• "สถาบันกษัตริย์จะอยู่คู่กับอังกฤษตลอดไป"

    นี่คือเรื่องราวบางส่วนของ "ลิซ ทรัสส์" (Liz Truss) อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ผู้ที่ในอดีตเคยเรียกร้องให้ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ หลังผ่านไป 30 ปี เธอก็ยังไม่สามารถทำได้

    นอกจากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของเธอแล้ว เธอยังต้องปฏิบัติตามราชประเพณีที่สืบสานกันมาตั้งแต่อดีตอีกด้วย นับเป็นความพ่ายแพ้ของบรรดาผู้ที่ต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์อย่างแท้จริง

    "ลิซ ทรัสส์" เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่อยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง คือ 49 วัน
    (เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษวันที่ 6 กันยายน 2022 จนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2022 และรักษาการต่อจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2022 ซึ่งเป็นวันที่ริชี ซูนัคเข้ารับตำแหน่งต่ออย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 49 วัน)


    เปิดเผยตัวตนเป็นผู้ต่อต้าน
    คลิปวิดีโอที่ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน "ลิซ ทรัสส์" ในวัย 19 ปี “นักศึกษาหญิงหัวก้าวหน้า” ที่ชื่นชอบแนวคิดของพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democrats) จนได้รับโอกาสกล่าวบนเวทีปราศรัยของพรรค ในวันนั้นเธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนระบอบสาธารณรัฐ (republicanism) และเรียกร้องให้ “ยกเลิกสถาบันกษัตริย์” อย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด

    การแสดงออกของเธออย่างอย่างแข็งกร้าวในวันนั้น สะท้อนถึงอุดมการณ์อันแรงกล้าต่อความเชื่อใน “ความเท่าเทียม” และ “สิทธิของประชาชนที่มีอย่างเท่าเทียมกัน” โดยเธอปฏิเสธหลักการปกครองแบบสืบทอดทางสายเลือด (เช่น ระบบกษัตริย์ หรือชนชั้นสูงที่สืบทอดอำนาจ) โดยเชื่อว่าสถานะทางสังคมหรือสิทธิในการปกครองไม่ควรถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิด

    และประชาชนไม่ควรถูกบังคับให้ยอมรับการตัดสินใจของผู้มีอำนาจแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตของพวกเขาแต่ควรมาจากความสามารถหรือการได้รับความยินยอมจากประชาชน

    “เราเชื่อในความยุติธรรมและสามัญสำนึก เราไม่เชื่อว่าจะมีคนใดเกิดมาเพื่อปกครอง หรือต้องถูกบังคับให้เงียบต่อการตัดสินใจที่กระทบต่อชีวิตของพวกเขา” (We do not believe that people should be born to rule or that they should put up and shut up about decisions that affect their everyday lives.)

    “พวกเราพรรคเสรีประชาธิปไตยเชื่อในโอกาสสำหรับทุกคน เราไม่เชื่อว่าผู้คนเกิดมาเพื่อปกครอง” (We Liberal Democrats believe in opportunity for all. We do not believe people are born to rule.)

    ในระหว่างปราศรัยวันนั้น เธอยังเสริมอีกว่า:
    เราได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ด้านนอกงาน เกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ คุณรู้ไหมว่าพวกเขาพูดอะไร? พวกเขาตอบว่า 'ยกเลิกพวกเขา เราพอแล้ว' (They said abolish them, we’ve had enough) "เราไม่พบคนที่นิยมราชาธิปไตยสักคนเดียวนอก Royal Pavilion"

    คำพูดเหล่านั้นถูกจดจำในฐานะ “จุดยืนแห่งการต่อต้านสถาบัน” ที่ชัดเจนที่สุดครั้งหนึ่งจากนักการเมืองอังกฤษรุ่นใหม่ในยุคนั้น
    .
    แต่เมื่อเวลาผ่านไป อุดมการณ์ที่เคยแรงราวไฟเผา กลับถูกกลืนด้วยความเป็นจริงของอำนาจ ซึ่งพ่ายแพ้ให้กับความเป็นจริงด้วยการ "จุมพิตพระหัตถ์ราชินี"

    ต่อมา ทรัสส์ได้เปลี่ยนเส้นทางการเมือง โดยเข้าร่วมกับพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative Party) ซึ่งเป็นพรรคที่สนับสนุนสถาบันกษัตริย์อย่างแข็งขัน
    และนั่นทำให้มุมมองของเธอค่อยๆ เปลี่ยนไปอีกครั้ง

    ในช่วงปี 2022 ผู้สื่อข่าวถามถึงมุมมองในอดีตของเธอเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ทรัสส์ตอบว่าแนวคิดทางการเมืองของเธอ “พัฒนาไปตามวัย”
    เธอกล่าวกับ Sky News ว่า:

    “ฉันได้พบกับราชินีแล้ว และเธอก็สุภาพเกินกว่าจะยกประเด็นสมัยนั้นขึ้นมา”
    (I have met the Queen, and she was far too polite to raise the issue.)
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเธอจะขอโทษหรือไม่ หากราชินีพูดถึงเรื่องนี้ เธอตอบว่า

    “ฉันเคยผิดพลาดที่พูดสิ่งเหล่านั้นในเวลานั้น”
    (I was wrong to say what I did at the time.)

    นิก โรบินสัน” แห่ง BBC ได้ซักถามเกี่ยวกับความคิดเห็นก่อนหน้านี้ของเธอ ซึ่งทรัสส์ตอบว่า:
    “ฉันเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมอังกฤษถึงประสบความสำเร็จ และส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเราคือระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญที่สนับสนุนประชาธิปไตยเสรี”
    (I have come to understand more about why Britain is successful — and part of that success is our constitutional monarchy that underpins a free democracy.)

    ท้ายที่สุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2022 ลิซ ทรัสส์ ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการโดยการเข้าเฝ้าและรับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ณ พระตำหนักบัลมอรัลในสกอตแลนด์

    ภาพของหญิงสาวผู้เคยเรียกร้องให้ “ล้มเลิกสถาบันกษัตริย์” เมื่อวัยเยาว์ กลับต้องค้อมศีรษะและ “จุมพิตพระหัตถ์” ของราชินีผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งระบอบที่เธอเคยปฏิเสธ

    และเพียง 49 วัน หลังจากนั้น เธอก็ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทิ้งไว้เพียงภาพอันน่าขบขันของ “อดีตนักล้มล้าง” ที่ลงเอยด้วยการอยู่ภายใต้ระบอบเดิมที่เธอเคยพยายามโค่นล้มด้วยถ้อยคำรุนแรงของเธอเอง
    .
    https://www.yahoo.com/news/liz-truss-queen-monarchy-abolished-video-114714959.html

    https://www.abc.net.au/news/2022-09-06/who-is-liz-truss-britains-next-prime-minister/101404932

    https://www.independent.co.uk/tv/news/liz-truss-monarchy-republicanism-abolish-b2128076.html
    "สถาบันกษัตริย์จะอยู่คู่กับอังกฤษตลอดไป" นี่คือเรื่องราวบางส่วนของ "ลิซ ทรัสส์" (Liz Truss) อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ผู้ที่ในอดีตเคยเรียกร้องให้ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ หลังผ่านไป 30 ปี เธอก็ยังไม่สามารถทำได้ นอกจากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของเธอแล้ว เธอยังต้องปฏิบัติตามราชประเพณีที่สืบสานกันมาตั้งแต่อดีตอีกด้วย นับเป็นความพ่ายแพ้ของบรรดาผู้ที่ต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์อย่างแท้จริง "ลิซ ทรัสส์" เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่อยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง คือ 49 วัน (เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษวันที่ 6 กันยายน 2022 จนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2022 และรักษาการต่อจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2022 ซึ่งเป็นวันที่ริชี ซูนัคเข้ารับตำแหน่งต่ออย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 49 วัน) 👉เปิดเผยตัวตนเป็นผู้ต่อต้าน คลิปวิดีโอที่ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน "ลิซ ทรัสส์" ในวัย 19 ปี “นักศึกษาหญิงหัวก้าวหน้า” ที่ชื่นชอบแนวคิดของพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democrats) จนได้รับโอกาสกล่าวบนเวทีปราศรัยของพรรค ในวันนั้นเธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนระบอบสาธารณรัฐ (republicanism) และเรียกร้องให้ “ยกเลิกสถาบันกษัตริย์” อย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด การแสดงออกของเธออย่างอย่างแข็งกร้าวในวันนั้น สะท้อนถึงอุดมการณ์อันแรงกล้าต่อความเชื่อใน “ความเท่าเทียม” และ “สิทธิของประชาชนที่มีอย่างเท่าเทียมกัน” โดยเธอปฏิเสธหลักการปกครองแบบสืบทอดทางสายเลือด (เช่น ระบบกษัตริย์ หรือชนชั้นสูงที่สืบทอดอำนาจ) โดยเชื่อว่าสถานะทางสังคมหรือสิทธิในการปกครองไม่ควรถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิด และประชาชนไม่ควรถูกบังคับให้ยอมรับการตัดสินใจของผู้มีอำนาจแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตของพวกเขาแต่ควรมาจากความสามารถหรือการได้รับความยินยอมจากประชาชน “เราเชื่อในความยุติธรรมและสามัญสำนึก เราไม่เชื่อว่าจะมีคนใดเกิดมาเพื่อปกครอง หรือต้องถูกบังคับให้เงียบต่อการตัดสินใจที่กระทบต่อชีวิตของพวกเขา” (We do not believe that people should be born to rule or that they should put up and shut up about decisions that affect their everyday lives.) “พวกเราพรรคเสรีประชาธิปไตยเชื่อในโอกาสสำหรับทุกคน เราไม่เชื่อว่าผู้คนเกิดมาเพื่อปกครอง” (We Liberal Democrats believe in opportunity for all. We do not believe people are born to rule.) ในระหว่างปราศรัยวันนั้น เธอยังเสริมอีกว่า: เราได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ด้านนอกงาน เกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ คุณรู้ไหมว่าพวกเขาพูดอะไร? พวกเขาตอบว่า 'ยกเลิกพวกเขา เราพอแล้ว' (They said abolish them, we’ve had enough) "เราไม่พบคนที่นิยมราชาธิปไตยสักคนเดียวนอก Royal Pavilion" คำพูดเหล่านั้นถูกจดจำในฐานะ “จุดยืนแห่งการต่อต้านสถาบัน” ที่ชัดเจนที่สุดครั้งหนึ่งจากนักการเมืองอังกฤษรุ่นใหม่ในยุคนั้น . 👉แต่เมื่อเวลาผ่านไป อุดมการณ์ที่เคยแรงราวไฟเผา กลับถูกกลืนด้วยความเป็นจริงของอำนาจ ซึ่งพ่ายแพ้ให้กับความเป็นจริงด้วยการ "จุมพิตพระหัตถ์ราชินี" ต่อมา ทรัสส์ได้เปลี่ยนเส้นทางการเมือง โดยเข้าร่วมกับพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative Party) ซึ่งเป็นพรรคที่สนับสนุนสถาบันกษัตริย์อย่างแข็งขัน และนั่นทำให้มุมมองของเธอค่อยๆ เปลี่ยนไปอีกครั้ง ในช่วงปี 2022 ผู้สื่อข่าวถามถึงมุมมองในอดีตของเธอเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ทรัสส์ตอบว่าแนวคิดทางการเมืองของเธอ “พัฒนาไปตามวัย” เธอกล่าวกับ Sky News ว่า: “ฉันได้พบกับราชินีแล้ว และเธอก็สุภาพเกินกว่าจะยกประเด็นสมัยนั้นขึ้นมา” (I have met the Queen, and she was far too polite to raise the issue.) เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเธอจะขอโทษหรือไม่ หากราชินีพูดถึงเรื่องนี้ เธอตอบว่า “ฉันเคยผิดพลาดที่พูดสิ่งเหล่านั้นในเวลานั้น” (I was wrong to say what I did at the time.) นิก โรบินสัน” แห่ง BBC ได้ซักถามเกี่ยวกับความคิดเห็นก่อนหน้านี้ของเธอ ซึ่งทรัสส์ตอบว่า: “ฉันเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมอังกฤษถึงประสบความสำเร็จ และส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเราคือระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญที่สนับสนุนประชาธิปไตยเสรี” (I have come to understand more about why Britain is successful — and part of that success is our constitutional monarchy that underpins a free democracy.) 👉ท้ายที่สุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2022 ลิซ ทรัสส์ ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการโดยการเข้าเฝ้าและรับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ณ พระตำหนักบัลมอรัลในสกอตแลนด์ ภาพของหญิงสาวผู้เคยเรียกร้องให้ “ล้มเลิกสถาบันกษัตริย์” เมื่อวัยเยาว์ กลับต้องค้อมศีรษะและ “จุมพิตพระหัตถ์” ของราชินีผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งระบอบที่เธอเคยปฏิเสธ และเพียง 49 วัน หลังจากนั้น เธอก็ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทิ้งไว้เพียงภาพอันน่าขบขันของ “อดีตนักล้มล้าง” ที่ลงเอยด้วยการอยู่ภายใต้ระบอบเดิมที่เธอเคยพยายามโค่นล้มด้วยถ้อยคำรุนแรงของเธอเอง . https://www.yahoo.com/news/liz-truss-queen-monarchy-abolished-video-114714959.html https://www.abc.net.au/news/2022-09-06/who-is-liz-truss-britains-next-prime-minister/101404932 https://www.independent.co.uk/tv/news/liz-truss-monarchy-republicanism-abolish-b2128076.html
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • [ ในหลวง และพระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ]
    .
    วันนี้ (๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๘) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ถวายน้ำสรงพระบรมศพ และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
    [ ในหลวง และพระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ] . วันนี้ (๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๘) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ถวายน้ำสรงพระบรมศพ และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • "ในหลวง-พระราชินี" เชิญพระบรมศพ "สมเด็จพระพันปีหลวง" ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
    https://www.thai-tai.tv/news/22058/
    .
    #ไทยไท #พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว #สมเด็จพระพันปีหลวง #พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท #พระราชพิธีพระศพ #พระบรมวงศานุวงศ์
    "ในหลวง-พระราชินี" เชิญพระบรมศพ "สมเด็จพระพันปีหลวง" ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท https://www.thai-tai.tv/news/22058/ . #ไทยไท #พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว #สมเด็จพระพันปีหลวง #พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท #พระราชพิธีพระศพ #พระบรมวงศานุวงศ์
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย

    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2568 เวลา 21.21 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ หลังทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93 นำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจของพสกนิกรชาวไทย เปรียบดังสูญเสียแม่ของแผ่นดิน ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจตลอดพระชนม์ชีพ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ให้พสกนิกรชาวไทยอยู่ดีกินดี บ้านเมืองสงบร่มเย็นด้วยพระบารมีตลอดมา

    เมื่อเวลา 16.26 น. วันที่ 26 ต.ค. 2568 ขบวนรถเชิญพระบรมศพ ออกจากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา พระบรมมหาราชวัง โดยมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศ แต่งกายไว้ทุกข์สีดำ เดินทางมาร่วมส่งเสด็จตลอดทางเป็นจำนวนมาก สำนักพระราชวัง อนุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.

    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส.ค. 2475 เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของพลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจน้อยใหญ่ ทั้งการเชิดชูศิลปวัฒนธรรมไทย มีพระราชดำริในการออกแบบเครื่องแต่งกายชุดไทยประจำชาติที่เรียกว่า "ชุดไทยพระราชนิยม" การส่งเสริมศิลปาชีพ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ พร้อมกับอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้าน เช่น การปั้น การทอ และการจักสาน ให้เป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งการอนุรักษ์โขน ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย

    ขณะเดียวกัน ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยเฉพาะโครงการป่ารักน้ำ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริฯ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและการบุกรุกป่า นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างห้องสมุดอเนกประสงค์ "ศาลารวมใจ" การจัดหน่วยแพทย์พระราชทาน การรับคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ การรับนักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์ การก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้บาดเจ็บหรือพิการ และการรับกิจการลูกเสือชาวบ้านไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นต้น

    ด้วยพระราชินีคู่บุญบารมีในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนนานัปการ จึงเป็นที่รักยิ่งแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์

    #Newskit
    พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2568 เวลา 21.21 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ หลังทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93 นำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจของพสกนิกรชาวไทย เปรียบดังสูญเสียแม่ของแผ่นดิน ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจตลอดพระชนม์ชีพ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ให้พสกนิกรชาวไทยอยู่ดีกินดี บ้านเมืองสงบร่มเย็นด้วยพระบารมีตลอดมา เมื่อเวลา 16.26 น. วันที่ 26 ต.ค. 2568 ขบวนรถเชิญพระบรมศพ ออกจากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา พระบรมมหาราชวัง โดยมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศ แต่งกายไว้ทุกข์สีดำ เดินทางมาร่วมส่งเสด็จตลอดทางเป็นจำนวนมาก สำนักพระราชวัง อนุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส.ค. 2475 เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของพลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจน้อยใหญ่ ทั้งการเชิดชูศิลปวัฒนธรรมไทย มีพระราชดำริในการออกแบบเครื่องแต่งกายชุดไทยประจำชาติที่เรียกว่า "ชุดไทยพระราชนิยม" การส่งเสริมศิลปาชีพ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ พร้อมกับอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้าน เช่น การปั้น การทอ และการจักสาน ให้เป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งการอนุรักษ์โขน ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย ขณะเดียวกัน ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยเฉพาะโครงการป่ารักน้ำ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริฯ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและการบุกรุกป่า นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างห้องสมุดอเนกประสงค์ "ศาลารวมใจ" การจัดหน่วยแพทย์พระราชทาน การรับคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ การรับนักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์ การก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้บาดเจ็บหรือพิการ และการรับกิจการลูกเสือชาวบ้านไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นต้น ด้วยพระราชินีคู่บุญบารมีในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนนานัปการ จึงเป็นที่รักยิ่งแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์ #Newskit
    Love
    1
    1 Comments 1 Shares 78 Views 0 Reviews
  • กษัตริย์ภูฏานและสมเด็จพระราชินี ทรงโพสต์แสดงความอาลัย ต่อการสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวง
    https://www.thai-tai.tv/news/22050/
    .
    #ไทยไท #กษัตริย์จิกมี #ภูฏาน #สมเด็จพระพันปีหลวง #แสดงความอาลัย #มิตรประเทศ
    กษัตริย์ภูฏานและสมเด็จพระราชินี ทรงโพสต์แสดงความอาลัย ต่อการสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวง https://www.thai-tai.tv/news/22050/ . #ไทยไท #กษัตริย์จิกมี #ภูฏาน #สมเด็จพระพันปีหลวง #แสดงความอาลัย #มิตรประเทศ
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews

  • ทุกๆคนทั่วโลกที่โดนหลอกไปล้วนน่าสงสารหมดทุกๆคนจะชาติใดๆทั่วโลกก็ตาม ไม่ใช่แค่เกาหลีใต้ ,ทุกๆประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชีย โดยเฉพาะอาเชียน โดยเฉพาะจีนพี่ใหญ่เขมรที่ไม่ลืมหูลืมตาลงทุนช่วยเขมร สนับสนุนเขมรสร้างนั่นสร้างนี้ไม่สนใจผิดถูกในเขมร สนใจแค่ทรัพยากรมีค่าในเขมรที่ตนได้ประโยชน์และนัยยะอื่นๆที่ตนมีแต่ได้ ได้ลูกหนี้เขมรเต็มๆ สั่งขี้ข้าลูกหนี้ทาสหนี้ บังคับเอากับเขมรได้หมดแน่นอน ตัวพ่อหมวกกันน๊อคได้เลยถ้าเทียบไม่ผิด ทวงหนี้สไตล์เผด็จการคอมมิวนิสต์แน่นอน,จีนเทาเต็มเขมร จีนดีทำไมไม่จัดการในเมื่อสั่งการและควบคุมได้,เป็นไปไม่ได้ที่สั่งฮุนเซนไม่ได้,รู้เห็นด้วยกันหมดล่ะ,แหล่งทำเงินของจีนผ่านเขมรในสาระพัดด้านได้เช่นกันทั้งแบบสไตล์โชว์ภาพหน้างานชอบธรรมถูกต้องและในนามเลี้ยงดูปูสื่อฝ่ายมืดเลวไว้ใช้งานมิให้ภาพลักษณ์ตนเสียหายหรือสาวถึงได้ โยนแพะให้จีนเทาได้นั้นเอง เดอะแก๊งไหนต้องเชือดไก่ก็ต้องเชือดไก่ เดอะแก๊งไหนซวยเพื่อคลายปมภาพลักษณ์ให้จีนแท้ดูดีได้ก็ต้องกำจัดประหารชีวิตแก๊งนั้น,ฝ่ายจีนซาตานก็มี ฝ่ายจีนแสงก็มี จึงมิอาจเชื่อใจได้,ตลอดอาวุธถล่มไทยก็จีนส่งให้เขมรล่วงหน้าก่อนยิงใส่ไทยไม่กี่วัน ฝึกห่าเหวอะไรฟังไม่ขึ้นหรอก ดูก็ออกว่าไทยทะเลาะกับเขมรมาตลอด ยังขายอาวุธให้ รัสเชียก็ด้วยโดยเฉพาะกับระเบิด รัสเชียไม่มาร่วมจัดการเขมรที่ใช้กับระเบิดกับไทยในฝั่งไทยเลย,
    ...รัฐบาลในอดีตก็เลวชั่วเช่นกัน กลัวเขมรแฉความชั่วของตน ยุคเสื้อแดงหนีเข้าเขมร ยุคพวกล้มสถาบันกษัตริย์หนีเข้าเขมรจึงมีความลับชั่วเก็บเพื่อแฉได้แน่นอนนั้นเอง พอกลับมามีอำนาจทางบ้านเมืองจะนักการเมืองหรือและข้าราชการไทยจึงมีความชั่วเลวด้านลับเก็บไว้ กลัวเขมรแฉจึงทรยศแผ่นดินไทยตนตลอดเรื่อยมา,ทหารนายพลเลวชั่วก็มีมากค้าขายชั่วเลวกับเขมร,บ้านเมืองไทยจึงบัดสบมาก.
    ..บิ๊งกุ้งกู้หน้ากองทัพไทยได้ และได้ใจประชาชนทั้งประเทศ เสือกมาทำเสียที่กองทัพบูรพาพยัคฆ์ผีบ้าภาคตะวันออกเสียชื่อทหารเสือพระราชินีทันที ไม่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งภาคตะวันออก ทรยศเนรคุณในการปกป้องดินแดนอธิปไตยแผ่นดินไทยชัดเจน ทมภ.2ลงดาบจัดการชัดสร้างผลงานชัดเจน11จุดพื้นที่,แต่ทมภ.1ใจขลาดไม่อาจหาญแม้แต่ตารางนิ้วเดียวยังทำไม่ได้ในเวลาเดียวกัน ณ ขณะนั้น ,จนความจริงเหยียบหน้าชัดอีกที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้วและตราด ออกสื่อมีพยานหลักฐานชัดเจน.,เพราะถ้าจบในเวลาตอนนั้น ปัญหาปัจจุบันในเวลานี้จะจบสิ้นทั้งหมดทันที.
    ..เขมรต้องล่มสลายทั้งประเทศอย่างเดียว มันคือประเทศที่รกโลก ไม่ซื่อสัตย์เนรคุณทรยศหักหลังทำร้ายทำลายทุกๆคนชาวโลกได้ยกเว้นคนเขมรชาติมันเอง,ประชาชนเขมรสนับสนุนให้ทำสงครามฆ่าประชาชนคนไทยอย่างชัดเจน ไม่สนใจว่าทหารมันทหารเขมรมันยิงใส่ประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์นอกแนวรบนอกแนวปะทะ,อเมริกาและฝรั่งเศสบวกมาเลย์ทั้งUNเสือกไม่เข้าใจความจริงชัดเจนเข้าข้างเขมรอีกด้วย ไม่บีบบังคับเขมรคืนดินแดนแผ่นดินไทยที่เป็นของไทยคืนจริงๆ,ไม่สนใจจริงห่าเหวอะไร ผิดหลักสากลบ่อนก่อไฟสงครามไม่จบเหตุปัญหาจริงด้วย,อยากได้หน้าและเหี้ยเต็มใบหน้าทั้งหมด.
    ..เขมรคือภัยอาชญากรและภัยร้ายแรงทางอาชญากรรมของโลกสากลแล้วเสือกอยากทำดีกับโจรฆ่าพ่อฆ่าแม่ฆ่าลูกฆ่าครอบครัวมันแบบอเมริกาหรือชาติสมาชิกUN เสมือนUNและอเมริกากำลังปกป้องภัยร้ายของโลก ปกป้องให้เขมรคนอาชญากรรมโลกให้อยู่รอดปลอดภัยจะได้สร้างอาชญากรรมสร้างงานให้ตนคืออเมริกาคือUNมีงานทำแนน่นอนชัดเจนแล้ว,อเมริกาและUNคืออาชญากรรมตัวพ่อของโลกแน่แล้วเพราะปกป้องเขมร ไม่กำจัดเขมรก่อน แต่เสือกบอกไทยให้จับมือกับมือฆ่าประชาชนชาวโลก จงบำรุงเลี้ยงดูอาชญากรแบบเขมรให้ดี จงเปิดด่านให้ข้าวให้ปลาให้น้ำเขมรแดกนะจะได้ไปฆ่าคนทั่วโลกได้ต่อไป จับคนทั่วโลกมาค้าแรงงานค้ามนุษย์ค้าอวัยวะส่งตังไปอเมริกาจะได้อ้างอายัดตังเขมรแดกเต็มอิ่มสบายๆด้วยข้อหาอาชญากรรมโลกต่อไป,งานกูอเมริกาและฝรั่งทั้งหมดตลอดUNจะได้มีงานทำเป็นฮีโร่ในภาพลักษณ์ที่ดีของคนทั้งโลกต่อไป.
    ..กูในนามทรัมป์จะเป็นผู้สร้างสันติภาพอาเชียนเอเชียและโลกแน่นอน.

    https://youtube.com/watch?v=ZIcg5PXS6_I&si=VqgQV5m0zKiX_57O
    ทุกๆคนทั่วโลกที่โดนหลอกไปล้วนน่าสงสารหมดทุกๆคนจะชาติใดๆทั่วโลกก็ตาม ไม่ใช่แค่เกาหลีใต้ ,ทุกๆประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชีย โดยเฉพาะอาเชียน โดยเฉพาะจีนพี่ใหญ่เขมรที่ไม่ลืมหูลืมตาลงทุนช่วยเขมร สนับสนุนเขมรสร้างนั่นสร้างนี้ไม่สนใจผิดถูกในเขมร สนใจแค่ทรัพยากรมีค่าในเขมรที่ตนได้ประโยชน์และนัยยะอื่นๆที่ตนมีแต่ได้ ได้ลูกหนี้เขมรเต็มๆ สั่งขี้ข้าลูกหนี้ทาสหนี้ บังคับเอากับเขมรได้หมดแน่นอน ตัวพ่อหมวกกันน๊อคได้เลยถ้าเทียบไม่ผิด ทวงหนี้สไตล์เผด็จการคอมมิวนิสต์แน่นอน,จีนเทาเต็มเขมร จีนดีทำไมไม่จัดการในเมื่อสั่งการและควบคุมได้,เป็นไปไม่ได้ที่สั่งฮุนเซนไม่ได้,รู้เห็นด้วยกันหมดล่ะ,แหล่งทำเงินของจีนผ่านเขมรในสาระพัดด้านได้เช่นกันทั้งแบบสไตล์โชว์ภาพหน้างานชอบธรรมถูกต้องและในนามเลี้ยงดูปูสื่อฝ่ายมืดเลวไว้ใช้งานมิให้ภาพลักษณ์ตนเสียหายหรือสาวถึงได้ โยนแพะให้จีนเทาได้นั้นเอง เดอะแก๊งไหนต้องเชือดไก่ก็ต้องเชือดไก่ เดอะแก๊งไหนซวยเพื่อคลายปมภาพลักษณ์ให้จีนแท้ดูดีได้ก็ต้องกำจัดประหารชีวิตแก๊งนั้น,ฝ่ายจีนซาตานก็มี ฝ่ายจีนแสงก็มี จึงมิอาจเชื่อใจได้,ตลอดอาวุธถล่มไทยก็จีนส่งให้เขมรล่วงหน้าก่อนยิงใส่ไทยไม่กี่วัน ฝึกห่าเหวอะไรฟังไม่ขึ้นหรอก ดูก็ออกว่าไทยทะเลาะกับเขมรมาตลอด ยังขายอาวุธให้ รัสเชียก็ด้วยโดยเฉพาะกับระเบิด รัสเชียไม่มาร่วมจัดการเขมรที่ใช้กับระเบิดกับไทยในฝั่งไทยเลย, ...รัฐบาลในอดีตก็เลวชั่วเช่นกัน กลัวเขมรแฉความชั่วของตน ยุคเสื้อแดงหนีเข้าเขมร ยุคพวกล้มสถาบันกษัตริย์หนีเข้าเขมรจึงมีความลับชั่วเก็บเพื่อแฉได้แน่นอนนั้นเอง พอกลับมามีอำนาจทางบ้านเมืองจะนักการเมืองหรือและข้าราชการไทยจึงมีความชั่วเลวด้านลับเก็บไว้ กลัวเขมรแฉจึงทรยศแผ่นดินไทยตนตลอดเรื่อยมา,ทหารนายพลเลวชั่วก็มีมากค้าขายชั่วเลวกับเขมร,บ้านเมืองไทยจึงบัดสบมาก. ..บิ๊งกุ้งกู้หน้ากองทัพไทยได้ และได้ใจประชาชนทั้งประเทศ เสือกมาทำเสียที่กองทัพบูรพาพยัคฆ์ผีบ้าภาคตะวันออกเสียชื่อทหารเสือพระราชินีทันที ไม่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งภาคตะวันออก ทรยศเนรคุณในการปกป้องดินแดนอธิปไตยแผ่นดินไทยชัดเจน ทมภ.2ลงดาบจัดการชัดสร้างผลงานชัดเจน11จุดพื้นที่,แต่ทมภ.1ใจขลาดไม่อาจหาญแม้แต่ตารางนิ้วเดียวยังทำไม่ได้ในเวลาเดียวกัน ณ ขณะนั้น ,จนความจริงเหยียบหน้าชัดอีกที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้วและตราด ออกสื่อมีพยานหลักฐานชัดเจน.,เพราะถ้าจบในเวลาตอนนั้น ปัญหาปัจจุบันในเวลานี้จะจบสิ้นทั้งหมดทันที. ..เขมรต้องล่มสลายทั้งประเทศอย่างเดียว มันคือประเทศที่รกโลก ไม่ซื่อสัตย์เนรคุณทรยศหักหลังทำร้ายทำลายทุกๆคนชาวโลกได้ยกเว้นคนเขมรชาติมันเอง,ประชาชนเขมรสนับสนุนให้ทำสงครามฆ่าประชาชนคนไทยอย่างชัดเจน ไม่สนใจว่าทหารมันทหารเขมรมันยิงใส่ประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์นอกแนวรบนอกแนวปะทะ,อเมริกาและฝรั่งเศสบวกมาเลย์ทั้งUNเสือกไม่เข้าใจความจริงชัดเจนเข้าข้างเขมรอีกด้วย ไม่บีบบังคับเขมรคืนดินแดนแผ่นดินไทยที่เป็นของไทยคืนจริงๆ,ไม่สนใจจริงห่าเหวอะไร ผิดหลักสากลบ่อนก่อไฟสงครามไม่จบเหตุปัญหาจริงด้วย,อยากได้หน้าและเหี้ยเต็มใบหน้าทั้งหมด. ..เขมรคือภัยอาชญากรและภัยร้ายแรงทางอาชญากรรมของโลกสากลแล้วเสือกอยากทำดีกับโจรฆ่าพ่อฆ่าแม่ฆ่าลูกฆ่าครอบครัวมันแบบอเมริกาหรือชาติสมาชิกUN เสมือนUNและอเมริกากำลังปกป้องภัยร้ายของโลก ปกป้องให้เขมรคนอาชญากรรมโลกให้อยู่รอดปลอดภัยจะได้สร้างอาชญากรรมสร้างงานให้ตนคืออเมริกาคือUNมีงานทำแนน่นอนชัดเจนแล้ว,อเมริกาและUNคืออาชญากรรมตัวพ่อของโลกแน่แล้วเพราะปกป้องเขมร ไม่กำจัดเขมรก่อน แต่เสือกบอกไทยให้จับมือกับมือฆ่าประชาชนชาวโลก จงบำรุงเลี้ยงดูอาชญากรแบบเขมรให้ดี จงเปิดด่านให้ข้าวให้ปลาให้น้ำเขมรแดกนะจะได้ไปฆ่าคนทั่วโลกได้ต่อไป จับคนทั่วโลกมาค้าแรงงานค้ามนุษย์ค้าอวัยวะส่งตังไปอเมริกาจะได้อ้างอายัดตังเขมรแดกเต็มอิ่มสบายๆด้วยข้อหาอาชญากรรมโลกต่อไป,งานกูอเมริกาและฝรั่งทั้งหมดตลอดUNจะได้มีงานทำเป็นฮีโร่ในภาพลักษณ์ที่ดีของคนทั้งโลกต่อไป. ..กูในนามทรัมป์จะเป็นผู้สร้างสันติภาพอาเชียนเอเชียและโลกแน่นอน. https://youtube.com/watch?v=ZIcg5PXS6_I&si=VqgQV5m0zKiX_57O
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • ในหลวง พระราชินี พระราชทานเงิน 42 ล้านบาท ให้โรงพยาบาลพนมดงรัก สร้างอาคารที่เสียหายจากเหตุการณ์ชายแดน
    ในหลวง พระราชินี พระราชทานเงิน 42 ล้านบาท ให้โรงพยาบาลพนมดงรัก สร้างอาคารที่เสียหายจากเหตุการณ์ชายแดน
    Like
    2
    1 Comments 0 Shares 264 Views 0 Reviews
  • วิธีปลุกประชาชนตื่นรับรู้ กระตือรือร้นในการรับรู้ มันมีหลายวิธี คือยึดก่อนที่เป็นของไทย บนแผ่นดินไทยก็ส่วนหนึ่ง แบบยึดปราสาทนั้นล่ะ หรือ ทำลายทิ้งทันทีแบบบ่อนคาสิโนจึงค่อยรายงานทีหลัง,หรือแบบตาควายทำลายเลยเพราะดินแดนของเรา สร้างใหม่ได้ เขมรมาใช้ตาควายเป็นตัวประกันฝันสลายเลย,เพราะวัตถุธาตุเราสร้างใหม่ซ่อมแซมได้,การปล่อยศัตรูมิใช่วิสัยสนามรบ,
    ..กองทัพไทยเรา มีปัญหาภายในจริงๆ,ระหว่างกองทัพบูรพาพยัคฆ์ที่โหนเจ้ามานาน โหนชื่อว่าทหารพระราชินี ถือว่าเสียพระเกียรติมาก,สมควรยุบขบวนการชื่อนี้ทิ้งทันที มันสร้างวิถีแตกแยกในกองทัพไทยได้ ไม่เป็นปึกแผ่นใจเดียวกันเลย,แม่ทัพภาค2สู้เขมรเอาเป็นเอาตาย,หันมาดูแม่ทัพภาค1.เสือกนิ่งเฉยตลอดทั้งภาคตะวันออก สุดท้ายแต่ละเรื่องที่สื่อและกูรูแฉตัวตนออกมาของทั้งกองทัพภาค1ถือว่าเสมือนเป็นภัยความมั่นคงต่ออธิปไตยไทยชาติไทยตนเองทั้งสิ้น บ่อนคาสิโนเขมรในจังหวัดตราดคือรากเหง้าชัดเจน,ทหารดีๆภายในกองทัพภาค1ต้องเสื่อมเสียเกียรติไปด้วย,ศาลทหารไทยไม่ทำหน้าที่,มีการเมืองภายในศาลทหารชัดเจน เสื่อมเสียเกียรติภูมิมากของศาลทหาร ที่ไม่ยอมจัดการผู้บังคับบัญชาชั่วเลวในกองทัพตนเองเลย ปล่อยปละละเลยทั้งที่การข่าวตนมีโคตรๆมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว,เป็นสายให้ทหารตำรวจก็สายไปแต่เสือกปล่อยลักษณะสร้างบ่อนคาสิโน ถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา เน็ต จนครบวงจร หน่วยข่าวกรองทหาร ศาลทหารเราละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กำจัดคนชั่วเลวในกองทัพตนเสียเอง.
    ..วงการทหารและกองทัพไทยตนกวาดล้างกำจัดทำความสะอาดภายในกองทัพตนอย่างใหญ่หลวงจริงๆ,ประชาชนแบบเราๆสนับสนุนทหารน้ำดีทำการกวาดล้างทหารชั่วนายพลชั่วอดีตผู้นำกองทัพชั่วทันทีทั้งหมด,ตลอดรมต.กลาโหมทุกๆคนในอดีตที่ผ่านมาด้วยที่สร้างหายนะใหญ่หลวงต่อพิบัติภัยอธิปไตยดินแดนไทยแผ่นดินไทยเรานี้,พวกนี้ต้องถือกำจัดและลงโทษทุกๆคน.

    https://youtube.com/shorts/WgCWNsy-rQM?si=hkAZzSlpCUeSZayb

    วิธีปลุกประชาชนตื่นรับรู้ กระตือรือร้นในการรับรู้ มันมีหลายวิธี คือยึดก่อนที่เป็นของไทย บนแผ่นดินไทยก็ส่วนหนึ่ง แบบยึดปราสาทนั้นล่ะ หรือ ทำลายทิ้งทันทีแบบบ่อนคาสิโนจึงค่อยรายงานทีหลัง,หรือแบบตาควายทำลายเลยเพราะดินแดนของเรา สร้างใหม่ได้ เขมรมาใช้ตาควายเป็นตัวประกันฝันสลายเลย,เพราะวัตถุธาตุเราสร้างใหม่ซ่อมแซมได้,การปล่อยศัตรูมิใช่วิสัยสนามรบ, ..กองทัพไทยเรา มีปัญหาภายในจริงๆ,ระหว่างกองทัพบูรพาพยัคฆ์ที่โหนเจ้ามานาน โหนชื่อว่าทหารพระราชินี ถือว่าเสียพระเกียรติมาก,สมควรยุบขบวนการชื่อนี้ทิ้งทันที มันสร้างวิถีแตกแยกในกองทัพไทยได้ ไม่เป็นปึกแผ่นใจเดียวกันเลย,แม่ทัพภาค2สู้เขมรเอาเป็นเอาตาย,หันมาดูแม่ทัพภาค1.เสือกนิ่งเฉยตลอดทั้งภาคตะวันออก สุดท้ายแต่ละเรื่องที่สื่อและกูรูแฉตัวตนออกมาของทั้งกองทัพภาค1ถือว่าเสมือนเป็นภัยความมั่นคงต่ออธิปไตยไทยชาติไทยตนเองทั้งสิ้น บ่อนคาสิโนเขมรในจังหวัดตราดคือรากเหง้าชัดเจน,ทหารดีๆภายในกองทัพภาค1ต้องเสื่อมเสียเกียรติไปด้วย,ศาลทหารไทยไม่ทำหน้าที่,มีการเมืองภายในศาลทหารชัดเจน เสื่อมเสียเกียรติภูมิมากของศาลทหาร ที่ไม่ยอมจัดการผู้บังคับบัญชาชั่วเลวในกองทัพตนเองเลย ปล่อยปละละเลยทั้งที่การข่าวตนมีโคตรๆมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว,เป็นสายให้ทหารตำรวจก็สายไปแต่เสือกปล่อยลักษณะสร้างบ่อนคาสิโน ถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา เน็ต จนครบวงจร หน่วยข่าวกรองทหาร ศาลทหารเราละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กำจัดคนชั่วเลวในกองทัพตนเสียเอง. ..วงการทหารและกองทัพไทยตนกวาดล้างกำจัดทำความสะอาดภายในกองทัพตนอย่างใหญ่หลวงจริงๆ,ประชาชนแบบเราๆสนับสนุนทหารน้ำดีทำการกวาดล้างทหารชั่วนายพลชั่วอดีตผู้นำกองทัพชั่วทันทีทั้งหมด,ตลอดรมต.กลาโหมทุกๆคนในอดีตที่ผ่านมาด้วยที่สร้างหายนะใหญ่หลวงต่อพิบัติภัยอธิปไตยดินแดนไทยแผ่นดินไทยเรานี้,พวกนี้ต้องถือกำจัดและลงโทษทุกๆคน. https://youtube.com/shorts/WgCWNsy-rQM?si=hkAZzSlpCUeSZayb
    0 Comments 0 Shares 333 Views 0 Reviews
  • วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๘
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทอดพระเนตรการแสดงคอนเสิร์ตของนายปลาซิโด โดมิงโก (Mr. Plácido Domingo) ศิลปินโอเปราระดับตำนาน ในงานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพ ฯ ครั้งที่ ๒๗ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. https://www.facebook.com/share/p/15zaWortt1/
    วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทอดพระเนตรการแสดงคอนเสิร์ตของนายปลาซิโด โดมิงโก (Mr. Plácido Domingo) ศิลปินโอเปราระดับตำนาน ในงานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพ ฯ ครั้งที่ ๒๗ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. https://www.facebook.com/share/p/15zaWortt1/
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 312 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 5 – สร้างพระเจ้าองค์ใหม่
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 5 : สร้างพระเจ้าองค์ใหม่
    หลัง Anglo American Establishment กอดคอจับมือกันชัดเจน เมื่อประมาณ ค.ศ.1890 ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันสร้างกลไก สร้างระบบด้านการเงินการธนาคารเป็นอันดับแรก เพื่อเอาตัวเองนำหน้าชักใยรัฐบาล และลดบทบาทของประเทศ
    ระบบธนาคารกลาง เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1694 ที่อังกฤษ เป็นการรวมตัวกันของ เครือข่ายธนาคารกลางนานาชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นของรัฐ แต่เป็นของเอกชน ! มีผู้ถือหุ้นเป็นเอกชนคนโคตรรวย ธนาคารกลางนี้เป็นผู้อนุญาตให้ รัฐบาล (จำกันให้ดี เงินเป็นใหญ่กว่ารัฐบาล มาตั้งแต่ ค.ศ.1694 แล้ว !) ในการพิมพ์ธนบัตร เงินสกุลต่างๆ ของแต่ละประเทศ โดยอนุญาตให้กำหนดอัตราดอกเบี้ย และทำกำไรจากดอกเบี้ยนั้น ธนาคารกลางเหล่านี้ เป็นผู้ให้เงินกู้แก่รัฐบาล และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เท่ากับควบคุมลูกค้าใหญ่ 2 กลุ่ม 2 ขาของประเทศไปพร้อมๆ กัน ต่อมาภายหลังประมาณ ปี ค.ศ.1930 ธนาคารกลางเหล่านี้ พร้อมใจกันอยู่ในระบบที่พวกตัว เองสร้างขึ้น เรียกว่า Bank for International Settlements (BIS) ตั้งอยู่ที่เมือง Basle ในสวิสเซอร์แลนด์ เป็นธนาคารของเอกชนเช่นเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางของเหล่าสมาชิกซึ่งเป็นธนาคารกลางต่างๆ (เขียนแล้วมึนเอง คนอ่านก็คงมึน) เอาแบบง่ายๆ BIS ธนาคารกลางตัวแม่นี้ถือหุ้นโดย ธนาคารกลางตัว ลูกๆ ทั้งหลาย ธนาคารกลางตัวลูกก็ถือหุ้นโดยพวกเอกชนคนโคตรรวยอีกต่อหนึ่ง สรุปว่า พวกคนรวยลงทุนลงขันกันเอง เพื่อตั้งธนาคารกลาง และไม่ให้ใครมายุ่ง เขาดูแลเงินของเขากันเอง ตั้งกฎกติกาเอง โดยให้แม่ BIS คุม รัฐบาลได้แต่ทำตาปริบๆ ดู หน้าจ๋อย มือกุม ก้มหน้า รับคำสั่งรับอำนาจมาจากคนรวยอีกทีหนึ่ง เข้าใจไหม คนรวยใหญ่กว่ารัฐบาล ถึงพูดกันว่าเงินเป็นพระเจ้า
    ระบบธนาคารกลางนี้ หลังจากเกิดขึ้นครั้งแรกที่ London ไปได้สวย คนรวยติดใจ จึงขยายตัวข้ามมาในทวีปยุโรปตะวันตก และกระจายทั่วไปในทวีปยุโรป การปฏิวัติในฝรั่งเศส ทำให้นโปเลียนขึ้นมามีอำนาจ และยอมให้บรรดานายทุนที่รวมตัวกันให้เงินกู้นโปเลียนไปทำการปฏิวัตินั่นแหละ จับมือร่วมกันจัดตั้งธนาคารในฝรั่งเศสขึ้น เป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่พวกนายทุนนี้ควบคุมกันเอง รัฐบาลไม่เกี่ยว ธนาคารนี้เป็นต้นกำเนิดของตระกูลโคตรรวยทางฝั่งยุโรป คือ ตระกูล Rothshilds ชาวยิวในยุโรป ซึ่งขยายธุรกิจการเงินของตระกูล โดยการตั้งธนาคารใน London, Paris, Frankfurt, Vienna และ Naples ทำให้ตระกูลนี้ยิ่งรวยเละขึ้นไปอีก และยิ่งรวยเพิ่มขึ้น จากการไปถือหางทุกฝ่ายในการรบทุกครั้งของนโปเลียน (ต้นกำเนิดของการถือไพ่ทุกใบในการต่อสู้ มีเงินซื้อไพ่ทุกใบ มีไพ่ให้เลือกเล่นแยะ เล่นยังไงก็ชนะ ยกเว้นโคตรโง่ หรือ โคตรเลว จนเทวดาบอกมีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ ตัวอย่างกำลังมีให้เห็นในบ้านเรา !)
    นาย Carroll Quigley นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎี เจ้าความคิดกำเนิดแห่งศิวิไลย์ของมนุษยชาติ แห่งมหาวิทยาลัย Georgetown เขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งบรรดาสาวกทั้งหลายถือเป็นคัมภีร์ ชื่อ Tragedy and Hope บอกว่าในช่วง ค.ศ.18101850 พวกวาณิชธนกิจใน London ได้สร้าง ธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England) ตลาดหุ้นและตลาดเงินแห่ง London และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ขยายธุรกิจ โดยการสร้างธนาคารย่อยในระดับเมือง ต่างๆ ดำเนินกิจการ ในรูปแบบของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารออมสิน รวมทั้งทำธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ 3 อย่างนี้ มันหมุนเงิน สร้างเงินในตัวของมันเองตามวงจร เขาจึงรวมธุรกิจพวกนี้ไว้ด้วยกัน ในระดับที่ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นระดับระหว่างประเทศ จากเมืองไปสู่ประเทศ และด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถชักใย ควบคุมการไหลเข้าออก ของเงินระหว่างประเทศ แน่นอนการดำเนินการแบบนี้ ถึงแม้ในบางครั้งอาจจะควบคุมไม่ได้เบ็ดเสร็จ แต่ก็เรียกว่ามีอิทธิพล เหนือทั้งรัฐบาลและธุรกิจอุตสาหกรรม เงินไม่มี กิจการต่างๆไม่ว่าทางการเมืองหรือธุรกิจก็เป็นง่อยเรียบร้อย ตรงไปตรงมา ไม่ต้องฉลาดมากก็คิดได้ ขอให้มีเงินไว้ก่อน !
    ในขณะเดียวกัน ทางอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ในอเมริกาก็มีการรวมตัวของกลุ่มธนาคารและธุรกิจอุตสาหกรรมในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยพวก Morgans, Astors, Vanderbilts, Rockefellers และ Carnegies กลุ่มทุนพวกนี้ก็เริ่มครอบงำอุตสาหกรรมทั้งหมด ตลอดศตวรรษที่ 19 และต่อมาผลประโยชน์ของนายทุนทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคก็เชื่อมโยงกัน คนมีเงินก็ย่อมเลือกที่จะคบกับคนมีเงินด้วยกัน Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น
    คนรวยมีเงินแล้วก็อยากมีอำนาจ เป็นโรคเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครต่างกัน กลับมาดูคนรวยที่อังกฤษ พวกคนรวยในอังกฤษเริ่มจับกลุ่มรวมตัวกัน เพื่อแสดงอิทธิพลของตนในระดับชาติ ช่วงนั้นนักล่าแถบนั้น กำลังรุมทิ้งเหยื่ออยู่แถวอาฟริกา ซึ่งเกือบทุกประเทศในอาฟริกา ยกเว้นเอธิโอเปีย ตกเป็นอาณานิคมของนักล่าผมทองจากอังกฤษและยุโรปทั้งสิ้น นักล่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นคือ นาย Cecil Rhodes นักล่าชาวอังกฤษเป็นคนลงไม้ลงมือล่า แต่กระเป๋าที่อุดหนุนให้เขาปฏิบัติการล่า คือ ตระกูล Rothshilds ซึ่งในช่วงนั้น เป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นาย Cecil Rhodes เป็นคนสุดโต่งอีกคนหนึ่ง เขามองว่าอเมริกายังเป็นอาณานิ คมของจักรภพอังกฤษอยู่ จะปล่อยให้มาทำท่ารวยยะโส เดินหน้าเชิด เทียบชั้นกับอังกฤษ เจ้านายเก่าแบบนี้น่ะ มันจะมากไปหน่อยไหม นาย Rhodes มองตัวเองไม่ใช่แค่เป็นนักล่าเงินรางวัล แต่เขาเป็นนักสร้างอาณาจักร empire builder อย่าลืมเขาสร้างเมือง Rhodesia ในอาฟริกา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Zimbabwe
    Carroll Quigley เล่าต่อไปว่า ค.ศ.1891 คนโคตรรวยอังกฤษ 3 หนุ่ม แอบพบกัน เพื่อสมคบกันสร้างสมาคมลับ 3 หนุ่มคือนาย Cecil Rhodes, William T. Stead พี่เบิ้มแห่งวงการหนังสือพิมพ์สมัยนั้น (น่าสังเกตว่า ถ้าจะทำอะไรให้ดังต้องมีสื่อยักษ์มาร่วม มิน่าเล่า มันถึงอยากเป็นสื่อใหญ่กันทั้งนั้น ถีบตัวเองขึ้นมา จนลืมจรรยาบรรณ ฐานันดรที่ 4) และนาย Reginald Baliol Brett ซึ่งเป็นพระสหายผู้ได้รับความไว้วางใจ จากพระราชินีวิกตอเรีย แห่งจักรภพอังกฤษ และต่อมาก็ได้เป็นที่ปรึกษาผู้ มีอิทธิพลต่อพระเจ้า Edward ที่ 7 และพระเจ้า George ที่ 5 ปู่ของพระราชินีElizabeth ที่ 2 ของอังกฤษคนปัจจุบัน สมาคมลับนี้มีนาย Rhodes เป็นหัวหน้า และพระอันดับอีก 3 คน คือ นาย Stead, นาย Brett และคนสุดท้ายแต่มาแรง คือ นาย Alfred Milner
    วัตถุประสงค์ของสมาคมลับนี้ ซึ่งต่อไปจะนำฝูงโดยนาย Alfred Milner คือจัดการให้อังกฤษปกครองไปทั่วโลก ด้วยระบบของอังกฤษ ไม่ว่าจะในด้านปกครองประชาชนหรือทำการค้า พูดให้ชัด เป้าหมายคือจัดการให้อเมริกากลับมาอยู่ในอาณานิคมของอังกฤษ ใช้ระบบอังกฤษดำเนินชีวิต และอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม Rothshilds และกลุ่มธนาคารต่างๆ เต็มที่อย่างลับๆ
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 5 – สร้างพระเจ้าองค์ใหม่ นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 5 : สร้างพระเจ้าองค์ใหม่ หลัง Anglo American Establishment กอดคอจับมือกันชัดเจน เมื่อประมาณ ค.ศ.1890 ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันสร้างกลไก สร้างระบบด้านการเงินการธนาคารเป็นอันดับแรก เพื่อเอาตัวเองนำหน้าชักใยรัฐบาล และลดบทบาทของประเทศ ระบบธนาคารกลาง เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1694 ที่อังกฤษ เป็นการรวมตัวกันของ เครือข่ายธนาคารกลางนานาชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นของรัฐ แต่เป็นของเอกชน ! มีผู้ถือหุ้นเป็นเอกชนคนโคตรรวย ธนาคารกลางนี้เป็นผู้อนุญาตให้ รัฐบาล (จำกันให้ดี เงินเป็นใหญ่กว่ารัฐบาล มาตั้งแต่ ค.ศ.1694 แล้ว !) ในการพิมพ์ธนบัตร เงินสกุลต่างๆ ของแต่ละประเทศ โดยอนุญาตให้กำหนดอัตราดอกเบี้ย และทำกำไรจากดอกเบี้ยนั้น ธนาคารกลางเหล่านี้ เป็นผู้ให้เงินกู้แก่รัฐบาล และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เท่ากับควบคุมลูกค้าใหญ่ 2 กลุ่ม 2 ขาของประเทศไปพร้อมๆ กัน ต่อมาภายหลังประมาณ ปี ค.ศ.1930 ธนาคารกลางเหล่านี้ พร้อมใจกันอยู่ในระบบที่พวกตัว เองสร้างขึ้น เรียกว่า Bank for International Settlements (BIS) ตั้งอยู่ที่เมือง Basle ในสวิสเซอร์แลนด์ เป็นธนาคารของเอกชนเช่นเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางของเหล่าสมาชิกซึ่งเป็นธนาคารกลางต่างๆ (เขียนแล้วมึนเอง คนอ่านก็คงมึน) เอาแบบง่ายๆ BIS ธนาคารกลางตัวแม่นี้ถือหุ้นโดย ธนาคารกลางตัว ลูกๆ ทั้งหลาย ธนาคารกลางตัวลูกก็ถือหุ้นโดยพวกเอกชนคนโคตรรวยอีกต่อหนึ่ง สรุปว่า พวกคนรวยลงทุนลงขันกันเอง เพื่อตั้งธนาคารกลาง และไม่ให้ใครมายุ่ง เขาดูแลเงินของเขากันเอง ตั้งกฎกติกาเอง โดยให้แม่ BIS คุม รัฐบาลได้แต่ทำตาปริบๆ ดู หน้าจ๋อย มือกุม ก้มหน้า รับคำสั่งรับอำนาจมาจากคนรวยอีกทีหนึ่ง เข้าใจไหม คนรวยใหญ่กว่ารัฐบาล ถึงพูดกันว่าเงินเป็นพระเจ้า ระบบธนาคารกลางนี้ หลังจากเกิดขึ้นครั้งแรกที่ London ไปได้สวย คนรวยติดใจ จึงขยายตัวข้ามมาในทวีปยุโรปตะวันตก และกระจายทั่วไปในทวีปยุโรป การปฏิวัติในฝรั่งเศส ทำให้นโปเลียนขึ้นมามีอำนาจ และยอมให้บรรดานายทุนที่รวมตัวกันให้เงินกู้นโปเลียนไปทำการปฏิวัตินั่นแหละ จับมือร่วมกันจัดตั้งธนาคารในฝรั่งเศสขึ้น เป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่พวกนายทุนนี้ควบคุมกันเอง รัฐบาลไม่เกี่ยว ธนาคารนี้เป็นต้นกำเนิดของตระกูลโคตรรวยทางฝั่งยุโรป คือ ตระกูล Rothshilds ชาวยิวในยุโรป ซึ่งขยายธุรกิจการเงินของตระกูล โดยการตั้งธนาคารใน London, Paris, Frankfurt, Vienna และ Naples ทำให้ตระกูลนี้ยิ่งรวยเละขึ้นไปอีก และยิ่งรวยเพิ่มขึ้น จากการไปถือหางทุกฝ่ายในการรบทุกครั้งของนโปเลียน (ต้นกำเนิดของการถือไพ่ทุกใบในการต่อสู้ มีเงินซื้อไพ่ทุกใบ มีไพ่ให้เลือกเล่นแยะ เล่นยังไงก็ชนะ ยกเว้นโคตรโง่ หรือ โคตรเลว จนเทวดาบอกมีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ ตัวอย่างกำลังมีให้เห็นในบ้านเรา !) นาย Carroll Quigley นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎี เจ้าความคิดกำเนิดแห่งศิวิไลย์ของมนุษยชาติ แห่งมหาวิทยาลัย Georgetown เขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งบรรดาสาวกทั้งหลายถือเป็นคัมภีร์ ชื่อ Tragedy and Hope บอกว่าในช่วง ค.ศ.18101850 พวกวาณิชธนกิจใน London ได้สร้าง ธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England) ตลาดหุ้นและตลาดเงินแห่ง London และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ขยายธุรกิจ โดยการสร้างธนาคารย่อยในระดับเมือง ต่างๆ ดำเนินกิจการ ในรูปแบบของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารออมสิน รวมทั้งทำธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ 3 อย่างนี้ มันหมุนเงิน สร้างเงินในตัวของมันเองตามวงจร เขาจึงรวมธุรกิจพวกนี้ไว้ด้วยกัน ในระดับที่ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นระดับระหว่างประเทศ จากเมืองไปสู่ประเทศ และด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถชักใย ควบคุมการไหลเข้าออก ของเงินระหว่างประเทศ แน่นอนการดำเนินการแบบนี้ ถึงแม้ในบางครั้งอาจจะควบคุมไม่ได้เบ็ดเสร็จ แต่ก็เรียกว่ามีอิทธิพล เหนือทั้งรัฐบาลและธุรกิจอุตสาหกรรม เงินไม่มี กิจการต่างๆไม่ว่าทางการเมืองหรือธุรกิจก็เป็นง่อยเรียบร้อย ตรงไปตรงมา ไม่ต้องฉลาดมากก็คิดได้ ขอให้มีเงินไว้ก่อน ! ในขณะเดียวกัน ทางอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ในอเมริกาก็มีการรวมตัวของกลุ่มธนาคารและธุรกิจอุตสาหกรรมในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยพวก Morgans, Astors, Vanderbilts, Rockefellers และ Carnegies กลุ่มทุนพวกนี้ก็เริ่มครอบงำอุตสาหกรรมทั้งหมด ตลอดศตวรรษที่ 19 และต่อมาผลประโยชน์ของนายทุนทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคก็เชื่อมโยงกัน คนมีเงินก็ย่อมเลือกที่จะคบกับคนมีเงินด้วยกัน Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น คนรวยมีเงินแล้วก็อยากมีอำนาจ เป็นโรคเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครต่างกัน กลับมาดูคนรวยที่อังกฤษ พวกคนรวยในอังกฤษเริ่มจับกลุ่มรวมตัวกัน เพื่อแสดงอิทธิพลของตนในระดับชาติ ช่วงนั้นนักล่าแถบนั้น กำลังรุมทิ้งเหยื่ออยู่แถวอาฟริกา ซึ่งเกือบทุกประเทศในอาฟริกา ยกเว้นเอธิโอเปีย ตกเป็นอาณานิคมของนักล่าผมทองจากอังกฤษและยุโรปทั้งสิ้น นักล่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นคือ นาย Cecil Rhodes นักล่าชาวอังกฤษเป็นคนลงไม้ลงมือล่า แต่กระเป๋าที่อุดหนุนให้เขาปฏิบัติการล่า คือ ตระกูล Rothshilds ซึ่งในช่วงนั้น เป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นาย Cecil Rhodes เป็นคนสุดโต่งอีกคนหนึ่ง เขามองว่าอเมริกายังเป็นอาณานิ คมของจักรภพอังกฤษอยู่ จะปล่อยให้มาทำท่ารวยยะโส เดินหน้าเชิด เทียบชั้นกับอังกฤษ เจ้านายเก่าแบบนี้น่ะ มันจะมากไปหน่อยไหม นาย Rhodes มองตัวเองไม่ใช่แค่เป็นนักล่าเงินรางวัล แต่เขาเป็นนักสร้างอาณาจักร empire builder อย่าลืมเขาสร้างเมือง Rhodesia ในอาฟริกา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Zimbabwe Carroll Quigley เล่าต่อไปว่า ค.ศ.1891 คนโคตรรวยอังกฤษ 3 หนุ่ม แอบพบกัน เพื่อสมคบกันสร้างสมาคมลับ 3 หนุ่มคือนาย Cecil Rhodes, William T. Stead พี่เบิ้มแห่งวงการหนังสือพิมพ์สมัยนั้น (น่าสังเกตว่า ถ้าจะทำอะไรให้ดังต้องมีสื่อยักษ์มาร่วม มิน่าเล่า มันถึงอยากเป็นสื่อใหญ่กันทั้งนั้น ถีบตัวเองขึ้นมา จนลืมจรรยาบรรณ ฐานันดรที่ 4) และนาย Reginald Baliol Brett ซึ่งเป็นพระสหายผู้ได้รับความไว้วางใจ จากพระราชินีวิกตอเรีย แห่งจักรภพอังกฤษ และต่อมาก็ได้เป็นที่ปรึกษาผู้ มีอิทธิพลต่อพระเจ้า Edward ที่ 7 และพระเจ้า George ที่ 5 ปู่ของพระราชินีElizabeth ที่ 2 ของอังกฤษคนปัจจุบัน สมาคมลับนี้มีนาย Rhodes เป็นหัวหน้า และพระอันดับอีก 3 คน คือ นาย Stead, นาย Brett และคนสุดท้ายแต่มาแรง คือ นาย Alfred Milner วัตถุประสงค์ของสมาคมลับนี้ ซึ่งต่อไปจะนำฝูงโดยนาย Alfred Milner คือจัดการให้อังกฤษปกครองไปทั่วโลก ด้วยระบบของอังกฤษ ไม่ว่าจะในด้านปกครองประชาชนหรือทำการค้า พูดให้ชัด เป้าหมายคือจัดการให้อเมริกากลับมาอยู่ในอาณานิคมของอังกฤษ ใช้ระบบอังกฤษดำเนินชีวิต และอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม Rothshilds และกลุ่มธนาคารต่างๆ เต็มที่อย่างลับๆ คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 440 Views 0 Reviews
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 9
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 9
    นาย Kenneth ถูกกระทรวงต่างประเทศ ส่งกลับมาทำการสำรวจเมืองไทยรอบใหญ่อีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1950 นาย Kenneth เล่าว่าเป็นปีที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงทำพิธีอภิเศกสมรสกับสมเด็จพระราชินี และทำพิธีขึ้นครองราชย์ ทางอเมริกาเตรียมของขวัญที่จะถวายสำหรับพระราชพิธีอภิเศก เป็นแก้วเป่าของ Steuben ซึ่งมีชื่อมาก แต่นาย Kenneth ในฐานะเคยอยู่เมืองไทยมานาน และอ้างว่าเคยรู้จักและเคยพบพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิง ก็รีบเสนอหน้าแนะนำไปยังประธานาธิบดี ให้รัฐบาลอเมริกันจัดการเปลี่ยนของขวัญ เขาบอกว่าในหลวงทรงเป็นนักดนตรีแจ๊ส และโปรดฟังเพลง ความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ก็เริ่มมาจากดนตรี ดังนั้นน่าจะถวายของขวัญเป็นอะไรที่เกี่ยวกับดนตรี
    ในที่สุดนาย Kenneth ก็จัดการให้รัฐบาลอเมริกันถวายเครื่องเล่นแผ่นเสียง รวมทั้งแผ่นเสียงของ Gershwin ครบชุด เขาอ้างว่าทรงโปรดมาก และเป็นของขวัญชิ้นเดียวที่ทรงนำไปยังวังไกลกังวล หลังจากทรงทำพิธีอภิเศกสมรสแล้ว (ไม่รู้นาย Kenneth รู้ได้อย่างไร!? แต่อย่างน้อย การแนะนำเช่นนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า การอยู่ใกล้ เข้ามาคลุกคลีในประเทศ ทำให้นักล่ารู้จักหลายอย่างเกี่ยวสมันน้อย ดีกว่ามองจากทางไกลหรืออ่านแต่รายงาน)
    ในการเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ นาย Kenneth ได้ถือโอกาสจัดการตัวเองให้ได้พบกับจอมพลสฤษดิ์ เขาบอกว่าถ้าอยากรู้เรื่องเมืองไทยต้องอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทย และต้องรู้จักอ่าน “ระหว่างบันทัด” ให้เป็น จึงจะรู้ว่าคนไทยพูดเรื่องอะไรกันบ้าง อะไรเป็นข่าวในตอนนั้น ด้วยวิธีนี้ ทำให้เขารู้เรื่องเกี่ยวกับจอมพลสฤษดิ์ในหลายมุม ตอนนั้นจอมพลสฤษดิ์ยังเป็นเพียงนายทหารระดับนายพล คุมกองทัพภาค 1 ในกรุงเทพฯ แต่เขาเห็นว่าแล้วว่าจะมีอนาคตไกล เขาจึงขอให้ฑูต Stanton ช่วยนัดให้เขาพบกับจอมพลสฤษดิ์ ฑูตบอกว่าไม่ได้หรอก ต้องผ่านฑูตทหารอีกที แล้วฑูตทหารก็จะถามว่าไปพบทำไม นาย Kenneth จึงบอกว่าไม่เป็นไร เขานัดเองก็ได้ แล้วเขาก็ให้เพื่อนคนไทยนัดให้
    เพื่อนไปแจ้งสฤษดิ์ สฤษดิ์ถามกลับว่าจะมาพบทำไม เขาไม่พูดภาษาอังกฤษ (I don’t speak English) นาย Kenneth ให้เพื่อนตอบกลับไปว่า เขาก็ไม่พูดภาษาอังกฤษเหมือนกัน (I don’t speak English either !) คำตอบนี้ทำให้สฤษดิ์ขำ และสนใจนาย Kenneth ขึ้นมา จึงยอมรับนัด ปรากฎว่าเมื่อทั้ง 2 พบกันก็ถูกชะตากัน และคุยกันเป็นภาษาไทย สฤษดิ์ถามว่านาย Kenneth สนใจอะไรเขา นาย Kenneth บอกว่า เขาเชื่อว่าวันหนึ่งสฤษดิ์จะเป็นบุคคลสำคัญมากในวงการเมืองของประเทศไทย สฤษดิ์ถามว่า ฉันจะต้องไปรบกับใครหรือ นาย Kenneth บอกไม่ใช่รบแบบทหาร แต่รบในทางการเมืองละก้อใช่ สฤษดิ์ถามว่าคุณรู้ได้ยังไงนาย Kenneth บอกเขาอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทย ซึ่งมีบทความมากมายและถ้ารู้จักวิธีอ่าน ก็จะได้ข้อมูลอย่างนึกไม่ถึง สฤษดิ์ตอบว่าใช่ ใช่แล้ว ! หลังจากนั้นทั้ง 2 คน ก็กลายเป็นเพื่อนกัน และเป็นเพื่อนชนิดที่ไว้ใจกัน
    หลังจากพบกับสฤษดิ์ นาย Kenneth เดินทางไปพบกับอดีตจักรพรรดิ์เบาได๋ (Baodai) ของเวียตนาม ซึ่งหนีลุงโฮมาอยู่ทางใต้ของเวียตนาม เบาได๋เชื่อว่าวันหนึ่งฝรั่งเศสจะคืนเอกราชให้เวียตนาม เบาได๋ขอให้อเมริกาช่วยจัดการให้ฝรั่งเศสออกไปจากเวียตนาม และช่วยให้เขากลับมามีอำนาจในเวียตนามต่อไป แล้วเขาจะให้ความร่วมมืออย่างดีกับอเมริกา นาย Kenneth เห็นว่า เบาได๋เป็นคนอ่อนแอ และไม่น่าที่จะรักษาเวียตนามไว้ได้
    จากเวียตนามเขาเดินทางต่อไปพบเจ้านโรดมสีหนุที่เขมร ซึ่งขณะนั้นก็ยังไม่ได้อิสรภาพจากฝรั่งเศส ฝรั่งเศสตั้งให้เจ้านโรดมเป็นกษัตริย์ ตั้งแต่ยังเด็กโดยหวังจะให้เป็น หุ่นชักของฝรั่งเศส นาย Kenneth บอก เจ้าสีหนุเป็นคนฉลาด เจ้าเล่ห์ ลื่นไหล ลดเลี้ยวเก่งมาก เขาคิดว่าฝรั่งเศส (รวมทั้งอเมริกาด้วย) คงจะชักหุ่นชื่อสีหนุนี้ยาก
    ต่อจากเขมร นาย Kenneth ก็ไปลาว เขาไปพบรัฐบาลลาวที่เวียงจันทร์ หลังจากนั้นก็ไปพบกษัตริย์ลาวที่หลวงพระบาง ตอนแรกเจ้าลาวก็ทำตัวเกร็งกับนาย Kenneth ฝ่ายหนึ่งพูดฝรั่งเศษ อีกฝ่ายพูดอังกฤษกันจนเมื่อยมือ จนนาย Kenneth พูดภาษาไทยด้วย เจ้าลาวก็ดีใจ ได้พูดลาวโดยนาย Kenneth ก็อ้างว่าเข้าใจ หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายก็สื่อสารกันได้ (หมายเหตุ คนเล่านิทาน : กษัตริย์ลาวที่นาย Kenneth ไปพบน่าจะเป็นเจ้าสุวรรณภูมา เพราะนาย Kenneth บอกว่าภายหลัง กษัตริย์ลาวองค์นี้ถูกพวกคอมมิวนิสต์จับได้และปฏิบัติต่อพระองค์แย่มาก ในที่สุดก็สวรรคตในค่ายกักกันของคอมมิวนิสต์)
    จากลาว นาย Kenneth กลับมาเมืองไทยและเดินทางลงใต้ไปสิงค์โปร์และกัวลาลัมเปอร์ เสร็จแล้วก็ข้ามไปยังจาร์กาต้า เพื่อพบนายพลซูการ์โน เขาเจอลูกเล่นสาระพัดจากนักการเมือง และทหารที่จาร์กาต้า รวมทั้งถูกลองดี เช่น เครื่องบินที่เขาจะต้องใช้บินกลับมาสิงค์โปร์ ถูกดูดเอาน้ำมันออกจนเกลี้ยงถัง นาย Kenneth “รู้จัก” คนอินโดนีเซียจากประสบการณ์ของจริง !

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 9 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 9 นาย Kenneth ถูกกระทรวงต่างประเทศ ส่งกลับมาทำการสำรวจเมืองไทยรอบใหญ่อีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1950 นาย Kenneth เล่าว่าเป็นปีที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงทำพิธีอภิเศกสมรสกับสมเด็จพระราชินี และทำพิธีขึ้นครองราชย์ ทางอเมริกาเตรียมของขวัญที่จะถวายสำหรับพระราชพิธีอภิเศก เป็นแก้วเป่าของ Steuben ซึ่งมีชื่อมาก แต่นาย Kenneth ในฐานะเคยอยู่เมืองไทยมานาน และอ้างว่าเคยรู้จักและเคยพบพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิง ก็รีบเสนอหน้าแนะนำไปยังประธานาธิบดี ให้รัฐบาลอเมริกันจัดการเปลี่ยนของขวัญ เขาบอกว่าในหลวงทรงเป็นนักดนตรีแจ๊ส และโปรดฟังเพลง ความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ก็เริ่มมาจากดนตรี ดังนั้นน่าจะถวายของขวัญเป็นอะไรที่เกี่ยวกับดนตรี ในที่สุดนาย Kenneth ก็จัดการให้รัฐบาลอเมริกันถวายเครื่องเล่นแผ่นเสียง รวมทั้งแผ่นเสียงของ Gershwin ครบชุด เขาอ้างว่าทรงโปรดมาก และเป็นของขวัญชิ้นเดียวที่ทรงนำไปยังวังไกลกังวล หลังจากทรงทำพิธีอภิเศกสมรสแล้ว (ไม่รู้นาย Kenneth รู้ได้อย่างไร!? แต่อย่างน้อย การแนะนำเช่นนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า การอยู่ใกล้ เข้ามาคลุกคลีในประเทศ ทำให้นักล่ารู้จักหลายอย่างเกี่ยวสมันน้อย ดีกว่ามองจากทางไกลหรืออ่านแต่รายงาน) ในการเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ นาย Kenneth ได้ถือโอกาสจัดการตัวเองให้ได้พบกับจอมพลสฤษดิ์ เขาบอกว่าถ้าอยากรู้เรื่องเมืองไทยต้องอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทย และต้องรู้จักอ่าน “ระหว่างบันทัด” ให้เป็น จึงจะรู้ว่าคนไทยพูดเรื่องอะไรกันบ้าง อะไรเป็นข่าวในตอนนั้น ด้วยวิธีนี้ ทำให้เขารู้เรื่องเกี่ยวกับจอมพลสฤษดิ์ในหลายมุม ตอนนั้นจอมพลสฤษดิ์ยังเป็นเพียงนายทหารระดับนายพล คุมกองทัพภาค 1 ในกรุงเทพฯ แต่เขาเห็นว่าแล้วว่าจะมีอนาคตไกล เขาจึงขอให้ฑูต Stanton ช่วยนัดให้เขาพบกับจอมพลสฤษดิ์ ฑูตบอกว่าไม่ได้หรอก ต้องผ่านฑูตทหารอีกที แล้วฑูตทหารก็จะถามว่าไปพบทำไม นาย Kenneth จึงบอกว่าไม่เป็นไร เขานัดเองก็ได้ แล้วเขาก็ให้เพื่อนคนไทยนัดให้ เพื่อนไปแจ้งสฤษดิ์ สฤษดิ์ถามกลับว่าจะมาพบทำไม เขาไม่พูดภาษาอังกฤษ (I don’t speak English) นาย Kenneth ให้เพื่อนตอบกลับไปว่า เขาก็ไม่พูดภาษาอังกฤษเหมือนกัน (I don’t speak English either !) คำตอบนี้ทำให้สฤษดิ์ขำ และสนใจนาย Kenneth ขึ้นมา จึงยอมรับนัด ปรากฎว่าเมื่อทั้ง 2 พบกันก็ถูกชะตากัน และคุยกันเป็นภาษาไทย สฤษดิ์ถามว่านาย Kenneth สนใจอะไรเขา นาย Kenneth บอกว่า เขาเชื่อว่าวันหนึ่งสฤษดิ์จะเป็นบุคคลสำคัญมากในวงการเมืองของประเทศไทย สฤษดิ์ถามว่า ฉันจะต้องไปรบกับใครหรือ นาย Kenneth บอกไม่ใช่รบแบบทหาร แต่รบในทางการเมืองละก้อใช่ สฤษดิ์ถามว่าคุณรู้ได้ยังไงนาย Kenneth บอกเขาอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทย ซึ่งมีบทความมากมายและถ้ารู้จักวิธีอ่าน ก็จะได้ข้อมูลอย่างนึกไม่ถึง สฤษดิ์ตอบว่าใช่ ใช่แล้ว ! หลังจากนั้นทั้ง 2 คน ก็กลายเป็นเพื่อนกัน และเป็นเพื่อนชนิดที่ไว้ใจกัน หลังจากพบกับสฤษดิ์ นาย Kenneth เดินทางไปพบกับอดีตจักรพรรดิ์เบาได๋ (Baodai) ของเวียตนาม ซึ่งหนีลุงโฮมาอยู่ทางใต้ของเวียตนาม เบาได๋เชื่อว่าวันหนึ่งฝรั่งเศสจะคืนเอกราชให้เวียตนาม เบาได๋ขอให้อเมริกาช่วยจัดการให้ฝรั่งเศสออกไปจากเวียตนาม และช่วยให้เขากลับมามีอำนาจในเวียตนามต่อไป แล้วเขาจะให้ความร่วมมืออย่างดีกับอเมริกา นาย Kenneth เห็นว่า เบาได๋เป็นคนอ่อนแอ และไม่น่าที่จะรักษาเวียตนามไว้ได้ จากเวียตนามเขาเดินทางต่อไปพบเจ้านโรดมสีหนุที่เขมร ซึ่งขณะนั้นก็ยังไม่ได้อิสรภาพจากฝรั่งเศส ฝรั่งเศสตั้งให้เจ้านโรดมเป็นกษัตริย์ ตั้งแต่ยังเด็กโดยหวังจะให้เป็น หุ่นชักของฝรั่งเศส นาย Kenneth บอก เจ้าสีหนุเป็นคนฉลาด เจ้าเล่ห์ ลื่นไหล ลดเลี้ยวเก่งมาก เขาคิดว่าฝรั่งเศส (รวมทั้งอเมริกาด้วย) คงจะชักหุ่นชื่อสีหนุนี้ยาก ต่อจากเขมร นาย Kenneth ก็ไปลาว เขาไปพบรัฐบาลลาวที่เวียงจันทร์ หลังจากนั้นก็ไปพบกษัตริย์ลาวที่หลวงพระบาง ตอนแรกเจ้าลาวก็ทำตัวเกร็งกับนาย Kenneth ฝ่ายหนึ่งพูดฝรั่งเศษ อีกฝ่ายพูดอังกฤษกันจนเมื่อยมือ จนนาย Kenneth พูดภาษาไทยด้วย เจ้าลาวก็ดีใจ ได้พูดลาวโดยนาย Kenneth ก็อ้างว่าเข้าใจ หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายก็สื่อสารกันได้ (หมายเหตุ คนเล่านิทาน : กษัตริย์ลาวที่นาย Kenneth ไปพบน่าจะเป็นเจ้าสุวรรณภูมา เพราะนาย Kenneth บอกว่าภายหลัง กษัตริย์ลาวองค์นี้ถูกพวกคอมมิวนิสต์จับได้และปฏิบัติต่อพระองค์แย่มาก ในที่สุดก็สวรรคตในค่ายกักกันของคอมมิวนิสต์) จากลาว นาย Kenneth กลับมาเมืองไทยและเดินทางลงใต้ไปสิงค์โปร์และกัวลาลัมเปอร์ เสร็จแล้วก็ข้ามไปยังจาร์กาต้า เพื่อพบนายพลซูการ์โน เขาเจอลูกเล่นสาระพัดจากนักการเมือง และทหารที่จาร์กาต้า รวมทั้งถูกลองดี เช่น เครื่องบินที่เขาจะต้องใช้บินกลับมาสิงค์โปร์ ถูกดูดเอาน้ำมันออกจนเกลี้ยงถัง นาย Kenneth “รู้จัก” คนอินโดนีเซียจากประสบการณ์ของจริง ! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 439 Views 0 Reviews
  • คณะ IOT ให้ความสนใจพิพิธภัณฑ์ศูนย์ราชการุณย์ จุดอพยพชาวกัมพูชาใน จ.ตราด ที่ได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระราชินี ในรัชกาลที่ 9 ชื่นชมสถานการณ์ชายแดนจันทบุรี-ตราดสงบเรียบร้อย หน่วยงานพื้นที่บริหารจัดการดี อนาคตอาจนำสู่การเปิดด่านฯในจุดที่มีความสงบได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084033

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    คณะ IOT ให้ความสนใจพิพิธภัณฑ์ศูนย์ราชการุณย์ จุดอพยพชาวกัมพูชาใน จ.ตราด ที่ได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระราชินี ในรัชกาลที่ 9 ชื่นชมสถานการณ์ชายแดนจันทบุรี-ตราดสงบเรียบร้อย หน่วยงานพื้นที่บริหารจัดการดี อนาคตอาจนำสู่การเปิดด่านฯในจุดที่มีความสงบได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084033 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 462 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง”มายากลยุทธ”
    ภาดสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 22 : ปั่นน้ำมัน (1)
    ปี ค.ศ. 1969 อเมริกาเกิดอาการเศรษฐกิจชักกระตุก ทำท่าจะเดินถอยหลังอีก ในขณะที่เศรษฐกิจของยุโรป โดยเฉพาะเยอรมันและญี่ปุ่น พัฒนาและเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้ค่าเงินสกุลของ 2 ประเทศ สูงกว่าค่าเงินดอลล่าร์ ซึ่งผูกไว้กับราคาทองคำ ไอ้ที่แย่ อเมริกาเริ่มเสียดุลย์การค้า ทำให้มีการเททิ้งดอลล่าร์ ทองสำรองก็เหลือเพียง 1 ใน 4 ของจำนวนหนี้ของประเทศ แล้วประธานาธิบดี Nixon ก็ตัดสินใจแบบหักดิบ ในปี ค.ศ. 1971 ยกเลิกการผูกดอลล่าร์ไว้กับทอง ยกเลิกการเปลี่ยนเงินกระดาษมาเป็นทองคำ ปิดหน้าต่างลงกลอนการแลกเปลี่ยนอย่างถาวร
    โลกช็อคกับมาตรการของคุณพี่นิกสัน คุณพี่เครียด หรือคุณพี่เมา !? คุณพี่นิกสันตอนนั้น ก็คงเหมือนคนพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก โดนบี้รอบข้างจากผลของการเข้าไปทำสงครามเวียตนาม ยังมาเจอเศรษฐกิจเดินถอยหลัง และที่เห็นกำลังมาไว ๆ ก็คือคดีวอเตอร์เกตอันลือชื่อของคุณพี่ เล่นเอาคุณพี่ไปไม่เป็น แล้วจะให้คุณพี่ทำยังไง แกก็ส่งใบลาไปนอนซมระทมทุกข์ ปล่อยให้นาย Kissinger ทำหน้าที่เหมือนเป็นประธานาธิบดีแทน มันเขาล่ะ ! แล้วโลกจะรู้ไหมว่า การตัดเชือกผูกดอลล่าร์ไว้กับทองนะ มันเป็นแผนมายากลแบบสุดยอดของนักเล่นกลเลย แผนนี้เขาวางกันเป็นขั้นตอนแบบบันได 7 ขั้น (3 ขั้น มันน้อยไป) ผู้แต่งเรื่องประกอบและผู้นำการแสดง มือระดับรางวัล Nobel ไม่ใช่รางวัลออสการ์
    ค.ศ. 1969 ภาคอุตสาหกรรมของโลกกำลังบูม อุตสาหกรรมต้องดื่มน้ำมัน ผู้ที่บูมไปด้วย คือ ชาติผู้ผลิตน้ำมัน แน่นอนกลุ่มผู้ค้าน้ำมัน OPEC ก็อู้ฟู้ไปด้วย เขามีข้อตกลงกันตั้งแต่ตอนตั้ง OPEC ว่า การซื้อน้ำมันจะต้องใช้เงินสกุลดอลล่าร์เท่านั้น ชาติไหนจะซื้อน้ำมัน ต้องไปซื้อดอลล่าร์มาก่อน เพื่อเอาไปจ่ายน้ำมัน (ใครนะมันช่างคิดสูตรนี้ !)
    ประเทศผู้ค้าน้ำมัน เช่น ซาอุดิอารเบีย อิหร่าน ฯลฯ เมื่อได้เงินค่าน้ำมัน ก็แน่นอนเอาไปฝากธนาคาร ธนาคารที่รับฝากก็แน่นอนอีกแหละ เป็นพวก Anglo American ธนาคารไหนต้องให้บอกชื่อกันไหม
    ปี ค.ศ. 1973 เดือนพฤษภาคม สมาชิกสมาคมลับ Bilderberg นัดประชุมกัน มีข่าวสำคัญรั่วออกมาจากที่ประชุม แมลงวันวิ่งไล่ตอมข่าว สมาคมนี้น่ะ มันลับอย่างไร สำคัญอย่างไรมา รู้จักกันหน่อย
    Bilderberg Group เป็นสมาคมลับสุดยอด ของบุคคลลับสุดยอด มีสมาชิกโดยการเชิญ ประมาณ 100 กว่าคน จากอเมริกาและยุโรป เรียกว่าเป็นสมาคมผมทองของแท้ ไม่มีด่างดำน้ำตาลเหลืองมาปนเลย ผู้ที่จะได้รับเชิญเป็นสมาชิก หรือมาประชุมก็เป็นพวกอยู่ในระดับสูงสุดของประเทศ เป็นขนมเค็กก็เรียกว่าเป็นพวก cream นั่นแหละ ตั้งขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 1959 เพื่อจะประสานงานทางความคิด นโยบาย และวัฒนธรรม ระหว่างอเมริกากับยุโรป เพื่อสร้างรวมมือกัน เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคงระหว่างประเทศ ฟังดูหรูและน่าทึ่งดีนะ
    คนที่เสนอความคิดตั้งสมาคมนี้ คือนาย Jozef Retinger ซึ่งไปคุยกับ Prince Bernhard สวามีของพระราชินี Julianna แห่ง Netherland คุณเจ้าชาย B เห็นด้วยอย่างยิ่ง ถึงกับลงมือไปคุยกับนายกรัฐมนตรี เบลเยี่ยมด้วยตนเอง รวมทั้งคุยกับหัวหน้า CIA ของอเมริกาขณะนั้น ว่าเราต้องร่วมมือกัน เพื่ออนาคตอันก้าวหน้าของพวกผมทอง
    การประชุมครั้งแรกของสมาคมลับ ที่มีเจ้าชาย B เป็นโต้โผ มีผู้เข้าประชุม 50 คน จาก 11 ประเทศในยุโรป และอีก 11 คนจากอเมริกา
    สมาคมลับนี้ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ ชื่อเด่น ๆ ที่เข้าร่วมประชุมกับสมาคมอันนี้ มีตั้งแต่ กษัตริย์ Juan Carlos และ Queen Sofia แห่งสเปน Queen Beatrix แห่งเนเทอร์แลนด์ บริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น IBM, Xerox, Royal Dutch Shell, Nokia และ Daimler และระดับผู้บริหารประเทศ เช่น นายกรัฐมนตรีกรีก นาย Kostas Karamanlis นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ นาย Matti Vanhanen รวมถึงนาย Timothy Geithner ของอเมริกา (และ cream ขนมเค้กอีกหลายอันเขียนไม่หวัดไม่ไหว)
    ในปี ค.ศ. 2013 มีการประชุมที่ Watford ประเทศอังกฤษ รายงานแจ้งว่ามีผู้เข้าประชุม แต่ไม่ประสงค์จะออกนาม อาจโผล่มาหลายคน (ลับจริง ๆ !) สำหรับโต้โผใหญ่ คือ เจ้าชาย B นั้น เป็นประธานสมาคมอยู่จนถึงปี ค.ศ. 1976 เป็นปีที่เขาโดนกล่าวหาเป็นข่าวไปทั่วโลก เกี่ยวกับเรื่องรับสินบนจากบริษัท Lockheed ซึ่งเป็นบริษัทขายอาวุธของอเมริกา Bilderberg ถูกวิจารณ์ว่าเป็นสมาคมระดับสูง ที่ใช้บุคคลระดับสูงทำหน้าที่เหมือน Lobbyist ในเรื่องระดับสำคัญอย่างสูง (หลายสูงเลยล่ะ) คงพอมองเห็นภาพ งานหลักของสมาคมนี้กันแล้ว

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง”มายากลยุทธ” ภาดสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 22 : ปั่นน้ำมัน (1) ปี ค.ศ. 1969 อเมริกาเกิดอาการเศรษฐกิจชักกระตุก ทำท่าจะเดินถอยหลังอีก ในขณะที่เศรษฐกิจของยุโรป โดยเฉพาะเยอรมันและญี่ปุ่น พัฒนาและเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้ค่าเงินสกุลของ 2 ประเทศ สูงกว่าค่าเงินดอลล่าร์ ซึ่งผูกไว้กับราคาทองคำ ไอ้ที่แย่ อเมริกาเริ่มเสียดุลย์การค้า ทำให้มีการเททิ้งดอลล่าร์ ทองสำรองก็เหลือเพียง 1 ใน 4 ของจำนวนหนี้ของประเทศ แล้วประธานาธิบดี Nixon ก็ตัดสินใจแบบหักดิบ ในปี ค.ศ. 1971 ยกเลิกการผูกดอลล่าร์ไว้กับทอง ยกเลิกการเปลี่ยนเงินกระดาษมาเป็นทองคำ ปิดหน้าต่างลงกลอนการแลกเปลี่ยนอย่างถาวร โลกช็อคกับมาตรการของคุณพี่นิกสัน คุณพี่เครียด หรือคุณพี่เมา !? คุณพี่นิกสันตอนนั้น ก็คงเหมือนคนพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก โดนบี้รอบข้างจากผลของการเข้าไปทำสงครามเวียตนาม ยังมาเจอเศรษฐกิจเดินถอยหลัง และที่เห็นกำลังมาไว ๆ ก็คือคดีวอเตอร์เกตอันลือชื่อของคุณพี่ เล่นเอาคุณพี่ไปไม่เป็น แล้วจะให้คุณพี่ทำยังไง แกก็ส่งใบลาไปนอนซมระทมทุกข์ ปล่อยให้นาย Kissinger ทำหน้าที่เหมือนเป็นประธานาธิบดีแทน มันเขาล่ะ ! แล้วโลกจะรู้ไหมว่า การตัดเชือกผูกดอลล่าร์ไว้กับทองนะ มันเป็นแผนมายากลแบบสุดยอดของนักเล่นกลเลย แผนนี้เขาวางกันเป็นขั้นตอนแบบบันได 7 ขั้น (3 ขั้น มันน้อยไป) ผู้แต่งเรื่องประกอบและผู้นำการแสดง มือระดับรางวัล Nobel ไม่ใช่รางวัลออสการ์ ค.ศ. 1969 ภาคอุตสาหกรรมของโลกกำลังบูม อุตสาหกรรมต้องดื่มน้ำมัน ผู้ที่บูมไปด้วย คือ ชาติผู้ผลิตน้ำมัน แน่นอนกลุ่มผู้ค้าน้ำมัน OPEC ก็อู้ฟู้ไปด้วย เขามีข้อตกลงกันตั้งแต่ตอนตั้ง OPEC ว่า การซื้อน้ำมันจะต้องใช้เงินสกุลดอลล่าร์เท่านั้น ชาติไหนจะซื้อน้ำมัน ต้องไปซื้อดอลล่าร์มาก่อน เพื่อเอาไปจ่ายน้ำมัน (ใครนะมันช่างคิดสูตรนี้ !) ประเทศผู้ค้าน้ำมัน เช่น ซาอุดิอารเบีย อิหร่าน ฯลฯ เมื่อได้เงินค่าน้ำมัน ก็แน่นอนเอาไปฝากธนาคาร ธนาคารที่รับฝากก็แน่นอนอีกแหละ เป็นพวก Anglo American ธนาคารไหนต้องให้บอกชื่อกันไหม ปี ค.ศ. 1973 เดือนพฤษภาคม สมาชิกสมาคมลับ Bilderberg นัดประชุมกัน มีข่าวสำคัญรั่วออกมาจากที่ประชุม แมลงวันวิ่งไล่ตอมข่าว สมาคมนี้น่ะ มันลับอย่างไร สำคัญอย่างไรมา รู้จักกันหน่อย Bilderberg Group เป็นสมาคมลับสุดยอด ของบุคคลลับสุดยอด มีสมาชิกโดยการเชิญ ประมาณ 100 กว่าคน จากอเมริกาและยุโรป เรียกว่าเป็นสมาคมผมทองของแท้ ไม่มีด่างดำน้ำตาลเหลืองมาปนเลย ผู้ที่จะได้รับเชิญเป็นสมาชิก หรือมาประชุมก็เป็นพวกอยู่ในระดับสูงสุดของประเทศ เป็นขนมเค็กก็เรียกว่าเป็นพวก cream นั่นแหละ ตั้งขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 1959 เพื่อจะประสานงานทางความคิด นโยบาย และวัฒนธรรม ระหว่างอเมริกากับยุโรป เพื่อสร้างรวมมือกัน เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคงระหว่างประเทศ ฟังดูหรูและน่าทึ่งดีนะ คนที่เสนอความคิดตั้งสมาคมนี้ คือนาย Jozef Retinger ซึ่งไปคุยกับ Prince Bernhard สวามีของพระราชินี Julianna แห่ง Netherland คุณเจ้าชาย B เห็นด้วยอย่างยิ่ง ถึงกับลงมือไปคุยกับนายกรัฐมนตรี เบลเยี่ยมด้วยตนเอง รวมทั้งคุยกับหัวหน้า CIA ของอเมริกาขณะนั้น ว่าเราต้องร่วมมือกัน เพื่ออนาคตอันก้าวหน้าของพวกผมทอง การประชุมครั้งแรกของสมาคมลับ ที่มีเจ้าชาย B เป็นโต้โผ มีผู้เข้าประชุม 50 คน จาก 11 ประเทศในยุโรป และอีก 11 คนจากอเมริกา สมาคมลับนี้ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ ชื่อเด่น ๆ ที่เข้าร่วมประชุมกับสมาคมอันนี้ มีตั้งแต่ กษัตริย์ Juan Carlos และ Queen Sofia แห่งสเปน Queen Beatrix แห่งเนเทอร์แลนด์ บริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น IBM, Xerox, Royal Dutch Shell, Nokia และ Daimler และระดับผู้บริหารประเทศ เช่น นายกรัฐมนตรีกรีก นาย Kostas Karamanlis นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ นาย Matti Vanhanen รวมถึงนาย Timothy Geithner ของอเมริกา (และ cream ขนมเค้กอีกหลายอันเขียนไม่หวัดไม่ไหว) ในปี ค.ศ. 2013 มีการประชุมที่ Watford ประเทศอังกฤษ รายงานแจ้งว่ามีผู้เข้าประชุม แต่ไม่ประสงค์จะออกนาม อาจโผล่มาหลายคน (ลับจริง ๆ !) สำหรับโต้โผใหญ่ คือ เจ้าชาย B นั้น เป็นประธานสมาคมอยู่จนถึงปี ค.ศ. 1976 เป็นปีที่เขาโดนกล่าวหาเป็นข่าวไปทั่วโลก เกี่ยวกับเรื่องรับสินบนจากบริษัท Lockheed ซึ่งเป็นบริษัทขายอาวุธของอเมริกา Bilderberg ถูกวิจารณ์ว่าเป็นสมาคมระดับสูง ที่ใช้บุคคลระดับสูงทำหน้าที่เหมือน Lobbyist ในเรื่องระดับสำคัญอย่างสูง (หลายสูงเลยล่ะ) คงพอมองเห็นภาพ งานหลักของสมาคมนี้กันแล้ว คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 453 Views 0 Reviews
  • "ปี พ.ศ.2522"เขมรแดงฆ่ากันเองเป็นล้านๆหนีตายเข้ามาไทยที่บ้านหนองจานจำนวนมาก ไทยช่วยเหลือด้วยเมตตาและมนุษยธรรม#สมเด็จพระราชินีในรัชกาลที่๙พระองค์เสด็จช่วยด้วยองค์เอง...#แต่มาวันนี้สิ่งที่เราช่วยในวันนั้นกับกลายเป็นอสรพิษแว้งกัดไทยเรารุกรานยิงM21เข้ามาพลเรือนไทยเสียชีวิต บาดเจ็บ บ้านเรือนเสียหาย ประชาชนต้องอพยพเป็นเรือนแสน"นี่คือผลตอบแทนที่เราช่วยอสรพิษมันไม่เคยสำนึกบุญ เนรคุณมาฆ่าคนไทย "เขมรคือเขมร มันคบไม่ได้ หน้าไหว้หลังหลอก อย่าได้คิดไว้ใจมันอีกเลย"สิ้นสุดกันทีชนชาติเขมรเป็นคนบาปที่ถูกสาปยากที่จะเจริญพวกมันต้องฆ่ากันเองไปอีกนานตามคำสาปแช่ง...ไออีผู้ใดกระทำการคิดคดทรยศแผ่นดินไทย มันจะมีชะตากรรมแบบเขมรเช่นกันทรราชอัปรีย์กาลีต่อบ้านเมืองที่มันเกิดมาตุภูมิที่ให้มันทุกอย่างยังทำได้ ขอพระสยามเทวาธิราชลงโทษพวกมันด้วยเทอญ
    "ปี พ.ศ.2522"เขมรแดงฆ่ากันเองเป็นล้านๆหนีตายเข้ามาไทยที่บ้านหนองจานจำนวนมาก ไทยช่วยเหลือด้วยเมตตาและมนุษยธรรม#สมเด็จพระราชินีในรัชกาลที่๙พระองค์เสด็จช่วยด้วยองค์เอง🙇‍♀️🙇‍♂️💙...#แต่มาวันนี้สิ่งที่เราช่วยในวันนั้นกับกลายเป็นอสรพิษแว้งกัดไทยเรารุกรานยิงM21เข้ามาพลเรือนไทยเสียชีวิต บาดเจ็บ บ้านเรือนเสียหาย ประชาชนต้องอพยพเป็นเรือนแสน"นี่คือผลตอบแทนที่เราช่วยอสรพิษมันไม่เคยสำนึกบุญ เนรคุณมาฆ่าคนไทย "เขมรคือเขมร มันคบไม่ได้ หน้าไหว้หลังหลอก อย่าได้คิดไว้ใจมันอีกเลย"สิ้นสุดกันทีชนชาติเขมรเป็นคนบาปที่ถูกสาปยากที่จะเจริญพวกมันต้องฆ่ากันเองไปอีกนานตามคำสาปแช่ง...ไออีผู้ใดกระทำการคิดคดทรยศแผ่นดินไทย มันจะมีชะตากรรมแบบเขมรเช่นกันทรราชอัปรีย์กาลีต่อบ้านเมืองที่มันเกิดมาตุภูมิที่ให้มันทุกอย่างยังทำได้ ขอพระสยามเทวาธิราชลงโทษพวกมันด้วยเทอญ🔆🔱
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 344 Views 0 0 Reviews
  • สมเด็จพระราชินีของประเทศไทยท่านสวมใส่มานานแล้วจ้า #ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกเขาเห็นกันทั่ว
    สมเด็จพระราชินีของประเทศไทยท่านสวมใส่มานานแล้วจ้า #ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกเขาเห็นกันทั่ว🔊🌏🌎🌍
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 0 Reviews
  • ในหลวง-พระราชินี ทรงห่วงใยกำลังพล-ราษฎรบาดเจ็บชายแดน ทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
    https://www.thai-tai.tv/news/20518/
    .
    #ในหลวง #พระราชินี #พระบรมราชานุเคราะห์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #อุบลราชธานี #ทหารบาดเจ็บ #ราษฎรบาดเจ็บ #ทุ่นระเบิด #พระมหากรุณาธิคุณ #โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์
    ในหลวง-พระราชินี ทรงห่วงใยกำลังพล-ราษฎรบาดเจ็บชายแดน ทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ https://www.thai-tai.tv/news/20518/ . #ในหลวง #พระราชินี #พระบรมราชานุเคราะห์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #อุบลราชธานี #ทหารบาดเจ็บ #ราษฎรบาดเจ็บ #ทุ่นระเบิด #พระมหากรุณาธิคุณ #โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์
    0 Comments 0 Shares 278 Views 0 Reviews
  • ในหลวง ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต จากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน
    https://www.thai-tai.tv/news/20213/
    .
    #ในหลวง #พระราชินี #พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร #พระแก้วมรกต #วัดพระศรีรัตนศาสดาราม #พระบรมมหาราชวัง #พิธีสำคัญ #ศาสนพิธี #วัดพระแก้ว #ราชวงศ์
    ในหลวง ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต จากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน https://www.thai-tai.tv/news/20213/ . #ในหลวง #พระราชินี #พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร #พระแก้วมรกต #วัดพระศรีรัตนศาสดาราม #พระบรมมหาราชวัง #พิธีสำคัญ #ศาสนพิธี #วัดพระแก้ว #ราชวงศ์
    0 Comments 0 Shares 436 Views 0 Reviews
  • ในหลวง พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันอาสาฬหบูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/20168/
    .
    #ในหลวง #พระราชินี #วันอาสาฬหบูชา #เข้าพรรษา #วัดพระศรีรัตนศาสดาราม #ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล #สำนักพระราชวัง #ข่าวในพระราชสำนัก #ประเทศไทย #พุทธศาสนา
    ในหลวง พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันอาสาฬหบูชา https://www.thai-tai.tv/news/20168/ . #ในหลวง #พระราชินี #วันอาสาฬหบูชา #เข้าพรรษา #วัดพระศรีรัตนศาสดาราม #ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล #สำนักพระราชวัง #ข่าวในพระราชสำนัก #ประเทศไทย #พุทธศาสนา
    0 Comments 0 Shares 415 Views 0 Reviews
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
    ทรงฉลองพระองค์ไทยสากล ผ้าไหมพื้นเรียบ
    .
    ผ้าไหมพื้นเรียบ เป็นการทอแบบขัด เป็นวิธีการเบื้องต้นของการทอผ้าทุกชนิด คือมีเส้นพุ่งและเส้นยืนซึ่งอาจเป็นเส้นเดียวกันหรือต่างสีกัน ซึ่งจะทำให้เกิดลวดลายในเนื้อผ้าต่างกัน เช่น การทอเส้นยืนสลับสีก็จะเกิดผ้าลายริ้วทางยาว หรือถ้าทอเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ผ้าลายขวาง การทอเส้นยืนและเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ลายตาราง เป็นต้น ผ้าไหมที่ใช้เทคนิคการทอขัด เรียงตามความหนาของเนื้อผ้า เช่น ไม่ได้มีการควบเส้นใยเพิ่มเข้าไป ผ้าไหมสองเส้น หมายถึง ผ้าไหมที่ทอขัดด้วยเส้นยืนเส้นเดียว ส่วนเส้นพุ่งจะมีการควบเส้นไหมเพิ่มเป็นสองเส้น เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าผ้าไหมหนึ่งเส้น
    ----
    HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS
    ROYAL ATTIRE IN THAI SILK
    .
    Thai silk is a polished weave. It is the basic method of weaving all kinds. That is, there is a weft line and a stand line, which may be the same line or different colors. This will cause patterns in different fabrics, for example, weaving warp lines and alternating colors will produce long stripes. Or if weaving the weft lines and alternating colors, we will get a striped fabric. The weaving of warp and weft lines alternating colors will result in a grid pattern, etc. Silk that uses polished weaving techniques. Sorted according to the thickness of the fabric, for example, without adding more fibers. Two-strand silk refers to silk that is woven with a single warp thread. As for the weft line, there will be two more silk threads merged. The fabric will be one strand thicker than silk.
    ____________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ไทยสากล ผ้าไหมพื้นเรียบ . ผ้าไหมพื้นเรียบ เป็นการทอแบบขัด เป็นวิธีการเบื้องต้นของการทอผ้าทุกชนิด คือมีเส้นพุ่งและเส้นยืนซึ่งอาจเป็นเส้นเดียวกันหรือต่างสีกัน ซึ่งจะทำให้เกิดลวดลายในเนื้อผ้าต่างกัน เช่น การทอเส้นยืนสลับสีก็จะเกิดผ้าลายริ้วทางยาว หรือถ้าทอเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ผ้าลายขวาง การทอเส้นยืนและเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ลายตาราง เป็นต้น ผ้าไหมที่ใช้เทคนิคการทอขัด เรียงตามความหนาของเนื้อผ้า เช่น ไม่ได้มีการควบเส้นใยเพิ่มเข้าไป ผ้าไหมสองเส้น หมายถึง ผ้าไหมที่ทอขัดด้วยเส้นยืนเส้นเดียว ส่วนเส้นพุ่งจะมีการควบเส้นไหมเพิ่มเป็นสองเส้น เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าผ้าไหมหนึ่งเส้น ---- HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS ROYAL ATTIRE IN THAI SILK . Thai silk is a polished weave. It is the basic method of weaving all kinds. That is, there is a weft line and a stand line, which may be the same line or different colors. This will cause patterns in different fabrics, for example, weaving warp lines and alternating colors will produce long stripes. Or if weaving the weft lines and alternating colors, we will get a striped fabric. The weaving of warp and weft lines alternating colors will result in a grid pattern, etc. Silk that uses polished weaving techniques. Sorted according to the thickness of the fabric, for example, without adding more fibers. Two-strand silk refers to silk that is woven with a single warp thread. As for the weft line, there will be two more silk threads merged. The fabric will be one strand thicker than silk. ____________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    0 Comments 0 Shares 625 Views 0 Reviews
  • #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 345 Views 0 Reviews
  • วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๙.๒๐ น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทอดพระเนตรการแสดงดนตรีของวงดุริยางค์ราชนาวิกโยธินในสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ ๓ แห่งสหราชอาณาจักร (His Majesty King Charles’ Royal Marines) ณ หอประชุมนวมภูมินทร์ อาคารนวมภูมินทร์ วชิราวุธวิทยาลัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
    เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง นายมาร์ก กุดดิง (Mr. Mark Gooding) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย และคู่สมรส เอกอัครราชทูต ฯ นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย และภริยา กับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จเข้าหอประชุมนวมภูมินทร์ อาคารนวมภูมินทร์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางลอเรน โทมัส (Mrs. Lauren Thomas) ภริยารองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตสถานเอกอัครราชทูต ฯ และนางสาวรีเบคกา ฮิว เคนเนล (Ms. Rebekah Hieu Kennel) ภริยาผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร สถานเอกอัครราชทูต ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๙.๒๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทอดพระเนตรการแสดงดนตรีของวงดุริยางค์ราชนาวิกโยธินในสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ ๓ แห่งสหราชอาณาจักร (His Majesty King Charles’ Royal Marines) ณ หอประชุมนวมภูมินทร์ อาคารนวมภูมินทร์ วชิราวุธวิทยาลัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง นายมาร์ก กุดดิง (Mr. Mark Gooding) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย และคู่สมรส เอกอัครราชทูต ฯ นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย และภริยา กับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จเข้าหอประชุมนวมภูมินทร์ อาคารนวมภูมินทร์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางลอเรน โทมัส (Mrs. Lauren Thomas) ภริยารองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตสถานเอกอัครราชทูต ฯ และนางสาวรีเบคกา ฮิว เคนเนล (Ms. Rebekah Hieu Kennel) ภริยาผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร สถานเอกอัครราชทูต ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 573 Views 0 Reviews
  • 13 มิถุนายน 2568
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    13 มิถุนายน 2568 #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    0 Comments 0 Shares 370 Views 0 0 Reviews
  • #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. ชยพล นายน้อย
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. ชยพล นายน้อย
    0 Comments 0 Shares 355 Views 0 Reviews
  • พระราชประวัติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
    ทรงเสด็จไปอังกฤษนำชุดไทย ชุดไทยที่พระราชินีไทยทรงสวมใส่ ไปโชว์ที่อังกฤษ และชุดไทยโบราณทุกยุคสมัยไปให้ชาวต่างชมรวมทั้ง ยูเนสโกด้วย เป็นเรื่องสำคัญมากและชาวโลกได้รู้ว่าคนไทยตั้งแต่โบราณมาถึงปัจจุบันมีวัฒนธรรม อารยธรรม ต่อเนื่องกันมา ที่เขมรเคลมทุกวัน...ชาวโลกก็ไปก็เห็นกันแล้ว
    พระราชประวัติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเสด็จไปอังกฤษนำชุดไทย ชุดไทยที่พระราชินีไทยทรงสวมใส่ ไปโชว์ที่อังกฤษ และชุดไทยโบราณทุกยุคสมัยไปให้ชาวต่างชมรวมทั้ง ยูเนสโกด้วย เป็นเรื่องสำคัญมากและชาวโลกได้รู้ว่าคนไทยตั้งแต่โบราณมาถึงปัจจุบันมีวัฒนธรรม อารยธรรม ต่อเนื่องกันมา ที่เขมรเคลมทุกวัน...ชาวโลกก็ไปก็เห็นกันแล้ว
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • วันอังคารที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    วันอังคารที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 556 Views 0 Reviews
More Results