• Newsstory : สนธิลั่น "ผมจะไม่แปลกใจ" หลังเลือกตั้งครั้งหน้าภูมิใจไทยกับเพื่อไทยจะคืนดีกัน

    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #ไม่แปลกใจ #เลือกตั้ง #เพื่อไทย #ภูมิใจไทย
    Newsstory : สนธิลั่น "ผมจะไม่แปลกใจ" หลังเลือกตั้งครั้งหน้าภูมิใจไทยกับเพื่อไทยจะคืนดีกัน #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ไม่แปลกใจ #เลือกตั้ง #เพื่อไทย #ภูมิใจไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • มุกเดิมฮุนเซน งัดคลิปแบล็คเมล์

    การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชาครั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้กัมพูชาใช้วิธีตีสองหน้า ลอบโจมตีทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย แล้วอ้างต่อประชาคมโลกว่าไม่ได้ทำ ปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและปฎิญญาสันติภาพ แบบเดียวกับเวลาทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 สภาพใหม่เอี่ยม กัมพูชาก็อ้างว่าเป็นของเก่า งานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มีท่าทีแข็งกร้าว เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนมีมติปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่นๆ ที่มีความจำเป็น

    นายอนุทินยืนยันว่าไม่เจรจากับกัมพูชาอีกแล้ว จากนี้ไปถ้ากัมพูชาจะหยุดสู้รบกันก็ต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยกำหนด รวมถึงถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งลงนามที่ประเทศมาเลเซียก็ไม่มีแล้ว ไม่คุย และไม่แจ้งนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หรือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะเป็นเรื่องของประเทศไทยและคู่กรณี และไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ แต่อีกด้านหนึ่ง นายอนุทินยังคงไม่ยกเลิก MOU43 และ MOU44 แต่อย่างใด ทั้งที่ผ่านมากัมพูชามองว่าเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ และมีพฤติกรรมรุกล้ำดินแดนไทยอย่างต่อเนื่อง

    ที่น่าสนใจก็คือ มุกเดิมๆ ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และรักษาการประมุขแห่งรัฐ เอาคลิปที่นายอนุทินไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา โดยไม่ระบุวัน เวลา และสถานที่อย่างแน่ชัด โดยระบุข้อความว่า "ผมไม่คิดเลยว่านายกรัฐมนตรีอนุทินของไทย จะกล้าเอาชีวิตของทหารและประชาชนไปประกาศสงครามกับกัมพูชา เพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อกองทัพกัมพูชาไม่ตอบโต้ ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นเพื่อน แต่เมื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านกลับลืมมิตรภาพ ผมเข้าใจความรักชาติ แต่เราไม่ควรประกาศสงครามกับผู้ที่ไม่ตอบโต้"

    จุดอ่อนของนายฮุน เซน คือไม่ชอบให้ใครมาเหยียดหยาม เขาประสบความสำเร็จในการเผยแพร่คลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า สนทนาทางโทรศัพท์ ด้วยวลีที่ว่า "แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนละพวกกับเรา" และ "อังเคิลอยากได้อะไรขอให้บอก เดี๋ยวจัดให้" ทำคนไทยทั้งประเทศโกรธและตราหน้าว่า "ขายชาติ" นำไปสู่การพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สำหรับนายอนุทิน ขณะนี้ยังไม่พบว่าเคยมีผลประโยชน์อะไรกับกัมพูชา เมื่อเทียบกับตระกูลชินวัตร วิธีการแบล็คเมล์เดิมๆ ของนายฮุน เซน กลายเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย และอาจทำให้มิตรประเทศต่างๆ ไม่น่าไว้วางใจยิ่งขึ้น

    #Newskit
    มุกเดิมฮุนเซน งัดคลิปแบล็คเมล์ การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชาครั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้กัมพูชาใช้วิธีตีสองหน้า ลอบโจมตีทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย แล้วอ้างต่อประชาคมโลกว่าไม่ได้ทำ ปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและปฎิญญาสันติภาพ แบบเดียวกับเวลาทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 สภาพใหม่เอี่ยม กัมพูชาก็อ้างว่าเป็นของเก่า งานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มีท่าทีแข็งกร้าว เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนมีมติปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่นๆ ที่มีความจำเป็น นายอนุทินยืนยันว่าไม่เจรจากับกัมพูชาอีกแล้ว จากนี้ไปถ้ากัมพูชาจะหยุดสู้รบกันก็ต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยกำหนด รวมถึงถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งลงนามที่ประเทศมาเลเซียก็ไม่มีแล้ว ไม่คุย และไม่แจ้งนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หรือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะเป็นเรื่องของประเทศไทยและคู่กรณี และไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ แต่อีกด้านหนึ่ง นายอนุทินยังคงไม่ยกเลิก MOU43 และ MOU44 แต่อย่างใด ทั้งที่ผ่านมากัมพูชามองว่าเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ และมีพฤติกรรมรุกล้ำดินแดนไทยอย่างต่อเนื่อง ที่น่าสนใจก็คือ มุกเดิมๆ ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และรักษาการประมุขแห่งรัฐ เอาคลิปที่นายอนุทินไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา โดยไม่ระบุวัน เวลา และสถานที่อย่างแน่ชัด โดยระบุข้อความว่า "ผมไม่คิดเลยว่านายกรัฐมนตรีอนุทินของไทย จะกล้าเอาชีวิตของทหารและประชาชนไปประกาศสงครามกับกัมพูชา เพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อกองทัพกัมพูชาไม่ตอบโต้ ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นเพื่อน แต่เมื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านกลับลืมมิตรภาพ ผมเข้าใจความรักชาติ แต่เราไม่ควรประกาศสงครามกับผู้ที่ไม่ตอบโต้" จุดอ่อนของนายฮุน เซน คือไม่ชอบให้ใครมาเหยียดหยาม เขาประสบความสำเร็จในการเผยแพร่คลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า สนทนาทางโทรศัพท์ ด้วยวลีที่ว่า "แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนละพวกกับเรา" และ "อังเคิลอยากได้อะไรขอให้บอก เดี๋ยวจัดให้" ทำคนไทยทั้งประเทศโกรธและตราหน้าว่า "ขายชาติ" นำไปสู่การพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สำหรับนายอนุทิน ขณะนี้ยังไม่พบว่าเคยมีผลประโยชน์อะไรกับกัมพูชา เมื่อเทียบกับตระกูลชินวัตร วิธีการแบล็คเมล์เดิมๆ ของนายฮุน เซน กลายเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย และอาจทำให้มิตรประเทศต่างๆ ไม่น่าไว้วางใจยิ่งขึ้น #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อไทยเสริมทัพภาคเหนือตอนล่าง "วราเทพ" อดีตรัฐมนตรียุคทักษิณ ควง 3 ผู้สมัคร สส. กำแพงเพชร เปิดตัวร่วมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
    https://www.thai-tai.tv/news/22467/
    .
    #ไทยไท #วราเทพรัตนากร #พรรคเพื่อไทย #กลับบ้าน #กำแพงเพชร #จุลพันธ์อมรวิวัฒน์

    เพื่อไทยเสริมทัพภาคเหนือตอนล่าง "วราเทพ" อดีตรัฐมนตรียุคทักษิณ ควง 3 ผู้สมัคร สส. กำแพงเพชร เปิดตัวร่วมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า https://www.thai-tai.tv/news/22467/ . #ไทยไท #วราเทพรัตนากร #พรรคเพื่อไทย #กลับบ้าน #กำแพงเพชร #จุลพันธ์อมรวิวัฒน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • รุกฆาต หรือ รุกคืบ ตอนที่ 2
    “รุกฆาต หรือ รุกคืบ”
    ตอนที่ 2

    คงจำกันได้ เมื่อปี ค.ศ. 2011 อเมริกามีปัญหาถังแตก กระเป๋าฉีก (เป็นบ่อยเหมือนกันนะ ไหนว่ารวยไง) จะต้องมีการตัดงบประมาณรายจ่ายของประเทศเป็นการใหญ่ ฝ่ายรัฐบาลโอบามาจะให้ตัดงบด้านความมั่นคงเป็นส่วนใหญ่และตัดงบประมาณด้านสวัสดิการประชาชนน้อยกว่า เพื่อเลี้ยงฐานเสียง แต่พรรคฝ่ายค้าน บรรดาเหยี่ยวกระหายเลือด มีความเห็นตรงกันข้าม ไม่ยอมให้แตะงบด้านความมั่นคง แบบนี้จะไปมองหน้าพ่อค้าอาวุธนายทุนใหญ่ทั้งหลายได้ยังไง เลือกตั้งครั้งหน้าจะทำยังไง ทำให้รัฐบาลและฝ่ายค้านตกลงกันไม่ได้

    ในที่สุด นายโอบามาวางสนุ้ก โดยลงนามใน Budget Control Act of 2011 ซึ่งมีผลเป็นการตัดงบประมาณทั้ง กระดานเท่ากัน ซึ่งเรียกกันว่า ” Sequestrations” ตัดอัตโนมัติ ตัดเท่ากัน ตัดเหี้ยน ไม่ว่าจะด้านความมั่นคง หรือสวัสดิการ เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2013 ไปจนถึง ปี 2021 นายโอบามาหวังจะให้วุฒิสมาชิกทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ร่วมมือกันหาทางออก แต่จนถึงบัดนี้ยังหาประตูกันไม่เจอ ส่วนนายโอบามา ได้รับก้อนอิฐจากทุกสารทิศ ทั้งจากสภา และประชาชนปาใส่ยังไม่เลิก

    ฝ่ายความมั่นคง โดยนาย Pennetta รมว. กลาโหมขณะนั้น บอกว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่นะ ตัดงบแบบนี้ ในส่วนของกลาโหม 10 ปี คิดแล้วงบหดไป 20 % และจะทำให้กองทัพ
    – มีทหารราบเหลือน้อยที่สุด นับแต่สงครามโลก ครั้งที่ 2
    – มีกองทัพเรือเล็กที่สุด นับแต่ก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 1
    – มีหน่วยรบด้านกลยุทธที่เล็กที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพอากาศ
    – มีกำลังพล ที่เป็นพลเรือนน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์ ของกลาโหม

    แต่การตัดงบประมาณ แบบตัดเหี้ยน Sequestration ก็ยังเดินหน้าต่อไป ตอนนั้นอเมริกาคงยังมองไม่เห็น แปลสัญญาณ การขยับหมากของรัสเซียและจีนไม่ออก

    นาง Michele Flournoy ตัวเก็งหมายเลขหนึ่ง ที่นายโอบามา ทาบทามมาให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหม หลังปลดนาย Chuck Hagel เมื่อ กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ ได้เขียนบทความ เกี่ยวกับการตัดงบประมาณแบบตัดเหี้ยนนี้ ซึ่ง Washington Post นำมาลงเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2014 ว่า

    ” ฤดูร้อนปีนี้ เราเห็นเหตุการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเหลือเชื่อ ตั้งแต่การเกิดขึ้นของ Islamic State การรุกรานUkraine ของรัสเซีย สงครามระหว่าง ฮามาส กับอิสราเอล ความตึงเครียดในน่านน้ำเกาหลี และทะเลจีน เป็นการเตือนให้รู้ว่า อเมริกาอาจจะเจอกับการท้าทาย ด้านความมั่นคง ที่ซับซ้อน ผันแปรรวดเร็ว อย่างไม่เคยมีมาก่อน นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว
    ทั้งนี้คณะทำงานของ The National Defense Panel ซึ่งตั้งโดยสภาสูง (ที่มีนาง Flournoy เป็นหนึ่งในคณะทำงาน) ได้ทำรายงาน สรุปว่า Budget Control Act of 2011 เป็นยุทธศาสตร์ที่ “ผิดพลาดอย่างรุนแรง” ถ้าไม่มีการยกเลิก หรือผ่อนปรนโดยเร็ว กองทัพของอเมริกาจะตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างสูง และจะไม่สามารถปฏิบัติภาระกิจ ตามยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของประเทศได้

    นาง Flournoy แจงเพิ่มเติมว่า การตัดงบตามกฏหมายดังกล่าว ทำให้การฝึกของนักบินไม่สามารถทำได้ตามจำนวนชั่วโมงที่ต้องการ เพื่อรักษาความชำนาญ และกองทัพเรือไม่สามารถไปประจำอยู่ในบริเวณที่วิกฤติได้…

    The National Defense Panel จึงขอให้สภาสูง พิจารณายกเลิก Budget Control Act ดังกล่าวทันที เพื่อให้กองทัพ สามารถยับยั้ง หรือหยุดความรุกรานในหลายๆที่ และรวมทั้งสามารถทำการรบ ในสงครามที่มีขนาดใหญ่ได้ (large-scale war) ซึ่งจำเป็นต้องมีการพิจารณาถึง ขนาด และรูปแบบของกองทัพเป็นการด่วน เพื่อเราจะได้ดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ของเราที่มีอยู่ทั่วโลก และจัดหาวิธีการต่อสู้สงครามอย่างเหมาะสม ที่จะเป็นการรับประกันสถานะการเป็นผู้นำของอเมริกา…”

    Flournoy ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน อย่างไม่อ้อมค้อม

    Gen. Gary Cheek รองปลัดกลาโหม ด้านแผนงาน และนโยบาย ให้สัมภาษณ์ ในวันประชุมประจำปี ของ AUSA Convention เมื่อ 15 ตุลาคม 2014 ว่า

    “การ ยกเลิก Sequestration เท่านั้นแหละ ถึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอ ขณะนี้ เราส่ง 7 กองกำลัง ไปประจำการณ์อยู่ต่างประเทศ จากจำนวน 10 กองกำลังด้านนี้ที่เรามี ถ้ามีการตัดงบประมาณต่อไป การหมุนเวียนกำลังพล ทำไม่ได้มาก กำลังพลที่ไปประจำการณ์ ต่างประเทศนานๆ ก็จะอยู่ในภาวะเครียดหนัก

    ตั้งแต่เริ่มรายการตัดงบเมื่อปี 2011 เป็นต้นมา กองทัพได้ยกเลิกไปแล้ว 21 แผนงาน ชลอ 125 แผนงาน และปรับปรุง 124 ที่แย่ คือ งบวิจัยและปรับปรุง ถูกตัดไปแล้ว 1 ใน 3 และหลังจากรบยาวติดต่อกันมา 12 ปี เราต้องมีการปรับปรุงอาวุธ และเครื่องมือ เครื่องใช้เรานะ”

    หลังจากนั้น ปลายเดือนตุลาคม 2014 ถึงคิว นาย Robert Gates อดีต รมว. กลาโหม อีกคนหนึ่ง ก็ออกมาพูดว่า ” สภาสูง ทำให้ Pentagon อยู่ในสภาพที่แย่ที่สุดในทุกทาง และเพื่อจะปกป้องพันธมิตร และผลประโยชน์ของอเมริกาในเอเซีย อเมริกาต้องมีระบบจรวดป้องกันทรัพย์สินของอเมริกาที่อยู่ในอวกาศ และเครือข่ายไซเบอร์ และต้องลงทุนในระบบการป้องกันระยะไกล อเมริกาไม่มีทางเลือก ที่จะไม่ลงทุน มันจำเป็นที่เราจะต้องรักษาขนาดของกองทัพ ความพร้อม และสมรรถนะ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเราทั่วโลก ”
    และ ล่าสุด นาย Bob Work รมช. กลาโหม ออกมาพูดเมื่อ วันที่ 1 ธันวาคม นี้ ที่ สถาบัน Center for Strategic and International Studies ถังความคิดชื่อดังของวอชิงตันว่า การ ตัดงบแบบSequestration นี้ ทำให้ความชำนาญในการรบของกองทัพลดลง ถ้ากองทัพต้องปฏิบัติการณ์ ทำนองเดียวกับ Desert Storm สมัยขยี้ Saddam Hussien ตอนนี้บอกได้ว่าคงเหนื่อยแน่

    นอกจากนี้ เขาบอกว่า สมัยช่วงก่อนปี 2001 นายทหารที่อยู่ในกองทัพมา กว่า 10 ปี จะได้เข้ารับการฝึกแบบ full spectrum combat training หลายครั้ง ก่อนเลื่อนตำแหน่งเป็นระดับหัวหน้า แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เพราะตอนนี้ กลาโหมเน้นการรบเป็นรูปแบบการรับมือการก่อความไม่สงบ ถ้าจะเป็นการรบใหญ่จริงๆ เราต้องฝึกกันใหม่ และถ้ายังมีการตัดงบประมาณอย่างนี้ กว่าเริ่มฝีกใหม่ได้ ก็คงเป็นปี 2016 โน้นแน่ะ

    รู้สึกฝ่ายกลาโหมของอเมริกาจะโหมโรงหนังเรื่อง ตัดเหี้ยน Sequestration อย่างพร้อมเพรียง ในจังหวะน่าสนใจ!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    13 ธค. 2557
    รุกฆาต หรือ รุกคืบ ตอนที่ 2 “รุกฆาต หรือ รุกคืบ” ตอนที่ 2 คงจำกันได้ เมื่อปี ค.ศ. 2011 อเมริกามีปัญหาถังแตก กระเป๋าฉีก (เป็นบ่อยเหมือนกันนะ ไหนว่ารวยไง) จะต้องมีการตัดงบประมาณรายจ่ายของประเทศเป็นการใหญ่ ฝ่ายรัฐบาลโอบามาจะให้ตัดงบด้านความมั่นคงเป็นส่วนใหญ่และตัดงบประมาณด้านสวัสดิการประชาชนน้อยกว่า เพื่อเลี้ยงฐานเสียง แต่พรรคฝ่ายค้าน บรรดาเหยี่ยวกระหายเลือด มีความเห็นตรงกันข้าม ไม่ยอมให้แตะงบด้านความมั่นคง แบบนี้จะไปมองหน้าพ่อค้าอาวุธนายทุนใหญ่ทั้งหลายได้ยังไง เลือกตั้งครั้งหน้าจะทำยังไง ทำให้รัฐบาลและฝ่ายค้านตกลงกันไม่ได้ ในที่สุด นายโอบามาวางสนุ้ก โดยลงนามใน Budget Control Act of 2011 ซึ่งมีผลเป็นการตัดงบประมาณทั้ง กระดานเท่ากัน ซึ่งเรียกกันว่า ” Sequestrations” ตัดอัตโนมัติ ตัดเท่ากัน ตัดเหี้ยน ไม่ว่าจะด้านความมั่นคง หรือสวัสดิการ เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2013 ไปจนถึง ปี 2021 นายโอบามาหวังจะให้วุฒิสมาชิกทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ร่วมมือกันหาทางออก แต่จนถึงบัดนี้ยังหาประตูกันไม่เจอ ส่วนนายโอบามา ได้รับก้อนอิฐจากทุกสารทิศ ทั้งจากสภา และประชาชนปาใส่ยังไม่เลิก ฝ่ายความมั่นคง โดยนาย Pennetta รมว. กลาโหมขณะนั้น บอกว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่นะ ตัดงบแบบนี้ ในส่วนของกลาโหม 10 ปี คิดแล้วงบหดไป 20 % และจะทำให้กองทัพ – มีทหารราบเหลือน้อยที่สุด นับแต่สงครามโลก ครั้งที่ 2 – มีกองทัพเรือเล็กที่สุด นับแต่ก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 1 – มีหน่วยรบด้านกลยุทธที่เล็กที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพอากาศ – มีกำลังพล ที่เป็นพลเรือนน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์ ของกลาโหม แต่การตัดงบประมาณ แบบตัดเหี้ยน Sequestration ก็ยังเดินหน้าต่อไป ตอนนั้นอเมริกาคงยังมองไม่เห็น แปลสัญญาณ การขยับหมากของรัสเซียและจีนไม่ออก นาง Michele Flournoy ตัวเก็งหมายเลขหนึ่ง ที่นายโอบามา ทาบทามมาให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหม หลังปลดนาย Chuck Hagel เมื่อ กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ ได้เขียนบทความ เกี่ยวกับการตัดงบประมาณแบบตัดเหี้ยนนี้ ซึ่ง Washington Post นำมาลงเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2014 ว่า ” ฤดูร้อนปีนี้ เราเห็นเหตุการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเหลือเชื่อ ตั้งแต่การเกิดขึ้นของ Islamic State การรุกรานUkraine ของรัสเซีย สงครามระหว่าง ฮามาส กับอิสราเอล ความตึงเครียดในน่านน้ำเกาหลี และทะเลจีน เป็นการเตือนให้รู้ว่า อเมริกาอาจจะเจอกับการท้าทาย ด้านความมั่นคง ที่ซับซ้อน ผันแปรรวดเร็ว อย่างไม่เคยมีมาก่อน นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว ทั้งนี้คณะทำงานของ The National Defense Panel ซึ่งตั้งโดยสภาสูง (ที่มีนาง Flournoy เป็นหนึ่งในคณะทำงาน) ได้ทำรายงาน สรุปว่า Budget Control Act of 2011 เป็นยุทธศาสตร์ที่ “ผิดพลาดอย่างรุนแรง” ถ้าไม่มีการยกเลิก หรือผ่อนปรนโดยเร็ว กองทัพของอเมริกาจะตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างสูง และจะไม่สามารถปฏิบัติภาระกิจ ตามยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของประเทศได้ นาง Flournoy แจงเพิ่มเติมว่า การตัดงบตามกฏหมายดังกล่าว ทำให้การฝึกของนักบินไม่สามารถทำได้ตามจำนวนชั่วโมงที่ต้องการ เพื่อรักษาความชำนาญ และกองทัพเรือไม่สามารถไปประจำอยู่ในบริเวณที่วิกฤติได้… The National Defense Panel จึงขอให้สภาสูง พิจารณายกเลิก Budget Control Act ดังกล่าวทันที เพื่อให้กองทัพ สามารถยับยั้ง หรือหยุดความรุกรานในหลายๆที่ และรวมทั้งสามารถทำการรบ ในสงครามที่มีขนาดใหญ่ได้ (large-scale war) ซึ่งจำเป็นต้องมีการพิจารณาถึง ขนาด และรูปแบบของกองทัพเป็นการด่วน เพื่อเราจะได้ดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ของเราที่มีอยู่ทั่วโลก และจัดหาวิธีการต่อสู้สงครามอย่างเหมาะสม ที่จะเป็นการรับประกันสถานะการเป็นผู้นำของอเมริกา…” Flournoy ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน อย่างไม่อ้อมค้อม Gen. Gary Cheek รองปลัดกลาโหม ด้านแผนงาน และนโยบาย ให้สัมภาษณ์ ในวันประชุมประจำปี ของ AUSA Convention เมื่อ 15 ตุลาคม 2014 ว่า “การ ยกเลิก Sequestration เท่านั้นแหละ ถึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอ ขณะนี้ เราส่ง 7 กองกำลัง ไปประจำการณ์อยู่ต่างประเทศ จากจำนวน 10 กองกำลังด้านนี้ที่เรามี ถ้ามีการตัดงบประมาณต่อไป การหมุนเวียนกำลังพล ทำไม่ได้มาก กำลังพลที่ไปประจำการณ์ ต่างประเทศนานๆ ก็จะอยู่ในภาวะเครียดหนัก ตั้งแต่เริ่มรายการตัดงบเมื่อปี 2011 เป็นต้นมา กองทัพได้ยกเลิกไปแล้ว 21 แผนงาน ชลอ 125 แผนงาน และปรับปรุง 124 ที่แย่ คือ งบวิจัยและปรับปรุง ถูกตัดไปแล้ว 1 ใน 3 และหลังจากรบยาวติดต่อกันมา 12 ปี เราต้องมีการปรับปรุงอาวุธ และเครื่องมือ เครื่องใช้เรานะ” หลังจากนั้น ปลายเดือนตุลาคม 2014 ถึงคิว นาย Robert Gates อดีต รมว. กลาโหม อีกคนหนึ่ง ก็ออกมาพูดว่า ” สภาสูง ทำให้ Pentagon อยู่ในสภาพที่แย่ที่สุดในทุกทาง และเพื่อจะปกป้องพันธมิตร และผลประโยชน์ของอเมริกาในเอเซีย อเมริกาต้องมีระบบจรวดป้องกันทรัพย์สินของอเมริกาที่อยู่ในอวกาศ และเครือข่ายไซเบอร์ และต้องลงทุนในระบบการป้องกันระยะไกล อเมริกาไม่มีทางเลือก ที่จะไม่ลงทุน มันจำเป็นที่เราจะต้องรักษาขนาดของกองทัพ ความพร้อม และสมรรถนะ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเราทั่วโลก ” และ ล่าสุด นาย Bob Work รมช. กลาโหม ออกมาพูดเมื่อ วันที่ 1 ธันวาคม นี้ ที่ สถาบัน Center for Strategic and International Studies ถังความคิดชื่อดังของวอชิงตันว่า การ ตัดงบแบบSequestration นี้ ทำให้ความชำนาญในการรบของกองทัพลดลง ถ้ากองทัพต้องปฏิบัติการณ์ ทำนองเดียวกับ Desert Storm สมัยขยี้ Saddam Hussien ตอนนี้บอกได้ว่าคงเหนื่อยแน่ นอกจากนี้ เขาบอกว่า สมัยช่วงก่อนปี 2001 นายทหารที่อยู่ในกองทัพมา กว่า 10 ปี จะได้เข้ารับการฝึกแบบ full spectrum combat training หลายครั้ง ก่อนเลื่อนตำแหน่งเป็นระดับหัวหน้า แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เพราะตอนนี้ กลาโหมเน้นการรบเป็นรูปแบบการรับมือการก่อความไม่สงบ ถ้าจะเป็นการรบใหญ่จริงๆ เราต้องฝึกกันใหม่ และถ้ายังมีการตัดงบประมาณอย่างนี้ กว่าเริ่มฝีกใหม่ได้ ก็คงเป็นปี 2016 โน้นแน่ะ รู้สึกฝ่ายกลาโหมของอเมริกาจะโหมโรงหนังเรื่อง ตัดเหี้ยน Sequestration อย่างพร้อมเพรียง ในจังหวะน่าสนใจ! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 13 ธค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 745 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนไทยเตรียมเฮ เลือกตั้งครั้งหน้า ไร้เงาหัว พรรคแดง น้ำเงิน ส้ม
    โดนสึนามิ ม.144 ล้างบาง และ 44 สส.ยื่นแก้ ม.112
    #คิงส์โพธิ์แดง
    คนไทยเตรียมเฮ เลือกตั้งครั้งหน้า ไร้เงาหัว พรรคแดง น้ำเงิน ส้ม โดนสึนามิ ม.144 ล้างบาง และ 44 สส.ยื่นแก้ ม.112 #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 'ธรรมนัส' เปิดตัว 'เสธ.หิ' ลั่น 'กล้าธรรม' จะไม่ใช่แค่เท่าที่เห็น พร้อมลุยเลือกตั้งครั้งหน้า!
    https://www.thai-tai.tv/news/21588/
    .
    #ไทยไท #ธรรมนัสพรหมเผ่า #พรรคกล้าธรรม #หิมาลัยผิวพรรณ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    'ธรรมนัส' เปิดตัว 'เสธ.หิ' ลั่น 'กล้าธรรม' จะไม่ใช่แค่เท่าที่เห็น พร้อมลุยเลือกตั้งครั้งหน้า! https://www.thai-tai.tv/news/21588/ . #ไทยไท #ธรรมนัสพรหมเผ่า #พรรคกล้าธรรม #หิมาลัยผิวพรรณ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • กู้ศรัทธาประชาธิปัตย์ เหล้าเก่าในขวดเก่า

    เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว สู่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย จึงไม่แปลกที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) แม้อ้างว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ที่ผ่านมา ปชป. ยุคนายเฉลิมชัยถูกวิจารณ์ว่า จุดยืนทางการเมืองเปลี่ยนไป นับตั้งแต่นายเฉลิมชัยนำ สส. 21 คนเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งที่สองพรรคนี้ไม่ถูกกันยาวนานกว่า 20 ปี โดยมีข่าวว่านายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ไปดีลกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงเอาไว้ นับจากนั้นเป็นต้นมาเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนัก บรรดาสมาชิกพรรคเก่าแก่หลายคนลาออก

    เมื่อนายเฉลิมชัยลาออกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ปชป. ชุดใหม่ รายงานข่าวแจ้งว่ามีความพยายามในการดึงแกนนำพรรค ที่เว้นวรรคทางการเมือง หรือลาออกจากพรรคไปแล้ว มาร่วมกลับบ้านเก่า ฟื้นฟูพรรคกันใหม่ เพื่อกู้วิกฤตศรัทธา และเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึง เพราะที่ผ่านมาฐานเสียง ปชป. ในภาคใต้ ถูกเจาะยางจากพรรคคู่แข่งในหลายพื้นที่ เช่น นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค และ สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ภาพคู่กับนายกรณ์ จาติกวณิช ที่โรงแรมอนันตรา พร้อมระบุว่า "คิดถึงเลยเจอกันครับ #ฟ้าวันใหม่สดใสเสมอ"

    หรือจะเป็นการจุดกระแสชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมานำพรรคอีกครั้ง หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจเว้นวรรคทางการเมือง มาตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปี 2562 เพราะได้ สส.ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง อีกทั้งมติพรรค ปชป.ขณะนั้นสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ผันตัวไปเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์เคยกล่าวบนเวทีผ่าทางตันประเทศไทย จัดโดยสื่อเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า “คุณไม่ต้องมาชวนผมกลับไปพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคุณเอาอุดมการณ์กลับมาได้ ผมกลับไปแน่นอน”

    เมื่อวันก่อน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล จัดรายการหัวข้อ "คืน ปชป. ให้นายกฯ อภิสิทธิ์เถอะ" คนดูส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ปชป. ควรให้นายอภิสิทธิ์กลับมาบริหารพรรค อดีตสมาชิกพรรคบางคน เริ่มคิดอยากฟื้นฟูอุดมการณ์ประชาธิปัตย์กลับคืนมา บางคนตั้งคำถามว่า ที่พรรคอยู่ในจุดตกต่ำเป็นเพราะคน ผู้นำพรรค หรือเป็นเพราะโครงสร้างและอุดมการณ์ของพรรคกันแน่ ถึงกระนั้น ก็มีอีกส่วนหนึ่งก็เห็นว่า หากพรรคยังคงชูแกนนำพรรคชุดเก่าซึ่งมีชนักติดหลัง พรรคก็คงไม่ไปถึงไหน จึงเสนอให้คนรุ่นใหม่ออกมานำพรรค แล้วให้นายอภิสิทธิ์ และแกนนำคนอื่น เป็นที่ปรึกษาก็พอ

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.2568)
    กู้ศรัทธาประชาธิปัตย์ เหล้าเก่าในขวดเก่า เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว สู่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย จึงไม่แปลกที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) แม้อ้างว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ที่ผ่านมา ปชป. ยุคนายเฉลิมชัยถูกวิจารณ์ว่า จุดยืนทางการเมืองเปลี่ยนไป นับตั้งแต่นายเฉลิมชัยนำ สส. 21 คนเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งที่สองพรรคนี้ไม่ถูกกันยาวนานกว่า 20 ปี โดยมีข่าวว่านายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ไปดีลกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงเอาไว้ นับจากนั้นเป็นต้นมาเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนัก บรรดาสมาชิกพรรคเก่าแก่หลายคนลาออก เมื่อนายเฉลิมชัยลาออกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ปชป. ชุดใหม่ รายงานข่าวแจ้งว่ามีความพยายามในการดึงแกนนำพรรค ที่เว้นวรรคทางการเมือง หรือลาออกจากพรรคไปแล้ว มาร่วมกลับบ้านเก่า ฟื้นฟูพรรคกันใหม่ เพื่อกู้วิกฤตศรัทธา และเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึง เพราะที่ผ่านมาฐานเสียง ปชป. ในภาคใต้ ถูกเจาะยางจากพรรคคู่แข่งในหลายพื้นที่ เช่น นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค และ สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ภาพคู่กับนายกรณ์ จาติกวณิช ที่โรงแรมอนันตรา พร้อมระบุว่า "คิดถึงเลยเจอกันครับ #ฟ้าวันใหม่สดใสเสมอ" หรือจะเป็นการจุดกระแสชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมานำพรรคอีกครั้ง หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจเว้นวรรคทางการเมือง มาตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปี 2562 เพราะได้ สส.ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง อีกทั้งมติพรรค ปชป.ขณะนั้นสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ผันตัวไปเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์เคยกล่าวบนเวทีผ่าทางตันประเทศไทย จัดโดยสื่อเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า “คุณไม่ต้องมาชวนผมกลับไปพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคุณเอาอุดมการณ์กลับมาได้ ผมกลับไปแน่นอน” เมื่อวันก่อน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล จัดรายการหัวข้อ "คืน ปชป. ให้นายกฯ อภิสิทธิ์เถอะ" คนดูส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ปชป. ควรให้นายอภิสิทธิ์กลับมาบริหารพรรค อดีตสมาชิกพรรคบางคน เริ่มคิดอยากฟื้นฟูอุดมการณ์ประชาธิปัตย์กลับคืนมา บางคนตั้งคำถามว่า ที่พรรคอยู่ในจุดตกต่ำเป็นเพราะคน ผู้นำพรรค หรือเป็นเพราะโครงสร้างและอุดมการณ์ของพรรคกันแน่ ถึงกระนั้น ก็มีอีกส่วนหนึ่งก็เห็นว่า หากพรรคยังคงชูแกนนำพรรคชุดเก่าซึ่งมีชนักติดหลัง พรรคก็คงไม่ไปถึงไหน จึงเสนอให้คนรุ่นใหม่ออกมานำพรรค แล้วให้นายอภิสิทธิ์ และแกนนำคนอื่น เป็นที่ปรึกษาก็พอ #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.2568)
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 957 มุมมอง 0 รีวิว
  • อนุทินนายกฯ 4 เดือน นับถอยหลังเพื่อไทย

    การเมืองไทยหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ช่วงนี้จะได้เห็นการชิงไหวชิงพริบเพื่อช่วงชิงอำนาจ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. พรรคประชาชน ที่มีเสียงในสภาฯ 143 เสียง มีมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แต่มีเงื่อนไข 5 ข้อ คือ ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันแถลงนโยบาย การเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ใช้สภาร่างรัฐธรรมนูญมาจากการเลือกตั้ง ห้ามพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และพรรคประชาชนจะขอเป็นฝ่ายค้าน

    ขณะที่พรรคเพื่อไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่ เมื่อรู้ว่าพรรคประชาชนจับมือกับพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งสถานะตอนนี้เพียงปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่รักษาการนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีตัวจริงพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ก็เปิดเผยว่ายื่นทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว โดยไม่ฟังเสียงกฤษฎีกาและบรรดานักกฎหมายที่ท้วงติงว่าทำไม่ได้ กระทั่งมีรายงานข่าวว่า สำนักองคมนตรี ส่งคืนร่างดังกล่าวไปแล้ว เพราะไม่เป็นไปตามระเบียบ รัฐบาลรักษาการไม่สามารถกราบบังคมทูลฯ ยุบสภาได้

    ด้านสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุวาระเรื่องด่วน พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 5 ก.ย.ที่จะถึงนี้

    ก่อนหน้านี้มีความเปลี่ยนแปลงขั้วทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะถูกนายทักษิณตัดพ้อว่า ผิดที่ไว้ใจ แต่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก เพราะเป็นการหาทางออกให้บ้านเมือง หรือจะเป็น สส.พรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งย้ายไปสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้พรรคเพื่อไทยเลือดไหลออกไม่หยุด และมีผลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่มีชนักติดหลังเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

    ขณะที่พรรคประชาชน แม้จะอธิบายว่าการโหวตเลือกนายอนุทินเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง แต่ก็ถูกวิจารณ์จากกลุ่มนักเคลื่อนไหว เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน อดีตแกนนำม็อบราษฎร ผู้ต้องหาคดี 112 ที่หลบหนีไปต่างประเทศ เตือนว่าสุดท้ายพรรคภูมิใจไทยจะทรยศและใช้อำนาจทำร้ายพรรคประชาชน รวมทั้งทำร้ายขบวนการประชาธิปไตยทั้งองคาพยพ การสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้การปฏิรูปการเมืองถดถอย และทรยศหักหลังการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในปี 2563 อย่างรุนแรง

    #Newskit
    อนุทินนายกฯ 4 เดือน นับถอยหลังเพื่อไทย การเมืองไทยหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ช่วงนี้จะได้เห็นการชิงไหวชิงพริบเพื่อช่วงชิงอำนาจ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. พรรคประชาชน ที่มีเสียงในสภาฯ 143 เสียง มีมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แต่มีเงื่อนไข 5 ข้อ คือ ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันแถลงนโยบาย การเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ใช้สภาร่างรัฐธรรมนูญมาจากการเลือกตั้ง ห้ามพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และพรรคประชาชนจะขอเป็นฝ่ายค้าน ขณะที่พรรคเพื่อไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่ เมื่อรู้ว่าพรรคประชาชนจับมือกับพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งสถานะตอนนี้เพียงปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่รักษาการนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีตัวจริงพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ก็เปิดเผยว่ายื่นทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว โดยไม่ฟังเสียงกฤษฎีกาและบรรดานักกฎหมายที่ท้วงติงว่าทำไม่ได้ กระทั่งมีรายงานข่าวว่า สำนักองคมนตรี ส่งคืนร่างดังกล่าวไปแล้ว เพราะไม่เป็นไปตามระเบียบ รัฐบาลรักษาการไม่สามารถกราบบังคมทูลฯ ยุบสภาได้ ด้านสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุวาระเรื่องด่วน พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 5 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ก่อนหน้านี้มีความเปลี่ยนแปลงขั้วทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะถูกนายทักษิณตัดพ้อว่า ผิดที่ไว้ใจ แต่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก เพราะเป็นการหาทางออกให้บ้านเมือง หรือจะเป็น สส.พรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งย้ายไปสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้พรรคเพื่อไทยเลือดไหลออกไม่หยุด และมีผลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่มีชนักติดหลังเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่พรรคประชาชน แม้จะอธิบายว่าการโหวตเลือกนายอนุทินเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง แต่ก็ถูกวิจารณ์จากกลุ่มนักเคลื่อนไหว เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน อดีตแกนนำม็อบราษฎร ผู้ต้องหาคดี 112 ที่หลบหนีไปต่างประเทศ เตือนว่าสุดท้ายพรรคภูมิใจไทยจะทรยศและใช้อำนาจทำร้ายพรรคประชาชน รวมทั้งทำร้ายขบวนการประชาธิปไตยทั้งองคาพยพ การสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้การปฏิรูปการเมืองถดถอย และทรยศหักหลังการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในปี 2563 อย่างรุนแรง #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 951 มุมมอง 0 รีวิว
  • คงสถานะฝ่ายค้าน ล้มรัฐบาลเสียงข้างน้อย : [NEWS UPDATE]
    นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน เผยถึงแนวทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย เราเห็นตรงกันว่า ไม่ใช่การเลือกนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุด แต่เลือกนายกที่มีโอกาสยุบสภาและแก้รัฐธรรมนูญมากที่สุด ส่วนการไม่ร่วมเป็นรัฐบาลจะปิดโอกาสประเทศหรือไม่นั้น เมื่อไหร่ที่พรรคผิดคำพูดกับประชาชนจะไม่น่าเชื่อถือ เราต้องการคงสถานะฝ่ายค้าน เพื่อให้มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย เราสามารถควบคุมให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยรักษาสัญญา ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากไปร่วมรัฐบาลจะกลายเป็นว่าเราไม่สามารถเป็นฝ่ายค้านที่ล้มรัฐบาลได้ เพราะรัฐบาลที่จะตอบโจทย์ประเทศคือที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า 


    ยุบสภาเป็นขั้นต่อไป

    เห็นตรง ครม. ชั่วคราว

    พร้อมทำตามคำสั่งที่ถูก

    ต้องการคนดีและเก่ง
    คงสถานะฝ่ายค้าน ล้มรัฐบาลเสียงข้างน้อย : [NEWS UPDATE] นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน เผยถึงแนวทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย เราเห็นตรงกันว่า ไม่ใช่การเลือกนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุด แต่เลือกนายกที่มีโอกาสยุบสภาและแก้รัฐธรรมนูญมากที่สุด ส่วนการไม่ร่วมเป็นรัฐบาลจะปิดโอกาสประเทศหรือไม่นั้น เมื่อไหร่ที่พรรคผิดคำพูดกับประชาชนจะไม่น่าเชื่อถือ เราต้องการคงสถานะฝ่ายค้าน เพื่อให้มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย เราสามารถควบคุมให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยรักษาสัญญา ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากไปร่วมรัฐบาลจะกลายเป็นว่าเราไม่สามารถเป็นฝ่ายค้านที่ล้มรัฐบาลได้ เพราะรัฐบาลที่จะตอบโจทย์ประเทศคือที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า  ยุบสภาเป็นขั้นต่อไป เห็นตรง ครม. ชั่วคราว พร้อมทำตามคำสั่งที่ถูก ต้องการคนดีและเก่ง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 524 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "อนุทิน" สวน "ทักษิณ" ลั่น "หัวไม่ล้านจะน้อยใจอะไร" เมินคำเหน็บ หลังถูกกล่าวหาไม่เป็นสุภาพบุรุษ
    https://www.thai-tai.tv/news/20470/
    .
    #อนุทินชาญวีรกูล #ทักษิณชินวัตร #ภูมิใจไทย #พรรคเพื่อไทย #การเมืองไทย #สุภาพบุรุษ #ความสามัคคี #คำเหน็บแนม #พูดแล้วทำ #เลือกตั้งครั้งหน้า

    "อนุทิน" สวน "ทักษิณ" ลั่น "หัวไม่ล้านจะน้อยใจอะไร" เมินคำเหน็บ หลังถูกกล่าวหาไม่เป็นสุภาพบุรุษ https://www.thai-tai.tv/news/20470/ . #อนุทินชาญวีรกูล #ทักษิณชินวัตร #ภูมิใจไทย #พรรคเพื่อไทย #การเมืองไทย #สุภาพบุรุษ #ความสามัคคี #คำเหน็บแนม #พูดแล้วทำ #เลือกตั้งครั้งหน้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • สยบข่าวครอบงำ! "สุริยะ" ยัน "ทักษิณ" แค่แชร์ประสบการณ์ ไม่แทรกแซงการตัดสินใจพรรคร่วม-เพื่อไทย ปัดตัดขาด "ภูมิใจไทย"
    https://www.thai-tai.tv/news/20458/
    .
    #สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ #ทักษิณชินวัตร #พรรคร่วมรัฐบาล #เพื่อไทย #การเมืองไทย #เลือกตั้งครั้งหน้า #ความสามัคคี #ครอบงำรัฐบาล #ภูมิใจไทย #ข่าวการเมือง
    สยบข่าวครอบงำ! "สุริยะ" ยัน "ทักษิณ" แค่แชร์ประสบการณ์ ไม่แทรกแซงการตัดสินใจพรรคร่วม-เพื่อไทย ปัดตัดขาด "ภูมิใจไทย" https://www.thai-tai.tv/news/20458/ . #สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ #ทักษิณชินวัตร #พรรคร่วมรัฐบาล #เพื่อไทย #การเมืองไทย #เลือกตั้งครั้งหน้า #ความสามัคคี #ครอบงำรัฐบาล #ภูมิใจไทย #ข่าวการเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 469 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธรรมนัสลั่น! 'กล้าธรรม' พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจกวาด สส. กว่า 70 ชีวิตทั่วประเทศ
    https://www.thai-tai.tv/news/20217/
    .
    #พรรคกล้าธรรม #ธรรมนัส #กล้าทำเพื่อประชาชน #เลือกตั้งครั้งหน้า #การเมืองไทย #DARETODO #แกนนำรัฐบาล #เกษตรกร #ฐานราก
    ธรรมนัสลั่น! 'กล้าธรรม' พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจกวาด สส. กว่า 70 ชีวิตทั่วประเทศ https://www.thai-tai.tv/news/20217/ . #พรรคกล้าธรรม #ธรรมนัส #กล้าทำเพื่อประชาชน #เลือกตั้งครั้งหน้า #การเมืองไทย #DARETODO #แกนนำรัฐบาล #เกษตรกร #ฐานราก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 502 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ณัฐพงษ์" ปลุกเร้า สส.ปชน. ขออย่าเสียสมาธิ โวลั่นพรรคส้มชนะเลือกตั้งถล่มทลาย
    https://www.thai-tai.tv/news/19949/
    .
    #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #ประชุมสส #การเมืองบ้านใหญ่ #การเมืองไทย #ทำงานเพื่อประชาชน #เลือกตั้งครั้งหน้า #ความไว้วางใจ #สสประชาชน
    "ณัฐพงษ์" ปลุกเร้า สส.ปชน. ขออย่าเสียสมาธิ โวลั่นพรรคส้มชนะเลือกตั้งถล่มทลาย https://www.thai-tai.tv/news/19949/ . #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #ประชุมสส #การเมืองบ้านใหญ่ #การเมืองไทย #ทำงานเพื่อประชาชน #เลือกตั้งครั้งหน้า #ความไว้วางใจ #สสประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 504 มุมมอง 0 รีวิว
  • โตแต่ตัว ชั่วร์ยกแก๊ง ไร้ผลงานแถมยังเผาล้างผลาญพรรคอีก พรรคไหนจะรับไปก็คิดให้ดี ฝากชาวชลบุรีไตร่ตรองก่อนเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    โตแต่ตัว ชั่วร์ยกแก๊ง ไร้ผลงานแถมยังเผาล้างผลาญพรรคอีก พรรคไหนจะรับไปก็คิดให้ดี ฝากชาวชลบุรีไตร่ตรองก่อนเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ เบื้องหลังทักษิณยึดอำนาจรัฐบาล ยึดมหาดไทย
    ยุบภูมิใจไทย ดูดคืนสส. รอสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
    #7ดอกจิก
    #ภูมิใจไทย
    #ทักษิณ
    #เบื้องหลัง
    ♣ เบื้องหลังทักษิณยึดอำนาจรัฐบาล ยึดมหาดไทย ยุบภูมิใจไทย ดูดคืนสส. รอสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า #7ดอกจิก #ภูมิใจไทย #ทักษิณ #เบื้องหลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • ฟันฉับ! ‘ทักษิณ’ ยึด มท. หวังผลเลือกตั้งครั้งหน้า กลบเกลื่อนรัฐบาลอิ๊งค์บริหารปท.ล้มเหลว
    https://www.thai-tai.tv/news/19120/
    ฟันฉับ! ‘ทักษิณ’ ยึด มท. หวังผลเลือกตั้งครั้งหน้า กลบเกลื่อนรัฐบาลอิ๊งค์บริหารปท.ล้มเหลว https://www.thai-tai.tv/news/19120/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ชัชชาติ' จากความหวัง สู่คำถามคาใจสังคม เลือกตั้งครั้งหน้าศึกหนัก : ถอนหมุดข่าว 12/05/68
    'ชัชชาติ' จากความหวัง สู่คำถามคาใจสังคม เลือกตั้งครั้งหน้าศึกหนัก : ถอนหมุดข่าว 12/05/68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • "เฉลิมชัย" โต้ "ประชาธิปัตย์" เสียพื้นที่ภาคใต้ หลังพ่ายเลือกตั้งซ่อม เมืองคอน บอกรอดูเลือกตั้งครั้งหน้า
    https://www.thai-tai.tv/news/18397/
    "เฉลิมชัย" โต้ "ประชาธิปัตย์" เสียพื้นที่ภาคใต้ หลังพ่ายเลือกตั้งซ่อม เมืองคอน บอกรอดูเลือกตั้งครั้งหน้า https://www.thai-tai.tv/news/18397/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกตอเรีย สปาร์ตซ์ (Victoria Spartz) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เชื้อสายยูเครน เรียกร้องให้เซเลนสกีมอบดินแดนให้กับรัสเซียในส่วนที่ถูกยึดครองอยู่ไปซะ "เพื่อยุติสงคราม" และยังเรียกร้องให้ชาวยูเครนไม่ลงคะแนนเสียงให้กับเซเลนสกีในการเลือกตั้งครั้งหน้า

    สปาร์ตซ์ ให้สัมภาษณ์กับเดอะ เทเลกราฟ เธอเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐเพียงคนเดียวที่เกิดในยูเครน โดยเธอขยายความว่า “ฉันไม่เข้าใจว่ายูเครนจะพาตัวเองไปอยู่ในสถานะที่สามารถเรียกร้องดินแดนจากการยึดครองคืนได้อย่างไร ถ้าหากพวกเขาชนะสงคราม นั่นมันก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ใช่อย่างนั้น”

    อย่างไรก็ตาม สปาร์ตซ์ รู้ดีว่ามันไม่มีทางออกที่ง่ายเลยสำหรับชาวยูเครน แต่สงครามควรต้องยุติลง “โดยเร็วที่สุด”

    นอกจากนี้ เธอยังมองว่า “หากสงครามยืดเยื้อนานเกินไป มันอาจจะไม่ได้จบลงด้วยการปกครองระบอบประชาธิปไตยในยูเครน”

    เธอยังวิจารณ์เซเลนสกีอย่างรุนแรงเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาในระหว่างการเยือนทำเนียบขาว โดยกล่าวหาว่าเขา “ทำร้ายประชาชนชาวยูเครน” และ “ดูหมิ่นประธานาธิบดีสหรัฐ” หลังจากการเผชิญที่ห้องโอวัลออฟฟิศในทำเนียบขาว

    สปาร์ตซ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการเลือกตั้งในยูเครน “พวกเขาจะมีการเลือกตั้ง และหากชาวยูเครนเลือกเซเลนสกีกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้ชาวยูเครนคงจะสูญเสียประเทศที่เหลือไปแล้วล่ะ”

    วิกตอเรีย สปาร์ตซ์ (Victoria Spartz) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เชื้อสายยูเครน เรียกร้องให้เซเลนสกีมอบดินแดนให้กับรัสเซียในส่วนที่ถูกยึดครองอยู่ไปซะ "เพื่อยุติสงคราม" และยังเรียกร้องให้ชาวยูเครนไม่ลงคะแนนเสียงให้กับเซเลนสกีในการเลือกตั้งครั้งหน้า สปาร์ตซ์ ให้สัมภาษณ์กับเดอะ เทเลกราฟ เธอเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐเพียงคนเดียวที่เกิดในยูเครน โดยเธอขยายความว่า “ฉันไม่เข้าใจว่ายูเครนจะพาตัวเองไปอยู่ในสถานะที่สามารถเรียกร้องดินแดนจากการยึดครองคืนได้อย่างไร ถ้าหากพวกเขาชนะสงคราม นั่นมันก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ใช่อย่างนั้น” อย่างไรก็ตาม สปาร์ตซ์ รู้ดีว่ามันไม่มีทางออกที่ง่ายเลยสำหรับชาวยูเครน แต่สงครามควรต้องยุติลง “โดยเร็วที่สุด” นอกจากนี้ เธอยังมองว่า “หากสงครามยืดเยื้อนานเกินไป มันอาจจะไม่ได้จบลงด้วยการปกครองระบอบประชาธิปไตยในยูเครน” เธอยังวิจารณ์เซเลนสกีอย่างรุนแรงเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาในระหว่างการเยือนทำเนียบขาว โดยกล่าวหาว่าเขา “ทำร้ายประชาชนชาวยูเครน” และ “ดูหมิ่นประธานาธิบดีสหรัฐ” หลังจากการเผชิญที่ห้องโอวัลออฟฟิศในทำเนียบขาว สปาร์ตซ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการเลือกตั้งในยูเครน “พวกเขาจะมีการเลือกตั้ง และหากชาวยูเครนเลือกเซเลนสกีกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้ชาวยูเครนคงจะสูญเสียประเทศที่เหลือไปแล้วล่ะ”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาธิปไตยแบบใด!!?!!

    เอสโตเนียแก้รัฐธรรมนูญห้ามพลเมืองที่ไม่มีหนังสือเดินทางเอสโตเนียซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น

    การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ "จำกัดสิทธิ" ของพลเมืองที่ยังคงใช้หนังสือเดินทางของรัสเซียและเบลารุส

    เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา รัฐสภาเอสโตเนียลงมติอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 93 เสียงจาก 101 เสียง ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลิดรอนสิทธิของพลเมืองประเทศตนเองที่ไม่ยอมเปลี่ยนสัญชาติเพื่อเข้าสู่สหภาพยุโรป โดยที่พลเมืองส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบคือพลเมืองที่ยังคงใช้หนังสือเดินทางรัสเซียและเบลารุส

    ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปรับปรุงดังกล่าว ถูกส่งไปยังประธานาธิบดีเอสโตเนีย อลาร์ คาริส เพื่อลงนามและประกาศใช้ต่อไป


    ตามการแก้ไขเพิ่มเติม เฉพาะพลเมืองที่มีหนังสือเดินทางเอสโตเนียเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น นอกเหนือจากนี้จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเป็นครั้งสุดท้ายในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 19 ตุลาคม นี้

    ลอรี ลาตส์ นักการเมืองที่ลงคะแนน "ไม่เห็นด้วย" กับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “เป็นความผิดพลาด เพราะนี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่เป็นประชาธิปไตย”

    Toomas Uibo นักการเมืองฝ่ายเสรีนิยม กล่าวตอบโต้ ลอรี ลาตส์ โดยระบุว่านี่คือประชาธิปไตยอย่างแท้จริง "เพราะพวกเขามีอิสระ นั่นคือการเลือกเป็นพลเมืองเอสโตเนีย"

    ทางด้านคริสเตน มิชัล นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย กล่าวชื่นชมผลการลงคะแนนครั้งนี้ว่าเป็น "ชัยชนะของทุกคน" และเสริมว่า "การตัดสินใจในชีวิตของพวกเราจะต้องไม่ให้พลเมืองของประเทศผู้รุกราน(หมายถึงรัสเซีย) เข้ามามีส่วนร่วม แต่เราจะตัดสินใจด้วยตัวเราเอง"

    จากข้อมูลในปี 2023 เอสโตเนียมีประชากรอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่งนับว่ามีประชากรน้อยที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป

    และในจำนวนนี้เป็นชาวรัสเซียที่มีเชื้อสายรัสเซียประมาณ 322,700 คน ซึ่งรวมผู้ที่ยังถือหนังสือเดินทางรัสเซียประมาณ 90,000 คน และเบลารุสอีกจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบหมดสิทธิเลือกตั้ง
    ประชาธิปไตยแบบใด!!?!! เอสโตเนียแก้รัฐธรรมนูญห้ามพลเมืองที่ไม่มีหนังสือเดินทางเอสโตเนียซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ "จำกัดสิทธิ" ของพลเมืองที่ยังคงใช้หนังสือเดินทางของรัสเซียและเบลารุส เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา รัฐสภาเอสโตเนียลงมติอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 93 เสียงจาก 101 เสียง ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลิดรอนสิทธิของพลเมืองประเทศตนเองที่ไม่ยอมเปลี่ยนสัญชาติเพื่อเข้าสู่สหภาพยุโรป โดยที่พลเมืองส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบคือพลเมืองที่ยังคงใช้หนังสือเดินทางรัสเซียและเบลารุส ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปรับปรุงดังกล่าว ถูกส่งไปยังประธานาธิบดีเอสโตเนีย อลาร์ คาริส เพื่อลงนามและประกาศใช้ต่อไป ตามการแก้ไขเพิ่มเติม เฉพาะพลเมืองที่มีหนังสือเดินทางเอสโตเนียเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น นอกเหนือจากนี้จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเป็นครั้งสุดท้ายในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 19 ตุลาคม นี้ ลอรี ลาตส์ นักการเมืองที่ลงคะแนน "ไม่เห็นด้วย" กับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “เป็นความผิดพลาด เพราะนี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่เป็นประชาธิปไตย” Toomas Uibo นักการเมืองฝ่ายเสรีนิยม กล่าวตอบโต้ ลอรี ลาตส์ โดยระบุว่านี่คือประชาธิปไตยอย่างแท้จริง "เพราะพวกเขามีอิสระ นั่นคือการเลือกเป็นพลเมืองเอสโตเนีย" ทางด้านคริสเตน มิชัล นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย กล่าวชื่นชมผลการลงคะแนนครั้งนี้ว่าเป็น "ชัยชนะของทุกคน" และเสริมว่า "การตัดสินใจในชีวิตของพวกเราจะต้องไม่ให้พลเมืองของประเทศผู้รุกราน(หมายถึงรัสเซีย) เข้ามามีส่วนร่วม แต่เราจะตัดสินใจด้วยตัวเราเอง" จากข้อมูลในปี 2023 เอสโตเนียมีประชากรอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่งนับว่ามีประชากรน้อยที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป และในจำนวนนี้เป็นชาวรัสเซียที่มีเชื้อสายรัสเซียประมาณ 322,700 คน ซึ่งรวมผู้ที่ยังถือหนังสือเดินทางรัสเซียประมาณ 90,000 คน และเบลารุสอีกจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบหมดสิทธิเลือกตั้ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 685 มุมมอง 0 รีวิว
  • "คาลิน จอร์เชสกู" ลงทะเบียนสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว

    ขณะเดียวกัน ทางการโรมาเนียพยายามขัดขวางไม่ให้จอร์เชสคู ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้

    จอร์เชสคู ถูกมองว่าเป็นโปรรัสเซีย และกำลังเป็นเต็งหนึ่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียที่กำลังจะเกิดขึ้น

    สื่อรายงานว่า ทางการโรมาเนียกำลังใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อขัดขวางการลงสมัครของจอร์เชสคู โดยกำลังพิจารณาใช้เหตุผลทางด้านกฎหมาย เกี่ยวกับข้อกล่าวหาของเขาที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งเขาถูกตั้งข้อกล่าวหามากมายหลายคดี

    แม้จะมีความพยายามขัดขวางจากรัฐบาล แต่สื่อก็ยังระบุว่านี่เป็นครั้งที่สองที่จอร์เชสคูมีคะแนนจากผลสำรวจขึ้นนำคู่แข่งรายอื่นอย่างมาก
    "คาลิน จอร์เชสกู" ลงทะเบียนสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว ขณะเดียวกัน ทางการโรมาเนียพยายามขัดขวางไม่ให้จอร์เชสคู ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้ จอร์เชสคู ถูกมองว่าเป็นโปรรัสเซีย และกำลังเป็นเต็งหนึ่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียที่กำลังจะเกิดขึ้น สื่อรายงานว่า ทางการโรมาเนียกำลังใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อขัดขวางการลงสมัครของจอร์เชสคู โดยกำลังพิจารณาใช้เหตุผลทางด้านกฎหมาย เกี่ยวกับข้อกล่าวหาของเขาที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งเขาถูกตั้งข้อกล่าวหามากมายหลายคดี แม้จะมีความพยายามขัดขวางจากรัฐบาล แต่สื่อก็ยังระบุว่านี่เป็นครั้งที่สองที่จอร์เชสคูมีคะแนนจากผลสำรวจขึ้นนำคู่แข่งรายอื่นอย่างมาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ยืนยันว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังอยู่ในอำนาจมา 9 ปี ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากบรรดาสมาชิกรัฐสภาจากพรรคลิเบอรัลของเขาเอง
    .
    ทรูโด ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำหัวก้าวหน้าที่โดดเด่นที่สุดในโลก กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่าเขาจะยังอยู่ในตำแหน่งทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้นำพรรคลิเบอรัลต่อไป จนกว่าพรรคจะเลือกผู้นำคนหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
    .
    "ประเทศแห่งนี้ควรได้เลือกอย่างแท้จริงในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และมันชัดเจนกับผมว่า ถ้าผมอยากต่อสู้ภายใน ผมคงไม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในศึกเลือกตั้งดังกล่าว" ทรูโดกล่าว
    .
    อย่างไรก็ตาม ด้วยที่เขาบอกเช่นกันว่ารัฐสภาจะปิดสมัยการประชุมไปจนถึงวันที่ 24 มีนาคม ศึกเลือกตั้งอย่างเร็วที่สุดไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนเดือนพฤษภาคม ดังนั้น ทรูโด จึงจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป อย่างน้อยๆ ในเบื้องต้น เพื่อรับมือกับคำขู่รีดภาษีของว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีกำหนดสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    เดิมทีศึกเลือกตั้งครั้งถัดไปมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม และผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ แสดงให้เห็นว่าความโกรธเคืองของประชาชนต่อราคาที่พุ่งสูงและขาดแคลนบ้านในราคาที่เอื้อมถึง จะผลักพวกเขาหันไปเลือกพรรคคอนเซอร์เวทีฟ พรรคฝ่ายค้านและมอบความพ่ายแพ้แก่พรรคลิเบอรัล ไม่สำคัญว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนพรรค
    .
    ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาสมาชิกพรรคลิเบอรัลเอง เรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ ทรูโด ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากรัฐมนตรีคลังของเขาลาออกไป และกล่าวหาเขาพยายามใช้ลูกเล่นทางการเมืองเพื่อหวังดึงคะแนนนิยมกลับมา
    .
    ทรูโด วัย 53 ปี เข้ารับตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน 2015 ด้วยสารแห่งความหวัง และชนะเลือกตั้ง 2 รอบ กลายเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่ครองเก้าอี้ยาวนานที่สุดของแคนาดา และได้รับเสียงชื่นชมจากบรรดาพวกหัวก้าวหน้าทั้งหลาย ต่อกรณีที่มุ่งเน้นนโยบายความเสมอภาคทางเพศ
    .
    อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมของเขาดำดิ่งลงเมื่อราว 2 ปีก่อน ท่ามกลางราคาสินค้าและบ้านที่พุ่งสูงในยุคหลังโควิด-19 และนับตั้งแต่นั้นคะแนนนิยมของเขาก็ไม่ฟื้นกลับมาอีกเลย
    .
    ผลสำรวจความคิดเห็นของอิปซอส แคนาดา ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พบว่าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่ตัดสินใจแล้วถึง 45% ขณะที่พรรคลิเบอรัลและพรรคนิวเดโมแครตส์ หัวเอียงซ้าย มีเสียงสนับสนุนพรรคละ 20% ซึ่งหากผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ มันจะหมายความว่าพรรคอนุรักษนิยมจะคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001574
    ..............
    Sondhi X
    จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ยืนยันว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังอยู่ในอำนาจมา 9 ปี ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากบรรดาสมาชิกรัฐสภาจากพรรคลิเบอรัลของเขาเอง . ทรูโด ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำหัวก้าวหน้าที่โดดเด่นที่สุดในโลก กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่าเขาจะยังอยู่ในตำแหน่งทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้นำพรรคลิเบอรัลต่อไป จนกว่าพรรคจะเลือกผู้นำคนหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า . "ประเทศแห่งนี้ควรได้เลือกอย่างแท้จริงในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และมันชัดเจนกับผมว่า ถ้าผมอยากต่อสู้ภายใน ผมคงไม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในศึกเลือกตั้งดังกล่าว" ทรูโดกล่าว . อย่างไรก็ตาม ด้วยที่เขาบอกเช่นกันว่ารัฐสภาจะปิดสมัยการประชุมไปจนถึงวันที่ 24 มีนาคม ศึกเลือกตั้งอย่างเร็วที่สุดไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนเดือนพฤษภาคม ดังนั้น ทรูโด จึงจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป อย่างน้อยๆ ในเบื้องต้น เพื่อรับมือกับคำขู่รีดภาษีของว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีกำหนดสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . เดิมทีศึกเลือกตั้งครั้งถัดไปมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม และผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ แสดงให้เห็นว่าความโกรธเคืองของประชาชนต่อราคาที่พุ่งสูงและขาดแคลนบ้านในราคาที่เอื้อมถึง จะผลักพวกเขาหันไปเลือกพรรคคอนเซอร์เวทีฟ พรรคฝ่ายค้านและมอบความพ่ายแพ้แก่พรรคลิเบอรัล ไม่สำคัญว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนพรรค . ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาสมาชิกพรรคลิเบอรัลเอง เรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ ทรูโด ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากรัฐมนตรีคลังของเขาลาออกไป และกล่าวหาเขาพยายามใช้ลูกเล่นทางการเมืองเพื่อหวังดึงคะแนนนิยมกลับมา . ทรูโด วัย 53 ปี เข้ารับตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน 2015 ด้วยสารแห่งความหวัง และชนะเลือกตั้ง 2 รอบ กลายเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่ครองเก้าอี้ยาวนานที่สุดของแคนาดา และได้รับเสียงชื่นชมจากบรรดาพวกหัวก้าวหน้าทั้งหลาย ต่อกรณีที่มุ่งเน้นนโยบายความเสมอภาคทางเพศ . อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมของเขาดำดิ่งลงเมื่อราว 2 ปีก่อน ท่ามกลางราคาสินค้าและบ้านที่พุ่งสูงในยุคหลังโควิด-19 และนับตั้งแต่นั้นคะแนนนิยมของเขาก็ไม่ฟื้นกลับมาอีกเลย . ผลสำรวจความคิดเห็นของอิปซอส แคนาดา ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พบว่าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่ตัดสินใจแล้วถึง 45% ขณะที่พรรคลิเบอรัลและพรรคนิวเดโมแครตส์ หัวเอียงซ้าย มีเสียงสนับสนุนพรรคละ 20% ซึ่งหากผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ มันจะหมายความว่าพรรคอนุรักษนิยมจะคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001574 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1495 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6 มกราคม 2568 -รายงานข่าวไฟแนนซ์เชียลไทม์ระบุว่า
    นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ประกาศลาออกหลังจากดำรงตำแหน่งมาเกือบ 10 ปี หลังจากมีการคาดเดาอนาคตทางการเมืองของเขามาหลายสัปดาห์

    เขาเสริมว่า เขาจะระงับการทำงานของรัฐสภาจนถึงวันที่ 24 มีนาคม เพื่อให้พรรคเสรีนิยมของเขามีเวลาในการเลือกผู้นำคนใหม่

    ทรูโดกล่าวว่า “ผมตั้งใจจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี หลังจากที่พรรคได้เลือกผู้นำคนใหม่แล้ว”

    ทรูโดกล่าวที่เมืองออตตาวาเมื่อวันจันทร์ว่า “รัฐสภาหยุดชะงักมาหลายเดือนแล้ว ประเทศนี้สมควรได้รับตัวเลือกที่แท้จริงในการเลือกตั้งครั้งหน้า และสำหรับผมแล้ว ชัดเจนแล้วว่า หากผมต้องต่อสู้ภายใน ผมจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนั้น”

    ความนิยมของนายทรูโด วัย 53 ปี ตกต่ำลงเป็นประวัติศาสตร์ หลังจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งและสมาชิกพรรคของเขาหันหลังให้กับเขา หลังจากที่มีการคาดเดากันอย่างวุ่นวายเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารประเทศในกลุ่ม G7

    พรรคประชาธิปไตยใหม่ (NDP) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญในรัฐสภา ประกาศก่อนคริสต์มาสว่าไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยของพรรคเสรีนิยมอีกต่อไป

    พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพรรค NDP ยังกล่าวอีกว่าพวกเขาพร้อมที่จะผ่านญัตติไม่ไว้วางใจในสภาสามัญ ซึ่งอาจกระตุ้นให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด

    นายปิแอร์ ปัวลิเวียร์ ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมของเขามีคะแนนนำพรรคเสรีนิยม 25 คะแนนในผลสำรวจ ได้เรียกร้องให้นายทรูโดลาออกหรือจัดการเลือกตั้งใหม่หลายครั้ง โดยอ้างถึงความท้าทายที่ใกล้จะเกิดขึ้นในแคนาดากับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่

    ทรัมป์ได้ล้อเลียนนายทรูโดซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเรียกเขาว่าผู้ว่าการรัฐที่ 51 ของสหรัฐ ซึ่งเป็นการจุดชนวนให้นายกรัฐมนตรีลาออก

    ทรูโดเกิดที่เมืองออตตาวา เป็นบุตรชายของปิแอร์ ทรูโด ผู้นำพรรคเสรีนิยมผู้มีเสน่ห์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 1968 ถึง 1979 และตั้งแต่ปี 1980 ถึง 1984 เคยทำงานเป็นครูสอนละครในโรงเรียนที่เมืองแวนคูเวอร์ ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยมในเดือนเมษายน 2013

    เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 เมื่อผู้มาใหม่หน้าใหม่พาพรรคเสรีนิยมของเขาไปสู่ชัยชนะอย่างถล่มทลายเหนือพรรคอนุรักษ์นิยมและสตีเฟน ฮาร์เปอร์ ผู้นำที่ไม่เป็นที่นิยมของพวกเขา

    ในช่วงดำรงตำแหน่ง ทรูโดได้ผ่านกฎหมายเพื่อยกเลิกกฎหมายยาเสพติด ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และส่งเสริมการปรองดองกับชนพื้นเมือง ตลอดจนความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 25,000 คนที่หลบหนีสงครามในประเทศบ้านเกิดของพวกเขา แม้จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับระดับผู้อพยพ

    แต่ความนิยมในตัวทรูโดก็ลดลงในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องจากค่าครองชีพที่พุ่งสูงและวิกฤตการณ์ด้านที่อยู่อาศัย ความพยายามของเขาในการกระตุ้นเศรษฐกิจของแคนาดาหลังการระบาดใหญ่ผ่านการย้ายถิ่นฐานในระดับสูงสุดยังเผชิญกับการต่อต้านอย่างกว้างขวาง

    การสำรวจความคิดเห็นของแองกัส รีดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมแสดงให้เห็นว่าเปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ตั้งใจจะลงคะแนนให้พรรคเสรีนิยมลดลงเหลือ 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ทรูโดขึ้นสู่อำนาจ ในขณะที่คะแนนความไม่เห็นด้วยของนายกรัฐมนตรี ซึ่งผ่าน "Trudeau Tracker" ของผู้ให้บริการสำรวจความคิดเห็น อยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 74 เปอร์เซ็นต์

    การลาออกอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมของคริสเทีย ฟรีแลนด์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังที่เคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรี หลังจากเกิดข้อพิพาทกับทรูโดเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ทำให้เกิดการเรียกร้องให้เขาลาออกจากทั้งฝ่ายค้านและพรรคของตัวเองอีกครั้ง

    หลังจากการเคลื่อนไหวของฟรีแลนด์ จัคมีท ซิงห์ หัวหน้าพรรค NDP กล่าวเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมว่าพรรคของเขามีความคิดที่จะถอนการสนับสนุนจากทรูโดหรือพรรคเสรีนิยม ซิงห์ให้คำมั่นว่ากลุ่มผู้ลงคะแนนของพรรคของเขาจะพิจารณาโค่นล้มรัฐบาลเมื่อรัฐสภาเปิดประชุมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งอาจส่งผลให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด https://www.ft.com/content/dd453658-4d2c-487d-87f1-24b0129d8d52
    6 มกราคม 2568 -รายงานข่าวไฟแนนซ์เชียลไทม์ระบุว่า นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ประกาศลาออกหลังจากดำรงตำแหน่งมาเกือบ 10 ปี หลังจากมีการคาดเดาอนาคตทางการเมืองของเขามาหลายสัปดาห์ เขาเสริมว่า เขาจะระงับการทำงานของรัฐสภาจนถึงวันที่ 24 มีนาคม เพื่อให้พรรคเสรีนิยมของเขามีเวลาในการเลือกผู้นำคนใหม่ ทรูโดกล่าวว่า “ผมตั้งใจจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี หลังจากที่พรรคได้เลือกผู้นำคนใหม่แล้ว” ทรูโดกล่าวที่เมืองออตตาวาเมื่อวันจันทร์ว่า “รัฐสภาหยุดชะงักมาหลายเดือนแล้ว ประเทศนี้สมควรได้รับตัวเลือกที่แท้จริงในการเลือกตั้งครั้งหน้า และสำหรับผมแล้ว ชัดเจนแล้วว่า หากผมต้องต่อสู้ภายใน ผมจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนั้น” ความนิยมของนายทรูโด วัย 53 ปี ตกต่ำลงเป็นประวัติศาสตร์ หลังจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งและสมาชิกพรรคของเขาหันหลังให้กับเขา หลังจากที่มีการคาดเดากันอย่างวุ่นวายเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารประเทศในกลุ่ม G7 พรรคประชาธิปไตยใหม่ (NDP) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญในรัฐสภา ประกาศก่อนคริสต์มาสว่าไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยของพรรคเสรีนิยมอีกต่อไป พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพรรค NDP ยังกล่าวอีกว่าพวกเขาพร้อมที่จะผ่านญัตติไม่ไว้วางใจในสภาสามัญ ซึ่งอาจกระตุ้นให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด นายปิแอร์ ปัวลิเวียร์ ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมของเขามีคะแนนนำพรรคเสรีนิยม 25 คะแนนในผลสำรวจ ได้เรียกร้องให้นายทรูโดลาออกหรือจัดการเลือกตั้งใหม่หลายครั้ง โดยอ้างถึงความท้าทายที่ใกล้จะเกิดขึ้นในแคนาดากับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ทรัมป์ได้ล้อเลียนนายทรูโดซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเรียกเขาว่าผู้ว่าการรัฐที่ 51 ของสหรัฐ ซึ่งเป็นการจุดชนวนให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทรูโดเกิดที่เมืองออตตาวา เป็นบุตรชายของปิแอร์ ทรูโด ผู้นำพรรคเสรีนิยมผู้มีเสน่ห์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 1968 ถึง 1979 และตั้งแต่ปี 1980 ถึง 1984 เคยทำงานเป็นครูสอนละครในโรงเรียนที่เมืองแวนคูเวอร์ ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยมในเดือนเมษายน 2013 เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 เมื่อผู้มาใหม่หน้าใหม่พาพรรคเสรีนิยมของเขาไปสู่ชัยชนะอย่างถล่มทลายเหนือพรรคอนุรักษ์นิยมและสตีเฟน ฮาร์เปอร์ ผู้นำที่ไม่เป็นที่นิยมของพวกเขา ในช่วงดำรงตำแหน่ง ทรูโดได้ผ่านกฎหมายเพื่อยกเลิกกฎหมายยาเสพติด ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และส่งเสริมการปรองดองกับชนพื้นเมือง ตลอดจนความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 25,000 คนที่หลบหนีสงครามในประเทศบ้านเกิดของพวกเขา แม้จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับระดับผู้อพยพ แต่ความนิยมในตัวทรูโดก็ลดลงในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องจากค่าครองชีพที่พุ่งสูงและวิกฤตการณ์ด้านที่อยู่อาศัย ความพยายามของเขาในการกระตุ้นเศรษฐกิจของแคนาดาหลังการระบาดใหญ่ผ่านการย้ายถิ่นฐานในระดับสูงสุดยังเผชิญกับการต่อต้านอย่างกว้างขวาง การสำรวจความคิดเห็นของแองกัส รีดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมแสดงให้เห็นว่าเปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ตั้งใจจะลงคะแนนให้พรรคเสรีนิยมลดลงเหลือ 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ทรูโดขึ้นสู่อำนาจ ในขณะที่คะแนนความไม่เห็นด้วยของนายกรัฐมนตรี ซึ่งผ่าน "Trudeau Tracker" ของผู้ให้บริการสำรวจความคิดเห็น อยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 74 เปอร์เซ็นต์ การลาออกอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมของคริสเทีย ฟรีแลนด์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังที่เคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรี หลังจากเกิดข้อพิพาทกับทรูโดเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ทำให้เกิดการเรียกร้องให้เขาลาออกจากทั้งฝ่ายค้านและพรรคของตัวเองอีกครั้ง หลังจากการเคลื่อนไหวของฟรีแลนด์ จัคมีท ซิงห์ หัวหน้าพรรค NDP กล่าวเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมว่าพรรคของเขามีความคิดที่จะถอนการสนับสนุนจากทรูโดหรือพรรคเสรีนิยม ซิงห์ให้คำมั่นว่ากลุ่มผู้ลงคะแนนของพรรคของเขาจะพิจารณาโค่นล้มรัฐบาลเมื่อรัฐสภาเปิดประชุมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งอาจส่งผลให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด https://www.ft.com/content/dd453658-4d2c-487d-87f1-24b0129d8d52
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1028 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีจากพรรคกรีน ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของชอลซ์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ประกาศว่าหากเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี เขาจะอนุมัติการส่งมอบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลทอรัส(Taurus)ให้กับยูเครน

    ขีปนาวุธดังกล่าวมีพิสัยทำการไกลถึงมอสโก กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในวงการเมืองเยอรมนี ซึ่งชอลซ์ปฏิเสธคำขอของยูเครนมาโดยตลอด
    โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีจากพรรคกรีน ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของชอลซ์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ประกาศว่าหากเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี เขาจะอนุมัติการส่งมอบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลทอรัส(Taurus)ให้กับยูเครน ขีปนาวุธดังกล่าวมีพิสัยทำการไกลถึงมอสโก กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในวงการเมืองเยอรมนี ซึ่งชอลซ์ปฏิเสธคำขอของยูเครนมาโดยตลอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาว"Thaitimes"ทุกท่านคะ"รบ.ออกกฎหมายให้สัญชาติต่างด้าวพี่น้องคิดอย่างไร?"ถ้าเป็นพี่น้องชาติพันธุ์ชายขอบที่อาศัยในไทยมานานแสนนานสมควรให้เขาๆคือคนไทยอยู่แล้ว"แต่ประเด็นการให้สัญชาติต่างด้าวหนีเข้าเมืองมาเพราะการสู้รบและไม่ต้องการเป็นทหาร!!#ขอคัดค้านถึงที่สุดไม่เห็นด้วยนี่มันขายชาติชัดๆเลยเราจะยอมให้คนชาติอื่นมาอยู่บนหัวเรางั้นหรือ"นกม"พยายามสร้างสตอรี่ต่างๆ"เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจประชาชนไปจากเรื่องเกาะกูด(อ่าวไทยใช่หรือไม่?)และจะเอาคนพวกนี้มาเป็นฐานเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือเปล่า"ยุคนี้ฝ่ายค้านก็ไม่มีคิดกันแต่จะแก้"รธน60'ชุดปราบโกงไม่มีวันหมดอายุความ'นกมกลัว'รธน.เหมือนผีกลัวยันต์"จะแก้ ม.112ไม่รู้เดือดร้อนอะไรปชช.เขาไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย&ประชาชนออกไปขับไล่ไม่รู้กี่ครั้งล้มตายมากมายมันก็กลับมาโกงอีกเหมือนเดิม"คิดว่าพวกตะวันตกหนุนหลังและจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรออย่างเลวที่สุดก็สู้กันแค่ตายกันไปข้างหนึ่งตายอย่าง"สิงห์ ดีกว่าอยู่อย่าง ควาย อยู่บนแผ่นดินยังคิดเผาแผ่นดินมึงจะมีจุดจบไม่ดีแน่
    ชาว"Thaitimes"ทุกท่านคะ"รบ.ออกกฎหมายให้สัญชาติต่างด้าวพี่น้องคิดอย่างไร?"ถ้าเป็นพี่น้องชาติพันธุ์ชายขอบที่อาศัยในไทยมานานแสนนานสมควรให้เขาๆคือคนไทยอยู่แล้ว"แต่ประเด็นการให้สัญชาติต่างด้าวหนีเข้าเมืองมาเพราะการสู้รบและไม่ต้องการเป็นทหาร!!#ขอคัดค้านถึงที่สุดไม่เห็นด้วยนี่มันขายชาติชัดๆเลยเราจะยอมให้คนชาติอื่นมาอยู่บนหัวเรางั้นหรือ"นกม"พยายามสร้างสตอรี่ต่างๆ"เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจประชาชนไปจากเรื่องเกาะกูด(อ่าวไทยใช่หรือไม่?)และจะเอาคนพวกนี้มาเป็นฐานเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือเปล่า"ยุคนี้ฝ่ายค้านก็ไม่มี🤝คิดกันแต่จะแก้"รธน60'ชุดปราบโกงไม่มีวันหมดอายุความ'นกมกลัว'รธน.เหมือนผีกลัวยันต์😱"จะแก้ ม.112ไม่รู้เดือดร้อนอะไรปชช.เขาไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย&ประชาชนออกไปขับไล่ไม่รู้กี่ครั้งล้มตายมากมายมันก็กลับมาโกงอีกเหมือนเดิม"คิดว่าพวกตะวันตกหนุนหลังและจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรออย่างเลวที่สุดก็สู้กันแค่ตายกันไปข้างหนึ่งตายอย่าง"สิงห์ ดีกว่าอยู่อย่าง ควาย อยู่บนแผ่นดินยังคิดเผาแผ่นดินมึงจะมีจุดจบไม่ดีแน่👇🔥👹
    Like
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts