• รถถังเราผลิตเองได้แล้ว ขีปนาวุธเราก็ผลิตเองได้แล้ว,ฐานยิงขีปนาวุธเราก็สร้างเสร็จทำได้แล้ว,เราผลิต เราสร้างเพื่อปกป้องอธิปไตยไทยเราเอง,ทหารไทยต้องนำพาประเทศแล้ว,ไม่เอาทหารฝ่ายบูรพาพยัคฆ์แล้ว,ที่ผ่านมาบ้านเมืองเสียดินแดนอธิปไตยแก่เขมรถึง11จุด รวมสระแก้วอาจกว่า13-14จุดตลอดต้นพรมแดนถึงปลายพรมแดนออกสู่อ่าวไทย,บทพิสูจน์ความไร้ฝีมือคือมทภ.2ยึดคืน11จุดได้จริง,มทภ.1ไม่ยึดหนองจานคืนและตลอดพรมแดนไทยกับเขมรภาคตะวันออก,มีการค้าขายผิดกฎหมายเต็มพื้นที่ภาคตะวันออก สินค้าเกษตรฝั่งเขมรมาแย่งคนไทยตน บัดสบมากมายก็ว่า.

    https://youtube.com/shorts/3Pg8sbHc-EI?si=cUaTPwDdq3piVAe1
    รถถังเราผลิตเองได้แล้ว ขีปนาวุธเราก็ผลิตเองได้แล้ว,ฐานยิงขีปนาวุธเราก็สร้างเสร็จทำได้แล้ว,เราผลิต เราสร้างเพื่อปกป้องอธิปไตยไทยเราเอง,ทหารไทยต้องนำพาประเทศแล้ว,ไม่เอาทหารฝ่ายบูรพาพยัคฆ์แล้ว,ที่ผ่านมาบ้านเมืองเสียดินแดนอธิปไตยแก่เขมรถึง11จุด รวมสระแก้วอาจกว่า13-14จุดตลอดต้นพรมแดนถึงปลายพรมแดนออกสู่อ่าวไทย,บทพิสูจน์ความไร้ฝีมือคือมทภ.2ยึดคืน11จุดได้จริง,มทภ.1ไม่ยึดหนองจานคืนและตลอดพรมแดนไทยกับเขมรภาคตะวันออก,มีการค้าขายผิดกฎหมายเต็มพื้นที่ภาคตะวันออก สินค้าเกษตรฝั่งเขมรมาแย่งคนไทยตน บัดสบมากมายก็ว่า. https://youtube.com/shorts/3Pg8sbHc-EI?si=cUaTPwDdq3piVAe1
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 6
    แล้วนาย Kenneth ก็ตกลงจะทำงานช่วงสั้นเฉพาะกิจให้นาย Donovan ใน office of the Co-Ordination (OCI) ซึ่งนาย Donovan ตั้งขึ้น (สงสัยเพราะตกลงราคาค่าจ้างยังไม่เป็นที่พอใจกัน อดีตมิชชั่นนารี ต่อรองกับอดีตนักกฏหมาย ผลก็น่าจะพอเดากันออก)

นาย Donovan เคยไปรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เก่งกล้าสามารถมาก จนได้สมญาว่า “Wild Bill Donovan” เขาเชื่อว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้นแน่ และอเมริกาจะต้องเกี่ยวข้องด้วย (ทำไมนาย Donovan ถึงเชื่อเช่นนั้น เอ! หรือนาย Donovan จะเกี่ยวกับ CFR จริง !) แต่ตอนนั้นไม่มีใครในอเมริการู้จักคู่รบของอเมริกาเลย เขาจึงเตือนประธานาธิบดี Roosevelt ให้เตรียมตั้งหน่วยงานข่าวกรอง เพื่อหาข้อมูลและข่าวเกี่ยวกับญี่ปุ่นและประเทศแถบอินโดจีนเอาไว้
    เมื่อประธานาธิบดี Roosevelt เห็นชอบด้วย นาย Donovan จึงตั้งหน่วยงานชื่อ Office of the Co-Ordination of Information (OCI) ขึ้น ซึ่งต่อมาเมื่ออเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เต็มตัว OCI ได้เปลี่ยนเป็น Office of Strategic Services (OSS) ภายใต้การดูแลของนาย Donovan เช่นเดิม
    เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง OSS ได้ถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็น Central for Intelligence Agency (CIA) แทน นอกเหนือจากนาย Donovan ผู้ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิด OSS และ CIA แล้ว นาย Kenneth บอกว่า เขาก็ถูกนับว่าเป็น “รุ่นก่อตั้ง” ของหน่วยงานข่าวกรอง OSS ด้วยเช่นกัน (นาย Kenneth นี่ ไม่ใช่แค่เป็นนักฉวยโอกาส แต่เป็นคนชี้ไม้อีกด้วย คุณสมบัติแบบนี้ถ้าเบื่อเป็นมิชชั่นนารี น่าจะไปทำงานประเภทเล่าข่าวเช้านี้ บางคนอาจตกอันดับ)
    นาย Kenneth ให้เหตุผลว่า ที่อเมริกาไม่เคยมีหน่วยงานข่าวกรองของตนเอง เกี่ยวกับต่างประเทศมากนัก เพราะก่อนหน้านั้น อเมริกามีนโยบายสันโดษ (isolation) ไม่ยุ่งกับประเทศอื่นมาตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.1930 ต้นๆ โดยเฉพาะไม่ร่วมทำสงครามด้วย และถ้าอยากจะได้ข้อมูลเชิงลึกอะไร อเมริกาก็จะอาศัยถามเพื่อนรัก ร่วมก๊วน 3 เกลอหัวแข็ง คือ อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งข้อมูลของทั้ง 2 ประเทศ ส่วนมากก็จะเกี่ยวกับประเทศอาณานิคมของเขา (อเมริกาเปลี่ยนจากนโยบายสันโดษ เป็นนักค้าสงครามเมื่อประมาณ ค.ศ.1945 ตามแรงผลัก แรงดันของกลุ่ม CFR ที่ควบคุมนโยบายการต่างประเทศของอเมริกา ผ่านคนของ CFR อีกต่อหนึ่ง!)
    การบ้านที่นาย Donovan มอบให้นาย Kenneth ทำคือ ทำรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ดีร้ายขนาดไหน ใครคุมใคร ใครได้เปรียบเสีบเปรียบ ใครมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร ใส่มาให้หมด สิว ไฝ ฝ้า อยู่ตรงไหนอย่าลืมบอก รวมทั้งฝรั่งเศสไอ้จั๊กกะแร้เหม็นเขียวด้วย คนแถบอินโดจีนเขามองเจ้านี่อย่างไร เขายังอยากจะไปซบจั๊กกะแร้เหม็นอยู่อีกไหม แล้วอย่าลืมรายงานเรื่องคนไทยกับพี่ยุ่นด้วยล่ะ หลังถูกพี่ยุ่นเอารถถังมาวิ่งรอบเมืองกรุงเทพแทนรถเมล์แล้วน่ะ คนไทยทำยังไง เอาดอกไม้ไปให้พี่ยุ่น หรือเอาประทัดไปไล่ ความสัมพันธ์ของไทยกับญี่ปุ่นนี้ จะเป็นตัววัดผลแพ้ชนะของการรบในภูมิภาคนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของพี่เบิ้ม รายงานผิดเดี๋ยวได้กลับไปอยู่เมืองตรังแน่
    อีกรายงานหนึ่งที่นาย Kenneth ต้องทำคือวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของอังกฤษกับลูกหาบเช่น พม่า รวมทั้ง มาลายู และสิงคโปร์ จะได้เอาไปตรวจสอบได้ว่าอังกฤษมิตรรัก บอกความจริงกับอเมริกามากน้อยแค่ไหน ถึงจะสัมพันธ์ชิดมิตรใกล้ก็เถอะ ไว้ใจกันได้ที่ไหน เรื่องของผลประโยชน์! ข้อมูลเหล่านี้ช่วยทำให้อเมริกาวางยุทธศาสตร์การรบของอเมริกา ในช่วงสงครามโลกและที่สำคัญคือช่วงหลังสงครามโลกเป็นอย่างดี
    ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่ญี่ปุ่นบุกเมืองไทย เมืองไทยเองก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายรัฐบาล จอมพล ป. เจ้าของนโยบายใส่หมวกแล้วชาติเจริญ เป็นนายกรัฐมนตรีที่แสดงตัวเข้ากับฝ่ายญี่ปุ่น ถึงขนาดประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา เอาใจญี่ปุ่นกันจนออกนอกหน้า ขณะที่คนไทยอีกพวกหนึ่งคือพวกเสรีไทย ที่ก่อตั้งขึ้นโดยคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ (อังกฤษและอเมริกา) และอยู่ในประเทศไทย เข้ากับฝรั่งทั้งอังกฤษและอเมริกาแบบออกนอกหน้าพอกัน ประกาศไม่เห็นด้วยกับการเข้าพวกกับญี่ปุ่นของจอมพล ป. นายปรีดี พนมยงค์ เป็นหัวหน้าเสรีไทยที่อยู่ในประเทศไทย เมื่อรัฐบาลไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา หลังจากเกิดเหตุการณ์ Pearl Harbor มรว. เสนีย์ ปราโมช ซึ่งขณะนั้นเป็นฑูตไทยประจำที่อเมริกาแต่มาธุระที่เมืองไทย รีบบินกลับไปอเมริกา เพื่อไปบอกอเมริกาว่าการประกาศสงครามของไทยต่ออเมริกาและอังกฤษนั้น เราคนไทยไม่เกี่ยวนะ ไม่ใช่ความต้องการของพวกเรา เราไม่เอ้า ไม่เอาญี่ปุ่น เราเอาพวกท่าน คนไทยขอให้พวกท่านเข้าใจและช่วยเหลือพวกเราด้วย
    ในตอนนั้นนาย Donovan ได้ตั้งหน่วยงานขึ้นมาอีกหน่วย ชื่อ Office of War Information (OWI) ทางอเมริกาจึงตกลงให้ มรว. เสนีย์ ทำการออกอากาศเป็นภาษาไทยจากอเมริกา ผ่านหน่วยงานของ OWI ประกาศเจตนารมณ์ของเสรีไทย ให้คนไทยทางเมืองไทยทราบ วิทยุเสรีไทยที่ออกอากาศเป็นภาษาไทยนี้ มีนาย Kenneth เป็นผู้ประสานงาน นาย Kenneth บอกว่าอเมริกาให้เขาคอยเฝ้าดูว่าฝ่ายไทยจะพูดจาออกอากาศตรง กับที่แจ้งไว้กับอเมริกาหรือไม่ (แสดงถึงความเชื่อใจกันอย่างเต็มที่เลย !) ในเมื่อเขาเป็นคนอเมริกันคนเดียวตอนน้ัน ที่อยู่ตรงนั้น ที่รู้ภาษาไทย จึงรับหน้าที่ประสานงานกับเสรีไทย จึงเป็นเหตุให้นาย Kenneth จึงยังทำงานกับรัฐบาลอเมริกาต่อไป (และเข้าใจว่า คงต่อรองเรื่องค่าจ้างกันจนเป็นที่ถูกใจ นาย Kenneth แล้ว)
    นาย Kenneth เล่าว่า ช่วงที่สงครามโลกกำลังเข้มข้นอยู่แถวอินโดจีน ประเทศอาณานิคม เช่น มาลายู สิงคโปร์ คิดว่าอังกฤษจะช่วยรบกับญี่ปุ่นให้ แต่อันที่จริงแล้ว นายเชอร์ซิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่เคยมีเจตนาเช่นนั้นเลย นายเชอร์ซิลพร้อมที่จะทิ้งอาณานิคมของตนให้สู้ไปลำพัง สมันน้อยก็จำตรงนี้ไว้นะ ชอบเชื่อฝรั่งอั่งม้ออยู่เรื่อย เขาบอกอะไรก็เชื่อ ท้ายที่สุดเขาก็ต้องเห็นประโยชน์ของเขามากกว่า เรานึกว่าเขาจะอุ้มกระเตงเราไปตลอดหรือไง หมดประโยชน์เขาก็โยนทิ้ง เฮ้อ! บอกเท่าไหร่ไม่เคยเชื่อ บูชาคุณพ่อฝรั่งกันเหลือเกิน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 6 แล้วนาย Kenneth ก็ตกลงจะทำงานช่วงสั้นเฉพาะกิจให้นาย Donovan ใน office of the Co-Ordination (OCI) ซึ่งนาย Donovan ตั้งขึ้น (สงสัยเพราะตกลงราคาค่าจ้างยังไม่เป็นที่พอใจกัน อดีตมิชชั่นนารี ต่อรองกับอดีตนักกฏหมาย ผลก็น่าจะพอเดากันออก)

