“SpaceX ส่งดาวเทียม Nusantara Lima ขึ้นสู่วงโคจร — อินโดนีเซียเตรียมพลิกโฉมการเชื่อมต่อทั่วอาเซียน”
วันที่ 11 กันยายน 2025 เวลา 21:56 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ Cape Canaveral รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา SpaceX ได้ปล่อยจรวด Falcon 9 พร้อมดาวเทียม Nusantara Lima (SNL) ขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จ หลังจากเลื่อนมาแล้วถึงสามครั้งเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย การปล่อยครั้งนี้ถือเป็นภารกิจที่ 114 ของ Falcon 9 ในปีเดียว และเป็นการใช้งานบูสเตอร์ตัวเดิมเป็นครั้งที่ 23 ซึ่งสามารถลงจอดบนเรือโดรน “A Shortfall of Gravitas” ได้อย่างแม่นยำอีกครั้ง
ดาวเทียม Nusantara Lima เป็นดาวเทียมสื่อสารความเร็วสูงที่สร้างโดย Boeing บนแพลตฟอร์ม 702MP มีน้ำหนัก 7.8 ตัน และสามารถส่งข้อมูลได้สูงถึง 160 Gbps ถือเป็นดาวเทียมที่มีความจุสูงที่สุดในเอเชีย ณ เวลานี้ โดยจะให้บริการอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารครอบคลุมทั่วอินโดนีเซีย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์และมาเลเซีย
ดาวเทียมนี้ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างเคมีและไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าสู่วงโคจร geosynchronous ที่ระดับความสูง 22,236 ไมล์เหนือพื้นโลก โดยจะใช้เวลาหลายเดือนในการปรับตำแหน่งและทดสอบระบบ ก่อนเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในช่วงต้นปี 2026
โครงการนี้ดำเนินการโดย PT Pasifik Satelit Nusantara (PSN) ซึ่งเป็นบริษัทดาวเทียมเอกชนแห่งแรกของอินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ครอบคลุมทั่วหมู่เกาะกว่า 17,000 แห่งของประเทศ และเสริมความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อม การรับมือภัยพิบัติ และการป้องกันประเทศ
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
SpaceX ปล่อยจรวด Falcon 9 พร้อมดาวเทียม Nusantara Lima เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2025
เป็นการใช้งานบูสเตอร์ครั้งที่ 23 และลงจอดบนเรือโดรน “A Shortfall of Gravitas” ได้สำเร็จ
ดาวเทียมมีน้ำหนัก 7.8 ตัน และสามารถส่งข้อมูลได้สูงถึง 160 Gbps
สร้างโดย Boeing บนแพลตฟอร์ม 702MP ที่มีอายุการใช้งานกว่า 15 ปี
ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด (เคมี + ไฟฟ้า) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
เข้าสู่วงโคจร geosynchronous ที่ระดับ 22,236 ไมล์เหนือพื้นโลก
ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วอินโดนีเซีย รวมถึงฟิลิปปินส์และมาเลเซีย
ดำเนินการโดย PT Pasifik Satelit Nusantara (PSN) บริษัทดาวเทียมเอกชนแห่งแรกของอินโดนีเซีย
มีสถานีภาคพื้นดิน 8 แห่งทั่วประเทศเพื่อรองรับการเชื่อมต่อ
คาดว่าจะเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในต้นปี 2026
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
ดาวเทียม geosynchronous จะหมุนตามโลก ทำให้สามารถ “ลอยนิ่ง” เหนือพื้นที่เป้าหมาย
อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่ใช้ดาวเทียมเพื่อเชื่อมโยงประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
การใช้ Ka-band และ spot beams ช่วยให้สามารถส่งสัญญาณไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการสูง
ดาวเทียม Nusantara Lima จะเสริมการทำงานของ SATRIA-1 ที่เปิดใช้งานเมื่อปี 2024
โครงการนี้มีมูลค่ารวมกว่า 7 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 427 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
https://www.slashgear.com/1974684/spacex-launches-indonesia-nusantara-lima-mission-what-to-know/
วันที่ 11 กันยายน 2025 เวลา 21:56 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ Cape Canaveral รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา SpaceX ได้ปล่อยจรวด Falcon 9 พร้อมดาวเทียม Nusantara Lima (SNL) ขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จ หลังจากเลื่อนมาแล้วถึงสามครั้งเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย การปล่อยครั้งนี้ถือเป็นภารกิจที่ 114 ของ Falcon 9 ในปีเดียว และเป็นการใช้งานบูสเตอร์ตัวเดิมเป็นครั้งที่ 23 ซึ่งสามารถลงจอดบนเรือโดรน “A Shortfall of Gravitas” ได้อย่างแม่นยำอีกครั้ง
ดาวเทียม Nusantara Lima เป็นดาวเทียมสื่อสารความเร็วสูงที่สร้างโดย Boeing บนแพลตฟอร์ม 702MP มีน้ำหนัก 7.8 ตัน และสามารถส่งข้อมูลได้สูงถึง 160 Gbps ถือเป็นดาวเทียมที่มีความจุสูงที่สุดในเอเชีย ณ เวลานี้ โดยจะให้บริการอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารครอบคลุมทั่วอินโดนีเซีย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์และมาเลเซีย
ดาวเทียมนี้ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างเคมีและไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าสู่วงโคจร geosynchronous ที่ระดับความสูง 22,236 ไมล์เหนือพื้นโลก โดยจะใช้เวลาหลายเดือนในการปรับตำแหน่งและทดสอบระบบ ก่อนเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในช่วงต้นปี 2026
โครงการนี้ดำเนินการโดย PT Pasifik Satelit Nusantara (PSN) ซึ่งเป็นบริษัทดาวเทียมเอกชนแห่งแรกของอินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ครอบคลุมทั่วหมู่เกาะกว่า 17,000 แห่งของประเทศ และเสริมความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อม การรับมือภัยพิบัติ และการป้องกันประเทศ
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
SpaceX ปล่อยจรวด Falcon 9 พร้อมดาวเทียม Nusantara Lima เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2025
เป็นการใช้งานบูสเตอร์ครั้งที่ 23 และลงจอดบนเรือโดรน “A Shortfall of Gravitas” ได้สำเร็จ
ดาวเทียมมีน้ำหนัก 7.8 ตัน และสามารถส่งข้อมูลได้สูงถึง 160 Gbps
สร้างโดย Boeing บนแพลตฟอร์ม 702MP ที่มีอายุการใช้งานกว่า 15 ปี
ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด (เคมี + ไฟฟ้า) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
เข้าสู่วงโคจร geosynchronous ที่ระดับ 22,236 ไมล์เหนือพื้นโลก
ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วอินโดนีเซีย รวมถึงฟิลิปปินส์และมาเลเซีย
ดำเนินการโดย PT Pasifik Satelit Nusantara (PSN) บริษัทดาวเทียมเอกชนแห่งแรกของอินโดนีเซีย
มีสถานีภาคพื้นดิน 8 แห่งทั่วประเทศเพื่อรองรับการเชื่อมต่อ
คาดว่าจะเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในต้นปี 2026
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
ดาวเทียม geosynchronous จะหมุนตามโลก ทำให้สามารถ “ลอยนิ่ง” เหนือพื้นที่เป้าหมาย
อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่ใช้ดาวเทียมเพื่อเชื่อมโยงประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
การใช้ Ka-band และ spot beams ช่วยให้สามารถส่งสัญญาณไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการสูง
ดาวเทียม Nusantara Lima จะเสริมการทำงานของ SATRIA-1 ที่เปิดใช้งานเมื่อปี 2024
โครงการนี้มีมูลค่ารวมกว่า 7 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 427 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
https://www.slashgear.com/1974684/spacex-launches-indonesia-nusantara-lima-mission-what-to-know/
🚀 “SpaceX ส่งดาวเทียม Nusantara Lima ขึ้นสู่วงโคจร — อินโดนีเซียเตรียมพลิกโฉมการเชื่อมต่อทั่วอาเซียน”
วันที่ 11 กันยายน 2025 เวลา 21:56 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ Cape Canaveral รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา SpaceX ได้ปล่อยจรวด Falcon 9 พร้อมดาวเทียม Nusantara Lima (SNL) ขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จ หลังจากเลื่อนมาแล้วถึงสามครั้งเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย การปล่อยครั้งนี้ถือเป็นภารกิจที่ 114 ของ Falcon 9 ในปีเดียว และเป็นการใช้งานบูสเตอร์ตัวเดิมเป็นครั้งที่ 23 ซึ่งสามารถลงจอดบนเรือโดรน “A Shortfall of Gravitas” ได้อย่างแม่นยำอีกครั้ง
ดาวเทียม Nusantara Lima เป็นดาวเทียมสื่อสารความเร็วสูงที่สร้างโดย Boeing บนแพลตฟอร์ม 702MP มีน้ำหนัก 7.8 ตัน และสามารถส่งข้อมูลได้สูงถึง 160 Gbps ถือเป็นดาวเทียมที่มีความจุสูงที่สุดในเอเชีย ณ เวลานี้ โดยจะให้บริการอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารครอบคลุมทั่วอินโดนีเซีย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์และมาเลเซีย
ดาวเทียมนี้ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างเคมีและไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าสู่วงโคจร geosynchronous ที่ระดับความสูง 22,236 ไมล์เหนือพื้นโลก โดยจะใช้เวลาหลายเดือนในการปรับตำแหน่งและทดสอบระบบ ก่อนเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในช่วงต้นปี 2026
โครงการนี้ดำเนินการโดย PT Pasifik Satelit Nusantara (PSN) ซึ่งเป็นบริษัทดาวเทียมเอกชนแห่งแรกของอินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ครอบคลุมทั่วหมู่เกาะกว่า 17,000 แห่งของประเทศ และเสริมความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อม การรับมือภัยพิบัติ และการป้องกันประเทศ
✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว
➡️ SpaceX ปล่อยจรวด Falcon 9 พร้อมดาวเทียม Nusantara Lima เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2025
➡️ เป็นการใช้งานบูสเตอร์ครั้งที่ 23 และลงจอดบนเรือโดรน “A Shortfall of Gravitas” ได้สำเร็จ
➡️ ดาวเทียมมีน้ำหนัก 7.8 ตัน และสามารถส่งข้อมูลได้สูงถึง 160 Gbps
➡️ สร้างโดย Boeing บนแพลตฟอร์ม 702MP ที่มีอายุการใช้งานกว่า 15 ปี
➡️ ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด (เคมี + ไฟฟ้า) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
➡️ เข้าสู่วงโคจร geosynchronous ที่ระดับ 22,236 ไมล์เหนือพื้นโลก
➡️ ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วอินโดนีเซีย รวมถึงฟิลิปปินส์และมาเลเซีย
➡️ ดำเนินการโดย PT Pasifik Satelit Nusantara (PSN) บริษัทดาวเทียมเอกชนแห่งแรกของอินโดนีเซีย
➡️ มีสถานีภาคพื้นดิน 8 แห่งทั่วประเทศเพื่อรองรับการเชื่อมต่อ
➡️ คาดว่าจะเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในต้นปี 2026
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ ดาวเทียม geosynchronous จะหมุนตามโลก ทำให้สามารถ “ลอยนิ่ง” เหนือพื้นที่เป้าหมาย
➡️ อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่ใช้ดาวเทียมเพื่อเชื่อมโยงประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
➡️ การใช้ Ka-band และ spot beams ช่วยให้สามารถส่งสัญญาณไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการสูง
➡️ ดาวเทียม Nusantara Lima จะเสริมการทำงานของ SATRIA-1 ที่เปิดใช้งานเมื่อปี 2024
➡️ โครงการนี้มีมูลค่ารวมกว่า 7 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 427 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
https://www.slashgear.com/1974684/spacex-launches-indonesia-nusantara-lima-mission-what-to-know/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
62 มุมมอง
0 รีวิว