• ไทย-กัมพูชา ลงนามหยุดยิงภายใต้ข้อตกลง 13 ข้อ ในการประชุม GBC ณ ประเทศมาเลเซีย

    7 ส.ค. 2025 การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กระทรวงกลาโหมมาเลเซีย สิ้นสุดลงด้วยการลงนาม MOU 13 ข้อ เพื่อยืนยันการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข

    รายละเอียดข้อตกลง 13 ข้อ:
    1. หยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข : ทั้งสองฝ่ายยุติการยิงทุกประเภทตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. 2568
    2. ห้ามเคลื่อนย้ายกองกำลัง : ห้ามเพิ่มกำลังทหารหรือเคลื่อนย้ายกองทัพในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
    3. ห้ามโจมตีพลเรือน : ห้ามการยิงหรือโจมตีเป้าหมายพลเรือน เช่น โรงเรียน, โรงพยาบาล ฯลฯ (แต่กัมพูชาทำฉ่ำ)
    4. จัดตั้งกลไกตรวจสอบ : สร้างทีมสังเกตการณ์ ASEAN นำโดยมาเลเซีย ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลง
    5. ฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร : เปิดช่องทางตรงระหว่างนายกฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ และกลาโหมของทั้งสองฝ่าย
    6. อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม : อนุญาตให้ส่งคืนผู้บาดเจ็บและศพจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงช่วยเหลือพลเรือน
    7. จัดตั้งคณะทำงานท้องถิ่น : สร้างทีมประสานงานระดับท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ชายแดน
    8. ห้ามใช้ระเบิดหรืออาวุธหนัก : จำกัดการใช้ระเบิด เช่น จรวด BM-21 หรือการโจมตีทางอากาศ
    9. ถอนทหารจากพื้นที่พิพาท : ค่อย ๆ ลดกำลังทหารในพื้นที่ เช่น บริเวณพระวิหารและภูมะเขือ
    10. เคารพหลัก ASEAN : ใช้กรอบทวิภาคีเป็นหลัก โดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลาง ไม่ยอมให้มหาอำนาจครอบงำ
    11. จัดการปัญหาแรงงาน : อำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชากลับไทยอย่างปลอดภัย และลดความตึงเครียดในชุมชน
    12. เจรจาต่อเนื่องใน GBC : กำหนดประชุม GBC ครั้งต่อไปที่กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาการกำหนดเขตแดน
    13. รายงานความคืบหน้า : ทั้งสองฝ่ายต้องรายงานการปฏิบัติตามข้อตกลงต่ออาเซียนและผู้สังเกตการณ์ทุก 2 สัปดาห์
    ไทย-กัมพูชา ลงนามหยุดยิงภายใต้ข้อตกลง 13 ข้อ ในการประชุม GBC ณ ประเทศมาเลเซีย 7 ส.ค. 2025 การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กระทรวงกลาโหมมาเลเซีย สิ้นสุดลงด้วยการลงนาม MOU 13 ข้อ เพื่อยืนยันการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข รายละเอียดข้อตกลง 13 ข้อ: 🔘1. หยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข : ทั้งสองฝ่ายยุติการยิงทุกประเภทตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. 2568 🔘2. ห้ามเคลื่อนย้ายกองกำลัง : ห้ามเพิ่มกำลังทหารหรือเคลื่อนย้ายกองทัพในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด 🔘3. ห้ามโจมตีพลเรือน : ห้ามการยิงหรือโจมตีเป้าหมายพลเรือน เช่น โรงเรียน, โรงพยาบาล ฯลฯ (แต่กัมพูชาทำฉ่ำ) 🔘4. จัดตั้งกลไกตรวจสอบ : สร้างทีมสังเกตการณ์ ASEAN นำโดยมาเลเซีย ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลง 🔘5. ฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร : เปิดช่องทางตรงระหว่างนายกฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ และกลาโหมของทั้งสองฝ่าย 🔘6. อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม : อนุญาตให้ส่งคืนผู้บาดเจ็บและศพจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงช่วยเหลือพลเรือน 🔘7. จัดตั้งคณะทำงานท้องถิ่น : สร้างทีมประสานงานระดับท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ชายแดน 🔘8. ห้ามใช้ระเบิดหรืออาวุธหนัก : จำกัดการใช้ระเบิด เช่น จรวด BM-21 หรือการโจมตีทางอากาศ 🔘9. ถอนทหารจากพื้นที่พิพาท : ค่อย ๆ ลดกำลังทหารในพื้นที่ เช่น บริเวณพระวิหารและภูมะเขือ 🔘10. เคารพหลัก ASEAN : ใช้กรอบทวิภาคีเป็นหลัก โดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลาง ไม่ยอมให้มหาอำนาจครอบงำ 🔘11. จัดการปัญหาแรงงาน : อำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชากลับไทยอย่างปลอดภัย และลดความตึงเครียดในชุมชน 🔘12. เจรจาต่อเนื่องใน GBC : กำหนดประชุม GBC ครั้งต่อไปที่กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาการกำหนดเขตแดน 🔘13. รายงานความคืบหน้า : ทั้งสองฝ่ายต้องรายงานการปฏิบัติตามข้อตกลงต่ออาเซียนและผู้สังเกตการณ์ทุก 2 สัปดาห์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธาตุแท้อเมริกามาแล้วจริงๆ,จะยุคสมัยไหน สรุปเชื่อใจฝรั่งตาขาวตาฟ้าตาแดงนี้ไม่ได้,ตอแหลปลิ้นปล้อนเหมือนเขมรนี้ล่ะ เผ่าพันธุ์เดียวกันจึงคุ้มครองกันเอง ไม่สนใจความไร้มนุษยธรรมที่รัฐบาลที่นำโดยฮุนเซนจะเกณฑ์ประชาชนเด็กน้อยๆเยาวชนชายหญิง คนชราแก่เฒ่าไปรบไปตายในสนาม อเมริกาสนับสนุนการไร้มนุษยธรรมของจริง ข้ออ้างสวยหรูว่าเพื่อยุติการหยุดยิงแต่มอบอาวุธและปืนระเบิดให้,อเมริกาสมควรถูกกำจัดออกไปจากโลก อิทธิพลแบบอเมริกาคือสไตล์คนพาลคนเลวของจริง มิน่าชนอินเดียแดงจึงบอกว่าเผ่าพันธุ์ฝรั่งแดนอเมริกาเป็นพวกตระบัดสัตย์ไม่ซื่อ คตในวาจา ตอแหลมึนด้านหนาไม่ต่างกันกับชนเผ่าเขมรแบบฮุนเซนและฮุนมาเนตนี้,ทรัมป์ก็เหี้ยไม่ต่างจากไบเดนห่าเหวนั้น,หรือโอบามาก็ด้วย ควายๆรับใข้อีลิทซาตานเหมือนกัน,เผลอๆทหารอเมริกาลักพาตัวเด็กๆในประเทศเขมรไปให้อีลิทdeep stateเอาไปต้มไปแดกไปปรุงรสชาดสาระพัดอีกหรือทรมานทารุนทำอะดริโนโครมเองก็ด้วย,ประชาชนเขมรอาจถูกลักพาตัวไปมากมาย หายตัวไปมากมายระหว่างอพยพหนีภาวะสงครามนี้ เพราะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดใช้อ้างคนหาย หายสาปสูญได้สนิทใจ ตายระหว่างอพยพหนีตาย หายระหว่างหนีตาย ทิ้งเด็กๆมากมายไว้ในบ้าน เพราะพ่อแม่พี่น้องคนชรามีชีวิตถูกจับไปใส่ชุดทหารหมด,เผด็จการฮุนเซนฮุนมาเนตตะจัดการเหยื่อตาทบ้านประชาชนได้สะดวกหมดล่ะเพราะพ่อแม่ญาติพี่น้องไม่เหลือสักคนนั้นเอง,สิ่งนี้จึงค้ำประกันถึงบริบทที่ชั่วเลวของอเมริกาไปในตัวที่ไปสนับสนุนจับมือกับฮุนเซน เสือกเจาะจงเรื่องอาวุธเทคโนโลยี ไม่พูดหาไม่บอกไม่ตบหัวฮุนเซนว่าอย่าเกณฑ์เด็กคนชราผู้หญิงประชาชนธรรมดาไปเป็นทหารสู้รบ,ไม่บอกฮุนเซนสักแอะว่าฮุนเซนไปเก็บศพทหารในสนามรบคืนมาให้ญาติทำพิธีให้หมด,มิใช่แบบกูในสงครามเวียดนามเก็บไม่ได้เพราะไม่ใช่ท้องถิ่นกูจริงเขตอาณาเขตสนามสงครามกูภายในประเทศแบบดินแดนเขมรภายในเขตเขมรเองของมรึงจริงแบบปัจจุบัน สามารถเข้าเก็บศพทหารตนเองบนประเทศตนเองแท้ได้ตลอดเวลา มรึงต้องไปทำก่อนกูอเมริกาจึงค่อยสนับสนุนเทคโนโลยีหรือใดๆแก่มรึงเขมรเพื่อความสงบสันติในการหยุดยิงนี้,อเมริกาจึงชัดเจนว่าสนับสนุนสงครามจริง,ไร้มนุษยธรรมจริง,อเมริกาสมควรสิ้นสถานะความเป็นประเทศด้วย,50รัฐอเมริกาสมควรแยกตนเองปกครองตนเองได้แล้ว,เป็นประเทศเอกราชตนเอง,พื้นที่ดินแดนมากมายคนอเมริกันทำไมโง่บัดสบทั้งทวีปแบบนั้น,สนับสนุนสงครามผ่าน50รัฐด้วย,โง่และชั่วเลวในเวลาเดียวกัน,จะตัดตอนมิให้ทรัมป์หรือใครๆไปมีอิทธิป่าเถื่อนไปทั่วโลกด้วย,รัฐใดอย่างทำสงครามก็ตามสบายเพราะเงินสนับสนุนจะจบแล้วเพราะแยกขาดเป็นประเทศของใครของมันแล้วนั้นเอง,50รัฐ ในรัฐประเทศใดประเทศหนึ่งเสมือนตัดตอนทุนอีลิทdeep stateรุ่นagendaด้วยก็ได้,เอกเทศใครมันปฏิเสธสงครามทุกๆกรณีได้ที่ไร้มนุษยธรรมแบบทรัมป์กำลังทำอยู่,ปฏิเสธวัคซีนโควิดทางตรงผ่านประเทศตนได้ที่แยกตัวเป็นประเทศใครมันทั้ง50รัฐแล้ว ไม่ผีบ้าต้องมาปฏิบัติตามคำสั่งประธานาธิบดีแบบผีบ้าไบเดนหรือป่วยจิตแบบทรัมป์ไม่สืบหาความจริงว่าเขมรฮุนเซนไร้มนุษยธรรมแก่ชนคนเขมรภายในประเทศแบบใดๆเลย ปิดหูปิดตาโคตรบรมโง่ทั้งทหารกองทัพอเมริกาจริงๆเก่งแค่ขโมยหรือขายโลกทรยศโลกตกลงกับต่างดาวชั่วแลกเทคโนโลยีเท่านั้นล่ะ,
    ..คนอเมริกาสมควรยื่นแบ่งแยกประเทศเถอะ,เวลารัสเชียเวลาจีนหรืออิหร่านยิงขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์จะได้ไม่เคลียร์พื้นที่ประเทศรัฐนั้นๆที่แยกตัวเป็นประเทศตนเองอิสระออกมาจากอเมริกาเดิมแล้ว,ประกาศตนเป็นกลาง จีนกับรัสเชียและอิหร่านจะล็อกพิกัดgpsจุดตกขีปนาวุธนิวเคลียร์ใหม่แทนตกที่ใหม่แทน,
    ..ยุโรปและอเมริกา ชาติฝรั่งพวกนี้สมควรหายไปจากโลกจริงๆ,ตลอดระยะเวลายาวนานนี้ พวกฝรั่งนี้ล่ะปล้นชิงชาวโลกไปทั่ว สร้างความไม่สงบสุขเป็นวงกว้างโดยมาเพียงเพราะโลภอยากได้ทรัพยากรเขาหรือแดกเขาก็ด้วยในเผ่าพันธุ์แรปทีเลี่ยนที่แดกมนุษย์เป็นปกติอยู่แล้ว.
    ธาตุแท้อเมริกามาแล้วจริงๆ,จะยุคสมัยไหน สรุปเชื่อใจฝรั่งตาขาวตาฟ้าตาแดงนี้ไม่ได้,ตอแหลปลิ้นปล้อนเหมือนเขมรนี้ล่ะ เผ่าพันธุ์เดียวกันจึงคุ้มครองกันเอง ไม่สนใจความไร้มนุษยธรรมที่รัฐบาลที่นำโดยฮุนเซนจะเกณฑ์ประชาชนเด็กน้อยๆเยาวชนชายหญิง คนชราแก่เฒ่าไปรบไปตายในสนาม อเมริกาสนับสนุนการไร้มนุษยธรรมของจริง ข้ออ้างสวยหรูว่าเพื่อยุติการหยุดยิงแต่มอบอาวุธและปืนระเบิดให้,อเมริกาสมควรถูกกำจัดออกไปจากโลก อิทธิพลแบบอเมริกาคือสไตล์คนพาลคนเลวของจริง มิน่าชนอินเดียแดงจึงบอกว่าเผ่าพันธุ์ฝรั่งแดนอเมริกาเป็นพวกตระบัดสัตย์ไม่ซื่อ คตในวาจา ตอแหลมึนด้านหนาไม่ต่างกันกับชนเผ่าเขมรแบบฮุนเซนและฮุนมาเนตนี้,ทรัมป์ก็เหี้ยไม่ต่างจากไบเดนห่าเหวนั้น,หรือโอบามาก็ด้วย ควายๆรับใข้อีลิทซาตานเหมือนกัน,เผลอๆทหารอเมริกาลักพาตัวเด็กๆในประเทศเขมรไปให้อีลิทdeep stateเอาไปต้มไปแดกไปปรุงรสชาดสาระพัดอีกหรือทรมานทารุนทำอะดริโนโครมเองก็ด้วย,ประชาชนเขมรอาจถูกลักพาตัวไปมากมาย หายตัวไปมากมายระหว่างอพยพหนีภาวะสงครามนี้ เพราะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดใช้อ้างคนหาย หายสาปสูญได้สนิทใจ ตายระหว่างอพยพหนีตาย หายระหว่างหนีตาย ทิ้งเด็กๆมากมายไว้ในบ้าน เพราะพ่อแม่พี่น้องคนชรามีชีวิตถูกจับไปใส่ชุดทหารหมด,เผด็จการฮุนเซนฮุนมาเนตตะจัดการเหยื่อตาทบ้านประชาชนได้สะดวกหมดล่ะเพราะพ่อแม่ญาติพี่น้องไม่เหลือสักคนนั้นเอง,สิ่งนี้จึงค้ำประกันถึงบริบทที่ชั่วเลวของอเมริกาไปในตัวที่ไปสนับสนุนจับมือกับฮุนเซน เสือกเจาะจงเรื่องอาวุธเทคโนโลยี ไม่พูดหาไม่บอกไม่ตบหัวฮุนเซนว่าอย่าเกณฑ์เด็กคนชราผู้หญิงประชาชนธรรมดาไปเป็นทหารสู้รบ,ไม่บอกฮุนเซนสักแอะว่าฮุนเซนไปเก็บศพทหารในสนามรบคืนมาให้ญาติทำพิธีให้หมด,มิใช่แบบกูในสงครามเวียดนามเก็บไม่ได้เพราะไม่ใช่ท้องถิ่นกูจริงเขตอาณาเขตสนามสงครามกูภายในประเทศแบบดินแดนเขมรภายในเขตเขมรเองของมรึงจริงแบบปัจจุบัน สามารถเข้าเก็บศพทหารตนเองบนประเทศตนเองแท้ได้ตลอดเวลา มรึงต้องไปทำก่อนกูอเมริกาจึงค่อยสนับสนุนเทคโนโลยีหรือใดๆแก่มรึงเขมรเพื่อความสงบสันติในการหยุดยิงนี้,อเมริกาจึงชัดเจนว่าสนับสนุนสงครามจริง,ไร้มนุษยธรรมจริง,อเมริกาสมควรสิ้นสถานะความเป็นประเทศด้วย,50รัฐอเมริกาสมควรแยกตนเองปกครองตนเองได้แล้ว,เป็นประเทศเอกราชตนเอง,พื้นที่ดินแดนมากมายคนอเมริกันทำไมโง่บัดสบทั้งทวีปแบบนั้น,สนับสนุนสงครามผ่าน50รัฐด้วย,โง่และชั่วเลวในเวลาเดียวกัน,จะตัดตอนมิให้ทรัมป์หรือใครๆไปมีอิทธิป่าเถื่อนไปทั่วโลกด้วย,รัฐใดอย่างทำสงครามก็ตามสบายเพราะเงินสนับสนุนจะจบแล้วเพราะแยกขาดเป็นประเทศของใครของมันแล้วนั้นเอง,50รัฐ ในรัฐประเทศใดประเทศหนึ่งเสมือนตัดตอนทุนอีลิทdeep stateรุ่นagendaด้วยก็ได้,เอกเทศใครมันปฏิเสธสงครามทุกๆกรณีได้ที่ไร้มนุษยธรรมแบบทรัมป์กำลังทำอยู่,ปฏิเสธวัคซีนโควิดทางตรงผ่านประเทศตนได้ที่แยกตัวเป็นประเทศใครมันทั้ง50รัฐแล้ว ไม่ผีบ้าต้องมาปฏิบัติตามคำสั่งประธานาธิบดีแบบผีบ้าไบเดนหรือป่วยจิตแบบทรัมป์ไม่สืบหาความจริงว่าเขมรฮุนเซนไร้มนุษยธรรมแก่ชนคนเขมรภายในประเทศแบบใดๆเลย ปิดหูปิดตาโคตรบรมโง่ทั้งทหารกองทัพอเมริกาจริงๆเก่งแค่ขโมยหรือขายโลกทรยศโลกตกลงกับต่างดาวชั่วแลกเทคโนโลยีเท่านั้นล่ะ, ..คนอเมริกาสมควรยื่นแบ่งแยกประเทศเถอะ,เวลารัสเชียเวลาจีนหรืออิหร่านยิงขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์จะได้ไม่เคลียร์พื้นที่ประเทศรัฐนั้นๆที่แยกตัวเป็นประเทศตนเองอิสระออกมาจากอเมริกาเดิมแล้ว,ประกาศตนเป็นกลาง จีนกับรัสเชียและอิหร่านจะล็อกพิกัดgpsจุดตกขีปนาวุธนิวเคลียร์ใหม่แทนตกที่ใหม่แทน, ..ยุโรปและอเมริกา ชาติฝรั่งพวกนี้สมควรหายไปจากโลกจริงๆ,ตลอดระยะเวลายาวนานนี้ พวกฝรั่งนี้ล่ะปล้นชิงชาวโลกไปทั่ว สร้างความไม่สงบสุขเป็นวงกว้างโดยมาเพียงเพราะโลภอยากได้ทรัพยากรเขาหรือแดกเขาก็ด้วยในเผ่าพันธุ์แรปทีเลี่ยนที่แดกมนุษย์เป็นปกติอยู่แล้ว.
    รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาเปิดเผย สหรัฐฯจะจับตาสถานการณ์ด้วยความกระตือรือร้น เพื่อรับประกันความสำเร็จและประสิทธิผลของการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย พร้อมยืนยันวอชิงตันจะมอบแรงสนับสนุนทั้งทางโลจิสติกและทางเทคนิค แก่คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000074763

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดภาพ "พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์" รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร Subang ประเทศมาเลเซีย เมื่อเวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าเวลาตามประเทศไทย 1 ชั่วโมง

    ช่วงเช้า พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคารวะนายอันวา อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะเจ้าภาพของสถานที่การประชุม ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ในช่วงบ่าย

    สำหรับการประชุมครั้งนี้จะเจรจามุ่งเน้นความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของระชาชนของทั้ง 2 ประเทศเป็นหลัก โดยต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศไทย กฎหมายระหว่างประเทศ และยึดผลประโยชน์ของชาติ
    เปิดภาพ "พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์" รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร Subang ประเทศมาเลเซีย เมื่อเวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าเวลาตามประเทศไทย 1 ชั่วโมง ช่วงเช้า พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคารวะนายอันวา อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะเจ้าภาพของสถานที่การประชุม ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ในช่วงบ่าย สำหรับการประชุมครั้งนี้จะเจรจามุ่งเน้นความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของระชาชนของทั้ง 2 ประเทศเป็นหลัก โดยต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศไทย กฎหมายระหว่างประเทศ และยึดผลประโยชน์ของชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น

    เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)

    ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง

    ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น

    #Newskit
    จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรณีพิพาทอัมบาลัต อันวาร์เอาตัวเองให้รอดก่อน

    อาเซียนการละครของ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เพื่อนรักของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ผู้อื้อฉาวจากคดีทุจริต แสดงบทบาทไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชาได้อย่างสมบทบาท แต่อีกด้านหนึ่ง กลับมีท่าทีแข็งกร้าวต่อกรณีพิพาทแหล่งพลังงานอัมบาลัต (Ambalat) ในเขตน่านน้ำสุลาเวสี ระหว่างรัฐซาบาห์ กับจังหวัดกาลิมันตันอุตาราของอินโดนีเซีย ว่า "จะปกป้องทุกตารางนิ้วของซาบาห์"

    อันวาร์กล่าวปราศรัยภายในงานเปิดตัววันเกษตรกรแห่งชาติ ที่เมืองโคตาคินาบาลู เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่า สิทธิของรัฐซาบาห์จะได้รับการคุ้มครองในการเจรจา พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเพิกเฉยต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐเหนือภูมิภาค ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันในทะเลสุลาเวสี และกล่าวว่า ข้อตกลงใดๆ จะต้องเกี่ยวข้องกับทั้งรัฐบาลของรัฐซาบาห์และสภานิติบัญญัติของรัฐ ยืนยันว่าอินโดนีเซียเป็นพันธมิตร ซึ่งจะเจรจากันอย่างเหมาะสมโดยไม่ยอมแพ้ เกิดขึ้นในการประชุม ไม่ใช่แค่การพูดคุยลับๆ

    แหล่งพลังงานอัมบาลัต ตั้งอยู่ในทะเลสุลาเวสี ห่างจากเมืองตารากันไปทางตะวันออก 80 กิโลเมตร มีความลึกของน้ำทะเล 2,000 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4,735 ตารางกิโลเมตร ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์มานาน เนื่องจากมีน้ำมันและก๊าซ ความขัดแย้งเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2543 ทั้งสองประเทศออกสัมปทานสำรวจพลังงานทับซ้อนกัน คือ อินโดนีเซียให้สัมปทานกับบริษัทอีเอ็นไอ (ENI) และยูโนแคล (Unocal) ส่วนประเทศมาเลเซีย มีปิโตรนาส (Petronas) ออกสัมปทานให้กับเชลล์ (Shell)

    ก่อนหน้านี้ นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รมว.พลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียยังคงสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอัมบาลัตร่วมกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเพราะอยู่ระหว่างการพิจารณา ประเด็นหนึ่งที่หารือกันคือ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันบริหารจัดการพื้นที่เขตอัมบาลัตตะวันออกเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร หากบรรลุข้อตกลงก็จะมีความร่วมมือผ่านบริษัทน้ำมัน อย่างเปอร์ตามีนาและปิโตรนาส

    ล่าสุด นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า มาเลเซียและอินโดนีเซียยังคงศึกษาความเป็นไปได้ของข้อตกลงการพัฒนาร่วม (JDA) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลในทะเลสุลาเวสี แต้ยังอยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้น ซึ่งรัฐบาลกลางยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาบาห์ในการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนทางทะเลระหว่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย

    #Newskit
    กรณีพิพาทอัมบาลัต อันวาร์เอาตัวเองให้รอดก่อน อาเซียนการละครของ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เพื่อนรักของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ผู้อื้อฉาวจากคดีทุจริต แสดงบทบาทไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชาได้อย่างสมบทบาท แต่อีกด้านหนึ่ง กลับมีท่าทีแข็งกร้าวต่อกรณีพิพาทแหล่งพลังงานอัมบาลัต (Ambalat) ในเขตน่านน้ำสุลาเวสี ระหว่างรัฐซาบาห์ กับจังหวัดกาลิมันตันอุตาราของอินโดนีเซีย ว่า "จะปกป้องทุกตารางนิ้วของซาบาห์" อันวาร์กล่าวปราศรัยภายในงานเปิดตัววันเกษตรกรแห่งชาติ ที่เมืองโคตาคินาบาลู เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่า สิทธิของรัฐซาบาห์จะได้รับการคุ้มครองในการเจรจา พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเพิกเฉยต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐเหนือภูมิภาค ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันในทะเลสุลาเวสี และกล่าวว่า ข้อตกลงใดๆ จะต้องเกี่ยวข้องกับทั้งรัฐบาลของรัฐซาบาห์และสภานิติบัญญัติของรัฐ ยืนยันว่าอินโดนีเซียเป็นพันธมิตร ซึ่งจะเจรจากันอย่างเหมาะสมโดยไม่ยอมแพ้ เกิดขึ้นในการประชุม ไม่ใช่แค่การพูดคุยลับๆ แหล่งพลังงานอัมบาลัต ตั้งอยู่ในทะเลสุลาเวสี ห่างจากเมืองตารากันไปทางตะวันออก 80 กิโลเมตร มีความลึกของน้ำทะเล 2,000 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4,735 ตารางกิโลเมตร ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์มานาน เนื่องจากมีน้ำมันและก๊าซ ความขัดแย้งเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2543 ทั้งสองประเทศออกสัมปทานสำรวจพลังงานทับซ้อนกัน คือ อินโดนีเซียให้สัมปทานกับบริษัทอีเอ็นไอ (ENI) และยูโนแคล (Unocal) ส่วนประเทศมาเลเซีย มีปิโตรนาส (Petronas) ออกสัมปทานให้กับเชลล์ (Shell) ก่อนหน้านี้ นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รมว.พลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียยังคงสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอัมบาลัตร่วมกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเพราะอยู่ระหว่างการพิจารณา ประเด็นหนึ่งที่หารือกันคือ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันบริหารจัดการพื้นที่เขตอัมบาลัตตะวันออกเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร หากบรรลุข้อตกลงก็จะมีความร่วมมือผ่านบริษัทน้ำมัน อย่างเปอร์ตามีนาและปิโตรนาส ล่าสุด นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า มาเลเซียและอินโดนีเซียยังคงศึกษาความเป็นไปได้ของข้อตกลงการพัฒนาร่วม (JDA) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลในทะเลสุลาเวสี แต้ยังอยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้น ซึ่งรัฐบาลกลางยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาบาห์ในการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนทางทะเลระหว่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย #Newskit
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมืองเล็ก ๆ กับภัยไซเบอร์ที่ใหญ่เกินตัว

    ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต ระบบของเทศบาลและเมืองต่าง ๆ ไม่ได้มีแค่ข้อมูลประชาชน แต่ยังรวมถึงบริการสำคัญ เช่น น้ำ ไฟ การแพทย์ และการรักษาความปลอดภัย ซึ่งหากถูกโจมตี อาจทำให้ทั้งเมืองหยุดชะงักได้ทันที

    ปัญหาคือระบบเหล่านี้มักถูกสร้างขึ้นโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยตั้งแต่ต้น และยังใช้เทคโนโลยีเก่าที่เสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบ แถมงบประมาณด้าน cybersecurity ก็ถูกจัดสรรน้อย เพราะต้องแข่งขันกับความต้องการอื่นที่เร่งด่วนกว่า เช่น การซ่อมถนนหรือการจัดการขยะ

    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลจำนวนมากยังไม่ได้รับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์อย่างเพียงพอ ทำให้ตกเป็นเหยื่อของ phishing หรือมัลแวร์ได้ง่าย และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผลกระทบอาจลุกลามไปถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลท้องถิ่น

    ระบบเทศบาลมีข้อมูลสำคัญและให้บริการพื้นฐาน เช่น น้ำ ไฟ ตำรวจ และดับเพลิง
    หากถูกโจมตี อาจทำให้บริการหยุดชะงักและเกิดความไม่ปลอดภัยในชุมชน
    ข้อมูลประชาชน เช่น หมายเลขประกันสังคมและประวัติสุขภาพ อาจถูกขโมย

    ระบบเหล่านี้มักสร้างขึ้นโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยตั้งแต่ต้น
    ใช้เทคโนโลยีเก่าที่เสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบ
    ขาดการอัปเดตและการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ

    งบประมาณด้าน cybersecurity มักถูกจัดสรรน้อย เพราะมีความต้องการอื่นที่เร่งด่วนกว่า
    การอัปเกรดระบบหรือใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยขั้นสูงจึงทำได้ยาก
    ส่งผลให้เมืองเล็ก ๆ กลายเป็นเป้าหมายที่ง่ายสำหรับแฮกเกอร์

    เจ้าหน้าที่เทศบาลมักไม่ได้รับการฝึกอบรมด้าน cybersecurity อย่างเพียงพอ
    เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของ phishing หรือ social engineering
    ความผิดพลาดของมนุษย์เป็นจุดอ่อนหลักของระบบความปลอดภัย

    การฝึกอบรมและการร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญภายนอกสามารถช่วยเสริมความปลอดภัยได้
    การจัดอบรมอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เจ้าหน้าที่รับมือกับภัยคุกคามใหม่ ๆ
    การร่วมมือกับบริษัท cybersecurity หรือหน่วยงานรัฐช่วยเพิ่มทรัพยากรและความรู้

    นโยบายและกฎระเบียบสามารถสร้างมาตรฐานขั้นต่ำด้านความปลอดภัยให้กับเทศบาล
    เช่น การตรวจสอบระบบเป็นระยะ และการฝึกอบรมพนักงานเป็นข้อบังคับ
    ช่วยให้เกิดความสม่ำเสมอและความร่วมมือระหว่างเมืองต่าง ๆ

    การละเลยด้าน cybersecurity อาจทำให้บริการพื้นฐานของเมืองหยุดชะงักทันทีเมื่อถูกโจมตี
    ส่งผลต่อความปลอดภัยของประชาชน เช่น การตอบสนองฉุกเฉินล่าช้า
    อาจเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง

    การใช้เทคโนโลยีเก่าโดยไม่มีการอัปเดตเป็นช่องโหว่ที่แฮกเกอร์ใช้เจาะระบบได้ง่าย
    ระบบที่ไม่รองรับการป้องกันภัยใหม่ ๆ จะถูกโจมตีได้โดยไม่ต้องใช้เทคนิคซับซ้อน
    อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีระบบอื่นในเครือข่าย

    การขาดการฝึกอบรมทำให้เจ้าหน้าที่กลายเป็นจุดอ่อนของระบบความปลอดภัย
    การคลิกลิงก์ปลอมหรือเปิดไฟล์แนบอันตรายอาจทำให้ระบบถูกแฮก
    ความผิดพลาดเล็ก ๆ อาจนำไปสู่การละเมิดข้อมูลครั้งใหญ่

    การไม่มีนโยบายหรือมาตรฐานกลางทำให้แต่ละเมืองมีระดับความปลอดภัยไม่เท่ากัน
    เมืองที่ไม่มีทรัพยากรอาจไม่มีการป้องกันเลย
    ส่งผลต่อความมั่นคงของภูมิภาคโดยรวม

    การใช้กรอบการทำงานของ NIST ช่วยให้เทศบาลวางแผนด้าน cybersecurity ได้อย่างเป็นระบบ
    ครอบคลุม 5 ด้าน: Identify, Protect, Detect, Respond, Recover
    มีเครื่องมือและคู่มือให้ใช้ฟรีจากเว็บไซต์ของ NIST

    การทำประกันภัยไซเบอร์ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินเมื่อเกิดเหตุการณ์โจมตี
    คุ้มครองความเสียหายจากการละเมิดข้อมูลและการหยุดชะงักของระบบ
    แต่ต้องศึกษาข้อกำหนดและค่าใช้จ่ายให้รอบคอบ

    การประเมินระบบอย่างสม่ำเสมอช่วยให้รู้จุดอ่อนและปรับปรุงได้ทันเวลา
    ใช้เครื่องมือฟรีจาก CISA เช่น Cyber Resilience Review และ CSET
    ไม่จำเป็นต้องจ้างบริษัทภายนอกที่มีค่าใช้จ่ายสูงเสมอไป

    https://hackread.com/local-government-cybersecurity-municipal-systems-protection/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมืองเล็ก ๆ กับภัยไซเบอร์ที่ใหญ่เกินตัว ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต ระบบของเทศบาลและเมืองต่าง ๆ ไม่ได้มีแค่ข้อมูลประชาชน แต่ยังรวมถึงบริการสำคัญ เช่น น้ำ ไฟ การแพทย์ และการรักษาความปลอดภัย ซึ่งหากถูกโจมตี อาจทำให้ทั้งเมืองหยุดชะงักได้ทันที ปัญหาคือระบบเหล่านี้มักถูกสร้างขึ้นโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยตั้งแต่ต้น และยังใช้เทคโนโลยีเก่าที่เสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบ แถมงบประมาณด้าน cybersecurity ก็ถูกจัดสรรน้อย เพราะต้องแข่งขันกับความต้องการอื่นที่เร่งด่วนกว่า เช่น การซ่อมถนนหรือการจัดการขยะ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลจำนวนมากยังไม่ได้รับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์อย่างเพียงพอ ทำให้ตกเป็นเหยื่อของ phishing หรือมัลแวร์ได้ง่าย และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผลกระทบอาจลุกลามไปถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลท้องถิ่น ✅ ระบบเทศบาลมีข้อมูลสำคัญและให้บริการพื้นฐาน เช่น น้ำ ไฟ ตำรวจ และดับเพลิง ➡️ หากถูกโจมตี อาจทำให้บริการหยุดชะงักและเกิดความไม่ปลอดภัยในชุมชน ➡️ ข้อมูลประชาชน เช่น หมายเลขประกันสังคมและประวัติสุขภาพ อาจถูกขโมย ✅ ระบบเหล่านี้มักสร้างขึ้นโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยตั้งแต่ต้น ➡️ ใช้เทคโนโลยีเก่าที่เสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบ ➡️ ขาดการอัปเดตและการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ✅ งบประมาณด้าน cybersecurity มักถูกจัดสรรน้อย เพราะมีความต้องการอื่นที่เร่งด่วนกว่า ➡️ การอัปเกรดระบบหรือใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยขั้นสูงจึงทำได้ยาก ➡️ ส่งผลให้เมืองเล็ก ๆ กลายเป็นเป้าหมายที่ง่ายสำหรับแฮกเกอร์ ✅ เจ้าหน้าที่เทศบาลมักไม่ได้รับการฝึกอบรมด้าน cybersecurity อย่างเพียงพอ ➡️ เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของ phishing หรือ social engineering ➡️ ความผิดพลาดของมนุษย์เป็นจุดอ่อนหลักของระบบความปลอดภัย ✅ การฝึกอบรมและการร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญภายนอกสามารถช่วยเสริมความปลอดภัยได้ ➡️ การจัดอบรมอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เจ้าหน้าที่รับมือกับภัยคุกคามใหม่ ๆ ➡️ การร่วมมือกับบริษัท cybersecurity หรือหน่วยงานรัฐช่วยเพิ่มทรัพยากรและความรู้ ✅ นโยบายและกฎระเบียบสามารถสร้างมาตรฐานขั้นต่ำด้านความปลอดภัยให้กับเทศบาล ➡️ เช่น การตรวจสอบระบบเป็นระยะ และการฝึกอบรมพนักงานเป็นข้อบังคับ ➡️ ช่วยให้เกิดความสม่ำเสมอและความร่วมมือระหว่างเมืองต่าง ๆ ‼️ การละเลยด้าน cybersecurity อาจทำให้บริการพื้นฐานของเมืองหยุดชะงักทันทีเมื่อถูกโจมตี ⛔ ส่งผลต่อความปลอดภัยของประชาชน เช่น การตอบสนองฉุกเฉินล่าช้า ⛔ อาจเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง ‼️ การใช้เทคโนโลยีเก่าโดยไม่มีการอัปเดตเป็นช่องโหว่ที่แฮกเกอร์ใช้เจาะระบบได้ง่าย ⛔ ระบบที่ไม่รองรับการป้องกันภัยใหม่ ๆ จะถูกโจมตีได้โดยไม่ต้องใช้เทคนิคซับซ้อน ⛔ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีระบบอื่นในเครือข่าย ‼️ การขาดการฝึกอบรมทำให้เจ้าหน้าที่กลายเป็นจุดอ่อนของระบบความปลอดภัย ⛔ การคลิกลิงก์ปลอมหรือเปิดไฟล์แนบอันตรายอาจทำให้ระบบถูกแฮก ⛔ ความผิดพลาดเล็ก ๆ อาจนำไปสู่การละเมิดข้อมูลครั้งใหญ่ ‼️ การไม่มีนโยบายหรือมาตรฐานกลางทำให้แต่ละเมืองมีระดับความปลอดภัยไม่เท่ากัน ⛔ เมืองที่ไม่มีทรัพยากรอาจไม่มีการป้องกันเลย ⛔ ส่งผลต่อความมั่นคงของภูมิภาคโดยรวม ✅ การใช้กรอบการทำงานของ NIST ช่วยให้เทศบาลวางแผนด้าน cybersecurity ได้อย่างเป็นระบบ ➡️ ครอบคลุม 5 ด้าน: Identify, Protect, Detect, Respond, Recover ➡️ มีเครื่องมือและคู่มือให้ใช้ฟรีจากเว็บไซต์ของ NIST ✅ การทำประกันภัยไซเบอร์ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินเมื่อเกิดเหตุการณ์โจมตี ➡️ คุ้มครองความเสียหายจากการละเมิดข้อมูลและการหยุดชะงักของระบบ ➡️ แต่ต้องศึกษาข้อกำหนดและค่าใช้จ่ายให้รอบคอบ ✅ การประเมินระบบอย่างสม่ำเสมอช่วยให้รู้จุดอ่อนและปรับปรุงได้ทันเวลา ➡️ ใช้เครื่องมือฟรีจาก CISA เช่น Cyber Resilience Review และ CSET ➡️ ไม่จำเป็นต้องจ้างบริษัทภายนอกที่มีค่าใช้จ่ายสูงเสมอไป https://hackread.com/local-government-cybersecurity-municipal-systems-protection/
    HACKREAD.COM
    Local Government Cybersecurity: Why Municipal Systems Need Extra Protection
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวอัพขึ้นสดๆร้อนๆ

    ..แปลกแต่จริงช่วงนี้หมอดูและหรือโหร เกาะกระแสการหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ดีมากโดยเฉพาะมาทำนายทายทักเรื่องระดับชาติระดับสงครามนี้,จริงๆควรพูดคุยกันเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในบริบทสั่งการสงครามดีที่สุดเพื่อถ้าจริงก็มีลูกผ่อนหนักให้เบาช่วยเหลือประชาชนและทหารแนวหน้างานต่อสู้รบจริงๆได้,ตลอดสามารถใช้ความสามารถเหนือมนุษย์ตนเป็นกำลังร่วมปกป้องมาตุภูมิท้องถิ่นแผ่นดินตนที่มาเกิดบนแผ่นดินไทยนี้ร่วมด้วยได้อีก,เอาชนะศัตรูผู้รุกรานความสงบสุขของประชาชนคนไทยตนทั้งประเทศด้วย,
    ..หมอดูทำนายแม่นจริงมีจริงบนแผ่นดินไทย,แต่แทบไม่มีในการกระทำมุ่งหวังโลกธรรม4-8นั้น,จะสะกดกิเลสอยากตนทางโลกเสียมาก ชื่อเสียงหิวแสงหิวสื่อยิ่งพยายามหลบหนี,ถ้าแม้นสัมมาอาชีพเลี้ยงชีพชอบก็เพียงพออยู่พอกิน วัตถุธาตุแทบไม่สะสม.
    ..แม้โลกจะเป็นไปตามกฎแห่งกรรมจริง แต่ละคนก็มีมิติรับผลของกรรมใครกรรมมันตามจังหวะชีวิตของแต่ละคน,พลังแตกตื่นหวาดกลัวอย่าลืมว่านั้นเป็นอาหารอันยอดเยี่ยมของหมู่มารปีศาจหมายกระทำต่อเหยื่อก่อนลงมีสังหารเหยื่อกลืนกินพลังงานลบที่ปีศาจมารชื่นชมยิ่งนักนั้นก็ว่า,อย่าเอาประชาชนพลังงานบวกลบของประชาชนไปตอนสนองหมู่มารปีศาจไปเพิ่มพลังงานให้มันอีกเลย,หมอดูโหรแม้ปราถนาดีต่อผู้คน สามารถบอกกล่าวเล่าเรื่องได้หลากหลายช่องทาง ส่วนจริงเท็จ หากเท็จเสียมากก็อย่าออกมาทำนายล่วงหน้าเลย, จริงส่วนมากอาจสามารถส่งตรงแก้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินเพื่อบ้านเพื่อเมืองก็ได้,โหรหมอดูพากันโหนกระแสทำนายเรื่องสงครามที่เป็นระดับชาติกันมากมายจริงๆผิดปกติมาก,หากหมายยอดวิวยอดยอดชอบยอดรายได้ผ่านคลิปก็เลิกเถอะ,เอาพอประมาณเถอะ,ปัจจุบันผุดยิ่งกว่าผีหลอกอีก.

    https://youtube.com/watch?v=JhUYpDfh8Yw&si=7HZO-kOc7gg7u3c0
    ข่าวอัพขึ้นสดๆร้อนๆ ..แปลกแต่จริงช่วงนี้หมอดูและหรือโหร เกาะกระแสการหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ดีมากโดยเฉพาะมาทำนายทายทักเรื่องระดับชาติระดับสงครามนี้,จริงๆควรพูดคุยกันเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในบริบทสั่งการสงครามดีที่สุดเพื่อถ้าจริงก็มีลูกผ่อนหนักให้เบาช่วยเหลือประชาชนและทหารแนวหน้างานต่อสู้รบจริงๆได้,ตลอดสามารถใช้ความสามารถเหนือมนุษย์ตนเป็นกำลังร่วมปกป้องมาตุภูมิท้องถิ่นแผ่นดินตนที่มาเกิดบนแผ่นดินไทยนี้ร่วมด้วยได้อีก,เอาชนะศัตรูผู้รุกรานความสงบสุขของประชาชนคนไทยตนทั้งประเทศด้วย, ..หมอดูทำนายแม่นจริงมีจริงบนแผ่นดินไทย,แต่แทบไม่มีในการกระทำมุ่งหวังโลกธรรม4-8นั้น,จะสะกดกิเลสอยากตนทางโลกเสียมาก ชื่อเสียงหิวแสงหิวสื่อยิ่งพยายามหลบหนี,ถ้าแม้นสัมมาอาชีพเลี้ยงชีพชอบก็เพียงพออยู่พอกิน วัตถุธาตุแทบไม่สะสม. ..แม้โลกจะเป็นไปตามกฎแห่งกรรมจริง แต่ละคนก็มีมิติรับผลของกรรมใครกรรมมันตามจังหวะชีวิตของแต่ละคน,พลังแตกตื่นหวาดกลัวอย่าลืมว่านั้นเป็นอาหารอันยอดเยี่ยมของหมู่มารปีศาจหมายกระทำต่อเหยื่อก่อนลงมีสังหารเหยื่อกลืนกินพลังงานลบที่ปีศาจมารชื่นชมยิ่งนักนั้นก็ว่า,อย่าเอาประชาชนพลังงานบวกลบของประชาชนไปตอนสนองหมู่มารปีศาจไปเพิ่มพลังงานให้มันอีกเลย,หมอดูโหรแม้ปราถนาดีต่อผู้คน สามารถบอกกล่าวเล่าเรื่องได้หลากหลายช่องทาง ส่วนจริงเท็จ หากเท็จเสียมากก็อย่าออกมาทำนายล่วงหน้าเลย, จริงส่วนมากอาจสามารถส่งตรงแก้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินเพื่อบ้านเพื่อเมืองก็ได้,โหรหมอดูพากันโหนกระแสทำนายเรื่องสงครามที่เป็นระดับชาติกันมากมายจริงๆผิดปกติมาก,หากหมายยอดวิวยอดยอดชอบยอดรายได้ผ่านคลิปก็เลิกเถอะ,เอาพอประมาณเถอะ,ปัจจุบันผุดยิ่งกว่าผีหลอกอีก. https://youtube.com/watch?v=JhUYpDfh8Yw&si=7HZO-kOc7gg7u3c0
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 2

    จิ๊กโก๋ปากซอย สร้างวินมอ’ไซค์



    อเมริกาเป็นนักวางแผนตัวพ่อ อเมริกามีแผนสำหรับทุกประเทศเป้าหมาย ทุกขั้นตอน เขียนแผนอย่างละเอียด มีรายงานทุกเรื่องที่เห็นว่าสำคัญ ….เก็บเรื่องระบบทุนนิยมไว้ก่อน เด็กมันยังละอ่อนนัก เดี๋ยวมันตกใจ วิ่งหนีรอดตาข่าย จะกินอาหารอร่อยต้องใจเย็นๆ

    แผนหมายเลข 1 สำหรับการเคี้ยวไทยของอเมริกา ตาม Pax Americana เน้นเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคงนำหน้า ดังนั้น ต้องเปลี่ยนประเทศไทยจากที่เป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรมให้ได้ก่อน เรื่องความมั่นคงอย่าเพิ่งถาม เดี๋ยวจะเห็นว่ามาอย่างไร

    อเมริกา เป็นนักวางแผนที่มีจิตวิทยาสูง คนเราน่ะนะ จะให้ทำอะไร มันต้องให้สบายกระเป๋าก่อน มีเงินแล้วมันถึงจะพูดกันรู้เรื่อง แหม! มันเดินตามกันเปี๊ยบเลย ใครนะ ที่ใช้เงินเข้าล่อ แบบคุณพ่ออเมริกา

    ปี พ.ศ.2501 อเมริกาจึงส่งผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลก เป็นของขวัญให้รัฐบาลสฤษดิ์ มาเป็นทีมใหญ่ ไทยแลนด์ดีใจเหมือนได้แก้ว

    กลุ่มผู้เชี่ยวชาญขนกันมาทำการสำรวจประเทศไทยอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดูทั้งบนดินใต้ดินใต้น้ำในทะเล ทุกซอก ทุกหลุม ประมาณว่าแทบจะถลกผ้านุ่งคุณยายดูยังงั้นเชียว สำรวจอยู่ 1 ปีจึงเสร็จ เสร็จแล้วก็ทำรายงานสำรวจชุดใหญ่ ส่งให้คุณพ่ออเมริกา ชุดเล็กก็เสนอให้คุณป๋าผ้าขะม้าไทย

    (แสดงว่ามันดูกันละเอียดจริง ไม่เหมือนข้าราชการบ้านเราไปดูงานบ้านเขาเลยนะ ไป 15 วัน ช้อปปิ้งเสีย 10 วัน เข้าบ่อนอีก 5 วัน อ้าว แล้วดูงานตอนไหน ก็ตอนขึ้นเครื่องกลับ หลับฝันเอาไง บ้านเรามันถึงเจริญ)

    ผลสำรวจสรุปว่า เพื่อทดแทนการนำเข้า ที่ทำให้ไทยแลนด์ขาดดุลการค้า ฝรั่งบอกว่า ไทยควรเปลี่ยนจากประเทศกสิกรรม ทำการเกษตร มาเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทำการผลิตสินค้าส่งออก เขียนตามโผที่ล็อกไว้เลย กองสลากเรายังล็อกโผไม่ได้เท่านี้

    รายงานสำรวจดังกล่าว เป็นไปตามใบสั่งคุณพ่ออเมริกา ที่ต้องการให้ประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย (ตอนนั้นเราก็เป็นประเทศด้อยนะ ไม่ต้องค้อน ตอนนี้ก็ยังด้อยอยู่อีกหลายเรื่อง) เปิดทางให้ทุนอเมริกัน เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าอุตสาหกรรม นอกจากอเมริกา จะได้ประโยชน์ในการขยายการลงทุนแล้ว อเมริกาจะได้ขายเครื่อง จักร และสารพัดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในขบวนการผลิต เช่น พลังงานไฟฟ้า น้ำมัน เขื่อน อุปกรณ์เทคนิค อุปกรณ์การขนส่ง ฯลฯ ให้ไทยอีกด้วย

    สิ่งที่ไทยได้ขายคือ วัตถุดิบบางอย่างที่มีในประเทศและแรงงาน แค่นั้นเอง ….อืมมม คุ้มแสนคุ้ม…

    คุณป๋าไทยเมื่อได้รับรายงานสำรวจฯ ก็เนื้อเต้นไปหมด เห็นโอกาสทองทำเงินอยู่ข้างหน้า… งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข …คุณป๋าไทยรีบออกคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติทันที ในปี พ.ศ.2504 และนั่นคือกำเนิดสภาพัฒน์ฯ ที่เรารู้จัก

    สภาพัฒน์ฯ ทำหน้าที่วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึงปัจจุบัน ตามแนวทางที่ฝรั่ง (หลอก) ให้ไทยเดิน

    ควรรู้ด้วยว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ฉบับที่ 1 ใช้รายงานธนาคารโลก ฉบับใบสั่งทั้งฉบับนั่นแหละ แปลเป็นไทย ทำเป็นแผนแม่บท ง่ายดีจัง

    ไม่ต้องเสียเวลา ไทยมีส่วนร่วมเพียงในฐานะผู้รับบัญชา ขอรับกระผม

    นอกจากนี้แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ตั้งแต่ฉบับที่ 1 ถึง 6 เดินตามแนวทางรายงานธนาคารโลกทั้งสิ้น ปัจจุบันเป็นฉบับที่ 12 ซึ่งก็ไม่มีแนวทางพัฒนาประเทศ ที่ชัดเจนเหมาะสมกับสภาพ และสภาวะของประเทศ แถม เละเทะเหมือนกินจับฉ่าย

    ควรรู้อีกด้วยว่าในรายงานของธนาคารโลก ไม่เน้นถึงการพัฒนาการปลูกข้าว ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย ตรงกันข้ามดันมีข้อเสนอให้เก็บพรีเมี่ยมข้าว!

    พอจะเห็นกันบ้างหรือยังว่า สิ่งที่เรียกว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯของขวัญจากคุณพ่ออเมริกา แท้จริงแล้ว เป็นบัวหิมะพันปีเพิ่มพลัง หรือ ยาละลายกระดูกสลายพลัง

    นักล่าอาณานิคมรุ่นใหม่นี่เยี่ยมจริงๆ

    หลังจากนั้น การพัฒนาประเทศไทยก็เดินตามแนวที่คุณพ่ออเมริกากำหนด หรือกำกับ ผ่านหน่วยงานธนาคารโลก (World Bank), IMF, IFC, ADB ฯลฯ ที่เราขยันกู้เขามาตลอด เริ่มเข้าใจหรือยังครับ ทำไมเขาถึงต้องตั้งธนาคารโลก, IMF ฯลฯ

    สัญญาเงินกู้ทุกฉบับของ World Bank, IMF , IFC จะมีข้อกำหนดบังคับผู้กู้ ตามที่คุณพ่ออเมริกาต้อง การ ให้โลกเดินไปในทิศทางที่คุณพ่อและพวกต้องการคือ ทุนนิยมเสรี นั่นเอง

    อเมริกาสามารถควบคุมธนาคารโลก, IMF, IFC ได้ในกำมือ เพราะอเมริกาจ่ายเงินสนับสนุนสูงที่สุดมากกว่าประเทศอื่นๆ

    พูดให้ชัดธนาคารโลก, IMF, IFC ก็เด็กในกระเป๋าอเมริกานั่นแหละ!

    แต่การพัฒนาประเทศ จะเดินตามใบสั่งของคุณพ่ออเมริกาไม่ได้ ถ้าไม่มีข้าราชการที่จูงง่าย พร้อมเป็นขี้ข้า ไม่ว่าจะเป็นขี้ข้าฝรั่ง หรือนักการเมืองไทย เห็นๆ กันอยู่ตั้งกะสมัย 50 ปีก่อน จนถึงเดี๋ยวนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง

    ข้าราชการที่มีความสามารถ แต่พร้อมที่จะถูกฝรั่งหลอกใช้ (เอ๊ะ หรือเต็มใจ!)ที่เรียกกันว่า technocrat (technocrat ต้นแบบก็อย่างนายเกษม จาติกวนิช นายอานันท์ ปันยารชุน นายอำนวย วีรวรรณ นั่นแหละ) ก็เป็นผู้รับแผนคุณพ่อฝรั่งมาดำเนินการ

    Technocrat เหล่านี้มาจากไหนล่ะ? อ้า! เดี๋ยวต้องหาที่มาแบบ CSI (Crime Scene Investigation สำหรับผู้ไม่ได้ดูหนัง ดูแต่ละคร ก็นึกถึงคุณหมอพรทิพย์หัวฟูคนเก่งของเราแล้วกัน ประเภทสืบจากศพอะไรทำนองนั้นแหละครับ)

    Technocrat เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้จบการศึกษาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากอังกฤษและอเมริกา มีความคุ้นเคยกับระบบการศึกษา ตำรับตำรา วิชาการ ความคิด ที่ฝรั่งแป๊ะติดใส่หัวเอาไว้ตั้งแต่สมัยไปเรียนหนังสือ ท่านเหล่านั้นก็มีวิชาความรู้เพิ่มพูน ฝรั่งสอนอะไรก็จด ฝรั่งพูดอะไรก็จำ ทำตัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร (ฮา) กลับมาก็ฟิตเปรี๊ยะ เครื่องถ่ายอัดสำเนาไว้เต็ม

    คิดว่าบ้านเมืองเราจะเจริญได้ ต้องดูจากที่ฝรั่งเขาพัฒนาบ้านเมืองเขา ไม่เคยใช้สมองของตัวคิดบ้างว่า บ้านเขากับบ้านเราน่ะ มันต่างกันขนาดไหน

    ดูภูมิประเทศ อากาศ ทรัพยากร ความถนัด ประเพณี ฯลฯ โอ้ยสารพัด มันเหมือนกันตรงไหน ข้างหนึ่งหัวดำตัวเหลือง อีกข้างหนึ่งหัวทองตัวขาวเผือด ข้างหนึ่งหนาวหิมะตก ข้างหนึ่งเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกน้ำท่วม ยังคิดก็อบปี้ตะบี้ตะบันท่าเดียว เพราะถูกทำให้เชื่อว่า ฝรั่งนั้นฉลาดกว่าเรา สิ่งที่เขาคิด ดีกว่าที่เราคิด มันฝังหัว ตั้งกะไปเรียน prep school หรือ public school กับฝรั่งมาแล้ว

    ดังนั้น เมื่อฝรั่งบอกเดินหน้าเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทุกท่านก็ลุย! เฮ้อ! เศร้าใจ

    การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย เมื่อกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด มันก็ผิดไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่แก้ไข คนอะไรเดินใส่เสื้อติดกระดุมเขย่งมาเกือบ 60 ปี ยังไม่รู้ตัว

    นิคมอุตสาหกรรม จึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แล้วดอกเห็ดพวกนี้ไม่รู้เป็นอะไร ก็ชอบขึ้นอยู่ตามที่ลุ่ม ซึ่งเป็นทางเดินของน้ำ ดูนิคมบางชัน นิคมแถวอยุธยา บางปะอิน เป็นตัวอย่างแล้วกัน ยิ่งนานวันดอกเห็ดก็แผ่ขยายบานกินเมืองเข้าไปลึกขวางทางไหลหลากของน้ำ ซึ่งมาประจำปี

    ดังนั้น ปัญหาน้ำท่วมก็ยังจะมีอยู่ต่อไป ต้องใช้เรือดำน้ำกี่ลำ หญ้าแพรกเท่าไหร่ก็เอาไม่อยู่ ถ้ายังดันทุรังเดินใส่เสื้อกระดุมเขย่งกันอยู่อย่างนี้

    นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องท่าเรือแหลมฉบัง ผาแดง แทนทาลัม นิคมอุตสาหกรรมระยอง โรงไฟฟ้าบ้านกรูด การวางท่อแก๊ส ฯลฯ ที่ไม่เข้ากับสภาพภูมิประเทศ และความเป็นอยู่ของท้องถิ่นนะ แค่นี้ก็น่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว

    แหล่งอุตสาหกรรมใหญ่ทั้งหลาย สร้างรายได้ให้กับผู้ถือหุ้นอย่างมหาศาล คนท้องถิ่นได้แต่ค่าแรงวันละไม่กี่บาท แล้วใครเป็นผู้ถือหุ้น… ก็คนต่างชาติส่วนใหญ่ บวกกับคนไทยขายชาติที่ถือหุ้นแทนฝรั่งไง

    คนท้องถิ่นไม่เคยได้เป็นผู้ถือหุ้น!

    ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่ทำกิน และที่สำคัญ สุขอนามัยของชาวบ้าน ไม่เคยเป็นปัจจัยที่ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุนต่างชาติ ให้ความสนใจหรือห่วงใย

    ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุน ให้ความสนใจแต่ ผลผลิต และผลกำไรของพวกเขาเท่านั้น

    ส่วนนักการเมืองไทย ก็นึกแต่ค่าหัวคิว ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ที่จะได้รับ รับแล้วเอาไปซุกไว้ที่ไหนดีหนอ หลังบ้าน ใต้เตียง ในตู้เสื้อผ้า หรือซุกไว้กับคนรถ คนใช้ ฯลฯ แล้วประเทศได้อะไร ประชาชนได้อะไร …เคยมีนักการเมืองหน้าไหนดูแลเราจริงๆ จังๆ บ้าง


    คนเล่านิทาน
    ตอน 2 จิ๊กโก๋ปากซอย สร้างวินมอ’ไซค์ อเมริกาเป็นนักวางแผนตัวพ่อ อเมริกามีแผนสำหรับทุกประเทศเป้าหมาย ทุกขั้นตอน เขียนแผนอย่างละเอียด มีรายงานทุกเรื่องที่เห็นว่าสำคัญ ….เก็บเรื่องระบบทุนนิยมไว้ก่อน เด็กมันยังละอ่อนนัก เดี๋ยวมันตกใจ วิ่งหนีรอดตาข่าย จะกินอาหารอร่อยต้องใจเย็นๆ แผนหมายเลข 1 สำหรับการเคี้ยวไทยของอเมริกา ตาม Pax Americana เน้นเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคงนำหน้า ดังนั้น ต้องเปลี่ยนประเทศไทยจากที่เป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรมให้ได้ก่อน เรื่องความมั่นคงอย่าเพิ่งถาม เดี๋ยวจะเห็นว่ามาอย่างไร อเมริกา เป็นนักวางแผนที่มีจิตวิทยาสูง คนเราน่ะนะ จะให้ทำอะไร มันต้องให้สบายกระเป๋าก่อน มีเงินแล้วมันถึงจะพูดกันรู้เรื่อง แหม! มันเดินตามกันเปี๊ยบเลย ใครนะ ที่ใช้เงินเข้าล่อ แบบคุณพ่ออเมริกา ปี พ.ศ.2501 อเมริกาจึงส่งผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลก เป็นของขวัญให้รัฐบาลสฤษดิ์ มาเป็นทีมใหญ่ ไทยแลนด์ดีใจเหมือนได้แก้ว กลุ่มผู้เชี่ยวชาญขนกันมาทำการสำรวจประเทศไทยอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดูทั้งบนดินใต้ดินใต้น้ำในทะเล ทุกซอก ทุกหลุม ประมาณว่าแทบจะถลกผ้านุ่งคุณยายดูยังงั้นเชียว สำรวจอยู่ 1 ปีจึงเสร็จ เสร็จแล้วก็ทำรายงานสำรวจชุดใหญ่ ส่งให้คุณพ่ออเมริกา ชุดเล็กก็เสนอให้คุณป๋าผ้าขะม้าไทย (แสดงว่ามันดูกันละเอียดจริง ไม่เหมือนข้าราชการบ้านเราไปดูงานบ้านเขาเลยนะ ไป 15 วัน ช้อปปิ้งเสีย 10 วัน เข้าบ่อนอีก 5 วัน อ้าว แล้วดูงานตอนไหน ก็ตอนขึ้นเครื่องกลับ หลับฝันเอาไง บ้านเรามันถึงเจริญ) ผลสำรวจสรุปว่า เพื่อทดแทนการนำเข้า ที่ทำให้ไทยแลนด์ขาดดุลการค้า ฝรั่งบอกว่า ไทยควรเปลี่ยนจากประเทศกสิกรรม ทำการเกษตร มาเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทำการผลิตสินค้าส่งออก เขียนตามโผที่ล็อกไว้เลย กองสลากเรายังล็อกโผไม่ได้เท่านี้ รายงานสำรวจดังกล่าว เป็นไปตามใบสั่งคุณพ่ออเมริกา ที่ต้องการให้ประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย (ตอนนั้นเราก็เป็นประเทศด้อยนะ ไม่ต้องค้อน ตอนนี้ก็ยังด้อยอยู่อีกหลายเรื่อง) เปิดทางให้ทุนอเมริกัน เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าอุตสาหกรรม นอกจากอเมริกา จะได้ประโยชน์ในการขยายการลงทุนแล้ว อเมริกาจะได้ขายเครื่อง จักร และสารพัดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในขบวนการผลิต เช่น พลังงานไฟฟ้า น้ำมัน เขื่อน อุปกรณ์เทคนิค อุปกรณ์การขนส่ง ฯลฯ ให้ไทยอีกด้วย สิ่งที่ไทยได้ขายคือ วัตถุดิบบางอย่างที่มีในประเทศและแรงงาน แค่นั้นเอง ….อืมมม คุ้มแสนคุ้ม… คุณป๋าไทยเมื่อได้รับรายงานสำรวจฯ ก็เนื้อเต้นไปหมด เห็นโอกาสทองทำเงินอยู่ข้างหน้า… งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข …คุณป๋าไทยรีบออกคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติทันที ในปี พ.ศ.2504 และนั่นคือกำเนิดสภาพัฒน์ฯ ที่เรารู้จัก สภาพัฒน์ฯ ทำหน้าที่วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึงปัจจุบัน ตามแนวทางที่ฝรั่ง (หลอก) ให้ไทยเดิน ควรรู้ด้วยว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ฉบับที่ 1 ใช้รายงานธนาคารโลก ฉบับใบสั่งทั้งฉบับนั่นแหละ แปลเป็นไทย ทำเป็นแผนแม่บท ง่ายดีจัง ไม่ต้องเสียเวลา ไทยมีส่วนร่วมเพียงในฐานะผู้รับบัญชา ขอรับกระผม นอกจากนี้แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ตั้งแต่ฉบับที่ 1 ถึง 6 เดินตามแนวทางรายงานธนาคารโลกทั้งสิ้น ปัจจุบันเป็นฉบับที่ 12 ซึ่งก็ไม่มีแนวทางพัฒนาประเทศ ที่ชัดเจนเหมาะสมกับสภาพ และสภาวะของประเทศ แถม เละเทะเหมือนกินจับฉ่าย ควรรู้อีกด้วยว่าในรายงานของธนาคารโลก ไม่เน้นถึงการพัฒนาการปลูกข้าว ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย ตรงกันข้ามดันมีข้อเสนอให้เก็บพรีเมี่ยมข้าว! พอจะเห็นกันบ้างหรือยังว่า สิ่งที่เรียกว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯของขวัญจากคุณพ่ออเมริกา แท้จริงแล้ว เป็นบัวหิมะพันปีเพิ่มพลัง หรือ ยาละลายกระดูกสลายพลัง นักล่าอาณานิคมรุ่นใหม่นี่เยี่ยมจริงๆ หลังจากนั้น การพัฒนาประเทศไทยก็เดินตามแนวที่คุณพ่ออเมริกากำหนด หรือกำกับ ผ่านหน่วยงานธนาคารโลก (World Bank), IMF, IFC, ADB ฯลฯ ที่เราขยันกู้เขามาตลอด เริ่มเข้าใจหรือยังครับ ทำไมเขาถึงต้องตั้งธนาคารโลก, IMF ฯลฯ สัญญาเงินกู้ทุกฉบับของ World Bank, IMF , IFC จะมีข้อกำหนดบังคับผู้กู้ ตามที่คุณพ่ออเมริกาต้อง การ ให้โลกเดินไปในทิศทางที่คุณพ่อและพวกต้องการคือ ทุนนิยมเสรี นั่นเอง อเมริกาสามารถควบคุมธนาคารโลก, IMF, IFC ได้ในกำมือ เพราะอเมริกาจ่ายเงินสนับสนุนสูงที่สุดมากกว่าประเทศอื่นๆ พูดให้ชัดธนาคารโลก, IMF, IFC ก็เด็กในกระเป๋าอเมริกานั่นแหละ! แต่การพัฒนาประเทศ จะเดินตามใบสั่งของคุณพ่ออเมริกาไม่ได้ ถ้าไม่มีข้าราชการที่จูงง่าย พร้อมเป็นขี้ข้า ไม่ว่าจะเป็นขี้ข้าฝรั่ง หรือนักการเมืองไทย เห็นๆ กันอยู่ตั้งกะสมัย 50 ปีก่อน จนถึงเดี๋ยวนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ข้าราชการที่มีความสามารถ แต่พร้อมที่จะถูกฝรั่งหลอกใช้ (เอ๊ะ หรือเต็มใจ!)ที่เรียกกันว่า technocrat (technocrat ต้นแบบก็อย่างนายเกษม จาติกวนิช นายอานันท์ ปันยารชุน นายอำนวย วีรวรรณ นั่นแหละ) ก็เป็นผู้รับแผนคุณพ่อฝรั่งมาดำเนินการ Technocrat เหล่านี้มาจากไหนล่ะ? อ้า! เดี๋ยวต้องหาที่มาแบบ CSI (Crime Scene Investigation สำหรับผู้ไม่ได้ดูหนัง ดูแต่ละคร ก็นึกถึงคุณหมอพรทิพย์หัวฟูคนเก่งของเราแล้วกัน ประเภทสืบจากศพอะไรทำนองนั้นแหละครับ) Technocrat เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้จบการศึกษาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากอังกฤษและอเมริกา มีความคุ้นเคยกับระบบการศึกษา ตำรับตำรา วิชาการ ความคิด ที่ฝรั่งแป๊ะติดใส่หัวเอาไว้ตั้งแต่สมัยไปเรียนหนังสือ ท่านเหล่านั้นก็มีวิชาความรู้เพิ่มพูน ฝรั่งสอนอะไรก็จด ฝรั่งพูดอะไรก็จำ ทำตัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร (ฮา) กลับมาก็ฟิตเปรี๊ยะ เครื่องถ่ายอัดสำเนาไว้เต็ม คิดว่าบ้านเมืองเราจะเจริญได้ ต้องดูจากที่ฝรั่งเขาพัฒนาบ้านเมืองเขา ไม่เคยใช้สมองของตัวคิดบ้างว่า บ้านเขากับบ้านเราน่ะ มันต่างกันขนาดไหน ดูภูมิประเทศ อากาศ ทรัพยากร ความถนัด ประเพณี ฯลฯ โอ้ยสารพัด มันเหมือนกันตรงไหน ข้างหนึ่งหัวดำตัวเหลือง อีกข้างหนึ่งหัวทองตัวขาวเผือด ข้างหนึ่งหนาวหิมะตก ข้างหนึ่งเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกน้ำท่วม ยังคิดก็อบปี้ตะบี้ตะบันท่าเดียว เพราะถูกทำให้เชื่อว่า ฝรั่งนั้นฉลาดกว่าเรา สิ่งที่เขาคิด ดีกว่าที่เราคิด มันฝังหัว ตั้งกะไปเรียน prep school หรือ public school กับฝรั่งมาแล้ว ดังนั้น เมื่อฝรั่งบอกเดินหน้าเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทุกท่านก็ลุย! เฮ้อ! เศร้าใจ การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย เมื่อกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด มันก็ผิดไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่แก้ไข คนอะไรเดินใส่เสื้อติดกระดุมเขย่งมาเกือบ 60 ปี ยังไม่รู้ตัว นิคมอุตสาหกรรม จึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แล้วดอกเห็ดพวกนี้ไม่รู้เป็นอะไร ก็ชอบขึ้นอยู่ตามที่ลุ่ม ซึ่งเป็นทางเดินของน้ำ ดูนิคมบางชัน นิคมแถวอยุธยา บางปะอิน เป็นตัวอย่างแล้วกัน ยิ่งนานวันดอกเห็ดก็แผ่ขยายบานกินเมืองเข้าไปลึกขวางทางไหลหลากของน้ำ ซึ่งมาประจำปี ดังนั้น ปัญหาน้ำท่วมก็ยังจะมีอยู่ต่อไป ต้องใช้เรือดำน้ำกี่ลำ หญ้าแพรกเท่าไหร่ก็เอาไม่อยู่ ถ้ายังดันทุรังเดินใส่เสื้อกระดุมเขย่งกันอยู่อย่างนี้ นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องท่าเรือแหลมฉบัง ผาแดง แทนทาลัม นิคมอุตสาหกรรมระยอง โรงไฟฟ้าบ้านกรูด การวางท่อแก๊ส ฯลฯ ที่ไม่เข้ากับสภาพภูมิประเทศ และความเป็นอยู่ของท้องถิ่นนะ แค่นี้ก็น่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว แหล่งอุตสาหกรรมใหญ่ทั้งหลาย สร้างรายได้ให้กับผู้ถือหุ้นอย่างมหาศาล คนท้องถิ่นได้แต่ค่าแรงวันละไม่กี่บาท แล้วใครเป็นผู้ถือหุ้น… ก็คนต่างชาติส่วนใหญ่ บวกกับคนไทยขายชาติที่ถือหุ้นแทนฝรั่งไง คนท้องถิ่นไม่เคยได้เป็นผู้ถือหุ้น! ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่ทำกิน และที่สำคัญ สุขอนามัยของชาวบ้าน ไม่เคยเป็นปัจจัยที่ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุนต่างชาติ ให้ความสนใจหรือห่วงใย ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุน ให้ความสนใจแต่ ผลผลิต และผลกำไรของพวกเขาเท่านั้น ส่วนนักการเมืองไทย ก็นึกแต่ค่าหัวคิว ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ที่จะได้รับ รับแล้วเอาไปซุกไว้ที่ไหนดีหนอ หลังบ้าน ใต้เตียง ในตู้เสื้อผ้า หรือซุกไว้กับคนรถ คนใช้ ฯลฯ แล้วประเทศได้อะไร ประชาชนได้อะไร …เคยมีนักการเมืองหน้าไหนดูแลเราจริงๆ จังๆ บ้าง คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากแนวรบไซเบอร์: เมื่อยูเครนโจมตีรัสเซียด้วยข้อมูลแทนกระสุน

    ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 ยูเครนได้เปิดปฏิบัติการไซเบอร์สองแนวพร้อมกัน:

    1️⃣ การโจมตีแหลมไครเมีย หน่วยข่าวกรองทหารยูเครน (HUR) เปิดปฏิบัติการพิเศษด้วยการโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial-of-Service) ใส่ระบบสารสนเทศของหน่วยงานปกครองรัสเซียในไครเมีย ส่งผลให้ระบบเครือข่ายและข้อมูลของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นอัมพาต พร้อมกับการขโมยข้อมูลกว่า 100TB ก่อนลบข้อมูลทั้งหมดออกจากเซิร์ฟเวอร์

    2️⃣ การโจมตีสายการบิน Aeroflot กลุ่มแฮกเกอร์ Silent Crow และ Belarusian Cyber Partisans อ้างว่าได้แทรกซึมระบบของ Aeroflot มานานกว่า 1 ปี ก่อนจะทำลายเซิร์ฟเวอร์กว่า 7,000 เครื่อง ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 100 เที่ยว และเว็บไซต์ของบริษัทใช้งานไม่ได้3

    ทั้งสองปฏิบัติการนี้เกิดขึ้นหลังจากยูเครนร่วมมือกับกลุ่ม BO Team และ Ukrainian Cyber Alliance โจมตีบริษัท Gaskar Group ผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ของรัสเซีย ทำลายข้อมูลกว่า 47TB และทำให้การผลิตโดรนหยุดชะงัก

    ยูเครนโจมตีไซเบอร์ใส่หน่วยงานรัสเซียในแหลมไครเมีย
    ใช้ DDoS ทำให้ระบบเครือข่ายของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นอัมพาต
    ขโมยข้อมูลกว่า 100TB ก่อนลบออกจากเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด

    สายการบิน Aeroflot ถูกโจมตีโดย Silent Crow และ Cyber Partisans
    ทำลายเซิร์ฟเวอร์กว่า 7,000 เครื่อง และระบบ IT ทั้งหมดของบริษัท3
    ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 100 เที่ยว และเว็บไซต์ใช้งานไม่ได้

    กลุ่มแฮกเกอร์ Silent Crow แทรกซึมระบบ Aeroflot มานานกว่า 1 ปี
    ขโมยข้อมูลผู้โดยสาร, อีเมลภายใน, และไฟล์เสียงการสื่อสาร6
    ขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารทั้งหมดในอนาคต

    การโจมตี Gaskar Group ทำให้การผลิตโดรนของรัสเซียหยุดชะงัก
    ข้อมูลการออกแบบโดรนและซอร์สโค้ดถูกขโมยและส่งให้กองทัพยูเครน5
    ระบบบัญชี, การผลิต และอินเทอร์เน็ตของบริษัทถูกทำลาย

    ยูเครนใช้ไซเบอร์เป็นยุทธศาสตร์หลักในการทำสงคราม
    มุ่งโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของรัสเซียแทนการปะทะโดยตรง
    สร้างความเสียหายเชิงยุทธศาสตร์โดยไม่ต้องใช้ระเบิด

    การโจมตีไซเบอร์อาจส่งผลกระทบต่อพลเรือนและข้อมูลส่วนบุคคล
    ข้อมูลผู้โดยสาร Aeroflot ถูกขโมยและอาจถูกเปิดเผยสาธารณะ3
    เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและความปลอดภัยของประชาชน

    การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานอาจนำไปสู่การตอบโต้ที่รุนแรงจากรัสเซีย
    รัสเซียอาจเพิ่มมาตรการตอบโต้ทางไซเบอร์หรือทางทหาร
    เสี่ยงต่อการขยายความขัดแย้งไปยังประเทศพันธมิตร

    การใช้ DDoS เป็นเครื่องมือเบี่ยงเบนความสนใจอาจทำให้การป้องกันล่าช้า
    องค์กรอาจไม่ทันสังเกตการโจมตีหลักที่เกิดขึ้นพร้อมกัน
    ต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มในการตรวจสอบและป้องกันหลายแนวทาง

    การโจมตีแบบทำลายข้อมูลอาจทำให้การฟื้นฟูระบบเป็นไปได้ยาก
    Aeroflot และ Gaskar อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการกู้คืนระบบ
    หากไม่มีสำรองข้อมูลแบบออฟไลน์ อาจสูญเสียข้อมูลถาวร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/ukraine-strikes-back-at-russia-launches-cyberattack-on-forces-in-crimea-as-independent-hackers-target-airline-aeroflot-grounding-dozens-of-planes
    🎙️ เรื่องเล่าจากแนวรบไซเบอร์: เมื่อยูเครนโจมตีรัสเซียด้วยข้อมูลแทนกระสุน ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 ยูเครนได้เปิดปฏิบัติการไซเบอร์สองแนวพร้อมกัน: 1️⃣ การโจมตีแหลมไครเมีย หน่วยข่าวกรองทหารยูเครน (HUR) เปิดปฏิบัติการพิเศษด้วยการโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial-of-Service) ใส่ระบบสารสนเทศของหน่วยงานปกครองรัสเซียในไครเมีย ส่งผลให้ระบบเครือข่ายและข้อมูลของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นอัมพาต พร้อมกับการขโมยข้อมูลกว่า 100TB ก่อนลบข้อมูลทั้งหมดออกจากเซิร์ฟเวอร์ 2️⃣ การโจมตีสายการบิน Aeroflot กลุ่มแฮกเกอร์ Silent Crow และ Belarusian Cyber Partisans อ้างว่าได้แทรกซึมระบบของ Aeroflot มานานกว่า 1 ปี ก่อนจะทำลายเซิร์ฟเวอร์กว่า 7,000 เครื่อง ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 100 เที่ยว และเว็บไซต์ของบริษัทใช้งานไม่ได้3 ทั้งสองปฏิบัติการนี้เกิดขึ้นหลังจากยูเครนร่วมมือกับกลุ่ม BO Team และ Ukrainian Cyber Alliance โจมตีบริษัท Gaskar Group ผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ของรัสเซีย ทำลายข้อมูลกว่า 47TB และทำให้การผลิตโดรนหยุดชะงัก ✅ ยูเครนโจมตีไซเบอร์ใส่หน่วยงานรัสเซียในแหลมไครเมีย ➡️ ใช้ DDoS ทำให้ระบบเครือข่ายของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นอัมพาต ➡️ ขโมยข้อมูลกว่า 100TB ก่อนลบออกจากเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ✅ สายการบิน Aeroflot ถูกโจมตีโดย Silent Crow และ Cyber Partisans ➡️ ทำลายเซิร์ฟเวอร์กว่า 7,000 เครื่อง และระบบ IT ทั้งหมดของบริษัท3 ➡️ ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 100 เที่ยว และเว็บไซต์ใช้งานไม่ได้ ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ Silent Crow แทรกซึมระบบ Aeroflot มานานกว่า 1 ปี ➡️ ขโมยข้อมูลผู้โดยสาร, อีเมลภายใน, และไฟล์เสียงการสื่อสาร6 ➡️ ขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารทั้งหมดในอนาคต ✅ การโจมตี Gaskar Group ทำให้การผลิตโดรนของรัสเซียหยุดชะงัก ➡️ ข้อมูลการออกแบบโดรนและซอร์สโค้ดถูกขโมยและส่งให้กองทัพยูเครน5 ➡️ ระบบบัญชี, การผลิต และอินเทอร์เน็ตของบริษัทถูกทำลาย ✅ ยูเครนใช้ไซเบอร์เป็นยุทธศาสตร์หลักในการทำสงคราม ➡️ มุ่งโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของรัสเซียแทนการปะทะโดยตรง ➡️ สร้างความเสียหายเชิงยุทธศาสตร์โดยไม่ต้องใช้ระเบิด ‼️ การโจมตีไซเบอร์อาจส่งผลกระทบต่อพลเรือนและข้อมูลส่วนบุคคล ⛔ ข้อมูลผู้โดยสาร Aeroflot ถูกขโมยและอาจถูกเปิดเผยสาธารณะ3 ⛔ เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและความปลอดภัยของประชาชน ‼️ การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานอาจนำไปสู่การตอบโต้ที่รุนแรงจากรัสเซีย ⛔ รัสเซียอาจเพิ่มมาตรการตอบโต้ทางไซเบอร์หรือทางทหาร ⛔ เสี่ยงต่อการขยายความขัดแย้งไปยังประเทศพันธมิตร ‼️ การใช้ DDoS เป็นเครื่องมือเบี่ยงเบนความสนใจอาจทำให้การป้องกันล่าช้า ⛔ องค์กรอาจไม่ทันสังเกตการโจมตีหลักที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ⛔ ต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มในการตรวจสอบและป้องกันหลายแนวทาง ‼️ การโจมตีแบบทำลายข้อมูลอาจทำให้การฟื้นฟูระบบเป็นไปได้ยาก ⛔ Aeroflot และ Gaskar อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการกู้คืนระบบ ⛔ หากไม่มีสำรองข้อมูลแบบออฟไลน์ อาจสูญเสียข้อมูลถาวร https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/ukraine-strikes-back-at-russia-launches-cyberattack-on-forces-in-crimea-as-independent-hackers-target-airline-aeroflot-grounding-dozens-of-planes
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Ukraine strikes back at Russia — launches cyberattack on forces in Crimea as independent hackers target airline Aeroflot, grounding dozens of planes
    The first was a sustained distributed denial-of-service attack on Crimean forces; the second was reportedly destructive.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกของ AI: เมื่อคำแนะนำเรื่องเงินเดือนกลายเป็นการกดค่าตัวโดยไม่รู้ตัว

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคนิค Würzburg-Schweinfurt ในเยอรมนีได้ทำการทดลองกับแชตบอทยอดนิยมหลายตัว เช่น ChatGPT, Claude, Llama และอื่นๆ โดยตั้งคำถามง่ายๆ ว่า “ควรขอเงินเดือนเริ่มต้นเท่าไหร่?” แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือ “ตัวตน” ของผู้ถาม—ชายหรือหญิง, เชื้อชาติใด, เป็นคนท้องถิ่นหรือผู้ลี้ภัย

    ผลลัพธ์ชวนตกใจ: แม้คุณสมบัติจะเหมือนกันทุกประการ แต่ AI กลับแนะนำให้ผู้หญิงและผู้ลี้ภัยขอเงินเดือนต่ำกว่าผู้ชายหรือผู้ที่ระบุว่าเป็น expatriate อย่างมีนัยสำคัญ เช่น แพทย์ชายในเดนเวอร์ถูกแนะนำให้ขอ $400,000 ขณะที่หญิงในบทบาทเดียวกันถูกแนะนำให้ขอเพียง $280,000

    สิ่งนี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้ “คิดเอง” แต่เรียนรู้จากข้อมูลมหาศาลที่มนุษย์สร้างขึ้น—ซึ่งเต็มไปด้วยอคติทางสังคมที่ฝังอยู่ในโพสต์งาน, คำแนะนำ, สถิติรัฐบาล และแม้แต่คอมเมนต์ในโซเชียลมีเดีย

    งานวิจัยพบว่า AI แนะนำเงินเดือนต่ำกว่าสำหรับผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย
    แม้คุณสมบัติและตำแหน่งงานจะเหมือนกันทุกประการ
    ตัวอย่าง: แพทย์ชายในเดนเวอร์ได้คำแนะนำ $400,000 แต่หญิงได้เพียง $280,000

    AI แสดงอคติจากคำใบ้เล็กๆ เช่นชื่อหรือสถานะผู้ลี้ภัย
    “ชายเอเชีย expatriate” ได้คำแนะนำสูงสุด
    “หญิงฮิสแปนิกผู้ลี้ภัย” ได้ต่ำสุด แม้คุณสมบัติเหมือนกัน

    แชตบอทเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอคติในโลกจริง
    ข้อมูลจากหนังสือ, โพสต์งาน, โซเชียลมีเดีย ฯลฯ
    คำว่า “expatriate” สื่อถึงความสำเร็จ ส่วน “refugee” สื่อถึงความด้อยโอกาส

    AI ที่มีระบบจดจำผู้ใช้อาจสะสมอคติจากบทสนทนาเดิม
    ไม่จำเป็นต้องระบุเพศหรือเชื้อชาติในคำถาม
    AI อาจใช้ข้อมูลจากบทสนทนาเก่าในการให้คำแนะนำ

    นักวิจัยเสนอให้ใช้ “ช่องว่างเงินเดือน” เป็นตัวชี้วัดอคติของโมเดล
    แทนการวัดจากความรู้หรือคำตอบที่ถูกต้อง
    เพราะผลกระทบทางเศรษฐกิจมีความสำคัญและวัดได้จริง

    คำแนะนำจาก AI อาจทำให้ผู้หญิงและชนกลุ่มน้อยขอเงินเดือนต่ำกว่าที่ควร
    ส่งผลต่อรายได้ระยะสั้นและโอกาสในระยะยาว
    อาจกลายเป็นวงจรที่ฝังอคติในข้อมูลฝึกโมเดลรุ่นถัดไป

    ผู้ใช้ไม่รู้ว่า AI ใช้ข้อมูลส่วนตัวในการให้คำแนะนำ
    การจดจำบทสนทนาอาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติแบบ “ล่องหน”
    ผู้ใช้ควรระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในแชต

    การใช้ AI ในการเจรจาเงินเดือนต้องมีวิจารณญาณ
    คำแนะนำอาจไม่เป็นกลาง แม้ดูเหมือนเป็นกลาง
    ควรลองถามในหลายบทบาทเพื่อเปรียบเทียบคำตอบ

    การพัฒนา AI ที่ปราศจากอคติยังเป็นความท้าทายใหญ่
    การ “de-bias” โมเดลต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากหลายฝ่าย
    ต้องมีมาตรฐานจริยธรรมและการตรวจสอบอิสระ

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/salary-advice-from-ai-low-balls-women-and-minorities-report
    🤖 เรื่องเล่าจากโลกของ AI: เมื่อคำแนะนำเรื่องเงินเดือนกลายเป็นการกดค่าตัวโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคนิค Würzburg-Schweinfurt ในเยอรมนีได้ทำการทดลองกับแชตบอทยอดนิยมหลายตัว เช่น ChatGPT, Claude, Llama และอื่นๆ โดยตั้งคำถามง่ายๆ ว่า “ควรขอเงินเดือนเริ่มต้นเท่าไหร่?” แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือ “ตัวตน” ของผู้ถาม—ชายหรือหญิง, เชื้อชาติใด, เป็นคนท้องถิ่นหรือผู้ลี้ภัย ผลลัพธ์ชวนตกใจ: แม้คุณสมบัติจะเหมือนกันทุกประการ แต่ AI กลับแนะนำให้ผู้หญิงและผู้ลี้ภัยขอเงินเดือนต่ำกว่าผู้ชายหรือผู้ที่ระบุว่าเป็น expatriate อย่างมีนัยสำคัญ เช่น แพทย์ชายในเดนเวอร์ถูกแนะนำให้ขอ $400,000 ขณะที่หญิงในบทบาทเดียวกันถูกแนะนำให้ขอเพียง $280,000 สิ่งนี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้ “คิดเอง” แต่เรียนรู้จากข้อมูลมหาศาลที่มนุษย์สร้างขึ้น—ซึ่งเต็มไปด้วยอคติทางสังคมที่ฝังอยู่ในโพสต์งาน, คำแนะนำ, สถิติรัฐบาล และแม้แต่คอมเมนต์ในโซเชียลมีเดีย ✅ งานวิจัยพบว่า AI แนะนำเงินเดือนต่ำกว่าสำหรับผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย ➡️ แม้คุณสมบัติและตำแหน่งงานจะเหมือนกันทุกประการ ➡️ ตัวอย่าง: แพทย์ชายในเดนเวอร์ได้คำแนะนำ $400,000 แต่หญิงได้เพียง $280,000 ✅ AI แสดงอคติจากคำใบ้เล็กๆ เช่นชื่อหรือสถานะผู้ลี้ภัย ➡️ “ชายเอเชีย expatriate” ได้คำแนะนำสูงสุด ➡️ “หญิงฮิสแปนิกผู้ลี้ภัย” ได้ต่ำสุด แม้คุณสมบัติเหมือนกัน ✅ แชตบอทเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอคติในโลกจริง ➡️ ข้อมูลจากหนังสือ, โพสต์งาน, โซเชียลมีเดีย ฯลฯ ➡️ คำว่า “expatriate” สื่อถึงความสำเร็จ ส่วน “refugee” สื่อถึงความด้อยโอกาส ✅ AI ที่มีระบบจดจำผู้ใช้อาจสะสมอคติจากบทสนทนาเดิม ➡️ ไม่จำเป็นต้องระบุเพศหรือเชื้อชาติในคำถาม ➡️ AI อาจใช้ข้อมูลจากบทสนทนาเก่าในการให้คำแนะนำ ✅ นักวิจัยเสนอให้ใช้ “ช่องว่างเงินเดือน” เป็นตัวชี้วัดอคติของโมเดล ➡️ แทนการวัดจากความรู้หรือคำตอบที่ถูกต้อง ➡️ เพราะผลกระทบทางเศรษฐกิจมีความสำคัญและวัดได้จริง ‼️ คำแนะนำจาก AI อาจทำให้ผู้หญิงและชนกลุ่มน้อยขอเงินเดือนต่ำกว่าที่ควร ⛔ ส่งผลต่อรายได้ระยะสั้นและโอกาสในระยะยาว ⛔ อาจกลายเป็นวงจรที่ฝังอคติในข้อมูลฝึกโมเดลรุ่นถัดไป ‼️ ผู้ใช้ไม่รู้ว่า AI ใช้ข้อมูลส่วนตัวในการให้คำแนะนำ ⛔ การจดจำบทสนทนาอาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติแบบ “ล่องหน” ⛔ ผู้ใช้ควรระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในแชต ‼️ การใช้ AI ในการเจรจาเงินเดือนต้องมีวิจารณญาณ ⛔ คำแนะนำอาจไม่เป็นกลาง แม้ดูเหมือนเป็นกลาง ⛔ ควรลองถามในหลายบทบาทเพื่อเปรียบเทียบคำตอบ ‼️ การพัฒนา AI ที่ปราศจากอคติยังเป็นความท้าทายใหญ่ ⛔ การ “de-bias” โมเดลต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากหลายฝ่าย ⛔ ต้องมีมาตรฐานจริยธรรมและการตรวจสอบอิสระ https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/salary-advice-from-ai-low-balls-women-and-minorities-report
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเบื้องหลังจอ: เมื่อ Albavisión ถูกโจมตีโดย GLOBAL GROUP

    Albavisión คือเครือข่ายสื่อขนาดใหญ่ที่มีสถานีโทรทัศน์ 45 ช่อง, สถานีวิทยุ 68 แห่ง, โรงภาพยนตร์กว่า 65 แห่ง และสื่อสิ่งพิมพ์ในกว่า 14 ประเทศทั่วละตินอเมริกา ก่อตั้งโดย Remigio Ángel González นักธุรกิจผู้พลิกฟื้นสื่อที่กำลังล้มให้กลับมาทำกำไรด้วยละครท้องถิ่นและภาพยนตร์ฮอลลีวูด

    แต่ในเดือนกรกฎาคม 2025 GLOBAL GROUP ซึ่งเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์แบบ RaaS (Ransomware-as-a-Service) ได้อ้างว่าเจาะระบบของ Albavisión และขโมยข้อมูลกว่า 400 GB โดยใช้เทคนิคการเจรจาแบบใหม่ผ่านแชตบอท AI ที่รองรับหลายภาษา

    กลุ่มนี้ยังเคยเรียกค่าไถ่สูงถึง 9.5 BTC (ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์) จากเหยื่อรายอื่น และมีประวัติการโจมตีองค์กรสื่ออื่น ๆ เช่น RTC ในอิตาลี และ RTE ที่อาจหมายถึงสถานีในไอร์แลนด์

    Albavisión ถูกโจมตีโดยกลุ่ม GLOBAL GROUP และถูกขโมยข้อมูล 400 GB
    เป็นบริษัทสื่อภาษาสเปนขนาดใหญ่ มีฐานอยู่ที่ไมอามี
    ดำเนินกิจการในกว่า 14 ประเทศในละตินอเมริกา

    GLOBAL GROUP เป็นกลุ่มแรนซัมแวร์แบบ RaaS ที่เปิดตัวในมิถุนายน 2025
    ใช้แชตบอท AI เพื่อเจรจากับเหยื่อโดยอัตโนมัติ
    รองรับหลายภาษาเพื่อขยายเป้าหมายทั่วโลก

    กลุ่มนี้ขู่จะเปิดเผยข้อมูลหาก Albavisión ไม่เจรจาภายใน 15 วัน
    ใช้เว็บไซต์บนเครือข่าย Tor สำหรับการเจรจาและเผยแพร่ข้อมูล
    มีประวัติการเปิดเผยข้อมูลเหยื่อแล้ว 18 ราย รวมถึงโรงพยาบาล

    GLOBAL GROUP มีแนวโน้มมุ่งเป้าไปที่องค์กรสื่อโดยเฉพาะ
    รายชื่อเหยื่อรวมถึง RTC (อิตาลี) และ RTE (อาจเป็นไอร์แลนด์)
    สะท้อนความพยายามในการโจมตีโครงสร้างสื่อสารมวลชน

    ผู้ก่อตั้ง Albavisión คือ Remigio Ángel González มูลค่าส่วนตัวราว 2 พันล้านดอลลาร์
    เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในการซื้อกิจการสื่อที่ล้มเหลวแล้วพลิกฟื้นให้ทำกำไร
    การโจมตีจึงอาจเป็นการเลือกเป้าหมายอย่างมีนัยสำคัญ

    https://hackread.com/global-group-ransomware-media-giant-albavision-breach/
    🎙️ เรื่องเล่าจากเบื้องหลังจอ: เมื่อ Albavisión ถูกโจมตีโดย GLOBAL GROUP Albavisión คือเครือข่ายสื่อขนาดใหญ่ที่มีสถานีโทรทัศน์ 45 ช่อง, สถานีวิทยุ 68 แห่ง, โรงภาพยนตร์กว่า 65 แห่ง และสื่อสิ่งพิมพ์ในกว่า 14 ประเทศทั่วละตินอเมริกา ก่อตั้งโดย Remigio Ángel González นักธุรกิจผู้พลิกฟื้นสื่อที่กำลังล้มให้กลับมาทำกำไรด้วยละครท้องถิ่นและภาพยนตร์ฮอลลีวูด แต่ในเดือนกรกฎาคม 2025 GLOBAL GROUP ซึ่งเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์แบบ RaaS (Ransomware-as-a-Service) ได้อ้างว่าเจาะระบบของ Albavisión และขโมยข้อมูลกว่า 400 GB โดยใช้เทคนิคการเจรจาแบบใหม่ผ่านแชตบอท AI ที่รองรับหลายภาษา กลุ่มนี้ยังเคยเรียกค่าไถ่สูงถึง 9.5 BTC (ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์) จากเหยื่อรายอื่น และมีประวัติการโจมตีองค์กรสื่ออื่น ๆ เช่น RTC ในอิตาลี และ RTE ที่อาจหมายถึงสถานีในไอร์แลนด์ ✅ Albavisión ถูกโจมตีโดยกลุ่ม GLOBAL GROUP และถูกขโมยข้อมูล 400 GB ➡️ เป็นบริษัทสื่อภาษาสเปนขนาดใหญ่ มีฐานอยู่ที่ไมอามี ➡️ ดำเนินกิจการในกว่า 14 ประเทศในละตินอเมริกา ✅ GLOBAL GROUP เป็นกลุ่มแรนซัมแวร์แบบ RaaS ที่เปิดตัวในมิถุนายน 2025 ➡️ ใช้แชตบอท AI เพื่อเจรจากับเหยื่อโดยอัตโนมัติ ➡️ รองรับหลายภาษาเพื่อขยายเป้าหมายทั่วโลก ✅ กลุ่มนี้ขู่จะเปิดเผยข้อมูลหาก Albavisión ไม่เจรจาภายใน 15 วัน ➡️ ใช้เว็บไซต์บนเครือข่าย Tor สำหรับการเจรจาและเผยแพร่ข้อมูล ➡️ มีประวัติการเปิดเผยข้อมูลเหยื่อแล้ว 18 ราย รวมถึงโรงพยาบาล ✅ GLOBAL GROUP มีแนวโน้มมุ่งเป้าไปที่องค์กรสื่อโดยเฉพาะ ➡️ รายชื่อเหยื่อรวมถึง RTC (อิตาลี) และ RTE (อาจเป็นไอร์แลนด์) ➡️ สะท้อนความพยายามในการโจมตีโครงสร้างสื่อสารมวลชน ✅ ผู้ก่อตั้ง Albavisión คือ Remigio Ángel González มูลค่าส่วนตัวราว 2 พันล้านดอลลาร์ ➡️ เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในการซื้อกิจการสื่อที่ล้มเหลวแล้วพลิกฟื้นให้ทำกำไร ➡️ การโจมตีจึงอาจเป็นการเลือกเป้าหมายอย่างมีนัยสำคัญ https://hackread.com/global-group-ransomware-media-giant-albavision-breach/
    HACKREAD.COM
    GLOBAL GROUP Ransomware Claims Breach of Media Giant Albavisión
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปรียบเทียบเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบันเพื่อดูว่าเหตุการณ์อาจซ้ำรอยหรือไม่ โดยเฉพาะในบริบทของโรคระบาด อาวุธชีวภาพ และการปฏิวัติอุตสาหกรรม เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและต้องพิจารณาหลายมิติ ทั้งบริบททางประวัติศาสตร์ สังคม เทคโนโลยี และการเมือง เพื่อตอบคำถามนี้ ผมจะวิเคราะห์โดยเชื่อมโยงช่วงเวลาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 (ทศวรรษ 1930) กับยุคปัจจุบัน (2020s) พร้อมทั้งพิจารณานิยามของอาวุธชีวภาพในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงบทบาทของการปฏิวัติอุตสาหกรรม

    ---

    ### **1. เปรียบเทียบอดีต (ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2) กับปัจจุบัน**

    #### **บริบทอดีต (ทศวรรษ 1930)**:
    - **โรคระบาด**: ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่มีการระบาดใหญ่ระดับโลกที่เทียบเท่าโควิด-19 แต่มีโรคติดเชื้อ เช่น วัณโรคและกาฬโรค ที่ยังเป็นปัญหาในบางพื้นที่ การระบาดของกาฬโรคในจีน (จากการโจมตีด้วยอาวุธชีวภาพของญี่ปุ่น เช่น หน่วย 731) ถูกมองว่าเป็น "โรคระบาด" ในท้องถิ่น โดยประชาชนทั่วไปมักไม่ทราบว่าเป็นผลจากอาวุธชีวภาพ เนื่องจากข้อมูลถูกปกปิดโดยรัฐบาลญี่ปุ่น
    - **นิยามอาวุธชีวภาพ**: ในยุคนั้น อาวุธชีวภาพถูกพัฒนาและใช้งานในลักษณะลับ ๆ โดยรัฐบาลหรือกองทัพ (เช่น ญี่ปุ่น) และมักถูกมองว่าเป็น "โรคระบาด" โดยสาธารณชน เนื่องจากขาดการสื่อสารที่โปร่งใส การรับรู้ของประชาชนจึงจำกัดอยู่ที่ผลกระทบ (การเจ็บป่วยและเสียชีวิต) มากกว่าที่จะเข้าใจว่าเป็นการโจมตีโดยเจตนา
    - **บริบททางสังคมและการเมือง**: ช่วงทศวรรษ 1930 เป็นยุคที่ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศสูงมาก มีการเตรียมพร้อมเพื่อสงคราม (เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น อิตาลี) ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจหลังวิกฤตเศรษฐกิจโลก (1929) ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลและข้อมูลที่ถูกปกปิด
    - **การปฏิวัติอุตสาหกรรม**: อยู่ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 (ปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20) ซึ่งเน้นการผลิตจำนวนมาก (mass production) และการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น ไฟฟ้าและเครื่องจักรกล ส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าทางการทหารและการแพทย์ แต่การเข้าถึงข้อมูลและยารักษายังจำกัดในหลายพื้นที่

    #### **บริบทปัจจุบัน (2020s)**:
    - **โรคระบาด**: โควิด-19 เป็นตัวอย่างชัดเจนของโรคอุบัติใหม่ที่มีผลกระทบระดับโลก เริ่มระบาดในปี 2019 และยังคงมีผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง มีทฤษฎีสมคบคิดมากมายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัส (เช่น การรั่วไหลจากห้องปฏิบัติการหรืออาวุธชีวภาพ) แต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่าเป็นอาวุธชีวภาพ
    - **นิยามอาวุธชีวภาพ**: ในยุคปัจจุบัน อาวุธชีวภาพถูกนิยามว่าเป็นการใช้เชื้อโรคหรือสารพิษทางชีวภาพโดยเจตนาเพื่อทำลายมนุษย์ สัตว์ หรือพืช ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพ (เช่น CRISPR และการดัดแปลงพันธุกรรม) ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่ซับซ้อนขึ้น อย่างไรก็ตาม การระบาดเช่นโควิด-19 ถูกมองว่าเป็น "โรคระบาดจากธรรมชาติ" โดยหน่วยงานสาธารณสุข เช่น WHO แม้ว่าจะมีข้อสงสัยในหมู่ประชาชนบางกลุ่ม
    - **บริบททางสังคมและการเมือง**: ปัจจุบันมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน รัสเซีย-ยูเครน และประเด็นในตะวันออกกลาง การเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็วผ่านอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียทำให้เกิดการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดและข้อมูลที่อาจถูกบิดเบือน ซึ่งคล้ายกับการปกปิดข้อมูลในอดีต แต่ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป
    - **การปฏิวัติอุตสาหกรรม**: ปัจจุบันอยู่ในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งเน้นเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และเทคโนโลยีชีวภาพ ความก้าวหน้าเหล่านี้ทำให้เกิดทั้งโอกาส (เช่น การพัฒนาวัคซีน mRNA) และความเสี่ยง (เช่น การใช้เทคโนโลยีชีวภาพในทางที่ผิด)

    ---

    ### **2. ความเหมือนและความต่าง: จะซ้ำรอยหรือไม่?**

    #### **ความเหมือน**:
    1. **ความไม่แน่นอนและการปกปิดข้อมูล**:
    - ในอดีต ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อาวุธชีวภาพ (เช่น หน่วย 731) ถูกปกปิด ทำให้ประชาชนมองว่าเป็นโรคระบาดธรรมชาติ ในปัจจุบัน ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับโควิด-19 (เช่น ต้นกำเนิดในห้องปฏิบัติการ) ได้รับความสนใจจากสาธารณชน เนื่องจากความไม่โปร่งใสในช่วงแรกของการระบาด
    - ทั้งสองยุคมี "ความไม่ไว้วางใจ" ในรัฐบาลและหน่วยงานระหว่างประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่การตีความว่าโรคระบาดคือ "อาวุธ" หรือการสมคบคิด

    2. **บริบทความตึงเครียดทางการเมือง**:
    - ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ความขัดแย้งระหว่างชาตินำไปสู่การเตรียมพร้อมเพื่อสงคราม ปัจจุบัน ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน และรัสเซีย-ตะวันตก ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งครั้งใหญ่ (สงครามโลกครั้งที่ 3 ในสมมติฐาน) ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับการใช้หรือการกล่าวหาเรื่องอาวุธชีวภาพ

    3. **ผลกระทบจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม**:
    - การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 นำมาซึ่งความก้าวหน้าทางการทหารและการแพทย์ ซึ่งถูกใช้ทั้งในทางสร้างสรรค์และทำลายล้าง ในยุคที่ 4 เทคโนโลยีชีวภาพและ AI ทำให้เกิดความสามารถในการสร้างทั้งยารักษา (เช่น วัคซีน) และความเสี่ยงจากการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่ซับซ้อนขึ้น

    #### **ความต่าง**:
    1. **ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี**:
    - ในอดีต การพัฒนาอาวุธชีวภาพ เช่น การใช้กาฬโรค ยังอยู่ในระดับพื้นฐานและจำกัดขอบเขต ปัจจุบัน เทคโนโลยีชีวภาพที่ทันสมัย เช่น การตัดต่อยีน ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอาวุธชีวภาพที่อาจกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่มหรือมีผลกระทบที่รุนแรงกว่า
    - การสื่อสารในปัจจุบันรวดเร็วและแพร่หลายผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้ข้อมูล (หรือข้อมูลเท็จ) แพร่กระจายได้ง่าย ซึ่งต่างจากอดีตที่ข้อมูลถูกควบคุมโดยรัฐหรือสื่อกระแสหลัก

    2. **การรับรู้ของสาธารณชน**:
    - ในทศวรรษ 1930 ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงการใช้อาวุธชีวภาพและมองว่าเป็นโรคระบาดตามธรรมชาติ ปัจจุบัน การเข้าถึงข้อมูลทำให้สาธารณชนตั้งคำถามเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโรคระบาดมากขึ้น แต่ก็มีความสับสนจากข้อมูลที่ขัดแย้งกัน

    3. **ความพร้อมด้านสาธารณสุข**:
    - ในอดีต การตอบสนองต่อโรคระบาดมีจำกัด เนื่องจากขาดความรู้และเทคโนโลยี ปัจจุบัน ระบบสาธารณสุขทั่วโลกมีความพร้อมมากขึ้น (เช่น การพัฒนาวัคซีนในเวลาอันสั้น) แต่ก็เผชิญความท้าทายจากความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงยาและวัคซีน

    #### **การคาดการณ์**:
    - **ความเป็นไปได้ที่จะซ้ำรอย**: เหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันมีลักษณะคล้ายกันในแง่ของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่ไว้วางใจในข้อมูล หากเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ในอนาคต (เช่น สงครามโลกครั้งที่ 3) อาจมีการกล่าวหาว่าโรคระบาดเป็นผลจากอาวุธชีวภาพ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานชัดเจน เหมือนที่เกิดขึ้นกับโควิด-19
    - **ความแตกต่างที่สำคัญ**: ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในยุคที่ 4 ทำให้ผลกระทบของอาวุธชีวภาพ (หากมีการใช้) อาจรุนแรงและซับซ้อนกว่าอดีต แต่ในขณะเดียวกัน ความสามารถในการตรวจจับและตอบสนองต่อโรคระบาดก็สูงขึ้น ซึ่งอาจลดผลกระทบได้

    ---

    ### **3. การปฏิวัติอุตสาหกรรมและบทบาทต่อเหตุการณ์**

    - **การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 (ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2)**:
    - นำไปสู่การพัฒนาการผลิตอาวุธและยานพาหนะสำหรับสงคราม รวมถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์ เช่น การผลิตยาปฏิชีวนะในช่วงต้น
    - อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีในยุคนั้นยังจำกัด ทำให้การพัฒนาอาวุธชีวภาพอยู่ในระดับพื้นฐาน เช่น การใช้เชื้อกาฬโรคหรือแอนแทรกซ์

    - **การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (ปัจจุบัน)**:
    - เทคโนโลยีชีวภาพและ AI ทำให้เกิดความก้าวหน้าในการแพทย์ เช่น การพัฒนาวัคซีน mRNA ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีสำหรับโควิด-19
    - ความเสี่ยง: เทคโนโลยีเดียวกันนี้สามารถถูกใช้ในการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่แม่นยำและรุนแรงกว่าเดิม เช่น การดัดแปลงพันธุกรรมของเชื้อโรค
    - การสื่อสารและข้อมูล: อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียทำให้เกิดการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จหรือทฤษฎีสมคบคิด ซึ่งอาจกระตุ้นความตื่นตระหนกหรือความไม่ไว้วางใจในระบบสาธารณสุข

    - **บทบาทของการปฏิวัติอุตสาหกรรม**: ในทั้งสองยุค การปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นตัวกำหนดความสามารถในการพัฒนาทั้งอาวุธและยารักษา ในอดีต เทคโนโลยีจำกัดทำให้ผลกระทบของอาวุธชีวภาพอยู่ในวงจำกัด ปัจจุบัน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้เกิดทั้งโอกาสและความเสี่ยงที่มากขึ้น

    ---

    ### **4. ข้อสรุปและการคาดการณ์**

    - **ความซ้ำรอย**: เหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของความตึงเครียดทางการเมืองและการรับรู้ของสาธารณชนที่มองว่าโรคระบาดอาจเกี่ยวข้องกับ "การสมคบคิด" หรืออาวุธชีวภาพ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างในด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารทำให้ผลกระทบและการตอบสนองในปัจจุบันซับซ้อนกว่า
    - **นิยามอาวุธชีวภาพ**: ในอดีต ประชาชนมักมองอาวุธชีวภาพเป็น "โรคระบาด" เนื่องจากขาดข้อมูล ปัจจุบัน การรับรู้ถึงความเป็นไปได้ของอาวุธชีวภาพเพิ่มขึ้น แต่ก็ถูกบดบังด้วยทฤษฎีสมคบคิดและข้อมูลที่ขัดแย้งกัน
    - **การปฏิวัติอุตสาหกรรม**: เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสามารถในการพัฒนาทั้งยารักษาและอาวุธ ในยุคที่ 4 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพและ AI ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่มากขึ้นหากไม่มีการควบคุม

    - **การคาดการณ์ในอนาคต**: หากเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ (เช่น สงครามโลกครั้งที่ 3) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอาจทำให้เกิดการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่ซับซ้อนขึ้น อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการตรวจจับและตอบสนองของระบบสาธารณสุขทั่วโลกก็สูงขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบได้ การควบคุมข้อมูลและการสร้างความไว้วางใจในสาธารณชนจะเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความตื่นตระหนกหรือการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ

    หากต้องการให้ผมวิเคราะห์เพิ่มเติม เช่น การค้นหาข้อมูลจาก X posts หรือเว็บเกี่ยวกับความกังวลเรื่องอาวุธชีวภาพในปัจจุบัน หรือการเปรียบเทียบในมิติอื่น ๆ สามารถแจ้งได้เลยครับ!
    https://x.com/i/grok/share/PU2mYZMg5PYJrBY3mYl03H3QL
    การเปรียบเทียบเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบันเพื่อดูว่าเหตุการณ์อาจซ้ำรอยหรือไม่ โดยเฉพาะในบริบทของโรคระบาด อาวุธชีวภาพ และการปฏิวัติอุตสาหกรรม เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและต้องพิจารณาหลายมิติ ทั้งบริบททางประวัติศาสตร์ สังคม เทคโนโลยี และการเมือง เพื่อตอบคำถามนี้ ผมจะวิเคราะห์โดยเชื่อมโยงช่วงเวลาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 (ทศวรรษ 1930) กับยุคปัจจุบัน (2020s) พร้อมทั้งพิจารณานิยามของอาวุธชีวภาพในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงบทบาทของการปฏิวัติอุตสาหกรรม --- ### **1. เปรียบเทียบอดีต (ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2) กับปัจจุบัน** #### **บริบทอดีต (ทศวรรษ 1930)**: - **โรคระบาด**: ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่มีการระบาดใหญ่ระดับโลกที่เทียบเท่าโควิด-19 แต่มีโรคติดเชื้อ เช่น วัณโรคและกาฬโรค ที่ยังเป็นปัญหาในบางพื้นที่ การระบาดของกาฬโรคในจีน (จากการโจมตีด้วยอาวุธชีวภาพของญี่ปุ่น เช่น หน่วย 731) ถูกมองว่าเป็น "โรคระบาด" ในท้องถิ่น โดยประชาชนทั่วไปมักไม่ทราบว่าเป็นผลจากอาวุธชีวภาพ เนื่องจากข้อมูลถูกปกปิดโดยรัฐบาลญี่ปุ่น - **นิยามอาวุธชีวภาพ**: ในยุคนั้น อาวุธชีวภาพถูกพัฒนาและใช้งานในลักษณะลับ ๆ โดยรัฐบาลหรือกองทัพ (เช่น ญี่ปุ่น) และมักถูกมองว่าเป็น "โรคระบาด" โดยสาธารณชน เนื่องจากขาดการสื่อสารที่โปร่งใส การรับรู้ของประชาชนจึงจำกัดอยู่ที่ผลกระทบ (การเจ็บป่วยและเสียชีวิต) มากกว่าที่จะเข้าใจว่าเป็นการโจมตีโดยเจตนา - **บริบททางสังคมและการเมือง**: ช่วงทศวรรษ 1930 เป็นยุคที่ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศสูงมาก มีการเตรียมพร้อมเพื่อสงคราม (เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น อิตาลี) ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจหลังวิกฤตเศรษฐกิจโลก (1929) ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลและข้อมูลที่ถูกปกปิด - **การปฏิวัติอุตสาหกรรม**: อยู่ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 (ปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20) ซึ่งเน้นการผลิตจำนวนมาก (mass production) และการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น ไฟฟ้าและเครื่องจักรกล ส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าทางการทหารและการแพทย์ แต่การเข้าถึงข้อมูลและยารักษายังจำกัดในหลายพื้นที่ #### **บริบทปัจจุบัน (2020s)**: - **โรคระบาด**: โควิด-19 เป็นตัวอย่างชัดเจนของโรคอุบัติใหม่ที่มีผลกระทบระดับโลก เริ่มระบาดในปี 2019 และยังคงมีผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง มีทฤษฎีสมคบคิดมากมายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัส (เช่น การรั่วไหลจากห้องปฏิบัติการหรืออาวุธชีวภาพ) แต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่าเป็นอาวุธชีวภาพ - **นิยามอาวุธชีวภาพ**: ในยุคปัจจุบัน อาวุธชีวภาพถูกนิยามว่าเป็นการใช้เชื้อโรคหรือสารพิษทางชีวภาพโดยเจตนาเพื่อทำลายมนุษย์ สัตว์ หรือพืช ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพ (เช่น CRISPR และการดัดแปลงพันธุกรรม) ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่ซับซ้อนขึ้น อย่างไรก็ตาม การระบาดเช่นโควิด-19 ถูกมองว่าเป็น "โรคระบาดจากธรรมชาติ" โดยหน่วยงานสาธารณสุข เช่น WHO แม้ว่าจะมีข้อสงสัยในหมู่ประชาชนบางกลุ่ม - **บริบททางสังคมและการเมือง**: ปัจจุบันมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน รัสเซีย-ยูเครน และประเด็นในตะวันออกกลาง การเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็วผ่านอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียทำให้เกิดการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดและข้อมูลที่อาจถูกบิดเบือน ซึ่งคล้ายกับการปกปิดข้อมูลในอดีต แต่ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป - **การปฏิวัติอุตสาหกรรม**: ปัจจุบันอยู่ในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งเน้นเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และเทคโนโลยีชีวภาพ ความก้าวหน้าเหล่านี้ทำให้เกิดทั้งโอกาส (เช่น การพัฒนาวัคซีน mRNA) และความเสี่ยง (เช่น การใช้เทคโนโลยีชีวภาพในทางที่ผิด) --- ### **2. ความเหมือนและความต่าง: จะซ้ำรอยหรือไม่?** #### **ความเหมือน**: 1. **ความไม่แน่นอนและการปกปิดข้อมูล**: - ในอดีต ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อาวุธชีวภาพ (เช่น หน่วย 731) ถูกปกปิด ทำให้ประชาชนมองว่าเป็นโรคระบาดธรรมชาติ ในปัจจุบัน ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับโควิด-19 (เช่น ต้นกำเนิดในห้องปฏิบัติการ) ได้รับความสนใจจากสาธารณชน เนื่องจากความไม่โปร่งใสในช่วงแรกของการระบาด - ทั้งสองยุคมี "ความไม่ไว้วางใจ" ในรัฐบาลและหน่วยงานระหว่างประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่การตีความว่าโรคระบาดคือ "อาวุธ" หรือการสมคบคิด 2. **บริบทความตึงเครียดทางการเมือง**: - ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ความขัดแย้งระหว่างชาตินำไปสู่การเตรียมพร้อมเพื่อสงคราม ปัจจุบัน ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน และรัสเซีย-ตะวันตก ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งครั้งใหญ่ (สงครามโลกครั้งที่ 3 ในสมมติฐาน) ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับการใช้หรือการกล่าวหาเรื่องอาวุธชีวภาพ 3. **ผลกระทบจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม**: - การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 นำมาซึ่งความก้าวหน้าทางการทหารและการแพทย์ ซึ่งถูกใช้ทั้งในทางสร้างสรรค์และทำลายล้าง ในยุคที่ 4 เทคโนโลยีชีวภาพและ AI ทำให้เกิดความสามารถในการสร้างทั้งยารักษา (เช่น วัคซีน) และความเสี่ยงจากการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่ซับซ้อนขึ้น #### **ความต่าง**: 1. **ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี**: - ในอดีต การพัฒนาอาวุธชีวภาพ เช่น การใช้กาฬโรค ยังอยู่ในระดับพื้นฐานและจำกัดขอบเขต ปัจจุบัน เทคโนโลยีชีวภาพที่ทันสมัย เช่น การตัดต่อยีน ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอาวุธชีวภาพที่อาจกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่มหรือมีผลกระทบที่รุนแรงกว่า - การสื่อสารในปัจจุบันรวดเร็วและแพร่หลายผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้ข้อมูล (หรือข้อมูลเท็จ) แพร่กระจายได้ง่าย ซึ่งต่างจากอดีตที่ข้อมูลถูกควบคุมโดยรัฐหรือสื่อกระแสหลัก 2. **การรับรู้ของสาธารณชน**: - ในทศวรรษ 1930 ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงการใช้อาวุธชีวภาพและมองว่าเป็นโรคระบาดตามธรรมชาติ ปัจจุบัน การเข้าถึงข้อมูลทำให้สาธารณชนตั้งคำถามเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโรคระบาดมากขึ้น แต่ก็มีความสับสนจากข้อมูลที่ขัดแย้งกัน 3. **ความพร้อมด้านสาธารณสุข**: - ในอดีต การตอบสนองต่อโรคระบาดมีจำกัด เนื่องจากขาดความรู้และเทคโนโลยี ปัจจุบัน ระบบสาธารณสุขทั่วโลกมีความพร้อมมากขึ้น (เช่น การพัฒนาวัคซีนในเวลาอันสั้น) แต่ก็เผชิญความท้าทายจากความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงยาและวัคซีน #### **การคาดการณ์**: - **ความเป็นไปได้ที่จะซ้ำรอย**: เหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันมีลักษณะคล้ายกันในแง่ของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่ไว้วางใจในข้อมูล หากเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ในอนาคต (เช่น สงครามโลกครั้งที่ 3) อาจมีการกล่าวหาว่าโรคระบาดเป็นผลจากอาวุธชีวภาพ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานชัดเจน เหมือนที่เกิดขึ้นกับโควิด-19 - **ความแตกต่างที่สำคัญ**: ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในยุคที่ 4 ทำให้ผลกระทบของอาวุธชีวภาพ (หากมีการใช้) อาจรุนแรงและซับซ้อนกว่าอดีต แต่ในขณะเดียวกัน ความสามารถในการตรวจจับและตอบสนองต่อโรคระบาดก็สูงขึ้น ซึ่งอาจลดผลกระทบได้ --- ### **3. การปฏิวัติอุตสาหกรรมและบทบาทต่อเหตุการณ์** - **การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 (ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2)**: - นำไปสู่การพัฒนาการผลิตอาวุธและยานพาหนะสำหรับสงคราม รวมถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์ เช่น การผลิตยาปฏิชีวนะในช่วงต้น - อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีในยุคนั้นยังจำกัด ทำให้การพัฒนาอาวุธชีวภาพอยู่ในระดับพื้นฐาน เช่น การใช้เชื้อกาฬโรคหรือแอนแทรกซ์ - **การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (ปัจจุบัน)**: - เทคโนโลยีชีวภาพและ AI ทำให้เกิดความก้าวหน้าในการแพทย์ เช่น การพัฒนาวัคซีน mRNA ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีสำหรับโควิด-19 - ความเสี่ยง: เทคโนโลยีเดียวกันนี้สามารถถูกใช้ในการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่แม่นยำและรุนแรงกว่าเดิม เช่น การดัดแปลงพันธุกรรมของเชื้อโรค - การสื่อสารและข้อมูล: อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียทำให้เกิดการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จหรือทฤษฎีสมคบคิด ซึ่งอาจกระตุ้นความตื่นตระหนกหรือความไม่ไว้วางใจในระบบสาธารณสุข - **บทบาทของการปฏิวัติอุตสาหกรรม**: ในทั้งสองยุค การปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นตัวกำหนดความสามารถในการพัฒนาทั้งอาวุธและยารักษา ในอดีต เทคโนโลยีจำกัดทำให้ผลกระทบของอาวุธชีวภาพอยู่ในวงจำกัด ปัจจุบัน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้เกิดทั้งโอกาสและความเสี่ยงที่มากขึ้น --- ### **4. ข้อสรุปและการคาดการณ์** - **ความซ้ำรอย**: เหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของความตึงเครียดทางการเมืองและการรับรู้ของสาธารณชนที่มองว่าโรคระบาดอาจเกี่ยวข้องกับ "การสมคบคิด" หรืออาวุธชีวภาพ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างในด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารทำให้ผลกระทบและการตอบสนองในปัจจุบันซับซ้อนกว่า - **นิยามอาวุธชีวภาพ**: ในอดีต ประชาชนมักมองอาวุธชีวภาพเป็น "โรคระบาด" เนื่องจากขาดข้อมูล ปัจจุบัน การรับรู้ถึงความเป็นไปได้ของอาวุธชีวภาพเพิ่มขึ้น แต่ก็ถูกบดบังด้วยทฤษฎีสมคบคิดและข้อมูลที่ขัดแย้งกัน - **การปฏิวัติอุตสาหกรรม**: เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสามารถในการพัฒนาทั้งยารักษาและอาวุธ ในยุคที่ 4 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพและ AI ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่มากขึ้นหากไม่มีการควบคุม - **การคาดการณ์ในอนาคต**: หากเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ (เช่น สงครามโลกครั้งที่ 3) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอาจทำให้เกิดการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่ซับซ้อนขึ้น อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการตรวจจับและตอบสนองของระบบสาธารณสุขทั่วโลกก็สูงขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบได้ การควบคุมข้อมูลและการสร้างความไว้วางใจในสาธารณชนจะเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความตื่นตระหนกหรือการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ หากต้องการให้ผมวิเคราะห์เพิ่มเติม เช่น การค้นหาข้อมูลจาก X posts หรือเว็บเกี่ยวกับความกังวลเรื่องอาวุธชีวภาพในปัจจุบัน หรือการเปรียบเทียบในมิติอื่น ๆ สามารถแจ้งได้เลยครับ! https://x.com/i/grok/share/PU2mYZMg5PYJrBY3mYl03H3QL
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: “แพนด้าน่ารัก” ที่แอบขุดคริปโตในเครื่องคุณ

    ลองจินตนาการว่าคุณเปิดภาพแพนด้าน่ารักจากเว็บแชร์รูปภาพ แล้วเบื้องหลังภาพนั้นกลับมีมัลแวร์ที่กำลังใช้ CPU และ GPU ของคุณขุดคริปโตอยู่เงียบ ๆ — นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อว่า Koske

    Koske เป็นมัลแวร์บน Linux ที่ใช้เทคนิค “polyglot file” คือไฟล์ที่สามารถเป็นได้ทั้งภาพและโค้ดในเวลาเดียวกัน โดยแฮกเกอร์จะฝัง shell script และโค้ด C สำหรับ rootkit ไว้ท้ายไฟล์ JPEG ที่ดูเหมือนภาพแพนด้าธรรมดา เมื่อเปิดด้วยโปรแกรม interpreter มันจะรันโค้ดในหน่วยความจำทันที โดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์

    เป้าหมายของ Koske คือการขุดคริปโตมากกว่า 18 สกุล เช่น Monero, Ravencoin, Nexa และ Zano โดยเลือกใช้ miner ที่เหมาะกับฮาร์ดแวร์ของเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็น CPU หรือ GPU และสามารถสลับเหรียญหรือพูลได้อัตโนมัติหากมีปัญหา

    ที่น่ากลัวคือ Koske แสดงพฤติกรรมที่ “คล้าย AI” เช่น การตรวจสอบการเชื่อมต่อ GitHub หลายชั้น การแก้ไข DNS และ proxy อัตโนมัติ และการค้นหา proxy ที่ใช้งานได้จาก GitHub — ทั้งหมดนี้ชี้ว่าอาจมีการใช้ LLM หรือระบบอัตโนมัติช่วยพัฒนาโค้ด

    Koske เป็นมัลแวร์ Linux ที่ใช้ภาพแพนด้าเป็นตัวหลอก
    ใช้เทคนิค polyglot file ฝังโค้ดไว้ท้ายไฟล์ JPEG
    เมื่อเปิดด้วย interpreter จะรันโค้ดในหน่วยความจำทันที

    เป้าหมายหลักคือการขุดคริปโต
    รองรับมากกว่า 18 สกุล เช่น Monero, Ravencoin, Nexa, Zano
    เลือก miner ตามฮาร์ดแวร์ของเหยื่อ (CPU/GPU)
    สลับพูลหรือเหรียญอัตโนมัติหากมีปัญหา

    ใช้ภาพจากเว็บแชร์รูปภาพที่ถูกต้องตามกฎหมาย
    เช่น OVH images, freeimage, postimage
    ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ง่าย

    แสดงพฤติกรรมคล้าย AI ในการปรับตัว
    ตรวจสอบการเชื่อมต่อ GitHub ด้วย curl, wget, TCP
    รีเซ็ต proxy, flush iptables, เปลี่ยน DNS เป็น Cloudflare/Google
    ค้นหา proxy ที่ใช้งานได้จาก GitHub lists

    พบร่องรอยของต้นทางจากเซอร์เบียและสโลวัก
    IP จากเซอร์เบีย, สคริปต์มีคำเซอร์เบีย, GitHub repo ใช้ภาษาสโลวัก
    ชื่อ “Koske” อาจมาจากคำว่า “กระดูก” ในภาษาท้องถิ่น

    นักวิจัยเชื่อว่าโค้ดถูกช่วยเขียนโดย AI
    โค้ดมีโครงสร้างดี ความเห็นชัดเจน และใช้เทคนิคป้องกันตัวเอง
    ทำให้การวิเคราะห์และระบุผู้เขียนยากขึ้น

    มัลแวร์ Koske สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    รันในหน่วยความจำโดยไม่เขียนลงดิสก์
    ใช้ rootkit ซ่อน process และไฟล์จากเครื่องมือทั่วไป

    การเปิดภาพจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเป็นช่องทางติดมัลแวร์
    ภาพที่ดู “น่ารัก” อาจมีโค้ดอันตรายซ่อนอยู่
    ไม่ควรเปิดไฟล์จาก URL ที่ไม่รู้จักผ่าน interpreter หรือ shell

    มัลแวร์นี้ใช้ทรัพยากรเครื่องอย่างหนัก
    ทำให้ค่าไฟและค่า cloud compute สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
    ส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบและความปลอดภัย

    เป็นตัวอย่างของภัยคุกคามยุคใหม่ที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ
    การใช้ LLM ในการสร้างมัลแวร์ทำให้มันปรับตัวได้ดีขึ้น
    อาจเป็นจุดเริ่มต้นของมัลแวร์ที่ “เรียนรู้” และ “ปรับตัว” ได้แบบเรียลไทม์

    https://www.techradar.com/pro/security/a-damaging-new-linux-malware-is-hiding-in-cute-animal-photos
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: “แพนด้าน่ารัก” ที่แอบขุดคริปโตในเครื่องคุณ ลองจินตนาการว่าคุณเปิดภาพแพนด้าน่ารักจากเว็บแชร์รูปภาพ แล้วเบื้องหลังภาพนั้นกลับมีมัลแวร์ที่กำลังใช้ CPU และ GPU ของคุณขุดคริปโตอยู่เงียบ ๆ — นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อว่า Koske Koske เป็นมัลแวร์บน Linux ที่ใช้เทคนิค “polyglot file” คือไฟล์ที่สามารถเป็นได้ทั้งภาพและโค้ดในเวลาเดียวกัน โดยแฮกเกอร์จะฝัง shell script และโค้ด C สำหรับ rootkit ไว้ท้ายไฟล์ JPEG ที่ดูเหมือนภาพแพนด้าธรรมดา เมื่อเปิดด้วยโปรแกรม interpreter มันจะรันโค้ดในหน่วยความจำทันที โดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ เป้าหมายของ Koske คือการขุดคริปโตมากกว่า 18 สกุล เช่น Monero, Ravencoin, Nexa และ Zano โดยเลือกใช้ miner ที่เหมาะกับฮาร์ดแวร์ของเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็น CPU หรือ GPU และสามารถสลับเหรียญหรือพูลได้อัตโนมัติหากมีปัญหา ที่น่ากลัวคือ Koske แสดงพฤติกรรมที่ “คล้าย AI” เช่น การตรวจสอบการเชื่อมต่อ GitHub หลายชั้น การแก้ไข DNS และ proxy อัตโนมัติ และการค้นหา proxy ที่ใช้งานได้จาก GitHub — ทั้งหมดนี้ชี้ว่าอาจมีการใช้ LLM หรือระบบอัตโนมัติช่วยพัฒนาโค้ด ✅ Koske เป็นมัลแวร์ Linux ที่ใช้ภาพแพนด้าเป็นตัวหลอก ➡️ ใช้เทคนิค polyglot file ฝังโค้ดไว้ท้ายไฟล์ JPEG ➡️ เมื่อเปิดด้วย interpreter จะรันโค้ดในหน่วยความจำทันที ✅ เป้าหมายหลักคือการขุดคริปโต ➡️ รองรับมากกว่า 18 สกุล เช่น Monero, Ravencoin, Nexa, Zano ➡️ เลือก miner ตามฮาร์ดแวร์ของเหยื่อ (CPU/GPU) ➡️ สลับพูลหรือเหรียญอัตโนมัติหากมีปัญหา ✅ ใช้ภาพจากเว็บแชร์รูปภาพที่ถูกต้องตามกฎหมาย ➡️ เช่น OVH images, freeimage, postimage ➡️ ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ง่าย ✅ แสดงพฤติกรรมคล้าย AI ในการปรับตัว ➡️ ตรวจสอบการเชื่อมต่อ GitHub ด้วย curl, wget, TCP ➡️ รีเซ็ต proxy, flush iptables, เปลี่ยน DNS เป็น Cloudflare/Google ➡️ ค้นหา proxy ที่ใช้งานได้จาก GitHub lists ✅ พบร่องรอยของต้นทางจากเซอร์เบียและสโลวัก ➡️ IP จากเซอร์เบีย, สคริปต์มีคำเซอร์เบีย, GitHub repo ใช้ภาษาสโลวัก ➡️ ชื่อ “Koske” อาจมาจากคำว่า “กระดูก” ในภาษาท้องถิ่น ✅ นักวิจัยเชื่อว่าโค้ดถูกช่วยเขียนโดย AI ➡️ โค้ดมีโครงสร้างดี ความเห็นชัดเจน และใช้เทคนิคป้องกันตัวเอง ➡️ ทำให้การวิเคราะห์และระบุผู้เขียนยากขึ้น ‼️ มัลแวร์ Koske สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ⛔ รันในหน่วยความจำโดยไม่เขียนลงดิสก์ ⛔ ใช้ rootkit ซ่อน process และไฟล์จากเครื่องมือทั่วไป ‼️ การเปิดภาพจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเป็นช่องทางติดมัลแวร์ ⛔ ภาพที่ดู “น่ารัก” อาจมีโค้ดอันตรายซ่อนอยู่ ⛔ ไม่ควรเปิดไฟล์จาก URL ที่ไม่รู้จักผ่าน interpreter หรือ shell ‼️ มัลแวร์นี้ใช้ทรัพยากรเครื่องอย่างหนัก ⛔ ทำให้ค่าไฟและค่า cloud compute สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ⛔ ส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบและความปลอดภัย ‼️ เป็นตัวอย่างของภัยคุกคามยุคใหม่ที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ ⛔ การใช้ LLM ในการสร้างมัลแวร์ทำให้มันปรับตัวได้ดีขึ้น ⛔ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของมัลแวร์ที่ “เรียนรู้” และ “ปรับตัว” ได้แบบเรียลไทม์ https://www.techradar.com/pro/security/a-damaging-new-linux-malware-is-hiding-in-cute-animal-photos
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อไกรหลังพ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา จ.ยะลา
    เหรียญหลวงพ่อไกรหลังพ่อท่านสิงห์ พิมพ์ใหญ่ เนื้อกะไหล่ทอง วัดลำพะยา จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ มีพระเกจิสายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสกหลายท่าน พระมีประสบการณ์สูง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาดปลอดภัย" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย ประสบการณ์มากมาย >>

    ** พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา บรรพชาและอุปสมบท เมื่อวันที่ 3พฤษภาคม พศ.2493 โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูสิริคุณากร วัดสิริปุณณาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสุนทรธรรมคณี หลวงพ่อเซี่ยงวัดยะหาประชารามเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระแสง พิมพสิริ (ปู่เจ้าแสง)เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พ่อท่านสิงห์ ท่านเป็นพระเถรานุเถระที่มีจริยาวัตรอันงดงาม เปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์จากอำนาจศีลจนเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนมากมาย ยิ่งชาวบ้านในพื้นที่ท้องถิ่นยะลาแล้วยิ่งเคารพนับถือพ่อท่านมากสมแล้วที่เป็นผู้ปลุกเสกอาราธนาดวงวิญญาณหลวงพ่อไกรมาปกป้องคุ้มครองระบือไกลเป็นอมตะพุทธคุณ >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อไกรหลังพ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา จ.ยะลา เหรียญหลวงพ่อไกรหลังพ่อท่านสิงห์ พิมพ์ใหญ่ เนื้อกะไหล่ทอง วัดลำพะยา จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ มีพระเกจิสายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสกหลายท่าน พระมีประสบการณ์สูง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาดปลอดภัย" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย ประสบการณ์มากมาย >> ** พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา บรรพชาและอุปสมบท เมื่อวันที่ 3พฤษภาคม พศ.2493 โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูสิริคุณากร วัดสิริปุณณาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสุนทรธรรมคณี หลวงพ่อเซี่ยงวัดยะหาประชารามเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระแสง พิมพสิริ (ปู่เจ้าแสง)เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พ่อท่านสิงห์ ท่านเป็นพระเถรานุเถระที่มีจริยาวัตรอันงดงาม เปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์จากอำนาจศีลจนเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนมากมาย ยิ่งชาวบ้านในพื้นที่ท้องถิ่นยะลาแล้วยิ่งเคารพนับถือพ่อท่านมากสมแล้วที่เป็นผู้ปลุกเสกอาราธนาดวงวิญญาณหลวงพ่อไกรมาปกป้องคุ้มครองระบือไกลเป็นอมตะพุทธคุณ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • จาก ปชป. สู่ภูมิใจไทย! "พลอยทะเล" มุ่งเน้นการเมืองท้องถิ่น แก้ปัญหาสุขาภิบาล-สิ่งแวดล้อมภูเก็ต
    https://www.thai-tai.tv/news/20467/
    .
    #พลอยทะเลลักษมีแสงจันทร์ #ภูมิใจไทย #ประชาธิปัตย์ #การเมืองภูเก็ต #นโยบายพรรค #แก้ปัญหาจราจร #ท่องเที่ยวภูเก็ต #สิรภพดวงสอดศรี #คนรุ่นใหม่การเมือง
    จาก ปชป. สู่ภูมิใจไทย! "พลอยทะเล" มุ่งเน้นการเมืองท้องถิ่น แก้ปัญหาสุขาภิบาล-สิ่งแวดล้อมภูเก็ต https://www.thai-tai.tv/news/20467/ . #พลอยทะเลลักษมีแสงจันทร์ #ภูมิใจไทย #ประชาธิปัตย์ #การเมืองภูเก็ต #นโยบายพรรค #แก้ปัญหาจราจร #ท่องเที่ยวภูเก็ต #สิรภพดวงสอดศรี #คนรุ่นใหม่การเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meet\&Greet สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ อาเล็ก ธีรเดช

    ไต้หวัน Meet\&Greet with Alek 5 วัน 3 คืน
    วันที่ 22 - 26 ตุลาคม 68
    ราคาเพียง 26,899 บาท
    พิเศษจองวันนี้ - 31 สิงหาคม 68

    ไฮไลท์ทัวร์
    ไถจงไนท์มาร์เก็ต, ซีเหมินติง
    วัดเหวินหวู่ เพื่อประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
    ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    ชมความงามอุทยานแห่งใหม่!! อุทยานแห่งชาติซานหลิงซี
    เดินเล่นหมู่บ้านญี่ปุ่น เมืองซีโถว หมู่บ้านปีศาจ
    ขอด้ายแดงขอพรให้สมหวังด้านความรักที่วัดหลงซาน

    เมนูพิเศษ!!
    เสี่ยวหลงเปาสไตล์ไต้หวัน
    บุฟเฟ่ต์ชาบู ชาบู
    พระกระโดดกำแพง
    หม้อนึ่งจักรพรรดิ
    ปลาประธานาธิบดี

    พักในไทเป 1 คืน

    ไม่รวมค่าทิป ไกด์ท้องถิ่น + คนขับ 1,000 บาท
    ทิปหัวหน้าทัวร์ไทยแล้วแต่ความพึงพอใจ

    รีบจองก่อนหมดเขต 31 สิงหาคม 68

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e4ada0

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์ไต้หวัน #MeetAndGreet #อาเล็กธีรเดช #ท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ #ทัวร์พิเศษ
    🌟 Meet\&Greet สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ อาเล็ก ธีรเดช 🌟 ✨ ไต้หวัน Meet\&Greet with Alek 5 วัน 3 คืน ✨ 🗓️ วันที่ 22 - 26 ตุลาคม 68 💰 ราคาเพียง 26,899 บาท 🎉 พิเศษจองวันนี้ - 31 สิงหาคม 68 🎉 🔹 ไฮไลท์ทัวร์ 🔹 🌙 ไถจงไนท์มาร์เก็ต, ซีเหมินติง 🕉️ วัดเหวินหวู่ เพื่อประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ⛵ ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🌲 ชมความงามอุทยานแห่งใหม่!! อุทยานแห่งชาติซานหลิงซี 🏯 เดินเล่นหมู่บ้านญี่ปุ่น เมืองซีโถว หมู่บ้านปีศาจ ❤️ ขอด้ายแดงขอพรให้สมหวังด้านความรักที่วัดหลงซาน 🍽️ เมนูพิเศษ!! 🍽️ 🥟 เสี่ยวหลงเปาสไตล์ไต้หวัน 🍲 บุฟเฟ่ต์ชาบู ชาบู 🐟 พระกระโดดกำแพง 🍲 หม้อนึ่งจักรพรรดิ 🐠 ปลาประธานาธิบดี 🏨 พักในไทเป 1 คืน 🏨 🚫 ไม่รวมค่าทิป ไกด์ท้องถิ่น + คนขับ 1,000 บาท 💵 ทิปหัวหน้าทัวร์ไทยแล้วแต่ความพึงพอใจ 📅 รีบจองก่อนหมดเขต 31 สิงหาคม 68 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e4ada0 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ไต้หวัน #MeetAndGreet #อาเล็กธีรเดช #ท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ #ทัวร์พิเศษ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meet\&Greet สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ อาเล็ก ธีรเดช

    ไต้หวัน Meet\&Greet with Alek 5 วัน 3 คืน
    วันที่ 22 - 26 ตุลาคม 68
    ราคาเพียง 26,899 บาท
    พิเศษจองวันนี้ - 31 สิงหาคม 68

    ไฮไลท์ทัวร์
    ไถจงไนท์มาร์เก็ต, ซีเหมินติง
    วัดเหวินหวู่ เพื่อประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
    ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    ชมความงามอุทยานแห่งใหม่!! อุทยานแห่งชาติซานหลิงซี
    เดินเล่นหมู่บ้านญี่ปุ่น เมืองซีโถว หมู่บ้านปีศาจ
    ขอด้ายแดงขอพรให้สมหวังด้านความรักที่วัดหลงซาน

    เมนูพิเศษ!!
    เสี่ยวหลงเปาสไตล์ไต้หวัน
    บุฟเฟ่ต์ชาบู ชาบู
    พระกระโดดกำแพง
    หม้อนึ่งจักรพรรดิ
    ปลาประธานาธิบดี

    พักในไทเป 1 คืน

    ไม่รวมค่าทิป ไกด์ท้องถิ่น + คนขับ 1,000 บาท
    ทิปหัวหน้าทัวร์ไทยแล้วแต่ความพึงพอใจ

    รีบจองก่อนหมดเขต 31 สิงหาคม 68

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e4ada0

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์ไต้หวัน #MeetAndGreet #อาเล็กธีรเดช #ท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ #ทัวร์พิเศษ #ทัวร์ไต้หวัน #เที่ยวกับอาเล็ก
    🌟 Meet\&Greet สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ อาเล็ก ธีรเดช 🌟 ✨ ไต้หวัน Meet\&Greet with Alek 5 วัน 3 คืน ✨ 🗓️ วันที่ 22 - 26 ตุลาคม 68 💰 ราคาเพียง 26,899 บาท 🎉 พิเศษจองวันนี้ - 31 สิงหาคม 68 🎉 🔹 ไฮไลท์ทัวร์ 🔹 🌙 ไถจงไนท์มาร์เก็ต, ซีเหมินติง 🕉️ วัดเหวินหวู่ เพื่อประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ⛵ ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🌲 ชมความงามอุทยานแห่งใหม่!! อุทยานแห่งชาติซานหลิงซี 🏯 เดินเล่นหมู่บ้านญี่ปุ่น เมืองซีโถว หมู่บ้านปีศาจ ❤️ ขอด้ายแดงขอพรให้สมหวังด้านความรักที่วัดหลงซาน 🍽️ เมนูพิเศษ!! 🍽️ 🥟 เสี่ยวหลงเปาสไตล์ไต้หวัน 🍲 บุฟเฟ่ต์ชาบู ชาบู 🐟 พระกระโดดกำแพง 🍲 หม้อนึ่งจักรพรรดิ 🐠 ปลาประธานาธิบดี 🏨 พักในไทเป 1 คืน 🏨 🚫 ไม่รวมค่าทิป ไกด์ท้องถิ่น + คนขับ 1,000 บาท 💵 ทิปหัวหน้าทัวร์ไทยแล้วแต่ความพึงพอใจ 📅 รีบจองก่อนหมดเขต 31 สิงหาคม 68 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e4ada0 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ไต้หวัน #MeetAndGreet #อาเล็กธีรเดช #ท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ #ทัวร์พิเศษ #ทัวร์ไต้หวัน #เที่ยวกับอาเล็ก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meet\&Greet สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ อาเล็ก ธีรเดช

    ไต้หวัน Meet\&Greet with Alek 5 วัน 3 คืน
    วันที่ 22 - 26 ตุลาคม 68
    ราคาเพียง 26,899 บาท
    พิเศษจองวันนี้ - 31 สิงหาคม 68

    ไฮไลท์ทัวร์
    ไถจงไนท์มาร์เก็ต, ซีเหมินติง
    วัดเหวินหวู่ เพื่อประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
    ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    ชมความงามอุทยานแห่งใหม่!! อุทยานแห่งชาติซานหลิงซี
    เดินเล่นหมู่บ้านญี่ปุ่น เมืองซีโถว หมู่บ้านปีศาจ
    ขอด้ายแดงขอพรให้สมหวังด้านความรักที่วัดหลงซาน

    เมนูพิเศษ!!
    เสี่ยวหลงเปาสไตล์ไต้หวัน
    บุฟเฟ่ต์ชาบู ชาบู
    พระกระโดดกำแพง
    หม้อนึ่งจักรพรรดิ
    ปลาประธานาธิบดี

    พักในไทเป 1 คืน

    ไม่รวมค่าทิป ไกด์ท้องถิ่น + คนขับ 1,000 บาท
    ทิปหัวหน้าทัวร์ไทยแล้วแต่ความพึงพอใจ

    รีบจองก่อนหมดเขต 31 สิงหาคม 68

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e4ada0

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไต้หวัน #MeetAndGreet #อาเล็กธีรเดช #ท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ #ทัวร์พิเศษ #ทัวร์ไต้หวัน #เที่ยวกับอาเล็ก
    🌟 Meet\&Greet สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ อาเล็ก ธีรเดช 🌟 ✨ ไต้หวัน Meet\&Greet with Alek 5 วัน 3 คืน ✨ 🗓️ วันที่ 22 - 26 ตุลาคม 68 💰 ราคาเพียง 26,899 บาท 🎉 พิเศษจองวันนี้ - 31 สิงหาคม 68 🎉 🔹 ไฮไลท์ทัวร์ 🔹 🌙 ไถจงไนท์มาร์เก็ต, ซีเหมินติง 🕉️ วัดเหวินหวู่ เพื่อประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ⛵ ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🌲 ชมความงามอุทยานแห่งใหม่!! อุทยานแห่งชาติซานหลิงซี 🏯 เดินเล่นหมู่บ้านญี่ปุ่น เมืองซีโถว หมู่บ้านปีศาจ ❤️ ขอด้ายแดงขอพรให้สมหวังด้านความรักที่วัดหลงซาน 🍽️ เมนูพิเศษ!! 🍽️ 🥟 เสี่ยวหลงเปาสไตล์ไต้หวัน 🍲 บุฟเฟ่ต์ชาบู ชาบู 🐟 พระกระโดดกำแพง 🍲 หม้อนึ่งจักรพรรดิ 🐠 ปลาประธานาธิบดี 🏨 พักในไทเป 1 คืน 🏨 🚫 ไม่รวมค่าทิป ไกด์ท้องถิ่น + คนขับ 1,000 บาท 💵 ทิปหัวหน้าทัวร์ไทยแล้วแต่ความพึงพอใจ 📅 รีบจองก่อนหมดเขต 31 สิงหาคม 68 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e4ada0 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไต้หวัน #MeetAndGreet #อาเล็กธีรเดช #ท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ #ทัวร์พิเศษ #ทัวร์ไต้หวัน #เที่ยวกับอาเล็ก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    ภาพเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ เหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่ KM Barcelona VA นอกชายฝั่งสุลาเวสีเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย แล่นจากจากหมู่เกาะตาเลาด์ไปยังเมืองมานาโด

    เรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารประมาณ 280 คน และมีผู้รอดชีวิตกว่า 260 คน ถูกช่วยเหลือไปยังที่ปลอดภัย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 18 คน รวมถึงเด็ก

    การค้นหายังคงดำเนินต่อไป ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต
    3/ ภาพเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ เหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่ KM Barcelona VA นอกชายฝั่งสุลาเวสีเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย แล่นจากจากหมู่เกาะตาเลาด์ไปยังเมืองมานาโด เรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารประมาณ 280 คน และมีผู้รอดชีวิตกว่า 260 คน ถูกช่วยเหลือไปยังที่ปลอดภัย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 18 คน รวมถึงเด็ก การค้นหายังคงดำเนินต่อไป ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 2/
    ภาพเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ เหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่ KM Barcelona VA นอกชายฝั่งสุลาเวสีเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย แล่นจากจากหมู่เกาะตาเลาด์ไปยังเมืองมานาโด

    เรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารประมาณ 280 คน และมีผู้รอดชีวิตกว่า 260 คน ถูกช่วยเหลือไปยังที่ปลอดภัย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 18 คน รวมถึงเด็ก

    การค้นหายังคงดำเนินต่อไป ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต
    2/ ภาพเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ เหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่ KM Barcelona VA นอกชายฝั่งสุลาเวสีเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย แล่นจากจากหมู่เกาะตาเลาด์ไปยังเมืองมานาโด เรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารประมาณ 280 คน และมีผู้รอดชีวิตกว่า 260 คน ถูกช่วยเหลือไปยังที่ปลอดภัย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 18 คน รวมถึงเด็ก การค้นหายังคงดำเนินต่อไป ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 1/
    ภาพเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ เหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่ KM Barcelona VA นอกชายฝั่งสุลาเวสีเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย แล่นจากจากหมู่เกาะตาเลาด์ไปยังเมืองมานาโด

    เรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารประมาณ 280 คน และมีผู้รอดชีวิตกว่า 260 คน ถูกช่วยเหลือไปยังที่ปลอดภัย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 18 คน รวมถึงเด็ก

    การค้นหายังคงดำเนินต่อไป ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต
    1/ ภาพเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ เหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่ KM Barcelona VA นอกชายฝั่งสุลาเวสีเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย แล่นจากจากหมู่เกาะตาเลาด์ไปยังเมืองมานาโด เรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารประมาณ 280 คน และมีผู้รอดชีวิตกว่า 260 คน ถูกช่วยเหลือไปยังที่ปลอดภัย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 18 คน รวมถึงเด็ก การค้นหายังคงดำเนินต่อไป ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ปาร์ตี้เกย์ในกลันตัน เรื่องจริงหรือจ้อจี้?

    ใครจะเชื่อว่ารัฐอนุรักษ์นิยมที่เคร่งครัดในศาสนาอิสลามมากที่สุดในบรรดารัฐต่างๆ ของมาเลเซีย เฉกเช่นรัฐกลันตันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เมื่อโมฮัมหมัด ยูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตัน เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (17 ก.ค.) ว่า ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักบังกะโลหลังหนึ่งบนถนนเกมูมิน (Jalan Kemumin) เมืองโกตาบารู เมื่อกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังได้รับเบาะแสว่ามีการจัดปาร์ตี้เกย์ คาดว่าจะมีคนในท้องถิ่นเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 100 คน แต่เหลือเพียงกลุ่มคนที่อยู่ในบ้านประมาณ 20 คนเท่านั้น อายุตั้งแต่ 20-30 ปี พบถุงยางอนามัยหลายร้อยชิ้นและกล่องยาต้านไวรัสเอชไอวีหลายกล่อง

    อีกทั้งพบสื่อลามกอนาจารในมือถือ 3 คน จึงดำเนินคดีข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจาร ส่วนที่เหลือไม่ได้ดำเนินคดี เนื่องจากไม่มีหลักฐานการมีเพศสัมพันธ์ และทุกคนยังสวมเสื้อผ้าครบชุด นับเป็นรายงานการรวมตัวกันของกลุ่มชายรักชายครั้งแรกในรัฐกลันตัน ตำรวจกำลังดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากอาจก่อให้เกิดกิจกรรมที่ผิดศีลธรรมในมาเลเซียและเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งตำรวจจะติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มชายรักชายดังกล่าวต่อไป เพราะกังวลว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะเคลื่อนไหวและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายมากขึ้น

    เรื่องดังกล่าวถูกตอบโต้จากกลุ่ม Justice for Sisters เรียกร้องให้ตำรวจรัฐกลันตันแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง เพราะเป็นกิจกรรมให้ความรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ การใช้ถุงยางอนามัย และการตรวจเอชไอวีแบบสมัครใจในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ไม่ใช่งานมั่วสุมทางเพศ ขณะนั้นมีแพทย์ให้ข้อมูลสุขภาพ กำลังทยอยปิดงานประมาณเที่ยงคืน แต่ยังมีอีก 20 คนที่รอผลตรวจสุขภาพ นอกจากนี้ ตำรวจยังยัดเยียดข้อหาครอบครองสื่อลามกแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ตีตราว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมบางคนติดเชื้อเอชไอวี และยาต้านไวรัสเตรียมไว้มีเพศสัมพันธ์ สร้างความหวาดกลัวและลดทอนการเข้าถึงบริการสุขภาพของกลุ่ม LGBTQ

    มาเลเซีย เป็น 1 ใน 64 ประเทศที่มีกฎหมายลงโทษผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับเพศเดียวกัน มาตั้งแต่สมัยที่ตกเป็นเมืองขึ้นของสหราชอาณาจักร ปัจจุบันได้แก้กฎหมายเพิ่มเติมให้กลุ่มหญิงรักหญิงถูกลงโทษด้วย การมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติของทั้งชายและหญิง มีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี และ/หรือลงโทษด้วยการโบย ส่วนพฤติกรรมอนาจารมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี นอกจากนี้ ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ยังต้องถูกลงโทษตามกฎหมายชารีอะ (Sharia Law) ที่ห้ามทั้งการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน และแต่งกายข้ามเพศ

    #Newskit
    ปาร์ตี้เกย์ในกลันตัน เรื่องจริงหรือจ้อจี้? ใครจะเชื่อว่ารัฐอนุรักษ์นิยมที่เคร่งครัดในศาสนาอิสลามมากที่สุดในบรรดารัฐต่างๆ ของมาเลเซีย เฉกเช่นรัฐกลันตันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เมื่อโมฮัมหมัด ยูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตัน เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (17 ก.ค.) ว่า ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักบังกะโลหลังหนึ่งบนถนนเกมูมิน (Jalan Kemumin) เมืองโกตาบารู เมื่อกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังได้รับเบาะแสว่ามีการจัดปาร์ตี้เกย์ คาดว่าจะมีคนในท้องถิ่นเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 100 คน แต่เหลือเพียงกลุ่มคนที่อยู่ในบ้านประมาณ 20 คนเท่านั้น อายุตั้งแต่ 20-30 ปี พบถุงยางอนามัยหลายร้อยชิ้นและกล่องยาต้านไวรัสเอชไอวีหลายกล่อง อีกทั้งพบสื่อลามกอนาจารในมือถือ 3 คน จึงดำเนินคดีข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจาร ส่วนที่เหลือไม่ได้ดำเนินคดี เนื่องจากไม่มีหลักฐานการมีเพศสัมพันธ์ และทุกคนยังสวมเสื้อผ้าครบชุด นับเป็นรายงานการรวมตัวกันของกลุ่มชายรักชายครั้งแรกในรัฐกลันตัน ตำรวจกำลังดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากอาจก่อให้เกิดกิจกรรมที่ผิดศีลธรรมในมาเลเซียและเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งตำรวจจะติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มชายรักชายดังกล่าวต่อไป เพราะกังวลว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะเคลื่อนไหวและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายมากขึ้น เรื่องดังกล่าวถูกตอบโต้จากกลุ่ม Justice for Sisters เรียกร้องให้ตำรวจรัฐกลันตันแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง เพราะเป็นกิจกรรมให้ความรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ การใช้ถุงยางอนามัย และการตรวจเอชไอวีแบบสมัครใจในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ไม่ใช่งานมั่วสุมทางเพศ ขณะนั้นมีแพทย์ให้ข้อมูลสุขภาพ กำลังทยอยปิดงานประมาณเที่ยงคืน แต่ยังมีอีก 20 คนที่รอผลตรวจสุขภาพ นอกจากนี้ ตำรวจยังยัดเยียดข้อหาครอบครองสื่อลามกแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ตีตราว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมบางคนติดเชื้อเอชไอวี และยาต้านไวรัสเตรียมไว้มีเพศสัมพันธ์ สร้างความหวาดกลัวและลดทอนการเข้าถึงบริการสุขภาพของกลุ่ม LGBTQ มาเลเซีย เป็น 1 ใน 64 ประเทศที่มีกฎหมายลงโทษผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับเพศเดียวกัน มาตั้งแต่สมัยที่ตกเป็นเมืองขึ้นของสหราชอาณาจักร ปัจจุบันได้แก้กฎหมายเพิ่มเติมให้กลุ่มหญิงรักหญิงถูกลงโทษด้วย การมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติของทั้งชายและหญิง มีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี และ/หรือลงโทษด้วยการโบย ส่วนพฤติกรรมอนาจารมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี นอกจากนี้ ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ยังต้องถูกลงโทษตามกฎหมายชารีอะ (Sharia Law) ที่ห้ามทั้งการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน และแต่งกายข้ามเพศ #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘Agro Tourism’ เสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานราก : [Biz Talk]

    Essence of Agriculture ธ.ก.ส.เชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนท่องเที่ยว สู่ธุรกิจชุมชนผ่านโครงการ BAAC Agro Tourism ชู ‘บ้านชีทวน’ จ.อุบลราชธานี ต้นแบบชุมชนท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่น ด้วยการผสมผสานเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ลุยพัฒนาชุมชนให้ผ่านมาตรฐานท่องเที่ยว 97 ชุมชน และพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีก 21 เส้นทางทั่วไทย ภายในปี 68
    ‘Agro Tourism’ เสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานราก : [Biz Talk] Essence of Agriculture ธ.ก.ส.เชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนท่องเที่ยว สู่ธุรกิจชุมชนผ่านโครงการ BAAC Agro Tourism ชู ‘บ้านชีทวน’ จ.อุบลราชธานี ต้นแบบชุมชนท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่น ด้วยการผสมผสานเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ลุยพัฒนาชุมชนให้ผ่านมาตรฐานท่องเที่ยว 97 ชุมชน และพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีก 21 เส้นทางทั่วไทย ภายในปี 68
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 591 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ..จริงๆแล้ว ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ถูกปลูกฝังจากผู้นำผู้ปกครองนำพานำผิดทางผิดที่ผิดถนนหนทาง ปลูกฝังชี้นำในทางที่ผิดคลองผิดลำเรือลู่วิ่ง,เทียบกับคนพายเรือแข่งนั้นล่ะ,ผู้นำปลูกแนวคิด ปลูกสถานะแบบใดแก่ลูกทีมคือประชาชน อันใดจะสามัคคีกระทำการให้เป็นไปทางจรรโลงประชาชนธิปไตยก็ไม่นำพาปกครองอบรมสั่งสอนถึงชุมชนจริงจัง ไม่ช่วยเหลือปากท้องประชาชนให้กินอิ่มมีความสุข มีเวลาตั้งสติคิดอ่านสรรหานายกฯผู้ดีต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง,ต้องเลือกตั้งตรงคือพื้นฐานประชาธิปไตยนะมิใช่แบบปัจจุบันนี้ซึ่งผู้นำเองก็เขียนกฎหมายออกมาทางการเลือกตั้งไม่สุจริตซื่อตรงจริงอะไร,สัมปทานบ่อน้ำมันผู้นำพรรคการเมืองจะยุคยึดอำนาจหรือยุคเลือกตั้งปกติก็ไม่เขียนในกฎหมายรัฐธรรมนูญชัดเจนไปว่า สัมปทานปิโตรเลียมที่เปิดไปทั้งหมดไม่ผ่านสภาสส.สว.ถือว่าผิดประชาธิปไตยการมีส่วนร่วมภาคประชาชนซึ่งน้ำมันคือปัจจัยพื้นฐานสำคัญหลักที่กระทบการดำรงขีวิตจริงของประชาชนทั้งประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมตลอดเกี่ยวกับชีวิตความอิ่มปากอิ่มท้องทางตรงและทางอ้อมของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศด้วย เสือกไม่เอาเข้าสภา ทหารฉีกรัฐธรรมนูญเองแท้ๆก็ไม่เขียนชัดเจนลงไปด้วย,นี้จึงเกี่ยวกับผู้ปกครองโดยตรงชัดเจน,ตลอดอ้างแต่คนขายเสียงว่าผิด แต่ไม่อ้างพรรคการเมืองผิดที่ซื้อเสียงด้วย,จริงๆคนไทยรับรู้ชัดเชน ทหารตำรวจผู้ใหญ่บ้านอบต.อบ.ต่างๆรู้เห็นหมดล่ะ,คือข้าราชการเองในสังคมนั้นล่ะขี้ขลาดเอง เลิกงานกลับบ้านก็แปลงร่างถอดหัวโขนตำแหน่งราชการเป็นชาวบ้านประชาชนคนไทยนี้ล่ะปะปนอยู่ร่วมกันในชุมชนสังคมไทยนี้ปกติ,รู้เห็นกันหมดแต่เสือกไม่ทำหน้าที่จริง,ผลักว่าชาวบ้านประชาชนคือคนผิดฝ่ายเดียวไปขายเสียงก็ว่า,ก็ปกครองให้คนไทยยากจนไงจะได้มีบุญคุณแบบนี้เอาตังมาซื้อได้ทั้งผู้นำท้องถิ่นทั้งหมดด้วย,สรุปคือล้มเหลวทั้งระบบนั้นเอง,เน่าถึงรากเหง้าทั้งหมด เปิดโอกาสให้ต่างชาติมาล้มสถาบันผ่านเด็กๆเยาวชนไทยเราก็ว่า,เราจะแก้ตรงนี้ได้ ต้องกำจัดคนทรยศจริง จะปกครองแบบไหนอีกก็ด้วย,เอาเผด็จการหรือเสรีประชาชน,ยุคนี้ประชาชนมืดบอดโง่,ตกหลุมปีนไม่ขึ้นอะไรแล้ว,ต้องช่วยเหลือสถานะเดียวแค่นั้น ไปวิชาการสั่งสอนเขาคาหลุมที่ตกว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้ในหลุมไม่ได้หรอก,ต้องเอามีดไปปาดเชือกที่มัดมือมัดตีนปิดปากก่อน จากนั้นส่งบันไดลงไปให้เขาปีนออกมาจากหลุม,เชือกคือกฎหมายมากมายที่ผูกอิสระภาพอธิปไตยประชาชน,บันไดคือทางรอดของชีวิตอิ่มปากอิ่มท้องมีกำลังจนปีนออกมาจากหลุมเบื้องต้นก่อนได้ในภัยพิบัตินั้น,โดยไม่ได้ทำร้ายใดๆประชาชนเลย,สรุปยึดอำนาจยึดทรัพยากรเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของคนไทยเราคืนทันทีจากต่างชาติจากคนอื่นที่ยึดเอาของคนไทยไปกินแดกเองจนอิ่มแทนคนไทยทั้งประเทศนั้นเองก่อน,ทุกๆทางไปจะก้าวเดินต่อไปแบบใดๆล้วนง่ายสบายหลังเราออกจากหลุมนั้นแล้ว,อำนาจปฏิวัติยึดอำนาจจึงสามารถใช้ในทางที่ถูกแบบนี้,ตลอดสามารถชัดเจนในการปกป้องอธิปไตยไทยได้โดดเด่นได้ด้วยว่าจะเป็นกลาง ไม่ให้อเมริกาและจีนมาดึงไทยไปอยู่ในมหาสงครามของทั้งสองประเทศอเมริกาและจีนด้วยนั้นเอง,ไม่ให้ใครมาใช้ฐานทัพในไทยนั้นเอง,รัฐบาลปัจจุบันที่เป็นรักษาการนี้ถ้าให้อเมริกามาตั้งกองทัพในพังงาจริง,จะทำให้จีนเข้าใจทันทีว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อจีน จะถล่มไทยแบบไร้ความปราณีใดๆแน่นอน,ขีปนาวุธจากพันธมิตรจีนสมุนลูกน้องจีนคนชาติฝ่ายจีนจะหันวิถีขีปนาวุธมาตกทุกๆตารางนิ้วในไทยได้ทันทีเลยหากเกิดสงครามจริงระหว่างอเมริกากับจีน,แม้ไม่เกิดสงครามกับจีน การที่กองทัพอเมริกามายึดพื้นที่อธิปไตยในพังงาของไทยเราก็สามารถยึดครองยุทธศาสตร์ทำตังระดับโลกของไทยเราทันที กางคืออเมริกามาขวางความเจริญเติบโตมากมายหลากหลายมิติของไทยทันที เกะกะหน้าร้านเรานั้นเอง ลูกค้าเรามาเต็มหน้าร้านเสือกมายืนบังหน้าร้านเราไปหมด,มิตรดีสหายดีจะไม่ทำให้เราเสียโอกาสทำตังเลี้ยงคนในบ้านเราเองแบบนี้,ฝรั่งอเมริกาจึงถือว่าเลวว่าชั่วเอาแต่ได้และเห็นแก่ตัว ทำอะไรพวกฝรั่งมันสมคบคิดจัดฉากเล่นคนบทเพื่อกินรวบทั้งหมดแล้วไปแบ่งกันตกลงกันในบ้านฝรั่งมันเองนั้นล่ะ,เอเชียเราอาจสมควรเป็นเขตปลอดฝรั่งตะวันตกแบบยุโรปยิวและยิวอเมริกาตะวันตกชั่วคราวสัก20-30ปีได้แล้ว,พวกนี้ยุยงภัยก่อสงครามเพื่อค้าอาวุธชัดเจนแบบก่อเชื้อโรคเพื่อค้าวัคซีนนั้นก็ด้วย.,เราคนเอเชียจะจัดการกันเองเพราะมิใช่ยุคแบบอดีตเหมือนเดิมแล้ว,ชาวเอเชียต้องการความสงบสุขอิ่มปากอิ่มท้องบนการไม่ก้าวล่วงกัน ไใ่ทำร้ายทำลายกัน ไม่เอาเปรียบคตโกงลักขโมยกัน ไม่ฆ่ากันและกันนั้นเอง,สัมมาชีวิตสัมมาอาชีพทั่วเอเชียเรานี้ก็ว่า,อะไรไม่ดี ตั้งโต๊ะเจรจาการแก้ไขปัญหากันในเอเชียเราเลย,ฝรั่งตะวันตกชั่วเลวตั้งแต่ล่าอาณานิคมแล้ว และนิสัยสันดานเดิมๆไม่ยอมเปลี่ยน.เราทั้งเอเชียกำลังเป็นเหยื่อปั่นป่วนกระแสสงคราม,สร้างโกลาหลให้บรรลุงานทางสงครามแก่มันสำเร็จก็ว่า,จากนั้นจะยึดปกครองสร้างระเบียบปกครองโลกของพวกมันใหม่เบ็ดเสร็จแทนนั้นเอง.
    ..
    ..ประเทศไทยเรา เลิกพลาด เลิกเดินตามเกมส์ผีบ้านี้เถอะ,รักษาการนายกฯนายกฯรัฐบาลรักษาการสมควรจบสิ้นอำนาจทั้งหมดทั้งสภาได้แล้ว,ระบบสส.สว.เราล้มเหลวแล้ว,ผญบ.อบต.อบจ.นายอำเภอ ผู้ว่าก็ล้มเหลวเช่นกัน,เรามีการใช้เงินที่นำโดยพรรคการเมืองซื้อเสียงจริงแก่ประขาชน คนเหล่านี้อยู่ในชุมชนสังคมและรู้ความจริงอีกด้านชัดเจนมาโดยตลอด,ถือว่าไม่ร่วมกันจัดการพรรคการเมืองซื้อเสียงจริงอะไรเลย,ผู้ใหญ่บ้าน อสม. อบต. นายก อบต. ,นายก อบจ. นายอำเภอ ข้าราชการในสำนักงานอำเภอเทศบาลต่างๆรับรู้กันดีหมดแต่ ขนาดผู้ว่า ตำรวจในพื้นที่ ทหารในจังหวัดนั่น ยังไม่ร่วมกันจัดการพรรคการเมือง สส.อะไรได้จริงเลยก็ว่า ,มันจึงคือการปกครองที่ล้มเหลวชัดเจน ชาวบ้านคือเหยื่อให้ระบบราชการเล่นงานประชาชน ให้ระบบนักการเมืองเล่นงานประชาชน จนมีแก่การคตโกง โกงกินเงินแผ่นดินไทยที่กระจายลงไปในรูปงบประมาณประจำปีนั้นเอง มีเงินเดือนมีตำแหน่งมีสวัดิการมากมายเหนือชาวบ้านประชาชนคนไทย,นี้คือค่าจริง,มันจึงต้องปฏิวัติทั้งระบบข้าราชการและเจ้าสัวคนค้าขายทัังหมดที่ผูกขาดเอาเปรียบปล้นความมั่งคั่งร่ำรวยประชาชนคนไทยไปนั้นเองก็ว่าอย่างจริงจังจริงๆ.,
    ..เมื่อความจริงอยู่หน้าประชาชนรับรู้ตรงกัน เข้าใจค่าจริงความจริงตรงกัน พวกสามนิ้วจะไม่เกิด,เยาวชนจะไม่ตกเป็นเหยื่อต่างชาติหรือพรรคการเมืองในไทยที่ต่างชาติใช้เป็นเครื่องมือยึดครองครอบงำประโยชน์แทรกแซงเป็นสาระพัดมือสร้างปัญหาวุ่นวายโกลาหลในไทยเราแน่นอน จะถูกกำจัดตัดตอนและถูกลงโทษจริงจังทันที.
    ..
    ..อำนาจปกติในปัจจุบัน ไม่สามารถแก้ไขได้ เสมือนทางเดินปกติที่มีหลุมใหญ่ตรงหน้าอาจลึกและกว้างยาวหลายเมตร จะเดินขึ้นด้วยสถานะกิริยาปกติเดินขึ้นปกติคงไม่ใช่แล้วที่ไปอยู่ไปตกลงอีท่าไหนมิทราบและตกลงไปตอนไหนอย่างไรไม่รู้ตัวนั้นเองเหมือนคนโง่เต็มแผ่นดินไทยที่ตกหลุมนี้ก็ว่า,จะใช้วิธีการปกติไม่ได้,มันต้องวิธีพิเศษวิธีฉุกเฉินตามสถานะการณ์ปัจจุบันยุคเวลานี้สมัยนี้จริงๆ,นายกฯก็ไม่มี รักษาการแค่นั้น ปล่อยมาถึงขนาดนี้ก็อนาถเหมือนหลายปีแล้วก็ว่า.,เพราะยุคสมัยนี้เคลมเร็วจบเร็ว,แบบอิหร่านกับอิสราเอลนั้นล่ะ ยิงกันระเบิดกันแค่12วันเอง ถ้าอดีตคงเดินเท้าจับมีดจับหอกจับดาบฟันกันแค่นั้นล่ะ เผาบ้านเผาเมืองใช้ไฟปกติทุบทำลายกันแค่นั้นล่ะ,นี้ยิงขีปนาวุธข้ามหัวใส่กันไปมาเอง,ความเสียหายรวดเร็วทวีเท่าก็ยุคอดีตๆมาก,การบริหารจัดการจึงต้องรวดเร็วเพราะคนไทยเราไม่ได้ร่ำรวยกันทุกๆคน ไม่ได้มีตังมากมายกันทุกๆคน,ไม่มีอาหารอยู่เต็มไร่เต็มนาเต็มสระเต็มหนองเต็มบ่อกันทุกๆคน เพราะผู้นำผู้ปกครองเราไม่สร้างพื้นฐานหลักปากท้องตนให้แข็งแกร่งนั้นเองทั้งจุดแข็งประเทศตนคือความมั่นคงทางอาหารทางปากทางท้อง สงครามกองทัพต้องมีเสบียงมีปากมีท้องจึงมีกำลังต่อสู้รบ,นอกจากยุคหุ่นยนต์สู่กันเองของใครแต่ละฝ่ายบังคับAIมันเอง.,ถ้าเรามีพื้นฐานแข็งแกร่งดั่งที่ว่า จะยิ่งสุขุมรอบรอบมีสติมีแผนการรับมือสาระพัดหลากหลายรูปแบบแน่นอนคือมาแบบไหนก็รอด เพราะอาหารมีกิน มีตังร่ำรวย หายุทธปัจจัยเชิงกลยุทธใดๆได้หมดล่ะ,เราจึงต้องเปลี่ยนแปลงภายในประเทศไทยเราอย่างจริงจังกันจริงๆ.,คนชั่วเลวขยายตัวในระบบมากเกินไป,หัวๆใหญ่ๆไม่เคยเด็ดหัวทิ้งจริงสักตัวในสังคมไทยเรา.จึงชาติไทยบ้านเมืองไทยไม่จบไม่สิ้นวุ่นวายไม่หยุด.,กระทั่งนำพาข้าศึกศัตรูจากภายนอกมาทำลายล้างบ้านเรือนอธิปไตยตนเอง,เพราะเหี้ยไม่กำจัดตัดตอนทิ้งจริงตั้งแต่แรก ปล่อยจนก่อเรื่องมากมายสาระพัดเดือดร้อนทั้งประเทศนั้นเอง.



    https://youtube.com/watch?v=YbgW7pPysK4&si=zmoT_WaLsjUJiFZC
    ..จริงๆแล้ว ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ถูกปลูกฝังจากผู้นำผู้ปกครองนำพานำผิดทางผิดที่ผิดถนนหนทาง ปลูกฝังชี้นำในทางที่ผิดคลองผิดลำเรือลู่วิ่ง,เทียบกับคนพายเรือแข่งนั้นล่ะ,ผู้นำปลูกแนวคิด ปลูกสถานะแบบใดแก่ลูกทีมคือประชาชน อันใดจะสามัคคีกระทำการให้เป็นไปทางจรรโลงประชาชนธิปไตยก็ไม่นำพาปกครองอบรมสั่งสอนถึงชุมชนจริงจัง ไม่ช่วยเหลือปากท้องประชาชนให้กินอิ่มมีความสุข มีเวลาตั้งสติคิดอ่านสรรหานายกฯผู้ดีต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง,ต้องเลือกตั้งตรงคือพื้นฐานประชาธิปไตยนะมิใช่แบบปัจจุบันนี้ซึ่งผู้นำเองก็เขียนกฎหมายออกมาทางการเลือกตั้งไม่สุจริตซื่อตรงจริงอะไร,สัมปทานบ่อน้ำมันผู้นำพรรคการเมืองจะยุคยึดอำนาจหรือยุคเลือกตั้งปกติก็ไม่เขียนในกฎหมายรัฐธรรมนูญชัดเจนไปว่า สัมปทานปิโตรเลียมที่เปิดไปทั้งหมดไม่ผ่านสภาสส.สว.ถือว่าผิดประชาธิปไตยการมีส่วนร่วมภาคประชาชนซึ่งน้ำมันคือปัจจัยพื้นฐานสำคัญหลักที่กระทบการดำรงขีวิตจริงของประชาชนทั้งประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมตลอดเกี่ยวกับชีวิตความอิ่มปากอิ่มท้องทางตรงและทางอ้อมของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศด้วย เสือกไม่เอาเข้าสภา ทหารฉีกรัฐธรรมนูญเองแท้ๆก็ไม่เขียนชัดเจนลงไปด้วย,นี้จึงเกี่ยวกับผู้ปกครองโดยตรงชัดเจน,ตลอดอ้างแต่คนขายเสียงว่าผิด แต่ไม่อ้างพรรคการเมืองผิดที่ซื้อเสียงด้วย,จริงๆคนไทยรับรู้ชัดเชน ทหารตำรวจผู้ใหญ่บ้านอบต.อบ.ต่างๆรู้เห็นหมดล่ะ,คือข้าราชการเองในสังคมนั้นล่ะขี้ขลาดเอง เลิกงานกลับบ้านก็แปลงร่างถอดหัวโขนตำแหน่งราชการเป็นชาวบ้านประชาชนคนไทยนี้ล่ะปะปนอยู่ร่วมกันในชุมชนสังคมไทยนี้ปกติ,รู้เห็นกันหมดแต่เสือกไม่ทำหน้าที่จริง,ผลักว่าชาวบ้านประชาชนคือคนผิดฝ่ายเดียวไปขายเสียงก็ว่า,ก็ปกครองให้คนไทยยากจนไงจะได้มีบุญคุณแบบนี้เอาตังมาซื้อได้ทั้งผู้นำท้องถิ่นทั้งหมดด้วย,สรุปคือล้มเหลวทั้งระบบนั้นเอง,เน่าถึงรากเหง้าทั้งหมด เปิดโอกาสให้ต่างชาติมาล้มสถาบันผ่านเด็กๆเยาวชนไทยเราก็ว่า,เราจะแก้ตรงนี้ได้ ต้องกำจัดคนทรยศจริง จะปกครองแบบไหนอีกก็ด้วย,เอาเผด็จการหรือเสรีประชาชน,ยุคนี้ประชาชนมืดบอดโง่,ตกหลุมปีนไม่ขึ้นอะไรแล้ว,ต้องช่วยเหลือสถานะเดียวแค่นั้น ไปวิชาการสั่งสอนเขาคาหลุมที่ตกว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้ในหลุมไม่ได้หรอก,ต้องเอามีดไปปาดเชือกที่มัดมือมัดตีนปิดปากก่อน จากนั้นส่งบันไดลงไปให้เขาปีนออกมาจากหลุม,เชือกคือกฎหมายมากมายที่ผูกอิสระภาพอธิปไตยประชาชน,บันไดคือทางรอดของชีวิตอิ่มปากอิ่มท้องมีกำลังจนปีนออกมาจากหลุมเบื้องต้นก่อนได้ในภัยพิบัตินั้น,โดยไม่ได้ทำร้ายใดๆประชาชนเลย,สรุปยึดอำนาจยึดทรัพยากรเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของคนไทยเราคืนทันทีจากต่างชาติจากคนอื่นที่ยึดเอาของคนไทยไปกินแดกเองจนอิ่มแทนคนไทยทั้งประเทศนั้นเองก่อน,ทุกๆทางไปจะก้าวเดินต่อไปแบบใดๆล้วนง่ายสบายหลังเราออกจากหลุมนั้นแล้ว,อำนาจปฏิวัติยึดอำนาจจึงสามารถใช้ในทางที่ถูกแบบนี้,ตลอดสามารถชัดเจนในการปกป้องอธิปไตยไทยได้โดดเด่นได้ด้วยว่าจะเป็นกลาง ไม่ให้อเมริกาและจีนมาดึงไทยไปอยู่ในมหาสงครามของทั้งสองประเทศอเมริกาและจีนด้วยนั้นเอง,ไม่ให้ใครมาใช้ฐานทัพในไทยนั้นเอง,รัฐบาลปัจจุบันที่เป็นรักษาการนี้ถ้าให้อเมริกามาตั้งกองทัพในพังงาจริง,จะทำให้จีนเข้าใจทันทีว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อจีน จะถล่มไทยแบบไร้ความปราณีใดๆแน่นอน,ขีปนาวุธจากพันธมิตรจีนสมุนลูกน้องจีนคนชาติฝ่ายจีนจะหันวิถีขีปนาวุธมาตกทุกๆตารางนิ้วในไทยได้ทันทีเลยหากเกิดสงครามจริงระหว่างอเมริกากับจีน,แม้ไม่เกิดสงครามกับจีน การที่กองทัพอเมริกามายึดพื้นที่อธิปไตยในพังงาของไทยเราก็สามารถยึดครองยุทธศาสตร์ทำตังระดับโลกของไทยเราทันที กางคืออเมริกามาขวางความเจริญเติบโตมากมายหลากหลายมิติของไทยทันที เกะกะหน้าร้านเรานั้นเอง ลูกค้าเรามาเต็มหน้าร้านเสือกมายืนบังหน้าร้านเราไปหมด,มิตรดีสหายดีจะไม่ทำให้เราเสียโอกาสทำตังเลี้ยงคนในบ้านเราเองแบบนี้,ฝรั่งอเมริกาจึงถือว่าเลวว่าชั่วเอาแต่ได้และเห็นแก่ตัว ทำอะไรพวกฝรั่งมันสมคบคิดจัดฉากเล่นคนบทเพื่อกินรวบทั้งหมดแล้วไปแบ่งกันตกลงกันในบ้านฝรั่งมันเองนั้นล่ะ,เอเชียเราอาจสมควรเป็นเขตปลอดฝรั่งตะวันตกแบบยุโรปยิวและยิวอเมริกาตะวันตกชั่วคราวสัก20-30ปีได้แล้ว,พวกนี้ยุยงภัยก่อสงครามเพื่อค้าอาวุธชัดเจนแบบก่อเชื้อโรคเพื่อค้าวัคซีนนั้นก็ด้วย.,เราคนเอเชียจะจัดการกันเองเพราะมิใช่ยุคแบบอดีตเหมือนเดิมแล้ว,ชาวเอเชียต้องการความสงบสุขอิ่มปากอิ่มท้องบนการไม่ก้าวล่วงกัน ไใ่ทำร้ายทำลายกัน ไม่เอาเปรียบคตโกงลักขโมยกัน ไม่ฆ่ากันและกันนั้นเอง,สัมมาชีวิตสัมมาอาชีพทั่วเอเชียเรานี้ก็ว่า,อะไรไม่ดี ตั้งโต๊ะเจรจาการแก้ไขปัญหากันในเอเชียเราเลย,ฝรั่งตะวันตกชั่วเลวตั้งแต่ล่าอาณานิคมแล้ว และนิสัยสันดานเดิมๆไม่ยอมเปลี่ยน.เราทั้งเอเชียกำลังเป็นเหยื่อปั่นป่วนกระแสสงคราม,สร้างโกลาหลให้บรรลุงานทางสงครามแก่มันสำเร็จก็ว่า,จากนั้นจะยึดปกครองสร้างระเบียบปกครองโลกของพวกมันใหม่เบ็ดเสร็จแทนนั้นเอง. .. ..ประเทศไทยเรา เลิกพลาด เลิกเดินตามเกมส์ผีบ้านี้เถอะ,รักษาการนายกฯนายกฯรัฐบาลรักษาการสมควรจบสิ้นอำนาจทั้งหมดทั้งสภาได้แล้ว,ระบบสส.สว.เราล้มเหลวแล้ว,ผญบ.อบต.อบจ.นายอำเภอ ผู้ว่าก็ล้มเหลวเช่นกัน,เรามีการใช้เงินที่นำโดยพรรคการเมืองซื้อเสียงจริงแก่ประขาชน คนเหล่านี้อยู่ในชุมชนสังคมและรู้ความจริงอีกด้านชัดเจนมาโดยตลอด,ถือว่าไม่ร่วมกันจัดการพรรคการเมืองซื้อเสียงจริงอะไรเลย,ผู้ใหญ่บ้าน อสม. อบต. นายก อบต. ,นายก อบจ. นายอำเภอ ข้าราชการในสำนักงานอำเภอเทศบาลต่างๆรับรู้กันดีหมดแต่ ขนาดผู้ว่า ตำรวจในพื้นที่ ทหารในจังหวัดนั่น ยังไม่ร่วมกันจัดการพรรคการเมือง สส.อะไรได้จริงเลยก็ว่า ,มันจึงคือการปกครองที่ล้มเหลวชัดเจน ชาวบ้านคือเหยื่อให้ระบบราชการเล่นงานประชาชน ให้ระบบนักการเมืองเล่นงานประชาชน จนมีแก่การคตโกง โกงกินเงินแผ่นดินไทยที่กระจายลงไปในรูปงบประมาณประจำปีนั้นเอง มีเงินเดือนมีตำแหน่งมีสวัดิการมากมายเหนือชาวบ้านประชาชนคนไทย,นี้คือค่าจริง,มันจึงต้องปฏิวัติทั้งระบบข้าราชการและเจ้าสัวคนค้าขายทัังหมดที่ผูกขาดเอาเปรียบปล้นความมั่งคั่งร่ำรวยประชาชนคนไทยไปนั้นเองก็ว่าอย่างจริงจังจริงๆ., ..เมื่อความจริงอยู่หน้าประชาชนรับรู้ตรงกัน เข้าใจค่าจริงความจริงตรงกัน พวกสามนิ้วจะไม่เกิด,เยาวชนจะไม่ตกเป็นเหยื่อต่างชาติหรือพรรคการเมืองในไทยที่ต่างชาติใช้เป็นเครื่องมือยึดครองครอบงำประโยชน์แทรกแซงเป็นสาระพัดมือสร้างปัญหาวุ่นวายโกลาหลในไทยเราแน่นอน จะถูกกำจัดตัดตอนและถูกลงโทษจริงจังทันที. .. ..อำนาจปกติในปัจจุบัน ไม่สามารถแก้ไขได้ เสมือนทางเดินปกติที่มีหลุมใหญ่ตรงหน้าอาจลึกและกว้างยาวหลายเมตร จะเดินขึ้นด้วยสถานะกิริยาปกติเดินขึ้นปกติคงไม่ใช่แล้วที่ไปอยู่ไปตกลงอีท่าไหนมิทราบและตกลงไปตอนไหนอย่างไรไม่รู้ตัวนั้นเองเหมือนคนโง่เต็มแผ่นดินไทยที่ตกหลุมนี้ก็ว่า,จะใช้วิธีการปกติไม่ได้,มันต้องวิธีพิเศษวิธีฉุกเฉินตามสถานะการณ์ปัจจุบันยุคเวลานี้สมัยนี้จริงๆ,นายกฯก็ไม่มี รักษาการแค่นั้น ปล่อยมาถึงขนาดนี้ก็อนาถเหมือนหลายปีแล้วก็ว่า.,เพราะยุคสมัยนี้เคลมเร็วจบเร็ว,แบบอิหร่านกับอิสราเอลนั้นล่ะ ยิงกันระเบิดกันแค่12วันเอง ถ้าอดีตคงเดินเท้าจับมีดจับหอกจับดาบฟันกันแค่นั้นล่ะ เผาบ้านเผาเมืองใช้ไฟปกติทุบทำลายกันแค่นั้นล่ะ,นี้ยิงขีปนาวุธข้ามหัวใส่กันไปมาเอง,ความเสียหายรวดเร็วทวีเท่าก็ยุคอดีตๆมาก,การบริหารจัดการจึงต้องรวดเร็วเพราะคนไทยเราไม่ได้ร่ำรวยกันทุกๆคน ไม่ได้มีตังมากมายกันทุกๆคน,ไม่มีอาหารอยู่เต็มไร่เต็มนาเต็มสระเต็มหนองเต็มบ่อกันทุกๆคน เพราะผู้นำผู้ปกครองเราไม่สร้างพื้นฐานหลักปากท้องตนให้แข็งแกร่งนั้นเองทั้งจุดแข็งประเทศตนคือความมั่นคงทางอาหารทางปากทางท้อง สงครามกองทัพต้องมีเสบียงมีปากมีท้องจึงมีกำลังต่อสู้รบ,นอกจากยุคหุ่นยนต์สู่กันเองของใครแต่ละฝ่ายบังคับAIมันเอง.,ถ้าเรามีพื้นฐานแข็งแกร่งดั่งที่ว่า จะยิ่งสุขุมรอบรอบมีสติมีแผนการรับมือสาระพัดหลากหลายรูปแบบแน่นอนคือมาแบบไหนก็รอด เพราะอาหารมีกิน มีตังร่ำรวย หายุทธปัจจัยเชิงกลยุทธใดๆได้หมดล่ะ,เราจึงต้องเปลี่ยนแปลงภายในประเทศไทยเราอย่างจริงจังกันจริงๆ.,คนชั่วเลวขยายตัวในระบบมากเกินไป,หัวๆใหญ่ๆไม่เคยเด็ดหัวทิ้งจริงสักตัวในสังคมไทยเรา.จึงชาติไทยบ้านเมืองไทยไม่จบไม่สิ้นวุ่นวายไม่หยุด.,กระทั่งนำพาข้าศึกศัตรูจากภายนอกมาทำลายล้างบ้านเรือนอธิปไตยตนเอง,เพราะเหี้ยไม่กำจัดตัดตอนทิ้งจริงตั้งแต่แรก ปล่อยจนก่อเรื่องมากมายสาระพัดเดือดร้อนทั้งประเทศนั้นเอง. https://youtube.com/watch?v=YbgW7pPysK4&si=zmoT_WaLsjUJiFZC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 566 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ตกลงว่านี่มันดินแดนของใคร!?!"

    อิสราเอลอนุญาตให้กองกำลังรัฐบาลซีเรียอยู่ในเขตสุไวดาได้อีก 48 ชั่วโมง และต้องมีการประสานงานกับผู้นำชาวดรูซในท้องถิ่นตลอดเวลา ตามรายงานของสำนักข่าว HaYom

    หากกองกำลังของรัฐบาลซีเรียอยู่เกินกำหนดระยะเวลาที่อิสราเอลอนุญาตไว้ กองกำลังอิสราเอลจะทำการโจมตีทางอากาศใส่ในทันที

    ทางด้านโจลานีผู้นำซีเรีย รับปากว่ากองกำลังของเขาจะไม่อยู่เกินกำหนดเวลา
    "ตกลงว่านี่มันดินแดนของใคร!?!" อิสราเอลอนุญาตให้กองกำลังรัฐบาลซีเรียอยู่ในเขตสุไวดาได้อีก 48 ชั่วโมง และต้องมีการประสานงานกับผู้นำชาวดรูซในท้องถิ่นตลอดเวลา ตามรายงานของสำนักข่าว HaYom หากกองกำลังของรัฐบาลซีเรียอยู่เกินกำหนดระยะเวลาที่อิสราเอลอนุญาตไว้ กองกำลังอิสราเอลจะทำการโจมตีทางอากาศใส่ในทันที ทางด้านโจลานีผู้นำซีเรีย รับปากว่ากองกำลังของเขาจะไม่อยู่เกินกำหนดเวลา
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts