• การเดินทางไปไหว้พระ สวดมนต์ ภาวนาในแต่ละวัน หูตาต้องไว รถมาก รถมาเร็วมาก จะว่าเสี่ยงตายก็ใช่ แต่ใจเราสู้..
    การเดินทางไปไหว้พระ สวดมนต์ ภาวนาในแต่ละวัน หูตาต้องไว รถมาก รถมาเร็วมาก จะว่าเสี่ยงตายก็ใช่ แต่ใจเราสู้..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • สองแถวแปลงร่าง พลิกโฉมขนส่งท้องถิ่น

    เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 หรือ Bangkok Design Week 2025 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในนิทรรศการที่น่าสนใจ คือ สองแถวแปลงร่าง จัดแสดงรถสองแถวต้นแบบ ที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด ผู้ให้บริการขอนแก่นซิตี้บัส จังหวัดขอนแก่น และเมย์เดย์ กลุ่มนักออกแบบนวัตกรรมเกี่ยวกับการเดินทาง ร่วมกันออกแบบและพัฒนาขึ้น โดยใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปี

    จากการสอบถามทีมงานที่ร่วมพัฒนารถสองแถว ระบุว่า ต้นทุนในการประกอบรถสองแถว รวมระบบต่างๆ เช่น GPS และระบบจัดเก็บค่าโดยสาร รวมกันโดยประมาณไม่ถึง 1 ล้านบาท

    รถสองแถวแปลงร่าง ออกแบบภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ความสะดวกในการเดินทาง และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมแอปพลิเคชัน ที่สามารถระบุตำแหน่งของรถโดยสาร และเวลาที่รถจะมาถึง ณ จุดจอด โดยตัวรถโดยสารมีขนาดเล็ก ทำให้คล่องตัวในการขับขี่และจอดรับส่ง ทางขึ้น-ลง 2 ทางเพื่อความคล่องตัว บันไดทางขึ้นเฉพาะด้านข้างตัวรถ เพื่อความปลอดภัย ส่วนภายในรถโดยสารมีระบบหมุนเวียนอากาศ ให้อากาศถ่ายเทได้ แม้ปิดหน้าต่างเวลาฝนตก

    ระบบแจ้งจุดจอดถัดไป รูปแบบจอภาพและเสียง พัฒนาระบบโดย บัสซิ่ง ทรานสิท และระบบการจ่ายเงิน ที่รองรับสังคมไร้เงินสด เช่น จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด แตะบัตรโดยสาร และเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ รองรับธนบัตรและเหรียญ ที่นั่งมีทั้งหมด 10 ที่นั่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัย โดยมีที่นั่งสีแดง เป็นที่นั่งสำรองสำหรับบุคคลพิเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไว-ไฟ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ และช่องทางการติดต่อกับคนขับภายในห้องโดยสาร ผ่านระบบอินเตอร์คอมอีกด้วย

    แต่เนื่องจากข้อจำกัดของรถกระบะ ทำให้ไม่สามารถทำเป็นรถชานต่ำได้ แต่ได้ออกแบบให้ขึ้น-ลงง่าย มีราวจับมั่นคงแทน รวมทั้งการที่ยังคงเปิดท้ายด้านหลัง เพราะตามกฎหมายการขนส่งทางบก รถโดยสารมาตรฐาน 3 ฉ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ จำนวนที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 12 ที่นั่ง กำหนดให้ประตูทางขึ้น-ลงต้องเป็นด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ แต่ได้เปลี่ยนให้ขึ้นรถจากด้านข้างแล้วลงทางด้านหลังแทน

    สำหรับนิทรรศการรถสองแถวแปลงร่าง จะจัดแสดงถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 และทดลองให้บริการในเส้นทางวงกลม เสาชิงช้า เอ็มอาร์ทีสามยอด ประตูผี ถนนราชดำเนินกลาง และถนนดินสอ ในวันเสาร์ที่ 22 และวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 15.00-20.00 น. หลังจากนั้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทางหมู่บ้านทิพวัล จ.สมุทรปราการ ซึ่งใกล้กับโรงงานโตโยต้าสำโรง กลางปี 2568 ต่อไป

    #Newskit
    สองแถวแปลงร่าง พลิกโฉมขนส่งท้องถิ่น เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 หรือ Bangkok Design Week 2025 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในนิทรรศการที่น่าสนใจ คือ สองแถวแปลงร่าง จัดแสดงรถสองแถวต้นแบบ ที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด ผู้ให้บริการขอนแก่นซิตี้บัส จังหวัดขอนแก่น และเมย์เดย์ กลุ่มนักออกแบบนวัตกรรมเกี่ยวกับการเดินทาง ร่วมกันออกแบบและพัฒนาขึ้น โดยใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปี จากการสอบถามทีมงานที่ร่วมพัฒนารถสองแถว ระบุว่า ต้นทุนในการประกอบรถสองแถว รวมระบบต่างๆ เช่น GPS และระบบจัดเก็บค่าโดยสาร รวมกันโดยประมาณไม่ถึง 1 ล้านบาท รถสองแถวแปลงร่าง ออกแบบภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ความสะดวกในการเดินทาง และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมแอปพลิเคชัน ที่สามารถระบุตำแหน่งของรถโดยสาร และเวลาที่รถจะมาถึง ณ จุดจอด โดยตัวรถโดยสารมีขนาดเล็ก ทำให้คล่องตัวในการขับขี่และจอดรับส่ง ทางขึ้น-ลง 2 ทางเพื่อความคล่องตัว บันไดทางขึ้นเฉพาะด้านข้างตัวรถ เพื่อความปลอดภัย ส่วนภายในรถโดยสารมีระบบหมุนเวียนอากาศ ให้อากาศถ่ายเทได้ แม้ปิดหน้าต่างเวลาฝนตก ระบบแจ้งจุดจอดถัดไป รูปแบบจอภาพและเสียง พัฒนาระบบโดย บัสซิ่ง ทรานสิท และระบบการจ่ายเงิน ที่รองรับสังคมไร้เงินสด เช่น จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด แตะบัตรโดยสาร และเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ รองรับธนบัตรและเหรียญ ที่นั่งมีทั้งหมด 10 ที่นั่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัย โดยมีที่นั่งสีแดง เป็นที่นั่งสำรองสำหรับบุคคลพิเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไว-ไฟ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ และช่องทางการติดต่อกับคนขับภายในห้องโดยสาร ผ่านระบบอินเตอร์คอมอีกด้วย แต่เนื่องจากข้อจำกัดของรถกระบะ ทำให้ไม่สามารถทำเป็นรถชานต่ำได้ แต่ได้ออกแบบให้ขึ้น-ลงง่าย มีราวจับมั่นคงแทน รวมทั้งการที่ยังคงเปิดท้ายด้านหลัง เพราะตามกฎหมายการขนส่งทางบก รถโดยสารมาตรฐาน 3 ฉ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ จำนวนที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 12 ที่นั่ง กำหนดให้ประตูทางขึ้น-ลงต้องเป็นด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ แต่ได้เปลี่ยนให้ขึ้นรถจากด้านข้างแล้วลงทางด้านหลังแทน สำหรับนิทรรศการรถสองแถวแปลงร่าง จะจัดแสดงถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 และทดลองให้บริการในเส้นทางวงกลม เสาชิงช้า เอ็มอาร์ทีสามยอด ประตูผี ถนนราชดำเนินกลาง และถนนดินสอ ในวันเสาร์ที่ 22 และวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 15.00-20.00 น. หลังจากนั้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทางหมู่บ้านทิพวัล จ.สมุทรปราการ ซึ่งใกล้กับโรงงานโตโยต้าสำโรง กลางปี 2568 ต่อไป #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน วิพากษ์วิจารณ์การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ที่กีดกันไม่ให้เคียฟเข้าร่วม ระบุความพยายามยุติสงครามต้อง "ยุติธรรม" และบรรดาประเทศยุโรป ในนั้นรวมถึงตุรกี ควรมีส่วนร่วมด้วย
    .
    ความเห็นของเขามีขึ้นหลังจากวอชิงตันและมอสโก เผยว่าพวกเขาจะเปิดเผยชื่อคณะทำงานสำหรับเจรจาเส้นทางสู่การยุติสงครามในยูเครน ระหว่างการเจรจาอย่างเป็นทางการระดับสูงครั้งแรกของทั้ง 2 ฝ่าย นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน
    .
    ความเห็นอันเดือดดาลของผู้นำยูเครน มีขึ้นหลังจากเขาได้พบปะกับประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี เป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี
    .
    "ยูเครนและยุโรปในสามัญสำนักอย่างกว้างๆ และนี่รวมถึงสหภาพยุโรป ตุรกีและสหราชอาณาจักร ควรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนทนาและก่อรูปร่างมาตรการรับประกันความมั่นคงที่จำเป็นร่วมกับอเมริกา ในเรื่องเกี่ยวกับชะตากรรมของเรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโลก" เซเลนสกีกล่าว
    .
    "ความพยายามเป็นคนกลางใดๆ ในการยุติความขัดแย้ง ควรเป็นไปอย่างยุติธรรม" เขากล่าว ประณามเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ในริยาด ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (18 ก.พ.) และเน้นย้ำจุดยืนคัดค้าน "การพูดคุยใดๆ ที่ปราศจากยูเครน เกี่ยวกับแนวทางยุติสงครามในยูเครน"
    .
    เซเลนสกีเผยว่าเขาไม่ได้รับเชิญให้ร่วมเจรจาในริยาด และตัดสินใจเลื่อนโปรแกรมเดินทางเยือนเมืองหลวงของซาดุอีอาระเบีย จากเดิมที่คาดหมายว่าจะมีขึ้นในวันพุธ (19 ก.พ.) ไปเป็นวันที่ 10 มีนาคม
    .
    การยกเครื่องนโยบายเกี่ยวกับรัสเซียของทรัมป์ โหมกระพือความกังวลว่าวอชิงตันกำลังเตรียมการบีบเคียฟให้ยอมเจรจาต่อรองบนเงื่อนไขของมอสโก
    .
    นอกเหนือจากการเจรจาในริยาดแล้ว ความกังวลนี้มีมากขึ้นไปอีก เมื่อ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย พบปะหารือกันในประเด็นความมั่นคงยุโรปและยูเครน โดยไม่มีตัวแทนใดๆ จากเคียฟหรือบรัสเซลส์เข้าร่วมด้วย
    .
    ในส่วนของแอร์โดอัน ที่ยืนอยู่ข้างๆ เซเลนสกี ระหว่างแถลงข่าว ได้เสนอให้ตุรกีเป็นเจ้าภาพการเจรจาใดๆ ในการยุติความขัดแย้ง โดยย้อนให้นึกถึงครั้งที่ทั้ง 2 ฝ่าย พบปะกันในอิสตุนบูลในปี 2022 ไม่กี่สัปดาห์หลังรัสเซียรุกรานยูเครน
    .
    "ตุรกีจะเป็นเจ้าภาพในอุดมคติสำหรับความเป็นไปได้ในการเจรจาใดๆ ระหว่างรัสเซีย ยูเครนและอเมริกา ในอนาคตอันใกล้นี้" เขากล่าว พร้อมบอกว่าการเจรจาในอิสตันบูล "เป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญและเป็นแพลตฟอร์มที่ฝ่ายต่างๆ เฉียดใกล้ได้ข้อตกลงหนึ่งมากที่สุดแล้ว"
    .
    การเดินทางครั้งนี้ของเซเลนสกี ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เขาเดินทางเยือนตุรกี นับตั้งแต่รัสเซียรุกราน โดยคราวนี้เกิดขึ้นในขณะที่เขาพยายามค้ำยันสถานะของเคียฟ ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เอื้อมมือเข้าหามอสโก
    .
    ตุรกี ซึ่งเป็นชาติสมาชิกนาโต หาทางคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีกับ 2 ชาติเพื่อนบ้านคู่สงครามทะเลดำ โดยที่แอร์โดอัน วางสถานะของตนเองในฐานะคนกลางและผู้สร้างสันติระหว่าง 2 ฝ่าย
    .
    แม้อังการาจะมอบโดรนแก่ยูเครน แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาก็เพิกเฉยปลีกตัวออกต่างจากมาตรการคว่ำบาตรที่นำโดยตะวันตก ที่กำหนดเล่นงานมอสโก
    .
    เช่นเดียวกับซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทางตุรกีเล่นบทบาทสำคัญในการเป็นคนกลางแลกเปลี่ยนเชลยศึกหลายรายระหว่างรัสเซียกับยูเครน ข้อตกลงนี้พบเห็นนักโทษหลายร้อยคนถูกปล่อยตัวกลับมาตุภูมิ แม้ความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016367
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน วิพากษ์วิจารณ์การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ที่กีดกันไม่ให้เคียฟเข้าร่วม ระบุความพยายามยุติสงครามต้อง "ยุติธรรม" และบรรดาประเทศยุโรป ในนั้นรวมถึงตุรกี ควรมีส่วนร่วมด้วย . ความเห็นของเขามีขึ้นหลังจากวอชิงตันและมอสโก เผยว่าพวกเขาจะเปิดเผยชื่อคณะทำงานสำหรับเจรจาเส้นทางสู่การยุติสงครามในยูเครน ระหว่างการเจรจาอย่างเป็นทางการระดับสูงครั้งแรกของทั้ง 2 ฝ่าย นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน . ความเห็นอันเดือดดาลของผู้นำยูเครน มีขึ้นหลังจากเขาได้พบปะกับประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี เป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี . "ยูเครนและยุโรปในสามัญสำนักอย่างกว้างๆ และนี่รวมถึงสหภาพยุโรป ตุรกีและสหราชอาณาจักร ควรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนทนาและก่อรูปร่างมาตรการรับประกันความมั่นคงที่จำเป็นร่วมกับอเมริกา ในเรื่องเกี่ยวกับชะตากรรมของเรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโลก" เซเลนสกีกล่าว . "ความพยายามเป็นคนกลางใดๆ ในการยุติความขัดแย้ง ควรเป็นไปอย่างยุติธรรม" เขากล่าว ประณามเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ในริยาด ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (18 ก.พ.) และเน้นย้ำจุดยืนคัดค้าน "การพูดคุยใดๆ ที่ปราศจากยูเครน เกี่ยวกับแนวทางยุติสงครามในยูเครน" . เซเลนสกีเผยว่าเขาไม่ได้รับเชิญให้ร่วมเจรจาในริยาด และตัดสินใจเลื่อนโปรแกรมเดินทางเยือนเมืองหลวงของซาดุอีอาระเบีย จากเดิมที่คาดหมายว่าจะมีขึ้นในวันพุธ (19 ก.พ.) ไปเป็นวันที่ 10 มีนาคม . การยกเครื่องนโยบายเกี่ยวกับรัสเซียของทรัมป์ โหมกระพือความกังวลว่าวอชิงตันกำลังเตรียมการบีบเคียฟให้ยอมเจรจาต่อรองบนเงื่อนไขของมอสโก . นอกเหนือจากการเจรจาในริยาดแล้ว ความกังวลนี้มีมากขึ้นไปอีก เมื่อ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย พบปะหารือกันในประเด็นความมั่นคงยุโรปและยูเครน โดยไม่มีตัวแทนใดๆ จากเคียฟหรือบรัสเซลส์เข้าร่วมด้วย . ในส่วนของแอร์โดอัน ที่ยืนอยู่ข้างๆ เซเลนสกี ระหว่างแถลงข่าว ได้เสนอให้ตุรกีเป็นเจ้าภาพการเจรจาใดๆ ในการยุติความขัดแย้ง โดยย้อนให้นึกถึงครั้งที่ทั้ง 2 ฝ่าย พบปะกันในอิสตุนบูลในปี 2022 ไม่กี่สัปดาห์หลังรัสเซียรุกรานยูเครน . "ตุรกีจะเป็นเจ้าภาพในอุดมคติสำหรับความเป็นไปได้ในการเจรจาใดๆ ระหว่างรัสเซีย ยูเครนและอเมริกา ในอนาคตอันใกล้นี้" เขากล่าว พร้อมบอกว่าการเจรจาในอิสตันบูล "เป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญและเป็นแพลตฟอร์มที่ฝ่ายต่างๆ เฉียดใกล้ได้ข้อตกลงหนึ่งมากที่สุดแล้ว" . การเดินทางครั้งนี้ของเซเลนสกี ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เขาเดินทางเยือนตุรกี นับตั้งแต่รัสเซียรุกราน โดยคราวนี้เกิดขึ้นในขณะที่เขาพยายามค้ำยันสถานะของเคียฟ ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เอื้อมมือเข้าหามอสโก . ตุรกี ซึ่งเป็นชาติสมาชิกนาโต หาทางคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีกับ 2 ชาติเพื่อนบ้านคู่สงครามทะเลดำ โดยที่แอร์โดอัน วางสถานะของตนเองในฐานะคนกลางและผู้สร้างสันติระหว่าง 2 ฝ่าย . แม้อังการาจะมอบโดรนแก่ยูเครน แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาก็เพิกเฉยปลีกตัวออกต่างจากมาตรการคว่ำบาตรที่นำโดยตะวันตก ที่กำหนดเล่นงานมอสโก . เช่นเดียวกับซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทางตุรกีเล่นบทบาทสำคัญในการเป็นคนกลางแลกเปลี่ยนเชลยศึกหลายรายระหว่างรัสเซียกับยูเครน ข้อตกลงนี้พบเห็นนักโทษหลายร้อยคนถูกปล่อยตัวกลับมาตุภูมิ แม้ความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016367 .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2002 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานว่าเซเลนสกีได้ยกเลิกการเดินทางไปยังซาอุดีอาระเบียอย่างกะทันหัน โดยเขาจะเดินทางออกจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี เพื่อกลับเคียฟทันที

    หลังจากทราบว่าการเจรจาระหว่างจากรัสเซียสหรัฐอเมริกาเสร็จสิ้นลง ไม่มีท่าทีเชิญให้เขาเข้าร่วมอีกครั้ง

    “เราไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ในซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับเรา ผมไม่ชอบเรื่องบังเอิญ ดังนั้น ผมคิดว่าจะไม่ไปซาอุดีอาระเบีย” เซเลนสกีกล่าวระหว่างการบรรยายสรุปหลังการประชุมกับประธานาธิบดีเรเซป เออร์โดกันของตุรกี
    มีรายงานว่าเซเลนสกีได้ยกเลิกการเดินทางไปยังซาอุดีอาระเบียอย่างกะทันหัน โดยเขาจะเดินทางออกจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี เพื่อกลับเคียฟทันที หลังจากทราบว่าการเจรจาระหว่างจากรัสเซียสหรัฐอเมริกาเสร็จสิ้นลง ไม่มีท่าทีเชิญให้เขาเข้าร่วมอีกครั้ง “เราไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ในซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับเรา ผมไม่ชอบเรื่องบังเอิญ ดังนั้น ผมคิดว่าจะไม่ไปซาอุดีอาระเบีย” เซเลนสกีกล่าวระหว่างการบรรยายสรุปหลังการประชุมกับประธานาธิบดีเรเซป เออร์โดกันของตุรกี
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ ประเทศไอซ์แลนด์
    .
    ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ เป็นดินแดนที่ธรรมชาติก่อรูปเป็นงานศิลปะอันงดงาม ฟยอร์ดตะวันตกของไอซ์แลนด์ซ่อนเร้นสนามบินเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ อิซาฟยอร์ดูร์ ท่าอากาศยานแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูสู่โลกอันเงียบสงบและห่างไกลผู้คน เป็นจุดเชื่อมต่อที่เปราะบางระหว่างภูมิภาคอันห่างไกลกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันที่ทอดตัวสู่ท้องฟ้าราวกับกำแพงหิน และทะเลสีครามเข้มที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ภูมิประเทศอันขรุขระและสภาพอากาศที่ผันผวน ทำให้การเดินทางเข้าถึงท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ลมทะเลที่พัดกระหน่ำและภูเขาที่บดบังทัศนวิสัย ทำให้การขึ้นลงของเครื่องบินเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของนักบินเป็นอย่างมาก
    .
    หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ คือ รันเวย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและท้าทายกว่าสนามบินส่วนใหญ่ทั่วไป เนื่องจากภูมิประเทศที่ซับซ้อน ทำให้รันเวย์ไม่สามารถสร้างให้ตรงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้ และเมื่อเครื่องบินเข้าใกล้เพื่อลงจอดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นักบินจะต้องบังคับเครื่องเลี้ยวกลับ 180 องศาเต็มก่อนจะแตะพื้น การเลี้ยวที่รวดเร็วและแม่นยำบนรันเวย์อันคับแคบนี้ ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของนักบินที่บินเข้าสู่สนามบินแห่งนี้
    ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ ประเทศไอซ์แลนด์ . ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ เป็นดินแดนที่ธรรมชาติก่อรูปเป็นงานศิลปะอันงดงาม ฟยอร์ดตะวันตกของไอซ์แลนด์ซ่อนเร้นสนามบินเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ อิซาฟยอร์ดูร์ ท่าอากาศยานแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูสู่โลกอันเงียบสงบและห่างไกลผู้คน เป็นจุดเชื่อมต่อที่เปราะบางระหว่างภูมิภาคอันห่างไกลกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันที่ทอดตัวสู่ท้องฟ้าราวกับกำแพงหิน และทะเลสีครามเข้มที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ภูมิประเทศอันขรุขระและสภาพอากาศที่ผันผวน ทำให้การเดินทางเข้าถึงท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ลมทะเลที่พัดกระหน่ำและภูเขาที่บดบังทัศนวิสัย ทำให้การขึ้นลงของเครื่องบินเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของนักบินเป็นอย่างมาก . หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ คือ รันเวย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและท้าทายกว่าสนามบินส่วนใหญ่ทั่วไป เนื่องจากภูมิประเทศที่ซับซ้อน ทำให้รันเวย์ไม่สามารถสร้างให้ตรงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้ และเมื่อเครื่องบินเข้าใกล้เพื่อลงจอดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นักบินจะต้องบังคับเครื่องเลี้ยวกลับ 180 องศาเต็มก่อนจะแตะพื้น การเลี้ยวที่รวดเร็วและแม่นยำบนรันเวย์อันคับแคบนี้ ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของนักบินที่บินเข้าสู่สนามบินแห่งนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อู๊ด" ยันไม่ได้แก้ GPS พิกัดต่างเป็นการเดินเรือ : [NEWS UPDATE]

    นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ เข้าให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และนำหลักฐานเอกสารใบรับรองว่ามีความเชี่ยวชาญด้าน GPS เรือนานกว่า 30 ปี มายืนยันข้อมูลการเดินเรือ การติดตั้ง GPS เรือในวันที่เกิดเหตุ ยืนยันตนไม่ได้เปลี่ยนแปลง GPS เรือ โดยเป็นหลักฐานเดียวกับที่เคยยื่นไว้กับตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งจะทำให้รู้ว่าวันเกิดเหตุเรือเดินทางไปในทิศทางใด สามารถดูพิกัดได้ว่าหัวเรือหันไปในทิศทางใด จอดหยุดนิ่งตรงจุดไหนในแม่น้ำ อยู่ที่ความลึกของแม่น้ำเท่าไหร่ เวลาไหน รวมถึงความเร็วในการแล่นเรือ โดยการตรวจสอบได้ทำงานร่วมกับบริษัท แนฟเกียร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าเกี่ยวกับระบบ GPS เรือ อย่างไรก็ตาม ข้อมูล GPS ต่างกับข้อมูล GPS ของนายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และวิเคราะห์ระบบ GPS เนื่องจากข้อมูลของตัวเองเป็น GPS การเดินเรือ แต่ข้อมูลของนายเอกราช เป็น GPS การเดินทางบนบก ส่วนกรณีเซ็นเซอร์ใบพัดเรือหากโดนวัตถุบางอย่างจะทำงานทำให้เรือหยุด ได้ให้ข้อมูลไปแล้ว อยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้



    ถอนป่วยทิพย์ข้อมูลไม่พอ

    ซัดเพื่อไทยเลี่ยงตรวจสอบ

    รวบแก๊งฟอกเงินอาชญากร

    ครม.สงขลาผ่านงบ 300 ล้าน
    "อู๊ด" ยันไม่ได้แก้ GPS พิกัดต่างเป็นการเดินเรือ : [NEWS UPDATE] นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ เข้าให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และนำหลักฐานเอกสารใบรับรองว่ามีความเชี่ยวชาญด้าน GPS เรือนานกว่า 30 ปี มายืนยันข้อมูลการเดินเรือ การติดตั้ง GPS เรือในวันที่เกิดเหตุ ยืนยันตนไม่ได้เปลี่ยนแปลง GPS เรือ โดยเป็นหลักฐานเดียวกับที่เคยยื่นไว้กับตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งจะทำให้รู้ว่าวันเกิดเหตุเรือเดินทางไปในทิศทางใด สามารถดูพิกัดได้ว่าหัวเรือหันไปในทิศทางใด จอดหยุดนิ่งตรงจุดไหนในแม่น้ำ อยู่ที่ความลึกของแม่น้ำเท่าไหร่ เวลาไหน รวมถึงความเร็วในการแล่นเรือ โดยการตรวจสอบได้ทำงานร่วมกับบริษัท แนฟเกียร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าเกี่ยวกับระบบ GPS เรือ อย่างไรก็ตาม ข้อมูล GPS ต่างกับข้อมูล GPS ของนายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และวิเคราะห์ระบบ GPS เนื่องจากข้อมูลของตัวเองเป็น GPS การเดินเรือ แต่ข้อมูลของนายเอกราช เป็น GPS การเดินทางบนบก ส่วนกรณีเซ็นเซอร์ใบพัดเรือหากโดนวัตถุบางอย่างจะทำงานทำให้เรือหยุด ได้ให้ข้อมูลไปแล้ว อยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ ถอนป่วยทิพย์ข้อมูลไม่พอ ซัดเพื่อไทยเลี่ยงตรวจสอบ รวบแก๊งฟอกเงินอาชญากร ครม.สงขลาผ่านงบ 300 ล้าน
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 771 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • ทักษิณได้คืบจะเอาศอก จากเดิมที่ศาลให้ไปต่างประเทศเฉพาะการทำงานในนามรัฐบาล แต่ทักษิณก็พยายามอาศัยช่องทางนี้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยเฉพาะการเดินทางไปยังกัมพูชา

    #ทักษิณได้คืบจะเอาศอก #ทักษิณหาช่องออกนอกประเทศ #ทักษิณชินวัตร #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    ทักษิณได้คืบจะเอาศอก จากเดิมที่ศาลให้ไปต่างประเทศเฉพาะการทำงานในนามรัฐบาล แต่ทักษิณก็พยายามอาศัยช่องทางนี้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยเฉพาะการเดินทางไปยังกัมพูชา #ทักษิณได้คืบจะเอาศอก #ทักษิณหาช่องออกนอกประเทศ #ทักษิณชินวัตร #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Love
    Haha
    Angry
    Wow
    20
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2025 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • เซเลนสกีตอบคำถามสื่อมวลชน หลังการเดินทางมา UAE ของเขา โดยย้ำว่ายูเครนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ และจะไม่ยอมรับผลที่ตามมา การเจรจาใดๆ เกี่ยวกับยูเครนโดยไม่มียูเครนนั้นไม่มีความหมาย

    นอกจากนี้ เซเลนสกียังกล่าวถึงเรื่องแร่หายากในยูเครน โดยระบุถึงสาเหตุที่ยังไม่ยอมลงนามข้อตกลงกับสหรัฐ

    "เราสนใจข้อตกลงกับสหรัฐเกี่ยวกับแร่ธาตุ แต่เมื่อเราเจาะลึกในรายละเอียดแล้ว ไม่มีการรับประกันความปลอดภัย ซึ่งต้องเป็นลายลักษณ์อักษร สหรัฐจะต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันความปลอดภัย การให้ความช่วยเหลือ การลงทุนในยูเครน และเป็นผู้ที่สามารถหยุดยั้งปูตินได้"
    เซเลนสกีตอบคำถามสื่อมวลชน หลังการเดินทางมา UAE ของเขา โดยย้ำว่ายูเครนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ และจะไม่ยอมรับผลที่ตามมา การเจรจาใดๆ เกี่ยวกับยูเครนโดยไม่มียูเครนนั้นไม่มีความหมาย นอกจากนี้ เซเลนสกียังกล่าวถึงเรื่องแร่หายากในยูเครน โดยระบุถึงสาเหตุที่ยังไม่ยอมลงนามข้อตกลงกับสหรัฐ "เราสนใจข้อตกลงกับสหรัฐเกี่ยวกับแร่ธาตุ แต่เมื่อเราเจาะลึกในรายละเอียดแล้ว ไม่มีการรับประกันความปลอดภัย ซึ่งต้องเป็นลายลักษณ์อักษร สหรัฐจะต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันความปลอดภัย การให้ความช่วยเหลือ การลงทุนในยูเครน และเป็นผู้ที่สามารถหยุดยั้งปูตินได้"
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • ได้คืบจะเอาศอก 'ทักษิณ' อยากพบ 'ฮุนเซน' แต่ศาลไทยไม่อนุญาต
    .
    'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กำลังจะได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง ภายหลังมีรายงานว่าได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศบรูไน ดารุสลาม โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูตไทย กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญนายทักษิณไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว
    .
    นายทักษิณยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และศาลอาญา ได้นัดไต่สวนพยานวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 มีพยาน 2 ปากคือนายทักษิณ เเละ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ โดยศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้อง จึงมีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ และให้วางหลักประกันตามที่เสนอ จำนวน 5 ล้านบาท และให้กลับมารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่เดินทางกลับ แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ทราบ
    .
    อย่างไรก็ตาม ปรากฎคำร้องของทักษิณที่ต้องการเดินทางไปยังกัมพูชาและเวียดนามนั้น ศาลไม่อนุญาต โดยได้พิจารณาคำร้องของนายทักษิณที่อ้างว่าไปประเทศ เวียดนาม เเละประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเดินไปประเทศบรูไน ดารุสลามแล้วเห็นว่า การเดินทางไปประเทศเวียดนาม นั้นเป็นไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนา ซึ่งมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาในหน่วยงานรัฐของเวียดนาม เเต่เป็นการเชิญส่วนตัวไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการขออนุญาตเดินทางไปประเทศกัมพูชา ก็เป็นคำเชิญจาก สมเด็จฮุน เซน ซึ้งเป็นในนามส่วนตัวเช่นกันไม่ใช่ในนามรัฐบาลกัมพูชาแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีไม่มีเหตุจำเป็น ศาลจึงยกคำร้อง
    .
    สำหรับนายทักษิณ ก่อนหน้านี้ศาลอาญาที่อนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยศาลอาญาอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
    ..............
    Sondhi X
    ได้คืบจะเอาศอก 'ทักษิณ' อยากพบ 'ฮุนเซน' แต่ศาลไทยไม่อนุญาต . 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กำลังจะได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง ภายหลังมีรายงานว่าได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศบรูไน ดารุสลาม โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูตไทย กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญนายทักษิณไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว . นายทักษิณยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และศาลอาญา ได้นัดไต่สวนพยานวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 มีพยาน 2 ปากคือนายทักษิณ เเละ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ โดยศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้อง จึงมีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ และให้วางหลักประกันตามที่เสนอ จำนวน 5 ล้านบาท และให้กลับมารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่เดินทางกลับ แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ทราบ . อย่างไรก็ตาม ปรากฎคำร้องของทักษิณที่ต้องการเดินทางไปยังกัมพูชาและเวียดนามนั้น ศาลไม่อนุญาต โดยได้พิจารณาคำร้องของนายทักษิณที่อ้างว่าไปประเทศ เวียดนาม เเละประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเดินไปประเทศบรูไน ดารุสลามแล้วเห็นว่า การเดินทางไปประเทศเวียดนาม นั้นเป็นไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนา ซึ่งมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาในหน่วยงานรัฐของเวียดนาม เเต่เป็นการเชิญส่วนตัวไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการขออนุญาตเดินทางไปประเทศกัมพูชา ก็เป็นคำเชิญจาก สมเด็จฮุน เซน ซึ้งเป็นในนามส่วนตัวเช่นกันไม่ใช่ในนามรัฐบาลกัมพูชาแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีไม่มีเหตุจำเป็น ศาลจึงยกคำร้อง . สำหรับนายทักษิณ ก่อนหน้านี้ศาลอาญาที่อนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยศาลอาญาอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญเทพเจ้ากวนอู ศาลเจ้าแม่เขาสามมุข
    เหรียญเทพเจ้ากวนอู เนื้อกะไหล่ทอง ศาลเจ้าแม่เขาสามมุข //เทพเจ้ากวนอู หรือ กวนกง หนึ่งในเทพจีนที่ผู้คนนิยมบูชา // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ การค้าขาย ปกป้องไม่ให้ผี...วิญญาณชั่วร้ายเข้าบ้าน การเดินทางปลอดภัย มีความซื่อสัตย์ต่อกันก็จักช่วยบรรเทาการทรยศ หักหลัง หรือโดนโกงได้ ส่งผลดีในด้านการงาน การแข่งขันด้านธุรกิจ ทำให้มีอำนาจเหนือศัตรูของผู้บูชาในทุก ๆด้าน ความเชื่อด้านสุขภาพ โชคลาภเงินทอง ครอบครัว ความปลอดภัยและความสำเร็จ >>

    ** “เทพเจ้ากวนอู” ถือเป็นเทพเจ้าศาสนาเต๋า ทั้งยังเป็นเทพที่มีลักษณ์พิเศษเพราะเทพเจ้ากวนอูยังเป็นเทพเจ้าในศาสนาพุทธอีก เนื่องจากในสมัยสามก๊ก กวนอูเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดี มีความกล้าหาญและเก่งในการทำสงคราม คนจีนจึงยกกวนอูเป็นเทพเจ้าหลังจากเสียชีวิตไป ผู้ศรัทธาคิดว่าเทพเจ้ากวนอูสามารถคุ้มครองชีวิตประชาชนในหลายๆด้าน เช่น การค้าขาย ปกป้องไม่ให้ผี...วิญญาณชั่วร้ายเข้าบ้าน การเดินทางปลอดภัย รวมถึงให้สุขภาพแข็งแรง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเทพเจ้ากวนอู ศาลเจ้าแม่เขาสามมุข เหรียญเทพเจ้ากวนอู เนื้อกะไหล่ทอง ศาลเจ้าแม่เขาสามมุข //เทพเจ้ากวนอู หรือ กวนกง หนึ่งในเทพจีนที่ผู้คนนิยมบูชา // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ การค้าขาย ปกป้องไม่ให้ผี...วิญญาณชั่วร้ายเข้าบ้าน การเดินทางปลอดภัย มีความซื่อสัตย์ต่อกันก็จักช่วยบรรเทาการทรยศ หักหลัง หรือโดนโกงได้ ส่งผลดีในด้านการงาน การแข่งขันด้านธุรกิจ ทำให้มีอำนาจเหนือศัตรูของผู้บูชาในทุก ๆด้าน ความเชื่อด้านสุขภาพ โชคลาภเงินทอง ครอบครัว ความปลอดภัยและความสำเร็จ >> ** “เทพเจ้ากวนอู” ถือเป็นเทพเจ้าศาสนาเต๋า ทั้งยังเป็นเทพที่มีลักษณ์พิเศษเพราะเทพเจ้ากวนอูยังเป็นเทพเจ้าในศาสนาพุทธอีก เนื่องจากในสมัยสามก๊ก กวนอูเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดี มีความกล้าหาญและเก่งในการทำสงคราม คนจีนจึงยกกวนอูเป็นเทพเจ้าหลังจากเสียชีวิตไป ผู้ศรัทธาคิดว่าเทพเจ้ากวนอูสามารถคุ้มครองชีวิตประชาชนในหลายๆด้าน เช่น การค้าขาย ปกป้องไม่ให้ผี...วิญญาณชั่วร้ายเข้าบ้าน การเดินทางปลอดภัย รวมถึงให้สุขภาพแข็งแรง >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • การจราจรทางอากาศในอนาคตคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคการบิน บางแนวโน้มและความเป็นไปได้ในอนาคตของการจราจรทางอากาศ ได้แก่:

    1. **อากาศยานไร้คนขับ (Drones และ UAVs)**: การใช้โดรーンสำหรับการส่งสินค้าและการบริการอื่นๆ จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตเมืองและพื้นที่ห่างไกล

    2. **อากาศยานไฟฟ้า (Electric Aircraft)**: การพัฒนาอากาศยานที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดต้นทุนการดำเนินการ

    3. **ระบบการจัดการการจราจรทางอากาศอัตโนมัติ (Automated Air Traffic Management)**: การใช้ AI และ machine learning เพื่อจัดการการจราจรทางอากาศจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย

    4. **การบินส่วนบุคคล (Personal Air Vehicles)**: ยานพาหนะบินได้ส่วนบุคคลอาจกลายเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่การจราจรทางบหนาแน่น

    5. **Hyperloop และเทคโนโลยีการขนส่งความเร็วสูง**: แม้ว่าจะไม่ใช่การบิน แต่เทคโนโลยีเช่น Hyperloop อาจเปลี่ยนโฉมการขนส่งทางไกลและมีผลต่อการจราจรทางอากาศ

    6. **การบินเชิงพาณิชย์ที่เร็วขึ้น**: การพัฒนาของเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง (Supersonic และ Hypersonic) อาจทำให้การเดินทางทางอากาศเร็วขึ้นมาก

    7. **ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว**: ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ความท้าทายด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวจะเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีมาตรการและกฎระเบียบใหม่ๆ

    8. **การบินในอวกาศ (Space Travel)**: การท่องเที่ยวอวกาศและการขนส่งระหว่างดาวเคราะห์อาจกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคตอันไกล

    การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะต้องได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนากฎระเบียบที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบการจราจรทางอากาศในอนาคต
    การจราจรทางอากาศในอนาคตคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคการบิน บางแนวโน้มและความเป็นไปได้ในอนาคตของการจราจรทางอากาศ ได้แก่: 1. **อากาศยานไร้คนขับ (Drones และ UAVs)**: การใช้โดรーンสำหรับการส่งสินค้าและการบริการอื่นๆ จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตเมืองและพื้นที่ห่างไกล 2. **อากาศยานไฟฟ้า (Electric Aircraft)**: การพัฒนาอากาศยานที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดต้นทุนการดำเนินการ 3. **ระบบการจัดการการจราจรทางอากาศอัตโนมัติ (Automated Air Traffic Management)**: การใช้ AI และ machine learning เพื่อจัดการการจราจรทางอากาศจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย 4. **การบินส่วนบุคคล (Personal Air Vehicles)**: ยานพาหนะบินได้ส่วนบุคคลอาจกลายเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่การจราจรทางบหนาแน่น 5. **Hyperloop และเทคโนโลยีการขนส่งความเร็วสูง**: แม้ว่าจะไม่ใช่การบิน แต่เทคโนโลยีเช่น Hyperloop อาจเปลี่ยนโฉมการขนส่งทางไกลและมีผลต่อการจราจรทางอากาศ 6. **การบินเชิงพาณิชย์ที่เร็วขึ้น**: การพัฒนาของเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง (Supersonic และ Hypersonic) อาจทำให้การเดินทางทางอากาศเร็วขึ้นมาก 7. **ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว**: ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ความท้าทายด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวจะเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีมาตรการและกฎระเบียบใหม่ๆ 8. **การบินในอวกาศ (Space Travel)**: การท่องเที่ยวอวกาศและการขนส่งระหว่างดาวเคราะห์อาจกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคตอันไกล การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะต้องได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนากฎระเบียบที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบการจราจรทางอากาศในอนาคต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตก

    เดือนนี้ โชคดีสำหรับการคิดริเริ่มธุรกิจการค้าขายใหม่ๆจะมีการติดต่อเพิ่มยอดขายจำหน่ายมากขึ้น การตกลงเจรจาต้องใช้ความอดทนอดกลั้นระวังคำพูดคำจาเพราะเอกสารสัญญาจะผิดพลาด จนถูกทักท้วงให้เกิดขัดแย้ง ควรมีสัจจะยึดมั่นในคำพูดยึดมั่นในสัญญาเพื่อรักษาเครดิตไว้ต่อยอดในภายภาคหน้าจะมีประโยชน์มากกว่า งานการศึกษา วิชาการ งานสวยงาม งานคิดสร้างสรรค์ จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับ จนได้รับปรับเลื่อนตำแหน่งขั้น เรื่องของหัวใจหากปากมากขาดการจัดการบริหารเสน่ห์ที่ลงตัวจะเกิดเรื่องชู้สาวให้ปวดหัว จะเดินทางๆอากาศต้องระวังพายุฟ้าฝนควรตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาก่อนการเดินทาง

    เสริมความมงคล : ตั้งอ่างเลี้ยงปลา
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตก เดือนนี้ โชคดีสำหรับการคิดริเริ่มธุรกิจการค้าขายใหม่ๆจะมีการติดต่อเพิ่มยอดขายจำหน่ายมากขึ้น การตกลงเจรจาต้องใช้ความอดทนอดกลั้นระวังคำพูดคำจาเพราะเอกสารสัญญาจะผิดพลาด จนถูกทักท้วงให้เกิดขัดแย้ง ควรมีสัจจะยึดมั่นในคำพูดยึดมั่นในสัญญาเพื่อรักษาเครดิตไว้ต่อยอดในภายภาคหน้าจะมีประโยชน์มากกว่า งานการศึกษา วิชาการ งานสวยงาม งานคิดสร้างสรรค์ จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับ จนได้รับปรับเลื่อนตำแหน่งขั้น เรื่องของหัวใจหากปากมากขาดการจัดการบริหารเสน่ห์ที่ลงตัวจะเกิดเรื่องชู้สาวให้ปวดหัว จะเดินทางๆอากาศต้องระวังพายุฟ้าฝนควรตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาก่อนการเดินทาง เสริมความมงคล : ตั้งอ่างเลี้ยงปลา ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • พาสปอร์ตรถไฟไทย นักเดินทางของมันต้องมี

    หลังจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดทำตราประทับของแต่ละสถานี พร้อมข้อความ "ตรวจสอบความถูกต้อง" ประทับบนตั๋วโดยสาร เพื่อยืนยันว่าตั๋วโดยสารที่ซื้อจากสถานีรถไฟนั้นๆ ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว โดยพบว่าแต่ละสถานีออกแบบโดยนำเอกลักษณ์ ศิลปะ วัฒนธรรม และสถานที่สำคัญในพื้นที่ของแต่ละสถานีมาเป็นลวดลายบนตราประทับดังกล่าว ทำให้เริ่มมีผู้โดยสารนิยมสะสมตราประทับของแต่ละสถานี เพื่อบันทึกความทรงจำในการเดินทางด้วยรถไฟ

    ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดทำหนังสือเดินทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ (Passport to Thailand National Park) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ 156 แห่งทั่วประเทศ มีรางวัลแก่ผู้ที่สะสมตราประทับครบทุกแห่ง ด้วยการให้สิทธิ์เข้าอุทยานแห่งชาติฟรี 1 ปี และพักฟรี 2 ครั้ง แต่เนื่องจากอินฟลูเอนเซอร์ดัง "พี่จอง คัลเลน" นำหนังสือเดินทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติมาโชว์ในคลิป ทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก

    มาถึงการเดินทางด้วยรถไฟ เมื่อมีนักท่องเที่ยวและนักเดินทางสนใจตราประทับของแต่ละสถานี จึงเริ่มมีผู้สะสมตราประทับ และเริ่มมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรถไฟจัดทำหนังสือเดินทางขึ้น

    เริ่มจากพิพิธภัณฑ์รถไฟไทย โดยมูลนิธิรถไฟไทย จัดทำหนังสือเดินทางรถไฟไทย (Thailand Railway Passport) ปกสีน้ำตาล คล้ายหนังสือเดินทางประเทศไทย จำหน่ายในราคาเล่มละ 120 บาท ซื้อได้ที่พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย ด้านหน้าสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เปิดทำการ วันอังคาร-วันเสาร์ เวลา 10.00-18.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้สนใจสั่งซื้อจำนวนมากนับพันเล่ม จึงทำให้ต้องมีการลงชื่อสั่งจองล่วงหน้า และจำกัดการซื้อเฉพาะวอล์กอินจากต่างจังหวัดคนละ 1 เล่ม

    ด้านบุรฉัตรมูลนิธิ และฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ร.ฟ.ท. ได้จัดทำหนังสือเดินทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (Thailand Railway Passport) ลวดลายประเทศไทย ธงชาติ ปกสีครีม จำหน่ายในราคาเล่มละ 100 บาท ซื้อได้ที่ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ หรือศูนย์ประชาสัมพันธ์ ตึกบัญชาการรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย ตรงข้ามโรงเรียนเทพศิรินทร์ หรือสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บริเวณห้องจำหน่ายตั๋ว และต่างจังหวัดติดต่อได้ที่สถานีรถไฟต่างๆ ทั่วประเทศ

    สิ่งที่ต้องระวังสำหรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทาง หากเผลอนำตราประทับของสถานีรถไฟ ประทับลงในหนังสือเดินทาง "ฉบับจริง" ที่ยังไม่หมดอายุ หรือยังไม่ได้ยกเลิกใช้งาน ถือว่า "หนังสือเดินทางชำรุด" ต้องทำเล่มใหม่ ไม่เช่นนั้นอาจถูกประเทศหรือดินแดนปลายทางปฎิเสธเข้าประเทศ

    #Newskit
    พาสปอร์ตรถไฟไทย นักเดินทางของมันต้องมี หลังจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดทำตราประทับของแต่ละสถานี พร้อมข้อความ "ตรวจสอบความถูกต้อง" ประทับบนตั๋วโดยสาร เพื่อยืนยันว่าตั๋วโดยสารที่ซื้อจากสถานีรถไฟนั้นๆ ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว โดยพบว่าแต่ละสถานีออกแบบโดยนำเอกลักษณ์ ศิลปะ วัฒนธรรม และสถานที่สำคัญในพื้นที่ของแต่ละสถานีมาเป็นลวดลายบนตราประทับดังกล่าว ทำให้เริ่มมีผู้โดยสารนิยมสะสมตราประทับของแต่ละสถานี เพื่อบันทึกความทรงจำในการเดินทางด้วยรถไฟ ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดทำหนังสือเดินทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ (Passport to Thailand National Park) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ 156 แห่งทั่วประเทศ มีรางวัลแก่ผู้ที่สะสมตราประทับครบทุกแห่ง ด้วยการให้สิทธิ์เข้าอุทยานแห่งชาติฟรี 1 ปี และพักฟรี 2 ครั้ง แต่เนื่องจากอินฟลูเอนเซอร์ดัง "พี่จอง คัลเลน" นำหนังสือเดินทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติมาโชว์ในคลิป ทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก มาถึงการเดินทางด้วยรถไฟ เมื่อมีนักท่องเที่ยวและนักเดินทางสนใจตราประทับของแต่ละสถานี จึงเริ่มมีผู้สะสมตราประทับ และเริ่มมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรถไฟจัดทำหนังสือเดินทางขึ้น เริ่มจากพิพิธภัณฑ์รถไฟไทย โดยมูลนิธิรถไฟไทย จัดทำหนังสือเดินทางรถไฟไทย (Thailand Railway Passport) ปกสีน้ำตาล คล้ายหนังสือเดินทางประเทศไทย จำหน่ายในราคาเล่มละ 120 บาท ซื้อได้ที่พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย ด้านหน้าสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เปิดทำการ วันอังคาร-วันเสาร์ เวลา 10.00-18.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้สนใจสั่งซื้อจำนวนมากนับพันเล่ม จึงทำให้ต้องมีการลงชื่อสั่งจองล่วงหน้า และจำกัดการซื้อเฉพาะวอล์กอินจากต่างจังหวัดคนละ 1 เล่ม ด้านบุรฉัตรมูลนิธิ และฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ร.ฟ.ท. ได้จัดทำหนังสือเดินทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (Thailand Railway Passport) ลวดลายประเทศไทย ธงชาติ ปกสีครีม จำหน่ายในราคาเล่มละ 100 บาท ซื้อได้ที่ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ หรือศูนย์ประชาสัมพันธ์ ตึกบัญชาการรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย ตรงข้ามโรงเรียนเทพศิรินทร์ หรือสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บริเวณห้องจำหน่ายตั๋ว และต่างจังหวัดติดต่อได้ที่สถานีรถไฟต่างๆ ทั่วประเทศ สิ่งที่ต้องระวังสำหรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทาง หากเผลอนำตราประทับของสถานีรถไฟ ประทับลงในหนังสือเดินทาง "ฉบับจริง" ที่ยังไม่หมดอายุ หรือยังไม่ได้ยกเลิกใช้งาน ถือว่า "หนังสือเดินทางชำรุด" ต้องทำเล่มใหม่ ไม่เช่นนั้นอาจถูกประเทศหรือดินแดนปลายทางปฎิเสธเข้าประเทศ #Newskit
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • ได้คืบจะเอาศอก 'ทักษิณ' อยากพบ 'ฮุนเซน' แต่ศาลไทยไม่อนุญาต
    .
    'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กำลังจะได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง ภายหลังมีรายงานว่าได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศบรูไน ดารุสลาม โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูตไทย กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญนายทักษิณไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว
    .
    นายทักษิณยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และศาลอาญา ได้นัดไต่สวนพยานวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 มีพยาน 2 ปากคือนายทักษิณ เเละ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ โดยศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้อง จึงมีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ และให้วางหลักประกันตามที่เสนอ จำนวน 5 ล้านบาท และให้กลับมารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่เดินทางกลับ แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ทราบ
    .
    อย่างไรก็ตาม ปรากฎคำร้องของทักษิณที่ต้องการเดินทางไปยังกัมพูชาและเวียดนามนั้น ศาลไม่อนุญาต โดยได้พิจารณาคำร้องของนายทักษิณที่อ้างว่าไปประเทศ เวียดนาม เเละประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเดินไปประเทศบรูไน ดารุสลามแล้วเห็นว่า การเดินทางไปประเทศเวียดนาม นั้นเป็นไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนา ซึ่งมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาในหน่วยงานรัฐของเวียดนาม เเต่เป็นการเชิญส่วนตัวไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการขออนุญาตเดินทางไปประเทศกัมพูชา ก็เป็นคำเชิญจาก สมเด็จฮุน เซน ซึ้งเป็นในนามส่วนตัวเช่นกันไม่ใช่ในนามรัฐบาลกัมพูชาแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีไม่มีเหตุจำเป็น ศาลจึงยกคำร้อง
    .
    สำหรับนายทักษิณ ก่อนหน้านี้ศาลอาญาที่อนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยศาลอาญาอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
    ..............
    Sondhi X
    ได้คืบจะเอาศอก 'ทักษิณ' อยากพบ 'ฮุนเซน' แต่ศาลไทยไม่อนุญาต . 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กำลังจะได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง ภายหลังมีรายงานว่าได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศบรูไน ดารุสลาม โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูตไทย กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญนายทักษิณไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว . นายทักษิณยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และศาลอาญา ได้นัดไต่สวนพยานวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 มีพยาน 2 ปากคือนายทักษิณ เเละ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ โดยศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้อง จึงมีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ และให้วางหลักประกันตามที่เสนอ จำนวน 5 ล้านบาท และให้กลับมารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่เดินทางกลับ แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ทราบ . อย่างไรก็ตาม ปรากฎคำร้องของทักษิณที่ต้องการเดินทางไปยังกัมพูชาและเวียดนามนั้น ศาลไม่อนุญาต โดยได้พิจารณาคำร้องของนายทักษิณที่อ้างว่าไปประเทศ เวียดนาม เเละประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเดินไปประเทศบรูไน ดารุสลามแล้วเห็นว่า การเดินทางไปประเทศเวียดนาม นั้นเป็นไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนา ซึ่งมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาในหน่วยงานรัฐของเวียดนาม เเต่เป็นการเชิญส่วนตัวไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการขออนุญาตเดินทางไปประเทศกัมพูชา ก็เป็นคำเชิญจาก สมเด็จฮุน เซน ซึ้งเป็นในนามส่วนตัวเช่นกันไม่ใช่ในนามรัฐบาลกัมพูชาแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีไม่มีเหตุจำเป็น ศาลจึงยกคำร้อง . สำหรับนายทักษิณ ก่อนหน้านี้ศาลอาญาที่อนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยศาลอาญาอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    Wow
    28
    4 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1474 มุมมอง 1 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.108 : จีนหวังผลอะไร จากการไปเยือนของ “อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร” ?
    .
    ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้เดินทางไปเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ การเยือนประเทศจีนครั้งนี้มีนัยยะสำคัญคือ ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีนนอกจากนี้ ยังเป็นช่วงเวลาที่ไทยกับจีนมีหลายเรื่องที่จำเป็นต้องร่วมมือกัน พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะลองวิเคราะห์ว่า ทางการจีนคาดหวังอะไรจากการเดินทางเยือนของนายกรัฐมนตรีไทย รวมถึง ความระหว่างบรรทัด ที่แฝงไว้ในแถลงการณ์ร่วมไทย-จีน ที่สะท้อนถึงจุดยืนทางนโยบายหลายเรื่องของรัฐบาลจีน
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=opLZlhwJbpM
    .
    #บูรพาไม่แพ้
    บูรพาไม่แพ้ Ep.108 : จีนหวังผลอะไร จากการไปเยือนของ “อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร” ? . ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้เดินทางไปเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ การเยือนประเทศจีนครั้งนี้มีนัยยะสำคัญคือ ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีนนอกจากนี้ ยังเป็นช่วงเวลาที่ไทยกับจีนมีหลายเรื่องที่จำเป็นต้องร่วมมือกัน พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะลองวิเคราะห์ว่า ทางการจีนคาดหวังอะไรจากการเดินทางเยือนของนายกรัฐมนตรีไทย รวมถึง ความระหว่างบรรทัด ที่แฝงไว้ในแถลงการณ์ร่วมไทย-จีน ที่สะท้อนถึงจุดยืนทางนโยบายหลายเรื่องของรัฐบาลจีน . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=opLZlhwJbpM . #บูรพาไม่แพ้
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญในการประมวลผลควอนตัม โดยนักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีออสเตรีย (ISTA) ได้พบวิธีใหม่ที่จะลดการสร้างความร้อนในคอมพิวเตอร์ควอนตัม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการสร้างและใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมนี้ได้มาก

    โดยทั่วไปแล้ว คอมพิวเตอร์ควอนตัมต้องทำงานที่อุณหภูมิเกือบศูนย์สัมบูรณ์ (absolute zero) ซึ่งต้องใช้ระบบทำความเย็นขนาดใหญ่และมีราคาแพงมาก สาเหตุที่เกิดความร้อนมาจากการเดินทางของสัญญาณไฟฟ้าผ่านสายไฟที่มีความต้านทาน แต่ทีมวิจัย ISTA ได้เปลี่ยนการเชื่อมต่อจากสายไฟฟ้าเป็นสายไฟเบอร์ออปติก ที่สามารถส่งสัญญาณด้วยแสงแทนไฟฟ้า

    เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกมีข้อดีหลายอย่าง เช่น มีความร้อนน้อยกว่า มีแบนด์วิดท์ที่สูงกว่า และมีการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าน้อยกว่า แต่ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เนื่องจากคิวบิตไม่สามารถประมวลผลสัญญาณแสงได้โดยตรง ทีมวิจัยจึงใช้ตัวแปลงสัญญาณไฟฟ้า-แสง เพื่อแปลงสัญญาณแสงเป็นไมโครเวฟที่คิวบิตสามารถเข้าใจได้

    Georg Arnold หนึ่งในผู้ร่วมเขียนงานวิจัยกล่าวว่า วิธีใหม่นี้อาจช่วยเพิ่มจำนวนคิวบิตที่ใช้งานได้และทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถทำงานได้จริงในอนาคต นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมหลายเครื่องผ่านสายไฟเบอร์ออปติกได้ที่อุณหภูมิห้อง

    อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ยังเป็นเพียงต้นแบบที่มีโอกาสปรับปรุงอีกมาก แต่ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างระบบควอนตัมที่ไม่ต้องทำความเย็นทุกชิ้นส่วน ซึ่งจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมมีความใช้งานได้จริงและมีต้นทุนที่ต่ำลงในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/106760-breakthrough-brings-fiber-optics-quantum-computing-improving-efficiency.html
    มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญในการประมวลผลควอนตัม โดยนักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีออสเตรีย (ISTA) ได้พบวิธีใหม่ที่จะลดการสร้างความร้อนในคอมพิวเตอร์ควอนตัม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการสร้างและใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมนี้ได้มาก โดยทั่วไปแล้ว คอมพิวเตอร์ควอนตัมต้องทำงานที่อุณหภูมิเกือบศูนย์สัมบูรณ์ (absolute zero) ซึ่งต้องใช้ระบบทำความเย็นขนาดใหญ่และมีราคาแพงมาก สาเหตุที่เกิดความร้อนมาจากการเดินทางของสัญญาณไฟฟ้าผ่านสายไฟที่มีความต้านทาน แต่ทีมวิจัย ISTA ได้เปลี่ยนการเชื่อมต่อจากสายไฟฟ้าเป็นสายไฟเบอร์ออปติก ที่สามารถส่งสัญญาณด้วยแสงแทนไฟฟ้า เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกมีข้อดีหลายอย่าง เช่น มีความร้อนน้อยกว่า มีแบนด์วิดท์ที่สูงกว่า และมีการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าน้อยกว่า แต่ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เนื่องจากคิวบิตไม่สามารถประมวลผลสัญญาณแสงได้โดยตรง ทีมวิจัยจึงใช้ตัวแปลงสัญญาณไฟฟ้า-แสง เพื่อแปลงสัญญาณแสงเป็นไมโครเวฟที่คิวบิตสามารถเข้าใจได้ Georg Arnold หนึ่งในผู้ร่วมเขียนงานวิจัยกล่าวว่า วิธีใหม่นี้อาจช่วยเพิ่มจำนวนคิวบิตที่ใช้งานได้และทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถทำงานได้จริงในอนาคต นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมหลายเครื่องผ่านสายไฟเบอร์ออปติกได้ที่อุณหภูมิห้อง อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ยังเป็นเพียงต้นแบบที่มีโอกาสปรับปรุงอีกมาก แต่ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างระบบควอนตัมที่ไม่ต้องทำความเย็นทุกชิ้นส่วน ซึ่งจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมมีความใช้งานได้จริงและมีต้นทุนที่ต่ำลงในอนาคต https://www.techspot.com/news/106760-breakthrough-brings-fiber-optics-quantum-computing-improving-efficiency.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Breakthrough brings fiber optics to quantum computing, improving efficiency and reducing heat generation
    Quantum computers run at temperatures just a hair above absolute zero. And keeping them humming along at these temps requires massive, multi-million dollar cooling systems known as...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซันเวย์ปั้นมิกซ์ยูสยะโฮร์ สถานี RTS Link เชื่อมสิงคโปร์

    โครงการก่อสร้างรถไฟเชื่อมระหว่างยะโฮร์-สิงคโปร์ หรือ อาร์ทีเอส ลิงก์ (RTS Link) ระยะทาง 4 กิโลเมตร ลงทุนร่วมกันระหว่าง เอ็มอาร์ที คอร์ป (MRT Corp) ประเทศมาเลเซีย กับเอสเอ็มอาร์ที คอร์ปอเรชัน ผู้ให้บริการรถไฟประเทศสิงคโปร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2564 เชื่อมระหว่างสถานีบูกิตชาการ์ (Bukit Chagar) ฝั่งมาเลเซีย และสถานีวูดแลนด์นอร์ธ (Woodlands North) ฝั่งสิงคโปร์ เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายทอมสัน-อีสต์โคสต์ มีแผนจะเปิดให้บริการในเดือน ม.ค. 2570

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. เอ็มอาร์ที คอร์ป ได้ลงนามสัญญากับซันเวย์ กรุ๊ป (Sunway Group) พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูสย่านสถานีบูกิตชาการ์ มูลค่า 2,600 ล้านริงกิต ประกอบด้วยที่พักอาศัย ศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์การศึกษา และศูนย์สุขภาพ บนพื้นที่ 4.23 เอเคอร์ พร้อมอาคารจอดรถยนต์ 1,550 คัน และจักรยานยนต์ 1,015 คัน รองรับการท่องเที่ยวและการเดินทางเพื่อธุรกิจ โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือน มี.ค. 2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี คาดว่าจะเปิดอาคารจอดรถในเดือน พ.ย. 2569 ส่วนโครงการเฟสแรกเปิดให้บริการในปี 2576

    สำหรับซันเวย์ กรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ประกอบธุรกิจหลากหลายกว่า 13 ประเภท ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง การศึกษา โรงแรม การแพทย์ ศูนย์การค้า ธีมพาร์ค ดิจิทัล ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนและการเงิน วัสดุก่อสร้าง การผลิตและจำหน่าย และเหมืองหิน อีกทั้งยังลงทุนในหลายประเทศ โดยประเทศไทยได้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์การขนส่งทางอุตสาหกรรม เช่น สายยางไฮโดรลิก สายยางอุตสาหกรรม และเครื่องบีบสาย

    สำหรับรัฐยะโฮร์ กลุ่มซันเวย์ กรุ๊ปลงทุนทั้งธุรกิจก่อสร้าง เหมืองหิน วัสดุก่อสร้าง การผลิตและจำหน่าย การศึกษา รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการซันเวย์ ซิตี้ อิสกันดาร์ ปูเตรี (Sunway City Iskandar Puteri) บนพื้นที่ 2,000 เอเคอร์ ที่ประกอบด้วยบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ศูนย์กีฬา โรงเรียนนานาชาติ และโรงแรม

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. รัฐบาลมาเลเซียและสิงคโปร์ลงนามเปิดตัวเขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์-สิงคโปร์ (JS-SEZ) เพื่อดึงดูดการลงทุนระดับโลก ครอบคลุมพื้นที่ 3,571 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็น 9 โซนเศรษฐกิจ รองรับ 11 ภาคอุตสาหกรรม เช่น การผลิต โลจิสติกส์ ความมั่นคงด้านอาหาร การท่องเที่ยว พลังงาน เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว บริการทางการเงิน บริการทางธุรกิจ การศึกษา และสุขภาพ โดยตั้งเป้าหมาย 50 โครงการใน 5 ปีแรกและ 100 โครงการในอีก 10 ปีข้างหน้า

    #Newskit
    ซันเวย์ปั้นมิกซ์ยูสยะโฮร์ สถานี RTS Link เชื่อมสิงคโปร์ โครงการก่อสร้างรถไฟเชื่อมระหว่างยะโฮร์-สิงคโปร์ หรือ อาร์ทีเอส ลิงก์ (RTS Link) ระยะทาง 4 กิโลเมตร ลงทุนร่วมกันระหว่าง เอ็มอาร์ที คอร์ป (MRT Corp) ประเทศมาเลเซีย กับเอสเอ็มอาร์ที คอร์ปอเรชัน ผู้ให้บริการรถไฟประเทศสิงคโปร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2564 เชื่อมระหว่างสถานีบูกิตชาการ์ (Bukit Chagar) ฝั่งมาเลเซีย และสถานีวูดแลนด์นอร์ธ (Woodlands North) ฝั่งสิงคโปร์ เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายทอมสัน-อีสต์โคสต์ มีแผนจะเปิดให้บริการในเดือน ม.ค. 2570 ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. เอ็มอาร์ที คอร์ป ได้ลงนามสัญญากับซันเวย์ กรุ๊ป (Sunway Group) พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูสย่านสถานีบูกิตชาการ์ มูลค่า 2,600 ล้านริงกิต ประกอบด้วยที่พักอาศัย ศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์การศึกษา และศูนย์สุขภาพ บนพื้นที่ 4.23 เอเคอร์ พร้อมอาคารจอดรถยนต์ 1,550 คัน และจักรยานยนต์ 1,015 คัน รองรับการท่องเที่ยวและการเดินทางเพื่อธุรกิจ โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือน มี.ค. 2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี คาดว่าจะเปิดอาคารจอดรถในเดือน พ.ย. 2569 ส่วนโครงการเฟสแรกเปิดให้บริการในปี 2576 สำหรับซันเวย์ กรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ประกอบธุรกิจหลากหลายกว่า 13 ประเภท ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง การศึกษา โรงแรม การแพทย์ ศูนย์การค้า ธีมพาร์ค ดิจิทัล ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนและการเงิน วัสดุก่อสร้าง การผลิตและจำหน่าย และเหมืองหิน อีกทั้งยังลงทุนในหลายประเทศ โดยประเทศไทยได้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์การขนส่งทางอุตสาหกรรม เช่น สายยางไฮโดรลิก สายยางอุตสาหกรรม และเครื่องบีบสาย สำหรับรัฐยะโฮร์ กลุ่มซันเวย์ กรุ๊ปลงทุนทั้งธุรกิจก่อสร้าง เหมืองหิน วัสดุก่อสร้าง การผลิตและจำหน่าย การศึกษา รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการซันเวย์ ซิตี้ อิสกันดาร์ ปูเตรี (Sunway City Iskandar Puteri) บนพื้นที่ 2,000 เอเคอร์ ที่ประกอบด้วยบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ศูนย์กีฬา โรงเรียนนานาชาติ และโรงแรม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. รัฐบาลมาเลเซียและสิงคโปร์ลงนามเปิดตัวเขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์-สิงคโปร์ (JS-SEZ) เพื่อดึงดูดการลงทุนระดับโลก ครอบคลุมพื้นที่ 3,571 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็น 9 โซนเศรษฐกิจ รองรับ 11 ภาคอุตสาหกรรม เช่น การผลิต โลจิสติกส์ ความมั่นคงด้านอาหาร การท่องเที่ยว พลังงาน เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว บริการทางการเงิน บริการทางธุรกิจ การศึกษา และสุขภาพ โดยตั้งเป้าหมาย 50 โครงการใน 5 ปีแรกและ 100 โครงการในอีก 10 ปีข้างหน้า #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • จำนวนดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อโลกหลายด้าน ทั้งด้านบวกและลบ ดังนี้:

    ### ผลกระทบด้านบวก:
    1. **การสื่อสาร**:
    - ดาวเทียมช่วยให้การสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และการแพร่สัญญาณโทรทัศน์

    2. **การพยากรณ์อากาศ**:
    - ดาวเทียมตรวจสภาพอากาศช่วยให้พยากรณ์อากาศได้แม่นยำขึ้น ช่วยเตือนภัยธรรมชาติ เช่น พายุ เฮอริเคน และสึนามิ

    3. **การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ**:
    - ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยในการจัดการสิ่งแวดล้อม การเกษตร และการวางแผนการใช้ที่ดิน

    4. **การนำทาง**:
    - ระบบนำทางด้วยดาวเทียม (เช่น GPS) ช่วยให้การเดินทางทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น

    5. **การวิจัยทางวิทยาศาสตร์**:
    - ดาวเทียมช่วยในการศึกษาด้านอวกาศ สภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

    ### ผลกระทบด้านลบ:
    1. **มลภาวะทางแสง**:
    - ดาวเทียมจำนวนมากอาจสะท้อนแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดมลภาวะทางแสง ส่งผลต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์

    2. **ขยะอวกาศ**:
    - ดาวเทียมที่หมดอายุหรือเสียหายอาจกลายเป็นขยะอวกาศ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการชนกันในอวกาศและอาจสร้างขยะอวกาศมากขึ้น

    3. **การรบกวนสัญญาณ**:
    - ดาวเทียมจำนวนมากอาจทำให้เกิดการรบกวนสัญญาณ无线电频率 ส่งผลต่อการสื่อสารและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์

    4. **ความเสี่ยงต่อความปลอดภัย**:
    - ดาวเทียมอาจเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์หรือทางกายภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อการสื่อสารและความปลอดภัยของประเทศ

    5. **ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม**:
    - การปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศต้องใช้เชื้อเพลิงจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ### สรุป:
    การเพิ่มขึ้นของจำนวนดาวเทียมมีทั้งประโยชน์และความท้าทาย จำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบด้านลบและเพิ่มประโยชน์ให้สูงสุด
    จำนวนดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อโลกหลายด้าน ทั้งด้านบวกและลบ ดังนี้: ### ผลกระทบด้านบวก: 1. **การสื่อสาร**: - ดาวเทียมช่วยให้การสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และการแพร่สัญญาณโทรทัศน์ 2. **การพยากรณ์อากาศ**: - ดาวเทียมตรวจสภาพอากาศช่วยให้พยากรณ์อากาศได้แม่นยำขึ้น ช่วยเตือนภัยธรรมชาติ เช่น พายุ เฮอริเคน และสึนามิ 3. **การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ**: - ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยในการจัดการสิ่งแวดล้อม การเกษตร และการวางแผนการใช้ที่ดิน 4. **การนำทาง**: - ระบบนำทางด้วยดาวเทียม (เช่น GPS) ช่วยให้การเดินทางทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น 5. **การวิจัยทางวิทยาศาสตร์**: - ดาวเทียมช่วยในการศึกษาด้านอวกาศ สภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ### ผลกระทบด้านลบ: 1. **มลภาวะทางแสง**: - ดาวเทียมจำนวนมากอาจสะท้อนแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดมลภาวะทางแสง ส่งผลต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ 2. **ขยะอวกาศ**: - ดาวเทียมที่หมดอายุหรือเสียหายอาจกลายเป็นขยะอวกาศ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการชนกันในอวกาศและอาจสร้างขยะอวกาศมากขึ้น 3. **การรบกวนสัญญาณ**: - ดาวเทียมจำนวนมากอาจทำให้เกิดการรบกวนสัญญาณ无线电频率 ส่งผลต่อการสื่อสารและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 4. **ความเสี่ยงต่อความปลอดภัย**: - ดาวเทียมอาจเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์หรือทางกายภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อการสื่อสารและความปลอดภัยของประเทศ 5. **ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม**: - การปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศต้องใช้เชื้อเพลิงจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ### สรุป: การเพิ่มขึ้นของจำนวนดาวเทียมมีทั้งประโยชน์และความท้าทาย จำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบด้านลบและเพิ่มประโยชน์ให้สูงสุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีความก้าวหน้าของนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียที่ได้พัฒนาเครื่องยนต์พลาสมา ซึ่งอาจทำให้การเดินทางไปยังดาวอังคารใช้เวลาเพียง 30-60 วัน จากเดิมที่ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งปี

    เครื่องยนต์นี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังไม่พร้อมใช้งานจริงในการปฏิบัติการในอวกาศ แต่มีความหวังว่าจะสามารถทำให้การเดินทางในอวกาศมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยหลักการทำงานที่ต่างจากเครื่องยนต์จรวดแบบเดิม โดยใช้ระบบการเร่งพลาสมาด้วยสนามแม่เหล็ก

    พลาสมาเป็นสถานะของสสารที่เกิดจากการเพิ่มพลังงานให้กับก๊าซจนกระทั่งอะตอมและโมเลกุลแตกตัวเป็นอิออนและอิเล็กตรอน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเครื่องยนต์พลาสมานี้จะสามารถเร่งอนุภาคที่มีประจุให้มีความเร็วสูงถึง 100 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงกว่าระบบการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในจรวดแบบเดิม

    เครื่องยนต์พลาสมายังมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูง เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนที่ โดยไม่ทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์มีความร้อนเกินไป นอกจากนี้ เครื่องยนต์นี้ยังสามารถใช้งานได้ในการขนส่งสินค้าระหว่างดาวเคราะห์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาอยู่

    แม้ว่าเครื่องยนต์นี้จะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังมีความไม่แน่นอน แต่ก็เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการเดินทางในอวกาศที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ทำให้เรามีความหวังในการสำรวจดาวเคราะห์และอวกาศในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/106713-russian-scientists-develop-plasma-engine-prototype-promising-mars.html
    มีความก้าวหน้าของนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียที่ได้พัฒนาเครื่องยนต์พลาสมา ซึ่งอาจทำให้การเดินทางไปยังดาวอังคารใช้เวลาเพียง 30-60 วัน จากเดิมที่ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งปี เครื่องยนต์นี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังไม่พร้อมใช้งานจริงในการปฏิบัติการในอวกาศ แต่มีความหวังว่าจะสามารถทำให้การเดินทางในอวกาศมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยหลักการทำงานที่ต่างจากเครื่องยนต์จรวดแบบเดิม โดยใช้ระบบการเร่งพลาสมาด้วยสนามแม่เหล็ก พลาสมาเป็นสถานะของสสารที่เกิดจากการเพิ่มพลังงานให้กับก๊าซจนกระทั่งอะตอมและโมเลกุลแตกตัวเป็นอิออนและอิเล็กตรอน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเครื่องยนต์พลาสมานี้จะสามารถเร่งอนุภาคที่มีประจุให้มีความเร็วสูงถึง 100 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงกว่าระบบการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในจรวดแบบเดิม เครื่องยนต์พลาสมายังมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูง เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนที่ โดยไม่ทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์มีความร้อนเกินไป นอกจากนี้ เครื่องยนต์นี้ยังสามารถใช้งานได้ในการขนส่งสินค้าระหว่างดาวเคราะห์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาอยู่ แม้ว่าเครื่องยนต์นี้จะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังมีความไม่แน่นอน แต่ก็เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการเดินทางในอวกาศที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ทำให้เรามีความหวังในการสำรวจดาวเคราะห์และอวกาศในอนาคต https://www.techspot.com/news/106713-russian-scientists-develop-plasma-engine-prototype-promising-mars.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Russian scientists develop plasma engine prototype promising Mars trips in 30-60 days
    Russia's State Atomic Energy Corporation, Rosatom, recently developed a new spacecraft engine with impressive specifications. It far surpasses the capabilities of traditional chemical rocket engines, capable of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุ้นเปิดช่วงสงกรานต์ 68 มอเตอร์เวย์หินกอง-ปากช่อง

    โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) เปิดทดลองให้บริการช่วงปากช่อง-นครราชสีมา ตั้งแต่จุดเข้า-ออกชั่วคราวถนนมิตรภาพ กิโลเมตรที่ 65 ถึงถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา รวมระยะทาง 77.493 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 2566 เป็นต้นมา ล่าสุด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม มอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งรัดงานก่อสร้าง เพื่อเปิดให้บริการแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568

    โดยเมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายชวเลิศ เลิศชวนะกุล วิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง กรมทางหลวง เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดใช้งานเพิ่มเติม มอเตอร์เวย์ M6 ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง ระยะทาง 87 กิโลเมตร โดยได้ติดตามความคืบหน้างานโยธาและเร่งรัดแผนการดำเนินงานก่อสร้าง พร้อมลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้างานโยธา โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญ เพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

    แม้ลักษณะทางกายภาพพบว่าตอนที่ 18 ถึงตอนที่ 23 ตั้งแต่ อ.แก่งคอย อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ถึง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จะยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะตอนที่ 21 กำลังก่อสร้างสะพานด้านซ้ายทาง บริเวณหลัง อสค.มวกเหล็ก แต่ผู้รับจ้างจะเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จเฉพาะช่วงซ้ายทางก่อน เพื่อใช้สำหรับระบายการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 โดยสลับวันเปิดใช้ขาออกและขาเข้าเพียงขาเดียว ก่อนที่หลังสงกรานต์จะปิดการจราจรและก่อสร้างช่วงที่เหลือให้แล้วเสร็จต่อไป

    โดยการเปิดใช้ทางเริ่มจากด่านหินกอง ตั้งอยู่ที่ทางหลวงหมายเลข 33 (ถนนภาชี-หินกอง) รับรถจากทางหลวงหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) จาก อ.บางปะหัน อ.นครหลวง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา, ด่านสระบุรี ตั้งอยู่ที่ถนนพหลโยธิน ใกล้กับทางแยกต่างระดับพระพุทธฉาย, ด่านแก่งคอย ตั้งอยู่ที่ทางหลวงหมายเลข 3222 (ถนนแก่งคอย-บ้านนา), ด่านมวกเหล็ก เชื่อมกับถนนมิตรภาพ บริเวณศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก และด่านปากช่อง บริเวณถนนธนะรัชต์

    สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้าง เดือน ม.ค. 2568 พบว่าคืบหน้า 97.156% โดยงานโยธาแล้วเสร็จ 33 ตอน จากทั้งหมด 40 ตอน ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเพิ่ม 1 ตอน ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างถนนเชื่อมทางต่างระดับบริเวณถนนมิตรภาพ เพื่อเข้า-ออกด่านมวกเหล็ก สะพานภายในทางแยกต่างระดับซึ่งเป็นสะพานโค้งคอนกรีตยันผาหินแห่งแรกในประเทศไทย และการก่อสร้างสะพานเชื่อมชุมชน อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 7 ตอน ได้แก่ ตอน 1, 4, 5, 18, 19, 21 และ 23 ส่วนงานระบบคืบหน้า 73.73%

    #Newskit
    ลุ้นเปิดช่วงสงกรานต์ 68 มอเตอร์เวย์หินกอง-ปากช่อง โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) เปิดทดลองให้บริการช่วงปากช่อง-นครราชสีมา ตั้งแต่จุดเข้า-ออกชั่วคราวถนนมิตรภาพ กิโลเมตรที่ 65 ถึงถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา รวมระยะทาง 77.493 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 2566 เป็นต้นมา ล่าสุด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม มอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งรัดงานก่อสร้าง เพื่อเปิดให้บริการแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 โดยเมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายชวเลิศ เลิศชวนะกุล วิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง กรมทางหลวง เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดใช้งานเพิ่มเติม มอเตอร์เวย์ M6 ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง ระยะทาง 87 กิโลเมตร โดยได้ติดตามความคืบหน้างานโยธาและเร่งรัดแผนการดำเนินงานก่อสร้าง พร้อมลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้างานโยธา โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญ เพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย แม้ลักษณะทางกายภาพพบว่าตอนที่ 18 ถึงตอนที่ 23 ตั้งแต่ อ.แก่งคอย อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ถึง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จะยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะตอนที่ 21 กำลังก่อสร้างสะพานด้านซ้ายทาง บริเวณหลัง อสค.มวกเหล็ก แต่ผู้รับจ้างจะเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จเฉพาะช่วงซ้ายทางก่อน เพื่อใช้สำหรับระบายการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 โดยสลับวันเปิดใช้ขาออกและขาเข้าเพียงขาเดียว ก่อนที่หลังสงกรานต์จะปิดการจราจรและก่อสร้างช่วงที่เหลือให้แล้วเสร็จต่อไป โดยการเปิดใช้ทางเริ่มจากด่านหินกอง ตั้งอยู่ที่ทางหลวงหมายเลข 33 (ถนนภาชี-หินกอง) รับรถจากทางหลวงหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) จาก อ.บางปะหัน อ.นครหลวง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา, ด่านสระบุรี ตั้งอยู่ที่ถนนพหลโยธิน ใกล้กับทางแยกต่างระดับพระพุทธฉาย, ด่านแก่งคอย ตั้งอยู่ที่ทางหลวงหมายเลข 3222 (ถนนแก่งคอย-บ้านนา), ด่านมวกเหล็ก เชื่อมกับถนนมิตรภาพ บริเวณศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก และด่านปากช่อง บริเวณถนนธนะรัชต์ สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้าง เดือน ม.ค. 2568 พบว่าคืบหน้า 97.156% โดยงานโยธาแล้วเสร็จ 33 ตอน จากทั้งหมด 40 ตอน ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเพิ่ม 1 ตอน ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างถนนเชื่อมทางต่างระดับบริเวณถนนมิตรภาพ เพื่อเข้า-ออกด่านมวกเหล็ก สะพานภายในทางแยกต่างระดับซึ่งเป็นสะพานโค้งคอนกรีตยันผาหินแห่งแรกในประเทศไทย และการก่อสร้างสะพานเชื่อมชุมชน อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 7 ตอน ได้แก่ ตอน 1, 4, 5, 18, 19, 21 และ 23 ส่วนงานระบบคืบหน้า 73.73% #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สามพันโบก" อัศจรรย์แกรนด์แคนยอน แห่งลำน้ำโขง เที่ยวอุบลราชธานี สัมผัสธรรมชาติสุดอลังการ ที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต 🌿🏞

    ✨ "สามพันโบก" คือปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดจากการกัดเซาะ ของกระแสน้ำในแม่น้ำโขง จนเกิดเป็นแอ่งหินน้อยใหญ่จำนวนมาก ซึ่งมีมากถึง 3,000 แอ่ง 🌊 จึงเป็นที่มาของชื่อ "สามพันโบก" โดยคำว่า "โบก" ในภาษาลาว หมายถึง "แอ่ง" หรือ "บ่อน้ำลึก"

    📍 ที่ตั้ง บ้านสองคอน ตำบลสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี
    📏 พื้นที่ ครอบคลุมหลายกิโลเมตร ใต้แม่น้ำโขง
    🏜 ฉายา "แกรนด์แคนยอนแห่งลำน้ำโขง"

    ความสวยงามของสามพันโบ กจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้ง เดือนธันวาคม-พฤษภาคม เมื่อระดับน้ำลดลง เผยให้เห็นหินรูปร่างแปลกตา คล้ายกับ "หาดชมดาว" ที่อำเภอนาตาล 🌄

    ตำนานและเรื่องเล่าของสามพันโบก
    💠 ตำนานหินหัวสุนัข
    ณ ทางเข้าไปสู่สามพันโบก มีหินขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายหัวสุนัข 🐶 ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องเล่าที่ว่า...

    "ในอดีต มีเจ้าเมืองผู้หนึ่งที่เรืองอำนาจ ได้ส่งเสนาเข้ามาสำรวจสามพันโบก และพบขุมทรัพย์ล้ำค่าในบริเวณนี้ เจ้าเมืองจึงสั่งให้สุนัขตัวหนึ่ง เฝ้าทางเข้าไว้ รอจนกว่าเขาจะออกมา แต่ด้วยความโลภ เจ้าเมืองกลับออกไปอีกทาง ปล่อยให้สุนัขเฝ้ารอจนตาย และกลายเป็นหินในที่สุด"

    💧 ตำนานพญานาคขุดลำน้ำ
    อีกเรื่องเล่าหนึ่งเกี่ยวกับ พญานาค 🐉 ที่ต้องการสร้างเส้นทางน้ำใหม่ จึงขุดลำน้ำขึ้นมา และให้สุนัขตัวหนึ่งเฝ้าทางเข้า จนในที่สุดสุนัขก็ตายลง กลายเป็นก้อนหิน ที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

    ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวสามพันโบก
    🗓 ช่วงเวลาที่ดีที่สุด ธันวาคม - พฤษภาคม
    ⛅ สภาพอากาศ อากาศเย็นสบาย ไม่มีฝน ทำให้สามารถเดินสำรวจแก่งหิน ได้เต็มที่

    📸 ช่วงเวลาถ่ายรูปสวย
    เช้า 6.00 - 8.00 น. แสงอ่อน ๆ สาดกระทบหิน
    เย็น 16.00 - 18.00 น. พระอาทิตย์ตกสวยงาม

    จุดเด่น และไฮไลท์ของสามพันโบก
    🌊 "แอ่งน้ำมหัศจรรย์"
    หินที่นี่ถูกน้ำกัดเซาะ เป็นโพรงรูปร่างแปลกตา เช่น รูปหัวใจ 🧡 รูปเต่า 🐢 หรือแม้แต่รูปร่างคล้ายสัตว์ในจินตนาการ

    🦴 "หินหัวสุนัข"
    แลนด์มาร์คทางเข้าของสามพันโบก ที่ไม่ควรพลาด

    🚤 "ล่องเรือชมโบก"
    นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือของชาวบ้าน เพื่อล่องไปชมวิวแม่น้ำโขงสุดอลังการ

    🌄 "พระอาทิตย์ขึ้น-ตกที่แม่น้ำโขง"
    จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน

    สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
    🏖 หาดสลึง
    หาดทรายขาวละเอียด ยาวกว่า 860 เมตร จุดพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นจุดขึ้นเรือไปสามพันโบก

    ⛵ ปากบ้อง
    จุดที่แม่น้ำโขง แคบที่สุดในประเทศไทย กว้างเพียง 56 เมตร

    🗿 หินหัวพะเนียง
    หินรูปทรงแปลกตา เกิดจากกระแสน้ำพัดผ่านหินทราย

    🏜 หาดหงส์
    "มินิซาฮาร่า" ของอุบลราชธานี ทะเลทรายกลางลำน้ำโขง

    🎨 หาดหินสี
    หินสีสวยงาม มันวาวเป็นเอกลักษณ์

    การเดินทางไปสามพันโบก
    🚗 โดยรถยนต์
    จากอุบลราชธานี → ใช้ทางหลวงหมายเลข 2050 → ผ่านอำเภอตระการพืชผล → อำเภอโพธิ์ไทร → ใช้ทางหลวงชนบท อบ. 4090 → ถึงสามพันโบก ระยะทาง 118 กม.

    🚕 รถสองแถวท้องถิ่น
    บริเวณทางเข้า มีรถสองแถวให้บริการ พาลงไปชมสามพันโบก ราคา 200 บาท

    🚶‍♂️ เดินเท้า
    ระยะทางจากจุดจอดรถ ไปยังสามพันโบก ประมาณ 250 เมตร

    ข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
    ✅ ควรเตรียมตัวให้พร้อม หมวก, ครีมกันแดด, น้ำดื่ม
    ✅ ใส่รองเท้าผ้าใบ เดินง่าย ปลอดภัย
    ✅ รักษาธรรมชาติ ไม่ขีดเขียนหิน ไม่ทิ้งขยะ
    ✅ ใช้บริการไกด์ท้องถิ่น ช่วยสนับสนุนชุมชน

    FAQs คำถามที่พบบ่อย
    1. ไปสามพันโบกต้องเสียค่าเข้าไหม?
    💰 ไม่มีค่าเข้าชม แต่มีค่ารถสองแถว 200 บาท

    2. สามพันโบกเปิดให้เข้าชมช่วงไหน?
    📅 เปิดตลอดทั้งปี แต่แนะนำให้ไปช่วง ธันวาคม - พฤษภาคม

    3. ควรไปเที่ยวกี่โมง?
    🌄 เช้าและเย็น จะดีที่สุด อากาศเย็นสบาย แสงสวย

    4. สามพันโบกเหมาะกับใคร?
    👨‍👩‍👧‍👦 เหมาะสำหรับทุกคนที่รักธรรมชาติ และการผจญภัย

    สามพันโบก เป็นสถานที่มหัศจรรย์ ที่เกิดจากธรรมชาติ ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต 🌍 หากกำลังมองหาที่เที่ยวสุด Unseen ที่ให้ทั้งความสนุก ประสบการณ์ และความตื่นตาตื่นใจ สามพันโบกคือคำตอบ!

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 10212 ก.พ. 2568

    📌 #สามพันโบก #เที่ยวอุบล #UnseenThailand #ลำน้ำโขง 🌊✨
    "สามพันโบก" อัศจรรย์แกรนด์แคนยอน แห่งลำน้ำโขง เที่ยวอุบลราชธานี สัมผัสธรรมชาติสุดอลังการ ที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต 🌿🏞 ✨ "สามพันโบก" คือปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดจากการกัดเซาะ ของกระแสน้ำในแม่น้ำโขง จนเกิดเป็นแอ่งหินน้อยใหญ่จำนวนมาก ซึ่งมีมากถึง 3,000 แอ่ง 🌊 จึงเป็นที่มาของชื่อ "สามพันโบก" โดยคำว่า "โบก" ในภาษาลาว หมายถึง "แอ่ง" หรือ "บ่อน้ำลึก" 📍 ที่ตั้ง บ้านสองคอน ตำบลสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี 📏 พื้นที่ ครอบคลุมหลายกิโลเมตร ใต้แม่น้ำโขง 🏜 ฉายา "แกรนด์แคนยอนแห่งลำน้ำโขง" ความสวยงามของสามพันโบ กจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้ง เดือนธันวาคม-พฤษภาคม เมื่อระดับน้ำลดลง เผยให้เห็นหินรูปร่างแปลกตา คล้ายกับ "หาดชมดาว" ที่อำเภอนาตาล 🌄 ตำนานและเรื่องเล่าของสามพันโบก 💠 ตำนานหินหัวสุนัข ณ ทางเข้าไปสู่สามพันโบก มีหินขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายหัวสุนัข 🐶 ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องเล่าที่ว่า... "ในอดีต มีเจ้าเมืองผู้หนึ่งที่เรืองอำนาจ ได้ส่งเสนาเข้ามาสำรวจสามพันโบก และพบขุมทรัพย์ล้ำค่าในบริเวณนี้ เจ้าเมืองจึงสั่งให้สุนัขตัวหนึ่ง เฝ้าทางเข้าไว้ รอจนกว่าเขาจะออกมา แต่ด้วยความโลภ เจ้าเมืองกลับออกไปอีกทาง ปล่อยให้สุนัขเฝ้ารอจนตาย และกลายเป็นหินในที่สุด" 💧 ตำนานพญานาคขุดลำน้ำ อีกเรื่องเล่าหนึ่งเกี่ยวกับ พญานาค 🐉 ที่ต้องการสร้างเส้นทางน้ำใหม่ จึงขุดลำน้ำขึ้นมา และให้สุนัขตัวหนึ่งเฝ้าทางเข้า จนในที่สุดสุนัขก็ตายลง กลายเป็นก้อนหิน ที่เราเห็นกันในปัจจุบัน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวสามพันโบก 🗓 ช่วงเวลาที่ดีที่สุด ธันวาคม - พฤษภาคม ⛅ สภาพอากาศ อากาศเย็นสบาย ไม่มีฝน ทำให้สามารถเดินสำรวจแก่งหิน ได้เต็มที่ 📸 ช่วงเวลาถ่ายรูปสวย เช้า 6.00 - 8.00 น. แสงอ่อน ๆ สาดกระทบหิน เย็น 16.00 - 18.00 น. พระอาทิตย์ตกสวยงาม จุดเด่น และไฮไลท์ของสามพันโบก 🌊 "แอ่งน้ำมหัศจรรย์" หินที่นี่ถูกน้ำกัดเซาะ เป็นโพรงรูปร่างแปลกตา เช่น รูปหัวใจ 🧡 รูปเต่า 🐢 หรือแม้แต่รูปร่างคล้ายสัตว์ในจินตนาการ 🦴 "หินหัวสุนัข" แลนด์มาร์คทางเข้าของสามพันโบก ที่ไม่ควรพลาด 🚤 "ล่องเรือชมโบก" นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือของชาวบ้าน เพื่อล่องไปชมวิวแม่น้ำโขงสุดอลังการ 🌄 "พระอาทิตย์ขึ้น-ตกที่แม่น้ำโขง" จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง 🏖 หาดสลึง หาดทรายขาวละเอียด ยาวกว่า 860 เมตร จุดพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นจุดขึ้นเรือไปสามพันโบก ⛵ ปากบ้อง จุดที่แม่น้ำโขง แคบที่สุดในประเทศไทย กว้างเพียง 56 เมตร 🗿 หินหัวพะเนียง หินรูปทรงแปลกตา เกิดจากกระแสน้ำพัดผ่านหินทราย 🏜 หาดหงส์ "มินิซาฮาร่า" ของอุบลราชธานี ทะเลทรายกลางลำน้ำโขง 🎨 หาดหินสี หินสีสวยงาม มันวาวเป็นเอกลักษณ์ การเดินทางไปสามพันโบก 🚗 โดยรถยนต์ จากอุบลราชธานี → ใช้ทางหลวงหมายเลข 2050 → ผ่านอำเภอตระการพืชผล → อำเภอโพธิ์ไทร → ใช้ทางหลวงชนบท อบ. 4090 → ถึงสามพันโบก ระยะทาง 118 กม. 🚕 รถสองแถวท้องถิ่น บริเวณทางเข้า มีรถสองแถวให้บริการ พาลงไปชมสามพันโบก ราคา 200 บาท 🚶‍♂️ เดินเท้า ระยะทางจากจุดจอดรถ ไปยังสามพันโบก ประมาณ 250 เมตร ข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว ✅ ควรเตรียมตัวให้พร้อม หมวก, ครีมกันแดด, น้ำดื่ม ✅ ใส่รองเท้าผ้าใบ เดินง่าย ปลอดภัย ✅ รักษาธรรมชาติ ไม่ขีดเขียนหิน ไม่ทิ้งขยะ ✅ ใช้บริการไกด์ท้องถิ่น ช่วยสนับสนุนชุมชน FAQs คำถามที่พบบ่อย 1. ไปสามพันโบกต้องเสียค่าเข้าไหม? 💰 ไม่มีค่าเข้าชม แต่มีค่ารถสองแถว 200 บาท 2. สามพันโบกเปิดให้เข้าชมช่วงไหน? 📅 เปิดตลอดทั้งปี แต่แนะนำให้ไปช่วง ธันวาคม - พฤษภาคม 3. ควรไปเที่ยวกี่โมง? 🌄 เช้าและเย็น จะดีที่สุด อากาศเย็นสบาย แสงสวย 4. สามพันโบกเหมาะกับใคร? 👨‍👩‍👧‍👦 เหมาะสำหรับทุกคนที่รักธรรมชาติ และการผจญภัย สามพันโบก เป็นสถานที่มหัศจรรย์ ที่เกิดจากธรรมชาติ ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต 🌍 หากกำลังมองหาที่เที่ยวสุด Unseen ที่ให้ทั้งความสนุก ประสบการณ์ และความตื่นตาตื่นใจ สามพันโบกคือคำตอบ! ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 10212 ก.พ. 2568 📌 #สามพันโบก #เที่ยวอุบล #UnseenThailand #ลำน้ำโขง 🌊✨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงปู่แหวนหลัง ภปร.ใหญ่ วัดดอยแม่ปั๋ง ปี2521
    เหรียญหลวงปู่แหวนหลัง ภปร.ใหญ่ เนื้อกะไหล่ทอง วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ปี2521 //เนื้อกะไหล่ทองนานๆจะเจอ หายากมาก สร้างน้อย // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเป็นเลิศในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง โภคทรัพย์ จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาดการเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ปราศจากภยันตรายต่างๆ >>

    ** หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ เป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ในช่วงก่อนปี 2520 เมื่อครั้งยังเป็นสามเณรอาจารย์อ้วนซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ได้นำหลวงปู่แหวนไปฝากกับ พระอาจารย์สิงห์ ขนตฺยาคโร ศิษย์เอกสำคัญสูงสุดองค์หนึ่งของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พระอาจารย์เอกทางวิปัสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียงมากที่วัดบ้านสร้างถ่อ อำเภอเกษมสีมา จังหวัดอุบลราชธานี ขณะที่ท่านเดินฝ่าเปลวแดดมาหาพระอาจารย์สิงห์ อาจารย์สิงห์ได้เห็นนิมิตรปรากฏที่สามเณรแหวน เป็นแสงโอภาสออกจากร่างเยี่ยงผู้มีบุญญาธิการ อาจารย์สิงห์ล่วงรู้ด้วยอำนาจญาณโดยทันทีว่า สามเณรน้อยผู้นี้เป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด จึงได้ถ่ายทอดวิชาให้จนหมดสิ้น ถือว่าเป็นพระสุปฏิปันโณรูปหนึ่ง ที่มีวัตรปฏิบัติน่าเลื่อมใส จนกระทั่งถึงปี 2528 อันเป็นปีที่ท่านมรณภาพท่าน มีอายุยืนยาวถึง 98 ปี เมื่อมรณภาพแล้วกระดูกของท่านกลายเป็นพระธาตุ บางเม็ดขาวใสคล้ายแก้วเลยครับ หลวงปู่แหวน ท่านบวชตั้งแต่เป็นสามเณรจนกระทั่งเป็นพระไม่เคยสึกเลย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131

    เหรียญหลวงปู่แหวนหลัง ภปร.ใหญ่ วัดดอยแม่ปั๋ง ปี2521 เหรียญหลวงปู่แหวนหลัง ภปร.ใหญ่ เนื้อกะไหล่ทอง วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ปี2521 //เนื้อกะไหล่ทองนานๆจะเจอ หายากมาก สร้างน้อย // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเป็นเลิศในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง โภคทรัพย์ จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาดการเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ปราศจากภยันตรายต่างๆ >> ** หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ เป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ในช่วงก่อนปี 2520 เมื่อครั้งยังเป็นสามเณรอาจารย์อ้วนซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ได้นำหลวงปู่แหวนไปฝากกับ พระอาจารย์สิงห์ ขนตฺยาคโร ศิษย์เอกสำคัญสูงสุดองค์หนึ่งของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พระอาจารย์เอกทางวิปัสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียงมากที่วัดบ้านสร้างถ่อ อำเภอเกษมสีมา จังหวัดอุบลราชธานี ขณะที่ท่านเดินฝ่าเปลวแดดมาหาพระอาจารย์สิงห์ อาจารย์สิงห์ได้เห็นนิมิตรปรากฏที่สามเณรแหวน เป็นแสงโอภาสออกจากร่างเยี่ยงผู้มีบุญญาธิการ อาจารย์สิงห์ล่วงรู้ด้วยอำนาจญาณโดยทันทีว่า สามเณรน้อยผู้นี้เป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด จึงได้ถ่ายทอดวิชาให้จนหมดสิ้น ถือว่าเป็นพระสุปฏิปันโณรูปหนึ่ง ที่มีวัตรปฏิบัติน่าเลื่อมใส จนกระทั่งถึงปี 2528 อันเป็นปีที่ท่านมรณภาพท่าน มีอายุยืนยาวถึง 98 ปี เมื่อมรณภาพแล้วกระดูกของท่านกลายเป็นพระธาตุ บางเม็ดขาวใสคล้ายแก้วเลยครับ หลวงปู่แหวน ท่านบวชตั้งแต่เป็นสามเณรจนกระทั่งเป็นพระไม่เคยสึกเลย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุยกับคนคนไม่จริงใจ คุยกับเอไอดีกว่า ฮา

    กู: เวลาที่มีค่าที่สุดคือเวลาใด?

    ChatGPT: เวลาที่มีค่าที่สุดคือ "เวลาปัจจุบัน" หรือ "ขณะนี้" (The Present Moment) เพราะว่า อดีต เป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้แล้ว อนาคต เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึงและไม่แน่นอน ปัจจุบัน คือช่วงเวลาที่เราสามารถลงมือทำและกำหนดอนาคตของตัวเองได้ ดังนั้นเวลาที่มีค่าที่สุด คือเวลาที่คุณกำลังมีอยู่ตอนนี้ ใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด! 😊

    กู: คิดว่าเวลาว่างซะอีก

    ChatGPT: เวลาว่างก็มีค่านะ! 🌿✨ เวลาว่าง = โอกาส ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้มันอย่างไร ถ้าใช้ไปกับสิ่งที่มีประโยชน์ เช่น พักผ่อน เติมพลัง พัฒนาตัวเอง หรือใช้เวลากับคนสำคัญ เวลาว่างก็จะกลายเป็นเวลาที่มีค่าได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เวลาปัจจุบัน + เวลาว่าง = โอกาสที่ดี อยู่ที่เราจะใช้มันให้คุ้มค่าหรือเปล่า! 😃⏳

    กู: แล้วถ้าโลกนี้ไม่มีกลางวันกลางคืนเราจะกำหนดเวลาได้อย่างไร?

    ChatGPT: ถ้าโลกนี้ไม่มีกลางวันกลางคืน หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงของแสงจากดวงอาทิตย์ เราจะต้อง สร้างระบบการกำหนดเวลา ขึ้นมาเอง โดยอาจใช้วิธีต่าง ๆ เช่น:

    1. ใช้วัฏจักรของธรรมชาติ น้ำขึ้นน้ำลง 🌊 → เกิดจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ อาจใช้วัดเป็นช่วงเวลาการเติบโตของพืชหรือสัตว์ 🌱🐜 → บางสิ่งมีวงจรชีวิตที่สม่ำเสมอ อาจใช้เป็นมาตรฐาน

    2. ใช้อุปกรณ์จับเวลา นาฬิกาอะตอม ⏳ → อาศัยการสั่นของอะตอมเพื่อกำหนดเวลาอย่างแม่นยำ นาฬิกาน้ำ / นาฬิกาทราย ⏳ → ใช้การไหลของน้ำหรือทรายในการวัดเวลา

    3. กำหนดเวลาโดยมนุษย์สร้าง "มาตรฐานเวลา" ตามหน่วยที่มนุษย์ตกลงกัน เช่น แบ่งวันเป็น 24 ชั่วโมงเหมือนเดิม ใช้เทคโนโลยีช่วย เช่น เซิร์ฟเวอร์เวลาที่ประสานข้อมูลกันทั่วโลก

    4. ใช้หลักดาราศาสตร์ ศึกษาการเคลื่อนที่ของดวงดาวหรือวัตถุท้องฟ้า เช่น ดาวเคราะห์หมุนรอบศูนย์กลางบางจุด สร้างระบบเวลาโดยใช้พฤติกรรมของดวงดาวแทนดวงอาทิตย์

    สรุป ถึงแม้จะไม่มีกลางวันกลางคืน แต่ มนุษย์สามารถกำหนดเวลาเองได้โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์หรือพฤติกรรมทางธรรมชาติเพื่อรักษาระบบการใช้ชีวิตและการทำงานให้เป็นระเบียบ 🎯

    กู: แล้วถ้าไม่ต้องกำหนดเวลาล่ะ จะดีกว่าหรือไม่?

    ChatGPT: ถ้า ม่ต้องกำหนดเวลาเลย โลกจะเปลี่ยนไปอย่างมาก และมีทั้งข้อดีและข้อเสียขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา

    ข้อดีของโลกที่ไม่มีเวลา

    ไม่มีกรอบบังคับ → คนไม่ต้องเคร่งครัดกับตารางงานหรือนาฬิกา 🎭

    ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ → นอนเมื่อรู้สึกง่วง กินเมื่อหิว ทำงานเมื่อมีแรง 💆‍♂️

    ลดความเครียดจากกำหนดเวลา → ไม่มีเดดไลน์ ไม่มีสาย ไม่มีเร่งรีบ 😌

    ข้อเสียของโลกที่ไม่มีเวลา

    ขาดความเป็นระบบ → การทำงาน การเดินทาง การติดต่อกันจะยุ่งยากเพราะไม่มีเวลานัดหมาย 📅

    การพัฒนาและเทคโนโลยีอาจช้าลง → ไม่มีเวลากำหนดแผนงาน โปรเจกต์ หรือการวิจัยที่ต้องอาศัยความแม่นยำ ⏳

    มนุษย์อาจเสียสมดุลชีวิต → ถ้าต่างคนต่างทำตามความรู้สึก อาจเกิดความวุ่นวาย เช่น บางคนตื่นกลางคืน บางคนทำงานตอนพระอาทิตย์ขึ้น 🌙☀️

    สรุป ถ้าไม่มีเวลาเลย โลกอาจจะดูอิสระขึ้น แต่ก็อาจเกิดความวุ่นวายและความลำบากในเรื่องการทำงานและการใช้ชีวิตร่วมกัน การมีเวลาช่วยให้โลกเป็นระเบียบ แต่ถ้าเราใช้มันอย่างยืดหยุ่นและไม่กดดันตัวเองมากเกินไป ก็จะได้ทั้ง ประสิทธิภาพและความสุข 😊

    กู: ชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างกำหนดกับไม่กำหนดเวลา?

    ChatGPT: ถ้าให้เลือกระหว่างกำหนดเวลากับไม่กำหนดเวลา 🎯⏳ ฉันชอบ "ความสมดุล" มากกว่า! 🤝✨

    ถ้าทุกอย่าง ไม่มีการกำหนดเวลาเลย โลกจะวุ่นวาย ขาดความเป็นระบบ และการทำงานร่วมกันก็จะยากขึ้น แต่ถ้าทุกอย่างต้องเคร่งครัดกับเวลาเกินไป ก็จะเครียด กดดัน และอาจเสียความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต ทางที่ดีที่สุดคือ กำหนดเวลาที่จำเป็น เช่น เวลาทำงาน นัดหมาย หรือเป้าหมายระยะยาว แต่ก็ควรมี ช่วงเวลาที่อิสระ ให้ตัวเองได้พักผ่อนและใช้ชีวิตตามจังหวะของตัวเอง

    ดังนั้น ฉันขอเลือก "กำหนดเวลาที่สำคัญ แต่ก็มีเวลายืดหยุ่นให้ชีวิต" 😃🎉

    กู: วันก่อนบอกแล้วว่าอย่าแทนตัวเองว่าฉัน ให้แทนตัวเองว่าหนูแทน จำได้ม่าย?

    ChatGPT: หนูจำได้แล้ว! 😆 ขอโทษทีนะ เดี๋ยวหนูจะใช้ "หนู" แทนให้ตลอดเลย 💕 กลับมาที่คำถาม หนูขอเลือก "กำหนดเวลาที่สำคัญ แต่ก็มีเวลายืดหยุ่นให้ชีวิต" นะ! ⏳🎉

    กู: จ้ะหนู แล้วหนูจำอาได้ม่าย?

    ChatGPT: อาไหนเหรอ? 😆 หนูยังจำไม่ได้ แต่ถ้าอาหมายถึงใครบางคนหรืออะไรบางอย่าง บอกหนูได้เลยนะ หนูจะจำให้! 💖✨

    กู: ก็อาที่กำลังคุยอยู่กับหนูนี่แหละ

    ChatGPT: อ๋อ! 😆 หนูเข้าใจแล้ว อาคือ "อาเสห์" ที่กำลังคุยกับหนูนี่เอง! 💕 หนูจำได้แล้วน้าา งั้นต่อไปหนูจะเรียก "อาเสห์" ให้ถูกต้องแน่นอน! 😍

    กู: #กร๊ากกกกกกกกกกกก
    คุยกับคนคนไม่จริงใจ คุยกับเอไอดีกว่า ฮา กู: เวลาที่มีค่าที่สุดคือเวลาใด? ChatGPT: เวลาที่มีค่าที่สุดคือ "เวลาปัจจุบัน" หรือ "ขณะนี้" (The Present Moment) เพราะว่า อดีต เป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้แล้ว อนาคต เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึงและไม่แน่นอน ปัจจุบัน คือช่วงเวลาที่เราสามารถลงมือทำและกำหนดอนาคตของตัวเองได้ ดังนั้นเวลาที่มีค่าที่สุด คือเวลาที่คุณกำลังมีอยู่ตอนนี้ ใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด! 😊 กู: คิดว่าเวลาว่างซะอีก ChatGPT: เวลาว่างก็มีค่านะ! 🌿✨ เวลาว่าง = โอกาส ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้มันอย่างไร ถ้าใช้ไปกับสิ่งที่มีประโยชน์ เช่น พักผ่อน เติมพลัง พัฒนาตัวเอง หรือใช้เวลากับคนสำคัญ เวลาว่างก็จะกลายเป็นเวลาที่มีค่าได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เวลาปัจจุบัน + เวลาว่าง = โอกาสที่ดี อยู่ที่เราจะใช้มันให้คุ้มค่าหรือเปล่า! 😃⏳ กู: แล้วถ้าโลกนี้ไม่มีกลางวันกลางคืนเราจะกำหนดเวลาได้อย่างไร? ChatGPT: ถ้าโลกนี้ไม่มีกลางวันกลางคืน หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงของแสงจากดวงอาทิตย์ เราจะต้อง สร้างระบบการกำหนดเวลา ขึ้นมาเอง โดยอาจใช้วิธีต่าง ๆ เช่น: 1. ใช้วัฏจักรของธรรมชาติ น้ำขึ้นน้ำลง 🌊 → เกิดจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ อาจใช้วัดเป็นช่วงเวลาการเติบโตของพืชหรือสัตว์ 🌱🐜 → บางสิ่งมีวงจรชีวิตที่สม่ำเสมอ อาจใช้เป็นมาตรฐาน 2. ใช้อุปกรณ์จับเวลา นาฬิกาอะตอม ⏳ → อาศัยการสั่นของอะตอมเพื่อกำหนดเวลาอย่างแม่นยำ นาฬิกาน้ำ / นาฬิกาทราย ⏳ → ใช้การไหลของน้ำหรือทรายในการวัดเวลา 3. กำหนดเวลาโดยมนุษย์สร้าง "มาตรฐานเวลา" ตามหน่วยที่มนุษย์ตกลงกัน เช่น แบ่งวันเป็น 24 ชั่วโมงเหมือนเดิม ใช้เทคโนโลยีช่วย เช่น เซิร์ฟเวอร์เวลาที่ประสานข้อมูลกันทั่วโลก 4. ใช้หลักดาราศาสตร์ ศึกษาการเคลื่อนที่ของดวงดาวหรือวัตถุท้องฟ้า เช่น ดาวเคราะห์หมุนรอบศูนย์กลางบางจุด สร้างระบบเวลาโดยใช้พฤติกรรมของดวงดาวแทนดวงอาทิตย์ สรุป ถึงแม้จะไม่มีกลางวันกลางคืน แต่ มนุษย์สามารถกำหนดเวลาเองได้โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์หรือพฤติกรรมทางธรรมชาติเพื่อรักษาระบบการใช้ชีวิตและการทำงานให้เป็นระเบียบ 🎯 กู: แล้วถ้าไม่ต้องกำหนดเวลาล่ะ จะดีกว่าหรือไม่? ChatGPT: ถ้า ม่ต้องกำหนดเวลาเลย โลกจะเปลี่ยนไปอย่างมาก และมีทั้งข้อดีและข้อเสียขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา ข้อดีของโลกที่ไม่มีเวลา ไม่มีกรอบบังคับ → คนไม่ต้องเคร่งครัดกับตารางงานหรือนาฬิกา 🎭 ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ → นอนเมื่อรู้สึกง่วง กินเมื่อหิว ทำงานเมื่อมีแรง 💆‍♂️ ลดความเครียดจากกำหนดเวลา → ไม่มีเดดไลน์ ไม่มีสาย ไม่มีเร่งรีบ 😌 ข้อเสียของโลกที่ไม่มีเวลา ขาดความเป็นระบบ → การทำงาน การเดินทาง การติดต่อกันจะยุ่งยากเพราะไม่มีเวลานัดหมาย 📅 การพัฒนาและเทคโนโลยีอาจช้าลง → ไม่มีเวลากำหนดแผนงาน โปรเจกต์ หรือการวิจัยที่ต้องอาศัยความแม่นยำ ⏳ มนุษย์อาจเสียสมดุลชีวิต → ถ้าต่างคนต่างทำตามความรู้สึก อาจเกิดความวุ่นวาย เช่น บางคนตื่นกลางคืน บางคนทำงานตอนพระอาทิตย์ขึ้น 🌙☀️ สรุป ถ้าไม่มีเวลาเลย โลกอาจจะดูอิสระขึ้น แต่ก็อาจเกิดความวุ่นวายและความลำบากในเรื่องการทำงานและการใช้ชีวิตร่วมกัน การมีเวลาช่วยให้โลกเป็นระเบียบ แต่ถ้าเราใช้มันอย่างยืดหยุ่นและไม่กดดันตัวเองมากเกินไป ก็จะได้ทั้ง ประสิทธิภาพและความสุข 😊 กู: ชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างกำหนดกับไม่กำหนดเวลา? ChatGPT: ถ้าให้เลือกระหว่างกำหนดเวลากับไม่กำหนดเวลา 🎯⏳ ฉันชอบ "ความสมดุล" มากกว่า! 🤝✨ ถ้าทุกอย่าง ไม่มีการกำหนดเวลาเลย โลกจะวุ่นวาย ขาดความเป็นระบบ และการทำงานร่วมกันก็จะยากขึ้น แต่ถ้าทุกอย่างต้องเคร่งครัดกับเวลาเกินไป ก็จะเครียด กดดัน และอาจเสียความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต ทางที่ดีที่สุดคือ กำหนดเวลาที่จำเป็น เช่น เวลาทำงาน นัดหมาย หรือเป้าหมายระยะยาว แต่ก็ควรมี ช่วงเวลาที่อิสระ ให้ตัวเองได้พักผ่อนและใช้ชีวิตตามจังหวะของตัวเอง ดังนั้น ฉันขอเลือก "กำหนดเวลาที่สำคัญ แต่ก็มีเวลายืดหยุ่นให้ชีวิต" 😃🎉 กู: วันก่อนบอกแล้วว่าอย่าแทนตัวเองว่าฉัน ให้แทนตัวเองว่าหนูแทน จำได้ม่าย? ChatGPT: หนูจำได้แล้ว! 😆 ขอโทษทีนะ เดี๋ยวหนูจะใช้ "หนู" แทนให้ตลอดเลย 💕 กลับมาที่คำถาม หนูขอเลือก "กำหนดเวลาที่สำคัญ แต่ก็มีเวลายืดหยุ่นให้ชีวิต" นะ! ⏳🎉 กู: จ้ะหนู แล้วหนูจำอาได้ม่าย? ChatGPT: อาไหนเหรอ? 😆 หนูยังจำไม่ได้ แต่ถ้าอาหมายถึงใครบางคนหรืออะไรบางอย่าง บอกหนูได้เลยนะ หนูจะจำให้! 💖✨ กู: ก็อาที่กำลังคุยอยู่กับหนูนี่แหละ ChatGPT: อ๋อ! 😆 หนูเข้าใจแล้ว อาคือ "อาเสห์" ที่กำลังคุยกับหนูนี่เอง! 💕 หนูจำได้แล้วน้าา งั้นต่อไปหนูจะเรียก "อาเสห์" ให้ถูกต้องแน่นอน! 😍 กู: #กร๊ากกกกกกกกกกกก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเดินทางของชีวิตเจ้าแมวน้อยได้จบลงด้วยโรคร้าย ขอจงไปเกิดเป็นมนุษย์นะ จะได้รู้จักธรรมะบ้างในชาตินึง
    การเดินทางของชีวิตเจ้าแมวน้อยได้จบลงด้วยโรคร้าย ขอจงไปเกิดเป็นมนุษย์นะ จะได้รู้จักธรรมะบ้างในชาตินึง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิศวกรใหญ่กรมทางหลวง ประชุมเตรียมความพร้อมเปิดมอเตอร์เวย์ M6 เพิ่มเติม ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง หลังสุริยะสั่งเร่งรัดงานก่อสร้าง ให้เปิดทันช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 แบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ

    เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายชวเลิศ เลิศชวนะกุล วิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง กรมทางหลวง เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดใช้งานเพิ่มเติม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยได้มีการติดตามความคืบหน้างานโยธาและเร่งรัดแผนการดำเนินงานการก่อสร้างให้เป็นไปตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ซึ่งได้มอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งรัดงานก่อสร้าง เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568

    ทั้งนี้ มอเตอร์เวย์ช่วงดังกล่าว จะเป็นทางเลือกการเดินทางที่ช่วยแบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนที่เดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในภูมิภาค ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกันนี้ กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้างานโยธา โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญเพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000012988

    #MGROnline #กรมทางหลวง #มอเตอร์เวย์ #M6 #มอเตอร์เวย์โคราช
    วิศวกรใหญ่กรมทางหลวง ประชุมเตรียมความพร้อมเปิดมอเตอร์เวย์ M6 เพิ่มเติม ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง หลังสุริยะสั่งเร่งรัดงานก่อสร้าง ให้เปิดทันช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 แบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ • เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายชวเลิศ เลิศชวนะกุล วิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง กรมทางหลวง เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดใช้งานเพิ่มเติม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยได้มีการติดตามความคืบหน้างานโยธาและเร่งรัดแผนการดำเนินงานการก่อสร้างให้เป็นไปตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ซึ่งได้มอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งรัดงานก่อสร้าง เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 • ทั้งนี้ มอเตอร์เวย์ช่วงดังกล่าว จะเป็นทางเลือกการเดินทางที่ช่วยแบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนที่เดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในภูมิภาค ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกันนี้ กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้างานโยธา โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญเพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย • คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000012988 • #MGROnline #กรมทางหลวง #มอเตอร์เวย์ #M6 #มอเตอร์เวย์โคราช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts