• สเป็คคอมพ์วันนี้ เอาชุดหรูสุดของร้าน AutoNet แล้วกันครับ
    ขอขอบคุณข้อมมูลจากร้าน AutoNet
    https://www.autonetpc.com/
    #spec #computer #autonetpc
    สเป็คคอมพ์วันนี้ เอาชุดหรูสุดของร้าน AutoNet แล้วกันครับ ขอขอบคุณข้อมมูลจากร้าน AutoNet https://www.autonetpc.com/ #spec #computer #autonetpc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนเรียน มธ.หลงเชื่อข้อมูลผิดๆ ไม่ชอบ ร.๑๐ จนไม่เข้ารับปริญญา ทั้งๆที่ได้ #เกียรตินิยม รู้สึกเสียใจและเสียดายจนถึงทุกวันนี้...
    และ เพราะอะไรถึงกลับมารัก ร.๑๐ อย่างสุดหัวใจ 🙏💛
    ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา

    ได้โพสเฟซบุ๊ค ดังนี้
    .
    ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียน มธ. รหัส 53 และเคยได้รับข้อมูลผิด ๆ จนไม่ชอบในหลวง ร.10 มาก ๆ ถึงขั้นไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาทั้ง ๆ ที่ผมจบเกียรตินิยม ผมไม่ได้เข้ารับของจริง ถ้าไม่เชื่อก็ไปเช็กได้เลยครับ ผมจึงยังคงเสียใจและเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พอได้ศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องด้วยตนเองในช่วงเรียนปริญญาเอกที่สิงคโปร์ จากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นรักและเห็นใจพระองค์ท่านมาก ๆ
    .
    พบว่าสิ่งที่เคยได้ยินจากสามนิ้วล้มเจ้าในยุคนั้นล้วนเป็นความเท็จและไม่มีประโยชน์ เห็นได้ชัดเจนมาก ๆ ว่าการบิดเบือนให้ร้ายในหลวง ร.10 เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เพื่อเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยมักบิดเบือนให้ร้ายสร้างมโนภาพต่าง ๆ ให้ในหลวง ร.10 กลายเป็นคนไม่ดี เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นจอมวายร้าย
    .
    แต่ทว่าในความเป็นจริง แม้ในหลวง ร.10 จะเป็นคนเคร่งครัดมากในระเบียบวินัยแบบทหาร แต่พระองค์ท่านก็เป็นคนที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดชีวิตสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ท่านยังให้ความเมตตาแบบสุด ๆ ผมเคยได้ยินเรื่องหนึ่งที่เชื่อถือได้อย่างแน่ชัด เวลามีสัตว์หลงเข้ามาในลานฝึก ทหารที่ฝึกกับพระองค์ท่านจะต้องหยิบมันไปปล่อยอย่างเหมาะสม ใครจะไปนึกว่าในหลวง ร.10 จะทรงน่ารักขนาดนี้
    .
    ผมยังจำได้ดี ตอนผมจบปริญญาเอกปี 2561 ในวัย 26 ปี ในปีนั้นเพื่อนชาวสิงคโปร์ของผมชื่อ ‘ยองเจีย’ วัย 25 ปี เคยแสดงความคิดเห็นให้ผมฟังว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษอันหาได้ยากยิ่ง ลองคิดดูนะ กว่าประเทศอื่นจะรวมผู้คนให้สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ประเทศไทยสามารถทำได้แค่ในชั่วพริบตา เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน ดังนั้นถ้าหากมีใครต้องการทำลายประเทศไทย หรือแทรกแซงประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่แปลกที่เขาต้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์"
    .
    ผมโชคดีที่ตาสว่างกว่า ไม่เช่นนั้นตอนนี้ผมอาจติดคุกหรือไม่ก็ได้ดิบได้ดีในพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคที่มีรากเหง้ามาจากสามนิ้วล้มเจ้าใน มธ. ชอบอ้างอย่างปลอมเปลือกว่าอยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร แต่ในความเป็นจริงแม้แต่ถวายพระพรก็ยังไม่มีเลย สุดท้ายเมื่อผมออกจาก Echo Chamber ของการลือตาม ๆ กันอย่างเสียสติ ไม่ต่างจากนกแก้วนกขุนทอง ไม่หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนให้ร้ายพระองค์ท่านอีกต่อไป ผมจึงตาสว่างยิ่งกว่าตาสว่างและรักพระองค์ท่านสุดหัวใจ

    ดร.นิว ศุภณัฐ

    การที่บุคคล เห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำ คืนตามธรรม ถึงความสำรวมระวังต่อไป นี้เป็นความเจริญในอริยวินัย ของผู้นั้น
    #ตถาคตภาษิต
    ตอนเรียน มธ.หลงเชื่อข้อมูลผิดๆ ไม่ชอบ ร.๑๐ จนไม่เข้ารับปริญญา ทั้งๆที่ได้ #เกียรตินิยม รู้สึกเสียใจและเสียดายจนถึงทุกวันนี้... และ เพราะอะไรถึงกลับมารัก ร.๑๐ อย่างสุดหัวใจ 🙏💛 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสเฟซบุ๊ค ดังนี้ . ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียน มธ. รหัส 53 และเคยได้รับข้อมูลผิด ๆ จนไม่ชอบในหลวง ร.10 มาก ๆ ถึงขั้นไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาทั้ง ๆ ที่ผมจบเกียรตินิยม ผมไม่ได้เข้ารับของจริง ถ้าไม่เชื่อก็ไปเช็กได้เลยครับ ผมจึงยังคงเสียใจและเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พอได้ศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องด้วยตนเองในช่วงเรียนปริญญาเอกที่สิงคโปร์ จากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นรักและเห็นใจพระองค์ท่านมาก ๆ . พบว่าสิ่งที่เคยได้ยินจากสามนิ้วล้มเจ้าในยุคนั้นล้วนเป็นความเท็จและไม่มีประโยชน์ เห็นได้ชัดเจนมาก ๆ ว่าการบิดเบือนให้ร้ายในหลวง ร.10 เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เพื่อเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยมักบิดเบือนให้ร้ายสร้างมโนภาพต่าง ๆ ให้ในหลวง ร.10 กลายเป็นคนไม่ดี เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นจอมวายร้าย . แต่ทว่าในความเป็นจริง แม้ในหลวง ร.10 จะเป็นคนเคร่งครัดมากในระเบียบวินัยแบบทหาร แต่พระองค์ท่านก็เป็นคนที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดชีวิตสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ท่านยังให้ความเมตตาแบบสุด ๆ ผมเคยได้ยินเรื่องหนึ่งที่เชื่อถือได้อย่างแน่ชัด เวลามีสัตว์หลงเข้ามาในลานฝึก ทหารที่ฝึกกับพระองค์ท่านจะต้องหยิบมันไปปล่อยอย่างเหมาะสม ใครจะไปนึกว่าในหลวง ร.10 จะทรงน่ารักขนาดนี้ . ผมยังจำได้ดี ตอนผมจบปริญญาเอกปี 2561 ในวัย 26 ปี ในปีนั้นเพื่อนชาวสิงคโปร์ของผมชื่อ ‘ยองเจีย’ วัย 25 ปี เคยแสดงความคิดเห็นให้ผมฟังว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษอันหาได้ยากยิ่ง ลองคิดดูนะ กว่าประเทศอื่นจะรวมผู้คนให้สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ประเทศไทยสามารถทำได้แค่ในชั่วพริบตา เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน ดังนั้นถ้าหากมีใครต้องการทำลายประเทศไทย หรือแทรกแซงประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่แปลกที่เขาต้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์" . ผมโชคดีที่ตาสว่างกว่า ไม่เช่นนั้นตอนนี้ผมอาจติดคุกหรือไม่ก็ได้ดิบได้ดีในพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคที่มีรากเหง้ามาจากสามนิ้วล้มเจ้าใน มธ. ชอบอ้างอย่างปลอมเปลือกว่าอยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร แต่ในความเป็นจริงแม้แต่ถวายพระพรก็ยังไม่มีเลย สุดท้ายเมื่อผมออกจาก Echo Chamber ของการลือตาม ๆ กันอย่างเสียสติ ไม่ต่างจากนกแก้วนกขุนทอง ไม่หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนให้ร้ายพระองค์ท่านอีกต่อไป ผมจึงตาสว่างยิ่งกว่าตาสว่างและรักพระองค์ท่านสุดหัวใจ ดร.นิว ศุภณัฐ การที่บุคคล เห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำ คืนตามธรรม ถึงความสำรวมระวังต่อไป นี้เป็นความเจริญในอริยวินัย ของผู้นั้น #ตถาคตภาษิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดนักวิจัยจากต่างประเทศ ล่าสุด Lee Young-hee นักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัมที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย หลังจากไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้

    ศูนย์วิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ย

    การแต่งตั้ง Lee Young-hee เป็นหนึ่งในหลายกรณีที่จีน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่าการวิจัยของเขาอาจไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า

    ✅ Lee Young-hee ได้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัม
    - ศูนย์วิจัยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย
    - มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์

    ✅ เหตุผลที่ Lee Young-hee ย้ายไปจีน
    - ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้หลังเกษียณ
    - เคยเสนอแผนวิจัยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ

    ✅ แนวโน้มของจีนในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
    - มีรายงานว่าจีน ดึงดูดวิศวกรจาก Apple และ TSMC ด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูง
    - Huawei เคยเสนอเงินเดือน สามเท่า ให้กับพนักงาน TSMC เพื่อดึงดูดให้ย้ายไปทำงานในจีน

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การวิจัยวัสดุควอนตัมอาจมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า
    - อาจช่วยให้จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

    https://wccftech.com/china-appoints-south-korean-semiconductor-research-for-quantum-materials-research/
    จีนกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดนักวิจัยจากต่างประเทศ ล่าสุด Lee Young-hee นักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัมที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย หลังจากไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้ ศูนย์วิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ย การแต่งตั้ง Lee Young-hee เป็นหนึ่งในหลายกรณีที่จีน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่าการวิจัยของเขาอาจไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า ✅ Lee Young-hee ได้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัม - ศูนย์วิจัยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย - มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ✅ เหตุผลที่ Lee Young-hee ย้ายไปจีน - ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้หลังเกษียณ - เคยเสนอแผนวิจัยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ✅ แนวโน้มของจีนในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ - มีรายงานว่าจีน ดึงดูดวิศวกรจาก Apple และ TSMC ด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูง - Huawei เคยเสนอเงินเดือน สามเท่า ให้กับพนักงาน TSMC เพื่อดึงดูดให้ย้ายไปทำงานในจีน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การวิจัยวัสดุควอนตัมอาจมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า - อาจช่วยให้จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ https://wccftech.com/china-appoints-south-korean-semiconductor-research-for-quantum-materials-research/
    WCCFTECH.COM
    China Has Recruited South Korean Semiconductor Researcher And Appointed Him Head Of Quantum Materials Research After He Was Unable To Find A Suitable Position In His Home Country
    After being unable to find a suitable research position in his home country, a South Korean semiconductor expert has been recruited by China
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานล่าสุดจาก Radware เผยว่า 57% ของการเข้าชมเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในช่วงเทศกาลวันหยุดปี 2024 มาจากบอท ไม่ใช่ผู้ใช้จริง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ บอทมีปริมาณการเข้าชมมากกว่ามนุษย์

    บอทเหล่านี้มีความซับซ้อนมากขึ้น โดย 60% ใช้กลยุทธ์เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ เช่น หมุนเวียน IP, ใช้ CAPTCHA farms และจำลองรูปแบบการท่องเว็บ ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบเดิมไม่สามารถตรวจจับได้

    นอกจากนี้ การโจมตีผ่านมือถือเพิ่มขึ้น 160% ระหว่างเทศกาลวันหยุดปี 2023 และ 2024 โดยแฮกเกอร์ใช้ mobile emulators และ headless browsers เพื่อเลียนแบบพฤติกรรมของแอปพลิเคชันจริง

    ✅ บอทมีปริมาณการเข้าชมมากกว่ามนุษย์
    - 57% ของการเข้าชมเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในช่วงเทศกาลวันหยุดปี 2024 มาจากบอท
    - ถือเป็นครั้งแรกที่ บอทมีปริมาณการเข้าชมมากกว่ามนุษย์

    ✅ บอทมีความซับซ้อนมากขึ้น
    - 60% ใช้กลยุทธ์เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ เช่น หมุนเวียน IP และใช้ CAPTCHA farms
    - ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบเดิมไม่สามารถตรวจจับได้

    ✅ การโจมตีผ่านมือถือเพิ่มขึ้น 160%
    - แฮกเกอร์ใช้ mobile emulators และ headless browsers เพื่อเลียนแบบพฤติกรรมของแอปพลิเคชันจริง
    - 32% ของการโจมตีมาจาก residential proxy networks ทำให้การตรวจจับยากขึ้น

    ✅ แนวโน้มของการโจมตีในอนาคต
    - บอทไม่ได้แค่ขโมยข้อมูล แต่เริ่มใช้ multi-vector attacks เพื่อทำให้เว็บไซต์ล่ม
    - ธุรกิจต้องใช้ AI-powered defenses

    https://www.techradar.com/pro/its-official-the-majority-of-visitors-to-online-shops-and-retailers-are-now-bots-not-humans-heres-why-it-matters-to-you-and-me
    รายงานล่าสุดจาก Radware เผยว่า 57% ของการเข้าชมเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในช่วงเทศกาลวันหยุดปี 2024 มาจากบอท ไม่ใช่ผู้ใช้จริง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ บอทมีปริมาณการเข้าชมมากกว่ามนุษย์ บอทเหล่านี้มีความซับซ้อนมากขึ้น โดย 60% ใช้กลยุทธ์เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ เช่น หมุนเวียน IP, ใช้ CAPTCHA farms และจำลองรูปแบบการท่องเว็บ ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบเดิมไม่สามารถตรวจจับได้ นอกจากนี้ การโจมตีผ่านมือถือเพิ่มขึ้น 160% ระหว่างเทศกาลวันหยุดปี 2023 และ 2024 โดยแฮกเกอร์ใช้ mobile emulators และ headless browsers เพื่อเลียนแบบพฤติกรรมของแอปพลิเคชันจริง ✅ บอทมีปริมาณการเข้าชมมากกว่ามนุษย์ - 57% ของการเข้าชมเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในช่วงเทศกาลวันหยุดปี 2024 มาจากบอท - ถือเป็นครั้งแรกที่ บอทมีปริมาณการเข้าชมมากกว่ามนุษย์ ✅ บอทมีความซับซ้อนมากขึ้น - 60% ใช้กลยุทธ์เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ เช่น หมุนเวียน IP และใช้ CAPTCHA farms - ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบเดิมไม่สามารถตรวจจับได้ ✅ การโจมตีผ่านมือถือเพิ่มขึ้น 160% - แฮกเกอร์ใช้ mobile emulators และ headless browsers เพื่อเลียนแบบพฤติกรรมของแอปพลิเคชันจริง - 32% ของการโจมตีมาจาก residential proxy networks ทำให้การตรวจจับยากขึ้น ✅ แนวโน้มของการโจมตีในอนาคต - บอทไม่ได้แค่ขโมยข้อมูล แต่เริ่มใช้ multi-vector attacks เพื่อทำให้เว็บไซต์ล่ม - ธุรกิจต้องใช้ AI-powered defenses https://www.techradar.com/pro/its-official-the-majority-of-visitors-to-online-shops-and-retailers-are-now-bots-not-humans-heres-why-it-matters-to-you-and-me
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2025 มีบัญชีผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรถูกละเมิดไปแล้วกว่า 2.2 ล้านบัญชี โดยเฉลี่ยมี 17 บัญชีถูกละเมิดทุกนาที ทำให้สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 รองจาก สหรัฐฯ, รัสเซีย, อินเดีย, เยอรมนี และสเปน

    แม้ว่าจำนวนการละเมิดข้อมูลทั่วโลกจะลดลง 93% จาก 973.7 ล้านบัญชีในปี 2024 เหลือ 68.3 ล้านบัญชีในปี 2025 แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ใช้ยังคงต้อง เฝ้าระวัง เนื่องจาก ภัยคุกคามทางไซเบอร์ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    Surfshark รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2004 มีข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรถูกเปิดเผยไปแล้วกว่า 1.2 พันล้านรายการ รวมถึง 79.2 ล้านอีเมลและ 238.4 ล้านรหัสผ่าน

    ✅ จำนวนบัญชีที่ถูกละเมิด
    - 2.2 ล้านบัญชี ในสหราชอาณาจักรในช่วงสามเดือนแรกของปี 2025
    - เฉลี่ย 17 บัญชีถูกละเมิดทุกนาที

    ✅ ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
    - สหรัฐฯ (16.9 ล้านบัญชี)
    - รัสเซีย (4.4 ล้านบัญชี)
    - อินเดีย (4.2 ล้านบัญชี)
    - เยอรมนี (3.9 ล้านบัญชี)
    - สเปน (2.4 ล้านบัญชี)

    ✅ แนวโน้มการละเมิดข้อมูลทั่วโลก
    - ลดลง 93% จาก 973.7 ล้านบัญชีในปี 2024 เหลือ 68.3 ล้านบัญชีในปี 2025
    - ในสหราชอาณาจักรลดลง 49% เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2024

    ✅ มาตรการป้องกันข้อมูลส่วนตัว
    - ใช้ เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน เพื่อสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย
    - เปิดใช้งาน การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA)
    - หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่น่าสงสัยเพื่อป้องกัน ฟิชชิ่ง

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/people-should-remain-vigilant-over-2-million-british-accounts-have-already-been-leaked-in-2025-despite-a-global-downtick
    ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2025 มีบัญชีผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรถูกละเมิดไปแล้วกว่า 2.2 ล้านบัญชี โดยเฉลี่ยมี 17 บัญชีถูกละเมิดทุกนาที ทำให้สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 รองจาก สหรัฐฯ, รัสเซีย, อินเดีย, เยอรมนี และสเปน แม้ว่าจำนวนการละเมิดข้อมูลทั่วโลกจะลดลง 93% จาก 973.7 ล้านบัญชีในปี 2024 เหลือ 68.3 ล้านบัญชีในปี 2025 แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ใช้ยังคงต้อง เฝ้าระวัง เนื่องจาก ภัยคุกคามทางไซเบอร์ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Surfshark รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2004 มีข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรถูกเปิดเผยไปแล้วกว่า 1.2 พันล้านรายการ รวมถึง 79.2 ล้านอีเมลและ 238.4 ล้านรหัสผ่าน ✅ จำนวนบัญชีที่ถูกละเมิด - 2.2 ล้านบัญชี ในสหราชอาณาจักรในช่วงสามเดือนแรกของปี 2025 - เฉลี่ย 17 บัญชีถูกละเมิดทุกนาที ✅ ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด - สหรัฐฯ (16.9 ล้านบัญชี) - รัสเซีย (4.4 ล้านบัญชี) - อินเดีย (4.2 ล้านบัญชี) - เยอรมนี (3.9 ล้านบัญชี) - สเปน (2.4 ล้านบัญชี) ✅ แนวโน้มการละเมิดข้อมูลทั่วโลก - ลดลง 93% จาก 973.7 ล้านบัญชีในปี 2024 เหลือ 68.3 ล้านบัญชีในปี 2025 - ในสหราชอาณาจักรลดลง 49% เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ✅ มาตรการป้องกันข้อมูลส่วนตัว - ใช้ เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน เพื่อสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย - เปิดใช้งาน การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) - หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่น่าสงสัยเพื่อป้องกัน ฟิชชิ่ง https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/people-should-remain-vigilant-over-2-million-british-accounts-have-already-been-leaked-in-2025-despite-a-global-downtick
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windhawk ซึ่งเป็นเครื่องมือปรับแต่ง Windows 11 ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ที่รองรับ Arm64 ทำให้ผู้ใช้ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Snapdragon สามารถปรับแต่งระบบปฏิบัติการได้มากขึ้น

    ก่อนหน้านี้ Windhawk รองรับเฉพาะ AMD และ Intel CPUs แต่เวอร์ชัน 1.6 ได้รับการปรับแต่งให้ทำงานบน Windows 11 Arm64 อย่างไรก็ตาม บางม็อดอาจต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์บนระบบ Arm

    Windhawk เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เลือกและติดตั้งม็อดต่างๆ เพื่อปรับแต่ง Windows 11 เช่น การเปลี่ยนแปลงแถบงาน, ปรับแต่งเมนู Start หรือใช้ธีม Windows Vista เพื่อให้ระบบมีรูปลักษณ์ย้อนยุค

    ✅ การรองรับ Arm64
    - Windhawk เวอร์ชัน 1.6 รองรับ Windows 11 Arm64
    - ผู้ใช้ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Snapdragon สามารถติดตั้งและใช้งานได้

    ✅ การปรับแต่ง Windows 11
    - สามารถเปลี่ยนแปลง แถบงาน, เมนู Start และธีม
    - มีธีม Windows Vista สำหรับผู้ที่ต้องการรูปลักษณ์ย้อนยุค

    ✅ ข้อจำกัดของเวอร์ชัน Arm64
    - บางม็อดอาจต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ทำงานได้บนระบบ Arm
    - การปรับแต่งโปรแกรม x86 และ x64 บน Windows 11 Arm64 ยังมีข้อจำกัด

    ✅ ข้อควรระวังในการติดตั้ง
    - Windhawk เป็น ซอฟต์แวร์จากบุคคลที่สาม ผู้ใช้ควรตรวจสอบความปลอดภัยก่อนติดตั้ง
    - การใช้ม็อดอาจส่งผลต่อ การอัปเดต Windows 11 และอาจทำให้เกิดปัญหากับแพตช์ของ Microsoft

    https://www.techradar.com/computing/windows/copilot-pcs-with-snapdragon-cpus-can-now-install-popular-tool-that-lets-you-customize-windows-11-and-improve-the-start-menu-in-ways-that-microsoft-wont-entertain
    Windhawk ซึ่งเป็นเครื่องมือปรับแต่ง Windows 11 ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ที่รองรับ Arm64 ทำให้ผู้ใช้ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Snapdragon สามารถปรับแต่งระบบปฏิบัติการได้มากขึ้น ก่อนหน้านี้ Windhawk รองรับเฉพาะ AMD และ Intel CPUs แต่เวอร์ชัน 1.6 ได้รับการปรับแต่งให้ทำงานบน Windows 11 Arm64 อย่างไรก็ตาม บางม็อดอาจต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์บนระบบ Arm Windhawk เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เลือกและติดตั้งม็อดต่างๆ เพื่อปรับแต่ง Windows 11 เช่น การเปลี่ยนแปลงแถบงาน, ปรับแต่งเมนู Start หรือใช้ธีม Windows Vista เพื่อให้ระบบมีรูปลักษณ์ย้อนยุค ✅ การรองรับ Arm64 - Windhawk เวอร์ชัน 1.6 รองรับ Windows 11 Arm64 - ผู้ใช้ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Snapdragon สามารถติดตั้งและใช้งานได้ ✅ การปรับแต่ง Windows 11 - สามารถเปลี่ยนแปลง แถบงาน, เมนู Start และธีม - มีธีม Windows Vista สำหรับผู้ที่ต้องการรูปลักษณ์ย้อนยุค ✅ ข้อจำกัดของเวอร์ชัน Arm64 - บางม็อดอาจต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ทำงานได้บนระบบ Arm - การปรับแต่งโปรแกรม x86 และ x64 บน Windows 11 Arm64 ยังมีข้อจำกัด ✅ ข้อควรระวังในการติดตั้ง - Windhawk เป็น ซอฟต์แวร์จากบุคคลที่สาม ผู้ใช้ควรตรวจสอบความปลอดภัยก่อนติดตั้ง - การใช้ม็อดอาจส่งผลต่อ การอัปเดต Windows 11 และอาจทำให้เกิดปัญหากับแพตช์ของ Microsoft https://www.techradar.com/computing/windows/copilot-pcs-with-snapdragon-cpus-can-now-install-popular-tool-that-lets-you-customize-windows-11-and-improve-the-start-menu-in-ways-that-microsoft-wont-entertain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • Acer ได้เปิดตัว Reliability Promise ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวน หากอุปกรณ์ที่ซื้อมีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน

    นโยบายนี้ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro รวมถึง จอภาพและโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะรุ่นที่มี เทคโนโลยี Vero และ SpatialLabs 3D ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Acer ไม่ได้จำกัดข้อเสนอเฉพาะอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น

    ธุรกิจที่ต้องการใช้สิทธิ์ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า และสามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ไม่ครอบคลุมถึง ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม

    Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม และกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกันของตนเอง

    ✅ เงื่อนไขการรับเงินคืน
    - หากอุปกรณ์มีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน
    - ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro, จอภาพ และโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ

    ✅ ข้อกำหนดในการลงทะเบียน
    - ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า
    - สามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม

    ✅ ข้อจำกัดของนโยบาย
    - ไม่ครอบคลุม ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม
    - ใช้ได้เฉพาะธุรกิจที่ลงทะเบียน VAT เท่านั้น

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม
    - อาจกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกัน

    https://www.techradar.com/pro/acer-just-did-something-that-all-computer-vendors-should-copy-right-now-heres-what-you-need-to-know-about-its-game-changing-move
    Acer ได้เปิดตัว Reliability Promise ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวน หากอุปกรณ์ที่ซื้อมีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน นโยบายนี้ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro รวมถึง จอภาพและโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะรุ่นที่มี เทคโนโลยี Vero และ SpatialLabs 3D ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Acer ไม่ได้จำกัดข้อเสนอเฉพาะอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น ธุรกิจที่ต้องการใช้สิทธิ์ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า และสามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ไม่ครอบคลุมถึง ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม และกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกันของตนเอง ✅ เงื่อนไขการรับเงินคืน - หากอุปกรณ์มีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน - ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro, จอภาพ และโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ ✅ ข้อกำหนดในการลงทะเบียน - ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า - สามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม ✅ ข้อจำกัดของนโยบาย - ไม่ครอบคลุม ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม - ใช้ได้เฉพาะธุรกิจที่ลงทะเบียน VAT เท่านั้น ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม - อาจกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกัน https://www.techradar.com/pro/acer-just-did-something-that-all-computer-vendors-should-copy-right-now-heres-what-you-need-to-know-about-its-game-changing-move
    WWW.TECHRADAR.COM
    Your company’s next laptop could pay for itself if it fails — Acer’s wild refund plan explained
    Acer's new Reliability Promise offers a full refund if your professional device hardware fails
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีเทรนด์ใหม่ที่กำลังเป็นไวรัลในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการใช้ ChatGPT เพื่อสร้างภาพซ้ำ ๆ โดยผู้ใช้บน Reddit ได้ทดลองให้ AI สร้างภาพของ Dwayne "The Rock" Johnson ซ้ำถึง 101 ครั้ง ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายกลายเป็น งานศิลปะแนวแอบสแตรกต์ ที่แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม

    เทรนด์นี้เริ่มจากการใช้คำสั่ง "สร้างภาพที่เหมือนต้นฉบับทุกประการ อย่าเปลี่ยนแปลงอะไรเลย" แต่เมื่อ AI สร้างภาพใหม่ซ้ำไปเรื่อย ๆ รายละเอียดของภาพเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย จนสุดท้ายกลายเป็นภาพที่ดูเหมือน ศิลปะแนวทดลอง มากกว่าภาพต้นฉบับ

    อย่างไรก็ตาม เทรนด์นี้กำลังเผชิญกับ กระแสต่อต้าน เนื่องจากการสร้างภาพซ้ำ ๆ จำนวนมากใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมหาศาล โดยมีผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งคำนวณว่า การสร้างภาพ 100 ครั้งใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1 kWh ซึ่งเทียบเท่ากับ การเปิดตู้เย็นทั้งวัน หรือการชงกาแฟ 20 แก้ว

    ✅ การทดลองสร้างภาพซ้ำ 101 ครั้ง
    - ผู้ใช้ Reddit ทดลองให้ AI สร้างภาพของ Dwayne "The Rock" Johnson ซ้ำหลายครั้ง
    - ผลลัพธ์สุดท้ายกลายเป็น งานศิลปะแนวแอบสแตรกต์

    ✅ กระบวนการเปลี่ยนแปลงของภาพ
    - AI เปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อยในแต่ละครั้ง
    - สุดท้ายภาพต้นฉบับแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม

    ✅ กระแสความนิยมของเทรนด์นี้
    - มีผู้ใช้ Reddit กว่า 42,000 คน กดถูกใจโพสต์นี้
    - มีความคิดเห็นกว่า 3,000 รายการ

    ✅ ผลกระทบต่อการใช้พลังงาน
    - การสร้างภาพ 100 ครั้งใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1 kWh
    - เทียบเท่ากับ การเปิดตู้เย็นทั้งวัน หรือการชงกาแฟ 20 แก้ว

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/viral-chatgpt-trend-gone-wrong-the-rock-is-turned-into-horrible-abstract-art-after-reddit-user-recreates-image-101-times
    มีเทรนด์ใหม่ที่กำลังเป็นไวรัลในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการใช้ ChatGPT เพื่อสร้างภาพซ้ำ ๆ โดยผู้ใช้บน Reddit ได้ทดลองให้ AI สร้างภาพของ Dwayne "The Rock" Johnson ซ้ำถึง 101 ครั้ง ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายกลายเป็น งานศิลปะแนวแอบสแตรกต์ ที่แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม เทรนด์นี้เริ่มจากการใช้คำสั่ง "สร้างภาพที่เหมือนต้นฉบับทุกประการ อย่าเปลี่ยนแปลงอะไรเลย" แต่เมื่อ AI สร้างภาพใหม่ซ้ำไปเรื่อย ๆ รายละเอียดของภาพเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย จนสุดท้ายกลายเป็นภาพที่ดูเหมือน ศิลปะแนวทดลอง มากกว่าภาพต้นฉบับ อย่างไรก็ตาม เทรนด์นี้กำลังเผชิญกับ กระแสต่อต้าน เนื่องจากการสร้างภาพซ้ำ ๆ จำนวนมากใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมหาศาล โดยมีผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งคำนวณว่า การสร้างภาพ 100 ครั้งใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1 kWh ซึ่งเทียบเท่ากับ การเปิดตู้เย็นทั้งวัน หรือการชงกาแฟ 20 แก้ว ✅ การทดลองสร้างภาพซ้ำ 101 ครั้ง - ผู้ใช้ Reddit ทดลองให้ AI สร้างภาพของ Dwayne "The Rock" Johnson ซ้ำหลายครั้ง - ผลลัพธ์สุดท้ายกลายเป็น งานศิลปะแนวแอบสแตรกต์ ✅ กระบวนการเปลี่ยนแปลงของภาพ - AI เปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อยในแต่ละครั้ง - สุดท้ายภาพต้นฉบับแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ✅ กระแสความนิยมของเทรนด์นี้ - มีผู้ใช้ Reddit กว่า 42,000 คน กดถูกใจโพสต์นี้ - มีความคิดเห็นกว่า 3,000 รายการ ✅ ผลกระทบต่อการใช้พลังงาน - การสร้างภาพ 100 ครั้งใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1 kWh - เทียบเท่ากับ การเปิดตู้เย็นทั้งวัน หรือการชงกาแฟ 20 แก้ว https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/viral-chatgpt-trend-gone-wrong-the-rock-is-turned-into-horrible-abstract-art-after-reddit-user-recreates-image-101-times
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข้อมูล AI ในจีนกำลัง รื้อถอนและขายต่อ การ์ดจอ Nvidia RTX 4090D ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ โดยการ์ดเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของจีน แต่ปัจจุบันถูกนำออกจากชั้นวางและขายในตลาดเปิด

    รายงานจาก DigiTimes Asia ระบุว่าผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลพบว่า การขายต่อ GPU ให้ผลตอบแทนเร็วกว่า การรอคืนนทุนจากการให้เช่า GPU ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 3-5 ปี

    การ์ด RTX 4090D แต่ละใบขายในราคาประมาณ 20,000-40,000 หยวน (ประมาณ 2,735-5,470 ดอลลาร์สหรัฐฯ) และต้องมีการปรับแต่งก่อนนำไปขายให้ผู้ใช้ทั่วไป เช่น เปลี่ยนระบบระบายความร้อนจากแบบพัดลมเป็นแบบ blower-style

    นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าการขายต่อเหล่านี้เกิดจาก ภาวะโอเวอร์แคปาซิตี้ เนื่องจากจีนเร่งสร้างศูนย์ข้อมูล AI ตามนโยบายของรัฐ แต่ความต้องการใช้งานจริงกลับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

    นอกจากนี้ ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ เช่น การห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลจีนต้องปรับตัว โดยเปลี่ยนจากระบบที่เน้นการฝึกโมเดล AI ไปเป็นระบบที่รองรับ การประมวลผลแบบเรียลไทม์ (real-time inference)

    ✅ เหตุผลในการรื้อถอนและขายต่อ
    - ศูนย์ข้อมูลพบว่า การขายต่อ GPU ให้ผลตอบแทนเร็วกว่า การรอคืนนทุนจากการให้เช่า
    - ราคาขายต่ออยู่ที่ 20,000-40,000 หยวน (ประมาณ 2,735-5,470 ดอลลาร์สหรัฐฯ)

    ✅ การปรับแต่งก่อนขายให้ผู้ใช้ทั่วไป
    - ต้องเปลี่ยนระบบระบายความร้อนจาก แบบพัดลมเป็นแบบ blower-style
    - การ์ดที่ถูกใช้งานแล้วต้องผ่านการรีเฟอร์บิชก่อนขาย

    ✅ ภาวะโอเวอร์แคปาซิตี้ของศูนย์ข้อมูล AI ในจีน
    - จีนเร่งสร้างศูนย์ข้อมูล AI ตามนโยบายของรัฐ
    - ความต้องการใช้งานจริงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ✅ ผลกระทบจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ
    - การห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 ทำให้ศูนย์ข้อมูลจีนต้องปรับตัว
    - เปลี่ยนจากระบบที่เน้นการฝึกโมเดล AI ไปเป็น การประมวลผลแบบเรียลไทม์

    https://www.techradar.com/pro/data-centers-in-china-are-dumping-rare-48gb-nvidia-rtx-4090d-gpus-for-nearly-usd6-000-but-the-exact-reason-remains-a-mystery
    ศูนย์ข้อมูล AI ในจีนกำลัง รื้อถอนและขายต่อ การ์ดจอ Nvidia RTX 4090D ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ โดยการ์ดเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของจีน แต่ปัจจุบันถูกนำออกจากชั้นวางและขายในตลาดเปิด รายงานจาก DigiTimes Asia ระบุว่าผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลพบว่า การขายต่อ GPU ให้ผลตอบแทนเร็วกว่า การรอคืนนทุนจากการให้เช่า GPU ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 3-5 ปี การ์ด RTX 4090D แต่ละใบขายในราคาประมาณ 20,000-40,000 หยวน (ประมาณ 2,735-5,470 ดอลลาร์สหรัฐฯ) และต้องมีการปรับแต่งก่อนนำไปขายให้ผู้ใช้ทั่วไป เช่น เปลี่ยนระบบระบายความร้อนจากแบบพัดลมเป็นแบบ blower-style นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าการขายต่อเหล่านี้เกิดจาก ภาวะโอเวอร์แคปาซิตี้ เนื่องจากจีนเร่งสร้างศูนย์ข้อมูล AI ตามนโยบายของรัฐ แต่ความต้องการใช้งานจริงกลับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ เช่น การห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลจีนต้องปรับตัว โดยเปลี่ยนจากระบบที่เน้นการฝึกโมเดล AI ไปเป็นระบบที่รองรับ การประมวลผลแบบเรียลไทม์ (real-time inference) ✅ เหตุผลในการรื้อถอนและขายต่อ - ศูนย์ข้อมูลพบว่า การขายต่อ GPU ให้ผลตอบแทนเร็วกว่า การรอคืนนทุนจากการให้เช่า - ราคาขายต่ออยู่ที่ 20,000-40,000 หยวน (ประมาณ 2,735-5,470 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ✅ การปรับแต่งก่อนขายให้ผู้ใช้ทั่วไป - ต้องเปลี่ยนระบบระบายความร้อนจาก แบบพัดลมเป็นแบบ blower-style - การ์ดที่ถูกใช้งานแล้วต้องผ่านการรีเฟอร์บิชก่อนขาย ✅ ภาวะโอเวอร์แคปาซิตี้ของศูนย์ข้อมูล AI ในจีน - จีนเร่งสร้างศูนย์ข้อมูล AI ตามนโยบายของรัฐ - ความต้องการใช้งานจริงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ✅ ผลกระทบจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ - การห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 ทำให้ศูนย์ข้อมูลจีนต้องปรับตัว - เปลี่ยนจากระบบที่เน้นการฝึกโมเดล AI ไปเป็น การประมวลผลแบบเรียลไทม์ https://www.techradar.com/pro/data-centers-in-china-are-dumping-rare-48gb-nvidia-rtx-4090d-gpus-for-nearly-usd6-000-but-the-exact-reason-remains-a-mystery
    WWW.TECHRADAR.COM
    Too many GPUs, not enough demand: China’s AI centers start flipping rare Nvidia RTX 4090Ds
    It could be a bid to make easy money, or they could be preparing to upgrade
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลสูงรัฐกรณาฏกะของอินเดียได้มีคำสั่งให้รัฐบาลอินเดีย บล็อก Proton Mail ซึ่งเป็นบริการอีเมลเข้ารหัสจากสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากบริษัทในกรุงนิวเดลีร้องเรียนว่ามีผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนส่ง อีเมลที่มีเนื้อหาหมิ่นประมาทและภาพ deepfake ไปยังพนักงานหญิงของบริษัท

    คำสั่งบล็อกนี้ออกภายใต้ มาตรา 69 ของพระราชบัญญัติเทคโนโลยีสารสนเทศปี 2008 ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลอินเดีย บล็อกเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม Proton Mail ระบุว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์กำลังเจรจากับทางการอินเดีย เพื่อป้องกันการบล็อกบริการนี้

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Proton Mail ถูกขู่ว่าจะถูกบล็อกในอินเดีย ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีข้อเสนอให้บล็อกบริการนี้หลังจากพบว่า มีการใช้ Proton Mail ในการส่งคำขู่ระเบิดปลอม

    ✅ เหตุผลในการบล็อก Proton Mail
    - บริษัทในกรุงนิวเดลีร้องเรียนว่ามีผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนส่ง อีเมลที่มีเนื้อหาหมิ่นประมาทและภาพ deepfake ไปยังพนักงานหญิง
    - คำสั่งบล็อกออกภายใต้ มาตรา 69 ของพระราชบัญญัติเทคโนโลยีสารสนเทศปี 2008

    ✅ การตอบสนองของ Proton Mail
    - Proton Mail ระบุว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์กำลังเจรจากับทางการอินเดีย เพื่อป้องกันการบล็อก
    - บริการยังสามารถเข้าถึงได้ในอินเดีย ณ วันที่ 30 เมษายน 2025

    ✅ เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
    - ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีข้อเสนอให้บล็อก Proton Mail หลังจากพบว่า มีการใช้บริการนี้ในการส่งคำขู่ระเบิดปลอม

    ✅ Proton Mail และบริการอื่นๆ
    - Proton Mail เป็นบริการอีเมลเข้ารหัสที่ได้รับความนิยม
    - บริษัทยังให้บริการ Proton VPN, Proton Drive และ Proton Calendar

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/proton-mail-hit-with-blocking-order-in-india-heres-everything-we-know-so-far
    ศาลสูงรัฐกรณาฏกะของอินเดียได้มีคำสั่งให้รัฐบาลอินเดีย บล็อก Proton Mail ซึ่งเป็นบริการอีเมลเข้ารหัสจากสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากบริษัทในกรุงนิวเดลีร้องเรียนว่ามีผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนส่ง อีเมลที่มีเนื้อหาหมิ่นประมาทและภาพ deepfake ไปยังพนักงานหญิงของบริษัท คำสั่งบล็อกนี้ออกภายใต้ มาตรา 69 ของพระราชบัญญัติเทคโนโลยีสารสนเทศปี 2008 ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลอินเดีย บล็อกเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม Proton Mail ระบุว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์กำลังเจรจากับทางการอินเดีย เพื่อป้องกันการบล็อกบริการนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Proton Mail ถูกขู่ว่าจะถูกบล็อกในอินเดีย ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีข้อเสนอให้บล็อกบริการนี้หลังจากพบว่า มีการใช้ Proton Mail ในการส่งคำขู่ระเบิดปลอม ✅ เหตุผลในการบล็อก Proton Mail - บริษัทในกรุงนิวเดลีร้องเรียนว่ามีผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนส่ง อีเมลที่มีเนื้อหาหมิ่นประมาทและภาพ deepfake ไปยังพนักงานหญิง - คำสั่งบล็อกออกภายใต้ มาตรา 69 ของพระราชบัญญัติเทคโนโลยีสารสนเทศปี 2008 ✅ การตอบสนองของ Proton Mail - Proton Mail ระบุว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์กำลังเจรจากับทางการอินเดีย เพื่อป้องกันการบล็อก - บริการยังสามารถเข้าถึงได้ในอินเดีย ณ วันที่ 30 เมษายน 2025 ✅ เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ - ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีข้อเสนอให้บล็อก Proton Mail หลังจากพบว่า มีการใช้บริการนี้ในการส่งคำขู่ระเบิดปลอม ✅ Proton Mail และบริการอื่นๆ - Proton Mail เป็นบริการอีเมลเข้ารหัสที่ได้รับความนิยม - บริษัทยังให้บริการ Proton VPN, Proton Drive และ Proton Calendar https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/proton-mail-hit-with-blocking-order-in-india-heres-everything-we-know-so-far
    WWW.TECHRADAR.COM
    Proton Mail hit with blocking order in India - here's everything we know so far
    Proton Mail could soon stop working in India after a court ruling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • Co-op กำลังเผชิญกับ ความพยายามโจมตีทางไซเบอร์ และได้ตัดสินใจ ปิดระบบไอทีบางส่วน เพื่อป้องกันการเข้าถึงของแฮกเกอร์

    แม้ว่าการโจมตีจะมี ผลกระทบเพียงเล็กน้อย ต่อระบบหลังบ้านและศูนย์บริการลูกค้า แต่ Co-op ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก Marks & Spencer (M&S) ประสบปัญหาจาก ScatteredSpider ransomware ซึ่งทำให้ระบบ การสั่งซื้อออนไลน์, การชำระเงินแบบไร้สัมผัส และบริการ Click and Collect ล่ม

    Co-op ได้ส่งจดหมายถึงพนักงานเพื่อแจ้งว่าบริษัทได้ ถอนการเข้าถึงบางระบบเป็นการชั่วคราว เพื่อรักษาความปลอดภัย และยังไม่สามารถระบุได้ว่าการโจมตีนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ของ M&S หรือไม่

    ✅ มาตรการป้องกันของ Co-op
    - ปิดระบบไอทีบางส่วนเพื่อป้องกันการเข้าถึงของแฮกเกอร์
    - ส่งจดหมายแจ้งพนักงานเกี่ยวกับการถอนการเข้าถึงบางระบบ

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจ
    - มีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อระบบหลังบ้านและศูนย์บริการลูกค้า
    - ร้านค้าและธุรกิจด้านงานศพยังคงดำเนินการตามปกติ

    ✅ เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ M&S
    - M&S ถูกโจมตีด้วย ScatteredSpider ransomware
    - ระบบการสั่งซื้อออนไลน์และการชำระเงินได้รับผลกระทบ

    ✅ การสอบสวนของตำรวจ
    - ตำรวจนครบาลกำลังสอบสวนการโจมตีของ M&S
    - เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายหลายล้านปอนด์

    https://www.techradar.com/pro/security/co-op-fending-off-hackers-by-shutting-down-it-systems
    Co-op กำลังเผชิญกับ ความพยายามโจมตีทางไซเบอร์ และได้ตัดสินใจ ปิดระบบไอทีบางส่วน เพื่อป้องกันการเข้าถึงของแฮกเกอร์ แม้ว่าการโจมตีจะมี ผลกระทบเพียงเล็กน้อย ต่อระบบหลังบ้านและศูนย์บริการลูกค้า แต่ Co-op ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก Marks & Spencer (M&S) ประสบปัญหาจาก ScatteredSpider ransomware ซึ่งทำให้ระบบ การสั่งซื้อออนไลน์, การชำระเงินแบบไร้สัมผัส และบริการ Click and Collect ล่ม Co-op ได้ส่งจดหมายถึงพนักงานเพื่อแจ้งว่าบริษัทได้ ถอนการเข้าถึงบางระบบเป็นการชั่วคราว เพื่อรักษาความปลอดภัย และยังไม่สามารถระบุได้ว่าการโจมตีนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ของ M&S หรือไม่ ✅ มาตรการป้องกันของ Co-op - ปิดระบบไอทีบางส่วนเพื่อป้องกันการเข้าถึงของแฮกเกอร์ - ส่งจดหมายแจ้งพนักงานเกี่ยวกับการถอนการเข้าถึงบางระบบ ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจ - มีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อระบบหลังบ้านและศูนย์บริการลูกค้า - ร้านค้าและธุรกิจด้านงานศพยังคงดำเนินการตามปกติ ✅ เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ M&S - M&S ถูกโจมตีด้วย ScatteredSpider ransomware - ระบบการสั่งซื้อออนไลน์และการชำระเงินได้รับผลกระทบ ✅ การสอบสวนของตำรวจ - ตำรวจนครบาลกำลังสอบสวนการโจมตีของ M&S - เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายหลายล้านปอนด์ https://www.techradar.com/pro/security/co-op-fending-off-hackers-by-shutting-down-it-systems
    WWW.TECHRADAR.COM
    Co-op fending off hackers by shutting down IT systems
    Systems are cordoned off as Co-op defends against a cyberattack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังพัฒนา การแก้ไขปัญหาหลายรายการใน Outlook และ SharePoint Online หลังจากพบข้อบกพร่องที่ส่งผลกระทบต่อการค้นหาและการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ

    ปัญหาหลักที่พบคือ การค้นหาใน Outlook บนเว็บและ SharePoint Onlineล่าช้าและล้มเหลว ซึ่ง Microsoft ระบุว่าเกิดจาก โครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่บริษัทยังคง เฝ้าติดตามประสิทธิภาพของระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์

    นอกจากนี้ Microsoft ยังพบ ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับฟีเจอร์ Paste Special ใน Outlook รุ่นคลาสสิก โดยเมื่อผู้ใช้กด Ctrl+Alt+V เพื่อใช้ฟีเจอร์นี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งบริษัทได้แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้ต้องรอการอัปเดตในช่วง ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม ขึ้นอยู่กับช่องทางการอัปเดตที่ใช้งาน

    Microsoft เคยเผชิญกับปัญหาคล้ายกันในอดีต เช่น ข้อผิดพลาดในการค้นหาใน Outlook.com ในเดือนกรกฎาคม 2023 และ การหยุดให้บริการของ Exchange Online ในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัญหาด้านเสถียรภาพของบริการออนไลน์ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง

    ✅ ปัญหาการค้นหาใน Outlook และ SharePoint Online
    - การค้นหาล่าช้าและล้มเหลว
    - เกิดจากโครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

    ✅ การแก้ไขและการเฝ้าติดตามของ Microsoft
    - มีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว
    - บริษัทยังคงเฝ้าติดตามประสิทธิภาพของระบบ

    ✅ ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับฟีเจอร์ Paste Special ใน Outlook
    - เมื่อกด Ctrl+Alt+V ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    - แก้ไขแล้ว แต่ต้องรอการอัปเดตในช่วง ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม

    ✅ ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
    - ข้อผิดพลาดในการค้นหาใน Outlook.com ในเดือนกรกฎาคม 2023
    - การหยุดให้บริการของ Exchange Online ในเดือนมีนาคม 2025

    https://www.techradar.com/pro/microsoft-developing-fixes-for-multiple-outlook-and-sharepoint-online-bugs-and-outage
    Microsoft กำลังพัฒนา การแก้ไขปัญหาหลายรายการใน Outlook และ SharePoint Online หลังจากพบข้อบกพร่องที่ส่งผลกระทบต่อการค้นหาและการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ปัญหาหลักที่พบคือ การค้นหาใน Outlook บนเว็บและ SharePoint Onlineล่าช้าและล้มเหลว ซึ่ง Microsoft ระบุว่าเกิดจาก โครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่บริษัทยังคง เฝ้าติดตามประสิทธิภาพของระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ Microsoft ยังพบ ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับฟีเจอร์ Paste Special ใน Outlook รุ่นคลาสสิก โดยเมื่อผู้ใช้กด Ctrl+Alt+V เพื่อใช้ฟีเจอร์นี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งบริษัทได้แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้ต้องรอการอัปเดตในช่วง ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม ขึ้นอยู่กับช่องทางการอัปเดตที่ใช้งาน Microsoft เคยเผชิญกับปัญหาคล้ายกันในอดีต เช่น ข้อผิดพลาดในการค้นหาใน Outlook.com ในเดือนกรกฎาคม 2023 และ การหยุดให้บริการของ Exchange Online ในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัญหาด้านเสถียรภาพของบริการออนไลน์ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง ✅ ปัญหาการค้นหาใน Outlook และ SharePoint Online - การค้นหาล่าช้าและล้มเหลว - เกิดจากโครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ✅ การแก้ไขและการเฝ้าติดตามของ Microsoft - มีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว - บริษัทยังคงเฝ้าติดตามประสิทธิภาพของระบบ ✅ ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับฟีเจอร์ Paste Special ใน Outlook - เมื่อกด Ctrl+Alt+V ไม่มีอะไรเกิดขึ้น - แก้ไขแล้ว แต่ต้องรอการอัปเดตในช่วง ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม ✅ ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต - ข้อผิดพลาดในการค้นหาใน Outlook.com ในเดือนกรกฎาคม 2023 - การหยุดให้บริการของ Exchange Online ในเดือนมีนาคม 2025 https://www.techradar.com/pro/microsoft-developing-fixes-for-multiple-outlook-and-sharepoint-online-bugs-and-outage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังสร้างความท้าทายด้าน ความปลอดภัยไซเบอร์ และ โครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย โดยรายงานจาก Expereo พบว่า เกือบ 20% ขององค์กรในสหรัฐฯ ประสบปัญหาด้านความปลอดภัยจากการใช้ AI

    นอกจากนี้ 41% ขององค์กรทั่วโลก เผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แม้ว่าความปลอดภัยจะเป็น ลำดับที่สองของการลงทุน รองจาก เครือข่ายและการเชื่อมต่อ (43%)

    ความคาดหวังเกี่ยวกับ AI ในองค์กรยังคงสูงเกินจริง โดย หนึ่งในสามของ CIO ทั่วโลก เชื่อว่าคณะกรรมการบริษัทมีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับผลกระทบของ AI และ 27% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ มีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน

    ✅ ผลกระทบด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - เกือบ 20% ขององค์กรในสหรัฐฯ ประสบปัญหาด้านความปลอดภัยจากการใช้ AI
    - 41% ขององค์กรทั่วโลก เผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ การลงทุนด้านเทคโนโลยี
    - ความปลอดภัยไซเบอร์เป็น ลำดับที่สองของการลงทุน (38%)
    - เครือข่ายและการเชื่อมต่อเป็น ลำดับแรกของการลงทุน (43%)

    ✅ ความคาดหวังเกี่ยวกับ AI
    - หนึ่งในสามของ CIO ทั่วโลก เชื่อว่าคณะกรรมการบริษัทมีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับ AI
    - 27% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ มีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน

    ✅ ผลกระทบจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
    - 50% ขององค์กรในสหรัฐฯ ระบุว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลต่อกลยุทธ์การเติบโตของพวกเขา
    - 34% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานเนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

    https://www.techradar.com/pro/rushed-ai-deployments-and-skills-shortages-are-putting-businesses-at-risk
    การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังสร้างความท้าทายด้าน ความปลอดภัยไซเบอร์ และ โครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย โดยรายงานจาก Expereo พบว่า เกือบ 20% ขององค์กรในสหรัฐฯ ประสบปัญหาด้านความปลอดภัยจากการใช้ AI นอกจากนี้ 41% ขององค์กรทั่วโลก เผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แม้ว่าความปลอดภัยจะเป็น ลำดับที่สองของการลงทุน รองจาก เครือข่ายและการเชื่อมต่อ (43%) ความคาดหวังเกี่ยวกับ AI ในองค์กรยังคงสูงเกินจริง โดย หนึ่งในสามของ CIO ทั่วโลก เชื่อว่าคณะกรรมการบริษัทมีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับผลกระทบของ AI และ 27% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ มีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน ✅ ผลกระทบด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - เกือบ 20% ขององค์กรในสหรัฐฯ ประสบปัญหาด้านความปลอดภัยจากการใช้ AI - 41% ขององค์กรทั่วโลก เผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ การลงทุนด้านเทคโนโลยี - ความปลอดภัยไซเบอร์เป็น ลำดับที่สองของการลงทุน (38%) - เครือข่ายและการเชื่อมต่อเป็น ลำดับแรกของการลงทุน (43%) ✅ ความคาดหวังเกี่ยวกับ AI - หนึ่งในสามของ CIO ทั่วโลก เชื่อว่าคณะกรรมการบริษัทมีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับ AI - 27% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ มีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน ✅ ผลกระทบจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ - 50% ขององค์กรในสหรัฐฯ ระบุว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลต่อกลยุทธ์การเติบโตของพวกเขา - 34% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานเนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ https://www.techradar.com/pro/rushed-ai-deployments-and-skills-shortages-are-putting-businesses-at-risk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windscribe ได้รับชัยชนะในคดีความเกี่ยวกับ VPN แบบไม่บันทึกข้อมูล (No-Log VPN) ในประเทศกรีซ หลังจากที่ Yegor Sak ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทถูกตั้งข้อหา "การเข้าถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยผิดกฎหมาย" เนื่องจากมีผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Windscribe ในฟินแลนด์เพื่อโจมตีเว็บไซต์ในกรีซ

    ศาลในกรุงเอเธนส์ตัดสินให้ ยกฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2025 เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่แสดงว่า Windscribe หรือ Sak มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด

    Sak ระบุว่าคดีนี้เป็นตัวอย่างที่น่ากังวลเกี่ยวกับ ความรับผิดชอบของผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านความเป็นส่วนตัว โดยหากคำตัดสินนี้ถูกยกเลิก อาจทำให้เจ้าของเซิร์ฟเวอร์ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตน

    ✅ การตั้งข้อหาและการพิจารณาคดี
    - Yegor Sak ถูกตั้งข้อหา "การเข้าถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยผิดกฎหมาย"
    - ผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Windscribe ในฟินแลนด์เพื่อโจมตีเว็บไซต์ในกรีซ
    - ศาลในกรุงเอเธนส์ตัดสินให้ ยกฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2025

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม VPN
    - คดีนี้เป็นชัยชนะสำหรับ VPN แบบไม่บันทึกข้อมูล (No-Log VPN)
    - Windscribe ยืนยันว่า ไม่มีบันทึกข้อมูลผู้ใช้ จึงไม่สามารถให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ได้

    ✅ ตัวอย่างจากบริษัทอื่น
    - Mullvad เคยพิสูจน์ความถูกต้องของนโยบาย No-Log หลังจากถูกตำรวจบุกค้นในปี 2023
    - Private Internet Access (PIA) เคยพิสูจน์นโยบาย No-Log ในศาลถึงสองครั้ง

    ✅ บทบาทของ VPN ในความเป็นส่วนตัวออนไลน์
    - VPN ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ท่องเว็บโดยไม่เปิดเผยตัวตน
    - นักวิจัยในสหภาพยุโรปมองว่า VPN เป็น "ความท้าทายสำคัญ" ต่อการบังคับใช้กฎหมาย

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/case-dismissed-windscribe-wins-landmark-no-log-vpn-lawsuit-in-greece
    Windscribe ได้รับชัยชนะในคดีความเกี่ยวกับ VPN แบบไม่บันทึกข้อมูล (No-Log VPN) ในประเทศกรีซ หลังจากที่ Yegor Sak ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทถูกตั้งข้อหา "การเข้าถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยผิดกฎหมาย" เนื่องจากมีผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Windscribe ในฟินแลนด์เพื่อโจมตีเว็บไซต์ในกรีซ ศาลในกรุงเอเธนส์ตัดสินให้ ยกฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2025 เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่แสดงว่า Windscribe หรือ Sak มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด Sak ระบุว่าคดีนี้เป็นตัวอย่างที่น่ากังวลเกี่ยวกับ ความรับผิดชอบของผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านความเป็นส่วนตัว โดยหากคำตัดสินนี้ถูกยกเลิก อาจทำให้เจ้าของเซิร์ฟเวอร์ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตน ✅ การตั้งข้อหาและการพิจารณาคดี - Yegor Sak ถูกตั้งข้อหา "การเข้าถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยผิดกฎหมาย" - ผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Windscribe ในฟินแลนด์เพื่อโจมตีเว็บไซต์ในกรีซ - ศาลในกรุงเอเธนส์ตัดสินให้ ยกฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2025 ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม VPN - คดีนี้เป็นชัยชนะสำหรับ VPN แบบไม่บันทึกข้อมูล (No-Log VPN) - Windscribe ยืนยันว่า ไม่มีบันทึกข้อมูลผู้ใช้ จึงไม่สามารถให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ได้ ✅ ตัวอย่างจากบริษัทอื่น - Mullvad เคยพิสูจน์ความถูกต้องของนโยบาย No-Log หลังจากถูกตำรวจบุกค้นในปี 2023 - Private Internet Access (PIA) เคยพิสูจน์นโยบาย No-Log ในศาลถึงสองครั้ง ✅ บทบาทของ VPN ในความเป็นส่วนตัวออนไลน์ - VPN ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ท่องเว็บโดยไม่เปิดเผยตัวตน - นักวิจัยในสหภาพยุโรปมองว่า VPN เป็น "ความท้าทายสำคัญ" ต่อการบังคับใช้กฎหมาย https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/case-dismissed-windscribe-wins-landmark-no-log-vpn-lawsuit-in-greece
    WWW.TECHRADAR.COM
    Case dismissed – Windscribe wins landmark no-log VPN lawsuit in Greece
    Windscribe's Co-Founder and CEO was charged in June 2023 on behalf of an anonymous user
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเตือนว่า คลื่นความร้อนในฤดูร้อนอาจส่งผลกระทบต่อเราเตอร์ Wi-Fi โดยเฉพาะหากวางไว้ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม เช่น ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง หรือ ในตู้ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศ

    Virgin Media ผู้ให้บริการบรอดแบนด์ในสหราชอาณาจักรแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการวางเราเตอร์ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง หรือในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เราเตอร์หยุดทำงาน

    นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำเกี่ยวกับ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเราเตอร์ เช่น ควรอยู่ห่างจากโทรศัพท์ไร้สายและอุปกรณ์ที่อาจรบกวนสัญญาณ Wi-Fi อย่างน้อย 1 เมตร และ ควรวางในที่สูงและไม่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อให้สัญญาณกระจายได้ดีขึ้น

    ✅ ตำแหน่งที่ควรหลีกเลี่ยง
    - ไม่ควรวางเราเตอร์ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง
    - ไม่ควรวางในตู้ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศ

    ✅ ผลกระทบของอุณหภูมิสูงต่อเราเตอร์
    - อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง
    - ในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เราเตอร์หยุดทำงาน

    ✅ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเราเตอร์
    - ควรอยู่ห่างจากโทรศัพท์ไร้สายและอุปกรณ์ที่อาจรบกวนสัญญาณ Wi-Fi อย่างน้อย 1 เมตร
    - ควรวางในที่สูงและไม่มีสิ่งกีดขวาง

    ✅ วิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi
    - ใช้ Wi-Fi extender หากต้องการเพิ่มระยะสัญญาณ
    - เปลี่ยน Wi-Fi channel เพื่อลดการรบกวนจากเครือข่ายอื่น

    https://www.techradar.com/computing/wi-fi-broadband/experts-warn-of-heatwave-danger-to-routers-so-act-now-before-summer-kicks-in-and-temperatures-could-really-soar-to-the-point-that-kills-your-wi-fi
    ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเตือนว่า คลื่นความร้อนในฤดูร้อนอาจส่งผลกระทบต่อเราเตอร์ Wi-Fi โดยเฉพาะหากวางไว้ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม เช่น ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง หรือ ในตู้ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศ Virgin Media ผู้ให้บริการบรอดแบนด์ในสหราชอาณาจักรแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการวางเราเตอร์ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง หรือในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เราเตอร์หยุดทำงาน นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำเกี่ยวกับ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเราเตอร์ เช่น ควรอยู่ห่างจากโทรศัพท์ไร้สายและอุปกรณ์ที่อาจรบกวนสัญญาณ Wi-Fi อย่างน้อย 1 เมตร และ ควรวางในที่สูงและไม่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อให้สัญญาณกระจายได้ดีขึ้น ✅ ตำแหน่งที่ควรหลีกเลี่ยง - ไม่ควรวางเราเตอร์ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง - ไม่ควรวางในตู้ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศ ✅ ผลกระทบของอุณหภูมิสูงต่อเราเตอร์ - อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง - ในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เราเตอร์หยุดทำงาน ✅ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเราเตอร์ - ควรอยู่ห่างจากโทรศัพท์ไร้สายและอุปกรณ์ที่อาจรบกวนสัญญาณ Wi-Fi อย่างน้อย 1 เมตร - ควรวางในที่สูงและไม่มีสิ่งกีดขวาง ✅ วิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi - ใช้ Wi-Fi extender หากต้องการเพิ่มระยะสัญญาณ - เปลี่ยน Wi-Fi channel เพื่อลดการรบกวนจากเครือข่ายอื่น https://www.techradar.com/computing/wi-fi-broadband/experts-warn-of-heatwave-danger-to-routers-so-act-now-before-summer-kicks-in-and-temperatures-could-really-soar-to-the-point-that-kills-your-wi-fi
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google รายงานว่าในปี 2024 มีการใช้ช่องโหว่ zero-day จำนวน 75 รายการ โดยส่วนใหญ่ถูกใช้ใน การโจมตีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเฉพาะจาก จีนและเกาหลีเหนือ

    แม้ว่าจำนวนช่องโหว่ zero-day จะลดลงจาก 98 รายการในปี 2023 แต่แนวโน้มในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า การใช้ช่องโหว่เหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    Google พบว่า 44% ของช่องโหว่ zero-day ในปี 2024 ถูกใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 37% ในปี 2023 โดยเฉพาะช่องโหว่ใน ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์เครือข่าย

    นอกจากนี้ รัฐบาลเป็นผู้ใช้ช่องโหว่ zero-day มากที่สุด โดย 50% ของช่องโหว่ที่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ถูกใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลหรือบริษัทที่ให้บริการสอดแนม

    ✅ จำนวนช่องโหว่ zero-day ที่พบ
    - พบ 75 รายการ ลดลงจาก 98 รายการในปี 2023
    - แนวโน้มในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าการใช้ช่องโหว่ยังคงเพิ่มขึ้น

    ✅ เป้าหมายของการโจมตี
    - 44% ของช่องโหว่ zero-day ถูกใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร
    - ช่องโหว่ใน ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์เครือข่าย เป็นเป้าหมายหลัก

    ✅ บทบาทของรัฐบาลในการใช้ช่องโหว่
    - 50% ของช่องโหว่ที่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ถูกใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
    - จีนและเกาหลีเหนือ เป็นประเทศที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด

    ✅ แนวโน้มของช่องโหว่ในระบบปฏิบัติการ
    - ช่องโหว่ใน Windows เพิ่มขึ้นเป็น 22 รายการ จาก 16 รายการในปี 2023
    - ช่องโหว่ใน Safari และ iOS ลดลงจาก 11 และ 9 รายการ เหลือ 3 และ 2 รายการ

    https://www.techradar.com/pro/security/75-zero-day-exploitations-spotted-by-google-governments-increasingly-responsible-for-attacks
    Google รายงานว่าในปี 2024 มีการใช้ช่องโหว่ zero-day จำนวน 75 รายการ โดยส่วนใหญ่ถูกใช้ใน การโจมตีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเฉพาะจาก จีนและเกาหลีเหนือ แม้ว่าจำนวนช่องโหว่ zero-day จะลดลงจาก 98 รายการในปี 2023 แต่แนวโน้มในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า การใช้ช่องโหว่เหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง Google พบว่า 44% ของช่องโหว่ zero-day ในปี 2024 ถูกใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 37% ในปี 2023 โดยเฉพาะช่องโหว่ใน ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์เครือข่าย นอกจากนี้ รัฐบาลเป็นผู้ใช้ช่องโหว่ zero-day มากที่สุด โดย 50% ของช่องโหว่ที่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ถูกใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลหรือบริษัทที่ให้บริการสอดแนม ✅ จำนวนช่องโหว่ zero-day ที่พบ - พบ 75 รายการ ลดลงจาก 98 รายการในปี 2023 - แนวโน้มในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าการใช้ช่องโหว่ยังคงเพิ่มขึ้น ✅ เป้าหมายของการโจมตี - 44% ของช่องโหว่ zero-day ถูกใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร - ช่องโหว่ใน ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์เครือข่าย เป็นเป้าหมายหลัก ✅ บทบาทของรัฐบาลในการใช้ช่องโหว่ - 50% ของช่องโหว่ที่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ถูกใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล - จีนและเกาหลีเหนือ เป็นประเทศที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ✅ แนวโน้มของช่องโหว่ในระบบปฏิบัติการ - ช่องโหว่ใน Windows เพิ่มขึ้นเป็น 22 รายการ จาก 16 รายการในปี 2023 - ช่องโหว่ใน Safari และ iOS ลดลงจาก 11 และ 9 รายการ เหลือ 3 และ 2 รายการ https://www.techradar.com/pro/security/75-zero-day-exploitations-spotted-by-google-governments-increasingly-responsible-for-attacks
    WWW.TECHRADAR.COM
    75 zero-day exploitations spotted by Google, governments increasingly responsible for attacks
    Of all the zero-days abused in 2024, the majority were used in state-sponsored attacks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • IBM Cloud กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่นำ Intel Gaudi 3 AI accelerators มาใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้เทคโนโลยี AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง

    การเปิดตัวนี้ถือเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของ Intel Gaudi 3 ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับ Generative AI (GenAI), large model inferencing และ model fine-tuning โดยมีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา

    IBM Cloud ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแล เช่น การเงิน, การดูแลสุขภาพ และภาครัฐ โดยใช้ AI ในการตรวจจับการฉ้อโกง, การวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ และการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง

    Intel Gaudi 3 พร้อมให้บริการใน IBM Cloud regions ได้แก่ แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมนี), วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส (สหรัฐฯ) และจะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต

    ✅ IBM Cloud เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ใช้ Intel Gaudi 3
    - ช่วยให้ AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
    - ลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง

    ✅ คุณสมบัติของ Intel Gaudi 3
    - รองรับ Generative AI, large model inferencing และ model fine-tuning
    - มีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา

    ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ
    - การเงิน: ตรวจจับการฉ้อโกงและให้บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล
    - การดูแลสุขภาพ: วิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์และพัฒนาแพลตฟอร์ม telemedicine
    - ภาครัฐ: ใช้ AI ในการบริหารจัดการข้อมูลและความปลอดภัย

    ✅ พื้นที่ให้บริการของ Intel Gaudi 3
    - พร้อมใช้งานใน แฟรงก์เฟิร์ต, วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส
    - จะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/336224/ibm-cloud-is-first-service-provider-to-deploy-intel-gaudi-3
    IBM Cloud กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่นำ Intel Gaudi 3 AI accelerators มาใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้เทคโนโลยี AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง การเปิดตัวนี้ถือเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของ Intel Gaudi 3 ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับ Generative AI (GenAI), large model inferencing และ model fine-tuning โดยมีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา IBM Cloud ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแล เช่น การเงิน, การดูแลสุขภาพ และภาครัฐ โดยใช้ AI ในการตรวจจับการฉ้อโกง, การวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ และการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง Intel Gaudi 3 พร้อมให้บริการใน IBM Cloud regions ได้แก่ แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมนี), วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส (สหรัฐฯ) และจะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต ✅ IBM Cloud เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ใช้ Intel Gaudi 3 - ช่วยให้ AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น - ลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง ✅ คุณสมบัติของ Intel Gaudi 3 - รองรับ Generative AI, large model inferencing และ model fine-tuning - มีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ - การเงิน: ตรวจจับการฉ้อโกงและให้บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล - การดูแลสุขภาพ: วิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์และพัฒนาแพลตฟอร์ม telemedicine - ภาครัฐ: ใช้ AI ในการบริหารจัดการข้อมูลและความปลอดภัย ✅ พื้นที่ให้บริการของ Intel Gaudi 3 - พร้อมใช้งานใน แฟรงก์เฟิร์ต, วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส - จะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต https://www.techpowerup.com/336224/ibm-cloud-is-first-service-provider-to-deploy-intel-gaudi-3
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    IBM Cloud is First Service Provider to Deploy Intel Gaudi 3
    IBM is the first cloud service provider to make Intel Gaudi 3 AI accelerators available to customers, a move designed to make powerful artificial intelligence capabilities more accessible and to directly address the high cost of specialized AI hardware. For Intel, the rollout on IBM Cloud marks the ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024 ขณะที่ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง

    ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ใน สหรัฐฯ และยุโรป ส่วนญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ

    แม้ว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนจะชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023 เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อ Huawei แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไป

    จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV ภายในประเทศ โดยใช้เทคโนโลยี laser-induced discharge plasma ซึ่งจะเริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026

    ✅ ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น
    - จีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024
    - ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง

    ✅ การขยายตัวของโรงงานผลิต
    - ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานใน สหรัฐฯ และยุโรป
    - ญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ

    ✅ ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
    - การเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023
    - Huawei ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ
    - จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV โดยใช้ laser-induced discharge plasma
    - เริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026

    https://www.techpowerup.com/336222/chinas-semiconductor-equipment-market-share-rises-as-taiwan-korea-and-japan-decline
    อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024 ขณะที่ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ใน สหรัฐฯ และยุโรป ส่วนญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ แม้ว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนจะชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023 เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อ Huawei แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไป จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV ภายในประเทศ โดยใช้เทคโนโลยี laser-induced discharge plasma ซึ่งจะเริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026 ✅ ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น - จีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024 - ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง ✅ การขยายตัวของโรงงานผลิต - ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานใน สหรัฐฯ และยุโรป - ญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ ✅ ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ - การเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023 - Huawei ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ - จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV โดยใช้ laser-induced discharge plasma - เริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026 https://www.techpowerup.com/336222/chinas-semiconductor-equipment-market-share-rises-as-taiwan-korea-and-japan-decline
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    China's Semiconductor Equipment Market Share Rises as Taiwan, Korea and Japan Decline
    The global semiconductor industry is experiencing notable shifts, largely influenced by the rapid expansion of the Mainland China market. From 2010 to 2024, China's share of global semiconductor equipment sales rose significantly, from just 6% in 2010 to 38% in 2024. On the other side McKinsey repor...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • Baikal Electronics บริษัทพัฒนาซีพียูของรัสเซีย ได้ผลิตและจำหน่าย 85,000 หน่วย ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2012 จนถึงสิ้นปี 2024 โดยส่วนใหญ่เป็น Baikal-T ซึ่งเป็นซีพียูระดับล่างสำหรับงานฝังตัว

    แม้ว่าบริษัทจะออกแบบซีพียูสำหรับหลายประเภท แต่ Baikal-T1 ซึ่งเป็นซีพียู MIPS P5600 แบบ 32 บิต ที่ทำงานที่ 1.20 GHz และใช้พลังงาน 5W ถือเป็นรุ่นที่มีการผลิตมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี Baikal-M ซึ่งใช้ Arm Cortex-A57 และ Baikal-S ที่มี 48 คอร์ Arm Cortex-A75

    Baikal Electronics เคยผลิตซีพียูที่ TSMC ในไต้หวัน ก่อนปี 2022 แต่หลังจากที่ไต้หวัน, สหรัฐฯ และยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย บริษัทก็ไม่สามารถนำเข้าซีพียูที่ทันสมัยได้อีกต่อไป

    ล่าสุด Baikal Electronics ได้เริ่มผลิต ไมโครคอนโทรลเลอร์ของตัวเอง และมีแผนเปิดตัว Baikal-L สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น แล็ปท็อปและแท็บเล็ต รวมถึง Baikal-S2 สำหรับศูนย์ข้อมูล ซึ่งคาดว่าจะผลิตโดย SMIC ในจีน

    ✅ จำนวนซีพียูที่ผลิต
    - ผลิตและจำหน่าย 85,000 หน่วย ตั้งแต่ปี 2012
    - ส่วนใหญ่เป็น Baikal-T สำหรับงานฝังตัว

    ✅ รายละเอียดของซีพียู Baikal
    - Baikal-T1: ใช้ MIPS P5600 แบบ 32 บิต ทำงานที่ 1.20 GHz
    - Baikal-M: ใช้ Arm Cortex-A57 พร้อม 8 คอร์
    - Baikal-S: มี 48 คอร์ Arm Cortex-A75

    ✅ ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร
    - ไม่สามารถนำเข้าซีพียูที่ทันสมัยจากไต้หวันได้อีกต่อไป
    - ซีพียูที่ผลิตก่อนปี 2022 ถูกนำเข้ามาในรัสเซียเป็นเวลาหลายปี

    ✅ แผนการพัฒนาในอนาคต
    - เริ่มผลิต ไมโครคอนโทรลเลอร์ของตัวเอง
    - เตรียมเปิดตัว Baikal-L สำหรับแล็ปท็อปและแท็บเล็ต
    - เตรียมผลิต Baikal-S2 สำหรับศูนย์ข้อมูล

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/russias-baikal-has-produced-85-000-of-its-cpus-since-2012-aims-for-more
    Baikal Electronics บริษัทพัฒนาซีพียูของรัสเซีย ได้ผลิตและจำหน่าย 85,000 หน่วย ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2012 จนถึงสิ้นปี 2024 โดยส่วนใหญ่เป็น Baikal-T ซึ่งเป็นซีพียูระดับล่างสำหรับงานฝังตัว แม้ว่าบริษัทจะออกแบบซีพียูสำหรับหลายประเภท แต่ Baikal-T1 ซึ่งเป็นซีพียู MIPS P5600 แบบ 32 บิต ที่ทำงานที่ 1.20 GHz และใช้พลังงาน 5W ถือเป็นรุ่นที่มีการผลิตมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี Baikal-M ซึ่งใช้ Arm Cortex-A57 และ Baikal-S ที่มี 48 คอร์ Arm Cortex-A75 Baikal Electronics เคยผลิตซีพียูที่ TSMC ในไต้หวัน ก่อนปี 2022 แต่หลังจากที่ไต้หวัน, สหรัฐฯ และยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย บริษัทก็ไม่สามารถนำเข้าซีพียูที่ทันสมัยได้อีกต่อไป ล่าสุด Baikal Electronics ได้เริ่มผลิต ไมโครคอนโทรลเลอร์ของตัวเอง และมีแผนเปิดตัว Baikal-L สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น แล็ปท็อปและแท็บเล็ต รวมถึง Baikal-S2 สำหรับศูนย์ข้อมูล ซึ่งคาดว่าจะผลิตโดย SMIC ในจีน ✅ จำนวนซีพียูที่ผลิต - ผลิตและจำหน่าย 85,000 หน่วย ตั้งแต่ปี 2012 - ส่วนใหญ่เป็น Baikal-T สำหรับงานฝังตัว ✅ รายละเอียดของซีพียู Baikal - Baikal-T1: ใช้ MIPS P5600 แบบ 32 บิต ทำงานที่ 1.20 GHz - Baikal-M: ใช้ Arm Cortex-A57 พร้อม 8 คอร์ - Baikal-S: มี 48 คอร์ Arm Cortex-A75 ✅ ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร - ไม่สามารถนำเข้าซีพียูที่ทันสมัยจากไต้หวันได้อีกต่อไป - ซีพียูที่ผลิตก่อนปี 2022 ถูกนำเข้ามาในรัสเซียเป็นเวลาหลายปี ✅ แผนการพัฒนาในอนาคต - เริ่มผลิต ไมโครคอนโทรลเลอร์ของตัวเอง - เตรียมเปิดตัว Baikal-L สำหรับแล็ปท็อปและแท็บเล็ต - เตรียมผลิต Baikal-S2 สำหรับศูนย์ข้อมูล https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/russias-baikal-has-produced-85-000-of-its-cpus-since-2012-aims-for-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้เปิดตัว IPO (Intel Performance Optimizations) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Core Ultra 200S (Arrow Lake) โดยผลการทดสอบจากผู้ใช้บน BiliBili พบว่า IPO ให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า 200S Boost ในหลายเกม

    การทดสอบใช้ Core Ultra 7 265K, หน่วยความจำ DDR5-8000, และ GeForce RTX 5090D โดยเปรียบเทียบ XMP Configuration, 200S Boost, และ IPO ในเกมต่างๆ เช่น Cyberpunk 2077, Forza Horizon 5, Counter-Strike 2 และ Watch Dogs: Legion

    IPO ปรับความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz ตามลำดับ และเพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz ขณะที่ 200S Boost เน้นไปที่การเพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU)

    ผลการทดสอบพบว่า IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกม โดยเฉพาะ Counter-Strike 2 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16% และ Cyberpunk 2077 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3%

    ✅ IPO vs. 200S Boost ในการเล่นเกม
    - IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกมที่ทดสอบ
    - Counter-Strike 2 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16%
    - Cyberpunk 2077 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3%

    ✅ การปรับแต่งของ IPO
    - เพิ่มความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz
    - เพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz

    ✅ การปรับแต่งของ 200S Boost
    - เพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU)

    ✅ การใช้งานและการเข้าถึง
    - 200S Boost สามารถใช้งานได้ผ่าน อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเมนบอร์ด
    - IPO มีให้ใช้งานเฉพาะใน ประเทศจีน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ipo-delivers-better-gaming-performance-than-200s-boost-in-user-benchmarks
    Intel ได้เปิดตัว IPO (Intel Performance Optimizations) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Core Ultra 200S (Arrow Lake) โดยผลการทดสอบจากผู้ใช้บน BiliBili พบว่า IPO ให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า 200S Boost ในหลายเกม การทดสอบใช้ Core Ultra 7 265K, หน่วยความจำ DDR5-8000, และ GeForce RTX 5090D โดยเปรียบเทียบ XMP Configuration, 200S Boost, และ IPO ในเกมต่างๆ เช่น Cyberpunk 2077, Forza Horizon 5, Counter-Strike 2 และ Watch Dogs: Legion IPO ปรับความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz ตามลำดับ และเพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz ขณะที่ 200S Boost เน้นไปที่การเพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU) ผลการทดสอบพบว่า IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกม โดยเฉพาะ Counter-Strike 2 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16% และ Cyberpunk 2077 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3% ✅ IPO vs. 200S Boost ในการเล่นเกม - IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกมที่ทดสอบ - Counter-Strike 2 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16% - Cyberpunk 2077 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3% ✅ การปรับแต่งของ IPO - เพิ่มความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz - เพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz ✅ การปรับแต่งของ 200S Boost - เพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU) ✅ การใช้งานและการเข้าถึง - 200S Boost สามารถใช้งานได้ผ่าน อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเมนบอร์ด - IPO มีให้ใช้งานเฉพาะใน ประเทศจีน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ipo-delivers-better-gaming-performance-than-200s-boost-in-user-benchmarks
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel IPO delivers better gaming performance than 200S Boost in user benchmarks
    Similar performance-enhancing technology but slightly different results
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia และ Anthropic กำลังมีข้อพิพาทเกี่ยวกับ กฎระเบียบใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกเทคโนโลยี AI ไปยังจีน โดย Anthropic อ้างว่ามีการลักลอบนำเข้าชิป Nvidia ไปยังจีนผ่านวิธีการที่แปลกประหลาด เช่น ซ่อนชิปไว้ในท้องกุ้งล็อบสเตอร์สด หรือใช้หน้าท้องปลอมของหญิงตั้งครรภ์

    Nvidia ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยระบุว่า บริษัทอเมริกันควรเน้นไปที่นวัตกรรมแทนที่จะเผยแพร่เรื่องราวที่เกินจริง อย่างไรก็ตาม ศุลกากรจีนได้บันทึกกรณีการลักลอบนำเข้าชิปด้วยวิธีเหล่านี้จริง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลักลอบนำเข้าชิป AI เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง

    ข้อพิพาทนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ กฎระเบียบ AI Diffusion Rules ของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 พฤษภาคม โดยกฎเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศที่เป็นปฏิปักษ์ เช่น จีน ได้รับเทคโนโลยี AI ขั้นสูงจากตะวันตก

    Nvidia ต้องการขายชิป AI ให้กับจีนต่อไป ขณะที่ Anthropic ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ต้องการให้สหรัฐฯ ควบคุมการส่งออกเพื่อให้บริษัทอเมริกันสามารถเข้าถึงชิป AI ได้มากขึ้น และลดการแข่งขันจากจีน

    ✅ ข้อกล่าวหาการลักลอบนำเข้าชิป AI
    - Anthropic อ้างว่ามีการลักลอบนำเข้าชิป Nvidia ไปยังจีน
    - ใช้วิธีการแปลกประหลาด เช่น ซ่อนชิปไว้ในท้องกุ้งล็อบสเตอร์สด หรือใช้หน้าท้องปลอมของหญิงตั้งครรภ์

    ✅ การตอบโต้ของ Nvidia
    - ปฏิเสธข้อกล่าวหา และระบุว่าควรเน้นไปที่นวัตกรรม
    - อย่างไรก็ตาม ศุลกากรจีนได้บันทึกกรณีการลักลอบนำเข้าชิปด้วยวิธีเหล่านี้จริง

    ✅ กฎระเบียบ AI Diffusion Rules
    - มีผลบังคับใช้วันที่ 15 พฤษภาคม
    - มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้จีนได้รับเทคโนโลยี AI ขั้นสูงจากตะวันตก

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - Nvidia ต้องการขายชิป AI ให้กับจีนต่อไป
    - Anthropic ต้องการให้สหรัฐฯ ควบคุมการส่งออกเพื่อให้บริษัทอเมริกันสามารถเข้าถึงชิป AI ได้มากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/despite-nvidia-claims-chinese-smugglers-have-used-live-lobsters-and-fake-baby-bumps-to-traffic-chips
    Nvidia และ Anthropic กำลังมีข้อพิพาทเกี่ยวกับ กฎระเบียบใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกเทคโนโลยี AI ไปยังจีน โดย Anthropic อ้างว่ามีการลักลอบนำเข้าชิป Nvidia ไปยังจีนผ่านวิธีการที่แปลกประหลาด เช่น ซ่อนชิปไว้ในท้องกุ้งล็อบสเตอร์สด หรือใช้หน้าท้องปลอมของหญิงตั้งครรภ์ Nvidia ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยระบุว่า บริษัทอเมริกันควรเน้นไปที่นวัตกรรมแทนที่จะเผยแพร่เรื่องราวที่เกินจริง อย่างไรก็ตาม ศุลกากรจีนได้บันทึกกรณีการลักลอบนำเข้าชิปด้วยวิธีเหล่านี้จริง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลักลอบนำเข้าชิป AI เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ข้อพิพาทนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ กฎระเบียบ AI Diffusion Rules ของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 พฤษภาคม โดยกฎเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศที่เป็นปฏิปักษ์ เช่น จีน ได้รับเทคโนโลยี AI ขั้นสูงจากตะวันตก Nvidia ต้องการขายชิป AI ให้กับจีนต่อไป ขณะที่ Anthropic ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ต้องการให้สหรัฐฯ ควบคุมการส่งออกเพื่อให้บริษัทอเมริกันสามารถเข้าถึงชิป AI ได้มากขึ้น และลดการแข่งขันจากจีน ✅ ข้อกล่าวหาการลักลอบนำเข้าชิป AI - Anthropic อ้างว่ามีการลักลอบนำเข้าชิป Nvidia ไปยังจีน - ใช้วิธีการแปลกประหลาด เช่น ซ่อนชิปไว้ในท้องกุ้งล็อบสเตอร์สด หรือใช้หน้าท้องปลอมของหญิงตั้งครรภ์ ✅ การตอบโต้ของ Nvidia - ปฏิเสธข้อกล่าวหา และระบุว่าควรเน้นไปที่นวัตกรรม - อย่างไรก็ตาม ศุลกากรจีนได้บันทึกกรณีการลักลอบนำเข้าชิปด้วยวิธีเหล่านี้จริง ✅ กฎระเบียบ AI Diffusion Rules - มีผลบังคับใช้วันที่ 15 พฤษภาคม - มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้จีนได้รับเทคโนโลยี AI ขั้นสูงจากตะวันตก ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - Nvidia ต้องการขายชิป AI ให้กับจีนต่อไป - Anthropic ต้องการให้สหรัฐฯ ควบคุมการส่งออกเพื่อให้บริษัทอเมริกันสามารถเข้าถึงชิป AI ได้มากขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/despite-nvidia-claims-chinese-smugglers-have-used-live-lobsters-and-fake-baby-bumps-to-traffic-chips
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Despite Nvidia claims, Chinese smugglers have used live lobsters and fake baby bumps to traffic chips
    Anthropic has been accused of telling "tall tales" about Chinese chip smugglers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • Boox ได้เปิดตัว Mira Pro (Color) ซึ่งเป็น จอ E Ink สีขนาด 23.5 นิ้ว ที่ใช้เทคโนโลยี Kaleido 3 สามารถแสดง 16 ระดับสีเทา และ 4,096 สี แม้ว่าจะยังห่างไกลจากจอ OLED 10-bit ที่สามารถแสดงสีได้มากกว่าพันล้านสี แต่ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานสำหรับจอ E Ink สี

    จอ E Ink ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้มีสีสันสดใสหรืออัตรารีเฟรชสูง แต่เน้นไปที่ การลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา จากการใช้งานระยะยาว โดยให้ความรู้สึกคล้ายกับการอ่านกระดาษมากกว่าการมองจอที่มีแสงสว่าง

    Mira Pro มี ความละเอียด 3,200 x 1,800 พิกเซล และรองรับ โหมดการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น Speed Mode สำหรับวิดีโอ, Reading Mode สำหรับการอ่านเว็บไซต์, Normal Mode สำหรับแอปทั่วไป และ Text Mode สำหรับเอกสาร นอกจากนี้ยังมี ไฟหน้าสองโทน ที่สามารถปรับเป็นแสงเย็นหรือแสงอุ่นได้

    จอนี้มี พอร์ตเชื่อมต่อหลากหลาย ได้แก่ HDMI, Mini HDMI, DisplayPort และ USB-C พร้อมสายเชื่อมต่อที่ให้มาในกล่อง และขาตั้งอะลูมิเนียมที่สามารถปรับระดับความสูง, เอียง และหมุนได้

    Mira Pro (Color) วางจำหน่ายในราคา $1,899.99 และจัดส่งจากคลังสินค้าของ Boox ในจีน โดยยังไม่มีการจัดส่งจากคลังสินค้าในสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร หรือสหภาพยุโรป

    ✅ เทคโนโลยีจอ E Ink สี
    - ใช้ Kaleido 3 แสดง 16 ระดับสีเทา และ 4,096 สี
    - ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านกระดาษ

    ✅ ความละเอียดและโหมดการใช้งาน
    - ความละเอียด 3,200 x 1,800 พิกเซล
    - รองรับ Speed Mode, Reading Mode, Normal Mode และ Text Mode

    ✅ พอร์ตเชื่อมต่อและอุปกรณ์เสริม
    - มี HDMI, Mini HDMI, DisplayPort และ USB-C
    - มาพร้อมสายเชื่อมต่อและขาตั้งอะลูมิเนียมที่ปรับระดับได้

    ✅ การวางจำหน่ายและการจัดส่ง
    - ราคา $1,899.99
    - จัดส่งจากคลังสินค้าในจีน ยังไม่มีการจัดส่งจากสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร หรือสหภาพยุโรป

    https://www.tomshardware.com/monitors/boox-debuts-23-5-inch-color-e-ink-monitor-with-1800p-resolution-and-usd1-900-price-tag
    Boox ได้เปิดตัว Mira Pro (Color) ซึ่งเป็น จอ E Ink สีขนาด 23.5 นิ้ว ที่ใช้เทคโนโลยี Kaleido 3 สามารถแสดง 16 ระดับสีเทา และ 4,096 สี แม้ว่าจะยังห่างไกลจากจอ OLED 10-bit ที่สามารถแสดงสีได้มากกว่าพันล้านสี แต่ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานสำหรับจอ E Ink สี จอ E Ink ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้มีสีสันสดใสหรืออัตรารีเฟรชสูง แต่เน้นไปที่ การลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา จากการใช้งานระยะยาว โดยให้ความรู้สึกคล้ายกับการอ่านกระดาษมากกว่าการมองจอที่มีแสงสว่าง Mira Pro มี ความละเอียด 3,200 x 1,800 พิกเซล และรองรับ โหมดการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น Speed Mode สำหรับวิดีโอ, Reading Mode สำหรับการอ่านเว็บไซต์, Normal Mode สำหรับแอปทั่วไป และ Text Mode สำหรับเอกสาร นอกจากนี้ยังมี ไฟหน้าสองโทน ที่สามารถปรับเป็นแสงเย็นหรือแสงอุ่นได้ จอนี้มี พอร์ตเชื่อมต่อหลากหลาย ได้แก่ HDMI, Mini HDMI, DisplayPort และ USB-C พร้อมสายเชื่อมต่อที่ให้มาในกล่อง และขาตั้งอะลูมิเนียมที่สามารถปรับระดับความสูง, เอียง และหมุนได้ Mira Pro (Color) วางจำหน่ายในราคา $1,899.99 และจัดส่งจากคลังสินค้าของ Boox ในจีน โดยยังไม่มีการจัดส่งจากคลังสินค้าในสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร หรือสหภาพยุโรป ✅ เทคโนโลยีจอ E Ink สี - ใช้ Kaleido 3 แสดง 16 ระดับสีเทา และ 4,096 สี - ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านกระดาษ ✅ ความละเอียดและโหมดการใช้งาน - ความละเอียด 3,200 x 1,800 พิกเซล - รองรับ Speed Mode, Reading Mode, Normal Mode และ Text Mode ✅ พอร์ตเชื่อมต่อและอุปกรณ์เสริม - มี HDMI, Mini HDMI, DisplayPort และ USB-C - มาพร้อมสายเชื่อมต่อและขาตั้งอะลูมิเนียมที่ปรับระดับได้ ✅ การวางจำหน่ายและการจัดส่ง - ราคา $1,899.99 - จัดส่งจากคลังสินค้าในจีน ยังไม่มีการจัดส่งจากสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร หรือสหภาพยุโรป https://www.tomshardware.com/monitors/boox-debuts-23-5-inch-color-e-ink-monitor-with-1800p-resolution-and-usd1-900-price-tag
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Boox debuts 23.5-inch color E ink monitor with 1800p resolution and $1,900 price tag
    The latest color E ink display from Boox costs as much as a high-end IPS panel from Apple or Dell
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทก่อสร้างของสหราชอาณาจักร Blu-3 ถูกกล่าวหาว่าจ่ายสินบน 4 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้ได้รับสัญญาก่อสร้างศูนย์ข้อมูลของ Microsoft ในเนเธอร์แลนด์ โดยสำนักงาน Serious Fraud Office (SFO) ของสหราชอาณาจักรได้จับกุมบุคคล 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้

    SFO ส่งเจ้าหน้าที่กว่า 70 นาย ไปตรวจค้น 4 ที่พักอาศัยและ 1 สำนักงาน ในลอนดอน, เคนต์, เซอร์รีย์ และซัมเมอร์เซ็ต เพื่อรวบรวมหลักฐาน นอกจากนี้ยังประสานงานกับทางการโมนาโกเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งในผู้ต้องสงสัย

    Microsoft มีศูนย์ข้อมูลใน Middenmeer, Holland Kroon ซึ่งสร้างขึ้นในปี 2014 และได้รับอนุญาตให้ขยายเพิ่มเติมในปี 2023 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหราชอาณาจักรไม่ได้ระบุว่าคดีสินบนนี้เกี่ยวข้องกับโครงการเดิมหรือการขยายตัว

    ทางการท้องถิ่นของ Holland Kroon ระบุว่าพวกเขากำลังติดตามการสอบสวนของ SFO และพร้อมให้ความร่วมมือหากจำเป็น

    ✅ การสอบสวนของ SFO
    - จับกุมบุคคล 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับคดีสินบน
    - ส่งเจ้าหน้าที่ 70 นาย ไปตรวจค้นที่พักและสำนักงาน

    ✅ ศูนย์ข้อมูลของ Microsoft ในเนเธอร์แลนด์
    - ตั้งอยู่ใน Middenmeer, Holland Kroon
    - สร้างขึ้นในปี 2014 และได้รับอนุญาตให้ขยายในปี 2023

    ✅ บทบาทของ Blu-3 และ Mace Group
    - Blu-3 และ Mace Group เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล
    - ยังไม่ชัดเจนว่าคดีสินบนเกี่ยวข้องกับโครงการเดิมหรือการขยายตัว

    ✅ การตอบสนองของรัฐบาลท้องถิ่น
    - Holland Kroon ติดตามการสอบสวนและพร้อมให้ความร่วมมือ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/uk-company-allegedly-paid-usd4m-in-bribes-to-secure-microsoft-data-center-construction-contract
    บริษัทก่อสร้างของสหราชอาณาจักร Blu-3 ถูกกล่าวหาว่าจ่ายสินบน 4 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้ได้รับสัญญาก่อสร้างศูนย์ข้อมูลของ Microsoft ในเนเธอร์แลนด์ โดยสำนักงาน Serious Fraud Office (SFO) ของสหราชอาณาจักรได้จับกุมบุคคล 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ SFO ส่งเจ้าหน้าที่กว่า 70 นาย ไปตรวจค้น 4 ที่พักอาศัยและ 1 สำนักงาน ในลอนดอน, เคนต์, เซอร์รีย์ และซัมเมอร์เซ็ต เพื่อรวบรวมหลักฐาน นอกจากนี้ยังประสานงานกับทางการโมนาโกเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งในผู้ต้องสงสัย Microsoft มีศูนย์ข้อมูลใน Middenmeer, Holland Kroon ซึ่งสร้างขึ้นในปี 2014 และได้รับอนุญาตให้ขยายเพิ่มเติมในปี 2023 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหราชอาณาจักรไม่ได้ระบุว่าคดีสินบนนี้เกี่ยวข้องกับโครงการเดิมหรือการขยายตัว ทางการท้องถิ่นของ Holland Kroon ระบุว่าพวกเขากำลังติดตามการสอบสวนของ SFO และพร้อมให้ความร่วมมือหากจำเป็น ✅ การสอบสวนของ SFO - จับกุมบุคคล 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับคดีสินบน - ส่งเจ้าหน้าที่ 70 นาย ไปตรวจค้นที่พักและสำนักงาน ✅ ศูนย์ข้อมูลของ Microsoft ในเนเธอร์แลนด์ - ตั้งอยู่ใน Middenmeer, Holland Kroon - สร้างขึ้นในปี 2014 และได้รับอนุญาตให้ขยายในปี 2023 ✅ บทบาทของ Blu-3 และ Mace Group - Blu-3 และ Mace Group เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล - ยังไม่ชัดเจนว่าคดีสินบนเกี่ยวข้องกับโครงการเดิมหรือการขยายตัว ✅ การตอบสนองของรัฐบาลท้องถิ่น - Holland Kroon ติดตามการสอบสวนและพร้อมให้ความร่วมมือ https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/uk-company-allegedly-paid-usd4m-in-bribes-to-secure-microsoft-data-center-construction-contract
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    UK company allegedly paid $4m in bribes to secure Microsoft data center construction contract
    The UK's Serious Fraud Office (SFO) has made three arrests as part of the investigation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • Buffalo Japan ฉลองครบรอบ 50 ปี ด้วยการเปิดตัว ฮาร์ดดิสก์แบบโปร่งใสรุ่นพิเศษ ที่มีชื่อว่า Buffalo HD-SKL 'Skeleton Hard Disk' ซึ่งมาพร้อมกับ แผงใสที่เผยให้เห็นกลไกภายใน เช่น จานหมุนและหัวอ่าน/เขียนข้อมูล

    แม้ว่าฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้จะเน้นไปที่ ดีไซน์และความสวยงาม มากกว่าประสิทธิภาพ แต่ Buffalo ยืนยันว่าใช้วัสดุระดับพรีเมียม เช่น อะลูมิเนียมที่ผ่านการเจียระไนและอโนไดซ์ เพื่อให้มีความทนทานและดูหรูหรา

    นอกจากนี้ Buffalo ยังพัฒนา SeekWizard ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับ Windows ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมการเคลื่อนไหวของแขนอ่านข้อมูล ผ่านโหมดต่างๆ เช่น Random Seek, Sequential Seek, Metronome และ Wave

    อย่างไรก็ตาม ฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้ไม่ได้มาพร้อมกับ ไฟ RGB ซึ่งแตกต่างจากแนวโน้มของอุปกรณ์ไอทีในปัจจุบันที่นิยมโชว์กลไกภายในด้วยแสงไฟ

    Buffalo HD-SKL มีความจุ 4TB และใช้ USB 3.2 (Gen 1) Micro-B สำหรับการเชื่อมต่อกับ Mac หรือ PC โดยมาพร้อมกับ สาย USB ยาว 1 เมตรและอะแดปเตอร์ไฟ

    สินค้ารุ่นนี้จะวางจำหน่ายใน ญี่ปุ่น ผ่านระบบ ลอตเตอรี่ ซึ่งผู้ที่สนใจต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ซื้อ เนื่องจากมีเพียง 50 เครื่องเท่านั้น และจะเริ่มจัดส่งในเดือน มิถุนายน 2025

    ✅ ดีไซน์โปร่งใสที่เผยให้เห็นกลไกภายใน
    - สามารถมองเห็นจานหมุนและหัวอ่าน/เขียนข้อมูล
    - ใช้วัสดุระดับพรีเมียม เช่น อะลูมิเนียมที่ผ่านการเจียระไนและอโนไดซ์

    ✅ ฟีเจอร์ SeekWizard สำหรับ Windows
    - ควบคุมการเคลื่อนไหวของแขนอ่านข้อมูลผ่านโหมดต่างๆ
    - โหมดที่มีให้เลือก ได้แก่ Random Seek, Sequential Seek, Metronome และ Wave

    ✅ การเชื่อมต่อและอุปกรณ์เสริม
    - ความจุ 4TB
    - ใช้ USB 3.2 (Gen 1) Micro-B
    - มาพร้อมสาย USB ยาว 1 เมตร และอะแดปเตอร์ไฟ

    ✅ การวางจำหน่าย
    - มีเพียง 50 เครื่อง และต้องลงทะเบียนผ่านระบบลอตเตอรี่
    - เริ่มจัดส่งในเดือน มิถุนายน 2025

    https://www.tomshardware.com/pc-components/external-hdds/buffalo-celebrates-50yr-anniversary-with-a-limited-edition-skeleton-transparent-hard-disk
    Buffalo Japan ฉลองครบรอบ 50 ปี ด้วยการเปิดตัว ฮาร์ดดิสก์แบบโปร่งใสรุ่นพิเศษ ที่มีชื่อว่า Buffalo HD-SKL 'Skeleton Hard Disk' ซึ่งมาพร้อมกับ แผงใสที่เผยให้เห็นกลไกภายใน เช่น จานหมุนและหัวอ่าน/เขียนข้อมูล แม้ว่าฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้จะเน้นไปที่ ดีไซน์และความสวยงาม มากกว่าประสิทธิภาพ แต่ Buffalo ยืนยันว่าใช้วัสดุระดับพรีเมียม เช่น อะลูมิเนียมที่ผ่านการเจียระไนและอโนไดซ์ เพื่อให้มีความทนทานและดูหรูหรา นอกจากนี้ Buffalo ยังพัฒนา SeekWizard ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับ Windows ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมการเคลื่อนไหวของแขนอ่านข้อมูล ผ่านโหมดต่างๆ เช่น Random Seek, Sequential Seek, Metronome และ Wave อย่างไรก็ตาม ฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้ไม่ได้มาพร้อมกับ ไฟ RGB ซึ่งแตกต่างจากแนวโน้มของอุปกรณ์ไอทีในปัจจุบันที่นิยมโชว์กลไกภายในด้วยแสงไฟ Buffalo HD-SKL มีความจุ 4TB และใช้ USB 3.2 (Gen 1) Micro-B สำหรับการเชื่อมต่อกับ Mac หรือ PC โดยมาพร้อมกับ สาย USB ยาว 1 เมตรและอะแดปเตอร์ไฟ สินค้ารุ่นนี้จะวางจำหน่ายใน ญี่ปุ่น ผ่านระบบ ลอตเตอรี่ ซึ่งผู้ที่สนใจต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ซื้อ เนื่องจากมีเพียง 50 เครื่องเท่านั้น และจะเริ่มจัดส่งในเดือน มิถุนายน 2025 ✅ ดีไซน์โปร่งใสที่เผยให้เห็นกลไกภายใน - สามารถมองเห็นจานหมุนและหัวอ่าน/เขียนข้อมูล - ใช้วัสดุระดับพรีเมียม เช่น อะลูมิเนียมที่ผ่านการเจียระไนและอโนไดซ์ ✅ ฟีเจอร์ SeekWizard สำหรับ Windows - ควบคุมการเคลื่อนไหวของแขนอ่านข้อมูลผ่านโหมดต่างๆ - โหมดที่มีให้เลือก ได้แก่ Random Seek, Sequential Seek, Metronome และ Wave ✅ การเชื่อมต่อและอุปกรณ์เสริม - ความจุ 4TB - ใช้ USB 3.2 (Gen 1) Micro-B - มาพร้อมสาย USB ยาว 1 เมตร และอะแดปเตอร์ไฟ ✅ การวางจำหน่าย - มีเพียง 50 เครื่อง และต้องลงทะเบียนผ่านระบบลอตเตอรี่ - เริ่มจัดส่งในเดือน มิถุนายน 2025 https://www.tomshardware.com/pc-components/external-hdds/buffalo-celebrates-50yr-anniversary-with-a-limited-edition-skeleton-transparent-hard-disk
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Buffalo celebrates 50yr anniversary with a limited edition 'skeleton' transparent hard disk
    A bundled SeekWizard app moves the visible HDD actuator arm in interesting ways.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดย Kevin Zhang รองประธานอาวุโสของบริษัทเปิดเผยว่า TSMC จะนำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น AI, HPC และอุปกรณ์ผู้บริโภค

    ในอดีต อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ขับเคลื่อนโดย โปรเซสเซอร์สำหรับพีซี แต่เมื่อสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาท เทคโนโลยีการผลิตก็ต้องปรับตัวให้เหมาะสมกับ SoC สำหรับมือถือ และปัจจุบัน AI และ HPC กำลังกลายเป็นกลุ่มที่ต้องการเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุด

    TSMC วางแผนที่จะนำเสนอ N3P, N2, N2P และ A14 สำหรับอุปกรณ์มือถือและพีซี ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์โดยไม่ต้องใช้ backside power delivery ขณะที่ A16 และ A14P จะถูกออกแบบมาสำหรับ AI และ HPC โดยใช้ Super Power Rail Backside Power Delivery Network (BSPDN)

    นอกจากนี้ TSMC กำลังขยายเทคโนโลยี multi-chiplet packaging เพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล โดยมีการพัฒนา silicon photonics และ embedded power components เพื่อสร้างระบบที่มีแบนด์วิดธ์สูงและประหยัดพลังงาน

    ✅ การปรับตัวของ TSMC ต่อความต้องการของตลาด
    - นำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันสำหรับ AI, HPC และอุปกรณ์ผู้บริโภค
    - ขยายเทคโนโลยี multi-chiplet packaging เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล

    ✅ เทคโนโลยีสำหรับอุปกรณ์มือถือและพีซี
    - ใช้ N3P, N2, N2P และ A14 ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์
    - ไม่ต้องใช้ backside power delivery

    ✅ เทคโนโลยีสำหรับ AI และ HPC
    - ใช้ A16 และ A14P พร้อม Super Power Rail Backside Power Delivery Network (BSPDN)
    - รองรับการใช้พลังงานสูงในศูนย์ข้อมูล

    ✅ การพัฒนา multi-chiplet packaging
    - รวม silicon photonics และ embedded power components
    - สร้างระบบที่มีแบนด์วิดธ์สูงและประหยัดพลังงาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-svp-kevin-zhang-opens-up-on-process-technology-development-and-evolving-demands-interview
    TSMC กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดย Kevin Zhang รองประธานอาวุโสของบริษัทเปิดเผยว่า TSMC จะนำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น AI, HPC และอุปกรณ์ผู้บริโภค ในอดีต อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ขับเคลื่อนโดย โปรเซสเซอร์สำหรับพีซี แต่เมื่อสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาท เทคโนโลยีการผลิตก็ต้องปรับตัวให้เหมาะสมกับ SoC สำหรับมือถือ และปัจจุบัน AI และ HPC กำลังกลายเป็นกลุ่มที่ต้องการเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุด TSMC วางแผนที่จะนำเสนอ N3P, N2, N2P และ A14 สำหรับอุปกรณ์มือถือและพีซี ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์โดยไม่ต้องใช้ backside power delivery ขณะที่ A16 และ A14P จะถูกออกแบบมาสำหรับ AI และ HPC โดยใช้ Super Power Rail Backside Power Delivery Network (BSPDN) นอกจากนี้ TSMC กำลังขยายเทคโนโลยี multi-chiplet packaging เพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล โดยมีการพัฒนา silicon photonics และ embedded power components เพื่อสร้างระบบที่มีแบนด์วิดธ์สูงและประหยัดพลังงาน ✅ การปรับตัวของ TSMC ต่อความต้องการของตลาด - นำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันสำหรับ AI, HPC และอุปกรณ์ผู้บริโภค - ขยายเทคโนโลยี multi-chiplet packaging เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล ✅ เทคโนโลยีสำหรับอุปกรณ์มือถือและพีซี - ใช้ N3P, N2, N2P และ A14 ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์ - ไม่ต้องใช้ backside power delivery ✅ เทคโนโลยีสำหรับ AI และ HPC - ใช้ A16 และ A14P พร้อม Super Power Rail Backside Power Delivery Network (BSPDN) - รองรับการใช้พลังงานสูงในศูนย์ข้อมูล ✅ การพัฒนา multi-chiplet packaging - รวม silicon photonics และ embedded power components - สร้างระบบที่มีแบนด์วิดธ์สูงและประหยัดพลังงาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-svp-kevin-zhang-opens-up-on-process-technology-development-and-evolving-demands-interview
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts