• O.P.K.
    คดีแห่งแสง: ศึกเทพ-มารที่กระทบมนุษย์

    โลกที่แสงและความมืดปะทะกัน

    ในยามที่มนุษย์คิดว่าตนเองก้าวเข้าสู่ยุคทองของเทคโนโลยี ความขัดแย้งอันเป็นนิรันดร์ระหว่าง "เทพแห่งแสง" และ "มารแห่งความมืด" กำลังถึงจุดวิกฤติ ผลพวงของสงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มกระทบโลกมนุษย์อย่างจับต้องได้

    ```mermaid
    graph TB
    A[สงครามเทพ-มาร<br>ขยายสู่โลกมนุษย์] --> B[มนุษย์เริ่ม<br>แสดงอาการผิดปกติ]
    B --> C[ผู้ที่สัมผัสแสงมาก<br>เกินไปกลายเป็นสุดโต่ง]
    B --> D[ผู้ที่อยู่ในความมืด<br>นานเกินสูญเสีย]
    C --> E[มนุษย์แสง: พัฒนาพลัง<br>แต่สูญเสียความเห็นอกเห็นใจ]
    D --> F[มนุษย์มืด: แข็งแกร่ง<br>แต่โหดร้าย]
    E --> G[สงครามกลางเมือง<br>ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน]
    F --> G
    ```

    เคสปริศนาที่ปรากฏ

    กรณีผู้หายตัวไปสามประเภท

    1. ผู้ศรัทธาสุดโต่ง - หายไปพร้อมกับแสงจ้าปริศนา
    2. ผู้สิ้นหวังเรื้อรัง - หายไปในความมืดมิด
    3. คนกลางทั่วไป - เริ่มแสดงพลังประหลาดโดยไม่รู้ตัว

    ลักษณะคดีที่น่าสงสัย

    ```python
    class StrangeCases:
    def __init__(self):
    self.light_abductions = {
    "สถานที่": "แหล่งเทคโนโลยีสูง, วัด, ห้องสมุด",
    "เวลา": "เที่ยงวันพอดี",
    "พยาน": "รายงานเห็นแสงสีขาวจ้า",
    "หลักฐาน": "เหลือแต่เสื้อผ้าไร้ร่องรอยการต่อสู้"
    }

    self.dark_abductions = {
    "สถานที่": "โรงงานร้าง, ซอยมืด, ท้องถนนยามดึก",
    "เวลา": "เที่ยงคืนตรง",
    "พยาน": "รู้สึกหนาวเหน็บและได้ยินเสียงกระซิบ",
    "หลักฐาน": "รอยเท้าที่หายไปกลางอากาศ"
    }

    self.awakenings = {
    "อาการ": "ควบคุมแสง/ความมืดได้โดยไม่รู้ตัว",
    "ผลกระทบ": "สร้างความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ",
    "จิตใต้สำนึก: "สับสนระหว่างความเป็นมนุษย์และพลังเหนือธรรมชาติ"
    }ล
    ```

    การค้นพบความจริงที่น่าตกใจ

    การสืบสวนของหนูดี

    หนูดีได้รับมอบหมายคดีจากหน่วยงานพิเศษ หลังพบว่า โอปปาติกะหลายคนเริ่มเลือกข้าง ในสงครามนี้โดยไม่รู้ตัว

    ธรรมบาลเทพ ปรากฏตัวพร้อมคำเตือน:
    "หนูดี... นี่ไม่ใช่สงครามที่เจ้าคิด
    นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจักรวาล
    และมนุษย์กำลังจะกลายเป็นเหยื่อและนักรบไปพร้อมกัน"

    สมดุลที่แตกสลาย

    ```mermaid
    graph LR
    A[สมดุลเดิม<br>เทพ-มาร-มนุษย์] --> B[มนุษย์พัฒนา<br>เทคโนโลยีและจิตวิญญาณ]
    B --> C[เทพแห่งแสง<br>ต้องการมนุษย์เป็นทหาร]
    B --> D[มารแห่งความมืด<br>ต้องการมนุษย์เป็นเชื้อเพลิง]
    C --> E[สมดุลพังทลาย<br>มนุษย์ตกอยู่กลางศึก]
    D --> E
    ```

    ความลับที่ถูกเปิดเผย

    ที่มาที่แท้จริงของมนุษย์

    ธรรมบาลเทพเปิดเผยความจริงอันน่าตกใจ:

    "มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้...
    พวกเจ้าเป็นผลงานชิ้นเอกที่เทพและมารร่วมกันสร้าง
    เพื่อพิสูจน์ว่าแสงหรือความมืดมีคุณค่ากว่ากัน"

    "และตอนนี้... เวลาสำหรับการตัดสินได้มาถึงแล้ว
    มนุษย์แต่ละคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด
    หรือจะพยายามรักษาสมดุลแบบที่เป็นอยู่"

    บทบาทของโอปปาติกะ

    หนูดีค้นพบว่า:

    · โอปปาติกะคือ มนุษย์รุ่นดัดแปลงพิเศษ
    · ถูกสร้างมาให้เป็น ตัวกลางระหว่างสามฝ่าย
    · แต่หลายคนเริ่ม เอียงข้าง เนื่องจากพลังที่ได้รับ

    ```python
    class OpapatikaRevelation:
    def __init__(self):
    self.true_origin = {
    "วัตถุประสงค์เดิม": "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเทพ-มาร-มนุษย์",
    "ความสามารถพิเศษ": "เข้าใจและสื่อสารกับทั้งสามฝ่ายได้",
    "พันธสัญญา": "ต้องรักษาความเป็นกลางเพื่อความสมดุล",
    "ภัยคุกคาม": "พลังที่เพิ่มขึ้นทำให้ยากต่อการควบคุมตนเอง"
    }

    self.current_crisis = {
    "ฝ่ายแสง": "โอปปาติกะบางคนถูกเทพแห่งแสงชักจูง",
    "ฝ่ายมืด": "โอปปาติกะบางคนถูกมารแห่งความมืดครอบงำ",
    "ฝ่ายกลาง": "เหลือน้อยลงทุกทีและกำลังถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย",
    "หนูดี": "ถูกทั้งสองฝ่ายจับตามองเพราะพลังบริสุทธิ์ที่ยังไม่เลือกข้าง"
    }
    ```

    การเผชิญหน้าครั้งใหม่

    การปรากฏตัวของเทพแห่งแสง

    สุริยเทพ ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มหนูดี:
    "โอปปาติกะผู้ยิ่งใหญ่... มาร่วมมือกับเรา
    มนุษย์ควรก้าวสู่ความสว่างไสวอย่างสมบูรณ์
    เราจะลบล้างความมืดและความไม่สมบูรณ์ทั้งหมด
    สร้างโลกใหม่ที่ปราศจากความทุกข์ทรมาน"

    การปรากฏตัวของมารแห่งความมืด

    ราตรีมาร ปรากฏจากเงามืด:
    "อย่าเชื่อคำสัญญาโกหกของแสง...
    ในความมืดมีอิสระที่แท้จริง
    มนุษย์ควรปลดปล่อยตนเองจากพันธะกรรม
    ยอมรับธรรมชาติที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่แสงสว่างเสมอไป"

    ทางเลือกที่สาม

    หนูดีเริ่มเข้าใจบทเรียนจากพ่อที่ลึกซึ้งขึ้น:
    "พ่อเคยบอกว่า... ความจริงมักไม่ใช่สีขาวหรือดำ
    แต่คือเฉดสีเทาที่ต้องเข้าใจด้วยหัวใจ"

    ยุทธศาสตร์ใหม่

    การค้นพบจุดอ่อนของสงคราม

    หนูดีวิเคราะห์ว่า:

    1. เทพแห่งแสง ต้องการศรัทธาและความเชื่ออย่างblind
    2. มารแห่งความมืด ต้องการความสิ้นหวังและความกลัว
    3. มนุษย์มีสิ่งที่ทั้งสองขาด - อิสระในการเลือก

    ยุทธวิธี "ความเป็นมนุษย์"

    หนูดีพัฒนายุทธศาสตร์ที่ไม่พึ่งพาพลังเหนือธรรมชาติเพียงอย่างเดียว:

    ```python
    class HumanStrategy:
    def __init__(self):
    self.weapons = {
    "การตั้งคำถาม": "ทำให้ทั้งเทพและมารอ่อนแอเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคย",
    "อารมณ์ที่ซับซ้อน": "ความรักที่ทั้งแสงและความมืดเข้าใจไม่หมด",
    "ความคิดสร้างสรรค์": "สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีในแผนการของเทพหรือมาร",
    "ความไม่แน่นอน": "มนุษย์เปลี่ยนแปลงได้เสมอไม่ติดตรึงแบบพลังเหนือธรรมชาติ"
    }

    self.allies = [
    "โอปปาติกะที่ยังเป็นกลาง",
    "มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ยอมถูกควบคุม",
    "สิ่งมีชีวิตอื่นที่ได้รับผลกระทบ",
    "เทพ/มารบางส่วนที่เริ่มตั้งคำถาม"
    ]
    ```

    การปฏิบัติการพิเศษ

    ปฏิบัติการ "แสงเทียนในความมืด"

    หนูดีและทีมเริ่มปฏิบัติการเพื่อ:

    1. ช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง
    2. เปิดโปงแผนการของทั้งสองฝ่าย
    3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ที่ต้องการเป็นกลาง
    4. ค้นหาวิธียุติสงครามโดยไม่ทำลายสมดุล

    การสร้างพันธมิตรที่คาดไม่ถึง

    ในระหว่างปฏิบัติการ หนูดีพบว่า:

    · มีเทพบางองค์ ที่เห็นว่าการบังคับมนุษย์เป็นสิ่งผิด
    · มีมารบางตน ที่เชื่อในอิสระของการเลือกของมนุษย์
    · มนุษย์ธรรมดาหลายคน พร้อมต่อสู้เพื่อสิทธิในการกำหนดชะตาตนเอง

    จุดแตกหัก

    การพิพากษาครั้งใหญ่

    เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืดประกาศว่า:
    "ในคืนจันทรคราสที่จะมาถึง...
    มนุษย์ทุกคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด
    ผู้ที่ยังคงเป็นกลางจะถูกกำจัดทั้งสองฝ่าย"

    คำประกาศของหนูดี

    หนูดีปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองฝ่ายพร้อมคำประกาศ:

    "พวกท่านลืมไปหรือไม่ว่า...
    มนุษย์คือผลงานที่ท่านร่วมกันสร้าง
    การบังคับให้เราเลือกข้าง
    คือการปฏิเสธความเป็นพ่อแม่ของท่านเอง

    และเราขอประกาศว่า...
    มนุษย์จะเลือกทางที่สาม
    ทางของเราเอง

    เราจะไม่เป็นทาสของแสง
    และจะไม่เป็นเชื้อเพลิงของความมืด
    เราจะเป็น... มนุษย์อย่างสมบูรณ์"

    การต่อสู้ครั้งสำคัญ

    ศึกสามฝ่ายที่จุดสมดุล

    หนูดีนำทั้ง มนุษย์ โอปปาติกะ เทพและมารที่เป็นกลาง ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในการกำหนดชะตากรรม

    ```mermaid
    graph TB
    A[หนูดีและฝ่ายกลาง] --> B[ต่อสู้เพื่อสิทธิ<br>ในการกำหนดชะตากรรม]
    C[เทพแห่งแสง] --> D[ต้องการควบคุม<br>มนุษย์เพื่อ'ความสมบูรณ์แบบ']
    E[มารแห่งความมืด] --> F[ต้องการมนุษย์<br>เป็นแหล่งพลังงาน]
    D --> G[ศึกตัดสินที่<br>จุดสมดุลแห่งจักรวาล]
    F --> G
    B --> G
    ```

    พลังใหม่ที่กำเนิดขึ้น

    ในยามคับขัน หนูดีค้นพบว่า:
    "พลังที่แท้จริงของโอปปาติกะ...
    ไม่ใช่การควบคุมแสงหรือความมืด
    แต่คือการเข้าใจว่าทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
    และมนุษย์คือผู้ที่สามารถรวมทั้งสองเข้าด้วยกันได้"

    บทสรุปแห่งการเปลี่ยนแปลง

    โลกใหม่ที่เกิดจากทางเลือก

    หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน:

    1. เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืด ยอมรับสิทธิของมนุษย์
    2. สนธิสัญญาใหม่ ถูกเซ็น - มนุษย์มีสิทธิกำหนดวิถีตนเอง
    3. โอปปาติกะ กลายเป็นผู้รักษาสมดุลอย่างเป็นทางการ
    4. มนุษย์เรียนรู้ ที่จะใช้ทั้งแสงและความมืดอย่างชาญฉลาด

    พันธสัญญาสามฝ่าย

    ```python
    class NewCovenant:
    def __init__(self):
    self.agreements = {
    "เทพแห่งแสง": [
    "เคารพการเลือกของมนุษย์",
    "ให้ความรู้แต่ไม่บังคับ",
    "ยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์คือความงามอย่างหนึ่ง"
    ],
    "มารแห่งความมืด": [
    "ไม่ใช้มนุษย์เป็นทรัพยากร",
    "เคารพอิสระในการเลือก",
    "ยอมรับว่าความมืดไม่ใช่ทางออกเดียว"
    ],
    "มนุษย์": [
    "รับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง",
    "ไม่ใช้พลังในทางที่ทำลายสมดุล",
    "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกต่างๆ"
    ]
    }

    self.guardians = [
    "โอปปาติกะเป็นผู้ดูแลสนธิสัญญา",
    "หนูดีเป็นประธานคณะกรรมการสมดุล",
    "มนุษย์เทพและมนุษย์มารร่วมทำงานกัน"
    ]
    ```

    คำสอนใหม่ของหนูดี

    การเติบโตอีกขั้น

    หนูดีเรียนรู้ว่า:

    "การเป็นโอปปาติกะไม่ใช่การควบคุมพลังเหนือธรรมชาติ...
    แต่คือการเข้าใจว่าพลังทุกชนิดมีที่มาและจุดหมาย

    และการเป็นมนุษย์ที่แท้...
    คือการมีอิสระที่จะเลือก
    พร้อมกับความรับผิดชอบต่อการเลือกนั้น"

    คำคมสรุปคดี

    "ในสงครามระหว่างแสงและความมืด...
    มนุษย์ค้นพบว่าเรามีทั้งสองอย่างในตนเอง

    และทางออกไม่ใช่การเลือกข้าง...
    แต่คือการเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งคู่
    ในเวลาที่เหมาะสม

    เพราะมนุษย์ที่สมบูรณ์...
    คือผู้ที่เข้าใจว่าแสงส่องสว่างเมื่อจำเป็น
    และความมืดให้ความสงบเมื่อต้องการ

    และนี่คือบทเรียนที่เทพและมาร...
    ต้องเรียนรู้จากลูกหลานของพวกเขาเอง"

    ---

    บทส่งท้าย:
    สงครามแห่งแสงจบลง แต่การเดินทางของมนุษย์เพิ่งเริ่มต้น
    หนูดีและโอปปาติกะกลายเป็นผู้พิทักษ์สมดุลใหม่
    ในโลกที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับพลังที่ได้รับมาอย่างรับผิดชอบ

    และบางที... นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่
    ที่เทพ มาร และมนุษย์ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน
    ไม่ใช่ผ่านการทำสงคราม
    แต่ผ่านการเข้าใจในความแตกต่าง
    O.P.K. 🔥 คดีแห่งแสง: ศึกเทพ-มารที่กระทบมนุษย์ 🌌 โลกที่แสงและความมืดปะทะกัน ในยามที่มนุษย์คิดว่าตนเองก้าวเข้าสู่ยุคทองของเทคโนโลยี ความขัดแย้งอันเป็นนิรันดร์ระหว่าง "เทพแห่งแสง" และ "มารแห่งความมืด" กำลังถึงจุดวิกฤติ ผลพวงของสงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มกระทบโลกมนุษย์อย่างจับต้องได้ ```mermaid graph TB A[สงครามเทพ-มาร<br>ขยายสู่โลกมนุษย์] --> B[มนุษย์เริ่ม<br>แสดงอาการผิดปกติ] B --> C[ผู้ที่สัมผัสแสงมาก<br>เกินไปกลายเป็นสุดโต่ง] B --> D[ผู้ที่อยู่ในความมืด<br>นานเกินสูญเสีย] C --> E[มนุษย์แสง: พัฒนาพลัง<br>แต่สูญเสียความเห็นอกเห็นใจ] D --> F[มนุษย์มืด: แข็งแกร่ง<br>แต่โหดร้าย] E --> G[สงครามกลางเมือง<br>ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน] F --> G ``` 🚨 เคสปริศนาที่ปรากฏ 👥 กรณีผู้หายตัวไปสามประเภท 1. ผู้ศรัทธาสุดโต่ง - หายไปพร้อมกับแสงจ้าปริศนา 2. ผู้สิ้นหวังเรื้อรัง - หายไปในความมืดมิด 3. คนกลางทั่วไป - เริ่มแสดงพลังประหลาดโดยไม่รู้ตัว 🔍 ลักษณะคดีที่น่าสงสัย ```python class StrangeCases: def __init__(self): self.light_abductions = { "สถานที่": "แหล่งเทคโนโลยีสูง, วัด, ห้องสมุด", "เวลา": "เที่ยงวันพอดี", "พยาน": "รายงานเห็นแสงสีขาวจ้า", "หลักฐาน": "เหลือแต่เสื้อผ้าไร้ร่องรอยการต่อสู้" } self.dark_abductions = { "สถานที่": "โรงงานร้าง, ซอยมืด, ท้องถนนยามดึก", "เวลา": "เที่ยงคืนตรง", "พยาน": "รู้สึกหนาวเหน็บและได้ยินเสียงกระซิบ", "หลักฐาน": "รอยเท้าที่หายไปกลางอากาศ" } self.awakenings = { "อาการ": "ควบคุมแสง/ความมืดได้โดยไม่รู้ตัว", "ผลกระทบ": "สร้างความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ", "จิตใต้สำนึก: "สับสนระหว่างความเป็นมนุษย์และพลังเหนือธรรมชาติ" }ล ``` 🌓 การค้นพบความจริงที่น่าตกใจ 🕵️ การสืบสวนของหนูดี หนูดีได้รับมอบหมายคดีจากหน่วยงานพิเศษ หลังพบว่า โอปปาติกะหลายคนเริ่มเลือกข้าง ในสงครามนี้โดยไม่รู้ตัว ธรรมบาลเทพ ปรากฏตัวพร้อมคำเตือน: "หนูดี... นี่ไม่ใช่สงครามที่เจ้าคิด นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจักรวาล และมนุษย์กำลังจะกลายเป็นเหยื่อและนักรบไปพร้อมกัน" ⚖️ สมดุลที่แตกสลาย ```mermaid graph LR A[สมดุลเดิม<br>เทพ-มาร-มนุษย์] --> B[มนุษย์พัฒนา<br>เทคโนโลยีและจิตวิญญาณ] B --> C[เทพแห่งแสง<br>ต้องการมนุษย์เป็นทหาร] B --> D[มารแห่งความมืด<br>ต้องการมนุษย์เป็นเชื้อเพลิง] C --> E[สมดุลพังทลาย<br>มนุษย์ตกอยู่กลางศึก] D --> E ``` 👁️ ความลับที่ถูกเปิดเผย 🧬 ที่มาที่แท้จริงของมนุษย์ ธรรมบาลเทพเปิดเผยความจริงอันน่าตกใจ: "มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้... พวกเจ้าเป็นผลงานชิ้นเอกที่เทพและมารร่วมกันสร้าง เพื่อพิสูจน์ว่าแสงหรือความมืดมีคุณค่ากว่ากัน" "และตอนนี้... เวลาสำหรับการตัดสินได้มาถึงแล้ว มนุษย์แต่ละคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด หรือจะพยายามรักษาสมดุลแบบที่เป็นอยู่" 💔 บทบาทของโอปปาติกะ หนูดีค้นพบว่า: · โอปปาติกะคือ มนุษย์รุ่นดัดแปลงพิเศษ · ถูกสร้างมาให้เป็น ตัวกลางระหว่างสามฝ่าย · แต่หลายคนเริ่ม เอียงข้าง เนื่องจากพลังที่ได้รับ ```python class OpapatikaRevelation: def __init__(self): self.true_origin = { "วัตถุประสงค์เดิม": "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเทพ-มาร-มนุษย์", "ความสามารถพิเศษ": "เข้าใจและสื่อสารกับทั้งสามฝ่ายได้", "พันธสัญญา": "ต้องรักษาความเป็นกลางเพื่อความสมดุล", "ภัยคุกคาม": "พลังที่เพิ่มขึ้นทำให้ยากต่อการควบคุมตนเอง" } self.current_crisis = { "ฝ่ายแสง": "โอปปาติกะบางคนถูกเทพแห่งแสงชักจูง", "ฝ่ายมืด": "โอปปาติกะบางคนถูกมารแห่งความมืดครอบงำ", "ฝ่ายกลาง": "เหลือน้อยลงทุกทีและกำลังถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย", "หนูดี": "ถูกทั้งสองฝ่ายจับตามองเพราะพลังบริสุทธิ์ที่ยังไม่เลือกข้าง" } ``` ⚡ การเผชิญหน้าครั้งใหม่ 🌟 การปรากฏตัวของเทพแห่งแสง สุริยเทพ ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มหนูดี: "โอปปาติกะผู้ยิ่งใหญ่... มาร่วมมือกับเรา มนุษย์ควรก้าวสู่ความสว่างไสวอย่างสมบูรณ์ เราจะลบล้างความมืดและความไม่สมบูรณ์ทั้งหมด สร้างโลกใหม่ที่ปราศจากความทุกข์ทรมาน" 🌑 การปรากฏตัวของมารแห่งความมืด ราตรีมาร ปรากฏจากเงามืด: "อย่าเชื่อคำสัญญาโกหกของแสง... ในความมืดมีอิสระที่แท้จริง มนุษย์ควรปลดปล่อยตนเองจากพันธะกรรม ยอมรับธรรมชาติที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่แสงสว่างเสมอไป" 🕊️ ทางเลือกที่สาม หนูดีเริ่มเข้าใจบทเรียนจากพ่อที่ลึกซึ้งขึ้น: "พ่อเคยบอกว่า... ความจริงมักไม่ใช่สีขาวหรือดำ แต่คือเฉดสีเทาที่ต้องเข้าใจด้วยหัวใจ" 🛡️ ยุทธศาสตร์ใหม่ 🔮 การค้นพบจุดอ่อนของสงคราม หนูดีวิเคราะห์ว่า: 1. เทพแห่งแสง ต้องการศรัทธาและความเชื่ออย่างblind 2. มารแห่งความมืด ต้องการความสิ้นหวังและความกลัว 3. มนุษย์มีสิ่งที่ทั้งสองขาด - อิสระในการเลือก 💡 ยุทธวิธี "ความเป็นมนุษย์" หนูดีพัฒนายุทธศาสตร์ที่ไม่พึ่งพาพลังเหนือธรรมชาติเพียงอย่างเดียว: ```python class HumanStrategy: def __init__(self): self.weapons = { "การตั้งคำถาม": "ทำให้ทั้งเทพและมารอ่อนแอเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคย", "อารมณ์ที่ซับซ้อน": "ความรักที่ทั้งแสงและความมืดเข้าใจไม่หมด", "ความคิดสร้างสรรค์": "สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีในแผนการของเทพหรือมาร", "ความไม่แน่นอน": "มนุษย์เปลี่ยนแปลงได้เสมอไม่ติดตรึงแบบพลังเหนือธรรมชาติ" } self.allies = [ "โอปปาติกะที่ยังเป็นกลาง", "มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ยอมถูกควบคุม", "สิ่งมีชีวิตอื่นที่ได้รับผลกระทบ", "เทพ/มารบางส่วนที่เริ่มตั้งคำถาม" ] ``` 🌈 การปฏิบัติการพิเศษ 🎯 ปฏิบัติการ "แสงเทียนในความมืด" หนูดีและทีมเริ่มปฏิบัติการเพื่อ: 1. ช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง 2. เปิดโปงแผนการของทั้งสองฝ่าย 3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ที่ต้องการเป็นกลาง 4. ค้นหาวิธียุติสงครามโดยไม่ทำลายสมดุล 🤝 การสร้างพันธมิตรที่คาดไม่ถึง ในระหว่างปฏิบัติการ หนูดีพบว่า: · มีเทพบางองค์ ที่เห็นว่าการบังคับมนุษย์เป็นสิ่งผิด · มีมารบางตน ที่เชื่อในอิสระของการเลือกของมนุษย์ · มนุษย์ธรรมดาหลายคน พร้อมต่อสู้เพื่อสิทธิในการกำหนดชะตาตนเอง 💥 จุดแตกหัก ⚖️ การพิพากษาครั้งใหญ่ เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืดประกาศว่า: "ในคืนจันทรคราสที่จะมาถึง... มนุษย์ทุกคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด ผู้ที่ยังคงเป็นกลางจะถูกกำจัดทั้งสองฝ่าย" 🛡️ คำประกาศของหนูดี หนูดีปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองฝ่ายพร้อมคำประกาศ: "พวกท่านลืมไปหรือไม่ว่า... มนุษย์คือผลงานที่ท่านร่วมกันสร้าง การบังคับให้เราเลือกข้าง คือการปฏิเสธความเป็นพ่อแม่ของท่านเอง และเราขอประกาศว่า... มนุษย์จะเลือกทางที่สาม ทางของเราเอง เราจะไม่เป็นทาสของแสง และจะไม่เป็นเชื้อเพลิงของความมืด เราจะเป็น... มนุษย์อย่างสมบูรณ์" 🌟 การต่อสู้ครั้งสำคัญ 🔥 ศึกสามฝ่ายที่จุดสมดุล หนูดีนำทั้ง มนุษย์ โอปปาติกะ เทพและมารที่เป็นกลาง ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในการกำหนดชะตากรรม ```mermaid graph TB A[หนูดีและฝ่ายกลาง] --> B[ต่อสู้เพื่อสิทธิ<br>ในการกำหนดชะตากรรม] C[เทพแห่งแสง] --> D[ต้องการควบคุม<br>มนุษย์เพื่อ'ความสมบูรณ์แบบ'] E[มารแห่งความมืด] --> F[ต้องการมนุษย์<br>เป็นแหล่งพลังงาน] D --> G[ศึกตัดสินที่<br>จุดสมดุลแห่งจักรวาล] F --> G B --> G ``` ✨ พลังใหม่ที่กำเนิดขึ้น ในยามคับขัน หนูดีค้นพบว่า: "พลังที่แท้จริงของโอปปาติกะ... ไม่ใช่การควบคุมแสงหรือความมืด แต่คือการเข้าใจว่าทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน และมนุษย์คือผู้ที่สามารถรวมทั้งสองเข้าด้วยกันได้" 🕊️ บทสรุปแห่งการเปลี่ยนแปลง 🌍 โลกใหม่ที่เกิดจากทางเลือก หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน: 1. เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืด ยอมรับสิทธิของมนุษย์ 2. สนธิสัญญาใหม่ ถูกเซ็น - มนุษย์มีสิทธิกำหนดวิถีตนเอง 3. โอปปาติกะ กลายเป็นผู้รักษาสมดุลอย่างเป็นทางการ 4. มนุษย์เรียนรู้ ที่จะใช้ทั้งแสงและความมืดอย่างชาญฉลาด 📜 พันธสัญญาสามฝ่าย ```python class NewCovenant: def __init__(self): self.agreements = { "เทพแห่งแสง": [ "เคารพการเลือกของมนุษย์", "ให้ความรู้แต่ไม่บังคับ", "ยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์คือความงามอย่างหนึ่ง" ], "มารแห่งความมืด": [ "ไม่ใช้มนุษย์เป็นทรัพยากร", "เคารพอิสระในการเลือก", "ยอมรับว่าความมืดไม่ใช่ทางออกเดียว" ], "มนุษย์": [ "รับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง", "ไม่ใช้พลังในทางที่ทำลายสมดุล", "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกต่างๆ" ] } self.guardians = [ "โอปปาติกะเป็นผู้ดูแลสนธิสัญญา", "หนูดีเป็นประธานคณะกรรมการสมดุล", "มนุษย์เทพและมนุษย์มารร่วมทำงานกัน" ] ``` 💫 คำสอนใหม่ของหนูดี 🌱 การเติบโตอีกขั้น หนูดีเรียนรู้ว่า: "การเป็นโอปปาติกะไม่ใช่การควบคุมพลังเหนือธรรมชาติ... แต่คือการเข้าใจว่าพลังทุกชนิดมีที่มาและจุดหมาย และการเป็นมนุษย์ที่แท้... คือการมีอิสระที่จะเลือก พร้อมกับความรับผิดชอบต่อการเลือกนั้น" 🕯️ คำคมสรุปคดี "ในสงครามระหว่างแสงและความมืด... มนุษย์ค้นพบว่าเรามีทั้งสองอย่างในตนเอง และทางออกไม่ใช่การเลือกข้าง... แต่คือการเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งคู่ ในเวลาที่เหมาะสม เพราะมนุษย์ที่สมบูรณ์... คือผู้ที่เข้าใจว่าแสงส่องสว่างเมื่อจำเป็น และความมืดให้ความสงบเมื่อต้องการ และนี่คือบทเรียนที่เทพและมาร... ต้องเรียนรู้จากลูกหลานของพวกเขาเอง"✨ --- 📖 บทส่งท้าย: สงครามแห่งแสงจบลง แต่การเดินทางของมนุษย์เพิ่งเริ่มต้น หนูดีและโอปปาติกะกลายเป็นผู้พิทักษ์สมดุลใหม่ ในโลกที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับพลังที่ได้รับมาอย่างรับผิดชอบ และบางที... นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ที่เทพ มาร และมนุษย์ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่ผ่านการทำสงคราม แต่ผ่านการเข้าใจในความแตกต่าง🌈
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • ดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศ: ไอเดียที่แย่ที่สุดของยุค AI

    บทความนี้เขียนโดยอดีตวิศวกร/นักวิทยาศาสตร์ NASA ที่มีปริญญาเอกด้านอิเล็กทรอนิกส์อวกาศ และเคยทำงานที่ Google มา 10 ปี รวมถึงส่วนของ Cloud ที่รับผิดชอบการติดตั้ง AI capacity ท่านได้ออกมาเตือนว่าแนวคิดการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศที่บริษัท AI หลายแห่งกำลังพิจารณาร่วมกับบริษัทดาวเทียม เป็นไอเดียที่แย่มากๆ และไม่สมเหตุสมผลเลย

    สาเหตุหลักมาจากข้อจำกัดพื้นฐานหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงาน การระบายความร้อน ความทนทานต่อรังสี และการสื่อสาร ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะ GPU และ TPU สำหรับ AI นั้นเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ทำงานได้ดีในอวกาศโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น แผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ที่สุดในอวกาศ (ของสถานีอวกาศนานาชาติ ISS) ที่มีขนาดครึ่งสนามฟุตบอลอเมริกัน สามารถจ่ายไฟได้เพียง 200kW ซึ่งเพียงพอสำหรับ GPU ประมาณ 200 ตัวเท่านั้น ในขณะที่ดาต้าเซ็นเตอร์ของ OpenAI ในนอร์เวย์วางแผนจะติดตั้ง GPU ถึง 100,000 ตัว

    นอกจากนี้ การระบายความร้อนในอวกาศเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง เพราะไม่มีอากาศให้ระบายความร้อนแบบ convection ได้ ต้องใช้ระบบ radiator panel ขนาดมหึมา ซึ่งระบบระบายความร้อนของ ISS ที่สามารถระบายความร้อนได้ 16kW (เพียงพอสำหรับ GPU 16 ตัว) ต้องใช้แผง radiator ขนาดถึง 42.5 ตารางเมตร ปัญหารังสีในอวกาศยังทำให้ชิปอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปเสียหายได้ง่าย โดย GPU และ TPU ที่ใช้ transistor ขนาดเล็กเป็นพิเศษนั้นเสี่ยงต่อความเสียหายจากรังสีมากที่สุด ชิปที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในอวกาศจริงๆ มีประสิทธิภาพเทียบเท่า PowerPC จากปี 2005 เท่านั้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อจำกัดด้านพลังงาน
    แผงโซลาร์เซลล์ขนาดเท่า ISS (2,500 ตร.ม.) ให้พลังงานเพียง 200kW หรือพอสำหรับ GPU 200 ตัว
    ต้องใช้ดาวเทียมขนาด ISS ถึง 500 ดวง เพื่อเทียบเท่าดาต้าเซ็นเตอร์ 100,000 GPU ของ OpenAI
    เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากกัมมันตรังสี (RTG) ให้พลังงานเพียง 50-150W ไม่พอสำหรับ GPU แม้แต่ตัวเดียว

    ปัญหาการระบายความร้อน
    ไม่มีอากาศในอวกาศ ทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนแบบ convection ได้
    ต้องใช้ระบบ radiator panel ขนาดใหญ่มาก - ระบบของ ISS ที่ระบายได้ 16kW ต้องใช้พื้นที่ 42.5 ตร.ม.
    สำหรับ GPU 200 ตัว (200kW) ต้องใช้แผง radiator ประมาณ 531 ตร.ม. หรือใหญ่กว่าแผงโซลาร์เซลล์ถึง 2.6 เท่า

    ความเสี่ยงจากรังสีอวกาศ
    GPU/TPU ใช้ transistor ขนาดเล็กมาก ทำให้เสี่ยงต่อ Single-Event Upset (SEU) และ latch-up สูงมาก
    รังสีสามารถทำให้บิตข้อมูลเปลี่ยนแปลง หรือทำให้ชิปเสียหายถาวรได้
    ชิปที่ออกแบบสำหรับอวกาศจริงๆ มีประสิทธิภาพเทียบเท่า PowerPC จาก 20 ปีก่อนเท่านั้น
    Total dose effects ทำให้ประสิทธิภาพชิปลดลงเรื่อยๆ ตลอดอายุการใช้งาน

    ข้อจำกัดด้านการสื่อสาร
    ดาวเทียมส่วนใหญ่สื่อสารผ่านคลื่นวิทยุได้ไม่เกิน 1Gbps
    เทียบกับ server rack บนโลกที่ใช้ interconnect 100Gbps ขึ้นไป ช้ากว่ามาก
    การใช้เลเซอร์สื่อสารต้องพึ่งพาสภาพอากาศที่ดี

    ข้อสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ
    ดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศขนาดเท่าดาวเทียม ISS จะเทียบเท่า server rack เพียง 3 ชุดบนโลกเท่านั้น
    ต้นทุนสูงมหาศาล ประสิทธิภาพต่ำ และยากต่อการดำเนินการอย่างยิ่ง
    เป็นไอเดียที่แย่มากในทางเศรษฐศาสตร์และเทคนิค

    https://taranis.ie/datacenters-in-space-are-a-terrible-horrible-no-good-idea/
    🚀 ดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศ: ไอเดียที่แย่ที่สุดของยุค AI บทความนี้เขียนโดยอดีตวิศวกร/นักวิทยาศาสตร์ NASA ที่มีปริญญาเอกด้านอิเล็กทรอนิกส์อวกาศ และเคยทำงานที่ Google มา 10 ปี รวมถึงส่วนของ Cloud ที่รับผิดชอบการติดตั้ง AI capacity ท่านได้ออกมาเตือนว่าแนวคิดการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศที่บริษัท AI หลายแห่งกำลังพิจารณาร่วมกับบริษัทดาวเทียม เป็นไอเดียที่แย่มากๆ และไม่สมเหตุสมผลเลย สาเหตุหลักมาจากข้อจำกัดพื้นฐานหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงาน การระบายความร้อน ความทนทานต่อรังสี และการสื่อสาร ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะ GPU และ TPU สำหรับ AI นั้นเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ทำงานได้ดีในอวกาศโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น แผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ที่สุดในอวกาศ (ของสถานีอวกาศนานาชาติ ISS) ที่มีขนาดครึ่งสนามฟุตบอลอเมริกัน สามารถจ่ายไฟได้เพียง 200kW ซึ่งเพียงพอสำหรับ GPU ประมาณ 200 ตัวเท่านั้น ในขณะที่ดาต้าเซ็นเตอร์ของ OpenAI ในนอร์เวย์วางแผนจะติดตั้ง GPU ถึง 100,000 ตัว นอกจากนี้ การระบายความร้อนในอวกาศเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง เพราะไม่มีอากาศให้ระบายความร้อนแบบ convection ได้ ต้องใช้ระบบ radiator panel ขนาดมหึมา ซึ่งระบบระบายความร้อนของ ISS ที่สามารถระบายความร้อนได้ 16kW (เพียงพอสำหรับ GPU 16 ตัว) ต้องใช้แผง radiator ขนาดถึง 42.5 ตารางเมตร ปัญหารังสีในอวกาศยังทำให้ชิปอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปเสียหายได้ง่าย โดย GPU และ TPU ที่ใช้ transistor ขนาดเล็กเป็นพิเศษนั้นเสี่ยงต่อความเสียหายจากรังสีมากที่สุด ชิปที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในอวกาศจริงๆ มีประสิทธิภาพเทียบเท่า PowerPC จากปี 2005 เท่านั้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อจำกัดด้านพลังงาน ➡️ แผงโซลาร์เซลล์ขนาดเท่า ISS (2,500 ตร.ม.) ให้พลังงานเพียง 200kW หรือพอสำหรับ GPU 200 ตัว ➡️ ต้องใช้ดาวเทียมขนาด ISS ถึง 500 ดวง เพื่อเทียบเท่าดาต้าเซ็นเตอร์ 100,000 GPU ของ OpenAI ➡️ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากกัมมันตรังสี (RTG) ให้พลังงานเพียง 50-150W ไม่พอสำหรับ GPU แม้แต่ตัวเดียว ✅ ปัญหาการระบายความร้อน ➡️ ไม่มีอากาศในอวกาศ ทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนแบบ convection ได้ ➡️ ต้องใช้ระบบ radiator panel ขนาดใหญ่มาก - ระบบของ ISS ที่ระบายได้ 16kW ต้องใช้พื้นที่ 42.5 ตร.ม. ➡️ สำหรับ GPU 200 ตัว (200kW) ต้องใช้แผง radiator ประมาณ 531 ตร.ม. หรือใหญ่กว่าแผงโซลาร์เซลล์ถึง 2.6 เท่า ‼️ ความเสี่ยงจากรังสีอวกาศ ⛔ GPU/TPU ใช้ transistor ขนาดเล็กมาก ทำให้เสี่ยงต่อ Single-Event Upset (SEU) และ latch-up สูงมาก ⛔ รังสีสามารถทำให้บิตข้อมูลเปลี่ยนแปลง หรือทำให้ชิปเสียหายถาวรได้ ⛔ ชิปที่ออกแบบสำหรับอวกาศจริงๆ มีประสิทธิภาพเทียบเท่า PowerPC จาก 20 ปีก่อนเท่านั้น ⛔ Total dose effects ทำให้ประสิทธิภาพชิปลดลงเรื่อยๆ ตลอดอายุการใช้งาน ‼️ ข้อจำกัดด้านการสื่อสาร ⛔ ดาวเทียมส่วนใหญ่สื่อสารผ่านคลื่นวิทยุได้ไม่เกิน 1Gbps ⛔ เทียบกับ server rack บนโลกที่ใช้ interconnect 100Gbps ขึ้นไป ช้ากว่ามาก ⛔ การใช้เลเซอร์สื่อสารต้องพึ่งพาสภาพอากาศที่ดี ✅ ข้อสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ ดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศขนาดเท่าดาวเทียม ISS จะเทียบเท่า server rack เพียง 3 ชุดบนโลกเท่านั้น ➡️ ต้นทุนสูงมหาศาล ประสิทธิภาพต่ำ และยากต่อการดำเนินการอย่างยิ่ง ➡️ เป็นไอเดียที่แย่มากในทางเศรษฐศาสตร์และเทคนิค https://taranis.ie/datacenters-in-space-are-a-terrible-horrible-no-good-idea/
    TARANIS.IE
    Datacenters in space are a terrible, horrible, no good idea.
    There is a rush for AI companies to team up with space launch/satellite companies to build datacenters in space. TL;DR: It's not going to work.
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • ขุมทรัพย์ลิเธียมใต้ซูเปอร์ภูเขาไฟในสหรัฐ มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์

    การค้นพบครั้งสำคัญเกิดขึ้นที่ McDermitt Caldera บริเวณชายแดนรัฐเนวาดา–โอเรกอน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นแหล่งลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการประเมินว่ามีปริมาณระหว่าง 20–40 ล้านตันของดินเหนียวที่อุดมไปด้วยลิเธียม มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ การค้นพบนี้อาจพลิกโฉมอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ทั่วโลก และทำให้สหรัฐมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานพลังงานสะอาดในอนาคต

    ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของแหล่งนี้คือการลดการพึ่งพาการนำเข้าลิเธียมจากต่างประเทศ ปัจจุบันสหรัฐพึ่งพาเหมือง Silver Peak ในเนวาดามาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 การมีแหล่งใหม่ขนาดมหึมาจะช่วยตอบสนองความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3–5 เท่าภายในปี 2040 จากการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงานหมุนเวียน

    อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเหมืองลิเธียมในพื้นที่นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น ชุมชนชนเผ่าและนักอนุรักษ์เตือนว่าการทำเหมืองอาจกระทบต่อระบบนิเวศทะเลทราย เช่น sage-grouse และสัตว์ป่าอื่น ๆ รวมถึงพื้นที่ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชนพื้นเมือง

    ในอีกด้านหนึ่ง เทคโนโลยีแบตเตอรี่ทางเลือก เช่น sodium-ion กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว นักวิจัยในแคนาดาเพิ่งเปิดตัวแบตเตอรี่โซเดียมแบบ solid-state ที่มีความปลอดภัยสูงและราคาถูกกว่า แม้ยังไม่พร้อมเชิงพาณิชย์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจลดการพึ่งพาลิเธียมในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญและข้อควรระวัง
    การค้นพบแหล่งลิเธียมมหึมาที่ McDermitt Caldera
    ปริมาณลิเธียม 20–40 ล้านตัน มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
    อาจทำให้สหรัฐเป็นผู้นำด้านวัตถุดิบแบตเตอรี่โลก

    ความต้องการลิเธียมทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
    คาดว่าจะโต 3–5 เท่าภายในปี 2040 จากรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด
    การมีแหล่งใหม่ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้า

    การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ทางเลือก
    Sodium-ion และ solid-state กำลังพัฒนาเพื่อเป็นทางเลือกที่ถูกและปลอดภัยกว่า
    อาจช่วยลดแรงกดดันต่อการทำเหมืองลิเธียมในอนาคต

    ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
    การทำเหมืองอาจกระทบสัตว์ป่าและระบบนิเวศทะเลทราย
    พื้นที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองอาจถูกทำลาย

    ความไม่แน่นอนของตลาดและเทคโนโลยี
    ราคาลิเธียมผันผวนสูง อาจกระทบการลงทุนระยะยาว
    เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ยังไม่พร้อมเชิงพาณิชย์ อาจใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/manufacturing/usd1-5-trillion-lithium-deposit-found-in-u-s-supervolcano-crater-site-could-supply-batteries-for-decades
    🌋 ขุมทรัพย์ลิเธียมใต้ซูเปอร์ภูเขาไฟในสหรัฐ มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ การค้นพบครั้งสำคัญเกิดขึ้นที่ McDermitt Caldera บริเวณชายแดนรัฐเนวาดา–โอเรกอน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นแหล่งลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการประเมินว่ามีปริมาณระหว่าง 20–40 ล้านตันของดินเหนียวที่อุดมไปด้วยลิเธียม มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ การค้นพบนี้อาจพลิกโฉมอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ทั่วโลก และทำให้สหรัฐมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานพลังงานสะอาดในอนาคต 🔋 ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของแหล่งนี้คือการลดการพึ่งพาการนำเข้าลิเธียมจากต่างประเทศ ปัจจุบันสหรัฐพึ่งพาเหมือง Silver Peak ในเนวาดามาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 การมีแหล่งใหม่ขนาดมหึมาจะช่วยตอบสนองความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3–5 เท่าภายในปี 2040 จากการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงานหมุนเวียน 🌱 อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเหมืองลิเธียมในพื้นที่นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น ชุมชนชนเผ่าและนักอนุรักษ์เตือนว่าการทำเหมืองอาจกระทบต่อระบบนิเวศทะเลทราย เช่น sage-grouse และสัตว์ป่าอื่น ๆ รวมถึงพื้นที่ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชนพื้นเมือง ⚡ ในอีกด้านหนึ่ง เทคโนโลยีแบตเตอรี่ทางเลือก เช่น sodium-ion กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว นักวิจัยในแคนาดาเพิ่งเปิดตัวแบตเตอรี่โซเดียมแบบ solid-state ที่มีความปลอดภัยสูงและราคาถูกกว่า แม้ยังไม่พร้อมเชิงพาณิชย์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจลดการพึ่งพาลิเธียมในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญและข้อควรระวัง ✅ การค้นพบแหล่งลิเธียมมหึมาที่ McDermitt Caldera ➡️ ปริมาณลิเธียม 20–40 ล้านตัน มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ➡️ อาจทำให้สหรัฐเป็นผู้นำด้านวัตถุดิบแบตเตอรี่โลก ✅ ความต้องการลิเธียมทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ➡️ คาดว่าจะโต 3–5 เท่าภายในปี 2040 จากรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด ➡️ การมีแหล่งใหม่ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้า ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ทางเลือก ➡️ Sodium-ion และ solid-state กำลังพัฒนาเพื่อเป็นทางเลือกที่ถูกและปลอดภัยกว่า ➡️ อาจช่วยลดแรงกดดันต่อการทำเหมืองลิเธียมในอนาคต ‼️ ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ⛔ การทำเหมืองอาจกระทบสัตว์ป่าและระบบนิเวศทะเลทราย ⛔ พื้นที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองอาจถูกทำลาย ‼️ ความไม่แน่นอนของตลาดและเทคโนโลยี ⛔ ราคาลิเธียมผันผวนสูง อาจกระทบการลงทุนระยะยาว ⛔ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ยังไม่พร้อมเชิงพาณิชย์ อาจใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา https://www.tomshardware.com/tech-industry/manufacturing/usd1-5-trillion-lithium-deposit-found-in-u-s-supervolcano-crater-site-could-supply-batteries-for-decades
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    $1.5 trillion lithium deposit found in U.S. supervolcano crater — site could supply batteries for decades
    Enough lithium for decades worth of battery manufacturing has been discovered in the McDermitt Caldera, on the Nevada – Oregon border.
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • พ่อมดแห่งออซ กับภาพลวงตาของดอลลาร์ : คนเคาะข่าว 01-12-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    https://www.youtube.com/watch?v=4Z_Z28P0jjs
    พ่อมดแห่งออซ กับภาพลวงตาของดอลลาร์ : คนเคาะข่าว 01-12-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ https://www.youtube.com/watch?v=4Z_Z28P0jjs
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • ไม่ตกสะเก็ด บทส่งท้าย ตอนที่ 1-4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” 
    บทส่งท้าย

ตอน 1
    ตกลง ดูๆไป เหมือนญี่ปุ่นลอยตัวอยู่เหนือสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงไม่เป็นผู้ชนะ แต่ก็เหมือนไม่ได้เป็นผู้แพ้ มีชาวญี่ปุ่น ตายแยะ บ้านเมืองฉิบหายเยอะก็จริงอยู่ แต่ที่ญี่ปุ่นไปรุกรานย่ำยีเขา เขาก็แหลกราญ ยับเยินไม่น้อยกว่า หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนญี่ปุ่นไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับการกระทำของญี่ปุ่น
    ตั้งแต่อเมริกาเข้าไปใช้อำนาจปกครองญี่ปุ่นโดย SCAP ฝ่ายญี่ปุ่น ที่น่าจะมีผู้รับผิดชอบ ในการนำหรือส่งเสริมให้ญี่ปุ่นทำสงคราม ก็แทบจะหาผู้รับผิดชอบอย่างแท้จริงไม่เจอ เห็นแต่เงารางๆ กับคำขอโทษที่ยังกำกวม และไม่ช่วยทำให้ผู้ที่ถูกญี่ปุ่นย่ำยี นอนตาหลับ
    การชดใช้ค่าเสียหายของญี่ปุ่นกับเยอรมัน ในฐานะผู้ทำแพ้สงคราม ต่างกันสื้นเชิง
    เยอรมันถูกฝ่ายอังกฤษและยุโรปตอกหมุด ดิ้นไม่ออก จ่ายค่าเสียหายไปประมาณ 3 หมื่นล้านเหรียญ และค่าชดเชยรายเดือน อยู่อีกหลายสิบปี
    ส่วนญี่ปุ่น อเมริกาบอกว่า ญี่ปุ่นล้มละลาย ทั้งด้านทรัพย์สิน และด้านจิตใจ หลังจากกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป เพราะฉะนั้น จ่ายค่าเสียหายเพียง 2 พันล้านเหรียญ ที่เหลือ SCAP บอกว่า รอรับเป็นอาวุธ (เหลือสงคราม) และเครื่องจักรเก่า หรือเครื่องจักรใหม่ ที่ผลิต จากทรัพยากร ที่ไปขโมยเขามาได้ไหม หรือจะเอาเป็นเครื่องจักรใหม่เอี่ยม ที่อเมริกาจะให้ผลิต แต่ไม่ได้ให้ฟรีนะ ให้แบบลดราคา ส่วนต่างจ่ายเป็นอาหาร โอ้ย เงื่อนไขแยะ สรุปว่า แทบไม่มีใครได้อะไรจากญี่ปุ่น นอกจากอเมริกา
    ฝ่ายอังกฤษและยุโรปบอก แล้วพวกทหารของฝ่ายเรา ที่ญี่ปุ่นจับไปขังให้กินขี้ กินโคลน อยู่ค่ายกักกันที่สิงคโปร์ ประมาณ 5 หมื่นกว่าคน กว่าจะหลุดออกมาหลังสงครามโลก ตายไป เกือบครึ่ง ลืมไปแล้วหรือ นี่ยังไม่ได้นับการสร้างสพานข้ามแม่น้ำแควอันโด่งดังว่า พวกทหารฝรั่งถูกทารุณกันขนาดไหน จะชดเชย จะขอโทษอย่างไร
    ในที่สุด ไม่รู้อเมริกาตกลงอะไรกับอังกฤษ ตอนหลัง เสียงบ่นของชาวเกาะใหญ่ เงียบเช่นเป่าสาก
    ฝ่ายเอเซียเองบอกว่า เราก็ไม่ลืม เรื่องนานกิง เรื่องเมียหมอนข้าง ที่ญี่ปุ่นกวาดต้อนเอา ไปใช้สอยในช่วงสงครามอย่างทารุณ ข่มขืนทั้งร่างกายและจิตใจ มีประมาณกว่าแสนคน ส่วนใหญ่ อายุ 14 ถึง 18 และไม่ลืมเรื่องการปล้นบ้านเมืองของเราอย่างตะกระทารุณและเหี้ยมโหด แต่ไม่มีใครมาตกลงกับจีน ไม่มีคำขอโทษ โลกแทบไม่รู้เรื่อง เพราะฮอลลีวู้ดมัวแต่ทำหนังเรื่องยิว สำหรับเกาหลี ญี่ปุ่นบอกเสียใจ แต่ไม่เคยขอโทษ เพิ่งมาพูดปีนี้ แต่ก็บอกว่า ชนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น ไม่ต้องรับผิดชอบ เรื่องผ่านไปแล้ว (เดี๋ยวจะสับสนกับเรื่องใหม่ ที่กำลังจะต้องทำ ?!)
    สำหรับเยอรมัน ฝ่ายใช้อำนาจปกครอง คุ้ยแคะทอง เพชร แม้กระทั่งฝันทองในปากชาวยิว ฮอลลีวู้ด ยังทำเอาไปทำหนัง งัดฟันทองยิวให้ดู จนคนด่าเช็ดเยอรมันทั้งโรงหนัง ด้านเยอรมัน ถูกแจงทุกรายการ เพราะมียิวคอยจ้อง คอยฟ้อง และเพราะคนคอยแบ่ง มีหลายพวก จ้องกันทั้งตาทั้งปากมันแผลบ ส่วนการดำเนินคดีกับพวกนาซีที่ฆ่าโหดชาวยิว ถูกจับมาดำเนินคดีไปแล้วหลายคน ผ่านไป 70 ปี คดียังไม่จบก็มี ยังต้องพยุงกันมาศาล เมื่อ 2,3 ก็ยังมีข่าวอยู่ ส่วนพวกที่หนีรอด ก็เผ่นไปกบดาน เปลี่ยนชื่ออยู่แถวบราซิล อเมริกาใต้ จนแถวนั้น มีแต่ผิวน้ำตาล แต่ผมทอง ตาสีฟ้า กลายเป็นนางแบบ ค่าตัวแพง
    แต่สำหรับญี่ปุ่น ดูเหมือนเรื่องจะหายเงียบแทบไม่มีอะไรโผล่ ( เหมือนนิทานเรื่องจริง ที่ถูกบีบท่อ ไม่ให้นิทานโผล่ ผมไปตกลงแพ้สงครามกับมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ หือ !) จะมีก็แต่ นายพลโตโจผู้บัญชาการรบ และนายทหารคนสนิทไม่กี่คน ที่แอ่นอก (นี่ถ้าอดีตนายกฯ คนหนึ่งมาอ่าน หล่อนจะอ่านออกไหม เดี๋ยวจะงงว่า แอ่ นอก คืออะไร อ๋อ ไม่อ่านหรือครับ ไม่ชอบอ่านหนังสือ… มิน่า..) ยอมรับกรรม (แทนคนอื่นๆอีกหลายคน) เมื่อมีคนมากล่อมเขา ให้บอกว่า เขาเป็นคนสั่งให้กองทัพญี่ปุ่นทำสงคราม และเคลื่อนพล ลงมาทางแปซืฟิกใต้ โตโจ บอกไม่มีปัญหา เขารู้หน้าที่ ไม่กี่วันหลังจากนั้น เขาก็ยิงขมับตัวเองฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตาย ไปนอนโรงพยาบาลอยู่ในคุกซุกาโมแทน พอหาย ก็ไปรับโทษ ถูกแขวนคอ พร้อมกับลูกน้อง ไม่กี่คน
###############
ตอน 2
    หลังจาก นาย Atcheson เครื่องบินตกตาย มีคนแคลงใจ เรื่องที่ SCAP บอก ญี่ปุ่นล้มละลาย เสนอให้ประธานาธิบดีทรูแมน ส่งคนมาตรวจสอบ ทรูแมน ส่ง นาย Edwin S Pauley เศรษฐี น้ำมัน จากพรรค Democrat มาประเมินเศรษฐกิจ ของญีปุ่น ว่า เจ๊งจริงหรือเปล่า จะมีปัญญาใช้หนี้ชาวบ้าน เขาบ้างไหม ไหนว่าปล้นทรัพย์เขามาแยะ นาย Pauley บินมาตรวจสอบที่ญี่ปุ่น เขาตามเจอ บัญชีลับต่างๆ ที่อยู่นอกประเทศ เช่นที่ สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และอาร์เจนตินา เขา รายงานว่า บัญชีพวกนั้น เป็น ทรัพย์สินส่วนตัว ของ พวกนักธุรกิจใหญ่ zaibatsu ที่ไม่เกี่ยวกับการทำสงครามเลยนะ อ้าว
    แต่ ในช่วงไม่กี่เดือน ก่อนสงครามจะจบ ทหารพรานอเมริกัน ลูกครึ่ง อเมริกัน-ฟิลิปปิโน นาย Servino Garcia Santa Romana สังกัดหน่วย โอเอสเอส (หน่วยข่าวกรองของอเมริกา ก่อน เปลี่ยนชื่อ เป็น ซีไอเอ) ที่ปฏิบัติหน้าที่ อยู่แถวภูเขาที่เกาะลูซอน ฟิลิปปีนส์ แอบเห็นกองทัพญี่ปุ่น ใช้รถบรรทุก เป็นขบวน ขนหีบ ท่าทางหนักอึ้ง เข้าไปในถ้ำ หลายรอบจนนับไม่ถ้วน เลย แอบตามไปล็อคคอทหารญี่ปุ่นมาสอบถาม ได้ความว่า เป็นหีบบรรจุทองแท่งทั้งนั้น ส้มหล่นใส่อย่างไม่นึกฝัน ฝ่ายทหารอเมริกันจึงสั่งปิดตายถ้ำ วางกับระเบิดกันไว้ พร้อมจัดยามเฝ้า
    หลังสงครามเลิก นายพลแมค กลับมาลูซอน พร้อมนายพล Charles Willoughby ลูกน้องคนสนิท และพวกหน่วยข่าวกรองอีกหลายโหล ช่วยกันเปิดถ้ำ ขนทองออกไป หลังจากนั้น ก็ปิดตายถ้ำอีกรอบ
    เขาว่า ทองที่ขนกันไป ทอง Santa Romana พวกเขาเรียกกันอย่างนั้น นอกจาก 2 นายพลใหญ่ จะรู้แล้ว หัวหน้าใหญ่ OSS นายพล Donovan ก็รู้ และ แน่นอน Herbert Hoover ก็รู้ ทอง Santa Romana ไม่ได้ส่งคืนเจ้าของ แต่ ฝ่ายอเมริกัน ขนขึ้นเรือรบ นำไปฝาก ใน ธนาคาร 42 ประเทศ แยกเป็น 176 บัญชี ตัวเลขที่เปิดเผย คือ ทอง จำนวน 20,000 ตัน ตันนะครับ ไม่ใช่กิโล ไม่ใช่บาท
    บางส่วนของทอง แบ่งเอาไปใช้ในกิจการ นอกระบบ ของ ซีไอเอ เหมือน รายได้จากพวกฝิ่น เฮโรอีน แถวฉาน พม่า ลาว สามเหลี่ยมทองคำ นั่นแหละ ไม่ต้องกวนภาษีประชาชนคนอเมริกัน และไม่ต้องขออนุญาตรัฐสภา เวลาจะปฏิบัติการ ไม่ต้องแจงรายละเอียด ส่วนที่เหลือไปไหนบ้าง หนังสือที่อ่านไม่บอก ผมรู้แต่ว่า คนเขียนหนังสือ ที่เล่าข้อมูลฝ่ายญี่ปุ่น เขียนเสร็จ พอหนังสือออกขาย เขาต้องย้ายบ้าน ย้ายประเทศ
###############
ตอน 3
    หลังครามโลก พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP ที่คลอดในคุกซุกาโม มียากูซ่า เป็นหมอตำแย ก็เป็นผู้ใช้อำนาจบริหารญี่ปุ่น มาจนถึงทุกวันนี้
    หลังสงครามโลก กลุ่มอเมริกัน มอร์แกน เสียตำแหน่งเจ้าพ่อใหญ่ ที่คุมทุกปีกในอเมริกา ให้แก่ กลุ่มอเมริกัน ร้อกกี้เฟลเลอร์ เขาว่า เพราะมอร์แกน แทงม้าผิดตัว ทุ่มผิดที่ นึกว่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ จะเคี้ยวเหยื่อ เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ มันไม่มีอะไรแน่นอนตลอดเวลาหรอก พวกเอ็งควรศึกษาศาสนาพุทธ ให้เข้าใจ ถึงเรื่องการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเสียบ้าง จะได้ไม่ตะกระตะกรามขนาดนี้ ส่วนร้อกกี้ อาศัยเทคนิคใหม่ ล่าเหยื่อ โดยไม่ต้องใช้เงินถม ไม่ต้องใช้กองทัพคนมากมาย อย่างชาวเกาะใหญ่ แค่ใช้กองทัพลมปาก กับตั้งโรงงานฟอกย้อมความคิดให้มากหน่อย ลงทุนครั้งเดียว ผ่านมา 70 ปี สีย้อมยังติดทนดีอยู่เลย เฮ้ย เหนื่อยใจ
    หลังสงครามโลก John McCloy เป็นผู้อำนวยการ สถาบัน CFR ตั้งแต่ ปี คศ 1953 ถึง 1970
    MacCloy เป็นใคร สำคัญอย่างไร 
    MacCloy เดิมเป็นทนาย (ทนายอีกแล้ว!) อยู่ในกลุ่มวอลสตรีทกับพวกมอร์แกน ต่อมาแปรพักตร์ ย้ายมาอยู่กลุ่มร้อกกี้ เขาคงมองเห็นอะไร แวบ ๆ พวกทนายพันธุ์นี้ มักจมูกดี ได้กลิ่นเน่าไว เลยย้าย มาอยู่ สนง กฏหมาย Milbank Tweed ซึ่งทำงานให้ตระกูลร้อกกี้ the great กับ เป็นที่ปรึกษากฏหมายใหญ่ ให้ ธนาคาร Chase หลังจากนั้นได้เลื่อนชั้น เป็นประธานกรรมการ ธนาคาร Chase อย่างไม่ต้องรอคิว
    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ร้อกกี้ ปราบดา เขี่ยมอร์แกน ไปจนพ้นทาง จึงส่ง MacCloy มาเป็น ประธาน CFR ซึ่งก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกมอร์แกนยึดเก้าอี้ CFR ไว้แน่น นาย MacCloy นี้ เป็นคนไปค้นพบ Henry A Kissinger พวกพันธุ์พิเศษอีกเหมือนกันและเอามามอบตัว ถวายหัวรับใช้ ร้อกกี้ the great เขาเป็นคนกำกับ ควบคุม นโยบายต่างประเทศ ที่ทรงอืทธิพลที่สุด คนหนึ่งของอเมริกา โดยเฉพาะ เกี่ยวกับ เรื่องโซเวียต จีน เวียตนาม อืหร่าน อเมริกาใต้ ใน ช่วงปี 1969 ถึง 1977
    และ เพื่อให้ Grand Area ส่วนที่เป็นเอเซียแปซิฟิก เป็นไปตามแผน ของ War and Peace Studies โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ญี่ปุ่น เป็น ฐานสำคัญ ด้านอุตสาหกรรมและ “อื่นๆ” ให้อเมริกา ในปี คศ 1973 ร้อกกี้ MacCloy และ Kissinger ก็จัดตั้ง Trilateral Commission ขึ้นมา เป็น สาขาลูกของ CFR ภายใต้การสนับสนุนด้านเงินทุน และ “อื่นๆ” จากมูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์ เพื่อรับนโยบาย การดำเนืนงาน และประสานงาน ในภูมิภาคนี้ ให้สอดคล้องกับนโยบายของ CFR ในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ให้เหมือนกันทั้งโลก ตามที่อเมริกา หรือ CFR ต้องการ สรุปสั้นๆ ตามภาษาแถวบ้านผม แปลว่า “พวกมึงต้องทำตามที่กูบอก” ทำนองนั้นนะครับ
    สมาชิกส่วนใหญ่ ของ Trilateral เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ นักธุรกิจใหญ่ นักการเมืองใหญ่ ใหญ่ๆทั้งนั้น และ ส่วนใหญ่ มาจากอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี มีส่วนน้อยจากอินโดนีเซีย และชาติอื่นๆ ในเอเซีย และอเมริกาใต้
    แล้วมีคนไทยเป็นสมาชิก Trilatteral นี้ไหม มีครับ เปลี่ยนมาหลายรุ่น และผมก็เคยใส่ชื่อ ไปแล้วหลายรอบ เพจพังเกือบทุกรอบ ถ้าใส่อีกรอบ กลัวจะพังมากกว่าเพจ ลองไปค้นหาอ่านกันดู กดดูจากกูเกิลได้ เด็ดๆ ทั้งนั้น หาไม่เจอบอกมาครับ จะเอามาลงให้ ดูซิ มันจะพังอีกรอบไหม ไหนๆ โดยรวนรายวันอยู่แล้ว
##############
ตอน 4
ร้อกกี้ the great น่าจะใช้วิธี “กำกับ ” รัฐบาลอเมริกัน ผ่าน 4 หน่วยงานหลัก คือ กระทรวงต่างประเทศ, สภาความมั่นคง National Security Council (NSC) , ซีไอเอ และ CFR
    CFR ทำหน้าที่เป็นมันสมอง และ เป็นผู้ “กำกับ” รัฐบาล อีกต่อหนึ่ง
    อิทธิพล ของ CFR มากมายอย่างที่เรานึกไม่ถึง เอาว่า ประธานาธิบดี เกือบทุกคน ไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหน ก็สังกัด CFR ทั้งสิ้น และ เขาว่า ถ้า CFR ไม่เห็นชอบคนไหน คนนั้นก็อย่าเสียเวลา ไปสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เสียเงินเปล่าๆ
    นอกจากนี้ CFR เป็นผู้ส่งสมาชิกของตัว ไปเป็นหัวหน้า และระดับ ผู้บริหาร สำคัญ ในหน่วยงานข้างต้น ทั้ง 3 หน่วย ด้วย รายชื่อสมาชิก ของ CFR มีทั้ง นักการเมือง นักธุรกิจ
    นักการเงิน นักกฏหมาย นักวิชาการ สื่อ รวมถึง ดารา ทั้งหมด ต้องเป็น รุ่นใหญ่ ระดับ class A ใครสนใจในรายละเอียด ในกูเกิลมีเช่นเดียวกัน
    สำหรับญี่ปุ่น เด็กสร้าง ตัวสำคัญ ของอเมริกา (หรือ ร้อกกี้ ) ในการกินเอเซียแปซิฟิก ที่มีพรรค LDP เป็นผู้บริหารประเทศญี่ปุ่นมาเกือบตลอดเวลา ตั้งแต่หลังสงครามโลก ทำหน้าที่ เป็น ฐานอุตสาหกรรมต้นทุนต่ำ ทำกำไรให้อเมริกามากมาย เศรษฐกิจญี่ปุ่น จะขึ้น จะลง ดี เลว ขึ้นอยู่กับความเมตตาของอเมริกาทั้งสิ้น การเมือง การศึกษา สังคม วัฒนธรรมของญี่ปุ่น เปลี่ยนไปตามแม่พิมพ์ ที่อเมริกาจัดส่งให้ อเมริกาต้องการอะไร ฐานทัพหรือ ได้ จัดให้ และ ตอนนี้ ญี่ปุ่น ก็กำลังมีภาระกิจใหญ่ ต้องเป็นซามูไรแบกถาดรับใช้อเมริกา อีกแล้ว ไม่มีปัญหา แบกถาดรับใช้มาตลอดอยู่แล้ว แต่โลกไม่รู้ เพิ่มถาดใหญ่ อีกถาดเป็นไรไป
    และ จีน ก็ยังอยู่ ยังยั่วน้ำลาย น่ากิน เหมือนร้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่จะเคี้ยวทีไร มีอันเป็นไปทุกที
    ร้อยปีก่อน อังกฤษ ปั่นหัวญี่ปุ่น ให้ตีรวนจีน ให้จีนน่วม ก่อนที่อังกฤษ จะไปกิน แต่แล้วอังกฤษ ก็งับลม อเมริกาวางแผนจะกิน จีนพลิกตัว ปิดประตูเมือง เป็นคอมมิวนิสต์ ดีกว่าเป็นอาณานิคมขี้ข้าฝรั่ง
    มาถึงปีนี้ คศ 2015 ผ่านมาร้อยกว่าปี ยังมีคนไม่สิ้นความอยาก และความพยายาม
    CFR ออกรายงาน Revising U.S Grand Strategy Toward China เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พอสรุปได้ว่า อเมริกา เห็นจีน เป็นคู่แข็งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และต่อไปอีก หลายๆสิบปี … จีนกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ที่มีเป้าหมายจะเข้าไปแทนที่อเมริกา ที่มีสถานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย ….อเมริกา จึงจำเป็นต้องถ่วงดุลยอำนาจจีน …. และการทำให้รากฐานของจีนล่มสลาย (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกา พ้น “ภาระ” การถ่วงดุลยกับจีน …
    อ่านแล้วงง เอาภาษาแถวบ้านผมดีกว่า อเมริกา กำลังบอกจีน ว่า ” …มึงโตไป กูปล่อยให้มึงโตแบบนี้ไม่ได้ กูต้องทำลายมึงให้สิ้นซาก...”
    อเมริกา คงไม่ปล่อยให้จีน ยืนตัวโตค้ำหัวอเมริกา อีกต่อไป อเมริกา ต้อง “ทำอะไร” แล้ว และ Grand Strategy แนะนำ (สั่ง) ให้อเมริกา มอบหมายให้ญี่ปุ่น เป็นหัวหน้า เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ในการ “ทำอะไร” ดังนั้น สิ่งที่ อเมริกา และญี่ปุ่นกำลังจับมือกัน ทำเป็นการด่วน คือ ปลดโซ่ล่ามกองทัพญี่ปุ่น ที่ท่านนายพลแมค ล่ามด้วยรัฐธรรมนูญของญึ่ปุ่น มาตรา 9 ที่ห้ามไม่ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลัง เว้นแต่เพื่อป้องกันตัวเอง
    วันนี้อเมริกา ต้องการให้ญี่ปุ่น ผู้ชำนาญการป่วนจีน กลับไปใช้ความชำนาญเดิมอีกรอบหนึ่ง เรื่องนี้ รัฐสภาของอเมริกาให้การสนับสนุน ญี่ปุ่นท่วมท้น ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลังร่อนไปทั่ว ( และจริงๆ เขาว่า ก็ร่อนออกมาแล้วด้วย ) เรื่อง สงครามโลก การรบกัน การกินดอกเห็ดจนตายเกลื่อน ลืมกันหมดแล้ว ส่วนที่ญี่ปุ่นเอง สภาล่าง ที่ตาหลาน หลานตา คุมอยู่หมัด ผ่านมตินี้แล้วเมื่อเดือนก่อน (กรกฏาคม) เหลือแต่สภาสูง ที่คาดว่าจะลงมติผ่านในเดือนกันยายน ก่อนที่สภาสูงจะปิดในสิ้นเดือนกันยา เพราะตาหลาน หลานตา ก็คุมอยู่เช่นกัน
    แต่ก็น่าสนใจ ล่าสุด ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ไม่อยากให้สภาผ่านกฏหมายนี้ ไม่อยากเข้าทำสงคราม ไม่อยากแบกถาดอีก กำลังเริ่มออกมาประท้วงหลานตา มากขึ้น ตั้งแต่เดือนที่แล้ว และเมื่อวันที่ 30 สิงหา นี้เอง ชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นคน ออกมาชุมนุมใหญ่ คัดค้านการออกกฏหมายแบกถาด และเรียกร้องให้หลานตาลาออก ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวเรื่องยากูซ่าเเก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปั่น แตกคอกันเอง ทางการญี่ปุ่น อ้างอาจมีการซัดกันกลางเมือง
    เรื่องบังเอิญอีกแล้วหรือ ก็ต้องดูว่า ใบสั่ง หรือ พลังของประชาชนญี่ปุ่นจะชนะ
    ผมเล่าประวัติศาสตร์ เพื่อให้เข้าใจปัจจุบัน ว่าตอนนี้ เขากำลังทำอะไรกัน เพราะเหตุใด และเมื่อมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น มันน่าจะมาจากเรื่องไหน และน่าจะพอให้เรามองออกว่า แล้วมันจะไปต่อทางไหน ถ้าจะให้ดี สำหรับท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ช่วยกลับไปอ่านนิทาน เรื่อง แผนสอยมังกร กับ เรื่อง ซามูไรแบกถาด ประกอบกับนิทานเรื่องนี้ จะเข้าใจขี้น ว่า การระเบิดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่า ในจีน หรือที่ไหน ร่วมทั้งเรื่อง รัสเซีย อิหร่าน ตุรกี เลบานอน และ ล่าสุด มาเลเซีย มันเกี่ยวพันกันหรือไม่ และจะกระทบบ้านเรา หรือไม่อย่างไร
    แล้วก็โปรดอย่าลืม สูตรสำเร็จ ของนักล่า ไม่ว่ารุ่นไหน ยุคไหน กินคำเดียวไม่ไหว ก็ทุบให้น่วมก่อนเคี้ยว แล้วตอนนี้ มันจะทุบที่ไหนบ้าง
    ส่วน เรื่องจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา เมื่อ 100 ปีก่อน มาจนถึงตอนนี้ คงสรุปกันได้แล้ว ว่า ตกลง ใครต้ม ใครซ้อน ใครเจ็บ ใครช้ำ ใครซ่อน ใครรวย ใครโหด ใครเหี้ยม
    แบบนี้ แผล มันก็คงจะตกสะเก็ดยาก….
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
1 ก.ย. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด บทส่งท้าย ตอนที่ 1-4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”  บทส่งท้าย

ตอน 1 ตกลง ดูๆไป เหมือนญี่ปุ่นลอยตัวอยู่เหนือสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงไม่เป็นผู้ชนะ แต่ก็เหมือนไม่ได้เป็นผู้แพ้ มีชาวญี่ปุ่น ตายแยะ บ้านเมืองฉิบหายเยอะก็จริงอยู่ แต่ที่ญี่ปุ่นไปรุกรานย่ำยีเขา เขาก็แหลกราญ ยับเยินไม่น้อยกว่า หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนญี่ปุ่นไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับการกระทำของญี่ปุ่น ตั้งแต่อเมริกาเข้าไปใช้อำนาจปกครองญี่ปุ่นโดย SCAP ฝ่ายญี่ปุ่น ที่น่าจะมีผู้รับผิดชอบ ในการนำหรือส่งเสริมให้ญี่ปุ่นทำสงคราม ก็แทบจะหาผู้รับผิดชอบอย่างแท้จริงไม่เจอ เห็นแต่เงารางๆ กับคำขอโทษที่ยังกำกวม และไม่ช่วยทำให้ผู้ที่ถูกญี่ปุ่นย่ำยี นอนตาหลับ การชดใช้ค่าเสียหายของญี่ปุ่นกับเยอรมัน ในฐานะผู้ทำแพ้สงคราม ต่างกันสื้นเชิง เยอรมันถูกฝ่ายอังกฤษและยุโรปตอกหมุด ดิ้นไม่ออก จ่ายค่าเสียหายไปประมาณ 3 หมื่นล้านเหรียญ และค่าชดเชยรายเดือน อยู่อีกหลายสิบปี ส่วนญี่ปุ่น อเมริกาบอกว่า ญี่ปุ่นล้มละลาย ทั้งด้านทรัพย์สิน และด้านจิตใจ หลังจากกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป เพราะฉะนั้น จ่ายค่าเสียหายเพียง 2 พันล้านเหรียญ ที่เหลือ SCAP บอกว่า รอรับเป็นอาวุธ (เหลือสงคราม) และเครื่องจักรเก่า หรือเครื่องจักรใหม่ ที่ผลิต จากทรัพยากร ที่ไปขโมยเขามาได้ไหม หรือจะเอาเป็นเครื่องจักรใหม่เอี่ยม ที่อเมริกาจะให้ผลิต แต่ไม่ได้ให้ฟรีนะ ให้แบบลดราคา ส่วนต่างจ่ายเป็นอาหาร โอ้ย เงื่อนไขแยะ สรุปว่า แทบไม่มีใครได้อะไรจากญี่ปุ่น นอกจากอเมริกา ฝ่ายอังกฤษและยุโรปบอก แล้วพวกทหารของฝ่ายเรา ที่ญี่ปุ่นจับไปขังให้กินขี้ กินโคลน อยู่ค่ายกักกันที่สิงคโปร์ ประมาณ 5 หมื่นกว่าคน กว่าจะหลุดออกมาหลังสงครามโลก ตายไป เกือบครึ่ง ลืมไปแล้วหรือ นี่ยังไม่ได้นับการสร้างสพานข้ามแม่น้ำแควอันโด่งดังว่า พวกทหารฝรั่งถูกทารุณกันขนาดไหน จะชดเชย จะขอโทษอย่างไร ในที่สุด ไม่รู้อเมริกาตกลงอะไรกับอังกฤษ ตอนหลัง เสียงบ่นของชาวเกาะใหญ่ เงียบเช่นเป่าสาก ฝ่ายเอเซียเองบอกว่า เราก็ไม่ลืม เรื่องนานกิง เรื่องเมียหมอนข้าง ที่ญี่ปุ่นกวาดต้อนเอา ไปใช้สอยในช่วงสงครามอย่างทารุณ ข่มขืนทั้งร่างกายและจิตใจ มีประมาณกว่าแสนคน ส่วนใหญ่ อายุ 14 ถึง 18 และไม่ลืมเรื่องการปล้นบ้านเมืองของเราอย่างตะกระทารุณและเหี้ยมโหด แต่ไม่มีใครมาตกลงกับจีน ไม่มีคำขอโทษ โลกแทบไม่รู้เรื่อง เพราะฮอลลีวู้ดมัวแต่ทำหนังเรื่องยิว สำหรับเกาหลี ญี่ปุ่นบอกเสียใจ แต่ไม่เคยขอโทษ เพิ่งมาพูดปีนี้ แต่ก็บอกว่า ชนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น ไม่ต้องรับผิดชอบ เรื่องผ่านไปแล้ว (เดี๋ยวจะสับสนกับเรื่องใหม่ ที่กำลังจะต้องทำ ?!) สำหรับเยอรมัน ฝ่ายใช้อำนาจปกครอง คุ้ยแคะทอง เพชร แม้กระทั่งฝันทองในปากชาวยิว ฮอลลีวู้ด ยังทำเอาไปทำหนัง งัดฟันทองยิวให้ดู จนคนด่าเช็ดเยอรมันทั้งโรงหนัง ด้านเยอรมัน ถูกแจงทุกรายการ เพราะมียิวคอยจ้อง คอยฟ้อง และเพราะคนคอยแบ่ง มีหลายพวก จ้องกันทั้งตาทั้งปากมันแผลบ ส่วนการดำเนินคดีกับพวกนาซีที่ฆ่าโหดชาวยิว ถูกจับมาดำเนินคดีไปแล้วหลายคน ผ่านไป 70 ปี คดียังไม่จบก็มี ยังต้องพยุงกันมาศาล เมื่อ 2,3 ก็ยังมีข่าวอยู่ ส่วนพวกที่หนีรอด ก็เผ่นไปกบดาน เปลี่ยนชื่ออยู่แถวบราซิล อเมริกาใต้ จนแถวนั้น มีแต่ผิวน้ำตาล แต่ผมทอง ตาสีฟ้า กลายเป็นนางแบบ ค่าตัวแพง แต่สำหรับญี่ปุ่น ดูเหมือนเรื่องจะหายเงียบแทบไม่มีอะไรโผล่ ( เหมือนนิทานเรื่องจริง ที่ถูกบีบท่อ ไม่ให้นิทานโผล่ ผมไปตกลงแพ้สงครามกับมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ หือ !) จะมีก็แต่ นายพลโตโจผู้บัญชาการรบ และนายทหารคนสนิทไม่กี่คน ที่แอ่นอก (นี่ถ้าอดีตนายกฯ คนหนึ่งมาอ่าน หล่อนจะอ่านออกไหม เดี๋ยวจะงงว่า แอ่ นอก คืออะไร อ๋อ ไม่อ่านหรือครับ ไม่ชอบอ่านหนังสือ… มิน่า..) ยอมรับกรรม (แทนคนอื่นๆอีกหลายคน) เมื่อมีคนมากล่อมเขา ให้บอกว่า เขาเป็นคนสั่งให้กองทัพญี่ปุ่นทำสงคราม และเคลื่อนพล ลงมาทางแปซืฟิกใต้ โตโจ บอกไม่มีปัญหา เขารู้หน้าที่ ไม่กี่วันหลังจากนั้น เขาก็ยิงขมับตัวเองฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตาย ไปนอนโรงพยาบาลอยู่ในคุกซุกาโมแทน พอหาย ก็ไปรับโทษ ถูกแขวนคอ พร้อมกับลูกน้อง ไม่กี่คน
###############
ตอน 2 หลังจาก นาย Atcheson เครื่องบินตกตาย มีคนแคลงใจ เรื่องที่ SCAP บอก ญี่ปุ่นล้มละลาย เสนอให้ประธานาธิบดีทรูแมน ส่งคนมาตรวจสอบ ทรูแมน ส่ง นาย Edwin S Pauley เศรษฐี น้ำมัน จากพรรค Democrat มาประเมินเศรษฐกิจ ของญีปุ่น ว่า เจ๊งจริงหรือเปล่า จะมีปัญญาใช้หนี้ชาวบ้าน เขาบ้างไหม ไหนว่าปล้นทรัพย์เขามาแยะ นาย Pauley บินมาตรวจสอบที่ญี่ปุ่น เขาตามเจอ บัญชีลับต่างๆ ที่อยู่นอกประเทศ เช่นที่ สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และอาร์เจนตินา เขา รายงานว่า บัญชีพวกนั้น เป็น ทรัพย์สินส่วนตัว ของ พวกนักธุรกิจใหญ่ zaibatsu ที่ไม่เกี่ยวกับการทำสงครามเลยนะ อ้าว แต่ ในช่วงไม่กี่เดือน ก่อนสงครามจะจบ ทหารพรานอเมริกัน ลูกครึ่ง อเมริกัน-ฟิลิปปิโน นาย Servino Garcia Santa Romana สังกัดหน่วย โอเอสเอส (หน่วยข่าวกรองของอเมริกา ก่อน เปลี่ยนชื่อ เป็น ซีไอเอ) ที่ปฏิบัติหน้าที่ อยู่แถวภูเขาที่เกาะลูซอน ฟิลิปปีนส์ แอบเห็นกองทัพญี่ปุ่น ใช้รถบรรทุก เป็นขบวน ขนหีบ ท่าทางหนักอึ้ง เข้าไปในถ้ำ หลายรอบจนนับไม่ถ้วน เลย แอบตามไปล็อคคอทหารญี่ปุ่นมาสอบถาม ได้ความว่า เป็นหีบบรรจุทองแท่งทั้งนั้น ส้มหล่นใส่อย่างไม่นึกฝัน ฝ่ายทหารอเมริกันจึงสั่งปิดตายถ้ำ วางกับระเบิดกันไว้ พร้อมจัดยามเฝ้า หลังสงครามเลิก นายพลแมค กลับมาลูซอน พร้อมนายพล Charles Willoughby ลูกน้องคนสนิท และพวกหน่วยข่าวกรองอีกหลายโหล ช่วยกันเปิดถ้ำ ขนทองออกไป หลังจากนั้น ก็ปิดตายถ้ำอีกรอบ เขาว่า ทองที่ขนกันไป ทอง Santa Romana พวกเขาเรียกกันอย่างนั้น นอกจาก 2 นายพลใหญ่ จะรู้แล้ว หัวหน้าใหญ่ OSS นายพล Donovan ก็รู้ และ แน่นอน Herbert Hoover ก็รู้ ทอง Santa Romana ไม่ได้ส่งคืนเจ้าของ แต่ ฝ่ายอเมริกัน ขนขึ้นเรือรบ นำไปฝาก ใน ธนาคาร 42 ประเทศ แยกเป็น 176 บัญชี ตัวเลขที่เปิดเผย คือ ทอง จำนวน 20,000 ตัน ตันนะครับ ไม่ใช่กิโล ไม่ใช่บาท บางส่วนของทอง แบ่งเอาไปใช้ในกิจการ นอกระบบ ของ ซีไอเอ เหมือน รายได้จากพวกฝิ่น เฮโรอีน แถวฉาน พม่า ลาว สามเหลี่ยมทองคำ นั่นแหละ ไม่ต้องกวนภาษีประชาชนคนอเมริกัน และไม่ต้องขออนุญาตรัฐสภา เวลาจะปฏิบัติการ ไม่ต้องแจงรายละเอียด ส่วนที่เหลือไปไหนบ้าง หนังสือที่อ่านไม่บอก ผมรู้แต่ว่า คนเขียนหนังสือ ที่เล่าข้อมูลฝ่ายญี่ปุ่น เขียนเสร็จ พอหนังสือออกขาย เขาต้องย้ายบ้าน ย้ายประเทศ
###############
ตอน 3 หลังครามโลก พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP ที่คลอดในคุกซุกาโม มียากูซ่า เป็นหมอตำแย ก็เป็นผู้ใช้อำนาจบริหารญี่ปุ่น มาจนถึงทุกวันนี้ หลังสงครามโลก กลุ่มอเมริกัน มอร์แกน เสียตำแหน่งเจ้าพ่อใหญ่ ที่คุมทุกปีกในอเมริกา ให้แก่ กลุ่มอเมริกัน ร้อกกี้เฟลเลอร์ เขาว่า เพราะมอร์แกน แทงม้าผิดตัว ทุ่มผิดที่ นึกว่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ จะเคี้ยวเหยื่อ เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ มันไม่มีอะไรแน่นอนตลอดเวลาหรอก พวกเอ็งควรศึกษาศาสนาพุทธ ให้เข้าใจ ถึงเรื่องการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเสียบ้าง จะได้ไม่ตะกระตะกรามขนาดนี้ ส่วนร้อกกี้ อาศัยเทคนิคใหม่ ล่าเหยื่อ โดยไม่ต้องใช้เงินถม ไม่ต้องใช้กองทัพคนมากมาย อย่างชาวเกาะใหญ่ แค่ใช้กองทัพลมปาก กับตั้งโรงงานฟอกย้อมความคิดให้มากหน่อย ลงทุนครั้งเดียว ผ่านมา 70 ปี สีย้อมยังติดทนดีอยู่เลย เฮ้ย เหนื่อยใจ หลังสงครามโลก John McCloy เป็นผู้อำนวยการ สถาบัน CFR ตั้งแต่ ปี คศ 1953 ถึง 1970 MacCloy เป็นใคร สำคัญอย่างไร  MacCloy เดิมเป็นทนาย (ทนายอีกแล้ว!) อยู่ในกลุ่มวอลสตรีทกับพวกมอร์แกน ต่อมาแปรพักตร์ ย้ายมาอยู่กลุ่มร้อกกี้ เขาคงมองเห็นอะไร แวบ ๆ พวกทนายพันธุ์นี้ มักจมูกดี ได้กลิ่นเน่าไว เลยย้าย มาอยู่ สนง กฏหมาย Milbank Tweed ซึ่งทำงานให้ตระกูลร้อกกี้ the great กับ เป็นที่ปรึกษากฏหมายใหญ่ ให้ ธนาคาร Chase หลังจากนั้นได้เลื่อนชั้น เป็นประธานกรรมการ ธนาคาร Chase อย่างไม่ต้องรอคิว หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ร้อกกี้ ปราบดา เขี่ยมอร์แกน ไปจนพ้นทาง จึงส่ง MacCloy มาเป็น ประธาน CFR ซึ่งก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกมอร์แกนยึดเก้าอี้ CFR ไว้แน่น นาย MacCloy นี้ เป็นคนไปค้นพบ Henry A Kissinger พวกพันธุ์พิเศษอีกเหมือนกันและเอามามอบตัว ถวายหัวรับใช้ ร้อกกี้ the great เขาเป็นคนกำกับ ควบคุม นโยบายต่างประเทศ ที่ทรงอืทธิพลที่สุด คนหนึ่งของอเมริกา โดยเฉพาะ เกี่ยวกับ เรื่องโซเวียต จีน เวียตนาม อืหร่าน อเมริกาใต้ ใน ช่วงปี 1969 ถึง 1977 และ เพื่อให้ Grand Area ส่วนที่เป็นเอเซียแปซิฟิก เป็นไปตามแผน ของ War and Peace Studies โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ญี่ปุ่น เป็น ฐานสำคัญ ด้านอุตสาหกรรมและ “อื่นๆ” ให้อเมริกา ในปี คศ 1973 ร้อกกี้ MacCloy และ Kissinger ก็จัดตั้ง Trilateral Commission ขึ้นมา เป็น สาขาลูกของ CFR ภายใต้การสนับสนุนด้านเงินทุน และ “อื่นๆ” จากมูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์ เพื่อรับนโยบาย การดำเนืนงาน และประสานงาน ในภูมิภาคนี้ ให้สอดคล้องกับนโยบายของ CFR ในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ให้เหมือนกันทั้งโลก ตามที่อเมริกา หรือ CFR ต้องการ สรุปสั้นๆ ตามภาษาแถวบ้านผม แปลว่า “พวกมึงต้องทำตามที่กูบอก” ทำนองนั้นนะครับ สมาชิกส่วนใหญ่ ของ Trilateral เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ นักธุรกิจใหญ่ นักการเมืองใหญ่ ใหญ่ๆทั้งนั้น และ ส่วนใหญ่ มาจากอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี มีส่วนน้อยจากอินโดนีเซีย และชาติอื่นๆ ในเอเซีย และอเมริกาใต้ แล้วมีคนไทยเป็นสมาชิก Trilatteral นี้ไหม มีครับ เปลี่ยนมาหลายรุ่น และผมก็เคยใส่ชื่อ ไปแล้วหลายรอบ เพจพังเกือบทุกรอบ ถ้าใส่อีกรอบ กลัวจะพังมากกว่าเพจ ลองไปค้นหาอ่านกันดู กดดูจากกูเกิลได้ เด็ดๆ ทั้งนั้น หาไม่เจอบอกมาครับ จะเอามาลงให้ ดูซิ มันจะพังอีกรอบไหม ไหนๆ โดยรวนรายวันอยู่แล้ว
##############
ตอน 4
ร้อกกี้ the great น่าจะใช้วิธี “กำกับ ” รัฐบาลอเมริกัน ผ่าน 4 หน่วยงานหลัก คือ กระทรวงต่างประเทศ, สภาความมั่นคง National Security Council (NSC) , ซีไอเอ และ CFR CFR ทำหน้าที่เป็นมันสมอง และ เป็นผู้ “กำกับ” รัฐบาล อีกต่อหนึ่ง อิทธิพล ของ CFR มากมายอย่างที่เรานึกไม่ถึง เอาว่า ประธานาธิบดี เกือบทุกคน ไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหน ก็สังกัด CFR ทั้งสิ้น และ เขาว่า ถ้า CFR ไม่เห็นชอบคนไหน คนนั้นก็อย่าเสียเวลา ไปสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เสียเงินเปล่าๆ นอกจากนี้ CFR เป็นผู้ส่งสมาชิกของตัว ไปเป็นหัวหน้า และระดับ ผู้บริหาร สำคัญ ในหน่วยงานข้างต้น ทั้ง 3 หน่วย ด้วย รายชื่อสมาชิก ของ CFR มีทั้ง นักการเมือง นักธุรกิจ นักการเงิน นักกฏหมาย นักวิชาการ สื่อ รวมถึง ดารา ทั้งหมด ต้องเป็น รุ่นใหญ่ ระดับ class A ใครสนใจในรายละเอียด ในกูเกิลมีเช่นเดียวกัน สำหรับญี่ปุ่น เด็กสร้าง ตัวสำคัญ ของอเมริกา (หรือ ร้อกกี้ ) ในการกินเอเซียแปซิฟิก ที่มีพรรค LDP เป็นผู้บริหารประเทศญี่ปุ่นมาเกือบตลอดเวลา ตั้งแต่หลังสงครามโลก ทำหน้าที่ เป็น ฐานอุตสาหกรรมต้นทุนต่ำ ทำกำไรให้อเมริกามากมาย เศรษฐกิจญี่ปุ่น จะขึ้น จะลง ดี เลว ขึ้นอยู่กับความเมตตาของอเมริกาทั้งสิ้น การเมือง การศึกษา สังคม วัฒนธรรมของญี่ปุ่น เปลี่ยนไปตามแม่พิมพ์ ที่อเมริกาจัดส่งให้ อเมริกาต้องการอะไร ฐานทัพหรือ ได้ จัดให้ และ ตอนนี้ ญี่ปุ่น ก็กำลังมีภาระกิจใหญ่ ต้องเป็นซามูไรแบกถาดรับใช้อเมริกา อีกแล้ว ไม่มีปัญหา แบกถาดรับใช้มาตลอดอยู่แล้ว แต่โลกไม่รู้ เพิ่มถาดใหญ่ อีกถาดเป็นไรไป และ จีน ก็ยังอยู่ ยังยั่วน้ำลาย น่ากิน เหมือนร้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่จะเคี้ยวทีไร มีอันเป็นไปทุกที ร้อยปีก่อน อังกฤษ ปั่นหัวญี่ปุ่น ให้ตีรวนจีน ให้จีนน่วม ก่อนที่อังกฤษ จะไปกิน แต่แล้วอังกฤษ ก็งับลม อเมริกาวางแผนจะกิน จีนพลิกตัว ปิดประตูเมือง เป็นคอมมิวนิสต์ ดีกว่าเป็นอาณานิคมขี้ข้าฝรั่ง มาถึงปีนี้ คศ 2015 ผ่านมาร้อยกว่าปี ยังมีคนไม่สิ้นความอยาก และความพยายาม CFR ออกรายงาน Revising U.S Grand Strategy Toward China เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พอสรุปได้ว่า อเมริกา เห็นจีน เป็นคู่แข็งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และต่อไปอีก หลายๆสิบปี … จีนกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ที่มีเป้าหมายจะเข้าไปแทนที่อเมริกา ที่มีสถานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย ….อเมริกา จึงจำเป็นต้องถ่วงดุลยอำนาจจีน …. และการทำให้รากฐานของจีนล่มสลาย (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกา พ้น “ภาระ” การถ่วงดุลยกับจีน … อ่านแล้วงง เอาภาษาแถวบ้านผมดีกว่า อเมริกา กำลังบอกจีน ว่า ” …มึงโตไป กูปล่อยให้มึงโตแบบนี้ไม่ได้ กูต้องทำลายมึงให้สิ้นซาก...” อเมริกา คงไม่ปล่อยให้จีน ยืนตัวโตค้ำหัวอเมริกา อีกต่อไป อเมริกา ต้อง “ทำอะไร” แล้ว และ Grand Strategy แนะนำ (สั่ง) ให้อเมริกา มอบหมายให้ญี่ปุ่น เป็นหัวหน้า เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ในการ “ทำอะไร” ดังนั้น สิ่งที่ อเมริกา และญี่ปุ่นกำลังจับมือกัน ทำเป็นการด่วน คือ ปลดโซ่ล่ามกองทัพญี่ปุ่น ที่ท่านนายพลแมค ล่ามด้วยรัฐธรรมนูญของญึ่ปุ่น มาตรา 9 ที่ห้ามไม่ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลัง เว้นแต่เพื่อป้องกันตัวเอง วันนี้อเมริกา ต้องการให้ญี่ปุ่น ผู้ชำนาญการป่วนจีน กลับไปใช้ความชำนาญเดิมอีกรอบหนึ่ง เรื่องนี้ รัฐสภาของอเมริกาให้การสนับสนุน ญี่ปุ่นท่วมท้น ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลังร่อนไปทั่ว ( และจริงๆ เขาว่า ก็ร่อนออกมาแล้วด้วย ) เรื่อง สงครามโลก การรบกัน การกินดอกเห็ดจนตายเกลื่อน ลืมกันหมดแล้ว ส่วนที่ญี่ปุ่นเอง สภาล่าง ที่ตาหลาน หลานตา คุมอยู่หมัด ผ่านมตินี้แล้วเมื่อเดือนก่อน (กรกฏาคม) เหลือแต่สภาสูง ที่คาดว่าจะลงมติผ่านในเดือนกันยายน ก่อนที่สภาสูงจะปิดในสิ้นเดือนกันยา เพราะตาหลาน หลานตา ก็คุมอยู่เช่นกัน แต่ก็น่าสนใจ ล่าสุด ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ไม่อยากให้สภาผ่านกฏหมายนี้ ไม่อยากเข้าทำสงคราม ไม่อยากแบกถาดอีก กำลังเริ่มออกมาประท้วงหลานตา มากขึ้น ตั้งแต่เดือนที่แล้ว และเมื่อวันที่ 30 สิงหา นี้เอง ชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นคน ออกมาชุมนุมใหญ่ คัดค้านการออกกฏหมายแบกถาด และเรียกร้องให้หลานตาลาออก ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวเรื่องยากูซ่าเเก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปั่น แตกคอกันเอง ทางการญี่ปุ่น อ้างอาจมีการซัดกันกลางเมือง เรื่องบังเอิญอีกแล้วหรือ ก็ต้องดูว่า ใบสั่ง หรือ พลังของประชาชนญี่ปุ่นจะชนะ ผมเล่าประวัติศาสตร์ เพื่อให้เข้าใจปัจจุบัน ว่าตอนนี้ เขากำลังทำอะไรกัน เพราะเหตุใด และเมื่อมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น มันน่าจะมาจากเรื่องไหน และน่าจะพอให้เรามองออกว่า แล้วมันจะไปต่อทางไหน ถ้าจะให้ดี สำหรับท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ช่วยกลับไปอ่านนิทาน เรื่อง แผนสอยมังกร กับ เรื่อง ซามูไรแบกถาด ประกอบกับนิทานเรื่องนี้ จะเข้าใจขี้น ว่า การระเบิดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่า ในจีน หรือที่ไหน ร่วมทั้งเรื่อง รัสเซีย อิหร่าน ตุรกี เลบานอน และ ล่าสุด มาเลเซีย มันเกี่ยวพันกันหรือไม่ และจะกระทบบ้านเรา หรือไม่อย่างไร แล้วก็โปรดอย่าลืม สูตรสำเร็จ ของนักล่า ไม่ว่ารุ่นไหน ยุคไหน กินคำเดียวไม่ไหว ก็ทุบให้น่วมก่อนเคี้ยว แล้วตอนนี้ มันจะทุบที่ไหนบ้าง ส่วน เรื่องจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา เมื่อ 100 ปีก่อน มาจนถึงตอนนี้ คงสรุปกันได้แล้ว ว่า ตกลง ใครต้ม ใครซ้อน ใครเจ็บ ใครช้ำ ใครซ่อน ใครรวย ใครโหด ใครเหี้ยม แบบนี้ แผล มันก็คงจะตกสะเก็ดยาก….
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
1 ก.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 20 (จบ)
    เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ
    แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้
    บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น
    เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น
    ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน
    ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก
    แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว
    ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง
    หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ
    ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
    ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง
    แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน
    แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย
    ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ
    และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก…
    ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu
    Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ
    สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน
    นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ
    ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน
    นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่
    หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา
    ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ
    ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great
    Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว….
    (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม)

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    31 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 20 (จบ) เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้ บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก… ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่ หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว…. (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 31 ส.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • ข่าวสุขภาพ: “ชื่อเสียงอาจทำให้นักร้องอายุสั้นลงกว่าคนทั่วไป”

    งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Witten/Herdecke ประเทศเยอรมนีเผยว่า นักร้องที่มีชื่อเสียงระดับเซเลบมีแนวโน้มเสียชีวิตเร็วกว่าคนที่ไม่โด่งดังเฉลี่ยถึง 4.5 ปี โดยการวิเคราะห์ข้อมูลนักร้อง 324 คนที่มีชื่อเสียงระหว่างปี 1950–1990 เทียบกับนักร้องอีก 324 คนที่ไม่เป็นที่รู้จักมาก พบว่า นักร้องดังเสียชีวิตเฉลี่ยอายุ 75 ปี ขณะที่นักร้องที่ไม่ดังมีอายุเฉลี่ยเกือบ 80 ปี

    นักวิจัยชี้ว่า ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหลังจากนักร้องเริ่มมีชื่อเสียง ไม่ใช่ก่อนหน้านั้น ปัจจัยสำคัญคือ ความเครียดทางจิตสังคม เช่น การถูกจับตามองจากสาธารณะ การสูญเสียความเป็นส่วนตัว และแรงกดดันในการแสดงต่อผู้ชมจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้อาจนำไปสู่พฤติกรรมการรับมือที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การใช้สารเสพติดหรือการทำงานหนักเกินไป

    ผลการศึกษาเพิ่มเติมยังพบว่า นักร้องเดี่ยวมีความเสี่ยงสูงกว่านักร้องที่อยู่ในวง เนื่องจากการอยู่ในวงช่วยแบ่งเบาภาระและมีเพื่อนร่วมทีมคอยสนับสนุน การค้นพบนี้สะท้อนว่าแม้ชื่อเสียงและรายได้สูงจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้อายุยืนขึ้นเสมอไป

    นักวิจัยสรุปว่า ชื่อเสียงอาจเป็นภาระเรื้อรังที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และควรมีมาตรการดูแลสุขภาพเฉพาะสำหรับผู้ที่อยู่ในสปอตไลท์ เพราะบุคคลเหล่านี้มักเป็นแบบอย่างที่สังคมจับตามองและอาจส่งผลต่อพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการศึกษาเกี่ยวกับอายุขัยนักร้อง
    นักร้องดังเสียชีวิตเฉลี่ยอายุ 75 ปี
    นักร้องไม่ดังมีอายุเฉลี่ยเกือบ 80 ปี

    ปัจจัยเสี่ยงจากชื่อเสียง
    ความเครียดจากการถูกจับตามองและแรงกดดันในการแสดง
    พฤติกรรมรับมือที่ไม่ดี เช่น การใช้สารเสพติด

    ความแตกต่างระหว่างนักร้องเดี่ยวและนักร้องวง
    นักร้องเดี่ยวมีความเสี่ยงสูงกว่า
    การอยู่ในวงช่วยแบ่งเบาภาระและลดความเสี่ยง

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    การศึกษาไม่สามารถยืนยันว่าชื่อเสียงเป็นสาเหตุโดยตรงของการเสียชีวิตเร็ว
    ผลลัพธ์อาจไม่สามารถนำไปใช้กับอาชีพอื่น เช่น นักแสดงหรือกีฬา

    https://www.sciencealert.com/fame-can-cut-years-from-a-singers-life-study-reveals
    🎤 ข่าวสุขภาพ: “ชื่อเสียงอาจทำให้นักร้องอายุสั้นลงกว่าคนทั่วไป” งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Witten/Herdecke ประเทศเยอรมนีเผยว่า นักร้องที่มีชื่อเสียงระดับเซเลบมีแนวโน้มเสียชีวิตเร็วกว่าคนที่ไม่โด่งดังเฉลี่ยถึง 4.5 ปี โดยการวิเคราะห์ข้อมูลนักร้อง 324 คนที่มีชื่อเสียงระหว่างปี 1950–1990 เทียบกับนักร้องอีก 324 คนที่ไม่เป็นที่รู้จักมาก พบว่า นักร้องดังเสียชีวิตเฉลี่ยอายุ 75 ปี ขณะที่นักร้องที่ไม่ดังมีอายุเฉลี่ยเกือบ 80 ปี นักวิจัยชี้ว่า ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหลังจากนักร้องเริ่มมีชื่อเสียง ไม่ใช่ก่อนหน้านั้น ปัจจัยสำคัญคือ ความเครียดทางจิตสังคม เช่น การถูกจับตามองจากสาธารณะ การสูญเสียความเป็นส่วนตัว และแรงกดดันในการแสดงต่อผู้ชมจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้อาจนำไปสู่พฤติกรรมการรับมือที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การใช้สารเสพติดหรือการทำงานหนักเกินไป ผลการศึกษาเพิ่มเติมยังพบว่า นักร้องเดี่ยวมีความเสี่ยงสูงกว่านักร้องที่อยู่ในวง เนื่องจากการอยู่ในวงช่วยแบ่งเบาภาระและมีเพื่อนร่วมทีมคอยสนับสนุน การค้นพบนี้สะท้อนว่าแม้ชื่อเสียงและรายได้สูงจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้อายุยืนขึ้นเสมอไป นักวิจัยสรุปว่า ชื่อเสียงอาจเป็นภาระเรื้อรังที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และควรมีมาตรการดูแลสุขภาพเฉพาะสำหรับผู้ที่อยู่ในสปอตไลท์ เพราะบุคคลเหล่านี้มักเป็นแบบอย่างที่สังคมจับตามองและอาจส่งผลต่อพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการศึกษาเกี่ยวกับอายุขัยนักร้อง ➡️ นักร้องดังเสียชีวิตเฉลี่ยอายุ 75 ปี ➡️ นักร้องไม่ดังมีอายุเฉลี่ยเกือบ 80 ปี ✅ ปัจจัยเสี่ยงจากชื่อเสียง ➡️ ความเครียดจากการถูกจับตามองและแรงกดดันในการแสดง ➡️ พฤติกรรมรับมือที่ไม่ดี เช่น การใช้สารเสพติด ✅ ความแตกต่างระหว่างนักร้องเดี่ยวและนักร้องวง ➡️ นักร้องเดี่ยวมีความเสี่ยงสูงกว่า ➡️ การอยู่ในวงช่วยแบ่งเบาภาระและลดความเสี่ยง ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ การศึกษาไม่สามารถยืนยันว่าชื่อเสียงเป็นสาเหตุโดยตรงของการเสียชีวิตเร็ว ⛔ ผลลัพธ์อาจไม่สามารถนำไปใช้กับอาชีพอื่น เช่น นักแสดงหรือกีฬา https://www.sciencealert.com/fame-can-cut-years-from-a-singers-life-study-reveals
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Fame Can Cut Years From a Singer's Life, Study Reveals
    "Being famous, that's a 24-hour job right there," actor Bill Murray once said.
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • พ่อท่านเพชร รุ่น1 วัดท่าสะท้อน จ.สุราษฎร์ธานี ปี2516
    พ่อท่านเพชร รุ่น1 เนื้อผงพุทธคุณ วัดท่าสะท้อน จ.สุราษฎร์ธานี ปี2516 // พระดีพิธีใหญ่ นิมนต์เกจิอาจารย์จากทั่วจังหวัดสุราษฎร์และภาคใต้อีกหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณด่น ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง ขอได้ไหว้รับ ให้โชค ให้ลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง ร่ำรวยเงินทอง ยศฐาบรรดาศักดิ์ให้กับผู้บูชา เสริมเสน่ห์ เจรจาธุรกิจง่าย ช่วยในการค้าขายดี ผู้คนรักใคร่เอ็นดู โชคลาภ อำนาจวาสนาบารมี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องบริหาร **

    "วัดท่าสะท้อน" เป็นวัดโบราณ คาดว่าน่าจะสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พ่อท่านเพชร รุ่น1 เนื้อผงพุทธคุณ วัดท่าสะท้อน จ.สุราษฎร์ธานี ปี2516 ด้วยทางวัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่อง หลวงพ่อเพชร อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าสะท้อน เพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถ โดยมีพิธีที่วัดตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2516 ขึ้น5ค่ำเดือน4 ถึงวันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2516 ขึ้น7ค่ำเดือน4 นิมนต์เกจิอาจารย์จากทั่วจังหวัดสุราษฎร์และภาคใต้อีกหลายท่าน คือ

    1.หลวงพ่อแต่ง วัดนันทนาราม ต.คลองไทร
    2.หลวงพ่อจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ อ.ดอนสัก
    3.หลวงพ่อพร้อม วัดคลองฉนวน อ.เวียงสระ
    4.อาจารย์โกศล วัดคุ้งยาง อ.พุนพิน
    5.อาจารย์คงศักดิ์ วัดบางน้ำฝั้งใต้ ธนบุรี
    6.หลวงพ่อพระครูรัตน์ วัดกะปา อ.คีรีรัฐ
    7.หลวงพ่อนำ ชินวโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
    8.หลวงพ่อชู วัดท่าตะลิ่งชัน อ.พุนพิน
    9.อาจารย์ถนอม วัดยางหมู่ อ.กาญจนดิษฐ์
    มีพระมหานาค 4 รูปสวดพุทธาภิเษก โดยมีอาจารย์ จวง จันทร์ประเสริฐ **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พ่อท่านเพชร รุ่น1 วัดท่าสะท้อน จ.สุราษฎร์ธานี ปี2516 พ่อท่านเพชร รุ่น1 เนื้อผงพุทธคุณ วัดท่าสะท้อน จ.สุราษฎร์ธานี ปี2516 // พระดีพิธีใหญ่ นิมนต์เกจิอาจารย์จากทั่วจังหวัดสุราษฎร์และภาคใต้อีกหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณด่น ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง ขอได้ไหว้รับ ให้โชค ให้ลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง ร่ำรวยเงินทอง ยศฐาบรรดาศักดิ์ให้กับผู้บูชา เสริมเสน่ห์ เจรจาธุรกิจง่าย ช่วยในการค้าขายดี ผู้คนรักใคร่เอ็นดู โชคลาภ อำนาจวาสนาบารมี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องบริหาร ** "วัดท่าสะท้อน" เป็นวัดโบราณ คาดว่าน่าจะสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พ่อท่านเพชร รุ่น1 เนื้อผงพุทธคุณ วัดท่าสะท้อน จ.สุราษฎร์ธานี ปี2516 ด้วยทางวัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่อง หลวงพ่อเพชร อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าสะท้อน เพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถ โดยมีพิธีที่วัดตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2516 ขึ้น5ค่ำเดือน4 ถึงวันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2516 ขึ้น7ค่ำเดือน4 นิมนต์เกจิอาจารย์จากทั่วจังหวัดสุราษฎร์และภาคใต้อีกหลายท่าน คือ 1.หลวงพ่อแต่ง วัดนันทนาราม ต.คลองไทร 2.หลวงพ่อจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ อ.ดอนสัก 3.หลวงพ่อพร้อม วัดคลองฉนวน อ.เวียงสระ 4.อาจารย์โกศล วัดคุ้งยาง อ.พุนพิน 5.อาจารย์คงศักดิ์ วัดบางน้ำฝั้งใต้ ธนบุรี 6.หลวงพ่อพระครูรัตน์ วัดกะปา อ.คีรีรัฐ 7.หลวงพ่อนำ ชินวโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง 8.หลวงพ่อชู วัดท่าตะลิ่งชัน อ.พุนพิน 9.อาจารย์ถนอม วัดยางหมู่ อ.กาญจนดิษฐ์ มีพระมหานาค 4 รูปสวดพุทธาภิเษก โดยมีอาจารย์ จวง จันทร์ประเสริฐ ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • งบเพิ่ม ทุจริตฝังลึก ไทยเสี่ยง Fail State : [THE MESSAGE]
    คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ประกาศจุดยืนเจตจำนงการเมือง ตอกย้ำความมุ่งมั่น “ทำเมืองสุจริต” เปิดตัวผู้ร่วมอุดมการณ์จาก 4 เครือข่าย ลุยนโยบายความมั่นคง ดูแลกฎหมาย ความยุติธรรมพัฒนาการศึกษา เตรียมเปิดแคนดิเดตนายกฯของพรรคเร็วๆ นี้ เตือนไทยเสี่ยงเข้าสู่ภาวะ Fail State การทุจริตฉุดประเทศทรุดหนัก งบประมาณแผ่นดินเพิ่มต่อเนื่อง แต่ประชาชนยิ่งลำบาก เหตุโครงสร้างทุจริตฝังลึกในระบบการเมือง ราชการ ย้ำเดินหน้าสร้างการเมืองสุจริต แก้โกงทั้งระบบ
    งบเพิ่ม ทุจริตฝังลึก ไทยเสี่ยง Fail State : [THE MESSAGE] คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ประกาศจุดยืนเจตจำนงการเมือง ตอกย้ำความมุ่งมั่น “ทำเมืองสุจริต” เปิดตัวผู้ร่วมอุดมการณ์จาก 4 เครือข่าย ลุยนโยบายความมั่นคง ดูแลกฎหมาย ความยุติธรรมพัฒนาการศึกษา เตรียมเปิดแคนดิเดตนายกฯของพรรคเร็วๆ นี้ เตือนไทยเสี่ยงเข้าสู่ภาวะ Fail State การทุจริตฉุดประเทศทรุดหนัก งบประมาณแผ่นดินเพิ่มต่อเนื่อง แต่ประชาชนยิ่งลำบาก เหตุโครงสร้างทุจริตฝังลึกในระบบการเมือง ราชการ ย้ำเดินหน้าสร้างการเมืองสุจริต แก้โกงทั้งระบบ
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 0 Reviews
  • ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนธันวาคม 2568

    ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 7 เดือนธันวาคม พ.ศ.2568 ไปจนถึง วันอาทิตย์ที่ 4 เดือนมกราคม พ.ศ.2569 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้

    1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศใต้ 離卦(ลี้ข่วย) ราศี 午(โง้ว) ตั้งแต่รัศมี 172.5 ถึง 187.5 องศา

    2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) รัศมี 135 องศา ถึง ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(คุงข่วย) รัศมี 225 องศา

    3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศใต้ 離卦(ลี้ข่วย) ตั้งแต่รัศมี 157.5 ถึง 202.5 องศา

    ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีมะเมียพึงระวังเป็นพิเศษ
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนธันวาคม 2568 ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 7 เดือนธันวาคม พ.ศ.2568 ไปจนถึง วันอาทิตย์ที่ 4 เดือนมกราคม พ.ศ.2569 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้ 1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศใต้ 離卦(ลี้ข่วย) ราศี 午(โง้ว) ตั้งแต่รัศมี 172.5 ถึง 187.5 องศา 2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) รัศมี 135 องศา ถึง ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(คุงข่วย) รัศมี 225 องศา 3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศใต้ 離卦(ลี้ข่วย) ตั้งแต่รัศมี 157.5 ถึง 202.5 องศา ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีมะเมียพึงระวังเป็นพิเศษ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • เหรียญคุณพระสะดุ้งกลับ
    เหรียญคุณพระสะดุ้งกลับ เนื้อทองแดง (ผิวปีกแมลงทับ) ปี2546 //พระดีพิธีใหญ๋ เป็นการเสกกลับร้ายกลายเป็นดี คาถาทุกบท จะต้องว่า กลับหลังทั้งหมด จะถือว่าเป็น สะดุ้งกลับอย่างแท้จริง // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ"กลับดวง" หรือ "กลับร้ายกลายเป็นดี" แก้คนที่ดวงตก ทำอะไรก็ไม่ราบรื่น ดวงชะตาไม่ดี พลิกดวงชะตาให้ดีขึ้นได้ ให้แคล้วคลาดปลอดภัย เพื่อเสริมขวัญและกำลังใจให้ชีวิตรุ่งเรือง และประสบความสำเร็จ **

    ** เหรียญคุณพระ พิธีพุทธาภิเษก จะเป็นการเสกกลับทั้งหมดเหมือนกับเป็นการเสกกลับร้ายกลายเป็นดี คาถาทุกบท จะต้องว่า กลับหลังทั้งหมด จะถือว่าเป็น สะดุ้งกลับอย่างแท้จริง แม้กระทั่งการวางจิต ในการพุทธาภิเษก หรือ วางจิตในการปลุกเสก ต้องมีการวางจิตทวนกลับทั้งหมด วิธีเสกเริ่มแรก จะเป็นการเสกแบบเดินหน้าปกติ และเสกแบบสะดุ้งกลับ กลับหลังตามกลับมา เปรียบเสมือนเป็นการแก้ดวง กลับดวง
    ว่าด้วยเรื่องคุณพระ ก็คือ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ

    พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกโดย เกจิอาจารย์ ได้แก่
    1.อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย
    2.หลวงพ่อดำ วัดใหม่นภาราม
    3.หลวงพ่อขาว วัดพระพุทธ
    4.หลวงพ่อสุข วัดตุยง
    5.อาจารย์แก้ว วัดซาเมาะ
    6.พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญคุณพระสะดุ้งกลับ เหรียญคุณพระสะดุ้งกลับ เนื้อทองแดง (ผิวปีกแมลงทับ) ปี2546 //พระดีพิธีใหญ๋ เป็นการเสกกลับร้ายกลายเป็นดี คาถาทุกบท จะต้องว่า กลับหลังทั้งหมด จะถือว่าเป็น สะดุ้งกลับอย่างแท้จริง // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ"กลับดวง" หรือ "กลับร้ายกลายเป็นดี" แก้คนที่ดวงตก ทำอะไรก็ไม่ราบรื่น ดวงชะตาไม่ดี พลิกดวงชะตาให้ดีขึ้นได้ ให้แคล้วคลาดปลอดภัย เพื่อเสริมขวัญและกำลังใจให้ชีวิตรุ่งเรือง และประสบความสำเร็จ ** ** เหรียญคุณพระ พิธีพุทธาภิเษก จะเป็นการเสกกลับทั้งหมดเหมือนกับเป็นการเสกกลับร้ายกลายเป็นดี คาถาทุกบท จะต้องว่า กลับหลังทั้งหมด จะถือว่าเป็น สะดุ้งกลับอย่างแท้จริง แม้กระทั่งการวางจิต ในการพุทธาภิเษก หรือ วางจิตในการปลุกเสก ต้องมีการวางจิตทวนกลับทั้งหมด วิธีเสกเริ่มแรก จะเป็นการเสกแบบเดินหน้าปกติ และเสกแบบสะดุ้งกลับ กลับหลังตามกลับมา เปรียบเสมือนเป็นการแก้ดวง กลับดวง ว่าด้วยเรื่องคุณพระ ก็คือ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกโดย เกจิอาจารย์ ได้แก่ 1.อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 2.หลวงพ่อดำ วัดใหม่นภาราม 3.หลวงพ่อขาว วัดพระพุทธ 4.หลวงพ่อสุข วัดตุยง 5.อาจารย์แก้ว วัดซาเมาะ 6.พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • #หอยลายกรอบรสสไปร์ซี่ #หอยลาย #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #กระพงทุบ

    สินค้าใหม่…เปิดตะกร้าแล้วจ้าาา

    อาหารทานเล่นยอดฮิต … กำลังเป็นที่นิยมมาก ณ จุดนี้… ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนนน

    หอยลายอบกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ .. มีความเผ็ดๆ แต่ไม่มาก เคี้ยวเล่นก็เพลิน ทานกับข้าวก็เลิศ

    ยากได้ความอร่อยแบบนี้ ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยครับ

    ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ

    ⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้า
    หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZShf94QeQ/

    หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ใน Shopee
    https://th.shp.ee/sic8iXL

    เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_

    เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ

    #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา
    #หอยลายกรอบรสสไปร์ซี่ #หอยลาย #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #กระพงทุบ สินค้าใหม่…เปิดตะกร้าแล้วจ้าาา อาหารทานเล่นยอดฮิต … กำลังเป็นที่นิยมมาก ณ จุดนี้… ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนนน หอยลายอบกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ 😁.. มีความเผ็ดๆ แต่ไม่มาก เคี้ยวเล่นก็เพลิน ทานกับข้าวก็เลิศ ยากได้ความอร่อยแบบนี้ ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยครับ 😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ😍 🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้า หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ 🐟🐠 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZShf94QeQ/ หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่🐠🐟 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/sic8iXL เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_ เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251201 #TechRadar

    Dell ชี้การเปลี่ยนผ่านสู่ Windows 11 ยังช้า
    เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่องค์กรจำนวนมากยังคงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าและไม่รีบอัปเกรดไป Windows 11 เพราะเครื่องที่มีอยู่ยังทำงานได้ดี ส่งผลให้ยอดขาย PC ของ Dell คาดว่าจะทรงตัว แม้จะมีเครื่องกว่า 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถรองรับ Windows 11 ได้ก็ตาม ขณะเดียวกัน Dell กลับเห็นการเติบโตในตลาดเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับงานด้าน AI ที่มียอดสั่งซื้อสูงถึง 12 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด สะท้อนว่าธุรกิจให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานมากกว่าการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการในตอนนี้
    https://www.techradar.com/pro/security/dell-says-businesses-still-arent-moving-to-windows-11-fast-enough-pc-maker-says-sales-will-be-flat-as-many-stick-with-windows-10

    เปลี่ยนมุมมองเพื่อสร้างนวัตกรรมด้าน Cybersecurity
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการสร้างนวัตกรรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่สำคัญที่ “วิธีคิด” องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่เรียนรู้ที่จะจัดการความเสี่ยง ไม่ใช่แค่หลีกเลี่ยงมัน การเปิดใจรับฟังและหาทางทำให้ไอเดียใหม่ ๆ ปลอดภัย จะช่วยสร้างความร่วมมือและความเชื่อมั่นภายในทีม ทำให้ความปลอดภัยกลายเป็นตัวช่วยในการแข่งขัน ไม่ใช่แค่กำแพงกีดกัน
    https://www.techradar.com/pro/mindset-change-is-key-to-nurturing-cybersecurity-innovation

    Kia EV4 รถไฟฟ้าที่ทำให้ Hatchback กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การขับ Kia EV4 รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้แตกต่างจาก SUV ทั่วไป ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวและการขับขี่ที่สนุกสนาน แม้จะไม่แรงสุดขั้ว แต่ก็ให้ความสบายและความคล่องตัวที่เหนือกว่า Hatchback ทั่วไป จุดเด่นคือแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกสองขนาด พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 388 ไมล์ และระบบชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 29 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ เช่น ผู้ช่วยเสียงที่ใช้ ChatGPT และระบบความบันเทิงในรถที่รองรับ Netflix และ Disney+ ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-electric-kia-ev4-and-it-finally-makes-hatchbacks-exciting-again-for-three-key-reasons

    5 แอปที่จะทำให้ภาพถ่ายมือถือของคุณดียิ่งขึ้น
    แม้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะมีกล้องที่ดีมาก แต่การใช้แอปเสริมสามารถยกระดับภาพถ่ายได้อีกขั้น บทความนี้แนะนำ 5 แอป ได้แก่ Lightroom ที่ครบเครื่องด้านการแก้ไข Snapseed ที่ใช้ง่ายและมีฟิลเตอร์หลากหลาย Halide Mark II สำหรับ iPhone ที่ให้ควบคุมการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ Open Camera สำหรับ Android ที่เพิ่มฟีเจอร์การถ่ายภาพ และ VSCO ที่มีพรีเซ็ตกว่า 200 แบบพร้อมชุมชนให้แชร์ผลงาน แอปเหล่านี้ช่วยให้ทั้งการถ่ายและการแต่งภาพสนุกและมีคุณภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/phones/want-to-take-better-phone-pictures-these-5-apps-will-vastly-improve-your-photos

    วิศวกรแห่งอนาคต: นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยคนและความยั่งยืน
    บทความนี้สะท้อนว่าคำว่า “นวัตกรรม” ในสายงานวิศวกรรมไม่ได้หมายถึงเทคโนโลยีใหม่เพียงอย่างเดียว แต่คือการผสมผสานคน ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างความก้าวหน้า วิศวกรยุคใหม่ใช้ข้อมูลและ AI เพื่อคาดการณ์ปัญหาก่อนเกิด ลดการเดินทางและการปล่อยคาร์บอน พร้อมทั้งผลักดันการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเน้นความหลากหลายและการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาในสายงาน เพื่อสร้างทีมที่มีมุมมองหลากหลายและพร้อมแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/engineers-for-the-future-championing-innovation-through-people-purpose-and-progress

    OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือที่แบตใหญ่ที่สุด
    ข่าวนี้พูดถึงมือถือรุ่นใหม่จาก OnePlus ที่คาดว่าจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัทเคยใส่ในสมาร์ทโฟน จุดเด่นคือการยืดอายุการใช้งานให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยยังคงรักษาดีไซน์และประสิทธิภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ OnePlus ทำให้แฟน ๆ รอติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าจะสร้างความแตกต่างได้มากแค่ไหน
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-next-oneplus-phone-could-have-the-biggest-battery-the-company-has-ever-put-into-a-handset

    Missouri เริ่มบังคับใช้การยืนยันอายุออนไลน์
    รัฐ Missouri ของสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นวันแรกของการบังคับใช้กฎหมายการยืนยันอายุสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์บางประเภท ทำให้ประชาชนจำนวนมากเริ่มค้นหา VPN เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดนี้ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายระหว่างการคุ้มครองเยาวชนกับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ และยังทำให้ตลาด VPN ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทันที
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouris-search-for-vpns-lifts-off-as-the-first-day-of-age-verification-arrives
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251201 #TechRadar 🖥️ Dell ชี้การเปลี่ยนผ่านสู่ Windows 11 ยังช้า เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่องค์กรจำนวนมากยังคงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าและไม่รีบอัปเกรดไป Windows 11 เพราะเครื่องที่มีอยู่ยังทำงานได้ดี ส่งผลให้ยอดขาย PC ของ Dell คาดว่าจะทรงตัว แม้จะมีเครื่องกว่า 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถรองรับ Windows 11 ได้ก็ตาม ขณะเดียวกัน Dell กลับเห็นการเติบโตในตลาดเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับงานด้าน AI ที่มียอดสั่งซื้อสูงถึง 12 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด สะท้อนว่าธุรกิจให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานมากกว่าการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการในตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/dell-says-businesses-still-arent-moving-to-windows-11-fast-enough-pc-maker-says-sales-will-be-flat-as-many-stick-with-windows-10 🔒 เปลี่ยนมุมมองเพื่อสร้างนวัตกรรมด้าน Cybersecurity บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการสร้างนวัตกรรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่สำคัญที่ “วิธีคิด” องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่เรียนรู้ที่จะจัดการความเสี่ยง ไม่ใช่แค่หลีกเลี่ยงมัน การเปิดใจรับฟังและหาทางทำให้ไอเดียใหม่ ๆ ปลอดภัย จะช่วยสร้างความร่วมมือและความเชื่อมั่นภายในทีม ทำให้ความปลอดภัยกลายเป็นตัวช่วยในการแข่งขัน ไม่ใช่แค่กำแพงกีดกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/mindset-change-is-key-to-nurturing-cybersecurity-innovation 🚗 Kia EV4 รถไฟฟ้าที่ทำให้ Hatchback กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การขับ Kia EV4 รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้แตกต่างจาก SUV ทั่วไป ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวและการขับขี่ที่สนุกสนาน แม้จะไม่แรงสุดขั้ว แต่ก็ให้ความสบายและความคล่องตัวที่เหนือกว่า Hatchback ทั่วไป จุดเด่นคือแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกสองขนาด พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 388 ไมล์ และระบบชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 29 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ เช่น ผู้ช่วยเสียงที่ใช้ ChatGPT และระบบความบันเทิงในรถที่รองรับ Netflix และ Disney+ ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-electric-kia-ev4-and-it-finally-makes-hatchbacks-exciting-again-for-three-key-reasons 📸 5 แอปที่จะทำให้ภาพถ่ายมือถือของคุณดียิ่งขึ้น แม้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะมีกล้องที่ดีมาก แต่การใช้แอปเสริมสามารถยกระดับภาพถ่ายได้อีกขั้น บทความนี้แนะนำ 5 แอป ได้แก่ Lightroom ที่ครบเครื่องด้านการแก้ไข Snapseed ที่ใช้ง่ายและมีฟิลเตอร์หลากหลาย Halide Mark II สำหรับ iPhone ที่ให้ควบคุมการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ Open Camera สำหรับ Android ที่เพิ่มฟีเจอร์การถ่ายภาพ และ VSCO ที่มีพรีเซ็ตกว่า 200 แบบพร้อมชุมชนให้แชร์ผลงาน แอปเหล่านี้ช่วยให้ทั้งการถ่ายและการแต่งภาพสนุกและมีคุณภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/want-to-take-better-phone-pictures-these-5-apps-will-vastly-improve-your-photos ⚙️ วิศวกรแห่งอนาคต: นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยคนและความยั่งยืน บทความนี้สะท้อนว่าคำว่า “นวัตกรรม” ในสายงานวิศวกรรมไม่ได้หมายถึงเทคโนโลยีใหม่เพียงอย่างเดียว แต่คือการผสมผสานคน ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างความก้าวหน้า วิศวกรยุคใหม่ใช้ข้อมูลและ AI เพื่อคาดการณ์ปัญหาก่อนเกิด ลดการเดินทางและการปล่อยคาร์บอน พร้อมทั้งผลักดันการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเน้นความหลากหลายและการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาในสายงาน เพื่อสร้างทีมที่มีมุมมองหลากหลายและพร้อมแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/engineers-for-the-future-championing-innovation-through-people-purpose-and-progress 📱 OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือที่แบตใหญ่ที่สุด ข่าวนี้พูดถึงมือถือรุ่นใหม่จาก OnePlus ที่คาดว่าจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัทเคยใส่ในสมาร์ทโฟน จุดเด่นคือการยืดอายุการใช้งานให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยยังคงรักษาดีไซน์และประสิทธิภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ OnePlus ทำให้แฟน ๆ รอติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าจะสร้างความแตกต่างได้มากแค่ไหน 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-next-oneplus-phone-could-have-the-biggest-battery-the-company-has-ever-put-into-a-handset 🌐 Missouri เริ่มบังคับใช้การยืนยันอายุออนไลน์ รัฐ Missouri ของสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นวันแรกของการบังคับใช้กฎหมายการยืนยันอายุสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์บางประเภท ทำให้ประชาชนจำนวนมากเริ่มค้นหา VPN เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดนี้ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายระหว่างการคุ้มครองเยาวชนกับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ และยังทำให้ตลาด VPN ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทันที 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouris-search-for-vpns-lifts-off-as-the-first-day-of-age-verification-arrives
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251201 #securityonline


    GeoServer พบช่องโหว่ร้ายแรง XXE (CVE-2025-58360)
    เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่สำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ GeoServer ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สด้านข้อมูลภูมิสารสนเทศ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟังก์ชัน Web Map Service (WMS) ที่เปิดให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ผลคือสามารถดึงไฟล์ลับจากเซิร์ฟเวอร์ ทำการ SSRF เพื่อเจาะระบบภายใน หรือแม้แต่ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ทันที ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่ ไม่เช่นนั้นระบบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแผนที่อาจถูกเจาะได้ง่าย
    https://securityonline.info/high-severity-geoserver-flaw-cve-2025-58360-allows-unauthenticated-xxe-for-file-theft-and-ssrf

    TAG-150 ผู้ให้บริการ Malware-as-a-Service รายใหม่ ใช้ ClickFix หลอกเหยื่อ
    กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์หน้าใหม่ชื่อ TAG-150 โผล่ขึ้นมาในปี 2025 และสร้างความปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คิดว่ากำลังทำขั้นตอนยืนยันหรืออัปเดตซอฟต์แวร์ แต่จริง ๆ แล้วคือการบังคับให้เหยื่อรันคำสั่ง PowerShell ที่เป็นมัลแวร์เอง หลังจากนั้นจะถูกติดตั้ง CastleLoader และ CastleRAT ซึ่งให้สิทธิ์ควบคุมเครื่องแบบเต็มรูปแบบ ทั้งการดักคีย์บอร์ด จับภาพหน้าจอ และเปิดเชลล์ระยะไกล ถือเป็นการโจมตีที่เน้นหลอกเหยื่อให้ “แฮ็กตัวเอง” โดยไม่รู้ตัว
    https://securityonline.info/new-maas-operator-tag-150-uses-clickfix-lure-and-custom-castleloader-to-compromise-469-us-devices

    แคมเปญ “Contagious Interview” ของเกาหลีเหนือ ปล่อยแพ็กเกจ npm กว่า 200 ตัว
    นักวิจัยพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าล่าผู้พัฒนาในสายบล็อกเชนและ Web3 พวกเขาใช้วิธีปลอมเป็นการสัมภาษณ์งาน โดยให้ผู้สมัครทำ “แบบทดสอบโค้ด” ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นแพ็กเกจ npm ที่ฝังมัลแวร์ OtterCookie รุ่นใหม่เข้าไป แพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่าหมื่นครั้ง และสามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น seed phrase ของกระเป๋าเงินคริปโต รหัสผ่าน และไฟล์ลับต่าง ๆ ได้ทันที ถือเป็นการโจมตีที่ใช้กระบวนการสมัครงานเป็นเครื่องมือในการเจาะระบบ
    https://securityonline.info/north-koreas-contagious-interview-floods-npm-with-200-new-packages-using-fake-crypto-jobs-to-deploy-ottercookie-spyware

    ShadowV2 Mirai Botnet ทดสอบโจมตี IoT ระหว่าง AWS ล่มทั่วโลก
    ในช่วงที่ AWS เกิดการล่มครั้งใหญ่เมื่อเดือนตุลาคม กลุ่มผู้โจมตีใช้โอกาสนี้ปล่อย ShadowV2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของ Mirai botnet โดยมุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ IoT เช่น เราเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายที่มีช่องโหว่ การโจมตีครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “การทดสอบ” มากกว่าการโจมตีเต็มรูปแบบ แต่ก็สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกได้แล้ว ShadowV2 ใช้เทคนิคเข้ารหัสเพื่อหลบการตรวจจับ และสามารถทำ DDoS ได้หลายรูปแบบ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่า IoT ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญในโลกไซเบอร์
    https://securityonline.info/shadowv2-mirai-botnet-launched-coordinated-iot-test-attack-during-global-aws-outage

    Bloody Wolf APT ขยายการโจมตีสู่เอเชียกลาง ใช้ NetSupport RAT
    กลุ่ม APT ที่ชื่อ Bloody Wolf ซึ่งเคยโจมตีในรัสเซียและคาซัคสถาน ตอนนี้ขยายไปยังคีร์กีซสถานและอุซเบกิสถาน พวกเขาใช้วิธีส่งอีเมล spear-phishing ที่ปลอมเป็นเอกสารทางราชการ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์จะถูกนำไปดาวน์โหลด JAR ที่ฝังโค้ดอันตราย ซึ่งสุดท้ายติดตั้ง NetSupport RAT ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ปกติใช้ในการช่วยเหลือด้านไอที แต่ถูกนำมาใช้ควบคุมเครื่องเหยื่อแบบลับ ๆ ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก การใช้เครื่องมือที่ถูกต้องตามกฎหมายมาทำการโจมตีเช่นนี้ เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นการใช้งานจริงหรือการแฮ็ก
    https://securityonline.info/bloody-wolf-apt-expands-to-central-asia-deploys-netsupport-rat-via-custom-java-droppers-and-geo-fencing

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache bRPC (CVE-2025-59789)
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ที่อันตรายมากใน Apache bRPC ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์ก RPC ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับระบบประสิทธิภาพสูง เช่น การค้นหา การจัดเก็บ และแมชชีนเลิร์นนิง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล JSON ที่มีโครงสร้างซ้อนลึกเกินไป ทำให้เกิดการใช้หน่วยความจำสแต็กจนล้นและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ง่าย ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูล JSON ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ระบบ crash โดยเฉพาะ องค์กรที่เปิดรับทราฟฟิกจากเครือข่ายภายนอกจึงเสี่ยงสูง ทางทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.15.0 โดยเพิ่มการจำกัดความลึกของการ recursion ที่ค่าเริ่มต้น 100 เพื่อป้องกันการโจมตี แต่ก็อาจทำให้บางคำขอที่ถูกต้องถูกปฏิเสธไปด้วย
    https://securityonline.info/cve-2025-59789-critical-flaw-in-apache-brpc-framework-exposes-high-performance-systems-to-crash-risks

    Apple เตรียมใช้ Intel Foundry ผลิตชิป M-Series บนเทคโนโลยี 18A ปี 2027
    มีรายงานว่า Apple ได้ทำข้อตกลงลับกับ Intel เพื่อให้ผลิตชิป M-series รุ่นเริ่มต้นบนกระบวนการผลิต 18A โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตจำนวนมากได้ในช่วงกลางปี 2027 นี่ถือเป็นการกลับมาของ Intel ในห่วงโซ่อุปทานของ Apple หลังจากที่ TSMC ครองบทบาทหลักมานาน ชิปที่ผลิตจะถูกใช้ใน MacBook Air และ iPad Pro ซึ่งมียอดขายรวมกว่า 20 ล้านเครื่องในปี 2025 การเคลื่อนไหวนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ Intel ในฐานะโรงงานผลิต แต่ยังไม่กระทบต่อรายได้ของ TSMC ในระยะสั้น
    https://securityonline.info/apple-eyes-intel-foundry-for-m-series-chips-on-18a-node-by-2027

    Windows 11 พบปัญหาไอคอนล็อกอินด้วยรหัสผ่านหายไปหลังอัปเดต
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนเจอปัญหาหลังติดตั้งอัปเดตเดือนสิงหาคม 2025 หรือเวอร์ชันหลังจากนั้น โดยไอคอนสำหรับเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านหายไปจากหน้าล็อกสกรีน ทำให้ดูเหมือนว่ามีเพียงการเข้าสู่ระบบด้วย PIN เท่านั้นที่ใช้ได้ แม้จริง ๆ แล้วฟังก์ชันยังอยู่ แต่ผู้ใช้ต้องคลิกตรงพื้นที่ว่างที่ควรมีไอคอน ซึ่งสร้างความสับสนและยุ่งยาก Microsoft ยืนยันว่ากำลังแก้ไขและคาดว่าจะปล่อยแพตช์แก้ในอัปเดตถัดไป
    https://securityonline.info/windows-11-bug-makes-lock-screen-password-icon-vanish-after-update

    กลยุทธ์ AI ของ Google Pixel เน้นประโยชน์จริง ไม่ใช่แค่คำโฆษณา
    Google กำลังผลักดัน Pixel ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้าน AI โดยเน้นการใช้งานที่จับต้องได้ เช่น ฟีเจอร์ “Auto Best Take” ที่ช่วยให้ทุกคนดูดีที่สุดในภาพถ่ายกลุ่ม Adrienne Lofton รองประธานฝ่ายการตลาดของ Pixel ชี้ว่าแม้ AI จะเป็นกระแส แต่ผู้ใช้ยังแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ทั้งที่เชื่อและที่สงสัย ดังนั้นกลยุทธ์ของ Google คือการทำให้ AI เป็นสิ่งที่ผู้ใช้เห็นคุณค่า ไม่ใช่แค่คำโฆษณา ทีมงานยังใช้ AI ภายในอย่าง Gemini Live และ Veo 3 เพื่อเร่งกระบวนการทำตลาดให้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 15 สัปดาห์
    https://securityonline.info/googles-pixel-ai-strategy-focusing-on-tangible-benefits-not-just-hype

    OpenAI ถูกท้าทายอย่างหนักจาก Gemini 3 ของ Google
    หลังจาก ChatGPT ครองตลาดมานาน ตอนนี้ OpenAI กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่เมื่อ Google เปิดตัว Gemini 3 ที่ทำคะแนนเหนือ GPT-5 ในหลายการทดสอบ และมีผู้ใช้งานพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 400 ล้านเป็น 650 ล้านรายต่อเดือน ความได้เปรียบของ Google คือการใช้ TPU ของตัวเองแทนการพึ่งพา NVIDIA ทำให้พัฒนาได้เร็วและต้นทุนต่ำลง ขณะที่ OpenAI ต้องลงทุนมหาศาลกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ สถานการณ์นี้ทำให้ตลาด AI กลับมาดุเดือดอีกครั้ง และอนาคตของ OpenAI ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
    https://securityonline.info/openai-under-siege-googles-gemini-3-surge-threatens-to-end-chatgpts-early-lead

    ฟีเจอร์ใหม่ Android Hotspot แชร์สัญญาณพร้อมกัน 2.4 GHz + 6 GHz
    Android กำลังเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้สามารถแชร์ฮอตสปอตได้พร้อมกันทั้งย่านความถี่ 2.4 GHz และ 6 GHz ซึ่งช่วยให้เชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าและใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน การอัปเกรดนี้ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีหลายอุปกรณ์หลากหลายรุ่นต้องเชื่อมต่อพร้อมกัน ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์ยุค Wi-Fi 6E
    https://securityonline.info/android-hotspot-upgrade-new-feature-allows-simultaneous-2-4-ghz-6-ghz-dual-band-sharing

    ปฏิบัติการ Hanoi Thief: ใช้ไฟล์ LNK/รูปภาพโจมตีด้วย LOTUSHARVEST Stealer
    แฮกเกอร์ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า “Pseudo-Polyglot” โดยใช้ไฟล์ LNK หรือรูปภาพที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่จริง ๆ แล้วซ่อนโค้ดอันตรายไว้เพื่อโหลดมัลแวร์ LOTUSHARVEST Stealer ผ่าน DLL Sideloading การโจมตีนี้ทำให้ผู้ใช้ที่เปิดไฟล์ดังกล่าวเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการหลอกลวงทางไซเบอร์
    https://securityonline.info/operation-hanoi-thief-hackers-use-pseudo-polyglot-lnk-image-to-deploy-lotusharvest-stealer-via-dll-sideloading

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Devolutions Server (CVE-2025-13757)
    มีการค้นพบช่องโหว่ SQL Injection ที่ร้ายแรงใน Devolutions Server ซึ่งทำให้ผู้โจมตีที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วสามารถดึงข้อมูลรหัสผ่านทั้งหมดออกมาได้ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะเปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลที่สำคัญที่สุดของระบบ การโจมตีลักษณะนี้สามารถทำให้ทั้งองค์กรเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและถูกบุกรุกอย่างหนัก ผู้ดูแลระบบจึงควรเร่งอัปเดตแพตช์แก้ไขทันที
    https://securityonline.info/critical-devolutions-server-flaw-cve-2025-13757-allows-authenticated-sql-injection-to-steal-all-passwords

    มัลแวร์ TangleCrypt Packer ซ่อน EDR Killer แต่พลาดจนแครชเอง
    นักวิจัยพบว่า TangleCrypt ซึ่งเป็นแพ็กเกอร์มัลแวร์รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อซ่อนฟังก์ชัน EDR Killer ที่สามารถทำลายระบบตรวจจับภัยคุกคามได้ แต่เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในการเขียนโค้ด ทำให้มัลแวร์นี้เกิดการแครชเองโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นภัยคุกคามที่น่ากังวล แต่ความผิดพลาดนี้ก็ทำให้การโจมตีไม่เสถียร และอาจเป็นจุดอ่อนที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถตรวจจับและป้องกันได้ง่ายขึ้น
    https://securityonline.info/new-tanglecrypt-packer-hides-edr-killer-but-coding-flaws-cause-ransomware-to-crash-unexpectedly

    กลยุทธ์ใหม่ของ Russian Tomiris APT ใช้ Telegram/Discord เป็นช่องทางสอดแนม
    กลุ่มแฮกเกอร์ Tomiris APT จากรัสเซียถูกพบว่าใช้วิธี “Polyglot” ในการแฝงตัว โดยเปลี่ยนแพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมอย่าง Telegram และ Discord ให้กลายเป็นช่องทางควบคุมการสอดแนมทางการทูต เทคนิคนี้ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะดูเหมือนการใช้งานปกติของผู้ใช้ทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์ควบคุมและเครื่องที่ถูกบุกรุก ถือเป็นการยกระดับการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/russian-tomiris-apt-adopts-polyglot-strategy-hijacking-telegram-discord-as-covert-c2-for-diplomatic-spies
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251201 #securityonline 🛡️ GeoServer พบช่องโหว่ร้ายแรง XXE (CVE-2025-58360) เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่สำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ GeoServer ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สด้านข้อมูลภูมิสารสนเทศ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟังก์ชัน Web Map Service (WMS) ที่เปิดให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ผลคือสามารถดึงไฟล์ลับจากเซิร์ฟเวอร์ ทำการ SSRF เพื่อเจาะระบบภายใน หรือแม้แต่ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ทันที ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่ ไม่เช่นนั้นระบบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแผนที่อาจถูกเจาะได้ง่าย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-geoserver-flaw-cve-2025-58360-allows-unauthenticated-xxe-for-file-theft-and-ssrf 🕵️ TAG-150 ผู้ให้บริการ Malware-as-a-Service รายใหม่ ใช้ ClickFix หลอกเหยื่อ กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์หน้าใหม่ชื่อ TAG-150 โผล่ขึ้นมาในปี 2025 และสร้างความปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คิดว่ากำลังทำขั้นตอนยืนยันหรืออัปเดตซอฟต์แวร์ แต่จริง ๆ แล้วคือการบังคับให้เหยื่อรันคำสั่ง PowerShell ที่เป็นมัลแวร์เอง หลังจากนั้นจะถูกติดตั้ง CastleLoader และ CastleRAT ซึ่งให้สิทธิ์ควบคุมเครื่องแบบเต็มรูปแบบ ทั้งการดักคีย์บอร์ด จับภาพหน้าจอ และเปิดเชลล์ระยะไกล ถือเป็นการโจมตีที่เน้นหลอกเหยื่อให้ “แฮ็กตัวเอง” โดยไม่รู้ตัว 🔗 https://securityonline.info/new-maas-operator-tag-150-uses-clickfix-lure-and-custom-castleloader-to-compromise-469-us-devices 💻 แคมเปญ “Contagious Interview” ของเกาหลีเหนือ ปล่อยแพ็กเกจ npm กว่า 200 ตัว นักวิจัยพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าล่าผู้พัฒนาในสายบล็อกเชนและ Web3 พวกเขาใช้วิธีปลอมเป็นการสัมภาษณ์งาน โดยให้ผู้สมัครทำ “แบบทดสอบโค้ด” ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นแพ็กเกจ npm ที่ฝังมัลแวร์ OtterCookie รุ่นใหม่เข้าไป แพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่าหมื่นครั้ง และสามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น seed phrase ของกระเป๋าเงินคริปโต รหัสผ่าน และไฟล์ลับต่าง ๆ ได้ทันที ถือเป็นการโจมตีที่ใช้กระบวนการสมัครงานเป็นเครื่องมือในการเจาะระบบ 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-contagious-interview-floods-npm-with-200-new-packages-using-fake-crypto-jobs-to-deploy-ottercookie-spyware 🌐 ShadowV2 Mirai Botnet ทดสอบโจมตี IoT ระหว่าง AWS ล่มทั่วโลก ในช่วงที่ AWS เกิดการล่มครั้งใหญ่เมื่อเดือนตุลาคม กลุ่มผู้โจมตีใช้โอกาสนี้ปล่อย ShadowV2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของ Mirai botnet โดยมุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ IoT เช่น เราเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายที่มีช่องโหว่ การโจมตีครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “การทดสอบ” มากกว่าการโจมตีเต็มรูปแบบ แต่ก็สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกได้แล้ว ShadowV2 ใช้เทคนิคเข้ารหัสเพื่อหลบการตรวจจับ และสามารถทำ DDoS ได้หลายรูปแบบ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่า IoT ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญในโลกไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/shadowv2-mirai-botnet-launched-coordinated-iot-test-attack-during-global-aws-outage 🐺 Bloody Wolf APT ขยายการโจมตีสู่เอเชียกลาง ใช้ NetSupport RAT กลุ่ม APT ที่ชื่อ Bloody Wolf ซึ่งเคยโจมตีในรัสเซียและคาซัคสถาน ตอนนี้ขยายไปยังคีร์กีซสถานและอุซเบกิสถาน พวกเขาใช้วิธีส่งอีเมล spear-phishing ที่ปลอมเป็นเอกสารทางราชการ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์จะถูกนำไปดาวน์โหลด JAR ที่ฝังโค้ดอันตราย ซึ่งสุดท้ายติดตั้ง NetSupport RAT ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ปกติใช้ในการช่วยเหลือด้านไอที แต่ถูกนำมาใช้ควบคุมเครื่องเหยื่อแบบลับ ๆ ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก การใช้เครื่องมือที่ถูกต้องตามกฎหมายมาทำการโจมตีเช่นนี้ เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นการใช้งานจริงหรือการแฮ็ก 🔗 https://securityonline.info/bloody-wolf-apt-expands-to-central-asia-deploys-netsupport-rat-via-custom-java-droppers-and-geo-fencing 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache bRPC (CVE-2025-59789) เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ที่อันตรายมากใน Apache bRPC ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์ก RPC ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับระบบประสิทธิภาพสูง เช่น การค้นหา การจัดเก็บ และแมชชีนเลิร์นนิง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล JSON ที่มีโครงสร้างซ้อนลึกเกินไป ทำให้เกิดการใช้หน่วยความจำสแต็กจนล้นและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ง่าย ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูล JSON ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ระบบ crash โดยเฉพาะ องค์กรที่เปิดรับทราฟฟิกจากเครือข่ายภายนอกจึงเสี่ยงสูง ทางทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.15.0 โดยเพิ่มการจำกัดความลึกของการ recursion ที่ค่าเริ่มต้น 100 เพื่อป้องกันการโจมตี แต่ก็อาจทำให้บางคำขอที่ถูกต้องถูกปฏิเสธไปด้วย 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-59789-critical-flaw-in-apache-brpc-framework-exposes-high-performance-systems-to-crash-risks 💻 Apple เตรียมใช้ Intel Foundry ผลิตชิป M-Series บนเทคโนโลยี 18A ปี 2027 มีรายงานว่า Apple ได้ทำข้อตกลงลับกับ Intel เพื่อให้ผลิตชิป M-series รุ่นเริ่มต้นบนกระบวนการผลิต 18A โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตจำนวนมากได้ในช่วงกลางปี 2027 นี่ถือเป็นการกลับมาของ Intel ในห่วงโซ่อุปทานของ Apple หลังจากที่ TSMC ครองบทบาทหลักมานาน ชิปที่ผลิตจะถูกใช้ใน MacBook Air และ iPad Pro ซึ่งมียอดขายรวมกว่า 20 ล้านเครื่องในปี 2025 การเคลื่อนไหวนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ Intel ในฐานะโรงงานผลิต แต่ยังไม่กระทบต่อรายได้ของ TSMC ในระยะสั้น 🔗 https://securityonline.info/apple-eyes-intel-foundry-for-m-series-chips-on-18a-node-by-2027 🖥️ Windows 11 พบปัญหาไอคอนล็อกอินด้วยรหัสผ่านหายไปหลังอัปเดต ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนเจอปัญหาหลังติดตั้งอัปเดตเดือนสิงหาคม 2025 หรือเวอร์ชันหลังจากนั้น โดยไอคอนสำหรับเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านหายไปจากหน้าล็อกสกรีน ทำให้ดูเหมือนว่ามีเพียงการเข้าสู่ระบบด้วย PIN เท่านั้นที่ใช้ได้ แม้จริง ๆ แล้วฟังก์ชันยังอยู่ แต่ผู้ใช้ต้องคลิกตรงพื้นที่ว่างที่ควรมีไอคอน ซึ่งสร้างความสับสนและยุ่งยาก Microsoft ยืนยันว่ากำลังแก้ไขและคาดว่าจะปล่อยแพตช์แก้ในอัปเดตถัดไป 🔗 https://securityonline.info/windows-11-bug-makes-lock-screen-password-icon-vanish-after-update 📱 กลยุทธ์ AI ของ Google Pixel เน้นประโยชน์จริง ไม่ใช่แค่คำโฆษณา Google กำลังผลักดัน Pixel ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้าน AI โดยเน้นการใช้งานที่จับต้องได้ เช่น ฟีเจอร์ “Auto Best Take” ที่ช่วยให้ทุกคนดูดีที่สุดในภาพถ่ายกลุ่ม Adrienne Lofton รองประธานฝ่ายการตลาดของ Pixel ชี้ว่าแม้ AI จะเป็นกระแส แต่ผู้ใช้ยังแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ทั้งที่เชื่อและที่สงสัย ดังนั้นกลยุทธ์ของ Google คือการทำให้ AI เป็นสิ่งที่ผู้ใช้เห็นคุณค่า ไม่ใช่แค่คำโฆษณา ทีมงานยังใช้ AI ภายในอย่าง Gemini Live และ Veo 3 เพื่อเร่งกระบวนการทำตลาดให้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 15 สัปดาห์ 🔗 https://securityonline.info/googles-pixel-ai-strategy-focusing-on-tangible-benefits-not-just-hype 🤖 OpenAI ถูกท้าทายอย่างหนักจาก Gemini 3 ของ Google หลังจาก ChatGPT ครองตลาดมานาน ตอนนี้ OpenAI กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่เมื่อ Google เปิดตัว Gemini 3 ที่ทำคะแนนเหนือ GPT-5 ในหลายการทดสอบ และมีผู้ใช้งานพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 400 ล้านเป็น 650 ล้านรายต่อเดือน ความได้เปรียบของ Google คือการใช้ TPU ของตัวเองแทนการพึ่งพา NVIDIA ทำให้พัฒนาได้เร็วและต้นทุนต่ำลง ขณะที่ OpenAI ต้องลงทุนมหาศาลกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ สถานการณ์นี้ทำให้ตลาด AI กลับมาดุเดือดอีกครั้ง และอนาคตของ OpenAI ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด 🔗 https://securityonline.info/openai-under-siege-googles-gemini-3-surge-threatens-to-end-chatgpts-early-lead 📶 ฟีเจอร์ใหม่ Android Hotspot แชร์สัญญาณพร้อมกัน 2.4 GHz + 6 GHz Android กำลังเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้สามารถแชร์ฮอตสปอตได้พร้อมกันทั้งย่านความถี่ 2.4 GHz และ 6 GHz ซึ่งช่วยให้เชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าและใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน การอัปเกรดนี้ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีหลายอุปกรณ์หลากหลายรุ่นต้องเชื่อมต่อพร้อมกัน ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์ยุค Wi-Fi 6E 🔗 https://securityonline.info/android-hotspot-upgrade-new-feature-allows-simultaneous-2-4-ghz-6-ghz-dual-band-sharing 🕵️‍♂️ ปฏิบัติการ Hanoi Thief: ใช้ไฟล์ LNK/รูปภาพโจมตีด้วย LOTUSHARVEST Stealer แฮกเกอร์ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า “Pseudo-Polyglot” โดยใช้ไฟล์ LNK หรือรูปภาพที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่จริง ๆ แล้วซ่อนโค้ดอันตรายไว้เพื่อโหลดมัลแวร์ LOTUSHARVEST Stealer ผ่าน DLL Sideloading การโจมตีนี้ทำให้ผู้ใช้ที่เปิดไฟล์ดังกล่าวเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการหลอกลวงทางไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/operation-hanoi-thief-hackers-use-pseudo-polyglot-lnk-image-to-deploy-lotusharvest-stealer-via-dll-sideloading 🔐 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Devolutions Server (CVE-2025-13757) มีการค้นพบช่องโหว่ SQL Injection ที่ร้ายแรงใน Devolutions Server ซึ่งทำให้ผู้โจมตีที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วสามารถดึงข้อมูลรหัสผ่านทั้งหมดออกมาได้ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะเปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลที่สำคัญที่สุดของระบบ การโจมตีลักษณะนี้สามารถทำให้ทั้งองค์กรเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและถูกบุกรุกอย่างหนัก ผู้ดูแลระบบจึงควรเร่งอัปเดตแพตช์แก้ไขทันที 🔗 https://securityonline.info/critical-devolutions-server-flaw-cve-2025-13757-allows-authenticated-sql-injection-to-steal-all-passwords 💣 มัลแวร์ TangleCrypt Packer ซ่อน EDR Killer แต่พลาดจนแครชเอง นักวิจัยพบว่า TangleCrypt ซึ่งเป็นแพ็กเกอร์มัลแวร์รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อซ่อนฟังก์ชัน EDR Killer ที่สามารถทำลายระบบตรวจจับภัยคุกคามได้ แต่เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในการเขียนโค้ด ทำให้มัลแวร์นี้เกิดการแครชเองโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นภัยคุกคามที่น่ากังวล แต่ความผิดพลาดนี้ก็ทำให้การโจมตีไม่เสถียร และอาจเป็นจุดอ่อนที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถตรวจจับและป้องกันได้ง่ายขึ้น 🔗 https://securityonline.info/new-tanglecrypt-packer-hides-edr-killer-but-coding-flaws-cause-ransomware-to-crash-unexpectedly 🌐 กลยุทธ์ใหม่ของ Russian Tomiris APT ใช้ Telegram/Discord เป็นช่องทางสอดแนม กลุ่มแฮกเกอร์ Tomiris APT จากรัสเซียถูกพบว่าใช้วิธี “Polyglot” ในการแฝงตัว โดยเปลี่ยนแพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมอย่าง Telegram และ Discord ให้กลายเป็นช่องทางควบคุมการสอดแนมทางการทูต เทคนิคนี้ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะดูเหมือนการใช้งานปกติของผู้ใช้ทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์ควบคุมและเครื่องที่ถูกบุกรุก ถือเป็นการยกระดับการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/russian-tomiris-apt-adopts-polyglot-strategy-hijacking-telegram-discord-as-covert-c2-for-diplomatic-spies
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • “AMD vs Intel – ศึก CPU ปี 2025”

    การแข่งขันระหว่าง AMD และ Intel ยังคงดุเดือดในตลาดเดสก์ท็อป โดยปี 2025 AMD เปิดตัว Ryzen 9000 series (Zen 5) และรุ่น X3D ที่ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache ทำให้ได้เปรียบด้านเกมมิ่งอย่างชัดเจน ขณะที่ Intel เปิดตัว Core Ultra 200S (Arrow Lake) ที่เน้นสถาปัตยกรรมไฮบริด P-core + E-core เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในงาน productivity แต่กลับถูกวิจารณ์ว่าประสิทธิภาพเกมมิ่งลดลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

    AMD Ryzen 9000X3D เช่น Ryzen 9 9800X3D ถูกยกให้เป็น CPU เกมมิ่งที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยการเพิ่ม L3 cache ขนาดใหญ่ ทำให้เฟรมเรตสูงกว่า Intel ถึง 30% ในหลายเกม ขณะที่ Intel Core Ultra 7 285K แม้จะมีประสิทธิภาพ single-thread สูง แต่โครงสร้าง chiplet แบบใหม่กลับทำให้เกมมิ่งช้าลง

    ในด้าน งาน productivity และ content creation Intel ยังคงได้เปรียบในงาน single-thread ด้วย P-core ที่แรงกว่า แต่ AMD ชนะในงาน multi-thread ด้วยจำนวนคอร์ที่มากกว่าและรองรับ AVX-512 ทำให้เหมาะกับงาน render และ simulation

    ด้าน พลังงานและความร้อน AMD ได้เปรียบชัดเจนด้วยกระบวนการผลิต 4nm ของ TSMC ที่มีประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงกว่า Intel Arrow Lake ที่ยังใช้พลังงานมากกว่า แม้ Intel จะปรับปรุงแล้วแต่ยังไม่สามารถสู้ AMD ได้ใน efficiency

    สรุปสาระสำคัญ
    AMD ได้เปรียบ
    เกมมิ่ง: Ryzen 9000X3D เร็วกว่า Intel ~30%
    Multi-thread: เหมาะกับงาน render, simulation
    พลังงาน: 4nm TSMC ประหยัดไฟและเย็นกว่า
    ความปลอดภัย: เจอช่องโหว่น้อยกว่า Intel

    Intel ได้เปรียบ
    Single-thread: P-core แรงกว่า เหมาะกับงาน latency-sensitive
    Overclocking: มี headroom สูงกว่า AMD
    ไดรเวอร์/ซอฟต์แวร์: เสถียรกว่าใน ecosystem OEM

    ข้อควรระวัง
    Intel Arrow Lake ไม่ backward-compatible กับเมนบอร์ดรุ่นเก่า (LGA 1851)
    AMD X3D แม้แรง แต่ราคาสูงกว่ารุ่นปกติ

    https://www.tomshardware.com/features/amd-vs-intel-cpus
    🖥️ “AMD vs Intel – ศึก CPU ปี 2025” การแข่งขันระหว่าง AMD และ Intel ยังคงดุเดือดในตลาดเดสก์ท็อป โดยปี 2025 AMD เปิดตัว Ryzen 9000 series (Zen 5) และรุ่น X3D ที่ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache ทำให้ได้เปรียบด้านเกมมิ่งอย่างชัดเจน ขณะที่ Intel เปิดตัว Core Ultra 200S (Arrow Lake) ที่เน้นสถาปัตยกรรมไฮบริด P-core + E-core เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในงาน productivity แต่กลับถูกวิจารณ์ว่าประสิทธิภาพเกมมิ่งลดลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน AMD Ryzen 9000X3D เช่น Ryzen 9 9800X3D ถูกยกให้เป็น CPU เกมมิ่งที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยการเพิ่ม L3 cache ขนาดใหญ่ ทำให้เฟรมเรตสูงกว่า Intel ถึง 30% ในหลายเกม ขณะที่ Intel Core Ultra 7 285K แม้จะมีประสิทธิภาพ single-thread สูง แต่โครงสร้าง chiplet แบบใหม่กลับทำให้เกมมิ่งช้าลง ในด้าน งาน productivity และ content creation Intel ยังคงได้เปรียบในงาน single-thread ด้วย P-core ที่แรงกว่า แต่ AMD ชนะในงาน multi-thread ด้วยจำนวนคอร์ที่มากกว่าและรองรับ AVX-512 ทำให้เหมาะกับงาน render และ simulation ด้าน พลังงานและความร้อน AMD ได้เปรียบชัดเจนด้วยกระบวนการผลิต 4nm ของ TSMC ที่มีประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงกว่า Intel Arrow Lake ที่ยังใช้พลังงานมากกว่า แม้ Intel จะปรับปรุงแล้วแต่ยังไม่สามารถสู้ AMD ได้ใน efficiency 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ AMD ได้เปรียบ ➡️ เกมมิ่ง: Ryzen 9000X3D เร็วกว่า Intel ~30% ➡️ Multi-thread: เหมาะกับงาน render, simulation ➡️ พลังงาน: 4nm TSMC ประหยัดไฟและเย็นกว่า ➡️ ความปลอดภัย: เจอช่องโหว่น้อยกว่า Intel ✅ Intel ได้เปรียบ ➡️ Single-thread: P-core แรงกว่า เหมาะกับงาน latency-sensitive ➡️ Overclocking: มี headroom สูงกว่า AMD ➡️ ไดรเวอร์/ซอฟต์แวร์: เสถียรกว่าใน ecosystem OEM ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ Intel Arrow Lake ไม่ backward-compatible กับเมนบอร์ดรุ่นเก่า (LGA 1851) ⛔ AMD X3D แม้แรง แต่ราคาสูงกว่ารุ่นปกติ https://www.tomshardware.com/features/amd-vs-intel-cpus
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel vs AMD: Which CPUs Are Better in 2025?
    We put Intel vs AMD in a battle of processor prowess.
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • “แรงงานนอกระบบในศูนย์กลาง e-waste ของเดลี กำลังสูญเสียงาน”

    ในย่าน Seelampur ของกรุงเดลี มีแรงงานนับหมื่นที่ทำงานรีไซเคิลอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่เป็นทางการมานานหลายสิบปี พวกเขาแยกชิ้นส่วนสายไฟและอุปกรณ์เก่าเพื่อขายโลหะ เช่น ทองแดงและอะลูมิเนียม แต่ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียกำลังผลักดันให้การรีไซเคิลเข้าสู่ระบบโรงงานที่ได้รับอนุญาต เพื่อสนับสนุน National Critical Minerals Mission มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ที่ตั้งเป้าผลิตแร่สำคัญอย่างทองแดง ลิเทียม และ rare earths

    แรงงานในชุมชนเล่าว่ารายได้ลดลงอย่างหนัก เช่น Shahjahan ที่เคยหาเงินได้วันละ 2 ดอลลาร์จากการแยกสายไฟ แต่ตอนนี้อุปกรณ์ถูกส่งตรงไปยังโรงงาน ทำให้เธอแทบไม่มีงาน ขณะที่ Mohammad Saleem รายได้ลดลงครึ่งหนึ่งจากการทำงานแยกสายไฟมานาน 8 ปี รัฐบาลยังใช้มาตรการเข้มงวด เช่น ตัดไฟบ้านที่ใช้เป็นเวิร์กช็อป และปรับผู้ประกอบการรายเล็ก

    แม้รัฐบาลตั้งเป้าสร้างงานใหม่กว่า 70,000 ตำแหน่งในโรงงานรีไซเคิล แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แรงงานนอกระบบคือ “ชั้นแรก” ของห่วงโซ่รีไซเคิล หากไม่สร้างช่องทางให้พวกเขาเข้าสู่ระบบ จะยิ่งทำให้เกิดการกีดกันและความเหลื่อมล้ำมากขึ้น บริษัทรีไซเคิลบางแห่งพยายามฝึกอบรมแรงงานเหล่านี้ แต่ยังไม่สามารถดูดซับแรงงานทั้งหมดได้

    อีกด้านหนึ่ง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Samsung และ LG กำลังฟ้องรัฐบาลอินเดียเรื่องกฎราคารีไซเคิลที่กำหนดขั้นต่ำ 22 รูปีต่อกิโลกรัม โดยอ้างว่าบิดเบือนตลาด ขณะที่นักลงทุนมองว่ากฎนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของระบบรีไซเคิลอินเดีย ว่าจะสามารถผสานแรงงานนอกระบบเข้ามาได้หรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบโรงงาน
    รัฐบาลผลักดัน National Critical Minerals Mission มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์
    ตั้งเป้าผลิตทองแดง ลิเทียม และ rare earths

    ผลกระทบต่อแรงงานนอกระบบ
    รายได้ลดลง เช่น Shahjahan และ Saleem สูญเสียงาน
    มีมาตรการเข้มงวด เช่น ตัดไฟและปรับผู้ประกอบการรายเล็ก

    เป้าหมายของรัฐบาล
    ตั้งเป้าสร้างงานใหม่กว่า 70,000 ตำแหน่ง
    เพิ่มกำลังการรีไซเคิล 270,000 ตันต่อปี

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    หากไม่ผสานแรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบ จะเพิ่มความเหลื่อมล้ำ
    กฎราคารีไซเคิลขั้นต่ำอาจบิดเบือนตลาดและสร้างความขัดแย้งกับบริษัทใหญ่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/01/in-delhi039s-e-waste-hub-india039s-informal-workers-lose-business
    ♻️ “แรงงานนอกระบบในศูนย์กลาง e-waste ของเดลี กำลังสูญเสียงาน” ในย่าน Seelampur ของกรุงเดลี มีแรงงานนับหมื่นที่ทำงานรีไซเคิลอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่เป็นทางการมานานหลายสิบปี พวกเขาแยกชิ้นส่วนสายไฟและอุปกรณ์เก่าเพื่อขายโลหะ เช่น ทองแดงและอะลูมิเนียม แต่ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียกำลังผลักดันให้การรีไซเคิลเข้าสู่ระบบโรงงานที่ได้รับอนุญาต เพื่อสนับสนุน National Critical Minerals Mission มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ที่ตั้งเป้าผลิตแร่สำคัญอย่างทองแดง ลิเทียม และ rare earths แรงงานในชุมชนเล่าว่ารายได้ลดลงอย่างหนัก เช่น Shahjahan ที่เคยหาเงินได้วันละ 2 ดอลลาร์จากการแยกสายไฟ แต่ตอนนี้อุปกรณ์ถูกส่งตรงไปยังโรงงาน ทำให้เธอแทบไม่มีงาน ขณะที่ Mohammad Saleem รายได้ลดลงครึ่งหนึ่งจากการทำงานแยกสายไฟมานาน 8 ปี รัฐบาลยังใช้มาตรการเข้มงวด เช่น ตัดไฟบ้านที่ใช้เป็นเวิร์กช็อป และปรับผู้ประกอบการรายเล็ก แม้รัฐบาลตั้งเป้าสร้างงานใหม่กว่า 70,000 ตำแหน่งในโรงงานรีไซเคิล แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แรงงานนอกระบบคือ “ชั้นแรก” ของห่วงโซ่รีไซเคิล หากไม่สร้างช่องทางให้พวกเขาเข้าสู่ระบบ จะยิ่งทำให้เกิดการกีดกันและความเหลื่อมล้ำมากขึ้น บริษัทรีไซเคิลบางแห่งพยายามฝึกอบรมแรงงานเหล่านี้ แต่ยังไม่สามารถดูดซับแรงงานทั้งหมดได้ อีกด้านหนึ่ง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Samsung และ LG กำลังฟ้องรัฐบาลอินเดียเรื่องกฎราคารีไซเคิลที่กำหนดขั้นต่ำ 22 รูปีต่อกิโลกรัม โดยอ้างว่าบิดเบือนตลาด ขณะที่นักลงทุนมองว่ากฎนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของระบบรีไซเคิลอินเดีย ว่าจะสามารถผสานแรงงานนอกระบบเข้ามาได้หรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบโรงงาน ➡️ รัฐบาลผลักดัน National Critical Minerals Mission มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ตั้งเป้าผลิตทองแดง ลิเทียม และ rare earths ✅ ผลกระทบต่อแรงงานนอกระบบ ➡️ รายได้ลดลง เช่น Shahjahan และ Saleem สูญเสียงาน ➡️ มีมาตรการเข้มงวด เช่น ตัดไฟและปรับผู้ประกอบการรายเล็ก ✅ เป้าหมายของรัฐบาล ➡️ ตั้งเป้าสร้างงานใหม่กว่า 70,000 ตำแหน่ง ➡️ เพิ่มกำลังการรีไซเคิล 270,000 ตันต่อปี ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ หากไม่ผสานแรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบ จะเพิ่มความเหลื่อมล้ำ ⛔ กฎราคารีไซเคิลขั้นต่ำอาจบิดเบือนตลาดและสร้างความขัดแย้งกับบริษัทใหญ่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/01/in-delhi039s-e-waste-hub-india039s-informal-workers-lose-business
    WWW.THESTAR.COM.MY
    In Delhi's e-waste hub, India's informal workers lose business
    As e-waste shifts from neighbourhoods to licensed factories, informal recyclers fear being left out.
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • “วัยรุ่นนิวยอร์กสร้างเว็บหาบ้านราคาถูก – แก้ปัญหาที่ผู้ใหญ่ทำไม่สำเร็จ”

    ในนิวยอร์กซิตี้ที่ค่าเช่าบ้านเฉลี่ยพุ่งสูงถึงราว 4,000 ดอลลาร์ต่อเดือน การหาที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาเป็นเรื่องยากเย็น เด็กนักเรียนมัธยมปลายสองคน Beckett Zahedi และ Derrick Webster Jr. จึงตัดสินใจสร้างเว็บไซต์ชื่อ Realer Estate เพื่อช่วยให้ผู้คนค้นหาอพาร์ตเมนต์ที่มีค่าเช่าต่ำกว่าตลาดและห้องพักที่อยู่ในโครงการ rent-stabilized ได้ง่ายขึ้น

    Zahedi ได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ครอบครัวต้องดิ้นรนหาบ้านเช่า เขาจึงสอนตัวเองเขียนโค้ดจาก YouTube และ AI ตลอดช่วงฤดูร้อน ก่อนจะร่วมมือกับ Webster ในการสร้างระบบอีเมลแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีห้องพักใหม่ที่ตรงกับเงื่อนไข เว็บไซต์นี้ใช้ อัลกอริทึมสแกนประกาศเช่าและขาย แล้วเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลอาคารที่มีห้อง rent-stabilized เพื่อคำนวณว่าอพาร์ตเมนต์ใด “ต่ำกว่าราคาตลาด” อย่างน้อย 15%

    โครงการนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก มีผู้เข้าใช้งานกว่า 27,000 คน และได้รับคำชื่นชมจาก Adrienne Adams ประธานสภาเมืองนิวยอร์ก ที่กล่าวว่า “ประทับใจในความมุ่งมั่นของ Beckett ที่ช่วยเหลือชาวนิวยอร์กให้หาที่อยู่อาศัยได้” นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนสตาร์ทอัพอย่าง Audos ที่สนับสนุนเงินทุนสูงสุดถึง 25,000 ดอลลาร์เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มต่อไป

    แม้จะยังมีข้อจำกัด เช่น บางย่านมีข้อมูลน้อย และระบบคำนวณความคุ้มค่าอาจไม่ครอบคลุมทุกงบประมาณ แต่ Realer Estate ได้พิสูจน์ว่า เยาวชนก็สามารถสร้างนวัตกรรมแก้ปัญหาสังคมที่ผู้ใหญ่ยังทำไม่สำเร็จ และอาจเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่เผชิญวิกฤติค่าเช่าบ้านสูงเช่นกัน

    สรุปสาระสำคัญ
    การสร้าง Realer Estate
    พัฒนาโดยนักเรียนมัธยมปลาย Beckett Zahedi และ Derrick Webster Jr.
    ใช้อัลกอริทึมสแกนประกาศเช่าและฐานข้อมูลอาคาร rent-stabilized

    แรงบันดาลใจและการทำงาน
    Zahedi ได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ครอบครัวหาบ้านเช่ายาก
    สอนตัวเองเขียนโค้ดจาก YouTube และ AI

    ผลตอบรับและการสนับสนุน
    มีผู้เข้าใช้งานกว่า 27,000 คน
    ได้รับคำชื่นชมจากประธานสภาเมืองนิวยอร์ก
    นักลงทุน Audos สนับสนุนเงินทุนสูงสุด 25,000 ดอลลาร์

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    บางย่านมีข้อมูลน้อย ทำให้การค้นหาไม่ครอบคลุม
    ระบบคำนวณความคุ้มค่าอาจไม่เหมาะกับทุกงบประมาณ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/01/new-york-lacked-an-affordable-housing-portal-so-these-teenagers-made-one
    🏙️ “วัยรุ่นนิวยอร์กสร้างเว็บหาบ้านราคาถูก – แก้ปัญหาที่ผู้ใหญ่ทำไม่สำเร็จ” ในนิวยอร์กซิตี้ที่ค่าเช่าบ้านเฉลี่ยพุ่งสูงถึงราว 4,000 ดอลลาร์ต่อเดือน การหาที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาเป็นเรื่องยากเย็น เด็กนักเรียนมัธยมปลายสองคน Beckett Zahedi และ Derrick Webster Jr. จึงตัดสินใจสร้างเว็บไซต์ชื่อ Realer Estate เพื่อช่วยให้ผู้คนค้นหาอพาร์ตเมนต์ที่มีค่าเช่าต่ำกว่าตลาดและห้องพักที่อยู่ในโครงการ rent-stabilized ได้ง่ายขึ้น Zahedi ได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ครอบครัวต้องดิ้นรนหาบ้านเช่า เขาจึงสอนตัวเองเขียนโค้ดจาก YouTube และ AI ตลอดช่วงฤดูร้อน ก่อนจะร่วมมือกับ Webster ในการสร้างระบบอีเมลแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีห้องพักใหม่ที่ตรงกับเงื่อนไข เว็บไซต์นี้ใช้ อัลกอริทึมสแกนประกาศเช่าและขาย แล้วเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลอาคารที่มีห้อง rent-stabilized เพื่อคำนวณว่าอพาร์ตเมนต์ใด “ต่ำกว่าราคาตลาด” อย่างน้อย 15% โครงการนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก มีผู้เข้าใช้งานกว่า 27,000 คน และได้รับคำชื่นชมจาก Adrienne Adams ประธานสภาเมืองนิวยอร์ก ที่กล่าวว่า “ประทับใจในความมุ่งมั่นของ Beckett ที่ช่วยเหลือชาวนิวยอร์กให้หาที่อยู่อาศัยได้” นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนสตาร์ทอัพอย่าง Audos ที่สนับสนุนเงินทุนสูงสุดถึง 25,000 ดอลลาร์เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มต่อไป แม้จะยังมีข้อจำกัด เช่น บางย่านมีข้อมูลน้อย และระบบคำนวณความคุ้มค่าอาจไม่ครอบคลุมทุกงบประมาณ แต่ Realer Estate ได้พิสูจน์ว่า เยาวชนก็สามารถสร้างนวัตกรรมแก้ปัญหาสังคมที่ผู้ใหญ่ยังทำไม่สำเร็จ และอาจเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่เผชิญวิกฤติค่าเช่าบ้านสูงเช่นกัน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การสร้าง Realer Estate ➡️ พัฒนาโดยนักเรียนมัธยมปลาย Beckett Zahedi และ Derrick Webster Jr. ➡️ ใช้อัลกอริทึมสแกนประกาศเช่าและฐานข้อมูลอาคาร rent-stabilized ✅ แรงบันดาลใจและการทำงาน ➡️ Zahedi ได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ครอบครัวหาบ้านเช่ายาก ➡️ สอนตัวเองเขียนโค้ดจาก YouTube และ AI ✅ ผลตอบรับและการสนับสนุน ➡️ มีผู้เข้าใช้งานกว่า 27,000 คน ➡️ ได้รับคำชื่นชมจากประธานสภาเมืองนิวยอร์ก ➡️ นักลงทุน Audos สนับสนุนเงินทุนสูงสุด 25,000 ดอลลาร์ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ บางย่านมีข้อมูลน้อย ทำให้การค้นหาไม่ครอบคลุม ⛔ ระบบคำนวณความคุ้มค่าอาจไม่เหมาะกับทุกงบประมาณ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/01/new-york-lacked-an-affordable-housing-portal-so-these-teenagers-made-one
    WWW.THESTAR.COM.MY
    New York lacked an affordable housing portal. So these teenagers made one.
    Two "children of the pandemic" did something the grown-ups who run the city have never managed to do.
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • “Cybathlon – เมื่อเกมสมองกลายเป็นสนามแข่งขันจริง”

    การแข่งขัน Cybathlon จัดขึ้นทุก 4 ปีโดย ETH Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเวทีที่นักวิจัยและผู้พิการที่เรียกว่า “pilots” ร่วมกันทดสอบเทคโนโลยีช่วยเหลือใหม่ ๆ ตั้งแต่แขนขาเทียมไปจนถึงระบบการมองเห็น และที่โดดเด่นที่สุดคือ brain-computer interface (BCI) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ด้วยความคิดเพียงอย่างเดียว

    หนึ่งในผู้เข้าร่วมคือ Owen Collumb ชายชาวไอริชที่เป็นอัมพาตตั้งแต่อายุ 21 ปี เขาเข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่ปี 2016 และใช้ BCI ที่พัฒนาโดยทีมของ Prof. Damien Coyle จาก University of Bath ผ่านการวัดสัญญาณ EEG บนศีรษะ Collumb สามารถสั่งการคอมพิวเตอร์ให้ทำงาน เช่น ขยับเคอร์เซอร์ หรือเล่นเกม แม้ร่างกายจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้มากนัก

    การแข่งขันนี้ไม่ใช่เพียงการโชว์เทคโนโลยี แต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เห็นว่า คนพิการสามารถเป็น “เจ้านายของเทคโนโลยี” ไม่ใช่ผู้ถูกจำกัดโดยมัน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังมีอยู่มาก เช่น ความแม่นยำของ EEG ที่ยังต่ำกว่าการใช้ brain implant แบบฝังในสมอง ซึ่งแม้จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงและค่าใช้จ่ายแพง

    บทความยังสะท้อนคำถามเชิงสังคมว่า การผสานสมองกับเทคโนโลยีลึกขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้ชีวิตดีขึ้นจริงหรือไม่ และเราควรยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ในระดับไหน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ Cybathlon ได้พิสูจน์ว่า เทคโนโลยีช่วยเหลือสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้พิการให้มีอิสระและศักดิ์ศรีในการแข่งขัน

    สรุปสาระสำคัญ
    การแข่งขัน Cybathlon
    จัดทุก 4 ปีโดย ETH Zurich
    มีการแข่งแขนขาเทียม, ระบบการมองเห็น และ BCI

    กรณีของ Owen Collumb
    เป็นอัมพาตตั้งแต่อายุ 21 ปี
    ใช้ EEG-based BCI ควบคุมคอมพิวเตอร์และเข้าร่วมแข่งขัน

    ความหมายของการแข่งขัน
    แสดงให้เห็นว่าคนพิการสามารถเป็น “เจ้านายของเทคโนโลยี”
    สร้างแรงบันดาลใจและความหวังใหม่

    ข้อท้าทายและคำเตือน
    EEG ยังไม่แม่นยำเท่าการใช้ brain implant
    การฝังอุปกรณ์ในสมองมีความเสี่ยงสูงและค่าใช้จ่ายแพง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/01/let-the-mind-games-begin
    🧠 “Cybathlon – เมื่อเกมสมองกลายเป็นสนามแข่งขันจริง” การแข่งขัน Cybathlon จัดขึ้นทุก 4 ปีโดย ETH Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเวทีที่นักวิจัยและผู้พิการที่เรียกว่า “pilots” ร่วมกันทดสอบเทคโนโลยีช่วยเหลือใหม่ ๆ ตั้งแต่แขนขาเทียมไปจนถึงระบบการมองเห็น และที่โดดเด่นที่สุดคือ brain-computer interface (BCI) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ด้วยความคิดเพียงอย่างเดียว หนึ่งในผู้เข้าร่วมคือ Owen Collumb ชายชาวไอริชที่เป็นอัมพาตตั้งแต่อายุ 21 ปี เขาเข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่ปี 2016 และใช้ BCI ที่พัฒนาโดยทีมของ Prof. Damien Coyle จาก University of Bath ผ่านการวัดสัญญาณ EEG บนศีรษะ Collumb สามารถสั่งการคอมพิวเตอร์ให้ทำงาน เช่น ขยับเคอร์เซอร์ หรือเล่นเกม แม้ร่างกายจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้มากนัก การแข่งขันนี้ไม่ใช่เพียงการโชว์เทคโนโลยี แต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เห็นว่า คนพิการสามารถเป็น “เจ้านายของเทคโนโลยี” ไม่ใช่ผู้ถูกจำกัดโดยมัน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังมีอยู่มาก เช่น ความแม่นยำของ EEG ที่ยังต่ำกว่าการใช้ brain implant แบบฝังในสมอง ซึ่งแม้จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงและค่าใช้จ่ายแพง บทความยังสะท้อนคำถามเชิงสังคมว่า การผสานสมองกับเทคโนโลยีลึกขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้ชีวิตดีขึ้นจริงหรือไม่ และเราควรยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ในระดับไหน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ Cybathlon ได้พิสูจน์ว่า เทคโนโลยีช่วยเหลือสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้พิการให้มีอิสระและศักดิ์ศรีในการแข่งขัน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การแข่งขัน Cybathlon ➡️ จัดทุก 4 ปีโดย ETH Zurich ➡️ มีการแข่งแขนขาเทียม, ระบบการมองเห็น และ BCI ✅ กรณีของ Owen Collumb ➡️ เป็นอัมพาตตั้งแต่อายุ 21 ปี ➡️ ใช้ EEG-based BCI ควบคุมคอมพิวเตอร์และเข้าร่วมแข่งขัน ✅ ความหมายของการแข่งขัน ➡️ แสดงให้เห็นว่าคนพิการสามารถเป็น “เจ้านายของเทคโนโลยี” ➡️ สร้างแรงบันดาลใจและความหวังใหม่ ‼️ ข้อท้าทายและคำเตือน ⛔ EEG ยังไม่แม่นยำเท่าการใช้ brain implant ⛔ การฝังอุปกรณ์ในสมองมีความเสี่ยงสูงและค่าใช้จ่ายแพง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/01/let-the-mind-games-begin
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Let the mind games begin
    Every four years at the Cybathlon, teams of researchers and technology "pilots" compete to see whose brain-computer interface holds the most promise.
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • เที่ยวโซล เกาหลี อิสระ 2 วัน เริ่ม 7,999 เดินทาง มี.ค. / พ.ค. 69

    🗓 จำนวนวัน 5 วัน 3 คืน
    ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์
    พักโรงแรม

    AURORA MEDIA SHOW
    เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยวโซล เกาหลี อิสระ 2 วัน 🇰🇷 เริ่ม 7,999 🔥🔥 🗓️ เดินทาง มี.ค. / พ.ค. 69 😍 🗓 จำนวนวัน 5 วัน 3 คืน ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 AURORA MEDIA SHOW 📍 เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 1-12-68
    .
    สวัสดีวันแรกของเดือนธันวาคม 2568 เช้าวันนี้ที่บ้านพระอาทิตย์อากาศเย็นสบายประมาณ 23-24 องศาเซลเซียส คุณสนธินั่งประชุมพร้อมรับประทานอาหารเช้ากับ อ.ปานเทพ และทีมงานบ้านพระอาทิตย์ โดยเมนูเป็นข้ามต้มกระเพาะหมูร้อน ๆ โดยหัวข้อสนทนาหลักคือ ความยากลำบากของพ่อแม่พี่น้องชาวหาดใหญ่ ที่แม้น้ำจะลดลงแล้ว แต่ก็ยังต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน-รายการ Sondhi Talk และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ได้ไปตั้งโรงครัวจำนวน 3 จุดที่หาดใหญ่ โดยทั้ง 3 จุดแม้จะสามารถแจกจ่ายอาหารได้ราว 6,000-9,000 มื้อต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และยังมีความต้องการอีกมาก
    .
    ถ้าใครอยากร่วมบริจาคสิ่งของต่างๆ ทยอยส่งมาได้เลย หรือ หากต้องการสมทบทุน บริจากได้ที่ บัญชี มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางลำภู ประเภทออมทรัพย์ เลขที่ 103-1-93140-8
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=uFGnxoDrxqY
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #น้ำท่วมหาดใหญ่
    สนธิเล่าเรื่อง 1-12-68 . สวัสดีวันแรกของเดือนธันวาคม 2568 เช้าวันนี้ที่บ้านพระอาทิตย์อากาศเย็นสบายประมาณ 23-24 องศาเซลเซียส คุณสนธินั่งประชุมพร้อมรับประทานอาหารเช้ากับ อ.ปานเทพ และทีมงานบ้านพระอาทิตย์ โดยเมนูเป็นข้ามต้มกระเพาะหมูร้อน ๆ โดยหัวข้อสนทนาหลักคือ ความยากลำบากของพ่อแม่พี่น้องชาวหาดใหญ่ ที่แม้น้ำจะลดลงแล้ว แต่ก็ยังต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน-รายการ Sondhi Talk และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ได้ไปตั้งโรงครัวจำนวน 3 จุดที่หาดใหญ่ โดยทั้ง 3 จุดแม้จะสามารถแจกจ่ายอาหารได้ราว 6,000-9,000 มื้อต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และยังมีความต้องการอีกมาก . ถ้าใครอยากร่วมบริจาคสิ่งของต่างๆ ทยอยส่งมาได้เลย หรือ หากต้องการสมทบทุน บริจากได้ที่ บัญชี มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางลำภู ประเภทออมทรัพย์ เลขที่ 103-1-93140-8 . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=uFGnxoDrxqY . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #น้ำท่วมหาดใหญ่
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • ภายในปี 2026 การร่วมมือกันระหว่างเรือ 2 แบรนด์หรู เรือล่องแม่น้ำ Uniworld และ เรือล่องทะเล Seabourn
    เตรียมเปิดตัวโปรเจคใหม่ "Venice & the Mediterranean Sea" เส้นทางจากเวนิส มุ่งหน้าสู่เอเธนส์
    เต็มอิ่ม ประสบการณ์สุดพิเศษ ล่องผ่านหมู่เกาะสำคัญอย่าง โครเอเชีย มอนเตเนโกร และกรีซ

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #Uniworldrivercruise #Seabourncruise #Venice #MediterraneanSea #updates #News #CruiseDomain #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #ข่าวเรือสำราญ
    ภายในปี 2026 การร่วมมือกันระหว่างเรือ 2 แบรนด์หรู เรือล่องแม่น้ำ Uniworld และ เรือล่องทะเล Seabourn เตรียมเปิดตัวโปรเจคใหม่ "Venice & the Mediterranean Sea" เส้นทางจากเวนิส มุ่งหน้าสู่เอเธนส์ เต็มอิ่ม ประสบการณ์สุดพิเศษ ล่องผ่านหมู่เกาะสำคัญอย่าง โครเอเชีย มอนเตเนโกร และกรีซ ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #Uniworldrivercruise #Seabourncruise #Venice #MediterraneanSea #updates #News #CruiseDomain #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #ข่าวเรือสำราญ
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • “Quttera เปิดตัว Evidence-as-Code API – พลิกโฉมการตรวจสอบความปลอดภัยและการทำ Compliance”

    Quttera ประกาศเปิดตัว Evidence-as-Code API ที่ช่วยให้องค์กรสามารถทำการตรวจสอบและเตรียมหลักฐานสำหรับการทำ SOC 2, PCI DSS v4.0, ISO 27001 และ GDPR ได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลาทำงานเอกสารหรือจับภาพหน้าจอเหมือนเดิมอีกต่อไป ระบบนี้สามารถแปลงผลการตรวจจับมัลแวร์เป็น structured JSON พร้อม metadata ที่เชื่อมโยงกับข้อกำหนดด้าน compliance ได้ทันที

    สิ่งที่โดดเด่นคือการทำงานแบบ Real-Time Evidence Streaming ที่ส่งข้อมูลการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ระบบ GRC (Governance, Risk, and Compliance) เช่น Drata หรือ Vanta ทำให้ทีมงานมีหลักฐานการตรวจสอบที่สดใหม่ตลอดเวลา และสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจริง ไม่ใช่เพียงรายงานแบบ snapshot ที่อาจล้าสมัย

    นอกจากนี้ Quttera ยังเปิดตัว Threat Encyclopedia ที่ใช้ AI ในการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคาม เช่น การจัดประเภทความเสี่ยง ผลกระทบทางธุรกิจ และแนวทางแก้ไขทีละขั้นตอน ปัจจุบันมีการบันทึกภัยคุกคามกว่า 80 ประเภท และจะขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์

    การอัปเดตนี้ยังตอบโจทย์ข้อกำหนดใหม่ของ PCI DSS v4.0 ที่บังคับใช้ตั้งแต่มีนาคม 2025 โดยเฉพาะ Requirement 6.4.3 (การอนุญาตสคริปต์บนหน้าเพย์เมนต์) และ Requirement 11.6.1 (การตรวจสอบความสมบูรณ์ของไฟล์) ซึ่งต้องการระบบตรวจจับแบบอัตโนมัติและต่อเนื่อง ซึ่ง Quttera API สามารถให้หลักฐานที่มี timestamp ยืนยันได้ว่ามีการตรวจสอบตลอดเวลา

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว Evidence-as-Code API
    แปลงผลตรวจจับมัลแวร์เป็น JSON พร้อม metadata สำหรับ compliance
    ลดภาระการทำเอกสารและการเตรียมหลักฐานแบบ manual

    คุณสมบัติเด่น
    Real-Time Evidence Streaming ส่งข้อมูลตรวจสอบต่อเนื่อง
    Threat Encyclopedia ให้ข้อมูลเชิงลึกและแนวทางแก้ไข

    การรองรับ Compliance หลายมาตรฐาน
    SOC 2, PCI DSS v4.0, ISO 27001 และ GDPR
    เชื่อมต่อกับ GRC systems เช่น Drata และ Vanta

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    หากไม่ปรับใช้ระบบตรวจสอบอัตโนมัติ อาจไม่ผ่านข้อกำหนด PCI DSS v4.0
    การพึ่งพารายงานแบบ snapshot เสี่ยงต่อการใช้หลักฐานที่ล้าสมัย

    https://hackread.com/quttera-evidence-as-code-api-soc-pci-dss/
    🛡️ “Quttera เปิดตัว Evidence-as-Code API – พลิกโฉมการตรวจสอบความปลอดภัยและการทำ Compliance” Quttera ประกาศเปิดตัว Evidence-as-Code API ที่ช่วยให้องค์กรสามารถทำการตรวจสอบและเตรียมหลักฐานสำหรับการทำ SOC 2, PCI DSS v4.0, ISO 27001 และ GDPR ได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลาทำงานเอกสารหรือจับภาพหน้าจอเหมือนเดิมอีกต่อไป ระบบนี้สามารถแปลงผลการตรวจจับมัลแวร์เป็น structured JSON พร้อม metadata ที่เชื่อมโยงกับข้อกำหนดด้าน compliance ได้ทันที สิ่งที่โดดเด่นคือการทำงานแบบ Real-Time Evidence Streaming ที่ส่งข้อมูลการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ระบบ GRC (Governance, Risk, and Compliance) เช่น Drata หรือ Vanta ทำให้ทีมงานมีหลักฐานการตรวจสอบที่สดใหม่ตลอดเวลา และสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจริง ไม่ใช่เพียงรายงานแบบ snapshot ที่อาจล้าสมัย นอกจากนี้ Quttera ยังเปิดตัว Threat Encyclopedia ที่ใช้ AI ในการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคาม เช่น การจัดประเภทความเสี่ยง ผลกระทบทางธุรกิจ และแนวทางแก้ไขทีละขั้นตอน ปัจจุบันมีการบันทึกภัยคุกคามกว่า 80 ประเภท และจะขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ การอัปเดตนี้ยังตอบโจทย์ข้อกำหนดใหม่ของ PCI DSS v4.0 ที่บังคับใช้ตั้งแต่มีนาคม 2025 โดยเฉพาะ Requirement 6.4.3 (การอนุญาตสคริปต์บนหน้าเพย์เมนต์) และ Requirement 11.6.1 (การตรวจสอบความสมบูรณ์ของไฟล์) ซึ่งต้องการระบบตรวจจับแบบอัตโนมัติและต่อเนื่อง ซึ่ง Quttera API สามารถให้หลักฐานที่มี timestamp ยืนยันได้ว่ามีการตรวจสอบตลอดเวลา 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว Evidence-as-Code API ➡️ แปลงผลตรวจจับมัลแวร์เป็น JSON พร้อม metadata สำหรับ compliance ➡️ ลดภาระการทำเอกสารและการเตรียมหลักฐานแบบ manual ✅ คุณสมบัติเด่น ➡️ Real-Time Evidence Streaming ส่งข้อมูลตรวจสอบต่อเนื่อง ➡️ Threat Encyclopedia ให้ข้อมูลเชิงลึกและแนวทางแก้ไข ✅ การรองรับ Compliance หลายมาตรฐาน ➡️ SOC 2, PCI DSS v4.0, ISO 27001 และ GDPR ➡️ เชื่อมต่อกับ GRC systems เช่น Drata และ Vanta ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ หากไม่ปรับใช้ระบบตรวจสอบอัตโนมัติ อาจไม่ผ่านข้อกำหนด PCI DSS v4.0 ⛔ การพึ่งพารายงานแบบ snapshot เสี่ยงต่อการใช้หลักฐานที่ล้าสมัย https://hackread.com/quttera-evidence-as-code-api-soc-pci-dss/
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • KaOS Linux 2025.11 เปิดตัว รองรับ Limine Bootloader และ KDE Plasma 6.5

    เวอร์ชันใหม่ของ KaOS Linux 2025.11 ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2025 โดยเป็นดิสโทรอิสระที่เน้นการใช้ซอฟต์แวร์ KDE และ Qt ล่าสุด รุ่นนี้ใช้ Linux Kernel 6.17 และมาพร้อมกับ KDE Plasma 6.5.3, KDE Gear 25.08.3 และ KDE Frameworks 6.20 ซึ่งทั้งหมดสร้างบน Qt 6.10.1 ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์เดสก์ท็อปที่ทันสมัยและเสถียร

    Limine Bootloader และการปรับปรุงระบบติดตั้ง
    หนึ่งในจุดเด่นของรุ่นนี้คือการเพิ่มการรองรับ Limine Bootloader สำหรับการติดตั้งแบบ UEFI ผ่าน Calamares installer ที่ได้รับการปรับปรุง นอกจากนี้หน้า Welcome page ถูกออกแบบใหม่ โดยไม่ต้องเปิดเว็บเบราว์เซอร์ แต่ใช้ QML Drawer เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้โดยตรง

    ซอฟต์แวร์ใหม่และการอัปเดตระบบ
    KaOS Linux 2025.11 ยังมาพร้อมกับแอปใหม่ เช่น Niri (Wayland compositor แบบ scrollable-tiling), Quickshell (toolkit สำหรับสร้าง desktop shells ด้วย QtQuick), และ Noctalia Shell (minimal Wayland shell) รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์หลัก เช่น Mesa 25.2.7, PipeWire 1.4.9, systemd 257.10, GStreamer 1.26.8, OpenZFS 2.3.5, Boost 1.89.0 และอื่น ๆ อีกมากมาย

    การอัปเดตสำหรับผู้ใช้ปัจจุบัน
    ผู้ใช้ที่มี KaOS อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด ISO ใหม่ แต่สามารถอัปเดตระบบได้ด้วยคำสั่ง sudo pacman -Syu เนื่องจาก KaOS ใช้โมเดล rolling release ทำให้ติดตั้งครั้งเดียวแล้วสามารถอัปเดตต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับ Arch Linux

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รายละเอียดการอัปเดต KaOS Linux 2025.11
    ใช้ Linux Kernel 6.17
    มาพร้อม KDE Plasma 6.5.3, KDE Gear 25.08.3 และ KDE Frameworks 6.20
    เพิ่มการรองรับ Limine Bootloader ผ่าน Calamares installer

    ซอฟต์แวร์ใหม่และการปรับปรุง
    แอปใหม่: Niri, Quickshell, Noctalia Shell
    อัปเดต Mesa, PipeWire, systemd, GStreamer, OpenZFS และ Boost

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การเปลี่ยนแปลง bootloader อาจทำให้บางระบบต้องปรับแต่งเพิ่มเติม
    ผู้ใช้ที่ยังใช้ซอฟต์แวร์เก่าอาจพบปัญหาความเข้ากันได้
    การอัปเดต rolling release ต้องตรวจสอบแพ็กเกจเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง

    https://9to5linux.com/kaos-linux-2025-11-adds-support-for-the-limine-bootloader-kde-plasma-6-5
    🐧 KaOS Linux 2025.11 เปิดตัว รองรับ Limine Bootloader และ KDE Plasma 6.5 เวอร์ชันใหม่ของ KaOS Linux 2025.11 ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2025 โดยเป็นดิสโทรอิสระที่เน้นการใช้ซอฟต์แวร์ KDE และ Qt ล่าสุด รุ่นนี้ใช้ Linux Kernel 6.17 และมาพร้อมกับ KDE Plasma 6.5.3, KDE Gear 25.08.3 และ KDE Frameworks 6.20 ซึ่งทั้งหมดสร้างบน Qt 6.10.1 ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์เดสก์ท็อปที่ทันสมัยและเสถียร 🔐 Limine Bootloader และการปรับปรุงระบบติดตั้ง หนึ่งในจุดเด่นของรุ่นนี้คือการเพิ่มการรองรับ Limine Bootloader สำหรับการติดตั้งแบบ UEFI ผ่าน Calamares installer ที่ได้รับการปรับปรุง นอกจากนี้หน้า Welcome page ถูกออกแบบใหม่ โดยไม่ต้องเปิดเว็บเบราว์เซอร์ แต่ใช้ QML Drawer เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้โดยตรง ⚙️ ซอฟต์แวร์ใหม่และการอัปเดตระบบ KaOS Linux 2025.11 ยังมาพร้อมกับแอปใหม่ เช่น Niri (Wayland compositor แบบ scrollable-tiling), Quickshell (toolkit สำหรับสร้าง desktop shells ด้วย QtQuick), และ Noctalia Shell (minimal Wayland shell) รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์หลัก เช่น Mesa 25.2.7, PipeWire 1.4.9, systemd 257.10, GStreamer 1.26.8, OpenZFS 2.3.5, Boost 1.89.0 และอื่น ๆ อีกมากมาย 🌐 การอัปเดตสำหรับผู้ใช้ปัจจุบัน ผู้ใช้ที่มี KaOS อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด ISO ใหม่ แต่สามารถอัปเดตระบบได้ด้วยคำสั่ง sudo pacman -Syu เนื่องจาก KaOS ใช้โมเดล rolling release ทำให้ติดตั้งครั้งเดียวแล้วสามารถอัปเดตต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับ Arch Linux 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รายละเอียดการอัปเดต KaOS Linux 2025.11 ➡️ ใช้ Linux Kernel 6.17 ➡️ มาพร้อม KDE Plasma 6.5.3, KDE Gear 25.08.3 และ KDE Frameworks 6.20 ➡️ เพิ่มการรองรับ Limine Bootloader ผ่าน Calamares installer ✅ ซอฟต์แวร์ใหม่และการปรับปรุง ➡️ แอปใหม่: Niri, Quickshell, Noctalia Shell ➡️ อัปเดต Mesa, PipeWire, systemd, GStreamer, OpenZFS และ Boost ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การเปลี่ยนแปลง bootloader อาจทำให้บางระบบต้องปรับแต่งเพิ่มเติม ⛔ ผู้ใช้ที่ยังใช้ซอฟต์แวร์เก่าอาจพบปัญหาความเข้ากันได้ ⛔ การอัปเดต rolling release ต้องตรวจสอบแพ็กเกจเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง https://9to5linux.com/kaos-linux-2025-11-adds-support-for-the-limine-bootloader-kde-plasma-6-5
    9TO5LINUX.COM
    KaOS Linux 2025.11 Adds Support for the Limine Bootloader, KDE Plasma 6.5 - 9to5Linux
    KaOS Linux 2025.11 independent distribution is now available for download with the latest KDE Plasma 6.5 desktop environment.
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • Armbian 25.11 เปิดตัว รองรับบอร์ดใหม่ Radxa ROCK 4D, NanoPi M5 และ Debian Forky

    ทีมพัฒนา Armbian ได้ประกาศเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ Armbian 25.11 ซึ่งเป็นดิสโทร Linux ที่ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ ARM โดยเฉพาะ จุดเด่นของรุ่นนี้คือการรองรับบอร์ดใหม่ ๆ เช่น Radxa ROCK 4D และ NanoPi M5 รวมถึงการปรับปรุงให้เข้ากับ Debian Forky รุ่นล่าสุด ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างเสถียรและทันสมัยมากขึ้น

    การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์
    Armbian 25.11 มาพร้อมกับการอัปเดตแพ็กเกจและ kernel ที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบจัดการบูตและการทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ ARM รุ่นใหม่ ๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในงานด้าน IoT และเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ ARM
    การรองรับบอร์ดใหม่อย่าง Radxa ROCK 4D และ NanoPi M5 ช่วยขยายขอบเขตการใช้งานของ Armbian ให้ครอบคลุมอุปกรณ์ที่หลากหลายมากขึ้น ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นงานพัฒนาโปรแกรม การทดลองระบบ หรือการใช้งานจริงในองค์กร

    แนวโน้มและความปลอดภัย
    Armbian 25.11 ยังเน้นการปรับปรุงด้านความปลอดภัย โดยอัปเดตแพ็กเกจที่เกี่ยวข้องกับระบบเครือข่ายและการเข้ารหัส เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าการใช้งานบนอุปกรณ์ ARM จะมีความปลอดภัยและทันสมัย รองรับการใช้งานระยะยาวในหลายสถานการณ์

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รายละเอียดการอัปเดต Armbian 25.11
    รองรับบอร์ดใหม่ Radxa ROCK 4D และ NanoPi M5
    ปรับปรุงให้เข้ากับ Debian Forky รุ่นล่าสุด
    อัปเดต kernel และแพ็กเกจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ ARM
    ขยายการรองรับอุปกรณ์ ARM หลากหลาย
    เหมาะสำหรับงาน IoT และเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การอัปเดตอาจทำให้บางแพ็กเกจหรือระบบที่ปรับแต่งเองไม่เข้ากัน
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของบอร์ดและซอฟต์แวร์ก่อนอัปเกรด
    การใช้งานบนอุปกรณ์ใหม่อาจต้องปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อให้เสถียร

    https://9to5linux.com/armbian-25-11-is-out-with-support-for-radxa-rock-4d-nanopi-m5-and-debian-forky
    🐧 Armbian 25.11 เปิดตัว รองรับบอร์ดใหม่ Radxa ROCK 4D, NanoPi M5 และ Debian Forky ทีมพัฒนา Armbian ได้ประกาศเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ Armbian 25.11 ซึ่งเป็นดิสโทร Linux ที่ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ ARM โดยเฉพาะ จุดเด่นของรุ่นนี้คือการรองรับบอร์ดใหม่ ๆ เช่น Radxa ROCK 4D และ NanoPi M5 รวมถึงการปรับปรุงให้เข้ากับ Debian Forky รุ่นล่าสุด ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างเสถียรและทันสมัยมากขึ้น ⚙️ การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์ Armbian 25.11 มาพร้อมกับการอัปเดตแพ็กเกจและ kernel ที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบจัดการบูตและการทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ ARM รุ่นใหม่ ๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในงานด้าน IoT และเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ ARM การรองรับบอร์ดใหม่อย่าง Radxa ROCK 4D และ NanoPi M5 ช่วยขยายขอบเขตการใช้งานของ Armbian ให้ครอบคลุมอุปกรณ์ที่หลากหลายมากขึ้น ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นงานพัฒนาโปรแกรม การทดลองระบบ หรือการใช้งานจริงในองค์กร 🔒 แนวโน้มและความปลอดภัย Armbian 25.11 ยังเน้นการปรับปรุงด้านความปลอดภัย โดยอัปเดตแพ็กเกจที่เกี่ยวข้องกับระบบเครือข่ายและการเข้ารหัส เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าการใช้งานบนอุปกรณ์ ARM จะมีความปลอดภัยและทันสมัย รองรับการใช้งานระยะยาวในหลายสถานการณ์ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รายละเอียดการอัปเดต Armbian 25.11 ➡️ รองรับบอร์ดใหม่ Radxa ROCK 4D และ NanoPi M5 ➡️ ปรับปรุงให้เข้ากับ Debian Forky รุ่นล่าสุด ➡️ อัปเดต kernel และแพ็กเกจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ ความสำคัญต่อผู้ใช้ ARM ➡️ ขยายการรองรับอุปกรณ์ ARM หลากหลาย ➡️ เหมาะสำหรับงาน IoT และเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การอัปเดตอาจทำให้บางแพ็กเกจหรือระบบที่ปรับแต่งเองไม่เข้ากัน ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของบอร์ดและซอฟต์แวร์ก่อนอัปเกรด ⛔ การใช้งานบนอุปกรณ์ใหม่อาจต้องปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อให้เสถียร https://9to5linux.com/armbian-25-11-is-out-with-support-for-radxa-rock-4d-nanopi-m5-and-debian-forky
    9TO5LINUX.COM
    Armbian 25.11 Is Out with Support for Radxa ROCK 4D, NanoPi M5, and Debian Forky - 9to5Linux
    Armbian 25.11 Linux distribution based on Debian and designed for ARM devices is now available for download with support for new boards.
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • NixOS 25.11 เปิดตัวพร้อม GNOME 49, COSMIC Beta และ FirewallD เพิ่มความปลอดภัยและความยืดหยุ่นให้ผู้ใช้ Linux

    เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2025 ทีมพัฒนา NixOS ได้ประกาศเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ NixOS 25.11 (โค้ดเนม Xantusia) โดยใช้ Linux Kernel 6.12 LTS เป็นแกนหลัก จุดเด่นคือการรองรับ GNOME 49 และ COSMIC Beta ซึ่งเป็นเดสก์ท็อปที่พัฒนาโดย System76 ด้วยภาษา Rust ทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากขึ้นในการปรับแต่งสภาพแวดล้อมการทำงาน

    FirewallD และการจัดการระบบที่ทันสมัย
    เวอร์ชันนี้เพิ่มการรองรับ FirewallD ซึ่งสามารถทำงานเป็นบริการแยก หรือใช้เป็น backend ของระบบ firewall เดิมใน NixOS ได้ นอกจากนี้ยังรองรับ rEFInd boot manager สำหรับระบบ UEFI และ Secure Boot กับ Limine bootloader เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการบูตเครื่อง

    เครื่องมือใหม่และการอัปเดตซอฟต์แวร์
    NixOS 25.11 มาพร้อมกับ nixos-rebuild-ng ที่เขียนใหม่ด้วย Python เพื่อปรับปรุงการจัดการระบบ และ nixos-init ที่ใช้ Rust ทำให้การสร้าง initrd ไม่ต้องพึ่ง interpreter อีกต่อไป รวมถึงการอัปเดต toolchain เช่น LLVM 21, GCC 14 และ CMake 4 พร้อมกับซอฟต์แวร์ใหม่อย่าง Syncthing 2.0.0 และ PostgreSQL 17

    การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ และแนวโน้ม
    ทีมพัฒนาได้ถอดซอฟต์แวร์ที่ยังใช้ Qt5 ออก เช่น KDE Gear และ Plasma รุ่นเก่า เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้ย้ายไปยัง KDE Plasma 6 และ KDE Gear 25.08 นอกจากนี้ NetworkManager จะไม่ติดตั้งปลั๊กอิน VPN มาโดยค่าเริ่มต้นอีกต่อไป ผู้ใช้ต้องกำหนดเอง ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและปลอดภัยมากขึ้น

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รายละเอียดการอัปเดต NixOS 25.11
    ใช้ Linux Kernel 6.12 LTS
    รองรับ GNOME 49 และ COSMIC Beta
    เพิ่ม FirewallD, rEFInd และ Secure Boot

    เครื่องมือและซอฟต์แวร์ใหม่
    nixos-rebuild-ng เขียนใหม่ด้วย Python
    nixos-init เขียนด้วย Rust
    อัปเดต LLVM 21, GCC 14, CMake 4, Syncthing 2.0.0 และ PostgreSQL 17

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    Qt5-based KDE Gear และ Plasma ถูกถอดออก ต้องย้ายไป Plasma 6
    NetworkManager ไม่ติดตั้ง VPN plugins โดยค่าเริ่มต้น ต้องกำหนดเอง
    การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ผู้ใช้ที่ยังใช้ซอฟต์แวร์เก่าเจอปัญหาความเข้ากันได้

    https://9to5linux.com/nixos-25-11-released-with-gnome-49-cosmic-beta-and-firewalld-support
    🐧 NixOS 25.11 เปิดตัวพร้อม GNOME 49, COSMIC Beta และ FirewallD เพิ่มความปลอดภัยและความยืดหยุ่นให้ผู้ใช้ Linux เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2025 ทีมพัฒนา NixOS ได้ประกาศเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ NixOS 25.11 (โค้ดเนม Xantusia) โดยใช้ Linux Kernel 6.12 LTS เป็นแกนหลัก จุดเด่นคือการรองรับ GNOME 49 และ COSMIC Beta ซึ่งเป็นเดสก์ท็อปที่พัฒนาโดย System76 ด้วยภาษา Rust ทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากขึ้นในการปรับแต่งสภาพแวดล้อมการทำงาน 🔐 FirewallD และการจัดการระบบที่ทันสมัย เวอร์ชันนี้เพิ่มการรองรับ FirewallD ซึ่งสามารถทำงานเป็นบริการแยก หรือใช้เป็น backend ของระบบ firewall เดิมใน NixOS ได้ นอกจากนี้ยังรองรับ rEFInd boot manager สำหรับระบบ UEFI และ Secure Boot กับ Limine bootloader เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการบูตเครื่อง ⚙️ เครื่องมือใหม่และการอัปเดตซอฟต์แวร์ NixOS 25.11 มาพร้อมกับ nixos-rebuild-ng ที่เขียนใหม่ด้วย Python เพื่อปรับปรุงการจัดการระบบ และ nixos-init ที่ใช้ Rust ทำให้การสร้าง initrd ไม่ต้องพึ่ง interpreter อีกต่อไป รวมถึงการอัปเดต toolchain เช่น LLVM 21, GCC 14 และ CMake 4 พร้อมกับซอฟต์แวร์ใหม่อย่าง Syncthing 2.0.0 และ PostgreSQL 17 🌐 การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ และแนวโน้ม ทีมพัฒนาได้ถอดซอฟต์แวร์ที่ยังใช้ Qt5 ออก เช่น KDE Gear และ Plasma รุ่นเก่า เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้ย้ายไปยัง KDE Plasma 6 และ KDE Gear 25.08 นอกจากนี้ NetworkManager จะไม่ติดตั้งปลั๊กอิน VPN มาโดยค่าเริ่มต้นอีกต่อไป ผู้ใช้ต้องกำหนดเอง ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและปลอดภัยมากขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รายละเอียดการอัปเดต NixOS 25.11 ➡️ ใช้ Linux Kernel 6.12 LTS ➡️ รองรับ GNOME 49 และ COSMIC Beta ➡️ เพิ่ม FirewallD, rEFInd และ Secure Boot ✅ เครื่องมือและซอฟต์แวร์ใหม่ ➡️ nixos-rebuild-ng เขียนใหม่ด้วย Python ➡️ nixos-init เขียนด้วย Rust ➡️ อัปเดต LLVM 21, GCC 14, CMake 4, Syncthing 2.0.0 และ PostgreSQL 17 ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ Qt5-based KDE Gear และ Plasma ถูกถอดออก ต้องย้ายไป Plasma 6 ⛔ NetworkManager ไม่ติดตั้ง VPN plugins โดยค่าเริ่มต้น ต้องกำหนดเอง ⛔ การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ผู้ใช้ที่ยังใช้ซอฟต์แวร์เก่าเจอปัญหาความเข้ากันได้ https://9to5linux.com/nixos-25-11-released-with-gnome-49-cosmic-beta-and-firewalld-support
    9TO5LINUX.COM
    NixOS 25.11 Released with GNOME 49, COSMIC Beta, and FirewallD Support - 9to5Linux
    NixOS 25.11 independent distribution is now available for download with Linux 6.12 LTS, GNOME 49, and more.
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
More Results