• ศาลอาญาคดีทุจริต พิพากษาจำคุก “กฤษอนงค์” ตัวกลางเรียกรับเงิน “บอสพอล” 2 ปี ไม่รออาญา ยกฟ้องข้อหากรรโชกทรัพย์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046823

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes

    ศาลอาญาคดีทุจริต พิพากษาจำคุก “กฤษอนงค์” ตัวกลางเรียกรับเงิน “บอสพอล” 2 ปี ไม่รออาญา ยกฟ้องข้อหากรรโชกทรัพย์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046823 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาทุจริตฯสั่งจำคุก 3 ปี กฤษอนงค์ ตัวกลางเรียกรับผลประโยชน์ บอสพอล แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดเหลือ 2 ปีไม่รอการลงโทษ
    https://www.thai-tai.tv/news/18763/
    ศาลอาญาทุจริตฯสั่งจำคุก 3 ปี กฤษอนงค์ ตัวกลางเรียกรับผลประโยชน์ บอสพอล แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดเหลือ 2 ปีไม่รอการลงโทษ https://www.thai-tai.tv/news/18763/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** บทกวีทับทิมจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>**

    สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เราได้คุยถึงเรื่องสีแดงในเรื่อง <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ> เพื่อนเพจที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้คงจะจำได้ว่าพ่อของนางเอกทิ้งสูตรเกี่ยวกับการผสมสีแดงของตระกูลไว้ในบทกวีที่เกี่ยวกับทับทิม Storyฯ เห็นว่ามีเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กๆ สอดแทรกอยู่ในนี้ที่เพื่อนเพจคงไม่รู้ เลยมาแบ่งปันให้ฟัง... เป็นเรื่องราวชีวิตคู่ของหลี่ไป๋

    บทกวีดังกล่าวมีชื่อว่า ‘หย่งหลินหนี่ว์ตงชวงไห่สือหลิ่ว’ (咏邻女东窗海石榴 แปลได้ประมาณว่า ชื่นชมสตรีข้างบ้านผ่านหน้าต่างและต้นทับทิม) เป็นผลงานของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งราชวงศ์ถัง ถูกประพันธ์ขึ้นสมัยที่เขาพำนักอยู่ในเขตซานตง ใจความบรรยายถึงความงามของสตรีข้างบ้านที่เขามองเห็นผ่านหน้าต่าง ซึ่งเขาเรียกในบทกวีว่า ‘สตรีจากแดนหลู่’ ความงามของนางถูกเสริมด้วยความงามของต้นทับทิมที่มีดอกสีแดงจัดตัดกับใบเขียว เขาถึงกับรำพันว่าจะยอมเป็นกิ่งทับทิมที่ทอดเกยอาภรณ์ของนางเพื่อขอเพียงให้ได้ใกล้ชิดอนงค์นาง แต่จนใจได้แต่ชะเง้อมองผ่านหน้าต่าง

    แน่นอนว่ามันเป็นกลอนบอกรัก และสตรีดังกล่าวเป็นหนึ่งในภรรรยาของหลี่ไป๋

    เพื่อนเพจหลายท่านอาจไม่คุ้นเคยกับชีวประวัติของหลี่ไป๋และคงไม่ทราบว่าหลี่ไป๋มีภรรยาสี่คน จริงๆ แล้วเขาแต่งงานอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมสองครั้ง ส่วนภรรยาอีกสองคนไม่ได้แต่งงานแต่อยู่กินด้วยกันเฉยๆ

    เขาแต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุยี่สิบเจ็ดปีกับภรรยาคนแรกคือสตรีสกุลสวี่ผู้เป็นหลานของอดีตอัครเสนาบดีในรัชสมัยขององค์ถังเกาจง ถูกรับเข้าจวนสกุลสวี่เป็นเขยแต่งเข้าหรือที่เรียกว่า ‘จุ้ยซวี่’ มีลูกด้วยกันสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง แต่ลูกทั้งสองได้ใช้แซ่หลี่ตามหลี่ไป๋ผู้เป็นบิดา (อนึ่ง ปกติจุ้ยซวี่แต่งเข้าเรือนของสตรี เมื่อมีลูกก็จะใช้แซ่ของผู้เป็นมารดาไม่ใช่บิดา Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว แปะลิ้งค์ไว้ให้อ่านใหม่ที่ท้ายเรื่อง) ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกับนางสกุลสวี่นี้ หลี่ไป๋มีชีวิตค่อนข้างสบายเพราะฝ่ายหญิงมีฐานะดีและเขามีอิสระที่จะเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ตามใจหมาย ว่ากันว่าเขารักภรรยาคนนี้มากแต่นางป่วยตายหลังจากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันนานสิบเอ็ดปี

    เมื่อสิ้นภรรยาคนแรก หลี่ไป๋ก็พาลูกจากจวนสกุลสวี่ออกเดินทาง มาหยุดพำนักที่บริเวณพื้นที่แถบซานตง หลังจากนั้นหนึ่งปีเขาก็อยู่กินกับนางสกุลหลิว ว่ากันว่าเป็นเพราะต้องการหาคนมาช่วยเลี้ยงลูกเพื่อว่าตนเองจะได้มีอิสระในการเดินทาง ส่วนนางสกุลหลิวเองก็คาดหวังว่าหลี่ไป๋จะมีอนาคตขุนนางสวยงาม แต่ หลี่ไป๋ก็ยังไม่ได้เข้ารับราชการเสียที สุดท้ายนางทนไม่ได้กับความเป็นกวีขี้เมาของหลี่ไป๋ ทั้งสองจึงแยกทางกันอย่างไม่แฮปปี้

    ต่อมาอีกประมาณหกปี หลี่ไป๋ยังคงอยู่ในละแวกพื้นที่ซานตงหรือที่เรียกว่าพื้นที่หลู่นี้ และได้อยู่กินกับภรรยาคนที่สาม ซึ่งก็คือ ‘สตรีจากแดนหลู่’ ในบทกวีข้างต้นนั่นเอง เขาซื้อที่ดินทำกินให้นางดูแลทรัพย์สินอย่างไว้ใจ นางเองก็ขยันขันแข็งทำมาหากิน ส่วนตัวเขายังคงออกเดินทางไปตามพื้นที่ต่างๆ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวง พวกเขามีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน แต่ไม่มีการบันทึกถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรกับลูกชายคนนี้ และไม่มีหลักฐานปรากฏด้วยซ้ำว่าสตรีนางนี้มีชื่อสกุลใด บ้างว่านางเป็นแม่หม้ายบ้างว่านางได้หมั้นหมายแล้วแต่คู่หมายหายไปหลายปีกลายเป็นหม้ายขันหมาก แต่ที่แน่ๆ คือนางอยู่ข้างบ้าน มองกันไปมองกันมาก็เกิดปิ๊งกันเลยอยู่กินกัน เล่าขานกันต่อมาเพียงว่าอยู่ด้วยกันเพียงห้าปีนางก็ตายจากไป

    หลี่ไป๋แต่งงานครั้งที่สองกับภรรยาคนสุดท้ายคือสตรีสกุลจง เป็นหลานปู่ของจงฉู่เค่อ อดีตอัครเสนาบดีอีกท่านหนึ่งและเขาแต่งเข้าเรือนฝ่ายหญิงอีกครั้ง อยู่ด้วยกันสิบปีอย่างสมบูรณ์พูนสุขแต่ไม่มีบุตร แต่สุดท้ายหลี่ไป๋เข้าไปพัวพันกับคดีการเมืองและนางเสียชีวิตลง ส่วนเขาถูกเนรเทศและแม้ว่าในบั้นปลายชีวิตจะได้รับอิสรภาพแต่ก็ต้องจบชีวิตลงอย่างเดียวดาย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความในอดีตเกี่ยวกับเจ้าบ่าวจุ้ยซวี่ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/134357391983589

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.gdzjdaily.com.cn/p/2903387.html
    https://www.photophoto.cn/pic/11693708.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.thepaper.cn/baijiahao_7753758
    https://gushici.china.com/srgushi/10.html
    https://www.163.com/dy/article/G328S2640543SC39.html
    https://baike.baidu.com/item/咏邻女东窗海石榴/9436296
    https://www.sohu.com/a/341251009_100053536

    #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #กวีเอก #หลี่ไป๋ #เซียนกวี #ราชวงศ์ถัง #สาระจีน
    ** บทกวีทับทิมจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>** สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เราได้คุยถึงเรื่องสีแดงในเรื่อง <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ> เพื่อนเพจที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้คงจะจำได้ว่าพ่อของนางเอกทิ้งสูตรเกี่ยวกับการผสมสีแดงของตระกูลไว้ในบทกวีที่เกี่ยวกับทับทิม Storyฯ เห็นว่ามีเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กๆ สอดแทรกอยู่ในนี้ที่เพื่อนเพจคงไม่รู้ เลยมาแบ่งปันให้ฟัง... เป็นเรื่องราวชีวิตคู่ของหลี่ไป๋ บทกวีดังกล่าวมีชื่อว่า ‘หย่งหลินหนี่ว์ตงชวงไห่สือหลิ่ว’ (咏邻女东窗海石榴 แปลได้ประมาณว่า ชื่นชมสตรีข้างบ้านผ่านหน้าต่างและต้นทับทิม) เป็นผลงานของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งราชวงศ์ถัง ถูกประพันธ์ขึ้นสมัยที่เขาพำนักอยู่ในเขตซานตง ใจความบรรยายถึงความงามของสตรีข้างบ้านที่เขามองเห็นผ่านหน้าต่าง ซึ่งเขาเรียกในบทกวีว่า ‘สตรีจากแดนหลู่’ ความงามของนางถูกเสริมด้วยความงามของต้นทับทิมที่มีดอกสีแดงจัดตัดกับใบเขียว เขาถึงกับรำพันว่าจะยอมเป็นกิ่งทับทิมที่ทอดเกยอาภรณ์ของนางเพื่อขอเพียงให้ได้ใกล้ชิดอนงค์นาง แต่จนใจได้แต่ชะเง้อมองผ่านหน้าต่าง แน่นอนว่ามันเป็นกลอนบอกรัก และสตรีดังกล่าวเป็นหนึ่งในภรรรยาของหลี่ไป๋ เพื่อนเพจหลายท่านอาจไม่คุ้นเคยกับชีวประวัติของหลี่ไป๋และคงไม่ทราบว่าหลี่ไป๋มีภรรยาสี่คน จริงๆ แล้วเขาแต่งงานอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมสองครั้ง ส่วนภรรยาอีกสองคนไม่ได้แต่งงานแต่อยู่กินด้วยกันเฉยๆ เขาแต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุยี่สิบเจ็ดปีกับภรรยาคนแรกคือสตรีสกุลสวี่ผู้เป็นหลานของอดีตอัครเสนาบดีในรัชสมัยขององค์ถังเกาจง ถูกรับเข้าจวนสกุลสวี่เป็นเขยแต่งเข้าหรือที่เรียกว่า ‘จุ้ยซวี่’ มีลูกด้วยกันสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง แต่ลูกทั้งสองได้ใช้แซ่หลี่ตามหลี่ไป๋ผู้เป็นบิดา (อนึ่ง ปกติจุ้ยซวี่แต่งเข้าเรือนของสตรี เมื่อมีลูกก็จะใช้แซ่ของผู้เป็นมารดาไม่ใช่บิดา Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว แปะลิ้งค์ไว้ให้อ่านใหม่ที่ท้ายเรื่อง) ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกับนางสกุลสวี่นี้ หลี่ไป๋มีชีวิตค่อนข้างสบายเพราะฝ่ายหญิงมีฐานะดีและเขามีอิสระที่จะเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ตามใจหมาย ว่ากันว่าเขารักภรรยาคนนี้มากแต่นางป่วยตายหลังจากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันนานสิบเอ็ดปี เมื่อสิ้นภรรยาคนแรก หลี่ไป๋ก็พาลูกจากจวนสกุลสวี่ออกเดินทาง มาหยุดพำนักที่บริเวณพื้นที่แถบซานตง หลังจากนั้นหนึ่งปีเขาก็อยู่กินกับนางสกุลหลิว ว่ากันว่าเป็นเพราะต้องการหาคนมาช่วยเลี้ยงลูกเพื่อว่าตนเองจะได้มีอิสระในการเดินทาง ส่วนนางสกุลหลิวเองก็คาดหวังว่าหลี่ไป๋จะมีอนาคตขุนนางสวยงาม แต่ หลี่ไป๋ก็ยังไม่ได้เข้ารับราชการเสียที สุดท้ายนางทนไม่ได้กับความเป็นกวีขี้เมาของหลี่ไป๋ ทั้งสองจึงแยกทางกันอย่างไม่แฮปปี้ ต่อมาอีกประมาณหกปี หลี่ไป๋ยังคงอยู่ในละแวกพื้นที่ซานตงหรือที่เรียกว่าพื้นที่หลู่นี้ และได้อยู่กินกับภรรยาคนที่สาม ซึ่งก็คือ ‘สตรีจากแดนหลู่’ ในบทกวีข้างต้นนั่นเอง เขาซื้อที่ดินทำกินให้นางดูแลทรัพย์สินอย่างไว้ใจ นางเองก็ขยันขันแข็งทำมาหากิน ส่วนตัวเขายังคงออกเดินทางไปตามพื้นที่ต่างๆ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวง พวกเขามีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน แต่ไม่มีการบันทึกถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรกับลูกชายคนนี้ และไม่มีหลักฐานปรากฏด้วยซ้ำว่าสตรีนางนี้มีชื่อสกุลใด บ้างว่านางเป็นแม่หม้ายบ้างว่านางได้หมั้นหมายแล้วแต่คู่หมายหายไปหลายปีกลายเป็นหม้ายขันหมาก แต่ที่แน่ๆ คือนางอยู่ข้างบ้าน มองกันไปมองกันมาก็เกิดปิ๊งกันเลยอยู่กินกัน เล่าขานกันต่อมาเพียงว่าอยู่ด้วยกันเพียงห้าปีนางก็ตายจากไป หลี่ไป๋แต่งงานครั้งที่สองกับภรรยาคนสุดท้ายคือสตรีสกุลจง เป็นหลานปู่ของจงฉู่เค่อ อดีตอัครเสนาบดีอีกท่านหนึ่งและเขาแต่งเข้าเรือนฝ่ายหญิงอีกครั้ง อยู่ด้วยกันสิบปีอย่างสมบูรณ์พูนสุขแต่ไม่มีบุตร แต่สุดท้ายหลี่ไป๋เข้าไปพัวพันกับคดีการเมืองและนางเสียชีวิตลง ส่วนเขาถูกเนรเทศและแม้ว่าในบั้นปลายชีวิตจะได้รับอิสรภาพแต่ก็ต้องจบชีวิตลงอย่างเดียวดาย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความในอดีตเกี่ยวกับเจ้าบ่าวจุ้ยซวี่ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/134357391983589 Credit รูปภาพจาก: https://www.gdzjdaily.com.cn/p/2903387.html https://www.photophoto.cn/pic/11693708.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.thepaper.cn/baijiahao_7753758 https://gushici.china.com/srgushi/10.html https://www.163.com/dy/article/G328S2640543SC39.html https://baike.baidu.com/item/咏邻女东窗海石榴/9436296 https://www.sohu.com/a/341251009_100053536 #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #กวีเอก #หลี่ไป๋ #เซียนกวี #ราชวงศ์ถัง #สาระจีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 595 มุมมอง 0 รีวิว
  • โศกนาฏกรรมบัสดูงานเทศบาลพรเจริญ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน เสียชีวิต 18 ศพ เจ็บ 23 ราย สูญหาย 1 คน

    เกิดอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ ช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 03.30 น. เมื่อรถบัสสองชั้น นำคณะดูงานจากเทศบาลตำบลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ พลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้ากบินทร์บุรี ช่วง กม. 210+500 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี

    เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 16 ศพ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลอีก 2 ศพ รวมเป็น 18 ศพ บาดเจ็บอีก 23 ราย และยังมีผู้สูญหาย 1 คน โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เกิดจากลมเบรกหมด และคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง

    🚍 เจ้าหน้าที่พบรถบัส 2 ชั้น ยี่ห้อสแกนเนีย หมายเลขทะเบียน 30-0040 บึงกาฬ พลิกคะแคงอยู่นอกแบริเออร์ ในที่เกิดอุบัติเหตุ หลังคารถถูกเปิดออก สภาพพังยับเยิน

    🔴 ผู้โดยสารกระเด็นออกจากตัวรถ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นั่งชั้นสอง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย

    ⚰️ มีการยืนยันรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด 18 ศพ ซึ่งประกอบด้วยชาย 2 ราย และหญิง 16 ราย

    1. น.ส.ยุภาวดี สุวรรณโคตร
    2. น.ส. ปภัสสร ทองปาน
    3. น.ส. พิรานันท์ ภิรมย์จรัลฐาวร
    4. น.ส. ทองอินทร์ จันทรอ่อน
    5. น.ส. อภิญญา บุตรวัง
    6. นางเลียว ไชยเสนา
    7. น.ส. สุจิตตรา วิเศษทรัพย์
    8. น.ส. บัวเงิน สุดาบุตร
    9. นางมะโยลี วงศ์สุภา
    10. นางสมบุญ ธิพัน
    11. นางสมหวัง พรหมพิทักษ์
    12. นางประหยัด เสียงล้ำ
    13. นางทองใบ สอนเชียงคำ
    14. น.ส.ฤานรินทร์ จ่าพบ
    15. นางราตรี ลบพันธ์ทอง
    16. นางสาวพิมพ์กานต์ พินทะเนาว์ หรือนางสาวนวลศรี พินทะเนาว์
    17. นายบุญโฮม จันทร์อ่อน
    18. นายทองใส พรมเลิศ เสียชีวิตที่ รพ.กบินทร์บุรี

    🚑 ผู้บาดเจ็บ 23 ราย
    แบ่งเป็น ชาย 9 ราย หญิง 14 ราย โดยมีอาการแตกต่างกัน บางรายมีแผลฉีกขาด ศีรษะแตก อาการปวดหลัง และจุกหน้าอก 🚨
    1. น.ส. จริญา เสนา อายุ 36 ปี
    2. นายนาวิน ชูปัญญา อายุ 50 ปี
    3. นายอดุลย์ มณทางาม อายุ 40 ปี
    4. นายประสงค์ ปัตภัย อายุ 60 ปี
    5. นายอมร เพญจันทร์ อายุ 67 ปี
    6. นายไอ่คำ แก้วกันหา อายุ 67 ปี
    7. นางดรุณี ศรีษะ อายุ 25 ปี
    8. นางทองคำ สมคำภิ อายุ 67 ปี
    9. นางบุญปั่น สมคำภิ อายุ 64 ปี
    10. นายสมควร พาพิจิตร อายุ 54 ปี
    11. นางปราณี แสนอุบล อายุ 67 ปี
    12. นางลำภู ศรีบุญเรือง อายุ 50 ปี
    13. นางประเทียน พรมโคตร อายุ 67 ปี
    14. นางทองยุ่น พลขำ อายุ 62 ปี
    15. นางเขมจิรา อยู่คำพันธ์
    16. นางอนงค์เยาว์ ศรีสุพรรณ อายุ 68 ปี
    17. นายพงษ์กร คำภูแสน อายุ 41 ปี
    18. นางบุญทัน ชาตรี อายุ 67 ปี
    19. น.ส. เครือวรรณ ฤทธิ์ดู อายุ 62 ปี
    20. นางดอกรักษ์ พรมนาค อายุ 68 ปี
    21. นางเด่น ปะโพทิง อายุ 67 ปี
    22. นายอนุพงศ์ พรมอินทร์ อายุ 49 ปี
    23. นายนาถวัฒน์ บริหาร อายุ 24 ปี

    และนางทองใบ สอนเชียงคำ อยู่ระหว่างการค้นหา

    สาเหตุเบื้องต้นของอุบัติเหตุ
    จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่ารถบัสคันนี้เป็นคณะดูงานใน “โครงการพัฒนาศักยภาพ และศึกษาดูงานคณะกรรมการธนาคารขยะหมู่บ้าน” เดินทางจากจังหวัดบึงกาฬ ไปยังจังหวัดระยอง

    🛑 สาเหตุที่เป็นไปได้
    ✅ ลมเบรกหมด ทำให้คนขับไม่สามารถควบคุมรถได้
    ✅ ไม่ชินเส้นทาง ถนนเส้นนี้เป็นทางลงเขายาวกว่า 6 กิโลเมตร ต้องใช้ความระมัดระวังสูง
    ✅ ไม่จอดพักที่จุดพักรถ ปกติรถขนาดใหญ่ ต้องจอดเช็คเบรกที่จุดพักผางาม ก่อนลงเขา แต่รถบัสคันนี้ไม่ได้แวะพัก

    🚑 การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
    หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และรถพยาบาลจากหลายหน่วยงาน ได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
    🏥 โรงพยาบาลที่รับรักษา
    ✅ โรงพยาบาลนาดี
    ✅ โรงพยาบาลกบินทร์บุรี
    ✅ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทับลาน

    💰 ความคุ้มครองจากประกันภัย
    🚍 รถบัสคันนี้ทำประกันไว้กับ บริษัทมิตรแท้ ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
    💵 วงเงินคุ้มครอง:
    ประกันภาคสมัครใจ จ่ายสูงสุด 500,000 บาท ต่อราย วงเงินคุ้มครองรวม 10 ล้านบาท ต่อครั้ง

    ⚠️ หากยอดผู้เสียชีวิตเกิน 20 ราย จะต้องมีการพิจารณาวงเงินค่าสินไหมเพิ่มเติม

    เหตุการณ์นี้ ถือเป็นอุบัติเหตุรุนแรงที่สุดบนเส้นทางนี้ ในรอบหลายปี ซึ่งมีข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ สำหรับรถบัสที่ต้องใช้เส้นทางลงเขา

    ✅ จุดพักรถผางาม ต้องบังคับให้รถโดยสารทุกคันจอดพัก เพื่อตรวจเช็คเบรก
    ✅ การอบรมคนขับ คนขับรถโดยสาร ควรมีความคุ้นเคยกับเส้นทางก่อนเดินทาง
    ✅ การบังคับใช้กฎหมาย ควรมีมาตรการตรวจสอบความพร้อมของรถ และคนขับก่อนออกเดินทาง

    อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นโศกนาฏกรรม ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 23 ราย และยังมีผู้สูญหาย 1 คน

    💔 เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจำเป็น ในการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยบนถนน โดยเฉพาะการตรวจเช็คสภาพรถ การกำหนดจุดพักรถที่บังคับใช้จริง และการอบรมคนขับ ให้มีความชำนาญเส้นทาง

    📢 ขอให้ผู้โดยสารทุกคนเดินทางปลอดภัยเสมอ และอย่าลืมตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย ของรถโดยสารที่เดินทาง

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 262115 ก.พ. 2568

    📌 #อุบัติเหตุ #รถบัสคว่ำ #เขาศาลปู่โทน #ข่าวด่วน #บึงกาฬ #ปราจีนบุรี #อุบัติเหตุทางถนน #ปลอดภัยไว้ก่อน #ข่าววันนี้
    โศกนาฏกรรมบัสดูงานเทศบาลพรเจริญ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน เสียชีวิต 18 ศพ เจ็บ 23 ราย สูญหาย 1 คน เกิดอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ ช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 03.30 น. เมื่อรถบัสสองชั้น นำคณะดูงานจากเทศบาลตำบลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ พลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้ากบินทร์บุรี ช่วง กม. 210+500 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 16 ศพ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลอีก 2 ศพ รวมเป็น 18 ศพ บาดเจ็บอีก 23 ราย และยังมีผู้สูญหาย 1 คน โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เกิดจากลมเบรกหมด และคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง 🚍 เจ้าหน้าที่พบรถบัส 2 ชั้น ยี่ห้อสแกนเนีย หมายเลขทะเบียน 30-0040 บึงกาฬ พลิกคะแคงอยู่นอกแบริเออร์ ในที่เกิดอุบัติเหตุ หลังคารถถูกเปิดออก สภาพพังยับเยิน 🔴 ผู้โดยสารกระเด็นออกจากตัวรถ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นั่งชั้นสอง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย ⚰️ มีการยืนยันรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด 18 ศพ ซึ่งประกอบด้วยชาย 2 ราย และหญิง 16 ราย 1. น.ส.ยุภาวดี สุวรรณโคตร 2. น.ส. ปภัสสร ทองปาน 3. น.ส. พิรานันท์ ภิรมย์จรัลฐาวร 4. น.ส. ทองอินทร์ จันทรอ่อน 5. น.ส. อภิญญา บุตรวัง 6. นางเลียว ไชยเสนา 7. น.ส. สุจิตตรา วิเศษทรัพย์ 8. น.ส. บัวเงิน สุดาบุตร 9. นางมะโยลี วงศ์สุภา 10. นางสมบุญ ธิพัน 11. นางสมหวัง พรหมพิทักษ์ 12. นางประหยัด เสียงล้ำ 13. นางทองใบ สอนเชียงคำ 14. น.ส.ฤานรินทร์ จ่าพบ 15. นางราตรี ลบพันธ์ทอง 16. นางสาวพิมพ์กานต์ พินทะเนาว์ หรือนางสาวนวลศรี พินทะเนาว์ 17. นายบุญโฮม จันทร์อ่อน 18. นายทองใส พรมเลิศ เสียชีวิตที่ รพ.กบินทร์บุรี 🚑 ผู้บาดเจ็บ 23 ราย แบ่งเป็น ชาย 9 ราย หญิง 14 ราย โดยมีอาการแตกต่างกัน บางรายมีแผลฉีกขาด ศีรษะแตก อาการปวดหลัง และจุกหน้าอก 🚨 1. น.ส. จริญา เสนา อายุ 36 ปี 2. นายนาวิน ชูปัญญา อายุ 50 ปี 3. นายอดุลย์ มณทางาม อายุ 40 ปี 4. นายประสงค์ ปัตภัย อายุ 60 ปี 5. นายอมร เพญจันทร์ อายุ 67 ปี 6. นายไอ่คำ แก้วกันหา อายุ 67 ปี 7. นางดรุณี ศรีษะ อายุ 25 ปี 8. นางทองคำ สมคำภิ อายุ 67 ปี 9. นางบุญปั่น สมคำภิ อายุ 64 ปี 10. นายสมควร พาพิจิตร อายุ 54 ปี 11. นางปราณี แสนอุบล อายุ 67 ปี 12. นางลำภู ศรีบุญเรือง อายุ 50 ปี 13. นางประเทียน พรมโคตร อายุ 67 ปี 14. นางทองยุ่น พลขำ อายุ 62 ปี 15. นางเขมจิรา อยู่คำพันธ์ 16. นางอนงค์เยาว์ ศรีสุพรรณ อายุ 68 ปี 17. นายพงษ์กร คำภูแสน อายุ 41 ปี 18. นางบุญทัน ชาตรี อายุ 67 ปี 19. น.ส. เครือวรรณ ฤทธิ์ดู อายุ 62 ปี 20. นางดอกรักษ์ พรมนาค อายุ 68 ปี 21. นางเด่น ปะโพทิง อายุ 67 ปี 22. นายอนุพงศ์ พรมอินทร์ อายุ 49 ปี 23. นายนาถวัฒน์ บริหาร อายุ 24 ปี และนางทองใบ สอนเชียงคำ อยู่ระหว่างการค้นหา สาเหตุเบื้องต้นของอุบัติเหตุ จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่ารถบัสคันนี้เป็นคณะดูงานใน “โครงการพัฒนาศักยภาพ และศึกษาดูงานคณะกรรมการธนาคารขยะหมู่บ้าน” เดินทางจากจังหวัดบึงกาฬ ไปยังจังหวัดระยอง 🛑 สาเหตุที่เป็นไปได้ ✅ ลมเบรกหมด ทำให้คนขับไม่สามารถควบคุมรถได้ ✅ ไม่ชินเส้นทาง ถนนเส้นนี้เป็นทางลงเขายาวกว่า 6 กิโลเมตร ต้องใช้ความระมัดระวังสูง ✅ ไม่จอดพักที่จุดพักรถ ปกติรถขนาดใหญ่ ต้องจอดเช็คเบรกที่จุดพักผางาม ก่อนลงเขา แต่รถบัสคันนี้ไม่ได้แวะพัก 🚑 การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และรถพยาบาลจากหลายหน่วยงาน ได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 🏥 โรงพยาบาลที่รับรักษา ✅ โรงพยาบาลนาดี ✅ โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ✅ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทับลาน 💰 ความคุ้มครองจากประกันภัย 🚍 รถบัสคันนี้ทำประกันไว้กับ บริษัทมิตรแท้ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) 💵 วงเงินคุ้มครอง: ประกันภาคสมัครใจ จ่ายสูงสุด 500,000 บาท ต่อราย วงเงินคุ้มครองรวม 10 ล้านบาท ต่อครั้ง ⚠️ หากยอดผู้เสียชีวิตเกิน 20 ราย จะต้องมีการพิจารณาวงเงินค่าสินไหมเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้ ถือเป็นอุบัติเหตุรุนแรงที่สุดบนเส้นทางนี้ ในรอบหลายปี ซึ่งมีข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ สำหรับรถบัสที่ต้องใช้เส้นทางลงเขา ✅ จุดพักรถผางาม ต้องบังคับให้รถโดยสารทุกคันจอดพัก เพื่อตรวจเช็คเบรก ✅ การอบรมคนขับ คนขับรถโดยสาร ควรมีความคุ้นเคยกับเส้นทางก่อนเดินทาง ✅ การบังคับใช้กฎหมาย ควรมีมาตรการตรวจสอบความพร้อมของรถ และคนขับก่อนออกเดินทาง อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นโศกนาฏกรรม ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 23 ราย และยังมีผู้สูญหาย 1 คน 💔 เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจำเป็น ในการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยบนถนน โดยเฉพาะการตรวจเช็คสภาพรถ การกำหนดจุดพักรถที่บังคับใช้จริง และการอบรมคนขับ ให้มีความชำนาญเส้นทาง 📢 ขอให้ผู้โดยสารทุกคนเดินทางปลอดภัยเสมอ และอย่าลืมตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย ของรถโดยสารที่เดินทาง ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 262115 ก.พ. 2568 📌 #อุบัติเหตุ #รถบัสคว่ำ #เขาศาลปู่โทน #ข่าวด่วน #บึงกาฬ #ปราจีนบุรี #อุบัติเหตุทางถนน #ปลอดภัยไว้ก่อน #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 948 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5 ปี โศกนาฏกรรมโคราช จ่าสรรพาวุธคลั่ง กราดยิงเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 58 คน

    📅 ย้อนรอยเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมกราดยิงโคราช ที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ได้ก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ในตัวเมืองนครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตรวม 31 ศพ รวมตัวผู้ก่อเหตุ และบาดเจ็บ 58 ราย

    เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงสร้างความสูญเสีย ให้กับครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่คำถาม เกี่ยวกับระบบสวัสดิการทหาร ความโปร่งใสของกองทัพ และการควบคุมอาวุธ ของเจ้าหน้าที่รัฐ 🔥

    📌 สาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม
    จากการสอบสวน พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ก่อเหตุในครั้งนี้ เกิดจากปัญหาการเงิน และความขัดแย้ง ในการซื้อบ้านสวัสดิการทหาร 🚪🏡

    🔹 ปมปัญหาซื้อบ้านสวัสดิการ
    จ.ส.อ. จักรพันธ์ ซื้อบ้านจากโครงการสวัสดิการทหาร ในราคา 1,500,000 บาท และมอบหมายให้ นางอนงค์ มิตรจันทร์ ภรรยาของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชาของเขา เป็นผู้จัดการเรื่องการตกแต่งบ้าน และเอกสารการซื้อขาย

    🔹 ความขัดแย้งเรื่องเงินส่วนต่าง
    เมื่อดำเนินเรื่องเสร็จสิ้น พบว่ามีเงินเหลือ 50,000 บาท ซึ่งถูกส่งไปให้นายหน้าที่ชื่อ นายพิทยา จ.ส.อ. จักรพันธ์ จึงเรียกร้องขอเงินคืน แต่กลับพบว่าเงินก้อนนี้หมดไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้เขาเข้าใจว่า ตนเองจะได้เงินคืนสูงถึง 400,000 บาท

    🔹 การพูดคุยที่ล้มเหลว
    เมื่อมีการนัดเจรจากัน นายพิทยา ขอเวลาเพื่อหาเงินคืน แต่จำนวนเงินที่ตกลงกัน ไม่ได้เป็นไปตามที่ จ.ส.อ. จักรพันธ์ คาดหวัง ทำให้เขารู้สึกว่า ตนเองถูกโกง และไม่ได้รับความเป็นธรรม

    นี่เป็นจุดเริ่มต้น ที่นำไปสู่การสังหารโหด... 🔫

    ⏳ จากปมปัญหา สู่โศกนาฏกรรม
    🔴 จุดเริ่มต้น ก่อเหตุที่บ้านพัก
    📍 เวลา 15.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปบ้านของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และใช้อาวุธปืนยิง พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ จนเสียชีวิต จากนั้นไล่ยิงนายพิทยา (นายหน้า) แต่เขาหลบหนีไปได้

    🔴 จุดที่สอง ค่ายทหารสุรธรรมพิทักษ์
    📍 เวลา 16.00 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และชิงอาวุธสงคราม จากคลังแสง ซึ่งรวมถึงปืน HK33, ปืนกล M60 และกระสุนจำนวนมาก โดยในระหว่างนี้ มีการยิงทหารเวร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย

    🔴 จุดที่สาม กราดยิงตามถนนโคราช
    📍 ระหว่างทางจากค่ายทหาร ไปยังห้างเทอร์มินอล 21
    จ.ส.อ. จักรพันธ์ ขับรถฮัมวี ออกจากค่ายทหาร กราดยิงผู้คนตามทาง เสียชีวิต 9 ศพ มีผู้ที่ถูกยิงขณะอยู่บนรถ และมีนักเรียนที่ขับจักรยานยนต์ถูกยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกยิงเสียชีวิต ขณะกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์

    🔴 จุดสุดท้าย ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช
    📍 เวลา 17.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เข้าไปภายในห้าง และเริ่มกราดยิงผู้คน
    📍 จับตัวประกันกว่า 16 คน และถ่ายทอดสดเหตุการณ์ ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง 😨
    📍 เกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้ภายในห้าง เนื่องจากเขายิงถังแก๊ส
    📍 เวลา 09.14 น. เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 หน่วยอรินทราช 26 วิสามัญฆาตกรรม จ.ส.อ. จักรพันธ์ ที่ ชั้นใต้ดินของห้าง

    ⚖️ บทเรียนจากเหตุการณ์กราดยิงโคราช
    เหตุการณ์นี้นำไปสู่คำถามสำคัญเกี่ยวกับ...
    🔹 การจัดการอาวุธของกองทัพ เหตุใดทหารชั้นผู้น้อย สามารถเข้าถึงอาวุธสงคราม ได้ง่ายขนาดนี้?
    🔹 สวัสดิการทหาร และความโปร่งใสของกองทัพ มีปัญหาเรื่อง "เงินทอน" จริงหรือไม่?
    🔹 บทบาทของสื่อมวลชน การรายงานข่าว ในลักษณะที่เปิดเผยข้อมูล การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ส่งผลกระทบต่อการควบคุมสถานการณ์
    🔹 ผลกระทบทางจิตวิทยาต่อสังคม เหตุการณ์นี้ สร้างความหวาดกลัว และกระตุ้นให้เกิดคำถาม เกี่ยวกับความปลอดภัย ในที่สาธารณะ

    📍 สรุปเหตุการณ์ และจำนวนผู้เสียชีวิต
    📌 ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 31 ศพ รวมผู้ก่อเหตุ
    📌 ผู้บาดเจ็บ 58 ราย

    🔸 พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
    ห้างเทอร์มินอล 21
    เส้นทางจากค่ายทหาร ไปยังตัวเมือง

    🔗 มาตรการ และการเปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์
    📌 กองทัพบกได้ประกาศมาตรการใหม่
    - ควบคุมการเข้าถึงอาวุธของทหาร
    - ทบทวนโครงการสวัสดิการทหาร
    - สอบสวนขบวนการ "เงินทอน" ที่เกี่ยวข้อง

    📌 รัฐบาลและสื่อมวลชน
    - กสทช. สั่งปรับสถานีโทรทัศน์ 3 ช่อง ฐานละเมิดข้อกำหนดการรายงานข่าว
    - เฟซบุ๊กลบวิดีโอถ่ายทอดสด และโพสต์ของผู้ก่อเหตุ

    📍 ครบ 5 ปี ของเหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงปัญหาหลายประเด็น ที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งในเรื่องความโปร่งใสของกองทัพ ระบบสวัสดิการของทหาร และบทบาทของสื่อมวลชน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 082315ก.พ. 2568

    📢 #กราดยิงโคราช #KoratShooting #โศกนาฏกรรมโคราช #ความปลอดภัยในที่สาธารณะ #บทเรียนจากอดีต
    5 ปี โศกนาฏกรรมโคราช จ่าสรรพาวุธคลั่ง กราดยิงเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 58 คน 📅 ย้อนรอยเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมกราดยิงโคราช ที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ได้ก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ในตัวเมืองนครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตรวม 31 ศพ รวมตัวผู้ก่อเหตุ และบาดเจ็บ 58 ราย เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงสร้างความสูญเสีย ให้กับครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่คำถาม เกี่ยวกับระบบสวัสดิการทหาร ความโปร่งใสของกองทัพ และการควบคุมอาวุธ ของเจ้าหน้าที่รัฐ 🔥 📌 สาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม จากการสอบสวน พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ก่อเหตุในครั้งนี้ เกิดจากปัญหาการเงิน และความขัดแย้ง ในการซื้อบ้านสวัสดิการทหาร 🚪🏡 🔹 ปมปัญหาซื้อบ้านสวัสดิการ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ซื้อบ้านจากโครงการสวัสดิการทหาร ในราคา 1,500,000 บาท และมอบหมายให้ นางอนงค์ มิตรจันทร์ ภรรยาของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชาของเขา เป็นผู้จัดการเรื่องการตกแต่งบ้าน และเอกสารการซื้อขาย 🔹 ความขัดแย้งเรื่องเงินส่วนต่าง เมื่อดำเนินเรื่องเสร็จสิ้น พบว่ามีเงินเหลือ 50,000 บาท ซึ่งถูกส่งไปให้นายหน้าที่ชื่อ นายพิทยา จ.ส.อ. จักรพันธ์ จึงเรียกร้องขอเงินคืน แต่กลับพบว่าเงินก้อนนี้หมดไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้เขาเข้าใจว่า ตนเองจะได้เงินคืนสูงถึง 400,000 บาท 🔹 การพูดคุยที่ล้มเหลว เมื่อมีการนัดเจรจากัน นายพิทยา ขอเวลาเพื่อหาเงินคืน แต่จำนวนเงินที่ตกลงกัน ไม่ได้เป็นไปตามที่ จ.ส.อ. จักรพันธ์ คาดหวัง ทำให้เขารู้สึกว่า ตนเองถูกโกง และไม่ได้รับความเป็นธรรม นี่เป็นจุดเริ่มต้น ที่นำไปสู่การสังหารโหด... 🔫 ⏳ จากปมปัญหา สู่โศกนาฏกรรม 🔴 จุดเริ่มต้น ก่อเหตุที่บ้านพัก 📍 เวลา 15.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปบ้านของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และใช้อาวุธปืนยิง พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ จนเสียชีวิต จากนั้นไล่ยิงนายพิทยา (นายหน้า) แต่เขาหลบหนีไปได้ 🔴 จุดที่สอง ค่ายทหารสุรธรรมพิทักษ์ 📍 เวลา 16.00 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และชิงอาวุธสงคราม จากคลังแสง ซึ่งรวมถึงปืน HK33, ปืนกล M60 และกระสุนจำนวนมาก โดยในระหว่างนี้ มีการยิงทหารเวร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย 🔴 จุดที่สาม กราดยิงตามถนนโคราช 📍 ระหว่างทางจากค่ายทหาร ไปยังห้างเทอร์มินอล 21 จ.ส.อ. จักรพันธ์ ขับรถฮัมวี ออกจากค่ายทหาร กราดยิงผู้คนตามทาง เสียชีวิต 9 ศพ มีผู้ที่ถูกยิงขณะอยู่บนรถ และมีนักเรียนที่ขับจักรยานยนต์ถูกยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกยิงเสียชีวิต ขณะกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ 🔴 จุดสุดท้าย ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช 📍 เวลา 17.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เข้าไปภายในห้าง และเริ่มกราดยิงผู้คน 📍 จับตัวประกันกว่า 16 คน และถ่ายทอดสดเหตุการณ์ ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง 😨 📍 เกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้ภายในห้าง เนื่องจากเขายิงถังแก๊ส 📍 เวลา 09.14 น. เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 หน่วยอรินทราช 26 วิสามัญฆาตกรรม จ.ส.อ. จักรพันธ์ ที่ ชั้นใต้ดินของห้าง ⚖️ บทเรียนจากเหตุการณ์กราดยิงโคราช เหตุการณ์นี้นำไปสู่คำถามสำคัญเกี่ยวกับ... 🔹 การจัดการอาวุธของกองทัพ เหตุใดทหารชั้นผู้น้อย สามารถเข้าถึงอาวุธสงคราม ได้ง่ายขนาดนี้? 🔹 สวัสดิการทหาร และความโปร่งใสของกองทัพ มีปัญหาเรื่อง "เงินทอน" จริงหรือไม่? 🔹 บทบาทของสื่อมวลชน การรายงานข่าว ในลักษณะที่เปิดเผยข้อมูล การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ส่งผลกระทบต่อการควบคุมสถานการณ์ 🔹 ผลกระทบทางจิตวิทยาต่อสังคม เหตุการณ์นี้ สร้างความหวาดกลัว และกระตุ้นให้เกิดคำถาม เกี่ยวกับความปลอดภัย ในที่สาธารณะ 📍 สรุปเหตุการณ์ และจำนวนผู้เสียชีวิต 📌 ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 31 ศพ รวมผู้ก่อเหตุ 📌 ผู้บาดเจ็บ 58 ราย 🔸 พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ห้างเทอร์มินอล 21 เส้นทางจากค่ายทหาร ไปยังตัวเมือง 🔗 มาตรการ และการเปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์ 📌 กองทัพบกได้ประกาศมาตรการใหม่ - ควบคุมการเข้าถึงอาวุธของทหาร - ทบทวนโครงการสวัสดิการทหาร - สอบสวนขบวนการ "เงินทอน" ที่เกี่ยวข้อง 📌 รัฐบาลและสื่อมวลชน - กสทช. สั่งปรับสถานีโทรทัศน์ 3 ช่อง ฐานละเมิดข้อกำหนดการรายงานข่าว - เฟซบุ๊กลบวิดีโอถ่ายทอดสด และโพสต์ของผู้ก่อเหตุ 📍 ครบ 5 ปี ของเหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงปัญหาหลายประเด็น ที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งในเรื่องความโปร่งใสของกองทัพ ระบบสวัสดิการของทหาร และบทบาทของสื่อมวลชน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 082315ก.พ. 2568 📢 #กราดยิงโคราช #KoratShooting #โศกนาฏกรรมโคราช #ความปลอดภัยในที่สาธารณะ #บทเรียนจากอดีต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1332 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIB RUN 2024 งานวิ่งรวมตำรวจขาแรง

    เป็นงานวิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก สำหรับกิจกรรมวิ่งเฉลิมพระเกียรติฯ CIB RUN 2024 เคียงข้างประชาชน ซีซัน 2 โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 โดยได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้สถานที่จัดการแข่งขัน

    กิจกรรมนี้ได้ บริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเคยจัดงานระดับนานาชาติทั้ง Amazing Thailand Marathon, พัทยามาราธอน, ไตรกีฬาโตโยต้าไอรอนแมน ฯลฯ ปีที่แล้วเปิดให้สมัครฟรีปรากฎว่าเจอซื้อ-ขายเบอร์แข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการฯ ไม่ต้องการแบบนั้น จึงกำหนดให้มีค่าสมัครทุกระยะ แต่คิดแบบไม่หวังผลกำไร 23 กิโลเมตร (กม.) ค่าสมัคร 350 บาท 10 กม. 300 บาท และ 3 กม. 250 บาท เปิดระบบรับสมัครเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. 2567

    ผลก็คือมีนักวิ่งสนใจลงสมัครล้นหลามจนเว็บล่ม ก่อนเต็มจำนวนเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวม 8,223 คน แบ่งเป็น 23 กม. 3,205 คน, 10 กม. 4,312 คน และ 3 กม. 706 คน

    มาถึงการจัดงาน เปิดสนามตั้งแต่เวลา 03.00 น. ก่อนปล่อยตัวนักวิ่ง 23 กม. เวลา 05.00 น. โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธาน พร้อมด้วย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม นักร้องชื่อดังมาให้กำลังใจนักวิ่งอีกด้วย ส่วนนักวิ่ง 10 กม. ปล่อยตัวที่ กม.14 ของสนามลู่ปั่น (ทางเข้าสนามบินฯ ด้านถนนบางนา-ตราด) เวลา 05.03 น. โดยพบว่านอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีข้าราชการตำรวจ ที่ถือโอกาสเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้พบกันมานานไปในตัว นอกจากนี้ ยังมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม แต่งกายเต็มยศให้กำลังใจก่อนเข้าเส้นชัยอีกด้วย

    สำหรับผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปชาย 23 กม. ได้แก่ ร.ต.อ.ปฏิการ เพชรศรีชา ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที ส่วนประเภทบุคคลทั่วไปหญิง 23 กม. ได้แก่ น.ส.อรอนงค์ วงศร ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที

    พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานรางวัลชนะเลิศแก่นักวิ่ง ขอขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมสมัครในปีนี้อย่างล้นหลาม หลายคนรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เชื่อว่าการออกกำลังทุกประเภทส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือสิ่งที่พบเจอในแต่ละวันได้ และขอขอบคุณที่ให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนการออกกำลังกายให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน

    #Newskit
    CIB RUN 2024 งานวิ่งรวมตำรวจขาแรง เป็นงานวิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก สำหรับกิจกรรมวิ่งเฉลิมพระเกียรติฯ CIB RUN 2024 เคียงข้างประชาชน ซีซัน 2 โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 โดยได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้สถานที่จัดการแข่งขัน กิจกรรมนี้ได้ บริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเคยจัดงานระดับนานาชาติทั้ง Amazing Thailand Marathon, พัทยามาราธอน, ไตรกีฬาโตโยต้าไอรอนแมน ฯลฯ ปีที่แล้วเปิดให้สมัครฟรีปรากฎว่าเจอซื้อ-ขายเบอร์แข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการฯ ไม่ต้องการแบบนั้น จึงกำหนดให้มีค่าสมัครทุกระยะ แต่คิดแบบไม่หวังผลกำไร 23 กิโลเมตร (กม.) ค่าสมัคร 350 บาท 10 กม. 300 บาท และ 3 กม. 250 บาท เปิดระบบรับสมัครเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. 2567 ผลก็คือมีนักวิ่งสนใจลงสมัครล้นหลามจนเว็บล่ม ก่อนเต็มจำนวนเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวม 8,223 คน แบ่งเป็น 23 กม. 3,205 คน, 10 กม. 4,312 คน และ 3 กม. 706 คน มาถึงการจัดงาน เปิดสนามตั้งแต่เวลา 03.00 น. ก่อนปล่อยตัวนักวิ่ง 23 กม. เวลา 05.00 น. โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธาน พร้อมด้วย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม นักร้องชื่อดังมาให้กำลังใจนักวิ่งอีกด้วย ส่วนนักวิ่ง 10 กม. ปล่อยตัวที่ กม.14 ของสนามลู่ปั่น (ทางเข้าสนามบินฯ ด้านถนนบางนา-ตราด) เวลา 05.03 น. โดยพบว่านอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีข้าราชการตำรวจ ที่ถือโอกาสเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้พบกันมานานไปในตัว นอกจากนี้ ยังมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม แต่งกายเต็มยศให้กำลังใจก่อนเข้าเส้นชัยอีกด้วย สำหรับผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปชาย 23 กม. ได้แก่ ร.ต.อ.ปฏิการ เพชรศรีชา ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที ส่วนประเภทบุคคลทั่วไปหญิง 23 กม. ได้แก่ น.ส.อรอนงค์ วงศร ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานรางวัลชนะเลิศแก่นักวิ่ง ขอขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมสมัครในปีนี้อย่างล้นหลาม หลายคนรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เชื่อว่าการออกกำลังทุกประเภทส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือสิ่งที่พบเจอในแต่ละวันได้ และขอขอบคุณที่ให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนการออกกำลังกายให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1004 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ยันให้การปฏิเสธทั้งข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท ย้อน "หนุ่ม กรรชัย" ไม่ได้ทำผิดจะให้ยอมรับได้ยังไง มั่นใจว่าไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดี ที่ผ่านมาใช้ชีวิตบนทางที่ถูกต้องเสมอ

    วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก) เมื่อเวลา 16.00 น. นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" อดีต ดารานักร้องชื่อดัง กล่าวภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำคดี "ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท" จากกรณีคลิปเสียงร่วมกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช เรียกรับเงินจาก บอสบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 20 ล้านบาท และหมิ่นประมาท "หนุ่ม กรรชัย" พิธีกรรายการโหนกระแสว่า เบื้องต้นถูกแจ้ง 2 ข้อหา คือพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท "หนุ่ม กรรชัย" โดยตนเองให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนก็จะนัดให้มารายงานตัวอีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้ ทั้งนี้ขอชี้แจงถึงประเด็นต่าง ๆ ว่า ที่ก่อนหน้านี้ "หนุ่ม กรรชัย" โทรมา 3-4 ครั้ง บอกให้ตนเองยอมรับผิดนั้น เป็นการให้ยอมรับในสิ่งที่ไม่ได้ทำ ตนเองเป็นคนตรง ๆ ผิดก็ยอมรับผิด แต่หากไม่ผิด ก็ไม่ยอม เรื่องที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ที่ไม่ออกมาพูด เพราะได้พูดไปหมดแล้วตั้งแต่วันแรกที่แถลงข่าวกับสื่อมวลชน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000117542

    #MGROnline #ฟิล์มรัฐภูมิ #หนุ่มกรรชัย
    "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ยันให้การปฏิเสธทั้งข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท ย้อน "หนุ่ม กรรชัย" ไม่ได้ทำผิดจะให้ยอมรับได้ยังไง มั่นใจว่าไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดี ที่ผ่านมาใช้ชีวิตบนทางที่ถูกต้องเสมอ • วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก) เมื่อเวลา 16.00 น. นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" อดีต ดารานักร้องชื่อดัง กล่าวภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำคดี "ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท" จากกรณีคลิปเสียงร่วมกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช เรียกรับเงินจาก บอสบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 20 ล้านบาท และหมิ่นประมาท "หนุ่ม กรรชัย" พิธีกรรายการโหนกระแสว่า เบื้องต้นถูกแจ้ง 2 ข้อหา คือพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท "หนุ่ม กรรชัย" โดยตนเองให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนก็จะนัดให้มารายงานตัวอีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้ ทั้งนี้ขอชี้แจงถึงประเด็นต่าง ๆ ว่า ที่ก่อนหน้านี้ "หนุ่ม กรรชัย" โทรมา 3-4 ครั้ง บอกให้ตนเองยอมรับผิดนั้น เป็นการให้ยอมรับในสิ่งที่ไม่ได้ทำ ตนเองเป็นคนตรง ๆ ผิดก็ยอมรับผิด แต่หากไม่ผิด ก็ไม่ยอม เรื่องที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ที่ไม่ออกมาพูด เพราะได้พูดไปหมดแล้วตั้งแต่วันแรกที่แถลงข่าวกับสื่อมวลชน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000117542 • #MGROnline #ฟิล์มรัฐภูมิ #หนุ่มกรรชัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 954 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่งคลิปเสียง 6 ชม.คดีเจ๊พัช แตะข้าราชการ สคบ. 02/12/67 #คดีเจ๊พัช #กฤษอนงค์ #ข้าราชการ #สคบ.
    ส่งคลิปเสียง 6 ชม.คดีเจ๊พัช แตะข้าราชการ สคบ. 02/12/67 #คดีเจ๊พัช #กฤษอนงค์ #ข้าราชการ #สคบ.
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1443 มุมมอง 62 0 รีวิว
  • ทนาย "บอสพอล" โร่แจ้งความดำเนินคดี "ทนายตั้ม" ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ กรณีเรียกรับเงิน7.5 ล้านบาท พร้อมอวยพร "ฟิล์มรัฐภูมิ" ขอให้โชคดี”

    วันนี้ (2 ธ.ค. ) ที่ กองปราบปราม นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ได้นำบันทึกที่มีการถอดไฟล์เสียง 6 ชั่วโมง มามอบให้พนักงานสอบสวน ใช้เป็นหลักฐานกรณีของ น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช เรียกรับสินบนจากบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่า มีประโยคไหนที่เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป หรือเข้าข่ายคดีอื่นอีกหรือไม่ โดยไฟล์เสียงดังกล่าวยังมีการพาดพิงว่าจะสามารถเคลียร์กับหน่วยงานราชการที่กำกับดูแลบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปอยู่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับผู้อำนวยการอีกด้วย

    นอกจากนี้ยังมีการอ้างถึงอีกหนึ่งหน่วยงาน คือ ดีเอสไอ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าบุคคลสำคัญที่ถูกนำมาอ้างชื่อเป็นบุคคลใดบ้าง มีถึง 10 คนหรือไม่ นายวิฑูรย์ ระบุว่าไม่ถึง 10 คน แต่มีจำนวนหลายคนที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งหลายคนได้มีการเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000115988

    #MGROnline #บอสพอล #ทนายตั้ม #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup
    ทนาย "บอสพอล" โร่แจ้งความดำเนินคดี "ทนายตั้ม" ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ กรณีเรียกรับเงิน7.5 ล้านบาท พร้อมอวยพร "ฟิล์มรัฐภูมิ" ขอให้โชคดี” • วันนี้ (2 ธ.ค. ) ที่ กองปราบปราม นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ได้นำบันทึกที่มีการถอดไฟล์เสียง 6 ชั่วโมง มามอบให้พนักงานสอบสวน ใช้เป็นหลักฐานกรณีของ น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช เรียกรับสินบนจากบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่า มีประโยคไหนที่เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป หรือเข้าข่ายคดีอื่นอีกหรือไม่ โดยไฟล์เสียงดังกล่าวยังมีการพาดพิงว่าจะสามารถเคลียร์กับหน่วยงานราชการที่กำกับดูแลบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปอยู่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับผู้อำนวยการอีกด้วย • นอกจากนี้ยังมีการอ้างถึงอีกหนึ่งหน่วยงาน คือ ดีเอสไอ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าบุคคลสำคัญที่ถูกนำมาอ้างชื่อเป็นบุคคลใดบ้าง มีถึง 10 คนหรือไม่ นายวิฑูรย์ ระบุว่าไม่ถึง 10 คน แต่มีจำนวนหลายคนที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งหลายคนได้มีการเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000115988 • #MGROnline #บอสพอล #ทนายตั้ม #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร เตรียมปั้น ตำรวจอินฟลู มาต่อสู้คนเลว
    บิ๊กต่าย ผบ.ตร ได้รับเสียงสรรเสริญจากตํารวจทั้งประเทศ ในการแถลง สิบห้านโยบายหลักของสํานักงานตํารวจแห่งชาติโดยให้ตํารวจทั้งหมดปฏิบัติตามนโยบายอย่างเร่งด่วนประกอบด้วย
    ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนmindsetให้ตํารวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ให้รางวัลแก่ตํารวจน้ําดี และลงโทษตํารวจเลว พัฒนางานสถานีตํารวจ แก้ไขปัญหางานสอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง สร้างเสริมวินัยจราจร ทํางานเชิงรุกด้านการข่าว ประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรเป็นต้น
    ซึ่ง ข้อหนึ่งที่สร้างความฮือฮาก็คือให้ผู้บัญชาการหรือผู้บังคับการ จะต้องเป็น influencerด้วยตนเอง เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันต้องบอกว่าถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ตํารวจจะต้องเป็น influ เองสักทีเพราะที่ผ่านมา influ สายกฎหมายสายสังคม กลับมาก่อคดีอาญาต่างๆนานาเสียเอง อย่างทนายตั้มที่กลายร่างเป็นทนายต้ม สร้างภาพหลอกลวงสังคมปกปิดความสกปรกชั่วร้ายที่ซ่อนไว้อย่างแนบเนียน เอกสายไหม ต้องรอด โดนคดีปั่นข่าวเท็จดีไอคอน ด้วยวัตถุประสงค์ลึกลับอะไรสักอย่าง ฟิล์มรัฐภูมิ จ่อถูกดําเนินคดีข้อหาพยายามตบทรัพย์ดิไอคอน แกนนําต้านโกงอย่างเจ๊พัฒน์ กิจอนงค์ สุดท้ายมาโดนคดีตบทรัพย์เสียเอง
    ตัวอย่างเหล่านี้เป็นความพิกลพิการของสังคมไทย ลงภาพลักษณ์ของคนที่ไม่สะอาดจริงปล่อยให้มายึดหัวหาดเป็นอินฟลูเอนเซอร์เพราะฉะนั้นจึงเป็นโอกาสเหมาะสมที่องค์กรตํารวจยุคบิ๊กต่าย จะผลักดันคนดีคนเก่งในสํานักงานตํารวจแห่งชาติขึ้นมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์เอง เพื่อคานอํานาจอินฟลูปลอมๆ ทั้งหลาย
    อย่างน้อยตํารวจเก่าสองคนก็ผลักดันตัวเองสําเร็จจนผงาดเป็นอินฟลูชื่อดัง เวลาพูดถึงประเด็นปัญหาใดๆจะมีน้ําหนักน่าเชื่อถือ ซึ่งก็คือ อาเรย์วัด และผู้การแต้มหรือมือปราบหูดํา 2 คนนี้ให้ความจริงทุกเรื่องอย่างไม่ไว้หน้าใคร
    ในความเป็นอินฟลู ผู้การแต้ม มีจุดยืนชัดเจนไม่หิวแสงการจะไปออกรายการแต่ละทียังเลือกคนร่วมรายการเช่นไม่ยอมไปออกทีวี กับ นายสิธาเบี้ยบังเกิด อย่างเด็ดขาดจนเป็นที่รู้กันว่ารายการใดมีพู่กันแต้มต้องไม่มีทนายตั้ม ส่วนอาเรย์วัดเป็นอินฟูในสายเฮฮาบู๊ล้างผลาญ ต้องติดตามกันต่อไปว่าตํารวจในเครื่องแบบคนใดจะประสบความสําเร็จตามนโยบายนี้ของบิ๊กต่าย ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ผบ.ตร เตรียมปั้น ตำรวจอินฟลู มาต่อสู้คนเลว บิ๊กต่าย ผบ.ตร ได้รับเสียงสรรเสริญจากตํารวจทั้งประเทศ ในการแถลง สิบห้านโยบายหลักของสํานักงานตํารวจแห่งชาติโดยให้ตํารวจทั้งหมดปฏิบัติตามนโยบายอย่างเร่งด่วนประกอบด้วย ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนmindsetให้ตํารวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ให้รางวัลแก่ตํารวจน้ําดี และลงโทษตํารวจเลว พัฒนางานสถานีตํารวจ แก้ไขปัญหางานสอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง สร้างเสริมวินัยจราจร ทํางานเชิงรุกด้านการข่าว ประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรเป็นต้น ซึ่ง ข้อหนึ่งที่สร้างความฮือฮาก็คือให้ผู้บัญชาการหรือผู้บังคับการ จะต้องเป็น influencerด้วยตนเอง เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันต้องบอกว่าถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ตํารวจจะต้องเป็น influ เองสักทีเพราะที่ผ่านมา influ สายกฎหมายสายสังคม กลับมาก่อคดีอาญาต่างๆนานาเสียเอง อย่างทนายตั้มที่กลายร่างเป็นทนายต้ม สร้างภาพหลอกลวงสังคมปกปิดความสกปรกชั่วร้ายที่ซ่อนไว้อย่างแนบเนียน เอกสายไหม ต้องรอด โดนคดีปั่นข่าวเท็จดีไอคอน ด้วยวัตถุประสงค์ลึกลับอะไรสักอย่าง ฟิล์มรัฐภูมิ จ่อถูกดําเนินคดีข้อหาพยายามตบทรัพย์ดิไอคอน แกนนําต้านโกงอย่างเจ๊พัฒน์ กิจอนงค์ สุดท้ายมาโดนคดีตบทรัพย์เสียเอง ตัวอย่างเหล่านี้เป็นความพิกลพิการของสังคมไทย ลงภาพลักษณ์ของคนที่ไม่สะอาดจริงปล่อยให้มายึดหัวหาดเป็นอินฟลูเอนเซอร์เพราะฉะนั้นจึงเป็นโอกาสเหมาะสมที่องค์กรตํารวจยุคบิ๊กต่าย จะผลักดันคนดีคนเก่งในสํานักงานตํารวจแห่งชาติขึ้นมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์เอง เพื่อคานอํานาจอินฟลูปลอมๆ ทั้งหลาย อย่างน้อยตํารวจเก่าสองคนก็ผลักดันตัวเองสําเร็จจนผงาดเป็นอินฟลูชื่อดัง เวลาพูดถึงประเด็นปัญหาใดๆจะมีน้ําหนักน่าเชื่อถือ ซึ่งก็คือ อาเรย์วัด และผู้การแต้มหรือมือปราบหูดํา 2 คนนี้ให้ความจริงทุกเรื่องอย่างไม่ไว้หน้าใคร ในความเป็นอินฟลู ผู้การแต้ม มีจุดยืนชัดเจนไม่หิวแสงการจะไปออกรายการแต่ละทียังเลือกคนร่วมรายการเช่นไม่ยอมไปออกทีวี กับ นายสิธาเบี้ยบังเกิด อย่างเด็ดขาดจนเป็นที่รู้กันว่ารายการใดมีพู่กันแต้มต้องไม่มีทนายตั้ม ส่วนอาเรย์วัดเป็นอินฟูในสายเฮฮาบู๊ล้างผลาญ ต้องติดตามกันต่อไปว่าตํารวจในเครื่องแบบคนใดจะประสบความสําเร็จตามนโยบายนี้ของบิ๊กต่าย ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1456 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายชื่อบุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย ที่ต้องการให้ยุติการฉีดวัคซีนโควิด19 มีดังนี้
    1.ศ.ดร.สุจริต (บุณยรัตพันธุ์)ภักดี
    2.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    3.อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    4.ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    5.หมอเดชา ศิริภัทร
    6.นพ.มนตรี เศรษฐบุตร
    7.นพ.ทวีศักดิ์ เนตรวงศ์
    8.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ
    9.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา
    10.ทพญ.เพ็ญนภา คณิตจินดา
    11.ทพ.วัลลภ ธีรเวชกุล
    12.พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์
    13.พญ.ภูสณิตา วิเศษปุณรัตน์
    14.นพ.สำลี เปลี่ยนบางช้าง
    15.พญ.สุภาพร มีลาภ
    16.นพ.วัลลภ ธนเกียรติ์
    17.ผศ.พญ.นิลรัตน์ นฤหล้า
    18.นพ.วีระพล มงคลกุล
    19.ศ.นพ.อมร เปรมกมล
    20.ทพ.เกริกพันธุ์ ทองดี​
    21.นพ.อลงกรณ์ ชุตินันท์
    22.พญ.นรากร ลีปรีชานนท์
    23.ทพ.เกรียง​ศักดิ์​ ลือ​กำลัง
    24.พญ.​นวลอนงค์​ ลือ​กำลัง
    25.นพ.ภาคภูมิ สุปิยพันธ์
    26.ทพญ.อัมพา ทองดี
    27.นพ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงษ์
    28.พญ.รัสรินทร์ กาญจนศศิศิลป์
    29.พญ.ทิตยาวดี สัมพันธารักษ์
    30.ทพญ.สรินภรณ์ ธีรเวชกุล
    31.นพ.ภาสิน เหมะจุฑา
    32.แพทย์แผนจีนไกร บารมีเสริมส่ง
    33.พท.กนกนุช​ ชิตวัฒนานนท์
    34.พท.วิชากร จันทรโคตร
    35.พท.วัชรธน อภิเลิศโสภณ
    36.พท.มณฑล ภัทรภักดีกุล
    37.พท.ปภาน ชัยเกษมวรากุล
    38.พท.สุมนัสสา วาจรัต
    39.พท.นิสิริน ลอสวัสดิ์
    40.พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช
    41.ทนพ.ชัยศรี เลิศวิทยากูล
    42.พว.ณัฐชฎา สมบูรณ์สุข
    43.พว.ณัฐชฎา สมบูรณ์สุข
    44.พว.ปาหนัน หวนไธสง
    45.พว.บัวบาน อาชาศรัย
    46.พว.ศิริรัตน์ คำไข
    47.พว.วรนุชนันท์ ลภัสสุปภานันท์
    48.พว.สุภรณ์ บุหลัน
    49.พว.พิกุล เขื่อนคำ
    50.ร.ต.พิลาสินี พันทองหลาง (นายทหารกายภาพบำบัด)
    51.ภกญ.พรรณราย ชัยชมภู
    52.ภก.วีรรัตน์ อภิวัฒนเสวี​
    53.ภก.นชน มาตรชัยสิงห์
    54.ภก.พัชราถรณ์ กาญจนบัตร
    55.ภญ.พิรุณ​รัตน์​ เขื่อน​แก้ว
    56.ภญ.วรณัน เกิดม่วงหมู่​
    57.อสม.วิจิตรา จันทร์สม
    58.ผู้ช่วยพยาบาลนพนันท์ จิตรตรง
    59.รุ่งทิพย์ อาจารยา
    60.เสียงเงิน สอนเย็น
    61.จินตนา เดชศร
    62.นวลละออ ศิโรรัตน์
    63.มริยาท สารทอง
    64.โชติกา ไทยฤทธิ์
    65.เพนนี แจนส์ซ
    66.พระอาจารย์พระมหาขวัญชัย อัคคชโย
    67.ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ
    68.ดร.ธิดารัตน์ เอกศิริ
    69.ดร.ภัทราภรณ์ พิมลไทย
    70.ผศ.ดร.ศรัณยา สุจริตกุล
    71.คุณโฉลก สัมพันธารักษ์
    72.คุณNatalie Proenca
    73.มล.รุ่งคุณ กิติยากร
    74.คุณอดิเทพ จาวลาห์
    และรายชื่อประชาชน(ข้อมูลต้นปี2566)จากลิงค์ต่อไปนี้ https://docs.google.com/.../1h1cE4qaAs062q.../edit...
    ร่วมลงชื่อเพิ่มเติมในแบบฟอร์มลิงก์ต่อไปนี้ https://forms.gle/LhtATTMenVmASZVH7
    รวบรวมโดย แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    รายชื่อบุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย ที่ต้องการให้ยุติการฉีดวัคซีนโควิด19 มีดังนี้ 1.ศ.ดร.สุจริต (บุณยรัตพันธุ์)ภักดี 2.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง 3.อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ 4.ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา 5.หมอเดชา ศิริภัทร 6.นพ.มนตรี เศรษฐบุตร 7.นพ.ทวีศักดิ์ เนตรวงศ์ 8.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ 9.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา 10.ทพญ.เพ็ญนภา คณิตจินดา 11.ทพ.วัลลภ ธีรเวชกุล 12.พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์ 13.พญ.ภูสณิตา วิเศษปุณรัตน์ 14.นพ.สำลี เปลี่ยนบางช้าง 15.พญ.สุภาพร มีลาภ 16.นพ.วัลลภ ธนเกียรติ์ 17.ผศ.พญ.นิลรัตน์ นฤหล้า 18.นพ.วีระพล มงคลกุล 19.ศ.นพ.อมร เปรมกมล 20.ทพ.เกริกพันธุ์ ทองดี​ 21.นพ.อลงกรณ์ ชุตินันท์ 22.พญ.นรากร ลีปรีชานนท์ 23.ทพ.เกรียง​ศักดิ์​ ลือ​กำลัง 24.พญ.​นวลอนงค์​ ลือ​กำลัง 25.นพ.ภาคภูมิ สุปิยพันธ์ 26.ทพญ.อัมพา ทองดี 27.นพ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงษ์ 28.พญ.รัสรินทร์ กาญจนศศิศิลป์ 29.พญ.ทิตยาวดี สัมพันธารักษ์ 30.ทพญ.สรินภรณ์ ธีรเวชกุล 31.นพ.ภาสิน เหมะจุฑา 32.แพทย์แผนจีนไกร บารมีเสริมส่ง 33.พท.กนกนุช​ ชิตวัฒนานนท์ 34.พท.วิชากร จันทรโคตร 35.พท.วัชรธน อภิเลิศโสภณ 36.พท.มณฑล ภัทรภักดีกุล 37.พท.ปภาน ชัยเกษมวรากุล 38.พท.สุมนัสสา วาจรัต 39.พท.นิสิริน ลอสวัสดิ์ 40.พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช 41.ทนพ.ชัยศรี เลิศวิทยากูล 42.พว.ณัฐชฎา สมบูรณ์สุข 43.พว.ณัฐชฎา สมบูรณ์สุข 44.พว.ปาหนัน หวนไธสง 45.พว.บัวบาน อาชาศรัย 46.พว.ศิริรัตน์ คำไข 47.พว.วรนุชนันท์ ลภัสสุปภานันท์ 48.พว.สุภรณ์ บุหลัน 49.พว.พิกุล เขื่อนคำ 50.ร.ต.พิลาสินี พันทองหลาง (นายทหารกายภาพบำบัด) 51.ภกญ.พรรณราย ชัยชมภู 52.ภก.วีรรัตน์ อภิวัฒนเสวี​ 53.ภก.นชน มาตรชัยสิงห์ 54.ภก.พัชราถรณ์ กาญจนบัตร 55.ภญ.พิรุณ​รัตน์​ เขื่อน​แก้ว 56.ภญ.วรณัน เกิดม่วงหมู่​ 57.อสม.วิจิตรา จันทร์สม 58.ผู้ช่วยพยาบาลนพนันท์ จิตรตรง 59.รุ่งทิพย์ อาจารยา 60.เสียงเงิน สอนเย็น 61.จินตนา เดชศร 62.นวลละออ ศิโรรัตน์ 63.มริยาท สารทอง 64.โชติกา ไทยฤทธิ์ 65.เพนนี แจนส์ซ 66.พระอาจารย์พระมหาขวัญชัย อัคคชโย 67.ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ 68.ดร.ธิดารัตน์ เอกศิริ 69.ดร.ภัทราภรณ์ พิมลไทย 70.ผศ.ดร.ศรัณยา สุจริตกุล 71.คุณโฉลก สัมพันธารักษ์ 72.คุณNatalie Proenca 73.มล.รุ่งคุณ กิติยากร 74.คุณอดิเทพ จาวลาห์ และรายชื่อประชาชน(ข้อมูลต้นปี2566)จากลิงค์ต่อไปนี้ https://docs.google.com/.../1h1cE4qaAs062q.../edit... ร่วมลงชื่อเพิ่มเติมในแบบฟอร์มลิงก์ต่อไปนี้ https://forms.gle/LhtATTMenVmASZVH7 รวบรวมโดย แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1397 มุมมอง 0 รีวิว
  • MGR Online - ทนายวิฑูรย์ เผยมาเข้าเยี่ยม "บอสพอล" ในเรือนจำฯ เซ็นมอบอำนาจดำเนินคดี "เจ๊พัช-ฟิล์ม" ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง เรียกรับเงิน 20 ล.

    วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 11.00 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมลูกความ ว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นเอกสารมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "เจ๊พัช" และ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม" หลังปรากฏคลิปเสียงจ่ายเงิน 20 ล้านบาท ออกรายการดัง หากเอกสารเสร็จสิ้นทันวันนี้จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทันที

    นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนข้อหากำลังพิจารณา คือ พยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายมีความเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า แต่ทางตำรวจชี้แจงว่าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัย จะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัทฯ ตามในไฟล์คลิปเสียง โดยทาง บอสปัน พูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนาม บริษัท ดิไอคอน ที่เป็นผู้เสียหาย นอกจากนี้ ในส่วนคดีหมิ่นประมาทของ “หนุ่ม กรรชัย” เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน ทั้งนี้ จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

    นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ทีมทนายความเข้าแจ้งความพร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ มีการแจ้งข้อหา หมิ่นประมาณ , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันให้การเท็จ ส่วนประเด็น น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ หลังแอบอ้างชื่อก็แยกเป็นอีกเรื่อง ช่วงเกิดระหว่าง มิ.ย.-ก.ค. คนละเหตุการณ์กับรายการข่าวดัง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000111215

    #MGROnline #กฤษอนงค์ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    MGR Online - ทนายวิฑูรย์ เผยมาเข้าเยี่ยม "บอสพอล" ในเรือนจำฯ เซ็นมอบอำนาจดำเนินคดี "เจ๊พัช-ฟิล์ม" ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง เรียกรับเงิน 20 ล. • วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 11.00 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมลูกความ ว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นเอกสารมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "เจ๊พัช" และ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม" หลังปรากฏคลิปเสียงจ่ายเงิน 20 ล้านบาท ออกรายการดัง หากเอกสารเสร็จสิ้นทันวันนี้จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทันที • นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนข้อหากำลังพิจารณา คือ พยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายมีความเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า แต่ทางตำรวจชี้แจงว่าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัย จะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัทฯ ตามในไฟล์คลิปเสียง โดยทาง บอสปัน พูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนาม บริษัท ดิไอคอน ที่เป็นผู้เสียหาย นอกจากนี้ ในส่วนคดีหมิ่นประมาทของ “หนุ่ม กรรชัย” เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน ทั้งนี้ จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ • นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ทีมทนายความเข้าแจ้งความพร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ มีการแจ้งข้อหา หมิ่นประมาณ , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันให้การเท็จ ส่วนประเด็น น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ หลังแอบอ้างชื่อก็แยกเป็นอีกเรื่อง ช่วงเกิดระหว่าง มิ.ย.-ก.ค. คนละเหตุการณ์กับรายการข่าวดัง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000111215 • #MGROnline #กฤษอนงค์ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1604 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ หลังจากที่ “อุ๋ย บุดดาเบลส” นที เอกวิจิตร ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าเพิ่งรู้ว่า “8 ปีที่แล้วคนที่ร้องเรียนให้ผมเปลี่ยนชื่อเพลงเพื่อนหายเพราะขายตรงก็คือเจ๊พัชนี่เอง มิน่าหน้าโคตรคุ้น”

    อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) รายการกรรมกรข่าวนอกจอ โดย “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” และ “ไบรท์ พัชญทัฬห์” ได้เล่าย้อนไป เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 59 “อุ๋ย บุดดาเบลด” และเพื่อนสนิท “ซัว โปรโตซัว” ได้มาร้องเพลงโปรโมตในรายการชื่อเพลงว่า “เพื่อนหายเพราะขายตรง” ซึ่งเนื้อหาเล่าเรื่องขายตรง เพื่อนหดหาย การปลุกใจ ชักชวนว่านั่งนับเงินจนตาลาย ขยันผิดที่ มาอยู่เครือข่ายเดียวกับพี่ จะได้ขับลัมโบกินี่ ได้เที่ยวเมืองนอกฟรีๆ ซึ่งเป็นเพลงเมื่อ 8 ปีก่อน

    โดยในตอนนั้นอุ๋ย ถูก “เจ๊พัช กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ที่กำลังถูกออกหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหากรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน ถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านคลอง 5 จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนั้นอยู่ในแวดวงขายตรง ได้โพสต์เฟซบุ๊กฟาดทำนองว่าทำแบบนี้มันเสียหาย กระทบอาชีพขายตรง เข้าใจว่าเนื้อเพลงเปลี่ยนยาก แต่ขอเปลี่ยนชื่อเพลงได้ไหม ทุกอาชีพมีทั้งดีและไม่ดีถ้าจะแต่งเพลงเอ่ยอาชีพคนอื่น ช่วยแต่งมุมดีๆ ของขายตรงบ้าง รวมทั้งมีการประท้วงล่ารายชื่อเรียกร้องให้อุ๋ย หยุดด้อยค่าอาชีพขายตรง เพราะมีทั้งคนดีและไม่ดี

    ในเวลานั้น อุ๋ย ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ที่ได้ให้กำลังใจ ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อจะรับไปพิจารณา ส่วนที่ถูกเจ๊พัชด่าเลวให้อภัย ถ้าท้อเป็นแค่ถ่าน ถ้าผ่านได้ผมจะเป็นเพชร

    ซึ่งต่อมา อุ๋ย ก็ได้เปลี่ยนชื่อเพลงดังกล่าวเป็น “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม” แทน ซึ่งสรยุทธเผยว่าโลกเราอะไรมันจะกลมขนาดนี้ ยกให้เป็นผู้มาก่อนกาลเลยทีเดียว

    #MGROnline #อุ๋ยบุดดาเบลส #เจ๊พัช
    กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ หลังจากที่ “อุ๋ย บุดดาเบลส” นที เอกวิจิตร ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าเพิ่งรู้ว่า “8 ปีที่แล้วคนที่ร้องเรียนให้ผมเปลี่ยนชื่อเพลงเพื่อนหายเพราะขายตรงก็คือเจ๊พัชนี่เอง มิน่าหน้าโคตรคุ้น” • อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) รายการกรรมกรข่าวนอกจอ โดย “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” และ “ไบรท์ พัชญทัฬห์” ได้เล่าย้อนไป เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 59 “อุ๋ย บุดดาเบลด” และเพื่อนสนิท “ซัว โปรโตซัว” ได้มาร้องเพลงโปรโมตในรายการชื่อเพลงว่า “เพื่อนหายเพราะขายตรง” ซึ่งเนื้อหาเล่าเรื่องขายตรง เพื่อนหดหาย การปลุกใจ ชักชวนว่านั่งนับเงินจนตาลาย ขยันผิดที่ มาอยู่เครือข่ายเดียวกับพี่ จะได้ขับลัมโบกินี่ ได้เที่ยวเมืองนอกฟรีๆ ซึ่งเป็นเพลงเมื่อ 8 ปีก่อน • โดยในตอนนั้นอุ๋ย ถูก “เจ๊พัช กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ที่กำลังถูกออกหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหากรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน ถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านคลอง 5 จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนั้นอยู่ในแวดวงขายตรง ได้โพสต์เฟซบุ๊กฟาดทำนองว่าทำแบบนี้มันเสียหาย กระทบอาชีพขายตรง เข้าใจว่าเนื้อเพลงเปลี่ยนยาก แต่ขอเปลี่ยนชื่อเพลงได้ไหม ทุกอาชีพมีทั้งดีและไม่ดีถ้าจะแต่งเพลงเอ่ยอาชีพคนอื่น ช่วยแต่งมุมดีๆ ของขายตรงบ้าง รวมทั้งมีการประท้วงล่ารายชื่อเรียกร้องให้อุ๋ย หยุดด้อยค่าอาชีพขายตรง เพราะมีทั้งคนดีและไม่ดี • ในเวลานั้น อุ๋ย ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ที่ได้ให้กำลังใจ ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อจะรับไปพิจารณา ส่วนที่ถูกเจ๊พัชด่าเลวให้อภัย ถ้าท้อเป็นแค่ถ่าน ถ้าผ่านได้ผมจะเป็นเพชร • ซึ่งต่อมา อุ๋ย ก็ได้เปลี่ยนชื่อเพลงดังกล่าวเป็น “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม” แทน ซึ่งสรยุทธเผยว่าโลกเราอะไรมันจะกลมขนาดนี้ ยกให้เป็นผู้มาก่อนกาลเลยทีเดียว • #MGROnline #อุ๋ยบุดดาเบลส #เจ๊พัช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1042 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจกองปราบควบคุมตัว "เจ๊พัช" ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตฯ พร้อมคัดค้านประกันตัว ด้านเจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย ปัดตอบคำถามสื่อ•วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้คุมตัว น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ผู้ต้องหาคดี “กรรโชกทรัพย์” และ “ตัวการเรียกรับสินบน” จากกรณีแอบอ้างเรียกเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 7.5 แสนบาท ขึ้นรถตู้ของ บก.ป. เพื่อไปทำการฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยท้ายคำร้องได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน•ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหา น.ส.กฤษอนงค์ มีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามในทุกประเด็น•#MGROnline #เจ๊พัช
    ตำรวจกองปราบควบคุมตัว "เจ๊พัช" ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตฯ พร้อมคัดค้านประกันตัว ด้านเจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย ปัดตอบคำถามสื่อ•วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้คุมตัว น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ผู้ต้องหาคดี “กรรโชกทรัพย์” และ “ตัวการเรียกรับสินบน” จากกรณีแอบอ้างเรียกเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 7.5 แสนบาท ขึ้นรถตู้ของ บก.ป. เพื่อไปทำการฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยท้ายคำร้องได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน•ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหา น.ส.กฤษอนงค์ มีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามในทุกประเด็น•#MGROnline #เจ๊พัช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 946 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดมูลเหตุสุดพีค!ที่มาหมายจับ"กฤษอนงค์"ทำไม?ต้องเป็นศาลอาญาทุจริตฯ 16/11/67 #กฤษอนงค์ #เจ๊พัช #กรรโชกทรัพย์ #ดิไอคอน
    เปิดมูลเหตุสุดพีค!ที่มาหมายจับ"กฤษอนงค์"ทำไม?ต้องเป็นศาลอาญาทุจริตฯ 16/11/67 #กฤษอนงค์ #เจ๊พัช #กรรโชกทรัพย์ #ดิไอคอน
    Like
    Haha
    Love
    14
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2023 มุมมอง 129 1 รีวิว
  • หวยออกแล้ว!ศาลอนุมัติหมายจับ “เจ๊พัช กฤษอนงค์” 2 ข้อหาหนัก! 16/11/67 #กฤษอนงค์ #เจ๊พัช #กรรโชกทรัพย์ #ดิไอคอน
    หวยออกแล้ว!ศาลอนุมัติหมายจับ “เจ๊พัช กฤษอนงค์” 2 ข้อหาหนัก! 16/11/67 #กฤษอนงค์ #เจ๊พัช #กรรโชกทรัพย์ #ดิไอคอน
    Like
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2022 มุมมอง 108 1 รีวิว
  • "จิราพร" ส่งทนายเชือด "กฤษอนงค์" 2 ข้อหา (15/11/67) #news1 #รมต.จิราพร #เชือดกฤษอนงค์
    "จิราพร" ส่งทนายเชือด "กฤษอนงค์" 2 ข้อหา (15/11/67) #news1 #รมต.จิราพร #เชือดกฤษอนงค์
    Like
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2487 มุมมอง 253 1 รีวิว
  • "รัฐมนตรีน้ำ" ส่งทนายแจ้งความดำเนินคดี "กฤษอนงค์"อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่มบอสดิไอคอนกรุ๊ป ยันไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000110134

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "รัฐมนตรีน้ำ" ส่งทนายแจ้งความดำเนินคดี "กฤษอนงค์"อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่มบอสดิไอคอนกรุ๊ป ยันไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000110134 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2268 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใกล้ออกหมายจับเต็มที บิ๊กเต่าหวั่น นักร้องสาวหลบหนี 15/11/67 #นักร้อง ก. #กฤษอนงค์ #คดีตบทรัพย์ #บอสพอล
    ใกล้ออกหมายจับเต็มที บิ๊กเต่าหวั่น นักร้องสาวหลบหนี 15/11/67 #นักร้อง ก. #กฤษอนงค์ #คดีตบทรัพย์ #บอสพอล
    Like
    Love
    19
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2238 มุมมอง 163 0 รีวิว
  • "เจ๊พัช"แจงคลิปอ้าง รมต.แค่ประสานงานโครงการ 15/11/67 #เจ๊พัช #พ่อรัฐมนตรีน้ำ #กฤษอนงค์ #ดิไอคอน #บอสพอล
    "เจ๊พัช"แจงคลิปอ้าง รมต.แค่ประสานงานโครงการ 15/11/67 #เจ๊พัช #พ่อรัฐมนตรีน้ำ #กฤษอนงค์ #ดิไอคอน #บอสพอล
    Like
    Haha
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2043 มุมมอง 118 0 รีวิว
  • "ทนายบอส" ช็อก! คลิป "กฤษอนงค์"อ้าง รมต.น้ำ ให้คุม สคบ. (14/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ทีมตบทรัพย์ #สคบ. #ดิไอค่อน #คลิปเสียงตบทรัพย์
    "ทนายบอส" ช็อก! คลิป "กฤษอนงค์"อ้าง รมต.น้ำ ให้คุม สคบ. (14/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ทีมตบทรัพย์ #สคบ. #ดิไอค่อน #คลิปเสียงตบทรัพย์
    Like
    Haha
    Yay
    Sad
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2631 มุมมอง 252 0 รีวิว
  • ชีวิตพระเอกฟิล์มรัฐภูมิ เดินมาถึงวันชี้ชะตาที่ดูแล้ว อนาคตของอดีตนักแสดงคนนี้คงจะจบไม่สวย เขาเป็นคนดัง ที่เดิมพันชีวิตแบบกล้าได้กล้าเสียแล้วผลออกมาคือ เสีย หวังรวยทางลัด หนุ่มกรรชัยซึ่งถือเป็นผู้เสียหายอย่างแรงจากการถูกฟิล์มแอบอ้างชื่อไปตบทรัพย์20 ล้านจากบอสปันแห่งดิไอคอน ที่น่าแปลกใจฟิล์มมาจับคู่ดูโอ้กับนักร้องเรียนหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเสียงพูดในคลิปลับฟังละม้ายคล้าย เจ๊ภัทร กิจอนงค์ ซึ่งเจ๊แกเองก็จ่อจะโดนคดีตบทรัพย์ดิไอคอนอยู่ก่อนแล้ว จึงทำให้ทั้งสองคนกลายสภาพจากฝ่ายผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่าโดยไม่รู้ตัว โดนบอสปั่นซ้อนแผนอัดเสียงไว้นานถึง29 นาทีครึ่ง คําแถลงคําชี้แจงต่างๆ นานาของฟิล์มมันช่างไร้ตรรกะเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่านฟังไม่ขึ้นอย่างสิ้นเชิง งานนี้นอกจากจะถูกหนุ่มกรรชัยดําเนินคดีแล้ว ฟิล์มรัฐภูมิอาจจะโดนคดีจุกจุกฉ่ําฉ่ําจากฝ่ายบอสพอล
    หากย้อนประวัติไปจะเห็นว่าฟิล์มเป็นซุปตาร์ที่มีพฤติกรรมล่อแหลมมาหลายครั้งเขาเป็นพระเอกก็แค่ในจอแต่นอกจอออกจะมอมแมมเปรอะเปื้อน เขาเคยถูกเปิดโปงถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งนานนับปีกับเสี่ยอู๊ดเซียนพระคนดัง ตอนนั้นเป็นข่าวฮือฮามาก ตอนนั้นเสี่ยอู๊ดคลั่งรักไปหนักๆ ให้ฟิล์มทั้งไถ่ถอนบ้านให้พ่อแม่ฟิล์ม ซื้อรถหรูๆ แพงๆ ปนเปรอให้ฟิล์มโดยเสน่หาจริงๆ แต่ฟิล์มปฏิเสธเขาไม่มีเยื่อใยบอกไม่รู้จักเสี่ยอู๊ด เล่นเอาเสี่ยอู๊ดของขึ้นปล่อยภาพสวีทรัวๆที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันกับฟิล์ม ทำเอาชาวบ้านร้อง อ้าว นี่มันของแทร่นี่หว่า พอชีวิตเสี่ยอู๊ดตกต่ําถึงขั้นติดคุกจากธุรกิจพระเครื่อง ฟิล์มไม่เคยคิดจะไปเยี่ยมดูดําดูดีถือว่าผ่านแล้วผ่านเลย จากนั้นก็เข้าสู่สนามการเมือง เป็นจอมพเนจร ในหลายพรรคไม่ว่าจะพรรคพลังท้องถิ่นไทย พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทยและล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ โดยไม่เคยแจ้งเกิดเป็นส สแม้แต่สมัยเดียวแล้วดันมาก่อคดีตบซับดิไอคอน พรรคพลังประชารัฐของลุงป้อม ซวยเลย กลายเป็นพรรคมาแรงกว่าใครที่ สมาชิกมีทั้งเทวดารับสวยดีไอคอน ทั้ง 18 มงกุฎตบซ้ําดีไอคอน ภาพลักษณ์ติดลบซ้ําๆ กู่ไม่กลับ บรัยกันไปยาวๆๆ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ชีวิตพระเอกฟิล์มรัฐภูมิ เดินมาถึงวันชี้ชะตาที่ดูแล้ว อนาคตของอดีตนักแสดงคนนี้คงจะจบไม่สวย เขาเป็นคนดัง ที่เดิมพันชีวิตแบบกล้าได้กล้าเสียแล้วผลออกมาคือ เสีย หวังรวยทางลัด หนุ่มกรรชัยซึ่งถือเป็นผู้เสียหายอย่างแรงจากการถูกฟิล์มแอบอ้างชื่อไปตบทรัพย์20 ล้านจากบอสปันแห่งดิไอคอน ที่น่าแปลกใจฟิล์มมาจับคู่ดูโอ้กับนักร้องเรียนหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเสียงพูดในคลิปลับฟังละม้ายคล้าย เจ๊ภัทร กิจอนงค์ ซึ่งเจ๊แกเองก็จ่อจะโดนคดีตบทรัพย์ดิไอคอนอยู่ก่อนแล้ว จึงทำให้ทั้งสองคนกลายสภาพจากฝ่ายผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่าโดยไม่รู้ตัว โดนบอสปั่นซ้อนแผนอัดเสียงไว้นานถึง29 นาทีครึ่ง คําแถลงคําชี้แจงต่างๆ นานาของฟิล์มมันช่างไร้ตรรกะเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่านฟังไม่ขึ้นอย่างสิ้นเชิง งานนี้นอกจากจะถูกหนุ่มกรรชัยดําเนินคดีแล้ว ฟิล์มรัฐภูมิอาจจะโดนคดีจุกจุกฉ่ําฉ่ําจากฝ่ายบอสพอล หากย้อนประวัติไปจะเห็นว่าฟิล์มเป็นซุปตาร์ที่มีพฤติกรรมล่อแหลมมาหลายครั้งเขาเป็นพระเอกก็แค่ในจอแต่นอกจอออกจะมอมแมมเปรอะเปื้อน เขาเคยถูกเปิดโปงถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งนานนับปีกับเสี่ยอู๊ดเซียนพระคนดัง ตอนนั้นเป็นข่าวฮือฮามาก ตอนนั้นเสี่ยอู๊ดคลั่งรักไปหนักๆ ให้ฟิล์มทั้งไถ่ถอนบ้านให้พ่อแม่ฟิล์ม ซื้อรถหรูๆ แพงๆ ปนเปรอให้ฟิล์มโดยเสน่หาจริงๆ แต่ฟิล์มปฏิเสธเขาไม่มีเยื่อใยบอกไม่รู้จักเสี่ยอู๊ด เล่นเอาเสี่ยอู๊ดของขึ้นปล่อยภาพสวีทรัวๆที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันกับฟิล์ม ทำเอาชาวบ้านร้อง อ้าว นี่มันของแทร่นี่หว่า พอชีวิตเสี่ยอู๊ดตกต่ําถึงขั้นติดคุกจากธุรกิจพระเครื่อง ฟิล์มไม่เคยคิดจะไปเยี่ยมดูดําดูดีถือว่าผ่านแล้วผ่านเลย จากนั้นก็เข้าสู่สนามการเมือง เป็นจอมพเนจร ในหลายพรรคไม่ว่าจะพรรคพลังท้องถิ่นไทย พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทยและล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ โดยไม่เคยแจ้งเกิดเป็นส สแม้แต่สมัยเดียวแล้วดันมาก่อคดีตบซับดิไอคอน พรรคพลังประชารัฐของลุงป้อม ซวยเลย กลายเป็นพรรคมาแรงกว่าใครที่ สมาชิกมีทั้งเทวดารับสวยดีไอคอน ทั้ง 18 มงกุฎตบซ้ําดีไอคอน ภาพลักษณ์ติดลบซ้ําๆ กู่ไม่กลับ บรัยกันไปยาวๆๆ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1275 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตรียมปราบแก๊งตบทรัพย์ 'บิ๊กเต่า' สอบเข้มทุกกรณี คาดมีบอสโดนไถอีกเพียบ
    .
    มหากาพย์ข่าว The Icon เวลานี้ถือว่าขยายวงไปไกลมาก โดยไม่ได้มีเพียงเฉพาะการเอาผิดกับกลุ่มผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังพบขบวนการตบทรัพย์ของบรรดาของบุคคลที่สวมสูทแสร้งทำตัวเป็นคนดีด้วย โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ที่มีการเรียกรับเงิน นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล
    .
    พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคึบหน้าในการสอบสวนนักตบทรัพย์ว่า กรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่มีการเรียกรับเงินจากบอสพอล จำนวน 300,000 บาท และ 450,000 บาท ซึ่งตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ไปแล้วถึง 80-90% และจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นในส่วนนี้จะเข้าข่ายความผิดกรรโชกทรัพย์ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นหมายเรียกหรือหมายจับ
    .
    บิ๊กเต่า ระบุอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องต่อมาคือเรื่องใหม่ที่ทนายของ นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีระหว่าง น.ส.กฤษอนงค์ กับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ ที่มีการกล่าวอ้างชื่อหนุ่ม กรรชัย และรายการโหนกระแสไปเรียกรับเงินจากบอสปันและบอสพอล จำนวน 20 ล้านบาทนั้น ในส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบของ กก.1 บก.ป. เบื้องต้นในส่วนที่หนุ่ม กรรชัย แจ้งความเอาผิด 2 บุคคลดังกล่าวในข้อหาพยายามฉ้อโกงและหมิ่นประมาท และจากหลักฐานที่ได้มายืนยันว่าคลิปเสียงไม่ได้มีการตัดต่อแต่อย่างใด และขณะนี้ก็ได้มีการประสานทนายบอสพอลเพื่อให้นำหลักฐานต่างๆ มาร้องทุกข์ แจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทนายบอสพอลยืนยันว่าจะดำเนินคดีด้วย และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด
    .
    "คาดว่ายังมีบอสอีกหลายคนที่ถูกกระทำเช่นนี้ แต่ตอนนี้ขอทำเป็นเรื่องๆ ไปก่อน" บิ๊กเต่า ระบุ
    .
    ด้าน นางสาวกฤษอนงค์ ชี้แจงว่า ยอมรับว่าเสียงผู้หญิงในคลิปบันทึกเสียงดังกล่าวเป็นตัวเองจริง แต่คลิปเสียงมีการตัดตอนออกบางช่วง ส่วนจำนวนเงิน 20 ล้านบาทนั้น เป็นค่าแผนงานโครงสร้างธุรกิจ เช่น งบประชาสัมพันธ์, เงินเยียวยาผู้เสียหาย โดยเงินจำนวนนี้เกิดจากพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทดิไอคอน ที่ประเมินมูลค่าแผนงานดังกล่าวมาจากขนาดธุรกิจ
    .
    ไที่ตัวเองตกเป็นเป้าหมายสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน จำนวน 89 คน ให้ได้รับเงินเยียวยา จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่เสียผลประโยชน์มีความแค้น"
    ..............
    Sondhi X
    เตรียมปราบแก๊งตบทรัพย์ 'บิ๊กเต่า' สอบเข้มทุกกรณี คาดมีบอสโดนไถอีกเพียบ . มหากาพย์ข่าว The Icon เวลานี้ถือว่าขยายวงไปไกลมาก โดยไม่ได้มีเพียงเฉพาะการเอาผิดกับกลุ่มผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังพบขบวนการตบทรัพย์ของบรรดาของบุคคลที่สวมสูทแสร้งทำตัวเป็นคนดีด้วย โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ที่มีการเรียกรับเงิน นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล . พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคึบหน้าในการสอบสวนนักตบทรัพย์ว่า กรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่มีการเรียกรับเงินจากบอสพอล จำนวน 300,000 บาท และ 450,000 บาท ซึ่งตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ไปแล้วถึง 80-90% และจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นในส่วนนี้จะเข้าข่ายความผิดกรรโชกทรัพย์ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นหมายเรียกหรือหมายจับ . บิ๊กเต่า ระบุอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องต่อมาคือเรื่องใหม่ที่ทนายของ นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีระหว่าง น.ส.กฤษอนงค์ กับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ ที่มีการกล่าวอ้างชื่อหนุ่ม กรรชัย และรายการโหนกระแสไปเรียกรับเงินจากบอสปันและบอสพอล จำนวน 20 ล้านบาทนั้น ในส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบของ กก.1 บก.ป. เบื้องต้นในส่วนที่หนุ่ม กรรชัย แจ้งความเอาผิด 2 บุคคลดังกล่าวในข้อหาพยายามฉ้อโกงและหมิ่นประมาท และจากหลักฐานที่ได้มายืนยันว่าคลิปเสียงไม่ได้มีการตัดต่อแต่อย่างใด และขณะนี้ก็ได้มีการประสานทนายบอสพอลเพื่อให้นำหลักฐานต่างๆ มาร้องทุกข์ แจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทนายบอสพอลยืนยันว่าจะดำเนินคดีด้วย และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด . "คาดว่ายังมีบอสอีกหลายคนที่ถูกกระทำเช่นนี้ แต่ตอนนี้ขอทำเป็นเรื่องๆ ไปก่อน" บิ๊กเต่า ระบุ . ด้าน นางสาวกฤษอนงค์ ชี้แจงว่า ยอมรับว่าเสียงผู้หญิงในคลิปบันทึกเสียงดังกล่าวเป็นตัวเองจริง แต่คลิปเสียงมีการตัดตอนออกบางช่วง ส่วนจำนวนเงิน 20 ล้านบาทนั้น เป็นค่าแผนงานโครงสร้างธุรกิจ เช่น งบประชาสัมพันธ์, เงินเยียวยาผู้เสียหาย โดยเงินจำนวนนี้เกิดจากพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทดิไอคอน ที่ประเมินมูลค่าแผนงานดังกล่าวมาจากขนาดธุรกิจ . ไที่ตัวเองตกเป็นเป้าหมายสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน จำนวน 89 คน ให้ได้รับเงินเยียวยา จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่เสียผลประโยชน์มีความแค้น" .............. Sondhi X
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1864 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดจ๊อบ "กฤษอนงค์" สัปดาห์นี้ (13/11/67) #news1 #บิ๊กเต่า #ปิดจ๊อบกฤษอนงค์ #ตบทรัพย์
    ปิดจ๊อบ "กฤษอนงค์" สัปดาห์นี้ (13/11/67) #news1 #บิ๊กเต่า #ปิดจ๊อบกฤษอนงค์ #ตบทรัพย์
    Like
    Haha
    Love
    Wow
    43
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2836 มุมมอง 427 3 รีวิว
  • cr: เพลงผ้า ปรพากย์
    หงส์เหมราช (ขอบันทึกไว้อีกบท)
    ( วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ )

    ๏ งามเทพขบวนวรบดิน-..ทรปิ่นพระเกศเมือง
    งามเอยพระงามสิริเมลือง..ยุรยาตรสุพรรณ์หงส์

    ๏ พร่างพราวอร่ามชระเสด็จ..ชุติเพชรสุรีย์ทรง
    ชดช้อยสง่าวรอนงค์..พิศะเจ้าพระยาเย็น

    ๏ พวงพู่เศวตวิมลเผย..สิเสวยพระพายเป็น
    ริ้วริ้วพิลาสคณะบำเพ็ญ..อภิรมย์ยะหยาดยวน

    ๏ พรั่งพร้อมระเบียบและวิทยา..พละกล้าอเนกมวล
    เพลงพายขยับจรขบวน..ดุจะปีกวิหงค์กาง

    ๏ เทินทูนประภัสร์นฤปนาถ..สิริชาติมหาปาง
    พร้อมราชินีสิริสุราง-..คเสด็จสุธาธาร

    ๏ ชื่นชมพระแท่นวิหคเหม..อุระเปรมเกษมศานต์
    ต้องมนต์สะกดหทยปาน..ชลนัยจะหลั่งริน

    ๏ เปล่งบารมีสุตะละออง..ก็สนองกระแสสินธุ์
    ทาบกาญจน์ประสิทธิ์สุรประทิน..อภิวาทพระยาตรา

    ๏ ท่ามพราวประภาสอภิประไพ..สิไสวกระจ่างหล้า
    นวลนวลละอองศุภะลดา..ฉลุเล่าเฉลารัตน์

    ๏ งามความประณีตศิลปชา-..ติสง่าบุราณหัตถ์
    กิจจาประเสริฐมหะกษัตริย์..มรดกไผทไทย

    ........เพลงผ้า ปรพากย์
    บันทึกขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
    ในหลวง-พระราชินีเสด็จถวายผ้าพระกฐิน
    ณ วัดอรุณ เมื่อ ๒๗ ต.ค ๖๗
    ภาพจากเพจ Atipoj Srisukhon
    cr: เพลงผ้า ปรพากย์ หงส์เหมราช (ขอบันทึกไว้อีกบท) ( วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ ) ๏ งามเทพขบวนวรบดิน-..ทรปิ่นพระเกศเมือง งามเอยพระงามสิริเมลือง..ยุรยาตรสุพรรณ์หงส์ ๏ พร่างพราวอร่ามชระเสด็จ..ชุติเพชรสุรีย์ทรง ชดช้อยสง่าวรอนงค์..พิศะเจ้าพระยาเย็น ๏ พวงพู่เศวตวิมลเผย..สิเสวยพระพายเป็น ริ้วริ้วพิลาสคณะบำเพ็ญ..อภิรมย์ยะหยาดยวน ๏ พรั่งพร้อมระเบียบและวิทยา..พละกล้าอเนกมวล เพลงพายขยับจรขบวน..ดุจะปีกวิหงค์กาง ๏ เทินทูนประภัสร์นฤปนาถ..สิริชาติมหาปาง พร้อมราชินีสิริสุราง-..คเสด็จสุธาธาร ๏ ชื่นชมพระแท่นวิหคเหม..อุระเปรมเกษมศานต์ ต้องมนต์สะกดหทยปาน..ชลนัยจะหลั่งริน ๏ เปล่งบารมีสุตะละออง..ก็สนองกระแสสินธุ์ ทาบกาญจน์ประสิทธิ์สุรประทิน..อภิวาทพระยาตรา ๏ ท่ามพราวประภาสอภิประไพ..สิไสวกระจ่างหล้า นวลนวลละอองศุภะลดา..ฉลุเล่าเฉลารัตน์ ๏ งามความประณีตศิลปชา-..ติสง่าบุราณหัตถ์ กิจจาประเสริฐมหะกษัตริย์..มรดกไผทไทย ........เพลงผ้า ปรพากย์ บันทึกขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในหลวง-พระราชินีเสด็จถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณ เมื่อ ๒๗ ต.ค ๖๗ ภาพจากเพจ Atipoj Srisukhon
    Love
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 693 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts