• รีโพสต์เรื่องอื้อฉาวโสมมของDiddyเจ้าพ่อบันเทิงคนดังของอเมริกา
    “ปรากฏการณ์ดิ๊ดดี้ (Diddy) สะเทือนสังคมอเมริกันอย่างรุนแรง เพราะมีเซเลบริตี้เข้าไปข้องเกี่ยวมากมาย

    ก่อนจะเกิดเรื่องฉาว ดิ๊ดดี้ มีความสัมพันธ์ดีๆ กับ นักกีฬาระดับโลกหลายคน แต่ในวันนี้ทุกคนตัดความสัมพันธ์ทิ้งหมดแล้ว

    เลอบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลผู้โด่งดัง สนิทสนมกับดิ๊ดดี้ เป็นการส่วนตัว ลูกชายคนเล็กของเขาชื่อ บรีซ เคยไปเที่ยวกับ เจสซี่ และ ดีลีล่า ลูกสาวแฝดของดิ๊ดดี้ และเคยถ่ายคลิปเต้นด้วยกันอีกต่างหาก

    เลอบรอน เคยพูดอินสตาแกรมไลฟ์ ว่า "ทุกคนรู้ว่า ไม่มีปาร์ตี้ไหน จะเหมือนปาร์ตี้ของดิ๊ดดี้" กลายเป็นประโยคไวรัล ที่จะถูกใช้ไปอีกนานต่อจากนี้

    แต่จากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ล่าสุดเลอบรอน อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ไปแล้วเรียบร้อย ตัดขาดกันไปเลย ไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ ด้วย

    แพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กจากแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เจ้าของแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 3 สมัย ไล่ลบทวีต ที่เคยแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ดิ๊ดดี้ พยายามไม่ให้เหลือหลักฐานว่าเคยสนิทกัน (แต่โดนคนแคปเก็บไว้แล้ว)

    เช่นเดียวกับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ และ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ก็อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ ในโซเชียลมีเดียไปแล้วทั้งหมด

    เรื่องราวของดิ๊ดดี้เป็นอย่างไร ทำไมนักกีฬาต้องเลิกติดตามเขา เราจะไปลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่แรก อย่างเข้าใจง่ายนะครับ

    ดิ๊ดดี้ มีชื่อจริงว่า ฌอน คอมบ์ส เขาเป็นคนนิวยอร์ก และเข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่วัยรุ่น และอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 3 ทศวรรษ ถือเป็นหนึ่งในเลเจนด์ของวงการเพลงแร็พ

    ฌอน คอมบ์ส มีชื่อในวงการหลายชื่อ เช่น Diddy, P.Diddy, Puff Daddy เป็นต้น

    ดิ๊ดดี้ ได้รางวัลใหญ่ๆ ในด้านดนตรีมาแล้ว แทบทุกสถาบัน เช่นแกรมมี่ อวอร์ดส และ MTV Music Awards

    เขามีซิงเกิ้ลขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ด ถึง 3 เพลง โดยหนึ่งในเพลงคลาสสิคที่สุด ที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินแน่นอน คือเพลงชื่อ I'll be missing you แค่อินโทรดังขึ้นมา ก็ติดหูแล้ว (แต่จริงๆ ไปเอาทำนองมาจากเพลงชื่อ Every Breath You Take ของ Police)

    ในปี 1993 ดิ๊ดดี้ เปิดค่ายเพลงชื่อ แบด บอย เรคคอร์ดส และเป็นโปรดิวเซอร์ให้สตาร์ของวงการมาแล้วหลายคน เช่น The Notorious B.I.G. ที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนในยุคปัจจุบันก็มี MGK ศิลปินที่ทำเพลงร้อยล้านวิวเป็นว่าเล่น

    ดิ๊ดดี้ ไม่ใช่แค่ทำเพลงเก่งอย่างเดียว แต่ยังมีหัวธุรกิจในระดับสุดยอดอีกด้วย พอมีชื่อเสียงจากฮิปฮอป เขาต่อยอดไปทำแบรนด์เสื้อผ้าชื่อ ฌอน จอห์น ตามด้วยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับว็อดก้ายี่ห้อซิร็อค ได้รับส่วนแบ่งยอดขายต่อขวด

    นอกจากนั้น เขายังก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ชื่อ Revolt TV เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมและดนตรี ของกลุ่มแอฟริกัน อเมริกัน โดยเฉพาะ

    และในที่สุด ปี 2022 ดิ๊ดดี้ ก็มีสินทรัพย์ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ (32,000 ล้านบาท) กลายเป็นศิลปินฮิปฮอปแค่ไม่กี่คนบนโลก ที่มีรายได้มหาศาลในเลเวลนี้

    ไม่ใช่แค่ความรวย แต่ดิ๊ดดี้ ยังสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา รวมถึงสร้างเครือข่ายของกลุ่มเซเลบริตี้ ที่คอยซัพพอร์ทช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้ดิ๊ดดี้ ถูกสื่อมวลชน ใช้คำว่า Mogul (ผู้มีอำนาจ, เจ้าพ่อ) ในวงการดนตรี

    ดิ๊ดดี้นั้น ขึ้นชื่อมาก เรื่องการจัดงานปาร์ตี้ ในช่วงปี 1998-2009 เขาจัดงานชื่อ "ไวท์ปาร์ตี้" สังสรรค์เฉพาะกลุ่มคนรวย คนดัง ใส่เสื้อขาวทั้งงาน เป็นปาร์ตี้ที่พวกเซเล็บอยากไปร่วมกันมากๆ

    ชีวิตของเขาก็ดูราบรื่นดี อย่างในปี 2022 เขาจัดงานปาร์ตี้ ฉลองวันเกิดอายุ 53 ปี ที่เบเวอร์ลี่ฮิลส์ คนดังๆ ทั้ง เจย์ซี, ทราวิส สกอตต์, แมรี่ เจ ไบล์ และ คริส บราวน์ ก็มาร่วมงานด้วย ดูแล้ว ชีวิตก็สบายๆ ไม่มีปัญหาอะไร

    ส่วนเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวนั้น ในอดีต เขาโดนคดีต่างๆ มาบ้าง เช่น พกพาอาวุธปืน หรือ ทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่ก็รอดมาได้ตลอด ไม่เคยต้องติดคุกสักครั้ง

    อย่างไรก็ตาม ชีวิตของดิ๊ดดี้ ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นับจากวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 เมื่อคาซานดร้า เวนทูร่า หรือ แคสซี่ อดีตแฟนสาวของของเขา ที่เลิกรากันไปแล้ว ไปแจ้งความที่นิวยอร์ก

    แคสซี่ ระบายความในใจทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าช่วงเวลาที่เธอคบหากับดิ๊ดดี้ มีแต่ความทรมาน และโดนทำร้ายร่างกายเป็นว่าเล่น

    เธอบอกว่าเคยโดนดิ๊ดดี้ ทั้งเตะ ทั้งต่อย จนตาเขียวช้ำ เลือดออก และมีแผลทั่วร่างกาย ครั้งหนึ่งเคยโดนต่อยท้องต่อหน้าเพื่อนๆ ของดิ๊ดดี้ด้วย

    นอกจากนั้น ยังใช้อำนาจในการบังคับ และล่อลวง ให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น โดยที่ดิ๊ดดี้จะนั่งดูอย่างสนุกสนาน เหมือนกิจกรรมบันเทิง

    ตลอดช่วงที่คบกัน แคสซี่ โดนกระทำมากมาย เช่นบีบคอ ผลักรุนแรงจนกระแทกกำแพง เคยโดนปาไข่ใส่หน้ามาแล้ว เวลาทำอะไรไม่ถูกใจ

    ไม่ใช่แค่ทำร้ายร่างกาย หรือ บังคับเรื่องเพศ แต่ดิ๊ดดี้ ยังมีส่วนพัวพันกับอาชญากรรมหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือการจ้างคนไปเผารถยนต์ ของแรพเปอร์ชื่อ คิด คูดี้ ที่มีข่าวว่าปลื้มแคสซี่

    แล้วไม่ใช่แค่เรื่องที่ตัวเธอโดน แต่แคสซี่ แฉมากกว่านั้น บอกว่า มีปาร์ตี้พิสดาร ที่ดิ๊ดดี้เป็นเจ้าภาพ มีชื่อว่า "freak offs" (ปาร์ตี้หลุดโลก) โดยในงานมีเหล้า มียา สารผิดกฎหมาย และมีการจ้างเด็กเอ็น ทั้งชายและหญิง มามีเซ็กส์กันแบบมั่วสุดๆ และยังมีการถ่ายคลิปเก็บไว้ด้วย โดยไม่สนใจว่า คนในงานจะเต็มใจหรือไม่

    เมื่อโดนแจ้งความใส่ยับแบบนี้ ดิ๊ดดี้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขาว่าจ้างทนายให้มาสู้คดีกับแคสซี่บนศาล คุณมีหลักฐานอะไรก็งัดกันออกมาดู

    หลังจากที่แคสซี่ ทำการแฉดิ๊ดดี้นั้น ในจังหวะใกล้ๆ กัน มีคนออกมาแจ้งความใส่ดิ๊ดดี้รัวๆ แบบต่างกรรมต่างวาระ เช่น

    - จอย ดิกเกอร์สัน-นีล เธออ้างว่า ในสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอโดนดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิประหว่างใช้กำลังมีเซ็กส์กับเธอ จ่ายนั้นเอาไปส่งต่อให้คนอื่น โดยที่เธอไม่ได้ยินยอม

    - ลิซ่า การ์ดเนอร์ บอกว่าเธอกับเพื่อนถูกชวนไปปาร์ตี้ตอนอายุ 16 และโดนดิ๊ดดี้ กับ เพื่อน ล่อลวงให้มีเซ็กส์ด้วย ทั้งๆ ที่เธอยังเป็นผู้เยาว์

    - ผู้หญิงอีกคนที่ไม่เอ่ยนาม บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้ กับ ประธานบริษัทแบดบอย เรคคอร์ด ชื่อ ฮาร์ฟ ปิแอร์ และผู้ชายอีกคนหนึ่ง ทำการลงแขก ตอนเธออายุ 17 ปี โดยหลอกล่อว่าจะให้โอกาสทางหน้าที่การงาน

    - ร็อดนีย์ โจนส์ โปรดิวเซอร์ผู้ชาย ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนกดดันให้ไปมีเซ็กส์กับผู้ชายอีกคนหนึ่งในงานปาร์ตี้ โดยอ้างว่า 'นี่เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมดนตรี'

    คดีแล้ว คดีเล่า ที่ค่อยๆ แดงออกมาเรื่อยๆ แต่ดิ๊ดดี้ ไม่ยอมจำนน เขาตั้งใจจะสู้ทุกคดี เพราะแค่พูด ใครก็พูดได้ ไว้มีหลักฐานจะจะ ค่อยคิดจะมาโค่นเขา

    วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 สถานี CNN ก็ได้หลักฐานเด็ดในคดี แคสซี่-ดิ๊ดดี้ นั่นคือกล้องวงจรปิด จากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล ในลอสแองเจลิส

    เป็นจังหวะที่แคสซี่ เดินออกจากห้องพัก เพื่อลงลิฟต์เตรียมจะกลับบ้าน แต่ดิ๊ดดี้ ตื่นขึ้นมาพอดี และเห็นแคสซี่ไม่อยู่ จึงวิ่งใส่ผ้าเช็ดตัว ออกมาตามทางเดินแล้วมาเจอเธอที่ลิฟต์

    เขาต่อยเธอด้วยหมัดขวา ถีบไปอีก 2 ที แล้วเอาแจกันแก้วที่โรงแรมวางประดับเอาไว้ ขว้างใส่ ก่อนจะลากคอกลับเข้าห้องนอน

    เมื่อมีหลักฐานจะแจ้งขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้กำลังเกิดขึ้นจริง ทำให้ดิ๊ดดี้ก็ต้องออกมายอมรับ และกล่าวคำขอโทษต่อมวลชน

    และจากจุดนั้นเอง ทำให้เซเล็บหลายๆ คน เริ่มอันฟอลโลว์เขา ไม่มีใครอยากจะสนิทชิดเชื้อกับคนที่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ คือภาพที่ออกไป มันแย่มาก

    และจากจุดนั้น ก็มีคดีใหม่ๆ ที่ถูกเปิดเผยเรื่อยๆ ประเดประดังเข้ามาใส่ดิ๊ดดี้ จนตั้งตัวไม่ทัน

    - คริสตัล แม็คเคนนีย์ นางแบบสาว อ้างว่าโดนดิ๊ดดี้ ใช้กำลังลากเธอเข้าไปในห้องนำแล้วบังคับให้ทำออรัลเซ็กส์ให้ ในสตูดิโอที่ใช้อัดเพลงในนิวยอร์ก

    - เอพริล แลมพรอส นักศึกษาสถาบันแฟชั่น บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้บังคับให้ทำการเซ็กส์หมู่

    - อาเดรีย อิงลิช นักแสดงหนังโป๊ บอกว่าเธอโดนล่อหลอกให้แสดงกิจกรรมทางเพศ ระหว่างงานปาร์ตี้ โจมตีดิ๊ดดี้ว่าทำการค้ามนุษย์

    - ดอว์น ริชาร์ดส นักร้องจากวงดานิตี้ เคน ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนดิ๊ดดี้แอบจับหน้าอก และจับก้นหลายครั้ง ทำแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อของดอว์น ริชาร์ดส ขับรถจากบัลติมอร์ มานิวยอร์กเพื่อมาคุยกับดิ๊ดดี้ แต่โดนขู่ว่า "คิดถึงครอบครัวของแกให้ดีเถอะ"

    เมื่อคดียาวเป็นหางว่าวแบบนี้ ทำให้วันที่ 16 กันยายน 2024 ดิ๊ดดี้ โดนตำรวจจับกุมตัว ที่โรงแรมพาร์กไฮแอต ในนิวยอร์ก

    โดยคดีที่ตำรวจให้ความสนใจคือ การจัดปาร์ตี้เบื้องหน้า แต่เบื้องหลังคือขบวนการค้ากาม ค้ามนุษย์ รวมถึงพรากผู้เยาว์ รวมถึงการทำร้ายร่างกาย ที่มีคลิปหลักฐานชัดเจน

    สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ มองอยู่ คือดิ๊ดดี้ อาจทำเรื่องผิดกฎหมายที่ร้ายแรงกว่านั้นอีก เช่น การสร้างองค์กรอาชญากรรมของตัวเองขึ้นมา แล้วมีส่วนในการลักลอบวางเพลิง, การลักพาตัว, การใช้แรงงานทาส, การค้าสารเสพติด และ การติดสินบนเจ้าพนักงาน

    เขาอาจจะไม่ใช่แค่เจ้าพ่อเพลงฮิปฮอปเฉยๆ แต่อาจเป็นผู้มีอิทธิพลของจริงเลยก็ได้

    หลังจากดิ๊ดดี้โดนจับ มีข้อมูลน่าสนใจ ที่ตำรวจค้นพบ ระหว่างการค้นบ้านของดิ๊ดดี้ ที่ลอสแองเจลิส กับ ไมอามี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ freak offs

    ตำรวจพบว่า มีขวดเบบี้ออยล์ มากถึง 1,000 ขวด อยู่ในบ้าน

    แน่นอน คนก็เชื่อมโยงว่า คุณจะซื้อเบบี้ออยล์มาเยอะขนาดนั้นทำไม เหตุผลน่าจะมีอย่างเดียวคือ คงเอาไปใช้ในกิจกรรมทางเพศอย่างบ้าคลั่ง เช่นงาน ปาร์ตี้เซ็กส์ เป็นต้น

    นับจนถึงเมื่อวานนี้ (24 กันยายน) มีคนแจ้งความดิ๊ดดี้ ทั้งหมด 11 คน และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นอีกเรื่อยๆ

    รวมถึงบางคดี ที่น่าสนใจเหมือนกัน เช่น จากัวร์ ไรท์ นักร้องสาวชาวอเมริกัน อ้างว่า ดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิปของเซเลบริตี้หลายคนเอาไว้ แล้วไปปล่อยในดาร์กเว็บ ได้เงินมา 500 ล้านดอลลาร์

    นอกจากนั้น ยังมีข่าวลืออีกสารพัด ว่าเขาเคยล่วงละเมิด ศิลปินทั้งชาย และ หญิง มาแล้วหลายคน ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีคนที่เป็นซูเปอร์สตาร์ในปัจจุบันด้วย

    สถานการณ์ล่าสุด ดิ๊ดดี้ต้องไปอยู่ในห้องขัง โดยเขายื่นข้อเสนอประกันตัว 50 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งติด GPS เพื่อการันตีว่าจะไม่หลบหนี แต่ศาลไม่อนุมัติ ทำให้ตอนนี้ดิ๊ดดี้ต้องอยู่ในเรือนจำที่บรู๊คลิน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

    สเต็ปต่อไปทนายของดิ๊ดดี้ กำลังเตรียมสู้คดีอย่างเต็มที่ คือมีบางเคสที่ดิ๊ดดี้โดนแน่ๆ เช่นทำร้ายร่างกายแคสซี่ เพราะมีกล้องวงจรปิดชัดเจน

    แต่กับคดีอื่นๆ ที่เขาโดนกล่าวหาว่ากระทำ ก็ต้องมาพิสูจน์กันต่อไป ว่าทำจริงหรือไม่

    สำหรับในวงการกีฬานั้น เรื่องนี้ก็สั่นสะเทือนเช่นกัน เพราะศิลปินฮิปฮ็อป กับนักกีฬาอีลีท มักจะสนิทสนมกัน เช่น เคนดริค ลามาร์ กับ เดมาร์ เดโรซาน สนิทกันถึงขั้นเดโรซานไปเล่นในเอ็มวีให้

    หรือตอนรัสเซลล์ เวสต์บรู๊ก นำทริปเปิ้ลดับเบิ้ลในตำนาน (20 แต้ม, 20 รีบาวด์, 20 แอสซิสต์) เขาอุทิศผลงานนี้ ให้กับแรพเปอร์ ชื่อ นิปซีย์ ผู้ล่วงลับ

    โดยดิ๊ดดี้ อยู่ในวงการมาเกิน 30 ปี รู้จักคนมากมาย และสนิทสนมกับนักกีฬาหลายคน ไปร่วมกิจกรรมกับ NBA ก็บ่อย แต่ถึงตรงนี้ ก็คงไม่มีใครที่พร้อมจะอยู่ซัพพอร์ทเขา เพราะไม่อยากติดร่างแหไปด้วย

    มีคนย้อนไปดูคลิปงานปาร์ตี้ freak offs ที่เผยแพร่ออกมา พบว่า มีนักกีฬาบางคนไปร่วมงานด้วย เช่น เลียวนาร์ด โฟร์เนตต์ รันนิ่งแบ็กชุดแชมป์ NFL ของแทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ซึ่งโฟร์เนตต์ก็โดนสังคมจับจ้องทันทีว่า ไปมั่วยา มั่วเซ็กส์ หรือทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า

    ดังนั้นสิ่งที่นักกีฬาทำตอนนี้คือ เอาตัวออกห่างจากดิ๊ดดี้ให้ไกลที่สุด ไม่ให้เชื่อมโยงกันได้ อะไรที่เคยโพสต์ถึงก็ไล่ลบจนเกลี้ยงทั้งหมด

    สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องนี้ คือในวันที่ยิ่งใหญ่ ทำอะไรก็ราบรื่น ผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ในวันนี้ ที่ความผิดเริ่มแดงออกมาเรื่อยๆ ดิ๊ดดี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครอยากจะร่วม "ปาร์ตี้" ของเขาอีกแล้ว

    และแน่นอน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทำผิดจริง ก็ต้องรับโทษทางกฎหมายกันไป

    บางคนบอกว่า ถ้าทีมทนายไม่เก่งระดับเทพล่ะก็ อิสรภาพวันสุดท้ายของดิ๊ดดี้ อาจจะหมดลงแล้ว และอาจติดคุกในช่วงที่เหลืออยู่ของชีวิต แม้จะมีเงินในบัญชีถึง 1 พันล้านดอลลาร์ก็ตามที”

    ที่มา : เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง https://www.facebook.com/share/5f8x3Zx1WzpUs8b5/?mibextid=CTbP7E
    ภาพ

    #Thaitimes
    รีโพสต์เรื่องอื้อฉาวโสมมของDiddyเจ้าพ่อบันเทิงคนดังของอเมริกา “ปรากฏการณ์ดิ๊ดดี้ (Diddy) สะเทือนสังคมอเมริกันอย่างรุนแรง เพราะมีเซเลบริตี้เข้าไปข้องเกี่ยวมากมาย ก่อนจะเกิดเรื่องฉาว ดิ๊ดดี้ มีความสัมพันธ์ดีๆ กับ นักกีฬาระดับโลกหลายคน แต่ในวันนี้ทุกคนตัดความสัมพันธ์ทิ้งหมดแล้ว เลอบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลผู้โด่งดัง สนิทสนมกับดิ๊ดดี้ เป็นการส่วนตัว ลูกชายคนเล็กของเขาชื่อ บรีซ เคยไปเที่ยวกับ เจสซี่ และ ดีลีล่า ลูกสาวแฝดของดิ๊ดดี้ และเคยถ่ายคลิปเต้นด้วยกันอีกต่างหาก เลอบรอน เคยพูดอินสตาแกรมไลฟ์ ว่า "ทุกคนรู้ว่า ไม่มีปาร์ตี้ไหน จะเหมือนปาร์ตี้ของดิ๊ดดี้" กลายเป็นประโยคไวรัล ที่จะถูกใช้ไปอีกนานต่อจากนี้ แต่จากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ล่าสุดเลอบรอน อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ไปแล้วเรียบร้อย ตัดขาดกันไปเลย ไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ ด้วย แพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กจากแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เจ้าของแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 3 สมัย ไล่ลบทวีต ที่เคยแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ดิ๊ดดี้ พยายามไม่ให้เหลือหลักฐานว่าเคยสนิทกัน (แต่โดนคนแคปเก็บไว้แล้ว) เช่นเดียวกับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ และ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ก็อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ ในโซเชียลมีเดียไปแล้วทั้งหมด เรื่องราวของดิ๊ดดี้เป็นอย่างไร ทำไมนักกีฬาต้องเลิกติดตามเขา เราจะไปลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่แรก อย่างเข้าใจง่ายนะครับ ดิ๊ดดี้ มีชื่อจริงว่า ฌอน คอมบ์ส เขาเป็นคนนิวยอร์ก และเข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่วัยรุ่น และอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 3 ทศวรรษ ถือเป็นหนึ่งในเลเจนด์ของวงการเพลงแร็พ ฌอน คอมบ์ส มีชื่อในวงการหลายชื่อ เช่น Diddy, P.Diddy, Puff Daddy เป็นต้น ดิ๊ดดี้ ได้รางวัลใหญ่ๆ ในด้านดนตรีมาแล้ว แทบทุกสถาบัน เช่นแกรมมี่ อวอร์ดส และ MTV Music Awards เขามีซิงเกิ้ลขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ด ถึง 3 เพลง โดยหนึ่งในเพลงคลาสสิคที่สุด ที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินแน่นอน คือเพลงชื่อ I'll be missing you แค่อินโทรดังขึ้นมา ก็ติดหูแล้ว (แต่จริงๆ ไปเอาทำนองมาจากเพลงชื่อ Every Breath You Take ของ Police) ในปี 1993 ดิ๊ดดี้ เปิดค่ายเพลงชื่อ แบด บอย เรคคอร์ดส และเป็นโปรดิวเซอร์ให้สตาร์ของวงการมาแล้วหลายคน เช่น The Notorious B.I.G. ที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนในยุคปัจจุบันก็มี MGK ศิลปินที่ทำเพลงร้อยล้านวิวเป็นว่าเล่น ดิ๊ดดี้ ไม่ใช่แค่ทำเพลงเก่งอย่างเดียว แต่ยังมีหัวธุรกิจในระดับสุดยอดอีกด้วย พอมีชื่อเสียงจากฮิปฮอป เขาต่อยอดไปทำแบรนด์เสื้อผ้าชื่อ ฌอน จอห์น ตามด้วยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับว็อดก้ายี่ห้อซิร็อค ได้รับส่วนแบ่งยอดขายต่อขวด นอกจากนั้น เขายังก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ชื่อ Revolt TV เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมและดนตรี ของกลุ่มแอฟริกัน อเมริกัน โดยเฉพาะ และในที่สุด ปี 2022 ดิ๊ดดี้ ก็มีสินทรัพย์ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ (32,000 ล้านบาท) กลายเป็นศิลปินฮิปฮอปแค่ไม่กี่คนบนโลก ที่มีรายได้มหาศาลในเลเวลนี้ ไม่ใช่แค่ความรวย แต่ดิ๊ดดี้ ยังสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา รวมถึงสร้างเครือข่ายของกลุ่มเซเลบริตี้ ที่คอยซัพพอร์ทช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้ดิ๊ดดี้ ถูกสื่อมวลชน ใช้คำว่า Mogul (ผู้มีอำนาจ, เจ้าพ่อ) ในวงการดนตรี ดิ๊ดดี้นั้น ขึ้นชื่อมาก เรื่องการจัดงานปาร์ตี้ ในช่วงปี 1998-2009 เขาจัดงานชื่อ "ไวท์ปาร์ตี้" สังสรรค์เฉพาะกลุ่มคนรวย คนดัง ใส่เสื้อขาวทั้งงาน เป็นปาร์ตี้ที่พวกเซเล็บอยากไปร่วมกันมากๆ ชีวิตของเขาก็ดูราบรื่นดี อย่างในปี 2022 เขาจัดงานปาร์ตี้ ฉลองวันเกิดอายุ 53 ปี ที่เบเวอร์ลี่ฮิลส์ คนดังๆ ทั้ง เจย์ซี, ทราวิส สกอตต์, แมรี่ เจ ไบล์ และ คริส บราวน์ ก็มาร่วมงานด้วย ดูแล้ว ชีวิตก็สบายๆ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวนั้น ในอดีต เขาโดนคดีต่างๆ มาบ้าง เช่น พกพาอาวุธปืน หรือ ทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่ก็รอดมาได้ตลอด ไม่เคยต้องติดคุกสักครั้ง อย่างไรก็ตาม ชีวิตของดิ๊ดดี้ ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นับจากวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 เมื่อคาซานดร้า เวนทูร่า หรือ แคสซี่ อดีตแฟนสาวของของเขา ที่เลิกรากันไปแล้ว ไปแจ้งความที่นิวยอร์ก แคสซี่ ระบายความในใจทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าช่วงเวลาที่เธอคบหากับดิ๊ดดี้ มีแต่ความทรมาน และโดนทำร้ายร่างกายเป็นว่าเล่น เธอบอกว่าเคยโดนดิ๊ดดี้ ทั้งเตะ ทั้งต่อย จนตาเขียวช้ำ เลือดออก และมีแผลทั่วร่างกาย ครั้งหนึ่งเคยโดนต่อยท้องต่อหน้าเพื่อนๆ ของดิ๊ดดี้ด้วย นอกจากนั้น ยังใช้อำนาจในการบังคับ และล่อลวง ให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น โดยที่ดิ๊ดดี้จะนั่งดูอย่างสนุกสนาน เหมือนกิจกรรมบันเทิง ตลอดช่วงที่คบกัน แคสซี่ โดนกระทำมากมาย เช่นบีบคอ ผลักรุนแรงจนกระแทกกำแพง เคยโดนปาไข่ใส่หน้ามาแล้ว เวลาทำอะไรไม่ถูกใจ ไม่ใช่แค่ทำร้ายร่างกาย หรือ บังคับเรื่องเพศ แต่ดิ๊ดดี้ ยังมีส่วนพัวพันกับอาชญากรรมหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือการจ้างคนไปเผารถยนต์ ของแรพเปอร์ชื่อ คิด คูดี้ ที่มีข่าวว่าปลื้มแคสซี่ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องที่ตัวเธอโดน แต่แคสซี่ แฉมากกว่านั้น บอกว่า มีปาร์ตี้พิสดาร ที่ดิ๊ดดี้เป็นเจ้าภาพ มีชื่อว่า "freak offs" (ปาร์ตี้หลุดโลก) โดยในงานมีเหล้า มียา สารผิดกฎหมาย และมีการจ้างเด็กเอ็น ทั้งชายและหญิง มามีเซ็กส์กันแบบมั่วสุดๆ และยังมีการถ่ายคลิปเก็บไว้ด้วย โดยไม่สนใจว่า คนในงานจะเต็มใจหรือไม่ เมื่อโดนแจ้งความใส่ยับแบบนี้ ดิ๊ดดี้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขาว่าจ้างทนายให้มาสู้คดีกับแคสซี่บนศาล คุณมีหลักฐานอะไรก็งัดกันออกมาดู หลังจากที่แคสซี่ ทำการแฉดิ๊ดดี้นั้น ในจังหวะใกล้ๆ กัน มีคนออกมาแจ้งความใส่ดิ๊ดดี้รัวๆ แบบต่างกรรมต่างวาระ เช่น - จอย ดิกเกอร์สัน-นีล เธออ้างว่า ในสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอโดนดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิประหว่างใช้กำลังมีเซ็กส์กับเธอ จ่ายนั้นเอาไปส่งต่อให้คนอื่น โดยที่เธอไม่ได้ยินยอม - ลิซ่า การ์ดเนอร์ บอกว่าเธอกับเพื่อนถูกชวนไปปาร์ตี้ตอนอายุ 16 และโดนดิ๊ดดี้ กับ เพื่อน ล่อลวงให้มีเซ็กส์ด้วย ทั้งๆ ที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ - ผู้หญิงอีกคนที่ไม่เอ่ยนาม บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้ กับ ประธานบริษัทแบดบอย เรคคอร์ด ชื่อ ฮาร์ฟ ปิแอร์ และผู้ชายอีกคนหนึ่ง ทำการลงแขก ตอนเธออายุ 17 ปี โดยหลอกล่อว่าจะให้โอกาสทางหน้าที่การงาน - ร็อดนีย์ โจนส์ โปรดิวเซอร์ผู้ชาย ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนกดดันให้ไปมีเซ็กส์กับผู้ชายอีกคนหนึ่งในงานปาร์ตี้ โดยอ้างว่า 'นี่เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมดนตรี' คดีแล้ว คดีเล่า ที่ค่อยๆ แดงออกมาเรื่อยๆ แต่ดิ๊ดดี้ ไม่ยอมจำนน เขาตั้งใจจะสู้ทุกคดี เพราะแค่พูด ใครก็พูดได้ ไว้มีหลักฐานจะจะ ค่อยคิดจะมาโค่นเขา วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 สถานี CNN ก็ได้หลักฐานเด็ดในคดี แคสซี่-ดิ๊ดดี้ นั่นคือกล้องวงจรปิด จากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล ในลอสแองเจลิส เป็นจังหวะที่แคสซี่ เดินออกจากห้องพัก เพื่อลงลิฟต์เตรียมจะกลับบ้าน แต่ดิ๊ดดี้ ตื่นขึ้นมาพอดี และเห็นแคสซี่ไม่อยู่ จึงวิ่งใส่ผ้าเช็ดตัว ออกมาตามทางเดินแล้วมาเจอเธอที่ลิฟต์ เขาต่อยเธอด้วยหมัดขวา ถีบไปอีก 2 ที แล้วเอาแจกันแก้วที่โรงแรมวางประดับเอาไว้ ขว้างใส่ ก่อนจะลากคอกลับเข้าห้องนอน เมื่อมีหลักฐานจะแจ้งขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้กำลังเกิดขึ้นจริง ทำให้ดิ๊ดดี้ก็ต้องออกมายอมรับ และกล่าวคำขอโทษต่อมวลชน และจากจุดนั้นเอง ทำให้เซเล็บหลายๆ คน เริ่มอันฟอลโลว์เขา ไม่มีใครอยากจะสนิทชิดเชื้อกับคนที่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ คือภาพที่ออกไป มันแย่มาก และจากจุดนั้น ก็มีคดีใหม่ๆ ที่ถูกเปิดเผยเรื่อยๆ ประเดประดังเข้ามาใส่ดิ๊ดดี้ จนตั้งตัวไม่ทัน - คริสตัล แม็คเคนนีย์ นางแบบสาว อ้างว่าโดนดิ๊ดดี้ ใช้กำลังลากเธอเข้าไปในห้องนำแล้วบังคับให้ทำออรัลเซ็กส์ให้ ในสตูดิโอที่ใช้อัดเพลงในนิวยอร์ก - เอพริล แลมพรอส นักศึกษาสถาบันแฟชั่น บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้บังคับให้ทำการเซ็กส์หมู่ - อาเดรีย อิงลิช นักแสดงหนังโป๊ บอกว่าเธอโดนล่อหลอกให้แสดงกิจกรรมทางเพศ ระหว่างงานปาร์ตี้ โจมตีดิ๊ดดี้ว่าทำการค้ามนุษย์ - ดอว์น ริชาร์ดส นักร้องจากวงดานิตี้ เคน ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนดิ๊ดดี้แอบจับหน้าอก และจับก้นหลายครั้ง ทำแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อของดอว์น ริชาร์ดส ขับรถจากบัลติมอร์ มานิวยอร์กเพื่อมาคุยกับดิ๊ดดี้ แต่โดนขู่ว่า "คิดถึงครอบครัวของแกให้ดีเถอะ" เมื่อคดียาวเป็นหางว่าวแบบนี้ ทำให้วันที่ 16 กันยายน 2024 ดิ๊ดดี้ โดนตำรวจจับกุมตัว ที่โรงแรมพาร์กไฮแอต ในนิวยอร์ก โดยคดีที่ตำรวจให้ความสนใจคือ การจัดปาร์ตี้เบื้องหน้า แต่เบื้องหลังคือขบวนการค้ากาม ค้ามนุษย์ รวมถึงพรากผู้เยาว์ รวมถึงการทำร้ายร่างกาย ที่มีคลิปหลักฐานชัดเจน สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ มองอยู่ คือดิ๊ดดี้ อาจทำเรื่องผิดกฎหมายที่ร้ายแรงกว่านั้นอีก เช่น การสร้างองค์กรอาชญากรรมของตัวเองขึ้นมา แล้วมีส่วนในการลักลอบวางเพลิง, การลักพาตัว, การใช้แรงงานทาส, การค้าสารเสพติด และ การติดสินบนเจ้าพนักงาน เขาอาจจะไม่ใช่แค่เจ้าพ่อเพลงฮิปฮอปเฉยๆ แต่อาจเป็นผู้มีอิทธิพลของจริงเลยก็ได้ หลังจากดิ๊ดดี้โดนจับ มีข้อมูลน่าสนใจ ที่ตำรวจค้นพบ ระหว่างการค้นบ้านของดิ๊ดดี้ ที่ลอสแองเจลิส กับ ไมอามี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ freak offs ตำรวจพบว่า มีขวดเบบี้ออยล์ มากถึง 1,000 ขวด อยู่ในบ้าน แน่นอน คนก็เชื่อมโยงว่า คุณจะซื้อเบบี้ออยล์มาเยอะขนาดนั้นทำไม เหตุผลน่าจะมีอย่างเดียวคือ คงเอาไปใช้ในกิจกรรมทางเพศอย่างบ้าคลั่ง เช่นงาน ปาร์ตี้เซ็กส์ เป็นต้น นับจนถึงเมื่อวานนี้ (24 กันยายน) มีคนแจ้งความดิ๊ดดี้ ทั้งหมด 11 คน และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นอีกเรื่อยๆ รวมถึงบางคดี ที่น่าสนใจเหมือนกัน เช่น จากัวร์ ไรท์ นักร้องสาวชาวอเมริกัน อ้างว่า ดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิปของเซเลบริตี้หลายคนเอาไว้ แล้วไปปล่อยในดาร์กเว็บ ได้เงินมา 500 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้น ยังมีข่าวลืออีกสารพัด ว่าเขาเคยล่วงละเมิด ศิลปินทั้งชาย และ หญิง มาแล้วหลายคน ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีคนที่เป็นซูเปอร์สตาร์ในปัจจุบันด้วย สถานการณ์ล่าสุด ดิ๊ดดี้ต้องไปอยู่ในห้องขัง โดยเขายื่นข้อเสนอประกันตัว 50 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งติด GPS เพื่อการันตีว่าจะไม่หลบหนี แต่ศาลไม่อนุมัติ ทำให้ตอนนี้ดิ๊ดดี้ต้องอยู่ในเรือนจำที่บรู๊คลิน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง สเต็ปต่อไปทนายของดิ๊ดดี้ กำลังเตรียมสู้คดีอย่างเต็มที่ คือมีบางเคสที่ดิ๊ดดี้โดนแน่ๆ เช่นทำร้ายร่างกายแคสซี่ เพราะมีกล้องวงจรปิดชัดเจน แต่กับคดีอื่นๆ ที่เขาโดนกล่าวหาว่ากระทำ ก็ต้องมาพิสูจน์กันต่อไป ว่าทำจริงหรือไม่ สำหรับในวงการกีฬานั้น เรื่องนี้ก็สั่นสะเทือนเช่นกัน เพราะศิลปินฮิปฮ็อป กับนักกีฬาอีลีท มักจะสนิทสนมกัน เช่น เคนดริค ลามาร์ กับ เดมาร์ เดโรซาน สนิทกันถึงขั้นเดโรซานไปเล่นในเอ็มวีให้ หรือตอนรัสเซลล์ เวสต์บรู๊ก นำทริปเปิ้ลดับเบิ้ลในตำนาน (20 แต้ม, 20 รีบาวด์, 20 แอสซิสต์) เขาอุทิศผลงานนี้ ให้กับแรพเปอร์ ชื่อ นิปซีย์ ผู้ล่วงลับ โดยดิ๊ดดี้ อยู่ในวงการมาเกิน 30 ปี รู้จักคนมากมาย และสนิทสนมกับนักกีฬาหลายคน ไปร่วมกิจกรรมกับ NBA ก็บ่อย แต่ถึงตรงนี้ ก็คงไม่มีใครที่พร้อมจะอยู่ซัพพอร์ทเขา เพราะไม่อยากติดร่างแหไปด้วย มีคนย้อนไปดูคลิปงานปาร์ตี้ freak offs ที่เผยแพร่ออกมา พบว่า มีนักกีฬาบางคนไปร่วมงานด้วย เช่น เลียวนาร์ด โฟร์เนตต์ รันนิ่งแบ็กชุดแชมป์ NFL ของแทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ซึ่งโฟร์เนตต์ก็โดนสังคมจับจ้องทันทีว่า ไปมั่วยา มั่วเซ็กส์ หรือทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า ดังนั้นสิ่งที่นักกีฬาทำตอนนี้คือ เอาตัวออกห่างจากดิ๊ดดี้ให้ไกลที่สุด ไม่ให้เชื่อมโยงกันได้ อะไรที่เคยโพสต์ถึงก็ไล่ลบจนเกลี้ยงทั้งหมด สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องนี้ คือในวันที่ยิ่งใหญ่ ทำอะไรก็ราบรื่น ผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ในวันนี้ ที่ความผิดเริ่มแดงออกมาเรื่อยๆ ดิ๊ดดี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครอยากจะร่วม "ปาร์ตี้" ของเขาอีกแล้ว และแน่นอน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทำผิดจริง ก็ต้องรับโทษทางกฎหมายกันไป บางคนบอกว่า ถ้าทีมทนายไม่เก่งระดับเทพล่ะก็ อิสรภาพวันสุดท้ายของดิ๊ดดี้ อาจจะหมดลงแล้ว และอาจติดคุกในช่วงที่เหลืออยู่ของชีวิต แม้จะมีเงินในบัญชีถึง 1 พันล้านดอลลาร์ก็ตามที” ที่มา : เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง https://www.facebook.com/share/5f8x3Zx1WzpUs8b5/?mibextid=CTbP7E ภาพ #Thaitimes
    Like
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 804 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣💥แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA 💉☠️ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากมาย😠
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000089378

    🚩📢 คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที”

    วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗
    https://www.facebook.com/share/p/h76NA8dbggEAMJ6d/?mibextid=A7sQZp

    เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข
    สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด

    ตามที่กระทรวงสาธารณสุขยังคงสนับสนุนให้มีการฉีด mRNA ที่บริษัทยาหลอกว่าเป็นวัคซีน ให้กับผู้บริโภคชาวไทยอยู่นั้น
    บัดนี้มีข้อมูลสนับสนุนมากมายวาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมิได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัย มีการปนเปื้อนยีนก่อมะเร็ง และก่อให้เกิดผลกระทบกับร่างกายของผู้ที่ได้รับยาฉีดดังกล่าวมากมาย จนมีการแนะนำไม่ให้ฉีดยาดังกล่าวให้กับทุกคน ในมลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
    ทั้งนี้มีการฟ้องร้องเอาผิดบริษัทยาที่ให้ข้อมูลเท็จโดยอัยการของมลรัฐแคนซัส ด้วย
    ทั้งนี้ปัจจุบัน การระบาดของโรคโควิด ได้ยุติลงแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว เชื้อกลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว มีวิธีการรักษาโควิดที่มีประสิทธิภาพที่ป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้แล้ว ประกอบกับการที่มีข้อมูลชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมิสามารถป้องกันการแพร่เชื้อ มิสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ทั้งนี้ในการดำเนินการใดๆทางการแพทย์นั้น การยึดถือความปลอดภัยของผู้ป่วย (First Do No Harm) หรือ คำปฏิญาณของ “ฮิปโปเครติส” (Hippocratic Oath) ถือเป็นหลักการสำคัญของจรรยาบรรณทางการแพทย์ ที่แพทย์ทุกคนต้องปฏิบัติตาม นอกเหนือจากนั้น
    ท่านมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองประชาชนผู้บริโภคมิให้ได้รับผลกระทบจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ยา การระงับการฉีดผลิตภัณฑ์ mRNA ทุกตัวจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องกระทำโดยทันที มิเช่นนั้นท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดละเลยการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้อื่น อันเป็นความผิดอาญามีโทษถึงขั้นไล่ออกหรือให้ออกจากราชการได้ หลายท่านที่จะเกษียณราชการหรือโยกย้ายตำแหน่งในเวลาไม่นานนี้พึ่งระลึกไว้ว่า ผู้ที่มีหน้าที่รับตำแหน่งต่อจากท่านนั้น มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เช่นกัน หากเขาไม่ดำเนินการตามเสนอย่อมมีความผิดเช่นกัน แต่การที่เขาดำเนินการนั้นจะทำให้ให้ท่านมีความผิดฐานประมาทเลินเล่อทันที

    ดังนั้นเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชนผู้บริโภค และปกป้องท่านเองมิให้กลายเป็นผู้กระทำความผิดจึงขอให้ท่านรีบดำเนินการ
    ⛔ “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที”

    ทั้งนี้ได้ส่งเอกสารข้อมูลสนับสนุนเกี่ยวกับอันตรายและคำหลอกลวงของบริษัทยาข้างต้นมาพร้อมกับหนังสือฉบับนี้แล้ว

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    ลิงค์อ้างอิง
    คำปฏิญาณของ “ฮิปโปเครติส” (Hippocratic Oath)
    https://www.silpa-mag.com/history/article_71475
    เอกสารทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงานต่างๆ
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    📣💥แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA 💉☠️ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากมาย😠 https://mgronline.com/qol/detail/9670000089378 🚩📢 คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ https://www.facebook.com/share/p/h76NA8dbggEAMJ6d/?mibextid=A7sQZp เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขยังคงสนับสนุนให้มีการฉีด mRNA ที่บริษัทยาหลอกว่าเป็นวัคซีน ให้กับผู้บริโภคชาวไทยอยู่นั้น บัดนี้มีข้อมูลสนับสนุนมากมายวาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมิได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัย มีการปนเปื้อนยีนก่อมะเร็ง และก่อให้เกิดผลกระทบกับร่างกายของผู้ที่ได้รับยาฉีดดังกล่าวมากมาย จนมีการแนะนำไม่ให้ฉีดยาดังกล่าวให้กับทุกคน ในมลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้มีการฟ้องร้องเอาผิดบริษัทยาที่ให้ข้อมูลเท็จโดยอัยการของมลรัฐแคนซัส ด้วย ทั้งนี้ปัจจุบัน การระบาดของโรคโควิด ได้ยุติลงแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว เชื้อกลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว มีวิธีการรักษาโควิดที่มีประสิทธิภาพที่ป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้แล้ว ประกอบกับการที่มีข้อมูลชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมิสามารถป้องกันการแพร่เชื้อ มิสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ทั้งนี้ในการดำเนินการใดๆทางการแพทย์นั้น การยึดถือความปลอดภัยของผู้ป่วย (First Do No Harm) หรือ คำปฏิญาณของ “ฮิปโปเครติส” (Hippocratic Oath) ถือเป็นหลักการสำคัญของจรรยาบรรณทางการแพทย์ ที่แพทย์ทุกคนต้องปฏิบัติตาม นอกเหนือจากนั้น ท่านมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองประชาชนผู้บริโภคมิให้ได้รับผลกระทบจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ยา การระงับการฉีดผลิตภัณฑ์ mRNA ทุกตัวจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องกระทำโดยทันที มิเช่นนั้นท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดละเลยการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้อื่น อันเป็นความผิดอาญามีโทษถึงขั้นไล่ออกหรือให้ออกจากราชการได้ หลายท่านที่จะเกษียณราชการหรือโยกย้ายตำแหน่งในเวลาไม่นานนี้พึ่งระลึกไว้ว่า ผู้ที่มีหน้าที่รับตำแหน่งต่อจากท่านนั้น มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เช่นกัน หากเขาไม่ดำเนินการตามเสนอย่อมมีความผิดเช่นกัน แต่การที่เขาดำเนินการนั้นจะทำให้ให้ท่านมีความผิดฐานประมาทเลินเล่อทันที ดังนั้นเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชนผู้บริโภค และปกป้องท่านเองมิให้กลายเป็นผู้กระทำความผิดจึงขอให้ท่านรีบดำเนินการ ⛔ “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ทั้งนี้ได้ส่งเอกสารข้อมูลสนับสนุนเกี่ยวกับอันตรายและคำหลอกลวงของบริษัทยาข้างต้นมาพร้อมกับหนังสือฉบับนี้แล้ว กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ลิงค์อ้างอิง คำปฏิญาณของ “ฮิปโปเครติส” (Hippocratic Oath) https://www.silpa-mag.com/history/article_71475 เอกสารทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงานต่างๆ https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    MGRONLINE.COM
    แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากกมาย
    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ทำจดหมายเปิดผนึกถึงปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข เตือนครั้งสุดท้ายให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ทุกชนิด เพราะขณะนี้มีข้อมูลสนับสนุนมากมายว่าวัคซีนชนิดนี้ไม่ผ่านการทดสอบความ
    Like
    15
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 586 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣💥แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA 💉☠️ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากมาย😠
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000089378

    🚩📢 คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที”

    วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗
    https://www.facebook.com/share/p/h76NA8dbggEAMJ6d/?mibextid=A7sQZp

    เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข
    สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด

    ตามที่กระทรวงสาธารณสุขยังคงสนับสนุนให้มีการฉีด mRNA ที่บริษัทยาหลอกว่าเป็นวัคซีน ให้กับผู้บริโภคชาวไทยอยู่นั้น
    บัดนี้มีข้อมูลสนับสนุนมากมายวาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมิได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัย มีการปนเปื้อนยีนก่อมะเร็ง และก่อให้เกิดผลกระทบกับร่างกายของผู้ที่ได้รับยาฉีดดังกล่าวมากมาย จนมีการแนะนำไม่ให้ฉีดยาดังกล่าวให้กับทุกคน ในมลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
    ทั้งนี้มีการฟ้องร้องเอาผิดบริษัทยาที่ให้ข้อมูลเท็จโดยอัยการของมลรัฐแคนซัส ด้วย
    ทั้งนี้ปัจจุบัน การระบาดของโรคโควิด ได้ยุติลงแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว เชื้อกลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว มีวิธีการรักษาโควิดที่มีประสิทธิภาพที่ป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้แล้ว ประกอบกับการที่มีข้อมูลชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมิสามารถป้องกันการแพร่เชื้อ มิสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ทั้งนี้ในการดำเนินการใดๆทางการแพทย์นั้น การยึดถือความปลอดภัยของผู้ป่วย (First Do No Harm) หรือ คำปฏิญาณของ “ฮิปโปเครติส” (Hippocratic Oath) ถือเป็นหลักการสำคัญของจรรยาบรรณทางการแพทย์ ที่แพทย์ทุกคนต้องปฏิบัติตาม นอกเหนือจากนั้น
    ท่านมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองประชาชนผู้บริโภคมิให้ได้รับผลกระทบจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ยา การระงับการฉีดผลิตภัณฑ์ mRNA ทุกตัวจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องกระทำโดยทันที มิเช่นนั้นท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดละเลยการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้อื่น อันเป็นความผิดอาญามีโทษถึงขั้นไล่ออกหรือให้ออกจากราชการได้ หลายท่านที่จะเกษียณราชการหรือโยกย้ายตำแหน่งในเวลาไม่นานนี้พึ่งระลึกไว้ว่า ผู้ที่มีหน้าที่รับตำแหน่งต่อจากท่านนั้น มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เช่นกัน หากเขาไม่ดำเนินการตามเสนอย่อมมีความผิดเช่นกัน แต่การที่เขาดำเนินการนั้นจะทำให้ให้ท่านมีความผิดฐานประมาทเลินเล่อทันที

    ดังนั้นเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชนผู้บริโภค และปกป้องท่านเองมิให้กลายเป็นผู้กระทำความผิดจึงขอให้ท่านรีบดำเนินการ
    ⛔ “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที”

    ทั้งนี้ได้ส่งเอกสารข้อมูลสนับสนุนเกี่ยวกับอันตรายและคำหลอกลวงของบริษัทยาข้างต้นมาพร้อมกับหนังสือฉบับนี้แล้ว

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    ลิงค์อ้างอิง
    คำปฏิญาณของ “ฮิปโปเครติส” (Hippocratic Oath)
    https://www.silpa-mag.com/history/article_71475
    เอกสารทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงานต่างๆ
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    📣💥แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA 💉☠️ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากมาย😠 https://mgronline.com/qol/detail/9670000089378 🚩📢 คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ https://www.facebook.com/share/p/h76NA8dbggEAMJ6d/?mibextid=A7sQZp เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขยังคงสนับสนุนให้มีการฉีด mRNA ที่บริษัทยาหลอกว่าเป็นวัคซีน ให้กับผู้บริโภคชาวไทยอยู่นั้น บัดนี้มีข้อมูลสนับสนุนมากมายวาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมิได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัย มีการปนเปื้อนยีนก่อมะเร็ง และก่อให้เกิดผลกระทบกับร่างกายของผู้ที่ได้รับยาฉีดดังกล่าวมากมาย จนมีการแนะนำไม่ให้ฉีดยาดังกล่าวให้กับทุกคน ในมลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้มีการฟ้องร้องเอาผิดบริษัทยาที่ให้ข้อมูลเท็จโดยอัยการของมลรัฐแคนซัส ด้วย ทั้งนี้ปัจจุบัน การระบาดของโรคโควิด ได้ยุติลงแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว เชื้อกลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว มีวิธีการรักษาโควิดที่มีประสิทธิภาพที่ป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้แล้ว ประกอบกับการที่มีข้อมูลชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมิสามารถป้องกันการแพร่เชื้อ มิสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ทั้งนี้ในการดำเนินการใดๆทางการแพทย์นั้น การยึดถือความปลอดภัยของผู้ป่วย (First Do No Harm) หรือ คำปฏิญาณของ “ฮิปโปเครติส” (Hippocratic Oath) ถือเป็นหลักการสำคัญของจรรยาบรรณทางการแพทย์ ที่แพทย์ทุกคนต้องปฏิบัติตาม นอกเหนือจากนั้น ท่านมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองประชาชนผู้บริโภคมิให้ได้รับผลกระทบจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ยา การระงับการฉีดผลิตภัณฑ์ mRNA ทุกตัวจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องกระทำโดยทันที มิเช่นนั้นท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดละเลยการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้อื่น อันเป็นความผิดอาญามีโทษถึงขั้นไล่ออกหรือให้ออกจากราชการได้ หลายท่านที่จะเกษียณราชการหรือโยกย้ายตำแหน่งในเวลาไม่นานนี้พึ่งระลึกไว้ว่า ผู้ที่มีหน้าที่รับตำแหน่งต่อจากท่านนั้น มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เช่นกัน หากเขาไม่ดำเนินการตามเสนอย่อมมีความผิดเช่นกัน แต่การที่เขาดำเนินการนั้นจะทำให้ให้ท่านมีความผิดฐานประมาทเลินเล่อทันที ดังนั้นเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชนผู้บริโภค และปกป้องท่านเองมิให้กลายเป็นผู้กระทำความผิดจึงขอให้ท่านรีบดำเนินการ ⛔ “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ทั้งนี้ได้ส่งเอกสารข้อมูลสนับสนุนเกี่ยวกับอันตรายและคำหลอกลวงของบริษัทยาข้างต้นมาพร้อมกับหนังสือฉบับนี้แล้ว กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ลิงค์อ้างอิง คำปฏิญาณของ “ฮิปโปเครติส” (Hippocratic Oath) https://www.silpa-mag.com/history/article_71475 เอกสารทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงานต่างๆ https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    MGRONLINE.COM
    แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากกมาย
    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ทำจดหมายเปิดผนึกถึงปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข เตือนครั้งสุดท้ายให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ทุกชนิด เพราะขณะนี้มีข้อมูลสนับสนุนมากมายว่าวัคซีนชนิดนี้ไม่ผ่านการทดสอบความ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยเป็นปลายทางขยะโลก!? (ตอน 2: ข้อมูลชี้...การนำเข้าขยะพุ่งและมีมากมายหลายชนิด)
    .
    จากกรณีพบขยะเทศบาลในตู้คอนเทนเนอร์สินค้าที่บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่มีการสำแดงว่าเป็นเศษกระดาษ เรื่องดังกล่าว กรมศุลกากรไม่ได้เปิดเผยสู่สาธารณะ แต่ด้วยข้อมูลที่เล็ดลอดออกมา ทำให้มีสื่อมวลชนบางสำนักหยิบมานำเสนอ เหตุการณ์ที่มีลักษณะเป็นการลักลอบนี้จึงได้เผยตัวสู่สาธารณะ
    .
    ในทางลึกมีข้อมูลว่า เฉพาะในรอบปีนี้ ซึ่งนับตามจำนวนเวลาก็คือประมาณ 7 เดือน มีการตรวจพบปัญหาลักษณะเดียวกันของผู้นำเข้ารายนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง
    .
    สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นมิติของการลักลอบ ซึ่งมักไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาอย่างชัดเจน ส่วนในมิติที่มีข้อมูลสถิติเป็นทางการ เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ ได้นำเสนอผ่านการแถลงข่าวร่วมกับกรรณิการ์ กิจติเวชกุล รองประธานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) ในหัวข้อ “เมื่อขยะโลกหลั่งไหลเข้าไทย เราจะรอดพ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร” เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ระบุว่า
    .
    “จากการติดตามปัญหาการส่งออกขยะในหมู่ประเทศสมาชิกของอียู (สหภาพยุโรป) ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ได้มีการส่งขยะกลุ่มนี้เข้ามายังประเทศไทยสูงทีเดียว ประเทศไทยกลายเป็นปลายทางของการส่งออกขยะกระดาษและกระดาษแข็ง เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคนี้ รองจากอินโดนีเซียและเวียดนาม นอกจากนี้ไทยยังเป็นปลายทางอันดับ 4 ของขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป รองมาจากอินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย”
    .
    ตามสถิติของกรมศุลกากรที่เพ็ญโฉมค้นมานำเสนอ ไม่มีการแสดงปริมาณการนำเข้าของเสียเหล่านั้น แต่ได้แสดงเป็นมูลค่า ซึ่งในส่วนของเศษกระดาษมีมูลค่าสูงถึงระดับมากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่ประเภทส่วนประกอบทางไฟฟ้าของเครื่องจักรและอุปกรณ์ ที่เพ็ญโฉมบอกว่าเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้น มูลค่าในแต่ละปีสูงประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท
    .
    “เราจะเห็นว่าการนำเข้าขยะกระดาษและขยะอิล็กทรอนิกส์ ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้ว แต่ยังมีพิกัดหนึ่งที่เป็นตัวรวมของขยะอิเล็กทรอนิกส์หลายประเภทและเศษโลหะที่นำเข้ามา เศษพลาสติกบางอย่างที่ปนเข้ามาในพิกัด 8548 จะเห็นว่า ถ้าดูจากกราฟ สหรัฐอเมริกาคือประเทศที่ส่งออกขยะกลุ่มนี้มายังประเทศไทยสูงที่สุด ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ”
    .
    ไม่เพียงพิกัด 8548 แต่พิกัด 4704 ที่เป็นรายการเศษกระดาษ คิดจากมูลค่าการนำเข้าสูงสุดก็มีต้นทางมาจากประเทศสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน ส่วนลำดับรองลงมาได้แก่สหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น ในขณะที่ประเทศลำดับรองที่ส่งออกขยะพิกัด 8548 มาไทยในมูลค่าที่สูงรองจากสหรัฐฯ ได้แก่จีนและญี่ปุ่น
    .
    นอกจากนั้น เพ็ญโฉมยังเปิดเผยข้อมูลในส่วนของขยะหรือกากของเสียอุตสาหกรรม โดยยกสถิติเกี่ยวกับเศษอะลูมิเนียมมานำเสนอด้วย
    .
    “อะลูมิเนียมดรอส ยกตัวอย่างปี 2560 - 2567 ประเทศไทยมีการนำเข้าอะลูมิเนียม ซึ่งตัวที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะกรณีที่พบที่วินโพรเสส นครปฐม และอีกหลายที่ เราจะเรียกว่า อะลูมิเนียมดรอส ซึ่งคือกากอะลูมิเนียม แต่เวลาแสดงพิกัดการนำเข้า จะเรียกว่าเป็นผงอะลูมีเนียม หรือเป็นเศษชิ้นส่วนอะลูมิเนียม พวกนี้สามารถนำเข้ามาได้ และมีการนำเข้าเยอะทีเดียว จากปี 2560 – 2567 เป็นปริมาณหลายล้านตัน
    .
    “อย่างการนำเข้ากาก/เศษอะลูมิเนียม ปี 67 จากมกราคม - มิถุนายน ครึ่งปี มีการนำเข้ามาถึง 335 ล้านกิโลกรัม หรืออย่างตัวผงและเกล็ดอะลูมิเนียม เพียงครึ่งปีนี้ก็นำเข้ามากว่า 580,000 กิโลกรัม แต่บางปีก็มีการนำเข้ามากกว่านั้น ซึ่งเราคิดว่า การนำเข้าผงอะลูมิเนียมจากปี 60-67 แนวโน้มมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คำถามว่า นำเข้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะอะไร อันนี้เราคิดว่าต้องย้อนมาดูนโยบายเรื่องการส่งเสริมกิจการรีไซเคิลและเศรษฐกิจหมุนเวียน”
    .
    อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นมิตินโยบาย เราจะนำเสนอในตอนต่อๆ ไป
    ...
    ...
    เรียบเรียงโดย ปานรักษ์ วัฒกะวงศ์ มูลนิธิบูรณะนิเวศ

    อ่านตอนที่ 1 ไทยเป็นปลายทางขยะโลก!? (ตอน 1: ทวงถามความรับผิดชอบ กรณีนำเข้าเศษกระดาษ แต่มี “ขยะเทศบาล” ปนมาด้วย)
    https://shorturl.asia/k2SJG

    #Thaitimes
    ไทยเป็นปลายทางขยะโลก!? (ตอน 2: ข้อมูลชี้...การนำเข้าขยะพุ่งและมีมากมายหลายชนิด) . จากกรณีพบขยะเทศบาลในตู้คอนเทนเนอร์สินค้าที่บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่มีการสำแดงว่าเป็นเศษกระดาษ เรื่องดังกล่าว กรมศุลกากรไม่ได้เปิดเผยสู่สาธารณะ แต่ด้วยข้อมูลที่เล็ดลอดออกมา ทำให้มีสื่อมวลชนบางสำนักหยิบมานำเสนอ เหตุการณ์ที่มีลักษณะเป็นการลักลอบนี้จึงได้เผยตัวสู่สาธารณะ . ในทางลึกมีข้อมูลว่า เฉพาะในรอบปีนี้ ซึ่งนับตามจำนวนเวลาก็คือประมาณ 7 เดือน มีการตรวจพบปัญหาลักษณะเดียวกันของผู้นำเข้ารายนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง . สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นมิติของการลักลอบ ซึ่งมักไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาอย่างชัดเจน ส่วนในมิติที่มีข้อมูลสถิติเป็นทางการ เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ ได้นำเสนอผ่านการแถลงข่าวร่วมกับกรรณิการ์ กิจติเวชกุล รองประธานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) ในหัวข้อ “เมื่อขยะโลกหลั่งไหลเข้าไทย เราจะรอดพ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร” เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ระบุว่า . “จากการติดตามปัญหาการส่งออกขยะในหมู่ประเทศสมาชิกของอียู (สหภาพยุโรป) ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ได้มีการส่งขยะกลุ่มนี้เข้ามายังประเทศไทยสูงทีเดียว ประเทศไทยกลายเป็นปลายทางของการส่งออกขยะกระดาษและกระดาษแข็ง เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคนี้ รองจากอินโดนีเซียและเวียดนาม นอกจากนี้ไทยยังเป็นปลายทางอันดับ 4 ของขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป รองมาจากอินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย” . ตามสถิติของกรมศุลกากรที่เพ็ญโฉมค้นมานำเสนอ ไม่มีการแสดงปริมาณการนำเข้าของเสียเหล่านั้น แต่ได้แสดงเป็นมูลค่า ซึ่งในส่วนของเศษกระดาษมีมูลค่าสูงถึงระดับมากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่ประเภทส่วนประกอบทางไฟฟ้าของเครื่องจักรและอุปกรณ์ ที่เพ็ญโฉมบอกว่าเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้น มูลค่าในแต่ละปีสูงประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท . “เราจะเห็นว่าการนำเข้าขยะกระดาษและขยะอิล็กทรอนิกส์ ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้ว แต่ยังมีพิกัดหนึ่งที่เป็นตัวรวมของขยะอิเล็กทรอนิกส์หลายประเภทและเศษโลหะที่นำเข้ามา เศษพลาสติกบางอย่างที่ปนเข้ามาในพิกัด 8548 จะเห็นว่า ถ้าดูจากกราฟ สหรัฐอเมริกาคือประเทศที่ส่งออกขยะกลุ่มนี้มายังประเทศไทยสูงที่สุด ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ” . ไม่เพียงพิกัด 8548 แต่พิกัด 4704 ที่เป็นรายการเศษกระดาษ คิดจากมูลค่าการนำเข้าสูงสุดก็มีต้นทางมาจากประเทศสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน ส่วนลำดับรองลงมาได้แก่สหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น ในขณะที่ประเทศลำดับรองที่ส่งออกขยะพิกัด 8548 มาไทยในมูลค่าที่สูงรองจากสหรัฐฯ ได้แก่จีนและญี่ปุ่น . นอกจากนั้น เพ็ญโฉมยังเปิดเผยข้อมูลในส่วนของขยะหรือกากของเสียอุตสาหกรรม โดยยกสถิติเกี่ยวกับเศษอะลูมิเนียมมานำเสนอด้วย . “อะลูมิเนียมดรอส ยกตัวอย่างปี 2560 - 2567 ประเทศไทยมีการนำเข้าอะลูมิเนียม ซึ่งตัวที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะกรณีที่พบที่วินโพรเสส นครปฐม และอีกหลายที่ เราจะเรียกว่า อะลูมิเนียมดรอส ซึ่งคือกากอะลูมิเนียม แต่เวลาแสดงพิกัดการนำเข้า จะเรียกว่าเป็นผงอะลูมีเนียม หรือเป็นเศษชิ้นส่วนอะลูมิเนียม พวกนี้สามารถนำเข้ามาได้ และมีการนำเข้าเยอะทีเดียว จากปี 2560 – 2567 เป็นปริมาณหลายล้านตัน . “อย่างการนำเข้ากาก/เศษอะลูมิเนียม ปี 67 จากมกราคม - มิถุนายน ครึ่งปี มีการนำเข้ามาถึง 335 ล้านกิโลกรัม หรืออย่างตัวผงและเกล็ดอะลูมิเนียม เพียงครึ่งปีนี้ก็นำเข้ามากว่า 580,000 กิโลกรัม แต่บางปีก็มีการนำเข้ามากกว่านั้น ซึ่งเราคิดว่า การนำเข้าผงอะลูมิเนียมจากปี 60-67 แนวโน้มมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คำถามว่า นำเข้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะอะไร อันนี้เราคิดว่าต้องย้อนมาดูนโยบายเรื่องการส่งเสริมกิจการรีไซเคิลและเศรษฐกิจหมุนเวียน” . อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นมิตินโยบาย เราจะนำเสนอในตอนต่อๆ ไป ... ... เรียบเรียงโดย ปานรักษ์ วัฒกะวงศ์ มูลนิธิบูรณะนิเวศ อ่านตอนที่ 1 ไทยเป็นปลายทางขยะโลก!? (ตอน 1: ทวงถามความรับผิดชอบ กรณีนำเข้าเศษกระดาษ แต่มี “ขยะเทศบาล” ปนมาด้วย) https://shorturl.asia/k2SJG #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 644 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงการปรับปรุงถนนเส้นทางภูทับเบิก – บ้านนาสะอุ้ง – บ้านหมากแข้ง
    กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เกี่ยวกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องปัญหาของเส้นทางสัญจรช่วง ภูทับเบิก - บ้านนาสะอุ้ง - บ้านหมากแข้ง ที่มีความชำรุดเสียหายมาเป็นเวลานานทำให้ยากลำบากในการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้เส้นทางดังกล่าวไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว จากบ้านภูทับเบิก �อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ไปยังอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยปัจจุบันต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 2 ชั่วโมง

    ในการนี้ ผบ.ทบ. จึงมีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยกองทัพบกได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเส้นทางภูทับเบิก - บ.นาสะอุ้ง - บ.หมากแข้ง ร่วมกับกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และขอรับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากภาคเอกชนและประชาชนจิตอาสา กองทัพบกมอบให้กองทัพภาคที่ 3 โดยกองพลพัฒนาที่ 3 ดำเนินการส่งทหารช่างพร้อมยุทโธปกรณ์ ปรับปรุงเส้นทางตั้งแต่วัดป่าภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ถึง บ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน �อ.ด่านซ้าย ระยะทาง 14.2 กม. เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ก.พ.-พ.ค.67

    การดำเนินการโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรและใช้เส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตรและอื่น ๆ อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐใช้เป็นเส้นทางในการดูแลรักษาป่าและสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ให้มีความสะดวกมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลของกองทัพบก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการแสดงความจงรักภักดีตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกองทัพบกและปวงชนซาวไทย

    #สยามโสภา #สื่อมวลชน #ปรับปรุงถนน #บ้านหมากแข้ง #ภูทับเบิก #เลย #กองทัพบก #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    โครงการปรับปรุงถนนเส้นทางภูทับเบิก – บ้านนาสะอุ้ง – บ้านหมากแข้ง กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เกี่ยวกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องปัญหาของเส้นทางสัญจรช่วง ภูทับเบิก - บ้านนาสะอุ้ง - บ้านหมากแข้ง ที่มีความชำรุดเสียหายมาเป็นเวลานานทำให้ยากลำบากในการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้เส้นทางดังกล่าวไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว จากบ้านภูทับเบิก �อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ไปยังอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยปัจจุบันต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 2 ชั่วโมง ในการนี้ ผบ.ทบ. จึงมีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยกองทัพบกได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเส้นทางภูทับเบิก - บ.นาสะอุ้ง - บ.หมากแข้ง ร่วมกับกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และขอรับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากภาคเอกชนและประชาชนจิตอาสา กองทัพบกมอบให้กองทัพภาคที่ 3 โดยกองพลพัฒนาที่ 3 ดำเนินการส่งทหารช่างพร้อมยุทโธปกรณ์ ปรับปรุงเส้นทางตั้งแต่วัดป่าภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ถึง บ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน �อ.ด่านซ้าย ระยะทาง 14.2 กม. เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ก.พ.-พ.ค.67 การดำเนินการโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรและใช้เส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตรและอื่น ๆ อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐใช้เป็นเส้นทางในการดูแลรักษาป่าและสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ให้มีความสะดวกมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลของกองทัพบก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการแสดงความจงรักภักดีตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกองทัพบกและปวงชนซาวไทย #สยามโสภา #สื่อมวลชน #ปรับปรุงถนน #บ้านหมากแข้ง #ภูทับเบิก #เลย #กองทัพบก #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 823 มุมมอง 182 0 รีวิว
  • 14 กันยายน2567- พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า ตามที่ได้มีผู้เขียนหนังสือชื่อ“ในนามของความมั่นคงภายใน การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย”โดยมีการตีพิมพ์จำหน่ายทั้งแบบรูปเล่มหนังสือ และรูปแบบออนไลน์ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมกับมีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ ประกอบกับมีการนำข้อมูลในหนังสือที่ตนเองเขียนเองนั้น ไปบอกเล่าผ่านการเสวนา และการบรรยายในเวทีต่างๆ พร้อมกับได้มีการบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจำนวนหลายครั้ง

    พล.ต.วินธัย กล่าวว่า กอ.รมน. ได้ทำการตรวจสอบ พบว่าผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าว ไม่ได้มีคุณวุฒิการศึกษาและไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงโดยตรง อีกทั้งไม่ได้รับผิดชอบให้ทำการสอนในเรื่องดังกล่าว และไม่มีผลงานทางวิชาการในด้านความมั่นคงปรากฏให้เห็นมาตามลำดับ โดยหนังสือและผลงานทางวิชาการของผู้เขียน ก็ไม่ได้ทำการศึกษาวิจัยตามระเบียบวิธีวิจัย แต่กลับใช้วิธีการเลือกนำข้อมูลเฉพาะที่สนับสนุนแนวคิดตนเองที่ตั้งไว้แล้ว นำมาเป็นข้อสรุปขึ้นเอง ประกอบกับไม่ได้มีการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลจากหน่วยงาน เช่น กอ.รมน. หรือ กองทัพโดยตรง รวมถึงไม่ได้ทำการศึกษากฎหมาย ระเบียบ และขั้นตอนการปฏิบัติราชการ จึงเกิดเป็นข้อสรุปย่อยที่เป็นเท็จจำนวนมาก นำมาสู่ข้อสรุปในภาพรวมถึงการแทรกซึมของกองทัพ โดยมี กอ.รมน. เป็นเครื่องมือเพื่อควบคุมสังคมไทย พล.ต.วินธัย กล่าวด้วยว่า การที่ผู้เขียนได้มีการนำข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนสูงในลักษณะนี้ ไปตีพิมพ์เผยแพร่จำหน่ายเพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิชาที่สอน และกิจการการศึกษา จึงอาจเป็นการละเมิดข้อบังคับจริยธรรมของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง รวมถึงอาจเข้าข่ายความผิดในทางกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอเรียนว่า การนำหนังสือและบทความทางวิชาการที่มีข้อมูลในลักษณะที่เป็นเท็จ ไปเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการจำหน่ายเป็นแบบรูปเล่มหนังสือ และการไปร่วมเสวนาบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทำให้สังคมเข้าใจผิด และกระทบภาพลักษณ์ขององค์กรหน่วยงาน

    “กอ.รมน. จึงขอความร่วมมือในการระงับการจำหน่ายหนังสือดังกล่าว และจะประสานทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัด ได้กรุณาพิจารณาในเรื่องของจริยธรรม รวมถึงอาจจำเป็นต้องอาศัยขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ หากนักวิชาการ สื่อมวลชน หรือสังคมมีความสงสัย ต้องการทราบรายละเอียดในประเด็นใด สามารถติดต่อมาที่หน่วยงาน หรือทีมโฆษก กอ.รมน. ได้ตลอดเวลา” พล.ต.วินธัย กล่าว

    ส่วน รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงข้อความว่า “เฮ้ออออ หนังสืออิฉันเองค่ะ”พร้อมได้ลงปกหนังสือเล่มดังกล่าว

    #Thaitimes
    14 กันยายน2567- พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า ตามที่ได้มีผู้เขียนหนังสือชื่อ“ในนามของความมั่นคงภายใน การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย”โดยมีการตีพิมพ์จำหน่ายทั้งแบบรูปเล่มหนังสือ และรูปแบบออนไลน์ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมกับมีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ ประกอบกับมีการนำข้อมูลในหนังสือที่ตนเองเขียนเองนั้น ไปบอกเล่าผ่านการเสวนา และการบรรยายในเวทีต่างๆ พร้อมกับได้มีการบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจำนวนหลายครั้ง พล.ต.วินธัย กล่าวว่า กอ.รมน. ได้ทำการตรวจสอบ พบว่าผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าว ไม่ได้มีคุณวุฒิการศึกษาและไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงโดยตรง อีกทั้งไม่ได้รับผิดชอบให้ทำการสอนในเรื่องดังกล่าว และไม่มีผลงานทางวิชาการในด้านความมั่นคงปรากฏให้เห็นมาตามลำดับ โดยหนังสือและผลงานทางวิชาการของผู้เขียน ก็ไม่ได้ทำการศึกษาวิจัยตามระเบียบวิธีวิจัย แต่กลับใช้วิธีการเลือกนำข้อมูลเฉพาะที่สนับสนุนแนวคิดตนเองที่ตั้งไว้แล้ว นำมาเป็นข้อสรุปขึ้นเอง ประกอบกับไม่ได้มีการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลจากหน่วยงาน เช่น กอ.รมน. หรือ กองทัพโดยตรง รวมถึงไม่ได้ทำการศึกษากฎหมาย ระเบียบ และขั้นตอนการปฏิบัติราชการ จึงเกิดเป็นข้อสรุปย่อยที่เป็นเท็จจำนวนมาก นำมาสู่ข้อสรุปในภาพรวมถึงการแทรกซึมของกองทัพ โดยมี กอ.รมน. เป็นเครื่องมือเพื่อควบคุมสังคมไทย พล.ต.วินธัย กล่าวด้วยว่า การที่ผู้เขียนได้มีการนำข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนสูงในลักษณะนี้ ไปตีพิมพ์เผยแพร่จำหน่ายเพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิชาที่สอน และกิจการการศึกษา จึงอาจเป็นการละเมิดข้อบังคับจริยธรรมของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง รวมถึงอาจเข้าข่ายความผิดในทางกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอเรียนว่า การนำหนังสือและบทความทางวิชาการที่มีข้อมูลในลักษณะที่เป็นเท็จ ไปเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการจำหน่ายเป็นแบบรูปเล่มหนังสือ และการไปร่วมเสวนาบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทำให้สังคมเข้าใจผิด และกระทบภาพลักษณ์ขององค์กรหน่วยงาน “กอ.รมน. จึงขอความร่วมมือในการระงับการจำหน่ายหนังสือดังกล่าว และจะประสานทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัด ได้กรุณาพิจารณาในเรื่องของจริยธรรม รวมถึงอาจจำเป็นต้องอาศัยขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ หากนักวิชาการ สื่อมวลชน หรือสังคมมีความสงสัย ต้องการทราบรายละเอียดในประเด็นใด สามารถติดต่อมาที่หน่วยงาน หรือทีมโฆษก กอ.รมน. ได้ตลอดเวลา” พล.ต.วินธัย กล่าว ส่วน รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงข้อความว่า “เฮ้ออออ หนังสืออิฉันเองค่ะ”พร้อมได้ลงปกหนังสือเล่มดังกล่าว #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 606 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลอเมริกาสั่งห้ามสก็อตต์ ริทเทอร์ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว RT และ Sputnik ของรัสเซียอีกเพราะวิจารณ์ตรงไปตรงมา หลักๆ คือแฉอาชญากรรมของรัฐบาลอเมริกาให้ชาวโลกรู้

    การไล่ปิดปากสื่อนี้ผิดรัฐธรรมนูญอเมริกานะครับเพราะเสรีภาพสื่อเป็นรากฐานของประชาธิปไตย แต่นักการเมืองไทย นักรัฐศาสตร์ไทยรวมทั้งเหล่าสื่อ ประเภทสากกะเบือไม่ออกดอกทั้งหลายของไทยไม่พากันเอาไปวิจารณ์เพราะกลัวภาพลักษณ์ประชาธิปไตยของอเมริกาเสียหาย

    พวกนี้เกิดมาเป็นขี้ช้าฝรั่งเขาครับ ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ สื่อมวลชนหรือนักการเมืองเหมือนๆ กันหมด สากกะเบือไม่ออกดอก จะยังไงเสียก็เป็นแค่สากกะเบือไม่ออกดอกวันยังค่ำครับ


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    รัฐบาลอเมริกาสั่งห้ามสก็อตต์ ริทเทอร์ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว RT และ Sputnik ของรัสเซียอีกเพราะวิจารณ์ตรงไปตรงมา หลักๆ คือแฉอาชญากรรมของรัฐบาลอเมริกาให้ชาวโลกรู้ การไล่ปิดปากสื่อนี้ผิดรัฐธรรมนูญอเมริกานะครับเพราะเสรีภาพสื่อเป็นรากฐานของประชาธิปไตย แต่นักการเมืองไทย นักรัฐศาสตร์ไทยรวมทั้งเหล่าสื่อ ประเภทสากกะเบือไม่ออกดอกทั้งหลายของไทยไม่พากันเอาไปวิจารณ์เพราะกลัวภาพลักษณ์ประชาธิปไตยของอเมริกาเสียหาย พวกนี้เกิดมาเป็นขี้ช้าฝรั่งเขาครับ ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ สื่อมวลชนหรือนักการเมืองเหมือนๆ กันหมด สากกะเบือไม่ออกดอก จะยังไงเสียก็เป็นแค่สากกะเบือไม่ออกดอกวันยังค่ำครับ ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร่วมเฟ้นหาตัวแทนชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี
    ​องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท แกมมาโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพด้านการออกแบบและเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ โดยหัวข้อการแข่งขัน คือ Earth Allies
    การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย มีทีมเข้าร่วมกว่า 270 ทีม หรือกว่า 1,500 คน พร้อมทั้งผู้ปกครองเข้าเชียร์บุตรหลานรวมจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,300 คนต่อวัน ทีมที่เข้าแข่งขันมาจากหลายจังหวัด ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี จำนวน 102 ทีม รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 80 ทีม และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จำนวน 72 ทีม โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องเขียนโปรแกรมและออกแบบหุ่นยนต์ เพื่อทำภารกิจที่กำหนดในสนาม ผู้ชนะการแข่งขันฯ ลำดับที่ 1 – 3 ของแต่ละรุ่น จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขัน ฯ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี ในลำดับต่อไป
    สำหรับโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ (WRO 2024: World Robot Olympiad 2024) ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ฯ และเอกชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 กำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 13 - 15 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ โคราช โดยได้รับเกียรติจาก คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี
    ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแข่งขันการเขียนโปรแกรม และ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงจุดประกายความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคตตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ในการพัฒนาวิทยาการ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยพัฒนา"
    คุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด กล่าวต้อนรับ ว่า "ในนาม ผู้บริหาร ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในวันนี้
    การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 15 กันยายน 2567 ในฐานะของผู้ร่วมจัดงาน และผู้ร่วมสนับสนุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีสนามแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งในปีนี้ทราบว่ามีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 254 ทีม รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน และขอต้อนรับน้องๆ เยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน และผู้ปกครอง อาจารย์ ที่ได้พาน้องๆ มาร่วมในการแข่งขันครั้งนี้
    สุดท้ายนี้ ในนาม ผู้บริหาร เดอะมอลล์โคราช ขอขอบพระคุณ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ท่านผู้มีเกียรติ สื่อมวลชนทุกท่าน ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมเปิดงานในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จะได้รับเกียรติในการจัดงาน ครั้งต่อๆ ไป"
    ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก
    นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
    ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ประจำประเทศไทย
    นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา
    นายธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา
    ดร.ยุทธกร ฤทธิ์ไธสง รองอธิการบดีฝ่ายบริหารการคลัง พัสดุและกายภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
    อาจารย์สรวิศ ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
    อ.ดร.ศิริ สาระเขตต์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรม มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล
    ผศ.ดร.จงกล ศรีธร หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
    คณะกรรมการดำเนินการจัดงาน ท่านผู้มีเกียรติ ผู้เข้าแข่งขัน และสื่อมวลชนทุกท่าน
    ร่วมเฟ้นหาตัวแทนชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี ​องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท แกมมาโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพด้านการออกแบบและเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ โดยหัวข้อการแข่งขัน คือ Earth Allies การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย มีทีมเข้าร่วมกว่า 270 ทีม หรือกว่า 1,500 คน พร้อมทั้งผู้ปกครองเข้าเชียร์บุตรหลานรวมจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,300 คนต่อวัน ทีมที่เข้าแข่งขันมาจากหลายจังหวัด ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี จำนวน 102 ทีม รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 80 ทีม และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จำนวน 72 ทีม โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องเขียนโปรแกรมและออกแบบหุ่นยนต์ เพื่อทำภารกิจที่กำหนดในสนาม ผู้ชนะการแข่งขันฯ ลำดับที่ 1 – 3 ของแต่ละรุ่น จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขัน ฯ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี ในลำดับต่อไป สำหรับโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ (WRO 2024: World Robot Olympiad 2024) ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ฯ และเอกชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 กำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 13 - 15 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ โคราช โดยได้รับเกียรติจาก คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแข่งขันการเขียนโปรแกรม และ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงจุดประกายความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคตตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ในการพัฒนาวิทยาการ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยพัฒนา" คุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด กล่าวต้อนรับ ว่า "ในนาม ผู้บริหาร ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในวันนี้ การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 15 กันยายน 2567 ในฐานะของผู้ร่วมจัดงาน และผู้ร่วมสนับสนุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีสนามแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งในปีนี้ทราบว่ามีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 254 ทีม รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน และขอต้อนรับน้องๆ เยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน และผู้ปกครอง อาจารย์ ที่ได้พาน้องๆ มาร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ สุดท้ายนี้ ในนาม ผู้บริหาร เดอะมอลล์โคราช ขอขอบพระคุณ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ท่านผู้มีเกียรติ สื่อมวลชนทุกท่าน ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมเปิดงานในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จะได้รับเกียรติในการจัดงาน ครั้งต่อๆ ไป" ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ประจำประเทศไทย นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา ดร.ยุทธกร ฤทธิ์ไธสง รองอธิการบดีฝ่ายบริหารการคลัง พัสดุและกายภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อาจารย์สรวิศ ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.ดร.ศิริ สาระเขตต์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรม มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ผศ.ดร.จงกล ศรีธร หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี คณะกรรมการดำเนินการจัดงาน ท่านผู้มีเกียรติ ผู้เข้าแข่งขัน และสื่อมวลชนทุกท่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลี่ เฉียง : จีนยกสัมพันธ์ 'ซาอุดีอาระเบีย'
    พันธกิจการทูตสำคัญในตะวันออกกลาง
    .
    ซินหัว - หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียเมื่อวันพุธ (11 ก.ย.) กล่าวว่าการพัฒนาความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียเป็นพันธกิจสำคัญในการทูตโดยรวมของจีน โดยเฉพาะการทูตในตะวันออกกลาง
    .
    นายหลี่กล่าวคำข้างต้นขณะพบปะหารือกับโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และร่วมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงจีน-ซาอุดีอาระเบีย ครั้งที่ 4 โดยหลี่ส่งสารทักทายอันอบอุ่นจากสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แก่ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัล ซาอุด กษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย และมกุฎราชกุมาร เป็นลำดับแรก
    .
    นายหลี่เน้นย้ำว่าจีนและซาอุดีอาระเบียได้รักษาไว้ซึ่งความเคารพ ความไว้วางใจ และผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงการเรียนรู้และความเข้าใจซึ่งกันและกัน ภายใต้การชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ของผู้นำสองประเทศ โดยความสัมพันธ์ทวิภาคีได้พัฒนาอย่างรอบด้าน รวดเร็ว และลึกซึ้ง ส่งผลลัพธ์ความร่วมมือด้านต่างๆ
    .
    จีนยินดีจะสนับสนุนซาอุดีอาระเบียและทำงานเพื่อบรรลุผลสำเร็จร่วมกัน มองการพัฒนาของอีกฝ่ายเป็นโอกาสสำคัญ และเสริมสร้างบทบาทของคณะกรรมการร่วมระดับสูงจีน-ซาอุดีอาระเบีย ด้วยเป้าหมายเดินหน้าความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ระดับสูงครั้งใหม่ และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนสองประเทศอย่างต่อเนื่อง
    .
    จีนและซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญ มีผลประโยชน์ร่วมกันในวงกว้าง โดยจีนพร้อมทำงานร่วมกับซาอุดีอาระเบียอย่างใกล้ชิดและเดินหน้าบนวิถีทางการพัฒนาไปด้วยกัน
    .
    นายหลี่เรียกร้องทั้งสองฝ่ายขยับขยายการค้าทวิภาคี กระชับความร่วมมือดั้งเดิมในด้านน้ำมันและก๊าซ ปิโตรเคมีและโครงสร้างพื้นฐาน สำรวจความร่วมมือใหม่ในด้านพลังงานใหม่ สารสนเทศและการสื่อสาร เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว พร้อมกระตุ้นบริษัทลงทุนในอีกประเทศและทำงานร่วมกันเพื่อรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
    .
    นอกจากนั้น นายหลี่ส่งเสริมทั้งสองฝ่ายจัดงานปีแห่งวัฒนธรรมจีน-ซาอุดีอาระเบีย ในปี 2025 ให้ประสบผลสำเร็จ เดินหน้าความร่วมมือด้านวัฒนธรรม คลังสมอง การศึกษา สื่อมวลชน การแลกเปลี่ยนนอกภาครัฐและระหว่างประชาชน และยกระดับความเข้าใจซึ่งกันและกันและมิตรภาพระหว่างประชาชนสองประเทศอย่างต่อเนื่อง
    .
    จีนสนับสนุนซาอุดีอาระเบียในการมีบทบาทในกิจการระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคเพิ่มขึ้น และพร้อมยกระดับการประสานงานพหุภาคีกับซาอุดีอาระเบีย บ่มเพาะความสามัคคีและความร่วมมือในกลุ่มประเทศเอเชีย ร่วมยึดมั่นความยุติธรรมและความเป็นธรรมสากล และส่งเสริมธรรมาภิบาลโลกในทิศทางที่เที่ยงธรรมและสมเหตุสมผลยิ่งขึ้น
    .
    ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามเอกสารความร่วมมือทวิภาคีเกี่ยวกับการฝึกอบรมทางเทคนิคและอาชีวศึกษา อุตุนิยมวิทยา และอื่นๆ จำนวนหลายฉบับระหว่างการเยือนของหลี่ด้วย
    .
    แฟ้มภาพซินหัว : นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน พบปะกับโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และร่วมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงจีน-ซาอุดีอาระเบีย ครั้งที่ 4 ณ พระราชวังอัลยามามะฮ์ ในกรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย วันที่ 11 ก.ย. 2567)
    หลี่ เฉียง : จีนยกสัมพันธ์ 'ซาอุดีอาระเบีย' พันธกิจการทูตสำคัญในตะวันออกกลาง . ซินหัว - หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียเมื่อวันพุธ (11 ก.ย.) กล่าวว่าการพัฒนาความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียเป็นพันธกิจสำคัญในการทูตโดยรวมของจีน โดยเฉพาะการทูตในตะวันออกกลาง . นายหลี่กล่าวคำข้างต้นขณะพบปะหารือกับโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และร่วมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงจีน-ซาอุดีอาระเบีย ครั้งที่ 4 โดยหลี่ส่งสารทักทายอันอบอุ่นจากสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แก่ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัล ซาอุด กษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย และมกุฎราชกุมาร เป็นลำดับแรก . นายหลี่เน้นย้ำว่าจีนและซาอุดีอาระเบียได้รักษาไว้ซึ่งความเคารพ ความไว้วางใจ และผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงการเรียนรู้และความเข้าใจซึ่งกันและกัน ภายใต้การชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ของผู้นำสองประเทศ โดยความสัมพันธ์ทวิภาคีได้พัฒนาอย่างรอบด้าน รวดเร็ว และลึกซึ้ง ส่งผลลัพธ์ความร่วมมือด้านต่างๆ . จีนยินดีจะสนับสนุนซาอุดีอาระเบียและทำงานเพื่อบรรลุผลสำเร็จร่วมกัน มองการพัฒนาของอีกฝ่ายเป็นโอกาสสำคัญ และเสริมสร้างบทบาทของคณะกรรมการร่วมระดับสูงจีน-ซาอุดีอาระเบีย ด้วยเป้าหมายเดินหน้าความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ระดับสูงครั้งใหม่ และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนสองประเทศอย่างต่อเนื่อง . จีนและซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญ มีผลประโยชน์ร่วมกันในวงกว้าง โดยจีนพร้อมทำงานร่วมกับซาอุดีอาระเบียอย่างใกล้ชิดและเดินหน้าบนวิถีทางการพัฒนาไปด้วยกัน . นายหลี่เรียกร้องทั้งสองฝ่ายขยับขยายการค้าทวิภาคี กระชับความร่วมมือดั้งเดิมในด้านน้ำมันและก๊าซ ปิโตรเคมีและโครงสร้างพื้นฐาน สำรวจความร่วมมือใหม่ในด้านพลังงานใหม่ สารสนเทศและการสื่อสาร เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว พร้อมกระตุ้นบริษัทลงทุนในอีกประเทศและทำงานร่วมกันเพื่อรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก . นอกจากนั้น นายหลี่ส่งเสริมทั้งสองฝ่ายจัดงานปีแห่งวัฒนธรรมจีน-ซาอุดีอาระเบีย ในปี 2025 ให้ประสบผลสำเร็จ เดินหน้าความร่วมมือด้านวัฒนธรรม คลังสมอง การศึกษา สื่อมวลชน การแลกเปลี่ยนนอกภาครัฐและระหว่างประชาชน และยกระดับความเข้าใจซึ่งกันและกันและมิตรภาพระหว่างประชาชนสองประเทศอย่างต่อเนื่อง . จีนสนับสนุนซาอุดีอาระเบียในการมีบทบาทในกิจการระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคเพิ่มขึ้น และพร้อมยกระดับการประสานงานพหุภาคีกับซาอุดีอาระเบีย บ่มเพาะความสามัคคีและความร่วมมือในกลุ่มประเทศเอเชีย ร่วมยึดมั่นความยุติธรรมและความเป็นธรรมสากล และส่งเสริมธรรมาภิบาลโลกในทิศทางที่เที่ยงธรรมและสมเหตุสมผลยิ่งขึ้น . ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามเอกสารความร่วมมือทวิภาคีเกี่ยวกับการฝึกอบรมทางเทคนิคและอาชีวศึกษา อุตุนิยมวิทยา และอื่นๆ จำนวนหลายฉบับระหว่างการเยือนของหลี่ด้วย . แฟ้มภาพซินหัว : นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน พบปะกับโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และร่วมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงจีน-ซาอุดีอาระเบีย ครั้งที่ 4 ณ พระราชวังอัลยามามะฮ์ ในกรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย วันที่ 11 ก.ย. 2567)
    Like
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องป้าโจยิ่งล้วงยิ่งลึกยิ่งชวนอึ้ง
    #เปิดข้อมูลที่นี่ที่แรกลึกสุด
    หลังจากที่เพจคิงส์โพธิ์แดงได้ทำการเปิดข้อมูลและสื่อมวลชนหลายสำนักได้กรุณานำไปเผยแพร่เพื่อเป็นข้อมูลอีกด้าน เพื่อปกป้องไม่ให้พี่น้องชาวไทยตกเป็น เ-ห-ยื่-อ มิจกิมจิไปแล้วนั้น
    พี่คิงส์เปิดต่อเลยว่านี่ไม่ใช่แค่กามิจหวังติ๊กเกอร์ แต่มันคือข-บ-ว-น-ก-า-ร
    -โดยปัจจุบันมีคนไทยเข้าไปได้รับผลประโยชน์ และกำลังเสียประโยชน์จากการที่คนไทยได้ตื่นรู้
    คำถาม ป้าโจ ทำไมต้องออกหน้าออกตา presert face ป้องอิเหวิงกาฝากอย่างไม่เกรงกลัว ถึงขนาดกล้าท้าทายไร้มารยาทกับสื่อตำนานระดับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล
    -ถ้าแฟนเพจคิงส์รับรู้เนื้อหาจากนี้ จะร้องอ๋ออย่างไม่ได้นัดหมาย
    -ก่อนอื่น ต้องเปิดที่มาขอรายรับหลักที่คนนอกน้อยคนที่จะรู้
    ซึ่งส่วนนี้เปรียบเสมือนเครือข่ายหลักของอิเหวิงกาฝากเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของอิเหวิง และปัจจุบันนี้ห้องคลับนี้ก็เป็นที่รวมคนคลั่งรักกามิน เปรียบเสมือนลัทธิเชื่อมจิตไปแล้วจริงๆ
    -กลุ่มลั-บนี้ เป็นจุดรวมพลfcของกามินที่เต็มไปด้วยความภักดี เป็นชายไทย 99% ซึ่งมันชื่อเป็นห้องแชท ลักษณะเหมือนกรุ๊ปไลน์ห้องใหญ่ บรรจุจำนวนคนที่อยู่ห้องแชทนี่ประมาณ 1,200 กว่าคน มีชื่อว่าห้อง Discord
    .......
    -ห้องแชทนี้มันฟังก์ชั่นที่ผูกติดกับแอพ tiktok เกาหลีได้จัดทำขึ้น ซึ่งคนที่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปอยู่ในห้องนี้ได้ ต้องชำระเงินรายเดือนๆละประมาณ 250บาท รวมเบ็ดเสร็จโดยรวมๆนางกามินจะได้รายรับจากห้องนี้เดือนละ 250×1,200=300,000 บาท อันนี้คือยืนพื้นเลย ฮ่าๆ
    -ขบวนการนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่?-
    ก็ตั้งแต่ที่อิเหวิงเป็นที่รู้จักแรกๆจากแค่เป็น tiktoker ที่ชาลีกำลังจีบในช่วงแรกๆ ย้อนไปเมื่อประมาณ 8 เดือนที่แล้ว
    -อิกาฝากก็เริ่มมาประกาศในกลุ่มfcชาลีว่าถ้าอยากจะได้คุยส่วนตัวแบบ vip และอาจจะได้รับข่าวความเคลื่อนไหวพิเศษๆ ก็ให้สมัครเข้ามาอยู่ในห้องนี้ เป็นไงหละ ฉ่ำมั๊ย “ฉันมาเพราะฉันรักชาลี” ถถถถถ
    -ฉะนั้นfcของชาลีที่เป็นผู้ชายกลุ่มแรกๆก็สมัครเข้าไปเพราะจะเข้าไปดูอิเหวิง เพราะแสดงเก่งมากจะมีล่อหลอกว่ามีการพูดถึงความรู้สึกที่อิกาฝากที่มีต่อชาลีว่าอย่างไรบ้าง นี่แหละมันถึงดึงเช็งไม่ยอมบอกว่าเป็นแฟนชาลี เวลาสื่อถาม เช็ดดดด
    นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการกล่อมจาก fcชาลีให้กลายเป็นfcอิเหวิงจนถึงทุกวันนี้
    -ตอนเริ่มแรกมีแค่200 กว่าๆ จนเพิ่มจำนวนพีคสุดถึง 5,000 คน
    แต่เผอิญไปเจอดราม่าที่นางกลับเกาหลีแล้วขาดการติดต่อไปรอบแรก โดนทัวร์ลงคนเลยออกจากห้องไปเหลือแค่ประมาณ 1,500 คน
    -ห้องนี้คือห้องโปรยสเน่ห์ของกามิจของแทร่ มารอบนี้วางแผนมาดีไอ่ที่เงียบๆไปชาลีทักก็ไม่ตอบนี่แหละ กลับมาปุ๊บเริ่มระดม MVP ที่เป็นfc กระเป๋าหนักเข้ามาสื่อสารกันในกลุ่มนี้นี้
    ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาชาลีเคยฟาดและตำหนิห้องแชทนี้บ่อยๆ เพราะชาลีไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกกลุ่ม fcด้วยการเสียเงิน และมันเหมือนหาผลประโยชน์กับfcมากไป
    แต่ชาลีไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้ ก็ได้แต่ขอร้องว่าห้ามมาโฆษณาให้หาสมาชิกเพิ่มด้วยการเอาโมเม้นท์จิ้นมาขายในนี้
    -นั่นจึงเป็นที่มาว่าเริ่มมีfcใน discord เริ่มไม่ชอบชาลีเพราะรู้สึกว่าถึงการขัดขาของชาลีมีผลกระทบต่อรายได้ของกามิจและคนในขบวนการ
    และเมื่อเวลาผ่านไป fcใน discord ก็เริ่มชัดเจนขึ้นว่าพวกเค้าเป็น fcกามิจแค่คนเดียว 100% เพราะสร้างอคติในกลุ่มให้ชังชาลีหนักมาก
    นั่นจึงเป็นที่มาว่าเวลาที่ชาลีทำอะไรกระทบถึงกามิน วันต่อมาชาลีจะโดนทัวร์มาตลอดก็เพราะอิกลุ่มนี้นี่แหละ
    - และอิเหวิงเองก็จะให้ความพิเศษว่า fc จากdiscord คือคนพิเศษของเธอ วีรกรรมเด็ดๆคือ เคยมีครั้งนึงที่นางอยู่ที่คู้บอนแล้วไปฟ้อง fcว่ายุงกัด วันต่อมาชาลีก็จะโดนไดเรคส่วนตัวด่าทันที สุดมั๊ยล่ะ
    -Discord เป็นแหล่งรวมพลที่ใช้กล่อมให้เกิดอุปทานหมู่ fcอิเหวิงที่แข็งแกร่งมาก ถึงขั้นเคยมีคนในห้องแชทแทบจะลงแดงถ้าอิเหวิงกามิจไม่ได้เข้าไปทักแชทในนั่นเกิน1วัน นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมยังมีfc ที่ไม่ยอมรับฟังและรับรู้ความถูกผิดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน fcในdiscord
    จะมีแนวคิดว่า “อิเหวิงคือเทวดาของทุกคนในนั้นจริงๆ”
    ที่ผ่านมาจึงมีปัญหากับชาลีมาตลอดเพราะชาลีพยายามจะเตือนว่า อย่าสปอยล์จนเหมือนใครๆก็ตำหนิไม่ได้ และที่นี่เปรียบเสมือนทหารของกามินที่เวลามีแข่ง tiktok PK แมทซ์ใหญ่ๆ กามินก็จะมาตามเทพและ fcทุกคนให้ไปเปย์อิเหวิงด้วยคำว่า.. "ชั้นเกรงใจทุกคนมากๆ แต่แต่แมทซ์นี้ ชั้นต้องการชนะนะ" เท่านั้นหละติ๊กเกอร์ลอยมาเพียบบบบ
    -ปัจจุบันจากกระแสลบๆที่อิเหวิงทำมา ล่าสุดจำนวนfcในdiscordเหลือเพียง 1,200 กว่าคน แต่ก็ยังถือว่านางมีผู้สนับสนุนแบบภักดี ชนิดที่บางคนเคยออกมาประกาศว่าจะยอมตุยเพื่ออิห่านจิกเลย อันนี้แหละที่น่ากลัวมากๆ และในช่วงที่ผ่านมาในตอนที่ชาลีประกาศแยกทางกับกามิน ชาลีพยายามอย่างหนักที่จะสื่อสารกับfcทุกกลุ่มและทุกฝ่ายถึงการเลิกรา เพื่อที่จะถนอมใจfcไม่ให้ตกใจและเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและตีกัน
    ชาลีใช้เวลาเป็นอาทิตย์ที่พยายามเรียก หัวหน้ากลุ่มfcแต่ละกลุ่มเข้าพบที่บ้านคู้บอน เพื่อสร้างความเข้าใจและให้เลิกรากันด้วยดี และพยายามหยุดวงจรการสนับสนุนการส่งสติกเกอร์ให้กามินแบบบ้-า-ค-ลั่-ง เพราะที่ผ่านมามีfcบางรายสูญเสียเงินจากตรงนี้เป็นล้าน และบางคนต้องเป็นหนี้เป็นสินจากการที่กามินเล่น PK
    -ชาลีพยายามหยุดกามินให้เพลาๆเรื่องการหากินกับการ PK เพราะมันคือการดูดเงินจากfcชาวไทย ด้วยการใช้ความรักเข้าแลก แต่กามินไม่มีทีท่าจะหยุด และยังแพลนที่จะสำนักงานธุรกิจนี้ในประเทศไทยด้วย และนี่ก็เป็นส่วนอีกส่วนนึงที่ทำให้ชาลีเลือกที่จะขอเลิก ทั้งๆที่ก็ยังรัก ชาลีรู้สึกถึงละโมบที่ไม่มีวันเพียงพอที่จะเข้ามกอบโกยเงินไทยของกามินแบบไม่สิ้นสุด
    ..
    -สุดท้ายวินาทีนี้ความมั่นใจของกามินยังไม่ได้สลดหรือรู้สึกผิดใดๆเลยค่ะ นางใช้จุดรวมพลใน discord เอาไว้บัญชาการปั่นให้fcตามไป-ด่-า-ชาลีทุกช่องทาง สร้างข่าวลือหาว่าชาลีป่-ว-ย-ท-า-ง-จิ-ต และเริ่มปลุกระดมจะฟ้องร้องชาลีด้วยการประสานงานจากหัวหน้า FCและเทพทุนหนาคนไทย
    ..
    -จนล่าสุดวันนี้ที่ชาลีออกมาไลฟ์ประมาณ5นาที ที่มีเนื้อหาพยายามสื่อสารบอกทางกามินให้หยุดการยุยงให้ fc ตีกัน แต่ฝ่ายเชียร์อิเหวิงก็แถว่าชาลีสื่อถึงเพจคิงส์โพธิ์แดง ไอ่ฉัดคนละเรื่องเลยอิเวง
    และบอกให้ทาง discord ให้รู้จักคิดได้แล้วเพราะแต่ละคนที่กำลังวางแผนเรื่องแบบนี้อยู่ ก็อายุอาวุโสกันทั้งนั้นแต่ก็ยังโดนผู้หญิงเกาหลีคนเดียวปั่นหัว ชาลีบอกถ้าไม่หยุด เค้าจะไม่เซฟกามินแล้ว เพราะที่ผ่านมาชาลียังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของความชั่วร้ายที่กามินทำเอาไว้หมดเลย เพราะเห็นแก่ยังอยากให้นางยังมีที่ยืนบ้าง แต่ถ้าไม่หยุดและยังคอยปั่นให้fcไทยตีกันอีก ชาลีจะไม่ทน
    ..
    -ชาลีต้องพยายามหยุดอิเหวิงให้ได้เพราะอินางนี่ใช้วิธีแบบ Romance scammed คือการล่อหลอกรายได้ด้วยความสเน่หาจาก fcชาวไทย จนหลายคนหมดตัวและมีหนี้สินเยอะมาก
    ชื่อคนที่อยู่เบื้องหลังการปลุกระดมในกลุ่มของกามิน และได้รับเงินจ้างจาก MPVสายเปย์ของกามิน
    คือ โจ มนฑานี
    อ๋อยัง อิป้าโจ อิเหวิงอิกามิจ
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เรื่องป้าโจยิ่งล้วงยิ่งลึกยิ่งชวนอึ้ง #เปิดข้อมูลที่นี่ที่แรกลึกสุด หลังจากที่เพจคิงส์โพธิ์แดงได้ทำการเปิดข้อมูลและสื่อมวลชนหลายสำนักได้กรุณานำไปเผยแพร่เพื่อเป็นข้อมูลอีกด้าน เพื่อปกป้องไม่ให้พี่น้องชาวไทยตกเป็น เ-ห-ยื่-อ มิจกิมจิไปแล้วนั้น พี่คิงส์เปิดต่อเลยว่านี่ไม่ใช่แค่กามิจหวังติ๊กเกอร์ แต่มันคือข-บ-ว-น-ก-า-ร -โดยปัจจุบันมีคนไทยเข้าไปได้รับผลประโยชน์ และกำลังเสียประโยชน์จากการที่คนไทยได้ตื่นรู้ คำถาม ป้าโจ ทำไมต้องออกหน้าออกตา presert face ป้องอิเหวิงกาฝากอย่างไม่เกรงกลัว ถึงขนาดกล้าท้าทายไร้มารยาทกับสื่อตำนานระดับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล -ถ้าแฟนเพจคิงส์รับรู้เนื้อหาจากนี้ จะร้องอ๋ออย่างไม่ได้นัดหมาย -ก่อนอื่น ต้องเปิดที่มาขอรายรับหลักที่คนนอกน้อยคนที่จะรู้ ซึ่งส่วนนี้เปรียบเสมือนเครือข่ายหลักของอิเหวิงกาฝากเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของอิเหวิง และปัจจุบันนี้ห้องคลับนี้ก็เป็นที่รวมคนคลั่งรักกามิน เปรียบเสมือนลัทธิเชื่อมจิตไปแล้วจริงๆ -กลุ่มลั-บนี้ เป็นจุดรวมพลfcของกามินที่เต็มไปด้วยความภักดี เป็นชายไทย 99% ซึ่งมันชื่อเป็นห้องแชท ลักษณะเหมือนกรุ๊ปไลน์ห้องใหญ่ บรรจุจำนวนคนที่อยู่ห้องแชทนี่ประมาณ 1,200 กว่าคน มีชื่อว่าห้อง Discord ....... -ห้องแชทนี้มันฟังก์ชั่นที่ผูกติดกับแอพ tiktok เกาหลีได้จัดทำขึ้น ซึ่งคนที่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปอยู่ในห้องนี้ได้ ต้องชำระเงินรายเดือนๆละประมาณ 250บาท รวมเบ็ดเสร็จโดยรวมๆนางกามินจะได้รายรับจากห้องนี้เดือนละ 250×1,200=300,000 บาท อันนี้คือยืนพื้นเลย ฮ่าๆ -ขบวนการนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่?- ก็ตั้งแต่ที่อิเหวิงเป็นที่รู้จักแรกๆจากแค่เป็น tiktoker ที่ชาลีกำลังจีบในช่วงแรกๆ ย้อนไปเมื่อประมาณ 8 เดือนที่แล้ว -อิกาฝากก็เริ่มมาประกาศในกลุ่มfcชาลีว่าถ้าอยากจะได้คุยส่วนตัวแบบ vip และอาจจะได้รับข่าวความเคลื่อนไหวพิเศษๆ ก็ให้สมัครเข้ามาอยู่ในห้องนี้ เป็นไงหละ ฉ่ำมั๊ย “ฉันมาเพราะฉันรักชาลี” ถถถถถ -ฉะนั้นfcของชาลีที่เป็นผู้ชายกลุ่มแรกๆก็สมัครเข้าไปเพราะจะเข้าไปดูอิเหวิง เพราะแสดงเก่งมากจะมีล่อหลอกว่ามีการพูดถึงความรู้สึกที่อิกาฝากที่มีต่อชาลีว่าอย่างไรบ้าง นี่แหละมันถึงดึงเช็งไม่ยอมบอกว่าเป็นแฟนชาลี เวลาสื่อถาม เช็ดดดด นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการกล่อมจาก fcชาลีให้กลายเป็นfcอิเหวิงจนถึงทุกวันนี้ -ตอนเริ่มแรกมีแค่200 กว่าๆ จนเพิ่มจำนวนพีคสุดถึง 5,000 คน แต่เผอิญไปเจอดราม่าที่นางกลับเกาหลีแล้วขาดการติดต่อไปรอบแรก โดนทัวร์ลงคนเลยออกจากห้องไปเหลือแค่ประมาณ 1,500 คน -ห้องนี้คือห้องโปรยสเน่ห์ของกามิจของแทร่ มารอบนี้วางแผนมาดีไอ่ที่เงียบๆไปชาลีทักก็ไม่ตอบนี่แหละ กลับมาปุ๊บเริ่มระดม MVP ที่เป็นfc กระเป๋าหนักเข้ามาสื่อสารกันในกลุ่มนี้นี้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาชาลีเคยฟาดและตำหนิห้องแชทนี้บ่อยๆ เพราะชาลีไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกกลุ่ม fcด้วยการเสียเงิน และมันเหมือนหาผลประโยชน์กับfcมากไป แต่ชาลีไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้ ก็ได้แต่ขอร้องว่าห้ามมาโฆษณาให้หาสมาชิกเพิ่มด้วยการเอาโมเม้นท์จิ้นมาขายในนี้ -นั่นจึงเป็นที่มาว่าเริ่มมีfcใน discord เริ่มไม่ชอบชาลีเพราะรู้สึกว่าถึงการขัดขาของชาลีมีผลกระทบต่อรายได้ของกามิจและคนในขบวนการ และเมื่อเวลาผ่านไป fcใน discord ก็เริ่มชัดเจนขึ้นว่าพวกเค้าเป็น fcกามิจแค่คนเดียว 100% เพราะสร้างอคติในกลุ่มให้ชังชาลีหนักมาก นั่นจึงเป็นที่มาว่าเวลาที่ชาลีทำอะไรกระทบถึงกามิน วันต่อมาชาลีจะโดนทัวร์มาตลอดก็เพราะอิกลุ่มนี้นี่แหละ - และอิเหวิงเองก็จะให้ความพิเศษว่า fc จากdiscord คือคนพิเศษของเธอ วีรกรรมเด็ดๆคือ เคยมีครั้งนึงที่นางอยู่ที่คู้บอนแล้วไปฟ้อง fcว่ายุงกัด วันต่อมาชาลีก็จะโดนไดเรคส่วนตัวด่าทันที สุดมั๊ยล่ะ -Discord เป็นแหล่งรวมพลที่ใช้กล่อมให้เกิดอุปทานหมู่ fcอิเหวิงที่แข็งแกร่งมาก ถึงขั้นเคยมีคนในห้องแชทแทบจะลงแดงถ้าอิเหวิงกามิจไม่ได้เข้าไปทักแชทในนั่นเกิน1วัน นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมยังมีfc ที่ไม่ยอมรับฟังและรับรู้ความถูกผิดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน fcในdiscord จะมีแนวคิดว่า “อิเหวิงคือเทวดาของทุกคนในนั้นจริงๆ” ที่ผ่านมาจึงมีปัญหากับชาลีมาตลอดเพราะชาลีพยายามจะเตือนว่า อย่าสปอยล์จนเหมือนใครๆก็ตำหนิไม่ได้ และที่นี่เปรียบเสมือนทหารของกามินที่เวลามีแข่ง tiktok PK แมทซ์ใหญ่ๆ กามินก็จะมาตามเทพและ fcทุกคนให้ไปเปย์อิเหวิงด้วยคำว่า.. "ชั้นเกรงใจทุกคนมากๆ แต่แต่แมทซ์นี้ ชั้นต้องการชนะนะ" เท่านั้นหละติ๊กเกอร์ลอยมาเพียบบบบ -ปัจจุบันจากกระแสลบๆที่อิเหวิงทำมา ล่าสุดจำนวนfcในdiscordเหลือเพียง 1,200 กว่าคน แต่ก็ยังถือว่านางมีผู้สนับสนุนแบบภักดี ชนิดที่บางคนเคยออกมาประกาศว่าจะยอมตุยเพื่ออิห่านจิกเลย อันนี้แหละที่น่ากลัวมากๆ และในช่วงที่ผ่านมาในตอนที่ชาลีประกาศแยกทางกับกามิน ชาลีพยายามอย่างหนักที่จะสื่อสารกับfcทุกกลุ่มและทุกฝ่ายถึงการเลิกรา เพื่อที่จะถนอมใจfcไม่ให้ตกใจและเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและตีกัน ชาลีใช้เวลาเป็นอาทิตย์ที่พยายามเรียก หัวหน้ากลุ่มfcแต่ละกลุ่มเข้าพบที่บ้านคู้บอน เพื่อสร้างความเข้าใจและให้เลิกรากันด้วยดี และพยายามหยุดวงจรการสนับสนุนการส่งสติกเกอร์ให้กามินแบบบ้-า-ค-ลั่-ง เพราะที่ผ่านมามีfcบางรายสูญเสียเงินจากตรงนี้เป็นล้าน และบางคนต้องเป็นหนี้เป็นสินจากการที่กามินเล่น PK -ชาลีพยายามหยุดกามินให้เพลาๆเรื่องการหากินกับการ PK เพราะมันคือการดูดเงินจากfcชาวไทย ด้วยการใช้ความรักเข้าแลก แต่กามินไม่มีทีท่าจะหยุด และยังแพลนที่จะสำนักงานธุรกิจนี้ในประเทศไทยด้วย และนี่ก็เป็นส่วนอีกส่วนนึงที่ทำให้ชาลีเลือกที่จะขอเลิก ทั้งๆที่ก็ยังรัก ชาลีรู้สึกถึงละโมบที่ไม่มีวันเพียงพอที่จะเข้ามกอบโกยเงินไทยของกามินแบบไม่สิ้นสุด .. -สุดท้ายวินาทีนี้ความมั่นใจของกามินยังไม่ได้สลดหรือรู้สึกผิดใดๆเลยค่ะ นางใช้จุดรวมพลใน discord เอาไว้บัญชาการปั่นให้fcตามไป-ด่-า-ชาลีทุกช่องทาง สร้างข่าวลือหาว่าชาลีป่-ว-ย-ท-า-ง-จิ-ต และเริ่มปลุกระดมจะฟ้องร้องชาลีด้วยการประสานงานจากหัวหน้า FCและเทพทุนหนาคนไทย .. -จนล่าสุดวันนี้ที่ชาลีออกมาไลฟ์ประมาณ5นาที ที่มีเนื้อหาพยายามสื่อสารบอกทางกามินให้หยุดการยุยงให้ fc ตีกัน แต่ฝ่ายเชียร์อิเหวิงก็แถว่าชาลีสื่อถึงเพจคิงส์โพธิ์แดง ไอ่ฉัดคนละเรื่องเลยอิเวง และบอกให้ทาง discord ให้รู้จักคิดได้แล้วเพราะแต่ละคนที่กำลังวางแผนเรื่องแบบนี้อยู่ ก็อายุอาวุโสกันทั้งนั้นแต่ก็ยังโดนผู้หญิงเกาหลีคนเดียวปั่นหัว ชาลีบอกถ้าไม่หยุด เค้าจะไม่เซฟกามินแล้ว เพราะที่ผ่านมาชาลียังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของความชั่วร้ายที่กามินทำเอาไว้หมดเลย เพราะเห็นแก่ยังอยากให้นางยังมีที่ยืนบ้าง แต่ถ้าไม่หยุดและยังคอยปั่นให้fcไทยตีกันอีก ชาลีจะไม่ทน .. -ชาลีต้องพยายามหยุดอิเหวิงให้ได้เพราะอินางนี่ใช้วิธีแบบ Romance scammed คือการล่อหลอกรายได้ด้วยความสเน่หาจาก fcชาวไทย จนหลายคนหมดตัวและมีหนี้สินเยอะมาก ชื่อคนที่อยู่เบื้องหลังการปลุกระดมในกลุ่มของกามิน และได้รับเงินจ้างจาก MPVสายเปย์ของกามิน คือ โจ มนฑานี อ๋อยัง อิป้าโจ อิเหวิงอิกามิจ อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3021 มุมมอง 0 รีวิว
  • นับ 1 ถึง 100 ขอบคุณที่ติดตาม

    วันที่ 9 เดือน 9 จำนวนผู้ติดตาม Newskit เพจที่นำเสนอเรื่องราวทั้งไทยและอาเซียน ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" มีผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย 99 คน หมายความว่าก้าวต่อไปผู้ติดตามจะเริ่มเข้าสู่หลักร้อย แม้จะเป็นตัวเลขที่ดูเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นการเติบโตตามศักยภาพ ของแพลตฟอร์มน้องใหม่ ที่ตั้งใจเกิดขึ้นเพื่อนำเสนอความจริงแบบไม่ถูกปิดกั้น ไม่ถูกลดการมองเห็น เมื่อเทียบกับโซเชียลมีเดียฝั่งตะวันตก

    จากจุดเริ่มต้นในการทำเพจ เพียงเพื่อถ่ายทอดสิ่งที่พบเห็นและเป็นไป ทดแทนงานคอลัมนิสต์ออนไลน์ ที่ถูกถอดออกไปเมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา เราตั้งใจที่จะคิด เขียน นำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักทั่วไป ทั้งเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และมีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกับประเทศไทย ภายใต้ศักยภาพการทำงานแบบ One Man Journalist ที่มีอยู่

    เราทำเฟซบุ๊กเพจโดยเริ่มต้นจากศูนย์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โพสต์เรื่องราวโดยไม่มีผู้ติดตามแม้แต่คนเดียว กระทั่งทีมงาน Thaitimes แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียน้องใหม่ ได้ชักชวนให้เข้ามาผลิตคอนเทนต์ และร่วมทดสอบระบบไปในตัวด้วย เมื่อค้นพบตัวตนว่า จะทำเพจให้ออกมามีกลิ่นอายหนังสือพิมพ์ มีความลุ่มลึกของเนื้อหา ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ใคร ทำอะไร ที่ไหน แต่จะแสวงหาข้อมูลไปพร้อมกันด้วย เพื่อให้เห็นภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นได้กว้างและลงลึกมากขึ้น

    ด้วยข้อจำกัดของบางแพลตฟอร์ม อย่างอินสตาแกรม (IG) ที่เราตั้งใจขยายฐานผู้อ่านเพิ่มเติม เผยแพร่ข้อความรวมกันได้ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร เนื้อหาจากเพจ Newskit นับจากนี้จะสั้น กระชับ สรุปความให้จบภายในโพสต์เดียว เหมือนหนังสือพิมพ์สมัยก่อนที่มีการจำกัดข้อความเพื่อให้พอดีกับกรอบที่วางไว้ และจะไม่หยุดพัฒนาเนื้อหาในรูปแบบอื่น แม้จะทำเพียงคนเดียวก็ตาม

    ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามเนื้อหาจากเราตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เราอาจไม่ใช่สื่อมวลชนที่มีชื่อเสียง และไม่อาจเปรียบเทียบกับคนข่าวมืออาชีพ แต่สิ่งที่ตั้งใจทำ คือ ต้องการสื่อสารความเป็นไปให้ผู้อ่านเข้าใจ ด้วยความหวังว่า สิ่งที่นำเสนออาจนำไปสู่ความรู้ ความเข้าใจของผู้อ่านที่เพิ่มขึ้น หรืออย่างมากที่สุด อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแก่บ้านเมืองและสังคมในอนาคต

    #Newskit #Thaitimes #ขอบคุณผู้อ่าน
    นับ 1 ถึง 100 ขอบคุณที่ติดตาม วันที่ 9 เดือน 9 จำนวนผู้ติดตาม Newskit เพจที่นำเสนอเรื่องราวทั้งไทยและอาเซียน ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" มีผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย 99 คน หมายความว่าก้าวต่อไปผู้ติดตามจะเริ่มเข้าสู่หลักร้อย แม้จะเป็นตัวเลขที่ดูเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นการเติบโตตามศักยภาพ ของแพลตฟอร์มน้องใหม่ ที่ตั้งใจเกิดขึ้นเพื่อนำเสนอความจริงแบบไม่ถูกปิดกั้น ไม่ถูกลดการมองเห็น เมื่อเทียบกับโซเชียลมีเดียฝั่งตะวันตก จากจุดเริ่มต้นในการทำเพจ เพียงเพื่อถ่ายทอดสิ่งที่พบเห็นและเป็นไป ทดแทนงานคอลัมนิสต์ออนไลน์ ที่ถูกถอดออกไปเมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา เราตั้งใจที่จะคิด เขียน นำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักทั่วไป ทั้งเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และมีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกับประเทศไทย ภายใต้ศักยภาพการทำงานแบบ One Man Journalist ที่มีอยู่ เราทำเฟซบุ๊กเพจโดยเริ่มต้นจากศูนย์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โพสต์เรื่องราวโดยไม่มีผู้ติดตามแม้แต่คนเดียว กระทั่งทีมงาน Thaitimes แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียน้องใหม่ ได้ชักชวนให้เข้ามาผลิตคอนเทนต์ และร่วมทดสอบระบบไปในตัวด้วย เมื่อค้นพบตัวตนว่า จะทำเพจให้ออกมามีกลิ่นอายหนังสือพิมพ์ มีความลุ่มลึกของเนื้อหา ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ใคร ทำอะไร ที่ไหน แต่จะแสวงหาข้อมูลไปพร้อมกันด้วย เพื่อให้เห็นภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นได้กว้างและลงลึกมากขึ้น ด้วยข้อจำกัดของบางแพลตฟอร์ม อย่างอินสตาแกรม (IG) ที่เราตั้งใจขยายฐานผู้อ่านเพิ่มเติม เผยแพร่ข้อความรวมกันได้ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร เนื้อหาจากเพจ Newskit นับจากนี้จะสั้น กระชับ สรุปความให้จบภายในโพสต์เดียว เหมือนหนังสือพิมพ์สมัยก่อนที่มีการจำกัดข้อความเพื่อให้พอดีกับกรอบที่วางไว้ และจะไม่หยุดพัฒนาเนื้อหาในรูปแบบอื่น แม้จะทำเพียงคนเดียวก็ตาม ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามเนื้อหาจากเราตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เราอาจไม่ใช่สื่อมวลชนที่มีชื่อเสียง และไม่อาจเปรียบเทียบกับคนข่าวมืออาชีพ แต่สิ่งที่ตั้งใจทำ คือ ต้องการสื่อสารความเป็นไปให้ผู้อ่านเข้าใจ ด้วยความหวังว่า สิ่งที่นำเสนออาจนำไปสู่ความรู้ ความเข้าใจของผู้อ่านที่เพิ่มขึ้น หรืออย่างมากที่สุด อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแก่บ้านเมืองและสังคมในอนาคต #Newskit #Thaitimes #ขอบคุณผู้อ่าน
    Like
    12
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 676 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกันสังคมแจง 65 ปี ไม่ใช่อายุเกษียณ

    7 กันยายน 2567-นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ชี้แจงสื่อมวลชนประเด็นข่าวเรื่องการขยายฐานอายุผู้ประกันตน มาตรา 33 ในการจ่ายเงินชราภาพ ยืดไปเป็น 65 ปี นั้น ข้อเท็จจริงคือการแก้ไข พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ.…. (ฉบับที่ 5) ที่อยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาตามขั้นตอนนั้น มิได้เป็นการแก้ไขอายุการเกิดสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพจากอายุ 55 ปี เป็น 65 ปี แต่อย่างใด เป็นเพียงการแก้ไขอายุแรกเข้าของการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ซึ่งปัจจุบัน กำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะต้องมีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี การแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ ได้แก้ไขอายุแรกเข้าการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นอายุระหว่าง 15 – 65 ปี ทั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอายุไม่เกิน 65 ปี หากได้รับการว่าจ้างงานจะสามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทุกกรณีได้อย่างครบถ้วน เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุอีกด้วย สำหรับผู้ประกันตนที่เกษียณ หรือสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน เมื่ออายุ 55 ปี ยังคงสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพได้ตามปกติ

    นายบุญสงค์ กล่าวต่อไปว่า การขยายฐานอายุผู้ประกันตน มาตรา 33 เป็นมาตรการหนึ่งที่สำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ รวมถึงสร้างหลักประกันทางสังคมอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค และพร้อมดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนทุกช่วงวัย ให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด

    ที่มา : เพจสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
    https://www.facebook.com/share/p/G7mQrsXgSC3bBfYA/

    #Thaitimes
    ประกันสังคมแจง 65 ปี ไม่ใช่อายุเกษียณ 7 กันยายน 2567-นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ชี้แจงสื่อมวลชนประเด็นข่าวเรื่องการขยายฐานอายุผู้ประกันตน มาตรา 33 ในการจ่ายเงินชราภาพ ยืดไปเป็น 65 ปี นั้น ข้อเท็จจริงคือการแก้ไข พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ.…. (ฉบับที่ 5) ที่อยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาตามขั้นตอนนั้น มิได้เป็นการแก้ไขอายุการเกิดสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพจากอายุ 55 ปี เป็น 65 ปี แต่อย่างใด เป็นเพียงการแก้ไขอายุแรกเข้าของการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ซึ่งปัจจุบัน กำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะต้องมีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี การแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ ได้แก้ไขอายุแรกเข้าการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นอายุระหว่าง 15 – 65 ปี ทั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอายุไม่เกิน 65 ปี หากได้รับการว่าจ้างงานจะสามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทุกกรณีได้อย่างครบถ้วน เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุอีกด้วย สำหรับผู้ประกันตนที่เกษียณ หรือสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน เมื่ออายุ 55 ปี ยังคงสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพได้ตามปกติ นายบุญสงค์ กล่าวต่อไปว่า การขยายฐานอายุผู้ประกันตน มาตรา 33 เป็นมาตรการหนึ่งที่สำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ รวมถึงสร้างหลักประกันทางสังคมอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค และพร้อมดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนทุกช่วงวัย ให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ที่มา : เพจสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน https://www.facebook.com/share/p/G7mQrsXgSC3bBfYA/ #Thaitimes
    Like
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 613 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังสือพิมพ์สากกะเบือในไทยลงข่าวใส่ร้ายป้ายสีคิมจองอัน:

    ตอนนี้ มีสำนักข่าวจำพวกที่เป็นเครือข่าย CIA หลายสำนักข่าว เริ่มต้นจากฝรั่งปล่อยข่าวก่อนคือ FoxNews, Bloomberg, the New York Post, the Independent, the Guardian, the Express, Tribune, the Economics Times, Yahoo News, Radio Free Asia, NK News

    ไปจนถึงสื่อในเอเซียอื่นๆ ที่ทำหน้าที่เป็นทาสบริวารของจักรวรรดิ์นิยมอเมริกา เช่น the Indian Express, the Straight Times, the Deccan Herald, Times of India, India Today, India TV News รวมทั้งสื่อสากกะเบือไม่ออกดอกในประเทศไทยอย่าง Bangkok Post ด้วย

    พากันลงข่าวว่าคิมจองอันสั่งประหารเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือที่ดูแลน้ำท่วมไม่ดี ไม่น้อยกว่า ๒๐ ถึง ๓๐ นายซึ่งเป็นข่าวที่ไร้สาระมาก ดูภาพประกอบสิครับ น้ำท่วมขนาดนี้ มนุษย์ที่ไหนจะต้านทานไหว

    ฝนตกหนักน้ำท่วมหนักจัดเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่มีมนุษย์คนไหนต้านทานได้หรอกครับ อย่างมาก รัฐบาลเกาหลีเหนือก็แค่ตำหนิหรือลงโทษ เจ้าหน้าที่เล็กน้อยเท่านั้น ข่าวการจับเจ้าหน้าที่ไปประหารจึงเป็นแค่ข่าวเท็จที่จักรวรรดิ์นิยมอเมริกาปล่อยเพื่อหาเรื่องทำลายคิมจองอันเท่านั้น แต่สื่อกระแสหลักก็ยังไม่รู้จักใช้วิจารณญาณพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนน้ำเสนอ

    สังเกตต้นตอข่าวให้ดีครับ หน่วยงาน CIA ซึ่งวางแผนทำลายชื่อเสียงของคิมจองอันจะบอกในต้นตอข่าวว่า ๑.ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ประสงค์ออกนามในเกาหลีใต้ระบุ ๒.วงในจากเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ให้ข่าว ๓.ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐาน...คนพวกนี้ไม่เคยไปเกาหลีเหนือ แต่นั่งเทียนเขียนเอา

    สื่อต่างๆ ที่นำเสนอมีทางเป็นไปได้ ๒ ทางครับ ทางที่ ๑ คือเป็นแค่เครือข่ายของ CIA รับงานมาปล่อยข่าวเท็จทำลายคิมจองอัน ทางที่ ๒ คือเป็นนักข่าวที่ไร้ critical thinking ไร้จรรยาบรรณ เป็นสื่อที่ไม่รู้จักคิด, วิเคราะห์และแยกแยะนั่นเอง ยุคนี้ เป็นยุคที่จริยธรรมสื่อมวลชนตกต่ำที่สุดแล้ว วันๆ สื่อมวลชนพากันวิจารณ์นักการเมืองมาก แต่ผมดูแล้ว แม้แต่กลุ่มสื่อมวลชนเองก็ไร้จริยธรรมการนำเสนอข่าวเช่นเดียวกัน

    ใครที่ทำงานข่าว พากันส่องกระจกดูตัวเองบ้างนะครับ

    https://www.bangkokpost.com/world/285948…


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    หนังสือพิมพ์สากกะเบือในไทยลงข่าวใส่ร้ายป้ายสีคิมจองอัน: ตอนนี้ มีสำนักข่าวจำพวกที่เป็นเครือข่าย CIA หลายสำนักข่าว เริ่มต้นจากฝรั่งปล่อยข่าวก่อนคือ FoxNews, Bloomberg, the New York Post, the Independent, the Guardian, the Express, Tribune, the Economics Times, Yahoo News, Radio Free Asia, NK News ไปจนถึงสื่อในเอเซียอื่นๆ ที่ทำหน้าที่เป็นทาสบริวารของจักรวรรดิ์นิยมอเมริกา เช่น the Indian Express, the Straight Times, the Deccan Herald, Times of India, India Today, India TV News รวมทั้งสื่อสากกะเบือไม่ออกดอกในประเทศไทยอย่าง Bangkok Post ด้วย พากันลงข่าวว่าคิมจองอันสั่งประหารเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือที่ดูแลน้ำท่วมไม่ดี ไม่น้อยกว่า ๒๐ ถึง ๓๐ นายซึ่งเป็นข่าวที่ไร้สาระมาก ดูภาพประกอบสิครับ น้ำท่วมขนาดนี้ มนุษย์ที่ไหนจะต้านทานไหว ฝนตกหนักน้ำท่วมหนักจัดเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่มีมนุษย์คนไหนต้านทานได้หรอกครับ อย่างมาก รัฐบาลเกาหลีเหนือก็แค่ตำหนิหรือลงโทษ เจ้าหน้าที่เล็กน้อยเท่านั้น ข่าวการจับเจ้าหน้าที่ไปประหารจึงเป็นแค่ข่าวเท็จที่จักรวรรดิ์นิยมอเมริกาปล่อยเพื่อหาเรื่องทำลายคิมจองอันเท่านั้น แต่สื่อกระแสหลักก็ยังไม่รู้จักใช้วิจารณญาณพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนน้ำเสนอ สังเกตต้นตอข่าวให้ดีครับ หน่วยงาน CIA ซึ่งวางแผนทำลายชื่อเสียงของคิมจองอันจะบอกในต้นตอข่าวว่า ๑.ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ประสงค์ออกนามในเกาหลีใต้ระบุ ๒.วงในจากเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ให้ข่าว ๓.ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐาน...คนพวกนี้ไม่เคยไปเกาหลีเหนือ แต่นั่งเทียนเขียนเอา สื่อต่างๆ ที่นำเสนอมีทางเป็นไปได้ ๒ ทางครับ ทางที่ ๑ คือเป็นแค่เครือข่ายของ CIA รับงานมาปล่อยข่าวเท็จทำลายคิมจองอัน ทางที่ ๒ คือเป็นนักข่าวที่ไร้ critical thinking ไร้จรรยาบรรณ เป็นสื่อที่ไม่รู้จักคิด, วิเคราะห์และแยกแยะนั่นเอง ยุคนี้ เป็นยุคที่จริยธรรมสื่อมวลชนตกต่ำที่สุดแล้ว วันๆ สื่อมวลชนพากันวิจารณ์นักการเมืองมาก แต่ผมดูแล้ว แม้แต่กลุ่มสื่อมวลชนเองก็ไร้จริยธรรมการนำเสนอข่าวเช่นเดียวกัน ใครที่ทำงานข่าว พากันส่องกระจกดูตัวเองบ้างนะครับ https://www.bangkokpost.com/world/285948… ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    Bangkok Post - The world’s window on Thailand | Breaking news, Thailand news, Latest news, World news
    All the latest top stories and breaking news. Thailand’s most credible source of Thai and international developments. In-depth business and political news, leading Lifestyle trends, broad international sports coverage, plus English language learning
    Love
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 423 มุมมอง 0 รีวิว
  • จักรวรรดิ์นิยมอเมริกาใช้วิธีการสร้างภาพเพื่อสร้างอัตลักษณ์ตนเอง:

    รัฐบาลจักรวรรดิ์นิยมอเมริกาจ่ายเงินให้สื่อมวลชน ๕๐๐ ล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาเพื่อเขียนข่าวโจมตีจีนให้จีนเสียหายโดยเฉพาะ

    ทำนองเดียวกัน อเมริกาก็จ้างนักข่าวให้เขียนข่าวโจมตีคิมจองอันของเกาหลีเหนือว่าเผด็จการ ฆ่าคนเป็นผักปลา ฯลฯ จ้างนักข่าวให้เขียนข่าวด่ารัฐบาลอิหร่าน รัสเซีย เวเนซุเอล่า ซีเรีย คิวบา นิคารากัว ฯลฯ ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย

    ส่วนตนเองก่ออาชญากรรมไปทั่วโลก ก็สร้างภาพว่าเป็นประชาธิปไตย เคารพสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมเสรีภาพ พอสื่อมวลชนไทยติดกับดักสื่อมะกัน เอาข่าวโฆษณาชวนเชื่อมาเผยแพร่ต่อล้างสมองคนไทย นักการเมืองไทยและนักวิชาการไทยจึงพากันบ้าตามอเมริกา

    อเมริกาด่าชาติไหนหรือรัฐบาลไหนว่าเผด็จการ คนไทยก็ด่าตาม เหมือนในช่วงเกิดมาเป็นคน สมองหายไปครึ่งหนึ่งยังไงยังงั้น


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    จักรวรรดิ์นิยมอเมริกาใช้วิธีการสร้างภาพเพื่อสร้างอัตลักษณ์ตนเอง: รัฐบาลจักรวรรดิ์นิยมอเมริกาจ่ายเงินให้สื่อมวลชน ๕๐๐ ล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาเพื่อเขียนข่าวโจมตีจีนให้จีนเสียหายโดยเฉพาะ ทำนองเดียวกัน อเมริกาก็จ้างนักข่าวให้เขียนข่าวโจมตีคิมจองอันของเกาหลีเหนือว่าเผด็จการ ฆ่าคนเป็นผักปลา ฯลฯ จ้างนักข่าวให้เขียนข่าวด่ารัฐบาลอิหร่าน รัสเซีย เวเนซุเอล่า ซีเรีย คิวบา นิคารากัว ฯลฯ ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ส่วนตนเองก่ออาชญากรรมไปทั่วโลก ก็สร้างภาพว่าเป็นประชาธิปไตย เคารพสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมเสรีภาพ พอสื่อมวลชนไทยติดกับดักสื่อมะกัน เอาข่าวโฆษณาชวนเชื่อมาเผยแพร่ต่อล้างสมองคนไทย นักการเมืองไทยและนักวิชาการไทยจึงพากันบ้าตามอเมริกา อเมริกาด่าชาติไหนหรือรัฐบาลไหนว่าเผด็จการ คนไทยก็ด่าตาม เหมือนในช่วงเกิดมาเป็นคน สมองหายไปครึ่งหนึ่งยังไงยังงั้น ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือกตั้งปี 2024อาจเป็นครี้งสุดท้ายของสหรัฐ
    มาร์ติน อาร์มสตรองแห่ง armstrongeconomics.com คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งในปี 2024ของสหรัฐอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะว่าฝ่ายสนับสนุนทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และกมลา แฮร์ริสจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู้การฟ้องร้องในศาลทำให้ไม่สามารถรับรองผลการเลือกตั้งได้ และในที่สุดอาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง
    อาร์มสตรอง บอกว่า ทรัมป์กับแฮร์ริสกำลังกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทางกฎหมายที่ดุเดือดและน่ารังเกียจ ซึ่งจะทำให้ประเทศสหรัฐแตกแยกอย่างแน่นอน โดยเสริมว่าสื่อกระแสหลักจะทรยศต่อประเทศและทุกสิ่งที่รัฐธรรมนูญอเมริกันเคยยืนหยัด และพวกเขาจะสนับสนุนคนหลบเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายและแฮร์รีสทั้งหมดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
    เขาบอกว่าการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นมุ่งหน้าสู่ปี 2032 ซึ่งจะทำลายสังคมตะวันตกในแง่ของการเป็นเมืองหลวงทางการเงินที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินโลก
    “พวกนีโอคอน (Neocon) กำลังทำลายสังคมตะวันตกเพราะความเกลียดชังรัสเซียและจีน ซึ่งส่งผลให้เกิดเมืองหลวงทางการเงินของโลกที่สหรัฐอเมริกายึดครองจากลอนดอนในปี 1918 เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เราจะสูญเสียสถานภาพนี้ 112 ปีต่อมา เพราะสงครามโลกครั้งที่ 3 และสื่อมวลชนก็ให้กำลังเชียร์ให้เกิด (ครึ่งรอบ 224 ปีของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง)
    พรรคเดโมแครตได้ส่งข้อความนี้ออกไปบรรดาผู้สนับสนุน:

    “… เรากำลังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการคุ้มครองผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อปกป้องทรัมป์และพันธมิตรของเขาที่โจมตีสิทธิในการลงคะแนนเสียงของเรา นั่นเป็นสาเหตุที่เราลงทุนหกหลักในโครงการ Democrats Abroad เพื่อลงทะเบียนและรับคะแนนโหวตจากชาวอเมริกันเกือบ 9 ล้านคนที่อาศัยและรับใช้ในต่างประเทศ และนั่นคือเหตุผลที่เราขยายความพยายามในการจัดงานเสมือนจริงที่ประสบความสำเร็จเพื่อมีส่วนร่วมและระดมอาสาสมัครให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถมีส่วนร่วมได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”
    อาร์มสตรอง กล่าวต่อไปว่า จอร์เจียได้นำกฎใหม่สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐมาใช้ โดยอนุญาตให้สมาชิกชะลอการรับรองการเลือกตั้ง ถ้าหากมีการสอบถามเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของบัตรลงคะแนน ในรัฐแอริโซนา มิชิแกน และเนวาดา ฝ่ายรีพับรีกันได้ผลักดันให้มีการกำจัดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ใช่พลเมือง พรรครีพับลิกันในเนวาดายื่นฟ้องเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์หากได้รับหลังวันเลือกตั้ง ถึงกระนั้นพรรคเดโมแครตก็กำลังต่อสู้กับสิ่งนั้นเช่นกัน
    ในรัฐที่ฐานเสียงแกว่งไปมาอย่างจอร์เจีย แอริโซนา มิชิแกน เนวาดา และเพนซิลเวเนีย ผลของการลงคะแนนเสียงที่มีการโต้แย้งอาจจบลงที่ศาลฎีกา มีการปล่อยให้ผู้อพยพเข้าไปในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมายโดยที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้อะไรเลยแก่สังคม เพื่อเป้าหมายของลัทธิเผด็จการที่จะควบคุมประชาชน โดยวางแผนที่จะให้พวกอพยพหลบเข้าเมืองลงคะแนนเสียงให้พรรคเดโมแครต
    ผลของการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการโต้แย้งอย่างเผ็ดร้อนจนอาจจะจบลงที่ศาล จากนั้น หากพรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลิกันแต่งตั้งผู้พิพากษาเป็นผู้ตัดสิน ผู้แพ้ก็จะโต้แย้งว่าการตัดสินดังกล่าวเป็นเรื่องทางการเมือง ไม่มีทางหนีพ้นวิกฤตนี้ไปได้ เพราะฝ่ายซ้ายรู้ว่าตนกำลังพ่ายแพ้ และแทนที่จะตั้งคำถามกับปรัชญาแนวทางของตน กลับตั้งใจที่จะชนะทุกวิถีทางที่เป็นไปได้
    ที่การประชุมประชาธิปไตย ไบเดนราดน้ำมันลงบนกองไฟ ซึ่งหากทรัมป์ชนะ นั่นก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย เขากล่าวว่า “นี่จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม” ไบเดนบอกกับฝูงชนในสุนทรพจน์ของเขาว่าเมื่อวันที่ 6 มกราคม “เราเกือบจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวตนของเราในฐานะประเทศไป และภัยคุกคามนั้น—นี่ไม่ใช่คำพูดเกินจริง—ภัยคุกคามนั้นยังดำรงอยู่”

    IMCT News

    ที่มา https://www.armstrongeconomics.com/international-news/politics/us-2024-may-be-our-last/
    เลือกตั้งปี 2024อาจเป็นครี้งสุดท้ายของสหรัฐ มาร์ติน อาร์มสตรองแห่ง armstrongeconomics.com คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งในปี 2024ของสหรัฐอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะว่าฝ่ายสนับสนุนทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และกมลา แฮร์ริสจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู้การฟ้องร้องในศาลทำให้ไม่สามารถรับรองผลการเลือกตั้งได้ และในที่สุดอาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง อาร์มสตรอง บอกว่า ทรัมป์กับแฮร์ริสกำลังกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทางกฎหมายที่ดุเดือดและน่ารังเกียจ ซึ่งจะทำให้ประเทศสหรัฐแตกแยกอย่างแน่นอน โดยเสริมว่าสื่อกระแสหลักจะทรยศต่อประเทศและทุกสิ่งที่รัฐธรรมนูญอเมริกันเคยยืนหยัด และพวกเขาจะสนับสนุนคนหลบเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายและแฮร์รีสทั้งหมดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาบอกว่าการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นมุ่งหน้าสู่ปี 2032 ซึ่งจะทำลายสังคมตะวันตกในแง่ของการเป็นเมืองหลวงทางการเงินที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินโลก “พวกนีโอคอน (Neocon) กำลังทำลายสังคมตะวันตกเพราะความเกลียดชังรัสเซียและจีน ซึ่งส่งผลให้เกิดเมืองหลวงทางการเงินของโลกที่สหรัฐอเมริกายึดครองจากลอนดอนในปี 1918 เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เราจะสูญเสียสถานภาพนี้ 112 ปีต่อมา เพราะสงครามโลกครั้งที่ 3 และสื่อมวลชนก็ให้กำลังเชียร์ให้เกิด (ครึ่งรอบ 224 ปีของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง) พรรคเดโมแครตได้ส่งข้อความนี้ออกไปบรรดาผู้สนับสนุน: “… เรากำลังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการคุ้มครองผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อปกป้องทรัมป์และพันธมิตรของเขาที่โจมตีสิทธิในการลงคะแนนเสียงของเรา นั่นเป็นสาเหตุที่เราลงทุนหกหลักในโครงการ Democrats Abroad เพื่อลงทะเบียนและรับคะแนนโหวตจากชาวอเมริกันเกือบ 9 ล้านคนที่อาศัยและรับใช้ในต่างประเทศ และนั่นคือเหตุผลที่เราขยายความพยายามในการจัดงานเสมือนจริงที่ประสบความสำเร็จเพื่อมีส่วนร่วมและระดมอาสาสมัครให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถมีส่วนร่วมได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม” อาร์มสตรอง กล่าวต่อไปว่า จอร์เจียได้นำกฎใหม่สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐมาใช้ โดยอนุญาตให้สมาชิกชะลอการรับรองการเลือกตั้ง ถ้าหากมีการสอบถามเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของบัตรลงคะแนน ในรัฐแอริโซนา มิชิแกน และเนวาดา ฝ่ายรีพับรีกันได้ผลักดันให้มีการกำจัดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ใช่พลเมือง พรรครีพับลิกันในเนวาดายื่นฟ้องเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์หากได้รับหลังวันเลือกตั้ง ถึงกระนั้นพรรคเดโมแครตก็กำลังต่อสู้กับสิ่งนั้นเช่นกัน ในรัฐที่ฐานเสียงแกว่งไปมาอย่างจอร์เจีย แอริโซนา มิชิแกน เนวาดา และเพนซิลเวเนีย ผลของการลงคะแนนเสียงที่มีการโต้แย้งอาจจบลงที่ศาลฎีกา มีการปล่อยให้ผู้อพยพเข้าไปในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมายโดยที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้อะไรเลยแก่สังคม เพื่อเป้าหมายของลัทธิเผด็จการที่จะควบคุมประชาชน โดยวางแผนที่จะให้พวกอพยพหลบเข้าเมืองลงคะแนนเสียงให้พรรคเดโมแครต ผลของการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการโต้แย้งอย่างเผ็ดร้อนจนอาจจะจบลงที่ศาล จากนั้น หากพรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลิกันแต่งตั้งผู้พิพากษาเป็นผู้ตัดสิน ผู้แพ้ก็จะโต้แย้งว่าการตัดสินดังกล่าวเป็นเรื่องทางการเมือง ไม่มีทางหนีพ้นวิกฤตนี้ไปได้ เพราะฝ่ายซ้ายรู้ว่าตนกำลังพ่ายแพ้ และแทนที่จะตั้งคำถามกับปรัชญาแนวทางของตน กลับตั้งใจที่จะชนะทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ ที่การประชุมประชาธิปไตย ไบเดนราดน้ำมันลงบนกองไฟ ซึ่งหากทรัมป์ชนะ นั่นก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย เขากล่าวว่า “นี่จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม” ไบเดนบอกกับฝูงชนในสุนทรพจน์ของเขาว่าเมื่อวันที่ 6 มกราคม “เราเกือบจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวตนของเราในฐานะประเทศไป และภัยคุกคามนั้น—นี่ไม่ใช่คำพูดเกินจริง—ภัยคุกคามนั้นยังดำรงอยู่” IMCT News ที่มา https://www.armstrongeconomics.com/international-news/politics/us-2024-may-be-our-last/
    WWW.ARMSTRONGECONOMICS.COM
    US 2024 May be Our Last
    This year's election is shaping up to be decided in court rather than the ballot box. Both Donald Trump and Kamala Harris are preparing for what will become a
    Like
    Love
    Wow
    Sad
    36
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1651 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณิตศาสตร์การเมือง สนามเลือกตั้งราชบุรี

    การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2567 นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือกำนันตุ้ย อดีตนายก อบจ.ราชบุรี ได้ 242,297 คะแนน เอาชนะ นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หรือ หวุน ผู้สมัครจากพรรคประชาชน อดีตพรรคก้าวไกล ได้ 175,353 คะแนน ห่างกัน 66,944 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 455,400 คน คิดเป็น 67.31% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 676,526 คน มีบัตรดี 417,650 ใบ บัตรเสีย 16,500 ใบ และบัตรไม่เลือกผู้สมัครรายใด 21,250 ใบ คิดเป็น 4.67%

    เมื่อพิจารณาผลคะแนนเลือกตั้งแบบรายอำเภอทั้ง 10 อำเภอ พบว่านายชัยรัตน์มีคะแนนสูสีกับนายวิวัฒน์ในอำเภอเมืองราชบุรี นายชัยรัตน์ได้ 43,584 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 45,390 คะแนน ห่างกัน 1,806 คะแนน หรือ 3.98% และอำเภอสวนผึ้ง นายชัยรัตน์ได้ 7,468 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 8,027 คะแนน ห่างกัน 559 คะแนน หรือ 6.96% ส่วนอำเภอที่มีคะแนนห่างกันมากที่สุด คืออำเภอโพธาราม นายชัยรัตน์ได้ 27,833 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 46,354 คะแนน ห่างกัน 18,521 คะแนน หรือ 39.96%

    ถึงกระนั้น เมื่อเทียบกับผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน พบว่า นายวิวัฒน์ได้ 241,952 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 345 คะแนน ส่วนนางภรมน นรการกุมพล ผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าของนายธนาธร ได้ 74,929 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 100,424 คะแนน อันดับสาม นายอรรถพงศ์ ห้องริ้ว ผู้สมัครกลุ่ม New Gen ที่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน ได้ 54,153 คะแนน

    เนื่องจากการเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีครั้งนี้ พรรคประชาชนและผู้สนับสนุนคนสำคัญลงพื้นที่ อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ สส.พรรคคนอื่นๆ รวมทั้งสื่อมวลชนให้พื้นที่ข่าวนายชัยรัตน์ เปรียบได้กับสนามการเมืองระดับชาติ แต่นายวิวัฒน์แทบไม่มีพื้นที่ข่าวบนหน้าสื่อมวลชนเลย จึงต้องพิจารณาสนามเลือกตั้ง สส.ราชบุรี เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา

    แม้เก้าอี้ สส.แบบแบ่งเขตจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ 3 ที่นั่ง และพรรครวมไทยสร้างชาติ 2 ที่นั่ง แต่คะแนนบัตรเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พบว่า พรรคก้าวไกลนำเป็นอันดับหนึ่ง รวม 5 เขตได้ไป 233,608 คะแนน ส่วนอันดับ 2 เป็นของพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ได้ สส. แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มากถึง 102,757 คะแนน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 90,598 คะแนน และพรรคพลังประชารัฐ ได้ 10,192 คะแนน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คะแนนพรรคก้าวไกลหายไป 58,255 คะแนน

    นักการเมืองในพื้นที่ราชบุรีวิเคราะห์กันว่า คะแนนนิยมของนายชัยรัตน์และพรรคประชาชนช่วงแรก โดยเฉพาะหลังยุบพรรคก้าวไกลคะแนนดีมาก ทำให้ตระกูลนิติกาญจนาหวั่นไหวพอสมควร แต่ถูกโจมตีจากการปราศรัยพาดพิงโรงเรียนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ขณะที่หลายกลุ่มการเมืองในราชบุรีช่วยกันจับมือช่วยนายวิวัฒน์สู้กับพรรคประชาชน หลังพรรคก้าวไกลแม้ไม่ได้ สส.เขต แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่ง จึงช่วยกันสกัดไม่ให้พรรคประชาชนแจ้งเกิดการเมืองท้องถิ่นที่นี่

    #Newskit #อบจราชบุรี #เลือกตั้งราชบุรี
    คณิตศาสตร์การเมือง สนามเลือกตั้งราชบุรี การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2567 นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือกำนันตุ้ย อดีตนายก อบจ.ราชบุรี ได้ 242,297 คะแนน เอาชนะ นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หรือ หวุน ผู้สมัครจากพรรคประชาชน อดีตพรรคก้าวไกล ได้ 175,353 คะแนน ห่างกัน 66,944 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 455,400 คน คิดเป็น 67.31% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 676,526 คน มีบัตรดี 417,650 ใบ บัตรเสีย 16,500 ใบ และบัตรไม่เลือกผู้สมัครรายใด 21,250 ใบ คิดเป็น 4.67% เมื่อพิจารณาผลคะแนนเลือกตั้งแบบรายอำเภอทั้ง 10 อำเภอ พบว่านายชัยรัตน์มีคะแนนสูสีกับนายวิวัฒน์ในอำเภอเมืองราชบุรี นายชัยรัตน์ได้ 43,584 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 45,390 คะแนน ห่างกัน 1,806 คะแนน หรือ 3.98% และอำเภอสวนผึ้ง นายชัยรัตน์ได้ 7,468 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 8,027 คะแนน ห่างกัน 559 คะแนน หรือ 6.96% ส่วนอำเภอที่มีคะแนนห่างกันมากที่สุด คืออำเภอโพธาราม นายชัยรัตน์ได้ 27,833 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 46,354 คะแนน ห่างกัน 18,521 คะแนน หรือ 39.96% ถึงกระนั้น เมื่อเทียบกับผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน พบว่า นายวิวัฒน์ได้ 241,952 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 345 คะแนน ส่วนนางภรมน นรการกุมพล ผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าของนายธนาธร ได้ 74,929 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 100,424 คะแนน อันดับสาม นายอรรถพงศ์ ห้องริ้ว ผู้สมัครกลุ่ม New Gen ที่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน ได้ 54,153 คะแนน เนื่องจากการเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีครั้งนี้ พรรคประชาชนและผู้สนับสนุนคนสำคัญลงพื้นที่ อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ สส.พรรคคนอื่นๆ รวมทั้งสื่อมวลชนให้พื้นที่ข่าวนายชัยรัตน์ เปรียบได้กับสนามการเมืองระดับชาติ แต่นายวิวัฒน์แทบไม่มีพื้นที่ข่าวบนหน้าสื่อมวลชนเลย จึงต้องพิจารณาสนามเลือกตั้ง สส.ราชบุรี เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา แม้เก้าอี้ สส.แบบแบ่งเขตจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ 3 ที่นั่ง และพรรครวมไทยสร้างชาติ 2 ที่นั่ง แต่คะแนนบัตรเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พบว่า พรรคก้าวไกลนำเป็นอันดับหนึ่ง รวม 5 เขตได้ไป 233,608 คะแนน ส่วนอันดับ 2 เป็นของพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ได้ สส. แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มากถึง 102,757 คะแนน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 90,598 คะแนน และพรรคพลังประชารัฐ ได้ 10,192 คะแนน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คะแนนพรรคก้าวไกลหายไป 58,255 คะแนน นักการเมืองในพื้นที่ราชบุรีวิเคราะห์กันว่า คะแนนนิยมของนายชัยรัตน์และพรรคประชาชนช่วงแรก โดยเฉพาะหลังยุบพรรคก้าวไกลคะแนนดีมาก ทำให้ตระกูลนิติกาญจนาหวั่นไหวพอสมควร แต่ถูกโจมตีจากการปราศรัยพาดพิงโรงเรียนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ขณะที่หลายกลุ่มการเมืองในราชบุรีช่วยกันจับมือช่วยนายวิวัฒน์สู้กับพรรคประชาชน หลังพรรคก้าวไกลแม้ไม่ได้ สส.เขต แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่ง จึงช่วยกันสกัดไม่ให้พรรคประชาชนแจ้งเกิดการเมืองท้องถิ่นที่นี่ #Newskit #อบจราชบุรี #เลือกตั้งราชบุรี
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 734 มุมมอง 0 รีวิว
  • แขกที่ไม่ได้รับเชิญกำลังมา:

    เจ็ค ซาลิแวน ที่ปรึกษาโจ ไบเดนด้านความมั่นคง กำลังเดินทางไปเยี่ยมจีนเพื่ออบรมจีนไม่ให้ช่วยรัสเซียรบกับยูเครน อ้างว่าผิดกฎหมายระหว่างประเทศ

    แต่อเมริกาเรียกร้องให้เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี ฯลฯ ช่วยเหลือยูเครนด้านอาวุธเป็นประจำ แถมยังช่วยอิสราเอลบุกยึดแผ่นดินปาเลสไตน์ สังหารชาวปาเลสไตน์จำนวนมากและเรียกร้องให้พันธมิตรนาโต้ส่งเรือรบไปช่วยอิสราเอลที่ทะเลแดงด้วย จากนั้นก็จะเดินทางมาเยือนไทยเพื่ออบรมรัฐบาลไทยมิให้ทำการค้ากับรัสเซียหรือกลุ่ม BRICS ถ้าพรรคกาวไกลหรือพรรคประชาชนเป็นรัฐบาลก็คงจะน้อมรับนโยบายหมอนี่ด้วยดี

    สื่อทางเลือกทั้งหลายน่าจะสะกิดหมอนี่หน่อยนะครับว่า

    'รัฐบาลอเมริกาไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนชาวไทย และประเทศไทยก็ไม่ใช่เมืองขึ้นของอเมริกา นอกจากนั้น รัฐบาลกุ๊ยโลกอย่างอเมริกากำลังล่มสลาย ต่อไปจะบุลลี่ชาติอื่นๆ แล้วสร้างภาพว่าเป็นประชาธิปไตยไม่ได้แล้ว ทั่วโลกรู้กำพืดอเมริกาหมดแล้ว มีแต่จะกวาดล้างอิทธิพลอเมริกาให้พ้นไปจากประเทศเท่านั้น ไม่ควรมายุ่งกับนโยบายต่างประเทศของไทย'

    ยิวไซออนิสต์จะขู่เข็ญได้แต่เฉพาะผู้นำประเทศอื่นที่โง่และมีแต่สื่อมวลชนที่โง่ๆ ภายในประเทศเท่านั้นครับ


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    แขกที่ไม่ได้รับเชิญกำลังมา: เจ็ค ซาลิแวน ที่ปรึกษาโจ ไบเดนด้านความมั่นคง กำลังเดินทางไปเยี่ยมจีนเพื่ออบรมจีนไม่ให้ช่วยรัสเซียรบกับยูเครน อ้างว่าผิดกฎหมายระหว่างประเทศ แต่อเมริกาเรียกร้องให้เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี ฯลฯ ช่วยเหลือยูเครนด้านอาวุธเป็นประจำ แถมยังช่วยอิสราเอลบุกยึดแผ่นดินปาเลสไตน์ สังหารชาวปาเลสไตน์จำนวนมากและเรียกร้องให้พันธมิตรนาโต้ส่งเรือรบไปช่วยอิสราเอลที่ทะเลแดงด้วย จากนั้นก็จะเดินทางมาเยือนไทยเพื่ออบรมรัฐบาลไทยมิให้ทำการค้ากับรัสเซียหรือกลุ่ม BRICS ถ้าพรรคกาวไกลหรือพรรคประชาชนเป็นรัฐบาลก็คงจะน้อมรับนโยบายหมอนี่ด้วยดี สื่อทางเลือกทั้งหลายน่าจะสะกิดหมอนี่หน่อยนะครับว่า 'รัฐบาลอเมริกาไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนชาวไทย และประเทศไทยก็ไม่ใช่เมืองขึ้นของอเมริกา นอกจากนั้น รัฐบาลกุ๊ยโลกอย่างอเมริกากำลังล่มสลาย ต่อไปจะบุลลี่ชาติอื่นๆ แล้วสร้างภาพว่าเป็นประชาธิปไตยไม่ได้แล้ว ทั่วโลกรู้กำพืดอเมริกาหมดแล้ว มีแต่จะกวาดล้างอิทธิพลอเมริกาให้พ้นไปจากประเทศเท่านั้น ไม่ควรมายุ่งกับนโยบายต่างประเทศของไทย' ยิวไซออนิสต์จะขู่เข็ญได้แต่เฉพาะผู้นำประเทศอื่นที่โง่และมีแต่สื่อมวลชนที่โง่ๆ ภายในประเทศเท่านั้นครับ ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชวนกรีดดีลฟ้า-แดง "คนรุ่นใหม่หาประโยชน์"

    การประชุมคณะกรรมการบริหารและ สส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. มีเพียงวาระเดียว คือการเข้าร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย (พท.) ตามที่นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเชิญแก่นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางกระแสข่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีความพยายามร่วมรัฐบาลของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีเก้าอี้ 1 รัฐมนตรี และ 1 รัฐมนตรีช่วยรออยู่

    เป็นที่ทราบกันดีว่า พรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคการเมืองของนายทักษิณ ชินวัตร ต่อสู้ทางการเมืองมานานกว่า 23 ปี ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ผ่านความขัดแย้งทั้งในสภาและนอกสภาในการชุมนุมกลุ่ม กปปส.

    แต่สัญญาณในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ เริ่มต้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (2566) นายเดชอิศม์เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง ก่อนที่นายทักษิณกลับมารับโทษที่ประเทศไทย ทีแรกปฎิเสธไม่พูดถึง ตอนหลังยอมรับไปเจอกันจริง และเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรร่วมรัฐบาลเพื่อผลักดันนโยบายพรรค กระทั่งการโหวตเลือกนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่ามี สส.ปชป. 16 คน นำโดยนายเดชอิศม์ โหวตสวนมติพรรค หนุนนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี

    แต่ในการโหวตเลือก น.ส.แพทองธาร ครั้งล่าสุด สส.ปชป. 25 คน งดออกเสียง ตามมติพรรคที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่ทั้งนี้ สส.ปชป. กลุ่มนายเฉลิมชัย 21 คน สนใจที่จะเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว มีเพียง 4 สส. ที่ไม่ยอม ได้แก่ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และนายสรรเพชร บุญญามณี สส.สงขลา แต่ก็ไม่อาจต้านทานกลุ่มนายเฉลิมชัยซึ่งเป็นเสียงข้างมากได้

    นายเดชอิศม์ อ้างว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความขัดแย้ง มีแต่ความรัก ความเข้าใจ และการให้อภัยกัน ต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์เมื่อ 20-30 ปีที่ผ่านมา กับปัจจุบันไม่เหมือนกัน ปัญหาของประเทศ แนวคิด การพัฒนาประเทศ ไม่เหมือนกัน ดังนั้น พอถึงเวลาที่เราพูดคุยกันได้ ที่เรารักกัน เป็นสิ่งที่ดีงาม ส่วนที่นายชวนคัดค้านนั้น ก่อนหน้านี้อาจมีความคิดเห็นเป็นสองฝ่าย แต่เมื่อมีมติของพรรคก็ต้องปฏิบัติตาม จากนี้ถ้ามีคนในพรรคโหวตแตกต่างจากมติของพรรคคงทำเช่นนั้นไม่ได้

    ส่วนนายสรวงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้พูดคุยกับนายเฉลิมชัยและนายเดชอิศม์ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่าจะยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารประเทศ และเป็นรัฐบาลร่วมกัน ส่วนโควตารัฐมนตรีเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีตนไม่ขอก้าวล่วง ส่วนความขัดแย้งระหว่างสองพรรค เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน แต่ปัจจุบันมั่นใจว่าในสภาฯ ทุกคน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ทำให้ประชาชนและประเทศชาติไปได้ด้วยดี

    "ไม่มี สส.พรรคเพื่อไทยคัดค้าน ขอให้นำคำสัมภาษณ์ของนายเดชอิศม์เป็นที่ตั้ง ว่าประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ พรรคของพวกเราร่วมต่อสู้กันมานาน แต่วันนี้มาถึงคนรุ่นใหม่ ที่มาดูแลพรรค ส่วนอุดมการณ์ทางการเมือง ก็เป็นเรื่องของอุดมการณ์ ส่วนแนวทางการทำงานเราไปด้วยกันได้แน่นอน"

    นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในอดีตอุดมการณ์ทางการเมืองของเพื่อไทย และประชาธิปัตย์ ไม่เหมือนกันเลย แต่วันนี้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารพรรค หัวหน้าทั้ง 2 พรรค รวมถึงเลขาฯ และสมาชิกพรรคทุกคน มุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น เพราะประเทศชาติถอยหลังไปมาก ดังนั้น จึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้าร่วมกัน อะไรไม่เข้าใจกันหรือความขัดแย้งต้องทิ้งไว้ข้างหลัง

    ส่วนข้อกล่าวหาว่า พรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า คำนี้ฮิตเหลือเกิน ก็แล้วแต่ ทุกอย่างมองกันที่ผลงาน ต่อจากนี้ไปอีก 3 ปี ตนขออย่างเดียวให้โอกาสนายกฯ และ ครม.ชุดใหม่ได้ทำงาน ถ้าทำอะไรผิด หรือไม่ดีค่อยร้องเรียน ไม่ใช่ออกมาพูดเพียงอย่างเดียว ขอให้ดูที่ผลงาน ส่วนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นร้องเรียนกรณีซุกหุ้นของ น.ส.แพทองธาร มีทีมกฎหมายดูอยู่แล้ว และคิดว่าจะไม่เป็นประเด็น

    อย่างไรก็ตาม นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวขอยืนยันในจุดยืนเดิม ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีตั้งแต่วันแรกที่การตั้งรัฐบาลชุด ของนายเศรษฐา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะไม่สามารถทรยศประชาชนได้ ซึ่งตนเป็นคนขอร้องประชาชนไม่ให้เลือกพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เพราะความขัดแย้งส่วนตัว แต่เป็นเพราะพรรคเหล่านั้น ประกาศชัดเจนที่จะพัฒนาจังหวัดที่เลือกเขาก่อน ส่วนจังหวัดอื่นไว้ทีหลัง

    "วิธีเหล่านี้เราไม่เคยเห็นมาก่อน นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา 90 ปี ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหน ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือมาจากการยึดอำนาจ ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จะให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคอย่างยุติธรรม โดยไม่สนใจว่าใครจะเลือกใครเป็นรัฐบาล แต่จัดการบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรม"

    "ต้องยอมรับว่าเรื่องการเลือกปฏิบัติ ผมต่อสู้มาเพียงลำพัง ด้วยการขอว่าอย่าเลือกเขานะ ไม่ได้ไปกลั่นแกล้งหรือทำร้ายอย่างที่ นายราเมศ รัตนะเชวง อดีดโฆษกพรรคฯ เคยถูกกระทำ ทำให้เขาได้รับเลือกน้อยมาก ไม่มี สส.ภาคใต้แม้แต่คนเดียว ซึ่งเป็นผลมาจากที่ผมรณรงค์ แล้ววันหนึ่งจะมาบอกให้ผมสนับสนุนพรรคที่ผมบอกว่าอย่าเลือก มันชัดเจนว่าเป็นการทรยศชาวบ้านผมทำไม่ได้ จึงขอยืนยันว่า แม้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี แต่จุดยืนผมยังเหมือนเดิม"

    นายชวนกล่าวอีกว่า มติของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่การเห็นด้วย เพราะมีการติดต่อกันแล้ว ที่มาถามว่า เขามาเชิญ ความจริง ตนคิดว่าคนของเราไปติดต่อเขาก่อนเขาเชิญ หรือสงสัยว่าไปขอให้เขามาเชิญด้วยซ้ำ แต่ตามมารยาท ก็มาเชิญด้วยวิธีนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะก่อนหน้าที่จะมีหนังสือเชิญ คนของเราบางคนก็ไปประสานติดต่อ จึงถูกสื่อมวลชนเรียกว่า พรรคอีแอบ พรรครอเสียบ จึงอยากขออย่าเรียกพรรคประชาธิปัตย์ แบบนี้ เพราะเป็นพฤติกรรมของคนส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คนส่วนใหญ่

    "การเรียกแบบนี้ทำให้พรรคเสื่อมเสีย ตนอยากปกป้องเกียรติภูมิของพรรค เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้คนใดคนหนึ่งได้เป็นนายกฯ อยู่สัก 1-2 สมัยแล้วล้มไป แต่พรรคประชาธิปัตย์ อยู่มาเกือบ 80 ปี ปฏิบัติตามอุดมการณ์ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นหลักประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน ไม่อยากให้เสื่อมเสียด้วยการกระทำของ กก.บห.พรรคชุดปัจจุบัน"

    "ยอมรับว่าผมเป็นเสียงข้างน้อยในพรรคฯ ที่ชัดเจนตั้งแต่มีการลงมติเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกฯ และผมได้หารือกับนายบัญญัติ นายจุรินทร์ และนายสรรเพชญ ว่าอย่างน้อย 4 คน จะยังคงยืนยันในจุดยืนเดิม แต่ไม่ว่ามติของพรรคฯเป็นอย่างไร ก็พร้อมจะเคารพ เพียงแต่ไม่เห็นด้วยที่จะร่วมกับพรรคการเมืองที่เคยกลั่นแกล้งประชาชน และเชื่อว่าการตัดสินใจร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ จะส่งผลต่อฐานเสียงภาคใต้ไม่น้อย"

    เมื่อถามว่าคนรุ่นใหม่มองว่าหมดยุคของนายชวนแล้ว นายชวน กล่าวว่า มันไม่มีกำหนดอายุ มีคนคิดเหมือนกันว่าตนเป็นขวากหนามของเขา ทำให้ไปร่วมรัฐบาลไม่ได้ จึงพยายามพูดว่าหมดยุคของผู้อาวุโส แต่ในความจริงแล้ว ตนเป็นผู้สร้างมากกว่าผู้ทำลาย และคนที่พูดเหล่านั้นอาศัยบารมีพรรค ที่พวกตนทำเอาไว้ แต่คนเหล่านั้นยังไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรคเลย เพียงแต่อาศัยชื่อพรรคเพื่อเข้ามาเป็นนักการเมือง ตนก็เคยได้ยินเรื่องนี้แต่ไม่ได้โกรธ แม้กระทั่ง เรื่องที่จะขับพ้นออกจากพรรค ก็มาดูว่าใครเป็นคนพูด พอทราบก็เข้าใจเพราะเขาก็เพิ่งเข้าพรรคมาอาศัยบารมีของพรรคที่คนรุ่นก่อนเขาสะสมสร้างมา นายเฉลิมชัย เป็นหัวหน้าพรรคฯ คนที่ 9 ยังไม่ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้พรรคฯเท่ากับรุ่นก่อน

    "ดังนั้น ใครที่คิดจะปลดต้องดูกฎหมาย ซึ่งไม่ได้กำหนดอายุ ผมยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ ผมกลายเป็นคนหัวคัดค้าน ทั้งที่มีหลายคนไม่เห็นด้วย แต่เขาไม่อยากเปลืองตัว เป็นการกระทำของคนบางกลุ่ม ทำให้คนทั่วไปยังเข้าใจว่า ประชาธิปัตย์ยังพอใช้ได้อยู่ เพียงแต่คนบางกลุ่มเท่านั้นที่เข้ามาใช้ตำแหน่งในพรรคเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งคนกลุ่มนั้นไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับผม จนพยายามจะบอกว่าขัดแย้งมาแล้ว 20 ปี จึงอยากถามว่าขัดแย้งเรื่องอะไร ไม่ได้ทะเลาะเพื่อประโยชน์ส่วนตัวกัน แต่เป็นเรื่องของประชาชน"

    เมื่อถามว่านายชวนจะลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้ เพราะไม่อยากพูดอะไรไปล่วงหน้า

    #Newskit #พรรคประชาธิปัตย์ #รัฐบาลแพทองธาร
    ชวนกรีดดีลฟ้า-แดง "คนรุ่นใหม่หาประโยชน์" การประชุมคณะกรรมการบริหารและ สส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. มีเพียงวาระเดียว คือการเข้าร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย (พท.) ตามที่นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเชิญแก่นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางกระแสข่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีความพยายามร่วมรัฐบาลของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีเก้าอี้ 1 รัฐมนตรี และ 1 รัฐมนตรีช่วยรออยู่ เป็นที่ทราบกันดีว่า พรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคการเมืองของนายทักษิณ ชินวัตร ต่อสู้ทางการเมืองมานานกว่า 23 ปี ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ผ่านความขัดแย้งทั้งในสภาและนอกสภาในการชุมนุมกลุ่ม กปปส. แต่สัญญาณในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ เริ่มต้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (2566) นายเดชอิศม์เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง ก่อนที่นายทักษิณกลับมารับโทษที่ประเทศไทย ทีแรกปฎิเสธไม่พูดถึง ตอนหลังยอมรับไปเจอกันจริง และเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรร่วมรัฐบาลเพื่อผลักดันนโยบายพรรค กระทั่งการโหวตเลือกนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่ามี สส.ปชป. 16 คน นำโดยนายเดชอิศม์ โหวตสวนมติพรรค หนุนนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในการโหวตเลือก น.ส.แพทองธาร ครั้งล่าสุด สส.ปชป. 25 คน งดออกเสียง ตามมติพรรคที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่ทั้งนี้ สส.ปชป. กลุ่มนายเฉลิมชัย 21 คน สนใจที่จะเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว มีเพียง 4 สส. ที่ไม่ยอม ได้แก่ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และนายสรรเพชร บุญญามณี สส.สงขลา แต่ก็ไม่อาจต้านทานกลุ่มนายเฉลิมชัยซึ่งเป็นเสียงข้างมากได้ นายเดชอิศม์ อ้างว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความขัดแย้ง มีแต่ความรัก ความเข้าใจ และการให้อภัยกัน ต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์เมื่อ 20-30 ปีที่ผ่านมา กับปัจจุบันไม่เหมือนกัน ปัญหาของประเทศ แนวคิด การพัฒนาประเทศ ไม่เหมือนกัน ดังนั้น พอถึงเวลาที่เราพูดคุยกันได้ ที่เรารักกัน เป็นสิ่งที่ดีงาม ส่วนที่นายชวนคัดค้านนั้น ก่อนหน้านี้อาจมีความคิดเห็นเป็นสองฝ่าย แต่เมื่อมีมติของพรรคก็ต้องปฏิบัติตาม จากนี้ถ้ามีคนในพรรคโหวตแตกต่างจากมติของพรรคคงทำเช่นนั้นไม่ได้ ส่วนนายสรวงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้พูดคุยกับนายเฉลิมชัยและนายเดชอิศม์ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่าจะยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารประเทศ และเป็นรัฐบาลร่วมกัน ส่วนโควตารัฐมนตรีเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีตนไม่ขอก้าวล่วง ส่วนความขัดแย้งระหว่างสองพรรค เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน แต่ปัจจุบันมั่นใจว่าในสภาฯ ทุกคน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ทำให้ประชาชนและประเทศชาติไปได้ด้วยดี "ไม่มี สส.พรรคเพื่อไทยคัดค้าน ขอให้นำคำสัมภาษณ์ของนายเดชอิศม์เป็นที่ตั้ง ว่าประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ พรรคของพวกเราร่วมต่อสู้กันมานาน แต่วันนี้มาถึงคนรุ่นใหม่ ที่มาดูแลพรรค ส่วนอุดมการณ์ทางการเมือง ก็เป็นเรื่องของอุดมการณ์ ส่วนแนวทางการทำงานเราไปด้วยกันได้แน่นอน" นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในอดีตอุดมการณ์ทางการเมืองของเพื่อไทย และประชาธิปัตย์ ไม่เหมือนกันเลย แต่วันนี้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารพรรค หัวหน้าทั้ง 2 พรรค รวมถึงเลขาฯ และสมาชิกพรรคทุกคน มุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น เพราะประเทศชาติถอยหลังไปมาก ดังนั้น จึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้าร่วมกัน อะไรไม่เข้าใจกันหรือความขัดแย้งต้องทิ้งไว้ข้างหลัง ส่วนข้อกล่าวหาว่า พรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า คำนี้ฮิตเหลือเกิน ก็แล้วแต่ ทุกอย่างมองกันที่ผลงาน ต่อจากนี้ไปอีก 3 ปี ตนขออย่างเดียวให้โอกาสนายกฯ และ ครม.ชุดใหม่ได้ทำงาน ถ้าทำอะไรผิด หรือไม่ดีค่อยร้องเรียน ไม่ใช่ออกมาพูดเพียงอย่างเดียว ขอให้ดูที่ผลงาน ส่วนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นร้องเรียนกรณีซุกหุ้นของ น.ส.แพทองธาร มีทีมกฎหมายดูอยู่แล้ว และคิดว่าจะไม่เป็นประเด็น อย่างไรก็ตาม นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวขอยืนยันในจุดยืนเดิม ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีตั้งแต่วันแรกที่การตั้งรัฐบาลชุด ของนายเศรษฐา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะไม่สามารถทรยศประชาชนได้ ซึ่งตนเป็นคนขอร้องประชาชนไม่ให้เลือกพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เพราะความขัดแย้งส่วนตัว แต่เป็นเพราะพรรคเหล่านั้น ประกาศชัดเจนที่จะพัฒนาจังหวัดที่เลือกเขาก่อน ส่วนจังหวัดอื่นไว้ทีหลัง "วิธีเหล่านี้เราไม่เคยเห็นมาก่อน นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา 90 ปี ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหน ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือมาจากการยึดอำนาจ ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จะให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคอย่างยุติธรรม โดยไม่สนใจว่าใครจะเลือกใครเป็นรัฐบาล แต่จัดการบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรม" "ต้องยอมรับว่าเรื่องการเลือกปฏิบัติ ผมต่อสู้มาเพียงลำพัง ด้วยการขอว่าอย่าเลือกเขานะ ไม่ได้ไปกลั่นแกล้งหรือทำร้ายอย่างที่ นายราเมศ รัตนะเชวง อดีดโฆษกพรรคฯ เคยถูกกระทำ ทำให้เขาได้รับเลือกน้อยมาก ไม่มี สส.ภาคใต้แม้แต่คนเดียว ซึ่งเป็นผลมาจากที่ผมรณรงค์ แล้ววันหนึ่งจะมาบอกให้ผมสนับสนุนพรรคที่ผมบอกว่าอย่าเลือก มันชัดเจนว่าเป็นการทรยศชาวบ้านผมทำไม่ได้ จึงขอยืนยันว่า แม้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี แต่จุดยืนผมยังเหมือนเดิม" นายชวนกล่าวอีกว่า มติของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่การเห็นด้วย เพราะมีการติดต่อกันแล้ว ที่มาถามว่า เขามาเชิญ ความจริง ตนคิดว่าคนของเราไปติดต่อเขาก่อนเขาเชิญ หรือสงสัยว่าไปขอให้เขามาเชิญด้วยซ้ำ แต่ตามมารยาท ก็มาเชิญด้วยวิธีนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะก่อนหน้าที่จะมีหนังสือเชิญ คนของเราบางคนก็ไปประสานติดต่อ จึงถูกสื่อมวลชนเรียกว่า พรรคอีแอบ พรรครอเสียบ จึงอยากขออย่าเรียกพรรคประชาธิปัตย์ แบบนี้ เพราะเป็นพฤติกรรมของคนส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ "การเรียกแบบนี้ทำให้พรรคเสื่อมเสีย ตนอยากปกป้องเกียรติภูมิของพรรค เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้คนใดคนหนึ่งได้เป็นนายกฯ อยู่สัก 1-2 สมัยแล้วล้มไป แต่พรรคประชาธิปัตย์ อยู่มาเกือบ 80 ปี ปฏิบัติตามอุดมการณ์ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นหลักประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน ไม่อยากให้เสื่อมเสียด้วยการกระทำของ กก.บห.พรรคชุดปัจจุบัน" "ยอมรับว่าผมเป็นเสียงข้างน้อยในพรรคฯ ที่ชัดเจนตั้งแต่มีการลงมติเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกฯ และผมได้หารือกับนายบัญญัติ นายจุรินทร์ และนายสรรเพชญ ว่าอย่างน้อย 4 คน จะยังคงยืนยันในจุดยืนเดิม แต่ไม่ว่ามติของพรรคฯเป็นอย่างไร ก็พร้อมจะเคารพ เพียงแต่ไม่เห็นด้วยที่จะร่วมกับพรรคการเมืองที่เคยกลั่นแกล้งประชาชน และเชื่อว่าการตัดสินใจร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ จะส่งผลต่อฐานเสียงภาคใต้ไม่น้อย" เมื่อถามว่าคนรุ่นใหม่มองว่าหมดยุคของนายชวนแล้ว นายชวน กล่าวว่า มันไม่มีกำหนดอายุ มีคนคิดเหมือนกันว่าตนเป็นขวากหนามของเขา ทำให้ไปร่วมรัฐบาลไม่ได้ จึงพยายามพูดว่าหมดยุคของผู้อาวุโส แต่ในความจริงแล้ว ตนเป็นผู้สร้างมากกว่าผู้ทำลาย และคนที่พูดเหล่านั้นอาศัยบารมีพรรค ที่พวกตนทำเอาไว้ แต่คนเหล่านั้นยังไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรคเลย เพียงแต่อาศัยชื่อพรรคเพื่อเข้ามาเป็นนักการเมือง ตนก็เคยได้ยินเรื่องนี้แต่ไม่ได้โกรธ แม้กระทั่ง เรื่องที่จะขับพ้นออกจากพรรค ก็มาดูว่าใครเป็นคนพูด พอทราบก็เข้าใจเพราะเขาก็เพิ่งเข้าพรรคมาอาศัยบารมีของพรรคที่คนรุ่นก่อนเขาสะสมสร้างมา นายเฉลิมชัย เป็นหัวหน้าพรรคฯ คนที่ 9 ยังไม่ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้พรรคฯเท่ากับรุ่นก่อน "ดังนั้น ใครที่คิดจะปลดต้องดูกฎหมาย ซึ่งไม่ได้กำหนดอายุ ผมยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ ผมกลายเป็นคนหัวคัดค้าน ทั้งที่มีหลายคนไม่เห็นด้วย แต่เขาไม่อยากเปลืองตัว เป็นการกระทำของคนบางกลุ่ม ทำให้คนทั่วไปยังเข้าใจว่า ประชาธิปัตย์ยังพอใช้ได้อยู่ เพียงแต่คนบางกลุ่มเท่านั้นที่เข้ามาใช้ตำแหน่งในพรรคเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งคนกลุ่มนั้นไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับผม จนพยายามจะบอกว่าขัดแย้งมาแล้ว 20 ปี จึงอยากถามว่าขัดแย้งเรื่องอะไร ไม่ได้ทะเลาะเพื่อประโยชน์ส่วนตัวกัน แต่เป็นเรื่องของประชาชน" เมื่อถามว่านายชวนจะลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้ เพราะไม่อยากพูดอะไรไปล่วงหน้า #Newskit #พรรคประชาธิปัตย์ #รัฐบาลแพทองธาร
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 934 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์ทัศนะของ วีระ ธีรภัทร จากเพจเฟซบุ๊ก สำนักพิมพ์โรนิน 25 สิงหาคม 2567

    “ คอลัมน์ ปากท้องชาวบ้าน

    ไม่มีอะไรจะเละไปกว่านี้(แล้ว)

    แม้ว่าผมจะไม่ห่วงเรื่องอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในขณะนี้ก็ตาม

    แต่ก็อดคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๕๔ ไม่ได้

    หลังการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคมในปีนั้น พรรคเพื่อไทยเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์แบบถล่มทลายสามารถจัดตั้งรัฐบาลโดยมีคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ

    อุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ตามมาพร้อมกับการเป็นรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นเลยกลายเป็นบททดสอบความสามารถในการบริหารจัดการของรัฐบาลใหม่แบบชนิดไม่ทันได้ตั้งตัว

    ผลเป็นไงคงพอจำกันได้

    บัดนี้เราได้รัฐบาลใหม่ มีคุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าในขณะนี้ยังยุ่งขิงอยู่กับการสรรหาบุคคลมาเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลไม่เสร็จ (อันนี้เละเทะมาก) ยังไม่สามารถเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ

    แต่น้ำเหนือก็หลากมาแล้ว แม้จะไม่น่ากลัวสำหรับคนกรุงเทพและปริมณฑลเหมือนกับเมื่อสิบสามปีก่อนหน้านี้ก็ตามที

    อะไรมันจะซ้ำซากกันได้ถึงขนาดนี้

    แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นข้อใหญ่ในความของเรื่องที่ผมจะคุยอะไรให้ฟังวันนี้ ครับ

    ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีอะไรต่อมิอะไรเกิดขึ้นมากมาย หลายเรื่องไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น แม้ผมจะพอเข้าใจต้นสายปลายเหตุพอสมควร

    ผมเลยอยากจะเล่าอะไรต่อมิอะไรให้คุณฟังแบบเพลินๆ เท่าที่จะคิดได้เป็นสำคัญ

    แน่นอนล่ะครับว่ารายการ Vision For Thailand ในช่วงหัวค่ำของคืนวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคมที่คุณทักษิณ ชินวัตร ไปแสดงวิสัยทัศน์ท่ามกลางคนมีอำนาจในแวดวงการเมืองและธุรกิจภาคเอกชนจำนวนมากนั้น ย่อมอยู่ในความสนใจของผู้คน จนลืมกันไปหมดว่าวันดังกล่าวตรงกับวันครบรอบหนึ่งปีของการเดินทางกลับประเทศไทยของคุณทักษิณ

    ความเป็นคุณทักษิณ ความเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย และด้วยอำนาจวาสนาบารมีที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แม้จะพร่องไปบ้างในช่วงสิบห้าปีที่ลี้ภัยทางการเมืองในต่างแดน

    สิ่งที่คุณทักษิณคิดจึงมองข้ามไม่ได้

    ทักษิณคิดเพื่อไทยทำอย่างที่รู้ๆ กัน

    ผมและคนอื่นๆ อีกไม่น้อยจึงเสียยอมเวลาฟังสิ่งที่คุณทักษิณคิดและอยากให้เกิดกับสังคมไทยในอนาคตตลอดหนึ่งชั่วโมงเศษที่แกคุยอยู่คนเดียวด้วยความตั้งอกตั้งใจ

    สำหรับผมสิ่งที่คุณทักษิณคิดออกมาดังๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นประเด็นปัญหาที่เราพอรู้พอทราบกันอยู่ แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่าสิ่งที่คุณทักษิณ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเอาไปทำหรืออย่างน้อยก็เอาไปคิดต่อว่าจะทำต่อไปเป็นประเด็นที่น่าสนใจมากเป็นพิเศษ

    ตรงนี้จึงมีความหมายมากกว่าการแสดงความคิดเห็นของคนทั่วไป

    แม้ว่าข้อเสนอจำนวนมากเป็นเรื่องที่ผมพอทราบมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง โครงการดิจิทัลวอลเลต การชี้นำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยและเพิ่มการให้สินเชื่อเพื่อเป็นการเติมสภาพคล่องให้กับภาคเศรษฐกิจ โครงการแลนด์บริดจ์ โครงการค่าโดยสารรถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย โครงการเอ็นเทอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ กองทุนวายุภักษ์ ฯลฯ ล้วนเป็นประเด็นที่จะต้องมีการตัดสินใจและขับเคลื่อนกันต่อไปในรัฐบาลของคุณแพทองธาร ชินวัตร ต่อไป

    นี่จึงเป็นข้อเสนอคำแนะนำที่ไม่ธรรมดาเพราะสามารถจะกลายเป็นนโยบายของรัฐบาลได้อย่างแยบคาย

    ผมจะไม่วิพากษ์วิจารณ์อะไรในเรื่องที่ว่าในตอนนี้ อยากจะรอดูก่อนว่าข้อเสนอดังกล่าวจะกลายเป็นนโยบายและมาตรการของรัฐบาลคุณแพทองธารในเนื้อหารายละเอียดอย่างไรให้ชัดเจนเสียก่อน

    แถมอันที่จริงแล้วในช่วงนี้ต้องบอกว่า ผมอยู่ในช่วงที่ผ่อนคลายมากมีเวลาเหลือมากขึ้น แถมได้ทำสิ่งที่ไม่ได้ทำมานานมากแล้วอีกต่างหาก

    ลำดับแรกเลย งานในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ ซึ่งผมต้องไปประชุมรวมกันถึง ๔๐ ครั้งตลอดระยะเวลาสองเดือนเต็มๆ ที่ผ่านมา (นับหนึ่งวันจันทร์ที่ ๒๔ มิถุนายน) ถือว่าจบสิ้นแล้วในแง่ของกระบวนการพิจารณา แม้ยังไม่จบเสียทีเดียวเพราะต้องมีพิธีกรรมอีกเล็กน้อยในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า

    วันพุธที่ ๒๘ สิงหาคมจะเป็นการประชุมครั้งที่ ๔๑ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของกรรมาธิการเพื่อตรวจทานและลงมติรับร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ ว่าจะเอาแบบไหน? อย่างไร? โดยมีกรรมาธิการและสส.จำนวนไม่น้อย ได้สงวนความเห็นและขอแปรญัตติเพื่อจะไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะมีการลงมติให้ความเห็นชอบในวาระที่ ๒ และ ๓ ในช่วงวันที่ ๓-๕ กันยายนที่จะถึงนี้

    อันนี้น่าสนใจติดตามฟังกันครับ

    งานที่ว่านี้ดำเนินไปโดยยังไม่มีรัฐบาลใหม่ มีแต่เพียงนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้

    นี่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องแปลก แม้ผมจะเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นก็ตามที

    ลำดับถัดมา ผมไปร่วมรายการ BOT Press Trip 2024 ที่โรงแรม Andaz แถวหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี แม้จะห่างเหินจากการไปร่วมงานในฐานะสื่อมวลชนกับธนาคารแห่งประเทศไทยแบบนี้มานานมากแล้ว แต่ที่ผมอยากไปก็เพราะว่างานนี้มีประเด็นที่ผมอยากสอบถามให้แน่ใจว่าอะไรเป็นอะไรจากปากของผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นโอกาสดีมากเพราะว่าไปกันครบถ้วนเกือบทั้งหมด เหมือนเราไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของที่ต้องการได้ทั้งหมดในสถานที่เพียงแห่งเดียว

    ผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย นำโดยคุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ปีหน้าครบวาระห้าปีเป็นต่อไม่ได้) พร้อมกับรองผู้ว่าการและผู้ช่วยผู้ว่าการ ๑๑ คนโดยไม่รวมระดับผู้บริหารระดับปฏิบัติการในฝ่ายต่างๆ ที่มากันเป็นกองทัพ

    อะไรที่ผมสงสัยไม่แน่ใจในเรื่องนโยบายการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยบริหารจัดการอยู่ในเวลานี้ จึงถือโอกาสไปร่วมงานนี้ สอบถามพูดคุยกับคนที่ดูแลนโยบายและคนที่ลงมือปฏิบัติการจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจนและได้ข้อมูลที่ต้องการครบถ้วน

    เอาเป็นว่าเรื่องระหว่างรัฐบาล กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เคยปีนเกลียวกันในช่วงรัฐบาลคุณเศรษฐา ทวีสิน ที่ผ่านมาและที่อาจจะมีการปะทะปะทั่งกันในช่วงรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร ในอนาคตอันใกล้นี้

    ผมพอเข้าใจต้นสายปลายเหตุแล้ว

    เรื่องหลายเรื่องที่รัฐบาลอยากทำแล้วทำไม่ได้ เรื่องหลายเรื่องที่ถกเถียงกันระหว่างรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าควรทำแบบไหนไม่ควรทำแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นโครงการดิจิตอลวอลเลต การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโบบาย ฯลฯ

    การได้พูดคุยกับคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง ทำให้ผมพอปะติดปะต่อภาพได้เกือบครบถ้วนตามที่ต้องการแล้ว

    จะเอาไปทำอะไรต่อที่ไหน? อย่างไร? และเมื่อไหร่? เดี๋ยวค่อยมาว่ากันครับ

    ผมยังมีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟังเพิ่มเติมแบบลงรายละเอียดสักหน่อย เพื่อบันทึกเป็นข้อมูลเอาไว้ตรงนี้เพื่อให้คุณๆ ได้ติดตามความเป็นไปของสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจการเงินการคลังได้อย่างครบถ้วนอยู่เรื่องหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นควรรู้ควรทราบอย่างยิ่ง

    เรื่องของเรื่องก็คือในช่วงสุดท้ายของการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลโดยสำนักงบประมาณได้เสนอขอเปลี่ยนแปลงรายการจัดสรรเงินงบประมาณให้กับรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินของรัฐ ๕ แห่งเป็นเงินรวมกัน ๓๕,๐๐๐ ล้านบาท

    รายการที่ว่านั้นเป็นการตั้งงบประมาณชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยที่ให้หน่วยงานของรัฐออกเงินไปให้ก่อนตามมาตรา ๒๘ ของพรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ แต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยโอนย้ายไปเป็นรายการในงบกลางแทน โดยระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข็มแข็งของเศรษฐกิจ (อันนี้เป็นชื่อของโครงการดิจิตอลวอลเลตที่รัฐบาลจะทำในเอกสารงบประมาณ) เพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว ๑๕๒,๗๐๐ ล้านบาท

    นั่นเลยทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการดิจิตอลวอลเลตในปีงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๘ เพิ่มเป็น ๑๘๗,๗๐๐ ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว แต่จะหาจากไหนสำหรับส่วนที่เหลืออีก ๙๗,๓๐๐ ล้านบาทเพื่อให้ครบ ๒๘๕,๐๐๐ ล้านบาท

    อันนี้น่าสนใจ

    ผมอยากให้ข้อมูลตรงนี้เพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงโอนย้ายรายจ่ายที่จะจัดสรรให้รัฐวิหาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินของรัฐ ๕ แห่งที่ว่าไปไว้ที่อื่นนั้น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรดูเหมือนจะเจอหนักกว่าใครเพื่อน เพราะเงินที่คาดว่าจะได้รับการชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยที่ธ.ก.ส.แบกรับภาระอยู่ประมาณ ๓๑,๒๐๐ ล้านบาท (จากยอดทั้งหมดประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) จะถูกเลื่อนออกไป

    แบบนี้อธิบายแบบชาวบ้านก็คือรัฐบาลขอต๊ะหนี้ที่มีกับธ.ก.ส.ไว้ก่อน ส่วนจะชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยให้เมื่อไหร่? ค่อยไปว่ากันในอนาคต

    เรื่องนี้ผมคัดค้านอย่างเต็มที่ตอนที่ถกเถียงกันในที่ประชุมของคณะกรรมาธิการฯ

    แต่เมื่อเสียงข้างมากของกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยเฉพาะกรรมาธิการที่มาในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลได้ลงมติให้เป็นไปตามนั้น ผมจึงกลายเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อยในกรณีนี้

    แม้ว่าเรื่องนี้ยังไม่จบจะต้องไปว่ากันต่อในที่ประชุมวาระที่ ๒ และ ๓ เพื่อให้สส.ลงมติให้ความเห็นชอบสุดท้ายก็ตามที

    แต่เรื่องนี้บอกเราได้อย่างหนึ่งว่าโครงการดิจิตอลวอลเลตยังเดินหน้าเต็มตัว แม้จะปรับเปลี่ยนไปเป็นการจ่ายเงินสดให้กลุ่มเปราะบางไปก่อนในเฟสแรกหรือระลอกแรก (หลักๆ คือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีรายได้น้อย) ทั้งเพื่อให้ทันใช้เงินให้หมดภายในปีงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๗ ซึ่งจะสิ้นสุดภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

    ส่วนจะเป็นเท่าไหร่กันแน่ระหว่างวงเงิน ๑๔๕,๐๐๐ หรือ ๑๖๕,๐๐๐ ล้านบาทนั้นคงต้องรอรัฐบาลแถลงนโยบายรัฐสภาต่อไปถึงจะชัดเจน

    พายุหมุนทางเศรษฐกิจที่พูดๆ กันก่อนหน้านี้คงไม่ใช่แล้วสำหรับตอนนี้

    แต่ก็อย่างที่บอกมาโดยตลอดแหละครับว่า ผมจะไม่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานเกินความจำเป็น

    แม้จะมีเรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมายอย่างที่ว่าก็จริง แต่ผมก็แบ่งเวลาเพื่อทำงานที่ผมชอบอยู่เสมอ โชคดีว่าเมื่อวันศุกร์ก่อนที่จะเดินทางมาหาดจอมเทียน เพื่อร่วมงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย ทางสำนักพิมพ์โรนินได้ส่งต้นฉบับหนังสือสองเล่มมาให้ผมตรวจทานรอบสุดท้าย

    เที่ยวเขมรฉบับพกพา และ ส่องภาพเขียนที่รัสเซีย

    ผมก็เลยเพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือเล่มตัวอย่างก่อนที่จะส่งไปให้สำนักพิมพ์ไปจัดการให้ทางโรงพิมพ์ดำเนินการพิมพ์เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกต่ออีกทอดในอนาคต

    แต่ที่น่ายินดีเป็นที่สุดก็คือเมื่อจบการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปีพ.ศ.๒๕๖๘ ในช่วงต้นเดือนกันยายน (วันที่ ๓-๕ กันยายน) ก็ได้เวลาที่ผมจะไปพักผ่อนปลีกวิเวกเป็นการชั่วคราวที่ญี่ปุ่น (ดูภาพเขียน-ออนเซน) พร้อมกับวางแผนเดินทางไปรัสเซีย (ดูภาพเขียนกับเที่ยวชมเมือง) ในช่วงต้นเดือนตุลาคม และเตรียมการจะไปเที่ยวเขมรนครวัด-นครธมในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ไปพร้อมกันด้วย

    พ้นจากนั้นจะไปทำอะไรที่ไหนค่อยว่ากันใหม่

    เมื่อมองย้อนกลับไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ มาจนถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าปีนี้เป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของผม ได้ทำอะไรเยอะแยะไปหมด สะสางงานเก่าเริ่มงานใหม่และก้าวเข้าไปในพรมแดนใหม่ที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอีกต่างหาก

    แม้ว่าบ้านเมืองของเรายามนี้ จะไม่มีอะไรให้เละมากไปกว่านี้ได้แล้วก็ตามที

    การเจริญอุเบกขาธรรมจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ


    ป.ล. เรื่องการฟอร์มคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร นี่ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยครับ งานนี้เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของการเมืองไทย อย่าเพิ่งรำคาญอย่าไปหงุดหงิด แม้จะดูแล้วเละตุ้มเป๊ะได้ถึงขนาดนี้ พรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์จะพาตัวเองให้รอดจากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งรุนแรงในภายพรรคในเวลานี้ เพราะประเด็นการร่วมรัฐบาลของพรรคและการเป็นรัฐมนตรีของผู้บริหารของพรรคได้อย่างไร คงจะมีคำตอบภายในเร็ววันนี้

    การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงวันที่ ๑๗-๑๘ กันยายนที่จะถึงนี้ ถ้าหากฟังจากที่นายเจอโรม พาวเวล (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางไปพูดที่เมืองตากอากาศแจคสันโฮล ในรัฐไวโอมิงว่าถึงเวลาต้องปรับนโยบายการเงินด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบายได้แล้ว เพราะหมดห่วงเรื่องเงินเฟ้อแล้ว แต่มาห่วงเรื่องการว่างงานแทนจึงทำให้ต้องลดดอกเบี้ย นั่นก็หมายความว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐที่กำหนดไว้ร้อยละ ๕.๒๕-๕.๕๐ ในปัจจุบันจะเริ่มแล้วตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป จะลดมากน้อยลดเร็วช้าแค่ไหนไม่สำคัญเท่ากับทิศทางของดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นขาลงอย่างชัดเจน

    ค่าเงิน หุ้น และอะไรที่ผูกโยงกับนโยบายการเงินของสหรัฐคงต้องปรับตัวตามไปด้วย

    สำหรับบ้านเราอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ ๒.๕๐ นั้น เท่าที่ฟังจากเกณฑ์ในการตัดสินเรื่องนี้จากผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกรรมการเสียงข้างน้อยในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่เจอกันสุดสัปดาห์นี้ คิดว่าคงยังไม่ถึงเวลาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครับ

    งานนี้คงต้องมีเรื่องมีราวเรื่องลดไม่ลดดอกเบี้ยระหว่างรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร กับธนาคารแห่งประเทศไทยไปอีกสักระยะหนึ่งครับ

    บันทึกเอาไว้กันลืมว่าเดือนสิงหาคม มีผู้นำสามประเทศในเอเชียต้องเผชิญชะตากรรมที่ทำให้พ้นจากตำแหน่งแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นบังกลาเทศ (เหมือน ๑๔ ตุลาคมปี ๒๕๑๖ ในบ้านเรา) ไทย (คงไม่ต้องบอกอะไรเพิ่มเติม) และญี่ปุ่น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีฟูมิโอ คิชิดะ (Fumio Kishida) ได้ประกาศวางมือลงจากตำแหน่ง ส่วนกระบวนการคัดเลือกคนมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเขาน่าสนใจครับ ถ้ามีเวลาจะหาโอกาสมาคุยให้ฟัง

    ขอจบลงตรงนี้ด้วยการแจ้งให้ทราบว่าพรบ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณพ.ศ๒๕๖๗ วงเงิน ๑๒๒,๐๐๐ ล้านบาทมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม หลังจากได้นำประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ ๒๒ สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ใครที่รอแจกเงินสดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

    แต่ไม่ใช่โครงการดิจิตอลเลตเตรียมรับได้เลย


    วีระ ธีรภัทร
    วันอาทิตย์ที่ ๒๕ สิงหาคม 2567”

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/ZPvoLGVkV5QkhJNR/?mibextid=CTbP7E

    Thaitimes
    รีโพสต์ทัศนะของ วีระ ธีรภัทร จากเพจเฟซบุ๊ก สำนักพิมพ์โรนิน 25 สิงหาคม 2567 “ คอลัมน์ ปากท้องชาวบ้าน ไม่มีอะไรจะเละไปกว่านี้(แล้ว) แม้ว่าผมจะไม่ห่วงเรื่องอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในขณะนี้ก็ตาม แต่ก็อดคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๕๔ ไม่ได้ หลังการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคมในปีนั้น พรรคเพื่อไทยเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์แบบถล่มทลายสามารถจัดตั้งรัฐบาลโดยมีคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ อุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ตามมาพร้อมกับการเป็นรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นเลยกลายเป็นบททดสอบความสามารถในการบริหารจัดการของรัฐบาลใหม่แบบชนิดไม่ทันได้ตั้งตัว ผลเป็นไงคงพอจำกันได้ บัดนี้เราได้รัฐบาลใหม่ มีคุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าในขณะนี้ยังยุ่งขิงอยู่กับการสรรหาบุคคลมาเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลไม่เสร็จ (อันนี้เละเทะมาก) ยังไม่สามารถเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่น้ำเหนือก็หลากมาแล้ว แม้จะไม่น่ากลัวสำหรับคนกรุงเทพและปริมณฑลเหมือนกับเมื่อสิบสามปีก่อนหน้านี้ก็ตามที อะไรมันจะซ้ำซากกันได้ถึงขนาดนี้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นข้อใหญ่ในความของเรื่องที่ผมจะคุยอะไรให้ฟังวันนี้ ครับ ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีอะไรต่อมิอะไรเกิดขึ้นมากมาย หลายเรื่องไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น แม้ผมจะพอเข้าใจต้นสายปลายเหตุพอสมควร ผมเลยอยากจะเล่าอะไรต่อมิอะไรให้คุณฟังแบบเพลินๆ เท่าที่จะคิดได้เป็นสำคัญ แน่นอนล่ะครับว่ารายการ Vision For Thailand ในช่วงหัวค่ำของคืนวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคมที่คุณทักษิณ ชินวัตร ไปแสดงวิสัยทัศน์ท่ามกลางคนมีอำนาจในแวดวงการเมืองและธุรกิจภาคเอกชนจำนวนมากนั้น ย่อมอยู่ในความสนใจของผู้คน จนลืมกันไปหมดว่าวันดังกล่าวตรงกับวันครบรอบหนึ่งปีของการเดินทางกลับประเทศไทยของคุณทักษิณ ความเป็นคุณทักษิณ ความเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย และด้วยอำนาจวาสนาบารมีที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แม้จะพร่องไปบ้างในช่วงสิบห้าปีที่ลี้ภัยทางการเมืองในต่างแดน สิ่งที่คุณทักษิณคิดจึงมองข้ามไม่ได้ ทักษิณคิดเพื่อไทยทำอย่างที่รู้ๆ กัน ผมและคนอื่นๆ อีกไม่น้อยจึงเสียยอมเวลาฟังสิ่งที่คุณทักษิณคิดและอยากให้เกิดกับสังคมไทยในอนาคตตลอดหนึ่งชั่วโมงเศษที่แกคุยอยู่คนเดียวด้วยความตั้งอกตั้งใจ สำหรับผมสิ่งที่คุณทักษิณคิดออกมาดังๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นประเด็นปัญหาที่เราพอรู้พอทราบกันอยู่ แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่าสิ่งที่คุณทักษิณ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเอาไปทำหรืออย่างน้อยก็เอาไปคิดต่อว่าจะทำต่อไปเป็นประเด็นที่น่าสนใจมากเป็นพิเศษ ตรงนี้จึงมีความหมายมากกว่าการแสดงความคิดเห็นของคนทั่วไป แม้ว่าข้อเสนอจำนวนมากเป็นเรื่องที่ผมพอทราบมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง โครงการดิจิทัลวอลเลต การชี้นำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยและเพิ่มการให้สินเชื่อเพื่อเป็นการเติมสภาพคล่องให้กับภาคเศรษฐกิจ โครงการแลนด์บริดจ์ โครงการค่าโดยสารรถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย โครงการเอ็นเทอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ กองทุนวายุภักษ์ ฯลฯ ล้วนเป็นประเด็นที่จะต้องมีการตัดสินใจและขับเคลื่อนกันต่อไปในรัฐบาลของคุณแพทองธาร ชินวัตร ต่อไป นี่จึงเป็นข้อเสนอคำแนะนำที่ไม่ธรรมดาเพราะสามารถจะกลายเป็นนโยบายของรัฐบาลได้อย่างแยบคาย ผมจะไม่วิพากษ์วิจารณ์อะไรในเรื่องที่ว่าในตอนนี้ อยากจะรอดูก่อนว่าข้อเสนอดังกล่าวจะกลายเป็นนโยบายและมาตรการของรัฐบาลคุณแพทองธารในเนื้อหารายละเอียดอย่างไรให้ชัดเจนเสียก่อน แถมอันที่จริงแล้วในช่วงนี้ต้องบอกว่า ผมอยู่ในช่วงที่ผ่อนคลายมากมีเวลาเหลือมากขึ้น แถมได้ทำสิ่งที่ไม่ได้ทำมานานมากแล้วอีกต่างหาก ลำดับแรกเลย งานในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ ซึ่งผมต้องไปประชุมรวมกันถึง ๔๐ ครั้งตลอดระยะเวลาสองเดือนเต็มๆ ที่ผ่านมา (นับหนึ่งวันจันทร์ที่ ๒๔ มิถุนายน) ถือว่าจบสิ้นแล้วในแง่ของกระบวนการพิจารณา แม้ยังไม่จบเสียทีเดียวเพราะต้องมีพิธีกรรมอีกเล็กน้อยในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า วันพุธที่ ๒๘ สิงหาคมจะเป็นการประชุมครั้งที่ ๔๑ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของกรรมาธิการเพื่อตรวจทานและลงมติรับร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ ว่าจะเอาแบบไหน? อย่างไร? โดยมีกรรมาธิการและสส.จำนวนไม่น้อย ได้สงวนความเห็นและขอแปรญัตติเพื่อจะไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะมีการลงมติให้ความเห็นชอบในวาระที่ ๒ และ ๓ ในช่วงวันที่ ๓-๕ กันยายนที่จะถึงนี้ อันนี้น่าสนใจติดตามฟังกันครับ งานที่ว่านี้ดำเนินไปโดยยังไม่มีรัฐบาลใหม่ มีแต่เพียงนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ นี่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องแปลก แม้ผมจะเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นก็ตามที ลำดับถัดมา ผมไปร่วมรายการ BOT Press Trip 2024 ที่โรงแรม Andaz แถวหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี แม้จะห่างเหินจากการไปร่วมงานในฐานะสื่อมวลชนกับธนาคารแห่งประเทศไทยแบบนี้มานานมากแล้ว แต่ที่ผมอยากไปก็เพราะว่างานนี้มีประเด็นที่ผมอยากสอบถามให้แน่ใจว่าอะไรเป็นอะไรจากปากของผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นโอกาสดีมากเพราะว่าไปกันครบถ้วนเกือบทั้งหมด เหมือนเราไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของที่ต้องการได้ทั้งหมดในสถานที่เพียงแห่งเดียว ผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย นำโดยคุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ปีหน้าครบวาระห้าปีเป็นต่อไม่ได้) พร้อมกับรองผู้ว่าการและผู้ช่วยผู้ว่าการ ๑๑ คนโดยไม่รวมระดับผู้บริหารระดับปฏิบัติการในฝ่ายต่างๆ ที่มากันเป็นกองทัพ อะไรที่ผมสงสัยไม่แน่ใจในเรื่องนโยบายการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยบริหารจัดการอยู่ในเวลานี้ จึงถือโอกาสไปร่วมงานนี้ สอบถามพูดคุยกับคนที่ดูแลนโยบายและคนที่ลงมือปฏิบัติการจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจนและได้ข้อมูลที่ต้องการครบถ้วน เอาเป็นว่าเรื่องระหว่างรัฐบาล กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เคยปีนเกลียวกันในช่วงรัฐบาลคุณเศรษฐา ทวีสิน ที่ผ่านมาและที่อาจจะมีการปะทะปะทั่งกันในช่วงรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร ในอนาคตอันใกล้นี้ ผมพอเข้าใจต้นสายปลายเหตุแล้ว เรื่องหลายเรื่องที่รัฐบาลอยากทำแล้วทำไม่ได้ เรื่องหลายเรื่องที่ถกเถียงกันระหว่างรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าควรทำแบบไหนไม่ควรทำแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นโครงการดิจิตอลวอลเลต การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโบบาย ฯลฯ การได้พูดคุยกับคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง ทำให้ผมพอปะติดปะต่อภาพได้เกือบครบถ้วนตามที่ต้องการแล้ว จะเอาไปทำอะไรต่อที่ไหน? อย่างไร? และเมื่อไหร่? เดี๋ยวค่อยมาว่ากันครับ ผมยังมีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟังเพิ่มเติมแบบลงรายละเอียดสักหน่อย เพื่อบันทึกเป็นข้อมูลเอาไว้ตรงนี้เพื่อให้คุณๆ ได้ติดตามความเป็นไปของสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจการเงินการคลังได้อย่างครบถ้วนอยู่เรื่องหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นควรรู้ควรทราบอย่างยิ่ง เรื่องของเรื่องก็คือในช่วงสุดท้ายของการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลโดยสำนักงบประมาณได้เสนอขอเปลี่ยนแปลงรายการจัดสรรเงินงบประมาณให้กับรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินของรัฐ ๕ แห่งเป็นเงินรวมกัน ๓๕,๐๐๐ ล้านบาท รายการที่ว่านั้นเป็นการตั้งงบประมาณชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยที่ให้หน่วยงานของรัฐออกเงินไปให้ก่อนตามมาตรา ๒๘ ของพรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ แต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยโอนย้ายไปเป็นรายการในงบกลางแทน โดยระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข็มแข็งของเศรษฐกิจ (อันนี้เป็นชื่อของโครงการดิจิตอลวอลเลตที่รัฐบาลจะทำในเอกสารงบประมาณ) เพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว ๑๕๒,๗๐๐ ล้านบาท นั่นเลยทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการดิจิตอลวอลเลตในปีงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๘ เพิ่มเป็น ๑๘๗,๗๐๐ ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว แต่จะหาจากไหนสำหรับส่วนที่เหลืออีก ๙๗,๓๐๐ ล้านบาทเพื่อให้ครบ ๒๘๕,๐๐๐ ล้านบาท อันนี้น่าสนใจ ผมอยากให้ข้อมูลตรงนี้เพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงโอนย้ายรายจ่ายที่จะจัดสรรให้รัฐวิหาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินของรัฐ ๕ แห่งที่ว่าไปไว้ที่อื่นนั้น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรดูเหมือนจะเจอหนักกว่าใครเพื่อน เพราะเงินที่คาดว่าจะได้รับการชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยที่ธ.ก.ส.แบกรับภาระอยู่ประมาณ ๓๑,๒๐๐ ล้านบาท (จากยอดทั้งหมดประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) จะถูกเลื่อนออกไป แบบนี้อธิบายแบบชาวบ้านก็คือรัฐบาลขอต๊ะหนี้ที่มีกับธ.ก.ส.ไว้ก่อน ส่วนจะชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยให้เมื่อไหร่? ค่อยไปว่ากันในอนาคต เรื่องนี้ผมคัดค้านอย่างเต็มที่ตอนที่ถกเถียงกันในที่ประชุมของคณะกรรมาธิการฯ แต่เมื่อเสียงข้างมากของกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยเฉพาะกรรมาธิการที่มาในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลได้ลงมติให้เป็นไปตามนั้น ผมจึงกลายเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อยในกรณีนี้ แม้ว่าเรื่องนี้ยังไม่จบจะต้องไปว่ากันต่อในที่ประชุมวาระที่ ๒ และ ๓ เพื่อให้สส.ลงมติให้ความเห็นชอบสุดท้ายก็ตามที แต่เรื่องนี้บอกเราได้อย่างหนึ่งว่าโครงการดิจิตอลวอลเลตยังเดินหน้าเต็มตัว แม้จะปรับเปลี่ยนไปเป็นการจ่ายเงินสดให้กลุ่มเปราะบางไปก่อนในเฟสแรกหรือระลอกแรก (หลักๆ คือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีรายได้น้อย) ทั้งเพื่อให้ทันใช้เงินให้หมดภายในปีงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๗ ซึ่งจะสิ้นสุดภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ส่วนจะเป็นเท่าไหร่กันแน่ระหว่างวงเงิน ๑๔๕,๐๐๐ หรือ ๑๖๕,๐๐๐ ล้านบาทนั้นคงต้องรอรัฐบาลแถลงนโยบายรัฐสภาต่อไปถึงจะชัดเจน พายุหมุนทางเศรษฐกิจที่พูดๆ กันก่อนหน้านี้คงไม่ใช่แล้วสำหรับตอนนี้ แต่ก็อย่างที่บอกมาโดยตลอดแหละครับว่า ผมจะไม่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานเกินความจำเป็น แม้จะมีเรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมายอย่างที่ว่าก็จริง แต่ผมก็แบ่งเวลาเพื่อทำงานที่ผมชอบอยู่เสมอ โชคดีว่าเมื่อวันศุกร์ก่อนที่จะเดินทางมาหาดจอมเทียน เพื่อร่วมงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย ทางสำนักพิมพ์โรนินได้ส่งต้นฉบับหนังสือสองเล่มมาให้ผมตรวจทานรอบสุดท้าย เที่ยวเขมรฉบับพกพา และ ส่องภาพเขียนที่รัสเซีย ผมก็เลยเพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือเล่มตัวอย่างก่อนที่จะส่งไปให้สำนักพิมพ์ไปจัดการให้ทางโรงพิมพ์ดำเนินการพิมพ์เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกต่ออีกทอดในอนาคต แต่ที่น่ายินดีเป็นที่สุดก็คือเมื่อจบการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปีพ.ศ.๒๕๖๘ ในช่วงต้นเดือนกันยายน (วันที่ ๓-๕ กันยายน) ก็ได้เวลาที่ผมจะไปพักผ่อนปลีกวิเวกเป็นการชั่วคราวที่ญี่ปุ่น (ดูภาพเขียน-ออนเซน) พร้อมกับวางแผนเดินทางไปรัสเซีย (ดูภาพเขียนกับเที่ยวชมเมือง) ในช่วงต้นเดือนตุลาคม และเตรียมการจะไปเที่ยวเขมรนครวัด-นครธมในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ไปพร้อมกันด้วย พ้นจากนั้นจะไปทำอะไรที่ไหนค่อยว่ากันใหม่ เมื่อมองย้อนกลับไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ มาจนถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าปีนี้เป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของผม ได้ทำอะไรเยอะแยะไปหมด สะสางงานเก่าเริ่มงานใหม่และก้าวเข้าไปในพรมแดนใหม่ที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอีกต่างหาก แม้ว่าบ้านเมืองของเรายามนี้ จะไม่มีอะไรให้เละมากไปกว่านี้ได้แล้วก็ตามที การเจริญอุเบกขาธรรมจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ ป.ล. เรื่องการฟอร์มคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร นี่ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยครับ งานนี้เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของการเมืองไทย อย่าเพิ่งรำคาญอย่าไปหงุดหงิด แม้จะดูแล้วเละตุ้มเป๊ะได้ถึงขนาดนี้ พรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์จะพาตัวเองให้รอดจากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งรุนแรงในภายพรรคในเวลานี้ เพราะประเด็นการร่วมรัฐบาลของพรรคและการเป็นรัฐมนตรีของผู้บริหารของพรรคได้อย่างไร คงจะมีคำตอบภายในเร็ววันนี้ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงวันที่ ๑๗-๑๘ กันยายนที่จะถึงนี้ ถ้าหากฟังจากที่นายเจอโรม พาวเวล (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางไปพูดที่เมืองตากอากาศแจคสันโฮล ในรัฐไวโอมิงว่าถึงเวลาต้องปรับนโยบายการเงินด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบายได้แล้ว เพราะหมดห่วงเรื่องเงินเฟ้อแล้ว แต่มาห่วงเรื่องการว่างงานแทนจึงทำให้ต้องลดดอกเบี้ย นั่นก็หมายความว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐที่กำหนดไว้ร้อยละ ๕.๒๕-๕.๕๐ ในปัจจุบันจะเริ่มแล้วตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป จะลดมากน้อยลดเร็วช้าแค่ไหนไม่สำคัญเท่ากับทิศทางของดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นขาลงอย่างชัดเจน ค่าเงิน หุ้น และอะไรที่ผูกโยงกับนโยบายการเงินของสหรัฐคงต้องปรับตัวตามไปด้วย สำหรับบ้านเราอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ ๒.๕๐ นั้น เท่าที่ฟังจากเกณฑ์ในการตัดสินเรื่องนี้จากผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกรรมการเสียงข้างน้อยในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่เจอกันสุดสัปดาห์นี้ คิดว่าคงยังไม่ถึงเวลาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครับ งานนี้คงต้องมีเรื่องมีราวเรื่องลดไม่ลดดอกเบี้ยระหว่างรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร กับธนาคารแห่งประเทศไทยไปอีกสักระยะหนึ่งครับ บันทึกเอาไว้กันลืมว่าเดือนสิงหาคม มีผู้นำสามประเทศในเอเชียต้องเผชิญชะตากรรมที่ทำให้พ้นจากตำแหน่งแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นบังกลาเทศ (เหมือน ๑๔ ตุลาคมปี ๒๕๑๖ ในบ้านเรา) ไทย (คงไม่ต้องบอกอะไรเพิ่มเติม) และญี่ปุ่น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีฟูมิโอ คิชิดะ (Fumio Kishida) ได้ประกาศวางมือลงจากตำแหน่ง ส่วนกระบวนการคัดเลือกคนมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเขาน่าสนใจครับ ถ้ามีเวลาจะหาโอกาสมาคุยให้ฟัง ขอจบลงตรงนี้ด้วยการแจ้งให้ทราบว่าพรบ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณพ.ศ๒๕๖๗ วงเงิน ๑๒๒,๐๐๐ ล้านบาทมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม หลังจากได้นำประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ ๒๒ สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่รอแจกเงินสดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่โครงการดิจิตอลเลตเตรียมรับได้เลย วีระ ธีรภัทร วันอาทิตย์ที่ ๒๕ สิงหาคม 2567” ที่มา https://www.facebook.com/share/p/ZPvoLGVkV5QkhJNR/?mibextid=CTbP7E Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1051 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลุมยุบกัวลาลัมเปอร์ นักท่องเที่ยวอินเดียร่วง

    โศกนาฎกรรมที่สร้างความตกใจให้แก่ผู้พบเห็น เมื่อเกิดอุบัติเหตุหลุมยุบบริเวณถนนมัสยิดอินเดีย (Jalan Masjid India) เป็นเหตุทำให้นางวิชัยลักษณี (Vijayalakshmi) นักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียวัย 48 ปี ตกลงไปในหลุมดังกล่าว ซึ่งมีความลึกประมาณ 8 เมตร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.44 น. ตามเวลาบนกล้องวงจรปิด ของวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา

    ทีมปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) เข้าค้นหานักท่องเที่ยวชาวอินเดีย โดยเปิดท่อระบายน้ำรอบพื้นที่รวม 6 แห่ง เข้าไปค้นหาครั้งละ 2-3 คน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที รวมทั้งโรงบำบัดน้ำเสียบริษัทอินดะห์ วอเตอร์ คอนซอร์เตียม (Indah Water Konsortium หรือ IWK) ย่านปันตาย ดาลัม ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องรับมือกับกระแสน้ำเชี่ยวในท่อระบายน้ำ และมีแก๊สที่อาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปกว่า 3 วัน กลับไม่พบเบาะแสใดๆ

    สำนักข่าวเบอร์นามา รายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันว่าปฎิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายจะยังคงดำเนินต่อไป พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) ให้ไปพบกับครอบครัวของผู้สูญหายแล้ว

    ด้านนายฟาดิลลาห์ ยูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุว่า เกิดจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์และโครงสร้างของดิน โดยเมื่อชั้นหินปูนขัดขวางการไหลของน้ำใต้ดิน ส่งผลให้ดินไม่มั่นคงและเกิดหลุมยุบ บางครั้งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าหลุมยุบจะเกิดขึ้นเมื่อใดและที่ใด

    เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีหินปูนและสภาพธรณีวิทยาเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ด้วยความรู้และเทคโนโลยีที่ถูกต้องจะทำให้เหตุการณ์เช่นนี้ลดน้อยลงและดำเนินมาตรการป้องกันเพื่อปกป้องชุมชนและบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้

    ขณะที่นายเจฟฟรีย์ เชียง ชุง ลุยน์ ประธานสถาบันวิศวกรแห่งมาเลเซีย (IEM) เรียกร้องให้มีการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียด เพราะจากการสังเกตผ่าน Google Maps พบว่าตำแหน่งหลุมยุบอยู่ห่างจากแม่น้ำแคลงประมาณ 24 เมตร และจากภาพที่สื่อมวลชนนำเสนอ พบว่าหลุมยุบอาจเกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน แม้ว่าจะยังไม่ระบุสาเหตุที่แน่ชัดก็ตาม

    จากรายงานหัวข้อ "Karstic Features of Kuala Lumpur Limestone" [1] ที่กล่าวถึงลักษณะของหินปูนของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเขียนโดย นายตัน ไซมอน เสี่ยว เมง จากสถาบันวิศวกรแห่งมาเลเซีย ระบุว่า ชั้นหินปูนในกรุงกัวลาลัมเปอร์มีลักษณะไม่แน่นอน พบในบริเวณเหมืองแร่ดีบุก แต่หลังเหมืองปิดตัวลง พื้นที่เหมืองแร่ถูกปกคลุมไปด้วยเศษซากตั้งแต่โคลนถึงทราย

    โดยคาดว่าหินปูนมีความหนาประมาณ 1,850 เมตร ทับอยู่บนหินชนวนกราไฟต์ที่เรียกว่า ฮอร์ธอร์นเดน ชีสต์ (Hawthornden Schist) ส่วนบนสุดของลำดับชั้นคือชั้นหินเคนนี่ ฮิลล์ (Kenny Hill) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ รวมถึงพื้นที่ย่าน KLCC (Kuala Lumpur City Centre) และบูกิตบินตัง (Bukit Bintang)

    ในตอนหนึ่งของรายงานระบุว่า หินปูนเกิดจากกระบวนการละลายทางเคมี ซึ่งเป็นกระบวนการที่ยาวนาน ประกอบด้วยหลุม แอ่งชัน และช่องทางสารละลาย ส่งผลให้ชั้นหินปูนมีรูปร่างไม่แน่นอน เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในการก่อสร้างฐานราก ซึ่งการเกิดหลุมยุบมาจากการเคลื่อนตัวของชั้นหินปูน เนื่องจากการซึมของน้ำใต้ดิน ระดับน้ำใต้ดินที่ลดลง การรับน้ำหนักเพิ่ม การสั่นสะเทือน การเจาะรูหรือเสาเข็มบนช่องว่างของหินปูนโดยตรง ซึ่งหินปูนที่ปกคลุมด้วยดินบางจะเสี่ยงต่อการเกิดหลุมยุบมากกว่า

    อีกด้านหนึ่ง การก่อสร้างรถไฟใต้ดินสายสุไหงบูเลาะห์-กาจัง (Sungai Buloh-Kajang) [2] บางช่วงเป็นเส้นทางใต้ดิน ยาว 9.5 กิโลเมตร มี 7 สถานีใต้ดิน หนึ่งในนั้นคือสถานีตุน ราซัค เอ็กซ์เชนจ์ (TRX) ซึ่งมีความลึกเทียบเท่าตึก 13 ชั้น พบว่ามีหินปูนในชั้นหินปูนกัวลาลัมเปอร์ บริเวณอยู่ทางทิศตะวันออกของย่านบูกิตบินตังมีลักษณะไม่แน่นอน หากไม่ค้นพบก่อนอาจเกิดอันตราย

    จึงต้องพัฒนาเครื่องเจาะอุโมงค์ (TBM) แบบพิเศษที่เรียกว่า แวริเอเบิล เดนซิตี้ (Variable Density) ที่พัฒนาระหว่างบริษัทเฮอร์เร็นคเน็ช เอจี (Herrenknecht AG) ผู้ผลิตเครื่องเจาะอุโมงค์จากเยอรมนี และบริษัทร่วมทุน เอ็มเอ็มซี กามูดา (MMC Gamuda) สามารถปรับความหนาแน่นและความหนืดของสารละลายได้ ป้องกันไม่ให้ไหลเข้าไปในโพรงหรือรอยแยกไปสู่พื้นผิว

    เหตุการณ์หลุมยุบกะทันหันใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ครั้งนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการป้องกันภัยพิบัติ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเมืองใหญ่ชั้นนำของอาเซียน ที่มีประชากรกว่า 8.8 ล้านคน อุดมไปด้วยความเจริญทางเศรษฐกิจ อาคารสูง และโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าที่เพียบพร้อม นอกจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อฝนตกหนักมากกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป

    ที่มา : [1] https://nrmt.wordpress.com/wp-content/uploads/2011/04/kl-limestone-paper.pdf

    [2] https://thehub.mmc.com.my/2017Q3/page54.html

    #Newskit #KualaLumpur #JalanMasjidIndia
    หลุมยุบกัวลาลัมเปอร์ นักท่องเที่ยวอินเดียร่วง โศกนาฎกรรมที่สร้างความตกใจให้แก่ผู้พบเห็น เมื่อเกิดอุบัติเหตุหลุมยุบบริเวณถนนมัสยิดอินเดีย (Jalan Masjid India) เป็นเหตุทำให้นางวิชัยลักษณี (Vijayalakshmi) นักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียวัย 48 ปี ตกลงไปในหลุมดังกล่าว ซึ่งมีความลึกประมาณ 8 เมตร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.44 น. ตามเวลาบนกล้องวงจรปิด ของวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ทีมปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) เข้าค้นหานักท่องเที่ยวชาวอินเดีย โดยเปิดท่อระบายน้ำรอบพื้นที่รวม 6 แห่ง เข้าไปค้นหาครั้งละ 2-3 คน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที รวมทั้งโรงบำบัดน้ำเสียบริษัทอินดะห์ วอเตอร์ คอนซอร์เตียม (Indah Water Konsortium หรือ IWK) ย่านปันตาย ดาลัม ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องรับมือกับกระแสน้ำเชี่ยวในท่อระบายน้ำ และมีแก๊สที่อาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปกว่า 3 วัน กลับไม่พบเบาะแสใดๆ สำนักข่าวเบอร์นามา รายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันว่าปฎิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายจะยังคงดำเนินต่อไป พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) ให้ไปพบกับครอบครัวของผู้สูญหายแล้ว ด้านนายฟาดิลลาห์ ยูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุว่า เกิดจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์และโครงสร้างของดิน โดยเมื่อชั้นหินปูนขัดขวางการไหลของน้ำใต้ดิน ส่งผลให้ดินไม่มั่นคงและเกิดหลุมยุบ บางครั้งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าหลุมยุบจะเกิดขึ้นเมื่อใดและที่ใด เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีหินปูนและสภาพธรณีวิทยาเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ด้วยความรู้และเทคโนโลยีที่ถูกต้องจะทำให้เหตุการณ์เช่นนี้ลดน้อยลงและดำเนินมาตรการป้องกันเพื่อปกป้องชุมชนและบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ ขณะที่นายเจฟฟรีย์ เชียง ชุง ลุยน์ ประธานสถาบันวิศวกรแห่งมาเลเซีย (IEM) เรียกร้องให้มีการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียด เพราะจากการสังเกตผ่าน Google Maps พบว่าตำแหน่งหลุมยุบอยู่ห่างจากแม่น้ำแคลงประมาณ 24 เมตร และจากภาพที่สื่อมวลชนนำเสนอ พบว่าหลุมยุบอาจเกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน แม้ว่าจะยังไม่ระบุสาเหตุที่แน่ชัดก็ตาม จากรายงานหัวข้อ "Karstic Features of Kuala Lumpur Limestone" [1] ที่กล่าวถึงลักษณะของหินปูนของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเขียนโดย นายตัน ไซมอน เสี่ยว เมง จากสถาบันวิศวกรแห่งมาเลเซีย ระบุว่า ชั้นหินปูนในกรุงกัวลาลัมเปอร์มีลักษณะไม่แน่นอน พบในบริเวณเหมืองแร่ดีบุก แต่หลังเหมืองปิดตัวลง พื้นที่เหมืองแร่ถูกปกคลุมไปด้วยเศษซากตั้งแต่โคลนถึงทราย โดยคาดว่าหินปูนมีความหนาประมาณ 1,850 เมตร ทับอยู่บนหินชนวนกราไฟต์ที่เรียกว่า ฮอร์ธอร์นเดน ชีสต์ (Hawthornden Schist) ส่วนบนสุดของลำดับชั้นคือชั้นหินเคนนี่ ฮิลล์ (Kenny Hill) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ รวมถึงพื้นที่ย่าน KLCC (Kuala Lumpur City Centre) และบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) ในตอนหนึ่งของรายงานระบุว่า หินปูนเกิดจากกระบวนการละลายทางเคมี ซึ่งเป็นกระบวนการที่ยาวนาน ประกอบด้วยหลุม แอ่งชัน และช่องทางสารละลาย ส่งผลให้ชั้นหินปูนมีรูปร่างไม่แน่นอน เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในการก่อสร้างฐานราก ซึ่งการเกิดหลุมยุบมาจากการเคลื่อนตัวของชั้นหินปูน เนื่องจากการซึมของน้ำใต้ดิน ระดับน้ำใต้ดินที่ลดลง การรับน้ำหนักเพิ่ม การสั่นสะเทือน การเจาะรูหรือเสาเข็มบนช่องว่างของหินปูนโดยตรง ซึ่งหินปูนที่ปกคลุมด้วยดินบางจะเสี่ยงต่อการเกิดหลุมยุบมากกว่า อีกด้านหนึ่ง การก่อสร้างรถไฟใต้ดินสายสุไหงบูเลาะห์-กาจัง (Sungai Buloh-Kajang) [2] บางช่วงเป็นเส้นทางใต้ดิน ยาว 9.5 กิโลเมตร มี 7 สถานีใต้ดิน หนึ่งในนั้นคือสถานีตุน ราซัค เอ็กซ์เชนจ์ (TRX) ซึ่งมีความลึกเทียบเท่าตึก 13 ชั้น พบว่ามีหินปูนในชั้นหินปูนกัวลาลัมเปอร์ บริเวณอยู่ทางทิศตะวันออกของย่านบูกิตบินตังมีลักษณะไม่แน่นอน หากไม่ค้นพบก่อนอาจเกิดอันตราย จึงต้องพัฒนาเครื่องเจาะอุโมงค์ (TBM) แบบพิเศษที่เรียกว่า แวริเอเบิล เดนซิตี้ (Variable Density) ที่พัฒนาระหว่างบริษัทเฮอร์เร็นคเน็ช เอจี (Herrenknecht AG) ผู้ผลิตเครื่องเจาะอุโมงค์จากเยอรมนี และบริษัทร่วมทุน เอ็มเอ็มซี กามูดา (MMC Gamuda) สามารถปรับความหนาแน่นและความหนืดของสารละลายได้ ป้องกันไม่ให้ไหลเข้าไปในโพรงหรือรอยแยกไปสู่พื้นผิว เหตุการณ์หลุมยุบกะทันหันใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ครั้งนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการป้องกันภัยพิบัติ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเมืองใหญ่ชั้นนำของอาเซียน ที่มีประชากรกว่า 8.8 ล้านคน อุดมไปด้วยความเจริญทางเศรษฐกิจ อาคารสูง และโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าที่เพียบพร้อม นอกจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อฝนตกหนักมากกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป ที่มา : [1] https://nrmt.wordpress.com/wp-content/uploads/2011/04/kl-limestone-paper.pdf [2] https://thehub.mmc.com.my/2017Q3/page54.html #Newskit #KualaLumpur #JalanMasjidIndia
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 771 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์พลิกอีก “บิ๊กป้อม” กลับลำออกแถลงการณ์หวานเจี๊ยบ ส่ง 4 ชื่อ รมต.เดิมยุค ”เศรษฐา" ร่วมรัฐบาล "อุ๊งอิ๊ง" ให้ตรวจคุณสมบัติแล้ว ลั่น พปชร.มี 40 ที่นั่ง
    .
    วันนี้(21 ส.ค.) พรรคพลังประชารัฐ ออกแถลงการณ์ ใจความว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐในขณะนี้นั้น พรรคพลังประชารัฐ ขอเรียนชี้แจงต่อสมาชิกพรรค พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนเพื่อทราบ ดังนี้
    .
    ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐได้เข้าร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอดตั้งแต่รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐได้มีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับ พรรคเพื่อไทยโดยได้มีการแถลงข่าวร่วมกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอื่นๆไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐได้ลงมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
    .
    ซึ่งเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้ส่งรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรค จำนวน 4 ท่าน ไปให้นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ผ่านนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แล้วโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งและบุคคลใดๆ (เป็นบุคคลและตำแหน่งเดิมในสมัยรัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน ที่ผ่านมา) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะได้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติตามกระบวนการต่อไป
    .
    ปัจจุบันพรรคพลังประชารัฐยังคงมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 40 ท่าน ที่มีเจตนารมณ์ร่วมกันในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ และพี่น้อง ประชาชนต่อไป
    สถานการณ์พลิกอีก “บิ๊กป้อม” กลับลำออกแถลงการณ์หวานเจี๊ยบ ส่ง 4 ชื่อ รมต.เดิมยุค ”เศรษฐา" ร่วมรัฐบาล "อุ๊งอิ๊ง" ให้ตรวจคุณสมบัติแล้ว ลั่น พปชร.มี 40 ที่นั่ง . วันนี้(21 ส.ค.) พรรคพลังประชารัฐ ออกแถลงการณ์ ใจความว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐในขณะนี้นั้น พรรคพลังประชารัฐ ขอเรียนชี้แจงต่อสมาชิกพรรค พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนเพื่อทราบ ดังนี้ . ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐได้เข้าร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอดตั้งแต่รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐได้มีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับ พรรคเพื่อไทยโดยได้มีการแถลงข่าวร่วมกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอื่นๆไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐได้ลงมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี . ซึ่งเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้ส่งรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรค จำนวน 4 ท่าน ไปให้นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ผ่านนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แล้วโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งและบุคคลใดๆ (เป็นบุคคลและตำแหน่งเดิมในสมัยรัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน ที่ผ่านมา) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะได้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติตามกระบวนการต่อไป . ปัจจุบันพรรคพลังประชารัฐยังคงมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 40 ท่าน ที่มีเจตนารมณ์ร่วมกันในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ และพี่น้อง ประชาชนต่อไป
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1820 มุมมอง 0 รีวิว
  • อินเดียไม่เชิญจีน-ปากีสถานประเทศเข้าร่วมร่วมประชุมสุดยอด "Voice of the Global South" ครั้งที่ 3 ซึ่งมี 123 ประเทศเข้าร่วม แม้อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน เหตุความสัมพันธ์ตึงเครียด

    อินเดียจัดการประชุมสุดยอด "Voice of the Global South" ครั้งที่ 3 มี 123 ประเทศเข้าร่วม แต่ไม่ได้เชิญเพื่อนบ้านอย่างจีนและปากีสถานเนื่องจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด โดยในงานนายกฯ โมดี เสนอ "ข้อตกลงการพัฒนาระดับโลก" เพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาบรรลุการเติบโตที่สมดุล ไม่ทำให้ประเทศจนตกอยู่ภายใต้หนี้สินจากการกู้เงิน ขณะที่ประเด็นสำคัญที่หารือคือการปฏิรูปสถาบันธรรมาภิบาลโลก รวมถึงสหประชาชาติ ซึ่งอินเดียกดดันให้ได้เป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคง แต่ถูกจีนคัดค้าน ด้านปัญหาด้านอาหาร สุขภาพ พลังงาน และการเข้าถึงทรัพยากร ก็เป็นประเด็นหลักในการหารือเช่นกัน

    20 สิงหาคม 2567 : รายงานข่าว imctnews ระบุว่า สุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย บอกกับสื่อว่า นิวเดลีไม่ได้เชิญประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและปากีสถานเข้าร่วมการประชุมสุดยอด Voice of the Global South เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

    การประชุมสุดยอดครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำรงตำแหน่งประธานของG20 ของอินเดียเมื่อปีที่แล้ว มีชาติเข้าร่วม 123 ชาติ งานดังกล่าวทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับประเทศต่างๆ ในโลกใต้เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อกังวลที่มีร่วมกันและค้นหาแนวทางแก้ไข

    ในระหว่างการบรรยายสรุปกับสื่อมวลชน ชัยศังกระ ยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ว่าเพื่อนบ้านที่ใกล้ที่สุดของอินเดีย จีนและปากีสถานไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในกิจกรรมประชุมเสมือนจริง แม้ว่าพวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกใต้ก็ตาม

    นิวเดลีมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับทั้งสองประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากข้อพิพาทเรื่องดินแดนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

    ความตึงเครียดของอินเดียกับจีนเพิ่มสูงขึ้นในปี 2020 เมื่อทั้งสองประเทศปะทะกันที่ภูมิภาคหุบเขากัลวาน ซึ่งเป็นข้อพิพาท ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายมีผู้เสียชีวิต แม้ว่าการเจรจาเพื่อขจัดความแตกต่างยังไม่ให้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม แต่ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความเต็มใจที่จะแก้ไขข้อพิพาทในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

    ปัญหาของนิวเดลีกับอิสลามาบัดส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการอ้างสิทธิ์ในแคชเมียร์ ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เพื่อนบ้านทั้งสองได้ต่อสู้กับสงครามหลายครั้งในภูมิภาคนี้ แม้จะตกลงหยุดยิงในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 แต่การปะทะประปรายยังคงดำเนินต่อไป นิวเดลียังกล่าวหาอิสลามาบัดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเป็น “การก่อการร้ายข้ามพรมแดน”

    ในงานประชุมผ่านออนไลน์ นายกรัฐมนตรีอินเดีย Narendra Modi เสนอ "ข้อตกลงการพัฒนาระดับโลก" เพื่อช่วยเหลือประเทศทางใต้ทั่วโลกในการบรรลุการเติบโตที่สมดุลและครอบคลุมโดยใช้ประสบการณ์ของอินเดียในการพัฒนา เขากล่าวว่ากลไกใหม่นี้จะไม่ “บดขยี้ประเทศที่ยากจนภายใต้หนี้ในนามของการเงินเพื่อการพัฒนา”

    ประเด็นสำคัญที่ได้รับการหารือในการประชุมสุดยอด Voice of the Global South ได้แก่ การปฏิรูปสถาบันธรรมาภิบาลระดับโลก รวมถึงสหประชาชาติ

    สุพรหมณยัม ชัยศังกระ กล่าวว่า “มีความเห็นเป็นเอกฉันท์” ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาว่าการเปลี่ยนแปลงในองค์กรโลก “ล่าช้าไปมาก” อินเดียกดดันมานานแล้วให้สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอการเป็นสมาชิกของสภาถูกคัดค้านโดยปักกิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าสมาชิกถาวรของสภา

    ปัญหาด้านอาหาร สุขภาพ ความมั่นคงด้านพลังงาน และความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงทรัพยากรคือปัญหาหลักบางส่วนที่มีการพูดคุยกันในการประชุมสุดยอดเสมือนจริง

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/R1nZGttqwXHBFiEt/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    อินเดียไม่เชิญจีน-ปากีสถานประเทศเข้าร่วมร่วมประชุมสุดยอด "Voice of the Global South" ครั้งที่ 3 ซึ่งมี 123 ประเทศเข้าร่วม แม้อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน เหตุความสัมพันธ์ตึงเครียด อินเดียจัดการประชุมสุดยอด "Voice of the Global South" ครั้งที่ 3 มี 123 ประเทศเข้าร่วม แต่ไม่ได้เชิญเพื่อนบ้านอย่างจีนและปากีสถานเนื่องจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด โดยในงานนายกฯ โมดี เสนอ "ข้อตกลงการพัฒนาระดับโลก" เพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาบรรลุการเติบโตที่สมดุล ไม่ทำให้ประเทศจนตกอยู่ภายใต้หนี้สินจากการกู้เงิน ขณะที่ประเด็นสำคัญที่หารือคือการปฏิรูปสถาบันธรรมาภิบาลโลก รวมถึงสหประชาชาติ ซึ่งอินเดียกดดันให้ได้เป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคง แต่ถูกจีนคัดค้าน ด้านปัญหาด้านอาหาร สุขภาพ พลังงาน และการเข้าถึงทรัพยากร ก็เป็นประเด็นหลักในการหารือเช่นกัน 20 สิงหาคม 2567 : รายงานข่าว imctnews ระบุว่า สุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย บอกกับสื่อว่า นิวเดลีไม่ได้เชิญประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและปากีสถานเข้าร่วมการประชุมสุดยอด Voice of the Global South เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา การประชุมสุดยอดครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำรงตำแหน่งประธานของG20 ของอินเดียเมื่อปีที่แล้ว มีชาติเข้าร่วม 123 ชาติ งานดังกล่าวทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับประเทศต่างๆ ในโลกใต้เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อกังวลที่มีร่วมกันและค้นหาแนวทางแก้ไข ในระหว่างการบรรยายสรุปกับสื่อมวลชน ชัยศังกระ ยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ว่าเพื่อนบ้านที่ใกล้ที่สุดของอินเดีย จีนและปากีสถานไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในกิจกรรมประชุมเสมือนจริง แม้ว่าพวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกใต้ก็ตาม นิวเดลีมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับทั้งสองประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากข้อพิพาทเรื่องดินแดนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ความตึงเครียดของอินเดียกับจีนเพิ่มสูงขึ้นในปี 2020 เมื่อทั้งสองประเทศปะทะกันที่ภูมิภาคหุบเขากัลวาน ซึ่งเป็นข้อพิพาท ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายมีผู้เสียชีวิต แม้ว่าการเจรจาเพื่อขจัดความแตกต่างยังไม่ให้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม แต่ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความเต็มใจที่จะแก้ไขข้อพิพาทในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ปัญหาของนิวเดลีกับอิสลามาบัดส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการอ้างสิทธิ์ในแคชเมียร์ ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เพื่อนบ้านทั้งสองได้ต่อสู้กับสงครามหลายครั้งในภูมิภาคนี้ แม้จะตกลงหยุดยิงในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 แต่การปะทะประปรายยังคงดำเนินต่อไป นิวเดลียังกล่าวหาอิสลามาบัดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเป็น “การก่อการร้ายข้ามพรมแดน” ในงานประชุมผ่านออนไลน์ นายกรัฐมนตรีอินเดีย Narendra Modi เสนอ "ข้อตกลงการพัฒนาระดับโลก" เพื่อช่วยเหลือประเทศทางใต้ทั่วโลกในการบรรลุการเติบโตที่สมดุลและครอบคลุมโดยใช้ประสบการณ์ของอินเดียในการพัฒนา เขากล่าวว่ากลไกใหม่นี้จะไม่ “บดขยี้ประเทศที่ยากจนภายใต้หนี้ในนามของการเงินเพื่อการพัฒนา” ประเด็นสำคัญที่ได้รับการหารือในการประชุมสุดยอด Voice of the Global South ได้แก่ การปฏิรูปสถาบันธรรมาภิบาลระดับโลก รวมถึงสหประชาชาติ สุพรหมณยัม ชัยศังกระ กล่าวว่า “มีความเห็นเป็นเอกฉันท์” ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาว่าการเปลี่ยนแปลงในองค์กรโลก “ล่าช้าไปมาก” อินเดียกดดันมานานแล้วให้สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอการเป็นสมาชิกของสภาถูกคัดค้านโดยปักกิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าสมาชิกถาวรของสภา ปัญหาด้านอาหาร สุขภาพ ความมั่นคงด้านพลังงาน และความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงทรัพยากรคือปัญหาหลักบางส่วนที่มีการพูดคุยกันในการประชุมสุดยอดเสมือนจริง ที่มา https://www.facebook.com/share/p/R1nZGttqwXHBFiEt/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปล่อยตัว เจสสิก้า วองโซ ทันฑ์บนคดีกาแฟไซยาไนด์

    ข่าวใหญ่ในอินโดนีเซียเวลานี้ คือ ผู้ต้องขังคดีฆาตกรรม เจสสิก้า วองโซ (Jessica Wongso) นักออกแบบกราฟิก ได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 หลังกรมราชทัณฑ์อินโดนีเซียประเมินว่าเป็นผู้คุมขังที่มีความประพฤติดี จึงได้รับการผ่อนผันการลงโทษ โดยได้รับโทษรวม 58 เดือน 30 วัน หรือประมาณ 4 ปี 11 เดือน

    เจสสิก้าได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำปอนดกบัมบู เมืองจาการ์ตาตะวันออก โดยมี อ็อตโต้ ฮาซิบวน (Otto Hasibuan) ทนายความเป็นผู้มารับ โดยได้ทักทายกับกองทัพสื่อมวลชน และกล่าวว่า ตนหิว อยากกินซูชิและเครื่องดื่มเย็นๆ

    โฆษกกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมของอินโดนีเซีย เดดดี้ เอ็ดวาร์ เอกา ซาปูตรา (Deddy Eduar Eka Saputra) ระบุว่า ระหว่างที่ถูกคุมขัง เจสสิก้าได้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ดีตามระบบคะแนนของผู้ต้องขัง จึงได้รับโทษทัณฑ์บน ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2575 แต่ระหว่างนั้นจะต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นประจำ

    เจสสิก้าถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรม หลังจากเพื่อนสนิท วายัน มิร์นา ซาลิอิน (Wayan Mirna Salihin) ดื่มกาแฟเวียดนามเย็น ระหว่างพบกับเพื่อนๆ ที่ร้านโอลิเวอร์คาเฟ่ ภายในศูนย์การค้าแกรนด์อินโดนีเซีย กรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2559 ก่อนที่มิร์นาจะมีอาการชักและหมดสติ เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล

    คดีนี้ตำรวจระบุว่า พบสารไซยาไนด์ในกาแฟที่มิร์นาดื่ม และเจสสิก้าตกเป็นผู้ต้องสงสัย กระทั่งถูกตำรวจควบคุมตัวเจสสิก้าเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ต่อมาวันที่ 21 มิถุนายน 2560 ศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 20 ปี และส่งตัวไปยังเรือนจำ แม้ฝ่ายของเจสสิก้าจะยื่นคำอุทธรณ์ แต่ศาลชั้นสูงได้ปฏิเสธคำอุทธรณ์ดังกล่าว

    เรื่องดังกล่าวเป็นคดีฆาตกรรมที่โด่งดังในปี 2559 สื่อมวลชนรายงานข่าวคดีนี้อย่างต่อเนื่อง กระทั่งการพิพากษาคดีได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และมีผู้ชมนับล้านคน หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ รายงานว่า ตามคำฟ้อง ผู้พิพากษาสรุปว่าเจสสิกาฆ่ามิร์นาเพื่อแก้แค้น ที่ก่อนหน้านี้มิร์นาบอกให้เจสสิกาเลิกกับ แพทริก โอคอนเนอร์ อดีตแฟนหนุ่มชาวออสเตรเลียของเธอ

    เรื่องราวระหว่างเจสสิก้าและมิร์นาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Ice Cold: Murder, Coffee and Jessica Wongso ผลิตโดย Beach House Pictures ออกอากาศผ่านเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีเนื้อหาที่ยั่วยุและทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมของอินโดนีเซีย

    ขณะที่ทนายความอีกคนหนึ่งของเจสสิก้าอย่าง ฮิดายัต บอสตัม (Hidayat Bostam) กล่าวกับสำนักข่าวจาการ์ตาโกลบ (Jakarta Globe) ว่า ทีมทนายความยังคงดำเนินการพิจารณาทบทวนการตัดสินลงโทษเจสสิกาต่อไป โดยอ้างว่ามีหลักฐานใหม่ที่อาจพลิกคำตัดสินว่ามีความผิดได้ และจะยื่นคำร้องในสัปดาห์หน้า

    #Newskit #JessicaWongso #IceColdMurder
    ปล่อยตัว เจสสิก้า วองโซ ทันฑ์บนคดีกาแฟไซยาไนด์ ข่าวใหญ่ในอินโดนีเซียเวลานี้ คือ ผู้ต้องขังคดีฆาตกรรม เจสสิก้า วองโซ (Jessica Wongso) นักออกแบบกราฟิก ได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 หลังกรมราชทัณฑ์อินโดนีเซียประเมินว่าเป็นผู้คุมขังที่มีความประพฤติดี จึงได้รับการผ่อนผันการลงโทษ โดยได้รับโทษรวม 58 เดือน 30 วัน หรือประมาณ 4 ปี 11 เดือน เจสสิก้าได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำปอนดกบัมบู เมืองจาการ์ตาตะวันออก โดยมี อ็อตโต้ ฮาซิบวน (Otto Hasibuan) ทนายความเป็นผู้มารับ โดยได้ทักทายกับกองทัพสื่อมวลชน และกล่าวว่า ตนหิว อยากกินซูชิและเครื่องดื่มเย็นๆ โฆษกกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมของอินโดนีเซีย เดดดี้ เอ็ดวาร์ เอกา ซาปูตรา (Deddy Eduar Eka Saputra) ระบุว่า ระหว่างที่ถูกคุมขัง เจสสิก้าได้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ดีตามระบบคะแนนของผู้ต้องขัง จึงได้รับโทษทัณฑ์บน ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2575 แต่ระหว่างนั้นจะต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นประจำ เจสสิก้าถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรม หลังจากเพื่อนสนิท วายัน มิร์นา ซาลิอิน (Wayan Mirna Salihin) ดื่มกาแฟเวียดนามเย็น ระหว่างพบกับเพื่อนๆ ที่ร้านโอลิเวอร์คาเฟ่ ภายในศูนย์การค้าแกรนด์อินโดนีเซีย กรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2559 ก่อนที่มิร์นาจะมีอาการชักและหมดสติ เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล คดีนี้ตำรวจระบุว่า พบสารไซยาไนด์ในกาแฟที่มิร์นาดื่ม และเจสสิก้าตกเป็นผู้ต้องสงสัย กระทั่งถูกตำรวจควบคุมตัวเจสสิก้าเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ต่อมาวันที่ 21 มิถุนายน 2560 ศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 20 ปี และส่งตัวไปยังเรือนจำ แม้ฝ่ายของเจสสิก้าจะยื่นคำอุทธรณ์ แต่ศาลชั้นสูงได้ปฏิเสธคำอุทธรณ์ดังกล่าว เรื่องดังกล่าวเป็นคดีฆาตกรรมที่โด่งดังในปี 2559 สื่อมวลชนรายงานข่าวคดีนี้อย่างต่อเนื่อง กระทั่งการพิพากษาคดีได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และมีผู้ชมนับล้านคน หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ รายงานว่า ตามคำฟ้อง ผู้พิพากษาสรุปว่าเจสสิกาฆ่ามิร์นาเพื่อแก้แค้น ที่ก่อนหน้านี้มิร์นาบอกให้เจสสิกาเลิกกับ แพทริก โอคอนเนอร์ อดีตแฟนหนุ่มชาวออสเตรเลียของเธอ เรื่องราวระหว่างเจสสิก้าและมิร์นาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Ice Cold: Murder, Coffee and Jessica Wongso ผลิตโดย Beach House Pictures ออกอากาศผ่านเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีเนื้อหาที่ยั่วยุและทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมของอินโดนีเซีย ขณะที่ทนายความอีกคนหนึ่งของเจสสิก้าอย่าง ฮิดายัต บอสตัม (Hidayat Bostam) กล่าวกับสำนักข่าวจาการ์ตาโกลบ (Jakarta Globe) ว่า ทีมทนายความยังคงดำเนินการพิจารณาทบทวนการตัดสินลงโทษเจสสิกาต่อไป โดยอ้างว่ามีหลักฐานใหม่ที่อาจพลิกคำตัดสินว่ามีความผิดได้ และจะยื่นคำร้องในสัปดาห์หน้า #Newskit #JessicaWongso #IceColdMurder
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 671 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิ๊กป้อมวุฒิภาวะต่ำ โปรดรับผิดชอบด้วย

    เหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างสื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่า พล.อ.ประวิตร ใช้มือตบศีรษะ ดวงทิพย์ เยี่ยมภพ ผู้สื่อข่าวสายทหาร สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พร้อมกล่าวว่า "ถามไร...ถามไร" ก่อนขึ้นรถยนต์

    พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า "ถามอะไรก็ไม่ได้ยิน แล้วยังจะถามอีก" และเมื่อถามถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับโหวตเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ตอบว่า "วู้...ถามอะไรวะ" ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (บ้านอัมพวัน) เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ส.ค.)

    ทันทีที่วีดีโอคลิปจากผู้สื่อข่าวภาคสนามเป็นไวรัล บรรดาเพื่อนสื่อมวลชนต่างแสดงความไม่พอใจถึงวุฒิภาวะของ พล.อ.ประวิตร หรือ บิ๊กป้อม อดีตนายทหารและนักการเมืองวัย 79 ปีผู้นี้ พร้อมตั้งคำถามถึงการกระทำดังกล่าวว่า มีสิทธิ์อะไรมาตีผู้สื่อข่าวแบบนี้ ทั้งที่สิ่งที่นักข่าวถามไม่ได้ล่วงเกิน หรือรุนแรงอะไร

    ทันใดนั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลพฤติกรรมคุกคามสื่อ เรียกร้องให้เกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ข่มขู่ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว

    "ขณะเดียวกัน ขอเตือนไปยังบุคคลใดก็ตามพึงระมัดระวังการใช้อารมณ์รุนแรงชั่ววูบอันอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้ และขอให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมคุกคามเหล่านี้ สิ่งสำคัญควรให้เกียรติผู้ปฏิบัติงานในแต่ละวิชาชีพ รวมถึงเคารพการทำหน้าที่ซึ่งกันและกันด้วย" แถลงการณ์สมาคมนักข่าวฯ ระบุ

    ด้านองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ออกแถลงการณ์ระบุว่า ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว

    "การตั้งคำถามด้วยถ้อยคำ และท่าทีสุภาพในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกสัมภาษณ์ ดังปรากฎในคลิปวีดีโอ ที่ถูกเผยแพร่เป็นที่ประจักษ์นั้น ชัดเจนว่า เป็นการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวโดยสุจริต การถูกกระทำทางกายจากแหล่งข่าวเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นพฤติกรรมที่ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึกปลอดภัยของผู้สื่อข่าว-ช่างภาพ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์เดียวกันด้วย" แถลงการณ์ไทยพีบีเอส ระบุ

    ไทยพีบีเอส เรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการคุกคามผู้สื่อข่าวครั้งนี้ และขอให้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ ร่วมหามาตรการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสื่อมวลชนต่อไป

    มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้ให้นายทหารคนสนิท อย่าง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม โทรศัพท์สายตรงมาถึงผู้สื่อข่าว อ้างว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นได้ส่งสายโทรศัพท์ให้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย เพราะปกติแล้วตนเองก็ได้พูดล้อเล่น และแหย่เล่นกับผู้สื่อข่าวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นประจำอยู่แล้ว

    แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความโกรธแค้นของคนที่รับรู้เรื่องราว ต่างเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด

    #Newskit #ประวิตร #คุกคามสื่อ
    บิ๊กป้อมวุฒิภาวะต่ำ โปรดรับผิดชอบด้วย เหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างสื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่า พล.อ.ประวิตร ใช้มือตบศีรษะ ดวงทิพย์ เยี่ยมภพ ผู้สื่อข่าวสายทหาร สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พร้อมกล่าวว่า "ถามไร...ถามไร" ก่อนขึ้นรถยนต์ พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า "ถามอะไรก็ไม่ได้ยิน แล้วยังจะถามอีก" และเมื่อถามถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับโหวตเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ตอบว่า "วู้...ถามอะไรวะ" ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (บ้านอัมพวัน) เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ส.ค.) ทันทีที่วีดีโอคลิปจากผู้สื่อข่าวภาคสนามเป็นไวรัล บรรดาเพื่อนสื่อมวลชนต่างแสดงความไม่พอใจถึงวุฒิภาวะของ พล.อ.ประวิตร หรือ บิ๊กป้อม อดีตนายทหารและนักการเมืองวัย 79 ปีผู้นี้ พร้อมตั้งคำถามถึงการกระทำดังกล่าวว่า มีสิทธิ์อะไรมาตีผู้สื่อข่าวแบบนี้ ทั้งที่สิ่งที่นักข่าวถามไม่ได้ล่วงเกิน หรือรุนแรงอะไร ทันใดนั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลพฤติกรรมคุกคามสื่อ เรียกร้องให้เกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ข่มขู่ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว "ขณะเดียวกัน ขอเตือนไปยังบุคคลใดก็ตามพึงระมัดระวังการใช้อารมณ์รุนแรงชั่ววูบอันอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้ และขอให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมคุกคามเหล่านี้ สิ่งสำคัญควรให้เกียรติผู้ปฏิบัติงานในแต่ละวิชาชีพ รวมถึงเคารพการทำหน้าที่ซึ่งกันและกันด้วย" แถลงการณ์สมาคมนักข่าวฯ ระบุ ด้านองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ออกแถลงการณ์ระบุว่า ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว "การตั้งคำถามด้วยถ้อยคำ และท่าทีสุภาพในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกสัมภาษณ์ ดังปรากฎในคลิปวีดีโอ ที่ถูกเผยแพร่เป็นที่ประจักษ์นั้น ชัดเจนว่า เป็นการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวโดยสุจริต การถูกกระทำทางกายจากแหล่งข่าวเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นพฤติกรรมที่ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึกปลอดภัยของผู้สื่อข่าว-ช่างภาพ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์เดียวกันด้วย" แถลงการณ์ไทยพีบีเอส ระบุ ไทยพีบีเอส เรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการคุกคามผู้สื่อข่าวครั้งนี้ และขอให้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ ร่วมหามาตรการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสื่อมวลชนต่อไป มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้ให้นายทหารคนสนิท อย่าง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม โทรศัพท์สายตรงมาถึงผู้สื่อข่าว อ้างว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นได้ส่งสายโทรศัพท์ให้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย เพราะปกติแล้วตนเองก็ได้พูดล้อเล่น และแหย่เล่นกับผู้สื่อข่าวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความโกรธแค้นของคนที่รับรู้เรื่องราว ต่างเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด #Newskit #ประวิตร #คุกคามสื่อ
    Sad
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 772 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฮ! กรมการแพทย์ ยอมคืนฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว /ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    ช่วงบ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 ได้มีการประชุมคณะกรรมการโควิด-19 ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมน้อยมาก…

    เนื่องด้วยมีกรรมการหลายท่านชิงตัดหน้าลาออกก่อนวันประชุมและไม่เข้าประชุม

    ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อหวังทำให้องค์ประชุมไม่ครบ?

    หรือทำให้ไม่สามารถคืนฟ้าทะลายโจรได้สำเร็จ?

    หรือเป็นการประท้วงต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่จะเอาฟ้าทะลายโจรกลับคืนมา?

    หรือเป็นการแสดงความรับผิดชอบในความผิดของตัวเอง?

    หรือจะเป็นไปเพื่อหนีปัญหาไม่ต้องการตอบคำถามหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ของ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ร่วมกับคุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภาที่สอบถามถึงความผิดปกติในการตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนในคู่มือแพทย์ที่เรียกว่า

    “แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28 วันที่ 5 มิถุนายน 2567”[1]

    โดยในการประชุมวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มาเป็นประธานในที่ประชุมด้วยตัวเอง โดยการดำเนินการประชุมเป็นไปโดยรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน เพื่อสรุปแจ้งต่อที่ประชุมให้ทราบว่า

    1.เนื่องด้วยมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 ได้ยกเลิกแนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ที่ประกาศโดยกรมการแพทย์ฉบับประกาศเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 แล้ว ด้วยเพราะไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของ “EOC” หรือ ศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน จึงย่อมไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้กลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับเดิมก่อนหน้า คือฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566

    ซึ่งการย้อนกลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 นั้น ได้มียาฟ้าทะลายโจรอยู่ในขั้นตอนการรักษาในตารางที่ 2 ระบุในส่วนของยาฟ้าทะลายโจรว่า

    “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อ SARS-CoV-2“[2]

    2.นอกจากนั้นที่ประชุมจึงได้ขอให้ รศ.นพ. ภิรุญ มุตสิกพันธุ์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย อนุสาขาวิชาโรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้คัดสรรคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่แทนผู้ที่ลาออกไปทั้งหมด

    ต่อมาในเวลากลางคืน เว็บไซต์ของกรมการแพทย์ ที่เคยเผยแพร่แนวเวชปฏิบัติ ฉบับเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ในลิงค์เดิมเมื่อกดเข้าไปดูก็พบว่า แนวเวชปฏิบัติฉบับนี้ที่ได้ตัดฟ้าทะลายโจรออกตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2567 นั้น ได้มีการขึ้นข้อมูลที่มีการคาดตัวอักษรแดงลงข้อความทุกหน้าเป็นครั้งแรกในรอบ 58 วัน ความว่า

    “ยกเลิกตามมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข Tuesday Morning Meeting (TMM) วันที่ 30 ก.ค.2567 ขอให้ใช้ดูแลรักษา ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 แทน“ ตามลิงค์ด้านล่างนี้

    https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1

    แปลว่านับตั้งแต่เย็นวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ฟ้าทะลายโจรได้กลับคืนสู่แนวเวชปฏิบัติสำหรับโรคโควิด-19 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ในโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว หลังจากที่ผู้ป่วยเสียโอกาสในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่หายไปจากเวชปฏิบัตินานถึง “58 วัน”

    นับตั้งแต่เช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ผู้ป่วยทุกคนสามารถทวงสิทธิของตัวเองในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่ต้อง “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อโควิด-19“

    ในโอกาสนี้จึงต้องขอขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบาย อันเป็นผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

    ขอขอบคุณแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ ที่แม้จะเป็นผู้ที่ได้ออกประกาศแนวเวชปฏิบัติฉบับวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ให้ตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนการรักษาโควิด-19 เป็นเวลานานถึง 58 วันภายใต้แรงกดดันรอบด้านก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดก็เป็นผู้ที่ยอมแก้ไขเปลี่ยนแนวเวชปฏิบัติคืนฟ้าทะลายโจรให้ผู้ป่วยได้เมื่อคืนนี้

    ขอขอบคุณศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก คุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงทีมงานทุกคนใน บริษัท กฎหมายอรุณอัมรินทร์ จำกัด ที่ร่วมประชุม หารือการออกแบบขั้นตอนทางเอกสารและทางกฎหมาย และการให้ความรู้ประชาชนเพื่อนำไปสู่การกดดันทวงคืนฟ้าทะลายโจรจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้

    อีกทั้งยังต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนและทีมงานวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้ช่วยเตรียมงานและมาให้กำลังใจในการยื่นหนังสือจนบรรลุภารกิจครั้งนี้ด้วย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังต้องขอขอบคุณนักวิชาการ นักวิจัย รวมถึงข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข“จำนวนมาก” ที่มีจิตใจที่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ แม้จะเปิดเผยตัวไม่ได้ แต่ก็คอยให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้และความจริง จนทำให้เกิดความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทีมงานสนธิทอล์ค ผู้เป็นปากกระบอกเสียงออกแรงที่วิพากษ์วิจารณ์และด่าอย่างหนักในเรื่องนี้แทนพวกเราอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ จนสั่นสะเทือนต่อผู้เกี่ยวข้องและมีผลอย่างมีนัยยะสำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนในวันนี้

    ยังไม่นับสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้นำเสนอข่าว ที่พวกผมได้มายื่นหนังสือการทวงคืนฟ้าทะลายโจรตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา

    ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยังคงมีสมุนไพรที่เป็นความมั่นคงทางยาในการพึ่งพาตัวเอง ที่จะไม่ยินยอมให้ใครมาทำลายได้โดยง่าย และจะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อทำให้ประเทศไทยได้ตระหนักรู้ ในการรักษาและพัฒนาภูมิปัญญาของชาติเพื่อนำพาประเทศให้รอดพ้นจากการล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจสุขภาพในวันข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน

    ด้วยจิตคารวะ
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    3 สิงหาคม 2567
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1024251249068575/?

    อ้างอิง
    [1] กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28, วันที่ 5 มิถุนายน 2567
    https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1

    [2]กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข, ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 27 วันที่ 18 เมษายน 2566
    https://covid19.dms.go.th/backend///Content//Content_File/Covid_Health/Attach/25660418150721PM_CPG_COVID-19_v.27_n_18042023.pdf
    เฮ! กรมการแพทย์ ยอมคืนฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว /ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ช่วงบ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 ได้มีการประชุมคณะกรรมการโควิด-19 ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมน้อยมาก… เนื่องด้วยมีกรรมการหลายท่านชิงตัดหน้าลาออกก่อนวันประชุมและไม่เข้าประชุม ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อหวังทำให้องค์ประชุมไม่ครบ? หรือทำให้ไม่สามารถคืนฟ้าทะลายโจรได้สำเร็จ? หรือเป็นการประท้วงต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่จะเอาฟ้าทะลายโจรกลับคืนมา? หรือเป็นการแสดงความรับผิดชอบในความผิดของตัวเอง? หรือจะเป็นไปเพื่อหนีปัญหาไม่ต้องการตอบคำถามหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ของ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ร่วมกับคุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภาที่สอบถามถึงความผิดปกติในการตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนในคู่มือแพทย์ที่เรียกว่า “แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28 วันที่ 5 มิถุนายน 2567”[1] โดยในการประชุมวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มาเป็นประธานในที่ประชุมด้วยตัวเอง โดยการดำเนินการประชุมเป็นไปโดยรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน เพื่อสรุปแจ้งต่อที่ประชุมให้ทราบว่า 1.เนื่องด้วยมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 ได้ยกเลิกแนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ที่ประกาศโดยกรมการแพทย์ฉบับประกาศเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 แล้ว ด้วยเพราะไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของ “EOC” หรือ ศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน จึงย่อมไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้กลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับเดิมก่อนหน้า คือฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ซึ่งการย้อนกลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 นั้น ได้มียาฟ้าทะลายโจรอยู่ในขั้นตอนการรักษาในตารางที่ 2 ระบุในส่วนของยาฟ้าทะลายโจรว่า “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อ SARS-CoV-2“[2] 2.นอกจากนั้นที่ประชุมจึงได้ขอให้ รศ.นพ. ภิรุญ มุตสิกพันธุ์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย อนุสาขาวิชาโรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้คัดสรรคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่แทนผู้ที่ลาออกไปทั้งหมด ต่อมาในเวลากลางคืน เว็บไซต์ของกรมการแพทย์ ที่เคยเผยแพร่แนวเวชปฏิบัติ ฉบับเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ในลิงค์เดิมเมื่อกดเข้าไปดูก็พบว่า แนวเวชปฏิบัติฉบับนี้ที่ได้ตัดฟ้าทะลายโจรออกตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2567 นั้น ได้มีการขึ้นข้อมูลที่มีการคาดตัวอักษรแดงลงข้อความทุกหน้าเป็นครั้งแรกในรอบ 58 วัน ความว่า “ยกเลิกตามมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข Tuesday Morning Meeting (TMM) วันที่ 30 ก.ค.2567 ขอให้ใช้ดูแลรักษา ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 แทน“ ตามลิงค์ด้านล่างนี้ https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1 แปลว่านับตั้งแต่เย็นวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ฟ้าทะลายโจรได้กลับคืนสู่แนวเวชปฏิบัติสำหรับโรคโควิด-19 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ในโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว หลังจากที่ผู้ป่วยเสียโอกาสในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่หายไปจากเวชปฏิบัตินานถึง “58 วัน” นับตั้งแต่เช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ผู้ป่วยทุกคนสามารถทวงสิทธิของตัวเองในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่ต้อง “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อโควิด-19“ ในโอกาสนี้จึงต้องขอขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบาย อันเป็นผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ขอขอบคุณแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ ที่แม้จะเป็นผู้ที่ได้ออกประกาศแนวเวชปฏิบัติฉบับวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ให้ตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนการรักษาโควิด-19 เป็นเวลานานถึง 58 วันภายใต้แรงกดดันรอบด้านก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดก็เป็นผู้ที่ยอมแก้ไขเปลี่ยนแนวเวชปฏิบัติคืนฟ้าทะลายโจรให้ผู้ป่วยได้เมื่อคืนนี้ ขอขอบคุณศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก คุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงทีมงานทุกคนใน บริษัท กฎหมายอรุณอัมรินทร์ จำกัด ที่ร่วมประชุม หารือการออกแบบขั้นตอนทางเอกสารและทางกฎหมาย และการให้ความรู้ประชาชนเพื่อนำไปสู่การกดดันทวงคืนฟ้าทะลายโจรจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้ อีกทั้งยังต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนและทีมงานวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้ช่วยเตรียมงานและมาให้กำลังใจในการยื่นหนังสือจนบรรลุภารกิจครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังต้องขอขอบคุณนักวิชาการ นักวิจัย รวมถึงข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข“จำนวนมาก” ที่มีจิตใจที่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ แม้จะเปิดเผยตัวไม่ได้ แต่ก็คอยให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้และความจริง จนทำให้เกิดความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทีมงานสนธิทอล์ค ผู้เป็นปากกระบอกเสียงออกแรงที่วิพากษ์วิจารณ์และด่าอย่างหนักในเรื่องนี้แทนพวกเราอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ จนสั่นสะเทือนต่อผู้เกี่ยวข้องและมีผลอย่างมีนัยยะสำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนในวันนี้ ยังไม่นับสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้นำเสนอข่าว ที่พวกผมได้มายื่นหนังสือการทวงคืนฟ้าทะลายโจรตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยังคงมีสมุนไพรที่เป็นความมั่นคงทางยาในการพึ่งพาตัวเอง ที่จะไม่ยินยอมให้ใครมาทำลายได้โดยง่าย และจะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อทำให้ประเทศไทยได้ตระหนักรู้ ในการรักษาและพัฒนาภูมิปัญญาของชาติเพื่อนำพาประเทศให้รอดพ้นจากการล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจสุขภาพในวันข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน ด้วยจิตคารวะ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 3 สิงหาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1024251249068575/? อ้างอิง [1] กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28, วันที่ 5 มิถุนายน 2567 https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1 [2]กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข, ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 27 วันที่ 18 เมษายน 2566 https://covid19.dms.go.th/backend///Content//Content_File/Covid_Health/Attach/25660418150721PM_CPG_COVID-19_v.27_n_18042023.pdf
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1764 มุมมอง 1 รีวิว
  • 🇹🇭91.วันที่ 16 ก.ค.2567 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและระบบประสาท ในฐานะที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้ายื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมต.สธ.เพื่อยื่นข้อเสนอกรณีถอด “ฟ้าทะลายโจร” ออกจากแนวทางรักษา ทั้งที่มีประสิทธิภาพ พร้อมนำข้อมูลตีแผ่ต่อสาธารณะ ถึงสาเหตุถอดสมุนไพรไทยดังกล่าว ทั้งที่ช่วงโควิดเป็นสมุนไพรรักษาที่ดี ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก
    https://www.hfocus.org/content/2024/07/31098?
    https://www.hfocus.org/content/2024/07/31097
    https://youtu.be/rjUdN1cFr7I?si=p8Pl1398CpXUjpJQ
    🇹🇭92.วันที่ 23 ก.ค.2567 แหล่งข่าวจากคณะรัฐมนตรี เรื่องกัญชา สรุป คณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีให้นำเรื่องกัญชา กัญชงตราเป็นพระราชบัญญัติ ทุกพรรค ทุกกลุ่มสามารถเสนอร่างของตัวเองต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป แปลว่าไม่ใช่นำกัญชา กัญชงเข้าสู่บัญชียาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด แต่ให้มีกฎหมายเฉพาะสำหรับใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชา กัญชง
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1017634479730252/?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000062202
    🇹🇭93.วันที่ 2 ส.ค.2567 “อ.ปานเทพ” เผย “ฟ้าทะลายโจร” กลับมาอยู่ในขั้นตอนการรักษาโควิดแล้ว หลังกระทรวงสาธารณสุขให้ยกเลิกแนวเวชปฏิบัติฯ ฉบับวันที่ 5 มิ.ย.67 และให้ใช้แนวเวชปฏิบัติฯ ฉบับวันที่ 18 เม.ย.66 ตามเดิม นับตั้งแต่เช้าวันที่ 3 ส.ค.ผู้ป่วยทุกคนสามารถทวงสิทธิของตัวเองในการรับยาฟ้าทะลายโจรได้
    https://www.hfocus.org/content/2024/07/31153?
    https://www.hfocus.org/content/2024/08/31270
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000070325
    🇹🇭94.วันที่ 24 ก.ค.2567 กลุ่มฯ ได้ยื่นจดหมายถึงท่านประธานองคมนตรีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
    https://www.facebook.com/share/p/HawbeAHGmgvfdQBt/?mibextid=A7sQZp เรื่อง ขอทราบความคืบหน้าเรื่องการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา อ้างถึง ๑.ฎีกาถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๒.หนังสือที่ มท. ๐๒๐๕.๓/๑๐๑๔๘ ลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗
    จดหมายถวายฎีกา ๔พ.ค.๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1yVM_MSIgAhtePcM8TRI1Ci3X1AJdyE2j/view?usp=drivesdk
    เอกสารทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงาน https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1815963646285209642
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1816353451342979103
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1815963833749377048
    🇹🇭95.วันที่ 9 สิงหาคม 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือติดตามความคืบหน้าเพื่อเร่งดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทไฟเซอร์ และเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA)
    เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฯพณฯ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะประธานคณะกรรมการยา ตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ เลขาธิการอาหารและยา นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช และกรรมการยา ตามตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ ทุกท่าน
    https://www.facebook.com/share/p/ERpyn1XfdD9BdtNV/?mibextid=A7sQZp
    รวมจดหมายเปิดผนึกและหนังสือต่างๆที่ทางกลุ่มฯได้ยื่นให้กับหน่วยงานภาครัฐ
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrn🇹🇭96.วันที่ 15 สิงหาคม 2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือถึง เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่อง สำนักงานอาหารและยา จงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน❗โดยเฉพาะ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นายไพศาล ดั่นคุ้ม ได้กระทำความผิดใช้อำนาจโดยมิชอบ อันเป็นความผิดทางอาญา และยังจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อปกปิดความผิดของตนเอง อันเป็นการชี้ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามิได้มีความสำนึกในการกระทำผิดดังกล่าวซ้ำร้ายยังกระทำความผิดซ้ำซ้อนเพื่อปกปิดความผิดของตนด้วย การใช้อำนาจโดยมิชอบนี้มีผลให้การพิจารณาอนุญาตยาดังกล่าวมิได้เป็นไปตามข้อกำหนดที่บัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติยา อันอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบมากมายต่อประชาชนผู้บริโภค ทั้งนี้ขณะนี้ได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตยา โดยเฉพาะบริษัทไฟเซอร์โดยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในหลายประเทศทั่วโลก
    ด้วยเหตุนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินจำต้อง เสนอเรื่องดังกล่าวพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง และให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๓๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ ต่อไป
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/507554471960215/?
    ไฟล์จดหมายฉบับนี้
    https://drive.google.com/file/d/1EZfSguSfbiz2wXzPZefhL5fJQrr6boxN/view?usp=drivesdk
    ไฟล์ข้อมูลสนง.อาหารและยาทำผิด
    https://drive.google.com/file/d/15qYw-tywnTcvd-U9g0bO3M2IJLSs8KCg/view?usp=drivesdk
    🇹🇭97. วันที่ 21 สิงหาคม 2567 ส่งจดหมาย
    เรียน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำเนาเรียน ผู้ตรวจการแผ่นดิน, เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (ในฐานะกรรมการการยาตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐) ,อัยการสูงสุดล, เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
    เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
    https://drive.google.com/file/d/1ITQDYYc3BtMcG7Kc38nbUpFNvKDkDkbN/view?usp=drive_link
    🇹🇭98. วันที่ 23 ส.ค.2567 วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 001/2567
    เรื่อง เตือนคนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนกต่อการระบาดของเชื้อฝีดาษลิง ขอให้ตระหนักในการป้องกันและระวังตัว เตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน มั่นใจประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน
    https://www.facebook.com/share/p/gJQ3PSnTv256ftMC/?mibextid=xfxF2i
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027?fbclid=IwY2xjawFH9YhleHRuA2FlbQIxMQABHV0h0Pndyns1_EHYrSgSqbQxI3mGJoQaF6MfUInKnbKFaZ3Tv_WaP6Pxkg_aem_3KHXFkqMQZ8OmkamXTCXUw
    🇹🇭99. วันที่ 5 กันยายน 2567 กลุ่มฯได้ส่งส่งจดหมาย เรียนท่านนายกแพทยสภา นางสมศรี เผ่าสวัสดิ์ และ เลขาแพทยสภา นายอิทธิพร คณะเจริญ ขอให้ติดตามความคืบหน้าการสอบสวนจริยธรรมของ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ กรณีให้ข้อมูลเท็จในใบยินยอมวัคซีนโควิด
    https://drive.google.com/file/d/1SuEiz81T-JcQqQA578-Moy0_vVLHupaf/view?usp=drivesdk
    🇹🇭100.วันที่ 18 กันยายน 2567
    ✍️หัวข้อ วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกาย & ใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ คุณปูสัมภาษณ์หมอ อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW
    ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674
    ✍️คอรัปชั่นในวงการแพทย์หรือไม่? / อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/scS2cbEX9nQ?si=RP5gqQranGVPyXkY
    ✍️กราฟีนออกไซด์ / อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/Lq3EFdNxKvE?si=Jy-Io5EwXedrB5RY
    ✍️เปิดข้อมูลความจริง ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตราย จากพิษของวัคซีน | ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=skv5OJVtk7-b5HWW
    🇹🇭101.วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
    https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk
    ✍️ อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​
    https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/
    แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc
    ✍️การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    รวมหลักฐานการลดประชากรโลก
    https://www.rookon.com/?p=936
    🇹🇭102.วันที่ 23 ก.ย. 2567 ส่งจดหมาย ❗คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที”
    เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข
    สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk
    ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY
    https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/WBMQJxa?utm_source=lineshare
    ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway
    https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk

    🇹🇭🇹🇭🇹🇭
    คนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    🇹🇭91.วันที่ 16 ก.ค.2567 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและระบบประสาท ในฐานะที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้ายื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมต.สธ.เพื่อยื่นข้อเสนอกรณีถอด “ฟ้าทะลายโจร” ออกจากแนวทางรักษา ทั้งที่มีประสิทธิภาพ พร้อมนำข้อมูลตีแผ่ต่อสาธารณะ ถึงสาเหตุถอดสมุนไพรไทยดังกล่าว ทั้งที่ช่วงโควิดเป็นสมุนไพรรักษาที่ดี ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก https://www.hfocus.org/content/2024/07/31098? https://www.hfocus.org/content/2024/07/31097 https://youtu.be/rjUdN1cFr7I?si=p8Pl1398CpXUjpJQ 🇹🇭92.วันที่ 23 ก.ค.2567 แหล่งข่าวจากคณะรัฐมนตรี เรื่องกัญชา สรุป คณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีให้นำเรื่องกัญชา กัญชงตราเป็นพระราชบัญญัติ ทุกพรรค ทุกกลุ่มสามารถเสนอร่างของตัวเองต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป แปลว่าไม่ใช่นำกัญชา กัญชงเข้าสู่บัญชียาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด แต่ให้มีกฎหมายเฉพาะสำหรับใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชา กัญชง https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1017634479730252/? https://mgronline.com/qol/detail/9670000062202 🇹🇭93.วันที่ 2 ส.ค.2567 “อ.ปานเทพ” เผย “ฟ้าทะลายโจร” กลับมาอยู่ในขั้นตอนการรักษาโควิดแล้ว หลังกระทรวงสาธารณสุขให้ยกเลิกแนวเวชปฏิบัติฯ ฉบับวันที่ 5 มิ.ย.67 และให้ใช้แนวเวชปฏิบัติฯ ฉบับวันที่ 18 เม.ย.66 ตามเดิม นับตั้งแต่เช้าวันที่ 3 ส.ค.ผู้ป่วยทุกคนสามารถทวงสิทธิของตัวเองในการรับยาฟ้าทะลายโจรได้ https://www.hfocus.org/content/2024/07/31153? https://www.hfocus.org/content/2024/08/31270 https://mgronline.com/qol/detail/9670000070325 🇹🇭94.วันที่ 24 ก.ค.2567 กลุ่มฯ ได้ยื่นจดหมายถึงท่านประธานองคมนตรีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ https://www.facebook.com/share/p/HawbeAHGmgvfdQBt/?mibextid=A7sQZp เรื่อง ขอทราบความคืบหน้าเรื่องการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา อ้างถึง ๑.ฎีกาถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๒.หนังสือที่ มท. ๐๒๐๕.๓/๑๐๑๔๘ ลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ จดหมายถวายฎีกา ๔พ.ค.๖๗ https://drive.google.com/file/d/1yVM_MSIgAhtePcM8TRI1Ci3X1AJdyE2j/view?usp=drivesdk เอกสารทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงาน https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna https://x.com/Thaipithaksith/status/1815963646285209642 https://x.com/Thaipithaksith/status/1816353451342979103 https://x.com/Thaipithaksith/status/1815963833749377048 🇹🇭95.วันที่ 9 สิงหาคม 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือติดตามความคืบหน้าเพื่อเร่งดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทไฟเซอร์ และเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฯพณฯ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะประธานคณะกรรมการยา ตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ เลขาธิการอาหารและยา นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช และกรรมการยา ตามตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ ทุกท่าน https://www.facebook.com/share/p/ERpyn1XfdD9BdtNV/?mibextid=A7sQZp รวมจดหมายเปิดผนึกและหนังสือต่างๆที่ทางกลุ่มฯได้ยื่นให้กับหน่วยงานภาครัฐ https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrn🇹🇭96.วันที่ 15 สิงหาคม 2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือถึง เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่อง สำนักงานอาหารและยา จงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน❗โดยเฉพาะ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นายไพศาล ดั่นคุ้ม ได้กระทำความผิดใช้อำนาจโดยมิชอบ อันเป็นความผิดทางอาญา และยังจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อปกปิดความผิดของตนเอง อันเป็นการชี้ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามิได้มีความสำนึกในการกระทำผิดดังกล่าวซ้ำร้ายยังกระทำความผิดซ้ำซ้อนเพื่อปกปิดความผิดของตนด้วย การใช้อำนาจโดยมิชอบนี้มีผลให้การพิจารณาอนุญาตยาดังกล่าวมิได้เป็นไปตามข้อกำหนดที่บัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติยา อันอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบมากมายต่อประชาชนผู้บริโภค ทั้งนี้ขณะนี้ได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตยา โดยเฉพาะบริษัทไฟเซอร์โดยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในหลายประเทศทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินจำต้อง เสนอเรื่องดังกล่าวพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง และให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๓๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ ต่อไป https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/507554471960215/? ไฟล์จดหมายฉบับนี้ https://drive.google.com/file/d/1EZfSguSfbiz2wXzPZefhL5fJQrr6boxN/view?usp=drivesdk ไฟล์ข้อมูลสนง.อาหารและยาทำผิด https://drive.google.com/file/d/15qYw-tywnTcvd-U9g0bO3M2IJLSs8KCg/view?usp=drivesdk 🇹🇭97. วันที่ 21 สิงหาคม 2567 ส่งจดหมาย เรียน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำเนาเรียน ผู้ตรวจการแผ่นดิน, เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (ในฐานะกรรมการการยาตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐) ,อัยการสูงสุดล, เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน https://drive.google.com/file/d/1ITQDYYc3BtMcG7Kc38nbUpFNvKDkDkbN/view?usp=drive_link 🇹🇭98. วันที่ 23 ส.ค.2567 วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 001/2567 เรื่อง เตือนคนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนกต่อการระบาดของเชื้อฝีดาษลิง ขอให้ตระหนักในการป้องกันและระวังตัว เตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน มั่นใจประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน https://www.facebook.com/share/p/gJQ3PSnTv256ftMC/?mibextid=xfxF2i https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027?fbclid=IwY2xjawFH9YhleHRuA2FlbQIxMQABHV0h0Pndyns1_EHYrSgSqbQxI3mGJoQaF6MfUInKnbKFaZ3Tv_WaP6Pxkg_aem_3KHXFkqMQZ8OmkamXTCXUw 🇹🇭99. วันที่ 5 กันยายน 2567 กลุ่มฯได้ส่งส่งจดหมาย เรียนท่านนายกแพทยสภา นางสมศรี เผ่าสวัสดิ์ และ เลขาแพทยสภา นายอิทธิพร คณะเจริญ ขอให้ติดตามความคืบหน้าการสอบสวนจริยธรรมของ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ กรณีให้ข้อมูลเท็จในใบยินยอมวัคซีนโควิด https://drive.google.com/file/d/1SuEiz81T-JcQqQA578-Moy0_vVLHupaf/view?usp=drivesdk 🇹🇭100.วันที่ 18 กันยายน 2567 ✍️หัวข้อ วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกาย & ใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ คุณปูสัมภาษณ์หมอ อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674 ✍️คอรัปชั่นในวงการแพทย์หรือไม่? / อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/scS2cbEX9nQ?si=RP5gqQranGVPyXkY ✍️กราฟีนออกไซด์ / อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/Lq3EFdNxKvE?si=Jy-Io5EwXedrB5RY ✍️เปิดข้อมูลความจริง ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตราย จากพิษของวัคซีน | ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=skv5OJVtk7-b5HWW 🇹🇭101.วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk ✍️ อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​ https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc ✍️การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv รวมหลักฐานการลดประชากรโลก https://www.rookon.com/?p=936 🇹🇭102.วันที่ 23 ก.ย. 2567 ส่งจดหมาย ❗คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/WBMQJxa?utm_source=lineshare ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk 🇹🇭🇹🇭🇹🇭 คนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1418 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇹🇭31.วันที่ 17 เม.ย. 2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือเรื่อง “ขอให้เพิกถอนการอนุญาตวัคซีน mRNA ในเด็ก” ให้กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมอนามัย เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และคณะกรรมการยา https://drive.google.com/drive/folders/1M3faHy7ViNiWaa95SVyQa1IFFpa3JjHZ?usp=sharing
    🇹🇭32.วันที่ 20 เม.ย. 2566 นายแพทย์อรรถพร สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ร่วมรายการสภากาแฟเวทีชาวบ้าน 200466 ช่อง News1 เกี่ยวกับความจริงของโควิดระลอกใหม่ เพื่อให้คนไทยไม่ต้องตื่นกล้ว และ การยื่นหนังสือถึงกรรมการยา และผู้มีส่วนรับผิดชอบต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่นำมาฉีดให้คนไทย เกี่ยวกับการระงับการอนุมัติฉุกเฉินของ วัคซีน mRna https://www.youtube.com/live/T0COteCvRRQ?feature=share
    🇹🇭33.วันที่ 20 เม.ย. 2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ และทุกทุกท่านที่ให้ความอนุเคราะห์สนับสนุน งบประมาณในการยังชีพและค่าทนาย กรณีถูกเลิกจ้างเพราะไม่ฉีดวัคซีน นายจ้างต้องชดใช้ค่าเสียหาย จนเราได้มีคดีตัวอย่างเป็นเคสแรกของประเทศไทย เพื่อให้คนที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมลุกขึ้นมาต่อสู้เอาผิด และเตือนให้นายจ้างไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง รายละเอียดอ่านได้ในลิ้งค์นี้ https://drive.google.com/drive/folders/1moLQyREcKJoE0YYLZ6vOA20EGQuLPUSl?usp=share_link
    🇹🇭34.วันที่ 6 มิ.ย.2566 รายการสยามไทยอัปเดต ช่อง 13 สยามไทย สถานีข่าว ได้จัดเสวนาหัวข้อ “ล้างสุขภาพ : ผลข้างเคียงวัคซีนโควิด" โดยมีวิทยากรดังรายนามต่อไปนี้
    •• พระมหาขวัญชัย อคฺคชโย เจ้าอาวาส วัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร
    •• นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง จิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    •• แพทย์แผนไทย(เวชกรรมไทย) เกริกพันธ์ นิลประกอบกุล ประจำคลินิกแพทย์แผนไทย หทัยนเรศวร์ จ.ราชบุรี / ทีมพอรักษา เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ
    >>ผู้ดำเนินรายการ ขจรศักดิ์ เชาว์เจริญรัตน์
    ช่วงที่ 1 https://fb.watch/k-6IORwHvd/
    ช่วงที่ 2 https://fb.watch/k-6NKAbcjN/
    🇹🇭35.คุณอดิเทพ จาวลาห์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Rookon.com ซึ่งเป็นสื่ออิสระ ได้นำข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสนธิสัญญาที่ประเทศไทยได้ลงนามไว้กับทาง WHO โดยรายละเอียดของสนธิสัญญาเป็นไปในทิศทางที่ลดทอน อิสรภาพ เสรีภาพ และอธิปไตยของประชาชนและของประเทศ ทางคุณอดิเทพ และกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์จึงได้มีการรวบรวมรายชื่อผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ได้อย่างน้อย 50,000 รายชื่อ ก่อนเดือนสิงหาคม เพื่อคัดค้านสนธิสัญญาดังกล่าว
    คลิปเข้าใจ สนธิสัญญา องค์การอนามัยโลก ใน 8 นาที
    https://fb.watch/kRJLJeFkz8/
    ร่วมลงนามหยุดสนธิสัญญา Pandemic Treaty และ IHR (International Health Regulations) ที่นี่ครับ https://www.rookon.com/?p=696
    🇹🇭36.วันที่ 14 ก.ค.2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้เชิญ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ทพญ.เพ็ญนภา คณิตจินดา คุณอดิเทพ จาวลาห์ ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ ดร.ธิดารัตน์ เอกศิรินิมิตร พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช และผู้กล้าหาญมากมายร่วมกันจัดงานเสวนา เรื่อง “คนไทยขอคัดค้านสนธิสัญญาทาส WHO Treaty” เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสนธิสัญญาดังกล่าว และรวมตัวกันมอบรายชื่อคนไทยที่คัดค้านสนธิสัญญา WHO Treaty นี้ โดยมีการจัดกิจกรรมแบ่งเป็น 2 ภาค คือ
    ภาคเช้า งานสัมนาจัดที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี
    ภาคบ่าย ร่วมกันยื่นรายชื่อเพื่อหยุดสนธิสัญญาทาสของ WHO ที่กระทรวงสาธารณสุข
    https://t.me/stopWHOTreatyinthai
    🇹🇭37.วันที่ 13 ก.ย. 2566 กิจกรรมไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด และต่อต้านความร่วมมือหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่รพ.ศิริราชได้เชิญ ดร.เฟาชี่ร่วมสัมนา กลุ่มได้ยื่นหนังสือ https://drive.google.com/drive/folders/1alpuUfmLh6EG4oLRUGbuDlpCC35EGu_m ถึงคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยมีตัวแทนผู้มารับมอบคือ รองผู้อำนวยการรพ.ศิริราช ผศ.นพ.ธารา วงศ์วิริยางกูร ณ ห้องประขุมสิรินธร ตึกเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
    https://vt.tiktok.com/ZSLwn8Akr/
    https://vt.tiktok.com/ZSLw3WccE/
    https://fb.watch/n0-scBmcCC/?mibextid=Gd9JSz
    https://youtu.be/77ds82Szows?si=SkbEi4GPBqhjbBLc
    https://fb.watch/n36sx6Eqys/
    https://fb.watch/n37Z0FHPth/
    https://t.me/ThaiPitaksithData/3445
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5005
    🇹🇭38.วันที่ 17 ต.ค.2566 กลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ นำโดยคุณหมอมนตรี เศรษฐบุตร แพทย์จุฬารุ่น 15 อดีต นายกสมาคมศิษย์เก่า แพทย์จุฬา ยื่นหนังสือถึง คณบดีคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ⭐️รูปแบบการจัดกิจกรรม รวมกลุ่มสุภาพชน
    ทีมชุดเสื้อขาว แจกใบปลิวแนะนำช่องทางเข้าถึงความรู้ ทางรอด และกิจกรรมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากยาฉีด
    https://drive.google.com/drive/folders/1lvLuluTfYOYG0F7VXDZ8KOmM2OHNyNgo
    https://t.me/ThaiPitaksithData/3840
    🇹🇭39.วันที่ 18 ต.ค.2566 กลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ นำโดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง แพทย์และอาจารย์แพทย์จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แพทย์แผนไทย พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช และ พท.ปภาน ชัยเกษมวรากุล และประชาชนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ #ยื่นหนังสือ ถึงประธานรัฐสภา และ ส.ส สิริลภัส กองตระการ เรื่องข้อเท็จจริงของวัคซีนโควิด และ นำผู้เสียหายจากการฉีดวัคซีนมายืนยันว่าวัคซีนไม่ปลอดภัย ให้ช่วยประสานงานดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและตรวจสอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
    https://t.me/ThaiPitaksithData/3912
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4123
    https://www.tpchannel.org/news/23148
    https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_news.php?nid=108684&filename=The_House_of_Representatives
    https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_news.php?nid=108683&filename=The_House_of_Representatives
    🇹🇭40.วันที่ 1 พ.ย.2566 ที่คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    ช่วงเช้ากลุ่มฯมาร่วมให้กำลังใจคุณหมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์​โรคอุบัติ​ใหม่​ สภากาชาด​ไทย
    ตามที่ท่านได้ออกมา​เผยแพร่ข้อมูล​เกี่ยวกับ​พฤติกรรม​ของ​องค์กร​ Ecohealth​ ​alliance​ ที่มีส่วนสำคัญ​ในการสนับสนุน​ทุนวิจัย​เพื่อ​ ดัดแปลง​เชื้อโคโรนาไวรัสในค้างคาว​ ให้สามารถ​ติดต่อในมนุษย์​ได้​อันเป็น​ที่มาของ​โรคโควิด​ 19​ นั้น​ ทาง​กลุ่ม​ของแสดง​ความชื่นชม​ในความกล้าหาญ​ทางวิชาการ​ของท่าน​ และขอสนับสนุน​ให้​เกิดกระบวนการ​ทางวิทยาศาสตร์​ โดย​เปิดโอกาสให้นำเสนอข้อมูลทางวิชาการ​อย่างรอบด้าน​กับสังคม​ ดังที่มีการดำเนินการ​ในอารยะ​ประเทศ​หลายประเทศ​ทั่วโลก​ อนึ่ง​ทางกลุ่ม​ ขอประนาม​การกระทำใดๆ​ ของหน่วยงาน​ภาครัฐ​ สถาบันการศึกษา​ในความพยายามที่จะให้ร้ายป้ายสี​ ทำลายความน่า​เชื่อถือ​ ของผู้ที่นำเสนอข้อมูล​ ดังที่มีความพยายาม​กระทำกับท่านอาจารย์​อยู่ใน​ปัจจุบัน​ และขอให้องค์กรวิชาการดังกล่าว​ เปิดเวทีวิชาการ​ตามพิสัยที่ควรกระทำของนักวิชาการ​ ทั้งนี้​หากยังมีมาตรการ​ใดๆ​ เพื่อปิดบัง​ เซ็นเซอร์​ ข้อเท็จจริง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​นี้​ ทางกลุ่ม​จะดำเนินมาตรการ​ทั้งในทางกฎหมาย​และ​ การสื่อสาร​สังคม​เพื่อยับยั้ง​การกระทำ​ดังกล่าว​ต่อไป ขอแสดงความชื่นชม​และให้กำลังใจ​ให้ท่านอาจารย์​กระทำในสิ่ง​ที่​ถูกต้อง​เพื่อปกป้อง​ผลประโยชน์​ของส่วนรวมต่อไป
    ⭐️งานนี้มีสื่อมวลชนมาทำข่าวจำนวนมาก ซึ่งทางกลุ่มหวังว่าจะช่วยให้สังคมได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกปิดกั้นมาตลอด 3 ปี
    https://drive.google.com/drive/folders/1-HmCKOyvE4415in3Lso7tE-QybucpSFv
    https://mgronline.com/qol/detail/9660000098275
    เหตุผลที่ถูกสั่งสอบสวนเพราะยุติ การเอาไวรัสจากค้างคาวมาศึกษาและการทำลายตัวอย่าง
    ประชาชาติธุรกิจ 30 ต.ค. 2566
    ย้อนกลับไปที่หมอธีระวัฒน์เตือน
    https://www.prachachat.net/general/news-1426137
    ช่วงบ่าย คุณหมอมนตรี เศรษฐบุตร แพทย์จุฬารุ่น 15 อดีต นายกสมาคมศิษย์เก่า แพทย์จุฬา ตัวแทนกลุ่มฯยื่นหนังสือ(ข้อมูลต่างๆ) ถึง รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
    โพสของคุณหมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10212579857448066&id=1732997516&sfnsn=mo&mibextid=RUbZ1f
    รวมภาพและคลิปกิจกรรม 1 พ.ย.2566
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4006
    🇹🇭41.วันที่ 9 ม.ค. 2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้ยื่นหนังสือถึง ท่านประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์
    สำเนาเรียน กรรมาธิการสาธารณสุข และผู้แทนสื่อมวลชนทุกแขนง
    เรื่อง ขอให้มีการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย
    https://www.tpchannel.org/news/24200
    https://www.hfocus.org/content/2024/01/29456
    https://fb.watch/psuPJe2ieg/?mibextid=Nif5oz
    https://youtu.be/m-9_I7UQF94?si=CuO_XYyxeWbyr8Ot
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4400
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4450
    🇹🇭42.วันที่ 15 ม.ค. 2567 แถลงการณ์โดย อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต
    และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมคณะ
    https://m.youtube.com/live/NZWNHxOHKyg?si=7a3W8IRItQxI5be2&fbclid=IwAR0FAN18l_BNF-QVRHiQPMmaBeBK6LRoJQezAFlZ3ckNAu2e-c3atVwR0K4_aem_Ac8StbQ-QdDOIyXHSwgqYUD_LPOW5f4yPJZXKG8Da8bb675gJvpBwoxE_KVWB_sT0LCcUkdG5gTsozYMKyeTrpE-
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/909121587248209/?
    🇹🇭43.วันที่ 25 ม.ค. 2567 ผู้แทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร รัฐสภา กำหนดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับวัคชีน mRNA ในข้อเท็จจริงด้านความโปร่งใสของการนำเข้า ความปลอดภัยและคุณภาพของวัคซีน
    เอกสารการประชุม https://drive.google.com/drive/folders/1ZLJQk7PFLi_AYIhEym2tn7XPQKjNQ-91
    🇹🇭44.วันที่ 29 ม.ค. 2567 จดหมายเปิด​ผนึก​ถึง​รองอธิบดี​ กรมควบคุม​โรค นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวรและปลัดกระทรวงสาธารณสุข
    เรื่อง ขอเข้าไปนำเสนอข้อมูลและรับฟังคำชี้แจงข้อสงสัยที่ท่านยังมิได้ชี้แจงในการประชุมของกรรมาธิการ สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ https://t.me/ThaiPitaksithData/4593
    🇹🇭45.วันที่ 1 ก.พ. 2567
    จดหมายเปิดผนึกถึงผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นายแพทย์นคร เปรมศรี
    เรื่อง ขอเข้าไปนำเสนอข้อมูลและรับฟังคำชี้แจงข้อคำถามที่ท่านยังมิได้ชี้แจงในการประชุมของกรรมาธิการ การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/drive/folders/18oilc3VwHhayBBdNM8ZMQubk1mOicRMC
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4632
    🇹🇭46.วันที่ 2 ก.พ. 2567 สำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์ อ้างอิงบทความพร้อมข้อมูลจาก ‘กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์’ กล่าวถึงผลการศึกษา การวิจัย และสิ่งที่น่าสงสัยในหลาย ๆ ประเด็น เกี่ยวกับยาฉีดที่อ้างว่าเป็นวัคซีนโควิด
    https://mgronline.com/qolฐ/detail/9670000009954
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4647
    🇹🇭47.วันที่ 6 ก.พ. 2567 จดหมายเปิดผนึกถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช
    เรื่อง ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด ๑๙ ชนิด mRNA vaccine
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4686
    🇹🇭48.วันที่ 8 ก.พ. 2567 ในที่สุด กระทรวงสาธารณสุข ก็ออกมายืนยันสิ่งที่ข้องใจ ไฟเซอร์ หักคอให้รัฐบาลไทย เซ็น”สัญญาทาส“ ไม่อนุญาตให้ ตรวจสอบ
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4864
    อ้างติดเงื่อนไข
    สธ.ปฏิเสธเปิดสัญญา“ไฟเซอร์” คนไทยพิทักษ์สิทธิ์จวกยับ น่าเศร้า ขรก.ไทยกลัวบริษัทยา
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000014134
    และมีการโครงการจัดเสวนาและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำหรับภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีน ณ หอศิลป์แห่งวัฒนธรรมกรุงเทพ จาก 9 วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณรสนา โตสิตระกูล, นายแพทย์ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ, นายแพทย์อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง, อาจารย์สันติสุข โสภณสิริ , นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์, ศาสตราจารย์คลินิกแพทย์จีน นายแพทย์ภาสกิจ วัณนาวิบูล, แพทย์หญิงสุภาพร มีลาภ, แพทย์แผนไทยประยุกต์แวสะมิง แวหมะ, พันเอก นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา
    https://youtu.be/KuhFBFDIFPo
    https://rumble.com/v4bmro6-title-health-uncensored-by-dr.atapol-test-draft-1-.html?fbclid=IwAR3KiMhm_Jj--rzxsevf2gWazMP-1SdFHD1XDb0GY3Rw0MMu8-Lk-mGY1g0
    https://t.me/injuryjabthaiseminar
    🇹🇭49.วันที่ 12 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร
    เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย “สัญญาทาส” ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4841
    🇹🇭50.วันที่ 12 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
    นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี
    https://www.facebook.com/share/p/wFViacXLo6JoUFo4/?mibextid=A7sQZp
    เรื่อง ขอให้ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด
    https://healthserv.net/healthupdate/89
    🇹🇭51.วันที่ 13 ก.พ. 2567 หมอธีระวัฒน์ เผยรายงานผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ ชี้ชัดวัคซีนโควิดส่งผลหัวใจอักเสบ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000013428
    🇹🇭52.วันที่ 14 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข นพ.ทศพร เสรีรักษ์
    เรื่อง ขอติดตามการดำเนินการเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทยตามที่นำเสนอต่อคณะกรรมาธิการ การสาธารณสุข https://t.me/ThaiPitaksithData/4854
    และช่องข่าว News1 สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง เอาวัคซีนอะไรมาฉีดคนไทย ทำไมคนป่วยมากขึ้นและตายเพิ่มขึ้น???
    https://www.youtube.com/live/SPtFadcLmzo?si=NQq4S31aLOfGGxQQ
    https://news1live.com/watch/SPtFadcLmzo
    https://www.facebook.com/share/v/5KT7njxNwKvHC95z/?mibextid=oFDknk
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000013738
    https://www.thaipithaksith.com/
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4878
    🇹🇭53.วันที่ 15 ก.พ. 2567 กรมควบคุมโรค เชิญ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ไปให้ข้อมูล นำโดยนพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    เข้าร่วมประชุม เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการตายเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ(Excess Death) ของคนไทย และข้อมูลเกี่ยวกับ ความฉ้อฉลของบริษัทยา ที่ขายวัคซีน mRNA ให้รัฐ
    โดยมี นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร
    รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมรับฟังข้อมูลร่วมกับข้าราชการในสังกัดกรมควบคุมโรคหลายท่าน
    https://dailyclout.io/product/war-room-dailyclout-pfizer-documents-analysis-volunteers-reports-book-paperback/
    และยื่นหนังสือ ถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร
    เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย “สัญญาทาส” ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์ เลขรับหนังสือ ๑๔๕๙
    https://www.facebook.com/share/p/2MPYJ33WfefmcVig/?mibextid=xfxF2i
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4888
    🇹🇭54.วันที่ 16 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี
    เรื่อง ขอบพระคุณที่กรุณาเปิดเผยความจริงเรื่อง “สัญญาทาส” ที่กรมควบคุมโรคได้ทำไว้กับบริษัทยา
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4874
    🇹🇭55.วันที่ 19 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงรองอธิบดี กรมควบคุมโรค นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร,
    อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร,ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นพ.นคร เปรมศรี
    เรื่อง ขอขอบพระคุณที่จัดเวทีเสวนาวิชาการในหัวข้อ การเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทย กับ mRNA vaccine
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4914
    🇹🇭56.วันที่ 20 ก.พ.2567 “หมอธีระวัฒน์” เผยข้อมูลการแพทย์ พบสิ่งไม่เคยปรากฎในคน หลังมีวัคซีนโควิด
    https://www.nationtv.tv/health/378940487
    https://www.facebook.com/share/1pjhGQ6FnicMrTnU/?mibextid=WC7FNe
    คุณสรยุทธสัมภาษณ์เรื่องปรากฏการณ์นี้ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ช่องสามอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงซึ่งได้ให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดทั้งการอักเสบของหัวใจและการตันของเส้นเลือดที่เกิดจากก้อนเลือดและก้อนสีขาวตรงนี้อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งไม่มีใครทราบกันดีเพราะมีการเซ็นเซอร์และปกปิดมาตลอดจนกระทั่งปรากฏการณ์นี้เจอในหลายประเทศทั่วไปตั้งแต่เยอรมันอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมริกาเอง
    🇹🇭57.วันที่ 21 ก.พ. 2567 สัมภาษณ์สด นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    รายการทัวร์มาลงทางช่องโมโน29
    mRNA ไม่ใช่วัคซีนแต่เป็นยีนเทอราปี gene therapy
    https://www.facebook.com/share/v/ENS2BTLH5oxkuGKD/?mibextid=A7sQZp
    🇹🇭58.วันที่ 22 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช,อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร
    เรื่อง ขอให้นำส่งเอกสารกำกับยาของวัคซีนโคเมอร์เนตีให้กับกรมควบคุมโรค
    https://www.facebook.com/share/p/htqXEB1QWE3uATDP/?mibextid=xfxF2i
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4962
    และอ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เขียนบทความ “เสียดายที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน งานวิจัยผลกระทบจากวัคซีนต่อเด็กและเยาวชนไทย”
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/930738298419871/
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5082
    🇹🇭59.วันที่ 23 ก.พ. 2567 จดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมการแพทย์ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์
    เรื่อง ขอให้ปรับแก้แนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากร สาธารณสุข
    https://www.facebook.com/share/p/pLvCKVbwswSXvBHK/?mibextid=xfxF2i
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4963
    🇹🇭60.วันที่ 23 ก.พ. 2567
    รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิเปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน
    https://fb.watch/qpJFWeLSO0/?
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172
    🇹🇭31.วันที่ 17 เม.ย. 2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือเรื่อง “ขอให้เพิกถอนการอนุญาตวัคซีน mRNA ในเด็ก” ให้กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมอนามัย เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และคณะกรรมการยา https://drive.google.com/drive/folders/1M3faHy7ViNiWaa95SVyQa1IFFpa3JjHZ?usp=sharing 🇹🇭32.วันที่ 20 เม.ย. 2566 นายแพทย์อรรถพร สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ร่วมรายการสภากาแฟเวทีชาวบ้าน 200466 ช่อง News1 เกี่ยวกับความจริงของโควิดระลอกใหม่ เพื่อให้คนไทยไม่ต้องตื่นกล้ว และ การยื่นหนังสือถึงกรรมการยา และผู้มีส่วนรับผิดชอบต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่นำมาฉีดให้คนไทย เกี่ยวกับการระงับการอนุมัติฉุกเฉินของ วัคซีน mRna https://www.youtube.com/live/T0COteCvRRQ?feature=share 🇹🇭33.วันที่ 20 เม.ย. 2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ และทุกทุกท่านที่ให้ความอนุเคราะห์สนับสนุน งบประมาณในการยังชีพและค่าทนาย กรณีถูกเลิกจ้างเพราะไม่ฉีดวัคซีน นายจ้างต้องชดใช้ค่าเสียหาย จนเราได้มีคดีตัวอย่างเป็นเคสแรกของประเทศไทย เพื่อให้คนที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมลุกขึ้นมาต่อสู้เอาผิด และเตือนให้นายจ้างไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง รายละเอียดอ่านได้ในลิ้งค์นี้ https://drive.google.com/drive/folders/1moLQyREcKJoE0YYLZ6vOA20EGQuLPUSl?usp=share_link 🇹🇭34.วันที่ 6 มิ.ย.2566 รายการสยามไทยอัปเดต ช่อง 13 สยามไทย สถานีข่าว ได้จัดเสวนาหัวข้อ “ล้างสุขภาพ : ผลข้างเคียงวัคซีนโควิด" โดยมีวิทยากรดังรายนามต่อไปนี้ •• พระมหาขวัญชัย อคฺคชโย เจ้าอาวาส วัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร •• นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง จิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย •• แพทย์แผนไทย(เวชกรรมไทย) เกริกพันธ์ นิลประกอบกุล ประจำคลินิกแพทย์แผนไทย หทัยนเรศวร์ จ.ราชบุรี / ทีมพอรักษา เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ >>ผู้ดำเนินรายการ ขจรศักดิ์ เชาว์เจริญรัตน์ ช่วงที่ 1 https://fb.watch/k-6IORwHvd/ ช่วงที่ 2 https://fb.watch/k-6NKAbcjN/ 🇹🇭35.คุณอดิเทพ จาวลาห์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Rookon.com ซึ่งเป็นสื่ออิสระ ได้นำข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสนธิสัญญาที่ประเทศไทยได้ลงนามไว้กับทาง WHO โดยรายละเอียดของสนธิสัญญาเป็นไปในทิศทางที่ลดทอน อิสรภาพ เสรีภาพ และอธิปไตยของประชาชนและของประเทศ ทางคุณอดิเทพ และกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์จึงได้มีการรวบรวมรายชื่อผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ได้อย่างน้อย 50,000 รายชื่อ ก่อนเดือนสิงหาคม เพื่อคัดค้านสนธิสัญญาดังกล่าว คลิปเข้าใจ สนธิสัญญา องค์การอนามัยโลก ใน 8 นาที https://fb.watch/kRJLJeFkz8/ ร่วมลงนามหยุดสนธิสัญญา Pandemic Treaty และ IHR (International Health Regulations) ที่นี่ครับ https://www.rookon.com/?p=696 🇹🇭36.วันที่ 14 ก.ค.2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้เชิญ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ทพญ.เพ็ญนภา คณิตจินดา คุณอดิเทพ จาวลาห์ ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ ดร.ธิดารัตน์ เอกศิรินิมิตร พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช และผู้กล้าหาญมากมายร่วมกันจัดงานเสวนา เรื่อง “คนไทยขอคัดค้านสนธิสัญญาทาส WHO Treaty” เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสนธิสัญญาดังกล่าว และรวมตัวกันมอบรายชื่อคนไทยที่คัดค้านสนธิสัญญา WHO Treaty นี้ โดยมีการจัดกิจกรรมแบ่งเป็น 2 ภาค คือ ภาคเช้า งานสัมนาจัดที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ภาคบ่าย ร่วมกันยื่นรายชื่อเพื่อหยุดสนธิสัญญาทาสของ WHO ที่กระทรวงสาธารณสุข https://t.me/stopWHOTreatyinthai 🇹🇭37.วันที่ 13 ก.ย. 2566 กิจกรรมไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด และต่อต้านความร่วมมือหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่รพ.ศิริราชได้เชิญ ดร.เฟาชี่ร่วมสัมนา กลุ่มได้ยื่นหนังสือ https://drive.google.com/drive/folders/1alpuUfmLh6EG4oLRUGbuDlpCC35EGu_m ถึงคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยมีตัวแทนผู้มารับมอบคือ รองผู้อำนวยการรพ.ศิริราช ผศ.นพ.ธารา วงศ์วิริยางกูร ณ ห้องประขุมสิรินธร ตึกเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช https://vt.tiktok.com/ZSLwn8Akr/ https://vt.tiktok.com/ZSLw3WccE/ https://fb.watch/n0-scBmcCC/?mibextid=Gd9JSz https://youtu.be/77ds82Szows?si=SkbEi4GPBqhjbBLc https://fb.watch/n36sx6Eqys/ https://fb.watch/n37Z0FHPth/ https://t.me/ThaiPitaksithData/3445 https://t.me/ThaiPitaksithData/5005 🇹🇭38.วันที่ 17 ต.ค.2566 กลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ นำโดยคุณหมอมนตรี เศรษฐบุตร แพทย์จุฬารุ่น 15 อดีต นายกสมาคมศิษย์เก่า แพทย์จุฬา ยื่นหนังสือถึง คณบดีคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ⭐️รูปแบบการจัดกิจกรรม รวมกลุ่มสุภาพชน ทีมชุดเสื้อขาว แจกใบปลิวแนะนำช่องทางเข้าถึงความรู้ ทางรอด และกิจกรรมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากยาฉีด https://drive.google.com/drive/folders/1lvLuluTfYOYG0F7VXDZ8KOmM2OHNyNgo https://t.me/ThaiPitaksithData/3840 🇹🇭39.วันที่ 18 ต.ค.2566 กลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ นำโดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง แพทย์และอาจารย์แพทย์จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แพทย์แผนไทย พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช และ พท.ปภาน ชัยเกษมวรากุล และประชาชนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ #ยื่นหนังสือ ถึงประธานรัฐสภา และ ส.ส สิริลภัส กองตระการ เรื่องข้อเท็จจริงของวัคซีนโควิด และ นำผู้เสียหายจากการฉีดวัคซีนมายืนยันว่าวัคซีนไม่ปลอดภัย ให้ช่วยประสานงานดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและตรวจสอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป https://t.me/ThaiPitaksithData/3912 https://t.me/ThaiPitaksithData/4123 https://www.tpchannel.org/news/23148 https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_news.php?nid=108684&filename=The_House_of_Representatives https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_news.php?nid=108683&filename=The_House_of_Representatives 🇹🇭40.วันที่ 1 พ.ย.2566 ที่คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วงเช้ากลุ่มฯมาร่วมให้กำลังใจคุณหมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์​โรคอุบัติ​ใหม่​ สภากาชาด​ไทย ตามที่ท่านได้ออกมา​เผยแพร่ข้อมูล​เกี่ยวกับ​พฤติกรรม​ของ​องค์กร​ Ecohealth​ ​alliance​ ที่มีส่วนสำคัญ​ในการสนับสนุน​ทุนวิจัย​เพื่อ​ ดัดแปลง​เชื้อโคโรนาไวรัสในค้างคาว​ ให้สามารถ​ติดต่อในมนุษย์​ได้​อันเป็น​ที่มาของ​โรคโควิด​ 19​ นั้น​ ทาง​กลุ่ม​ของแสดง​ความชื่นชม​ในความกล้าหาญ​ทางวิชาการ​ของท่าน​ และขอสนับสนุน​ให้​เกิดกระบวนการ​ทางวิทยาศาสตร์​ โดย​เปิดโอกาสให้นำเสนอข้อมูลทางวิชาการ​อย่างรอบด้าน​กับสังคม​ ดังที่มีการดำเนินการ​ในอารยะ​ประเทศ​หลายประเทศ​ทั่วโลก​ อนึ่ง​ทางกลุ่ม​ ขอประนาม​การกระทำใดๆ​ ของหน่วยงาน​ภาครัฐ​ สถาบันการศึกษา​ในความพยายามที่จะให้ร้ายป้ายสี​ ทำลายความน่า​เชื่อถือ​ ของผู้ที่นำเสนอข้อมูล​ ดังที่มีความพยายาม​กระทำกับท่านอาจารย์​อยู่ใน​ปัจจุบัน​ และขอให้องค์กรวิชาการดังกล่าว​ เปิดเวทีวิชาการ​ตามพิสัยที่ควรกระทำของนักวิชาการ​ ทั้งนี้​หากยังมีมาตรการ​ใดๆ​ เพื่อปิดบัง​ เซ็นเซอร์​ ข้อเท็จจริง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​นี้​ ทางกลุ่ม​จะดำเนินมาตรการ​ทั้งในทางกฎหมาย​และ​ การสื่อสาร​สังคม​เพื่อยับยั้ง​การกระทำ​ดังกล่าว​ต่อไป ขอแสดงความชื่นชม​และให้กำลังใจ​ให้ท่านอาจารย์​กระทำในสิ่ง​ที่​ถูกต้อง​เพื่อปกป้อง​ผลประโยชน์​ของส่วนรวมต่อไป ⭐️งานนี้มีสื่อมวลชนมาทำข่าวจำนวนมาก ซึ่งทางกลุ่มหวังว่าจะช่วยให้สังคมได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกปิดกั้นมาตลอด 3 ปี https://drive.google.com/drive/folders/1-HmCKOyvE4415in3Lso7tE-QybucpSFv https://mgronline.com/qol/detail/9660000098275 เหตุผลที่ถูกสั่งสอบสวนเพราะยุติ การเอาไวรัสจากค้างคาวมาศึกษาและการทำลายตัวอย่าง ประชาชาติธุรกิจ 30 ต.ค. 2566 ย้อนกลับไปที่หมอธีระวัฒน์เตือน https://www.prachachat.net/general/news-1426137 ช่วงบ่าย คุณหมอมนตรี เศรษฐบุตร แพทย์จุฬารุ่น 15 อดีต นายกสมาคมศิษย์เก่า แพทย์จุฬา ตัวแทนกลุ่มฯยื่นหนังสือ(ข้อมูลต่างๆ) ถึง รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสของคุณหมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10212579857448066&id=1732997516&sfnsn=mo&mibextid=RUbZ1f รวมภาพและคลิปกิจกรรม 1 พ.ย.2566 https://t.me/ThaiPitaksithData/4006 🇹🇭41.วันที่ 9 ม.ค. 2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้ยื่นหนังสือถึง ท่านประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ สำเนาเรียน กรรมาธิการสาธารณสุข และผู้แทนสื่อมวลชนทุกแขนง เรื่อง ขอให้มีการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://www.tpchannel.org/news/24200 https://www.hfocus.org/content/2024/01/29456 https://fb.watch/psuPJe2ieg/?mibextid=Nif5oz https://youtu.be/m-9_I7UQF94?si=CuO_XYyxeWbyr8Ot https://t.me/ThaiPitaksithData/4400 https://t.me/ThaiPitaksithData/4450 🇹🇭42.วันที่ 15 ม.ค. 2567 แถลงการณ์โดย อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมคณะ https://m.youtube.com/live/NZWNHxOHKyg?si=7a3W8IRItQxI5be2&fbclid=IwAR0FAN18l_BNF-QVRHiQPMmaBeBK6LRoJQezAFlZ3ckNAu2e-c3atVwR0K4_aem_Ac8StbQ-QdDOIyXHSwgqYUD_LPOW5f4yPJZXKG8Da8bb675gJvpBwoxE_KVWB_sT0LCcUkdG5gTsozYMKyeTrpE- https://www.facebook.com/100044511276276/posts/909121587248209/? 🇹🇭43.วันที่ 25 ม.ค. 2567 ผู้แทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร รัฐสภา กำหนดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับวัคชีน mRNA ในข้อเท็จจริงด้านความโปร่งใสของการนำเข้า ความปลอดภัยและคุณภาพของวัคซีน เอกสารการประชุม https://drive.google.com/drive/folders/1ZLJQk7PFLi_AYIhEym2tn7XPQKjNQ-91 🇹🇭44.วันที่ 29 ม.ค. 2567 จดหมายเปิด​ผนึก​ถึง​รองอธิบดี​ กรมควบคุม​โรค นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวรและปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ขอเข้าไปนำเสนอข้อมูลและรับฟังคำชี้แจงข้อสงสัยที่ท่านยังมิได้ชี้แจงในการประชุมของกรรมาธิการ สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ https://t.me/ThaiPitaksithData/4593 🇹🇭45.วันที่ 1 ก.พ. 2567 จดหมายเปิดผนึกถึงผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นายแพทย์นคร เปรมศรี เรื่อง ขอเข้าไปนำเสนอข้อมูลและรับฟังคำชี้แจงข้อคำถามที่ท่านยังมิได้ชี้แจงในการประชุมของกรรมาธิการ การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ https://drive.google.com/drive/folders/18oilc3VwHhayBBdNM8ZMQubk1mOicRMC https://t.me/ThaiPitaksithData/4632 🇹🇭46.วันที่ 2 ก.พ. 2567 สำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์ อ้างอิงบทความพร้อมข้อมูลจาก ‘กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์’ กล่าวถึงผลการศึกษา การวิจัย และสิ่งที่น่าสงสัยในหลาย ๆ ประเด็น เกี่ยวกับยาฉีดที่อ้างว่าเป็นวัคซีนโควิด https://mgronline.com/qolฐ/detail/9670000009954 https://t.me/ThaiPitaksithData/4647 🇹🇭47.วันที่ 6 ก.พ. 2567 จดหมายเปิดผนึกถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เรื่อง ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด ๑๙ ชนิด mRNA vaccine https://t.me/ThaiPitaksithData/4686 🇹🇭48.วันที่ 8 ก.พ. 2567 ในที่สุด กระทรวงสาธารณสุข ก็ออกมายืนยันสิ่งที่ข้องใจ ไฟเซอร์ หักคอให้รัฐบาลไทย เซ็น”สัญญาทาส“ ไม่อนุญาตให้ ตรวจสอบ https://t.me/ThaiPitaksithData/4864 อ้างติดเงื่อนไข สธ.ปฏิเสธเปิดสัญญา“ไฟเซอร์” คนไทยพิทักษ์สิทธิ์จวกยับ น่าเศร้า ขรก.ไทยกลัวบริษัทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000014134 และมีการโครงการจัดเสวนาและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำหรับภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีน ณ หอศิลป์แห่งวัฒนธรรมกรุงเทพ จาก 9 วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณรสนา โตสิตระกูล, นายแพทย์ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ, นายแพทย์อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง, อาจารย์สันติสุข โสภณสิริ , นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์, ศาสตราจารย์คลินิกแพทย์จีน นายแพทย์ภาสกิจ วัณนาวิบูล, แพทย์หญิงสุภาพร มีลาภ, แพทย์แผนไทยประยุกต์แวสะมิง แวหมะ, พันเอก นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา https://youtu.be/KuhFBFDIFPo https://rumble.com/v4bmro6-title-health-uncensored-by-dr.atapol-test-draft-1-.html?fbclid=IwAR3KiMhm_Jj--rzxsevf2gWazMP-1SdFHD1XDb0GY3Rw0MMu8-Lk-mGY1g0 https://t.me/injuryjabthaiseminar 🇹🇭49.วันที่ 12 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย “สัญญาทาส” ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์ https://t.me/ThaiPitaksithData/4841 🇹🇭50.วันที่ 12 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี https://www.facebook.com/share/p/wFViacXLo6JoUFo4/?mibextid=A7sQZp เรื่อง ขอให้ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด https://healthserv.net/healthupdate/89 🇹🇭51.วันที่ 13 ก.พ. 2567 หมอธีระวัฒน์ เผยรายงานผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ ชี้ชัดวัคซีนโควิดส่งผลหัวใจอักเสบ https://mgronline.com/qol/detail/9670000013428 🇹🇭52.วันที่ 14 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข นพ.ทศพร เสรีรักษ์ เรื่อง ขอติดตามการดำเนินการเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทยตามที่นำเสนอต่อคณะกรรมาธิการ การสาธารณสุข https://t.me/ThaiPitaksithData/4854 และช่องข่าว News1 สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง เอาวัคซีนอะไรมาฉีดคนไทย ทำไมคนป่วยมากขึ้นและตายเพิ่มขึ้น??? https://www.youtube.com/live/SPtFadcLmzo?si=NQq4S31aLOfGGxQQ https://news1live.com/watch/SPtFadcLmzo https://www.facebook.com/share/v/5KT7njxNwKvHC95z/?mibextid=oFDknk https://mgronline.com/qol/detail/9670000013738 https://www.thaipithaksith.com/ https://t.me/ThaiPitaksithData/4878 🇹🇭53.วันที่ 15 ก.พ. 2567 กรมควบคุมโรค เชิญ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ไปให้ข้อมูล นำโดยนพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง เข้าร่วมประชุม เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการตายเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ(Excess Death) ของคนไทย และข้อมูลเกี่ยวกับ ความฉ้อฉลของบริษัทยา ที่ขายวัคซีน mRNA ให้รัฐ โดยมี นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมรับฟังข้อมูลร่วมกับข้าราชการในสังกัดกรมควบคุมโรคหลายท่าน https://dailyclout.io/product/war-room-dailyclout-pfizer-documents-analysis-volunteers-reports-book-paperback/ และยื่นหนังสือ ถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย “สัญญาทาส” ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์ เลขรับหนังสือ ๑๔๕๙ https://www.facebook.com/share/p/2MPYJ33WfefmcVig/?mibextid=xfxF2i https://t.me/ThaiPitaksithData/4888 🇹🇭54.วันที่ 16 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี เรื่อง ขอบพระคุณที่กรุณาเปิดเผยความจริงเรื่อง “สัญญาทาส” ที่กรมควบคุมโรคได้ทำไว้กับบริษัทยา https://t.me/ThaiPitaksithData/4874 🇹🇭55.วันที่ 19 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงรองอธิบดี กรมควบคุมโรค นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร, อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร,ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นพ.นคร เปรมศรี เรื่อง ขอขอบพระคุณที่จัดเวทีเสวนาวิชาการในหัวข้อ การเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทย กับ mRNA vaccine https://t.me/ThaiPitaksithData/4914 🇹🇭56.วันที่ 20 ก.พ.2567 “หมอธีระวัฒน์” เผยข้อมูลการแพทย์ พบสิ่งไม่เคยปรากฎในคน หลังมีวัคซีนโควิด https://www.nationtv.tv/health/378940487 https://www.facebook.com/share/1pjhGQ6FnicMrTnU/?mibextid=WC7FNe คุณสรยุทธสัมภาษณ์เรื่องปรากฏการณ์นี้ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ช่องสามอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงซึ่งได้ให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดทั้งการอักเสบของหัวใจและการตันของเส้นเลือดที่เกิดจากก้อนเลือดและก้อนสีขาวตรงนี้อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งไม่มีใครทราบกันดีเพราะมีการเซ็นเซอร์และปกปิดมาตลอดจนกระทั่งปรากฏการณ์นี้เจอในหลายประเทศทั่วไปตั้งแต่เยอรมันอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมริกาเอง 🇹🇭57.วันที่ 21 ก.พ. 2567 สัมภาษณ์สด นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง รายการทัวร์มาลงทางช่องโมโน29 mRNA ไม่ใช่วัคซีนแต่เป็นยีนเทอราปี gene therapy https://www.facebook.com/share/v/ENS2BTLH5oxkuGKD/?mibextid=A7sQZp 🇹🇭58.วันที่ 22 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช,อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร เรื่อง ขอให้นำส่งเอกสารกำกับยาของวัคซีนโคเมอร์เนตีให้กับกรมควบคุมโรค https://www.facebook.com/share/p/htqXEB1QWE3uATDP/?mibextid=xfxF2i https://t.me/ThaiPitaksithData/4962 และอ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เขียนบทความ “เสียดายที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน งานวิจัยผลกระทบจากวัคซีนต่อเด็กและเยาวชนไทย” https://www.facebook.com/100044511276276/posts/930738298419871/ https://t.me/ThaiPitaksithData/5082 🇹🇭59.วันที่ 23 ก.พ. 2567 จดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมการแพทย์ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ เรื่อง ขอให้ปรับแก้แนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากร สาธารณสุข https://www.facebook.com/share/p/pLvCKVbwswSXvBHK/?mibextid=xfxF2i https://t.me/ThaiPitaksithData/4963 🇹🇭60.วันที่ 23 ก.พ. 2567 รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิเปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน https://fb.watch/qpJFWeLSO0/? https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2118 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✍️ วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ตอนที่ 1 https://mgronline.com/qol/detail/9670000048189
    ตอนที่ 2 https://mgronline.com/qol/detail/9670000049444
    ตอนที่ 3 https://mgronline.com/qol/detail/9670000051574
    ✍️วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
    https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานพบมะเร็งกลับมาปะทุหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000090347
    ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY
    https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/WBMQJxa?utm_source=lineshare
    ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway
    https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk
    ✍️ มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512
    ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน โดย หมอดื้อ
    (ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต )
    (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749
    (ตอนที่ 2) https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2797034
    (ตอนที่ 3) https://mgronline.com/daily/detail/9670000057723
    ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/
    ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2771028?fbclid=IwAR1pkyxDX_jFkVEQbzXjfGtceZzJ2mJE03F3MQRJnzU38cqYXvISepZSd_Q_aem_AZrEdPuBNjgPV7MJ4YsCNlQdS6JfmK9SPSAsH1-_vYAWA1vdDg2EVOLz8hIq-Nevma4
    ตอนที่ 2 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2772908?fbclid=IwAR13RoEjgxf3CrrgF51ohoVxNhLK3yURY7dpOLy13mzqW9ol2A4-PYBZ-RA_aem_AZoGDrOXN2rMfSOoqsup5ND7MgibhvqyTau7W7IHunslXHmzdppoFuhBkbdhlBadsdI
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653
    ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767
    ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435
    ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง”
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178
    ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://thaitimes.co/posts/14521
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid02XMZdF6acF3Z7EV1GgbYnJDACMe27eGRq2afjnUVLtNGcPqndkQZYrD51D9jAqJ3Pl/?
    ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674
    ✍️งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร
    https://youtu.be/S32-hkJBJKA
    ✍️วัคซีน HPV และ วัคซีนในเด็กควรฉีดไหม โดยคุณหมอ เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1173
    ✍️วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1112
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยหลักฐานสำคัญ ควรหยุดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นได้แล้ว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000061963
    ✍️ทำไมคนไทย ”ตายมากขึ้นผิดปกติ“ หลังปีที่ฉีดวัคซีน และมากกว่าช่วงโควิดปี 2564?
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000073098#lznh19i1h5g4estdokj
    ✍️หมอธีระวัฒน์” เผยไข้หวัดนกชนิดแรงระบาดในสหรัฐฯ พร้อมพบการเปลี่ยนพันธุกรรม WHO สั่งเตรียมวัคซีนหลายร้อยล้านโดส
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000075983
    ✍️ยาฆ่าพยาธิ ฤทธิ์ต้านไวรัส และร่วมต้านมะเร็ง และร่วมรักษาพาร์กินสัน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000074387
    ✍️สมองเสื่อมและตัวแปรที่น่ากลัว / นายแพทย์ภาสิน เหมะจุฑา MBBS(UK)วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญประสาทวิทยา
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078581
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยชาวแคนาดารวมกลุ่มฟ้องรัฐบาลแล้ว หลังวัคซีนส่งผลกระทบรุนแรง 3 ใน 1 หมื่นราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000080993
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยผลศึกษา วัคซีนไม่ช่วยป้องกันการเกิดลองโควิด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082608
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงาน “หัวน้ำนม” ป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085233
    ✍️คอรัปชั่นในวงการแพทย์หรือไม่? / อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/scS2cbEX9nQ?si=RP5gqQranGVPyXkY
    ✍️กราฟีนออกไซด์ / อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/Lq3EFdNxKvE?si=Jy-Io5EwXedrB5RY
    ✍️วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกาย & ใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW
    ✍️เปิดข้อมูลความจริง ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตราย จากพิษของวัคซีน | ปากซอย105 สัมภาษณ์ หมอดื้อ
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=skv5OJVtk7-b5HWW
    ✍️ อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​
    https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/
    แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc
    ✍️การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    รวมหลักฐานการลดประชากรโลก
    https://www.rookon.com/?p=936
    ✍️วันที่ 23 ก.ย. 2567 ส่งจดหมาย ❗คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk
    ✍️แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากกมาย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000089378
    ✍️ไลฟ์สดเรื่อง CDS โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/watch?v=HOW9VLeS-7g
    CDS ปลอดภัยไหม
    https://www.youtube.com/watch?v=VabfaTTsK6o
    https://fb.watch/uPOe7rQYRN/?
    หมอบอกว่ากิน CDS แล้วตาย... จริงหรือ?
    https://www.youtube.com/live/wAaEXilj4qg?si=p8CD7sqmnlC6L3u8
    https://www.facebook.com/share/v/pkhiVpNEraX7irMi/
    ✍️ วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ตอนที่ 1 https://mgronline.com/qol/detail/9670000048189 ตอนที่ 2 https://mgronline.com/qol/detail/9670000049444 ตอนที่ 3 https://mgronline.com/qol/detail/9670000051574 ✍️วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานพบมะเร็งกลับมาปะทุหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA https://mgronline.com/qol/detail/9670000090347 ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/WBMQJxa?utm_source=lineshare ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk ✍️ มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512 ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน โดย หมอดื้อ (ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ) (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749 (ตอนที่ 2) https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2797034 (ตอนที่ 3) https://mgronline.com/daily/detail/9670000057723 ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/ ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2771028?fbclid=IwAR1pkyxDX_jFkVEQbzXjfGtceZzJ2mJE03F3MQRJnzU38cqYXvISepZSd_Q_aem_AZrEdPuBNjgPV7MJ4YsCNlQdS6JfmK9SPSAsH1-_vYAWA1vdDg2EVOLz8hIq-Nevma4 ตอนที่ 2 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2772908?fbclid=IwAR13RoEjgxf3CrrgF51ohoVxNhLK3yURY7dpOLy13mzqW9ol2A4-PYBZ-RA_aem_AZoGDrOXN2rMfSOoqsup5ND7MgibhvqyTau7W7IHunslXHmzdppoFuhBkbdhlBadsdI ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653 ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767 ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435 ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง” https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178 ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://thaitimes.co/posts/14521 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid02XMZdF6acF3Z7EV1GgbYnJDACMe27eGRq2afjnUVLtNGcPqndkQZYrD51D9jAqJ3Pl/? ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674 ✍️งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร https://youtu.be/S32-hkJBJKA ✍️วัคซีน HPV และ วัคซีนในเด็กควรฉีดไหม โดยคุณหมอ เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1173 ✍️วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1112 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยหลักฐานสำคัญ ควรหยุดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นได้แล้ว https://mgronline.com/qol/detail/9670000061963 ✍️ทำไมคนไทย ”ตายมากขึ้นผิดปกติ“ หลังปีที่ฉีดวัคซีน และมากกว่าช่วงโควิดปี 2564? https://mgronline.com/daily/detail/9670000073098#lznh19i1h5g4estdokj ✍️หมอธีระวัฒน์” เผยไข้หวัดนกชนิดแรงระบาดในสหรัฐฯ พร้อมพบการเปลี่ยนพันธุกรรม WHO สั่งเตรียมวัคซีนหลายร้อยล้านโดส https://mgronline.com/qol/detail/9670000075983 ✍️ยาฆ่าพยาธิ ฤทธิ์ต้านไวรัส และร่วมต้านมะเร็ง และร่วมรักษาพาร์กินสัน https://mgronline.com/qol/detail/9670000074387 ✍️สมองเสื่อมและตัวแปรที่น่ากลัว / นายแพทย์ภาสิน เหมะจุฑา MBBS(UK)วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญประสาทวิทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000078581 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยชาวแคนาดารวมกลุ่มฟ้องรัฐบาลแล้ว หลังวัคซีนส่งผลกระทบรุนแรง 3 ใน 1 หมื่นราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000080993 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม? https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยผลศึกษา วัคซีนไม่ช่วยป้องกันการเกิดลองโควิด https://mgronline.com/qol/detail/9670000082608 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงาน “หัวน้ำนม” ป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000085233 ✍️คอรัปชั่นในวงการแพทย์หรือไม่? / อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/scS2cbEX9nQ?si=RP5gqQranGVPyXkY ✍️กราฟีนออกไซด์ / อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/Lq3EFdNxKvE?si=Jy-Io5EwXedrB5RY ✍️วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกาย & ใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW ✍️เปิดข้อมูลความจริง ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตราย จากพิษของวัคซีน | ปากซอย105 สัมภาษณ์ หมอดื้อ https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=skv5OJVtk7-b5HWW ✍️ อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​ https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc ✍️การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv รวมหลักฐานการลดประชากรโลก https://www.rookon.com/?p=936 ✍️วันที่ 23 ก.ย. 2567 ส่งจดหมาย ❗คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk ✍️แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากกมาย https://mgronline.com/qol/detail/9670000089378 ✍️ไลฟ์สดเรื่อง CDS โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=HOW9VLeS-7g CDS ปลอดภัยไหม https://www.youtube.com/watch?v=VabfaTTsK6o https://fb.watch/uPOe7rQYRN/? หมอบอกว่ากิน CDS แล้วตาย... จริงหรือ? https://www.youtube.com/live/wAaEXilj4qg?si=p8CD7sqmnlC6L3u8 https://www.facebook.com/share/v/pkhiVpNEraX7irMi/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1085 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทนายไพศาลแถลงด่วน
    ธ.ใหญ่เอาบัญชีลูกค้าเกรดเอตีเนียนประกบ บ.เกรดC ที่ตัวเองถือหุ้น พอNPL บ.ลูกค้าเกรดเอติดปูโล
    ช่วงเย็นวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19.00 น.โดยประมาณ
    ทนายชื่อดัง ได้เชิญสื่อมวลชนแถลงข่าวสำคัญระดับประเทศ
    โดยเรียกร้องให้แบงค์ชาติตรวจสอบธนาคารใหญ่ ที่เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ
    ..จากที่มีประชาชนเข้าร้องเรียน ว่าธนาคารใหญ่ได้นำเอกสารของลูกค้าเกรดเอ ทำเอกสารเท็จมอบอำนาจประกบกับบริษัทเครดิตเกรดซี โดยพบว่าบริษัทเกรดซีเหล่านั้น ล้วนมีธ.ใหญ่เป็นผู้ถือหุ้น โดยปล่อยกู้จำนวนหลักร้อยหลักพันล้าน โดยที่บริษัทเกรดเอไม่ทราบข้อมูลใดๆ
    ..ฉากสุดท้าย บริษัทเกรดซีที่ธ.ใหญ่ถือหุ้นไม่ชำระหนี้ จึงเป็น SE (หนี้ค้างชำระ) หรือ NPL (หนี้เสีย) หรือ จากการที่ในระบบธนาคารมีการเรียกเก็บเงินจากบัญชีลูกค้าเกรดเอในบัญชีที่จำนวนเงินไม่เพียงพอต่อการเรียกเก็บในธุรกรรมอำพรางดังกล่าว ก็ส่งผลกระทบให้ลูกค้าธ.ที่เป็นเกรดเอที่ถูกแอบอ้างได้รับผลกระทบติดเครดิตปูโล ซึ่งลูกค้าเกรดเอที่ถูก ธ.ใหญ่กระทำการล้วนมีทรัยพ์สินหลักร้อยล้านพันล้าน ก็ยังได้รับความเสียหายจากการกระทำของธนาคารโดยมิชอบ
    ..โดยทนายไพศาล พูดเสี่ยงสั่นเคลือว่า ตนส่งจดหมายเชิญสื่อ ตอนแรกก็ยังไม่มั่นใจว่า จะมีสื่อใดที่มีความกล้าที่จะถ่ายทอดความจริง แต่วันนี้มีนักข่าวหลายช่องที่กล้ามารับฟังการแถลง
    ..เนื่องจากธนาคารดังกล่าว เป็นผู้สนับสนุนทั้งทางตรง และทางอ้อมกับธุรกิจที่ซัพพอตสื่อ จึงถือว่ามีอิทธิพลกับสื่ออย่างยิ่ง
    และขอขอบคุณสื่อที่ได้เข้ามารับรู้เรื่องสำคัญในวันนี้ พร้อมย้ำว่ามีผู้เสียหายจำนวนหลายรายที่ถึงกับนั่งร้องไห้กับเครดิตที่เสียไป สำหรับตนมองว่าขนาดคนรวย ระดับร้อยล้านพันล้าน ธ.ยักษ์ใหญ่ยังกล้าที่จะกระทำการโดยมิชอบ แล้วประชาชนที่เป็นลูกค้าตัวเล็กๆ จะพ้นจากพฤติกรรมอำพรางดังกล่าวได้อย่างไร และจะรอดูว่า สื่อที่มาทำข่าววันนี้นั้น จะมีช่องใดกล้านำเสนอเรื่องนี้ ซึ่งเพจคิงส์โพธิ์แดงก็จะเกาะติดความคืบหน้าของเรื่องนี้เช่นกัน เพราะเป็นผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม และทนายไพศาล ยังประเมินจากข้อมูลที่มีว่า ธนาคารนี้ น่าจะเป็นขบวนการ "ฟ อ ก เ งิ น" เรียกร้องให้แบ็งค์ชาติสอบสวนเป็นการด่วน
    #คิงส์โพธิ์แดง รายงาน
    #ทนายไพศาลแถลงด่วน ธ.ใหญ่เอาบัญชีลูกค้าเกรดเอตีเนียนประกบ บ.เกรดC ที่ตัวเองถือหุ้น พอNPL บ.ลูกค้าเกรดเอติดปูโล ช่วงเย็นวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19.00 น.โดยประมาณ ทนายชื่อดัง ได้เชิญสื่อมวลชนแถลงข่าวสำคัญระดับประเทศ โดยเรียกร้องให้แบงค์ชาติตรวจสอบธนาคารใหญ่ ที่เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ ..จากที่มีประชาชนเข้าร้องเรียน ว่าธนาคารใหญ่ได้นำเอกสารของลูกค้าเกรดเอ ทำเอกสารเท็จมอบอำนาจประกบกับบริษัทเครดิตเกรดซี โดยพบว่าบริษัทเกรดซีเหล่านั้น ล้วนมีธ.ใหญ่เป็นผู้ถือหุ้น โดยปล่อยกู้จำนวนหลักร้อยหลักพันล้าน โดยที่บริษัทเกรดเอไม่ทราบข้อมูลใดๆ ..ฉากสุดท้าย บริษัทเกรดซีที่ธ.ใหญ่ถือหุ้นไม่ชำระหนี้ จึงเป็น SE (หนี้ค้างชำระ) หรือ NPL (หนี้เสีย) หรือ จากการที่ในระบบธนาคารมีการเรียกเก็บเงินจากบัญชีลูกค้าเกรดเอในบัญชีที่จำนวนเงินไม่เพียงพอต่อการเรียกเก็บในธุรกรรมอำพรางดังกล่าว ก็ส่งผลกระทบให้ลูกค้าธ.ที่เป็นเกรดเอที่ถูกแอบอ้างได้รับผลกระทบติดเครดิตปูโล ซึ่งลูกค้าเกรดเอที่ถูก ธ.ใหญ่กระทำการล้วนมีทรัยพ์สินหลักร้อยล้านพันล้าน ก็ยังได้รับความเสียหายจากการกระทำของธนาคารโดยมิชอบ ..โดยทนายไพศาล พูดเสี่ยงสั่นเคลือว่า ตนส่งจดหมายเชิญสื่อ ตอนแรกก็ยังไม่มั่นใจว่า จะมีสื่อใดที่มีความกล้าที่จะถ่ายทอดความจริง แต่วันนี้มีนักข่าวหลายช่องที่กล้ามารับฟังการแถลง ..เนื่องจากธนาคารดังกล่าว เป็นผู้สนับสนุนทั้งทางตรง และทางอ้อมกับธุรกิจที่ซัพพอตสื่อ จึงถือว่ามีอิทธิพลกับสื่ออย่างยิ่ง และขอขอบคุณสื่อที่ได้เข้ามารับรู้เรื่องสำคัญในวันนี้ พร้อมย้ำว่ามีผู้เสียหายจำนวนหลายรายที่ถึงกับนั่งร้องไห้กับเครดิตที่เสียไป สำหรับตนมองว่าขนาดคนรวย ระดับร้อยล้านพันล้าน ธ.ยักษ์ใหญ่ยังกล้าที่จะกระทำการโดยมิชอบ แล้วประชาชนที่เป็นลูกค้าตัวเล็กๆ จะพ้นจากพฤติกรรมอำพรางดังกล่าวได้อย่างไร และจะรอดูว่า สื่อที่มาทำข่าววันนี้นั้น จะมีช่องใดกล้านำเสนอเรื่องนี้ ซึ่งเพจคิงส์โพธิ์แดงก็จะเกาะติดความคืบหน้าของเรื่องนี้เช่นกัน เพราะเป็นผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม และทนายไพศาล ยังประเมินจากข้อมูลที่มีว่า ธนาคารนี้ น่าจะเป็นขบวนการ "ฟ อ ก เ งิ น" เรียกร้องให้แบ็งค์ชาติสอบสวนเป็นการด่วน #คิงส์โพธิ์แดง รายงาน
    Yay
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
  • Update : วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ดาราหนุ่มชื่อดัง “หนุ่ม สุรวุฑ” ก็ได้โพสต์คลิปใน Tiktok ของตัวเอง โดยบอกว่า

    “วันนี้พี่เปิ้ลได้มีการชำระค่าตอนที่เหลือมาให้ผมเรียบร้อยแล้ว ครบทุกบาททุกสตางค์ ขอบคุณพี่เปิ้ลด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ที่สำคัญขอบคุณทุกการสนับสนุนขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่นำเสนอข่าว”

    ข่าวเก่า : เปิ้ล หัทยา ยอมรับเป็นผู้จัดที่หนุ่ม สุรวุฑ เอ่ยถึง เผยสาเหตุทำไมค่าตัวนักแสดงได้ไม่ครบทุกคน ยืนยันกำลังแก้ปัญหาและจะจ่ายให้ทุกคน

    26 กรกฎาคม 2567-รายงานข่าวสด ระบุว่า ไม่ต้องเดากันแล้วว่า ผู้จัดที่นักแสดงรุ่นใหญ่ หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน ออกมาแฉว่าละครจบแล้ว ยังไม่จ่ายค่าตัวงวดสุดท้ายเป็นใคร เพราะล่าสุด ข่าวสดบันเทิง ได้ต่อสายตรงถึง เปิ้ล หัทยา ที่เข้ามารับช่วงทำงานละครต่อจากสามี ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ที่เสียชีวิตไป ในละครเรื่อง ปาฏิหาริย์กาลเวลา

    โดยเปิ้ล ได้ยอมรับว่า “ผู้จัดที่หนุ่มพูดถึงเป็นพี่เปิ้ลเอง แต่หนุ่มเขาไม่ได้เอ่ยชื่อ ต้องเล่าก่อนว่า ตัวพี่เองได้เข้ามาช่วยดูละครเรื่อง ปาฏิหาริย์กาลเวลา ในตอนท้ายๆ หลังจากที่พี่ตั้วเสียชีวิต ทำให้ตัวพี่เองรู้ข้อมูลน้อยมาก ไม่รู้ว่าตอนนี้มีนักแสดงคนไหนได้เงินยังไม่ครบ หรือว่าได้ครบแล้ว

    ด้วยว่าตอนนั้นที่พี่เข้ามาเราก็เจอปัญหาเยอะ มีการหยุดถ่ายไปเพราะพี่ตั้วป่วย และก็เสียชีวิต พอเริ่มกลับมาถ่ายก็มีเรื่องของ โควิด ส่วนใหญ่พี่จะดูเรื่องของละคร ไม่ค่อยได้รู้เรื่องของข้อมูลของระบบ หรือค่าตัวนักแสดง

    ซึ่งก่อนหน้านี้หนุ่มก็มีคุยกับพี่ เราก็บอกว่าเรากำลังพยายามจัดการอยู่ แต่ที่เขาออกมาพูดแบบนี้คิดว่าหนุ่มคงเดือดร้อนจริงๆ เรื่องค่าตัวนักแสดงยืนยันว่าเราพยายามจะเคลียร์ให้ครบทุกคน และทางบริษัทก็ดำเนินการอยู่ คิดว่าน่าจะเคลียร์ให้ได้เร็วๆ นี้ ค่อยๆ จ่าย ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าค่าตัวใครยังค้างอยู่ เพราะอย่างที่บอกว่าพี่เปิ้ลเข้ามาดูในตอนหลังเลยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่

    เพราะช่วงนั้นตัวพี่เองก็มีงานเยอะ ดูแลเรื่องงานคอนเสิร์ตด้วย พอเข้าไปดูเรื่องงานละคร ตอนนั้นเราก็ปัญหาเยอะ ที่ผ่านมาเราก็พยายามแก้ปัญหากันให้ได้เร็วที่สุด”

    หลังจากที่เป็นข่าวได้คุยกับ หนุ่ม สุรวุฑ ไหม? “คุย เขายังต่อว่าพี่เลย พี่ก็ตอบเขาได้เหมือนเดิมว่าเราพยายามรีบจัดการให้ เดี๋ยวพี่หาตรงไหนได้ จะเอามาจัดการให้ ซึ่งค่าตัวของหนุ่มที่ค้างจ่ายอยู่เหลือแค่งวดสุดท้ายประมาณ 3 แสนกว่าบาท กับพี่หนุ่มเราคุยกันหลายรอบ แล้วเศรษฐกิจช่วงนี้ด้วย แต่ยืนยันว่าจะพยายามหามาให้ได้เร็วๆ”

    ที่มา https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_777777856112#lz2m1vv78ws808noped

    #Thaitimes
    Update : วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ดาราหนุ่มชื่อดัง “หนุ่ม สุรวุฑ” ก็ได้โพสต์คลิปใน Tiktok ของตัวเอง โดยบอกว่า “วันนี้พี่เปิ้ลได้มีการชำระค่าตอนที่เหลือมาให้ผมเรียบร้อยแล้ว ครบทุกบาททุกสตางค์ ขอบคุณพี่เปิ้ลด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ที่สำคัญขอบคุณทุกการสนับสนุนขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่นำเสนอข่าว” ข่าวเก่า : เปิ้ล หัทยา ยอมรับเป็นผู้จัดที่หนุ่ม สุรวุฑ เอ่ยถึง เผยสาเหตุทำไมค่าตัวนักแสดงได้ไม่ครบทุกคน ยืนยันกำลังแก้ปัญหาและจะจ่ายให้ทุกคน 26 กรกฎาคม 2567-รายงานข่าวสด ระบุว่า ไม่ต้องเดากันแล้วว่า ผู้จัดที่นักแสดงรุ่นใหญ่ หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน ออกมาแฉว่าละครจบแล้ว ยังไม่จ่ายค่าตัวงวดสุดท้ายเป็นใคร เพราะล่าสุด ข่าวสดบันเทิง ได้ต่อสายตรงถึง เปิ้ล หัทยา ที่เข้ามารับช่วงทำงานละครต่อจากสามี ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ที่เสียชีวิตไป ในละครเรื่อง ปาฏิหาริย์กาลเวลา โดยเปิ้ล ได้ยอมรับว่า “ผู้จัดที่หนุ่มพูดถึงเป็นพี่เปิ้ลเอง แต่หนุ่มเขาไม่ได้เอ่ยชื่อ ต้องเล่าก่อนว่า ตัวพี่เองได้เข้ามาช่วยดูละครเรื่อง ปาฏิหาริย์กาลเวลา ในตอนท้ายๆ หลังจากที่พี่ตั้วเสียชีวิต ทำให้ตัวพี่เองรู้ข้อมูลน้อยมาก ไม่รู้ว่าตอนนี้มีนักแสดงคนไหนได้เงินยังไม่ครบ หรือว่าได้ครบแล้ว ด้วยว่าตอนนั้นที่พี่เข้ามาเราก็เจอปัญหาเยอะ มีการหยุดถ่ายไปเพราะพี่ตั้วป่วย และก็เสียชีวิต พอเริ่มกลับมาถ่ายก็มีเรื่องของ โควิด ส่วนใหญ่พี่จะดูเรื่องของละคร ไม่ค่อยได้รู้เรื่องของข้อมูลของระบบ หรือค่าตัวนักแสดง ซึ่งก่อนหน้านี้หนุ่มก็มีคุยกับพี่ เราก็บอกว่าเรากำลังพยายามจัดการอยู่ แต่ที่เขาออกมาพูดแบบนี้คิดว่าหนุ่มคงเดือดร้อนจริงๆ เรื่องค่าตัวนักแสดงยืนยันว่าเราพยายามจะเคลียร์ให้ครบทุกคน และทางบริษัทก็ดำเนินการอยู่ คิดว่าน่าจะเคลียร์ให้ได้เร็วๆ นี้ ค่อยๆ จ่าย ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าค่าตัวใครยังค้างอยู่ เพราะอย่างที่บอกว่าพี่เปิ้ลเข้ามาดูในตอนหลังเลยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เพราะช่วงนั้นตัวพี่เองก็มีงานเยอะ ดูแลเรื่องงานคอนเสิร์ตด้วย พอเข้าไปดูเรื่องงานละคร ตอนนั้นเราก็ปัญหาเยอะ ที่ผ่านมาเราก็พยายามแก้ปัญหากันให้ได้เร็วที่สุด” หลังจากที่เป็นข่าวได้คุยกับ หนุ่ม สุรวุฑ ไหม? “คุย เขายังต่อว่าพี่เลย พี่ก็ตอบเขาได้เหมือนเดิมว่าเราพยายามรีบจัดการให้ เดี๋ยวพี่หาตรงไหนได้ จะเอามาจัดการให้ ซึ่งค่าตัวของหนุ่มที่ค้างจ่ายอยู่เหลือแค่งวดสุดท้ายประมาณ 3 แสนกว่าบาท กับพี่หนุ่มเราคุยกันหลายรอบ แล้วเศรษฐกิจช่วงนี้ด้วย แต่ยืนยันว่าจะพยายามหามาให้ได้เร็วๆ” ที่มา https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_777777856112#lz2m1vv78ws808noped #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 656 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แอร์เอเชียต้องการคำตอบและค่าชดเชย”

    เหตุการณ์ Microsoft outage ที่บริษัทเอกชนและภาคธุรกิจสำคัญ อาทิ สายการบิน ธนาคาร สื่อมวลชน และโรงพยาบาลในหลายประเทศ ได้รับผลกระทบจากปัญหาไอทีขัดข้องทั่วโลก จากระบบปฎิบัติการ Windows ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบของ CrowdStrike บริษัทเทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ (19 ก.ค.) ที่ผ่านมา

    แม้ปัญหาดังกล่าวจะได้รับการคลี่คลาย แต่ภาคธุรกิจและสังคมยังคงตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงความรับผิดชอบจาก Microsoft และ CrowdStrike สองบริษัทด้านไอทีของสหรัฐอเมริกา

    หนึ่งในนั้นคือ โทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแคปิตอล เอ ผู้ก่อตั้งสายการบินแอร์เอเชีย ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย โพสต์ข้อความผ่าน Linkedin ระบุว่า เป็นเรื่องดีที่ CrowdStrike ขอโทษ แต่จะรอฟังจาก Microsoft ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำให้สายการบินสูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

    แต่ที่สำคัญกว่านั้น ความล้มเหลวของระบบได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมายในชีวิตของผู้คนอย่างไร

    "บริษัทเทคโนโลยีไม่ค่อยมีความเห็นอกเห็นใจ สิ่งที่เราเจอในช่วงโควิด-19 พวกเขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ตอนนี้พวกเขามีปัญหาที่พวกเขาคาดหวังให้เราทุกคนเข้าใจ ฉันจะไม่ทำแบบนั้น สายการบินต้องการคำตอบและค่าชดเชย แต่สิ่งสำคัญคือ เราจะเรียนรู้และเติบโตจากสิ่งนี้" โทนี่ ระบุ

    แอร์เอเชียเป็นหนึ่งในสายการบินทั่วโลกที่ประสบปัญหาเหตุขัดข้องด้านไอที ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานทุกสนามบิน หนึ่งในนั้นคืออาคารผู้โดยสาร 2 (KLIA2) ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สายการบินต้องใช้ระบบแมนวล (Manual) ในการบริหารจัดการทั้งหมด ตั้งแต่การเช็กอิน การพิมพ์บัตรโดยสาร และโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง

    โทนี่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นึกถึงเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ทุกอย่างทำด้วยระบบแมนวล แต่ก็ภูมิใจที่ทำให้การยกเลิกเที่ยวบินลดเหลือน้อยที่สุด เนื่องจากความคล่องตัวในการเปลี่ยนไปใช้ระบบแมนวล แม้ว่าการให้บริการจะมีความล่าช้าไปบ้าง แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำพาผู้โดยสารทุกคนไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยที่สุด

    อนึ่ง สายการบินแอร์เอเชียกลับมาใช้ระบบออนไลน์ในการปฎิบัติงาน รวมทั้งการเช็กอินออนไลน์แก่ผู้โดยสาร ตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ (20 ก.ค.) ที่ผ่านมา

    #Newskit #AirAsia #TonyFernandes
    “แอร์เอเชียต้องการคำตอบและค่าชดเชย” เหตุการณ์ Microsoft outage ที่บริษัทเอกชนและภาคธุรกิจสำคัญ อาทิ สายการบิน ธนาคาร สื่อมวลชน และโรงพยาบาลในหลายประเทศ ได้รับผลกระทบจากปัญหาไอทีขัดข้องทั่วโลก จากระบบปฎิบัติการ Windows ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบของ CrowdStrike บริษัทเทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ (19 ก.ค.) ที่ผ่านมา แม้ปัญหาดังกล่าวจะได้รับการคลี่คลาย แต่ภาคธุรกิจและสังคมยังคงตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงความรับผิดชอบจาก Microsoft และ CrowdStrike สองบริษัทด้านไอทีของสหรัฐอเมริกา หนึ่งในนั้นคือ โทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแคปิตอล เอ ผู้ก่อตั้งสายการบินแอร์เอเชีย ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย โพสต์ข้อความผ่าน Linkedin ระบุว่า เป็นเรื่องดีที่ CrowdStrike ขอโทษ แต่จะรอฟังจาก Microsoft ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำให้สายการบินสูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ที่สำคัญกว่านั้น ความล้มเหลวของระบบได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมายในชีวิตของผู้คนอย่างไร "บริษัทเทคโนโลยีไม่ค่อยมีความเห็นอกเห็นใจ สิ่งที่เราเจอในช่วงโควิด-19 พวกเขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ตอนนี้พวกเขามีปัญหาที่พวกเขาคาดหวังให้เราทุกคนเข้าใจ ฉันจะไม่ทำแบบนั้น สายการบินต้องการคำตอบและค่าชดเชย แต่สิ่งสำคัญคือ เราจะเรียนรู้และเติบโตจากสิ่งนี้" โทนี่ ระบุ แอร์เอเชียเป็นหนึ่งในสายการบินทั่วโลกที่ประสบปัญหาเหตุขัดข้องด้านไอที ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานทุกสนามบิน หนึ่งในนั้นคืออาคารผู้โดยสาร 2 (KLIA2) ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สายการบินต้องใช้ระบบแมนวล (Manual) ในการบริหารจัดการทั้งหมด ตั้งแต่การเช็กอิน การพิมพ์บัตรโดยสาร และโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง โทนี่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นึกถึงเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ทุกอย่างทำด้วยระบบแมนวล แต่ก็ภูมิใจที่ทำให้การยกเลิกเที่ยวบินลดเหลือน้อยที่สุด เนื่องจากความคล่องตัวในการเปลี่ยนไปใช้ระบบแมนวล แม้ว่าการให้บริการจะมีความล่าช้าไปบ้าง แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำพาผู้โดยสารทุกคนไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยที่สุด อนึ่ง สายการบินแอร์เอเชียกลับมาใช้ระบบออนไลน์ในการปฎิบัติงาน รวมทั้งการเช็กอินออนไลน์แก่ผู้โดยสาร ตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ (20 ก.ค.) ที่ผ่านมา #Newskit #AirAsia #TonyFernandes
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 609 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนที่จะสนับสนุนใคร เชียร์ใคร ต้องดูร่องรอยดูประวัติของคนๆนั้นด้วย เพราะถ้าดูไม่ดีก็จะเจออินฟลูเอนเซอร์จอมปลอม สร้างภาพเพื่อทำมาหากิน รวมถึงสื่อมวลชนบางเจ้าที่ปั้นอินฟลูฯ เหล่านี้ โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ

    พรุ่งนี้สนธิ เล่าให้ฟัง 9.00 น.

    #สนธิ #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้ม #Sondhi #Sondhitalk #ต้นอ้อเป็นหนึ่ง #ต้นอ้อชลิดา #ซื้อขายตำแหน่ง #อีอ้อปากจัด
    ก่อนที่จะสนับสนุนใคร เชียร์ใคร ต้องดูร่องรอยดูประวัติของคนๆนั้นด้วย เพราะถ้าดูไม่ดีก็จะเจออินฟลูเอนเซอร์จอมปลอม สร้างภาพเพื่อทำมาหากิน รวมถึงสื่อมวลชนบางเจ้าที่ปั้นอินฟลูฯ เหล่านี้ โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ พรุ่งนี้สนธิ เล่าให้ฟัง 9.00 น. #สนธิ #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้ม #Sondhi #Sondhitalk #ต้นอ้อเป็นหนึ่ง #ต้นอ้อชลิดา #ซื้อขายตำแหน่ง #อีอ้อปากจัด
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    Wow
    17
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7952 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ตั้งคำถามถึงสิ่งที่เอลไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้เห็น'
    สมาคมสื่อมวลชนต่างประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของสื่อระหว่างประเทศที่ทำงานในเอลและปาเลส กล่าวว่ารู้สึกตกใจและผิดหวังที่เอลยังคงห้ามนักข่าวแม้จะผ่านการรุกรานมาเป็นเวลาเก้าเดือนแล้ว
    “ไม่เคยมีมาก่อนที่เอลจะบังคับใช้การปิดกั้นข้อมูลอย่างยาวนานและเข้มงวดเช่นนี้ เอลปฏิเสธคำร้องของเราหลายครั้งในการเข้าถึงข้อมูล ต่อสู้กับเราในศาลเพื่อยืนยันการห้ามที่เข้มงวดนี้” เอลระบุในแถลงการณ์
    สมาคมดังกล่าวกล่าวว่านักข่าวท้องถิ่นในกาซายังคงเผชิญกับภัยคุกคามและข้อจำกัดการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "ขณะที่พวกเขาพยายามรายงานเรื่องราวนี้อย่างกล้าหาญ"
    กลุ่มดังกล่าวกล่าวว่า “เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามถึงสิ่งที่เอลไม่ต้องการให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้เห็น” และย้ำถึงข้อเรียกร้องที่เรียกร้องให้ทางการเอลอนุญาตให้เข้าถึงกาซาได้อย่างอิสระและไร้ข้อจำกัด
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #การตั้งคำถาม #ความกล้าหาญ
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    'ตั้งคำถามถึงสิ่งที่เอลไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้เห็น' สมาคมสื่อมวลชนต่างประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของสื่อระหว่างประเทศที่ทำงานในเอลและปาเลส กล่าวว่ารู้สึกตกใจและผิดหวังที่เอลยังคงห้ามนักข่าวแม้จะผ่านการรุกรานมาเป็นเวลาเก้าเดือนแล้ว “ไม่เคยมีมาก่อนที่เอลจะบังคับใช้การปิดกั้นข้อมูลอย่างยาวนานและเข้มงวดเช่นนี้ เอลปฏิเสธคำร้องของเราหลายครั้งในการเข้าถึงข้อมูล ต่อสู้กับเราในศาลเพื่อยืนยันการห้ามที่เข้มงวดนี้” เอลระบุในแถลงการณ์ สมาคมดังกล่าวกล่าวว่านักข่าวท้องถิ่นในกาซายังคงเผชิญกับภัยคุกคามและข้อจำกัดการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "ขณะที่พวกเขาพยายามรายงานเรื่องราวนี้อย่างกล้าหาญ" กลุ่มดังกล่าวกล่าวว่า “เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามถึงสิ่งที่เอลไม่ต้องการให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้เห็น” และย้ำถึงข้อเรียกร้องที่เรียกร้องให้ทางการเอลอนุญาตให้เข้าถึงกาซาได้อย่างอิสระและไร้ข้อจำกัด . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #การตั้งคำถาม #ความกล้าหาญ #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนโจ๊กกล่อม เดินลงเหว
    มีรายงานว่า มินนี่ เจ้าแม่เว็บออนไลน์ เมียน้อยหมายเลข 3 โจ๊ก
    ที่ขณะนี้ เป็น ผตห คดีย์พัวพันเครือข่ายเงินเทาที่เข้ากระเป๋าโจ๊ก
    ที่สุรเชษฐ์ ดิ้นเหงือกดำจนถึงวันนี้ เพื่อให้ตนพ้นผิด
    มินนี่ ได้ทำการฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนระดับตำนาน ที่นำเสนอเรื่องราวของตน
    และเรียกตนว่า เจ้าแม่เว็บออนไลน์
    จากการกระทำดังกล่าว ทั้งสื่อและประชาชน ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกัน โดยตรงกับสำนวนที่ว่า
    แกว่งเท้าหาเสี้ยน ยิ่งเป็นการเร่งเวลาให้ทั้ง สุรเชษฐ์ และเมียน้อยดิ่งลงสู่ อสุจิ เอ้ยไม่ใช่ อเวจี
    #คิงส์โพธิ์แดง รายงาน
    โดนโจ๊กกล่อม เดินลงเหว มีรายงานว่า มินนี่ เจ้าแม่เว็บออนไลน์ เมียน้อยหมายเลข 3 โจ๊ก ที่ขณะนี้ เป็น ผตห คดีย์พัวพันเครือข่ายเงินเทาที่เข้ากระเป๋าโจ๊ก ที่สุรเชษฐ์ ดิ้นเหงือกดำจนถึงวันนี้ เพื่อให้ตนพ้นผิด มินนี่ ได้ทำการฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนระดับตำนาน ที่นำเสนอเรื่องราวของตน และเรียกตนว่า เจ้าแม่เว็บออนไลน์ จากการกระทำดังกล่าว ทั้งสื่อและประชาชน ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกัน โดยตรงกับสำนวนที่ว่า แกว่งเท้าหาเสี้ยน ยิ่งเป็นการเร่งเวลาให้ทั้ง สุรเชษฐ์ และเมียน้อยดิ่งลงสู่ อสุจิ เอ้ยไม่ใช่ อเวจี #คิงส์โพธิ์แดง รายงาน
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 569 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักข่าวกาซารู้มานานแล้วว่าเสื้อ 'สื่อ' ของพวกเขาไม่ได้ปกป้องพวกเขา
    การสืบสวนร่วมกันโดยนักข่าว 50 คนจากสำนักข่าว 13 แห่ง พบว่านักข่าวชาวปาเลสอย่างน้อย 14 คนสวมอุปกรณ์ป้องกันสื่อมวลชนเมื่อพวกเขาถูกดับชีพ ทำให้บาดเจ็บ หรือถูกกล่าวหาว่าเป็นเป้าหมายในกาซา
    “นักข่าวกาซาในปัจจุบันรู้มานานแล้วว่าเสื้อ 'สื่อ' ของพวกเขาไม่ได้ปกป้องพวกเขา” โลรองต์ ริชาร์ด จากองค์กรข่าว Forbidden Stories ซึ่งเป็นผู้นำการสืบสวนกล่าว
    รายงานพบว่านักข่าวและเจ้าหน้าที่สื่อมากกว่า 100 รายถูกดีบชีพในกาซา รวมถึง 40 รายที่ถูกสังหารขณะอยู่ที่บ้าน นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว
    “ในขณะที่เสื้อกั๊กสื่อควรจะระบุตัวตนและปกป้องเราตามกฎหมายระหว่างประเทศ … ตอนนี้มันเป็นภัยคุกคามสำหรับเรา” บาเซิล ไคร์ อัล-ดิน นักข่าวชาวปาเลสในกาซา ซึ่งเชื่อว่าเขาตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีด้วยโดรนของเอลขณะสวมชุดดังกล่าว
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    นักข่าวกาซารู้มานานแล้วว่าเสื้อ 'สื่อ' ของพวกเขาไม่ได้ปกป้องพวกเขา การสืบสวนร่วมกันโดยนักข่าว 50 คนจากสำนักข่าว 13 แห่ง พบว่านักข่าวชาวปาเลสอย่างน้อย 14 คนสวมอุปกรณ์ป้องกันสื่อมวลชนเมื่อพวกเขาถูกดับชีพ ทำให้บาดเจ็บ หรือถูกกล่าวหาว่าเป็นเป้าหมายในกาซา “นักข่าวกาซาในปัจจุบันรู้มานานแล้วว่าเสื้อ 'สื่อ' ของพวกเขาไม่ได้ปกป้องพวกเขา” โลรองต์ ริชาร์ด จากองค์กรข่าว Forbidden Stories ซึ่งเป็นผู้นำการสืบสวนกล่าว รายงานพบว่านักข่าวและเจ้าหน้าที่สื่อมากกว่า 100 รายถูกดีบชีพในกาซา รวมถึง 40 รายที่ถูกสังหารขณะอยู่ที่บ้าน นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว “ในขณะที่เสื้อกั๊กสื่อควรจะระบุตัวตนและปกป้องเราตามกฎหมายระหว่างประเทศ … ตอนนี้มันเป็นภัยคุกคามสำหรับเรา” บาเซิล ไคร์ อัล-ดิน นักข่าวชาวปาเลสในกาซา ซึ่งเชื่อว่าเขาตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีด้วยโดรนของเอลขณะสวมชุดดังกล่าว . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว