• พวกกบฏฮูตีในเยเมนเล็งเป้าเล่นงานเรือพิฆาตของสหรัฐฯ 2 ลำ ด้วยโดรนและขีปนาวุธ ระหว่างที่ล่องผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบแต่กองเรือรบดังกล่าวสามารถสกัดเอาไว้ได้ จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน)
    .
    กบฏฮูตีเริ่มโจมตีเรือต่างๆ ในทะเลแดงและอ่าวเอเดนในเดือนพฤศจิกายน 2023 ส่วนหนึ่งในสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาคในวงกว้าง จากสงครามทำลายล้างของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งบรรดากลุ่มติดอาวุธในประเทศต่างๆ หยิบยกประเด็นนี้มากล่าวอ้างความชอบธรรมสำหรับการโจมตี
    .
    พลตรีแพท ไรเดอร์ โฆษกของเพนตากอน เปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "เรือรบของสหรัฐฯ ถูกโจมตีโดยระบบอากาศยานไร้คนขับแบบพลีชีพอย่างน้อย 8 ลำ ขีปนาวุธต่อต้านเรือ 5 ลูก และขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือ 3 ลูก แต่เรือรบของเราประสบความสำเร็จในการต่อสู้และสกัดเอาไว้ได้"
    .
    "เรือทั้ง 2 ไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีบุคลากรได้รับบาดเจ็บ" ไรเดอร์กล่าวถึงเหตุโจมตีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) พร้อมชี้แจงว่าคำกล่าวอ้างของพวกฮูตี ว่าได้โจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น เช่นกันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
    .
    "บนพื้นฐานข้อมูลที่ผมมี มันไม่ได้ถูกโจมตี สวนทางกับคำกล่าวอ้างบางส่วน" ไรเดอร์ระบุ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ขอระบุถึงตำแหน่งที่ตั้งของเรือบรรทุกเครื่องบินอับราฮัม ลินคอล์น
    .
    ทั้งนี้ กบฏฮูตีบอกว่าการโจมตีต่างๆ ของพวกเขานั้น ก็เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ในกาซา ที่กำลังถูกอิสราเอลทำสงครามทำลายล้าง อย่างไรก็ตาม การโจมตีของฮูตี ถูกมองว่าเป็นความท้าทายใหญ่หลวงในระดับนานาชาติ ที่คุกคามเส้นทางการขนส่งสินค้าอันสำคัญ
    .
    ความโกรธเคืองต่อยุทธการทางทหารของอิสราเอล ที่กำลังทำลายล้างฉนวนกาซา ได้โหมกระพือความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ทั้งในเลบานอน อิรัก ซีเรีย และเยเมน ในขณะที่อิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางทหารรุกรานกาซา แก้แค้นกรณีที่ถูกพวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว
    .
    สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ส่งเรือของกองทัพเข้าประจำการในภูมิภาค เพื่อช่วยปกป้องเรือสินค้าต่างๆ จากการถูกพวกฮูตีโจมตี แต่การโจมตีโดยตรงเล่นงานเรือรบของสหรัฐฯ นั้น เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
    .
    นอกจากนี้ กองกำลังของสหรัฐฯ ยังได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานพวกฮูตีแบบถี่ๆ ในความพยายามลดศักยภาพของนักรบกลุ่มนี้ต่อการเล็งเป้าหมายเล่นงานเรือต่างๆ และหาทางยึดอาวุธก่อนที่มันจะตกไปถึงมือกลุ่มกบฏ อย่างไรก็ตาม การโจมตีของฮูตียังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
    .
    ไรเดอร์ เปิดเผยในวันอังคาร (12 พ.ย.) ว่าสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายรอบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พุ่งเป้าเล่นงานคลังเก็บอาวุธของพวกฮูตี "อาคารเหล่านี้มีอาวุธทั่วไปล้ำสมัยมากมาย ที่พวกฮูตีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ใช้เล่นงานเรือทหารสหรัฐฯ เรือกองกำลังนานาชาติและเรือพลเรือนที่กำลังล่องผ่านน่านน้ำสากล" เขากล่าว
    .
    ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐฯ ยังเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มนักรบต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในซีเรียเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) ในความเคลื่อนไหวตอบโต้กรณีที่มีการปล่อยโดรนและยิงจรวดใส่ทหารอเมริกา ที่ประจำการอยู่ในประเทศดังกล่าว หนึ่งวันก่อนหน้านี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109077
    ..............
    Sondhi X
    พวกกบฏฮูตีในเยเมนเล็งเป้าเล่นงานเรือพิฆาตของสหรัฐฯ 2 ลำ ด้วยโดรนและขีปนาวุธ ระหว่างที่ล่องผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบแต่กองเรือรบดังกล่าวสามารถสกัดเอาไว้ได้ จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) . กบฏฮูตีเริ่มโจมตีเรือต่างๆ ในทะเลแดงและอ่าวเอเดนในเดือนพฤศจิกายน 2023 ส่วนหนึ่งในสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาคในวงกว้าง จากสงครามทำลายล้างของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งบรรดากลุ่มติดอาวุธในประเทศต่างๆ หยิบยกประเด็นนี้มากล่าวอ้างความชอบธรรมสำหรับการโจมตี . พลตรีแพท ไรเดอร์ โฆษกของเพนตากอน เปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "เรือรบของสหรัฐฯ ถูกโจมตีโดยระบบอากาศยานไร้คนขับแบบพลีชีพอย่างน้อย 8 ลำ ขีปนาวุธต่อต้านเรือ 5 ลูก และขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือ 3 ลูก แต่เรือรบของเราประสบความสำเร็จในการต่อสู้และสกัดเอาไว้ได้" . "เรือทั้ง 2 ไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีบุคลากรได้รับบาดเจ็บ" ไรเดอร์กล่าวถึงเหตุโจมตีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) พร้อมชี้แจงว่าคำกล่าวอ้างของพวกฮูตี ว่าได้โจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น เช่นกันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง . "บนพื้นฐานข้อมูลที่ผมมี มันไม่ได้ถูกโจมตี สวนทางกับคำกล่าวอ้างบางส่วน" ไรเดอร์ระบุ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ขอระบุถึงตำแหน่งที่ตั้งของเรือบรรทุกเครื่องบินอับราฮัม ลินคอล์น . ทั้งนี้ กบฏฮูตีบอกว่าการโจมตีต่างๆ ของพวกเขานั้น ก็เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ในกาซา ที่กำลังถูกอิสราเอลทำสงครามทำลายล้าง อย่างไรก็ตาม การโจมตีของฮูตี ถูกมองว่าเป็นความท้าทายใหญ่หลวงในระดับนานาชาติ ที่คุกคามเส้นทางการขนส่งสินค้าอันสำคัญ . ความโกรธเคืองต่อยุทธการทางทหารของอิสราเอล ที่กำลังทำลายล้างฉนวนกาซา ได้โหมกระพือความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ทั้งในเลบานอน อิรัก ซีเรีย และเยเมน ในขณะที่อิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางทหารรุกรานกาซา แก้แค้นกรณีที่ถูกพวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว . สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ส่งเรือของกองทัพเข้าประจำการในภูมิภาค เพื่อช่วยปกป้องเรือสินค้าต่างๆ จากการถูกพวกฮูตีโจมตี แต่การโจมตีโดยตรงเล่นงานเรือรบของสหรัฐฯ นั้น เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก . นอกจากนี้ กองกำลังของสหรัฐฯ ยังได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานพวกฮูตีแบบถี่ๆ ในความพยายามลดศักยภาพของนักรบกลุ่มนี้ต่อการเล็งเป้าหมายเล่นงานเรือต่างๆ และหาทางยึดอาวุธก่อนที่มันจะตกไปถึงมือกลุ่มกบฏ อย่างไรก็ตาม การโจมตีของฮูตียังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง . ไรเดอร์ เปิดเผยในวันอังคาร (12 พ.ย.) ว่าสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายรอบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พุ่งเป้าเล่นงานคลังเก็บอาวุธของพวกฮูตี "อาคารเหล่านี้มีอาวุธทั่วไปล้ำสมัยมากมาย ที่พวกฮูตีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ใช้เล่นงานเรือทหารสหรัฐฯ เรือกองกำลังนานาชาติและเรือพลเรือนที่กำลังล่องผ่านน่านน้ำสากล" เขากล่าว . ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐฯ ยังเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มนักรบต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในซีเรียเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) ในความเคลื่อนไหวตอบโต้กรณีที่มีการปล่อยโดรนและยิงจรวดใส่ทหารอเมริกา ที่ประจำการอยู่ในประเทศดังกล่าว หนึ่งวันก่อนหน้านี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109077 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 600 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇺🇸🇷🇺 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พูดคุยทางโทรศัพท์กับ วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับการลดระดับความรุนแรงของสงครามในยูเครน
    .
    BREAKING: 🇺🇸🇷🇺 President-elect Donald Trump holds phone call with Russia's Vladimir Putin to discuss de-escalating the war in Ukraine.
    .
    2:53 AM · Nov 11, 2024 · 255.9K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1855700288406974515
    🇺🇸🇷🇺 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พูดคุยทางโทรศัพท์กับ วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับการลดระดับความรุนแรงของสงครามในยูเครน . BREAKING: 🇺🇸🇷🇺 President-elect Donald Trump holds phone call with Russia's Vladimir Putin to discuss de-escalating the war in Ukraine. . 2:53 AM · Nov 11, 2024 · 255.9K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1855700288406974515
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทบรรณาธิการซินหัวชี้กฎหมายของฟิลิปปินส์ทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ซับซ้อนขึ้น

    10 พฤศจิกายน 2567 -รายงานข่าวซินหัวระบุว่า ฟิลิปปินส์ก่อปัญหาอีกครั้งด้วยการตรากฎหมายในประเทศ 2 ฉบับ ซึ่งละเมิดอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนและสิทธิทางทะเลและผลประโยชน์ของจีนในทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดการประณามอย่างรุนแรงและการประท้วงจากปักกิ่งอย่างรุนแรง

    กฎหมายที่เรียกว่า "เขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์" ได้รวมเกาะหวงหยานของจีน เกาะและแนวปะการังส่วนใหญ่ในหนานซา คุนเต่าของจีน และน่านน้ำที่เกี่ยวข้องเข้าไปในเขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์โดยผิดกฎหมาย ส่วนต่างๆ ของ "กฎหมายเส้นทางเดินเรือหมู่เกาะฟิลิปปินส์" ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและมติขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ

    ฟิลิปปินส์กลายเป็นผู้แสวงหาผลประโยชน์และใช้ประโยชน์จากกฎหมายระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างว่าเป็นพันธมิตรกับฟิลิปปินส์ และเป็นผู้ก่อปัญหาและผู้ทำลายสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

    การอ้างคำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นพื้นฐานของกฎหมาย การเคลื่อนไหวล่าสุดของมะนิลาเพียงแค่ซ้ำเติมความผิดพลาดของตนในการทำให้การเรียกร้องทางทะเลที่ผิดกฎหมายของตนมีความชอบธรรม โดยเสี่ยงต่อการเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคอย่างรุนแรง คำตัดสินที่เรียกว่าอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและเป็นโมฆะ คณะอนุญาโตตุลาการได้พิจารณาคดีนี้โดยเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่และตัดสินให้คำตัดสินบิดเบือนกฎหมาย ดังนั้น คำตัดสินดังกล่าวจึงละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS)

    กระบวนการอนุญาโตตุลาการทั้งหมดเป็นเรื่องตลกทางการเมืองโดยสิ้นเชิง จีนไม่ยอมรับหรือมีส่วนร่วมในการอนุญาโตตุลาการ และจีนก็ไม่ยอมรับหรือรับรองคำตัดสินดังกล่าว กฎหมายที่เรียกว่าของฟิลิปปินส์พยายามที่จะกำหนดให้คำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นกฎหมายในประเทศ จีนจะไม่ยอมรับการเรียกร้องหรือการดำเนินการใดๆ ที่อิงตามคำตัดสินดังกล่าว

    โดยพื้นฐานแล้ว กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การออกกฎหมายเท่านั้น แต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายฟิลิปปินส์เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายดินแดนและเพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศภายนอกบางประเทศ การเคลื่อนไหวที่ไร้ความรอบคอบของมะนิลาถือเป็นการละเมิดปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้โดยเจตนา

    ผลกระทบเชิงลบของกฎหมายเหล่านี้มีให้เห็นอย่างชัดเจนและอาจเกิดขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและสันติภาพในภูมิภาคอีกด้วย หากมะนิลาดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ ก็จะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากันมากขึ้น การนำกฎหมายเหล่านี้มาใช้จะทำให้ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรงขึ้น และจำกัดพื้นที่ในการแก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือระหว่างทั้งสองประเทศ

    อำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของจีน สิทธิทางทะเล และผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้มีรากฐานที่มั่นคงในประวัติศาสตร์และกฎหมาย สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึง UNCLOS และจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการบังคับใช้กฎหมายของมะนิลา

    จีนมุ่งมั่นที่จะจัดการปัญหาทางทะเลกับฟิลิปปินส์อย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ของฟิลิปปินส์ในการส่งไวน์และขายน้ำส้มสายชูเพื่อบิดเบือนกฎหมายทางทะเลและละเมิดอำนาจอธิปไตยของผู้อื่นนั้นต้องถูกปฏิเสธ ในการเจรจาครั้งก่อน ฟิลิปปินส์
    ตกลงที่จะรักษาสถานการณ์ทางทะเลและความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวมให้มั่นคงโดยร่วมมือกับจีน อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวบ่งชี้ว่าฟิลิปปินส์ทำสิ่งต่างๆ ในทิศทางตรงกันข้าม

    การละเมิดโดยเจตนาและการยั่วยุที่ไม่สมเหตุสมผลต่อจีนจะส่งผลให้ผู้ริเริ่มยิงเท้าตัวเอง จีนจะดำเนินการที่เหมาะสมและมาตรการตอบโต้ที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิทธิของตน

    https://english.news.cn/20241110/7bf252deefff4b06a0de32134db5406e/c.html

    #Thaitimes
    บทบรรณาธิการซินหัวชี้กฎหมายของฟิลิปปินส์ทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ซับซ้อนขึ้น 10 พฤศจิกายน 2567 -รายงานข่าวซินหัวระบุว่า ฟิลิปปินส์ก่อปัญหาอีกครั้งด้วยการตรากฎหมายในประเทศ 2 ฉบับ ซึ่งละเมิดอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนและสิทธิทางทะเลและผลประโยชน์ของจีนในทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดการประณามอย่างรุนแรงและการประท้วงจากปักกิ่งอย่างรุนแรง กฎหมายที่เรียกว่า "เขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์" ได้รวมเกาะหวงหยานของจีน เกาะและแนวปะการังส่วนใหญ่ในหนานซา คุนเต่าของจีน และน่านน้ำที่เกี่ยวข้องเข้าไปในเขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์โดยผิดกฎหมาย ส่วนต่างๆ ของ "กฎหมายเส้นทางเดินเรือหมู่เกาะฟิลิปปินส์" ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและมติขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ฟิลิปปินส์กลายเป็นผู้แสวงหาผลประโยชน์และใช้ประโยชน์จากกฎหมายระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างว่าเป็นพันธมิตรกับฟิลิปปินส์ และเป็นผู้ก่อปัญหาและผู้ทำลายสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค การอ้างคำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นพื้นฐานของกฎหมาย การเคลื่อนไหวล่าสุดของมะนิลาเพียงแค่ซ้ำเติมความผิดพลาดของตนในการทำให้การเรียกร้องทางทะเลที่ผิดกฎหมายของตนมีความชอบธรรม โดยเสี่ยงต่อการเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคอย่างรุนแรง คำตัดสินที่เรียกว่าอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและเป็นโมฆะ คณะอนุญาโตตุลาการได้พิจารณาคดีนี้โดยเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่และตัดสินให้คำตัดสินบิดเบือนกฎหมาย ดังนั้น คำตัดสินดังกล่าวจึงละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) กระบวนการอนุญาโตตุลาการทั้งหมดเป็นเรื่องตลกทางการเมืองโดยสิ้นเชิง จีนไม่ยอมรับหรือมีส่วนร่วมในการอนุญาโตตุลาการ และจีนก็ไม่ยอมรับหรือรับรองคำตัดสินดังกล่าว กฎหมายที่เรียกว่าของฟิลิปปินส์พยายามที่จะกำหนดให้คำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นกฎหมายในประเทศ จีนจะไม่ยอมรับการเรียกร้องหรือการดำเนินการใดๆ ที่อิงตามคำตัดสินดังกล่าว โดยพื้นฐานแล้ว กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การออกกฎหมายเท่านั้น แต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายฟิลิปปินส์เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายดินแดนและเพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศภายนอกบางประเทศ การเคลื่อนไหวที่ไร้ความรอบคอบของมะนิลาถือเป็นการละเมิดปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้โดยเจตนา ผลกระทบเชิงลบของกฎหมายเหล่านี้มีให้เห็นอย่างชัดเจนและอาจเกิดขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและสันติภาพในภูมิภาคอีกด้วย หากมะนิลาดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ ก็จะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากันมากขึ้น การนำกฎหมายเหล่านี้มาใช้จะทำให้ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรงขึ้น และจำกัดพื้นที่ในการแก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือระหว่างทั้งสองประเทศ อำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของจีน สิทธิทางทะเล และผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้มีรากฐานที่มั่นคงในประวัติศาสตร์และกฎหมาย สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึง UNCLOS และจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการบังคับใช้กฎหมายของมะนิลา จีนมุ่งมั่นที่จะจัดการปัญหาทางทะเลกับฟิลิปปินส์อย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ของฟิลิปปินส์ในการส่งไวน์และขายน้ำส้มสายชูเพื่อบิดเบือนกฎหมายทางทะเลและละเมิดอำนาจอธิปไตยของผู้อื่นนั้นต้องถูกปฏิเสธ ในการเจรจาครั้งก่อน ฟิลิปปินส์ ตกลงที่จะรักษาสถานการณ์ทางทะเลและความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวมให้มั่นคงโดยร่วมมือกับจีน อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวบ่งชี้ว่าฟิลิปปินส์ทำสิ่งต่างๆ ในทิศทางตรงกันข้าม การละเมิดโดยเจตนาและการยั่วยุที่ไม่สมเหตุสมผลต่อจีนจะส่งผลให้ผู้ริเริ่มยิงเท้าตัวเอง จีนจะดำเนินการที่เหมาะสมและมาตรการตอบโต้ที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิทธิของตน https://english.news.cn/20241110/7bf252deefff4b06a0de32134db5406e/c.html #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกผมก็เตรียมพร้อมรับมือตำรวจเบียร์คุตไว้แล้ว พวกเราไม่เน้นความรุนแรง เราเน้นความเป็นธรรมชาติ พวกไม้ พวกตะบอง ไรงี้ อย่าลืมนะครับพวกเรามือเปล่า...
    พวกผมก็เตรียมพร้อมรับมือตำรวจเบียร์คุตไว้แล้ว พวกเราไม่เน้นความรุนแรง เราเน้นความเป็นธรรมชาติ พวกไม้ พวกตะบอง ไรงี้ อย่าลืมนะครับพวกเรามือเปล่า...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความหายนะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อมีนักการเมืองฝ่ายค้านเข้ามาปลุกระดม เห็นไหม? ที่ไหนมีฝ่ายค้านเหี้ยๆ ที่นั่นมีแต่หายนะ นาย Klitchko ก็ปลุกปั่นจนผู้คนเริ่มเข้ามาร่วมมากขึ้น และกระแสความเกลียดชังเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น มีการด่าทอและใส่ร้ายปธน.ยานูโควิช จนทำให้ผู้ประท้วงหัวรุนแรงและหัวร้อนบางส่วนจุดชนวนคำว่าปฏิวัติขึ้นมา เห็นไม๊ล่ะ? พวกปากพาซวย และสุดท้ายหมอนี่ก็คุมม็อบไม่ได้ เจอพวกม็อบหัวรุนแรงเอาเครื่องดับเพลิงพ่นใส่จนหัวร้อน 555 สมน้ำหน้า!
    ความหายนะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อมีนักการเมืองฝ่ายค้านเข้ามาปลุกระดม เห็นไหม? ที่ไหนมีฝ่ายค้านเหี้ยๆ ที่นั่นมีแต่หายนะ นาย Klitchko ก็ปลุกปั่นจนผู้คนเริ่มเข้ามาร่วมมากขึ้น และกระแสความเกลียดชังเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น มีการด่าทอและใส่ร้ายปธน.ยานูโควิช จนทำให้ผู้ประท้วงหัวรุนแรงและหัวร้อนบางส่วนจุดชนวนคำว่าปฏิวัติขึ้นมา เห็นไม๊ล่ะ? พวกปากพาซวย และสุดท้ายหมอนี่ก็คุมม็อบไม่ได้ เจอพวกม็อบหัวรุนแรงเอาเครื่องดับเพลิงพ่นใส่จนหัวร้อน 555 สมน้ำหน้า!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก

    ประเทศไทยควรต้องสนใจกับข้อกำหนดสนธิสัญญากับองค์การอนามัยโลก

    รายชื่อคัดค้าน และรายละเอียด สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ เมื่อตกลง ต้องทำตาม
    อย่าง บิดพริ้วไม่ได้

    ปัจจุบันมีการลงขื่อ 60,000 ราย และ รวมทั้ง มีการคัดค้านจาก สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย
    ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนรากหญ้าและได้รับผลกระทบ
    อย่างสูงเมื่อการดำรงชีวิต การเข้าถึงยาและสมุนไพรวิถีไทยจะถูกห้าม

    รายละเอียดเหล่านี้ ส่งถึง ท่าน รมต ประธานสภา และ กระทรวง สาธารณสุข
    ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ คนไทยยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

    และทางการ และรัฐบาล ควร ต้องชี้แจงให้คนไทยทุกคนทราบ

    และ รัฐบาล ทราบหรือไม่ว่า ควรต้องทำอะไร ทั้งๆที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกังวล

    ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว แต่ถูกด้อยค่าไปตามลำดับ

    และต้องตระหนักว่าสมุนไพรเหล่านี้ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นยาและส่งกลับมาขาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และตัวอื่นๆ โดยศึกษาในขั้นโมเลกุลและผลตรงกับที่บรรพบุรุษไทยได้จารึกสรรพคุณไว้ตั้งแต่สมัยต้นรัชกาล ด้วยซ้ำ
    ในตำราแพทย์ไทยนั้น

    ยกตัวอย่างเช่นรูปลักษณะของฝีดาษได้บรรยายไว้ 12 ชนิด ซึ่งตรงกับ 12 ไวรัสในตระกูลฝีดาษที่เราทราบกันในปัจจุบัน และมีการระบุสมุนไพรแต่ละประเภทตามความรุนแรงของชนิดฝีดาษ

    ข้อมูลรายละเอียดของการคัดค้าน WHO 24 พค.67
    https://drive.google.com/drive/folders/1GyWC2OcVnUkglL7YUtFRum8S_TqZvmIU

    ความสำคัญของ สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกต่อภาคีเครือข่ายรวมกระทั่งถึงประเทศไทย
    ถ้าอยู่ภายใต้ สนธิสัญญานี้ จะบิดพริ้วมิได้
    และจะเกิด ผลกระทบติดตามมากมาย หลายเรื่อง เช่น
    1- องค์การอนามัยโลกสามารถประกาศโรคระบาดใดให้เป็น สถานการณ์โรค ระบาดทั้งโลกได้ โดยไม่ต้องฟัง ข้อมูลรายละเอียดจากพื้นที่ให้ครบทุกด้าน
    2- เมื่อประกาศแล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง และไม่สามารถทำอะไรที่ควรจะทำได้
    3- วัคซีนต้องฉีดตามองค์การอนามัยโลกสั่ง โดย องค์การอนามัยโลก ไม่ต้อง มีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะรุนแรงเท่าใด เพราะถือว่า ได้รับสิทธิ์และถืออำนาจสั่งการได้อย่างสมบูรณ์
    4-ยา ต้องใช้ตามที่สั่งโดยไม่บิดพลิ้ว นั่นคือยาต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว และยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากประเทศในเอเชียจะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้มาตรฐานและมีอันตรายทันที หรือไม่
    5- สมุนไพรที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการใช้และจะมีการออกประกาศโดยกระทรวงทบวงกรมสถาบันโรงเรียนแพทย์โดยถือว่าเป็นคำสั่งหรือข้อแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและผ่านมาทาง อย สหรัฐ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐ
    6- สามารถที่จะเซ็นเซอร์ทุกอย่างได้ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีนและยาที่องค์การอนามัยโลกสั่ง
    ประชาชนไม่สามารถสื่อสารการใช้ยาที่คนไทยใช้อยู่แล้วในพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เซ็นเซอร์โดยจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ misinformation ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ จากองค์กร และสู่ประชาชนทั้งประเทศให้เชื่อฟัง

    ทั้งนี้จะมีหน่วยงานที่สอดส่องโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และทำการถอดถอนข้อมูล ดิสเครดิต ผู้ที่ให้ข้อมูลทันที มีหน่วยงานลักษณะนี้ รวมทั้งกระทรวงของรัฐที่ทำตามกระบวนการนี้

    สิ่งที่กล่าวนี้เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงโควิด และเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของผลกระทบผลข้างเคียง ของสิ่งที่ฉีด

    โดยที่ทางการของประเทศ ไทยเองประกาศทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2567 ว่า
    ผลกระทบร้ายแรงและถึงแก่ชีวิตทั้งประเทศมีเพียงห้าราย
    โดยที่ตัวเลขห้ารายนี้ จะเทียบกับหนึ่งในล้าน ซึ่ง
    เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก
    ทั้งๆที่รายอื่นเป็น 10,000 เป็น 100,000 ถูกปัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง และถึงกระทั่งให้หาข้อพิสูจน์มา เอง โดยที่การพิสูจน์ หรือชันสูตรศพ ทาง วิทยาศาสตร์นั้นต้องการทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท

    สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าถ้าตกอยู่ในสนธิสัญญานี้

    วัคซีนในปัจจุบันและต่อจากนี้ในมนุษย์และสัตว์ใช้เทคโนโลยี ที่ใช้กับโควิด ทั้งนี้โดยอ้างว่า ได้ใช้กับประชาชนทั่วโลกแล้วและผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน

    นสพ มติชน ฉบับพิมพ์
    ท็อล์กออฟเดอะทาวน์
    10 พย 2567

    กระบวนการรวบรวมรายชื่อคัดค้านและนำส่งทางการของประเทศไทยโดยกลุ่มแพทย์และประชาชนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    รวบรวมข้อมูลโดย
    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก ประเทศไทยควรต้องสนใจกับข้อกำหนดสนธิสัญญากับองค์การอนามัยโลก รายชื่อคัดค้าน และรายละเอียด สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ เมื่อตกลง ต้องทำตาม อย่าง บิดพริ้วไม่ได้ ปัจจุบันมีการลงขื่อ 60,000 ราย และ รวมทั้ง มีการคัดค้านจาก สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนรากหญ้าและได้รับผลกระทบ อย่างสูงเมื่อการดำรงชีวิต การเข้าถึงยาและสมุนไพรวิถีไทยจะถูกห้าม รายละเอียดเหล่านี้ ส่งถึง ท่าน รมต ประธานสภา และ กระทรวง สาธารณสุข ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ คนไทยยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และทางการ และรัฐบาล ควร ต้องชี้แจงให้คนไทยทุกคนทราบ และ รัฐบาล ทราบหรือไม่ว่า ควรต้องทำอะไร ทั้งๆที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกังวล ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว แต่ถูกด้อยค่าไปตามลำดับ และต้องตระหนักว่าสมุนไพรเหล่านี้ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นยาและส่งกลับมาขาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และตัวอื่นๆ โดยศึกษาในขั้นโมเลกุลและผลตรงกับที่บรรพบุรุษไทยได้จารึกสรรพคุณไว้ตั้งแต่สมัยต้นรัชกาล ด้วยซ้ำ ในตำราแพทย์ไทยนั้น ยกตัวอย่างเช่นรูปลักษณะของฝีดาษได้บรรยายไว้ 12 ชนิด ซึ่งตรงกับ 12 ไวรัสในตระกูลฝีดาษที่เราทราบกันในปัจจุบัน และมีการระบุสมุนไพรแต่ละประเภทตามความรุนแรงของชนิดฝีดาษ ข้อมูลรายละเอียดของการคัดค้าน WHO 24 พค.67 https://drive.google.com/drive/folders/1GyWC2OcVnUkglL7YUtFRum8S_TqZvmIU ความสำคัญของ สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกต่อภาคีเครือข่ายรวมกระทั่งถึงประเทศไทย ถ้าอยู่ภายใต้ สนธิสัญญานี้ จะบิดพริ้วมิได้ และจะเกิด ผลกระทบติดตามมากมาย หลายเรื่อง เช่น 1- องค์การอนามัยโลกสามารถประกาศโรคระบาดใดให้เป็น สถานการณ์โรค ระบาดทั้งโลกได้ โดยไม่ต้องฟัง ข้อมูลรายละเอียดจากพื้นที่ให้ครบทุกด้าน 2- เมื่อประกาศแล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง และไม่สามารถทำอะไรที่ควรจะทำได้ 3- วัคซีนต้องฉีดตามองค์การอนามัยโลกสั่ง โดย องค์การอนามัยโลก ไม่ต้อง มีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะรุนแรงเท่าใด เพราะถือว่า ได้รับสิทธิ์และถืออำนาจสั่งการได้อย่างสมบูรณ์ 4-ยา ต้องใช้ตามที่สั่งโดยไม่บิดพลิ้ว นั่นคือยาต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว และยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากประเทศในเอเชียจะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้มาตรฐานและมีอันตรายทันที หรือไม่ 5- สมุนไพรที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการใช้และจะมีการออกประกาศโดยกระทรวงทบวงกรมสถาบันโรงเรียนแพทย์โดยถือว่าเป็นคำสั่งหรือข้อแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและผ่านมาทาง อย สหรัฐ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐ 6- สามารถที่จะเซ็นเซอร์ทุกอย่างได้ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีนและยาที่องค์การอนามัยโลกสั่ง ประชาชนไม่สามารถสื่อสารการใช้ยาที่คนไทยใช้อยู่แล้วในพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เซ็นเซอร์โดยจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ misinformation ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ จากองค์กร และสู่ประชาชนทั้งประเทศให้เชื่อฟัง ทั้งนี้จะมีหน่วยงานที่สอดส่องโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และทำการถอดถอนข้อมูล ดิสเครดิต ผู้ที่ให้ข้อมูลทันที มีหน่วยงานลักษณะนี้ รวมทั้งกระทรวงของรัฐที่ทำตามกระบวนการนี้ สิ่งที่กล่าวนี้เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงโควิด และเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของผลกระทบผลข้างเคียง ของสิ่งที่ฉีด โดยที่ทางการของประเทศ ไทยเองประกาศทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2567 ว่า ผลกระทบร้ายแรงและถึงแก่ชีวิตทั้งประเทศมีเพียงห้าราย โดยที่ตัวเลขห้ารายนี้ จะเทียบกับหนึ่งในล้าน ซึ่ง เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก ทั้งๆที่รายอื่นเป็น 10,000 เป็น 100,000 ถูกปัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง และถึงกระทั่งให้หาข้อพิสูจน์มา เอง โดยที่การพิสูจน์ หรือชันสูตรศพ ทาง วิทยาศาสตร์นั้นต้องการทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าถ้าตกอยู่ในสนธิสัญญานี้ วัคซีนในปัจจุบันและต่อจากนี้ในมนุษย์และสัตว์ใช้เทคโนโลยี ที่ใช้กับโควิด ทั้งนี้โดยอ้างว่า ได้ใช้กับประชาชนทั่วโลกแล้วและผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน นสพ มติชน ฉบับพิมพ์ ท็อล์กออฟเดอะทาวน์ 10 พย 2567 กระบวนการรวบรวมรายชื่อคัดค้านและนำส่งทางการของประเทศไทยโดยกลุ่มแพทย์และประชาชนไทยพิทักษ์สิทธิ์ รวบรวมข้อมูลโดย ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    Love
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • #4
    ภาพเหตุการณ์แฟนบอลของทีม Maccabi Tel Aviv ก่อเหตุยั่วยุประชาชนที่สนับสนุนปาเลสไตน์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนการแข่งขันฟุตบอล "ยูฟ่า ยูโรปา ลีก"

    นอกจากนี้ ในช่วงก่อนการแข่งขันระหว่าง Ajax และ Maccabi Tel Aviv แฟนบอลชาวอิสราเอลปฏิเสธที่จะยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อน้ำท่วมบาเลนเซีย พวกเขายังจุดพลุไฟผิดกฎหมายอีกด้วย

    การกระทำของชาวอิสราเอลเหล่านี้ ล้วนสร้างความไม่พอใจให้กับพลเมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นอย่างมาก

    จนเป็นเหตุให้มีการไล่ทำร้ายแฟนบอลชาวอิสราเอลออกสู่สายตาประชาคมโลก เสมือนว่าพวกเขาคือเหยื่อของความเกลียดชัง!

    ขณะที่เนทันยาฮูเรียกร้องให้ทางการเนเธอร์แลนด์ “ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว” หลังจากแฟนบอลทีมมัคคาบี เทล อาวีฟ ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ทำร้ายที่อัมสเตอร์ดัม พร้อมตะโกนว่า “ปลดปล่อยปาเลสไตน์”

    พร้อมทั้งสั่งเครื่องบิน 2 ลำ เพื่ออพยพพลเมืองอิสราเอล กลับประเทศ

    ทางด้าน "แดนนี่ ดานอน" เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำองค์การสหประชาชาติ ประณามความรุนแรงดังกล่าวว่าเป็น “การสังหารหมู่” และเรียกร้องให้ชาติตะวันตก “หันกลับมาดูแลความปลอดภัยของชาวยิว” ที่ตกเป็นเหยื่อต่อต้านจากความเกลียดชัง
    #4 ภาพเหตุการณ์แฟนบอลของทีม Maccabi Tel Aviv ก่อเหตุยั่วยุประชาชนที่สนับสนุนปาเลสไตน์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนการแข่งขันฟุตบอล "ยูฟ่า ยูโรปา ลีก" นอกจากนี้ ในช่วงก่อนการแข่งขันระหว่าง Ajax และ Maccabi Tel Aviv แฟนบอลชาวอิสราเอลปฏิเสธที่จะยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อน้ำท่วมบาเลนเซีย พวกเขายังจุดพลุไฟผิดกฎหมายอีกด้วย การกระทำของชาวอิสราเอลเหล่านี้ ล้วนสร้างความไม่พอใจให้กับพลเมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นอย่างมาก จนเป็นเหตุให้มีการไล่ทำร้ายแฟนบอลชาวอิสราเอลออกสู่สายตาประชาคมโลก เสมือนว่าพวกเขาคือเหยื่อของความเกลียดชัง! ขณะที่เนทันยาฮูเรียกร้องให้ทางการเนเธอร์แลนด์ “ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว” หลังจากแฟนบอลทีมมัคคาบี เทล อาวีฟ ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ทำร้ายที่อัมสเตอร์ดัม พร้อมตะโกนว่า “ปลดปล่อยปาเลสไตน์” พร้อมทั้งสั่งเครื่องบิน 2 ลำ เพื่ออพยพพลเมืองอิสราเอล กลับประเทศ ทางด้าน "แดนนี่ ดานอน" เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำองค์การสหประชาชาติ ประณามความรุนแรงดังกล่าวว่าเป็น “การสังหารหมู่” และเรียกร้องให้ชาติตะวันตก “หันกลับมาดูแลความปลอดภัยของชาวยิว” ที่ตกเป็นเหยื่อต่อต้านจากความเกลียดชัง
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 67 0 รีวิว
  • #3
    ภาพเหตุการณ์แฟนบอลของทีม Maccabi Tel Aviv ก่อเหตุยั่วยุประชาชนที่สนับสนุนปาเลสไตน์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนการแข่งขันฟุตบอล "ยูฟ่า ยูโรปา ลีก"

    นอกจากนี้ ในช่วงก่อนการแข่งขันระหว่าง Ajax และ Maccabi Tel Aviv แฟนบอลชาวอิสราเอลปฏิเสธที่จะยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อน้ำท่วมบาเลนเซีย พวกเขายังจุดพลุไฟผิดกฎหมายอีกด้วย

    การกระทำของชาวอิสราเอลเหล่านี้ ล้วนสร้างความไม่พอใจให้กับพลเมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นอย่างมาก

    จนเป็นเหตุให้มีการไล่ทำร้ายแฟนบอลชาวอิสราเอลออกสู่สายตาประชาคมโลก เสมือนว่าพวกเขาคือเหยื่อของความเกลียดชัง!

    ขณะที่เนทันยาฮูเรียกร้องให้ทางการเนเธอร์แลนด์ “ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว” หลังจากแฟนบอลทีมมัคคาบี เทล อาวีฟ ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ทำร้ายที่อัมสเตอร์ดัม พร้อมตะโกนว่า “ปลดปล่อยปาเลสไตน์”

    พร้อมทั้งสั่งเครื่องบิน 2 ลำ เพื่ออพยพพลเมืองอิสราเอล กลับประเทศ

    ทางด้าน "แดนนี่ ดานอน" เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำองค์การสหประชาชาติ ประณามความรุนแรงดังกล่าวว่าเป็น “การสังหารหมู่” และเรียกร้องให้ชาติตะวันตก “หันกลับมาดูแลความปลอดภัยของชาวยิว” ที่ตกเป็นเหยื่อต่อต้านจากความเกลียดชัง
    #3 ภาพเหตุการณ์แฟนบอลของทีม Maccabi Tel Aviv ก่อเหตุยั่วยุประชาชนที่สนับสนุนปาเลสไตน์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนการแข่งขันฟุตบอล "ยูฟ่า ยูโรปา ลีก" นอกจากนี้ ในช่วงก่อนการแข่งขันระหว่าง Ajax และ Maccabi Tel Aviv แฟนบอลชาวอิสราเอลปฏิเสธที่จะยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อน้ำท่วมบาเลนเซีย พวกเขายังจุดพลุไฟผิดกฎหมายอีกด้วย การกระทำของชาวอิสราเอลเหล่านี้ ล้วนสร้างความไม่พอใจให้กับพลเมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นอย่างมาก จนเป็นเหตุให้มีการไล่ทำร้ายแฟนบอลชาวอิสราเอลออกสู่สายตาประชาคมโลก เสมือนว่าพวกเขาคือเหยื่อของความเกลียดชัง! ขณะที่เนทันยาฮูเรียกร้องให้ทางการเนเธอร์แลนด์ “ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว” หลังจากแฟนบอลทีมมัคคาบี เทล อาวีฟ ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ทำร้ายที่อัมสเตอร์ดัม พร้อมตะโกนว่า “ปลดปล่อยปาเลสไตน์” พร้อมทั้งสั่งเครื่องบิน 2 ลำ เพื่ออพยพพลเมืองอิสราเอล กลับประเทศ ทางด้าน "แดนนี่ ดานอน" เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำองค์การสหประชาชาติ ประณามความรุนแรงดังกล่าวว่าเป็น “การสังหารหมู่” และเรียกร้องให้ชาติตะวันตก “หันกลับมาดูแลความปลอดภัยของชาวยิว” ที่ตกเป็นเหยื่อต่อต้านจากความเกลียดชัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 67 0 รีวิว
  • #2
    ภาพเหตุการณ์แฟนบอลของทีม Maccabi Tel Aviv ก่อเหตุยั่วยุประชาชนที่สนับสนุนปาเลสไตน์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนการแข่งขันฟุตบอล "ยูฟ่า ยูโรปา ลีก"

    นอกจากนี้ ในช่วงก่อนการแข่งขันระหว่าง Ajax และ Maccabi Tel Aviv แฟนบอลชาวอิสราเอลปฏิเสธที่จะยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อน้ำท่วมบาเลนเซีย พวกเขายังจุดพลุไฟผิดกฎหมายอีกด้วย

    การกระทำของชาวอิสราเอลเหล่านี้ ล้วนสร้างความไม่พอใจให้กับพลเมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นอย่างมาก

    จนเป็นเหตุให้มีการไล่ทำร้ายแฟนบอลชาวอิสราเอลออกสู่สายตาประชาคมโลก เสมือนว่าพวกเขาคือเหยื่อของความเกลียดชัง!

    ขณะที่เนทันยาฮูเรียกร้องให้ทางการเนเธอร์แลนด์ “ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว” หลังจากแฟนบอลทีมมัคคาบี เทล อาวีฟ ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ทำร้ายที่อัมสเตอร์ดัม พร้อมตะโกนว่า “ปลดปล่อยปาเลสไตน์”

    พร้อมทั้งสั่งเครื่องบิน 2 ลำ เพื่ออพยพพลเมืองอิสราเอล กลับประเทศ

    ทางด้าน "แดนนี่ ดานอน" เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำองค์การสหประชาชาติ ประณามความรุนแรงดังกล่าวว่าเป็น “การสังหารหมู่” และเรียกร้องให้ชาติตะวันตก “หันกลับมาดูแลความปลอดภัยของชาวยิว” ที่ตกเป็นเหยื่อต่อต้านจากความเกลียดชัง
    #2 ภาพเหตุการณ์แฟนบอลของทีม Maccabi Tel Aviv ก่อเหตุยั่วยุประชาชนที่สนับสนุนปาเลสไตน์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนการแข่งขันฟุตบอล "ยูฟ่า ยูโรปา ลีก" นอกจากนี้ ในช่วงก่อนการแข่งขันระหว่าง Ajax และ Maccabi Tel Aviv แฟนบอลชาวอิสราเอลปฏิเสธที่จะยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อน้ำท่วมบาเลนเซีย พวกเขายังจุดพลุไฟผิดกฎหมายอีกด้วย การกระทำของชาวอิสราเอลเหล่านี้ ล้วนสร้างความไม่พอใจให้กับพลเมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นอย่างมาก จนเป็นเหตุให้มีการไล่ทำร้ายแฟนบอลชาวอิสราเอลออกสู่สายตาประชาคมโลก เสมือนว่าพวกเขาคือเหยื่อของความเกลียดชัง! ขณะที่เนทันยาฮูเรียกร้องให้ทางการเนเธอร์แลนด์ “ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว” หลังจากแฟนบอลทีมมัคคาบี เทล อาวีฟ ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ทำร้ายที่อัมสเตอร์ดัม พร้อมตะโกนว่า “ปลดปล่อยปาเลสไตน์” พร้อมทั้งสั่งเครื่องบิน 2 ลำ เพื่ออพยพพลเมืองอิสราเอล กลับประเทศ ทางด้าน "แดนนี่ ดานอน" เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำองค์การสหประชาชาติ ประณามความรุนแรงดังกล่าวว่าเป็น “การสังหารหมู่” และเรียกร้องให้ชาติตะวันตก “หันกลับมาดูแลความปลอดภัยของชาวยิว” ที่ตกเป็นเหยื่อต่อต้านจากความเกลียดชัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 68 0 รีวิว
  • #1
    ภาพเหตุการณ์แฟนบอลของทีม Maccabi Tel Aviv ก่อเหตุยั่วยุประชาชนที่สนับสนุนปาเลสไตน์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนการแข่งขันฟุตบอล "ยูฟ่า ยูโรปา ลีก"

    นอกจากนี้ ในช่วงก่อนการแข่งขันระหว่าง Ajax และ Maccabi Tel Aviv แฟนบอลชาวอิสราเอลปฏิเสธที่จะยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อน้ำท่วมบาเลนเซีย พวกเขายังจุดพลุไฟผิดกฎหมายอีกด้วย

    การกระทำของชาวอิสราเอลเหล่านี้ ล้วนสร้างความไม่พอใจให้กับพลเมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นอย่างมาก

    จนเป็นเหตุให้มีการไล่ทำร้ายแฟนบอลชาวอิสราเอลออกสู่สายตาประชาคมโลก เสมือนว่าพวกเขาคือเหยื่อของความเกลียดชัง!

    ขณะที่เนทันยาฮูเรียกร้องให้ทางการเนเธอร์แลนด์ “ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว” หลังจากแฟนบอลทีมมัคคาบี เทล อาวีฟ ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ทำร้ายที่อัมสเตอร์ดัม พร้อมตะโกนว่า “ปลดปล่อยปาเลสไตน์”

    พร้อมทั้งสั่งเครื่องบิน 2 ลำ เพื่ออพยพพลเมืองอิสราเอล กลับประเทศ

    ทางด้าน "แดนนี่ ดานอน" เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำองค์การสหประชาชาติ ประณามความรุนแรงดังกล่าวว่าเป็น “การสังหารหมู่” และเรียกร้องให้ชาติตะวันตก “หันกลับมาดูแลความปลอดภัยของชาวยิว” ที่ตกเป็นเหยื่อต่อต้านจากความเกลียดชัง
    #1 ภาพเหตุการณ์แฟนบอลของทีม Maccabi Tel Aviv ก่อเหตุยั่วยุประชาชนที่สนับสนุนปาเลสไตน์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนการแข่งขันฟุตบอล "ยูฟ่า ยูโรปา ลีก" นอกจากนี้ ในช่วงก่อนการแข่งขันระหว่าง Ajax และ Maccabi Tel Aviv แฟนบอลชาวอิสราเอลปฏิเสธที่จะยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อน้ำท่วมบาเลนเซีย พวกเขายังจุดพลุไฟผิดกฎหมายอีกด้วย การกระทำของชาวอิสราเอลเหล่านี้ ล้วนสร้างความไม่พอใจให้กับพลเมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นอย่างมาก จนเป็นเหตุให้มีการไล่ทำร้ายแฟนบอลชาวอิสราเอลออกสู่สายตาประชาคมโลก เสมือนว่าพวกเขาคือเหยื่อของความเกลียดชัง! ขณะที่เนทันยาฮูเรียกร้องให้ทางการเนเธอร์แลนด์ “ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว” หลังจากแฟนบอลทีมมัคคาบี เทล อาวีฟ ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ทำร้ายที่อัมสเตอร์ดัม พร้อมตะโกนว่า “ปลดปล่อยปาเลสไตน์” พร้อมทั้งสั่งเครื่องบิน 2 ลำ เพื่ออพยพพลเมืองอิสราเอล กลับประเทศ ทางด้าน "แดนนี่ ดานอน" เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำองค์การสหประชาชาติ ประณามความรุนแรงดังกล่าวว่าเป็น “การสังหารหมู่” และเรียกร้องให้ชาติตะวันตก “หันกลับมาดูแลความปลอดภัยของชาวยิว” ที่ตกเป็นเหยื่อต่อต้านจากความเกลียดชัง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 54 0 รีวิว
  • #3
    อิสราเอลโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเบรุตใต้เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี หลังจากมีการประกาศให้พลเมืองอพยพออกจากพื้นที่เพียงหนึ่งชั่วโมง

    จากภาพเผยให้เห็นกลุ่มควันและเสียงระเบิดดังใกล้สนามบินนานาชาติเบรุต ซึ่งถือเป็นการยกระดับความรุนแรงในภูมิภาค

    นอกจากนี้ยังมีรายงานเศษจากการระเบิดทำความเสียหายเล็กน้อยให้กับเครื่องบินที่จอดอยู่ภายในสนามบินอีกด้วย บ่งบอกว่าอิสราเอลโจมตีเป้าหมายใกล้กับสนามบินเป็นอย่างมาก
    #3 อิสราเอลโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเบรุตใต้เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี หลังจากมีการประกาศให้พลเมืองอพยพออกจากพื้นที่เพียงหนึ่งชั่วโมง จากภาพเผยให้เห็นกลุ่มควันและเสียงระเบิดดังใกล้สนามบินนานาชาติเบรุต ซึ่งถือเป็นการยกระดับความรุนแรงในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีรายงานเศษจากการระเบิดทำความเสียหายเล็กน้อยให้กับเครื่องบินที่จอดอยู่ภายในสนามบินอีกด้วย บ่งบอกว่าอิสราเอลโจมตีเป้าหมายใกล้กับสนามบินเป็นอย่างมาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • #2
    อิสราเอลโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเบรุตใต้เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี หลังจากมีการประกาศให้พลเมืองอพยพออกจากพื้นที่เพียงหนึ่งชั่วโมง

    จากภาพเผยให้เห็นกลุ่มควันและเสียงระเบิดดังใกล้สนามบินนานาชาติเบรุต ซึ่งถือเป็นการยกระดับความรุนแรงในภูมิภาค

    นอกจากนี้ยังมีรายงานเศษจากการระเบิดทำความเสียหายเล็กน้อยให้กับเครื่องบินที่จอดอยู่ภายในสนามบินอีกด้วย บ่งบอกว่าอิสราเอลโจมตีเป้าหมายใกล้กับสนามบินเป็นอย่างมาก
    #2 อิสราเอลโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเบรุตใต้เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี หลังจากมีการประกาศให้พลเมืองอพยพออกจากพื้นที่เพียงหนึ่งชั่วโมง จากภาพเผยให้เห็นกลุ่มควันและเสียงระเบิดดังใกล้สนามบินนานาชาติเบรุต ซึ่งถือเป็นการยกระดับความรุนแรงในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีรายงานเศษจากการระเบิดทำความเสียหายเล็กน้อยให้กับเครื่องบินที่จอดอยู่ภายในสนามบินอีกด้วย บ่งบอกว่าอิสราเอลโจมตีเป้าหมายใกล้กับสนามบินเป็นอย่างมาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 27 0 รีวิว
  • #1
    อิสราเอลโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเบรุตใต้เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี หลังจากมีการประกาศให้พลเมืองอพยพออกจากพื้นที่เพียงหนึ่งชั่วโมง

    จากภาพเผยให้เห็นกลุ่มควันและเสียงระเบิดดังใกล้สนามบินนานาชาติเบรุต ซึ่งถือเป็นการยกระดับความรุนแรงในภูมิภาค

    นอกจากนี้ยังมีรายงานเศษจากการระเบิดทำความเสียหายเล็กน้อยให้กับเครื่องบินที่จอดอยู่ภายในสนามบินอีกด้วย บ่งบอกว่าอิสราเอลโจมตีเป้าหมายใกล้กับสนามบินเป็นอย่างมาก
    #1 อิสราเอลโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเบรุตใต้เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี หลังจากมีการประกาศให้พลเมืองอพยพออกจากพื้นที่เพียงหนึ่งชั่วโมง จากภาพเผยให้เห็นกลุ่มควันและเสียงระเบิดดังใกล้สนามบินนานาชาติเบรุต ซึ่งถือเป็นการยกระดับความรุนแรงในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีรายงานเศษจากการระเบิดทำความเสียหายเล็กน้อยให้กับเครื่องบินที่จอดอยู่ภายในสนามบินอีกด้วย บ่งบอกว่าอิสราเอลโจมตีเป้าหมายใกล้กับสนามบินเป็นอย่างมาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • ขอให้ พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
    จนกว่าจะมีการสอบสวนปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษในวัคซีนดังกล่าว

    https://www.facebook.com/share/19YzdjFF6k/

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

    เรียน พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร
    สำเนาเรียน คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ สำนักข่าว สื่อมวลชนทุกสำนัก

    ตามที่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นหน่วยงานภาครัฐในการกำกับดูแลของท่าน ได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนโควิดชนิดmRNA ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของบริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และ สไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของบริษัทโมเดอร์นา(Moderna) นั้น ขณะนี้มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าวัคซีนทั้งสองยี่ห้อดังกล่าว มีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ได้รับ อาทิ สารพันธุกรรมก่อมะเร็ง สารพันธุกรรมที่ทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะฯลฯ การปนเปื้อนดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสัญญาที่บริษัททั้งสองได้ทำไว้กับรัฐบาลไทยอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่ได้รับวัคซีนสองยี่ห้อดังกล่าว และก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐในฐานะคู่สัญญา

    ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันนี้การระบาดของโรคโควิด ๑๙ ได้ยุติลงแล้ว เชื้อโควิดได้กลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว และมียารักษาโรคโควิด ๑๙ ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะอนุญาตให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวอีก จึงขอให้ท่านสั่งให้มีการระงับการฉีดวัคซีน ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของ บริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และสไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของ บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ไว้ก่อน พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนกรณีที่บริษัททั้งสองจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามที่ระบุไว้ในสัญญาที่ได้ทำไว้กับรัฐบาล
    ทั้งนี้หากท่านมิได้ดำเนินการดังกล่าว จนก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนผู้บริโภค และต่อรัฐบาล ท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดอาญา และต้องรับผิดชอบความเสียหายทางละเมิดได้

    อนึ่งจากฐานข้อมูลประชาราษฎร์ ของกระทรวงมหาดไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ ถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตทั้งสิ้น ๔๒๔,๒๗๘ ราย หรือเพิ่มขึ้น ๒๒% จากค่าเฉลี่ยห้าปีก่อนการระบาดของโควิด การเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจเกิดจากการฉีดวัคซีน mRNAที่มีการปนเปื้อนของยีนก่อมะเร็ง การระงับการฉีดวัคซีนmRNAทันทีจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องดำเนินการทันทีจนกว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนต่อไป

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    เอกสารอ้างอิง
    1. จดหมาย ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk

    2. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    3. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง
    ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567
    https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link


    ❇ ข้อมูลสำคัญ

    Vaccine warning to Prime Minister
    https://youtu.be/EDv1b4pg9RE?si=zoHznuiVMayaK430
    Australians Demand Answers!
    https://russellbroadbent.com.au/australiansdemandanswers/
    DNA contamination in vaccines
    https://youtu.be/ICNdzPC2ExY?si=3zNT4fHwGCgVOXGs
    Prime Minister urged to ‘immediately suspend’ mRNA injections
    https://blog.maryannedemasi.com/p/prime-minister-urged-to-immediately?utm_campaign=post&utm_medium=web

    Report from Canadian virologist, Dr. David J. Speicher
    https://www.dropbox.com/scl/fi/sb20elb520v6a1saxg9lj/240909-D-Speicher-Report.pdf?rlkey=dutcvd85gh80ebfs2ucdmorba&e=1&st=rglgjcfq&dl=0

    Proof, DNA contamination report
    https://youtu.be/p-qU6jq8wv8?si=YTkGTRDRzhO4hpLQ

    นายแพทย์​โจเซฟ​ ลาดาโป​ นายแพทย์​ใหญ่​ แห่ง​มลรัฐ​ฟลอริด้า​ สหรัฐอเมริกา​ ประกาศ​ว่า​ การ​ฉีดวัคซีน​ mRNA​ทั้ง​ของไฟเซอร์​และโมเดอนา เป็น​การกระทำ​ที่ผิดศีลธรรม​ ขัดจรรยาบรรณ​ทาง​การแพทย์​ เนื่องจาก​พบว่า​มีการปนเปื้อน​ของ​ DNA ในวัคซีน​เหล่านี้​ที่เกินมาตรฐาน​ความปลอดภัย​ DNA ดังกล่าว​สามารถ​เข้าไป​แทรกในสารพันธุกรรม​ของมนุษย​์​ ทำให้เกิด​การกลายพันธุ์​และความผิดปกติ​ หลาย​อย่างรวมทั้ง​ก่อมะเร็ง​ได้​
    นอกจากนี้​ไขมันนาโน​ซึ่ง​เป็น​ส่วนประกอบ​สำคัญ​ของ​วัคซีน​mRNA​ ก็​ยังทำให้​เกิด​ผลเสีย​ต่อ​ร่างกาย​มากมาย
    ทั้ง​นี้​ข้อสรุป​ดังกล่าว​อยู่​บนพื้นฐาน​ข้อมูล​จาก​การวิจัย
    https://rumble.com/v44yso0-dr.-joseph-ladapo-i-am-calling-for-a-halt-to-the-use-of-mrna-covid-19-vacci.html
    https://vigilantnews.com/post/dr-ladapo-prepared-to-ban-mrna-covid-19-vaccines-in-florida/?amp=1
    ขอให้ พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา จนกว่าจะมีการสอบสวนปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษในวัคซีนดังกล่าว https://www.facebook.com/share/19YzdjFF6k/ วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เรียน พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร สำเนาเรียน คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ สำนักข่าว สื่อมวลชนทุกสำนัก ตามที่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นหน่วยงานภาครัฐในการกำกับดูแลของท่าน ได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนโควิดชนิดmRNA ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของบริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และ สไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของบริษัทโมเดอร์นา(Moderna) นั้น ขณะนี้มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าวัคซีนทั้งสองยี่ห้อดังกล่าว มีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ได้รับ อาทิ สารพันธุกรรมก่อมะเร็ง สารพันธุกรรมที่ทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะฯลฯ การปนเปื้อนดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสัญญาที่บริษัททั้งสองได้ทำไว้กับรัฐบาลไทยอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่ได้รับวัคซีนสองยี่ห้อดังกล่าว และก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐในฐานะคู่สัญญา ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันนี้การระบาดของโรคโควิด ๑๙ ได้ยุติลงแล้ว เชื้อโควิดได้กลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว และมียารักษาโรคโควิด ๑๙ ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะอนุญาตให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวอีก จึงขอให้ท่านสั่งให้มีการระงับการฉีดวัคซีน ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของ บริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และสไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของ บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ไว้ก่อน พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนกรณีที่บริษัททั้งสองจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามที่ระบุไว้ในสัญญาที่ได้ทำไว้กับรัฐบาล ทั้งนี้หากท่านมิได้ดำเนินการดังกล่าว จนก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนผู้บริโภค และต่อรัฐบาล ท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดอาญา และต้องรับผิดชอบความเสียหายทางละเมิดได้ อนึ่งจากฐานข้อมูลประชาราษฎร์ ของกระทรวงมหาดไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ ถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตทั้งสิ้น ๔๒๔,๒๗๘ ราย หรือเพิ่มขึ้น ๒๒% จากค่าเฉลี่ยห้าปีก่อนการระบาดของโควิด การเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจเกิดจากการฉีดวัคซีน mRNAที่มีการปนเปื้อนของยีนก่อมะเร็ง การระงับการฉีดวัคซีนmRNAทันทีจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องดำเนินการทันทีจนกว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนต่อไป กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เอกสารอ้างอิง 1. จดหมาย ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk 2. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ 3. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567 https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link ❇ ข้อมูลสำคัญ Vaccine warning to Prime Minister https://youtu.be/EDv1b4pg9RE?si=zoHznuiVMayaK430 Australians Demand Answers! https://russellbroadbent.com.au/australiansdemandanswers/ DNA contamination in vaccines https://youtu.be/ICNdzPC2ExY?si=3zNT4fHwGCgVOXGs Prime Minister urged to ‘immediately suspend’ mRNA injections https://blog.maryannedemasi.com/p/prime-minister-urged-to-immediately?utm_campaign=post&utm_medium=web Report from Canadian virologist, Dr. David J. Speicher https://www.dropbox.com/scl/fi/sb20elb520v6a1saxg9lj/240909-D-Speicher-Report.pdf?rlkey=dutcvd85gh80ebfs2ucdmorba&e=1&st=rglgjcfq&dl=0 Proof, DNA contamination report https://youtu.be/p-qU6jq8wv8?si=YTkGTRDRzhO4hpLQ นายแพทย์​โจเซฟ​ ลาดาโป​ นายแพทย์​ใหญ่​ แห่ง​มลรัฐ​ฟลอริด้า​ สหรัฐอเมริกา​ ประกาศ​ว่า​ การ​ฉีดวัคซีน​ mRNA​ทั้ง​ของไฟเซอร์​และโมเดอนา เป็น​การกระทำ​ที่ผิดศีลธรรม​ ขัดจรรยาบรรณ​ทาง​การแพทย์​ เนื่องจาก​พบว่า​มีการปนเปื้อน​ของ​ DNA ในวัคซีน​เหล่านี้​ที่เกินมาตรฐาน​ความปลอดภัย​ DNA ดังกล่าว​สามารถ​เข้าไป​แทรกในสารพันธุกรรม​ของมนุษย​์​ ทำให้เกิด​การกลายพันธุ์​และความผิดปกติ​ หลาย​อย่างรวมทั้ง​ก่อมะเร็ง​ได้​ นอกจากนี้​ไขมันนาโน​ซึ่ง​เป็น​ส่วนประกอบ​สำคัญ​ของ​วัคซีน​mRNA​ ก็​ยังทำให้​เกิด​ผลเสีย​ต่อ​ร่างกาย​มากมาย ทั้ง​นี้​ข้อสรุป​ดังกล่าว​อยู่​บนพื้นฐาน​ข้อมูล​จาก​การวิจัย https://rumble.com/v44yso0-dr.-joseph-ladapo-i-am-calling-for-a-halt-to-the-use-of-mrna-covid-19-vacci.html https://vigilantnews.com/post/dr-ladapo-prepared-to-ban-mrna-covid-19-vaccines-in-florida/?amp=1
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩 ขอให้ พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
    จนกว่าจะมีการสอบสวนปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษในวัคซีนดังกล่าว

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

    เรียน พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร
    สำเนาเรียน คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ สำนักข่าว สื่อมวลชนทุกสำนัก

    ตามที่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นหน่วยงานภาครัฐในการกำกับดูแลของท่าน ได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนโควิดชนิดmRNA ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของบริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และ สไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของบริษัทโมเดอร์นา(Moderna) นั้น ขณะนี้มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าวัคซีนทั้งสองยี่ห้อดังกล่าว มีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ได้รับ อาทิ สารพันธุกรรมก่อมะเร็ง สารพันธุกรรมที่ทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะฯลฯ การปนเปื้อนดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสัญญาที่บริษัททั้งสองได้ทำไว้กับรัฐบาลไทยอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่ได้รับวัคซีนสองยี่ห้อดังกล่าว และก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐในฐานะคู่สัญญา

    ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันนี้การระบาดของโรคโควิด ๑๙ ได้ยุติลงแล้ว เชื้อโควิดได้กลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว และมียารักษาโรคโควิด ๑๙ ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะอนุญาตให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวอีก จึงขอให้ท่านสั่งให้มีการระงับการฉีดวัคซีน ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของ บริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และสไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของ บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ไว้ก่อน พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนกรณีที่บริษัททั้งสองจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามที่ระบุไว้ในสัญญาที่ได้ทำไว้กับรัฐบาล
    ทั้งนี้หากท่านมิได้ดำเนินการดังกล่าว จนก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนผู้บริโภค และต่อรัฐบาล ท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดอาญา และต้องรับผิดชอบความเสียหายทางละเมิดได้

    อนึ่งจากฐานข้อมูลประชาราษฎร์ ของกระทรวงมหาดไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ ถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตทั้งสิ้น ๔๒๔,๒๗๘ ราย หรือเพิ่มขึ้น ๒๒% จากค่าเฉลี่ยห้าปีก่อนการระบาดของโควิด การเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจเกิดจากการฉีดวัคซีน mRNAที่มีการปนเปื้อนของยีนก่อมะเร็ง การระงับการฉีดวัคซีนmRNAทันทีจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องดำเนินการทันทีจนกว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนต่อไป

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    เอกสารอ้างอิง
    1. จดหมาย ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk

    2. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk

    3. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง
    ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567
    https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link


    ❇ ข้อมูลสำคัญ

    Vaccine warning to Prime Minister
    https://youtu.be/EDv1b4pg9RE?si=zoHznuiVMayaK430
    Australians Demand Answers!
    https://russellbroadbent.com.au/australiansdemandanswers/
    DNA contamination in vaccines
    https://youtu.be/ICNdzPC2ExY?si=3zNT4fHwGCgVOXGs
    Prime Minister urged to ‘immediately suspend’ mRNA injections
    https://blog.maryannedemasi.com/p/prime-minister-urged-to-immediately?utm_campaign=post&utm_medium=web

    Report from Canadian virologist, Dr. David J. Speicher
    https://www.dropbox.com/scl/fi/sb20elb520v6a1saxg9lj/240909-D-Speicher-Report.pdf?rlkey=dutcvd85gh80ebfs2ucdmorba&e=1&st=rglgjcfq&dl=0

    Proof, DNA contamination report
    https://youtu.be/p-qU6jq8wv8?si=YTkGTRDRzhO4hpLQ

    นายแพทย์​โจเซฟ​ ลาดาโป​ นายแพทย์​ใหญ่​ แห่ง​มลรัฐ​ฟลอริด้า​ สหรัฐอเมริกา​ ประกาศ​ว่า​ การ​ฉีดวัคซีน​ mRNA​ทั้ง​ของไฟเซอร์​และโมเดอนา เป็น​การกระทำ​ที่ผิดศีลธรรม​ ขัดจรรยาบรรณ​ทาง​การแพทย์​ เนื่องจาก​พบว่า​มีการปนเปื้อน​ของ​ DNA ในวัคซีน​เหล่านี้​ที่เกินมาตรฐาน​ความปลอดภัย​ DNA ดังกล่าว​สามารถ​เข้าไป​แทรกในสารพันธุกรรม​ของมนุษย​์​ ทำให้เกิด​การกลายพันธุ์​และความผิดปกติ​ หลาย​อย่างรวมทั้ง​ก่อมะเร็ง​ได้​
    นอกจากนี้​ไขมันนาโน​ซึ่ง​เป็น​ส่วนประกอบ​สำคัญ​ของ​วัคซีน​mRNA​ ก็​ยังทำให้​เกิด​ผลเสีย​ต่อ​ร่างกาย​มากมาย
    ทั้ง​นี้​ข้อสรุป​ดังกล่าว​อยู่​บนพื้นฐาน​ข้อมูล​จาก​การวิจัย
    https://rumble.com/v44yso0-dr.-joseph-ladapo-i-am-calling-for-a-halt-to-the-use-of-mrna-covid-19-vacci.html
    https://vigilantnews.com/post/dr-ladapo-prepared-to-ban-mrna-covid-19-vaccines-in-florida/?amp=1
    🚩 ขอให้ พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา จนกว่าจะมีการสอบสวนปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษในวัคซีนดังกล่าว วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เรียน พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร สำเนาเรียน คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ สำนักข่าว สื่อมวลชนทุกสำนัก ตามที่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นหน่วยงานภาครัฐในการกำกับดูแลของท่าน ได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนโควิดชนิดmRNA ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของบริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และ สไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของบริษัทโมเดอร์นา(Moderna) นั้น ขณะนี้มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าวัคซีนทั้งสองยี่ห้อดังกล่าว มีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ได้รับ อาทิ สารพันธุกรรมก่อมะเร็ง สารพันธุกรรมที่ทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะฯลฯ การปนเปื้อนดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสัญญาที่บริษัททั้งสองได้ทำไว้กับรัฐบาลไทยอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่ได้รับวัคซีนสองยี่ห้อดังกล่าว และก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐในฐานะคู่สัญญา ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันนี้การระบาดของโรคโควิด ๑๙ ได้ยุติลงแล้ว เชื้อโควิดได้กลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว และมียารักษาโรคโควิด ๑๙ ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะอนุญาตให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวอีก จึงขอให้ท่านสั่งให้มีการระงับการฉีดวัคซีน ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของ บริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และสไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของ บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ไว้ก่อน พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนกรณีที่บริษัททั้งสองจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามที่ระบุไว้ในสัญญาที่ได้ทำไว้กับรัฐบาล ทั้งนี้หากท่านมิได้ดำเนินการดังกล่าว จนก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนผู้บริโภค และต่อรัฐบาล ท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดอาญา และต้องรับผิดชอบความเสียหายทางละเมิดได้ อนึ่งจากฐานข้อมูลประชาราษฎร์ ของกระทรวงมหาดไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ ถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตทั้งสิ้น ๔๒๔,๒๗๘ ราย หรือเพิ่มขึ้น ๒๒% จากค่าเฉลี่ยห้าปีก่อนการระบาดของโควิด การเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจเกิดจากการฉีดวัคซีน mRNAที่มีการปนเปื้อนของยีนก่อมะเร็ง การระงับการฉีดวัคซีนmRNAทันทีจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องดำเนินการทันทีจนกว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนต่อไป กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เอกสารอ้างอิง 1. จดหมาย ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk 2. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk 3. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567 https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link ❇ ข้อมูลสำคัญ Vaccine warning to Prime Minister https://youtu.be/EDv1b4pg9RE?si=zoHznuiVMayaK430 Australians Demand Answers! https://russellbroadbent.com.au/australiansdemandanswers/ DNA contamination in vaccines https://youtu.be/ICNdzPC2ExY?si=3zNT4fHwGCgVOXGs Prime Minister urged to ‘immediately suspend’ mRNA injections https://blog.maryannedemasi.com/p/prime-minister-urged-to-immediately?utm_campaign=post&utm_medium=web Report from Canadian virologist, Dr. David J. Speicher https://www.dropbox.com/scl/fi/sb20elb520v6a1saxg9lj/240909-D-Speicher-Report.pdf?rlkey=dutcvd85gh80ebfs2ucdmorba&e=1&st=rglgjcfq&dl=0 Proof, DNA contamination report https://youtu.be/p-qU6jq8wv8?si=YTkGTRDRzhO4hpLQ นายแพทย์​โจเซฟ​ ลาดาโป​ นายแพทย์​ใหญ่​ แห่ง​มลรัฐ​ฟลอริด้า​ สหรัฐอเมริกา​ ประกาศ​ว่า​ การ​ฉีดวัคซีน​ mRNA​ทั้ง​ของไฟเซอร์​และโมเดอนา เป็น​การกระทำ​ที่ผิดศีลธรรม​ ขัดจรรยาบรรณ​ทาง​การแพทย์​ เนื่องจาก​พบว่า​มีการปนเปื้อน​ของ​ DNA ในวัคซีน​เหล่านี้​ที่เกินมาตรฐาน​ความปลอดภัย​ DNA ดังกล่าว​สามารถ​เข้าไป​แทรกในสารพันธุกรรม​ของมนุษย​์​ ทำให้เกิด​การกลายพันธุ์​และความผิดปกติ​ หลาย​อย่างรวมทั้ง​ก่อมะเร็ง​ได้​ นอกจากนี้​ไขมันนาโน​ซึ่ง​เป็น​ส่วนประกอบ​สำคัญ​ของ​วัคซีน​mRNA​ ก็​ยังทำให้​เกิด​ผลเสีย​ต่อ​ร่างกาย​มากมาย ทั้ง​นี้​ข้อสรุป​ดังกล่าว​อยู่​บนพื้นฐาน​ข้อมูล​จาก​การวิจัย https://rumble.com/v44yso0-dr.-joseph-ladapo-i-am-calling-for-a-halt-to-the-use-of-mrna-covid-19-vacci.html https://vigilantnews.com/post/dr-ladapo-prepared-to-ban-mrna-covid-19-vaccines-in-florida/?amp=1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราจะทรัมป์ตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน

    แม้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปี 2024 ยังไม่เสร็จสิ้น แต่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันประกาศชัยชนะ หลังคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมีมากกว่า 270 เสียง เกินกึ่งหนึ่้งจากทั้งหมด 538 คน ทิ้งห่างนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต นับเป็นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของนายทรัมป์ หลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 แพ้ให้กับนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต 306 ต่อ 232 เสียง

    นายทรัมป์ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ระบุว่า การได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองจะนำไปสู่ยุคทองของอเมริกา (Golden Age of America) โดยย้ำนโยบายหาเสียงเน้นไปที่การกวาดล้างผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะล้มเหลว ภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ซึ่งนายทรัมป์สัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาพรมแดน และแก้ไขทุกอย่างที่เกี่ยวกับสหรัฐฯ

    “หากร่วมมือกัน เราจะสามารถทำให้สหรัฐอเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง สำหรับชาวอเมริกันทุกคน ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง อนาคตของอเมริกาจะยิ่งใหญ่ขึ้น ดีขึ้น กล้าหาญขึ้น ร่ำรวยขึ้น ปลอดภัยขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา” นายทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุน

    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีต่อนายทรัมป์ พร้อมทำงานร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธมิตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า พร้อมดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมมือกับกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่ แต่ได้วางเป้าหมายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการทำธุรกิจแล้ว

    ประเทศในอาเซียน นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ มั่นใจว่าสหรัฐฯ จะเติบโตเป็นผู้นำในระดับโลกต่อไป และยกระดับความร่วมมือกับสิงคโปร์ให้สูงขึ้นไปอีก ส่วนนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานาธิบดีมาเลเซีย แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ของมาเลเซีย พร้อมก้าวไปข้างหน้าและทำงานร่วมกัน เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นชาติที่มีนักลงทุนใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ช่วยยุติความรุนแรงในปาเลสไตน์และยูเครน

    ด้านธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) พร้อมรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ หลังเกิดความกังวลว่าหากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง จะหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อาจส่งผลให้มีการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว

    #Newskit #USElection2024 #DonaldTrump
    เราจะทรัมป์ตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แม้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปี 2024 ยังไม่เสร็จสิ้น แต่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันประกาศชัยชนะ หลังคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมีมากกว่า 270 เสียง เกินกึ่งหนึ่้งจากทั้งหมด 538 คน ทิ้งห่างนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต นับเป็นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของนายทรัมป์ หลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 แพ้ให้กับนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต 306 ต่อ 232 เสียง นายทรัมป์ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ระบุว่า การได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองจะนำไปสู่ยุคทองของอเมริกา (Golden Age of America) โดยย้ำนโยบายหาเสียงเน้นไปที่การกวาดล้างผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะล้มเหลว ภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ซึ่งนายทรัมป์สัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาพรมแดน และแก้ไขทุกอย่างที่เกี่ยวกับสหรัฐฯ “หากร่วมมือกัน เราจะสามารถทำให้สหรัฐอเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง สำหรับชาวอเมริกันทุกคน ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง อนาคตของอเมริกาจะยิ่งใหญ่ขึ้น ดีขึ้น กล้าหาญขึ้น ร่ำรวยขึ้น ปลอดภัยขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา” นายทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีต่อนายทรัมป์ พร้อมทำงานร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธมิตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า พร้อมดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมมือกับกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่ แต่ได้วางเป้าหมายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการทำธุรกิจแล้ว ประเทศในอาเซียน นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ มั่นใจว่าสหรัฐฯ จะเติบโตเป็นผู้นำในระดับโลกต่อไป และยกระดับความร่วมมือกับสิงคโปร์ให้สูงขึ้นไปอีก ส่วนนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานาธิบดีมาเลเซีย แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ของมาเลเซีย พร้อมก้าวไปข้างหน้าและทำงานร่วมกัน เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นชาติที่มีนักลงทุนใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ช่วยยุติความรุนแรงในปาเลสไตน์และยูเครน ด้านธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) พร้อมรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ หลังเกิดความกังวลว่าหากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง จะหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อาจส่งผลให้มีการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว #Newskit #USElection2024 #DonaldTrump
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • 06-11-67/01 : หมี CNN / "FCUK DEMOCRAZY" ละครปาหี่ลวงโลก ฝีมือกำกับโดยอียิวเหี้ยไซออนนิสต์! ใครรอฟังผลเลือกตั้งอเมริกา? ไม่ต้องลุ้น เพราะเหี้ยมันจัดวางไว้แล้ว จะให้ละครฉากใหญ่ออกหน้าไหน? เพื่อนำไปสู่การแตกแผ่นดิน อเมริกาไม่แตก อียิวจะไร้บ้านอยู่? จำเอาไว้ว่า ใครสร้างระบบปชต.โกหกตอแหลนี้ขึ้นมากันล่ะ? อียิวทั้งนั้น ดังนั้น ไม่มีดอก อะไรที่มันควบคุมไม่ได้? เลือกตั้งคือเรื่องตอแหล ใครตรวจสอบได้จริง? ทุกครั้งแค่จัดฉาก งานถนัดเหี้ยมัน! ตอแหลตั้งแต่เที่ยงคืน เมืองเล็กติดชายแดนอีแคน เขตนี้เลือกตั้ง มีแค่ 6 ตัว ผลเสมอ หมายังรู้? ทำให้ดูน่าตื่นเต้น ควายอเมริกันลุ้นจนเยี่ยวแตก หารู้ไม่ ใครมาก็ไม่สำคัญ เพราะมันเตรียมแตกอเมริกาต่างหากล่ะ? บ้านเราก็ตอแหลไม่แพ้กัน กระแสปั่นควาย ชอบจุงเบย ขนาด "หมูเด้ง" ยังเลือกอีทรัมปป์ ส่วนอีแม่ เลือกอีกะลา เลือกตั้งมันมีจริงซะที่ไหน? ปชต.หาแดร๊กควาย ตื่นกันหมดแล้ว? ทุกครั้งหากมรึงสังเกตุ จะจับโป๊ะแตกได้ทันที ไม่ว่าใครจะนำ ใครจะตาม แต่พอก่อนเลือกตั้ง ทุกอย่างจะ RESET สูสีกันหมด โพลใคร โพลมัน ปั่นให้ควายตื่นเต้นว่ามีส่วนร่วม? DEEP STATE ที่ว่ากันเนี่ย มันวางหมากให้เดิน อเมริกาไม่มีตัวตน แค่หุ่นกระบอกให้อียิวเชิด ถึงเวลาก็ต้องกลับบ้านเก่า บ้านที่ไปปล้นอินเดียนแดงเค้ามา เวลาบ้านแตก อินเดียนแดงจะเรียกร้องเอาคืนทั้งหมดชัวร์! อเมริกาแตก ใครซวย อีแคนไงจ๊ะ? แต่มันรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอีแคน คือเยรูซาเล็ม แห่งที่ 2 นั่นเอง อียิวมันจัดตั้งรัฐยิวใหม่แน่ เพราะสายพันธุ์เสนียดจัญไรโลกจะไม่มีวันหายสาปสูญ เพราะโลกต้องมี หยิน หยาง! เวลาวิเคราะห์ เกจิ กุนซือ บ้านเรา มักจะดูจากสิ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของขี้ข้าผ่านสื่อตอแหล มรึงจะหลงทางทันที? ให้ดู สิ่งที่อียิวเหี้ยมันต้องการ แล้วมรึงจะได้คำตอบ จุดหมายปลายทาง ว่ามันจะสุดทางตรงไหน? เพราะบอกเลยว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง? ทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่ยอมรับอยู่แล้ว เพราะเค้าสั่งมาไงล่ะ? ต้องแตกอเมริกาเท่านั้น คือทางรอดอเมริกา พูดให้ชัดคือ ย่ออเมริกาให้เล็กลง เพราะบ้านใหม่อียิวคือ อีแคนาดา นั่นแหละ! สุดท้ายอาจรวมแผ่นดิน เพื่อตั้งรัฐยิวใหม่ ทวีปอเมริกาเหนือคือดินแดนเหี้ย อีก 20 ปี มรึงจะเข้าใจในสิ่งที่กูพูดวันนี้! หนีหนี้ แค่แผนขั้นต้น แผนการใหญ่มันคือแบ่งโลกออกเป็น 2 ขั้วอำนาจ รอวันฟื้นคืนชีพ แล้วฝั่งขั้วใหม่ไม่รู้เหรอ? รู้ซะยิ่งกว่ารู้ โคตรเหี้ยเก่งแค่ไหน ฉลาดแค่ไหน ก็แค่รองตรีนปูติน สีจิ้นผิง เค้าอ่านมรึงออก 3 ชั้น จนหมดเกลี้ยง อียิวครองโลกผ่านอเมริกา ต่อไปอียิวจะเผยร่างแท้จริงออกมา รัฐยิวใหม่ จะใช้ชื่อเหี้ยอะไรก็ช่าง แต่เจ้าของยังเป็นตัวเดิมเป๊ะเด๊ะ 100 ปี เจอกันใหม่ วังวนจักรวาล มรึงคิดได้ ทำไม ขั้วใหม่จะคิดไม่ได้ สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง คาเมเนอี JOHN KIM ทำวันนี้ คือปูทางอีก 100 ปีเช่นกัน รู้ทางกันดี? CIVIL WAR แค่เครื่องมือผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเหี้ย เมื่อตะวันออกกลางมันไม่ได้ผล ก็ต้องไปตั้งหลักใหม่ที่อเมริกาเหนือ ส่วนอียุโรปหน้าโง่ ก็ต้องล่มสลายไปในที่สุด รวมถึงการแตกสลายของเครือราชอาณาจักรอังกฤษเช่นกัน เมื่อมรึงเห็นภาพใหญ่ทั้งหมดแล้ว ละครปาหี่ ก็ดูกันให้สนุกสนานไปซะ อย่าอิน อย่าซีเรียส เพราะโลกคือละคร ยังไม่ตื่นกันอีกเหรอ? อเมริกาคือเรื่องโกหกตอแหล เหมือนที่มันทำฮอลีวู๊ดเอาไว้หลอกควายนั่นแหละ! อีทรัมปป์อยากเกิด อยากเป็น KING ส่วนอีกะลา แค่อีนู๋โคมแดง หมารับใช้ยิวเหี้ยไซออนนิสต์สุดตัว เครือข่ายบริษัทค้าอาวุธ อเมริกาไม่ขายอาวุธแดร๊ก มันก็ไม่มีเหี้ยอะไรจะขายแล้ว เพราะจีน รัสเซีย เอาไปแดร๊กหมด! มรึงเห็นรึยังล่ะว่า "ปชต.แค่ทางผ่าน" นายทุนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ไม่มีดอก เพื่อประชาชน เพื่อแผ่นดิน มีแค่เพื่อยิวเหี้ยไซออนนิสต์เท่านั้น เพราะขนาดแผ่นดินมรึงก็ยังไปปล้นเค้ามา ประสาอะไรจะมีความมั่นคง ปล้นเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป ความรุนแรง สูญเสีย ต้องมี อียิวมันไม่สนผลลัพธ์ดอก เพราะคนตายไม่ใช่มัน ด้วยเหตุนี้ อิหร่านถึงได้สั่งสอนอียิวไงล่ะ ไล่ฆ่าสายพันธุ์ยิวสัดนรก เพื่อทำให้โลกเบาขึ้น? ยิวมันเหี้ยกว่าที่มรึงคิดไว้เยอะ! ยิ่งแผ่นดินพ่อกูหอมหวาน มันอยากจะแดร๊กใจจะขาด แต่ดันซวย เจอลูกหลานบางระจัน ลูกหลานเสรีไทย 2 ย้อนเกล็ดเหี้ยไปหลายดอก วังจะแข็งแกร่งเพราะศรัทธาเท่านั้น ไม่ว่าอียิวมันจะเล่นแร่แปรวิญญานท่าไหน ก็ไม่สามารถรวบแดร๊กแผ่นดินพ่อได้ เพราะแผ่นดินนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ใช่ที่ที่เหี้ยจะอยู่ได้ มันคือแผ่นดินแห่งธรรม แสงสว่างไสว เหี้ยไอ้อีหน้าไหนก็อยู่ไม่ได้ หากสังเกตุ ไทยเราเดินตามรัสเซีย จีน โมเดล หลายเรื่อง พึ่งพาตัวเองตามคำสอนพ่อร.9 พอเพียง อดออม ประหยัด คลังไทยถึงมั่งคั่งติด TOP10 โลก อย่าคิดว่าอียุ่นปี่รวย หนี้ทั้งนั้น แบกดอลล่าร์จนหลังหัก เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ไทยเราหนี้น้อยที่สุด แต่เสือกมีทองคำเท่าภูเขา เชื่อมั้ยล่ะ?

    ปล.มาตามสูตร! อีเนรคุณทันยา ไล่รมต.กลาโหมออกทันที ผลงานนต่ำตม ไอ้สัส! ใครจะมาก็แพ้ยับ เพราะเสือกไม่ดูตัวเอง กระจอกแล้วยังเสือกซ่าส์ สุดท้าย แผนหาแพะมาเต็มตรีน โยนบาปให้อีเนรคุณทันยา ชาวยิวกู้แผ่นดิน ขับไล่ทรราชย์? อุปส์! สามัคคีคือพลัง เชิญไปตอแหลแถวช่อง 3 รับยาช่อง 9 ต่อเหอะจ๊ะ? อย่าปฎิเสธ อย่าตีเนียน ทุกการกระทำของอิสราเอล ไอ้อีชาวยิวต้องรับผิดชอบทั้งหมด เพราะเกือบครึ่งศตวรรษ ที่มรึงไปรุกรานดินแดนคานาอันมาโดยตลอด มรึงรู้เห็นเต็มใจ กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ วันนี้ เค้ามาไล่ฆ่ามรึง ลงแขกมรึง เป็นไปตามวิถีแห่งกรรมถูกต้องแล้ว โลกกำลังโฟกัสไปที่เลือกตั้งปาหี่ต้มเปื่อยควาย ความโกลาหลจะเกิดขึ้นแน่ เพราะแต่ละรัฐ มันเตรียมแยกตัวทั้งนั้น ไม่มีใครฟังอำนาจรัฐบาลกลางอีกแล้ว เพราะกูตั้งตนเป็นใหญ่เองได้ จะรองตรีนมรึงไปทำไม? อเมริกาแตก ใครได้ประโยชน์สูงสุดแถวนั้น อีแคนจะรับเละช่วงแรก แบกรับผู้อพยพหนีตาย แต่ในความเป็นจริง อยู่ในแผนรวมชาติพันธุ์เหี้ย ก่อตั้งรัฐยิวใหม่ขึ้นมา หากดูแผนที่ภูมิภาค โลกขั้วเก่าอยู่ดินแดนไกลโพ้น โลกขั้วใหม่คือโลกนั่นเอง แยกกันเดิน แล้วมาดูว่าใครจะรอด? ด้านประเทศกูมี สาละวนอยู่กับเรื่องปาหี่ตอแหล เค้าปล่อยให้มรึงล่อกันเอง กัดกันเอง แฉกันเอง แล้วค่อยเก็บกวาด ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบฟูมฟาย ทุกอย่างมันคือเกมส์ เราสนใจแค่ตัวเราเองก็พอ และให้รู้ไว้ว่า นี่แค่ "เพิ่งจะเริ่มเกมส์ล้างบางโลก" หลังเลือกตั้งปาหี่เหี้ย อะไรใหม่ๆ จะเกิดขึ้นมาอีกเยอะ อะไรที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ มรึงจะได้เห็นเต็ม 2 ตา เพราะแสงทำงานเต็มกำลังเมื่อไหร่ เหี้ยดิ้นพล่านทั่วแผ่นดิน อีตาเพน มันจ้องจะปฎิวัติอยู่แล้ว รอแค่มีตัวชง คนลงถนน แบกปืนไปไล่ฆ่ากันอย่างเมามันส์ ทหารออกจะมีตายห่ากันเป็นแสน เพราะแต่ละรัฐ อาวุธครบมือ ของใหญ่ ของหนัก มาเต็ม ใครหนุนล่ะ? ก็อียิวไงล่ะ จัดฉากทหารฆ่าประชาชน จัดฉาก มะกันโง่ฆ่ากันเอง ทั้งหมดเพื่อ RESET ใครจะตามเก็บหนี้มรึง? คงต้องใช้กำลังเข้ามายึดต่อไงล่ะ? อเมริกามัน NOBODY แล้ว แค่เยเมนยังชนะขาดลอย ไม่ต้องถึงมือปูติน สีจิ้นผิง ให้เสียตรีนดอกน่ะ JOHN KIM ผู้เดียว ก็เอาอยู่หมัด ฉากในหนังกำลังจะกลายเป็นจริง โสมแดงปักธงกลางทำเนียบขาว อยากเกิดต้องได้เกิด! มหากาพย์ละครฉากใหญ่เปลี่ยนแผ่นดินอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่แรงไม่จบ ไม่สุดทางไม่ได้แผ่นดินใหม่ อีทรัมปป์จะอยู่หรือไป คำตอบอยู่ที่ "ปากกระบอกปืน" ประกาศเอกราช แยกดินแดนชัวร์! เอาเลย ให้ว่อง ให้ไว กูอยากเห็นเหี้ยตายเกลื่อนแผ่นดิน โง่บัดซบทั้งแผ่นดิน อยู่ไปก็หนักแผ่นดินโลก! ตายห่าไปซะน่ะ อเมริกันหน้าควายทั้งหลาย คนดีดี ใครจะไปอยู่? ปิดตำนาน เสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ทั้งหมดคือ "เรื่องตอแหล"

    หมี CNN(ฆ่ากันเหอะ อย่าเสือกเสียเวลามาเลือกเลย ผลออกยังไง มรึงก็จ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว อเมริกันมันเก่งแต่ใช้กำลังกับผู้อ่อนแอกว่า เจอของจริง หมาไม่เลิก ฆ่ากันเองง่ายกว่า เพราะไม่ตายโหงทั้งแผ่นดิน ปูตินไม่ต้อง สีจิ้นผิงไม่ยุ่ง เดี๋ยวกูจะฆ่ากันเองโชว์ให้มรึงดู ถูกใจกด LIKE ให้น่ะจ๊ะ)
    06 พฤศจิกายน 67
    11.05 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    06-11-67/01 : หมี CNN / "FCUK DEMOCRAZY" ละครปาหี่ลวงโลก ฝีมือกำกับโดยอียิวเหี้ยไซออนนิสต์! ใครรอฟังผลเลือกตั้งอเมริกา? ไม่ต้องลุ้น เพราะเหี้ยมันจัดวางไว้แล้ว จะให้ละครฉากใหญ่ออกหน้าไหน? เพื่อนำไปสู่การแตกแผ่นดิน อเมริกาไม่แตก อียิวจะไร้บ้านอยู่? จำเอาไว้ว่า ใครสร้างระบบปชต.โกหกตอแหลนี้ขึ้นมากันล่ะ? อียิวทั้งนั้น ดังนั้น ไม่มีดอก อะไรที่มันควบคุมไม่ได้? เลือกตั้งคือเรื่องตอแหล ใครตรวจสอบได้จริง? ทุกครั้งแค่จัดฉาก งานถนัดเหี้ยมัน! ตอแหลตั้งแต่เที่ยงคืน เมืองเล็กติดชายแดนอีแคน เขตนี้เลือกตั้ง มีแค่ 6 ตัว ผลเสมอ หมายังรู้? ทำให้ดูน่าตื่นเต้น ควายอเมริกันลุ้นจนเยี่ยวแตก หารู้ไม่ ใครมาก็ไม่สำคัญ เพราะมันเตรียมแตกอเมริกาต่างหากล่ะ? บ้านเราก็ตอแหลไม่แพ้กัน กระแสปั่นควาย ชอบจุงเบย ขนาด "หมูเด้ง" ยังเลือกอีทรัมปป์ ส่วนอีแม่ เลือกอีกะลา เลือกตั้งมันมีจริงซะที่ไหน? ปชต.หาแดร๊กควาย ตื่นกันหมดแล้ว? ทุกครั้งหากมรึงสังเกตุ จะจับโป๊ะแตกได้ทันที ไม่ว่าใครจะนำ ใครจะตาม แต่พอก่อนเลือกตั้ง ทุกอย่างจะ RESET สูสีกันหมด โพลใคร โพลมัน ปั่นให้ควายตื่นเต้นว่ามีส่วนร่วม? DEEP STATE ที่ว่ากันเนี่ย มันวางหมากให้เดิน อเมริกาไม่มีตัวตน แค่หุ่นกระบอกให้อียิวเชิด ถึงเวลาก็ต้องกลับบ้านเก่า บ้านที่ไปปล้นอินเดียนแดงเค้ามา เวลาบ้านแตก อินเดียนแดงจะเรียกร้องเอาคืนทั้งหมดชัวร์! อเมริกาแตก ใครซวย อีแคนไงจ๊ะ? แต่มันรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอีแคน คือเยรูซาเล็ม แห่งที่ 2 นั่นเอง อียิวมันจัดตั้งรัฐยิวใหม่แน่ เพราะสายพันธุ์เสนียดจัญไรโลกจะไม่มีวันหายสาปสูญ เพราะโลกต้องมี หยิน หยาง! เวลาวิเคราะห์ เกจิ กุนซือ บ้านเรา มักจะดูจากสิ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของขี้ข้าผ่านสื่อตอแหล มรึงจะหลงทางทันที? ให้ดู สิ่งที่อียิวเหี้ยมันต้องการ แล้วมรึงจะได้คำตอบ จุดหมายปลายทาง ว่ามันจะสุดทางตรงไหน? เพราะบอกเลยว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง? ทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่ยอมรับอยู่แล้ว เพราะเค้าสั่งมาไงล่ะ? ต้องแตกอเมริกาเท่านั้น คือทางรอดอเมริกา พูดให้ชัดคือ ย่ออเมริกาให้เล็กลง เพราะบ้านใหม่อียิวคือ อีแคนาดา นั่นแหละ! สุดท้ายอาจรวมแผ่นดิน เพื่อตั้งรัฐยิวใหม่ ทวีปอเมริกาเหนือคือดินแดนเหี้ย อีก 20 ปี มรึงจะเข้าใจในสิ่งที่กูพูดวันนี้! หนีหนี้ แค่แผนขั้นต้น แผนการใหญ่มันคือแบ่งโลกออกเป็น 2 ขั้วอำนาจ รอวันฟื้นคืนชีพ แล้วฝั่งขั้วใหม่ไม่รู้เหรอ? รู้ซะยิ่งกว่ารู้ โคตรเหี้ยเก่งแค่ไหน ฉลาดแค่ไหน ก็แค่รองตรีนปูติน สีจิ้นผิง เค้าอ่านมรึงออก 3 ชั้น จนหมดเกลี้ยง อียิวครองโลกผ่านอเมริกา ต่อไปอียิวจะเผยร่างแท้จริงออกมา รัฐยิวใหม่ จะใช้ชื่อเหี้ยอะไรก็ช่าง แต่เจ้าของยังเป็นตัวเดิมเป๊ะเด๊ะ 100 ปี เจอกันใหม่ วังวนจักรวาล มรึงคิดได้ ทำไม ขั้วใหม่จะคิดไม่ได้ สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง คาเมเนอี JOHN KIM ทำวันนี้ คือปูทางอีก 100 ปีเช่นกัน รู้ทางกันดี? CIVIL WAR แค่เครื่องมือผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเหี้ย เมื่อตะวันออกกลางมันไม่ได้ผล ก็ต้องไปตั้งหลักใหม่ที่อเมริกาเหนือ ส่วนอียุโรปหน้าโง่ ก็ต้องล่มสลายไปในที่สุด รวมถึงการแตกสลายของเครือราชอาณาจักรอังกฤษเช่นกัน เมื่อมรึงเห็นภาพใหญ่ทั้งหมดแล้ว ละครปาหี่ ก็ดูกันให้สนุกสนานไปซะ อย่าอิน อย่าซีเรียส เพราะโลกคือละคร ยังไม่ตื่นกันอีกเหรอ? อเมริกาคือเรื่องโกหกตอแหล เหมือนที่มันทำฮอลีวู๊ดเอาไว้หลอกควายนั่นแหละ! อีทรัมปป์อยากเกิด อยากเป็น KING ส่วนอีกะลา แค่อีนู๋โคมแดง หมารับใช้ยิวเหี้ยไซออนนิสต์สุดตัว เครือข่ายบริษัทค้าอาวุธ อเมริกาไม่ขายอาวุธแดร๊ก มันก็ไม่มีเหี้ยอะไรจะขายแล้ว เพราะจีน รัสเซีย เอาไปแดร๊กหมด! มรึงเห็นรึยังล่ะว่า "ปชต.แค่ทางผ่าน" นายทุนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ไม่มีดอก เพื่อประชาชน เพื่อแผ่นดิน มีแค่เพื่อยิวเหี้ยไซออนนิสต์เท่านั้น เพราะขนาดแผ่นดินมรึงก็ยังไปปล้นเค้ามา ประสาอะไรจะมีความมั่นคง ปล้นเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป ความรุนแรง สูญเสีย ต้องมี อียิวมันไม่สนผลลัพธ์ดอก เพราะคนตายไม่ใช่มัน ด้วยเหตุนี้ อิหร่านถึงได้สั่งสอนอียิวไงล่ะ ไล่ฆ่าสายพันธุ์ยิวสัดนรก เพื่อทำให้โลกเบาขึ้น? ยิวมันเหี้ยกว่าที่มรึงคิดไว้เยอะ! ยิ่งแผ่นดินพ่อกูหอมหวาน มันอยากจะแดร๊กใจจะขาด แต่ดันซวย เจอลูกหลานบางระจัน ลูกหลานเสรีไทย 2 ย้อนเกล็ดเหี้ยไปหลายดอก วังจะแข็งแกร่งเพราะศรัทธาเท่านั้น ไม่ว่าอียิวมันจะเล่นแร่แปรวิญญานท่าไหน ก็ไม่สามารถรวบแดร๊กแผ่นดินพ่อได้ เพราะแผ่นดินนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ใช่ที่ที่เหี้ยจะอยู่ได้ มันคือแผ่นดินแห่งธรรม แสงสว่างไสว เหี้ยไอ้อีหน้าไหนก็อยู่ไม่ได้ หากสังเกตุ ไทยเราเดินตามรัสเซีย จีน โมเดล หลายเรื่อง พึ่งพาตัวเองตามคำสอนพ่อร.9 พอเพียง อดออม ประหยัด คลังไทยถึงมั่งคั่งติด TOP10 โลก อย่าคิดว่าอียุ่นปี่รวย หนี้ทั้งนั้น แบกดอลล่าร์จนหลังหัก เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ไทยเราหนี้น้อยที่สุด แต่เสือกมีทองคำเท่าภูเขา เชื่อมั้ยล่ะ? ปล.มาตามสูตร! อีเนรคุณทันยา ไล่รมต.กลาโหมออกทันที ผลงานนต่ำตม ไอ้สัส! ใครจะมาก็แพ้ยับ เพราะเสือกไม่ดูตัวเอง กระจอกแล้วยังเสือกซ่าส์ สุดท้าย แผนหาแพะมาเต็มตรีน โยนบาปให้อีเนรคุณทันยา ชาวยิวกู้แผ่นดิน ขับไล่ทรราชย์? อุปส์! สามัคคีคือพลัง เชิญไปตอแหลแถวช่อง 3 รับยาช่อง 9 ต่อเหอะจ๊ะ? อย่าปฎิเสธ อย่าตีเนียน ทุกการกระทำของอิสราเอล ไอ้อีชาวยิวต้องรับผิดชอบทั้งหมด เพราะเกือบครึ่งศตวรรษ ที่มรึงไปรุกรานดินแดนคานาอันมาโดยตลอด มรึงรู้เห็นเต็มใจ กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ วันนี้ เค้ามาไล่ฆ่ามรึง ลงแขกมรึง เป็นไปตามวิถีแห่งกรรมถูกต้องแล้ว โลกกำลังโฟกัสไปที่เลือกตั้งปาหี่ต้มเปื่อยควาย ความโกลาหลจะเกิดขึ้นแน่ เพราะแต่ละรัฐ มันเตรียมแยกตัวทั้งนั้น ไม่มีใครฟังอำนาจรัฐบาลกลางอีกแล้ว เพราะกูตั้งตนเป็นใหญ่เองได้ จะรองตรีนมรึงไปทำไม? อเมริกาแตก ใครได้ประโยชน์สูงสุดแถวนั้น อีแคนจะรับเละช่วงแรก แบกรับผู้อพยพหนีตาย แต่ในความเป็นจริง อยู่ในแผนรวมชาติพันธุ์เหี้ย ก่อตั้งรัฐยิวใหม่ขึ้นมา หากดูแผนที่ภูมิภาค โลกขั้วเก่าอยู่ดินแดนไกลโพ้น โลกขั้วใหม่คือโลกนั่นเอง แยกกันเดิน แล้วมาดูว่าใครจะรอด? ด้านประเทศกูมี สาละวนอยู่กับเรื่องปาหี่ตอแหล เค้าปล่อยให้มรึงล่อกันเอง กัดกันเอง แฉกันเอง แล้วค่อยเก็บกวาด ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบฟูมฟาย ทุกอย่างมันคือเกมส์ เราสนใจแค่ตัวเราเองก็พอ และให้รู้ไว้ว่า นี่แค่ "เพิ่งจะเริ่มเกมส์ล้างบางโลก" หลังเลือกตั้งปาหี่เหี้ย อะไรใหม่ๆ จะเกิดขึ้นมาอีกเยอะ อะไรที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ มรึงจะได้เห็นเต็ม 2 ตา เพราะแสงทำงานเต็มกำลังเมื่อไหร่ เหี้ยดิ้นพล่านทั่วแผ่นดิน อีตาเพน มันจ้องจะปฎิวัติอยู่แล้ว รอแค่มีตัวชง คนลงถนน แบกปืนไปไล่ฆ่ากันอย่างเมามันส์ ทหารออกจะมีตายห่ากันเป็นแสน เพราะแต่ละรัฐ อาวุธครบมือ ของใหญ่ ของหนัก มาเต็ม ใครหนุนล่ะ? ก็อียิวไงล่ะ จัดฉากทหารฆ่าประชาชน จัดฉาก มะกันโง่ฆ่ากันเอง ทั้งหมดเพื่อ RESET ใครจะตามเก็บหนี้มรึง? คงต้องใช้กำลังเข้ามายึดต่อไงล่ะ? อเมริกามัน NOBODY แล้ว แค่เยเมนยังชนะขาดลอย ไม่ต้องถึงมือปูติน สีจิ้นผิง ให้เสียตรีนดอกน่ะ JOHN KIM ผู้เดียว ก็เอาอยู่หมัด ฉากในหนังกำลังจะกลายเป็นจริง โสมแดงปักธงกลางทำเนียบขาว อยากเกิดต้องได้เกิด! มหากาพย์ละครฉากใหญ่เปลี่ยนแผ่นดินอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่แรงไม่จบ ไม่สุดทางไม่ได้แผ่นดินใหม่ อีทรัมปป์จะอยู่หรือไป คำตอบอยู่ที่ "ปากกระบอกปืน" ประกาศเอกราช แยกดินแดนชัวร์! เอาเลย ให้ว่อง ให้ไว กูอยากเห็นเหี้ยตายเกลื่อนแผ่นดิน โง่บัดซบทั้งแผ่นดิน อยู่ไปก็หนักแผ่นดินโลก! ตายห่าไปซะน่ะ อเมริกันหน้าควายทั้งหลาย คนดีดี ใครจะไปอยู่? ปิดตำนาน เสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ทั้งหมดคือ "เรื่องตอแหล" หมี CNN(ฆ่ากันเหอะ อย่าเสือกเสียเวลามาเลือกเลย ผลออกยังไง มรึงก็จ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว อเมริกันมันเก่งแต่ใช้กำลังกับผู้อ่อนแอกว่า เจอของจริง หมาไม่เลิก ฆ่ากันเองง่ายกว่า เพราะไม่ตายโหงทั้งแผ่นดิน ปูตินไม่ต้อง สีจิ้นผิงไม่ยุ่ง เดี๋ยวกูจะฆ่ากันเองโชว์ให้มรึงดู ถูกใจกด LIKE ให้น่ะจ๊ะ) 06 พฤศจิกายน 67 11.05 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ว่าใครก็แสดงความโกรธได้ทั้งนั้น
    มันเป็นเรื่องง่ายๆ
    แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะแสดงความโกรธ
    -กับคนที่เหมาะสม
    -ด้วยความรุนแรงที่เหมาะสม
    -ในเวลาที่เหมาะสม
    -ด้วยจุดประสงค์ที่เหมาะสม
    -และด้วยวิธีการที่เหมาะสม

    -อาริสโตเติล นักปรัชญาโบราณ


    จากหนังสือ |อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    ไม่ว่าใครก็แสดงความโกรธได้ทั้งนั้น มันเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะแสดงความโกรธ -กับคนที่เหมาะสม -ด้วยความรุนแรงที่เหมาะสม -ในเวลาที่เหมาะสม -ด้วยจุดประสงค์ที่เหมาะสม -และด้วยวิธีการที่เหมาะสม -อาริสโตเติล นักปรัชญาโบราณ จากหนังสือ |อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กับกมลา แฮร์ริส ของพรรคเดโมแครต เคลื่อนเข้าสู่ระยะพุ่งโถมตัวเข้าสู่เส้นชัยซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่งในวันอังคาร (5 พ.ย.) ขณะที่ผู้ออกเสียงชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเลือก 2 วิสัยทัศน์สำหรับประเทศชาติซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด
    .
    ในเวลาที่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกๆ เริ่มเปิดต้อนรับผู้ออกมาใช้สิทธิ ผลโพลสำรวจและพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คู่แข่งขันสำคัญทั้งสองคือ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส วัย 60 ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังคงอยู่ในสภาพที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีจนยากลำบากแก่การตัดสินชี้ขาด ในการต่อสู้ช่วงชิงทำเนียบขาวครั้งที่ถือว่ายากลำบากและพลิกผันไปมามากที่สุดในยุคสมัยใหม่
    .
    หน่วยเลือกตั้งในรัฐทางภาคตะวันออก เป็นต้นว่า เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา และนิวยอร์ก เปิดให้เข้าไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 06.00 น. (ตรงกับ 18.00 น.เวลาเมืองไทย) โดยคาดหมายกันว่าตลอดทั้งวันจะผู้ไปใช้สิทธิกันหลายสิบล้านคน เพิ่มเติมจากจำนวนกว่า 82 ล้านคนซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนหน้านี้
    .
    ขณะที่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังไม่เป็นที่ทราบกันไปอีกหลายวันทีเดียว ถ้าผลมีความคู่คี่กันมากอย่างที่โพลทั้งหลายบ่งชี้ไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในประเทศที่มีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึกอยู่แล้วแห่งนี้
    .
    นอกจากนั้น ยังมีความหวาดกลัวกันว่าจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และกระทั่งความรุนแรงขึ้นมา ถ้าหาก ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และท้าทายผลเลือกตั้งอย่างที่เขาเคยกระทำในการเลือกตั้งปี 2020
    .
    ในวันจันทร์ (4) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง ทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ต่างทำงานอย่างไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อยเพื่อปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนของพวกเขาออกมาใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้ง ขณะเดียวกับที่พยายามหาทางเอาชนะใจพวกผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจคนท้ายๆ โดยเฉพาะในบรรดารัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผู้ชี้ขาดผลการแข่งขันคราวนี้
    .
    ทรัมป์ ให้สัญญาจะนำอเมริกาสู่ “ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” ส่วนกมลา แฮร์ริส เรียกร้อง “การเริ่มต้นใหม่” หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองซึ่งมุ่งปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ
    .
    รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตปิดฉากการหาเสียงที่ร็อคกี้สเต็ปส์ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์ดัง “ร็อกกี้” ในรัฐเพนซิลเวเนีย 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะให้ได้
    .
    แฮร์ริสประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญ และอ้างอิงถึงหนัง “ร็อกกี้” ว่า ขอยกย่องทุกคนที่เริ่มต้นในฐานะมวยรองแต่สามารถฝ่าฝันสู่ชัยชนะสำเร็จ
    .
    ที่ผ่านมา แฮร์ริส ย้ำอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นมวยรอง โดยเธอได้ตั๋วชิงทำเนียบขาวในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแบบกะทันหัน หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมจำนนต่อการกดดันภายในพรรคและขอถอนตัวจากการแข่งขัน
    .
    อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสยืนยันว่า เธอจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
    .
    ทางด้านทรัมป์พาสมาชิกครอบครัวหลายคนขึ้นเวทีทิ้งทวนการหาเสียงที่เมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน
    .
    อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปลงคะแนนในวันอังคาร (5) เพื่อให้ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ประเทศเผชิญอยู่ รวมทั้งพาอเมริกาและโลกสู่ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น
    .
    การปราศรัยส่งท้ายของทั้งคู่สะท้อนว่า การออกไปใช้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งสูงถึง 82 ล้านคน และตอนนี้ทั้งคู่จำเป็นต้องระดมผู้สนับสนุนออกไปเลือกตั้งในวันอังคาร
    .
    ทั้งนี้ ในการหาเสียงช่วงหลายวันสุดท้าย ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่งสาส์นถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง
    .
    ที่เมืองรีดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ย้ำว่า อเมริกากำลังตกต่ำและตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่เขาเรียกว่า “สัตว์” และบรรยายว่า “โหดเหี้ยม”
    .
    ด้านแฮร์ริสชูประเด็นต่อต้านการห้ามทำแท้งทั่วอเมริกา และเรียกร้องการเริ่มต้นใหม่ หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ
    .
    ถึงแม้มัวหมองจากการถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา และเรื่องอื้อฉาวที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับ โจ ไบเดน แต่ต้องถือว่า ทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด มีข้อได้เปรียบหลายอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะจากการตามจิกเรื่องเศรษฐกิจซึ่งคนอเมริกันกำลังมีความกังวล โดยเฉพาะเกี่วกับอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนการใช้ถ้อยคำรุนแรงโจมตีปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่ได้ใจฐานเสียงปีกขวา
    .
    ในทางกลับกัน แฮร์ริสมีเวลาสร้างแคมเปญหาเสียงแค่ 3 เดือน กระนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อยๆ ในการปลุกเร้าพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนุ่มสาวและผู้หญิงอย่างชัดเจน
    .
    ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังตั้งตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะมีนัยสำคัญต่อวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครน รวมถึงการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง
    .
    สถานการณ์เฉพาะหน้าที่น่ากลัวที่สุดคือประชาธิปไตยของอเมริกากำลังจะถูกทดสอบ หากทรัมป์แพ้แต่ไม่ยอมรับเหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เหล่ากองเชียร์ของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา รวมทั้งการที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงดูเป็นไปได้มากขึ้น
    .
    ที่กรุงวอชิงตันมีการติดตั้งรั้วสูงรอบบริเวณที่พักแฮร์ริสและทำเนียบขาว ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งนำแผ่นไม้อัดมาตีปิดกระจกด้านหน้า
    .
    ทั้งรัฐออริกอน วอชิงตัน และเนวาดา ต่างเรียกกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนล การ์ด) เข้ารักษาการณ์ และกระทรวงกลาโหมเผยว่า อย่างน้อย 17 รัฐสั่งให้สมาชิกกองทหารรักษาดินแดนรวม 600 นายเตรียมพร้อมหากจำเป็น
    .
    ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จัดตั้งศูนย์บัญชาการการเลือกตั้งแห่งชาติในวอชิงตันเพื่อตรวจติดตามภัยคุกคามตลอดสัปดาห์การเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในคูหาเลือกตั้งเกือบ 100,000 แห่งทั่วประเทศ
    .
    รันเบ็ก อิเล็กชัน เซอร์วิส ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยปฏิบัติการเลือกตั้ง ยืนยันข่าวที่ว่า ได้จัดส่งปุ่มกดฉุกเฉิน 1,000 ชุดสำหรับลูกค้าที่รวมถึงพวกหน่วยเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยอุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กสามารถห้อยคอหรือเก็บในกระเป๋า ซึ่งจะจับคู่กับมือถือของผู้ใช้ และเชื่อมต่อกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106742
    ..............
    Sondhi X
    การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กับกมลา แฮร์ริส ของพรรคเดโมแครต เคลื่อนเข้าสู่ระยะพุ่งโถมตัวเข้าสู่เส้นชัยซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่งในวันอังคาร (5 พ.ย.) ขณะที่ผู้ออกเสียงชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเลือก 2 วิสัยทัศน์สำหรับประเทศชาติซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด . ในเวลาที่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกๆ เริ่มเปิดต้อนรับผู้ออกมาใช้สิทธิ ผลโพลสำรวจและพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คู่แข่งขันสำคัญทั้งสองคือ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส วัย 60 ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังคงอยู่ในสภาพที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีจนยากลำบากแก่การตัดสินชี้ขาด ในการต่อสู้ช่วงชิงทำเนียบขาวครั้งที่ถือว่ายากลำบากและพลิกผันไปมามากที่สุดในยุคสมัยใหม่ . หน่วยเลือกตั้งในรัฐทางภาคตะวันออก เป็นต้นว่า เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา และนิวยอร์ก เปิดให้เข้าไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 06.00 น. (ตรงกับ 18.00 น.เวลาเมืองไทย) โดยคาดหมายกันว่าตลอดทั้งวันจะผู้ไปใช้สิทธิกันหลายสิบล้านคน เพิ่มเติมจากจำนวนกว่า 82 ล้านคนซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนหน้านี้ . ขณะที่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังไม่เป็นที่ทราบกันไปอีกหลายวันทีเดียว ถ้าผลมีความคู่คี่กันมากอย่างที่โพลทั้งหลายบ่งชี้ไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในประเทศที่มีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึกอยู่แล้วแห่งนี้ . นอกจากนั้น ยังมีความหวาดกลัวกันว่าจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และกระทั่งความรุนแรงขึ้นมา ถ้าหาก ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และท้าทายผลเลือกตั้งอย่างที่เขาเคยกระทำในการเลือกตั้งปี 2020 . ในวันจันทร์ (4) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง ทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ต่างทำงานอย่างไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อยเพื่อปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนของพวกเขาออกมาใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้ง ขณะเดียวกับที่พยายามหาทางเอาชนะใจพวกผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจคนท้ายๆ โดยเฉพาะในบรรดารัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผู้ชี้ขาดผลการแข่งขันคราวนี้ . ทรัมป์ ให้สัญญาจะนำอเมริกาสู่ “ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” ส่วนกมลา แฮร์ริส เรียกร้อง “การเริ่มต้นใหม่” หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองซึ่งมุ่งปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ . รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตปิดฉากการหาเสียงที่ร็อคกี้สเต็ปส์ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์ดัง “ร็อกกี้” ในรัฐเพนซิลเวเนีย 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะให้ได้ . แฮร์ริสประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญ และอ้างอิงถึงหนัง “ร็อกกี้” ว่า ขอยกย่องทุกคนที่เริ่มต้นในฐานะมวยรองแต่สามารถฝ่าฝันสู่ชัยชนะสำเร็จ . ที่ผ่านมา แฮร์ริส ย้ำอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นมวยรอง โดยเธอได้ตั๋วชิงทำเนียบขาวในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแบบกะทันหัน หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมจำนนต่อการกดดันภายในพรรคและขอถอนตัวจากการแข่งขัน . อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสยืนยันว่า เธอจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ . ทางด้านทรัมป์พาสมาชิกครอบครัวหลายคนขึ้นเวทีทิ้งทวนการหาเสียงที่เมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน . อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปลงคะแนนในวันอังคาร (5) เพื่อให้ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ประเทศเผชิญอยู่ รวมทั้งพาอเมริกาและโลกสู่ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น . การปราศรัยส่งท้ายของทั้งคู่สะท้อนว่า การออกไปใช้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งสูงถึง 82 ล้านคน และตอนนี้ทั้งคู่จำเป็นต้องระดมผู้สนับสนุนออกไปเลือกตั้งในวันอังคาร . ทั้งนี้ ในการหาเสียงช่วงหลายวันสุดท้าย ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่งสาส์นถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง . ที่เมืองรีดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ย้ำว่า อเมริกากำลังตกต่ำและตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่เขาเรียกว่า “สัตว์” และบรรยายว่า “โหดเหี้ยม” . ด้านแฮร์ริสชูประเด็นต่อต้านการห้ามทำแท้งทั่วอเมริกา และเรียกร้องการเริ่มต้นใหม่ หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ . ถึงแม้มัวหมองจากการถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา และเรื่องอื้อฉาวที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับ โจ ไบเดน แต่ต้องถือว่า ทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด มีข้อได้เปรียบหลายอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะจากการตามจิกเรื่องเศรษฐกิจซึ่งคนอเมริกันกำลังมีความกังวล โดยเฉพาะเกี่วกับอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนการใช้ถ้อยคำรุนแรงโจมตีปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่ได้ใจฐานเสียงปีกขวา . ในทางกลับกัน แฮร์ริสมีเวลาสร้างแคมเปญหาเสียงแค่ 3 เดือน กระนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อยๆ ในการปลุกเร้าพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนุ่มสาวและผู้หญิงอย่างชัดเจน . ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังตั้งตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะมีนัยสำคัญต่อวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครน รวมถึงการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง . สถานการณ์เฉพาะหน้าที่น่ากลัวที่สุดคือประชาธิปไตยของอเมริกากำลังจะถูกทดสอบ หากทรัมป์แพ้แต่ไม่ยอมรับเหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เหล่ากองเชียร์ของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา รวมทั้งการที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงดูเป็นไปได้มากขึ้น . ที่กรุงวอชิงตันมีการติดตั้งรั้วสูงรอบบริเวณที่พักแฮร์ริสและทำเนียบขาว ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งนำแผ่นไม้อัดมาตีปิดกระจกด้านหน้า . ทั้งรัฐออริกอน วอชิงตัน และเนวาดา ต่างเรียกกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนล การ์ด) เข้ารักษาการณ์ และกระทรวงกลาโหมเผยว่า อย่างน้อย 17 รัฐสั่งให้สมาชิกกองทหารรักษาดินแดนรวม 600 นายเตรียมพร้อมหากจำเป็น . ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จัดตั้งศูนย์บัญชาการการเลือกตั้งแห่งชาติในวอชิงตันเพื่อตรวจติดตามภัยคุกคามตลอดสัปดาห์การเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในคูหาเลือกตั้งเกือบ 100,000 แห่งทั่วประเทศ . รันเบ็ก อิเล็กชัน เซอร์วิส ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยปฏิบัติการเลือกตั้ง ยืนยันข่าวที่ว่า ได้จัดส่งปุ่มกดฉุกเฉิน 1,000 ชุดสำหรับลูกค้าที่รวมถึงพวกหน่วยเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยอุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กสามารถห้อยคอหรือเก็บในกระเป๋า ซึ่งจะจับคู่กับมือถือของผู้ใช้ และเชื่อมต่อกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106742 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1288 มุมมอง 0 รีวิว
  • แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ฉบับที่ 001/2567
    เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง

    ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้

    ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ

    ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด
    ​​
    ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม
    ​​
    ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น

    ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์

    ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
    ​​
    ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง

    ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง
    ​​
    สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว

    สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง

    ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย

    ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น

    ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่
    ​​
    พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร)

    สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง
    ​​
    สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป
    ​​
    จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน

    ด้วยความปรารถนาดี
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    23 สิงหาคม 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/?
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ฉบับที่ 001/2567 เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้ ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด ​​ ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน ​​ อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม ​​ ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์ ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ​​ ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง ​​ สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่ ​​ พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน ​​ นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร) สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง ​​ สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด ​​ นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่ ​​ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป ​​ จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน ด้วยความปรารถนาดี วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 23 สิงหาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/? วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนการประกาศผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 ร้านค้าต่างๆในย่านธุรกิจใจกลางเมืองพอร์ตแลนด์ กำลังป้องกันตัวเองอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากเจ้าของธุรกิจเหล่านี้หวั่นเกรงว่าจะเกิดการจลาจลและความรุนแรงตามแบบฉบับประชาธิปไตยของสหรัฐ
    ก่อนการประกาศผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 ร้านค้าต่างๆในย่านธุรกิจใจกลางเมืองพอร์ตแลนด์ กำลังป้องกันตัวเองอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากเจ้าของธุรกิจเหล่านี้หวั่นเกรงว่าจะเกิดการจลาจลและความรุนแรงตามแบบฉบับประชาธิปไตยของสหรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • กลุ่มอาการหลังวัคซีนโควิด (ตอนที่ 1)

    ประโยชน์ของวัคซีนก็คือป้องกันโรค รวมทั้งลดอาการหนัก การตายและในขณะเดียวกันจำเป็นต้องทราบผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนในระยะเวลาต่างๆ ตั้งแต่ได้รับวัคซีนนาทีแรกจนกระทั่งถึงระยะกลางเป็นสัปดาห์และระยะยาวเป็นเดือนและสิ่งที่ทอดยาวไปเป็นปี

    วัคซีนโควิดเช่นกันในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงจำเป็นต้องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป้าหมายของทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วยก็คือ ให้ทุกคนได้รับวัคซีนทั้งนี้เพื่อทำให้ระบบสาธารณสุขไม่พังพาบ จนรับผู้ป่วยโควิดไม่ไหว
    แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีระบบในการรองรับเพื่อประเมิน ผลข้างเคียงเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในคนที่ได้รับวัคซีนโดยที่เป็นคนที่ยังสุขภาพดีแข็งแรงจนกระทั่งมีโรคประจำตัวอื่นๆ

    รายงานในวารสารทางการแพทย์ของอังกฤษ British Medical Journal ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2023 ตั้งคำถามถึงระบบในสหรัฐที่รับรายงานผลแทรกซ้อนของวัคซีนที่เรียกว่า vaccine adverse event reporting system (VAERS) ทั้งนี้ยกตัวอย่างหมอสหรัฐที่ได้รับวัคซีนและเกิดผลกระทบอย่างรุนแรง พยายามที่จะรายงานเข้าระบบ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าใดนักรวมทั้งเป็นความซับซ้อนที่จะได้รับการติดตามสืบหารายละเอียดต่อ
    (Is the US’s Vaccine Adverse Event Reporting System broken?BMJ Investigation BMJ 2023; 383 doi: https://doi.org/10.1136/bmj.p2582 (Published 10 November 2023) Cite this as: BMJ 2023;383:p2582)
    ระบบในการรายงานในประเทศต่างๆไม่เฉพาะแต่ในประเทศอเมริกา แม้แต่ในยุโรปและในอังกฤษเองก็มีปัญหา ซึ่งแตกต่างกับระบบในประเทศเกาหลี ดังที่มีรายงานอุบัติการของหัวใจอักเสบหลังได้รับวัคซีน
    เอ็มอาร์เอ็นเอ โดยเป็นการเปิดรายงานแบบอิสระและแทบจะเป็นเรียวไทม์ โดยกฎเกณฑ์ของเงื่อนไขหัวใจอักเสบนั้นตัดสาเหตุอื่น ที่ทำให้หัวใจอักเสบได้ทั้งหมดจนเหลือแต่วัคซีนและตัวเลขที่ได้นั้นยังต่ำกว่าความเป็นจริง ด้วยซ้ำ และถึงแม้ว่าอุบัติการของหัวใจอักเสบอย่างเดียวจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งใน 100,000 แต่ความรุนแรงนั้นมากจนกระทั่งถึงต้องเข้าไอซียูหัวใจวายได้รับการรักษาอย่างเข้มข้นจนกระทั่งมีการเปลี่ยนหัวใจ (บทความสุขภาพพรรษาไทยรัฐหัวใจอักเสบจากวัคซีน)

    ในประเทศไทยเองนั้นดำเนินตามประเทศต่างๆที่ให้มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมได้มากที่สุด ดังนั้นจะพบได้ว่ามีรายงานที่ได้รับการปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกันหรือให้มีการพิสูจน์ก่อนว่าวัคซีนเป็นสาเหตุ ซึ่งอาจจะแทบเป็นไปไม่ได้ในผู้ที่ได้รับผลกระทบและแพทย์ที่ ดูคนไข้เพราะต้องมีการสืบสวนหาสาเหตุด้วยการตรวจทางห้องปฏิบัติการหลายชนิดด้วยกัน

    ยกตัวอย่างเช่นเด็กผู้ชายอายุ 14 ขวบได้รับวัคซีน
    เอ็มอาร์เอ็นเอสามเข็ม โดยเข็มสุดท้ายเก้าเดือนก่อนที่จะมีอาการของหัวใจอักเสบหัวใจวาย รุนแรง และกล้ามเนื้อแขนขาอักเสบอัมพาตยกแขนขาไม่ได้ เมื่อดูเงื่อนไขของเวลาเผินๆ อาจจะตัดประเด็นของวัคซีนได้เลย แต่การสืบหาสาเหตุอย่างอื่นทั้งตัวไวรัสโควิดและไวรัสอีกหลายชนิดทั้งหมด รวมทั้งภาวะภูมิแปรปรวนที่ทำให้เกิดการอักเสบ อีกทั้งสามารถตรวจพบเศษของวัคซีนในกล้ามเนื้อหัวใจและมีการอักเสบอย่างรุนแรงในกล้ามเนื้อหัวใจ ทั้งนี้ได้รับการรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำเหลือง และการให้สารสกัดน้ำเหลือง ตลอดจนยากดภูมิคุ้มกัน แม้ว่าหัวใจอักเสบหัวใจวายจะดีขึ้นแต่แขนขายังขยับไม่ได้ ทั้งหมดนี้ต้องใช้การตรวจในห้องปฏิบัติการการรักษาในระดับเป็น 100,000 เป็นล้านบาทต่อหนึ่งคน

    เหล่านี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความยากลำบากในการพิสูจน์ความเกี่ยวโยงกับวัคซีน
    แต่ทั้งนี้เริ่มมีการวิเคราะห์สาเหตุการตายที่สูงเกินกว่าที่ จะอธิบายได้เมื่อเทียบ ในช่วงเวลาก่อนโควิด ในระหว่างการระบาดของโควิดและหลังจากระบาดเริ่มสงบไปแล้ว และในช่วงที่เริ่มมีการใช้วัคซีน ที่เรียกว่าอัตรา excess deaths
    และนอกจากนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทอดยาวเป็นเวลานานเกินกว่าสามเดือนหลังจากติดเชื้อโควิดที่เรียกว่าลองโควิด (long covid) โดยมีทั้งอาการทางระบบหัวใจและปอด ระบบสมองประสาทและกล้ามเนื้อ ภาวะที่มีการอักเสบของผิวหนัง เส้นเอ็นพังผืด กล้ามเนื้อ ข้อ ตลอดจนการปะทุขึ้นของโรคที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหรือโรคที่สงบไปแล้ว รวมทั่งมะเร็งและการเกิดเริม งูสวัดซึ่งไวรัสเหล่านี้เป็นไวรัสที่ซ่อนอยู่ในร่างกายจากการติดเชื้อเนิ่นนานมาแล้ว และถูกกดไม่ให้แสดงตัวออกมาจากการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของร่างกาย และยังรวมถึง การนอนหลับที่ผิดปกติหลับยากหลับกระท่อนกระแท่น จนถึงฮอร์โมนแปรปรวนทั้งผู้ชายและผู้หญิง
    การติดตามผู้ที่ได้รับผล
    กระทบในลักษณะนี้โดยอาการขณะที่เป็นโควิดไม่รุนแรงแต่อาการหลังจากนั้นกลับรุนแรงและยืดยาว และสืบค้นผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนชนิดต่างๆ ทั้งหมดแล้วเกือบ 100 รายด้วยกัน โดยติดตามหลายวาระเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี

    สิ่งที่น่าตกใจก็คือแม้ว่าอาการตอนแรกหลังจากติดเชื้อโควิดหรือหลังจากได้รับวัคซีนมีผลไม่มากนักแต่ระยะต่อมามีผลกระทบแม้ว่าอาการจะเริ่มสงบไปแล้วก็ตาม โดยผลกระทบ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการวิเคราะห์การอักเสบในเลือด13 ชนิด และผลกระทบต่อสมองโดยมีการจุดปะทุ ของการอักเสบในสมองจากเซลล์ Astroglia microglia ที่เรียกว่า GFAP และมีระดับของ โปรตีน พิษอัลไซเมอร์ในสมองรวมทั้งมีการทำลายเนื้อสมอง ด้วย (จากการตรวจค่า NFL)

    ลักษณะนี้ทำให้ต้องตระหนักว่าภาวะสมองเสื่อมได้เกิดขึ้นเงียบๆ โดยไม่แสดงอาการด้วยซ้ำและจะสามารถดำเนินต่อไปได้จากภาวะของโรคเมตาบอลิค ของตนเองทั้งอ้วน เบาหวานความดันสูง การไม่ออกกำลัง อาหารที่มากด้วยเนื้อสัตว์การขาดการบริโภคผักผลไม้กากไย

    สมองเสื่อมในลักษณะนี้เป็นที่ตระหนักและมีการประกาศจากสมาคมสมองเสื่อมของสหรัฐและนานาชาติมาตั้งแต่ช่วงโควิดจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

    จากการวิเคราะห์วัคซีนทั้งไฟเซอร์และโมเดนา จากคณะทำงาน ยังพบว่านอกจากเอ็มอาร์เอ็นเอแล้ว ยังมีหลาย พันล้านก๊อปปี้ ของ ดีเอ็นเอและส่วนที่กระตุ้นให้สามารถทำงานได้ดีขึ้นเมื่อเสียบเข้าไปในเซลล์ ทั้ง ori และ SV 40 promoter ทั้งนี้จากกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้วัคซีนเพียงพอกับความต้องการโดยการใช้
    พลาสมิด(บทความสุขภาพหรรษาไทยรัฐ)

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    กลุ่มอาการหลังวัคซีนโควิด (ตอนที่ 1) ประโยชน์ของวัคซีนก็คือป้องกันโรค รวมทั้งลดอาการหนัก การตายและในขณะเดียวกันจำเป็นต้องทราบผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนในระยะเวลาต่างๆ ตั้งแต่ได้รับวัคซีนนาทีแรกจนกระทั่งถึงระยะกลางเป็นสัปดาห์และระยะยาวเป็นเดือนและสิ่งที่ทอดยาวไปเป็นปี วัคซีนโควิดเช่นกันในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงจำเป็นต้องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป้าหมายของทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วยก็คือ ให้ทุกคนได้รับวัคซีนทั้งนี้เพื่อทำให้ระบบสาธารณสุขไม่พังพาบ จนรับผู้ป่วยโควิดไม่ไหว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีระบบในการรองรับเพื่อประเมิน ผลข้างเคียงเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในคนที่ได้รับวัคซีนโดยที่เป็นคนที่ยังสุขภาพดีแข็งแรงจนกระทั่งมีโรคประจำตัวอื่นๆ รายงานในวารสารทางการแพทย์ของอังกฤษ British Medical Journal ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2023 ตั้งคำถามถึงระบบในสหรัฐที่รับรายงานผลแทรกซ้อนของวัคซีนที่เรียกว่า vaccine adverse event reporting system (VAERS) ทั้งนี้ยกตัวอย่างหมอสหรัฐที่ได้รับวัคซีนและเกิดผลกระทบอย่างรุนแรง พยายามที่จะรายงานเข้าระบบ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าใดนักรวมทั้งเป็นความซับซ้อนที่จะได้รับการติดตามสืบหารายละเอียดต่อ (Is the US’s Vaccine Adverse Event Reporting System broken?BMJ Investigation BMJ 2023; 383 doi: https://doi.org/10.1136/bmj.p2582 (Published 10 November 2023) Cite this as: BMJ 2023;383:p2582) ระบบในการรายงานในประเทศต่างๆไม่เฉพาะแต่ในประเทศอเมริกา แม้แต่ในยุโรปและในอังกฤษเองก็มีปัญหา ซึ่งแตกต่างกับระบบในประเทศเกาหลี ดังที่มีรายงานอุบัติการของหัวใจอักเสบหลังได้รับวัคซีน เอ็มอาร์เอ็นเอ โดยเป็นการเปิดรายงานแบบอิสระและแทบจะเป็นเรียวไทม์ โดยกฎเกณฑ์ของเงื่อนไขหัวใจอักเสบนั้นตัดสาเหตุอื่น ที่ทำให้หัวใจอักเสบได้ทั้งหมดจนเหลือแต่วัคซีนและตัวเลขที่ได้นั้นยังต่ำกว่าความเป็นจริง ด้วยซ้ำ และถึงแม้ว่าอุบัติการของหัวใจอักเสบอย่างเดียวจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งใน 100,000 แต่ความรุนแรงนั้นมากจนกระทั่งถึงต้องเข้าไอซียูหัวใจวายได้รับการรักษาอย่างเข้มข้นจนกระทั่งมีการเปลี่ยนหัวใจ (บทความสุขภาพพรรษาไทยรัฐหัวใจอักเสบจากวัคซีน) ในประเทศไทยเองนั้นดำเนินตามประเทศต่างๆที่ให้มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมได้มากที่สุด ดังนั้นจะพบได้ว่ามีรายงานที่ได้รับการปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกันหรือให้มีการพิสูจน์ก่อนว่าวัคซีนเป็นสาเหตุ ซึ่งอาจจะแทบเป็นไปไม่ได้ในผู้ที่ได้รับผลกระทบและแพทย์ที่ ดูคนไข้เพราะต้องมีการสืบสวนหาสาเหตุด้วยการตรวจทางห้องปฏิบัติการหลายชนิดด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่นเด็กผู้ชายอายุ 14 ขวบได้รับวัคซีน เอ็มอาร์เอ็นเอสามเข็ม โดยเข็มสุดท้ายเก้าเดือนก่อนที่จะมีอาการของหัวใจอักเสบหัวใจวาย รุนแรง และกล้ามเนื้อแขนขาอักเสบอัมพาตยกแขนขาไม่ได้ เมื่อดูเงื่อนไขของเวลาเผินๆ อาจจะตัดประเด็นของวัคซีนได้เลย แต่การสืบหาสาเหตุอย่างอื่นทั้งตัวไวรัสโควิดและไวรัสอีกหลายชนิดทั้งหมด รวมทั้งภาวะภูมิแปรปรวนที่ทำให้เกิดการอักเสบ อีกทั้งสามารถตรวจพบเศษของวัคซีนในกล้ามเนื้อหัวใจและมีการอักเสบอย่างรุนแรงในกล้ามเนื้อหัวใจ ทั้งนี้ได้รับการรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำเหลือง และการให้สารสกัดน้ำเหลือง ตลอดจนยากดภูมิคุ้มกัน แม้ว่าหัวใจอักเสบหัวใจวายจะดีขึ้นแต่แขนขายังขยับไม่ได้ ทั้งหมดนี้ต้องใช้การตรวจในห้องปฏิบัติการการรักษาในระดับเป็น 100,000 เป็นล้านบาทต่อหนึ่งคน เหล่านี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความยากลำบากในการพิสูจน์ความเกี่ยวโยงกับวัคซีน แต่ทั้งนี้เริ่มมีการวิเคราะห์สาเหตุการตายที่สูงเกินกว่าที่ จะอธิบายได้เมื่อเทียบ ในช่วงเวลาก่อนโควิด ในระหว่างการระบาดของโควิดและหลังจากระบาดเริ่มสงบไปแล้ว และในช่วงที่เริ่มมีการใช้วัคซีน ที่เรียกว่าอัตรา excess deaths และนอกจากนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทอดยาวเป็นเวลานานเกินกว่าสามเดือนหลังจากติดเชื้อโควิดที่เรียกว่าลองโควิด (long covid) โดยมีทั้งอาการทางระบบหัวใจและปอด ระบบสมองประสาทและกล้ามเนื้อ ภาวะที่มีการอักเสบของผิวหนัง เส้นเอ็นพังผืด กล้ามเนื้อ ข้อ ตลอดจนการปะทุขึ้นของโรคที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหรือโรคที่สงบไปแล้ว รวมทั่งมะเร็งและการเกิดเริม งูสวัดซึ่งไวรัสเหล่านี้เป็นไวรัสที่ซ่อนอยู่ในร่างกายจากการติดเชื้อเนิ่นนานมาแล้ว และถูกกดไม่ให้แสดงตัวออกมาจากการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของร่างกาย และยังรวมถึง การนอนหลับที่ผิดปกติหลับยากหลับกระท่อนกระแท่น จนถึงฮอร์โมนแปรปรวนทั้งผู้ชายและผู้หญิง การติดตามผู้ที่ได้รับผล กระทบในลักษณะนี้โดยอาการขณะที่เป็นโควิดไม่รุนแรงแต่อาการหลังจากนั้นกลับรุนแรงและยืดยาว และสืบค้นผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนชนิดต่างๆ ทั้งหมดแล้วเกือบ 100 รายด้วยกัน โดยติดตามหลายวาระเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี สิ่งที่น่าตกใจก็คือแม้ว่าอาการตอนแรกหลังจากติดเชื้อโควิดหรือหลังจากได้รับวัคซีนมีผลไม่มากนักแต่ระยะต่อมามีผลกระทบแม้ว่าอาการจะเริ่มสงบไปแล้วก็ตาม โดยผลกระทบ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการวิเคราะห์การอักเสบในเลือด13 ชนิด และผลกระทบต่อสมองโดยมีการจุดปะทุ ของการอักเสบในสมองจากเซลล์ Astroglia microglia ที่เรียกว่า GFAP และมีระดับของ โปรตีน พิษอัลไซเมอร์ในสมองรวมทั้งมีการทำลายเนื้อสมอง ด้วย (จากการตรวจค่า NFL) ลักษณะนี้ทำให้ต้องตระหนักว่าภาวะสมองเสื่อมได้เกิดขึ้นเงียบๆ โดยไม่แสดงอาการด้วยซ้ำและจะสามารถดำเนินต่อไปได้จากภาวะของโรคเมตาบอลิค ของตนเองทั้งอ้วน เบาหวานความดันสูง การไม่ออกกำลัง อาหารที่มากด้วยเนื้อสัตว์การขาดการบริโภคผักผลไม้กากไย สมองเสื่อมในลักษณะนี้เป็นที่ตระหนักและมีการประกาศจากสมาคมสมองเสื่อมของสหรัฐและนานาชาติมาตั้งแต่ช่วงโควิดจนกระทั่งถึงปัจจุบัน จากการวิเคราะห์วัคซีนทั้งไฟเซอร์และโมเดนา จากคณะทำงาน ยังพบว่านอกจากเอ็มอาร์เอ็นเอแล้ว ยังมีหลาย พันล้านก๊อปปี้ ของ ดีเอ็นเอและส่วนที่กระตุ้นให้สามารถทำงานได้ดีขึ้นเมื่อเสียบเข้าไปในเซลล์ ทั้ง ori และ SV 40 promoter ทั้งนี้จากกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้วัคซีนเพียงพอกับความต้องการโดยการใช้ พลาสมิด(บทความสุขภาพหรรษาไทยรัฐ) ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากสภาผู้แทนราษฎรของอิสราเอลออกกฎหมายสั่งห้ามหน่วยงาน UNRWA ดำเนินกิจกรรมในปาเลสไตน์

    วันนี้อิสราเอลออกประกาศอย่างเป็นทางการ เพื่อยกเลิกข้อตกลงกับ UNRWA

    อิสราเอลประกาศยุติข้อตกลงกับ UNRWA ที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ ส่งผลให้หน่วยงานของ UN ไม่สามารถดำเนินการในอิสราเอล กาซา และเวสต์แบงก์ได้อีกต่อไป หากยังฝ่าฝืน จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของอิสราเอล

    การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้ส่งผลให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า จากเดิมที่รุนแรงมากพออยู่แล้ว
    บริการที่สำคัญอย่างการดูแลสุขภาพ การศึกษา และความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนต้องหยุดลงทันที

    สหภาพยุโรปและสหประชาชาติทำได้เพียง "การเตือน" ถึงผลที่ตามมาด้านมนุษยธรรมจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
    หลังจากสภาผู้แทนราษฎรของอิสราเอลออกกฎหมายสั่งห้ามหน่วยงาน UNRWA ดำเนินกิจกรรมในปาเลสไตน์ วันนี้อิสราเอลออกประกาศอย่างเป็นทางการ เพื่อยกเลิกข้อตกลงกับ UNRWA อิสราเอลประกาศยุติข้อตกลงกับ UNRWA ที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ ส่งผลให้หน่วยงานของ UN ไม่สามารถดำเนินการในอิสราเอล กาซา และเวสต์แบงก์ได้อีกต่อไป หากยังฝ่าฝืน จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของอิสราเอล การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้ส่งผลให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า จากเดิมที่รุนแรงมากพออยู่แล้ว บริการที่สำคัญอย่างการดูแลสุขภาพ การศึกษา และความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนต้องหยุดลงทันที สหภาพยุโรปและสหประชาชาติทำได้เพียง "การเตือน" ถึงผลที่ตามมาด้านมนุษยธรรมจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิญญา BRICS นับหนึ่งระเบียบโลกหลายขั้ว
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม BRICS ขึ้น โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นเจ้าภาพ กลุ่ม BRICS กำลังสร้างระเบียบโลกใหม่ขึ้นอีกระบบหนึ่งที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว ที่นำโดย 5 ประเทศก่อตั้ง คือ จีน รัสเซีย แอฟริกาใต้ บราซิล และ อินเดีย กับสมาชิกถาวรอีก 4 ประเทศ คือ อิหร่าน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เอธิโอเปีย ได้จับมือรวมกลุ่มกับประเทศซีกโลกใต้ ที่เขาเรียกว่า Global South ที่เป็นประเทศพันธมิตรหุ้นส่วนอีก 13 ประเทศ มีแอลจีเรีย เบราลุส โบลิเวีย คิวบา อินโดนีเซีย คาซัคสถาน มาเลเซีย ไนจีเรีย ตุรกี ยูกันดา อุซเบกินสถาน เวียดนาม และ ประเทศไทย
    .
    ด้วยเหตุนี้ นักประวัติศาสตร์และสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล ทอดด์ ได้เรียกการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 16 นี้ว่าเป็นชัยชนะของรัสเซีย และเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับของตะวันตก ซึ่งขณะนี้ก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมรับ และแสดงอำนาจบาตรใหญ่ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของประเทศที่แสดงความปรารถนาจะใกล้ชิดกับรัสเซีย
    .
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พูดถึงระเบียบโลกใหม่ที่BRICS สร้างเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มความร่วมมือที่หลากหลายในหลายมิติ ไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์หรือบูรณาการเฉพาะทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ ให้ความสำคัญ Global South โลกใต้ที่เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน,BRICS Peaceใช้กลไกสันติภาพยุติสงครามความขัดแย้ง,นวัตกรรมของBRICS Innovationเพื่ออนาคตเปิดพรมแดนใหม่ๆเพื่อมนุษยชาติ,Green BRICS ซึ่งจีนเป็นเจ้าโลกเทคโนโลยีสีเขียวและรถไฟฟ้าตอบโจทย์แก้โลกร้อน Climate Change และประเด็น Justices&Humanity BRICSที่ผู้นำจีนเสนอควรต้องให้แต้มต่อประเทศยากจนถึงจะเป็นธรรม
    .
    การประชุมสุดยอดของผู้นำ BRICS ปิดฉากลงด้วยการรับรองปฏิญญาคาซาน 2024 ซึ่งเป็นคำประกาศแถลงการณ์ร่วมของสมาชิก BRICS โดยมีแผนที่จะยื่นเอกสารดังกล่าวต่อสหประชาชาติด้วย เนื้อหาระบุไว้4หัวข้อหลัก
    .
    หนึ่ง-ความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันระดับโลกเช่นองค์การการค้าโลก คัดค้านมาตรการฝ่ายเดียวที่เลือกปฏิบัติและการคุ้มครองทางการค้า รวมทั้งเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ให้เป็นตัวแทนประเทศทั่วโลกมากขึ้น
    .
    สอง-โครงการของ BRICS ริเริ่มใหม่ (BRICS Initiative) ด้านศักยภาพเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัลและเปลี่ยนแปลงเพิ่มบทบาทธนาคารพัฒนาแห่งใหม่ (NDB)ของBRICS แทนธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟที่ล้มเหลวต่อการพัฒนาประเทศ Global South รวมถึงการทำแพลตฟอร์มใหม่ๆพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ BRICS ClearแทนระบบSWIFTของตะวันตก และร่วมมือการพัฒนายารักษาโรครวมทั้งวัคซีนและโครงการ เวชศาสตร์นิวเคลียร์
    .
    สาม-การขยายความร่วมมือของ BRICS โดยการใช้สกุลเงินท้องถิ่นประจำชาติในการทำธุรกรรมระหว่างสมาชิก BRICS+ และพันธมิตรทางการค้า ดำเนินยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
    .
    สี่-วิกฤตการณ์โลกที่ BRICS ต่อต้าน ประณามการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เลือกปฏิบัติ คัดค้านการนำอาวุธไปใช้ในอวกาศ และสนับสนุนการเสริมสร้างระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธ รวมถึงปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติและข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งโดยผ่านการเจรจาเท่านั้น
    .
    ทั้งหมดนี้ จีน รัสเซีย ในฐานะแกนนำมหาอำนาจขั้วโลกใหม่ จะเป็นผู้นำวางกฎระเบียบโลกใหม่ และได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงยุทธศาสตร์เชิงภูมิเศรษฐศาสตร์และภูมิรัฐศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงสภาพการขับเคี่ยวกันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างเศรษฐกิจกลุ่ม Global North และ Global South สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการนับหนึ่งที่กำลังจะสั่นสะเทือนอนาคตของระเบียบโลกเก่า
    ปฏิญญา BRICS นับหนึ่งระเบียบโลกหลายขั้ว . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม BRICS ขึ้น โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นเจ้าภาพ กลุ่ม BRICS กำลังสร้างระเบียบโลกใหม่ขึ้นอีกระบบหนึ่งที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว ที่นำโดย 5 ประเทศก่อตั้ง คือ จีน รัสเซีย แอฟริกาใต้ บราซิล และ อินเดีย กับสมาชิกถาวรอีก 4 ประเทศ คือ อิหร่าน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เอธิโอเปีย ได้จับมือรวมกลุ่มกับประเทศซีกโลกใต้ ที่เขาเรียกว่า Global South ที่เป็นประเทศพันธมิตรหุ้นส่วนอีก 13 ประเทศ มีแอลจีเรีย เบราลุส โบลิเวีย คิวบา อินโดนีเซีย คาซัคสถาน มาเลเซีย ไนจีเรีย ตุรกี ยูกันดา อุซเบกินสถาน เวียดนาม และ ประเทศไทย . ด้วยเหตุนี้ นักประวัติศาสตร์และสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล ทอดด์ ได้เรียกการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 16 นี้ว่าเป็นชัยชนะของรัสเซีย และเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับของตะวันตก ซึ่งขณะนี้ก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมรับ และแสดงอำนาจบาตรใหญ่ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของประเทศที่แสดงความปรารถนาจะใกล้ชิดกับรัสเซีย . ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พูดถึงระเบียบโลกใหม่ที่BRICS สร้างเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มความร่วมมือที่หลากหลายในหลายมิติ ไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์หรือบูรณาการเฉพาะทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ ให้ความสำคัญ Global South โลกใต้ที่เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน,BRICS Peaceใช้กลไกสันติภาพยุติสงครามความขัดแย้ง,นวัตกรรมของBRICS Innovationเพื่ออนาคตเปิดพรมแดนใหม่ๆเพื่อมนุษยชาติ,Green BRICS ซึ่งจีนเป็นเจ้าโลกเทคโนโลยีสีเขียวและรถไฟฟ้าตอบโจทย์แก้โลกร้อน Climate Change และประเด็น Justices&Humanity BRICSที่ผู้นำจีนเสนอควรต้องให้แต้มต่อประเทศยากจนถึงจะเป็นธรรม . การประชุมสุดยอดของผู้นำ BRICS ปิดฉากลงด้วยการรับรองปฏิญญาคาซาน 2024 ซึ่งเป็นคำประกาศแถลงการณ์ร่วมของสมาชิก BRICS โดยมีแผนที่จะยื่นเอกสารดังกล่าวต่อสหประชาชาติด้วย เนื้อหาระบุไว้4หัวข้อหลัก . หนึ่ง-ความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันระดับโลกเช่นองค์การการค้าโลก คัดค้านมาตรการฝ่ายเดียวที่เลือกปฏิบัติและการคุ้มครองทางการค้า รวมทั้งเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ให้เป็นตัวแทนประเทศทั่วโลกมากขึ้น . สอง-โครงการของ BRICS ริเริ่มใหม่ (BRICS Initiative) ด้านศักยภาพเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัลและเปลี่ยนแปลงเพิ่มบทบาทธนาคารพัฒนาแห่งใหม่ (NDB)ของBRICS แทนธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟที่ล้มเหลวต่อการพัฒนาประเทศ Global South รวมถึงการทำแพลตฟอร์มใหม่ๆพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ BRICS ClearแทนระบบSWIFTของตะวันตก และร่วมมือการพัฒนายารักษาโรครวมทั้งวัคซีนและโครงการ เวชศาสตร์นิวเคลียร์ . สาม-การขยายความร่วมมือของ BRICS โดยการใช้สกุลเงินท้องถิ่นประจำชาติในการทำธุรกรรมระหว่างสมาชิก BRICS+ และพันธมิตรทางการค้า ดำเนินยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ . สี่-วิกฤตการณ์โลกที่ BRICS ต่อต้าน ประณามการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เลือกปฏิบัติ คัดค้านการนำอาวุธไปใช้ในอวกาศ และสนับสนุนการเสริมสร้างระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธ รวมถึงปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติและข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งโดยผ่านการเจรจาเท่านั้น . ทั้งหมดนี้ จีน รัสเซีย ในฐานะแกนนำมหาอำนาจขั้วโลกใหม่ จะเป็นผู้นำวางกฎระเบียบโลกใหม่ และได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงยุทธศาสตร์เชิงภูมิเศรษฐศาสตร์และภูมิรัฐศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงสภาพการขับเคี่ยวกันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างเศรษฐกิจกลุ่ม Global North และ Global South สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการนับหนึ่งที่กำลังจะสั่นสะเทือนอนาคตของระเบียบโลกเก่า
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร. มาซารุ อิโมโต
    เป็นแพทย์แผนใหม่ชาวญี่ปุ่น
    ที่ได้ทำการวิจัยศึกษาเกี่ยวกับผลึกของน้ำ
    ได้ค้นพบว่าจิตของมนุษย์และสภาพแวดล้อม
    รอบตัวนั้นมีผลต่อการก่อตัวของผลึกน้ำ
    และได้เขียนหนังสือจากงานวิจัยของเขา
    ชื่อ Hidden Messages in Water
    และได้ตีพิมพ์ขายทั่วโลกได้มากกว่า สี่แสนเล่ม
    เขาได้ทำการพิสูจน์แล้วว่าความคิด
    และความรู้สึกของมนุษย์นั้น
    สามารถเปลี่ยนแปลงโลกในสามมิติได้
    เขาได้ใช้กล้องจุลทรรศน์
    ที่มีกำลังขยายสูงถ่ายภาพในอุณหภูมิต่ำ
    ในช่วงที่ผลึกน้ำพึ่งก่อตัวใหม่ๆ
    ซึ่งน้ำที่อยู่ในสภาพต่างกัน
    จะก่อตัวเป็นผลึกไม่เหมือนกัน
    เขาได้พบว่าถ้าตัวอย่างน้ำ
    ที่เก็บมาจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน
    เพี่อทำให้เย็นจะก่อตัวเป็นผลึกรูปร่างไม่เหมือนกัน
    โดยน้ำที่มาจากสถานที่ตามธรรมชาติ
    จะก่อตัวเป็นผลึกที่สวยงาม
    กว่าน้ำที่เก็บตัวอย่างใกล้ๆกับโรงงานอุตสาหกรรม
    ซึ่งน้ำจากพี้นที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษนั้น
    จะไม่ก่อตัวเป็นผลึกเลย
    เสียงเพลงก็ยังมีอิทธิพลต่อผลึกของน้ำเช่นกัน
    เพลงทีมีความไพเราะก็จะก่อผลึกเป็นรูปร่างสวยงาม
    ไม่เหมือนกัน
    นอกจากนั้นแล้วเขาได้ทำการเปรียบเทียบ
    ผลึกของน้ำที่ก่อตัวโดยไม่ได้รับการอวยพร
    เทียบกับน้ำที่ได้รับการอวยพร
    พบว่า น้ำที่ได้รับการอวยพรนั้นจะมีผลึกสวยงาม
    เมื่อเทียบกับน้ำที่ไม่ได้รับการอวยพร
    โดยที่น้ำที่ไม่ได้รับการอวยพรไม่ก่อตัวเป็นผลึก
    สุดท้ายถ้าตัวอักษรหรือ
    คำพูดปิดไว้ที่ภาชนะใส่น้ำแล้ว
    ทำให้ก่อตัวเป็นผลึกขึ้นของน้ำ
    ก็จะได้ผลึกรูปร่างที่ต่างกันออกไป
    โดยข้อความที่มีความไพเราะ
    จะช่วยให้น้ำมีผลึกที่สวยงาม
    มากกว่าข้อความที่เต็มไปด้วยความรุนแรง
    จากการทดลองทั้งหมด
    พบว่าจิตของมนุษย์นั้น
    มีผลต่อการก่อตัวของผลึกน้ำ
    เนื่องจากการที่มนุษย์มีส่วนประกอบของน้ำ
    มากกว่า 70 เปอร์เซนต์
    ดังนั้นจะเห็นว่าจิตของมนุษย์นั้น
    นอกจากจะมีอิทธิพลต่อร่างกายตัวเองแล้ว
    ยังสามารถมีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อม
    และ คนที่อยู่รอบข้างด้วย
    ถ้าเราคิดในสิ่งที่ดีและทำความดีผู้ที่อยู่รอบข้าง
    จะรู้สึกด้วยเช่นกัน
    และจะทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกได้อย่างมีความสุข
    https://www.youtube.com/watch?v=OI1Iyu7aTqc
    #ผลึกของน้ำ
    #คำพูดดีดี
    #สิ่งแวดล้อมดีดี
    #มาซารุอิโมโต
    #hiddenmassegesinwater
    ดร. มาซารุ อิโมโต เป็นแพทย์แผนใหม่ชาวญี่ปุ่น ที่ได้ทำการวิจัยศึกษาเกี่ยวกับผลึกของน้ำ ได้ค้นพบว่าจิตของมนุษย์และสภาพแวดล้อม รอบตัวนั้นมีผลต่อการก่อตัวของผลึกน้ำ และได้เขียนหนังสือจากงานวิจัยของเขา ชื่อ Hidden Messages in Water และได้ตีพิมพ์ขายทั่วโลกได้มากกว่า สี่แสนเล่ม เขาได้ทำการพิสูจน์แล้วว่าความคิด และความรู้สึกของมนุษย์นั้น สามารถเปลี่ยนแปลงโลกในสามมิติได้ เขาได้ใช้กล้องจุลทรรศน์ ที่มีกำลังขยายสูงถ่ายภาพในอุณหภูมิต่ำ ในช่วงที่ผลึกน้ำพึ่งก่อตัวใหม่ๆ ซึ่งน้ำที่อยู่ในสภาพต่างกัน จะก่อตัวเป็นผลึกไม่เหมือนกัน เขาได้พบว่าถ้าตัวอย่างน้ำ ที่เก็บมาจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน เพี่อทำให้เย็นจะก่อตัวเป็นผลึกรูปร่างไม่เหมือนกัน โดยน้ำที่มาจากสถานที่ตามธรรมชาติ จะก่อตัวเป็นผลึกที่สวยงาม กว่าน้ำที่เก็บตัวอย่างใกล้ๆกับโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งน้ำจากพี้นที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษนั้น จะไม่ก่อตัวเป็นผลึกเลย เสียงเพลงก็ยังมีอิทธิพลต่อผลึกของน้ำเช่นกัน เพลงทีมีความไพเราะก็จะก่อผลึกเป็นรูปร่างสวยงาม ไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นแล้วเขาได้ทำการเปรียบเทียบ ผลึกของน้ำที่ก่อตัวโดยไม่ได้รับการอวยพร เทียบกับน้ำที่ได้รับการอวยพร พบว่า น้ำที่ได้รับการอวยพรนั้นจะมีผลึกสวยงาม เมื่อเทียบกับน้ำที่ไม่ได้รับการอวยพร โดยที่น้ำที่ไม่ได้รับการอวยพรไม่ก่อตัวเป็นผลึก สุดท้ายถ้าตัวอักษรหรือ คำพูดปิดไว้ที่ภาชนะใส่น้ำแล้ว ทำให้ก่อตัวเป็นผลึกขึ้นของน้ำ ก็จะได้ผลึกรูปร่างที่ต่างกันออกไป โดยข้อความที่มีความไพเราะ จะช่วยให้น้ำมีผลึกที่สวยงาม มากกว่าข้อความที่เต็มไปด้วยความรุนแรง จากการทดลองทั้งหมด พบว่าจิตของมนุษย์นั้น มีผลต่อการก่อตัวของผลึกน้ำ เนื่องจากการที่มนุษย์มีส่วนประกอบของน้ำ มากกว่า 70 เปอร์เซนต์ ดังนั้นจะเห็นว่าจิตของมนุษย์นั้น นอกจากจะมีอิทธิพลต่อร่างกายตัวเองแล้ว ยังสามารถมีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อม และ คนที่อยู่รอบข้างด้วย ถ้าเราคิดในสิ่งที่ดีและทำความดีผู้ที่อยู่รอบข้าง จะรู้สึกด้วยเช่นกัน และจะทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกได้อย่างมีความสุข https://www.youtube.com/watch?v=OI1Iyu7aTqc #ผลึกของน้ำ #คำพูดดีดี #สิ่งแวดล้อมดีดี #มาซารุอิโมโต #hiddenmassegesinwater
    Like
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts