• ตอน 2

    จิ๊กโก๋ปากซอย สร้างวินมอ’ไซค์



    อเมริกาเป็นนักวางแผนตัวพ่อ อเมริกามีแผนสำหรับทุกประเทศเป้าหมาย ทุกขั้นตอน เขียนแผนอย่างละเอียด มีรายงานทุกเรื่องที่เห็นว่าสำคัญ ….เก็บเรื่องระบบทุนนิยมไว้ก่อน เด็กมันยังละอ่อนนัก เดี๋ยวมันตกใจ วิ่งหนีรอดตาข่าย จะกินอาหารอร่อยต้องใจเย็นๆ

    แผนหมายเลข 1 สำหรับการเคี้ยวไทยของอเมริกา ตาม Pax Americana เน้นเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคงนำหน้า ดังนั้น ต้องเปลี่ยนประเทศไทยจากที่เป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรมให้ได้ก่อน เรื่องความมั่นคงอย่าเพิ่งถาม เดี๋ยวจะเห็นว่ามาอย่างไร

    อเมริกา เป็นนักวางแผนที่มีจิตวิทยาสูง คนเราน่ะนะ จะให้ทำอะไร มันต้องให้สบายกระเป๋าก่อน มีเงินแล้วมันถึงจะพูดกันรู้เรื่อง แหม! มันเดินตามกันเปี๊ยบเลย ใครนะ ที่ใช้เงินเข้าล่อ แบบคุณพ่ออเมริกา

    ปี พ.ศ.2501 อเมริกาจึงส่งผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลก เป็นของขวัญให้รัฐบาลสฤษดิ์ มาเป็นทีมใหญ่ ไทยแลนด์ดีใจเหมือนได้แก้ว

    กลุ่มผู้เชี่ยวชาญขนกันมาทำการสำรวจประเทศไทยอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดูทั้งบนดินใต้ดินใต้น้ำในทะเล ทุกซอก ทุกหลุม ประมาณว่าแทบจะถลกผ้านุ่งคุณยายดูยังงั้นเชียว สำรวจอยู่ 1 ปีจึงเสร็จ เสร็จแล้วก็ทำรายงานสำรวจชุดใหญ่ ส่งให้คุณพ่ออเมริกา ชุดเล็กก็เสนอให้คุณป๋าผ้าขะม้าไทย

    (แสดงว่ามันดูกันละเอียดจริง ไม่เหมือนข้าราชการบ้านเราไปดูงานบ้านเขาเลยนะ ไป 15 วัน ช้อปปิ้งเสีย 10 วัน เข้าบ่อนอีก 5 วัน อ้าว แล้วดูงานตอนไหน ก็ตอนขึ้นเครื่องกลับ หลับฝันเอาไง บ้านเรามันถึงเจริญ)

    ผลสำรวจสรุปว่า เพื่อทดแทนการนำเข้า ที่ทำให้ไทยแลนด์ขาดดุลการค้า ฝรั่งบอกว่า ไทยควรเปลี่ยนจากประเทศกสิกรรม ทำการเกษตร มาเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทำการผลิตสินค้าส่งออก เขียนตามโผที่ล็อกไว้เลย กองสลากเรายังล็อกโผไม่ได้เท่านี้

    รายงานสำรวจดังกล่าว เป็นไปตามใบสั่งคุณพ่ออเมริกา ที่ต้องการให้ประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย (ตอนนั้นเราก็เป็นประเทศด้อยนะ ไม่ต้องค้อน ตอนนี้ก็ยังด้อยอยู่อีกหลายเรื่อง) เปิดทางให้ทุนอเมริกัน เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าอุตสาหกรรม นอกจากอเมริกา จะได้ประโยชน์ในการขยายการลงทุนแล้ว อเมริกาจะได้ขายเครื่อง จักร และสารพัดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในขบวนการผลิต เช่น พลังงานไฟฟ้า น้ำมัน เขื่อน อุปกรณ์เทคนิค อุปกรณ์การขนส่ง ฯลฯ ให้ไทยอีกด้วย

    สิ่งที่ไทยได้ขายคือ วัตถุดิบบางอย่างที่มีในประเทศและแรงงาน แค่นั้นเอง ….อืมมม คุ้มแสนคุ้ม…

    คุณป๋าไทยเมื่อได้รับรายงานสำรวจฯ ก็เนื้อเต้นไปหมด เห็นโอกาสทองทำเงินอยู่ข้างหน้า… งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข …คุณป๋าไทยรีบออกคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติทันที ในปี พ.ศ.2504 และนั่นคือกำเนิดสภาพัฒน์ฯ ที่เรารู้จัก

    สภาพัฒน์ฯ ทำหน้าที่วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึงปัจจุบัน ตามแนวทางที่ฝรั่ง (หลอก) ให้ไทยเดิน

    ควรรู้ด้วยว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ฉบับที่ 1 ใช้รายงานธนาคารโลก ฉบับใบสั่งทั้งฉบับนั่นแหละ แปลเป็นไทย ทำเป็นแผนแม่บท ง่ายดีจัง

    ไม่ต้องเสียเวลา ไทยมีส่วนร่วมเพียงในฐานะผู้รับบัญชา ขอรับกระผม

    นอกจากนี้แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ตั้งแต่ฉบับที่ 1 ถึง 6 เดินตามแนวทางรายงานธนาคารโลกทั้งสิ้น ปัจจุบันเป็นฉบับที่ 12 ซึ่งก็ไม่มีแนวทางพัฒนาประเทศ ที่ชัดเจนเหมาะสมกับสภาพ และสภาวะของประเทศ แถม เละเทะเหมือนกินจับฉ่าย

    ควรรู้อีกด้วยว่าในรายงานของธนาคารโลก ไม่เน้นถึงการพัฒนาการปลูกข้าว ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย ตรงกันข้ามดันมีข้อเสนอให้เก็บพรีเมี่ยมข้าว!

    พอจะเห็นกันบ้างหรือยังว่า สิ่งที่เรียกว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯของขวัญจากคุณพ่ออเมริกา แท้จริงแล้ว เป็นบัวหิมะพันปีเพิ่มพลัง หรือ ยาละลายกระดูกสลายพลัง

    นักล่าอาณานิคมรุ่นใหม่นี่เยี่ยมจริงๆ

    หลังจากนั้น การพัฒนาประเทศไทยก็เดินตามแนวที่คุณพ่ออเมริกากำหนด หรือกำกับ ผ่านหน่วยงานธนาคารโลก (World Bank), IMF, IFC, ADB ฯลฯ ที่เราขยันกู้เขามาตลอด เริ่มเข้าใจหรือยังครับ ทำไมเขาถึงต้องตั้งธนาคารโลก, IMF ฯลฯ

    สัญญาเงินกู้ทุกฉบับของ World Bank, IMF , IFC จะมีข้อกำหนดบังคับผู้กู้ ตามที่คุณพ่ออเมริกาต้อง การ ให้โลกเดินไปในทิศทางที่คุณพ่อและพวกต้องการคือ ทุนนิยมเสรี นั่นเอง

    อเมริกาสามารถควบคุมธนาคารโลก, IMF, IFC ได้ในกำมือ เพราะอเมริกาจ่ายเงินสนับสนุนสูงที่สุดมากกว่าประเทศอื่นๆ

    พูดให้ชัดธนาคารโลก, IMF, IFC ก็เด็กในกระเป๋าอเมริกานั่นแหละ!

    แต่การพัฒนาประเทศ จะเดินตามใบสั่งของคุณพ่ออเมริกาไม่ได้ ถ้าไม่มีข้าราชการที่จูงง่าย พร้อมเป็นขี้ข้า ไม่ว่าจะเป็นขี้ข้าฝรั่ง หรือนักการเมืองไทย เห็นๆ กันอยู่ตั้งกะสมัย 50 ปีก่อน จนถึงเดี๋ยวนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง

    ข้าราชการที่มีความสามารถ แต่พร้อมที่จะถูกฝรั่งหลอกใช้ (เอ๊ะ หรือเต็มใจ!)ที่เรียกกันว่า technocrat (technocrat ต้นแบบก็อย่างนายเกษม จาติกวนิช นายอานันท์ ปันยารชุน นายอำนวย วีรวรรณ นั่นแหละ) ก็เป็นผู้รับแผนคุณพ่อฝรั่งมาดำเนินการ

    Technocrat เหล่านี้มาจากไหนล่ะ? อ้า! เดี๋ยวต้องหาที่มาแบบ CSI (Crime Scene Investigation สำหรับผู้ไม่ได้ดูหนัง ดูแต่ละคร ก็นึกถึงคุณหมอพรทิพย์หัวฟูคนเก่งของเราแล้วกัน ประเภทสืบจากศพอะไรทำนองนั้นแหละครับ)

    Technocrat เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้จบการศึกษาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากอังกฤษและอเมริกา มีความคุ้นเคยกับระบบการศึกษา ตำรับตำรา วิชาการ ความคิด ที่ฝรั่งแป๊ะติดใส่หัวเอาไว้ตั้งแต่สมัยไปเรียนหนังสือ ท่านเหล่านั้นก็มีวิชาความรู้เพิ่มพูน ฝรั่งสอนอะไรก็จด ฝรั่งพูดอะไรก็จำ ทำตัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร (ฮา) กลับมาก็ฟิตเปรี๊ยะ เครื่องถ่ายอัดสำเนาไว้เต็ม

    คิดว่าบ้านเมืองเราจะเจริญได้ ต้องดูจากที่ฝรั่งเขาพัฒนาบ้านเมืองเขา ไม่เคยใช้สมองของตัวคิดบ้างว่า บ้านเขากับบ้านเราน่ะ มันต่างกันขนาดไหน

    ดูภูมิประเทศ อากาศ ทรัพยากร ความถนัด ประเพณี ฯลฯ โอ้ยสารพัด มันเหมือนกันตรงไหน ข้างหนึ่งหัวดำตัวเหลือง อีกข้างหนึ่งหัวทองตัวขาวเผือด ข้างหนึ่งหนาวหิมะตก ข้างหนึ่งเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกน้ำท่วม ยังคิดก็อบปี้ตะบี้ตะบันท่าเดียว เพราะถูกทำให้เชื่อว่า ฝรั่งนั้นฉลาดกว่าเรา สิ่งที่เขาคิด ดีกว่าที่เราคิด มันฝังหัว ตั้งกะไปเรียน prep school หรือ public school กับฝรั่งมาแล้ว

    ดังนั้น เมื่อฝรั่งบอกเดินหน้าเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทุกท่านก็ลุย! เฮ้อ! เศร้าใจ

    การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย เมื่อกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด มันก็ผิดไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่แก้ไข คนอะไรเดินใส่เสื้อติดกระดุมเขย่งมาเกือบ 60 ปี ยังไม่รู้ตัว

    นิคมอุตสาหกรรม จึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แล้วดอกเห็ดพวกนี้ไม่รู้เป็นอะไร ก็ชอบขึ้นอยู่ตามที่ลุ่ม ซึ่งเป็นทางเดินของน้ำ ดูนิคมบางชัน นิคมแถวอยุธยา บางปะอิน เป็นตัวอย่างแล้วกัน ยิ่งนานวันดอกเห็ดก็แผ่ขยายบานกินเมืองเข้าไปลึกขวางทางไหลหลากของน้ำ ซึ่งมาประจำปี

    ดังนั้น ปัญหาน้ำท่วมก็ยังจะมีอยู่ต่อไป ต้องใช้เรือดำน้ำกี่ลำ หญ้าแพรกเท่าไหร่ก็เอาไม่อยู่ ถ้ายังดันทุรังเดินใส่เสื้อกระดุมเขย่งกันอยู่อย่างนี้

    นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องท่าเรือแหลมฉบัง ผาแดง แทนทาลัม นิคมอุตสาหกรรมระยอง โรงไฟฟ้าบ้านกรูด การวางท่อแก๊ส ฯลฯ ที่ไม่เข้ากับสภาพภูมิประเทศ และความเป็นอยู่ของท้องถิ่นนะ แค่นี้ก็น่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว

    แหล่งอุตสาหกรรมใหญ่ทั้งหลาย สร้างรายได้ให้กับผู้ถือหุ้นอย่างมหาศาล คนท้องถิ่นได้แต่ค่าแรงวันละไม่กี่บาท แล้วใครเป็นผู้ถือหุ้น… ก็คนต่างชาติส่วนใหญ่ บวกกับคนไทยขายชาติที่ถือหุ้นแทนฝรั่งไง

    คนท้องถิ่นไม่เคยได้เป็นผู้ถือหุ้น!

    ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่ทำกิน และที่สำคัญ สุขอนามัยของชาวบ้าน ไม่เคยเป็นปัจจัยที่ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุนต่างชาติ ให้ความสนใจหรือห่วงใย

    ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุน ให้ความสนใจแต่ ผลผลิต และผลกำไรของพวกเขาเท่านั้น

    ส่วนนักการเมืองไทย ก็นึกแต่ค่าหัวคิว ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ที่จะได้รับ รับแล้วเอาไปซุกไว้ที่ไหนดีหนอ หลังบ้าน ใต้เตียง ในตู้เสื้อผ้า หรือซุกไว้กับคนรถ คนใช้ ฯลฯ แล้วประเทศได้อะไร ประชาชนได้อะไร …เคยมีนักการเมืองหน้าไหนดูแลเราจริงๆ จังๆ บ้าง


    คนเล่านิทาน
    ตอน 2 จิ๊กโก๋ปากซอย สร้างวินมอ’ไซค์ อเมริกาเป็นนักวางแผนตัวพ่อ อเมริกามีแผนสำหรับทุกประเทศเป้าหมาย ทุกขั้นตอน เขียนแผนอย่างละเอียด มีรายงานทุกเรื่องที่เห็นว่าสำคัญ ….เก็บเรื่องระบบทุนนิยมไว้ก่อน เด็กมันยังละอ่อนนัก เดี๋ยวมันตกใจ วิ่งหนีรอดตาข่าย จะกินอาหารอร่อยต้องใจเย็นๆ แผนหมายเลข 1 สำหรับการเคี้ยวไทยของอเมริกา ตาม Pax Americana เน้นเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคงนำหน้า ดังนั้น ต้องเปลี่ยนประเทศไทยจากที่เป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรมให้ได้ก่อน เรื่องความมั่นคงอย่าเพิ่งถาม เดี๋ยวจะเห็นว่ามาอย่างไร อเมริกา เป็นนักวางแผนที่มีจิตวิทยาสูง คนเราน่ะนะ จะให้ทำอะไร มันต้องให้สบายกระเป๋าก่อน มีเงินแล้วมันถึงจะพูดกันรู้เรื่อง แหม! มันเดินตามกันเปี๊ยบเลย ใครนะ ที่ใช้เงินเข้าล่อ แบบคุณพ่ออเมริกา ปี พ.ศ.2501 อเมริกาจึงส่งผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลก เป็นของขวัญให้รัฐบาลสฤษดิ์ มาเป็นทีมใหญ่ ไทยแลนด์ดีใจเหมือนได้แก้ว กลุ่มผู้เชี่ยวชาญขนกันมาทำการสำรวจประเทศไทยอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดูทั้งบนดินใต้ดินใต้น้ำในทะเล ทุกซอก ทุกหลุม ประมาณว่าแทบจะถลกผ้านุ่งคุณยายดูยังงั้นเชียว สำรวจอยู่ 1 ปีจึงเสร็จ เสร็จแล้วก็ทำรายงานสำรวจชุดใหญ่ ส่งให้คุณพ่ออเมริกา ชุดเล็กก็เสนอให้คุณป๋าผ้าขะม้าไทย (แสดงว่ามันดูกันละเอียดจริง ไม่เหมือนข้าราชการบ้านเราไปดูงานบ้านเขาเลยนะ ไป 15 วัน ช้อปปิ้งเสีย 10 วัน เข้าบ่อนอีก 5 วัน อ้าว แล้วดูงานตอนไหน ก็ตอนขึ้นเครื่องกลับ หลับฝันเอาไง บ้านเรามันถึงเจริญ) ผลสำรวจสรุปว่า เพื่อทดแทนการนำเข้า ที่ทำให้ไทยแลนด์ขาดดุลการค้า ฝรั่งบอกว่า ไทยควรเปลี่ยนจากประเทศกสิกรรม ทำการเกษตร มาเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทำการผลิตสินค้าส่งออก เขียนตามโผที่ล็อกไว้เลย กองสลากเรายังล็อกโผไม่ได้เท่านี้ รายงานสำรวจดังกล่าว เป็นไปตามใบสั่งคุณพ่ออเมริกา ที่ต้องการให้ประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย (ตอนนั้นเราก็เป็นประเทศด้อยนะ ไม่ต้องค้อน ตอนนี้ก็ยังด้อยอยู่อีกหลายเรื่อง) เปิดทางให้ทุนอเมริกัน เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าอุตสาหกรรม นอกจากอเมริกา จะได้ประโยชน์ในการขยายการลงทุนแล้ว อเมริกาจะได้ขายเครื่อง จักร และสารพัดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในขบวนการผลิต เช่น พลังงานไฟฟ้า น้ำมัน เขื่อน อุปกรณ์เทคนิค อุปกรณ์การขนส่ง ฯลฯ ให้ไทยอีกด้วย สิ่งที่ไทยได้ขายคือ วัตถุดิบบางอย่างที่มีในประเทศและแรงงาน แค่นั้นเอง ….อืมมม คุ้มแสนคุ้ม… คุณป๋าไทยเมื่อได้รับรายงานสำรวจฯ ก็เนื้อเต้นไปหมด เห็นโอกาสทองทำเงินอยู่ข้างหน้า… งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข …คุณป๋าไทยรีบออกคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติทันที ในปี พ.ศ.2504 และนั่นคือกำเนิดสภาพัฒน์ฯ ที่เรารู้จัก สภาพัฒน์ฯ ทำหน้าที่วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึงปัจจุบัน ตามแนวทางที่ฝรั่ง (หลอก) ให้ไทยเดิน ควรรู้ด้วยว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ฉบับที่ 1 ใช้รายงานธนาคารโลก ฉบับใบสั่งทั้งฉบับนั่นแหละ แปลเป็นไทย ทำเป็นแผนแม่บท ง่ายดีจัง ไม่ต้องเสียเวลา ไทยมีส่วนร่วมเพียงในฐานะผู้รับบัญชา ขอรับกระผม นอกจากนี้แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ตั้งแต่ฉบับที่ 1 ถึง 6 เดินตามแนวทางรายงานธนาคารโลกทั้งสิ้น ปัจจุบันเป็นฉบับที่ 12 ซึ่งก็ไม่มีแนวทางพัฒนาประเทศ ที่ชัดเจนเหมาะสมกับสภาพ และสภาวะของประเทศ แถม เละเทะเหมือนกินจับฉ่าย ควรรู้อีกด้วยว่าในรายงานของธนาคารโลก ไม่เน้นถึงการพัฒนาการปลูกข้าว ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย ตรงกันข้ามดันมีข้อเสนอให้เก็บพรีเมี่ยมข้าว! พอจะเห็นกันบ้างหรือยังว่า สิ่งที่เรียกว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯของขวัญจากคุณพ่ออเมริกา แท้จริงแล้ว เป็นบัวหิมะพันปีเพิ่มพลัง หรือ ยาละลายกระดูกสลายพลัง นักล่าอาณานิคมรุ่นใหม่นี่เยี่ยมจริงๆ หลังจากนั้น การพัฒนาประเทศไทยก็เดินตามแนวที่คุณพ่ออเมริกากำหนด หรือกำกับ ผ่านหน่วยงานธนาคารโลก (World Bank), IMF, IFC, ADB ฯลฯ ที่เราขยันกู้เขามาตลอด เริ่มเข้าใจหรือยังครับ ทำไมเขาถึงต้องตั้งธนาคารโลก, IMF ฯลฯ สัญญาเงินกู้ทุกฉบับของ World Bank, IMF , IFC จะมีข้อกำหนดบังคับผู้กู้ ตามที่คุณพ่ออเมริกาต้อง การ ให้โลกเดินไปในทิศทางที่คุณพ่อและพวกต้องการคือ ทุนนิยมเสรี นั่นเอง อเมริกาสามารถควบคุมธนาคารโลก, IMF, IFC ได้ในกำมือ เพราะอเมริกาจ่ายเงินสนับสนุนสูงที่สุดมากกว่าประเทศอื่นๆ พูดให้ชัดธนาคารโลก, IMF, IFC ก็เด็กในกระเป๋าอเมริกานั่นแหละ! แต่การพัฒนาประเทศ จะเดินตามใบสั่งของคุณพ่ออเมริกาไม่ได้ ถ้าไม่มีข้าราชการที่จูงง่าย พร้อมเป็นขี้ข้า ไม่ว่าจะเป็นขี้ข้าฝรั่ง หรือนักการเมืองไทย เห็นๆ กันอยู่ตั้งกะสมัย 50 ปีก่อน จนถึงเดี๋ยวนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ข้าราชการที่มีความสามารถ แต่พร้อมที่จะถูกฝรั่งหลอกใช้ (เอ๊ะ หรือเต็มใจ!)ที่เรียกกันว่า technocrat (technocrat ต้นแบบก็อย่างนายเกษม จาติกวนิช นายอานันท์ ปันยารชุน นายอำนวย วีรวรรณ นั่นแหละ) ก็เป็นผู้รับแผนคุณพ่อฝรั่งมาดำเนินการ Technocrat เหล่านี้มาจากไหนล่ะ? อ้า! เดี๋ยวต้องหาที่มาแบบ CSI (Crime Scene Investigation สำหรับผู้ไม่ได้ดูหนัง ดูแต่ละคร ก็นึกถึงคุณหมอพรทิพย์หัวฟูคนเก่งของเราแล้วกัน ประเภทสืบจากศพอะไรทำนองนั้นแหละครับ) Technocrat เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้จบการศึกษาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากอังกฤษและอเมริกา มีความคุ้นเคยกับระบบการศึกษา ตำรับตำรา วิชาการ ความคิด ที่ฝรั่งแป๊ะติดใส่หัวเอาไว้ตั้งแต่สมัยไปเรียนหนังสือ ท่านเหล่านั้นก็มีวิชาความรู้เพิ่มพูน ฝรั่งสอนอะไรก็จด ฝรั่งพูดอะไรก็จำ ทำตัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร (ฮา) กลับมาก็ฟิตเปรี๊ยะ เครื่องถ่ายอัดสำเนาไว้เต็ม คิดว่าบ้านเมืองเราจะเจริญได้ ต้องดูจากที่ฝรั่งเขาพัฒนาบ้านเมืองเขา ไม่เคยใช้สมองของตัวคิดบ้างว่า บ้านเขากับบ้านเราน่ะ มันต่างกันขนาดไหน ดูภูมิประเทศ อากาศ ทรัพยากร ความถนัด ประเพณี ฯลฯ โอ้ยสารพัด มันเหมือนกันตรงไหน ข้างหนึ่งหัวดำตัวเหลือง อีกข้างหนึ่งหัวทองตัวขาวเผือด ข้างหนึ่งหนาวหิมะตก ข้างหนึ่งเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกน้ำท่วม ยังคิดก็อบปี้ตะบี้ตะบันท่าเดียว เพราะถูกทำให้เชื่อว่า ฝรั่งนั้นฉลาดกว่าเรา สิ่งที่เขาคิด ดีกว่าที่เราคิด มันฝังหัว ตั้งกะไปเรียน prep school หรือ public school กับฝรั่งมาแล้ว ดังนั้น เมื่อฝรั่งบอกเดินหน้าเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทุกท่านก็ลุย! เฮ้อ! เศร้าใจ การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย เมื่อกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด มันก็ผิดไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่แก้ไข คนอะไรเดินใส่เสื้อติดกระดุมเขย่งมาเกือบ 60 ปี ยังไม่รู้ตัว นิคมอุตสาหกรรม จึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แล้วดอกเห็ดพวกนี้ไม่รู้เป็นอะไร ก็ชอบขึ้นอยู่ตามที่ลุ่ม ซึ่งเป็นทางเดินของน้ำ ดูนิคมบางชัน นิคมแถวอยุธยา บางปะอิน เป็นตัวอย่างแล้วกัน ยิ่งนานวันดอกเห็ดก็แผ่ขยายบานกินเมืองเข้าไปลึกขวางทางไหลหลากของน้ำ ซึ่งมาประจำปี ดังนั้น ปัญหาน้ำท่วมก็ยังจะมีอยู่ต่อไป ต้องใช้เรือดำน้ำกี่ลำ หญ้าแพรกเท่าไหร่ก็เอาไม่อยู่ ถ้ายังดันทุรังเดินใส่เสื้อกระดุมเขย่งกันอยู่อย่างนี้ นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องท่าเรือแหลมฉบัง ผาแดง แทนทาลัม นิคมอุตสาหกรรมระยอง โรงไฟฟ้าบ้านกรูด การวางท่อแก๊ส ฯลฯ ที่ไม่เข้ากับสภาพภูมิประเทศ และความเป็นอยู่ของท้องถิ่นนะ แค่นี้ก็น่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว แหล่งอุตสาหกรรมใหญ่ทั้งหลาย สร้างรายได้ให้กับผู้ถือหุ้นอย่างมหาศาล คนท้องถิ่นได้แต่ค่าแรงวันละไม่กี่บาท แล้วใครเป็นผู้ถือหุ้น… ก็คนต่างชาติส่วนใหญ่ บวกกับคนไทยขายชาติที่ถือหุ้นแทนฝรั่งไง คนท้องถิ่นไม่เคยได้เป็นผู้ถือหุ้น! ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่ทำกิน และที่สำคัญ สุขอนามัยของชาวบ้าน ไม่เคยเป็นปัจจัยที่ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุนต่างชาติ ให้ความสนใจหรือห่วงใย ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุน ให้ความสนใจแต่ ผลผลิต และผลกำไรของพวกเขาเท่านั้น ส่วนนักการเมืองไทย ก็นึกแต่ค่าหัวคิว ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ที่จะได้รับ รับแล้วเอาไปซุกไว้ที่ไหนดีหนอ หลังบ้าน ใต้เตียง ในตู้เสื้อผ้า หรือซุกไว้กับคนรถ คนใช้ ฯลฯ แล้วประเทศได้อะไร ประชาชนได้อะไร …เคยมีนักการเมืองหน้าไหนดูแลเราจริงๆ จังๆ บ้าง คนเล่านิทาน
    1 Comments 0 Shares 177 Views 0 Reviews
  • พาณิชย์จัดหนัก! "สุชาติ" เปิดงาน "มหกรรมธงฟ้า" ชลบุรี ลดสูงสุด 60% พร้อมช่วยเกษตรกรชายแดน-เหนือ
    https://www.thai-tai.tv/news/20596/
    .
    #มหกรรมธงฟ้าชลบุรี #สุชาติชมกลิ่น #ลดค่าครองชีพ #ช่วยเหลือเกษตรกร #ไทยทำไทยใช้ไทยช่วยไทย #กรมการค้าภายใน #สินค้าธงฟ้า #ชลบุรี #ภัยพิบัติ #ไทยไท

    พาณิชย์จัดหนัก! "สุชาติ" เปิดงาน "มหกรรมธงฟ้า" ชลบุรี ลดสูงสุด 60% พร้อมช่วยเกษตรกรชายแดน-เหนือ https://www.thai-tai.tv/news/20596/ . #มหกรรมธงฟ้าชลบุรี #สุชาติชมกลิ่น #ลดค่าครองชีพ #ช่วยเหลือเกษตรกร #ไทยทำไทยใช้ไทยช่วยไทย #กรมการค้าภายใน #สินค้าธงฟ้า #ชลบุรี #ภัยพิบัติ #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • "สุชาติ" บุกเหนือ! ปักธง 8 มาตรการเร่งดูดซับลำไย 1.5 แสนตัน สู้ราคาตกต่ำ-เตรียมลดต้นทุนเกษตรกร
    https://www.thai-tai.tv/news/20428/
    .
    #ลำไย #ราคาลำไย #กระทรวงพาณิชย์ #สุชาติชมกลิ่น #เกษตรกร #ลำไยภาคเหนือ #ลดต้นทุน #ธงเขียว #ส่งออกลำไย #ThaiFruitsFestival2025

    "สุชาติ" บุกเหนือ! ปักธง 8 มาตรการเร่งดูดซับลำไย 1.5 แสนตัน สู้ราคาตกต่ำ-เตรียมลดต้นทุนเกษตรกร https://www.thai-tai.tv/news/20428/ . #ลำไย #ราคาลำไย #กระทรวงพาณิชย์ #สุชาติชมกลิ่น #เกษตรกร #ลำไยภาคเหนือ #ลดต้นทุน #ธงเขียว #ส่งออกลำไย #ThaiFruitsFestival2025
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • เฮลั่น! 'สุชาติ' โชว์ผลงานดันราคามังคุดใต้พุ่งเกิน 100 บาท/กก. ใน 16 วัน สั่งลุยช่วยเกษตรกรยันจบฤดู
    https://www.thai-tai.tv/news/20417/
    .
    #ราคามังคุด #มังคุดใต้ #กระทรวงพาณิชย์ #สุชาติชมกลิ่น #เกษตรกร #ผลไม้ไทย #ThailandFruitFestival2025 #ช่วยเหลือเกษตรกร

    เฮลั่น! 'สุชาติ' โชว์ผลงานดันราคามังคุดใต้พุ่งเกิน 100 บาท/กก. ใน 16 วัน สั่งลุยช่วยเกษตรกรยันจบฤดู https://www.thai-tai.tv/news/20417/ . #ราคามังคุด #มังคุดใต้ #กระทรวงพาณิชย์ #สุชาติชมกลิ่น #เกษตรกร #ผลไม้ไทย #ThailandFruitFestival2025 #ช่วยเหลือเกษตรกร
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • ..พูดจริงๆนะ.,ประชาชนควรมีธนาคารกลางของประชาชนแยกออกต่างหากให้ชัดเชนไปจากแบงค์ชาติปัจจุบันนี้,ให้แบงค์ชาติไปทำหน้าที่เต็มที่กับแบงค์เอกชนมหาชนของนายทุนผู้ถือหุ้นต่างๆ,ส่วนธนาคารกลางภาคประชาชนถึงเวลาบริหารจัดการสภาพคล่องของประชาชนคนไทยเอง เป็นกองทุนภาคประชาชนภายใต้การกำกับตัวเองของธนาคารกลางของภาคประชาชนจริงๆ,เช่น เงินงบประมาณลงอัดไปในกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศก็ดึงมาบริหารจัดการเองแทนธกส.ทางตรง,สามารถตั้งธนาคารกองทุนหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านได้จริงจังเต็มที่ในการบริหารจัดการสภาคคล่องเงินทุนสัมมาอาชีพช่วยประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนทางตรงติดบ้านใกล้บ้านจริงได้คือมีสำนักประจำทุกๆ80,000หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศจริงนั้นเอง,ธนาคารกลางภาคประชาชนสามารถเปิดรับฝากออมตังได้จริงถอนตังได้จริงประจำหมู่บ้านนั้นๆทันที,สามารถให้เงินทุนสัมมาอาชีพแบบยืมไร้ดอกเบี้ยได้,และฝากไม่มีดอกเบี้ยด้วยเช่นกันนั้นเอง,เป็นสถานีรักษาตังแทนเก็บไว้ในบ้านนั้นเอง,เรียลไทม์อะเลิทป๊อบอัพหากมีการถอนเงินโอนเงินจากบัญชีหรือมีการเคลื่อนไหวตังนั้นเอง,ซึ่งเราจะผูกขาดยึดคลื่นความถี่หนึ่งไว้เป็นสาธารณะประโยชน์เพื่อเราประชาชนไว้มิให้ กสทช.ผูกขาดมอบคลื่นนั้นให้เอกชนไปทำแดก,เราจะมาใช้ประโยชน์ด้านอีกมุก,ป้องกันปัญหาจากผู้ไม่ประสงค์ดีดูดตังเราไปอีกชั้นหนึ่งหากมี,ใครต้องการตังมายืมที่กองทุนเรานี้ทันทีที่เกืดจากการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพเป็นระบบ,เชื่อมโครงการช่วยเหลือรัฐ,เช่นตังช่วยเหลือเกษตรกรปล่อยกู้ ปกติผ่านธกส. รัฐโอนงบประมาณหลวงให้ธกส.จัดการทั้งหมด ก็โอนมาที่เรากองทุนเราแทน ธนาคารกลางของประชาชนแทนเช่น200,000ล้านบาทหรือหลายกว่าล้านล้านบาทที่ช่วยอุ้มธนาคารเอกชนต่างๆสมัยยุคปี40นั้น โอนมาช่วยประชาชนคนเกษตร ประชาชนรับไป ตอนเอามาคืนก็หมุนเวียนตังนั้นฟรีๆช่วยประชาชนคนอื่นๆต่อไปได้ ทั้งเราสามารถหาตลาด จัดโปรส่งเสริมการขายออกไป การผลิตต้นทางให้ปลอดสารพิษต้นทุนต่ำได้ อาจติดต่อคนนำเข้าสายการเกษตรเองในนามภาคประชาชน อาจภาษีนำเข้า0%,ประชาชนคนชาวบ้านจะลดค่าปุ๋ยค่าอุปกรณ์ล้ำทุ่นแรงทางการเกษตรหรือนวัตกรรมล้ำๆจากต่างชาติมาไทยได้ไม่แพงนั้นเอง,ตัดตอนพ่อค้าคนกลางก็ว่าเพื่อผลักดันให้คนไทยเรายืนได้จริงพึ่งพาตนเองรอดจริงในทุกๆคนไทยเราจริงมิใช่แหกตาปลอมๆเหมือนในอดีตที่ผ่านๆมา,เมื่อประชาชนมีรายได้,แบบปลูกพืชสมุนไพรสกัดแปรรูปประยุกต์ผสมผสานในสินค้าทั่วไทยทั่วโลกขายสาระพัดตรึมก็ว่า อาทิอดีตกัญชาเสรีกำลังโปร ทั้งปลูกค้าขายในชาวบ้านทั้งส่งให้โรงพยาบาลรัฐเราสกัดฟรีๆทำยารักษาโรคครอบจักรวาล เม็ดที่ประยุกต์ค้าขายในสินค้าต่างๆด้วย จริงๆทั่วโลกอาจกว่า100ล้านล้านบาทเข้าประเทศไทยได้สบายมา เช่นชานมไข่มุกผสมสารสกัดกัญชาเสรี จะเพิ่มยอดคำสั่งซื้อขนาดไหน บำรุงร่างกายทางธรรมชาติ ยอดขายชานมไข่มุกทั่วโลกกว่าหมื่นล้านเหรียญต่อปี,ใยกัญชงกัญชาสามารถใช้ทำโครงสร้างรถยนต์ได้อีก ชุดเกราะกันกระสุนก็ด้วย,เครื่องบินก็ใช่อัดแน่นแข็งแกร่งและเบาอีกด้วย,สมมุติตังมากมายในมือประชาชนเราไว้ใจก็มาฝากตังที่กองทุนหมู่บ้านใครมันทั่วประเทศ ตังทั้งหมดอาจกว่า10ล้านล้านบาทส่วนของภาคครัวเรือนประชาชนที่เก็บออมจริงก็ว่า,จะมีดาต้าจริงในธนาคารกลางของประชาชนเราจริงอีกด้วย,เปรียบเทียบตังสะพัดต่อปีแบบอดีตกว่า 50-60ล้านล้านบาทในปีที่ผ่านๆมาในอดีตเก่าอาจหลายๆปีมาแล้วก่อนยุคเศรษฐกิจจะพังมาถึงไทยปัจจุบันนี้ก็ตาม,ทำสถิติสูงสุด จะสามารถรับรู้แยกชัดเจนว่าเป็นตังของภาคฝ่ายอุตสาหกรรมที่มีธนาคารเอกชนปล่อยกู้กำกับดูแลโดยแบงค์ชาติอีกทีสร้างสภาพสะพัดนั้นด้วยมั้ยในชนชั้นกลางชนชั้นสูงผู้ดีมีตังปกติมั้ยหรือภาคประชาชนชาวบ้านธรรมดาแบบเราๆคือธนาคารภาคประชาชนรวบรวมข้อมูลนี้เอง,เก็บสำรวจค้นคว้าพบเจอเองก็ว่าด้วย,จากนั้นเราสามารถบริหารจัดการตังนี้ในระบบหมุนสภาพคล่องจริงแก่ไทบ้านเราจริงๆได้,คล่องขึ้นแน่นอน ใครต้องการตังตรงไหนเบิกทันที เวลานั้นเช่นแต่ละวันฝากถอนแค่1ล้านล้านบาททั่วประเทศ, ตังในระบบเย็นคือ9ล้านล้านบาท ทดลองปล่อยยืมให้ชาวบ้านคนละ10,000บาทค้าขายทำสัมมาอาชีพเล็กๆน้อยๆและปล่อยยืมระหว่างรอเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ปลูกพืชผักระยะสั้นๆหรือหาบเร่แผงลอยรถเข็ญขายในบ้านในตลาดชุมชนตลาดนัดตลาดค่ำตลาดคลองถมชุมชนตนอีก10,000บาทรวมอาจ20,000บาท หมู่บ้านละ100คน,มี80,000หมู่บ้านทั่วประเทศชุมชนคือ160,000,000,000บาทหรือ160,000ล้านบาทเอง,ตังยังเหลือ8.84ล้านล้านบาทโน้นในธนาคารภาคประชาชนเรา,จากนั้นเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มตลาดเสรีออนไลน์เองได้แบบซ็อปปี้ ลาซาด้า อะไรนั้นขึ้นเอง เรามีโลจิสต์ขนส่งเราเองศูนย์รวบรวมสินค้าเข้าและออกคือกองทุนร้านหมู่บ้านเรานั้นเอง เป็นไปรษณีย์ขนส่งในตัว รับสินค้าประชาชนช่วยค้าขายได้,อาจมีโดรนขนส่งประจำสำนักงานหมู่บ้านนั้นๆคนละ2-3ตัว ส่งถึงมือคนรับซื้อในหมู่บ้านตนเอง เข้าป่าเข้าเขาขึ้นดอยขึ้นภูลำบาก,ส่งผ่านโดรนตั้งพิกัดgpsประกอบคลื่นมือถือดาวเทียมรวมก็ได้อีก,สั่งผลิตดาวเทียมเน็ตแบบstarlinkก็ได้ตัวละไม่เกิน3,000ล้านบาทเอง,ภาคเหนือเรา4ดวง อีสาน4ดวง กลาง4ดวง ตะวันออก2ดวง ตะวันตก2ดวง ใต้4ดวง ชัดเจนคลื่นส่งแน่นอนรวม20ดวงคูณ3,000ล้านคือ60,000ล้านบาทเอง บวกระบบควบคุมดูแลทั้งหมดทั้งประเทศไม่เกิน100,000ล้านบาทต่อปีภายในประเทศไทยเรา,และเชื่อมstarlinkหรือดาวเทียมนานาชาติทั่วโลกอีก สะดวกในการค้าขายของประชาชนคนไทยเราอีกไม่เกิน1แสนล้านบาทต่อปี,ซึ่งแพลตฟอร์มเราจะรองรับชาวโลกสากลมาร่วมค้าขายเสรีแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้คือเราสร้างฮับตลาดอีคอมเมิร์ซโลกประจำประเทศไทยนั้นเอง,รองรับสกุลเงินbricsในอนาคตด้วย,รายได้ในตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกคือ30-40ล้านล้านเหรียญต่อปี,ไทยเราอาจสร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่เฉพาะภายในแพลตฟอร์มไทยเราเองอาจกว่าสะพัดถึง100ล้านล้านเหรียญก็ได้ คือGtG GtB BtB Btc CtC แพลตฟอร์มเราตอบสนองความสะดวกสบายให้ได้หมดก็ว่า,คือตังในบัญชีเงินฝากของประชาชนไทยเราจะเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นนั้นเอง,และนั้นคือเงินในธนาคารกลางภาคประชาชนเราที่ฝากเอาไว้ก็เพิ่มขึ้นมหาศาลด้วย,เรายิ่งสามารถช่วยเหลือชาวบ้านคนไทยเราประชาชนไทบ้านเราที่ขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบธนาึราเอกชนเอกชนเจ้าสัวไทย,เรายิ่งปล่อยยืมให้ชาวบ้านเราเองมากขึ้นเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆแบบไม่คิดกำไรดอกเบี้ยใดๆเลยนั้นเอง.,ตลอดขุดคลองคอดกระในอนาคต สร้างแลนด์บริดจ์ในภาคใต้ใดๆก็ตาม ,พื้นที่บริหารจัดการทั้งหมด เราประชาชนทั้งลงทุนสร้างเอง ขุดเองจ้างเองเป็นเจ้าของเองร่วมกันในนามภาคประชาชนไทยเราก็ว่า100%,พื้นที่บริหารแลนด์บริดจ์เิย พื้นที่บริหารคลองคอดกระเอย เราภาคประชาชนร่วมกันเป็นเจ้าของตัวจริงและบริหารจัดการตัวจริงร่วมกันนั้น อย่างเป็นรูปธรรม เช่น จัดตั้งกองทุนคาบมหาสมุทรประจำประเทศไทยขึ้น แจกหุ้นสามัญฟรีๆแก่คนไทยคนละ10,000หุ้นทันทีแม้พึงเกิดก็รับอัตโนมัติที่เป็นคนไทยเรา เป็นเจ้าของจริงจับต้องได้ มีหลักฐานพิสูจน์ได้,ไม่ใช่อ้างว่าทำในนามรัฐบาลแล้วรัฐบาลก็ยกสิทธิบริหารจัดการทั้งหมดและเงินทองก็ว่าผ่องถ่ายไปให้เอกชนไทยและเอกชนต่างชาติทำกินหาแดกเองจนร่ำรวยมั่งคั่งแบบบ่อน้ำมันไทยเรา,จึงต้องตัดตอนยุติการทำหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนไม่สุจริตต่อชาติไทยตนทันที,จากนั้นออกหุ้นเพิ่มทุนเพิ่มทันทีให้ประชาชนคนไทยสามารถซื้อสิทธิความเป็นเจ้าของเพิ่มได้อีกคนละไม่เกิน10,000หุ้นๆละ0.01บาท.,ความเป็นเจ้าของนี้ไม่สามารถซื้อขายต่อได้ทุกๆกรณีจะเป็นหุ้นสามัญหรือหุ้นเพิ่มทุนก็ตาม,และจะตายสูญทันทีไปพร้อมกับคนไทยนั้นๆไม่สามารถมอบเป็นมรดกสืบต่อได้,เพราะทุกๆคนไทยมีสถานะการได้มาเมื่อเกิดทันทีอยู่แล้วทุกๆคนและสิทธิซื้อเพิ่มก็เสมอกันหมดตลอดชีพ,ห้ามนำเข้าตลาดหุ้นทุกๆกรณีด้วย,อธิปไตยนี้จะเป็นของคนไทยเราจริงทันที100%,ทุนการก่อสร้างแลนด์บริดจ์ประมาณการคือ1ล้านล้านบาท, ขุดคลองคอดกระคือ2ล้านล้านบาท ถ้า2เลนก็4ล้านล้านบาท,เงินกองทุนเราเติบโตต่อเนื่องหรือขั้นต่ำมีในมือกว่า8ล้านล้านบาทก็ว่า สามารถโยกตังมาลงทุนได้,และเหลือพ้นบริหารจัดการทั้งหมดต่อไปในอนาคตด้วย,ไม่รวมเงินมากมายที่ไหลเข้าสะสมออมในธนาคารเราต่อเนื่องทุกวินาทีด้วยตลิดปีอาจกว่า100ล้านล้านบาทในแพลตฟอร์มตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยเราเอง,เมื่อขุดคลองคอดกระเสร็จ สร้างแลนด์บริดจ์เสร็จ เราประเทศไทยจะเป็นฮับสากลของโลกสาระพัดฮับทันที อาทิ ฮับการรักษาทางเทคโนโลยีและสมุนไพรของโลก ฮับโรงพยาบาลโลกนั่นเอง,ฮับการขนส่งทางเรือและทางบกของโลก,ฮับต่อเรือขนาดใหญ่ของโลก,ฮับยานยนต์ภายในโลกและยานยนต์อวกาศโลก, สรุปสาระพัดฮับก็ว่า เม็ดเงินโคตรมหาศาลในพื้นที่บริเวณบริหารจัเการนี้ขั่นต่ำในอนาคต1,000ล้านล้านบาทต่อปีที่เข้าสู่ประเทศไทยเรา เฉลี่ยประชาชนคนไทยเราจะได้ประโยชน์จริงจากการถือหุ้นสามัญหุ้นเพิ่มทุน20,000หุ้นนั้นแน่นอน,เข้าบัญชีคนไทยทุกๆคนต่อปีขั้นต่ำ10ล้านบาทต่อปีนั้นเอง.อนาคตเราอาจจะมีประชากร100ล้านคน,หรือวัคซีนออกฤทธิ์อาจเหลือแค่10ล้านคนก็ว่าอีก,รอด10%ก็ว่า,สรุปรายได้เราเข้ามาสารพัดทางนั้นเอง,เราคนไทยจะไม่ผีบ้าดิ้นรนบ้าคลั่งแบบๆในอดีตๆที่ผ่านๆมานั้นเอง,จะมีเวลาพัฒนาตนเองสู่ประเทศผู้นำแห่งจิตวิญญาณของโลกในอนาคตก็ด้วย,บันเทิงกันเลยแน่ล่ะ ทุกๆคนไทยจะได้ท่องเที่ยวผ่านจิตท่องอาณาจักรจักรวาลน้อยใหญ่เสรีเป็นอันมาก แล้วนำพาโลกเราสู่แสงสว่างแห่งธรรมจักรวาลของจริงนั้นเอง.,ประเทศไทยเราจึงธรรมดาที่ไหน?.,555มโนก็ว่า.

    https://youtube.com/shorts/-p9TQjRaM-o?si=Jyhv-HoJ5HiR0r_i
    ..พูดจริงๆนะ.,ประชาชนควรมีธนาคารกลางของประชาชนแยกออกต่างหากให้ชัดเชนไปจากแบงค์ชาติปัจจุบันนี้,ให้แบงค์ชาติไปทำหน้าที่เต็มที่กับแบงค์เอกชนมหาชนของนายทุนผู้ถือหุ้นต่างๆ,ส่วนธนาคารกลางภาคประชาชนถึงเวลาบริหารจัดการสภาพคล่องของประชาชนคนไทยเอง เป็นกองทุนภาคประชาชนภายใต้การกำกับตัวเองของธนาคารกลางของภาคประชาชนจริงๆ,เช่น เงินงบประมาณลงอัดไปในกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศก็ดึงมาบริหารจัดการเองแทนธกส.ทางตรง,สามารถตั้งธนาคารกองทุนหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านได้จริงจังเต็มที่ในการบริหารจัดการสภาคคล่องเงินทุนสัมมาอาชีพช่วยประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนทางตรงติดบ้านใกล้บ้านจริงได้คือมีสำนักประจำทุกๆ80,000หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศจริงนั้นเอง,ธนาคารกลางภาคประชาชนสามารถเปิดรับฝากออมตังได้จริงถอนตังได้จริงประจำหมู่บ้านนั้นๆทันที,สามารถให้เงินทุนสัมมาอาชีพแบบยืมไร้ดอกเบี้ยได้,และฝากไม่มีดอกเบี้ยด้วยเช่นกันนั้นเอง,เป็นสถานีรักษาตังแทนเก็บไว้ในบ้านนั้นเอง,เรียลไทม์อะเลิทป๊อบอัพหากมีการถอนเงินโอนเงินจากบัญชีหรือมีการเคลื่อนไหวตังนั้นเอง,ซึ่งเราจะผูกขาดยึดคลื่นความถี่หนึ่งไว้เป็นสาธารณะประโยชน์เพื่อเราประชาชนไว้มิให้ กสทช.ผูกขาดมอบคลื่นนั้นให้เอกชนไปทำแดก,เราจะมาใช้ประโยชน์ด้านอีกมุก,ป้องกันปัญหาจากผู้ไม่ประสงค์ดีดูดตังเราไปอีกชั้นหนึ่งหากมี,ใครต้องการตังมายืมที่กองทุนเรานี้ทันทีที่เกืดจากการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพเป็นระบบ,เชื่อมโครงการช่วยเหลือรัฐ,เช่นตังช่วยเหลือเกษตรกรปล่อยกู้ ปกติผ่านธกส. รัฐโอนงบประมาณหลวงให้ธกส.จัดการทั้งหมด ก็โอนมาที่เรากองทุนเราแทน ธนาคารกลางของประชาชนแทนเช่น200,000ล้านบาทหรือหลายกว่าล้านล้านบาทที่ช่วยอุ้มธนาคารเอกชนต่างๆสมัยยุคปี40นั้น โอนมาช่วยประชาชนคนเกษตร ประชาชนรับไป ตอนเอามาคืนก็หมุนเวียนตังนั้นฟรีๆช่วยประชาชนคนอื่นๆต่อไปได้ ทั้งเราสามารถหาตลาด จัดโปรส่งเสริมการขายออกไป การผลิตต้นทางให้ปลอดสารพิษต้นทุนต่ำได้ อาจติดต่อคนนำเข้าสายการเกษตรเองในนามภาคประชาชน อาจภาษีนำเข้า0%,ประชาชนคนชาวบ้านจะลดค่าปุ๋ยค่าอุปกรณ์ล้ำทุ่นแรงทางการเกษตรหรือนวัตกรรมล้ำๆจากต่างชาติมาไทยได้ไม่แพงนั้นเอง,ตัดตอนพ่อค้าคนกลางก็ว่าเพื่อผลักดันให้คนไทยเรายืนได้จริงพึ่งพาตนเองรอดจริงในทุกๆคนไทยเราจริงมิใช่แหกตาปลอมๆเหมือนในอดีตที่ผ่านๆมา,เมื่อประชาชนมีรายได้,แบบปลูกพืชสมุนไพรสกัดแปรรูปประยุกต์ผสมผสานในสินค้าทั่วไทยทั่วโลกขายสาระพัดตรึมก็ว่า อาทิอดีตกัญชาเสรีกำลังโปร ทั้งปลูกค้าขายในชาวบ้านทั้งส่งให้โรงพยาบาลรัฐเราสกัดฟรีๆทำยารักษาโรคครอบจักรวาล เม็ดที่ประยุกต์ค้าขายในสินค้าต่างๆด้วย จริงๆทั่วโลกอาจกว่า100ล้านล้านบาทเข้าประเทศไทยได้สบายมา เช่นชานมไข่มุกผสมสารสกัดกัญชาเสรี จะเพิ่มยอดคำสั่งซื้อขนาดไหน บำรุงร่างกายทางธรรมชาติ ยอดขายชานมไข่มุกทั่วโลกกว่าหมื่นล้านเหรียญต่อปี,ใยกัญชงกัญชาสามารถใช้ทำโครงสร้างรถยนต์ได้อีก ชุดเกราะกันกระสุนก็ด้วย,เครื่องบินก็ใช่อัดแน่นแข็งแกร่งและเบาอีกด้วย,สมมุติตังมากมายในมือประชาชนเราไว้ใจก็มาฝากตังที่กองทุนหมู่บ้านใครมันทั่วประเทศ ตังทั้งหมดอาจกว่า10ล้านล้านบาทส่วนของภาคครัวเรือนประชาชนที่เก็บออมจริงก็ว่า,จะมีดาต้าจริงในธนาคารกลางของประชาชนเราจริงอีกด้วย,เปรียบเทียบตังสะพัดต่อปีแบบอดีตกว่า 50-60ล้านล้านบาทในปีที่ผ่านๆมาในอดีตเก่าอาจหลายๆปีมาแล้วก่อนยุคเศรษฐกิจจะพังมาถึงไทยปัจจุบันนี้ก็ตาม,ทำสถิติสูงสุด จะสามารถรับรู้แยกชัดเจนว่าเป็นตังของภาคฝ่ายอุตสาหกรรมที่มีธนาคารเอกชนปล่อยกู้กำกับดูแลโดยแบงค์ชาติอีกทีสร้างสภาพสะพัดนั้นด้วยมั้ยในชนชั้นกลางชนชั้นสูงผู้ดีมีตังปกติมั้ยหรือภาคประชาชนชาวบ้านธรรมดาแบบเราๆคือธนาคารภาคประชาชนรวบรวมข้อมูลนี้เอง,เก็บสำรวจค้นคว้าพบเจอเองก็ว่าด้วย,จากนั้นเราสามารถบริหารจัดการตังนี้ในระบบหมุนสภาพคล่องจริงแก่ไทบ้านเราจริงๆได้,คล่องขึ้นแน่นอน ใครต้องการตังตรงไหนเบิกทันที เวลานั้นเช่นแต่ละวันฝากถอนแค่1ล้านล้านบาททั่วประเทศ, ตังในระบบเย็นคือ9ล้านล้านบาท ทดลองปล่อยยืมให้ชาวบ้านคนละ10,000บาทค้าขายทำสัมมาอาชีพเล็กๆน้อยๆและปล่อยยืมระหว่างรอเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ปลูกพืชผักระยะสั้นๆหรือหาบเร่แผงลอยรถเข็ญขายในบ้านในตลาดชุมชนตลาดนัดตลาดค่ำตลาดคลองถมชุมชนตนอีก10,000บาทรวมอาจ20,000บาท หมู่บ้านละ100คน,มี80,000หมู่บ้านทั่วประเทศชุมชนคือ160,000,000,000บาทหรือ160,000ล้านบาทเอง,ตังยังเหลือ8.84ล้านล้านบาทโน้นในธนาคารภาคประชาชนเรา,จากนั้นเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มตลาดเสรีออนไลน์เองได้แบบซ็อปปี้ ลาซาด้า อะไรนั้นขึ้นเอง เรามีโลจิสต์ขนส่งเราเองศูนย์รวบรวมสินค้าเข้าและออกคือกองทุนร้านหมู่บ้านเรานั้นเอง เป็นไปรษณีย์ขนส่งในตัว รับสินค้าประชาชนช่วยค้าขายได้,อาจมีโดรนขนส่งประจำสำนักงานหมู่บ้านนั้นๆคนละ2-3ตัว ส่งถึงมือคนรับซื้อในหมู่บ้านตนเอง เข้าป่าเข้าเขาขึ้นดอยขึ้นภูลำบาก,ส่งผ่านโดรนตั้งพิกัดgpsประกอบคลื่นมือถือดาวเทียมรวมก็ได้อีก,สั่งผลิตดาวเทียมเน็ตแบบstarlinkก็ได้ตัวละไม่เกิน3,000ล้านบาทเอง,ภาคเหนือเรา4ดวง อีสาน4ดวง กลาง4ดวง ตะวันออก2ดวง ตะวันตก2ดวง ใต้4ดวง ชัดเจนคลื่นส่งแน่นอนรวม20ดวงคูณ3,000ล้านคือ60,000ล้านบาทเอง บวกระบบควบคุมดูแลทั้งหมดทั้งประเทศไม่เกิน100,000ล้านบาทต่อปีภายในประเทศไทยเรา,และเชื่อมstarlinkหรือดาวเทียมนานาชาติทั่วโลกอีก สะดวกในการค้าขายของประชาชนคนไทยเราอีกไม่เกิน1แสนล้านบาทต่อปี,ซึ่งแพลตฟอร์มเราจะรองรับชาวโลกสากลมาร่วมค้าขายเสรีแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้คือเราสร้างฮับตลาดอีคอมเมิร์ซโลกประจำประเทศไทยนั้นเอง,รองรับสกุลเงินbricsในอนาคตด้วย,รายได้ในตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกคือ30-40ล้านล้านเหรียญต่อปี,ไทยเราอาจสร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่เฉพาะภายในแพลตฟอร์มไทยเราเองอาจกว่าสะพัดถึง100ล้านล้านเหรียญก็ได้ คือGtG GtB BtB Btc CtC แพลตฟอร์มเราตอบสนองความสะดวกสบายให้ได้หมดก็ว่า,คือตังในบัญชีเงินฝากของประชาชนไทยเราจะเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นนั้นเอง,และนั้นคือเงินในธนาคารกลางภาคประชาชนเราที่ฝากเอาไว้ก็เพิ่มขึ้นมหาศาลด้วย,เรายิ่งสามารถช่วยเหลือชาวบ้านคนไทยเราประชาชนไทบ้านเราที่ขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบธนาึราเอกชนเอกชนเจ้าสัวไทย,เรายิ่งปล่อยยืมให้ชาวบ้านเราเองมากขึ้นเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆแบบไม่คิดกำไรดอกเบี้ยใดๆเลยนั้นเอง.,ตลอดขุดคลองคอดกระในอนาคต สร้างแลนด์บริดจ์ในภาคใต้ใดๆก็ตาม ,พื้นที่บริหารจัดการทั้งหมด เราประชาชนทั้งลงทุนสร้างเอง ขุดเองจ้างเองเป็นเจ้าของเองร่วมกันในนามภาคประชาชนไทยเราก็ว่า100%,พื้นที่บริหารแลนด์บริดจ์เิย พื้นที่บริหารคลองคอดกระเอย เราภาคประชาชนร่วมกันเป็นเจ้าของตัวจริงและบริหารจัดการตัวจริงร่วมกันนั้น อย่างเป็นรูปธรรม เช่น จัดตั้งกองทุนคาบมหาสมุทรประจำประเทศไทยขึ้น แจกหุ้นสามัญฟรีๆแก่คนไทยคนละ10,000หุ้นทันทีแม้พึงเกิดก็รับอัตโนมัติที่เป็นคนไทยเรา เป็นเจ้าของจริงจับต้องได้ มีหลักฐานพิสูจน์ได้,ไม่ใช่อ้างว่าทำในนามรัฐบาลแล้วรัฐบาลก็ยกสิทธิบริหารจัดการทั้งหมดและเงินทองก็ว่าผ่องถ่ายไปให้เอกชนไทยและเอกชนต่างชาติทำกินหาแดกเองจนร่ำรวยมั่งคั่งแบบบ่อน้ำมันไทยเรา,จึงต้องตัดตอนยุติการทำหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนไม่สุจริตต่อชาติไทยตนทันที,จากนั้นออกหุ้นเพิ่มทุนเพิ่มทันทีให้ประชาชนคนไทยสามารถซื้อสิทธิความเป็นเจ้าของเพิ่มได้อีกคนละไม่เกิน10,000หุ้นๆละ0.01บาท.,ความเป็นเจ้าของนี้ไม่สามารถซื้อขายต่อได้ทุกๆกรณีจะเป็นหุ้นสามัญหรือหุ้นเพิ่มทุนก็ตาม,และจะตายสูญทันทีไปพร้อมกับคนไทยนั้นๆไม่สามารถมอบเป็นมรดกสืบต่อได้,เพราะทุกๆคนไทยมีสถานะการได้มาเมื่อเกิดทันทีอยู่แล้วทุกๆคนและสิทธิซื้อเพิ่มก็เสมอกันหมดตลอดชีพ,ห้ามนำเข้าตลาดหุ้นทุกๆกรณีด้วย,อธิปไตยนี้จะเป็นของคนไทยเราจริงทันที100%,ทุนการก่อสร้างแลนด์บริดจ์ประมาณการคือ1ล้านล้านบาท, ขุดคลองคอดกระคือ2ล้านล้านบาท ถ้า2เลนก็4ล้านล้านบาท,เงินกองทุนเราเติบโตต่อเนื่องหรือขั้นต่ำมีในมือกว่า8ล้านล้านบาทก็ว่า สามารถโยกตังมาลงทุนได้,และเหลือพ้นบริหารจัดการทั้งหมดต่อไปในอนาคตด้วย,ไม่รวมเงินมากมายที่ไหลเข้าสะสมออมในธนาคารเราต่อเนื่องทุกวินาทีด้วยตลิดปีอาจกว่า100ล้านล้านบาทในแพลตฟอร์มตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยเราเอง,เมื่อขุดคลองคอดกระเสร็จ สร้างแลนด์บริดจ์เสร็จ เราประเทศไทยจะเป็นฮับสากลของโลกสาระพัดฮับทันที อาทิ ฮับการรักษาทางเทคโนโลยีและสมุนไพรของโลก ฮับโรงพยาบาลโลกนั่นเอง,ฮับการขนส่งทางเรือและทางบกของโลก,ฮับต่อเรือขนาดใหญ่ของโลก,ฮับยานยนต์ภายในโลกและยานยนต์อวกาศโลก, สรุปสาระพัดฮับก็ว่า เม็ดเงินโคตรมหาศาลในพื้นที่บริเวณบริหารจัเการนี้ขั่นต่ำในอนาคต1,000ล้านล้านบาทต่อปีที่เข้าสู่ประเทศไทยเรา เฉลี่ยประชาชนคนไทยเราจะได้ประโยชน์จริงจากการถือหุ้นสามัญหุ้นเพิ่มทุน20,000หุ้นนั้นแน่นอน,เข้าบัญชีคนไทยทุกๆคนต่อปีขั้นต่ำ10ล้านบาทต่อปีนั้นเอง.อนาคตเราอาจจะมีประชากร100ล้านคน,หรือวัคซีนออกฤทธิ์อาจเหลือแค่10ล้านคนก็ว่าอีก,รอด10%ก็ว่า,สรุปรายได้เราเข้ามาสารพัดทางนั้นเอง,เราคนไทยจะไม่ผีบ้าดิ้นรนบ้าคลั่งแบบๆในอดีตๆที่ผ่านๆมานั้นเอง,จะมีเวลาพัฒนาตนเองสู่ประเทศผู้นำแห่งจิตวิญญาณของโลกในอนาคตก็ด้วย,บันเทิงกันเลยแน่ล่ะ ทุกๆคนไทยจะได้ท่องเที่ยวผ่านจิตท่องอาณาจักรจักรวาลน้อยใหญ่เสรีเป็นอันมาก แล้วนำพาโลกเราสู่แสงสว่างแห่งธรรมจักรวาลของจริงนั้นเอง.,ประเทศไทยเราจึงธรรมดาที่ไหน?.,555มโนก็ว่า. https://youtube.com/shorts/-p9TQjRaM-o?si=Jyhv-HoJ5HiR0r_i
    0 Comments 0 Shares 437 Views 0 Reviews
  • ความจริง เรื่องภาษี ไทยไม่จำเป็นต้อง เจรจาแค่กับ อเมริกา
    .
    Local Content ของไทยจริงๆมีไม่มาก ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นของ จีน และ อื่นๆ...
    .
    รัฐบาลไทย ก็ไปคุยกับเขาสิครับ ว่าเนี่ยประเทศไทย โดยภาษี 36% เพราะ สินค้าพวกคุณสวมตอเราเข้าไปขาย อเมริกา เขารู้จึง โยนภาษี 36% ใส่หัวประเทศไทย
    .
    ดังนั้น นอกจากประเทศไทยจะต้องแบกส่วน Local Content ของ ไทยไว้แล้ว คุณก็ต้องช่วย ต้องมีแบก ส่วน ของพวกคุณเองด้วยนะ...
    .
    ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ จีน ช่วยนำเข้าสินค้า Local Content ของไทย เพิ่มขึ้นหน่อยได้หรือไม่...???
    .
    การที่ รัฐ จะสนับสนุน สิ้นค้าส่งออกที่เป็น Local Content ของไทย อย่างเดียว และ จำนวนไม่มาก....
    .
    แล้วที่ไทยจำเป็นต้องทำเลยคือ หาตลาดใหม่ ไปเจารจา ไปพูดคุย เพื่อ เปิดตลาดใหม่เพิ่มขึ้น ทดแทนส่วนที่จะหายไปจาก อเมริกา เลิกพึ่งพา อเมริกา ได้แล้วครับ
    .
    จะคุ้มค่ากว่าการที่ ประเทศไทยจะปล่อยให้ ภาษีนำเข้าจาก อเมริกา เป็น 0 และ ต้องนำเข้าสินค้า การเกษตร จาก อเมริกา เข้ามาเพิ่ม
    .
    เพราะ เกษตรกรไทย จะ วินาศสิ้น วิกฤตซ้อนวิกฤต...!!!
    .
    ไม่พอ ไทยยังต้อง ทยอยลดการขาดดุล ให้ อเมริกา จนกระทั่งเหลือ 0...
    .
    โดยที่ประเทศไทย อาจจะต้อง ซื้อของ จาก อเมริกา เพิ่ม เช่น..
    .
    1.อาวุธสงคราม (ตกรุ่น ราคาแพง)
    2.ฝูงบินโบอิ้ง (ที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย)
    3.สินค้าทางการเกษตร (ซึ่งต้นทุนถูกกว่าของประเทศไทย)
    4.เนื้อหมู (ซึ่งสารเร่งเนื้อแดง ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่กลับไม่ผิดกฎหมายใน อเมริกา)
    5.พันธบัตร อเมริกา (เท่ากับ ประเทศไทย ต้อง ตุน ดอลลาร์ เป็นเจ้าหนี้ให้ อเมริกา กู้เงิน เพิ่ม ดอกต่ำๆ)
    .
    ที่สำคัญเลย ผมเชื่อว่า อเมริกา ต้องขอใช้ พื้นที่ในประเทศไทย เป็นฐานทัพ เช่นเดียวกันกับที่ อเมริกา มีฐานทัพทั่วโลก อยู่กว่า 800 แห่ง และ ที่ไทย มีไว้เพื่อจัดการ จีน
    .
    นี่ล่าสุด RAND Corporation มีรายงานการวิจัยออกมาว่า ไทย เป็น หนึ่งใน พันธมิตร Indo-Pacific ที่ อเมริกา ต้องเขามาหาทาง ติดตั้ง ฐานยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์พิสัยกลาง ซึ่งสามารถยิงไปถึงจีน ให้ได้...!!!
    .
    สิ่งพวกนี้คือ ที่ประเทศไทย ต้องแลกมาเพื่อ ให้ได้ภาษี ต่ำกว่า 36% ย้ำว่า "แค่ต่ำกว่า 36%" ไม่ใช่ 0% ด้วยซ้ำไป...
    .
    มันได้ไม่คุ้ม กับที่เราจะเสีย ครับ ไม่เลย...!!!
    .
    ประเทศไทย ควรหลุดออกจากกรอบที่ว่า ต้องเป็น เด็กว่านอนสอนง่าย ของ อเมริกา ได้แล้ว...
    .
    สิ่งไหนเป็นประโยชน์ของประเทศ ก็ต้องเลือกสิ่งนั้น ตัดสินใจด้วยสมองของตัวเอง ไม่ใช่ยอมให้เขาจูงจมูกอยู่ตลอดเวลา
    ความจริง เรื่องภาษี ไทยไม่จำเป็นต้อง เจรจาแค่กับ อเมริกา . Local Content ของไทยจริงๆมีไม่มาก ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นของ จีน และ อื่นๆ... . รัฐบาลไทย ก็ไปคุยกับเขาสิครับ ว่าเนี่ยประเทศไทย โดยภาษี 36% เพราะ สินค้าพวกคุณสวมตอเราเข้าไปขาย อเมริกา เขารู้จึง โยนภาษี 36% ใส่หัวประเทศไทย . ดังนั้น นอกจากประเทศไทยจะต้องแบกส่วน Local Content ของ ไทยไว้แล้ว คุณก็ต้องช่วย ต้องมีแบก ส่วน ของพวกคุณเองด้วยนะ... . ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ จีน ช่วยนำเข้าสินค้า Local Content ของไทย เพิ่มขึ้นหน่อยได้หรือไม่...??? . การที่ รัฐ จะสนับสนุน สิ้นค้าส่งออกที่เป็น Local Content ของไทย อย่างเดียว และ จำนวนไม่มาก.... . แล้วที่ไทยจำเป็นต้องทำเลยคือ หาตลาดใหม่ ไปเจารจา ไปพูดคุย เพื่อ เปิดตลาดใหม่เพิ่มขึ้น ทดแทนส่วนที่จะหายไปจาก อเมริกา เลิกพึ่งพา อเมริกา ได้แล้วครับ . จะคุ้มค่ากว่าการที่ ประเทศไทยจะปล่อยให้ ภาษีนำเข้าจาก อเมริกา เป็น 0 และ ต้องนำเข้าสินค้า การเกษตร จาก อเมริกา เข้ามาเพิ่ม . เพราะ เกษตรกรไทย จะ วินาศสิ้น วิกฤตซ้อนวิกฤต...!!! . ไม่พอ ไทยยังต้อง ทยอยลดการขาดดุล ให้ อเมริกา จนกระทั่งเหลือ 0... . โดยที่ประเทศไทย อาจจะต้อง ซื้อของ จาก อเมริกา เพิ่ม เช่น.. . 1.อาวุธสงคราม (ตกรุ่น ราคาแพง) 2.ฝูงบินโบอิ้ง (ที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย) 3.สินค้าทางการเกษตร (ซึ่งต้นทุนถูกกว่าของประเทศไทย) 4.เนื้อหมู (ซึ่งสารเร่งเนื้อแดง ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่กลับไม่ผิดกฎหมายใน อเมริกา) 5.พันธบัตร อเมริกา (เท่ากับ ประเทศไทย ต้อง ตุน ดอลลาร์ เป็นเจ้าหนี้ให้ อเมริกา กู้เงิน เพิ่ม ดอกต่ำๆ) . ที่สำคัญเลย ผมเชื่อว่า อเมริกา ต้องขอใช้ พื้นที่ในประเทศไทย เป็นฐานทัพ เช่นเดียวกันกับที่ อเมริกา มีฐานทัพทั่วโลก อยู่กว่า 800 แห่ง และ ที่ไทย มีไว้เพื่อจัดการ จีน . นี่ล่าสุด RAND Corporation มีรายงานการวิจัยออกมาว่า ไทย เป็น หนึ่งใน พันธมิตร Indo-Pacific ที่ อเมริกา ต้องเขามาหาทาง ติดตั้ง ฐานยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์พิสัยกลาง ซึ่งสามารถยิงไปถึงจีน ให้ได้...!!! . สิ่งพวกนี้คือ ที่ประเทศไทย ต้องแลกมาเพื่อ ให้ได้ภาษี ต่ำกว่า 36% ย้ำว่า "แค่ต่ำกว่า 36%" ไม่ใช่ 0% ด้วยซ้ำไป... . มันได้ไม่คุ้ม กับที่เราจะเสีย ครับ ไม่เลย...!!! . ประเทศไทย ควรหลุดออกจากกรอบที่ว่า ต้องเป็น เด็กว่านอนสอนง่าย ของ อเมริกา ได้แล้ว... . สิ่งไหนเป็นประโยชน์ของประเทศ ก็ต้องเลือกสิ่งนั้น ตัดสินใจด้วยสมองของตัวเอง ไม่ใช่ยอมให้เขาจูงจมูกอยู่ตลอดเวลา
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 0 Reviews
  • ขายทุเรียนป่าละอู ส่งตรงถึงท่านจากสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่นะครับ ช่วยเกษตรกรระบายผลผลิตปลายฤดูกาลครับ

    สำหรับ fans สนธิทอร์ค, news1, และเครือ ผจก ให้ระบุใน in box ว่ามาจาก Thai town จะลดให้อีก10% จากราคารวมตามเงื่อนไขโปรโมชั่นครับ

    ต้องขออภัยทางไทยทาวน์ ขอวางลิงค์ facebook ไว้เป็นข้อมูลติดต่อเพิ่มเติมครับ https://www.facebook.com/share/p/185sW6wkYB/?mibextid=wwXIfr
    -----------

    โค้งสุดท้ายก่อนหมดฤดูกาล

    จำหน่ายทุเรียนป่าละอูแท้ 100%

    จากสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด โครงการตามพระราชประสงค์ ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

    ทุเรียนป่าละอูเป็นทุเรียนคุณภาพสูง และ มีการพัฒนามาอย่างยาวนานโดยทรงคุณค่าในความเฉพาะตัวและรักษาเอกลักษณ์ของแหล่งผลิตไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นความภูมิใจของชุมชนและคนไทยทั้งปวง

    ได้รับการขึ้นทะเบียน GI :
    ได้รับหนังสืออนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยในฐานะเป็นผู้ผลิต "ทุเรียนป่าละอู" ทะเบียนเลขที่ สช 57100062 จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา

    ทุเรียนป่าละอูแท้มีให้รับประทาน ปีละครั้งเดียว ช่วงเดือน มิถุนายนไปจนสิ้นเดือนกรกฎาคม เป็นการนำทุเรียนหมอนทองและชะนีมาปลูกพัฒนาในพื้นที่ป่าจนได้ลักษณะพิเศษของเนื้อและพันธ์ุที่บ่มเพาะโดยดินฟ้าอากาศและน้ำจากป่าเขาธรรมชาติ

    ------------------------------------------------------

    วันนี้ บริษัท เนียร์นอร์ท จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย (รายใหม่) และได้เริ่มดำเนินแผนในการส่งออก รวมทั้งเตรียมจำหน่ายในช่องทางที่หลากหลาย

    โดยได้ร่วมมือกับสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจากสงครามราคาทุเรียน และ โปรโมทสินค้าในท้ายฤดูกาลนี้

    ⭐️จึงจัดจำหน่ายราคาเดียวกับสหกรณ์ ⭐️

    ทุเรียนจะถูกตัดสดจากสวนของสมาชิกในสหกรณ์ และส่งโดยตรงถึงท่าน

    เริ่มจัดส่งตั้งแต่ 14 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไปจนถึงสิ้นเดือน
    หรือ จนสินค้าหมด

    --------------------------

    ⚡️ราคาจำหน่าย : ทุเรียน กิโลกรัมละ 269 บาท ส่งฟรี

    คิดราคาตามน้ำหนัก

    1 ผล น้ำหนักเฉลี่ย 1.5-2.5 กิโลกรัม จำหน่าย กิโลกรัมละ 269 บาท

    2 ผล น้ำหนักเฉลี่ย 3-5 กิโลกรัม จำหน่าย กิโลกรัมละ 259 บาท

    3 ผล ขึ้นไป น้ำหนักเฉลี่ย 6-9 กิโลกรัม จำหน่ายกิโลกรัมละ 249 บาท

    ซื้อ 10 กก.ขึ้นไป จำหน่ายกิโลกรัมละ 239 บาท
    ------------------------------
    ตัวอย่างการคำนวณ :

    ซื้อ 3 กก. → 259 × 3 = 777 บาท (จากปกติ 807 บาท)

    ซื้อ 5 กก. → 259 × 5 = 1,295 บาท (จากปกติ 1,345 บาท)

    ซื้อ 10 กก. → 239 × 10 = 2,390 บาท (จากปกติ 2,690 บาท)

    -------------------------------

    วิธีสั่งซื้อ:
    1. ทักอินบ๊อกเพจ
    2. แจ้งจำนวนลูกที่ต้องการ / หรือ แจ้งเป็นกิโลกรัม จะจัดส่งโดยเฉลี่ยน้ำหนัก
    3. ทีมงานจะสรุปยอด และ แจ้งบัญชี
    4. ลูกค้าส่งสลิปโอน จะทำการตัดยอด
    5. ทางสหกรณ์จะดำเนินการส่งให้ลูกค้าโดยตรงในวันรุ่งขึ้น

    ก่อนแกะทุเรียน
    ทางสหกรณ์จะมีคำแนะนำวันที่ในการแกะที่เหมาะสม โปรดสังเกตคำแนะนำตามฉลากที่ขั้วทุเรียน

    หากพบปัญหาให้ถ่ายรูปพร้อมฉลาก และแจ้งตามช่องทางที่ระบุที่ฉลากบนขั้วทุเรียนเพื่อดำเนินการจัดส่ง

    รับเคลม โดยเป็นไปตามเงื่อนไขคำแนะนำวันที่ รวมถึงความชำรุดบกพร่องในการขนส่ง ยกเว้นกรณีลูกค้าแกะก่อนสุกโดยไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำ

    โปรดอ่านเงื่อนไขการรับเคลมโดยละเอียด

    ( ภาพแกะเนื้อเป็นภาพตัวอย่างเนื้อ เพื่อการโฆษณา )

    --------------------------------------------
    --------------------------------------------

    ประวัติการพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียนป่าละอู

    ทุเรียนป่าละอูมีความเกี่ยวข้องกับโครงการตามพระราชประสงค์ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานต้นกล้าทุเรียนพันธุ์หมอนทองให้แก่ตำรวจตระเวนชายแดนนำไปปลูกในพื้นที่

    ทุเรียนป่าละอู เริ่มมีการนำเข้ามาปลูกในพื้นที่ป่าละอู ประมาณปีพ.ศ. 2527 ผู้ที่นำเข้ามาคนแรก คือนายพยุง พรายใย โดยนำพันธ์เม็ดใน ก้านยาว จากจังหวัดนนทบุรี และพันธุ์หมอนทอง จากระยอง มาทดลองปลูกจำนวน 100 ต้น ได้ผลผลิตที่ดีและแตกต่างจากต้นพันธุ์ที่นำมาจากทั้งสองจังหวัด

    เนื่องจากความสัมพันธ์กับพื้นที่เพาะปลูกที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ มีพื้นที่เป็นเทือกเขาสลับที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่าน สภาพพื้นดินอุดมสมบูรณ์มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี มีความชื้นสัมพันธ์สูง อุณหภูมิต่ำในเวลากลางคืน ช่วงหน้าฝนจะมีน้ำไหลบ่าลงจากยอดเขานำเอาแร่ธาตุอาหารมาเติมให้กับพื้นที่เกษตร สภาพดินเป็นดินปนทราย น้ำไม่ขังนาน เหมาะแก่การปลูกทุเรียน ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ทุเรียนป่าละอูมีความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่าง

    ทุเรียนลูกใหญ่กว่าที่อื่น เฉลี่ยน้ำหนักอยู่ที่ 1.5-5 กิโลกรัมต่อลูก ผลมีลักษณะเป็นวงรี ด้านใต้ผลจะแหลม ปลายหนามคม เห็นร่องพูชัดเจน

    โดยสีของเปลือกจะเป็นสีเขียวปนน้ำตาล ในส่วนของลักษณะเนื้อทุเรียน คือ มีรสหวาน เนื้อหนาเนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน เนื้อแห้งมีความมันมากกว่าความหวาน กลิ่นไม่รุนแรง และมีรสชาติดี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนไทยที่ไม่ชอบทุเรียนที่กลิ่นแรง.

    ที่มาข้อมูล : กรมทรัพย์สินทางปัญญา
    https://www.ipthailand.go.th/images/781/s_57100062_1.pdf
    ขายทุเรียนป่าละอู ส่งตรงถึงท่านจากสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่นะครับ ช่วยเกษตรกรระบายผลผลิตปลายฤดูกาลครับ สำหรับ fans สนธิทอร์ค, news1, และเครือ ผจก ให้ระบุใน in box ว่ามาจาก Thai town จะลดให้อีก10% จากราคารวมตามเงื่อนไขโปรโมชั่นครับ ต้องขออภัยทางไทยทาวน์ ขอวางลิงค์ facebook ไว้เป็นข้อมูลติดต่อเพิ่มเติมครับ https://www.facebook.com/share/p/185sW6wkYB/?mibextid=wwXIfr ----------- 📢โค้งสุดท้ายก่อนหมดฤดูกาล 📢 ☀️☀️☀️☀️☀️จำหน่ายทุเรียนป่าละอูแท้ 100% จากสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด โครงการตามพระราชประสงค์ ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทุเรียนป่าละอูเป็นทุเรียนคุณภาพสูง และ มีการพัฒนามาอย่างยาวนานโดยทรงคุณค่าในความเฉพาะตัวและรักษาเอกลักษณ์ของแหล่งผลิตไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นความภูมิใจของชุมชนและคนไทยทั้งปวง 🌟ได้รับการขึ้นทะเบียน GI : ได้รับหนังสืออนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยในฐานะเป็นผู้ผลิต "ทุเรียนป่าละอู" ทะเบียนเลขที่ สช 57100062 จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ทุเรียนป่าละอูแท้มีให้รับประทาน ปีละครั้งเดียว ช่วงเดือน มิถุนายนไปจนสิ้นเดือนกรกฎาคม เป็นการนำทุเรียนหมอนทองและชะนีมาปลูกพัฒนาในพื้นที่ป่าจนได้ลักษณะพิเศษของเนื้อและพันธ์ุที่บ่มเพาะโดยดินฟ้าอากาศและน้ำจากป่าเขาธรรมชาติ ------------------------------------------------------ 📣📣📣 วันนี้ บริษัท เนียร์นอร์ท จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย (รายใหม่) และได้เริ่มดำเนินแผนในการส่งออก รวมทั้งเตรียมจำหน่ายในช่องทางที่หลากหลาย โดยได้ร่วมมือกับสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจากสงครามราคาทุเรียน และ โปรโมทสินค้าในท้ายฤดูกาลนี้ ⭐️จึงจัดจำหน่ายราคาเดียวกับสหกรณ์ ⭐️ ทุเรียนจะถูกตัดสดจากสวนของสมาชิกในสหกรณ์ และส่งโดยตรงถึงท่าน เริ่มจัดส่งตั้งแต่ 14 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไปจนถึงสิ้นเดือน หรือ จนสินค้าหมด -------------------------- ⚡️ราคาจำหน่าย : ทุเรียน กิโลกรัมละ 269 บาท ส่งฟรี คิดราคาตามน้ำหนัก 1 ผล น้ำหนักเฉลี่ย 1.5-2.5 กิโลกรัม จำหน่าย กิโลกรัมละ 269 บาท 2 ผล น้ำหนักเฉลี่ย 3-5 กิโลกรัม จำหน่าย กิโลกรัมละ 259 บาท 3 ผล ขึ้นไป น้ำหนักเฉลี่ย 6-9 กิโลกรัม จำหน่ายกิโลกรัมละ 249 บาท ซื้อ 10 กก.ขึ้นไป จำหน่ายกิโลกรัมละ 239 บาท ------------------------------ ตัวอย่างการคำนวณ : ซื้อ 3 กก. → 259 × 3 = 777 บาท (จากปกติ 807 บาท) ซื้อ 5 กก. → 259 × 5 = 1,295 บาท (จากปกติ 1,345 บาท) ซื้อ 10 กก. → 239 × 10 = 2,390 บาท (จากปกติ 2,690 บาท) ------------------------------- ✅วิธีสั่งซื้อ: 1. ทักอินบ๊อกเพจ 2. แจ้งจำนวนลูกที่ต้องการ / หรือ แจ้งเป็นกิโลกรัม จะจัดส่งโดยเฉลี่ยน้ำหนัก 3. ทีมงานจะสรุปยอด และ แจ้งบัญชี 4. ลูกค้าส่งสลิปโอน จะทำการตัดยอด 5. ทางสหกรณ์จะดำเนินการส่งให้ลูกค้าโดยตรงในวันรุ่งขึ้น ⚠️ ก่อนแกะทุเรียน ทางสหกรณ์จะมีคำแนะนำวันที่ในการแกะที่เหมาะสม โปรดสังเกตคำแนะนำตามฉลากที่ขั้วทุเรียน หากพบปัญหาให้ถ่ายรูปพร้อมฉลาก และแจ้งตามช่องทางที่ระบุที่ฉลากบนขั้วทุเรียนเพื่อดำเนินการจัดส่ง ✅ รับเคลม โดยเป็นไปตามเงื่อนไขคำแนะนำวันที่ รวมถึงความชำรุดบกพร่องในการขนส่ง ยกเว้นกรณีลูกค้าแกะก่อนสุกโดยไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำ ⚠️โปรดอ่านเงื่อนไขการรับเคลมโดยละเอียด ( ภาพแกะเนื้อเป็นภาพตัวอย่างเนื้อ เพื่อการโฆษณา ) -------------------------------------------- -------------------------------------------- ✨ประวัติการพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียนป่าละอู✨ ทุเรียนป่าละอูมีความเกี่ยวข้องกับโครงการตามพระราชประสงค์ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานต้นกล้าทุเรียนพันธุ์หมอนทองให้แก่ตำรวจตระเวนชายแดนนำไปปลูกในพื้นที่ ทุเรียนป่าละอู เริ่มมีการนำเข้ามาปลูกในพื้นที่ป่าละอู ประมาณปีพ.ศ. 2527 ผู้ที่นำเข้ามาคนแรก คือนายพยุง พรายใย โดยนำพันธ์เม็ดใน ก้านยาว จากจังหวัดนนทบุรี และพันธุ์หมอนทอง จากระยอง มาทดลองปลูกจำนวน 100 ต้น ได้ผลผลิตที่ดีและแตกต่างจากต้นพันธุ์ที่นำมาจากทั้งสองจังหวัด เนื่องจากความสัมพันธ์กับพื้นที่เพาะปลูกที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ มีพื้นที่เป็นเทือกเขาสลับที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่าน สภาพพื้นดินอุดมสมบูรณ์มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี มีความชื้นสัมพันธ์สูง อุณหภูมิต่ำในเวลากลางคืน ช่วงหน้าฝนจะมีน้ำไหลบ่าลงจากยอดเขานำเอาแร่ธาตุอาหารมาเติมให้กับพื้นที่เกษตร สภาพดินเป็นดินปนทราย น้ำไม่ขังนาน เหมาะแก่การปลูกทุเรียน ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ทุเรียนป่าละอูมีความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ทุเรียนลูกใหญ่กว่าที่อื่น เฉลี่ยน้ำหนักอยู่ที่ 1.5-5 กิโลกรัมต่อลูก ผลมีลักษณะเป็นวงรี ด้านใต้ผลจะแหลม ปลายหนามคม เห็นร่องพูชัดเจน โดยสีของเปลือกจะเป็นสีเขียวปนน้ำตาล ในส่วนของลักษณะเนื้อทุเรียน คือ มีรสหวาน เนื้อหนาเนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน เนื้อแห้งมีความมันมากกว่าความหวาน กลิ่นไม่รุนแรง และมีรสชาติดี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนไทยที่ไม่ชอบทุเรียนที่กลิ่นแรง. ที่มาข้อมูล : กรมทรัพย์สินทางปัญญา https://www.ipthailand.go.th/images/781/s_57100062_1.pdf
    0 Comments 0 Shares 399 Views 0 Reviews
  • ## สงครามภาษี แค่ข้ออ้างบังหน้า...!!! ##
    ..
    ..
    ความจริงแล้ว อเมริกา ก็เป็นประเทศ เกษตรกรรม ครับ...
    .
    เพียงแต่ เขาใช้ เทคโนโลยี เข้ามาช่วย ดังนั้น การผลิต ทุกๆอย่างที่เขาขาย จึงมีต้นทุนที่ต่ำกว่า เกษตรกรไทยมากนัก...
    .
    ถ้า รัฐบาลไทย บอกจะให้เขา ภาษี 0% อย่างว่า และ จะนำเข้าเพิ่มขึ้น เกษตรกรไทย ตายแล้วตายอีก ตายอย่างเดียวครับ วิกฤตซ้ำซ้อน...
    .
    อีกอย่าง สินค้า Local ของไทยจริงๆ ไม่ได้มีมากมายขนาดนั้น สินค้าสวมตอซะเยอะครับ...
    .
    ความจริง อเมริกา แค่อยากปิดกั้นจีน ขณะเดียวกันก็บีบไทย เอาผลประโยชน์ และ บีบไทย เพื่อยอมให้เชาใช้พื้นที่...
    .
    ผมว่า เราไม่สู้ ปิดสถานกงสุลหมื่นล้านที่เชียงใหม่ดู เจรจาภาษี จะต่อรองได้มากขึ้นหล่ะครับ
    .
    สุดท้าย อเมริกา ต้องการ พื้นที่สำหรับสอดแนมจีน และ ฐานทัพ ไว้คอยจัดการจีน มากว่า ภาษีจากประเทศเล็กๆอย่างไทย...
    .
    แต่ แน่นอนว่า ถ้ารัฐบาลโง่ เจรจาไม่เป็น ไถจากเราได้เท่าไหร่เขาก็เอาครับ
    ....
    ....
    ความจริง เรื่องภาษี ไทยไม่จำเป็นต้อง เจรจาแค่กับ อเมริกา
    .
    Local Content ของไทยจริงๆมีไม่มาก ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นของ จีน และ อื่นๆ...
    .
    รัฐบาลไทย ก็ไปคุยกับเขาสิครับ ว่าเนี่ยประเทศไทย โดยภาษี 36% เพราะ สินค้าพวกคุณสวมตอเราเข้าไปขาย อเมริกา เขารู้จึง โยนภาษี 36% ใส่หัวประเทศไทย
    .
    ดังนั้น นอกจากประเทศไทยจะต้องแบกส่วน Local Content ของ ไทยไว้แล้ว คุณก็ต้องช่วย ต้องมีแบก ส่วน ของพวกคุณเองด้วยนะ...
    .
    ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ จีน ช่วยนำเข้าสินค้า Local Content ของไทย เพิ่มขึ้นหน่อยได้หรือไม่...???
    .
    การที่ รัฐ จะสนับสนุน สิ้นค้าส่งออกที่เป็น Local Content ของไทย อย่างเดียว และ จำนวนไม่มาก....
    .
    จะคุ้มค่ากว่าการที่ ประเทศไทยจะปล่อยให้ ภาษีนำเข้าจาก อเมริกา เป็น 0 และ ต้องนับสินค้า การเกษตร จาก อเมริกา เข้ามาเพิ่ม
    .
    เพราะ เกษตรกรไทย จะ วินาศสิ้น วิกฤตซ้อนวิกฤต...!!!
    .
    ไม่พอ ไทยยังต้อง ทยอยลดการขาดดุล ให้ อเมริกา จนกระทั่งเหลือ 0...
    .
    โดยที่ประเทศไทย อาจจะต้อง ซื้อของ จาก อเมริกา เพิ่ม เช่น..
    .
    1.อาวุธสงคราม (ตกรุ่น ราคาแพง)
    2.ฝูงบินโบอิ้ง (ที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย)
    3.สินค้าทางการเกษตร (ซึ่งต้นทุนถูกกว่าของประเทศไทย)
    4.เนื้อหมู (ซึ่งสารเร่งเนื้อแดง ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่กลับไม่ผิดกฎหมายใน อเมริกา)
    5.พันธบัตร อเมริกา (เท่ากับ ประเทศไทย ต้อง ตุน ดอลลาร์ เป็นเจ้าหนี้ให้ อเมริกา กู้เงิน เพิ่ม ดอกต่ำๆ)
    .
    ที่สำคัญเลย ผมเชื่อว่า อเมริกา ต้องขอใช้ พื้นที่ในประเทศไทย เป็นฐานทัพ เช่นเดียวกันกับที่ อเมริกา มีฐานทัพทั่วโลก อยู่กว่า 800 แห่ง และ ที่ไทย มีไว้เพื่อจัดการ จีน
    .
    สิ่งพวกนี้คือ ที่ประเทศไทย ต้องแลกมาเพื่อ ให้ได้ภาษี ต่ำกว่า 36% ย้ำว่า "แค่ต่ำกว่า 36%" ไม่ใช่ 0% ด้วยซ้ำไป...
    .
    มันได้ไม่คุ้ม กับที่เราจะเสีย ครับ ไม่เลย...!!!
    .
    ประเทศไทย ควรหลุดออกจากกรอบที่ว่า ต้องเป็น เด็กว่านอนสอนง่าย ของ อเมริกา ได้แล้ว...
    .
    สิ่งไหนเป็นประโยชน์ของประเทศ ก็ต้องเลือกสิ่งนั้น ตัดสินใจด้วยสมองของตัวเอง ไม่ใช่ยอมให้เขาจูงจมูกอยู่ตลอดเวลา
    ....
    ....
    สุดท้ายต้องไม่ลืมไปดู 4 จังหวัดชายแดนใต้ด้วย...!!!
    .
    ไอ้นิทาน รัฐปาตานี และ นโยบายพรรคการเมืองบางพรรค ที่ว่า ปกครองตนเอง ทรัพยากรท้องถิ่น เก็บกันเอง ใช้กันเองเนี่ย เผลอๆ อาจจะเรื่องเดียวกันก็ได้ครับ...!!!
    .
    กลิ่น ไซออนิสต์ และ ขี้ข้า เป็นฝูง มันทำงานเชื่อมโยงกัน และ มีพวกลงไปอยู่ในพื้นที่ และ หนุน BRN อย่างรอบด้าน อยู่ตรงนั้นด้วย...
    ## สงครามภาษี แค่ข้ออ้างบังหน้า...!!! ## .. .. ความจริงแล้ว อเมริกา ก็เป็นประเทศ เกษตรกรรม ครับ... . เพียงแต่ เขาใช้ เทคโนโลยี เข้ามาช่วย ดังนั้น การผลิต ทุกๆอย่างที่เขาขาย จึงมีต้นทุนที่ต่ำกว่า เกษตรกรไทยมากนัก... . ถ้า รัฐบาลไทย บอกจะให้เขา ภาษี 0% อย่างว่า และ จะนำเข้าเพิ่มขึ้น เกษตรกรไทย ตายแล้วตายอีก ตายอย่างเดียวครับ วิกฤตซ้ำซ้อน... . อีกอย่าง สินค้า Local ของไทยจริงๆ ไม่ได้มีมากมายขนาดนั้น สินค้าสวมตอซะเยอะครับ... . ความจริง อเมริกา แค่อยากปิดกั้นจีน ขณะเดียวกันก็บีบไทย เอาผลประโยชน์ และ บีบไทย เพื่อยอมให้เชาใช้พื้นที่... . ผมว่า เราไม่สู้ ปิดสถานกงสุลหมื่นล้านที่เชียงใหม่ดู เจรจาภาษี จะต่อรองได้มากขึ้นหล่ะครับ . สุดท้าย อเมริกา ต้องการ พื้นที่สำหรับสอดแนมจีน และ ฐานทัพ ไว้คอยจัดการจีน มากว่า ภาษีจากประเทศเล็กๆอย่างไทย... . แต่ แน่นอนว่า ถ้ารัฐบาลโง่ เจรจาไม่เป็น ไถจากเราได้เท่าไหร่เขาก็เอาครับ .... .... ความจริง เรื่องภาษี ไทยไม่จำเป็นต้อง เจรจาแค่กับ อเมริกา . Local Content ของไทยจริงๆมีไม่มาก ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นของ จีน และ อื่นๆ... . รัฐบาลไทย ก็ไปคุยกับเขาสิครับ ว่าเนี่ยประเทศไทย โดยภาษี 36% เพราะ สินค้าพวกคุณสวมตอเราเข้าไปขาย อเมริกา เขารู้จึง โยนภาษี 36% ใส่หัวประเทศไทย . ดังนั้น นอกจากประเทศไทยจะต้องแบกส่วน Local Content ของ ไทยไว้แล้ว คุณก็ต้องช่วย ต้องมีแบก ส่วน ของพวกคุณเองด้วยนะ... . ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ จีน ช่วยนำเข้าสินค้า Local Content ของไทย เพิ่มขึ้นหน่อยได้หรือไม่...??? . การที่ รัฐ จะสนับสนุน สิ้นค้าส่งออกที่เป็น Local Content ของไทย อย่างเดียว และ จำนวนไม่มาก.... . จะคุ้มค่ากว่าการที่ ประเทศไทยจะปล่อยให้ ภาษีนำเข้าจาก อเมริกา เป็น 0 และ ต้องนับสินค้า การเกษตร จาก อเมริกา เข้ามาเพิ่ม . เพราะ เกษตรกรไทย จะ วินาศสิ้น วิกฤตซ้อนวิกฤต...!!! . ไม่พอ ไทยยังต้อง ทยอยลดการขาดดุล ให้ อเมริกา จนกระทั่งเหลือ 0... . โดยที่ประเทศไทย อาจจะต้อง ซื้อของ จาก อเมริกา เพิ่ม เช่น.. . 1.อาวุธสงคราม (ตกรุ่น ราคาแพง) 2.ฝูงบินโบอิ้ง (ที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย) 3.สินค้าทางการเกษตร (ซึ่งต้นทุนถูกกว่าของประเทศไทย) 4.เนื้อหมู (ซึ่งสารเร่งเนื้อแดง ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่กลับไม่ผิดกฎหมายใน อเมริกา) 5.พันธบัตร อเมริกา (เท่ากับ ประเทศไทย ต้อง ตุน ดอลลาร์ เป็นเจ้าหนี้ให้ อเมริกา กู้เงิน เพิ่ม ดอกต่ำๆ) . ที่สำคัญเลย ผมเชื่อว่า อเมริกา ต้องขอใช้ พื้นที่ในประเทศไทย เป็นฐานทัพ เช่นเดียวกันกับที่ อเมริกา มีฐานทัพทั่วโลก อยู่กว่า 800 แห่ง และ ที่ไทย มีไว้เพื่อจัดการ จีน . สิ่งพวกนี้คือ ที่ประเทศไทย ต้องแลกมาเพื่อ ให้ได้ภาษี ต่ำกว่า 36% ย้ำว่า "แค่ต่ำกว่า 36%" ไม่ใช่ 0% ด้วยซ้ำไป... . มันได้ไม่คุ้ม กับที่เราจะเสีย ครับ ไม่เลย...!!! . ประเทศไทย ควรหลุดออกจากกรอบที่ว่า ต้องเป็น เด็กว่านอนสอนง่าย ของ อเมริกา ได้แล้ว... . สิ่งไหนเป็นประโยชน์ของประเทศ ก็ต้องเลือกสิ่งนั้น ตัดสินใจด้วยสมองของตัวเอง ไม่ใช่ยอมให้เขาจูงจมูกอยู่ตลอดเวลา .... .... สุดท้ายต้องไม่ลืมไปดู 4 จังหวัดชายแดนใต้ด้วย...!!! . ไอ้นิทาน รัฐปาตานี และ นโยบายพรรคการเมืองบางพรรค ที่ว่า ปกครองตนเอง ทรัพยากรท้องถิ่น เก็บกันเอง ใช้กันเองเนี่ย เผลอๆ อาจจะเรื่องเดียวกันก็ได้ครับ...!!! . กลิ่น ไซออนิสต์ และ ขี้ข้า เป็นฝูง มันทำงานเชื่อมโยงกัน และ มีพวกลงไปอยู่ในพื้นที่ และ หนุน BRN อย่างรอบด้าน อยู่ตรงนั้นด้วย...
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • ..บ้าไปแล้ว 200,000ล้านนะ ไม่น้อยเลย,อุ้มเจ้าสัวกินเปล่าอะไรขนาดนั้น,อุ้มต่างชาติมาเปิดโรงงานในไทยอีก,ชาวนาขาวเกษตรกรยังไม่เยอะขนาดนี้เลย,2แสนล้านนี้ดูว่าเข้าบัญชีใครบ้างคงจะรู้ไม่ยาก,อนาถจริงๆกับการชดเชยพวกเจ้าสัวนี้,เวลาฟันกำไรจนร่ำรวยติดอันดับต้นๆของประเทศไทย มันเคยชดเชยเยียวยาผลกำไรกลับคลังหลวงของประเทศมั้ย,นี้คือกลไกปกครองที่ผีบ้ามา,กิจการเจ้าสัวจะตายห่าไม่ได้อุ้มด้วยตังภาษีประเทศเสมอและอ้างเอาประชาชนว่าเดือดร้อนอย่างนั้นอย่างนี้สาระพัด.
    ..https://youtu.be/-WkkVE31_zA?si=6wcvCae_wkwRi8r3
    ..บ้าไปแล้ว 200,000ล้านนะ ไม่น้อยเลย,อุ้มเจ้าสัวกินเปล่าอะไรขนาดนั้น,อุ้มต่างชาติมาเปิดโรงงานในไทยอีก,ชาวนาขาวเกษตรกรยังไม่เยอะขนาดนี้เลย,2แสนล้านนี้ดูว่าเข้าบัญชีใครบ้างคงจะรู้ไม่ยาก,อนาถจริงๆกับการชดเชยพวกเจ้าสัวนี้,เวลาฟันกำไรจนร่ำรวยติดอันดับต้นๆของประเทศไทย มันเคยชดเชยเยียวยาผลกำไรกลับคลังหลวงของประเทศมั้ย,นี้คือกลไกปกครองที่ผีบ้ามา,กิจการเจ้าสัวจะตายห่าไม่ได้อุ้มด้วยตังภาษีประเทศเสมอและอ้างเอาประชาชนว่าเดือดร้อนอย่างนั้นอย่างนี้สาระพัด. ..https://youtu.be/-WkkVE31_zA?si=6wcvCae_wkwRi8r3
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • "สุชาติ" ชูโมเดล "ธงเขียว" ลดภาระเกษตรกรแก้ปัญหาราคาเกษตรตกต่ำ เน้นลดต้นทุน-หาตลาด สร้างกลยุทธ์ครบวงจร
    https://www.thai-tai.tv/news/20251/
    .
    #รัฐบาลช่วยเกษตรกร #โครงการธงเขียว #ลดต้นทุนการผลิต #ควบคุมราคาอาหาร #กระทรวงพาณิชย์ #เกษตรไทย #เศรษฐกิจไทย #ค่าครองชีพ #ข่าวเกษตร
    "สุชาติ" ชูโมเดล "ธงเขียว" ลดภาระเกษตรกรแก้ปัญหาราคาเกษตรตกต่ำ เน้นลดต้นทุน-หาตลาด สร้างกลยุทธ์ครบวงจร https://www.thai-tai.tv/news/20251/ . #รัฐบาลช่วยเกษตรกร #โครงการธงเขียว #ลดต้นทุนการผลิต #ควบคุมราคาอาหาร #กระทรวงพาณิชย์ #เกษตรไทย #เศรษฐกิจไทย #ค่าครองชีพ #ข่าวเกษตร
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • เดือด! ชาวกำแพงเพชรบุกร้อง "พรรคประชาชน" จี้สอบ "รักชนก" โพสต์ปมงบน้ำ ถามทำไมต้องเอาความเดือดร้อนปชช.เกี่ยว!
    https://www.thai-tai.tv/news/20235/
    .
    #รักชนกศรีนอก #ไผ่ลิกค์ #กำแพงเพชร #งบประมาณ69 #พรรคประชาชน #เกษตรกรเดือดร้อน #การเมือง #ตรวจสอบงบ
    เดือด! ชาวกำแพงเพชรบุกร้อง "พรรคประชาชน" จี้สอบ "รักชนก" โพสต์ปมงบน้ำ ถามทำไมต้องเอาความเดือดร้อนปชช.เกี่ยว! https://www.thai-tai.tv/news/20235/ . #รักชนกศรีนอก #ไผ่ลิกค์ #กำแพงเพชร #งบประมาณ69 #พรรคประชาชน #เกษตรกรเดือดร้อน #การเมือง #ตรวจสอบงบ
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • #เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?
    #12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

    สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว

    เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย

    บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย

    จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน

    นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์

    ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”

    การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย

    ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

    “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ”

    แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย

    ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ

    ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา

    ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา

    เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย

    แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?

    คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น

    ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม?

    นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป

    โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก

    แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ

    โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้

    ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"

    โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด

    ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

    ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ

    หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก

    แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ

    ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา

    ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง"

    คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

    หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้

    ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย

    ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ

    การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้

    ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา

    การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น

    ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้

    แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด

    จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง

    สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา

    การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย

    เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?🤠 🤠#12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง🤠 สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์ 🥰ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”🥰 การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ” แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย 🥰แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?🥰 คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น 🥰ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม? 🥰 นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้ 🥰ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"🥰 โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง" คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 🥰หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้🥰 ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้ 🥰ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา🥰 การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด 🥰จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง🥰 สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน 💓โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า💓 😍กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ😍
    0 Comments 0 Shares 579 Views 0 Reviews
  • สถานที่ทรมานและประหารชีวิตสุดอื้อฉาว 3 แห่งของกัมพูชา ที่เขมรแดงใช้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อ 50 ปีก่อน ได้รับการขึ้นทะเบียนในรายชื่อมรดกโลกของยูเนสโกเมื่อวันศุกร์ (11)

    กลุ่มลัทธิเหมาหัวรุนแรงนำโดยพลพต ได้กำหนดปฏิทินขึ้นใหม่เริ่มต้น ‘ปีศูนย์’ ในวันที่ 17 เม.ย. 2518 กวาดต้อนผู้คนออกจากเมืองเพื่อสร้างรัฐเกษตรกรรมบริสุทธิ์ที่ไร้ชนชั้น การเมือง หรือทุน ประชาชนราว 2 ล้านคนเสียชีวิตจากความอดอยาก บังคับใช้แรงงาน การทรมาน หรือถูกสังหารหมู่ระหว่างปี 2518-2522

    สถานที่ในกัมพูชาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประกอบด้วยเรือนจำ 2 แห่ง และทุ่งสังหาร ที่ใช้ประหารชีวิตผู้คนหลายพันคน

    “นี่คือภูมิทัศน์แห่งความทรงจำร่วมกันของเราในกัมพูชา” ยุก ชาง ผู้รอดชีวิตจากทุ่งสังหารและผู้อำนวยการศูนย์เอกสารแห่งกัมพูชา ที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับความโหดร้ายของเขมรแดง กล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000065509

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา #เขมรแดง #ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ #ขึ้นทะเบียน #มรดกโลก #ยูเนสโก
    สถานที่ทรมานและประหารชีวิตสุดอื้อฉาว 3 แห่งของกัมพูชา ที่เขมรแดงใช้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อ 50 ปีก่อน ได้รับการขึ้นทะเบียนในรายชื่อมรดกโลกของยูเนสโกเมื่อวันศุกร์ (11) • กลุ่มลัทธิเหมาหัวรุนแรงนำโดยพลพต ได้กำหนดปฏิทินขึ้นใหม่เริ่มต้น ‘ปีศูนย์’ ในวันที่ 17 เม.ย. 2518 กวาดต้อนผู้คนออกจากเมืองเพื่อสร้างรัฐเกษตรกรรมบริสุทธิ์ที่ไร้ชนชั้น การเมือง หรือทุน ประชาชนราว 2 ล้านคนเสียชีวิตจากความอดอยาก บังคับใช้แรงงาน การทรมาน หรือถูกสังหารหมู่ระหว่างปี 2518-2522 • สถานที่ในกัมพูชาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประกอบด้วยเรือนจำ 2 แห่ง และทุ่งสังหาร ที่ใช้ประหารชีวิตผู้คนหลายพันคน • “นี่คือภูมิทัศน์แห่งความทรงจำร่วมกันของเราในกัมพูชา” ยุก ชาง ผู้รอดชีวิตจากทุ่งสังหารและผู้อำนวยการศูนย์เอกสารแห่งกัมพูชา ที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับความโหดร้ายของเขมรแดง กล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000065509 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา #เขมรแดง #ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ #ขึ้นทะเบียน #มรดกโลก #ยูเนสโก
    0 Comments 0 Shares 311 Views 0 Reviews
  • ‘สุชาติ’ เผย รัฐบาลจับมือยักษ์ใหญ่ธุรกิจ ช่วยชาวสวนมังคุดใต้พ้นวิกฤตราคาตกต่ำ
    https://www.thai-tai.tv/news/20221/
    .
    #ThaiAgriculture #Mangosteen #มังคุด #กระทรวงพาณิชย์ #สุชาติชมกลิ่น #ช่วยเหลือเกษตรกร #PriceStabilization #PublicPrivatePartnership #ไทยช่วยไทย
    ‘สุชาติ’ เผย รัฐบาลจับมือยักษ์ใหญ่ธุรกิจ ช่วยชาวสวนมังคุดใต้พ้นวิกฤตราคาตกต่ำ https://www.thai-tai.tv/news/20221/ . #ThaiAgriculture #Mangosteen #มังคุด #กระทรวงพาณิชย์ #สุชาติชมกลิ่น #ช่วยเหลือเกษตรกร #PriceStabilization #PublicPrivatePartnership #ไทยช่วยไทย
    0 Comments 0 Shares 320 Views 0 Reviews
  • ธรรมนัสลั่น! 'กล้าธรรม' พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจกวาด สส. กว่า 70 ชีวิตทั่วประเทศ
    https://www.thai-tai.tv/news/20217/
    .
    #พรรคกล้าธรรม #ธรรมนัส #กล้าทำเพื่อประชาชน #เลือกตั้งครั้งหน้า #การเมืองไทย #DARETODO #แกนนำรัฐบาล #เกษตรกร #ฐานราก
    ธรรมนัสลั่น! 'กล้าธรรม' พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจกวาด สส. กว่า 70 ชีวิตทั่วประเทศ https://www.thai-tai.tv/news/20217/ . #พรรคกล้าธรรม #ธรรมนัส #กล้าทำเพื่อประชาชน #เลือกตั้งครั้งหน้า #การเมืองไทย #DARETODO #แกนนำรัฐบาล #เกษตรกร #ฐานราก
    0 Comments 0 Shares 217 Views 0 Reviews
  • นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ รับมือภาษีสหรัฐอเมริกา โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ ส่วนที่เอกชนเป็นห่วงว่าเวียดนามได้ภาษี 20% อาจทำให้เราเสียภาษีมากกว่าคู่แข่ง เราจะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นสิ่งที่ทำหลายเรื่องจะชี้แจงให้ชัดเจน สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ต้องไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ทั้งภาคเกษตรกร อุตสาหกรรมรายย่อย อาจต้องรับซื้อสินค้าเข้ามา ก็ได้โอกาสปรับตัว สิ่งสำคัญคือมาตรการช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมรายย่อย โดยกำหนดหลักการกว้างๆ ไว้แล้ว ซึ่งจะลงรายละเอียดต่อไป

    -อย่าเชื่อเฟกนิวส์ถอนกำลัง
    -วัดภูม่านฟ้าไม่ได้ก๊อบเขมร
    -เขมรแหล่งอาชญากรรมโลก
    -ห้ามสัมผัสทากทะเลน้ำเงินมีพิษ
    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ รับมือภาษีสหรัฐอเมริกา โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ ส่วนที่เอกชนเป็นห่วงว่าเวียดนามได้ภาษี 20% อาจทำให้เราเสียภาษีมากกว่าคู่แข่ง เราจะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นสิ่งที่ทำหลายเรื่องจะชี้แจงให้ชัดเจน สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ต้องไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ทั้งภาคเกษตรกร อุตสาหกรรมรายย่อย อาจต้องรับซื้อสินค้าเข้ามา ก็ได้โอกาสปรับตัว สิ่งสำคัญคือมาตรการช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมรายย่อย โดยกำหนดหลักการกว้างๆ ไว้แล้ว ซึ่งจะลงรายละเอียดต่อไป -อย่าเชื่อเฟกนิวส์ถอนกำลัง -วัดภูม่านฟ้าไม่ได้ก๊อบเขมร -เขมรแหล่งอาชญากรรมโลก -ห้ามสัมผัสทากทะเลน้ำเงินมีพิษ
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 852 Views 0 0 Reviews
  • หลังจากอิสราเอลใช้กำลังเข้าครอบครองพื้นที่ในกาซา ดินแดนบรรพบุรุษขของชาวปาเลสไตน์ได้เกินกว่า 80% ขณะนี้อิสราเอลได้มุ่งเป้าหมายไปในดินแดนในเขตเวสต์แบงก์

    อิสราเอลยื่นศาลสูงขออนุมัติการรื้อถอนหมู่บ้านของชาวปาเลสไตน์ 12 แห่ง ในพื้นที่ "มาซาเฟอร์ ยัตตา" เขตเฮบรอน (Hebron) ทางใต้ของเวสต์แบงก์ เพื่อขับไล่พลเมืองมากกว่า 1,200 คน ออกจากพื้นที่ โดยอ้างว่าต้องการใช้เป็นเขตซ้อมรบ แต่หลักฐานบ่งชี้ว่าไม่เคยมีการซ้อมรบอยา่างจริงจัง แต่รัฐบาลอิสราเอลปล่อยให้ชาวยิวเข้ามาตั้งถิ่นฐานยึดครองเพื่อทำเป็นพื้นที่เกษตรกรรมและปศุสัตว์ป้อนสู่อิสราเอล ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์ถูกตัดขาดจากพื้นที่เกษตรของพวกเขา ที่เป็นแหล่งรายได้หลัก

    AI Jazeera รายงานว่า นับตั้งแต่ปี 1967 อิสราเอลเปลี่ยนสถานะพื้นที่กว่า 1 ใน 3 ของเขตเวสต์แบงก์เป็นเขตทหาร แต่การตรวจสอบพบว่าร้อยละ 80 ของเขตเหล่านั้นไม่เคยมีการฝึกหรือซ้อมทางทหารเกิดขึ้นจริง สะท้อนถึงชาวปาเลสไตน์ที่กำลังเผชิญการสูญเสียดินแดนที่เป็นถิ่นฐานมรดกตกทอดหลายชั่วอายุคนของบรรพบุรุษพวกเขา
    หลังจากอิสราเอลใช้กำลังเข้าครอบครองพื้นที่ในกาซา ดินแดนบรรพบุรุษขของชาวปาเลสไตน์ได้เกินกว่า 80% ขณะนี้อิสราเอลได้มุ่งเป้าหมายไปในดินแดนในเขตเวสต์แบงก์ อิสราเอลยื่นศาลสูงขออนุมัติการรื้อถอนหมู่บ้านของชาวปาเลสไตน์ 12 แห่ง ในพื้นที่ "มาซาเฟอร์ ยัตตา" เขตเฮบรอน (Hebron) ทางใต้ของเวสต์แบงก์ เพื่อขับไล่พลเมืองมากกว่า 1,200 คน ออกจากพื้นที่ โดยอ้างว่าต้องการใช้เป็นเขตซ้อมรบ แต่หลักฐานบ่งชี้ว่าไม่เคยมีการซ้อมรบอยา่างจริงจัง แต่รัฐบาลอิสราเอลปล่อยให้ชาวยิวเข้ามาตั้งถิ่นฐานยึดครองเพื่อทำเป็นพื้นที่เกษตรกรรมและปศุสัตว์ป้อนสู่อิสราเอล ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์ถูกตัดขาดจากพื้นที่เกษตรของพวกเขา ที่เป็นแหล่งรายได้หลัก AI Jazeera รายงานว่า นับตั้งแต่ปี 1967 อิสราเอลเปลี่ยนสถานะพื้นที่กว่า 1 ใน 3 ของเขตเวสต์แบงก์เป็นเขตทหาร แต่การตรวจสอบพบว่าร้อยละ 80 ของเขตเหล่านั้นไม่เคยมีการฝึกหรือซ้อมทางทหารเกิดขึ้นจริง สะท้อนถึงชาวปาเลสไตน์ที่กำลังเผชิญการสูญเสียดินแดนที่เป็นถิ่นฐานมรดกตกทอดหลายชั่วอายุคนของบรรพบุรุษพวกเขา
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 291 Views 0 Reviews
  • ..นี้คืออดีตผู้นำผู้ปกครองอีกมุมมองหนึ่ง,ปฐมบทแห่งคำเรียก "เกษตรกร" ไม่ใช่คนแล้ว.
    ..จุดเริ่มต้นแห่งการทำลายป่าไม้ถึงปัจจุบัน,ระบบทาสตังของdeep stateเริ่มปั่นป่วนในไทยตั้งแต่นั้นเรื่อยมา.
    ..เราต้องมีผู้นำผู้ปกครองคนดีขึ้นปกครองจริงๆรู้ทันโลก รู้ทันdeep stateที่ครอบงำโลก และต้องปลดปล่อยตนเองออกจากdeep stateฝรั่งข้ามโลกสากลโลกด้วย,นายกฯปฏิวัตรัฐประหารยึดอำนาจที่มาจากพระราชทานจึงสำคัญ พระมหากษัตริย์เราต้องเป็นอิสระจากdeep stateฝ่ายมืดโลกอย่างเปิดเผยจริงๆ,มันยึดอำนาจเรานานเกินไปเกินพอแล้ว.ประเทศไทยเราปกครองผีบ้าปั่นป่วนโกลาหลนานพอแล้ว.

    https://youtube.com/shorts/vMUb9UsBq2o?si=JrVARNlSz5OJOd-4
    ..นี้คืออดีตผู้นำผู้ปกครองอีกมุมมองหนึ่ง,ปฐมบทแห่งคำเรียก "เกษตรกร" ไม่ใช่คนแล้ว. ..จุดเริ่มต้นแห่งการทำลายป่าไม้ถึงปัจจุบัน,ระบบทาสตังของdeep stateเริ่มปั่นป่วนในไทยตั้งแต่นั้นเรื่อยมา. ..เราต้องมีผู้นำผู้ปกครองคนดีขึ้นปกครองจริงๆรู้ทันโลก รู้ทันdeep stateที่ครอบงำโลก และต้องปลดปล่อยตนเองออกจากdeep stateฝรั่งข้ามโลกสากลโลกด้วย,นายกฯปฏิวัตรัฐประหารยึดอำนาจที่มาจากพระราชทานจึงสำคัญ พระมหากษัตริย์เราต้องเป็นอิสระจากdeep stateฝ่ายมืดโลกอย่างเปิดเผยจริงๆ,มันยึดอำนาจเรานานเกินไปเกินพอแล้ว.ประเทศไทยเราปกครองผีบ้าปั่นป่วนโกลาหลนานพอแล้ว. https://youtube.com/shorts/vMUb9UsBq2o?si=JrVARNlSz5OJOd-4
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • ..อนาคตห้ามโรงงานอุตสาหกรรม หรือบริษัทใดๆ ค้าขาย ทำกำไรจากส่วนต่างใดๆหรือดอกเบี้ยที่งอกผลออกมาจากเครดิตคาร์บอน,ห้ามซื้อขายเครดิตคาร์บอนโดยอ้างว่ามาชดเชยสิ่งที่กิจการตนบริษัทตนโรงงานตนปล่อยคาร์บอนออกมา โดยในความเป็นจริงตนบริษัทตน โรงงานตนไม่ได้ปลูกป่าปลูกต้นไม้จริงเพื่อสร้างเครดิตคาร์บอนจริงทางตรงใดๆได้เลย,ห้ามมีธนาคารปล่อยกู้เครดิตคาร์บอน,ห้ามมีการบริษัทกิจการใดๆนำคาร์บอนมาโดยตนเองมิได้มีแหล่งคาร์บอนจริงหรือเป็นที่มาของคาร์บอนเครดิต,โรงงานกิจการใดๆหากปล่อยคาร์บอนเครดิต 1หน่วย ต้องปลูกคาร์บอนเครดิตจริง1หน่วยทดแทนมิใช่ซื้อมาจากแหล่งอื่นมาอ้างชดเชยการปล่อยคาร์บอนออกไปทุกๆกรณี,รัฐมีหน้าที่ควบคุมโรงงานบริษัททั้งหมดภายในประเทศไทยในการตรวจสอบการปล่อยคาร์บอนและสามารถบังคับใช้ทางกฎหมายได้ทุกๆกรณี เช่นพักบริษัทกิจการนั้นๆโรงงานนั้นๆได้ พักใบอนุญาตหรือถอนใบอนุญาตประกอบกิจการได้ในทันที,หากไม่พร้อมปลูกชดเชยจริงของการมีอยู่จริงซึ่งสถานะคาร์บอนเครดิตนั้น,ไม่สามารถตัดตอน ไม่สามารถผักชีโรยหน้าซื้อมาจากแหล่งอื่นเพื่ออ้างว่ามีสิทธิชดเชยคาร์บอนเครดิตได้เพื่อสะดวกต่อการค้าการผลิตการทำกำไรทำรายได้ทำตังของกิจการตนให้ปกติเหมือนเดิมต่อไปเสมือนว่าตนเองปลูกแหล่งให้ได้มาซึ่งคาร์บอนเครดิตนั้น,จะกระทำมิได้ต้องปลูกจริงชดเชยสถานเดียว,ก่อนจะสร้างโรงงานใดๆผู้ประกอบการต้องประเมินการปลดปล่อยอากาศพิษนี้ต่อโลกต่อมนุษย์แม้คาร์บอนดีต่อต้นไม้ในรูปCO2แต่นัยยะคาร์บอนมากผิดปกติย่อมส่งผลไม่ดีต่อชั้นบรรยากาศโลกแม้ไม่รวมทฤษฎีสมคบคิดHAARPด้วยก็ตามที่ใส่ร้ายใส่ความว่าผิดของภาวะโลกร้อนทำให้เกิดภัยธรรมชาติแต่แท้จริงเกิดจากเครื่องมือHAARPนั้นเองก็ตาม,กิจการโรงงานใดๆห้ามซื้อขายคาร์บอนเครดิตทุกๆกรณี,บริษัทใดๆห้ามค้าขายคาร์บอนเครดิตหรือซื้อเก็งกำไรคาร์บอนเครดิต,หรือมีเพื่อค้าขายเพื่อปล่อยกู้ปล่อยเช่าปล่อยช่วง,คือหน้าที่ความรับผิดชอบของบริษัทกิจการนั้นๆและถ้าทำโรงงานแล้วมีส่วนทางตรงในการปลดปล่อยคาร์บอนก็มีหน้าที่ทางตรงต้องปลูกแหล่งที่มาจริงของคาร์บอนเครดิตประกอบการเปิดกิจการด้วยซึ่งประเมินผลรับรู้ล่วงหน้าคราวๆได้แล้วแน่นอนก่อนยื่นดำเนินกิจการหรือขยายกิจการนั้นๆ,ภาระนี้ประขาชนมิต้องรับผิดชอบมาปลูกเพื่อขายคาร์บอนเครดิตแก่โรงงานกิจการใดๆให้โรงงานเป็นข้ออ้างว่าชดเชยคาร์บอนที่ปล่อยไปนั้นโดยที่ความเป็นจริงเนื้อแท้ตนไม่สามารถปลูกคาร์บอนให้ครบเกณฑ์ที่รัฐกำหนดเลยก่อนเปิดกิจการดำเนินงาน,รัฐบาลไม่มีหน้าที่จัดหาคาร์บอนเครดิตให้เอกชนใดๆให้มีครบตามเงื่อนไขก่อนดำเนินกิจการนั้นๆ.,อยากสร้างกิจการโรงงานบริษัทต้องปลูกคาร์บอนอย่างเดียว,และทำตามที่มี ขยายโรงงานตามความสามารถที่มีคาร์บอนเครดิตในมือ,มิใช่ซื้อมาหรืออ้างเกษตรกรรมปลูกคาร์บอนเครดิตขายให้ตนเพื่อหลบเลี่ยงความเป็นจริงที่ตนไม่ได้ปลูกมันเลย,รัฐบาลมีหน้าที่ควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดและยิ่งสร้างโรงงานที่ส่งผลกระทบจริงในการปลดปล่อยคาร์บอนยิ่งต้องกำกับควบคุมการปลูกต้นไม้ที่สร้างคาร์บอนเครดิตสร้างออกซิเจนทดแทนจริง,จริงๆต้องบอกว่า ออกซิเจนเครดิต,เพราะมนุษย์ไม่สามารถใช้CO2หายใจได้,แต่ใช้O2หายใจและO2นี้จะผลักดันคาร์บอนหรือแก๊สพิษส่วนเกินออกจากโลกได้,เมื่อมีปริมาณมากเพียงพอ,โดยมีต้นไม้เป็นผู้ผลิตO2ต่อมนุษย์จริงอีกส่วน แม้O2ส่วนใหญ่มาจากแกนใจกลางโลกก็ตาม,ที่ซึมออกขึ้นมาสู่ผิวเปลือกโลก.,การบิดเบือนวลีนี้วาทะกรรมนี้ก็ถือว่าชั่วเลวให้ประชาชนหลงในความเท็จ,ประชาชนผีบ้าอะไรจะผลิตคาร์บอนมาชดเชยคาร์บอนที่กิจการบริษัทหรือโรงงานนั้นๆปลดปล่อยออกมา,เราปลูกเพื่อผลิตO2ไปจับกับCคาร์บอนที่มันปล่อยมาต่างหากจึงสมควรประกาศบอกประชาชนว่า ออกซิเจนเครดิตจึงจะถูก,co2จำเป็นต่อต้นไม้ด้วย,ห้ามมีโรงงานดูดco2ในเอเชียในอาเชียนในประเทศไทยเด็ดขาด,แม้ดีต่อภาคอุตสาหกรรมในกระบวนการผลิตที่ใข้co2สร้างผลผลิตโรงงานกิจการบริษัท แต่นี้ถือว่าปล้นชิงอาหารกับต้นไม้ทั่วโลกพืชทั่วโลกชัดเจนด้วย,ตลอดคือภัยคุกคามร้ายแรงต่อการทำลายO2ของโลกเราทำลายออกซิเจนของคนทั้งโลกที่ใช้มันหายใจ,ดักจับตัดตอนฆ่าพืขฆ่าต้นไม้ผู้ผลิตออกซิเจนให้เราชัดเจนด้วย,นี้จึงเป็นนัยยะค้าประโยชน์ทางอ้อมก็ด้วย ฆ่าล้างเผ่าพันธ์มนุษย์ในคราวเดียวก็ด้วย หากสร้างเครื่องมือใช้ผ่านโรงงานต่างๆตั้งกลางป่าดักดูดดักจับคาร์บอนในป่าก็ได้อีกเพื่อเอาco2ไปใช้ทางอุตสาหกรรมทำกำไรงามมหาศาลเมื่อในต่างประเทศทั่วโลกทำได้แล้ว.
    ..พรบ.คาร์บอนเครดิตตีตราออกมาผืดประเภทผิดวัตถุประสงค์มุ่งเป้าหมายที่แท้จริง,ต้องมุ่งไปที่กิจการบริษัทและโรงงานทั้งหมดที่ดำเนินเดินเครื่องเปิดกิจการในประเทศไทย มิใช่ใช้ควบคุมพฤติกรรมกิจการประชาชนหรือเป็นเครื่องมือควบคุมประชาชนทางตรงและทางอ้อมผ่าน พรบ.นี้,นายทุนกิจการบริษัทเตรียมครอบงำเครดิตคาร์บอนแล้ว ปล่อยกู้ก็ใช้เครดิตคาร์บอนร่วมพิจารณาปล่อยวงเงินกู้,ซื้อผลผลิตเกษตรกรก็อ้างเครดิตคาร์บอนในการรับซื้อการกำหนดราคาพืชผลการเกษตรกรรม,นี้คือกลอุบายควบคุมประชาชนคนไทยชัดเจนอีกมิติหนึ่งของdeep stateข้ามโลกปกครองไทยจนสามารถชี้นำสั่งการให้ออกกฎหมายให้เขียนกฎหมายให้ผ่านร่างกฎหมายพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ตลอดควบคุมสื่อหลักบิดเบือนความจริงโหนกระแสภัยธรรมชาติ ปั่นป่วนสร้างข่าว ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่อหน้าประชาชนคนไทยเป็นอย่างมาก,ประเทศไทยเราต้องเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มิใช่เลวชั่วเช่นในอดีตเรื่อยมาถึงปัจจุบัน.
    ..นายกฯพระราชทานคือหนทางเดียว
    ..ปฏิวัติคือทางออก.,เพราะต้องกวาดล้างทำความสะอาดสิ่งชั่วเลวสกปรกครัังใหญ่ให้สะอาดเสียที.
    ..
    ..https://youtube.com/shorts/XiX_yDO19lA?si=P_ihzFn4-ldglndW
    ..อนาคตห้ามโรงงานอุตสาหกรรม หรือบริษัทใดๆ ค้าขาย ทำกำไรจากส่วนต่างใดๆหรือดอกเบี้ยที่งอกผลออกมาจากเครดิตคาร์บอน,ห้ามซื้อขายเครดิตคาร์บอนโดยอ้างว่ามาชดเชยสิ่งที่กิจการตนบริษัทตนโรงงานตนปล่อยคาร์บอนออกมา โดยในความเป็นจริงตนบริษัทตน โรงงานตนไม่ได้ปลูกป่าปลูกต้นไม้จริงเพื่อสร้างเครดิตคาร์บอนจริงทางตรงใดๆได้เลย,ห้ามมีธนาคารปล่อยกู้เครดิตคาร์บอน,ห้ามมีการบริษัทกิจการใดๆนำคาร์บอนมาโดยตนเองมิได้มีแหล่งคาร์บอนจริงหรือเป็นที่มาของคาร์บอนเครดิต,โรงงานกิจการใดๆหากปล่อยคาร์บอนเครดิต 1หน่วย ต้องปลูกคาร์บอนเครดิตจริง1หน่วยทดแทนมิใช่ซื้อมาจากแหล่งอื่นมาอ้างชดเชยการปล่อยคาร์บอนออกไปทุกๆกรณี,รัฐมีหน้าที่ควบคุมโรงงานบริษัททั้งหมดภายในประเทศไทยในการตรวจสอบการปล่อยคาร์บอนและสามารถบังคับใช้ทางกฎหมายได้ทุกๆกรณี เช่นพักบริษัทกิจการนั้นๆโรงงานนั้นๆได้ พักใบอนุญาตหรือถอนใบอนุญาตประกอบกิจการได้ในทันที,หากไม่พร้อมปลูกชดเชยจริงของการมีอยู่จริงซึ่งสถานะคาร์บอนเครดิตนั้น,ไม่สามารถตัดตอน ไม่สามารถผักชีโรยหน้าซื้อมาจากแหล่งอื่นเพื่ออ้างว่ามีสิทธิชดเชยคาร์บอนเครดิตได้เพื่อสะดวกต่อการค้าการผลิตการทำกำไรทำรายได้ทำตังของกิจการตนให้ปกติเหมือนเดิมต่อไปเสมือนว่าตนเองปลูกแหล่งให้ได้มาซึ่งคาร์บอนเครดิตนั้น,จะกระทำมิได้ต้องปลูกจริงชดเชยสถานเดียว,ก่อนจะสร้างโรงงานใดๆผู้ประกอบการต้องประเมินการปลดปล่อยอากาศพิษนี้ต่อโลกต่อมนุษย์แม้คาร์บอนดีต่อต้นไม้ในรูปCO2แต่นัยยะคาร์บอนมากผิดปกติย่อมส่งผลไม่ดีต่อชั้นบรรยากาศโลกแม้ไม่รวมทฤษฎีสมคบคิดHAARPด้วยก็ตามที่ใส่ร้ายใส่ความว่าผิดของภาวะโลกร้อนทำให้เกิดภัยธรรมชาติแต่แท้จริงเกิดจากเครื่องมือHAARPนั้นเองก็ตาม,กิจการโรงงานใดๆห้ามซื้อขายคาร์บอนเครดิตทุกๆกรณี,บริษัทใดๆห้ามค้าขายคาร์บอนเครดิตหรือซื้อเก็งกำไรคาร์บอนเครดิต,หรือมีเพื่อค้าขายเพื่อปล่อยกู้ปล่อยเช่าปล่อยช่วง,คือหน้าที่ความรับผิดชอบของบริษัทกิจการนั้นๆและถ้าทำโรงงานแล้วมีส่วนทางตรงในการปลดปล่อยคาร์บอนก็มีหน้าที่ทางตรงต้องปลูกแหล่งที่มาจริงของคาร์บอนเครดิตประกอบการเปิดกิจการด้วยซึ่งประเมินผลรับรู้ล่วงหน้าคราวๆได้แล้วแน่นอนก่อนยื่นดำเนินกิจการหรือขยายกิจการนั้นๆ,ภาระนี้ประขาชนมิต้องรับผิดชอบมาปลูกเพื่อขายคาร์บอนเครดิตแก่โรงงานกิจการใดๆให้โรงงานเป็นข้ออ้างว่าชดเชยคาร์บอนที่ปล่อยไปนั้นโดยที่ความเป็นจริงเนื้อแท้ตนไม่สามารถปลูกคาร์บอนให้ครบเกณฑ์ที่รัฐกำหนดเลยก่อนเปิดกิจการดำเนินงาน,รัฐบาลไม่มีหน้าที่จัดหาคาร์บอนเครดิตให้เอกชนใดๆให้มีครบตามเงื่อนไขก่อนดำเนินกิจการนั้นๆ.,อยากสร้างกิจการโรงงานบริษัทต้องปลูกคาร์บอนอย่างเดียว,และทำตามที่มี ขยายโรงงานตามความสามารถที่มีคาร์บอนเครดิตในมือ,มิใช่ซื้อมาหรืออ้างเกษตรกรรมปลูกคาร์บอนเครดิตขายให้ตนเพื่อหลบเลี่ยงความเป็นจริงที่ตนไม่ได้ปลูกมันเลย,รัฐบาลมีหน้าที่ควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดและยิ่งสร้างโรงงานที่ส่งผลกระทบจริงในการปลดปล่อยคาร์บอนยิ่งต้องกำกับควบคุมการปลูกต้นไม้ที่สร้างคาร์บอนเครดิตสร้างออกซิเจนทดแทนจริง,จริงๆต้องบอกว่า ออกซิเจนเครดิต,เพราะมนุษย์ไม่สามารถใช้CO2หายใจได้,แต่ใช้O2หายใจและO2นี้จะผลักดันคาร์บอนหรือแก๊สพิษส่วนเกินออกจากโลกได้,เมื่อมีปริมาณมากเพียงพอ,โดยมีต้นไม้เป็นผู้ผลิตO2ต่อมนุษย์จริงอีกส่วน แม้O2ส่วนใหญ่มาจากแกนใจกลางโลกก็ตาม,ที่ซึมออกขึ้นมาสู่ผิวเปลือกโลก.,การบิดเบือนวลีนี้วาทะกรรมนี้ก็ถือว่าชั่วเลวให้ประชาชนหลงในความเท็จ,ประชาชนผีบ้าอะไรจะผลิตคาร์บอนมาชดเชยคาร์บอนที่กิจการบริษัทหรือโรงงานนั้นๆปลดปล่อยออกมา,เราปลูกเพื่อผลิตO2ไปจับกับCคาร์บอนที่มันปล่อยมาต่างหากจึงสมควรประกาศบอกประชาชนว่า ออกซิเจนเครดิตจึงจะถูก,co2จำเป็นต่อต้นไม้ด้วย,ห้ามมีโรงงานดูดco2ในเอเชียในอาเชียนในประเทศไทยเด็ดขาด,แม้ดีต่อภาคอุตสาหกรรมในกระบวนการผลิตที่ใข้co2สร้างผลผลิตโรงงานกิจการบริษัท แต่นี้ถือว่าปล้นชิงอาหารกับต้นไม้ทั่วโลกพืชทั่วโลกชัดเจนด้วย,ตลอดคือภัยคุกคามร้ายแรงต่อการทำลายO2ของโลกเราทำลายออกซิเจนของคนทั้งโลกที่ใช้มันหายใจ,ดักจับตัดตอนฆ่าพืขฆ่าต้นไม้ผู้ผลิตออกซิเจนให้เราชัดเจนด้วย,นี้จึงเป็นนัยยะค้าประโยชน์ทางอ้อมก็ด้วย ฆ่าล้างเผ่าพันธ์มนุษย์ในคราวเดียวก็ด้วย หากสร้างเครื่องมือใช้ผ่านโรงงานต่างๆตั้งกลางป่าดักดูดดักจับคาร์บอนในป่าก็ได้อีกเพื่อเอาco2ไปใช้ทางอุตสาหกรรมทำกำไรงามมหาศาลเมื่อในต่างประเทศทั่วโลกทำได้แล้ว. ..พรบ.คาร์บอนเครดิตตีตราออกมาผืดประเภทผิดวัตถุประสงค์มุ่งเป้าหมายที่แท้จริง,ต้องมุ่งไปที่กิจการบริษัทและโรงงานทั้งหมดที่ดำเนินเดินเครื่องเปิดกิจการในประเทศไทย มิใช่ใช้ควบคุมพฤติกรรมกิจการประชาชนหรือเป็นเครื่องมือควบคุมประชาชนทางตรงและทางอ้อมผ่าน พรบ.นี้,นายทุนกิจการบริษัทเตรียมครอบงำเครดิตคาร์บอนแล้ว ปล่อยกู้ก็ใช้เครดิตคาร์บอนร่วมพิจารณาปล่อยวงเงินกู้,ซื้อผลผลิตเกษตรกรก็อ้างเครดิตคาร์บอนในการรับซื้อการกำหนดราคาพืชผลการเกษตรกรรม,นี้คือกลอุบายควบคุมประชาชนคนไทยชัดเจนอีกมิติหนึ่งของdeep stateข้ามโลกปกครองไทยจนสามารถชี้นำสั่งการให้ออกกฎหมายให้เขียนกฎหมายให้ผ่านร่างกฎหมายพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ตลอดควบคุมสื่อหลักบิดเบือนความจริงโหนกระแสภัยธรรมชาติ ปั่นป่วนสร้างข่าว ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่อหน้าประชาชนคนไทยเป็นอย่างมาก,ประเทศไทยเราต้องเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มิใช่เลวชั่วเช่นในอดีตเรื่อยมาถึงปัจจุบัน. ..นายกฯพระราชทานคือหนทางเดียว ..ปฏิวัติคือทางออก.,เพราะต้องกวาดล้างทำความสะอาดสิ่งชั่วเลวสกปรกครัังใหญ่ให้สะอาดเสียที. .. ..https://youtube.com/shorts/XiX_yDO19lA?si=P_ihzFn4-ldglndW
    0 Comments 0 Shares 373 Views 0 Reviews
  • ..555,ข่าวแหกตา เศรษฐกิจโลกมันพังปกติอยู่แล้ว โยนบาปให้ทรัมป์เป็นแพะว่าชาติต่างๆจะล้มละลายเพราะนโยบายทรัมป์ ซึ่งมันไม่จริงอะไรเลย อเมริกามีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนจะบริโภคห่าเหวอะไรมากมายขนาดนั้น,ส่วนใหญ่อาจแค่ใข้อเมริกาเป็นทางผ่านแบรนด์นามใช้ชื่อโลโก้อเมริกานั้นล่ะ,นำเข้าหลอกๆอีก ไม่ได้เข้าอเมริกาเป็นรูปร่างรูปธรรมห่าอะไรด้วย แค่นำเข้าในนามกระดาษ แบรนด์อเมริกากิจการเครือข่ายอเมริกาแต่ละชาติรับไปขายต่อผ่านอเมริกาเท่านั่น มุกตย.หนึ่งแค่นั้นล่ะ เช่นเรือน้ำมันอเมริกาแท่งขุดบริษัทอเมริกาลอยลำในไทยตีตราว่าส่งออกเข้าอเมริกาแล้ววนเอกสารนำเข้ามาไทยในที่สุดนั้นล่ะ,อเมริกาคิดภาษีเสร็จแล้วก็มาขายคืนไทย0%กำไรทันทีถ้าตกลงแบบเวียดนามให้สินค้าอเมริกามาขายเวียดนามในอัตรานำเข้า0%แลกส่งออกไปอเมริกาก็ว่า ,เจ้าสัวไทยไม่เดือดร้อนอะไรหรอกสมุนอีลิทมันรับรู้ล่วงหน้าแล้วเลยไม่ตั้งสายการผลิตทั่วอาเชียนทั่วเอเชียก็ส่งออกในชื่อที่ภาษีถูกคิดน้อยๆไง,คืออเมริกามีแต่ได้จริงๆในภาวะตังเงินโลกพัง,ทรัมป์ก็เหี้ยถูกจังหวะพอดี,เลยรับซวยไป,มองอีกมุม ทรัมป์กำลังเล่นงานบริษัทกิจการอีลิทdeep stateอยู่ก็ได้,ปลดปล่อยทาสแรงงานออกจากระบบทาสdeep stateที่ควบคุมมานานคือทำงานรับใช้พวกมันเหมือนทาสในกิจการบริษัทมันนั้นล่ะ,เร่งให้คนออกจากระบบทาสมันกลับบ้านใครบ้านมันไปอยู่ในธรรมชาติบ้านเกิดท้องเมืองนอนเดิมตนเสียก็ว่า,แก้ง่ายๆคือนายกฯต้องมานำประเทศแบบมุ่งการพึ่งพาตนเองภายในประเทศตนและกันและกันให้ได้ก่อน,ต้องมาในลักษณะพิเศษ กฎหมายพิเศษด้วย คือนายกฯพระราชทานนั้นล่ะมาบริหารชาติด้วยกฎหมายพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดพร้อมสร้างทุกๆกลยุทธทางสงครามตังปากท้องและอธิปไตยตนทันทีสลับสับเปลี่ยนคล่องตัวก็ว่า,โดยกลไกปกติทำไม่ได้ ไม่ทันกาล ทันยุคที่การเปลี่ยนทางกระสุนตังกระสุนเงินรวดเร็วมาก,อเมริกาก็เป็นบ้าเป็นบอเพราะตังเพราะเงินใช้หนี้นี้ล่ะ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายทั่งประเทศก็ตังนี้ล่ะบวกภัยธรรมชาติแบบแผ่นดินไหวอีก,"ตัง"คือชื่อเรียกหนึ่งว่าชื่อ"เศรษฐกิจ"ในชื่อเรียกหนึ่งเท่านั้น,
    ..อนาคตคนไทยต้องตกงานแน่นอนอยู่แล้วเพราะจักรกลจะมาแทนที่เป็นอันมากตลอดAIแทรกซึมทุกๆกระบวนการทำตังแล้ว,ช่องทางปกติอาจลดบทบาทลงมากขึ้น,คนจะถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆจากเอไอ,ผู้นำประเทศไทยเราจึงสำคัญมากในยุคการละครบทบาทเวลานี้ที่จะมาลงเล่นในยุคต่อไป,นำพาคนไทยทั้งประเทศตั้งรับและรุกหรือถอยเพื่อชนะตนเองหรือการดำรงอยู่ของคนไทยและประเทศชาติให้ได้บนฐานความอิ่มดีมีสุขก็ว่า,คือทั่วโลกจะเป็นห่าเหวอะไร,แต่ภายในประเทศเรา ครอบครัวพร้อมหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตังทองพอดีพองามไม่ขาดไม่เดือดร้อน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาหารการกินเต็มบ้าน แบ่งปันกันภายในประเทศไทยตน เหลือก็ขาย ยาสมุนไพรเคมีเพียงพอแก่การรักษาคนในชาติไทยตน,คือผู้นำสามารถนำพาชาติไทยตนตั้งรับตั้งรุกหรือนิ่งเฉยได้หมด,คืออุดมสมบูรณ์ปกติดีทั่วถึงแก่ทุกๆคนไทยเราอย่างไร,,ทรัมป์กีดกันก็ค้าขายกับชาติอื่น ขายคนแค่100คน กับขายคนรวมกันหลายๆบ้านกว่า1,000คนได้ตังหลายพันบาทมากกว่าร้อยบาทย่อมดีแน่นอน,บางทีอาจแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในรัฐต่อรัฐได้เช่น ไทยขุดน้ำมันเอง ยึดทุกๆบ่อน้ำมันเสร็จ แลกน้ำมันกับจักรกลทางการเกษตรหรืออุตสากรรมก็ได้อีกมาช่วยทุ่นแรงคนไทยตนในราคาไม่แพง,อาหารแลกอาหาร,เสบียงใดเราขาดก็แลกเสบียงนั้นที่เขาขาดได้,รัฐสร้างโรงงานผลิตยานบินในฮับไทย ขาดวัตถุดิบก็ใช้ทรัพยากรเรามีที่เขาต้องการแลกกัน,ผลิตเสร็จขายราคาไม่แพงแก่เขาก็ได้หรือประเทศอื่นในราคาไม่แพงก็ได้อีก,คือผู้นำเราทั้งสิ้นจะควบคุมกลไกให้สมดุลในระบบแบบใด,ประเทศไทยเราพร้อมหมด,ฉีกกฎหมายผูกตีผูกมือผูกการกระทำกิจกรรมที่สร้างสรรคของคนไทยทิ้ง จะเพิ่มโอกาสนวัตกรรมใหม่ตรึมบนแผ่นดินไทยเรา,เพราะผู้ปกครองชั่วเลวปกครองกดขี่คนไทยด้วยกฎหมายผีบ้าผีบ้อมากมายนั่นล่ะ,คนชั่วในไทยแม้มีมากแต่ระบบสังคมจะจัดการเขาเองร่วมด้วยก็ได้,อาทิ เสพยาบ้าแล้วคลั่ง ชุมชนสะกำได้ทันทีก็ว่า,ข่มขื่นไทบ้านชาวบ้านรุมสะกัมเกือบตายก็ได้ซึ่งคนชั่วเลวที่ชัดเจน สมควรต้องเปิดเผยถูกกระซากหน้าให้สังคมรับรู้ เช่นแบงค์สถุนกากยักยอกตังคนฝากก็ประจานชื่อแบงค์สถุนกากนั้นเลย สาขาอะไร พนักงานคนไหน เป็นต้น นี้อะไรเขียนกฎหมายช่วยเหลือคนชั่วเลวเป็นต้น,นี้คือลักษณะกฎหมายเลวชั่วแบบเปิดสัมปทานน้ำมันแต่ไม่เอาเข้าสภาสส.สว.นั้นล่ะ,นี้คือกฎหมายเลวก็ด้วย,แบบพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ที่ร่างออกมาจะออกเป็นพรบ.มาบังคับคนปลูกต่างๆทั่วไทยโดยเฉพาะสานคนเกษตรกรรมซวยแน่นอนหากพรบ.500ยึดทหารยุดอำนาจนั้นผ่านได้เอกชนไทยแดกรวบทั้งระบบทั้งประเทศทันที นี้คือกฎหมายชั่วสารเลวอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่า,กฎหมายเราคือตัวถ่วงความเจริญอยู่ดีมีสุขสงบร่มเย็นพึ่งพาตนเองได้จริงของคนไทยโดยการปล้นชิงผ่านกฎหมายนั้นเองไปจากประชาชนคนไทย,สร้างข้อกำหนด ทำได้ทำไม่ได้นั่นล่ะ,ปลูกกัญชาเสรีก็ทำไม่ได้ สกัดยาสาระพัดวิจัย5ปีก่อนนะ,แต่วัคซีนโควิดไม่มีงานวิจัยปลอดภัยอะไรรองรับเสือกฉีดเข้าร่างกายคนไทยกว่า60ล้านคนหน้าตาเฉย ต่างชาติบริษัทยามันเองรับผิดถูกฟ้องคดีตรึมบอกเองว่ามีผลเป็นพิษจริงแก่คนฉีดมากกว่า1โรคโน้น รัฐบาลไทยเปลี่ยนมาสองนายกฯสองรักษาการแล้วนะก็ไม่ยอมประกาศความจริงอย่างเป็นทางการเลนด้วย.
    ..นี้จึงคือสาเหตุชัดต้องล้างทั้งหมด,ทรัมป์คือปัญหาภายนอกผู้นำภายนอก,เราต้องจัดการภายในเราก่อน,จึงนายกฯพระราชทานคือทางออก,และเด็ดขาดกับความชั่วเลวจริง,เด็ดขาดกับเดอะแก๊งแดกประเทศไทยทั้งหมดจริงด้วย.
    ..
    ..https://youtu.be/UqqWf54tRMM?si=T-lTaXTTUXijbHdQ
    ..555,ข่าวแหกตา เศรษฐกิจโลกมันพังปกติอยู่แล้ว โยนบาปให้ทรัมป์เป็นแพะว่าชาติต่างๆจะล้มละลายเพราะนโยบายทรัมป์ ซึ่งมันไม่จริงอะไรเลย อเมริกามีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนจะบริโภคห่าเหวอะไรมากมายขนาดนั้น,ส่วนใหญ่อาจแค่ใข้อเมริกาเป็นทางผ่านแบรนด์นามใช้ชื่อโลโก้อเมริกานั้นล่ะ,นำเข้าหลอกๆอีก ไม่ได้เข้าอเมริกาเป็นรูปร่างรูปธรรมห่าอะไรด้วย แค่นำเข้าในนามกระดาษ แบรนด์อเมริกากิจการเครือข่ายอเมริกาแต่ละชาติรับไปขายต่อผ่านอเมริกาเท่านั่น มุกตย.หนึ่งแค่นั้นล่ะ เช่นเรือน้ำมันอเมริกาแท่งขุดบริษัทอเมริกาลอยลำในไทยตีตราว่าส่งออกเข้าอเมริกาแล้ววนเอกสารนำเข้ามาไทยในที่สุดนั้นล่ะ,อเมริกาคิดภาษีเสร็จแล้วก็มาขายคืนไทย0%กำไรทันทีถ้าตกลงแบบเวียดนามให้สินค้าอเมริกามาขายเวียดนามในอัตรานำเข้า0%แลกส่งออกไปอเมริกาก็ว่า ,เจ้าสัวไทยไม่เดือดร้อนอะไรหรอกสมุนอีลิทมันรับรู้ล่วงหน้าแล้วเลยไม่ตั้งสายการผลิตทั่วอาเชียนทั่วเอเชียก็ส่งออกในชื่อที่ภาษีถูกคิดน้อยๆไง,คืออเมริกามีแต่ได้จริงๆในภาวะตังเงินโลกพัง,ทรัมป์ก็เหี้ยถูกจังหวะพอดี,เลยรับซวยไป,มองอีกมุม ทรัมป์กำลังเล่นงานบริษัทกิจการอีลิทdeep stateอยู่ก็ได้,ปลดปล่อยทาสแรงงานออกจากระบบทาสdeep stateที่ควบคุมมานานคือทำงานรับใช้พวกมันเหมือนทาสในกิจการบริษัทมันนั้นล่ะ,เร่งให้คนออกจากระบบทาสมันกลับบ้านใครบ้านมันไปอยู่ในธรรมชาติบ้านเกิดท้องเมืองนอนเดิมตนเสียก็ว่า,แก้ง่ายๆคือนายกฯต้องมานำประเทศแบบมุ่งการพึ่งพาตนเองภายในประเทศตนและกันและกันให้ได้ก่อน,ต้องมาในลักษณะพิเศษ กฎหมายพิเศษด้วย คือนายกฯพระราชทานนั้นล่ะมาบริหารชาติด้วยกฎหมายพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดพร้อมสร้างทุกๆกลยุทธทางสงครามตังปากท้องและอธิปไตยตนทันทีสลับสับเปลี่ยนคล่องตัวก็ว่า,โดยกลไกปกติทำไม่ได้ ไม่ทันกาล ทันยุคที่การเปลี่ยนทางกระสุนตังกระสุนเงินรวดเร็วมาก,อเมริกาก็เป็นบ้าเป็นบอเพราะตังเพราะเงินใช้หนี้นี้ล่ะ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายทั่งประเทศก็ตังนี้ล่ะบวกภัยธรรมชาติแบบแผ่นดินไหวอีก,"ตัง"คือชื่อเรียกหนึ่งว่าชื่อ"เศรษฐกิจ"ในชื่อเรียกหนึ่งเท่านั้น, ..อนาคตคนไทยต้องตกงานแน่นอนอยู่แล้วเพราะจักรกลจะมาแทนที่เป็นอันมากตลอดAIแทรกซึมทุกๆกระบวนการทำตังแล้ว,ช่องทางปกติอาจลดบทบาทลงมากขึ้น,คนจะถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆจากเอไอ,ผู้นำประเทศไทยเราจึงสำคัญมากในยุคการละครบทบาทเวลานี้ที่จะมาลงเล่นในยุคต่อไป,นำพาคนไทยทั้งประเทศตั้งรับและรุกหรือถอยเพื่อชนะตนเองหรือการดำรงอยู่ของคนไทยและประเทศชาติให้ได้บนฐานความอิ่มดีมีสุขก็ว่า,คือทั่วโลกจะเป็นห่าเหวอะไร,แต่ภายในประเทศเรา ครอบครัวพร้อมหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตังทองพอดีพองามไม่ขาดไม่เดือดร้อน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาหารการกินเต็มบ้าน แบ่งปันกันภายในประเทศไทยตน เหลือก็ขาย ยาสมุนไพรเคมีเพียงพอแก่การรักษาคนในชาติไทยตน,คือผู้นำสามารถนำพาชาติไทยตนตั้งรับตั้งรุกหรือนิ่งเฉยได้หมด,คืออุดมสมบูรณ์ปกติดีทั่วถึงแก่ทุกๆคนไทยเราอย่างไร,,ทรัมป์กีดกันก็ค้าขายกับชาติอื่น ขายคนแค่100คน กับขายคนรวมกันหลายๆบ้านกว่า1,000คนได้ตังหลายพันบาทมากกว่าร้อยบาทย่อมดีแน่นอน,บางทีอาจแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในรัฐต่อรัฐได้เช่น ไทยขุดน้ำมันเอง ยึดทุกๆบ่อน้ำมันเสร็จ แลกน้ำมันกับจักรกลทางการเกษตรหรืออุตสากรรมก็ได้อีกมาช่วยทุ่นแรงคนไทยตนในราคาไม่แพง,อาหารแลกอาหาร,เสบียงใดเราขาดก็แลกเสบียงนั้นที่เขาขาดได้,รัฐสร้างโรงงานผลิตยานบินในฮับไทย ขาดวัตถุดิบก็ใช้ทรัพยากรเรามีที่เขาต้องการแลกกัน,ผลิตเสร็จขายราคาไม่แพงแก่เขาก็ได้หรือประเทศอื่นในราคาไม่แพงก็ได้อีก,คือผู้นำเราทั้งสิ้นจะควบคุมกลไกให้สมดุลในระบบแบบใด,ประเทศไทยเราพร้อมหมด,ฉีกกฎหมายผูกตีผูกมือผูกการกระทำกิจกรรมที่สร้างสรรคของคนไทยทิ้ง จะเพิ่มโอกาสนวัตกรรมใหม่ตรึมบนแผ่นดินไทยเรา,เพราะผู้ปกครองชั่วเลวปกครองกดขี่คนไทยด้วยกฎหมายผีบ้าผีบ้อมากมายนั่นล่ะ,คนชั่วในไทยแม้มีมากแต่ระบบสังคมจะจัดการเขาเองร่วมด้วยก็ได้,อาทิ เสพยาบ้าแล้วคลั่ง ชุมชนสะกำได้ทันทีก็ว่า,ข่มขื่นไทบ้านชาวบ้านรุมสะกัมเกือบตายก็ได้ซึ่งคนชั่วเลวที่ชัดเจน สมควรต้องเปิดเผยถูกกระซากหน้าให้สังคมรับรู้ เช่นแบงค์สถุนกากยักยอกตังคนฝากก็ประจานชื่อแบงค์สถุนกากนั้นเลย สาขาอะไร พนักงานคนไหน เป็นต้น นี้อะไรเขียนกฎหมายช่วยเหลือคนชั่วเลวเป็นต้น,นี้คือลักษณะกฎหมายเลวชั่วแบบเปิดสัมปทานน้ำมันแต่ไม่เอาเข้าสภาสส.สว.นั้นล่ะ,นี้คือกฎหมายเลวก็ด้วย,แบบพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ที่ร่างออกมาจะออกเป็นพรบ.มาบังคับคนปลูกต่างๆทั่วไทยโดยเฉพาะสานคนเกษตรกรรมซวยแน่นอนหากพรบ.500ยึดทหารยุดอำนาจนั้นผ่านได้เอกชนไทยแดกรวบทั้งระบบทั้งประเทศทันที นี้คือกฎหมายชั่วสารเลวอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่า,กฎหมายเราคือตัวถ่วงความเจริญอยู่ดีมีสุขสงบร่มเย็นพึ่งพาตนเองได้จริงของคนไทยโดยการปล้นชิงผ่านกฎหมายนั้นเองไปจากประชาชนคนไทย,สร้างข้อกำหนด ทำได้ทำไม่ได้นั่นล่ะ,ปลูกกัญชาเสรีก็ทำไม่ได้ สกัดยาสาระพัดวิจัย5ปีก่อนนะ,แต่วัคซีนโควิดไม่มีงานวิจัยปลอดภัยอะไรรองรับเสือกฉีดเข้าร่างกายคนไทยกว่า60ล้านคนหน้าตาเฉย ต่างชาติบริษัทยามันเองรับผิดถูกฟ้องคดีตรึมบอกเองว่ามีผลเป็นพิษจริงแก่คนฉีดมากกว่า1โรคโน้น รัฐบาลไทยเปลี่ยนมาสองนายกฯสองรักษาการแล้วนะก็ไม่ยอมประกาศความจริงอย่างเป็นทางการเลนด้วย. ..นี้จึงคือสาเหตุชัดต้องล้างทั้งหมด,ทรัมป์คือปัญหาภายนอกผู้นำภายนอก,เราต้องจัดการภายในเราก่อน,จึงนายกฯพระราชทานคือทางออก,และเด็ดขาดกับความชั่วเลวจริง,เด็ดขาดกับเดอะแก๊งแดกประเทศไทยทั้งหมดจริงด้วย. .. ..https://youtu.be/UqqWf54tRMM?si=T-lTaXTTUXijbHdQ
    0 Comments 0 Shares 502 Views 0 Reviews

  • ..555,ขึ้นไปเถอะถึง100%ก็ตามสบาย,ใครเสียผลประโยชน์ก็บริษัทเอกชนไทยทั้งสิ้นที่กำไรลดลงล่ะ,ตลอดถึงต่างชาติที่มาตั้งฐานโรงงานในไทยยืมแผ่นดินยืมชื่อประเทศไทยทำกำไรรายได้มหาศาลแก่ตนเองผ่านเนมไทยนี้ล่ะ,ไทยก็เข้าbrics แล้วจะกลัวอะไรก็ค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าในกลุ่มสมาชิกประเทศbricsสิ,ก็บอกแล้วจบรัฐบาลนี้ทัังแกนนำพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลให้หมดจบเร็วๆถีบออกเร็วๆ,จะแก้ไขปัญหาได้ทันทีในนายกฯพระราชทานเรา,พักงานสถาบันนักการเมืองชั่วคราวไปก่อนเพราะอนาคตอันใกล้นี้ ปัญญาสติธรรมดาพวกการเมืองไม่ทันวิกฤติโลกและภัยสาระพัดคุกคามที่โลกกระทำต่อประเทศต่างๆตลอดแบบเหี้ยเขมรคือภัยคุกคามด้านหนึ่งมุมหนึ่งให้เห็นล่วงหน้าชัดในอนาคตด้วยว่า อนาคต โลกต้องเป็นไปแบบใด ประเทศนั้นๆต้องเป็นไปทันโลกแก้เกมส์ให้ตนรอดจากโลกกระทำตนแบบใด นี้คือผู้นำไทยต้องขึ้นมาปกครองในอนาคตมีวิสัยทัศน์ทันกาลแบบนี้,มิใช่แบบปัจจุบันจริงๆ,,ทรัมป์มันเอาประเทศมันก่อน นี้คือความชัดเจนของการแสดงตัวตน,เราก็ต้องเอาประเทศไทยก่อน ชาติไทยเราก่อน คนไทยเราต้องมาก่อนเช่นกัน,ค้ากับอเมริกน้อยลงจะเป็นอะไร,รัฐบาลค้าขายในนามรัฐบาลมั้ยก็ไม่ใช่ เอกชนค้าขายกันเอง ร่ำรวยกันเองแค่รัฐบาลออกหน้าข่วยเท่านั้น,คนไทยก็ยากจนปกติแม้เอกชนไทยจะร่ำรวยติด50อันดับโลกเป็นอันมากก็ว่า,น้ำมันส่งออกไปอเมริกา ถามจริงๆบริษัทอเมริกาเองตั้งในประเทศไทยดูดน้ำมันบนแผ่นดินมากมายหลายบริษัท ถ้าทรัมป์ขึ้นภาษีน้ำมันดิบเข้าอเมริกาสัก300%อเมริกาในนามทรัมป์ได้ประโยชน์นะ,พวกนีัขายให้ไทยที่ไหน,มันบอกว่านำเข้าสู่ไทยนะรัฐบาลยุคเก่าๆนะ,ประเทศไทยมีน้ำมันน้อยมันว่า,ขึ้นสัก1,000%เลยก็ตามสบาย ไทยเราก็ไปค้าขายกับชาติอื่นสิ,นายกฯคนใหม่จบนานแล้ว,เด็กๆเจรจาอะไรมากพะสาทรัมป์,พะสาอเมริกา,เรา..มีเศรษฐกิจพอเพียงชูเป็นวาระแห่งชาตินโยบายชาติในการขับเคลื่อนประเทศจริง,ยึดบ่อน้ำมันอเมริกาและต่างชาติคืนทั้งหมดเพราะไม่ชอบด้วยสภาประชาธิปไตยแต่แรก สามารถโมฆะได้ ด้วยเป็นภัยคุกคามอธิปไตยประชาธิปไตยเราแต่ต้นโดยต่างชาติทุจริตกับข้าราชการไทยร่างกฎหมายไม่ผ่านสภาตามระบบประชาธิปไตยไทยเรา,ขัดต่อพื้นฐานระบบปกครองชัดเจน,สามารถโมฆะชอบด้วยธรรม,จากนัันดูดขายภายในประเทศราคาไม่แพงลิตรละ1-2บาทพอใน4-5ปีแล้ววิจัยผลทั้งหมดทั้งเชิงบวกเชิงลบ,พื้นฐานลดต้นทุนฐานของคนไทยลงทั้งหมดก่อน,จากนั้นอัดกระบวนการพึ่งพาตนเอง ภายในครอบครัวและส่วนตัวใครมันให้ได้พร้อมๆกันทั่วประเทศใน4-5ปีแรกนี้เช่นกัน,อัดตังสัมมาชีวิตสัมมาอาชีพเขาลงไปเบื้องต้น เช่น20ล้านครัวเรือน,ครัวเกษตรกรก่อนสักประมาณ6-10ล้านครัวเรือนๆละ100,000บาท เขาจะมีทุนปลูกนั่นนี้เลี้ยงนั้นนี้เป็นอาหารทันทีอาจยั่งยืนด้วยที่6แสนล้านบาทถึง1ล้านล้านบาทเอง,แต่ต้นทุนทางการเกษตรจากน้ำมันลิตรละ1-2บาทลดลงด้วยนะ 1ไร่อาจทำนาแค่30-60บาทต่อไร่เลย,ปุ๋ยกระสอบละ5-10บาทเองเพราะรัฐบาลส่งเสริมตรึมมากมายหลายทางตลอดค้าออฟไลน์ออนไลน์ก็สร้างแพลตฟอร์มเรียลไทม์รองรับตลาดไว้ให้ทั้งขายภายในประเทศและต่างประเทศฟรีๆไร้การเก็บค่าใดๆแบบแอปเอกชน ขายราคาไม่แพงตรงปลอดสารพิษจากสวนจากโรงงานร้านค้าตลอดประสานขนส่งโลจิตส์ต่างๆถูกๆอีกภายในประเทศ,หมุนเวียนทั่วโลกอาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีในทุกๆสัมมาอาชีพสไตล์ไทยเรา,คือกาก กระจอกจริงๆ แค่มีผู้นำดีบนแผ่นดินไทย ขึ้นว่าคนจนยากจนจะไม่มีบนแผ่นดินไทยเลย,พื้นๆคนไทยทุกๆคน อาจมีตังในบัญชีเงินฝากกองทุนแห่งชาติไทยตนเองมิใช่ในธนาคารเอกชนนะ อาจคนละ10ล้านบาทต่อปีขั้นต่ำในทุกๆคนไทยเรา,ไม่เกิน4-5ปีก็ว่า,หรือพื้นฐานครัวเรือนคนไทยทุกๆครัวเรือนกว่า20ล้านครัวเรือนนี้ในสถานะประชาชนทั่วไปด้วยอาจมีกันคนละ20ล้านบาทต่อปีต่อครัวเรือนนั้นๆก็ว่า,หรือไม่ต่ำกว่าล้านบาทต่อปีก็ว่าหมุนเวียนในสัมมาชีวิตสัมมาอาชีพเขาในรากฐานเศรษฐกิจเพียงพอพอเพียงแบบไทยเรา,ทุกๆคนมีเพียงพอพอเพียงในปากท้องการกินอยู่การมีตังมีเงินทองคู่ศีลธรรมความดีงามบนระดับจิตใจที่เลิศค่าสไตล์เมืองยิ้มคนไทยเรานี้ล่ะ,
    ..คนดีคนเก่งบนแผ่นดินไทยเราธรรมดาที่ไหนมีไม่น้อยด้วย,ทหารพระราชาเราต้องตัดสิ้นใจเด็ดขาดจริงๆ,โลกไม่เหมือนเดิมแล้ว,เงาชั่วร้ายบนความล้ำสมัยอันตรายกว่ายุคเก่าก่อนทวีคูณยกกำลังสิบนะ,จะมาเล่นๆทำเล่นๆไม่ได้,เผด็จการคอมมิวนิสต์ก็เป็นฝ่ายมืดส่งออก,ประชาธิปไตยก็ฝ่ายมืดส่งออกนะ,แต่ระบบพระมหากษัตริย์ไม่ใช่,เราคือระบบพ่อแม่ปกครองลูก,ถ้าไม่ใช่ระบบนี้ ระบบพระมหากษัตริย์ประจำประเทศไทยจะเป็นแบบฝรั่งเศสสิ้นซากทันที,และเรามีพระพุทธศาสนาค้ำจุนระดับจิตใจกายนัยของคนไทยมิเช่นนั้นก็ไปวัดเช่นกัน,ตลอดสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายผู้มีฤทธิ์ในแต่ล่ะสภาวะกายจิตนั้นอีกตรึมเต็มประเทศ จึงไม่ธรรมดาเลย ถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์พระอรหันต์ที่เหาะเหินเดินอากาศไปมาตรึมในไทยที่มิไปไหนอีกยังคุ้มครองคนดีบนแผ่นดินไทยคุ้มครองพระพุทธศาสนาจนจะสิ้น5,000ปีอีก,ศาสนาอื่นเพียงมาพึ่งพาอาศัยเท่านั้น,หลักๆคือพระมหากษัตริย์เรา พระพุทธศาสนาและเรา..ประชาชน จึงร่วมดำรงชาติไทยเราไว้ได้ อเมริกาขี้หมา เอาแต่ได้เห็นแก่ตัวปล้นชิงแย่งสมบัติทรัพยากรเราเป็นอันดับหนึ่งสายใต้ดินทางลับโน้น,โกงแบบลับๆกินแบบแอบๆลับๆไม่บอกใคร,ญี่ปุ่นว่าทำสัญญาเหี้ยในอดีต แต่อเมริกาเหี้ยกว่ามากแดกเราทั้งประเทศเลย,สงครามเป็นอันมากบนโลกนี้ก็พวกฝรั่งยุโรปอเมริกาทั้งนั้นปั่นป่วนวุ่นวายจะขายเครื่องจักรอาวุธ,อนาคตมันจะขายหุ่นยนต์รบเร็วๆนี้ล่ะ,จีนผลิตเต็มใต้ดิน ไม่ต่างจากอเมริกาหรอกหรือรัสเชียยุโรปด้วยหรือในหลายๆประเทศทั่วโลกทำที่ใต้ดินตรึมแล้ว,หนังคนเหล็กนั่นล่ะคือตัวอย่างๆ,ผู้นำไทยเราจึงสำคัญมากในการจะปกป้องรักษาบ้านเราเองไว้มิให้ใครมาทำลายง่ายๆตราบใดที่มนุษย์โลกยังต่ำไม่สามารถยกระดับจิตระดับใจให้สูงขึ้นเป็นอันมากเป็นอันหมู่มากยังไม่ได้,
    ..ในที่นี้ ทรัมป์มันก็ทำเพื่อประเทศมัน,เราประเทศไทยล่ะ ต้องยุบสถาบันนักการเมืองลงจริงๆเลย จะชั่วคราวหรือถาวรก็ตาม ประเทศไทยต้องสร้างระบบปกครองตนเองใหม่จริงๆในสไตล์ของเรา..ประเทศไทยตนเองเป็นของตนเอง.
    ..
    ..https://youtu.be/9a4L5BVu0Bw?si=mbP9Lexz3_sDgBZL
    ..555,ขึ้นไปเถอะถึง100%ก็ตามสบาย,ใครเสียผลประโยชน์ก็บริษัทเอกชนไทยทั้งสิ้นที่กำไรลดลงล่ะ,ตลอดถึงต่างชาติที่มาตั้งฐานโรงงานในไทยยืมแผ่นดินยืมชื่อประเทศไทยทำกำไรรายได้มหาศาลแก่ตนเองผ่านเนมไทยนี้ล่ะ,ไทยก็เข้าbrics แล้วจะกลัวอะไรก็ค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าในกลุ่มสมาชิกประเทศbricsสิ,ก็บอกแล้วจบรัฐบาลนี้ทัังแกนนำพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลให้หมดจบเร็วๆถีบออกเร็วๆ,จะแก้ไขปัญหาได้ทันทีในนายกฯพระราชทานเรา,พักงานสถาบันนักการเมืองชั่วคราวไปก่อนเพราะอนาคตอันใกล้นี้ ปัญญาสติธรรมดาพวกการเมืองไม่ทันวิกฤติโลกและภัยสาระพัดคุกคามที่โลกกระทำต่อประเทศต่างๆตลอดแบบเหี้ยเขมรคือภัยคุกคามด้านหนึ่งมุมหนึ่งให้เห็นล่วงหน้าชัดในอนาคตด้วยว่า อนาคต โลกต้องเป็นไปแบบใด ประเทศนั้นๆต้องเป็นไปทันโลกแก้เกมส์ให้ตนรอดจากโลกกระทำตนแบบใด นี้คือผู้นำไทยต้องขึ้นมาปกครองในอนาคตมีวิสัยทัศน์ทันกาลแบบนี้,มิใช่แบบปัจจุบันจริงๆ,,ทรัมป์มันเอาประเทศมันก่อน นี้คือความชัดเจนของการแสดงตัวตน,เราก็ต้องเอาประเทศไทยก่อน ชาติไทยเราก่อน คนไทยเราต้องมาก่อนเช่นกัน,ค้ากับอเมริกน้อยลงจะเป็นอะไร,รัฐบาลค้าขายในนามรัฐบาลมั้ยก็ไม่ใช่ เอกชนค้าขายกันเอง ร่ำรวยกันเองแค่รัฐบาลออกหน้าข่วยเท่านั้น,คนไทยก็ยากจนปกติแม้เอกชนไทยจะร่ำรวยติด50อันดับโลกเป็นอันมากก็ว่า,น้ำมันส่งออกไปอเมริกา ถามจริงๆบริษัทอเมริกาเองตั้งในประเทศไทยดูดน้ำมันบนแผ่นดินมากมายหลายบริษัท ถ้าทรัมป์ขึ้นภาษีน้ำมันดิบเข้าอเมริกาสัก300%อเมริกาในนามทรัมป์ได้ประโยชน์นะ,พวกนีัขายให้ไทยที่ไหน,มันบอกว่านำเข้าสู่ไทยนะรัฐบาลยุคเก่าๆนะ,ประเทศไทยมีน้ำมันน้อยมันว่า,ขึ้นสัก1,000%เลยก็ตามสบาย ไทยเราก็ไปค้าขายกับชาติอื่นสิ,นายกฯคนใหม่จบนานแล้ว,เด็กๆเจรจาอะไรมากพะสาทรัมป์,พะสาอเมริกา,เรา..มีเศรษฐกิจพอเพียงชูเป็นวาระแห่งชาตินโยบายชาติในการขับเคลื่อนประเทศจริง,ยึดบ่อน้ำมันอเมริกาและต่างชาติคืนทั้งหมดเพราะไม่ชอบด้วยสภาประชาธิปไตยแต่แรก สามารถโมฆะได้ ด้วยเป็นภัยคุกคามอธิปไตยประชาธิปไตยเราแต่ต้นโดยต่างชาติทุจริตกับข้าราชการไทยร่างกฎหมายไม่ผ่านสภาตามระบบประชาธิปไตยไทยเรา,ขัดต่อพื้นฐานระบบปกครองชัดเจน,สามารถโมฆะชอบด้วยธรรม,จากนัันดูดขายภายในประเทศราคาไม่แพงลิตรละ1-2บาทพอใน4-5ปีแล้ววิจัยผลทั้งหมดทั้งเชิงบวกเชิงลบ,พื้นฐานลดต้นทุนฐานของคนไทยลงทั้งหมดก่อน,จากนั้นอัดกระบวนการพึ่งพาตนเอง ภายในครอบครัวและส่วนตัวใครมันให้ได้พร้อมๆกันทั่วประเทศใน4-5ปีแรกนี้เช่นกัน,อัดตังสัมมาชีวิตสัมมาอาชีพเขาลงไปเบื้องต้น เช่น20ล้านครัวเรือน,ครัวเกษตรกรก่อนสักประมาณ6-10ล้านครัวเรือนๆละ100,000บาท เขาจะมีทุนปลูกนั่นนี้เลี้ยงนั้นนี้เป็นอาหารทันทีอาจยั่งยืนด้วยที่6แสนล้านบาทถึง1ล้านล้านบาทเอง,แต่ต้นทุนทางการเกษตรจากน้ำมันลิตรละ1-2บาทลดลงด้วยนะ 1ไร่อาจทำนาแค่30-60บาทต่อไร่เลย,ปุ๋ยกระสอบละ5-10บาทเองเพราะรัฐบาลส่งเสริมตรึมมากมายหลายทางตลอดค้าออฟไลน์ออนไลน์ก็สร้างแพลตฟอร์มเรียลไทม์รองรับตลาดไว้ให้ทั้งขายภายในประเทศและต่างประเทศฟรีๆไร้การเก็บค่าใดๆแบบแอปเอกชน ขายราคาไม่แพงตรงปลอดสารพิษจากสวนจากโรงงานร้านค้าตลอดประสานขนส่งโลจิตส์ต่างๆถูกๆอีกภายในประเทศ,หมุนเวียนทั่วโลกอาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีในทุกๆสัมมาอาชีพสไตล์ไทยเรา,คือกาก กระจอกจริงๆ แค่มีผู้นำดีบนแผ่นดินไทย ขึ้นว่าคนจนยากจนจะไม่มีบนแผ่นดินไทยเลย,พื้นๆคนไทยทุกๆคน อาจมีตังในบัญชีเงินฝากกองทุนแห่งชาติไทยตนเองมิใช่ในธนาคารเอกชนนะ อาจคนละ10ล้านบาทต่อปีขั้นต่ำในทุกๆคนไทยเรา,ไม่เกิน4-5ปีก็ว่า,หรือพื้นฐานครัวเรือนคนไทยทุกๆครัวเรือนกว่า20ล้านครัวเรือนนี้ในสถานะประชาชนทั่วไปด้วยอาจมีกันคนละ20ล้านบาทต่อปีต่อครัวเรือนนั้นๆก็ว่า,หรือไม่ต่ำกว่าล้านบาทต่อปีก็ว่าหมุนเวียนในสัมมาชีวิตสัมมาอาชีพเขาในรากฐานเศรษฐกิจเพียงพอพอเพียงแบบไทยเรา,ทุกๆคนมีเพียงพอพอเพียงในปากท้องการกินอยู่การมีตังมีเงินทองคู่ศีลธรรมความดีงามบนระดับจิตใจที่เลิศค่าสไตล์เมืองยิ้มคนไทยเรานี้ล่ะ, ..คนดีคนเก่งบนแผ่นดินไทยเราธรรมดาที่ไหนมีไม่น้อยด้วย,ทหารพระราชาเราต้องตัดสิ้นใจเด็ดขาดจริงๆ,โลกไม่เหมือนเดิมแล้ว,เงาชั่วร้ายบนความล้ำสมัยอันตรายกว่ายุคเก่าก่อนทวีคูณยกกำลังสิบนะ,จะมาเล่นๆทำเล่นๆไม่ได้,เผด็จการคอมมิวนิสต์ก็เป็นฝ่ายมืดส่งออก,ประชาธิปไตยก็ฝ่ายมืดส่งออกนะ,แต่ระบบพระมหากษัตริย์ไม่ใช่,เราคือระบบพ่อแม่ปกครองลูก,ถ้าไม่ใช่ระบบนี้ ระบบพระมหากษัตริย์ประจำประเทศไทยจะเป็นแบบฝรั่งเศสสิ้นซากทันที,และเรามีพระพุทธศาสนาค้ำจุนระดับจิตใจกายนัยของคนไทยมิเช่นนั้นก็ไปวัดเช่นกัน,ตลอดสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายผู้มีฤทธิ์ในแต่ล่ะสภาวะกายจิตนั้นอีกตรึมเต็มประเทศ จึงไม่ธรรมดาเลย ถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์พระอรหันต์ที่เหาะเหินเดินอากาศไปมาตรึมในไทยที่มิไปไหนอีกยังคุ้มครองคนดีบนแผ่นดินไทยคุ้มครองพระพุทธศาสนาจนจะสิ้น5,000ปีอีก,ศาสนาอื่นเพียงมาพึ่งพาอาศัยเท่านั้น,หลักๆคือพระมหากษัตริย์เรา พระพุทธศาสนาและเรา..ประชาชน จึงร่วมดำรงชาติไทยเราไว้ได้ อเมริกาขี้หมา เอาแต่ได้เห็นแก่ตัวปล้นชิงแย่งสมบัติทรัพยากรเราเป็นอันดับหนึ่งสายใต้ดินทางลับโน้น,โกงแบบลับๆกินแบบแอบๆลับๆไม่บอกใคร,ญี่ปุ่นว่าทำสัญญาเหี้ยในอดีต แต่อเมริกาเหี้ยกว่ามากแดกเราทั้งประเทศเลย,สงครามเป็นอันมากบนโลกนี้ก็พวกฝรั่งยุโรปอเมริกาทั้งนั้นปั่นป่วนวุ่นวายจะขายเครื่องจักรอาวุธ,อนาคตมันจะขายหุ่นยนต์รบเร็วๆนี้ล่ะ,จีนผลิตเต็มใต้ดิน ไม่ต่างจากอเมริกาหรอกหรือรัสเชียยุโรปด้วยหรือในหลายๆประเทศทั่วโลกทำที่ใต้ดินตรึมแล้ว,หนังคนเหล็กนั่นล่ะคือตัวอย่างๆ,ผู้นำไทยเราจึงสำคัญมากในการจะปกป้องรักษาบ้านเราเองไว้มิให้ใครมาทำลายง่ายๆตราบใดที่มนุษย์โลกยังต่ำไม่สามารถยกระดับจิตระดับใจให้สูงขึ้นเป็นอันมากเป็นอันหมู่มากยังไม่ได้, ..ในที่นี้ ทรัมป์มันก็ทำเพื่อประเทศมัน,เราประเทศไทยล่ะ ต้องยุบสถาบันนักการเมืองลงจริงๆเลย จะชั่วคราวหรือถาวรก็ตาม ประเทศไทยต้องสร้างระบบปกครองตนเองใหม่จริงๆในสไตล์ของเรา..ประเทศไทยตนเองเป็นของตนเอง. .. ..https://youtu.be/9a4L5BVu0Bw?si=mbP9Lexz3_sDgBZL
    0 Comments 0 Shares 520 Views 0 Reviews
  • ไทยกำลังพยายามครั้งสุดท้าย เพื่อหลีกเลี่ยงถูกรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงโทษทางภาษีปรับเพิ่มเพดานภาษีสินค้าส่งออกไปยังอเมริกา เป็น 36% ด้วยการเสนอให้สินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมของอเมริกาเข้าถึงตลาดมากขึ้น เช่นเดียวกับการยกระดับการซื้อพลังงานและเครื่องบินของโบอิ้ง ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000063728

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ไทยกำลังพยายามครั้งสุดท้าย เพื่อหลีกเลี่ยงถูกรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงโทษทางภาษีปรับเพิ่มเพดานภาษีสินค้าส่งออกไปยังอเมริกา เป็น 36% ด้วยการเสนอให้สินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมของอเมริกาเข้าถึงตลาดมากขึ้น เช่นเดียวกับการยกระดับการซื้อพลังงานและเครื่องบินของโบอิ้ง ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000063728 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 1122 Views 0 Reviews
  • “จตุพร” ควง “สุชาติ” ประเดิม งานแรก ลุยนครศรีธรรมราช แก้ปัญหาราคามังคุด
    https://www.thai-tai.tv/news/20029/
    .
    #มังคุดนครศรีธรรมราช #กระทรวงพาณิชย์ #แก้ปัญหามังคุด #ไทยทำไทยใช้ไทยช่วยไทย #จตุพรบุรุษพัฒน์ #สุชาติชมกลิ่น #เกษตรกร #ปากท้องประชาชน #ผลไม้ไทย #การค้าภายใน
    “จตุพร” ควง “สุชาติ” ประเดิม งานแรก ลุยนครศรีธรรมราช แก้ปัญหาราคามังคุด https://www.thai-tai.tv/news/20029/ . #มังคุดนครศรีธรรมราช #กระทรวงพาณิชย์ #แก้ปัญหามังคุด #ไทยทำไทยใช้ไทยช่วยไทย #จตุพรบุรุษพัฒน์ #สุชาติชมกลิ่น #เกษตรกร #ปากท้องประชาชน #ผลไม้ไทย #การค้าภายใน
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • เกษตรกรผู้ปลูกเงาะ พื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ร้องราคาเงาะตกต่ำ ขายได้แค่กิโลกรัมละ 15 บาท ทั้งที่เป็นช่วงต้นฤดูกาล วอน “จตุพร” รัฐมนตรีคนใหม่เห็นใจ เข้ามาช่วยเหลือด่วน ไม่งั้นเดือดร้อนหนักแน่ เพราะขายได้ไม่คุ้มต้นทุน ทั้งต้นทุนการผลิตและค่าแรงเก็บเงาะ

    นายแดนไทย ต๊ะวิไชย ส.จ.ท่าวังผา เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกเงาะ พื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ว่าขณะนี้ผลผลิตได้เริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้ว และคาดว่าปริมาณจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ด้านราคาตกต่ำมาก เมื่อเทียบกับราคาช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูกาล ราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 15 บาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อน ราคาอยู่ที่ กก.ละ 30-40 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ไม่ได้ เพราะไม่คุ้มต้นทุนการผลิต จึงได้มาเรียกร้อง และขอให้ช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ให้เข้ามาช่วยดูแลด้วย

    “ตอนนี้ ราคาเงาะต่ำมาก ขายได้แค่ กก.ละ 15 บาท ไม่คุ้มแม้กระทั่งต้นทุนการปลูก แล้วยังต้องเจอค่าแรงเก็บเงาะ ที่ตกวันละ 400 บาท แต่ละคนเก็บได้เฉลี่ยคนละ 30 กก. เมื่อเอาไปขาย ได้เงิน 450 บาท โดนหักไปแล้ว 400 บาทเป็นค่าแรง เหลือเงิน 50 บาท แบบนี้ไม่พอกินแน่ ขอให้กระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ เข้ามาช่วยด้วย อย่างน้อยราคาก็ควรจะดีกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้เกษตรกรเดือดร้อน”นายแดนไทยกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000063143

    #Thaitimes #MGROnline #เกษตรกรผู้ปลูกเงาะ
    เกษตรกรผู้ปลูกเงาะ พื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ร้องราคาเงาะตกต่ำ ขายได้แค่กิโลกรัมละ 15 บาท ทั้งที่เป็นช่วงต้นฤดูกาล วอน “จตุพร” รัฐมนตรีคนใหม่เห็นใจ เข้ามาช่วยเหลือด่วน ไม่งั้นเดือดร้อนหนักแน่ เพราะขายได้ไม่คุ้มต้นทุน ทั้งต้นทุนการผลิตและค่าแรงเก็บเงาะ • นายแดนไทย ต๊ะวิไชย ส.จ.ท่าวังผา เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกเงาะ พื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ว่าขณะนี้ผลผลิตได้เริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้ว และคาดว่าปริมาณจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ด้านราคาตกต่ำมาก เมื่อเทียบกับราคาช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูกาล ราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 15 บาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อน ราคาอยู่ที่ กก.ละ 30-40 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ไม่ได้ เพราะไม่คุ้มต้นทุนการผลิต จึงได้มาเรียกร้อง และขอให้ช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ให้เข้ามาช่วยดูแลด้วย • “ตอนนี้ ราคาเงาะต่ำมาก ขายได้แค่ กก.ละ 15 บาท ไม่คุ้มแม้กระทั่งต้นทุนการปลูก แล้วยังต้องเจอค่าแรงเก็บเงาะ ที่ตกวันละ 400 บาท แต่ละคนเก็บได้เฉลี่ยคนละ 30 กก. เมื่อเอาไปขาย ได้เงิน 450 บาท โดนหักไปแล้ว 400 บาทเป็นค่าแรง เหลือเงิน 50 บาท แบบนี้ไม่พอกินแน่ ขอให้กระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ เข้ามาช่วยด้วย อย่างน้อยราคาก็ควรจะดีกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้เกษตรกรเดือดร้อน”นายแดนไทยกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000063143 • #Thaitimes #MGROnline #เกษตรกรผู้ปลูกเงาะ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 311 Views 0 Reviews
  • ..มีเดือดแน่นอน,ภาคประชาชนเตรียมรับมือได้เลย,มือโกลาหลแทรกแซงจากภายนอก,ที่ฝ่ายทรยศได้รับการสนับสนุนเตรียมการไว้หมดแล้วแน่ๆ,
    ..นี้คือเกมส์อำนาจของโลกผ่านไทยก็ได้,agenda2030ตั้งไทยคือสาระพัดฮับแห่งยุคสมัยใหม่ไว้แล้วดูที่ยิวอพยพอยู่อ.ปายเป็นอันมากคือเครื่องพิสูจน์ว่าไทยคือเป้าหมายหลักแกนนำแกนกลางของโลกแล้วมิใช่อิสราเอลอีกต่อไป,ศูนย์กลางสนามแม่เหล็กโลกพลังงานจักรวาลที่จะพลิกมาที่โซนประเทศไทยด้วยตลอดแร่ธาตุสำคัญมากมายของโลกก็ขนมาใต้แผ่นดินไทยเป็นอันมาก,เมืองหลวงของโลกในอนาคตคือประเทศไทยเรานีัล่ะ,ใครๆก็อยากได้ประเทศไทย,แม้อีลิทdeep stateยึดครองได้ประเทศไทยก็เจริญแบบแนวทางdeep state,ฝ่ายแสงยึดครองได้ประเทศไทยก็เจริญในวิถีแบบฝ่ายแสง,แค่เราจะเลือกไปทางไหนแค่นั้นในยุคสมัยที่จะมาถึงนี้,เมืองอัจฉริยะเขาวางโครงสร้างไว้หมดแล้วนั้นเอง,ประกาศออกมาแล้วด้วยของagenda2030,ช่วงรัฐบาลยุคนึดอำนาจนั้นล่ะเห็นชัดเจนที่สุด ตังไหลหลั่งมาจากสาระพัดทิศเพื่อเริ่มโครงการต่างๆเช่นแลนด์บริดจ์ยึดภาคใต้ทัังภาคสามารถเขียนให้ภาคใต้ปกครองตนเองได้เลย,ใครสั่งเขียนก็deep stateนั้นล่ะ,ตระกูลรอธส์ไชลด์และตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์นั้นล่ะคือตัวพ่อตัวเปิดหลักๆ,อ่าวไทยทัังหมดอันดามันทั้งหมดภาคใต้ทัังหมดมันกะผ่านให้เสร็จให้ทัน เช่าที่ดิน99ปีคือตัวยืนยันให้แก่ต่างชาติ,ยึดอำนาจมาเพื่อนัยยะลักษณะนี้ล่ะ,ครม.พิมพ์เดียวกันกับครม.ทักษิณ,ยุคทักษิณทำไม่สำเร็จ สามารถสำเร็จเป็นอันมากในยุคทหารอีลิทdeep stateยึดอำนาจ,วัคซีนฉีดตายคนไทยลดประชากรไทยก็สำเร็จในยุคยึดอำนาจ,พรบ.เมล็ดพันธุ์คือตย.เด่นชัดอีกตัวถ้าผ่านไปได้,นั้นคือการล่มสลายของเกษตรกรรมประเทศไทยทันที เมล็ดพันธุ์บนแผ่นดินไทยจะผูกขาดทันทีโดยเอกชน นี้คือพรบ.ที่จะก่อเกิดในยุคยึดอำนาจล่ะในสมัยนั้น,มีมากมายนั้นเอง,จึงทำวิถีทางให้ตนอยู่ต่อให้ได้สะดวกง่ายดำเนินเนื้องานกว่าขี้ข้าสมุนdeep stateแบบนักเลือกตั้งเช่นในปัจจุบัน,สายต่อลำบาก เดินงานติดขัดได้ แบบจะเปิดบ่อนฮับคาสิโนออนไลน์โลกก็ลำบากติดขัดแบบที่เห็นในปัจจุบันนี้,แลนด์บริดจ์ก็รีบเร่งไม่ได้ มันประชาชนคนไทยไม่โง่กันทุกๆคนรู้ทันกูอีก,,สรุปคือพวกเหี้ยนีัในปัจจุบันคือขี้ข้าบ๋อนรับใช้deep stateโลกหมด,ยึดครองไทยไปด้วย ทำลายระบบกษัตริย์ไปด้วย ทำลายสถาบันกษัตริย์ทันทีเมื่อมีจังหวะโอกาสในตัว,ดูถวายสัตย์หลังยึดอำนาจเลย เศษกระดาษหยิบขึ้นมาอ่านชัดๆ,คนไทยลืมง่าย,ตอนนี้สถาบันนักการเมืองคือภัยคุกคามต่อสถาบันกษัตริย์เรา สถาบันศาสนาพุทธเราด้วย ประเทศไทยตั้งอยู่ได้เพราะสองอย่างสิ่งนี้ค้ำชูประเทศไทยเราไว้,แม้เราเสียบ่อน้ำมันบ่อทองคำที่พวกมันปล้นชิงไปแต่สถาบันกษัตริย์และศาสนาพุทธหลักเรายังอยู่,หากสิ้นสองสิ่งนี้ชาติไทยพังพินาศทันทีไม่ต้องสงสัย,มันจึงยุแยงพุทธกับอิสลามตีกัน,อิสลามดิบๆนั้นปกติดี,แต่อิสลามdeep stateควบคุมนี้อันตรายมาก,ตะวันออกกลางมีปัญหาไปทั่วเพราะอีลิทdeep stateทำเหยื่อคือหมากศาสนาความเชื่อเป็นเหตุแตกแยก,เหยื่อล่อที่ดีคือใช้อิสลามตนที่ก่อตั้งขึ้นควบคุมได้บุกในนามศาสนาอิสลามของdeep stateทำลายที่ต่างๆนั้นตะวันออกกลางคือตัวอย่าง,จะปล้นแร่ธาตุบ่อน้ำมันเข้าก็ใช้เหยื่อล่ออ้อมเสียไกลคือศาสนาอิสลามบังหน้าสู้กันเองบ้างสู้กับยิวบ้างแบบที่เห็นในตอนนี้คืออิสราเอลกับอิหร่านคือทำทีบุกชาติอื่นๆไปทั่ว เป้าหมายจริงคืออีรักประตูข้ามมิติอิหร่านบ่อน้ำมันมิให้จีนซื้อขายง่ายๆเพราะฐานน้ำมันจีนส่วนใหญ่ใข้ที่อิหร่าน รบกับจีนจึงตัดยุทธปัจจัยทางสงครามก่อนคือเชื้อเพลิงสงครามที่อิหร่านก็ว่าและนัยยะใต้ดินตรึม.,ไทยก็ไม่เว้นบ่อน้ำมันไทยมีมหาศาลกว่าซาอุฯอีกสัมปทาน2แปลงล่าสุดจึงแบ่งๆให้ไปสำเร็จก็ยึดต่อยอดอยากเป็นต่อของพวกยึดอำนาจในอดีตล่าสุดนั้นล่ะ,เสือกไปทำเอง,เปิดสัมปทานไปทำไม.เพราะนายสั่งคือdeep stateโลกสั่งขี้ข้าในไทยต้องปฏิบัติตามก็ว่า,ซาอุฯไม่กล้าคุยจะสร้างคลังแสงน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยได้หรอกถ้าน้ำมันประเทศไทยมีน้อย,ไม่สร้างฉางข้าวเก็บข้าวหรอกหากข้าวไม่มีเยอะไม่มีมากมายเพราะมีข้าวมากเต็มท้องนาจึงต้องที่เก็บให้ใหญ่ๆไว้,แลนด์บริดจ์จริงๆระดมทุนให้คนไทยลงหุ้นเป็นเจ้าของร่วมจริงๆแก่คนไทยทุกๆคนได้ ให้เป็นหุ้นฟรีๆแก่คนไทย100หุ้นห้ามซื้อขายทุกๆกรณี,ipoอีกหุ้นละ10บาท คนไทยซื้อได้ไม่เกิน100หุ้นๆละ10บาทอีก,คนไทยก็จะเป็นเจ้าของแลนด์บริดจ์ร่วมกันจริงจับต้องได้,รัฐบาลนั้นจึงเชื่อว่าปราถนาให้คนไทยมั่งมีมีความสุขอยู่ดีมีกิน อยู่เฉยๆมีรายได้เข้ามาจากกำไรบริหารจัดการแลนด์บริดจ์จริงได้,มิใช่ตกแก่นักทุนหน้าไหนไม่รู้เฉพาะเดอะแก๊งต่างๆอีก คนไทยไม่ได้อะไรเลย อ้างว่าเข้าชาติเข้าประเทศแล้วไง อ้างแบบนั้นไม่ได้เลย แบบได้ค่าภาคหลวงแห่งบ่อน้ำมันนั้นก็ด้วยนี้คือเหี้ยหมด,แลนด์บริดจ์พื้นที่บริหารจัดการรอบข้างด้วยและรวมกันทั้งหมดต่อปี อาจกำไรเกินกว่า10ล้านล้านบาทต่อปีทีเดียว,อาจ100ล้านล้านบาทสบายเพราะสามารถเป็นพื้นทีสาระพัดฮับของโลกได้.,บ่อนคาสิโนอาจยุคอนาคตคนมีภูมิต้านทานเข้าใจดีเข้าใจชั่ว ไม่หลงล่อใดๆแล้วในส่วนของคนไทยคือเป็นผู้รู้มีองค์ภูมิรอบตัวแล้ว สามารถเป็นปกติได้ อาจเปิดเสรีได้สบายๆต่างจากยุคเวลานี้ก็ได้ deep stateโลภจึงอยากเปิดทำตังก่อนเพราะรายได้จากทั่วโลกถ้าประเทศเป็นฮับจริงๆทั้งออฟไลน์และออนไลน์อาจข้ามจักรวาลแบบเน็ตควอนตัมstarlinkควอนตัมข้ามจักรวาลได้ก็ว่า เล่นทั่วจักรวาลผ่านฮับออนไลน์ที่ไทยสร้างสรรค์อบายมุขรูปแบบพนันเป็นเลิศอาจตังโคตรมากมายมหาศาลกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีได้สบายๆ,นี้ประเทศไทยเป็นฮับสาระพัดอีกอื่นตรึมนะ ยอมประเมินค่ามิได้จริงๆ,
    ..สรุปอีกครั้ง ประเทศไทยเราสมบูรณ์แบบจริงๆ,จึงผู้นำผู้ปกครองโคตรสำคัญโคตรๆ.

    ..https://youtu.be/MpgtmRbfTec?si=9n4z2ZlBqBx0tnuN
    ..มีเดือดแน่นอน,ภาคประชาชนเตรียมรับมือได้เลย,มือโกลาหลแทรกแซงจากภายนอก,ที่ฝ่ายทรยศได้รับการสนับสนุนเตรียมการไว้หมดแล้วแน่ๆ, ..นี้คือเกมส์อำนาจของโลกผ่านไทยก็ได้,agenda2030ตั้งไทยคือสาระพัดฮับแห่งยุคสมัยใหม่ไว้แล้วดูที่ยิวอพยพอยู่อ.ปายเป็นอันมากคือเครื่องพิสูจน์ว่าไทยคือเป้าหมายหลักแกนนำแกนกลางของโลกแล้วมิใช่อิสราเอลอีกต่อไป,ศูนย์กลางสนามแม่เหล็กโลกพลังงานจักรวาลที่จะพลิกมาที่โซนประเทศไทยด้วยตลอดแร่ธาตุสำคัญมากมายของโลกก็ขนมาใต้แผ่นดินไทยเป็นอันมาก,เมืองหลวงของโลกในอนาคตคือประเทศไทยเรานีัล่ะ,ใครๆก็อยากได้ประเทศไทย,แม้อีลิทdeep stateยึดครองได้ประเทศไทยก็เจริญแบบแนวทางdeep state,ฝ่ายแสงยึดครองได้ประเทศไทยก็เจริญในวิถีแบบฝ่ายแสง,แค่เราจะเลือกไปทางไหนแค่นั้นในยุคสมัยที่จะมาถึงนี้,เมืองอัจฉริยะเขาวางโครงสร้างไว้หมดแล้วนั้นเอง,ประกาศออกมาแล้วด้วยของagenda2030,ช่วงรัฐบาลยุคนึดอำนาจนั้นล่ะเห็นชัดเจนที่สุด ตังไหลหลั่งมาจากสาระพัดทิศเพื่อเริ่มโครงการต่างๆเช่นแลนด์บริดจ์ยึดภาคใต้ทัังภาคสามารถเขียนให้ภาคใต้ปกครองตนเองได้เลย,ใครสั่งเขียนก็deep stateนั้นล่ะ,ตระกูลรอธส์ไชลด์และตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์นั้นล่ะคือตัวพ่อตัวเปิดหลักๆ,อ่าวไทยทัังหมดอันดามันทั้งหมดภาคใต้ทัังหมดมันกะผ่านให้เสร็จให้ทัน เช่าที่ดิน99ปีคือตัวยืนยันให้แก่ต่างชาติ,ยึดอำนาจมาเพื่อนัยยะลักษณะนี้ล่ะ,ครม.พิมพ์เดียวกันกับครม.ทักษิณ,ยุคทักษิณทำไม่สำเร็จ สามารถสำเร็จเป็นอันมากในยุคทหารอีลิทdeep stateยึดอำนาจ,วัคซีนฉีดตายคนไทยลดประชากรไทยก็สำเร็จในยุคยึดอำนาจ,พรบ.เมล็ดพันธุ์คือตย.เด่นชัดอีกตัวถ้าผ่านไปได้,นั้นคือการล่มสลายของเกษตรกรรมประเทศไทยทันที เมล็ดพันธุ์บนแผ่นดินไทยจะผูกขาดทันทีโดยเอกชน นี้คือพรบ.ที่จะก่อเกิดในยุคยึดอำนาจล่ะในสมัยนั้น,มีมากมายนั้นเอง,จึงทำวิถีทางให้ตนอยู่ต่อให้ได้สะดวกง่ายดำเนินเนื้องานกว่าขี้ข้าสมุนdeep stateแบบนักเลือกตั้งเช่นในปัจจุบัน,สายต่อลำบาก เดินงานติดขัดได้ แบบจะเปิดบ่อนฮับคาสิโนออนไลน์โลกก็ลำบากติดขัดแบบที่เห็นในปัจจุบันนี้,แลนด์บริดจ์ก็รีบเร่งไม่ได้ มันประชาชนคนไทยไม่โง่กันทุกๆคนรู้ทันกูอีก,,สรุปคือพวกเหี้ยนีัในปัจจุบันคือขี้ข้าบ๋อนรับใช้deep stateโลกหมด,ยึดครองไทยไปด้วย ทำลายระบบกษัตริย์ไปด้วย ทำลายสถาบันกษัตริย์ทันทีเมื่อมีจังหวะโอกาสในตัว,ดูถวายสัตย์หลังยึดอำนาจเลย เศษกระดาษหยิบขึ้นมาอ่านชัดๆ,คนไทยลืมง่าย,ตอนนี้สถาบันนักการเมืองคือภัยคุกคามต่อสถาบันกษัตริย์เรา สถาบันศาสนาพุทธเราด้วย ประเทศไทยตั้งอยู่ได้เพราะสองอย่างสิ่งนี้ค้ำชูประเทศไทยเราไว้,แม้เราเสียบ่อน้ำมันบ่อทองคำที่พวกมันปล้นชิงไปแต่สถาบันกษัตริย์และศาสนาพุทธหลักเรายังอยู่,หากสิ้นสองสิ่งนี้ชาติไทยพังพินาศทันทีไม่ต้องสงสัย,มันจึงยุแยงพุทธกับอิสลามตีกัน,อิสลามดิบๆนั้นปกติดี,แต่อิสลามdeep stateควบคุมนี้อันตรายมาก,ตะวันออกกลางมีปัญหาไปทั่วเพราะอีลิทdeep stateทำเหยื่อคือหมากศาสนาความเชื่อเป็นเหตุแตกแยก,เหยื่อล่อที่ดีคือใช้อิสลามตนที่ก่อตั้งขึ้นควบคุมได้บุกในนามศาสนาอิสลามของdeep stateทำลายที่ต่างๆนั้นตะวันออกกลางคือตัวอย่าง,จะปล้นแร่ธาตุบ่อน้ำมันเข้าก็ใช้เหยื่อล่ออ้อมเสียไกลคือศาสนาอิสลามบังหน้าสู้กันเองบ้างสู้กับยิวบ้างแบบที่เห็นในตอนนี้คืออิสราเอลกับอิหร่านคือทำทีบุกชาติอื่นๆไปทั่ว เป้าหมายจริงคืออีรักประตูข้ามมิติอิหร่านบ่อน้ำมันมิให้จีนซื้อขายง่ายๆเพราะฐานน้ำมันจีนส่วนใหญ่ใข้ที่อิหร่าน รบกับจีนจึงตัดยุทธปัจจัยทางสงครามก่อนคือเชื้อเพลิงสงครามที่อิหร่านก็ว่าและนัยยะใต้ดินตรึม.,ไทยก็ไม่เว้นบ่อน้ำมันไทยมีมหาศาลกว่าซาอุฯอีกสัมปทาน2แปลงล่าสุดจึงแบ่งๆให้ไปสำเร็จก็ยึดต่อยอดอยากเป็นต่อของพวกยึดอำนาจในอดีตล่าสุดนั้นล่ะ,เสือกไปทำเอง,เปิดสัมปทานไปทำไม.เพราะนายสั่งคือdeep stateโลกสั่งขี้ข้าในไทยต้องปฏิบัติตามก็ว่า,ซาอุฯไม่กล้าคุยจะสร้างคลังแสงน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยได้หรอกถ้าน้ำมันประเทศไทยมีน้อย,ไม่สร้างฉางข้าวเก็บข้าวหรอกหากข้าวไม่มีเยอะไม่มีมากมายเพราะมีข้าวมากเต็มท้องนาจึงต้องที่เก็บให้ใหญ่ๆไว้,แลนด์บริดจ์จริงๆระดมทุนให้คนไทยลงหุ้นเป็นเจ้าของร่วมจริงๆแก่คนไทยทุกๆคนได้ ให้เป็นหุ้นฟรีๆแก่คนไทย100หุ้นห้ามซื้อขายทุกๆกรณี,ipoอีกหุ้นละ10บาท คนไทยซื้อได้ไม่เกิน100หุ้นๆละ10บาทอีก,คนไทยก็จะเป็นเจ้าของแลนด์บริดจ์ร่วมกันจริงจับต้องได้,รัฐบาลนั้นจึงเชื่อว่าปราถนาให้คนไทยมั่งมีมีความสุขอยู่ดีมีกิน อยู่เฉยๆมีรายได้เข้ามาจากกำไรบริหารจัดการแลนด์บริดจ์จริงได้,มิใช่ตกแก่นักทุนหน้าไหนไม่รู้เฉพาะเดอะแก๊งต่างๆอีก คนไทยไม่ได้อะไรเลย อ้างว่าเข้าชาติเข้าประเทศแล้วไง อ้างแบบนั้นไม่ได้เลย แบบได้ค่าภาคหลวงแห่งบ่อน้ำมันนั้นก็ด้วยนี้คือเหี้ยหมด,แลนด์บริดจ์พื้นที่บริหารจัดการรอบข้างด้วยและรวมกันทั้งหมดต่อปี อาจกำไรเกินกว่า10ล้านล้านบาทต่อปีทีเดียว,อาจ100ล้านล้านบาทสบายเพราะสามารถเป็นพื้นทีสาระพัดฮับของโลกได้.,บ่อนคาสิโนอาจยุคอนาคตคนมีภูมิต้านทานเข้าใจดีเข้าใจชั่ว ไม่หลงล่อใดๆแล้วในส่วนของคนไทยคือเป็นผู้รู้มีองค์ภูมิรอบตัวแล้ว สามารถเป็นปกติได้ อาจเปิดเสรีได้สบายๆต่างจากยุคเวลานี้ก็ได้ deep stateโลภจึงอยากเปิดทำตังก่อนเพราะรายได้จากทั่วโลกถ้าประเทศเป็นฮับจริงๆทั้งออฟไลน์และออนไลน์อาจข้ามจักรวาลแบบเน็ตควอนตัมstarlinkควอนตัมข้ามจักรวาลได้ก็ว่า เล่นทั่วจักรวาลผ่านฮับออนไลน์ที่ไทยสร้างสรรค์อบายมุขรูปแบบพนันเป็นเลิศอาจตังโคตรมากมายมหาศาลกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีได้สบายๆ,นี้ประเทศไทยเป็นฮับสาระพัดอีกอื่นตรึมนะ ยอมประเมินค่ามิได้จริงๆ, ..สรุปอีกครั้ง ประเทศไทยเราสมบูรณ์แบบจริงๆ,จึงผู้นำผู้ปกครองโคตรสำคัญโคตรๆ. ..https://youtu.be/MpgtmRbfTec?si=9n4z2ZlBqBx0tnuN
    0 Comments 0 Shares 535 Views 0 Reviews
More Results