• #วัดชมภูเวก
    #นนทบุรี
    #เที่ยววัด

    วัดชมภูเวก - พาไปชมวัดมอญ กับ ภาพสีฝุ่นโบราณบนผนังโบสถ์ที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงาม และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย

    วัดชมภูเวก ตั้งอยู่แถวสนามบินน้ำ สันนิษฐานว่าก่อสร้างโดยชาวมอญที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ราว ๆ พศ 2300 เดิมชื่อว่า วัดชมภูวิเวก แปลว่า วัดที่ตั้งอยู่บนเนินอันเงียบสงบ ภายหลัง น่าจะเพี้ยนเป็น วัดชมภูเวก

    ทันทีที่เดินเข้ามา ก็จะเห็น พระมุดตา (ชื่อเรียกเจดีย์ที่มีศิลปะผสมผสานของมอญอยู่) สีขาว โดดเด่นสวยงามมาก ด้านหลังเจดีย์จะมีโบสถ์มหาอุด ผนังภายในมีภาพวาดสีฝุ่นที่งดงาม โดยเฉพาะภาพ พระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่อยู่เหนือประตูโบสถ์ ทางพุทธศิลป์แล้วได้รับการยกย่อง จัดว่าเป็นภาพที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุด ปัจจุบันโบสถ์มหาอุดดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถานของชาติ

    นอกจากนี้ สายมู ห้ามพลาด ถัดไปด้านข้างโบสถ์มหาอุด เราสามารถลอดอุโบสถเพื่อสะเดาะเคราะห์ เสริมสร้างสิริมงคลให้กับชีวิตได้ โดยทางทางยังจัดให้มีการปิดทองลูกนิมิต และพระ ที่ใต้อุโบสถครับ

    เป็นไงครับ จะชมพุทธศิลป์ ก็มีของดี ระดับประเทศ จะเอาสะเดาะเคราะห์ ก็มาได้ หรือ สายถ่ายภาพก็มีมุมสวยๆ ให้ได้กดชัตเตอร์กัน ใกล้ๆ แค่ นนทบุรี นี่เอง ไม่มา ถือว่าพลาดนะครับ

    #ชีวิตนี้ต้องมี1000วัด #เที่ยวไทยไปกับส้มโจ #วัด #ไหว้พระ #ทำบุญ #teavel #temple #nonthaburi #thailand #amazingthailand #thaitour
    #วัดชมภูเวก #นนทบุรี #เที่ยววัด วัดชมภูเวก - พาไปชมวัดมอญ กับ ภาพสีฝุ่นโบราณบนผนังโบสถ์ที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงาม และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย วัดชมภูเวก ตั้งอยู่แถวสนามบินน้ำ สันนิษฐานว่าก่อสร้างโดยชาวมอญที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ราว ๆ พศ 2300 เดิมชื่อว่า วัดชมภูวิเวก แปลว่า วัดที่ตั้งอยู่บนเนินอันเงียบสงบ ภายหลัง น่าจะเพี้ยนเป็น วัดชมภูเวก ทันทีที่เดินเข้ามา ก็จะเห็น พระมุดตา (ชื่อเรียกเจดีย์ที่มีศิลปะผสมผสานของมอญอยู่) สีขาว โดดเด่นสวยงามมาก ด้านหลังเจดีย์จะมีโบสถ์มหาอุด ผนังภายในมีภาพวาดสีฝุ่นที่งดงาม โดยเฉพาะภาพ พระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่อยู่เหนือประตูโบสถ์ ทางพุทธศิลป์แล้วได้รับการยกย่อง จัดว่าเป็นภาพที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุด ปัจจุบันโบสถ์มหาอุดดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถานของชาติ นอกจากนี้ สายมู ห้ามพลาด ถัดไปด้านข้างโบสถ์มหาอุด เราสามารถลอดอุโบสถเพื่อสะเดาะเคราะห์ เสริมสร้างสิริมงคลให้กับชีวิตได้ โดยทางทางยังจัดให้มีการปิดทองลูกนิมิต และพระ ที่ใต้อุโบสถครับ เป็นไงครับ จะชมพุทธศิลป์ ก็มีของดี ระดับประเทศ จะเอาสะเดาะเคราะห์ ก็มาได้ หรือ สายถ่ายภาพก็มีมุมสวยๆ ให้ได้กดชัตเตอร์กัน ใกล้ๆ แค่ นนทบุรี นี่เอง ไม่มา ถือว่าพลาดนะครับ #ชีวิตนี้ต้องมี1000วัด #เที่ยวไทยไปกับส้มโจ #วัด #ไหว้พระ #ทำบุญ #teavel #temple #nonthaburi #thailand #amazingthailand #thaitour
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ ประเทศไอซ์แลนด์
    .
    ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ เป็นดินแดนที่ธรรมชาติก่อรูปเป็นงานศิลปะอันงดงาม ฟยอร์ดตะวันตกของไอซ์แลนด์ซ่อนเร้นสนามบินเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ อิซาฟยอร์ดูร์ ท่าอากาศยานแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูสู่โลกอันเงียบสงบและห่างไกลผู้คน เป็นจุดเชื่อมต่อที่เปราะบางระหว่างภูมิภาคอันห่างไกลกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันที่ทอดตัวสู่ท้องฟ้าราวกับกำแพงหิน และทะเลสีครามเข้มที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ภูมิประเทศอันขรุขระและสภาพอากาศที่ผันผวน ทำให้การเดินทางเข้าถึงท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ลมทะเลที่พัดกระหน่ำและภูเขาที่บดบังทัศนวิสัย ทำให้การขึ้นลงของเครื่องบินเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของนักบินเป็นอย่างมาก
    .
    หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ คือ รันเวย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและท้าทายกว่าสนามบินส่วนใหญ่ทั่วไป เนื่องจากภูมิประเทศที่ซับซ้อน ทำให้รันเวย์ไม่สามารถสร้างให้ตรงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้ และเมื่อเครื่องบินเข้าใกล้เพื่อลงจอดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นักบินจะต้องบังคับเครื่องเลี้ยวกลับ 180 องศาเต็มก่อนจะแตะพื้น การเลี้ยวที่รวดเร็วและแม่นยำบนรันเวย์อันคับแคบนี้ ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของนักบินที่บินเข้าสู่สนามบินแห่งนี้
    ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ ประเทศไอซ์แลนด์ . ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ เป็นดินแดนที่ธรรมชาติก่อรูปเป็นงานศิลปะอันงดงาม ฟยอร์ดตะวันตกของไอซ์แลนด์ซ่อนเร้นสนามบินเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ อิซาฟยอร์ดูร์ ท่าอากาศยานแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูสู่โลกอันเงียบสงบและห่างไกลผู้คน เป็นจุดเชื่อมต่อที่เปราะบางระหว่างภูมิภาคอันห่างไกลกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันที่ทอดตัวสู่ท้องฟ้าราวกับกำแพงหิน และทะเลสีครามเข้มที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ภูมิประเทศอันขรุขระและสภาพอากาศที่ผันผวน ทำให้การเดินทางเข้าถึงท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ลมทะเลที่พัดกระหน่ำและภูเขาที่บดบังทัศนวิสัย ทำให้การขึ้นลงของเครื่องบินเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของนักบินเป็นอย่างมาก . หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ คือ รันเวย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและท้าทายกว่าสนามบินส่วนใหญ่ทั่วไป เนื่องจากภูมิประเทศที่ซับซ้อน ทำให้รันเวย์ไม่สามารถสร้างให้ตรงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้ และเมื่อเครื่องบินเข้าใกล้เพื่อลงจอดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นักบินจะต้องบังคับเครื่องเลี้ยวกลับ 180 องศาเต็มก่อนจะแตะพื้น การเลี้ยวที่รวดเร็วและแม่นยำบนรันเวย์อันคับแคบนี้ ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของนักบินที่บินเข้าสู่สนามบินแห่งนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งของสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ส พลิกหงายท้องหลังลงจอดกระแทกที่สนามบินโทรอนโต เพียร์สัน ในแคนาดา ท่ามกลางลมแรง สืบเนื่องจากพายุหิมะ ในวันจันทร์ (17 ก.พ.) ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย จากทั้งหมด 80 คนบนเครื่องบิน ตามการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่
    .
    ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น มีอยู่ 3 รายที่อาการสาหัส ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 1 คน
    .
    สายการบินเดลตา เปิดเผยว่าเครื่องบิน CRJ900 ที่ปฏิบัติการโดยสายการบินลูก "เอ็นเดเวอร์แอร์" เป็นเครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุ โดยมันบรรทุกผู้โดยสาร 76 คนและลูกเรือ 4 คน ทั้งนี้ CRJ900 ผลิตโดยบริษัทบอมบาร์เดียร์ของแคนาดา บรรทุกได้สูงสุด 90 คน
    .
    สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ผู้ใช้บนสื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งโพสต์วิดีโอหลังเกิดเหตุ เป็นภาพรถดับเพลิงกำลังฉีดน้ำเข้าใส่เครื่องบิน ที่พลิกหงายท้องอยู่บนรันเวย์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ
    .
    "เราอยู่ในโทรอนโต เราเพิ่งลงจอด เครื่องบินของเรากระแทกและมันพลิกหงายท้อง หน่วยดับเพลิงอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว แม้พลิกหงายท้อง แต่ทุกๆ คน ผู้คนเกือบทั้งหมดปลอดภัยดี เรากำลังออกไป มีควันคลุ้งออกมาบ้าง" จอห์น เบลสัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งบรรยายภาพในวิดีโอ
    .
    ท่าอากาศยานเพียร์สัน บอกก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (17 ก.พ.) ว่ากำลังรับมือกับลมแรงและอุณหภูมิเย็นยะเยือก ส่วนสายการบินต่างๆ ก็พยายามบริหารจัดการกับเที่ยวบินต่างๆ ที่ต้องยกเลิก หลังจากพายุหิมะในช่วงสุดสัปดาห์ ที่เทหิมะลงมาหนาถึง 22 เซนติเมตร บริเวณสนามบิน
    .
    ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย มีอยู่ 2 คนที่ถูกลำเลียงทางอากาศไปยังศูนย์อุบัติเหตุ ส่วนเด็กถูกพาไปยังโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่ง ขณะที่อีก 12 ที่เหลือ ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล "เราไม่มีผู้เสียชีวิต และเราพบตัวลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดแล้ว" หัวหน้าหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินระบุ
    .
    สนามบินโทรอนโต ต้องปิดทำการเป็นเวลา 90 นาที ก่อนกลับมาเปิดปฏิบัติการทั้งเที่ยวบินขาเข้าและขาออกหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม มันทำให้หลายเที่ยวบินต้องเบี่ยงไปลงจอดที่ท่าอากาศยานอื่นๆ และก่อปัญหาดีเลย์ตามสนามบินนั้นๆ ในนั้นรวมถึงสนามบินทรูโด ในมอนทรีออล ที่เผยว่ากำลังเตรียมพร้อมรองรับอีกหลายเที่ยวบินที่ต้องเบี่ยงมาลงจอด ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจก่อปัญหาล่าช้าเพิ่มเติม
    .
    คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของแคนาดา (TSB) เผยว่ากำลังส่งคณะทำงานลงพื้นที่เพื่อทำการสืบสวน ส่วนคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่าทีมสืบสวนของพวกเขาจะเข้าข่วยเหลือทีมงานของ TSB ด้วยเช่นกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015977
    ..............
    Sondhi X
    เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งของสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ส พลิกหงายท้องหลังลงจอดกระแทกที่สนามบินโทรอนโต เพียร์สัน ในแคนาดา ท่ามกลางลมแรง สืบเนื่องจากพายุหิมะ ในวันจันทร์ (17 ก.พ.) ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย จากทั้งหมด 80 คนบนเครื่องบิน ตามการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่ . ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น มีอยู่ 3 รายที่อาการสาหัส ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 1 คน . สายการบินเดลตา เปิดเผยว่าเครื่องบิน CRJ900 ที่ปฏิบัติการโดยสายการบินลูก "เอ็นเดเวอร์แอร์" เป็นเครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุ โดยมันบรรทุกผู้โดยสาร 76 คนและลูกเรือ 4 คน ทั้งนี้ CRJ900 ผลิตโดยบริษัทบอมบาร์เดียร์ของแคนาดา บรรทุกได้สูงสุด 90 คน . สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ผู้ใช้บนสื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งโพสต์วิดีโอหลังเกิดเหตุ เป็นภาพรถดับเพลิงกำลังฉีดน้ำเข้าใส่เครื่องบิน ที่พลิกหงายท้องอยู่บนรันเวย์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ . "เราอยู่ในโทรอนโต เราเพิ่งลงจอด เครื่องบินของเรากระแทกและมันพลิกหงายท้อง หน่วยดับเพลิงอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว แม้พลิกหงายท้อง แต่ทุกๆ คน ผู้คนเกือบทั้งหมดปลอดภัยดี เรากำลังออกไป มีควันคลุ้งออกมาบ้าง" จอห์น เบลสัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งบรรยายภาพในวิดีโอ . ท่าอากาศยานเพียร์สัน บอกก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (17 ก.พ.) ว่ากำลังรับมือกับลมแรงและอุณหภูมิเย็นยะเยือก ส่วนสายการบินต่างๆ ก็พยายามบริหารจัดการกับเที่ยวบินต่างๆ ที่ต้องยกเลิก หลังจากพายุหิมะในช่วงสุดสัปดาห์ ที่เทหิมะลงมาหนาถึง 22 เซนติเมตร บริเวณสนามบิน . ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย มีอยู่ 2 คนที่ถูกลำเลียงทางอากาศไปยังศูนย์อุบัติเหตุ ส่วนเด็กถูกพาไปยังโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่ง ขณะที่อีก 12 ที่เหลือ ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล "เราไม่มีผู้เสียชีวิต และเราพบตัวลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดแล้ว" หัวหน้าหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินระบุ . สนามบินโทรอนโต ต้องปิดทำการเป็นเวลา 90 นาที ก่อนกลับมาเปิดปฏิบัติการทั้งเที่ยวบินขาเข้าและขาออกหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม มันทำให้หลายเที่ยวบินต้องเบี่ยงไปลงจอดที่ท่าอากาศยานอื่นๆ และก่อปัญหาดีเลย์ตามสนามบินนั้นๆ ในนั้นรวมถึงสนามบินทรูโด ในมอนทรีออล ที่เผยว่ากำลังเตรียมพร้อมรองรับอีกหลายเที่ยวบินที่ต้องเบี่ยงมาลงจอด ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจก่อปัญหาล่าช้าเพิ่มเติม . คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของแคนาดา (TSB) เผยว่ากำลังส่งคณะทำงานลงพื้นที่เพื่อทำการสืบสวน ส่วนคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่าทีมสืบสวนของพวกเขาจะเข้าข่วยเหลือทีมงานของ TSB ด้วยเช่นกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015977 .............. Sondhi X
    Like
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1710 มุมมอง 1 รีวิว
  • กองทัพเลบานอนยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนจริงขึ้นฟ้า เพื่อพยายามสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงชาวเลบานอนที่ออกมาประท้วงรัฐบาลด้วยการปิดถนนสู่สนามบินกรุงเบรุต จากการที่รัฐบาลปิดกั้นเที่ยวบินจากอิหร่าน

    มีการชูป้ายประท้วงที่มีข้อความระบุว่า "สนามบินจะไม่ใช่ของอิสราเอล" ซึ่งสะท้อนถึงอิทธิพลของอิสราเอลที่มีต่ออำนาจอธิปไตยของเลบานอน

    สาเหตุที่ชาวเลบานอนไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากรัฐบาลทำตามแรงกดดันจากอิสราเอล โดยกล่าวหาว่าอิหร่านลักลอบส่งเงินให้สมาชิกฮิซบอลเลาะห์ จากสายการบินอิหร่าน

    มีรายงานว่า แม้แต่นักการเมืองในรัฐสภาเลบานอนที่ต่อต้านฮิซบอลเลาะห์ ก็แสดงความไม่พอใจจากการตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐบาลเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการให้เลบานอนอยู่ภายใต้อิทธิพลของอิสราเอล
    กองทัพเลบานอนยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนจริงขึ้นฟ้า เพื่อพยายามสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงชาวเลบานอนที่ออกมาประท้วงรัฐบาลด้วยการปิดถนนสู่สนามบินกรุงเบรุต จากการที่รัฐบาลปิดกั้นเที่ยวบินจากอิหร่าน มีการชูป้ายประท้วงที่มีข้อความระบุว่า "สนามบินจะไม่ใช่ของอิสราเอล" ซึ่งสะท้อนถึงอิทธิพลของอิสราเอลที่มีต่ออำนาจอธิปไตยของเลบานอน สาเหตุที่ชาวเลบานอนไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากรัฐบาลทำตามแรงกดดันจากอิสราเอล โดยกล่าวหาว่าอิหร่านลักลอบส่งเงินให้สมาชิกฮิซบอลเลาะห์ จากสายการบินอิหร่าน มีรายงานว่า แม้แต่นักการเมืองในรัฐสภาเลบานอนที่ต่อต้านฮิซบอลเลาะห์ ก็แสดงความไม่พอใจจากการตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐบาลเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการให้เลบานอนอยู่ภายใต้อิทธิพลของอิสราเอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเศษวัตถุอวกาศที่ตกลงมาใส่เครื่องบิน จากการศึกษาล่าสุดพบว่า แม้ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ยังต่ำ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ อาจมีผลกระทบที่ร้ายแรง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียได้วิเคราะห์รูปแบบการจราจรทางอากาศทั่วโลกกับเส้นทางตกลงมาของเศษวัตถุอวกาศที่ไม่ได้ควบคุม พวกเขาคาดว่าใกล้กับศูนย์กลางสนามบินหลัก จะมีความน่าจะเป็น 0.8% ต่อปีที่จะเกิดเหตุการณ์เศษวัตถุอวกาศตกลงมา

    แม้จะดูเหมือนน้อย แต่ในพื้นที่การจราจรทางอากาศที่หนาแน่นเช่นอเมริกาตอนเหนือหรือยุโรปตอนเหนือ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเกิน 26% ต่อปี ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากจำนวนวัตถุที่ถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มขึ้น รวมถึงดาวเทียมขนาดใหญ่เช่น Starlink และชิ้นส่วนจรวดที่ถูกทิ้ง

    นอกจากปัญหาที่นักดาราศาสตร์เห็นว่าดาวเทียมขนาดใหญ่รบกวนการสังเกตท้องฟ้าแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่เศษวัตถุเหล่านี้อาจกระทบกับเครื่องบินในอนาคต นักวิจัยเน้นถึงความจำเป็นในการควบคุมการตกลงมาของวัตถุอวกาศอย่างเข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเศษวัตถุจะสลายตัวในบริเวณทะเลไกลฝั่ง

    https://www.techspot.com/news/106749-scientists-sound-alarm-rising-odds-space-junk-striking.html
    ในช่วงนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเศษวัตถุอวกาศที่ตกลงมาใส่เครื่องบิน จากการศึกษาล่าสุดพบว่า แม้ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ยังต่ำ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ อาจมีผลกระทบที่ร้ายแรง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียได้วิเคราะห์รูปแบบการจราจรทางอากาศทั่วโลกกับเส้นทางตกลงมาของเศษวัตถุอวกาศที่ไม่ได้ควบคุม พวกเขาคาดว่าใกล้กับศูนย์กลางสนามบินหลัก จะมีความน่าจะเป็น 0.8% ต่อปีที่จะเกิดเหตุการณ์เศษวัตถุอวกาศตกลงมา แม้จะดูเหมือนน้อย แต่ในพื้นที่การจราจรทางอากาศที่หนาแน่นเช่นอเมริกาตอนเหนือหรือยุโรปตอนเหนือ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเกิน 26% ต่อปี ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากจำนวนวัตถุที่ถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มขึ้น รวมถึงดาวเทียมขนาดใหญ่เช่น Starlink และชิ้นส่วนจรวดที่ถูกทิ้ง นอกจากปัญหาที่นักดาราศาสตร์เห็นว่าดาวเทียมขนาดใหญ่รบกวนการสังเกตท้องฟ้าแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่เศษวัตถุเหล่านี้อาจกระทบกับเครื่องบินในอนาคต นักวิจัยเน้นถึงความจำเป็นในการควบคุมการตกลงมาของวัตถุอวกาศอย่างเข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเศษวัตถุจะสลายตัวในบริเวณทะเลไกลฝั่ง https://www.techspot.com/news/106749-scientists-sound-alarm-rising-odds-space-junk-striking.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists sound alarm on rising odds of space junk striking airplanes
    Researchers at the University of British Columbia analyzed global air traffic patterns against the projected re-entry paths of uncontrolled space debris.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • โยนหินถามทาง ยกเลิกจำกัดขายเหล้า

    ในประเทศไทยจำกัดการจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. ให้จำหน่ายได้เฉพาะเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. 2. งดจำหน่ายในวันสำคัญทางศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา ก่อนที่จะแก้ไขโดยเพิ่มวันออกพรรษา ยกเว้นดิวตี้ฟรีในสนามบิน 3. ห้ามขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน ถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง

    แต่ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนข้อจำกัดทางกฎหมายในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยอ้างว่าได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจหลายกลุ่มว่าเป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและไม่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงสั่งการให้ศึกษาเพิ่มเติม ทั้งการห้ามขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือกรณีติดขัดข้อจำกัดด้านการควบคุมพื้นที่โซนนิ่ง และกฎบางประการออกมาตั้งแต่ช่วงโควิดหรือตั้งแต่ปี 2515

    "อย่างวันพระใหญ่ หรือวันอะไรที่เราเป็นข้อห้ามอยู่ ชาวต่างชาติที่มาเขาไม่ได้ทราบวันเหล่านี้ก่อน และจะมีผลเรื่องการท่องเที่ยว เรามองว่าในธีมปีนี้เป็นปีของการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะต้องถูกพิจารณาอีกครั้ง" น.ส.แพทองธาร ระบุ

    สอดรับกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่า นายกฯ มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาศึกษาในเรื่องดังกล่าว ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ มท. คือกรมการปกครอง ต้องไปดูภาพรวม โดยเฉพาะการจัดโซนนิ่ง เพราะครั้งนี้เกี่ยวกับการแก้ พ.ร.บ.ด้วย อีกทั้งต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่และดื่มไม่ขับ ถ้าจะปรับการแก้ไขกฎหมายต้องมีบทลงโทษที่รุนแรง เช่น หากกลางวันตรวจพบต้องมีบทลงโทษรุนแรงมากขึ้น

    กระแสการแก้ไขกฎระเบียบดังกล่าว เป็นที่จับตามองจากเครือข่ายงดเหล้า ตั้งคำถามว่าที่นักท่องเที่ยวคิดว่าการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ช่วงวันพระใหญ่หรือช่วงบ่าย 2 จึงตัดสินใจไม่มาไทยคงไม่ใช่ เพราะทุกวันนี้นักท่องเที่ยวยังเข้ามาและมากขึ้นเกือบจะเท่าก่อนโควิด แต่มาตรการยังเหมือนเดิม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจต้องการทำให้การขายการดื่มสะดวกมากขึ้น ท้ายสุดคือการเพิ่มจำนวนการดื่มและนักดื่มมากขึ้น เอื้อให้กับผู้ประกอบการหรือไม่ เพราะอันตรายที่แฝงมารัฐบาลก่อนจึงต้องจำกัดหรือควบคุม การที่นายกฯ ให้ไปศึกษานับว่ายังให้เวลาชั่งน้ำหนักผลดีผลเสีย เชื่อว่าหากศึกษาอย่างรอบด้านรัฐบาลควรตัดสินใจอย่างเที่ยงตรงตามหลักวิชาการอย่างแท้จริง

    #Newskit
    โยนหินถามทาง ยกเลิกจำกัดขายเหล้า ในประเทศไทยจำกัดการจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. ให้จำหน่ายได้เฉพาะเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. 2. งดจำหน่ายในวันสำคัญทางศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา ก่อนที่จะแก้ไขโดยเพิ่มวันออกพรรษา ยกเว้นดิวตี้ฟรีในสนามบิน 3. ห้ามขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน ถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง แต่ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนข้อจำกัดทางกฎหมายในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยอ้างว่าได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจหลายกลุ่มว่าเป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและไม่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงสั่งการให้ศึกษาเพิ่มเติม ทั้งการห้ามขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือกรณีติดขัดข้อจำกัดด้านการควบคุมพื้นที่โซนนิ่ง และกฎบางประการออกมาตั้งแต่ช่วงโควิดหรือตั้งแต่ปี 2515 "อย่างวันพระใหญ่ หรือวันอะไรที่เราเป็นข้อห้ามอยู่ ชาวต่างชาติที่มาเขาไม่ได้ทราบวันเหล่านี้ก่อน และจะมีผลเรื่องการท่องเที่ยว เรามองว่าในธีมปีนี้เป็นปีของการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะต้องถูกพิจารณาอีกครั้ง" น.ส.แพทองธาร ระบุ สอดรับกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่า นายกฯ มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาศึกษาในเรื่องดังกล่าว ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ มท. คือกรมการปกครอง ต้องไปดูภาพรวม โดยเฉพาะการจัดโซนนิ่ง เพราะครั้งนี้เกี่ยวกับการแก้ พ.ร.บ.ด้วย อีกทั้งต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่และดื่มไม่ขับ ถ้าจะปรับการแก้ไขกฎหมายต้องมีบทลงโทษที่รุนแรง เช่น หากกลางวันตรวจพบต้องมีบทลงโทษรุนแรงมากขึ้น กระแสการแก้ไขกฎระเบียบดังกล่าว เป็นที่จับตามองจากเครือข่ายงดเหล้า ตั้งคำถามว่าที่นักท่องเที่ยวคิดว่าการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ช่วงวันพระใหญ่หรือช่วงบ่าย 2 จึงตัดสินใจไม่มาไทยคงไม่ใช่ เพราะทุกวันนี้นักท่องเที่ยวยังเข้ามาและมากขึ้นเกือบจะเท่าก่อนโควิด แต่มาตรการยังเหมือนเดิม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจต้องการทำให้การขายการดื่มสะดวกมากขึ้น ท้ายสุดคือการเพิ่มจำนวนการดื่มและนักดื่มมากขึ้น เอื้อให้กับผู้ประกอบการหรือไม่ เพราะอันตรายที่แฝงมารัฐบาลก่อนจึงต้องจำกัดหรือควบคุม การที่นายกฯ ให้ไปศึกษานับว่ายังให้เวลาชั่งน้ำหนักผลดีผลเสีย เชื่อว่าหากศึกษาอย่างรอบด้านรัฐบาลควรตัดสินใจอย่างเที่ยงตรงตามหลักวิชาการอย่างแท้จริง #Newskit
    Angry
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 6 นี้ขอแลกเปลี่ยนและนำเสนอมุมมองปรากฏการณ์การรวมตัวกันขององค์กรและสมาคมทางการบินระหว่างประเทศจากทั่วโลกที่ได้ออกประกาศเป็นหนังสือเรียกร้องให้รัฐภาคีประเทศต่าง ๆ ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( International Civil Aviation Organization: ICAO) ปฏิบัติตามมาตรฐานข้อกำหนดตามภาคผนวกที่ 13 แห่งองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO Annex 13 - Aircraft Accident and Incident Investigation) โดยขอให้รัฐหรือประเทศต่าง ๆ เร่งดำเนินการสอบสวนและนำเสนอรายงานผลการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์รุนแรงของอากาศยานที่เกิดขึ้นในความรับผิดชอบของตนที่ยังค้างคาหรือยังไม่มีรายงานผลการสอบสวนฉบับสุดท้าย (Final Investigation Report) ออกมาหรือมีเพียงแค่รายงานเบื้องต้น (Preliminary Report) หรือรายงานฉบับบกลาง (Interim Report) เพียงเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการบินตามหน่วยงานต่าง ๆที่เกี่ยวข้องได้รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุหรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยทางการบินที่เกิดขึ้นรวมทั้งแนวทางหรือมาตรการป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ทำนองเดิมเกิดซ้ำอีก

    สำหรับองค์กรและสมาคมทางการบินระหว่างประเทศที่รวมตัวกันออกแถลงการณ์ร่วมกันในครั้งนี้ได้แก่
    1. Airport Council International, Europe (ACI Europe),
    2. European Cockpit Association (ECA),
    3. Flight Safety Foundation (FSF),
    4. International Air Transport Association (IATA),
    5. The International Coordinating Council of Aerospace Industries Association (ICCAIA),
    6. International Federation of Air Line Pilots’ Associations (IFALPA) และ
    7. International Federation of Air Traffic Controllers’ Associations (IFATCA)
    โดยก่อนหน้านี้ทาง IATA เองได้ออกหนังสือประกาศเรื่องทำนองเดียวกันนี้เรียกร้องให้รัฐภาคีสมาชิกของ ICAO เร่งรัดให้มีการดำเนินการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุหรืออากาศยานอุบัติการณรุนแรงและให้รีบเผยแพร่รายงานออกมาครั้งหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ 5 มิ.ย. 2566 (ดูภาพเอกสารตามที่แนบมา) แต่ดูเหมือนจะยังไม่มีความคืบหน้าอะไรที่ชัดเจนนัก

    ทั้งนี้คงไม่น่าแปลกใจเท่าไรนักสำหรับการออกแถลงการณ์ร่วมในครั้งนี้เพราะถ้าเราสังเกตุดูดีดีจะเห็นว่าตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันมีเหตุการณ์อุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงของอากาศยานจากทั่วโลกเกิดขึ้นซึ่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนที่ถี่มาก ทั้งนี้เมื่อเทียบข้อมูลสถิติที่ระบุอยู่ในเอกสารฉบับนี้จะพบว่าจำนวนการเกิดอุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงของอากาศยานกับจำนวนรายงานผลการสอบสวนฯที่จะรายงานมาพร้อมกับข้อมูลปัจจัยที่เป็นสาเหตุและมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดซ้ำอีกเพื่อไว้สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบินได้มีแนวทางป้องกันนั้นมีน้อยมาก ยกตัวอย่างบางส่วนของตัวเลขสถิติตามข้อมูลรายงานด้านความปลอดภัยประจำปี ระหว่างปี 2018 ถึง 2023 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.67 ข้อมูลอุบัติเหตุที่ IATA บันทึกไว้ในจำนวนอุบัติเหตุ 268 รายการมีรายงานผลการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุฉบับสุดท้าย 140 รายการ (52%) ในขณะที่อีก 128 รายการยังไม่มีผลรายงานการสอบสวนอุบัติเหตุอากาศยานฉบับสุดท้ายออกมา คิดเป็น 48%

    เนื้อหาในเอกสารแถลงการณ์ฉบับนี้ยังได้ระบุรายละเอียดถึงขนาดที่ว่ารัฐบางรัฐไม่ได้มีการสอบสวนเหตุการณ์อุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงเลยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์มา บางรัฐออกเพียงรายงานเบื้องต้นหรือรายงานฉบับกลางเพียงเท่านั้นซึ่งน่าจะไม่มีประโยชน์เท่าใดนักที่ผู้ที่มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมการบินจะนำไปใช้ หนำซ้ำรัฐบางรัฐออกรายงานฉบับกลางเพื่อจะให้เป็นข้อมูลเสมือนหนึ่งเป็นรายงานฉบับสุดท้ายและจะไม่ดำเนินการอะไรต่อเลย เมื่อสภาพการณ์เป็นเช่นนี้อุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงในรูปแบบเดิมก็สามารถเกิดขึ้นได้อีก ทั้งนี้ในมาตรฐานตาม ICAO Annex 13 นั้นรายงานผลการสอบสวนฉบับสุดท้ายควรออกมาโดยเร็วที่สุดหรือภายใน 12 เดือนนับจากวันที่เกิดเหตุการณ์ ซึ่งตามข้อมูลใน พรบ.การเดินอากาศ พ.ศ. 2497 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ผู้เขียนยังไม่เห็นถ้อยคำกฎหมายที่ชัดเจนที่ระบุรายละเอียดตามข้อความตามที่ ICAO Annex 13 กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดรูปแบบรายงานเบื้องต้นผลการสอบสวนอุบัติเหตุของอากากาศยานหรืออุบัติการณ์รุนแรง รายงานฉบับกลางฯ และรายงานฉบับสุดท้ายฯหรือข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาที่ควรต้องระบุไว้สำหรับการออกรายงานว่าจะต้องออกภายในระยะเวลาเท่าใดหรือกี่เดือน เท่าที่ทราบจะมีก็เพียงข้อกำหนดที่ระบุอยู่ในมาตรฐานคู่มือการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบเท่านั้นซึ่งรัฐควรต้องระบุอยู่ในกฎหมายของตนตามวัตถุประสงค์ของการออกข้อกำหนดมาตรฐานใน Annex ต่าง ๆ ของ ICAO (อันนี้ถ้าข้อมูลคลาดเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงไปแล้วต้องขออภัยเป็นอย่างสูงหรือใครมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันสามารถแชร์ได้นะครับ)

    สำหรับประกาศหรือหนังสือแถลงการณ์ฉบับนี้ นัยสำคัญในเรื่องนี้คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นการสื่อสารโดยตรงหรือโดยอ้อมไปยังองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ว่าองค์กรแห่งนี้ได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิผลมากน้อยแค่ไหนด้านการกำกับดูแลด้านมาตรฐานและความปลอดภัยการบินพลเรือนระหว่างประเทศของประเทศต่าง ๆที่เป็นรัฐภาคีเพราะเมื่อกลางปี 2566 IATA เองก็ได้ออกประกาศเรียกร้องมาแล้วตามที่กล่าวไว้ข้างต้น มาครั้งนี้มีการรวมตัวกันของสมาคมหรือองค์กรทางการบินระหว่างประเทศหลายองค์กร ทาง ICAO จะสามารถนิ่งเฉยเสียงเรียกร้องอยู่ได้โดยจะไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมที่เป็นที่น่าพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบินได้หรือไม่ สำหรับมุมมองของผู้เขียนเองมองว่าการดำเนินงานของ ICAO ระยะหลังรู้สึกกังวลความมีประสิทธิภาพขององค์กรแห่งนี้เป็นอย่างมากโดยดูจากข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุ/อุบัติการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งรายงานการจัดการข้อบกพร่องทางกายภาพของสนามบินหรือการจัดการด้านอื่น ๆ และการดำเนินการตามมาตรฐานของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ที่บางรายการมีลำดับความเร่งด่วนที่มีผลต่อความปลอดภัยสูงแต่ก็สามารถคงอยู่มาได้มากว่า 15 ปีแล้วโดยที่ไม่มีอะไรที่การันตีได้เลยว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยกับข้อบกพร่องนั้นที่อยู่ในรายงานของ ICAO ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ICAO Asia and Pacific: ICAO APAC) นี้เลย

    ในส่วนของการดำเนินการของประเทศเราตามที่สมาคมหรือองค์กรทางการบินระหว่างประเทศต่าง ๆ เรียกร้องมานั้น ถ้าเข้าไปดูข้อมูลในเวปไซต์ของหน่วยงานที่รับผิดชอบก็มีลักษณะค่อนข้างคล้ายคลึงกับแถลงการณ์ฉบับบนี้ ถ้าดูให้ลึกต่อไปถึงโครงสร้างองค์กรหรือความเป็นอิสระของการดำเนินการด้านการสอบสวนอุบัติเหตุทางการบินของประเทศ จากมุมมองส่วนตัวแล้วน่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าเข้าไปดูรายงานการสอบสวนฯฉบับบกลางของอุบัติการณ์รุนแรงทางการบินบางรายงานที่จะยังรอผลสอบสวนฉบับสุดท้ายถึงสาเหตุและแนวทางป้องกันแล้ว จะเกิดความรู้สึกโชคดีมากที่เราไม่ค่อยเดินทางทางอากาศเท่าใดนัก นี้ยังไม่นับรวมถึงโครงการตรวจสอบด้านมาตรฐานการบินพลเรือนประเทศไทยของ ICAO ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางปีนี้ (ซึ่งถูกเลื่อนมาครั้งหนึ่งแล้ว) ว่าผลการตรวจสอบคงเดาไม่ยากว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เราจะต้องเตรียมตัวถึง Significant Safety Concerns (SSC) หรือธงแดงอีกหรือไม่เพราะเท่าที่ทราบในหัวข้ออื่น ๆ อีกหลายเรื่องที่ ICAO ตรวจสอบก็มีข้อที่น่ากังวลด้านมาตรฐานและความปลอดภัยหลายหัวข้อ ยิ่งก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมีผู้เสียชีวิตยกลำในประเทศเรามาแล้วยิ่งน่ากังวลใหญ่ เรื่องบางเรื่อง ICAO เขามีข้อมูลแล้วไม่ใช่เขาจะไม่รู้ อยู่ที่ว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลจะจัดการแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามก็ยังมีผู้ที่กังวลว่า ICAO จะสามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาหรือมีข้อจำกัดบางประการหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นผลกระทบด้านความน่าเชื่อถือขององค์กรแห่งนี้ก็จะมีไม่น้อยและจะเสื่อมถอยไปในที่สุด ตามหลักอธิปจยตา "เพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น"

    ข้อมูลอ้างอิง
    1. https://www.ifalpa.org/publications/library/publication-of-final-reports--4144
    2. https://www.iata.org/en/pressroom/2023-releases/2023-06-05-07/
    EP 6 นี้ขอแลกเปลี่ยนและนำเสนอมุมมองปรากฏการณ์การรวมตัวกันขององค์กรและสมาคมทางการบินระหว่างประเทศจากทั่วโลกที่ได้ออกประกาศเป็นหนังสือเรียกร้องให้รัฐภาคีประเทศต่าง ๆ ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( International Civil Aviation Organization: ICAO) ปฏิบัติตามมาตรฐานข้อกำหนดตามภาคผนวกที่ 13 แห่งองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO Annex 13 - Aircraft Accident and Incident Investigation) โดยขอให้รัฐหรือประเทศต่าง ๆ เร่งดำเนินการสอบสวนและนำเสนอรายงานผลการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์รุนแรงของอากาศยานที่เกิดขึ้นในความรับผิดชอบของตนที่ยังค้างคาหรือยังไม่มีรายงานผลการสอบสวนฉบับสุดท้าย (Final Investigation Report) ออกมาหรือมีเพียงแค่รายงานเบื้องต้น (Preliminary Report) หรือรายงานฉบับบกลาง (Interim Report) เพียงเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการบินตามหน่วยงานต่าง ๆที่เกี่ยวข้องได้รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุหรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยทางการบินที่เกิดขึ้นรวมทั้งแนวทางหรือมาตรการป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ทำนองเดิมเกิดซ้ำอีก สำหรับองค์กรและสมาคมทางการบินระหว่างประเทศที่รวมตัวกันออกแถลงการณ์ร่วมกันในครั้งนี้ได้แก่ 1. Airport Council International, Europe (ACI Europe), 2. European Cockpit Association (ECA), 3. Flight Safety Foundation (FSF), 4. International Air Transport Association (IATA), 5. The International Coordinating Council of Aerospace Industries Association (ICCAIA), 6. International Federation of Air Line Pilots’ Associations (IFALPA) และ 7. International Federation of Air Traffic Controllers’ Associations (IFATCA) โดยก่อนหน้านี้ทาง IATA เองได้ออกหนังสือประกาศเรื่องทำนองเดียวกันนี้เรียกร้องให้รัฐภาคีสมาชิกของ ICAO เร่งรัดให้มีการดำเนินการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุหรืออากาศยานอุบัติการณรุนแรงและให้รีบเผยแพร่รายงานออกมาครั้งหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ 5 มิ.ย. 2566 (ดูภาพเอกสารตามที่แนบมา) แต่ดูเหมือนจะยังไม่มีความคืบหน้าอะไรที่ชัดเจนนัก ทั้งนี้คงไม่น่าแปลกใจเท่าไรนักสำหรับการออกแถลงการณ์ร่วมในครั้งนี้เพราะถ้าเราสังเกตุดูดีดีจะเห็นว่าตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันมีเหตุการณ์อุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงของอากาศยานจากทั่วโลกเกิดขึ้นซึ่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนที่ถี่มาก ทั้งนี้เมื่อเทียบข้อมูลสถิติที่ระบุอยู่ในเอกสารฉบับนี้จะพบว่าจำนวนการเกิดอุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงของอากาศยานกับจำนวนรายงานผลการสอบสวนฯที่จะรายงานมาพร้อมกับข้อมูลปัจจัยที่เป็นสาเหตุและมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดซ้ำอีกเพื่อไว้สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบินได้มีแนวทางป้องกันนั้นมีน้อยมาก ยกตัวอย่างบางส่วนของตัวเลขสถิติตามข้อมูลรายงานด้านความปลอดภัยประจำปี ระหว่างปี 2018 ถึง 2023 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.67 ข้อมูลอุบัติเหตุที่ IATA บันทึกไว้ในจำนวนอุบัติเหตุ 268 รายการมีรายงานผลการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุฉบับสุดท้าย 140 รายการ (52%) ในขณะที่อีก 128 รายการยังไม่มีผลรายงานการสอบสวนอุบัติเหตุอากาศยานฉบับสุดท้ายออกมา คิดเป็น 48% เนื้อหาในเอกสารแถลงการณ์ฉบับนี้ยังได้ระบุรายละเอียดถึงขนาดที่ว่ารัฐบางรัฐไม่ได้มีการสอบสวนเหตุการณ์อุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงเลยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์มา บางรัฐออกเพียงรายงานเบื้องต้นหรือรายงานฉบับกลางเพียงเท่านั้นซึ่งน่าจะไม่มีประโยชน์เท่าใดนักที่ผู้ที่มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมการบินจะนำไปใช้ หนำซ้ำรัฐบางรัฐออกรายงานฉบับกลางเพื่อจะให้เป็นข้อมูลเสมือนหนึ่งเป็นรายงานฉบับสุดท้ายและจะไม่ดำเนินการอะไรต่อเลย เมื่อสภาพการณ์เป็นเช่นนี้อุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงในรูปแบบเดิมก็สามารถเกิดขึ้นได้อีก ทั้งนี้ในมาตรฐานตาม ICAO Annex 13 นั้นรายงานผลการสอบสวนฉบับสุดท้ายควรออกมาโดยเร็วที่สุดหรือภายใน 12 เดือนนับจากวันที่เกิดเหตุการณ์ ซึ่งตามข้อมูลใน พรบ.การเดินอากาศ พ.ศ. 2497 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ผู้เขียนยังไม่เห็นถ้อยคำกฎหมายที่ชัดเจนที่ระบุรายละเอียดตามข้อความตามที่ ICAO Annex 13 กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดรูปแบบรายงานเบื้องต้นผลการสอบสวนอุบัติเหตุของอากากาศยานหรืออุบัติการณ์รุนแรง รายงานฉบับกลางฯ และรายงานฉบับสุดท้ายฯหรือข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาที่ควรต้องระบุไว้สำหรับการออกรายงานว่าจะต้องออกภายในระยะเวลาเท่าใดหรือกี่เดือน เท่าที่ทราบจะมีก็เพียงข้อกำหนดที่ระบุอยู่ในมาตรฐานคู่มือการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบเท่านั้นซึ่งรัฐควรต้องระบุอยู่ในกฎหมายของตนตามวัตถุประสงค์ของการออกข้อกำหนดมาตรฐานใน Annex ต่าง ๆ ของ ICAO (อันนี้ถ้าข้อมูลคลาดเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงไปแล้วต้องขออภัยเป็นอย่างสูงหรือใครมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันสามารถแชร์ได้นะครับ) สำหรับประกาศหรือหนังสือแถลงการณ์ฉบับนี้ นัยสำคัญในเรื่องนี้คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นการสื่อสารโดยตรงหรือโดยอ้อมไปยังองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ว่าองค์กรแห่งนี้ได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิผลมากน้อยแค่ไหนด้านการกำกับดูแลด้านมาตรฐานและความปลอดภัยการบินพลเรือนระหว่างประเทศของประเทศต่าง ๆที่เป็นรัฐภาคีเพราะเมื่อกลางปี 2566 IATA เองก็ได้ออกประกาศเรียกร้องมาแล้วตามที่กล่าวไว้ข้างต้น มาครั้งนี้มีการรวมตัวกันของสมาคมหรือองค์กรทางการบินระหว่างประเทศหลายองค์กร ทาง ICAO จะสามารถนิ่งเฉยเสียงเรียกร้องอยู่ได้โดยจะไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมที่เป็นที่น่าพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบินได้หรือไม่ สำหรับมุมมองของผู้เขียนเองมองว่าการดำเนินงานของ ICAO ระยะหลังรู้สึกกังวลความมีประสิทธิภาพขององค์กรแห่งนี้เป็นอย่างมากโดยดูจากข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุ/อุบัติการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งรายงานการจัดการข้อบกพร่องทางกายภาพของสนามบินหรือการจัดการด้านอื่น ๆ และการดำเนินการตามมาตรฐานของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ที่บางรายการมีลำดับความเร่งด่วนที่มีผลต่อความปลอดภัยสูงแต่ก็สามารถคงอยู่มาได้มากว่า 15 ปีแล้วโดยที่ไม่มีอะไรที่การันตีได้เลยว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยกับข้อบกพร่องนั้นที่อยู่ในรายงานของ ICAO ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ICAO Asia and Pacific: ICAO APAC) นี้เลย ในส่วนของการดำเนินการของประเทศเราตามที่สมาคมหรือองค์กรทางการบินระหว่างประเทศต่าง ๆ เรียกร้องมานั้น ถ้าเข้าไปดูข้อมูลในเวปไซต์ของหน่วยงานที่รับผิดชอบก็มีลักษณะค่อนข้างคล้ายคลึงกับแถลงการณ์ฉบับบนี้ ถ้าดูให้ลึกต่อไปถึงโครงสร้างองค์กรหรือความเป็นอิสระของการดำเนินการด้านการสอบสวนอุบัติเหตุทางการบินของประเทศ จากมุมมองส่วนตัวแล้วน่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าเข้าไปดูรายงานการสอบสวนฯฉบับบกลางของอุบัติการณ์รุนแรงทางการบินบางรายงานที่จะยังรอผลสอบสวนฉบับสุดท้ายถึงสาเหตุและแนวทางป้องกันแล้ว จะเกิดความรู้สึกโชคดีมากที่เราไม่ค่อยเดินทางทางอากาศเท่าใดนัก นี้ยังไม่นับรวมถึงโครงการตรวจสอบด้านมาตรฐานการบินพลเรือนประเทศไทยของ ICAO ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางปีนี้ (ซึ่งถูกเลื่อนมาครั้งหนึ่งแล้ว) ว่าผลการตรวจสอบคงเดาไม่ยากว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เราจะต้องเตรียมตัวถึง Significant Safety Concerns (SSC) หรือธงแดงอีกหรือไม่เพราะเท่าที่ทราบในหัวข้ออื่น ๆ อีกหลายเรื่องที่ ICAO ตรวจสอบก็มีข้อที่น่ากังวลด้านมาตรฐานและความปลอดภัยหลายหัวข้อ ยิ่งก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมีผู้เสียชีวิตยกลำในประเทศเรามาแล้วยิ่งน่ากังวลใหญ่ เรื่องบางเรื่อง ICAO เขามีข้อมูลแล้วไม่ใช่เขาจะไม่รู้ อยู่ที่ว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลจะจัดการแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามก็ยังมีผู้ที่กังวลว่า ICAO จะสามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาหรือมีข้อจำกัดบางประการหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นผลกระทบด้านความน่าเชื่อถือขององค์กรแห่งนี้ก็จะมีไม่น้อยและจะเสื่อมถอยไปในที่สุด ตามหลักอธิปจยตา "เพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น" ข้อมูลอ้างอิง 1. https://www.ifalpa.org/publications/library/publication-of-final-reports--4144 2. https://www.iata.org/en/pressroom/2023-releases/2023-06-05-07/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบิน Aeroflot ประเทศรัสเซีย ต้องลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับชุดล้อ หลังบินออกจากภูเก็ต

    เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ทะเบียน RA-73158 เที่ยวบิน SU 277 ของสายการบิน Aeroflot ของรัสเซีย ลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังบินขึ้นจากท่าอากาศยานภูเก็ต(HKT)เวลา 17.30 น.ไปยังท่าอากาศยานเชเรเมียตเยวา (SVO) กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย

    รายงานระบุว่า เที่ยวบินดังกล่าวเกิดปัญหาชุดล้อ Landing Gear ทำให้ต้องขอลงจอดฉุกเฉินโดยขับวนในทะเลอันดามัน และ อ่าวไทยเป็นเวลามากกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อเผาน้ำมันเชื้อเพลิงทิ้งให้สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย โดยทางกัปตันประสานขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ

    เที่ยวบิน SU 277 มีผู้โดยสารชาวรัสเซีย 327 คน , ชาวเบลารุส 3 คน , ชาวมาเลเซีย 3 คน , ชาวบริติช 1 คน และลูกเรือรัสเซียทั้งหมด 15 คน รวม 349 คน
    เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบิน Aeroflot ประเทศรัสเซีย ต้องลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับชุดล้อ หลังบินออกจากภูเก็ต เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ทะเบียน RA-73158 เที่ยวบิน SU 277 ของสายการบิน Aeroflot ของรัสเซีย ลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังบินขึ้นจากท่าอากาศยานภูเก็ต(HKT)เวลา 17.30 น.ไปยังท่าอากาศยานเชเรเมียตเยวา (SVO) กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย รายงานระบุว่า เที่ยวบินดังกล่าวเกิดปัญหาชุดล้อ Landing Gear ทำให้ต้องขอลงจอดฉุกเฉินโดยขับวนในทะเลอันดามัน และ อ่าวไทยเป็นเวลามากกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อเผาน้ำมันเชื้อเพลิงทิ้งให้สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย โดยทางกัปตันประสานขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบิน SU 277 มีผู้โดยสารชาวรัสเซีย 327 คน , ชาวเบลารุส 3 คน , ชาวมาเลเซีย 3 คน , ชาวบริติช 1 คน และลูกเรือรัสเซียทั้งหมด 15 คน รวม 349 คน
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เกิดขัดข้อง บินวนอยู่เหนืออันดามัน แถวอ่าวไทย หลายชั่วโมง คาดนักบินต้องการบินเผาน้ำมันให้เครื่องน้ำหนักเบาลง เปลี่ยนเส้นทางไปจอดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว

    วันนี้ (10 ก.พ. 68) มีรายงานว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เที่ยวบิน SU277 บินออกจากภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคเกี่ยวกับอุปกรณ์ลงจอด

    โดยเครื่องบินได้บินวนอยู่เหนืออันดามันราว 3 ชั่วโมง และมาบินวนแถวอ่าวไทยระหว่างสนามบินชุมพรและสนามบินหัวหิน คาดว่านักบินต้องการบินเผาน้ำมันให้เครื่องน้ำหนักเบาลง แล้วจะเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ

    ล่าสุดเวลา 21.17 น. เครื่องบินลำดังกล่าวได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000013479

    #MGROnline #SU277 #ภูเก็ต #มอสโก
    เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เกิดขัดข้อง บินวนอยู่เหนืออันดามัน แถวอ่าวไทย หลายชั่วโมง คาดนักบินต้องการบินเผาน้ำมันให้เครื่องน้ำหนักเบาลง เปลี่ยนเส้นทางไปจอดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว • วันนี้ (10 ก.พ. 68) มีรายงานว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เที่ยวบิน SU277 บินออกจากภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคเกี่ยวกับอุปกรณ์ลงจอด • โดยเครื่องบินได้บินวนอยู่เหนืออันดามันราว 3 ชั่วโมง และมาบินวนแถวอ่าวไทยระหว่างสนามบินชุมพรและสนามบินหัวหิน คาดว่านักบินต้องการบินเผาน้ำมันให้เครื่องน้ำหนักเบาลง แล้วจะเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ • ล่าสุดเวลา 21.17 น. เครื่องบินลำดังกล่าวได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000013479 • #MGROnline #SU277 #ภูเก็ต #มอสโก
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ (10 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า สายการบิน Aeroflot เที่ยวบิน SU 277 ภูเก็ต -มอสโก หลังขึ้นบินจากสนามบินภูเก็ต ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยบินวนมาหลายชั่วโมงในทะเลอันดามัน ขณะนี้ย้ายบินมาบริเวณอ่าวไทย โดยมีรายงานว่าได้ติดต่อสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อขอลงจอดฉุกเฉิน

    Cr. http://flightradar24.com

    #MGROnline #SU277 #ภูเก็ต #มอสโก
    วันนี้ (10 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า สายการบิน Aeroflot เที่ยวบิน SU 277 ภูเก็ต -มอสโก หลังขึ้นบินจากสนามบินภูเก็ต ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยบินวนมาหลายชั่วโมงในทะเลอันดามัน ขณะนี้ย้ายบินมาบริเวณอ่าวไทย โดยมีรายงานว่าได้ติดต่อสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อขอลงจอดฉุกเฉิน • Cr. http://flightradar24.com • #MGROnline #SU277 #ภูเก็ต #มอสโก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีต ส.ส.ปชป.นำเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ดู “ประตูลับ” โรงเก็บเครื่องบินเอกชน สนามบินดอนเมือง! ตอกย้ำผิดกฏหมายระหว่างประเทศ ขอตรวจสอบย้อนหลังฝ่ายเกี่ยวข้อง ละเว้นการทำหน้าที่

    วันนี้ (10ก.พ.) นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำคณะสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ซึ่งรับผิดชอบสำนวนนี้ลงพื้นที่ดูประตูลับที่สนามบินดอนเมืองตามที่นัดไว้ในเวลา 10.00น. โดยมีสื่อมวลชนช่องหนึ่งเป็นสักขีพยาน จากนั้นเดินทางไปให้ปากคำที่สำนักงานใหญ่ปปช.สนามบินน้ำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000013347

    #MGROnline #ประตูลับ #โรงเก็บเครื่องบินเอกชน #สนามบินดอนเมือง
    อดีต ส.ส.ปชป.นำเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ดู “ประตูลับ” โรงเก็บเครื่องบินเอกชน สนามบินดอนเมือง! ตอกย้ำผิดกฏหมายระหว่างประเทศ ขอตรวจสอบย้อนหลังฝ่ายเกี่ยวข้อง ละเว้นการทำหน้าที่ • วันนี้ (10ก.พ.) นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำคณะสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ซึ่งรับผิดชอบสำนวนนี้ลงพื้นที่ดูประตูลับที่สนามบินดอนเมืองตามที่นัดไว้ในเวลา 10.00น. โดยมีสื่อมวลชนช่องหนึ่งเป็นสักขีพยาน จากนั้นเดินทางไปให้ปากคำที่สำนักงานใหญ่ปปช.สนามบินน้ำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000013347 • #MGROnline #ประตูลับ #โรงเก็บเครื่องบินเอกชน #สนามบินดอนเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • Thaipublica’s Pick: Mastercard มีแผนยกเลิกใช้หมายเลขบัตรเครดิตภายในปี 2573
    .
    Mastercard ได้ประกาศแผนการที่จะเลิกใช้หมายเลข 16 หลักบนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตภายในปี 2573 เพื่อขจัดการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล และการฉ้อโกงจากการใช้บัตร
    .
    หมายเลขที่ใช้ระบุการ์ดในปัจจุบันจะถูกแทนที่รูปแบบดิจิทัล (Tokenisation) และการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลทางชีวภาพ (biometric authentication)
    .
    ในปี 2565 มาสเตอร์การ์ดได้เพิ่มทางไบโอเมตริกซ์ เพื่อให้สามารถชำระเงินด้วยรอยยิ้มหรือโบกมือได้
    .
    รูปแบบใหม่จะมีการแปลงหมายเลขบัตร 16 หลักให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขหรือโทเค็น แล้วจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ดังนั้นจึงไม่มีการแชร์ข้อมูลบัตรเมื่อแตะบัตรหรือโทรศัพท์ หรือชำระเงินออนไลน์
    .
    การยกเลิกหมายเลขบัตรเครดิตถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการลดการฉ้อโกง การเลิกใช้หมายเลขจะหยุดผู้ฉ้อโกงในการประมวลผลธุรกรรมที่ไม่แสดงบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต
    .
    นอกจากนี้ ยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายทางการเงินของเหยื่อที่ถูกละเมิดข้อมูล หากองค์กรไม่สามารถจัดเก็บรายละเอียดการชำระเงินเหล่านี้ได้อีกต่อไป
    .
    การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นปัญหาที่มีการโต้แย้ง ตัวอย่างเช่น การรุกล้ำข้อมูล Optus ในปี 2565 ที่ส่งผลให้ข้อมูลลูกค้าที่เคยมีบัญชีกับบริษัทไว้ในปี 2561 ถูกเปิดเผย
    .
    การยกเลิกความสามารถขององค์กรในการจัดเก็บรายละเอียดการชำระเงินตั้งแต่แรก ช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลนี้จะถูกเปิดเผยในการโจมตีในอนาคต
    .
    แม้ว่าจะพยายามลดการฉ้อโกง แต่แนวทางใหม่นี้ก็ทำให้เกิดประเด็นใหม่ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณา
    .
    Mastercard กล่าวว่า ลูกค้าจะใช้โทเค็นที่สร้างโดยแอปธนาคารของลูกค้าหรือไบโอเมตริกซ์แทนหมายเลขบัตร ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนผ่านที่สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการธนาคารบนมือถือ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล ผู้บริโภคสูงวัยและผู้พิการจำนวนมากไม่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล ก็จะถูกแบ่งแยกออกจากการคุ้มครองรูปแบบใหม่
    .
    การเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัตรเครดิต การยกเลิกหมายเลขออกจะย้ายช่องโหว่ไปยังโทรศัพท์มือถือและผู้ให้บริการโทรคมนาคม
    .
    มิจฉาชีพเข้าถึงโทรศัพท์ของเหยื่ออยู่แล้วผ่านการย้ายค่ายมือถือและใช้เบอร์เดิม กับการหลอกลวงด้วยการแอบอ้างหรือปลอมแปลง การโจมตีเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเมื่อพบวิธีใหม่ๆ ในการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น
    .
    นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับไบโอเมตริกซ์อีกด้วย ซึ่งต่างจากรายละเอียดบัตรเครดิตที่สามารถเปลี่ยนได้เมื่อถูกเปิดเผยในการละเมิดข้อมูล แต่ไบโอเมตริกซ์นั้นตายตัว การมุ่งไปที่ไบโอเมตริกซ์จะเพิ่มความน่าดึงดูดใจของข้อมูลนี้ และอาจทำให้เหยื่อได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่องและแก้ไขไม่ได้
    .
    แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่การรุกล้ำข้อมูลไบโอเมตริกซ์ก็เกิดขึ้นได้
    .
    ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มความปลอดภัยบนเว็บ BioStar 2 ในสหราชอาณาจักรได้เปิดเผยลายนิ้วมือและรายละเอียดการจดจำใบหน้าของผู้คนมากกว่าล้านคน ในออสเตรเลียผู้ให้บริการด้านไอทีให้กับบริษัทบันเทิง Outabox ถูกกล่าวหาว่าได้เปิดเผยข้อมูลการจดจำใบหน้าของชาวออสเตรเลียมากกว่าล้านคน
    .
    เรายังต้องใช้บัตรกันอีกหรือไม่ในอนาคต?
    .
    แม้ว่าการยกเลิกใช้หมายเลขอาจลดการฉ้อโกงบัตรเครดิต แต่เทคโนโลยีค้าปลีกอัจฉริยะที่เกิดขึ้นใหม่อาจทำให้ความจำเป็นในการใช้บัตรโดยรวมหมดไป
    .
    การชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรจริงอีกต่อไป GlobalData เผยการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินมือถือ(mobile wallet )ในออสเตรเลียในปี 2566 เติบโต 58% เป็น 146.9 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม 2567 การชำระเงิน 44% เป็นธุรกรรม ด้วยอุปกรณ์
    .
    เทคโนโลยี "Just-Walk-Out" ที่เป็นนวัตกรรมของ Amazon ได้ขจัดความจำเป็นที่ผู้บริโภคจะต้องพกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตให้หมดไป
    .
    เทคโนโลยีนี้ได้ใช้แล้วในร้านค้าที่ Amazon เป็นเจ้าของมากกว่า 70 แห่ง และสถานประกอบการของบุคคลที่สามมากกว่า 85 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงสนามกีฬา สนามบิน ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ และภายในสถานศึกษา
    .
    เทคโนโลยีนี้ใช้กล้อง เซ็นเซอร์น้ำหนัก และการผสมผสานของเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเพื่อให้ผู้ซื้อในร้านค้าสามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องรูดหรือแตะบัตรที่จุดชำระเงิน
    .
    ปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวมีการนำเสนอโดยผู้จำหน่ายรายอื่นๆ มากมาย รวมถึง Trigo, Cognizant และ Grabango นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการทดลองกับผู้ค้าปลีกระหว่างประเทศอื่นๆ รวมถึงเครือซูเปอร์มาร์เก็ต Tesco และ ALDI
    .
    แม้ว่า Just-Walk-Out จะลดความจำเป็นในการพกพาบัตร แต่ในบางจุดผู้บริโภคยังคงจำเป็นต้องกรอกรายละเอียดบัตรของตนลงในแอป ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บัตรและตัวเลขโดยสิ้นเชิง ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการค้าปลีกอัจฉริยะจึงหันมาใช้ทางเลือกไบโอเมตริกซ์ เช่น การชำระเงินด้วยการจดจำใบหน้า
    .
    เมื่อประเมินถึงความเร็วที่เทคโนโลยีการค้าปลีกและการชำระเงินอัจฉริยะเข้าสู่ตลาด ก็มีแนวโน้มว่าบัตรเครดิตที่เป็นบัตร หรือไม่ว่าจะมีหมายเลขหรือไม่มีเลย จะกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นในไม่ช้านี้ และจะถูกแทนที่ด้วยตัวเลือกการชำระเงินแบบไบโอเมตริก
    .
    เรื่อง: https://www.abc.net.au/news/2025-02-04/mastercard-credit-card-numbers-biometric/104895038
    .
    ภาพ: https://www.biometricupdate.com/202502/biometrics-tokenization-to-replace-credit-card-numbers-by-2030

    ที่มา Thaipublica
    https://www.facebook.com/share/p/12KbPkwhRqg/?mibextid=wwXIfr
    Thaipublica’s Pick: Mastercard มีแผนยกเลิกใช้หมายเลขบัตรเครดิตภายในปี 2573 . Mastercard ได้ประกาศแผนการที่จะเลิกใช้หมายเลข 16 หลักบนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตภายในปี 2573 เพื่อขจัดการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล และการฉ้อโกงจากการใช้บัตร . หมายเลขที่ใช้ระบุการ์ดในปัจจุบันจะถูกแทนที่รูปแบบดิจิทัล (Tokenisation) และการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลทางชีวภาพ (biometric authentication) . ในปี 2565 มาสเตอร์การ์ดได้เพิ่มทางไบโอเมตริกซ์ เพื่อให้สามารถชำระเงินด้วยรอยยิ้มหรือโบกมือได้ . รูปแบบใหม่จะมีการแปลงหมายเลขบัตร 16 หลักให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขหรือโทเค็น แล้วจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ดังนั้นจึงไม่มีการแชร์ข้อมูลบัตรเมื่อแตะบัตรหรือโทรศัพท์ หรือชำระเงินออนไลน์ . การยกเลิกหมายเลขบัตรเครดิตถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการลดการฉ้อโกง การเลิกใช้หมายเลขจะหยุดผู้ฉ้อโกงในการประมวลผลธุรกรรมที่ไม่แสดงบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต . นอกจากนี้ ยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายทางการเงินของเหยื่อที่ถูกละเมิดข้อมูล หากองค์กรไม่สามารถจัดเก็บรายละเอียดการชำระเงินเหล่านี้ได้อีกต่อไป . การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นปัญหาที่มีการโต้แย้ง ตัวอย่างเช่น การรุกล้ำข้อมูล Optus ในปี 2565 ที่ส่งผลให้ข้อมูลลูกค้าที่เคยมีบัญชีกับบริษัทไว้ในปี 2561 ถูกเปิดเผย . การยกเลิกความสามารถขององค์กรในการจัดเก็บรายละเอียดการชำระเงินตั้งแต่แรก ช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลนี้จะถูกเปิดเผยในการโจมตีในอนาคต . แม้ว่าจะพยายามลดการฉ้อโกง แต่แนวทางใหม่นี้ก็ทำให้เกิดประเด็นใหม่ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณา . Mastercard กล่าวว่า ลูกค้าจะใช้โทเค็นที่สร้างโดยแอปธนาคารของลูกค้าหรือไบโอเมตริกซ์แทนหมายเลขบัตร ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนผ่านที่สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการธนาคารบนมือถือ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล ผู้บริโภคสูงวัยและผู้พิการจำนวนมากไม่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล ก็จะถูกแบ่งแยกออกจากการคุ้มครองรูปแบบใหม่ . การเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัตรเครดิต การยกเลิกหมายเลขออกจะย้ายช่องโหว่ไปยังโทรศัพท์มือถือและผู้ให้บริการโทรคมนาคม . มิจฉาชีพเข้าถึงโทรศัพท์ของเหยื่ออยู่แล้วผ่านการย้ายค่ายมือถือและใช้เบอร์เดิม กับการหลอกลวงด้วยการแอบอ้างหรือปลอมแปลง การโจมตีเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเมื่อพบวิธีใหม่ๆ ในการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น . นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับไบโอเมตริกซ์อีกด้วย ซึ่งต่างจากรายละเอียดบัตรเครดิตที่สามารถเปลี่ยนได้เมื่อถูกเปิดเผยในการละเมิดข้อมูล แต่ไบโอเมตริกซ์นั้นตายตัว การมุ่งไปที่ไบโอเมตริกซ์จะเพิ่มความน่าดึงดูดใจของข้อมูลนี้ และอาจทำให้เหยื่อได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่องและแก้ไขไม่ได้ . แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่การรุกล้ำข้อมูลไบโอเมตริกซ์ก็เกิดขึ้นได้ . ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มความปลอดภัยบนเว็บ BioStar 2 ในสหราชอาณาจักรได้เปิดเผยลายนิ้วมือและรายละเอียดการจดจำใบหน้าของผู้คนมากกว่าล้านคน ในออสเตรเลียผู้ให้บริการด้านไอทีให้กับบริษัทบันเทิง Outabox ถูกกล่าวหาว่าได้เปิดเผยข้อมูลการจดจำใบหน้าของชาวออสเตรเลียมากกว่าล้านคน . เรายังต้องใช้บัตรกันอีกหรือไม่ในอนาคต? . แม้ว่าการยกเลิกใช้หมายเลขอาจลดการฉ้อโกงบัตรเครดิต แต่เทคโนโลยีค้าปลีกอัจฉริยะที่เกิดขึ้นใหม่อาจทำให้ความจำเป็นในการใช้บัตรโดยรวมหมดไป . การชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรจริงอีกต่อไป GlobalData เผยการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินมือถือ(mobile wallet )ในออสเตรเลียในปี 2566 เติบโต 58% เป็น 146.9 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม 2567 การชำระเงิน 44% เป็นธุรกรรม ด้วยอุปกรณ์ . เทคโนโลยี "Just-Walk-Out" ที่เป็นนวัตกรรมของ Amazon ได้ขจัดความจำเป็นที่ผู้บริโภคจะต้องพกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตให้หมดไป . เทคโนโลยีนี้ได้ใช้แล้วในร้านค้าที่ Amazon เป็นเจ้าของมากกว่า 70 แห่ง และสถานประกอบการของบุคคลที่สามมากกว่า 85 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงสนามกีฬา สนามบิน ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ และภายในสถานศึกษา . เทคโนโลยีนี้ใช้กล้อง เซ็นเซอร์น้ำหนัก และการผสมผสานของเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเพื่อให้ผู้ซื้อในร้านค้าสามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องรูดหรือแตะบัตรที่จุดชำระเงิน . ปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวมีการนำเสนอโดยผู้จำหน่ายรายอื่นๆ มากมาย รวมถึง Trigo, Cognizant และ Grabango นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการทดลองกับผู้ค้าปลีกระหว่างประเทศอื่นๆ รวมถึงเครือซูเปอร์มาร์เก็ต Tesco และ ALDI . แม้ว่า Just-Walk-Out จะลดความจำเป็นในการพกพาบัตร แต่ในบางจุดผู้บริโภคยังคงจำเป็นต้องกรอกรายละเอียดบัตรของตนลงในแอป ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บัตรและตัวเลขโดยสิ้นเชิง ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการค้าปลีกอัจฉริยะจึงหันมาใช้ทางเลือกไบโอเมตริกซ์ เช่น การชำระเงินด้วยการจดจำใบหน้า . เมื่อประเมินถึงความเร็วที่เทคโนโลยีการค้าปลีกและการชำระเงินอัจฉริยะเข้าสู่ตลาด ก็มีแนวโน้มว่าบัตรเครดิตที่เป็นบัตร หรือไม่ว่าจะมีหมายเลขหรือไม่มีเลย จะกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นในไม่ช้านี้ และจะถูกแทนที่ด้วยตัวเลือกการชำระเงินแบบไบโอเมตริก . เรื่อง: https://www.abc.net.au/news/2025-02-04/mastercard-credit-card-numbers-biometric/104895038 . ภาพ: https://www.biometricupdate.com/202502/biometrics-tokenization-to-replace-credit-card-numbers-by-2030 ที่มา Thaipublica https://www.facebook.com/share/p/12KbPkwhRqg/?mibextid=wwXIfr
    WWW.ABC.NET.AU
    Mastercard is scrapping credit card numbers by 2030 as cards become obsolete
    Physical credit cards, numberless or not, will soon become redundant, as biometric payment options become more popular.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้องฉวยประโยชน์จากสุวรรณภูมิ -3

    📡 ในยามสงคราม ฮับเรือ-รางผ่านระนอง มีจุดเด่นมหาศาล แต่ในยามปกติ ก็มีจุดขายที่ไม่มีใครแข่ง

    🫡 ถามว่า ขนส่งทางรางจากระนองไปจีนตอนกลาง (คุนหมิงเป็นศูนย์กลาง) ซึ่งใช้รถไฟ

    แข่งขันกับขนส่งทางเรือ ผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งค่าใช้จ่าย(ต่อ กม.)ถูกกว่ารถไฟ 8-10 เท่า ได้หรือไม่?

    🧐 ตอบว่า ไม่สามารถแข่งได้ สำหรับสินค้าที่ใช้ในจีนฝั่งตะวันออก

    แต่สามารถแข่งได้ สำหรับสินค้าที่ใช้ในจีนตอนกลาง เป็น niche market

    🚃 รูป 8 สินค้าส่งทางรถไฟ จากท่าเรือระนอง (อักษร x) ไปคุนหมิง ระยะทางยาวประมาณ 1,200 กม. (รูป 9)

    รูป 10 สินค้าส่งทางรถไฟ จากท่าเรือเซี่ยงไฮ้ไปคุนหมิง ระยะทางยาวประมาณ 2,200 กม.

    ดังนั้น เปรียบเทียยทางรถไฟด้วยกัน ระนองชนะขาดอยู่แล้ว

    🛳️ และยังประหยัดเวลา จากช่องแคบมะละกา ไปเซี่ยงไฮ้อีกด้วย เรือคอนเทนเนอร์เดินทาง 5-7 วัน

    เรือ break bulk จะใช้เวลานานขึ้น 7-10 วัน

    🫡 ถามว่า ปริมาณสินค้าที่ส่งถึงจีนตอนกลาง จะมากพอคุ้มกับฮับเรือ-ราง ผ่านระนอง หรือไม่?

    🧐 ตอบว่า แต่ละปี ถ้าไม่นับจากรัสเซีย จีนนำเข้าสินค้ามูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์

    🛟 ถ้าคำนวนว่า ครึ่งหนึ่งเป็นอาหารและวัตถุดิบ มูลค่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์

    ถ้าสมมุติว่า เป็นสินค้าที่ใช้ในจีนตอนกลาง 1 ใน 4 คิดเป็นมูลค่าสินค้า 2.7 แสนล้านดอลลาร์

    ⌛️ไทยนำเข้าสินค้าทุกชนิด ไม่รวมน้ำมัน ปีละ 2.5 แสนล้านดอลลาร์

    จะเห็นได้ว่า มีปริมาณธุรกิจมากพออยู่แล้ว

    นอกจากนี้ รัฐบาลจีนมีนโยบายจะกระจายอุตสาหกรรม จากชายฝั่งตะวันออก ให้ลึกเข้าไปจีนตอนกลางมากขึ้น

    ดังนั้น ในระยะยาว จะมีปริมาณขนส่ง ด้านขาส่งออก จากจีนตอนกลาง มากขึ้นเป็นลำดับ

    🚉 รูป 11 นอกจากนี้ ในอนาคตข้างหน้า มีแนวโน้มอุตสาหกรรมจะย้ายฐานการผลิตไปอินเดียมากขึ้น

    การมีฮับเรือ-ราง ที่ฝั่งอันดามัน จะทำให้ไทยสามารถแทรกตัวเข้าไปอยู่ในซัพพลายเชน

    วัตถุดิบที่แปรรูป รวมทั้งชิ้นส่วน สามารถจะส่งจากจีนตะวันออก ลงมาเพิ่มมูลค่าที่เวียดนาม

    แล้วมีการสร้างรถไฟความเร็วสูง จากเวียดนามตอนเหนือเข้ามาไทย มาร่วมกับวัตถุดิบจากจีนตอนกลาง

    🪝 ชิ้นส่วนที่ผลิตในจีนตอนกลาง ที่เป็นซัพพลายเชนไปยังอินเดีย ก็จะสามารถส่งผ่านฮับในไทยได้ด้วย

    โอกาสสำคัญอีกด้านหนึ่ง คือการส่งสินค้าระหว่างจีน กับอินเดีย ผ่านไทย เพราะไม่สามารถส่งผ่านเทือกเขาหิมาลัย

    รูป 12 ผู้บริโภคระดับกลางขึ้นไป ในจีนมีอยู่ 40% คือ 560 ล้าน และภายในปี 2030 จะเพิ่มอีก 80 เป็น 640 ล้านคน

    รูป 13 ผู้บริโภคระดับกลางขึ้นไป ในอินเดียมีอยู่ 430 ล้าน และภายในปี 2030 จะเพิ่มเป็น 700 ล้านคน

    🌏 ผู้บริโภคทั้งสองประเทศ ที่ขนาบประเทศไทยอยู่สองทิศ เกินกว่าพันล้าน ในอนาคตจะมีกำลังซื้อสูงขึ้น ปริมาณการบริโภคจะมากขึ้น

    สินค้าผ่านฮับระนอง มีแต่จะมากขึ้น

    แนวคิดที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง คือไทยชักชวนให้ธุรกิจจีน มาเปิดโรงงานอุตสาหกรรม ในภาคใต้ของไทย

    🔥 เพื่อแปรรูปแร่ธาตุ จาก ก้อน ผง ไปเป็นแผ่น เส้น ท่อ พร้อมใช้งาน ทั้งในอุตสาหกรรมไทย เวียดนาม และจีน

    ประเด็นน่าสนใจสุดท้าย ขบวนการขนส่งทางราง จากไทยขึ้นไปจีน จะเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรไทยได้ด้วย

    ปลาจับที่อ่าวไทยวันนี้ ต้องทำให้ส่งถึงภัตตาคารที่เมืองใหญ่ในจีนได้ ภายในเช้าวันรุ่งขึ้น

    ปล่อยให้ทุเรียนสุกคาต้น สุกเต็มที่มากขึ้น ตัดวันนี้ ต้องทำให้ส่งถึงซูเปอร์มาร์เกตในจีนได้ภายในสองวัน

    🫶 นี่เอง ที่ล้นเกล้า ร.9 ทรงตั้งชื่อสนามบินว่า สุวรรณภูมิ

    เพราะที่ตั้งภูมิศาสตร์นี้ เป็นแหล่งทองคำอย่างแท้จริง

    วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568

    นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ
    ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    ต้องฉวยประโยชน์จากสุวรรณภูมิ -3 📡 ในยามสงคราม ฮับเรือ-รางผ่านระนอง มีจุดเด่นมหาศาล แต่ในยามปกติ ก็มีจุดขายที่ไม่มีใครแข่ง 🫡 ถามว่า ขนส่งทางรางจากระนองไปจีนตอนกลาง (คุนหมิงเป็นศูนย์กลาง) ซึ่งใช้รถไฟ แข่งขันกับขนส่งทางเรือ ผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งค่าใช้จ่าย(ต่อ กม.)ถูกกว่ารถไฟ 8-10 เท่า ได้หรือไม่? 🧐 ตอบว่า ไม่สามารถแข่งได้ สำหรับสินค้าที่ใช้ในจีนฝั่งตะวันออก แต่สามารถแข่งได้ สำหรับสินค้าที่ใช้ในจีนตอนกลาง เป็น niche market 🚃 รูป 8 สินค้าส่งทางรถไฟ จากท่าเรือระนอง (อักษร x) ไปคุนหมิง ระยะทางยาวประมาณ 1,200 กม. (รูป 9) รูป 10 สินค้าส่งทางรถไฟ จากท่าเรือเซี่ยงไฮ้ไปคุนหมิง ระยะทางยาวประมาณ 2,200 กม. ดังนั้น เปรียบเทียยทางรถไฟด้วยกัน ระนองชนะขาดอยู่แล้ว 🛳️ และยังประหยัดเวลา จากช่องแคบมะละกา ไปเซี่ยงไฮ้อีกด้วย เรือคอนเทนเนอร์เดินทาง 5-7 วัน เรือ break bulk จะใช้เวลานานขึ้น 7-10 วัน 🫡 ถามว่า ปริมาณสินค้าที่ส่งถึงจีนตอนกลาง จะมากพอคุ้มกับฮับเรือ-ราง ผ่านระนอง หรือไม่? 🧐 ตอบว่า แต่ละปี ถ้าไม่นับจากรัสเซีย จีนนำเข้าสินค้ามูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ 🛟 ถ้าคำนวนว่า ครึ่งหนึ่งเป็นอาหารและวัตถุดิบ มูลค่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ถ้าสมมุติว่า เป็นสินค้าที่ใช้ในจีนตอนกลาง 1 ใน 4 คิดเป็นมูลค่าสินค้า 2.7 แสนล้านดอลลาร์ ⌛️ไทยนำเข้าสินค้าทุกชนิด ไม่รวมน้ำมัน ปีละ 2.5 แสนล้านดอลลาร์ จะเห็นได้ว่า มีปริมาณธุรกิจมากพออยู่แล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลจีนมีนโยบายจะกระจายอุตสาหกรรม จากชายฝั่งตะวันออก ให้ลึกเข้าไปจีนตอนกลางมากขึ้น ดังนั้น ในระยะยาว จะมีปริมาณขนส่ง ด้านขาส่งออก จากจีนตอนกลาง มากขึ้นเป็นลำดับ 🚉 รูป 11 นอกจากนี้ ในอนาคตข้างหน้า มีแนวโน้มอุตสาหกรรมจะย้ายฐานการผลิตไปอินเดียมากขึ้น การมีฮับเรือ-ราง ที่ฝั่งอันดามัน จะทำให้ไทยสามารถแทรกตัวเข้าไปอยู่ในซัพพลายเชน วัตถุดิบที่แปรรูป รวมทั้งชิ้นส่วน สามารถจะส่งจากจีนตะวันออก ลงมาเพิ่มมูลค่าที่เวียดนาม แล้วมีการสร้างรถไฟความเร็วสูง จากเวียดนามตอนเหนือเข้ามาไทย มาร่วมกับวัตถุดิบจากจีนตอนกลาง 🪝 ชิ้นส่วนที่ผลิตในจีนตอนกลาง ที่เป็นซัพพลายเชนไปยังอินเดีย ก็จะสามารถส่งผ่านฮับในไทยได้ด้วย โอกาสสำคัญอีกด้านหนึ่ง คือการส่งสินค้าระหว่างจีน กับอินเดีย ผ่านไทย เพราะไม่สามารถส่งผ่านเทือกเขาหิมาลัย รูป 12 ผู้บริโภคระดับกลางขึ้นไป ในจีนมีอยู่ 40% คือ 560 ล้าน และภายในปี 2030 จะเพิ่มอีก 80 เป็น 640 ล้านคน รูป 13 ผู้บริโภคระดับกลางขึ้นไป ในอินเดียมีอยู่ 430 ล้าน และภายในปี 2030 จะเพิ่มเป็น 700 ล้านคน 🌏 ผู้บริโภคทั้งสองประเทศ ที่ขนาบประเทศไทยอยู่สองทิศ เกินกว่าพันล้าน ในอนาคตจะมีกำลังซื้อสูงขึ้น ปริมาณการบริโภคจะมากขึ้น สินค้าผ่านฮับระนอง มีแต่จะมากขึ้น แนวคิดที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง คือไทยชักชวนให้ธุรกิจจีน มาเปิดโรงงานอุตสาหกรรม ในภาคใต้ของไทย 🔥 เพื่อแปรรูปแร่ธาตุ จาก ก้อน ผง ไปเป็นแผ่น เส้น ท่อ พร้อมใช้งาน ทั้งในอุตสาหกรรมไทย เวียดนาม และจีน ประเด็นน่าสนใจสุดท้าย ขบวนการขนส่งทางราง จากไทยขึ้นไปจีน จะเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรไทยได้ด้วย ปลาจับที่อ่าวไทยวันนี้ ต้องทำให้ส่งถึงภัตตาคารที่เมืองใหญ่ในจีนได้ ภายในเช้าวันรุ่งขึ้น ปล่อยให้ทุเรียนสุกคาต้น สุกเต็มที่มากขึ้น ตัดวันนี้ ต้องทำให้ส่งถึงซูเปอร์มาร์เกตในจีนได้ภายในสองวัน 🫶 นี่เอง ที่ล้นเกล้า ร.9 ทรงตั้งชื่อสนามบินว่า สุวรรณภูมิ เพราะที่ตั้งภูมิศาสตร์นี้ เป็นแหล่งทองคำอย่างแท้จริง วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • 67 ปี หายนะเที่ยวบิน 609 ไถลหิมะรันเวย์มิวนิค-รีม โยนความผิดนักบิน เสียชีวิตรวมทีมแมนยู 23 ศพ

    ย้อนรอยเหตุการณ์สุดเศร้า 67 ปี ที่ผ่านมา เที่ยวบิน 609 ของสายการบินบริติชยูโรเปียนแอร์เวย์ส ไถลออกนอกรันเวย์ ท่ามกลางหิมะ ณ สนามบินมิวนิค-รีม คร่าชีวิตนักเตะ และสตาฟฟ์ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวม 23 ศห พร้อมการสืบสวน ที่เต็มไปด้วยปริศนา และข้อครหา

    วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 คือวันแห่งโศกนาฏกรรม ที่สะเทือนวงการฟุตบอลโลก เที่ยวบินเช่าเหมาลำ British European Airways Flight 609 ซึ่งนำพาเหล่านักเตะ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากอังกฤษ พร้อมสตาฟฟ์โค้ชและนักข่าว กลับจากการแข่งขันยูโรเปียนคัพ ที่ยูโกสลาเวีย ต้องแวะเติมน้ำมัน ที่สนามบินมิวนิค-รีม ประเทศเยอรมนีตะวันตก

    แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...
    เครื่องบินพยายามเทคออฟถึง 3 ครั้ง ก่อนจะลื่นไถลออกนอกรันเวย์ พุ่งชนอาคารและระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 ศพ รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 คน นี่คือเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ "ปีศาจแดง" ไปตลอดกาล

    📌 แต่เหตุใด เครื่องบินถึงไม่สามารถขึ้นบินได้?
    📌 ใครต้องรับผิดชอบ ต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้?
    📌 เกิดอะไรขึ้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากนั้น?

    ต้นเหตุของโศกนาฏกรรม อุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์?
    เครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนี้คือ Airspeed AS.57 Ambassador ของสายการบิน British European Airways (BEA) โดยมี กัปตันเจมส์ เทรนต์ (James Thain) และผู้ช่วยนักบิน เคนเนตต์ เรย์เมนต์ (Kenneth Rayment) เป็นผู้ควบคุมเที่ยวบิน

    เมื่อเครื่องบินเดินทางมาถึง สนามบินมิวนิค-รีม ในช่วงบ่ายของวันนั้น สภาพอากาศเต็มไปด้วยหิมะ อุณหภูมิใกล้ 0 องศาเซลเซียส ส่งผลให้รันเวย์ เต็มไปด้วยน้ำแข็งบางๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการบิน

    กัปตันเทรนต์ พยายามนำเครื่องขึ้นบินถึง 3 ครั้ง แต่ประสบปัญหาทุกครั้ง

    1️⃣ ครั้งแรก เครื่องยนต์มีอาการกระตุก ทำให้กัปตันตัดสินใจ ยกเลิกการเทคออฟ
    2️⃣ ครั้งที่สอง ปัญหาเดิมเกิดขึ้น กัปตันต้องหยุดเที่ยวบินอีกครั้ง
    3️⃣ ครั้งที่สาม เครื่องบินเร่งความเร็วถึงระดับ V1 (ความเร็วที่ไม่สามารถหยุดบินได้) และเข้าสู่จุด Vrotate (จุดยกหัวเครื่อง) แต่ทันใดนั้น ความเร็วลดลงกะทันหัน ก่อนที่เครื่องจะสูญเสียแรงยก และไถลออกนอกรันเวย์

    ข้อสันนิษฐานสาเหตุที่แท้จริง
    ❄️ "น้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน?"
    มีการกล่าวหาในตอนแรกว่า น้ำแข็งเกาะบนปีกเครื่องบิน ทำให้เกิดแรงต้านอากาศ และไม่สามารถยกตัวขึ้นบินได้ อย่างไรก็ตาม กัปตันเทรนต์ยืนยันว่า เขาได้ตรวจสอบปีกแล้ว และไม่มีน้ำแข็งเกาะอยู่

    🏁 "หิมะบนรันเวย์?"
    การสืบสวนในเวลาต่อมาชี้ว่า หิมะที่หนาถึง 5 เซนติเมตร บนปลายรันเวย์ อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ลดความเร็วเครื่องบินลงทันที ส่งผลให้เครื่องบิน ไม่สามารถบินขึ้นได้

    🔥 "ความผิดพลาดของนักบิน?"
    ทางการเยอรมนีกลับชี้ว่า กัปตันเทรนต์ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากไม่ได้ละลายน้ำแข็ง บนปีกเครื่องบิน ทั้งที่หลักฐานชี้ว่า ปัญหาเกิดจาก สภาพรันเวย์มากกว่า

    ในที่สุด กัปตันเทรนต์ถูกไล่ออกจาก BEA แม้ต่อมาจะได้รับการพิสูจน์ว่า ไม่มีความผิด แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างตราบาป ที่ติดตัวไปตลอดชีวิตได้

    23 ชีวิตที่ต้องสูญเสีย บาดแผลที่ไม่มีวันลืม
    ในจำนวน 44 คน ที่โดยสารบนเครื่อง มี 23 ราย เสียชีวิตทันที หรือหลังจากนั้นไม่นาน รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โลกฟุตบอลต้องสูญเสีย ได้แก่

    ⚽ 8 นักเตะ "ปีศาจแดง" ที่จากไป
    โรเจอร์ ไบรน์ (Roger Byrne) กัปตันทีม
    เจฟฟ์ เบนท์ (Geoff Bent)
    เดวิด เพ็กก์ (David Pegg)
    มาร์ก โจนส์ (Mark Jones)
    บิลลี่ วีแลน (Billy Whelan)
    เอ็ดดี้ โคลแมน (Eddie Colman)
    ทอมมี่ เทย์เลอร์ (Tommy Taylor)
    ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ (Duncan Edwards) เสียชีวิตหลังจากนั้น 15 วัน

    📍 นักข่าวกีฬา 8 คน และทีมงานของแมนฯ ยูไนเต็ด 3 คน
    📍 ลูกเรือ 1 คน และผู้โดยสารอื่นๆ 2 คน

    💔 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ส่งผลกระทบมหาศาล ต่อวงการฟุตบอล โดยเฉพาะสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องสูญเสียแข้งดาวรุ่ง ที่มีอนาคตไกล

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังโศกนาฏกรรม
    แม้จะเสียผู้เล่นหลักไปถึง 8 ราย แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงสู้ต่อไป ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง
    🔴 สโมสรได้รับความช่วยเหลือ จากลิเวอร์พูล ที่ยืมนักเตะให้ใช้งาน
    🔴 เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (Sir Matt Busby) กุนซือผู้รอดชีวิต สร้างทีมใหม่ ด้วยดาวรุ่งอย่าง จอร์จ เบสต์, น็อบบี้ สไตล์ส และไบรอัน คิดด์
    🔴 ปี 1968 ยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ ได้สำเร็จ เป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่ทำได้

    💡 นี่คือสัญลักษณ์ของการไม่ยอมแพ้ และจิตวิญญาณของ "ปีศาจแดง" ที่ยังคงสืบทอด มาจนถึงปัจจุบัน

    โศกนาฏกรรมที่เป็นบทเรียน
    เหตุการณ์มิวนิค ไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ ของอุตสาหกรรมการบิน

    ✈️ การพัฒนาเทคโนโลยีการบิน มีการบังคับใช้มาตรฐานใหม่ เกี่ยวกับการตรวจสอบรันเวย์ และน้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน
    ⚖️ ความยุติธรรมที่ล่าช้า กัปตันเทรนต์ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง

    🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

    67 ปีผ่านไป แต่ "โศกนาฏกรรมมิวนิค" ยังคงเป็นเรื่องราว ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืม 🕊️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 062132 ก.พ. 2568

    #Munich1958 #ManchesterUnited #NeverForget #BusbyBabes #MUFC
    67 ปี หายนะเที่ยวบิน 609 ไถลหิมะรันเวย์มิวนิค-รีม โยนความผิดนักบิน เสียชีวิตรวมทีมแมนยู 23 ศพ ย้อนรอยเหตุการณ์สุดเศร้า 67 ปี ที่ผ่านมา เที่ยวบิน 609 ของสายการบินบริติชยูโรเปียนแอร์เวย์ส ไถลออกนอกรันเวย์ ท่ามกลางหิมะ ณ สนามบินมิวนิค-รีม คร่าชีวิตนักเตะ และสตาฟฟ์ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวม 23 ศห พร้อมการสืบสวน ที่เต็มไปด้วยปริศนา และข้อครหา วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 คือวันแห่งโศกนาฏกรรม ที่สะเทือนวงการฟุตบอลโลก เที่ยวบินเช่าเหมาลำ British European Airways Flight 609 ซึ่งนำพาเหล่านักเตะ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากอังกฤษ พร้อมสตาฟฟ์โค้ชและนักข่าว กลับจากการแข่งขันยูโรเปียนคัพ ที่ยูโกสลาเวีย ต้องแวะเติมน้ำมัน ที่สนามบินมิวนิค-รีม ประเทศเยอรมนีตะวันตก แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น... เครื่องบินพยายามเทคออฟถึง 3 ครั้ง ก่อนจะลื่นไถลออกนอกรันเวย์ พุ่งชนอาคารและระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 ศพ รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 คน นี่คือเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ "ปีศาจแดง" ไปตลอดกาล 📌 แต่เหตุใด เครื่องบินถึงไม่สามารถขึ้นบินได้? 📌 ใครต้องรับผิดชอบ ต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้? 📌 เกิดอะไรขึ้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากนั้น? ต้นเหตุของโศกนาฏกรรม อุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์? เครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนี้คือ Airspeed AS.57 Ambassador ของสายการบิน British European Airways (BEA) โดยมี กัปตันเจมส์ เทรนต์ (James Thain) และผู้ช่วยนักบิน เคนเนตต์ เรย์เมนต์ (Kenneth Rayment) เป็นผู้ควบคุมเที่ยวบิน เมื่อเครื่องบินเดินทางมาถึง สนามบินมิวนิค-รีม ในช่วงบ่ายของวันนั้น สภาพอากาศเต็มไปด้วยหิมะ อุณหภูมิใกล้ 0 องศาเซลเซียส ส่งผลให้รันเวย์ เต็มไปด้วยน้ำแข็งบางๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการบิน กัปตันเทรนต์ พยายามนำเครื่องขึ้นบินถึง 3 ครั้ง แต่ประสบปัญหาทุกครั้ง 1️⃣ ครั้งแรก เครื่องยนต์มีอาการกระตุก ทำให้กัปตันตัดสินใจ ยกเลิกการเทคออฟ 2️⃣ ครั้งที่สอง ปัญหาเดิมเกิดขึ้น กัปตันต้องหยุดเที่ยวบินอีกครั้ง 3️⃣ ครั้งที่สาม เครื่องบินเร่งความเร็วถึงระดับ V1 (ความเร็วที่ไม่สามารถหยุดบินได้) และเข้าสู่จุด Vrotate (จุดยกหัวเครื่อง) แต่ทันใดนั้น ความเร็วลดลงกะทันหัน ก่อนที่เครื่องจะสูญเสียแรงยก และไถลออกนอกรันเวย์ ข้อสันนิษฐานสาเหตุที่แท้จริง ❄️ "น้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน?" มีการกล่าวหาในตอนแรกว่า น้ำแข็งเกาะบนปีกเครื่องบิน ทำให้เกิดแรงต้านอากาศ และไม่สามารถยกตัวขึ้นบินได้ อย่างไรก็ตาม กัปตันเทรนต์ยืนยันว่า เขาได้ตรวจสอบปีกแล้ว และไม่มีน้ำแข็งเกาะอยู่ 🏁 "หิมะบนรันเวย์?" การสืบสวนในเวลาต่อมาชี้ว่า หิมะที่หนาถึง 5 เซนติเมตร บนปลายรันเวย์ อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ลดความเร็วเครื่องบินลงทันที ส่งผลให้เครื่องบิน ไม่สามารถบินขึ้นได้ 🔥 "ความผิดพลาดของนักบิน?" ทางการเยอรมนีกลับชี้ว่า กัปตันเทรนต์ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากไม่ได้ละลายน้ำแข็ง บนปีกเครื่องบิน ทั้งที่หลักฐานชี้ว่า ปัญหาเกิดจาก สภาพรันเวย์มากกว่า ในที่สุด กัปตันเทรนต์ถูกไล่ออกจาก BEA แม้ต่อมาจะได้รับการพิสูจน์ว่า ไม่มีความผิด แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างตราบาป ที่ติดตัวไปตลอดชีวิตได้ 23 ชีวิตที่ต้องสูญเสีย บาดแผลที่ไม่มีวันลืม ในจำนวน 44 คน ที่โดยสารบนเครื่อง มี 23 ราย เสียชีวิตทันที หรือหลังจากนั้นไม่นาน รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โลกฟุตบอลต้องสูญเสีย ได้แก่ ⚽ 8 นักเตะ "ปีศาจแดง" ที่จากไป โรเจอร์ ไบรน์ (Roger Byrne) กัปตันทีม เจฟฟ์ เบนท์ (Geoff Bent) เดวิด เพ็กก์ (David Pegg) มาร์ก โจนส์ (Mark Jones) บิลลี่ วีแลน (Billy Whelan) เอ็ดดี้ โคลแมน (Eddie Colman) ทอมมี่ เทย์เลอร์ (Tommy Taylor) ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ (Duncan Edwards) เสียชีวิตหลังจากนั้น 15 วัน 📍 นักข่าวกีฬา 8 คน และทีมงานของแมนฯ ยูไนเต็ด 3 คน 📍 ลูกเรือ 1 คน และผู้โดยสารอื่นๆ 2 คน 💔 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ส่งผลกระทบมหาศาล ต่อวงการฟุตบอล โดยเฉพาะสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องสูญเสียแข้งดาวรุ่ง ที่มีอนาคตไกล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังโศกนาฏกรรม แม้จะเสียผู้เล่นหลักไปถึง 8 ราย แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงสู้ต่อไป ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง 🔴 สโมสรได้รับความช่วยเหลือ จากลิเวอร์พูล ที่ยืมนักเตะให้ใช้งาน 🔴 เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (Sir Matt Busby) กุนซือผู้รอดชีวิต สร้างทีมใหม่ ด้วยดาวรุ่งอย่าง จอร์จ เบสต์, น็อบบี้ สไตล์ส และไบรอัน คิดด์ 🔴 ปี 1968 ยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ ได้สำเร็จ เป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่ทำได้ 💡 นี่คือสัญลักษณ์ของการไม่ยอมแพ้ และจิตวิญญาณของ "ปีศาจแดง" ที่ยังคงสืบทอด มาจนถึงปัจจุบัน โศกนาฏกรรมที่เป็นบทเรียน เหตุการณ์มิวนิค ไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ ของอุตสาหกรรมการบิน ✈️ การพัฒนาเทคโนโลยีการบิน มีการบังคับใช้มาตรฐานใหม่ เกี่ยวกับการตรวจสอบรันเวย์ และน้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน ⚖️ ความยุติธรรมที่ล่าช้า กัปตันเทรนต์ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง 🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง 67 ปีผ่านไป แต่ "โศกนาฏกรรมมิวนิค" ยังคงเป็นเรื่องราว ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืม 🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 062132 ก.พ. 2568 #Munich1958 #ManchesterUnited #NeverForget #BusbyBabes #MUFC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อัจฉริยะ” เผยมือถือแตงโมหลักฐานสำคัญถึงไทยตี 2 ศุกร์นี้ หลังกู้ข้อมูลเสร็จเรียบร้อย “หมอธวัชชัย” เตรียมมอบให้ดีเอสไอทันทีที่สนามบิน เผยข้อมูลคนดัง-นักการเมืองติดต่อเพียบ “กระติก” โทร.หาตอน 2 ทุ่ม 40 นาที ทั้งที่บอกว่าอยู่บนเรือด้วยกัน ซัด “เต้” กระทำกับตนมา 3 ปี แถมพูดให้เสียหายทางคดี ขวางบังแจ๊คส่งมอบมือถือแตงโม ล่าสุดถูกห้ามเข้าบ้านพระอาทิตย์แล้ว

    วันนี้(5 ก.พ.) ที่สำนักงานการสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุด ตลิ่งชั่น นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบคณะกรรมการตรวจสอบวินัยตามคำสั่งอัยการสูงสุดตั้งกรรมการสอบวินัยนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ ที่ไปออกสื่อโดยใช้เวลาราชการและได้ค่าตอบแทน โดยไม่ได้ขออนุญาตจากอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหลักฐานและให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการดังกล่าว

    หลังจากนั้น นายอัจฉริยะ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า กรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีการเสียงชีวิตของ น.ส.ภัทรธิกา พัชระวีระพงษ์ หรือแตงโมว่า ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ตนถูกกระทำจากนายมงคลกิตติ์มาตลอด ในตอนที่ตนฟ้องคนบนเรือเกี่ยวกับเรื่องของฆาตกรรมอําพรางที่ศาลจังหวัดนนทบุรี โดยได้รับมอบอํานาจจากแม่ของแตงโมโดยชอบด้วยกฎหมาย หลังจากยื่นฟ้องเสร็จ นายมงคลกิตติ์ได้โทรศัพท์มาหา ตำหนิตนอย่างหนักว่าไปฟ้องโดยไม่มีการแจ้งแม่แตงโมให้ทราบ ทั้งที่จริงตนแจ้งแม่แตงโมให้ทราบแล้ว แล้วก็ได้นําหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องของการฆาตกรรมเมื่อ 3 ปีที่แล้วไปให้แม่แตงโมดูแล้ว ต่อมานายมงคลกิตติ์ก็ไปยุยงแม่แตงโมให้มีการถอนฟ้องโดยการอ้างว่าถ้าผมฟ้องไปแม่จะถูกฟ้องกลับ ทําให้คุณต้องติดคุก ซึ่งแม่แตงโมก็ได้หลงเชื่อแล้วก็ตามมาถอนฟ้อง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000011884

    #MGROnline #อัจฉริยะ #มือถือแตงโม #หลักฐานสำคัญ #หมอธวัชชัย #ดีเอสไอ
    “อัจฉริยะ” เผยมือถือแตงโมหลักฐานสำคัญถึงไทยตี 2 ศุกร์นี้ หลังกู้ข้อมูลเสร็จเรียบร้อย “หมอธวัชชัย” เตรียมมอบให้ดีเอสไอทันทีที่สนามบิน เผยข้อมูลคนดัง-นักการเมืองติดต่อเพียบ “กระติก” โทร.หาตอน 2 ทุ่ม 40 นาที ทั้งที่บอกว่าอยู่บนเรือด้วยกัน ซัด “เต้” กระทำกับตนมา 3 ปี แถมพูดให้เสียหายทางคดี ขวางบังแจ๊คส่งมอบมือถือแตงโม ล่าสุดถูกห้ามเข้าบ้านพระอาทิตย์แล้ว • วันนี้(5 ก.พ.) ที่สำนักงานการสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุด ตลิ่งชั่น นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบคณะกรรมการตรวจสอบวินัยตามคำสั่งอัยการสูงสุดตั้งกรรมการสอบวินัยนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ ที่ไปออกสื่อโดยใช้เวลาราชการและได้ค่าตอบแทน โดยไม่ได้ขออนุญาตจากอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหลักฐานและให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการดังกล่าว • หลังจากนั้น นายอัจฉริยะ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า กรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีการเสียงชีวิตของ น.ส.ภัทรธิกา พัชระวีระพงษ์ หรือแตงโมว่า ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ตนถูกกระทำจากนายมงคลกิตติ์มาตลอด ในตอนที่ตนฟ้องคนบนเรือเกี่ยวกับเรื่องของฆาตกรรมอําพรางที่ศาลจังหวัดนนทบุรี โดยได้รับมอบอํานาจจากแม่ของแตงโมโดยชอบด้วยกฎหมาย หลังจากยื่นฟ้องเสร็จ นายมงคลกิตติ์ได้โทรศัพท์มาหา ตำหนิตนอย่างหนักว่าไปฟ้องโดยไม่มีการแจ้งแม่แตงโมให้ทราบ ทั้งที่จริงตนแจ้งแม่แตงโมให้ทราบแล้ว แล้วก็ได้นําหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องของการฆาตกรรมเมื่อ 3 ปีที่แล้วไปให้แม่แตงโมดูแล้ว ต่อมานายมงคลกิตติ์ก็ไปยุยงแม่แตงโมให้มีการถอนฟ้องโดยการอ้างว่าถ้าผมฟ้องไปแม่จะถูกฟ้องกลับ ทําให้คุณต้องติดคุก ซึ่งแม่แตงโมก็ได้หลงเชื่อแล้วก็ตามมาถอนฟ้อง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000011884 • #MGROnline #อัจฉริยะ #มือถือแตงโม #หลักฐานสำคัญ #หมอธวัชชัย #ดีเอสไอ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7/
    เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา

    รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี

    เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)

    7/ เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6/
    เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา

    รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี

    เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)

    6/ เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • 5/
    เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา

    รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี

    เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)

    5/ เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • 3/
    เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา

    รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี

    เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)

    3/ เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • 2/
    เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา

    รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี

    เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)

    2/ เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • 1/
    เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา

    รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี

    เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)

    1/ เกิดเหตุเครื่องบินตกในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 6 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบิน 2 ราย แพทย์ 2 ราย และคนไข้ 1 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่าง "ภารกิจทางการแพทย์" ตกใกล้กับห้างสรรพสินค้ารูสเวลต์ หลังจากออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟียตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติสปริงฟิลด์-แบรนสันในรัฐมิสซูรี เป็นเครื่องบินช่วยเหลือทางการแพทย์ MEDIVAC MED SERVICE 056 - MTS56 (Learjet 55 Mexico จดทะเบียนเป็น XA-UCI)
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • รายงานล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้อย่างน้อย 18 ราย และยังไม่มีรายงานการพบผู้รอดชีวิต จากเหตุการณ์เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ชนกันกลางอากาศใกล้กับสนามบินแห่งชาติรีแกน
    รายงานล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้อย่างน้อย 18 ราย และยังไม่มีรายงานการพบผู้รอดชีวิต จากเหตุการณ์เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ชนกันกลางอากาศใกล้กับสนามบินแห่งชาติรีแกน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารของอเมริกันแอร์ไลน์ส (American Airlines) พุ่งชนกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพสหรัฐฯ จนตกลงไปในแม่น้ำโพโตแมคใกล้กับท่าอากาศยานแห่งชาติ เรแกน วอชิงตัน ชานกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (29 ม.ค.) ล่าสุดมีรายงานจากสื่อ CBS ว่าสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้แล้วอย่างน้อย 18 ศพ
    .
    ก่อนหน้านั้น หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่าร่างผู้เสียชีวิตหลายร่างถูกนำขึ้นจากแม่น้ำและยังไม่พบผู้รอดชีวิต ขณะที่ ส.ว. เท็ด ครูซ จากรัฐเทกซัสโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า “เราทราบว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง”
    .
    แหล่งข่าวในอเมริกันแอร์ไลน์สยืนยันว่า เครื่องบินลำนี้มีผู้โดยสาร 60 คน นักบิน 2 คน และลูกเรือ 2 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กลำที่พุ่งชนกันนั้นมีทหารอเมริกันอยู่ 3 นาย
    .
    กล้องเว็บแคมของศูนยเคนเนดีในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เผยให้เห็นภาพการระเบิดกลางอากาศเหนือแม่น้ำเมื่อเวลาประมาณ 20.47 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก และมีเครื่องบินลำหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ร่วงตกลงมาอย่างรวดเร็ว
    .
    สำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐฯ (FAA) แถลงว่า เครื่องบินโดยสารรุ่น CRJ700 ของ PSA Airlines เกิดการพุ่งชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง ขณะกำลังมุ่งหน้าลงจอดที่สนามบินเรแกน โดยเครื่องบินลำนี้อยู่ระหว่างปฏิบัติการภายใต้เที่ยวบิน 5342 ของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส และออกเดินทางมาจากเมืองวิชิตา รัฐแคนซัส
    .
    อเมริกันแอร์ไลน์สแถลงผ่านโซเชียลมีเดียว่า สายการบิน “ได้รับรายงานว่าเที่ยวบิน 5342 ซึ่งปฏิบัติการบินโดย PSA จากเมืองวิชิตา รัฐแคนซัส (ICT) มายังท่าอากาศยานแห่งชาติวอชิงตันเรแกน (DCA) ได้มีส่วนร่วมอยู่ในอุบัติเหตุดังกล่าว” และจะแถลงข้อมูลเพิ่มเติมทันทีที่สามารถทำได้
    .
    กองทัพสหรัฐฯ แถลงยืนยันล่าสุดว่า “สามารถยืนยันได้ว่าอากาศยานที่เกิดอุบัติเหตุคืนนี้เป็นเฮลิคอปเตอร์ UH-60 ที่เดินทางมาจากฐานทัพฟอร์ตเบลวัวร์ในรัฐเวอร์จิเนีย เรากำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และจะแถลงให้ทราบทันทีที่มีข้อมูลเพิ่มเติม”
    .
    ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ออกคำแถลงทันทีหลังทราบข่าวโศกนาฏกรรมทางการบินครั้งนี้ว่า “ได้รับรายงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุอันเลวร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นที่สนามบินแห่งชาติเรแกน”
    .
    “ขอพระเจ้าประทานพรแก่ดวงวิญญาณของพวกเขา และขอขอบคุณหน่วยตอบสนองเหตุฉุกเฉินที่ทำงานกันอย่างเต็มกำลัง ผมกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์นี้ และจะแถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง”
    .
    ครอบครัวและญาติมิตรของผู้โดยสารเริ่มไปรวมตัวที่สนามบินเรแกนเพื่อขอทราบข้อมูลเพิ่มเติม โดยหญิงคนหนึ่งบอกกับเจ้าหน้าที่สนามบินว่า “ฉันไม่แน่ใจว่าเธออยู่บนเครื่องหรือเปล่า” ซึ่งคาดว่าจะหมายถึงผู้โดยสารในเครื่องบินที่ตก ก่อนจะร้องไห้ออกมาด้วยความเสียขวัญ
    .
    ตำรวจสหรัฐฯ ระบุว่า มีหลายหน่วยงานที่เข้าร่วมภารกิจค้นหาและช่วยชีวิตที่แม่น้ำโพโตแมคซึ่งอยู่ติดกับสนามบินเรแกน โดยภาพถ่ายทอดสดจากสถานีโทรทัศน์จะเห็นว่ามีเรือหลายลำซึ่งติดสัญญาณไฟสีแดงและน้ำเงินลอยอยู่ในแม่น้ำ รวมถึงหน่วยกู้ชีพและรถพยาบาล
    .
    ทางสนามบินยังประกาศระงับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก ในระหว่างที่หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเข้าตอบสนองอุบัติเหตุเครื่องบินชนกันครั้งนี้
    .
    เครื่องบินโดยสารในสหรัฐฯ ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นมีคนเสียชีวิตมาตั้งแต่เดือน ก.พ. ปี 2009 ทว่าเหตุการณ์ที่เครื่องบินหวุดหวิดจะเกิดอันตรายนั้นเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จนก่อให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยการบินและการปฏิบัติงานของหอควบคุมการจราจรทางอากาศที่มีกำลังคนไม่เพียงพอ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009591
    .........
    Sondhi X
    เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารของอเมริกันแอร์ไลน์ส (American Airlines) พุ่งชนกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพสหรัฐฯ จนตกลงไปในแม่น้ำโพโตแมคใกล้กับท่าอากาศยานแห่งชาติ เรแกน วอชิงตัน ชานกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (29 ม.ค.) ล่าสุดมีรายงานจากสื่อ CBS ว่าสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้แล้วอย่างน้อย 18 ศพ . ก่อนหน้านั้น หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่าร่างผู้เสียชีวิตหลายร่างถูกนำขึ้นจากแม่น้ำและยังไม่พบผู้รอดชีวิต ขณะที่ ส.ว. เท็ด ครูซ จากรัฐเทกซัสโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า “เราทราบว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง” . แหล่งข่าวในอเมริกันแอร์ไลน์สยืนยันว่า เครื่องบินลำนี้มีผู้โดยสาร 60 คน นักบิน 2 คน และลูกเรือ 2 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กลำที่พุ่งชนกันนั้นมีทหารอเมริกันอยู่ 3 นาย . กล้องเว็บแคมของศูนยเคนเนดีในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เผยให้เห็นภาพการระเบิดกลางอากาศเหนือแม่น้ำเมื่อเวลาประมาณ 20.47 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก และมีเครื่องบินลำหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ร่วงตกลงมาอย่างรวดเร็ว . สำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐฯ (FAA) แถลงว่า เครื่องบินโดยสารรุ่น CRJ700 ของ PSA Airlines เกิดการพุ่งชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง ขณะกำลังมุ่งหน้าลงจอดที่สนามบินเรแกน โดยเครื่องบินลำนี้อยู่ระหว่างปฏิบัติการภายใต้เที่ยวบิน 5342 ของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส และออกเดินทางมาจากเมืองวิชิตา รัฐแคนซัส . อเมริกันแอร์ไลน์สแถลงผ่านโซเชียลมีเดียว่า สายการบิน “ได้รับรายงานว่าเที่ยวบิน 5342 ซึ่งปฏิบัติการบินโดย PSA จากเมืองวิชิตา รัฐแคนซัส (ICT) มายังท่าอากาศยานแห่งชาติวอชิงตันเรแกน (DCA) ได้มีส่วนร่วมอยู่ในอุบัติเหตุดังกล่าว” และจะแถลงข้อมูลเพิ่มเติมทันทีที่สามารถทำได้ . กองทัพสหรัฐฯ แถลงยืนยันล่าสุดว่า “สามารถยืนยันได้ว่าอากาศยานที่เกิดอุบัติเหตุคืนนี้เป็นเฮลิคอปเตอร์ UH-60 ที่เดินทางมาจากฐานทัพฟอร์ตเบลวัวร์ในรัฐเวอร์จิเนีย เรากำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และจะแถลงให้ทราบทันทีที่มีข้อมูลเพิ่มเติม” . ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ออกคำแถลงทันทีหลังทราบข่าวโศกนาฏกรรมทางการบินครั้งนี้ว่า “ได้รับรายงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุอันเลวร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นที่สนามบินแห่งชาติเรแกน” . “ขอพระเจ้าประทานพรแก่ดวงวิญญาณของพวกเขา และขอขอบคุณหน่วยตอบสนองเหตุฉุกเฉินที่ทำงานกันอย่างเต็มกำลัง ผมกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์นี้ และจะแถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง” . ครอบครัวและญาติมิตรของผู้โดยสารเริ่มไปรวมตัวที่สนามบินเรแกนเพื่อขอทราบข้อมูลเพิ่มเติม โดยหญิงคนหนึ่งบอกกับเจ้าหน้าที่สนามบินว่า “ฉันไม่แน่ใจว่าเธออยู่บนเครื่องหรือเปล่า” ซึ่งคาดว่าจะหมายถึงผู้โดยสารในเครื่องบินที่ตก ก่อนจะร้องไห้ออกมาด้วยความเสียขวัญ . ตำรวจสหรัฐฯ ระบุว่า มีหลายหน่วยงานที่เข้าร่วมภารกิจค้นหาและช่วยชีวิตที่แม่น้ำโพโตแมคซึ่งอยู่ติดกับสนามบินเรแกน โดยภาพถ่ายทอดสดจากสถานีโทรทัศน์จะเห็นว่ามีเรือหลายลำซึ่งติดสัญญาณไฟสีแดงและน้ำเงินลอยอยู่ในแม่น้ำ รวมถึงหน่วยกู้ชีพและรถพยาบาล . ทางสนามบินยังประกาศระงับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก ในระหว่างที่หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเข้าตอบสนองอุบัติเหตุเครื่องบินชนกันครั้งนี้ . เครื่องบินโดยสารในสหรัฐฯ ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นมีคนเสียชีวิตมาตั้งแต่เดือน ก.พ. ปี 2009 ทว่าเหตุการณ์ที่เครื่องบินหวุดหวิดจะเกิดอันตรายนั้นเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จนก่อให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยการบินและการปฏิบัติงานของหอควบคุมการจราจรทางอากาศที่มีกำลังคนไม่เพียงพอ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009591 ......... Sondhi X
    Like
    Sad
    Wow
    18
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2297 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลเพิ่มเติมเบื้องต้น เหตุการณ์เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ชนกันกลางอากาศใกล้กับสนามบินแห่งชาติรีแกน มีรายงานพบผู้รอดชีวิต 4 ราย

    - อุณหภูมิของน้ำในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 35 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 1.6 องศาเซลเซียส)
    - เฮลิคอปเตอร์ที่ตกคือ VH-60 ซึ่งเป็นรุ่นดัดแปลงของ Blackhawk หรือ Whitehawk ซึ่งใช้สำหรับกองทัพบกสหรัฐเพื่อบรรทุกผู้บังคับบัญชาระดับสูง
    - เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐเผยว่าพบเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวอยู่ในท่าคว่ำและจมอยู่ใต้น้ำในแม่น้ำโปโตแมค มีทหารอยู่บนเครื่อง 3 นาย แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงอยู่ด้วย ทั้งหมดเสียชีวิต!
    - CNN รายงานว่า เครื่องบินโดยสารที่ประสบเหตุมีผู้โดยสาร 60 คนและลูกเรือ 4 คน
    - ขณะเดียวกัน มีรายงานผู้รอดชีวิต 4 ราย ได้รับการช่วยเหลือขึ้นจากน้ำ
    - เสียงจากการควบคุมการจราจรทางอากาศ ระบุถึงปัญหาการมองเห็นหรือการสื่อสารที่ผิดพลาด
    - การค้นหาและกู้ภัยยังคงดำเนินต่อไป
    ข้อมูลเพิ่มเติมเบื้องต้น เหตุการณ์เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ชนกันกลางอากาศใกล้กับสนามบินแห่งชาติรีแกน มีรายงานพบผู้รอดชีวิต 4 ราย - อุณหภูมิของน้ำในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 35 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 1.6 องศาเซลเซียส) - เฮลิคอปเตอร์ที่ตกคือ VH-60 ซึ่งเป็นรุ่นดัดแปลงของ Blackhawk หรือ Whitehawk ซึ่งใช้สำหรับกองทัพบกสหรัฐเพื่อบรรทุกผู้บังคับบัญชาระดับสูง - เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐเผยว่าพบเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวอยู่ในท่าคว่ำและจมอยู่ใต้น้ำในแม่น้ำโปโตแมค มีทหารอยู่บนเครื่อง 3 นาย แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงอยู่ด้วย ทั้งหมดเสียชีวิต! - CNN รายงานว่า เครื่องบินโดยสารที่ประสบเหตุมีผู้โดยสาร 60 คนและลูกเรือ 4 คน - ขณะเดียวกัน มีรายงานผู้รอดชีวิต 4 ราย ได้รับการช่วยเหลือขึ้นจากน้ำ - เสียงจากการควบคุมการจราจรทางอากาศ ระบุถึงปัญหาการมองเห็นหรือการสื่อสารที่ผิดพลาด - การค้นหาและกู้ภัยยังคงดำเนินต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • 3/
    ด่วน! เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ชนกันกลางอากาศใกล้กับสนามบินแห่งชาติรีแกน (Reagan National Airport) ในวอชิงตัน ดี.ซี. เหนือแม่น้ำโปโตแมค (Potomac River)

    รายงานเบื้องต้น เป็นเที่ยวบินพาณิชย์ 5342 ของ American Airlines ชนกับเฮลิคอปเตอร์ Blackhawk ของกองทัพบก ขณะมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติรีแกน และตกลงไปในน้ำโปโตแมค ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่กำลังดำเนินการในแม่น้ำโปโตแมค
    3/ ด่วน! เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ชนกันกลางอากาศใกล้กับสนามบินแห่งชาติรีแกน (Reagan National Airport) ในวอชิงตัน ดี.ซี. เหนือแม่น้ำโปโตแมค (Potomac River) รายงานเบื้องต้น เป็นเที่ยวบินพาณิชย์ 5342 ของ American Airlines ชนกับเฮลิคอปเตอร์ Blackhawk ของกองทัพบก ขณะมุ่งหน้าไปยังสนามบินแห่งชาติรีแกน และตกลงไปในน้ำโปโตแมค ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่กำลังดำเนินการในแม่น้ำโปโตแมค
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 34 1 รีวิว
Pages Boosts