• เปิดคำกล่าวถ้อยแถลงของ รมต.ต่างประเทศไทยฉบับเต็ม!
    .
    รมต.ต่างประเทศไทย 'ฟาด' เขมรเล่นบทเหยื่อ-บิดเบือนข้อเท็จจริงกลางเวที UN ลั่น! เหยื่อแท้จริงคือทหารไทย-พลเรือนผู้บริสุทธิ์ถูกจรวดเขมรโจมตี! ยืนหยัดปกป้องอธิปไตย - ผู้นำ-ทูตทั่วโลกปรบมือกึกก้อง!!!
    .
    เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 ว่า
    .
    ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และคณะผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ
    .
    - . ก่อนอื่น ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีกับท่านประธาน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 80
    .
    -. แม้ว่าข้าพเจ้าจะเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่รัฐบาลของข้าพเจ้าได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการที่ข้าพเจ้ามาอยู่ที่นี่ในวันนี้ เพราะเราเชื่อว่าช่วงเวลานี้มีความสำคัญ วาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาตินี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหประชาชาติกำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญ
    .
    -. ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นด้วยการย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของประเทศไทยต่อพหุภาคี
    .
    -. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกยังคงต้องการสหประชาชาติ และสหประชาชาติต้องการเราทุกคน แต่เพื่อให้สหประชาชาติบรรลุวัตถุประสงค์ เราต้องพัฒนาไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
    .
    -. ประเทศไทยก็กำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญเช่นกัน เผชิญกับความท้าทายเร่งด่วนภายในประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง แต่วิสัยทัศน์ของเราขยายออกไปนอกพรมแดน สู่โลกกว้าง เพราะเราเช่นเดียวกับทุกประเทศ ปรารถนาโลกที่สงบสุข ยุติธรรม และเปิดกว้าง
    .
    -. ด้วยจิตวิญญาณนี้เอง ประเทศไทยจึงพร้อมที่จะมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการจัดตั้งสหประชาชาติให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง นั่นคือการสร้างสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชนให้กับทุกคน

    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. หัวข้อการอภิปรายทั่วไปในปีนี้ คือ “Better Together” ซึ่งเตือนใจเราว่าสหประชาชาติจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว
    .
    -. ประการแรก เราต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวในฐานะประชาคมเดียวกัน
    .
    -. แปดสิบปีที่แล้ว ประชาคมชาติของเราได้นำกฎบัตรสหประชาชาติมาใช้ด้วยความหวังที่จะเกิดสันติภาพ แต่ปัจจุบัน เรากลับเผชิญกับโลกที่แตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากลัทธิกีดกันทางการค้า ความแตกแยก ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่เคยละเว้นแม้แต่ประเทศชาติ
    .
    -. สงครามในยูเครน ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ปีที่สามแล้ว ยังคงนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและการทำลายล้างอย่างใหญ่หลวง ในทำนองเดียวกัน ความทุกข์ทรมานอันน่าสยดสยองในฉนวนกาซา ซึ่งพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กๆ กำลังเผชิญชะตากรรมอันหนักอึ้ง ล้วนเป็นภาระหนักอึ้งต่อจิตสำนึกส่วนรวมของเรา เป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนว่าเมื่อสันติภาพถูกทำลาย ความเสียหายของมนุษย์ไม่เพียงแต่ตกอยู่กับประเทศชาติเท่านั้น แต่ยังตกอยู่กับประชาชนทั่วไปที่ชีวิตต้องแตกสลายอีกด้วย
    .
    -. ในฐานะประชาคมเดียวกัน ทุกประเทศต่างมีหน้าที่ร่วมกันในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของโลก
    .
    -. และความรับผิดชอบนี้ต้องครอบคลุมทุกฝ่าย พหุภาคีจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อผู้หญิงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในการรักษาสันติภาพ การป้องกันความขัดแย้ง หรือการตอบสนองด้านมนุษยธรรม เสียงและความเป็นผู้นำของพวกเขาจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนของเราและทำให้สันติภาพยั่งยืนยิ่งขึ้น ดิฉันมั่นใจว่าการเลือกตั้งท่านประธานาธิบดีให้เป็นผู้นำสมัชชาครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคนผลักดันวาระสตรีของสหประชาชาติด้วยความมุ่งมั่นที่มากขึ้น
    .
    -. ประเทศไทยตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของเรา กองกำลังรักษาสันติภาพของเรายังคงปฏิบัติหน้าที่ทั่วโลก ช่วยฟื้นฟูชีวิตที่แตกแยกจากความขัดแย้ง
    .
    -. ในประเทศ เราได้กวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล นี่ไม่ใช่แค่พันธกรณีตามสนธิสัญญาเท่านั้น แต่เป็นการคืนผืนดินที่ปลอดภัยให้ชุมชนที่พวกเขาสามารถอยู่อาศัยและเพาะปลูกได้ มันคือการปฏิบัติหน้าที่ของเราต่อประชาชน
    .
    -. การปกป้องประชาชนในประเทศเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจ เรายังต้องรับมือกับความท้าทายข้ามชาติ เช่น การอพยพย้ายถิ่นฐานที่เกิดจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ ซึ่งเป็นบททดสอบร่วมกันที่ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง
    .
    -. นี่คือภารกิจที่แท้จริงของประเทศไทย เป็นเวลากว่าทศวรรษที่เราได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้พลัดถิ่นจากเมียนมา วันนี้ เรากำลังมอบโอกาสให้พวกเขาได้ทำงานนอกที่พักพิงชั่วคราวมากขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีส่วนร่วมในสังคม ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแห่งความมุ่งมั่นของเราในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม
    .
    -. ในทำนองเดียวกัน ประเทศไทยกำลังเร่งความพยายามในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงทางออนไลน์ เนื่องจากผลกระทบเหล่านี้แผ่ขยายไปอย่างกว้างขวาง อาชญากรรมไร้พรมแดนต้องอาศัยความร่วมมือไร้พรมแดน
    .
    -. วิสัยทัศน์ของประชาคมหนึ่งเดียวต้องเริ่มต้นจากใกล้บ้าน ภูมิภาคต่างๆ คือรากฐานของประชาคมโลก ในภูมิภาคของเรา สันติภาพและเสถียรภาพยังเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามสร้างประชาคมอาเซียน
    .
    -. กระนั้น แม้แต่ในเพื่อนบ้านของเราเอง สถานการณ์ในเมียนมาร์ยังคงเป็นข้อกังวลอย่างยิ่ง ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดน และเรายังคงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเดินหน้าสู่การเจรจาและกระบวนการสันติภาพที่ยั่งยืน นี่คือรากฐานของสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมาร์
    .
    -. และแม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุด ข้อพิพาทก็อาจเกิดขึ้นได้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชาไม่น่าพึงปรารถนาและไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของเราเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด เราไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียนเดียวกัน
    .
    -. เช้าวันนี้ ผมตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปและในเชิงบวก เพื่อสะท้อนถึงความหวังสำหรับอนาคต แต่ผมต้องเขียนคำปราศรัยใหม่ เนื่องจากคำพูดที่น่าเสียใจที่สุดของเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผม ที่น่าตกใจคือกัมพูชายังคงแสดงตนเป็นเหยื่ออยู่ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กัมพูชาได้นำเสนอข้อเท็จจริงในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นเพียงการบิดเบือนความจริง
    .
    -. เรารู้ว่าใครคือเหยื่อที่แท้จริง พวกเขาคือทหารไทยที่สูญเสียขาจากทุ่นระเบิด เด็กๆ ที่โรงเรียนถูกยิงถล่ม และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังซื้อของในวันนั้นที่ร้านขายของชำที่ถูกโจมตีจากจรวดของกัมพูชา
    .
    -. เมื่อวานนี้ ผมได้พบกับเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาที่ห้องประชุมสหประชาชาติ เราได้พูดคุยเกี่ยวกับสันติภาพ การพูดคุย ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และความเชื่อมั่น ซึ่งต่อมาได้มีการเน้นย้ำเรื่องนี้ในการปรึกษาหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 4 ฝ่ายที่จัดโดยสหรัฐอเมริกา เราซาบซึ้งในความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสันติภาพ
    .
    -. แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาพูดในวันนี้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พูดในการประชุมเมื่อวานนี้ มันเผยให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชา ข้อกล่าวหาเหล่านี้เกินจริงจนทำให้ความจริงดูตลกขบขัน
    .
    -. ตั้งแต่แรกเริ่ม กัมพูชาได้ริเริ่มความขัดแย้งโดยมีเจตนาที่จะขยายข้อพิพาทเรื่องพรมแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และขยายขอบเขตไปสู่ระดับนานาชาติดังเช่นที่เกิดขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนี้
    .
    - หมู่บ้านที่เพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้อยู่ในดินแดนไทย จบประโยค ความจริงแล้ว หมู่บ้านเหล่านี้มีอยู่จริงเพราะประเทศไทยได้ตัดสินใจด้านมนุษยธรรมที่จะเปิดพรมแดนในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หลบหนีสงครามกลางเมืองในประเทศของตนเข้ามาหลบภัยในประเทศไทย เราตัดสินใจเช่นนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจและหลักการด้านมนุษยธรรม ในฐานะนักการทูตรุ่นเยาว์ ผมเองก็เคยประสบเหตุการณ์นี้มาเช่นกัน
    .
    -. แม้ว่าสงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลงและศูนย์พักพิงจะถูกปิดลง แต่หมู่บ้านชาวกัมพูชาได้ขยายพื้นที่ออกไปตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้จะมีการประท้วงจากประเทศไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยต่อคำขอเหล่านั้นในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกนี้
    .
    -. และเมื่อสันติภาพกลับคืนสู่กัมพูชาหลังข้อตกลงสันติภาพปารีส พ.ศ. 2534 เราอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างและฟื้นฟูประเทศกัมพูชาเพื่อรักษาสันติภาพ เราสร้างบ้าน ถนน และโรงพยาบาล เพราะสันติภาพในกัมพูชาเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทย นี่คือสิ่งที่เพื่อนบ้านควรทำเพื่อกันและกัน
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. การหยุดยิงยังคงเปราะบาง เราต้องทำให้มันได้ผล ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการกระทำที่จริงใจจากทั้งสองฝ่าย
    .
    -. น่าเสียดายที่การยั่วยุอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา รวมถึงการระดมพลพลเรือนเข้าสู่ดินแดนไทยและการยิงปืนเข้าใส่ฝ่ายเราเมื่อเร็วๆ นี้ ได้บั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน ข้าพเจ้ากำลังอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ที่กองทัพกัมพูชายิงใส่กองทัพไทยที่ประจำการตามแนวชายแดน เหตุการณ์ล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ กองทัพไทยยังคงตรวจจับโดรนสอดแนมของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยบุกรุกเข้ามาในดินแดนไทยเป็นประจำทุกวัน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมสมัยพิเศษที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย และได้ยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทวิภาคี
    .
    -. และขอให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยยืนหยัดและจะยืนหยัดเพื่อสันติภาพเสมอมา และจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกอย่างสันติต่อปัญหาปัจจุบันกับกัมพูชา ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะยืนหยัดและแน่วแน่ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเราเสมอ เราขอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับเราในการแก้ไขความแตกต่างผ่านการเจรจาอย่างสันติและกลไกที่มีอยู่
    .
    -. วันนี้ ประเทศของเราทั้งสองกำลังเผชิญกับทางเลือกที่ชัดเจน ในฐานะเพื่อนบ้านและมิตรสหาย เราต้องถามกัมพูชาว่าพวกเขาต้องการเลือกเส้นทางใด ระหว่างเส้นทางแห่งการเผชิญหน้าอย่างต่อเนื่อง หรือเส้นทางแห่งสันติภาพและความร่วมมือ
    .
    -. ประเทศไทยเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เพราะเราเชื่อว่าประชาชนของทั้งสองประเทศสมควรได้รับสิ่งเดียวกันนี้ แต่เราตั้งคำถามอย่างแท้จริงว่า กัมพูชามีเจตนาที่จะร่วมมือกับเราในการแสวงหาสันติภาพหรือไม่
    .
    -. สำหรับประเทศไทย การเจรจา ความไว้วางใจ และความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นหนทางสู่อนาคต เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ในการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรทั้งในอาเซียนและประเทศอื่นๆ รวมถึงมหาอำนาจ เพื่อแสวงหาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างยั่งยืน
    .
    -. การกล่าวถึงประชาคมหนึ่งเดียว ท่านประธานาธิบดี คือการยืนยันว่าเราผูกพันตามหลักการร่วมกันที่ว่าทุกคนเกิดมามีอิสระและเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีและสิทธิ
    .
    -. ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2568-2570 และประธานคณะกรรมการชุดที่สามของสมัชชาใหญ่ ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสำหรับทุกคน
    .
    -. สำหรับเรา ไม่ใช่แค่การมีที่นั่งในที่ประชุมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้ง ผู้พิการ และผู้ที่มักถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
    .
    -. การส่งเสริมสิทธิสตรีและเด็กหญิงก็เป็นศูนย์กลางของความพยายามนี้เช่นกัน การมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมและการปราศจากความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติไม่ได้เป็นเพียงสิทธิมนุษยชน แต่เป็นรากฐานของสังคมที่ยุติธรรมและยืดหยุ่น
    .
    -. สุขภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอีกประการหนึ่งที่ไม่อาจกล่าวเกินจริงได้ การสร้างหลักประกันการเข้าถึงการรักษาพยาบาลไม่ได้เป็นเพียงการช่วยชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้โอกาสทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและความมั่นคง
    .
    -. นี่คือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนสิทธิในการมีสุขภาพที่ดี ทั้งที่บ้านและทั่วโลก หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านของเราให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และทุกชุมชนจะได้รับเครื่องมือในการเติบโต
    .
    -. ประเทศไทยยังมีส่วนร่วมในความพยายามระดับโลกเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาด รวมถึงผ่านข้อตกลงการระบาดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เราไม่รู้ว่าโรคระบาดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด และมีเพียงการทำงานร่วมกันเท่านั้นที่ทำให้เราพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ได้
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. สันติภาพและสิทธิมนุษยชนไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากปราศจากการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ในปัจจุบัน การพัฒนากำลังถูกคุกคามจากลัทธิกีดกันทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้าอาจส่งผลดีในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วกลับส่งผลเสียต่อเราทุกคน และสร้างความแตกแยกเมื่อเราต้องการความสามัคคีมากที่สุด
    .
    -. ประเทศไทยเชื่อว่าความเจริญรุ่งเรืองที่แท้จริงไม่ได้สร้างขึ้นบนกำแพงภาษีศุลกากร แต่สร้างบนสะพานแห่งความไว้วางใจ
    .
    -. เส้นทางข้างหน้าของเราเปิดกว้างและการค้าที่เป็นธรรม โดยมีรากฐานมาจากการพัฒนาที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางและครอบคลุม แต่การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงการเติบโตเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับคุณค่าและความสมดุลระหว่างความก้าวหน้าและการอนุรักษ์
    .
    -. นี่คือเหตุผลที่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของประเทศไทย ซึ่งสร้างขึ้นบนความสมดุล ความยืดหยุ่น และความพอประมาณ ได้นำทางเส้นทางการพัฒนาของเรา ปรัชญานี้เตือนใจเราว่าความก้าวหน้าที่แท้จริงต้องเสริมพลังประชาชนควบคู่ไปกับการปกป้องโลก
    .
    -. เหลือเวลาอีกเพียงห้าปีในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เราต้องเสริมสร้างความร่วมมือในทุกระดับ และเผชิญหน้ากับความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางการเงินที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่ออนาคตร่วมกันของเรา
    .
    -. ในขณะเดียวกัน เราต้องไม่ลืมว่าโลกคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญในยุคสมัยของเรา กำลังขยายช่องว่างระหว่างผู้มีอันจะกินและผู้ไม่มี หากปราศจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เราจะล้มเหลวทั้งต่อประชาชนและโลกของเรา
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. ในวาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาติ ภารกิจของเรานั้นเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง นั่นคือ การรวมตัวกันภายใต้คำอุทิศตนเพียงหนึ่งเดียว
    .
    - เราทุกคนผูกพันกันด้วยอุดมการณ์ บรรทัดฐาน และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ แต่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การต่ออายุคำอุทิศตนของเราต่อลัทธิพหุภาคีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป
    .
    -. แต่ความจริงก็คือ ประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติเต็มไปด้วยคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แต่ไม่รักษาไว้ คำมั่นสัญญาที่ไม่ได้รับการปฏิบัติแต่ละครั้งจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือและทำลายความไว้วางใจทั่วโลก หากสหประชาชาติจะยังคงเป็นศูนย์กลางของลัทธิพหุภาคี เราไม่สามารถปล่อยให้วัฏจักรนี้ซ้ำรอยได้
    .
    -. นั่นคือเหตุผลที่ข้อตกลงเพื่ออนาคต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อปีที่แล้ว จะต้องกลายเป็นพิมพ์เขียวสำหรับการดำเนินการ เพื่อสร้างความก้าวหน้าที่มีความหมาย การดำเนินการระดับชาติของเราจะต้องสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาร่วมกันของเรา
    .
    -. แต่เพื่อให้สหประชาชาติสามารถดำเนินงานตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีทรัพยากรที่จำเป็น เราต้องแน่ใจว่าสหประชาชาติมีวิธีการที่จะบรรลุจุดหมายตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้สหประชาชาติยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสันติภาพและการพัฒนา
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. ในขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะสร้างใหม่ ฟื้นฟู และปฏิรูปสหประชาชาติ เราจำเป็นต้องยึดถือวิสัยทัศน์ One Future
    .
    -. เพื่อให้สหประชาชาตินำทางเราไปสู่อนาคต การปฏิรูปที่ครอบคลุม รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคง จึงเป็นสิ่งจำเป็น สหประชาชาติต้องมีตัวแทนมากขึ้น โปร่งใส รับผิดชอบ และเหมาะสมกับอนาคต ปฏิบัติสอดคล้องกัน เข้าถึงประชาชน และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง
    .
    -. นั่นคือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนโครงการริเริ่ม UN80 อย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่การปิดช่องว่างทางการเงิน แต่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะทำให้สหประชาชาติเชื่อมต่อกับประชาชนที่ตนรับใช้อีกครั้ง
    .
    -. แต่เมื่อเราเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสหประชาชาติ เราต้องตระหนักถึงข้อจำกัดของมัน สหประชาชาติไม่สามารถทำทุกอย่างได้ และลัทธิพหุภาคีก็ยิ่งใหญ่กว่าสหประชาชาติเพียงลำพัง สหประชาชาติจะเจริญรุ่งเรืองได้เมื่อมีรากฐานมาจากลัทธิภูมิภาคนิยมที่เข้มแข็ง สถาบันระดับภูมิภาคเป็นผู้ตอบสนองต่อวิกฤตการณ์เป็นลำดับแรก เป็นผู้สร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างพันธกรณีระดับโลกกับความเป็นจริงในระดับท้องถิ่น
    .
    -. สำหรับประเทศไทย อาเซียนคือบ้านและศูนย์กลางของเรา การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ ครั้งที่ 15 ที่จะถึงนี้ จะแสดงให้เห็นว่าหลักการร่วมกันกลายเป็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร ประเทศไทยมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันความร่วมมือนี้ เพื่อให้เสียงของภูมิภาคได้รับการรับฟังอย่างเต็มที่ในการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาระดับโลก
    .
    -. การสร้างประชาคมโลกที่เข้มแข็งนั้นต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของคนรุ่นเรา นั่นคือเหตุผลที่เราต้องยอมรับพลังของเยาวชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของแผนปฏิบัติการระดับโลกเพื่อเยาวชน ประเทศไทยขอยืนยันความมุ่งมั่นในการลงทุนและเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชน และมอบโอกาสที่แท้จริงในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
    .
    -. ด้วยแนวคิดนี้ ประเทศไทยภูมิใจที่ได้ตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมคณะผู้แทนระดับชาติของเราในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อให้พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการกำหนดอนาคตที่พวกเขาวาดฝันไว้
    .
    -. เพราะท้ายที่สุดแล้ว อนาคตเป็นของพวกเขา จึงควรเป็นผู้สร้างโดยพวกเขาเอง
    .
    ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และท่านผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ
    .
    -. ในวาระครบรอบ 80 ปี สหประชาชาติต้องดำรงไว้ซึ่งชื่อเสียงอันดีงาม นั่นคือ ชาติที่ยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียว เรามารวมตัวกันที่นี่ไม่เพียงเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังเพื่อมองไปข้างหน้าถึงสิ่งที่เราสามารถบรรลุร่วมกันได้มากกว่านี้อีกด้วย
    .
    -. บทเรียนจากแปดสิบปีนี้ชัดเจน: เราจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเรายืนหยัดเป็นประชาคมเดียว ผูกพันด้วยความทุ่มเทหนึ่งเดียว และร่วมแรงร่วมใจกันสร้างอนาคตอันเป็นหนึ่งเดียวสำหรับทุกคน นี่คือความหมายที่แท้จริงของ Better Together as One
    .
    -. ประเทศไทยให้คำมั่นที่จะทำหน้าที่ของเรา แต่ยิ่งไปกว่านั้น เราท้าทายตัวเราเองและมิตรสหายทุกท่านในวันนี้ ให้เปลี่ยนคำพูดให้เป็นการกระทำ นั่นคือวิธีที่เราจะทำให้แปดสิบปีข้างหน้าดีกว่าที่ผ่านมา
    .
    - ขอบคุณมาก ๆ ครับ
    เปิดคำกล่าวถ้อยแถลงของ รมต.ต่างประเทศไทยฉบับเต็ม! . รมต.ต่างประเทศไทย 'ฟาด' เขมรเล่นบทเหยื่อ-บิดเบือนข้อเท็จจริงกลางเวที UN ลั่น! เหยื่อแท้จริงคือทหารไทย-พลเรือนผู้บริสุทธิ์ถูกจรวดเขมรโจมตี! ยืนหยัดปกป้องอธิปไตย - ผู้นำ-ทูตทั่วโลกปรบมือกึกก้อง!!! . เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 ว่า . ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และคณะผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ . - . ก่อนอื่น ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีกับท่านประธาน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 80 . -. แม้ว่าข้าพเจ้าจะเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่รัฐบาลของข้าพเจ้าได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการที่ข้าพเจ้ามาอยู่ที่นี่ในวันนี้ เพราะเราเชื่อว่าช่วงเวลานี้มีความสำคัญ วาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาตินี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหประชาชาติกำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญ . -. ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นด้วยการย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของประเทศไทยต่อพหุภาคี . -. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกยังคงต้องการสหประชาชาติ และสหประชาชาติต้องการเราทุกคน แต่เพื่อให้สหประชาชาติบรรลุวัตถุประสงค์ เราต้องพัฒนาไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป . -. ประเทศไทยก็กำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญเช่นกัน เผชิญกับความท้าทายเร่งด่วนภายในประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง แต่วิสัยทัศน์ของเราขยายออกไปนอกพรมแดน สู่โลกกว้าง เพราะเราเช่นเดียวกับทุกประเทศ ปรารถนาโลกที่สงบสุข ยุติธรรม และเปิดกว้าง . -. ด้วยจิตวิญญาณนี้เอง ประเทศไทยจึงพร้อมที่จะมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการจัดตั้งสหประชาชาติให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง นั่นคือการสร้างสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชนให้กับทุกคน ท่านประธาน ครับ . -. หัวข้อการอภิปรายทั่วไปในปีนี้ คือ “Better Together” ซึ่งเตือนใจเราว่าสหประชาชาติจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว . -. ประการแรก เราต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวในฐานะประชาคมเดียวกัน . -. แปดสิบปีที่แล้ว ประชาคมชาติของเราได้นำกฎบัตรสหประชาชาติมาใช้ด้วยความหวังที่จะเกิดสันติภาพ แต่ปัจจุบัน เรากลับเผชิญกับโลกที่แตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากลัทธิกีดกันทางการค้า ความแตกแยก ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่เคยละเว้นแม้แต่ประเทศชาติ . -. สงครามในยูเครน ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ปีที่สามแล้ว ยังคงนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและการทำลายล้างอย่างใหญ่หลวง ในทำนองเดียวกัน ความทุกข์ทรมานอันน่าสยดสยองในฉนวนกาซา ซึ่งพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กๆ กำลังเผชิญชะตากรรมอันหนักอึ้ง ล้วนเป็นภาระหนักอึ้งต่อจิตสำนึกส่วนรวมของเรา เป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนว่าเมื่อสันติภาพถูกทำลาย ความเสียหายของมนุษย์ไม่เพียงแต่ตกอยู่กับประเทศชาติเท่านั้น แต่ยังตกอยู่กับประชาชนทั่วไปที่ชีวิตต้องแตกสลายอีกด้วย . -. ในฐานะประชาคมเดียวกัน ทุกประเทศต่างมีหน้าที่ร่วมกันในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของโลก . -. และความรับผิดชอบนี้ต้องครอบคลุมทุกฝ่าย พหุภาคีจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อผู้หญิงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในการรักษาสันติภาพ การป้องกันความขัดแย้ง หรือการตอบสนองด้านมนุษยธรรม เสียงและความเป็นผู้นำของพวกเขาจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนของเราและทำให้สันติภาพยั่งยืนยิ่งขึ้น ดิฉันมั่นใจว่าการเลือกตั้งท่านประธานาธิบดีให้เป็นผู้นำสมัชชาครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคนผลักดันวาระสตรีของสหประชาชาติด้วยความมุ่งมั่นที่มากขึ้น . -. ประเทศไทยตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของเรา กองกำลังรักษาสันติภาพของเรายังคงปฏิบัติหน้าที่ทั่วโลก ช่วยฟื้นฟูชีวิตที่แตกแยกจากความขัดแย้ง . -. ในประเทศ เราได้กวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล นี่ไม่ใช่แค่พันธกรณีตามสนธิสัญญาเท่านั้น แต่เป็นการคืนผืนดินที่ปลอดภัยให้ชุมชนที่พวกเขาสามารถอยู่อาศัยและเพาะปลูกได้ มันคือการปฏิบัติหน้าที่ของเราต่อประชาชน . -. การปกป้องประชาชนในประเทศเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจ เรายังต้องรับมือกับความท้าทายข้ามชาติ เช่น การอพยพย้ายถิ่นฐานที่เกิดจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ ซึ่งเป็นบททดสอบร่วมกันที่ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง . -. นี่คือภารกิจที่แท้จริงของประเทศไทย เป็นเวลากว่าทศวรรษที่เราได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้พลัดถิ่นจากเมียนมา วันนี้ เรากำลังมอบโอกาสให้พวกเขาได้ทำงานนอกที่พักพิงชั่วคราวมากขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีส่วนร่วมในสังคม ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแห่งความมุ่งมั่นของเราในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม . -. ในทำนองเดียวกัน ประเทศไทยกำลังเร่งความพยายามในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงทางออนไลน์ เนื่องจากผลกระทบเหล่านี้แผ่ขยายไปอย่างกว้างขวาง อาชญากรรมไร้พรมแดนต้องอาศัยความร่วมมือไร้พรมแดน . -. วิสัยทัศน์ของประชาคมหนึ่งเดียวต้องเริ่มต้นจากใกล้บ้าน ภูมิภาคต่างๆ คือรากฐานของประชาคมโลก ในภูมิภาคของเรา สันติภาพและเสถียรภาพยังเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามสร้างประชาคมอาเซียน . -. กระนั้น แม้แต่ในเพื่อนบ้านของเราเอง สถานการณ์ในเมียนมาร์ยังคงเป็นข้อกังวลอย่างยิ่ง ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดน และเรายังคงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเดินหน้าสู่การเจรจาและกระบวนการสันติภาพที่ยั่งยืน นี่คือรากฐานของสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมาร์ . -. และแม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุด ข้อพิพาทก็อาจเกิดขึ้นได้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชาไม่น่าพึงปรารถนาและไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของเราเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด เราไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียนเดียวกัน . -. เช้าวันนี้ ผมตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปและในเชิงบวก เพื่อสะท้อนถึงความหวังสำหรับอนาคต แต่ผมต้องเขียนคำปราศรัยใหม่ เนื่องจากคำพูดที่น่าเสียใจที่สุดของเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผม ที่น่าตกใจคือกัมพูชายังคงแสดงตนเป็นเหยื่ออยู่ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กัมพูชาได้นำเสนอข้อเท็จจริงในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นเพียงการบิดเบือนความจริง . -. เรารู้ว่าใครคือเหยื่อที่แท้จริง พวกเขาคือทหารไทยที่สูญเสียขาจากทุ่นระเบิด เด็กๆ ที่โรงเรียนถูกยิงถล่ม และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังซื้อของในวันนั้นที่ร้านขายของชำที่ถูกโจมตีจากจรวดของกัมพูชา . -. เมื่อวานนี้ ผมได้พบกับเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาที่ห้องประชุมสหประชาชาติ เราได้พูดคุยเกี่ยวกับสันติภาพ การพูดคุย ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และความเชื่อมั่น ซึ่งต่อมาได้มีการเน้นย้ำเรื่องนี้ในการปรึกษาหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 4 ฝ่ายที่จัดโดยสหรัฐอเมริกา เราซาบซึ้งในความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสันติภาพ . -. แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาพูดในวันนี้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พูดในการประชุมเมื่อวานนี้ มันเผยให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชา ข้อกล่าวหาเหล่านี้เกินจริงจนทำให้ความจริงดูตลกขบขัน . -. ตั้งแต่แรกเริ่ม กัมพูชาได้ริเริ่มความขัดแย้งโดยมีเจตนาที่จะขยายข้อพิพาทเรื่องพรมแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และขยายขอบเขตไปสู่ระดับนานาชาติดังเช่นที่เกิดขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนี้ . - หมู่บ้านที่เพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้อยู่ในดินแดนไทย จบประโยค ความจริงแล้ว หมู่บ้านเหล่านี้มีอยู่จริงเพราะประเทศไทยได้ตัดสินใจด้านมนุษยธรรมที่จะเปิดพรมแดนในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หลบหนีสงครามกลางเมืองในประเทศของตนเข้ามาหลบภัยในประเทศไทย เราตัดสินใจเช่นนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจและหลักการด้านมนุษยธรรม ในฐานะนักการทูตรุ่นเยาว์ ผมเองก็เคยประสบเหตุการณ์นี้มาเช่นกัน . -. แม้ว่าสงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลงและศูนย์พักพิงจะถูกปิดลง แต่หมู่บ้านชาวกัมพูชาได้ขยายพื้นที่ออกไปตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้จะมีการประท้วงจากประเทศไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยต่อคำขอเหล่านั้นในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกนี้ . -. และเมื่อสันติภาพกลับคืนสู่กัมพูชาหลังข้อตกลงสันติภาพปารีส พ.ศ. 2534 เราอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างและฟื้นฟูประเทศกัมพูชาเพื่อรักษาสันติภาพ เราสร้างบ้าน ถนน และโรงพยาบาล เพราะสันติภาพในกัมพูชาเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทย นี่คือสิ่งที่เพื่อนบ้านควรทำเพื่อกันและกัน . ท่านประธาน ครับ . -. การหยุดยิงยังคงเปราะบาง เราต้องทำให้มันได้ผล ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการกระทำที่จริงใจจากทั้งสองฝ่าย . -. น่าเสียดายที่การยั่วยุอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา รวมถึงการระดมพลพลเรือนเข้าสู่ดินแดนไทยและการยิงปืนเข้าใส่ฝ่ายเราเมื่อเร็วๆ นี้ ได้บั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน ข้าพเจ้ากำลังอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ที่กองทัพกัมพูชายิงใส่กองทัพไทยที่ประจำการตามแนวชายแดน เหตุการณ์ล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ กองทัพไทยยังคงตรวจจับโดรนสอดแนมของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยบุกรุกเข้ามาในดินแดนไทยเป็นประจำทุกวัน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมสมัยพิเศษที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย และได้ยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทวิภาคี . -. และขอให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยยืนหยัดและจะยืนหยัดเพื่อสันติภาพเสมอมา และจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกอย่างสันติต่อปัญหาปัจจุบันกับกัมพูชา ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะยืนหยัดและแน่วแน่ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเราเสมอ เราขอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับเราในการแก้ไขความแตกต่างผ่านการเจรจาอย่างสันติและกลไกที่มีอยู่ . -. วันนี้ ประเทศของเราทั้งสองกำลังเผชิญกับทางเลือกที่ชัดเจน ในฐานะเพื่อนบ้านและมิตรสหาย เราต้องถามกัมพูชาว่าพวกเขาต้องการเลือกเส้นทางใด ระหว่างเส้นทางแห่งการเผชิญหน้าอย่างต่อเนื่อง หรือเส้นทางแห่งสันติภาพและความร่วมมือ . -. ประเทศไทยเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เพราะเราเชื่อว่าประชาชนของทั้งสองประเทศสมควรได้รับสิ่งเดียวกันนี้ แต่เราตั้งคำถามอย่างแท้จริงว่า กัมพูชามีเจตนาที่จะร่วมมือกับเราในการแสวงหาสันติภาพหรือไม่ . -. สำหรับประเทศไทย การเจรจา ความไว้วางใจ และความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นหนทางสู่อนาคต เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ในการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรทั้งในอาเซียนและประเทศอื่นๆ รวมถึงมหาอำนาจ เพื่อแสวงหาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างยั่งยืน . -. การกล่าวถึงประชาคมหนึ่งเดียว ท่านประธานาธิบดี คือการยืนยันว่าเราผูกพันตามหลักการร่วมกันที่ว่าทุกคนเกิดมามีอิสระและเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีและสิทธิ . -. ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2568-2570 และประธานคณะกรรมการชุดที่สามของสมัชชาใหญ่ ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสำหรับทุกคน . -. สำหรับเรา ไม่ใช่แค่การมีที่นั่งในที่ประชุมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้ง ผู้พิการ และผู้ที่มักถูกทิ้งไว้ข้างหลัง . -. การส่งเสริมสิทธิสตรีและเด็กหญิงก็เป็นศูนย์กลางของความพยายามนี้เช่นกัน การมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมและการปราศจากความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติไม่ได้เป็นเพียงสิทธิมนุษยชน แต่เป็นรากฐานของสังคมที่ยุติธรรมและยืดหยุ่น . -. สุขภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอีกประการหนึ่งที่ไม่อาจกล่าวเกินจริงได้ การสร้างหลักประกันการเข้าถึงการรักษาพยาบาลไม่ได้เป็นเพียงการช่วยชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้โอกาสทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและความมั่นคง . -. นี่คือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนสิทธิในการมีสุขภาพที่ดี ทั้งที่บ้านและทั่วโลก หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านของเราให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และทุกชุมชนจะได้รับเครื่องมือในการเติบโต . -. ประเทศไทยยังมีส่วนร่วมในความพยายามระดับโลกเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาด รวมถึงผ่านข้อตกลงการระบาดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เราไม่รู้ว่าโรคระบาดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด และมีเพียงการทำงานร่วมกันเท่านั้นที่ทำให้เราพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ได้ . ท่านประธาน ครับ . -. สันติภาพและสิทธิมนุษยชนไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากปราศจากการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ในปัจจุบัน การพัฒนากำลังถูกคุกคามจากลัทธิกีดกันทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้าอาจส่งผลดีในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วกลับส่งผลเสียต่อเราทุกคน และสร้างความแตกแยกเมื่อเราต้องการความสามัคคีมากที่สุด . -. ประเทศไทยเชื่อว่าความเจริญรุ่งเรืองที่แท้จริงไม่ได้สร้างขึ้นบนกำแพงภาษีศุลกากร แต่สร้างบนสะพานแห่งความไว้วางใจ . -. เส้นทางข้างหน้าของเราเปิดกว้างและการค้าที่เป็นธรรม โดยมีรากฐานมาจากการพัฒนาที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางและครอบคลุม แต่การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงการเติบโตเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับคุณค่าและความสมดุลระหว่างความก้าวหน้าและการอนุรักษ์ . -. นี่คือเหตุผลที่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของประเทศไทย ซึ่งสร้างขึ้นบนความสมดุล ความยืดหยุ่น และความพอประมาณ ได้นำทางเส้นทางการพัฒนาของเรา ปรัชญานี้เตือนใจเราว่าความก้าวหน้าที่แท้จริงต้องเสริมพลังประชาชนควบคู่ไปกับการปกป้องโลก . -. เหลือเวลาอีกเพียงห้าปีในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เราต้องเสริมสร้างความร่วมมือในทุกระดับ และเผชิญหน้ากับความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางการเงินที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่ออนาคตร่วมกันของเรา . -. ในขณะเดียวกัน เราต้องไม่ลืมว่าโลกคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญในยุคสมัยของเรา กำลังขยายช่องว่างระหว่างผู้มีอันจะกินและผู้ไม่มี หากปราศจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เราจะล้มเหลวทั้งต่อประชาชนและโลกของเรา . ท่านประธาน ครับ . -. ในวาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาติ ภารกิจของเรานั้นเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง นั่นคือ การรวมตัวกันภายใต้คำอุทิศตนเพียงหนึ่งเดียว . - เราทุกคนผูกพันกันด้วยอุดมการณ์ บรรทัดฐาน และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ แต่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การต่ออายุคำอุทิศตนของเราต่อลัทธิพหุภาคีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป . -. แต่ความจริงก็คือ ประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติเต็มไปด้วยคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แต่ไม่รักษาไว้ คำมั่นสัญญาที่ไม่ได้รับการปฏิบัติแต่ละครั้งจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือและทำลายความไว้วางใจทั่วโลก หากสหประชาชาติจะยังคงเป็นศูนย์กลางของลัทธิพหุภาคี เราไม่สามารถปล่อยให้วัฏจักรนี้ซ้ำรอยได้ . -. นั่นคือเหตุผลที่ข้อตกลงเพื่ออนาคต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อปีที่แล้ว จะต้องกลายเป็นพิมพ์เขียวสำหรับการดำเนินการ เพื่อสร้างความก้าวหน้าที่มีความหมาย การดำเนินการระดับชาติของเราจะต้องสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาร่วมกันของเรา . -. แต่เพื่อให้สหประชาชาติสามารถดำเนินงานตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีทรัพยากรที่จำเป็น เราต้องแน่ใจว่าสหประชาชาติมีวิธีการที่จะบรรลุจุดหมายตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้สหประชาชาติยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสันติภาพและการพัฒนา . ท่านประธาน ครับ . -. ในขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะสร้างใหม่ ฟื้นฟู และปฏิรูปสหประชาชาติ เราจำเป็นต้องยึดถือวิสัยทัศน์ One Future . -. เพื่อให้สหประชาชาตินำทางเราไปสู่อนาคต การปฏิรูปที่ครอบคลุม รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคง จึงเป็นสิ่งจำเป็น สหประชาชาติต้องมีตัวแทนมากขึ้น โปร่งใส รับผิดชอบ และเหมาะสมกับอนาคต ปฏิบัติสอดคล้องกัน เข้าถึงประชาชน และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง . -. นั่นคือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนโครงการริเริ่ม UN80 อย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่การปิดช่องว่างทางการเงิน แต่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะทำให้สหประชาชาติเชื่อมต่อกับประชาชนที่ตนรับใช้อีกครั้ง . -. แต่เมื่อเราเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสหประชาชาติ เราต้องตระหนักถึงข้อจำกัดของมัน สหประชาชาติไม่สามารถทำทุกอย่างได้ และลัทธิพหุภาคีก็ยิ่งใหญ่กว่าสหประชาชาติเพียงลำพัง สหประชาชาติจะเจริญรุ่งเรืองได้เมื่อมีรากฐานมาจากลัทธิภูมิภาคนิยมที่เข้มแข็ง สถาบันระดับภูมิภาคเป็นผู้ตอบสนองต่อวิกฤตการณ์เป็นลำดับแรก เป็นผู้สร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างพันธกรณีระดับโลกกับความเป็นจริงในระดับท้องถิ่น . -. สำหรับประเทศไทย อาเซียนคือบ้านและศูนย์กลางของเรา การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ ครั้งที่ 15 ที่จะถึงนี้ จะแสดงให้เห็นว่าหลักการร่วมกันกลายเป็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร ประเทศไทยมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันความร่วมมือนี้ เพื่อให้เสียงของภูมิภาคได้รับการรับฟังอย่างเต็มที่ในการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาระดับโลก . -. การสร้างประชาคมโลกที่เข้มแข็งนั้นต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของคนรุ่นเรา นั่นคือเหตุผลที่เราต้องยอมรับพลังของเยาวชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของแผนปฏิบัติการระดับโลกเพื่อเยาวชน ประเทศไทยขอยืนยันความมุ่งมั่นในการลงทุนและเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชน และมอบโอกาสที่แท้จริงในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง . -. ด้วยแนวคิดนี้ ประเทศไทยภูมิใจที่ได้ตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมคณะผู้แทนระดับชาติของเราในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อให้พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการกำหนดอนาคตที่พวกเขาวาดฝันไว้ . -. เพราะท้ายที่สุดแล้ว อนาคตเป็นของพวกเขา จึงควรเป็นผู้สร้างโดยพวกเขาเอง . ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และท่านผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ . -. ในวาระครบรอบ 80 ปี สหประชาชาติต้องดำรงไว้ซึ่งชื่อเสียงอันดีงาม นั่นคือ ชาติที่ยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียว เรามารวมตัวกันที่นี่ไม่เพียงเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังเพื่อมองไปข้างหน้าถึงสิ่งที่เราสามารถบรรลุร่วมกันได้มากกว่านี้อีกด้วย . -. บทเรียนจากแปดสิบปีนี้ชัดเจน: เราจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเรายืนหยัดเป็นประชาคมเดียว ผูกพันด้วยความทุ่มเทหนึ่งเดียว และร่วมแรงร่วมใจกันสร้างอนาคตอันเป็นหนึ่งเดียวสำหรับทุกคน นี่คือความหมายที่แท้จริงของ Better Together as One . -. ประเทศไทยให้คำมั่นที่จะทำหน้าที่ของเรา แต่ยิ่งไปกว่านั้น เราท้าทายตัวเราเองและมิตรสหายทุกท่านในวันนี้ ให้เปลี่ยนคำพูดให้เป็นการกระทำ นั่นคือวิธีที่เราจะทำให้แปดสิบปีข้างหน้าดีกว่าที่ผ่านมา . - ขอบคุณมาก ๆ ครับ
    0 Comments 0 Shares 347 Views 0 Reviews

  • กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่เลือกแนวทางสันติ ขัดข้อตกลงหยุดยิง จงใจจัดฉากยั่วยุ สร้างสถานการณ์ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว ตามด้วยการแถลงข่าวบิดเบือน นำไปฟ้องผู้นำโลก ขาดความสุจริตใจ ยันฝ่ายไทยตอบโต้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้วในทุกระดับโดยยึดหลักฐานเชิงประจักษ์และหลักสากล หลังยึดมั่นแนวทางแก้ปัญหาโดยสันติวิธีผ่านกลไกทวิภาคี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000089864

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่เลือกแนวทางสันติ ขัดข้อตกลงหยุดยิง จงใจจัดฉากยั่วยุ สร้างสถานการณ์ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว ตามด้วยการแถลงข่าวบิดเบือน นำไปฟ้องผู้นำโลก ขาดความสุจริตใจ ยันฝ่ายไทยตอบโต้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้วในทุกระดับโดยยึดหลักฐานเชิงประจักษ์และหลักสากล หลังยึดมั่นแนวทางแก้ปัญหาโดยสันติวิธีผ่านกลไกทวิภาคี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000089864 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 471 Views 0 Reviews
  • กำแพงเมืองไทย เป็นไปได้แค่ไหน?

    ท่าทีของ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สนับสนุนให้กองทัพบกสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีเสียงตอบรับที่ดีจากสังคม หลังจากได้ให้ พล.อ.มนัส จันดี เสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และสื่อสารออกมาอย่างชัดเจนว่า พื้นที่ตรงนั้นคือดินแดนของไทย จะต้องมีการสร้างกำแพงที่แข็งแรง เพื่อปกป้องประชาชน และปกป้องการรุกรานจากฝ่ายตรงข้าม โดยยืนยันว่าตนเองจะสนับสนุนทุกการกระทำของกองทัพบกอย่างแน่นอน

    การสร้างกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ชายแดนด้าน จ.สระแก้ว 165 กิโลเมตร หน่วยงานความมั่นคงเคยเสนอนายภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สร้างกำแพง ที่ผ่านมามีการวางลวดหนามแล้ว 55 กิโลเมตร ที่เหลือเป็นช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมในการหลบหนีเข้าเมือง หน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถตรวจการณ์ได้ตลอดเวลา แต่ขณะนั้นยังไม่มีการสร้างเพราะเห็นว่ายังเร็วเกินไป ต้องศึกษารูปแบบแนวทางภายใต้พื้นที่ที่ชัดเจน ที่ต้องไม่ติดพื้นที่ที่ทับซ้อนกัน รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบของคนทั้งสองประเทศ

    ครั้งหนึ่ง โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยสั่งการให้คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติมแนวคิดสร้างกำแพงระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลักลอบค้ายาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมาย แต่แล้วข่าวคราวก็เงียบหายไป ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสนอสร้างกำแพงคอนกรีตตามแนวชายแดนในจุดที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง เพื่อยกระดับการป้องกันอย่างถาวร

    เขตแดนไทย-กัมพูชามีความยาว 798 กิโลเมตร แยกเป็นตามสันปันน้ำและแนวเส้นตรง 590 กิโลเมตร กับร่องน้ำลึกและลำน้ำอีก 208 กิโลเมตร มีการจัดทำหลักเขตแดนสยาม-เขมรไปแล้ว 73 หลัก ตั้งแต่ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก จ.ตราด แต่อีก 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำถึงช่องบก จ.อุบลราชธานี แม้ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907 จะยึดหลักสันปันน้ำจากตีนภูเขาดงรัก แต่ไทยและกัมพูชากลับใช้แผนที่คนละฉบับกัน และกัมพูชาฟ้องศาลโลก

    หากจะมีการสร้างกำแพงขึ้นจริง นอกจากจะต้องใช้งบประมาณมหาศาลแล้ว ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าหลักเขตแดนเคลื่อนย้ายไปในดินแดนของตน ต้องใช้กลไกทวิภาคีอย่างคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) แก้ไขปัญหา อีกทั้งยังต้องศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน ก่อนที่จะดำเนินโครงการ ซึ่งจากความสัมพันธ์ที่ยังระหองระแหง การจะได้เห็นกำแพงเมืองไทยที่มั่นคงแข็งแรงจึงยังเป็นไปได้ยากในขณะนี้

    #Newskit
    กำแพงเมืองไทย เป็นไปได้แค่ไหน? ท่าทีของ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สนับสนุนให้กองทัพบกสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีเสียงตอบรับที่ดีจากสังคม หลังจากได้ให้ พล.อ.มนัส จันดี เสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และสื่อสารออกมาอย่างชัดเจนว่า พื้นที่ตรงนั้นคือดินแดนของไทย จะต้องมีการสร้างกำแพงที่แข็งแรง เพื่อปกป้องประชาชน และปกป้องการรุกรานจากฝ่ายตรงข้าม โดยยืนยันว่าตนเองจะสนับสนุนทุกการกระทำของกองทัพบกอย่างแน่นอน การสร้างกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ชายแดนด้าน จ.สระแก้ว 165 กิโลเมตร หน่วยงานความมั่นคงเคยเสนอนายภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สร้างกำแพง ที่ผ่านมามีการวางลวดหนามแล้ว 55 กิโลเมตร ที่เหลือเป็นช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมในการหลบหนีเข้าเมือง หน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถตรวจการณ์ได้ตลอดเวลา แต่ขณะนั้นยังไม่มีการสร้างเพราะเห็นว่ายังเร็วเกินไป ต้องศึกษารูปแบบแนวทางภายใต้พื้นที่ที่ชัดเจน ที่ต้องไม่ติดพื้นที่ที่ทับซ้อนกัน รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบของคนทั้งสองประเทศ ครั้งหนึ่ง โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยสั่งการให้คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติมแนวคิดสร้างกำแพงระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลักลอบค้ายาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมาย แต่แล้วข่าวคราวก็เงียบหายไป ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสนอสร้างกำแพงคอนกรีตตามแนวชายแดนในจุดที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง เพื่อยกระดับการป้องกันอย่างถาวร เขตแดนไทย-กัมพูชามีความยาว 798 กิโลเมตร แยกเป็นตามสันปันน้ำและแนวเส้นตรง 590 กิโลเมตร กับร่องน้ำลึกและลำน้ำอีก 208 กิโลเมตร มีการจัดทำหลักเขตแดนสยาม-เขมรไปแล้ว 73 หลัก ตั้งแต่ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก จ.ตราด แต่อีก 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำถึงช่องบก จ.อุบลราชธานี แม้ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907 จะยึดหลักสันปันน้ำจากตีนภูเขาดงรัก แต่ไทยและกัมพูชากลับใช้แผนที่คนละฉบับกัน และกัมพูชาฟ้องศาลโลก หากจะมีการสร้างกำแพงขึ้นจริง นอกจากจะต้องใช้งบประมาณมหาศาลแล้ว ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าหลักเขตแดนเคลื่อนย้ายไปในดินแดนของตน ต้องใช้กลไกทวิภาคีอย่างคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) แก้ไขปัญหา อีกทั้งยังต้องศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน ก่อนที่จะดำเนินโครงการ ซึ่งจากความสัมพันธ์ที่ยังระหองระแหง การจะได้เห็นกำแพงเมืองไทยที่มั่นคงแข็งแรงจึงยังเป็นไปได้ยากในขณะนี้ #Newskit
    1 Comments 0 Shares 496 Views 0 Reviews
  • ไทย–สหรัฐฯ สานความร่วมมือทวิภาคี สร้างเสถียรภาพอินโด-แปซิฟิก
    https://www.thai-tai.tv/news/21138/
    .
    #กองทัพบก #กองทัพสหรัฐฯ #ข่าวความมั่นคง #อินโดแปซิฟิก #ข่าวการทหาร #ไทยไท

    ไทย–สหรัฐฯ สานความร่วมมือทวิภาคี สร้างเสถียรภาพอินโด-แปซิฟิก https://www.thai-tai.tv/news/21138/ . #กองทัพบก #กองทัพสหรัฐฯ #ข่าวความมั่นคง #อินโดแปซิฟิก #ข่าวการทหาร #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • ผู้ว่าฯ สระแก้ว โอษฐภัย ทำไทยเสียดินแดน?

    ประโยคที่ว่า "บ้านหนองจานไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่เป็นพื้นที่ป่า" ของนายปริญญา โพ​ธิ​สัตย์​ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ที่เพิ่งได้รับการต่อวาระราชการอีก 1 ปี ก่อนครบเกษียณอายุในปี 2569 ระหว่างการตอบคำถามสื่อมวลชนต่อหน้าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (IOT) 8 ประเทศ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ก่อให้เกิดความสงสัยแก่คนไทยทั้งประเทศ และสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้แก่ชาวบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่ถูกชาวกัมพูชาบุกรุกที่ดินทำกินมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษมานาน

    ที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผู้ว่าฯ สระแก้ว จัดให้มีการยื่นเอกสารสิทธิ์ การถือครองที่ดินให้แก่ชาวบ้านหนองจาน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนด พร้อมกับขอโทษประชาชน ที่เคยกล่าวว่าพื้นที่บ้านหนองจานไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้เกิดเข้าใจผิด แท้ที่จริงแล้วเฉพาะแปลงสามเหลี่ยมที่กัมพูชาบุกรุก ที่เป็นพื้นที่ป่าไม้ ไม่ใช่ทั้งหมู่บ้าน ซึ่งทางจังหวัดสระแก้ว กองทัพภาคที่ 1 กรมป่าไม้ อำเภอโคกสูง และทุกส่วนราชการ รวมทั้งทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สัญญาว่าจะนำพื้นที่ดังกล่าวกลับมาให้ได้

    อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ สระแก้ว ถูกนายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่เคยถูกกัมพูชาจับกุมที่บ้านหนองจาน เมื่อปี 2553 ตำหนิว่า แถลงข่าวแบบนี้ได้อย่างไร ชาวบ้านเสียใจมาก พร้อมตำหนิที่ดินจังหวัดสระแก้วว่าเล่นลิ้น เพราะชาวบ้านมีเอกสารสิทธิ์ แต่กลับบอกว่าไม่ใช่สิทธิครอบครอง ไปรายงานผู้ว่าฯ เช่นนี้ทำให้เข้าใจผิด นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทหารและข้าราชการไม่ได้ช่วยชาวบ้านหลายสิบปี ทำให้เสียพื้นที่ให้กัมพูชา 40-50 ปี และตนต้องถูกทางการกัมพูชาจับกุม

    อีกด้านหนึ่ง ผลจากการเปิดให้ชาวบ้านหนองจานยื่นเอกสารสิทธิ์ ทำให้นายอุม เรียตรีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา ยื่นหนังสือประท้วงผู้ว่าฯ สระแก้ว อ้างว่ากระทบต่ออธิปไตยของกัมพูชาและละเมิด MOU43 เพราะคณะกรรมการ JBC ยังไม่ได้กำหนดเขตแดนที่ชัดเจน จึงขอคัดค้านและขอให้ทบทวนเพื่อแสดงความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและหลีกเลี่ยงความตึงเครียด

    ขณะที่สำนักข่าว Kampuchea Thmey Daily ของนางฮุน มานา ลูกสาวนายฮุน เซน รักษาการประมุขประเทศกัมพูชา ได้ทีนำเสนอข่าวว่า การที่นายปริญญาระบุว่า บ้านหนองจานเป็นพื้นที่ป่าไม้ ไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน อนุมานว่าไทยไม่มีสิทธิ์อ้างสิทธิเป็นของตนเอง จึงถือว่าเป็นที่ดินของกัมพูชา แต่เพราะประชาชนไม่พอใจ โกรธแค้น จึงถูกบังคับให้ขอโทษโดยอ้างว่าเข้าใจผิด การกระทำของทหารไทยสร้างความเสียหายต่อความไว้วางใจ เรียกร้องให้ไทยเคารพข้อตกลงทวิภาคีและพันธกรณีอีกครั้ง

    #Newskit
    ผู้ว่าฯ สระแก้ว โอษฐภัย ทำไทยเสียดินแดน? ประโยคที่ว่า "บ้านหนองจานไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่เป็นพื้นที่ป่า" ของนายปริญญา โพ​ธิ​สัตย์​ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ที่เพิ่งได้รับการต่อวาระราชการอีก 1 ปี ก่อนครบเกษียณอายุในปี 2569 ระหว่างการตอบคำถามสื่อมวลชนต่อหน้าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (IOT) 8 ประเทศ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ก่อให้เกิดความสงสัยแก่คนไทยทั้งประเทศ และสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้แก่ชาวบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่ถูกชาวกัมพูชาบุกรุกที่ดินทำกินมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษมานาน ที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผู้ว่าฯ สระแก้ว จัดให้มีการยื่นเอกสารสิทธิ์ การถือครองที่ดินให้แก่ชาวบ้านหนองจาน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนด พร้อมกับขอโทษประชาชน ที่เคยกล่าวว่าพื้นที่บ้านหนองจานไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้เกิดเข้าใจผิด แท้ที่จริงแล้วเฉพาะแปลงสามเหลี่ยมที่กัมพูชาบุกรุก ที่เป็นพื้นที่ป่าไม้ ไม่ใช่ทั้งหมู่บ้าน ซึ่งทางจังหวัดสระแก้ว กองทัพภาคที่ 1 กรมป่าไม้ อำเภอโคกสูง และทุกส่วนราชการ รวมทั้งทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สัญญาว่าจะนำพื้นที่ดังกล่าวกลับมาให้ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ สระแก้ว ถูกนายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่เคยถูกกัมพูชาจับกุมที่บ้านหนองจาน เมื่อปี 2553 ตำหนิว่า แถลงข่าวแบบนี้ได้อย่างไร ชาวบ้านเสียใจมาก พร้อมตำหนิที่ดินจังหวัดสระแก้วว่าเล่นลิ้น เพราะชาวบ้านมีเอกสารสิทธิ์ แต่กลับบอกว่าไม่ใช่สิทธิครอบครอง ไปรายงานผู้ว่าฯ เช่นนี้ทำให้เข้าใจผิด นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทหารและข้าราชการไม่ได้ช่วยชาวบ้านหลายสิบปี ทำให้เสียพื้นที่ให้กัมพูชา 40-50 ปี และตนต้องถูกทางการกัมพูชาจับกุม อีกด้านหนึ่ง ผลจากการเปิดให้ชาวบ้านหนองจานยื่นเอกสารสิทธิ์ ทำให้นายอุม เรียตรีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา ยื่นหนังสือประท้วงผู้ว่าฯ สระแก้ว อ้างว่ากระทบต่ออธิปไตยของกัมพูชาและละเมิด MOU43 เพราะคณะกรรมการ JBC ยังไม่ได้กำหนดเขตแดนที่ชัดเจน จึงขอคัดค้านและขอให้ทบทวนเพื่อแสดงความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและหลีกเลี่ยงความตึงเครียด ขณะที่สำนักข่าว Kampuchea Thmey Daily ของนางฮุน มานา ลูกสาวนายฮุน เซน รักษาการประมุขประเทศกัมพูชา ได้ทีนำเสนอข่าวว่า การที่นายปริญญาระบุว่า บ้านหนองจานเป็นพื้นที่ป่าไม้ ไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน อนุมานว่าไทยไม่มีสิทธิ์อ้างสิทธิเป็นของตนเอง จึงถือว่าเป็นที่ดินของกัมพูชา แต่เพราะประชาชนไม่พอใจ โกรธแค้น จึงถูกบังคับให้ขอโทษโดยอ้างว่าเข้าใจผิด การกระทำของทหารไทยสร้างความเสียหายต่อความไว้วางใจ เรียกร้องให้ไทยเคารพข้อตกลงทวิภาคีและพันธกรณีอีกครั้ง #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 414 Views 0 Reviews
  • สินค้ามาเลเซียรอเสียบ บุกตลาดกัมพูชาแทนที่สินค้าไทย

    เหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ความขัดแย้งระหว่างชาวไทยกับชาวเขมร ถึงขั้นบอยคอตสินค้าไทยและธุรกิจไทยในกัมพูชา กลายเป็นโอกาสทองของชาติอื่นเฉกเช่นมาเลเซีย นายริคกี้ ยอว์ ประธานสมาคมธุรกิจมาเลเซีย-กัมพูชา (MCBA) เรียกร้องให้ภาคเอกชนมาเลเซียแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ในกัมพูชา ด้วยการประเมินตลาดกัมพูชาโดยเร็ว และเสนอสินค้าทางเลือกเชิงรุกเพื่อเติมช่องว่างในตลาด หลังสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยหยุดชะงัก เพราะได้รับผลกระทบจากการขนส่ง ทำให้กัมพูชากำลังประสบปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์อาหาร และวัตถุดิบอุตสาหกรรมบางประเภท

    ทั้งนี้ มาเลเซียมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนในแง่ของคุณภาพ ราคา และเสถียรภาพในการจัดหาสินค้า ในสถานการณ์เช่นนี้นักลงทุนไทยบางรายอาจเลือกถอนตัวออกจากตลาดกัมพูชา ย่อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมาเลเซียเข้าสู่ตลาด แม้จะมีความขัดแย้งแต่ปัจจัยพื้นฐานตลาดของกัมพูชายังคงแข็งแกร่ง และมีศักยภาพเติบโตแนวโน้มดี ผู้ประกอบการมาเลเซียที่มีห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่กว้างขวาง และความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะคว้าโอกาสนี้ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาค

    ก่อนหน้านี้ คณะผู้แทนการค้าของมาเลเซียที่นำโดย MCBA และภาคเอกชน เดินทางมาเยือนกัมพูชาเมื่อวันที่ 26-29 มิ.ย. เพื่อส่งเสริมการลงทุนในกัมพูชา อำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจในกัมพูชาได้สำรวจโอกาสการลงทุนในมาเลเซีย และสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ พร้อมกันนี้กัมพูชายังสนับสนุนให้นักลงทุนมาเลเซียพิจารณาตั้งโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ของกัมพูชา หรือจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะ

    ในปี 2567 การค้าทวิภาคีกัมพูชา-มาเลเซียมีมูลค่า 3,600 ล้านริงกิต (860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) น้อยกว่าประเทศไทย ที่มีมูลค่าการค้ารวม 174,530 ล้านบาท (5,396 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยไทยส่งออก 141,846 ล้านบาท นำเข้า 32,684 ล้านบาท และเวียดนามที่มีมูลค่าการค้ารวม 10,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในภูมิภาคอาเซียน และเป็นอันดับสามรองจากจีนและสหรัฐอเมริกา ล่าสุด เวียดนามและกัมพูชาลงนามข้อตกลงใหม่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า ให้แรงจูงใจทางภาษีสำหรับสินค้าสำคัญหลายรายการ มากกว่าความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA)

    ก่อนหน้านี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เตรียมหารือทางการลาวเพื่อหาทางลดค่าใช้จ่าย หลังผู้ประกอบการไทยเปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าทางประเทศลาวก่อนไปยังกัมพูชาหลังด่านไทย-กัมพูชาปิดลง

    #Newskit
    สินค้ามาเลเซียรอเสียบ บุกตลาดกัมพูชาแทนที่สินค้าไทย เหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ความขัดแย้งระหว่างชาวไทยกับชาวเขมร ถึงขั้นบอยคอตสินค้าไทยและธุรกิจไทยในกัมพูชา กลายเป็นโอกาสทองของชาติอื่นเฉกเช่นมาเลเซีย นายริคกี้ ยอว์ ประธานสมาคมธุรกิจมาเลเซีย-กัมพูชา (MCBA) เรียกร้องให้ภาคเอกชนมาเลเซียแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ในกัมพูชา ด้วยการประเมินตลาดกัมพูชาโดยเร็ว และเสนอสินค้าทางเลือกเชิงรุกเพื่อเติมช่องว่างในตลาด หลังสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยหยุดชะงัก เพราะได้รับผลกระทบจากการขนส่ง ทำให้กัมพูชากำลังประสบปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์อาหาร และวัตถุดิบอุตสาหกรรมบางประเภท ทั้งนี้ มาเลเซียมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนในแง่ของคุณภาพ ราคา และเสถียรภาพในการจัดหาสินค้า ในสถานการณ์เช่นนี้นักลงทุนไทยบางรายอาจเลือกถอนตัวออกจากตลาดกัมพูชา ย่อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมาเลเซียเข้าสู่ตลาด แม้จะมีความขัดแย้งแต่ปัจจัยพื้นฐานตลาดของกัมพูชายังคงแข็งแกร่ง และมีศักยภาพเติบโตแนวโน้มดี ผู้ประกอบการมาเลเซียที่มีห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่กว้างขวาง และความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะคว้าโอกาสนี้ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาค ก่อนหน้านี้ คณะผู้แทนการค้าของมาเลเซียที่นำโดย MCBA และภาคเอกชน เดินทางมาเยือนกัมพูชาเมื่อวันที่ 26-29 มิ.ย. เพื่อส่งเสริมการลงทุนในกัมพูชา อำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจในกัมพูชาได้สำรวจโอกาสการลงทุนในมาเลเซีย และสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ พร้อมกันนี้กัมพูชายังสนับสนุนให้นักลงทุนมาเลเซียพิจารณาตั้งโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ของกัมพูชา หรือจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะ ในปี 2567 การค้าทวิภาคีกัมพูชา-มาเลเซียมีมูลค่า 3,600 ล้านริงกิต (860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) น้อยกว่าประเทศไทย ที่มีมูลค่าการค้ารวม 174,530 ล้านบาท (5,396 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยไทยส่งออก 141,846 ล้านบาท นำเข้า 32,684 ล้านบาท และเวียดนามที่มีมูลค่าการค้ารวม 10,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในภูมิภาคอาเซียน และเป็นอันดับสามรองจากจีนและสหรัฐอเมริกา ล่าสุด เวียดนามและกัมพูชาลงนามข้อตกลงใหม่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า ให้แรงจูงใจทางภาษีสำหรับสินค้าสำคัญหลายรายการ มากกว่าความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA) ก่อนหน้านี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เตรียมหารือทางการลาวเพื่อหาทางลดค่าใช้จ่าย หลังผู้ประกอบการไทยเปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าทางประเทศลาวก่อนไปยังกัมพูชาหลังด่านไทย-กัมพูชาปิดลง #Newskit
    0 Comments 1 Shares 583 Views 0 Reviews
  • ข่าวปั่นจากเขมรอีกแล้ว!!

    โฆษกกลาโหมกัมพูชาประณามไทยกลางดึกเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (10 สิงหาคม 2568) ว่าไทย "ยั่วยุ" ด้วยการยึดปราสาทตาควาย ซึ่งเป็นหลักฐานที่มิอาจโต้แย้งได้ของจากความพยายามของไทย ที่ไตร่ตรองและเจตนาไว้ล่วงหน้า เพื่อยึดดินแดนกัมพูชา

    แต่ในความเป็นจริง เมื่อวานนี้ แม่ทัพภาคสองให้สัมภาษณ์สื่อ บอกว่าจะเอาปราสาทตาควายกลับมาให้ได้ ซึ่งไทยยืนยันว่าพื้นที่ปราสาทตาควายเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของไทย แต่แม่ทัพภาคสอง ไม่ได้ระบุว่าจะต้องใช้กำลังทหารเข้ายึดครอง โดยให้เรื่องนี้เข้าสู่ขั้นตอนของการเจรจา ว่าหลังจากนี้จะเอาปราสาทนี้กลับมาสู่ไทยอย่างไร

    แม่ทัพภาคสองพูดอย่างชัดเจนว่า "เคารพข้อตกลงหยุดยิงของสองประเทศ" ทุกอย่างจะต้องเป็นขั้นตอนของการเจรจาทวิภาคีของสองประเทศ

    แต่ฝ่ายเขมร กลับเอาคำพูดของแม่ทัพภาคสองเพียงบางส่วน มาปั่นข่าว บอกว่าไทยกำลังจะหาเรื่องบุกเขมร
    เห็นมีเพจในไทย นำเรื่องนี้มาแชร์ต่อเหมือนกัน ทำนองว่าตำหนริแม่ทัพภาคสองที่ไม่ยอมเคารพข้อตกลงหยุดยิง ทำเกินหน้ารัฐบาล
    ข่าวปั่นจากเขมรอีกแล้ว!! โฆษกกลาโหมกัมพูชาประณามไทยกลางดึกเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (10 สิงหาคม 2568) ว่าไทย "ยั่วยุ" ด้วยการยึดปราสาทตาควาย ซึ่งเป็นหลักฐานที่มิอาจโต้แย้งได้ของจากความพยายามของไทย ที่ไตร่ตรองและเจตนาไว้ล่วงหน้า เพื่อยึดดินแดนกัมพูชา แต่ในความเป็นจริง เมื่อวานนี้ แม่ทัพภาคสองให้สัมภาษณ์สื่อ บอกว่าจะเอาปราสาทตาควายกลับมาให้ได้ ซึ่งไทยยืนยันว่าพื้นที่ปราสาทตาควายเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของไทย แต่แม่ทัพภาคสอง ไม่ได้ระบุว่าจะต้องใช้กำลังทหารเข้ายึดครอง โดยให้เรื่องนี้เข้าสู่ขั้นตอนของการเจรจา ว่าหลังจากนี้จะเอาปราสาทนี้กลับมาสู่ไทยอย่างไร แม่ทัพภาคสองพูดอย่างชัดเจนว่า "เคารพข้อตกลงหยุดยิงของสองประเทศ" ทุกอย่างจะต้องเป็นขั้นตอนของการเจรจาทวิภาคีของสองประเทศ แต่ฝ่ายเขมร กลับเอาคำพูดของแม่ทัพภาคสองเพียงบางส่วน มาปั่นข่าว บอกว่าไทยกำลังจะหาเรื่องบุกเขมร เห็นมีเพจในไทย นำเรื่องนี้มาแชร์ต่อเหมือนกัน ทำนองว่าตำหนริแม่ทัพภาคสองที่ไม่ยอมเคารพข้อตกลงหยุดยิง ทำเกินหน้ารัฐบาล
    0 Comments 0 Shares 371 Views 0 Reviews
  • ไม่ไว้ใจกัมพูชา ยังไม่ยอมเก็บระเบิด : [THE MESSAGE]
    พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(GBC) บรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น เป็นการตกลงแบบทวิภาคีไทย-กัมพูชา อาเซียนได้ปล่อยให้คุยกันโดยไม่แทรกแซง เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ แม้มีบางข้อที่กัมพูชาไม่ยอมรับ และบางข้อไทยก็ไม่ยอมรับ เช่น ไทยเสนอเก็บกู้วัตถุระเบิด แก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แต่กัมพูชาปฏิเสธ ทราบว่ากัมพูชายังอาศัยเรื่องกับระเบิดเป็นเครื่องป้องกันกำลังของตนเองที่ดำรงอยู่ ส่วนตัวเชื่อว่ากัมพูชาไม่ไว้ใจไทย และไทยก็ไม่ไว้ใจกัมพูชา ทราบว่าประชาชนต้องการกลับบ้าน ขอบคุณความอดทนของประชาชน ได้ประสานแม่ทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด โดยในพื้นที่สามารถตัดสินใจให้ประชาชนกลับบ้านได้ แต่ทหารเป็นห่วงเรื่องระเบิดที่ตกมาและจรวดบางส่วนยังตกค้างในพื้นที่ เมื่อทหารและตำรวจมั่นใจแล้วก็จะส่งกลับบ้าน ย้ำ จุดทำลายระเบิดใกล้แนวชายแดน ประสานกัมพูชาป้องกันการเข้าใจผิด
    ไม่ไว้ใจกัมพูชา ยังไม่ยอมเก็บระเบิด : [THE MESSAGE] พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(GBC) บรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น เป็นการตกลงแบบทวิภาคีไทย-กัมพูชา อาเซียนได้ปล่อยให้คุยกันโดยไม่แทรกแซง เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ แม้มีบางข้อที่กัมพูชาไม่ยอมรับ และบางข้อไทยก็ไม่ยอมรับ เช่น ไทยเสนอเก็บกู้วัตถุระเบิด แก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แต่กัมพูชาปฏิเสธ ทราบว่ากัมพูชายังอาศัยเรื่องกับระเบิดเป็นเครื่องป้องกันกำลังของตนเองที่ดำรงอยู่ ส่วนตัวเชื่อว่ากัมพูชาไม่ไว้ใจไทย และไทยก็ไม่ไว้ใจกัมพูชา ทราบว่าประชาชนต้องการกลับบ้าน ขอบคุณความอดทนของประชาชน ได้ประสานแม่ทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด โดยในพื้นที่สามารถตัดสินใจให้ประชาชนกลับบ้านได้ แต่ทหารเป็นห่วงเรื่องระเบิดที่ตกมาและจรวดบางส่วนยังตกค้างในพื้นที่ เมื่อทหารและตำรวจมั่นใจแล้วก็จะส่งกลับบ้าน ย้ำ จุดทำลายระเบิดใกล้แนวชายแดน ประสานกัมพูชาป้องกันการเข้าใจผิด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 710 Views 0 0 Reviews
  • ไทย-กัมพูชา ลงนามหยุดยิงภายใต้ข้อตกลง 13 ข้อ ในการประชุม GBC ณ ประเทศมาเลเซีย

    7 ส.ค. 2025 การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กระทรวงกลาโหมมาเลเซีย สิ้นสุดลงด้วยการลงนาม MOU 13 ข้อ เพื่อยืนยันการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข

    รายละเอียดข้อตกลง 13 ข้อ:
    1. หยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข : ทั้งสองฝ่ายยุติการยิงทุกประเภทตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. 2568
    2. ห้ามเคลื่อนย้ายกองกำลัง : ห้ามเพิ่มกำลังทหารหรือเคลื่อนย้ายกองทัพในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
    3. ห้ามโจมตีพลเรือน : ห้ามการยิงหรือโจมตีเป้าหมายพลเรือน เช่น โรงเรียน, โรงพยาบาล ฯลฯ (แต่กัมพูชาทำฉ่ำ)
    4. จัดตั้งกลไกตรวจสอบ : สร้างทีมสังเกตการณ์ ASEAN นำโดยมาเลเซีย ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลง
    5. ฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร : เปิดช่องทางตรงระหว่างนายกฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ และกลาโหมของทั้งสองฝ่าย
    6. อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม : อนุญาตให้ส่งคืนผู้บาดเจ็บและศพจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงช่วยเหลือพลเรือน
    7. จัดตั้งคณะทำงานท้องถิ่น : สร้างทีมประสานงานระดับท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ชายแดน
    8. ห้ามใช้ระเบิดหรืออาวุธหนัก : จำกัดการใช้ระเบิด เช่น จรวด BM-21 หรือการโจมตีทางอากาศ
    9. ถอนทหารจากพื้นที่พิพาท : ค่อย ๆ ลดกำลังทหารในพื้นที่ เช่น บริเวณพระวิหารและภูมะเขือ
    10. เคารพหลัก ASEAN : ใช้กรอบทวิภาคีเป็นหลัก โดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลาง ไม่ยอมให้มหาอำนาจครอบงำ
    11. จัดการปัญหาแรงงาน : อำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชากลับไทยอย่างปลอดภัย และลดความตึงเครียดในชุมชน
    12. เจรจาต่อเนื่องใน GBC : กำหนดประชุม GBC ครั้งต่อไปที่กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาการกำหนดเขตแดน
    13. รายงานความคืบหน้า : ทั้งสองฝ่ายต้องรายงานการปฏิบัติตามข้อตกลงต่ออาเซียนและผู้สังเกตการณ์ทุก 2 สัปดาห์
    ไทย-กัมพูชา ลงนามหยุดยิงภายใต้ข้อตกลง 13 ข้อ ในการประชุม GBC ณ ประเทศมาเลเซีย 7 ส.ค. 2025 การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กระทรวงกลาโหมมาเลเซีย สิ้นสุดลงด้วยการลงนาม MOU 13 ข้อ เพื่อยืนยันการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข รายละเอียดข้อตกลง 13 ข้อ: 🔘1. หยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข : ทั้งสองฝ่ายยุติการยิงทุกประเภทตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. 2568 🔘2. ห้ามเคลื่อนย้ายกองกำลัง : ห้ามเพิ่มกำลังทหารหรือเคลื่อนย้ายกองทัพในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด 🔘3. ห้ามโจมตีพลเรือน : ห้ามการยิงหรือโจมตีเป้าหมายพลเรือน เช่น โรงเรียน, โรงพยาบาล ฯลฯ (แต่กัมพูชาทำฉ่ำ) 🔘4. จัดตั้งกลไกตรวจสอบ : สร้างทีมสังเกตการณ์ ASEAN นำโดยมาเลเซีย ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลง 🔘5. ฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร : เปิดช่องทางตรงระหว่างนายกฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ และกลาโหมของทั้งสองฝ่าย 🔘6. อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม : อนุญาตให้ส่งคืนผู้บาดเจ็บและศพจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงช่วยเหลือพลเรือน 🔘7. จัดตั้งคณะทำงานท้องถิ่น : สร้างทีมประสานงานระดับท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ชายแดน 🔘8. ห้ามใช้ระเบิดหรืออาวุธหนัก : จำกัดการใช้ระเบิด เช่น จรวด BM-21 หรือการโจมตีทางอากาศ 🔘9. ถอนทหารจากพื้นที่พิพาท : ค่อย ๆ ลดกำลังทหารในพื้นที่ เช่น บริเวณพระวิหารและภูมะเขือ 🔘10. เคารพหลัก ASEAN : ใช้กรอบทวิภาคีเป็นหลัก โดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลาง ไม่ยอมให้มหาอำนาจครอบงำ 🔘11. จัดการปัญหาแรงงาน : อำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชากลับไทยอย่างปลอดภัย และลดความตึงเครียดในชุมชน 🔘12. เจรจาต่อเนื่องใน GBC : กำหนดประชุม GBC ครั้งต่อไปที่กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาการกำหนดเขตแดน 🔘13. รายงานความคืบหน้า : ทั้งสองฝ่ายต้องรายงานการปฏิบัติตามข้อตกลงต่ออาเซียนและผู้สังเกตการณ์ทุก 2 สัปดาห์
    0 Comments 0 Shares 640 Views 0 Reviews
  • “บิ๊กเล็ก” เปิดแถลงทันทีที่มาเลเซีย หลังจบประชุม GBC เผยได้แจ้งต่อที่ประชุมกรณีเขมรละเมิดหยุดยิง แต่ระดับนโยบายยืนยันจริงใจทำตามข้อตกลง ระดับพื้นที่ละเมิดโดยพลการ ย้ำทั้งสองฝ่ายจะรักษาช่องทางการพูดคุย-ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหา แต่กัมพูชายังไม่ตอบรับข้อเสนอร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบแก๊งสแกมเมอร์ ขอนำไปหารือ GBC ครั้งต่อไปในเดือนหน้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000074984

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    “บิ๊กเล็ก” เปิดแถลงทันทีที่มาเลเซีย หลังจบประชุม GBC เผยได้แจ้งต่อที่ประชุมกรณีเขมรละเมิดหยุดยิง แต่ระดับนโยบายยืนยันจริงใจทำตามข้อตกลง ระดับพื้นที่ละเมิดโดยพลการ ย้ำทั้งสองฝ่ายจะรักษาช่องทางการพูดคุย-ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหา แต่กัมพูชายังไม่ตอบรับข้อเสนอร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบแก๊งสแกมเมอร์ ขอนำไปหารือ GBC ครั้งต่อไปในเดือนหน้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000074984 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    1 Comments 0 Shares 652 Views 0 Reviews
  • "ขณะที่ไทยมุ่งเน้นกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านในภูมิภาค"

    พลเรือตรี จักษวัฎ สายวงค์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารเรือ เป็นผู้แทนกองทัพเรือเข้าร่วมประชุม Navy to Navy Talk ครั้งที่ 5 ระหว่าง กองทัพเรือไทย และ กองทัพเรือเวียดนาม ณ กองบัญชาการกองทัพเรือเวียดนาม เมืองไฮฟอง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี หลังจากที่เริ่มการลาดตระเวนร่วมระหว่างกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 จนถึงปัจจุบัน ยังคงมีการปฏิบัติในการลาดตระเวนร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
    รวมทั้งมีการส่งเรือรบเยือนเมืองท่าระหว่างกันเป็นประจำ แสดงให้เห็นถึงความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับกองทัพเรืออย่างแน่นแฟ้น

    ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารเรือของไทย ได้เยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติในบรรยากาศที่อบอุ่น

    และในปี พ.ศ.2569 ผู้บัญชาการทหารเรือเวียดนาม มีกำหนดจะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือระหว่างกันในอนาคตต่อไปอีกด้วย

    การดำเนินการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ (Comprehensive Strategic Partner) ระหว่าง 2 ประเทศ และเป็นไปตามแนวความคิดทางยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือในการเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล
    "ขณะที่ไทยมุ่งเน้นกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านในภูมิภาค" พลเรือตรี จักษวัฎ สายวงค์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารเรือ เป็นผู้แทนกองทัพเรือเข้าร่วมประชุม Navy to Navy Talk ครั้งที่ 5 ระหว่าง กองทัพเรือไทย และ กองทัพเรือเวียดนาม ณ กองบัญชาการกองทัพเรือเวียดนาม เมืองไฮฟอง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี หลังจากที่เริ่มการลาดตระเวนร่วมระหว่างกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 จนถึงปัจจุบัน ยังคงมีการปฏิบัติในการลาดตระเวนร่วมกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการส่งเรือรบเยือนเมืองท่าระหว่างกันเป็นประจำ แสดงให้เห็นถึงความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับกองทัพเรืออย่างแน่นแฟ้น ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารเรือของไทย ได้เยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติในบรรยากาศที่อบอุ่น และในปี พ.ศ.2569 ผู้บัญชาการทหารเรือเวียดนาม มีกำหนดจะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือระหว่างกันในอนาคตต่อไปอีกด้วย การดำเนินการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ (Comprehensive Strategic Partner) ระหว่าง 2 ประเทศ และเป็นไปตามแนวความคิดทางยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือในการเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 415 Views 0 Reviews
  • ความเป็นกันเองของปธน.ปูติน เมื่อ "กุลชารา อับดีคาลิโควา" (Gulshara Abdykalikova) อดีตรองนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน นั่งผิดตำแหน่งก่อนเริ่มการประชุมทวิภาคีกับรัสเซีย และปธน.ปูตินจัดการกับเรื่องนี้ด้วยความสุภาพ
    ความเป็นกันเองของปธน.ปูติน เมื่อ "กุลชารา อับดีคาลิโควา" (Gulshara Abdykalikova) อดีตรองนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน นั่งผิดตำแหน่งก่อนเริ่มการประชุมทวิภาคีกับรัสเซีย และปธน.ปูตินจัดการกับเรื่องนี้ด้วยความสุภาพ
    0 Comments 0 Shares 291 Views 0 0 Reviews
  • เริ่มแล้ว ! ไทย–กัมพูชา ประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4 – 6 ส.ค. 68 ที่มาเลเซีย โดยที่ฝ่ายเลขานุการจะประชุมกันเพื่อเตรียมกรอบการประชุม ก่อนที่ในวันที่ 7 ส.ค. 68 รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพบกัน

    การประชุมจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ:
    1.ส่วนที่หนึ่ง วันที่ 4-6 ส.ค.68 จะเป็นในส่วนของคณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยที่เดินทางถึงประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น (วันที่ 3 ส.ค. 2568) โดยวันนี้จะเริ่มประชุมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดกรอบ และตกลงหัวข้อการประชุม คณะของฝ่ายไทยประกอบด้วย:
    เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา
    ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก)
    ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย 
    ผู้แทน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
    ผู้แทนกระทรวงกลาโหม (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ)
    ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ)
    ผู้แทนกองทัพบก (ทบ.) (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี)
    ผู้แทนกองทัพเรือ (ทร.) (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด)
    ผู้แทนกองทัพอากาศ (ทอ.)
    ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ

    2. ส่วนที่สองจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. 68 โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหารระดับรมว.กลาโหม นำคณะโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา
    เริ่มแล้ว ! ไทย–กัมพูชา ประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4 – 6 ส.ค. 68 ที่มาเลเซีย โดยที่ฝ่ายเลขานุการจะประชุมกันเพื่อเตรียมกรอบการประชุม ก่อนที่ในวันที่ 7 ส.ค. 68 รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพบกัน การประชุมจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ: 👉1.ส่วนที่หนึ่ง วันที่ 4-6 ส.ค.68 จะเป็นในส่วนของคณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยที่เดินทางถึงประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น (วันที่ 3 ส.ค. 2568) โดยวันนี้จะเริ่มประชุมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดกรอบ และตกลงหัวข้อการประชุม คณะของฝ่ายไทยประกอบด้วย: 🔘เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา 🔘ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก) 🔘ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย  🔘ผู้แทน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) 🔘ผู้แทนกระทรวงกลาโหม (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ) 🔘ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ) 🔘ผู้แทนกองทัพบก (ทบ.) (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี) 🔘ผู้แทนกองทัพเรือ (ทร.) (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด) 🔘ผู้แทนกองทัพอากาศ (ทอ.) 🔘ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 🔘ผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ 👉2. ส่วนที่สองจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. 68 โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหารระดับรมว.กลาโหม นำคณะโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 629 Views 0 Reviews
  • โฆษกกลาโหมยืนยัน จีน-สหรัฐฯ- มาเลเซียร่วมสังเกตการณ์ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา วันสุดท้ายของการประชุม 7 ส.ค. ยันไม่กระทบหลักการหารือทวิภาคี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073179

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    โฆษกกลาโหมยืนยัน จีน-สหรัฐฯ- มาเลเซียร่วมสังเกตการณ์ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา วันสุดท้ายของการประชุม 7 ส.ค. ยันไม่กระทบหลักการหารือทวิภาคี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073179 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 392 Views 0 Reviews
  • “มาริษ” ชี้ไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสายตาชาวโลก เผยนิมิตหมายดี “กัมพูชา” ยอมกลับมาพูดคุยทวิภาคีผ่าน 3 กลไก และเสนอเพิ่มช่องทางสื่อสาร กต.-ก.กลาโหม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071317

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    “มาริษ” ชี้ไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสายตาชาวโลก เผยนิมิตหมายดี “กัมพูชา” ยอมกลับมาพูดคุยทวิภาคีผ่าน 3 กลไก และเสนอเพิ่มช่องทางสื่อสาร กต.-ก.กลาโหม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071317 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 439 Views 0 Reviews
  • "ภูมิธรรม" คุย "ทรัมป์" สหรัฐฯ เสนอตัวช่วยประสานหยุดยิงชายแดน ย้ำต้องคุยทวิภาคี-กัมพูชาต้องจริงใจ
    https://www.thai-tai.tv/news/20567/
    .
    #ภูมิธรรมเวชชยชัย #โดนัลด์ทรัมป์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #เจรจาทวิภาคี #สันติภาพ #บทบาทสหรัฐ #ไทยไท
    "ภูมิธรรม" คุย "ทรัมป์" สหรัฐฯ เสนอตัวช่วยประสานหยุดยิงชายแดน ย้ำต้องคุยทวิภาคี-กัมพูชาต้องจริงใจ https://www.thai-tai.tv/news/20567/ . #ภูมิธรรมเวชชยชัย #โดนัลด์ทรัมป์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #เจรจาทวิภาคี #สันติภาพ #บทบาทสหรัฐ #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 192 Views 0 Reviews
  • รมว.ต่างประเทศแถลง ยันชี้แจงเวทียูเอ็นแล้ว ย้ำกัมพูชาละเมิดอธิปไตยและกฎหมายระหว่างประเทศตลอด ล่าสุดละเมิดอนุสัญญาออตตาวาวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตอธิปไตยของไทย เผยพบประธาน UNSC ยื่นหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ย้ำกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน ส่วนที่ประชุม UNSC เมื่อเช้าไม่ได้เน้นประเด็นใดเป็นพิเศษ แค่กล่าวหลักการกว้าง ๆ เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้การยับยั้งชั่งใจ ลดความตึงเครียด หยุดยิง และแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ใช้การทูตและการเจรจาทวิภาคี สนับสนุนบทบาทของอาเซียน โดยที่ประชุม UNSC ไม่ได้มีมติหรือการออกเอกสารใด ๆ

    วันนี้(26 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ มีรายละเอียดคำแถลงดังนี้

    ผมเพิ่งเดินทางกลับถึงไทยเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา หลังจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ High-Level Political Forum (HLPF) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

    ในห้วงการประชุมดังกล่าว ผมได้มีโอกาสพบหารือกับผู้แทนระดับสูงจาก UN และประเทศต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ผมจึงขอถือโอกาสมาแถลงถึงผลการเยือน เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบ
    ประเด็นแรก พัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000070557

    #Thaitimes #MGROnline #ทูตทหารไทย #กัมพูชา #ไทยกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา
    รมว.ต่างประเทศแถลง ยันชี้แจงเวทียูเอ็นแล้ว ย้ำกัมพูชาละเมิดอธิปไตยและกฎหมายระหว่างประเทศตลอด ล่าสุดละเมิดอนุสัญญาออตตาวาวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตอธิปไตยของไทย เผยพบประธาน UNSC ยื่นหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ย้ำกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน ส่วนที่ประชุม UNSC เมื่อเช้าไม่ได้เน้นประเด็นใดเป็นพิเศษ แค่กล่าวหลักการกว้าง ๆ เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้การยับยั้งชั่งใจ ลดความตึงเครียด หยุดยิง และแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ใช้การทูตและการเจรจาทวิภาคี สนับสนุนบทบาทของอาเซียน โดยที่ประชุม UNSC ไม่ได้มีมติหรือการออกเอกสารใด ๆ • วันนี้(26 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ มีรายละเอียดคำแถลงดังนี้ • ผมเพิ่งเดินทางกลับถึงไทยเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา หลังจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ High-Level Political Forum (HLPF) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา • ในห้วงการประชุมดังกล่าว ผมได้มีโอกาสพบหารือกับผู้แทนระดับสูงจาก UN และประเทศต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ผมจึงขอถือโอกาสมาแถลงถึงผลการเยือน เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบ ประเด็นแรก พัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000070557 • #Thaitimes #MGROnline #ทูตทหารไทย #กัมพูชา #ไทยกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 609 Views 0 Reviews
  • กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาร่อนแถลงการณ์โต้ไทย ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องทุ่นระเบิด เผยทหารไทยเข้ามาพื้นที่กัมพูชาโดยละเมิด แม้กัมพูชาจะเตือนถึงทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากความขัดแย้งมาหลายทศวรรษ
    .
    แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
    .
    กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
    .
    กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เรื่อง “การประท้วงต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ซึ่งกล่าวหากัมพูชาว่าได้วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บเมื่อเร็วๆ นี้
    .
    รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผลและไร้เหตุผลเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ในฐานะรัฐภาคีที่ยึดมั่นในหลักการและเจตนารมณ์ของอนุสัญญาออตตาวาอย่างเต็มที่ กัมพูชาขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาใดๆ ที่ว่ากัมพูชาได้ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญานี้ ความพยายามและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกัมพูชาในปฏิบัติการทุ่นระเบิดได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการกำจัดเศษระเบิดจากสงครามในดินแดนของตน และการมีส่วนร่วมของกัมพูชาในปฏิบัติการกู้ระเบิดของสหประชาชาติในประเทศอื่นๆ หลังสงคราม
    .
    กระทรวงฯ ขอย้ำข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจัมโบะ จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่กัมพูชายอมรับในระดับสากล ดินแดนนี้ถูกกำหนดโดยแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่จัดทำโดยคณะกรรมาธิการผสมฝรั่งเศส-สยาม ตามอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 แผนที่เหล่านี้ได้รับการยอมรับจากทั้งรัฐบาลกัมพูชาและไทยมาเป็นเวลานานในฐานะพื้นฐานที่เชื่อถือได้สำหรับการกำหนดเขตแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นแผนที่อ้างอิงสำหรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคำพิพากษา ค.ศ. 1962 และการตีความเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ค.ศ. 2013 อีกด้วย
    .
    เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่งที่ทหารไทยได้เข้ามาในพื้นที่นี้โดยละเมิดบันทึกความเข้าใจ ค.ศ. 2000 ซึ่งกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนร่วมกันอย่างชัดเจน และห้ามมิให้มีกิจกรรมฝ่ายเดียวในพื้นที่ที่ไม่มีเส้นแบ่งเขต แม้ว่ากัมพูชาจะเตือนถึงอันตรายจากทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากของความขัดแย้งทางอาวุธหลายทศวรรษ แต่กองทัพไทยกลับเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางลาดตระเวนที่เคยประสานงานกันไว้ก่อนหน้านี้ระหว่างสองประเทศ และสร้างเส้นทางใหม่ผ่านดินแดนกัมพูชา การกระทำที่ขาดความรับผิดชอบนี้ถือเป็นการละเมิดความเข้าใจทวิภาคี ละเมิดดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา เป็นอันตรายต่อชีวิต และบั่นทอนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน นี่ยังไม่รวมถึงเจตนาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมายที่กองทัพไทยประกาศใช้ในการบังคับใช้กฎเกณฑ์สำหรับการเข้ามา ของนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญที่เข้าไปในวัดทาโมนธม (ปราสาทตาเมือนธม) โดยอ้างอำนาจอธิปไตยของไทยเหนือพื้นที่วัด
    .
    แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ไทยก็ยังคงออกแถลงการณ์ที่ขาดความระมัดระวังและทำให้เข้าใจผิด โดยกล่าวอ้างอย่างเท็จว่าได้กวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดทุ่นระเบิดแล้ว ในความเป็นจริง ทหารกัมพูชายังคงประจำการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และไม่มีกิจกรรมกวาดล้างทุ่นระเบิดตามที่ไทยอ้าง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชา แทนที่จะยอมรับความจริงและรับผิดชอบ ไทยกลับยังคงเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อทั้งสาธารณชนและประชาคมระหว่างประเทศ กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติการดำเนินการดังกล่าวโดยทันที และดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขข้อมูลที่บิดเบือน
    .
    เหตุการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นที่ทั้งสองประเทศต้องเร่งดำเนินการหาข้อยุติโดยสันติและมีผลผูกพันทางกฎหมายผ่านกลไกระหว่างประเทศที่เหมาะสม ดังนั้น กัมพูชาจึงขอย้ำจุดยืนที่มีมายาวนานว่าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรตุลาการหลักของสหประชาชาติ เป็นเวทีที่น่าเชื่อถือและเป็นกลางที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนที่เหลืออยู่ระหว่างสองประเทศ กัมพูชาขอเรียกร้องให้ประเทศไทยยอมรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในเรื่องนี้ด้วยความสุจริตใจ โดยปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ และด้วยความมุ่งมั่นอย่างจริงใจที่จะแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนอย่างยุติธรรม เป็นธรรม และสันติ เพื่อประกันสันติภาพที่ยั่งยืน ป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอีก และส่งเสริมเสถียรภาพระยะยาวของทั้งสองประเทศและภูมิภาคโดยรวม
    .
    พนมเปญ 21 กรกฎาคม 2568
    กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาร่อนแถลงการณ์โต้ไทย ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องทุ่นระเบิด เผยทหารไทยเข้ามาพื้นที่กัมพูชาโดยละเมิด แม้กัมพูชาจะเตือนถึงทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากความขัดแย้งมาหลายทศวรรษ . แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา . กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล . กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เรื่อง “การประท้วงต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ซึ่งกล่าวหากัมพูชาว่าได้วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บเมื่อเร็วๆ นี้ . รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผลและไร้เหตุผลเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ในฐานะรัฐภาคีที่ยึดมั่นในหลักการและเจตนารมณ์ของอนุสัญญาออตตาวาอย่างเต็มที่ กัมพูชาขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาใดๆ ที่ว่ากัมพูชาได้ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญานี้ ความพยายามและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกัมพูชาในปฏิบัติการทุ่นระเบิดได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการกำจัดเศษระเบิดจากสงครามในดินแดนของตน และการมีส่วนร่วมของกัมพูชาในปฏิบัติการกู้ระเบิดของสหประชาชาติในประเทศอื่นๆ หลังสงคราม . กระทรวงฯ ขอย้ำข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจัมโบะ จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่กัมพูชายอมรับในระดับสากล ดินแดนนี้ถูกกำหนดโดยแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่จัดทำโดยคณะกรรมาธิการผสมฝรั่งเศส-สยาม ตามอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 แผนที่เหล่านี้ได้รับการยอมรับจากทั้งรัฐบาลกัมพูชาและไทยมาเป็นเวลานานในฐานะพื้นฐานที่เชื่อถือได้สำหรับการกำหนดเขตแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นแผนที่อ้างอิงสำหรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคำพิพากษา ค.ศ. 1962 และการตีความเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ค.ศ. 2013 อีกด้วย . เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่งที่ทหารไทยได้เข้ามาในพื้นที่นี้โดยละเมิดบันทึกความเข้าใจ ค.ศ. 2000 ซึ่งกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนร่วมกันอย่างชัดเจน และห้ามมิให้มีกิจกรรมฝ่ายเดียวในพื้นที่ที่ไม่มีเส้นแบ่งเขต แม้ว่ากัมพูชาจะเตือนถึงอันตรายจากทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากของความขัดแย้งทางอาวุธหลายทศวรรษ แต่กองทัพไทยกลับเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางลาดตระเวนที่เคยประสานงานกันไว้ก่อนหน้านี้ระหว่างสองประเทศ และสร้างเส้นทางใหม่ผ่านดินแดนกัมพูชา การกระทำที่ขาดความรับผิดชอบนี้ถือเป็นการละเมิดความเข้าใจทวิภาคี ละเมิดดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา เป็นอันตรายต่อชีวิต และบั่นทอนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน นี่ยังไม่รวมถึงเจตนาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมายที่กองทัพไทยประกาศใช้ในการบังคับใช้กฎเกณฑ์สำหรับการเข้ามา ของนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญที่เข้าไปในวัดทาโมนธม (ปราสาทตาเมือนธม) โดยอ้างอำนาจอธิปไตยของไทยเหนือพื้นที่วัด . แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ไทยก็ยังคงออกแถลงการณ์ที่ขาดความระมัดระวังและทำให้เข้าใจผิด โดยกล่าวอ้างอย่างเท็จว่าได้กวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดทุ่นระเบิดแล้ว ในความเป็นจริง ทหารกัมพูชายังคงประจำการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และไม่มีกิจกรรมกวาดล้างทุ่นระเบิดตามที่ไทยอ้าง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชา แทนที่จะยอมรับความจริงและรับผิดชอบ ไทยกลับยังคงเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อทั้งสาธารณชนและประชาคมระหว่างประเทศ กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติการดำเนินการดังกล่าวโดยทันที และดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขข้อมูลที่บิดเบือน . เหตุการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นที่ทั้งสองประเทศต้องเร่งดำเนินการหาข้อยุติโดยสันติและมีผลผูกพันทางกฎหมายผ่านกลไกระหว่างประเทศที่เหมาะสม ดังนั้น กัมพูชาจึงขอย้ำจุดยืนที่มีมายาวนานว่าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรตุลาการหลักของสหประชาชาติ เป็นเวทีที่น่าเชื่อถือและเป็นกลางที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนที่เหลืออยู่ระหว่างสองประเทศ กัมพูชาขอเรียกร้องให้ประเทศไทยยอมรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในเรื่องนี้ด้วยความสุจริตใจ โดยปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ และด้วยความมุ่งมั่นอย่างจริงใจที่จะแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนอย่างยุติธรรม เป็นธรรม และสันติ เพื่อประกันสันติภาพที่ยั่งยืน ป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอีก และส่งเสริมเสถียรภาพระยะยาวของทั้งสองประเทศและภูมิภาคโดยรวม . พนมเปญ 21 กรกฎาคม 2568
    0 Comments 0 Shares 576 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลไทยออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุด กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ที่ช่องบก อุบลราชธานี ยันไม่ใช่ของไทย ละเมิดอธิปไตยและอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิด ขู่ใช้กลไกทวิภาคีและเรียกร้องให้เก็บกู้ทันที

    “ตามที่เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น

    รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่ข้อสรุปได้ว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง

    รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุด ต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและ บูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน

    ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง ๆ ที่มีอยู่ และขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดนตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันภายในกรอบทวิภาคี“


    รัฐบาลไทยออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุด กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ที่ช่องบก อุบลราชธานี ยันไม่ใช่ของไทย ละเมิดอธิปไตยและอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิด ขู่ใช้กลไกทวิภาคีและเรียกร้องให้เก็บกู้ทันที “ตามที่เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่ข้อสรุปได้ว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุด ต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและ บูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง ๆ ที่มีอยู่ และขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดนตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันภายในกรอบทวิภาคี“
    0 Comments 0 Shares 520 Views 0 Reviews
  • กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ประท้วงอย่างรุนแรงต่อกัมพูชา กรณีวางทุ่นระเบิดที่ช่องบก ทำทหารไทยบาดเจ็บ 3 นาย ชี้ละเมิดอธิปไตยไทย ขัดหลักกฎหมายสากลและอนุสัญญาห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหาร เรียกร้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามที่นายกฯ ทั้งสองฝ่ายตกลงกันในกรอบทวิภาคี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068292

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ประท้วงอย่างรุนแรงต่อกัมพูชา กรณีวางทุ่นระเบิดที่ช่องบก ทำทหารไทยบาดเจ็บ 3 นาย ชี้ละเมิดอธิปไตยไทย ขัดหลักกฎหมายสากลและอนุสัญญาห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหาร เรียกร้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามที่นายกฯ ทั้งสองฝ่ายตกลงกันในกรอบทวิภาคี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068292 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    2 Comments 0 Shares 609 Views 0 Reviews
  • ทัพไทยย้ำไม่นิ่งนอนใจ! กรณีพลทหารเหยียบกับระเบิดชายแดนอุบลฯ หากพบวางใหม่ พร้อมตอบโต้
    https://www.thai-tai.tv/news/20390/
    .
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #กับระเบิด #พลทหารบาดเจ็บ #อนุสัญญาออตตาวา #อธิปไตยไทย #กองทัพไทย #กระทรวงการต่างประเทศ #ชายแดนอุบล #เจรจาทวิภาคี #สถานการณ์ชายแดน

    ทัพไทยย้ำไม่นิ่งนอนใจ! กรณีพลทหารเหยียบกับระเบิดชายแดนอุบลฯ หากพบวางใหม่ พร้อมตอบโต้ https://www.thai-tai.tv/news/20390/ . #ชายแดนไทยกัมพูชา #กับระเบิด #พลทหารบาดเจ็บ #อนุสัญญาออตตาวา #อธิปไตยไทย #กองทัพไทย #กระทรวงการต่างประเทศ #ชายแดนอุบล #เจรจาทวิภาคี #สถานการณ์ชายแดน
    0 Comments 0 Shares 299 Views 0 Reviews
  • โฆษก ศบ.ทก.ด้านการต่างประเทศ เผยสถานการณ์ภาพรวมจุดผ่านแดนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เรียกร้องกัมพูชาประสานเวลาเปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมเรียกร้องกัมพูชาตระหนักถึงผลกระทบต่อการค้าในภูมิภาคจากการปิดด่านโดยไม่มีเหตุผล ยืนยัน กต.ไม่นิ่งนอนใจ รอผลตรวจสอบจากกองทัพ หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ พร้อมส่งหนังสือประท้วงตามกลไกทวิภาคีและช่องทางที่เหมาะสม

    วันนี้(18 ก.ค.) นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ด้านการต่างประเทศ แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า สถานการณ์ในพื้นที่โดยรวมจุดผ่านแดนทุกแห่ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ฝ่ายไทยยังคงความเข้มงวดในการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ เพื่อความมั่นคง ปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ปิดด่าน เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพิ่มเติม ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ยังอนุโลมการผ่านแดนสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นตามหลักมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำในข้อเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาประสานเวลาการเปิดปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่มีความจำเป็นที่จะข้ามแดน และเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันทั้งสองประเทศ หากฝ่ายกัมพูชามีความจริงใจที่จะจัดการกับเรื่องดังกล่าวตามที่ได้มีการประกาศไว้ ก็ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่สื่อจากต่างประเทศบางแห่งก็ได้ตั้งข้อสังเกต ถึงการจริงจังของฝ่ายกัมพูชา ว่าจะมีมาตรการเหล่านี้อย่างไร พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวได้ผลต่อเมื่อมีการประสานงานในเรื่องบริหารจุดผ่านแดนกับฝ่ายไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000067650

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    โฆษก ศบ.ทก.ด้านการต่างประเทศ เผยสถานการณ์ภาพรวมจุดผ่านแดนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เรียกร้องกัมพูชาประสานเวลาเปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมเรียกร้องกัมพูชาตระหนักถึงผลกระทบต่อการค้าในภูมิภาคจากการปิดด่านโดยไม่มีเหตุผล ยืนยัน กต.ไม่นิ่งนอนใจ รอผลตรวจสอบจากกองทัพ หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ พร้อมส่งหนังสือประท้วงตามกลไกทวิภาคีและช่องทางที่เหมาะสม • วันนี้(18 ก.ค.) นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ด้านการต่างประเทศ แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า สถานการณ์ในพื้นที่โดยรวมจุดผ่านแดนทุกแห่ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ฝ่ายไทยยังคงความเข้มงวดในการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ เพื่อความมั่นคง ปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ปิดด่าน เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพิ่มเติม ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ยังอนุโลมการผ่านแดนสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นตามหลักมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำในข้อเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาประสานเวลาการเปิดปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่มีความจำเป็นที่จะข้ามแดน และเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันทั้งสองประเทศ หากฝ่ายกัมพูชามีความจริงใจที่จะจัดการกับเรื่องดังกล่าวตามที่ได้มีการประกาศไว้ ก็ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่สื่อจากต่างประเทศบางแห่งก็ได้ตั้งข้อสังเกต ถึงการจริงจังของฝ่ายกัมพูชา ว่าจะมีมาตรการเหล่านี้อย่างไร พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวได้ผลต่อเมื่อมีการประสานงานในเรื่องบริหารจุดผ่านแดนกับฝ่ายไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000067650 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 571 Views 0 Reviews
  • นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ได้ยืนยันถึงจุดยืนและหลักการที่ชัดเจนของรัฐบาลกัมพูชาในการแก้ไขความตึงเครียดชายแดนกับไทย

    ผู้นำกัมพูชาได้กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดศูนย์ฝึกกองราชอาวุธหัถต์ พนมชุม เซน ริกเรย จ.กำปงชนัง ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 32 ปี การสถาปนากองราชอาวุธหัถต์ โดยระบุว่า กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาโดยสันติบนพื้นฐานของกฎหมายและกลไกทวิภาคี

    “เรายังคงดำเนินการแก้ไขความตึงเครียดชายแดนโดยใช้พื้นฐานทางกฎหมายและเทคนิคภายใต้กฎหมายระดับชาติและระหว่างประเทศ รวมถึงกลไกทวิภาคี ยกเว้นใน 4 พื้นที่อ่อนไหว ที่ประกอบด้วย ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มอมเบย (สามเหลี่ยมมรกต) เรามุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง แต่กัมพูชาขอสงวนสิทธิในการป้องกันตนเองและคุ้มครองอธิปไตยทุกวิถีทาง” ฮุน มาเนต กล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000066126

    #Thaitimes #MGROnline #ฮุนมาเนต #กัมพูชา
    นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ได้ยืนยันถึงจุดยืนและหลักการที่ชัดเจนของรัฐบาลกัมพูชาในการแก้ไขความตึงเครียดชายแดนกับไทย • ผู้นำกัมพูชาได้กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดศูนย์ฝึกกองราชอาวุธหัถต์ พนมชุม เซน ริกเรย จ.กำปงชนัง ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 32 ปี การสถาปนากองราชอาวุธหัถต์ โดยระบุว่า กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาโดยสันติบนพื้นฐานของกฎหมายและกลไกทวิภาคี • “เรายังคงดำเนินการแก้ไขความตึงเครียดชายแดนโดยใช้พื้นฐานทางกฎหมายและเทคนิคภายใต้กฎหมายระดับชาติและระหว่างประเทศ รวมถึงกลไกทวิภาคี ยกเว้นใน 4 พื้นที่อ่อนไหว ที่ประกอบด้วย ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มอมเบย (สามเหลี่ยมมรกต) เรามุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง แต่กัมพูชาขอสงวนสิทธิในการป้องกันตนเองและคุ้มครองอธิปไตยทุกวิถีทาง” ฮุน มาเนต กล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000066126 • #Thaitimes #MGROnline #ฮุนมาเนต #กัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 488 Views 0 Reviews
  • กต.เขมรโต้กลับ ยันไทยละเมิด MOU 43 ซ้ำซาก เตรียมวิ่งแจ้นฟ้องศาลโลก เหตุกลไกทวิภาคีไร้ผล
    https://www.thai-tai.tv/news/20100/
    .
    #กัมพูชา #ไทย #MOU43 #เขตแดน #ศาลโลก #ICJ #กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา #กระทรวงการต่างประเทศไทย #JBC #แผนที่สยามฝรั่งเศส #ข้อพิพาทชายแดน #กฎหมายระหว่างประเทศ #อธิปไตย #การเมืองระหว่างประเทศ
    กต.เขมรโต้กลับ ยันไทยละเมิด MOU 43 ซ้ำซาก เตรียมวิ่งแจ้นฟ้องศาลโลก เหตุกลไกทวิภาคีไร้ผล https://www.thai-tai.tv/news/20100/ . #กัมพูชา #ไทย #MOU43 #เขตแดน #ศาลโลก #ICJ #กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา #กระทรวงการต่างประเทศไทย #JBC #แผนที่สยามฝรั่งเศส #ข้อพิพาทชายแดน #กฎหมายระหว่างประเทศ #อธิปไตย #การเมืองระหว่างประเทศ
    0 Comments 0 Shares 433 Views 0 Reviews
  • กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาว สำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC

    หลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน 8 ข้อ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ประณามฝ่ายไทยว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาจากการที่ทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าไปยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชาต้องตัดสินใจนำข้อพิพาทกับไทย 4 พื้นที่ไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICJ เพื่อหาทางยุติปัญหาโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศนั้น ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็นและท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000063597

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาว สำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC • หลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน 8 ข้อ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ประณามฝ่ายไทยว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาจากการที่ทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าไปยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชาต้องตัดสินใจนำข้อพิพาทกับไทย 4 พื้นที่ไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICJ เพื่อหาทางยุติปัญหาโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศนั้น ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็นและท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000063597 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 592 Views 0 Reviews
More Results