• สมัครสอบ อปท. 2568 ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การสอบแข่งขันเป็นข้าราชการท้องถิ่น

    📢 ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)! กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ 🖥️

    การสอบครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจทำงาน ในหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดังนั้นผู้สมัคร ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียด ให้ครบถ้วนก่อนทำการสมัคร ✍️

    🔎 คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ อปท. 2568
    การสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้ มีกฎเกณฑ์และคุณสมบัติ ที่ต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด มาดูกันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่

    ✅ คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร
    - มีสัญชาติไทย 🇹🇭
    - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่สมัครสอบ
    - ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 🏥
    - ไม่เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือถูกตัดสิทธิ์สอบราชการมาก่อน
    - ต้องจบการศึกษาภายในวันปิดรับสมัคร 28 มีนาคม 2568 🎓

    🚨 ข้อกำหนดพิเศษ
    - ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 10 ข้อจาก 20 ข้อ ✨
    - บัญชีรายชื่อผู้สอบผ่านมีอายุ 2 ปี และสามารถขยายได้ไม่เกิน 30 วัน

    📌 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    การสอบ อปท. 2568 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มภาค/เขต ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มภาค จะมีตำแหน่งที่เปิดรับแตกต่างกันไป

    🔸 กลุ่มภาคที่เปิดรับสมัคร
    ภาคเหนือ เขต 1 เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, และลำพูน
    ภาคเหนือ เขต 2 กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี
    ภาคกลาง เขต 1 ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง
    ภาคกลาง เขต 2 จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และสระแก้ว
    ภาคกลาง เขต 3 กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุดรธานี
    ภาคใต้ เขต 1 กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา , ภูเก็ต, ระนอง และสุราษฎร์ธานี
    ภาคใต้ เขต 2 ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล

    📋 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    🔹 ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปริญาญาตรี 4 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 16,560 บาท ปริญญาตรี 5 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 17,380 บาท

    🔹 ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ปวช. เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 บาท ปวท. เงินเดือนเริ่มต้น 11,960 บาท ปวส. เงินเดือนเริ่มต้น 12,730 บาท เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานทะเบียน เจ้าพนักงานการคลัง เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสุขาภิบาล สัตวแพทย์ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ นายช่างโยธา นายช่างเขียนแบบ นายช่างสำรวจ นายช่างผังเมือง นายช่างเครื่องกล นายช่างไฟฟ้า เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานเทศกิจ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ฯลฯ

    🔹 ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท เช่น นักจัดการงานทั่วไป นักทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักจัดการงานทะเบียนและบัตร นิคิกร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการคลัง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการตรวจสอบภายใน นักประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาการท่องเที่ยว นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสวนสาธารณะ นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม นายสัตวแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ สถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิทศวกรสุขาภิบาล นักจัดการงานช่าง นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการศึกษา นักพัฒนาชุมชน บรรณารักษ์ นักสันทนาการ นักพัฒนาการกีฬา นักจัดการงานเทศกิจ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ

    📖 รายละเอียดการสอบ อปท. 2568
    การสอบแข่งขัน จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก ได้แก่
    📝 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - ความสามารถด้านการวิเคราะห์ และสรุปเหตุผล 30 คะแนน
    - ความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และกฎหมายท้องถิ่น 30 คะแนน
    - ความสามารถด้านภาษาไทย 20 คะแนน
    - ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องผ่านอย่างน้อย 10 ข้อจาก 20 ข้อ!

    📚 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน
    -เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความรู้ ที่ใช้เฉพาะในตำแหน่งที่สมัคร

    🗣️ ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    เป็นการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความสามารถในการสื่อสาร

    📝 วิธีสมัครสอบ อปท. 2568
    🔹 สมัครผ่านทางออนไลน์ 📱 ที่เว็บไซต์:
    ➡️ https://dla-local2568.thaijobjob.com
    📅 เปิดรับสมัครตั้งแต่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง

    🗂️ เอกสารที่ต้องใช้สมัคร
    ✅ รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว 📸
    ✅ สำเนาบัตรประชาชน 🆔
    ✅ สำเนาทะเบียนบ้าน 🏠
    ✅ สำเนาวุฒิการศึกษา Transcript 🎓
    ✅ สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำหรับบางตำแหน่ง
    ✅ เอกสารทางทหาร สด.8 หรือ สด.9 🪖

    📌 อัปโหลดไฟล์ PDF เท่านั้น! ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB

    💰 ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ
    - ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท
    - ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการ 30 บาท
    📌 รวมทั้งสิ้น 430 บาท ไม่สามารถขอคืนเงินได้

    📍 ช่องทางชำระเงิน:
    - เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 🏦
    - แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง 📲
    - ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย
    🛑 ชำระเงินภายในวันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 เท่านั้น!

    📢 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    📆 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ก และ ข พร้อมวัน-เวลา-สถานที่สอบ ได้ที่
    📌 เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com

    🔑 เคล็ดลับเตรียมสอบ อปท. ให้สอบผ่าน!
    🔥 ศึกษาหลักสูตรการสอบ ให้ครบถ้วน
    📖 อ่านแนวข้อสอบ และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    🔥 ฝึกทำข้อสอบเก่า
    🔍 ฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านมา เพื่อจับแนวทางที่ออกบ่อย

    🔥 ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง
    ✅ ท่องศัพท์
    ✅ ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า
    ✅ อ่านบทความภาษาอังกฤษ

    🔥 จัดตารางอ่านหนังสือ
    🗓️ แบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง

    🔥 พักผ่อนให้เพียงพอ
    😴 นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนสอบ

    🔚 📍 การสอบ อปท. 2568 เป็นโอกาสดี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าพลาด! สมัครสอบได้ระหว่าง 7 - 28 มีนาคม 2568 ทางออนไลน์เท่านั้น 🚀

    📌 ติดตามข่าวสาร และอัปเดตข้อมูลการสอบได้ที่
    🔗 https://dla-local2568.thaijobjob.com

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 202022 ก.พ. 2568

    📢 #สอบอปท2568 #สมัครสอบราชการ #งานราชการ #สอบท้องถิ่น #เตรียมสอบอปท #DLA #สมัครสอบออนไลน์ #งานข้าราชการ #สอบราชการ2025 #สอบภาษาอังกฤษอปท
    สมัครสอบ อปท. 2568 ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การสอบแข่งขันเป็นข้าราชการท้องถิ่น 📢 ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)! กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ 🖥️ การสอบครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจทำงาน ในหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดังนั้นผู้สมัคร ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียด ให้ครบถ้วนก่อนทำการสมัคร ✍️ 🔎 คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ อปท. 2568 การสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้ มีกฎเกณฑ์และคุณสมบัติ ที่ต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด มาดูกันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ ✅ คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร - มีสัญชาติไทย 🇹🇭 - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่สมัครสอบ - ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 🏥 - ไม่เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือถูกตัดสิทธิ์สอบราชการมาก่อน - ต้องจบการศึกษาภายในวันปิดรับสมัคร 28 มีนาคม 2568 🎓 🚨 ข้อกำหนดพิเศษ - ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 10 ข้อจาก 20 ข้อ ✨ - บัญชีรายชื่อผู้สอบผ่านมีอายุ 2 ปี และสามารถขยายได้ไม่เกิน 30 วัน 📌 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร การสอบ อปท. 2568 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มภาค/เขต ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มภาค จะมีตำแหน่งที่เปิดรับแตกต่างกันไป 🔸 กลุ่มภาคที่เปิดรับสมัคร ภาคเหนือ เขต 1 เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, และลำพูน ภาคเหนือ เขต 2 กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี ภาคกลาง เขต 1 ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง ภาคกลาง เขต 2 จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และสระแก้ว ภาคกลาง เขต 3 กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุดรธานี ภาคใต้ เขต 1 กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา , ภูเก็ต, ระนอง และสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ เขต 2 ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล 📋 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร 🔹 ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปริญาญาตรี 4 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 16,560 บาท ปริญญาตรี 5 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 17,380 บาท 🔹 ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ปวช. เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 บาท ปวท. เงินเดือนเริ่มต้น 11,960 บาท ปวส. เงินเดือนเริ่มต้น 12,730 บาท เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานทะเบียน เจ้าพนักงานการคลัง เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสุขาภิบาล สัตวแพทย์ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ นายช่างโยธา นายช่างเขียนแบบ นายช่างสำรวจ นายช่างผังเมือง นายช่างเครื่องกล นายช่างไฟฟ้า เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานเทศกิจ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ฯลฯ 🔹 ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท เช่น นักจัดการงานทั่วไป นักทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักจัดการงานทะเบียนและบัตร นิคิกร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการคลัง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการตรวจสอบภายใน นักประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาการท่องเที่ยว นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสวนสาธารณะ นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม นายสัตวแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ สถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิทศวกรสุขาภิบาล นักจัดการงานช่าง นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการศึกษา นักพัฒนาชุมชน บรรณารักษ์ นักสันทนาการ นักพัฒนาการกีฬา นักจัดการงานเทศกิจ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ 📖 รายละเอียดการสอบ อปท. 2568 การสอบแข่งขัน จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก ได้แก่ 📝 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - ความสามารถด้านการวิเคราะห์ และสรุปเหตุผล 30 คะแนน - ความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และกฎหมายท้องถิ่น 30 คะแนน - ความสามารถด้านภาษาไทย 20 คะแนน - ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องผ่านอย่างน้อย 10 ข้อจาก 20 ข้อ! 📚 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน -เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความรู้ ที่ใช้เฉพาะในตำแหน่งที่สมัคร 🗣️ ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน เป็นการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความสามารถในการสื่อสาร 📝 วิธีสมัครสอบ อปท. 2568 🔹 สมัครผ่านทางออนไลน์ 📱 ที่เว็บไซต์: ➡️ https://dla-local2568.thaijobjob.com 📅 เปิดรับสมัครตั้งแต่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง 🗂️ เอกสารที่ต้องใช้สมัคร ✅ รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว 📸 ✅ สำเนาบัตรประชาชน 🆔 ✅ สำเนาทะเบียนบ้าน 🏠 ✅ สำเนาวุฒิการศึกษา Transcript 🎓 ✅ สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำหรับบางตำแหน่ง ✅ เอกสารทางทหาร สด.8 หรือ สด.9 🪖 📌 อัปโหลดไฟล์ PDF เท่านั้น! ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB 💰 ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ - ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท - ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการ 30 บาท 📌 รวมทั้งสิ้น 430 บาท ไม่สามารถขอคืนเงินได้ 📍 ช่องทางชำระเงิน: - เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 🏦 - แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง 📲 - ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย 🛑 ชำระเงินภายในวันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 เท่านั้น! 📢 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 📆 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ก และ ข พร้อมวัน-เวลา-สถานที่สอบ ได้ที่ 📌 เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com 🔑 เคล็ดลับเตรียมสอบ อปท. ให้สอบผ่าน! 🔥 ศึกษาหลักสูตรการสอบ ให้ครบถ้วน 📖 อ่านแนวข้อสอบ และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 🔥 ฝึกทำข้อสอบเก่า 🔍 ฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านมา เพื่อจับแนวทางที่ออกบ่อย 🔥 ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง ✅ ท่องศัพท์ ✅ ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า ✅ อ่านบทความภาษาอังกฤษ 🔥 จัดตารางอ่านหนังสือ 🗓️ แบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง 🔥 พักผ่อนให้เพียงพอ 😴 นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนสอบ 🔚 📍 การสอบ อปท. 2568 เป็นโอกาสดี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าพลาด! สมัครสอบได้ระหว่าง 7 - 28 มีนาคม 2568 ทางออนไลน์เท่านั้น 🚀 📌 ติดตามข่าวสาร และอัปเดตข้อมูลการสอบได้ที่ 🔗 https://dla-local2568.thaijobjob.com ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 202022 ก.พ. 2568 📢 #สอบอปท2568 #สมัครสอบราชการ #งานราชการ #สอบท้องถิ่น #เตรียมสอบอปท #DLA #สมัครสอบออนไลน์ #งานข้าราชการ #สอบราชการ2025 #สอบภาษาอังกฤษอปท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨พระปิดตามหาลาภ หลวงพ่อแก้ว วัดนางสาว จังหวัดสมุทรสาคร เนื้อผงยาจินดามณี ปีพ.ศ.2522 เป็นพระพิมพ์เดียวกับเหรียญหล่อโบราณที่โด่งดังของวัดนางสาว โดยหลวงพ่อแก้วท่านจัดสร้างขึ้นเป็นเนื้อผงยาจินดามณีตามตำรับของหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว พุทธคุณนอกจากเด่นด้านโชคลาภโภคทรัพย์บริบูรณ์แล้วยังช่วยคุ้มกัน ป้องกันภัยทั้งหลายทั้งปวงแก่ผู้ที่มีไว้บูชาอีกด้วย
    ✨พระปิดตามหาลาภ หลวงพ่อแก้ว วัดนางสาว จังหวัดสมุทรสาคร เนื้อผงยาจินดามณี ปีพ.ศ.2522 เป็นพระพิมพ์เดียวกับเหรียญหล่อโบราณที่โด่งดังของวัดนางสาว โดยหลวงพ่อแก้วท่านจัดสร้างขึ้นเป็นเนื้อผงยาจินดามณีตามตำรับของหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว พุทธคุณนอกจากเด่นด้านโชคลาภโภคทรัพย์บริบูรณ์แล้วยังช่วยคุ้มกัน ป้องกันภัยทั้งหลายทั้งปวงแก่ผู้ที่มีไว้บูชาอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • โหวตโนผงาด ศึกเลือกตั้ง อบจ.

    การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 47 จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ แม้ด้านหนึ่งผู้ชนะการเลือกตั้งส่วนใหญ่ล้วนมาจากบ้านใหญ่แบบไม่พลิกโผ ผู้มาใช้สิทธิไม่คึกคักเพราะจัดการเลือกตั้งในวันเสาร์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนหนึ่งลางานไม่ได้ และไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า

    แต่อีกด้านหนึ่ง "ช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด" กลับสูงขึ้นหลายจังหวัด สาเหตุหลักคือ ไม่มีผู้สมัครรายใดโดนใจ อาทิ จังหวัดยะลา ที่มีนายมุขตาร์ มะทา อดีตนายก อบจ. 4 สมัย ชนะเป็นสมัยที่ 5 มีผู้มาใช้สิทธิ 224,707 คน ปรากฎว่าบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงถึง 29,334 ใบ คิดเป็น 13.05%

    จังหวัดสงขลาที่แข่งขันกันสูงด้วยจำนวนผู้สมัคร 9 ราย นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อดีตอธิบดีกรมฝนหลวง ทีมสงขลาพลังใหม่ ชนะการเลือกตั้งด้วยแรงสนับสนุนจากนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้มาใช้สิทธิ 687,944 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงถึง 86,855 ใบ คิดเป็น 12.63%

    จังหวัดนครราชสีมา ที่นางยลดา หวังศุภกิจโกศล อดีตนายก อบจ. ชนะการเลือกตั้งอีกสมัย ด้วยแรงสนับสนุนจากนายทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย ที่ไปเปิดตัวผู้สมัครด้วยตัวเอง มีผู้มาใช้สิทธิ 1,155,142 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 110,934 ใบ คิดเป็น 9.60%

    จังหวัดนนทบุรี ที่ พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ อดีตนายก อบจ. 4 สมัย ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 5 มีผู้มาใช้สิทธิ 432,613 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 37,562 ใบ คิดเป็น 8.68%

    จังหวัดสมุทรปราการ ที่นายสุนทร ปานแสงทอง อดีต รมช.เกษตรฯ จากกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า (อัศวเหม) ชนะการเลือกตั้ง มีผู้มาใช้สิทธิ 569,659 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 42,142 ใบ คิดเป็น 7.40%

    จังหวัดเชียงราย ที่นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ. ชนะการเลือกตั้งอีกสมัย มีผู้มาใช้สิทธิ 605,780 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 43,406 ใบ คิดเป็น 7.17%

    จังหวัดอื่นๆ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาใช้สิทธิ 877,640 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 57,625 ใบ คิดเป็น 6.57% จังหวัดสุพรรณบุรี มีผู้มาใช้สิทธิ 393,849 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 24,113 ใบ คิดเป็น 6.12%

    จังหวัดสมุทรสาคร มีผู้มาใช้สิทธิ 211,071 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 11,573 ใบ คิดเป็น 5.48% และจังหวัดมหาสารคาม มีผู้มาใช้สิทธิ 453,567 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 16,452 ใบ คิดเป็น 3.63% สะท้อนให้เห็นความเบื่อหน่ายของประชาชนต่อการเมืองท้องถิ่นและโยงไปถึงระดับชาติที่ไม่ควรมองข้าม

    #Newskit
    โหวตโนผงาด ศึกเลือกตั้ง อบจ. การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 47 จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ แม้ด้านหนึ่งผู้ชนะการเลือกตั้งส่วนใหญ่ล้วนมาจากบ้านใหญ่แบบไม่พลิกโผ ผู้มาใช้สิทธิไม่คึกคักเพราะจัดการเลือกตั้งในวันเสาร์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนหนึ่งลางานไม่ได้ และไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า แต่อีกด้านหนึ่ง "ช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด" กลับสูงขึ้นหลายจังหวัด สาเหตุหลักคือ ไม่มีผู้สมัครรายใดโดนใจ อาทิ จังหวัดยะลา ที่มีนายมุขตาร์ มะทา อดีตนายก อบจ. 4 สมัย ชนะเป็นสมัยที่ 5 มีผู้มาใช้สิทธิ 224,707 คน ปรากฎว่าบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงถึง 29,334 ใบ คิดเป็น 13.05% จังหวัดสงขลาที่แข่งขันกันสูงด้วยจำนวนผู้สมัคร 9 ราย นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อดีตอธิบดีกรมฝนหลวง ทีมสงขลาพลังใหม่ ชนะการเลือกตั้งด้วยแรงสนับสนุนจากนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้มาใช้สิทธิ 687,944 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงถึง 86,855 ใบ คิดเป็น 12.63% จังหวัดนครราชสีมา ที่นางยลดา หวังศุภกิจโกศล อดีตนายก อบจ. ชนะการเลือกตั้งอีกสมัย ด้วยแรงสนับสนุนจากนายทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย ที่ไปเปิดตัวผู้สมัครด้วยตัวเอง มีผู้มาใช้สิทธิ 1,155,142 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 110,934 ใบ คิดเป็น 9.60% จังหวัดนนทบุรี ที่ พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ อดีตนายก อบจ. 4 สมัย ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 5 มีผู้มาใช้สิทธิ 432,613 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 37,562 ใบ คิดเป็น 8.68% จังหวัดสมุทรปราการ ที่นายสุนทร ปานแสงทอง อดีต รมช.เกษตรฯ จากกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า (อัศวเหม) ชนะการเลือกตั้ง มีผู้มาใช้สิทธิ 569,659 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 42,142 ใบ คิดเป็น 7.40% จังหวัดเชียงราย ที่นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ. ชนะการเลือกตั้งอีกสมัย มีผู้มาใช้สิทธิ 605,780 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 43,406 ใบ คิดเป็น 7.17% จังหวัดอื่นๆ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาใช้สิทธิ 877,640 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 57,625 ใบ คิดเป็น 6.57% จังหวัดสุพรรณบุรี มีผู้มาใช้สิทธิ 393,849 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 24,113 ใบ คิดเป็น 6.12% จังหวัดสมุทรสาคร มีผู้มาใช้สิทธิ 211,071 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 11,573 ใบ คิดเป็น 5.48% และจังหวัดมหาสารคาม มีผู้มาใช้สิทธิ 453,567 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 16,452 ใบ คิดเป็น 3.63% สะท้อนให้เห็นความเบื่อหน่ายของประชาชนต่อการเมืองท้องถิ่นและโยงไปถึงระดับชาติที่ไม่ควรมองข้าม #Newskit
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • การแข่งขัน Wheelchairs Basketball ประเภท 3x3 ในกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 39 อัญมณีเกมส์ จ.จันทบุรี ประจำวันที่ 27/01/68 รอบชิง ทีมชาย

    ทีมอ่างทอง ชนะ ทีมสมุทรสาคร ด้วยคะแนน 16 : 12
    การแข่งขัน Wheelchairs Basketball ประเภท 3x3 ในกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 39 อัญมณีเกมส์ จ.จันทบุรี ประจำวันที่ 27/01/68 รอบชิง ทีมชาย ทีมอ่างทอง ชนะ ทีมสมุทรสาคร ด้วยคะแนน 16 : 12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อัจฉริยะ” เผยเป็นคนปลดปล่อยดวงวิญญาณ “แตงโม นิดา” ที่ถูกสะกดวิญญาณโดยพระอาจารย์รูปหนึ่งแถวสมุทรสาครไว้ที่วัดค้างคาว พร้อมบนกับหลวงพ่อกวย หากคดีสำเร็จจะถวายคอนเสิร์ต “ปู พงษ์สิทธิ์” และ “แอ๊ด คาราบาว”

    มีเรื่องชวนขนหัวลุกว่าอาจจะเป็นเสียงของ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์”หลัง “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” กำลังไลฟ์สดขณะพูดถึงคนบนเรือว่าจะทำให้ทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต แล้วก็มีเสียงปริศนาซ้อนมาว่าใช่ ทำคนที่ชมไลฟ์อยู่ได้ยิน และทักอัจฉริยะ ว่าเสียงใครพูด ใช่ เมื่อถามเรื่องนี้กับอัจฉริยะ เจ้าตัวเล่าว่าได้มีการนำเสียง ใช่ ไปเทียบกับเสียง 1 2 3 เมื่อคราวก่อน ได้ข้อสรุปว่าเสียงคล้ายกัน

    “ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ยินเสียงผู้หญิงหรอกนะ แต่มีคนทักผมมา ผมก็เลยกลับไปย้อนดู ปรากฎว่าใช่ ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเสียงใคร แต่ไม่ใช่เสียงภรรยาผมแน่ๆ ตอนนั้นผมพูดว่าผมจะให้คนบนเรือทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต แล้วก็มีเสียงใช่ ผมก็โทร.หา อ.ปานเทพ (ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์) เลย แล้วก็ส่งให้แกฟัง แกก็ได้ยิน เสียงก็คล้ายๆ กันกับ 1 2 3 ทุ้มๆ หน่อย”

    ในความรู้สึกเหมือนแตงโมมาหาตน 2 ครั้ง พร้อมเล่าเป็นคนปลดปล่อยวิญญาณแตงโมจากการถูกสะกดวิญญาณโดยพระอาจารย์รูปหนึ่งแถวสมุทรสาครไว้ที่วัดค้างคาว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000010148

    #MGROnline #อัจฉริยะ #แตงโมนิดา
    “อัจฉริยะ” เผยเป็นคนปลดปล่อยดวงวิญญาณ “แตงโม นิดา” ที่ถูกสะกดวิญญาณโดยพระอาจารย์รูปหนึ่งแถวสมุทรสาครไว้ที่วัดค้างคาว พร้อมบนกับหลวงพ่อกวย หากคดีสำเร็จจะถวายคอนเสิร์ต “ปู พงษ์สิทธิ์” และ “แอ๊ด คาราบาว” • มีเรื่องชวนขนหัวลุกว่าอาจจะเป็นเสียงของ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์”หลัง “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” กำลังไลฟ์สดขณะพูดถึงคนบนเรือว่าจะทำให้ทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต แล้วก็มีเสียงปริศนาซ้อนมาว่าใช่ ทำคนที่ชมไลฟ์อยู่ได้ยิน และทักอัจฉริยะ ว่าเสียงใครพูด ใช่ เมื่อถามเรื่องนี้กับอัจฉริยะ เจ้าตัวเล่าว่าได้มีการนำเสียง ใช่ ไปเทียบกับเสียง 1 2 3 เมื่อคราวก่อน ได้ข้อสรุปว่าเสียงคล้ายกัน • “ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ยินเสียงผู้หญิงหรอกนะ แต่มีคนทักผมมา ผมก็เลยกลับไปย้อนดู ปรากฎว่าใช่ ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเสียงใคร แต่ไม่ใช่เสียงภรรยาผมแน่ๆ ตอนนั้นผมพูดว่าผมจะให้คนบนเรือทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต แล้วก็มีเสียงใช่ ผมก็โทร.หา อ.ปานเทพ (ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์) เลย แล้วก็ส่งให้แกฟัง แกก็ได้ยิน เสียงก็คล้ายๆ กันกับ 1 2 3 ทุ้มๆ หน่อย” • ในความรู้สึกเหมือนแตงโมมาหาตน 2 ครั้ง พร้อมเล่าเป็นคนปลดปล่อยวิญญาณแตงโมจากการถูกสะกดวิญญาณโดยพระอาจารย์รูปหนึ่งแถวสมุทรสาครไว้ที่วัดค้างคาว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000010148 • #MGROnline #อัจฉริยะ #แตงโมนิดา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อัจฉริยะ” เผยเป็นคนปลดปล่อยดวงวิญญาณ “แตงโม นิดา” ที่ถูกสะกดวิญญาณโดยพระอาจารย์รูปหนึ่งแถวสมุทรสาครไว้ที่วัดค้างคาว พร้อมบนกับหลวงพ่อกวย หากคดีสำเร็จจะถวายคอนเสิร์ต “ปู พงษ์สิทธิ์” และ “แอ๊ด คาราบาว”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010148

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “อัจฉริยะ” เผยเป็นคนปลดปล่อยดวงวิญญาณ “แตงโม นิดา” ที่ถูกสะกดวิญญาณโดยพระอาจารย์รูปหนึ่งแถวสมุทรสาครไว้ที่วัดค้างคาว พร้อมบนกับหลวงพ่อกวย หากคดีสำเร็จจะถวายคอนเสิร์ต “ปู พงษ์สิทธิ์” และ “แอ๊ด คาราบาว” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010148 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Yay
    Sad
    18
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1023 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดีเอสไอ-กฟภ." ร่วมบุกค้นทลายเหมืองขุดบิทคอยน์เถื่อน ซุกซ่อนใน 3 โรงงานพื้นที่สมุทรสาคร ยึดของกลาง 1,788 เครื่อง ลักลอบใช้ไฟหลวง ทำรัฐสูญรายได้กว่า 500 ล้านบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010120

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ดีเอสไอ-กฟภ." ร่วมบุกค้นทลายเหมืองขุดบิทคอยน์เถื่อน ซุกซ่อนใน 3 โรงงานพื้นที่สมุทรสาคร ยึดของกลาง 1,788 เครื่อง ลักลอบใช้ไฟหลวง ทำรัฐสูญรายได้กว่า 500 ล้านบาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010120 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    Wow
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 934 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระราม 2 เจ็บแต่จบ? ปิดทางหลักเร็วขึ้น 1 ทุ่มตรง

    วันจันทร์ที่ 3 ก.พ.2568 คนที่บ้านอยู่โซนถนนพระรามที่ 2 ช่วงมหาชัยเมืองใหม่ ถึงทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร หากทำงานที่กรุงเทพฯ หลังเลิกงานคงต้องเดินทางกลับบ้านเร็วขึ้น หรือคนที่จะไปยังภาคใต้ คงต้องเผื่อเวลาในช่วงเย็นเป็นพิเศษ เพราะกรมทางหลวงจะปิดช่องทางหลักเร็วขึ้น จาก 2 ทุ่มเป็น 1 ทุ่มตรงทุกคืน เพื่อเร่งการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ

    นับเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่กรมทางหลวงตัดสินใจเจ็บแต่จบ ยอมรับเสียงตำหนิจากผู้ใช้รถใช้ถนนกว่า 256,000 คันต่อวัน เพื่อให้ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธามีเวลาเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายแล้วเสร็จภายในปลายปี 2568 ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม หลังจากที่ผ่านมาพบว่าการก่อสร้างเป็นไปอย่างล่าช้า เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งต้องหยุดก่อสร้าง โดยเฉพาะเหตุการณ์คานสะพานถล่มลงมา บริเวณทางแยกต่างระดับเอกชัย มีผู้เสียชีวิต 6 ราย

    ย้อนกลับไปก่อนเทศกาลปีใหม่ 2567 แหล่งข่าวจากกรมทางหลวงเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการก่อสร้างโดยปิดช่องทางหลัก ตั้งแต่เวลา 3 ทุ่มถึงตี 4 นั้นไม่เพียงพอ เพราะกว่าจะเตรียมการทั้งก่อนและหลังปิดถนนก็ใช้เวลานาน อีกทั้งระยะเวลาในการก่อสร้างก็มีเวลาให้น้อยมาก เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน บางครั้งก็เกิดปัญหาทางเทคนิคระหว่างก่อสร้างก็มี ที่ผ่านมาเคยมีแนวคิดขยายเวลาปิดช่องทางหลัก แม้จะมีผลกระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติก็เจอแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็น้อมรับ

    กระทั่งวันที่ 1 เม.ย.2567 ได้ขยายเวลาเป็น 2 ทุ่มถึงตีห้าครึ่ง และในปี 2568 กำลังจะขยายเวลาเป็น 1 ทุ่มถึงตี 5 ครึ่ง

    โครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 เริ่มต้นก่อสร้างช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 8.2 กิโลเมตร มาตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 2562 แบ่งเป็น 3 สัญญา ใช้งบประมาณแผ่นดิน 10,477.386 ล้านบาท ผ่านมาแล้วกว่า 5 ปีครึ่ง คืบหน้า 98.253% ส่วนช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร ลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2565 แบ่งเป็น 10 สัญญา วงเงินก่อสร้าง 18,759 ล้านบาท ใช้เงินกองทุนมอเตอร์เวย์ ผ่านมาแล้ว 3 ปีเต็ม คืบหน้าเพียง 67.556%

    เดิมนายสุริยะประกาศว่าทั้งโครงการทางพิเศษสายพระราม 3–ดาวคะนอง–วงแหวนฯ ตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 ต้องแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.2568 แต่เมื่อเจออุบัติเหตุใหญ่ ประกอบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ต้องหยุดก่อสร้าง จึงเลื่อนเป้าหมายภายในปลายปี 2568 ถึงกระนั้นตำนานถนนเจ็ดชั่วโคตร ถึงวันนี้ก็ไม่อาจหมดไป

    #Newskit
    -----
    [วันนี้วันสุดท้าย] ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9

    ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 3 ก.พ. 2568 ที่เพจ Newskit ใน Thaitimes

    พระราม 2 เจ็บแต่จบ? ปิดทางหลักเร็วขึ้น 1 ทุ่มตรง วันจันทร์ที่ 3 ก.พ.2568 คนที่บ้านอยู่โซนถนนพระรามที่ 2 ช่วงมหาชัยเมืองใหม่ ถึงทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร หากทำงานที่กรุงเทพฯ หลังเลิกงานคงต้องเดินทางกลับบ้านเร็วขึ้น หรือคนที่จะไปยังภาคใต้ คงต้องเผื่อเวลาในช่วงเย็นเป็นพิเศษ เพราะกรมทางหลวงจะปิดช่องทางหลักเร็วขึ้น จาก 2 ทุ่มเป็น 1 ทุ่มตรงทุกคืน เพื่อเร่งการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ นับเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่กรมทางหลวงตัดสินใจเจ็บแต่จบ ยอมรับเสียงตำหนิจากผู้ใช้รถใช้ถนนกว่า 256,000 คันต่อวัน เพื่อให้ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธามีเวลาเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายแล้วเสร็จภายในปลายปี 2568 ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม หลังจากที่ผ่านมาพบว่าการก่อสร้างเป็นไปอย่างล่าช้า เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งต้องหยุดก่อสร้าง โดยเฉพาะเหตุการณ์คานสะพานถล่มลงมา บริเวณทางแยกต่างระดับเอกชัย มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ย้อนกลับไปก่อนเทศกาลปีใหม่ 2567 แหล่งข่าวจากกรมทางหลวงเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการก่อสร้างโดยปิดช่องทางหลัก ตั้งแต่เวลา 3 ทุ่มถึงตี 4 นั้นไม่เพียงพอ เพราะกว่าจะเตรียมการทั้งก่อนและหลังปิดถนนก็ใช้เวลานาน อีกทั้งระยะเวลาในการก่อสร้างก็มีเวลาให้น้อยมาก เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน บางครั้งก็เกิดปัญหาทางเทคนิคระหว่างก่อสร้างก็มี ที่ผ่านมาเคยมีแนวคิดขยายเวลาปิดช่องทางหลัก แม้จะมีผลกระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติก็เจอแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็น้อมรับ กระทั่งวันที่ 1 เม.ย.2567 ได้ขยายเวลาเป็น 2 ทุ่มถึงตีห้าครึ่ง และในปี 2568 กำลังจะขยายเวลาเป็น 1 ทุ่มถึงตี 5 ครึ่ง โครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 เริ่มต้นก่อสร้างช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 8.2 กิโลเมตร มาตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 2562 แบ่งเป็น 3 สัญญา ใช้งบประมาณแผ่นดิน 10,477.386 ล้านบาท ผ่านมาแล้วกว่า 5 ปีครึ่ง คืบหน้า 98.253% ส่วนช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร ลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2565 แบ่งเป็น 10 สัญญา วงเงินก่อสร้าง 18,759 ล้านบาท ใช้เงินกองทุนมอเตอร์เวย์ ผ่านมาแล้ว 3 ปีเต็ม คืบหน้าเพียง 67.556% เดิมนายสุริยะประกาศว่าทั้งโครงการทางพิเศษสายพระราม 3–ดาวคะนอง–วงแหวนฯ ตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 ต้องแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.2568 แต่เมื่อเจออุบัติเหตุใหญ่ ประกอบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ต้องหยุดก่อสร้าง จึงเลื่อนเป้าหมายภายในปลายปี 2568 ถึงกระนั้นตำนานถนนเจ็ดชั่วโคตร ถึงวันนี้ก็ไม่อาจหมดไป #Newskit ----- [วันนี้วันสุดท้าย] ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9 ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 3 ก.พ. 2568 ที่เพจ Newskit ใน Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    7
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 536 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดธาตุแท้อุ๊งอิ๊ง เห็นเงินดีกว่าชีวิตประชาชน
    สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นพิษ PM 2.5 ในประเทศไทยระยะนี้ถือว่าหนักหน่วงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศ เมื่อวันที่ 24 มกราคม กลายเป็นวันหนึ่งที่มีค่ามลพิษสูงมากและเป็นสีม่วงหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น สมุทรสาคร ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม นนทบุรี ซึ่งมีค่าฝุ่นไม่ต่ำกว่า 300
    จากตัวเลขที่ปรากฏออกมาทำให้ฝ่ายรัฐบาลไม่อาจอยู่เฉยๆ และพูดปลอบใจผ่านสื่อมวลชนไปวันๆ ได้อีกแล้ว ถึงขนาดที่ 'แพทองธาร ชินวัตร' ต้องประชุมทางไกลมอบหมายงานให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเต็มที่
    ต้องยอมรับว่าสถานการณ์แบบนี้พรรคการเมืองใดขึ้นมาเป็นรัฐบาล ย่อมต้องเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแก้ไขปัญหาไม่ต่างกัน แต่เสียงวิจารณ์ที่กระหน่ำหนักมาที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเป็นเพราะไม่ปรากฏรูปธรรมในการทำงาน ในสถานการณ์นี้นายกฯแพทองธารมีแต้มตามหลังคู่แข่งทางการเมืองทั้งภายในและภายนอกรัฐบาล
    โดยเฉพาะกับ 'เอกนัฏ พร้อมพันธุ์' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เข้มงวดกับโรงงานน้ำตาลที่รับซื้ออ้อยเผา เกินกว่าที่ภาครัฐกำหนด แม้การสั่งปิดโรงงานบางแห่งอาจไม่ได้มาจากเหตุผลเรื่องการรับซื้ออ้อยเผา แต่อย่างน้อยก็เป็นการแสดงให้เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น
    ทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีความเด็ดขาด เรียกได้ว่ายามนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเมาหมัดอย่างหนัก
    แสดงให้เห็นว่าเป็นรัฐบาลได้ แต่บริหารงานให้มีประสิทธิภาพไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบรรดาคนเพื่อไทย ขาดความกล้าในการถอนรากถอนโคนต้นตอของปัญหาให้เด็ดขาด โดยเฉพาะการไม่กล้าประกาศเขตมลพิษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการดำเนินการอย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่อยากให้กระทบต่อการท่องเที่ยว หรือแม้แต่การใช้มาตรการที่เข้มงวดกับการทำกิจกรรมทางการเกษตร พรรคเพื่อไทยเองก็ทำแบบชักเข้าชักออก เพราะการไปเข้มงวดมากเท่าไหร่
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    เปิดธาตุแท้อุ๊งอิ๊ง เห็นเงินดีกว่าชีวิตประชาชน สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นพิษ PM 2.5 ในประเทศไทยระยะนี้ถือว่าหนักหน่วงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศ เมื่อวันที่ 24 มกราคม กลายเป็นวันหนึ่งที่มีค่ามลพิษสูงมากและเป็นสีม่วงหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น สมุทรสาคร ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม นนทบุรี ซึ่งมีค่าฝุ่นไม่ต่ำกว่า 300 จากตัวเลขที่ปรากฏออกมาทำให้ฝ่ายรัฐบาลไม่อาจอยู่เฉยๆ และพูดปลอบใจผ่านสื่อมวลชนไปวันๆ ได้อีกแล้ว ถึงขนาดที่ 'แพทองธาร ชินวัตร' ต้องประชุมทางไกลมอบหมายงานให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเต็มที่ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์แบบนี้พรรคการเมืองใดขึ้นมาเป็นรัฐบาล ย่อมต้องเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแก้ไขปัญหาไม่ต่างกัน แต่เสียงวิจารณ์ที่กระหน่ำหนักมาที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเป็นเพราะไม่ปรากฏรูปธรรมในการทำงาน ในสถานการณ์นี้นายกฯแพทองธารมีแต้มตามหลังคู่แข่งทางการเมืองทั้งภายในและภายนอกรัฐบาล โดยเฉพาะกับ 'เอกนัฏ พร้อมพันธุ์' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เข้มงวดกับโรงงานน้ำตาลที่รับซื้ออ้อยเผา เกินกว่าที่ภาครัฐกำหนด แม้การสั่งปิดโรงงานบางแห่งอาจไม่ได้มาจากเหตุผลเรื่องการรับซื้ออ้อยเผา แต่อย่างน้อยก็เป็นการแสดงให้เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีความเด็ดขาด เรียกได้ว่ายามนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเมาหมัดอย่างหนัก แสดงให้เห็นว่าเป็นรัฐบาลได้ แต่บริหารงานให้มีประสิทธิภาพไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบรรดาคนเพื่อไทย ขาดความกล้าในการถอนรากถอนโคนต้นตอของปัญหาให้เด็ดขาด โดยเฉพาะการไม่กล้าประกาศเขตมลพิษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการดำเนินการอย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่อยากให้กระทบต่อการท่องเที่ยว หรือแม้แต่การใช้มาตรการที่เข้มงวดกับการทำกิจกรรมทางการเกษตร พรรคเพื่อไทยเองก็ทำแบบชักเข้าชักออก เพราะการไปเข้มงวดมากเท่าไหร่ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำสั่งกระทรวงมหาดไทย
    ที่ ๗๐/๒๕๖๘
    เรื่อง โอนข้าราชการพลเรือนสามัญ
    นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ
    ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร
    ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น
    (ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด)
    จังหวัดหนองคาย
    ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๘
    😍😍😍😍😍
    คำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ ๗๐/๒๕๖๘ เรื่อง โอนข้าราชการพลเรือนสามัญ นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น (ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด) จังหวัดหนองคาย ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๘ 😍😍😍😍😍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 454 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • เนื้อกระเทียมพริกไทย ยุคใหม่แบรนด์เกียกกาย

    สินค้ายอดนิยมที่จำหน่ายในงานกาชาด ของสภากาชาดไทย เป็นประจำทุกปี คือ เนื้อกระเทียมพริกไทย ของกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก โดยปกติจะใช้สนับสนุนให้กับหน่วยงานของกองทัพบกในการปฏิบัติภารกิจเท่านั้น ไม่ได้ผลิตเพื่อจำหน่าย ฉลากเป็นกระดาษมันสีเหลืองเข้มและเขียว มาถึงปี 2567 จำหน่ายในรูปโฉมใหม่ สกรีนกระป๋องอย่างดีสีแดง ภายใต้แบรนด์เกียกกาย SINCE 1943 พร้อมข้อความ "สูตรดั้งเดิม เสบียงทหาร" ผลิตโดย บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด ของกลุ่มไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป โรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร

    แม้จะมีน้ำหนักสุทธิ 120 กรัมต่อกระป๋องเหมือนกัน แต่ความแตกต่างระหว่างของกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก กับแบรนด์เกียกกาย ที่ผลิตโดยโรงงานไทยรวมสิน ก็คือราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 55 บาทเป็น 70 บาท และปริมาณลดลงจากเดิมเนื้อ 85 กรัม เครื่องปรุงรสและน้ำ 35 กรัม ประกอบด้วย กระเทียม พริกไทย น้ำมันถั่วเหลือง และเกลือ กลายเป็นน้ำหนักเนื้อ 72 กรัม ส่วนประกอบโดยประมาณ เนื้อวัว 60% ซอสกระเทียมพริกไทย 40% (น้ำ กระเทียม น้ำมันถั่วเหลือง ผงพริกไทยขาว เกลือบริโภคไม่เสริมไอโอดีน และผงกระเทียม) ส่วนอายุการเก็บรักษา 2 ปีเช่นเดิม

    สิ่งที่เพิ่มเติมบนกระป๋องก็คือ ข้อมูลโภชนาการ 1 กระป๋องให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี่ ไขมันทั้งหมด 2 กรัม (3%) ไขมันอิ่มตัว 1 กรัม (5%) คอเลสเตอรอล 60 มิลลิกรัม (20%) โปรตีน 26 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0 กรัม (0%) น้ำตาลทั้งหมด 0 กรัม โซเดียม 480 มิลลิกรัม (24%) และโพแทสเซียม 260 มิลลิกรัม (7%) สำหรับตัวเลข 1943 หรือ พ.ศ.2486 คาดว่าเป็นเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง ที่ทหารไทยบริโภคเนื้อกระเทียมพริกไทย ในช่วงกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา

    เมื่อเปิดกระป๋องจะพบกับเนื้อวัวในน้ำปรุงรสกระเทียมพริกไทย หากใครไม่ชอบไขมันที่ลอยมา สามารถนำไปใส่ภาชนะแล้วอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟก่อนรับประทานได้ รสชาติเค็มๆ มันๆ สามารถเติมพริกและกระเทียมซอยเพื่อเพิ่มรสชาติ หรือนำไปปรุงอาหาร เช่น ผัดกะเพราเนื้อ หรือเติมลงในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ได้เช่นกัน

    สำหรับกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก มีโรงงานผลิตเสบียง ผลิตอาหารออกมาได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัดอเมริกัน เนื้อวัวทากระเทียมพริกไทย เนื้อนกกระจอกเทศทากระเทียมพริกไทย เนื้อไก่งวงทากระเทียมพริกไทย และไก่ทากระเทียมพริกไทย เป็นต้น ได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาล เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2546 สามารถผลิตเสบียงกระป๋องภายใต้เครื่องหมายฮาลาลถึง 40 รายการ (61 ผลิตภัณฑ์) ปัจจุบันโรงงานตั้งอยู่ที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

    #Newskit
    เนื้อกระเทียมพริกไทย ยุคใหม่แบรนด์เกียกกาย สินค้ายอดนิยมที่จำหน่ายในงานกาชาด ของสภากาชาดไทย เป็นประจำทุกปี คือ เนื้อกระเทียมพริกไทย ของกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก โดยปกติจะใช้สนับสนุนให้กับหน่วยงานของกองทัพบกในการปฏิบัติภารกิจเท่านั้น ไม่ได้ผลิตเพื่อจำหน่าย ฉลากเป็นกระดาษมันสีเหลืองเข้มและเขียว มาถึงปี 2567 จำหน่ายในรูปโฉมใหม่ สกรีนกระป๋องอย่างดีสีแดง ภายใต้แบรนด์เกียกกาย SINCE 1943 พร้อมข้อความ "สูตรดั้งเดิม เสบียงทหาร" ผลิตโดย บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด ของกลุ่มไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป โรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร แม้จะมีน้ำหนักสุทธิ 120 กรัมต่อกระป๋องเหมือนกัน แต่ความแตกต่างระหว่างของกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก กับแบรนด์เกียกกาย ที่ผลิตโดยโรงงานไทยรวมสิน ก็คือราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 55 บาทเป็น 70 บาท และปริมาณลดลงจากเดิมเนื้อ 85 กรัม เครื่องปรุงรสและน้ำ 35 กรัม ประกอบด้วย กระเทียม พริกไทย น้ำมันถั่วเหลือง และเกลือ กลายเป็นน้ำหนักเนื้อ 72 กรัม ส่วนประกอบโดยประมาณ เนื้อวัว 60% ซอสกระเทียมพริกไทย 40% (น้ำ กระเทียม น้ำมันถั่วเหลือง ผงพริกไทยขาว เกลือบริโภคไม่เสริมไอโอดีน และผงกระเทียม) ส่วนอายุการเก็บรักษา 2 ปีเช่นเดิม สิ่งที่เพิ่มเติมบนกระป๋องก็คือ ข้อมูลโภชนาการ 1 กระป๋องให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี่ ไขมันทั้งหมด 2 กรัม (3%) ไขมันอิ่มตัว 1 กรัม (5%) คอเลสเตอรอล 60 มิลลิกรัม (20%) โปรตีน 26 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0 กรัม (0%) น้ำตาลทั้งหมด 0 กรัม โซเดียม 480 มิลลิกรัม (24%) และโพแทสเซียม 260 มิลลิกรัม (7%) สำหรับตัวเลข 1943 หรือ พ.ศ.2486 คาดว่าเป็นเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง ที่ทหารไทยบริโภคเนื้อกระเทียมพริกไทย ในช่วงกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อเปิดกระป๋องจะพบกับเนื้อวัวในน้ำปรุงรสกระเทียมพริกไทย หากใครไม่ชอบไขมันที่ลอยมา สามารถนำไปใส่ภาชนะแล้วอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟก่อนรับประทานได้ รสชาติเค็มๆ มันๆ สามารถเติมพริกและกระเทียมซอยเพื่อเพิ่มรสชาติ หรือนำไปปรุงอาหาร เช่น ผัดกะเพราเนื้อ หรือเติมลงในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ได้เช่นกัน สำหรับกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก มีโรงงานผลิตเสบียง ผลิตอาหารออกมาได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัดอเมริกัน เนื้อวัวทากระเทียมพริกไทย เนื้อนกกระจอกเทศทากระเทียมพริกไทย เนื้อไก่งวงทากระเทียมพริกไทย และไก่ทากระเทียมพริกไทย เป็นต้น ได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาล เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2546 สามารถผลิตเสบียงกระป๋องภายใต้เครื่องหมายฮาลาลถึง 40 รายการ (61 ผลิตภัณฑ์) ปัจจุบันโรงงานตั้งอยู่ที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 726 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15/12/67

    เมื่อวานเพื่อนส่งคลิปวงจรปิดบนรถโดยสารประจำทางสาย 105 วิ่งระหว่าง
    มหาชัย สมุทรสาคร - คลองสาน เกิดอุบัติเหตุช่วงพนักงานกำลังปฏิบัติหน้าที่บนรถ

    พนักงานไม่จับยึดในระหว่างเก็บค่าโดยสาร ช่วงที่รถเบรคกระทัน พนักงานเสียหลักล้มศรีษะฟาดพื้นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ..

    อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาที อย่าประมาทในทุกย่างก้าวครับ ..

    ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยค่ะ
    15/12/67 เมื่อวานเพื่อนส่งคลิปวงจรปิดบนรถโดยสารประจำทางสาย 105 วิ่งระหว่าง มหาชัย สมุทรสาคร - คลองสาน เกิดอุบัติเหตุช่วงพนักงานกำลังปฏิบัติหน้าที่บนรถ พนักงานไม่จับยึดในระหว่างเก็บค่าโดยสาร ช่วงที่รถเบรคกระทัน พนักงานเสียหลักล้มศรีษะฟาดพื้นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา .. อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาที อย่าประมาทในทุกย่างก้าวครับ .. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยค่ะ
    Sad
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1076 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกชิงเคานต์ดาวน์ 2025 เทศกาลความสุขรอบกรุงฯ

    เทศกาลเคานต์ดาวน์ปีใหม่ 2025 ในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 มีหลายสถานที่ประกาศความพร้อมจัดงานนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ ในกรุงเทพมหานคร งาน Amazing Thailand Countdown 2025 จัดขึ้นที่สวนนาคราภิรมย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดแสดงแสง สี เสียง และสื่อประสมบนพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม

    จุดใหญ่ที่สุดก็คือลานริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม กับการแสดงพลุรักษ์โลกที่ยาวถึง 1,400 เมตร ยาวที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด “Celebrating the Everlasting Legacy of Siam เฉลิมฉลองมรดกไทยอันรุ่งโรจน์นิรันดร์” ไฮไลต์คือการแสดงจาก ลิซ่า ลลิษา มโนบาล นอกนั้นเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง 3 วัน 29 ถึง 31 ธ.ค. 2567 อาทิ เว่ยเจ๋อหมิง (30 ธ.ค.), เป็ก ผลิตโชค, นนท์ ธนนท์, PROXIE, 4EVE, BUS because of you I shine แต่ยังไม่ประกาศไลน์อัพออกมาว่าใครมาวันไหนบ้าง

    ด้านเซ็นทรัลเวิลด์ ที่พรีเซนต์ว่าเป็นไทม์สแควร์ออฟเอเชีย ประกาศไลน์อัพศิลปินคืนวันส่งท้ายปี อาทิ บิวกิ้น-พีพี, Jaylerr, Ice Paris, ซี-นุนิว, PROXIE, PiXXiE, 4EVE, นนท์ ธนนท์, URBOYTJ, BUS because of you I shine, Three Man Down และ Tattoo Colour และเผยโฉม โอปอล สุชาตา Miss Universe Thailand 2024 รองอันดับ 3 Miss Universe ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 แต่พบว่ามีหลายศิลปินที่จะได้เจอทั้งไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าวันเดียวกันหรือคนละวัน

    ส่วนศูนย์การค้าอื่นๆ อาทิ สยามพารากอน มีศิลปินที่คอนเฟิร์มแล้วคือ PALMY เอ็มควอเทียร์ที่คอนเฟิร์มแล้วมี Bowkylion, No One Else และ Ink Waruntorn โครงการวัน แบงค็อก มี The Toys, Ling & Orm, Jeff Satur, Ink Waruntorn, Bowkylion, Daou & Offroad, และ BUS โครงการเอเชียทีค มี BIG ASS, COCKTAIL, GETSUNOVA พร้อมการแสดงพิเศษจากศิลปิน OneN’Only จากญี่ปุ่น Calypso และ Siam Fantasy และการแสดงพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยาในธีม “Chao Phraya Jump Up!

    ออกไปยังชานเมือง ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ มี FOOL STEP, SILLY FOOLS, TILLY BIRDS, และ PALMY เมกาบางนา มี THREE MAN DOWN, POTATO, URBOY TJ, INK - WARUNTORN, JOEY - PHUWASIT, วง ATLAS และ D GERRARD ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยต์ 23 และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เวลา 21.00 น. YOUR MOOD, 22.00 น. LYKN, 23.00 น. PIXXIE และ 23.50 น. BUS because of you I shine

    ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์เกต จ.นนทบุรี พบกับ โอ๊ต ปราโมทย์, เซ็นทรัล ศาลายา จ.นครปฐม พบกับ EBOLA และเซ็นทรัล มหาชัย จ.สมุทรสาคร พบกับ The Richman Toy

    #Newskit
    ศึกชิงเคานต์ดาวน์ 2025 เทศกาลความสุขรอบกรุงฯ เทศกาลเคานต์ดาวน์ปีใหม่ 2025 ในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 มีหลายสถานที่ประกาศความพร้อมจัดงานนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ ในกรุงเทพมหานคร งาน Amazing Thailand Countdown 2025 จัดขึ้นที่สวนนาคราภิรมย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดแสดงแสง สี เสียง และสื่อประสมบนพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม จุดใหญ่ที่สุดก็คือลานริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม กับการแสดงพลุรักษ์โลกที่ยาวถึง 1,400 เมตร ยาวที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด “Celebrating the Everlasting Legacy of Siam เฉลิมฉลองมรดกไทยอันรุ่งโรจน์นิรันดร์” ไฮไลต์คือการแสดงจาก ลิซ่า ลลิษา มโนบาล นอกนั้นเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง 3 วัน 29 ถึง 31 ธ.ค. 2567 อาทิ เว่ยเจ๋อหมิง (30 ธ.ค.), เป็ก ผลิตโชค, นนท์ ธนนท์, PROXIE, 4EVE, BUS because of you I shine แต่ยังไม่ประกาศไลน์อัพออกมาว่าใครมาวันไหนบ้าง ด้านเซ็นทรัลเวิลด์ ที่พรีเซนต์ว่าเป็นไทม์สแควร์ออฟเอเชีย ประกาศไลน์อัพศิลปินคืนวันส่งท้ายปี อาทิ บิวกิ้น-พีพี, Jaylerr, Ice Paris, ซี-นุนิว, PROXIE, PiXXiE, 4EVE, นนท์ ธนนท์, URBOYTJ, BUS because of you I shine, Three Man Down และ Tattoo Colour และเผยโฉม โอปอล สุชาตา Miss Universe Thailand 2024 รองอันดับ 3 Miss Universe ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 แต่พบว่ามีหลายศิลปินที่จะได้เจอทั้งไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าวันเดียวกันหรือคนละวัน ส่วนศูนย์การค้าอื่นๆ อาทิ สยามพารากอน มีศิลปินที่คอนเฟิร์มแล้วคือ PALMY เอ็มควอเทียร์ที่คอนเฟิร์มแล้วมี Bowkylion, No One Else และ Ink Waruntorn โครงการวัน แบงค็อก มี The Toys, Ling & Orm, Jeff Satur, Ink Waruntorn, Bowkylion, Daou & Offroad, และ BUS โครงการเอเชียทีค มี BIG ASS, COCKTAIL, GETSUNOVA พร้อมการแสดงพิเศษจากศิลปิน OneN’Only จากญี่ปุ่น Calypso และ Siam Fantasy และการแสดงพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยาในธีม “Chao Phraya Jump Up! ออกไปยังชานเมือง ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ มี FOOL STEP, SILLY FOOLS, TILLY BIRDS, และ PALMY เมกาบางนา มี THREE MAN DOWN, POTATO, URBOY TJ, INK - WARUNTORN, JOEY - PHUWASIT, วง ATLAS และ D GERRARD ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยต์ 23 และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เวลา 21.00 น. YOUR MOOD, 22.00 น. LYKN, 23.00 น. PIXXIE และ 23.50 น. BUS because of you I shine ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์เกต จ.นนทบุรี พบกับ โอ๊ต ปราโมทย์, เซ็นทรัล ศาลายา จ.นครปฐม พบกับ EBOLA และเซ็นทรัล มหาชัย จ.สมุทรสาคร พบกับ The Richman Toy #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 880 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเมิน 2 สาเหตุใหญ่ โครงสร้างอ่อนแอ เครนถล่มพระราม 2
    .
    เหตุการณ์โครงถักเหล็กเลื่อน อุปกรณ์ใช้ก่อสร้างทางยกระดับโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว (ช่วงที่ 3) ตอนที่ 1 อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด พังถล่มลงมาบนพื้นที่ กม.21+600-กม.22+100 ถนนพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ หมู่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร มีคนงานเสียชีวิต 6 ศพ กลายเป็นโศกนาฎกรรมที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกครั้งบนถนนสายนี้ จนหลายฝ่ายเกิดข้อกังขาทำไมการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถึงได้เกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้ง
    .
    ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุสลดครั้งล่าสุดว่า จากการได้ลงพื้นที่เพื่อวิเคราะห์สาเหตุการวิบัติในทางวิศวกรรม โดยขณะนี้ มีการตั้งสมมุติฐานไว้ 2 แนวทางคือ 1.โครงเหล็กวิบัติที่ตัวโครงเหล็กเอง หรือ 2.ฐานรองรับโครงเหล็กหลุดจากเสา และทำให้โครงเหล็กวิบัติตามมา โดยส่วนตัวให้น้ำหนักไปที่สมมุติฐานข้อที่ 2 นั่นคือ ฐานรองโครงเหล็กหลุดจากเสาก่อน เพราะสามารถอธิบายได้ว่าหลังจากฐานรองรับหลุดแล้ว โครงเหล็กพังถล่มตามลงมาเนื่องจากการกระแทก และการกระชากของชิ้นส่วนที่ห้อยแขวนอยู่ ซึ่งจะอธิบายรูปแบบการวิบัติที่ปรากฏได้ อย่างไรก็ตามทั้งสองข้อข้างต้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้สรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
    .
    "เหตุการณ์นี้ สะท้อนให้เห็นว่า การก่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ ยังเต็มไปด้วยความไม่ปลอดภัย ไม่ว่าต่อคนงานหรือต่อประชาชนที่ต้องใช้ทางสัญจร ปัญหารากเหง้าคือการก่อสร้างโดยใช้โครงเหล็กเลื่อนเป็นงานที่มีความซับซ้อนและต้องใช้วิศวกรรมระดับสูง ที่ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับจะต้องมีความรู้และเข้าใจอย่างแท้จริงถึง ไม่ใช่ปล่อยให้คนงานขึ้นไปทำกันเอง"
    .
    สำหรับมาตรการที่จำเป็นต้องมีเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ควรประกอบด้วย 1.ระยะสั้น ต้องทบทวนมาตรฐานการทำงาน ของโครงการก่อสร้างอื่นทุกโครงการ ที่ใช้โครงเหล็กเลื่อนในการก่อสร้าง ได้แก่ ขั้นตอนการปฏิบัติ รูปแบบการเชื่อมต่อ ความแข็งแรงของโครงเหล็ก ตลอดจนผู้ที่จะไปขึ้นทำงานต้องผ่านการอบรม ทั้งในด้านความปลอดภัยและในด้านการปฏิบัติทางวิศวกรรม 2.ระยะกลาง-ระยะยาว รัฐควรออกกฎหมายเพื่อควบคุมการก่อสร้างที่ใช้ระบบโครงเหล็กเลื่อน ให้เป็น “การก่อสร้างควบคุม” หรือ “Controlled Construction” โดยควบคุมตั้งแต่วิศวกรที่วางแผนและกำกับการทำงาน หัวหน้าคนงาน ผู้บังคับโครงเหล็กเลื่อน ตลอดจนคนงานที่ขึ้นไปปฏิบัติงาน จะต้องผ่านการอบรมและทดสอบได้รับใบอนุญาต จึงจะขึ้นไปปฏิบัติงานได้ และการขอขึ้นไปปฏิบัติงานแต่ละครั้งต้องจัดให้มีเจ้าพนักงานความปลอดภัยตรวจสอบใบอนุญาตการทำงานเสียก่อน 3.รัฐควรออกระเบียบ ให้ขึ้นทะเบียนผู้รับเหมาที่ทำงานโครงเหล็กเลื่อน เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่มีความรู้หรือไม่ได้ขึ้นทะเบียนมารับงานได้
    ...............
    Sondhi X
    ประเมิน 2 สาเหตุใหญ่ โครงสร้างอ่อนแอ เครนถล่มพระราม 2 . เหตุการณ์โครงถักเหล็กเลื่อน อุปกรณ์ใช้ก่อสร้างทางยกระดับโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว (ช่วงที่ 3) ตอนที่ 1 อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด พังถล่มลงมาบนพื้นที่ กม.21+600-กม.22+100 ถนนพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ หมู่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร มีคนงานเสียชีวิต 6 ศพ กลายเป็นโศกนาฎกรรมที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกครั้งบนถนนสายนี้ จนหลายฝ่ายเกิดข้อกังขาทำไมการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถึงได้เกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้ง . ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุสลดครั้งล่าสุดว่า จากการได้ลงพื้นที่เพื่อวิเคราะห์สาเหตุการวิบัติในทางวิศวกรรม โดยขณะนี้ มีการตั้งสมมุติฐานไว้ 2 แนวทางคือ 1.โครงเหล็กวิบัติที่ตัวโครงเหล็กเอง หรือ 2.ฐานรองรับโครงเหล็กหลุดจากเสา และทำให้โครงเหล็กวิบัติตามมา โดยส่วนตัวให้น้ำหนักไปที่สมมุติฐานข้อที่ 2 นั่นคือ ฐานรองโครงเหล็กหลุดจากเสาก่อน เพราะสามารถอธิบายได้ว่าหลังจากฐานรองรับหลุดแล้ว โครงเหล็กพังถล่มตามลงมาเนื่องจากการกระแทก และการกระชากของชิ้นส่วนที่ห้อยแขวนอยู่ ซึ่งจะอธิบายรูปแบบการวิบัติที่ปรากฏได้ อย่างไรก็ตามทั้งสองข้อข้างต้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้สรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป . "เหตุการณ์นี้ สะท้อนให้เห็นว่า การก่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ ยังเต็มไปด้วยความไม่ปลอดภัย ไม่ว่าต่อคนงานหรือต่อประชาชนที่ต้องใช้ทางสัญจร ปัญหารากเหง้าคือการก่อสร้างโดยใช้โครงเหล็กเลื่อนเป็นงานที่มีความซับซ้อนและต้องใช้วิศวกรรมระดับสูง ที่ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับจะต้องมีความรู้และเข้าใจอย่างแท้จริงถึง ไม่ใช่ปล่อยให้คนงานขึ้นไปทำกันเอง" . สำหรับมาตรการที่จำเป็นต้องมีเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ควรประกอบด้วย 1.ระยะสั้น ต้องทบทวนมาตรฐานการทำงาน ของโครงการก่อสร้างอื่นทุกโครงการ ที่ใช้โครงเหล็กเลื่อนในการก่อสร้าง ได้แก่ ขั้นตอนการปฏิบัติ รูปแบบการเชื่อมต่อ ความแข็งแรงของโครงเหล็ก ตลอดจนผู้ที่จะไปขึ้นทำงานต้องผ่านการอบรม ทั้งในด้านความปลอดภัยและในด้านการปฏิบัติทางวิศวกรรม 2.ระยะกลาง-ระยะยาว รัฐควรออกกฎหมายเพื่อควบคุมการก่อสร้างที่ใช้ระบบโครงเหล็กเลื่อน ให้เป็น “การก่อสร้างควบคุม” หรือ “Controlled Construction” โดยควบคุมตั้งแต่วิศวกรที่วางแผนและกำกับการทำงาน หัวหน้าคนงาน ผู้บังคับโครงเหล็กเลื่อน ตลอดจนคนงานที่ขึ้นไปปฏิบัติงาน จะต้องผ่านการอบรมและทดสอบได้รับใบอนุญาต จึงจะขึ้นไปปฏิบัติงานได้ และการขอขึ้นไปปฏิบัติงานแต่ละครั้งต้องจัดให้มีเจ้าพนักงานความปลอดภัยตรวจสอบใบอนุญาตการทำงานเสียก่อน 3.รัฐควรออกระเบียบ ให้ขึ้นทะเบียนผู้รับเหมาที่ทำงานโครงเหล็กเลื่อน เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่มีความรู้หรือไม่ได้ขึ้นทะเบียนมารับงานได้ ............... Sondhi X
    Like
    Sad
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 939 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุบัติเหตุส่วนที่แคบที่สุด ถนนพระรามที่ 2

    โศกนาฏกรรมโครงถักเหล็กเลื่อน หรือลอนชิงทัส (Launching Truss) ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับถนนพระรามที่ 2 หรือโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 สายบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 1 ผู้รับจ้าง บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด พังถล่มลงมา บริเวณ ต.คอกกระบือ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลา 04.07 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 9 ราย ส่งผลทำให้การจราจรถนนพระรามที่ 2 เป็นอัมพาต

    เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นส่วนที่แคบที่สุดของถนนพระรามที่ 2 เนื่องจากทางขนาน (Frontage Road) ลอดใต้สะพานทางแยกต่างระดับเอกชัยมีเพียง 1 ช่องจราจร ขณะที่ช่องทางหลัก (Main Road) มี 3 ช่องจราจร แต่ได้ปิดการจราจรช่องทางหลักตั้งแต่เวลา 21.00 น. ถึง 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้นเพื่อก่อสร้างทางยกระดับ ส่งผลทำให้ช่วงหลัง 21.00 น. การจราจรขาออกกรุงเทพฯ ก่อนถึงมหาชัยเมืองใหม่รถติดเป็นคอขวด กว่าจะผ่านจุดนี้มาได้ในยามปกติก็ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที

    แต่หลังเกิดโศกนาฎกรรม ปรากฎว่ารถติดนานนับชั่วโมง ก่อนหน้านี้ใช้วิธีบีบให้รถทุกคันใช้เส้นทางถนนเอกชัย ไปออกถนนพระรามที่ 2 อีกครั้งแถวตลาดทะเลไทย ขณะที่ถนนสายรอง เช่น ถนนวัดพันท้ายนรสิงห์ และถนนเจษฎาวิถี-สารินซิตี้ ได้รับผลกระทบเช่นกัน รถบางคันหนีไปใช้ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ต่อเนื่องถนนสหกรณ์ ส่วนรถที่มาจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเอกชัย หรือถนนเพชรเกษม และถนนบรมราชชนนีทดแทน ล่าสุดตำรวจทางหลวง ได้เปิดช่องทางพิเศษระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อระบายรถขาออกกรุงเทพฯ ไปยังภาคใต้ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 21.00 น.ของทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะปกติ

    สำหรับการเคลื่อนย้ายโครงเหล็กติดตั้งสะพานที่ได้รับความเสียหาย ด้านซ้ายทางลงจากตอม่อสะพาน ปลดก้อนคอนกรีตและย้ายโครงเหล็กที่อาจมีผลกระทบด้านขวาทาง กลับสู่ตำแหน่งที่ปลอดภัย คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 14 วัน

    ที่ผ่านมาถนนพระรามที่ 2 ประสบอุบัติเหตุจากการก่อสร้างบ่อยครั้ง ตั้งแต่ปี 2561 ถึงเดือน ม.ค. 2567 รวม 2,244 ครั้ง เสียชีวิต 132 ราย บาดเจ็บ 1,305 ราย โดยมีอุบัติเหตุใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิต ได้แก่ 31 ก.ค. 2565 แผ่นปูนสะพานกลับรถ กม.34 ทับรถยนต์เสียชีวิต 2 ราย, 8 พ.ค. 2566 แท่นปูนทางยกระดับหล่นทับคนงาน ก่อนถึงบิ๊กซี พระราม 2 เสียชีวิต 1 ราย, 15 ธ.ค. 2566 เหล็กแบบก่อสร้างทับคนงาน ย่านปากทางบางกระดี่ กทม. เสียชีวิต 1 ราย และ 18 ม.ค. 2567 รถเครนสลิงขาด กระเช้าตกลงมา บริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน เสียชีวิต 1 ราย เป็นต้น

    #Newskit
    อุบัติเหตุส่วนที่แคบที่สุด ถนนพระรามที่ 2 โศกนาฏกรรมโครงถักเหล็กเลื่อน หรือลอนชิงทัส (Launching Truss) ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับถนนพระรามที่ 2 หรือโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 สายบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 1 ผู้รับจ้าง บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด พังถล่มลงมา บริเวณ ต.คอกกระบือ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลา 04.07 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 9 ราย ส่งผลทำให้การจราจรถนนพระรามที่ 2 เป็นอัมพาต เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นส่วนที่แคบที่สุดของถนนพระรามที่ 2 เนื่องจากทางขนาน (Frontage Road) ลอดใต้สะพานทางแยกต่างระดับเอกชัยมีเพียง 1 ช่องจราจร ขณะที่ช่องทางหลัก (Main Road) มี 3 ช่องจราจร แต่ได้ปิดการจราจรช่องทางหลักตั้งแต่เวลา 21.00 น. ถึง 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้นเพื่อก่อสร้างทางยกระดับ ส่งผลทำให้ช่วงหลัง 21.00 น. การจราจรขาออกกรุงเทพฯ ก่อนถึงมหาชัยเมืองใหม่รถติดเป็นคอขวด กว่าจะผ่านจุดนี้มาได้ในยามปกติก็ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที แต่หลังเกิดโศกนาฎกรรม ปรากฎว่ารถติดนานนับชั่วโมง ก่อนหน้านี้ใช้วิธีบีบให้รถทุกคันใช้เส้นทางถนนเอกชัย ไปออกถนนพระรามที่ 2 อีกครั้งแถวตลาดทะเลไทย ขณะที่ถนนสายรอง เช่น ถนนวัดพันท้ายนรสิงห์ และถนนเจษฎาวิถี-สารินซิตี้ ได้รับผลกระทบเช่นกัน รถบางคันหนีไปใช้ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ต่อเนื่องถนนสหกรณ์ ส่วนรถที่มาจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเอกชัย หรือถนนเพชรเกษม และถนนบรมราชชนนีทดแทน ล่าสุดตำรวจทางหลวง ได้เปิดช่องทางพิเศษระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อระบายรถขาออกกรุงเทพฯ ไปยังภาคใต้ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 21.00 น.ของทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะปกติ สำหรับการเคลื่อนย้ายโครงเหล็กติดตั้งสะพานที่ได้รับความเสียหาย ด้านซ้ายทางลงจากตอม่อสะพาน ปลดก้อนคอนกรีตและย้ายโครงเหล็กที่อาจมีผลกระทบด้านขวาทาง กลับสู่ตำแหน่งที่ปลอดภัย คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 14 วัน ที่ผ่านมาถนนพระรามที่ 2 ประสบอุบัติเหตุจากการก่อสร้างบ่อยครั้ง ตั้งแต่ปี 2561 ถึงเดือน ม.ค. 2567 รวม 2,244 ครั้ง เสียชีวิต 132 ราย บาดเจ็บ 1,305 ราย โดยมีอุบัติเหตุใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิต ได้แก่ 31 ก.ค. 2565 แผ่นปูนสะพานกลับรถ กม.34 ทับรถยนต์เสียชีวิต 2 ราย, 8 พ.ค. 2566 แท่นปูนทางยกระดับหล่นทับคนงาน ก่อนถึงบิ๊กซี พระราม 2 เสียชีวิต 1 ราย, 15 ธ.ค. 2566 เหล็กแบบก่อสร้างทับคนงาน ย่านปากทางบางกระดี่ กทม. เสียชีวิต 1 ราย และ 18 ม.ค. 2567 รถเครนสลิงขาด กระเช้าตกลงมา บริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน เสียชีวิต 1 ราย เป็นต้น #Newskit
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 595 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดสถิติอุบัติเหตุถนนพระรามที่ 2.ตั้งแต่ปี 2561 - มกราคม 2567 เกิดอุบัติเหตุ 2,244 ครั้ง มีเสียชีวิต 132 คน และบาดเจ็บ 1,305 คน.เมื่อเวลาประมาณ 04.08 น.ของวันนี้ (29 พ.ย.67) คานปูน (Segment) และเครน (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย -บ้านแพ้ว ตอน 1 พังถล่มลงมา โดยจุดเกิดเหตุอยู่บนถนนพระรามที่ 2 กม.21+600 (บริเวณช่องทางหลัก ทั้งขาเข้าและออก) ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ใกล้แยกมหาชัยเมืองใหม่ ต.คอกกระบือ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร มีผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล 10 ราย และเสียชีวิต 6 ราย.#อุบัติเหตุ #ถนนพระราม2 #บาดเจ็บ #เสียชีวิต
    เปิดสถิติอุบัติเหตุถนนพระรามที่ 2.ตั้งแต่ปี 2561 - มกราคม 2567 เกิดอุบัติเหตุ 2,244 ครั้ง มีเสียชีวิต 132 คน และบาดเจ็บ 1,305 คน.เมื่อเวลาประมาณ 04.08 น.ของวันนี้ (29 พ.ย.67) คานปูน (Segment) และเครน (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย -บ้านแพ้ว ตอน 1 พังถล่มลงมา โดยจุดเกิดเหตุอยู่บนถนนพระรามที่ 2 กม.21+600 (บริเวณช่องทางหลัก ทั้งขาเข้าและออก) ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ใกล้แยกมหาชัยเมืองใหม่ ต.คอกกระบือ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร มีผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล 10 ราย และเสียชีวิต 6 ราย.#อุบัติเหตุ #ถนนพระราม2 #บาดเจ็บ #เสียชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร. เผยสั่งดำเนินคดีผู้มีส่วนกระทำผิดเด็ดขาด กรณีเหตุตัวยกแผ่นปูนถล่ม บนถนนพระราม 2

    วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุตัวยกแผ่นปูน (ทรัส) ที่ใช้สร้างทางต่างระดับถนนพระราม 2 ถล่ม บริเวณ กม.21+100 หมู่ 4 ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร พื้นที่มหาชัยเมืองใหม่ เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ ว่า อันดับแรกต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกราย เหตุนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการกู้ภัยได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องประสานเรื่องการค้นหาผู้สูญหายต่อเนื่อง และบริหารจัดการด้านจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ พร้อมกำชับตำรวจทั้งในพื้นที่ ตำรวจทางหลวง และอาสาตำรวจทุกนายให้ประชาสัมพันธ์การจราจรตั้งแต่ต้นทาง

    ในส่วนการสอบสวนได้เน้นย้ำไปที่ตำรวจภูธรภาค 7 ให้มีความเด็ดขาดจริงจังในการสอบสวนว่าเหตุที่เกิดมีสาเหตุจากสิ่งใด เป็นอุบัติเหตุ ความประมาทเลินเล่อ หรือเป็นเพราะการใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ต้องมีการสอบสวนทั้งผู้รับเหมา ผู้ปฏิบัติงาน และทางบริษัทผู้รับจ้างจากโครงการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000114914

    #MGROnline #ถนนพระราม2
    ผบ.ตร. เผยสั่งดำเนินคดีผู้มีส่วนกระทำผิดเด็ดขาด กรณีเหตุตัวยกแผ่นปูนถล่ม บนถนนพระราม 2 • วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุตัวยกแผ่นปูน (ทรัส) ที่ใช้สร้างทางต่างระดับถนนพระราม 2 ถล่ม บริเวณ กม.21+100 หมู่ 4 ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร พื้นที่มหาชัยเมืองใหม่ เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ ว่า อันดับแรกต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกราย เหตุนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการกู้ภัยได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องประสานเรื่องการค้นหาผู้สูญหายต่อเนื่อง และบริหารจัดการด้านจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ พร้อมกำชับตำรวจทั้งในพื้นที่ ตำรวจทางหลวง และอาสาตำรวจทุกนายให้ประชาสัมพันธ์การจราจรตั้งแต่ต้นทาง • ในส่วนการสอบสวนได้เน้นย้ำไปที่ตำรวจภูธรภาค 7 ให้มีความเด็ดขาดจริงจังในการสอบสวนว่าเหตุที่เกิดมีสาเหตุจากสิ่งใด เป็นอุบัติเหตุ ความประมาทเลินเล่อ หรือเป็นเพราะการใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ต้องมีการสอบสวนทั้งผู้รับเหมา ผู้ปฏิบัติงาน และทางบริษัทผู้รับจ้างจากโครงการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000114914 • #MGROnline #ถนนพระราม2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสือเผ่น หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ปี 2517 อาจารย์ของจอมโจรตี๋ใหญ่...ย้อนหลังไป 10 กว่าปีก่อนเพื่อนผู้เขียน เป็น ผกก อยู๋สมุทรสาคร ก็เลยไปกินดื่มกันบ่อยๆ เลยรู้จักท่าน...เช่นเคย ด้วยนิสัยชอบ ชาลเลนจ์ คือ ท้าทายพิสูจน์ไปแทบทุกสิ่ง..ลองเอาแขวนเดี่ยวไปเลย หลายเดือน เอารุ่นที่รองๆลงไป แจกจ่ายลูกน้องเอาไปแขวนด้วย..คือจะเก็บสถิติ...พ่อสุด ดังเรื่อง แคล้วคลาด คงกระพัน..มาอันดับต้นๆ ตี๋ใหญ่ถึงรอดตลอด..จุดจบท่านลองหาอ่านดู..ประสบการณ์แรกๆ ที่บ้านเลี้ยงหมาไซบีเรียนมาตั้งแต่ 14 ปีที่แล้ว สมัยนั้นแทบไม่มีคนเลี้ยง..เราเลี้ยง 2 ตัวเลย..และมันเบ่นแรงมาก เลือดสาดทุกวัน..ปกติถึงบ้านถอดสร้อยทันที..ทีนี้ลองไม่ถอดสร้อย..เช่นเคย เล่นกับหมาแรงเช่นเคย แต่ จากเลือดสาด กลายเป็นบางจุด ไม่เข้ามีแต่รอย บางจุดมีแบบซิปๆ...แต่ไม่โชกแบบทุกวัน...ที่ไม่ได้ใส่สร้อยก่อนหน้านี้...และผลก็เป็นแบบนี้..จนช่วงนี้ มีปัญหาทางธุรกิจ มีเรื่องอิทธิพล มาเฟียมาเกี่ยว..วันนี้น ปกติจะออกจากบ้าน 9.00 น. ทุกวัน..เป็นแบบนี้มาหลายปี นอกจากเข้าประชุมในสุขุมวิทถึงออกเช้า..วันนั้นอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ กำลังจะเดินเปิดประตูบ้าน..มีลางสังหรณ์ว่า อย่าเพิ่งไป...เราหยุด ไม่รู้หรอกว่าคืออะไร..หันหลังกลับไปนั่งกินกาแฟ อ่านหนังสือ ซึ่งปกติ ไม่เคยกินกาแฟที่บ้าน...ทำโน่นนี่ ไปจน 10 โมงกว่าได้..ก็เปิดประตูรั้ว..เพื่อเอารถออก...พบว่า มีก้นบุหรี่ เป็น 10 อยู่หน้าบ้าน..เลยเดินไปถามบ้านตรงข้ามว่าใครมายืนสูบบุหรี่แล้วทิ้งตรงนี้ เห็นไหม...เขาบอกว่า ผู้ชาย 3 คน..คล้ายทหาร..มาเดินวนไปวนมา ตั้งแต่ 7 โมงกว่าแล้ว....ถึงบางอ้อ..อ่อมาดักอุ้มนี่เอง...รอดไป......เหรียญนี้เป็นเนื้ออัลปาก้า แต่ที่ผู้เขียนห้อยเป็นทองแดง ตอนนั้น หมื่นกว่าบาท ตอนนี้ทองแดงน่าจะ 4_5 หมื่น เป็นเหรียญที่มีการทำเก๊มากที่สุดอีกรุ่นนึง...เก๊มานานแล้วเกินกว่า 40 ปี ...และมีเก๊หลายฝีมือ ส่วนตัวผู้เขียนว่า มีงานเก๊เกินกว่า 10 แบบขึ้นไป..พระรุ่นนี้แยกเป็น 3 บล๊อก แต่มีแม่พิมพ์ตัวเดียว ที่แยกบล๊อกเกิดจากตำหนิที่ปั๊มไปเรื่อยๆ ในภาพคือ บล๊อก A ยังมี B และ C และ C ปากจุด...ส่วนศาลาครืน ผู้เขียนไม่ได้เล่น เลยไม่มีความรู้
    เสือเผ่น หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ปี 2517 อาจารย์ของจอมโจรตี๋ใหญ่...ย้อนหลังไป 10 กว่าปีก่อนเพื่อนผู้เขียน เป็น ผกก อยู๋สมุทรสาคร ก็เลยไปกินดื่มกันบ่อยๆ เลยรู้จักท่าน...เช่นเคย ด้วยนิสัยชอบ ชาลเลนจ์ คือ ท้าทายพิสูจน์ไปแทบทุกสิ่ง..ลองเอาแขวนเดี่ยวไปเลย หลายเดือน เอารุ่นที่รองๆลงไป แจกจ่ายลูกน้องเอาไปแขวนด้วย..คือจะเก็บสถิติ...พ่อสุด ดังเรื่อง แคล้วคลาด คงกระพัน..มาอันดับต้นๆ ตี๋ใหญ่ถึงรอดตลอด..จุดจบท่านลองหาอ่านดู..ประสบการณ์แรกๆ ที่บ้านเลี้ยงหมาไซบีเรียนมาตั้งแต่ 14 ปีที่แล้ว สมัยนั้นแทบไม่มีคนเลี้ยง..เราเลี้ยง 2 ตัวเลย..และมันเบ่นแรงมาก เลือดสาดทุกวัน..ปกติถึงบ้านถอดสร้อยทันที..ทีนี้ลองไม่ถอดสร้อย..เช่นเคย เล่นกับหมาแรงเช่นเคย แต่ จากเลือดสาด กลายเป็นบางจุด ไม่เข้ามีแต่รอย บางจุดมีแบบซิปๆ...แต่ไม่โชกแบบทุกวัน...ที่ไม่ได้ใส่สร้อยก่อนหน้านี้...และผลก็เป็นแบบนี้..จนช่วงนี้ มีปัญหาทางธุรกิจ มีเรื่องอิทธิพล มาเฟียมาเกี่ยว..วันนี้น ปกติจะออกจากบ้าน 9.00 น. ทุกวัน..เป็นแบบนี้มาหลายปี นอกจากเข้าประชุมในสุขุมวิทถึงออกเช้า..วันนั้นอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ กำลังจะเดินเปิดประตูบ้าน..มีลางสังหรณ์ว่า อย่าเพิ่งไป...เราหยุด ไม่รู้หรอกว่าคืออะไร..หันหลังกลับไปนั่งกินกาแฟ อ่านหนังสือ ซึ่งปกติ ไม่เคยกินกาแฟที่บ้าน...ทำโน่นนี่ ไปจน 10 โมงกว่าได้..ก็เปิดประตูรั้ว..เพื่อเอารถออก...พบว่า มีก้นบุหรี่ เป็น 10 อยู่หน้าบ้าน..เลยเดินไปถามบ้านตรงข้ามว่าใครมายืนสูบบุหรี่แล้วทิ้งตรงนี้ เห็นไหม...เขาบอกว่า ผู้ชาย 3 คน..คล้ายทหาร..มาเดินวนไปวนมา ตั้งแต่ 7 โมงกว่าแล้ว....ถึงบางอ้อ..อ่อมาดักอุ้มนี่เอง...รอดไป......เหรียญนี้เป็นเนื้ออัลปาก้า แต่ที่ผู้เขียนห้อยเป็นทองแดง ตอนนั้น หมื่นกว่าบาท ตอนนี้ทองแดงน่าจะ 4_5 หมื่น เป็นเหรียญที่มีการทำเก๊มากที่สุดอีกรุ่นนึง...เก๊มานานแล้วเกินกว่า 40 ปี ...และมีเก๊หลายฝีมือ ส่วนตัวผู้เขียนว่า มีงานเก๊เกินกว่า 10 แบบขึ้นไป..พระรุ่นนี้แยกเป็น 3 บล๊อก แต่มีแม่พิมพ์ตัวเดียว ที่แยกบล๊อกเกิดจากตำหนิที่ปั๊มไปเรื่อยๆ ในภาพคือ บล๊อก A ยังมี B และ C และ C ปากจุด...ส่วนศาลาครืน ผู้เขียนไม่ได้เล่น เลยไม่มีความรู้
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว

  • แฉเหลี่ยมกลับลำ ตั้มเดินหมากถอย จะได้ไม่ติดคุกยาว
    .
    แม้กำลังจะจนตรอก ไม่เหลือหนทางสู้แล้ว แต่หมากล่าสุดที่ก๊วนทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ขยับเดิน นับว่าเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเหมือนเดิม
    .
    เป็นความเคลื่อนไหวแบบ 2 ประสาน ลงมือพร้อมๆ กัน
    .
    สายหนึ่งคือ ทนายปาเกียว นายสายหยุด เพ็งบุญชู จัดการต่อสายถึงทนายความของพี่อ้อย จตุพร อุบลเลิศ เพื่อเปิดเจรจา จะขอคืนเงินทั้งหมดให้พี่อ้อย
    .
    จากเดิมที่ทนายตั้ม เคยโวยใส่ทนายความของพี่อ้อย “กล้าดียังไงมาแจ้งจับผม” ทั้งขู่จะแจ้งความกลับพี่อ้อย โวยว่าทำให้ชื่อเสียงแบรนด์เนมเสียหาย
    .
    ตอนนี้ ทนายตั้มกลับลำ จะขอคืนเงินที่โกงมาทุกบาททุกสตางค์ จนถูกแซวเจ็บๆ “กล้าดียังไงจะคืนเงิน”
    .
    พอพี่อ้อยรับสารจากทนายปาเกียว ก็แจ้งกลับเบื้องต้นไปว่า งานนี้แล้วแต่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” จะตัดสินใจ
    .
    ถือว่าพี่อ้อยฝากชีวิต และเชื่อมั่นในสื่ออาวุโส ว่าจะตัดสินใจได้ดีที่สุด
    .
    ถามว่าพี่อ้อย อยากได้เงินกว่า 100 ล้านบาท ที่ถูกทนายตั้มโกงไปหรือไม่? ใครก็คาดเดาได้ว่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นมันแค่เศษเงินของจำนวนทั้งหมดที่พี่อ้อยมี
    .
    อีกทั้งกระบวนการทางคดี ก็เดินหน้ามาไกล จนเกินกว่าจะหันหลังกลับได้แล้ว
    .
    ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มโลกโซเชียล พี่อ้อยอย่าไปใจอ่อนให้กับคนเนรคุณเด็ดขาด จัดหนัก “สุดซอย” เท่านั้น
    .
    เพราะต่างแน่ใจ คนอย่างทนายตั้ม เป็นภัยสังคมร้ายแรง ขืนปล่อยออกจากคุก ก็เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า จะมีคนต้องตกเป็นเหยื่อของทนายตั้ม อีกไม่รู้เท่าไร
    .
    นอกจากนี้ ทรัพย์สินเงินในธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ที่ ป.ป.ง. อายัดไว้เรียบร้อยแล้วนับร้อยล้านบาทนั้น เมื่อคดีถึงที่สุด ก็ต้องตกเป็นของพี่อ้อยอยู่ดี พี่อ้อยไม่จำเป็นต้องไปรับการชดใช้ใดๆ จากทนายตั้ม
    .
    ในแง่ของจังหวะเวลา ก็ถือว่าสายเกินไป พอรู้ว่าตัวเองจะแพ้แน่นอน จึงจะยอมขอคืนเงิน การแสดงออกแบบนี้ มันไม่น่าสงสาร
    กมลสันดานของโจรที่มาเป็นทนาย ก็คงไม่รู้สึกสำนึกผิดใดๆ การจะขอคืนเงินจึงแค่เป็นหมาก เพื่อหวังดิ้นให้หลุดจากการ “ติดคุกยาว” ก็เท่านั้น
    .
    อีกสายของทนายตั้ม ที่เคลื่อนไหวอย่างสอดประสานกัน คือการปรากฏตัวออกสื่อของพี่ชายคนสนิทที่ชื่อ “โอ๋” คนสมุทรสาครบ้านเดียวกัน ที่ย้ายไปตั้งรกรากที่ จ.เชียงราย
    ก่อนหน้านี้ สนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศให้ช่วยกันติดตามค้นหาที่ซ่อนสมบัติของทนายตั้ม ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทไป จนตู้เซฟยักษ์เหลือแต่ความว่างเปล่า
    .
    หนึ่งในรายชื่อที่สนธิชี้เป้า ก็คือ นายโอ๋ คนนี้เอง
    .
    โอ๋เหมือนเตรียมตัวมาอย่างดี ในการพูดกับสื่อ ยอมรับว่าสนิทกันจริงกับทนายตั้ม แต่ไม่รู้เรื่องทรัพย์สินใดๆ
    .
    แล้วก็พยายามเคลียร์ให้ทนายตั้ม ดูชั่วช้าสารเลวน้อยลง เช่น อ้างว่าทนายตั้ม ไม่ใช่ลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล แค่มาร่วมงานกันเท่านั้น
    .
    แต่เมื่อมองย้อนพฤติกรรมของทนายตั้ม ไม่ว่าจะสร้างเรื่องใส่ร้ายบิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา สมัยเป็น ผบ.ตร. เรื่องจัดซื้อไบโอเมตริกซ์
    .
    โผล่มาอาละวาดกับบิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือไปตอแยยียวนใส่บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ระหว่างทำคดีบิ๊กโจ๊กฟอกเงิน
    .
    แต่ละบิ๊กที่ถูกทนายตั้มตามราวี ล้วนแต่เป็นคู่ปรับของบิ๊กโจ๊กทั้งสิ้น และคนที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากลีลาของทนายตั้ม ก็มีแต่บิ๊กโจ๊กคนเดียว
    .
    พฤติกรรมที่ผ่านมามันชัดเจน ไม่มีอะไรต้องสงสัย ทนายตั้มเป็นแค่ “ม้าใช้” ของบิ๊กโจ๊ก
    พี่โอ๋ของน้องตั้ม ยังพยายามเคลียร์ใจสนธิ ลิ้มทองกุล แทนให้ด้วย ถึงขนาดร่ำไห้แบบไม่มีน้ำตาออกมา
    .
    ชาวเนตได้เห็นได้ฟังทุกสิ่งที่โอ๋พร่ำพูดออกมา ก็มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าคนๆ นี้ เชื่อถือไม่ได้
    .
    หลายคนวิเคราะห์ว่า โอ๋น่าจะกลัวโดนกองปราบฯ ขุดไปถึงตัวเขาทางใดทางหนึ่ง เพราะเขาเองก็ดูร่ำรวย มีทรงของคนไม่ขาวปลอดสักเท่าไร
    .
    ตรรกะง่ายๆ ใครที่จะสนิทสนมซี้ปึ้กกับทนายตั้ม ก็ต้องมีศีลเสมอกัน มิฉะนั้น คงคบกันไม่ได้ยาวนานขนาดนี้
    .
    อย่างพี่อ้อย ไปสนิทกับทนายตั้ม ความสัมพันธ์ก็พังครืนในเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น เพราะทนายตั้มไม่ได้นับพี่อ้อยเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นผู้มีพระคุณใดๆ
    .
    แต่มองพี่อ้อยเป็นเหยื่อโอชะ วางแผนที่จะฮุบทรัพย์สินมหาศาลของพี่อ้อย อย่างเป็นระบบ
    ...........
    Sondhi X
    แฉเหลี่ยมกลับลำ ตั้มเดินหมากถอย จะได้ไม่ติดคุกยาว . แม้กำลังจะจนตรอก ไม่เหลือหนทางสู้แล้ว แต่หมากล่าสุดที่ก๊วนทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ขยับเดิน นับว่าเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเหมือนเดิม . เป็นความเคลื่อนไหวแบบ 2 ประสาน ลงมือพร้อมๆ กัน . สายหนึ่งคือ ทนายปาเกียว นายสายหยุด เพ็งบุญชู จัดการต่อสายถึงทนายความของพี่อ้อย จตุพร อุบลเลิศ เพื่อเปิดเจรจา จะขอคืนเงินทั้งหมดให้พี่อ้อย . จากเดิมที่ทนายตั้ม เคยโวยใส่ทนายความของพี่อ้อย “กล้าดียังไงมาแจ้งจับผม” ทั้งขู่จะแจ้งความกลับพี่อ้อย โวยว่าทำให้ชื่อเสียงแบรนด์เนมเสียหาย . ตอนนี้ ทนายตั้มกลับลำ จะขอคืนเงินที่โกงมาทุกบาททุกสตางค์ จนถูกแซวเจ็บๆ “กล้าดียังไงจะคืนเงิน” . พอพี่อ้อยรับสารจากทนายปาเกียว ก็แจ้งกลับเบื้องต้นไปว่า งานนี้แล้วแต่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” จะตัดสินใจ . ถือว่าพี่อ้อยฝากชีวิต และเชื่อมั่นในสื่ออาวุโส ว่าจะตัดสินใจได้ดีที่สุด . ถามว่าพี่อ้อย อยากได้เงินกว่า 100 ล้านบาท ที่ถูกทนายตั้มโกงไปหรือไม่? ใครก็คาดเดาได้ว่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นมันแค่เศษเงินของจำนวนทั้งหมดที่พี่อ้อยมี . อีกทั้งกระบวนการทางคดี ก็เดินหน้ามาไกล จนเกินกว่าจะหันหลังกลับได้แล้ว . ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มโลกโซเชียล พี่อ้อยอย่าไปใจอ่อนให้กับคนเนรคุณเด็ดขาด จัดหนัก “สุดซอย” เท่านั้น . เพราะต่างแน่ใจ คนอย่างทนายตั้ม เป็นภัยสังคมร้ายแรง ขืนปล่อยออกจากคุก ก็เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า จะมีคนต้องตกเป็นเหยื่อของทนายตั้ม อีกไม่รู้เท่าไร . นอกจากนี้ ทรัพย์สินเงินในธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ที่ ป.ป.ง. อายัดไว้เรียบร้อยแล้วนับร้อยล้านบาทนั้น เมื่อคดีถึงที่สุด ก็ต้องตกเป็นของพี่อ้อยอยู่ดี พี่อ้อยไม่จำเป็นต้องไปรับการชดใช้ใดๆ จากทนายตั้ม . ในแง่ของจังหวะเวลา ก็ถือว่าสายเกินไป พอรู้ว่าตัวเองจะแพ้แน่นอน จึงจะยอมขอคืนเงิน การแสดงออกแบบนี้ มันไม่น่าสงสาร กมลสันดานของโจรที่มาเป็นทนาย ก็คงไม่รู้สึกสำนึกผิดใดๆ การจะขอคืนเงินจึงแค่เป็นหมาก เพื่อหวังดิ้นให้หลุดจากการ “ติดคุกยาว” ก็เท่านั้น . อีกสายของทนายตั้ม ที่เคลื่อนไหวอย่างสอดประสานกัน คือการปรากฏตัวออกสื่อของพี่ชายคนสนิทที่ชื่อ “โอ๋” คนสมุทรสาครบ้านเดียวกัน ที่ย้ายไปตั้งรกรากที่ จ.เชียงราย ก่อนหน้านี้ สนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศให้ช่วยกันติดตามค้นหาที่ซ่อนสมบัติของทนายตั้ม ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทไป จนตู้เซฟยักษ์เหลือแต่ความว่างเปล่า . หนึ่งในรายชื่อที่สนธิชี้เป้า ก็คือ นายโอ๋ คนนี้เอง . โอ๋เหมือนเตรียมตัวมาอย่างดี ในการพูดกับสื่อ ยอมรับว่าสนิทกันจริงกับทนายตั้ม แต่ไม่รู้เรื่องทรัพย์สินใดๆ . แล้วก็พยายามเคลียร์ให้ทนายตั้ม ดูชั่วช้าสารเลวน้อยลง เช่น อ้างว่าทนายตั้ม ไม่ใช่ลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล แค่มาร่วมงานกันเท่านั้น . แต่เมื่อมองย้อนพฤติกรรมของทนายตั้ม ไม่ว่าจะสร้างเรื่องใส่ร้ายบิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา สมัยเป็น ผบ.ตร. เรื่องจัดซื้อไบโอเมตริกซ์ . โผล่มาอาละวาดกับบิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือไปตอแยยียวนใส่บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ระหว่างทำคดีบิ๊กโจ๊กฟอกเงิน . แต่ละบิ๊กที่ถูกทนายตั้มตามราวี ล้วนแต่เป็นคู่ปรับของบิ๊กโจ๊กทั้งสิ้น และคนที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากลีลาของทนายตั้ม ก็มีแต่บิ๊กโจ๊กคนเดียว . พฤติกรรมที่ผ่านมามันชัดเจน ไม่มีอะไรต้องสงสัย ทนายตั้มเป็นแค่ “ม้าใช้” ของบิ๊กโจ๊ก พี่โอ๋ของน้องตั้ม ยังพยายามเคลียร์ใจสนธิ ลิ้มทองกุล แทนให้ด้วย ถึงขนาดร่ำไห้แบบไม่มีน้ำตาออกมา . ชาวเนตได้เห็นได้ฟังทุกสิ่งที่โอ๋พร่ำพูดออกมา ก็มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าคนๆ นี้ เชื่อถือไม่ได้ . หลายคนวิเคราะห์ว่า โอ๋น่าจะกลัวโดนกองปราบฯ ขุดไปถึงตัวเขาทางใดทางหนึ่ง เพราะเขาเองก็ดูร่ำรวย มีทรงของคนไม่ขาวปลอดสักเท่าไร . ตรรกะง่ายๆ ใครที่จะสนิทสนมซี้ปึ้กกับทนายตั้ม ก็ต้องมีศีลเสมอกัน มิฉะนั้น คงคบกันไม่ได้ยาวนานขนาดนี้ . อย่างพี่อ้อย ไปสนิทกับทนายตั้ม ความสัมพันธ์ก็พังครืนในเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น เพราะทนายตั้มไม่ได้นับพี่อ้อยเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นผู้มีพระคุณใดๆ . แต่มองพี่อ้อยเป็นเหยื่อโอชะ วางแผนที่จะฮุบทรัพย์สินมหาศาลของพี่อ้อย อย่างเป็นระบบ ........... Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1778 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานการแจ้งเตือน
    สาธารณภัย ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567

    🔵 น้ำทะเลหนุนสูง บริเวณปากแม่น้ำ และพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง
    จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานการแจ้งเตือน สาธารณภัย ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 🔵 น้ำทะเลหนุนสูง บริเวณปากแม่น้ำ และพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1369 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักร้องยื่นเรื่องไม่เคลียร์ กกต.ข้องใจกลัวโดนฟ้อง ทนายตั้ม ยังไม่หลุดบัญชี ส.ว.
    .
    หลังจากที่มีสรพัดเรื่องร้องเรียนเข้ามายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เป็นจำนวนมาก เวลานี้เริ่มมีเสียงท้วงติงจากกกต.แล้วข้อร้องเรียนหลายเรื่องขาดความชัดเจนที่ไม่อาจนำไปสู่การพิจารณาได้
    .
    นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า เมื่อมีการร้องเข้ามา กกต.ก็จะต้องนำมาพิจารณาดูก่อน ไม่ว่าจะเป็นคำร้องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาร้องความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีการยื่นคำร้องเข้ามาเป็นจำนวนมาก ยอมรับว่า กกต.อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากขึ้น แต่หากจะยื่นเรื่องร้องเรียนขอให้มีข้อมูลให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เป็นการมาตั้งคำถาม
    .
    "ส่วนมากทุกเรื่องจะยื่นมาในลักษณะตั้งคำถามในลักษณะผิดหรือไม่ เข้าใจว่าอาจจะเป็นการหลบหลีกในเรื่องของการถูกฟ้องร้องหรือไม่ แต่สำนักงาน กกต.ก็ไม่เคยทิ้ง แต่ต้องใช้ความเข้มงวดมากขึ้น ในอดีตให้โอกาสเพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. การจะรับคำร้องก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริง ส่วนรูปแบบการร้องหรือสาระสำคัญในการยื่นคำร้อง ขอให้ผู้ร้องได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและผิดกฎหมายมาตราใด ไม่ใช่มาถามว่าผิดหรือไม่"
    .
    ขณะเดียวกัน นายแสวง ระบุว่า กรณีที่กกต.จังหวัดสมุทรสาคร เข้าไปสอบปากคำ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในเรือนจำ ซึ่งถูกร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เนื่องจากทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี นั้น เป็นขั้นตอนตามกระบวนการ กล่าวคือ เมื่อมีคนร้องว่ามีลักษณะต้องห้ามของการเป็น ส.ว. จึงต้องไปสอบตามคำร้อง ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ถือว่านายษิทรายังมีคุณสมบัติการเป็น ส.ว.ตามกฎหมาย สามารถอยู่ในบัญชีสำรองได้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ไม่ว่าจะชั้นไหน
    ..............
    Sondhi X
    นักร้องยื่นเรื่องไม่เคลียร์ กกต.ข้องใจกลัวโดนฟ้อง ทนายตั้ม ยังไม่หลุดบัญชี ส.ว. . หลังจากที่มีสรพัดเรื่องร้องเรียนเข้ามายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เป็นจำนวนมาก เวลานี้เริ่มมีเสียงท้วงติงจากกกต.แล้วข้อร้องเรียนหลายเรื่องขาดความชัดเจนที่ไม่อาจนำไปสู่การพิจารณาได้ . นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า เมื่อมีการร้องเข้ามา กกต.ก็จะต้องนำมาพิจารณาดูก่อน ไม่ว่าจะเป็นคำร้องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาร้องความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีการยื่นคำร้องเข้ามาเป็นจำนวนมาก ยอมรับว่า กกต.อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากขึ้น แต่หากจะยื่นเรื่องร้องเรียนขอให้มีข้อมูลให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เป็นการมาตั้งคำถาม . "ส่วนมากทุกเรื่องจะยื่นมาในลักษณะตั้งคำถามในลักษณะผิดหรือไม่ เข้าใจว่าอาจจะเป็นการหลบหลีกในเรื่องของการถูกฟ้องร้องหรือไม่ แต่สำนักงาน กกต.ก็ไม่เคยทิ้ง แต่ต้องใช้ความเข้มงวดมากขึ้น ในอดีตให้โอกาสเพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. การจะรับคำร้องก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริง ส่วนรูปแบบการร้องหรือสาระสำคัญในการยื่นคำร้อง ขอให้ผู้ร้องได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและผิดกฎหมายมาตราใด ไม่ใช่มาถามว่าผิดหรือไม่" . ขณะเดียวกัน นายแสวง ระบุว่า กรณีที่กกต.จังหวัดสมุทรสาคร เข้าไปสอบปากคำ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในเรือนจำ ซึ่งถูกร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เนื่องจากทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี นั้น เป็นขั้นตอนตามกระบวนการ กล่าวคือ เมื่อมีคนร้องว่ามีลักษณะต้องห้ามของการเป็น ส.ว. จึงต้องไปสอบตามคำร้อง ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ถือว่านายษิทรายังมีคุณสมบัติการเป็น ส.ว.ตามกฎหมาย สามารถอยู่ในบัญชีสำรองได้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ไม่ว่าจะชั้นไหน .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1171 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,576
    วันอังคาร: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (12 November 2024)

    Photo Album 2/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดสามัคยาราม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    12. วัดแหลมประดู่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    13. วัดหลวง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    14. วัดกัสสปวงษาราม อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    15. วัดเขาคีริส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    16. วัดเขาถ้ำแรต อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    17. วัดคลองครุ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    18. วัดควนนิยม อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    19. วัดคีรีวัน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    20. วัดคุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 92 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,576 วันอังคาร: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (12 November 2024) Photo Album 2/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดสามัคยาราม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 12. วัดแหลมประดู่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 13. วัดหลวง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 14. วัดกัสสปวงษาราม อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 15. วัดเขาคีริส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 16. วัดเขาถ้ำแรต อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 17. วัดคลองครุ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 18. วัดควนนิยม อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 19. วัดคีรีวัน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 20. วัดคุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 92 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 659 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,576
    วันอังคาร: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (12 November 2024)

    Photo Album 2/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดสามัคยาราม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    12. วัดแหลมประดู่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    13. วัดหลวง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67)
    14. วัดกัสสปวงษาราม อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    15. วัดเขาคีริส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    16. วัดเขาถ้ำแรต อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    17. วัดคลองครุ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    18. วัดควนนิยม อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    19. วัดคีรีวัน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    20. วัดคุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 92 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,576 วันอังคาร: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (12 November 2024) Photo Album 2/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดสามัคยาราม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 12. วัดแหลมประดู่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 13. วัดหลวง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 14 พ.ย.67) 14. วัดกัสสปวงษาราม อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 15. วัดเขาคีริส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 16. วัดเขาถ้ำแรต อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 17. วัดคลองครุ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 18. วัดควนนิยม อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 19. วัดคีรีวัน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 20. วัดคุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 92 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 653 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดี๋ยวนี้ มี Avenger หลายสายจริงๆ ..สีเหลืองก็มี..คือ อยู่ในทีม..ก็เอามาปลุกปั้นส่งเสริมกัน.....ใคร no name แล้วถูกดึงมาก็ ส้มหล่น...(ของจริงมีนะ...ที่ท่านดังมาหลายปีแล้ว)
    เมื่อก่อนก็มี สหธรรมมิกกัน..ซึ่งแต่ละท่านยอมรับซึ่งกันและกัน ....แต่นั่นของจริง.ของแท้ แต่ละท่านมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก....ปู่โต๊ะ พ่อสุด พ่อทองอยู่ วัดหนองพะอง..คือ 2 รูปหลังนี่ นิมนต์ 1 เหมือนได้ 2 ...ด้วยความที่อยู่ใกล้กัน ( สมุทรสาคร )
    จากการสอบถาม มัคทายก วัดรวกสุทธาราม..ที่ทัน 3 ท่านนี้มาปลุกเสกพระในช่วงปี 2521_2523......
    ผู้เขียนรับฟังด้วยตนเองเมื่อสัก 13 ปีก่อน...
    #ไม่ได้เอ่ยถึงใครและไม่รู้ด้วยว่าใครบ้าง..เป็นเรื่องเล่าในสนามพระ#
    เดี๋ยวนี้ มี Avenger หลายสายจริงๆ ..สีเหลืองก็มี..คือ อยู่ในทีม..ก็เอามาปลุกปั้นส่งเสริมกัน.....ใคร no name แล้วถูกดึงมาก็ ส้มหล่น...(ของจริงมีนะ...ที่ท่านดังมาหลายปีแล้ว) เมื่อก่อนก็มี สหธรรมมิกกัน..ซึ่งแต่ละท่านยอมรับซึ่งกันและกัน ....แต่นั่นของจริง.ของแท้ แต่ละท่านมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก....ปู่โต๊ะ พ่อสุด พ่อทองอยู่ วัดหนองพะอง..คือ 2 รูปหลังนี่ นิมนต์ 1 เหมือนได้ 2 ...ด้วยความที่อยู่ใกล้กัน ( สมุทรสาคร ) จากการสอบถาม มัคทายก วัดรวกสุทธาราม..ที่ทัน 3 ท่านนี้มาปลุกเสกพระในช่วงปี 2521_2523...... ผู้เขียนรับฟังด้วยตนเองเมื่อสัก 13 ปีก่อน... #ไม่ได้เอ่ยถึงใครและไม่รู้ด้วยว่าใครบ้าง..เป็นเรื่องเล่าในสนามพระ#
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts