• เหรียญพระอาจารย์จำเนียรหลังพระสิวลี วัดถ้ำเสือ กระบี่
    เหรียญพระอาจารย์จำเนียรหลังพระสิวลี วัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่ // พระดีพิธีขลัง !! บูชาแล้วยิ่งรวย เสริมโชคลาภ เรียกทรัพย์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >>

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระอาจารย์จำเนียรหลังพระสิวลี วัดถ้ำเสือ กระบี่ เหรียญพระอาจารย์จำเนียรหลังพระสิวลี วัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่ // พระดีพิธีขลัง !! บูชาแล้วยิ่งรวย เสริมโชคลาภ เรียกทรัพย์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • สื่อกัมพูชา ออกอาการงอแง หลังสวีเดนขาย Gripen ให้ไทยเพิ่ม ขุดคำพูด “ฮุนเซน” เคยบอกประเทศที่ขายเครื่องบินรบให้ไทย ต้องมีเงื่อนไขห้ามใช้โจมตีประเทศเพื่อนบ้าน อ้างช่วงสงครามเมื่อปลายเดือนก่อน ไทยเคยใช้ละเมิดสิทธิมนุษยชนคนกัมพูชา ทั้งที่สวีเดนเคยเป็นประเทศส่งเสริมสิทธิมนุษยชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081525

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สื่อกัมพูชา ออกอาการงอแง หลังสวีเดนขาย Gripen ให้ไทยเพิ่ม ขุดคำพูด “ฮุนเซน” เคยบอกประเทศที่ขายเครื่องบินรบให้ไทย ต้องมีเงื่อนไขห้ามใช้โจมตีประเทศเพื่อนบ้าน อ้างช่วงสงครามเมื่อปลายเดือนก่อน ไทยเคยใช้ละเมิดสิทธิมนุษยชนคนกัมพูชา ทั้งที่สวีเดนเคยเป็นประเทศส่งเสริมสิทธิมนุษยชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081525 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 424 Views 0 Reviews
  • Scan to support Newskit

    เพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 นำเสนอเรื่องราวแตกต่างจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ทุกเช้าวันจันทร์-พฤหัสบดี ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Thaitimes, Facebook และ Instagram ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร

    ที่ผ่านมามีคนสงสัยว่า เพจ Newskit ทำคนเดียวหรือไม่ เป็นเพจส่วนตัว หรือทำในนามองค์กร ขอใช้พื้นที่ตรงนี้สื่อสารกับคุณผู้อ่านว่า เป็นเพจส่วนตัวที่ทำคนเดียว หลังเว้นวรรคจากงานคอลัมนิสต์ออนไลน์ ที่หยุดเขียนไปเมื่อเดือน เม.ย.2567 และได้รับความกรุณาจากทีมงาน Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย ให้ทดสอบระบบและนำเสนอเนื้อหาถึงปัจจุบัน โดยยึดหลักการ One Man Journalism แม้จะมีงานประจำและกิจการของครอบครัว แต่พื้นที่ตรงนี้มีไว้ "ปล่อยของ" ในสิ่งที่งานประจำทำไม่ได้

    การเดินทางของเพจ Newskit ทำเป็นงานอดิเรกด้วยใจล้วนๆ เนื้อหาของเราไม่ได้ทำตามกระแส คนที่เข้ามาอ่านจะต้องรู้จักงานเขียนหรือตัวตนของเราจริงๆ แม้อัลกอริทึมจะปิดกั้นก็ตาม อีกทั้งการแสวงหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน โดยเฉพาะการลงพื้นที่ย่อมมีค่าใช้จ่าย ซึ่งที่ผ่านมาใช้รายได้จากงานประจำเป็นหลัก เราใช้ความคิดและหัวใจ ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่พบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน

    ถึงกระนั้น เราเชื่อว่าทั้งในวันนี้และอนาคต อาจมีคนที่อยากสนับสนุนผลงาน อีกทั้งเริ่มเห็นสื่อเอกชน และสื่อมวลชนอิสระหลายราย เริ่มประกาศขอรับการสนับสนุนหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ทุกโพสต์ของ Newskit จะติด QR Code ของแอปพลิเคชัน K SHOP สำหรับผู้อ่านที่ต้องการสนับสนุนโดยตรง แม้เราจะไม่คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนักก็ตาม โปรดสังเกตชื่อบัญชีปลายทางเป็น "นายกิตตินันท์ นาคทอง" เท่านั้น ระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง

    เหตุผลที่ไม่แจ้งบัญชีธนาคารโดยตรง เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล และป้องกันมิจฉาชีพ อีกทั้งด้วยฟังก์ชันของ K SHOP ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย สามารถเลือกชำระด้วยคะแนนสะสม K Point ได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาท และผู้ใช้แอปพลิเคชัน MaxMe Wallet สามารถเลือกชำระด้วยแต้มในบัตรแมกซ์การ์ด ของปั๊มน้ำมันพีทีได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาทเช่นกัน

    ขอขอบคุณทุกการสแกนเพื่อสนับสนุนเรามา ณ โอกาสนี้

    #Newskit
    Scan to support Newskit เพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 นำเสนอเรื่องราวแตกต่างจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ทุกเช้าวันจันทร์-พฤหัสบดี ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Thaitimes, Facebook และ Instagram ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร ที่ผ่านมามีคนสงสัยว่า เพจ Newskit ทำคนเดียวหรือไม่ เป็นเพจส่วนตัว หรือทำในนามองค์กร ขอใช้พื้นที่ตรงนี้สื่อสารกับคุณผู้อ่านว่า เป็นเพจส่วนตัวที่ทำคนเดียว หลังเว้นวรรคจากงานคอลัมนิสต์ออนไลน์ ที่หยุดเขียนไปเมื่อเดือน เม.ย.2567 และได้รับความกรุณาจากทีมงาน Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย ให้ทดสอบระบบและนำเสนอเนื้อหาถึงปัจจุบัน โดยยึดหลักการ One Man Journalism แม้จะมีงานประจำและกิจการของครอบครัว แต่พื้นที่ตรงนี้มีไว้ "ปล่อยของ" ในสิ่งที่งานประจำทำไม่ได้ การเดินทางของเพจ Newskit ทำเป็นงานอดิเรกด้วยใจล้วนๆ เนื้อหาของเราไม่ได้ทำตามกระแส คนที่เข้ามาอ่านจะต้องรู้จักงานเขียนหรือตัวตนของเราจริงๆ แม้อัลกอริทึมจะปิดกั้นก็ตาม อีกทั้งการแสวงหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน โดยเฉพาะการลงพื้นที่ย่อมมีค่าใช้จ่าย ซึ่งที่ผ่านมาใช้รายได้จากงานประจำเป็นหลัก เราใช้ความคิดและหัวใจ ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่พบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน ถึงกระนั้น เราเชื่อว่าทั้งในวันนี้และอนาคต อาจมีคนที่อยากสนับสนุนผลงาน อีกทั้งเริ่มเห็นสื่อเอกชน และสื่อมวลชนอิสระหลายราย เริ่มประกาศขอรับการสนับสนุนหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ทุกโพสต์ของ Newskit จะติด QR Code ของแอปพลิเคชัน K SHOP สำหรับผู้อ่านที่ต้องการสนับสนุนโดยตรง แม้เราจะไม่คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนักก็ตาม โปรดสังเกตชื่อบัญชีปลายทางเป็น "นายกิตตินันท์ นาคทอง" เท่านั้น ระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง เหตุผลที่ไม่แจ้งบัญชีธนาคารโดยตรง เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล และป้องกันมิจฉาชีพ อีกทั้งด้วยฟังก์ชันของ K SHOP ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย สามารถเลือกชำระด้วยคะแนนสะสม K Point ได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาท และผู้ใช้แอปพลิเคชัน MaxMe Wallet สามารถเลือกชำระด้วยแต้มในบัตรแมกซ์การ์ด ของปั๊มน้ำมันพีทีได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาทเช่นกัน ขอขอบคุณทุกการสแกนเพื่อสนับสนุนเรามา ณ โอกาสนี้ #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 267 Views 0 Reviews
  • รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ของจีน เดินทางเยือนอินเดีย โดยมีกำหนดการเข้าพบนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของแดนภารตะ ที่เตรียมเดินทางไปจีนปลายเดือนนี้ ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณของการผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากที่มหาอำนาจเอเชีย 2 รายนี้มีการเผชิญหน้ากันมายาวนานเป็นปี อีกทั้งเกิดขึ้นขณะที่ทั้งคู่ต่างเผชิญแรงกดดันสงครามภาษีศุลกากรจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000079157

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ของจีน เดินทางเยือนอินเดีย โดยมีกำหนดการเข้าพบนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของแดนภารตะ ที่เตรียมเดินทางไปจีนปลายเดือนนี้ ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณของการผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากที่มหาอำนาจเอเชีย 2 รายนี้มีการเผชิญหน้ากันมายาวนานเป็นปี อีกทั้งเกิดขึ้นขณะที่ทั้งคู่ต่างเผชิญแรงกดดันสงครามภาษีศุลกากรจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000079157 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 738 Views 0 Reviews
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.134 : จับตา “พม่า” เตรียมหวนคืนสู่เวทีโลก
    .
    ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านของเรา คือ เมียนมา หรือ พม่า กำลังมีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ คือ รัฐบาลทหารได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน ที่ใช้มานานถึง 4 ปี รวมถึงยุบ “สภาบริหารแห่งรัฐ” ซึ่งเป็นองค์กรบริหารงานของคณะทหาร และแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนที่พลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย....ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในปลายปี 2568 นี้
    .
    พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะมาลองวิเคราะห์กันว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปลายปี 2568 นี้ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพม่าได้อย่างไร และที่สำคัญก็คือ จะส่งผลกระทบยังไงต่อประเทศไทยของเรา รวมถึงสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ที่ชาติมหาอำนาจหลายประเทศกำลังแย่งชิงพื้นที่ทางภูมิรัฐศาสตร์ กันอยู่ในขณะนี้
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=SNLSU8pwRa4
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #เลือกตั้งพม่า
    บูรพาไม่แพ้ Ep.134 : จับตา “พม่า” เตรียมหวนคืนสู่เวทีโลก . ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านของเรา คือ เมียนมา หรือ พม่า กำลังมีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ คือ รัฐบาลทหารได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน ที่ใช้มานานถึง 4 ปี รวมถึงยุบ “สภาบริหารแห่งรัฐ” ซึ่งเป็นองค์กรบริหารงานของคณะทหาร และแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนที่พลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย....ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในปลายปี 2568 นี้ . พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะมาลองวิเคราะห์กันว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปลายปี 2568 นี้ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพม่าได้อย่างไร และที่สำคัญก็คือ จะส่งผลกระทบยังไงต่อประเทศไทยของเรา รวมถึงสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ที่ชาติมหาอำนาจหลายประเทศกำลังแย่งชิงพื้นที่ทางภูมิรัฐศาสตร์ กันอยู่ในขณะนี้ . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=SNLSU8pwRa4 . #บูรพาไม่แพ้ #เลือกตั้งพม่า
    Like
    Love
    2
    1 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.133 : “ไทย-กัมพูชา” จะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ?
    .
    ในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา ในบรรดาประเทศเพื่อนบ้านมีแค่ กัมพูชา ประเทศเดียวเท่านั้น ที่มีความขัดแย้งกับไทยเรา จนถึงขนาดที่มีการใช้กำลังทหารสู้รบกัน พอดแคส บูรพาไม่แพ้ วันนี้ เราจะลองหาสาเหตุว่า ทำไมกัมพูชาถึงได้เป็นเพื่อนบ้านที่มีความขัดแย้งกับประเทศไทยครั้งแล้วครั้งเล่า โดยมีมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ ที่จะมาให้ความเห็นว่า ไทย-กัมพูชา จะอยู่ร่วมกันต่อไปได้อย่างไร?
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=imzhrrfoXl4
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #ไทยกัมพูชา
    บูรพาไม่แพ้ Ep.133 : “ไทย-กัมพูชา” จะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ? . ในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา ในบรรดาประเทศเพื่อนบ้านมีแค่ กัมพูชา ประเทศเดียวเท่านั้น ที่มีความขัดแย้งกับไทยเรา จนถึงขนาดที่มีการใช้กำลังทหารสู้รบกัน พอดแคส บูรพาไม่แพ้ วันนี้ เราจะลองหาสาเหตุว่า ทำไมกัมพูชาถึงได้เป็นเพื่อนบ้านที่มีความขัดแย้งกับประเทศไทยครั้งแล้วครั้งเล่า โดยมีมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ ที่จะมาให้ความเห็นว่า ไทย-กัมพูชา จะอยู่ร่วมกันต่อไปได้อย่างไร? . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=imzhrrfoXl4 . #บูรพาไม่แพ้ #ไทยกัมพูชา
    Like
    Love
    Angry
    3
    1 Comments 0 Shares 232 Views 0 Reviews
  • นางกวักหลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
    นางกวัก เมตตา มหาลาภ เนื้อผงพุทธคุณ หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ่ เครื่องรางของขลังที่นิยมบูชาในหมู่พ่อค้าแม่ค้า เพื่อเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขาย และเมตตามหานิยม // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขาย และเมตตามหานิยม กวักโชคลาภ เรียกเงินทองให้ไหลมาเทมา และทำให้ค้าขายดี ดึงดูดลูกค้า ทำให้ค้าขายร่ำรวย เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ทำให้เจรจาค้าขายราบรื่น >>

    ** หลวงพ่อจำเนียร หรือ พระอาจารย์จำเนียร วัดถ้ำเสือ เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง จึงทำวัตถุมงคลของหลวงพ่อจำเนียร ล้วนแต่มีพุทธคุณครบเครื่องครอบจักรวาล และเกิดประสบการณ์ ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ให้เห็นประจักษ์แก่บันดาศิษยานุศิษย์ และผู้เคารพศรัทธาในตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    นางกวักหลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ นางกวัก เมตตา มหาลาภ เนื้อผงพุทธคุณ หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ่ เครื่องรางของขลังที่นิยมบูชาในหมู่พ่อค้าแม่ค้า เพื่อเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขาย และเมตตามหานิยม // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขาย และเมตตามหานิยม กวักโชคลาภ เรียกเงินทองให้ไหลมาเทมา และทำให้ค้าขายดี ดึงดูดลูกค้า ทำให้ค้าขายร่ำรวย เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ทำให้เจรจาค้าขายราบรื่น >> ** หลวงพ่อจำเนียร หรือ พระอาจารย์จำเนียร วัดถ้ำเสือ เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง จึงทำวัตถุมงคลของหลวงพ่อจำเนียร ล้วนแต่มีพุทธคุณครบเครื่องครอบจักรวาล และเกิดประสบการณ์ ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ให้เห็นประจักษ์แก่บันดาศิษยานุศิษย์ และผู้เคารพศรัทธาในตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • มีรายงานว่า เขมรบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ รวมทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ไทยเสนอตัวเข้าช่วยก็ตาม ด้านพลเอง "เตีย เซียฮา อ้างเหตุผลว่า การประชุมครั้งนี้ขอคุยแค่เรื่องข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ไปคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้าต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า

    พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ

    พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ

    1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย

    2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง

    พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย

    "ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม"

    "ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
    มีรายงานว่า เขมรบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ รวมทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ไทยเสนอตัวเข้าช่วยก็ตาม ด้านพลเอง "เตีย เซียฮา อ้างเหตุผลว่า การประชุมครั้งนี้ขอคุยแค่เรื่องข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ไปคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้าต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ 1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย 2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย "ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม" "ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 551 Views 0 Reviews
  • จากผู้ลี้ภัย...สู่ผู้ยิงประตูหลังบ้าน!!! เมื่อ “เขมร” หันคมกระบอกปืนใส่ผู้มีพระคุณ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้
    https://www.thai-tai.tv/news/20736/
    .
    #ไทยไท #กัมพูชา #ประวัติศาสตร์ #คนดีต้องแชร์ #ประเทศเพื่อนบ้าน
    จากผู้ลี้ภัย...สู่ผู้ยิงประตูหลังบ้าน!!! เมื่อ “เขมร” หันคมกระบอกปืนใส่ผู้มีพระคุณ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ https://www.thai-tai.tv/news/20736/ . #ไทยไท #กัมพูชา #ประวัติศาสตร์ #คนดีต้องแชร์ #ประเทศเพื่อนบ้าน
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • ขอจังหวัดหาแอนตี้โดรน เฝ้าระวังไส้ศึก : [NEWS UPDATE]
    พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคอีสาน เรื่องมาตรการกำจัดโดรน โดยให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัด แต่ละหน่วยงาน ทำงานร่วมกับตำรวจ เอกชน และประชาชน จัดหาเครื่องแอนตี้โดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญ เช่น ศาลากลางจังหวัด สนามกีฬา คลังอาวุธ สถานีตำรวจ สถานีขนส่ง และสนามบิน จัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หากควบคุมตัวได้ให้ดำเนินคดีถึงที่สุด เช่น ก่อการร้าย ไส้ศึก โทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต กำชับห้ามปล่อยตัวง่ายๆ ต้องตรวจสอบถึงต้นตอ คนอยู่เบื้องหลัง คาดว่าจะมีมือที่สามที่ได้รับผลกระทบจากการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บ่อนพนันประเทศเพื่อนบ้าน มาข่มขู่ หลังสิ้นสุดคดีให้เนรเทศขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่สามารถเข้าไทยได้อีก


    เร่งทำลายระเบิดตกค้าง

    จีน-สหรัฐ จ่อสังเกตการณ์

    ทหารเรือขอกำลังใจ

    4 แนวทางลดผลกระทบภาษี
    ขอจังหวัดหาแอนตี้โดรน เฝ้าระวังไส้ศึก : [NEWS UPDATE] พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคอีสาน เรื่องมาตรการกำจัดโดรน โดยให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัด แต่ละหน่วยงาน ทำงานร่วมกับตำรวจ เอกชน และประชาชน จัดหาเครื่องแอนตี้โดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญ เช่น ศาลากลางจังหวัด สนามกีฬา คลังอาวุธ สถานีตำรวจ สถานีขนส่ง และสนามบิน จัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หากควบคุมตัวได้ให้ดำเนินคดีถึงที่สุด เช่น ก่อการร้าย ไส้ศึก โทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต กำชับห้ามปล่อยตัวง่ายๆ ต้องตรวจสอบถึงต้นตอ คนอยู่เบื้องหลัง คาดว่าจะมีมือที่สามที่ได้รับผลกระทบจากการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บ่อนพนันประเทศเพื่อนบ้าน มาข่มขู่ หลังสิ้นสุดคดีให้เนรเทศขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่สามารถเข้าไทยได้อีก เร่งทำลายระเบิดตกค้าง จีน-สหรัฐ จ่อสังเกตการณ์ ทหารเรือขอกำลังใจ 4 แนวทางลดผลกระทบภาษี
    Like
    7
    0 Comments 0 Shares 505 Views 0 0 Reviews
  • ม็อบกัมพูชาเปลี่ยนโหมดจากที่เคยปลุกระดมพร้อมบวกกับไทย กลายมาเป็นชุมนุมเรียกร้องสันติภาพ ร่วมมือร่วมใจกันรักษาเสถียรภาพกับประเทศเพื่อนบ้าน


    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073228

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ม็อบกัมพูชาเปลี่ยนโหมดจากที่เคยปลุกระดมพร้อมบวกกับไทย กลายมาเป็นชุมนุมเรียกร้องสันติภาพ ร่วมมือร่วมใจกันรักษาเสถียรภาพกับประเทศเพื่อนบ้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073228 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Angry
    2
    1 Comments 0 Shares 475 Views 0 Reviews
  • ด่วน!
    กัมพูชาแถลงยัน ทุ่นระเบิดที่ทหารไทยเหยียบเป็นระเบิดเก่า ไม่ใช่ PMN-2

    หน่วยงานปฏิบัติการและช่วยเหลือเหยื่อทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา (CMAA) ออกแถลงการณ์เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาล่าสุดของเจ้าหน้าที่ไทยที่กล่าวหาว่า กองกำลังกัมพูชาได้ติดตั้งทุ่นระเบิดลูกใหม่ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย
    .
    หลังจากเกิดเหตุระเบิดทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 16 และ 23 ก.ค. 68 ซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บใกล้ชายแดนจังหวัดพระวิหาร เจ้าหน้าที่ไทยกล่าวหาว่า ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ที่เพิ่งติดตั้งใหม่เป็นสาเหตุ
    .
    CMAA ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างหนักแน่นและย้ำว่า กัมพูชาได้ปฏิบัติตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งกัมพูชาได้ให้สัตยาบันในปี พ.ศ. 2542 อย่างเต็มที่

    แถลงการณ์โดยละเอียด:

    CMAA ขอตอบโต้ข้อกล่าวหาของไทย: จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตทุ่นระเบิดที่ได้รับการบันทึกไว้ภายในเขตแดนกัมพูชา

    พนมเปญ — หน่วยงานช่วยเหลือเหยื่อและปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา (CMAA) ออกแถลงการณ์ดังต่อไปนี้เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาล่าสุดของเจ้าหน้าที่ไทยที่กล่าวหาว่ากองกำลังกัมพูชาได้ติดตั้งทุ่นระเบิดลูกใหม่ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย

    หลังจากเกิดเหตุระเบิดจากทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บใกล้ชายแดนในจังหวัดพระวิหาร เจ้าหน้าที่ไทยกล่าวหาว่าทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 เป็นระเบิดที่เพิ่งติดตั้งใหม่เป็นสาเหตุในครั้งนี้

    ทางหน่วยงาน CMAA ขอปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างหนักแน่น และย้ำว่ากัมพูชาได้ปฏิบัติตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) อย่างเคร่งครัด ซึ่งกัมพูชาได้ให้สัตยาบันในปี พ.ศ. 2542

    การตรวจสอบทางเทคนิคโดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAC) ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเขตแดนของกัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ทุ่นระเบิด BS/CMAA/16808 ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านเตโชโมโรโกต ตำบลโมโรโกต อำเภอจัมโบกสัน ทุ่นระเบิดนี้ได้รับการบันทึกอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย และเป็นส่วนหนึ่งของคลังทุ่นระเบิดเก่าของกัมพูชาที่สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งในอดีต

    การประเมินทางนิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับรูปแบบการบาดเจ็บชี้ให้เห็นว่าการระเบิดน่าจะเกิดจากทุ่นระเบิดเก่าที่มีพลังทำลายต่ำ เช่น ประเภท 72A, 72B, M14, MN79 หรือ MD82B ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแต่ละทุ่นระเบิดจะมีน้ำหนักประมาณ 30 กรัม ในทางตรงกันข้าม ทุ่นระเบิด PMN-2 มีวัตถุระเบิดมากกว่า 115 กรัม และมักส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสมากกว่า ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่าการบาดเจ็บที่ได้รับในเหตุการณ์นี้ไม่สอดคล้องกับการระเบิดของ PMN-2

    CMAA เน้นย้ำข้อเท็จจริงสำคัญดังต่อไปนี้:

    1. ยังไม่มีการวางทุ่นระเบิดใหม่ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นส่วนหนึ่งของทุ่นระเบิดที่มีมายาวนาน ซึ่งยังคงเป็นภัยคุกคามด้านมนุษยธรรมต่อชุมชนชายแดน

    2. การระเบิดเกิดขึ้นในเขตอันตรายที่ได้รับการบันทึกอย่างเป็นทางการ พื้นที่ระเบิดทั้งหมดอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชาและยังไม่ได้รับการแก้ไข

    3. กัมพูชามีสถิติการปฏิบัติการทุ่นระเบิดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 กัมพูชาได้ดำเนินการกวาดล้างทุ่นระเบิดไปแล้วกว่า 1.1 ล้านลูก และซากวัตถุระเบิดจากสงครามเกือบ 3 ล้านชิ้น ประเทศยังคงมีบทบาทสำคัญในความพยายามในการกำจัดทุ่นระเบิดทั่วโลก รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดเสียมเรียบ-อังกอร์ ปี พ.ศ. 2567 เพื่อลงนามสนธิสัญญาห้ามทุ่นระเบิด

    ข้อกล่าวอ้างเรื่องการติดตั้งทุ่นระเบิดใหม่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานภาคสนาม และมีความเสี่ยงที่จะบั่นทอนเจตนารมณ์แห่งความร่วมมือซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอาวุโส ลี ธุช รองประธานคนแรกของ CMAA แสดงความเสียใจต่อข้อเท็จจริงที่ผู้นำไทยบางคนกำลังบิดเบือนความตึงเครียดบริเวณชายแดนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากประเด็นทางการเมืองภายในประเทศของไทย เขาโต้แย้งอย่างหนักแน่นต่อข้อเสนอของไทยที่ว่ากัมพูชาได้ติดตั้งทุ่นระเบิดใหม่ โดยระบุว่ากัมพูชาประสบปัญหาจากการปนเปื้อนของทุ่นระเบิดมานานหลายทศวรรษ และกำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อกำจัดทุ่นระเบิดเหล่านี้

    “เราเหนื่อยล้าจากอันตรายของทุ่นระเบิด และใช้เวลากว่า 30 ปีในการกำจัดทุ่นระเบิด” เขากล่าว “กัมพูชายังคงยึดมั่นในสันติภาพ และเราขอเรียกร้องให้ไทยร่วมเจรจาหารือเกี่ยวกับปัญหาชายแดนและปฏิบัติการกำจัดทุ่นระเบิดร่วมกัน”

    เขายังกล่าวอีกว่า การกำจัดทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยยังคงเป็นความท้าทายที่ซับซ้อน เนื่องจากภูมิประเทศที่ยากลำบาก พืชพรรณที่หนาแน่น และพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนอย่างหนัก ซึ่งต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากขึ้นในการกำจัด

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาวุโสยังย้ำว่าการขาดเจตนารมณ์อันดีและความไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์กับกัมพูชาในการกำหนดเขตแดนเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายปลอดทุ่นระเบิดของกัมพูชา

    “ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ กองกำลังทหารไทยและนักการเมืองไทยบางคนได้ก่อให้เกิดข้อพิพาทกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว และเมียนมาหลายครั้ง”

    ท่านแสดงความกังวลอย่างยิ่งว่าองค์ประกอบบางส่วนในกองทัพและการเมืองของไทยยังคงแสดงความไม่พอใจในสิ่งที่ได้รับจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา แต่กลับแสดงให้เห็นถึงความโลภแบบจักรวรรดินิยม แม้ว่าจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากประเทศเพื่อนบ้านเหล่านั้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ก็ตาม

    https://web.facebook.com/share/p/16Ks7b33s6/
    ด่วน! กัมพูชาแถลงยัน ทุ่นระเบิดที่ทหารไทยเหยียบเป็นระเบิดเก่า ไม่ใช่ PMN-2 หน่วยงานปฏิบัติการและช่วยเหลือเหยื่อทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา (CMAA) ออกแถลงการณ์เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาล่าสุดของเจ้าหน้าที่ไทยที่กล่าวหาว่า กองกำลังกัมพูชาได้ติดตั้งทุ่นระเบิดลูกใหม่ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย . หลังจากเกิดเหตุระเบิดทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 16 และ 23 ก.ค. 68 ซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บใกล้ชายแดนจังหวัดพระวิหาร เจ้าหน้าที่ไทยกล่าวหาว่า ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ที่เพิ่งติดตั้งใหม่เป็นสาเหตุ . CMAA ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างหนักแน่นและย้ำว่า กัมพูชาได้ปฏิบัติตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งกัมพูชาได้ให้สัตยาบันในปี พ.ศ. 2542 อย่างเต็มที่ แถลงการณ์โดยละเอียด: CMAA ขอตอบโต้ข้อกล่าวหาของไทย: จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตทุ่นระเบิดที่ได้รับการบันทึกไว้ภายในเขตแดนกัมพูชา พนมเปญ — หน่วยงานช่วยเหลือเหยื่อและปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา (CMAA) ออกแถลงการณ์ดังต่อไปนี้เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาล่าสุดของเจ้าหน้าที่ไทยที่กล่าวหาว่ากองกำลังกัมพูชาได้ติดตั้งทุ่นระเบิดลูกใหม่ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย หลังจากเกิดเหตุระเบิดจากทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บใกล้ชายแดนในจังหวัดพระวิหาร เจ้าหน้าที่ไทยกล่าวหาว่าทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 เป็นระเบิดที่เพิ่งติดตั้งใหม่เป็นสาเหตุในครั้งนี้ ทางหน่วยงาน CMAA ขอปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างหนักแน่น และย้ำว่ากัมพูชาได้ปฏิบัติตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) อย่างเคร่งครัด ซึ่งกัมพูชาได้ให้สัตยาบันในปี พ.ศ. 2542 การตรวจสอบทางเทคนิคโดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAC) ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเขตแดนของกัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ทุ่นระเบิด BS/CMAA/16808 ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านเตโชโมโรโกต ตำบลโมโรโกต อำเภอจัมโบกสัน ทุ่นระเบิดนี้ได้รับการบันทึกอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย และเป็นส่วนหนึ่งของคลังทุ่นระเบิดเก่าของกัมพูชาที่สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งในอดีต การประเมินทางนิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับรูปแบบการบาดเจ็บชี้ให้เห็นว่าการระเบิดน่าจะเกิดจากทุ่นระเบิดเก่าที่มีพลังทำลายต่ำ เช่น ประเภท 72A, 72B, M14, MN79 หรือ MD82B ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแต่ละทุ่นระเบิดจะมีน้ำหนักประมาณ 30 กรัม ในทางตรงกันข้าม ทุ่นระเบิด PMN-2 มีวัตถุระเบิดมากกว่า 115 กรัม และมักส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสมากกว่า ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่าการบาดเจ็บที่ได้รับในเหตุการณ์นี้ไม่สอดคล้องกับการระเบิดของ PMN-2 CMAA เน้นย้ำข้อเท็จจริงสำคัญดังต่อไปนี้: 1. ยังไม่มีการวางทุ่นระเบิดใหม่ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นส่วนหนึ่งของทุ่นระเบิดที่มีมายาวนาน ซึ่งยังคงเป็นภัยคุกคามด้านมนุษยธรรมต่อชุมชนชายแดน 2. การระเบิดเกิดขึ้นในเขตอันตรายที่ได้รับการบันทึกอย่างเป็นทางการ พื้นที่ระเบิดทั้งหมดอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชาและยังไม่ได้รับการแก้ไข 3. กัมพูชามีสถิติการปฏิบัติการทุ่นระเบิดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 กัมพูชาได้ดำเนินการกวาดล้างทุ่นระเบิดไปแล้วกว่า 1.1 ล้านลูก และซากวัตถุระเบิดจากสงครามเกือบ 3 ล้านชิ้น ประเทศยังคงมีบทบาทสำคัญในความพยายามในการกำจัดทุ่นระเบิดทั่วโลก รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดเสียมเรียบ-อังกอร์ ปี พ.ศ. 2567 เพื่อลงนามสนธิสัญญาห้ามทุ่นระเบิด ข้อกล่าวอ้างเรื่องการติดตั้งทุ่นระเบิดใหม่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานภาคสนาม และมีความเสี่ยงที่จะบั่นทอนเจตนารมณ์แห่งความร่วมมือซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอาวุโส ลี ธุช รองประธานคนแรกของ CMAA แสดงความเสียใจต่อข้อเท็จจริงที่ผู้นำไทยบางคนกำลังบิดเบือนความตึงเครียดบริเวณชายแดนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากประเด็นทางการเมืองภายในประเทศของไทย เขาโต้แย้งอย่างหนักแน่นต่อข้อเสนอของไทยที่ว่ากัมพูชาได้ติดตั้งทุ่นระเบิดใหม่ โดยระบุว่ากัมพูชาประสบปัญหาจากการปนเปื้อนของทุ่นระเบิดมานานหลายทศวรรษ และกำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อกำจัดทุ่นระเบิดเหล่านี้ “เราเหนื่อยล้าจากอันตรายของทุ่นระเบิด และใช้เวลากว่า 30 ปีในการกำจัดทุ่นระเบิด” เขากล่าว “กัมพูชายังคงยึดมั่นในสันติภาพ และเราขอเรียกร้องให้ไทยร่วมเจรจาหารือเกี่ยวกับปัญหาชายแดนและปฏิบัติการกำจัดทุ่นระเบิดร่วมกัน” เขายังกล่าวอีกว่า การกำจัดทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยยังคงเป็นความท้าทายที่ซับซ้อน เนื่องจากภูมิประเทศที่ยากลำบาก พืชพรรณที่หนาแน่น และพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนอย่างหนัก ซึ่งต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากขึ้นในการกำจัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาวุโสยังย้ำว่าการขาดเจตนารมณ์อันดีและความไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์กับกัมพูชาในการกำหนดเขตแดนเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายปลอดทุ่นระเบิดของกัมพูชา “ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ กองกำลังทหารไทยและนักการเมืองไทยบางคนได้ก่อให้เกิดข้อพิพาทกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว และเมียนมาหลายครั้ง” ท่านแสดงความกังวลอย่างยิ่งว่าองค์ประกอบบางส่วนในกองทัพและการเมืองของไทยยังคงแสดงความไม่พอใจในสิ่งที่ได้รับจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา แต่กลับแสดงให้เห็นถึงความโลภแบบจักรวรรดินิยม แม้ว่าจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากประเทศเพื่อนบ้านเหล่านั้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ก็ตาม https://web.facebook.com/share/p/16Ks7b33s6/
    0 Comments 0 Shares 476 Views 0 Reviews
  • รูปหล่อหลวงปู่สุภา ฉลองอายุครบ 113 ปี วัดสีลสุภาราม ภูเก็ต ปี2550
    รูปหล่อหลวงปู่สุภา เนื้อกะไหล่ทอง ฉลองอายุครบ 113 ปี วัดสีลสุภาราม ภูเก็ต ปี2550 //พระดีพิธีขลัง !! มีเกจิขลังหลายท่านร่วมอธิฐานจิตปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม และป้องกันภัย ค้าขายดี เจริญรุ่งเรือง ลูกค้าเข้ามาก และมีเงินทองไหลมาเทมา >>

    ** หลวงปู่สุภา กันตสีโล หลวงปู่บวชเณรตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ปี 2463 ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท จากนั้นได้ไปศึกษาทางด้านกสิณและฌานสมาบัติอยู่กับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลังจากนั้นหลวงปู่สุภาได้ออกธุดงค์ไปในทุกภาคของประเทศ รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อหลวงปู่สุภา ฉลองอายุครบ 113 ปี วัดสีลสุภาราม ภูเก็ต ปี2550 รูปหล่อหลวงปู่สุภา เนื้อกะไหล่ทอง ฉลองอายุครบ 113 ปี วัดสีลสุภาราม ภูเก็ต ปี2550 //พระดีพิธีขลัง !! มีเกจิขลังหลายท่านร่วมอธิฐานจิตปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม และป้องกันภัย ค้าขายดี เจริญรุ่งเรือง ลูกค้าเข้ามาก และมีเงินทองไหลมาเทมา >> ** หลวงปู่สุภา กันตสีโล หลวงปู่บวชเณรตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ปี 2463 ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท จากนั้นได้ไปศึกษาทางด้านกสิณและฌานสมาบัติอยู่กับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลังจากนั้นหลวงปู่สุภาได้ออกธุดงค์ไปในทุกภาคของประเทศ รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • 15 กรกฎาคม 2568 -รายงานข่าวระบุว่า ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามประกาศกวาดล้างแก๊งค์คอลเซนเตอร์-เว็บฉ้อโกงการพนันออนไลน์ทุกชนิดทั่วประเทศ! ลบข้อครหาดินแดน SCAMBODIA ฟาด UN หลังแฉเขมรมีแต่แก๊งค์คอลเซนเตอร์-เป็นที่ตั้งเว็บการพนันออนไลน์ข้ามชาติ Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า ฮุนมาเน็ต นายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศว่ารัฐบาลกัมพูชาได้สังเกตเห็นว่าปัจจุบันการหลอกลวงทางออนไลน์ในราชอาณาจักรกัมพูชากำลังก่อให้เกิดภัยคุกคามและความไม่ปลอดภัยทั้งในโลกและภูมิภาค กลุ่มอาชญากรต่างชาติก็ได้แทรกซึมเข้ามาในการหลอกลวงทางออนไลน์เช่นกัน เพื่อป้องกัน ควบคุมและปราบปรามการฉ้อโกงโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง มุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนในการดูแลรักษาและคุ้มครองความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความปลอดภัยทางสังคม รัฐบาลจึงออกกฎระเบียบดังต่อไปนี้ 1. ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด นายอำเภอเมือง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการปราบปรามการทุจริตทางเทคโนโลยีในทุกพื้นที่ภายในพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตนตามกฎหมาย ระเบียบ และบรรทัดฐานทางกฎหมายที่บังคับใช้2. กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและกรมตรวจคนเข้าเมือง เป็นหัวหน้าหน่วยงาน มีหน้าที่จัดทำขั้นตอนการขับไล่ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย อาศัยอยู่โดยผิดกฎหมายหรือประกอบกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย3. กรมตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางองค์การบริหารส่วนจังหวัด กองบังคับตำรวจภูมิภาค และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกัน ปิดกั้น และห้ามคนต่างด้าวลักลอบข้ามพรมแดนทางบกภายในพื้นที่และเขตอำนาจของตน4. คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางปกครองส่วนท้องถิ่นตามแนวชายแดนทางทะเล กองบัญชาการทหารเรือ และกรมตำรวจตระเวนชายแดนทางน้ำ มีหน้าที่ป้องกัน ปิดกั้น และห้ามมิให้คนต่างด้าวลักลอบเข้า-ออกชายแดนทางน่านน้ำภายในเขตพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตน5. ให้กระทรวงยุติธรรม สั่งการไปยังศาลและอัยการที่สังกัดศาลทุกระดับ ให้ความสำคัญและรับผิดชอบอย่างยิ่งในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยีให้เป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุนทางกฎหมายแก่สถาบันและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการปฏิบัติงานตามความจำเป็น6. ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพกัมพูชา ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ และผู้บัญชาการกองพลที่ 70 ต้องจัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเมื่อได้รับคำสั่ง7. กระทรวงสถาบันวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ต้องร่วมมือและมีส่วนร่วมในการปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยี8. คณะกรรมการการพนันเชิงพาณิชย์ของกัมพูชาจะต้องเข้มงวดกับการจัดการและการกำกับดูแลคาสิโนหรือศูนย์การพนันที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด โดยมีข้อห้ามอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้: • การฉ้อโกงทางเทคโนโลยี• การลักพาตัว การทรมาน และการคุมขังที่ผิดกฎหมาย• การค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศทุกรูปแบบ• การค้าอาวุธ การครอบครอง และการใช้อาวุธที่ผิดกฎหมาย • การสร้างกำลังที่ผิดกฎหมายผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนและการใช้กองกำลังตำรวจติดอาวุธ • การค้า การใช้ และการจัดเก็บยาเสพติดและสารเสพติดที่ผิดกฎหมาย9. ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเมือง หัวหน้ากองบัญชาการร่วมของสำนักงานบริหารจังหวัดและเมืองหลวง ผู้บัญชาการตำรวจประจำเมืองหลวง ผู้บัญชาการหน่วยงาน กระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้อง ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัดและมีความรับผิดชอบ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้หรือไม่ให้ความร่วมมือใดๆ จะถูกประเมินผลในการแต่งตั้ง โยกย้าย หรือปลดออกจากตำแหน่งโดยทันที กระทรวง สถาบัน คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ กองบัญชาการร่วม ฝ่ายบริหารระดับจังหวัด หน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้ด้วยความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่วันที่ลงนาม
    15 กรกฎาคม 2568 -รายงานข่าวระบุว่า ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามประกาศกวาดล้างแก๊งค์คอลเซนเตอร์-เว็บฉ้อโกงการพนันออนไลน์ทุกชนิดทั่วประเทศ! ลบข้อครหาดินแดน SCAMBODIA ฟาด UN หลังแฉเขมรมีแต่แก๊งค์คอลเซนเตอร์-เป็นที่ตั้งเว็บการพนันออนไลน์ข้ามชาติ Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า ฮุนมาเน็ต นายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศว่ารัฐบาลกัมพูชาได้สังเกตเห็นว่าปัจจุบันการหลอกลวงทางออนไลน์ในราชอาณาจักรกัมพูชากำลังก่อให้เกิดภัยคุกคามและความไม่ปลอดภัยทั้งในโลกและภูมิภาค กลุ่มอาชญากรต่างชาติก็ได้แทรกซึมเข้ามาในการหลอกลวงทางออนไลน์เช่นกัน เพื่อป้องกัน ควบคุมและปราบปรามการฉ้อโกงโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง มุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนในการดูแลรักษาและคุ้มครองความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความปลอดภัยทางสังคม รัฐบาลจึงออกกฎระเบียบดังต่อไปนี้ 1. ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด นายอำเภอเมือง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการปราบปรามการทุจริตทางเทคโนโลยีในทุกพื้นที่ภายในพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตนตามกฎหมาย ระเบียบ และบรรทัดฐานทางกฎหมายที่บังคับใช้2. กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและกรมตรวจคนเข้าเมือง เป็นหัวหน้าหน่วยงาน มีหน้าที่จัดทำขั้นตอนการขับไล่ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย อาศัยอยู่โดยผิดกฎหมายหรือประกอบกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย3. กรมตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางองค์การบริหารส่วนจังหวัด กองบังคับตำรวจภูมิภาค และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกัน ปิดกั้น และห้ามคนต่างด้าวลักลอบข้ามพรมแดนทางบกภายในพื้นที่และเขตอำนาจของตน4. คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางปกครองส่วนท้องถิ่นตามแนวชายแดนทางทะเล กองบัญชาการทหารเรือ และกรมตำรวจตระเวนชายแดนทางน้ำ มีหน้าที่ป้องกัน ปิดกั้น และห้ามมิให้คนต่างด้าวลักลอบเข้า-ออกชายแดนทางน่านน้ำภายในเขตพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตน5. ให้กระทรวงยุติธรรม สั่งการไปยังศาลและอัยการที่สังกัดศาลทุกระดับ ให้ความสำคัญและรับผิดชอบอย่างยิ่งในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยีให้เป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุนทางกฎหมายแก่สถาบันและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการปฏิบัติงานตามความจำเป็น6. ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพกัมพูชา ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ และผู้บัญชาการกองพลที่ 70 ต้องจัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเมื่อได้รับคำสั่ง7. กระทรวงสถาบันวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ต้องร่วมมือและมีส่วนร่วมในการปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยี8. คณะกรรมการการพนันเชิงพาณิชย์ของกัมพูชาจะต้องเข้มงวดกับการจัดการและการกำกับดูแลคาสิโนหรือศูนย์การพนันที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด โดยมีข้อห้ามอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้: • การฉ้อโกงทางเทคโนโลยี• การลักพาตัว การทรมาน และการคุมขังที่ผิดกฎหมาย• การค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศทุกรูปแบบ• การค้าอาวุธ การครอบครอง และการใช้อาวุธที่ผิดกฎหมาย • การสร้างกำลังที่ผิดกฎหมายผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนและการใช้กองกำลังตำรวจติดอาวุธ • การค้า การใช้ และการจัดเก็บยาเสพติดและสารเสพติดที่ผิดกฎหมาย9. ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเมือง หัวหน้ากองบัญชาการร่วมของสำนักงานบริหารจังหวัดและเมืองหลวง ผู้บัญชาการตำรวจประจำเมืองหลวง ผู้บัญชาการหน่วยงาน กระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้อง ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัดและมีความรับผิดชอบ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้หรือไม่ให้ความร่วมมือใดๆ จะถูกประเมินผลในการแต่งตั้ง โยกย้าย หรือปลดออกจากตำแหน่งโดยทันที กระทรวง สถาบัน คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ กองบัญชาการร่วม ฝ่ายบริหารระดับจังหวัด หน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้ด้วยความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่วันที่ลงนาม
    0 Comments 0 Shares 660 Views 0 Reviews
  • เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
    เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน (หลังฝังพลอยเสก+เกศา) หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! ปลุกเสก 9 ปี เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    ** เหรียญหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ รุ่นรวยเงิน มวลสารปลุดเสก9ปี จัดสร้างปี 2542 หลังเหรียญติดมวลสารที่หลวงพ่อเสก เกศา+พลอยสี และ มวลสารต่างๆอีกมาก เหรียญสวยเดิมๆเลียมเดิมมาจากวัด

    ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน (หลังฝังพลอยเสก+เกศา) หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! ปลุกเสก 9 ปี เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> ** เหรียญหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ รุ่นรวยเงิน มวลสารปลุดเสก9ปี จัดสร้างปี 2542 หลังเหรียญติดมวลสารที่หลวงพ่อเสก เกศา+พลอยสี และ มวลสารต่างๆอีกมาก เหรียญสวยเดิมๆเลียมเดิมมาจากวัด ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 303 Views 0 Reviews
  • ไทยแลนด์ลุ้นหนัก เตรียมรับแรงกระแทก มาตรการภาษีสหรัฐ
    .
    สถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้ นอกจากต้องมาปวดหัวกับประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นเพื่อนที่ดีอย่างกัมพูชาแล้ว ปรากฎว่าปัญหาเรื่องการกำหนดมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกาก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลไทยยังแก้ไม่ตกเช่นกัน ภายหลังแม้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจามาตรกรทางภาษีของสหรัฐอเมริกาด้วยตัวเอง แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ขณะที่ ผู้นำสหรัฐเตรียมส่งจดหมายให้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐเตรียมรับแรงกระแทกในวันจันทร์นี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000063551

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ไทยแลนด์ลุ้นหนัก เตรียมรับแรงกระแทก มาตรการภาษีสหรัฐ . สถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้ นอกจากต้องมาปวดหัวกับประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นเพื่อนที่ดีอย่างกัมพูชาแล้ว ปรากฎว่าปัญหาเรื่องการกำหนดมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกาก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลไทยยังแก้ไม่ตกเช่นกัน ภายหลังแม้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจามาตรกรทางภาษีของสหรัฐอเมริกาด้วยตัวเอง แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ขณะที่ ผู้นำสหรัฐเตรียมส่งจดหมายให้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐเตรียมรับแรงกระแทกในวันจันทร์นี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000063551 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    4
    0 Comments 0 Shares 1387 Views 0 Reviews
  • ทุกการเดินทาง ย่อมมีก้าวที่หนึ่ง

    ครบรอบ 1 ปี สำหรับเพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ยืนหยัดนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร

    นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 ถึงปัจจุบัน Newskit เผยแพร่เรื่องราวไปแล้ว 240 ตอน มากกว่า 360 เรื่อง (บางวันมี 2 เรื่อง) ยอดผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย 1,147 ราย เฟซบุ๊ก 294 ราย นอกจากนี้ยังได้โพสต์เรื่องราวในอินสตาแกรม @newskit.th สามารถติดตามกันได้

    หลังเว้นวรรคจากคอลัมนิสต์ประจำ ที่ผ่านมาการทำเพจของเรา เดินทางด้วยใจล้วนๆ แม้จะมีอุปสรรคทั้งเรื่องหน้าที่การงานภารกิจ และปัญหาสุขภาพ ทำให้ต้องลาหยุดผู้อ่านไปบ้าง แต่ทุกเช้าวันจันทร์ถึงศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็พยายามพบกันให้เหมือนกับหนังสือพิมพ์กรอบเช้าที่สมัยก่อนวางแผงแต่เช้าตรู่ แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนผ่านจากกระดาษสู่หน้าจอมือถือ

    และเมื่อเดินทางด้วยใจล้วนๆ นี่เอง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราแทบไม่มีรายได้จากการทำเพจเลย จะมีก็แต่ครั้งหนึ่งที่เคยเล่นกิมมิกกับ THAI QR PAYMENT แต่ก็ไม่ได้มีรายได้เยอะมาก ถึงกระนั้นเรายังคงใช้หัวใจทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เราพบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน

    อย่างไรก็ตาม เมื่อหน้าที่การงานหนักขึ้น นับแต่นี้ต่อไปอาจจะไม่ได้พบกับคุณผู้อ่านบ่อยครั้งทุกเช้าวันจันทร์-ศุกร์ แต่จะพยายามพบกับคุณผู้อ่านให้ได้มากที่สุดตามแต่โอกาส จนกว่าหน้าที่การงานจะลงตัว อาจจะได้พบกันทุกวันตราบเท่าที่เรายังพอไหว เพราะด้วยอายุมากขึ้น การปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิต (Work-Life Balance) ย่อมจำเป็น ขออภัยในความไม่สะดวก ณ ที่นี้

    ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามและให้การสนับสนุนเพจ Newskit มาโดยตลอด เราอาจเป็นเพจเล็กในซอยลึก ที่คนอ่านมีไม่เยอะ แต่สิ่งที่เรายึดมั่นตั้งใจมาโดยตลอด คือ พยายามแสวงหาเรื่องราวที่หาอ่านจากที่ไหนไม่ได้ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา บนพื้นฐานของความจริง

    กิตตินันท์ นาคทอง
    ผู้ก่อตั้งเพจ Newskit

    #Newskit
    ทุกการเดินทาง ย่อมมีก้าวที่หนึ่ง ครบรอบ 1 ปี สำหรับเพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ยืนหยัดนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 ถึงปัจจุบัน Newskit เผยแพร่เรื่องราวไปแล้ว 240 ตอน มากกว่า 360 เรื่อง (บางวันมี 2 เรื่อง) ยอดผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย 1,147 ราย เฟซบุ๊ก 294 ราย นอกจากนี้ยังได้โพสต์เรื่องราวในอินสตาแกรม @newskit.th สามารถติดตามกันได้ หลังเว้นวรรคจากคอลัมนิสต์ประจำ ที่ผ่านมาการทำเพจของเรา เดินทางด้วยใจล้วนๆ แม้จะมีอุปสรรคทั้งเรื่องหน้าที่การงานภารกิจ และปัญหาสุขภาพ ทำให้ต้องลาหยุดผู้อ่านไปบ้าง แต่ทุกเช้าวันจันทร์ถึงศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็พยายามพบกันให้เหมือนกับหนังสือพิมพ์กรอบเช้าที่สมัยก่อนวางแผงแต่เช้าตรู่ แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนผ่านจากกระดาษสู่หน้าจอมือถือ และเมื่อเดินทางด้วยใจล้วนๆ นี่เอง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราแทบไม่มีรายได้จากการทำเพจเลย จะมีก็แต่ครั้งหนึ่งที่เคยเล่นกิมมิกกับ THAI QR PAYMENT แต่ก็ไม่ได้มีรายได้เยอะมาก ถึงกระนั้นเรายังคงใช้หัวใจทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เราพบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อหน้าที่การงานหนักขึ้น นับแต่นี้ต่อไปอาจจะไม่ได้พบกับคุณผู้อ่านบ่อยครั้งทุกเช้าวันจันทร์-ศุกร์ แต่จะพยายามพบกับคุณผู้อ่านให้ได้มากที่สุดตามแต่โอกาส จนกว่าหน้าที่การงานจะลงตัว อาจจะได้พบกันทุกวันตราบเท่าที่เรายังพอไหว เพราะด้วยอายุมากขึ้น การปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิต (Work-Life Balance) ย่อมจำเป็น ขออภัยในความไม่สะดวก ณ ที่นี้ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามและให้การสนับสนุนเพจ Newskit มาโดยตลอด เราอาจเป็นเพจเล็กในซอยลึก ที่คนอ่านมีไม่เยอะ แต่สิ่งที่เรายึดมั่นตั้งใจมาโดยตลอด คือ พยายามแสวงหาเรื่องราวที่หาอ่านจากที่ไหนไม่ได้ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา บนพื้นฐานของความจริง กิตตินันท์ นาคทอง ผู้ก่อตั้งเพจ Newskit #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 528 Views 0 Reviews
  • วันนี้ (27 มิ.ย.) นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวปราศรัยต่อสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระวิหาร ในประเด็นการแก้ปัญหาชายแดนกับไทยว่า ประเทศไทยควรทำงานกับกัมพูชาเหมือนยุคสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในยุคนั้นความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชา-ไทยเปรียบเสมือนการเดินบนพรมแดง ไม่มีการขัดแย้งหรือโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น

    ทั้งนี้ นายฮุนเซนเคยกล่าวในทำนองเดียวกันนี้ที่ศูนย์อพยพวัดโพธิ์ 5,000 ต้น อำเภอกุเลน จังหวัดพระวิหาร เมื่อบ่ายวันที่ 26 มิ.ย. ว่า เขาประสบช่วงเวลาที่ยากลำบากในความสัมพันธ์กับไทย ไม่ว่าจะภายใต้การนำของพลเรือนหรือทหาร อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมั่นคงที่สุดระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

    “ผมพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าในสมัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งยาวนานเกือบสิบปี ความสัมพันธ์ทวิภาคีของเราไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นเลย” นายฮุนเซนกล่าวเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.

    นายฮุนเซนกล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นนายกฯ ช่วงปี 2557 จนถึงปี 2566 แม้จะมาจากทหาร แต่ก็สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงกัมพูชาได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000060623

    #Thaitimes #MGROnline #ฮุนเซน #ทักษิณ #แพทองธาร #นายกรัฐมนตรี #กัมพูชา #ไทย #ประยุทธ์จันทร์โอชา
    วันนี้ (27 มิ.ย.) นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวปราศรัยต่อสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระวิหาร ในประเด็นการแก้ปัญหาชายแดนกับไทยว่า ประเทศไทยควรทำงานกับกัมพูชาเหมือนยุคสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในยุคนั้นความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชา-ไทยเปรียบเสมือนการเดินบนพรมแดง ไม่มีการขัดแย้งหรือโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น • ทั้งนี้ นายฮุนเซนเคยกล่าวในทำนองเดียวกันนี้ที่ศูนย์อพยพวัดโพธิ์ 5,000 ต้น อำเภอกุเลน จังหวัดพระวิหาร เมื่อบ่ายวันที่ 26 มิ.ย. ว่า เขาประสบช่วงเวลาที่ยากลำบากในความสัมพันธ์กับไทย ไม่ว่าจะภายใต้การนำของพลเรือนหรือทหาร อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมั่นคงที่สุดระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี • “ผมพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าในสมัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งยาวนานเกือบสิบปี ความสัมพันธ์ทวิภาคีของเราไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นเลย” นายฮุนเซนกล่าวเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. • นายฮุนเซนกล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นนายกฯ ช่วงปี 2557 จนถึงปี 2566 แม้จะมาจากทหาร แต่ก็สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงกัมพูชาได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000060623 • #Thaitimes #MGROnline #ฮุนเซน #ทักษิณ #แพทองธาร #นายกรัฐมนตรี #กัมพูชา #ไทย #ประยุทธ์จันทร์โอชา
    0 Comments 0 Shares 391 Views 0 Reviews
  • “ฮุนเซน” ตัดพ้อกัมพูชาเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ที่ผ่านมาทางประเทศไทย เพราะไทยมีสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ นำแก๊งฉ้อโกงเข้ามา แล้วโยนผิดให้กัมพูชา โปรดหยุดใส่ร้ายกันได้แล้ว

    วันนี้ (27 มิ.ย.) นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวระหว่างการปราศรัยต่อสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระวิหาร ในประเด็นการหลอกลวงออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ว่า กัมพูชาเป็นเหยื่อของไทยเท่านั้น เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีเที่ยวบินตรงไปยังหลายประเทศ และนำคนโกงเหล่านั้นเข้ามาในประเทศ ดังนั้นจึงขอร้องให้ไทยโปรดหยุดใส่ร้ายพวกเขา เพราะไทยเป็นคนสร้างปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา

    นายฮุนเซนกล่าวถึงการฉ้อโกงออนไลน์ในกัมพูชาว่าเกิดจากประเทศไทย และกัมพูชาได้รับชื่อเสียงในทางลบเพราะประเทศไทย กัมพูชาเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ที่เกิดจากประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากประเทศไทยมีสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดและมีเที่ยวบินตรงจากทั่วโลก เอื้อต่อขบวนการฉ้อโกงออนไลน์ จึงขอเรียกร้องให้จีน สหรัฐอเมริกา และประชาคมโลกพิจารณาปัญหานี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000060602

    #Thaitimes #MGROnline #ฮุนเซน #กัมพูชา #เหยื่อ #ฉ้อโกงออนไลน์
    “ฮุนเซน” ตัดพ้อกัมพูชาเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ที่ผ่านมาทางประเทศไทย เพราะไทยมีสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ นำแก๊งฉ้อโกงเข้ามา แล้วโยนผิดให้กัมพูชา โปรดหยุดใส่ร้ายกันได้แล้ว • วันนี้ (27 มิ.ย.) นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวระหว่างการปราศรัยต่อสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระวิหาร ในประเด็นการหลอกลวงออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ว่า กัมพูชาเป็นเหยื่อของไทยเท่านั้น เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีเที่ยวบินตรงไปยังหลายประเทศ และนำคนโกงเหล่านั้นเข้ามาในประเทศ ดังนั้นจึงขอร้องให้ไทยโปรดหยุดใส่ร้ายพวกเขา เพราะไทยเป็นคนสร้างปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา • นายฮุนเซนกล่าวถึงการฉ้อโกงออนไลน์ในกัมพูชาว่าเกิดจากประเทศไทย และกัมพูชาได้รับชื่อเสียงในทางลบเพราะประเทศไทย กัมพูชาเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ที่เกิดจากประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากประเทศไทยมีสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดและมีเที่ยวบินตรงจากทั่วโลก เอื้อต่อขบวนการฉ้อโกงออนไลน์ จึงขอเรียกร้องให้จีน สหรัฐอเมริกา และประชาคมโลกพิจารณาปัญหานี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000060602 • #Thaitimes #MGROnline #ฮุนเซน #กัมพูชา #เหยื่อ #ฉ้อโกงออนไลน์
    0 Comments 0 Shares 461 Views 0 Reviews
  • นิกรเดช พลางกูร นักการทูตที่ลิ่วล้อฮุน เซนดิ้น

    คำว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษไม่เกินไปจากความเป็นจริง ชื่อของ นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เมื่อนายเจีย ธิริธ โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หลังการแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. จากบทบาทโฆษกที่เป็นตัวแทนรัฐบาล พูดจาแบบเรียบๆ ดูน่าเบื่อบนช่องเอ็นบีที กลายเป็นบุคคลที่ชาวเน็ตในโหมด "ไทยนี้รักสงบแต่พร้อมตบลุงข้างบ้าน" เชียร์ให้โต้กลับแบบนักการทูต แบบดูดีมีชาติตระกูล

    ย้อนกลับไปในการแถลงข่าววันนั้น นายนิกรเดชกล่าวว่า มาตรการตอบโต้ระหว่างไทย-กัมพูชาที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย รวมถึงคำขู่ยื่นคำขาดว่าจะปิดด่านและจะห้ามนำเข้าสิ่งของจากไทย ขอเรียนโดยหลักการและความเชื่อว่า ไทยปฏิบัติตามหลักสากลว่า การเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดี จะไม่ใช้การยื่นคำขาดต่อกัน (Ultimatum) โดยไม่ได้หารือเพื่อหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน ซึ่งจะมีผลเสียต่อประชาชนของทั้งสองฝ่ายมากที่สุด

    "แนวทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียถือว่าไม่ใช่ช่องทางที่เป็นทางการ การยื่นคำขาดอัลติเมตัมต่อกัน และข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดระดับประชาชนนั้น สะท้อนถึงว่ากัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกัน บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี รัฐบาลใช้วิจารณญาณ ความมีสติในการออกมาตรการตอบโต้อย่างรอบคอบ และมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้อารมณ์ และจะไม่เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเป็นประเด็นทางการเมือง"

    ขณะที่โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ไปด่านายนิกรเดชว่าไร้ยางอาย ที่ว่าเพื่อนบ้านที่ดีไม่ควรทำเช่นนั้น แต่ประเทศไทยกลับปิดพรมแดนฝ่ายเดียว เป็นพฤติกรรมของเพื่อนบ้านที่ดีหรือไม่ ไทยปิดพรมแดนของตัวเองและต้องการให้กัมพูชาเจรจา กลัวที่จะถูกทำให้ขายหน้าและต้องการเล่นการทูตที่สกปรกกับพวกเขา งานนี้ชาวเน็ตไทยถึงกับทัวร์ลง

    นิกรเดช พลางกูร มีชื่อเล่นว่า แจ็กกี้ เป็นบุตรชายของ นพ.พิลิปดา พลางกูร เจ้าของบ้านโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ ย่านบางรัก จบรัฐศาสตรบัณฑิต (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท Master of Arts (International Affairs), The American University สหรัฐอเมริกา เคยมีผลงานเมื่อครั้งเป็นเจ้าหน้าที่การทูต ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย เมื่อครั้งเกิดสงครามกลางเมือง ปี 2554 ปัจจุบันสมรสกับคุณหน่า ภูมิจิต พลางกูร ผู้บริหารสื่อในเครือโพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย มีลูกสาว 1 คน ชื่อว่าน้องซีรีน

    #Newskit
    นิกรเดช พลางกูร นักการทูตที่ลิ่วล้อฮุน เซนดิ้น คำว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษไม่เกินไปจากความเป็นจริง ชื่อของ นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เมื่อนายเจีย ธิริธ โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หลังการแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. จากบทบาทโฆษกที่เป็นตัวแทนรัฐบาล พูดจาแบบเรียบๆ ดูน่าเบื่อบนช่องเอ็นบีที กลายเป็นบุคคลที่ชาวเน็ตในโหมด "ไทยนี้รักสงบแต่พร้อมตบลุงข้างบ้าน" เชียร์ให้โต้กลับแบบนักการทูต แบบดูดีมีชาติตระกูล ย้อนกลับไปในการแถลงข่าววันนั้น นายนิกรเดชกล่าวว่า มาตรการตอบโต้ระหว่างไทย-กัมพูชาที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย รวมถึงคำขู่ยื่นคำขาดว่าจะปิดด่านและจะห้ามนำเข้าสิ่งของจากไทย ขอเรียนโดยหลักการและความเชื่อว่า ไทยปฏิบัติตามหลักสากลว่า การเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดี จะไม่ใช้การยื่นคำขาดต่อกัน (Ultimatum) โดยไม่ได้หารือเพื่อหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน ซึ่งจะมีผลเสียต่อประชาชนของทั้งสองฝ่ายมากที่สุด "แนวทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียถือว่าไม่ใช่ช่องทางที่เป็นทางการ การยื่นคำขาดอัลติเมตัมต่อกัน และข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดระดับประชาชนนั้น สะท้อนถึงว่ากัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกัน บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี รัฐบาลใช้วิจารณญาณ ความมีสติในการออกมาตรการตอบโต้อย่างรอบคอบ และมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้อารมณ์ และจะไม่เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเป็นประเด็นทางการเมือง" ขณะที่โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ไปด่านายนิกรเดชว่าไร้ยางอาย ที่ว่าเพื่อนบ้านที่ดีไม่ควรทำเช่นนั้น แต่ประเทศไทยกลับปิดพรมแดนฝ่ายเดียว เป็นพฤติกรรมของเพื่อนบ้านที่ดีหรือไม่ ไทยปิดพรมแดนของตัวเองและต้องการให้กัมพูชาเจรจา กลัวที่จะถูกทำให้ขายหน้าและต้องการเล่นการทูตที่สกปรกกับพวกเขา งานนี้ชาวเน็ตไทยถึงกับทัวร์ลง นิกรเดช พลางกูร มีชื่อเล่นว่า แจ็กกี้ เป็นบุตรชายของ นพ.พิลิปดา พลางกูร เจ้าของบ้านโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ ย่านบางรัก จบรัฐศาสตรบัณฑิต (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท Master of Arts (International Affairs), The American University สหรัฐอเมริกา เคยมีผลงานเมื่อครั้งเป็นเจ้าหน้าที่การทูต ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย เมื่อครั้งเกิดสงครามกลางเมือง ปี 2554 ปัจจุบันสมรสกับคุณหน่า ภูมิจิต พลางกูร ผู้บริหารสื่อในเครือโพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย มีลูกสาว 1 คน ชื่อว่าน้องซีรีน #Newskit
    0 Comments 0 Shares 658 Views 0 Reviews
  • ปฐมบท ไทยเสียดินแดน?

    7 โมงเช้า 15 มิ.ย. พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก เพื่อขอแก้ไขข้อพิพาทชายแดนในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต อาศัยวันที่ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหารเมื่อ 63 ปีก่อน อ้างว่าต้องการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนซึ่งเสี่ยงที่จะปะทะด้วยอาวุธ กลไกทวิภาคีไม่สามารถแก้ไขได้ และอ้างว่าขอความยุติธรรม ความเป็นธรรม และความชัดเจนในการกำหนดเขตแดนและขอบเขตกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะไม่มีปัญหากันอีกต่อไป

    ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นอกจากจะอนุมัติวาระการประชุม 4 หัวข้อแล้ว นายลัม เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการกิจการชายแดน และประธานคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมกัมพูชา ยังกล่าวว่า กัมพูชาจะนำข้อพิพาทชายแดนทั้ง 4 พื้นที่ขึ้นสู่ศาลโลก แม้ไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกก็ตาม โดยจะไม่นำมาเป็นหัวข้อในการหารือภายใต้กรอบ JBC อีกต่อไป อีกทั้งนโยบายรัฐบาลกัมพูชายังยึดถือ MOU 2543 โดยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 และไม่ยอมรับแผนที่ฝ่ายไทยวาดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว

    ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทย อ้างว่ามิได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุด เข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก โดยมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ 1:200,000 คณะกรรมการปักปันสยาม-อินโดจีน ตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด

    พรมแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชามีระยะทาง 798 กิโลเมตร ปักปันเขตแดนแล้ว 603 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด รวม 73 หลัก แต่ยังไม่ปักปันเขตแดน 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ ถึงช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำหนดให้เป็นไปตามสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก แต่ไทยและกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับ กัมพูชาใช้แผนที่ 1:200,000 ที่มีมาตราส่วนหยาบ คลาดเคลื่อนจากเส้นสันปันน้ำจริงหลายจุด คลาดเคลื่อนหลักเขตแดนมากถึง 200 เมตร ขณะที่ไทยถือแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร มีความละเอียดของเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน เห็นแนวสันเขา ร่องน้ำที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางภูมิศาสตร์

    ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาทำสงครามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กลับไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาชัดเจน ท่ามกลางสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างตระกูลชินวัตรกับตระกูลฮุนของกัมพูชา และความไม่ไว้วางใจของประชาชนชาวไทย ที่ประเทศไทยกำลังจะเสียดินแดนอีกครั้งต่อจากเขาพระวิหาร

    #Newskit
    ปฐมบท ไทยเสียดินแดน? 7 โมงเช้า 15 มิ.ย. พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก เพื่อขอแก้ไขข้อพิพาทชายแดนในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต อาศัยวันที่ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหารเมื่อ 63 ปีก่อน อ้างว่าต้องการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนซึ่งเสี่ยงที่จะปะทะด้วยอาวุธ กลไกทวิภาคีไม่สามารถแก้ไขได้ และอ้างว่าขอความยุติธรรม ความเป็นธรรม และความชัดเจนในการกำหนดเขตแดนและขอบเขตกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะไม่มีปัญหากันอีกต่อไป ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นอกจากจะอนุมัติวาระการประชุม 4 หัวข้อแล้ว นายลัม เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการกิจการชายแดน และประธานคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมกัมพูชา ยังกล่าวว่า กัมพูชาจะนำข้อพิพาทชายแดนทั้ง 4 พื้นที่ขึ้นสู่ศาลโลก แม้ไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกก็ตาม โดยจะไม่นำมาเป็นหัวข้อในการหารือภายใต้กรอบ JBC อีกต่อไป อีกทั้งนโยบายรัฐบาลกัมพูชายังยึดถือ MOU 2543 โดยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 และไม่ยอมรับแผนที่ฝ่ายไทยวาดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทย อ้างว่ามิได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุด เข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก โดยมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ 1:200,000 คณะกรรมการปักปันสยาม-อินโดจีน ตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด พรมแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชามีระยะทาง 798 กิโลเมตร ปักปันเขตแดนแล้ว 603 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด รวม 73 หลัก แต่ยังไม่ปักปันเขตแดน 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ ถึงช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำหนดให้เป็นไปตามสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก แต่ไทยและกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับ กัมพูชาใช้แผนที่ 1:200,000 ที่มีมาตราส่วนหยาบ คลาดเคลื่อนจากเส้นสันปันน้ำจริงหลายจุด คลาดเคลื่อนหลักเขตแดนมากถึง 200 เมตร ขณะที่ไทยถือแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร มีความละเอียดของเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน เห็นแนวสันเขา ร่องน้ำที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางภูมิศาสตร์ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาทำสงครามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กลับไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาชัดเจน ท่ามกลางสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างตระกูลชินวัตรกับตระกูลฮุนของกัมพูชา และความไม่ไว้วางใจของประชาชนชาวไทย ที่ประเทศไทยกำลังจะเสียดินแดนอีกครั้งต่อจากเขาพระวิหาร #Newskit
    0 Comments 0 Shares 682 Views 0 Reviews
  • ลดเวลาพำนักไทย-เขมร จาก 60 เหลือ 7 วัน

    ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อให้เกิดมาตรการตอบโต้ระหว่างสองประเทศ จากการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน และการให้ผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ แต่ปิดตายห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทยข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา ล่าสุดกัมพูชาจำกัดระยะเวลาพำนักของชาวไทยที่เดินทางเข้ากัมพูชา จากเดิม 60 วัน เหลือเพียง 7 วัน ตามคำสั่งของผู้นำกัมพูชา เมื่อครบกำหนดต้องเดินทางออกนอกประเทศและประทับตราหนังสือเดินทางใหม่ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยประกาศว่า ฝ่ายไทยได้ปรับลดระยะเวลาพำนักของชาวกัมพูชาเหลือเพียง 7 วันเช่นกัน

    นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ระบุว่า ได้รับทราบเหมือนกันว่ากัมพูชาลดจำนวนวันสำหรับการเดินทางเข้ากัมพูชาเหลือ 7 วัน ส่วนฝ่ายไทยได้ปรับลดเป็น 7 วันเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีไปถึงเมื่อใดนั้น ทั้งสองฝ่ายยังไม่กำหนดจึงยังตอบไม่ได้ รอให้สถานการณ์ดีขึ้นคงจะหันมาคุยกันเรื่องการเพิ่มวันเป็นลำดับต่อไป แต่ยังไม่ใช่ความสำคัญอันดับต้นในขณะนี้

    นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) เตรียมเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ อีกด้วย

    สำหรับกัมพูชา เคยเป็น 1 ใน 93 ประเทศที่ทางการไทยมีมาตรการฟรีวีซ่า กำหนดให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ทำงานหรือติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ แต่ที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวเคยเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนปรับมาตรการฟรีวีซ่าจาก 60 วัน เหลือ 30 วัน หลังพบว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ไทยนานเกินไป ทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย แย่งงานแย่งอาชีพคนไทย อีกทั้งชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยวจริงๆ ในไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่เกิน 15 วัน ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเผชิญปัญหาความมั่นคง กระทบความเชื่อมั่นต่อการเดินทาง

    ถึงกระนั้น การปรับลดเวลาพำนักชาวกัมพูชาเหลือ 7 วันครั้งนี้ อาจไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไทยจึงต้องออกมาตรการตอบโต้ตามมา

    #Newskit
    ลดเวลาพำนักไทย-เขมร จาก 60 เหลือ 7 วัน ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อให้เกิดมาตรการตอบโต้ระหว่างสองประเทศ จากการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน และการให้ผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ แต่ปิดตายห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทยข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา ล่าสุดกัมพูชาจำกัดระยะเวลาพำนักของชาวไทยที่เดินทางเข้ากัมพูชา จากเดิม 60 วัน เหลือเพียง 7 วัน ตามคำสั่งของผู้นำกัมพูชา เมื่อครบกำหนดต้องเดินทางออกนอกประเทศและประทับตราหนังสือเดินทางใหม่ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยประกาศว่า ฝ่ายไทยได้ปรับลดระยะเวลาพำนักของชาวกัมพูชาเหลือเพียง 7 วันเช่นกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ระบุว่า ได้รับทราบเหมือนกันว่ากัมพูชาลดจำนวนวันสำหรับการเดินทางเข้ากัมพูชาเหลือ 7 วัน ส่วนฝ่ายไทยได้ปรับลดเป็น 7 วันเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีไปถึงเมื่อใดนั้น ทั้งสองฝ่ายยังไม่กำหนดจึงยังตอบไม่ได้ รอให้สถานการณ์ดีขึ้นคงจะหันมาคุยกันเรื่องการเพิ่มวันเป็นลำดับต่อไป แต่ยังไม่ใช่ความสำคัญอันดับต้นในขณะนี้ นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) เตรียมเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ อีกด้วย สำหรับกัมพูชา เคยเป็น 1 ใน 93 ประเทศที่ทางการไทยมีมาตรการฟรีวีซ่า กำหนดให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ทำงานหรือติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ แต่ที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวเคยเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนปรับมาตรการฟรีวีซ่าจาก 60 วัน เหลือ 30 วัน หลังพบว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ไทยนานเกินไป ทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย แย่งงานแย่งอาชีพคนไทย อีกทั้งชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยวจริงๆ ในไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่เกิน 15 วัน ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเผชิญปัญหาความมั่นคง กระทบความเชื่อมั่นต่อการเดินทาง ถึงกระนั้น การปรับลดเวลาพำนักชาวกัมพูชาเหลือ 7 วันครั้งนี้ อาจไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไทยจึงต้องออกมาตรการตอบโต้ตามมา #Newskit
    0 Comments 0 Shares 537 Views 0 Reviews
  • ตัดไฟ-เน็ตเข้าบ่อน เส้นเลือดใหญ่เขมร : [NEWS UPDATE]
    กองทัพไทยออกเอกสารข่าวในนามศูนย์อํานวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน(ศอ.ปชด.) ระบุยังมีกลุ่มบุคคลกระทําผิดด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี การค้ามนุษย์ตามชายแดนไทย-กัมพูชา จึงมีมาตรการป้องกันปราบปราม ดังนี้ 1.ให้กัมพูชาเร่งปราบปรามผู้ก่ออาชญากรรมทุกพื้นที่ทันที 2.จะยกระดับมาตรการ เช่น ตัดไฟฟ้า ระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งเข้าพื้นที่บ่อนการพนันและสแกมเมอร์ ควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนําไปใช้ก่ออาชญากรรม โดยเอกสารข่าวมีขึ้นหลังการพูดคุยของไทยและกัมพูชาที่ได้ข้อยุติว่า ทหารทั้งสองฝ่ายจะถอยจากจุดที่ปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 กลับไปจุดเดิมที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 และให้กัมพูชาปิดกลบคูเรด ปรับพื้นที่คืนสภาพเดิม


    ตีหัวใจรายได้มหาศาล

    ภาพชัดช่องบกอยู่ในไทย

    ขอบคุณกองทัพอดทน

    หยุดเดินรถไทย-กัมพูชา
    ตัดไฟ-เน็ตเข้าบ่อน เส้นเลือดใหญ่เขมร : [NEWS UPDATE] กองทัพไทยออกเอกสารข่าวในนามศูนย์อํานวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน(ศอ.ปชด.) ระบุยังมีกลุ่มบุคคลกระทําผิดด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี การค้ามนุษย์ตามชายแดนไทย-กัมพูชา จึงมีมาตรการป้องกันปราบปราม ดังนี้ 1.ให้กัมพูชาเร่งปราบปรามผู้ก่ออาชญากรรมทุกพื้นที่ทันที 2.จะยกระดับมาตรการ เช่น ตัดไฟฟ้า ระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งเข้าพื้นที่บ่อนการพนันและสแกมเมอร์ ควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนําไปใช้ก่ออาชญากรรม โดยเอกสารข่าวมีขึ้นหลังการพูดคุยของไทยและกัมพูชาที่ได้ข้อยุติว่า ทหารทั้งสองฝ่ายจะถอยจากจุดที่ปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 กลับไปจุดเดิมที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 และให้กัมพูชาปิดกลบคูเรด ปรับพื้นที่คืนสภาพเดิม ตีหัวใจรายได้มหาศาล ภาพชัดช่องบกอยู่ในไทย ขอบคุณกองทัพอดทน หยุดเดินรถไทย-กัมพูชา
    Like
    11
    0 Comments 0 Shares 671 Views 39 0 Reviews
  • ย้อนอดีตปี 2560 ที่เขมรเคยมีปัญหาชายแดนกับลาว ใช้มุกเดิมให้สื่อโจมตี หาว่าลาวรุกล้ำดินแดนก่อน แต่เจอนายกฯลาวเอาจริง สั่งปิดด่านพร้อมส่งทหารตรึงกำลัง สุดท้าย ฮุนเซ็นต้องบินไปเจรจา จับมือกับทองลุน แถลงข่าวต่อหน้าสื่อ บอกว่า 2 ฝ่าย ตกลงกันได้แล้ว

    ปัญหาชายแดนที่ฝ่ายกัมพูชามักตีขลุมอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนและกล่าวหาประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้าไปก่อน ไม่ใช่เคยเกิดกับประเทศไทยเป็นครั้งแรก แต่กับ สปป.ลาว เพื่อนร่วมอุดมการณ์ในพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเช่นกัน ในยุคที่กัมพูชามีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อฮุนเซ็น

    ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2560 ได้ความตึงเครียดตามแนวชายแดนลาว-กัมพูชา ถึงขั้นที่ทางการลาวต้องสั่งปิดพรมแดน และกองทัพประชาชนลาวต้องส่งกำลังทหารไปประจำการบริเวณโดยรอบบริเวณที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งได้แก่จุดผ่านแดนเวินคาม-โอสวาย ระหว่างแขวงจำปาสักกับจังหวัดสตึงแตรง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000053663

    #MGROnline
    ย้อนอดีตปี 2560 ที่เขมรเคยมีปัญหาชายแดนกับลาว ใช้มุกเดิมให้สื่อโจมตี หาว่าลาวรุกล้ำดินแดนก่อน แต่เจอนายกฯลาวเอาจริง สั่งปิดด่านพร้อมส่งทหารตรึงกำลัง สุดท้าย ฮุนเซ็นต้องบินไปเจรจา จับมือกับทองลุน แถลงข่าวต่อหน้าสื่อ บอกว่า 2 ฝ่าย ตกลงกันได้แล้ว • ปัญหาชายแดนที่ฝ่ายกัมพูชามักตีขลุมอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนและกล่าวหาประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้าไปก่อน ไม่ใช่เคยเกิดกับประเทศไทยเป็นครั้งแรก แต่กับ สปป.ลาว เพื่อนร่วมอุดมการณ์ในพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเช่นกัน ในยุคที่กัมพูชามีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อฮุนเซ็น • ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2560 ได้ความตึงเครียดตามแนวชายแดนลาว-กัมพูชา ถึงขั้นที่ทางการลาวต้องสั่งปิดพรมแดน และกองทัพประชาชนลาวต้องส่งกำลังทหารไปประจำการบริเวณโดยรอบบริเวณที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งได้แก่จุดผ่านแดนเวินคาม-โอสวาย ระหว่างแขวงจำปาสักกับจังหวัดสตึงแตรง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000053663 • #MGROnline
    0 Comments 1 Shares 575 Views 0 Reviews
  • รมต.กต.ถึงกรุงปารีสก่อนร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้ชิด สั่งปลัด กต รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC เร็วๆ นี้ ยันผู้นำกัมพูชาขอมติสภาส่งร้องศาลโลก เป็นสิทธิ์ ไม่กระทบคุย JBC เผยประท้วงกลับกัมพูชาแล้ว ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน

    เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 2 มิ.ย.ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตน และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้ปลัดกต.เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายว่าเราจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เรามีทุกอย่าง ไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด คืออยากจะเห็นนโยบายที่เราจะต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ไม่นำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนไม่อยากเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักการทูตจำเป็นจะต้องใช้

    อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ปลัด กต. ไปคุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย รวมภาพถ่ายทั้งหลายเตรียมท่าทีสำหรับไปเจรจาโดยเร็วในกรอบของ JBC ซึ่งตัวนี้จะมีความสำคัญ เพราะเราสามารถเจรจาหาทางออกได้ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้นั้นตนไม่สามารถที่จะการันตีได้ แต่ว่าเป็นกลไกสำคัญที่เรามีอยู่กับกัมพูชา ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผลักดันกับทางกัมพูชา ที่จะขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชา จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ตนก็ยืนยันไปด้วยว่า ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเราเห็นความสำคัญของกลไกนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาใน 2 ด้าน 1. การลดความตึงเครียด ที่เกิดขึ้น และ 2. การมานั่งพูดคุยว่าเราจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051893

    #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    รมต.กต.ถึงกรุงปารีสก่อนร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้ชิด สั่งปลัด กต รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC เร็วๆ นี้ ยันผู้นำกัมพูชาขอมติสภาส่งร้องศาลโลก เป็นสิทธิ์ ไม่กระทบคุย JBC เผยประท้วงกลับกัมพูชาแล้ว ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน • เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 2 มิ.ย.ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตน และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้ปลัดกต.เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายว่าเราจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เรามีทุกอย่าง ไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด คืออยากจะเห็นนโยบายที่เราจะต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ไม่นำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนไม่อยากเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักการทูตจำเป็นจะต้องใช้ • อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ปลัด กต. ไปคุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย รวมภาพถ่ายทั้งหลายเตรียมท่าทีสำหรับไปเจรจาโดยเร็วในกรอบของ JBC ซึ่งตัวนี้จะมีความสำคัญ เพราะเราสามารถเจรจาหาทางออกได้ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้นั้นตนไม่สามารถที่จะการันตีได้ แต่ว่าเป็นกลไกสำคัญที่เรามีอยู่กับกัมพูชา ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผลักดันกับทางกัมพูชา ที่จะขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชา จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ตนก็ยืนยันไปด้วยว่า ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเราเห็นความสำคัญของกลไกนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาใน 2 ด้าน 1. การลดความตึงเครียด ที่เกิดขึ้น และ 2. การมานั่งพูดคุยว่าเราจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051893 • #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 411 Views 0 Reviews
More Results