• 281 Posts
  • 255 Photos
  • 1 Videos
  • Followed by 50 people
Pinned Post
Sondhitalk EP 258 : กรรมตามทัน “สมยศ” ไซด์ไลน์ (Full)

- กรรมตามทัน “สมยศ ไซด์ไลน์”
- จุบจบ “ประชาธิปัตย์”
- ยุ “ลุงป้อม” สู้ต่อทักษิณ
- มหาศึกชิงข้อมูล ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า
- แนวรบทะเลจีนใต้

#สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitime #สมยศ #บอสอยู่วิทยา #การเมือง #ประชาธิปัตย์ #บิ๊กป้อม #พลังประชารฐ #ทักษิณ #data #Baidu #สงคราม #ไต้หวัน
Like
1
0 Comments 0 Shares 97 Views 2040 0 Reviews
Recent Updates
  • 16 กันยายน 2567-Live สนธิเล่าเรื่อง https://www.youtube.com/live/6QuWFG_oxmo?si=mdXzYDDO4hLudSjo

    #Thaitimes
    16 กันยายน 2567-Live สนธิเล่าเรื่อง https://www.youtube.com/live/6QuWFG_oxmo?si=mdXzYDDO4hLudSjo #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • ลอบสังหาร"ทรัมป์" ครั้งที่สอง แต่ทรัมป์ปลอดภัยหลังเกิดเหตุยิงครั้งใหม่, FBI เชื่อคนร้ายจ้องลอบสังหาร

    15 กันยายน2567- รายงานข่าวอินโฟเควสระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน เผชิญกับเหตุการณ์ระทักขวัญรอบใหม่ โดยมีชายคนหนึ่งยิงปืนใกล้สนามกอล์ฟของทรัมป์ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) อย่างไรก็ดี ทรัมป์ปลอดภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) เชื่อว่า มือปืนรายนี้มีเป้าหมายที่จะลอบสังหารทรัมป์

    มือปืนที่ก่อเหตุได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (US Secret Service) หรือ USSS ยิงและถูกรวบตัวเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ทรัมป์กำลังเล่นกอล์ฟในสนามแห่งนี้ และจุดที่ทรัมป์เล่นกอล์ฟนั้น อยู่ห่างจากมือปืนในรัศมี 300-500 หลา

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วย USSS ได้นำตัวทรัมป์ไปยังที่ที่ปลอดภัยทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น และขบวนรถของหน่วย USSS ใช้เวลาไม่นานในการพาทรัมป์เดินทางถึงบ้านพักของเขาที่รีสอร์ตมาร์-อะ-ลาโก ในปาล์มบีช

    สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไม่นาน ทีมหาเสียงของทรัมป์ได้ส่งข้อความของทรัมป์ผ่านทางอีเมลที่ตั้งขึ้นเพื่อการระดมทุน โดยมีใจความว่า "เกิดเหตุการณ์ยิงในพื้นที่ของผม แต่ก่อนที่ข่าวลือจะแพร่สะพัดออกไปจนไม่อาจควบคุมได้นั้น ผมต้องการให้ท่านฟังทางนี้ว่า 'ผมปลอดภัยและผมสบายดี' ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมช้าลงได้ และผมจะไม่มีวันยอมแพ้"

    ริค แบรดชอร์ นายอำเภอเขตปาล์มบีช เคาตี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเสียงปืนดังขึ้นไม่นาน พยานคนหนึ่งในที่เกิดเหตุได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเห็นชายคนหนึ่งวิ่งออกจากพุ่มไม้ และจากนั้นได้กระโดดเข้าไปในรถยนต์นิสสันสีดำคันหนึ่ง

    นอกจากนี้ แบรดชอร์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจได้พบปืนไรเฟิลรุ่น AK-47 พร้อมกล้องส่องทางไกลใกล้กับพุ่มไม้ และยังพบกระเป๋าเป้สองใบที่มีกระเบื้องเซรามิกอยู่ข้างใน และพบกล้อง GoPro ที่ผูกยึดติดกับรั้ว

    ทั้งนี้ ทรัมป์เผชิญกับเหตุการณ์ระทึกขวัญเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ถูกคนร้ายลอบยิงในระหว่างการปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย โดยทรัมป์ถูกยิงที่หูด้านขวาและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ส่วนมือปืนได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐยิงเสียชีวิตหลังก่อเหตุทันที

    #Thaitimes
    ลอบสังหาร"ทรัมป์" ครั้งที่สอง แต่ทรัมป์ปลอดภัยหลังเกิดเหตุยิงครั้งใหม่, FBI เชื่อคนร้ายจ้องลอบสังหาร 15 กันยายน2567- รายงานข่าวอินโฟเควสระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน เผชิญกับเหตุการณ์ระทักขวัญรอบใหม่ โดยมีชายคนหนึ่งยิงปืนใกล้สนามกอล์ฟของทรัมป์ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) อย่างไรก็ดี ทรัมป์ปลอดภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) เชื่อว่า มือปืนรายนี้มีเป้าหมายที่จะลอบสังหารทรัมป์ มือปืนที่ก่อเหตุได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (US Secret Service) หรือ USSS ยิงและถูกรวบตัวเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ทรัมป์กำลังเล่นกอล์ฟในสนามแห่งนี้ และจุดที่ทรัมป์เล่นกอล์ฟนั้น อยู่ห่างจากมือปืนในรัศมี 300-500 หลา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วย USSS ได้นำตัวทรัมป์ไปยังที่ที่ปลอดภัยทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น และขบวนรถของหน่วย USSS ใช้เวลาไม่นานในการพาทรัมป์เดินทางถึงบ้านพักของเขาที่รีสอร์ตมาร์-อะ-ลาโก ในปาล์มบีช สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไม่นาน ทีมหาเสียงของทรัมป์ได้ส่งข้อความของทรัมป์ผ่านทางอีเมลที่ตั้งขึ้นเพื่อการระดมทุน โดยมีใจความว่า "เกิดเหตุการณ์ยิงในพื้นที่ของผม แต่ก่อนที่ข่าวลือจะแพร่สะพัดออกไปจนไม่อาจควบคุมได้นั้น ผมต้องการให้ท่านฟังทางนี้ว่า 'ผมปลอดภัยและผมสบายดี' ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมช้าลงได้ และผมจะไม่มีวันยอมแพ้" ริค แบรดชอร์ นายอำเภอเขตปาล์มบีช เคาตี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเสียงปืนดังขึ้นไม่นาน พยานคนหนึ่งในที่เกิดเหตุได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเห็นชายคนหนึ่งวิ่งออกจากพุ่มไม้ และจากนั้นได้กระโดดเข้าไปในรถยนต์นิสสันสีดำคันหนึ่ง นอกจากนี้ แบรดชอร์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจได้พบปืนไรเฟิลรุ่น AK-47 พร้อมกล้องส่องทางไกลใกล้กับพุ่มไม้ และยังพบกระเป๋าเป้สองใบที่มีกระเบื้องเซรามิกอยู่ข้างใน และพบกล้อง GoPro ที่ผูกยึดติดกับรั้ว ทั้งนี้ ทรัมป์เผชิญกับเหตุการณ์ระทึกขวัญเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ถูกคนร้ายลอบยิงในระหว่างการปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย โดยทรัมป์ถูกยิงที่หูด้านขวาและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ส่วนมือปืนได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐยิงเสียชีวิตหลังก่อเหตุทันที #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews
  • 15 กันยายน 2567-ผลเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 อย่างไม่เป็นทางการ "จเด็ศ" จาก เพื่อไทย” ชนะ "ณฐชนน" จาก "ประชาชน" ห่างกัน 6,744 คะแนน

    #Thaitimes
    15 กันยายน 2567-ผลเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 อย่างไม่เป็นทางการ "จเด็ศ" จาก เพื่อไทย” ชนะ "ณฐชนน" จาก "ประชาชน" ห่างกัน 6,744 คะแนน #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • ลุง(อีกแระ)
    ที่มา: บัญชา/คามิน การ์ตูน
    #Thaitimes
    ลุง(อีกแระ) ที่มา: บัญชา/คามิน การ์ตูน #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • การ์ตูนการเมือง:บัญชา/คามิน
    ที่มา : https://www.facebook.com/100044613481368/posts/pfbid035UUFRumVtaJPLY2s5th5grDTA8JgwBCPktSBn16uStMr8hUyW9BT6uVUJUk5Xz1Zl/?

    #Thaitimes
    การ์ตูนการเมือง:บัญชา/คามิน ที่มา : https://www.facebook.com/100044613481368/posts/pfbid035UUFRumVtaJPLY2s5th5grDTA8JgwBCPktSBn16uStMr8hUyW9BT6uVUJUk5Xz1Zl/? #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • จับกุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัยชาวอเมริกัน ที่เป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือสหรัฐฯหรือNavy Seal และซีไอเอของสเปนกับเช็กเข้ามาวางแผนจะลอบสังหารประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซูเอลา

    15 กันยายน2567-รายงานข่าวเอพีระบุว่า ดีโอสดาโด กาเบญโญ รัฐมนตรีมหาดไทยของเวเนซุเอลา แถลงข่าวทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า ทางการจับกุมชาวอเมริกัน 3 คน ชาวสเปน 2 คน และชาวสาธารณรัฐเช็ก 1 คนเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น (14 ก.ย.) ที่เดินทางเข้าประเทศหวังลอบสังหารประธานาธิบดี โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่นำโดยสำนักข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ ของสหรัฐฯ ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลเวเนซุเอลา และสังหารแกนนำรัฐบาลหลายคน รัฐมนตรีมหาดไทยกาเบญโญได้เปิดเผยภาพปืนยาวหลายกระบอกที่อ้างว่ายึดได้จากผู้วางแผนบางคน และระบุว่าหนึ่งในชาวอเมริกันที่ถูกจับกุมเป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือสหรัฐฯ หรือNavy Seal ที่เคยปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถาน อิรักและโคลอมเบีย

    ทางด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงในวันเดียวกันว่า มีทหารอเมริกันถูกเวเนซุเอลาจับกุม 1 นาย และได้รับรายงานข่าวที่ไม่ยืนยันว่า มีชาวอเมริกัน 2 คนถูกจับกุมด้วย พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องสหรัฐฯ พัวพันกับแผนการโค่นล้มนายมาดูโรว่าเป็นเรื่องเท็จอย่างแท้จริง เพราะสหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนให้ใช้หนทางประชาธิปไตยในการแก้ไขวิกฤตทางการเมืองในเวเนซุเอลา

    ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสเปนระบุในแถลงการณ์ว่า ได้ติดต่อไปยังรัฐบาลเวเนซุเอลาเพื่อขอคำชี้แจงในเรื่องนี้ เพราะมีพลเมืองสเปนถูกควบคุมตัว 2 คน และต้องการทราบรูปพรรณรวมถึงสถานที่จับกุมชาวสเปนทั้ง 2 คน สื่อสเปนรายงานว่า พลเมืองสเปนทั้ง 2 คนถูกควบคุมตัวในเมืองปวยโต อายาชูโช และเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองสเปน ซึ่งรัฐบาลสเปนปฏิเสธในเรื่องนี้

    เวเนซุเอลาประกาศข่าวจับกุมชาวต่างชาติ หลังจากกระทรวงคลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการลงโทษพันธมิตร 16 คนของผู้นำเวเนซุเอลาได้เพียง 2 วัน โทษฐานขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่รัฐสภาสเปนประกาศรับรอง เอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ว่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งกอนซาเลซได้เดินทางออกจากเวเนซุเอลาเข้าไปลี้ภัยการเมืองในสเปนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    https://apnews.com/article/696768e00bf22f5747062a4a8b662fcc

    #Thaitimes
    จับกุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัยชาวอเมริกัน ที่เป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือสหรัฐฯหรือNavy Seal และซีไอเอของสเปนกับเช็กเข้ามาวางแผนจะลอบสังหารประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซูเอลา 15 กันยายน2567-รายงานข่าวเอพีระบุว่า ดีโอสดาโด กาเบญโญ รัฐมนตรีมหาดไทยของเวเนซุเอลา แถลงข่าวทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า ทางการจับกุมชาวอเมริกัน 3 คน ชาวสเปน 2 คน และชาวสาธารณรัฐเช็ก 1 คนเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น (14 ก.ย.) ที่เดินทางเข้าประเทศหวังลอบสังหารประธานาธิบดี โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่นำโดยสำนักข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ ของสหรัฐฯ ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลเวเนซุเอลา และสังหารแกนนำรัฐบาลหลายคน รัฐมนตรีมหาดไทยกาเบญโญได้เปิดเผยภาพปืนยาวหลายกระบอกที่อ้างว่ายึดได้จากผู้วางแผนบางคน และระบุว่าหนึ่งในชาวอเมริกันที่ถูกจับกุมเป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือสหรัฐฯ หรือNavy Seal ที่เคยปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถาน อิรักและโคลอมเบีย ทางด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงในวันเดียวกันว่า มีทหารอเมริกันถูกเวเนซุเอลาจับกุม 1 นาย และได้รับรายงานข่าวที่ไม่ยืนยันว่า มีชาวอเมริกัน 2 คนถูกจับกุมด้วย พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องสหรัฐฯ พัวพันกับแผนการโค่นล้มนายมาดูโรว่าเป็นเรื่องเท็จอย่างแท้จริง เพราะสหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนให้ใช้หนทางประชาธิปไตยในการแก้ไขวิกฤตทางการเมืองในเวเนซุเอลา ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสเปนระบุในแถลงการณ์ว่า ได้ติดต่อไปยังรัฐบาลเวเนซุเอลาเพื่อขอคำชี้แจงในเรื่องนี้ เพราะมีพลเมืองสเปนถูกควบคุมตัว 2 คน และต้องการทราบรูปพรรณรวมถึงสถานที่จับกุมชาวสเปนทั้ง 2 คน สื่อสเปนรายงานว่า พลเมืองสเปนทั้ง 2 คนถูกควบคุมตัวในเมืองปวยโต อายาชูโช และเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองสเปน ซึ่งรัฐบาลสเปนปฏิเสธในเรื่องนี้ เวเนซุเอลาประกาศข่าวจับกุมชาวต่างชาติ หลังจากกระทรวงคลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการลงโทษพันธมิตร 16 คนของผู้นำเวเนซุเอลาได้เพียง 2 วัน โทษฐานขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่รัฐสภาสเปนประกาศรับรอง เอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ว่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งกอนซาเลซได้เดินทางออกจากเวเนซุเอลาเข้าไปลี้ภัยการเมืองในสเปนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว https://apnews.com/article/696768e00bf22f5747062a4a8b662fcc #Thaitimes
    APNEWS.COM
    Venezuela says it arrested 6 foreigners allegedly involved in a plot to kill President Maduro
    Venezuelan officials say they've arrested six foreign nationals, including three Americans, accusing them of plotting to assassinate President Nicolas Maduro.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • อเมริกาหลังชนฝาปีหน้าปั่นสงครามนิวเคลียร์
    .
    ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยในชีวิตผม ตั้งแต่อยู่ในวงการข่าวมากว่าห้าสิบปี ที่ได้เห็นผู้อำนวยการข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA ซึ่งปัจจุบันคือ นายวิลเลียม เบิร์นส และหัวหน้าข่าวกรองต่างประเทศ หรือ MI6 ของอังกฤษ คือ เซอร์ริชาร์ด มัวร์ ไปขึ้นเวทีพร้อมๆ กัน โดยคนที่สัมภาษณ์หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับทั้งสองคน คือ นาง Roula Khalaf บก.บริหารหญิงของ Financial Times ที่ยังมีนายทุนยิวที่มีอิทธิพลครอบงำใน City of London และ Wall Street เหล่านี้และนี่เองคำตอบส่วนหนึ่งว่าทำไม ผอ. ทั้ง CIA และ MI6 ถึงยอมมาขึ้นเวทีของ Financial Times พร้อมกันเป็นครั้งแรก
    .
    องค์กรสืบราชการลับ 2 องค์กรนี้คือตัวสำคัญที่ป่วนโลกทั้งโลกเลย ป่วนหมดทุกอย่างเพื่อหวังผลประโยชน์ในวาระซ่อนเร้น หรือวาระที่ตะวันตกมีอยู่กับโลกทั้งโลกให้เป็นไปตามที่ต้องการ องค์กร 2 องค์กรนี้ ลอบสังหาร ปลุกปั่นชาวบ้าน ยุยงให้มีความวุ่นวายขึ้นมา เพื่อพวกมันจะได้เข้ามาจับปลาตอนน้ำขุ่น
    .
    ท่านผู้ชมครับ ในบทบรรณาธิการ ทั้งวิลเลียม เบิร์นส และ ริชาร์ด มัวร์ เขียนเผยแพร่ร่วมกันในหนังสือพิมพ์ The Financial Times เมื่อวันเดียวกัน วันเสาร์ที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ทั้งคู่พยายามปั่นกระแสว่าปัจจุบันกำลังเกิดภัยคุกคามโลกอย่างไม่เคยเห็น ตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ขณะที่เครื่องบินล่องหน F-35 ก็ฝึกบินลงจอดบนถนนไฮเวย์ในฟินแลนด์ ที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย ส่วนเครื่องรบนาโตของเยอรมนี กำลังฝึกซ้อมขนระเบิดนิวเคลียร์อเมริกา B-61 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
    .
    นิตยสาร NEWSWEEK รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 6 กันยายน ก่อนวันกล่าวสุนทรพจน์ (7 ก.ย.) ว่า กองทัพนาโตแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ได้ส่งระเบิดนิวเคลียร์ B61 จำนวนหนึ่งมาประจำการในยุโรป อันเป็นส่วนหนึ่งของการขยายป้องปรามที่รู้จักกันในนาม "ร่มนิวเคลียร์" หรือ Nuclear Umbrella ทั้งนี้ เป็นที่คาดหมายว่าระเบิดนิวเคลียร์ B61 จะถูกประจำไว้ที่ฐานทัพ 6 แห่งในยุโรป รวมทั้งฐานทัพอากาศบูเชล ทางตะวันตกของเยอรมนี
    .
    ผมเป็นคนที่ติดตามสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ของโลกอย่างใกล้ชิดมาหลายสิบปี ช่วงหลังผมมีโอกาสคุยกับคุณทนง ขันทอง นักการทูต และผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศหลายคน จนตกผลึกว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เห็นได้ชัด สถานการณ์ที่ผู้อำนวยการข่าวกรอง MI6 และ CIA มาแถลงข่าวร่วมกัน เห็นได้ชัดว่าชาติตะวันตกและอเมริกาในยุโรปอยู่ในสถานการณ์หลังชนฝา มีความสั่นคลอนมาก จึงพยายามดิ้นรนรักษาความเป็นมหาอำนาจของโลกไว้อยู่ในการควบคุมของตัวเอง ก็คือว่า กูเคยคุมโลกอย่างไร กูไม่สนหรอก กูจะคุมโลกต่อไป ทุกคนต้องฟังกู นี่คือทัศนคติของโลกทางตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯอเมริกา
    .
    เป็นไปได้สูงมากว่าจุดแตกหักอาจจะเกิดขึ้นในปีหน้า คือ 2568 เพราะปีหน้าจากสถานการณ์ทั้งทางธุรกิจ เศรษฐกิจ การลงทุน การขาดดุลการค้า และงบประมาณหลายๆ อย่างของโลกตะวันตก น่าจะก้าวเข้าไปสู่ช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินแล้ว ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดของกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน ซึ่งมีนายวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคม 2567 ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม จะเป็นการส่งสัญญาณที่แรงมาก เพราะมีประเทศที่สนใจเข้าเป็นสมาชิก BRICS เต็มไปหมด รวมๆ แล้ว 50 ประเทศ
    .
    ด้วยเหตุนี้ อเมริกา อังกฤษ และชาติตะวันตกในยุโรปจึงจงใจจุดไฟสงครามเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ BRICS ได้แจ้งเกิด มิฉะนั้นแล้ว ศูนย์กลางการเจริญเติบโตของโลกจะย้ายที่มาที่ Global South หรือซีกโลกใต้ ที่ผมเอ่ยชื่อไปเมื่อกี้นี้อย่างแน่นอน
    .
    ด้วยเหตุนี้ผมจึงมองว่าตอนนี้ระหว่างโลกตะวันตกที่นำโดยอเมริกา กับประเทศในกลุ่ม BRICS ซึ่งนำโดยจีน รัสเซีย อินเดียบราซิลและแอฟริกาใต้ นับวันจะยิ่งแข็งแกร่งและขยายตัวใหญ่ขึ้นทุกที ประจวบกับการที่จีนเข้าไปสานสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกาอย่างแน่นแฟ้น ด้วยเหตุนี้ ยิ่งนานวันทั้งสองฝ่ายยิ่งคุยกันไม่รู้เรื่อง
    .
    เพราะฉะนั้นแล้ว สงครามใหญ่อาจจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ผมก็เชื่อว่าเกิดขึ้นได้ยาก แต่มีโอกาสเกิดขึ้นแน่ และผมขอฟันธงไว้ล่วงหน้า ถ้าเกิดขึ้นจริง โลกตะวันตก อียู และอเมริกา จะแพ้ครับ นี่ผมทำนายไว้ล่วงหน้าเลยนะท่านผู้ชม จดเอาไว้ ผมทำนายวันนี้
    ที่มา : คุยทุกเรื่องกับสนธิ https://www.facebook.com/share/p/CrumLsJDbu5LEXj5/?mibextid=CTbP7E
    #Thaitimes
    อเมริกาหลังชนฝาปีหน้าปั่นสงครามนิวเคลียร์ . ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยในชีวิตผม ตั้งแต่อยู่ในวงการข่าวมากว่าห้าสิบปี ที่ได้เห็นผู้อำนวยการข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA ซึ่งปัจจุบันคือ นายวิลเลียม เบิร์นส และหัวหน้าข่าวกรองต่างประเทศ หรือ MI6 ของอังกฤษ คือ เซอร์ริชาร์ด มัวร์ ไปขึ้นเวทีพร้อมๆ กัน โดยคนที่สัมภาษณ์หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับทั้งสองคน คือ นาง Roula Khalaf บก.บริหารหญิงของ Financial Times ที่ยังมีนายทุนยิวที่มีอิทธิพลครอบงำใน City of London และ Wall Street เหล่านี้และนี่เองคำตอบส่วนหนึ่งว่าทำไม ผอ. ทั้ง CIA และ MI6 ถึงยอมมาขึ้นเวทีของ Financial Times พร้อมกันเป็นครั้งแรก . องค์กรสืบราชการลับ 2 องค์กรนี้คือตัวสำคัญที่ป่วนโลกทั้งโลกเลย ป่วนหมดทุกอย่างเพื่อหวังผลประโยชน์ในวาระซ่อนเร้น หรือวาระที่ตะวันตกมีอยู่กับโลกทั้งโลกให้เป็นไปตามที่ต้องการ องค์กร 2 องค์กรนี้ ลอบสังหาร ปลุกปั่นชาวบ้าน ยุยงให้มีความวุ่นวายขึ้นมา เพื่อพวกมันจะได้เข้ามาจับปลาตอนน้ำขุ่น . ท่านผู้ชมครับ ในบทบรรณาธิการ ทั้งวิลเลียม เบิร์นส และ ริชาร์ด มัวร์ เขียนเผยแพร่ร่วมกันในหนังสือพิมพ์ The Financial Times เมื่อวันเดียวกัน วันเสาร์ที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ทั้งคู่พยายามปั่นกระแสว่าปัจจุบันกำลังเกิดภัยคุกคามโลกอย่างไม่เคยเห็น ตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ขณะที่เครื่องบินล่องหน F-35 ก็ฝึกบินลงจอดบนถนนไฮเวย์ในฟินแลนด์ ที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย ส่วนเครื่องรบนาโตของเยอรมนี กำลังฝึกซ้อมขนระเบิดนิวเคลียร์อเมริกา B-61 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย . นิตยสาร NEWSWEEK รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 6 กันยายน ก่อนวันกล่าวสุนทรพจน์ (7 ก.ย.) ว่า กองทัพนาโตแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ได้ส่งระเบิดนิวเคลียร์ B61 จำนวนหนึ่งมาประจำการในยุโรป อันเป็นส่วนหนึ่งของการขยายป้องปรามที่รู้จักกันในนาม "ร่มนิวเคลียร์" หรือ Nuclear Umbrella ทั้งนี้ เป็นที่คาดหมายว่าระเบิดนิวเคลียร์ B61 จะถูกประจำไว้ที่ฐานทัพ 6 แห่งในยุโรป รวมทั้งฐานทัพอากาศบูเชล ทางตะวันตกของเยอรมนี . ผมเป็นคนที่ติดตามสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ของโลกอย่างใกล้ชิดมาหลายสิบปี ช่วงหลังผมมีโอกาสคุยกับคุณทนง ขันทอง นักการทูต และผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศหลายคน จนตกผลึกว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เห็นได้ชัด สถานการณ์ที่ผู้อำนวยการข่าวกรอง MI6 และ CIA มาแถลงข่าวร่วมกัน เห็นได้ชัดว่าชาติตะวันตกและอเมริกาในยุโรปอยู่ในสถานการณ์หลังชนฝา มีความสั่นคลอนมาก จึงพยายามดิ้นรนรักษาความเป็นมหาอำนาจของโลกไว้อยู่ในการควบคุมของตัวเอง ก็คือว่า กูเคยคุมโลกอย่างไร กูไม่สนหรอก กูจะคุมโลกต่อไป ทุกคนต้องฟังกู นี่คือทัศนคติของโลกทางตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯอเมริกา . เป็นไปได้สูงมากว่าจุดแตกหักอาจจะเกิดขึ้นในปีหน้า คือ 2568 เพราะปีหน้าจากสถานการณ์ทั้งทางธุรกิจ เศรษฐกิจ การลงทุน การขาดดุลการค้า และงบประมาณหลายๆ อย่างของโลกตะวันตก น่าจะก้าวเข้าไปสู่ช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินแล้ว ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดของกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน ซึ่งมีนายวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคม 2567 ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม จะเป็นการส่งสัญญาณที่แรงมาก เพราะมีประเทศที่สนใจเข้าเป็นสมาชิก BRICS เต็มไปหมด รวมๆ แล้ว 50 ประเทศ . ด้วยเหตุนี้ อเมริกา อังกฤษ และชาติตะวันตกในยุโรปจึงจงใจจุดไฟสงครามเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ BRICS ได้แจ้งเกิด มิฉะนั้นแล้ว ศูนย์กลางการเจริญเติบโตของโลกจะย้ายที่มาที่ Global South หรือซีกโลกใต้ ที่ผมเอ่ยชื่อไปเมื่อกี้นี้อย่างแน่นอน . ด้วยเหตุนี้ผมจึงมองว่าตอนนี้ระหว่างโลกตะวันตกที่นำโดยอเมริกา กับประเทศในกลุ่ม BRICS ซึ่งนำโดยจีน รัสเซีย อินเดียบราซิลและแอฟริกาใต้ นับวันจะยิ่งแข็งแกร่งและขยายตัวใหญ่ขึ้นทุกที ประจวบกับการที่จีนเข้าไปสานสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกาอย่างแน่นแฟ้น ด้วยเหตุนี้ ยิ่งนานวันทั้งสองฝ่ายยิ่งคุยกันไม่รู้เรื่อง . เพราะฉะนั้นแล้ว สงครามใหญ่อาจจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ผมก็เชื่อว่าเกิดขึ้นได้ยาก แต่มีโอกาสเกิดขึ้นแน่ และผมขอฟันธงไว้ล่วงหน้า ถ้าเกิดขึ้นจริง โลกตะวันตก อียู และอเมริกา จะแพ้ครับ นี่ผมทำนายไว้ล่วงหน้าเลยนะท่านผู้ชม จดเอาไว้ ผมทำนายวันนี้ ที่มา : คุยทุกเรื่องกับสนธิ https://www.facebook.com/share/p/CrumLsJDbu5LEXj5/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • พระสันตปาปาทรงชื่นชมจีนว่า“ “จีนเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการสนทนาและความเข้าใจที่เหนือกว่าประเทศระบบประชาธิปไตย“ก่อนที่จะมีการต่ออายุข้อตกลงระหว่างปักกิ่งและนครรัฐวาติกันเรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราช(บิชอป)

    15 กันยายน2567-สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีพระชนมายุ 87 พรรษา ทรงตรัสแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวขณะอยู่บนเครื่องบินของพระองค์ขณะเสด็จกลับกรุงโรมหลังจากเสด็จเยือนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นเวลา 12 วันว่า “ข้าพเจ้าอยากไปเยือนประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่”

    พระสันตปาปาตรัสว่า “ข้าพเจ้าชื่นชมจีน ข้าพเจ้าเคารพจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่นับพันปีและมีศักยภาพในการเจรจากับความสามารถเข้าใจซึ่งกันและกันซึ่งเหนือกว่าระบบประชาธิปไตยที่มีอยู่”

    “ข้าพเจ้าเชื่อว่าจีนคือคำมั่นสัญญาและความหวังของคริสตจักร” โป๊ปฟรานซิสตรัสและเสริมว่าพระองค์พอใจกับการเจรจาอย่างต่อเนื่องระหว่างวาติกันกับจีน

    ความคิดเห็นของพระองค์ดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ข้อตกลงระหว่างปักกิ่งและวาติกันเรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราช(บิชอป)ซึ่งเป็นประมุขสังฆมณฑลในเขตปกครองศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกจะมีการต่ออายุอย่างเป็นทางการ
    ทั้งสองฝ่ายตกลงทำข้อตกลงทางประวัติศาสตร์แต่เป็นความลับเมื่อปี 2018 ซึ่งให้ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิ์ในการแต่งตั้งบาทหลวงคาธอลิกในประเทศคอมมิวนิสต์

    ข้อตกลงดังกล่าวมีการต่ออายุในปี 2020 และ 2022 ได้รับการออกแบบมาเพื่อนำชาวคาธอลิกที่ติดอยู่ระหว่างคริสตจักรที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐอย่างเป็นทางการในจีนและขบวนการใต้ดินที่จงรักภักดีต่อโรมมารวมกัน ทั้งนี้เป็นการให้พระสันตปาปามีอำนาจขั้นสุดท้ายในการแต่งตั้งบิชอป

    ทั้งนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีพระชนมายุ 87 พรรษา เสร็จสิ้นภารกิจเสด็จเยือนเอเชีย-แปซิฟิก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน โดยเสด็จเยือน4 ประเทศคือ อินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี ติมอร์-เลสเต และสิงคโปร์ ขณะที่ทรงเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากกว่า 40 กิจกรรม ระยะเดินทาง 33,000 กม. แม้สุขภาพพระสันตะปาปาอ่อนแอลง แต่พระองค์มักจะได้รับพลังพิเศษอยู่เสมอท่ามกลางศรัทธาของศาสนิกชนชาวคริสต์ โรมันคาทอลิก
    “ "ข้าพเจ้าขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ ข้าพเจ้าคิดว่านี่เป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดที่เคยมีมา"

    ที่มา:https://x.com/rnaudbertrand/status/1835171408256942149?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA

    #Thaitimes
    พระสันตปาปาทรงชื่นชมจีนว่า“ “จีนเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการสนทนาและความเข้าใจที่เหนือกว่าประเทศระบบประชาธิปไตย“ก่อนที่จะมีการต่ออายุข้อตกลงระหว่างปักกิ่งและนครรัฐวาติกันเรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราช(บิชอป) 15 กันยายน2567-สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีพระชนมายุ 87 พรรษา ทรงตรัสแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวขณะอยู่บนเครื่องบินของพระองค์ขณะเสด็จกลับกรุงโรมหลังจากเสด็จเยือนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นเวลา 12 วันว่า “ข้าพเจ้าอยากไปเยือนประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่” พระสันตปาปาตรัสว่า “ข้าพเจ้าชื่นชมจีน ข้าพเจ้าเคารพจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่นับพันปีและมีศักยภาพในการเจรจากับความสามารถเข้าใจซึ่งกันและกันซึ่งเหนือกว่าระบบประชาธิปไตยที่มีอยู่” “ข้าพเจ้าเชื่อว่าจีนคือคำมั่นสัญญาและความหวังของคริสตจักร” โป๊ปฟรานซิสตรัสและเสริมว่าพระองค์พอใจกับการเจรจาอย่างต่อเนื่องระหว่างวาติกันกับจีน ความคิดเห็นของพระองค์ดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ข้อตกลงระหว่างปักกิ่งและวาติกันเรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราช(บิชอป)ซึ่งเป็นประมุขสังฆมณฑลในเขตปกครองศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกจะมีการต่ออายุอย่างเป็นทางการ ทั้งสองฝ่ายตกลงทำข้อตกลงทางประวัติศาสตร์แต่เป็นความลับเมื่อปี 2018 ซึ่งให้ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิ์ในการแต่งตั้งบาทหลวงคาธอลิกในประเทศคอมมิวนิสต์ ข้อตกลงดังกล่าวมีการต่ออายุในปี 2020 และ 2022 ได้รับการออกแบบมาเพื่อนำชาวคาธอลิกที่ติดอยู่ระหว่างคริสตจักรที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐอย่างเป็นทางการในจีนและขบวนการใต้ดินที่จงรักภักดีต่อโรมมารวมกัน ทั้งนี้เป็นการให้พระสันตปาปามีอำนาจขั้นสุดท้ายในการแต่งตั้งบิชอป ทั้งนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีพระชนมายุ 87 พรรษา เสร็จสิ้นภารกิจเสด็จเยือนเอเชีย-แปซิฟิก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน โดยเสด็จเยือน4 ประเทศคือ อินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี ติมอร์-เลสเต และสิงคโปร์ ขณะที่ทรงเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากกว่า 40 กิจกรรม ระยะเดินทาง 33,000 กม. แม้สุขภาพพระสันตะปาปาอ่อนแอลง แต่พระองค์มักจะได้รับพลังพิเศษอยู่เสมอท่ามกลางศรัทธาของศาสนิกชนชาวคริสต์ โรมันคาทอลิก “ "ข้าพเจ้าขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ ข้าพเจ้าคิดว่านี่เป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดที่เคยมีมา" ที่มา:https://x.com/rnaudbertrand/status/1835171408256942149?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • 15 กันยายน 2567-NewsHour Weekend

    https://www.youtube.com/live/8WkNAOKu1dE?si=pmqjcO81i4bJ76_C

    #Thaitimes
    15 กันยายน 2567-NewsHour Weekend https://www.youtube.com/live/8WkNAOKu1dE?si=pmqjcO81i4bJ76_C #Thaitimes
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • สิ้นแล้ว! " ฉีเส้าเฉียง" (徐少强)ดารานักแสดงเจ้าบทบาท“ฮุนโปยเฮี้ยง”หนังซีรีส์ละครกำลังภายในที่โด่งดังยุค80 เรื่องกระบี่ไร้เทียมทาน( Reincarnated ) เสียชีวิตจากโรคมะเร็งในหลอดอาหาร สิริอายุ73ปี

    15 กันยายน 2567 -รายงานข่าวจากสื่อฮ่องกงอย่าง HK01 และ 东网今日 ระบุว่า เถียนฉีเหวิน-田启文 ผู้อำนวยการสร้างและเพื่อนของ สวีเส้าเฉียง ยืนยันถึงการเสียชีวิตของฉีเส้าเฉียงจริงจากโรคมะเร็งหลอดอาหารขณะอยู่ที่ปักกิ่งเมื่อต้นเดือนกันยายนนี้

    สวีเส้าเฉียง ดารานักแสดงขวัญใจที่แฟนๆหนังจีนทั้งประเทศไทยและจีนในยุค 1970-1980 ที่ประทับใจและ เคยมาแสดงหนังไทยเรื่องเพชรตัดหยก(2525) คู่กับสรพงศ์ ชาตรี

    https://youtu.be/rKtspK3dsWg?si=Ubt1awvSl5NFOlti

    #Thaitimes
    สิ้นแล้ว! " ฉีเส้าเฉียง" (徐少强)ดารานักแสดงเจ้าบทบาท“ฮุนโปยเฮี้ยง”หนังซีรีส์ละครกำลังภายในที่โด่งดังยุค80 เรื่องกระบี่ไร้เทียมทาน( Reincarnated ) เสียชีวิตจากโรคมะเร็งในหลอดอาหาร สิริอายุ73ปี 15 กันยายน 2567 -รายงานข่าวจากสื่อฮ่องกงอย่าง HK01 และ 东网今日 ระบุว่า เถียนฉีเหวิน-田启文 ผู้อำนวยการสร้างและเพื่อนของ สวีเส้าเฉียง ยืนยันถึงการเสียชีวิตของฉีเส้าเฉียงจริงจากโรคมะเร็งหลอดอาหารขณะอยู่ที่ปักกิ่งเมื่อต้นเดือนกันยายนนี้ สวีเส้าเฉียง ดารานักแสดงขวัญใจที่แฟนๆหนังจีนทั้งประเทศไทยและจีนในยุค 1970-1980 ที่ประทับใจและ เคยมาแสดงหนังไทยเรื่องเพชรตัดหยก(2525) คู่กับสรพงศ์ ชาตรี https://youtu.be/rKtspK3dsWg?si=Ubt1awvSl5NFOlti #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • 14 กันยายน2567- พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า ตามที่ได้มีผู้เขียนหนังสือชื่อ“ในนามของความมั่นคงภายใน การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย”โดยมีการตีพิมพ์จำหน่ายทั้งแบบรูปเล่มหนังสือ และรูปแบบออนไลน์ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมกับมีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ ประกอบกับมีการนำข้อมูลในหนังสือที่ตนเองเขียนเองนั้น ไปบอกเล่าผ่านการเสวนา และการบรรยายในเวทีต่างๆ พร้อมกับได้มีการบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจำนวนหลายครั้ง

    พล.ต.วินธัย กล่าวว่า กอ.รมน. ได้ทำการตรวจสอบ พบว่าผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าว ไม่ได้มีคุณวุฒิการศึกษาและไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงโดยตรง อีกทั้งไม่ได้รับผิดชอบให้ทำการสอนในเรื่องดังกล่าว และไม่มีผลงานทางวิชาการในด้านความมั่นคงปรากฏให้เห็นมาตามลำดับ โดยหนังสือและผลงานทางวิชาการของผู้เขียน ก็ไม่ได้ทำการศึกษาวิจัยตามระเบียบวิธีวิจัย แต่กลับใช้วิธีการเลือกนำข้อมูลเฉพาะที่สนับสนุนแนวคิดตนเองที่ตั้งไว้แล้ว นำมาเป็นข้อสรุปขึ้นเอง ประกอบกับไม่ได้มีการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลจากหน่วยงาน เช่น กอ.รมน. หรือ กองทัพโดยตรง รวมถึงไม่ได้ทำการศึกษากฎหมาย ระเบียบ และขั้นตอนการปฏิบัติราชการ จึงเกิดเป็นข้อสรุปย่อยที่เป็นเท็จจำนวนมาก นำมาสู่ข้อสรุปในภาพรวมถึงการแทรกซึมของกองทัพ โดยมี กอ.รมน. เป็นเครื่องมือเพื่อควบคุมสังคมไทย พล.ต.วินธัย กล่าวด้วยว่า การที่ผู้เขียนได้มีการนำข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนสูงในลักษณะนี้ ไปตีพิมพ์เผยแพร่จำหน่ายเพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิชาที่สอน และกิจการการศึกษา จึงอาจเป็นการละเมิดข้อบังคับจริยธรรมของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง รวมถึงอาจเข้าข่ายความผิดในทางกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอเรียนว่า การนำหนังสือและบทความทางวิชาการที่มีข้อมูลในลักษณะที่เป็นเท็จ ไปเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการจำหน่ายเป็นแบบรูปเล่มหนังสือ และการไปร่วมเสวนาบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทำให้สังคมเข้าใจผิด และกระทบภาพลักษณ์ขององค์กรหน่วยงาน

    “กอ.รมน. จึงขอความร่วมมือในการระงับการจำหน่ายหนังสือดังกล่าว และจะประสานทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัด ได้กรุณาพิจารณาในเรื่องของจริยธรรม รวมถึงอาจจำเป็นต้องอาศัยขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ หากนักวิชาการ สื่อมวลชน หรือสังคมมีความสงสัย ต้องการทราบรายละเอียดในประเด็นใด สามารถติดต่อมาที่หน่วยงาน หรือทีมโฆษก กอ.รมน. ได้ตลอดเวลา” พล.ต.วินธัย กล่าว

    ส่วน รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงข้อความว่า “เฮ้ออออ หนังสืออิฉันเองค่ะ”พร้อมได้ลงปกหนังสือเล่มดังกล่าว

    #Thaitimes
    14 กันยายน2567- พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า ตามที่ได้มีผู้เขียนหนังสือชื่อ“ในนามของความมั่นคงภายใน การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย”โดยมีการตีพิมพ์จำหน่ายทั้งแบบรูปเล่มหนังสือ และรูปแบบออนไลน์ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมกับมีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ ประกอบกับมีการนำข้อมูลในหนังสือที่ตนเองเขียนเองนั้น ไปบอกเล่าผ่านการเสวนา และการบรรยายในเวทีต่างๆ พร้อมกับได้มีการบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจำนวนหลายครั้ง พล.ต.วินธัย กล่าวว่า กอ.รมน. ได้ทำการตรวจสอบ พบว่าผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าว ไม่ได้มีคุณวุฒิการศึกษาและไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงโดยตรง อีกทั้งไม่ได้รับผิดชอบให้ทำการสอนในเรื่องดังกล่าว และไม่มีผลงานทางวิชาการในด้านความมั่นคงปรากฏให้เห็นมาตามลำดับ โดยหนังสือและผลงานทางวิชาการของผู้เขียน ก็ไม่ได้ทำการศึกษาวิจัยตามระเบียบวิธีวิจัย แต่กลับใช้วิธีการเลือกนำข้อมูลเฉพาะที่สนับสนุนแนวคิดตนเองที่ตั้งไว้แล้ว นำมาเป็นข้อสรุปขึ้นเอง ประกอบกับไม่ได้มีการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลจากหน่วยงาน เช่น กอ.รมน. หรือ กองทัพโดยตรง รวมถึงไม่ได้ทำการศึกษากฎหมาย ระเบียบ และขั้นตอนการปฏิบัติราชการ จึงเกิดเป็นข้อสรุปย่อยที่เป็นเท็จจำนวนมาก นำมาสู่ข้อสรุปในภาพรวมถึงการแทรกซึมของกองทัพ โดยมี กอ.รมน. เป็นเครื่องมือเพื่อควบคุมสังคมไทย พล.ต.วินธัย กล่าวด้วยว่า การที่ผู้เขียนได้มีการนำข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนสูงในลักษณะนี้ ไปตีพิมพ์เผยแพร่จำหน่ายเพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิชาที่สอน และกิจการการศึกษา จึงอาจเป็นการละเมิดข้อบังคับจริยธรรมของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง รวมถึงอาจเข้าข่ายความผิดในทางกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอเรียนว่า การนำหนังสือและบทความทางวิชาการที่มีข้อมูลในลักษณะที่เป็นเท็จ ไปเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการจำหน่ายเป็นแบบรูปเล่มหนังสือ และการไปร่วมเสวนาบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทำให้สังคมเข้าใจผิด และกระทบภาพลักษณ์ขององค์กรหน่วยงาน “กอ.รมน. จึงขอความร่วมมือในการระงับการจำหน่ายหนังสือดังกล่าว และจะประสานทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัด ได้กรุณาพิจารณาในเรื่องของจริยธรรม รวมถึงอาจจำเป็นต้องอาศัยขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ หากนักวิชาการ สื่อมวลชน หรือสังคมมีความสงสัย ต้องการทราบรายละเอียดในประเด็นใด สามารถติดต่อมาที่หน่วยงาน หรือทีมโฆษก กอ.รมน. ได้ตลอดเวลา” พล.ต.วินธัย กล่าว ส่วน รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงข้อความว่า “เฮ้ออออ หนังสืออิฉันเองค่ะ”พร้อมได้ลงปกหนังสือเล่มดังกล่าว #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • นิด้าโพลสำรวจ เรื่อง “ความเชื่อมั่น ความกังวลที่มีต่อรัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊ง” พบว่าไม่ค่อยเชื่อ35%และไม่เชื่อเลย 22%

    15 กันยายน 2567-ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็น เรื่อง “ความเชื่อมั่น ความกังวลที่มีต่อรัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊ง” ระหว่างวันที่ 9-11 ก.ย. 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความเชื่อมั่นและความกังวลของประชาชนต่อรัฐบาลนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในการบริหารประเทศ

    การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

    https://nidapoll.nida.ac.th
    X : https://twitter.com/NIDA_Poll

    #Thaitimes
    นิด้าโพลสำรวจ เรื่อง “ความเชื่อมั่น ความกังวลที่มีต่อรัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊ง” พบว่าไม่ค่อยเชื่อ35%และไม่เชื่อเลย 22% 15 กันยายน 2567-ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็น เรื่อง “ความเชื่อมั่น ความกังวลที่มีต่อรัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊ง” ระหว่างวันที่ 9-11 ก.ย. 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความเชื่อมั่นและความกังวลของประชาชนต่อรัฐบาลนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในการบริหารประเทศ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 https://nidapoll.nida.ac.th X : https://twitter.com/NIDA_Poll #Thaitimes
    Haha
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • มิติเรื่องของ"กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย"
    .
    มิติเรื่องของ "กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" นั้น มันมีมิติหลายๆ อย่างที่ผมจะพูด นอกเหนือจากความกะล่อน การต้มตุ๋น มาหลอกลวงความรัก ความอบอุ่น ความหวังดีของคนไทยที่มองโลกในแง่ดี
    .
    สัปดาห์ที่แล้วจนถึงสัปดาห์นี้ ไม่มีกระแสใดจะแรงเท่ากระแสอินฟลูเอนเซอร์ของไทยและเกาหลี กระแสดาราไทยลูกเสี้ยวฮอลแลนด์ ชื่อ "ชาลี ปอทเจส" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "แน็ก ชาลี" กับ TikToker ชาวเกาหลี ชื่อ "จี กามิน" หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆ ว่า "กามิน" อายุ 31 ปี พอๆ กับแน็ก
    .
    เรื่องนี้ให้บทเรียนกับคนไทยหลายๆ แง่มุมด้วยกัน คือ ข้อแรก อย่าโง่ ถูกเกาหลีปั่น สร้างกระแสโอนเงินหรือแจกสติกเกอร์ใครง่ายๆ คุณอาจจะยากจนกว่าคนที่รับเงินไปแบบเทียบไม่ได้
    .
    ข้อสอง ถ้าให้ผมวิเคราะห์ความเป็นมนุษย์ผู้หญิงในเกาหลีที่ไลฟ์สดหารายได้ กินอยู่อย่างประหยัด สะท้อนให้เห็นว่าความจริงแล้ว กามินเป็นคนปากกัดตีนถีบ เอาแต่ได้ ซึ่งเป็นสันดานของคนเกาหลีส่วนหนึ่ง เมื่อได้เงินมา รวยฉับพลัน จึงเหมือนสามล้อถูกหวยที่ปรับตัวไม่ทัน ไม่คำนึงถึงบุญคุณของคนอื่นที่ดึงตัวเองขึ้นมาจากความลำบาก และมองโลกในแง่ร้ายว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ ไม่เป็นมืออาชีพ คิดจะกอบโกยอย่างเดียว
    .
    ข้อสาม ครูเดวิด วิลเลียม ชาวอเมริกันที่สอนภาษาอังกฤษในเมืองไทยมา และพูดภาษาไทยชัดมาก ออกมาเตือนสติว่า “ กามิน ไม่มีทางมีวันนี้ถ้าไม่มีคนไทย ถ้าใครรักประเทศใด ต้องลงทุนกับเวลา 2 เรื่อง คือ เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมเขาหรือไปเที่ยวทั่วไทย ไม่ใช่มาประเทศไทยทำงานหาเงิน หาเงิน แล้วแยกย้ายกลับบ้าน มันไม่ใช่”
    .
    ข้อสี่ แน็ก ชาลี เป็นศิลปินนักแสดงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็กในภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันเมื่อปี 2546 และเป็นศิลปินแบบที่พวกเราเรียกกันว่า "พวกติสท์แตก" เป็นผู้ให้ ช่วยและให้โอกาสคนที่ลำบากที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างกามิน แต่การจีบกันในโซเชียลมีเดียไม่สามารถจะรู้นิสัยตัวตนที่แท้จริงได้ ดังนั้น พื้นฐานในเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ เพราะว่า "ศีลไม่เสมอกัน" ความเป็นมืออาชีพไม่เสมอกัน
    .
    ข้อสุดท้าย สังคมเกาหลีส่วนใหญ่มีการแข่งขันกันสูงมาก จึงหาความจริงใจหรือการหวังจะมีจิตสำนึกบุญคุณจากคนเกาหลีได้ยากมาก ยกเว้นคนเกาหลีที่ตัดสินใจมาอยู่ในเมืองไทยจริงๆ อย่าง โค้ชเชและพี่เรืองที่ต่างกว่าเกาหลีทั่วไป
    .
    แต่ถ้าในอนาคต แน็ก ชาลี จะติสท์แตกจนหน้ามืดตามัวกลับไปคืนดีคบหากับ จี กามิน อีกครั้ง ด้วยความขี้สงสารหรือขี้ใจบุญ ผมคงไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่ผมจะต้องหันกลับมาด่า แน็ก ชาลี เพิ่มเติมอีกคนหนึ่ง
    .
    ท่านผู้ชมครับ พวกเราคนไทยเป็นคนเปิดกว้าง ไม่เคยเหยียดชนชั้น ชาติ หรือศาสนาใด อย่าให้พวกเกาหลีมาดูถูกพวกเราแบบนี้ ว่าคนไทยโง่และหลอกง่าย จึงงดที่จะสนับสนุนพวกดาราเกาหลี เลิกเที่ยวเกาหลี สถานที่เที่ยวไม่ได้มีอะไร อาหารก็ไม่ได้เรื่อง เรารักคนไทย รักประเทศไทยมากขึ้น หรือว่าไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ดีกว่าครับ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iKQhhVuez7szj2is/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    มิติเรื่องของ"กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" . มิติเรื่องของ "กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" นั้น มันมีมิติหลายๆ อย่างที่ผมจะพูด นอกเหนือจากความกะล่อน การต้มตุ๋น มาหลอกลวงความรัก ความอบอุ่น ความหวังดีของคนไทยที่มองโลกในแง่ดี . สัปดาห์ที่แล้วจนถึงสัปดาห์นี้ ไม่มีกระแสใดจะแรงเท่ากระแสอินฟลูเอนเซอร์ของไทยและเกาหลี กระแสดาราไทยลูกเสี้ยวฮอลแลนด์ ชื่อ "ชาลี ปอทเจส" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "แน็ก ชาลี" กับ TikToker ชาวเกาหลี ชื่อ "จี กามิน" หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆ ว่า "กามิน" อายุ 31 ปี พอๆ กับแน็ก . เรื่องนี้ให้บทเรียนกับคนไทยหลายๆ แง่มุมด้วยกัน คือ ข้อแรก อย่าโง่ ถูกเกาหลีปั่น สร้างกระแสโอนเงินหรือแจกสติกเกอร์ใครง่ายๆ คุณอาจจะยากจนกว่าคนที่รับเงินไปแบบเทียบไม่ได้ . ข้อสอง ถ้าให้ผมวิเคราะห์ความเป็นมนุษย์ผู้หญิงในเกาหลีที่ไลฟ์สดหารายได้ กินอยู่อย่างประหยัด สะท้อนให้เห็นว่าความจริงแล้ว กามินเป็นคนปากกัดตีนถีบ เอาแต่ได้ ซึ่งเป็นสันดานของคนเกาหลีส่วนหนึ่ง เมื่อได้เงินมา รวยฉับพลัน จึงเหมือนสามล้อถูกหวยที่ปรับตัวไม่ทัน ไม่คำนึงถึงบุญคุณของคนอื่นที่ดึงตัวเองขึ้นมาจากความลำบาก และมองโลกในแง่ร้ายว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ ไม่เป็นมืออาชีพ คิดจะกอบโกยอย่างเดียว . ข้อสาม ครูเดวิด วิลเลียม ชาวอเมริกันที่สอนภาษาอังกฤษในเมืองไทยมา และพูดภาษาไทยชัดมาก ออกมาเตือนสติว่า “ กามิน ไม่มีทางมีวันนี้ถ้าไม่มีคนไทย ถ้าใครรักประเทศใด ต้องลงทุนกับเวลา 2 เรื่อง คือ เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมเขาหรือไปเที่ยวทั่วไทย ไม่ใช่มาประเทศไทยทำงานหาเงิน หาเงิน แล้วแยกย้ายกลับบ้าน มันไม่ใช่” . ข้อสี่ แน็ก ชาลี เป็นศิลปินนักแสดงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็กในภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันเมื่อปี 2546 และเป็นศิลปินแบบที่พวกเราเรียกกันว่า "พวกติสท์แตก" เป็นผู้ให้ ช่วยและให้โอกาสคนที่ลำบากที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างกามิน แต่การจีบกันในโซเชียลมีเดียไม่สามารถจะรู้นิสัยตัวตนที่แท้จริงได้ ดังนั้น พื้นฐานในเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ เพราะว่า "ศีลไม่เสมอกัน" ความเป็นมืออาชีพไม่เสมอกัน . ข้อสุดท้าย สังคมเกาหลีส่วนใหญ่มีการแข่งขันกันสูงมาก จึงหาความจริงใจหรือการหวังจะมีจิตสำนึกบุญคุณจากคนเกาหลีได้ยากมาก ยกเว้นคนเกาหลีที่ตัดสินใจมาอยู่ในเมืองไทยจริงๆ อย่าง โค้ชเชและพี่เรืองที่ต่างกว่าเกาหลีทั่วไป . แต่ถ้าในอนาคต แน็ก ชาลี จะติสท์แตกจนหน้ามืดตามัวกลับไปคืนดีคบหากับ จี กามิน อีกครั้ง ด้วยความขี้สงสารหรือขี้ใจบุญ ผมคงไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่ผมจะต้องหันกลับมาด่า แน็ก ชาลี เพิ่มเติมอีกคนหนึ่ง . ท่านผู้ชมครับ พวกเราคนไทยเป็นคนเปิดกว้าง ไม่เคยเหยียดชนชั้น ชาติ หรือศาสนาใด อย่าให้พวกเกาหลีมาดูถูกพวกเราแบบนี้ ว่าคนไทยโง่และหลอกง่าย จึงงดที่จะสนับสนุนพวกดาราเกาหลี เลิกเที่ยวเกาหลี สถานที่เที่ยวไม่ได้มีอะไร อาหารก็ไม่ได้เรื่อง เรารักคนไทย รักประเทศไทยมากขึ้น หรือว่าไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ดีกว่าครับ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iKQhhVuez7szj2is/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/kEsKjtuDDuM?si=nWKzT52fXk44DRFQ
    https://youtu.be/kEsKjtuDDuM?si=nWKzT52fXk44DRFQ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • Podcast บูรพาไม่แพ้ Ep.86 : กระแส #Bankorea คนไทยสั่งสอน ทำเกาหลีเจ็บ
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=iDoyj1eBYH0
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • ทองคำฟิวเจอร์สสร้างสถิติพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญ

    ในสัปดาห์ประวัติศาสตร์สำหรับตลาดโลหะมีค่า โกลด์ฟิวเจอร์สได้ทำลายสถิติ โดยทะลุระดับ 2,600 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์เป็นครั้งแรก

    ณ เวลา 17.00 น. EDTของวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาเซื้อขายทองคำสำหรับเดือนธันวาคมอยู่ที่ 2,606.20 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ 19 ดอลลาร์หรือ 0.73% สำหรับวันนั้น การพุ่งขึ้นนี้ถือเป็นวันที่สองติดต่อกันของการทำลายสถิติสูงสุด โดยจุดสูงสุดระหว่างวันแตะระดับ $2,614.60 อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    การเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งของราคาทองคำเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของเมื่อวันศุกร์ที่ 47 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในวันเดียวที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม การเพิ่มขึ้นอย่างมากของสัปดาห์นี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางการเงินอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าก้าวข้ามหลักชัยที่ 2,600 ดอลลาร์

    ในขณะที่ฝุ่นจางหายไปในเหตุการณ์สำคัญนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังมุ่งความสนใจไปที่การประชุมคณะกรรมการตลาดกลางของรัฐบาลกลาง (FOMC) ในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่ปี 2020 มีความเห็นพ้องต้องกันระหว่างนักวิเคราะห์ นักเศรษฐศาสตร์ และผู้สังเกตการณ์ตลาดก็คือการลดอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นสิ่งที่แน่นอน

    เวทีสำหรับการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคม เมื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางมีความพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง จุดยืนของพาวเวลล์สะท้อนจากเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ โดยเน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าการผ่อนคลายทางการเงินกำลังใกล้เข้ามา

    เมื่อเร็วๆ นี้ นาย Austan Goolsbee ประธานเฟดแห่งชิคาโกเน้นย้ำว่าแนวโน้มระยะยาวทั้งในตลาดแรงงานและข้อมูลเงินเฟ้อ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วไปสู่นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น Goolsbee เตือนไม่ให้ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเป็นเวลานาน โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับระดับการจ้างงาน

    แม้ว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะมีสูง แต่ประเด็นสำคัญยังคงเป็นประเด็นถกเถียง นักเศรษฐศาสตร์ที่ Fitch คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดจุดพื้นฐาน 0.25%สองครั้ง หนึ่งครั้งในสัปดาห์หน้าและอีกครั้งในเดือนธันวาคม

    อย่างไรก็ตาม เสียงบางส่วน เช่น Krishna Guha จาก Evercore ISI สนับสนุนการลดดอกเบี้ยพื้นฐาน 0.50%เพื่อปกป้องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
    ที่มา Kitco
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • คนรักหมาแมว"เอส“จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค" กู้ภัยช่วยชีวิตหมาแมวจากน้ำท่วมใหญ่ จ.เชียงราย เสียชีวิตกะทันหันหลังเสร็จสิ้นภารกิจ โลกออนไลน์ร่วมแสดงความอาลัยและเสียใจต่อการจากไป

    15 กันยายน2567-รายงานจากโลกออนไลน์ระบุว่า ทางมูลนิธิ ดิ อาร์ค ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ เดินทางมารอรับศพ คุณเอส หรือ นายภรัญโรจน์ กิตติภัทร์ฐากรณ์ โดยมีคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิเสียใจร้องไห้อยู่เพราะตัวเองเป็นคนเปิดประตูเข้าไปแล้วก็เห็นว่าคุณเอสหมดสติอยู่บนเตียง

    ส่วนคุณแชมป์ น้องชาย กล่าวว่า พี่ชายเป็นคนรักหมารักแมวมาก เมื่อวานยังโทรคุยงาน พี่ชายบอกเลยว่าให้เตรียมคอกสัตว์เอาไว้ อาจจะต้องมีสุนัขไปประมาณ 20 พี่เอสเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงาน ตนอยู่กับพี่มาไม่เคยได้กอดพี่เลย จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย พี่ชายคิดว่าตัวเองไม่รัก แต่ตัวเองรักพี่ชายมาก ขอให้พี่ชายไปดี อยากจะบอกกับพี่ว่าผมรักพี่มาก

    ต่อมา มีรายงานว่า ได้เคลื่อนร่างของคุณเอสออกมาจากอาคารบ้านหลังสุดท้าย โรงพยาบาลแม่สาย โดยมีทางคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิ เรียกดวงวิญญาณคุณเอสกลับบ้าน ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ร้องไห้เสียใจเพราะว่าทำภารกิจในการช่วยเหลือมาด้วยกัน 14 ปี ไม่คิดเหมือนกันว่านี่คือภารกิจสุดท้ายของคุณเอสในการช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวจนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวังธาร อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่.

    นายดลชนก บุณโยทยาน รองประธานมูลนิธิวินวิน กล่าวว่า น้องเอสทำมูลนิธิ 14 ปี มาเริ่มภารกิจที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่พฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 และกำหนดวันนี้จะมูฟไปที่เชียงราย คือเมื่อวาน (14 กันยายน) จะมีคลิปที่ไปเก็บศพน้องหมาน้องแมว เอสก็เป็นคนไปขุดหลุมฝังสุนัขเอง ตอนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีเหนื่อยหรือว่าอะไร และกลับมาที่โรงแรมก็ทานอาหารกัน บอกว่าน่าจะเป็นกรดไหลย้อน

    พอเข้าไปในห้องพักสักพัก พี่บัณฑิต ประธานมูลนิธิก็เข้าไปเจอแล้วก็รีบทำซีพีอาร์เพราะว่ากู้ภัยอยู่ด้วยกันเยอะ แต่สุดท้ายไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตได้ แพทย์ระบุว่าเสียชีวิต ตนก็อยากบอกชื่นชมเอสว่า เอสเป็นคนที่มองจุดเล็ก ๆ ว่าทุกคนเขาก็ให้ความสำคัญคุณค่ากระทั่งชีวิตสัตว์ที่เสียชีวิตก็ยังนำไปทำให้เหมาะสม ในเฟซบุ๊กของนายดลชนกได้เล่าว่า

    ”หลังเสร็จภารกิจเรากลับเข้าโรงแรมนั่งทานข้าวกัน มันเป็นอาหารที่อร่อยเอสทานเยอะมาก

    เอสบ่นว่าตัวเองน่าจะกรดไหลย้อนขอตัวกลับห้องก่อน เราก็นั่งคุยกับลุงดิ๊บต่ออีกซัก 1 ชม. ก็แยกย้ายกันกลับห้อง ไม่นานลุงดิ๊บโทรมาว่าพี้ต้อยเอสไม่หายใจ เรากับน้องอีกคนวิ่งไปอย่างเร็ว ไปถึงพบเอสตัวเริ่มซีดหยุดหายใจ เราก็ทำ CPR น้องอีกคนวิ่งไปตามกู้ภัยเพราะในรีสอร์ทมีแต่กู้ภัยพัก มีน้องๆนับ 10 คนมาช่วยกันเอารถกู้ชีพพาไปส่ง รพ.แม่สาย แต่ด้วยเวลาที่หยุดหายใจนานเกินไปเอสได้จากพวกเราไปอย่างสงบ

    ใครรู้จักลุงดิ๊บ,เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยให้เพื่อนเราด้วยกัน“

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/f2yhP9hDfW6Ztpag/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    คนรักหมาแมว"เอส“จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค" กู้ภัยช่วยชีวิตหมาแมวจากน้ำท่วมใหญ่ จ.เชียงราย เสียชีวิตกะทันหันหลังเสร็จสิ้นภารกิจ โลกออนไลน์ร่วมแสดงความอาลัยและเสียใจต่อการจากไป 15 กันยายน2567-รายงานจากโลกออนไลน์ระบุว่า ทางมูลนิธิ ดิ อาร์ค ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ เดินทางมารอรับศพ คุณเอส หรือ นายภรัญโรจน์ กิตติภัทร์ฐากรณ์ โดยมีคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิเสียใจร้องไห้อยู่เพราะตัวเองเป็นคนเปิดประตูเข้าไปแล้วก็เห็นว่าคุณเอสหมดสติอยู่บนเตียง ส่วนคุณแชมป์ น้องชาย กล่าวว่า พี่ชายเป็นคนรักหมารักแมวมาก เมื่อวานยังโทรคุยงาน พี่ชายบอกเลยว่าให้เตรียมคอกสัตว์เอาไว้ อาจจะต้องมีสุนัขไปประมาณ 20 พี่เอสเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงาน ตนอยู่กับพี่มาไม่เคยได้กอดพี่เลย จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย พี่ชายคิดว่าตัวเองไม่รัก แต่ตัวเองรักพี่ชายมาก ขอให้พี่ชายไปดี อยากจะบอกกับพี่ว่าผมรักพี่มาก ต่อมา มีรายงานว่า ได้เคลื่อนร่างของคุณเอสออกมาจากอาคารบ้านหลังสุดท้าย โรงพยาบาลแม่สาย โดยมีทางคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิ เรียกดวงวิญญาณคุณเอสกลับบ้าน ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ร้องไห้เสียใจเพราะว่าทำภารกิจในการช่วยเหลือมาด้วยกัน 14 ปี ไม่คิดเหมือนกันว่านี่คือภารกิจสุดท้ายของคุณเอสในการช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวจนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวังธาร อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่. นายดลชนก บุณโยทยาน รองประธานมูลนิธิวินวิน กล่าวว่า น้องเอสทำมูลนิธิ 14 ปี มาเริ่มภารกิจที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่พฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 และกำหนดวันนี้จะมูฟไปที่เชียงราย คือเมื่อวาน (14 กันยายน) จะมีคลิปที่ไปเก็บศพน้องหมาน้องแมว เอสก็เป็นคนไปขุดหลุมฝังสุนัขเอง ตอนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีเหนื่อยหรือว่าอะไร และกลับมาที่โรงแรมก็ทานอาหารกัน บอกว่าน่าจะเป็นกรดไหลย้อน พอเข้าไปในห้องพักสักพัก พี่บัณฑิต ประธานมูลนิธิก็เข้าไปเจอแล้วก็รีบทำซีพีอาร์เพราะว่ากู้ภัยอยู่ด้วยกันเยอะ แต่สุดท้ายไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตได้ แพทย์ระบุว่าเสียชีวิต ตนก็อยากบอกชื่นชมเอสว่า เอสเป็นคนที่มองจุดเล็ก ๆ ว่าทุกคนเขาก็ให้ความสำคัญคุณค่ากระทั่งชีวิตสัตว์ที่เสียชีวิตก็ยังนำไปทำให้เหมาะสม ในเฟซบุ๊กของนายดลชนกได้เล่าว่า ”หลังเสร็จภารกิจเรากลับเข้าโรงแรมนั่งทานข้าวกัน มันเป็นอาหารที่อร่อยเอสทานเยอะมาก เอสบ่นว่าตัวเองน่าจะกรดไหลย้อนขอตัวกลับห้องก่อน เราก็นั่งคุยกับลุงดิ๊บต่ออีกซัก 1 ชม. ก็แยกย้ายกันกลับห้อง ไม่นานลุงดิ๊บโทรมาว่าพี้ต้อยเอสไม่หายใจ เรากับน้องอีกคนวิ่งไปอย่างเร็ว ไปถึงพบเอสตัวเริ่มซีดหยุดหายใจ เราก็ทำ CPR น้องอีกคนวิ่งไปตามกู้ภัยเพราะในรีสอร์ทมีแต่กู้ภัยพัก มีน้องๆนับ 10 คนมาช่วยกันเอารถกู้ชีพพาไปส่ง รพ.แม่สาย แต่ด้วยเวลาที่หยุดหายใจนานเกินไปเอสได้จากพวกเราไปอย่างสงบ ใครรู้จักลุงดิ๊บ,เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยให้เพื่อนเราด้วยกัน“ ที่มา : https://www.facebook.com/share/f2yhP9hDfW6Ztpag/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Sad
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • อีลอน มัสก์ "ผมมีความรู้สึกแย่กับสิ่งนี้" โพสต์ X หวั่น! ไบเดน-แฮร์ริสเตรียมปลุกสงครามโลก เปิดทางยูเครนยิงขีปนาวุธถล่มรัสเซีย บลิงเคนเตรียมแถลงข่าว ขณะที่ปูตินเตือนหนักหากนาโต้ร่วมศึก อังกฤษยังลังเล สหรัฐไม่สนใจเสียงคัดค้าน

    14 กันยายน 2567-imctnews รายงานว่า Wall Street Silver แอคเคาท์ชื่อดังบน X (ทวิตเตอร์เดิม) ได้ออกมาโพสต์เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีกมาลา แฮร์ริส กำลังเตรียมการที่จะก่อสงครามโลกในสุดสัปดาห์นี้ โดยการเปิดทางให้ยูเครนสามารถยิงขีปนาวุธเข้าไปในแผ่นดินของรัสเซียได้ พร้อมทั้งมีกำหนดการว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน จะออกมาแถลงการณ์ในวันพรุ่งนี้ ถึงการอนุมัติให้ยูเครนสามารถโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียได้โดยใช้ขีปนาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้

    ต่อมาไม่นาน อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla ก็ได้เข้ามาตอบโพสต์ดังกล่าวว่า "ผมมีความรู้สึกแย่กับสิ่งนี้" (I have a bad feeling about this.) ซึ่งเป็นประโยคเดียวกับที่ตัวละครฮีโร่อย่าง Han Solo ในภาพยนตร์ Star Wars เคยพูดขณะที่เผชิญหน้ากับ Death Star อาวุธอวกาศสุดโหดที่สามารถทำลายล้างทั้งดาวได้ในพริบตา เปรียบได้กับอำนาจการทำลายล้างของเพนตากอน ทั้งนี้ ล่าสุด BBC รายงานว่า นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ หลังจากได้เข้าพบกับประธานาธิบดีไบเดน ก็ยังไม่มีการส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะอนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย

    ขณะที่ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ได้ออกมาเตือนชาติตะวันตกว่าการกระทำดังกล่าวจะถือเป็นการเข้าร่วมในสงครามโดยตรงของนาโต และเมื่อถูกถามเกี่ยวกับท่าทีของปูติน ไบเดนเองก็ตอบแบบไม่ทุกข์ร้อนว่า "ผมไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับวลาดิมีร์ ปูติน" ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่ฝ่ายสหรัฐฯ อาจไม่สนใจต่อเสียงคัดค้านของรัสเซียและพร้อมจะอนุมัติให้ยูเครนยิงถล่มรัสเซียจริงๆ แม้อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งใหม่ก็ตาม

    ที่มา
    https://www.facebook.com/share/p/p91zeJWcZ6j85vVc/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    อีลอน มัสก์ "ผมมีความรู้สึกแย่กับสิ่งนี้" โพสต์ X หวั่น! ไบเดน-แฮร์ริสเตรียมปลุกสงครามโลก เปิดทางยูเครนยิงขีปนาวุธถล่มรัสเซีย บลิงเคนเตรียมแถลงข่าว ขณะที่ปูตินเตือนหนักหากนาโต้ร่วมศึก อังกฤษยังลังเล สหรัฐไม่สนใจเสียงคัดค้าน 14 กันยายน 2567-imctnews รายงานว่า Wall Street Silver แอคเคาท์ชื่อดังบน X (ทวิตเตอร์เดิม) ได้ออกมาโพสต์เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีกมาลา แฮร์ริส กำลังเตรียมการที่จะก่อสงครามโลกในสุดสัปดาห์นี้ โดยการเปิดทางให้ยูเครนสามารถยิงขีปนาวุธเข้าไปในแผ่นดินของรัสเซียได้ พร้อมทั้งมีกำหนดการว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน จะออกมาแถลงการณ์ในวันพรุ่งนี้ ถึงการอนุมัติให้ยูเครนสามารถโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียได้โดยใช้ขีปนาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้ ต่อมาไม่นาน อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla ก็ได้เข้ามาตอบโพสต์ดังกล่าวว่า "ผมมีความรู้สึกแย่กับสิ่งนี้" (I have a bad feeling about this.) ซึ่งเป็นประโยคเดียวกับที่ตัวละครฮีโร่อย่าง Han Solo ในภาพยนตร์ Star Wars เคยพูดขณะที่เผชิญหน้ากับ Death Star อาวุธอวกาศสุดโหดที่สามารถทำลายล้างทั้งดาวได้ในพริบตา เปรียบได้กับอำนาจการทำลายล้างของเพนตากอน ทั้งนี้ ล่าสุด BBC รายงานว่า นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ หลังจากได้เข้าพบกับประธานาธิบดีไบเดน ก็ยังไม่มีการส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะอนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย ขณะที่ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ได้ออกมาเตือนชาติตะวันตกว่าการกระทำดังกล่าวจะถือเป็นการเข้าร่วมในสงครามโดยตรงของนาโต และเมื่อถูกถามเกี่ยวกับท่าทีของปูติน ไบเดนเองก็ตอบแบบไม่ทุกข์ร้อนว่า "ผมไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับวลาดิมีร์ ปูติน" ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่ฝ่ายสหรัฐฯ อาจไม่สนใจต่อเสียงคัดค้านของรัสเซียและพร้อมจะอนุมัติให้ยูเครนยิงถล่มรัสเซียจริงๆ แม้อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งใหม่ก็ตาม ที่มา https://www.facebook.com/share/p/p91zeJWcZ6j85vVc/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    5
    1 Comments 0 Shares 400 Views 0 Reviews
  • นิตยสาร TIME รายงานเรื่องราวของ“ น้องหมูเด้ง” ลูกฮิปโปโปเตมัสวัย 2 เดือนจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวว่า “ทุกการเคลื่อนไหวของเธอจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ภาพถ่ายใหม่ของเธอถูกแชร์ต่อและถูกพูดถึงอย่างเร่าร้อน ประกายแวววาวของเธอที่เป็นธรรมชาติเป็นที่อิจฉาและเป็นแรงบันดาลใจให้กับแฟนอาร์ตและผู้สอนการแต่งหน้า หมูเด้งจากประเทศไทยไม่ใช่คนดังระดับ A-List ทั่วไป แต่เธอก็ได้รับการปฏิบัติเหมือนคนดังระดับ A แน่นอน”

    TIME ระบุว่าน้องหมูเด้งได้เข้ามาอยู่ในใจของผู้คนนับล้านบนอินเทอร์เน็ตด้วยท่าทางที่ดุดันและท่าทางที่หวาดกลัวของน้อง ทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างพากันกรี๊ดกร๊าดกับใบหน้าของน้อง ไม่ว่าจะตอนโดนน้ำฉีด ตอนถูกคนดูแลสวนสัตว์อุ้ม หรือตอนนอนราบกับพื้นก็ตาม

    ที่มา : https://time.com/7021047/moo-deng-baby-pygmy-hippo-thailand-viral-cute-safety-concerns/

    #Thaitimes
    นิตยสาร TIME รายงานเรื่องราวของ“ น้องหมูเด้ง” ลูกฮิปโปโปเตมัสวัย 2 เดือนจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวว่า “ทุกการเคลื่อนไหวของเธอจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ภาพถ่ายใหม่ของเธอถูกแชร์ต่อและถูกพูดถึงอย่างเร่าร้อน ประกายแวววาวของเธอที่เป็นธรรมชาติเป็นที่อิจฉาและเป็นแรงบันดาลใจให้กับแฟนอาร์ตและผู้สอนการแต่งหน้า หมูเด้งจากประเทศไทยไม่ใช่คนดังระดับ A-List ทั่วไป แต่เธอก็ได้รับการปฏิบัติเหมือนคนดังระดับ A แน่นอน” TIME ระบุว่าน้องหมูเด้งได้เข้ามาอยู่ในใจของผู้คนนับล้านบนอินเทอร์เน็ตด้วยท่าทางที่ดุดันและท่าทางที่หวาดกลัวของน้อง ทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างพากันกรี๊ดกร๊าดกับใบหน้าของน้อง ไม่ว่าจะตอนโดนน้ำฉีด ตอนถูกคนดูแลสวนสัตว์อุ้ม หรือตอนนอนราบกับพื้นก็ตาม ที่มา : https://time.com/7021047/moo-deng-baby-pygmy-hippo-thailand-viral-cute-safety-concerns/ #Thaitimes
    TIME.COM
    She’s an Icon, She’s a Legend … She Is Moo Deng
    A baby pygmy hippo in Thailand is the internet’s latest obsession. But her newfound fame has also sparked concerns for her safety.
    Like
    Love
    Yay
    9
    0 Comments 0 Shares 437 Views 0 Reviews
  • อินโฟกราฟฟิก แม่น้ำโขงและเขื่อน - แผนภาพแสดงเส้นทางของแม่น้ำในประเทศไทยที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขงและตำแหน่งเขื่อนบนแม่น้ำโขงที่ดำเนินการในปัจจุบัน

    ที่มา : เพจ GeoThai.net https://www.facebook.com/share/p/MmqaenmTk6iz4ng5/?mibextid=WC7FNe

    #Thaitimes
    อินโฟกราฟฟิก แม่น้ำโขงและเขื่อน - แผนภาพแสดงเส้นทางของแม่น้ำในประเทศไทยที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขงและตำแหน่งเขื่อนบนแม่น้ำโขงที่ดำเนินการในปัจจุบัน ที่มา : เพจ GeoThai.net https://www.facebook.com/share/p/MmqaenmTk6iz4ng5/?mibextid=WC7FNe #Thaitimes
    Like
    9
    0 Comments 0 Shares 428 Views 0 Reviews
  • SONDHITALK : หนุ่มไทยใจอ่อน กับ สาวเกาหลีเห็นแก่ตัว Ep259 (live)
    ดรามาข้ามประเทศ "ชาลี-กามิน" จากรักหวานกลายเป็นขม ซีรีย์ที่จบแบบไม่แฮปปี้เอนดิ้งนี้สะท้อนอะไรบ้าง?
    https://www.youtube.com/watch?v=cEydc-ZCpm4
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • 12 กันยายน 2567-พบกับ รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ประเด็นร้อนทางเศรษฐกิจเรื่อง ภาษี แรงงาน ทุนข้ามชาติ วิกฤตและโอกาส ที่จะวัดฝีมือรัฐบาลแพทองธาร ในรายการคนเคาะข่าว โดย กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ

    ที่มา https://youtu.be/XG6gq0c66bI?si=d-aGu0fg7dy1zC6D

    #Thaitimes
    12 กันยายน 2567-พบกับ รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ประเด็นร้อนทางเศรษฐกิจเรื่อง ภาษี แรงงาน ทุนข้ามชาติ วิกฤตและโอกาส ที่จะวัดฝีมือรัฐบาลแพทองธาร ในรายการคนเคาะข่าว โดย กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ ที่มา https://youtu.be/XG6gq0c66bI?si=d-aGu0fg7dy1zC6D #Thaitimes
    Like
    9
    0 Comments 0 Shares 624 Views 0 Reviews
  • Elon Musk เตือนสหรัฐกำลังจะล้มละลายอย่างรวดเร็ว ในบทสัมภาษณ์กับพอดแคสต์ All-In Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และ SpaceX ได้อ้างว่า ดอกเบี้ยหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ตอนนี้ คิดเป็นมูลค่าเกินงบกลาโหมไปแล้ว และประเทศกำลังจะล้มละลายอย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศในปลายเดือนกรกฎาคมว่าหนี้สาธารณะของประเทศเกิน 35 ล้านล้านดอลลาร์หรือ 1,176 ล้านล้านบาทแล้ว เพิ่มขึ้นหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา

    เมื่อเดือนมิถุนายน ส.ส.สหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายนโยบายกลาโหมประจำปี ซึ่งอนุญาตให้จ่ายงบได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 8.9 แสนล้านดอลลาร์ (29 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า Musk จึงเตือนว่า " ดอกเบี้ยจากหนี้สาธารณะตอนนี้สูงกว่างบประมาณทั้งหมดของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เสียอีก และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ"

    เขาเน้นย้ำด้วยว่า หนี้ที่เพิ่มขึ้น ทุก ๆ ล้านล้านดอลลาร์ เป็นเงินที่ "ลูกหลานของพวกเรา จะต้องจ่ายคืนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง" โดยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ Muskได้แชร์โพสต์บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) ระบุว่าสหรัฐฯ จะต้องจ่ายดอกเบี้ยหนี้มากกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ (40 ล้านล้านบาท) ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเท่ากับประมาณ 25% ของรายรับรัฐบาล

    ต้นเดือนนี้ Musk ยังเตือนอีกว่าอัตราการใช้จ่ายของรัฐบาลในปัจจุบันกำลังทำให้สหรัฐฯ เข้าใกล้ภาวะล้มละลายอย่างรวดเร็ว และการใช้จ่ายเกินดุลของรัฐบาลกำลังกระตุ้นเงินเฟ้อด้วย โดยในเดือนสิงหาคม กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่าอัตราเงินเฟ้อรายปีลดลงต่ำกว่า 3% ในเดือนก่อนหน้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021 ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 2.9% ขณะที่เงินเฟ้อ ซึ่งไม่รวมอุตสาหกรรมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.2% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

    12/9/2024
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน
    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/g3rE7urGxEyPtvbe/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/g3rE7urGxEyPtvbe/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    22
    0 Comments 0 Shares 597 Views 0 Reviews
  • เผย10 ประเทศที่บหนุนทุ่มงยูเครน! สหรัฐฯ ผงาดแชมป์ปล่อยทุนหนุนถึง 7.51 หมื่นล้านยูโร

    12 กันยายน 2567- รายงานข่าวจากเพจIMCT News ระบุว่าข้อมูลจาก IFW Kiel เผยสถิติความช่วยเหลือระหว่าง ม.ค. 65 - มิ.ย. 67 โดยรองแชมป์อย่าง EU ให้เงินไป 3.93 หมื่นล้าน ตามด้วยเยอรมนี 1.47 หมื่นล้าน อังกฤษ 1.3 หมื่นล้าน และมีญี่ปุ่นเป็นชาติเอเชียเดียวที่ติดท็อป 5 ด้วยเงิน 9.1 พันล้านยูโร นอกจากนี้ยังมีอีก 5 ประเทศที่ให้ความช่วยเหลือเกิน 5 พันล้านได้แก่ แคนาดา เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และฝรั่งเศส

    ข้อมูลสถิติล่าสุดจาก IFW Kiel และ Ukraine Support Tracker ในช่วงวันที่ 24 มกราคม 2022 ถึง 30 มิถุนายน 2024 เผยให้เห็นถึงตัวเลขความช่วยเหลือที่นานาประเทศทั่วโลกมอบให้กับประเทศยูเครนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมากระหว่างประเทศชั้นนำของโลก โดยเฉพาะมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาที่ครองอันดับ 1 ในการให้ความช่วยเหลือสูงสุดด้วยมูลค่ารวมกว่า 75,100 ล้านยูโรหรือประมาณ 7.51 หมื่นล้านยูโร ทิ้งห่างประเทศในอันดับรองลงมาอย่าง สหภาพยุโรป (EU) ที่มียอดรวมอยู่ที่ 39,300 ล้านยูโร สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) 13,000 ล้านยูโร และเยอรมนี 14,700 ล้านยูโรตามลำดับ

    ขณะที่ประเทศเอเชียมีเพียงญี่ปุ่นเท่านั้นที่ติดอันดับท็อป 5 ด้วยมูลค่าความช่วยเหลือ 9,100 ล้านยูโร นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่ให้ความช่วยเหลือมากกว่า 5,000 ล้านยูโรได้แก่ แคนาดา (7,200), เดนมาร์ก (6,800), เนเธอร์แลนด์ (5,800) ส่วนสวีเดนและฝรั่งเศสมียอดการช่วยเหลือใกล้เคียงกันที่ 4,500 และ 4,400 ล้านยูโรตามลำดับ ทั้งนี้ข้อมูลยังระบุด้วยว่าความช่วยเหลือจากประเทศเหล่านี้จำแนกออกได้เป็น 3 ประเภทหลักคือ ความช่วยเหลือทางการเงิน ด้านมนุษยธรรม และทางทหาร โดยที่สหรัฐฯ มีสัดส่วนความช่วยเหลือด้านทหารที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
    Source: https://x.com/WallStreetSilv/status/1833288869313134666

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/QNTubXz4aXSRiYMG/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    เผย10 ประเทศที่บหนุนทุ่มงยูเครน! สหรัฐฯ ผงาดแชมป์ปล่อยทุนหนุนถึง 7.51 หมื่นล้านยูโร 12 กันยายน 2567- รายงานข่าวจากเพจIMCT News ระบุว่าข้อมูลจาก IFW Kiel เผยสถิติความช่วยเหลือระหว่าง ม.ค. 65 - มิ.ย. 67 โดยรองแชมป์อย่าง EU ให้เงินไป 3.93 หมื่นล้าน ตามด้วยเยอรมนี 1.47 หมื่นล้าน อังกฤษ 1.3 หมื่นล้าน และมีญี่ปุ่นเป็นชาติเอเชียเดียวที่ติดท็อป 5 ด้วยเงิน 9.1 พันล้านยูโร นอกจากนี้ยังมีอีก 5 ประเทศที่ให้ความช่วยเหลือเกิน 5 พันล้านได้แก่ แคนาดา เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และฝรั่งเศส ข้อมูลสถิติล่าสุดจาก IFW Kiel และ Ukraine Support Tracker ในช่วงวันที่ 24 มกราคม 2022 ถึง 30 มิถุนายน 2024 เผยให้เห็นถึงตัวเลขความช่วยเหลือที่นานาประเทศทั่วโลกมอบให้กับประเทศยูเครนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมากระหว่างประเทศชั้นนำของโลก โดยเฉพาะมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาที่ครองอันดับ 1 ในการให้ความช่วยเหลือสูงสุดด้วยมูลค่ารวมกว่า 75,100 ล้านยูโรหรือประมาณ 7.51 หมื่นล้านยูโร ทิ้งห่างประเทศในอันดับรองลงมาอย่าง สหภาพยุโรป (EU) ที่มียอดรวมอยู่ที่ 39,300 ล้านยูโร สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) 13,000 ล้านยูโร และเยอรมนี 14,700 ล้านยูโรตามลำดับ ขณะที่ประเทศเอเชียมีเพียงญี่ปุ่นเท่านั้นที่ติดอันดับท็อป 5 ด้วยมูลค่าความช่วยเหลือ 9,100 ล้านยูโร นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่ให้ความช่วยเหลือมากกว่า 5,000 ล้านยูโรได้แก่ แคนาดา (7,200), เดนมาร์ก (6,800), เนเธอร์แลนด์ (5,800) ส่วนสวีเดนและฝรั่งเศสมียอดการช่วยเหลือใกล้เคียงกันที่ 4,500 และ 4,400 ล้านยูโรตามลำดับ ทั้งนี้ข้อมูลยังระบุด้วยว่าความช่วยเหลือจากประเทศเหล่านี้จำแนกออกได้เป็น 3 ประเภทหลักคือ ความช่วยเหลือทางการเงิน ด้านมนุษยธรรม และทางทหาร โดยที่สหรัฐฯ มีสัดส่วนความช่วยเหลือด้านทหารที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด Source: https://x.com/WallStreetSilv/status/1833288869313134666 ที่มา https://www.facebook.com/share/p/QNTubXz4aXSRiYMG/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 654 Views 0 Reviews
  • Wow ! จีนทำลายสถิติโลกใหม่อีกครั้งด้วยการแสดงโดรนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา!

    ในเมืองเซินเจิ้นที่ทันสมัยสุดๆ โดรน 8,100 ลำบินพร้อมกันในท้องฟ้า สร้างสรรค์ภาพที่สวยงามเหนือท้องฟ้า

    https://youtu.be/iBhdCe6ACEw?si=P5cBf6c6YHk0whG8

    #Thaitimes
    Wow ! จีนทำลายสถิติโลกใหม่อีกครั้งด้วยการแสดงโดรนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา! ในเมืองเซินเจิ้นที่ทันสมัยสุดๆ โดรน 8,100 ลำบินพร้อมกันในท้องฟ้า สร้างสรรค์ภาพที่สวยงามเหนือท้องฟ้า https://youtu.be/iBhdCe6ACEw?si=P5cBf6c6YHk0whG8 #Thaitimes
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 594 Views 0 Reviews
  • การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน
    ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
    #Thaitimes
    การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ #Thaitimes
    Haha
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 523 Views 0 Reviews
  • นิด้าโพลสำรวจเสียงคนใต้เกินครึ่งไม่เห็นด้วย พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีผลเลือกตั้งครั้งหน้าไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์

    ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “เสียงพี่น้องชาวใต้ถึงพรรคประชาธิปัตย์ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 กันยายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 14 จังหวัดภาคใต้ กระจายระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

    จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 54.19 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 14.58 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 12.98 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 11.91 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 6.34 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

    ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.37 ระบุว่า ไม่เลือก รองลงมา ร้อยละ 41.15 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ และร้อยละ 17.48 ระบุว่า เลือก

    เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างทั้งหมดมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในภาคใต้ ตัวอย่าง ร้อยละ 16.87 มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ร้อยละ 15.27 จังหวัดสงขลา ร้อยละ 11.53 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้อยละ 8.01 จังหวัดนราธิวาส ร้อยละ 7.10 จังหวัดปัตตานี ร้อยละ 6.95 จังหวัดตรัง ร้อยละ 5.80 จังหวัดพัทลุง ร้อยละ 5.57 จังหวัดชุมพร ร้อยละ 5.34 จังหวัดยะลา ร้อยละ 4.96 จังหวัดกระบี่ ร้อยละ 4.43 จังหวัดภูเก็ต ร้อยละ 3.36 จังหวัดสตูล ร้อยละ 2.90 จังหวัดพังงา และร้อยละ 1.91 จังหวัดระนอง ตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง

    ตัวอย่าง ร้อยละ 14.35 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 19.47 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 19.00 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 24.89 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 22.29 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 72.22 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 27.25 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.53 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ

    ตัวอย่าง ร้อยละ 34.73 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.74 สมรส และร้อยละ 1.53 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 15.65 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.41 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 9.47 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 33.66 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.81 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

    ตัวอย่าง ร้อยละ 11.98 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 14.73 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 23.59 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.06 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 13.82 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 18.17 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.65 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

    ตัวอย่าง ร้อยละ 18.86 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 16.72 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 32.82 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 11.22 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.19 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 6.56 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.63 ไม่ระบุรายได้

    ที่มา https://nidapoll.nida.ac.th/survey_detail?survey_id=716

    #Thaitimes
    นิด้าโพลสำรวจเสียงคนใต้เกินครึ่งไม่เห็นด้วย พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีผลเลือกตั้งครั้งหน้าไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “เสียงพี่น้องชาวใต้ถึงพรรคประชาธิปัตย์ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 กันยายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 14 จังหวัดภาคใต้ กระจายระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 54.19 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 14.58 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 12.98 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 11.91 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 6.34 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.37 ระบุว่า ไม่เลือก รองลงมา ร้อยละ 41.15 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ และร้อยละ 17.48 ระบุว่า เลือก เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างทั้งหมดมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในภาคใต้ ตัวอย่าง ร้อยละ 16.87 มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ร้อยละ 15.27 จังหวัดสงขลา ร้อยละ 11.53 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้อยละ 8.01 จังหวัดนราธิวาส ร้อยละ 7.10 จังหวัดปัตตานี ร้อยละ 6.95 จังหวัดตรัง ร้อยละ 5.80 จังหวัดพัทลุง ร้อยละ 5.57 จังหวัดชุมพร ร้อยละ 5.34 จังหวัดยะลา ร้อยละ 4.96 จังหวัดกระบี่ ร้อยละ 4.43 จังหวัดภูเก็ต ร้อยละ 3.36 จังหวัดสตูล ร้อยละ 2.90 จังหวัดพังงา และร้อยละ 1.91 จังหวัดระนอง ตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง ตัวอย่าง ร้อยละ 14.35 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 19.47 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 19.00 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 24.89 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 22.29 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 72.22 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 27.25 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.53 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ ตัวอย่าง ร้อยละ 34.73 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.74 สมรส และร้อยละ 1.53 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 15.65 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.41 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 9.47 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 33.66 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.81 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ตัวอย่าง ร้อยละ 11.98 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 14.73 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 23.59 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.06 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 13.82 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 18.17 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.65 เป็นนักเรียน/นักศึกษา ตัวอย่าง ร้อยละ 18.86 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 16.72 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 32.82 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 11.22 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.19 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 6.56 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.63 ไม่ระบุรายได้ ที่มา https://nidapoll.nida.ac.th/survey_detail?survey_id=716 #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    3
    0 Comments 0 Shares 588 Views 0 Reviews
  • ประเทศไทยใช้งบฯ น้ำท่วมไปทำอะไรบ้าง

    11 กันยายน 2567-เพจเฟซบุ๊ก Rocket Media Lab เผยแพร่บทวิเคราะห์ประเด็น “งบน้ำท่วม ใช้ไปทำอะไร ผ่านกระทรวงไหนบ้าง ” รายงานว่า หากพิจารณาโครงการที่เกี่ยวกับน้ำท่วม ตามลักษณะงานออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1) การก่อสร้าง 2) การบำรุงรักษา 3) การวางแผน 4) การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล และ 5) การบริหารจัดการ

    งบประมาณที่เกี่ยวกับน้ำท่วม ประจำปีงบประมาณ 2566 เป็นงบประมาณก่อสร้างมากที่สุดคิดเป็น 76.99% หรือเกิน 3 ใน 4 ของงบประมาณทั้งหมด จำนวน 41,093,465,100 บาท รองลงมาเป็นงบที่เกี่ยวกับการบำรุงรักษา 21.77% จำนวน 11,621,051,300 บาท งบประมาณส่วนที่เหลือสามารถจำแนกได้เป็น งบด้านการวางแผน 0.46% จำนวน 247,422,200 บาท งบที่เกี่ยวกับการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล 0.40% จำนวน 211,766,700 บาทและงบด้านบริหารจัดการ 0.38% จำนวน 203,852,200 บาท

    ที่มา : https://rocketmedialab.co/flood-budget/

    #Thaitimes
    ประเทศไทยใช้งบฯ น้ำท่วมไปทำอะไรบ้าง 11 กันยายน 2567-เพจเฟซบุ๊ก Rocket Media Lab เผยแพร่บทวิเคราะห์ประเด็น “งบน้ำท่วม ใช้ไปทำอะไร ผ่านกระทรวงไหนบ้าง ” รายงานว่า หากพิจารณาโครงการที่เกี่ยวกับน้ำท่วม ตามลักษณะงานออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1) การก่อสร้าง 2) การบำรุงรักษา 3) การวางแผน 4) การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล และ 5) การบริหารจัดการ งบประมาณที่เกี่ยวกับน้ำท่วม ประจำปีงบประมาณ 2566 เป็นงบประมาณก่อสร้างมากที่สุดคิดเป็น 76.99% หรือเกิน 3 ใน 4 ของงบประมาณทั้งหมด จำนวน 41,093,465,100 บาท รองลงมาเป็นงบที่เกี่ยวกับการบำรุงรักษา 21.77% จำนวน 11,621,051,300 บาท งบประมาณส่วนที่เหลือสามารถจำแนกได้เป็น งบด้านการวางแผน 0.46% จำนวน 247,422,200 บาท งบที่เกี่ยวกับการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล 0.40% จำนวน 211,766,700 บาทและงบด้านบริหารจัดการ 0.38% จำนวน 203,852,200 บาท ที่มา : https://rocketmedialab.co/flood-budget/ #Thaitimes
    Like
    Sad
    4
    0 Comments 0 Shares 446 Views 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 11-9-67
    .
    วันนี้คุณสนธิมาเล่าต่อเรื่องเกาหลีจากดราม่า "แน็ก ชาลี-จี กามิน" ที่กลายเป็นกระแสแรงมากในเมืองไทย ณ วันนี้
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=x8j8IQVzu-w
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • ความจริงมีหนึ่งเดียว
    ความชั่วเผย ประจักษ์

    เช้าวันนี้ 11 กันยายน ได้รับอีเมลจากคุณเดวิด วิลแมน (David Willman) นักข่าวรางวัลพูลิตเซอร์ ที่สัมภาษณ์เรา และตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์
    เรื่องที่เรายุติการรับทุน จาก กระทรวงกลาโหมสหรัฐ CDC USAID DARPA DTRA ผ่านทาง EcoHealth alliance หาไวรัสจากค้างคาว และสัตว์ป่ารวมทั้งทำลายตัวอย่างเหล่านี้หมดสิ้น

    โดยเช้านี้ ได้ส่งเรื่องของ คุณ Matt Ridley และ Alina Chan ตีพิมพ์หนังสือเปิดโปงไวรัสโควิดจากห้องแลป การตัดต่อพันธุกรรม ให้ไวรัสธรรมดา รุนแรงขึ้นและจนกระทั่งหลุดออกไประบาดทั่วโลก คนตายหลาย 10,000,000 คน

    และเหตุผลว่าทำไมนักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐรวมทั้งบรรณาธิการของวารสารดัง อันดับหนึ่งของสหรัฐและอังกฤษ ปิดปากเงียบ และเอนเอียงเถียงว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดออกมาจากห้อง แลป และมีการสร้างตัดต่อไวรัสใหม่

    โยงความเกี่ยวพันไปถึง NIH NIAID Fauci Collins Daszak ที่ถูกสอบสวนไปแล้วในรัฐสภาสหรัฐ และEcoHealth alliance ถูกยุติระงับการให้ทุนตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2567

    คนที่ตีแผ่เรื่องนี้ในหนังสือที่เขียน ท้าดีเบต กับนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐ แต่คนดังๆหลบหมด และเผยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการเชื่อมโยงการให้ทุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการสร้างไวรัสใหม่ปรากฏชัดแจ่มแจ้ง

    ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าวัคซีนโควิดนั้นจดสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 2018 ก่อนหน้าการระบาดในปลายปี 2019 และเทคโนโลยีนี้มีผลกระทบข้างเคียงต่อเนื่องยาวนานซึ่งทั่วโลกดำเนินการฟ้องร้องอยู่

    และเทคโนโลยีนี้ นำมาใช้กับวัคซีนอื่นๆในทุกเชื้อโรค โดยปฏิเสธว่าไม่ต้องทำการประเมินความปลอดภัยอีก เพราะเทคโนโลยีนี้ใช้ไปแล้วกับ วัคซีนโควิด ทั่วโลก และ เป็นที่มา ที่ไม่มีใครยอมรับผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีน

    แม้กระทั่งกระทรวงสาธารณสุขของไทยประกาศเมื่อ เดือนมกราคม 2567 นี้ว่า วัคซีนโควิดเกิดผลกระทบร้ายแรงเพียงห้ารายเท่านั้นในประเทศไทย

    หมายเหตุ:
    หมอได้ไปบรรยายในที่ต่างๆ เรื่องที่ เราได้รับทุน ทั้งนี้ เราได้รับทราบข้อมูลโดยตรงว่ามีการตัดต่อพันธุกรรมสร้างไวรัสใหม่และมีจุดมุ่งหมายสร้างไวรัสตัวอื่นที่ร้ายแรงขึ้น ทั้งไวรัสในกลุ่มไข้หวัดใหญ่ อีโบลา นิปาห์ โคโรนา

    ทั้งนี้ ไวรัสฝีดาษลิง มีการให้ทุนจาก Fauci แก่ Moss ใน NIH ในปี 2015 ทำให้ฝีดาษลิงรุนแรงและแพร่ได้ดีกว่าเดิมและทำสำเร็จในปี 2021 และการวางแผนจำลองว่ามีการระบาดทั่วโลกในปี 2021 และ 2022 รวมทั้งเริ่มจัดเตรียมวัคซีนฝีดาษลิง และ ถึงกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในปี 2024 จาก clade Ib
    ทั้งที่อัตราการระบาดต่ำและไม่ได้สูงมาก อย่างที่หวัง และเกิดจากการสัมผัสต้องใกล้ชิดแนบแน่นนัวเนียและเพศสัมพันธ์ และแน่นอนไม่มีการติดต่อทางอากาศ airborne เหมือนที่พยายามจะให้มีการจำกัดเขตและใส่หน้ากากเว้นระยะห่างกันอีก

    และมีความพยายามที่จะให้ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงตั้งแต่เด็กไปจนกระทั่งถึงสูงวัย โดยประกาศว่าคนในประเทศไทยมีความเสี่ยง และให้ติดต่อขอรับวัคซีนโดยเสียเงินและ จนกระทั่งกระทรวงสาธารณสุขออกมาประกาศว่าฉีดเฉพาะบุคลากรสาธารณสุขที่ต้องดูแลผู้ติดเชื้อ และฉีดคนที่สัมผัสอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อไปแล้ว และคนจะเดินทางไปยังทวีปที่มีการระบาดต้นตอ
    โดยที่วัคซีนฝีดาษลิงนั้น ไม่ว่าจะเป็น ตัวใหม่สุดยังมีอัตราหัวใจอักเสบอยู่ที่แปดใน 10,000 รายไม่นับผลแทรกซ้อนอื่น

    ส่วน ไข้หวัดนกมีการให้ทุนเช่นเดียวกันจาก Fauci และทำสำเร็จในปี 2012 และ พัฒนาต่อเรื่อยๆ
    รวมทั้งพัฒนาวัคซีนและยาสำหรับไข้หวัดนกและมีการประกาศให้เตรียมตัวการระบาดไข้หวัดนกรวมทั้งฉีดวัคซีน เช่นเดียวกับฝีดาษลิง

    ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า
    ในประเทศไทย มีรายงานการรับทุนจากต่างประเทศในเรื่องเหล่านี้อยู่ด้วย

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    อายุรกรรม และ ระบบสมองและประสาทและโรคติดเชื้อทางสมอง

    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/cr5oyzaPKk9qo29t/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ความจริงมีหนึ่งเดียว ความชั่วเผย ประจักษ์ เช้าวันนี้ 11 กันยายน ได้รับอีเมลจากคุณเดวิด วิลแมน (David Willman) นักข่าวรางวัลพูลิตเซอร์ ที่สัมภาษณ์เรา และตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เรื่องที่เรายุติการรับทุน จาก กระทรวงกลาโหมสหรัฐ CDC USAID DARPA DTRA ผ่านทาง EcoHealth alliance หาไวรัสจากค้างคาว และสัตว์ป่ารวมทั้งทำลายตัวอย่างเหล่านี้หมดสิ้น โดยเช้านี้ ได้ส่งเรื่องของ คุณ Matt Ridley และ Alina Chan ตีพิมพ์หนังสือเปิดโปงไวรัสโควิดจากห้องแลป การตัดต่อพันธุกรรม ให้ไวรัสธรรมดา รุนแรงขึ้นและจนกระทั่งหลุดออกไประบาดทั่วโลก คนตายหลาย 10,000,000 คน และเหตุผลว่าทำไมนักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐรวมทั้งบรรณาธิการของวารสารดัง อันดับหนึ่งของสหรัฐและอังกฤษ ปิดปากเงียบ และเอนเอียงเถียงว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดออกมาจากห้อง แลป และมีการสร้างตัดต่อไวรัสใหม่ โยงความเกี่ยวพันไปถึง NIH NIAID Fauci Collins Daszak ที่ถูกสอบสวนไปแล้วในรัฐสภาสหรัฐ และEcoHealth alliance ถูกยุติระงับการให้ทุนตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2567 คนที่ตีแผ่เรื่องนี้ในหนังสือที่เขียน ท้าดีเบต กับนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐ แต่คนดังๆหลบหมด และเผยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการเชื่อมโยงการให้ทุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการสร้างไวรัสใหม่ปรากฏชัดแจ่มแจ้ง ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าวัคซีนโควิดนั้นจดสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 2018 ก่อนหน้าการระบาดในปลายปี 2019 และเทคโนโลยีนี้มีผลกระทบข้างเคียงต่อเนื่องยาวนานซึ่งทั่วโลกดำเนินการฟ้องร้องอยู่ และเทคโนโลยีนี้ นำมาใช้กับวัคซีนอื่นๆในทุกเชื้อโรค โดยปฏิเสธว่าไม่ต้องทำการประเมินความปลอดภัยอีก เพราะเทคโนโลยีนี้ใช้ไปแล้วกับ วัคซีนโควิด ทั่วโลก และ เป็นที่มา ที่ไม่มีใครยอมรับผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีน แม้กระทั่งกระทรวงสาธารณสุขของไทยประกาศเมื่อ เดือนมกราคม 2567 นี้ว่า วัคซีนโควิดเกิดผลกระทบร้ายแรงเพียงห้ารายเท่านั้นในประเทศไทย หมายเหตุ: หมอได้ไปบรรยายในที่ต่างๆ เรื่องที่ เราได้รับทุน ทั้งนี้ เราได้รับทราบข้อมูลโดยตรงว่ามีการตัดต่อพันธุกรรมสร้างไวรัสใหม่และมีจุดมุ่งหมายสร้างไวรัสตัวอื่นที่ร้ายแรงขึ้น ทั้งไวรัสในกลุ่มไข้หวัดใหญ่ อีโบลา นิปาห์ โคโรนา ทั้งนี้ ไวรัสฝีดาษลิง มีการให้ทุนจาก Fauci แก่ Moss ใน NIH ในปี 2015 ทำให้ฝีดาษลิงรุนแรงและแพร่ได้ดีกว่าเดิมและทำสำเร็จในปี 2021 และการวางแผนจำลองว่ามีการระบาดทั่วโลกในปี 2021 และ 2022 รวมทั้งเริ่มจัดเตรียมวัคซีนฝีดาษลิง และ ถึงกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในปี 2024 จาก clade Ib ทั้งที่อัตราการระบาดต่ำและไม่ได้สูงมาก อย่างที่หวัง และเกิดจากการสัมผัสต้องใกล้ชิดแนบแน่นนัวเนียและเพศสัมพันธ์ และแน่นอนไม่มีการติดต่อทางอากาศ airborne เหมือนที่พยายามจะให้มีการจำกัดเขตและใส่หน้ากากเว้นระยะห่างกันอีก และมีความพยายามที่จะให้ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงตั้งแต่เด็กไปจนกระทั่งถึงสูงวัย โดยประกาศว่าคนในประเทศไทยมีความเสี่ยง และให้ติดต่อขอรับวัคซีนโดยเสียเงินและ จนกระทั่งกระทรวงสาธารณสุขออกมาประกาศว่าฉีดเฉพาะบุคลากรสาธารณสุขที่ต้องดูแลผู้ติดเชื้อ และฉีดคนที่สัมผัสอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อไปแล้ว และคนจะเดินทางไปยังทวีปที่มีการระบาดต้นตอ โดยที่วัคซีนฝีดาษลิงนั้น ไม่ว่าจะเป็น ตัวใหม่สุดยังมีอัตราหัวใจอักเสบอยู่ที่แปดใน 10,000 รายไม่นับผลแทรกซ้อนอื่น ส่วน ไข้หวัดนกมีการให้ทุนเช่นเดียวกันจาก Fauci และทำสำเร็จในปี 2012 และ พัฒนาต่อเรื่อยๆ รวมทั้งพัฒนาวัคซีนและยาสำหรับไข้หวัดนกและมีการประกาศให้เตรียมตัวการระบาดไข้หวัดนกรวมทั้งฉีดวัคซีน เช่นเดียวกับฝีดาษลิง ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า ในประเทศไทย มีรายงานการรับทุนจากต่างประเทศในเรื่องเหล่านี้อยู่ด้วย ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อายุรกรรม และ ระบบสมองและประสาทและโรคติดเชื้อทางสมอง ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/cr5oyzaPKk9qo29t/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 501 Views 0 Reviews
  • พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้นายทหารสัญญาบัตร พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ

    10 กันยายน 2567 -เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรพ้นจากการปฎิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ ความว่า

    พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารสัญญาบัตร พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ

    อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 4 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 มาตรา 10 มาตรา 13 มาตรา 15 และมาตรา 18 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการ และการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560

    จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารสัญญาบัตร พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ จำนวน 3 นาย ดังนี้

    1.พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ เนื่องจากลาออกจากราชการ

    2.พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ เนื่องจากปรับโอนเข้ารับราชการในหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์

    3.พันเอก หม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคล พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ เนื่องจากปรับโอนเข้ารับราชการในหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์

    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.2567
    ประกาศ ณ วันที่ 9 ก.ย.2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน.

    #Thaitimes
    พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้นายทหารสัญญาบัตร พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ 10 กันยายน 2567 -เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรพ้นจากการปฎิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารสัญญาบัตร พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 4 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 มาตรา 10 มาตรา 13 มาตรา 15 และมาตรา 18 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการ และการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารสัญญาบัตร พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ จำนวน 3 นาย ดังนี้ 1.พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ เนื่องจากลาออกจากราชการ 2.พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ เนื่องจากปรับโอนเข้ารับราชการในหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ 3.พันเอก หม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคล พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารพิเศษ เนื่องจากปรับโอนเข้ารับราชการในหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.2567 ประกาศ ณ วันที่ 9 ก.ย.2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน. #Thaitimes
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
  • "ราเกซ"อดีตพ่อมดการเงินที่ต้องโทษคดีฉ้อโกงธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ BBCจนแบงก์เจ้ง ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตำรวจเตรียมผลักดันออกนอกประเทศ
    .
    10 กันยายน 2567 -รายงานข่าวแจ้งว่า เช้าวันนี้ ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ไปรับตัวนายราเกซ สักเสนา (Rakesh Saxena) สัญชาติอินเดีย ผู้ต้องขังในคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ (บีบีซี) ออกจากเรือนจำ เพื่อผลักดันออกนอกประเทศ
    .
    หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 โดยได้ส่งตัวนายราเกซไปยังกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บก.สส.สตม.) เพื่อดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ต่อไป
    .
    นับเป็นการปิดฉากชีวิตพ่อมดการเงินในประเทศไทย จากการปล่อยสินเชื่อให้แก่นักธุรกิจและนักการเมืองเพื่อเข้าเทกโอเวอร์บริษัทต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีกำไรจากการซื้อมา-ขายไป จนเกิดหนี้เน่ามากกว่า 80,000 ล้านบาท และเป็นต้นเหตุที่ทำให้บีบีซีปิดกิจการ
    .
    สำหรับนายราเกซ ชาวเมืองอินดอร์ รัฐมัธยประเทศ อดีตโบรกเกอร์ค้าเงิน เป็นผู้ต้องขังคดีหมายเลขแดงที่ อ 4138/2559 ในความผิดฐานพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ระหว่างปี 2537-2539 ขณะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งขณะนั้นคือนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์
    .
    โดยกระทำการทุจริตอนุมัติวงเงินสินเชื่อเกินบัญชี (โอดี) กับบริษัท สมประสงค์ อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และเอกชนอื่นร่วม 10 แห่ง เกินกว่า 30 ล้านบาท โดยไม่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากคณะกรรมการสินเชื่อ หรือคณะกรรมการบริหารของธนาคารก่อน อีกทั้งไม่ได้จัดให้มีหลักประกัน ไม่มีการวิเคราะห์ฐานะของลูกหนี้ และความสามารถในการชำระหนี้คืน อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งธนาคารแห่งประเทศไทย
    .
    นอกจากนี้ จำเลยและพวกยังได้ร่วมกันแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกันเบียดบังเอาเงินของธนาคารผู้เสียหาย (บีบีซี) ซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายเกริกเกียรติ ไปเป็นของจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติโดยทุจริต แม้ภายหลังจำเลยกับพวกได้ชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหายบางส่วน แต่คงเหลือเงินที่ยังไม่ได้คืนผู้เสียหาย 353,363,966 บาท
    .
    คดีนี้ต่อสู้กันสามศาล ในที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 จำคุกกระทงละ 5 ปี และปรับกระทงละ 500,000 บาท โดยมีสำนวนแรก 60 กระทง สำนวนที่สอง 6 กระทง และสำนวนที่สาม 1 กระทง รวม 67 กระทง รวมจำคุก 335 ปี และปรับ 33,500,000 บาท เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุก 20 ปี และสั่งคืนเงินผู้เสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท
    .
    ก่อนหน้านี้นายราเกซหลบหนีคดีไปยังประเทศแคนาดา ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2539 แม้ทางการไทยได้ประสานงานกับแคนาดาขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่นายราเกซได้ให้ทนายความยื่นคัดค้าน ใช้ระยะเวลาพิจารณาถึง 13 ปี กระทั่งวันที่ 29 ต.ค. 2552 ศาลฎีกาแคนาดามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา และส่งตัวมาถึงประเทศไทยด้วยเที่ยวบิน TG 615 เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2552
    .
    ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาเมื่อปี 2555 จำคุกนายราเกซ 10 ปี และต่อสู้คดีเรื่อยมา กระทั่งคดีถึงที่สุดเมื่อปี 2565 รวมระยะเวลาที่รับโทษในประเทศไทย 15 ปี

    ที่มา https://sondhitalk.com/detail/9670000083928

    #Thaitimes
    "ราเกซ"อดีตพ่อมดการเงินที่ต้องโทษคดีฉ้อโกงธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ BBCจนแบงก์เจ้ง ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตำรวจเตรียมผลักดันออกนอกประเทศ . 10 กันยายน 2567 -รายงานข่าวแจ้งว่า เช้าวันนี้ ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ไปรับตัวนายราเกซ สักเสนา (Rakesh Saxena) สัญชาติอินเดีย ผู้ต้องขังในคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ (บีบีซี) ออกจากเรือนจำ เพื่อผลักดันออกนอกประเทศ . หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 โดยได้ส่งตัวนายราเกซไปยังกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บก.สส.สตม.) เพื่อดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ต่อไป . นับเป็นการปิดฉากชีวิตพ่อมดการเงินในประเทศไทย จากการปล่อยสินเชื่อให้แก่นักธุรกิจและนักการเมืองเพื่อเข้าเทกโอเวอร์บริษัทต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีกำไรจากการซื้อมา-ขายไป จนเกิดหนี้เน่ามากกว่า 80,000 ล้านบาท และเป็นต้นเหตุที่ทำให้บีบีซีปิดกิจการ . สำหรับนายราเกซ ชาวเมืองอินดอร์ รัฐมัธยประเทศ อดีตโบรกเกอร์ค้าเงิน เป็นผู้ต้องขังคดีหมายเลขแดงที่ อ 4138/2559 ในความผิดฐานพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ระหว่างปี 2537-2539 ขณะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งขณะนั้นคือนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ . โดยกระทำการทุจริตอนุมัติวงเงินสินเชื่อเกินบัญชี (โอดี) กับบริษัท สมประสงค์ อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และเอกชนอื่นร่วม 10 แห่ง เกินกว่า 30 ล้านบาท โดยไม่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากคณะกรรมการสินเชื่อ หรือคณะกรรมการบริหารของธนาคารก่อน อีกทั้งไม่ได้จัดให้มีหลักประกัน ไม่มีการวิเคราะห์ฐานะของลูกหนี้ และความสามารถในการชำระหนี้คืน อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งธนาคารแห่งประเทศไทย . นอกจากนี้ จำเลยและพวกยังได้ร่วมกันแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกันเบียดบังเอาเงินของธนาคารผู้เสียหาย (บีบีซี) ซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายเกริกเกียรติ ไปเป็นของจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติโดยทุจริต แม้ภายหลังจำเลยกับพวกได้ชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหายบางส่วน แต่คงเหลือเงินที่ยังไม่ได้คืนผู้เสียหาย 353,363,966 บาท . คดีนี้ต่อสู้กันสามศาล ในที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 จำคุกกระทงละ 5 ปี และปรับกระทงละ 500,000 บาท โดยมีสำนวนแรก 60 กระทง สำนวนที่สอง 6 กระทง และสำนวนที่สาม 1 กระทง รวม 67 กระทง รวมจำคุก 335 ปี และปรับ 33,500,000 บาท เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุก 20 ปี และสั่งคืนเงินผู้เสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท . ก่อนหน้านี้นายราเกซหลบหนีคดีไปยังประเทศแคนาดา ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2539 แม้ทางการไทยได้ประสานงานกับแคนาดาขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่นายราเกซได้ให้ทนายความยื่นคัดค้าน ใช้ระยะเวลาพิจารณาถึง 13 ปี กระทั่งวันที่ 29 ต.ค. 2552 ศาลฎีกาแคนาดามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา และส่งตัวมาถึงประเทศไทยด้วยเที่ยวบิน TG 615 เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2552 . ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาเมื่อปี 2555 จำคุกนายราเกซ 10 ปี และต่อสู้คดีเรื่อยมา กระทั่งคดีถึงที่สุดเมื่อปี 2565 รวมระยะเวลาที่รับโทษในประเทศไทย 15 ปี ที่มา https://sondhitalk.com/detail/9670000083928 #Thaitimes
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 464 Views 0 Reviews
  • การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน
    ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
    #Thaitimes
    การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ #Thaitimes
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 212 Views 0 Reviews
  • ถัดมาภายหลังวันเดียวจากที่แอปเปิลเปิดตัว iPhone16 ที่สหรัฐอเมริกา ... วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ประเทศจีน หัวเว่ยก็เปิดตัว Huawei Mate XT Ultimate Design สมาร์ทโฟนแบบพับ 3 ทบ ที่เคลมว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดในโลก คือ 10.2 นิ้ว
    .
    ชมคลิป Live >> https://www.youtube.com/watch?v=bXfSvkF6LGk
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน
    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/8jNxoZAFzjMWYNSA/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน ที่มา https://www.facebook.com/share/p/8jNxoZAFzjMWYNSA/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • ขอเชิญชมนิทรรศการ แผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ จัดขึ้น ณ ห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๒๓ กันยายน ถึงวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ นี้

    กรุงเทพฯ ๒๕๑๕
    นิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
    เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

    ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๕ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ เจริญพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เฉลิมพระราชอิสริยยศขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ตามโบราณขัตติยราชประเพณี เป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่สาม ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ดำรงพระราชอิสริยยศจวบจนปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ จึงเสด็จขึ้นครองราชย์เป็น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

    ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมายุครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา อันเป็นมหามงคลสมัย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงจัดนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติ เรื่อง กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ ขึ้น เพื่อฉายให้เห็นภูมิลักษณ์ สถาปัตยกรรมและผังเมืองกรุงเทพฯ เมื่อครึ่งศตวรรษที่ล่วงมา จัดแสดงแผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ มาตราส่วน ๑ : ๑๐๐๐ จำนวน ๗๒ ระวาง

    แผนที่ประวัติศาสตร์ ชุดนี้ กองทุนรัชดาภิเษกสมโภช และเงินทุนเฉลิมฉลองสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้สนับสนุนให้ หน่วยวิจัยแผนที่และเอกสารประวัติศาสตร์ฯ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ดำเนินการคัดลอกจากแผนที่เก่า ของหน่วยแผนที่ กองตำรวจจราจร กรมตำรวจ ที่จัดทำขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้เป็นฐานข้อมูล สำหรับการเรียนการสอนและวิจัย ที่จะนำไปสู่ การสืบสาน รักษา และต่อยอด องค์ความรู้สถาปัตยกรรม และเมือง กรุงเทพฯ ตามแนวพระราชดำริสืบไป

    นิทรรศการ แผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ จัดขึ้น ณ ห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๒๓ กันยายน ถึงวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/dcjWxZz8CoV3Y2qq/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ขอเชิญชมนิทรรศการ แผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ จัดขึ้น ณ ห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๒๓ กันยายน ถึงวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ นี้ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ นิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๕ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ เจริญพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เฉลิมพระราชอิสริยยศขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ตามโบราณขัตติยราชประเพณี เป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่สาม ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ดำรงพระราชอิสริยยศจวบจนปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ จึงเสด็จขึ้นครองราชย์เป็น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมายุครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา อันเป็นมหามงคลสมัย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงจัดนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติ เรื่อง กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ ขึ้น เพื่อฉายให้เห็นภูมิลักษณ์ สถาปัตยกรรมและผังเมืองกรุงเทพฯ เมื่อครึ่งศตวรรษที่ล่วงมา จัดแสดงแผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ มาตราส่วน ๑ : ๑๐๐๐ จำนวน ๗๒ ระวาง แผนที่ประวัติศาสตร์ ชุดนี้ กองทุนรัชดาภิเษกสมโภช และเงินทุนเฉลิมฉลองสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้สนับสนุนให้ หน่วยวิจัยแผนที่และเอกสารประวัติศาสตร์ฯ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ดำเนินการคัดลอกจากแผนที่เก่า ของหน่วยแผนที่ กองตำรวจจราจร กรมตำรวจ ที่จัดทำขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้เป็นฐานข้อมูล สำหรับการเรียนการสอนและวิจัย ที่จะนำไปสู่ การสืบสาน รักษา และต่อยอด องค์ความรู้สถาปัตยกรรม และเมือง กรุงเทพฯ ตามแนวพระราชดำริสืบไป นิทรรศการ แผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ จัดขึ้น ณ ห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๒๓ กันยายน ถึงวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/dcjWxZz8CoV3Y2qq/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 313 Views 0 Reviews
  • “ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง”
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615
    MGRONLINE.COM
    “ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง”
    “ปานเทพ” แนะใช้ภูมิปัญญาไทยสู้ฝีดาษาลิง วิจัยสมุนไพรไทยไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมประยุกต์ให้เหมาะสมใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต พร้อมเผยตำรับยารักษา “โรคฝีดาษ” จากศิลาจารึก ควรนำมาวิจัยต่อยอดวันนี้(5 ก.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • “นายกฯ อิ๊งค์” ชวน ครม.ชูมือทำมินิฮาร์ท หลังถ่ายภาพหมู่ที่ทำเนียบฯ เจ้าหน้าที่บอก ใส่ชุดขาวทำไม่ได้ เจ้าตัวถึงกับชะงักและรีบเอามือลง
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000083191

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • การไฟฟ้าฯ จะตัดไฟ อำลาตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี

    จากกระแสไวรัลบนโซเชียลฯ ถึงความเงียบเหงาของศูนย์การค้าฝั่งธนบุรี ท่ามกลางคำถามที่ว่าอนาคตจะไปทางไหน ในที่้สุดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี ถนนสิรินธร ย่านบางพลัด แจ้งกับร้านค้าเป็นการภายในเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 ก.ย.) ว่าจำเป็นต้องปิดทำการห้างฯ อาคาร 12 ชั้น ซึ่งมีผลกระทบในพื้นที่ขายทั้งหมด เพราะได้รับหนังสือแจ้งจากการไฟฟ้านครหลวง ขอยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้าในวันอังคารที่ 10 ก.ย. 2567 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

    "ทางบริษัทฯ อยู่ในระหว่างดำเนินการแก้ไขและเจรจากับผู้ร่วมทุนใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ ทางห้างฯ จะเร่งกลับมาเปิดบริการในเร็วๆ นี้ และขออภัยในความไม่สะดวกกับเหตุการณ์ครั้งนี้" ประกาศฉบับดังกล่าว ระบุ

    บรรดาร้านค้าที่ทราบข่าวเตรียมทยอยขนของออกจากห้างฯ โดยเฉพาะร้านขายโทรศัพท์มือถือ ที่ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน กระทั่งได้รับจดหมายแจ้งว่าจะตัดไฟในวันอังคาร ต้องเก็บของย้ายออกจากห้างฯ มีผลกระทบมาก ส่วนร้านหมาล่าสายพาน "ฟุ่ยโหยว หมาล่า" ที่เปิดไม่ถึงครึ่งปี ต้องปรับเป็นบุฟเฟ่ต์แบบขาดทุน ก่อนปิดแบบไม่มีกำหนด กระแสโซเชียลฯ ต่างให้กำลังใจทางร้านและอุดหนุน ทำบางเมนูหมดลงไปแล้ว

    ปริศนาคลี่คลายเมื่อมีชาวเน็ตต่างเผยแพร่ข้อมูลว่า บริษัท สรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง จำกัด ถูกธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ฟ้องต่อศาลแพ่งตลิ่งชัน คดีหมายเลขแดงที่ ผบ.7325/2562 แล้วกรมบังคับคดีได้ประกาศขายทรัพย์รวม 27 แปลง ราคาประเมิน 1,365,690,450 บาท โดยพบว่ามีบุคคลภายนอก (คาดว่ามาจากกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์) ประมูลมาได้ แต่ต่ำกว่าราคาประเมิน ส่วนห้างตั้งฮั่วเส็ง สาขาบางลำภู ก็ขายทอดตลาดไปแล้วเช่นกัน

    ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ก่อตั้งขึ้นในปี 2505 ที่ย่านบางลำพู เดิมเป็นร้านจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์เย็บปักถักร้อย เครื่องสำอาง ผ้าแฟชั่น และอุปกรณ์ตัดเย็บต่างๆ ก่อนจะเปิดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง บางลำพู ภายใต้การบริหารของนายวิโรจน์ จุนประทีปทอง กระทั่งปี 2534 เปิดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี อาคารสูง 10 ชั้น ที่จอดรถมากกว่า 800 คัน ต่อมาในปี 2554 รีโนเวตโดยเปลี่ยนชื่อเป็น T-SQUARE

    ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าบริษัทฯ ขาดทุนทุกปี ส่งงบการเงินปีสุดท้าย 2564 มีรายได้รวม 409,744,106.37 บาท ขาดทุนสุทธิ 43,784,884.68 บาท ขณะที่ นายวิโรจน์ จุนประทีปทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ เสียชีวิตไปนานแล้ว เหลือแต่นายมนัส รณกรกิจอนันต์ ลูกพี่ลูกน้องบริหารร่วมกับครอบครัวจุนประทีปทอง

    #Newskit #ตั้งฮั่วเส็ง #ปิดกิจการ
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/J-hphrRsuw4?si=iYcpoFux8i9hXsDy

    #thaitimes
    https://www.youtube.com/live/J-hphrRsuw4?si=iYcpoFux8i9hXsDy #thaitimes
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 257 Views 0 Reviews
  • ประกันสังคมแจง 65 ปี ไม่ใช่อายุเกษียณ

    7 กันยายน 2567-นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ชี้แจงสื่อมวลชนประเด็นข่าวเรื่องการขยายฐานอายุผู้ประกันตน มาตรา 33 ในการจ่ายเงินชราภาพ ยืดไปเป็น 65 ปี นั้น ข้อเท็จจริงคือการแก้ไข พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ.…. (ฉบับที่ 5) ที่อยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาตามขั้นตอนนั้น มิได้เป็นการแก้ไขอายุการเกิดสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพจากอายุ 55 ปี เป็น 65 ปี แต่อย่างใด เป็นเพียงการแก้ไขอายุแรกเข้าของการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ซึ่งปัจจุบัน กำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะต้องมีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี การแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ ได้แก้ไขอายุแรกเข้าการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นอายุระหว่าง 15 – 65 ปี ทั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอายุไม่เกิน 65 ปี หากได้รับการว่าจ้างงานจะสามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทุกกรณีได้อย่างครบถ้วน เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุอีกด้วย สำหรับผู้ประกันตนที่เกษียณ หรือสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน เมื่ออายุ 55 ปี ยังคงสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพได้ตามปกติ

    นายบุญสงค์ กล่าวต่อไปว่า การขยายฐานอายุผู้ประกันตน มาตรา 33 เป็นมาตรการหนึ่งที่สำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ รวมถึงสร้างหลักประกันทางสังคมอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค และพร้อมดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนทุกช่วงวัย ให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด

    ที่มา : เพจสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
    https://www.facebook.com/share/p/G7mQrsXgSC3bBfYA/

    #Thaitimes
    ประกันสังคมแจง 65 ปี ไม่ใช่อายุเกษียณ 7 กันยายน 2567-นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ชี้แจงสื่อมวลชนประเด็นข่าวเรื่องการขยายฐานอายุผู้ประกันตน มาตรา 33 ในการจ่ายเงินชราภาพ ยืดไปเป็น 65 ปี นั้น ข้อเท็จจริงคือการแก้ไข พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ.…. (ฉบับที่ 5) ที่อยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาตามขั้นตอนนั้น มิได้เป็นการแก้ไขอายุการเกิดสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพจากอายุ 55 ปี เป็น 65 ปี แต่อย่างใด เป็นเพียงการแก้ไขอายุแรกเข้าของการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ซึ่งปัจจุบัน กำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะต้องมีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี การแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ ได้แก้ไขอายุแรกเข้าการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นอายุระหว่าง 15 – 65 ปี ทั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอายุไม่เกิน 65 ปี หากได้รับการว่าจ้างงานจะสามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทุกกรณีได้อย่างครบถ้วน เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุอีกด้วย สำหรับผู้ประกันตนที่เกษียณ หรือสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน เมื่ออายุ 55 ปี ยังคงสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพได้ตามปกติ นายบุญสงค์ กล่าวต่อไปว่า การขยายฐานอายุผู้ประกันตน มาตรา 33 เป็นมาตรการหนึ่งที่สำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ รวมถึงสร้างหลักประกันทางสังคมอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค และพร้อมดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนทุกช่วงวัย ให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ที่มา : เพจสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน https://www.facebook.com/share/p/G7mQrsXgSC3bBfYA/ #Thaitimes
    Like
    Sad
    6
    0 Comments 2 Shares 520 Views 0 Reviews
  • ดร.ธรณ์ ยังกล่าวอีกว่า "โลกยิ่งร้อน ทะเลยิ่งร้อน พายุนับจากนี้ต่อไปอีกนานหลายสิบปี จะมีแต่แรงขึ้นและแรงขึ้น ช่วยลดโลกร้อนให้มากที่สุดในวันนี้ แม้จะหยุดพายุนรกไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ชะลอไปได้บ้าง ก็ได้แต่ฝากไว้ ช่วยกันครับ รักษาธรรมชาติที่เป็นเกราะป้องกันเราให้มากที่สุด ยามที่นรกมาจากบนฟ้า ป่าย่อมดีกว่าเขาหัวโล้น ต้นไม้ย่อมดีกว่าพื้นดินที่แห้งผาก นี่คือสัจธรรม"

    ที่มา https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000083074

    #Thaitimes
    ดร.ธรณ์ ยังกล่าวอีกว่า "โลกยิ่งร้อน ทะเลยิ่งร้อน พายุนับจากนี้ต่อไปอีกนานหลายสิบปี จะมีแต่แรงขึ้นและแรงขึ้น ช่วยลดโลกร้อนให้มากที่สุดในวันนี้ แม้จะหยุดพายุนรกไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ชะลอไปได้บ้าง ก็ได้แต่ฝากไว้ ช่วยกันครับ รักษาธรรมชาติที่เป็นเกราะป้องกันเราให้มากที่สุด ยามที่นรกมาจากบนฟ้า ป่าย่อมดีกว่าเขาหัวโล้น ต้นไม้ย่อมดีกว่าพื้นดินที่แห้งผาก นี่คือสัจธรรม" ที่มา https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000083074 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ดร.ธรณ์เตือนรับมือพายุแรง อย่าออกจากบ้าน ลมเงียบแป๊บเดียวลมกลับมาแรงอีกครั้ง
    มีโพสต์ที่น่าสนใจจากนักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม เตือนเมื่อเจอพายุความแรงระดับ 5 อย่าออกจากบ้าน ไต้ฝุ่นมาลมจะแรงจัดสุดขีด แต่จู่ๆ ก็เงียบสงบ คนไม่รู้นึกว่าพายุผ่านไปแล้ว แต่จากนั้นลมจะแรงสุดๆ อีกครั้ง ยกกรณีพายุเกย์ที่ปะทิว ชุ
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 476 Views 0 Reviews
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.85 : มองอนาคตไทย-เอเชีย ผ่านเวที BOAO forum
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=ZipeVTte06Q
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • โฉมหน้ารัฐบาลหนึ่งไม่มีสอง ?!
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันหน้าสนามหญ้า ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ เพื่อหารือปัญหาเร่งด่วน และร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาล เพื่อจะแถลงต่อรัฐสภา ที่ ทำเนียบรัฐบาล
    Copyright © 2024 All Right Reserved ผู้จัดการรายวัน 360˚/ MGR Online

    ที่มา MGR Photo https://www.facebook.com/share/p/PtRdxjUCm1T6B7cM/

    #Thaitimes
    โฉมหน้ารัฐบาลหนึ่งไม่มีสอง ?! น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันหน้าสนามหญ้า ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ เพื่อหารือปัญหาเร่งด่วน และร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาล เพื่อจะแถลงต่อรัฐสภา ที่ ทำเนียบรัฐบาล Copyright © 2024 All Right Reserved ผู้จัดการรายวัน 360˚/ MGR Online ที่มา MGR Photo https://www.facebook.com/share/p/PtRdxjUCm1T6B7cM/ #Thaitimes
    Sad
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 492 Views 0 Reviews
  • Sondhitalk EP 258 : กรรมตามทัน “สมยศ” ไซด์ไลน์ (Full)

    - กรรมตามทัน “สมยศ ไซด์ไลน์”
    - จุบจบ “ประชาธิปัตย์”
    - ยุ “ลุงป้อม” สู้ต่อทักษิณ
    - มหาศึกชิงข้อมูล ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า
    - แนวรบทะเลจีนใต้

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitime #สมยศ #บอสอยู่วิทยา #การเมือง #ประชาธิปัตย์ #บิ๊กป้อม #พลังประชารฐ #ทักษิณ #data #Baidu #สงคราม #ไต้หวัน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 97 Views 2040 0 Reviews
  • 5 กันยายน2567- บัญชีทางการของ “ปารีสเกมส์” (@Paris2024) ได้โพสต์คลิปลีลาการเชียร์นักกีฬาของท้าวดักแด้ พร้อมระบุว่า “Gold medal for him #Paris2024” ซึ่งท้าวดักแด้ ได้ไปคอมเมนต์ขอบคุณด้วย

    สำหรับ ท้าวดักแด้ หรือ นายไทยแลนด์ คำทอง (ชื่อเดิม บัญชา คำทอง) เป็นนักแสดงตลก มีชื่อเสียงมาจากโฆษณา ปตท. ชุด มนุษย์ตะกั่ว ทั้งยังเคยเป็นนักแสดงสมทบในละครพื้นบ้านเรื่อง เทพสามฤดู รับบท “มาตุลี” เริ่มเชียร์แมตช์แรกในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ จ.เชียงใหม่ โดยตอนนั้นใส่ชุดตะกั่วจนเป็นที่รู้จัก และเริ่มนำเชียร์มาเรื่อยๆ ทุกประเภทกีฬา ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ ซึ่งได้นำประสบการณ์จากการเป็นผู้นำเชียร์กีฬาสีที่โรงเรียนมาใช้ รวมถึงเป็นคนมีใจรักกีฬามาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว นี่คือแฟนบอลชาวไทย ที่แสดงให้เห็นความคลั่งไคล้ในการเชียร์ทีมชาติไทย

    https://x.com/paris2024/status/1831400381471191160?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA

    #Thaitimes
    5 กันยายน2567- บัญชีทางการของ “ปารีสเกมส์” (@Paris2024) ได้โพสต์คลิปลีลาการเชียร์นักกีฬาของท้าวดักแด้ พร้อมระบุว่า “Gold medal for him 🇹🇭🥇📹 #Paris2024” ซึ่งท้าวดักแด้ ได้ไปคอมเมนต์ขอบคุณด้วย สำหรับ ท้าวดักแด้ หรือ นายไทยแลนด์ คำทอง (ชื่อเดิม บัญชา คำทอง) เป็นนักแสดงตลก มีชื่อเสียงมาจากโฆษณา ปตท. ชุด มนุษย์ตะกั่ว ทั้งยังเคยเป็นนักแสดงสมทบในละครพื้นบ้านเรื่อง เทพสามฤดู รับบท “มาตุลี” เริ่มเชียร์แมตช์แรกในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ จ.เชียงใหม่ โดยตอนนั้นใส่ชุดตะกั่วจนเป็นที่รู้จัก และเริ่มนำเชียร์มาเรื่อยๆ ทุกประเภทกีฬา ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ ซึ่งได้นำประสบการณ์จากการเป็นผู้นำเชียร์กีฬาสีที่โรงเรียนมาใช้ รวมถึงเป็นคนมีใจรักกีฬามาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว นี่คือแฟนบอลชาวไทย ที่แสดงให้เห็นความคลั่งไคล้ในการเชียร์ทีมชาติไทย https://x.com/paris2024/status/1831400381471191160?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA #Thaitimes
    Like
    8
    0 Comments 0 Shares 649 Views 1 Reviews
  • นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย เดินทางไปเยือนรัสเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Forum-EEF) ครั้งที่ 9 ระหว่าง 3-6 ก.ย.67 ณ เมืองวลาดิวอสตอก โดยมีกำหนดการปราศรัยต่อที่ประชุม และหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป้าหมายหลักเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีและหารือด้านการค้า การลงทุน การศึกษา เกษตร ความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและอวกาศ โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ย้ำถึงความสนใจของมาเลเซียในการเข้าร่วมองค์กร BRICS และคาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงความสัมพันธ์ในบริบทอาเซียน-รัสเซีย การเยือนครั้งนี้นับเป็นการเยือนรัสเซียครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เมื่อปี 2565

    นายกฯอันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่รับปากว่ารัสเซียจะกระชับความสัมพันธ์และนำพาการพัฒนามาสู่ภูมิภาคที่ปูตินกล่าวว่ามี “ศักยภาพมหาศาล” จากการมุ่งเน้นไปยังอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เมื่อวันที่ 4 กันยายน นอกรอบการประชุมเศรษฐกิจตะวันออก (Eastern Economic Forum) ของรัสเซีย ที่เมืองวลาดิวอสต๊อก ซึ่งอันวาร์ เยือนมอสโกว์เป็นเวลา 2 วัน

    อันวาร์กล่าวว่า จะเป็นประโยชน์ต่อมาเลเซียหากรัสเซียตกลงที่จะ “ร่วมมือกันในทุกด้าน” และแบ่งปันผลสัมฤทธิ์ให้กับมาเลเซีย โดยทั้งสองประเทศกำลังเจรจาหารือถึงความร่วมมือ ตั้งแต่ด้านการบิน อวกาศ และเทคโนโลยีขั้นสูง ไปจนถึงเกษตรกรรม และความมั่นคงด้านอาหาร

    อันวาร์กล่าวอีกว่า ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีความข้องเกี่ยวกับรัสเซียเสมอมา และมี “การค้าเสรี” ที่มุ่งเน้นไปยังอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

    “ผมหวังว่าจะได้ร่วมงานกับคุณ (ปูติน) และทีมของคุณ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมเห็นด้วยนะท่านประธานาธิบดี ศักยภาพมหาศาลจริง ๆ” ผู้นำมาเลย์กล่าว

    การประชุมเศรษฐกิจภาคตะวันออกเป็นเวทีหารือทางเศรษฐกิจที่รัสเซียผลักดันอย่างต่อเนื่องตามนโยบายหันหาตะวันออก (Look East) โดยภาคอุตสาหกรรมที่มีการเจรจาส่วนมาก ได้แก่ เหมืองแร่ พลังงาน และปุ๋ย ที่ผ่านมามีประเทศที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุม อาทิ จีน อินเดีย สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย

    นายกรัฐมนตรีมาเลเซียดำเนินตามรอยผู้นำเอเชียคนอื่น ๆ ในการพบปะกับปูติน โดยไม่สะทกสะท้านต่อการประณามและข้อกล่าวหาเรื่องอาชญากรรมสงครามจากฝ่ายตะวันตกที่มีต่อผู้นำรัสเซีย อันวาร์กล่าวว่า การตัดสินใจเยือนรัสเซีย “ไม่ใช่เรื่องง่าย” แต่ก็เป็น “การตัดสินใจที่ถูกต้อง”

    โดยตอนหนึ่งของ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวเกี่ยวกับสงครามฉนวนกาซาในงานนี้ที่รัสเซียว่า"เหตุการณ์นี้ไม่ได้เริ่มในวันที่ 7 ตุลาคม แต่เริ่มตั้งแต่การล่าอาณานิคมและขบวนการนัคบาในปี 1948... เหตุการณ์นี้ไม่ได้หยุดลงเพราะความดื้อรั้นของอิสราเอลที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสหรัฐฯ... ถึงเวลาแล้วที่ชาวปาเลสไตน์ควรได้รับการปฏิบัติเหมือนมนุษย์ ไม่ใช่ทาส"

    นอกจากนี้นายกฯอันวาร์โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า ได้รับคำเชิญส่วนตัวจากปูตินให้มาเลเซียเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซานในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็น “ก้าวสำคัญ” ในการเข้าร่วมกลุ่มของมาเลเซีย

    ที่มา : https://www.youtube.com/live/uAkJtZgyY-E?si=cOMnw5ebIsD8LAcL
    นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย เดินทางไปเยือนรัสเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Forum-EEF) ครั้งที่ 9 ระหว่าง 3-6 ก.ย.67 ณ เมืองวลาดิวอสตอก โดยมีกำหนดการปราศรัยต่อที่ประชุม และหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป้าหมายหลักเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีและหารือด้านการค้า การลงทุน การศึกษา เกษตร ความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและอวกาศ โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ย้ำถึงความสนใจของมาเลเซียในการเข้าร่วมองค์กร BRICS และคาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงความสัมพันธ์ในบริบทอาเซียน-รัสเซีย การเยือนครั้งนี้นับเป็นการเยือนรัสเซียครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เมื่อปี 2565 นายกฯอันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่รับปากว่ารัสเซียจะกระชับความสัมพันธ์และนำพาการพัฒนามาสู่ภูมิภาคที่ปูตินกล่าวว่ามี “ศักยภาพมหาศาล” จากการมุ่งเน้นไปยังอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เมื่อวันที่ 4 กันยายน นอกรอบการประชุมเศรษฐกิจตะวันออก (Eastern Economic Forum) ของรัสเซีย ที่เมืองวลาดิวอสต๊อก ซึ่งอันวาร์ เยือนมอสโกว์เป็นเวลา 2 วัน อันวาร์กล่าวว่า จะเป็นประโยชน์ต่อมาเลเซียหากรัสเซียตกลงที่จะ “ร่วมมือกันในทุกด้าน” และแบ่งปันผลสัมฤทธิ์ให้กับมาเลเซีย โดยทั้งสองประเทศกำลังเจรจาหารือถึงความร่วมมือ ตั้งแต่ด้านการบิน อวกาศ และเทคโนโลยีขั้นสูง ไปจนถึงเกษตรกรรม และความมั่นคงด้านอาหาร อันวาร์กล่าวอีกว่า ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีความข้องเกี่ยวกับรัสเซียเสมอมา และมี “การค้าเสรี” ที่มุ่งเน้นไปยังอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง “ผมหวังว่าจะได้ร่วมงานกับคุณ (ปูติน) และทีมของคุณ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมเห็นด้วยนะท่านประธานาธิบดี ศักยภาพมหาศาลจริง ๆ” ผู้นำมาเลย์กล่าว การประชุมเศรษฐกิจภาคตะวันออกเป็นเวทีหารือทางเศรษฐกิจที่รัสเซียผลักดันอย่างต่อเนื่องตามนโยบายหันหาตะวันออก (Look East) โดยภาคอุตสาหกรรมที่มีการเจรจาส่วนมาก ได้แก่ เหมืองแร่ พลังงาน และปุ๋ย ที่ผ่านมามีประเทศที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุม อาทิ จีน อินเดีย สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีมาเลเซียดำเนินตามรอยผู้นำเอเชียคนอื่น ๆ ในการพบปะกับปูติน โดยไม่สะทกสะท้านต่อการประณามและข้อกล่าวหาเรื่องอาชญากรรมสงครามจากฝ่ายตะวันตกที่มีต่อผู้นำรัสเซีย อันวาร์กล่าวว่า การตัดสินใจเยือนรัสเซีย “ไม่ใช่เรื่องง่าย” แต่ก็เป็น “การตัดสินใจที่ถูกต้อง” โดยตอนหนึ่งของ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวเกี่ยวกับสงครามฉนวนกาซาในงานนี้ที่รัสเซียว่า"เหตุการณ์นี้ไม่ได้เริ่มในวันที่ 7 ตุลาคม แต่เริ่มตั้งแต่การล่าอาณานิคมและขบวนการนัคบาในปี 1948... เหตุการณ์นี้ไม่ได้หยุดลงเพราะความดื้อรั้นของอิสราเอลที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสหรัฐฯ... ถึงเวลาแล้วที่ชาวปาเลสไตน์ควรได้รับการปฏิบัติเหมือนมนุษย์ ไม่ใช่ทาส" นอกจากนี้นายกฯอันวาร์โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า ได้รับคำเชิญส่วนตัวจากปูตินให้มาเลเซียเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซานในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็น “ก้าวสำคัญ” ในการเข้าร่วมกลุ่มของมาเลเซีย ที่มา : https://www.youtube.com/live/uAkJtZgyY-E?si=cOMnw5ebIsD8LAcL
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 403 Views 0 Reviews
  • การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน
    ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
    #Thaitimes
    การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    7
    0 Comments 1 Shares 638 Views 0 Reviews
  • ชมคลิปที่ถูกลบออกจากโซเชียลมีเดีย ฟ้าทะลายโจรของดีใกล้ตัว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 107 Views 461 0 Reviews
More Stories