นาย Donovan เคยไปรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เก่งกล้าสามารถมาก จนได้สมญาว่า “Wild Bill Donovan” เขาเชื่อว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้นแน่ และอเมริกาจะต้องเกี่ยวข้องด้วย (ทำไมนาย Donovan ถึงเชื่อเช่นนั้น เอ! หรือนาย Donovan จะเกี่ยวกับ CFR จริง !) แต่ตอนนั้นไม่มีใครในอเมริการู้จักคู่รบของอเมริกาเลย เขาจึงเตือนประธานาธิบดี Roosevelt ให้เตรียมตั้งหน่วยงานข่าวกรอง เพื่อหาข้อมูลและข่าวเกี่ยวกับญี่ปุ่นและประเทศแถบอินโดจีนเอาไว้ เมื่อประธานาธิบดี Roosevelt เห็นชอบด้วย นาย Donovan จึงตั้งหน่วยงานชื่อ Office of the Co-Ordination of Information (OCI) ขึ้น ซึ่งต่อมาเมื่ออเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เต็มตัว OCI ได้เปลี่ยนเป็น Office of Strategic Services (OSS) ภายใต้การดูแลของนาย Donovan เช่นเดิม เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง OSS ได้ถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็น Central for Intelligence Agency (CIA) แทน นอกเหนือจากนาย Donovan ผู้ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิด OSS และ CIA แล้ว นาย Kenneth บอกว่า เขาก็ถูกนับว่าเป็น “รุ่นก่อตั้ง” ของหน่วยงานข่าวกรอง OSS ด้วยเช่นกัน (นาย Kenneth นี่ ไม่ใช่แค่เป็นนักฉวยโอกาส แต่เป็นคนชี้ไม้อีกด้วย คุณสมบัติแบบนี้ถ้าเบื่อเป็นมิชชั่นนารี น่าจะไปทำงานประเภทเล่าข่าวเช้านี้ บางคนอาจตกอันดับ) นาย Kenneth ให้เหตุผลว่า ที่อเมริกาไม่เคยมีหน่วยงานข่าวกรองของตนเอง เกี่ยวกับต่างประเทศมากนัก เพราะก่อนหน้านั้น อเมริกามีนโยบายสันโดษ (isolation) ไม่ยุ่งกับประเทศอื่นมาตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.1930 ต้นๆ โดยเฉพาะไม่ร่วมทำสงครามด้วย และถ้าอยากจะได้ข้อมูลเชิงลึกอะไร อเมริกาก็จะอาศัยถามเพื่อนรัก ร่วมก๊วน 3 เกลอหัวแข็ง คือ อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งข้อมูลของทั้ง 2 ประเทศ ส่วนมากก็จะเกี่ยวกับประเทศอาณานิคมของเขา (อเมริกาเปลี่ยนจากนโยบายสันโดษ เป็นนักค้าสงครามเมื่อประมาณ ค.ศ.1945 ตามแรงผลัก แรงดันของกลุ่ม CFR ที่ควบคุมนโยบายการต่างประเทศของอเมริกา ผ่านคนของ CFR อีกต่อหนึ่ง!) การบ้านที่นาย Donovan มอบให้นาย Kenneth ทำคือ ทำรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ดีร้ายขนาดไหน ใครคุมใคร ใครได้เปรียบเสีบเปรียบ ใครมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร ใส่มาให้หมด สิว ไฝ ฝ้า อยู่ตรงไหนอย่าลืมบอก รวมทั้งฝรั่งเศสไอ้จั๊กกะแร้เหม็นเขียวด้วย คนแถบอินโดจีนเขามองเจ้านี่อย่างไร เขายังอยากจะไปซบจั๊กกะแร้เหม็นอยู่อีกไหม แล้วอย่าลืมรายงานเรื่องคนไทยกับพี่ยุ่นด้วยล่ะ หลังถูกพี่ยุ่นเอารถถังมาวิ่งรอบเมืองกรุงเทพแทนรถเมล์แล้วน่ะ คนไทยทำยังไง เอาดอกไม้ไปให้พี่ยุ่น หรือเอาประทัดไปไล่ ความสัมพันธ์ของไทยกับญี่ปุ่นนี้ จะเป็นตัววัดผลแพ้ชนะของการรบในภูมิภาคนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของพี่เบิ้ม รายงานผิดเดี๋ยวได้กลับไปอยู่เมืองตรังแน่ อีกรายงานหนึ่งที่นาย Kenneth ต้องทำคือวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของอังกฤษกับลูกหาบเช่น พม่า รวมทั้ง มาลายู และสิงคโปร์ จะได้เอาไปตรวจสอบได้ว่าอังกฤษมิตรรัก บอกความจริงกับอเมริกามากน้อยแค่ไหน ถึงจะสัมพันธ์ชิดมิตรใกล้ก็เถอะ ไว้ใจกันได้ที่ไหน เรื่องของผลประโยชน์! ข้อมูลเหล่านี้ช่วยทำให้อเมริกาวางยุทธศาสตร์การรบของอเมริกา ในช่วงสงครามโลกและที่สำคัญคือช่วงหลังสงครามโลกเป็นอย่างดี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่ญี่ปุ่นบุกเมืองไทย เมืองไทยเองก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายรัฐบาล จอมพล ป. เจ้าของนโยบายใส่หมวกแล้วชาติเจริญ เป็นนายกรัฐมนตรีที่แสดงตัวเข้ากับฝ่ายญี่ปุ่น ถึงขนาดประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา เอาใจญี่ปุ่นกันจนออกนอกหน้า ขณะที่คนไทยอีกพวกหนึ่งคือพวกเสรีไทย ที่ก่อตั้งขึ้นโดยคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ (อังกฤษและอเมริกา) และอยู่ในประเทศไทย เข้ากับฝรั่งทั้งอังกฤษและอเมริกาแบบออกนอกหน้าพอกัน ประกาศไม่เห็นด้วยกับการเข้าพวกกับญี่ปุ่นของจอมพล ป. นายปรีดี พนมยงค์ เป็นหัวหน้าเสรีไทยที่อยู่ในประเทศไทย เมื่อรัฐบาลไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา หลังจากเกิดเหตุการณ์ Pearl Harbor มรว. เสนีย์ ปราโมช ซึ่งขณะนั้นเป็นฑูตไทยประจำที่อเมริกาแต่มาธุระที่เมืองไทย รีบบินกลับไปอเมริกา เพื่อไปบอกอเมริกาว่าการประกาศสงครามของไทยต่ออเมริกาและอังกฤษนั้น เราคนไทยไม่เกี่ยวนะ ไม่ใช่ความต้องการของพวกเรา เราไม่เอ้า ไม่เอาญี่ปุ่น เราเอาพวกท่าน คนไทยขอให้พวกท่านเข้าใจและช่วยเหลือพวกเราด้วย ในตอนนั้นนาย Donovan ได้ตั้งหน่วยงานขึ้นมาอีกหน่วย ชื่อ Office of War Information (OWI) ทางอเมริกาจึงตกลงให้ มรว. เสนีย์ ทำการออกอากาศเป็นภาษาไทยจากอเมริกา ผ่านหน่วยงานของ OWI ประกาศเจตนารมณ์ของเสรีไทย ให้คนไทยทางเมืองไทยทราบ วิทยุเสรีไทยที่ออกอากาศเป็นภาษาไทยนี้ มีนาย Kenneth เป็นผู้ประสานงาน นาย Kenneth บอกว่าอเมริกาให้เขาคอยเฝ้าดูว่าฝ่ายไทยจะพูดจาออกอากาศตรง กับที่แจ้งไว้กับอเมริกาหรือไม่ (แสดงถึงความเชื่อใจกันอย่างเต็มที่เลย !) ในเมื่อเขาเป็นคนอเมริกันคนเดียวตอนน้ัน ที่อยู่ตรงนั้น ที่รู้ภาษาไทย จึงรับหน้าที่ประสานงานกับเสรีไทย จึงเป็นเหตุให้นาย Kenneth จึงยังทำงานกับรัฐบาลอเมริกาต่อไป (และเข้าใจว่า คงต่อรองเรื่องค่าจ้างกันจนเป็นที่ถูกใจ นาย Kenneth แล้ว) นาย Kenneth เล่าว่า ช่วงที่สงครามโลกกำลังเข้มข้นอยู่แถวอินโดจีน ประเทศอาณานิคม เช่น มาลายู สิงคโปร์ คิดว่าอังกฤษจะช่วยรบกับญี่ปุ่นให้ แต่อันที่จริงแล้ว นายเชอร์ซิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่เคยมีเจตนาเช่นนั้นเลย นายเชอร์ซิลพร้อมที่จะทิ้งอาณานิคมของตนให้สู้ไปลำพัง สมันน้อยก็จำตรงนี้ไว้นะ ชอบเชื่อฝรั่งอั่งม้ออยู่เรื่อย เขาบอกอะไรก็เชื่อ ท้ายที่สุดเขาก็ต้องเห็นประโยชน์ของเขามากกว่า เรานึกว่าเขาจะอุ้มกระเตงเราไปตลอดหรือไง หมดประโยชน์เขาก็โยนทิ้ง เฮ้อ! บอกเท่าไหร่ไม่เคยเชื่อ บูชาคุณพ่อฝรั่งกันเหลือเกิน คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • มันนึกว่ารถถังใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ระยะทางมากรุงเทพฯหลายร้อยกิโลเมตร ต้องใช้น้ำมันมหาศาล แค่น้ำมันในประเทศยังไม่พอจะขาย รีบๆ มาเลย ฝูงบินไทยรออยู่
    #คิงส์โพธิ์แดง
    มันนึกว่ารถถังใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ระยะทางมากรุงเทพฯหลายร้อยกิโลเมตร ต้องใช้น้ำมันมหาศาล แค่น้ำมันในประเทศยังไม่พอจะขาย รีบๆ มาเลย ฝูงบินไทยรออยู่ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • ทหารเขมรมีใจจะสังหารทหารไทยทุกๆคนแน่นอน,ทหารเขมรไว้ใจไม่ได้โดยเฉพาะทหารเก่าๆทหารเขมรแดงรุ่นเก่าๆและปัจจุบันด้วย เขาล้างสมองทหารพวกนี้แล้ว เราจึงไม่สามารถไว้ใจและเมตตากรุณาได้เมื่ออยู่สนามรบในปัจจุบัน ส่วนปฏิบัติมาฮุนเซนสั่งก็อีกเรื่องหรือเด็ดหัวฮุนเซนแม่ทัพก็อีกเรื่อง,จริงๆรบรอบนี้ ทหารไทยเราต้องตัดศักยภาพการรบทางทหารของเขมรให้เด็ดขาด ทหารเขมรรับบัญชาการมาจากฮุนเซน เราทหารไทยมีหน้าที่ตรงกำจัดคนบัญชาการการรบหรือกำจัดแม่ทัพมันไม่ว่ามันจะอยู่ส่วนไหนของเขมรต้องไล่ล่าเด็ดหัวกำจัดจริงในรอบนี้ตลอดหัวหน้ารองลงมาทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้นเพราะสั่งการรุกรานใช้กำลังทหารหมายสังหารทหารไทยยึดแผ่นดินไทยชัดเจนด้วย พวกนี้ต้องถูกกำจัดเด็ดหัวเหมือนฮุนเซนฮุนมาเนตเช่นกัน.พวกนี้แม้อยู่กรุงพนมเปญก็ต้องตายสถานเดียว,จรวดขีปนาวุธเราต้องล็อกพิกัดยิ่งถล่มใส่บ้านฮุนเซนฮุนมาเนตทันทีที่เกิดการปะทะรบกันอีกครั้งจะส่วนใดๆก็ตามจะอีสานใต้ตาควายก็ตาม ,บ่อนคาสิโนต้องถูกระเบิดทิ้งในทันทีด้วยจะกำลังรถถังหรือจรวดรถเคลื่อนที่เร็วเราก็ได้,จรวดทางทะเลต้องเปิดแนวยิงทันทีตัดตอนมันด้วย,พิกัดฐานทัพมันทั้งหมดล็อกเป้าทันที ดาวเทียมนภา1,2หรือตาเทียมทางอากาศเราต้องซูมการเคลื่อนไหวทั่วแนวรบเขมรทั้งหมดได้,เสียงปืนนัดแรกมาจากเขมร เรายิงถล่มจุดพิกัดที่ล็อกไว้แล้วทันทีทั้งหมดทันทีโดยเฉพาะบ้านฮุนเซนฮุนมาเนตทุกๆหลังทั่วประเทศเขมรที่มันอาศัยอยู่หรือเป็นที่หลบภัยมันนั้นเอง.
    ..และทันทีที่เขมรยิงเราก่อน เราอาจเจรจาลับกับลาวกับเวียดนามแล้วในข้อตกลงภาคีร่วมทำลายแหล่งอาชญากรรมโลกที่ประเทศเขมร สามารถร่วมเข้ามาปฏิบัติการได้เลย,หรือกำจัดภัยที่เป็นชาติล้มเหลวสะสมฮับอาชญากรไว้เต็มประเทศมิใช่สร้างประเทศเพื่อความสงบสันติร่วมกันบนโลก,ประเทศเขมรแบบพฤติกรรมอย่างนี้ต้องถูกกำจัดนั้นเอง.

    https://youtube.com/watch?v=QfcGb_T9wlc&si=xi2lDt_HjPbVWraX
    ทหารเขมรมีใจจะสังหารทหารไทยทุกๆคนแน่นอน,ทหารเขมรไว้ใจไม่ได้โดยเฉพาะทหารเก่าๆทหารเขมรแดงรุ่นเก่าๆและปัจจุบันด้วย เขาล้างสมองทหารพวกนี้แล้ว เราจึงไม่สามารถไว้ใจและเมตตากรุณาได้เมื่ออยู่สนามรบในปัจจุบัน ส่วนปฏิบัติมาฮุนเซนสั่งก็อีกเรื่องหรือเด็ดหัวฮุนเซนแม่ทัพก็อีกเรื่อง,จริงๆรบรอบนี้ ทหารไทยเราต้องตัดศักยภาพการรบทางทหารของเขมรให้เด็ดขาด ทหารเขมรรับบัญชาการมาจากฮุนเซน เราทหารไทยมีหน้าที่ตรงกำจัดคนบัญชาการการรบหรือกำจัดแม่ทัพมันไม่ว่ามันจะอยู่ส่วนไหนของเขมรต้องไล่ล่าเด็ดหัวกำจัดจริงในรอบนี้ตลอดหัวหน้ารองลงมาทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้นเพราะสั่งการรุกรานใช้กำลังทหารหมายสังหารทหารไทยยึดแผ่นดินไทยชัดเจนด้วย พวกนี้ต้องถูกกำจัดเด็ดหัวเหมือนฮุนเซนฮุนมาเนตเช่นกัน.พวกนี้แม้อยู่กรุงพนมเปญก็ต้องตายสถานเดียว,จรวดขีปนาวุธเราต้องล็อกพิกัดยิ่งถล่มใส่บ้านฮุนเซนฮุนมาเนตทันทีที่เกิดการปะทะรบกันอีกครั้งจะส่วนใดๆก็ตามจะอีสานใต้ตาควายก็ตาม ,บ่อนคาสิโนต้องถูกระเบิดทิ้งในทันทีด้วยจะกำลังรถถังหรือจรวดรถเคลื่อนที่เร็วเราก็ได้,จรวดทางทะเลต้องเปิดแนวยิงทันทีตัดตอนมันด้วย,พิกัดฐานทัพมันทั้งหมดล็อกเป้าทันที ดาวเทียมนภา1,2หรือตาเทียมทางอากาศเราต้องซูมการเคลื่อนไหวทั่วแนวรบเขมรทั้งหมดได้,เสียงปืนนัดแรกมาจากเขมร เรายิงถล่มจุดพิกัดที่ล็อกไว้แล้วทันทีทั้งหมดทันทีโดยเฉพาะบ้านฮุนเซนฮุนมาเนตทุกๆหลังทั่วประเทศเขมรที่มันอาศัยอยู่หรือเป็นที่หลบภัยมันนั้นเอง. ..และทันทีที่เขมรยิงเราก่อน เราอาจเจรจาลับกับลาวกับเวียดนามแล้วในข้อตกลงภาคีร่วมทำลายแหล่งอาชญากรรมโลกที่ประเทศเขมร สามารถร่วมเข้ามาปฏิบัติการได้เลย,หรือกำจัดภัยที่เป็นชาติล้มเหลวสะสมฮับอาชญากรไว้เต็มประเทศมิใช่สร้างประเทศเพื่อความสงบสันติร่วมกันบนโลก,ประเทศเขมรแบบพฤติกรรมอย่างนี้ต้องถูกกำจัดนั้นเอง. https://youtube.com/watch?v=QfcGb_T9wlc&si=xi2lDt_HjPbVWraX
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ”
    ตอนที่ 1
    International Crisis Group (ICG) ของนาย George Soros และพวก เช่น นาย Kenneth Adelman นัก lobby ใหญ่ ของไอ้โจรร้ายที่เขียนไปเมื่อวันที่ 15 ม.ค พ.ศ. 2557 นั้น เป็นองค์กรที่น่าสนใจไม่ใช่ระดับธรรมดา แต่เป็นองค์กรที่ตอนนี้ถ้าเป็นเพลง ก็เรียกว่าขึ้นอยู่ในระดับ top chart เพราะเป็นองค์กร ที่ดูเหมือนจะมีส่วนในการกำหนดชะตากรรมของหลายประเทศ ในหลายภูมิภาค พูดภาษาจิกโก๋เรียกว่า เป็นผู้จัดการฝ่าย Research and Development R& D วิเคราะห์และวางแผนการล่าเหยื่อ ให้แก่กลุ่มทุนอิทธิพลนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) และไทยแลนด์แดนสมันน้อย ก็น่าสงสัยว่าจะอยู่ในรายการ shopping list เหยื่ออันโอชะ (อีกแล้ว !)
    ตั้งแต่ไอ้โจรร้าย ร่อนเร่ไปอยู่นอกประเทศ เพราะคุณทหารเอารถถังออกมาวิ่งรับดอกไม้จากชาวกรุงเทพ! เมื่อปี พ.ศ. 2549 นั้น บางทีมันก็ทำให้ชะตาบางคนพลิกผัน เหมือนกับการปล่อยหมูเข้าเล้า หรือปล่อยหมาไนไว้ในทุ่งหญ้า อะไรทำนองนั้น หมาไนเคยแต่แทะกระดูกตลอด กว่าจะได้กินเนื้อก็เหนื่อยจนเบ้าตา เป็นเบ้าขนมครก (ฮา !) พอเจอนักล่าเอาเหยื่อมีเนื้อติดกระดูกมาล่อ ด้วยความตะกระ อันเป็นสันดาน ก็รีบเดินเข้าไปสู่กรงเล็บนักล่าอย่างเต็มใจ ว่าแล้วก็ดันจ้างนักล่ามาเป็นที่ปรึกษา ให้ล่าประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองอย่างสุดเลว ชั่วจริง ๆ !
    เพื่อจะเข้าใจปัจจุบัน ขอทบทวนอดีตสักหน่อย ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อ ปี ค.ศ. 1989 อเมริกามีทางเลือกในฐานะผู้มีอำนาจใหญ่ล้นโลก ที่จะทำให้โลกนี้ สู่สภาพการสิ้นสุดของสงครามเย็นอย่างจริงจัง และเปลี่ยนวิถีของโลกเสียใหม่ ไปสู่สันติภาพและความรุ่งเรือง
    อย่างแท้จริง หมดสงครามเย็น ยุติการเกลียดชัง การแก่งแย่งชิงดี การเหยียดทางเชื้อชาติและสู้รบระหว่างเผ่าพันธ์ การปิดกั้นเรื่องศาสนา ฯลฯ เปลี่ยนจากการทำลายล้าง ต่อสู้ เป็นการสร้างความเจริญแก่โลก และแก้ไขปัญหาความลำบากยากจนของพลเมืองโลกอย่างแท้จริง สมกับการเป็น
    พี่เบิ้ม
    เปล่าหรอก นั้นมันเป็นความน่าจะเป็น หรือความอยากให้เป็นของชาวโลก ที่จะได้เห็นอเมริกา เดินสู่เส้นทางนั้น ในทางตรงกันข้าม นอกจากอเมริกาจะไม่ทำอย่างนั้นแล้ว ภายใต้ประกาสิตของลัทธิ New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ ที่นาย Bush ตัวพ่อ ออกมาประกาศ
    เมื่อ ปี ค.ศ. 1990 ภายใต้การกำกับของกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล CFR อเมริกากลับเลือกที่จะทำทุกอย่าง ไม่ว่าการเป็นการสร้าง ทำลาย หลอก ลวง ต้มตุ๋น เพื่อที่จะควบคุมและครอบครองโลก
    ปี ค.ศ. 1997 นาย Zbigniew Brzezinski ปรมาจารย์ทางด้าน Geopolitics ที่มีอิทธิพลในทางความคิดกับกลุ่ม CFR อย่างยิ่ง ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Grand Chess Board ว่าอเมริกาจะครองโลกได้ ต้องควบคุมดินแดนที่เรียกว่า Eurasia ให้ได้เสียก่อน ดินแดนยูเรเซียคืออะไร คร่าว ๆ คือ ทวีปยุโรปกับทวีปเอเซียรวมกัน เป็นดินแดนที่มีเนื้อที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่โลก มีประชากรประมาณเกือบห้าพันล้านคน หรือประมาณกว่า 70% ของพลเมืองโลก และมีก๊าซและน้ำมัน ประมาณ 3 ใน 4 ของโลก คิดดูแล้วกัน มันเป็นเหยื่อกลุ่มใหญ่ รสโอชา น่ารับประทานขนาดไหนของกลุ่มนักล่า
    เมื่อคิดจะล่ากันเป็นล่ำเป็นสันอีกรอบ ในฐานะพี่เบิ้มใหญ่ คุมซอยเดียวไม่พอ มันต้องคุมทั้งเมือง ว่าแล้ว สงครามรูปแบบใหม่ จึงกลับฟื้นคืนชีพมาใหม่ แต่เปลี่ยนเครื่องทรง แต่งหน้าใหม่ ตามยุทธศาสตร์ ที่กำหนดโดย Project of the New American Century หรือ PNAC ที่
    ออกมาในปี ค.ศ. 1997 นั่นเอง ผู้อำนวยการสร้าง PNAC ไม่ใช่ใครอื่น CFR จัดส่งมาให้ทั้งแก๊ง แสดงนำโดย นาย Paul Wolfowitz, นาย R James Woolsey, นาย Donald Rumsfeld และนาย Robert Zoellick เป็นต้น เป้าหมายของ PNAC คือ เพื่อให้อเมริกาครองโลก (promote American global leadership) จะครองโลกได้ ก็ต้องมีกองทัพที่แข็งแกร่ง อเมริกาเริ่มจัดรูปแบบกองทัพ ฐานทัพ และสร้างอาวุธใหม่ ๆ ขึ้น แค่นั้นยังดูไม่เอาจริงพอ ในปี ค.ศ. 2000 PNAC ออกรายงานมาอีกชื่อ Rebuilding Americas Defenses : Strategies, Forces and Resources for a New Century
    เห็นหัวข้อรายงานก็พอจะเดาทิศทาง การเดินหมากของอเมริกาในศตวรรษใหม่ได้
    ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่กำหนดโดย PNAC ดังกล่าว เหยื่อที่ถูกเลือกให้ทดลองทฤษฎีใหม่ คือ Saddam Hussein สงครามอีรัคเกิดขึ้น ตั้งแต่ ค.ศ. 2003 ถึง 2011 ความเสียหายมีมาก เมื่อเทียบกับผลที่ได้มา ก้อนอิฐปาใส่มากกว่าดอกไม้ ยุทธศาสตร์ ตาม PNAC เน้นทางการทหาร
    มากกว่าการฑูต เหยี่ยวขยับปีกมากไปหน่อย จึงมีความคิดที่จะเอานกพิราบมาใช้แทน แต่ขอโทษ เป็นนกพิราบที่ติดกรงเล็บเหยี่ยว แถมไม่ใช่เล็บธรรมดา ในเล็บยังใส่ยาพิษไว้อีก
    ทฤษฎีนกพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวไม่ใช่เรื่องใหม่ ถ้าเราจะจำกันได้ เรื่องอิหร่าน ตั้งแต่อังกฤษจับมือกับอเมริกา ปลดนาย Mossadegh ในปี ค.ศ. 1953 โทษฐานที่รู้ทันไม่ยอมถูกฝรั่งต้มต่อ และในค.ศ. 1997 นกพิราบสายพันธ์เดิมก็ถูกนำมาใช้ในการปลดกลางอากาศ Shah โทษฐาน
    เล่นผิดบท และเอา Ayatollah Khomeini มาปกครองอิหร่าน ท่านผู้อ่านนิทานมายากลยุทธ มาแล้ว โปรดอย่าลืม อิหร่าน Model ทั้ง 2 รายการ เป็น Model ที่น่าสนใจ และมีนัยลึกซึ้ง โปรดอ่านทบทวน และน่าจะศึกษาเพิ่มเติมด้วย เผื่อจะเข้าใจหัวคิดและจิตใจอันแสนร้าย ของนักล่ามากขึ้น วันไหนเขานึกจะเล่น Model อิหร่านกับสมันน้อย จะได้รู้ตัว และต่อต้าน หรือต่อสู้ถูกทาง
    นกพิราบติดกรงเหยี่ยว ถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการ ที่ CIA มักเรียก วิธีการอื่น ส่วนมากเป็นการปฏิบัติการ สำหรับการล้มล้าง ระบอบหรือรัฐบาล ผู้นำประเทศ ผู้บริหารประเทศ ที่อเมริกาเห็นว่าไม่เป็นมิตร หรือไม่เป็นประโยชน์ ไม่สมประโยชน์ หรือขัดใจ ขวางทางทำมาหากินหรือตรงข้ามกับแนวคิดของอเมริกา ปฏิบัติการนี้ก็จะถูกนำมาใช้ เพื่อเอาหมากตัวใหม่หรือไพ่ใบใหม่ มาเล่นแทน โดยไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพของอเมริกาให้เปลืองแรง เปลืองเงิน ก็แค่นั้น
    แต่พอเป็นศตวรรษใหม่ New Century แล้ว จะใช้ CIA เล่นโดด ๆ มันก็เหมือนไม่มีงบมาเติมเงินนั้นแหละ (ฮา !) ก็ต้องสร้างงานกันหน่อย เมื่อเห็นว่าการยกทัพจับศึกอย่างที่ทำในอิรัค มันไม่เข้าท่า ถูกด่ามากกว่าถูกสรรเสริฐ เขาก็เปลี่ยนวิชามารใหม่ อย่างว่า การตั้งสถาบันต่าง ๆ จึงผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด (แหม ! กว่าจะโยงถึง ICG ต้องไปวิ่งอ้อมถึงสนามหลวง) สถาบันพวกนี้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพ แต่ปูทางไว้ เพื่อให้กองทัพเข้ามาได้ง่ายขึ้น

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ” ตอนที่ 1 International Crisis Group (ICG) ของนาย George Soros และพวก เช่น นาย Kenneth Adelman นัก lobby ใหญ่ ของไอ้โจรร้ายที่เขียนไปเมื่อวันที่ 15 ม.ค พ.ศ. 2557 นั้น เป็นองค์กรที่น่าสนใจไม่ใช่ระดับธรรมดา แต่เป็นองค์กรที่ตอนนี้ถ้าเป็นเพลง ก็เรียกว่าขึ้นอยู่ในระดับ top chart เพราะเป็นองค์กร ที่ดูเหมือนจะมีส่วนในการกำหนดชะตากรรมของหลายประเทศ ในหลายภูมิภาค พูดภาษาจิกโก๋เรียกว่า เป็นผู้จัดการฝ่าย Research and Development R& D วิเคราะห์และวางแผนการล่าเหยื่อ ให้แก่กลุ่มทุนอิทธิพลนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) และไทยแลนด์แดนสมันน้อย ก็น่าสงสัยว่าจะอยู่ในรายการ shopping list เหยื่ออันโอชะ (อีกแล้ว !) ตั้งแต่ไอ้โจรร้าย ร่อนเร่ไปอยู่นอกประเทศ เพราะคุณทหารเอารถถังออกมาวิ่งรับดอกไม้จากชาวกรุงเทพ! เมื่อปี พ.ศ. 2549 นั้น บางทีมันก็ทำให้ชะตาบางคนพลิกผัน เหมือนกับการปล่อยหมูเข้าเล้า หรือปล่อยหมาไนไว้ในทุ่งหญ้า อะไรทำนองนั้น หมาไนเคยแต่แทะกระดูกตลอด กว่าจะได้กินเนื้อก็เหนื่อยจนเบ้าตา เป็นเบ้าขนมครก (ฮา !) พอเจอนักล่าเอาเหยื่อมีเนื้อติดกระดูกมาล่อ ด้วยความตะกระ อันเป็นสันดาน ก็รีบเดินเข้าไปสู่กรงเล็บนักล่าอย่างเต็มใจ ว่าแล้วก็ดันจ้างนักล่ามาเป็นที่ปรึกษา ให้ล่าประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองอย่างสุดเลว ชั่วจริง ๆ ! เพื่อจะเข้าใจปัจจุบัน ขอทบทวนอดีตสักหน่อย ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อ ปี ค.ศ. 1989 อเมริกามีทางเลือกในฐานะผู้มีอำนาจใหญ่ล้นโลก ที่จะทำให้โลกนี้ สู่สภาพการสิ้นสุดของสงครามเย็นอย่างจริงจัง และเปลี่ยนวิถีของโลกเสียใหม่ ไปสู่สันติภาพและความรุ่งเรือง อย่างแท้จริง หมดสงครามเย็น ยุติการเกลียดชัง การแก่งแย่งชิงดี การเหยียดทางเชื้อชาติและสู้รบระหว่างเผ่าพันธ์ การปิดกั้นเรื่องศาสนา ฯลฯ เปลี่ยนจากการทำลายล้าง ต่อสู้ เป็นการสร้างความเจริญแก่โลก และแก้ไขปัญหาความลำบากยากจนของพลเมืองโลกอย่างแท้จริง สมกับการเป็น พี่เบิ้ม เปล่าหรอก นั้นมันเป็นความน่าจะเป็น หรือความอยากให้เป็นของชาวโลก ที่จะได้เห็นอเมริกา เดินสู่เส้นทางนั้น ในทางตรงกันข้าม นอกจากอเมริกาจะไม่ทำอย่างนั้นแล้ว ภายใต้ประกาสิตของลัทธิ New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ ที่นาย Bush ตัวพ่อ ออกมาประกาศ เมื่อ ปี ค.ศ. 1990 ภายใต้การกำกับของกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล CFR อเมริกากลับเลือกที่จะทำทุกอย่าง ไม่ว่าการเป็นการสร้าง ทำลาย หลอก ลวง ต้มตุ๋น เพื่อที่จะควบคุมและครอบครองโลก ปี ค.ศ. 1997 นาย Zbigniew Brzezinski ปรมาจารย์ทางด้าน Geopolitics ที่มีอิทธิพลในทางความคิดกับกลุ่ม CFR อย่างยิ่ง ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Grand Chess Board ว่าอเมริกาจะครองโลกได้ ต้องควบคุมดินแดนที่เรียกว่า Eurasia ให้ได้เสียก่อน ดินแดนยูเรเซียคืออะไร คร่าว ๆ คือ ทวีปยุโรปกับทวีปเอเซียรวมกัน เป็นดินแดนที่มีเนื้อที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่โลก มีประชากรประมาณเกือบห้าพันล้านคน หรือประมาณกว่า 70% ของพลเมืองโลก และมีก๊าซและน้ำมัน ประมาณ 3 ใน 4 ของโลก คิดดูแล้วกัน มันเป็นเหยื่อกลุ่มใหญ่ รสโอชา น่ารับประทานขนาดไหนของกลุ่มนักล่า เมื่อคิดจะล่ากันเป็นล่ำเป็นสันอีกรอบ ในฐานะพี่เบิ้มใหญ่ คุมซอยเดียวไม่พอ มันต้องคุมทั้งเมือง ว่าแล้ว สงครามรูปแบบใหม่ จึงกลับฟื้นคืนชีพมาใหม่ แต่เปลี่ยนเครื่องทรง แต่งหน้าใหม่ ตามยุทธศาสตร์ ที่กำหนดโดย Project of the New American Century หรือ PNAC ที่ ออกมาในปี ค.ศ. 1997 นั่นเอง ผู้อำนวยการสร้าง PNAC ไม่ใช่ใครอื่น CFR จัดส่งมาให้ทั้งแก๊ง แสดงนำโดย นาย Paul Wolfowitz, นาย R James Woolsey, นาย Donald Rumsfeld และนาย Robert Zoellick เป็นต้น เป้าหมายของ PNAC คือ เพื่อให้อเมริกาครองโลก (promote American global leadership) จะครองโลกได้ ก็ต้องมีกองทัพที่แข็งแกร่ง อเมริกาเริ่มจัดรูปแบบกองทัพ ฐานทัพ และสร้างอาวุธใหม่ ๆ ขึ้น แค่นั้นยังดูไม่เอาจริงพอ ในปี ค.ศ. 2000 PNAC ออกรายงานมาอีกชื่อ Rebuilding Americas Defenses : Strategies, Forces and Resources for a New Century เห็นหัวข้อรายงานก็พอจะเดาทิศทาง การเดินหมากของอเมริกาในศตวรรษใหม่ได้ ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่กำหนดโดย PNAC ดังกล่าว เหยื่อที่ถูกเลือกให้ทดลองทฤษฎีใหม่ คือ Saddam Hussein สงครามอีรัคเกิดขึ้น ตั้งแต่ ค.ศ. 2003 ถึง 2011 ความเสียหายมีมาก เมื่อเทียบกับผลที่ได้มา ก้อนอิฐปาใส่มากกว่าดอกไม้ ยุทธศาสตร์ ตาม PNAC เน้นทางการทหาร มากกว่าการฑูต เหยี่ยวขยับปีกมากไปหน่อย จึงมีความคิดที่จะเอานกพิราบมาใช้แทน แต่ขอโทษ เป็นนกพิราบที่ติดกรงเล็บเหยี่ยว แถมไม่ใช่เล็บธรรมดา ในเล็บยังใส่ยาพิษไว้อีก ทฤษฎีนกพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวไม่ใช่เรื่องใหม่ ถ้าเราจะจำกันได้ เรื่องอิหร่าน ตั้งแต่อังกฤษจับมือกับอเมริกา ปลดนาย Mossadegh ในปี ค.ศ. 1953 โทษฐานที่รู้ทันไม่ยอมถูกฝรั่งต้มต่อ และในค.ศ. 1997 นกพิราบสายพันธ์เดิมก็ถูกนำมาใช้ในการปลดกลางอากาศ Shah โทษฐาน เล่นผิดบท และเอา Ayatollah Khomeini มาปกครองอิหร่าน ท่านผู้อ่านนิทานมายากลยุทธ มาแล้ว โปรดอย่าลืม อิหร่าน Model ทั้ง 2 รายการ เป็น Model ที่น่าสนใจ และมีนัยลึกซึ้ง โปรดอ่านทบทวน และน่าจะศึกษาเพิ่มเติมด้วย เผื่อจะเข้าใจหัวคิดและจิตใจอันแสนร้าย ของนักล่ามากขึ้น วันไหนเขานึกจะเล่น Model อิหร่านกับสมันน้อย จะได้รู้ตัว และต่อต้าน หรือต่อสู้ถูกทาง นกพิราบติดกรงเหยี่ยว ถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการ ที่ CIA มักเรียก วิธีการอื่น ส่วนมากเป็นการปฏิบัติการ สำหรับการล้มล้าง ระบอบหรือรัฐบาล ผู้นำประเทศ ผู้บริหารประเทศ ที่อเมริกาเห็นว่าไม่เป็นมิตร หรือไม่เป็นประโยชน์ ไม่สมประโยชน์ หรือขัดใจ ขวางทางทำมาหากินหรือตรงข้ามกับแนวคิดของอเมริกา ปฏิบัติการนี้ก็จะถูกนำมาใช้ เพื่อเอาหมากตัวใหม่หรือไพ่ใบใหม่ มาเล่นแทน โดยไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพของอเมริกาให้เปลืองแรง เปลืองเงิน ก็แค่นั้น แต่พอเป็นศตวรรษใหม่ New Century แล้ว จะใช้ CIA เล่นโดด ๆ มันก็เหมือนไม่มีงบมาเติมเงินนั้นแหละ (ฮา !) ก็ต้องสร้างงานกันหน่อย เมื่อเห็นว่าการยกทัพจับศึกอย่างที่ทำในอิรัค มันไม่เข้าท่า ถูกด่ามากกว่าถูกสรรเสริฐ เขาก็เปลี่ยนวิชามารใหม่ อย่างว่า การตั้งสถาบันต่าง ๆ จึงผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด (แหม ! กว่าจะโยงถึง ICG ต้องไปวิ่งอ้อมถึงสนามหลวง) สถาบันพวกนี้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพ แต่ปูทางไว้ เพื่อให้กองทัพเข้ามาได้ง่ายขึ้น คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 250 Views 0 Reviews
  • น้ำที่ไม่ปลอดภัย – เมื่อไซเบอร์สงครามเริ่มจากก๊อกน้ำ

    ในเดือนสิงหาคม 2025 เกิดเหตุการณ์สองครั้งที่สะท้อนถึงภัยคุกคามไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในยุโรป ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซีย

    เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ เมื่อมีผู้เจาะระบบควบคุมและเปิดวาล์วปล่อยน้ำเป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง แม้จะไม่มีความเสียหาย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบจริงได้ โดยมีวิดีโอเผยแพร่บน Telegram ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Z-Pentest Alliance ที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซีย

    เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในโปแลนด์ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Krzysztof Gawkowski เปิดเผยว่ามีความพยายามโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ทันเวลา เขาเปรียบเทียบว่า “รัสเซียอาจไม่ส่งรถถัง แต่ส่งมัลแวร์แทน”

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็น “การหยั่งเชิง” ที่อาจนำไปสู่การโจมตีขนาดใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบน้ำที่มักขาดงบประมาณและบุคลากรด้านไซเบอร์

    แม้ผู้โจมตีจะดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่การควบคุมระบบจริงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และการใช้ช่องโหว่ เช่น รหัสผ่านอ่อนแอ หรือ HMI ที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจุดอ่อนที่พบได้ทั่วไป

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ โดยเปิดวาล์วปล่อยน้ำ 4 ชั่วโมง
    โปแลนด์สกัดการโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่ได้ทันเวลา
    กลุ่ม Z-Pentest Alliance ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีในนอร์เวย์
    วิดีโอการโจมตีถูกเผยแพร่บน Telegram พร้อมเพลงรัสเซีย
    ผู้โจมตีใช้ HMI ที่เปิดผ่านอินเทอร์เน็ตและรหัสผ่านอ่อนแอ
    ไม่มีความเสียหายทางกายภาพ แต่มีการควบคุมระบบจริง
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” ก่อนการโจมตีใหญ่
    ระบบน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญแต่ขาดการป้องกัน
    สหรัฐฯ และยุโรปควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือน
    โครงการ Cyber Peace Initiative และ DEF CON Franklin เสนอความช่วยเหลือฟรีแก่ระบบน้ำ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    โปแลนด์เผชิญการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียวันละ 300 ครั้ง
    ในปี 2024 รัสเซียเคยโจมตีระบบน้ำในเท็กซัสจนถังน้ำล้น
    ระบบน้ำในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบไซเบอร์เต็มรูปแบบ
    การโจมตีระบบ OT (Operational Technology) มักใช้กลุ่มแฮกเกอร์มือสมัครเล่นเป็นตัวแทน
    การโจมตีระบบน้ำสามารถสร้างความหวาดกลัวและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน
    การควบคุมวาล์วแบบเรียลไทม์แสดงถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการที่ร้ายแรง

    https://www.csoonline.com/article/4042449/russia-linked-european-attacks-renew-concerns-over-water-cybersecurity.html
    🕵️‍♂️ น้ำที่ไม่ปลอดภัย – เมื่อไซเบอร์สงครามเริ่มจากก๊อกน้ำ ในเดือนสิงหาคม 2025 เกิดเหตุการณ์สองครั้งที่สะท้อนถึงภัยคุกคามไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในยุโรป ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซีย เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ เมื่อมีผู้เจาะระบบควบคุมและเปิดวาล์วปล่อยน้ำเป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง แม้จะไม่มีความเสียหาย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบจริงได้ โดยมีวิดีโอเผยแพร่บน Telegram ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Z-Pentest Alliance ที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซีย เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในโปแลนด์ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Krzysztof Gawkowski เปิดเผยว่ามีความพยายามโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ทันเวลา เขาเปรียบเทียบว่า “รัสเซียอาจไม่ส่งรถถัง แต่ส่งมัลแวร์แทน” ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็น “การหยั่งเชิง” ที่อาจนำไปสู่การโจมตีขนาดใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบน้ำที่มักขาดงบประมาณและบุคลากรด้านไซเบอร์ แม้ผู้โจมตีจะดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่การควบคุมระบบจริงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และการใช้ช่องโหว่ เช่น รหัสผ่านอ่อนแอ หรือ HMI ที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจุดอ่อนที่พบได้ทั่วไป 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ โดยเปิดวาล์วปล่อยน้ำ 4 ชั่วโมง ➡️ โปแลนด์สกัดการโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่ได้ทันเวลา ➡️ กลุ่ม Z-Pentest Alliance ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีในนอร์เวย์ ➡️ วิดีโอการโจมตีถูกเผยแพร่บน Telegram พร้อมเพลงรัสเซีย ➡️ ผู้โจมตีใช้ HMI ที่เปิดผ่านอินเทอร์เน็ตและรหัสผ่านอ่อนแอ ➡️ ไม่มีความเสียหายทางกายภาพ แต่มีการควบคุมระบบจริง ➡️ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” ก่อนการโจมตีใหญ่ ➡️ ระบบน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญแต่ขาดการป้องกัน ➡️ สหรัฐฯ และยุโรปควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือน ➡️ โครงการ Cyber Peace Initiative และ DEF CON Franklin เสนอความช่วยเหลือฟรีแก่ระบบน้ำ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ โปแลนด์เผชิญการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียวันละ 300 ครั้ง ➡️ ในปี 2024 รัสเซียเคยโจมตีระบบน้ำในเท็กซัสจนถังน้ำล้น ➡️ ระบบน้ำในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบไซเบอร์เต็มรูปแบบ ➡️ การโจมตีระบบ OT (Operational Technology) มักใช้กลุ่มแฮกเกอร์มือสมัครเล่นเป็นตัวแทน ➡️ การโจมตีระบบน้ำสามารถสร้างความหวาดกลัวและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน ➡️ การควบคุมวาล์วแบบเรียลไทม์แสดงถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการที่ร้ายแรง https://www.csoonline.com/article/4042449/russia-linked-european-attacks-renew-concerns-over-water-cybersecurity.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Russia-linked European attacks renew concerns over water cybersecurity
    Suspected sabotage in Norway and a foiled cyberattack in Poland highlight the growing risk to under-protected water utilities, experts warn.
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • มาดามรถถังลั่น พร้อมสนับสนุนทหารไทยเต็มที่!!! [19/8/68]

    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #SAVEThailand
    #ThaiTimes
    #news1
    #shorts
    #SupportThaiArmy
    #StandWithThailand
    #MadamTank
    #BorderDefense
    มาดามรถถังลั่น พร้อมสนับสนุนทหารไทยเต็มที่!!! [19/8/68] #TruthFromThailand #scambodia #SAVEThailand #ThaiTimes #news1 #shorts #SupportThaiArmy #StandWithThailand #MadamTank #BorderDefense
    0 Comments 0 Shares 226 Views 0 0 Reviews
  • “มาดามรถถัง” ยัน! พร้อมหนุนกองทัพ...ส่งช่าง-อะไหล่-โดรน...ช่วยซ่อมยุทโธปกรณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา...ไม่มีค่าใช้จ่าย
    https://www.thai-tai.tv/news/21006/
    .
    #มาดามรถถัง #ชัยเสรี #กองทัพบก #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวความมั่นคง #ไทยไท
    “มาดามรถถัง” ยัน! พร้อมหนุนกองทัพ...ส่งช่าง-อะไหล่-โดรน...ช่วยซ่อมยุทโธปกรณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา...ไม่มีค่าใช้จ่าย https://www.thai-tai.tv/news/21006/ . #มาดามรถถัง #ชัยเสรี #กองทัพบก #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวความมั่นคง #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • มาดามรถถังมาแล้ว! เพื่อทหารและแผ่นดินไทย [18/8/68]
    Madam Tank has arrived! For Thai soldiers and the motherland!

    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #MadamTank
    #SaveThaiArmy
    #ThaiTimes
    #news1
    #shorts
    มาดามรถถังมาแล้ว! เพื่อทหารและแผ่นดินไทย [18/8/68] Madam Tank has arrived! For Thai soldiers and the motherland! #TruthFromThailand #scambodia #MadamTank #SaveThaiArmy #ThaiTimes #news1 #shorts
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 0 Reviews
  • กราบสวัสดีคุณอาสนธิที่เคารพ‍"หนูได้ฟังคุณอาในรายการเมื่อวันศุกร์ที่8ส.ค.2568"แล้วคุณอาโจมตีแต่ลุงตู่ในแง่ร้ายๆในช่วงนี้หนูเองก็ยังไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย "กับสถานการณ์ในปัจจุบัน ณ.ขณะนี้ อาเปิดคลิปเสียงการสนทนาของพ่อสามีคุณหมิวกับโทนี่ที่พูดถึงลุงตู่ แล้วอีกคลิปที่ผญ.คนนั้นพูดล่ะคะไม่มีใครเปิดเลย อีกอย่างหนึ่ง!!ทำไมไม่ด่ารัฐบาล"นักการเมืองชั่วที่กำลังจัดฉากละครโดยใช้ชีวิตประชาชนและทหารต้องมาตายโดยเพื่อผลประโยชน์ของพวกมันคือทรัพยากรในอ่าวไทย"ด่าพวกมันซิคะมันกำลังทำอยู่ตอนนี้ ทหารกำลังรบได้เปรียบกับบอกให้หยุดรบทำให้ทหารต้องเอาชีวิตเข้าแรกเจรจาหยุดยิงอะไรแม้ตอนนี้"กัมพูชามันยังไม่หยุดยิงเลย โดรนบินทั่วไปหมดไม่หยุดลอบวางระเบิดวันนี้ทหารก็มีตายเพิ่ม ขาขาดบาดเจ็บทุกวันไม่มีท่าทีที่จะหยุดคนไทยหัวใจไทยต้องเจ็บปวดไปด้วยกันแน่นอนที่ต้องมาสูญเสียลูกหลานไทยเลือดไหลไม่หยุดเลย น้ำตาคนไทยไหลเป็นเลือดแล้ว"รัฐบาลนักการเมืองที่มีใจเข้าข้างเขมรแต่รับเงินเดือนจากภาษีประชาชนไทยมันโคตรเจ็บปวดชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังต้องอยู่กับความหวาดกลัว"โดรนเขมรก็ยังบินอยู่ทั่วบนหลังบ้าน,โรงพยาบาล,โรงเรียน ประชาชนยังไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลยเข้าไร่สวนก็กลัว บางคนไม่มีบ้านให้กลับแล้วไฟไหม้ไม่เหลืออะไรเครียดจนต้องผูกคอตาย ทุกวันไทยต้องมีรายงานว่าสูญเสียทหารตาย พวกเขาก็คือลูกหลานของเรานะ#หนูไม่ได้บอกว่าลุงตู่เป็นเทวดาจะด่าหรือทำอะไรดีไปหมดไม่ใช่ "แต่ถ้าถามว่าไอ#MOU43-44มันเกิดขึ้นจากใครกี่สิบปีแล้วใครมันเป็นคนเริ่มสมรู้ร่วมคิดไหม"รู้เท่าไม่ถึงการงั้นหรือ?"อมวัดมาพูดใครจะเชื่อ."รัฐบาลที่รักษาการอยู่ตอนนี้อยู่ฝ่ายตรงข้ามของแม่ทัพภาค2..ปชช.คนไทยไม่สามารถให้บริหารหรือมาสั่งให้ทหารหันซ้ายหันขวาได้อีกต่อไปแล้ว "ยามนี้ประชาชนไทยจะมีใครที่เราหวังพึ่งได้อยู่บ้างนอกจากทหาร นอกนั้นก็มองไม่เห็นเลย"ทหารกำลังรบได้เปรียบศัตรูก็มีไส้ศึกเป่านกหวีดให้หยุดเพื่อให้อีกฝ่ายได้พัก เพื่ออะไร เจรจาหยุดยิงเจรจาทำไม?ไทยไม่ได้อะไรเลยกับเสียเปรียบทำให้อีกฝ่ายมีเวลาได้จัดทัพเตรียมอาวุธสะสมกำลังเพิ่ม เงินมืดมันก็เยอะแล้วฝ่ายไทยละมีคนขายชาติยังลักลอบขนอาวุธส่งไปให้ไหมแล้วน้ำมันยังมีคนในไทยจัดส่งให้อยู่เลยเสบียงอาหารพวกมันก็มีคนในไทยจัดส่งให้คนชายแดนเขารู้กันทั้งนั้น ถ้าอีกฝ่ายไม่มีน้ำมันๆจะเอารถถังออกมาวิ่งได้ยังไง มันไม่มีเน็ตจะจับพิกัดยังไง ไม่มีเสบียงกองทัพมันจะเอาแรงที่ไหนมารบ?หลายๆอย่างเป็นสิ่งที่แม้เด็กอนุบาลยังรู้เลยฝ่ายการเมืองฝ่ายความมั่นคงไม่รู้งั้นหรือ?อยากให้ไทยเป็นซีเรียไหม?"ยังไงกัมพูชามันก็กำลังเป็นยูเครนอยู่แล้วแต่คงไม่ต้องใช้เวลามากเท่ายูเครนหรอกพื้นที่นิดเดียวแป๊บเดียวก็หมด.."#ส่วนประเทศไทยประชาชนที่ยากจนก็คงตายอยู่ในแผ่นดินนี้แหละ90%อีก1%มันก็มีกำลังหนีออกนอกประเทศไปได้เพราะมันมีเงิน#หมดหวังหดหู่มากกับประเทศในยามนี้ ไม่รู้เราจะยังเชื่อใจใครได้อยู่บ้าง???
    กราบสวัสดีคุณอาสนธิที่เคารพ🙇‍♀️"หนูได้ฟังคุณอาในรายการเมื่อวันศุกร์ที่8ส.ค.2568"แล้วคุณอาโจมตีแต่ลุงตู่ในแง่ร้ายๆในช่วงนี้หนูเองก็ยังไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย "กับสถานการณ์ในปัจจุบัน ณ.ขณะนี้ อาเปิดคลิปเสียงการสนทนาของพ่อสามีคุณหมิวกับโทนี่ที่พูดถึงลุงตู่ แล้วอีกคลิปที่ผญ.คนนั้นพูดล่ะคะไม่มีใครเปิดเลย อีกอย่างหนึ่ง!!ทำไมไม่ด่ารัฐบาล"นักการเมืองชั่วที่กำลังจัดฉากละครโดยใช้ชีวิตประชาชนและทหารต้องมาตายโดยเพื่อผลประโยชน์ของพวกมันคือทรัพยากรในอ่าวไทย"ด่าพวกมันซิคะมันกำลังทำอยู่ตอนนี้ ทหารกำลังรบได้เปรียบกับบอกให้หยุดรบทำให้ทหารต้องเอาชีวิตเข้าแรกเจรจาหยุดยิงอะไรแม้ตอนนี้"กัมพูชามันยังไม่หยุดยิงเลย โดรนบินทั่วไปหมดไม่หยุดลอบวางระเบิดวันนี้ทหารก็มีตายเพิ่ม ขาขาดบาดเจ็บทุกวันไม่มีท่าทีที่จะหยุดคนไทยหัวใจไทยต้องเจ็บปวดไปด้วยกันแน่นอนที่ต้องมาสูญเสียลูกหลานไทยเลือดไหลไม่หยุดเลย น้ำตาคนไทยไหลเป็นเลือดแล้ว"รัฐบาลนักการเมืองที่มีใจเข้าข้างเขมรแต่รับเงินเดือนจากภาษีประชาชนไทยมันโคตรเจ็บปวดชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังต้องอยู่กับความหวาดกลัว"โดรนเขมรก็ยังบินอยู่ทั่วบนหลังบ้าน,โรงพยาบาล,โรงเรียน ประชาชนยังไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลยเข้าไร่สวนก็กลัว บางคนไม่มีบ้านให้กลับแล้วไฟไหม้ไม่เหลืออะไรเครียดจนต้องผูกคอตาย ทุกวันไทยต้องมีรายงานว่าสูญเสียทหารตาย พวกเขาก็คือลูกหลานของเรานะ#หนูไม่ได้บอกว่าลุงตู่เป็นเทวดาจะด่าหรือทำอะไรดีไปหมดไม่ใช่ "แต่ถ้าถามว่าไอ#MOU43-44มันเกิดขึ้นจากใครกี่สิบปีแล้วใครมันเป็นคนเริ่มสมรู้ร่วมคิดไหม"รู้เท่าไม่ถึงการงั้นหรือ?"อมวัดมาพูดใครจะเชื่อ❌."รัฐบาลที่รักษาการอยู่ตอนนี้อยู่ฝ่ายตรงข้ามของแม่ทัพภาค2..ปชช.คนไทยไม่สามารถให้บริหารหรือมาสั่งให้ทหารหันซ้ายหันขวาได้อีกต่อไปแล้ว "ยามนี้ประชาชนไทยจะมีใครที่เราหวังพึ่งได้อยู่บ้างนอกจากทหาร นอกนั้นก็มองไม่เห็นเลย"ทหารกำลังรบได้เปรียบศัตรูก็มีไส้ศึกเป่านกหวีดให้หยุดเพื่อให้อีกฝ่ายได้พัก เพื่ออะไร เจรจาหยุดยิงเจรจาทำไม?ไทยไม่ได้อะไรเลยกับเสียเปรียบทำให้อีกฝ่ายมีเวลาได้จัดทัพเตรียมอาวุธสะสมกำลังเพิ่ม เงินมืดมันก็เยอะแล้วฝ่ายไทยละมีคนขายชาติยังลักลอบขนอาวุธส่งไปให้ไหมแล้วน้ำมันยังมีคนในไทยจัดส่งให้อยู่เลยเสบียงอาหารพวกมันก็มีคนในไทยจัดส่งให้คนชายแดนเขารู้กันทั้งนั้น ถ้าอีกฝ่ายไม่มีน้ำมันๆจะเอารถถังออกมาวิ่งได้ยังไง มันไม่มีเน็ตจะจับพิกัดยังไง ไม่มีเสบียงกองทัพมันจะเอาแรงที่ไหนมารบ?หลายๆอย่างเป็นสิ่งที่แม้เด็กอนุบาลยังรู้เลยฝ่ายการเมืองฝ่ายความมั่นคงไม่รู้งั้นหรือ?อยากให้ไทยเป็นซีเรียไหม?"ยังไงกัมพูชามันก็กำลังเป็นยูเครนอยู่แล้วแต่คงไม่ต้องใช้เวลามากเท่ายูเครนหรอกพื้นที่นิดเดียวแป๊บเดียวก็หมด..💣🔥"#ส่วนประเทศไทยประชาชนที่ยากจนก็คงตายอยู่ในแผ่นดินนี้แหละ90%อีก1%มันก็มีกำลังหนีออกนอกประเทศไปได้เพราะมันมีเงิน💸💰#😔หมดหวังหดหู่มากกับประเทศในยามนี้ ไม่รู้เราจะยังเชื่อใจใครได้อยู่บ้าง???
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 363 Views 0 Reviews
  • ..mou43/44ขายชาติชัดเจน,บวกให้เขมรที่อ้างต่างชาติเช่าที่ไทยได้99ปีหรือต่างชาติเช่าที่ดินไทยได้99ปี สมควรถือว่าขายชาติด้วย,ออกกฎหมายอะไรก็ได้เมื่อตนเองมีอำนาจถือว่าใช้ไม่ได้,มีอำนาจแบบปัจจุบันถ้าล่าสุดทรัมป์ต้องการพังงานหรือตารางพื้นที่ใดๆบนแผ่นดินไทยด้วยที่อ้างว่าตนมีอำนาจก็จะยกสิ่งที่ว่านี้ไปให้อเมริกาได้แน่นอนเช่นกันหรือเช่าที่พังงา999ปีหรือ1,000ปีก็ได้เพราะกูมีอำนาจเต็มมือจะเป็นอะไร 99ปีก็ปล่อยเช่าที่ดินได้,1:200,000ก็ปล่อยให้ล้ำพื้นที่ดินไทยจาก1:50,000ก็ได้,กูจะเขียนจะตกลงจะกอดข้อตกลงหรือไม่ยกเลิกอย่างไรก็ได้มันว่า.,เพราะถ้าแน่จริงมรึงทหารยึดอำนาจกูสิ,ตอนนี้ก็ไม่เห็นกล้ายึดอำนาจอะไรเพราะกูเขียนดักคอพวกรักชาติไว้แล้วหากยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารมรึงผิดกฎหมายเลยนะโทษประหารเลย นี้ฝีมือคนขายชาติทรยศชาติแบบกูที่เขียนดักคอประชาชนหน้าโง่ทหารไทยหน้าโง่แบบมรึงรอไว้ล่วงหน้าแล้ว กูยึดอำนาจรุ่นสุดท้ายโว้ย.,ผลงานกูเขมรมาเลย กูสั่งยิงแค่ปืนคอได้แค่นั้น เขมรจะยิงรถถังอาวุธหนักอะไรใส่ทหารไทยตามสบายเลย กูช่วยมรึงทหารเขมรเต็มที่แล้ว ถ้ากูสั่งเครื่องบินออกมามรึงเป็นปุ๋ยแบบปัจจุบันนี้แน่นอน,เอาเต็มที่เลยยึด11จุดตลอดพรมแดนไทยก็ได้ กูจะอ้างว่าค้าขายร่วมกันแทนหรอกคนไทยทหารไทยหลอกง่ายจะตาย,นักวิชาการหน้าโง่ทั้งหมดยังไม่กล้าแฉกูเลย,พึ่งมาแฉตอนบิ๊กกุ้งแม่ทัพภาค2ยึดคืนพื้นที่ไทยได้11จุดคืนจากพวกกากๆเขมรแบบมรึงนี้ล่ะอุตส่าห์ช่วยมาหลายสิบปีแล้ว จนเกิดmou43/44นี้ เขมรเหี้ยกูช่วยขนาดนี้แล้ว กูจะไปบอกนายใหญ่อเมริกาฝรั่งเศสอย่างไรว่าจะลากเส้นมายึดเอาบ่อน้ำมันมากมายนี้ในอ่าวไทยไม่ได้อีกแล้วและมากมายทรัพยากรมีค่าต่างๆทั้งเพชรพลอยทองคำแร่เอิร์ดด้วยเต็มภูเขาฝั่งไทยติดกับเขมรมรึง กูจะได้ขนทพผลิตเครื่องบินรบได้ อาวุธสาระพัดได้ เสียหายนายใหญ่พวกฝรั่งเศสอเมริกาอีกนี้ก็รับตังทั้งฝั่งเขมรและฝั่งทรยศประจำประเทศไทยแล้ว,ขนาดโง่แบบคนไทยแท้ยังทำงานพลาดให้นายใหญ่ได้ หลอดรอธไชล์ด หลอดร็อกกี้เฟลเลอร์โคตรนายใหญ่อเมริกาฝรั่งเศสยิ่งไม่พอใจแน่กะส่งblackrockขี้ข้ากูมายึดทั้งภาคใต้แบบพังงาก่อนแลนด์บริดจ์และคลองคอดกระในอนาคตของไทยมันต้องยึดครองทั้งหมดนะจำไว้.,โคตรเงินมหาศาลด้วยกูโลภต้องงานเงินรู้มั้ย.

    https://youtube.com/shorts/su0bw1Gne0c?si=7fDf9QR2lX0B187E
    ..mou43/44ขายชาติชัดเจน,บวกให้เขมรที่อ้างต่างชาติเช่าที่ไทยได้99ปีหรือต่างชาติเช่าที่ดินไทยได้99ปี สมควรถือว่าขายชาติด้วย,ออกกฎหมายอะไรก็ได้เมื่อตนเองมีอำนาจถือว่าใช้ไม่ได้,มีอำนาจแบบปัจจุบันถ้าล่าสุดทรัมป์ต้องการพังงานหรือตารางพื้นที่ใดๆบนแผ่นดินไทยด้วยที่อ้างว่าตนมีอำนาจก็จะยกสิ่งที่ว่านี้ไปให้อเมริกาได้แน่นอนเช่นกันหรือเช่าที่พังงา999ปีหรือ1,000ปีก็ได้เพราะกูมีอำนาจเต็มมือจะเป็นอะไร 99ปีก็ปล่อยเช่าที่ดินได้,1:200,000ก็ปล่อยให้ล้ำพื้นที่ดินไทยจาก1:50,000ก็ได้,กูจะเขียนจะตกลงจะกอดข้อตกลงหรือไม่ยกเลิกอย่างไรก็ได้มันว่า.,เพราะถ้าแน่จริงมรึงทหารยึดอำนาจกูสิ,ตอนนี้ก็ไม่เห็นกล้ายึดอำนาจอะไรเพราะกูเขียนดักคอพวกรักชาติไว้แล้วหากยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารมรึงผิดกฎหมายเลยนะโทษประหารเลย นี้ฝีมือคนขายชาติทรยศชาติแบบกูที่เขียนดักคอประชาชนหน้าโง่ทหารไทยหน้าโง่แบบมรึงรอไว้ล่วงหน้าแล้ว กูยึดอำนาจรุ่นสุดท้ายโว้ย.,ผลงานกูเขมรมาเลย กูสั่งยิงแค่ปืนคอได้แค่นั้น เขมรจะยิงรถถังอาวุธหนักอะไรใส่ทหารไทยตามสบายเลย กูช่วยมรึงทหารเขมรเต็มที่แล้ว ถ้ากูสั่งเครื่องบินออกมามรึงเป็นปุ๋ยแบบปัจจุบันนี้แน่นอน,เอาเต็มที่เลยยึด11จุดตลอดพรมแดนไทยก็ได้ กูจะอ้างว่าค้าขายร่วมกันแทนหรอกคนไทยทหารไทยหลอกง่ายจะตาย,นักวิชาการหน้าโง่ทั้งหมดยังไม่กล้าแฉกูเลย,พึ่งมาแฉตอนบิ๊กกุ้งแม่ทัพภาค2ยึดคืนพื้นที่ไทยได้11จุดคืนจากพวกกากๆเขมรแบบมรึงนี้ล่ะอุตส่าห์ช่วยมาหลายสิบปีแล้ว จนเกิดmou43/44นี้ เขมรเหี้ยกูช่วยขนาดนี้แล้ว กูจะไปบอกนายใหญ่อเมริกาฝรั่งเศสอย่างไรว่าจะลากเส้นมายึดเอาบ่อน้ำมันมากมายนี้ในอ่าวไทยไม่ได้อีกแล้วและมากมายทรัพยากรมีค่าต่างๆทั้งเพชรพลอยทองคำแร่เอิร์ดด้วยเต็มภูเขาฝั่งไทยติดกับเขมรมรึง กูจะได้ขนทพผลิตเครื่องบินรบได้ อาวุธสาระพัดได้ เสียหายนายใหญ่พวกฝรั่งเศสอเมริกาอีกนี้ก็รับตังทั้งฝั่งเขมรและฝั่งทรยศประจำประเทศไทยแล้ว,ขนาดโง่แบบคนไทยแท้ยังทำงานพลาดให้นายใหญ่ได้ หลอดรอธไชล์ด หลอดร็อกกี้เฟลเลอร์โคตรนายใหญ่อเมริกาฝรั่งเศสยิ่งไม่พอใจแน่กะส่งblackrockขี้ข้ากูมายึดทั้งภาคใต้แบบพังงาก่อนแลนด์บริดจ์และคลองคอดกระในอนาคตของไทยมันต้องยึดครองทั้งหมดนะจำไว้.,โคตรเงินมหาศาลด้วยกูโลภต้องงานเงินรู้มั้ย. https://youtube.com/shorts/su0bw1Gne0c?si=7fDf9QR2lX0B187E
    0 Comments 0 Shares 387 Views 0 Reviews
  • ทำไมต้อง "Gripen"

    เครื่องบิน JAS Gripen ได้รับการรีวิวจริงไปแล้วครั้งแรกในโลกโดยประเทศไทยของเรานี่เอง รีวิวใส่กัมพูชาชนิดที่ว่า โลกเห็นแล้วต้องชื่นชมในศักยภาพ

    หลายคนรู้จัก F-16 ได้ยินชื่อนี้มานานหลายสิบปี แต่เพิ่งมาได้ยินชื่อ Gripen เมื่อไม่นานมานี้ และทำไมเราถึงใช้ Gripen ในภารกิจนี้ และวางแผนจะนำมาทดแทน F-16 มันดีกว่ายังไง?
    .
    ประวัติของ Gripen
    ประเทศสวีเดนคือผู้ให้กำเนิด Gripen ซึ่งถูกพัฒนามาจากปลายยุค 1970 หลังจากกองทัพอากาศสวีเดินเล็งเห็นว่า เครื่องบินรบรุ่นเก่าของสวีเดินเริ่มล้าสมัย สวีเดินจึงคิดผลิตเครื่องบินรุ่นใหม่ "ขึ้นมาเอง" เพราะไม่อยากพึ่งพาประเทศอื่นมากเกินไป ด้วยการก่อตั้งโครงการ "JAS" ในปี 1979
    โครงการ JAS มาจากคำว่า J = (Jakt) ยัคต์ แปลว่า ขับไล่ A= (Attack) แอทแทค แปลว่าโจมตี และ S = Spaning (สแปนนิ่ง) แปลว่า ลาดตระเวน คือแนวคิดที่จะพัฒนาเครื่องบินรบล้ำสมัยล้ำยุค ที่ใช้เครื่องบินเพียง 1 ลำ แต่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทั้ง 3 แบบในลำเดียว เที่ยวเดียวได้

    ปี 1982 บริษัท SAAB ได้รับหน้าที่พัฒนาโครางการนี้ แต่เนื่องจากโปรเจคนี้ใหญ่มา และต้องการความเป็น "ที่สุด" จึงได้ระดมสมองร่วมกับอีกหลายบริษัท เข้ามาดูแลความเป็นที่สุดในด้านต่างๆ ได้แก่ บริษัท Ericsson เข้ามาช่วยพัฒนาระบบเรดาห์และการบิน บริษัท Volvo Aero เข้ามาช่วยปรับแต่งเครื่องยนตร์ และบริษัท FFV มาดูเรื่องระบบอาวุธและอุปกรณ์ทางการทหาร
    ปี 1988 เครื่องต้นแบบลำแรกสำเร็จ แต่เมื่อบินทดสอบกลับไม่สำเร็จจนพังไป หลังจากทดลองจนเสร็จสมบูรณ์แบบ Gripen ลำแรกก็พร้อมประจำการได้ในปี 1996
    .
    ความสามารถอันเป็นที่สุดของ Gripen
    ทำหน้าที่ได้ถึง 3 หน้าที่ใน 1 ลำ
    1. เป็นเครื่องบินขับไล่ - ต่อสู้เครื่องบินศัตรูจากกลางอากาศได้
    2. เป็นเครื่องบินโจมตี - โจมตีภาคพื้นดิน ฐานทัพ บังเกอร์ รถถัง
    3. เป็นเครื่องบินลาดตระเวณ สอดแนม - บินไปถ่ยาภาพและสอดแนมตำแหน่งศัตรูได้
    .
    * ปกติเครื่องบินรบ 1 หน้าที่จะแยกเป็น 1 ลำไป แต่ Gripen สามารถปฏิบัติภารกิจได้ต่อเนื่อง เป็น Swing-Role อย่างเช่น ลาดตระเวณอยู่ แต่เจอศัตรู ก็เปลี่ยนเป็นโหมดต่อสู้ทางอากาศได้ และสลับไปสอดแนมต่อก็ยังได้ในการบินเที่ยวเดียว หรือจะสลับทำทั้ง 3 หน้าที่คือไปสอดแนม โจมตีศัตรูบนอากาศ และพื้นดินก็ยังได้
    .
    มีระบบ "TIDLS" อันทันสมัย สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกัน ทุกลำเหมือนมี "ตาเดียวกัน" ทำให้ทุกลำโจมตีได้ร่วมกัน เช่น ลำนี้ตรวจเจอศัตรูแต่มุมยิงไม่ได้ ก็ให้อีกลำยิงแทน และตรวจจับศัตรูได้หลากหลายเป้าหมาย แม้ในสภาพอากาศไม่เป็นใจเช่นมีหมอก มีพายุ มีฝุ่น
    .
    มีระบบ EW คือระบบป้องกันตัวเอง สามารถรู้ได้ว่าเรดาห์ศัตรูตรวจเจอก็จะแจ้งเตือน หรือเมื่อถูกโจมตีด้วยมิซไซล์ ก็จะแจ้งเตือน มีการยิงเป้าหลอก แท่งความร้อนหลอกมิซไซล์ รวมถึงมีระบบส่งคลื่นสัญญาณรบกวน ทั้งหมดนี้ ยังสามารถเชื่อมระบบการโจมตีร่วมกับกองทัพเรือและกองทัพบกได้ด้วย
    .
    มีระบบ AI ช่วยการตัดสินใจให้นักบิน เพราะเวลารบ นักบินต้องตัดสินใจรวดเร็วมากในขณะที่ยังต้องควบคุมการบินและวิเคราะห์การรบ แต่ Gripen มี Mission Computer ที่จะรวบรวมระบบจากทุกลำมาตัดสินใจการรบแทนให้ มันวิเคราะห์สถานการณ์แบบ Realime ได้ เช่น จะเลือกล็อคเป้าเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดให้โจมตีก่อน มีหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงถึงการโจมตี เส้นทางการหลบหนี ตำแหน่งของเพื่อนร่วมฝูง ทำให้นักบินเข้าใจได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมาก Gripen คิดให้หมดและคิดเป็นทีม
    .
    Gripen มีความยืดหยุ่นที่จะ Upgrade เครื่องได้หลากหลาย ทำให้ไม่ตกยุค สามารถปรับแต่งระบบต่างๆ ได้ตลอด เช่น อัพเกรดให้เชื่อมต่อกับเรือรบในระบบอื่นได้ มีระบบฝึกการบินภายในตัวเครื่องเองโดยไม่ต้องบินขึ้น ไม่ต้องไปซื้อระบบจำลองการบินเพิ่ม สแกนตัวเอง ดูแลสุขภาพตัวเองได้ อะไรมีปัญหา อะไหล่ชิ้นไหนใกล้เสื่อม จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
    .
    Gripen มีความพร้อมรบ ต้องการพื้นที่ลงจอดได้แม้แต่ถนนยาวไม่ถึ่งกิโล สามารถออกรบซ้ำได้ภายใน 10 นาที เพราะเติมเชื้อเพลิง-ติดอาวุธได้แบบสั้นๆ (ใช้คนติดตั้งได้แค่ 5 คน) ต้นทุนการบินต่อชั่วโมงก็ต่ำ เทียบกับ F-16 แล้ว ถูกกว่าเกือบครึ่ง
    .
    ณ ปัจจุบัน Gripen มีอยู่ที่ประเทศสวีเดนผู้ให้กำเนิด ทั้งหมด 156 ลำ รองมาคือบราซิล 36 ลำ แอฟริกาใต้ 26 ลำ ฮังการีและเช็ค 14 ลำ และต่อไป เราจะมีเป็นลำดับที่ 5 คือ 12 ลำ และเราคือประเทศแรกของโลกที่ได้นำออกไปใช้ในสถานการณ์จริง!
    .
    Gripen ของกองทัพอากาศไทย ปี 2008-2010 เราจัดซื้อ Gripen ทั้งหมดแล้ว 12 ลำ แต่เราได้ดีลจากบริษัท SAAB ด้วยการเสนอการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ และจะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและอากาศยานให้ ซึ่งมีมูลค่าสูงมาก อีกทั้งยังจะมาลงทุนผลิตอะไหล่เพื่อขายให้กับประเทศอื่นได้ด้วย เราจึงได้ทั้งการลงทุน ความรู้ การจ้างงาน ซึ่งนับเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท
    .
    ปี 2025 เราได้ทำการจัดซื้อล็อตใหม่ ซึ่งจะทยอยซื้อ ทยอยส่งมอบ เสร็จสิ้นในปี 2034 ทำให้ในปีนั้น เราจะมีฝูงบิน Gripen ถึง 24 ลำด้วยกัน!!!

    .
    CR:กองทัพอากาศไทยเครื่องบินขับไล่ Jas-39 Saab Gripen ทำการลงจอดและบินขึ้นจากถนนทางหลวงหมายเลข 4287 จังหวัดสงขลา 27 กุมภาพันธ์ 2568
    #RTAF
    🇹🇭ทำไมต้อง "Gripen" 🇸🇪 เครื่องบิน JAS Gripen ได้รับการรีวิวจริงไปแล้วครั้งแรกในโลกโดยประเทศไทยของเรานี่เอง รีวิวใส่กัมพูชาชนิดที่ว่า โลกเห็นแล้วต้องชื่นชมในศักยภาพ หลายคนรู้จัก F-16 ได้ยินชื่อนี้มานานหลายสิบปี แต่เพิ่งมาได้ยินชื่อ Gripen เมื่อไม่นานมานี้ และทำไมเราถึงใช้ Gripen ในภารกิจนี้ และวางแผนจะนำมาทดแทน F-16 มันดีกว่ายังไง? . 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 ประวัติของ Gripen ประเทศสวีเดนคือผู้ให้กำเนิด Gripen ซึ่งถูกพัฒนามาจากปลายยุค 1970 หลังจากกองทัพอากาศสวีเดินเล็งเห็นว่า เครื่องบินรบรุ่นเก่าของสวีเดินเริ่มล้าสมัย สวีเดินจึงคิดผลิตเครื่องบินรุ่นใหม่ "ขึ้นมาเอง" เพราะไม่อยากพึ่งพาประเทศอื่นมากเกินไป ด้วยการก่อตั้งโครงการ "JAS" ในปี 1979 โครงการ JAS มาจากคำว่า J = (Jakt) ยัคต์ แปลว่า ขับไล่ A= (Attack) แอทแทค แปลว่าโจมตี และ S = Spaning (สแปนนิ่ง) แปลว่า ลาดตระเวน คือแนวคิดที่จะพัฒนาเครื่องบินรบล้ำสมัยล้ำยุค ที่ใช้เครื่องบินเพียง 1 ลำ แต่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทั้ง 3 แบบในลำเดียว เที่ยวเดียวได้ ปี 1982 บริษัท SAAB ได้รับหน้าที่พัฒนาโครางการนี้ แต่เนื่องจากโปรเจคนี้ใหญ่มา และต้องการความเป็น "ที่สุด" จึงได้ระดมสมองร่วมกับอีกหลายบริษัท เข้ามาดูแลความเป็นที่สุดในด้านต่างๆ ได้แก่ บริษัท Ericsson เข้ามาช่วยพัฒนาระบบเรดาห์และการบิน บริษัท Volvo Aero เข้ามาช่วยปรับแต่งเครื่องยนตร์ และบริษัท FFV มาดูเรื่องระบบอาวุธและอุปกรณ์ทางการทหาร ปี 1988 เครื่องต้นแบบลำแรกสำเร็จ แต่เมื่อบินทดสอบกลับไม่สำเร็จจนพังไป หลังจากทดลองจนเสร็จสมบูรณ์แบบ Gripen ลำแรกก็พร้อมประจำการได้ในปี 1996 . 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 ความสามารถอันเป็นที่สุดของ Gripen 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 ทำหน้าที่ได้ถึง 3 หน้าที่ใน 1 ลำ 1. เป็นเครื่องบินขับไล่ - ต่อสู้เครื่องบินศัตรูจากกลางอากาศได้ 2. เป็นเครื่องบินโจมตี - โจมตีภาคพื้นดิน ฐานทัพ บังเกอร์ รถถัง 3. เป็นเครื่องบินลาดตระเวณ สอดแนม - บินไปถ่ยาภาพและสอดแนมตำแหน่งศัตรูได้ . * ปกติเครื่องบินรบ 1 หน้าที่จะแยกเป็น 1 ลำไป แต่ Gripen สามารถปฏิบัติภารกิจได้ต่อเนื่อง เป็น Swing-Role อย่างเช่น ลาดตระเวณอยู่ แต่เจอศัตรู ก็เปลี่ยนเป็นโหมดต่อสู้ทางอากาศได้ และสลับไปสอดแนมต่อก็ยังได้ในการบินเที่ยวเดียว หรือจะสลับทำทั้ง 3 หน้าที่คือไปสอดแนม โจมตีศัตรูบนอากาศ และพื้นดินก็ยังได้ . 🇸🇪 มีระบบ "TIDLS" อันทันสมัย สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกัน ทุกลำเหมือนมี "ตาเดียวกัน" ทำให้ทุกลำโจมตีได้ร่วมกัน เช่น ลำนี้ตรวจเจอศัตรูแต่มุมยิงไม่ได้ ก็ให้อีกลำยิงแทน และตรวจจับศัตรูได้หลากหลายเป้าหมาย แม้ในสภาพอากาศไม่เป็นใจเช่นมีหมอก มีพายุ มีฝุ่น . 🇸🇪 มีระบบ EW คือระบบป้องกันตัวเอง สามารถรู้ได้ว่าเรดาห์ศัตรูตรวจเจอก็จะแจ้งเตือน หรือเมื่อถูกโจมตีด้วยมิซไซล์ ก็จะแจ้งเตือน มีการยิงเป้าหลอก แท่งความร้อนหลอกมิซไซล์ รวมถึงมีระบบส่งคลื่นสัญญาณรบกวน ทั้งหมดนี้ ยังสามารถเชื่อมระบบการโจมตีร่วมกับกองทัพเรือและกองทัพบกได้ด้วย . 🇸🇪 มีระบบ AI ช่วยการตัดสินใจให้นักบิน เพราะเวลารบ นักบินต้องตัดสินใจรวดเร็วมากในขณะที่ยังต้องควบคุมการบินและวิเคราะห์การรบ แต่ Gripen มี Mission Computer ที่จะรวบรวมระบบจากทุกลำมาตัดสินใจการรบแทนให้ มันวิเคราะห์สถานการณ์แบบ Realime ได้ เช่น จะเลือกล็อคเป้าเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดให้โจมตีก่อน มีหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงถึงการโจมตี เส้นทางการหลบหนี ตำแหน่งของเพื่อนร่วมฝูง ทำให้นักบินเข้าใจได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมาก Gripen คิดให้หมดและคิดเป็นทีม . 🇸🇪 Gripen มีความยืดหยุ่นที่จะ Upgrade เครื่องได้หลากหลาย ทำให้ไม่ตกยุค สามารถปรับแต่งระบบต่างๆ ได้ตลอด เช่น อัพเกรดให้เชื่อมต่อกับเรือรบในระบบอื่นได้ มีระบบฝึกการบินภายในตัวเครื่องเองโดยไม่ต้องบินขึ้น ไม่ต้องไปซื้อระบบจำลองการบินเพิ่ม สแกนตัวเอง ดูแลสุขภาพตัวเองได้ อะไรมีปัญหา อะไหล่ชิ้นไหนใกล้เสื่อม จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน . 🇸🇪 Gripen มีความพร้อมรบ ต้องการพื้นที่ลงจอดได้แม้แต่ถนนยาวไม่ถึ่งกิโล สามารถออกรบซ้ำได้ภายใน 10 นาที เพราะเติมเชื้อเพลิง-ติดอาวุธได้แบบสั้นๆ (ใช้คนติดตั้งได้แค่ 5 คน) ต้นทุนการบินต่อชั่วโมงก็ต่ำ เทียบกับ F-16 แล้ว ถูกกว่าเกือบครึ่ง . 🇸🇪 ณ ปัจจุบัน Gripen มีอยู่ที่ประเทศสวีเดนผู้ให้กำเนิด ทั้งหมด 156 ลำ รองมาคือบราซิล 36 ลำ แอฟริกาใต้ 26 ลำ ฮังการีและเช็ค 14 ลำ และต่อไป เราจะมีเป็นลำดับที่ 5 คือ 12 ลำ และเราคือประเทศแรกของโลกที่ได้นำออกไปใช้ในสถานการณ์จริง! . 🇸🇪 Gripen ของกองทัพอากาศไทย ปี 2008-2010 เราจัดซื้อ Gripen ทั้งหมดแล้ว 12 ลำ แต่เราได้ดีลจากบริษัท SAAB ด้วยการเสนอการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ และจะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและอากาศยานให้ ซึ่งมีมูลค่าสูงมาก อีกทั้งยังจะมาลงทุนผลิตอะไหล่เพื่อขายให้กับประเทศอื่นได้ด้วย เราจึงได้ทั้งการลงทุน ความรู้ การจ้างงาน ซึ่งนับเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท . 🇸🇪 ปี 2025 เราได้ทำการจัดซื้อล็อตใหม่ ซึ่งจะทยอยซื้อ ทยอยส่งมอบ เสร็จสิ้นในปี 2034 ทำให้ในปีนั้น เราจะมีฝูงบิน Gripen ถึง 24 ลำด้วยกัน!!! . CR:กองทัพอากาศไทยเครื่องบินขับไล่ Jas-39 Saab Gripen ทำการลงจอดและบินขึ้นจากถนนทางหลวงหมายเลข 4287 จังหวัดสงขลา 27 กุมภาพันธ์ 2568 #RTAF
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 570 Views 0 0 Reviews
  • สถาบันยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ International Institute for Strategic Studies (IISS) แห่งสหราชอาณาจักร ระบุไว้เมื่อต้นปี 2025 ขณะเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับจำนวนกำลังพลของกองทัพทั่วโลก ว่า ไทยมี “กองทัพขนาดใหญ่และได้รับงบประมาณสนับสนุนอย่างดี"

    งบประมาณกลาโหมของไทยในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ กัมพูชา มีงบประมาณต่ำกว่ามาก อยู่ที่เพียง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของ IISS

    1. กองทัพอากาศ
    IISS ระบุว่า “กองทัพอากาศของไทย ถือเป็นหนึ่งในกองทัพอากาศที่มีอุปกรณ์และการฝึกอบรมดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

    ณ ต้นปี 2025 ไทยมี เครื่องบินรบที่พร้อมปฏิบัติการ 112 ลำ รวมถึง F-16 จำนวน 46 ลำ (หลายรุ่น)

    นอกจากนี้ ไทยยังมี เครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 4 แบบ Gripen ของสวีเดน จำนวนหนึ่ง
    แม้ Gripen และ F-16 จะไม่ใช่เครื่องบินรุ่นที่ 5 (เช่น F-35 หรือ F-22) แต่ถ้าบำรุงรักษาอย่างดี ก็ถือว่ามีขีดความสามารถสูง

    ไทยกำลังทยอยปลดประจำการ F-16 รุ่นเก่า และเพิ่มจำนวน Gripen แทน
    กองทัพอากาศไทยที่มีกำลังพลประมาณ 46,000 นาย ยังมี เครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าแบบ Erieye 2 ลำ ซึ่งทำงานร่วมกับ Gripen

    กัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่ ภายใต้กองทัพอากาศขนาดเล็กเพียง 1,500 นาย แต่มี เฮลิคอปเตอร์ 26 ลำ หลายประเภท

    จอห์น เฮมมิงส์ รองผู้อำนวยการด้านภูมิรัฐศาสตร์แห่งสถาบัน Council on Geostrategy สหราชอาณาจักร กล่าวว่า:

    “กองทัพอากาศไทยมี F-16 จากสหรัฐฯ ซึ่งใช้โจมตีเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาเมื่อวันพุธโดยไม่มีแรงต้าน ขณะที่กัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่ประจำการเลย”

    2. กองทัพบกและกองทัพเรือ
    ตามข้อมูลจาก IISS:

    กองทัพบกกัมพูชา มีทหารประมาณ 75,000 นาย และ รถถังราว 200 คัน

    ในจำนวนนี้มี รถถังหลักประมาณ 50 คัน เป็นรุ่น T-54 ของจีน (ซึ่งพัฒนาจากโซเวียตรุ่น T-54)

    อีก 150 คันขึ้นไป เป็นรถถังรุ่น T-54 และ T-55 (รุ่นเก่าจากยุค 1950)

    กัมพูชายังมี รถรบทหารราบแบบ BMP-1 จำนวน 70 คัน ซึ่งเป็นรถสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นโซเวียตที่เคยถูกใช้ในยุโรปตะวันออกโดยรัสเซียและยูเครน

    กองทัพบกไทย มีทหารประจำการ 130,000 นาย และมีเกณฑ์ทหารเพิ่มใกล้เคียงอีกจำนวนหนึ่ง

    มีรถถังหลักประมาณ 400 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถถังสัญชาติสหรัฐฯ รุ่นเก่า

    ไทยยังมี เรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ และ เรือฟริเกต 7 ลำ

    กัมพูชาไม่มีเรือรบ หรือกองทัพเรือในเชิงยุทธศาสตร์

    เฮมมิงส์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า:

    “ไทยมีรถถังหลักที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค เช่น VT4 จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะที่กัมพูชายังคงใช้ T-54 จากยุคปี 1950 เป็นหลัก”

    ทั้งสองประเทศมีอาวุธปืนใหญ่ในรูปแบบต่าง ๆ:

    ระบบจรวดนำวิถีแบบติดตั้งบนรถยนต์

    ปืนใหญ่ลากจูงทั่วไป

    “ระบบของกัมพูชาส่วนใหญ่ยังคงใช้ของเก่า เช่น BM-21 จากยุคสงครามเย็น และมีระบบจากจีนยุค 1990 ปะปนอยู่เล็กน้อย
    ส่วนของไทย มีส่วนผสมของระบบจากสหรัฐฯ อิสราเอล และจีน ซึ่งบางระบบเป็นของใหม่กว่า”

    ที่มา : How Thailand and Cambodia's Militaries Compare, Newsweek, Jul 25, 2025
    สถาบันยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ International Institute for Strategic Studies (IISS) แห่งสหราชอาณาจักร ระบุไว้เมื่อต้นปี 2025 ขณะเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับจำนวนกำลังพลของกองทัพทั่วโลก ว่า ไทยมี “กองทัพขนาดใหญ่และได้รับงบประมาณสนับสนุนอย่างดี" งบประมาณกลาโหมของไทยในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ กัมพูชา มีงบประมาณต่ำกว่ามาก อยู่ที่เพียง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของ IISS 1. กองทัพอากาศ IISS ระบุว่า “กองทัพอากาศของไทย ถือเป็นหนึ่งในกองทัพอากาศที่มีอุปกรณ์และการฝึกอบรมดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ณ ต้นปี 2025 ไทยมี เครื่องบินรบที่พร้อมปฏิบัติการ 112 ลำ รวมถึง F-16 จำนวน 46 ลำ (หลายรุ่น) นอกจากนี้ ไทยยังมี เครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 4 แบบ Gripen ของสวีเดน จำนวนหนึ่ง แม้ Gripen และ F-16 จะไม่ใช่เครื่องบินรุ่นที่ 5 (เช่น F-35 หรือ F-22) แต่ถ้าบำรุงรักษาอย่างดี ก็ถือว่ามีขีดความสามารถสูง ไทยกำลังทยอยปลดประจำการ F-16 รุ่นเก่า และเพิ่มจำนวน Gripen แทน กองทัพอากาศไทยที่มีกำลังพลประมาณ 46,000 นาย ยังมี เครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าแบบ Erieye 2 ลำ ซึ่งทำงานร่วมกับ Gripen กัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่ ภายใต้กองทัพอากาศขนาดเล็กเพียง 1,500 นาย แต่มี เฮลิคอปเตอร์ 26 ลำ หลายประเภท จอห์น เฮมมิงส์ รองผู้อำนวยการด้านภูมิรัฐศาสตร์แห่งสถาบัน Council on Geostrategy สหราชอาณาจักร กล่าวว่า: “กองทัพอากาศไทยมี F-16 จากสหรัฐฯ ซึ่งใช้โจมตีเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาเมื่อวันพุธโดยไม่มีแรงต้าน ขณะที่กัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่ประจำการเลย” 2. กองทัพบกและกองทัพเรือ ตามข้อมูลจาก IISS: กองทัพบกกัมพูชา มีทหารประมาณ 75,000 นาย และ รถถังราว 200 คัน ในจำนวนนี้มี รถถังหลักประมาณ 50 คัน เป็นรุ่น T-54 ของจีน (ซึ่งพัฒนาจากโซเวียตรุ่น T-54) อีก 150 คันขึ้นไป เป็นรถถังรุ่น T-54 และ T-55 (รุ่นเก่าจากยุค 1950) กัมพูชายังมี รถรบทหารราบแบบ BMP-1 จำนวน 70 คัน ซึ่งเป็นรถสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นโซเวียตที่เคยถูกใช้ในยุโรปตะวันออกโดยรัสเซียและยูเครน กองทัพบกไทย มีทหารประจำการ 130,000 นาย และมีเกณฑ์ทหารเพิ่มใกล้เคียงอีกจำนวนหนึ่ง มีรถถังหลักประมาณ 400 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถถังสัญชาติสหรัฐฯ รุ่นเก่า ไทยยังมี เรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ และ เรือฟริเกต 7 ลำ กัมพูชาไม่มีเรือรบ หรือกองทัพเรือในเชิงยุทธศาสตร์ เฮมมิงส์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า: “ไทยมีรถถังหลักที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค เช่น VT4 จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะที่กัมพูชายังคงใช้ T-54 จากยุคปี 1950 เป็นหลัก” ทั้งสองประเทศมีอาวุธปืนใหญ่ในรูปแบบต่าง ๆ: ระบบจรวดนำวิถีแบบติดตั้งบนรถยนต์ ปืนใหญ่ลากจูงทั่วไป “ระบบของกัมพูชาส่วนใหญ่ยังคงใช้ของเก่า เช่น BM-21 จากยุคสงครามเย็น และมีระบบจากจีนยุค 1990 ปะปนอยู่เล็กน้อย ส่วนของไทย มีส่วนผสมของระบบจากสหรัฐฯ อิสราเอล และจีน ซึ่งบางระบบเป็นของใหม่กว่า” ที่มา : How Thailand and Cambodia's Militaries Compare, Newsweek, Jul 25, 2025
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 452 Views 0 Reviews
  • ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
    .
    สถานการณ์การสู้รบ กลยุทธ์ฝ่ายตรงข้ามยังคงพยายามใช้กำลังทหารราบเข้าประชิดกำลังฝ่ายเราเพื่อพยายามเข้าโจมตีหลักในพื้นที่ ช่องบก, ซำแต, ภูมะเขือ, ช่องตาเฒ่า, ประสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย โดยมีการยิงด้วยอาวุธยิงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ, พื้นที่ช่องบก มีความพยายามที่จะยึดเนิน 469, พื้นที่ช่องอานม้า ปรับกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ การปะทะเบาบางลง, พื้นที่ซำแต ยังคงมีการโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ด้วยรถถัง และปืนใหญ่, พื้นที่สัตตะโสม ฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก, พื้นที่เขาพระวิหาร มีการปะทะอย่างต่อเนื่องบริเวณวัดพระแก้ว, พื้นที่ภูมะเขือ มีการดำเนินกลยุทธ์เพื่อยึดพื้นที่สำคัญให้เกิดความได้เปรียบอีกฝ่าย, พื้นที่เนิน 350 ถูกทำลายด้วยอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายเรา, พื้นที่ปราสาท ตาควาย (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ถูกอาวุธยิงสนับสนุนจากฝ่ายเราไม่สามารถดำเนินการเข้าตีต่อฝ่ายเราได้, พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ฝ่ายเราสามารถสกัดกั้นการเข้าฝ่ายตรงข้ามถอยกลับไป สถานะปัจจุบันฝ่ายตรงข้าม : เสียชีวิตที่พื้นที่ภูผีประมาณ 100 นาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070400

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้ . สถานการณ์การสู้รบ กลยุทธ์ฝ่ายตรงข้ามยังคงพยายามใช้กำลังทหารราบเข้าประชิดกำลังฝ่ายเราเพื่อพยายามเข้าโจมตีหลักในพื้นที่ ช่องบก, ซำแต, ภูมะเขือ, ช่องตาเฒ่า, ประสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย โดยมีการยิงด้วยอาวุธยิงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ, พื้นที่ช่องบก มีความพยายามที่จะยึดเนิน 469, พื้นที่ช่องอานม้า ปรับกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ การปะทะเบาบางลง, พื้นที่ซำแต ยังคงมีการโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ด้วยรถถัง และปืนใหญ่, พื้นที่สัตตะโสม ฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก, พื้นที่เขาพระวิหาร มีการปะทะอย่างต่อเนื่องบริเวณวัดพระแก้ว, พื้นที่ภูมะเขือ มีการดำเนินกลยุทธ์เพื่อยึดพื้นที่สำคัญให้เกิดความได้เปรียบอีกฝ่าย, พื้นที่เนิน 350 ถูกทำลายด้วยอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายเรา, พื้นที่ปราสาท ตาควาย (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ถูกอาวุธยิงสนับสนุนจากฝ่ายเราไม่สามารถดำเนินการเข้าตีต่อฝ่ายเราได้, พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ฝ่ายเราสามารถสกัดกั้นการเข้าฝ่ายตรงข้ามถอยกลับไป สถานะปัจจุบันฝ่ายตรงข้าม : เสียชีวิตที่พื้นที่ภูผีประมาณ 100 นาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070400 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    10
    0 Comments 0 Shares 738 Views 0 Reviews
  • ทภ.2 สรุปปะทะเดือดชายแดน! กัมพูชาเปิดฉากยิงถล่ม 11 พื้นที่พลเรือน ดับ 12 คน รถถังเขมรถูกทำลาย 2 คัน
    https://www.thai-tai.tv/news/20516/
    .
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพภาคที่2 #ปะทะชายแดน #ผู้เสียชีวิต #พลเรือนบาดเจ็บ #กัมพูชายิงก่อน #BM21 #ปราสาทตาเมือนธม #เขาพระวิหาร #กฎหมายมนุษยธรรม #อพยพประชาชน #รถถังกัมพูชา #สุรินทร์ #ศรีสะเกษ #อุบลราชธานี #บุรีรัมย์
    ทภ.2 สรุปปะทะเดือดชายแดน! กัมพูชาเปิดฉากยิงถล่ม 11 พื้นที่พลเรือน ดับ 12 คน รถถังเขมรถูกทำลาย 2 คัน https://www.thai-tai.tv/news/20516/ . #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพภาคที่2 #ปะทะชายแดน #ผู้เสียชีวิต #พลเรือนบาดเจ็บ #กัมพูชายิงก่อน #BM21 #ปราสาทตาเมือนธม #เขาพระวิหาร #กฎหมายมนุษยธรรม #อพยพประชาชน #รถถังกัมพูชา #สุรินทร์ #ศรีสะเกษ #อุบลราชธานี #บุรีรัมย์
    0 Comments 0 Shares 320 Views 0 Reviews
  • 14.41 น. ฝ่ายเรายิงตอบโต้ต่อต้านรถถังกัมพูชา ฝั่งสัตตะโสม เก็บรถถังได้ 2 คัน
    #กองทัพภาคที่2
    14.41 น. ฝ่ายเรายิงตอบโต้ต่อต้านรถถังกัมพูชา ฝั่งสัตตะโสม เก็บรถถังได้ 2 คัน #กองทัพภาคที่2
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • ทหารกัมพูชากำลังใช้เครื่องยิงอาร์พีจี "Type 69-1" ที่ผลิตในประเทศจีน พร้อมจรวดต่อต้านรถถัง T69-1 (PG-7V) และปืนกล PKM
    ทหารกัมพูชากำลังใช้เครื่องยิงอาร์พีจี "Type 69-1" ที่ผลิตในประเทศจีน พร้อมจรวดต่อต้านรถถัง T69-1 (PG-7V) และปืนกล PKM
    0 Comments 0 Shares 250 Views 0 0 Reviews
  • วิดีโอจากออสเตรเลีย เผยให้เห็นรถถัง M1A1 Abrams ที่กำลังถูกส่งมอบไปยังยูเครน
    วิดีโอจากออสเตรเลีย เผยให้เห็นรถถัง M1A1 Abrams ที่กำลังถูกส่งมอบไปยังยูเครน
    0 Comments 0 Shares 318 Views 0 0 Reviews
  • สุดยอดจริงๆ รถถัง จิตรเมืองนนท์ 18/07/68 #รถถัง จิตรเมืองนนท์ #สโมสรฟุตบอล #พิจิตร ยูไนเต็ด #ไทยลีก 3
    สุดยอดจริงๆ รถถัง จิตรเมืองนนท์ 18/07/68 #รถถัง จิตรเมืองนนท์ #สโมสรฟุตบอล #พิจิตร ยูไนเต็ด #ไทยลีก 3
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 472 Views 0 0 Reviews
  • สถานการณ์ในซีเรียขณะนี้กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง อิสราเอลเปิดฉากถล่มกองกำลังของโจลานีขณะที่บุกไปกำราบกองกำลังชาวดรูซเพื่อแยกตัวออกจากซีเรียตอนใต้

    อิสราเอลอ้างการโจมตีกองกำลังของโจลานีครั้งนี้ว่า เพื่อมนุษยธรรมและปกป้องพลเมืองชาวดรูซที่บริสุทธิ์ แต่ในความเป็นจริง ทุกฝ่ายทราบดีว่า อิสราเอลหนุนชาวดรูซในเขตสไวดา(Sweida) ให้แยกตัวออกจากการปกครองของซีเรีย เพื่อเป็นรัฐกันชนให้กับอิสราเอล

    ภาพวิดีโอเผยให้เห็นเครื่องบินรบของอิสราเอลบินว่อนเหนือซีเรียและทำลายรถถังของกองกำลังของโจลานีอย่างง่ายดายโดยไร้การต่อต้าน เนื่องจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียถูกอิสราเอลถล่มราบเรียบไปตั้งแต่หลังจากโจลานีโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด และเป็นโจลานีเองที่อนุญาตให้อิสราเอลทำลายทิ้งทั้งหมด!

    ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กองกำลังเคิร์ดก่อเหตุปะทะอย่างรุนแรงกับกองกำลังของโจลานีทางด้านตะวันออกของซีเรีย

    หลายฝ่ายเชื่อว่าซีเรียกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงในไม่ช้านี้หลังจากไม่มีอิหร่านคุ้มครอง
    สถานการณ์ในซีเรียขณะนี้กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง อิสราเอลเปิดฉากถล่มกองกำลังของโจลานีขณะที่บุกไปกำราบกองกำลังชาวดรูซเพื่อแยกตัวออกจากซีเรียตอนใต้ อิสราเอลอ้างการโจมตีกองกำลังของโจลานีครั้งนี้ว่า เพื่อมนุษยธรรมและปกป้องพลเมืองชาวดรูซที่บริสุทธิ์ แต่ในความเป็นจริง ทุกฝ่ายทราบดีว่า อิสราเอลหนุนชาวดรูซในเขตสไวดา(Sweida) ให้แยกตัวออกจากการปกครองของซีเรีย เพื่อเป็นรัฐกันชนให้กับอิสราเอล ภาพวิดีโอเผยให้เห็นเครื่องบินรบของอิสราเอลบินว่อนเหนือซีเรียและทำลายรถถังของกองกำลังของโจลานีอย่างง่ายดายโดยไร้การต่อต้าน เนื่องจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียถูกอิสราเอลถล่มราบเรียบไปตั้งแต่หลังจากโจลานีโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด และเป็นโจลานีเองที่อนุญาตให้อิสราเอลทำลายทิ้งทั้งหมด! ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กองกำลังเคิร์ดก่อเหตุปะทะอย่างรุนแรงกับกองกำลังของโจลานีทางด้านตะวันออกของซีเรีย หลายฝ่ายเชื่อว่าซีเรียกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงในไม่ช้านี้หลังจากไม่มีอิหร่านคุ้มครอง
    0 Comments 0 Shares 394 Views 0 Reviews
  • รถถังของอิสราเอลยิงใส่พลเรือนชาวปาเลสไตน์ที่หลบภัยอยู่บนถนน Al-Teena ใกล้กับศูนย์การแพทย์ Nasser ในเมือง Khan Younis ทางตอนใต้ของกาซา โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ซึ่งเป็นสถานที่ที่ครอบครัวผู้พลัดถิ่นจำนวนมากมารวมตัวกัน
    รถถังของอิสราเอลยิงใส่พลเรือนชาวปาเลสไตน์ที่หลบภัยอยู่บนถนน Al-Teena ใกล้กับศูนย์การแพทย์ Nasser ในเมือง Khan Younis ทางตอนใต้ของกาซา โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ซึ่งเป็นสถานที่ที่ครอบครัวผู้พลัดถิ่นจำนวนมากมารวมตัวกัน
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 0 Reviews
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 Comments 0 Shares 660 Views 0 Reviews
  • ช่วงเริ่มต้นของสงคราม 12 วัน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ Bavar 373-II ของอิหร่าน คือสิ่งแรกๆที่อิสราเอลทำลาย ด้วยขีปนาวุธต่อต้านรถถังจากสายลับที่แฝงตัวอยู่ภายในดินแดนอิหร่าน

    ตามข้อมูลของกองทัพอิหร่าน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ "Bavar-373" มีพิสัยการโจมตีได้ไกลถึง 400 กม. และสามารถต่อต้านเป้าหมายเครื่องบินทิ้งระเบิด ขีปนาวุธพิสัยไกล และที่เครื่องบินล่องหน เช่น F-22, F-35 ได้

    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานะของ "Bavar-373" ได้รับการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว และกลับมาพร้อมรบอีกครั้ง!
    ช่วงเริ่มต้นของสงคราม 12 วัน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ Bavar 373-II ของอิหร่าน คือสิ่งแรกๆที่อิสราเอลทำลาย ด้วยขีปนาวุธต่อต้านรถถังจากสายลับที่แฝงตัวอยู่ภายในดินแดนอิหร่าน ตามข้อมูลของกองทัพอิหร่าน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ "Bavar-373" มีพิสัยการโจมตีได้ไกลถึง 400 กม. และสามารถต่อต้านเป้าหมายเครื่องบินทิ้งระเบิด ขีปนาวุธพิสัยไกล และที่เครื่องบินล่องหน เช่น F-22, F-35 ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานะของ "Bavar-373" ได้รับการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว และกลับมาพร้อมรบอีกครั้ง!
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 0 Reviews
  • ‘ฮุน มาเนต’ โวแจกโบนัสทหารเขมร ใครยิงรถถัง-เครื่องบินรบของศัตรูตกได้
    https://www.thai-tai.tv/news/19686/
    ‘ฮุน มาเนต’ โวแจกโบนัสทหารเขมร ใครยิงรถถัง-เครื่องบินรบของศัตรูตกได้ https://www.thai-tai.tv/news/19686/
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • รีโพสต์จากเพจข่าว Thairath Plus 19/6/68 เปรียบเทียบกำลังรบ อิสราเอล vs. อิหร่านแสนยานุภาพ: - อิสราเอล อันดับที่ 15 ของโลก - อิหร่าน อันดับที่ 16 ของโลกกำลังพล: - อิสราเอล 3,949,049 นาย - อิหร่าน 45,496,685 นาย งบประมาณต่อปีด้านกลาโหม: - อิสราเอล 30,500 ล้านดอลลาร์ - อิหร่าน 15,450 ล้านดอลลาร์กองทัพบก: - อิสราเอลยานเกราะ 35,985 คัน รถถัง 1,300 คัน - อิหร่านยานเกราะ 29,825 คัน รถถัง 1,713 คันกองทัพอากาศ: - อิสราเอลมีอากาศยานรวม 611 ลำเครื่องบินรบ 240 ลำ เครื่องยิงขีปนาวุธ 183 เครื่อง- อิหร่านมีอากาศยาน 551 ลำ เครื่องบินรบ 188 ลำ เครื่องยิงขีปนาวุธ 1,517 เครื่อง กองทัพเรือ: - อิสราเอลเรือฟลีต 62 ลำ เรือดำน้ำ 5 ลำ ไม่มีเรือฟริเกต- อิหร่านเรือฟลีต 107 ลำ เรือดำน้ำ 25 ลำ เรือฟริเกต 7 ลำ สนามบิน: - อิสราเอล 37 แห่ง- อิหร่าน 173 แห่ง อ้างอิง: การจัดอันดับแสนยานุภาพกองทัพโลกประจำปี 2025 ของ Global Firepower จากการสำรวจ 145 ประเทศทั่วโลก ที่มา : ไทยรัฐพลัส ThairathPlus
    รีโพสต์จากเพจข่าว Thairath Plus 19/6/68 📌เปรียบเทียบกำลังรบ อิสราเอล vs. อิหร่านแสนยานุภาพ: - อิสราเอล อันดับที่ 15 ของโลก - อิหร่าน อันดับที่ 16 ของโลกกำลังพล: - อิสราเอล 3,949,049 นาย - อิหร่าน 45,496,685 นาย งบประมาณต่อปีด้านกลาโหม: - อิสราเอล 30,500 ล้านดอลลาร์ - อิหร่าน 15,450 ล้านดอลลาร์กองทัพบก: - อิสราเอลยานเกราะ 35,985 คัน รถถัง 1,300 คัน - อิหร่านยานเกราะ 29,825 คัน รถถัง 1,713 คันกองทัพอากาศ: - อิสราเอลมีอากาศยานรวม 611 ลำเครื่องบินรบ 240 ลำ เครื่องยิงขีปนาวุธ 183 เครื่อง- อิหร่านมีอากาศยาน 551 ลำ เครื่องบินรบ 188 ลำ เครื่องยิงขีปนาวุธ 1,517 เครื่อง กองทัพเรือ: - อิสราเอลเรือฟลีต 62 ลำ เรือดำน้ำ 5 ลำ ไม่มีเรือฟริเกต- อิหร่านเรือฟลีต 107 ลำ เรือดำน้ำ 25 ลำ เรือฟริเกต 7 ลำ สนามบิน: - อิสราเอล 37 แห่ง- อิหร่าน 173 แห่ง อ้างอิง: การจัดอันดับแสนยานุภาพกองทัพโลกประจำปี 2025 ของ Global Firepower จากการสำรวจ 145 ประเทศทั่วโลก ที่มา : ไทยรัฐพลัส ThairathPlus
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 362 Views 0 Reviews
More Results