• กษัตริย์ภูฏานและสมเด็จพระราชินี ทรงโพสต์แสดงความอาลัย ต่อการสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวง
    https://www.thai-tai.tv/news/22050/
    .
    #ไทยไท #กษัตริย์จิกมี #ภูฏาน #สมเด็จพระพันปีหลวง #แสดงความอาลัย #มิตรประเทศ
    กษัตริย์ภูฏานและสมเด็จพระราชินี ทรงโพสต์แสดงความอาลัย ต่อการสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวง https://www.thai-tai.tv/news/22050/ . #ไทยไท #กษัตริย์จิกมี #ภูฏาน #สมเด็จพระพันปีหลวง #แสดงความอาลัย #มิตรประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน!

    อิหร่านประกาศการเสียชีวิตของอามีร์ อาลี ฮัจจิซาเดห์ (General Amir Ali Hajizadeh) ผู้บัญชาการกองกำลังอวกาศของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่ออิหร่าน

    ลูกชายของนายพลฮัจจิซาเดห์ โพสต์ข้อความแสดงความอาลัยต่อบิดาของเขาแล้ว


    ผู้สังเกตการณ์หลายรายสับสนกับท่าทีของอิหร่านในขณะนี้ที่นิ่งเงียบไม่มีการตอบโต้ใดๆออกมา มีเพียงโดรนร้อยกว่าลำที่ปล่อยออกไปเมื่อช่วงเช้า และคาดว่าจะถูกยิงสกัดได้ทั้งหมดจากเครื่องบินของอิสราเอล สหรัฐ อังกฤษ และจอร์แดน

    ดูเหมือนว่าอิหร่านกำลังถูกรุมจากฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า "มือสะอาด"
    ด่วน! อิหร่านประกาศการเสียชีวิตของอามีร์ อาลี ฮัจจิซาเดห์ (General Amir Ali Hajizadeh) ผู้บัญชาการกองกำลังอวกาศของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่ออิหร่าน ลูกชายของนายพลฮัจจิซาเดห์ โพสต์ข้อความแสดงความอาลัยต่อบิดาของเขาแล้ว 👉ผู้สังเกตการณ์หลายรายสับสนกับท่าทีของอิหร่านในขณะนี้ที่นิ่งเงียบไม่มีการตอบโต้ใดๆออกมา มีเพียงโดรนร้อยกว่าลำที่ปล่อยออกไปเมื่อช่วงเช้า และคาดว่าจะถูกยิงสกัดได้ทั้งหมดจากเครื่องบินของอิสราเอล สหรัฐ อังกฤษ และจอร์แดน ดูเหมือนว่าอิหร่านกำลังถูกรุมจากฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า "มือสะอาด"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แสดงความอาลัยและสดุดี 2 ตำรวจกล้า สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร.กำชับดูแลสิทธิประโยชน์เต็มที่ เสนอปูนบำเหน็จ 7 ขั้น เลื่อนยศเป็น "พ.ต.อ.-ร.ต.อ"

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017089

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แสดงความอาลัยและสดุดี 2 ตำรวจกล้า สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร.กำชับดูแลสิทธิประโยชน์เต็มที่ เสนอปูนบำเหน็จ 7 ขั้น เลื่อนยศเป็น "พ.ต.อ.-ร.ต.อ" อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017089 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Love
    14
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1600 มุมมอง 0 รีวิว
  • The Guardian 5h ago 19.13 น. ตามเวลาอังกฤษ :
    นี่คือภาพล่าสุดบางส่วนที่ส่งมาให้เราจากสายข่าว จากเลบานอน กาซาและเขตเวสต์แบงก์ ที่ถูกยึดครอง
    .
    ▪ อาคารพังเสียหายในบริเวณที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศในเมืองชูเอฟัต ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันจันทร์
    ▪ เด็กชายที่ถูกขับไล่พักอยู่ในโรงเรียนที่ให้ที่พักชั่วคราวแก่ครอบครัวผู้ลี้ภัยในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันจันทร์
    ▪ ญาติของชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในค่ายผู้ลี้ภัย Bureij แสดงความอาลัยขณะที่ศพถูกนำส่งไปยังโรงพยาบาลอัล-อาวดาเพื่อฝังศพในเมืองกาซา เมื่อวันจันทร์
    ▪ เด็กชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นภายในประเทศ กำลังตรวจสอบหลุมอุกกาบาตที่เกิดจากการโจมตีของอิสราเอลในบริเวณใกล้เคียงอัลมาวาซี ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา
    ▪ ชาวปาเลสไตน์ถือสัมภาระเดินทางไปอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย หลังกองทัพอิสราเอลสั่งอพยพชาวบานี ซูเฮลา ในเมืองคานยูนิส กาซา
    ▪ ชาวปาเลสไตน์กำลังตรวจสอบซากบ้านเรือนที่กองทัพอิสราเอลรื้อถอนภายใต้ข้ออ้างการก่อสร้างผิดกฎหมายในเมืองเฮบรอน ในเขตเวสต์แบงก์
    ▪ ผู้ไว้อาลัยแบกร่างของฮาเต็ม ไกธ์ ชาวปาเลสไตน์วัย 12 ปี ที่ถูกกองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลสังหาร
    ▪ ผู้คนตรวจสอบความเสียหายหลังจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ในหมู่บ้าน Qmatiyeh ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเบรุต เมื่อวันที่ 7 ต.ค.
    ▪ บ้านที่ได้รับความเสียหาย ณ จุดที่ถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศในเมืองบาอัลเบก ทางตะวันออกของเลบานอน
    ▪ ควันลอยขึ้นหลังจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใกล้หมู่บ้าน Khiam และ Kfar Kila
    .
    .... สมองของ ติ่ง ยังคิดได้แค่การโพสต์นำเสนอภาพเหล่านี้ เป็นการ "โหนเด็ก" .... ถามหน่อย ว่า "ทำไมต้องโหน" ⁉

    •••• ในเมื่อ ความเลวริยำ ของ เป็นเรื่องจริง มีให้พูดถึงแทบทุกวัน ว่าไอ๊เลวววว ยิว ••••


    Noraseth Tuntasiri
    🇬🇧 The Guardian 5h ago 19.13 น. ตามเวลาอังกฤษ : นี่คือภาพล่าสุดบางส่วนที่ส่งมาให้เราจากสายข่าว จากเลบานอน กาซาและเขตเวสต์แบงก์ ที่ถูกยึดครอง . ▪ อาคารพังเสียหายในบริเวณที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศในเมืองชูเอฟัต ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันจันทร์ ▪ เด็กชายที่ถูกขับไล่พักอยู่ในโรงเรียนที่ให้ที่พักชั่วคราวแก่ครอบครัวผู้ลี้ภัยในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันจันทร์ ▪ ญาติของชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในค่ายผู้ลี้ภัย Bureij แสดงความอาลัยขณะที่ศพถูกนำส่งไปยังโรงพยาบาลอัล-อาวดาเพื่อฝังศพในเมืองกาซา เมื่อวันจันทร์ ▪ เด็กชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นภายในประเทศ กำลังตรวจสอบหลุมอุกกาบาตที่เกิดจากการโจมตีของอิสราเอลในบริเวณใกล้เคียงอัลมาวาซี ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ▪ ชาวปาเลสไตน์ถือสัมภาระเดินทางไปอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย หลังกองทัพอิสราเอลสั่งอพยพชาวบานี ซูเฮลา ในเมืองคานยูนิส กาซา ▪ ชาวปาเลสไตน์กำลังตรวจสอบซากบ้านเรือนที่กองทัพอิสราเอลรื้อถอนภายใต้ข้ออ้างการก่อสร้างผิดกฎหมายในเมืองเฮบรอน ในเขตเวสต์แบงก์ ▪ ผู้ไว้อาลัยแบกร่างของฮาเต็ม ไกธ์ ชาวปาเลสไตน์วัย 12 ปี ที่ถูกกองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลสังหาร ▪ ผู้คนตรวจสอบความเสียหายหลังจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ในหมู่บ้าน Qmatiyeh ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเบรุต เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ▪ บ้านที่ได้รับความเสียหาย ณ จุดที่ถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศในเมืองบาอัลเบก ทางตะวันออกของเลบานอน ▪ ควันลอยขึ้นหลังจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใกล้หมู่บ้าน Khiam และ Kfar Kila . .... สมองของ 🐃 ติ่ง 🐾 🇮🇱 🇺🇸 ยังคิดได้แค่การโพสต์นำเสนอภาพเหล่านี้ เป็นการ "โหนเด็ก" .... ถามหน่อย ว่า "ทำไมต้องโหน" ⁉ •••• ในเมื่อ ความเลวริยำ ของ 🇮🇱 เป็นเรื่องจริง มีให้พูดถึงแทบทุกวัน ว่าไอ๊เลวววว ยิว🤬🤬🤬🤬🤬 •••• Noraseth Tuntasiri
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ปกครอง-เพื่อนครู พร้อมชาวลานสัก ร่วมจัดดอกไม้สดประดับห้องเรียน “ครูจอย” รำลึกถึงคุณงามความดี หลังจากไประหว่างทำหน้าที่ “ครู” อย่างแท้จริง ขณะที่นักเรียนวัดเขาพระยาฯ พากันเข้าแถวแสดงความอาลัยตลอดวัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094206

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผู้ปกครอง-เพื่อนครู พร้อมชาวลานสัก ร่วมจัดดอกไม้สดประดับห้องเรียน “ครูจอย” รำลึกถึงคุณงามความดี หลังจากไประหว่างทำหน้าที่ “ครู” อย่างแท้จริง ขณะที่นักเรียนวัดเขาพระยาฯ พากันเข้าแถวแสดงความอาลัยตลอดวัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094206 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    33
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3611 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนวมินทรมหาราช ตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

    เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ประชาชนชาวไทย ต่างร่วมแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระองค์

    #เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์#นวมินทรมหาราชา#สยามโสภา#ศรีวัฒนธรรม

    https://youtu.be/HekZBtIF7C4?si=EOH8ubJ-xQDsN_CF
    วันนวมินทรมหาราช ตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ประชาชนชาวไทย ต่างร่วมแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระองค์ #เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์​ #นวมินทรมหาราชา​ #สยามโสภา​ #ศรีวัฒนธรรม https://youtu.be/HekZBtIF7C4?si=EOH8ubJ-xQDsN_CF
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 844 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนวมินทรมหาราช ตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

    เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ประชาชนชาวไทย ต่างร่วมแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระองค์

    #เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์#นวมินทรมหาราชา#สยามโสภา#thaitimes

    https://youtu.be/HekZBtIF7C4?si=DUiUIjOFQy4Gl-jQ
    วันนวมินทรมหาราช ตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ประชาชนชาวไทย ต่างร่วมแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระองค์ #เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์​ #นวมินทรมหาราชา​ #สยามโสภา​ #thaitimes https://youtu.be/HekZBtIF7C4?si=DUiUIjOFQy4Gl-jQ
    Love
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1080 มุมมอง 0 รีวิว
  • นับเป็นข่าวที่เศร้าสลดใจ สำหรับเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษานักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา เกิดไฟไหม้ทำให้คร่าชีวิตเด็กนักเรียน และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ล่าสุดคนในแวดวงบันเทิงต่างออกมาโพสต์ข้อความร่วมแสดงความอาลัยต่อเหตุการ์สุดสะเทือนใจนี้กันเป็นจำนวนมาก
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000092691

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นับเป็นข่าวที่เศร้าสลดใจ สำหรับเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษานักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา เกิดไฟไหม้ทำให้คร่าชีวิตเด็กนักเรียน และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ล่าสุดคนในแวดวงบันเทิงต่างออกมาโพสต์ข้อความร่วมแสดงความอาลัยต่อเหตุการ์สุดสะเทือนใจนี้กันเป็นจำนวนมาก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000092691 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    Like
    Love
    75
    3 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 3298 มุมมอง 1 รีวิว
  • สิ้นแล้ว! นายวิชัย แหลมวิไล อดีตอธิบดีกรมป่าไม้
    24 กันยายน 2567-เพจกรมมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์แสดงความอาลัยต่อการสูญเสีย นายวิชัย แหลมวิไล อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งถึงแก่กรรม ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เนื่องจากล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดที่อาการกำเริบขึ้น ต่อเนื่องจากการติดเชื้อโควิดจนกระทั่งถึงแก่กรรม

    #Thaitimes
    สิ้นแล้ว! นายวิชัย แหลมวิไล อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ 24 กันยายน 2567-เพจกรมมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์แสดงความอาลัยต่อการสูญเสีย นายวิชัย แหลมวิไล อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งถึงแก่กรรม ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เนื่องจากล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดที่อาการกำเริบขึ้น ต่อเนื่องจากการติดเชื้อโควิดจนกระทั่งถึงแก่กรรม #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 847 มุมมอง 0 รีวิว
  • จะบอกติ่งๆทั้งหลายว่า……โหด……มัน……ฮานิดหน่อย ไม่มีใครเกินพี่ปูคนนี้….

    ตอนสิบสอง……สู่บัลลังก์อำนาจ ด้วยการผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นรายวัน……ไม่ว่าบู๊……ว่าบุ๋น……!!!

    ประธานาธิบดีบุชได้โทรกลับมา ปูตินได้แสดงความเสียใจและเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ
    ความโกรธ ความชังอเมริกันที่นาโต้ไปบอมบ์ที่ Kosovo ก็พักไว้ก่อน
    ประชาชนชาวรัสเซียได้นำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความเสียใจที่หน้าสถานทูตอเมริกาเป็นกองพะเนิน
    ปูตินได้ย้ำกับปธน. บุช ว่า……
    “ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย โหดร้ายเช่นนี้ ……เราจะยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน……”
    ที่ลึกๆแล้ว……ปูตินมีความประทับใจในประธานาธิบดีบุชอยู่เป็นทุน
    เนื่องจากตอนที่บุชหาเสียงในปี 1999 (คู่แข่งคือ นาย Al Gore)
    เขาได้ประกาศนโยบายว่า ……จะไม่ยุ่งกับสงครามเชเชน..…

    เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งคู่จึงได้พบกันเป็นครั้วแรกใน เดือนมิถุนายน
    2001 ที่ Ljubljana, Slovenia
    คราวนี้ต่างคนต่างเตรียมตัวมาดี ในการ(แอบ) อ่านประวัติส่วนตัวของคู่สนทนากันมา เช่น
    ปูตินชวนบุชคุยถึงเรื่องรักบี้ (เพราะเป็นกีฬาโปรดสมัยหนุ่ม)
    แต่บุชมาเหนือกว่า……เขาถามปูตินถึงเรื่อง”กางเขน” ที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนจะทราบ
    เล่นเอาปูติน…งงไปพักนึง(นับว่าการข่าวของอเมริกันนั้น เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง

    ต่อภายหลังเมื่อมีคนถามบุช…ว่า คิดว่าคนอย่างปูตินเป็นอย่างไร?
    เขาตอบว่า เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มั่นคงกับการเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดี ผมชอบเขานะ……ได้เขิญเขามาเที่ยวที่บ้านไร่ในเท็กซัสด้วย”
    ทั้งๆที่งานนี้……มีแต่คนสงสัยว่า จะเชื่อปูตินได้ยังไง ในเมื่อ KGB เก่าพวกนี้
    เขาไม่เคยพูดความจริงอะไรกับใคร……

    ในช่วงของการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินเดินทางไปทั่วรัสเซีย
    และอีก 18 ประเทศ ที่มีลุดมิลาเคียงคู่ไปด้วย เป็นการประกาศกลายๆ
    ว่าโลกได้ปลอดจากสงครามเย็นไปแล้ว และตอนนี้รัสเซียพร้อมที่จะเปิดกว้างกับการที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างเต็มสูบ

    ในปี 2001 ปูตินปิดหน่วยงาน(โซเวียต) ที่ คิวบา, เวียดนาม
    พร้อมทั้งหันมาพัฒนากองทัพเต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางฝั่งเหนือของคอร์เคซัส ในการที่จะส่ายตาหากลุ่มอิสลามหัวรุนแรง

    หลังจากวิกฤต 9/11 ปูตินอ่อนข้อให้กับการขยายเขตแดนของนาโต้ ที่ก้าวเข้ามากวาด Lithuania, Latvia, Estonia ที่อยู่ติดกับรัสเซีย
    บางครั้งปูตินยังเคยบอกว่า……รัสเซียเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมในนาโต้ด้วยเช่นกัน (ไม่รู้ว่าประชด หรือ พูดจริง)
    อเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามล้างแค้นกับกลุ่มอัลเคดะห์ และ กลุ่มตาลีบัน
    ในอาฟกานิสถาน ในเดือนตุลาคม ที่ปูตินได้ช่วยทั้งเงินและอาวุธ
    ช่วยกองทัพอัฟกันในการต่อต้านกับตาลีบัน
    และได้โอนอ่อน…ไม่ขัดขวางเมื่อกองทัพอเมริกันมาตั้งฐานที่ Uzbekistan และ Kyrgyzstan
    ซึ่งนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่กองทัพอเมริกันได้เข้ามาเหยียบในแผ่นดินฝั่งนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

    หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือดำน้ำ Kursk ปูตินได้หันมาจี้เรื่องกองทัพด้วยตัวเอง เขาปลดพวกนายพลเช้าชามเย็นชามออกไปเป็นแผง
    เพิ่มเงินเดือนให้กับทหารรุ่นใหม่ พร้อมสวัสดิการอัดแน่น
    ทำเพลงชาติให้มีเนื้อเพลงคำร้อง ให้ทันสมัย ให้พ้นไปจากเงาของโซเวียต
    เพราะตอนที่นักกีฬารัสเซียไปแข่งในโอลิมปิคที่ซิดนีย์ ในปี 2000
    ได้เหรียญมากันทุกชนิด แต่เวลาขึ้นแท่นรับเหรียญ ไม่สามารถร้องเพลงชาติได้ เพราะมีแต่ดนตรี
    ชาวรัสเชี่ยนเริ่มมีชีวิตชีวากับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และชื่นชมปูตินที่เขาได้พูดถึงก้าวใหม่นี้ว่า
    “ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกรู้สมกับความล่มสลายของโซเวียต คือคนไม่มีหัวใจ
    และใครก็ตามที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า…คือคนไม่มีสมอง…”

    การปฏิวัติทางด้านกองทัพ เขาได้แต่งตั้ง Sergei Ivanov (KGB เพื่อนเก่าและร่วมมหาวิทยาลัย เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และ สวีดิช)
    ขึ้นมาคุมกำลัง เป็น รัฐมนตรีกลาโหม
    และฝ่ายงบประมาณกองทัพ คือ Lyubov Kudelina เพื่อมาดูแลเรื่องเงิน
    ส่วนนายพลที่มีประวัติมือไม่สะอาด เช่นYevgeny Adamov (สมัยเยลซิน)
    ที่มีส่วนพัวพันกับเปอร์เซ็นต์ในงบสร้างฐานนิวเคลียร์ พร้อมกับคนอื่นๆ
    ถูกส่งเข้าเก็บกรุนายพลที่ไร้สมรรถภาพ…

    รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ อิวานอฟ ทำงานเร็วทันใจ เพียงสามวันหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เขาได้ส่งสัญญาณให้ปูตินทราบว่า อเมริกากำลังขยายกำลังของนาโต้เข้ามาในส่วนของฝั่งชายขอบเอเซียกลาง (กลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า สถาน ทั้งหลาย)
    แต่ปูติน……มองเห็นว่า การสร้างสัมพันธภาพอันดีกับบุช คือสิ่งจำเป็น
    อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง…
    และการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดี อย่างแรกเลยที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการเรียนภาษาอังกฤษวันละหนึ่งชั่วโมงที่สถาบัน
    American Diplomacy and Commerce และเขาได้ใช้เป็นครั้งแรกในการสนทนากับบุช ในภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียปนเยอรมันว่า
    “ผมเห็นว่าคุณตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแม่ และ แม่ยายของคุณ……”
    “นั่นซิ…ก็ผมมันเป็นนักการเมืองชั้นเยี่ยมไงล่ะ..”
    “เออ……ใช่จริงๆ เพราะของผมก็เหมือนกัน..”
    แล้วสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป

    สองคนนี้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation Summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนตุลาคม
    และได้คุยกันถึงเรื่องการสร้าง(จำนวน) ซ้อม(ยิง) นิวเคลียร์ที่ยังไม่ชัดเจน
    ที่ทำให้ประธานาธิบดีบุช ต้องเชิญปูตินไปยังทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน
    เขาได้ไปเยี่ยมไร่ของบุชที่เท๊กซัสเป็นการส่วนตัว มีการเลี้ยงปิ้งย่าง บาร์บีคิว ปูตินได้กล่าวว่า
    “ผมไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้คนไหนถึงในบ้านเลย…นับว่าเป็นโชคดีที่ได้มาถึงที่นี่ “
    และเขาได้ไปดูตึกที่ถล่มทลายและได้แสดงความอาลัย

    แต่.…เพียงสามอาทิตย์ต่อมา บุชได้โทรศัพท์มาถึงปูติน บอกว่า
    นโยบายทางเพนตากอนได้มีมติให้อเมริกาถอนตัวไม่เข้าร่วมกับโครงการ
    ABM (Anti-Ballistic Missile)
    เท่ากับว่า….ปูตินถูกอเมริกาเทอย่างหน้าตาเฉย…ทั้งๆที่เริ่มต้นทำท่าจะดี..

    การก่อกวนในเชเชนหลังจากสงครามยังไม่หยุด กลุ่มหัวรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ปูตินได้ประกาศว่า ต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น
    จึงทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำเป็นขบวนการใต้ดิน
    ที่ทำให้เกิดการจับคนดูเป็นตัวประกันที่ โรงละคร Palace of Culture ในกรุงมอสโคว์ วันที่ 24 ตุลาคม 2002 ที่กำลังแสดงละครย้อนยุคที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล บัตรใบละ 15 ดอลล่าร์ (เทียบเท่า ที่นับว่าแพงมาก)
    โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายแต่งกายเป็นคนงาน ขึ้นไปบนเวที
    ท่ามกลางความสับสนของคนดู ที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง
    แต่.…คณะผู้ก่อการร้ายในการนำของ Movsar Barayev** ได้กราดกระสุน AK-47 ขึ้นไปบนเพดาน และประกาศว่า ประตูทุกบานได้มีสลักระเบิดผูกติดอยู่
    ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ ได้ก้าวเข้ามาอยู่กลางกลุ่มคนดู
    และเปิดเสื้อคลุมให้เห็นว่า ข้างในนั้น ร่างของเธอได้ผูกติดระเบิดเอาไว้
    พร้อมที่จะดึงสลัก หากว่า……มีเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้ามา
    ทั้งประกาศก้องว่า….ในนามพระอัลลาห์ พวกเราตายหนึ่ง แต่จะเกิดร้อย
    และถ้าใครมีโทรศัพท์……ให้โทรไปบอกครอบครัวได้เลยว่า
    ต้องตายเพราะสงครามเชเชน และถ้าอยากรอด……หนทางเดียวคือรัสเซียต้องถอนทัพออกไป เลิกสงครามทันที…!!!

    ปูตินอยู่ในสภาพที่หลังชนกำแพง จากที่กองทัพทำสงครามยืดเยื้อในเชเชน……หน่วย FSB ที่ทำงานประสาอะไรปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาถึงในมอสโคว์
    เขายกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด (ที่จะไป เยอรมัน,โปรตุเกส และ เม๊กซิโก)
    เรียกหน่วยข่าวกรอง บรรดาสายลับทั้งหลาย และตัวหัวหน้า Nikolai Patrushev เข้ามาพบโดยด่วน เตรียมการบุกโรงละคร
    เรียกหน่วยคอมมานโดให้เตรียมพร้อม
    คนค้าน……คือ นายกรัฐมนตรี Mikhaïl Kasyanov ด้วยเกรงว่าการทำอย่างนี้เสี่ยงเกินไป ผู้บริสุทธิ์อาจจะได้รับเคราะห์
    ปูตินบอกว่า “ถ้าป๊อด……ก็ออกไปห่างๆเลย……”
    เขาได้ส่งท่านนายกรัฐมนตรีมิเกล ออกไปประชุมแทนในตามรายชื่อประเทศ…จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร

    ข้างในโรงละคร…ในกลุ่มคนดู ก็มีบุคคลสำคัญหลายคนในหลายวงการ
    ส่วนผู้ที่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา คือ กลุ่มเด็กเล็กจำนวน 39 คน ที่ได้ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ที่เติบโตมากับสงครามในคอร์เคซัส ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก
    เมื่อถูกถามว่า “ที่อยากให้เลิกสงคราม หมายความว่าอะไร..เพื่อ..?”
    คนกลุ่มนั้น ตอบไม่ได้ ลังเล ไม่แน่ใจ……
    ในวันที่สองของการจับตัวประกัน ที่ทุกคนเริ่มอ่อนล้า หิวโหย กระหาย
    วิตก……
    กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารคนไปหลายคน ที่พยายามหาทางออก
    เจ้าหน้าที่ได้เจรจาขอให้มีการส่งอาหารและน้ำได้สำเร็จ

    ตีห้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อ่อนแรง เตรียมพร้อมกับการที่จะเจรจาในตอนสิบโมงเช้า ตามที่เครมลินได้ส่งข่าวมา
    ทางหน่วยคอมมานโดที่ได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปจากอาคารข้างๆ และได้ติดไมโครโฟนดักฟังจนรู้ตำแหน่งของผู้ก่อการร้าย
    กังวลที่สุด คือ อาคารทั้งหลังอาจจะระเบิดขึ้นมาได้
    ปูตินได้สั่งการเด็ดขาดว่า……จับตายทั้งหมดเท่านั้น……!!
    การใช้ ยาสลบ fentanyl ที่เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของ FSB ได้ทำการแสดงฝีมือ คือ ฉีดส่งเข้าไปในท่อระบายอากาศ ที่ทำให้ทุกคนหลับแบบร่วงผล็อย
    แต่กลุ่มที่ระวังอยู่ด้านนอก มีการปะทะดุเดือด กลุ่มผู้ก่อการร้าย 41 คน
    มีกระสุนเจาะที่สมอง…… ตัวหัวหน้า Barayev ได้ถูกสังหารในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง
    แต่ตัวประกันได้เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน จากการโดนสังหารของผู้ก่อการร้าย และ บางคนเสียชีวิตเพราะสารยาสลบ เพราะมีอายุ และสุขภาพที่ไม่ดี

    ปูตินได้ออกโทรทัศน์ เพื่อทำการขอโทษประชาชนที่เขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน ……แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้หน้าไหนมาหยาม..!!

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันได้บอกกับปูตินว่าสงครามได้มาในรูปแบบใหม่
    ที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาก่อกวนในประเทศ และที่นอกประเทศในขอบชายแดน
    ก็ขยายวงขึ้นเพราะการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกแผ่นดิน ปูตินไม่มีทางอื่น นอกจากต้องหักเท่านั้น……ไม่มีงอ
    ข่าวนี้……ทำให้ Aslan Maskhadov หัวหน้ากบฎเชเชนที่ได้ใช้ตัวแทนในโคเปนเฮเกน มาเสนอการเจรจาสันติภาพแบบไม่มีเงื่อนไข
    แต่ทางเครมลิน……ปฏิเสธ ไม่เจรจา แถมยังประกาศจับตัวแทนเจรจา Ahmed Zakayev(อดีตรองนายกรัฐมนตรีเชเชน และ เป็นฝ่ายโปรกบฏ)
    เดนมาร์ก……จับตัวให้ แต่ไม่ส่งให้รัสเซีย เพราะข้อกล่าวหาทางรัสเซียที่พัวพันไปในเรื่องโรงละครด้วย

    คนที่ออกมารับหน้าในเรื่องโรงละคร คือ Shamil Basayev**(หัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏเชเชน) ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “นี่คือบทเรียนที่รัสเซียสมควรได้รับ..”
    ปูตินรับคำขู่ด้วยการขานรับ เล่นงานเชเชนหนักขึ้น
    ฝ่ายโลกเสรีได้ยิงคำถามในเรื่องการใช้อาวุธด้วยการฝังทุ่นระเบิดไปทั่ว
    เขาตอบว่า “ ในวินาทีนี้ ใครก็ตามที่นับถือศาสนาคริสต์ ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นมุสลิม……ก็ไม่รอด เพราะเขาเชื่อว่าการตายคือการไปพบพระเจ้า…ไม่ใช่หรือ……?!!
    และต่อด้วยภาษานักเลงสุดๆ กับนักข่าวที่ถาม (จนบางคนไม่กล้าแปล…)
    ว่า……

    “ ถ้าคุณตัดสินใจอยากจะเป็นมุสลิมอย่างที่พวกเขาเป็น และพร้อมที่จะไปพบกับพระเจ้า…ขอเชิญไปที่มอสโคว์ เพราะพวกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มตัว และรับรองได้ว่า เรามีสารพัดวิธีที่คุณจะไม่เติบโตต่อไปอีก………”

    **Shamil Basayev ผู้ก่อการร้ายตัวยง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกต้องการตัว เขาเป็นคนวางแผนเรื่องโรงละคร และการวางระเบิดเครื่องบินรัสเซีย เขาได้ถูกสังหารด้วยระเบิดกับดักที่มากับรถบรรทุก ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2006

    Wiwanda W. Vichit
    จะบอกติ่งๆทั้งหลายว่า……โหด……มัน……ฮานิดหน่อย ไม่มีใครเกินพี่ปูคนนี้…. ตอนสิบสอง……สู่บัลลังก์อำนาจ ด้วยการผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นรายวัน……ไม่ว่าบู๊……ว่าบุ๋น……!!! ประธานาธิบดีบุชได้โทรกลับมา ปูตินได้แสดงความเสียใจและเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ ความโกรธ ความชังอเมริกันที่นาโต้ไปบอมบ์ที่ Kosovo ก็พักไว้ก่อน ประชาชนชาวรัสเซียได้นำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความเสียใจที่หน้าสถานทูตอเมริกาเป็นกองพะเนิน ปูตินได้ย้ำกับปธน. บุช ว่า…… “ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย โหดร้ายเช่นนี้ ……เราจะยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน……” ที่ลึกๆแล้ว……ปูตินมีความประทับใจในประธานาธิบดีบุชอยู่เป็นทุน เนื่องจากตอนที่บุชหาเสียงในปี 1999 (คู่แข่งคือ นาย Al Gore) เขาได้ประกาศนโยบายว่า ……จะไม่ยุ่งกับสงครามเชเชน..… เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งคู่จึงได้พบกันเป็นครั้วแรกใน เดือนมิถุนายน 2001 ที่ Ljubljana, Slovenia คราวนี้ต่างคนต่างเตรียมตัวมาดี ในการ(แอบ) อ่านประวัติส่วนตัวของคู่สนทนากันมา เช่น ปูตินชวนบุชคุยถึงเรื่องรักบี้ (เพราะเป็นกีฬาโปรดสมัยหนุ่ม) แต่บุชมาเหนือกว่า……เขาถามปูตินถึงเรื่อง”กางเขน” ที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนจะทราบ เล่นเอาปูติน…งงไปพักนึง(นับว่าการข่าวของอเมริกันนั้น เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ต่อภายหลังเมื่อมีคนถามบุช…ว่า คิดว่าคนอย่างปูตินเป็นอย่างไร? เขาตอบว่า เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มั่นคงกับการเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดี ผมชอบเขานะ……ได้เขิญเขามาเที่ยวที่บ้านไร่ในเท็กซัสด้วย” ทั้งๆที่งานนี้……มีแต่คนสงสัยว่า จะเชื่อปูตินได้ยังไง ในเมื่อ KGB เก่าพวกนี้ เขาไม่เคยพูดความจริงอะไรกับใคร…… ในช่วงของการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินเดินทางไปทั่วรัสเซีย และอีก 18 ประเทศ ที่มีลุดมิลาเคียงคู่ไปด้วย เป็นการประกาศกลายๆ ว่าโลกได้ปลอดจากสงครามเย็นไปแล้ว และตอนนี้รัสเซียพร้อมที่จะเปิดกว้างกับการที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างเต็มสูบ ในปี 2001 ปูตินปิดหน่วยงาน(โซเวียต) ที่ คิวบา, เวียดนาม พร้อมทั้งหันมาพัฒนากองทัพเต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางฝั่งเหนือของคอร์เคซัส ในการที่จะส่ายตาหากลุ่มอิสลามหัวรุนแรง หลังจากวิกฤต 9/11 ปูตินอ่อนข้อให้กับการขยายเขตแดนของนาโต้ ที่ก้าวเข้ามากวาด Lithuania, Latvia, Estonia ที่อยู่ติดกับรัสเซีย บางครั้งปูตินยังเคยบอกว่า……รัสเซียเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมในนาโต้ด้วยเช่นกัน (ไม่รู้ว่าประชด หรือ พูดจริง) อเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามล้างแค้นกับกลุ่มอัลเคดะห์ และ กลุ่มตาลีบัน ในอาฟกานิสถาน ในเดือนตุลาคม ที่ปูตินได้ช่วยทั้งเงินและอาวุธ ช่วยกองทัพอัฟกันในการต่อต้านกับตาลีบัน และได้โอนอ่อน…ไม่ขัดขวางเมื่อกองทัพอเมริกันมาตั้งฐานที่ Uzbekistan และ Kyrgyzstan ซึ่งนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่กองทัพอเมริกันได้เข้ามาเหยียบในแผ่นดินฝั่งนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือดำน้ำ Kursk ปูตินได้หันมาจี้เรื่องกองทัพด้วยตัวเอง เขาปลดพวกนายพลเช้าชามเย็นชามออกไปเป็นแผง เพิ่มเงินเดือนให้กับทหารรุ่นใหม่ พร้อมสวัสดิการอัดแน่น ทำเพลงชาติให้มีเนื้อเพลงคำร้อง ให้ทันสมัย ให้พ้นไปจากเงาของโซเวียต เพราะตอนที่นักกีฬารัสเซียไปแข่งในโอลิมปิคที่ซิดนีย์ ในปี 2000 ได้เหรียญมากันทุกชนิด แต่เวลาขึ้นแท่นรับเหรียญ ไม่สามารถร้องเพลงชาติได้ เพราะมีแต่ดนตรี ชาวรัสเชี่ยนเริ่มมีชีวิตชีวากับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และชื่นชมปูตินที่เขาได้พูดถึงก้าวใหม่นี้ว่า “ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกรู้สมกับความล่มสลายของโซเวียต คือคนไม่มีหัวใจ และใครก็ตามที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า…คือคนไม่มีสมอง…” การปฏิวัติทางด้านกองทัพ เขาได้แต่งตั้ง Sergei Ivanov (KGB เพื่อนเก่าและร่วมมหาวิทยาลัย เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และ สวีดิช) ขึ้นมาคุมกำลัง เป็น รัฐมนตรีกลาโหม และฝ่ายงบประมาณกองทัพ คือ Lyubov Kudelina เพื่อมาดูแลเรื่องเงิน ส่วนนายพลที่มีประวัติมือไม่สะอาด เช่นYevgeny Adamov (สมัยเยลซิน) ที่มีส่วนพัวพันกับเปอร์เซ็นต์ในงบสร้างฐานนิวเคลียร์ พร้อมกับคนอื่นๆ ถูกส่งเข้าเก็บกรุนายพลที่ไร้สมรรถภาพ… รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ อิวานอฟ ทำงานเร็วทันใจ เพียงสามวันหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เขาได้ส่งสัญญาณให้ปูตินทราบว่า อเมริกากำลังขยายกำลังของนาโต้เข้ามาในส่วนของฝั่งชายขอบเอเซียกลาง (กลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า สถาน ทั้งหลาย) แต่ปูติน……มองเห็นว่า การสร้างสัมพันธภาพอันดีกับบุช คือสิ่งจำเป็น อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง… และการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดี อย่างแรกเลยที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการเรียนภาษาอังกฤษวันละหนึ่งชั่วโมงที่สถาบัน American Diplomacy and Commerce และเขาได้ใช้เป็นครั้งแรกในการสนทนากับบุช ในภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียปนเยอรมันว่า “ผมเห็นว่าคุณตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแม่ และ แม่ยายของคุณ……” “นั่นซิ…ก็ผมมันเป็นนักการเมืองชั้นเยี่ยมไงล่ะ..” “เออ……ใช่จริงๆ เพราะของผมก็เหมือนกัน..” แล้วสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป สองคนนี้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation Summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนตุลาคม และได้คุยกันถึงเรื่องการสร้าง(จำนวน) ซ้อม(ยิง) นิวเคลียร์ที่ยังไม่ชัดเจน ที่ทำให้ประธานาธิบดีบุช ต้องเชิญปูตินไปยังทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน เขาได้ไปเยี่ยมไร่ของบุชที่เท๊กซัสเป็นการส่วนตัว มีการเลี้ยงปิ้งย่าง บาร์บีคิว ปูตินได้กล่าวว่า “ผมไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้คนไหนถึงในบ้านเลย…นับว่าเป็นโชคดีที่ได้มาถึงที่นี่ “ และเขาได้ไปดูตึกที่ถล่มทลายและได้แสดงความอาลัย แต่.…เพียงสามอาทิตย์ต่อมา บุชได้โทรศัพท์มาถึงปูติน บอกว่า นโยบายทางเพนตากอนได้มีมติให้อเมริกาถอนตัวไม่เข้าร่วมกับโครงการ ABM (Anti-Ballistic Missile) เท่ากับว่า….ปูตินถูกอเมริกาเทอย่างหน้าตาเฉย…ทั้งๆที่เริ่มต้นทำท่าจะดี.. การก่อกวนในเชเชนหลังจากสงครามยังไม่หยุด กลุ่มหัวรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ปูตินได้ประกาศว่า ต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น จึงทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำเป็นขบวนการใต้ดิน ที่ทำให้เกิดการจับคนดูเป็นตัวประกันที่ โรงละคร Palace of Culture ในกรุงมอสโคว์ วันที่ 24 ตุลาคม 2002 ที่กำลังแสดงละครย้อนยุคที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล บัตรใบละ 15 ดอลล่าร์ (เทียบเท่า ที่นับว่าแพงมาก) โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายแต่งกายเป็นคนงาน ขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางความสับสนของคนดู ที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง แต่.…คณะผู้ก่อการร้ายในการนำของ Movsar Barayev** ได้กราดกระสุน AK-47 ขึ้นไปบนเพดาน และประกาศว่า ประตูทุกบานได้มีสลักระเบิดผูกติดอยู่ ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ ได้ก้าวเข้ามาอยู่กลางกลุ่มคนดู และเปิดเสื้อคลุมให้เห็นว่า ข้างในนั้น ร่างของเธอได้ผูกติดระเบิดเอาไว้ พร้อมที่จะดึงสลัก หากว่า……มีเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้ามา ทั้งประกาศก้องว่า….ในนามพระอัลลาห์ พวกเราตายหนึ่ง แต่จะเกิดร้อย และถ้าใครมีโทรศัพท์……ให้โทรไปบอกครอบครัวได้เลยว่า ต้องตายเพราะสงครามเชเชน และถ้าอยากรอด……หนทางเดียวคือรัสเซียต้องถอนทัพออกไป เลิกสงครามทันที…!!! ปูตินอยู่ในสภาพที่หลังชนกำแพง จากที่กองทัพทำสงครามยืดเยื้อในเชเชน……หน่วย FSB ที่ทำงานประสาอะไรปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาถึงในมอสโคว์ เขายกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด (ที่จะไป เยอรมัน,โปรตุเกส และ เม๊กซิโก) เรียกหน่วยข่าวกรอง บรรดาสายลับทั้งหลาย และตัวหัวหน้า Nikolai Patrushev เข้ามาพบโดยด่วน เตรียมการบุกโรงละคร เรียกหน่วยคอมมานโดให้เตรียมพร้อม คนค้าน……คือ นายกรัฐมนตรี Mikhaïl Kasyanov ด้วยเกรงว่าการทำอย่างนี้เสี่ยงเกินไป ผู้บริสุทธิ์อาจจะได้รับเคราะห์ ปูตินบอกว่า “ถ้าป๊อด……ก็ออกไปห่างๆเลย……” เขาได้ส่งท่านนายกรัฐมนตรีมิเกล ออกไปประชุมแทนในตามรายชื่อประเทศ…จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร ข้างในโรงละคร…ในกลุ่มคนดู ก็มีบุคคลสำคัญหลายคนในหลายวงการ ส่วนผู้ที่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา คือ กลุ่มเด็กเล็กจำนวน 39 คน ที่ได้ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ที่เติบโตมากับสงครามในคอร์เคซัส ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก เมื่อถูกถามว่า “ที่อยากให้เลิกสงคราม หมายความว่าอะไร..เพื่อ..?” คนกลุ่มนั้น ตอบไม่ได้ ลังเล ไม่แน่ใจ…… ในวันที่สองของการจับตัวประกัน ที่ทุกคนเริ่มอ่อนล้า หิวโหย กระหาย วิตก…… กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารคนไปหลายคน ที่พยายามหาทางออก เจ้าหน้าที่ได้เจรจาขอให้มีการส่งอาหารและน้ำได้สำเร็จ ตีห้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อ่อนแรง เตรียมพร้อมกับการที่จะเจรจาในตอนสิบโมงเช้า ตามที่เครมลินได้ส่งข่าวมา ทางหน่วยคอมมานโดที่ได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปจากอาคารข้างๆ และได้ติดไมโครโฟนดักฟังจนรู้ตำแหน่งของผู้ก่อการร้าย กังวลที่สุด คือ อาคารทั้งหลังอาจจะระเบิดขึ้นมาได้ ปูตินได้สั่งการเด็ดขาดว่า……จับตายทั้งหมดเท่านั้น……!! การใช้ ยาสลบ fentanyl ที่เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของ FSB ได้ทำการแสดงฝีมือ คือ ฉีดส่งเข้าไปในท่อระบายอากาศ ที่ทำให้ทุกคนหลับแบบร่วงผล็อย แต่กลุ่มที่ระวังอยู่ด้านนอก มีการปะทะดุเดือด กลุ่มผู้ก่อการร้าย 41 คน มีกระสุนเจาะที่สมอง…… ตัวหัวหน้า Barayev ได้ถูกสังหารในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง แต่ตัวประกันได้เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน จากการโดนสังหารของผู้ก่อการร้าย และ บางคนเสียชีวิตเพราะสารยาสลบ เพราะมีอายุ และสุขภาพที่ไม่ดี ปูตินได้ออกโทรทัศน์ เพื่อทำการขอโทษประชาชนที่เขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน ……แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้หน้าไหนมาหยาม..!! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันได้บอกกับปูตินว่าสงครามได้มาในรูปแบบใหม่ ที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาก่อกวนในประเทศ และที่นอกประเทศในขอบชายแดน ก็ขยายวงขึ้นเพราะการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกแผ่นดิน ปูตินไม่มีทางอื่น นอกจากต้องหักเท่านั้น……ไม่มีงอ ข่าวนี้……ทำให้ Aslan Maskhadov หัวหน้ากบฎเชเชนที่ได้ใช้ตัวแทนในโคเปนเฮเกน มาเสนอการเจรจาสันติภาพแบบไม่มีเงื่อนไข แต่ทางเครมลิน……ปฏิเสธ ไม่เจรจา แถมยังประกาศจับตัวแทนเจรจา Ahmed Zakayev(อดีตรองนายกรัฐมนตรีเชเชน และ เป็นฝ่ายโปรกบฏ) เดนมาร์ก……จับตัวให้ แต่ไม่ส่งให้รัสเซีย เพราะข้อกล่าวหาทางรัสเซียที่พัวพันไปในเรื่องโรงละครด้วย คนที่ออกมารับหน้าในเรื่องโรงละคร คือ Shamil Basayev**(หัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏเชเชน) ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “นี่คือบทเรียนที่รัสเซียสมควรได้รับ..” ปูตินรับคำขู่ด้วยการขานรับ เล่นงานเชเชนหนักขึ้น ฝ่ายโลกเสรีได้ยิงคำถามในเรื่องการใช้อาวุธด้วยการฝังทุ่นระเบิดไปทั่ว เขาตอบว่า “ ในวินาทีนี้ ใครก็ตามที่นับถือศาสนาคริสต์ ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นมุสลิม……ก็ไม่รอด เพราะเขาเชื่อว่าการตายคือการไปพบพระเจ้า…ไม่ใช่หรือ……?!! และต่อด้วยภาษานักเลงสุดๆ กับนักข่าวที่ถาม (จนบางคนไม่กล้าแปล…) ว่า…… “ ถ้าคุณตัดสินใจอยากจะเป็นมุสลิมอย่างที่พวกเขาเป็น และพร้อมที่จะไปพบกับพระเจ้า…ขอเชิญไปที่มอสโคว์ เพราะพวกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มตัว และรับรองได้ว่า เรามีสารพัดวิธีที่คุณจะไม่เติบโตต่อไปอีก………” **Shamil Basayev ผู้ก่อการร้ายตัวยง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกต้องการตัว เขาเป็นคนวางแผนเรื่องโรงละคร และการวางระเบิดเครื่องบินรัสเซีย เขาได้ถูกสังหารด้วยระเบิดกับดักที่มากับรถบรรทุก ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2006 Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1871 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนรักหมาแมว"เอส“จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค" กู้ภัยช่วยชีวิตหมาแมวจากน้ำท่วมใหญ่ จ.เชียงราย เสียชีวิตกะทันหันหลังเสร็จสิ้นภารกิจ โลกออนไลน์ร่วมแสดงความอาลัยและเสียใจต่อการจากไป

    15 กันยายน2567-รายงานจากโลกออนไลน์ระบุว่า ทางมูลนิธิ ดิ อาร์ค ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ เดินทางมารอรับศพ คุณเอส หรือ นายภรัญโรจน์ กิตติภัทร์ฐากรณ์ โดยมีคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิเสียใจร้องไห้อยู่เพราะตัวเองเป็นคนเปิดประตูเข้าไปแล้วก็เห็นว่าคุณเอสหมดสติอยู่บนเตียง

    ส่วนคุณแชมป์ น้องชาย กล่าวว่า พี่ชายเป็นคนรักหมารักแมวมาก เมื่อวานยังโทรคุยงาน พี่ชายบอกเลยว่าให้เตรียมคอกสัตว์เอาไว้ อาจจะต้องมีสุนัขไปประมาณ 20 พี่เอสเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงาน ตนอยู่กับพี่มาไม่เคยได้กอดพี่เลย จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย พี่ชายคิดว่าตัวเองไม่รัก แต่ตัวเองรักพี่ชายมาก ขอให้พี่ชายไปดี อยากจะบอกกับพี่ว่าผมรักพี่มาก

    ต่อมา มีรายงานว่า ได้เคลื่อนร่างของคุณเอสออกมาจากอาคารบ้านหลังสุดท้าย โรงพยาบาลแม่สาย โดยมีทางคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิ เรียกดวงวิญญาณคุณเอสกลับบ้าน ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ร้องไห้เสียใจเพราะว่าทำภารกิจในการช่วยเหลือมาด้วยกัน 14 ปี ไม่คิดเหมือนกันว่านี่คือภารกิจสุดท้ายของคุณเอสในการช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวจนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวังธาร อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่.

    นายดลชนก บุณโยทยาน รองประธานมูลนิธิวินวิน กล่าวว่า น้องเอสทำมูลนิธิ 14 ปี มาเริ่มภารกิจที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่พฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 และกำหนดวันนี้จะมูฟไปที่เชียงราย คือเมื่อวาน (14 กันยายน) จะมีคลิปที่ไปเก็บศพน้องหมาน้องแมว เอสก็เป็นคนไปขุดหลุมฝังสุนัขเอง ตอนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีเหนื่อยหรือว่าอะไร และกลับมาที่โรงแรมก็ทานอาหารกัน บอกว่าน่าจะเป็นกรดไหลย้อน

    พอเข้าไปในห้องพักสักพัก พี่บัณฑิต ประธานมูลนิธิก็เข้าไปเจอแล้วก็รีบทำซีพีอาร์เพราะว่ากู้ภัยอยู่ด้วยกันเยอะ แต่สุดท้ายไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตได้ แพทย์ระบุว่าเสียชีวิต ตนก็อยากบอกชื่นชมเอสว่า เอสเป็นคนที่มองจุดเล็ก ๆ ว่าทุกคนเขาก็ให้ความสำคัญคุณค่ากระทั่งชีวิตสัตว์ที่เสียชีวิตก็ยังนำไปทำให้เหมาะสม ในเฟซบุ๊กของนายดลชนกได้เล่าว่า

    ”หลังเสร็จภารกิจเรากลับเข้าโรงแรมนั่งทานข้าวกัน มันเป็นอาหารที่อร่อยเอสทานเยอะมาก

    เอสบ่นว่าตัวเองน่าจะกรดไหลย้อนขอตัวกลับห้องก่อน เราก็นั่งคุยกับลุงดิ๊บต่ออีกซัก 1 ชม. ก็แยกย้ายกันกลับห้อง ไม่นานลุงดิ๊บโทรมาว่าพี้ต้อยเอสไม่หายใจ เรากับน้องอีกคนวิ่งไปอย่างเร็ว ไปถึงพบเอสตัวเริ่มซีดหยุดหายใจ เราก็ทำ CPR น้องอีกคนวิ่งไปตามกู้ภัยเพราะในรีสอร์ทมีแต่กู้ภัยพัก มีน้องๆนับ 10 คนมาช่วยกันเอารถกู้ชีพพาไปส่ง รพ.แม่สาย แต่ด้วยเวลาที่หยุดหายใจนานเกินไปเอสได้จากพวกเราไปอย่างสงบ

    ใครรู้จักลุงดิ๊บ,เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยให้เพื่อนเราด้วยกัน“

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/f2yhP9hDfW6Ztpag/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    คนรักหมาแมว"เอส“จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค" กู้ภัยช่วยชีวิตหมาแมวจากน้ำท่วมใหญ่ จ.เชียงราย เสียชีวิตกะทันหันหลังเสร็จสิ้นภารกิจ โลกออนไลน์ร่วมแสดงความอาลัยและเสียใจต่อการจากไป 15 กันยายน2567-รายงานจากโลกออนไลน์ระบุว่า ทางมูลนิธิ ดิ อาร์ค ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ เดินทางมารอรับศพ คุณเอส หรือ นายภรัญโรจน์ กิตติภัทร์ฐากรณ์ โดยมีคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิเสียใจร้องไห้อยู่เพราะตัวเองเป็นคนเปิดประตูเข้าไปแล้วก็เห็นว่าคุณเอสหมดสติอยู่บนเตียง ส่วนคุณแชมป์ น้องชาย กล่าวว่า พี่ชายเป็นคนรักหมารักแมวมาก เมื่อวานยังโทรคุยงาน พี่ชายบอกเลยว่าให้เตรียมคอกสัตว์เอาไว้ อาจจะต้องมีสุนัขไปประมาณ 20 พี่เอสเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงาน ตนอยู่กับพี่มาไม่เคยได้กอดพี่เลย จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย พี่ชายคิดว่าตัวเองไม่รัก แต่ตัวเองรักพี่ชายมาก ขอให้พี่ชายไปดี อยากจะบอกกับพี่ว่าผมรักพี่มาก ต่อมา มีรายงานว่า ได้เคลื่อนร่างของคุณเอสออกมาจากอาคารบ้านหลังสุดท้าย โรงพยาบาลแม่สาย โดยมีทางคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิ เรียกดวงวิญญาณคุณเอสกลับบ้าน ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ร้องไห้เสียใจเพราะว่าทำภารกิจในการช่วยเหลือมาด้วยกัน 14 ปี ไม่คิดเหมือนกันว่านี่คือภารกิจสุดท้ายของคุณเอสในการช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวจนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวังธาร อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่. นายดลชนก บุณโยทยาน รองประธานมูลนิธิวินวิน กล่าวว่า น้องเอสทำมูลนิธิ 14 ปี มาเริ่มภารกิจที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่พฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 และกำหนดวันนี้จะมูฟไปที่เชียงราย คือเมื่อวาน (14 กันยายน) จะมีคลิปที่ไปเก็บศพน้องหมาน้องแมว เอสก็เป็นคนไปขุดหลุมฝังสุนัขเอง ตอนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีเหนื่อยหรือว่าอะไร และกลับมาที่โรงแรมก็ทานอาหารกัน บอกว่าน่าจะเป็นกรดไหลย้อน พอเข้าไปในห้องพักสักพัก พี่บัณฑิต ประธานมูลนิธิก็เข้าไปเจอแล้วก็รีบทำซีพีอาร์เพราะว่ากู้ภัยอยู่ด้วยกันเยอะ แต่สุดท้ายไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตได้ แพทย์ระบุว่าเสียชีวิต ตนก็อยากบอกชื่นชมเอสว่า เอสเป็นคนที่มองจุดเล็ก ๆ ว่าทุกคนเขาก็ให้ความสำคัญคุณค่ากระทั่งชีวิตสัตว์ที่เสียชีวิตก็ยังนำไปทำให้เหมาะสม ในเฟซบุ๊กของนายดลชนกได้เล่าว่า ”หลังเสร็จภารกิจเรากลับเข้าโรงแรมนั่งทานข้าวกัน มันเป็นอาหารที่อร่อยเอสทานเยอะมาก เอสบ่นว่าตัวเองน่าจะกรดไหลย้อนขอตัวกลับห้องก่อน เราก็นั่งคุยกับลุงดิ๊บต่ออีกซัก 1 ชม. ก็แยกย้ายกันกลับห้อง ไม่นานลุงดิ๊บโทรมาว่าพี้ต้อยเอสไม่หายใจ เรากับน้องอีกคนวิ่งไปอย่างเร็ว ไปถึงพบเอสตัวเริ่มซีดหยุดหายใจ เราก็ทำ CPR น้องอีกคนวิ่งไปตามกู้ภัยเพราะในรีสอร์ทมีแต่กู้ภัยพัก มีน้องๆนับ 10 คนมาช่วยกันเอารถกู้ชีพพาไปส่ง รพ.แม่สาย แต่ด้วยเวลาที่หยุดหายใจนานเกินไปเอสได้จากพวกเราไปอย่างสงบ ใครรู้จักลุงดิ๊บ,เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยให้เพื่อนเราด้วยกัน“ ที่มา : https://www.facebook.com/share/f2yhP9hDfW6Ztpag/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Sad
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1138 มุมมอง 0 รีวิว