• Tue. Mar. 11, 2025

    เอาละ ต้องรีบเคาะแจกเงินคลิปโตที่ท่านพ่อสะสมมานานเสียที ครั้งเมื่อสมัยลุงโจ ไบเดน คือยุคมืดของคลิปโต โครงการดิจิตอลวอลเลทก็เกิดขึ้น ต้องรีบกู้เงินสด มาถ่ายเปลี่ยนเงินดิจิตอลออกไปให้หมด แต่คนไม่ยอม เลยต้องกู้เอาเงินสดมาแจกไปก่อน

    เหมือนโชคเข้าข้างท่านพ่อแท้ๆ พอยุคพี่อิลอน ทรัมป์ สกุลเงินคลิปโตก็กลับสู่ขาขึ้นอีกครั้ง ขึ้นแบบทลุฟ้าซะด้วย ก็เลยกู้เงินมาแจกเล่นอีกรอบ

    แต่เพราะด้วยน้ำพักน้ำแรงของพี่อิลอน ทรัมป์ ที่นำพาตลาดหุ้น และตลาดคลิปโตดิ่งพสุธาในเวลาอันรวดเร็วและเรื้อรัง ด้วยว่าทั้งสองตลาดนี้ไม่ปลื้มความไม่แน่นอน และยังไม่คุ้นชินกับความไม่แน่นอน และไม่แน่ใจในผู้นำตัวเอง

    การแจกเงินคนไทยตาดำๆเป็นสกุลเงินดิจิตอลจึงต้องกลับมาซีเรียสจริงจังอีกครั้ง แจกคนแก่เดี๋ยวโดนโวยวายงอแงอีก แจกคนวัยกลางๆเดี๋ยวโดนจับไต๋ได้อีก งั้นแจกเด็กน้อยก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวใช้ ai ประโคมในสื่อ แนวๆอายุน้อยร้อยล้านด้วยคลิปโตเยอะๆ เด็กน้อยทั้งหลายก็อ้าปากรองับเหยื่อตัวสั่นแล้ว

    เอาเงินสดมาแลก เอาคลิปโตปล่อยออกไปได้หมด ถ้าได้ก้อนนี้ จะยุบสภาหรือล้มรัฐบาล บ้านฉันก็มีเศษตังไว้หว่านซื้อเสียงรอบหน้าพร้อมแล้วจ้า
    บ๊ะ ช่วยกันหากินเก่งจริงๆครอบครัวนี้
    #ลูกเคาะพ่อแจกคลิปโตแล้วกวาดเงินสด
    Tue. Mar. 11, 2025 เอาละ ต้องรีบเคาะแจกเงินคลิปโตที่ท่านพ่อสะสมมานานเสียที ครั้งเมื่อสมัยลุงโจ ไบเดน คือยุคมืดของคลิปโต โครงการดิจิตอลวอลเลทก็เกิดขึ้น ต้องรีบกู้เงินสด มาถ่ายเปลี่ยนเงินดิจิตอลออกไปให้หมด แต่คนไม่ยอม เลยต้องกู้เอาเงินสดมาแจกไปก่อน เหมือนโชคเข้าข้างท่านพ่อแท้ๆ พอยุคพี่อิลอน ทรัมป์ สกุลเงินคลิปโตก็กลับสู่ขาขึ้นอีกครั้ง ขึ้นแบบทลุฟ้าซะด้วย ก็เลยกู้เงินมาแจกเล่นอีกรอบ แต่เพราะด้วยน้ำพักน้ำแรงของพี่อิลอน ทรัมป์ ที่นำพาตลาดหุ้น และตลาดคลิปโตดิ่งพสุธาในเวลาอันรวดเร็วและเรื้อรัง ด้วยว่าทั้งสองตลาดนี้ไม่ปลื้มความไม่แน่นอน และยังไม่คุ้นชินกับความไม่แน่นอน และไม่แน่ใจในผู้นำตัวเอง การแจกเงินคนไทยตาดำๆเป็นสกุลเงินดิจิตอลจึงต้องกลับมาซีเรียสจริงจังอีกครั้ง แจกคนแก่เดี๋ยวโดนโวยวายงอแงอีก แจกคนวัยกลางๆเดี๋ยวโดนจับไต๋ได้อีก งั้นแจกเด็กน้อยก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวใช้ ai ประโคมในสื่อ แนวๆอายุน้อยร้อยล้านด้วยคลิปโตเยอะๆ เด็กน้อยทั้งหลายก็อ้าปากรองับเหยื่อตัวสั่นแล้ว เอาเงินสดมาแลก เอาคลิปโตปล่อยออกไปได้หมด ถ้าได้ก้อนนี้ จะยุบสภาหรือล้มรัฐบาล บ้านฉันก็มีเศษตังไว้หว่านซื้อเสียงรอบหน้าพร้อมแล้วจ้า บ๊ะ ช่วยกันหากินเก่งจริงๆครอบครัวนี้ #ลูกเคาะพ่อแจกคลิปโตแล้วกวาดเงินสด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจร 500 เอ้ยๆ โจ๊ก 500 แมว 9 ชีวิต แต่ตุยเกินโควต้าไปแล้วรวม 13 ชีวิต ใครยังหลงเชื่อหลงเชียร์ตามกระแสที่สื่อโจ๊กปั่น ระหว่างอาหารเป็นพิษ เพราะรับทานโจ๊กบูด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #บิ๊กโจ๊ก
    โจร 500 เอ้ยๆ โจ๊ก 500 แมว 9 ชีวิต แต่ตุยเกินโควต้าไปแล้วรวม 13 ชีวิต ใครยังหลงเชื่อหลงเชียร์ตามกระแสที่สื่อโจ๊กปั่น ระหว่างอาหารเป็นพิษ เพราะรับทานโจ๊กบูด #คิงส์โพธิ์แดง #บิ๊กโจ๊ก
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทวี” ยันไม่ปกป้องคนผิด คดี "ผกก.โจ้" ตายในคุก หลอนตอบ "โจ้คงไม่เอาคืนผม" หลังสื่อถามปมฮั้ว สว.

    อ่านเพิ่ม...https://news1live.com/detail/9680000023398

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทวี” ยันไม่ปกป้องคนผิด คดี "ผกก.โจ้" ตายในคุก หลอนตอบ "โจ้คงไม่เอาคืนผม" หลังสื่อถามปมฮั้ว สว. อ่านเพิ่ม...https://news1live.com/detail/9680000023398 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูด ลูกนักการเมืองเบอร์ใหญ่ “ส” เป็นเจ้าของตึก SKYY9 Centre หลัง “เด็ก ปชน.” กัดไม่ปล่อย จี้ถาม สปสช.ทุ่ม 7 พันล้าน ซื้อ แต่ราคาประเมินจริงแค่ 3 พันล้าน เป็นการเอื้อผลประโยชน์พวกพ้องหรือไม่

    วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน และ นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ออกมาตั้งคำถามถึงการลงทุนซื้ออาคาร SKYY9 Centre ย่านพระราม 9 ด้วยราคา 7 พันล้านบาท แต่มูลค่าจริงเพียง 3 พันล้านบาท ในปี 2565 ของกองทุนประกันสังคม (สปสช.) นั้น เป็นการเอื้อผลประโยชน์พวกพ้องหรือไม่ เพราะถือเป็นการจงใจลงทุนผิดพลาด พร้อมระบุว่า

    “ใครเป็นเจ้าของ เป็นของนักการเมืองพรรคไหน เกี่ยวข้องกับพรรคที่อยู่ในป่าหรือไม่ น่าสงสัย เพราะท่านอดีต รมว.แรงงาน ก็อยู่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อยากให้ทุกท่านได้ลองหาข้อมูลดู ตึกนี้ปรับปรุงเสร็จปี 2565 ก็พร้อมขายให้กองทุน สปส.เลย”

    แหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยว่า ชื่อผู้ที่ครอบครองกรรมสิทธิ์ของอาคาร SKYY9 Centre ก่อนที่จะมีการขายให้กับกองทุนประกันสังคม ในสมัยที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน คือ บุตรชายของนักการเมือง “ส” ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่ในรัฐบาล และเป็นบุคคลในตำนานคนหนึ่ง เพราะแว่วว่า เป็นคนๆ เดียวกับที่เคยตกเป็นข่าวดัง ”รัฐมนตรีเบี้ยวไม่จ่ายค่าตัวหญิงบริการ” นั่นเอง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000023472

    #MGROnline #SKYY9Centre #กองทุนประกันสังคม #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
    ปูด ลูกนักการเมืองเบอร์ใหญ่ “ส” เป็นเจ้าของตึก SKYY9 Centre หลัง “เด็ก ปชน.” กัดไม่ปล่อย จี้ถาม สปสช.ทุ่ม 7 พันล้าน ซื้อ แต่ราคาประเมินจริงแค่ 3 พันล้าน เป็นการเอื้อผลประโยชน์พวกพ้องหรือไม่ • วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน และ นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ออกมาตั้งคำถามถึงการลงทุนซื้ออาคาร SKYY9 Centre ย่านพระราม 9 ด้วยราคา 7 พันล้านบาท แต่มูลค่าจริงเพียง 3 พันล้านบาท ในปี 2565 ของกองทุนประกันสังคม (สปสช.) นั้น เป็นการเอื้อผลประโยชน์พวกพ้องหรือไม่ เพราะถือเป็นการจงใจลงทุนผิดพลาด พร้อมระบุว่า • “ใครเป็นเจ้าของ เป็นของนักการเมืองพรรคไหน เกี่ยวข้องกับพรรคที่อยู่ในป่าหรือไม่ น่าสงสัย เพราะท่านอดีต รมว.แรงงาน ก็อยู่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อยากให้ทุกท่านได้ลองหาข้อมูลดู ตึกนี้ปรับปรุงเสร็จปี 2565 ก็พร้อมขายให้กองทุน สปส.เลย” • แหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยว่า ชื่อผู้ที่ครอบครองกรรมสิทธิ์ของอาคาร SKYY9 Centre ก่อนที่จะมีการขายให้กับกองทุนประกันสังคม ในสมัยที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน คือ บุตรชายของนักการเมือง “ส” ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่ในรัฐบาล และเป็นบุคคลในตำนานคนหนึ่ง เพราะแว่วว่า เป็นคนๆ เดียวกับที่เคยตกเป็นข่าวดัง ”รัฐมนตรีเบี้ยวไม่จ่ายค่าตัวหญิงบริการ” นั่นเอง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000023472 • #MGROnline #SKYY9Centre #กองทุนประกันสังคม #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ ลั่น "ทักษิณ"ไม่จำเป็นต้องตั้งโต๊ะแถลง ให้มีประเด็นอื่นต่อ เพราะเป็นแค่พ่อนายกฯไม่ได้เป็นนายก จะไปอภิปรายหรือให้ตั้งโต๊ะแถลง คงไม่ แต่ถ้าฮอลลิวูดชวนไปเป็นดาราถึงจะแถลง ส่วนวันอภิปรายจะกี่วันก็ว่ามา

    เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 11 มี.ค. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมีชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งประธานสภาฯ ขอให้ฝ่ายค้านเอาชื่อนายทักษิณออก นายกได้คุยกับนายทักษิณหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า นายทักษิณไม่ได้ว่าอะไร แต่ได้ถามกลับมาว่าแล้วจะเข้าสภาหรืออย่างไรเพราะไม่ได้อยู่ในสภา จะให้ไปตอบในสภา หรืออย่างไร ซึ่งเป็นการถามเล่นๆ ไม่ได้มีอะไร

    ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ติดใจหรือไม่ถ้ามีชื่อนายทักษิณอยู่ในญัตติการอภิปรายไปวางใจนางสาวแพทองธารกล่าวว่า ให้เอาข้อเท็จจริงอย่าใช้อารมณ์ ในเรื่องนี้ต้องดูว่าหลักการคืออะไรและกฎคืออะไร ถ้าไม่ทำตามกฎและหลักการจะตั้งกฎและหลักการเอาไว้ทำไม ถ้าสมมุติว่าหลักการสามารถให้เข้าได้ ก็ได้เลยจะไปห้ามได้อย่างไร แต่ถ้าหลักการเข้าไม่ได้ จะฝืนหลักการก็ไม่ได้เท่านั้นเอง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000023377

    #MGROnline #ทักษิณ #แพทองธารชินวัตร #นายกรัฐมนตรี
    นายกฯ ลั่น "ทักษิณ"ไม่จำเป็นต้องตั้งโต๊ะแถลง ให้มีประเด็นอื่นต่อ เพราะเป็นแค่พ่อนายกฯไม่ได้เป็นนายก จะไปอภิปรายหรือให้ตั้งโต๊ะแถลง คงไม่ แต่ถ้าฮอลลิวูดชวนไปเป็นดาราถึงจะแถลง ส่วนวันอภิปรายจะกี่วันก็ว่ามา • เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 11 มี.ค. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมีชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งประธานสภาฯ ขอให้ฝ่ายค้านเอาชื่อนายทักษิณออก นายกได้คุยกับนายทักษิณหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า นายทักษิณไม่ได้ว่าอะไร แต่ได้ถามกลับมาว่าแล้วจะเข้าสภาหรืออย่างไรเพราะไม่ได้อยู่ในสภา จะให้ไปตอบในสภา หรืออย่างไร ซึ่งเป็นการถามเล่นๆ ไม่ได้มีอะไร • ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ติดใจหรือไม่ถ้ามีชื่อนายทักษิณอยู่ในญัตติการอภิปรายไปวางใจนางสาวแพทองธารกล่าวว่า ให้เอาข้อเท็จจริงอย่าใช้อารมณ์ ในเรื่องนี้ต้องดูว่าหลักการคืออะไรและกฎคืออะไร ถ้าไม่ทำตามกฎและหลักการจะตั้งกฎและหลักการเอาไว้ทำไม ถ้าสมมุติว่าหลักการสามารถให้เข้าได้ ก็ได้เลยจะไปห้ามได้อย่างไร แต่ถ้าหลักการเข้าไม่ได้ จะฝืนหลักการก็ไม่ได้เท่านั้นเอง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000023377 • #MGROnline #ทักษิณ #แพทองธารชินวัตร #นายกรัฐมนตรี
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ อุตส่าห์ชื่อเป็นมงคล กลับทำแต่เรื่องอัปมงคล แถมไม่ถูกชะตากับ ป.ปลา และ ช.ช้าง โดนคณะกรรมการ ปปช.สั่งฟันคดีจริยธรรม และกำลังจะโดนพรรคต้นสังกัด ปชป. ขับพ้นพรรคฐานทำเสื่อมเสีย
    #7ดอกจิก
    #เต้มงคลกิตติ์
    ♣ อุตส่าห์ชื่อเป็นมงคล กลับทำแต่เรื่องอัปมงคล แถมไม่ถูกชะตากับ ป.ปลา และ ช.ช้าง โดนคณะกรรมการ ปปช.สั่งฟันคดีจริยธรรม และกำลังจะโดนพรรคต้นสังกัด ปชป. ขับพ้นพรรคฐานทำเสื่อมเสีย #7ดอกจิก #เต้มงคลกิตติ์
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกผู้เชี่ยวชาญและเหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของเยอรมนี มีความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปไดที่สหรัฐฯจะตัดขาดจากระยะไกล การใช้งานเครื่องบินขับไล่ F-35 ที่วอชิงตันส่งมอบให้แก่เบอร์ลิน ในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์หนึ่งใด หลังจากเมื่อเร็วๆนี้อเมริกาเพิ่งหยุดสนับสนุนทางทหารและระงับป้อนข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์บิลด์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์
    .
    กองทัพอากาศเยอรมนี เตรียมได้รับการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ F-35A Lightning II ที่ผลิตโดยอเมริกา จำนวน 35 ลำ ในปี 2026 ส่วนหนึ่งในข้อตกลงมูลค่า 8,300 ล้านยูโร อย่างไรก็ตามสมาชิกรัฐสภาเยอรมนีบางส่วนกังวลว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งขัดแย้งกับอียูในหลายๆประเด็น อาจใช้ตัวตัดการเชื่อมต่อ "kill switch" ทำให้เครื่องบินเหล่านั้นขึ้นบินไม่ได้ หากว่าวอชิงตันกับชาติต่างๆในยุโรป เห็นต่างกันในแนวทางที่ใช้รับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งกับรัสเซีย
    .
    "kill switch ไม่มีอะไรมากไปกว่าข่าวลือ" โจอาชิม ชรานโชเฟอร์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารมวลชน Hensoldt บริษัทกลาโหมของเยอรมนี บอกกับหนังสือพิมพ์บิลด์ "แต่มันคงดีกว่า ถ้าวางแผนภารกิจอย่างเป็นระบบ ให้เครื่องบินยังอยู่บนภาคพื้น"
    .
    โวล์ฟกัง อิสชินเดกอร์ อดีตประธานมูลนิธิ Munich Security Conference ตั้งคำถามเกี่ยวกับชะตากรรมของสัญญาจัดซื้อดังกล่าว "ถ้าเราหวั่นเกรงว่าสหรัฐฯจะทำกับฝูงบิน F-35 ในอนาคตของเยอรมนี แบบเดียวกับที่ทำกับยูเครนในปัจจุบัน เราอาจยกเลิกสัญญา" เขาบอกกับหนังสือพิมพ์บิลด์
    .
    ความกังวลเกี่ยวกับ kill switch บนเครื่องบินรบที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ยังสะท้อนได้จากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส หนึ่งในนั้นรวมถึง ริชาร์ด อาบัวลาเฟีย นักวิเคราะห์ด้านกลาโหม ที่บอกว่าแม้ยังไม่เคยมีคำยืนยันเกี่ยวกับ "kill switch" แต่ "ลองสมมุติดู มันอาจมีอยู่จริง ถ้าคุณมีบางอย่างที่สามารถทำอะไรเล็กๆน้อยๆกับรหัสซอฟต์แวร์ "
    .
    ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆชี้ว่า โดยพื้นฐานแล้ว kill switch เป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น สืบเนื่องจากความล้ำสมัยของเครื่องบินขับไล่สมัยใหม่และมันพึ่งพาอาศัยผู้ขายมากจนเกินไป "กองทัพยุโรปเกือบทั้งหมดพึ่งพาสหรัฐฯเป็นอย่างมาก สำหรับการสนับสนุนด้านติดต่อสื่อสาร สำหรับสนับสนุนการสงครามอิเล็กทรอนิก และสำหรับเติมเสบียงกระสุนในความขัดแย้งร้ายแรงใดๆ" จัสติน บรอนค์ นักวิจัยจากสถาบัน Royal United Services บอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส
    .
    ความกังวลเกี่ยวกับเครื่องบิน F-35 ปรากฏขึ้นมา หลังจากสหรัฐฯระงับความช่วยเหลือทางทหารและข้อมูลข่าวกรองที่มอบแก่ยูเครน ตามหลังศึกวิวาทะระหว่าง ทรัมป์ กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โดยระหว่างนั้นผู้นำสหรัฐฯกล่าวหาผู้นำยูเครนว่าไม่ต้องการมีสันติภาพกับรัสเซีย
    .
    โครงการ F-35 ถูกให้คำนิยามว่าเป็นโครงการทางทหารแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ต้นทุนรวมของโครงการนี้ทะลุ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ตลอดช่วงอายุของโครงการ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ F-35 ทำการบินในเที่ยวบินปฐมฤกษ์เมื่อปี 2006 โครงการนี้ก็ถูกห้อมล้อมด้วยปัญหาต้นทุนบานปลาย ล่าช้าและประเด็นความน่าเชื่อถือ จนถึงตอนนี้เครื่องบินรุ่นนี้ถูกผลิตออกมาแล้วกว่า 1,100 ลำ จำนวนมากเป็นการป้อนสู่บรรดาพันธมิตรของอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023273
    ..............
    Sondhi X
    พวกผู้เชี่ยวชาญและเหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของเยอรมนี มีความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปไดที่สหรัฐฯจะตัดขาดจากระยะไกล การใช้งานเครื่องบินขับไล่ F-35 ที่วอชิงตันส่งมอบให้แก่เบอร์ลิน ในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์หนึ่งใด หลังจากเมื่อเร็วๆนี้อเมริกาเพิ่งหยุดสนับสนุนทางทหารและระงับป้อนข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์บิลด์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ . กองทัพอากาศเยอรมนี เตรียมได้รับการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ F-35A Lightning II ที่ผลิตโดยอเมริกา จำนวน 35 ลำ ในปี 2026 ส่วนหนึ่งในข้อตกลงมูลค่า 8,300 ล้านยูโร อย่างไรก็ตามสมาชิกรัฐสภาเยอรมนีบางส่วนกังวลว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งขัดแย้งกับอียูในหลายๆประเด็น อาจใช้ตัวตัดการเชื่อมต่อ "kill switch" ทำให้เครื่องบินเหล่านั้นขึ้นบินไม่ได้ หากว่าวอชิงตันกับชาติต่างๆในยุโรป เห็นต่างกันในแนวทางที่ใช้รับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งกับรัสเซีย . "kill switch ไม่มีอะไรมากไปกว่าข่าวลือ" โจอาชิม ชรานโชเฟอร์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารมวลชน Hensoldt บริษัทกลาโหมของเยอรมนี บอกกับหนังสือพิมพ์บิลด์ "แต่มันคงดีกว่า ถ้าวางแผนภารกิจอย่างเป็นระบบ ให้เครื่องบินยังอยู่บนภาคพื้น" . โวล์ฟกัง อิสชินเดกอร์ อดีตประธานมูลนิธิ Munich Security Conference ตั้งคำถามเกี่ยวกับชะตากรรมของสัญญาจัดซื้อดังกล่าว "ถ้าเราหวั่นเกรงว่าสหรัฐฯจะทำกับฝูงบิน F-35 ในอนาคตของเยอรมนี แบบเดียวกับที่ทำกับยูเครนในปัจจุบัน เราอาจยกเลิกสัญญา" เขาบอกกับหนังสือพิมพ์บิลด์ . ความกังวลเกี่ยวกับ kill switch บนเครื่องบินรบที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ยังสะท้อนได้จากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส หนึ่งในนั้นรวมถึง ริชาร์ด อาบัวลาเฟีย นักวิเคราะห์ด้านกลาโหม ที่บอกว่าแม้ยังไม่เคยมีคำยืนยันเกี่ยวกับ "kill switch" แต่ "ลองสมมุติดู มันอาจมีอยู่จริง ถ้าคุณมีบางอย่างที่สามารถทำอะไรเล็กๆน้อยๆกับรหัสซอฟต์แวร์ " . ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆชี้ว่า โดยพื้นฐานแล้ว kill switch เป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น สืบเนื่องจากความล้ำสมัยของเครื่องบินขับไล่สมัยใหม่และมันพึ่งพาอาศัยผู้ขายมากจนเกินไป "กองทัพยุโรปเกือบทั้งหมดพึ่งพาสหรัฐฯเป็นอย่างมาก สำหรับการสนับสนุนด้านติดต่อสื่อสาร สำหรับสนับสนุนการสงครามอิเล็กทรอนิก และสำหรับเติมเสบียงกระสุนในความขัดแย้งร้ายแรงใดๆ" จัสติน บรอนค์ นักวิจัยจากสถาบัน Royal United Services บอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส . ความกังวลเกี่ยวกับเครื่องบิน F-35 ปรากฏขึ้นมา หลังจากสหรัฐฯระงับความช่วยเหลือทางทหารและข้อมูลข่าวกรองที่มอบแก่ยูเครน ตามหลังศึกวิวาทะระหว่าง ทรัมป์ กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โดยระหว่างนั้นผู้นำสหรัฐฯกล่าวหาผู้นำยูเครนว่าไม่ต้องการมีสันติภาพกับรัสเซีย . โครงการ F-35 ถูกให้คำนิยามว่าเป็นโครงการทางทหารแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ต้นทุนรวมของโครงการนี้ทะลุ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ตลอดช่วงอายุของโครงการ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ F-35 ทำการบินในเที่ยวบินปฐมฤกษ์เมื่อปี 2006 โครงการนี้ก็ถูกห้อมล้อมด้วยปัญหาต้นทุนบานปลาย ล่าช้าและประเด็นความน่าเชื่อถือ จนถึงตอนนี้เครื่องบินรุ่นนี้ถูกผลิตออกมาแล้วกว่า 1,100 ลำ จำนวนมากเป็นการป้อนสู่บรรดาพันธมิตรของอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023273 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งหนังสือขอโทษประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับศึกวิวาทะอื้อฉาวในทำเนียบขาว จากการเปิดเผยของ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษด้านตะวันออกกลางของสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากผู้นำอเมริกาสั่งระงับความช่วยเหลือด้านการทหารและแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับเคียฟ
    .
    วิตคอฟฟ์ เปิดเผยในเรื่องนี้ในวันจันทร์(10มี.ค.) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ก่อนหน้าการประชุมกันระหว่างคณะผู้แทนสหรัฐฯกับคณะผู้แทนยูเครน ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์นี้ โดยวอชิงตันคาดหมายว่าจะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม และหวังลงนามในข้อตกลงแร่อันสำคัญกับเคียฟ
    .
    "เซเลนสกี ส่งหนังสือถึงประธานาธิบดี เขาขอโทษต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องทำงานรูปไข่" วิตคอฟฟ์เน้นย้ำ "ผมคิดว่ามันเป็นก้าวย่างที่สำคัญและมีการพูดคุยหารือกันมากมายระหว่างคณะทำงานของเรากับคณะทำงานยูเครน รวมไปถึงจากยุโรป ซึ่งเกี่ยวข้องกับการหารือนี้เช่นกัน"
    .
    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เผยว่าได้รับหนังสือที่สำคัญจากเซเลนสกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เน้นว่าเคียฟแสดงถึงความพร้อม "ที่จะเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ได้พาดพิงว่าเนื้อหาในจดหมายดังกล่าว มีถ้อยคำขอโทษเกี่ยวกับการโต้เถียงอันอื้อฉาวในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว
    .
    เซเลนสกี พูดเสียงดังแข่งกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ระหว่างพบปะพูดคุยกันที่ทำเนียบขาวเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวหาผู้นำยูเครนขาดความเคารพ ไม่สำนึกบุญคุณความช่วยเหลือของสหรัฐฯในอดีตที่ผ่านมาและลังเลที่แสวงหาสันติภาพกับรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้นยัง "กำลังเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3"
    .
    ประธานาธิบดียูเครนถูกไล่ออกจากทำเนียบขาว ก่อนหน้าการประชุมแบบลับๆจะเริ่มขึ้น
    .
    ศึกโต้เถียงกันในห้องทำงานรูปไข่ ทำให้ข้อตกลงแร่แรร์เอิร์ธของยูเครน ต้องล่าช้าออกไป และกระตุ้นให้สหรัฐฯระงับความช่วยเหลือด้านการทหารที่มอบแก่เคียฟ ตามด้วยระงับแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง
    .
    แม้ดูเหมือนจะเลือกขอโทษทรัมป์แบบลับๆ แต่ต่อหน้าสาธารณะแล้ว เซเลนสกี ยังคงแสดงท่าทีแข็งขืน บอกเพียงว่ารู้สึกเสียใจต่อความโกลาหลในทำเนียบขาว และเสียใจที่การพบปะพูดคุยที่ไม่เป็นไปตามแผน
    .
    มิคาอิล โพโดยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ได้ตอกย้ำท่าทีดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บอกว่า "เซเลนสกี มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ทั้งในรูปแบบและเนื้อหาสาระที่เขาพยายามสื่อสารถ่ายทอดถึงคู่หูอเมริกาของเขา เกี่ยวกับแนวคิดหลักๆ ที่ว่าจะไม่มีอะไรประสบผลสำเร็จหากปราศจากการบีบบังคับรัสเซีย" เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนฝรั่งเศสในวันศุกร์(7มี.ค.) "เราจะไม่ขอโทษ สำหรับการทึกทักเอาเองว่ามันเป็นความผิดพลาด ทั้งที่มันไม่ได้เกิดขึ้น"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023258
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งหนังสือขอโทษประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับศึกวิวาทะอื้อฉาวในทำเนียบขาว จากการเปิดเผยของ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษด้านตะวันออกกลางของสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากผู้นำอเมริกาสั่งระงับความช่วยเหลือด้านการทหารและแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับเคียฟ . วิตคอฟฟ์ เปิดเผยในเรื่องนี้ในวันจันทร์(10มี.ค.) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ก่อนหน้าการประชุมกันระหว่างคณะผู้แทนสหรัฐฯกับคณะผู้แทนยูเครน ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์นี้ โดยวอชิงตันคาดหมายว่าจะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม และหวังลงนามในข้อตกลงแร่อันสำคัญกับเคียฟ . "เซเลนสกี ส่งหนังสือถึงประธานาธิบดี เขาขอโทษต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องทำงานรูปไข่" วิตคอฟฟ์เน้นย้ำ "ผมคิดว่ามันเป็นก้าวย่างที่สำคัญและมีการพูดคุยหารือกันมากมายระหว่างคณะทำงานของเรากับคณะทำงานยูเครน รวมไปถึงจากยุโรป ซึ่งเกี่ยวข้องกับการหารือนี้เช่นกัน" . ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เผยว่าได้รับหนังสือที่สำคัญจากเซเลนสกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เน้นว่าเคียฟแสดงถึงความพร้อม "ที่จะเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ได้พาดพิงว่าเนื้อหาในจดหมายดังกล่าว มีถ้อยคำขอโทษเกี่ยวกับการโต้เถียงอันอื้อฉาวในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว . เซเลนสกี พูดเสียงดังแข่งกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ระหว่างพบปะพูดคุยกันที่ทำเนียบขาวเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวหาผู้นำยูเครนขาดความเคารพ ไม่สำนึกบุญคุณความช่วยเหลือของสหรัฐฯในอดีตที่ผ่านมาและลังเลที่แสวงหาสันติภาพกับรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้นยัง "กำลังเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3" . ประธานาธิบดียูเครนถูกไล่ออกจากทำเนียบขาว ก่อนหน้าการประชุมแบบลับๆจะเริ่มขึ้น . ศึกโต้เถียงกันในห้องทำงานรูปไข่ ทำให้ข้อตกลงแร่แรร์เอิร์ธของยูเครน ต้องล่าช้าออกไป และกระตุ้นให้สหรัฐฯระงับความช่วยเหลือด้านการทหารที่มอบแก่เคียฟ ตามด้วยระงับแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง . แม้ดูเหมือนจะเลือกขอโทษทรัมป์แบบลับๆ แต่ต่อหน้าสาธารณะแล้ว เซเลนสกี ยังคงแสดงท่าทีแข็งขืน บอกเพียงว่ารู้สึกเสียใจต่อความโกลาหลในทำเนียบขาว และเสียใจที่การพบปะพูดคุยที่ไม่เป็นไปตามแผน . มิคาอิล โพโดยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ได้ตอกย้ำท่าทีดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บอกว่า "เซเลนสกี มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ทั้งในรูปแบบและเนื้อหาสาระที่เขาพยายามสื่อสารถ่ายทอดถึงคู่หูอเมริกาของเขา เกี่ยวกับแนวคิดหลักๆ ที่ว่าจะไม่มีอะไรประสบผลสำเร็จหากปราศจากการบีบบังคับรัสเซีย" เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนฝรั่งเศสในวันศุกร์(7มี.ค.) "เราจะไม่ขอโทษ สำหรับการทึกทักเอาเองว่ามันเป็นความผิดพลาด ทั้งที่มันไม่ได้เกิดขึ้น" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023258 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารหน่วยรบพิเศษรัสเซียมุดสายท่อส่งก๊าซเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร แล้วโผล่ออกมาตีตลบหลังกองทหารยูเครนที่บุกเข้าไปยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์ของแดนหมีขาวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน มอสโกอ้างด้วยว่าสามารถยึดพื้นที่ใหม่ๆ เพิ่มเติมในการรุกขับไล่ชิงดินแดนคืนและโอบล้อมข้าศึกที่แคว้นประชิดชายแดนยูเครนแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเข้าครองหมู่บ้านในแคว้นซูมีของยูเครนได้เป็นครั้งแรกนับจากปี 2022 อีกด้วย
    .
    กองทหารยูเครนบุกข้ามแดนเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ถือเป็นเหตุการณ์ทหารต่างชาติโจมตีเข้าสู่แดนหมีขาวครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และภายในไม่กี่วันก็สามารถยึดดินแดนได้ถึง 1,000 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงซุดซาที่เป็นเมืองยุทธศาสตร์ใกล้ชายแดน รวมทั้งจับเชลยศึกรัสเซียได้หลายร้อยคน
    .
    เคียฟหมายมั่นใช้ความสำเร็จคราวนี้เป็นหมากต่อรองหากมีการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งมุ่งสร้างแรงบีบคั้นให้รัสเซียถอนทหารออกจากแนวรบในยูเครนตะวันออก กลับมาป้องกันดินแดนของตัวเอง
    .
    ทว่า หลายเดือนนับจากนั้น ทหารยูเครนในคูร์สก์ตกอยู่ในสภาพทั้งเหนื่อยล้าและบาดเจ็บล้มตาย จากการถูกโจมตีอย่างไม่ลดละจากกองทหารมากกว่า 50,000 นายที่ส่วนหนึ่งเป็นทหารเกาหลีเหนือ เวลานี้ทหารยูเครนหลายหมื่นคนยังกำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกปิดล้อม ทั้งนี้เมื่อดูจากแผนที่ของสมรภูมิซึ่งมาจากพวกแหล่งข่าวโอเพ่นซอร์ส รายงานข่าวของเอพีระบุ
    .
    ขณะที่รอยเตอร์รายงานเช่นกันว่า จนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัสเซียสามารถยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์คืนไปได้อย่างน้อย 800 ตารางกิโลเมตร และระยะไม่กี่วันมานี้ได้เปิดฉากโจมตีจากหลายทิศทางพร้อมกันเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงอาวุธ ตลอดจนเส้นทางที่ยูเครนอาจใช้ในการล่าถอย
    .
    สำหรับเหตุการณ์การโจมตีระทึกใจล่าสุด เอพีรายงานโดยอ้าง ยูริ โปโดลยากา บล็อกเกอร์สที่เกิดในยูเครนแต่เป็นฝ่ายสนับสนุนเครมลิน โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเทเลแกรมเมื่อคืนวันเสาร์ (8 มี.ค.) ระบุว่า กองทหารหน่วยรบพิเศษของรัสเซีย ได้เดินกันเป็นระยะทางราว 15 กิโลเมตรภายในสายท่อส่งก๊าซ ซึ่งมอสโกเคยใช้ส่งก๊าซธรรมชาติไปให้แก่ยุโรปจนกระทั่งมีอันยุติลงเมื่อไม่นานมานี้ ทหารรัสเซียเหล่านี้บางส่วนอยู่ภายในท่อส่งก๊าซซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.4 เมตรนี้เป็นเวลาหลายวัน ก่อนที่จะโผล่ออกมาโจมตีหน่วยทหารยูเครนจากทางด้านหลัง ในบริเวณใกล้ๆ เมืองซุดซา
    .
    เอพีอ้างบล็อกเกอร์สงครามอีกคนที่ใช้นามแฝงว่า ทู เมเจอร์ส ระบุว่า ขณะนี้มีการสู้รบดุเดือดเพื่อแย่งชิงซุดซา และกองกำลังรัสเซียสามารถบุกเข้าเมืองผ่านทางท่อส่งก๊าซ นอกจากนั้น ช่องรายการของเทเลแกรมหลายช่องมีการเผยแพร่ภาพหน่วยรบพิเศษรัสเซียซึ่งสวมหน้ากากป้องกันก๊าซ เคลื่อนที่ไปตามสิ่งที่ดูเหมือนเป็นด้านในของท่อขนาดใหญ่
    .
    ทางด้านกรมเสนาธิการใหญ่กองทัพยูเครนแถลงยืนยันเมื่อค่ำวันเสาร์ แต่ระบุว่า พวกกลุ่มก่อวินาศกรรมและรุกโจมตีของรัสเซียใช้ท่อส่งก๊าซเป็นเส้นทางเดินทางเพื่อเข้ายึดพื้นที่ด้านนอกของซุดซา ทว่า ยูเครนตรวจพบทันเวลาและโจมตีด้วยจรวดและปืนใหญ่จนสามารถปิดกั้นและทำลายทหารเหล่านั้น และย้ำว่า รัสเซียสูญเสียหนักมากในซุดซา
    .
    เอพีรายงานว่า ยังมีบล็อกเกอร์สงครามของรัสเซียคนที่ 3 ที่กล่าวว่า ตัวเขาเป็นทหารและใช้รหัส “13” ในการสื่อสารทางวิทยุ เล่าเรื่องว่า กองกำลังฝ่ายเข้าโจมตีขาดการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง จึงโจมตีไม่สำเร็จ โดยบล็อกเกอร์ผู้นี้อ้างว่า ฝ่ายเข้าโจมตี 2 ถึง 3 กลุ่มที่อยู่ด้านหลัง ขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำ เครื่องกระสุน การสื่อสาร อุปกรณ์ชาร์จไฟ เพาเวอร์แบงก์ อีกทั้งไม่อาจติดต่อกับกองกำลังหลัก ตลอดจนไม่สามารถอพยพทหารที่บาดเจ็บได้ ซึ่งถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง
    .
    อย่างไรก็ดี เอพีเตือนว่า ตนเองไม่สามารถตรวจสอบยืนยันข้อมูลเหล่านี้ได้
    .
    ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีที่รายงานเรื่องรัสเซียเคลื่อนพลผ่านท่อส่งก๊าซเข้าโจมตีซุดซาเช่นกัน อ้างพวกบล็อกเกอร์ฝ่ายรัสเซียระบุว่า การโจมตีคราวนี้ประสบความสำเร็จ กองทหารนี้บรรลุวัตถุประสงค์ของพวกเขา และการสู้รบยังคงดำเนินอยู่ที่ซุดซา
    .
    สำหรับทางการรัสเซียเองนั้น ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการโจมตีโดยมุดสายท่อส่งก๊าซนี้ แต่ต่อมาในวันอาทิตย์ (9 ) กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองทหารรัสเซียสามารถยึดหมู่บ้าน 4 แห่งทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของซุดซาได้ โดยหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากใจกลางเมืองราว 12 กิโลเมตร หลังจากก่อนหน้านั้นเข้ายึดหมู่บ้านคืนได้ 3 แห่งใกล้เมืองซุดซาเมื่อวันเสาร์ ขณะที่ฝ่ายยูเครนไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกล่าวอ้างเหล่านี้
    .
    วันเดียวกันนั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังประกาศว่า สามารถยึดโนเวนกี ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแห่งหนึ่งในแคว้นซูมีของยูเครนที่อยู่ห่างจากคูร์สก์เพียง 1 กิโลเมตร และทำให้เข้าใกล้เส้นทางขนส่งกำลังบำรุงหลักของยูเครนมากขึ้น ทั้งนี้รัสเซียเคยยึดครองหลายส่วนของแคว้นซูมีได้ในตอนเริ่มต้นการรุกรานเมื่อปี 2022 แต่หลังจากต้องถอยกลับไปแล้วก็ไม่เคยยึดพื้นที่ใดๆ ในแคว้นนี้ได้อีกเลยจนกระทั่งมาถึงตอนนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023254
    ..............
    Sondhi X
    ทหารหน่วยรบพิเศษรัสเซียมุดสายท่อส่งก๊าซเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร แล้วโผล่ออกมาตีตลบหลังกองทหารยูเครนที่บุกเข้าไปยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์ของแดนหมีขาวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน มอสโกอ้างด้วยว่าสามารถยึดพื้นที่ใหม่ๆ เพิ่มเติมในการรุกขับไล่ชิงดินแดนคืนและโอบล้อมข้าศึกที่แคว้นประชิดชายแดนยูเครนแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเข้าครองหมู่บ้านในแคว้นซูมีของยูเครนได้เป็นครั้งแรกนับจากปี 2022 อีกด้วย . กองทหารยูเครนบุกข้ามแดนเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ถือเป็นเหตุการณ์ทหารต่างชาติโจมตีเข้าสู่แดนหมีขาวครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และภายในไม่กี่วันก็สามารถยึดดินแดนได้ถึง 1,000 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงซุดซาที่เป็นเมืองยุทธศาสตร์ใกล้ชายแดน รวมทั้งจับเชลยศึกรัสเซียได้หลายร้อยคน . เคียฟหมายมั่นใช้ความสำเร็จคราวนี้เป็นหมากต่อรองหากมีการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งมุ่งสร้างแรงบีบคั้นให้รัสเซียถอนทหารออกจากแนวรบในยูเครนตะวันออก กลับมาป้องกันดินแดนของตัวเอง . ทว่า หลายเดือนนับจากนั้น ทหารยูเครนในคูร์สก์ตกอยู่ในสภาพทั้งเหนื่อยล้าและบาดเจ็บล้มตาย จากการถูกโจมตีอย่างไม่ลดละจากกองทหารมากกว่า 50,000 นายที่ส่วนหนึ่งเป็นทหารเกาหลีเหนือ เวลานี้ทหารยูเครนหลายหมื่นคนยังกำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกปิดล้อม ทั้งนี้เมื่อดูจากแผนที่ของสมรภูมิซึ่งมาจากพวกแหล่งข่าวโอเพ่นซอร์ส รายงานข่าวของเอพีระบุ . ขณะที่รอยเตอร์รายงานเช่นกันว่า จนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัสเซียสามารถยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์คืนไปได้อย่างน้อย 800 ตารางกิโลเมตร และระยะไม่กี่วันมานี้ได้เปิดฉากโจมตีจากหลายทิศทางพร้อมกันเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงอาวุธ ตลอดจนเส้นทางที่ยูเครนอาจใช้ในการล่าถอย . สำหรับเหตุการณ์การโจมตีระทึกใจล่าสุด เอพีรายงานโดยอ้าง ยูริ โปโดลยากา บล็อกเกอร์สที่เกิดในยูเครนแต่เป็นฝ่ายสนับสนุนเครมลิน โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเทเลแกรมเมื่อคืนวันเสาร์ (8 มี.ค.) ระบุว่า กองทหารหน่วยรบพิเศษของรัสเซีย ได้เดินกันเป็นระยะทางราว 15 กิโลเมตรภายในสายท่อส่งก๊าซ ซึ่งมอสโกเคยใช้ส่งก๊าซธรรมชาติไปให้แก่ยุโรปจนกระทั่งมีอันยุติลงเมื่อไม่นานมานี้ ทหารรัสเซียเหล่านี้บางส่วนอยู่ภายในท่อส่งก๊าซซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.4 เมตรนี้เป็นเวลาหลายวัน ก่อนที่จะโผล่ออกมาโจมตีหน่วยทหารยูเครนจากทางด้านหลัง ในบริเวณใกล้ๆ เมืองซุดซา . เอพีอ้างบล็อกเกอร์สงครามอีกคนที่ใช้นามแฝงว่า ทู เมเจอร์ส ระบุว่า ขณะนี้มีการสู้รบดุเดือดเพื่อแย่งชิงซุดซา และกองกำลังรัสเซียสามารถบุกเข้าเมืองผ่านทางท่อส่งก๊าซ นอกจากนั้น ช่องรายการของเทเลแกรมหลายช่องมีการเผยแพร่ภาพหน่วยรบพิเศษรัสเซียซึ่งสวมหน้ากากป้องกันก๊าซ เคลื่อนที่ไปตามสิ่งที่ดูเหมือนเป็นด้านในของท่อขนาดใหญ่ . ทางด้านกรมเสนาธิการใหญ่กองทัพยูเครนแถลงยืนยันเมื่อค่ำวันเสาร์ แต่ระบุว่า พวกกลุ่มก่อวินาศกรรมและรุกโจมตีของรัสเซียใช้ท่อส่งก๊าซเป็นเส้นทางเดินทางเพื่อเข้ายึดพื้นที่ด้านนอกของซุดซา ทว่า ยูเครนตรวจพบทันเวลาและโจมตีด้วยจรวดและปืนใหญ่จนสามารถปิดกั้นและทำลายทหารเหล่านั้น และย้ำว่า รัสเซียสูญเสียหนักมากในซุดซา . เอพีรายงานว่า ยังมีบล็อกเกอร์สงครามของรัสเซียคนที่ 3 ที่กล่าวว่า ตัวเขาเป็นทหารและใช้รหัส “13” ในการสื่อสารทางวิทยุ เล่าเรื่องว่า กองกำลังฝ่ายเข้าโจมตีขาดการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง จึงโจมตีไม่สำเร็จ โดยบล็อกเกอร์ผู้นี้อ้างว่า ฝ่ายเข้าโจมตี 2 ถึง 3 กลุ่มที่อยู่ด้านหลัง ขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำ เครื่องกระสุน การสื่อสาร อุปกรณ์ชาร์จไฟ เพาเวอร์แบงก์ อีกทั้งไม่อาจติดต่อกับกองกำลังหลัก ตลอดจนไม่สามารถอพยพทหารที่บาดเจ็บได้ ซึ่งถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง . อย่างไรก็ดี เอพีเตือนว่า ตนเองไม่สามารถตรวจสอบยืนยันข้อมูลเหล่านี้ได้ . ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีที่รายงานเรื่องรัสเซียเคลื่อนพลผ่านท่อส่งก๊าซเข้าโจมตีซุดซาเช่นกัน อ้างพวกบล็อกเกอร์ฝ่ายรัสเซียระบุว่า การโจมตีคราวนี้ประสบความสำเร็จ กองทหารนี้บรรลุวัตถุประสงค์ของพวกเขา และการสู้รบยังคงดำเนินอยู่ที่ซุดซา . สำหรับทางการรัสเซียเองนั้น ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการโจมตีโดยมุดสายท่อส่งก๊าซนี้ แต่ต่อมาในวันอาทิตย์ (9 ) กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองทหารรัสเซียสามารถยึดหมู่บ้าน 4 แห่งทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของซุดซาได้ โดยหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากใจกลางเมืองราว 12 กิโลเมตร หลังจากก่อนหน้านั้นเข้ายึดหมู่บ้านคืนได้ 3 แห่งใกล้เมืองซุดซาเมื่อวันเสาร์ ขณะที่ฝ่ายยูเครนไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกล่าวอ้างเหล่านี้ . วันเดียวกันนั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังประกาศว่า สามารถยึดโนเวนกี ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแห่งหนึ่งในแคว้นซูมีของยูเครนที่อยู่ห่างจากคูร์สก์เพียง 1 กิโลเมตร และทำให้เข้าใกล้เส้นทางขนส่งกำลังบำรุงหลักของยูเครนมากขึ้น ทั้งนี้รัสเซียเคยยึดครองหลายส่วนของแคว้นซูมีได้ในตอนเริ่มต้นการรุกรานเมื่อปี 2022 แต่หลังจากต้องถอยกลับไปแล้วก็ไม่เคยยึดพื้นที่ใดๆ ในแคว้นนี้ได้อีกเลยจนกระทั่งมาถึงตอนนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023254 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • อีลอน มัสก์ ยืนยันจะไม่มีการหยุดให้บริการ Starlink ในยูเครน!

    "ขอกล่าวอย่างชัดเจนที่สุด ไม่ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายของยูเครนมากเพียงใด แต่ Starlink จะไม่มีการปิดให้บริการโดยเด็ดขาด

    ผมเพียงแค่ต้องการจะสื่อว่า หากไม่มี Starlink สายโทรศัพท์ของยูเครนจะใช้งานไม่ได้ เนื่องจากรัสเซียสามารถรบกวนการสื่อสารอื่นๆได้ทั้งหมด!

    เราจะไม่ใช้เรื่องนี้เป็นข้อต่อรองเด็ดขาด"
    อีลอน มัสก์ ยืนยันจะไม่มีการหยุดให้บริการ Starlink ในยูเครน! "ขอกล่าวอย่างชัดเจนที่สุด ไม่ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายของยูเครนมากเพียงใด แต่ Starlink จะไม่มีการปิดให้บริการโดยเด็ดขาด ผมเพียงแค่ต้องการจะสื่อว่า หากไม่มี Starlink สายโทรศัพท์ของยูเครนจะใช้งานไม่ได้ เนื่องจากรัสเซียสามารถรบกวนการสื่อสารอื่นๆได้ทั้งหมด! เราจะไม่ใช้เรื่องนี้เป็นข้อต่อรองเด็ดขาด"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะที่เซเลนสกีกำลังเตรียมเดินทางไปซาอุดิอาระเบีย "เซอร์ฮีย์ เลชเชนโก" (Serhiy Leshchenko) ที่ปรึกษาของเซเลนสกีและเยอร์มัค กล่าวกับสื่อว่า เซเลนสกีเตรียมแผนหยุดยิงชั่วคราวเพื่อไปคุยกับทรัมป์ "ยูเครนจะไม่ตกลงหยุดยิงภาคพื้นดิน เพราะนั่นจะทำให้ปูตินมีโอกาสฟื้นกำลังพลและกลับมาสู้รบอีกครั้งในภายหลัง"

    “ทรัมป์ถามเราว่า เรามีแผนหยุดยิงหรือยัง เราตอบว่าเรามี เราเสนอให้หยุดยิงทางอากาศ หยุดโจมตีด้วยโดรน ขีปนาวุธ เรายังเสนอให้หยุดการโจมตีทางทะเลอีกด้วย โดยเราให้คำมั่นว่าจะไม่โจมตีตามที่กล่าวมา
    นอกจากนี้ เรายังเสนอให้หยุดการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน แต่การหยุดยิงจะไม่ใช่ทางภาคพื้นดิน ซึ่งปูตินอาจใช้ช่วงเวลานั้นในการรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ คัดเลือกทหารราบจากเกาหลีเหนือ และเริ่มต้นสงครามอีกครั้ง” เลชเชนโกกล่าวทางโทรทัศน์ของยูเครน

    เลชเชนโก ยังกล่าวอีกว่าความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ต่อยูเครนไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ดังนั้นเซเลนสกีจะไม่เห็นด้วยกับแผนของทรัมป์ในการสร้างสันติภาพ เซเลนสกีจะไม่เห็นด้วยกับการหยุดยิงภาคพื้นดิน

    เขาอ้างว่า 70% ของความสูญเสียในสนามรบของยูเครนมาจากโดรน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อเสนอของเคียฟน่าจะดึงดูดใจรัสเซียได้

    ข้อเสนอของเลชเชนโกยังจะบั่นทอนความได้เปรียบของรัสเซียในการโจมตีระยะไกลอีกด้วย เนื่องจากมอสโกมีขีปนาวุธและโดรนที่สามารถโจมตียูเครนได้ลึกกว่า

    จากคำกล่าวของเลชเชนโก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงข้ออ้างในการปฏิเสธการหยุดยิงเต็มรูปแบบ ปูตินไม่มีทางเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ ขณะนี้กองทัพยูเครนกำลังสูญเสียเลือดและล่าถอย กองทัพรัสเซียไม่จำเป็นต้องหยุดชะงักเพื่อฟื้นกำลัง
    การอ้างว่าความช่วยเหลือทางทหารของอเมริกาไม่จำเป็นนั้นเป็นการหลอกลวงอย่างชัดเจน และทรัมป์จะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
    ขณะที่เซเลนสกีกำลังเตรียมเดินทางไปซาอุดิอาระเบีย "เซอร์ฮีย์ เลชเชนโก" (Serhiy Leshchenko) ที่ปรึกษาของเซเลนสกีและเยอร์มัค กล่าวกับสื่อว่า เซเลนสกีเตรียมแผนหยุดยิงชั่วคราวเพื่อไปคุยกับทรัมป์ "ยูเครนจะไม่ตกลงหยุดยิงภาคพื้นดิน เพราะนั่นจะทำให้ปูตินมีโอกาสฟื้นกำลังพลและกลับมาสู้รบอีกครั้งในภายหลัง" “ทรัมป์ถามเราว่า เรามีแผนหยุดยิงหรือยัง เราตอบว่าเรามี เราเสนอให้หยุดยิงทางอากาศ หยุดโจมตีด้วยโดรน ขีปนาวุธ เรายังเสนอให้หยุดการโจมตีทางทะเลอีกด้วย โดยเราให้คำมั่นว่าจะไม่โจมตีตามที่กล่าวมา นอกจากนี้ เรายังเสนอให้หยุดการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน แต่การหยุดยิงจะไม่ใช่ทางภาคพื้นดิน ซึ่งปูตินอาจใช้ช่วงเวลานั้นในการรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ คัดเลือกทหารราบจากเกาหลีเหนือ และเริ่มต้นสงครามอีกครั้ง” เลชเชนโกกล่าวทางโทรทัศน์ของยูเครน เลชเชนโก ยังกล่าวอีกว่าความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ต่อยูเครนไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ดังนั้นเซเลนสกีจะไม่เห็นด้วยกับแผนของทรัมป์ในการสร้างสันติภาพ เซเลนสกีจะไม่เห็นด้วยกับการหยุดยิงภาคพื้นดิน เขาอ้างว่า 70% ของความสูญเสียในสนามรบของยูเครนมาจากโดรน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อเสนอของเคียฟน่าจะดึงดูดใจรัสเซียได้ ข้อเสนอของเลชเชนโกยังจะบั่นทอนความได้เปรียบของรัสเซียในการโจมตีระยะไกลอีกด้วย เนื่องจากมอสโกมีขีปนาวุธและโดรนที่สามารถโจมตียูเครนได้ลึกกว่า จากคำกล่าวของเลชเชนโก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงข้ออ้างในการปฏิเสธการหยุดยิงเต็มรูปแบบ ปูตินไม่มีทางเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ ขณะนี้กองทัพยูเครนกำลังสูญเสียเลือดและล่าถอย กองทัพรัสเซียไม่จำเป็นต้องหยุดชะงักเพื่อฟื้นกำลัง การอ้างว่าความช่วยเหลือทางทหารของอเมริกาไม่จำเป็นนั้นเป็นการหลอกลวงอย่างชัดเจน และทรัมป์จะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • การสื่อสารกับ แขกอินเดีย ต้องย้ำแล้วย้ำอีก สามรอบ

    https://mgronline.com/around/detail/9680000022637
    การสื่อสารกับ แขกอินเดีย ต้องย้ำแล้วย้ำอีก สามรอบ https://mgronline.com/around/detail/9680000022637
    MGRONLINE.COM
    ถอยกรูดไม่เป็นท่า! อินเดียอ้าง BRICS เสียงแตกเทดอลลาร์ หลังทรัมป์ขู่รีดภาษีถึงตาย
    ข้อสันนิษฐานว่าบรรดาสมาชิกกลุ่ม BRICS กำลังทำงานอย่างกระตือรือร้นในการต่อต้านดอลลาร์ ไม่เป็นความจริง จากคำยืนยันของ ดร. เอส. ชัยศังกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ระหว่างกล่าวกับที่ประชุมหนึ่งในลอนดอน เมื่อช่วงกลางส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายศรัณยู ประชากริช หรือ บีม เผยหลังให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ดีเอสไอให้เล่าทุกคำพูด เหตุการณ์ทั้งหมดที่คุยกับคนบนเรือและคนอื่นในวันนั้น คดีนี้ยิ่งเห็นยิ่งน่าสงสัย มีคนระดับใหญ่โตเกี่ยวข้องเยอะมาก ทุกคนมองไม่ใช่อุบัติเหตุต้องใหญ่กว่านั้น มีสายโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องมากกว่าวันละหลายสิบสาย แต่ละสายเป็นรุ่นใหญ่เบอร์เลขสวย ถ้าเป็นอุบัติเหตุคงไม่โทรอย่างนั้น ในคืนเกิดเหตุตรงท่า NBC ปอโทรศัพท์หากระติกบอกอย่าให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน บอกว่า"จะรอคุยกับทนายจะจัดการเอง" ตั้งข้อสังเกตทำไมเกิดอุบัติเหตุต้องคุยกับทนาย กระติกและคนบนเรือไม่กระตือรือร้นหาแตงโม ทำไมมานั่งพักที่อู่ NBC หรือทุกคนรู้ว่าแตงโมจะเสียชีวิต กระติกบอกเป็นการรีวิวเรือเพราะต้องการทำเป็นเรือท่องเที่ยว สงสัยหากรีวิวน่าจะมีช่างภาพ ส่วนที่คนบนเรืออ้างว่าจุดตกคือสะพานพระราม 7 แต่จุดที่ร่างแตงโมลอยขึ้นมามีระยะห่าง 500 เมตรเป็นหัวโค้งน้ำ ตั้งข้อสงสัยทำไมร่างจึงลอยมาท่าเรือพิบูลสงคราม

    -เด้งหัวหน้าควบคุมแดน 7
    -ตรวจหลักฐานทนายตั้มโกง
    -โลกสดใสแจกเงินจ่ายค่าเทอม
    -ชุมพรเฝ้าระวังแผ่นดินไหว
    นายศรัณยู ประชากริช หรือ บีม เผยหลังให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ดีเอสไอให้เล่าทุกคำพูด เหตุการณ์ทั้งหมดที่คุยกับคนบนเรือและคนอื่นในวันนั้น คดีนี้ยิ่งเห็นยิ่งน่าสงสัย มีคนระดับใหญ่โตเกี่ยวข้องเยอะมาก ทุกคนมองไม่ใช่อุบัติเหตุต้องใหญ่กว่านั้น มีสายโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องมากกว่าวันละหลายสิบสาย แต่ละสายเป็นรุ่นใหญ่เบอร์เลขสวย ถ้าเป็นอุบัติเหตุคงไม่โทรอย่างนั้น ในคืนเกิดเหตุตรงท่า NBC ปอโทรศัพท์หากระติกบอกอย่าให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน บอกว่า"จะรอคุยกับทนายจะจัดการเอง" ตั้งข้อสังเกตทำไมเกิดอุบัติเหตุต้องคุยกับทนาย กระติกและคนบนเรือไม่กระตือรือร้นหาแตงโม ทำไมมานั่งพักที่อู่ NBC หรือทุกคนรู้ว่าแตงโมจะเสียชีวิต กระติกบอกเป็นการรีวิวเรือเพราะต้องการทำเป็นเรือท่องเที่ยว สงสัยหากรีวิวน่าจะมีช่างภาพ ส่วนที่คนบนเรืออ้างว่าจุดตกคือสะพานพระราม 7 แต่จุดที่ร่างแตงโมลอยขึ้นมามีระยะห่าง 500 เมตรเป็นหัวโค้งน้ำ ตั้งข้อสงสัยทำไมร่างจึงลอยมาท่าเรือพิบูลสงคราม -เด้งหัวหน้าควบคุมแดน 7 -ตรวจหลักฐานทนายตั้มโกง -โลกสดใสแจกเงินจ่ายค่าเทอม -ชุมพรเฝ้าระวังแผ่นดินไหว
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • เชียงราย - ผ่าอาณาจักร “เสี่ยจิว” หนุ่มลูกครึ่งจีน-ชาติพันธุ์ลาหู่ จากดอยแม่สลอง-ป่าตึง แม่จัน..ชื่อโผล่เป็นพ่อค้ายาแถวหน้ามา 3 ปี พบพฤติกรรมชอบสวมเสื้อซาฟารี-อ้างติดยศ “พันตรี” คุมอดีตสิบเอกรบพิเศษ พร้อมลูกน้องค้ายา-ขนไอซ์ ซุกอำพรางรถดัดแปลงเป็นรถทหาร ค้นรังเจอทั้งปืน-เครื่องกระสุน-ระเบิด ฯลฯ เหมือนคลังแสงขนาดย่อม แถมมีเครื่องแบบทหารปักชื่อพร้อมสรรพ

    กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย บก.สส.ภ.5 ร่วมกับทั้ง สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ยึดไอซ์ประมาณ 1,500 กิโลกรัม ซุกซ่อนในถัง 200 ลิตรที่เก็บไว้บนรถบรรทุก 6 ล้อดัดแปลงคล้ายรถขนส่งทหารติดทะเบียนกงจักร และจับผู้ต้องหาได้ 7 คน โดย 2 คนที่ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บเป็นอดีตทหารรบพิเศษยศสิบเอกที่ถูกปลดออกจากราชการแล้ว เหตุเกิดวันที่ 7-8 มี.ค. 2568 นั้น

    เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.5 ระบุว่าเครือข่ายนี้เป็นของ "เสี่ยจิว" นายชุติธัญญ์ อายุ 40 ปี เป็นลูกครึ่งจีนและลาหู่ มีพื้นเพเดิมอยู่บนดอยแม่สลอง-ป่าตึง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งตัวจริง ส่วนคนอื่นๆ เป็นเพียงลูกน้อง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000023064

    #MGROnline #เชียงราย #เสี่ยจิว #ดอยแม่สลอง #พ่อค้ายา #พันตรี #อดีตสิบเอกรบพิเศษ #รถดัดแปลง #รถทหาร
    เชียงราย - ผ่าอาณาจักร “เสี่ยจิว” หนุ่มลูกครึ่งจีน-ชาติพันธุ์ลาหู่ จากดอยแม่สลอง-ป่าตึง แม่จัน..ชื่อโผล่เป็นพ่อค้ายาแถวหน้ามา 3 ปี พบพฤติกรรมชอบสวมเสื้อซาฟารี-อ้างติดยศ “พันตรี” คุมอดีตสิบเอกรบพิเศษ พร้อมลูกน้องค้ายา-ขนไอซ์ ซุกอำพรางรถดัดแปลงเป็นรถทหาร ค้นรังเจอทั้งปืน-เครื่องกระสุน-ระเบิด ฯลฯ เหมือนคลังแสงขนาดย่อม แถมมีเครื่องแบบทหารปักชื่อพร้อมสรรพ • กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย บก.สส.ภ.5 ร่วมกับทั้ง สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ยึดไอซ์ประมาณ 1,500 กิโลกรัม ซุกซ่อนในถัง 200 ลิตรที่เก็บไว้บนรถบรรทุก 6 ล้อดัดแปลงคล้ายรถขนส่งทหารติดทะเบียนกงจักร และจับผู้ต้องหาได้ 7 คน โดย 2 คนที่ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บเป็นอดีตทหารรบพิเศษยศสิบเอกที่ถูกปลดออกจากราชการแล้ว เหตุเกิดวันที่ 7-8 มี.ค. 2568 นั้น • เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.5 ระบุว่าเครือข่ายนี้เป็นของ "เสี่ยจิว" นายชุติธัญญ์ อายุ 40 ปี เป็นลูกครึ่งจีนและลาหู่ มีพื้นเพเดิมอยู่บนดอยแม่สลอง-ป่าตึง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งตัวจริง ส่วนคนอื่นๆ เป็นเพียงลูกน้อง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000023064 • #MGROnline #เชียงราย #เสี่ยจิว #ดอยแม่สลอง #พ่อค้ายา #พันตรี #อดีตสิบเอกรบพิเศษ #รถดัดแปลง #รถทหาร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผ่าอาณาจักร “เสี่ยจิว” หนุ่มลูกครึ่งจีน-ชาติพันธุ์ลาหู่ จากดอยแม่สลอง-ป่าตึง แม่จัน..ชื่อโผล่เป็นพ่อค้ายาแถวหน้ามา 3 ปี พบพฤติกรรมชอบสวมเสื้อซาฟารี-อ้างติดยศ “พันตรี” คุมอดีตสิบเอกรบพิเศษ พร้อมลูกน้องค้ายา-ขนไอซ์ ซุกอำพรางรถดัดแปลงเป็นรถทหาร ค้นรังเจอทั้งปืน-เครื่องกระสุน-ระเบิด ฯลฯ เหมือนคลังแสงขนาดย่อม แถมมีเครื่องแบบทหารปักชื่อพร้อมสรรพ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000023064

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผ่าอาณาจักร “เสี่ยจิว” หนุ่มลูกครึ่งจีน-ชาติพันธุ์ลาหู่ จากดอยแม่สลอง-ป่าตึง แม่จัน..ชื่อโผล่เป็นพ่อค้ายาแถวหน้ามา 3 ปี พบพฤติกรรมชอบสวมเสื้อซาฟารี-อ้างติดยศ “พันตรี” คุมอดีตสิบเอกรบพิเศษ พร้อมลูกน้องค้ายา-ขนไอซ์ ซุกอำพรางรถดัดแปลงเป็นรถทหาร ค้นรังเจอทั้งปืน-เครื่องกระสุน-ระเบิด ฯลฯ เหมือนคลังแสงขนาดย่อม แถมมีเครื่องแบบทหารปักชื่อพร้อมสรรพ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000023064 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 556 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปอ" สั่งอย่าให้ข้อมูลสื่อ บอก "จะจัดการเอง" : [THE MESSAGE]

    นายศรัณยู ประชากริช หรือ บีม
    ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) วันเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากโบ TK เวลา 23.15 น. บอกว่า“โมตกน้ำ ตกท้ายเรือ” จึงรีบไปที่เกิดเหตุจุดที่ทุกคนอ้างคือสะพานพระราม 7 เวลา 23.30 น. กระติกเล่าว่า “โมว่ายน้ำไม่เป็น” ส่วนปอก็พูดวนด้วยประโยคเดิม 3 ครั้ง ว่า “โมไปฉี่ท้ายเรือ แล้วตกเรือ” ต่อมาเวลา 01.00 น. ได้ไปคุยกับคนบนเรือตรงท่า NBC ได้เห็นโทรศัพท์ของแตงโมอยู่ที่กระติก พร้อมสายเรียกเข้าหลายสาย ช่วงเวลาเดียวกันปอโทรศัพท์หากระติกไม่ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน บอกว่า"จะจัดการเอง"
    ตั้งข้อสังเกตทำไมกระติกและคนบนเรือไม่กระตือรือร้นตามหาแตงโม ทำไมมานั่งพักที่อู่ NBC หรือเพราะทุกคนรู้แล้วว่าแตงโมจะเสียชีวิต กระติกบอกว่า เป็นการรีวิวเรือเพราะต้องการทำเป็นเรือท่องเที่ยว สงสัยหากรีวิวน่าจะมีช่างภาพ แต่นี่ดูไม่ได้เตรียมอะไรเลย ส่วนที่คนบนเรืออ้างว่าจุดแตงโมตกคือสะพานพระราม 7 แต่จุดที่ร่างแตงโมลอยขึ้นมาเป็นคนละจุด มีระยะห่าง 500 เมตรเป็นหัวโค้งน้ำยังตั้งข้อสงสัยทำไมร่างจึงลอยมาอยู่ท่าเรือพิบูลสงคราม ไม่เคยคิดว่าคดีแตงโมเป็นอุบัติเหตุ
    "ปอ" สั่งอย่าให้ข้อมูลสื่อ บอก "จะจัดการเอง" : [THE MESSAGE] นายศรัณยู ประชากริช หรือ บีม ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) วันเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากโบ TK เวลา 23.15 น. บอกว่า“โมตกน้ำ ตกท้ายเรือ” จึงรีบไปที่เกิดเหตุจุดที่ทุกคนอ้างคือสะพานพระราม 7 เวลา 23.30 น. กระติกเล่าว่า “โมว่ายน้ำไม่เป็น” ส่วนปอก็พูดวนด้วยประโยคเดิม 3 ครั้ง ว่า “โมไปฉี่ท้ายเรือ แล้วตกเรือ” ต่อมาเวลา 01.00 น. ได้ไปคุยกับคนบนเรือตรงท่า NBC ได้เห็นโทรศัพท์ของแตงโมอยู่ที่กระติก พร้อมสายเรียกเข้าหลายสาย ช่วงเวลาเดียวกันปอโทรศัพท์หากระติกไม่ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน บอกว่า"จะจัดการเอง" ตั้งข้อสังเกตทำไมกระติกและคนบนเรือไม่กระตือรือร้นตามหาแตงโม ทำไมมานั่งพักที่อู่ NBC หรือเพราะทุกคนรู้แล้วว่าแตงโมจะเสียชีวิต กระติกบอกว่า เป็นการรีวิวเรือเพราะต้องการทำเป็นเรือท่องเที่ยว สงสัยหากรีวิวน่าจะมีช่างภาพ แต่นี่ดูไม่ได้เตรียมอะไรเลย ส่วนที่คนบนเรืออ้างว่าจุดแตงโมตกคือสะพานพระราม 7 แต่จุดที่ร่างแตงโมลอยขึ้นมาเป็นคนละจุด มีระยะห่าง 500 เมตรเป็นหัวโค้งน้ำยังตั้งข้อสงสัยทำไมร่างจึงลอยมาอยู่ท่าเรือพิบูลสงคราม ไม่เคยคิดว่าคดีแตงโมเป็นอุบัติเหตุ
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 465 มุมมอง 38 0 รีวิว
  • Mon. Mar. 10, 2025

    เช้านี้เราดูคลิปใน youtube ที่ลงไว้เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน เป็นคลิปที่ Trump Voters ออกมาเสียใจที่เลือก Trump เข้ามา...แต่เราเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะมันอาจเป็นการแสดงของคนเกลียด Trump หรือเกลียดนักการเมืองทุกคนแบบเราก็ได้ เพราะดูการพูดจา กิริยามารยาท และการแต่งตัว อาจจะไม่ใช่สาวกของ Trump ตัวจริงเสียงจริงนะ อันนี้ความคิดเราเอง สิ่งที่เราเห็นกันทุกวันนี้ มันเชื่อยากขึ้นไปทุกที

    แล้วเราก็ดูภาพนี้...
    แล้วก็ลองหาจุดเหมือนระหว่าง 2 ภาพนี้😆

    - คนซ้ายในทั้งสองภาพ ฉลาดคดโกงมากๆเหมือนกัน
    - คนขวาในทั้งสองภาพ สมองกลวงมากๆเหมือนกัน
    - คนขวาในทั้งสองภาพ หลังขึ้นรับตำแหน่ง ทั้งสองจะปั่นหุ้นบ้าง ปั่น Crypto บ้างในเดือนแรกๆ และจะเกิด free fall หลังจากนั้นเรื้อรังยาวนานเหมือนกัน
    - ทั้งสี่คนในภาพ รวยล้นฟ้า และคนแก่ทั้งสองในภาพใช้เงินและตำแหน่งลบล้างความผิดเหมือนกัน
    - ทั้งสี่คนในภาพ มีท่อน้ำเลี้ยงคือนายทุน ข้าราชการใหญ่ๆ และคนในเครื่องแบบ และได้คะแนนเสียง vote ส่วนใหญ่มาจากคนรากหญ้าเหมือนกัน
    - คนขวาในทั้งสองภาพ มีบุคลิก no สน no care กร่าง และหลงระเริงในอำนาจหลังจากได้ตำแหน่งเหมือนกัน
    - คนที่โชคร้ายที่สุดส่วนใหญ่คือ คะแนนเสียง vote ส่วนใหญ่ และประชาชนทั่วไปทั้งประเทศเหมือนกัน
    - ทั้งสองทีม ไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษาเหมือนกัน

    และก็หาจุดแตกต่าง (ที่ไม่อยู่ในภาพ) ระหว่าง 2 ภาพนี้😆

    - ทีมซ้ายเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านเพราะผลประโยชน์ และเปิดประตูให้ต่างชาติ เดินเข้ามาปล้นทางทำกิน และฆ่าคนในประเทศตัวเองทั้งเป็นตรงๆ
    ส่วนทีมขวาปิดประตูและไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน และฆ่าคนในประเทศตัวเองทั้งเป็นทางอ้อม
    - ประชากรในประเทศซ้าย (66 ล้านคน) ความรู้สึกช้ามาก กว่าจะรู้สึกตัวว่าถูกขายฝัน และตั้งแต่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นมา ผ่านมา 19 เดือนจนถึงทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ หวาดกลัวเพราะไร้การศึกษา ไร้ที่ยึดเหนี่ยว ไร้ผู้นำและข้อมูลที่ดี และจมดิ่งด้วยหนี้สินเกินกว่าจะลุกขึ้นสู้ และก็ถูกมัดมือชกๆๆ จนกว่าจะหมดลมหายใจ
    ในขณะที่ประชาชนในประเทศขวา (340 ล้านคน) แม้รู้ตัวว่าถูกขายฝัน ตั้งแต่เดือนที่สามของการเปลี่ยนผู้นำ แต่ถึงจะรู้ตัวเร็วกว่า แต่ความเสียหายนั้นมากมายมหาศาลและบาดลึกกว่ามากหลายเท่า

    ต้องขอโทษเพื่อนๆที่รักชอบพี่ Trump นะคะ แต่เอาเป็นว่าเดี๋ยวมารอดูกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แล้วจะรู้ว่าการมอบอำนาจให้เด็ก 5 ขวบที่สติวิปลาสดูแลประเทศใหญ่ๆ จะเป็นอย่างไร เราอยู่ NY ช่วง Covid19 มาแล้ว ช่วงที่คนตายวันละ 900 กว่าศพ (ที่เจอ) ช่วงที่บริษัทยายังคิดเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสไม่ออก ช่วงที่พี่ Trump แกพูดออกสื่อแบบไม่อายทุกวันด้วยตรรกะที่ป่วยหนักมาก ผ่านไป 4 ปี เราว่าคนเราที่อายุเท่านั้นแล้ว ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ทันก่อนลาโลกแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าตื่นเต้นว่าเขาจะขมขู่ประเทศใดๆเลยค่ะ เขาเป็นคนเขลา ขี้ขลาด มักมากในกาม และรักตัวกลัวตายค่ะ รอดูปลาหมอปากแจ๋วและพรรคพวกเขาจมน้ำตายดีกว่า
    ส่วนพี่ทักกี้ ไม่ต้องเป็นห่วงแกนะคะ เพราะพี่ทักกี้แกไม่ขึ้นอยู่กับความผันผวนของพี่ Trump เลยค่ะ แก focus กับการสร้างโครงการปอกลอกประชาชนในประเทศเล็กๆ เก็บเล็กผสมน้อยให้วงศ์ตระกูลไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่าต้องมีโครงการอะไรสำเร็จเลยก็ได้จ้า

    เราขอสรุปความคิดเห็นของเรานะคะว่า
    ทุกประเทศในโลกใบนี้จะมีกลุ่มการเมืองแค่ 2 ฝ่าย
    ฝ่ายนึง ประกอบด้วย นักการเมืองทุกพรรค (รวมฝ่ายค้านด้วย) ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นายทุน และมาเฟียท้องถิ่น ผู้ใช้เงินและอำนาจผลัดกันมาขับเคลื่อนเงินทองเข้ากระเป๋าพรรคพวกและครอบครัวตนเองให้ได้มากและนานที่สุด
    .....
    อีกฝ่ายนึง ประกอบไปด้วยประชากรของประเทศนั้นๆ ผู้ดิ้นรนต่อสู้ใช้แรงกายแรงใจทั้งชีวิตเพื่อปากท้องของครอบครัว และปากท้องของประเทศชาติ
    #คนจนผู้ยิ่งใหญ่มีให้เห็นดาษดื่นในทุกวัน
    Mon. Mar. 10, 2025 เช้านี้เราดูคลิปใน youtube ที่ลงไว้เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน เป็นคลิปที่ Trump Voters ออกมาเสียใจที่เลือก Trump เข้ามา...แต่เราเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะมันอาจเป็นการแสดงของคนเกลียด Trump หรือเกลียดนักการเมืองทุกคนแบบเราก็ได้ เพราะดูการพูดจา กิริยามารยาท และการแต่งตัว อาจจะไม่ใช่สาวกของ Trump ตัวจริงเสียงจริงนะ อันนี้ความคิดเราเอง สิ่งที่เราเห็นกันทุกวันนี้ มันเชื่อยากขึ้นไปทุกที แล้วเราก็ดูภาพนี้... แล้วก็ลองหาจุดเหมือนระหว่าง 2 ภาพนี้😆 - คนซ้ายในทั้งสองภาพ ฉลาดคดโกงมากๆเหมือนกัน - คนขวาในทั้งสองภาพ สมองกลวงมากๆเหมือนกัน - คนขวาในทั้งสองภาพ หลังขึ้นรับตำแหน่ง ทั้งสองจะปั่นหุ้นบ้าง ปั่น Crypto บ้างในเดือนแรกๆ และจะเกิด free fall หลังจากนั้นเรื้อรังยาวนานเหมือนกัน - ทั้งสี่คนในภาพ รวยล้นฟ้า และคนแก่ทั้งสองในภาพใช้เงินและตำแหน่งลบล้างความผิดเหมือนกัน - ทั้งสี่คนในภาพ มีท่อน้ำเลี้ยงคือนายทุน ข้าราชการใหญ่ๆ และคนในเครื่องแบบ และได้คะแนนเสียง vote ส่วนใหญ่มาจากคนรากหญ้าเหมือนกัน - คนขวาในทั้งสองภาพ มีบุคลิก no สน no care กร่าง และหลงระเริงในอำนาจหลังจากได้ตำแหน่งเหมือนกัน - คนที่โชคร้ายที่สุดส่วนใหญ่คือ คะแนนเสียง vote ส่วนใหญ่ และประชาชนทั่วไปทั้งประเทศเหมือนกัน - ทั้งสองทีม ไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษาเหมือนกัน และก็หาจุดแตกต่าง (ที่ไม่อยู่ในภาพ) ระหว่าง 2 ภาพนี้😆 - ทีมซ้ายเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านเพราะผลประโยชน์ และเปิดประตูให้ต่างชาติ เดินเข้ามาปล้นทางทำกิน และฆ่าคนในประเทศตัวเองทั้งเป็นตรงๆ ส่วนทีมขวาปิดประตูและไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน และฆ่าคนในประเทศตัวเองทั้งเป็นทางอ้อม - ประชากรในประเทศซ้าย (66 ล้านคน) ความรู้สึกช้ามาก กว่าจะรู้สึกตัวว่าถูกขายฝัน และตั้งแต่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นมา ผ่านมา 19 เดือนจนถึงทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ หวาดกลัวเพราะไร้การศึกษา ไร้ที่ยึดเหนี่ยว ไร้ผู้นำและข้อมูลที่ดี และจมดิ่งด้วยหนี้สินเกินกว่าจะลุกขึ้นสู้ และก็ถูกมัดมือชกๆๆ จนกว่าจะหมดลมหายใจ ในขณะที่ประชาชนในประเทศขวา (340 ล้านคน) แม้รู้ตัวว่าถูกขายฝัน ตั้งแต่เดือนที่สามของการเปลี่ยนผู้นำ แต่ถึงจะรู้ตัวเร็วกว่า แต่ความเสียหายนั้นมากมายมหาศาลและบาดลึกกว่ามากหลายเท่า ต้องขอโทษเพื่อนๆที่รักชอบพี่ Trump นะคะ แต่เอาเป็นว่าเดี๋ยวมารอดูกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แล้วจะรู้ว่าการมอบอำนาจให้เด็ก 5 ขวบที่สติวิปลาสดูแลประเทศใหญ่ๆ จะเป็นอย่างไร เราอยู่ NY ช่วง Covid19 มาแล้ว ช่วงที่คนตายวันละ 900 กว่าศพ (ที่เจอ) ช่วงที่บริษัทยายังคิดเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสไม่ออก ช่วงที่พี่ Trump แกพูดออกสื่อแบบไม่อายทุกวันด้วยตรรกะที่ป่วยหนักมาก ผ่านไป 4 ปี เราว่าคนเราที่อายุเท่านั้นแล้ว ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ทันก่อนลาโลกแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าตื่นเต้นว่าเขาจะขมขู่ประเทศใดๆเลยค่ะ เขาเป็นคนเขลา ขี้ขลาด มักมากในกาม และรักตัวกลัวตายค่ะ รอดูปลาหมอปากแจ๋วและพรรคพวกเขาจมน้ำตายดีกว่า ส่วนพี่ทักกี้ ไม่ต้องเป็นห่วงแกนะคะ เพราะพี่ทักกี้แกไม่ขึ้นอยู่กับความผันผวนของพี่ Trump เลยค่ะ แก focus กับการสร้างโครงการปอกลอกประชาชนในประเทศเล็กๆ เก็บเล็กผสมน้อยให้วงศ์ตระกูลไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่าต้องมีโครงการอะไรสำเร็จเลยก็ได้จ้า เราขอสรุปความคิดเห็นของเรานะคะว่า ทุกประเทศในโลกใบนี้จะมีกลุ่มการเมืองแค่ 2 ฝ่าย ฝ่ายนึง ประกอบด้วย นักการเมืองทุกพรรค (รวมฝ่ายค้านด้วย) ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นายทุน และมาเฟียท้องถิ่น ผู้ใช้เงินและอำนาจผลัดกันมาขับเคลื่อนเงินทองเข้ากระเป๋าพรรคพวกและครอบครัวตนเองให้ได้มากและนานที่สุด ..... อีกฝ่ายนึง ประกอบไปด้วยประชากรของประเทศนั้นๆ ผู้ดิ้นรนต่อสู้ใช้แรงกายแรงใจทั้งชีวิตเพื่อปากท้องของครอบครัว และปากท้องของประเทศชาติ #คนจนผู้ยิ่งใหญ่มีให้เห็นดาษดื่นในทุกวัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✴️️การทานคอลลาเจนอย่างไร❓️
    ✅️✅️ให้เห็นผลเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด✴️

    ➡️คอลลาเจนเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยบำรุงผิว ผม เล็บ ข้อต่อ และสุขภาพโดยรวม แต่การทานคอลลาเจนให้ได้ผลดีที่สุดต้องมีเทคนิคที่เหมาะสม
    ➡️1. เลือกประเภทคอลลาเจนที่ดูดซึมได้ดีที่สุด

    คอลลาเจนมีหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้เพื่อความงามคือ
    ✅ คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Tripeptide Collagen) – โมเลกุลเล็ก ดูดซึมได้ดีที่สุด
    ✅ คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide) – ย่อยง่าย ร่างกายนำไปใช้ได้เร็ว
    ✅ คอลลาเจน Type 1 และ Type 3 – ดีต่อผิว ผม เล็บ และข้อต่อ

    🔹 หลีกเลี่ยงคอลลาเจนโมเลกุลใหญ่ เช่น คอลลาเจนธรรมดา ที่ร่างกายดูดซึมได้น้อย

    ➡️2. ทานคอลลาเจนตอนท้องว่าง หรือก่อนนอน

    ⏰ ช่วงเวลาที่ดีที่สุด:
    ✅ ตอนเช้า (ก่อนอาหาร 30 นาที) – ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดี
    ✅ ก่อนนอน (30-60 นาที) – ช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมผิว

    🔹 ไม่ควรทานพร้อมอาหารมื้อใหญ่ เพราะอาจลดการดูดซึม

    ➡️3. ทานคู่กับวิตามินซี ช่วยเพิ่มการดูดซึม

    💊 วิตามินซี ช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์คอลลาเจนได้ดีขึ้น
    ✅ แนะนำ: ทานคอลลาเจนพร้อมน้ำส้ม มะนาว หรือวิตามินซี 500-1,000 มก.
    ❌ หลีกเลี่ยงการทานคอลลาเจนกับนม เพราะแคลเซียมอาจลดการดูดซึม

    ➡️4. ปริมาณที่แนะนำต่อวัน

    💡 5,000 - 10,000 มก. ต่อวัน

    5,000 มก. → เหมาะสำหรับการบำรุงทั่วไป

    10,000 มก. → เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวเร็ว

    ❌ ไม่ควรทานเกิน 10,000 มก./วัน เพราะร่างกายดูดซึมได้จำกัด

    ➡️5. คอลลาเจนรูปแบบไหนดีที่สุด?

    👉 แบบผงชงดื่ม – ดูดซึมเร็ว ไม่มีสารกันเสีย

    👉 แบบแคปซูล – พกพาสะดวก แต่ดูดซึมช้ากว่าแบบผง

    👉แบบเยลลี่หรือเครื่องดื่มสำเร็จรูป – ดูดซึมไว แต่บางยี่ห้อมีน้ำตาลสูง

    ➡️ 6. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายคอลลาเจน

    ❌ น้ำตาลและของหวาน – ทำให้คอลลาเจนเสื่อมเร็ว
    ❌ อาหารแปรรูปและทอดกรอบ – ทำลายเซลล์ผิว
    ❌ สูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ – ลดการผลิตคอลลาเจน

    ➡️7. ใช้ชีวิตแบบช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

    ✅ ดื่มน้ำให้เพียงพอ (วันละ 2-3 ลิตร)
    ✅ ออกกำลังกาย (โยคะ/เวทเทรนนิ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน)
    ✅ พักผ่อนให้เพียงพอ (นอน 7-9 ชั่วโมงต่อคืน)

    ❤️สรุปเคล็ดลับทานคอลลาเจนให้ได้ผลเร็ว

    ✅ เลือกคอลลาเจนไตรเปปไทด์หรือเปปไทด์
    ✅ ทานตอนท้องว่างหรือก่อนนอน
    ✅ ทานคู่กับวิตามินซีเพื่อเพิ่มการดูดซึม
    ✅ หลีกเลี่ยงน้ำตาล อาหารแปรรูป และแอลกอฮอล์
    ✅ ออกกำลังกายและนอนหลับให้เพียงพอ

    📌 ใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์เพื่อเริ่มเห็นผล ผิวจะชุ่มชื้นขึ้น และริ้วรอยจางลง
    ✴️️การทานคอลลาเจนอย่างไร❓️ ✅️✅️ให้เห็นผลเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด✴️ ➡️คอลลาเจนเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยบำรุงผิว ผม เล็บ ข้อต่อ และสุขภาพโดยรวม แต่การทานคอลลาเจนให้ได้ผลดีที่สุดต้องมีเทคนิคที่เหมาะสม ➡️1. เลือกประเภทคอลลาเจนที่ดูดซึมได้ดีที่สุด คอลลาเจนมีหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้เพื่อความงามคือ ✅ คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Tripeptide Collagen) – โมเลกุลเล็ก ดูดซึมได้ดีที่สุด ✅ คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide) – ย่อยง่าย ร่างกายนำไปใช้ได้เร็ว ✅ คอลลาเจน Type 1 และ Type 3 – ดีต่อผิว ผม เล็บ และข้อต่อ 🔹 หลีกเลี่ยงคอลลาเจนโมเลกุลใหญ่ เช่น คอลลาเจนธรรมดา ที่ร่างกายดูดซึมได้น้อย ➡️2. ทานคอลลาเจนตอนท้องว่าง หรือก่อนนอน ⏰ ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ✅ ตอนเช้า (ก่อนอาหาร 30 นาที) – ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดี ✅ ก่อนนอน (30-60 นาที) – ช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมผิว 🔹 ไม่ควรทานพร้อมอาหารมื้อใหญ่ เพราะอาจลดการดูดซึม ➡️3. ทานคู่กับวิตามินซี ช่วยเพิ่มการดูดซึม 💊 วิตามินซี ช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์คอลลาเจนได้ดีขึ้น ✅ แนะนำ: ทานคอลลาเจนพร้อมน้ำส้ม มะนาว หรือวิตามินซี 500-1,000 มก. ❌ หลีกเลี่ยงการทานคอลลาเจนกับนม เพราะแคลเซียมอาจลดการดูดซึม ➡️4. ปริมาณที่แนะนำต่อวัน 💡 5,000 - 10,000 มก. ต่อวัน 5,000 มก. → เหมาะสำหรับการบำรุงทั่วไป 10,000 มก. → เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวเร็ว ❌ ไม่ควรทานเกิน 10,000 มก./วัน เพราะร่างกายดูดซึมได้จำกัด ➡️5. คอลลาเจนรูปแบบไหนดีที่สุด? 👉 แบบผงชงดื่ม – ดูดซึมเร็ว ไม่มีสารกันเสีย 👉 แบบแคปซูล – พกพาสะดวก แต่ดูดซึมช้ากว่าแบบผง 👉แบบเยลลี่หรือเครื่องดื่มสำเร็จรูป – ดูดซึมไว แต่บางยี่ห้อมีน้ำตาลสูง ➡️ 6. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายคอลลาเจน ❌ น้ำตาลและของหวาน – ทำให้คอลลาเจนเสื่อมเร็ว ❌ อาหารแปรรูปและทอดกรอบ – ทำลายเซลล์ผิว ❌ สูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ – ลดการผลิตคอลลาเจน ➡️7. ใช้ชีวิตแบบช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ✅ ดื่มน้ำให้เพียงพอ (วันละ 2-3 ลิตร) ✅ ออกกำลังกาย (โยคะ/เวทเทรนนิ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน) ✅ พักผ่อนให้เพียงพอ (นอน 7-9 ชั่วโมงต่อคืน) ❤️สรุปเคล็ดลับทานคอลลาเจนให้ได้ผลเร็ว ✅ เลือกคอลลาเจนไตรเปปไทด์หรือเปปไทด์ ✅ ทานตอนท้องว่างหรือก่อนนอน ✅ ทานคู่กับวิตามินซีเพื่อเพิ่มการดูดซึม ✅ หลีกเลี่ยงน้ำตาล อาหารแปรรูป และแอลกอฮอล์ ✅ ออกกำลังกายและนอนหลับให้เพียงพอ 📌 ใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์เพื่อเริ่มเห็นผล ผิวจะชุ่มชื้นขึ้น และริ้วรอยจางลง
    7 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดตำนาน เริงสวาทสีกา คาดาดฟ้า เรือเดินสมุทร “ยันตระ” เสียชีวิตที่อเมริกา หลังปลอมพาสปอร์ต หนีคดีจนหมดอายุความ 🚢⚖️

    🔵 อวสานตำนานพระชื่อดัง กับชีวิตที่กลับกลายเป็นประวัติศาสตร์สังคมไทย เมื่อเอ่ยถึงชื่อ "ยันตระ อมโร" หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ เชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยต้องรู้จัก ไม่ใช่เพียงเพราะเคยเป็น พระภิกษุชื่อดัง ผู้มีผู้ศรัทธามากมาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ หากแต่เพราะชีวิตของยันตระ เต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่า ฉาวโฉ่ และคดีความที่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์ไทย ในยุคหนึ่ง โดยเฉพาะกรณี อาบัติปาราชิก จากข้อกล่าวหาล่วงละเมิดสีกา รวมถึงภาพลักษณ์ ที่แวดล้อมไปด้วยความศรัทธา และความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งยังคงตามหลอกหลอน จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตในต่างแดน ✨

    🔵 จากลูกชาวบ้าน สู่พระนักปฏิบัติชื่อดัง นายวินัย ละอองสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในครอบครัวชาวบ้านธรรมดา ก่อนอุปสมบท ได้ใช้ชีวิตเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปี ได้รับการยกย่องว่าเป็น นักปฏิบัติธรรมผู้ทรงภูมิ ทำให้มีผู้คนเลื่อมใสมากมาย

    ต่อมาในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในธรรมยุติกนิกาย ที่วัดรัตนาราม จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมตั้งนามให้ตัวเองว่า "ยันตระ อมโรภิกขุ" แปลว่า ผู้ไกลจากกิเลส ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มานาน ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นนักพรตฤาษี 🧘‍♂️

    "วัดสุญญตาราม" อาณาจักรแห่งความว่าง หลังจากนั้น พระยันตระได้รับการนิมนต์ ไปเผยแผ่ธรรมในหลายประเทศ มีการจัดตั้ง "สำนักวัดสุญญตาราม" ทั้งในไทยและต่างแดนหลายแห่ง เช่น
    ✅ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี
    ✅ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน ออสเตรเลีย
    ✅ วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    บทสวดและคำสอน แนวกรรมฐานของพระยันตระ ถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ไปในวงกว้าง หลายคนมองว่ายันตระเป็นพระที่มีความรู้ในพระไตรปิฎก และการปฏิบัติที่เข้มขลัง ✨

    🔵 คดีอื้อฉาว ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของพระยันตระ ด้วยข้อกล่าวหาเรื่องเพศสัมพันธ์ และพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในปี พ.ศ. 2537 วงการสงฆ์สะเทือน เมื่อสีกากลุ่มหนึ่ง ยื่นคำร้องต่อสมเด็จพระสังฆราช และอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวหาพระยันตระว่า มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ กับสีกาหลายคน โดยมีพยานหลักฐานสนับสนุนมากมาย 📂

    ข้อกล่าวหาที่โด่งดัง
    🚢 เหตุการณ์บนเรือเดินสมุทร กล่าวหาว่า ยันตระมีเพศสัมพันธ์กับสีกา บนดาดฟ้าเรือ ระหว่างเดินทางจากสวีเดนไปฟินแลนด์

    🏡 กุฏิริมน้ำในออสเตรเลีย กล่าวหาว่า ยันตระมีพฤติกรรมจับต้องกายสตรี ด้วยความกำหนัด

    🚐 เหตุการณ์ในรถตู้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีหลักฐานว่า ยันตระเข้าไปหาสีกาในรถตู้ และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

    📞 บทสนทนาทางโทรศัพท์ พร่ำพูดถึงความรัก และมีหลักฐานเทปเสียง

    👧 ข้อกล่าวหาการมีบุตรสาว นางจันทิมา มายะรังษี นำเด็กหญิงที่อ้างว่า เป็นบุตรสาวของยันตระ มาแสดงตัว พร้อมภาพถ่ายที่แสดงถึงความสัมพันธ์ ฉันท์สามีภรรยา

    💳 หลักฐานบัตรเครดิต รายการใช้จ่ายในสถานบริการทางเพศ ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

    🔵 มติของมหาเถรสมาคม หลังการสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบพยานหลักฐาน มหาเถรสมาคมมีมติให้ "พระยันตระ อมโรภิกขุ" ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ โดยปริยาย ❌

    แต่แทนที่จะยอมรับคำตัดสิน ยันตระกลับประกาศไม่ยอมรับมติ และอ้างว่ายังเป็นพระภิกษุอยู่ โดยเปลี่ยนจีวรเป็นสีเขียว จนได้รับฉายาใหม่จากสื่อว่า

    🦎 "จิ้งเขียว"
    🦹‍♂️ "สมียันดะ"
    🧘‍♂️ "ยันดะ"

    🔵 ปลอมพาสปอร์ต หนีคดีข้ามโลก เมื่อพ้นจากสมณเพศ ยันตระได้ทำพาสปอร์ตปลอม หลบหนีออกจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง

    📜 ตลอด 20 ปี ยันตระใช้ชีวิตที่วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย

    ⏳ ระยะเวลาผ่านไป คดีต่าง ๆ หมดอายุความ ทำให้ยันตระาสามารถกลับประเทศไทยได้อีกครั้ง

    🔵 กลับมาเยือนเมืองไทย
    🗓️ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ยันตระเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีลูกศิษย์รอต้อนรับจำนวนมาก

    🏠 ยันตระได้พบปะกับลูกศิษย์ตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว ที่ท้องสนามหลวง

    📍 จากนั้นได้กลับไปยังบ้านเกิดที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกราบอดีตพระอุปัชฌาย์

    บั้นปลายที่แคลิฟอร์เนีย สุดท้ายแล้ว ยันตระกลับไปยังวัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย และเสียชีวิตในวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2568 สิริรวมอายุ 73 ปี 51 พรรษา 🕊️

    🔵 เสียงสะท้อนจากสังคม และศรัทธาที่ไม่เสื่อมคลาย แม้จะมีข้อกล่าวหาฉาวโฉ่ แต่ก็ยังมีศิษยานุศิษย์ที่ศรัทธาในคำสอน และการปฏิบัติธรรม องพระยันตระ

    🧎‍♂️ หลายคนยังคงกราบไหว้และนับถือ 👉 แต่ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหมาะสมหรือไม่ที่พระรูปอื่นๆ ยังคงกราบไหว้บุคคลที่ถูกถอดจากสมณเพศ 💬

    🔵 สรุปเรื่องราวชีวิต "ยันตระ อมโร"
    1️⃣ จากนักพรตสู่พระภิกษุผู้ยิ่งใหญ่
    2️⃣ คำสอนและแนวปฏิบัติที่มีผู้ศรัทธาทั่วโลก
    3️⃣ คดีอื้อฉาวที่ทำลายชื่อเสียงและนำไปสู่การถอดถอน
    4️⃣ การหลบหนีและใช้ชีวิตในฐานะผู้ลี้ภัย
    5️⃣ การกลับบ้านเกิดหลังคดีหมดอายุความ
    6️⃣ จบบั้นปลายชีวิตในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    🔵 ชีวิตของ "ยันตระ อมโร" เปรียบเหมือนนิยาย ที่มีทั้งช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำ ด้วยพฤติกรรมและการกระทำ ที่นำไปสู่ข้อกล่าวหาหนัก แต่ก็ยังคงมีคนศรัทธาไม่เสื่อมคลาย 💔✨

    👉 เรื่องราวของยันตระ จึงเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทย ในเรื่องศรัทธา ปัญญา และความรับผิดชอบต่อการกระทำ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 101152 มี.ค. 2568

    🔵 #ยันตระอมโร #ข่าวดราม่า #ประวัติพระดัง #วัดสุญญตาราม #สีกาคาดาดฟ้า #ข่าวไทยวันนี้ #เรื่องเล่าพระดัง #ข่าวพระดัง #ยันตระเสียชีวิต #ข่าวด่วนไทย
    ปิดตำนาน เริงสวาทสีกา คาดาดฟ้า เรือเดินสมุทร “ยันตระ” เสียชีวิตที่อเมริกา หลังปลอมพาสปอร์ต หนีคดีจนหมดอายุความ 🚢⚖️ 🔵 อวสานตำนานพระชื่อดัง กับชีวิตที่กลับกลายเป็นประวัติศาสตร์สังคมไทย เมื่อเอ่ยถึงชื่อ "ยันตระ อมโร" หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ เชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยต้องรู้จัก ไม่ใช่เพียงเพราะเคยเป็น พระภิกษุชื่อดัง ผู้มีผู้ศรัทธามากมาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ หากแต่เพราะชีวิตของยันตระ เต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่า ฉาวโฉ่ และคดีความที่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์ไทย ในยุคหนึ่ง โดยเฉพาะกรณี อาบัติปาราชิก จากข้อกล่าวหาล่วงละเมิดสีกา รวมถึงภาพลักษณ์ ที่แวดล้อมไปด้วยความศรัทธา และความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งยังคงตามหลอกหลอน จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตในต่างแดน ✨ 🔵 จากลูกชาวบ้าน สู่พระนักปฏิบัติชื่อดัง นายวินัย ละอองสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในครอบครัวชาวบ้านธรรมดา ก่อนอุปสมบท ได้ใช้ชีวิตเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปี ได้รับการยกย่องว่าเป็น นักปฏิบัติธรรมผู้ทรงภูมิ ทำให้มีผู้คนเลื่อมใสมากมาย ต่อมาในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในธรรมยุติกนิกาย ที่วัดรัตนาราม จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมตั้งนามให้ตัวเองว่า "ยันตระ อมโรภิกขุ" แปลว่า ผู้ไกลจากกิเลส ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มานาน ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นนักพรตฤาษี 🧘‍♂️ "วัดสุญญตาราม" อาณาจักรแห่งความว่าง หลังจากนั้น พระยันตระได้รับการนิมนต์ ไปเผยแผ่ธรรมในหลายประเทศ มีการจัดตั้ง "สำนักวัดสุญญตาราม" ทั้งในไทยและต่างแดนหลายแห่ง เช่น ✅ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี ✅ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน ออสเตรเลีย ✅ วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา บทสวดและคำสอน แนวกรรมฐานของพระยันตระ ถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ไปในวงกว้าง หลายคนมองว่ายันตระเป็นพระที่มีความรู้ในพระไตรปิฎก และการปฏิบัติที่เข้มขลัง ✨ 🔵 คดีอื้อฉาว ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของพระยันตระ ด้วยข้อกล่าวหาเรื่องเพศสัมพันธ์ และพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในปี พ.ศ. 2537 วงการสงฆ์สะเทือน เมื่อสีกากลุ่มหนึ่ง ยื่นคำร้องต่อสมเด็จพระสังฆราช และอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวหาพระยันตระว่า มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ กับสีกาหลายคน โดยมีพยานหลักฐานสนับสนุนมากมาย 📂 ข้อกล่าวหาที่โด่งดัง 🚢 เหตุการณ์บนเรือเดินสมุทร กล่าวหาว่า ยันตระมีเพศสัมพันธ์กับสีกา บนดาดฟ้าเรือ ระหว่างเดินทางจากสวีเดนไปฟินแลนด์ 🏡 กุฏิริมน้ำในออสเตรเลีย กล่าวหาว่า ยันตระมีพฤติกรรมจับต้องกายสตรี ด้วยความกำหนัด 🚐 เหตุการณ์ในรถตู้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีหลักฐานว่า ยันตระเข้าไปหาสีกาในรถตู้ และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม 📞 บทสนทนาทางโทรศัพท์ พร่ำพูดถึงความรัก และมีหลักฐานเทปเสียง 👧 ข้อกล่าวหาการมีบุตรสาว นางจันทิมา มายะรังษี นำเด็กหญิงที่อ้างว่า เป็นบุตรสาวของยันตระ มาแสดงตัว พร้อมภาพถ่ายที่แสดงถึงความสัมพันธ์ ฉันท์สามีภรรยา 💳 หลักฐานบัตรเครดิต รายการใช้จ่ายในสถานบริการทางเพศ ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 🔵 มติของมหาเถรสมาคม หลังการสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบพยานหลักฐาน มหาเถรสมาคมมีมติให้ "พระยันตระ อมโรภิกขุ" ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ โดยปริยาย ❌ แต่แทนที่จะยอมรับคำตัดสิน ยันตระกลับประกาศไม่ยอมรับมติ และอ้างว่ายังเป็นพระภิกษุอยู่ โดยเปลี่ยนจีวรเป็นสีเขียว จนได้รับฉายาใหม่จากสื่อว่า 🦎 "จิ้งเขียว" 🦹‍♂️ "สมียันดะ" 🧘‍♂️ "ยันดะ" 🔵 ปลอมพาสปอร์ต หนีคดีข้ามโลก เมื่อพ้นจากสมณเพศ ยันตระได้ทำพาสปอร์ตปลอม หลบหนีออกจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง 📜 ตลอด 20 ปี ยันตระใช้ชีวิตที่วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย ⏳ ระยะเวลาผ่านไป คดีต่าง ๆ หมดอายุความ ทำให้ยันตระาสามารถกลับประเทศไทยได้อีกครั้ง 🔵 กลับมาเยือนเมืองไทย 🗓️ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ยันตระเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีลูกศิษย์รอต้อนรับจำนวนมาก 🏠 ยันตระได้พบปะกับลูกศิษย์ตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว ที่ท้องสนามหลวง 📍 จากนั้นได้กลับไปยังบ้านเกิดที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกราบอดีตพระอุปัชฌาย์ บั้นปลายที่แคลิฟอร์เนีย สุดท้ายแล้ว ยันตระกลับไปยังวัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย และเสียชีวิตในวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2568 สิริรวมอายุ 73 ปี 51 พรรษา 🕊️ 🔵 เสียงสะท้อนจากสังคม และศรัทธาที่ไม่เสื่อมคลาย แม้จะมีข้อกล่าวหาฉาวโฉ่ แต่ก็ยังมีศิษยานุศิษย์ที่ศรัทธาในคำสอน และการปฏิบัติธรรม องพระยันตระ 🧎‍♂️ หลายคนยังคงกราบไหว้และนับถือ 👉 แต่ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหมาะสมหรือไม่ที่พระรูปอื่นๆ ยังคงกราบไหว้บุคคลที่ถูกถอดจากสมณเพศ 💬 🔵 สรุปเรื่องราวชีวิต "ยันตระ อมโร" 1️⃣ จากนักพรตสู่พระภิกษุผู้ยิ่งใหญ่ 2️⃣ คำสอนและแนวปฏิบัติที่มีผู้ศรัทธาทั่วโลก 3️⃣ คดีอื้อฉาวที่ทำลายชื่อเสียงและนำไปสู่การถอดถอน 4️⃣ การหลบหนีและใช้ชีวิตในฐานะผู้ลี้ภัย 5️⃣ การกลับบ้านเกิดหลังคดีหมดอายุความ 6️⃣ จบบั้นปลายชีวิตในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา 🔵 ชีวิตของ "ยันตระ อมโร" เปรียบเหมือนนิยาย ที่มีทั้งช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำ ด้วยพฤติกรรมและการกระทำ ที่นำไปสู่ข้อกล่าวหาหนัก แต่ก็ยังคงมีคนศรัทธาไม่เสื่อมคลาย 💔✨ 👉 เรื่องราวของยันตระ จึงเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทย ในเรื่องศรัทธา ปัญญา และความรับผิดชอบต่อการกระทำ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 101152 มี.ค. 2568 🔵 #ยันตระอมโร #ข่าวดราม่า #ประวัติพระดัง #วัดสุญญตาราม #สีกาคาดาดฟ้า #ข่าวไทยวันนี้ #เรื่องเล่าพระดัง #ข่าวพระดัง #ยันตระเสียชีวิต #ข่าวด่วนไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่ออาวุโส งง ‘ทักษิณ’ อยู่เบื้องหลังบงการทุกเรื่อง อยู่ดีๆกลายเป็น ‘คนนอก’ ได้ยังไง
    https://www.thai-tai.tv/news/17568/
    สื่ออาวุโส งง ‘ทักษิณ’ อยู่เบื้องหลังบงการทุกเรื่อง อยู่ดีๆกลายเป็น ‘คนนอก’ ได้ยังไง https://www.thai-tai.tv/news/17568/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ส่งสัญญาณอาจยุติการระงับการส่งข่าวกรองของสหรัฐฯ ต่อยูเครน

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วันว่า สหรัฐฯ ใกล้จะกลับมาแบ่งปันข่าวกรองกับยูเครนอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ยูเครนถูกระงับเนื่องจากปฏิบัติการรุกต่อต้านรัสเซีย

    การระงับดังกล่าวขัดขวางการประสานงานในสนามรบของยูเครนอย่างมาก

    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังไม่ได้พูดถึงการกลับมาส่งอาวุธให้ยูเครนใหม่อีกครั้ง หลังจากถูกระงับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดในทำเนียบขาวกับเซเลนสกี
    ทรัมป์ส่งสัญญาณอาจยุติการระงับการส่งข่าวกรองของสหรัฐฯ ต่อยูเครน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วันว่า สหรัฐฯ ใกล้จะกลับมาแบ่งปันข่าวกรองกับยูเครนอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ยูเครนถูกระงับเนื่องจากปฏิบัติการรุกต่อต้านรัสเซีย การระงับดังกล่าวขัดขวางการประสานงานในสนามรบของยูเครนอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังไม่ได้พูดถึงการกลับมาส่งอาวุธให้ยูเครนใหม่อีกครั้ง หลังจากถูกระงับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดในทำเนียบขาวกับเซเลนสกี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวใหม่ในโลกของภัยคุกคามไซเบอร์ โดยระบุว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือในชื่อ Moonstone Sleet ได้เริ่มใช้ Qilin ransomware เพื่อโจมตีเป้าหมายในองค์กรต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แสดงถึงการขยายตัวของกลยุทธ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เนื่องจาก Qilin เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับการให้บริการแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งหมายความว่าแฮกเกอร์สามารถเช่าเครื่องมือโจมตีนี้ไปใช้งานได้

    == การเคลื่อนไหวของ Moonstone Sleet ==
    ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Moonstone Sleet ซึ่งเคยถูกเรียกว่า Storm-1789 มีพฤติกรรมที่คล้ายกับกลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนืออื่น ๆ แต่ได้พัฒนาเครื่องมือและโครงสร้างการโจมตีของตัวเองในภายหลัง พวกเขาใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น:
    - การปล่อยซอฟต์แวร์ที่แฝงมัลแวร์ เช่น PuTTY และแพ็กเกจ npm ที่ถูกแอบแฝง
    - การสร้างบริษัทปลอม เช่น C.C. Waterfall และ StarGlow Ventures เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานใน LinkedIn หรือผ่านอีเมล

    == Qilin Ransomware และผลกระทบ ==
    Qilin ransomware เปิดตัวในชื่อ "Agenda" ตั้งแต่ปี 2022 และเริ่มมีบทบาทสำคัญในปลายปี 2023 กลุ่มนี้มุ่งเป้าหมายที่ระบบเสมือน VMware ESXi และเรียกค่าไถ่ที่อาจสูงถึงหลายล้านดอลลาร์ เหยื่อที่สำคัญในอดีต ได้แก่:
    - angfeng, ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์
    - Lee Enterprises, บริษัทสื่อสหรัฐฯ
    - Synnovis, ซึ่งการโจมตีนี้ส่งผลให้โรงพยาบาลในลอนดอนต้องยกเลิกการผ่าตัดหลายร้อยครั้ง

    ในเดือนพฤษภาคม 2024 Moonstone Sleet ยังถูกจับโยงกับการโจมตีโดยใช้ FakePenny ransomware พร้อมเรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin จำนวน 6.6 ล้านดอลลาร์

    Moonstone Sleet ไม่ใช่กลุ่มแรกจากเกาหลีเหนือที่มีบทบาทในเหตุการณ์ ransomware ครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Lazarus Group เคยสร้างความเสียหายทั่วโลกด้วย WannaCry ransomware ในปี 2017 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามต่อเนื่องของเกาหลีเหนือในการใช้ไซเบอร์เป็นเครื่องมือในยุทธศาสตร์ของรัฐ

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/microsoft-north-korean-hackers-now-deploying-qilin-ransomware/
    Microsoft ได้เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวใหม่ในโลกของภัยคุกคามไซเบอร์ โดยระบุว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือในชื่อ Moonstone Sleet ได้เริ่มใช้ Qilin ransomware เพื่อโจมตีเป้าหมายในองค์กรต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แสดงถึงการขยายตัวของกลยุทธ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เนื่องจาก Qilin เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับการให้บริการแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งหมายความว่าแฮกเกอร์สามารถเช่าเครื่องมือโจมตีนี้ไปใช้งานได้ == การเคลื่อนไหวของ Moonstone Sleet == ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Moonstone Sleet ซึ่งเคยถูกเรียกว่า Storm-1789 มีพฤติกรรมที่คล้ายกับกลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนืออื่น ๆ แต่ได้พัฒนาเครื่องมือและโครงสร้างการโจมตีของตัวเองในภายหลัง พวกเขาใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น: - การปล่อยซอฟต์แวร์ที่แฝงมัลแวร์ เช่น PuTTY และแพ็กเกจ npm ที่ถูกแอบแฝง - การสร้างบริษัทปลอม เช่น C.C. Waterfall และ StarGlow Ventures เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานใน LinkedIn หรือผ่านอีเมล == Qilin Ransomware และผลกระทบ == Qilin ransomware เปิดตัวในชื่อ "Agenda" ตั้งแต่ปี 2022 และเริ่มมีบทบาทสำคัญในปลายปี 2023 กลุ่มนี้มุ่งเป้าหมายที่ระบบเสมือน VMware ESXi และเรียกค่าไถ่ที่อาจสูงถึงหลายล้านดอลลาร์ เหยื่อที่สำคัญในอดีต ได้แก่: - angfeng, ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ - Lee Enterprises, บริษัทสื่อสหรัฐฯ - Synnovis, ซึ่งการโจมตีนี้ส่งผลให้โรงพยาบาลในลอนดอนต้องยกเลิกการผ่าตัดหลายร้อยครั้ง ในเดือนพฤษภาคม 2024 Moonstone Sleet ยังถูกจับโยงกับการโจมตีโดยใช้ FakePenny ransomware พร้อมเรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin จำนวน 6.6 ล้านดอลลาร์ Moonstone Sleet ไม่ใช่กลุ่มแรกจากเกาหลีเหนือที่มีบทบาทในเหตุการณ์ ransomware ครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Lazarus Group เคยสร้างความเสียหายทั่วโลกด้วย WannaCry ransomware ในปี 2017 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามต่อเนื่องของเกาหลีเหนือในการใช้ไซเบอร์เป็นเครื่องมือในยุทธศาสตร์ของรัฐ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/microsoft-north-korean-hackers-now-deploying-qilin-ransomware/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Microsoft: North Korean hackers join Qilin ransomware gang
    Microsoft says a North Korean hacking group tracked as Moonstone Sleet has deployed Qilin ransomware payloads in a limited number of attacks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเร็วๆ นี้มีการค้นพบว่า DVD ของ Warner Bros. ที่วางจำหน่ายระหว่างปี 2006 ถึง 2008 กำลังประสบปัญหา "ดิสก์เน่า" (Laser Rot) ทำให้แผ่นดิสก์จำนวนมากไม่สามารถเล่นได้ หรือเกิดปัญหาหยุดหรือข้ามระหว่างการเล่น โดยมีรายงานว่าอาจมีแผ่นดิสก์ที่ได้รับผลกระทบมากถึง 200 รายการ ซึ่งหลายเรื่องเป็นภาพยนตร์และซีรีส์คลาสสิกที่อาจสูญหายไปจากการเข้าถึงในอนาคต

    บางเรื่องได้ถูกรีมาสเตอร์ใหม่ใน Blu-ray หรือให้บริการบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง แต่ก็ยังมีอีกหลายรายการที่ไม่ได้รับการพิมพ์ซ้ำหรือรีมาสเตอร์ ทำให้ภาพยนตร์และซีรีส์เหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะสูญหายไปในอนาคต

    "ดิสก์เน่า" เกิดจากปัญหาทางเทคนิค เช่น:
    - การออกซิไดซ์ของชั้นสะท้อนแสง
    - ปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างแผ่นดิสก์และสิ่งปนเปื้อน
    - การเสื่อมสภาพของกาวที่ใช้ยึดชั้นต่างๆ ของแผ่นดิสก์
    - สภาพการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม เช่น การสัมผัสแสง UV หรือความชื้น

    Warner Bros. แนะนำให้ผู้ใช้ที่พบปัญหาติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อขอเปลี่ยนแผ่นที่ยังมีการผลิตอยู่ แต่สำหรับแผ่นที่ไม่มีการผลิตอีกต่อไป ทางบริษัทไม่สามารถเปลี่ยนให้ได้ การสำรองข้อมูลและการทำสำเนาจึงกลายเป็นวิธีที่ผู้ใช้ควรพิจารณา โดยเฉพาะสำหรับภาพยนตร์ที่ไม่มีการรีมาสเตอร์ใหม่

    ปัญหานี้สะท้อนถึงความสำคัญของการเก็บรักษา "สื่อกายภาพ" (Physical Media) โดยเฉพาะเมื่อสื่อดิจิทัลบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสามารถถูกลบออกจากแคตาล็อกได้ตามนโยบายบริษัท การสำรองข้อมูลและการอนุรักษ์สื่อดั้งเดิมจึงเป็นแนวทางที่สำคัญสำหรับผู้ที่รักและชื่นชอบภาพยนตร์คลาสสิก

    https://www.techspot.com/news/107068-hundreds-warner-bros-dvds-2000s-rotting-away.html
    เมื่อเร็วๆ นี้มีการค้นพบว่า DVD ของ Warner Bros. ที่วางจำหน่ายระหว่างปี 2006 ถึง 2008 กำลังประสบปัญหา "ดิสก์เน่า" (Laser Rot) ทำให้แผ่นดิสก์จำนวนมากไม่สามารถเล่นได้ หรือเกิดปัญหาหยุดหรือข้ามระหว่างการเล่น โดยมีรายงานว่าอาจมีแผ่นดิสก์ที่ได้รับผลกระทบมากถึง 200 รายการ ซึ่งหลายเรื่องเป็นภาพยนตร์และซีรีส์คลาสสิกที่อาจสูญหายไปจากการเข้าถึงในอนาคต บางเรื่องได้ถูกรีมาสเตอร์ใหม่ใน Blu-ray หรือให้บริการบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง แต่ก็ยังมีอีกหลายรายการที่ไม่ได้รับการพิมพ์ซ้ำหรือรีมาสเตอร์ ทำให้ภาพยนตร์และซีรีส์เหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะสูญหายไปในอนาคต "ดิสก์เน่า" เกิดจากปัญหาทางเทคนิค เช่น: - การออกซิไดซ์ของชั้นสะท้อนแสง - ปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างแผ่นดิสก์และสิ่งปนเปื้อน - การเสื่อมสภาพของกาวที่ใช้ยึดชั้นต่างๆ ของแผ่นดิสก์ - สภาพการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม เช่น การสัมผัสแสง UV หรือความชื้น Warner Bros. แนะนำให้ผู้ใช้ที่พบปัญหาติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อขอเปลี่ยนแผ่นที่ยังมีการผลิตอยู่ แต่สำหรับแผ่นที่ไม่มีการผลิตอีกต่อไป ทางบริษัทไม่สามารถเปลี่ยนให้ได้ การสำรองข้อมูลและการทำสำเนาจึงกลายเป็นวิธีที่ผู้ใช้ควรพิจารณา โดยเฉพาะสำหรับภาพยนตร์ที่ไม่มีการรีมาสเตอร์ใหม่ ปัญหานี้สะท้อนถึงความสำคัญของการเก็บรักษา "สื่อกายภาพ" (Physical Media) โดยเฉพาะเมื่อสื่อดิจิทัลบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสามารถถูกลบออกจากแคตาล็อกได้ตามนโยบายบริษัท การสำรองข้อมูลและการอนุรักษ์สื่อดั้งเดิมจึงเป็นแนวทางที่สำคัญสำหรับผู้ที่รักและชื่นชอบภาพยนตร์คลาสสิก https://www.techspot.com/news/107068-hundreds-warner-bros-dvds-2000s-rotting-away.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Hundreds of Warner Bros. DVDs from the 2000s are rotting away
    Film collectors recently discovered that potentially hundreds of Warner Bros. DVDs released between 2006 and 2008 have become unplayable due to laser rot. The company has promised...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน

    การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน
    - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ
    - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้
    - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype

    ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย
    - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft

    Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19

    การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้ - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The last days of Skype: Time to switch to Teams – or say goodbye
    As the sun slowly sets Skype, some two decades after it started a revolution in online communication, owner Microsoft is pointing the way to its remaining loyal users: Teams.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • อีลอน มัสก์ ตอบโต้ ซิคอร์สกี้ รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ "เบาๆ"

    เริ่มเรื่องเมื่อมัสก์เปิดประเด็น ถ้ามีการเดี่ยวๆระหว่างยูเครนกับรัสเซีย โดยมี Starlink เป็นแกนหลักในการสื่อสารของกองทัพยูเครน มัสก์กล้าท้าว่า ยูเครนจะพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว หากเขาปิดระบบ Starlink

    ทางด้าน ซิคอร์สกี้ รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ "เจ็บแทนเพื่อน" เมื่อเห็นมัสก์กำลังท้าทายยูเครน เลยตอบกลับมัสก์ไป ตอนนี้โปแลนด์จ่าย "50 ล้านดอลลาร์ต่อปี" ในการให้ Starlink บริการยูเครน โปแลนด์อาจต้องมองหาผู้ให้บริการเจ้าอื่น หากมัสก์พูดจาอย่างไร้มนุษยธรรมกับยูเครนที่เป็นเหยื่อของการรุกรานจากรัสเซีย

    อีลอน มัสก์ เลยตอบกลับไป "เบาๆ" ถึงรัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ว่า
    อยู่เงียบๆไว้เหอะ เจ้าตัวเล็ก
    เจ้าจ่ายเพียงเศษเสี้ยวเดียวของต้นทุน
    เชื่อเหอะว่าไม่มีผู้ให้บริการเจ้าไหนมาทดแทน Starlink ได้หรอก

    อีลอน มัสก์ ตอบโต้ ซิคอร์สกี้ รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ "เบาๆ" เริ่มเรื่องเมื่อมัสก์เปิดประเด็น ถ้ามีการเดี่ยวๆระหว่างยูเครนกับรัสเซีย โดยมี Starlink เป็นแกนหลักในการสื่อสารของกองทัพยูเครน มัสก์กล้าท้าว่า ยูเครนจะพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว หากเขาปิดระบบ Starlink ทางด้าน ซิคอร์สกี้ รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ "เจ็บแทนเพื่อน" เมื่อเห็นมัสก์กำลังท้าทายยูเครน เลยตอบกลับมัสก์ไป ตอนนี้โปแลนด์จ่าย "50 ล้านดอลลาร์ต่อปี" ในการให้ Starlink บริการยูเครน โปแลนด์อาจต้องมองหาผู้ให้บริการเจ้าอื่น หากมัสก์พูดจาอย่างไร้มนุษยธรรมกับยูเครนที่เป็นเหยื่อของการรุกรานจากรัสเซีย อีลอน มัสก์ เลยตอบกลับไป "เบาๆ" ถึงรัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ว่า อยู่เงียบๆไว้เหอะ เจ้าตัวเล็ก เจ้าจ่ายเพียงเศษเสี้ยวเดียวของต้นทุน เชื่อเหอะว่าไม่มีผู้ให้บริการเจ้าไหนมาทดแทน Starlink ได้หรอก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts