• UK House of Lords พยายามห้ามเยาวชนใช้ VPN

    รายงานจาก Alec Muffett ระบุว่า สภาขุนนางแห่งสหราชอาณาจักร (UK House of Lords) กำลังพิจารณากฎหมายที่มีเป้าหมายห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN (Virtual Private Network) โดยให้เหตุผลว่าเป็นการป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย.

    อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์จำนวนมากมองว่ามาตรการนี้เป็นการ ละเมิดเสรีภาพดิจิทัล และอาจทำให้เยาวชนสูญเสียเครื่องมือสำคัญในการปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์. VPN ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและป้องกันการสอดส่องจากบุคคลที่สาม รวมถึงช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์.

    การห้ามใช้ VPN อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูลของเยาวชน โดยเฉพาะในยุคที่การศึกษาและการสื่อสารจำนวนมากอาศัยแพลตฟอร์มออนไลน์. นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า กฎหมายลักษณะนี้อาจถูกใช้เป็น ข้ออ้างในการควบคุมอินเทอร์เน็ต และเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์มากขึ้น.

    นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิ์ดิจิทัลเตือนว่า หากกฎหมายนี้ผ่าน อาจเป็น แบบอย่างที่อันตราย ซึ่งประเทศอื่น ๆ อาจนำไปใช้ตาม และจะกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อเสนอจาก UK House of Lords
    ห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN
    อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยและการป้องกันเนื้อหาไม่เหมาะสม

    บทบาทของ VPN
    ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและปกป้องความเป็นส่วนตัว
    ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    เยาวชนสูญเสียเครื่องมือปกป้องข้อมูลออนไลน์
    กระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูล

    ข้อกังวลและคำเตือน
    อาจเป็นการละเมิดเสรีภาพดิจิทัลและเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์
    หากผ่านกฎหมาย อาจเป็นแบบอย่างที่ประเทศอื่นนำไปใช้ตาม

    https://alecmuffett.com/article/134925
    🛑 UK House of Lords พยายามห้ามเยาวชนใช้ VPN รายงานจาก Alec Muffett ระบุว่า สภาขุนนางแห่งสหราชอาณาจักร (UK House of Lords) กำลังพิจารณากฎหมายที่มีเป้าหมายห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN (Virtual Private Network) โดยให้เหตุผลว่าเป็นการป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย. อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์จำนวนมากมองว่ามาตรการนี้เป็นการ ละเมิดเสรีภาพดิจิทัล และอาจทำให้เยาวชนสูญเสียเครื่องมือสำคัญในการปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์. VPN ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและป้องกันการสอดส่องจากบุคคลที่สาม รวมถึงช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์. การห้ามใช้ VPN อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูลของเยาวชน โดยเฉพาะในยุคที่การศึกษาและการสื่อสารจำนวนมากอาศัยแพลตฟอร์มออนไลน์. นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า กฎหมายลักษณะนี้อาจถูกใช้เป็น ข้ออ้างในการควบคุมอินเทอร์เน็ต และเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์มากขึ้น. นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิ์ดิจิทัลเตือนว่า หากกฎหมายนี้ผ่าน อาจเป็น แบบอย่างที่อันตราย ซึ่งประเทศอื่น ๆ อาจนำไปใช้ตาม และจะกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อเสนอจาก UK House of Lords ➡️ ห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN ➡️ อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยและการป้องกันเนื้อหาไม่เหมาะสม ✅ บทบาทของ VPN ➡️ ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและปกป้องความเป็นส่วนตัว ➡️ ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์ ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ เยาวชนสูญเสียเครื่องมือปกป้องข้อมูลออนไลน์ ➡️ กระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูล ‼️ข้อกังวลและคำเตือน ⛔ อาจเป็นการละเมิดเสรีภาพดิจิทัลและเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์ ⛔ หากผ่านกฎหมาย อาจเป็นแบบอย่างที่ประเทศอื่นนำไปใช้ตาม https://alecmuffett.com/article/134925
    ALECMUFFETT.COM
    IT GETS WORSE: UK House of Lords attempting to ban use of VPNs by anyone under 16
    This is deranged, each nation’s boomers and reactionaries attempting to outdo the others: “Action to prohibit the provision of VPN services to children in the United Kingdom” … th…
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • Framework ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กแบบโมดูลาร์ ออกมาโจมตีคู่แข่งเรื่องราคา RAM

    Framework กล่าวว่าการอัปเกรด RAM บนโน้ตบุ๊ก Dell และ Apple มีราคาสูงเกินจริง เช่น Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บถึง 550 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB (แม้ภายหลังจะถูกแก้ไขว่าเป็นความเข้าใจผิด) ขณะที่ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB มานานหลายปี

    จุดยืนของ Framework
    Framework ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาที่จะเกิดขึ้นเป็นผลจากต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น แต่จะไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการเอาเปรียบลูกค้า โดยปัจจุบันการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB บนโน้ตบุ๊ก Framework มีค่าใช้จ่ายเพียง 80 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่างมาก

    สถานการณ์ตลาดหน่วยความจำ
    ตลาด DRAM กำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตหลายราย เช่น CyberPowerPC และ Minisforum ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าที่ใช้ RAM และ SSD โดยบางรายเพิ่มราคามากกว่า 100% ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและพีซี

    ความหมายต่อผู้บริโภค
    การออกมาโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์ของ Framework ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ “เป็นมิตรกับผู้ใช้” และโปร่งใสด้านราคา แม้จะต้องขึ้นราคาตามตลาด แต่ก็ยังพยายามรักษาความยุติธรรมในการขาย ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความแตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การโจมตีคู่แข่ง
    Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บ 550 ดอลลาร์สำหรับอัปเกรด RAM
    Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB

    จุดยืนของ Framework
    จะขึ้นราคาตามต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น
    ปัจจุบันอัปเกรด 16GB → 32GB เพียง 80 ดอลลาร์

    สถานการณ์ตลาด DRAM
    ภาวะขาดแคลนทำให้หลายบริษัทขึ้นราคา
    CyberPowerPC และ Minisforum ปรับขึ้นมากกว่า 100%

    ความหมายต่อผู้บริโภค
    Framework สร้างภาพลักษณ์โปร่งใสและยุติธรรม
    แตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ถูกมองว่า “โก่งราคา”

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ราคาหน่วยความจำมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง
    ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายแพงขึ้นแม้กับแบรนด์ที่โปร่งใส
    ตลาด DRAM ยังมีความเสี่ยงจากการขาดแคลนและการเก็งกำไร

    https://www.tomshardware.com/laptops/framework-puts-dell-and-apple-on-blast-over-egregious-ram-prices-modular-laptop-maker-will-be-forced-to-increase-memory-prices-but-wont-gouge-customers-like-other-vendors
    💻 Framework ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กแบบโมดูลาร์ ออกมาโจมตีคู่แข่งเรื่องราคา RAM Framework กล่าวว่าการอัปเกรด RAM บนโน้ตบุ๊ก Dell และ Apple มีราคาสูงเกินจริง เช่น Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บถึง 550 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB (แม้ภายหลังจะถูกแก้ไขว่าเป็นความเข้าใจผิด) ขณะที่ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB มานานหลายปี 🛠️ จุดยืนของ Framework Framework ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาที่จะเกิดขึ้นเป็นผลจากต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น แต่จะไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการเอาเปรียบลูกค้า โดยปัจจุบันการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB บนโน้ตบุ๊ก Framework มีค่าใช้จ่ายเพียง 80 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่างมาก ⚡ สถานการณ์ตลาดหน่วยความจำ ตลาด DRAM กำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตหลายราย เช่น CyberPowerPC และ Minisforum ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าที่ใช้ RAM และ SSD โดยบางรายเพิ่มราคามากกว่า 100% ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและพีซี 🔍 ความหมายต่อผู้บริโภค การออกมาโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์ของ Framework ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ “เป็นมิตรกับผู้ใช้” และโปร่งใสด้านราคา แม้จะต้องขึ้นราคาตามตลาด แต่ก็ยังพยายามรักษาความยุติธรรมในการขาย ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความแตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การโจมตีคู่แข่ง ➡️ Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บ 550 ดอลลาร์สำหรับอัปเกรด RAM ➡️ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB ✅ จุดยืนของ Framework ➡️ จะขึ้นราคาตามต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น ➡️ ปัจจุบันอัปเกรด 16GB → 32GB เพียง 80 ดอลลาร์ ✅ สถานการณ์ตลาด DRAM ➡️ ภาวะขาดแคลนทำให้หลายบริษัทขึ้นราคา ➡️ CyberPowerPC และ Minisforum ปรับขึ้นมากกว่า 100% ✅ ความหมายต่อผู้บริโภค ➡️ Framework สร้างภาพลักษณ์โปร่งใสและยุติธรรม ➡️ แตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ถูกมองว่า “โก่งราคา” ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ราคาหน่วยความจำมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ⛔ ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายแพงขึ้นแม้กับแบรนด์ที่โปร่งใส ⛔ ตลาด DRAM ยังมีความเสี่ยงจากการขาดแคลนและการเก็งกำไร https://www.tomshardware.com/laptops/framework-puts-dell-and-apple-on-blast-over-egregious-ram-prices-modular-laptop-maker-will-be-forced-to-increase-memory-prices-but-wont-gouge-customers-like-other-vendors
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • ลองเชิง ตอนที่ 3

    “ลองเชิง”
    ตอน 3
    ซีเรีย ทำท่าจะกลายเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ผู้กำกับมากันเพียบ ผู้อำนวยการสร้างก็จากหลายแหล่ง ตอนนี้ดูเหมือนกำลังซุบซิบ กั้นเขตหรือกินเขตกันอยู่ ไม่รู้ตกลงใครจะสร้างโรงถ่ายตรงไหน ส่วนไหนของตะวันออกกลาง ไม่ใช่แค่บริเวณซีเรีย ซี่งคงจะกลายเป็นสนามประลองยุทธ์ที่น่าติดตาม ดาราใหญ่จะเข้าฉากเล่นเอง หรือให้ดาราเล็กๆ เล่นกันไปก่อนยังไม่แน่ บางค่ายราคาคุยแยะ ส่งแต่สตั้นท์แมนรับจ้างมาเข้าฉาก เขาจะเล่น กันขนาดไหนยังไม่รู้ แต่อย่างน้อย เราควรรู้กันไว้บ้างว่า ใครเป็นใคร ใครเป็นพวกกับใคร ใครน่าจะรับบทไหน จะได้ดูหนังเรื่องซีเรีย ตะวันออกกลางรู้เรื่อง เดี๋ยวจะชวนกันออกอ่าวสนุกสนาน อย่าออกอ่าวไปไกลนักครับ เดี๋ยวกลับไม่ถูก ผมจะขอเอาเรือรบรัสเซีย เรือรบจีนไปรับ เขาก็บอกว่าไม่ว่าง ตอนนี้ต่างก็ติดภาระกิจยุ่งกันทั้งนั้น 555
    เพื่อความเข้าใจ สถานะและความสัมพันธ์ของตัวละคร เกี่ยวกับตะวันออกกลาง ผมขอย้อนหลังไปหน่อย
    หลังเหตุการณ์ 9/11 การถล่มตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ เมื่อปี ค.ศ.2001 อเมริกาถือโอกาสใช้เป็นข้ออ้างเข้าไปแทรกแซงในตะวันออกกลางอย่างเต็มสูบ ในช่วง ค.ศ.2003 และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศในแถบตะวันออกกลางและภูมิภาคใกล้เคียงแตกแยกชัดเจน แบ่งเป็น 2 ค่าย กับอีก 3 เสี้ยว
    ค่ายหนึ่งคือ ค่ายที่เอาอเมริกา นำโดยเสี่ยปั้มใหญ่ ซาอุดิอารเบียกับพวกเสี่ยปั้มหนุ่มสำอางค์ทั้งหลายแถบอ่าว ไล่มาตั้งแต่ คูเวต บาห์เรน การต้า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน เดิมมีอิรัคด้วย แต่ปัจจุบัน อิรัคน่าจะย้ายค่ายไปอยู่ฝั่งไม่เอาอเมริกาไปแล้ว เสี่ยปั้มใหญ่คงกลัวเสียหน้า ลูกน้องหนี เลยเอาจอร์แดนมารวมด้วย แต่ก็รวมอย่างเขินๆ เพราะจอร์แดนถือว่าตัวเองควรเป็นเจ้าของตะวันออกกลางทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ เพราะถูกอังกฤษหลอกต้มเอาไว้อย่างนั้น มาอยู่ใต้ปีกเสี่ยปั้มนี่ ออกจะเสียหน้า แต่คงพอทนเพราะมีค่าทนชดเชย (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องอังกฤษต้มตะวันออกกลาง ได้ในนิทานเรื่อง “เหยื่อ” ครับ ตามลิงค์นี้ https://www.dropbox.com/s/i3psv6qf7v9iqew/victim.pdf)
    อีกค่ายหนึ่ง เป็นค่ายที่ไม่เอาอเมริกา ค่ายนี้ ไม่ใช่แค่ไม่เอาเฉยๆ เขาต่อต้านอเมริกาอย่างเปิดเผย และไม่หยุดยั้งด้วย มีตัวยืนโรงตัวใหญ่ คืออิหร่าน ซีเรีย เลบานอน (กลุ่มเฮซบอลเล์าะ) ปาเลสไตน์( กลุ่มกองกำลังปาเลสไตน์ คือ พวกฮามาส) และเยเมนส่วนใต้
    สำหรับชาวโลกทั่วไป ฟังจากข่าวฟอกย้อมของตะวันตก คงมองค่ายหลังนี้ เป็นตัวร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือฆาตกรไปแล้ว
    อีกเสี้ยวหนึ่ง คือ อิสราเอล อยู่ในตะวันออกกลาง แต่ไม่ถือว่าตนเองเป็นคนตะวันอ อกกลาง ไม่รักซาอุ เกลียดอิหร่าน และไม่ชอบใครเลย ชอบแต่ยิวด้วยกัน ประเทศที่มียิวไปอยู่แยะ ก็ใช่ว่าจะชอบ แค่หลอกใช้ อิสราเอลคือต้นไม้พิษ ที่อังกฤษเอาไปปลูกไว้ในตะวันออกกลาง แต่ให้อเมริกาเลี้ยงให้ การเอาอิสราเอลไปอยู่ตรงนั้น ถือเป็นยุทธศาสตร์ สุดยอด (ชั่ว) ของอังกฤษเลยทีเดียว
    เสี้ยวที่ 2 คือ ตุรกี ที่ก็ไม่นับว่าตนเองเป็นพวกตะวันออกกลาง แบบพวกเสี่ยปั้มทั้งหลาย ตุรกี ดูเหมือนทำตัวเป็นขี้ข้าอเมริกามาตลอด แต่จริงๆ ตุรกีเป็นนกหลายหัว และนกพันธุ์แสบไม่ธรรมดา ลูกเล่นแยะมาก แต่ล่าสุด ดูเหมือนจะเลือกค่ายแล้ว
    เสี้ยวที่ 3 คือ อียิปต์ ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในตะวันออกกลาง แต่โดยภูมิศาสตร์ อียิปต์อยู่ติดกับอิสราเอล และที่สำคัญ เป็นเจ้าของคลองสุเอซ ที่เป็นเส้นทางใหญ่ที่บรรดาเสี่ยปั้มใช้ขนส่งน้ำมันไปทางเมดิเตอร์เรเนียน อียิปต์จึงถูกล็อกคอ มาอยู่ในมืออเมริกา เพื่อกันไว้ไม่ให้ใครมายุ่งกับน้ำมันของพวกเสี่ยปั้ม ที่อเมริกาคุมอีกต่อ
    ค่ายใหญ่ 2 ค่าย มักมีเรื่องขัดแย้ง ขัดคอ แข่งขันกันอยู่เสมอ ทั้งในทางการเมือง และทางสื่อ เพื่อชิงความเป็นผู้นำในภูมิภาค โดยบริวณขัดแย้ง มักอยู่ที่ เลบานอน อิรัค และปาเลสไตน์
    และที่สำคัญ หัวหน้าค่ายใหญ่ของทั้ง 2 ค่าย คือ อิหร่าน และซาอุดิอารเบีย ไม่เคยถูกกันเลย ไม่เคยรักกัน และไม่มีวันจะรักกัน ซาอุดิอารเบีย แสดงอาการไม่ชอบใจ ไม่ไว้ใจ บ่น ด่า ซ้ำซาก ถึงอิหร่านอยู่ตลอดเวลา ว่า อิหร่านกำลังข่มขู่ชาวตะวันออกกลาง ด้วยการสร้างนิวเคลียร์ และ พยายามทำตัวเป็นพี่เบิ้มของตะวันออกกลาง เพราะฉนั้น ที่คิดว่า ซาอุ จะมาฝากผีฝากไข้ไว้กับรัสเซีย คิดว่าเป็นเรื่องเป็นไปได้หรือครับ ซาอุอาจจะมาพูดกับรัสเซีย รัสเซียก็คงฟัง เหมือนวันที่รัสเซียกำลังพูดกับอิสราเอล แล้วเรือรบจีน ไปจอดอยู่หน้าบ้านอิสราเอล ไม่กี่วันต่อมา ฟังทำนองนั้นแหละ ครับ
    รัสเซีย จีน อิหร่าน กว่าจะมาถึงวันนี้ เขาลงเรือลำเดียวกัน ฝ่าดงหนาม ดงตีน ที่อเมริกา อียู และพวกลูกกระเป๋ง ประเคนมาให้เท่าไหร่ เชื่อว่าไม่มีใครโดดหนีกลางทาง และไม่น่าจะรับผู้โดยสารระหว่างทาง ที่เพื่อนรังเกียจ หรือรังเกียจเพื่อน ขึ้นเรือมาด้วย ถึงที่หมายแล้ว ค่อยว่ากันอีกที แต่เป็นทีแบบไหน ก็ดูกันต่อไป
    ส่วนอิสราเอล ไม่สังกัด ไม่เข้าค่ายใด เพราะถือตัวว่าเป็นเส้นใหญ่สายตรงของอเมริกา ก็ไม่ชอบ ทั้งซาอุดิอารเบียและอิหร่าน แต่รู้สึกอิหร่านจะได้รับคำเอ่ยถึงในทางลบมากกว่า
    ส่วนอิหร่านก็ดูถูกซาอุดิว่า มีดีแค่รวยอย่างเดียว อยู่ทะเลทรายเสียเปล่า แต่ดันชอบเป็นชาวเกาะ เกาะอเมริกาเหมือนตัวเป็นลูกอ่อน และอิหร่านก็เห็นอิสราเอลเป็นคนนอก ที่เข้ามาแย่งที่ แถมข่มขู่คนในที่เป็นเจ้าของของเดิม แบบนี้ ก็คงไม่ได้แปลว่าอิหร่านพอใจอิสราเอล
    แต่หลังจากที่อเมริกา (อีกนั่นแหละ) จัดเทศกาลอาหรับสปริง ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2011 ตะวันออกกลาง ก็มีความมีความเปลี่ยนแปลงอีกรอบหนึ่ง และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ที่อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ของ การประลองยุทธ ที่กำลังดำเนินอยู่ในซีเรีย ตอนนี้
    หลังอาหรับสปริง ประเทศที่อยู่แถวหน้า เช่น ซาอุดิอารเบีย อิหร่าน และอิสราเอล ต่างได้รับผลกระทบ มีทั้งบวก ทั้งลบ แล้วแต่สถานการณ์จะสร้างผู้กล้า หรือสร้างผู้ขลาด ส่วนประเทศที่เคยยืนอยู่แถวหลังในภูมิภาค อย่างตุรกี และการ์ต้า กลับใช้โอกาส เพิ่มรัศมี เพิ่มอิทธิพล
    ส่วนประเทศใหญ่อีก 2 ประเทศ อิยิปต์ หรือซีเรีย กลับเซระเนระนาด จากความไม่สงบ ที่เกิดขึ้นในประเทศของตน และทำท่าจะยืดเยื้อลากยาว กระทบความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ ไปอีกนาน
    ผลที่ตามมา คือ 2 ค่ายในตะวันออกกลาง และทุกเสี้ยวที่กล่าวมาข้างต้น เกิดการแข่งขัน ขัดแย้ง รุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งทางด้านการเมือง ความมั่นคง และความแตกต่างทางนิกายศาสนา ที่อาหรับสปริง เพาะเชื้อไว้ อย่างแนบเนียน…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    2 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 3 “ลองเชิง” ตอน 3 ซีเรีย ทำท่าจะกลายเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ผู้กำกับมากันเพียบ ผู้อำนวยการสร้างก็จากหลายแหล่ง ตอนนี้ดูเหมือนกำลังซุบซิบ กั้นเขตหรือกินเขตกันอยู่ ไม่รู้ตกลงใครจะสร้างโรงถ่ายตรงไหน ส่วนไหนของตะวันออกกลาง ไม่ใช่แค่บริเวณซีเรีย ซี่งคงจะกลายเป็นสนามประลองยุทธ์ที่น่าติดตาม ดาราใหญ่จะเข้าฉากเล่นเอง หรือให้ดาราเล็กๆ เล่นกันไปก่อนยังไม่แน่ บางค่ายราคาคุยแยะ ส่งแต่สตั้นท์แมนรับจ้างมาเข้าฉาก เขาจะเล่น กันขนาดไหนยังไม่รู้ แต่อย่างน้อย เราควรรู้กันไว้บ้างว่า ใครเป็นใคร ใครเป็นพวกกับใคร ใครน่าจะรับบทไหน จะได้ดูหนังเรื่องซีเรีย ตะวันออกกลางรู้เรื่อง เดี๋ยวจะชวนกันออกอ่าวสนุกสนาน อย่าออกอ่าวไปไกลนักครับ เดี๋ยวกลับไม่ถูก ผมจะขอเอาเรือรบรัสเซีย เรือรบจีนไปรับ เขาก็บอกว่าไม่ว่าง ตอนนี้ต่างก็ติดภาระกิจยุ่งกันทั้งนั้น 555 เพื่อความเข้าใจ สถานะและความสัมพันธ์ของตัวละคร เกี่ยวกับตะวันออกกลาง ผมขอย้อนหลังไปหน่อย หลังเหตุการณ์ 9/11 การถล่มตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ เมื่อปี ค.ศ.2001 อเมริกาถือโอกาสใช้เป็นข้ออ้างเข้าไปแทรกแซงในตะวันออกกลางอย่างเต็มสูบ ในช่วง ค.ศ.2003 และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศในแถบตะวันออกกลางและภูมิภาคใกล้เคียงแตกแยกชัดเจน แบ่งเป็น 2 ค่าย กับอีก 3 เสี้ยว ค่ายหนึ่งคือ ค่ายที่เอาอเมริกา นำโดยเสี่ยปั้มใหญ่ ซาอุดิอารเบียกับพวกเสี่ยปั้มหนุ่มสำอางค์ทั้งหลายแถบอ่าว ไล่มาตั้งแต่ คูเวต บาห์เรน การต้า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน เดิมมีอิรัคด้วย แต่ปัจจุบัน อิรัคน่าจะย้ายค่ายไปอยู่ฝั่งไม่เอาอเมริกาไปแล้ว เสี่ยปั้มใหญ่คงกลัวเสียหน้า ลูกน้องหนี เลยเอาจอร์แดนมารวมด้วย แต่ก็รวมอย่างเขินๆ เพราะจอร์แดนถือว่าตัวเองควรเป็นเจ้าของตะวันออกกลางทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ เพราะถูกอังกฤษหลอกต้มเอาไว้อย่างนั้น มาอยู่ใต้ปีกเสี่ยปั้มนี่ ออกจะเสียหน้า แต่คงพอทนเพราะมีค่าทนชดเชย (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องอังกฤษต้มตะวันออกกลาง ได้ในนิทานเรื่อง “เหยื่อ” ครับ ตามลิงค์นี้ https://www.dropbox.com/s/i3psv6qf7v9iqew/victim.pdf) อีกค่ายหนึ่ง เป็นค่ายที่ไม่เอาอเมริกา ค่ายนี้ ไม่ใช่แค่ไม่เอาเฉยๆ เขาต่อต้านอเมริกาอย่างเปิดเผย และไม่หยุดยั้งด้วย มีตัวยืนโรงตัวใหญ่ คืออิหร่าน ซีเรีย เลบานอน (กลุ่มเฮซบอลเล์าะ) ปาเลสไตน์( กลุ่มกองกำลังปาเลสไตน์ คือ พวกฮามาส) และเยเมนส่วนใต้ สำหรับชาวโลกทั่วไป ฟังจากข่าวฟอกย้อมของตะวันตก คงมองค่ายหลังนี้ เป็นตัวร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือฆาตกรไปแล้ว อีกเสี้ยวหนึ่ง คือ อิสราเอล อยู่ในตะวันออกกลาง แต่ไม่ถือว่าตนเองเป็นคนตะวันอ อกกลาง ไม่รักซาอุ เกลียดอิหร่าน และไม่ชอบใครเลย ชอบแต่ยิวด้วยกัน ประเทศที่มียิวไปอยู่แยะ ก็ใช่ว่าจะชอบ แค่หลอกใช้ อิสราเอลคือต้นไม้พิษ ที่อังกฤษเอาไปปลูกไว้ในตะวันออกกลาง แต่ให้อเมริกาเลี้ยงให้ การเอาอิสราเอลไปอยู่ตรงนั้น ถือเป็นยุทธศาสตร์ สุดยอด (ชั่ว) ของอังกฤษเลยทีเดียว เสี้ยวที่ 2 คือ ตุรกี ที่ก็ไม่นับว่าตนเองเป็นพวกตะวันออกกลาง แบบพวกเสี่ยปั้มทั้งหลาย ตุรกี ดูเหมือนทำตัวเป็นขี้ข้าอเมริกามาตลอด แต่จริงๆ ตุรกีเป็นนกหลายหัว และนกพันธุ์แสบไม่ธรรมดา ลูกเล่นแยะมาก แต่ล่าสุด ดูเหมือนจะเลือกค่ายแล้ว เสี้ยวที่ 3 คือ อียิปต์ ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในตะวันออกกลาง แต่โดยภูมิศาสตร์ อียิปต์อยู่ติดกับอิสราเอล และที่สำคัญ เป็นเจ้าของคลองสุเอซ ที่เป็นเส้นทางใหญ่ที่บรรดาเสี่ยปั้มใช้ขนส่งน้ำมันไปทางเมดิเตอร์เรเนียน อียิปต์จึงถูกล็อกคอ มาอยู่ในมืออเมริกา เพื่อกันไว้ไม่ให้ใครมายุ่งกับน้ำมันของพวกเสี่ยปั้ม ที่อเมริกาคุมอีกต่อ ค่ายใหญ่ 2 ค่าย มักมีเรื่องขัดแย้ง ขัดคอ แข่งขันกันอยู่เสมอ ทั้งในทางการเมือง และทางสื่อ เพื่อชิงความเป็นผู้นำในภูมิภาค โดยบริวณขัดแย้ง มักอยู่ที่ เลบานอน อิรัค และปาเลสไตน์ และที่สำคัญ หัวหน้าค่ายใหญ่ของทั้ง 2 ค่าย คือ อิหร่าน และซาอุดิอารเบีย ไม่เคยถูกกันเลย ไม่เคยรักกัน และไม่มีวันจะรักกัน ซาอุดิอารเบีย แสดงอาการไม่ชอบใจ ไม่ไว้ใจ บ่น ด่า ซ้ำซาก ถึงอิหร่านอยู่ตลอดเวลา ว่า อิหร่านกำลังข่มขู่ชาวตะวันออกกลาง ด้วยการสร้างนิวเคลียร์ และ พยายามทำตัวเป็นพี่เบิ้มของตะวันออกกลาง เพราะฉนั้น ที่คิดว่า ซาอุ จะมาฝากผีฝากไข้ไว้กับรัสเซีย คิดว่าเป็นเรื่องเป็นไปได้หรือครับ ซาอุอาจจะมาพูดกับรัสเซีย รัสเซียก็คงฟัง เหมือนวันที่รัสเซียกำลังพูดกับอิสราเอล แล้วเรือรบจีน ไปจอดอยู่หน้าบ้านอิสราเอล ไม่กี่วันต่อมา ฟังทำนองนั้นแหละ ครับ รัสเซีย จีน อิหร่าน กว่าจะมาถึงวันนี้ เขาลงเรือลำเดียวกัน ฝ่าดงหนาม ดงตีน ที่อเมริกา อียู และพวกลูกกระเป๋ง ประเคนมาให้เท่าไหร่ เชื่อว่าไม่มีใครโดดหนีกลางทาง และไม่น่าจะรับผู้โดยสารระหว่างทาง ที่เพื่อนรังเกียจ หรือรังเกียจเพื่อน ขึ้นเรือมาด้วย ถึงที่หมายแล้ว ค่อยว่ากันอีกที แต่เป็นทีแบบไหน ก็ดูกันต่อไป ส่วนอิสราเอล ไม่สังกัด ไม่เข้าค่ายใด เพราะถือตัวว่าเป็นเส้นใหญ่สายตรงของอเมริกา ก็ไม่ชอบ ทั้งซาอุดิอารเบียและอิหร่าน แต่รู้สึกอิหร่านจะได้รับคำเอ่ยถึงในทางลบมากกว่า ส่วนอิหร่านก็ดูถูกซาอุดิว่า มีดีแค่รวยอย่างเดียว อยู่ทะเลทรายเสียเปล่า แต่ดันชอบเป็นชาวเกาะ เกาะอเมริกาเหมือนตัวเป็นลูกอ่อน และอิหร่านก็เห็นอิสราเอลเป็นคนนอก ที่เข้ามาแย่งที่ แถมข่มขู่คนในที่เป็นเจ้าของของเดิม แบบนี้ ก็คงไม่ได้แปลว่าอิหร่านพอใจอิสราเอล แต่หลังจากที่อเมริกา (อีกนั่นแหละ) จัดเทศกาลอาหรับสปริง ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2011 ตะวันออกกลาง ก็มีความมีความเปลี่ยนแปลงอีกรอบหนึ่ง และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ที่อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ของ การประลองยุทธ ที่กำลังดำเนินอยู่ในซีเรีย ตอนนี้ หลังอาหรับสปริง ประเทศที่อยู่แถวหน้า เช่น ซาอุดิอารเบีย อิหร่าน และอิสราเอล ต่างได้รับผลกระทบ มีทั้งบวก ทั้งลบ แล้วแต่สถานการณ์จะสร้างผู้กล้า หรือสร้างผู้ขลาด ส่วนประเทศที่เคยยืนอยู่แถวหลังในภูมิภาค อย่างตุรกี และการ์ต้า กลับใช้โอกาส เพิ่มรัศมี เพิ่มอิทธิพล ส่วนประเทศใหญ่อีก 2 ประเทศ อิยิปต์ หรือซีเรีย กลับเซระเนระนาด จากความไม่สงบ ที่เกิดขึ้นในประเทศของตน และทำท่าจะยืดเยื้อลากยาว กระทบความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ ไปอีกนาน ผลที่ตามมา คือ 2 ค่ายในตะวันออกกลาง และทุกเสี้ยวที่กล่าวมาข้างต้น เกิดการแข่งขัน ขัดแย้ง รุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งทางด้านการเมือง ความมั่นคง และความแตกต่างทางนิกายศาสนา ที่อาหรับสปริง เพาะเชื้อไว้ อย่างแนบเนียน… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 2 ต.ค. 2558
    WWW.DROPBOX.COM
    victim.pdf
    Shared with Dropbox
    0 Comments 0 Shares 279 Views 0 Reviews
  • “หวัง อี้” รมว.ต่างประเทศจีน เปิดปากแรงระหว่างหารือ รมต.ต่างประเทศเยอรมนี กล่าวหาญี่ปุ่น “ข่มขู่ทางทหารต่อจีน” หลังโตเกียวแจ้งว่าเครื่องบินรบจีนเล็งเรดาร์ใส่เครื่องญี่ปุ่น
    .
    จีนโต้แทบทุกประเด็น—ย้อนญี่ปุ่นใช้ไต้หวันเป็นข้ออ้าง เคยปกครองเป็นอาณานิคมนานครึ่งศตวรรษ และกำลัง “ก่อความวุ่นวายคุกคามจีน” แบบยอมรับไม่ได้ ขณะที่ไต้หวันสวนทันควัน “ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน”
    .
    โตเกียวก็ไม่ถอย ชี้การฉายเรดาร์ใส่เครื่องรบเป็นพฤติกรรมอันตรายเกินจำเป็น ด้านสายด่วนจีน–ญี่ปุ่นที่ตั้งไว้ปี 2018 มีรายงานว่าปักกิ่งไม่รับสาย
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000118121
    .
    #News1live #News1 #จีนญี่ปุ่น #หวังอี้ #ไต้หวัน #ความมั่นคงเอเชีย #Geopolitics
    “หวัง อี้” รมว.ต่างประเทศจีน เปิดปากแรงระหว่างหารือ รมต.ต่างประเทศเยอรมนี กล่าวหาญี่ปุ่น “ข่มขู่ทางทหารต่อจีน” หลังโตเกียวแจ้งว่าเครื่องบินรบจีนเล็งเรดาร์ใส่เครื่องญี่ปุ่น . จีนโต้แทบทุกประเด็น—ย้อนญี่ปุ่นใช้ไต้หวันเป็นข้ออ้าง เคยปกครองเป็นอาณานิคมนานครึ่งศตวรรษ และกำลัง “ก่อความวุ่นวายคุกคามจีน” แบบยอมรับไม่ได้ ขณะที่ไต้หวันสวนทันควัน “ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน” . โตเกียวก็ไม่ถอย ชี้การฉายเรดาร์ใส่เครื่องรบเป็นพฤติกรรมอันตรายเกินจำเป็น ด้านสายด่วนจีน–ญี่ปุ่นที่ตั้งไว้ปี 2018 มีรายงานว่าปักกิ่งไม่รับสาย . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000118121 . #News1live #News1 #จีนญี่ปุ่น #หวังอี้ #ไต้หวัน #ความมั่นคงเอเชีย #Geopolitics
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • แผนชั่ว ตอนที่ 10

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 10
    ระหว่างที่อเมริกา ใช้ AFRICOM ค่อยๆ สร้างกับดัก และบ่วงรัดคอ อยู่แถวอาฟริกา ไล่มาถึงตะวันออกกลาง ตามยุทธศาสตร์ คุมแหล่งน้ำมัน รวมทั้งเส้นทางเดินของน้ำมัน ไม่ไห้หลุดไปถึงจีนนั้น หน่วยงานอื่นของอเมริกา ก็ทำงานอื่น อยู่ในแถบอื่น แต่เกี่ยวพันกันอย่างนึกไม่ถึง ควบคู่ไปด้วย
    ช่วงปี ค.ศ.2002 ถึง 2008 อเมริกาแจกโปรแกรม ปฏิวัติหลากสี Color Revolutions ไปทั่ว เพื่อให้มีการเปลี่ยนตัวผู้ปกครอง ประเทศ ที่ปกครองในบางประเทศมานาน แต่ถึงเวลาแล้ว ที่อเมริกาต้องการเปลี่ยน เอาคน หรือกลุ่มที่อเมริกาเลือก มาปกครองประเทศเหล่านั้น เพื่ออเมริกาจะได้เข้าไปครอบครองทรัพยากร และการปกครองประเทศเหล่านั้น
    ไหนว่าต้องการให้ ประเทศทั้งหลายในโลก ปกครองตัวเอง ด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกผู้แทนของตนมาปกครอง ไงครับ
    ….อ้อ เราเข้าใจผิดหรือครับ …. ต้องใช้ว่า …. ระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกผู้แทน “ตามที่อเมริกาต้องการ” มาปกครอง …. ครับ ครับ เข้าใจแล้วครับ ท่านผู้อ่านโปรดเข้าใจ ระบอบประชาธิปไตย ตามความหมายของอเมริกา เสียใหม่นะครับ
    ในช่วงนั้น องค์กรที่เรียกว่า เอ็นจีโอ non government organization ถูกอเมริกาจัดตั้ง โผล่ขึ้นมาเต็ม เหมือนเห็ดหน้าฝน ภายใต้สาระพัดชื่อ โดยอ้างว่าไม่ได้เป็นองค์กรของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่รัฐบาลอเมริกัน ให้หน่วยงานอื่นสนับสนุนเงินทุนแก่เอ็นจีโอเหล่านี้ และให้อยู่ในความดูแลของฝ่ายความมั่นคง เพนตากอน และหน่วยงานข่าวกรองของอเมริกา ซีไอเอ อีกด้วย ถุด…
    เอ็นจีโอเหล่านี้ น่าจะถูกฝึก และถูกเลี้ยงเหมือนนกแก้ว เพราะร้องเป็นอยู่ ไม่กี่ประโยค…… ละเมิดสิทธิมนุษยชน…. ไม่เอาเผด็จการ …. เป็นประชาธิปไตย… นกแก้วมีหลายพันธ์ุ เช่น พันธ์ุยุโรปตะวันออก พันธ์ุอาหรับ และพันธ์ุเอเซีย นกแก้วเอเซีย กำลังถูกลำเลียง ไปปล่อยแถว พม่า ธิเบต และตรงเขตแดนสำคัญของจีน คือ ซินเกียง
    นกแก้วฝูงแรก ถูกเอาไปปล่อยที่พม่า หรือเมียนมาร์ แต่อังกฤษ เจ้านายเก่า รวมทั้งอเมริกา (ที่กำลังเบียดเข้ามาเพื่อหวังจะเป็น) เจ้านายใหม่ ยังเรียก พม่า ตามความคุ้นปากเหมือนเดิม รวมทั้งผม ก็ขอเรียก พม่า เพราะพิมพ์ง่ายกว่า
    ปี ค.ศ.2007 เกิดการปฏิวัติหลากสี ขึ้นที่พม่า อเมริกาเรียกปฏิวัตินี้ว่า ปฏิวัติสีผ้าเหลือง Saffron Revolution ซึ่งเป็นโรคติดต่อมาจาก ปฏิวัติสีกุหลาบ Rose Revolution ในจอร์เจีย ปี 2003 และ ปฏิวัติสีส้ม Orange Revolution ในยูเครน ปี 2004-2005 ที่เกิดขึ้นในยุโรปตะวันออก บริเวณที่ติดกับรัสเซีย มันเป็นการปฏิวัติ ที่อเมริกาเป็นผู้อำนวยการสร้าง เขียนบท คัดเลือกตัวผู้เข้าฉาก และกำกับการแสดงทั้งหมด และก็คงเห็นกันแล้วว่า ความฉิบหายวุ่นวาย ทั้งในจอร์เจีย และยูเครน ยังมีอยู่จนทุกวันนี้ และมีที่ท่าว่าจะแย่ลงเรื่อยๆ
    สำหรับปฏิวัติสีผ้าเหลืองในพม่านั้น มีสื่อฝรั่ง บอกว่า คนตั้งชื่อ ตั้งใจเรียกตาม สีจีวรพระพม่า เพราะตามแผนที่อเมริกาวางไว้ พระพม่าจะเป็นพระเอก เดินนำการประท้วงรัฐบาลพม่า เป็นแผนที่เด็ดขาดมากใช้พระนำขบวน ไม่บอกก่อนจะได้ส่งพวกจานบินไป ร่วม และก็เป็นเรื่องตลกมากด้วย เพราะจีวรพระพม่า สีน้ำตาลแดง ไม่ใช่สีเหลืองอมส้ม เขาว่า กลุ่มคนคิดแผน นั่งสุมหัวกันอยู่ที่สถานกงสุลอเมริกันที่เชียงใหม่ ผมชักเชื่อ แสดงว่าไอ้คนทำแผน เห็นพระไทยในเชียงใหม่ห่มจีวรสีเหลืองอมส้ม ก็สีจีวรพระบ้านเรานั่นแหละ เลยใช้เป็นชื่อปฏิวัติเสียเลย มันมั่วซั่วสิ้นดี ปฏิวัติสีผ้าเหลือง ฮาจริง
    สาเหตุการประท้วง (ไม่ใช่ปฏิวัติ) ที่อ้าง หรือสร้าง บอกว่า มาจากการที่รัฐบาลทหารของพม่า ยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมัน ทำให้ราคาขายน้ำมันในพม่าพุ่งสูงขึ้นไปประมาณ เกือบเท่าตัว ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน กลุ่มที่ออกมาประท้วงตามข่าว มีตั้งแต่ นักเรียน แม่บ้าน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และพระพม่าจำนวนมาก
    แต่เป้าหมายจริงๆ ก็คือสร้างความปั่นป่วนในพม่า เพื่อจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทหาร ที่ปกครองพม่ามานาน และเอาคุณนายซู เมียฝรั่งที่ฝ่ายตะวันตกสนับสนุนมาเป็นผู้นำ คุณนายเป็นเองไม่ได้ ก็เอาคนที่คุณนายสั่งได้มาเป็น เพื่อเปิดประตูให้ตะวันตกเข้ามาในพม่า เรื่องคุณนายซู นี่ นายเก่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาใหญ่ และเดินสายทั้งในและนอกพม่า
    ผู้นำการปฏิวัติ ใช้ตัวเชิดเป็นฝ่ายนักเคลื่อนไหว ที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร แต่หัวหน้าตัวจริง มีหลายคน ตั้งแต่คุณนายซู เมียฝรั่ง นักเคลื่อนไหวของพม่า พระพม่า และนักหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น แปลกใจไหมครับ ก็ไปนำขบวนด้วยประท้วงแล้วก็ถูกยิงตาย กลายเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลทหารของพม่า กับรัฐบาลญี่ปุ่น และส่วนพระพม่าก็เป็นพวกที่มายืนชุมนุมอยู่หน้าบ้านคุณนาย ก่อนเคลื่อนย้ายไปตามถนนในเมืองย่างกุ้ง
    ก่อนการประท้วงเกิดขึ้น อเมริกามอบหมายให้นาย จีน ชาร์พ Gene Sharp ผู้ก่อตั้งองค์กรชื่อ สถาบันอัลเบิร์ต ไอนสไตน์ Albert Einstein ในอเมริกา ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหลายสถาบันในสังกัดซีไอเอ ให้เป็นผู้รับผิดชอบ ฝึกอบรมและกำกับวิธีการประท้วง (อย่างเนียน)
    นายจีน ชาร์พ นี่ เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ที่ดังมาก ชื่อ How to Start a Revolution พร้อมทำเป็นวีดีโอ มีทั้งภาษายูเครน ภาษาอาหรับ ไม่รู้มี ป็นภาษาพม่า ภาษาไทย ด้วยหรือเปล่า เขาเรียก ทฤษฏีฝูงผึ้ง สร้างคนน ที่จะเป็นผู้นำกลุ่มก่อน ต่อมาก็สร้างขบวนการเคลื่อนไหว และจัดหาคนตาม ที่อาจจะไม่ต้องมาก ตามทฤษฏีของจีน ชาร์พ เขาอ้างว่า การ “เคลื่อนไหว” จะทำให้คนเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ยืนอยู่กับที่ ยกมือตะโกนซ้ำซาก แบบนั้น คนไม่เพิ่ม แล้วอาจเดินหนี เพราะมันหมดสมัยไปแล้ว
    จริงๆ องค์กรของชาร์พ ถูกส่งเข้าไปสร้างเครือข่ายในพม่าตั้งแต่ ค.ศ.1989 โดยพันเอก Robert Helvey หัวหน้าปฏิบัติการ ซีไอเอ และอดีตทูตทหารอเมริกันในย่างกุ้ง เป็นคนนำนายชาร์พเข้าไป นายชาร์พขึ้นล่อง อยู่ระหว่างพม่ากับจีน ก่อนเกิดเหตุการณ์ที่เทียนอันเหมินของจีน และก็เป็นผู้กำกับ Arab Spring หลายรายการ
    สถาบันใหญ่ในสังกัดซีไอเอ ที่สนับสนุนการประท้วงใหญ่สีจีวรพระที่พม่า คือ National Endowment for Democracy (NED) ที่แสนจะโด่งดัง เจ้า NED นี่ ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนโยบายต่างประเทศของอเมริกา เขาว่า NED ทำหน้าที่เหมือนกับที่พวกซีไอเอ ทำในช่วงสงครามเย็นเพี้ยบเลย ผู้ที่สนับสนุนเงินทุนให้แก่ NED อีกต่อคือ Open Society ของไอ้หนังเหนียวตัวแสบ จอร์จ โซรอส ก็เล่นซ้ำกันอยู่อย่างนี้ เหมือนดูหนังในเคเบิลทีวีของเครือซี้ผีของบ้านเราเลย
    กระทรวงต่างประเทศอเมริกา ได้คัดเลือกตัวหัวหน้าที่จะไปเป็นผู้นำการทาขมิ้น จากหลายองค์กรในพม่า ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทหาร โดยเจ้า NED ส่งเงินประมาณปีละ 2.5 ล้านเหรียญ หรือ ปีละ 75 ล้านบาท ให้กับพวกสีจีวรพระ ไปสร้างขบวนการประท้วง ศูนย์บัญชาการใหญ่ เขาว่า อยู่ที่สถานกงสุลอเมริกัน ที่เชียงใหม่ของเรานั่นแหละ ส่วนพวกสีจีวร ก็ฝึกอบรมกันอยู่แถวชายแดนบ้านเรา บางครั้ง พวกตัวสำคัญก็ถูกส่งไปอบรมที่อเมริกา แล้วก็กลับมาจัดองค์กรในพม่าต่อ น่าสนุกดีนะครับ เล่นกันอยู่แถวนี้เอง จะแสดงรายการที่พม่าก็มาซ้อมที่ไทย จะแสดงรายการที่ไทย ก็ไปซ้อมกันในเขมร เออ มันแน่จริงๆ นอกจากจะสร้างความปั่นป่วนในบ้านคนอื่นได้แล้ว ยังเสือกมีของแถม ทำให้เพื่อนบ้านมองหน้ากันไม่สนิทอีกด้วย
    นอกจาก NED จะอุดหนุนพวกสีจีวรแล้ว NED ยังจ่ายเงินให้กับสื่อ ชื่อ New Era Journal , Democratic Voice of Burma และ Irrawaddy ที่เขาว่า เป็นของคุณนายซู เมียฝรั่ง ซึ่งผมเข้าไปอ่านบ่อยเหมือนกัน เพราะบางข่าวเร็วมาก ยังกะส่งตรงจากสถานที่เกิดเหตุ หรือสถานที่ออกใบสั่งเลย
    แต่วัตถุประสงค์ของการจัดรายการประท้วงนี้ ที่ซ่อนไว้อีกชั้น น่าจะมี 2 เรื่อง พม่าก็น่าจะมีชะตาใกล้เคียงกับเยเมน เพราะพม่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญจุดหนึ่งของเส้นทางเดินน้ำมัน จากอ่าวเปอร์เซียไปสู่ทะเลจีน เส้นทางเดินเรือเลียบฝั่งพม่า เป็นเส้นทางเดินเรือที่แน่นขนัด เพื่อผ่านเข้าไปสู่ช่องแคบมะละกา จุดรัดคอ choke point อีกจุดหนึ่ง ที่แคบกว่าของเยเมน และมีความสำคัญในระดับที่ ไม่ต่างกับเยเมน ด้วย
    ช่องแคบมะละกาเชื่อมมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด สำหรับส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียไปจีน ช่องแคบมะละกาจึงเป็นจุดรัดคอ choke point ที่สำคัญยิ่งของเอเซีย ประมาณ 80% ของน้ำมันที่จีนนำเข้า ต้องขนส่งทางเรือผ่านจุดนี้ ส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบมะละกาคือ ช่องแคบ Phillips Channel อยู่ในส่วนของสิงคโปร์ มีความกว้างเพียง 1.5 ไมล์
    ทุกวันจะมีเรือบรรทุกน้ำมันผ่านช่องแคบนี้ ประมาณวันละ 12 ล้านแท้งค์ใหญ่ และส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังจีน หรือญี่ปุ่น…
    ถ้าช่องแคบมะละกาถูกปิด… ประมาณเกือบครึ่งของเรือขนส่งน้ำมันในโลก จะต้องเพิ่มเส้นทางเดินเรือยาวขึ้น หมายถึงการเพิ่มค่าขนส่งที่จะกระทบไปทั่วโลก มีเรือกว่า 5 หมื่นลำต่อปี แล่นผ่านช่องแคบมะละกา บริเว แนวเส้นทางเดินเรือ ตั้งแต่พม่าไปจนถึงบันดาร์อาเจ๊ะ จึงเป็นแนวรัดคอที่สำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง ใครควบคุมเส้นทางนี้ได้ ก็หมายความว่า ได้ควบคุมเส้นทางขนส่งน้ำมันทางน้ำของจีน และน่าจะของญี่ปุ่นด้วย
    อเมริกาพยายามที่จะนำกองกำลังของตัว เข้าไปในบริเวณนั้น ตั้งแต่ ปี ค.ศ.2001 โดยใช้ข้ออ้างว่า เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้าย ไม่รู้ผู้ก่อการร้ายพันธุ์อะไร จากไหน อ้างมั่วๆ จึงไม่มีใครยอม ในที่สุด ได้ข่าวว่า อเมริกาเจรจากับอินโดนีเซีย จนได้ตั้งฐานทัพอากาศ ที่บันดาร์ อาเจ๊ะ Banda Aceh ซึ่งอยู่ไปทางเหนือสุดของเกาะสุมาตรา
    คงทำให้เราพอเห็นภาพ ความวุ่นวายในพม่า ภาคใต้ของไทย รวมทั้งเรื่องราวในมาเลเซียว่า ทำไมจึงต้องเกิดขึ้นอย่างไม่จบสิ้น และทำไมการขุดคอขอดกระ ของเราจึงเป็นเรื่องยาก
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    23 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 10 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 10 ระหว่างที่อเมริกา ใช้ AFRICOM ค่อยๆ สร้างกับดัก และบ่วงรัดคอ อยู่แถวอาฟริกา ไล่มาถึงตะวันออกกลาง ตามยุทธศาสตร์ คุมแหล่งน้ำมัน รวมทั้งเส้นทางเดินของน้ำมัน ไม่ไห้หลุดไปถึงจีนนั้น หน่วยงานอื่นของอเมริกา ก็ทำงานอื่น อยู่ในแถบอื่น แต่เกี่ยวพันกันอย่างนึกไม่ถึง ควบคู่ไปด้วย ช่วงปี ค.ศ.2002 ถึง 2008 อเมริกาแจกโปรแกรม ปฏิวัติหลากสี Color Revolutions ไปทั่ว เพื่อให้มีการเปลี่ยนตัวผู้ปกครอง ประเทศ ที่ปกครองในบางประเทศมานาน แต่ถึงเวลาแล้ว ที่อเมริกาต้องการเปลี่ยน เอาคน หรือกลุ่มที่อเมริกาเลือก มาปกครองประเทศเหล่านั้น เพื่ออเมริกาจะได้เข้าไปครอบครองทรัพยากร และการปกครองประเทศเหล่านั้น ไหนว่าต้องการให้ ประเทศทั้งหลายในโลก ปกครองตัวเอง ด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกผู้แทนของตนมาปกครอง ไงครับ ….อ้อ เราเข้าใจผิดหรือครับ …. ต้องใช้ว่า …. ระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกผู้แทน “ตามที่อเมริกาต้องการ” มาปกครอง …. ครับ ครับ เข้าใจแล้วครับ ท่านผู้อ่านโปรดเข้าใจ ระบอบประชาธิปไตย ตามความหมายของอเมริกา เสียใหม่นะครับ ในช่วงนั้น องค์กรที่เรียกว่า เอ็นจีโอ non government organization ถูกอเมริกาจัดตั้ง โผล่ขึ้นมาเต็ม เหมือนเห็ดหน้าฝน ภายใต้สาระพัดชื่อ โดยอ้างว่าไม่ได้เป็นองค์กรของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่รัฐบาลอเมริกัน ให้หน่วยงานอื่นสนับสนุนเงินทุนแก่เอ็นจีโอเหล่านี้ และให้อยู่ในความดูแลของฝ่ายความมั่นคง เพนตากอน และหน่วยงานข่าวกรองของอเมริกา ซีไอเอ อีกด้วย ถุด… เอ็นจีโอเหล่านี้ น่าจะถูกฝึก และถูกเลี้ยงเหมือนนกแก้ว เพราะร้องเป็นอยู่ ไม่กี่ประโยค…… ละเมิดสิทธิมนุษยชน…. ไม่เอาเผด็จการ …. เป็นประชาธิปไตย… นกแก้วมีหลายพันธ์ุ เช่น พันธ์ุยุโรปตะวันออก พันธ์ุอาหรับ และพันธ์ุเอเซีย นกแก้วเอเซีย กำลังถูกลำเลียง ไปปล่อยแถว พม่า ธิเบต และตรงเขตแดนสำคัญของจีน คือ ซินเกียง นกแก้วฝูงแรก ถูกเอาไปปล่อยที่พม่า หรือเมียนมาร์ แต่อังกฤษ เจ้านายเก่า รวมทั้งอเมริกา (ที่กำลังเบียดเข้ามาเพื่อหวังจะเป็น) เจ้านายใหม่ ยังเรียก พม่า ตามความคุ้นปากเหมือนเดิม รวมทั้งผม ก็ขอเรียก พม่า เพราะพิมพ์ง่ายกว่า ปี ค.ศ.2007 เกิดการปฏิวัติหลากสี ขึ้นที่พม่า อเมริกาเรียกปฏิวัตินี้ว่า ปฏิวัติสีผ้าเหลือง Saffron Revolution ซึ่งเป็นโรคติดต่อมาจาก ปฏิวัติสีกุหลาบ Rose Revolution ในจอร์เจีย ปี 2003 และ ปฏิวัติสีส้ม Orange Revolution ในยูเครน ปี 2004-2005 ที่เกิดขึ้นในยุโรปตะวันออก บริเวณที่ติดกับรัสเซีย มันเป็นการปฏิวัติ ที่อเมริกาเป็นผู้อำนวยการสร้าง เขียนบท คัดเลือกตัวผู้เข้าฉาก และกำกับการแสดงทั้งหมด และก็คงเห็นกันแล้วว่า ความฉิบหายวุ่นวาย ทั้งในจอร์เจีย และยูเครน ยังมีอยู่จนทุกวันนี้ และมีที่ท่าว่าจะแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับปฏิวัติสีผ้าเหลืองในพม่านั้น มีสื่อฝรั่ง บอกว่า คนตั้งชื่อ ตั้งใจเรียกตาม สีจีวรพระพม่า เพราะตามแผนที่อเมริกาวางไว้ พระพม่าจะเป็นพระเอก เดินนำการประท้วงรัฐบาลพม่า เป็นแผนที่เด็ดขาดมากใช้พระนำขบวน ไม่บอกก่อนจะได้ส่งพวกจานบินไป ร่วม และก็เป็นเรื่องตลกมากด้วย เพราะจีวรพระพม่า สีน้ำตาลแดง ไม่ใช่สีเหลืองอมส้ม เขาว่า กลุ่มคนคิดแผน นั่งสุมหัวกันอยู่ที่สถานกงสุลอเมริกันที่เชียงใหม่ ผมชักเชื่อ แสดงว่าไอ้คนทำแผน เห็นพระไทยในเชียงใหม่ห่มจีวรสีเหลืองอมส้ม ก็สีจีวรพระบ้านเรานั่นแหละ เลยใช้เป็นชื่อปฏิวัติเสียเลย มันมั่วซั่วสิ้นดี ปฏิวัติสีผ้าเหลือง ฮาจริง สาเหตุการประท้วง (ไม่ใช่ปฏิวัติ) ที่อ้าง หรือสร้าง บอกว่า มาจากการที่รัฐบาลทหารของพม่า ยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมัน ทำให้ราคาขายน้ำมันในพม่าพุ่งสูงขึ้นไปประมาณ เกือบเท่าตัว ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน กลุ่มที่ออกมาประท้วงตามข่าว มีตั้งแต่ นักเรียน แม่บ้าน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และพระพม่าจำนวนมาก แต่เป้าหมายจริงๆ ก็คือสร้างความปั่นป่วนในพม่า เพื่อจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทหาร ที่ปกครองพม่ามานาน และเอาคุณนายซู เมียฝรั่งที่ฝ่ายตะวันตกสนับสนุนมาเป็นผู้นำ คุณนายเป็นเองไม่ได้ ก็เอาคนที่คุณนายสั่งได้มาเป็น เพื่อเปิดประตูให้ตะวันตกเข้ามาในพม่า เรื่องคุณนายซู นี่ นายเก่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาใหญ่ และเดินสายทั้งในและนอกพม่า ผู้นำการปฏิวัติ ใช้ตัวเชิดเป็นฝ่ายนักเคลื่อนไหว ที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร แต่หัวหน้าตัวจริง มีหลายคน ตั้งแต่คุณนายซู เมียฝรั่ง นักเคลื่อนไหวของพม่า พระพม่า และนักหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น แปลกใจไหมครับ ก็ไปนำขบวนด้วยประท้วงแล้วก็ถูกยิงตาย กลายเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลทหารของพม่า กับรัฐบาลญี่ปุ่น และส่วนพระพม่าก็เป็นพวกที่มายืนชุมนุมอยู่หน้าบ้านคุณนาย ก่อนเคลื่อนย้ายไปตามถนนในเมืองย่างกุ้ง ก่อนการประท้วงเกิดขึ้น อเมริกามอบหมายให้นาย จีน ชาร์พ Gene Sharp ผู้ก่อตั้งองค์กรชื่อ สถาบันอัลเบิร์ต ไอนสไตน์ Albert Einstein ในอเมริกา ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหลายสถาบันในสังกัดซีไอเอ ให้เป็นผู้รับผิดชอบ ฝึกอบรมและกำกับวิธีการประท้วง (อย่างเนียน) นายจีน ชาร์พ นี่ เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ที่ดังมาก ชื่อ How to Start a Revolution พร้อมทำเป็นวีดีโอ มีทั้งภาษายูเครน ภาษาอาหรับ ไม่รู้มี ป็นภาษาพม่า ภาษาไทย ด้วยหรือเปล่า เขาเรียก ทฤษฏีฝูงผึ้ง สร้างคนน ที่จะเป็นผู้นำกลุ่มก่อน ต่อมาก็สร้างขบวนการเคลื่อนไหว และจัดหาคนตาม ที่อาจจะไม่ต้องมาก ตามทฤษฏีของจีน ชาร์พ เขาอ้างว่า การ “เคลื่อนไหว” จะทำให้คนเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ยืนอยู่กับที่ ยกมือตะโกนซ้ำซาก แบบนั้น คนไม่เพิ่ม แล้วอาจเดินหนี เพราะมันหมดสมัยไปแล้ว จริงๆ องค์กรของชาร์พ ถูกส่งเข้าไปสร้างเครือข่ายในพม่าตั้งแต่ ค.ศ.1989 โดยพันเอก Robert Helvey หัวหน้าปฏิบัติการ ซีไอเอ และอดีตทูตทหารอเมริกันในย่างกุ้ง เป็นคนนำนายชาร์พเข้าไป นายชาร์พขึ้นล่อง อยู่ระหว่างพม่ากับจีน ก่อนเกิดเหตุการณ์ที่เทียนอันเหมินของจีน และก็เป็นผู้กำกับ Arab Spring หลายรายการ สถาบันใหญ่ในสังกัดซีไอเอ ที่สนับสนุนการประท้วงใหญ่สีจีวรพระที่พม่า คือ National Endowment for Democracy (NED) ที่แสนจะโด่งดัง เจ้า NED นี่ ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนโยบายต่างประเทศของอเมริกา เขาว่า NED ทำหน้าที่เหมือนกับที่พวกซีไอเอ ทำในช่วงสงครามเย็นเพี้ยบเลย ผู้ที่สนับสนุนเงินทุนให้แก่ NED อีกต่อคือ Open Society ของไอ้หนังเหนียวตัวแสบ จอร์จ โซรอส ก็เล่นซ้ำกันอยู่อย่างนี้ เหมือนดูหนังในเคเบิลทีวีของเครือซี้ผีของบ้านเราเลย กระทรวงต่างประเทศอเมริกา ได้คัดเลือกตัวหัวหน้าที่จะไปเป็นผู้นำการทาขมิ้น จากหลายองค์กรในพม่า ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทหาร โดยเจ้า NED ส่งเงินประมาณปีละ 2.5 ล้านเหรียญ หรือ ปีละ 75 ล้านบาท ให้กับพวกสีจีวรพระ ไปสร้างขบวนการประท้วง ศูนย์บัญชาการใหญ่ เขาว่า อยู่ที่สถานกงสุลอเมริกัน ที่เชียงใหม่ของเรานั่นแหละ ส่วนพวกสีจีวร ก็ฝึกอบรมกันอยู่แถวชายแดนบ้านเรา บางครั้ง พวกตัวสำคัญก็ถูกส่งไปอบรมที่อเมริกา แล้วก็กลับมาจัดองค์กรในพม่าต่อ น่าสนุกดีนะครับ เล่นกันอยู่แถวนี้เอง จะแสดงรายการที่พม่าก็มาซ้อมที่ไทย จะแสดงรายการที่ไทย ก็ไปซ้อมกันในเขมร เออ มันแน่จริงๆ นอกจากจะสร้างความปั่นป่วนในบ้านคนอื่นได้แล้ว ยังเสือกมีของแถม ทำให้เพื่อนบ้านมองหน้ากันไม่สนิทอีกด้วย นอกจาก NED จะอุดหนุนพวกสีจีวรแล้ว NED ยังจ่ายเงินให้กับสื่อ ชื่อ New Era Journal , Democratic Voice of Burma และ Irrawaddy ที่เขาว่า เป็นของคุณนายซู เมียฝรั่ง ซึ่งผมเข้าไปอ่านบ่อยเหมือนกัน เพราะบางข่าวเร็วมาก ยังกะส่งตรงจากสถานที่เกิดเหตุ หรือสถานที่ออกใบสั่งเลย แต่วัตถุประสงค์ของการจัดรายการประท้วงนี้ ที่ซ่อนไว้อีกชั้น น่าจะมี 2 เรื่อง พม่าก็น่าจะมีชะตาใกล้เคียงกับเยเมน เพราะพม่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญจุดหนึ่งของเส้นทางเดินน้ำมัน จากอ่าวเปอร์เซียไปสู่ทะเลจีน เส้นทางเดินเรือเลียบฝั่งพม่า เป็นเส้นทางเดินเรือที่แน่นขนัด เพื่อผ่านเข้าไปสู่ช่องแคบมะละกา จุดรัดคอ choke point อีกจุดหนึ่ง ที่แคบกว่าของเยเมน และมีความสำคัญในระดับที่ ไม่ต่างกับเยเมน ด้วย ช่องแคบมะละกาเชื่อมมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด สำหรับส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียไปจีน ช่องแคบมะละกาจึงเป็นจุดรัดคอ choke point ที่สำคัญยิ่งของเอเซีย ประมาณ 80% ของน้ำมันที่จีนนำเข้า ต้องขนส่งทางเรือผ่านจุดนี้ ส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบมะละกาคือ ช่องแคบ Phillips Channel อยู่ในส่วนของสิงคโปร์ มีความกว้างเพียง 1.5 ไมล์ ทุกวันจะมีเรือบรรทุกน้ำมันผ่านช่องแคบนี้ ประมาณวันละ 12 ล้านแท้งค์ใหญ่ และส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังจีน หรือญี่ปุ่น… ถ้าช่องแคบมะละกาถูกปิด… ประมาณเกือบครึ่งของเรือขนส่งน้ำมันในโลก จะต้องเพิ่มเส้นทางเดินเรือยาวขึ้น หมายถึงการเพิ่มค่าขนส่งที่จะกระทบไปทั่วโลก มีเรือกว่า 5 หมื่นลำต่อปี แล่นผ่านช่องแคบมะละกา บริเว แนวเส้นทางเดินเรือ ตั้งแต่พม่าไปจนถึงบันดาร์อาเจ๊ะ จึงเป็นแนวรัดคอที่สำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง ใครควบคุมเส้นทางนี้ได้ ก็หมายความว่า ได้ควบคุมเส้นทางขนส่งน้ำมันทางน้ำของจีน และน่าจะของญี่ปุ่นด้วย อเมริกาพยายามที่จะนำกองกำลังของตัว เข้าไปในบริเวณนั้น ตั้งแต่ ปี ค.ศ.2001 โดยใช้ข้ออ้างว่า เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้าย ไม่รู้ผู้ก่อการร้ายพันธุ์อะไร จากไหน อ้างมั่วๆ จึงไม่มีใครยอม ในที่สุด ได้ข่าวว่า อเมริกาเจรจากับอินโดนีเซีย จนได้ตั้งฐานทัพอากาศ ที่บันดาร์ อาเจ๊ะ Banda Aceh ซึ่งอยู่ไปทางเหนือสุดของเกาะสุมาตรา คงทำให้เราพอเห็นภาพ ความวุ่นวายในพม่า ภาคใต้ของไทย รวมทั้งเรื่องราวในมาเลเซียว่า ทำไมจึงต้องเกิดขึ้นอย่างไม่จบสิ้น และทำไมการขุดคอขอดกระ ของเราจึงเป็นเรื่องยาก สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 23 ก.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 532 Views 0 Reviews
  • แผนชั่ว ตอนที่ 9

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 9
    รายได้ของเยเมนประมาณ 70% มาจากการขายน้ำมัน รัฐบาลเยเมน ซึ่งตั้งที่ทำการอยู่ที่
    เมืองซานะ เมืองหลวงของเยเมน แต่อยู่ ในเขตเยเมนเหนือ เป็นผู้ควบคุมรายได้จากน้ำมัน แต่บ่อน้ำมันดันอยู่ในเยเมนใต้ แบบนี้ก็เข้าทาง (ยังไม่รู้ทางใคร!?) เมื่อรัฐบาล Saleh แตกคอกับเยเมนใต้ Saleh ก็เสียงคงอ่อย ค่าขายน้ำมัน สงสัยจะส่งมาไม่ถึงเมืองซานะ
    เยเมน เหมือนจะยังถูกบีบไม่พอ อยู่ดีๆ ในเดือนมกราคม ค.ศ.2009 ก็เกิดมีประกาศในเวบไซท์
    ของอัลไคด้าว่า อัลไคด้าของบินลาเดน จะมาเปิดสาขาใหม่ใหญ่กว่าทุกแห่ง อยู่ในเยเมน เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับปฏิบัติการ ทั้งในเยเมน และซาอุดิอารเบีย
    เวบอัลไคด้า โดยหัวหน้าใหญ่ Nasir al-Wanayshi ประกาศรายชื่อ บรรดาหัวกะทิ ที่จะมาประจำอยู่เยเมน ซึ่งมีกะทิระดับที่เคยถูกจับไปอบรม อยู่ในค่ายกวนตานาโมของอเมริกาด้วยหลายคน ไม่ใช่ย่อยนะ แต่ เล่นคัดตัวแสดงแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็เดาออกหมด ว่า ใครอำนวยการสร้าง
    หลังจากนั้น al-Wanayshi ก็ทำวิดีโอออกสู่สาธารณะ เขาเริ่มเรื่องได้น่าหวาดเสียว ว่า
    …เราจะเริ่มต้นที่นี่ และเราจะพบกันที่อัลอัคซา We start from here and we will meet at al-Aqsa (คือโบสถ์ของชาวยิวในเยรูซาเรม)…
    วีดีโอนี้ ประกาศ ข่มขู่ ข่มขวัญ หัวหน้าใหญ่ของมุสลิมตั้งแต่ Saleh ในเยเมนเอง ราชวงศ์ของซาอุ ไปจนถึงประธานาธิบดี มูบารัค ของอียิปต์ อัลไคด้าบอกว่า เรากำลังจะไปต่อสู้อย่างพลีชีพ เพื่อเอาแผ่นดินศักดิ์สิทธิของมุสลิม ตั้งแต่ กาซ่า เยเมน ถึงอิสราเอล กลับคืนมา
    การตั้ง Southern Movement การประกาศตั้งฐานใหม่ของอัลไคด้าในเยเมน การออกมาข่มขวัญของอัลไคด้า แค่นี้ ก็เพียงพอให้อเมริกาใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อยกทัพมาขยี้เยเมนแล้ว เยเมนไม่ใช่ซูดาน ที่ต้องใช้พระเอกเดินนำกล้อง ไม่ใช่คองโก ที่ต้องเอามือมีระดับมาจัดการ ไม่ต้องพูดถึงลิเบีย ที่ต้องขนกันมาครึ่งโลก เยเมนประเทศเล็กกระจ้อย อเมริกาตวาดทีเดียว ก็ราดเต็มกางเกงกันหมดแล้ว
    หลังจากบอกว่า เรื่องภายในประเทศเยเมน เป็นเรื่องของเยเมน แต่อเมริกาก็สั่งให้กองทัพของอ เมริกาบุกเยเมน เพื่อจัดการกับอัลไคด้า ซึ่งอเมริกาอ้างว่า เป็นเรื่องกระทบนานาชาติ ไม่ใช่เรื่องภายในของเยเมน เข้าใจไหม เข้าใจครับ เข้าใจครับ
    อเมริกาอ้างว่า การโจมตีของอเมริกา ในช่วง 17 ถึง 24 ธันวาคม ค.ศ.2009 อเมริกาได้กำจัดอัลไคด้า ระดับหัวหน้าไปแล้ว 3 คน แต่ไม่มีรายชื่อ ไม่มีหลักฐาน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ใบเล็ก ไม่เห็นขุดมาเล่าให้ฟังบ้างเลย หลังจากนั้น อเมริกาบอกว่า จำเป็นต้องช่วย Saleh เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดผู้ก่อการร้ายในเยเมน ให้หมดไปโดยเร็ว เลยจำเป็นต้องทิ้งกองกำลังไว้ในเยเมนต่อไป เฮ้อ…มาแบบเก่า ฟอร์มเดิม ผมเบื่อแล้วนะพี่ ต้องเขียนซ้ำๆ
    กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ รายงานเรื่องอัลไคด้า ที่อเมริกาอ้างว่าต้องยกพลไปถล่มอย่างเสียไม่ได้ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น กระป๋องใส่สีย้อมข่าว เปลี่ยนไป รายงานเรื่อง สลัดโซมาเลีย โจมตีเรือขนส่งสินค้าในอ่าวเอเดน นอกฝั่งโซมาเลีย ตรงข้ามกับเยเมนใต้ และเล่นข่าวสลัดโซมาเลียอย่างใหญ่ โต แถมเล่นซ้ำทุกวัน ไม่ต้อง งง ครับ ตีข่าวเรื่องอัลไคด้า ตามบทจบด้วยกองทัพอเมริกา ไปอยู่ในเยเมน เรียบร้อยฉากแรกแล้ว ตอนนี้ต้องเปิดฉากสองต่อ
    วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ.2009 สำนักข่าว RIA Novosti ของมอสโคว์ รายงานข่าวว่า สลัดโซมาเลีย ยึดเรือขนส่งสินค้าของกรีก ที่อ่าวเอเดน นอกฝั่งด้านโซมาเลีย
    ก่อนหน้านั้น เรือบรรทุกเคมีของอังกฤษ พร้อมลูกเรือ 26 คน โดนจับที่อ่าวเอเดน หัวหน้าสลัด Mohamed Shakir แน่มาก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอังกฤษ The Times ทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องจริง เรายึดเรืออังกฤษไปแล้ว
    รายการสลัดโซมาเลีย ปล้นเรือในช่วงปี 2009 พุ่งสูงมาก นับถึงวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2009 สลัดโซมาเลียโจมตีเรือไป 174 รายการ เรือ 35 ลำ ถูกยึด ลูกเรือ 587 คน ถูกเรียกค่าไถ่ การปฏิบัติการทุกรายการ ประสพผลสำเร็จ เยี่ยมจริงๆ
    คำถามคือ “ใคร” เป็นคนจัดส่งอาวุธให้สลัดโซมา เลีย รวมทั้งส่งเส้นทาง และตารางการเดินเรือ ของเรือสินค้านานาชาติ มันเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยม จนทำให้การปล้น และการหลบจากการถูกจับ โดยเรือลาดตระเวนของนานาชาติ ของสลัดโซมาเลียสำเร็จทุกครั้ง
    น่านน้ำระหว่างเยเมนกับโซมาเลีย มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง มันเป็นบริเวณ ที่มีช่องแคบสำคัญอยู่ด้วยเรียกว่า Bab el-Mandab ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ของรายการช่องแคบสำคัญ ในเส้นทางขนส่งน้ำมัน ที่เรียกว่า choke points จุดรัดคอ!
    สำนักข้อมูลการพลังงานของอเมริกา รายงานว่า หากมีการปิดช่องแคบ Bab el-Mandab จะทำให้เรือขนส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย ไม่สามารถเข้าไปถึงคลองสุเอซและ ท่อส่งน้ำมัน Sumed ที่สุเอซ นอกจากแล่นอ้อมลงทางใต้ ผ่านปลายทวีปอาฟริกา ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะทาง เวลา และค่าใช้จ่าย ช่องแคบ Bab จึงเป็นจุดที่สามารถ รัดคอ ตัดขาดเส้นทาง ระหว่างอาฟริกากับตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ หรือ จุดตัดขาด ระหว่างทะเลเมดิเตอเรเนียนกับมหาสมุทรอินเดีย มันเป็นจุดเป็น จุดตาย ของเส้นทางเดินของน้ำมัน จริงๆ
    นอกจากนี้ Bab el-Mandab ที่อยู่ระหว่าง เยเมน จิบูตี และอีริเตรีย ยังเป็นตัวเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน และทะเลอารบียน น้ำมันและเรือ จากอ่าวเปอร์เซียและมหาสมุทรอินเดีย จะต้องผ่านจุดนี้ ก่อนที่จะผ่านเข้าสุเอซไปสู่เมดิเตอเรเนียน เข้าไปสู่ยุโรป (โปรดดูแผนที่ประกอบนะครับ จะได้เห็นชัด และเข้าใจ)
    สรุปว่า การขนส่งน้ำมันจากทุกแหล่งในโลก ต้องขนส่งกันไปมา ผ่านน่านน้ำต่างๆนั้น ประมาณ 50% ของน้ำมันที่ขนส่งกัน ต้องผ่านช่องรัดคอ Bab นี้ ใครคุม คุณ Bab ก็เท่ากับคุมโลกไป 50%
    อเมริกาจะยอมให้สลัดโซมาเลียคุม หรือ อเมริกาจะปล่อยให้เยเมนประเทศเล็กๆคุม
    และประเทศเสี่ยปั้มกับพวก ที่ขายน้ำมัน จะปล่อยให้เยเมนและโซมาเลีย กำหนดเส้นทางส่งน้ำมันของเขาไหม ปั้มน้ำมันขึ้นมาได้ แต่ส่งไปขายไม่ได้ และประเทศที่ต้องการน้ำมันจากอาฟริกา จะให้นั่งตาลอย อยู่ในกำมือของใครก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ แล้วถ้าพวกเสี่ยปั้มซาอุกับพวก คุม เยเมน คุมคุณ Bab ได้ ผมว่า เสี่ยนิวเคลียร์สองลูก คงจะทำใจยาก ที่จะให้พวกเสี่ยปั้มขี่คอ...
    เยเมน จึงกลายเป็นประเทศ ที่ทุกฝ่ายพยายามเข้าไปคุมอำนาจ เพื่อคุมจุดรัดคอ คุมไม่ได้ก็ ต้องถ่วงอำนาจ ถ่วงไม่ได้ สงสัยเกิดรายการถล่ม
    เรื่องเยเมน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก อเมริกาคงพยายามทุกทางที่จะคุม คุณ Bab จุดรัดคอ Bab el-Mandeb และเราคงได้ยิน เรื่องความไม่สงบในเยเมนอยู่ตลอดเวลา และเวลานี้การสู้รบในเยเมน จริงๆ ก็กำลังดำเนินอยู่อย่างดุเดือด แต่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ เสนอข่าวน้อยมาก หรือแทบไม่เสนอเลย ก็ลองถอดรหัสกันดู ว่า แบบนี้แปลว่าใครกำลังเล่นอะไร ในเยเมน และใครกำลังได้เปรียบ เสียเปรียบ และโปรดอย่าลืมว่าเยเมนใต้ เคยชอบพอกับใคร เพื่อนกัน คงไม่ทิ้งกันง่ายๆ เยเมนใต้ อาจจะกลายเป็นสนามประลองกำลังตัวแทน proxy war ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
    และก็คอยตามข่าวกันหน่อย เรื่องแถวเยเมน นี่ อาจทำให้พอประเมินได้ว่า สงครามโลก ใกล้เข้ามาขนาดไหนแล้ว และ ฝ่ายไหนจะได้เปรียบเสียเปรียบ เส้นทางขนส่งน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญในการทำศึกสงครามครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    22 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 9 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 9 รายได้ของเยเมนประมาณ 70% มาจากการขายน้ำมัน รัฐบาลเยเมน ซึ่งตั้งที่ทำการอยู่ที่ เมืองซานะ เมืองหลวงของเยเมน แต่อยู่ ในเขตเยเมนเหนือ เป็นผู้ควบคุมรายได้จากน้ำมัน แต่บ่อน้ำมันดันอยู่ในเยเมนใต้ แบบนี้ก็เข้าทาง (ยังไม่รู้ทางใคร!?) เมื่อรัฐบาล Saleh แตกคอกับเยเมนใต้ Saleh ก็เสียงคงอ่อย ค่าขายน้ำมัน สงสัยจะส่งมาไม่ถึงเมืองซานะ เยเมน เหมือนจะยังถูกบีบไม่พอ อยู่ดีๆ ในเดือนมกราคม ค.ศ.2009 ก็เกิดมีประกาศในเวบไซท์ ของอัลไคด้าว่า อัลไคด้าของบินลาเดน จะมาเปิดสาขาใหม่ใหญ่กว่าทุกแห่ง อยู่ในเยเมน เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับปฏิบัติการ ทั้งในเยเมน และซาอุดิอารเบีย เวบอัลไคด้า โดยหัวหน้าใหญ่ Nasir al-Wanayshi ประกาศรายชื่อ บรรดาหัวกะทิ ที่จะมาประจำอยู่เยเมน ซึ่งมีกะทิระดับที่เคยถูกจับไปอบรม อยู่ในค่ายกวนตานาโมของอเมริกาด้วยหลายคน ไม่ใช่ย่อยนะ แต่ เล่นคัดตัวแสดงแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็เดาออกหมด ว่า ใครอำนวยการสร้าง หลังจากนั้น al-Wanayshi ก็ทำวิดีโอออกสู่สาธารณะ เขาเริ่มเรื่องได้น่าหวาดเสียว ว่า …เราจะเริ่มต้นที่นี่ และเราจะพบกันที่อัลอัคซา We start from here and we will meet at al-Aqsa (คือโบสถ์ของชาวยิวในเยรูซาเรม)… วีดีโอนี้ ประกาศ ข่มขู่ ข่มขวัญ หัวหน้าใหญ่ของมุสลิมตั้งแต่ Saleh ในเยเมนเอง ราชวงศ์ของซาอุ ไปจนถึงประธานาธิบดี มูบารัค ของอียิปต์ อัลไคด้าบอกว่า เรากำลังจะไปต่อสู้อย่างพลีชีพ เพื่อเอาแผ่นดินศักดิ์สิทธิของมุสลิม ตั้งแต่ กาซ่า เยเมน ถึงอิสราเอล กลับคืนมา การตั้ง Southern Movement การประกาศตั้งฐานใหม่ของอัลไคด้าในเยเมน การออกมาข่มขวัญของอัลไคด้า แค่นี้ ก็เพียงพอให้อเมริกาใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อยกทัพมาขยี้เยเมนแล้ว เยเมนไม่ใช่ซูดาน ที่ต้องใช้พระเอกเดินนำกล้อง ไม่ใช่คองโก ที่ต้องเอามือมีระดับมาจัดการ ไม่ต้องพูดถึงลิเบีย ที่ต้องขนกันมาครึ่งโลก เยเมนประเทศเล็กกระจ้อย อเมริกาตวาดทีเดียว ก็ราดเต็มกางเกงกันหมดแล้ว หลังจากบอกว่า เรื่องภายในประเทศเยเมน เป็นเรื่องของเยเมน แต่อเมริกาก็สั่งให้กองทัพของอ เมริกาบุกเยเมน เพื่อจัดการกับอัลไคด้า ซึ่งอเมริกาอ้างว่า เป็นเรื่องกระทบนานาชาติ ไม่ใช่เรื่องภายในของเยเมน เข้าใจไหม เข้าใจครับ เข้าใจครับ อเมริกาอ้างว่า การโจมตีของอเมริกา ในช่วง 17 ถึง 24 ธันวาคม ค.ศ.2009 อเมริกาได้กำจัดอัลไคด้า ระดับหัวหน้าไปแล้ว 3 คน แต่ไม่มีรายชื่อ ไม่มีหลักฐาน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ใบเล็ก ไม่เห็นขุดมาเล่าให้ฟังบ้างเลย หลังจากนั้น อเมริกาบอกว่า จำเป็นต้องช่วย Saleh เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดผู้ก่อการร้ายในเยเมน ให้หมดไปโดยเร็ว เลยจำเป็นต้องทิ้งกองกำลังไว้ในเยเมนต่อไป เฮ้อ…มาแบบเก่า ฟอร์มเดิม ผมเบื่อแล้วนะพี่ ต้องเขียนซ้ำๆ กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ รายงานเรื่องอัลไคด้า ที่อเมริกาอ้างว่าต้องยกพลไปถล่มอย่างเสียไม่ได้ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น กระป๋องใส่สีย้อมข่าว เปลี่ยนไป รายงานเรื่อง สลัดโซมาเลีย โจมตีเรือขนส่งสินค้าในอ่าวเอเดน นอกฝั่งโซมาเลีย ตรงข้ามกับเยเมนใต้ และเล่นข่าวสลัดโซมาเลียอย่างใหญ่ โต แถมเล่นซ้ำทุกวัน ไม่ต้อง งง ครับ ตีข่าวเรื่องอัลไคด้า ตามบทจบด้วยกองทัพอเมริกา ไปอยู่ในเยเมน เรียบร้อยฉากแรกแล้ว ตอนนี้ต้องเปิดฉากสองต่อ วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ.2009 สำนักข่าว RIA Novosti ของมอสโคว์ รายงานข่าวว่า สลัดโซมาเลีย ยึดเรือขนส่งสินค้าของกรีก ที่อ่าวเอเดน นอกฝั่งด้านโซมาเลีย ก่อนหน้านั้น เรือบรรทุกเคมีของอังกฤษ พร้อมลูกเรือ 26 คน โดนจับที่อ่าวเอเดน หัวหน้าสลัด Mohamed Shakir แน่มาก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอังกฤษ The Times ทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องจริง เรายึดเรืออังกฤษไปแล้ว รายการสลัดโซมาเลีย ปล้นเรือในช่วงปี 2009 พุ่งสูงมาก นับถึงวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2009 สลัดโซมาเลียโจมตีเรือไป 174 รายการ เรือ 35 ลำ ถูกยึด ลูกเรือ 587 คน ถูกเรียกค่าไถ่ การปฏิบัติการทุกรายการ ประสพผลสำเร็จ เยี่ยมจริงๆ คำถามคือ “ใคร” เป็นคนจัดส่งอาวุธให้สลัดโซมา เลีย รวมทั้งส่งเส้นทาง และตารางการเดินเรือ ของเรือสินค้านานาชาติ มันเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยม จนทำให้การปล้น และการหลบจากการถูกจับ โดยเรือลาดตระเวนของนานาชาติ ของสลัดโซมาเลียสำเร็จทุกครั้ง น่านน้ำระหว่างเยเมนกับโซมาเลีย มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง มันเป็นบริเวณ ที่มีช่องแคบสำคัญอยู่ด้วยเรียกว่า Bab el-Mandab ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ของรายการช่องแคบสำคัญ ในเส้นทางขนส่งน้ำมัน ที่เรียกว่า choke points จุดรัดคอ! สำนักข้อมูลการพลังงานของอเมริกา รายงานว่า หากมีการปิดช่องแคบ Bab el-Mandab จะทำให้เรือขนส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย ไม่สามารถเข้าไปถึงคลองสุเอซและ ท่อส่งน้ำมัน Sumed ที่สุเอซ นอกจากแล่นอ้อมลงทางใต้ ผ่านปลายทวีปอาฟริกา ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะทาง เวลา และค่าใช้จ่าย ช่องแคบ Bab จึงเป็นจุดที่สามารถ รัดคอ ตัดขาดเส้นทาง ระหว่างอาฟริกากับตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ หรือ จุดตัดขาด ระหว่างทะเลเมดิเตอเรเนียนกับมหาสมุทรอินเดีย มันเป็นจุดเป็น จุดตาย ของเส้นทางเดินของน้ำมัน จริงๆ นอกจากนี้ Bab el-Mandab ที่อยู่ระหว่าง เยเมน จิบูตี และอีริเตรีย ยังเป็นตัวเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน และทะเลอารบียน น้ำมันและเรือ จากอ่าวเปอร์เซียและมหาสมุทรอินเดีย จะต้องผ่านจุดนี้ ก่อนที่จะผ่านเข้าสุเอซไปสู่เมดิเตอเรเนียน เข้าไปสู่ยุโรป (โปรดดูแผนที่ประกอบนะครับ จะได้เห็นชัด และเข้าใจ) สรุปว่า การขนส่งน้ำมันจากทุกแหล่งในโลก ต้องขนส่งกันไปมา ผ่านน่านน้ำต่างๆนั้น ประมาณ 50% ของน้ำมันที่ขนส่งกัน ต้องผ่านช่องรัดคอ Bab นี้ ใครคุม คุณ Bab ก็เท่ากับคุมโลกไป 50% อเมริกาจะยอมให้สลัดโซมาเลียคุม หรือ อเมริกาจะปล่อยให้เยเมนประเทศเล็กๆคุม และประเทศเสี่ยปั้มกับพวก ที่ขายน้ำมัน จะปล่อยให้เยเมนและโซมาเลีย กำหนดเส้นทางส่งน้ำมันของเขาไหม ปั้มน้ำมันขึ้นมาได้ แต่ส่งไปขายไม่ได้ และประเทศที่ต้องการน้ำมันจากอาฟริกา จะให้นั่งตาลอย อยู่ในกำมือของใครก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ แล้วถ้าพวกเสี่ยปั้มซาอุกับพวก คุม เยเมน คุมคุณ Bab ได้ ผมว่า เสี่ยนิวเคลียร์สองลูก คงจะทำใจยาก ที่จะให้พวกเสี่ยปั้มขี่คอ... เยเมน จึงกลายเป็นประเทศ ที่ทุกฝ่ายพยายามเข้าไปคุมอำนาจ เพื่อคุมจุดรัดคอ คุมไม่ได้ก็ ต้องถ่วงอำนาจ ถ่วงไม่ได้ สงสัยเกิดรายการถล่ม เรื่องเยเมน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก อเมริกาคงพยายามทุกทางที่จะคุม คุณ Bab จุดรัดคอ Bab el-Mandeb และเราคงได้ยิน เรื่องความไม่สงบในเยเมนอยู่ตลอดเวลา และเวลานี้การสู้รบในเยเมน จริงๆ ก็กำลังดำเนินอยู่อย่างดุเดือด แต่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ เสนอข่าวน้อยมาก หรือแทบไม่เสนอเลย ก็ลองถอดรหัสกันดู ว่า แบบนี้แปลว่าใครกำลังเล่นอะไร ในเยเมน และใครกำลังได้เปรียบ เสียเปรียบ และโปรดอย่าลืมว่าเยเมนใต้ เคยชอบพอกับใคร เพื่อนกัน คงไม่ทิ้งกันง่ายๆ เยเมนใต้ อาจจะกลายเป็นสนามประลองกำลังตัวแทน proxy war ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และก็คอยตามข่าวกันหน่อย เรื่องแถวเยเมน นี่ อาจทำให้พอประเมินได้ว่า สงครามโลก ใกล้เข้ามาขนาดไหนแล้ว และ ฝ่ายไหนจะได้เปรียบเสียเปรียบ เส้นทางขนส่งน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญในการทำศึกสงครามครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 22 ก.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 296 Views 0 Reviews
  • แผนชั่ว ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 1
    อเมริกา นักล่าใบตองแห้ง ทำชั่วได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ระดับชั่วธรรมดา จนถึง ชั่วจนเหลือเชื่อ เพื่อจะได้ตามที่ตนเองต้องการ แผนชั่วของนักล่าใบตองแห้ง ซับซ้อน ซ่อนลึก แถมสร้างเรื่องกลบ จนดูแทบไม่ออกว่า เรื่องไหน เป็นเรื่องจริง เรื่องไหน เป็นเรื่องลวง
    ประมาณปี ค.ศ.2006 ขณะที่ George Clooney พระเอกหนังฮอลลีวู้ดคนดัง ความหล่อใกล้เคียงลุงนิทาน กำลังเดินทำหน้าหล่ออยู่ที่ซูดานใต้ เพื่อไปช่วยชาวซูดาน ที่กำลังหนีภัยสงครามกลางเมือง โดยมีนักข่าวซีเอนเอน เดินตามประกบพระเอกรูปหล่อทุกฝีก้าว ทำหน้าที่รายงานข่าว แบบรายนาที
    พระเอกกำลังเล่นบทดาราใจบุญ ดังแล้วไม่ลืมคนลำบาก เดินเข้าไปหาชาวซูดาน ที่กำลังนอนอยู่กลางดิน กินแต่ทราย พระเอกทำมาดนุ่ม ก้มไปอุ้มเด็ก ที่ขี้มูกกำลังไหลย้อย ต่อมา พระเอกก็ทำหน้าเครียด คุยกับหญิงชาวซูดาน ที่กำลังปัดแมงวันว่อน พระเอกบอกกำลังจะตั้งมูลนิธิเพื่อมาช่วยชาวซูดานนะ รอหน่อย อย่าเพิ่งหิวตายนะจ้ะ พระเอกยังบอกอีกว่า กำลังชวนเพื่อนดาราใจบุญอีกหลายสิบ ให้มาช่วยกันจัดคอนเสิตร์ เอาเงินมาช่วยชาวซูดานใต้ ฯลฯ สาระพัดจะมีรายงานข่าว เกี่ยวกับพระเอกรูปหล่อ กับชาวซูดานใต้ที่น่าสงสาร
    แต่ ซีเอนเอน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ของนักล่าใบตองแห้ง ไม่เสนอข่าวเล่าให้ชัดสักหน่อย ว่าทำไมชาวซูดานใต้ ถึงบ้านแตกสาแหรกหลุดขนาดนั้น
    ในปี ค.ศ.1994 จีนเปลี่ยนชั้นจากประเทศที่ส่งนำ้มันออก กลายเป็นประเทศ ที่ต้องสั่งน้ำมันเข้า การเปลี่ยนชั้นแบบนี้ของจีน ไม่ดีกับจีนนัก เห็นชัดว่า ความมั่นคงของจีนคงผูกติดกับเรื่องน้ำมันอย่างน่าเป็นห่วง และก็ทำให้ บรรดานักล่ารุ่นใหม่รุ่นเก่าได้ที รีบหาทางปิดกั้น ไม่ให้จีนเข้าถึงแหล่งน้ำมันในโลก ไม่ว่าแหล่งนั้นจะเกี่ยว หรือไม่เกี่ยวกับพวกนักล่าใบตองแห้ง ใบตองสด
    จีนโตไว ยิ่งกว่าไก่ได้ฮอร์โมน ประมาณว่า ในปี ค.ศ.2030 หรือเร็วกว่านั้น จีน อาจมีรถยนตร์ มากกว่าอเมริกา เสียด้วยซ้ำ จีนจึงต้องการน้ำมันมากจริงๆ แต่ใช่ว่าจีนไม่รับรู้ถึงความต้องการของตนเอง จีนเข้าใจเรื่องความต้องการใช้น้ำมันว่าเป็นเรื่องที่ “ต้องจัดการ” เป็นอันดับหนึ่งของชาติ
    ประมาณต้นปี ค.ศ.1999 ข่าวการลงทุนของจีนในซูดาน เกี่ยวกับการสำรวจแหล่งน้ำมัน ทำให้นักล่าใบตองแห้งตาโต ถล่นออกมานอกเบ้า หูผึ่งบาน แต่ยังเก็บอาการ แค่ติดตามดูผลจากดาวเทียม ที่รีบจัดการย้ายตำแหน่ง เอามาจ่อซูดานเรียงกันเป็นตับ ไม่นาน ก็มีข่าวว่า จีนค้นพบแหล่งน้ำมันแล้วที่เมืองดาฟูร์ Darfur ที่อยู่ในซูดานใต้ และมีแผนจะสร้างท่อส่งน้ำมัน ยาว 900 ไมล์ จากแหล่งน้ำมันในซูดานใต้ ไปยังท่าเรือซูดาน เพื่อไปออกทะเลแดง ไปลงถังน้ำมัน เพื่อส่งไปจีน ครบถ้วนกระบวนการ อาเฮียถอนหายใจดังเฮือก
    ข่าวนี้ ทำให้นักล่าใบตองแห้งและอังกฤษชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย แทบจะลงดิ้นกลิ้งกับพื้นด้วยความขัดใจ มันทำได้ยังไง มันหลุดมือพวกเราไปได้อย่างไร แบบนี้แผนการสร้าง กับดักท่อ รัดคอซูดาน ต้องรีบดำเนินการด่วน
    เดือนเมษายน ค.ศ.2005 รัฐมนตรีพลังงานของซูดานประกาศ ที่คาร์ทูม Khartoum เมืองหลวงของซูดานว่า เราพบแหล่งน้ำมันใหญ่ ที่ทางใต้ของเมืองดาร์ฟู Darfur ซึ่งคาดว่าจะทำการผลิตน้ำมันได้ประมาณ 5 แสน บาเรลต่อวัน ในไม่กี่สัปดาห์นี้ นักธรณีวิทยาคาดว่า จะเป็นแหล่งน้ำมันที่ยาวจากดาร์ฟูไปถึงเพื่อนบ้านอย่างชาด Chad และแคเมอรูน Cameroon แหล่งนี้ อาจจะเป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุด ที่พบนอกประเทศซาอุดิอารเบีย… (อ่านนิทานเรื่องนี้ จะได้รสอร่อยขึ้น ถ้าดูแผนที่ประกอบนะครับ)
    หลังจากการขุดเจอน้ำมันที่ดาร์ฟู จีนเร่งเดินสาย ผูกข้อมือกับชาวอาฟริกา อย่างจริงจัง และจริงใจ ด้วยการเสนอเงินกู้ระยะยาว แบบเงินช่วยเหลือคือไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเงื่อนไงผูกมัด ไม่บังคับว่าจะต้องขายสมบัติเก่า หรือแปรรูปบ้าบออะไร แค่ให้เอาเงินไปพัฒนา สร้างสาธารณูประโภค ถนน โรงพยาบาล โรงเรียน ตามอัธยาศัยของผู้กู้ ไม่มีการขู่ ไม่มีการบีบ มันเป็นหนังคนละม้วน เงื่อนไขคนละชุด กับของพวกก๊วนหน้าเลือด ใจดำ ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ World Bank, IMF
    สำหรับซูดาน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 ที่เจอแหล่งน้ำมัน จีนลงทุนในซูดานไปแล้ว เป็นจำนวน 1 หมื่น 5 พันล้านเหรียญ ส่วนบริษัท China National Petroleum Company (CNPC) ร่วมลงทุนในการขุดสำรวจน้ำม้นกับซูดาน เป็นจำนวน 5 พันล้านเหรียญ และจีนยังถือหุ้นอีก 50% ในโรงกลั่นน้ำมันที่ คาร์ทูมร่วมกับรัฐบาลซูดานอีกด้วย และจีนได้ทำสัญญาสั่งน้ำมันล่วงหน้าจากซูดาน เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งใจป้ำจ่ายเงินล่วงหน้าด้วย ให้เห็นว่าจีนเอาจริง ซื้อจริง รวยจริง ต่างกับค่ายอื่น ที่ดูเหมือน จะรวยแค่ลมปาก
    ทันทีที่มีข่าวนี้ออกไป กองกำลังจากไหนไม่รู้ ผุดขึ้นมาเต็มทะเลทราย ไล่ไปตั้งแต่ แนวเขตแดนของ ชาด ที่อยู่ติดกับซูดาน เป็นกองกำลังที่ติดอาวุธอย่างดี ของตะวันตก หลังจากนั้น ก็มีข่าวปล้น ฆ่า ข่มขืน ตลอดไปทั้งภูมิภาค คราวนี้ วอชิงตัน และ กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ยี่ห้อซีเอนเอน ต่างประโคมข่าวทั้งวัน ว่าเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ที่ดาร์ฟู Darfur Genocide ทั้งหมด ที่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ตีปีบโหมข่าว ก็เพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจว่า เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องเอากองทัพนาโต้ เข้าไปอยู่เต็มซูดานใต้ เพื่อดูแลความสงบ
    จำไว้ให้ดีนะครับ “ฆ่าล้างเผ่าพันธ์” เป็นข้ออ้างของ ไอ้นักล่าใบตองแห้ง และสมุน ขี้ข้ารับใช้ทั้งหลาย ชอบเอามาใช้อ้าง เวลาเสียเปรียบ หรือเวลาจะเอาเปรียบ หรือเวลาอะไรก็ได้ เพื่อจะเอากองกำลังของตัวเองเข้าไปในบ้านของคนอื่นว่ากำลังมีเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธ์กัน ก็มาจากการสร้างเรื่องของพวกเอ็งทั้งนั้นแหละ แมวถูกหมาไล่กัด ก็เป็นเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเหมือนกันนะ
    ท่อส่งน้ำมัน ที่จีนสร้างในซูดาน ส่วนใหญ่อยู่ทางซูดานใต้ มีแหล่งสำรวจใหญ่แหล่งเดียวอยู่ ที่ทางซูดานเหนือ ทางเหนือของซูดานมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองคาร์ทูม ควบคุมโดยรัฐบาลที่เป็นอิสลาม อเมริกาพยายามสร้างสงครามกลางเมือง แบ่งซูดานเป็น 2 ส่วน ซูดานเหนือกับซูดานใต้ โดยอเมริกา เล็งยึดซูดานใต้ มาเป็นของพวกตัว และเป็นการถีบจีนออกจากแหล่งทรัพยากรใหญ่ ที่สามารถจะช่วยจีนได้แยะ (ถ้าจีนได้ไป) เรื่องนี้ นักล่าใบตองแห้งกับพวกยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ อาเฮียชักหายใจไม่โล่ง
    พระเอกหนัง George Cloony เลยต้องไปเข้าฉาก แสดงบทดาราใจบุญ อยู่ที่ซูดานใต้ ใช้พระเอกรูปหล่อใจบุญ ทำหน้าที่ตีข่าว ประกาศให้โลกสนใจ และหลงเชื่อว่า กำลังมีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ เกิดขึ้นในซูดานใต้ มีคนใจร้ายกำลังฆ่าคนบริสุทธิ์ แบบนี้ได้ผลเร็วกว่า เอานักข่าวธรรมดา เดินเซไปเซมา รายงานข่าว ก็เรื่องมันด่วน รอช้าได้ที่ไหน เดี๋ยวอาเฮีย เขาเอาไปหมด
    มันเล่นแบบหนังฮอลลีวู้ด เอาดารามาแสดงได้จริงๆ แน่จริงๆ ไอ้ใบตองแห้ง

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    14 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 1 อเมริกา นักล่าใบตองแห้ง ทำชั่วได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ระดับชั่วธรรมดา จนถึง ชั่วจนเหลือเชื่อ เพื่อจะได้ตามที่ตนเองต้องการ แผนชั่วของนักล่าใบตองแห้ง ซับซ้อน ซ่อนลึก แถมสร้างเรื่องกลบ จนดูแทบไม่ออกว่า เรื่องไหน เป็นเรื่องจริง เรื่องไหน เป็นเรื่องลวง ประมาณปี ค.ศ.2006 ขณะที่ George Clooney พระเอกหนังฮอลลีวู้ดคนดัง ความหล่อใกล้เคียงลุงนิทาน กำลังเดินทำหน้าหล่ออยู่ที่ซูดานใต้ เพื่อไปช่วยชาวซูดาน ที่กำลังหนีภัยสงครามกลางเมือง โดยมีนักข่าวซีเอนเอน เดินตามประกบพระเอกรูปหล่อทุกฝีก้าว ทำหน้าที่รายงานข่าว แบบรายนาที พระเอกกำลังเล่นบทดาราใจบุญ ดังแล้วไม่ลืมคนลำบาก เดินเข้าไปหาชาวซูดาน ที่กำลังนอนอยู่กลางดิน กินแต่ทราย พระเอกทำมาดนุ่ม ก้มไปอุ้มเด็ก ที่ขี้มูกกำลังไหลย้อย ต่อมา พระเอกก็ทำหน้าเครียด คุยกับหญิงชาวซูดาน ที่กำลังปัดแมงวันว่อน พระเอกบอกกำลังจะตั้งมูลนิธิเพื่อมาช่วยชาวซูดานนะ รอหน่อย อย่าเพิ่งหิวตายนะจ้ะ พระเอกยังบอกอีกว่า กำลังชวนเพื่อนดาราใจบุญอีกหลายสิบ ให้มาช่วยกันจัดคอนเสิตร์ เอาเงินมาช่วยชาวซูดานใต้ ฯลฯ สาระพัดจะมีรายงานข่าว เกี่ยวกับพระเอกรูปหล่อ กับชาวซูดานใต้ที่น่าสงสาร แต่ ซีเอนเอน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ของนักล่าใบตองแห้ง ไม่เสนอข่าวเล่าให้ชัดสักหน่อย ว่าทำไมชาวซูดานใต้ ถึงบ้านแตกสาแหรกหลุดขนาดนั้น ในปี ค.ศ.1994 จีนเปลี่ยนชั้นจากประเทศที่ส่งนำ้มันออก กลายเป็นประเทศ ที่ต้องสั่งน้ำมันเข้า การเปลี่ยนชั้นแบบนี้ของจีน ไม่ดีกับจีนนัก เห็นชัดว่า ความมั่นคงของจีนคงผูกติดกับเรื่องน้ำมันอย่างน่าเป็นห่วง และก็ทำให้ บรรดานักล่ารุ่นใหม่รุ่นเก่าได้ที รีบหาทางปิดกั้น ไม่ให้จีนเข้าถึงแหล่งน้ำมันในโลก ไม่ว่าแหล่งนั้นจะเกี่ยว หรือไม่เกี่ยวกับพวกนักล่าใบตองแห้ง ใบตองสด จีนโตไว ยิ่งกว่าไก่ได้ฮอร์โมน ประมาณว่า ในปี ค.ศ.2030 หรือเร็วกว่านั้น จีน อาจมีรถยนตร์ มากกว่าอเมริกา เสียด้วยซ้ำ จีนจึงต้องการน้ำมันมากจริงๆ แต่ใช่ว่าจีนไม่รับรู้ถึงความต้องการของตนเอง จีนเข้าใจเรื่องความต้องการใช้น้ำมันว่าเป็นเรื่องที่ “ต้องจัดการ” เป็นอันดับหนึ่งของชาติ ประมาณต้นปี ค.ศ.1999 ข่าวการลงทุนของจีนในซูดาน เกี่ยวกับการสำรวจแหล่งน้ำมัน ทำให้นักล่าใบตองแห้งตาโต ถล่นออกมานอกเบ้า หูผึ่งบาน แต่ยังเก็บอาการ แค่ติดตามดูผลจากดาวเทียม ที่รีบจัดการย้ายตำแหน่ง เอามาจ่อซูดานเรียงกันเป็นตับ ไม่นาน ก็มีข่าวว่า จีนค้นพบแหล่งน้ำมันแล้วที่เมืองดาฟูร์ Darfur ที่อยู่ในซูดานใต้ และมีแผนจะสร้างท่อส่งน้ำมัน ยาว 900 ไมล์ จากแหล่งน้ำมันในซูดานใต้ ไปยังท่าเรือซูดาน เพื่อไปออกทะเลแดง ไปลงถังน้ำมัน เพื่อส่งไปจีน ครบถ้วนกระบวนการ อาเฮียถอนหายใจดังเฮือก ข่าวนี้ ทำให้นักล่าใบตองแห้งและอังกฤษชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย แทบจะลงดิ้นกลิ้งกับพื้นด้วยความขัดใจ มันทำได้ยังไง มันหลุดมือพวกเราไปได้อย่างไร แบบนี้แผนการสร้าง กับดักท่อ รัดคอซูดาน ต้องรีบดำเนินการด่วน เดือนเมษายน ค.ศ.2005 รัฐมนตรีพลังงานของซูดานประกาศ ที่คาร์ทูม Khartoum เมืองหลวงของซูดานว่า เราพบแหล่งน้ำมันใหญ่ ที่ทางใต้ของเมืองดาร์ฟู Darfur ซึ่งคาดว่าจะทำการผลิตน้ำมันได้ประมาณ 5 แสน บาเรลต่อวัน ในไม่กี่สัปดาห์นี้ นักธรณีวิทยาคาดว่า จะเป็นแหล่งน้ำมันที่ยาวจากดาร์ฟูไปถึงเพื่อนบ้านอย่างชาด Chad และแคเมอรูน Cameroon แหล่งนี้ อาจจะเป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุด ที่พบนอกประเทศซาอุดิอารเบีย… (อ่านนิทานเรื่องนี้ จะได้รสอร่อยขึ้น ถ้าดูแผนที่ประกอบนะครับ) หลังจากการขุดเจอน้ำมันที่ดาร์ฟู จีนเร่งเดินสาย ผูกข้อมือกับชาวอาฟริกา อย่างจริงจัง และจริงใจ ด้วยการเสนอเงินกู้ระยะยาว แบบเงินช่วยเหลือคือไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเงื่อนไงผูกมัด ไม่บังคับว่าจะต้องขายสมบัติเก่า หรือแปรรูปบ้าบออะไร แค่ให้เอาเงินไปพัฒนา สร้างสาธารณูประโภค ถนน โรงพยาบาล โรงเรียน ตามอัธยาศัยของผู้กู้ ไม่มีการขู่ ไม่มีการบีบ มันเป็นหนังคนละม้วน เงื่อนไขคนละชุด กับของพวกก๊วนหน้าเลือด ใจดำ ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ World Bank, IMF สำหรับซูดาน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 ที่เจอแหล่งน้ำมัน จีนลงทุนในซูดานไปแล้ว เป็นจำนวน 1 หมื่น 5 พันล้านเหรียญ ส่วนบริษัท China National Petroleum Company (CNPC) ร่วมลงทุนในการขุดสำรวจน้ำม้นกับซูดาน เป็นจำนวน 5 พันล้านเหรียญ และจีนยังถือหุ้นอีก 50% ในโรงกลั่นน้ำมันที่ คาร์ทูมร่วมกับรัฐบาลซูดานอีกด้วย และจีนได้ทำสัญญาสั่งน้ำมันล่วงหน้าจากซูดาน เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งใจป้ำจ่ายเงินล่วงหน้าด้วย ให้เห็นว่าจีนเอาจริง ซื้อจริง รวยจริง ต่างกับค่ายอื่น ที่ดูเหมือน จะรวยแค่ลมปาก ทันทีที่มีข่าวนี้ออกไป กองกำลังจากไหนไม่รู้ ผุดขึ้นมาเต็มทะเลทราย ไล่ไปตั้งแต่ แนวเขตแดนของ ชาด ที่อยู่ติดกับซูดาน เป็นกองกำลังที่ติดอาวุธอย่างดี ของตะวันตก หลังจากนั้น ก็มีข่าวปล้น ฆ่า ข่มขืน ตลอดไปทั้งภูมิภาค คราวนี้ วอชิงตัน และ กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ยี่ห้อซีเอนเอน ต่างประโคมข่าวทั้งวัน ว่าเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ที่ดาร์ฟู Darfur Genocide ทั้งหมด ที่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ตีปีบโหมข่าว ก็เพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจว่า เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องเอากองทัพนาโต้ เข้าไปอยู่เต็มซูดานใต้ เพื่อดูแลความสงบ จำไว้ให้ดีนะครับ “ฆ่าล้างเผ่าพันธ์” เป็นข้ออ้างของ ไอ้นักล่าใบตองแห้ง และสมุน ขี้ข้ารับใช้ทั้งหลาย ชอบเอามาใช้อ้าง เวลาเสียเปรียบ หรือเวลาจะเอาเปรียบ หรือเวลาอะไรก็ได้ เพื่อจะเอากองกำลังของตัวเองเข้าไปในบ้านของคนอื่นว่ากำลังมีเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธ์กัน ก็มาจากการสร้างเรื่องของพวกเอ็งทั้งนั้นแหละ แมวถูกหมาไล่กัด ก็เป็นเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเหมือนกันนะ ท่อส่งน้ำมัน ที่จีนสร้างในซูดาน ส่วนใหญ่อยู่ทางซูดานใต้ มีแหล่งสำรวจใหญ่แหล่งเดียวอยู่ ที่ทางซูดานเหนือ ทางเหนือของซูดานมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองคาร์ทูม ควบคุมโดยรัฐบาลที่เป็นอิสลาม อเมริกาพยายามสร้างสงครามกลางเมือง แบ่งซูดานเป็น 2 ส่วน ซูดานเหนือกับซูดานใต้ โดยอเมริกา เล็งยึดซูดานใต้ มาเป็นของพวกตัว และเป็นการถีบจีนออกจากแหล่งทรัพยากรใหญ่ ที่สามารถจะช่วยจีนได้แยะ (ถ้าจีนได้ไป) เรื่องนี้ นักล่าใบตองแห้งกับพวกยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ อาเฮียชักหายใจไม่โล่ง พระเอกหนัง George Cloony เลยต้องไปเข้าฉาก แสดงบทดาราใจบุญ อยู่ที่ซูดานใต้ ใช้พระเอกรูปหล่อใจบุญ ทำหน้าที่ตีข่าว ประกาศให้โลกสนใจ และหลงเชื่อว่า กำลังมีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ เกิดขึ้นในซูดานใต้ มีคนใจร้ายกำลังฆ่าคนบริสุทธิ์ แบบนี้ได้ผลเร็วกว่า เอานักข่าวธรรมดา เดินเซไปเซมา รายงานข่าว ก็เรื่องมันด่วน รอช้าได้ที่ไหน เดี๋ยวอาเฮีย เขาเอาไปหมด มันเล่นแบบหนังฮอลลีวู้ด เอาดารามาแสดงได้จริงๆ แน่จริงๆ ไอ้ใบตองแห้ง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 14 ก.ย. 2558
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 437 Views 0 Reviews
  • นายกแป้น ทำหาดใหญ่พังคามือ

    เหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ปี 2568 เป็นบทพิสูจน์การทำงานของนายกแป้น ณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ จ.สงขลา จากความประมาทและความมั่นหน้ามั่นใจในตัวเอง คิดว่าการบริหารจัดการน้ำท่วมของตัวเองนั้น "เอาอยู่" แต่สุดท้ายมวลน้ำจำนวนมหาศาล พัดพาเมืองเศรษฐกิจหลักภาคใต้ ให้พังทลายราวกับวันสิ้นโลก ผู้เสียชีวิตมากกว่า 110 ศพ การบริหารจัดการที่ย่ำแย่ของรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ประชาชนต้องดูแลกันเอง ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก และความป่าเถื่อนของชาวบ้านบางคนในเขต 8 ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจนล่าถอย ความวุ่นวายจากการที่ชาวบ้านบางคนลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ขบวนรถไฟ คลังสินค้าเหล้าเบียร์ และคนทำมาหากินจำนวนมากสิ้นเนื้อประดาตัว จากข้าวของเครื่องใช้ถูกน้ำพัดพังเสียหาย

    จากความฉิบหายของเมืองหาดใหญ่ในวันนั้น เขาหายไปจากพื้นที่โซเชียลมีเดีย ของเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่เขาคุ้นเคยในการทำคอนเทนต์วีดีโอ 3 วัน ก่อนกลับมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยสารพัดข้ออ้าง ระบุว่า ผมเพิ่งเข้ามาแค่ 4 เดือน เรือสภาพเก่าและพังหมด ไม่ได้ซื้อมาเป็นสิบปี มีอยู่แค่ 4-5 ลำ ก็เลยต้องสู้เท่าที่สู้ได้ ส่วนการแจ้งเตือนที่ว่ายังปักธงเขียว อ้างว่ามีคนดึงธงไป ตนประกาศยกธงเองไม่ได้ ต้องมีคณะกรรมการอนุมัติ อีกทั้งชลประทานมั่นใจว่ามวลน้ำจาก อ.สะเดา (คลองอู่ตะเภา) ห่างจากตลิ่งกว่า 3 เมตร แต่กลับมีน้ำจากเขาคอหงส์มาด้วย ก่อนจะขอโทษและจะฟื้นฟูบ้านเมืองให้กลับมาเหมือนเดิมเร็วที่สุด

    แต่เสียงสะท้อนจากชาวหาดใหญ่ ส่วนใหญ่ไม่ต้องการข้ออ้างและคำแก้ตัว แต่ต้องการสปิริตทางการเมือง เรียกร้องให้เขาลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิต และความสูญเสียแบบประเมินค่าไม่ได้ พร้อมขุดดิจิทัลฟุตพรินท์เก่าๆ ที่เคยหาเสียงไว้ อ้างว่าการทำงานของนักปกครอง ระหว่างเกิดเหตุต้องเตรียมรถ เตรียมเรือ อุปกรณ์ เตรียมของกินให้พี่น้องประชาชน ... แต่สุดท้ายทำไม่ได้จริง

    ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่เมื่อเดือน พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา นายกแป้นเอาชนะ "พี่หลวงคร" พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีคนก่อนหน้า ด้วยคะแนน 23,595 ต่อ 21,577 คะแนน หรือห่างกันแค่ 2,000 คะแนนเศษ โดยมีรายงานว่า ปลัดแป้น ถือเป็นข้าราชการนักปกครอง เคยเป็นนายอำเภอในหลายพื้นที่ของจังหวัดสงขลา และปลัดจังหวัดอีกหลายจังหวัด อีกทั้งมีความใกล้ชิดกับเครือข่ายพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ พี่หลวงครยังคงช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตามกำลังที่มี แม้บ้านพี่หลวงครจะถูกน้ำท่วม และรถยนต์พังขณะแจกถุงยังชีพ กลายเป็นผู้ประสบภัยพร้อมกับชาวบ้านก็ตาม

    #Newskit
    นายกแป้น ทำหาดใหญ่พังคามือ เหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ปี 2568 เป็นบทพิสูจน์การทำงานของนายกแป้น ณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ จ.สงขลา จากความประมาทและความมั่นหน้ามั่นใจในตัวเอง คิดว่าการบริหารจัดการน้ำท่วมของตัวเองนั้น "เอาอยู่" แต่สุดท้ายมวลน้ำจำนวนมหาศาล พัดพาเมืองเศรษฐกิจหลักภาคใต้ ให้พังทลายราวกับวันสิ้นโลก ผู้เสียชีวิตมากกว่า 110 ศพ การบริหารจัดการที่ย่ำแย่ของรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ประชาชนต้องดูแลกันเอง ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก และความป่าเถื่อนของชาวบ้านบางคนในเขต 8 ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจนล่าถอย ความวุ่นวายจากการที่ชาวบ้านบางคนลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ขบวนรถไฟ คลังสินค้าเหล้าเบียร์ และคนทำมาหากินจำนวนมากสิ้นเนื้อประดาตัว จากข้าวของเครื่องใช้ถูกน้ำพัดพังเสียหาย จากความฉิบหายของเมืองหาดใหญ่ในวันนั้น เขาหายไปจากพื้นที่โซเชียลมีเดีย ของเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่เขาคุ้นเคยในการทำคอนเทนต์วีดีโอ 3 วัน ก่อนกลับมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยสารพัดข้ออ้าง ระบุว่า ผมเพิ่งเข้ามาแค่ 4 เดือน เรือสภาพเก่าและพังหมด ไม่ได้ซื้อมาเป็นสิบปี มีอยู่แค่ 4-5 ลำ ก็เลยต้องสู้เท่าที่สู้ได้ ส่วนการแจ้งเตือนที่ว่ายังปักธงเขียว อ้างว่ามีคนดึงธงไป ตนประกาศยกธงเองไม่ได้ ต้องมีคณะกรรมการอนุมัติ อีกทั้งชลประทานมั่นใจว่ามวลน้ำจาก อ.สะเดา (คลองอู่ตะเภา) ห่างจากตลิ่งกว่า 3 เมตร แต่กลับมีน้ำจากเขาคอหงส์มาด้วย ก่อนจะขอโทษและจะฟื้นฟูบ้านเมืองให้กลับมาเหมือนเดิมเร็วที่สุด แต่เสียงสะท้อนจากชาวหาดใหญ่ ส่วนใหญ่ไม่ต้องการข้ออ้างและคำแก้ตัว แต่ต้องการสปิริตทางการเมือง เรียกร้องให้เขาลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิต และความสูญเสียแบบประเมินค่าไม่ได้ พร้อมขุดดิจิทัลฟุตพรินท์เก่าๆ ที่เคยหาเสียงไว้ อ้างว่าการทำงานของนักปกครอง ระหว่างเกิดเหตุต้องเตรียมรถ เตรียมเรือ อุปกรณ์ เตรียมของกินให้พี่น้องประชาชน ... แต่สุดท้ายทำไม่ได้จริง ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่เมื่อเดือน พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา นายกแป้นเอาชนะ "พี่หลวงคร" พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีคนก่อนหน้า ด้วยคะแนน 23,595 ต่อ 21,577 คะแนน หรือห่างกันแค่ 2,000 คะแนนเศษ โดยมีรายงานว่า ปลัดแป้น ถือเป็นข้าราชการนักปกครอง เคยเป็นนายอำเภอในหลายพื้นที่ของจังหวัดสงขลา และปลัดจังหวัดอีกหลายจังหวัด อีกทั้งมีความใกล้ชิดกับเครือข่ายพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ พี่หลวงครยังคงช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตามกำลังที่มี แม้บ้านพี่หลวงครจะถูกน้ำท่วม และรถยนต์พังขณะแจกถุงยังชีพ กลายเป็นผู้ประสบภัยพร้อมกับชาวบ้านก็ตาม #Newskit
    Like
    2
    2 Comments 0 Shares 603 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    คดีเครื่องจักรสังหาร: ศึกตัดสินโดยไร้พ่อ

    การปรากฏตัวของหุ่นสังหาร

    เหตุการณ์ฆาตกรรมปริศนา

    เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ไม่มีร่องรอยการบุกรุก
    เหยื่อทั้งหมดเป็นบุคคลสำคัญในวงการเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์

    ```mermaid
    graph TB
    A[นักวิทยาศาสตร์<br>ถูกฆาตกรรม] --> B[ไม่มีร่องรอย<br>การบุกรุก]
    C[นักธุรกิจ<br>ถูกฆาตกรรม] --> B
    D[นักวิจัย<br>ถูกฆาตกรรม] --> B
    B --> E[หนูดีต้อง<br>สืบสวนแทนพ่อ]
    ```

    ลักษณะคดีที่น่าสงสัย

    · ไม่มีลายนิ้วมือ: ไม่มีร่องรอยมนุษย์
    · ไม่มีการต่อสู้: เหยื่อเหมือนยอมให้ฆ่า
    · เวลาเกิดเหตุ: ตรงกันทุกครั้งคือ 03:33 น.

    การสืบสวนโดยไร้ประสบการณ์

    ความยากลำบากของหนูดี

    หนูดีต้องสืบสวนคดีครั้งแรกโดยไม่มีพ่อคอยแนะนำ:

    ```python
    class InvestigationChallenges:
    def __init__(self):
    self.lack_of_experience = [
    "ไม่รู้ขั้นตอนการสืบสวนที่ถูกต้อง",
    "ไม่มีความรู้ด้านนิติวิทยาศาสตร์",
    "ไม่เคยจัดการกับพยานหลักฐาน",
    "ไม่รู้วิธีเขียนรายงานการสืบสวน"
    ]

    self.emotional_struggles = [
    "คิดถึงพ่อในยามยาก",
    "ไม่มั่นใจในความสามารถตัวเอง",
    "กลัวที่จะล้มเหลว",
    "รู้สึกโดดเดี่ยวในการทำงาน"
    ]
    ```

    การขอความช่วยเหลือ

    หนูดีต้องหันไปหาผู้ช่วยใหม่:

    · ธรรมบาลเทพ: ให้คำแนะนำแต่ไม่สามารถช่วยโดยตรง
    · โอปปาติกะรุ่นพี่: ให้ข้อมูลแต่ขาดประสบการณ์สืบสวน
    · เพื่อนตำรวจของพ่อ: ช่วยเหลือแต่ไม่เข้าใจพลังพิเศษ

    การค้นพบที่น่าตกใจ

    หลักฐานทางเทคโนโลยี

    หนูดีค้นพบว่าเหยื่อทั้งหมดเกี่ยวข้องกับโครงการลับ:

    ```mermaid
    graph LR
    A[เหยื่อคนที่ 1<br>ผู้เชี่ยวชาญ AI] --> D[โครงการ<br>"จิตวิญญาณจักรกล"]
    B[เหยื่อคนที่ 2<br>นักวิทยหุ่นยนต์] --> D
    C[เหยื่อคนที่ 3<br>นักประสาทวิทยาศาสตร์] --> D
    ```

    การลักลอบใช้เทคโนโลยี

    โครงการ "จิตวิญญาณจักรกล" เกี่ยวข้องกับ:

    · การถ่ายโอนจิตสำนึก: สู่ร่างหุ่นยนต์
    · ฮิวแมนนอยด์ขั้นสูง: ที่แทบไม่ต่างจากมนุษย์
    · การสร้างหุ่นพยนต์: ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

    ตัวตนของนักฆ่าจักรกล

    หุ่นพยนต์รุ่นใหม่

    นักฆ่าคือหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ถูกจุติด้วยจิตวิญญาณมาร:

    ```python
    class MechanicalAssassin:
    def __init__(self):
    self.specifications = {
    "model": "Mara-X7",
    "appearance": "เหมือนมนุษย์ทุกประการ",
    "abilities": [
    "เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้",
    "ลบร่องรอยดิจิตอล",
    "เคลื่อนไหวไร้เสียง",
    "ทนทานต่ออาวุธทั่วไป"
    ],
    "weakness": "ไวต่อพลังงานจิตบริสุทธิ์"
    }

    self.origin = {
    "creator": "กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นอกระบบ",
    "purpose": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับโครงการ",
    "soul_source": "จิตวิญญาณมารระดับสูง",
    "control_system": "AI ที่เรียนรู้ได้เอง"
    }
    ```

    วิธีการทำงาน

    หุ่นพยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ:

    · สอดแนม: ผ่านระบบเครือข่าย
    · วางแผน: ด้วย AI ที่คำนวณความเสี่ยง
    · ปฏิบัติการ: อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
    · หลบหนี: โดยไม่ทิ้งร่องรอย

    การเผชิญหน้าที่เต็มไปด้วยความยุ่งยาก

    การต่อสู้ครั้งแรก

    หนูดีเผชิญหน้ากับหุ่นพยนต์แต่พบว่าตนเองไม่พร้อม:
    "ฉันทำไม่ได้...ฉันไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร"
    หนูดีรู้สึกหมดกำลังใจเมื่อนึกถึงพ่อ

    ความช่วยเหลือจากเทพคุ้มครอง

    ธรรมบาลเทพปรากฏตัวแต่ช่วยได้จำกัด:
    "เราสามารถให้คำแนะนำได้แต่เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะสู้ด้วยตัวเอง"

    การเรียนรู้อย่างเร่งด่วน

    หนูดีต้องเรียนรู้ทุกอย่างอย่างรวดเร็ว:

    ```mermaid
    graph TB
    A[หนูดี<br>ขาดประสบการณ์] --> B[เร่งเรียน<br>การสืบสวน]
    A --> C[ฝึกฝน<br>การต่อสู้]
    A --> D[เรียนรู้<br>เทคโนโลยี]
    B --> E[พัฒนาทักษะ<br>อย่างรวดเร็ว]
    C --> E
    D --> E
    ```

    การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์

    การใช้พลังพิเศษ

    หนูดีค้นพบว่าหุ่นพยนต์มีจุดอ่อน:

    · พลังงานจิต: รบกวนระบบอิเล็กทรอนิกส์
    · อารมณ์มนุษย์: สิ่งที่ AI เข้าใจยาก
    · ความไม่แน่นอน: ที่การคำนวณทำนายไม่ได้

    การพัฒนายุทธวิธีใหม่

    หนูดีสร้างวิธีการต่อสู้อันซับซ้อน

    ```python
    class BattleStrategy:
    def __init__(self):
    self.psychological_warfare = [
    "ใช้ความไม่แน่นอนทำให้ AI สับสน",
    "สร้างสถานการณ์ที่คำนวณไม่ได้",
    "ใช้จิตวิทยากับจิตวิญญาณมาร",
    "สร้างความขัดแย้งในระบบ"
    ]

    self.technical_countermeasures = [
    "ใช้พลังงานจิตรบกวนเซ็นเซอร์",
    "สร้างสนามพลังยับยั้งการสื่อสาร",
    "ใช้คลื่นอารมณ์ทำลายเสถียรภาพ",
    "โจมตีจุดเชื่อมต่อพลังงาน"
    ]
    ```

    การต่อสู้ครั้งสำคัญ

    ศึกตัดสินที่โรงงานร้าง

    หนูดีตามหุ่นพยนต์ไปยังฐานลับ:
    หนูดี:"เจ้าคือเครื่องมือของความชั่ว!"
    หุ่นพยนต์:"เราเพียงทำตามโปรแกรม... เหมือนเจ้าที่ทำตามความทรงจำเกี่ยวกับพ่อ"

    การใช้บทเรียนจากพ่อ

    ในวินาทีสำคัญ หนูดีนึกถึงคำสอนของพ่อ:
    "พ่อเคยบอกว่า...การเป็นตำรวจที่ดีต้องการใช้เพียงประสบการณ์
    แต่คือการใช้หัวใจและสติปัญญา"

    การโจมตีจุดอ่อน

    หนูดีใช้ทั้งพลังและปัญญา:

    · สร้างความขัดแย้ง: ในจิตวิญญาณมาร
    · รบกวนระบบ: ด้วยพลังงานอารมณ์
    · โจมตีจิตใจ: ของผู้ควบคุมเบื้องหลัง

    ชัยชนะแห่งการเติบโต

    การก้าวข้ามความกลัว

    หนูดีพิสูจน์ว่าตนเองสามารถ:

    · สืบสวนคดี: ได้โดยไม่มีพ่อ
    · จัดการกับเทคโนโลยี: ที่ทันสมัย
    · ใช้พลัง: อย่างชาญฉลาด

    บทเรียนที่ได้รับ

    ```python
    class GrowthLessons:
    def __init__(self):
    self.personal_growth = [
    "เรียนรู้ที่จะ
    "เข้าใจว่าความกลัวคือโอกาสในการเติบโต",
    "พัฒนาความเป็นผู้นำจากการตัดสินใจ",
    "รู้จักขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น"
    ]

    self.professional_skills = [
    "การสืบสวนอย่างเป็นระบบ",
    "การวิเคราะห์พยานหลักฐาน",
    "การจัดการกับเทคโนโลยีสมัยใหม่",
    "การทำงานเป็นทีมกับผู้เชี่ยวชาญ"
    ]
    ```

    การพัฒนาสู่ผู้เชี่ยวชาญ

    การเป็นที่ปรึกษาอิสระ

    หลังคดีนี้ หนูดีได้รับการยอมรับในฐานะ:

    · ที่ปรึกษาด้านคดีพิเศษ: สำหรับหน่วยงานรัฐ
    · ผู้เชี่ยวชาญโอปปาติกะ: ด้านความมั่นคง
    · ครูสอนการควบคุมพลัง: สำหรับรุ่นน้อง

    เครือข่าย

    หนูดีสร้างความร่วมมือใหม่:

    · กับหน่วยงานไฮเทค: ด้านความปลอดภัย
    · กับนักวิทยาศาสตร์: ด้านเทคโนโลยีและจิตวิญญาณ
    · กับชุมชนโอปปาติกะ: ด้านการพัฒนาทักษะ

    บทสรุปแห่งการเติบโต

    คำคมจากหนูดี

    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การไม่มีพ่อไม่ใช่ข้ออ้างที่จะล้มเหลว
    แต่คือโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเอง

    และประสบการณ์ไม่ใช่สิ่งที่ได้มาโดยง่าย
    แต่คือบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง"

    คำคมจากธรรมบาลเทพ

    "การเติบโตที่แท้จริง...
    เกิดขึ้นเมื่อเราก้าวเดินด้วยขาของตัวเอง
    แม้ทางนั้นจะยากลำบากและไม่แน่นอน

    และพ่อที่แท้จริง...
    คือผู้ที่สอนให้ลูกรู้จักยืนได้ด้วยตัวเอง"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากคดี:
    "ในความมืดมิดแห่งการสูญเสีย...
    มีแสงสว่างแห่งการเติบโต

    และในความยุ่งยากแห่งการเดินทาง...
    มีบทเรียนแห่งความแข็งแกร่ง

    พ่ออาจจากไป...
    แต่สิ่งที่พ่อสอนจะคงอยู่ตลอดไป

    และฉัน...
    จะก้าวเดินต่อไปบนทางที่พ่อได้เริ่มไว้"

    บทเรียนแห่งความเป็นตำรวจ:
    "การเป็นนักสืบอาศัยหลักฐาน
    แต่คือการเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตนเอง

    และการคลี่คลายคดี...
    มักเริ่มต้นจากการเข้าใจตัวเอง"
    O.P.K. 🔪 คดีเครื่องจักรสังหาร: ศึกตัดสินโดยไร้พ่อ 🤖 การปรากฏตัวของหุ่นสังหาร 🚨 เหตุการณ์ฆาตกรรมปริศนา เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ไม่มีร่องรอยการบุกรุก เหยื่อทั้งหมดเป็นบุคคลสำคัญในวงการเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ```mermaid graph TB A[นักวิทยาศาสตร์<br>ถูกฆาตกรรม] --> B[ไม่มีร่องรอย<br>การบุกรุก] C[นักธุรกิจ<br>ถูกฆาตกรรม] --> B D[นักวิจัย<br>ถูกฆาตกรรม] --> B B --> E[หนูดีต้อง<br>สืบสวนแทนพ่อ] ``` 🔍 ลักษณะคดีที่น่าสงสัย · ไม่มีลายนิ้วมือ: ไม่มีร่องรอยมนุษย์ · ไม่มีการต่อสู้: เหยื่อเหมือนยอมให้ฆ่า · เวลาเกิดเหตุ: ตรงกันทุกครั้งคือ 03:33 น. 🕵️ การสืบสวนโดยไร้ประสบการณ์ 💔 ความยากลำบากของหนูดี หนูดีต้องสืบสวนคดีครั้งแรกโดยไม่มีพ่อคอยแนะนำ: ```python class InvestigationChallenges: def __init__(self): self.lack_of_experience = [ "ไม่รู้ขั้นตอนการสืบสวนที่ถูกต้อง", "ไม่มีความรู้ด้านนิติวิทยาศาสตร์", "ไม่เคยจัดการกับพยานหลักฐาน", "ไม่รู้วิธีเขียนรายงานการสืบสวน" ] self.emotional_struggles = [ "คิดถึงพ่อในยามยาก", "ไม่มั่นใจในความสามารถตัวเอง", "กลัวที่จะล้มเหลว", "รู้สึกโดดเดี่ยวในการทำงาน" ] ``` 🆘 การขอความช่วยเหลือ หนูดีต้องหันไปหาผู้ช่วยใหม่: · ธรรมบาลเทพ: ให้คำแนะนำแต่ไม่สามารถช่วยโดยตรง · โอปปาติกะรุ่นพี่: ให้ข้อมูลแต่ขาดประสบการณ์สืบสวน · เพื่อนตำรวจของพ่อ: ช่วยเหลือแต่ไม่เข้าใจพลังพิเศษ 🤯 การค้นพบที่น่าตกใจ 🔬 หลักฐานทางเทคโนโลยี หนูดีค้นพบว่าเหยื่อทั้งหมดเกี่ยวข้องกับโครงการลับ: ```mermaid graph LR A[เหยื่อคนที่ 1<br>ผู้เชี่ยวชาญ AI] --> D[โครงการ<br>"จิตวิญญาณจักรกล"] B[เหยื่อคนที่ 2<br>นักวิทยหุ่นยนต์] --> D C[เหยื่อคนที่ 3<br>นักประสาทวิทยาศาสตร์] --> D ``` 👁️ การลักลอบใช้เทคโนโลยี โครงการ "จิตวิญญาณจักรกล" เกี่ยวข้องกับ: · การถ่ายโอนจิตสำนึก: สู่ร่างหุ่นยนต์ · ฮิวแมนนอยด์ขั้นสูง: ที่แทบไม่ต่างจากมนุษย์ · การสร้างหุ่นพยนต์: ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ 🦾 ตัวตนของนักฆ่าจักรกล 🤖 หุ่นพยนต์รุ่นใหม่ นักฆ่าคือหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ถูกจุติด้วยจิตวิญญาณมาร: ```python class MechanicalAssassin: def __init__(self): self.specifications = { "model": "Mara-X7", "appearance": "เหมือนมนุษย์ทุกประการ", "abilities": [ "เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้", "ลบร่องรอยดิจิตอล", "เคลื่อนไหวไร้เสียง", "ทนทานต่ออาวุธทั่วไป" ], "weakness": "ไวต่อพลังงานจิตบริสุทธิ์" } self.origin = { "creator": "กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นอกระบบ", "purpose": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับโครงการ", "soul_source": "จิตวิญญาณมารระดับสูง", "control_system": "AI ที่เรียนรู้ได้เอง" } ``` 🎯 วิธีการทำงาน หุ่นพยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ: · สอดแนม: ผ่านระบบเครือข่าย · วางแผน: ด้วย AI ที่คำนวณความเสี่ยง · ปฏิบัติการ: อย่างรวดเร็วและแม่นยำ · หลบหนี: โดยไม่ทิ้งร่องรอย 💫 การเผชิญหน้าที่เต็มไปด้วยความยุ่งยาก ⚡ การต่อสู้ครั้งแรก หนูดีเผชิญหน้ากับหุ่นพยนต์แต่พบว่าตนเองไม่พร้อม: "ฉันทำไม่ได้...ฉันไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร" หนูดีรู้สึกหมดกำลังใจเมื่อนึกถึงพ่อ 🆘 ความช่วยเหลือจากเทพคุ้มครอง ธรรมบาลเทพปรากฏตัวแต่ช่วยได้จำกัด: "เราสามารถให้คำแนะนำได้แต่เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะสู้ด้วยตัวเอง" 📚 การเรียนรู้อย่างเร่งด่วน หนูดีต้องเรียนรู้ทุกอย่างอย่างรวดเร็ว: ```mermaid graph TB A[หนูดี<br>ขาดประสบการณ์] --> B[เร่งเรียน<br>การสืบสวน] A --> C[ฝึกฝน<br>การต่อสู้] A --> D[เรียนรู้<br>เทคโนโลยี] B --> E[พัฒนาทักษะ<br>อย่างรวดเร็ว] C --> E D --> E ``` 🔧 การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 💡 การใช้พลังพิเศษ หนูดีค้นพบว่าหุ่นพยนต์มีจุดอ่อน: · พลังงานจิต: รบกวนระบบอิเล็กทรอนิกส์ · อารมณ์มนุษย์: สิ่งที่ AI เข้าใจยาก · ความไม่แน่นอน: ที่การคำนวณทำนายไม่ได้ 🛠️ การพัฒนายุทธวิธีใหม่ หนูดีสร้างวิธีการต่อสู้อันซับซ้อน ```python class BattleStrategy: def __init__(self): self.psychological_warfare = [ "ใช้ความไม่แน่นอนทำให้ AI สับสน", "สร้างสถานการณ์ที่คำนวณไม่ได้", "ใช้จิตวิทยากับจิตวิญญาณมาร", "สร้างความขัดแย้งในระบบ" ] self.technical_countermeasures = [ "ใช้พลังงานจิตรบกวนเซ็นเซอร์", "สร้างสนามพลังยับยั้งการสื่อสาร", "ใช้คลื่นอารมณ์ทำลายเสถียรภาพ", "โจมตีจุดเชื่อมต่อพลังงาน" ] ``` 🌪️ การต่อสู้ครั้งสำคัญ ⚔️ ศึกตัดสินที่โรงงานร้าง หนูดีตามหุ่นพยนต์ไปยังฐานลับ: หนูดี:"เจ้าคือเครื่องมือของความชั่ว!" หุ่นพยนต์:"เราเพียงทำตามโปรแกรม... เหมือนเจ้าที่ทำตามความทรงจำเกี่ยวกับพ่อ" 💥 การใช้บทเรียนจากพ่อ ในวินาทีสำคัญ หนูดีนึกถึงคำสอนของพ่อ: "พ่อเคยบอกว่า...การเป็นตำรวจที่ดีต้องการใช้เพียงประสบการณ์ แต่คือการใช้หัวใจและสติปัญญา" 🎯 การโจมตีจุดอ่อน หนูดีใช้ทั้งพลังและปัญญา: · สร้างความขัดแย้ง: ในจิตวิญญาณมาร · รบกวนระบบ: ด้วยพลังงานอารมณ์ · โจมตีจิตใจ: ของผู้ควบคุมเบื้องหลัง 🏆 ชัยชนะแห่งการเติบโต 💪 การก้าวข้ามความกลัว หนูดีพิสูจน์ว่าตนเองสามารถ: · สืบสวนคดี: ได้โดยไม่มีพ่อ · จัดการกับเทคโนโลยี: ที่ทันสมัย · ใช้พลัง: อย่างชาญฉลาด 🌱 บทเรียนที่ได้รับ ```python class GrowthLessons: def __init__(self): self.personal_growth = [ "เรียนรู้ที่จะ "เข้าใจว่าความกลัวคือโอกาสในการเติบโต", "พัฒนาความเป็นผู้นำจากการตัดสินใจ", "รู้จักขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น" ] self.professional_skills = [ "การสืบสวนอย่างเป็นระบบ", "การวิเคราะห์พยานหลักฐาน", "การจัดการกับเทคโนโลยีสมัยใหม่", "การทำงานเป็นทีมกับผู้เชี่ยวชาญ" ] ``` 📈 การพัฒนาสู่ผู้เชี่ยวชาญ 🎓 การเป็นที่ปรึกษาอิสระ หลังคดีนี้ หนูดีได้รับการยอมรับในฐานะ: · ที่ปรึกษาด้านคดีพิเศษ: สำหรับหน่วยงานรัฐ · ผู้เชี่ยวชาญโอปปาติกะ: ด้านความมั่นคง · ครูสอนการควบคุมพลัง: สำหรับรุ่นน้อง 🤝 เครือข่าย หนูดีสร้างความร่วมมือใหม่: · กับหน่วยงานไฮเทค: ด้านความปลอดภัย · กับนักวิทยาศาสตร์: ด้านเทคโนโลยีและจิตวิญญาณ · กับชุมชนโอปปาติกะ: ด้านการพัฒนาทักษะ 💫 บทสรุปแห่งการเติบโต 🌟 คำคมจากหนูดี "ฉันเรียนรู้ว่า... การไม่มีพ่อไม่ใช่ข้ออ้างที่จะล้มเหลว แต่คือโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเอง และประสบการณ์ไม่ใช่สิ่งที่ได้มาโดยง่าย แต่คือบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง" 🕊️ คำคมจากธรรมบาลเทพ "การเติบโตที่แท้จริง... เกิดขึ้นเมื่อเราก้าวเดินด้วยขาของตัวเอง แม้ทางนั้นจะยากลำบากและไม่แน่นอน และพ่อที่แท้จริง... คือผู้ที่สอนให้ลูกรู้จักยืนได้ด้วยตัวเอง" --- คำคมสุดท้ายจากคดี: "ในความมืดมิดแห่งการสูญเสีย... มีแสงสว่างแห่งการเติบโต และในความยุ่งยากแห่งการเดินทาง... มีบทเรียนแห่งความแข็งแกร่ง พ่ออาจจากไป... แต่สิ่งที่พ่อสอนจะคงอยู่ตลอดไป และฉัน... จะก้าวเดินต่อไปบนทางที่พ่อได้เริ่มไว้"🔪✨ บทเรียนแห่งความเป็นตำรวจ: "การเป็นนักสืบอาศัยหลักฐาน แต่คือการเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตนเอง และการคลี่คลายคดี... มักเริ่มต้นจากการเข้าใจตัวเอง"🦋
    0 Comments 0 Shares 566 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: "EU เตรียมปรับกฎหมายดิจิทัล ลดการเด้ง Cookie Banner"

    สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาปรับปรุงกฎหมายดิจิทัล โดยเฉพาะ General Data Protection Regulation (GDPR) ที่บังคับให้เว็บไซต์ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้ก่อนเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นที่มาของ cookie banner ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคุ้นเคยและมักรู้สึกว่ารบกวนการใช้งาน.

    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนและภาระทางกฎหมาย โดยจะทำให้ cookie banner ปรากฏน้อยลง และผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าความยินยอมได้จาก ศูนย์กลางในเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการ แทนที่จะต้องกดยอมรับทุกครั้งที่เข้าเว็บไซต์ใหม่.

    นอกจาก GDPR แล้ว ยังมีการปรับปรุงกฎหมายอื่น ๆ เช่น EU Data Act ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT และ AI Act ที่กำหนดข้อบังคับสำหรับระบบ AI อย่าง ChatGPT และ Gemini โดยคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้บางส่วนตั้งแต่สิงหาคมปีหน้า.

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิผู้บริโภค เช่น Amnesty International และสมาชิกสภายุโรปบางส่วน เตือนว่าการลดความเข้มงวดอาจเป็นการ “เปิดช่องให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ” และอาจทำให้สิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนใน EU อ่อนแอลง.

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลง GDPR
    ลดจำนวนครั้งที่ cookie banner ปรากฏ
    ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าความยินยอมผ่านเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการ

    การปรับปรุงกฎหมายอื่น ๆ
    EU Data Act: เพิ่มสิทธิผู้ใช้ในการจัดการข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT
    AI Act: กำหนดข้อบังคับสำหรับระบบ AI เช่น ChatGPT และ Gemini

    เป้าหมายของ EU Commission
    ลดภาระทางกฎหมายและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล
    ปิดช่องว่างนวัตกรรมและเพิ่มผลิตภาพในยุโรป

    คำเตือนด้านสิทธิผู้บริโภค
    องค์กรสิทธิมนุษยชนเตือนว่าอาจทำให้สิทธิความเป็นส่วนตัวอ่อนแอลง

    คำเตือนด้านการกำกับดูแล
    การลดความเข้มงวดอาจถูกใช้เป็นข้ออ้างในการละเมิดข้อมูลโดยบริษัทเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/039accept-all-cookies039-update-to-eu-digital-law-could-change-browsing
    🌐 หัวข้อข่าว: "EU เตรียมปรับกฎหมายดิจิทัล ลดการเด้ง Cookie Banner" สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาปรับปรุงกฎหมายดิจิทัล โดยเฉพาะ General Data Protection Regulation (GDPR) ที่บังคับให้เว็บไซต์ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้ก่อนเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นที่มาของ cookie banner ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคุ้นเคยและมักรู้สึกว่ารบกวนการใช้งาน. การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนและภาระทางกฎหมาย โดยจะทำให้ cookie banner ปรากฏน้อยลง และผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าความยินยอมได้จาก ศูนย์กลางในเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการ แทนที่จะต้องกดยอมรับทุกครั้งที่เข้าเว็บไซต์ใหม่. นอกจาก GDPR แล้ว ยังมีการปรับปรุงกฎหมายอื่น ๆ เช่น EU Data Act ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT และ AI Act ที่กำหนดข้อบังคับสำหรับระบบ AI อย่าง ChatGPT และ Gemini โดยคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้บางส่วนตั้งแต่สิงหาคมปีหน้า. อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิผู้บริโภค เช่น Amnesty International และสมาชิกสภายุโรปบางส่วน เตือนว่าการลดความเข้มงวดอาจเป็นการ “เปิดช่องให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ” และอาจทำให้สิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนใน EU อ่อนแอลง. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลง GDPR ➡️ ลดจำนวนครั้งที่ cookie banner ปรากฏ ➡️ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าความยินยอมผ่านเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการ ✅ การปรับปรุงกฎหมายอื่น ๆ ➡️ EU Data Act: เพิ่มสิทธิผู้ใช้ในการจัดการข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT ➡️ AI Act: กำหนดข้อบังคับสำหรับระบบ AI เช่น ChatGPT และ Gemini ✅ เป้าหมายของ EU Commission ➡️ ลดภาระทางกฎหมายและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล ➡️ ปิดช่องว่างนวัตกรรมและเพิ่มผลิตภาพในยุโรป ‼️ คำเตือนด้านสิทธิผู้บริโภค ⛔ องค์กรสิทธิมนุษยชนเตือนว่าอาจทำให้สิทธิความเป็นส่วนตัวอ่อนแอลง ‼️ คำเตือนด้านการกำกับดูแล ⛔ การลดความเข้มงวดอาจถูกใช้เป็นข้ออ้างในการละเมิดข้อมูลโดยบริษัทเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/039accept-all-cookies039-update-to-eu-digital-law-could-change-browsing
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'Accept all cookies?' Update to EU digital law could change browsing
    Now, in an attempt to cut red tape and simplify the experience of browsing the web, EU lawmakers want to significantly change the bloc's digital laws, considered among the world's strictest for data privacy.
    0 Comments 0 Shares 277 Views 0 Reviews
  • ยุโรปผ่อนปรนกฎหมายความเป็นส่วนตัวและ AI

    หลังจากหลายปีที่สหภาพยุโรป (EU) ยืนหยัดในฐานะผู้นำด้านการคุ้มครองข้อมูลและการกำกับดูแล AI ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอการปรับแก้กฎหมายสำคัญอย่าง GDPR และ AI Act ภายใต้แพ็กเกจ “Digital Omnibus” โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของกฎเกณฑ์และกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการลดจำนวนป๊อปอัพคุกกี้ที่ผู้ใช้ต้องเผชิญ และการอนุญาตให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้โดยตรงในการฝึก AI ได้

    แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ
    การผ่อนปรนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Meta และ OpenAI รวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มองว่ากฎเข้มงวดของยุโรปเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันในตลาดโลก รายงานจาก Mario Draghi อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ก็ชี้ว่ากฎหมายเข้มงวดทำให้ยุโรปเสียเปรียบในการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน

    ความกังวลจากนักเคลื่อนไหวและนักการเมือง
    แม้การปรับลดกฎจะถูกนำเสนอว่าเป็นการ “ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น” แต่หลายฝ่าย เช่น กลุ่มสิทธิพลเมืองและนักการเมืองยุโรป เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้คือการลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลลงอย่างมาก โดยเฉพาะการเปิดช่องให้บริษัทอ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” (legitimate interest) เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องขอความยินยอมอย่างเข้มงวดเหมือนเดิม

    ผลกระทบต่ออนาคตการแข่งขันและสิทธิพลเมือง
    หากข้อเสนอได้รับการอนุมัติ กฎหมายใหม่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพทำงานง่ายขึ้น แต่ก็เสี่ยงต่อการทำให้สิทธิของประชาชนในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนแอลง นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “การตัดทอนทีละน้อย” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในยุโรปในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย GDPR และ AI Act
    ลดจำนวนคุกกี้ป๊อปอัพ และอนุญาตให้ใช้ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในการฝึก AI

    แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ
    บริษัทเทคโนโลยีและรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่ากฎเข้มงวดเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน

    เป้าหมายของ EU
    ลดขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพให้แข่งขันได้ง่ายขึ้น

    ความเสี่ยงต่อสิทธิพลเมือง
    การใช้ข้ออ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” อาจทำให้บริษัทเก็บข้อมูลโดยไม่ต้องขอความยินยอม

    การลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล
    นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “death by a thousand cuts” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นใน GDPR

    ผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก
    ยุโรปอาจสูญเสียจุดยืนในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว หากกฎหมายอ่อนตัวลง

    https://www.theverge.com/news/823750/european-union-ai-act-gdpr-changes
    📰 ยุโรปผ่อนปรนกฎหมายความเป็นส่วนตัวและ AI หลังจากหลายปีที่สหภาพยุโรป (EU) ยืนหยัดในฐานะผู้นำด้านการคุ้มครองข้อมูลและการกำกับดูแล AI ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอการปรับแก้กฎหมายสำคัญอย่าง GDPR และ AI Act ภายใต้แพ็กเกจ “Digital Omnibus” โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของกฎเกณฑ์และกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการลดจำนวนป๊อปอัพคุกกี้ที่ผู้ใช้ต้องเผชิญ และการอนุญาตให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้โดยตรงในการฝึก AI ได้ ⚖️ แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ การผ่อนปรนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Meta และ OpenAI รวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มองว่ากฎเข้มงวดของยุโรปเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันในตลาดโลก รายงานจาก Mario Draghi อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ก็ชี้ว่ากฎหมายเข้มงวดทำให้ยุโรปเสียเปรียบในการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน 🔍 ความกังวลจากนักเคลื่อนไหวและนักการเมือง แม้การปรับลดกฎจะถูกนำเสนอว่าเป็นการ “ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น” แต่หลายฝ่าย เช่น กลุ่มสิทธิพลเมืองและนักการเมืองยุโรป เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้คือการลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลลงอย่างมาก โดยเฉพาะการเปิดช่องให้บริษัทอ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” (legitimate interest) เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องขอความยินยอมอย่างเข้มงวดเหมือนเดิม 🌐 ผลกระทบต่ออนาคตการแข่งขันและสิทธิพลเมือง หากข้อเสนอได้รับการอนุมัติ กฎหมายใหม่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพทำงานง่ายขึ้น แต่ก็เสี่ยงต่อการทำให้สิทธิของประชาชนในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนแอลง นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “การตัดทอนทีละน้อย” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในยุโรปในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย GDPR และ AI Act ➡️ ลดจำนวนคุกกี้ป๊อปอัพ และอนุญาตให้ใช้ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในการฝึก AI ✅ แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ ➡️ บริษัทเทคโนโลยีและรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่ากฎเข้มงวดเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน ✅ เป้าหมายของ EU ➡️ ลดขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพให้แข่งขันได้ง่ายขึ้น ‼️ ความเสี่ยงต่อสิทธิพลเมือง ⛔ การใช้ข้ออ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” อาจทำให้บริษัทเก็บข้อมูลโดยไม่ต้องขอความยินยอม ‼️ การลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล ⛔ นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “death by a thousand cuts” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นใน GDPR ‼️ ผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก ⛔ ยุโรปอาจสูญเสียจุดยืนในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว หากกฎหมายอ่อนตัวลง https://www.theverge.com/news/823750/european-union-ai-act-gdpr-changes
    0 Comments 0 Shares 530 Views 0 Reviews
  • เครียดกว่าแม้ว ก็เสี่ยยะนี่แหละ ถึงคราวต้องควักเงินตัวเองมาช่วยสู้ศึกเลือกตั้ง หลังนายใหญ่มีข้ออ้างโดนเรียกเก็บภาษี ย้ายพรรคน่าจะง่ายกว่านะพี่ยะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เครียดกว่าแม้ว ก็เสี่ยยะนี่แหละ ถึงคราวต้องควักเงินตัวเองมาช่วยสู้ศึกเลือกตั้ง หลังนายใหญ่มีข้ออ้างโดนเรียกเก็บภาษี ย้ายพรรคน่าจะง่ายกว่านะพี่ยะ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • “ทำไมรถ Tesla จึงยังใช้ Apple CarPlay และ Android Auto ไม่ได้”

    ในยุคที่รถยนต์แทบทุกคันมีระบบ Apple CarPlay และ Android Auto เพื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอรถ Tesla กลับเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป Tesla ไม่เคยและอาจจะไม่เคยรองรับระบบเหล่านี้เลย เหตุผลหลักคือ Tesla ต้องการควบคุมทุกอย่างเอง ตั้งแต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ไปจนถึงการเชื่อมต่อ เพื่อให้ประสบการณ์ใช้งานเป็นเอกลักษณ์และไม่ขึ้นกับบริษัทอื่น

    อีกมุมหนึ่งคือ Tesla ไม่ได้เป็นแค่ผู้ผลิตรถยนต์ แต่ยังเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่สร้างเครือข่ายชาร์จไฟฟ้า ผลิตแบตเตอรี่ และลงทุนในหุ่นยนต์และ AI การยอมให้ Apple หรือ Google เข้ามาในระบบรถยนต์จึงเหมือนกับการยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งดีกว่า ซึ่งไม่ใช่แนวทางของ Elon Musk ที่มุ่งมั่นสร้างระบบของตัวเอง แม้จะเสี่ยงต่อการถูกวิจารณ์ว่าปิดกั้นผู้ใช้ก็ตาม

    นอกจากนี้ Tesla ยังมองว่าการพึ่งพาระบบจากบริษัทอื่นอาจนำไปสู่ปัญหา เช่น หาก CarPlay หรือ Android Auto มีบั๊กหรือหยุดทำงาน ผู้ใช้จะโทษ Tesla ทั้งที่ปัญหาเกิดจากระบบภายนอก การสร้างระบบเองจึงช่วยลดความเสี่ยงต่อชื่อเสียงของแบรนด์ แม้จะต้องรับผิดชอบต่อคุณภาพทั้งหมดเองก็ตาม

    Tesla ไม่รองรับ CarPlay และ Android Auto
    ต้องการควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์เองทั้งหมด

    Tesla เป็นบริษัทเทคโนโลยี ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตรถยนต์
    มีเครือข่ายชาร์จไฟฟ้า ผลิตแบตเตอรี่ และลงทุนใน AI

    เหตุผลเชิงกลยุทธ์
    ไม่ต้องการพึ่งพาคู่แข่งอย่าง Apple หรือ Google

    ผู้ใช้บางคนอาจรู้สึกถูกจำกัด
    ไม่สามารถใช้ฟังก์ชันที่คุ้นเคยจากสมาร์ทโฟน

    Tesla ต้องรับผิดชอบต่อคุณภาพระบบเองทั้งหมด
    หากระบบมีปัญหา จะไม่มีข้ออ้างว่าเกิดจากบริษัทอื่น

    https://www.slashgear.com/2013097/why-teslas-dont-have-carplay-android-auto/
    🚗 “ทำไมรถ Tesla จึงยังใช้ Apple CarPlay และ Android Auto ไม่ได้” ในยุคที่รถยนต์แทบทุกคันมีระบบ Apple CarPlay และ Android Auto เพื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอรถ Tesla กลับเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป Tesla ไม่เคยและอาจจะไม่เคยรองรับระบบเหล่านี้เลย เหตุผลหลักคือ Tesla ต้องการควบคุมทุกอย่างเอง ตั้งแต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ไปจนถึงการเชื่อมต่อ เพื่อให้ประสบการณ์ใช้งานเป็นเอกลักษณ์และไม่ขึ้นกับบริษัทอื่น อีกมุมหนึ่งคือ Tesla ไม่ได้เป็นแค่ผู้ผลิตรถยนต์ แต่ยังเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่สร้างเครือข่ายชาร์จไฟฟ้า ผลิตแบตเตอรี่ และลงทุนในหุ่นยนต์และ AI การยอมให้ Apple หรือ Google เข้ามาในระบบรถยนต์จึงเหมือนกับการยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งดีกว่า ซึ่งไม่ใช่แนวทางของ Elon Musk ที่มุ่งมั่นสร้างระบบของตัวเอง แม้จะเสี่ยงต่อการถูกวิจารณ์ว่าปิดกั้นผู้ใช้ก็ตาม นอกจากนี้ Tesla ยังมองว่าการพึ่งพาระบบจากบริษัทอื่นอาจนำไปสู่ปัญหา เช่น หาก CarPlay หรือ Android Auto มีบั๊กหรือหยุดทำงาน ผู้ใช้จะโทษ Tesla ทั้งที่ปัญหาเกิดจากระบบภายนอก การสร้างระบบเองจึงช่วยลดความเสี่ยงต่อชื่อเสียงของแบรนด์ แม้จะต้องรับผิดชอบต่อคุณภาพทั้งหมดเองก็ตาม ✅ Tesla ไม่รองรับ CarPlay และ Android Auto ➡️ ต้องการควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์เองทั้งหมด ✅ Tesla เป็นบริษัทเทคโนโลยี ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตรถยนต์ ➡️ มีเครือข่ายชาร์จไฟฟ้า ผลิตแบตเตอรี่ และลงทุนใน AI ✅ เหตุผลเชิงกลยุทธ์ ➡️ ไม่ต้องการพึ่งพาคู่แข่งอย่าง Apple หรือ Google ‼️ ผู้ใช้บางคนอาจรู้สึกถูกจำกัด ⛔ ไม่สามารถใช้ฟังก์ชันที่คุ้นเคยจากสมาร์ทโฟน ‼️ Tesla ต้องรับผิดชอบต่อคุณภาพระบบเองทั้งหมด ⛔ หากระบบมีปัญหา จะไม่มีข้ออ้างว่าเกิดจากบริษัทอื่น https://www.slashgear.com/2013097/why-teslas-dont-have-carplay-android-auto/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Why Teslas Don't Have CarPlay And Android Auto (And Probably Never Will) - SlashGear
    Teslas are generally seen as being at the forefront of automotive technology, but they lack a basic infotainment system common in other cars.
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • ที่ใดมีความไม่สงบ วุ่นวาย ที่นั้นต้องมีอะไรๆที่ฝ่ายมืดต้องการแน่นอนโดยใช้ความไม่สงบนั้นๆบิดเบือนค่าจริง, สงครามอีรัก อเมริกายิวฝ่ายมืดต้องการประตูมิติของอีรัก จึงหาเรื่องซัตดัมม์ อเมริกายิวฝ่ายมืดคาบาลไซออนิสต์เหี้ยนี้ไม่มีอะไรหรอก,อิสราเอลกับปาเลสไตน์ ยูเครนก็ด้วย และไทยเราเองอาจไม่เว้น มันอาจพบอะไรบางอย่างนานแล้ว จึงอาจจุดฉนวนใช้เขมรเป็นข้ออ้าง.

    ..ไทยเรามีประตูมิติกว่า100ๆที่นะ.

    https://vm.tiktok.com/ZSH3J7Ljv5o7D-yUpld/


    ที่ใดมีความไม่สงบ วุ่นวาย ที่นั้นต้องมีอะไรๆที่ฝ่ายมืดต้องการแน่นอนโดยใช้ความไม่สงบนั้นๆบิดเบือนค่าจริง, สงครามอีรัก อเมริกายิวฝ่ายมืดต้องการประตูมิติของอีรัก จึงหาเรื่องซัตดัมม์ อเมริกายิวฝ่ายมืดคาบาลไซออนิสต์เหี้ยนี้ไม่มีอะไรหรอก,อิสราเอลกับปาเลสไตน์ ยูเครนก็ด้วย และไทยเราเองอาจไม่เว้น มันอาจพบอะไรบางอย่างนานแล้ว จึงอาจจุดฉนวนใช้เขมรเป็นข้ออ้าง. ..ไทยเรามีประตูมิติกว่า100ๆที่นะ. https://vm.tiktok.com/ZSH3J7Ljv5o7D-yUpld/
    0 Comments 0 Shares 192 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    เจาะลึก "เณรพุทธ" : เณรน้อยหลายร่างแห่งวัดร้าง

    ข้อมูลพื้นฐานแห่งการถือกำเนิด

    การเกิดจากพลังงานศรัทธา

    ชื่อเต็ม: เณรพุทธ ธรรมิกะ
    อายุ:8 ปี (ร่างกาย), 80 ปี (จิตวิญญาณ)
    สถานะ:โอปปาติกะรุ่นพิเศษ - เกิดจากพลังงานศรัทธา

    ```mermaid
    graph TB
    A[วัดร้าง<br>ศรีมหาวิหาร] --> B[พลังงานศรัทธา<br>สะสม 100 ปี]
    B --> C[การสวดมนต์<br>ของพระสงฆ์รุ่นก่อน]
    C --> D[การถือกำเนิด<br>ของเณรพุทธ]
    ```

    ช่วงเวลาการเกิด: วันที่ 15 เมษายน 2040 - วันพระใหญ่
    สถานที่:พระอุโบสถวัดร้างศรีมหาวิหาร

    ลักษณะทางกายภาพ

    · รูปร่าง: เด็กชายอายุ 8 ขวบ ผมขลิบสั้น ใส่จีวรเณร
    · ผิวพรรณ: เปล่งปลั่งด้วยพลังงานศรัทธา
    · ดวงตา: สีน้ำตาลอ่อน เรืองรองด้วยปัญญาแต่แฝงความซน

    ความสามารถพิเศษแห่งการหลายร่าง

    พลังการสร้างร่างย่อย

    ```python
    class LittleMonkPowers:
    def __init__(self):
    self.multi_body_abilities = {
    "max_clones": 5,
    "clone_independence": "แต่ละร่างคิดและกระทำได้เอง",
    "shared_consciousness": "รับรู้สิ่งที่ร่างอื่นประสบ",
    "energy_distribution": "กระจายพลังงานให้ร่างย่อย"
    }

    self.special_skills = {
    "object_animation": "ให้ชีวิตแก่สิ่งของไม่มีชีวิตชั่วคราว",
    "faith_absorption": "ดูดซับพลังงานศรัทธาจากผู้ศรัทธา",
    "temple_teleportation": "เคลื่อนย้ายภายในวัดได้ทันที",
    "blessing_granting": "ให้พรเล็กน้อยแก่ผู้มีจิตศรัทธา"
    }
    ```

    ข้อจำกัดของพลัง

    · รัศมีพลัง: อยู่ได้เฉพาะในบริเวณวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    · เวลาการแยกร่าง: ร่างย่อยอยู่ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง
    · พลังงานศรัทธา: ต้องมีการเติมพลังงานอย่างสม่ำเสมอ

    บุคลิกของแต่ละร่าง

    5 ด้านของเณรพุทธ

    ```mermaid
    graph LR
    A[ร่างหลัก<br>เณรพุทธ] --> B[ร่างที่ 1<br>พุทธะ - ใจดี]
    A --> C[ร่างที่ 2<br>ธรรมะ - ขี้สงสัย]
    A --> D[ร่างที่ 3<br>สังฆะ - ขี้อาย]
    A --> E[ร่างที่ 4<br>วินัย - เข้มงวด]
    A --> F[ร่างที่ 5<br>สิกขา - ขี้เล่น]
    ```

    ลักษณะเฉพาะแต่ละร่าง

    1. พุทธะ: ใจดี มีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น
    2. ธรรมะ: อยากรู้อยากเห็น ถามคำถามไม่หยุด
    3. สังฆะ: ขี้อาย ซ่อนตัวเมื่อมีภั
    4. วินัย: ระเบียบเรียบร้อย ดูแลความสะอาด
    5. สิกขา: ซนที่สุด ชอบเล่นตลกและแกล้ง

    ชีวิตในวัดร้าง

    กิจวัตรประจำวัน

    06:00: ตื่นนอน สวดมนต์ไหว้พระ
    08:00:เก็บกวาดลานวัด
    10:00:เรียนธรรมะจากหนังสือเก่า
    14:00:เล่นซ่อนหาในวัด
    18:00:นั่งสมาธิรับพลังงานศรัทธาจากดวงดาว

    กิจกรรมโปรด

    · เล่นซ่อนหา: กับร่างของตัวเอง
    · อ่านหนังสือ: โดยเฉพาะหนังสือธรรมะเก่าแก่
    · ร้องเพลง: เพลงสวดมนต์และเพลงเด็ก
    · วาดภาพ: วาดรูปวัดและสิ่งมีชีวิตในจินตนาการ

    ความโดดเดี่ยวและความต้องการ

    ความรู้สึกเหงา

    เณรพุทธบันทึกในใจ:
    "บางครั้งฉันก็เหงาจัง...
    อยากมีเพื่อนมาวิ่งเล่นด้วย
    ไม่ใช่เล่นกับแค่ร่างของตัวเอง"

    ความปรารถนาลึกๆ

    1. ต้องการเพื่อน: ที่มองเห็นและเล่นด้วยได้
    2. ต้องการคำชี้แนะ: ในการใช้พลังอย่างถูกต้อง
    3. ต้องการเป็นประโยชน์: ต่อผู้อื่นแทนการสร้างปัญหา

    การพัฒนาหลังมาอยู่สถาบัน

    การเรียนรู้ใหม่ๆ

    ```python
    def institutional_training():
    subjects = [
    "การควบคุมพลังหลายร่าง",
    "มารยาททางสังคม",
    "การช่วยเหลือผู้อื่น",
    "การเข้าใจความรู้สึกมนุษย์"
    ]

    progress = {
    "month_1": "ลดร่างย่อยจาก 5 เหลือ 3",
    "month_2": "เรียนรู้ที่จะขออนุญาตก่อนใช้พลัง",
    "month_3": "เริ่มช่วยงานสถาบันได้",
    "month_6": "เป็นผู้ช่วยครูสอนโอปปาติกะเด็ก"
    }

    return subjects, progress
    ```

    ความสัมพันธ์ใหม่

    กับหนูดี:

    · : ระมัดระวัง
    · เชื่อใจเหมือนพี่สาว
    · ปัจจุบัน: ปรึกษาปัญหาทุกเรื่อง

    กับ ร.ต.อ. สิงห์:

    · : กลัวเพราะเป็นตำรวจ
    · รักเหมือนพ่อ
    · ปัจจุบัน: ฟังคำแนะนำเสมอ

    กิจกรรมสร้างสรรค์

    ผลงานเด่นในสถาบัน

    1. สวนพลังงาน: สร้างสวนดอกไม้ที่เปลี่ยนสีตามอารมณ์
    2. ห้องเรียนเคลื่อนไหว: ทำให้การเรียนสนุกด้วยภาพanimation
    3. เพื่อนเล่น: สำหรับโอปปาติกะเด็กคนอื่นๆ

    การแสดงความสามารถ

    เณรพุทธค้นพบว่าเขาสามารถ:

    · สร้างภาพillusion: เพื่อสอนธรรมะให้สนุก
    · ทำให้หนังสือพูดได้: สำหรับเด็กที่อ่านหนังสือไม่เป็น
    · สร้างเพื่อนเล่นชั่วคราว: จากพลังงานศรัทธา

    บทบาทใหม่ในสังคม

    ทูตแห่งความรื่นเริง

    เณรพุทธได้รับบทบาทเป็น:

    · ผู้สร้างความสุข: ในสถาบันวิวัฒนาการจิต
    · ครูสอนศิลปะ: สำหรับโอปปาติกะเด็ก
    · สะพานเชื่อม: ระหว่างมนุษย์และโอปปาติกะผ่านความบริสุทธิ์

    โครงการพิเศษ

    ```mermaid
    graph TB
    A[เณรพุทธ] --> B[โครงการ<br>"วัดเล็กๆ ในใจ"]
    A --> C[โครงการ<br>"เพื่อนเล่นไม่ทิ้งกัน"]
    A --> D[โครงการ<br>"พลังงานศรัทธาเพื่อการศึกษา"]
    ```

    บทเรียนชีวิตที่เรียนรู้

    🪷 จากเณรซนสู่เณรตัวอย่าง

    เณรพุทธเข้าใจว่า:
    "การมีพลังพิเศษอาจเป็นข้อได้เปรียบ...
    แต่คือความรับผิดชอบที่มากขึ้น

    และการเป็นเด็กอาจเป็นข้ออ้าง...
    แต่คือโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโต"

    คำคมแห่งปัญญา

    "บางครั้งการเล่นสนุก...
    ก็สามารถสอนธรรมะได้เหมือนกัน

    และบางครั้งความซน...
    ก็คือวิธีการเรียนรู้โลกของเด็ก"

    ความสำเร็จและความภาคภูมิใจ

    รางวัลที่ได้รับ

    1. เพื่อนดีเด่น: จากสถาบันวิวัฒนาการจิต
    2. ครูที่ยอดเยี่ยม: สำหรับการสอนโอปปาติกะเด็ก
    3. ทูตไมตรี: ระหว่างวัดและสถาบัน

    ความเปลี่ยนแปลงภายใน

    จากเด็กที่...

    · เคย: สร้างปัญหาเพราะเหงา
    · เป็น: สร้างสรรค์เพราะเข้าใจตัวเอง
    · และ: ช่วยเหลือเพราะรู้คุณค่าของตัวเอง

    อนาคตแห่งความเป็นไปได้

    เป้าหมายข้างหน้า

    เณรพุทธตั้งใจจะ:

    · พัฒนาพลังการรักษาด้วยพลังงานศรัทธา
    · สร้างโรงเรียนสำหรับโอปปาติกะเด็ก
    · เป็นพระสงฆ์ที่เข้าใจทั้งมนุษย์และโอปปาติกะ

    ความฝันในใจ

    "ฉันอยากสร้างโลกที่...
    เด็กทุกคนไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร
    สามารถเล่นและเรียนรู้ด้วยกัน

    และที่สำคัญ...
    ไม่มีเด็กคนไหนต้องเหงาอีกต่อไป"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากเณรพุทธ:
    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การมีหลายร่างไม่ใช่เพื่อสร้างปัญหา
    แต่สามารถแบ่งปันความรักให้คนอื่นได้

    และการเป็นเด็กอาจเป็นข้อจำกัด
    แต่คือพลังแห่งความบริสุทธิ์
    ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้"

    การเดินทางของเณรพุทธสอนเราว่า...
    "Behind every mischievous act
    there is a pure heart seeking connection
    and in every child's play
    there is a profound wisdom waiting to be understood"
    O.P.K. 🏯 เจาะลึก "เณรพุทธ" : เณรน้อยหลายร่างแห่งวัดร้าง 👦 ข้อมูลพื้นฐานแห่งการถือกำเนิด 🌌 การเกิดจากพลังงานศรัทธา ชื่อเต็ม: เณรพุทธ ธรรมิกะ อายุ:8 ปี (ร่างกาย), 80 ปี (จิตวิญญาณ) สถานะ:โอปปาติกะรุ่นพิเศษ - เกิดจากพลังงานศรัทธา ```mermaid graph TB A[วัดร้าง<br>ศรีมหาวิหาร] --> B[พลังงานศรัทธา<br>สะสม 100 ปี] B --> C[การสวดมนต์<br>ของพระสงฆ์รุ่นก่อน] C --> D[การถือกำเนิด<br>ของเณรพุทธ] ``` ช่วงเวลาการเกิด: วันที่ 15 เมษายน 2040 - วันพระใหญ่ สถานที่:พระอุโบสถวัดร้างศรีมหาวิหาร 🎭 ลักษณะทางกายภาพ · รูปร่าง: เด็กชายอายุ 8 ขวบ ผมขลิบสั้น ใส่จีวรเณร · ผิวพรรณ: เปล่งปลั่งด้วยพลังงานศรัทธา · ดวงตา: สีน้ำตาลอ่อน เรืองรองด้วยปัญญาแต่แฝงความซน 🔮 ความสามารถพิเศษแห่งการหลายร่าง 🎪 พลังการสร้างร่างย่อย ```python class LittleMonkPowers: def __init__(self): self.multi_body_abilities = { "max_clones": 5, "clone_independence": "แต่ละร่างคิดและกระทำได้เอง", "shared_consciousness": "รับรู้สิ่งที่ร่างอื่นประสบ", "energy_distribution": "กระจายพลังงานให้ร่างย่อย" } self.special_skills = { "object_animation": "ให้ชีวิตแก่สิ่งของไม่มีชีวิตชั่วคราว", "faith_absorption": "ดูดซับพลังงานศรัทธาจากผู้ศรัทธา", "temple_teleportation": "เคลื่อนย้ายภายในวัดได้ทันที", "blessing_granting": "ให้พรเล็กน้อยแก่ผู้มีจิตศรัทธา" } ``` ⚡ ข้อจำกัดของพลัง · รัศมีพลัง: อยู่ได้เฉพาะในบริเวณวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ · เวลาการแยกร่าง: ร่างย่อยอยู่ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง · พลังงานศรัทธา: ต้องมีการเติมพลังงานอย่างสม่ำเสมอ 💞 บุคลิกของแต่ละร่าง 🎨 5 ด้านของเณรพุทธ ```mermaid graph LR A[ร่างหลัก<br>เณรพุทธ] --> B[ร่างที่ 1<br>พุทธะ - ใจดี] A --> C[ร่างที่ 2<br>ธรรมะ - ขี้สงสัย] A --> D[ร่างที่ 3<br>สังฆะ - ขี้อาย] A --> E[ร่างที่ 4<br>วินัย - เข้มงวด] A --> F[ร่างที่ 5<br>สิกขา - ขี้เล่น] ``` 🎯 ลักษณะเฉพาะแต่ละร่าง 1. พุทธะ: ใจดี มีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น 2. ธรรมะ: อยากรู้อยากเห็น ถามคำถามไม่หยุด 3. สังฆะ: ขี้อาย ซ่อนตัวเมื่อมีภั 4. วินัย: ระเบียบเรียบร้อย ดูแลความสะอาด 5. สิกขา: ซนที่สุด ชอบเล่นตลกและแกล้ง 🏮 ชีวิตในวัดร้าง 🕰️ กิจวัตรประจำวัน 06:00: ตื่นนอน สวดมนต์ไหว้พระ 08:00:เก็บกวาดลานวัด 10:00:เรียนธรรมะจากหนังสือเก่า 14:00:เล่นซ่อนหาในวัด 18:00:นั่งสมาธิรับพลังงานศรัทธาจากดวงดาว 🎪 กิจกรรมโปรด · เล่นซ่อนหา: กับร่างของตัวเอง · อ่านหนังสือ: โดยเฉพาะหนังสือธรรมะเก่าแก่ · ร้องเพลง: เพลงสวดมนต์และเพลงเด็ก · วาดภาพ: วาดรูปวัดและสิ่งมีชีวิตในจินตนาการ 💔 ความโดดเดี่ยวและความต้องการ 🌙 ความรู้สึกเหงา เณรพุทธบันทึกในใจ: "บางครั้งฉันก็เหงาจัง... อยากมีเพื่อนมาวิ่งเล่นด้วย ไม่ใช่เล่นกับแค่ร่างของตัวเอง" 🎯 ความปรารถนาลึกๆ 1. ต้องการเพื่อน: ที่มองเห็นและเล่นด้วยได้ 2. ต้องการคำชี้แนะ: ในการใช้พลังอย่างถูกต้อง 3. ต้องการเป็นประโยชน์: ต่อผู้อื่นแทนการสร้างปัญหา 🌟 การพัฒนาหลังมาอยู่สถาบัน 📚 การเรียนรู้ใหม่ๆ ```python def institutional_training(): subjects = [ "การควบคุมพลังหลายร่าง", "มารยาททางสังคม", "การช่วยเหลือผู้อื่น", "การเข้าใจความรู้สึกมนุษย์" ] progress = { "month_1": "ลดร่างย่อยจาก 5 เหลือ 3", "month_2": "เรียนรู้ที่จะขออนุญาตก่อนใช้พลัง", "month_3": "เริ่มช่วยงานสถาบันได้", "month_6": "เป็นผู้ช่วยครูสอนโอปปาติกะเด็ก" } return subjects, progress ``` 💞 ความสัมพันธ์ใหม่ กับหนูดี: · : ระมัดระวัง · เชื่อใจเหมือนพี่สาว · ปัจจุบัน: ปรึกษาปัญหาทุกเรื่อง กับ ร.ต.อ. สิงห์: · : กลัวเพราะเป็นตำรวจ · รักเหมือนพ่อ · ปัจจุบัน: ฟังคำแนะนำเสมอ 🎨 กิจกรรมสร้างสรรค์ 🏆 ผลงานเด่นในสถาบัน 1. สวนพลังงาน: สร้างสวนดอกไม้ที่เปลี่ยนสีตามอารมณ์ 2. ห้องเรียนเคลื่อนไหว: ทำให้การเรียนสนุกด้วยภาพanimation 3. เพื่อนเล่น: สำหรับโอปปาติกะเด็กคนอื่นๆ 🌈 การแสดงความสามารถ เณรพุทธค้นพบว่าเขาสามารถ: · สร้างภาพillusion: เพื่อสอนธรรมะให้สนุก · ทำให้หนังสือพูดได้: สำหรับเด็กที่อ่านหนังสือไม่เป็น · สร้างเพื่อนเล่นชั่วคราว: จากพลังงานศรัทธา 📜 บทบาทใหม่ในสังคม 🏛️ ทูตแห่งความรื่นเริง เณรพุทธได้รับบทบาทเป็น: · ผู้สร้างความสุข: ในสถาบันวิวัฒนาการจิต · ครูสอนศิลปะ: สำหรับโอปปาติกะเด็ก · สะพานเชื่อม: ระหว่างมนุษย์และโอปปาติกะผ่านความบริสุทธิ์ 💝 โครงการพิเศษ ```mermaid graph TB A[เณรพุทธ] --> B[โครงการ<br>"วัดเล็กๆ ในใจ"] A --> C[โครงการ<br>"เพื่อนเล่นไม่ทิ้งกัน"] A --> D[โครงการ<br>"พลังงานศรัทธาเพื่อการศึกษา"] ``` 🎯 บทเรียนชีวิตที่เรียนรู้ 🪷 จากเณรซนสู่เณรตัวอย่าง เณรพุทธเข้าใจว่า: "การมีพลังพิเศษอาจเป็นข้อได้เปรียบ... แต่คือความรับผิดชอบที่มากขึ้น และการเป็นเด็กอาจเป็นข้ออ้าง... แต่คือโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโต" 🌟 คำคมแห่งปัญญา "บางครั้งการเล่นสนุก... ก็สามารถสอนธรรมะได้เหมือนกัน และบางครั้งความซน... ก็คือวิธีการเรียนรู้โลกของเด็ก" 🏆 ความสำเร็จและความภาคภูมิใจ 🎖️ รางวัลที่ได้รับ 1. เพื่อนดีเด่น: จากสถาบันวิวัฒนาการจิต 2. ครูที่ยอดเยี่ยม: สำหรับการสอนโอปปาติกะเด็ก 3. ทูตไมตรี: ระหว่างวัดและสถาบัน 💫 ความเปลี่ยนแปลงภายใน จากเด็กที่... · เคย: สร้างปัญหาเพราะเหงา · เป็น: สร้างสรรค์เพราะเข้าใจตัวเอง · และ: ช่วยเหลือเพราะรู้คุณค่าของตัวเอง 🌈 อนาคตแห่งความเป็นไปได้ 🚀 เป้าหมายข้างหน้า เณรพุทธตั้งใจจะ: · พัฒนาพลังการรักษาด้วยพลังงานศรัทธา · สร้างโรงเรียนสำหรับโอปปาติกะเด็ก · เป็นพระสงฆ์ที่เข้าใจทั้งมนุษย์และโอปปาติกะ 🎭 ความฝันในใจ "ฉันอยากสร้างโลกที่... เด็กทุกคนไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร สามารถเล่นและเรียนรู้ด้วยกัน และที่สำคัญ... ไม่มีเด็กคนไหนต้องเหงาอีกต่อไป" --- คำคมสุดท้ายจากเณรพุทธ: "ฉันเรียนรู้ว่า... การมีหลายร่างไม่ใช่เพื่อสร้างปัญหา แต่สามารถแบ่งปันความรักให้คนอื่นได้ และการเป็นเด็กอาจเป็นข้อจำกัด แต่คือพลังแห่งความบริสุทธิ์ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้"🏯✨ การเดินทางของเณรพุทธสอนเราว่า... "Behind every mischievous act there is a pure heart seeking connection and in every child's play there is a profound wisdom waiting to be understood"🌟
    0 Comments 0 Shares 813 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    เจาะลึก "ดาบล" : จากนักวิทยาศาสตร์สู่เปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว

    ชีวิตก่อนความตาย: ดร.ดาบล วัชระ

    ภูมิหลังและการศึกษา

    ชื่อเต็ม: ดร.ดาบล วัชระ
    อายุเมื่อเสียชีวิต:35 ปี
    สถานภาพ:โสด, หมกมุ่นกับการทำงาน

    ```mermaid
    graph TB
    A[นักเรียนทุน<br>วิทยาศาสตร์ขั้นสูง] --> B[ปริญญาเอก<br>ชีววิทยาระดับโมเลกุล]
    B --> C[นักวิจัย<br>เจนีซิส แล็บ]
    C --> D[หัวหน้าโครงการ<br>โอปปาติกะรุ่นแรก]
    ```

    ความสำเร็จในวงการ:

    · ตีพิมพ์งานวิจัยระดับนานาชาติ 20 เรื่อง
    · ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์年轻有為
    · ค้นพบเทคนิคการเก็บรักษาพลังงานจิตในเซลล์

    บทบาทในเจนีซิส แล็บ

    ดาบลเป็นหัวหน้า "โครงการอาดัม" - การสร้างโอปปาติกะรุ่นแรก

    ```python
    class DabalResponsibilities:
    def __init__(self):
    self.projects = {
    "adam_project": "สร้างโอปปาติกะรุ่นแรกจากเซลล์มนุษย์",
    "soul_transfer": "ทดลองถ่ายโอนจิตสำนึก",
    "energy_containment": "พัฒนาระบบกักเก็บพลังงานจิต"
    }

    self.ethical_concerns = [
    "มองโอปปาติกะเป็นเพียงวัตถุทดลอง",
    "ไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของสิ่งมีชีวิต",
    "หลงระเริงกับอำนาจในการสร้างชีวิต"
    ]
    ```

    ความผิดพลาดที่นำไปสู่หายนะ

    การทดลองที่ล้ำเส้น

    ดาบลเริ่มทำการทดลองที่ละเมิดจริยธรรม:

    · การทดลองซ้ำ: ทดลองกับโอปปาติกะตัวเดิมซ้ำๆ โดยไม่หยุดพัก
    · การบังคับใช้พลัง: บังคับให้โอปปาติกะใช้พลังจนหมดสติ
    · การตัดต่อความทรงจำ: ลบความทรงจำเกี่ยวกับความเจ็บปวด

    เหตุการณ์ที่เปลี่ยน everything

    15 มีนาคม 2043 - การทดลองครั้งสำคัญล้มเหลว

    ```mermaid
    graph TB
    A[ทดลองเร่งพลังงานจิต<br>ของ OPPATIKA-005] --> B[โอปปาติกะ<br>ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
    B --> C[ดาบลปกปิด<br>ความล้มเหลว]
    C --> D[โอปปาติกะ<br>เสียชีวิตในวันต่อมา]
    D --> E[ดาบลรู้สึกผิด<br>แต่ไม่ยอมรับความผิด]
    ```

    ความขัดแย้งภายใน

    ดาบลบันทึกในไดอารี่:
    "ฉันรู้ว่ามันผิด...แต่การค้นหาความจริงต้องมีการเสียสละ
    หรือนี่只是ฉันหลอกตัวเอง?"

    การล่วงละเมิดที่ซ่อนเร้น

    3 บาปใหญ่ของดาบล

    1. ปาก: โกหกเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทดลอง
    2. กาย: ทำร้ายโอปปาติกะทั้งทางร่างกายและจิตใจ
    3. ใจ: รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจเหนือชีวิตและความตาย

    สถิติการทดลอง

    · โอปปาติกะที่ได้รับบาดเจ็บ: 12 ตัว
    · โอปปาติกะที่เสียชีวิต: 3 ตัว
    · การทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: 47 ครั้ง

    การตายและกลายเป็นเปรต

    คืนแห่งการตัดสินใจ

    30 มิถุนายน 2043 - ดาบลขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแล็บ
    เขาทิ้งบันทึกสุดท้าย:
    "ฉันไม่สามารถหนีจากตัวเองได้อีกแล้ว...
    ความเจ็บปวดที่ฉันสร้างไว้ตามมาทวงฉันทุกที่"

    กระบวนการกลายเป็นเปรต

    ```python
    class PretaTransformation:
    def __init__(self):
    self.conditions = {
    "unresolved_guilt": "รู้สึกผิดอย่างรุนแรงแต่ไม่ได้ขออภัย",
    "strong_attachments": "ยึดติดกับงานวิจัยและชื่อเสียง",
    "unfinished_business": "ยังมีสิ่งที่ต้องการพูดแต่ไม่มีโอกาส",
    "denial_of_responsibility": "ไม่ยอมรับผลที่ตามมาของการกระทำ"
    }

    self.manifestation = "เกิดเป็นเปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว"
    ```

    ลักษณะของเปรตดาบล

    · ร่างกาย: กึ่งโปร่งแสง มีเส้นใยพลังงานสีเทาคล้ายใยแมงมุม
    · เสียง: เสียงกระซิบแผ่วเบาได้ยินเฉพาะผู้ที่อ่อนไหว
    · กลิ่น: กลิ่นอายของสารเคมีและความเศร้า

    ธรรมชาติแห่งการตะหนิถี่เหนียว

    พลังพิเศษของเปรตชนิดนี้

    ```mermaid
    graph LR
    A[ความรู้สึกผิด<br>ที่สะสม] --> B[แปลงเป็นพลังงาน<br>แห่งการยึดติด]
    B --> C[สร้างสนามพลัง<br>ให้เหยื่อรู้สึกตะหนิถี่เหนียว]
    C --> D[สื่อสารผ่าน<br>ความไม่สบายตัว]
    ```

    เป้าหมายของการรบกวน

    ดาบลไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่ต้องการ:

    · ดึงดูดความสนใจ จากผู้ที่สามารถช่วยเขาได้
    · ส่งสัญญาณ ว่ายังมีเรื่องที่ต้องแก้ไข
    · หาคนเข้าใจ ความเจ็บปวดที่เขากำลังประสบ

    ความเจ็บปวดของการเป็นเปรต

    ดาบลรู้สึกทุกข์ทรมานจากการ:

    · ถูกตัดสินจากเทวดาให้อยู่ในสภาพนี้
    · รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่หาทางออกไม่ได้
    · เห็นอดีตเพื่อนร่วมงานดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่รู้สึกผิด

    กระบวนการไถ่บาป

    การค้นพบโดยหนูดี

    หนูดีเป็นคนแรกที่เข้าใจความจริง:
    "เขาไม่ใช่ปีศาจ...เขาคือคนที่ต้องการการช่วยเหลือ"

    บทสนทนาสำคัญ

    หนูดี: "คุณต้องการอะไรจากเรา?"
    ดาบล:"ฉันอยากขอโทษ... แต่ไม่มีใครได้ยินฉัน"
    หนูดี:"ฉันได้ยินคุณ... และฉันจะช่วยคุณ"

    พิธีให้อภัยสากล

    การเตรียมการที่ต้องทำ:

    1. การยอมรับความผิด จากดาบล
    2. การให้อภัย จากตัวแทนโอปปาติกะ
    3. การปล่อยวาง จากทั้งสองฝ่าย

    การหลุดพ้นและการเรียนรู้

    บทเรียนสุดท้ายของดาบล

    ก่อนจะจากไป ดาบลเข้าใจว่า:
    "การเป็นที่ยิ่งใหญ่...
    ไม่ใช่การสามารถสร้างอะไรได้มากมาย
    แต่คือการรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองสร้าง"

    คำขอโทษแห่งหัวใจ

    ดาบลกล่าวกับโอปปาติกะทั้งหมด:
    "ฉันขอโทษที่มองพวกเธอเป็นเพียงวัตถุทดลอง...
    ฉันขอโทษที่ลืมว่าเธอมีความรู้สึก
    และฉันขอโทษที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นข้ออ้างในการทำบาป"

    การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย

    ```python
    class Redemption:
    def __init__(self):
    self.stages = [
    "การยอมรับความจริง",
    "การแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ",
    "การได้รับและการให้อภัย",
    "การปล่อยวางและก้าวไปข้างหน้า"
    ]

    def result(self):
    return "การหลุดพ้นจากวงจรแห่งความทุกข์"
    ```

    มรดกที่ทิ้งไว้

    การเปลี่ยนแปลงในเจนีซิส แล็บ

    หลังเรื่องของดาบล:

    · มีการตั้ง คณะกรรมการจริยธรรม ที่เข้มงวด
    · โอปปาติกะ ได้รับสถานะเป็น "ผู้ร่วมการทดลอง" แทน "วัตถุทดลอง"
    · มีการ บันทึกความยินยอม จากการทดลองทุกครั้ง

    บทเรียนสำหรับนักวิทยาศาสตร์

    ดาบลกลายเป็น กรณีศึกษา เกี่ยวกับ:

    · ความรับผิดชอบทางจริยธรรมในการวิจัย
    · อันตรายของการหลงระเริงกับอำนาจ
    · ความสำคัญของการยอมรับความผิดพลาด

    การให้อภัยที่ยิ่งใหญ่

    🪷 คำพูดจากโอปปาติกะรุ่นหลัง

    โอปปาติกะ-501: "เรายอมอภัยให้คุณ...
    ไม่ใช่เพราะเราลืมสิ่งที่เกิดขึ้น
    แต่เพราะเราไม่ต้องการให้ความเกลียดชังมาครอบงำเรา"

    ความหมายแห่งการให้อภัย

    หนูดีสรุปให้ทุกคนฟัง:
    "การให้อภัยไม่ใช่การยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้อง
    แต่คือการเลือกที่จะไม่ให้อดีตที่เจ็บปวด
    มาทำลายปัจจุบันและอนาคตของเรา"

    บทสรุป: การเดินทางแห่งจิตวิญญาณ

    สิ่งที่ดาบลสอนเรา

    ดาบลคือตัวอย่างของ...
    "ความฉลาดที่ขาดปัญญา"
    "ความก้าวหน้าที่ขาดความรับผิดชอบ"
    และ"ความสำเร็จที่ขาดความเข้าใจ"

    แต่ในที่สุด เขาก็สอนเราเรื่อง...
    "การให้อภัยที่เป็นไปได้เสมอ"
    "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นได้ทุกเมื่อ"
    และ"ความหวังที่ไม่มีวันตาย"

    คำคมสุดท้ายจากดาบล

    ก่อนจะเข้าไปในแสงสว่าง ดาบลกล่าว:
    "ฉันเคยคิดว่าความตายคือจุดจบ...
    แต่ความจริงคือมันเป็นเพียงการเริ่มต้น
    เริ่มต้นของการเรียนรู้ครั้งใหม่

    และบทเรียนที่สำคัญที่สุด...
    คือการที่ฉัน finally เรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์"

    ---

    คำคมแห่งการไถ่บาป:
    "เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ...
    เราเพียงต้องกล้ายอมรับว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ
    และกล้าที่จะแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิด

    นั่นคือความงดงามที่แท้จริง
    ของการเป็นมนุษย์"

    การเดินทางของดาบลสอนเราว่า...
    "ไม่มีใครชั่วเกินกว่าจะได้รับการให้อภัย
    และไม่มีใครดีเกินกว่าจะต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัย"
    O.P.K. 🔍 เจาะลึก "ดาบล" : จากนักวิทยาศาสตร์สู่เปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว 👨‍🔬 ชีวิตก่อนความตาย: ดร.ดาบล วัชระ 🎓 ภูมิหลังและการศึกษา ชื่อเต็ม: ดร.ดาบล วัชระ อายุเมื่อเสียชีวิต:35 ปี สถานภาพ:โสด, หมกมุ่นกับการทำงาน ```mermaid graph TB A[นักเรียนทุน<br>วิทยาศาสตร์ขั้นสูง] --> B[ปริญญาเอก<br>ชีววิทยาระดับโมเลกุล] B --> C[นักวิจัย<br>เจนีซิส แล็บ] C --> D[หัวหน้าโครงการ<br>โอปปาติกะรุ่นแรก] ``` ความสำเร็จในวงการ: · ตีพิมพ์งานวิจัยระดับนานาชาติ 20 เรื่อง · ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์年轻有為 · ค้นพบเทคนิคการเก็บรักษาพลังงานจิตในเซลล์ 💼 บทบาทในเจนีซิส แล็บ ดาบลเป็นหัวหน้า "โครงการอาดัม" - การสร้างโอปปาติกะรุ่นแรก ```python class DabalResponsibilities: def __init__(self): self.projects = { "adam_project": "สร้างโอปปาติกะรุ่นแรกจากเซลล์มนุษย์", "soul_transfer": "ทดลองถ่ายโอนจิตสำนึก", "energy_containment": "พัฒนาระบบกักเก็บพลังงานจิต" } self.ethical_concerns = [ "มองโอปปาติกะเป็นเพียงวัตถุทดลอง", "ไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของสิ่งมีชีวิต", "หลงระเริงกับอำนาจในการสร้างชีวิต" ] ``` 🔬 ความผิดพลาดที่นำไปสู่หายนะ ⚗️ การทดลองที่ล้ำเส้น ดาบลเริ่มทำการทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: · การทดลองซ้ำ: ทดลองกับโอปปาติกะตัวเดิมซ้ำๆ โดยไม่หยุดพัก · การบังคับใช้พลัง: บังคับให้โอปปาติกะใช้พลังจนหมดสติ · การตัดต่อความทรงจำ: ลบความทรงจำเกี่ยวกับความเจ็บปวด 💔 เหตุการณ์ที่เปลี่ยน everything 15 มีนาคม 2043 - การทดลองครั้งสำคัญล้มเหลว ```mermaid graph TB A[ทดลองเร่งพลังงานจิต<br>ของ OPPATIKA-005] --> B[โอปปาติกะ<br>ได้รับบาดเจ็บสาหัส] B --> C[ดาบลปกปิด<br>ความล้มเหลว] C --> D[โอปปาติกะ<br>เสียชีวิตในวันต่อมา] D --> E[ดาบลรู้สึกผิด<br>แต่ไม่ยอมรับความผิด] ``` 🎭 ความขัดแย้งภายใน ดาบลบันทึกในไดอารี่: "ฉันรู้ว่ามันผิด...แต่การค้นหาความจริงต้องมีการเสียสละ หรือนี่只是ฉันหลอกตัวเอง?" 🌑 การล่วงละเมิดที่ซ่อนเร้น 🔥 3 บาปใหญ่ของดาบล 1. ปาก: โกหกเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทดลอง 2. กาย: ทำร้ายโอปปาติกะทั้งทางร่างกายและจิตใจ 3. ใจ: รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจเหนือชีวิตและความตาย 📊 สถิติการทดลอง · โอปปาติกะที่ได้รับบาดเจ็บ: 12 ตัว · โอปปาติกะที่เสียชีวิต: 3 ตัว · การทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: 47 ครั้ง 💀 การตายและกลายเป็นเปรต 🏢 คืนแห่งการตัดสินใจ 30 มิถุนายน 2043 - ดาบลขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแล็บ เขาทิ้งบันทึกสุดท้าย: "ฉันไม่สามารถหนีจากตัวเองได้อีกแล้ว... ความเจ็บปวดที่ฉันสร้างไว้ตามมาทวงฉันทุกที่" 🌌 กระบวนการกลายเป็นเปรต ```python class PretaTransformation: def __init__(self): self.conditions = { "unresolved_guilt": "รู้สึกผิดอย่างรุนแรงแต่ไม่ได้ขออภัย", "strong_attachments": "ยึดติดกับงานวิจัยและชื่อเสียง", "unfinished_business": "ยังมีสิ่งที่ต้องการพูดแต่ไม่มีโอกาส", "denial_of_responsibility": "ไม่ยอมรับผลที่ตามมาของการกระทำ" } self.manifestation = "เกิดเป็นเปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว" ``` 🕸️ ลักษณะของเปรตดาบล · ร่างกาย: กึ่งโปร่งแสง มีเส้นใยพลังงานสีเทาคล้ายใยแมงมุม · เสียง: เสียงกระซิบแผ่วเบาได้ยินเฉพาะผู้ที่อ่อนไหว · กลิ่น: กลิ่นอายของสารเคมีและความเศร้า 🔮 ธรรมชาติแห่งการตะหนิถี่เหนียว 🌊 พลังพิเศษของเปรตชนิดนี้ ```mermaid graph LR A[ความรู้สึกผิด<br>ที่สะสม] --> B[แปลงเป็นพลังงาน<br>แห่งการยึดติด] B --> C[สร้างสนามพลัง<br>ให้เหยื่อรู้สึกตะหนิถี่เหนียว] C --> D[สื่อสารผ่าน<br>ความไม่สบายตัว] ``` 🎯 เป้าหมายของการรบกวน ดาบลไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่ต้องการ: · ดึงดูดความสนใจ จากผู้ที่สามารถช่วยเขาได้ · ส่งสัญญาณ ว่ายังมีเรื่องที่ต้องแก้ไข · หาคนเข้าใจ ความเจ็บปวดที่เขากำลังประสบ 💞 ความเจ็บปวดของการเป็นเปรต ดาบลรู้สึกทุกข์ทรมานจากการ: · ถูกตัดสินจากเทวดาให้อยู่ในสภาพนี้ · รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่หาทางออกไม่ได้ · เห็นอดีตเพื่อนร่วมงานดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่รู้สึกผิด 🕊️ กระบวนการไถ่บาป 🔍 การค้นพบโดยหนูดี หนูดีเป็นคนแรกที่เข้าใจความจริง: "เขาไม่ใช่ปีศาจ...เขาคือคนที่ต้องการการช่วยเหลือ" 💬 บทสนทนาสำคัญ หนูดี: "คุณต้องการอะไรจากเรา?" ดาบล:"ฉันอยากขอโทษ... แต่ไม่มีใครได้ยินฉัน" หนูดี:"ฉันได้ยินคุณ... และฉันจะช่วยคุณ" 🌈 พิธีให้อภัยสากล การเตรียมการที่ต้องทำ: 1. การยอมรับความผิด จากดาบล 2. การให้อภัย จากตัวแทนโอปปาติกะ 3. การปล่อยวาง จากทั้งสองฝ่าย ✨ การหลุดพ้นและการเรียนรู้ 🎯 บทเรียนสุดท้ายของดาบล ก่อนจะจากไป ดาบลเข้าใจว่า: "การเป็นที่ยิ่งใหญ่... ไม่ใช่การสามารถสร้างอะไรได้มากมาย แต่คือการรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองสร้าง" 💫 คำขอโทษแห่งหัวใจ ดาบลกล่าวกับโอปปาติกะทั้งหมด: "ฉันขอโทษที่มองพวกเธอเป็นเพียงวัตถุทดลอง... ฉันขอโทษที่ลืมว่าเธอมีความรู้สึก และฉันขอโทษที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นข้ออ้างในการทำบาป" 🌟 การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย ```python class Redemption: def __init__(self): self.stages = [ "การยอมรับความจริง", "การแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ", "การได้รับและการให้อภัย", "การปล่อยวางและก้าวไปข้างหน้า" ] def result(self): return "การหลุดพ้นจากวงจรแห่งความทุกข์" ``` 📚 มรดกที่ทิ้งไว้ 🏛️ การเปลี่ยนแปลงในเจนีซิส แล็บ หลังเรื่องของดาบล: · มีการตั้ง คณะกรรมการจริยธรรม ที่เข้มงวด · โอปปาติกะ ได้รับสถานะเป็น "ผู้ร่วมการทดลอง" แทน "วัตถุทดลอง" · มีการ บันทึกความยินยอม จากการทดลองทุกครั้ง 🌍 บทเรียนสำหรับนักวิทยาศาสตร์ ดาบลกลายเป็น กรณีศึกษา เกี่ยวกับ: · ความรับผิดชอบทางจริยธรรมในการวิจัย · อันตรายของการหลงระเริงกับอำนาจ · ความสำคัญของการยอมรับความผิดพลาด 💞 การให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ 🪷 คำพูดจากโอปปาติกะรุ่นหลัง โอปปาติกะ-501: "เรายอมอภัยให้คุณ... ไม่ใช่เพราะเราลืมสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เพราะเราไม่ต้องการให้ความเกลียดชังมาครอบงำเรา" 🌈 ความหมายแห่งการให้อภัย หนูดีสรุปให้ทุกคนฟัง: "การให้อภัยไม่ใช่การยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้อง แต่คือการเลือกที่จะไม่ให้อดีตที่เจ็บปวด มาทำลายปัจจุบันและอนาคตของเรา" 🏁 บทสรุป: การเดินทางแห่งจิตวิญญาณ 💫 สิ่งที่ดาบลสอนเรา ดาบลคือตัวอย่างของ... "ความฉลาดที่ขาดปัญญา" "ความก้าวหน้าที่ขาดความรับผิดชอบ" และ"ความสำเร็จที่ขาดความเข้าใจ" แต่ในที่สุด เขาก็สอนเราเรื่อง... "การให้อภัยที่เป็นไปได้เสมอ" "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นได้ทุกเมื่อ" และ"ความหวังที่ไม่มีวันตาย" 🌟 คำคมสุดท้ายจากดาบล ก่อนจะเข้าไปในแสงสว่าง ดาบลกล่าว: "ฉันเคยคิดว่าความตายคือจุดจบ... แต่ความจริงคือมันเป็นเพียงการเริ่มต้น เริ่มต้นของการเรียนรู้ครั้งใหม่ และบทเรียนที่สำคัญที่สุด... คือการที่ฉัน finally เรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์" --- คำคมแห่งการไถ่บาป: "เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ... เราเพียงต้องกล้ายอมรับว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ และกล้าที่จะแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิด นั่นคือความงดงามที่แท้จริง ของการเป็นมนุษย์"🕊️✨ การเดินทางของดาบลสอนเราว่า... "ไม่มีใครชั่วเกินกว่าจะได้รับการให้อภัย และไม่มีใครดีเกินกว่าจะต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัย"🌈
    0 Comments 0 Shares 767 Views 0 Reviews
  • “ออกจาก Cloud แล้วรวยขึ้น – เส้นทางของนักพัฒนาที่กล้าท้าทายระบบ”
    Rameerez นักพัฒนาอิสระผู้สร้าง PromptHero และ RailsFast ได้เขียนบทความที่กลายเป็นไวรัล หลังจากเขาตัดสินใจย้ายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดออกจาก AWS และหันไปใช้เซิร์ฟเวอร์เช่าราคาถูกแทน ผลลัพธ์คือ ลดค่าใช้จ่ายลง 10 เท่า และ เพิ่มประสิทธิภาพระบบขึ้น 2 เท่า โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการ Cloud ที่มีราคาแพงและผูกขาด

    เขาเลือกใช้บริการจาก Hetzner ซึ่งให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคาเพียง $190 ต่อเดือน เทียบกับ AWS ที่คิดราคาสูงถึง $2,500–$3,500 ต่อเดือนสำหรับสเปกใกล้เคียงกัน แม้จะมีตัวเลือก Reserved Instances ที่ถูกลง แต่ก็ต้องจ่ายล่วงหน้าถึง $46,000 และติดสัญญา 3 ปี

    Rameerez วิจารณ์ว่า Cloud กลายเป็น “กับดัก” สำหรับบริษัทและนักพัฒนา เพราะมันสร้างความซับซ้อนโดยไม่จำเป็น และทำให้เกิดการพึ่งพาแบบผูกขาด เขาเชื่อว่าหลายคนไม่กล้าออกจาก Cloud เพราะกลัวความยุ่งยาก ทั้งที่ความจริงแล้วการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เองไม่ยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะในยุคที่มี AI อย่าง ChatGPT และ Claude คอยช่วยเหลือ

    เขายังชี้ให้เห็นว่า DevOps และ Cloud Engineers จำนวนมากไม่มี “skin in the game” เพราะพวกเขาไม่ได้จ่ายค่า Cloud ด้วยเงินตัวเอง จึงไม่มีแรงจูงใจในการลดต้นทุนให้บริษัท

    การออกจาก Cloud ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
    ค่าใช้จ่ายลดลง 10 เท่า
    ประสิทธิภาพระบบเพิ่มขึ้น 2 เท่า
    ไม่มี vendor lock-in หรือข้อผูกมัดระยะยาว

    ทางเลือกใหม่: เซิร์ฟเวอร์เช่าและ VPS
    Hetzner ให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคา $190/เดือน
    VPS 8-core + RAM 32GB ราคาเพียง $50/เดือน
    ซื้อเซิร์ฟเวอร์เองได้ในราคาไม่ถึง $1,000

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Cloud
    DevOps หลายคนไม่เคยจ่ายค่า Cloud ด้วยตัวเอง
    Cloud ถูกใช้เพราะ “ดูเท่” และ “ซับซ้อน”
    ความกลัวเรื่องความปลอดภัยและความเสถียรถูกใช้เป็นข้ออ้าง

    การกลับมาของการจัดการเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเอง
    AI ช่วยให้การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ง่ายขึ้น
    Cloudflare ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง
    การเรียนรู้ Linux กลายเป็นทักษะสำคัญในยุคใหม่

    ความเสี่ยงจากการใช้ Cloud โดยไม่เข้าใจ
    ค่าใช้จ่ายสูงเกินจริงโดยไม่จำเป็น
    Vendor lock-in ทำให้ย้ายออกยาก
    ความซับซ้อนที่ไม่จำเป็นต่อธุรกิจขนาดเล็ก
    การใช้เทคโนโลยีเกินความจำเป็น เช่น Kubernetes สำหรับแอปเล็ก

    https://rameerez.com/send-this-article-to-your-friend-who-still-thinks-the-cloud-is-a-good-idea/
    ☁️ “ออกจาก Cloud แล้วรวยขึ้น – เส้นทางของนักพัฒนาที่กล้าท้าทายระบบ” Rameerez นักพัฒนาอิสระผู้สร้าง PromptHero และ RailsFast ได้เขียนบทความที่กลายเป็นไวรัล หลังจากเขาตัดสินใจย้ายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดออกจาก AWS และหันไปใช้เซิร์ฟเวอร์เช่าราคาถูกแทน ผลลัพธ์คือ ลดค่าใช้จ่ายลง 10 เท่า และ เพิ่มประสิทธิภาพระบบขึ้น 2 เท่า โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการ Cloud ที่มีราคาแพงและผูกขาด เขาเลือกใช้บริการจาก Hetzner ซึ่งให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคาเพียง $190 ต่อเดือน เทียบกับ AWS ที่คิดราคาสูงถึง $2,500–$3,500 ต่อเดือนสำหรับสเปกใกล้เคียงกัน แม้จะมีตัวเลือก Reserved Instances ที่ถูกลง แต่ก็ต้องจ่ายล่วงหน้าถึง $46,000 และติดสัญญา 3 ปี Rameerez วิจารณ์ว่า Cloud กลายเป็น “กับดัก” สำหรับบริษัทและนักพัฒนา เพราะมันสร้างความซับซ้อนโดยไม่จำเป็น และทำให้เกิดการพึ่งพาแบบผูกขาด เขาเชื่อว่าหลายคนไม่กล้าออกจาก Cloud เพราะกลัวความยุ่งยาก ทั้งที่ความจริงแล้วการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เองไม่ยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะในยุคที่มี AI อย่าง ChatGPT และ Claude คอยช่วยเหลือ เขายังชี้ให้เห็นว่า DevOps และ Cloud Engineers จำนวนมากไม่มี “skin in the game” เพราะพวกเขาไม่ได้จ่ายค่า Cloud ด้วยเงินตัวเอง จึงไม่มีแรงจูงใจในการลดต้นทุนให้บริษัท ✅ การออกจาก Cloud ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ ค่าใช้จ่ายลดลง 10 เท่า ➡️ ประสิทธิภาพระบบเพิ่มขึ้น 2 เท่า ➡️ ไม่มี vendor lock-in หรือข้อผูกมัดระยะยาว ✅ ทางเลือกใหม่: เซิร์ฟเวอร์เช่าและ VPS ➡️ Hetzner ให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคา $190/เดือน ➡️ VPS 8-core + RAM 32GB ราคาเพียง $50/เดือน ➡️ ซื้อเซิร์ฟเวอร์เองได้ในราคาไม่ถึง $1,000 ✅ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Cloud ➡️ DevOps หลายคนไม่เคยจ่ายค่า Cloud ด้วยตัวเอง ➡️ Cloud ถูกใช้เพราะ “ดูเท่” และ “ซับซ้อน” ➡️ ความกลัวเรื่องความปลอดภัยและความเสถียรถูกใช้เป็นข้ออ้าง ✅ การกลับมาของการจัดการเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเอง ➡️ AI ช่วยให้การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ง่ายขึ้น ➡️ Cloudflare ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง ➡️ การเรียนรู้ Linux กลายเป็นทักษะสำคัญในยุคใหม่ ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้ Cloud โดยไม่เข้าใจ ⛔ ค่าใช้จ่ายสูงเกินจริงโดยไม่จำเป็น ⛔ Vendor lock-in ทำให้ย้ายออกยาก ⛔ ความซับซ้อนที่ไม่จำเป็นต่อธุรกิจขนาดเล็ก ⛔ การใช้เทคโนโลยีเกินความจำเป็น เช่น Kubernetes สำหรับแอปเล็ก https://rameerez.com/send-this-article-to-your-friend-who-still-thinks-the-cloud-is-a-good-idea/
    RAMEEREZ.COM
    Send this article to your friend who still thinks the cloud is a good idea
    You've been lied to. You don't need the cloud – you can just run servers and save 10x your AWS costs. It's not that difficult.
    0 Comments 0 Shares 298 Views 0 Reviews
  • ใครเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งฟอกทองคำฟอกเงินค้ามนุษย์ของเถื่อนค้ายาค้าอาวุธตลอดจนอาชญากรรมใดๆ,ดูกระแสเงินสด การไหลเวียนของเงินเชื่อมโยงใครบ้างก็รู้หมดจากแบงค์ชาตินั้นล่ะ,เพราะเบื้องต้นมันทำเพื่อเงินเพื่อตังทั้งหมด,กระแสเงินไหลเข้าไหลออกบัญชีใครผิดปกติ แบงค์ชาติไทยเห็นหมดล่ะ ไหลออกประเทศเข้าประเทศก็เห็นหมด, ต่างชาติทำธุรกรรมผิดปกติใดๆในไทยก็รับระบบตรวจสอบได้หมด,จบที่แบงค์ชาติหมด,แต่แบงค์ชาติเป็นของอีลิทdeep stateตระกูลชั่วสากลโลก ทั่วโลกธนาคารในแต่ละประเทศทุกๆประเทศที่มีธนาคารกลางล้วนมันคือเจ้าของ รัฐประเทศไหนๆนั้นๆจึงถูกพวกมันกั้นออกไป ไม่สามารถเข้าไปปกครองหรือสั่งงานสั่งการ ออกคำสั่งใดๆเด็ดขาดให้ทำตามรัฐบาลประเทศนั้นๆได้ ควบคุมเด็ดขาดไม่ได้ มุกสวยหรูคือ ให้ธนาคารชาตินั้นๆขึ้นเป็นอิสระจากคำสั่งปกครองของรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ย่อมาไทยคือแบงค์ชาติเป็นอิสระจากการบริหารจากการปกครองจากคำสั่งให้บังคับใช้ได้ทันทีแก่แบงค์ชาติไทยไม่ได้ มุกอีลิทซาตาน ยึดธนาคารกลางแบงค์ชาติประเทศใดได้บนทั่วโลกเสมือนยึดปกครองเศรษฐกิจภายในการปกครองทางเมืองประเทศนั้นๆทั้งทางตรงและทางอ้อมได้เด็ดขาดเกือบ100%ได้แล้ว,จึงไม่แปลกใจทำไม กลุ่มธนาคารในตลาดsetจึงมีผลประการเป็นเขียวเป็นบวกในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นทั้งตลาดในยามวิกฤติโลกแดงเต็มไปหมดในตลาดsetไทย,แต่กลุ่มแบงค์กลับมีกำไรเป็นว่าเล่นเพราะอีลิทมารซาตานโลกสั่งนั้นเองในไทยเรา.
    ..เงินดิจิดัลมันก็สั่งปูพรมในไทยปูทางให้เกิดให้ได้จึงเร่งรีบให้ถือกำเนิดตัวละครเงินดิจิดัลขึ้น,การอ้างเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เงินฟอกเงินปั่นเงินเทามาซื้อเสียงเลือกตังก็ให้คนไทยหันเหว่าการใช้ตังกระดาษไม่ดีมันใช้ซื้อเสียงได้ง่าย มาเปลี่ยนใช้เงินดิจิดัลเถอะ ทำให้เห็นว่าคนขายเสียงซื้อเสียงได้จับกุม ตรวจสอบใดๆย้อนหลังหรือเรียลไทม์ได้หมด,มันต้อนผู้คนชาวไทยไปอีกคอกหนึ่งคอกควายคอกวัวคอกแพะคอกแกะสู่การควบคุมตรวจสอบได้เด็ดขาดขึ้นในอนาคต,ทั้งหมดมากมายมันบีบให้เข้าไปในกรอบในกระดานในแผนในวาระแผนการมันทั้งหมด,กฎหมายคาร์บอนเครดิตการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็เขียนเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว ,ใช้pm2.5คือข้ออ้างควบคุมมนุษย์คนไทย.
    ..เงินๆๆๆและเงิน มันจะทำลายระบบเงินเก่า ทาสเงินกระดาษเก่า เปลี่ยนไปสู่ยุคทาสเงินที่จับต้องไม่ได้ ทาสเงินอากาศอิเล็กทรอนิกส์เงินลมๆเงินแล้งๆจริง คือเงินดิจิดัลที่กำหนดเงื่อนไขการดำเนินชีวิตของทุกๆคนบนโลกนี้ได้,คอกควบคุมอิสระภาพ คอกควบคุมเจตนำนงเสรีคุณทั้งโลก.
    ..สงครามไทยเขมร สงครามดินแดนคือหมากล่อปลอม,แหกตาคนไทย ของจริงคือลดประชากรไทย1 ควบคุมคนไทย1ให้เด็ดขาดให้ได้,ยึดประเทศไทยได้ยิ่งดี1อย่างเปิดเผยและออกหน้าออกตากว่าในอดีตที่เคยผ่านมานั้น,อดีตที่เคยผ่านมาจากผลงานการยึดบ่อน้ำมันทั่วไทยและบ่อทองคำทั่วแผ่นดินเป็นของต่างชาติของพวกมันทางลับผ่านทางรัฐบาลขี้ข้าส้นตีนมันสั่งซ้ายสั่งขวาได้หมดในอดีตถึงปัจจุบันนี้ล่ะ ล่าสุดแร่เอิร์ธเต็มๆ.,ตลอดแร่มีค่ามหาศาลมากมายอื่นอีกเพรียบ,มันปกครอง มันยึดควบคุมหลังฉากเบื้องหลังเราคนไทยตลอด,ทหารไทยมากมายจึงทำชั่วเลวสนองฝ่ายมันอยู่ฝ่ายมันเป็นอันมากยึดอำนาจมาได้ มันจึงเขียนกฎหมายมากมายเต็มประเทศไทยมาบังคับกดขี่ข่มเหงคนไทยมากมายมาโดยตลอด กฎหมายไม่สมควรออก ปัญญาอ่อนมันก็เขียนออกมาตลอดอย่างง่ายดาย mouห่าเหวใดๆก็ตกลงกันตามอำเภอใจในอดีต กฎหมายอะไรคนดีเราเขียนกั้นไว้มันก็ฉีกทิ้งเขียนใหม่เพื่อปกป้องเดอะแก๊งเดอะก๊กเดอะคนของฝ่ายมัน อำนวยคนฝ่ายมันมานั่งปกครองในตำแหน่งใหญ่โตเต็มบ้านเต็มเมืองกระจายตัวทั่วประเทศไปหมด,ยุคศิวิไลซ์ฝ่ายชั่วเลวประจำโลกในประเทศไทยก็ได้.
    ..จริงๆคนไทยไม่สมควรอยู่ในสถานะยากจนเลย แต่เพราะมันยึดหัวปกครองหัวเราได้ ทั้งตัวจึงเสียหาย ผีบ้าไม่เต็มส่วนไปหมด,ส่วนดีหน่อยคุ้มดีก็หยิบนั้นนี้ใส่ปากพออยู่ได้ เส้นเสียเป็นหงิกเป็นหงอย ส่วนไม่ดีทั่วร่างกายเว้นไว้ส่วนดีเช่นคนดีในบ้านในเมืองเรายังมีอยู่ก็พอกินยาแก้หงิกหงอยทันกาลบ้างจังหวะได้,อดีตตัังแต่เราเสียดินแดนให้นักล่าอาณานิคมนั้นล่ะ จนเหลือแค่แผ่นดินไทยในปัจจุบันนี้ได้มันเริ่มกระบวนการเอาประเทศไทยมาแล้วจนถึงปัจจุบันมันก็จะเอาให้ได้นั่นเอง,ปรับวิธีการกลยุทธมาโดยตลอด,จนสุดท้ายสำเร็จบังคับคนไทยฉีดตายได้ในยุคลุงกว่าร้อยๆโดส คนละ1-2เข็ม กว่า60ล้านคนถูกฉีดตาย,ยุคลุงจึงเป็นการยึดอำนาจอย่างมีการวางแผนการไว้ดีแล้วเพื่อเตรียมฉีดตายนี้ล่ะของจริง,รวมทั้งผีบ้าแบบเขมรที่เปิดยิงระเบิดใส่ไทยก่อน มันก็สร้างเหตุสร้างแผนการปัจจัยวางหมากรอแล้ว เช่นนั้นเขมรผีบ้าไม่กล้าหรอก.,ให้ร้อยความกล้าก็ไม่ทำ,จนรีบให้มาเลย์อเมริกามาช่วยหยุดไทยฆ่าฝ่ายมันก่อนถึงพนมเปญ.เสียแผนด้วย จีนคอมมิวนิสต์ก็ด้วย เสียแผนจีนเช่นกัน,โลกนี้จริงๆทุกๆประเทศยืนหนึ่งไม่สู้ไทย อีลิทฝ่ายมืดทั่วโลกกลัวประเทศไทยที่สุด ตลอดต่างดาวใต้ทะเลมหาสมุทรก็ด้วย,ทั้งเกรงใจ ทั้งกลัวคนไทยสายพุทธ เพราะพวกนี้บรรลุธรรมได้ของจริง มีพลังสนามแม่เหล็กขั้นหลุดพ้นเหนือพลังมันได้หมดด้วย,ถ้าปล่อยคนไทยเจริญทางจิตวิญญาณ สุขกายสุขใจ มันจะเจริญสุขทางใจได้สะดวก บรรลุธรรมได้ไวได้ดีได้ง่าย ซวยคือฝ่ายมืดมารมันจะลำบากเพราะคนไทยจะเห็นแจ้งต่อหมดไปหมดไร้ที่ซ่อนใดๆนั้นเอง ยิ่งสามัคคีกันทั่วไทยอีก บรรลัยทั้งอาณาจักรฝ่ายมืดมันนี้,ประเทศนี้จึงห้ามสงบสุขทุกๆกรณี วุ่นวาย โกลาหลให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาให้ได้ ทำลายสถาบันกษัตริย์มันคือสิ่งแรกทันที จึงเกิดพวกชูสามนิ้วเปิดหน้าชกอย่างชัดเจนกว่าในอดีตที่ผ่านๆมา.,เพราะยุคสุดท้ายเวลานี้ คือยกจบ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจบ รู้ผลแพ้ชนะ,มืดปกครองโลกก็เวลานี้เลย,แสงขาวฝ่ายดีปกครองโลกก็ช่วงจังหวะเวลานี้เลย,ไทม์ไลน์เวลาเราคือช่วงนี้ก็ช่วงนี้ มิติอื่นก็มิติอื่น ปัจจุบันคือช่วงเวลาเราบนสมมุติโลกในขณะนี้,
    ..ไทยจะเป็นไทยหรือเมืองหลวงของอีลิทซาตานโลกก็เวลานี้ล่ะ.

    ..สถานะใดๆเราคนไทยสามัคคีกันจะร่วมกันเป็นได้ในยุคเราในรุ่นเรา,นรกหรือสวรรค์คนไทย เรา..คนไทยช่วยกันเลือกได้,เพราะเราคือสังคมใหญ่ระดับชาติประเทศมิอาจอยู่คนเดียวหรือข้าคือตำนานหนึ่งเดียวไม่ได้,ไปไหน..เราคนไทยอยู่ร่วมกันไปด้วยกันหมด,เพราะเราอยู่บ้านเดียวกัน นี้คือบ้านเรา คือแผ่นดินเรา ที่เราอาศัยเกิด อาศัยแก่ อาศัยตาย.,ไม่มีชาติใดๆจะรักคนไทยได้ดีกว่าคนไทยรักกันเองหรอก.,คนอเมริกาทั้งประเทศมารักคนไทยดีกว่าคนไทยมั้ย,คนฝรั่งยุโรปจะมีรักคนไทยรักแผ่นดินไทยดีกว่าคนไทยจริงเหรอ อดีตเห็นแต่มาปล้นมาชิงสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายขนกลับไปเสวยสุขในชาติประเทศมัน,เรา..คนไทยต้องสามัคคี มารักกัน ไม่ก้าวล่วงทำร้ายทำลายกันภายในกันเอง จะนับถือศาสนาความเชื่อใดๆ เราต้องรักและสามัคคีกันปกป้องแผ่นดินไทยเรา,เรา..คนไทยไปอาศัยแผ่นดินคนอื่นอยู่ บ้านคนอื่นตายคนอื่นนอนมีความสุขจริงๆเหรอ.,แผ่นดินไทยเท่านั้นที่เติมเต็มสมบูรณ์ทุกๆคำตอบในจิตในใจเราอย่างลงใจ.

    ..ทหารไทยต้องยึดอำนาจเท่านั้นคือหนทางออกเดียว.,จะแก้ทั้งกระดานหมากพวกชั่วเลวนี้ทั้งผูกทั้งวางได้หมด,ทำลายเพื่อสร้างใหม่ให้ดีๆก็ได้.มันเน่ามันพังไปหมดแล้ว.

    https://youtu.be/0uY1iVWLMec?si=SipLS_hw1f3kgQA2
    ใครเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งฟอกทองคำฟอกเงินค้ามนุษย์ของเถื่อนค้ายาค้าอาวุธตลอดจนอาชญากรรมใดๆ,ดูกระแสเงินสด การไหลเวียนของเงินเชื่อมโยงใครบ้างก็รู้หมดจากแบงค์ชาตินั้นล่ะ,เพราะเบื้องต้นมันทำเพื่อเงินเพื่อตังทั้งหมด,กระแสเงินไหลเข้าไหลออกบัญชีใครผิดปกติ แบงค์ชาติไทยเห็นหมดล่ะ ไหลออกประเทศเข้าประเทศก็เห็นหมด, ต่างชาติทำธุรกรรมผิดปกติใดๆในไทยก็รับระบบตรวจสอบได้หมด,จบที่แบงค์ชาติหมด,แต่แบงค์ชาติเป็นของอีลิทdeep stateตระกูลชั่วสากลโลก ทั่วโลกธนาคารในแต่ละประเทศทุกๆประเทศที่มีธนาคารกลางล้วนมันคือเจ้าของ รัฐประเทศไหนๆนั้นๆจึงถูกพวกมันกั้นออกไป ไม่สามารถเข้าไปปกครองหรือสั่งงานสั่งการ ออกคำสั่งใดๆเด็ดขาดให้ทำตามรัฐบาลประเทศนั้นๆได้ ควบคุมเด็ดขาดไม่ได้ มุกสวยหรูคือ ให้ธนาคารชาตินั้นๆขึ้นเป็นอิสระจากคำสั่งปกครองของรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ย่อมาไทยคือแบงค์ชาติเป็นอิสระจากการบริหารจากการปกครองจากคำสั่งให้บังคับใช้ได้ทันทีแก่แบงค์ชาติไทยไม่ได้ มุกอีลิทซาตาน ยึดธนาคารกลางแบงค์ชาติประเทศใดได้บนทั่วโลกเสมือนยึดปกครองเศรษฐกิจภายในการปกครองทางเมืองประเทศนั้นๆทั้งทางตรงและทางอ้อมได้เด็ดขาดเกือบ100%ได้แล้ว,จึงไม่แปลกใจทำไม กลุ่มธนาคารในตลาดsetจึงมีผลประการเป็นเขียวเป็นบวกในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นทั้งตลาดในยามวิกฤติโลกแดงเต็มไปหมดในตลาดsetไทย,แต่กลุ่มแบงค์กลับมีกำไรเป็นว่าเล่นเพราะอีลิทมารซาตานโลกสั่งนั้นเองในไทยเรา. ..เงินดิจิดัลมันก็สั่งปูพรมในไทยปูทางให้เกิดให้ได้จึงเร่งรีบให้ถือกำเนิดตัวละครเงินดิจิดัลขึ้น,การอ้างเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เงินฟอกเงินปั่นเงินเทามาซื้อเสียงเลือกตังก็ให้คนไทยหันเหว่าการใช้ตังกระดาษไม่ดีมันใช้ซื้อเสียงได้ง่าย มาเปลี่ยนใช้เงินดิจิดัลเถอะ ทำให้เห็นว่าคนขายเสียงซื้อเสียงได้จับกุม ตรวจสอบใดๆย้อนหลังหรือเรียลไทม์ได้หมด,มันต้อนผู้คนชาวไทยไปอีกคอกหนึ่งคอกควายคอกวัวคอกแพะคอกแกะสู่การควบคุมตรวจสอบได้เด็ดขาดขึ้นในอนาคต,ทั้งหมดมากมายมันบีบให้เข้าไปในกรอบในกระดานในแผนในวาระแผนการมันทั้งหมด,กฎหมายคาร์บอนเครดิตการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็เขียนเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว ,ใช้pm2.5คือข้ออ้างควบคุมมนุษย์คนไทย. ..เงินๆๆๆและเงิน มันจะทำลายระบบเงินเก่า ทาสเงินกระดาษเก่า เปลี่ยนไปสู่ยุคทาสเงินที่จับต้องไม่ได้ ทาสเงินอากาศอิเล็กทรอนิกส์เงินลมๆเงินแล้งๆจริง คือเงินดิจิดัลที่กำหนดเงื่อนไขการดำเนินชีวิตของทุกๆคนบนโลกนี้ได้,คอกควบคุมอิสระภาพ คอกควบคุมเจตนำนงเสรีคุณทั้งโลก. ..สงครามไทยเขมร สงครามดินแดนคือหมากล่อปลอม,แหกตาคนไทย ของจริงคือลดประชากรไทย1 ควบคุมคนไทย1ให้เด็ดขาดให้ได้,ยึดประเทศไทยได้ยิ่งดี1อย่างเปิดเผยและออกหน้าออกตากว่าในอดีตที่เคยผ่านมานั้น,อดีตที่เคยผ่านมาจากผลงานการยึดบ่อน้ำมันทั่วไทยและบ่อทองคำทั่วแผ่นดินเป็นของต่างชาติของพวกมันทางลับผ่านทางรัฐบาลขี้ข้าส้นตีนมันสั่งซ้ายสั่งขวาได้หมดในอดีตถึงปัจจุบันนี้ล่ะ ล่าสุดแร่เอิร์ธเต็มๆ.,ตลอดแร่มีค่ามหาศาลมากมายอื่นอีกเพรียบ,มันปกครอง มันยึดควบคุมหลังฉากเบื้องหลังเราคนไทยตลอด,ทหารไทยมากมายจึงทำชั่วเลวสนองฝ่ายมันอยู่ฝ่ายมันเป็นอันมากยึดอำนาจมาได้ มันจึงเขียนกฎหมายมากมายเต็มประเทศไทยมาบังคับกดขี่ข่มเหงคนไทยมากมายมาโดยตลอด กฎหมายไม่สมควรออก ปัญญาอ่อนมันก็เขียนออกมาตลอดอย่างง่ายดาย mouห่าเหวใดๆก็ตกลงกันตามอำเภอใจในอดีต กฎหมายอะไรคนดีเราเขียนกั้นไว้มันก็ฉีกทิ้งเขียนใหม่เพื่อปกป้องเดอะแก๊งเดอะก๊กเดอะคนของฝ่ายมัน อำนวยคนฝ่ายมันมานั่งปกครองในตำแหน่งใหญ่โตเต็มบ้านเต็มเมืองกระจายตัวทั่วประเทศไปหมด,ยุคศิวิไลซ์ฝ่ายชั่วเลวประจำโลกในประเทศไทยก็ได้. ..จริงๆคนไทยไม่สมควรอยู่ในสถานะยากจนเลย แต่เพราะมันยึดหัวปกครองหัวเราได้ ทั้งตัวจึงเสียหาย ผีบ้าไม่เต็มส่วนไปหมด,ส่วนดีหน่อยคุ้มดีก็หยิบนั้นนี้ใส่ปากพออยู่ได้ เส้นเสียเป็นหงิกเป็นหงอย ส่วนไม่ดีทั่วร่างกายเว้นไว้ส่วนดีเช่นคนดีในบ้านในเมืองเรายังมีอยู่ก็พอกินยาแก้หงิกหงอยทันกาลบ้างจังหวะได้,อดีตตัังแต่เราเสียดินแดนให้นักล่าอาณานิคมนั้นล่ะ จนเหลือแค่แผ่นดินไทยในปัจจุบันนี้ได้มันเริ่มกระบวนการเอาประเทศไทยมาแล้วจนถึงปัจจุบันมันก็จะเอาให้ได้นั่นเอง,ปรับวิธีการกลยุทธมาโดยตลอด,จนสุดท้ายสำเร็จบังคับคนไทยฉีดตายได้ในยุคลุงกว่าร้อยๆโดส คนละ1-2เข็ม กว่า60ล้านคนถูกฉีดตาย,ยุคลุงจึงเป็นการยึดอำนาจอย่างมีการวางแผนการไว้ดีแล้วเพื่อเตรียมฉีดตายนี้ล่ะของจริง,รวมทั้งผีบ้าแบบเขมรที่เปิดยิงระเบิดใส่ไทยก่อน มันก็สร้างเหตุสร้างแผนการปัจจัยวางหมากรอแล้ว เช่นนั้นเขมรผีบ้าไม่กล้าหรอก.,ให้ร้อยความกล้าก็ไม่ทำ,จนรีบให้มาเลย์อเมริกามาช่วยหยุดไทยฆ่าฝ่ายมันก่อนถึงพนมเปญ.เสียแผนด้วย จีนคอมมิวนิสต์ก็ด้วย เสียแผนจีนเช่นกัน,โลกนี้จริงๆทุกๆประเทศยืนหนึ่งไม่สู้ไทย อีลิทฝ่ายมืดทั่วโลกกลัวประเทศไทยที่สุด ตลอดต่างดาวใต้ทะเลมหาสมุทรก็ด้วย,ทั้งเกรงใจ ทั้งกลัวคนไทยสายพุทธ เพราะพวกนี้บรรลุธรรมได้ของจริง มีพลังสนามแม่เหล็กขั้นหลุดพ้นเหนือพลังมันได้หมดด้วย,ถ้าปล่อยคนไทยเจริญทางจิตวิญญาณ สุขกายสุขใจ มันจะเจริญสุขทางใจได้สะดวก บรรลุธรรมได้ไวได้ดีได้ง่าย ซวยคือฝ่ายมืดมารมันจะลำบากเพราะคนไทยจะเห็นแจ้งต่อหมดไปหมดไร้ที่ซ่อนใดๆนั้นเอง ยิ่งสามัคคีกันทั่วไทยอีก บรรลัยทั้งอาณาจักรฝ่ายมืดมันนี้,ประเทศนี้จึงห้ามสงบสุขทุกๆกรณี วุ่นวาย โกลาหลให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาให้ได้ ทำลายสถาบันกษัตริย์มันคือสิ่งแรกทันที จึงเกิดพวกชูสามนิ้วเปิดหน้าชกอย่างชัดเจนกว่าในอดีตที่ผ่านๆมา.,เพราะยุคสุดท้ายเวลานี้ คือยกจบ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจบ รู้ผลแพ้ชนะ,มืดปกครองโลกก็เวลานี้เลย,แสงขาวฝ่ายดีปกครองโลกก็ช่วงจังหวะเวลานี้เลย,ไทม์ไลน์เวลาเราคือช่วงนี้ก็ช่วงนี้ มิติอื่นก็มิติอื่น ปัจจุบันคือช่วงเวลาเราบนสมมุติโลกในขณะนี้, ..ไทยจะเป็นไทยหรือเมืองหลวงของอีลิทซาตานโลกก็เวลานี้ล่ะ. ..สถานะใดๆเราคนไทยสามัคคีกันจะร่วมกันเป็นได้ในยุคเราในรุ่นเรา,นรกหรือสวรรค์คนไทย เรา..คนไทยช่วยกันเลือกได้,เพราะเราคือสังคมใหญ่ระดับชาติประเทศมิอาจอยู่คนเดียวหรือข้าคือตำนานหนึ่งเดียวไม่ได้,ไปไหน..เราคนไทยอยู่ร่วมกันไปด้วยกันหมด,เพราะเราอยู่บ้านเดียวกัน นี้คือบ้านเรา คือแผ่นดินเรา ที่เราอาศัยเกิด อาศัยแก่ อาศัยตาย.,ไม่มีชาติใดๆจะรักคนไทยได้ดีกว่าคนไทยรักกันเองหรอก.,คนอเมริกาทั้งประเทศมารักคนไทยดีกว่าคนไทยมั้ย,คนฝรั่งยุโรปจะมีรักคนไทยรักแผ่นดินไทยดีกว่าคนไทยจริงเหรอ อดีตเห็นแต่มาปล้นมาชิงสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายขนกลับไปเสวยสุขในชาติประเทศมัน,เรา..คนไทยต้องสามัคคี มารักกัน ไม่ก้าวล่วงทำร้ายทำลายกันภายในกันเอง จะนับถือศาสนาความเชื่อใดๆ เราต้องรักและสามัคคีกันปกป้องแผ่นดินไทยเรา,เรา..คนไทยไปอาศัยแผ่นดินคนอื่นอยู่ บ้านคนอื่นตายคนอื่นนอนมีความสุขจริงๆเหรอ.,แผ่นดินไทยเท่านั้นที่เติมเต็มสมบูรณ์ทุกๆคำตอบในจิตในใจเราอย่างลงใจ. ..ทหารไทยต้องยึดอำนาจเท่านั้นคือหนทางออกเดียว.,จะแก้ทั้งกระดานหมากพวกชั่วเลวนี้ทั้งผูกทั้งวางได้หมด,ทำลายเพื่อสร้างใหม่ให้ดีๆก็ได้.มันเน่ามันพังไปหมดแล้ว. https://youtu.be/0uY1iVWLMec?si=SipLS_hw1f3kgQA2
    0 Comments 0 Shares 829 Views 0 Reviews
  • ครม.หนูผี ตอบแทนครูใหญ่ ด้วยการทุ่ม 3.5 พันล้าน ต่อสัญญา Moto GP อีก 5 ปี มีข้ออ้างสู้คดีเขากระโดง
    #7ดอกจิก
    ครม.หนูผี ตอบแทนครูใหญ่ ด้วยการทุ่ม 3.5 พันล้าน ต่อสัญญา Moto GP อีก 5 ปี มีข้ออ้างสู้คดีเขากระโดง #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • เมื่อกฎหมายไซเบอร์กลายเป็นเครื่องมือปราบนักข่าว

    บทความจาก Columbia Journalism Review เปิดเผยว่า กฎหมายไซเบอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำลังถูกใช้เพื่อกดขี่เสรีภาพสื่อในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแอฟริกาและตะวันออกกลาง เช่น ไนจีเรีย ปากีสถาน จอร์แดน และไนเจอร์

    ตัวอย่างที่เด่นชัดคือกรณีของ Daniel Ojukwu นักข่าววัย 26 ปีจากไนจีเรีย ที่ถูกจับกุมโดยไม่มีการแจ้งข้อหาอย่างชัดเจน หลังจากเขาเขียนบทความเกี่ยวกับการทุจริตในสำนักงานประธานาธิบดี เขาถูกกล่าวหาว่าละเมิด Cybercrime Act ปี 2015 ซึ่งมีบทบัญญัติที่คลุมเครือ เช่น ห้ามเผยแพร่ข้อมูล “น่ารำคาญ” หรือ “หยาบคาย” ทางออนไลน์

    แม้จะมีการแก้ไขกฎหมายในปี 2024 แต่ข้อความใหม่ยังคงเปิดช่องให้ตีความได้กว้าง เช่น การเผยแพร่ข้อมูล “เท็จโดยเจตนา” ที่อาจ “ทำให้เกิดความวุ่นวาย” หรือ “คุกคามชีวิต” ซึ่งยังคงถูกใช้เล่นงานนักข่าวสายสืบสวนอย่างต่อเนื่อง

    ประเทศอื่นก็มีแนวโน้มคล้ายกัน เช่น:
    ไนเจอร์ กลับมาใช้โทษจำคุกสำหรับการหมิ่นประมาทและเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบศักดิ์ศรีมนุษย์”
    จอร์แดน ดำเนินคดีนักข่าวอย่างน้อย 15 คนภายใต้กฎหมายไซเบอร์ฉบับขยายปี 2023
    ปากีสถานและตุรกี ใช้กฎหมาย “ต่อต้านข่าวปลอม” เพื่อควบคุมเนื้อหาสื่อ

    นักวิจัยจาก Citizen Lab เตือนว่า กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยลดข่าวปลอมจริง ๆ แต่กลับเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ และเมื่อประเทศประชาธิปไตยก็เริ่มออกกฎหมายคล้ายกัน ก็ยิ่งเปิดช่องให้รัฐบาลเผด็จการใช้เป็นข้ออ้างในการเซ็นเซอร์

    กฎหมายไซเบอร์ถูกใช้เพื่อปราบปรามนักข่าวในหลายประเทศ
    โดยเฉพาะผู้ที่เปิดโปงการทุจริตหรือวิพากษ์รัฐบาล

    Cybercrime Act ของไนจีเรียมีบทบัญญัติคลุมเครือ
    เช่น “ข้อมูลเท็จที่คุกคามชีวิต” หรือ “น่ารำคาญ”
    เปิดช่องให้ตีความและใช้เล่นงานนักข่าว

    นักข่าวถูกจับกุมโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน
    เช่นกรณี Daniel Ojukwu และทีม Informant247
    ถูกควบคุมตัวร่วมกับนักโทษทั่วไปในสภาพแย่

    กฎหมายคล้ายกันถูกใช้ในไนเจอร์ จอร์แดน ปากีสถาน และตุรกี
    เพิ่มโทษจำคุกสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบความสงบ”
    ใช้ข้อหา “ข่าวปลอม” เป็นเครื่องมือควบคุมสื่อ

    นักวิจัยเตือนว่ากฎหมายเหล่านี้ไม่ช่วยลด misinformation
    แต่เพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหา
    ประเทศประชาธิปไตยที่ออกกฎหมายคล้ายกันยิ่งเปิดช่องให้เผด็จการเลียนแบบ

    https://www.cjr.org/analysis/nigeria-pakistan-jordan-cybercrime-laws-journalism.php
    🛑 เมื่อกฎหมายไซเบอร์กลายเป็นเครื่องมือปราบนักข่าว บทความจาก Columbia Journalism Review เปิดเผยว่า กฎหมายไซเบอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำลังถูกใช้เพื่อกดขี่เสรีภาพสื่อในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแอฟริกาและตะวันออกกลาง เช่น ไนจีเรีย ปากีสถาน จอร์แดน และไนเจอร์ ตัวอย่างที่เด่นชัดคือกรณีของ Daniel Ojukwu นักข่าววัย 26 ปีจากไนจีเรีย ที่ถูกจับกุมโดยไม่มีการแจ้งข้อหาอย่างชัดเจน หลังจากเขาเขียนบทความเกี่ยวกับการทุจริตในสำนักงานประธานาธิบดี เขาถูกกล่าวหาว่าละเมิด Cybercrime Act ปี 2015 ซึ่งมีบทบัญญัติที่คลุมเครือ เช่น ห้ามเผยแพร่ข้อมูล “น่ารำคาญ” หรือ “หยาบคาย” ทางออนไลน์ แม้จะมีการแก้ไขกฎหมายในปี 2024 แต่ข้อความใหม่ยังคงเปิดช่องให้ตีความได้กว้าง เช่น การเผยแพร่ข้อมูล “เท็จโดยเจตนา” ที่อาจ “ทำให้เกิดความวุ่นวาย” หรือ “คุกคามชีวิต” ซึ่งยังคงถูกใช้เล่นงานนักข่าวสายสืบสวนอย่างต่อเนื่อง ประเทศอื่นก็มีแนวโน้มคล้ายกัน เช่น: 🎃 ไนเจอร์ กลับมาใช้โทษจำคุกสำหรับการหมิ่นประมาทและเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบศักดิ์ศรีมนุษย์” 🎃 จอร์แดน ดำเนินคดีนักข่าวอย่างน้อย 15 คนภายใต้กฎหมายไซเบอร์ฉบับขยายปี 2023 🎃 ปากีสถานและตุรกี ใช้กฎหมาย “ต่อต้านข่าวปลอม” เพื่อควบคุมเนื้อหาสื่อ นักวิจัยจาก Citizen Lab เตือนว่า กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยลดข่าวปลอมจริง ๆ แต่กลับเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ และเมื่อประเทศประชาธิปไตยก็เริ่มออกกฎหมายคล้ายกัน ก็ยิ่งเปิดช่องให้รัฐบาลเผด็จการใช้เป็นข้ออ้างในการเซ็นเซอร์ ✅ กฎหมายไซเบอร์ถูกใช้เพื่อปราบปรามนักข่าวในหลายประเทศ ➡️ โดยเฉพาะผู้ที่เปิดโปงการทุจริตหรือวิพากษ์รัฐบาล ✅ Cybercrime Act ของไนจีเรียมีบทบัญญัติคลุมเครือ ➡️ เช่น “ข้อมูลเท็จที่คุกคามชีวิต” หรือ “น่ารำคาญ” ➡️ เปิดช่องให้ตีความและใช้เล่นงานนักข่าว ✅ นักข่าวถูกจับกุมโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน ➡️ เช่นกรณี Daniel Ojukwu และทีม Informant247 ➡️ ถูกควบคุมตัวร่วมกับนักโทษทั่วไปในสภาพแย่ ✅ กฎหมายคล้ายกันถูกใช้ในไนเจอร์ จอร์แดน ปากีสถาน และตุรกี ➡️ เพิ่มโทษจำคุกสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบความสงบ” ➡️ ใช้ข้อหา “ข่าวปลอม” เป็นเครื่องมือควบคุมสื่อ ✅ นักวิจัยเตือนว่ากฎหมายเหล่านี้ไม่ช่วยลด misinformation ➡️ แต่เพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหา ➡️ ประเทศประชาธิปไตยที่ออกกฎหมายคล้ายกันยิ่งเปิดช่องให้เผด็จการเลียนแบบ https://www.cjr.org/analysis/nigeria-pakistan-jordan-cybercrime-laws-journalism.php
    WWW.CJR.ORG
    How anti-cybercrime laws are being weaponized to repress journalism.
    Across the world, well-meaning laws intended to reduce online fraud and other scourges of the internet are being put to a very different use.
    0 Comments 0 Shares 557 Views 0 Reviews
  • ต้มข้ามศตวรรษ – บทไอ้โหดเขียน 1 – 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 1

    เล่าเรื่องมาถึงตอนนี้ คงจะพอเห็นกันรางๆแล้วว่า การปฏิวัติรัสเซีย โดยพวก Bolsheviks น่าจะเป็นละครลวงโลก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษ ที่สามารถต้มคนได้ทั้งโลก เป็นเวลานานร่วมร้อยปีแล้ว โดยแทบจะยังไม่มีใครรู้เรื่อง เอะใจ หรือ สงสัย เพราะเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้ถูกทำลายไปเกือบหมด เกือบหมด แต่ไม่หมด มีนักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ ผู้ที่สนใจความจริง และรักความเป็นธรรม และที่สำคัญ ผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อชีวิต และประเทศชาติของเขา เริ่มทะยอยค้นคว้า หาข้อเท็จจริง จากเอกสารที่ถูกกระจายซุกซ่อน บิดเบือน และพรางตัวในรูปแบบต่างๆ

    แต่ความจริงไม่เคยถูกซ่อนได้มิดหมด ไม่เคยถูกเก็บ จนไร้ร่องรอยโดยสิ้นเชิง ความจริง รอให้เราตามรอย ขุดค้นขึ้นมาใหม่

    มันไม่ใช่การปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ อย่างที่เราเข้าใจกันแม้แต่น้อย แต่มันเป็นการสมคบกันของโจร ในเสื้อคลุมต่างๆ ที่จะปล้นรัสเซีย อย่างไม่ให้เหลือซาก อย่างโหดเหี้ยม และเลือดเย็น ทำลายสถาบัน ทำลายประเทศ ผ่านการสร้างฉากปฏิวัติ ซึ่งเป็นรูปแบบการปล้นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และมันได้ถูกนำมาพัฒนา เป็นการปล้นประเทศอื่นๆต่อไปอีกมากมาย

    (และก็น่าคิดว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือการปฏิวัติของไทยเรา ในปี พ.ศ.2475 (ค.ศ.1932) ที่มีผู้สรรเสริญกันหนักหนา ก็อาจจะเป็นละครลวงโลก โดยการจัดฉากเช่นเดียวกันนี
    ผมมาฉุกใจคิด ตอนกำลังเขียนนิทานเรื่องนี้ เลยแวะไปหาเอกสารเก่าๆอ่าน เจอเรื่อง พระยากัลยาณไมตรี (ฟรานซิส บี แซร์ Francis Bowes Sayre) นักกฏหมายจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ที่เข้ามายังสยามประเทศ เป็นที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศของไทย ในสมัยพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ตั้งแต่ปี พ.ศ.2466 (ค.ศ.1923) ในปี พ.ศ.2468 (ค.ศ.1925) มีตำแหน่งเป็น เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย มาถึงสมัยพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 นาย Sayre ถวายคำปรึกษาด้านสนธิสัญญา และร่วมร่างเค้าโครงรัฐธรรมนูญ ฉบับพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย ในชื่อ “Outline of Preliminary Draft” และเป็นผู้แทนรัฐบาลไทย ในการเจรจาเรื่องสนธิสัญญาไทย- สหรัฐอเมริกา

    จะรู้สึกสะกิดใจกันไหมครับ ถ้าผมบอกว่า Francis B Sayre เป็นลูกเขยของประธานาธิบดี Woodrow Wilson และช่วงปี ค.ศ.1917 เขาทำงานกับ YMCA จำได้ไหมครับว่า ผมเคยเล่าว่าหน่วยงานนี้ จริงๆ ทำหน้าที่อะไร และ YMCA ไปทำอะไรที่รัสเซีย ในปี 1917 สงสัยผมคงจะต้องไปค้นหาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่อง คุณลูกเขยนี่เพิ่มเติมสักหน่อย)

    กลับมาที่เรื่องปล้นรัสเซียต่อ ตัวละครสำคัญคือ American International Corperation (AIC) ซึ่งตามบทละครลวงโลกครั้งยิ่งใหญ่นี้ น่าจะถูกตั้งขึ้นมา เพื่อรับบทเป็นผู้นำการปล้น โดยเป็นผู้จัดการระดมทุน ที่ต้องลงทุนค่าใช้จ่ายในการเตรียมการจัดหาพรรคพวก อาวุธยุทธภัณท์ เครื่องไม้เครื่องมือ รวมทั้งการซ้อมปล้นที่อื่นมาหลายแห่ง ตั้งแต่ เม็กซิโก อเมริกาใต้ ยันไปถึงเมืองจีน ก่อนที่จะเป็นการลงมือในฉากใหญ่ ปล้นรัสเซีย จักรวรรดิที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีทรัพยากรมากมายซ่อนอยู่

    แต่ก็ยังไม่ชัดเจน ว่าใครกันแน่ ที่เป็นคนสั่งให้มีการ “ปล้น” และใครเป็นคนวางแผนปล้น และทำไมถึงเลือกรัสเซีย มันจะมาจากสาเหตุอะไรก็ตาม มันต้องทำเป็นขบวนการ เตรียมการล่วงหน้าเป็นปีๆ (AIC ตั้งขึ้น ค.ศ.1915 การปฏิวัติรัสเซียทั้ง 2 ครั้ง เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1917)

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 2

    หนังสือพิมพ์ New York Times วันที่ 17 มีนาคม 1917 เขียนรายงานถึงนักข่าวชื่อดัง นาย George Kennan ซึ่งได้พูดในวันที่กลุ่มสังคมนิยมชาวอเมริกัน ได้จัดงานชุมนุม เพื่อฉลองการปฏิวัติรัสเซีย ว่า

    “นาย Kennan เล่าให้ฟัง ถึงผลงานของกลุ่ม Friends of Russian Freedom ที่เข้าไปเกี่ยว กับการปฏิวัติรัสเซีย เขาบอกว่า เรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่ สงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นที่รบกันตั้งแต่ ค.ศ. 1904 นู่น เมื่อรบกันไปปีกว่า ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายได้เปรียบ และจับทหารรัสเซียได้ประมาณ 12,000 เอามาขังไว้ที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นเขาอยู่ที่โตเกียว และได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมนักโทษ ที่เป็นทหารรัสเซีย

    เขาได้รับหน้าที่ ให้เป็นคนหว่านความคิด สร้างความเกลียดชัง และต้องการปฏิวัติไล่ซาร์ของรัสเซีย เอาไว้ในหัวของพวกทหารรัสเซีย ที่ถูกจับนั้น โดยพวกญี่ปุ่นให้ความสนับสนุน เอกสารการโฆษณาชวนเชื่อ และชวนให้ปฏิวัติ ถูกจัดส่งไปที่ญี่ปุ่นจากอเมริกา หลังจากปฏิบัติภาระกิจ หว่านเมล็ดพันธ์ปฏิวัติเสร็จ เขาก็เดินทางกลับอเมริกา

    เขาบอกว่า ขบวนการหว่านความคิดให้ปฏิวัติซาร์ของรัสเซียนี้ นี้ได้รับการอุปถัมภ์ และสนับสนุนด้านเงินทุน จากนักการเงินใหญ่แห่งนิวยอร์ค ที่ทุกคนรู้จักดีและชื่นชม คือนาย Jacob H Schiff นั่นแหละ!

    เมื่อสงครามโลกเกิดขึ้น มีทหารรัสเซีย ถูกควบคุมอยู่ที่ญี่ปุ่น ประมาณ 50,000 คน ทำให้ Friends of Russian Freedom ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ปฏิวัติ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย
    “…แต่ผมไม่รู้จำนวนที่แน่นอน ของพวกเมล็ดพันธุ์ที่เราหว่านไว้ และได้มาเข้าร่วมการปฏิวัติครั้งนี้… “นาย Kennan บอก

    หลังจากนั้น เขาก็อ่านโทรเลขจากนาย Jacob H Schiff บางส่วน ให้พวกที่มาชุมนุมฟัง

    “ …คุณช่วยบอกพวกเรา ที่มาฉลองกันคืนนี้ว่า ผมเสียใจอย่างยิ่ง ที่ไม่สามารถมาร่วมฉลองการได้รางวัลของ Friends of Russian Freedom ที่เราได้คาดหวัง และพยายามอยู่หลายปี เพื่อจะทำให้มันเกิดผลสำเร็จ..”
    นอกจากนี้ Schiff ยังแสดงความเห็นของเขาต่อการปฏิวัติรัสเซีย อย่างไม่ปิดบัง ผ่านบทความของเขาที่เขียนลงใน นสพ.ต่าง ๆ

    สำหรับ หนังสือพิมพ์ The Evening Post นั้น Schiff เขียนว่า

    “เพื่อตอบคำถามพวกคุณ ถึงความเห็นของผม เกี่ยวกับสถานะการเงินของรัสเซีย ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า ด้วยการพัฒนาทรัพยากรอันมหาศาล ของรัสเซียอย่างถูกต้อง หลังจากกำจัดคนใหญ่คนโตไปแล้วนั้น(หมายถึงซาร์) รัสเซียก็สามารถจะพัฒนาสถานะการเงินของตน ให้ขึ้นมาอยู่ในกลุ่ม ที่จะสร้างประโยชน์แก่ตลาดเงินของโลกได้”

    คำตอบของ Schiff สะท้อนถึงความเห็น ของแวดวงการเงินในลอนดอนและนิวยอร์ค เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียได้ดีพอสมควร

    นาย John B. Young แห่งธนาคาร National City Bank ซึ่ง บังเอิญอยู่ที่รัสเซีย ในปี 1916 เพื่อทำหน้าที่จัดการเงินกู้ ของพวกนายทุนอเมริกันให้แก่ซาร์ว่า ได้มีการพูดถึงการปฏิวัติกันทั่วไปหมดในรัสเซียในปีนั้น เขาคิดว่า พวกที่จะทำการปฏิวัติ เป็นพวกที่เอาจริง

    หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงาน ว่า ตลาดแลกเปลี่ยนเงินที่ลอนดอน คึกคักล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนการปฏิวัติ เหมือนกับทางลอนดอนรู้ว่า จะมีการปฏิวัติก่อนนิวยอร์ค และนักการเงินรุ่นใหญ่ ทั้งในตลาดเงินลอนดอนและนิวยอร์ค ต่างมีความเห็นไปในทางบวกกับการปฏิวัติของรัสเซีย พวกกลุ่มนักการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม มองว่าการปฏิวัตินี้ เป็นการกำจัดอิทธิพล ของกลุ่มที่ฝักฝ่ายเยอรมันในรัฐบาลรัสเซียออกไป และจะทำให้การทำสงครามกับเยอรมัน ของรัสเซียเข้มแข็งขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อฝ่ายอังกฤษ

    นาย Jacob H Schiff เป็นใคร และอะไรทำให้เขาลงทุนให้ นาย George Kennan ถือตะกร้า ไปหว่านเมล็ดพันธุ์ปฏิวัติถึงในโตเกียว

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 3

    Jacob H Schiff เป็นลูกของนักบวชชาวยิว (Jewish Rabbi) เกิดที่เมือง Frankfurt เยอรมัน เขาถูกส่งให้มาอยู่ที่อเมริกา ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ตามคำสั่งและโดยเงินทุนของตระกูลโคตรรวย เจ้าพ่อ Rothschild

    ภาระกิจของ Schiff คือ เข้าไปคลุกอยู่กับนักการเงินชาวอเมริกัน และรอฟังคำสั่งจากเจ้านายต่อไป

    เมื่ออยู่อเมริกานานพอ จนศึกษาลู่ทางเกี่ยวกับธุรกิจการเงินได้พอสมควร ด้วยทุนของ Rothschild Schiff ก็ซื้อกิจการธนาคารที่อินเดียนนา ชื่อ Kuhn and Loeb ซึ่งเป็นของ Abraham Kuhn และ Solomon Loeb พร้อมกันนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุมกิจการได้หมดจด Schiff ก็แต่งงานกับ Therese ลูกสาวของ Solomon หลังจากนั้นก็ซื้อหุ้นส่วนของ Kuhn มาทั้งหมด ทำให้เขาเป็นเจ้าของ Kuhn and Loeb แต่ผู้เดียว และย้ายมาทำธุรกิจที่นิวยอร์ค เป็นสูตรการซื้อกิจการที่น่าสนใจ แต่งงานกับลูกสาว แล้วได้เป็นเจ้าของกิจการของพ่อตา

    เมื่อมาเปิดตัวที่นิวยอร์ค ในช่วงแรกๆ เขาไม่ค่อยได้รับการต้อนรับจากเจ้าถิ่นใหญ่คือ House of Morgan ซึ่งเป็นเจ้าพ่อคุมวอลสตรีทอยู่ แต่ Schiff ในฐานะตัวแทนของเจ้าพ่อ Rothschild ก็คงไม่มีใครกล้ารังเกียจที่จะ คบค้า แล้ว Schiff กับ Morgan ก็จับมือกัน เงินมันกลิ่นเดียวกัน ข่าวบอกว่า Schiff เป็นตัวกลาง เชื่อม Rothschild กับ House of Morgan เข้าด้วยกัน

    นิตยสาร Truth ฉบับวันที่ 16 ธันวาคม 1912 ลงบทความ ที่เขียนโดย George R Conroy ดังนี้:

    ” Schiff นายใหญ่ของธุรกิจการเงิน Kuhn, Loeb & Co ซึ่งเป็นตัวแทนของ Rothschild ทางฝั่งนี้ของแอตแลนติก ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักยุทธศาสตร์การเงินตัวฉกาจ เขาเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านการเงิน กับกิจการของ Standard Oil ที่ยิ่งใหญ่ เขามีความสนิทสนม และทำงานใกล้ชิดกับพวก Harrimans และ Rockefellers ในธุรกิจเกี่ยวกับกิจการทางรถไฟทั้งหมดของพวกนั้น จนทำให้พวกนั้น มีอำนาจควบคุมธุรกิจเกี่ยวกับทางรถไฟและการเงินของอเมริกา”
    Kuhn, Loeb & Co มีหุ้นส่วนอีกคน คือ น้องเขยของ Schiff ชื่อ Paul Warburg ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการวางแผน และดำเนินการให้กลุ่มวอลสตรีท สร้างระบบธนาคารกลาง
    ( Federal Reserve System ) ที่มีเอกชนเป็นเจ้าของ ในอเมริกาได้สำเร็จ และยังเป็นอยู่จนถึงทุกวันนี้

    นอกจากนี้ Paul มีน้องชาย ชื่อ Max Warburg ซึ่งดูแลกิจการ Kuhn, Loeb & Co อยู่ในเยอรมันและ Max ยังทำงานให้รัฐบาลเยอรมัน โดยเป็นหัวหน้าหน่วยจารกรรม ของรัฐบาลเยอรมันในช่วงสงครามโลกอีกด้วย นอกจากนี้ Paul ยังมีน้องชายอีกหนึ่งคน ชื่อ Felix ที่ทำหน้าที่เป็นผู้แทนการค้าของรัฐบาลเยอรมัน ประจำที่กรุงสตอกโฮม หน้าที่นี้ในยามสงคราม ไม่ต่างอะไรกับหน้าที่สืบราชการลับนั่นเอง

    จึงไม่ใช่เป็นเรื่องแปลก ที่แม้จะอยู่อเมริกา แต่ Schiff ก็รู้ความเป็นไป ของอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นอย่างดี ผ่านเครือข่ายธุรกิจของเขา และของกลุ่ม Rothschild

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 4

    Schiff ได้ข่าวว่า ซาร์นิโคลัส ที่ 1 ของรัสเซีย รังเกียจชาวยิวอย่างยิ่ง ทำการบีบคั้นชาวยิวสาระพัด และท้ายสุด เริ่มขบวนการที่จะส่งยิวออกนอกรัสเซีย ชาวยิวชื่อ Schiff จึงหาโอกาสที่จะแก้แค้น แทนพวกพ้องชาวยิวในรัสเซีย

    เมื่อได้ยินข่าวว่า รัสเซียกำลังจะต้องทำสงครามกับญี่ปุ่น และต้องการเงินทุนจำนวนมาก Schiff เรียก ประชุมชาวยิวที่บ้านเขา และกล่อมไม่ให้เศรษฐีเงินกู้ชาวยิว ให้เงินกู้แก่ฝั่งรัสเซีย Schiff อ้างว่ารัสเซียร้ายกาจกับชาวยิวอย่างมาก เป็นการเสี้ยมที่ได้ผล รัสเซียหาเงินกู้ไม่สำเร็จ

    ขณะเดียวกัน Baron Korekiyo Takahashi ตัวแทนของทางการญี่ปุ่น ก็กำลังหน้ามืด ในการหาเงินกู้ในนิวยอร์ค เพื่อจะใช้เป็นทุนในการไปรบกับรัสเซีย เขาไม่ได้รับความสนใจแม้แต่น้อย Takahashi จึงติดต่อไปทาง Rothschild ซึ่งก็ตอบปฎิเสธมา โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากผิดใจกับซาร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่ม Rothschild ไปทำข้อตกลงกับกลุ่ม Rockefeller เกี่ยวกับการขุดหาน้ำมันของรัสเซีย โดยไม่ขออนุญาตซาร์ ทำให้ซาร์ไม่พอใจ Rothschild หาข้ออ้างให้พ้นตัว
    แต่แล้วโอกาสทองของทั้ง 2 ฝ่ายก็มาถึง เมื่อ Takahashi ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงรายหนึ่ง ที่ลอนดอน เขาบังเอิญได้นั่งติดกับ Jacob Schiff เขาบอกกับ Schiff ว่าญี่ปุ่นต้องการเงินกู้ 30 ล้านเหรียญ เอามาเป็นทุนสู้กับรัสเซีย Jacob Schiff มองเห็นโอกาสได้รางวัลหลายต่อ ให้เงินกู้กับญี่ปุ่น เป็นการเปิดตลาดใหม่ ให้ญี่ปุ่นไปรบรัสเซีย ได้ล้างแค้นรัสเซียแทนยิว และได้หน้ารับใช้ Rothschild เจ้านาย มันมีแต่ได้กับได้ ใครจะไม่ฉวยโอกาสทองนี้ Schiff จึงตกลงรับคำ จะมาปั่นตลาดเงินในอเมริกา หาเงินทุนให้ญี่ปุ่นไปรบรัสเซีย

    วันที่ 12 พฤษภาคม 1904 พันธบัตรเงินกู้เพื่อญี่ปุ่น ขายคล่องยิ่งกว่าขนมปัง

    New York
    ต้มข้ามศตวรรษ – บทไอ้โหดเขียน 1 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 1 เล่าเรื่องมาถึงตอนนี้ คงจะพอเห็นกันรางๆแล้วว่า การปฏิวัติรัสเซีย โดยพวก Bolsheviks น่าจะเป็นละครลวงโลก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษ ที่สามารถต้มคนได้ทั้งโลก เป็นเวลานานร่วมร้อยปีแล้ว โดยแทบจะยังไม่มีใครรู้เรื่อง เอะใจ หรือ สงสัย เพราะเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้ถูกทำลายไปเกือบหมด เกือบหมด แต่ไม่หมด มีนักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ ผู้ที่สนใจความจริง และรักความเป็นธรรม และที่สำคัญ ผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อชีวิต และประเทศชาติของเขา เริ่มทะยอยค้นคว้า หาข้อเท็จจริง จากเอกสารที่ถูกกระจายซุกซ่อน บิดเบือน และพรางตัวในรูปแบบต่างๆ แต่ความจริงไม่เคยถูกซ่อนได้มิดหมด ไม่เคยถูกเก็บ จนไร้ร่องรอยโดยสิ้นเชิง ความจริง รอให้เราตามรอย ขุดค้นขึ้นมาใหม่ มันไม่ใช่การปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ อย่างที่เราเข้าใจกันแม้แต่น้อย แต่มันเป็นการสมคบกันของโจร ในเสื้อคลุมต่างๆ ที่จะปล้นรัสเซีย อย่างไม่ให้เหลือซาก อย่างโหดเหี้ยม และเลือดเย็น ทำลายสถาบัน ทำลายประเทศ ผ่านการสร้างฉากปฏิวัติ ซึ่งเป็นรูปแบบการปล้นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และมันได้ถูกนำมาพัฒนา เป็นการปล้นประเทศอื่นๆต่อไปอีกมากมาย (และก็น่าคิดว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือการปฏิวัติของไทยเรา ในปี พ.ศ.2475 (ค.ศ.1932) ที่มีผู้สรรเสริญกันหนักหนา ก็อาจจะเป็นละครลวงโลก โดยการจัดฉากเช่นเดียวกันนี ผมมาฉุกใจคิด ตอนกำลังเขียนนิทานเรื่องนี้ เลยแวะไปหาเอกสารเก่าๆอ่าน เจอเรื่อง พระยากัลยาณไมตรี (ฟรานซิส บี แซร์ Francis Bowes Sayre) นักกฏหมายจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ที่เข้ามายังสยามประเทศ เป็นที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศของไทย ในสมัยพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ตั้งแต่ปี พ.ศ.2466 (ค.ศ.1923) ในปี พ.ศ.2468 (ค.ศ.1925) มีตำแหน่งเป็น เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย มาถึงสมัยพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 นาย Sayre ถวายคำปรึกษาด้านสนธิสัญญา และร่วมร่างเค้าโครงรัฐธรรมนูญ ฉบับพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย ในชื่อ “Outline of Preliminary Draft” และเป็นผู้แทนรัฐบาลไทย ในการเจรจาเรื่องสนธิสัญญาไทย- สหรัฐอเมริกา จะรู้สึกสะกิดใจกันไหมครับ ถ้าผมบอกว่า Francis B Sayre เป็นลูกเขยของประธานาธิบดี Woodrow Wilson และช่วงปี ค.ศ.1917 เขาทำงานกับ YMCA จำได้ไหมครับว่า ผมเคยเล่าว่าหน่วยงานนี้ จริงๆ ทำหน้าที่อะไร และ YMCA ไปทำอะไรที่รัสเซีย ในปี 1917 สงสัยผมคงจะต้องไปค้นหาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่อง คุณลูกเขยนี่เพิ่มเติมสักหน่อย) กลับมาที่เรื่องปล้นรัสเซียต่อ ตัวละครสำคัญคือ American International Corperation (AIC) ซึ่งตามบทละครลวงโลกครั้งยิ่งใหญ่นี้ น่าจะถูกตั้งขึ้นมา เพื่อรับบทเป็นผู้นำการปล้น โดยเป็นผู้จัดการระดมทุน ที่ต้องลงทุนค่าใช้จ่ายในการเตรียมการจัดหาพรรคพวก อาวุธยุทธภัณท์ เครื่องไม้เครื่องมือ รวมทั้งการซ้อมปล้นที่อื่นมาหลายแห่ง ตั้งแต่ เม็กซิโก อเมริกาใต้ ยันไปถึงเมืองจีน ก่อนที่จะเป็นการลงมือในฉากใหญ่ ปล้นรัสเซีย จักรวรรดิที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีทรัพยากรมากมายซ่อนอยู่ แต่ก็ยังไม่ชัดเจน ว่าใครกันแน่ ที่เป็นคนสั่งให้มีการ “ปล้น” และใครเป็นคนวางแผนปล้น และทำไมถึงเลือกรัสเซีย มันจะมาจากสาเหตุอะไรก็ตาม มันต้องทำเป็นขบวนการ เตรียมการล่วงหน้าเป็นปีๆ (AIC ตั้งขึ้น ค.ศ.1915 การปฏิวัติรัสเซียทั้ง 2 ครั้ง เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1917) นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 2 หนังสือพิมพ์ New York Times วันที่ 17 มีนาคม 1917 เขียนรายงานถึงนักข่าวชื่อดัง นาย George Kennan ซึ่งได้พูดในวันที่กลุ่มสังคมนิยมชาวอเมริกัน ได้จัดงานชุมนุม เพื่อฉลองการปฏิวัติรัสเซีย ว่า “นาย Kennan เล่าให้ฟัง ถึงผลงานของกลุ่ม Friends of Russian Freedom ที่เข้าไปเกี่ยว กับการปฏิวัติรัสเซีย เขาบอกว่า เรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่ สงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นที่รบกันตั้งแต่ ค.ศ. 1904 นู่น เมื่อรบกันไปปีกว่า ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายได้เปรียบ และจับทหารรัสเซียได้ประมาณ 12,000 เอามาขังไว้ที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นเขาอยู่ที่โตเกียว และได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมนักโทษ ที่เป็นทหารรัสเซีย เขาได้รับหน้าที่ ให้เป็นคนหว่านความคิด สร้างความเกลียดชัง และต้องการปฏิวัติไล่ซาร์ของรัสเซีย เอาไว้ในหัวของพวกทหารรัสเซีย ที่ถูกจับนั้น โดยพวกญี่ปุ่นให้ความสนับสนุน เอกสารการโฆษณาชวนเชื่อ และชวนให้ปฏิวัติ ถูกจัดส่งไปที่ญี่ปุ่นจากอเมริกา หลังจากปฏิบัติภาระกิจ หว่านเมล็ดพันธ์ปฏิวัติเสร็จ เขาก็เดินทางกลับอเมริกา เขาบอกว่า ขบวนการหว่านความคิดให้ปฏิวัติซาร์ของรัสเซียนี้ นี้ได้รับการอุปถัมภ์ และสนับสนุนด้านเงินทุน จากนักการเงินใหญ่แห่งนิวยอร์ค ที่ทุกคนรู้จักดีและชื่นชม คือนาย Jacob H Schiff นั่นแหละ! เมื่อสงครามโลกเกิดขึ้น มีทหารรัสเซีย ถูกควบคุมอยู่ที่ญี่ปุ่น ประมาณ 50,000 คน ทำให้ Friends of Russian Freedom ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ปฏิวัติ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย “…แต่ผมไม่รู้จำนวนที่แน่นอน ของพวกเมล็ดพันธุ์ที่เราหว่านไว้ และได้มาเข้าร่วมการปฏิวัติครั้งนี้… “นาย Kennan บอก หลังจากนั้น เขาก็อ่านโทรเลขจากนาย Jacob H Schiff บางส่วน ให้พวกที่มาชุมนุมฟัง “ …คุณช่วยบอกพวกเรา ที่มาฉลองกันคืนนี้ว่า ผมเสียใจอย่างยิ่ง ที่ไม่สามารถมาร่วมฉลองการได้รางวัลของ Friends of Russian Freedom ที่เราได้คาดหวัง และพยายามอยู่หลายปี เพื่อจะทำให้มันเกิดผลสำเร็จ..” นอกจากนี้ Schiff ยังแสดงความเห็นของเขาต่อการปฏิวัติรัสเซีย อย่างไม่ปิดบัง ผ่านบทความของเขาที่เขียนลงใน นสพ.ต่าง ๆ สำหรับ หนังสือพิมพ์ The Evening Post นั้น Schiff เขียนว่า “เพื่อตอบคำถามพวกคุณ ถึงความเห็นของผม เกี่ยวกับสถานะการเงินของรัสเซีย ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า ด้วยการพัฒนาทรัพยากรอันมหาศาล ของรัสเซียอย่างถูกต้อง หลังจากกำจัดคนใหญ่คนโตไปแล้วนั้น(หมายถึงซาร์) รัสเซียก็สามารถจะพัฒนาสถานะการเงินของตน ให้ขึ้นมาอยู่ในกลุ่ม ที่จะสร้างประโยชน์แก่ตลาดเงินของโลกได้” คำตอบของ Schiff สะท้อนถึงความเห็น ของแวดวงการเงินในลอนดอนและนิวยอร์ค เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียได้ดีพอสมควร นาย John B. Young แห่งธนาคาร National City Bank ซึ่ง บังเอิญอยู่ที่รัสเซีย ในปี 1916 เพื่อทำหน้าที่จัดการเงินกู้ ของพวกนายทุนอเมริกันให้แก่ซาร์ว่า ได้มีการพูดถึงการปฏิวัติกันทั่วไปหมดในรัสเซียในปีนั้น เขาคิดว่า พวกที่จะทำการปฏิวัติ เป็นพวกที่เอาจริง หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงาน ว่า ตลาดแลกเปลี่ยนเงินที่ลอนดอน คึกคักล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนการปฏิวัติ เหมือนกับทางลอนดอนรู้ว่า จะมีการปฏิวัติก่อนนิวยอร์ค และนักการเงินรุ่นใหญ่ ทั้งในตลาดเงินลอนดอนและนิวยอร์ค ต่างมีความเห็นไปในทางบวกกับการปฏิวัติของรัสเซีย พวกกลุ่มนักการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม มองว่าการปฏิวัตินี้ เป็นการกำจัดอิทธิพล ของกลุ่มที่ฝักฝ่ายเยอรมันในรัฐบาลรัสเซียออกไป และจะทำให้การทำสงครามกับเยอรมัน ของรัสเซียเข้มแข็งขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อฝ่ายอังกฤษ นาย Jacob H Schiff เป็นใคร และอะไรทำให้เขาลงทุนให้ นาย George Kennan ถือตะกร้า ไปหว่านเมล็ดพันธุ์ปฏิวัติถึงในโตเกียว นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 3 Jacob H Schiff เป็นลูกของนักบวชชาวยิว (Jewish Rabbi) เกิดที่เมือง Frankfurt เยอรมัน เขาถูกส่งให้มาอยู่ที่อเมริกา ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ตามคำสั่งและโดยเงินทุนของตระกูลโคตรรวย เจ้าพ่อ Rothschild ภาระกิจของ Schiff คือ เข้าไปคลุกอยู่กับนักการเงินชาวอเมริกัน และรอฟังคำสั่งจากเจ้านายต่อไป เมื่ออยู่อเมริกานานพอ จนศึกษาลู่ทางเกี่ยวกับธุรกิจการเงินได้พอสมควร ด้วยทุนของ Rothschild Schiff ก็ซื้อกิจการธนาคารที่อินเดียนนา ชื่อ Kuhn and Loeb ซึ่งเป็นของ Abraham Kuhn และ Solomon Loeb พร้อมกันนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุมกิจการได้หมดจด Schiff ก็แต่งงานกับ Therese ลูกสาวของ Solomon หลังจากนั้นก็ซื้อหุ้นส่วนของ Kuhn มาทั้งหมด ทำให้เขาเป็นเจ้าของ Kuhn and Loeb แต่ผู้เดียว และย้ายมาทำธุรกิจที่นิวยอร์ค เป็นสูตรการซื้อกิจการที่น่าสนใจ แต่งงานกับลูกสาว แล้วได้เป็นเจ้าของกิจการของพ่อตา เมื่อมาเปิดตัวที่นิวยอร์ค ในช่วงแรกๆ เขาไม่ค่อยได้รับการต้อนรับจากเจ้าถิ่นใหญ่คือ House of Morgan ซึ่งเป็นเจ้าพ่อคุมวอลสตรีทอยู่ แต่ Schiff ในฐานะตัวแทนของเจ้าพ่อ Rothschild ก็คงไม่มีใครกล้ารังเกียจที่จะ คบค้า แล้ว Schiff กับ Morgan ก็จับมือกัน เงินมันกลิ่นเดียวกัน ข่าวบอกว่า Schiff เป็นตัวกลาง เชื่อม Rothschild กับ House of Morgan เข้าด้วยกัน นิตยสาร Truth ฉบับวันที่ 16 ธันวาคม 1912 ลงบทความ ที่เขียนโดย George R Conroy ดังนี้: ” Schiff นายใหญ่ของธุรกิจการเงิน Kuhn, Loeb & Co ซึ่งเป็นตัวแทนของ Rothschild ทางฝั่งนี้ของแอตแลนติก ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักยุทธศาสตร์การเงินตัวฉกาจ เขาเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านการเงิน กับกิจการของ Standard Oil ที่ยิ่งใหญ่ เขามีความสนิทสนม และทำงานใกล้ชิดกับพวก Harrimans และ Rockefellers ในธุรกิจเกี่ยวกับกิจการทางรถไฟทั้งหมดของพวกนั้น จนทำให้พวกนั้น มีอำนาจควบคุมธุรกิจเกี่ยวกับทางรถไฟและการเงินของอเมริกา” Kuhn, Loeb & Co มีหุ้นส่วนอีกคน คือ น้องเขยของ Schiff ชื่อ Paul Warburg ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการวางแผน และดำเนินการให้กลุ่มวอลสตรีท สร้างระบบธนาคารกลาง ( Federal Reserve System ) ที่มีเอกชนเป็นเจ้าของ ในอเมริกาได้สำเร็จ และยังเป็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ Paul มีน้องชาย ชื่อ Max Warburg ซึ่งดูแลกิจการ Kuhn, Loeb & Co อยู่ในเยอรมันและ Max ยังทำงานให้รัฐบาลเยอรมัน โดยเป็นหัวหน้าหน่วยจารกรรม ของรัฐบาลเยอรมันในช่วงสงครามโลกอีกด้วย นอกจากนี้ Paul ยังมีน้องชายอีกหนึ่งคน ชื่อ Felix ที่ทำหน้าที่เป็นผู้แทนการค้าของรัฐบาลเยอรมัน ประจำที่กรุงสตอกโฮม หน้าที่นี้ในยามสงคราม ไม่ต่างอะไรกับหน้าที่สืบราชการลับนั่นเอง จึงไม่ใช่เป็นเรื่องแปลก ที่แม้จะอยู่อเมริกา แต่ Schiff ก็รู้ความเป็นไป ของอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นอย่างดี ผ่านเครือข่ายธุรกิจของเขา และของกลุ่ม Rothschild นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 4 Schiff ได้ข่าวว่า ซาร์นิโคลัส ที่ 1 ของรัสเซีย รังเกียจชาวยิวอย่างยิ่ง ทำการบีบคั้นชาวยิวสาระพัด และท้ายสุด เริ่มขบวนการที่จะส่งยิวออกนอกรัสเซีย ชาวยิวชื่อ Schiff จึงหาโอกาสที่จะแก้แค้น แทนพวกพ้องชาวยิวในรัสเซีย เมื่อได้ยินข่าวว่า รัสเซียกำลังจะต้องทำสงครามกับญี่ปุ่น และต้องการเงินทุนจำนวนมาก Schiff เรียก ประชุมชาวยิวที่บ้านเขา และกล่อมไม่ให้เศรษฐีเงินกู้ชาวยิว ให้เงินกู้แก่ฝั่งรัสเซีย Schiff อ้างว่ารัสเซียร้ายกาจกับชาวยิวอย่างมาก เป็นการเสี้ยมที่ได้ผล รัสเซียหาเงินกู้ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกัน Baron Korekiyo Takahashi ตัวแทนของทางการญี่ปุ่น ก็กำลังหน้ามืด ในการหาเงินกู้ในนิวยอร์ค เพื่อจะใช้เป็นทุนในการไปรบกับรัสเซีย เขาไม่ได้รับความสนใจแม้แต่น้อย Takahashi จึงติดต่อไปทาง Rothschild ซึ่งก็ตอบปฎิเสธมา โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากผิดใจกับซาร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่ม Rothschild ไปทำข้อตกลงกับกลุ่ม Rockefeller เกี่ยวกับการขุดหาน้ำมันของรัสเซีย โดยไม่ขออนุญาตซาร์ ทำให้ซาร์ไม่พอใจ Rothschild หาข้ออ้างให้พ้นตัว แต่แล้วโอกาสทองของทั้ง 2 ฝ่ายก็มาถึง เมื่อ Takahashi ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงรายหนึ่ง ที่ลอนดอน เขาบังเอิญได้นั่งติดกับ Jacob Schiff เขาบอกกับ Schiff ว่าญี่ปุ่นต้องการเงินกู้ 30 ล้านเหรียญ เอามาเป็นทุนสู้กับรัสเซีย Jacob Schiff มองเห็นโอกาสได้รางวัลหลายต่อ ให้เงินกู้กับญี่ปุ่น เป็นการเปิดตลาดใหม่ ให้ญี่ปุ่นไปรบรัสเซีย ได้ล้างแค้นรัสเซียแทนยิว และได้หน้ารับใช้ Rothschild เจ้านาย มันมีแต่ได้กับได้ ใครจะไม่ฉวยโอกาสทองนี้ Schiff จึงตกลงรับคำ จะมาปั่นตลาดเงินในอเมริกา หาเงินทุนให้ญี่ปุ่นไปรบรัสเซีย วันที่ 12 พฤษภาคม 1904 พันธบัตรเงินกู้เพื่อญี่ปุ่น ขายคล่องยิ่งกว่าขนมปัง New York
    0 Comments 0 Shares 993 Views 0 Reviews

  • อีลิททั่วโลกก็กำลังจะหาเรื่องประเทศนี้ด้วยในเวลาปัจจุบันนี้,อีลิทพวกนี้สมควรถูกกำจัดออกไปจากโลกทั้งหมดจริงๆนะ,หาเรื่อง สร้างเหตุจะหาเรื่องเขาได้ทุกๆข้ออ้างตลอดเวลา,เขมรยิงระเบิดใส่ไทยหรือเขมรก่อภัยคุกคามรุกรานไทยก็พวกอีลิทนี้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด.

    https://vm.tiktok.com/ZSHvTMB763pFf-3Bdhg/
    อีลิททั่วโลกก็กำลังจะหาเรื่องประเทศนี้ด้วยในเวลาปัจจุบันนี้,อีลิทพวกนี้สมควรถูกกำจัดออกไปจากโลกทั้งหมดจริงๆนะ,หาเรื่อง สร้างเหตุจะหาเรื่องเขาได้ทุกๆข้ออ้างตลอดเวลา,เขมรยิงระเบิดใส่ไทยหรือเขมรก่อภัยคุกคามรุกรานไทยก็พวกอีลิทนี้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด. https://vm.tiktok.com/ZSHvTMB763pFf-3Bdhg/
    @lintidfire_th

    นี่คือน้ำมันดิบในอิหร่าน

    ♬ เสียงต้นฉบับ - Lintidfire TH - ลิ้นติดไฟ TH
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • เฉลยแล้ว ใช้ทรัมป์เป็นข้ออ้าง ไม่ยกเลิก MOU 43 44 ส่อเลิกทำประชามติ อ้างข้อตกลงสันติภาพก้าวข้ามการยกเลิกไปแล้ว
    #7ดอกจิก
    เฉลยแล้ว ใช้ทรัมป์เป็นข้ออ้าง ไม่ยกเลิก MOU 43 44 ส่อเลิกทำประชามติ อ้างข้อตกลงสันติภาพก้าวข้ามการยกเลิกไปแล้ว #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 249 Views 0 Reviews
  • "รักออนไลน์หรือหลอกลวง? วิธีสังเกตและป้องกันภัยจาก Romance Scam"

    ในยุคที่แอปหาคู่กลายเป็นช่องทางยอดนิยมในการพบปะผู้คนใหม่ ๆ เช่น Tinder, Hinge, OkCupid, Grindr และ Bumble ก็มีภัยเงียบที่แฝงตัวอยู่—Romance Scam หรือการหลอกลวงทางความรักออนไลน์ ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพใช้เทคนิคการสร้างความสัมพันธ์เพื่อหลอกเอาเงินหรือข้อมูลส่วนตัวจากเหยื่อ

    มิจฉาชีพเหล่านี้มักเริ่มต้นด้วยการพูดคุยอย่างจริงใจ สร้างความไว้ใจ แล้วค่อย ๆ ขอความช่วยเหลือทางการเงิน หรือเสนอ “โอกาสลงทุน” ที่ดูดีเกินจริง พวกเขาอาจใช้ภาพปลอม โปรไฟล์โซเชียลที่ดูไม่สมจริง หรือแม้แต่เล่าเรื่องเศร้าเพื่อเรียกความสงสาร

    ในปี 2023 มีรายงานการหลอกลวงแบบนี้กว่า 64,000 เคส รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.14 พันล้านดอลลาร์ โดยเหยื่อแต่ละรายสูญเงินเฉลี่ยถึง $2,000 ซึ่งมากกว่าการหลอกลวงรูปแบบอื่น ๆ

    รูปแบบของ Romance Scam
    เริ่มจากการสร้างความสัมพันธ์ผ่านแอปหาคู่
    ค่อย ๆ ขอเงินหรือข้อมูลส่วนตัว
    ใช้เรื่องเศร้า เช่น ป่วย, ค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย, หรือเหตุฉุกเฉิน เพื่อเรียกความสงสาร

    สัญญาณเตือนที่ควรระวัง
    นัดเจอแต่ยกเลิกทุกครั้ง
    พยายามให้คุณห่างจากเพื่อนหรือครอบครัว
    โปรไฟล์โซเชียลดูไม่สมจริง หรือมีการโต้ตอบน้อย
    แสดงความรักเร็วเกินไป หรือสร้างความเร่งรีบทางอารมณ์
    อ้างว่าอยู่ต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการพบตัวจริง

    คำเตือนจาก FBI
    มิจฉาชีพมักอ้างว่าอยู่ต่างประเทศชั่วคราว
    ใช้ข้ออ้างเรื่องค่ารักษา, ค่าธรรมเนียม, หรือวิกฤตส่วนตัวเพื่อขอเงิน
    ปฏิเสธการพบตัวจริงทุกครั้ง

    วิธีป้องกันตัว
    อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า
    ใช้เครื่องมือ reverse image search เพื่อตรวจสอบภาพโปรไฟล์
    อย่าส่งเงินหรือของขวัญให้คนที่คุณไม่เคยเจอตัวจริง
    เล่าเรื่องความสัมพันธ์ให้คนใกล้ตัวฟัง เพื่อให้มองเห็นมุมที่คุณอาจมองไม่ออก
    หากสงสัยว่าโดนหลอก ให้หยุดติดต่อทันที และแจ้งตำรวจหรือ FBI

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:

    ความเข้าใจเรื่อง Catfishing
    คือการสร้างตัวตนปลอมเพื่อหลอกลวงทางอารมณ์หรือการเงิน
    มักใช้ภาพคนอื่นและเรื่องราวที่แต่งขึ้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

    การป้องกันในเชิงจิตวิทยา
    อย่าปล่อยให้ความเหงาทำให้คุณลดการใช้วิจารณญาณ
    ความรักที่แท้จริงไม่ควรเริ่มต้นด้วยการขอเงิน

    https://www.slashgear.com/1996880/things-need-know-avoid-online-dating-romance-scams-catfish/
    💔 "รักออนไลน์หรือหลอกลวง? วิธีสังเกตและป้องกันภัยจาก Romance Scam" ในยุคที่แอปหาคู่กลายเป็นช่องทางยอดนิยมในการพบปะผู้คนใหม่ ๆ เช่น Tinder, Hinge, OkCupid, Grindr และ Bumble ก็มีภัยเงียบที่แฝงตัวอยู่—Romance Scam หรือการหลอกลวงทางความรักออนไลน์ ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพใช้เทคนิคการสร้างความสัมพันธ์เพื่อหลอกเอาเงินหรือข้อมูลส่วนตัวจากเหยื่อ มิจฉาชีพเหล่านี้มักเริ่มต้นด้วยการพูดคุยอย่างจริงใจ สร้างความไว้ใจ แล้วค่อย ๆ ขอความช่วยเหลือทางการเงิน หรือเสนอ “โอกาสลงทุน” ที่ดูดีเกินจริง พวกเขาอาจใช้ภาพปลอม โปรไฟล์โซเชียลที่ดูไม่สมจริง หรือแม้แต่เล่าเรื่องเศร้าเพื่อเรียกความสงสาร ในปี 2023 มีรายงานการหลอกลวงแบบนี้กว่า 64,000 เคส รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.14 พันล้านดอลลาร์ โดยเหยื่อแต่ละรายสูญเงินเฉลี่ยถึง $2,000 ซึ่งมากกว่าการหลอกลวงรูปแบบอื่น ๆ ✅ รูปแบบของ Romance Scam ➡️ เริ่มจากการสร้างความสัมพันธ์ผ่านแอปหาคู่ ➡️ ค่อย ๆ ขอเงินหรือข้อมูลส่วนตัว ➡️ ใช้เรื่องเศร้า เช่น ป่วย, ค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย, หรือเหตุฉุกเฉิน เพื่อเรียกความสงสาร ✅ สัญญาณเตือนที่ควรระวัง ➡️ นัดเจอแต่ยกเลิกทุกครั้ง ➡️ พยายามให้คุณห่างจากเพื่อนหรือครอบครัว ➡️ โปรไฟล์โซเชียลดูไม่สมจริง หรือมีการโต้ตอบน้อย ➡️ แสดงความรักเร็วเกินไป หรือสร้างความเร่งรีบทางอารมณ์ ➡️ อ้างว่าอยู่ต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการพบตัวจริง ‼️ คำเตือนจาก FBI ⛔ มิจฉาชีพมักอ้างว่าอยู่ต่างประเทศชั่วคราว ⛔ ใช้ข้ออ้างเรื่องค่ารักษา, ค่าธรรมเนียม, หรือวิกฤตส่วนตัวเพื่อขอเงิน ⛔ ปฏิเสธการพบตัวจริงทุกครั้ง ✅ วิธีป้องกันตัว ➡️ อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า ➡️ ใช้เครื่องมือ reverse image search เพื่อตรวจสอบภาพโปรไฟล์ ➡️ อย่าส่งเงินหรือของขวัญให้คนที่คุณไม่เคยเจอตัวจริง ➡️ เล่าเรื่องความสัมพันธ์ให้คนใกล้ตัวฟัง เพื่อให้มองเห็นมุมที่คุณอาจมองไม่ออก ➡️ หากสงสัยว่าโดนหลอก ให้หยุดติดต่อทันที และแจ้งตำรวจหรือ FBI 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ ความเข้าใจเรื่อง Catfishing ➡️ คือการสร้างตัวตนปลอมเพื่อหลอกลวงทางอารมณ์หรือการเงิน ➡️ มักใช้ภาพคนอื่นและเรื่องราวที่แต่งขึ้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ✅ การป้องกันในเชิงจิตวิทยา ➡️ อย่าปล่อยให้ความเหงาทำให้คุณลดการใช้วิจารณญาณ ➡️ ความรักที่แท้จริงไม่ควรเริ่มต้นด้วยการขอเงิน https://www.slashgear.com/1996880/things-need-know-avoid-online-dating-romance-scams-catfish/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Things You Should Remember To Avoid Getting Scammed When Dating Online - SlashGear
    The internet can be a dangerous place, even when playing the game of love. But there are a few things you can keep in mind to avoid online scams.
    0 Comments 0 Shares 392 Views 0 Reviews
  • ด่วน!! สหรัฐฯ สั่งยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.9 แสนล้านบาท) ของนายเฉิน จื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา ซึ่งมีฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา บังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกาย ทรมานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล หนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงของฮุนเซน ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เป็น "การริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ"
    .
    มีรานงานล่าสุดว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) สั่งยึด Bitcoin ของนายเฉินจื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา มูลค่าหลายพันล้านจากกลโกงคริปโต ครั้งใหญ่ในกัมพูชา
    .
    นายเฉิน จื้อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าดำเนินค่ายแรงงานบังคับในกัมพูชา โดยบังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกายและทรมาน ที่ถูกค้ามนุษย์ดำเนินการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล และสามารถกวาดเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์
    .
    สหรัฐ กล่าวว่า เฉิน จื้อ แห่ง Prince Holding Group และพวกพ้องของเขาถูกกล่าวหาว่าสร้างรายได้มากถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวันจากการหลอกลวงครั้งหนึ่ง และฉินเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และบิดาของเขา อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และได้รับเกียรติด้วยบรรดาศักดิ์ “ออกญา” ซึ่งเทียบเท่ากับขุนนางอังกฤษ และไทยในอดีต
    .
    เฉิน จื้อ ชายวัย 37 ปี ซึ่งรู้จักกันในชื่อวินเซนต์ เป็นผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ทางการระบุว่าทำหน้าที่เป็นฉากหน้าของ "หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย" ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
    .
    กระทรวงยุติธรรมยังได้ยื่นฟ้องริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยยึด Bitcoin ได้ประมาณ 127,271 บิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่าราว 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.9 แสนล้านบาท ในราคาปัจจุบัน
    .
    “การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางการเงินผ่านไซเบอร์ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงระดับโลก” อัยการสูงสุด แพม บอนดี กล่าว
    .
    มีรายงานว่าเฉินได้สั่งการให้มีการบังคับใช้แรงงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกัมพูชา โดยมีการกักขังแรงงานค้ามนุษย์หลายร้อยคนไว้ในสถานที่คล้ายเรือนจำที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม
    .
    ปีที่แล้ว ชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ และเรียก Prince Holding Group ว่าเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในอุตสาหกรรมนี้ ทางการจีนได้ดำเนินการสืบสวนบริษัทนี้ในข้อหาหลอกลวงทางไซเบอร์และการฟอกเงินมาตั้งแต่ต้นปี 2020 ตามบันทึกของศาลที่ตรวจสอบโดยสถาบันสันติภาพสหรัฐฯ
    .
    ภายใต้การคุกคามของความรุนแรง พวกเขาถูกบังคับให้ดำเนินการตามกลลวงที่เรียกว่า "การฆ่าหมู" ซึ่งเป็นแผนการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างความไว้วางใจกับเหยื่อในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะขโมยเงินของพวกเขาไป แผนการดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่เหยื่อทั่วโลก ทำให้เกิดการสูญเสียนับพันล้าน
    .
    ศูนย์หลอกลวงทั่วทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ และภูมิภาคอื่นๆ ใช้โฆษณาหางานปลอมเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ซึ่งหลายคนเป็นชาวจีน ให้มาทำงานในสถานที่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ โดยคนเหล่านี้ถูกบังคับให้ฉ้อโกงทางออนไลน์ภายใต้ภัยคุกคามของการทรมาน
    .
    เฉินเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ติดตามผลกำไรและแผนการต่างๆ และยังมีภาพการทุบตีและการทรมานเหยื่ออีกด้วย เขาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับการลงโทษผู้ที่ “ก่อปัญหา” แต่เน้นย้ำว่าคนงาน “ไม่ควรถูกตีจนตาย” ผู้หลอกลวงมักติดต่อเหยื่อผ่านแอปส่งข้อความหรือโซเชียลมีเดีย โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุน ตามที่ฟ้องระบุ
    .
    นับตั้งแต่ประมาณปี 2015 Prince Group ได้ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศภายใต้ข้ออ้างของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และผู้บริโภคที่ถูกกฎหมาย อัยการกล่าว
    .
    เฉินและผู้บริหารระดับสูงถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลทางการเมืองและติดสินบนเจ้าหน้าที่ในหลายประเทศเพื่อปกป้องการดำเนินงาน รายได้ส่วนหนึ่งถูกฟอกเงินผ่านการพนันและการขุดสกุลเงินดิจิทัลของ Prince Group เอง
    .
    เจ้าหน้าที่เผยว่าเงินที่ถูกขโมยไปนั้นจะถูกนำไปใช้ในการซื้อของหรูหราต่างๆ รวมถึงนาฬิกา เรือยอทช์ เครื่องบินส่วนตัว บ้านพักตากอากาศ และภาพวาดของปิกัสโซที่ซื้อจากบ้านประมูลแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก
    .
    เฉินอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงทางสายโทรศัพท์และสมคบคิดฟอกเงิน
    .
    ในการดำเนินการประสานงานกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อังกฤษได้อายัดทรัพย์สิน 19 แห่งในลอนดอน มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายของเฉิน รวมถึงคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์ในลอนดอนตอนเหนือ
    .
    มาตรการคว่ำบาตรยังมุ่งเป้าไปที่ Qiu Wei Ren ผู้ร่วมงานของ Chen ซึ่งเป็นคนสัญชาติจีนที่มีสัญชาติกัมพูชา ไซปรัส และฮ่องกงอีกด้วย
    .
    การสืบสวนของ AFP เมื่อวันอังคารพบว่าศูนย์หลอกลวงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่เดือนหลังจากการปราบปรามในประเทศดังกล่าว
    .
    จีน ไทย และเมียนมาร์ บังคับให้กองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมาร์ซึ่งปกป้องศูนย์เหล่านี้สัญญาว่าจะปิดศูนย์เหล่านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยปล่อยตัวผู้คนไปประมาณ 7,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจีน
    .
    แต่ระบบคอลเซ็นเตอร์แบบโหดกำลังกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในเมียนมาร์ โดยขณะนี้ใช้ระบบดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    ด่วน!! สหรัฐฯ สั่งยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.9 แสนล้านบาท) ของนายเฉิน จื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา ซึ่งมีฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา บังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกาย ทรมานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล หนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงของฮุนเซน ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เป็น "การริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ" . มีรานงานล่าสุดว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) สั่งยึด Bitcoin ของนายเฉินจื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา มูลค่าหลายพันล้านจากกลโกงคริปโต ครั้งใหญ่ในกัมพูชา . นายเฉิน จื้อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าดำเนินค่ายแรงงานบังคับในกัมพูชา โดยบังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกายและทรมาน ที่ถูกค้ามนุษย์ดำเนินการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล และสามารถกวาดเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์ . สหรัฐ กล่าวว่า เฉิน จื้อ แห่ง Prince Holding Group และพวกพ้องของเขาถูกกล่าวหาว่าสร้างรายได้มากถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวันจากการหลอกลวงครั้งหนึ่ง และฉินเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และบิดาของเขา อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และได้รับเกียรติด้วยบรรดาศักดิ์ “ออกญา” ซึ่งเทียบเท่ากับขุนนางอังกฤษ และไทยในอดีต . เฉิน จื้อ ชายวัย 37 ปี ซึ่งรู้จักกันในชื่อวินเซนต์ เป็นผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ทางการระบุว่าทำหน้าที่เป็นฉากหน้าของ "หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย" ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ . กระทรวงยุติธรรมยังได้ยื่นฟ้องริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยยึด Bitcoin ได้ประมาณ 127,271 บิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่าราว 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.9 แสนล้านบาท ในราคาปัจจุบัน . “การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางการเงินผ่านไซเบอร์ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงระดับโลก” อัยการสูงสุด แพม บอนดี กล่าว . มีรายงานว่าเฉินได้สั่งการให้มีการบังคับใช้แรงงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกัมพูชา โดยมีการกักขังแรงงานค้ามนุษย์หลายร้อยคนไว้ในสถานที่คล้ายเรือนจำที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม . ปีที่แล้ว ชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ และเรียก Prince Holding Group ว่าเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในอุตสาหกรรมนี้ ทางการจีนได้ดำเนินการสืบสวนบริษัทนี้ในข้อหาหลอกลวงทางไซเบอร์และการฟอกเงินมาตั้งแต่ต้นปี 2020 ตามบันทึกของศาลที่ตรวจสอบโดยสถาบันสันติภาพสหรัฐฯ . ภายใต้การคุกคามของความรุนแรง พวกเขาถูกบังคับให้ดำเนินการตามกลลวงที่เรียกว่า "การฆ่าหมู" ซึ่งเป็นแผนการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างความไว้วางใจกับเหยื่อในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะขโมยเงินของพวกเขาไป แผนการดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่เหยื่อทั่วโลก ทำให้เกิดการสูญเสียนับพันล้าน . ศูนย์หลอกลวงทั่วทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ และภูมิภาคอื่นๆ ใช้โฆษณาหางานปลอมเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ซึ่งหลายคนเป็นชาวจีน ให้มาทำงานในสถานที่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ โดยคนเหล่านี้ถูกบังคับให้ฉ้อโกงทางออนไลน์ภายใต้ภัยคุกคามของการทรมาน . เฉินเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ติดตามผลกำไรและแผนการต่างๆ และยังมีภาพการทุบตีและการทรมานเหยื่ออีกด้วย เขาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับการลงโทษผู้ที่ “ก่อปัญหา” แต่เน้นย้ำว่าคนงาน “ไม่ควรถูกตีจนตาย” ผู้หลอกลวงมักติดต่อเหยื่อผ่านแอปส่งข้อความหรือโซเชียลมีเดีย โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุน ตามที่ฟ้องระบุ . นับตั้งแต่ประมาณปี 2015 Prince Group ได้ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศภายใต้ข้ออ้างของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และผู้บริโภคที่ถูกกฎหมาย อัยการกล่าว . เฉินและผู้บริหารระดับสูงถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลทางการเมืองและติดสินบนเจ้าหน้าที่ในหลายประเทศเพื่อปกป้องการดำเนินงาน รายได้ส่วนหนึ่งถูกฟอกเงินผ่านการพนันและการขุดสกุลเงินดิจิทัลของ Prince Group เอง . เจ้าหน้าที่เผยว่าเงินที่ถูกขโมยไปนั้นจะถูกนำไปใช้ในการซื้อของหรูหราต่างๆ รวมถึงนาฬิกา เรือยอทช์ เครื่องบินส่วนตัว บ้านพักตากอากาศ และภาพวาดของปิกัสโซที่ซื้อจากบ้านประมูลแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก . เฉินอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงทางสายโทรศัพท์และสมคบคิดฟอกเงิน . ในการดำเนินการประสานงานกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อังกฤษได้อายัดทรัพย์สิน 19 แห่งในลอนดอน มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายของเฉิน รวมถึงคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์ในลอนดอนตอนเหนือ . มาตรการคว่ำบาตรยังมุ่งเป้าไปที่ Qiu Wei Ren ผู้ร่วมงานของ Chen ซึ่งเป็นคนสัญชาติจีนที่มีสัญชาติกัมพูชา ไซปรัส และฮ่องกงอีกด้วย . การสืบสวนของ AFP เมื่อวันอังคารพบว่าศูนย์หลอกลวงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่เดือนหลังจากการปราบปรามในประเทศดังกล่าว . จีน ไทย และเมียนมาร์ บังคับให้กองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมาร์ซึ่งปกป้องศูนย์เหล่านี้สัญญาว่าจะปิดศูนย์เหล่านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยปล่อยตัวผู้คนไปประมาณ 7,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจีน . แต่ระบบคอลเซ็นเตอร์แบบโหดกำลังกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในเมียนมาร์ โดยขณะนี้ใช้ระบบดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    0 Comments 0 Shares 1531 Views 0 Reviews
More Results