหมท่านนายกฯ แต่ไม่ใช่มาตัดให้เขมรเพื่อให้เขมรมีสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ผมจะยอมให้ไม่ได้
    โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง……“จากสนธิ ลิ้มทองกุล ถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์" . ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" เมื่อวันพุธที่2ตุลาคมที่ผ่านมา ผมพูดจาโดยตรงกับท่านนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ที่ท่านพูดโอดครวญว่าทำงานยังไม่ถึงเดือนเลย ผมจะมาไล่ท่านแล้วหรือ ท่านใช้ความเป็นเด็ก ความน่าสงสาร ทำให้ตัวท่านเหมือนกับถูกผู้ใหญ่อย่างผมรังแก ฟังเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้รังแกอะไรเขา เขาทำตัวเขาเองทั้งสิ้น . ท่านนายกฯ แพทองธารครับ ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องใช้สติปัญญาในการพิจารณาข้อความ เรื่องราวต่างๆ ของท่าน ท่านอย่าไปเที่ยวให้นักข่าวถามท่าน หรือว่าให้คนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี . ในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ผมบอกว่าผมจะทำ 3 เรื่อง -เรื่องแรกที่ผมจะทำก็คือว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ผมจะไปยื่นขอความเป็นธรรมกับกรณีที่ผมโดนลอบสังหาร เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 โดนยิง 200 นัด บาดเจ็บสาหัส จากวันนั้นถึงวันนี้คดีความไม่ไปไหนเลย . -เรื่องที่สอง เรื่องปริมาณพม่าลี้ภัยเข้ามาในเมืองไทยเยอะเหลือเกิน สมุทรปราการ มหาชัย แม่สอดกลายเป็นเมืองพม่า พม่าเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการหลายกิจการ อันนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ พรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แห่ง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงมหาดไทย แล้วเรามีพรรคการเมือง คือ พรรคประชาชน (พม่า) หนุนหลังพวกลี้ภัยพม่าพวกนี้ทั้งหมดเลย นี่คือความเป็นห่วงที่ผมมีอยู่ นั่นคือจดหมายคำร้องเรียนเรื่องที่สองที่จะตามไป . เรื่องสุดท้ายผมบอกว่าผมจะติดตามการทำงานของท่านนายกฯ แพทองธารตลอดเวลา แล้วถ้าท่านทำถูกต้อง ผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขายชาติ ขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กับเขมร ซึ่งท่านนายกฯ แพทองธารก็ต้องรู้ว่า ตระกูล "ชินวัตร" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อของท่าน มีความสนิทสนมกับสมเด็จฮุน เซน มาก . ตรงนี้ถ้าท่านนายกฯ ไม่ลงมาจัดการหรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมเบ็ดเสร็จ รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่า ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านนายกฯ . แต่ถ้าท่านยังรักพ่อมากกว่ารักชาติ ซึ่งเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่ประหลาดใจ ทิศทางมันน่าจะไปทางด้านนั้น แต่ผมบอกท่านนายกฯแล้วหลายเรื่องนะ การคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใสในการทำงาน ความที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมที่ควรจะได้รับ เหมือนผมโดนยิงไปแล้ว 12 ปี ไม่ได้รับความยุติธรรม ผมกำลังจะทดสอบท่านว่าท่านจะหาความยุติธรรมให้ผมได้หรือเปล่า มีที่ไหน โดนลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม 200 นัด 12 ปีแล้ว เรื่องราวไม่ได้ไปไหนเลย . แต่ที่สำคัญที่สุด นอกเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ท่านต้องไม่ขายชาติ ท่านต้องไม่ยกแผ่นดินเกาะกูดให้กับเขมร เพื่อแลกกับสิทธิในการขุดน้ำมันด้วยกัน พื้นที่ทับซ้อนในทะเลเขมรยอมรับว่าที่นี้เป็นที่ของไทย ไม่รุกเข้ามา เมื่อยอมรับแล้ว การเจรจาเพื่อที่จะลงทุนร่วมกันในที่นั้นย่อมเป็นไปได้ ถูกไหมท่านนายกฯ แต่ไม่ใช่มาตัดให้เขมรเพื่อให้เขมรมีสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ผมจะยอมให้ไม่ได้
    Like
    Love
    25
    0 Comments 1 Shares 2010 Views 0 Reviews
  • วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย!
    บทพิสูจน์รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ทำงานไม่เป็น
    .
    ผมมองว่ารัฐบาลชุดนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์นั้นทำงานไม่เป็นเลย ในการแก้วิกฤตแห่งชาติ คนเราถ้าทำงานเป็น ไม่ต้องลงไปถามประชาชนว่าเดือดร้อนไหม เขาเดือดร้อนแน่นอน
    .
    นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนสั่ง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนที่ท่านจะไปทะเลาะกับผู้ว่าฯ เชียงรายที่อีกไม่กี่วันจะเกษียณอายุแล้ว ไม่สนใจเลยว่าปัญหาของตัวเองต้องแก้อย่างไร ต้องสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครีบไปจัดตั้งไฟฟ้าชั่วคราวให้ทุกคนได้ใช้
    .
    ที่สำคัญที่สุด บ้านหลังไหนมีโคลนเข้าไปเต็มที่ เยอะแยะไปหมด ซ่อมไม่ได้หรอก ต้องทิ้งไป และตรงนี้คือการตัดสินใจที่ต้องเด็ดขาดของนายกฯ ต้องทำ ต้องสำรวจทันทีเลย จัดงบประมาณ 3 แสนบาทต่อบ้าน ให้เขาไปเลย เอาไปสร้างบ้านใหม่ ถ้ายังไม่พอที่จะสร้างใหม่ ก็ให้ธนาคารกรุงไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย คุณผยง ต้องลงไปพร้อมนายกฯ
    .
    คนที่แม่สายไม่มีอาหารสดกินเลย ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขนอาหารสดไปให้เขากินได้ ตั้งเตารวมขึ้นมา แจกอาหารให้ทุกคน วันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทำกันไปเลย เอางบประมาณใส่เข้ามา ไม่ต้องไปรอ
    .
    แค่นี้เอง นักการเมืองคอร์รัปชันกันเป็นแสนล้าน เงินแค่นี้ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้หรืออย่างไร ใช้เงินไม่เท่าไรหรอก จะมีกี่ที่เองที่น้ำท่วมแล้วดินไหลมากองเป็นเมตรๆ ที่หนักๆ มีแค่แม่สาย เพราะแม่สายเป็นเขตเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้แม่สายเปิดได้เร็วเท่าไร ยิ่งดี เศรษฐกิจจะได้กลับมาหมุนเวียน
    วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย! บทพิสูจน์รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ทำงานไม่เป็น . ผมมองว่ารัฐบาลชุดนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์นั้นทำงานไม่เป็นเลย ในการแก้วิกฤตแห่งชาติ คนเราถ้าทำงานเป็น ไม่ต้องลงไปถามประชาชนว่าเดือดร้อนไหม เขาเดือดร้อนแน่นอน . นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนสั่ง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนที่ท่านจะไปทะเลาะกับผู้ว่าฯ เชียงรายที่อีกไม่กี่วันจะเกษียณอายุแล้ว ไม่สนใจเลยว่าปัญหาของตัวเองต้องแก้อย่างไร ต้องสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครีบไปจัดตั้งไฟฟ้าชั่วคราวให้ทุกคนได้ใช้ . ที่สำคัญที่สุด บ้านหลังไหนมีโคลนเข้าไปเต็มที่ เยอะแยะไปหมด ซ่อมไม่ได้หรอก ต้องทิ้งไป และตรงนี้คือการตัดสินใจที่ต้องเด็ดขาดของนายกฯ ต้องทำ ต้องสำรวจทันทีเลย จัดงบประมาณ 3 แสนบาทต่อบ้าน ให้เขาไปเลย เอาไปสร้างบ้านใหม่ ถ้ายังไม่พอที่จะสร้างใหม่ ก็ให้ธนาคารกรุงไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย คุณผยง ต้องลงไปพร้อมนายกฯ . คนที่แม่สายไม่มีอาหารสดกินเลย ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขนอาหารสดไปให้เขากินได้ ตั้งเตารวมขึ้นมา แจกอาหารให้ทุกคน วันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทำกันไปเลย เอางบประมาณใส่เข้ามา ไม่ต้องไปรอ . แค่นี้เอง นักการเมืองคอร์รัปชันกันเป็นแสนล้าน เงินแค่นี้ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้หรืออย่างไร ใช้เงินไม่เท่าไรหรอก จะมีกี่ที่เองที่น้ำท่วมแล้วดินไหลมากองเป็นเมตรๆ ที่หนักๆ มีแค่แม่สาย เพราะแม่สายเป็นเขตเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้แม่สายเปิดได้เร็วเท่าไร ยิ่งดี เศรษฐกิจจะได้กลับมาหมุนเวียน
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 879 Views 0 Reviews
  • วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย!
    บทพิสูจน์รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ทำงานไม่เป็น
    .
    ผมมองว่ารัฐบาลชุดนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์นั้นทำงานไม่เป็นเลย ในการแก้วิกฤตแห่งชาติ คนเราถ้าทำงานเป็น ไม่ต้องลงไปถามประชาชนว่าเดือดร้อนไหม เขาเดือดร้อนแน่นอน
    .
    นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนสั่ง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนที่ท่านจะไปทะเลาะกับผู้ว่าฯ เชียงรายที่อีกไม่กี่วันจะเกษียณอายุแล้ว ไม่สนใจเลยว่าปัญหาของตัวเองต้องแก้อย่างไร ต้องสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครีบไปจัดตั้งไฟฟ้าชั่วคราวให้ทุกคนได้ใช้
    .
    ที่สำคัญที่สุด บ้านหลังไหนมีโคลนเข้าไปเต็มที่ เยอะแยะไปหมด ซ่อมไม่ได้หรอก ต้องทิ้งไป และตรงนี้คือการตัดสินใจที่ต้องเด็ดขาดของนายกฯ ต้องทำ ต้องสำรวจทันทีเลย จัดงบประมาณ 3 แสนบาทต่อบ้าน ให้เขาไปเลย เอาไปสร้างบ้านใหม่ ถ้ายังไม่พอที่จะสร้างใหม่ ก็ให้ธนาคารกรุงไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย คุณผยง ต้องลงไปพร้อมนายกฯ
    .
    คนที่แม่สายไม่มีอาหารสดกินเลย ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขนอาหารสดไปให้เขากินได้ ตั้งเตารวมขึ้นมา แจกอาหารให้ทุกคน วันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทำกันไปเลย เอางบประมาณใส่เข้ามา ไม่ต้องไปรอ
    .
    แค่นี้เอง นักการเมืองคอร์รัปชันกันเป็นแสนล้าน เงินแค่นี้ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้หรืออย่างไร ใช้เงินไม่เท่าไรหรอก จะมีกี่ที่เองที่น้ำท่วมแล้วดินไหลมากองเป็นเมตรๆ ที่หนักๆ มีแค่แม่สาย เพราะแม่สายเป็นเขตเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้แม่สายเปิดได้เร็วเท่าไร ยิ่งดี เศรษฐกิจจะได้กลับมาหมุนเวียน
    วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย! บทพิสูจน์รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ทำงานไม่เป็น . ผมมองว่ารัฐบาลชุดนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์นั้นทำงานไม่เป็นเลย ในการแก้วิกฤตแห่งชาติ คนเราถ้าทำงานเป็น ไม่ต้องลงไปถามประชาชนว่าเดือดร้อนไหม เขาเดือดร้อนแน่นอน . นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนสั่ง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนที่ท่านจะไปทะเลาะกับผู้ว่าฯ เชียงรายที่อีกไม่กี่วันจะเกษียณอายุแล้ว ไม่สนใจเลยว่าปัญหาของตัวเองต้องแก้อย่างไร ต้องสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครีบไปจัดตั้งไฟฟ้าชั่วคราวให้ทุกคนได้ใช้ . ที่สำคัญที่สุด บ้านหลังไหนมีโคลนเข้าไปเต็มที่ เยอะแยะไปหมด ซ่อมไม่ได้หรอก ต้องทิ้งไป และตรงนี้คือการตัดสินใจที่ต้องเด็ดขาดของนายกฯ ต้องทำ ต้องสำรวจทันทีเลย จัดงบประมาณ 3 แสนบาทต่อบ้าน ให้เขาไปเลย เอาไปสร้างบ้านใหม่ ถ้ายังไม่พอที่จะสร้างใหม่ ก็ให้ธนาคารกรุงไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย คุณผยง ต้องลงไปพร้อมนายกฯ . คนที่แม่สายไม่มีอาหารสดกินเลย ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขนอาหารสดไปให้เขากินได้ ตั้งเตารวมขึ้นมา แจกอาหารให้ทุกคน วันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทำกันไปเลย เอางบประมาณใส่เข้ามา ไม่ต้องไปรอ . แค่นี้เอง นักการเมืองคอร์รัปชันกันเป็นแสนล้าน เงินแค่นี้ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้หรืออย่างไร ใช้เงินไม่เท่าไรหรอก จะมีกี่ที่เองที่น้ำท่วมแล้วดินไหลมากองเป็นเมตรๆ ที่หนักๆ มีแค่แม่สาย เพราะแม่สายเป็นเขตเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้แม่สายเปิดได้เร็วเท่าไร ยิ่งดี เศรษฐกิจจะได้กลับมาหมุนเวียน
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 877 Views 0 Reviews
  • จะต้องอีกกี่ครั้งนะประเทศนี้ ในชีวิตข้าพเจ้าตั้งแต่เด็กจนผ่านมาค่อนชีวิตแล้ว เห็นข่าวทำนองนี้มานับไม่ถ้วน ช่วงหนึ่งมีรถโรงเรียนประสบอุบัติเหตุถี่มาก และข่าวรถไฟลุกท่วมก็บ่อย ไม่นานก็ถูกลืม รอจนเกิดเหตุครั้งใหม่ก็ครึกโครมสักพัก ประเดี๋ยวก็ค่อย ๆ เงียบไปอีก

    เพราะองคาพยพทุกภาคส่วนในประเทศนี้มันพิกลพิการ คอร์รัปชันในทุกระดับตั้งแต่ตัวเล็กที่อยู่ล่างไปจนตัวใหญ่ที่อยู่สูงขึ้นไป ทั้งพลเมือง ทั้งข้าราชการ ทั้งนักการเมือง จึงไม่เคยที่จะแก้ปัญหาใดในสังคมได้อย่างเที่ยงแท้ถาวร

    มีแต่ตั้งคณะทำงานขึ้นมา ประชุมอยู่นั่นแล้ว แต่ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรได้

    #thaitimes
    #อุบัติเหตุ
    #วิภาวดี
    #ไฟไหม้รถบัส
    #ทัศนศึกษา
    #เด็กอนุบาล
    #รันทดหดหู่
    #เซียร์รังสิต

    จะต้องอีกกี่ครั้งนะประเทศนี้ ในชีวิตข้าพเจ้าตั้งแต่เด็กจนผ่านมาค่อนชีวิตแล้ว เห็นข่าวทำนองนี้มานับไม่ถ้วน ช่วงหนึ่งมีรถโรงเรียนประสบอุบัติเหตุถี่มาก และข่าวรถไฟลุกท่วมก็บ่อย ไม่นานก็ถูกลืม รอจนเกิดเหตุครั้งใหม่ก็ครึกโครมสักพัก ประเดี๋ยวก็ค่อย ๆ เงียบไปอีก เพราะองคาพยพทุกภาคส่วนในประเทศนี้มันพิกลพิการ คอร์รัปชันในทุกระดับตั้งแต่ตัวเล็กที่อยู่ล่างไปจนตัวใหญ่ที่อยู่สูงขึ้นไป ทั้งพลเมือง ทั้งข้าราชการ ทั้งนักการเมือง จึงไม่เคยที่จะแก้ปัญหาใดในสังคมได้อย่างเที่ยงแท้ถาวร มีแต่ตั้งคณะทำงานขึ้นมา ประชุมอยู่นั่นแล้ว แต่ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรได้ #thaitimes #อุบัติเหตุ #วิภาวดี #ไฟไหม้รถบัส #ทัศนศึกษา #เด็กอนุบาล #รันทดหดหู่ #เซียร์รังสิต
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 435 Views 0 Reviews
  • 🔥🔥3 แสนล้านบาท/ปี
    คือตัวเลขเม็ดเงิน นอกจีดีพี หรือนอกเศรษฐกิจไทย
    ที่ประชาชน ชาวบ้าน ห้างร้าน ธุรกิจ การค้า บริษัทต่างๆ
    ต้องจ่ายใต้โต๊ะ ติดสินบน เดินเรื่องเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ
    วิ่งเต้นตำแหน่ง ให้กับข้าราชการประจำ

    🔥คำถามคือ แล้วข้าราชการการเมือง ตัวเลขเม็ดเงินนอกจีดีพี
    จะขนาดไหน?
    ที่มา : องค์การต่อต้านคอรัปชั่น(แห่งประเทศไทย)

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #คอร์รัปชัน #thaitimes
    🔥🔥3 แสนล้านบาท/ปี คือตัวเลขเม็ดเงิน นอกจีดีพี หรือนอกเศรษฐกิจไทย ที่ประชาชน ชาวบ้าน ห้างร้าน ธุรกิจ การค้า บริษัทต่างๆ ต้องจ่ายใต้โต๊ะ ติดสินบน เดินเรื่องเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ วิ่งเต้นตำแหน่ง ให้กับข้าราชการประจำ 🔥คำถามคือ แล้วข้าราชการการเมือง ตัวเลขเม็ดเงินนอกจีดีพี จะขนาดไหน? ที่มา : องค์การต่อต้านคอรัปชั่น(แห่งประเทศไทย) #หุ้นติดดอย #การลงทุน #คอร์รัปชัน #thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 615 Views 0 Reviews
  • 🔥🔥องค์การต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย)
    เผยข้อมูลน่าตกใจ เมื่อประชาชน บริษัท ห้างร้าน
    ธุรกิจต่างๆ ที่ต้องติดต่อราชการไทย
    ต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ ติดสินบน ให้กับการคอร์รัปชัน ต่างๆ
    นอกระบบจีดีพี กว่า 3 แสนล้านบาท/ปี

    เยาวชนคนรุ่นใหม่สิ้นหวัง ได้โปรดอย่าส่งต่อวัฒนธรรมที่เสื่อม
    แบบนี้ให้พวกเค้าเลย

    ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การคอร์รัปชันในไทย #thaitimes
    🔥🔥องค์การต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) เผยข้อมูลน่าตกใจ เมื่อประชาชน บริษัท ห้างร้าน ธุรกิจต่างๆ ที่ต้องติดต่อราชการไทย ต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ ติดสินบน ให้กับการคอร์รัปชัน ต่างๆ นอกระบบจีดีพี กว่า 3 แสนล้านบาท/ปี เยาวชนคนรุ่นใหม่สิ้นหวัง ได้โปรดอย่าส่งต่อวัฒนธรรมที่เสื่อม แบบนี้ให้พวกเค้าเลย ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การคอร์รัปชันในไทย #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 724 Views 0 Reviews