• David Sacks ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า ช่องว่างระหว่างจีนกับสหรัฐในด้านการออกแบบชิปตอนนี้เหลือแค่ 1.5–2 ปีเท่านั้น โดยเฉพาะ Huawei ซึ่งแม้จะยังขาดกำลังผลิต GPU ขั้นสูง แต่สามารถหาทางออกด้วยการนำ ชิปเก่า 910B มาต่อรวมกันเป็น “910C” เพื่อเพิ่มพลังประมวลผลและหน่วยความจำให้ใกล้เคียง NVIDIA H100

    แม้จะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่สด แต่ถือเป็น “ทางเลือกภายในประเทศ” ที่ใช้งานจริงได้ และ Huawei เริ่มจะ ส่งออก AI Chip ไปยังลูกค้าต่างประเทศด้วย แล้ว

    Sacks เตือนว่า หากจีนสามารถผลิตและสร้าง ecosystem ที่แข็งแรงได้จริง สหรัฐอาจเสียตำแหน่งผู้นำในตลาดเทคโนโลยี AI — โดยเฉพาะถ้า การควบคุมการส่งออกของสหรัฐเข้มเกินไปจนกลายเป็น “ผลย้อนกลับ” ทำให้จีนหาทางพึ่งพาตนเองได้เร็วขึ้น

    ตัวอย่างหนึ่งคือรัฐบาล Trump ได้ “ยกเลิก” กฎในยุค Biden ที่จำกัดการส่งออก GPU ให้กับพันธมิตรบางประเทศ เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ทางการค้าในระยะยาว

    ✅ Huawei พัฒนาชิป AI รุ่น 910C โดยรวมชิป 910B สองตัวเข้าด้วยกัน  
    • ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียง NVIDIA H100  
    • ใช้ได้จริงกับตลาดในจีน และเตรียมขยายการส่งออก

    ✅ จีนกำลังลดช่องว่างด้านการออกแบบชิป เหลือห่างสหรัฐเพียง 1.5–2 ปี  
    • โดยเฉพาะบริษัทอย่าง Huawei ที่แก้เกมจากข้อจำกัดทางเทคนิคและการเมือง

    ✅ David Sacks เตือนว่า การควบคุมการส่งออกที่เข้มเกินไป อาจย้อนศร  
    • ทำให้คู่แข่งพึ่งพาตัวเองได้เร็ว และไม่ยอมรับมาตรฐานเทคโนโลยีของสหรัฐ

    ✅ Trump administration เลือกยกเลิกบางข้อจำกัดจากยุค Biden เพื่อรักษาฐานการค้าในระยะยาว

    ✅ แม้ผู้ก่อตั้ง Huawei ยอมรับว่า GPU ของตนยังล้าหลังกว่าคู่แข่ง แต่การสร้าง ecosystem และผลิตภัณฑ์ “ราคาเข้าถึงได้” อาจทำให้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/108400-us-tech-czar-warns-china-only-two-years.html
    David Sacks ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า ช่องว่างระหว่างจีนกับสหรัฐในด้านการออกแบบชิปตอนนี้เหลือแค่ 1.5–2 ปีเท่านั้น โดยเฉพาะ Huawei ซึ่งแม้จะยังขาดกำลังผลิต GPU ขั้นสูง แต่สามารถหาทางออกด้วยการนำ ชิปเก่า 910B มาต่อรวมกันเป็น “910C” เพื่อเพิ่มพลังประมวลผลและหน่วยความจำให้ใกล้เคียง NVIDIA H100 แม้จะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่สด แต่ถือเป็น “ทางเลือกภายในประเทศ” ที่ใช้งานจริงได้ และ Huawei เริ่มจะ ส่งออก AI Chip ไปยังลูกค้าต่างประเทศด้วย แล้ว Sacks เตือนว่า หากจีนสามารถผลิตและสร้าง ecosystem ที่แข็งแรงได้จริง สหรัฐอาจเสียตำแหน่งผู้นำในตลาดเทคโนโลยี AI — โดยเฉพาะถ้า การควบคุมการส่งออกของสหรัฐเข้มเกินไปจนกลายเป็น “ผลย้อนกลับ” ทำให้จีนหาทางพึ่งพาตนเองได้เร็วขึ้น ตัวอย่างหนึ่งคือรัฐบาล Trump ได้ “ยกเลิก” กฎในยุค Biden ที่จำกัดการส่งออก GPU ให้กับพันธมิตรบางประเทศ เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ทางการค้าในระยะยาว ✅ Huawei พัฒนาชิป AI รุ่น 910C โดยรวมชิป 910B สองตัวเข้าด้วยกัน   • ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียง NVIDIA H100   • ใช้ได้จริงกับตลาดในจีน และเตรียมขยายการส่งออก ✅ จีนกำลังลดช่องว่างด้านการออกแบบชิป เหลือห่างสหรัฐเพียง 1.5–2 ปี   • โดยเฉพาะบริษัทอย่าง Huawei ที่แก้เกมจากข้อจำกัดทางเทคนิคและการเมือง ✅ David Sacks เตือนว่า การควบคุมการส่งออกที่เข้มเกินไป อาจย้อนศร   • ทำให้คู่แข่งพึ่งพาตัวเองได้เร็ว และไม่ยอมรับมาตรฐานเทคโนโลยีของสหรัฐ ✅ Trump administration เลือกยกเลิกบางข้อจำกัดจากยุค Biden เพื่อรักษาฐานการค้าในระยะยาว ✅ แม้ผู้ก่อตั้ง Huawei ยอมรับว่า GPU ของตนยังล้าหลังกว่าคู่แข่ง แต่การสร้าง ecosystem และผลิตภัณฑ์ “ราคาเข้าถึงได้” อาจทำให้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในอนาคต https://www.techspot.com/news/108400-us-tech-czar-warns-china-only-two-years.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US tech czar warns China is only two years behind in semiconductor and chip design
    According to Sacks, Huawei is making swift progress in chip design and could soon begin exporting its hardware, although the company still faces challenges in producing high-end...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่าเมื่อก่อน Google หรือ search engine เข้ามาเก็บข้อมูลเว็บเรา 6 ครั้ง จะมีคนคลิกเข้ามาสัก 1 ครั้งเพื่ออ่านจริง เหมือนเรายังพอ “มีค่าตอบแทน” จากการเปิดบ้านให้บอทเข้าเก็บข้อมูล

    แต่ตอนนี้อะไรเปลี่ยนไปหมด — Google, OpenAI และ Anthropic ใช้ AI มาสรุปเนื้อหาให้คนเลยทันที ผู้ใช้ไม่ต้องคลิก ไม่ต้องเข้าเว็บ แค่แชตหรือดูคำตอบบนหน้าแรกก็จบแล้ว ส่งผลให้สัดส่วน crawler : คนคลิก ลดฮวบลงเหลือระดับ “น่าตกใจ” เช่น:

    - Google: จาก 6:1 → เหลือ 18:1
    - OpenAI: จาก 250:1 → เหลือ 1,500:1
    - Anthropic: จาก 6,000:1 → เหลือ 60,000:1

    ซีอีโอของ Cloudflare มองว่าถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ อินเทอร์เน็ตอาจเข้าสู่ยุค “เว็บผีไร้คนอ่าน” เพราะเจ้าของเว็บไม่มีแรงจูงใจในการผลิตเนื้อหาอีกแล้ว

    แม้ AI หลายรายเริ่ม “ใส่เครดิต” และลิงก์กลับไปยังต้นทาง แต่ Prince บอกว่า “ไม่มีใครคลิกจริง” เพราะตอนนี้ผู้คนเชื่อใจคำตอบของ AI มากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่รู้ตัวว่าอาจกำลังอ่านข้อมูล “ผิดหรือคลาดเคลื่อน”

    เพื่อสู้กับเรื่องนี้ Cloudflare พัฒนาเครื่องมือใหม่ชื่อว่า AI Labyrinth ซึ่งเป็นระบบดัก crawler ที่ลอบเก็บข้อมูลโดยไม่เคารพ robots.txt หรือกฎเว็บ โดยจะพามัน “หลงในวงกตลิงก์ AI ปลอม ๆ” เพื่อให้มันเสียเวลาและพลังประมวลผลไปกับของไม่มีค่า — เหมือน AI เจอกับ AI นั่นเอง

    ✅ AI search และ zero-click result กำลังทำให้เว็บไซต์สูญเสียผู้เข้าชมจำนวนมาก  
    • สัดส่วน bot : คนคลิกพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว  
    • ส่งผลต่อรายได้จากโฆษณาและความอยู่รอดของเว็บไซต์

    ✅ Cloudflare เตรียมต่อสู้ด้วยเครื่องมือชื่อ “AI Labyrinth” เพื่อเบี่ยงเบน bot ที่ไม่เคารพกฎ  
    • สร้างลิงก์หลอกและหน้าปลอมให้ bot “เดินหลง”  
    • ใช้ AI สู้กับ AI ด้วยตรรกะแบบป้องกัน

    ✅ Google และ OpenAI แม้จะใส่เครดิตในผลลัพธ์ AI แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่คลิกลิงก์  
    • ผู้ใช้ “เชื่อ” คำตอบของ AI มากขึ้น  
    • เพิ่มโอกาสการกระจายข้อมูลผิดหรือไม่ครบถ้วน

    ✅ Cloudflare เตือนว่าถ้าไม่แก้ไข โมเดลรายได้ของเว็บจะล่มสลาย  
    • นักเขียน ครีเอเตอร์ และเว็บคุณภาพอาจเลิกสร้างเนื้อหา  
    • เหลือเพียงอินเทอร์เน็ตที่มีแต่ bot คุยกับ bot

    https://www.techspot.com/news/108399-cloudflare-ceo-warns-ai-crawlers-summaries-eroding-internet.html
    ลองนึกภาพว่าเมื่อก่อน Google หรือ search engine เข้ามาเก็บข้อมูลเว็บเรา 6 ครั้ง จะมีคนคลิกเข้ามาสัก 1 ครั้งเพื่ออ่านจริง เหมือนเรายังพอ “มีค่าตอบแทน” จากการเปิดบ้านให้บอทเข้าเก็บข้อมูล แต่ตอนนี้อะไรเปลี่ยนไปหมด — Google, OpenAI และ Anthropic ใช้ AI มาสรุปเนื้อหาให้คนเลยทันที ผู้ใช้ไม่ต้องคลิก ไม่ต้องเข้าเว็บ แค่แชตหรือดูคำตอบบนหน้าแรกก็จบแล้ว ส่งผลให้สัดส่วน crawler : คนคลิก ลดฮวบลงเหลือระดับ “น่าตกใจ” เช่น: - Google: จาก 6:1 → เหลือ 18:1 - OpenAI: จาก 250:1 → เหลือ 1,500:1 - Anthropic: จาก 6,000:1 → เหลือ 60,000:1 ซีอีโอของ Cloudflare มองว่าถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ อินเทอร์เน็ตอาจเข้าสู่ยุค “เว็บผีไร้คนอ่าน” เพราะเจ้าของเว็บไม่มีแรงจูงใจในการผลิตเนื้อหาอีกแล้ว แม้ AI หลายรายเริ่ม “ใส่เครดิต” และลิงก์กลับไปยังต้นทาง แต่ Prince บอกว่า “ไม่มีใครคลิกจริง” เพราะตอนนี้ผู้คนเชื่อใจคำตอบของ AI มากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่รู้ตัวว่าอาจกำลังอ่านข้อมูล “ผิดหรือคลาดเคลื่อน” เพื่อสู้กับเรื่องนี้ Cloudflare พัฒนาเครื่องมือใหม่ชื่อว่า AI Labyrinth ซึ่งเป็นระบบดัก crawler ที่ลอบเก็บข้อมูลโดยไม่เคารพ robots.txt หรือกฎเว็บ โดยจะพามัน “หลงในวงกตลิงก์ AI ปลอม ๆ” เพื่อให้มันเสียเวลาและพลังประมวลผลไปกับของไม่มีค่า — เหมือน AI เจอกับ AI นั่นเอง ✅ AI search และ zero-click result กำลังทำให้เว็บไซต์สูญเสียผู้เข้าชมจำนวนมาก   • สัดส่วน bot : คนคลิกพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว   • ส่งผลต่อรายได้จากโฆษณาและความอยู่รอดของเว็บไซต์ ✅ Cloudflare เตรียมต่อสู้ด้วยเครื่องมือชื่อ “AI Labyrinth” เพื่อเบี่ยงเบน bot ที่ไม่เคารพกฎ   • สร้างลิงก์หลอกและหน้าปลอมให้ bot “เดินหลง”   • ใช้ AI สู้กับ AI ด้วยตรรกะแบบป้องกัน ✅ Google และ OpenAI แม้จะใส่เครดิตในผลลัพธ์ AI แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่คลิกลิงก์   • ผู้ใช้ “เชื่อ” คำตอบของ AI มากขึ้น   • เพิ่มโอกาสการกระจายข้อมูลผิดหรือไม่ครบถ้วน ✅ Cloudflare เตือนว่าถ้าไม่แก้ไข โมเดลรายได้ของเว็บจะล่มสลาย   • นักเขียน ครีเอเตอร์ และเว็บคุณภาพอาจเลิกสร้างเนื้อหา   • เหลือเพียงอินเทอร์เน็ตที่มีแต่ bot คุยกับ bot https://www.techspot.com/news/108399-cloudflare-ceo-warns-ai-crawlers-summaries-eroding-internet.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Cloudflare CEO warns AI crawlers and summaries are eroding the internet's business model
    Speaking at an Axios event in Cannes last week, Prince explained that search engines and chatbots using generative AI to summarize web content have significantly reduced the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจาก Intel เจอสารพัดปัญหาตั้งแต่ยอดขายตก ความล่าช้าทางเทคโนโลยี ไปจนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดกับ AMD, NVIDIA และ TSMC — ซีอีโอคนใหม่ก็ออกแนวทาง “ผ่าตัดโครงสร้าง” แบบไม่ไว้หน้าเดิม ๆ

    หนึ่งในมาตรการสำคัญคือ การยุบทีมการตลาดเดิมบางส่วน และเอาท์ซอร์ซงานให้กับบริษัทที่ปรึกษา Accenture โดยมี AI เป็นตัวหลักในการดำเนินงาน เช่น ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล, ทำ personalization อัตโนมัติ, และลดงาน routine ที่เคยต้องใช้คนทำ

    ผลลัพธ์คือ Intel ประกาศว่า “จะเหลือแค่ lean team” หรือทีมการตลาดขนาดเล็กมากเท่านั้น — โดยพนักงานที่ได้รับผลกระทบจะรู้ผลภายในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ และบางคนอาจถูกขอให้ “ช่วยฝึกงานให้กับ Accenture” ก่อนลาออกอีกด้วย

    กลยุทธ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางการพยายาม “กู้สถานะ” ของ Intel ที่เคยเป็นเบอร์หนึ่งด้านเทคโนโลยี แต่ตอนนี้กำลังตกบัลลังก์ และต้องปรับตัวให้ทันโลกที่ “AI ทำงานแทนคน” ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

    https://www.techspot.com/news/108402-intel-outsource-marketing-accenture-ai-cutting-house-staff.html
    หลังจาก Intel เจอสารพัดปัญหาตั้งแต่ยอดขายตก ความล่าช้าทางเทคโนโลยี ไปจนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดกับ AMD, NVIDIA และ TSMC — ซีอีโอคนใหม่ก็ออกแนวทาง “ผ่าตัดโครงสร้าง” แบบไม่ไว้หน้าเดิม ๆ หนึ่งในมาตรการสำคัญคือ การยุบทีมการตลาดเดิมบางส่วน และเอาท์ซอร์ซงานให้กับบริษัทที่ปรึกษา Accenture โดยมี AI เป็นตัวหลักในการดำเนินงาน เช่น ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล, ทำ personalization อัตโนมัติ, และลดงาน routine ที่เคยต้องใช้คนทำ ผลลัพธ์คือ Intel ประกาศว่า “จะเหลือแค่ lean team” หรือทีมการตลาดขนาดเล็กมากเท่านั้น — โดยพนักงานที่ได้รับผลกระทบจะรู้ผลภายในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ และบางคนอาจถูกขอให้ “ช่วยฝึกงานให้กับ Accenture” ก่อนลาออกอีกด้วย กลยุทธ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางการพยายาม “กู้สถานะ” ของ Intel ที่เคยเป็นเบอร์หนึ่งด้านเทคโนโลยี แต่ตอนนี้กำลังตกบัลลังก์ และต้องปรับตัวให้ทันโลกที่ “AI ทำงานแทนคน” ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ https://www.techspot.com/news/108402-intel-outsource-marketing-accenture-ai-cutting-house-staff.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel to outsource marketing to Accenture and AI, cutting in-house staff
    This move is expected to result in significant layoffs within Intel's marketing division, with most affected employees expected to learn their fate by July 11.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้อิสราเอลกำลังเผชิญการโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือปฏิบัติการไซเบอร์ หนึ่งในแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามคือ... แฮ็กกล้องวงจรปิดตามบ้านของประชาชน โดยเฉพาะกล้องที่ใช้รหัสผ่านเดิมจากโรงงาน หรือรหัสง่าย ๆ เดาง่าย เช่น “123456”

    สิ่งที่แฮกเกอร์ทำคือ เจาะกล้องเพื่อ ดูว่า “มิสไซล์ที่ยิงไปตกตรงไหน”, มีการเคลื่อนไหวของรถทหารหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบจุดยุทธศาสตร์ที่ถูก blackout ข้อมูลในสื่อ กระทรวงไซเบอร์ของอิสราเอลยอมรับว่า มีความพยายามเจาะระบบกล้องเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่วันหลังการยิงขีปนาวุธ

    ย้อนไปปี 2022 เคยมีการเตือนแล้วว่า “กล้องกว่า 66,000 ตัวในอิสราเอลยังใช้รหัสผ่านเริ่มต้น” — และหลายหมู่บ้านที่ถูกบุกในปีถัดมาก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร จนกลายเป็นปัญหาข้อมูลรั่ววงกว้าง

    รัฐบาลจึงขอให้ประชาชน ปิดกล้องที่ไม่จำเป็น, เปลี่ยนรหัสผ่าน, เปิด two-factor authentication และถ้าเป็นไปได้... อย่าติดตั้งกล้องที่ “สตรีมออนไลน์” ได้เอง เพราะอาจกลายเป็นหน้าต่างเปิดให้ศัตรูมองย้อนกลับมา

    กรณีนี้ไม่ได้เกิดแค่ในอิสราเอล — ในยูเครน เคยมีการแบนกล้องวงจรปิด เพราะพบว่ารัสเซียใช้วิดีโอแบบ live มา “ปรับทิศการโจมตีอากาศ” แบบทันทีได้เช่นกัน

    ✅ รัฐบาลอิสราเอลเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดที่ไม่จำเป็น” หรืออย่างน้อยให้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่  
    • ลดความเสี่ยงที่กลุ่มอิหร่านเจาะเข้าไปดู live feed เพื่อเก็บข้อมูล

    ✅ พบว่าแฮกเกอร์จากอิหร่านพยายามแฮกกล้องเพื่อดูผลกระทบของมิสไซล์ และการเคลื่อนไหวทางทหาร  
    • เป็นการเจาะระบบในช่วงสื่อถูกจำกัดการเผยข้อมูล

    ✅ เคยมีการเตือนเมื่อปี 2022 ว่ามีกล้อง 66,000 ตัวใช้รหัสผ่านจากโรงงาน (default password)  
    • ส่วนใหญ่ไม่ถูกเปลี่ยนแม้มีคำเตือน

    ✅ รัฐบาลสามารถปิดการทำงานของกล้องภาครัฐและส่วนบุคคลในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พรมแดน หรือโครงสร้างสำคัญแล้ว
    • ใช้กฎหมายพิเศษในช่วงภัยพิบัติ

    ✅ กรณีคล้ายกันเคยเกิดในยูเครน — เมื่อรัสเซียใช้วิดีโอจากกล้องสาธารณะเพื่อเจาะพิกัดเป้าหมาย

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เลือกกล้องที่มีระบบความปลอดภัยดี รองรับการตั้งค่ารหัส, การเข้ารหัส และปิดการสตรีมออนไลน์ได้

    https://www.techspot.com/news/108401-israel-urges-citizens-turn-off-home-cameras-iran.html
    ช่วงนี้อิสราเอลกำลังเผชิญการโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือปฏิบัติการไซเบอร์ หนึ่งในแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามคือ... แฮ็กกล้องวงจรปิดตามบ้านของประชาชน โดยเฉพาะกล้องที่ใช้รหัสผ่านเดิมจากโรงงาน หรือรหัสง่าย ๆ เดาง่าย เช่น “123456” สิ่งที่แฮกเกอร์ทำคือ เจาะกล้องเพื่อ ดูว่า “มิสไซล์ที่ยิงไปตกตรงไหน”, มีการเคลื่อนไหวของรถทหารหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบจุดยุทธศาสตร์ที่ถูก blackout ข้อมูลในสื่อ กระทรวงไซเบอร์ของอิสราเอลยอมรับว่า มีความพยายามเจาะระบบกล้องเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่วันหลังการยิงขีปนาวุธ ย้อนไปปี 2022 เคยมีการเตือนแล้วว่า “กล้องกว่า 66,000 ตัวในอิสราเอลยังใช้รหัสผ่านเริ่มต้น” — และหลายหมู่บ้านที่ถูกบุกในปีถัดมาก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร จนกลายเป็นปัญหาข้อมูลรั่ววงกว้าง รัฐบาลจึงขอให้ประชาชน ปิดกล้องที่ไม่จำเป็น, เปลี่ยนรหัสผ่าน, เปิด two-factor authentication และถ้าเป็นไปได้... อย่าติดตั้งกล้องที่ “สตรีมออนไลน์” ได้เอง เพราะอาจกลายเป็นหน้าต่างเปิดให้ศัตรูมองย้อนกลับมา กรณีนี้ไม่ได้เกิดแค่ในอิสราเอล — ในยูเครน เคยมีการแบนกล้องวงจรปิด เพราะพบว่ารัสเซียใช้วิดีโอแบบ live มา “ปรับทิศการโจมตีอากาศ” แบบทันทีได้เช่นกัน ✅ รัฐบาลอิสราเอลเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดที่ไม่จำเป็น” หรืออย่างน้อยให้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่   • ลดความเสี่ยงที่กลุ่มอิหร่านเจาะเข้าไปดู live feed เพื่อเก็บข้อมูล ✅ พบว่าแฮกเกอร์จากอิหร่านพยายามแฮกกล้องเพื่อดูผลกระทบของมิสไซล์ และการเคลื่อนไหวทางทหาร   • เป็นการเจาะระบบในช่วงสื่อถูกจำกัดการเผยข้อมูล ✅ เคยมีการเตือนเมื่อปี 2022 ว่ามีกล้อง 66,000 ตัวใช้รหัสผ่านจากโรงงาน (default password)   • ส่วนใหญ่ไม่ถูกเปลี่ยนแม้มีคำเตือน ✅ รัฐบาลสามารถปิดการทำงานของกล้องภาครัฐและส่วนบุคคลในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พรมแดน หรือโครงสร้างสำคัญแล้ว • ใช้กฎหมายพิเศษในช่วงภัยพิบัติ ✅ กรณีคล้ายกันเคยเกิดในยูเครน — เมื่อรัสเซียใช้วิดีโอจากกล้องสาธารณะเพื่อเจาะพิกัดเป้าหมาย ✅ ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เลือกกล้องที่มีระบบความปลอดภัยดี รองรับการตั้งค่ารหัส, การเข้ารหัส และปิดการสตรีมออนไลน์ได้ https://www.techspot.com/news/108401-israel-urges-citizens-turn-off-home-cameras-iran.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Israel urges citizens to turn off home cameras as Iran hacks surveillance systems
    In the aftermath of recent Iranian missile strikes on Tel Aviv, concerns about the vulnerability of internet-connected cameras have intensified. "We know that in the past two...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปกติในชิปคอมพิวเตอร์ การส่งข้อมูลระหว่างส่วนต่าง ๆ จะใช้กระแสไฟฟ้า (electrons) แต่ข้อจำกัดคือมันร้อน ใช้พลังงานเยอะ และช้าเมื่อเทียบกับความเร็วของ “แสง”

    ทีมจาก Fudan University เลยเปิดตัว “multiplexer แบบใช้แสง” หรือชิปที่รับข้อมูลจากหลายช่อง แล้วส่งออกผ่านช่องเดียว — โดยใช้ “แสงเลเซอร์” แทนกระแสไฟฟ้า

    ชิปตัวนี้สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงถึง 38 Tbps (terabits per second) เร็วพอจะส่งพารามิเตอร์ของ LLM (เช่น ChatGPT ขนาดใหญ่) ได้ 4.75 ล้านล้านพารามิเตอร์ต่อวินาที

    ที่สำคัญคือมันทำงานร่วมกับระบบที่ใช้ CMOS (พื้นฐานของชิปยุคปัจจุบัน) ได้ — แปลว่าไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ช่วยลด latency ระหว่างโลกของ “แสง” กับ “ไฟฟ้า”

    แม้ข้อมูลจะมาจากสื่อของรัฐบาลจีน แต่ก็มีรายงานว่า ทีมส่งผลวิจัยนี้ไปยังวารสาร Nature แล้ว — ถ้าได้รับการตีพิมพ์เมื่อไร ก็ถือเป็นหลักฐานเชิงวิชาการที่น่าเชื่อถือ

    นักวิเคราะห์ในจีนเชื่อว่า ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็น CPU หรือหน่วยความจำที่ใช้การสื่อสารด้วย “แสงเต็มระบบ” ก็เป็นได้!

    ✅ ทีมจากมหาวิทยาลัย Fudan พัฒนาชิป multiplexer แบบ photonic — ส่งข้อมูลด้วยแสงแทนไฟฟ้า  
    • ชื่อทางเทคนิคคือ “silicon photonic integrated high-order mode multiplexer”  
    • เป็นชิปในตระกูล silicon photonics

    ✅ ความเร็วการส่งข้อมูลสูงถึง 38 Tbps  
    • รองรับโหลดการประมวลผลระดับ LLM ขนาดหลายร้อยพันล้านพารามิเตอร์

    ✅ สามารถเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้ CMOS (เช่น CPU, RAM แบบเดิม) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  
    • ลด latency ในการเชื่อมระหว่าง photonic–electronic

    ✅ ทีมวิจัยยื่นผลการวิจัยไปยังวารสาร Nature แล้ว รอการพิจารณา  
    • หากผ่านตีพิมพ์จะเพิ่มเครดิตอย่างมากในวงการวิชาการ

    ✅ จีนกำลังเร่งพัฒนา photonic chip และมีเป้าหมายจะใช้เต็มรูปแบบภายใน 3–5 ปี  
    • เริ่มเข้าสู่สนาม post-Moore’s Law อย่างจริงจัง

    ✅ นักวิเคราะห์ระบุว่าระบบ photonic มีศักยภาพสูงกว่าชิปอิเล็กทรอนิกส์ด้านความเร็วและพลังงาน  
    • ตัวอย่าง: สวิตช์ photonic สำหรับ AI cluster รองรับสูงถึง 400 Tb/s เช่นจาก Nvidia

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-researchers-invent-silicon-photonic-multiplexer-chip-that-uses-light-instead-of-electricity-for-communication-ccp-says-chinas-early-steps-into-light-based-chips-precede-major-breakthroughs-in-three-years
    ปกติในชิปคอมพิวเตอร์ การส่งข้อมูลระหว่างส่วนต่าง ๆ จะใช้กระแสไฟฟ้า (electrons) แต่ข้อจำกัดคือมันร้อน ใช้พลังงานเยอะ และช้าเมื่อเทียบกับความเร็วของ “แสง” ทีมจาก Fudan University เลยเปิดตัว “multiplexer แบบใช้แสง” หรือชิปที่รับข้อมูลจากหลายช่อง แล้วส่งออกผ่านช่องเดียว — โดยใช้ “แสงเลเซอร์” แทนกระแสไฟฟ้า ชิปตัวนี้สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงถึง 38 Tbps (terabits per second) เร็วพอจะส่งพารามิเตอร์ของ LLM (เช่น ChatGPT ขนาดใหญ่) ได้ 4.75 ล้านล้านพารามิเตอร์ต่อวินาที ที่สำคัญคือมันทำงานร่วมกับระบบที่ใช้ CMOS (พื้นฐานของชิปยุคปัจจุบัน) ได้ — แปลว่าไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ช่วยลด latency ระหว่างโลกของ “แสง” กับ “ไฟฟ้า” แม้ข้อมูลจะมาจากสื่อของรัฐบาลจีน แต่ก็มีรายงานว่า ทีมส่งผลวิจัยนี้ไปยังวารสาร Nature แล้ว — ถ้าได้รับการตีพิมพ์เมื่อไร ก็ถือเป็นหลักฐานเชิงวิชาการที่น่าเชื่อถือ นักวิเคราะห์ในจีนเชื่อว่า ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็น CPU หรือหน่วยความจำที่ใช้การสื่อสารด้วย “แสงเต็มระบบ” ก็เป็นได้! ✅ ทีมจากมหาวิทยาลัย Fudan พัฒนาชิป multiplexer แบบ photonic — ส่งข้อมูลด้วยแสงแทนไฟฟ้า   • ชื่อทางเทคนิคคือ “silicon photonic integrated high-order mode multiplexer”   • เป็นชิปในตระกูล silicon photonics ✅ ความเร็วการส่งข้อมูลสูงถึง 38 Tbps   • รองรับโหลดการประมวลผลระดับ LLM ขนาดหลายร้อยพันล้านพารามิเตอร์ ✅ สามารถเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้ CMOS (เช่น CPU, RAM แบบเดิม) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ   • ลด latency ในการเชื่อมระหว่าง photonic–electronic ✅ ทีมวิจัยยื่นผลการวิจัยไปยังวารสาร Nature แล้ว รอการพิจารณา   • หากผ่านตีพิมพ์จะเพิ่มเครดิตอย่างมากในวงการวิชาการ ✅ จีนกำลังเร่งพัฒนา photonic chip และมีเป้าหมายจะใช้เต็มรูปแบบภายใน 3–5 ปี   • เริ่มเข้าสู่สนาม post-Moore’s Law อย่างจริงจัง ✅ นักวิเคราะห์ระบุว่าระบบ photonic มีศักยภาพสูงกว่าชิปอิเล็กทรอนิกส์ด้านความเร็วและพลังงาน   • ตัวอย่าง: สวิตช์ photonic สำหรับ AI cluster รองรับสูงถึง 400 Tb/s เช่นจาก Nvidia https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-researchers-invent-silicon-photonic-multiplexer-chip-that-uses-light-instead-of-electricity-for-communication-ccp-says-chinas-early-steps-into-light-based-chips-precede-major-breakthroughs-in-three-years
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิดดูว่าคุณนั่งเล่นเน็ตอยู่ดี ๆ แล้วมีข้อมูลระดับ 37TB พุ่งใส่บ้านคุณภายในไม่ถึงนาที — นั่นแหละครับคือสิ่งที่หนึ่งในลูกค้าของ Cloudflare ต้องเผชิญ

    การโจมตีนี้เป็น DDoS (Distributed Denial of Service) แบบที่เรียกว่า UDP flood คือยิงข้อมูลปลอม ๆ ด้วยโปรโตคอล UDP ซึ่งไม่ต้องรอการตอบรับ (unverified delivery) — มันเร็ว จึงเหมาะกับแอปอย่างเกมออนไลน์, วิดีโอสตรีมมิ่ง แต่เมื่อใช้โจมตี ก็รุนแรงสุด ๆ

    นอกจากนั้นยังมีการใช้ reflection/amplification attack ด้วย คือแอบปลอม IP ของเป้าหมาย แล้วไปเรียกข้อมูลจากบุคคลที่สาม (เช่นเซิร์ฟเวอร์เวลา NTP หรือ QOTD protocol) เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นช่วยส่งข้อมูล "ซ้ำ" กลับไปโจมตีเป้าหมายอีกรอบ

    ที่น่าห่วงคือ แม้จะมีเทคโนโลยีป้องกันแล้ว แต่แฮกเกอร์ใช้ botnet ขนาดใหญ่ที่มีคอมพิวเตอร์นับแสนเครื่องทั่วโลกมาร่วมมือกันยิงข้อมูล — ซึ่งเป็นต้นทุนต่ำมาก แต่สามารถทำลายธุรกิจทั้งเว็บได้ในพริบตา

    ✅ Cloudflare ยืนยันป้องกันการโจมตี DDoS ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สำเร็จ  
    • ปริมาณข้อมูล 37.4 TB ภายใน 45 วินาที หรือประมาณ 7.3 Tbps

    ✅ เป็นการโจมตีแบบ UDP flood และมีการใช้ reflection/amplification attack  
    • ใช้เซิร์ฟเวอร์ภายนอก เช่น NTP, QOTD, Echo ช่วยโจมตี

    ✅ เทคนิค UDP flood เป็นที่นิยม เพราะ UDP ไม่ต้องจับมือกับเครื่องปลายทาง ทำให้โจมตีได้เร็ว  
    • เป้าหมายต้องตอบกลับทุก packet ทำให้ล่มได้ง่าย

    ✅ ขนาดการโจมตีครั้งนี้ใหญ่กว่าเหตุการณ์ก่อนหน้า เช่น 6.5 Tbps ในเดือนเมษายน 2025 และ 5.6 Tbps ในปี 2024

    ✅ แฮกเกอร์ใช้ botnet ขนาดใหญ่ ซึ่งต้นทุนถูก แต่สามารถโจมตีแบบ mass-scale ได้มหาศาล  • อาจใช้เพื่อรีดไถ (extortion) หรือทดสอบระบบเป้าหมาย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/massive-ddos-attack-delivered-37-4tb-in-45-seconds-equivalent-to-10-000-hd-movies-to-one-victim-ip-address-cloudflare-blocks-largest-cyber-assault-ever-recorded
    คิดดูว่าคุณนั่งเล่นเน็ตอยู่ดี ๆ แล้วมีข้อมูลระดับ 37TB พุ่งใส่บ้านคุณภายในไม่ถึงนาที — นั่นแหละครับคือสิ่งที่หนึ่งในลูกค้าของ Cloudflare ต้องเผชิญ การโจมตีนี้เป็น DDoS (Distributed Denial of Service) แบบที่เรียกว่า UDP flood คือยิงข้อมูลปลอม ๆ ด้วยโปรโตคอล UDP ซึ่งไม่ต้องรอการตอบรับ (unverified delivery) — มันเร็ว จึงเหมาะกับแอปอย่างเกมออนไลน์, วิดีโอสตรีมมิ่ง แต่เมื่อใช้โจมตี ก็รุนแรงสุด ๆ นอกจากนั้นยังมีการใช้ reflection/amplification attack ด้วย คือแอบปลอม IP ของเป้าหมาย แล้วไปเรียกข้อมูลจากบุคคลที่สาม (เช่นเซิร์ฟเวอร์เวลา NTP หรือ QOTD protocol) เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นช่วยส่งข้อมูล "ซ้ำ" กลับไปโจมตีเป้าหมายอีกรอบ ที่น่าห่วงคือ แม้จะมีเทคโนโลยีป้องกันแล้ว แต่แฮกเกอร์ใช้ botnet ขนาดใหญ่ที่มีคอมพิวเตอร์นับแสนเครื่องทั่วโลกมาร่วมมือกันยิงข้อมูล — ซึ่งเป็นต้นทุนต่ำมาก แต่สามารถทำลายธุรกิจทั้งเว็บได้ในพริบตา ✅ Cloudflare ยืนยันป้องกันการโจมตี DDoS ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สำเร็จ   • ปริมาณข้อมูล 37.4 TB ภายใน 45 วินาที หรือประมาณ 7.3 Tbps ✅ เป็นการโจมตีแบบ UDP flood และมีการใช้ reflection/amplification attack   • ใช้เซิร์ฟเวอร์ภายนอก เช่น NTP, QOTD, Echo ช่วยโจมตี ✅ เทคนิค UDP flood เป็นที่นิยม เพราะ UDP ไม่ต้องจับมือกับเครื่องปลายทาง ทำให้โจมตีได้เร็ว   • เป้าหมายต้องตอบกลับทุก packet ทำให้ล่มได้ง่าย ✅ ขนาดการโจมตีครั้งนี้ใหญ่กว่าเหตุการณ์ก่อนหน้า เช่น 6.5 Tbps ในเดือนเมษายน 2025 และ 5.6 Tbps ในปี 2024 ✅ แฮกเกอร์ใช้ botnet ขนาดใหญ่ ซึ่งต้นทุนถูก แต่สามารถโจมตีแบบ mass-scale ได้มหาศาล  • อาจใช้เพื่อรีดไถ (extortion) หรือทดสอบระบบเป้าหมาย https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/massive-ddos-attack-delivered-37-4tb-in-45-seconds-equivalent-to-10-000-hd-movies-to-one-victim-ip-address-cloudflare-blocks-largest-cyber-assault-ever-recorded
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนไปปี 2011–2014 ผู้ชายคนนี้เคยดูแลเว็บชื่อ P2Planet.net ที่มีลิงก์ torrent มากกว่า 14,000 รายการ และมีผู้ใช้ลงทะเบียนกว่า 44,000 คน ซึ่งในยุคนั้นถือว่าใหญ่พอตัวเลย

    ต่อมาเว็บถูก DDoS และแฮกจนฐานข้อมูลหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งเชื่อว่าเป็นหลักฐานที่นำไปสู่การจับกุมครั้งแรกในปี 2014 โดยตำรวจไซเบอร์กรีซที่พบว่าเขามีสิทธิ์เข้าถึงระดับแอดมินเว็บ พร้อมยึดฮาร์ดไดรฟ์ไว้

    เวลาผ่านไปกว่า 10 ปี เขายื่นอุทธรณ์หลายครั้ง จนล่าสุดศาลอุทธรณ์ที่เมือง Piraeus ตัดสินให้จำคุกโดย ไม่ให้ประกันระหว่างอุทธรณ์ พร้อมจับตัวทันทีในศาล สร้างความตกใจให้คนทั้งห้องพิจารณาคดี

    ประเด็นคือ รัฐบาลกรีซต้องการ "ส่งสัญญาณเข้ม" ว่าจะเอาจริงกับการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้จะเป็นคดีเก่าหลายปีแล้วก็ตาม อีกทั้งยังมีคำตัดสินจำคุก 5 ปีในกรณีคล้ายกันที่เมือง Larissa เมื่อไม่นานนี้ด้วย

    และที่น่าสนใจคือ คำตัดสินนี้เน้นว่า “การปล่อยให้คนดาวน์โหลด” ยังไม่หนักเท่า “การ seeding หรือช่วยกระจายไฟล์” ซึ่งถือว่าเป็น “การแจกจ่าย” ที่ผิดเต็ม ๆ

    https://www.tomshardware.com/software/greek-man-gets-5-years-in-prison-for-running-a-now-defunct-torrenting-site-10-years-ago-greece-goes-tough-on-torrenting
    ย้อนไปปี 2011–2014 ผู้ชายคนนี้เคยดูแลเว็บชื่อ P2Planet.net ที่มีลิงก์ torrent มากกว่า 14,000 รายการ และมีผู้ใช้ลงทะเบียนกว่า 44,000 คน ซึ่งในยุคนั้นถือว่าใหญ่พอตัวเลย ต่อมาเว็บถูก DDoS และแฮกจนฐานข้อมูลหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งเชื่อว่าเป็นหลักฐานที่นำไปสู่การจับกุมครั้งแรกในปี 2014 โดยตำรวจไซเบอร์กรีซที่พบว่าเขามีสิทธิ์เข้าถึงระดับแอดมินเว็บ พร้อมยึดฮาร์ดไดรฟ์ไว้ เวลาผ่านไปกว่า 10 ปี เขายื่นอุทธรณ์หลายครั้ง จนล่าสุดศาลอุทธรณ์ที่เมือง Piraeus ตัดสินให้จำคุกโดย ไม่ให้ประกันระหว่างอุทธรณ์ พร้อมจับตัวทันทีในศาล สร้างความตกใจให้คนทั้งห้องพิจารณาคดี ประเด็นคือ รัฐบาลกรีซต้องการ "ส่งสัญญาณเข้ม" ว่าจะเอาจริงกับการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้จะเป็นคดีเก่าหลายปีแล้วก็ตาม อีกทั้งยังมีคำตัดสินจำคุก 5 ปีในกรณีคล้ายกันที่เมือง Larissa เมื่อไม่นานนี้ด้วย และที่น่าสนใจคือ คำตัดสินนี้เน้นว่า “การปล่อยให้คนดาวน์โหลด” ยังไม่หนักเท่า “การ seeding หรือช่วยกระจายไฟล์” ซึ่งถือว่าเป็น “การแจกจ่าย” ที่ผิดเต็ม ๆ https://www.tomshardware.com/software/greek-man-gets-5-years-in-prison-for-running-a-now-defunct-torrenting-site-10-years-ago-greece-goes-tough-on-torrenting
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคยไหมครับที่ติด Wi-Fi กลางแจ้งแล้วฝนตกทีไรกลัวมันพัง? TP-Link เขาเลยออก Access Point ตัวนี้มาแบบ “ติดตั้งแล้วลืมไปได้เลย” เพราะมันอึดระดับ “จุ่มน้ำลึก 1.5 เมตรก็ยังรอด” (ถึงแม้ Wi-Fi จะใช้ใต้น้ำไม่ได้ก็ตาม 😄)

    เจ้านี่ใช้มาตรฐาน Wi-Fi 7 แบบ Tri-band แรงสูงสุดถึง 9.3 Gbps!
    - 6 GHz ได้สูงสุด 5.76 Gbps
    - 5 GHz ได้ 2.88 Gbps
    - 2.4 GHz ก็ยังมีที่ 688 Mbps

    พื้นที่ครอบคลุมอยู่ที่ประมาณ 300 ตารางเมตร ต่อจุดติดตั้ง และถ้าอยากเพิ่มระยะก็เอาหลายเครื่องมาเชื่อมกันเป็น Mesh Network ได้เลย แถมยังรองรับ Power over Ethernet (PoE) ทำให้ไม่ต้องเดินสายไฟเพิ่มอีกต่างหาก

    ตัวกล่องมาพร้อมอุปกรณ์ติดตั้งครบครัน ทั้งขายึด, ซีลยาง, และฝาครอบกันฝนสำหรับพอร์ต — คือออกแบบให้ทนแดดฝนจริงจัง ไม่ใช่แค่ลุคถึก ๆ เท่านั้น

    ✅ TP-Link เปิดตัว EAP772-Outdoor Access Point มาตรฐาน Wi-Fi 7  
    • ใช้เทคโนโลยี Tri-band รวมสปีดสูงสุด 9.3 Gbps  
    • ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ตร.ม. ต่อเครื่อง

    ✅ ทนทานต่อสภาพอากาศด้วยมาตรฐาน IP68 (กันฝุ่น/จมน้ำลึกได้)  
    • วางกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องกลัวฝนหรือหิมะ  
    • พอร์ตมีซีลกันน้ำเพิ่มความแน่นหนา

    ✅ รองรับ Power over Ethernet (PoE)  
    • ไม่ต้องเดินสายไฟแยก ติดตั้งง่ายขึ้นมาก  
    • มีขายึดสำหรับติดผนัง/เสาติดตั้งในกล่อง

    ✅ ทำงานร่วมกับระบบ Omada ของ TP-Link และบริหารจัดการผ่านคลาวด์ได้  
    • ขยายเป็น Mesh Network ได้ง่าย ๆ สำหรับพื้นที่กว้าง

    ✅ วางจำหน่ายแล้วในราคา $249.99 (ประมาณ 9,200 บาท)  
    • พร้อมใช้งานกับ Access Point ตัวอื่นในซีรีส์เดียวกัน เช่น EAP772 รุ่นเพดาน

    https://www.tomshardware.com/networking/routers/tp-link-releases-usd250-wi-fi-7-access-point-that-can-be-submerged-in-1-5-meters-of-water-without-issue-the-heavy-duty-wireless-router-boasts-an-ip68-rating-six-antennas-and-poe
    เคยไหมครับที่ติด Wi-Fi กลางแจ้งแล้วฝนตกทีไรกลัวมันพัง? TP-Link เขาเลยออก Access Point ตัวนี้มาแบบ “ติดตั้งแล้วลืมไปได้เลย” เพราะมันอึดระดับ “จุ่มน้ำลึก 1.5 เมตรก็ยังรอด” (ถึงแม้ Wi-Fi จะใช้ใต้น้ำไม่ได้ก็ตาม 😄) เจ้านี่ใช้มาตรฐาน Wi-Fi 7 แบบ Tri-band แรงสูงสุดถึง 9.3 Gbps! - 6 GHz ได้สูงสุด 5.76 Gbps - 5 GHz ได้ 2.88 Gbps - 2.4 GHz ก็ยังมีที่ 688 Mbps พื้นที่ครอบคลุมอยู่ที่ประมาณ 300 ตารางเมตร ต่อจุดติดตั้ง และถ้าอยากเพิ่มระยะก็เอาหลายเครื่องมาเชื่อมกันเป็น Mesh Network ได้เลย แถมยังรองรับ Power over Ethernet (PoE) ทำให้ไม่ต้องเดินสายไฟเพิ่มอีกต่างหาก ตัวกล่องมาพร้อมอุปกรณ์ติดตั้งครบครัน ทั้งขายึด, ซีลยาง, และฝาครอบกันฝนสำหรับพอร์ต — คือออกแบบให้ทนแดดฝนจริงจัง ไม่ใช่แค่ลุคถึก ๆ เท่านั้น ✅ TP-Link เปิดตัว EAP772-Outdoor Access Point มาตรฐาน Wi-Fi 7   • ใช้เทคโนโลยี Tri-band รวมสปีดสูงสุด 9.3 Gbps   • ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ตร.ม. ต่อเครื่อง ✅ ทนทานต่อสภาพอากาศด้วยมาตรฐาน IP68 (กันฝุ่น/จมน้ำลึกได้)   • วางกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องกลัวฝนหรือหิมะ   • พอร์ตมีซีลกันน้ำเพิ่มความแน่นหนา ✅ รองรับ Power over Ethernet (PoE)   • ไม่ต้องเดินสายไฟแยก ติดตั้งง่ายขึ้นมาก   • มีขายึดสำหรับติดผนัง/เสาติดตั้งในกล่อง ✅ ทำงานร่วมกับระบบ Omada ของ TP-Link และบริหารจัดการผ่านคลาวด์ได้   • ขยายเป็น Mesh Network ได้ง่าย ๆ สำหรับพื้นที่กว้าง ✅ วางจำหน่ายแล้วในราคา $249.99 (ประมาณ 9,200 บาท)   • พร้อมใช้งานกับ Access Point ตัวอื่นในซีรีส์เดียวกัน เช่น EAP772 รุ่นเพดาน https://www.tomshardware.com/networking/routers/tp-link-releases-usd250-wi-fi-7-access-point-that-can-be-submerged-in-1-5-meters-of-water-without-issue-the-heavy-duty-wireless-router-boasts-an-ip68-rating-six-antennas-and-poe
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากโดนคว่ำบาตรซ้ำแล้วซ้ำเล่า จีนก็เดินหน้าสร้าง “GPU ของตัวเอง” ขึ้นมา โดยบริษัท Lisuan Technology เพิ่งเปิดตัว G100 ที่ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU แบบ in-house พร้อมสายการผลิตจาก SMIC (โรงงานผลิตชิปในจีน) ซึ่งใช้กระบวนการระดับ 6nm

    ล่าสุดพบข้อมูล G100 บน Geekbench — ได้คะแนน 15,524 คะแนนใน OpenCL ซึ่งเทียบเท่า GTX 660 Ti อายุ 13 ปี หรือ iGPU บางตัวบนมือถือเลยทีเดียว 😅

    ถึงคะแนนจะยังไม่หวือหวา แต่ Lisuan บอกว่าชิปเพิ่งเข้าสู่ช่วง “risk production” เท่านั้น (ยังไม่ mass produce) และ driver ก็ยังอยู่ระหว่างพัฒนา — ทีมงานจึงบอกว่า อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุป

    G100 ใช้ 32 Compute Units (CU), มี VRAM แค่ 256MB, และความเร็ว 300MHz ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่ค่าเต็มจริง อาจเป็นเพียงค่าจากเวอร์ชันทดลอง

    สิ่งสำคัญคือ แม้ประสิทธิภาพยังตามหลัง NVIDIA/AMD หลายปี แต่...นี่คือ “GPU ผลิตในประเทศ” ที่อาจกลายเป็นหมากยุทธศาสตร์ของจีนในอนาคต — แบบเดียวกับที่จีนเคยดัน Zhaoxin ในฝั่ง CPU มาก่อน

    ✅ Lisuan G100 คือ GPU 6nm ตัวแรกของจีนแบบ in-house เต็มรูปแบบ  
    • ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ที่พัฒนาเอง  
    • ผลิตโดย SMIC ที่เป็น foundry ในประเทศ

    ✅ ผลทดสอบ Geekbench ได้ 15,524 คะแนน (OpenCL)  
    • ใกล้เคียง GTX 660 Ti, Radeon R9 370, และ Exynos 2400 (มือถือ)

    ✅ สเปกจาก Geekbench ระบุมี 32 CU, VRAM 256MB, Clock 300MHz  
    • เชื่อว่าค่าจริงอาจสูงกว่านี้ แต่ driver ยังไม่สมบูรณ์

    ✅ อยู่ในขั้น “risk production” — ยังไม่ผลิตจริงจัง  
    • หากสำเร็จจะเข้าสู่ mass production ช่วงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026

    ✅ ทีมงานไม่ต้องการให้ตัดสินจากผลทดสอบปัจจุบัน เพราะ driver/firmware ยังไม่สมบูรณ์

    ✅ เป้าหมายของ Lisuan คือ “สู้ในตลาด mid-range” และสร้างทางเลือกแทน GPU จากตะวันตก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/chinas-first-6nm-gaming-gpu-matches-13-year-old-gtx-660-ti-in-first-geekbench-tests-lisuan-g100-surfaces-with-32-cus-256mb-vram-and-300-mhz-clock-speed
    หลังจากโดนคว่ำบาตรซ้ำแล้วซ้ำเล่า จีนก็เดินหน้าสร้าง “GPU ของตัวเอง” ขึ้นมา โดยบริษัท Lisuan Technology เพิ่งเปิดตัว G100 ที่ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU แบบ in-house พร้อมสายการผลิตจาก SMIC (โรงงานผลิตชิปในจีน) ซึ่งใช้กระบวนการระดับ 6nm ล่าสุดพบข้อมูล G100 บน Geekbench — ได้คะแนน 15,524 คะแนนใน OpenCL ซึ่งเทียบเท่า GTX 660 Ti อายุ 13 ปี หรือ iGPU บางตัวบนมือถือเลยทีเดียว 😅 ถึงคะแนนจะยังไม่หวือหวา แต่ Lisuan บอกว่าชิปเพิ่งเข้าสู่ช่วง “risk production” เท่านั้น (ยังไม่ mass produce) และ driver ก็ยังอยู่ระหว่างพัฒนา — ทีมงานจึงบอกว่า อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุป G100 ใช้ 32 Compute Units (CU), มี VRAM แค่ 256MB, และความเร็ว 300MHz ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่ค่าเต็มจริง อาจเป็นเพียงค่าจากเวอร์ชันทดลอง สิ่งสำคัญคือ แม้ประสิทธิภาพยังตามหลัง NVIDIA/AMD หลายปี แต่...นี่คือ “GPU ผลิตในประเทศ” ที่อาจกลายเป็นหมากยุทธศาสตร์ของจีนในอนาคต — แบบเดียวกับที่จีนเคยดัน Zhaoxin ในฝั่ง CPU มาก่อน ✅ Lisuan G100 คือ GPU 6nm ตัวแรกของจีนแบบ in-house เต็มรูปแบบ   • ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ที่พัฒนาเอง   • ผลิตโดย SMIC ที่เป็น foundry ในประเทศ ✅ ผลทดสอบ Geekbench ได้ 15,524 คะแนน (OpenCL)   • ใกล้เคียง GTX 660 Ti, Radeon R9 370, และ Exynos 2400 (มือถือ) ✅ สเปกจาก Geekbench ระบุมี 32 CU, VRAM 256MB, Clock 300MHz   • เชื่อว่าค่าจริงอาจสูงกว่านี้ แต่ driver ยังไม่สมบูรณ์ ✅ อยู่ในขั้น “risk production” — ยังไม่ผลิตจริงจัง   • หากสำเร็จจะเข้าสู่ mass production ช่วงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026 ✅ ทีมงานไม่ต้องการให้ตัดสินจากผลทดสอบปัจจุบัน เพราะ driver/firmware ยังไม่สมบูรณ์ ✅ เป้าหมายของ Lisuan คือ “สู้ในตลาด mid-range” และสร้างทางเลือกแทน GPU จากตะวันตก https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/chinas-first-6nm-gaming-gpu-matches-13-year-old-gtx-660-ti-in-first-geekbench-tests-lisuan-g100-surfaces-with-32-cus-256mb-vram-and-300-mhz-clock-speed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปกติแล้วเมื่อชิปมีความละเอียดระดับ 10nm (หรือเทคโนโลยีที่เรียกกันว่า “1c DRAM”) ยิ่งขนาดทรานซิสเตอร์เล็กลง ก็ยิ่งทำให้ผลิตยาก ยิ่งมี defect ก็ยิ่ง “yield ต่ำ” — แต่นี่คือครั้งแรกที่ Samsung กลับมาพลิกเกมด้วย การออกแบบชิปใหม่ทั้งหมดหลังล้มเหลวตอนปลายปี 2024 แม้จะต้องเลื่อนแผนผลิตไปกว่า 1 ปีเต็มก็ตาม

    ผลลัพธ์ของการ “ยอมถอยเพื่อเดินหน้า” คือ yield rate ตอนนี้ขยับขึ้นจาก <30% → สู่ 50–70% ซึ่งถือว่า “ผ่านจุดคุ้มทุน” แล้ว ทำให้ Samsung เตรียมเร่งกำลังผลิตในสาย Pyeongtaek และ Hwaseong ทันที

    เหตุผลที่เรื่องนี้น่าสนใจคือ DRAM รุ่น 1c คือรากฐานสำคัญของชิป HBM4 (High Bandwidth Memory Gen4) — ซึ่งจำเป็นมากต่อการแข่งในตลาด AI, HPC และ GPU รุ่นใหม่ ๆ ปี 2025–2026 โดย Samsung ตั้งเป้าเริ่ม mass production HBM4 ภายในสิ้นปีนี้ โดยใช้ฐาน Pyeongtaek Line 3 เป็นหัวหอก

    ✅ Samsung ดัน yield DRAM รุ่น 1c ขึ้นมาที่ระดับ 50–70% ได้แล้ว  
    • ปีที่แล้วอยู่ต่ำกว่า 30% และต้องเลื่อน mass production ออกไป  
    • ผ่านจุดคุ้มทุนในการผลิต เกิด mass yield ได้จริง

    ✅ ออกแบบชิปรุ่นใหม่ทั้งหมดหลังแผนผลิตปลายปี 2024 ล้มเหลว  
    • เปลี่ยนดีไซน์เพื่อปรับประสิทธิภาพและลด defect  
    • ย้ายฐานการผลิตไป Pyeongtaek Line 4 (สำหรับ DRAM 1c)

    ✅ ช่วยเร่งแผนผลิต HBM4 ให้เริ่มได้ภายในปลายปี 2025  
    • ฐานการผลิต HBM4 อยู่ที่ Pyeongtaek Line 3  
    • DRAM 1c เป็นรากฐานสำคัญของ HBM4

    ✅ Samsung เดินคนละเส้นกับคู่แข่งอย่าง SK Hynix และ Micron ที่ใช้ DRAM รุ่น 1b กับ HBM4 แทน 1c  
    • มีความเสี่ยงสูงกว่า แต่โอกาสทำกำไรสูงกว่าเช่นกัน

    ✅ เริ่มขยายสายการผลิต DRAM 1c เพิ่มที่ Hwaseong และ Pyeongtaek ในปีนี้  
    • เตรียมรองรับความต้องการ DRAM/HBM ที่สูงขึ้นจากภาค AI และดาต้าเซ็นเตอร์

    https://www.techpowerup.com/338192/samsung-reportedly-achieves-70-yields-for-its-1c-dram-technology
    ปกติแล้วเมื่อชิปมีความละเอียดระดับ 10nm (หรือเทคโนโลยีที่เรียกกันว่า “1c DRAM”) ยิ่งขนาดทรานซิสเตอร์เล็กลง ก็ยิ่งทำให้ผลิตยาก ยิ่งมี defect ก็ยิ่ง “yield ต่ำ” — แต่นี่คือครั้งแรกที่ Samsung กลับมาพลิกเกมด้วย การออกแบบชิปใหม่ทั้งหมดหลังล้มเหลวตอนปลายปี 2024 แม้จะต้องเลื่อนแผนผลิตไปกว่า 1 ปีเต็มก็ตาม ผลลัพธ์ของการ “ยอมถอยเพื่อเดินหน้า” คือ yield rate ตอนนี้ขยับขึ้นจาก <30% → สู่ 50–70% ซึ่งถือว่า “ผ่านจุดคุ้มทุน” แล้ว ทำให้ Samsung เตรียมเร่งกำลังผลิตในสาย Pyeongtaek และ Hwaseong ทันที เหตุผลที่เรื่องนี้น่าสนใจคือ DRAM รุ่น 1c คือรากฐานสำคัญของชิป HBM4 (High Bandwidth Memory Gen4) — ซึ่งจำเป็นมากต่อการแข่งในตลาด AI, HPC และ GPU รุ่นใหม่ ๆ ปี 2025–2026 โดย Samsung ตั้งเป้าเริ่ม mass production HBM4 ภายในสิ้นปีนี้ โดยใช้ฐาน Pyeongtaek Line 3 เป็นหัวหอก ✅ Samsung ดัน yield DRAM รุ่น 1c ขึ้นมาที่ระดับ 50–70% ได้แล้ว   • ปีที่แล้วอยู่ต่ำกว่า 30% และต้องเลื่อน mass production ออกไป   • ผ่านจุดคุ้มทุนในการผลิต เกิด mass yield ได้จริง ✅ ออกแบบชิปรุ่นใหม่ทั้งหมดหลังแผนผลิตปลายปี 2024 ล้มเหลว   • เปลี่ยนดีไซน์เพื่อปรับประสิทธิภาพและลด defect   • ย้ายฐานการผลิตไป Pyeongtaek Line 4 (สำหรับ DRAM 1c) ✅ ช่วยเร่งแผนผลิต HBM4 ให้เริ่มได้ภายในปลายปี 2025   • ฐานการผลิต HBM4 อยู่ที่ Pyeongtaek Line 3   • DRAM 1c เป็นรากฐานสำคัญของ HBM4 ✅ Samsung เดินคนละเส้นกับคู่แข่งอย่าง SK Hynix และ Micron ที่ใช้ DRAM รุ่น 1b กับ HBM4 แทน 1c   • มีความเสี่ยงสูงกว่า แต่โอกาสทำกำไรสูงกว่าเช่นกัน ✅ เริ่มขยายสายการผลิต DRAM 1c เพิ่มที่ Hwaseong และ Pyeongtaek ในปีนี้   • เตรียมรองรับความต้องการ DRAM/HBM ที่สูงขึ้นจากภาค AI และดาต้าเซ็นเตอร์ https://www.techpowerup.com/338192/samsung-reportedly-achieves-70-yields-for-its-1c-dram-technology
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Samsung Reportedly Achieves 70% Yields for Its 1c DRAM Technology
    Samsung has achieved better production results for its advanced memory technology, according to Sedaily, as cited by TrendForce. The company's sixth-generation 10 nm DRAM, called 1c DRAM, now shows yield rates of 50-70% in testing. This represents a significant improvement from last year's results, ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปกติเวลาพูดถึงเทคโนโลยี เรามักจะนึกถึง “พลังงาน” ที่มันใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ, สัญญาณ 5G หรือแม้แต่เน็ตบนรถไฟฟ้า แต่งานวิจัยล่าสุดจาก GSMA บอกว่า แม้ผู้ใช้งานมือถือทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 9% และมีการใช้ดาต้ามากกว่า 4 เท่า — แต่มือถือกลับปล่อยคาร์บอนน้อยลง

    สิ่งที่ช่วยให้เป็นแบบนั้นก็มีหลายปัจจัย เช่น:
    - การยกเลิกเครือข่ายเก่า (เช่น 2G/3G) ที่กินไฟมาก
    - เปลี่ยนจากเครื่องปั่นไฟดีเซล มาใช้พลังงานทดแทน (แสงอาทิตย์/แบตเตอรี่)
    - ใช้เทคโนโลยีสื่อสารใหม่ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น

    โดยเฉพาะ “จีน” ที่เป็นตลาดมือถือใหญ่ที่สุดในโลก (มีผู้ใช้ 5G กว่า 1 พันล้านราย) กลับลดคาร์บอนลง 4% ในปี 2024 ได้สำเร็จ

    แต่ทาง GSMA ก็ยังบอกว่า ยังเร็วเกินจะดีใจ เพราะเป้าหมาย Net Zero ต้องลดลงเฉลี่ย 7.5% ต่อปี — ตอนนี้ทำได้แค่ 4.5% เท่านั้นในปีล่าสุด

    เรื่องที่น่าเป็นห่วงอีกด้านคือ “รอยเท้าคาร์บอนที่แฝงอยู่” (Scope 3) เช่น:
    - การผลิตมือถือและสายส่ง
    - การจัดส่งและรีไซเคิล
    - ระบบซัพพลายเชนทั้งหมด

    จุดนี้คิดเป็น 2 ใน 3 ของคาร์บอนทั้งหมดในอุตสาหกรรมมือถือ ซึ่งยังไม่มีการควบคุมอย่างจริงจังเท่า Scope 1–2

    ข่าวดีคือ ผู้บริโภคเริ่มสนใจความยั่งยืนแล้วจริง ๆ:
    - 90% อยากให้มือถือซ่อมง่ายและใช้นาน
    - 50% พร้อมซื้อเครื่อง Refurbished ซึ่งปล่อยคาร์บอนน้อยกว่ามือถือใหม่ถึง 80–90%
    - ตลาดมือถือมือสองตอนนี้โตไวมาก คาดว่าจะมูลค่าถึง $150B ภายในปี 2027 เลยทีเดียว

    https://www.techradar.com/pro/mobile-industry-slashes-global-carbon-emissions-despite-4x-increase-in-worldwide-data-traffic-heres-why-it-matters
    ปกติเวลาพูดถึงเทคโนโลยี เรามักจะนึกถึง “พลังงาน” ที่มันใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ, สัญญาณ 5G หรือแม้แต่เน็ตบนรถไฟฟ้า แต่งานวิจัยล่าสุดจาก GSMA บอกว่า แม้ผู้ใช้งานมือถือทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 9% และมีการใช้ดาต้ามากกว่า 4 เท่า — แต่มือถือกลับปล่อยคาร์บอนน้อยลง สิ่งที่ช่วยให้เป็นแบบนั้นก็มีหลายปัจจัย เช่น: - การยกเลิกเครือข่ายเก่า (เช่น 2G/3G) ที่กินไฟมาก - เปลี่ยนจากเครื่องปั่นไฟดีเซล มาใช้พลังงานทดแทน (แสงอาทิตย์/แบตเตอรี่) - ใช้เทคโนโลยีสื่อสารใหม่ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะ “จีน” ที่เป็นตลาดมือถือใหญ่ที่สุดในโลก (มีผู้ใช้ 5G กว่า 1 พันล้านราย) กลับลดคาร์บอนลง 4% ในปี 2024 ได้สำเร็จ แต่ทาง GSMA ก็ยังบอกว่า ยังเร็วเกินจะดีใจ เพราะเป้าหมาย Net Zero ต้องลดลงเฉลี่ย 7.5% ต่อปี — ตอนนี้ทำได้แค่ 4.5% เท่านั้นในปีล่าสุด เรื่องที่น่าเป็นห่วงอีกด้านคือ “รอยเท้าคาร์บอนที่แฝงอยู่” (Scope 3) เช่น: - การผลิตมือถือและสายส่ง - การจัดส่งและรีไซเคิล - ระบบซัพพลายเชนทั้งหมด จุดนี้คิดเป็น 2 ใน 3 ของคาร์บอนทั้งหมดในอุตสาหกรรมมือถือ ซึ่งยังไม่มีการควบคุมอย่างจริงจังเท่า Scope 1–2 ข่าวดีคือ ผู้บริโภคเริ่มสนใจความยั่งยืนแล้วจริง ๆ: - 90% อยากให้มือถือซ่อมง่ายและใช้นาน - 50% พร้อมซื้อเครื่อง Refurbished ซึ่งปล่อยคาร์บอนน้อยกว่ามือถือใหม่ถึง 80–90% - ตลาดมือถือมือสองตอนนี้โตไวมาก คาดว่าจะมูลค่าถึง $150B ภายในปี 2027 เลยทีเดียว https://www.techradar.com/pro/mobile-industry-slashes-global-carbon-emissions-despite-4x-increase-in-worldwide-data-traffic-heres-why-it-matters
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนใช้ CapCut เพราะมันฟรี ใช้ง่าย และมีลูกเล่นที่ดีมาก…แต่หลังจากอัปเดตข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Service) ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวเตือนว่า ผู้ใช้แทบไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อหาของตัวเองแล้ว

    CapCut เขียนเงื่อนไขว่า เมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอ รูปภาพ หรือเสียงใด ๆ เข้าไปในระบบ (แม้แต่อันที่ไม่ได้กดเผยแพร่ก็ตาม) คุณจะมอบ สิทธิใช้งานแบบ “ทั่วโลก, ถาวร, โอนต่อได้, และไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์” ให้ CapCut ใช้ผลงานของคุณ — ทั้งใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และผลงานสร้างสรรค์ของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ รวมถึงการใช้ในโฆษณา โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าหรือให้ค่าตอบแทนใด ๆ

    สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ ถึงคุณจะลบบัญชี CapCut ไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังเป็นของ CapCut ตลอดไป เพราะเขาเขียนว่า "perpetual" — ไม่มีหมดอายุ

    แถมไม่มีวิธี opt-out ด้วย...หมายความว่าแค่คุณใช้งานก็ถือว่ายอมรับโดยอัตโนมัติ

    ✅ CapCut อัปเดตข้อตกลงการใช้งาน โดยอ้างสิทธิในผลงานของผู้ใช้แบบถาวรและโอนต่อได้  
    • ครอบคลุมถึงภาพใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และงานตัดต่อทั้งหมด  
    • ใช้ได้แม้ผู้ใช้จะลบบัญชีแล้ว

    ✅ ข้อตกลงใหม่นี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาทั้งหมดที่อัปโหลด — แม้จะไม่ได้เผยแพร่ก็ตาม  
    • รวมถึงคลิป draft, voiceover, หรือไฟล์ชั่วคราว

    ✅ CapCut ไม่มีระบบ opt-out — หากใช้งานถือว่ายอมรับข้อตกลงทันที  
    • ใช้กับทั้งผู้ใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เนื้อหาของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิดกฎหมายสิทธิภาพลักษณ์ (right of publicity)  
    • แต่การบังคับใช้ลำบากมากเพราะผู้ใช้กดยอมรับแล้วใน ToS

    ✅ ทางเลือกของผู้ใช้งานคือเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น เช่น DaVinci Resolve หรือ Adobe Premiere ที่ให้ความเป็นเจ้าของผลงานแก่ผู้ใช้ชัดเจนกว่า

    https://www.techradar.com/pro/popular-video-editing-app-capcut-wants-to-use-any-content-you-produce-for-free-forever-heres-what-you-should-know
    หลายคนใช้ CapCut เพราะมันฟรี ใช้ง่าย และมีลูกเล่นที่ดีมาก…แต่หลังจากอัปเดตข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Service) ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวเตือนว่า ผู้ใช้แทบไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อหาของตัวเองแล้ว CapCut เขียนเงื่อนไขว่า เมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอ รูปภาพ หรือเสียงใด ๆ เข้าไปในระบบ (แม้แต่อันที่ไม่ได้กดเผยแพร่ก็ตาม) คุณจะมอบ สิทธิใช้งานแบบ “ทั่วโลก, ถาวร, โอนต่อได้, และไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์” ให้ CapCut ใช้ผลงานของคุณ — ทั้งใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และผลงานสร้างสรรค์ของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ รวมถึงการใช้ในโฆษณา โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าหรือให้ค่าตอบแทนใด ๆ สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ ถึงคุณจะลบบัญชี CapCut ไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังเป็นของ CapCut ตลอดไป เพราะเขาเขียนว่า "perpetual" — ไม่มีหมดอายุ แถมไม่มีวิธี opt-out ด้วย...หมายความว่าแค่คุณใช้งานก็ถือว่ายอมรับโดยอัตโนมัติ ✅ CapCut อัปเดตข้อตกลงการใช้งาน โดยอ้างสิทธิในผลงานของผู้ใช้แบบถาวรและโอนต่อได้   • ครอบคลุมถึงภาพใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และงานตัดต่อทั้งหมด   • ใช้ได้แม้ผู้ใช้จะลบบัญชีแล้ว ✅ ข้อตกลงใหม่นี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาทั้งหมดที่อัปโหลด — แม้จะไม่ได้เผยแพร่ก็ตาม   • รวมถึงคลิป draft, voiceover, หรือไฟล์ชั่วคราว ✅ CapCut ไม่มีระบบ opt-out — หากใช้งานถือว่ายอมรับข้อตกลงทันที   • ใช้กับทั้งผู้ใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เนื้อหาของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิดกฎหมายสิทธิภาพลักษณ์ (right of publicity)   • แต่การบังคับใช้ลำบากมากเพราะผู้ใช้กดยอมรับแล้วใน ToS ✅ ทางเลือกของผู้ใช้งานคือเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น เช่น DaVinci Resolve หรือ Adobe Premiere ที่ให้ความเป็นเจ้าของผลงานแก่ผู้ใช้ชัดเจนกว่า https://www.techradar.com/pro/popular-video-editing-app-capcut-wants-to-use-any-content-you-produce-for-free-forever-heres-what-you-should-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • iSoftStone อาจไม่ใช่ชื่อที่คนทั่วไปเคยได้ยิน แต่มันคือหนึ่งในม้ามืดที่มาจากสายงาน B2B โดยเฉพาะด้านการศึกษา, ภาครัฐ และองค์กรขนาดกลางในจีน ซึ่งเป็นภาคที่ได้รับ เงินสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอย่างต่อเนื่อง แม้ตลาดองค์กรขนาดใหญ่จะซบเซา

    ใน Q1 ปี 2025 พวกเขาขายพีซีไปถึง 890,000 เครื่อง — เพิ่มจาก 420,000 เครื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (โต 111% ภายในปีเดียว!) ซึ่งมากพอจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 10% แล้ว — ใกล้แซง Huawei ที่ 12% และแซง Apple กับ HP ไปแล้วเรียบร้อย

    นอกจาก B2B แล้ว iSoftStone ยังลงมาเล่นในตลาดเกมแรง ๆ ด้วย — ซึ่งเซกเมนต์นี้ในจีนยังโตปีละ 24% โดยเฉพาะฝั่งเครื่องแรงระดับสูง (High-End Gaming)

    แม้ตอนนี้ iSoftStone จะยังขายแค่ในจีน แต่มีประสบการณ์ทำโปรเจกต์ใหญ่ในต่างประเทศ เช่น ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า จะบุกตลาดโลกในไม่ช้านี้ — โดยเฉพาะเมื่อจีนต้องการดันแบรนด์ในประเทศให้แข็งแกร่งเพื่อแข่งขันกับ Lenovo, Dell, Apple และ HP

    https://www.techradar.com/pro/huge-pc-vendor-youve-never-heard-of-is-set-to-become-second-biggest-player-in-china-ahead-of-apple-hp-heres-why-it-matters
    iSoftStone อาจไม่ใช่ชื่อที่คนทั่วไปเคยได้ยิน แต่มันคือหนึ่งในม้ามืดที่มาจากสายงาน B2B โดยเฉพาะด้านการศึกษา, ภาครัฐ และองค์กรขนาดกลางในจีน ซึ่งเป็นภาคที่ได้รับ เงินสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอย่างต่อเนื่อง แม้ตลาดองค์กรขนาดใหญ่จะซบเซา ใน Q1 ปี 2025 พวกเขาขายพีซีไปถึง 890,000 เครื่อง — เพิ่มจาก 420,000 เครื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (โต 111% ภายในปีเดียว!) ซึ่งมากพอจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 10% แล้ว — ใกล้แซง Huawei ที่ 12% และแซง Apple กับ HP ไปแล้วเรียบร้อย นอกจาก B2B แล้ว iSoftStone ยังลงมาเล่นในตลาดเกมแรง ๆ ด้วย — ซึ่งเซกเมนต์นี้ในจีนยังโตปีละ 24% โดยเฉพาะฝั่งเครื่องแรงระดับสูง (High-End Gaming) แม้ตอนนี้ iSoftStone จะยังขายแค่ในจีน แต่มีประสบการณ์ทำโปรเจกต์ใหญ่ในต่างประเทศ เช่น ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า จะบุกตลาดโลกในไม่ช้านี้ — โดยเฉพาะเมื่อจีนต้องการดันแบรนด์ในประเทศให้แข็งแกร่งเพื่อแข่งขันกับ Lenovo, Dell, Apple และ HP https://www.techradar.com/pro/huge-pc-vendor-youve-never-heard-of-is-set-to-become-second-biggest-player-in-china-ahead-of-apple-hp-heres-why-it-matters
    WWW.TECHRADAR.COM
    Unknown outside China, iSoftStone is now the country’s third-largest PC brand
    iSoftStone enjoyed a 111% increase in unit shipments in just one year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่า Notification บนมือถือเด้งขึ้นมาบอกว่า “เปิดดูเลยที่ amazon.com” — พอเรากดปุ๊บ...กลับกลายเป็น “zon.com” แบบไม่รู้ตัว เพราะตัวอักษรที่เห็นกับ “ลิงก์จริง” ไม่เหมือนกัน!

    มันเกิดจากการฝัง “ตัวอักษรพิเศษแบบ Unicode ที่มองไม่เห็น” (เช่น zero-width space) ไว้ในลิงก์ พอ Android อ่านลิงก์นั้นก็แปลผลไม่เหมือนที่ผู้ใช้เห็น เช่น:
    - เห็นว่าเป็น amazon.com
    - แต่เบื้องหลังคือ ama​zon.com → ระบบตีความว่า zon.com แล้วเปิดลิงก์อันตรายแทน!

    ถ้าโดนใช้กับ deep link หรือ app link ก็จะยิ่งอันตราย เพราะกดแล้วสามารถสั่งให้แอปทำงาน เช่น โทรออก เปิดช่องแชต หรือดึงข้อมูลได้ทันที

    ทดลองแล้วว่าแอปดังหลายแอปโดนได้หมด ไม่ว่าจะเป็น WhatsApp, Instagram, Telegram, Discord หรือ Slack และเกิดขึ้นบนมือถือทั้ง Pixel 9, Galaxy S25 และ Android รุ่นก่อน ๆ

    ความน่ากลัวคือ แอนติไวรัสก็จับไม่ได้ เพราะนี่ไม่ใช่มัลแวร์ แต่เป็นการหลอกสายตาและใช้แอปให้ทำสิ่งที่เราไม่ตั้งใจ — ต้องพึ่งระบบป้องกันที่เข้าใจพฤติกรรมผิดปกติระดับ Endpoint เท่านั้น

    ✅ ช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ Unicode ที่มองไม่เห็น (เช่น zero-width space) ใน URL ของ Notification บน Android  
    • ทำให้ลิงก์ที่ผู้ใช้เห็นไม่ตรงกับลิงก์ที่ระบบ Android เปิดจริง

    ✅ สามารถนำไปใช้สร้างลิงก์ปลอม หรือ deep link ที่เปิดฟีเจอร์อันตรายในแอปอื่น เช่น โทรหาเบอร์ที่ตั้งไว้, เปิดหน้าเว็บปลอม, เรียก API ในแอป

    ✅ แอปยอดนิยมที่ได้รับผลกระทบจากการทดสอบ ได้แก่ WhatsApp, Telegram, Instagram, Discord, Slack

    ✅ นักวิจัยสามารถใช้แอปที่เขียนเองเพื่อเลี่ยงการกรองอักขระ และทดสอบเจาะผ่านหลายสถานการณ์ได้สำเร็จ

    ✅ การโจมตีใช้ได้บนมือถือหลายรุ่น ตั้งแต่ Google Pixel 9 Pro XL, Samsung Galaxy S25 ไปจนถึง Android รุ่นเก่า

    ✅ มัลแวร์หรือภัยแบบนี้ไม่ต้องใช้การดาวน์โหลดไฟล์ — แค่หลอก Notification หรือ UI ให้ผู้ใช้คลิกผิด

    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-could-trick-users-into-downloading-malware-and-opening-malicious-sites-using-a-flaw-in-android-heres-what-you-need-to-know
    ลองนึกภาพว่า Notification บนมือถือเด้งขึ้นมาบอกว่า “เปิดดูเลยที่ amazon.com” — พอเรากดปุ๊บ...กลับกลายเป็น “zon.com” แบบไม่รู้ตัว เพราะตัวอักษรที่เห็นกับ “ลิงก์จริง” ไม่เหมือนกัน! มันเกิดจากการฝัง “ตัวอักษรพิเศษแบบ Unicode ที่มองไม่เห็น” (เช่น zero-width space) ไว้ในลิงก์ พอ Android อ่านลิงก์นั้นก็แปลผลไม่เหมือนที่ผู้ใช้เห็น เช่น: - เห็นว่าเป็น amazon.com - แต่เบื้องหลังคือ ama​zon.com → ระบบตีความว่า zon.com แล้วเปิดลิงก์อันตรายแทน! ถ้าโดนใช้กับ deep link หรือ app link ก็จะยิ่งอันตราย เพราะกดแล้วสามารถสั่งให้แอปทำงาน เช่น โทรออก เปิดช่องแชต หรือดึงข้อมูลได้ทันที ทดลองแล้วว่าแอปดังหลายแอปโดนได้หมด ไม่ว่าจะเป็น WhatsApp, Instagram, Telegram, Discord หรือ Slack และเกิดขึ้นบนมือถือทั้ง Pixel 9, Galaxy S25 และ Android รุ่นก่อน ๆ ความน่ากลัวคือ แอนติไวรัสก็จับไม่ได้ เพราะนี่ไม่ใช่มัลแวร์ แต่เป็นการหลอกสายตาและใช้แอปให้ทำสิ่งที่เราไม่ตั้งใจ — ต้องพึ่งระบบป้องกันที่เข้าใจพฤติกรรมผิดปกติระดับ Endpoint เท่านั้น ✅ ช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ Unicode ที่มองไม่เห็น (เช่น zero-width space) ใน URL ของ Notification บน Android   • ทำให้ลิงก์ที่ผู้ใช้เห็นไม่ตรงกับลิงก์ที่ระบบ Android เปิดจริง ✅ สามารถนำไปใช้สร้างลิงก์ปลอม หรือ deep link ที่เปิดฟีเจอร์อันตรายในแอปอื่น เช่น โทรหาเบอร์ที่ตั้งไว้, เปิดหน้าเว็บปลอม, เรียก API ในแอป ✅ แอปยอดนิยมที่ได้รับผลกระทบจากการทดสอบ ได้แก่ WhatsApp, Telegram, Instagram, Discord, Slack ✅ นักวิจัยสามารถใช้แอปที่เขียนเองเพื่อเลี่ยงการกรองอักขระ และทดสอบเจาะผ่านหลายสถานการณ์ได้สำเร็จ ✅ การโจมตีใช้ได้บนมือถือหลายรุ่น ตั้งแต่ Google Pixel 9 Pro XL, Samsung Galaxy S25 ไปจนถึง Android รุ่นเก่า ✅ มัลแวร์หรือภัยแบบนี้ไม่ต้องใช้การดาวน์โหลดไฟล์ — แค่หลอก Notification หรือ UI ให้ผู้ใช้คลิกผิด https://www.techradar.com/pro/security/hackers-could-trick-users-into-downloading-malware-and-opening-malicious-sites-using-a-flaw-in-android-heres-what-you-need-to-know
    WWW.TECHRADAR.COM
    Your favorite apps might betray you, thanks to a new Android trick that fools even smart users
    That Android notification link may not be what it looks like, and it could cost you
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดูห่างเหินเกินไปแล้วใจเอ๋ย
    เหมือนไม่เคยรู้จักไม่ทักถาม
    จะมีสุขมีเศร้าไม่เล่าความ
    เห็นเอาตามแต่ใจเหมือนไม่แคร์
    หากห่างเหินเกินไปนะใจนะ
    อีกใจจะเศร้าสร้อยจะพลอยแย่
    ใจจะจ๋อยน้อยใจไหววอแว
    และงอแงเหงาหงอยเหนื่อยนอยด์ใจ
    อย่าห่างเหินเกินนักเลยรักเอ๋ย
    ยิ่งผ่านเลยหลายวันยิ่งหวั่นไหว
    คิดถึงนักหนักหน่วงเหนื่อยทรวงใน
    แจ้งข่าวใจหน่อยจ้าเจ้าข้าเอย
    ดูห่างเหินเกินไปแล้วใจเอ๋ย เหมือนไม่เคยรู้จักไม่ทักถาม จะมีสุขมีเศร้าไม่เล่าความ เห็นเอาตามแต่ใจเหมือนไม่แคร์ หากห่างเหินเกินไปนะใจนะ อีกใจจะเศร้าสร้อยจะพลอยแย่ ใจจะจ๋อยน้อยใจไหววอแว และงอแงเหงาหงอยเหนื่อยนอยด์ใจ อย่าห่างเหินเกินนักเลยรักเอ๋ย ยิ่งผ่านเลยหลายวันยิ่งหวั่นไหว คิดถึงนักหนักหน่วงเหนื่อยทรวงใน แจ้งข่าวใจหน่อยจ้าเจ้าข้าเอย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าชาย เรซา ปาห์ลาวี โอรสของพระเจ้าชาห์ที่สองของอิหร่าน ซึ่งขณะนี้ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐกล่าวแสดงความยินดีและพึงพอใจเกี่ยวกับข้อความของทรัมป์ที่แสดงความเห็นว่าถึงเวลาที่อิหร่านต้องเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองใหม่

    ที่ผ่านมาเจ้าชาย เรซา ปาห์ลาวี มักจะแสดงความเห็นโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์การปกครองของคาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านมาตลอด โดยต้องการให้อิหร่านเปลี่ยนเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยแห่งชาติแทน

    ย้อนกลับไปในปีพ.ศ. 2496 อังกฤษและสหรัฐฯวางแผนรัฐประหารในอิหร่านจนสำเร็จ และช่วยผลักดันให้ราชวงศ์ปาห์ลาวีขึ้นปกครองประเทศอิหร่าน หลังจากนั้นอิหร่านจึงกลายเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกและปล่อยให้อิทธิพลของต่างประเทศเข้ามาแทรกแซงหาผลประโยชน์จากน้ำมันซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญที่สุดของชาติ

    ต่อมาในปีพ.ศ.2522 ซึ่งเป็นยุคการปกครองของในสมัยของพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี กษัตริย์องค์ที่สองของราชวงศ์ปาห์ลาวี และเป็นพระราชบิดาของเจ้าชายเรซา ปาห์ลาวี (ที่กำลังลี้ภัยอยู่ในสหรัฐขณะนี้) เกิดการปฏิวัติเพื่อโค่นล้มการปกครอง และมีการสถาปนาสาธารณรัฐอิสลามเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2522 โดยอยาตอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ โคไมนี
    เจ้าชาย เรซา ปาห์ลาวี โอรสของพระเจ้าชาห์ที่สองของอิหร่าน ซึ่งขณะนี้ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐกล่าวแสดงความยินดีและพึงพอใจเกี่ยวกับข้อความของทรัมป์ที่แสดงความเห็นว่าถึงเวลาที่อิหร่านต้องเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองใหม่ ที่ผ่านมาเจ้าชาย เรซา ปาห์ลาวี มักจะแสดงความเห็นโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์การปกครองของคาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านมาตลอด โดยต้องการให้อิหร่านเปลี่ยนเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยแห่งชาติแทน ย้อนกลับไปในปีพ.ศ. 2496 อังกฤษและสหรัฐฯวางแผนรัฐประหารในอิหร่านจนสำเร็จ และช่วยผลักดันให้ราชวงศ์ปาห์ลาวีขึ้นปกครองประเทศอิหร่าน หลังจากนั้นอิหร่านจึงกลายเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกและปล่อยให้อิทธิพลของต่างประเทศเข้ามาแทรกแซงหาผลประโยชน์จากน้ำมันซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญที่สุดของชาติ ต่อมาในปีพ.ศ.2522 ซึ่งเป็นยุคการปกครองของในสมัยของพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี กษัตริย์องค์ที่สองของราชวงศ์ปาห์ลาวี และเป็นพระราชบิดาของเจ้าชายเรซา ปาห์ลาวี (ที่กำลังลี้ภัยอยู่ในสหรัฐขณะนี้) เกิดการปฏิวัติเพื่อโค่นล้มการปกครอง และมีการสถาปนาสาธารณรัฐอิสลามเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2522 โดยอยาตอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ โคไมนี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเหล่าผู้กล้าทั้งหลายที่ได้สละชีพเลือดเนื้อปกป้องผืนดินสยามนี้จงพบแสงธรรมความสว่างหลุดพ้นห่วงทุกข์พันธนาการสิ้น พบพระสำเร็จเทอญ สาธุ
    นิพพานปัจจโยโหตุ
    ขอเหล่าผู้กล้าทั้งหลายที่ได้สละชีพเลือดเนื้อปกป้องผืนดินสยามนี้จงพบแสงธรรมความสว่างหลุดพ้นห่วงทุกข์พันธนาการสิ้น พบพระสำเร็จเทอญ สาธุ นิพพานปัจจโยโหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพรัสเซียโจมตีไปที่อาคารสถาบันเคียฟโพลีเทคนิคอิกอร์ ซิคอร์สกี้ (Igor Sikorsky Kyiv Polytechnic Institute) กลางกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ซึ่งเป็นศูนย์พัฒนาโดรนสำหรับกองทัพยูเครน
    กองทัพรัสเซียโจมตีไปที่อาคารสถาบันเคียฟโพลีเทคนิคอิกอร์ ซิคอร์สกี้ (Igor Sikorsky Kyiv Polytechnic Institute) กลางกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ซึ่งเป็นศูนย์พัฒนาโดรนสำหรับกองทัพยูเครน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/mZl6YYRUNEY?si=4GY1ROuVTtQ1PE1i
    https://www.youtube.com/live/mZl6YYRUNEY?si=4GY1ROuVTtQ1PE1i
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใดๆล้วน3ลักสิ้น
    นิพพานปัจจโยโหตุ
    ใดๆล้วน3ลักสิ้น นิพพานปัจจโยโหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • โง่ไม่พอ ยังซวยเพิ่ม หลังฮุนมาเนต ระงับนำเข้าน้ำมันจากไทย แต่น้ำมันโลกปั่นป่วนจากการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ถึงคราวต้องพึ่งหมอผีเสกค่าออกเทนใส่น้ำมันพราย มาใช้แทนน้ำมันสำเร็จรูปไปพลางๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    โง่ไม่พอ ยังซวยเพิ่ม หลังฮุนมาเนต ระงับนำเข้าน้ำมันจากไทย แต่น้ำมันโลกปั่นป่วนจากการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ถึงคราวต้องพึ่งหมอผีเสกค่าออกเทนใส่น้ำมันพราย มาใช้แทนน้ำมันสำเร็จรูปไปพลางๆ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ทัศนคติวิโรจน์ สวนทางบทบาทการเป็นประธานคณะกรรมาธิการทหาร ลาออกไปอีกคนน่าจะดีต่อกองทัพในยามที่ต้องปกป้องอธิปไตยชาติ
    #7ดอกจิก
    #วิโรจน์
    ♣ ทัศนคติวิโรจน์ สวนทางบทบาทการเป็นประธานคณะกรรมาธิการทหาร ลาออกไปอีกคนน่าจะดีต่อกองทัพในยามที่ต้องปกป้องอธิปไตยชาติ #7ดอกจิก #วิโรจน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิบราฮิม ตราโอเร วัย 37 ปี ประธานาธิบดีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งบูร์กินาฟาโซ กล่าวว่า "เหตุใดจึงมีคนทิ้งระเบิดใส่ประเทศอื่นและเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการกระทำเพื่อสันติภาพ ในโลกนี้ เราตระหนักดีแล้วว่าจำเป็นต้องมีระเบิดนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง"
    อิบราฮิม ตราโอเร วัย 37 ปี ประธานาธิบดีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งบูร์กินาฟาโซ กล่าวว่า "เหตุใดจึงมีคนทิ้งระเบิดใส่ประเทศอื่นและเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการกระทำเพื่อสันติภาพ ในโลกนี้ เราตระหนักดีแล้วว่าจำเป็นต้องมีระเบิดนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง"
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้แทนรัสเซียกล่าวในการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ต่อโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ ฟอร์โดว์ และอิสฟาฮานของอิหร่าน:

    ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน:
    👉อิสราเอลยังไม่เป็นสมาชิก NPT (สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์) ดังนั้น IAEA จึงไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบอิสราเอลอย่างเต็มรูปแบบ

    👉แต่อิหร่านเป็นประเทศเดียวที่ยอมรับการตรวจสอบมากที่สุด แต่แทนที่จะขอบคุณประเทศนี้ เรากลับทิ้งระเบิดใส่พวกเขา และพลเรือนของอิหร่านก็ตกเป็นเป้าหมาย

    👉น่าเสียดายที่ผู้อำนวยการของ IAEA ไม่เคยเรียกร้องให้อิสราเอลเข้าร่วม NPT สถานการณ์นี้จึงเป็นการฉ้อโกงเอารัดเอาเปรียบ
    ผู้แทนรัสเซียกล่าวในการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ต่อโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ ฟอร์โดว์ และอิสฟาฮานของอิหร่าน: ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน: 👉อิสราเอลยังไม่เป็นสมาชิก NPT (สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์) ดังนั้น IAEA จึงไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบอิสราเอลอย่างเต็มรูปแบบ 👉แต่อิหร่านเป็นประเทศเดียวที่ยอมรับการตรวจสอบมากที่สุด แต่แทนที่จะขอบคุณประเทศนี้ เรากลับทิ้งระเบิดใส่พวกเขา และพลเรือนของอิหร่านก็ตกเป็นเป้าหมาย 👉น่าเสียดายที่ผู้อำนวยการของ IAEA ไม่เคยเรียกร้องให้อิสราเอลเข้าร่วม NPT สถานการณ์นี้จึงเป็นการฉ้อโกงเอารัดเอาเปรียบ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายเนเบนเซีย ผู้แทนรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวสบประมาทสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ "บางคน" ที่ไม่มีความกล้าเพียงพอที่จะลุกขึ้นประณามการกระทำของสหรัฐฯ จากการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน

    และยังกล่าวเสริมอีกว่า หากไม่ลดระดับความรุนแรงในตะวันออกกลาง โลกก็เสี่ยงที่จะก้าวไปสู่หายนะนิวเคลียร์
    นายเนเบนเซีย ผู้แทนรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวสบประมาทสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ "บางคน" ที่ไม่มีความกล้าเพียงพอที่จะลุกขึ้นประณามการกระทำของสหรัฐฯ จากการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน และยังกล่าวเสริมอีกว่า หากไม่ลดระดับความรุนแรงในตะวันออกกลาง โลกก็เสี่ยงที่จะก้าวไปสู่หายนะนิวเคลียร์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว