• ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว หลังออกจากดูไบและแวะสิงคโปร์ก่อนลงจอดที่สนามบินดอนเมืองเวลา 14.54 น. โดยมีผู้ร่วมเดินทางรวม 6 คน หนึ่งในนั้นคือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085973

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว หลังออกจากดูไบและแวะสิงคโปร์ก่อนลงจอดที่สนามบินดอนเมืองเวลา 14.54 น. โดยมีผู้ร่วมเดินทางรวม 6 คน หนึ่งในนั้นคือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085973 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีบดูด่วน นักข่าวลุ้นทั้งวัน ทักษิณกลับมามั๊ย สุดท้าย..เห็นสิ่งนี้ (8/9/68)
    #ทักษิณจะกลับไหม #ลุ้นทั้งวันไม่มีคำตอบ #ข่าวด่วนการเมือง #สนามบินดอนเมืองร้อนระอุ #ทักษิณคัมแบ็ค #TruthFromThailand #news1 #thaitimes #shorts #Hunsenfiredfirst #CambodiaNoCeasefire
    รีบดูด่วน นักข่าวลุ้นทั้งวัน ทักษิณกลับมามั๊ย สุดท้าย..เห็นสิ่งนี้ (8/9/68) #ทักษิณจะกลับไหม #ลุ้นทั้งวันไม่มีคำตอบ #ข่าวด่วนการเมือง #สนามบินดอนเมืองร้อนระอุ #ทักษิณคัมแบ็ค #TruthFromThailand #news1 #thaitimes #shorts #Hunsenfiredfirst #CambodiaNoCeasefire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เครื่องบินไพรเวตเจ็ท ทะเบียน T7-GTS ที่เคยพาทักษิณไปดูไบ ออกจากสนามบินดูไบเวิลด์เซ็นทรัล 22.16 น. ตามเวลาไทย ลงจอดที่สนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเวลา 06.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ใช้เวลารวม 8 ชั่วโมง 39 นาที

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085707

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    เครื่องบินไพรเวตเจ็ท ทะเบียน T7-GTS ที่เคยพาทักษิณไปดูไบ ออกจากสนามบินดูไบเวิลด์เซ็นทรัล 22.16 น. ตามเวลาไทย ลงจอดที่สนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเวลา 06.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ใช้เวลารวม 8 ชั่วโมง 39 นาที อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085707 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก WP8 Pro ถึง WP60: เมื่อมือถือสายลุยกลายเป็นเครื่องมือทำงานที่แท้จริง

    Oukitel เปิดตัว WP60 ในงาน IFA 2025 โดยตั้งใจให้เป็น rugged smartphone ที่ท้าทายขีดจำกัดของขนาดหน้าจอและความจุข้อมูล ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 7.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 x 1560) และตัวเครื่องหนา 14.9 มม. ที่ดูเหมือนแท็บเล็ตมากกว่ามือถือทั่วไป

    แม้ความละเอียดจะไม่สูงมาก แต่ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ทำให้ WP60 เหมาะกับผู้ใช้งานภาคสนาม เช่น วิศวกร, ช่างเทคนิค, หรือเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ที่ต้องการอุปกรณ์ทนทานและใช้งานได้จริงในพื้นที่ที่แท็บเล็ตอาจพกพาไม่สะดวก

    WP60 ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7025 และมีให้เลือก 3 รุ่น: 8GB+256GB, 12GB+512GB และ 16GB+512GB ซึ่งตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและสายงานที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ แม้ชิปจะไม่แรงเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็เพียงพอสำหรับงานเอกสาร, การสื่อสาร, และการใช้งานแอปทั่วไป

    กล้องหลังมีความละเอียดสูงถึง 108MP ซึ่งหาได้ยากในมือถือสาย rugged โดยจับคู่กับกล้อง 8MP และ 2MP ส่วนกล้องหน้าแบบ punch-hole มีความละเอียด 32MP เหมาะสำหรับการประชุมวิดีโอหรือถ่ายภาพในพื้นที่ภาคสนาม

    แบตเตอรี่ขนาด 10,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33W PD ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางของมือถือสายลุย (บางรุ่นของ Oukitel มีถึง 16,000mAh) พร้อมฟีเจอร์เสริมเช่น NFC, fingerprint scanner และ gyroscope ที่ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น

    WP60 จะวางจำหน่ายในวันที่ 15 ตุลาคม 2025 โดยยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ

    สเปกหลักของ Oukitel WP60
    หน้าจอ 7.2 นิ้ว HD+ (720 x 1560) ขนาดตัวเครื่อง 184 x 87 x 14.9 มม.
    ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7025
    มีให้เลือก 3 รุ่น: 8GB+256GB, 12GB+512GB, 16GB+512GB

    กล้องและการใช้งานภาคสนาม
    กล้องหลัง 108MP + 8MP + 2MP
    กล้องหน้า 32MP แบบ punch-hole
    เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องการภาพชัดและอุปกรณ์ทนทาน

    แบตเตอรี่และฟีเจอร์เสริม
    แบตเตอรี่ 10,000mAh รองรับ 33W PD charging
    มี NFC, fingerprint scanner และ gyroscope
    ใช้ Android 15.0 พร้อมระบบความปลอดภัยระดับพื้นฐาน

    การวางจำหน่าย
    เปิดตัวในงาน IFA 2025
    วางจำหน่ายวันที่ 15 ตุลาคม 2025
    ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ

    https://www.techradar.com/pro/finally-heres-a-phablet-for-fans-of-big-screen-mobiles-rugged-oukitels-wp60-has-a-huge-7-2-inch-display-and-up-to-512gb-storage
    🎙️ เรื่องเล่าจาก WP8 Pro ถึง WP60: เมื่อมือถือสายลุยกลายเป็นเครื่องมือทำงานที่แท้จริง Oukitel เปิดตัว WP60 ในงาน IFA 2025 โดยตั้งใจให้เป็น rugged smartphone ที่ท้าทายขีดจำกัดของขนาดหน้าจอและความจุข้อมูล ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 7.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 x 1560) และตัวเครื่องหนา 14.9 มม. ที่ดูเหมือนแท็บเล็ตมากกว่ามือถือทั่วไป แม้ความละเอียดจะไม่สูงมาก แต่ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ทำให้ WP60 เหมาะกับผู้ใช้งานภาคสนาม เช่น วิศวกร, ช่างเทคนิค, หรือเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ที่ต้องการอุปกรณ์ทนทานและใช้งานได้จริงในพื้นที่ที่แท็บเล็ตอาจพกพาไม่สะดวก WP60 ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7025 และมีให้เลือก 3 รุ่น: 8GB+256GB, 12GB+512GB และ 16GB+512GB ซึ่งตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและสายงานที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ แม้ชิปจะไม่แรงเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็เพียงพอสำหรับงานเอกสาร, การสื่อสาร, และการใช้งานแอปทั่วไป กล้องหลังมีความละเอียดสูงถึง 108MP ซึ่งหาได้ยากในมือถือสาย rugged โดยจับคู่กับกล้อง 8MP และ 2MP ส่วนกล้องหน้าแบบ punch-hole มีความละเอียด 32MP เหมาะสำหรับการประชุมวิดีโอหรือถ่ายภาพในพื้นที่ภาคสนาม แบตเตอรี่ขนาด 10,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33W PD ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางของมือถือสายลุย (บางรุ่นของ Oukitel มีถึง 16,000mAh) พร้อมฟีเจอร์เสริมเช่น NFC, fingerprint scanner และ gyroscope ที่ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น WP60 จะวางจำหน่ายในวันที่ 15 ตุลาคม 2025 โดยยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ✅ สเปกหลักของ Oukitel WP60 ➡️ หน้าจอ 7.2 นิ้ว HD+ (720 x 1560) ขนาดตัวเครื่อง 184 x 87 x 14.9 มม. ➡️ ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7025 ➡️ มีให้เลือก 3 รุ่น: 8GB+256GB, 12GB+512GB, 16GB+512GB ✅ กล้องและการใช้งานภาคสนาม ➡️ กล้องหลัง 108MP + 8MP + 2MP ➡️ กล้องหน้า 32MP แบบ punch-hole ➡️ เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องการภาพชัดและอุปกรณ์ทนทาน ✅ แบตเตอรี่และฟีเจอร์เสริม ➡️ แบตเตอรี่ 10,000mAh รองรับ 33W PD charging ➡️ มี NFC, fingerprint scanner และ gyroscope ➡️ ใช้ Android 15.0 พร้อมระบบความปลอดภัยระดับพื้นฐาน ✅ การวางจำหน่าย ➡️ เปิดตัวในงาน IFA 2025 ➡️ วางจำหน่ายวันที่ 15 ตุลาคม 2025 ➡️ ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ https://www.techradar.com/pro/finally-heres-a-phablet-for-fans-of-big-screen-mobiles-rugged-oukitels-wp60-has-a-huge-7-2-inch-display-and-up-to-512gb-storage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 กันยายน 2568
    22.39 น.

    แอป Flightradar24 ตรวจพบเครื่องบิน Bombardier Global 7500 รหัส GL7T บนลานจอดสนามบินดูไบ โดยไม่ปรากฏข้อมูลเที่ยวบิน ไม่ว่าจะเป็นเวลาออกเดินทาง ปลายทาง หรือทะเบียนเครื่อง (ขึ้นว่า N/A) ระบบแสดงเพียงว่าจอดนิ่งที่ระดับความสูง 0 ฟุต ความเร็ว 0 นอต ใกล้อากาศยานลำอื่น
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร เคยใช้เครื่องรุ่นนี้ในการเดินทางไปดูไบ ล่าสุดสัญญาณได้หายไปแล้ว

    #MONONews
    7 กันยายน 2568 22.39 น. แอป Flightradar24 ตรวจพบเครื่องบิน Bombardier Global 7500 รหัส GL7T บนลานจอดสนามบินดูไบ โดยไม่ปรากฏข้อมูลเที่ยวบิน ไม่ว่าจะเป็นเวลาออกเดินทาง ปลายทาง หรือทะเบียนเครื่อง (ขึ้นว่า N/A) ระบบแสดงเพียงว่าจอดนิ่งที่ระดับความสูง 0 ฟุต ความเร็ว 0 นอต ใกล้อากาศยานลำอื่น ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร เคยใช้เครื่องรุ่นนี้ในการเดินทางไปดูไบ ล่าสุดสัญญาณได้หายไปแล้ว #MONONews
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" ส่อแววเบี้ยวศาล! คาดไม่กลับไทย 9 ก.ย. นี้ หลังเผ่นไปดูไบ อ้างสนามบินสิงคโปร์ปิด ทั้งที่เปิด 24 ชม. แถมเติมน้ำมันเต็มถังตั้งแต่ต้น หวั่นคุก 8 ปี หากอภัยโทษโมฆะ เหตุเพราะถูกเท..?

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085612

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    "ทักษิณ" ส่อแววเบี้ยวศาล! คาดไม่กลับไทย 9 ก.ย. นี้ หลังเผ่นไปดูไบ อ้างสนามบินสิงคโปร์ปิด ทั้งที่เปิด 24 ชม. แถมเติมน้ำมันเต็มถังตั้งแต่ต้น หวั่นคุก 8 ปี หากอภัยโทษโมฆะ เหตุเพราะถูกเท..? อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085612 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
    ตอนที่ 2
    นาย Kenneth Perry Landon เป็นมิชชั่นนารี หมอสอนศาสนา แต่ไม่ใช่มิชชั่นนารีประเภทเดินหน้าเซียวเที่ยวเคาะประตูบ้าน เหมือนคนขายหนังสือพจนานุกรมสมัยก่อน แต่เขาเป็นนักสอนศาสนามีดีกรี จบปริญญาตรีทางเทววิทยา Theological Seminary จากมหาวิทยาลัย Princeton (วิชานี้เขาว่านักบวชสมัยก่อนที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา แถวเอเซีย ลาตินอเมริกา ล้วนจบวิชานี้ทั้งนั้น นอกเหนือจากเรียนหลายภาษาแล้ว หนึ่งในหลักสูตรเขาว่าต้องเรียนฟันดาบและต่อสู้ป้องกันตัวด้วย)หลังจากนั้นนาย Kenneth ก็เรียนต่อจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย Chicago เขาเดินทางมาเมืองไทย พร้อมภรรยา เมื่อประมาณ ค.ศ. 1927 (อย่าเพิ่งโว้ย ว่าเล่านิทานโบราณจัง ตอนนี้ใครๆ เขาเขียนเรื่องเรือบินหายหรือสงครามโลกครั้งที่ 3 กันทั้งนั้น ใจเย็น อ่านต่อไปก่อนน่า เดี๋ยวมันก็อธิบายมาถึงปัจจุบันได้เองแหละ)
    เขากับนาง Margaret เดินทางมาทางเรือจากด้านตะวันออกของอเมริกา ผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก มาโผล่เอาที่สิงคโปร์ ตลอดทางที่เรือแวะจอดท่าต่างๆ เขานั่งเบิ่งตา หูตั้ง มองทุกอย่าง ฟังทุกเรื่อง จัดเก็บข้อมูลเรียงแน่นอยู่ในหัว (ใบสั่งมันคงระบุชัดเจนดี) จนเมื่อเรือแล่นจากสิงคโปร์ขึ้นมาบางกอก เมียก็ถามเขาว่า นี่เธอรู้จักเมืองไทยดีแค่ไหนนะเนี่ย เขาตอบว่า ฉันรู้แต่ว่าคนไทยส่วนมากเป็นฝาแฝดตัวติดกัน แล้วก็มีช้างเผือกแยะมาก และที่เมืองไทยฝนน่าจะตกชุก เพราะฉันเห็นรูปถ่ายพระเจ้าแผ่นดินของไทย นั่งอยู่ใต้ร่มอันใหญ่มาก หน้าตาเหมือนน้ำพุ 9 ชั้น (อืม ! ชั้นเชิงใช้ได้ ตอบเมียตัวเองได้แบบนี้อนาคตไกล)
    นาย Kenneth กับนาง Margaret เมื่อแรกมาถึงเมืองไทยก็พักอยู่ที่เมืองบางกอกก่อน อยู่ประมาณ 1 ปี ตลอดเวลา 1 ปี เขาถูกพาไปป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ในสังคมฝรั่งที่มีทั้งพวกมิชชั่นนารี พวกฑูต และพ่อค้าฝรั่ง แล้วฝรั่งพวกนี้ก็พาเขาเข้าสังคมคนไทยชั้นสูง ทำให้เขามีโอกาสรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองไทย รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ระดับสูง เช่น กรมพระยาดำรงเดชานุภาพ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เป็นต้น (อย่าลืมว่าเมื่อนาย Kenneth มาถึงเมืองไทย ช่วงนั้นยังเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่ น่าสนใจวิธีการนำตัวเข้าสังคมของนักสอนศาสนารายนี้จริงๆ) นาย Kenneth ไม่ได้ใช้เวลาเดินเล่นอยู่ในวงสังคมชั้นสูงอย่างเดียว อีกอย่างที่เขาทำอย่างเอาจริงเอาจัง และไม่ให้ใครรู้ คือ เขาตั้งใจเรียนภาษาไทย เขาจ้างครูมาสอน เขาและภรรยาเรียนภาษาไทยกับครูทุกวันๆ ละ 3 ชั่วโมง และทำการบ้านเตรียมตัวอีกวันละ 3 ชั่วโมง สำหรับการเรียนในวันรุ่งขึ้น เป็นการเรียนแบบหลักสูตรเร่งรัดเลยละ (มันทำไมต้องเร่งรัดกันขนาดนี้นะ ?) เขาฝึกบทเรียนภาษาไทยที่เขาเรียน ด้วยการออกไปเดินเที่ยวเล่นในตลาด ไปเดินซื้อของและถามแม่ค้า เป็นภาษาไทยว่า “เท่าไหร่” และไม่ว่าแม่ค้าจะตอบว่าอะไร และไม่ว่าเขาจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ เขาก็จะตอบกลับเป็นภาษาไทยว่า “แพงไป” แล้วก็เดินไปหาแม่ค้าเจ้าอื่นต่อไป (เห็นลีลาสายลับรุ่นโบราณไหมครับ สมัยนี้ก็ยังทำแบบนี้ แต่แทนที่จะเดินเล่นตามตลาด เขาไปเดินเล่นตามห้าง ตามงานสังคมชั้นสูง ตามที่มั่วสุมของคนชั้นสูง เช่นที่สปอร์ตคลับ และตามบ้านคนใหญ่คนโตทั้งหลาย ฯลฯ เสร็จแล้วพวกเขาก็ไปรายงานข้อมูลที่ได้ยินมาจากที่ไปเดินเล่น ตามที่ตัวเองเข้าใจ แบบ งูๆ ปลาๆ ต่อนายเหนือ เรื่องมันถึงได้วุ่น !)
    จากการเรียนภาษาไทยอย่างตั้งอกตั้งใจ ทำให้เขาเข้าใจว่า ภาษาไทยเป็นภาษาที่ลึกซึ้ง แสดงถึงความละเอียดอ่อนของความเป็นคนไทย เขายกตัวอย่างคำว่า ฉัน ภาษาอังกฤษ ใช้ I หรือ me แค่ 2 คำ แต่ภาษาไทยมีให้เลือกใช้ถึง 15 คำ แต่ละคำแสดงถึงสถานะทางสังคมของ ผู้พูด ความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดและยังแยกเพศได้อีก สิ่งเหล่านี้ไม่มีในภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นคำเดียวกันนั้น ถ้าใช้คู่กับอีกคำ ระหว่างบุรุษที่ 1 กับบุรุษที่ 2 ยังแสดงถึงอารมณ์ ความสนิทสนมของผู้ใช้อีกด้วย รวมทั้งแสดงได้ถึงฐานะที่สูงต่ำกว่ากัน เช่นคำว่า “มึง” และ “กู” ดังนั้นจึงเป็นการยากที่ชาวต่างชาติจะเข้าใจคนไทย และสังคมไทยถ้าไม่เข้าใจภาษาไทยให้แตกฉานเสียก่อน (อยากรู้ว่าไอ้พวก app รุ่นใหม่ที่ไปเดินเล่นตามสังคมนั้น มันจะเข้าใจความละเอียดอ่อนของคนไทยได้แค่ไหนกัน)
    นอกจากนี้จากการเรียนภาษาไทย ทำให้เขาเข้าใจว่า กว่าครึ่งของภาษาไทยมีรากมาจากภาษาสันสกฤตและบาลี ซึ่งเป็นภาษาโบราณของอินเดีย และเกี่ยวพันกับพุทธศาสนา ซึ่งเป็นทั้งศาสนาและวัฒนธรรมของคนไทย เขาบอกกับตัวเองว่าถ้าจะเข้าใจคนไทยให้ลึกซึ้ง ต้องเข้าใจภาษาไทย และควรจะศึกษาเกี่ยวกับอินเดียด้วย เพื่อเข้าใจที่มาที่ไปของคนไทย ประเพณี และวิธีการคิดของคนไทย ซึ่งภายหลังเขาได้กลับไปเรียนต่อปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัย Chicago เขาเรียนภาษาสันสกฤต บาลีรวมทั้งเรียนวิชาเกี่ยวกับอินเดียด้วย (เขาหาอุปกรณ์เสริมได้เก่ง ต้องยอมรับ นักสอนศาสนาคนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ)
    เขาเรียนภาษาไทยแตกฉานได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างที่อยู่บางกอก เขาทดสอบความแตกฉานของตัวเองด้วยการ เริ่มเทศน์เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ เป็นภาษาไทย ช่วงแรกๆ เวลาเขาเทศน์ เมื่อพูดถึงพระเยซูถูกตรึง “กางเขน” เขาออกเสียงภาษาไทย เป็นพระเยซูถูกตรึง “กางเกง” และนั่นทำให้เขาเป็นที่ชอบใจของคนไทย ว่าเขาเทศน์ได้ตลกดี และทำให้มีคนมาฟังเขาแยะ แม้จะไม่รู้จักพระเยซูและศาสนาคริสเตียนเลยแม้แต่น้อย แต่ก็พากันมาดูฝรั่งแทศน์เป็นภาษาไทย แบบดูการแสดงตลก โดยไม่คิดอะไรมาก

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า” ตอนที่ 2 นาย Kenneth Perry Landon เป็นมิชชั่นนารี หมอสอนศาสนา แต่ไม่ใช่มิชชั่นนารีประเภทเดินหน้าเซียวเที่ยวเคาะประตูบ้าน เหมือนคนขายหนังสือพจนานุกรมสมัยก่อน แต่เขาเป็นนักสอนศาสนามีดีกรี จบปริญญาตรีทางเทววิทยา Theological Seminary จากมหาวิทยาลัย Princeton (วิชานี้เขาว่านักบวชสมัยก่อนที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา แถวเอเซีย ลาตินอเมริกา ล้วนจบวิชานี้ทั้งนั้น นอกเหนือจากเรียนหลายภาษาแล้ว หนึ่งในหลักสูตรเขาว่าต้องเรียนฟันดาบและต่อสู้ป้องกันตัวด้วย)หลังจากนั้นนาย Kenneth ก็เรียนต่อจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย Chicago เขาเดินทางมาเมืองไทย พร้อมภรรยา เมื่อประมาณ ค.ศ. 1927 (อย่าเพิ่งโว้ย ว่าเล่านิทานโบราณจัง ตอนนี้ใครๆ เขาเขียนเรื่องเรือบินหายหรือสงครามโลกครั้งที่ 3 กันทั้งนั้น ใจเย็น อ่านต่อไปก่อนน่า เดี๋ยวมันก็อธิบายมาถึงปัจจุบันได้เองแหละ) เขากับนาง Margaret เดินทางมาทางเรือจากด้านตะวันออกของอเมริกา ผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก มาโผล่เอาที่สิงคโปร์ ตลอดทางที่เรือแวะจอดท่าต่างๆ เขานั่งเบิ่งตา หูตั้ง มองทุกอย่าง ฟังทุกเรื่อง จัดเก็บข้อมูลเรียงแน่นอยู่ในหัว (ใบสั่งมันคงระบุชัดเจนดี) จนเมื่อเรือแล่นจากสิงคโปร์ขึ้นมาบางกอก เมียก็ถามเขาว่า นี่เธอรู้จักเมืองไทยดีแค่ไหนนะเนี่ย เขาตอบว่า ฉันรู้แต่ว่าคนไทยส่วนมากเป็นฝาแฝดตัวติดกัน แล้วก็มีช้างเผือกแยะมาก และที่เมืองไทยฝนน่าจะตกชุก เพราะฉันเห็นรูปถ่ายพระเจ้าแผ่นดินของไทย นั่งอยู่ใต้ร่มอันใหญ่มาก หน้าตาเหมือนน้ำพุ 9 ชั้น (อืม ! ชั้นเชิงใช้ได้ ตอบเมียตัวเองได้แบบนี้อนาคตไกล) นาย Kenneth กับนาง Margaret เมื่อแรกมาถึงเมืองไทยก็พักอยู่ที่เมืองบางกอกก่อน อยู่ประมาณ 1 ปี ตลอดเวลา 1 ปี เขาถูกพาไปป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ในสังคมฝรั่งที่มีทั้งพวกมิชชั่นนารี พวกฑูต และพ่อค้าฝรั่ง แล้วฝรั่งพวกนี้ก็พาเขาเข้าสังคมคนไทยชั้นสูง ทำให้เขามีโอกาสรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองไทย รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ระดับสูง เช่น กรมพระยาดำรงเดชานุภาพ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เป็นต้น (อย่าลืมว่าเมื่อนาย Kenneth มาถึงเมืองไทย ช่วงนั้นยังเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่ น่าสนใจวิธีการนำตัวเข้าสังคมของนักสอนศาสนารายนี้จริงๆ) นาย Kenneth ไม่ได้ใช้เวลาเดินเล่นอยู่ในวงสังคมชั้นสูงอย่างเดียว อีกอย่างที่เขาทำอย่างเอาจริงเอาจัง และไม่ให้ใครรู้ คือ เขาตั้งใจเรียนภาษาไทย เขาจ้างครูมาสอน เขาและภรรยาเรียนภาษาไทยกับครูทุกวันๆ ละ 3 ชั่วโมง และทำการบ้านเตรียมตัวอีกวันละ 3 ชั่วโมง สำหรับการเรียนในวันรุ่งขึ้น เป็นการเรียนแบบหลักสูตรเร่งรัดเลยละ (มันทำไมต้องเร่งรัดกันขนาดนี้นะ ?) เขาฝึกบทเรียนภาษาไทยที่เขาเรียน ด้วยการออกไปเดินเที่ยวเล่นในตลาด ไปเดินซื้อของและถามแม่ค้า เป็นภาษาไทยว่า “เท่าไหร่” และไม่ว่าแม่ค้าจะตอบว่าอะไร และไม่ว่าเขาจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ เขาก็จะตอบกลับเป็นภาษาไทยว่า “แพงไป” แล้วก็เดินไปหาแม่ค้าเจ้าอื่นต่อไป (เห็นลีลาสายลับรุ่นโบราณไหมครับ สมัยนี้ก็ยังทำแบบนี้ แต่แทนที่จะเดินเล่นตามตลาด เขาไปเดินเล่นตามห้าง ตามงานสังคมชั้นสูง ตามที่มั่วสุมของคนชั้นสูง เช่นที่สปอร์ตคลับ และตามบ้านคนใหญ่คนโตทั้งหลาย ฯลฯ เสร็จแล้วพวกเขาก็ไปรายงานข้อมูลที่ได้ยินมาจากที่ไปเดินเล่น ตามที่ตัวเองเข้าใจ แบบ งูๆ ปลาๆ ต่อนายเหนือ เรื่องมันถึงได้วุ่น !) จากการเรียนภาษาไทยอย่างตั้งอกตั้งใจ ทำให้เขาเข้าใจว่า ภาษาไทยเป็นภาษาที่ลึกซึ้ง แสดงถึงความละเอียดอ่อนของความเป็นคนไทย เขายกตัวอย่างคำว่า ฉัน ภาษาอังกฤษ ใช้ I หรือ me แค่ 2 คำ แต่ภาษาไทยมีให้เลือกใช้ถึง 15 คำ แต่ละคำแสดงถึงสถานะทางสังคมของ ผู้พูด ความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดและยังแยกเพศได้อีก สิ่งเหล่านี้ไม่มีในภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นคำเดียวกันนั้น ถ้าใช้คู่กับอีกคำ ระหว่างบุรุษที่ 1 กับบุรุษที่ 2 ยังแสดงถึงอารมณ์ ความสนิทสนมของผู้ใช้อีกด้วย รวมทั้งแสดงได้ถึงฐานะที่สูงต่ำกว่ากัน เช่นคำว่า “มึง” และ “กู” ดังนั้นจึงเป็นการยากที่ชาวต่างชาติจะเข้าใจคนไทย และสังคมไทยถ้าไม่เข้าใจภาษาไทยให้แตกฉานเสียก่อน (อยากรู้ว่าไอ้พวก app รุ่นใหม่ที่ไปเดินเล่นตามสังคมนั้น มันจะเข้าใจความละเอียดอ่อนของคนไทยได้แค่ไหนกัน) นอกจากนี้จากการเรียนภาษาไทย ทำให้เขาเข้าใจว่า กว่าครึ่งของภาษาไทยมีรากมาจากภาษาสันสกฤตและบาลี ซึ่งเป็นภาษาโบราณของอินเดีย และเกี่ยวพันกับพุทธศาสนา ซึ่งเป็นทั้งศาสนาและวัฒนธรรมของคนไทย เขาบอกกับตัวเองว่าถ้าจะเข้าใจคนไทยให้ลึกซึ้ง ต้องเข้าใจภาษาไทย และควรจะศึกษาเกี่ยวกับอินเดียด้วย เพื่อเข้าใจที่มาที่ไปของคนไทย ประเพณี และวิธีการคิดของคนไทย ซึ่งภายหลังเขาได้กลับไปเรียนต่อปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัย Chicago เขาเรียนภาษาสันสกฤต บาลีรวมทั้งเรียนวิชาเกี่ยวกับอินเดียด้วย (เขาหาอุปกรณ์เสริมได้เก่ง ต้องยอมรับ นักสอนศาสนาคนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ) เขาเรียนภาษาไทยแตกฉานได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างที่อยู่บางกอก เขาทดสอบความแตกฉานของตัวเองด้วยการ เริ่มเทศน์เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ เป็นภาษาไทย ช่วงแรกๆ เวลาเขาเทศน์ เมื่อพูดถึงพระเยซูถูกตรึง “กางเขน” เขาออกเสียงภาษาไทย เป็นพระเยซูถูกตรึง “กางเกง” และนั่นทำให้เขาเป็นที่ชอบใจของคนไทย ว่าเขาเทศน์ได้ตลกดี และทำให้มีคนมาฟังเขาแยะ แม้จะไม่รู้จักพระเยซูและศาสนาคริสเตียนเลยแม้แต่น้อย แต่ก็พากันมาดูฝรั่งแทศน์เป็นภาษาไทย แบบดูการแสดงตลก โดยไม่คิดอะไรมาก คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,ถ้าประชาชนเอาจริง บอกเลยข้าราชการทั้งสระแก้วตายยกเข่ง,ปล่อยปละละเลยก็ ม.157 แล้ว สมยอมรู้เห็นเป็นใจให้เสียหายแบบเสียดินแดนโดยเจตนาให้คนเขมรครอบครองไปขับไล่ก็ ม.119แล้ว ตำรวจท้องที่ ตำรวจชายแดน ทหารกำกับดูแลพื้นที่ก็ต้องโดนด้วยตามเนื้องานรับผิดชอบตน ทั้งม.157และ ม.119ด้วยชัดเจนเอาแค่สองตัวนี้ก็ดิ้นไม่หลุดแล้วนอกจากนายใหญ่โคตรพ่อโคตรแมร่งเลวชั่วปกป้องพวกนี้,จึงต้องกำจัดนายใหญ่นี้ด้วย เป็นเจ้าเป็นเชื้อพระวงศ์หากทำผิดเสียเองให้ท้ายจนนำไปสู่ภัยเสียดินแดนไทยตนก็มิอาจเก็บไว้ พวกผิดหวังขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ลูกหลานนางสนมต่างๆในอดีตสืบทอดถึงปัจจุบันหากกระทำตนเลวชั่วก็ต้องกำจัดจริงๆ,นายใหญ่นายใหญ่นอกจากอำมาตย์ราชการใหญ่โต ก็มองไม่ออกว่าโคตรหม่อมๆชั่วเลวตรใดก็ว่า ผู้ดีโคตรเหง้าตระกูลใดสั่งมทภ.1ได้มิให้จัดการเขมรเถื่อนจนถึงปัจจุบัน ,แฝมทภ.2ทำไมจัดการได้ อดีตทหารนายพลใดที่เลวชั่วนัก,กฎหมายหมิ่นประมาทต้องยกเลิก,จะได้มีคนกล้าแฉกล้าพูดว่า อาจจะเป็นใคร น่าจะเป็นใคร โอกาสเป็นใคร สายลับคาดว่าเป็นคนชื่อนั้นนี้ เปิดออกมาก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาทมัน,มันไม่ผิดก็ไม่ต้องเดือดร้อน ออกมาตอบโต้ได้สาระพัดทาง,ประจานประนามด่าว่าคนที่แฉตน เอาความจริงหรือไม่จริงมาพูดได้,จากนั้นประชาชนจะประเมิน ค.ว.ย.ตามหลักเหตุผล ผูกปมไขพิสูจน์แต่ละฝ่ายว่ามีมูลความจริงขนาดไหน คนแฉมีรูปมีพยานหลักฐานโชว์บอกผ่านสื่อประชาชนอีก,ความจริงก็จะทำลายความไม่จริงลงเรื่อยๆ กำจัดคนไม่ดีในสังคมได้ตลอดเวลา หากไม่สำนึกปรับปรุงตัวก็ดับอนาถจัดการแฉขั้นเด็ดขาดไม่ไว้หน้าอับอายทั่วประเทศไทยเลย,นี้ไง กฎหมายหมิ่นประมาทจึงบัดสบมาก,ปิดปากผู้คนชาวไทยเราได้ดีล่ะ.

    ..ภาค.1ตอนนี้ ทหารภาค1.คือเครดิตตกต่ำมากจากการนำทัพบัญชาการรบลงสนามรบของแม่ทัพภาค.1 ถ้าเทียบสมรภูมิสงคราม9ทัพ99ทัพ,1ในทัพที่พ่ายแพ้สงครามดับอนาถแก้ศัตรูที่แพ้ในสนามรบกับข้าศึก ทหารตายทั้งกองทัพด้วยก็คือทัพของภาค.1นี้ล่ะ,และหากเทียบอีก1ใน9ทัพหรือ99ทัพที่No.1ในการทำศึกสงครามครั้งนี้ที่สุดยอดของทั้งกองทัพก็คือทัพของภาค.2เต็มๆเข้าตีเมืองศัตรูข้าศึกรบตลอด5วันสามารถเข้าตียึดเมืองศัตรูด้วยกว่า11เมืองพื้นที่ข้าศึกนอกจากชนะบนลานสนามรบแล้ว,ภาค.1แม้เมืองเดียวที่ไร้หัวทหารศัตรูบนสนามรบแท้ๆก็ยังเข้าตีเมืองยึดเมืองไม่ได้,อำมาตย์ราชวังยังหน้ามึนหน้าหนาหน้าด้านไม่รู้จักถูกผิด สมควร ไม่สมควร เสือกเลื่อนตำแหน่งชั้นยศให้เป็นรางวัลอีก,เสมือนแม่ทัพผู้นี้แม้ออกรบที่พ่ายแพ้สงครามบนสนามรบกลับมาก็สามารถมีตำแหน่งใหญ่โตบนอำนาจทางทหารได้ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจนายทหารอื่นๆที่มีความสามารถมากมายกว่าแม่ทัพนายทหารนี้มาก,นี้คือการทำลายความมั่นคงทางกองทัพจากภายในชัดเจน อันตรายมาก เสมือนกรุงศรีอยุธยาล้มสลายเมืองกรุงแตกก็มาจากอำมาตย์ชั่วเลวเหล่านี้นี้เอง,เชิดชูคนกากกระจอกอ่อนแอไปเป็นคนมีอำนาจควบคุมทั้งกองทัพ ซึ่งฝีมือตนไม่มีห่าอะไรเลย รบก็แพ้ ออกสนามรบก็ยังไม่ชักดาบฆ่าทหารฝ่ายศัตรูตายสักคน,ทหารตายทั้งกองทัพจนแพ้สงครามกว่าทัพใดๆใน9ทัพ99ทัพ ,หากยังเป็นแบบนี้ อันตรายแน่นอน,เราไม่สามารถระวังภัยนั้นได้ตลอดเวลาดอก,อย่าประมาทไฟแม้เพียงก้อนเล็กน้อย.

    https://youtube.com/shorts/bM8NJBMPjuw?si=8TiqGCDlsRFHhSJI
    555,ถ้าประชาชนเอาจริง บอกเลยข้าราชการทั้งสระแก้วตายยกเข่ง,ปล่อยปละละเลยก็ ม.157 แล้ว สมยอมรู้เห็นเป็นใจให้เสียหายแบบเสียดินแดนโดยเจตนาให้คนเขมรครอบครองไปขับไล่ก็ ม.119แล้ว ตำรวจท้องที่ ตำรวจชายแดน ทหารกำกับดูแลพื้นที่ก็ต้องโดนด้วยตามเนื้องานรับผิดชอบตน ทั้งม.157และ ม.119ด้วยชัดเจนเอาแค่สองตัวนี้ก็ดิ้นไม่หลุดแล้วนอกจากนายใหญ่โคตรพ่อโคตรแมร่งเลวชั่วปกป้องพวกนี้,จึงต้องกำจัดนายใหญ่นี้ด้วย เป็นเจ้าเป็นเชื้อพระวงศ์หากทำผิดเสียเองให้ท้ายจนนำไปสู่ภัยเสียดินแดนไทยตนก็มิอาจเก็บไว้ พวกผิดหวังขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ลูกหลานนางสนมต่างๆในอดีตสืบทอดถึงปัจจุบันหากกระทำตนเลวชั่วก็ต้องกำจัดจริงๆ,นายใหญ่นายใหญ่นอกจากอำมาตย์ราชการใหญ่โต ก็มองไม่ออกว่าโคตรหม่อมๆชั่วเลวตรใดก็ว่า ผู้ดีโคตรเหง้าตระกูลใดสั่งมทภ.1ได้มิให้จัดการเขมรเถื่อนจนถึงปัจจุบัน ,แฝมทภ.2ทำไมจัดการได้ อดีตทหารนายพลใดที่เลวชั่วนัก,กฎหมายหมิ่นประมาทต้องยกเลิก,จะได้มีคนกล้าแฉกล้าพูดว่า อาจจะเป็นใคร น่าจะเป็นใคร โอกาสเป็นใคร สายลับคาดว่าเป็นคนชื่อนั้นนี้ เปิดออกมาก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาทมัน,มันไม่ผิดก็ไม่ต้องเดือดร้อน ออกมาตอบโต้ได้สาระพัดทาง,ประจานประนามด่าว่าคนที่แฉตน เอาความจริงหรือไม่จริงมาพูดได้,จากนั้นประชาชนจะประเมิน ค.ว.ย.ตามหลักเหตุผล ผูกปมไขพิสูจน์แต่ละฝ่ายว่ามีมูลความจริงขนาดไหน คนแฉมีรูปมีพยานหลักฐานโชว์บอกผ่านสื่อประชาชนอีก,ความจริงก็จะทำลายความไม่จริงลงเรื่อยๆ กำจัดคนไม่ดีในสังคมได้ตลอดเวลา หากไม่สำนึกปรับปรุงตัวก็ดับอนาถจัดการแฉขั้นเด็ดขาดไม่ไว้หน้าอับอายทั่วประเทศไทยเลย,นี้ไง กฎหมายหมิ่นประมาทจึงบัดสบมาก,ปิดปากผู้คนชาวไทยเราได้ดีล่ะ. ..ภาค.1ตอนนี้ ทหารภาค1.คือเครดิตตกต่ำมากจากการนำทัพบัญชาการรบลงสนามรบของแม่ทัพภาค.1 ถ้าเทียบสมรภูมิสงคราม9ทัพ99ทัพ,1ในทัพที่พ่ายแพ้สงครามดับอนาถแก้ศัตรูที่แพ้ในสนามรบกับข้าศึก ทหารตายทั้งกองทัพด้วยก็คือทัพของภาค.1นี้ล่ะ,และหากเทียบอีก1ใน9ทัพหรือ99ทัพที่No.1ในการทำศึกสงครามครั้งนี้ที่สุดยอดของทั้งกองทัพก็คือทัพของภาค.2เต็มๆเข้าตีเมืองศัตรูข้าศึกรบตลอด5วันสามารถเข้าตียึดเมืองศัตรูด้วยกว่า11เมืองพื้นที่ข้าศึกนอกจากชนะบนลานสนามรบแล้ว,ภาค.1แม้เมืองเดียวที่ไร้หัวทหารศัตรูบนสนามรบแท้ๆก็ยังเข้าตีเมืองยึดเมืองไม่ได้,อำมาตย์ราชวังยังหน้ามึนหน้าหนาหน้าด้านไม่รู้จักถูกผิด สมควร ไม่สมควร เสือกเลื่อนตำแหน่งชั้นยศให้เป็นรางวัลอีก,เสมือนแม่ทัพผู้นี้แม้ออกรบที่พ่ายแพ้สงครามบนสนามรบกลับมาก็สามารถมีตำแหน่งใหญ่โตบนอำนาจทางทหารได้ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจนายทหารอื่นๆที่มีความสามารถมากมายกว่าแม่ทัพนายทหารนี้มาก,นี้คือการทำลายความมั่นคงทางกองทัพจากภายในชัดเจน อันตรายมาก เสมือนกรุงศรีอยุธยาล้มสลายเมืองกรุงแตกก็มาจากอำมาตย์ชั่วเลวเหล่านี้นี้เอง,เชิดชูคนกากกระจอกอ่อนแอไปเป็นคนมีอำนาจควบคุมทั้งกองทัพ ซึ่งฝีมือตนไม่มีห่าอะไรเลย รบก็แพ้ ออกสนามรบก็ยังไม่ชักดาบฆ่าทหารฝ่ายศัตรูตายสักคน,ทหารตายทั้งกองทัพจนแพ้สงครามกว่าทัพใดๆใน9ทัพ99ทัพ ,หากยังเป็นแบบนี้ อันตรายแน่นอน,เราไม่สามารถระวังภัยนั้นได้ตลอดเวลาดอก,อย่าประมาทไฟแม้เพียงก้อนเล็กน้อย. https://youtube.com/shorts/bM8NJBMPjuw?si=8TiqGCDlsRFHhSJI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.137 : เบื้องหลังพาเหรด 80 ปี Victory Day จีนชนะสงครามโลก
    .
    วันพุธที่ 3 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนมีงานใหญ่ คือ งานรำลึกชัยชนะในสงครามต่อต้านญี่ปุ่น และสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปีนี้เป็นวาระครบรอบ 80 ปี โดยประเทศจีนได้จัดการ “สวนสนาม” ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน พร้อมกับเชิญผู้นำ และบุคคลสำคัญจากชาติต่าง ๆ เกือบ 30 ประเทศเข้าร่วมพิธี โดยงานครั้งนี้มีผู้ร่วมงานในพื้นที่มากกว่า 5 หมื่นคน
    .
    ถึงแม้ว่า จีนจะมีพิธีระลึกถึงชัยชนะในสงครามโลกเป็นประจำทุกปี แต่การสวนสนาม และการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่นั้น ไม่ได้มีกันบ่อย ๆ เพราะว่าการจัดงานในระดับนี้ต้องมีการเตรียมงานอย่างมากมาย, มีการฝึกซ้อมหลายครั้ง, และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดังนั้น งานในปีนี้จึงมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ ...
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=lU3vWB8sv3U
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #สงครามโลกครั้งที่2 #จีนจัดพาเหรดชนะสงคราม #VictoryDay #จัตุรัสเทียนอันเหมิน
    บูรพาไม่แพ้ Ep.137 : เบื้องหลังพาเหรด 80 ปี Victory Day จีนชนะสงครามโลก . วันพุธที่ 3 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนมีงานใหญ่ คือ งานรำลึกชัยชนะในสงครามต่อต้านญี่ปุ่น และสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปีนี้เป็นวาระครบรอบ 80 ปี โดยประเทศจีนได้จัดการ “สวนสนาม” ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน พร้อมกับเชิญผู้นำ และบุคคลสำคัญจากชาติต่าง ๆ เกือบ 30 ประเทศเข้าร่วมพิธี โดยงานครั้งนี้มีผู้ร่วมงานในพื้นที่มากกว่า 5 หมื่นคน . ถึงแม้ว่า จีนจะมีพิธีระลึกถึงชัยชนะในสงครามโลกเป็นประจำทุกปี แต่การสวนสนาม และการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่นั้น ไม่ได้มีกันบ่อย ๆ เพราะว่าการจัดงานในระดับนี้ต้องมีการเตรียมงานอย่างมากมาย, มีการฝึกซ้อมหลายครั้ง, และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดังนั้น งานในปีนี้จึงมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ ... . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=lU3vWB8sv3U . #บูรพาไม่แพ้ #สงครามโลกครั้งที่2 #จีนจัดพาเหรดชนะสงคราม #VictoryDay #จัตุรัสเทียนอันเหมิน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยนักล่า ตอนที่ 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (3)
    คุณครูผู้ปกครอง CRS เขียนสมุดรายงานความประพฤตินักเรียนไทยแบบไม่ต้องตีความกันมาก อเมริการับไม่ได้ที่จะให้ไทยแลนด์เล่นกีฬาสีภายในกันไปตลอดชาติ มันต้องหยุดเสียที จะหยุดแบบไหน ก็แบบที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบมั่นคงนั่นแหละ เพราะมันเป็นความจำเป็นของนักล่า ในการจะใช้ไทย ที่มีบ้านเมืองสงบมั่นคง ร่วมขบวนทัพไปบุกบ้านอาเฮีย !

คุณครูเขียนเองนะว่า ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชมว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด จนเมื่อมีการปฏิวัติ ค.ศ. 2006 (เมื่อมีการไล่ไอ้โจรร้ายออกไป แล้วไอ้โจรร้ายมันไม่ยอมรับ ไม่ว่าผลทางกฏหมาย หรือผลทางการเมือง มันถึงได้ตีตั๋วรวนแบบตั๋วไม่มีหมดอายุ จนกว่าหมดอายุกันไปข้างหนึ่งน่ะแหละ) เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าสื่อนอกหรือคุณนายฑูต มันว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอารายงานคุณครู CRS ของพวกมันเองนี้แหละ ส่งไปให้อ่านนะครับ ทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ใหญ่ ติดหน้าสถาน
ฑูตมันเลยดีไหมพี่น้อง เดี๋ยวผมจะเอา link มาลง แล้วก็ช่วยกันอ่าน ช่วยกันก๊อบส่งกันไป จริง ๆ ก็หาไม่ยากอะไร กดถามอากู “Thailand : Background and US Relations” ปี ค.ศ. 2013 มันก็ขึ้นมาแล้วครับ
    นักล่ามันจะทนนั่งเกาหัวดูอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง ประเทศนี้อยู่ในอุ้งมือมันมาตั้งกะ ค.ศ. 1954 กว่า 60 ปีมาแล้ว ของมันเคย เคยมี เคยสั่ง เคยใช้กันได้ วันดีคืนดีมีอาเฮียมายืนพุงโต แอบจับมือกับสมันน้อยอีกคน ความอิจฉาตาร้อนก็ต้องมีเป็นธรรมดา ยังมาปากแข็งทำเป็นขู่ว่า ไอไม่ให้ไทยแลนด์เล่นเป็นตัวเอกในหนังใหม่เรื่อง เมื่อคาวบอยบุก
เซียงไฮ้ “Rebalancing” พูดแบบนี้ นึกว่าสมันน้อยจะร้องไห้ฟูมฟายหรือ ขอโทษผ่านมา 60 ปีแล้ว ไม่มีคอมมี่มาขู่ให้สมันน้อยผวาแล้ว แถมตอนนี้สมันน้อยเนื้อหอม
ไม่ให้เล่นเป็นพระเอก ในเรื่องคาวบอยบุกเซียงไฮ้ สมันน้อยอาจจะเลือกไปเล่นเป็นนางเอกเรื่อง เมื่อเซียงไฮ้ถล่มแอลเอ แทนก็ได้นะ
แล้วไงล่ะ ไปเอาพวกตัวประกอบหน้าใหม่ ผักชีโรยหน้ามาเล่นแทนนะ จะให้กบกระโดดมาจากอินโดนีเซี ย หรือออสเตรเลีย ไม่มีใบบัวแถวชุมพรรองรับ กบได้จมน้ำตายเกลี้ยง เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน ก็รู้อยู่แก่ใจ จนหลุดปากบอกออกมาแล้วว่า ตำแหน่งที่ประเทศไทยตั้งอยู่มันเป็นส่วนสำคัญ (อย่างยิ่ง !) สำหรับการจะเข้าไปเล่นบทคาวบอยบุกเซียงไฮ้
    รายงานของคุณครูผู้ปกครอง CRS ออกมาปลายธันวาคม ค.ศ. 2013
shut down กรุงเทพฯ ของลุงกำนัน 9 ธันวาคม เกิดขึ้นแล้ว นักล่าเห็นแล้วว่า
มวลมหาประชาชน แม้จะร้องรำทำเพลงประกอบการประท้วงขับไล่ทุกวัน แต่ก็เอาจริง (เอะ ! หรือนักล่ามันเป็นคนช่วยส่ง ช่วยเสริม ให้เอาจริง ความสงบจะได้มาเร็ว !?!) แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้ยับเยิน บวกกับรายงานการสำรวจของ Asia Foundation ที่บอกว่าคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้มีรายได้ สนับสนุนฝ่ายไล่รัฐบาล
    นักล่าไม่ต้องคิดมาก คุณครู CRS เขียนสารภาพออกมาแล้วว่า ไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ นำเข้าสินค้าจากอเมริกาเป็นจำนวนมาก ชนชั้นกลางคือผู้มีกำลังซื้อ จะปล่อยให้เล่นชกมวยสนามในบ้านไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทำให้นักล่าเสียหายในสนามภูมิภาค แถมจะกระเทือนตำแหน่งแชมป์โลกเอาด้วย ไหนจะเรื่องกบจะจมน้ำเพราะไม่มีใบบัวรองรับ ไหนจะมีอาเฮียคอยคว้าสะเอวสมัน น้อยไปเดินเล่น นี่ยังมีเรื่องค้าขายอีก โอ้ พระเจ้า เศรษฐกิจไอกำลังอาการหนัก ต้องการกำลังซื้ออย่างยิ่ง แล้วพวกผักชีโรยหน้าที่ไปเจรจาไว้นะ เอาเข้าจริงจะพึ่งได้แบบ Mil to Mil อย่างคุณพี่ทหารของไทยแลนด์หรือเปล่า สิงคโปร์น่ะ ยังต้องส่งทหารมาฝึกกับคุณพี่ตู่ทุกปี เวียตนามล่ะ รบคนละแนว อาวุธยุทโธปกรณ์เขาก็ได้จากพี่ปูของรัสเซียทั้งนั้น แล้วแน่ใจหรือว่าคุณเวียตเขาจะเชื่อว่านักล่า รักจริงหวังแต่ง รบราฆ่าฟันกันจนตายเป็นเบื่อ เขาไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า
    ส่วนอินโดน่ะ ตอนคุณพี่ Obama ไปตั้งให้เป็นคู่หูคนใหม่ เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยอาศัยอยู่บ้านเมืองเขาอยู่เมื่อเด็ก ๆ น่ะ นักวิเคราะห์ค่ายนักล่าเอง หัวร่อกันครืน บอกว่าทดแทนบุญคุณผิดที่เสียแล้วท่าน ท่านอาจจะกำลังยื่นดาบให้ศัตรู (อ้าวตาย เรื่องนี้เขาปิดกันหรือเปล่านะ) ฟิลิปปินส์เองก็ใช่ว่าหายเคืองกัน เดี๋ยวสั่งปิดเดี๋ยวสั่งเปิดฐานทัพ ชาวบ้านเขาก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ วัน ๆ วิดน้ำทะเลออกจากบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว พายุมาแล้ว มาอีก แล้วคุณพ่ออเมริกามาช่วยอะไรบ้างล่ะ ถ้าจะให้ดีช่วยกลับไปอ่าน ยุทธการกบกระโดด อีกรอบนะครับ จะได้ประหยัดแรงงานคนแก่ ไม่ต้องเขียนซ้ำ
    เห็นได้ชัดว่า นักล่าแทบไม่มีทางเลือกหรอก อยากจะบุกเซียงไฮ้ ไม่มีไทยแลนด์เข้าฉากด้วย บอกได้คำเดียวว่าหนังจืดครับ เผลอ ๆ คนดูนอนหลับ น้ำลายไหลยึด จะลุยกับ
อาเฮียเขาทั้งที มันต้องยกทัพโยธาเป็นขบวนใหญ่ มันถึงจะสมศักดิ์ศรีนักล่า มีแต่เด็ก ๆ หรือพวกหน้าใหม่ผักชีโรยหน้าไป แต่หัวหมู่ทะลวงฟันคบกับมา 60 ปี มองหน้ารู้ใจ
ไม่เอาไปด้วย อย่างนี้ต้องส่งสามก๊กบวกตำรา ซุนวูไปให้ คุณพี่ Obama อ่านแทนฟังรายงานของ ไอ้พวกถังสมอง (think tank) พูดถึงเรื่องถังสมอง เดี๋ยวจะแถมให้ก่อนจบ ถ้าไม่ลืมซะก่อน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (3) คุณครูผู้ปกครอง CRS เขียนสมุดรายงานความประพฤตินักเรียนไทยแบบไม่ต้องตีความกันมาก อเมริการับไม่ได้ที่จะให้ไทยแลนด์เล่นกีฬาสีภายในกันไปตลอดชาติ มันต้องหยุดเสียที จะหยุดแบบไหน ก็แบบที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบมั่นคงนั่นแหละ เพราะมันเป็นความจำเป็นของนักล่า ในการจะใช้ไทย ที่มีบ้านเมืองสงบมั่นคง ร่วมขบวนทัพไปบุกบ้านอาเฮีย !

คุณครูเขียนเองนะว่า ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชมว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด จนเมื่อมีการปฏิวัติ ค.ศ. 2006 (เมื่อมีการไล่ไอ้โจรร้ายออกไป แล้วไอ้โจรร้ายมันไม่ยอมรับ ไม่ว่าผลทางกฏหมาย หรือผลทางการเมือง มันถึงได้ตีตั๋วรวนแบบตั๋วไม่มีหมดอายุ จนกว่าหมดอายุกันไปข้างหนึ่งน่ะแหละ) เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าสื่อนอกหรือคุณนายฑูต มันว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอารายงานคุณครู CRS ของพวกมันเองนี้แหละ ส่งไปให้อ่านนะครับ ทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ใหญ่ ติดหน้าสถาน
ฑูตมันเลยดีไหมพี่น้อง เดี๋ยวผมจะเอา link มาลง แล้วก็ช่วยกันอ่าน ช่วยกันก๊อบส่งกันไป จริง ๆ ก็หาไม่ยากอะไร กดถามอากู “Thailand : Background and US Relations” ปี ค.ศ. 2013 มันก็ขึ้นมาแล้วครับ นักล่ามันจะทนนั่งเกาหัวดูอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง ประเทศนี้อยู่ในอุ้งมือมันมาตั้งกะ ค.ศ. 1954 กว่า 60 ปีมาแล้ว ของมันเคย เคยมี เคยสั่ง เคยใช้กันได้ วันดีคืนดีมีอาเฮียมายืนพุงโต แอบจับมือกับสมันน้อยอีกคน ความอิจฉาตาร้อนก็ต้องมีเป็นธรรมดา ยังมาปากแข็งทำเป็นขู่ว่า ไอไม่ให้ไทยแลนด์เล่นเป็นตัวเอกในหนังใหม่เรื่อง เมื่อคาวบอยบุก
เซียงไฮ้ “Rebalancing” พูดแบบนี้ นึกว่าสมันน้อยจะร้องไห้ฟูมฟายหรือ ขอโทษผ่านมา 60 ปีแล้ว ไม่มีคอมมี่มาขู่ให้สมันน้อยผวาแล้ว แถมตอนนี้สมันน้อยเนื้อหอม
ไม่ให้เล่นเป็นพระเอก ในเรื่องคาวบอยบุกเซียงไฮ้ สมันน้อยอาจจะเลือกไปเล่นเป็นนางเอกเรื่อง เมื่อเซียงไฮ้ถล่มแอลเอ แทนก็ได้นะ
แล้วไงล่ะ ไปเอาพวกตัวประกอบหน้าใหม่ ผักชีโรยหน้ามาเล่นแทนนะ จะให้กบกระโดดมาจากอินโดนีเซี ย หรือออสเตรเลีย ไม่มีใบบัวแถวชุมพรรองรับ กบได้จมน้ำตายเกลี้ยง เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน ก็รู้อยู่แก่ใจ จนหลุดปากบอกออกมาแล้วว่า ตำแหน่งที่ประเทศไทยตั้งอยู่มันเป็นส่วนสำคัญ (อย่างยิ่ง !) สำหรับการจะเข้าไปเล่นบทคาวบอยบุกเซียงไฮ้ รายงานของคุณครูผู้ปกครอง CRS ออกมาปลายธันวาคม ค.ศ. 2013
shut down กรุงเทพฯ ของลุงกำนัน 9 ธันวาคม เกิดขึ้นแล้ว นักล่าเห็นแล้วว่า
มวลมหาประชาชน แม้จะร้องรำทำเพลงประกอบการประท้วงขับไล่ทุกวัน แต่ก็เอาจริง (เอะ ! หรือนักล่ามันเป็นคนช่วยส่ง ช่วยเสริม ให้เอาจริง ความสงบจะได้มาเร็ว !?!) แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้ยับเยิน บวกกับรายงานการสำรวจของ Asia Foundation ที่บอกว่าคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้มีรายได้ สนับสนุนฝ่ายไล่รัฐบาล นักล่าไม่ต้องคิดมาก คุณครู CRS เขียนสารภาพออกมาแล้วว่า ไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ นำเข้าสินค้าจากอเมริกาเป็นจำนวนมาก ชนชั้นกลางคือผู้มีกำลังซื้อ จะปล่อยให้เล่นชกมวยสนามในบ้านไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทำให้นักล่าเสียหายในสนามภูมิภาค แถมจะกระเทือนตำแหน่งแชมป์โลกเอาด้วย ไหนจะเรื่องกบจะจมน้ำเพราะไม่มีใบบัวรองรับ ไหนจะมีอาเฮียคอยคว้าสะเอวสมัน น้อยไปเดินเล่น นี่ยังมีเรื่องค้าขายอีก โอ้ พระเจ้า เศรษฐกิจไอกำลังอาการหนัก ต้องการกำลังซื้ออย่างยิ่ง แล้วพวกผักชีโรยหน้าที่ไปเจรจาไว้นะ เอาเข้าจริงจะพึ่งได้แบบ Mil to Mil อย่างคุณพี่ทหารของไทยแลนด์หรือเปล่า สิงคโปร์น่ะ ยังต้องส่งทหารมาฝึกกับคุณพี่ตู่ทุกปี เวียตนามล่ะ รบคนละแนว อาวุธยุทโธปกรณ์เขาก็ได้จากพี่ปูของรัสเซียทั้งนั้น แล้วแน่ใจหรือว่าคุณเวียตเขาจะเชื่อว่านักล่า รักจริงหวังแต่ง รบราฆ่าฟันกันจนตายเป็นเบื่อ เขาไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า ส่วนอินโดน่ะ ตอนคุณพี่ Obama ไปตั้งให้เป็นคู่หูคนใหม่ เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยอาศัยอยู่บ้านเมืองเขาอยู่เมื่อเด็ก ๆ น่ะ นักวิเคราะห์ค่ายนักล่าเอง หัวร่อกันครืน บอกว่าทดแทนบุญคุณผิดที่เสียแล้วท่าน ท่านอาจจะกำลังยื่นดาบให้ศัตรู (อ้าวตาย เรื่องนี้เขาปิดกันหรือเปล่านะ) ฟิลิปปินส์เองก็ใช่ว่าหายเคืองกัน เดี๋ยวสั่งปิดเดี๋ยวสั่งเปิดฐานทัพ ชาวบ้านเขาก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ วัน ๆ วิดน้ำทะเลออกจากบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว พายุมาแล้ว มาอีก แล้วคุณพ่ออเมริกามาช่วยอะไรบ้างล่ะ ถ้าจะให้ดีช่วยกลับไปอ่าน ยุทธการกบกระโดด อีกรอบนะครับ จะได้ประหยัดแรงงานคนแก่ ไม่ต้องเขียนซ้ำ เห็นได้ชัดว่า นักล่าแทบไม่มีทางเลือกหรอก อยากจะบุกเซียงไฮ้ ไม่มีไทยแลนด์เข้าฉากด้วย บอกได้คำเดียวว่าหนังจืดครับ เผลอ ๆ คนดูนอนหลับ น้ำลายไหลยึด จะลุยกับ
อาเฮียเขาทั้งที มันต้องยกทัพโยธาเป็นขบวนใหญ่ มันถึงจะสมศักดิ์ศรีนักล่า มีแต่เด็ก ๆ หรือพวกหน้าใหม่ผักชีโรยหน้าไป แต่หัวหมู่ทะลวงฟันคบกับมา 60 ปี มองหน้ารู้ใจ
ไม่เอาไปด้วย อย่างนี้ต้องส่งสามก๊กบวกตำรา ซุนวูไปให้ คุณพี่ Obama อ่านแทนฟังรายงานของ ไอ้พวกถังสมอง (think tank) พูดถึงเรื่องถังสมอง เดี๋ยวจะแถมให้ก่อนจบ ถ้าไม่ลืมซะก่อน คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความไขปริศนาการเดินทางไปดูไบของ "ทักษิณ ชินวัตร" หลังอ้างว่าไม่สามารถลงจอดที่สิงคโปร์ได้ทันเวลา ยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบินว่าสนามบินชางงีเปิดให้บริการเครื่องบินส่วนตัว 24 ชั่วโมง ขณะที่สนามบิน Seletar ก็สามารถขอลงจอดฉุกเฉินทางการแพทย์ได้เช่นกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085038

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความไขปริศนาการเดินทางไปดูไบของ "ทักษิณ ชินวัตร" หลังอ้างว่าไม่สามารถลงจอดที่สิงคโปร์ได้ทันเวลา ยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบินว่าสนามบินชางงีเปิดให้บริการเครื่องบินส่วนตัว 24 ชั่วโมง ขณะที่สนามบิน Seletar ก็สามารถขอลงจอดฉุกเฉินทางการแพทย์ได้เช่นกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085038 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบข้อมูลสนามบินเซเลตาร์ สิงคโปร์ เปิดทำการบินถึง 4 ทุ่มตามที่ทักษิณอ้าง เหตุเป็นช่วง "ไนท์ เคอร์ฟิว" ลดเสียงรบกวนชุมชนโดยรอบสนามบิน แถมกลางวันยังมีชั่วโมงฝึกบิน 1 ชั่วโมง 4 ช่วง ด้านอินฟลูเอนเซอร์สายวิทย์ฯ กังขา ถ้าบอกว่ามาหาหมอลงจอดได้ ไม่ต้องไปประเทศอื่น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085048

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    พบข้อมูลสนามบินเซเลตาร์ สิงคโปร์ เปิดทำการบินถึง 4 ทุ่มตามที่ทักษิณอ้าง เหตุเป็นช่วง "ไนท์ เคอร์ฟิว" ลดเสียงรบกวนชุมชนโดยรอบสนามบิน แถมกลางวันยังมีชั่วโมงฝึกบิน 1 ชั่วโมง 4 ช่วง ด้านอินฟลูเอนเซอร์สายวิทย์ฯ กังขา ถ้าบอกว่ามาหาหมอลงจอดได้ ไม่ต้องไปประเทศอื่น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085048 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" นั่งเครื่องบินส่วนตัวลงจอดที่สนามบินดูไบแล้ว เมื่อ 02.40 น.ที่ผ่านมา หลังออกจากดอนเมืองเมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ก.ย.โดยระบุปลายทางที่สิงคโปร์ แต่เมื่อออกจากน่านฟ้าไทยกลับเปลี่ยนเส้นทาง ด้านเจ้าตัวโพสต์แจงโดน ตม.ไทยกักนาน 2 ชม.สนามบินเอกชนที่สิงโปร์ปิดก่อน จึงเปลี่ยนไปหาหมอที่ดูไบแทน ยันไม่เกินวันที่ 8 กลับไทยแน่นอนเพื่อไปศาลเอง 9 ก.ย.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084847

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    "ทักษิณ" นั่งเครื่องบินส่วนตัวลงจอดที่สนามบินดูไบแล้ว เมื่อ 02.40 น.ที่ผ่านมา หลังออกจากดอนเมืองเมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ก.ย.โดยระบุปลายทางที่สิงคโปร์ แต่เมื่อออกจากน่านฟ้าไทยกลับเปลี่ยนเส้นทาง ด้านเจ้าตัวโพสต์แจงโดน ตม.ไทยกักนาน 2 ชม.สนามบินเอกชนที่สิงโปร์ปิดก่อน จึงเปลี่ยนไปหาหมอที่ดูไบแทน ยันไม่เกินวันที่ 8 กลับไทยแน่นอนเพื่อไปศาลเอง 9 ก.ย. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084847 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • NationTV รายงานล่าสุดเมื่อเวลา 19.09 น. ว่า เครื่องบินของนายทักษิณ บินออกจากสนามบินดอนเมืองไปแล้ว ปลายทางคือที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเทคออฟเวลา 18.35

    https://www.nationtv.tv/politic/378966418
    .
    ตามข้อมูลจาก flightradar24
    MJETS: T7GTS
    DMK-XSP ETD 1835LT
    CREW: 03 OUT 
    PAX: 05 OUT 

    https://www.flightradar24.com/3c0c5abe 
    NationTV รายงานล่าสุดเมื่อเวลา 19.09 น. ว่า เครื่องบินของนายทักษิณ บินออกจากสนามบินดอนเมืองไปแล้ว ปลายทางคือที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเทคออฟเวลา 18.35 https://www.nationtv.tv/politic/378966418 . ตามข้อมูลจาก flightradar24 MJETS: T7GTS DMK-XSP ETD 1835LT CREW: 03 OUT  PAX: 05 OUT  https://www.flightradar24.com/3c0c5abe 
    WWW.NATIONTV.TV
    ด่วน! “ทักษิณ” บินออกจากไทย ก่อนศาลนัดอ่านฟังคดีชั้น 14
    ด่วน! "ทักษิณ" บินออกจากไทยแล้ว ก่อนศาลนัดฟังคดีชั้น 14 สะพัดอยู่ยาวสิงคโปร์! ทนายยัน 9 ก.ย.กลับไทยมาขึ้นศาลแน่ ถ้าไม่มาเจอหมายจับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีกระแสข่าวสะพัดในโซเชียลมีเดีย นายทักษิณ ชินวัตร ได้พยายามที่จะขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่ Mjet เพื่อบินออกจากสนามบินดอนเมือง แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ไม่ยินยอม โดยอ้างว่าจะไป อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเส้นทางพบว่า จุดหมายปลายทางนั้นอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084821

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    มีกระแสข่าวสะพัดในโซเชียลมีเดีย นายทักษิณ ชินวัตร ได้พยายามที่จะขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่ Mjet เพื่อบินออกจากสนามบินดอนเมือง แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ไม่ยินยอม โดยอ้างว่าจะไป อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเส้นทางพบว่า จุดหมายปลายทางนั้นอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084821 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยนักล่า ตอนที่ 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (2)
    ขณะที่เขียนนิทานนี้ การขับไล่รัฐบาลนังมารร้าย ของมวลมหาประชาชนยังไม่สำเร็จ มะม่วงแม้จะขั้วเน่า จุดดำขึ้นเต็มลูก ก็ยังไม่ร่วงหล่น ลุงกำนันใช้ลมปากเท่าใดก็ไม่เป็นผล และแม้จะมีนักวิชาการดาหน้ากันมาบอกว่า การเป็นรัฐบาลรักษาการของรัฐบาลนังมารร้ายได้สิ้นสุดไปแล้ว ก็เหมือนพูดกับคนหูหนวก ไม่รู้เรื่อง แถมนังมารร้ายออกมาพูดจาเลอะเทอะ ทำน้ำตาคลอ ดูอาการเหมือนคนใกล้จะวิปลาส และแม้จะมีศาลจะออกมาชี้มูลความผิด หรือแม้ว่าจะมีคุณหมอคนใดจริงใจและใจถึงออกมาบอกว่า นังมารร้ายวิปลาสไปแล้ว หล่อนก็ยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาวเกาะเก้าอี้ห้อยต่องแต่งต่อไป จำเป็นจะต้องรอให้มีปัจจัยอื่น ที่จะมาปลิดมะม่วงให้หล่น
    ปัจจัยภายในคือคุณพี่ทหาร ซึ่งขณะนี้ได้แสดงท่าทีว่าจวนจะหาจุดยืนถูก “ที่” แล้ว รออีกสักหน่อย ตอนนี้ยังยุ่งกับการแต่งบังเกอร์ให้หวานแหววอยู่ ส่วนปัจจัยภายนอกคือนักล่า ซึ่งได้ปล่อยข่าวผ่านสำนักหมอ ดู CSIS (Centre for Strategic and International Studies) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ไปแล้วว่า มันควรต้องมีการประนีประนอมด้วยการเจรจา และตกลงตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง เลือกเอาจากที่ผู้คนยอมรับนับถือแบบนายอานันท์ ปันยารชุน
    แหม ! ข่าวแบบนี้เล่นเอาร้านตัดเสื้องานเข้า เขาว่ามีคนแอบไปตัดชุดขาวหลายคน (แอบลุ้นกันทั้งนั้น) บางคนก็เอาชุดเดิมไปแก้ เพราะว่าคอมันคับไป แก่แล้ว น้ำหนักมันขึ้น (ฮา)
    แม้เราจะยังไม่แน่ใจว่า นักล่าจะเล่นไพ่ใบไหน มันกะล่อนจะตาย จะเชื่อกันง่าย ๆ ก็ ฉ.ห. กันหมด แต่เมื่อลองไปแกะรอย ตามดูว่านักล่าเดินไปทางไหน มันก็พอจะบอกอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง
    อเมริกามีหน่วยงานหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปของแต่ละประเทศแต่ละเหตุการณ์ในโลก เพื่อส่งให้สภาสูง เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา เหมือนคุณครูประจำชั้นเขียนสมุดพก ประจำตัวนักเรียนแต่ละคน รายงานผู้ปกครอง สมัยเราเรียนหนังสือนั่นละ หน่วยงานที่ออกสมุดพกพวกนี้เรียกว่า Congressional Research Services (CRS) คุณครูจะออกสมุดพกของแต่ละประเทศ เป็นรายปีในกรณีปกติ หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับเหตุการณ์และความสำคัญ เช่นถ้าอเมริกากำลังวิ่งเล่นโยนระเบิดอยู่แถวอิรัค สมุดพกของอิรัคอาจออกเป็นรายชั่วโมง (ฮา) หรือของยูเครนตอนนี้คงออกเป็นรายครึ่งวัน เพราะลงทุนส่งสมุนไปปลุกเศกการปฏิวัติประชาชนซะจนประเทศเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยง
    สำหรับประเทศไทย ที่เปิดเผยคือสมุดพกออกเป็นราย ปี แต่ที่ปกปิด ตามรายงานของคุณนายฑูต อาจออกเป็นรายวัน ดูสมัยเสื้อแดงเผาเมือง ฑูตสมัยนั้นรายงานทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร (อ่านจาก Wikileaks ที่ได้อภินันทนาการแจกกันทั่วโลกครับ) สมุดพกที่ว่านี้ปรกติของนักเรียนไทยแต่ละปี จะออกช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แต่สำหรับปีค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา ผ่านไปครึ่งปีคุณครูคงยังไม่สามารถสรุป ความประพฤติของนักเรียนไทยได้ เพราะเริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีการโดดเรียน หรือเริ่มมั่วสุมนอกห้องเรียน เพราะหงุดหงิดจากพวกแก๊งขี้โกงเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมเข้าไปพิจารณาในสภา คุณครู CRS เลยถ่วงเวลามาออกเอาเดือนสุดท้ายของปี คือออกรายงานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013
    รายงานคราวนี้ยาวกว่าปรกติ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ด้านการเมือง คุณครูรายงานถี่ยิบ ใส่ทุกเรื่องทุกฝ่าย
    รายงานส่วนที่สำคัญบอกว่า ไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ. 1954 (นานจัง) และได้รับการชื่นชมมาโดยตลอดว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการดำรงความเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตย (อ้าว ! ไหนประนามกันเรื่อยว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เดี๋ยวฟ้องคุณครูเลย ! ) สัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแน่นแฟ้นในช่วงสงครามเย็น และได้ขยายไปทั้งด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอเมริกา และการที่อเมริกาสามารถเข้าไปใช้บริการ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของกองทัพไทย (เช่น สนามบิน ! ) ทำให้ประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาในการจะดำรงคงอยู่ในภูมิภาค Asia Pacific นี้ได้ (แหม ! จะหลอกใช้สนามบินของเค้าอีกแล้ว)
    คุณครูบอกว่าความมั่นคงและความเจริญเติบโตของประเทศไทย เริ่มสั่นคลอนหลังจากรัฐประหารในไทย เมื่อ ค.ศ. 2006 สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างร้าวลึกและยาวนาน และขณะนี้ได้ลุกลามไปจนกลายเป็น การประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และให้มีการปกครอง ที่มีบางส่วนอาจมองได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองของประเทศ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของไทย ก็ยังเติบโตแม้จะมีวิกฤติการเมือง และยังเป็นประเทศที่รายได้ของชนชั้นกลาง ยังมีการขยายต่อได้อีก และยังเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของอเมริกา (แปลว่าเรื่องกระเป๋าตังค์นี่ เป็นประเด็นที่นักล่าสนใจนะ)
    ประเทศไทยที่สงบและมีความมั่นคง มีนัยอย่างสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา เพราะประเทศไทยซึ่งมีสถานะเป็นพันธมิตรของอเมริกา ตั้งอยู่บนพื้นแผ่นดินในบริเวณที่เหมาะสมของภูมิภาคอาเซียอาคเณย์นี้ (จุดได้เปรียบของไทย จำกันไว้ให้ดี !)
    คุณครูรายงานต่อไปว่า สภาสูงของอเมริกากำลังลำบากใจที่ต้องเผชิญกับภาวะที่ดูไม่ประชาธิปไตยของไทย และจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไร กับประเด็นการดุลอำนาจระหว่างพลเรือนและทหารที่เป็นอยู่ในสังคมไทย (พูดง่าย ๆ ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาพลเรือนนำทหาร หรือจะเอาทหารนำพลเรือนใช่ไหมคุณครู) นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์หลายรายบอกว่า การที่ไทยมัววุ่นอยู่กับปัญหาภายในประเทศของตนนานเกินไป ทำให้อิทธิพลของตนเองที่เคยมีอยู่ในภูมิภาคนี้ด้อยลงด้วย อย่างไรก็ตามแม้ในระดับการปฏิบัติการร่วมกัน ยังคงราบรื่นอยู่ แต่การริเริ่มใหม่ ๆ ดูเหมือนจะเฉื่อยชาไป (แหม ! นายท่านพวกกระผม กำลังวุ่นกับการไล่รัฐบาลโจร จะให้มัวไปเช็ดรองเท้าพวกท่านก็กรุณารอก่อนนะขอรับ ขอโทษครับ ขอเขียนแดกพวกขี้ข้าฝรั่งหน่อย อดไม่ได้)
    เมื่อรัฐบาล Obama ประกาศเปลี่ยนแปลงดุลยภาพของอเมริกา (Rebalancing) โดยให้ความสำคัญกับ Asia Pacific เป็นอันดับสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนร่วมมือจากประเทศที่เรียกว่าเป็นพันธมิตรในภูมิภาคนี้ด้วยนั้น เห็นชัดว่าอเมริกากับไทย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ และประเทศไทยก็ไม่ได้ เข้าเป็นคู่สัญญาในการริเริ่มขบวนการตาม Trans Pacific Partnership (TPP) (ไทยตกรถไฟขบวน TPP น่าจะแปลว่าดีกับไทยนะ เพราะยังไม่เห็นประโยชน์อะไรกับไทยเลย !)
    แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการเมืองไทย ที่อเมริกาเป็นห่วง คือโอกาสที่ทักษิณจะกลับมาอยู่ในประเทศไทย มีมากน้อยเพียงใด (แปลว่าไม่อยากได้ทักษิณใช่ไหม ทักษิณเป็นตัวปัญหาใช่ไหม คุณครู) เพราะทักษิณยังเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ และตัวทักษิณเองได้พูดไปทั่วว่า ตนเองยังได้รับการสนับสนุนจากคนไทยอยู่มาก และจะกลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ ร่างกฎหมาย นิรโทษกรรมที่จะล้างผิดให้ทักษิณเป็นต้นเหตุ ให้เกิดการประท้วงใหญ่ ตั้งแต่ตุลาคม ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา
    อีกประเด็นที่สำคัญคือคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระชนมายุ 86 แล้ว และมีรายงานว่าไม่ทรงแข็งแรง พระองค์ทรงเป็นที่เคารพอย่างสูงสุด ของประชาชนมาตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา และสถาบันกษัตริย์เป็นที่ยอมรับว่า เป็นสถาบันที่มั่นคงที่สุดในไทย แต่ขณะนี้คำถามเกี่ยวกับการสืบสันตติวงศ์เริ่มใกล้เข้ามา ซึ่งทำให้ความมั่นคงของไทยในส่วนนี้ เป็นเรื่องที่ห่วงกันอยู่
    สาเหตุหลักที่อเมริกาจะต้องพยายามรักษาสัมพันธ์กับประเทศไทยไว้ คือ การแข่งขันในการมีอิทธิพลในอาเซียอาคเณย์ระหว่างอเมริกากับจีน (ฮั่นแน่ ! เรื่องสำคัญ มาแอบอยู่ตรงนี้เองแหละ) ไทยมีชื่อเสียงมานานในความสามารถรักษาสัมพันธ์กับทุกฝ่าย ไม่ว่าด้านธุรกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ไทยสามารถจัดการได้ดีทั้งกับจีนและอเมริกา
    ประเทศไทยที่แข็งแรง และมองออกไปนอกตัวเองมากขึ้น จะช่วยให้ได้รับการสนับสนุน ในการเข้าร่วมกระบวนการ “Rebalancing” ของอเมริกา วิกฤตการเมืองของไทย ทำให้ไทยเสียโอกาสอย่างมาก เพราะเมื่อรัฐบาล Obama ประกาศนโยบายต่างประเทศ Rebalancing ของอเมริกามาทางเอเซีย ไทยไม่ได้รับบทบาทสำคัญ (ไม่ได้เป็นพระเอก) และวอชิงตันได้มองไปที่ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และคบหุ้นส่วนใหม่ เช่น อินโดนีเซีย และเวียตนาม (พวกตัวประกอบผักชีโรยหน้า)
    อย่างไรก็ตามฝ่ายกองทัพของสหรัฐ ยังอยากที่จะคบค้าสานสัมพันธ์กับกองทัพไทยต่อไป (Mil to Mil relationship) โดยเฉพาะการสามารถเข้าไปใช้เครื่องมือเครื่องใช้อำนวยความสะดวก รวมทั้งฐานทัพของไทย ในกรณีที่เกิดปัญหาความตึงเครียดในภูมิภาคนี้
    นักวิเคราะห์ระดับภูมิภาคประโลมใจว่า แม้ประเทศไทยจะไม่วิเศษสมบูรณ์ แต่พันธมิตรที่เป็นประชาธิปไตยในภูมิภาค มีความสำคัญยิ่งในการแสดงให้เห็นถึงความผูกพันธ์ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ (คุณนายฑูตคริสตี้ ช่วยอ่านรายงานคุณครู CRS ตอนนี้ให้เข้าไปในหัวหน่อย และถ้าคุณนายซึ่งเป็นฑูตตัวแทนประเทศตัวเอง แล้วยังตั้งหน้าตอแหลบิดเบือนต่อไปอีก ครูใหญ่ Obama ช่วยเรียกตัวกลับไปกวาดพื้นโรงเรียนประถมในอเมริกา จะเหมาะสมกับคุณนายมากกว่า และอาจจะทำให้อเมริกาถูกรังเกียจน้อยลงไปบ้าง)
    ขณะเดียวกัน มีผู้ท้วงติงว่า การที่อเมริกาพยายามจะให้ไทยใช้วิธีการบริหารประเทศ โดยให้พลเรือนควบคุมกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล ดูจากเหตุการณ์ไม่กี่ปีที่ผ่านมา (แปลว่าอยากได้ทหารเป็นผู้บริหารประเทศ มากกว่าพลเรือนหรือไง ?) และแม้ว่าการจะใช้สนามบินของไทยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกองทัพอเมริกา ก็มีผู้สงสัยเช่นกันว่า ไทยจะยอมให้ใช้หรือไม่ หากมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น (เริ่มจะรู้ตัวแล้วหรือนักล่า ว่าสมันน้อยก็มีเขี้ยวเล็บเหมือนกัน)

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (2) ขณะที่เขียนนิทานนี้ การขับไล่รัฐบาลนังมารร้าย ของมวลมหาประชาชนยังไม่สำเร็จ มะม่วงแม้จะขั้วเน่า จุดดำขึ้นเต็มลูก ก็ยังไม่ร่วงหล่น ลุงกำนันใช้ลมปากเท่าใดก็ไม่เป็นผล และแม้จะมีนักวิชาการดาหน้ากันมาบอกว่า การเป็นรัฐบาลรักษาการของรัฐบาลนังมารร้ายได้สิ้นสุดไปแล้ว ก็เหมือนพูดกับคนหูหนวก ไม่รู้เรื่อง แถมนังมารร้ายออกมาพูดจาเลอะเทอะ ทำน้ำตาคลอ ดูอาการเหมือนคนใกล้จะวิปลาส และแม้จะมีศาลจะออกมาชี้มูลความผิด หรือแม้ว่าจะมีคุณหมอคนใดจริงใจและใจถึงออกมาบอกว่า นังมารร้ายวิปลาสไปแล้ว หล่อนก็ยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาวเกาะเก้าอี้ห้อยต่องแต่งต่อไป จำเป็นจะต้องรอให้มีปัจจัยอื่น ที่จะมาปลิดมะม่วงให้หล่น ปัจจัยภายในคือคุณพี่ทหาร ซึ่งขณะนี้ได้แสดงท่าทีว่าจวนจะหาจุดยืนถูก “ที่” แล้ว รออีกสักหน่อย ตอนนี้ยังยุ่งกับการแต่งบังเกอร์ให้หวานแหววอยู่ ส่วนปัจจัยภายนอกคือนักล่า ซึ่งได้ปล่อยข่าวผ่านสำนักหมอ ดู CSIS (Centre for Strategic and International Studies) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ไปแล้วว่า มันควรต้องมีการประนีประนอมด้วยการเจรจา และตกลงตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง เลือกเอาจากที่ผู้คนยอมรับนับถือแบบนายอานันท์ ปันยารชุน แหม ! ข่าวแบบนี้เล่นเอาร้านตัดเสื้องานเข้า เขาว่ามีคนแอบไปตัดชุดขาวหลายคน (แอบลุ้นกันทั้งนั้น) บางคนก็เอาชุดเดิมไปแก้ เพราะว่าคอมันคับไป แก่แล้ว น้ำหนักมันขึ้น (ฮา) แม้เราจะยังไม่แน่ใจว่า นักล่าจะเล่นไพ่ใบไหน มันกะล่อนจะตาย จะเชื่อกันง่าย ๆ ก็ ฉ.ห. กันหมด แต่เมื่อลองไปแกะรอย ตามดูว่านักล่าเดินไปทางไหน มันก็พอจะบอกอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง อเมริกามีหน่วยงานหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปของแต่ละประเทศแต่ละเหตุการณ์ในโลก เพื่อส่งให้สภาสูง เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา เหมือนคุณครูประจำชั้นเขียนสมุดพก ประจำตัวนักเรียนแต่ละคน รายงานผู้ปกครอง สมัยเราเรียนหนังสือนั่นละ หน่วยงานที่ออกสมุดพกพวกนี้เรียกว่า Congressional Research Services (CRS) คุณครูจะออกสมุดพกของแต่ละประเทศ เป็นรายปีในกรณีปกติ หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับเหตุการณ์และความสำคัญ เช่นถ้าอเมริกากำลังวิ่งเล่นโยนระเบิดอยู่แถวอิรัค สมุดพกของอิรัคอาจออกเป็นรายชั่วโมง (ฮา) หรือของยูเครนตอนนี้คงออกเป็นรายครึ่งวัน เพราะลงทุนส่งสมุนไปปลุกเศกการปฏิวัติประชาชนซะจนประเทศเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยง สำหรับประเทศไทย ที่เปิดเผยคือสมุดพกออกเป็นราย ปี แต่ที่ปกปิด ตามรายงานของคุณนายฑูต อาจออกเป็นรายวัน ดูสมัยเสื้อแดงเผาเมือง ฑูตสมัยนั้นรายงานทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร (อ่านจาก Wikileaks ที่ได้อภินันทนาการแจกกันทั่วโลกครับ) สมุดพกที่ว่านี้ปรกติของนักเรียนไทยแต่ละปี จะออกช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แต่สำหรับปีค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา ผ่านไปครึ่งปีคุณครูคงยังไม่สามารถสรุป ความประพฤติของนักเรียนไทยได้ เพราะเริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีการโดดเรียน หรือเริ่มมั่วสุมนอกห้องเรียน เพราะหงุดหงิดจากพวกแก๊งขี้โกงเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมเข้าไปพิจารณาในสภา คุณครู CRS เลยถ่วงเวลามาออกเอาเดือนสุดท้ายของปี คือออกรายงานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013 รายงานคราวนี้ยาวกว่าปรกติ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ด้านการเมือง คุณครูรายงานถี่ยิบ ใส่ทุกเรื่องทุกฝ่าย รายงานส่วนที่สำคัญบอกว่า ไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ. 1954 (นานจัง) และได้รับการชื่นชมมาโดยตลอดว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการดำรงความเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตย (อ้าว ! ไหนประนามกันเรื่อยว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เดี๋ยวฟ้องคุณครูเลย ! ) สัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแน่นแฟ้นในช่วงสงครามเย็น และได้ขยายไปทั้งด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอเมริกา และการที่อเมริกาสามารถเข้าไปใช้บริการ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของกองทัพไทย (เช่น สนามบิน ! ) ทำให้ประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาในการจะดำรงคงอยู่ในภูมิภาค Asia Pacific นี้ได้ (แหม ! จะหลอกใช้สนามบินของเค้าอีกแล้ว) คุณครูบอกว่าความมั่นคงและความเจริญเติบโตของประเทศไทย เริ่มสั่นคลอนหลังจากรัฐประหารในไทย เมื่อ ค.ศ. 2006 สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างร้าวลึกและยาวนาน และขณะนี้ได้ลุกลามไปจนกลายเป็น การประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และให้มีการปกครอง ที่มีบางส่วนอาจมองได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองของประเทศ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของไทย ก็ยังเติบโตแม้จะมีวิกฤติการเมือง และยังเป็นประเทศที่รายได้ของชนชั้นกลาง ยังมีการขยายต่อได้อีก และยังเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของอเมริกา (แปลว่าเรื่องกระเป๋าตังค์นี่ เป็นประเด็นที่นักล่าสนใจนะ) ประเทศไทยที่สงบและมีความมั่นคง มีนัยอย่างสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา เพราะประเทศไทยซึ่งมีสถานะเป็นพันธมิตรของอเมริกา ตั้งอยู่บนพื้นแผ่นดินในบริเวณที่เหมาะสมของภูมิภาคอาเซียอาคเณย์นี้ (จุดได้เปรียบของไทย จำกันไว้ให้ดี !) คุณครูรายงานต่อไปว่า สภาสูงของอเมริกากำลังลำบากใจที่ต้องเผชิญกับภาวะที่ดูไม่ประชาธิปไตยของไทย และจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไร กับประเด็นการดุลอำนาจระหว่างพลเรือนและทหารที่เป็นอยู่ในสังคมไทย (พูดง่าย ๆ ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาพลเรือนนำทหาร หรือจะเอาทหารนำพลเรือนใช่ไหมคุณครู) นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์หลายรายบอกว่า การที่ไทยมัววุ่นอยู่กับปัญหาภายในประเทศของตนนานเกินไป ทำให้อิทธิพลของตนเองที่เคยมีอยู่ในภูมิภาคนี้ด้อยลงด้วย อย่างไรก็ตามแม้ในระดับการปฏิบัติการร่วมกัน ยังคงราบรื่นอยู่ แต่การริเริ่มใหม่ ๆ ดูเหมือนจะเฉื่อยชาไป (แหม ! นายท่านพวกกระผม กำลังวุ่นกับการไล่รัฐบาลโจร จะให้มัวไปเช็ดรองเท้าพวกท่านก็กรุณารอก่อนนะขอรับ ขอโทษครับ ขอเขียนแดกพวกขี้ข้าฝรั่งหน่อย อดไม่ได้) เมื่อรัฐบาล Obama ประกาศเปลี่ยนแปลงดุลยภาพของอเมริกา (Rebalancing) โดยให้ความสำคัญกับ Asia Pacific เป็นอันดับสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนร่วมมือจากประเทศที่เรียกว่าเป็นพันธมิตรในภูมิภาคนี้ด้วยนั้น เห็นชัดว่าอเมริกากับไทย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ และประเทศไทยก็ไม่ได้ เข้าเป็นคู่สัญญาในการริเริ่มขบวนการตาม Trans Pacific Partnership (TPP) (ไทยตกรถไฟขบวน TPP น่าจะแปลว่าดีกับไทยนะ เพราะยังไม่เห็นประโยชน์อะไรกับไทยเลย !) แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการเมืองไทย ที่อเมริกาเป็นห่วง คือโอกาสที่ทักษิณจะกลับมาอยู่ในประเทศไทย มีมากน้อยเพียงใด (แปลว่าไม่อยากได้ทักษิณใช่ไหม ทักษิณเป็นตัวปัญหาใช่ไหม คุณครู) เพราะทักษิณยังเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ และตัวทักษิณเองได้พูดไปทั่วว่า ตนเองยังได้รับการสนับสนุนจากคนไทยอยู่มาก และจะกลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ ร่างกฎหมาย นิรโทษกรรมที่จะล้างผิดให้ทักษิณเป็นต้นเหตุ ให้เกิดการประท้วงใหญ่ ตั้งแต่ตุลาคม ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา อีกประเด็นที่สำคัญคือคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระชนมายุ 86 แล้ว และมีรายงานว่าไม่ทรงแข็งแรง พระองค์ทรงเป็นที่เคารพอย่างสูงสุด ของประชาชนมาตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา และสถาบันกษัตริย์เป็นที่ยอมรับว่า เป็นสถาบันที่มั่นคงที่สุดในไทย แต่ขณะนี้คำถามเกี่ยวกับการสืบสันตติวงศ์เริ่มใกล้เข้ามา ซึ่งทำให้ความมั่นคงของไทยในส่วนนี้ เป็นเรื่องที่ห่วงกันอยู่ สาเหตุหลักที่อเมริกาจะต้องพยายามรักษาสัมพันธ์กับประเทศไทยไว้ คือ การแข่งขันในการมีอิทธิพลในอาเซียอาคเณย์ระหว่างอเมริกากับจีน (ฮั่นแน่ ! เรื่องสำคัญ มาแอบอยู่ตรงนี้เองแหละ) ไทยมีชื่อเสียงมานานในความสามารถรักษาสัมพันธ์กับทุกฝ่าย ไม่ว่าด้านธุรกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ไทยสามารถจัดการได้ดีทั้งกับจีนและอเมริกา ประเทศไทยที่แข็งแรง และมองออกไปนอกตัวเองมากขึ้น จะช่วยให้ได้รับการสนับสนุน ในการเข้าร่วมกระบวนการ “Rebalancing” ของอเมริกา วิกฤตการเมืองของไทย ทำให้ไทยเสียโอกาสอย่างมาก เพราะเมื่อรัฐบาล Obama ประกาศนโยบายต่างประเทศ Rebalancing ของอเมริกามาทางเอเซีย ไทยไม่ได้รับบทบาทสำคัญ (ไม่ได้เป็นพระเอก) และวอชิงตันได้มองไปที่ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และคบหุ้นส่วนใหม่ เช่น อินโดนีเซีย และเวียตนาม (พวกตัวประกอบผักชีโรยหน้า) อย่างไรก็ตามฝ่ายกองทัพของสหรัฐ ยังอยากที่จะคบค้าสานสัมพันธ์กับกองทัพไทยต่อไป (Mil to Mil relationship) โดยเฉพาะการสามารถเข้าไปใช้เครื่องมือเครื่องใช้อำนวยความสะดวก รวมทั้งฐานทัพของไทย ในกรณีที่เกิดปัญหาความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ นักวิเคราะห์ระดับภูมิภาคประโลมใจว่า แม้ประเทศไทยจะไม่วิเศษสมบูรณ์ แต่พันธมิตรที่เป็นประชาธิปไตยในภูมิภาค มีความสำคัญยิ่งในการแสดงให้เห็นถึงความผูกพันธ์ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ (คุณนายฑูตคริสตี้ ช่วยอ่านรายงานคุณครู CRS ตอนนี้ให้เข้าไปในหัวหน่อย และถ้าคุณนายซึ่งเป็นฑูตตัวแทนประเทศตัวเอง แล้วยังตั้งหน้าตอแหลบิดเบือนต่อไปอีก ครูใหญ่ Obama ช่วยเรียกตัวกลับไปกวาดพื้นโรงเรียนประถมในอเมริกา จะเหมาะสมกับคุณนายมากกว่า และอาจจะทำให้อเมริกาถูกรังเกียจน้อยลงไปบ้าง) ขณะเดียวกัน มีผู้ท้วงติงว่า การที่อเมริกาพยายามจะให้ไทยใช้วิธีการบริหารประเทศ โดยให้พลเรือนควบคุมกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล ดูจากเหตุการณ์ไม่กี่ปีที่ผ่านมา (แปลว่าอยากได้ทหารเป็นผู้บริหารประเทศ มากกว่าพลเรือนหรือไง ?) และแม้ว่าการจะใช้สนามบินของไทยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกองทัพอเมริกา ก็มีผู้สงสัยเช่นกันว่า ไทยจะยอมให้ใช้หรือไม่ หากมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น (เริ่มจะรู้ตัวแล้วหรือนักล่า ว่าสมันน้อยก็มีเขี้ยวเล็บเหมือนกัน) คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่กังวล "ชัยเกษม" ชิงนายก : [THE MESSAGE]

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่กังวลพรรคเพื่อไทยจะส่งนายชัยเกษม นิติสิริ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มั่นใจพรรคประชาชนไม่ฉีกข้อตกลง ยืนยันหากเป็นนายกจะไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-การฮั้ว สว. จะติดตามคดีด้วยตัวเอง ต้องแก้ไขทุกปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องชายแดนอย่างเดียว มีทั้งปากท้องปัญหาเศรษฐกิจ ไว้ให้ถึงวันนั้นก่อน ส่วนหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเตรียมไล่บี้นั้น เราเป็นบุคคลสาธารณะ ตั้งแต่เข้ามาในสนามการเมือง สิ่งที่เราพร้อมคือเรามีความจริง คนที่จะบี้หรืออภิปรายตีแผ่อะไร ก็ขอให้เอาความจริงมาพูด อย่าไปเสกสรรค์ปั้นแต่ง
    ไม่กังวล "ชัยเกษม" ชิงนายก : [THE MESSAGE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่กังวลพรรคเพื่อไทยจะส่งนายชัยเกษม นิติสิริ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มั่นใจพรรคประชาชนไม่ฉีกข้อตกลง ยืนยันหากเป็นนายกจะไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-การฮั้ว สว. จะติดตามคดีด้วยตัวเอง ต้องแก้ไขทุกปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องชายแดนอย่างเดียว มีทั้งปากท้องปัญหาเศรษฐกิจ ไว้ให้ถึงวันนั้นก่อน ส่วนหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเตรียมไล่บี้นั้น เราเป็นบุคคลสาธารณะ ตั้งแต่เข้ามาในสนามการเมือง สิ่งที่เราพร้อมคือเรามีความจริง คนที่จะบี้หรืออภิปรายตีแผ่อะไร ก็ขอให้เอาความจริงมาพูด อย่าไปเสกสรรค์ปั้นแต่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์โว ไม่ได้กังวลที่รัสเซียกับจีนกระชับสัมพันธ์แนบแน่นขึ้น แต่ก็ไม่วายแขวะพิธีสวนสนามใหญ่ในกรุงปักกิ่ง พร้อมระบุว่าปูตินกับคิมจองอึนกำลังสมคบคิดกันต่อต้านอเมริกา ซึ่งทำเนียบเครมลินออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ในเวลาต่อมา โดยโบ้ยว่าผู้นำสหรัฐฯอาจแค่ประชด อย่างไรก็ตาม ประมุขทำเนียบขาวยังลั่นปากชัดๆ ด้วยว่า “ผิดหวังมาก” กับประมุขเครมลินที่ไม่ทำอะไรคืบหน้าเรื่องยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084486

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทรัมป์โว ไม่ได้กังวลที่รัสเซียกับจีนกระชับสัมพันธ์แนบแน่นขึ้น แต่ก็ไม่วายแขวะพิธีสวนสนามใหญ่ในกรุงปักกิ่ง พร้อมระบุว่าปูตินกับคิมจองอึนกำลังสมคบคิดกันต่อต้านอเมริกา ซึ่งทำเนียบเครมลินออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ในเวลาต่อมา โดยโบ้ยว่าผู้นำสหรัฐฯอาจแค่ประชด อย่างไรก็ตาม ประมุขทำเนียบขาวยังลั่นปากชัดๆ ด้วยว่า “ผิดหวังมาก” กับประมุขเครมลินที่ไม่ทำอะไรคืบหน้าเรื่องยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084486 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 520 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก reMarkable Paper Pro Move: เมื่อความเรียบง่ายกลายเป็นพลังของการจดจำและสร้างสรรค์

    ในยุคที่สมาร์ทโฟนทำได้ทุกอย่าง แต่ก็รบกวนทุกอย่างไปพร้อมกัน reMarkable จึงออกแบบอุปกรณ์ที่ “ทำได้น้อย แต่ทำได้ดี” โดยเฉพาะกับรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Paper Pro Move ซึ่งเป็นสมุดโน้ตดิจิทัลขนาด 7.3 นิ้ว ที่พกพาได้ง่ายเหมือนสมุดนักข่าว และให้สัมผัสการเขียนที่ใกล้เคียงกับปากกาบนกระดาษมากที่สุดในตลาดตอนนี้

    หน้าจอ Canvas Color ใช้เทคโนโลยี e-paper ที่สะท้อนแสงธรรมชาติ ลดอาการล้าตา พร้อมไฟอ่านในตัวสำหรับใช้งานในที่มืด และรองรับสีได้มากกว่า 20,000 เฉด แม้จะไม่สดใสเท่า OLED แต่กลับให้ความรู้สึก “จริง” มากกว่าเมื่อเขียนด้วย Marker stylus ที่มีแรงเสียดทานพอดี ๆ เหมือนปากกาบนกระดาษ4

    ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ handwriting search ที่ช่วยค้นหาข้อความจากลายมือ, การแปลงลายมือเป็นข้อความ, การส่งอีเมลจากอุปกรณ์โดยตรง, และการเชื่อมต่อกับบริการ cloud เช่น Dropbox, Google Drive และ OneDrive ผ่าน Wi-Fi

    ตัวเครื่องบางเพียง 6.5 มม. น้ำหนัก 235 กรัม ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิลมากกว่า 50% และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 2 สัปดาห์ ชาร์จเพียง 10 นาทีได้พลังงานใช้งานถึง 3 วัน เหมาะกับการพกพาไปประชุม สนามบิน หรือคาเฟ่ โดยไม่ต้องพึ่งแล็ปท็อปหรือมือถือที่เต็มไปด้วยสิ่งรบกวน

    https://www.slashgear.com/1957782/remarkable-paper-pro-move-first-look-epaper-notebook/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก reMarkable Paper Pro Move: เมื่อความเรียบง่ายกลายเป็นพลังของการจดจำและสร้างสรรค์ ในยุคที่สมาร์ทโฟนทำได้ทุกอย่าง แต่ก็รบกวนทุกอย่างไปพร้อมกัน reMarkable จึงออกแบบอุปกรณ์ที่ “ทำได้น้อย แต่ทำได้ดี” โดยเฉพาะกับรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Paper Pro Move ซึ่งเป็นสมุดโน้ตดิจิทัลขนาด 7.3 นิ้ว ที่พกพาได้ง่ายเหมือนสมุดนักข่าว และให้สัมผัสการเขียนที่ใกล้เคียงกับปากกาบนกระดาษมากที่สุดในตลาดตอนนี้ หน้าจอ Canvas Color ใช้เทคโนโลยี e-paper ที่สะท้อนแสงธรรมชาติ ลดอาการล้าตา พร้อมไฟอ่านในตัวสำหรับใช้งานในที่มืด และรองรับสีได้มากกว่า 20,000 เฉด แม้จะไม่สดใสเท่า OLED แต่กลับให้ความรู้สึก “จริง” มากกว่าเมื่อเขียนด้วย Marker stylus ที่มีแรงเสียดทานพอดี ๆ เหมือนปากกาบนกระดาษ4 ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ handwriting search ที่ช่วยค้นหาข้อความจากลายมือ, การแปลงลายมือเป็นข้อความ, การส่งอีเมลจากอุปกรณ์โดยตรง, และการเชื่อมต่อกับบริการ cloud เช่น Dropbox, Google Drive และ OneDrive ผ่าน Wi-Fi ตัวเครื่องบางเพียง 6.5 มม. น้ำหนัก 235 กรัม ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิลมากกว่า 50% และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 2 สัปดาห์ ชาร์จเพียง 10 นาทีได้พลังงานใช้งานถึง 3 วัน เหมาะกับการพกพาไปประชุม สนามบิน หรือคาเฟ่ โดยไม่ต้องพึ่งแล็ปท็อปหรือมือถือที่เต็มไปด้วยสิ่งรบกวน https://www.slashgear.com/1957782/remarkable-paper-pro-move-first-look-epaper-notebook/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    It's Not Cheap, But This E-Paper Notebook Is Unexpectedly Delightful - SlashGear
    You can go with the iPad mini if you want, but maybe consider another option, because this E-paper notebook is worth considering.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1:1ของเสาหมุดสยามเราชัดเจนแต่ต้นแล้ว ซึ่งเสาหมุดนี้คือสิ่งที่มีตัวตนอยู่จริง ก่อนmou43,44ผีบ้านี้จะถือกำเนิดขึ้นอีก,ทหารไทยเราเช่นมทภ.2ทำถูกต้องเป็นตัวอย่างชัดเจนแล้ว,ถีบเขมรออกจากสันปันน้ำก็ถูกต้อง ถีบออกจาก1:50,000ก็ถูกต้อง,เมื่อเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง มันเปิดมาอีกก็ประกาศสงครามเต็มรูปแบบเลย จากเราแค่ถีบเขมรออกจากอธิปไตยไทยเราแล้วมารุกรานคุกคามเราอีกรอบ,เขมรต้องสิ้นชาติสถานเดียว กรุงพนมเปญต้องถูกทำลายทันที.จะมายั่วยุเราอีกต้องพร้อมจ่ายราคาทันที.,เรายึดเสาเขตแดน1:1 73,74เสาหลักเขตแดนแล้ว บวก1:50,000ร่วมด้วยจากเสาเขตแดนคือศูนย์กลางกั้นเขตแดนกัน,ตลอดสันปันน้ำคนสมัยอดีตเราตกลงชัดเจนแล้ว,ถ้าเราอ้างยึดพระตะบองและเมืองอื่นด้วยคงมากกว่า3-4เมืองเดิมที่ฝรั่งเศสคืนผิดคนแน่นอน,
    ..
    ..ตอนนี้ภาค1มิสามารถแก้ตัวใดๆได้เพราะตอนมทภ.2พาถีบเขมรออกไปกลับนิ่งเฉย ถ้าทางกฎทหารถือว่าลงสนามรบแล้วแต่หนีสนามรบชัดเจน,คือไม่รบนั้นเอง ไม่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยในจังหวะที่เพื่อนๆดุเดือดต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ตนอ้างสาระพัดเรื่อง ทั้งที่คนเขมรหนีออกจากแผ่นดินไทยที่บ้านหนองจานไปหมดแล้วดั่ง อ.วีระแฉและกูรูอื่นๆรับรู้จากสายตนใครมันวงในท่านๆ,ค้าขายเถื่อนเต็มสระแก้วเต็มบ้านหนองจานและบริเวณใกล้เคียงอีก,นี้คือความผิดเต็มๆตั้งแต่ไม่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยในวันที่24-28ก.ค.68นั้นแล้ว จนคนเขมรกลับเข้าพื้นที่ตนสร้างโกลาหลต่อไปได้ มาวางกับระเบิดต่อได้อีก.,เรา..ประชาชนคนไทยผิดหวังมาก เพราะทุกๆคนเข้าใจว่าตลอดแนวพรมแดนเขมรทหารไทยเราต้องถีบเขมรออกจากพรมแดน1:50,000หมดแน่นอน เราไม่ได้สนใจว่าท่านคือแม่ทัพภาคไหน แต่เรามุ่งตรงกันว่าคือทหารไทยเรา ปกป้องดินแดนอธิปไตยภาพรวมร่วมกันหมด,แต่ค่าจริงปรากฎเสือกแม่ทัพภาค1ไม่ทำห่าอะไรเลย มาแถลงอ้างน้ำขุ่นว่ากว่าประชาชนเดือนร้อน,อีสานใต้อพยพคนกว่าแสนๆคน ตายบาดเจ็บกันตรึม,สระแก้วทำห่าอะไรอยู่,ถ้าเอาจริงๆตามค่าจริงผู้ใหญ่ผู้บังคับบัญชาลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างตรงไปตรงมาไม่รอดแน่นอนถ้าไม่ช่วยเหลือกัน,ต้องถูกลงโทษหลายกรณีด้วย,
    ..
    ..การเร่งรีบสร้างรั้วลวดหนามถาวรนั้นสมควรอยู่แล้ว,และนี้คือการตัดสินใจที่ถูกต้องของ ผบ.เหล่าทัพ.และผบ.ทบ.,ประชาชนสนับสนุนเต็มที่พร้อมร่วมบริจาคด้วย,
    ..การประกาศกฎอัยการศึกแล้วต้องจัดการให้เด็ดขาดจริง เพราะกฎอัยการศึกอยู่เหนือทุกๆกฎหมาย เอกชนคนใดไม่ร่วมมือมันจัดการได้เลย, ชุมชนเขมรในเขตไทยก็ด้วย ต้องถีบออกทั้งหมดไปจากแผ่นดินไทยหลังจากประกาศกฎอัยการศึกทันทีด้วยซ้ำคือ24-48ชม.ถือว่าให้เวลาพวกมันมากพอแล้ว,ถ้าฝั่งมันทำกับคนไทยนะมันจับทันทีแบบ อ.วีระนั้นล่ะ,ถ้าเขมรมันมีสำนึกมนุษยธรรมมันจะไม่ยิงประชาชนเราระเบิดใส่โรงพยาบาลเราเด็กๆเรา คนไทยเราจนเสียชีวิตจนบาดเจ็บเป็นอันมาก ประชาชนมันมีจิตสำนึกในมนุษยธรรมต้องด่าว่าทหารเขมรตนเองของมันที่ทำกับผู้บริสุทธิ์คนไทยเราแบบนั้น,ซึ่งประชาชนเขมรทั่วประเทศต่างพร้อมใจกันอยากเห็นคนไทยเราตาย อยากเห็นคนไทยเราสูญเสียกันทั้งประเทศเขมร,หากไม่สนแผนยั่งยุมันให้เราตอบโต้แบบมันคือยิงระเบิดใส่ประชาชนมันตายแบบไร้ทิศทางด้วยอาจบ่อนคาสิโนชุมชนสแกมเมอร์จะไปก่อนตามด้วยทุกๆหมู่บ้านชุมชนเมืองเขมรตลอดใจกลางกรุงพนมเปญต้องถูกทำลายทิ้งให้สิ้นประเทศเขมรกันเลย,เราก็ไม่ต้องการเก็บเผ่าเนรคุณทรยศหักหลังแบบจีนแบบไทยไว้.,
    ..บ้านหนองจานคือทหารเขมรเอาครอบครัวทหารมันมาอยู่ร่วมกันนั้นล่ะ,ยุทธการศึก ล้วนครอบครัวทหารเขมรทั้งสิ้นตามชายแดนติดไทยเรานี้,เพื่อยึดแผ่นดินไทยทีละเล็กละน้อยนั้นเอง,ขยายพื้นที่ยึดครองออกมาจากฝั่งมันตลอดล่ะ.

    ..บ้านหนองจานแค่จุดหนึ่ง ต้องจัดการตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมรสระแก้วเชื่อมต่ออีสานใต้ให้จบทะลุออกทางทะเลด้วย.เชื่อแน่นอนว่าของเถื่อนน่าจะพากันขนออกเส้นทางใหม่แน่ๆทหารชายแดนตะวันออกต้องจัดการพวกนี้เด็ดขาดด้วยนอกพื้นที่เป็นข่าวก็ว่า.,เครดิตภาค1ตกต่ำมาก,เรา..ประชาชนยากจะกลับมาไว้วางใจเหมือนเดิมจริงๆ.,หน้าที่ทหารคือกำจัดสิ่งผิดกฎหมายตลอดแนวชายแดน,ไม่ใช่ให้เป็นหน้าที่ประชาชนชี้เป้า แจ้งบอกตัวการใหญ่ให้ทหารจัดการอย่างนั้น,เช่นนั้นก็ลาออกจากทหารในหน้าที่ไปหากทำไม่ได้ ให้คนที่ทำได้มาทำ มามีอำนาจในมือเต็มอย่างนั้นเพื่อจัดการในสิ่งที่อ้างว่าจัดการไม่ได้ หาข้อมูลไม่ได้ ไม่พบการกระทำความผิด,ซึ่งคนข่าวมากมายลงพื้นที่ใช่ว่าเขาคนโง่ขนาดนั่นการข่าวไม่มี.

    https://youtube.com/watch?v=Yj_gVrT7_QM&si=ed4LbMTZuyw83fD-
    1:1ของเสาหมุดสยามเราชัดเจนแต่ต้นแล้ว ซึ่งเสาหมุดนี้คือสิ่งที่มีตัวตนอยู่จริง ก่อนmou43,44ผีบ้านี้จะถือกำเนิดขึ้นอีก,ทหารไทยเราเช่นมทภ.2ทำถูกต้องเป็นตัวอย่างชัดเจนแล้ว,ถีบเขมรออกจากสันปันน้ำก็ถูกต้อง ถีบออกจาก1:50,000ก็ถูกต้อง,เมื่อเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง มันเปิดมาอีกก็ประกาศสงครามเต็มรูปแบบเลย จากเราแค่ถีบเขมรออกจากอธิปไตยไทยเราแล้วมารุกรานคุกคามเราอีกรอบ,เขมรต้องสิ้นชาติสถานเดียว กรุงพนมเปญต้องถูกทำลายทันที.จะมายั่วยุเราอีกต้องพร้อมจ่ายราคาทันที.,เรายึดเสาเขตแดน1:1 73,74เสาหลักเขตแดนแล้ว บวก1:50,000ร่วมด้วยจากเสาเขตแดนคือศูนย์กลางกั้นเขตแดนกัน,ตลอดสันปันน้ำคนสมัยอดีตเราตกลงชัดเจนแล้ว,ถ้าเราอ้างยึดพระตะบองและเมืองอื่นด้วยคงมากกว่า3-4เมืองเดิมที่ฝรั่งเศสคืนผิดคนแน่นอน, .. ..ตอนนี้ภาค1มิสามารถแก้ตัวใดๆได้เพราะตอนมทภ.2พาถีบเขมรออกไปกลับนิ่งเฉย ถ้าทางกฎทหารถือว่าลงสนามรบแล้วแต่หนีสนามรบชัดเจน,คือไม่รบนั้นเอง ไม่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยในจังหวะที่เพื่อนๆดุเดือดต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ตนอ้างสาระพัดเรื่อง ทั้งที่คนเขมรหนีออกจากแผ่นดินไทยที่บ้านหนองจานไปหมดแล้วดั่ง อ.วีระแฉและกูรูอื่นๆรับรู้จากสายตนใครมันวงในท่านๆ,ค้าขายเถื่อนเต็มสระแก้วเต็มบ้านหนองจานและบริเวณใกล้เคียงอีก,นี้คือความผิดเต็มๆตั้งแต่ไม่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยในวันที่24-28ก.ค.68นั้นแล้ว จนคนเขมรกลับเข้าพื้นที่ตนสร้างโกลาหลต่อไปได้ มาวางกับระเบิดต่อได้อีก.,เรา..ประชาชนคนไทยผิดหวังมาก เพราะทุกๆคนเข้าใจว่าตลอดแนวพรมแดนเขมรทหารไทยเราต้องถีบเขมรออกจากพรมแดน1:50,000หมดแน่นอน เราไม่ได้สนใจว่าท่านคือแม่ทัพภาคไหน แต่เรามุ่งตรงกันว่าคือทหารไทยเรา ปกป้องดินแดนอธิปไตยภาพรวมร่วมกันหมด,แต่ค่าจริงปรากฎเสือกแม่ทัพภาค1ไม่ทำห่าอะไรเลย มาแถลงอ้างน้ำขุ่นว่ากว่าประชาชนเดือนร้อน,อีสานใต้อพยพคนกว่าแสนๆคน ตายบาดเจ็บกันตรึม,สระแก้วทำห่าอะไรอยู่,ถ้าเอาจริงๆตามค่าจริงผู้ใหญ่ผู้บังคับบัญชาลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างตรงไปตรงมาไม่รอดแน่นอนถ้าไม่ช่วยเหลือกัน,ต้องถูกลงโทษหลายกรณีด้วย, .. ..การเร่งรีบสร้างรั้วลวดหนามถาวรนั้นสมควรอยู่แล้ว,และนี้คือการตัดสินใจที่ถูกต้องของ ผบ.เหล่าทัพ.และผบ.ทบ.,ประชาชนสนับสนุนเต็มที่พร้อมร่วมบริจาคด้วย, ..การประกาศกฎอัยการศึกแล้วต้องจัดการให้เด็ดขาดจริง เพราะกฎอัยการศึกอยู่เหนือทุกๆกฎหมาย เอกชนคนใดไม่ร่วมมือมันจัดการได้เลย, ชุมชนเขมรในเขตไทยก็ด้วย ต้องถีบออกทั้งหมดไปจากแผ่นดินไทยหลังจากประกาศกฎอัยการศึกทันทีด้วยซ้ำคือ24-48ชม.ถือว่าให้เวลาพวกมันมากพอแล้ว,ถ้าฝั่งมันทำกับคนไทยนะมันจับทันทีแบบ อ.วีระนั้นล่ะ,ถ้าเขมรมันมีสำนึกมนุษยธรรมมันจะไม่ยิงประชาชนเราระเบิดใส่โรงพยาบาลเราเด็กๆเรา คนไทยเราจนเสียชีวิตจนบาดเจ็บเป็นอันมาก ประชาชนมันมีจิตสำนึกในมนุษยธรรมต้องด่าว่าทหารเขมรตนเองของมันที่ทำกับผู้บริสุทธิ์คนไทยเราแบบนั้น,ซึ่งประชาชนเขมรทั่วประเทศต่างพร้อมใจกันอยากเห็นคนไทยเราตาย อยากเห็นคนไทยเราสูญเสียกันทั้งประเทศเขมร,หากไม่สนแผนยั่งยุมันให้เราตอบโต้แบบมันคือยิงระเบิดใส่ประชาชนมันตายแบบไร้ทิศทางด้วยอาจบ่อนคาสิโนชุมชนสแกมเมอร์จะไปก่อนตามด้วยทุกๆหมู่บ้านชุมชนเมืองเขมรตลอดใจกลางกรุงพนมเปญต้องถูกทำลายทิ้งให้สิ้นประเทศเขมรกันเลย,เราก็ไม่ต้องการเก็บเผ่าเนรคุณทรยศหักหลังแบบจีนแบบไทยไว้., ..บ้านหนองจานคือทหารเขมรเอาครอบครัวทหารมันมาอยู่ร่วมกันนั้นล่ะ,ยุทธการศึก ล้วนครอบครัวทหารเขมรทั้งสิ้นตามชายแดนติดไทยเรานี้,เพื่อยึดแผ่นดินไทยทีละเล็กละน้อยนั้นเอง,ขยายพื้นที่ยึดครองออกมาจากฝั่งมันตลอดล่ะ. ..บ้านหนองจานแค่จุดหนึ่ง ต้องจัดการตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมรสระแก้วเชื่อมต่ออีสานใต้ให้จบทะลุออกทางทะเลด้วย.เชื่อแน่นอนว่าของเถื่อนน่าจะพากันขนออกเส้นทางใหม่แน่ๆทหารชายแดนตะวันออกต้องจัดการพวกนี้เด็ดขาดด้วยนอกพื้นที่เป็นข่าวก็ว่า.,เครดิตภาค1ตกต่ำมาก,เรา..ประชาชนยากจะกลับมาไว้วางใจเหมือนเดิมจริงๆ.,หน้าที่ทหารคือกำจัดสิ่งผิดกฎหมายตลอดแนวชายแดน,ไม่ใช่ให้เป็นหน้าที่ประชาชนชี้เป้า แจ้งบอกตัวการใหญ่ให้ทหารจัดการอย่างนั้น,เช่นนั้นก็ลาออกจากทหารในหน้าที่ไปหากทำไม่ได้ ให้คนที่ทำได้มาทำ มามีอำนาจในมือเต็มอย่างนั้นเพื่อจัดการในสิ่งที่อ้างว่าจัดการไม่ได้ หาข้อมูลไม่ได้ ไม่พบการกระทำความผิด,ซึ่งคนข่าวมากมายลงพื้นที่ใช่ว่าเขาคนโง่ขนาดนั่นการข่าวไม่มี. https://youtube.com/watch?v=Yj_gVrT7_QM&si=ed4LbMTZuyw83fD-
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    บทสรุป
    อันที่จริงเราแทบไม่ต้องรอดูเลยว่า National Security Strategy ของอเมริกา ประจำปี ค.ศ. 2014 จะบอกว่าอย่างไร และอเมริกาจะเลือก การบริหารจัดการกับฐานทัพของตน ที่สร้างไว้ทั่วโลกอย่างไร
    กระบวนยุทธของอเมริกาในช่วง 2-3 ปีนี้ มันฟ้องออกมาแล้วว่าอเมริกาไม่มีวันเลิก
สันดานนักล่า และเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะกระเป๋าขาดแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะอเมริกาสามารถแต่งเรื่อง พิมพ์เงินกระดาษออกมาได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่ที่จะปล่อยให้มีนักล่าหน้าใหม่ ขึ้นมาชิงตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้น เป็นเรื่องยอมกันไม่ได้ นอกจากนั้น ในทศวรรษนี้ อเมริกาต้องตามล่าหาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น เพื่อชิงไม่ให้ใครได้ไป เพราะน้ำมันเป็นอาวุธเลี้ยงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกองทัพของทุกประเทศ
และอเมริกาไม่มีทางปล่อยให้จีนโตไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือทางกองทัพ
    เพราะฉะนั้นการย้ายฐานทัพ ไม่ว่าใหญ่ไม่ว่าเล็ก โดยเฉพาะฐานทัพใบบัวกบกระโดดมาทาง AsiaPacific นี้ คือการล้อมกรอบจีน (containment) ทางทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ
    นอกจากนี้ทะเลจีนใต้ มีความสำคัญกับอเมริกาไม่ต่างกับจีน ฝ่ายใดคุมทะเลจีนใต้ ฝ่ายนั้นก็ได้เปรียบ
    – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางสัญจรทางทะเลที่คับคั่งอันดับ 2 ของโลก
    – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก และขนส่งก๊าซครึ่งหนึ่งของโลก
การขนส่งผ่านมาทางช่องแคบมะละกา และอ่าวไทย ภายหลังวิกฤติ Fukushima ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องสั่งก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขนส่งมาตามเส้นทางนี้ อเมริกาจะปล่อยให้ญี่ปุ่นเสี่ยงกับการ black out ทั้งเกาะไหวไหม ?
    – ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ บนพื้นที่เกาะบริเวณทะเลจีนใต้กำลังเข้มข้นระหว่างจีนกับ
เหล่าลูกหาบของอเมริกา สิทธิบนพื้นที่ยอมโยงกับทรัพยากรใต้พื้นที่ อเมริกาจะยืนดูลูกหาบทำสงครามแย่งชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ โดยไม่เข้าไปกำกับการแสดงหรือ ผิดสันดานไปหน่อย
    – ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซที่อุดมสมบูรณ์มากมาก ตามรายงานของ
IEA (US Energy Information Administration)
    – จีนเพิ่งประกาศ Air Defense Identification Zone (ADIZ) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2013 นี่เอง โดยไม่บอกกล่าวเล่าสิบแก่ใคร สำหรับจีนการประกาศ ADIZ นี้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับอเมริกาทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาบอกว่า จีนกำลังขยายสิทธิในอาณาเขตของตัวเองออกไป เพื่อยื่นขาไปเตะญี่ปุ่นให้ออกไปจากหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียก Senkakuแต่จีนเรียก Diaoyu
    การประกาศ ADIZ ของจีน ทำให้นักล่ากำลังสะอึก นึกไม่ถึง สั่งให้สมุนออกมา
ช่วยกันประนามจีน ว่ากำลังทำเกิน โดยไม่ปรึกษาหรือขออนุญาตใคร แต่จีนก็ทำ แล้วถามว่าต้องถามใคร ? กำลังเป็นเรื่องที่น่าติดตามปฎิกิริยาของนักล่าและลูกหาบและสมุน
    ส่วนสมันน้อยมีทางเลือกอะไร เซ็นสัญญาเสียอธิปไตยในส่วนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ปีมะโว้ ควร
จะมีการเจรจาแก้ไขกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล และทหารหาญทั้งหลาย คงยืนโก้งโค้งมอง ถึงได้เห็นผลลัพท์กลับหัวกลับหาง ไม่มีใครเจรจาแก้ไข ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ วันที่สนามประลองเขี้ยวนักล่ากำลังฝุ่นตลบ ไหน ๆ ก็จะปฎิรูปประเทศแล้ว มวลมหาประชาชนก็ลองศึกษาเรื่องนี้ดูกันบ้าง จะแก้ไข หรือปล่อยคาไว้อีก 50 ปี!
    ขอจบด้วยการเล่าเรื่องฐานทัพอเมริกาที่ Okinawa ดูผ่าน ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับ สมันน้อย แต่มันอาจจะเกี่ยว และน่าสนใจ อยากเล่าครับ
    ญี่ปุ่นที่เคยอยู่แต่ในโอวาทของอเมริกา เกิดมีปัญหาขัดใจ เรื่องฐานทัอากาศ
Futenma ที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Okinawa
ปี ค.ศ. 1995 ทหารอเมริกัน 3 คน ไปลักพาเด็กนักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุสิบสอง ไปรุมข่มขืนและทิ้งให้เด็กหญิงนอนอยู่ข้างถนน แล้วทหาร 3 คน ก็หนีกลับเข้าฐานทัพ
ชาวญี่ปุ่นประท้วงอยู่นาน กว่ากองทัพอเมริกาจะยอมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด
แม้จะได้ตัวคนทำความผิดมาแล้ว ตอนแรกอเมริกาก็คิดจะนำกลับไปดำเนินคดีในบ้านตัวเอง เพราะมีข้อตกลงในเรื่องนี้กันไว้แล้วกับญี่ปุ่น (เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำสัญญากับราชอาณาจักรไทยสมัยสงครามเวียตนาม ทำให้เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต) แต่ชาวญี่ปุ่นไม่ยอม ทั้งประนามและประท้วงอย่างรุนแรง ให้มีการดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น และยื่นคำขาดให้อเมริกาย้ายฐานทัพออกไปจากเกาะ Okinawa
    ทั้งอเมริกาและรัฐบาลญี่ปุ่นถ่วงการเจรจาอยู่ 17 ปี เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมองในแง่เศรษฐกิจว่า การมีฐานทัพอยู่ในบริเวณนั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ญี่ปุ่น และที่สำคัญภายใต้สัญญา Treaty of Mutual Cooperation ที่ญี่ปุ่นทำไว้กับอเมริกา (ประเภทสัญญาทาสเหมือนกัน !)
ถ้ามีการย้ายฐานทัพอเมริกาออกไปจาก Okinawa ซึ่งเป็นบริเวณที่อเมริกาเจาะจงเลือก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจีนและเกาหลีเหนือที่สุด ญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการย้ายฐานทัพ ให้แก่อเมริกา (ไม่ใช่ย้ายทิ้ง แค่ย้ายที่ยังต้องจ่าย มันโหดจริง ๆ)
ปี ค.ศ. 2006 อเมริกากับญี่ปุ่นได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าจะปิดฐานทัพนี้ และย้ายไปอยู่ทางเหนือของเกาะแทน แล้วเรื่องก็ค้างคา (อย่างจงใจจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย)
    ล่าสุด เพิ่งมาตกลงกันได้ เมื่อปลายปี ค.ศ. 2013 โดยญี่ปุ่นจะต้องจ่ายเงินมหาศาลให้แก่อเมริกาเป็นค่าย้าย โดยปี ค.ศ. 2014 ต้องจ่ายเงินประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นจ่ายเป็นรายปี อีกปีละ 2.85 พันล้านเหรียญ จนถึงปี ค.ศ. 2021 ญี่ปุ่นซึ่งกำลังกรอบจากเศรษฐกิจและวิกฤติ Fukushima จะมีปัญญาจ่ายไหม ?
    นอกจากนี้ ตามข้อตกลงใหม่ ฐานใหม่จะไปสร้างที่อ่าว Nago ทางเหนือของ Okinawa
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของ Nago ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในตำแหน่ง เมื่อเดือนมกรานี้เอง หลังจากประกาศตอนหาเสียงว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้อเมริกามาตั้งฐานทัพที่ Nago
ข่าวนี้ทำให้ทั้งวอชิงตันและนายกรัฐมนตรี Abe ออกมาโต้ นายกเทศมนตรีหมาด ๆ ว่าเป็นแค่นายกฯ เมืองเล็ก ๆ จะทะลึ่งมาล้มแผนย้ายฐานทัพได้อย่างไร นายกเล็ก บอกว่าล้มแผนได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่นายกเล็ก มีสิทธิ สั่งห้ามการใช้ถนนและสาธารณูปโภคทั้งปวงของเมือง Nago ได้
    เป็นการต่อต้านการสร้างฐานทัพ ที่น่าสนใจครับ และน่าสนใจว่าการย้ายฐานทัพจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ! ?
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 กพ 57
    ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” บทสรุป อันที่จริงเราแทบไม่ต้องรอดูเลยว่า National Security Strategy ของอเมริกา ประจำปี ค.ศ. 2014 จะบอกว่าอย่างไร และอเมริกาจะเลือก การบริหารจัดการกับฐานทัพของตน ที่สร้างไว้ทั่วโลกอย่างไร กระบวนยุทธของอเมริกาในช่วง 2-3 ปีนี้ มันฟ้องออกมาแล้วว่าอเมริกาไม่มีวันเลิก
สันดานนักล่า และเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะกระเป๋าขาดแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะอเมริกาสามารถแต่งเรื่อง พิมพ์เงินกระดาษออกมาได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่ที่จะปล่อยให้มีนักล่าหน้าใหม่ ขึ้นมาชิงตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้น เป็นเรื่องยอมกันไม่ได้ นอกจากนั้น ในทศวรรษนี้ อเมริกาต้องตามล่าหาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น เพื่อชิงไม่ให้ใครได้ไป เพราะน้ำมันเป็นอาวุธเลี้ยงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกองทัพของทุกประเทศ
และอเมริกาไม่มีทางปล่อยให้จีนโตไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือทางกองทัพ เพราะฉะนั้นการย้ายฐานทัพ ไม่ว่าใหญ่ไม่ว่าเล็ก โดยเฉพาะฐานทัพใบบัวกบกระโดดมาทาง AsiaPacific นี้ คือการล้อมกรอบจีน (containment) ทางทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ทะเลจีนใต้ มีความสำคัญกับอเมริกาไม่ต่างกับจีน ฝ่ายใดคุมทะเลจีนใต้ ฝ่ายนั้นก็ได้เปรียบ – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางสัญจรทางทะเลที่คับคั่งอันดับ 2 ของโลก – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก และขนส่งก๊าซครึ่งหนึ่งของโลก
การขนส่งผ่านมาทางช่องแคบมะละกา และอ่าวไทย ภายหลังวิกฤติ Fukushima ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องสั่งก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขนส่งมาตามเส้นทางนี้ อเมริกาจะปล่อยให้ญี่ปุ่นเสี่ยงกับการ black out ทั้งเกาะไหวไหม ? – ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ บนพื้นที่เกาะบริเวณทะเลจีนใต้กำลังเข้มข้นระหว่างจีนกับ
เหล่าลูกหาบของอเมริกา สิทธิบนพื้นที่ยอมโยงกับทรัพยากรใต้พื้นที่ อเมริกาจะยืนดูลูกหาบทำสงครามแย่งชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ โดยไม่เข้าไปกำกับการแสดงหรือ ผิดสันดานไปหน่อย – ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซที่อุดมสมบูรณ์มากมาก ตามรายงานของ
IEA (US Energy Information Administration) – จีนเพิ่งประกาศ Air Defense Identification Zone (ADIZ) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2013 นี่เอง โดยไม่บอกกล่าวเล่าสิบแก่ใคร สำหรับจีนการประกาศ ADIZ นี้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับอเมริกาทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาบอกว่า จีนกำลังขยายสิทธิในอาณาเขตของตัวเองออกไป เพื่อยื่นขาไปเตะญี่ปุ่นให้ออกไปจากหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียก Senkakuแต่จีนเรียก Diaoyu การประกาศ ADIZ ของจีน ทำให้นักล่ากำลังสะอึก นึกไม่ถึง สั่งให้สมุนออกมา
ช่วยกันประนามจีน ว่ากำลังทำเกิน โดยไม่ปรึกษาหรือขออนุญาตใคร แต่จีนก็ทำ แล้วถามว่าต้องถามใคร ? กำลังเป็นเรื่องที่น่าติดตามปฎิกิริยาของนักล่าและลูกหาบและสมุน ส่วนสมันน้อยมีทางเลือกอะไร เซ็นสัญญาเสียอธิปไตยในส่วนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ปีมะโว้ ควร
จะมีการเจรจาแก้ไขกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล และทหารหาญทั้งหลาย คงยืนโก้งโค้งมอง ถึงได้เห็นผลลัพท์กลับหัวกลับหาง ไม่มีใครเจรจาแก้ไข ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ วันที่สนามประลองเขี้ยวนักล่ากำลังฝุ่นตลบ ไหน ๆ ก็จะปฎิรูปประเทศแล้ว มวลมหาประชาชนก็ลองศึกษาเรื่องนี้ดูกันบ้าง จะแก้ไข หรือปล่อยคาไว้อีก 50 ปี! ขอจบด้วยการเล่าเรื่องฐานทัพอเมริกาที่ Okinawa ดูผ่าน ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับ สมันน้อย แต่มันอาจจะเกี่ยว และน่าสนใจ อยากเล่าครับ ญี่ปุ่นที่เคยอยู่แต่ในโอวาทของอเมริกา เกิดมีปัญหาขัดใจ เรื่องฐานทัอากาศ
Futenma ที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Okinawa
ปี ค.ศ. 1995 ทหารอเมริกัน 3 คน ไปลักพาเด็กนักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุสิบสอง ไปรุมข่มขืนและทิ้งให้เด็กหญิงนอนอยู่ข้างถนน แล้วทหาร 3 คน ก็หนีกลับเข้าฐานทัพ
ชาวญี่ปุ่นประท้วงอยู่นาน กว่ากองทัพอเมริกาจะยอมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด
แม้จะได้ตัวคนทำความผิดมาแล้ว ตอนแรกอเมริกาก็คิดจะนำกลับไปดำเนินคดีในบ้านตัวเอง เพราะมีข้อตกลงในเรื่องนี้กันไว้แล้วกับญี่ปุ่น (เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำสัญญากับราชอาณาจักรไทยสมัยสงครามเวียตนาม ทำให้เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต) แต่ชาวญี่ปุ่นไม่ยอม ทั้งประนามและประท้วงอย่างรุนแรง ให้มีการดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น และยื่นคำขาดให้อเมริกาย้ายฐานทัพออกไปจากเกาะ Okinawa ทั้งอเมริกาและรัฐบาลญี่ปุ่นถ่วงการเจรจาอยู่ 17 ปี เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมองในแง่เศรษฐกิจว่า การมีฐานทัพอยู่ในบริเวณนั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ญี่ปุ่น และที่สำคัญภายใต้สัญญา Treaty of Mutual Cooperation ที่ญี่ปุ่นทำไว้กับอเมริกา (ประเภทสัญญาทาสเหมือนกัน !)
ถ้ามีการย้ายฐานทัพอเมริกาออกไปจาก Okinawa ซึ่งเป็นบริเวณที่อเมริกาเจาะจงเลือก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจีนและเกาหลีเหนือที่สุด ญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการย้ายฐานทัพ ให้แก่อเมริกา (ไม่ใช่ย้ายทิ้ง แค่ย้ายที่ยังต้องจ่าย มันโหดจริง ๆ)
ปี ค.ศ. 2006 อเมริกากับญี่ปุ่นได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าจะปิดฐานทัพนี้ และย้ายไปอยู่ทางเหนือของเกาะแทน แล้วเรื่องก็ค้างคา (อย่างจงใจจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย) ล่าสุด เพิ่งมาตกลงกันได้ เมื่อปลายปี ค.ศ. 2013 โดยญี่ปุ่นจะต้องจ่ายเงินมหาศาลให้แก่อเมริกาเป็นค่าย้าย โดยปี ค.ศ. 2014 ต้องจ่ายเงินประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นจ่ายเป็นรายปี อีกปีละ 2.85 พันล้านเหรียญ จนถึงปี ค.ศ. 2021 ญี่ปุ่นซึ่งกำลังกรอบจากเศรษฐกิจและวิกฤติ Fukushima จะมีปัญญาจ่ายไหม ? นอกจากนี้ ตามข้อตกลงใหม่ ฐานใหม่จะไปสร้างที่อ่าว Nago ทางเหนือของ Okinawa
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของ Nago ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในตำแหน่ง เมื่อเดือนมกรานี้เอง หลังจากประกาศตอนหาเสียงว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้อเมริกามาตั้งฐานทัพที่ Nago
ข่าวนี้ทำให้ทั้งวอชิงตันและนายกรัฐมนตรี Abe ออกมาโต้ นายกเทศมนตรีหมาด ๆ ว่าเป็นแค่นายกฯ เมืองเล็ก ๆ จะทะลึ่งมาล้มแผนย้ายฐานทัพได้อย่างไร นายกเล็ก บอกว่าล้มแผนได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่นายกเล็ก มีสิทธิ สั่งห้ามการใช้ถนนและสาธารณูปโภคทั้งปวงของเมือง Nago ได้ เป็นการต่อต้านการสร้างฐานทัพ ที่น่าสนใจครับ และน่าสนใจว่าการย้ายฐานทัพจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ! ? สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 กพ 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 5
    อเมริกาสมเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง สิงห์โตซุ่มจริง ๆ ขณะที่หน้าฉากยังไม่ชัดเจน ว่าจะ
เล่นเรื่องอะไร มีข่าวหลุดออกมาจาก Pentagon เมื่อ ค.ศ. 2012 ว่าอเมริกามีแผนจะปรับโฉมหน้าของฐานทัพ ที่มีอยู่ต่างประเทศเสียใหม่ เรียกว่าทำ face lift อัพหน้ากันใหม่ ตามยุทธการ “กบกระโดด” เพราะการมีฐานทัพกระจายทั่วโลก เป็นปัญหาทั้งด้านกระเป๋าที่ยังรั่วอยู่ และเป็นเป้าสายตาของชาวโลก ขยับตัวทีเขารู้แผนกันหมดทั้งคู่หู คู่แข่ง
สมัยนายบุชตัวลูก ก็ปวดขมอง คิดจะปิดฐานทัพไปสัก 1 ใน 3 แต่ตัดสินใจไม่ขาด จะเปิดอันไหน ปิดอันไหน คิดยังไม่ทันตก ดันหมดเทอมซะก่อน
มาถึงนายโอบามา ปัญหานี้จะทู่ซี้ต่อไป อาจจะไม่ได้ไปนั่งเท่ในทำเนียบขาว หรือถ้าได้นั่ง ก็อยู่ไม่ยาว ตอนหาเสียงเลยเล่นมุก ท่องมันไปทุกเวที Change Change Change
    เอาเข้าจริง เป็นพี่เบิ้มนักล่าถ้าเก็บเครื่องมือล่าทิ้งลงถังขยะ แล้วจะไปล่าเหยื่อได้ยังไง แบบนี้ เพื่อนซี้ เพื่อนกิน ลูกหาบก็หลบหน้า ลี้กายหายไปหมด เลยต้องเรียกเด็ก ๆ
เฮ้ย ! มาทำการบ้านใหม่โว้ย !
ตกลงนักล่ามันเปลี่ยนสันดานไหม มัน Change ไหม ?
    กบกระโดดครับนาย กบกระโดดคือคำตอบ กบจะกระโดดในสระกว้างต้องมีใบบัวรองรับ
สระกว้างใหญ่ มีใบบัวเต็มไปหมด คนมองก็ไม่รู้สึกแปลก
แต่ถ้าดันสร้างเป็น swimming pool ขนาดโอลิมปิก กบจะกระโดดไหวหรือ กลายเป็นกบพุ่งหลาวจมไม่โผล่ละซิ ส่วนที่คิดจะเอาใบบัวไปลอย ใน swimming pool น่ะ แบบนั้น มันฉากละครทีวีช่องคุณหญิงคุณชายนะ Hollywood เขาไม่ทำกัน
มันต้องทำให้เนียน ๆ
    เพราะฉะนั้นเอาฐานทัพเก่า ๆ มาดัดแปลงเสียใหม่ ไม่ให้คนสังเกต หรือแถบไหน (ของ
ประเทศคนอื่น) ที่มันเล็ก ๆ ไม่เด่นก็ไปแอบสร้าง เอาให้มันกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่แฝงด้วยอาวุธทันสมัยติดไว้ให้เพียบ แบบนี้ก็เรียบร้อย นักล่าบอกน่าสนใจ (มาก)
    เอะ ! แล้วนี่ ที่นักล่าเขาหลอกให้เราเฝ้าแต่อู่ตะเภา แล้วถ้าเขาไปสร้างใบบัวให้กบมัน
กระโดดแถวชุมพร นี่สมันน้อยจะรู้ไหมนะ ! ?
    ด้วยยุทธศาสตร์กบกระโดดบนใบบัว อเมริกาสามารถสร้างฐานทัพให้ กระจายแบบโรยไว้ทั่ว (peppering) บริเวณ Asia Pacific ถ้าอเมริกาทำได้จริง มันก็ไม่ต่างกับการควบคุมจีนทางอ้อม (containment) และก็เหมือนเป็นการเอาฉากสงครามเย็น สมัยที่อเมริกาจัดการกับสหภาพโซเวียตมาเล่นใหม่ !
    ลองคิดดูช่วง 2-3 ปีนี้ อเมริกาเดินแผนอย่างไร กับทุกประเทศในภูมิภาคนี้ ไม่มีหลุด
สักเม็ด เค้าของสงครามโลกครั้งที่ 3 พอมองได้เห็นลาง ๆ
    – ออสเตรเลีย : อเมริกา เจรจาที่จะร่วมใช้ฐานทัพที่ Darwin และกำลังเริ่มแผนใช้
drone (เครื่องบินประเภทไร้คนขับ บังคับด้วยเรดาร์) โดยใช้ฐานทัพของออสเตรเลียที่เกาะ Cocos เป็นฐานพัก รวมทั้งการจัดกองกำลังเตรียมพร้อมไว้ แถว Brisbane และ Perth ด้วย
    – ราชอาณาจักรไทย : แน่นอนจะใช้อู่ตะเภา หรือสร้างใบบัวให้กบกระโดดที่ชุมพร หรือ
ที่ไหนอีก ตามสัญญาผูกคอทาส ทำได้สารพัด
    – ฟิลิปปินส์ : ตกลงไปแล้วให้อเมริกาฟื้นสนามบิน Clark และฐานทัพเรือ Subic Bay ที่ปิดไปชั่วคราวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 กว่า ๆ (แต่หลังจากปี ค.ศ. 2002 ก็ยอมให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกาเข้ามาใช้ใหม่บางกรณี !)
    – เวียตนาม : ทำสัญญาตกลงให้อเมริกาเพิ่มกองเรือ เข้าไปใช้ท่าเรือของเวียตนาม และ
จะขยายท่าเรือ เพื่อให้เฉพาะกองทัพเรืออเมริกาจอด
    – เกาะกวม : อเมริกาเตรียมสร้าง runway เพิ่มที่เกาะ Tinian ใกล้กับเกาะกวม และเตรียมสร้างฐานทัพ และ runwayสำหรับเครื่องบินลง ที่เกาะไซปัน (Saipan) ที่ห่างจากเกาะกวมไปประมาณ190 กม. เพื่อเป็นฐานทัพรองรับ หากกวมโดนโจมตี
    – มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน : อเมริกาเจรจาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม
    – เกาหลีใต้ : ตกลงกับอเมริกาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม ให้อเมริกาใช้ที่เกาะ Jeju
    – อินเดีย : อเมริกาทำข้อตกลงเพิ่มความร่วมมือทางการทหารไปแล้ว
    นี่ยังไม่ได้นับฐานทัพอีกประมาณ 200 แห่ง ที่อเมริกามีกระจายอยู่ แล้วที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาะกวม Diego Garcia และฮาวาย ถ้าใบบัวงอกทั้งหมดนี้ อาเฮียแทบไม่มีทางออกทะเล ต้องใช้บินอย่างเดียว (ฮา !)
    ยุทธศาสตร์กบกระโดด บนใบบัวนี้ แสดงให้เห็นว่าลึก ๆ อเมริกาคิดอะไรอยู่ เป็นแผนล่า
เหยื่อของนักล่าตัวจริง ในเมื่อการสร้างฐานทัพใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ นอกจากราคาแพงแล้ว ยังเป็นทั้งเป้าสายตาและเป้าอาวุธ แต่ถ้าแอบสร้างฐานเล็ก ๆ แบบใบบัว ให้กบกระโดด หลาย ๆแห่ง ทำได้เร็ว และไม่สร้างความอึกทึกให้โลกและเจ้าของบ้าน (ที่นักล่าหลอกไว้) ให้รู้ตัว นักยุทธศาสตร์การรบบอกว่า ฐานทัพรุ่นใบบัวนี้ ถ้าติดเครื่องมือทันสมัยให้เพียบ ใช้ควบคู่กับหน่วยรบพิเศษ (special operation forces) กบรุ่นใหม่เคลื่อนที่เร็ว แบบกบมหัศจรรย์ กับการใช้ droneสอดแนมและข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ (อย่าลืมว่าหน่วยปฎิบัติการในภาวะภัยพิบัตินั้น เป็นงาน
พรางตัวที่ดีที่สุด ของกองทัพในการทำงานข่าวกรอง) ร่วมกับการปฎิบัติทางโลก Cyber และมีการร่วมมือระหว่างกองทัพ กับหน่วยงานพลเรือนอย่างดี คุณสามารถทำการปฎิวัติ หรือบุกยึดเมืองใด หรือทำการรบในยุทธภูมิใดก็ได้ผลเกินคาด รวดเร็วกว่าการใช้กองทัพใหญ่ ๆ ที่เคลื่อนตัวอย่างอุ้ยอ้าย มันหมดสมัยแล้ว !
    อเมริกาปรับปรุงฐานทัพจากการขยายหรือสร้างฐานทัพใหญ่ เป็นเตรียมการสร้างฐานทัพรูปแบบใบบัว (Lily Pad) เพื่อให้กบกระโดไทั่ว แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้การล่าเหยื่อเบ็ดเสร็จสมใจ อเมริกา จึงปรับปรุงการกระโดดของกบด้วย โดยแบ่งซอยกองกำลังออกมาเรียกว่า หน่วยปฎิบัติการพิเศษ
(เหมือนชายชุดดำนะครับ เอ๊ะ ! หน่วยเดียวกันหรือเปล่า ?!) Special Operation Forces (SOF)
(หรือมันเอาอย่างกัน หวังว่าไม่ถึงขนาดฝึกให้กันเลยนะ !)
    SOF นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1980 เมื่อเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกาถูกจับเป็นตัวประกันที่อิหร่าน (ก็ผลงานของนักล่าเอง !) ทำให้ตัวประกันตายไป 8 คน
อเมริกาแค้นจัด ตั้งหน่วย Special Operation Command (SOCOM) ขึ้นมา
โดยคัดหัวกะทิมาจากหน่วย Seals, Rangers, Special Operation Aviators และ Green Beret มาฝึกหนัก จริง ๆ ก็คือฝึกเป็น Rambo เหมือนในหนังน่ะ
พวก SOF นี้ ถูกใช้ให้ไปปฎิบัติการลับ ในที่ต่าง ๆ ที่เป็นความลับ
มีรายงานว่าน่าจะมี SOF ประมาณกว่า 70,000 คนในปี ค.ศ. 2014 กระจายอยู่ทั่วโลก ปฎิบัติการอยู่ในต่างประเทศ ประมาณ 70-80 ประเทศ เช่น ลิเบีย โซมาเลีย อาฟกานิสถาน ปากีสถาน หลายประเทศในอาหรับ
และลาตินอเมริกา และเอเซีย และยุโรป ฯลฯ
    สรุปแล้ว การจัดการให้มีฐานทัพแบบใบบัว (Lily Pad) และ กองกำลังแบบ SOF ตามยุทธการกบกระโดด อยู่ในบ้านเมืองใคร อเมริกาบอกว่า มันก็เหมือนเราไปอยู่ในบ้านนั้น (ยึด!) เรียบร้อยแล้วล่ะ (de facto presence) ดังนั้นเราจะต้องให้มี ฐานทัพใบบัวนี้ให้มากที่สุดให้ได้ (lots and lots of Lily pad bases!)

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 5 อเมริกาสมเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง สิงห์โตซุ่มจริง ๆ ขณะที่หน้าฉากยังไม่ชัดเจน ว่าจะ
เล่นเรื่องอะไร มีข่าวหลุดออกมาจาก Pentagon เมื่อ ค.ศ. 2012 ว่าอเมริกามีแผนจะปรับโฉมหน้าของฐานทัพ ที่มีอยู่ต่างประเทศเสียใหม่ เรียกว่าทำ face lift อัพหน้ากันใหม่ ตามยุทธการ “กบกระโดด” เพราะการมีฐานทัพกระจายทั่วโลก เป็นปัญหาทั้งด้านกระเป๋าที่ยังรั่วอยู่ และเป็นเป้าสายตาของชาวโลก ขยับตัวทีเขารู้แผนกันหมดทั้งคู่หู คู่แข่ง
สมัยนายบุชตัวลูก ก็ปวดขมอง คิดจะปิดฐานทัพไปสัก 1 ใน 3 แต่ตัดสินใจไม่ขาด จะเปิดอันไหน ปิดอันไหน คิดยังไม่ทันตก ดันหมดเทอมซะก่อน
มาถึงนายโอบามา ปัญหานี้จะทู่ซี้ต่อไป อาจจะไม่ได้ไปนั่งเท่ในทำเนียบขาว หรือถ้าได้นั่ง ก็อยู่ไม่ยาว ตอนหาเสียงเลยเล่นมุก ท่องมันไปทุกเวที Change Change Change เอาเข้าจริง เป็นพี่เบิ้มนักล่าถ้าเก็บเครื่องมือล่าทิ้งลงถังขยะ แล้วจะไปล่าเหยื่อได้ยังไง แบบนี้ เพื่อนซี้ เพื่อนกิน ลูกหาบก็หลบหน้า ลี้กายหายไปหมด เลยต้องเรียกเด็ก ๆ
เฮ้ย ! มาทำการบ้านใหม่โว้ย !
ตกลงนักล่ามันเปลี่ยนสันดานไหม มัน Change ไหม ? กบกระโดดครับนาย กบกระโดดคือคำตอบ กบจะกระโดดในสระกว้างต้องมีใบบัวรองรับ
สระกว้างใหญ่ มีใบบัวเต็มไปหมด คนมองก็ไม่รู้สึกแปลก
แต่ถ้าดันสร้างเป็น swimming pool ขนาดโอลิมปิก กบจะกระโดดไหวหรือ กลายเป็นกบพุ่งหลาวจมไม่โผล่ละซิ ส่วนที่คิดจะเอาใบบัวไปลอย ใน swimming pool น่ะ แบบนั้น มันฉากละครทีวีช่องคุณหญิงคุณชายนะ Hollywood เขาไม่ทำกัน
มันต้องทำให้เนียน ๆ เพราะฉะนั้นเอาฐานทัพเก่า ๆ มาดัดแปลงเสียใหม่ ไม่ให้คนสังเกต หรือแถบไหน (ของ
ประเทศคนอื่น) ที่มันเล็ก ๆ ไม่เด่นก็ไปแอบสร้าง เอาให้มันกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่แฝงด้วยอาวุธทันสมัยติดไว้ให้เพียบ แบบนี้ก็เรียบร้อย นักล่าบอกน่าสนใจ (มาก) เอะ ! แล้วนี่ ที่นักล่าเขาหลอกให้เราเฝ้าแต่อู่ตะเภา แล้วถ้าเขาไปสร้างใบบัวให้กบมัน
กระโดดแถวชุมพร นี่สมันน้อยจะรู้ไหมนะ ! ? ด้วยยุทธศาสตร์กบกระโดดบนใบบัว อเมริกาสามารถสร้างฐานทัพให้ กระจายแบบโรยไว้ทั่ว (peppering) บริเวณ Asia Pacific ถ้าอเมริกาทำได้จริง มันก็ไม่ต่างกับการควบคุมจีนทางอ้อม (containment) และก็เหมือนเป็นการเอาฉากสงครามเย็น สมัยที่อเมริกาจัดการกับสหภาพโซเวียตมาเล่นใหม่ ! ลองคิดดูช่วง 2-3 ปีนี้ อเมริกาเดินแผนอย่างไร กับทุกประเทศในภูมิภาคนี้ ไม่มีหลุด
สักเม็ด เค้าของสงครามโลกครั้งที่ 3 พอมองได้เห็นลาง ๆ – ออสเตรเลีย : อเมริกา เจรจาที่จะร่วมใช้ฐานทัพที่ Darwin และกำลังเริ่มแผนใช้
drone (เครื่องบินประเภทไร้คนขับ บังคับด้วยเรดาร์) โดยใช้ฐานทัพของออสเตรเลียที่เกาะ Cocos เป็นฐานพัก รวมทั้งการจัดกองกำลังเตรียมพร้อมไว้ แถว Brisbane และ Perth ด้วย – ราชอาณาจักรไทย : แน่นอนจะใช้อู่ตะเภา หรือสร้างใบบัวให้กบกระโดดที่ชุมพร หรือ
ที่ไหนอีก ตามสัญญาผูกคอทาส ทำได้สารพัด – ฟิลิปปินส์ : ตกลงไปแล้วให้อเมริกาฟื้นสนามบิน Clark และฐานทัพเรือ Subic Bay ที่ปิดไปชั่วคราวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 กว่า ๆ (แต่หลังจากปี ค.ศ. 2002 ก็ยอมให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกาเข้ามาใช้ใหม่บางกรณี !) – เวียตนาม : ทำสัญญาตกลงให้อเมริกาเพิ่มกองเรือ เข้าไปใช้ท่าเรือของเวียตนาม และ
จะขยายท่าเรือ เพื่อให้เฉพาะกองทัพเรืออเมริกาจอด – เกาะกวม : อเมริกาเตรียมสร้าง runway เพิ่มที่เกาะ Tinian ใกล้กับเกาะกวม และเตรียมสร้างฐานทัพ และ runwayสำหรับเครื่องบินลง ที่เกาะไซปัน (Saipan) ที่ห่างจากเกาะกวมไปประมาณ190 กม. เพื่อเป็นฐานทัพรองรับ หากกวมโดนโจมตี – มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน : อเมริกาเจรจาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม – เกาหลีใต้ : ตกลงกับอเมริกาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม ให้อเมริกาใช้ที่เกาะ Jeju – อินเดีย : อเมริกาทำข้อตกลงเพิ่มความร่วมมือทางการทหารไปแล้ว นี่ยังไม่ได้นับฐานทัพอีกประมาณ 200 แห่ง ที่อเมริกามีกระจายอยู่ แล้วที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาะกวม Diego Garcia และฮาวาย ถ้าใบบัวงอกทั้งหมดนี้ อาเฮียแทบไม่มีทางออกทะเล ต้องใช้บินอย่างเดียว (ฮา !) ยุทธศาสตร์กบกระโดด บนใบบัวนี้ แสดงให้เห็นว่าลึก ๆ อเมริกาคิดอะไรอยู่ เป็นแผนล่า
เหยื่อของนักล่าตัวจริง ในเมื่อการสร้างฐานทัพใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ นอกจากราคาแพงแล้ว ยังเป็นทั้งเป้าสายตาและเป้าอาวุธ แต่ถ้าแอบสร้างฐานเล็ก ๆ แบบใบบัว ให้กบกระโดด หลาย ๆแห่ง ทำได้เร็ว และไม่สร้างความอึกทึกให้โลกและเจ้าของบ้าน (ที่นักล่าหลอกไว้) ให้รู้ตัว นักยุทธศาสตร์การรบบอกว่า ฐานทัพรุ่นใบบัวนี้ ถ้าติดเครื่องมือทันสมัยให้เพียบ ใช้ควบคู่กับหน่วยรบพิเศษ (special operation forces) กบรุ่นใหม่เคลื่อนที่เร็ว แบบกบมหัศจรรย์ กับการใช้ droneสอดแนมและข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ (อย่าลืมว่าหน่วยปฎิบัติการในภาวะภัยพิบัตินั้น เป็นงาน
พรางตัวที่ดีที่สุด ของกองทัพในการทำงานข่าวกรอง) ร่วมกับการปฎิบัติทางโลก Cyber และมีการร่วมมือระหว่างกองทัพ กับหน่วยงานพลเรือนอย่างดี คุณสามารถทำการปฎิวัติ หรือบุกยึดเมืองใด หรือทำการรบในยุทธภูมิใดก็ได้ผลเกินคาด รวดเร็วกว่าการใช้กองทัพใหญ่ ๆ ที่เคลื่อนตัวอย่างอุ้ยอ้าย มันหมดสมัยแล้ว ! อเมริกาปรับปรุงฐานทัพจากการขยายหรือสร้างฐานทัพใหญ่ เป็นเตรียมการสร้างฐานทัพรูปแบบใบบัว (Lily Pad) เพื่อให้กบกระโดไทั่ว แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้การล่าเหยื่อเบ็ดเสร็จสมใจ อเมริกา จึงปรับปรุงการกระโดดของกบด้วย โดยแบ่งซอยกองกำลังออกมาเรียกว่า หน่วยปฎิบัติการพิเศษ
(เหมือนชายชุดดำนะครับ เอ๊ะ ! หน่วยเดียวกันหรือเปล่า ?!) Special Operation Forces (SOF)
(หรือมันเอาอย่างกัน หวังว่าไม่ถึงขนาดฝึกให้กันเลยนะ !) SOF นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1980 เมื่อเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกาถูกจับเป็นตัวประกันที่อิหร่าน (ก็ผลงานของนักล่าเอง !) ทำให้ตัวประกันตายไป 8 คน
อเมริกาแค้นจัด ตั้งหน่วย Special Operation Command (SOCOM) ขึ้นมา
โดยคัดหัวกะทิมาจากหน่วย Seals, Rangers, Special Operation Aviators และ Green Beret มาฝึกหนัก จริง ๆ ก็คือฝึกเป็น Rambo เหมือนในหนังน่ะ
พวก SOF นี้ ถูกใช้ให้ไปปฎิบัติการลับ ในที่ต่าง ๆ ที่เป็นความลับ
มีรายงานว่าน่าจะมี SOF ประมาณกว่า 70,000 คนในปี ค.ศ. 2014 กระจายอยู่ทั่วโลก ปฎิบัติการอยู่ในต่างประเทศ ประมาณ 70-80 ประเทศ เช่น ลิเบีย โซมาเลีย อาฟกานิสถาน ปากีสถาน หลายประเทศในอาหรับ
และลาตินอเมริกา และเอเซีย และยุโรป ฯลฯ สรุปแล้ว การจัดการให้มีฐานทัพแบบใบบัว (Lily Pad) และ กองกำลังแบบ SOF ตามยุทธการกบกระโดด อยู่ในบ้านเมืองใคร อเมริกาบอกว่า มันก็เหมือนเราไปอยู่ในบ้านนั้น (ยึด!) เรียบร้อยแล้วล่ะ (de facto presence) ดังนั้นเราจะต้องให้มี ฐานทัพใบบัวนี้ให้มากที่สุดให้ได้ (lots and lots of Lily pad bases!) คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสนามหัวพิมพ์: เมื่อ Prusa, Bambu, AtomForm และ Snapmaker เปิดศึกแย่งชิงอนาคตของการพิมพ์หลายสี

    ในเดือนสิงหาคม 2025 วงการ 3D printing สั่นสะเทือนด้วยการเปิดตัวเครื่องพิมพ์แบบ “tool changer” ถึง 4 รุ่นในเวลาใกล้เคียงกัน โดยแต่ละค่ายต่างมีแนวทางเฉพาะของตนเองในการจัดการกับปัญหา “การพิมพ์หลายสีหรือหลายวัสดุ” ที่เคยยุ่งยากและเปลืองวัสดุ

    Snapmaker เปิดตัว U1 บน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุดเพียง $649 สำหรับผู้สนับสนุนกลุ่มแรก และสามารถระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คนภายในไม่กี่วัน AtomForm จากจีนเปิดตัว Palette 300 ที่มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัว โดยใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint และเตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499

    Bambu Lab เปิดตัว H2C ซึ่งแม้จะไม่ใช่ tool changer เต็มรูปแบบ แต่ก็ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องพึ่งระบบ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก ส่วน Prusa กลับมาอย่างเงียบ ๆ ด้วยโพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น และตามมาด้วยการยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ผู้พัฒนา INDX ซึ่งเป็นระบบ tool changer แบบไร้สายและใช้ความร้อนแบบเหนี่ยวนำ

    แนวคิดของ INDX คือการลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์ให้เบาและง่ายต่อการสลับ โดยไม่ต้องใช้สายไฟหรือท่อเส้นพลาสติกที่ยุ่งยาก ทำให้ระบบมีความเสถียรและลดปัญหาการอุดตันของหัวฉีด

    การกลับมาของ Prusa กับ CORE One
    โพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น
    ยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ในการใช้ระบบ INDX tool changer
    INDX ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ทำให้หัวพิมพ์เบาและง่ายต่อการสลับ

    การเปิดตัวของ Snapmaker U1
    เปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุด $649
    ระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คน
    รองรับการพิมพ์ 4 สีด้วยระบบ tool changer แบบ desktop

    การเปิดตัวของ AtomForm Palette 300
    มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัวในพื้นที่ 300 x 300 x 300 mm
    ใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint โดยยังไม่มีการสาธิตสด
    เตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499

    การเปิดตัวของ Bambu Lab H2C
    ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องใช้ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก
    เปิดตัวหลัง H2S เพียง 1 ชั่วโมง สร้างความสับสนในตลาด
    เป็นการตอบโต้ต่อความสำเร็จของ Snapmaker และการมาถึงของ AtomForm

    จุดเด่นของระบบ INDX จาก Bondtech
    ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์
    ลดปัญหาการอุดตันและการเสียเวลาจากการ purge เส้นพลาสติก
    สามารถติดตั้งบนเครื่องพิมพ์ DIY เช่น Voron ได้

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printings-tool-changer-wars-heat-up-as-prusa-re-enters-the-ring
    🎙️ เรื่องเล่าจากสนามหัวพิมพ์: เมื่อ Prusa, Bambu, AtomForm และ Snapmaker เปิดศึกแย่งชิงอนาคตของการพิมพ์หลายสี ในเดือนสิงหาคม 2025 วงการ 3D printing สั่นสะเทือนด้วยการเปิดตัวเครื่องพิมพ์แบบ “tool changer” ถึง 4 รุ่นในเวลาใกล้เคียงกัน โดยแต่ละค่ายต่างมีแนวทางเฉพาะของตนเองในการจัดการกับปัญหา “การพิมพ์หลายสีหรือหลายวัสดุ” ที่เคยยุ่งยากและเปลืองวัสดุ Snapmaker เปิดตัว U1 บน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุดเพียง $649 สำหรับผู้สนับสนุนกลุ่มแรก และสามารถระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คนภายในไม่กี่วัน AtomForm จากจีนเปิดตัว Palette 300 ที่มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัว โดยใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint และเตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499 Bambu Lab เปิดตัว H2C ซึ่งแม้จะไม่ใช่ tool changer เต็มรูปแบบ แต่ก็ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องพึ่งระบบ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก ส่วน Prusa กลับมาอย่างเงียบ ๆ ด้วยโพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น และตามมาด้วยการยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ผู้พัฒนา INDX ซึ่งเป็นระบบ tool changer แบบไร้สายและใช้ความร้อนแบบเหนี่ยวนำ แนวคิดของ INDX คือการลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์ให้เบาและง่ายต่อการสลับ โดยไม่ต้องใช้สายไฟหรือท่อเส้นพลาสติกที่ยุ่งยาก ทำให้ระบบมีความเสถียรและลดปัญหาการอุดตันของหัวฉีด ✅ การกลับมาของ Prusa กับ CORE One ➡️ โพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น ➡️ ยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ในการใช้ระบบ INDX tool changer ➡️ INDX ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ทำให้หัวพิมพ์เบาและง่ายต่อการสลับ ✅ การเปิดตัวของ Snapmaker U1 ➡️ เปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุด $649 ➡️ ระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คน ➡️ รองรับการพิมพ์ 4 สีด้วยระบบ tool changer แบบ desktop ✅ การเปิดตัวของ AtomForm Palette 300 ➡️ มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัวในพื้นที่ 300 x 300 x 300 mm ➡️ ใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint โดยยังไม่มีการสาธิตสด ➡️ เตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499 ✅ การเปิดตัวของ Bambu Lab H2C ➡️ ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องใช้ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก ➡️ เปิดตัวหลัง H2S เพียง 1 ชั่วโมง สร้างความสับสนในตลาด ➡️ เป็นการตอบโต้ต่อความสำเร็จของ Snapmaker และการมาถึงของ AtomForm ✅ จุดเด่นของระบบ INDX จาก Bondtech ➡️ ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์ ➡️ ลดปัญหาการอุดตันและการเสียเวลาจากการ purge เส้นพลาสติก ➡️ สามารถติดตั้งบนเครื่องพิมพ์ DIY เช่น Voron ได้ https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printings-tool-changer-wars-heat-up-as-prusa-re-enters-the-ring
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    3D printing's tool changer wars heat up as Prusa re-enters the ring
    Buckle up, the road to 3D printing tool changers is about to get bumpy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่ทัพภาค2ปฏิบัติเพื่ออธิปไตยชาติ.

    แม่ทัพภาค1ไม่ปฏิบัติการถีบเขมรออกจริงจนประชาชนคนไทยเรียกร้องถึงบ้านหนองจาน,บวกประกาศกฎอัยการศึกใส่คนไทบตนอีกกว่าปะทะเขมร,เป็นวลีที่บัดสบมาก,ทหารตอนนี้ต้องถีบเขมรออกทันทีได้แล้วเพราะอัยการศึกใช้จริงแล้ว จับคนเขมรทันทีด้วยหากยังอยู่แผ่นดินไทย,เสาหมุดปักเขตแดนชัดเจนที่1:1แล้ว,ยึด1:50,000เหมือนภาค2สร้างโมเดลไว้,หากภาค1ยังร่วมอ้าง1:200,000คืออ้อมเอาmou43,44ขึ้นอ้างหรือหยุดยิง ถือว่าภาค1เป็นปฏิปักษ์เสียเองต่อความมั่นคงทางดินแดนอธิปไตยไทยตน,และจริงๆแม่ทัพภาค1ต้องถูกตัดสิทธิขึ้น5เสือด้วยหรือรอขึ้น ผบ.ทบ.สูงสุด,เพราะยุทธการ ยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ทางทหาร การสงครามกับศัตรูถือว่าสอบตกอย่างร้ายแรง ทำเสียพื้นที่ดินแดนไทยตนเองบนเขตหน้าที่ตนเองด้วย ไร้เสียปืนสักแอะ อ.วีระ แฉอีก ยิ่งมีสมควรขึ้น ผบ.ทบ.ชัดเจน แม้ใครใหญ่ขนาดไหนสั่งตน เมื่อตนรักชาติรักแผ่นดินเอาแผ่นดินไทยมาก่อน จะเร่งรีบถีบเขมรออกไปทันทีเมื่อมีโอกาสแม้เพียงน้อยนิดก็ตาม แต่นี้เสือกเวลาโคตรมากมายกว่าจังหวะใดๆที่เคยมีมาก 24-28 ก.ค.68 มันน้อยวันที่ไหน มีนักวิชาการบ้างคนเอาอีสานใต้มาปนภาคตะวันออกให้เหมือนดูว่า ถ้าให้เวลามากกว่านี้ภาคตะวันออกจะถีบคนเขมรออกจากแผ่นดินไทยได้ทั้งหมดทันทีโน้น, อ.วีระด่าได้ชัด เสียงปืนนัดหนึ่งยังไม่เกิดเลย,บวกแฉต่อว่านายใหญ่โทรเคลียร์แล้วโน้น อย่ายิงใส่กันประมาณนั้น,จึงน่าสงสารแม่ทัพภาค2เรามาก,เสมือนภาค1เป็นปฏิปักษ์ต่ออธิปไตยตนชัดเจนรวมไอ้เหี้ยที่โทรเคลียร์กันนั้นด้วย,เรามีทหารที่ทรยศเต็มพื้นที่มากเกินไป,การจัดโผทหารนี้ไม่ชอบต่อกองทัพ เล่นพรรคเล่นพรรคไม่ต่างจากพรรคการเมือง,ภาค2สู้เป็นสู้ตายเพื่อบ้านเมือง,ภาค1ไม่สู้ห่าอะไรเลยบวก อ.วีระแฉอีก สมเหตุมาก,โผทหารต้องเอารายชื่อคนภาค1ออกทั้งหมดลดอำนาจควบคุมกองทัพภาคทันทีหรือส่วนกลางด้วย,ห้ามเดอะแก๊งภาค1มีอำนาจทางทหารทั้งหมดเพราะ เรา..ประชาชนไม่ไว้วางใจคนเดอะแก๊งภาค1ทั้งหมดในเวลานี้,ประกอบกับภาคตะวันออกถือว่าเป็นเขตอันตรายสูงสุดทันที ต้องให้แม่ทัพภาคอื่นๆกระจายกำลังผสมตนเข้ามาควบคุมอำนาจบัญชาการทั้งหมดทันที,หากเดอะแก๊งภาค1มีอำนาจในส่วนกลางแบบอ้างว่ามีกำลังภายในปฏิวัติทุกๆครั้งก็เร่งรีบสลายกำลังภายในนั้นเลย,อาจรวมหัวกับciaตลอดการปฏิวัติทุกๆครั้งในอดีตที่ผ่านมาก็ด้วยบนอำนาจสั่งการตนที่ถือมายาวนานในอดีต,
    ..เอาจริงๆนะบ้านเมืองจะรอดภัยพิบัติจริงต้องถีบเดอะแก๊งภาค1ออกจากอำนาจกองทัพทั้งหมด,ลดกำลังลง โผทหารต้องตัดคนเดอะแก๊งภาค1ออกไปทั้งหมด,ถ้าเดอะแก๊งภาค1เชื่อว่าตนบริสุทธิ์จะพิสูจน์ความจริงใจนี้ต่อประชาชน ก็จงนั่งเฉยๆโดยไร้อำนาจสักปีสองปีดูได้,ค่าจริงประชาชนคนไทยจะเข้าใจชัดเจนแน่นอน,ว่าเดอะแก๊งท่านๆไม่เป็นปฏิปักษ์จริงต่ออธิปไตนตนนั้นเสียเองจริงๆ.โผทหารใหม่สามารถนำมาคืนอำนาจบัญชาการได้และอาจใหญ่โตกว่าในอดีตที่หมายจะเป็นจะได้อีก.,เพราะเดอะแก๊งดีๆย่อมได้รับสิ่งดีๆกลับคืน,ตอบแทนคุณความดีงามนั้นคืนยิ่งกว่าเดิม.
    ..แต่ตอนนี้ยอมรับว่าเรา..ประชาชนไม่ไว้วางใจเดอะแก๊งภาค1บูรพาพยัคฆ์เลย,ผลงานบ้านหนองจานคือเครื่องพิสูจน์ตัวตนชัดแจ้งแล้ว,ชาติไทยมาก่อน ประเทศชาติไทยมาก่อนหรือผลประโยชน์ร่วมกันกับเขมรมาก่อนบนหน้าที่ของตนที่แบกไว้อย่างชัดเจนตำตาคนไทยทั้งประเทศด้วย,แต่ไร้บทลงโทษทางวินัยหรืออาญาทางทหารเลย,เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมากๆ,แม่ทัพหนีสนามรบโทษเช่นไร,แม่ทัพปีกขวาสู้รบเอาเป็นเอาตายแต่แม่ทัพปีกซ้ายนิ่งยืนดูเฉยๆบนสนามสมรภูมิรบตลอดแนวหน้าทัพตนมีโทษสถานใด,สมควรเลื่อนยศเลื่อนเก้าอี้ตำแหน่งเป็นอันมากใช่หรือไม่,เช่นนั้นใครที่ตัดสินใจอนุญาตเสนอทั้งชื่อบรรจุตำแหน่งเลื่อนยศก็อย่าอยู่ทำหน้าที่นั้นๆเลย,กลับไปเลี้ยงหลานเถอะ,ส้นตีนยังไม่รู้ดีชั่วถูกผิดขนาดนั้น,เพราะกองทัพไทยเราไม่สมควรบัดสบแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว คนเช่นนี้หนักแผ่นดินหนักกองทัพไทยเราด้วย,อยากมีเงินมีทองมากมายก็ลาออกจากชุดทหารเถอะ อย่าเอาชาติไทยตนเองมาย่ำยี่เล่นๆแบบนี้,อย่าเอาชุดทหารอันทรงเกียรติประเทศไทยตนไปก่อชั่วทำเลวเลย.

    https://youtube.com/watch?v=ZZBuMnC_Iyo&si=N0QN7HtDa7KdCp5a
    แม่ทัพภาค2ปฏิบัติเพื่ออธิปไตยชาติ. แม่ทัพภาค1ไม่ปฏิบัติการถีบเขมรออกจริงจนประชาชนคนไทยเรียกร้องถึงบ้านหนองจาน,บวกประกาศกฎอัยการศึกใส่คนไทบตนอีกกว่าปะทะเขมร,เป็นวลีที่บัดสบมาก,ทหารตอนนี้ต้องถีบเขมรออกทันทีได้แล้วเพราะอัยการศึกใช้จริงแล้ว จับคนเขมรทันทีด้วยหากยังอยู่แผ่นดินไทย,เสาหมุดปักเขตแดนชัดเจนที่1:1แล้ว,ยึด1:50,000เหมือนภาค2สร้างโมเดลไว้,หากภาค1ยังร่วมอ้าง1:200,000คืออ้อมเอาmou43,44ขึ้นอ้างหรือหยุดยิง ถือว่าภาค1เป็นปฏิปักษ์เสียเองต่อความมั่นคงทางดินแดนอธิปไตยไทยตน,และจริงๆแม่ทัพภาค1ต้องถูกตัดสิทธิขึ้น5เสือด้วยหรือรอขึ้น ผบ.ทบ.สูงสุด,เพราะยุทธการ ยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ทางทหาร การสงครามกับศัตรูถือว่าสอบตกอย่างร้ายแรง ทำเสียพื้นที่ดินแดนไทยตนเองบนเขตหน้าที่ตนเองด้วย ไร้เสียปืนสักแอะ อ.วีระ แฉอีก ยิ่งมีสมควรขึ้น ผบ.ทบ.ชัดเจน แม้ใครใหญ่ขนาดไหนสั่งตน เมื่อตนรักชาติรักแผ่นดินเอาแผ่นดินไทยมาก่อน จะเร่งรีบถีบเขมรออกไปทันทีเมื่อมีโอกาสแม้เพียงน้อยนิดก็ตาม แต่นี้เสือกเวลาโคตรมากมายกว่าจังหวะใดๆที่เคยมีมาก 24-28 ก.ค.68 มันน้อยวันที่ไหน มีนักวิชาการบ้างคนเอาอีสานใต้มาปนภาคตะวันออกให้เหมือนดูว่า ถ้าให้เวลามากกว่านี้ภาคตะวันออกจะถีบคนเขมรออกจากแผ่นดินไทยได้ทั้งหมดทันทีโน้น, อ.วีระด่าได้ชัด เสียงปืนนัดหนึ่งยังไม่เกิดเลย,บวกแฉต่อว่านายใหญ่โทรเคลียร์แล้วโน้น อย่ายิงใส่กันประมาณนั้น,จึงน่าสงสารแม่ทัพภาค2เรามาก,เสมือนภาค1เป็นปฏิปักษ์ต่ออธิปไตยตนชัดเจนรวมไอ้เหี้ยที่โทรเคลียร์กันนั้นด้วย,เรามีทหารที่ทรยศเต็มพื้นที่มากเกินไป,การจัดโผทหารนี้ไม่ชอบต่อกองทัพ เล่นพรรคเล่นพรรคไม่ต่างจากพรรคการเมือง,ภาค2สู้เป็นสู้ตายเพื่อบ้านเมือง,ภาค1ไม่สู้ห่าอะไรเลยบวก อ.วีระแฉอีก สมเหตุมาก,โผทหารต้องเอารายชื่อคนภาค1ออกทั้งหมดลดอำนาจควบคุมกองทัพภาคทันทีหรือส่วนกลางด้วย,ห้ามเดอะแก๊งภาค1มีอำนาจทางทหารทั้งหมดเพราะ เรา..ประชาชนไม่ไว้วางใจคนเดอะแก๊งภาค1ทั้งหมดในเวลานี้,ประกอบกับภาคตะวันออกถือว่าเป็นเขตอันตรายสูงสุดทันที ต้องให้แม่ทัพภาคอื่นๆกระจายกำลังผสมตนเข้ามาควบคุมอำนาจบัญชาการทั้งหมดทันที,หากเดอะแก๊งภาค1มีอำนาจในส่วนกลางแบบอ้างว่ามีกำลังภายในปฏิวัติทุกๆครั้งก็เร่งรีบสลายกำลังภายในนั้นเลย,อาจรวมหัวกับciaตลอดการปฏิวัติทุกๆครั้งในอดีตที่ผ่านมาก็ด้วยบนอำนาจสั่งการตนที่ถือมายาวนานในอดีต, ..เอาจริงๆนะบ้านเมืองจะรอดภัยพิบัติจริงต้องถีบเดอะแก๊งภาค1ออกจากอำนาจกองทัพทั้งหมด,ลดกำลังลง โผทหารต้องตัดคนเดอะแก๊งภาค1ออกไปทั้งหมด,ถ้าเดอะแก๊งภาค1เชื่อว่าตนบริสุทธิ์จะพิสูจน์ความจริงใจนี้ต่อประชาชน ก็จงนั่งเฉยๆโดยไร้อำนาจสักปีสองปีดูได้,ค่าจริงประชาชนคนไทยจะเข้าใจชัดเจนแน่นอน,ว่าเดอะแก๊งท่านๆไม่เป็นปฏิปักษ์จริงต่ออธิปไตนตนนั้นเสียเองจริงๆ.โผทหารใหม่สามารถนำมาคืนอำนาจบัญชาการได้และอาจใหญ่โตกว่าในอดีตที่หมายจะเป็นจะได้อีก.,เพราะเดอะแก๊งดีๆย่อมได้รับสิ่งดีๆกลับคืน,ตอบแทนคุณความดีงามนั้นคืนยิ่งกว่าเดิม. ..แต่ตอนนี้ยอมรับว่าเรา..ประชาชนไม่ไว้วางใจเดอะแก๊งภาค1บูรพาพยัคฆ์เลย,ผลงานบ้านหนองจานคือเครื่องพิสูจน์ตัวตนชัดแจ้งแล้ว,ชาติไทยมาก่อน ประเทศชาติไทยมาก่อนหรือผลประโยชน์ร่วมกันกับเขมรมาก่อนบนหน้าที่ของตนที่แบกไว้อย่างชัดเจนตำตาคนไทยทั้งประเทศด้วย,แต่ไร้บทลงโทษทางวินัยหรืออาญาทางทหารเลย,เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมากๆ,แม่ทัพหนีสนามรบโทษเช่นไร,แม่ทัพปีกขวาสู้รบเอาเป็นเอาตายแต่แม่ทัพปีกซ้ายนิ่งยืนดูเฉยๆบนสนามสมรภูมิรบตลอดแนวหน้าทัพตนมีโทษสถานใด,สมควรเลื่อนยศเลื่อนเก้าอี้ตำแหน่งเป็นอันมากใช่หรือไม่,เช่นนั้นใครที่ตัดสินใจอนุญาตเสนอทั้งชื่อบรรจุตำแหน่งเลื่อนยศก็อย่าอยู่ทำหน้าที่นั้นๆเลย,กลับไปเลี้ยงหลานเถอะ,ส้นตีนยังไม่รู้ดีชั่วถูกผิดขนาดนั้น,เพราะกองทัพไทยเราไม่สมควรบัดสบแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว คนเช่นนี้หนักแผ่นดินหนักกองทัพไทยเราด้วย,อยากมีเงินมีทองมากมายก็ลาออกจากชุดทหารเถอะ อย่าเอาชาติไทยตนเองมาย่ำยี่เล่นๆแบบนี้,อย่าเอาชุดทหารอันทรงเกียรติประเทศไทยตนไปก่อชั่วทำเลวเลย. https://youtube.com/watch?v=ZZBuMnC_Iyo&si=N0QN7HtDa7KdCp5a
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานนี้ อ.วีระ ฟ้องมันทุกๆตัวเลย,ทีมพิทักษ์ชาติอธิปไตยไทยเดอะแก๊งทนายแผ่นดิน กางแต่ละมาตราอะไรบ้างให้เหมาะสมแต่ละตัวแต่ละคนเลย ย้อนอดีตถึงนายกฯสมัยต่างๆนั้นที่เข้าสู่สายพานเกี่ยวกันเพื่อปล้นชาติขายชาติหรือเพื่อสมยอมผลประโยชน์ใดๆจะต่างตอบแทนลักษณะใดๆก็เอาให้โดนทุกๆตัวเลยนะ, อ.วีระ ต้องการทนายอาสาด่วนเพื่อกำจัดภัยของแผ่นดินไทยเรา อย่าส่งต่อภัยนี้แก่รุ่นต่อไปเลย เราคนร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริงอยู่แล้ว ท่านทั้งหลายจะเป็นตำนานผู้กระทำคุณงามความดีต่อชาติไทยเราแน่นอน เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทยตน บอกแก่โคตรเหง้าวงศ์ตระกูลเราว่าปู่ย่าตาทวดได้มีโอกาสรับใช้ชาติเยี่ยงสนามรบหนึ่งของกองทัพทหารไทยยุคสงครามไทยเขมรร่วมสมัยแน่นอน,

    ...ทนายแผ่นดินไทย อย่าให้อ.วีระ ต่อสู้เพียงลำพัง พวกท่านๆมาร่วมกันกวาดล้างทหารเลวชั่วก็ด้วยออกจากกองทัพไทยที่มีเกียรติแห่งคนไทยเราร่วมกันเถิด,ฝ่ายพลเรือนแบบเราๆสามารถคล่องตัวกว่าฝ่ายทหารไทยดีๆอย่างมาก,ร่วมเป็นเดอะทีมกำจัดคนเลวย่อมสุดยอดมาก.

    https://youtube.com/watch?v=nba8KenqRIk&si=o3B8WvtLrqxqmWtV
    งานนี้ อ.วีระ ฟ้องมันทุกๆตัวเลย,ทีมพิทักษ์ชาติอธิปไตยไทยเดอะแก๊งทนายแผ่นดิน กางแต่ละมาตราอะไรบ้างให้เหมาะสมแต่ละตัวแต่ละคนเลย ย้อนอดีตถึงนายกฯสมัยต่างๆนั้นที่เข้าสู่สายพานเกี่ยวกันเพื่อปล้นชาติขายชาติหรือเพื่อสมยอมผลประโยชน์ใดๆจะต่างตอบแทนลักษณะใดๆก็เอาให้โดนทุกๆตัวเลยนะ, อ.วีระ ต้องการทนายอาสาด่วนเพื่อกำจัดภัยของแผ่นดินไทยเรา อย่าส่งต่อภัยนี้แก่รุ่นต่อไปเลย เราคนร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริงอยู่แล้ว ท่านทั้งหลายจะเป็นตำนานผู้กระทำคุณงามความดีต่อชาติไทยเราแน่นอน เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทยตน บอกแก่โคตรเหง้าวงศ์ตระกูลเราว่าปู่ย่าตาทวดได้มีโอกาสรับใช้ชาติเยี่ยงสนามรบหนึ่งของกองทัพทหารไทยยุคสงครามไทยเขมรร่วมสมัยแน่นอน, ...ทนายแผ่นดินไทย อย่าให้อ.วีระ ต่อสู้เพียงลำพัง พวกท่านๆมาร่วมกันกวาดล้างทหารเลวชั่วก็ด้วยออกจากกองทัพไทยที่มีเกียรติแห่งคนไทยเราร่วมกันเถิด,ฝ่ายพลเรือนแบบเราๆสามารถคล่องตัวกว่าฝ่ายทหารไทยดีๆอย่างมาก,ร่วมเป็นเดอะทีมกำจัดคนเลวย่อมสุดยอดมาก. https://youtube.com/watch?v=nba8KenqRIk&si=o3B8WvtLrqxqmWtV
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts