• เรื่องเล่า: การเดินทางสู่โลก IoT และบ้านอัจฉริยะ

    วันก่อนผมนั่งคุยกับเพื่อนๆ เรื่องบ้านอัจฉริยะ แล้วก็ย้อนคิดไปว่าจริงๆ แนวคิดนี้มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลยนะ หลายคนอาจคิดว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเพราะมี Wi-Fi หรือสมาร์ทโฟน แต่จริงๆ รากของมันมีมาตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อนแล้ว สมัยนั้นคนก็เริ่มคิดอยากควบคุมอะไรจากระยะไกล อย่างในปี 1832 ก็มีการประดิษฐ์โทรเลขแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ส่งสัญญาณควบคุมระยะไกลได้ หรือเทอร์โมสแตตแบบกลไกที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิบ้าน ซึ่งสำหรับยุคนั้นถือว่าล้ำสุดๆ

    เวลาผ่านมาถึงช่วงปี 1999 ก็มีคนตั้งชื่อให้ความคิดนี้ว่า “Internet of Things” หรือ IoT จุดพลิกผันจริงๆ มันเกิดราวปี 2008-2009 ที่จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีมากกว่าจำนวนคนบนโลกแล้ว จากนั้นทุกอย่างก็ระเบิดพลังเต็มที่เพราะมีสมาร์ทโฟน, Wi-Fi และคลาวด์ เข้ามาเสริม พูดง่ายๆ คือบ้านเริ่มมีสมอง คุยกันได้ และคุยกับเราผ่านเน็ตได้ด้วย

    เพื่อนบางคนถามว่าบ้านอัจฉริยะมันทำงานยังไง ผมก็บอกว่ามันเหมือนบ้านมีตา มีมือ และมีสมอง ตาก็คือพวกเซ็นเซอร์ ที่คอยจับว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ แสงเพียงพอไหม หรือมีคนเดินผ่านไหม มือก็คือพวกมอเตอร์หรือสวิตช์ไฟ ที่ทำงานตามคำสั่ง ส่วนสมองก็คือศูนย์ควบคุม ที่คิด วิเคราะห์ แล้วสั่งการต่อไป

    ทุกวันนี้บ้านอัจฉริยะก็มีหลายค่ายใหญ่แข่งกัน อย่าง Amazon Alexa ที่รองรับอุปกรณ์ได้เยอะมาก Google Home ที่เก่งเรื่องฟังและเข้าใจภาษามนุษย์ หรือ Apple HomeKit ที่เน้นความปลอดภัย แต่ปัญหาคือแต่ละค่ายก็มีระบบของตัวเอง บางทีอุปกรณ์ไม่คุยกัน ต้องใช้หลายแอปเหมือนต้องพกรีโมทหลายอันอยู่บ้านเดียวกัน

    ในไทยเองกระแสนี้ก็มานะ ตลาด IoT โตเร็วมาก ภาครัฐก็มองว่าเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะในภาคการผลิต และเมืองอัจฉริยะ แต่แน่นอนว่ามันก็ยังมีอุปสรรค อย่างเรื่องความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ หรือปัญหาความปลอดภัย เพราะถ้าอุปกรณ์ถูกแฮ็กได้ก็อาจเปิดประตูบ้านเราได้เลย ซึ่งฟังดูน่ากลัวอยู่เหมือนกัน

    ที่น่าสนใจคือ ตอนนี้บ้านอัจฉริยะไม่ได้แค่ “ฟังคำสั่ง” อีกแล้ว แต่เริ่มใช้ AI เข้ามาช่วยตัดสินใจแทนเรา เช่น ตู้เย็นบางรุ่นของ Samsung ใช้ AI คอยสแกนของในตู้ แล้วแนะนำเมนูอาหาร หรือเตือนว่าอะไรใกล้หมดอายุ เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ก็ใช้ AI ปรับรอบหมุนและปริมาณน้ำตามชนิดของผ้า เพื่อให้ซักได้สะอาดและประหยัดพลังงาน หรือแม้แต่ระบบตรวจจับน้ำรั่ว อย่าง Moen Flo ที่เรียนรู้รูปแบบการใช้น้ำในบ้าน แล้วสั่งปิดวาล์วอัตโนมัติถ้าพบว่ามีความผิดปกติ — ป้องกันน้ำท่วมบ้านได้ก่อนที่เราจะรู้ตัวเสียอีก

    อนาคตยังมีสิ่งน่าสนใจรออยู่ อย่างมาตรฐานใหม่ชื่อ Matter ที่ตั้งใจให้ทุกอุปกรณ์คุยกันได้โดยไม่ต้องสนใจยี่ห้อ ไหนจะการเอา AI มาผสมกับเทคโนโลยี Edge Computing ให้บ้านฉลาดพอจะเดาความต้องการของเรา เช่น เห็นฝนกำลังตกก็ปิดหน้าต่างให้เอง หรือเปิดเครื่องฟอกอากาศทันทีเมื่อเซ็นเซอร์จับว่ามีฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน หรือใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างโซลาร์เซลล์ เพื่อให้บ้านยั่งยืนและประหยัดพลังงานมากขึ้น

    คิดไปคิดมา จากบ้านธรรมดาที่มีแต่สวิตช์เปิดไฟ วันนี้เรามีบ้านที่คุยกับเราได้ คิดแทนเราได้ และอีกไม่นานมันจะกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิต เหมือนที่ทุกบ้านมี Wi-Fi ในตอนนี้นั่นแหละ

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    🏠 เรื่องเล่า: การเดินทางสู่โลก IoT และบ้านอัจฉริยะ 🤖 ☕ วันก่อนผมนั่งคุยกับเพื่อนๆ เรื่องบ้านอัจฉริยะ แล้วก็ย้อนคิดไปว่าจริงๆ แนวคิดนี้มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลยนะ หลายคนอาจคิดว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเพราะมี Wi-Fi หรือสมาร์ทโฟน 📱 แต่จริงๆ รากของมันมีมาตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อนแล้ว สมัยนั้นคนก็เริ่มคิดอยากควบคุมอะไรจากระยะไกล อย่างในปี 1832 ก็มีการประดิษฐ์โทรเลขแม่เหล็กไฟฟ้า 📡 ที่ส่งสัญญาณควบคุมระยะไกลได้ หรือเทอร์โมสแตตแบบกลไกที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิบ้าน ซึ่งสำหรับยุคนั้นถือว่าล้ำสุดๆ เวลาผ่านมาถึงช่วงปี 1999 ก็มีคนตั้งชื่อให้ความคิดนี้ว่า “Internet of Things” หรือ IoT 🌐 จุดพลิกผันจริงๆ มันเกิดราวปี 2008-2009 ที่จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีมากกว่าจำนวนคนบนโลกแล้ว จากนั้นทุกอย่างก็ระเบิดพลังเต็มที่เพราะมีสมาร์ทโฟน, Wi-Fi และคลาวด์ ☁️ เข้ามาเสริม พูดง่ายๆ คือบ้านเริ่มมีสมอง คุยกันได้ และคุยกับเราผ่านเน็ตได้ด้วย เพื่อนบางคนถามว่าบ้านอัจฉริยะมันทำงานยังไง ผมก็บอกว่ามันเหมือนบ้านมีตา มีมือ และมีสมอง ตาก็คือพวกเซ็นเซอร์ 👀 ที่คอยจับว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ แสงเพียงพอไหม หรือมีคนเดินผ่านไหม มือก็คือพวกมอเตอร์หรือสวิตช์ไฟ 🤖 ที่ทำงานตามคำสั่ง ส่วนสมองก็คือศูนย์ควบคุม 🧠 ที่คิด วิเคราะห์ แล้วสั่งการต่อไป ทุกวันนี้บ้านอัจฉริยะก็มีหลายค่ายใหญ่แข่งกัน อย่าง Amazon Alexa ที่รองรับอุปกรณ์ได้เยอะมาก Google Home ที่เก่งเรื่องฟังและเข้าใจภาษามนุษย์ 🗣️ หรือ Apple HomeKit ที่เน้นความปลอดภัย 🔒 แต่ปัญหาคือแต่ละค่ายก็มีระบบของตัวเอง บางทีอุปกรณ์ไม่คุยกัน ต้องใช้หลายแอปเหมือนต้องพกรีโมทหลายอันอยู่บ้านเดียวกัน ในไทยเองกระแสนี้ก็มานะ 🇹🇭 ตลาด IoT โตเร็วมาก ภาครัฐก็มองว่าเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะในภาคการผลิต 🏭 และเมืองอัจฉริยะ 🏙️ แต่แน่นอนว่ามันก็ยังมีอุปสรรค อย่างเรื่องความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ หรือปัญหาความปลอดภัย 🔐 เพราะถ้าอุปกรณ์ถูกแฮ็กได้ก็อาจเปิดประตูบ้านเราได้เลย ซึ่งฟังดูน่ากลัวอยู่เหมือนกัน ที่น่าสนใจคือ ตอนนี้บ้านอัจฉริยะไม่ได้แค่ “ฟังคำสั่ง” อีกแล้ว แต่เริ่มใช้ AI เข้ามาช่วยตัดสินใจแทนเรา เช่น ตู้เย็นบางรุ่นของ Samsung ใช้ AI คอยสแกนของในตู้ 🍎🥦 แล้วแนะนำเมนูอาหาร หรือเตือนว่าอะไรใกล้หมดอายุ เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ก็ใช้ AI ปรับรอบหมุนและปริมาณน้ำตามชนิดของผ้า 👕 เพื่อให้ซักได้สะอาดและประหยัดพลังงาน หรือแม้แต่ระบบตรวจจับน้ำรั่ว 💧 อย่าง Moen Flo ที่เรียนรู้รูปแบบการใช้น้ำในบ้าน แล้วสั่งปิดวาล์วอัตโนมัติถ้าพบว่ามีความผิดปกติ — ป้องกันน้ำท่วมบ้านได้ก่อนที่เราจะรู้ตัวเสียอีก อนาคตยังมีสิ่งน่าสนใจรออยู่ อย่างมาตรฐานใหม่ชื่อ Matter 📜 ที่ตั้งใจให้ทุกอุปกรณ์คุยกันได้โดยไม่ต้องสนใจยี่ห้อ ไหนจะการเอา AI 🤖 มาผสมกับเทคโนโลยี Edge Computing 💻 ให้บ้านฉลาดพอจะเดาความต้องการของเรา เช่น เห็นฝนกำลังตกก็ปิดหน้าต่างให้เอง หรือเปิดเครื่องฟอกอากาศทันทีเมื่อเซ็นเซอร์จับว่ามีฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน หรือใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างโซลาร์เซลล์ 🌞 เพื่อให้บ้านยั่งยืนและประหยัดพลังงานมากขึ้น คิดไปคิดมา จากบ้านธรรมดาที่มีแต่สวิตช์เปิดไฟ วันนี้เรามีบ้านที่คุยกับเราได้ คิดแทนเราได้ และอีกไม่นานมันจะกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิต เหมือนที่ทุกบ้านมี Wi-Fi 📶 ในตอนนี้นั่นแหละ #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 14
    เล่าเรื่องชาว บ้านซะหลายมื้อ กลับเข้ามาบ้านเราต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะงง มันจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่นะ ก็แหมมันต้องให้เห็นภาพ บอกแล้วอย่าดูแต่สิ่งที่เห็นข้างหน้าอย่างเดียว หัดมองภาพกว้าง ภาพลึก 3 มิติบ้าง
    จิ๊กโก๋๋ไปหากินอยู่ซอยอื่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 จนเดี๋ยวนี้ยังพล่านอยู่ เพราะฉะนั้นตั้งแต่รัฐบาลคุณป๋าจ๊อกกี้ จนมาถึงคุณน้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ บ้านเราจึงแบ่งกันกินแย่งกันกัด โดยไม่มีจิ๊กโก๋๋ต่างถิ่นมาขัดคอ
    มาเกิดเหตุบังเอิญ ตอนคุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ แกจัดงานเลี้ยงบุพเฟ่ต์บ่อยไปหน่อย แถมอาหารแต่ละจาน มันก็มีพวกจิ๊กโก๋๋อยากร่วมวงรับประทานกินด้วย เรื่องบังเอิญมันถึงได้เกิด ไทยแลนด์แดนสยาม จึงมีนายกชื่อ คุณน้านัน จำได้ใช่ไหมครับ
    พอคุณน้านันเป็นนายก นอกจากจะจัดสรรเมนูอาหารให้ถูกปากแล้ว รัฐบาลคุณน้านัน ยังเป็นรัฐบาลที่ออกกฎหมาย เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ธุรกรรมการเงิน อีกมากมาย รวมทั้งการเปิดเสรีทางการเงินอีกด้วย พร้อมทั้งจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ เราต้องเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีธรรมาภิบาล ฯลฯ นโยบายของคุณน้านันนี่ ถ้าไม่เขียนออกมาเป็นภาษาไทยว่า นโยบายนายกอานันท์นี่ เผลอๆ ท่านผู้อ่านจะนึกว่ากำลังอ่าน Doctrine ต่างๆ ของพี่เบิ้มอเมริกา
    เลือกตั้งแล้ว เราก็ได้รัฐบาลปี๋ชวนเชื่องช้า รัฐบาลป๋าเติ้งปลาโหลตัวสั้นแลบลิ้นแผล็บๆ รัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว แล้วก็กลับมาปี๋ชวนเชื่องช้าอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสมัยรัฐบาลทหาร พอเป็นรัฐบาลพลเรือน ก็ไม่ต่างกัน แบ่งกันกินแย่งกันกัดเหมือนเดิม
    แล้วไง จิ๊กโก๋๋ก็ยังไปวุ่นอยู่ซอยอื่น เพราะคิดว่า สมันน้อยมันเหลือแต่กระดูกแล้ว ไม่มีความหมายแล้ว สมันแดนอื่นมันน่าหม่ำกว่าแยะ
    พ.ศ.2540 (ค.ศ.1997) ช่วงรัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว เป็นนายก บริหารเก่งจนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ดังไปทั่วโลก น้อยใจยุบสภากลับบ้าน ไปนอนซบน้าเครือตู้ทองเคลื่อนที่ดีกว่า ปี๋ชวนเชื่องช้ากลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ไทยแลนด์กระเป๋าฉีกขาดกระจุย เงินคงคลังเหลือแต่คลัง ไม่มีเงินคงเหลือ อ้ายน้อยธารินทร์รมว.คลังที่ทุกคนรอคอยยังกะเทวดามาโปรด นักเรียนเก่าฮาร์วาร์ด บอกอย่ากระนั้นเลย เราต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าสถาบันเดียวกัน จิ๊กโก๋๋แถววอชิงตันน่าจะช่วยเราได้
    เป็นไปตามคาด (ไม่รู้ใครคาด) จิ๊กโก๋๋วอชิงตันบอกเสียใจนะ อ้ายน้อย ไอให้ยูยืมเงินไม่ได้หรอก แต่ไอก็ไม่ทิ้งยู ยูไปเข้าโปรแกรม IMF ล่ะกันนะ ไอจะแนะนำไปให้ อ้ายน้อยเดินหน้าขรึมกลับบ้าน บอกปี๋ชวน เขาช่วยเราโดยให้ไปกู้ IMF 5 5 5
    เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข 508 ประการ เช่นการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่สำคัญเกิด ปรากฏการณ์ปิด 56 ไฟแนนซ์ (เบื้องหลังการปิดไฟแนนซ์นี่ ถ้าจะต้องไปตามอ่านจากเพจคุณThanong Fanclub น่าจะดีกว่า!)
    เจ้าสัวทั้งหลายแทบจะเดินเอากระจาดปิดก้นกันเป็นแถว พ่อค้าจีนไทยเจ๊ง ตลาดหุ้นเจ๊ง ธุรกิจพัง อสังหาริม ทรัพย์ร้าง ขนาดอาเฮียนักการเงินเดินหน้าแห้งบอก ตูไปขายแซนด์วิชดีกว่า
    อืม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขียนเหมือนสนุก แต่มันเจ็บลึก เจ็บจริงๆ นี่ยังไม่นับเรื่องการซื้อขายทรัพย์สินของ ปรส. นะ
    ภารกิจ IMF นี่มันซับซ้อนต้องเล่ากันยาว แต่เล่ามาเท่านี้ นักฟังนิทานก็น่าจะพอเดากันออกบ้างว่า มันวางไลน์กันอย่างไร
    ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ไทยเคยเสียอธิปไตยให้แก่อเมริกาครั้งแรก เมื่อคราวปี พ.ศ.2505 -2515 สมัยสงครามเวียตนาม อเมริกาใช้ไทยเป็นฐานทัพ โดยไม่มีเอกสารสัญญาเป็นเรื่องเป็นราว การปฏิบัติการรบทางอากาศที่อาศัยฐานทัพ 7 แห่งในบ้านเรา อนุมัติโดยอเมริกา และทหารอเมริกันมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องขึ้นศาลไทย
    แต่ไทยก็ไม่เคยรู้ซึ้ง ถึงเล่ห์รักของเพื่อน เชื่อใจเขา จนถึงปี พ.ศ.2540 ไทยก็เสียอธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนี้จากการปฎิเสธความช่วยเหลือไทยของประธานาธิบดีคลินตัน โดยให้ไทยเข้าโครงการ IMF แทน!
    ผลของโครงการ IMF เปิดทางให้ต่างชาติ ครอบงำธุรกิจไทยเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่สำคัญสถาบันการเงินไทย ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ จนทุกวันนี้ มีธนาคารชื่อไทย แต่ไส้เป็นของต่าง ชาติกี่ธนาคาร คำตอบคือ เกือบหมด ไปหารายงานของตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่งประเทศไทยอ่านซะบ้าง จะได้รู้สภาพประเทศตัวเองเป็นอย่างไร อย่าหลงเทิดทูนหัวทองตาสีฟ้ากันมากนัก เทิดทูนจนถึงกับฟอกผม ฟอกผิวนี่นะ มันยิ่งกว่างี่เง่าอีกนะ
    แต่วิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เงินกู้ IMF ก็ไม่ทำให้สมันน้อยรู้ตัว
    ถ้าเราเคยดูหนังสารคดี discovery เราจะเห็นนิสัยของสัตว์อ่อนแอ พวกนี้ชัดเจน
    พวกมันเคยวิ่งข้ามแม่น้ำนี้แล้ว โดนจระเข้กัด ขึ้นบกเจอสิงโตตะปบ มากี่ฤดู ก็ทำมันซ้ำซากอยู่นั่น ไม่เคยคิดเปลี่ยนเส้นทาง แต่มันก็เป็นเพียงสมันน้อย ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์
    ชนชาวไทยเคยเป็นนักสู้ บรรพบุรุษกู้บ้านรักษาเมืองมาตลอด เราถึงมีบ้านเมืองเหลืออยู่จนทุกวันนี้ มาสมัยนี้ เรามีแต่สมันน้อยกลัวภัย เซ่อกิน ไม่คิดต่อสู้ป้องกันตัวเลย รู้ว่าจระเข้คอยอยู่ในน้ำ สิงโตคอยอยู่บนฝั่ง ก็ยังดันวิ่งเข้าไปใส่ นิทานเรื่องนี้มันสอนอะไรได้บ้างไหมหนอ
    เขาว่า โชคร้ายมักมาซ้ำสอง หลังจากปี๋ชวนกะอ้ายน้อย โดนจิ๊กโก๋๋วอซิงตันหักหลังจนเดินไม่เป็น ลี้กายหายวับ ก็เกิดมีอัศวินควายดำโผล่ขึ้นมา อัศวินควายดำหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์ และขนมหลายพันล้านห่อ จัดการจนตัวเองได้เป็นรัฐบาล พอเป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่ก็ประกาศศักดา UN ไม่ใช่พ่อ (แต่เป็นปู่ ฮา ฮา) จะใช้หนี้ IMF ให้หมด ไทยจะได้เป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เขา ว่าแล้วก็อัดนโยบายประชานิยม มาให้ดินแดนแห่งสมันน้อยเต็มพิกัด
    สมันน้อยแค่จะคิดเอาตัวรอดไปวันๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็คิดไม่เก่งน่ะนะ ยังมาเจอเหลี่ยมอัศวินควายดำ จะไปเหลืออะไร โอ้ย! เขาเก่งนะ เขารวยแล้วไม่โกง ฮา 500 หน
    แล้วอัศวินควายดำนี่ชาญฉลาดมาจากไหน อยู่ดีๆ ก็โผล่จากรูมาหรือไร อันนี้ต้องไปหาหนังสือประเภทรู้ทันเหลี่ยม 1,2,3,4,5 ถึง 100 มาอ่าน ก็จะได้พอรู้ประวัติ รู้พัฒนาการเล่ห์ของเหลี่ยมเขา แต่นิทานเรื่องนี้จะเล่าเรื่องที่หนังสือรู้ทัน ไม่ได้เขียนไว้ดีไหม

    คนเล่านิทาน
    ตอน 14 เล่าเรื่องชาว บ้านซะหลายมื้อ กลับเข้ามาบ้านเราต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะงง มันจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่นะ ก็แหมมันต้องให้เห็นภาพ บอกแล้วอย่าดูแต่สิ่งที่เห็นข้างหน้าอย่างเดียว หัดมองภาพกว้าง ภาพลึก 3 มิติบ้าง จิ๊กโก๋๋ไปหากินอยู่ซอยอื่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 จนเดี๋ยวนี้ยังพล่านอยู่ เพราะฉะนั้นตั้งแต่รัฐบาลคุณป๋าจ๊อกกี้ จนมาถึงคุณน้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ บ้านเราจึงแบ่งกันกินแย่งกันกัด โดยไม่มีจิ๊กโก๋๋ต่างถิ่นมาขัดคอ มาเกิดเหตุบังเอิญ ตอนคุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ แกจัดงานเลี้ยงบุพเฟ่ต์บ่อยไปหน่อย แถมอาหารแต่ละจาน มันก็มีพวกจิ๊กโก๋๋อยากร่วมวงรับประทานกินด้วย เรื่องบังเอิญมันถึงได้เกิด ไทยแลนด์แดนสยาม จึงมีนายกชื่อ คุณน้านัน จำได้ใช่ไหมครับ พอคุณน้านันเป็นนายก นอกจากจะจัดสรรเมนูอาหารให้ถูกปากแล้ว รัฐบาลคุณน้านัน ยังเป็นรัฐบาลที่ออกกฎหมาย เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ธุรกรรมการเงิน อีกมากมาย รวมทั้งการเปิดเสรีทางการเงินอีกด้วย พร้อมทั้งจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ เราต้องเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีธรรมาภิบาล ฯลฯ นโยบายของคุณน้านันนี่ ถ้าไม่เขียนออกมาเป็นภาษาไทยว่า นโยบายนายกอานันท์นี่ เผลอๆ ท่านผู้อ่านจะนึกว่ากำลังอ่าน Doctrine ต่างๆ ของพี่เบิ้มอเมริกา เลือกตั้งแล้ว เราก็ได้รัฐบาลปี๋ชวนเชื่องช้า รัฐบาลป๋าเติ้งปลาโหลตัวสั้นแลบลิ้นแผล็บๆ รัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว แล้วก็กลับมาปี๋ชวนเชื่องช้าอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสมัยรัฐบาลทหาร พอเป็นรัฐบาลพลเรือน ก็ไม่ต่างกัน แบ่งกันกินแย่งกันกัดเหมือนเดิม แล้วไง จิ๊กโก๋๋ก็ยังไปวุ่นอยู่ซอยอื่น เพราะคิดว่า สมันน้อยมันเหลือแต่กระดูกแล้ว ไม่มีความหมายแล้ว สมันแดนอื่นมันน่าหม่ำกว่าแยะ พ.ศ.2540 (ค.ศ.1997) ช่วงรัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว เป็นนายก บริหารเก่งจนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ดังไปทั่วโลก น้อยใจยุบสภากลับบ้าน ไปนอนซบน้าเครือตู้ทองเคลื่อนที่ดีกว่า ปี๋ชวนเชื่องช้ากลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ไทยแลนด์กระเป๋าฉีกขาดกระจุย เงินคงคลังเหลือแต่คลัง ไม่มีเงินคงเหลือ อ้ายน้อยธารินทร์รมว.คลังที่ทุกคนรอคอยยังกะเทวดามาโปรด นักเรียนเก่าฮาร์วาร์ด บอกอย่ากระนั้นเลย เราต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าสถาบันเดียวกัน จิ๊กโก๋๋แถววอชิงตันน่าจะช่วยเราได้ เป็นไปตามคาด (ไม่รู้ใครคาด) จิ๊กโก๋๋วอชิงตันบอกเสียใจนะ อ้ายน้อย ไอให้ยูยืมเงินไม่ได้หรอก แต่ไอก็ไม่ทิ้งยู ยูไปเข้าโปรแกรม IMF ล่ะกันนะ ไอจะแนะนำไปให้ อ้ายน้อยเดินหน้าขรึมกลับบ้าน บอกปี๋ชวน เขาช่วยเราโดยให้ไปกู้ IMF 5 5 5 เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข 508 ประการ เช่นการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่สำคัญเกิด ปรากฏการณ์ปิด 56 ไฟแนนซ์ (เบื้องหลังการปิดไฟแนนซ์นี่ ถ้าจะต้องไปตามอ่านจากเพจคุณThanong Fanclub น่าจะดีกว่า!) เจ้าสัวทั้งหลายแทบจะเดินเอากระจาดปิดก้นกันเป็นแถว พ่อค้าจีนไทยเจ๊ง ตลาดหุ้นเจ๊ง ธุรกิจพัง อสังหาริม ทรัพย์ร้าง ขนาดอาเฮียนักการเงินเดินหน้าแห้งบอก ตูไปขายแซนด์วิชดีกว่า อืม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขียนเหมือนสนุก แต่มันเจ็บลึก เจ็บจริงๆ นี่ยังไม่นับเรื่องการซื้อขายทรัพย์สินของ ปรส. นะ ภารกิจ IMF นี่มันซับซ้อนต้องเล่ากันยาว แต่เล่ามาเท่านี้ นักฟังนิทานก็น่าจะพอเดากันออกบ้างว่า มันวางไลน์กันอย่างไร ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ไทยเคยเสียอธิปไตยให้แก่อเมริกาครั้งแรก เมื่อคราวปี พ.ศ.2505 -2515 สมัยสงครามเวียตนาม อเมริกาใช้ไทยเป็นฐานทัพ โดยไม่มีเอกสารสัญญาเป็นเรื่องเป็นราว การปฏิบัติการรบทางอากาศที่อาศัยฐานทัพ 7 แห่งในบ้านเรา อนุมัติโดยอเมริกา และทหารอเมริกันมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องขึ้นศาลไทย แต่ไทยก็ไม่เคยรู้ซึ้ง ถึงเล่ห์รักของเพื่อน เชื่อใจเขา จนถึงปี พ.ศ.2540 ไทยก็เสียอธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนี้จากการปฎิเสธความช่วยเหลือไทยของประธานาธิบดีคลินตัน โดยให้ไทยเข้าโครงการ IMF แทน! ผลของโครงการ IMF เปิดทางให้ต่างชาติ ครอบงำธุรกิจไทยเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่สำคัญสถาบันการเงินไทย ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ จนทุกวันนี้ มีธนาคารชื่อไทย แต่ไส้เป็นของต่าง ชาติกี่ธนาคาร คำตอบคือ เกือบหมด ไปหารายงานของตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่งประเทศไทยอ่านซะบ้าง จะได้รู้สภาพประเทศตัวเองเป็นอย่างไร อย่าหลงเทิดทูนหัวทองตาสีฟ้ากันมากนัก เทิดทูนจนถึงกับฟอกผม ฟอกผิวนี่นะ มันยิ่งกว่างี่เง่าอีกนะ แต่วิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เงินกู้ IMF ก็ไม่ทำให้สมันน้อยรู้ตัว ถ้าเราเคยดูหนังสารคดี discovery เราจะเห็นนิสัยของสัตว์อ่อนแอ พวกนี้ชัดเจน พวกมันเคยวิ่งข้ามแม่น้ำนี้แล้ว โดนจระเข้กัด ขึ้นบกเจอสิงโตตะปบ มากี่ฤดู ก็ทำมันซ้ำซากอยู่นั่น ไม่เคยคิดเปลี่ยนเส้นทาง แต่มันก็เป็นเพียงสมันน้อย ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์ ชนชาวไทยเคยเป็นนักสู้ บรรพบุรุษกู้บ้านรักษาเมืองมาตลอด เราถึงมีบ้านเมืองเหลืออยู่จนทุกวันนี้ มาสมัยนี้ เรามีแต่สมันน้อยกลัวภัย เซ่อกิน ไม่คิดต่อสู้ป้องกันตัวเลย รู้ว่าจระเข้คอยอยู่ในน้ำ สิงโตคอยอยู่บนฝั่ง ก็ยังดันวิ่งเข้าไปใส่ นิทานเรื่องนี้มันสอนอะไรได้บ้างไหมหนอ เขาว่า โชคร้ายมักมาซ้ำสอง หลังจากปี๋ชวนกะอ้ายน้อย โดนจิ๊กโก๋๋วอซิงตันหักหลังจนเดินไม่เป็น ลี้กายหายวับ ก็เกิดมีอัศวินควายดำโผล่ขึ้นมา อัศวินควายดำหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์ และขนมหลายพันล้านห่อ จัดการจนตัวเองได้เป็นรัฐบาล พอเป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่ก็ประกาศศักดา UN ไม่ใช่พ่อ (แต่เป็นปู่ ฮา ฮา) จะใช้หนี้ IMF ให้หมด ไทยจะได้เป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เขา ว่าแล้วก็อัดนโยบายประชานิยม มาให้ดินแดนแห่งสมันน้อยเต็มพิกัด สมันน้อยแค่จะคิดเอาตัวรอดไปวันๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็คิดไม่เก่งน่ะนะ ยังมาเจอเหลี่ยมอัศวินควายดำ จะไปเหลืออะไร โอ้ย! เขาเก่งนะ เขารวยแล้วไม่โกง ฮา 500 หน แล้วอัศวินควายดำนี่ชาญฉลาดมาจากไหน อยู่ดีๆ ก็โผล่จากรูมาหรือไร อันนี้ต้องไปหาหนังสือประเภทรู้ทันเหลี่ยม 1,2,3,4,5 ถึง 100 มาอ่าน ก็จะได้พอรู้ประวัติ รู้พัฒนาการเล่ห์ของเหลี่ยมเขา แต่นิทานเรื่องนี้จะเล่าเรื่องที่หนังสือรู้ทัน ไม่ได้เขียนไว้ดีไหม คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลืมการปอกหอมแดงแบบเดิมๆ ไปได้เลย!
    ปัญหาโลกแตกของพ่อค้าแม่ค้าอาหารและโรงงานแปรรูป คือการต้องมานั่งปอกและหั่นหอมแดงทีละลูกให้แสบตา เสียเวลา เสียแรงงาน

    แต่ถ้ามีวิธีที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นล่ะ?

    ขอแนะนำ "เครื่องหั่นมันฝรั่งและสไลด์หอมแดงอเนกประสงค์" จาก ย.ย่งฮะเฮง

    เครื่องนี้จะเปลี่ยนงานที่น่าเบื่อให้กลายเป็นเรื่องง่าย! เพราะคุณสามารถสไลด์หอมแดงได้เลย ไม่ต้องปอกเปลือก!

    เพียงแค่ใส่หอมแดงทั้งหัวเข้าเครื่อง ก็ได้ชิ้นสไลด์บางสวย พร้อมนำไปใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นหอมเจียว หรือวัตถุดิบทำน้ำพริก ประหยัดเวลาได้มหาศาล! เพิ่มกำลังการผลิตให้ธุรกิจโตแบบก้าวกระโดด!

    ทำไมเครื่องนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ?
    ประหยัดเวลาและแรงงาน: หั่นได้ 100-300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง
    สารพัดประโยชน์: หั่นได้ทั้งมันฝรั่ง แครอท กระชาย ขิง และหอมแดง
    คุณภาพสม่ำเสมอ: ได้ชิ้นงานสวยเท่ากันทุกชิ้น
    ปรับความหนาได้: ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเมนูอาหาร

    รายละเอียดทางเทคนิคของรุ่น
    - กำลังมอเตอร์: 1 HP
    - แรงดันไฟฟ้า: 220 V.
    - ขนาด: 78 x 74 x 99 ซม.
    - น้ำหนัก: 45 กก.

    เปลี่ยนงานหนักให้เป็นงานง่ายได้แล้ววันนี้!

    สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติม:
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098
    Facebook Messenger: m.me/yonghahheng
    LINE Official Account: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com

    เวลาทำการ:
    จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    เสาร์: 8.00 - 16.00 น.

    แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/4ppsHfy3NYb1uPPu6

    #เครื่องหั่น #เครื่องสไลด์ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นหอมแดง #เครื่องครัว #เครื่องครัวมืออาชีพ #อุปกรณ์ทำอาหาร #ธุรกิจอาหาร #ร้านอาหาร #โรงงานแปรรูป #หอมเจียว #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #สแตนเลส #ยงฮะเฮง #yoryonghahheng #foodprocessor #foodcutter
    🔥🔥 ลืมการปอกหอมแดงแบบเดิมๆ ไปได้เลย! 🔥🔥 ปัญหาโลกแตกของพ่อค้าแม่ค้าอาหารและโรงงานแปรรูป คือการต้องมานั่งปอกและหั่นหอมแดงทีละลูกให้แสบตา เสียเวลา เสียแรงงาน แต่ถ้ามีวิธีที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นล่ะ? ขอแนะนำ "เครื่องหั่นมันฝรั่งและสไลด์หอมแดงอเนกประสงค์" จาก ย.ย่งฮะเฮง เครื่องนี้จะเปลี่ยนงานที่น่าเบื่อให้กลายเป็นเรื่องง่าย! เพราะคุณสามารถสไลด์หอมแดงได้เลย ไม่ต้องปอกเปลือก! เพียงแค่ใส่หอมแดงทั้งหัวเข้าเครื่อง ก็ได้ชิ้นสไลด์บางสวย พร้อมนำไปใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นหอมเจียว หรือวัตถุดิบทำน้ำพริก ⏱️ ประหยัดเวลาได้มหาศาล! เพิ่มกำลังการผลิตให้ธุรกิจโตแบบก้าวกระโดด! ทำไมเครื่องนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ? ✅ ประหยัดเวลาและแรงงาน: หั่นได้ 100-300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ✅ สารพัดประโยชน์: หั่นได้ทั้งมันฝรั่ง แครอท กระชาย ขิง และหอมแดง ✅ คุณภาพสม่ำเสมอ: ได้ชิ้นงานสวยเท่ากันทุกชิ้น ✅ ปรับความหนาได้: ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเมนูอาหาร รายละเอียดทางเทคนิคของรุ่น - กำลังมอเตอร์: 1 HP - แรงดันไฟฟ้า: 220 V. - ขนาด: 78 x 74 x 99 ซม. - น้ำหนัก: 45 กก. เปลี่ยนงานหนักให้เป็นงานง่ายได้แล้ววันนี้! สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติม: โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098 Facebook Messenger: m.me/yonghahheng LINE Official Account: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com อีเมล: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. เสาร์: 8.00 - 16.00 น. แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/4ppsHfy3NYb1uPPu6 #เครื่องหั่น #เครื่องสไลด์ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นหอมแดง #เครื่องครัว #เครื่องครัวมืออาชีพ #อุปกรณ์ทำอาหาร #ธุรกิจอาหาร #ร้านอาหาร #โรงงานแปรรูป #หอมเจียว #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #สแตนเลส #ยงฮะเฮง #yoryonghahheng #foodprocessor #foodcutter
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดตัวผู้ช่วยคนใหม่ในครัวของคุณ! เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 ที่สุดของความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพ!
    เบื่อไหมกับการบดเนื้อที่เสียเวลา และได้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ? เราขอแนะนำ เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 จากร้าน ย่งฮะเฮง ที่จะปฏิวัติการเตรียมวัตถุดิบของคุณให้ง่าย สะดวก และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น!

    บดละเอียดได้ตามใจคุณ!
    ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว หรือแม้แต่กระดูกอ่อน เครื่องนี้ก็สามารถบดได้อย่างละเอียดสม่ำเสมอถึง 16 มิลลิเมตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่การเตรียมไส้กรอก หมูยอ ไปจนถึงเมนูอื่นๆ ที่ต้องการ #เนื้อบด คุณภาพสูง!

    เร็ว แรง ทันใจ ด้วยประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ!
    มาพร้อมมอเตอร์ทรงพลัง 3 แรงม้า และกำลังการผลิตที่น่าทึ่งถึง 200-400 กิโลกรัมต่อชั่วโมง! ไม่ว่าคุณจะมีปริมาณงานมากแค่ไหน เครื่องนี้ก็พร้อมลุยได้อย่างต่อเนื่อง หมดกังวลเรื่องงานสะดุด!

    โครงสร้าง #สเตนเลส แท้ 100% ทนทาน ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย!
    ผลิตจากสเตนเลสสตีล #คุณภาพดี ไม่เป็นสนิม ทำความสะอาดง่าย มั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว แข็งแรงทนทาน ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ!

    รายละเอียดทางเทคนิคที่คุณควรรู้:
    มอเตอร์: 3 แรงม้า (HP)
    กำลังไฟฟ้า: 220 โวลต์ (Volt) - ใช้ไฟบ้านทั่วไปได้
    กำลังการผลิต: 200-400 กก./ชม. (kg/hr)
    ขนาดเครื่อง (กว้างxลึกxสูง): 815 x 360 x 815 มม. (mm)
    น้ำหนักเครื่อง: 68 กก. (kg)

    เหมาะสำหรับ:
    #ร้านอาหาร
    #โรงงานอาหาร (ขนาดเล็ก-กลาง)
    ร้านขายเนื้อ
    ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิต #เนื้อบด จำนวนมาก
    และทุกคนที่ต้องการ #คุณภาพดี และความเร็วในการบดเนื้อ!

    อย่ารอช้า! ยกระดับ #ธุรกิจอาหาร ของคุณวันนี้!
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ #เครื่องบดเนื้อ คุณภาพสูงได้เลยที่:
    โทร: 02-215-3515-9
    สายด่วน: 081-318-9098
    LINE ID: @yonghahheng
    Facebook: yonghahheng
    TikTok: @yonghahheng
    Instagram: yonghahheng
    เว็บไซต์: www.yonghahheng.com

    #เครื่องบดหมู #อุปกรณ์ครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #อาหารแปรรูป #ทำอาหาร #วัตถุดิบ #เครื่องมือครัว #พ่อครัวแม่ครัว #สินค้าขายดี #ของดีบอกต่อ #เมนูอาหาร #ครัวเรือน #Yonghahheng
    💥 เปิดตัวผู้ช่วยคนใหม่ในครัวของคุณ! เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 ที่สุดของความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพ! 🚀 เบื่อไหมกับการบดเนื้อที่เสียเวลา ⏰ และได้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ? เราขอแนะนำ เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 จากร้าน ย่งฮะเฮง ที่จะปฏิวัติการเตรียมวัตถุดิบของคุณให้ง่าย สะดวก และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น! ✨ 🥩 บดละเอียดได้ตามใจคุณ! ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู 🐷 เนื้อวัว 🐄 หรือแม้แต่กระดูกอ่อน 🦴 เครื่องนี้ก็สามารถบดได้อย่างละเอียดสม่ำเสมอถึง 16 มิลลิเมตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่การเตรียมไส้กรอก 🌭 หมูยอ ไปจนถึงเมนูอื่นๆ ที่ต้องการ #เนื้อบด คุณภาพสูง! 🚀 เร็ว แรง ทันใจ ด้วยประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ! มาพร้อมมอเตอร์ทรงพลัง 3 แรงม้า 💪 และกำลังการผลิตที่น่าทึ่งถึง 200-400 กิโลกรัมต่อชั่วโมง! ⏱️ ไม่ว่าคุณจะมีปริมาณงานมากแค่ไหน เครื่องนี้ก็พร้อมลุยได้อย่างต่อเนื่อง หมดกังวลเรื่องงานสะดุด! 💯 ⚙️ โครงสร้าง #สเตนเลส แท้ 100% ทนทาน ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย! ผลิตจากสเตนเลสสตีล #คุณภาพดี ไม่เป็นสนิม ✨ ทำความสะอาดง่าย มั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว 🧼 แข็งแรงทนทาน ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ! รายละเอียดทางเทคนิคที่คุณควรรู้: 📌มอเตอร์: 3 แรงม้า (HP) 📌กำลังไฟฟ้า: 220 โวลต์ (Volt) - ใช้ไฟบ้านทั่วไปได้ 🔌 📌กำลังการผลิต: 200-400 กก./ชม. (kg/hr) 📌ขนาดเครื่อง (กว้างxลึกxสูง): 815 x 360 x 815 มม. (mm) 📌น้ำหนักเครื่อง: 68 กก. (kg) 🏋️‍♂️ เหมาะสำหรับ: #ร้านอาหาร 🍽️ #โรงงานอาหาร (ขนาดเล็ก-กลาง) 🏭 ร้านขายเนื้อ 🛍️ ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิต #เนื้อบด จำนวนมาก 📈 และทุกคนที่ต้องการ #คุณภาพดี และความเร็วในการบดเนื้อ! 👨‍🍳👩‍🍳 📞 อย่ารอช้า! ยกระดับ #ธุรกิจอาหาร ของคุณวันนี้! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ #เครื่องบดเนื้อ คุณภาพสูงได้เลยที่: โทร: 02-215-3515-9 ☎️ สายด่วน: 081-318-9098 📱 LINE ID: @yonghahheng Facebook: yonghahheng 👍 TikTok: @yonghahheng 🎵 Instagram: yonghahheng 📸 เว็บไซต์: www.yonghahheng.com 🌐 #เครื่องบดหมู #อุปกรณ์ครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #อาหารแปรรูป #ทำอาหาร #วัตถุดิบ #เครื่องมือครัว #พ่อครัวแม่ครัว #สินค้าขายดี #ของดีบอกต่อ #เมนูอาหาร #ครัวเรือน #Yonghahheng
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 639 มุมมอง 39 0 รีวิว
  • ทั้งวันแล้ว ติวฟิสิกส์ บูทความรู้ฟิสิกส์ เพื่อเรียนรู้รูปแบบการทำโจทย์ในแบบใหม่ๆ จากอัลบั้มสื่อการสอนฟิสิกส์ที่เก็บไว้นานแล้วในอัลบั้ม LINE กลุ่ม และวันนี้จออีกจอหนึ่งกับคอมเก่าได้ไปอยู่ในมือพี่สาวแล้วจริงๆ แต่ยังไงผมคงต้องต่อสายคอมให้ที่พักพี่สาวอีก และตอนนี้ก็ได้กลับมารันไอเดียคิดค้นเมนูอาหารแปลกๆอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่ทำระบบเจนสูตรอาหารด้วย AI เลย
    ทั้งวันแล้ว ติวฟิสิกส์ บูทความรู้ฟิสิกส์ เพื่อเรียนรู้รูปแบบการทำโจทย์ในแบบใหม่ๆ จากอัลบั้มสื่อการสอนฟิสิกส์ที่เก็บไว้นานแล้วในอัลบั้ม LINE กลุ่ม และวันนี้จออีกจอหนึ่งกับคอมเก่าได้ไปอยู่ในมือพี่สาวแล้วจริงๆ แต่ยังไงผมคงต้องต่อสายคอมให้ที่พักพี่สาวอีก และตอนนี้ก็ได้กลับมารันไอเดียคิดค้นเมนูอาหารแปลกๆอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่ทำระบบเจนสูตรอาหารด้วย AI เลย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดวาร์ป"น้องศิริพร"สาวหล่อ !! เจ้าของร้านกาแฟสุดหล่อ
    “ดีกรีเป็นถึงเป็นเชฟจากต่างประเทศ"
    สาวหล่อสุดแซ่บแห่งยุค
    /////////////////////


    อื้อหือ เปิดวาร์ป!! เจ้าของร้านกาแฟสาวหล่อสุดหล่อแห่งยุคนี้ใครๆก็รู้จักร้านกาแฟนี้ บ้านบ้านกาแฟคาเฟ่ ร้านกาแฟน้องใหม่
    อบอุ่นเหมือนครอบครัว
    แต่มาแรงในยุคนี้ใครไม่มาตกยุค ใครๆก็มาร้านนี้เพราะดังบนโลกโซเชียล

    เมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2568
    ปัจจุบันหากจะเอ่ยถึงร้านกาแฟเก๋ๆฮิปๆซึ่งเป็นสถานที่โดนใจวัยรุ่นและครอบครัว โดยเหมาะสำหรับการไปนั่งรับประทานอาหาร ถ่ายรูป พร้อมเช็คอิน กดไลฟ์ กดแชร์ รัวๆเป็นธรรมเนียมที่นิยมทำกันของเหล่าหนุ่ม-สาว วัยรุ่นยุค4.0 แล้วโพสต์ลงทางโซเชี่ยลมีเดียตามช่องทางสื่อต่างๆเพื่ออวดเพื่อนอวดแฟนกันตามสไตล์ ก็จะมีหลากหลายร้านที่นิยมเดินทางกันไปสัมผัสเพื่อเสพบรรยากาศและพักผ่อนรีเเลคซ์ในช่วงวันหยุดหรือผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน

    ซึ่งวันนี้ทางทีมงาน
    ขอแนะนำ ร้านกาแฟสุดฮิต
    ร้านบ้านบ้านกาแฟคาเฟ่ ร้านนี้อบอุ่นเมืองครอบครัว
    เป็นร้านกาแฟสุดฮิตของสาวหล่อ แห่งยุค เป็นถึงลูกสาวเจ้าของธุรกิจขายอะไหล่รถจักรยานยนต์รายใหญ่ของจังหวัดลพบุรี
    (นายศิริชัย อัมพร
    นางมารศรี อัมพร
    เจ๊กิ่ง เจ้าของร้านสกายเวย์ )
    ซึ่งตั้้งอยู่ที่
    หลังร้านสกายเวย์
    65/3 ถ.รอบ ซอย วัดพระธาตุ ตำบล ท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี

    สาวหล่อ หรือ น้องศิริพร ได้พูดคุยกับทีมงานพร้อมกล่าวแนะนำร้านบ้านบ้านกาแฟคาเฟ่
    ซึ่งมีความหมายของร้านว่า” เป็นบ้านที่อบอุ่นใครๆก็มาเหมือนครอบครัวเดียวกัน
    จึงมีความภูมิใจและนำมาตั้งเป็นชื่อของทางร้าน พร้อมครอบครัว
    เพราะตนเอง เคยไปทำงานที่ต่างประเทศเป็นเชฟหรือผู้ช่วยเชฟช่างเองมีประสบการณ์การทำอาหารและการทำกาแฟมานานกว่า 20 ปี ไปอยู่นั้นตั้งแต่เล็กๆ
    เพราะถือว่าเป็นธุรกิจของทางครอบครัวและร้านกาแฟแห่งนี้เพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน โดยทางร้านจะมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิดไว้คอยบริการตามสไตล์สากล-ไทย และมีอาหารเป็นชุดบ้านๆน่ารับประทาน อาทิแกงส้มแกงป่ากุ้งปกไข่ สปาเก็ตตี้
    ผัดกระเพราไข่ดาว มีทั้งหมูและเนื้อให้เลือก ข้าวผัดน้ำพริก
    ขนมเค้ก น้ำสตอเบอรี่ปั่น และน้ำผลไม้ปั่นสุดเด็ดของทางร้านบอกเลยว่าอร่อยจริงจึงมาบอก
    กาแฟร้อนหอมกรุ่นพร้อมมีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายอย่างจุใจวัยรุ่นและวัยทำงาน ที่มากันเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะอย่างแน่นอน โดยทางร้านมีบรรยากาศที่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมเยอะ ร่มรื่นสบายๆชิลๆพร้อมมี(WIFI)ไวไฟฟรีไว้ให้ด้วย

    สาวหล่อ ทะลุเลน ใครเห็นก็ชมว่าหล่อจริงใครอยากเจอตัวจริงอยากให้เขาทำอาหารให้ทาน ชงกาแฟได้ชิมบอกได้เลยว่าอร่อยจริงเข้มข้นจริงเรื่องกาแฟรอให้เขาทำดูสิใครอยากให้เขาทำไปที่ ร้านบ้านบ้านกาแฟคาเฟ่ บอกได้เลยว่าร้านนี้อร่อยจริงร้านนี้ร้านอบอุ่นเป็นร้านเล็กๆแต่มิตรภาพดีเยี่ยมพูดจาไพเราะใครได้พูดคุยก็หลงรัก หลงรักการทำอาหารหลงรักการชงกาแฟให้เราได้ทานใครอยากรอก็ไปดูนะปิดทุกวันจันทร์ เปิดทุกวันอังคารถึงอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00 น - 19:00 น
    มาอุดหนุนกันเยอะๆนะครับ
    ไปถ่ายรูปคู่สาวหล่อท่านนี้กันสาวๆขั้นไหนชอบก็ลองไปดูใครไม่ไปไม่ถึงลพบุรีนะจะบอกให้
    ให้เป็นตัวเลือกอีกหนึ่งร้านกาแฟที่มีบรรยากาศดีร่มรื่น อาหารอร่อย ในย่านถ.รอบ ซอย วัดพระธาตุ ตำบล ท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
    วันเวลาที่แจ้งไปข้างต้นแล้วรีบมากันรีบมาซื้อกาแฟกันเยอะๆเดี๋ยวไปคุยกับใครไม่รู้เรื่องนะ
    เปิดวาร์ป"น้องศิริพร"สาวหล่อ !! เจ้าของร้านกาแฟสุดหล่อ “ดีกรีเป็นถึงเป็นเชฟจากต่างประเทศ" สาวหล่อสุดแซ่บแห่งยุค ///////////////////// อื้อหือ เปิดวาร์ป!! เจ้าของร้านกาแฟสาวหล่อสุดหล่อแห่งยุคนี้ใครๆก็รู้จักร้านกาแฟนี้ บ้านบ้านกาแฟคาเฟ่ ร้านกาแฟน้องใหม่ อบอุ่นเหมือนครอบครัว แต่มาแรงในยุคนี้ใครไม่มาตกยุค ใครๆก็มาร้านนี้เพราะดังบนโลกโซเชียล เมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2568 ปัจจุบันหากจะเอ่ยถึงร้านกาแฟเก๋ๆฮิปๆซึ่งเป็นสถานที่โดนใจวัยรุ่นและครอบครัว โดยเหมาะสำหรับการไปนั่งรับประทานอาหาร ถ่ายรูป พร้อมเช็คอิน กดไลฟ์ กดแชร์ รัวๆเป็นธรรมเนียมที่นิยมทำกันของเหล่าหนุ่ม-สาว วัยรุ่นยุค4.0 แล้วโพสต์ลงทางโซเชี่ยลมีเดียตามช่องทางสื่อต่างๆเพื่ออวดเพื่อนอวดแฟนกันตามสไตล์ ก็จะมีหลากหลายร้านที่นิยมเดินทางกันไปสัมผัสเพื่อเสพบรรยากาศและพักผ่อนรีเเลคซ์ในช่วงวันหยุดหรือผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน ซึ่งวันนี้ทางทีมงาน ขอแนะนำ ร้านกาแฟสุดฮิต ร้านบ้านบ้านกาแฟคาเฟ่ ร้านนี้อบอุ่นเมืองครอบครัว เป็นร้านกาแฟสุดฮิตของสาวหล่อ แห่งยุค เป็นถึงลูกสาวเจ้าของธุรกิจขายอะไหล่รถจักรยานยนต์รายใหญ่ของจังหวัดลพบุรี (นายศิริชัย อัมพร นางมารศรี อัมพร เจ๊กิ่ง เจ้าของร้านสกายเวย์ ) ซึ่งตั้้งอยู่ที่ หลังร้านสกายเวย์ 65/3 ถ.รอบ ซอย วัดพระธาตุ ตำบล ท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี สาวหล่อ หรือ น้องศิริพร ได้พูดคุยกับทีมงานพร้อมกล่าวแนะนำร้านบ้านบ้านกาแฟคาเฟ่ ซึ่งมีความหมายของร้านว่า” เป็นบ้านที่อบอุ่นใครๆก็มาเหมือนครอบครัวเดียวกัน จึงมีความภูมิใจและนำมาตั้งเป็นชื่อของทางร้าน พร้อมครอบครัว เพราะตนเอง เคยไปทำงานที่ต่างประเทศเป็นเชฟหรือผู้ช่วยเชฟช่างเองมีประสบการณ์การทำอาหารและการทำกาแฟมานานกว่า 20 ปี ไปอยู่นั้นตั้งแต่เล็กๆ เพราะถือว่าเป็นธุรกิจของทางครอบครัวและร้านกาแฟแห่งนี้เพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน โดยทางร้านจะมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิดไว้คอยบริการตามสไตล์สากล-ไทย และมีอาหารเป็นชุดบ้านๆน่ารับประทาน อาทิแกงส้มแกงป่ากุ้งปกไข่ สปาเก็ตตี้ ผัดกระเพราไข่ดาว มีทั้งหมูและเนื้อให้เลือก ข้าวผัดน้ำพริก ขนมเค้ก น้ำสตอเบอรี่ปั่น และน้ำผลไม้ปั่นสุดเด็ดของทางร้านบอกเลยว่าอร่อยจริงจึงมาบอก กาแฟร้อนหอมกรุ่นพร้อมมีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายอย่างจุใจวัยรุ่นและวัยทำงาน ที่มากันเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะอย่างแน่นอน โดยทางร้านมีบรรยากาศที่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมเยอะ ร่มรื่นสบายๆชิลๆพร้อมมี(WIFI)ไวไฟฟรีไว้ให้ด้วย สาวหล่อ ทะลุเลน ใครเห็นก็ชมว่าหล่อจริงใครอยากเจอตัวจริงอยากให้เขาทำอาหารให้ทาน ชงกาแฟได้ชิมบอกได้เลยว่าอร่อยจริงเข้มข้นจริงเรื่องกาแฟรอให้เขาทำดูสิใครอยากให้เขาทำไปที่ ร้านบ้านบ้านกาแฟคาเฟ่ บอกได้เลยว่าร้านนี้อร่อยจริงร้านนี้ร้านอบอุ่นเป็นร้านเล็กๆแต่มิตรภาพดีเยี่ยมพูดจาไพเราะใครได้พูดคุยก็หลงรัก หลงรักการทำอาหารหลงรักการชงกาแฟให้เราได้ทานใครอยากรอก็ไปดูนะปิดทุกวันจันทร์ เปิดทุกวันอังคารถึงอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00 น - 19:00 น มาอุดหนุนกันเยอะๆนะครับ ไปถ่ายรูปคู่สาวหล่อท่านนี้กันสาวๆขั้นไหนชอบก็ลองไปดูใครไม่ไปไม่ถึงลพบุรีนะจะบอกให้ ให้เป็นตัวเลือกอีกหนึ่งร้านกาแฟที่มีบรรยากาศดีร่มรื่น อาหารอร่อย ในย่านถ.รอบ ซอย วัดพระธาตุ ตำบล ท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี วันเวลาที่แจ้งไปข้างต้นแล้วรีบมากันรีบมาซื้อกาแฟกันเยอะๆเดี๋ยวไปคุยกับใครไม่รู้เรื่องนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 587 มุมมอง 0 รีวิว
  • หุ่นยนต์ที่ดู "น่ารัก" สามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของมนุษย์ได้

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Penn State พบว่า หุ่นยนต์ที่มีลักษณะ "น่ารัก" เช่น ดวงตากลมโตและแก้มที่ยกขึ้น สามารถโน้มน้าวให้ผู้คนยอมรับคำแนะนำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ เช่น ร้านอาหารและการขายสินค้า

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของหุ่นยนต์ที่ดูน่ารัก
    หุ่นยนต์ที่มีลักษณะน่ารักสามารถเพิ่มความไว้วางใจและความอบอุ่นทางอารมณ์
    - ทำให้ ผู้คนรู้สึกสบายใจและมีแนวโน้มที่จะทำตามคำแนะนำของหุ่นยนต์

    การออกแบบหุ่นยนต์ให้มีลักษณะคล้ายมนุษย์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการโน้มน้าวใจ
    - เช่น หุ่นยนต์ที่มีเสียงทุ้มต่ำอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าหุ่นยนต์ที่มีเสียงหวานใสในการขายสินค้า

    ผู้บริโภคที่มี "sense of power" ต่ำมีแนวโน้มที่จะเชื่อคำแนะนำของหุ่นยนต์มากขึ้น
    - โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจต่ำมักจะเชื่อคำแนะนำของหุ่นยนต์ที่มีลักษณะเป็นชายมากกว่า

    การศึกษาแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์สามารถมีบทบาทสำคัญในการตลาดและการให้บริการ
    - เช่น การแนะนำเมนูอาหารในร้านอาหาร หรือการโปรโมตสินค้าใหม่

    ผลการศึกษาถูกตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Hospitality and Tourism Management
    - แสดงให้เห็นว่า การออกแบบหุ่นยนต์สามารถส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคได้จริง

    การออกแบบหุ่นยนต์ให้มีลักษณะน่ารักอาจถูกนำไปใช้เพื่อโน้มน้าวใจในทางที่ผิด
    - เช่น การชักจูงให้ซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น หรือการใช้ในโฆษณาที่มีเจตนาแอบแฝง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/robots-that-look-039cute039-can-influence-human-decisions-study-finds
    หุ่นยนต์ที่ดู "น่ารัก" สามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของมนุษย์ได้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Penn State พบว่า หุ่นยนต์ที่มีลักษณะ "น่ารัก" เช่น ดวงตากลมโตและแก้มที่ยกขึ้น สามารถโน้มน้าวให้ผู้คนยอมรับคำแนะนำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ เช่น ร้านอาหารและการขายสินค้า 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของหุ่นยนต์ที่ดูน่ารัก ✅ หุ่นยนต์ที่มีลักษณะน่ารักสามารถเพิ่มความไว้วางใจและความอบอุ่นทางอารมณ์ - ทำให้ ผู้คนรู้สึกสบายใจและมีแนวโน้มที่จะทำตามคำแนะนำของหุ่นยนต์ ✅ การออกแบบหุ่นยนต์ให้มีลักษณะคล้ายมนุษย์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการโน้มน้าวใจ - เช่น หุ่นยนต์ที่มีเสียงทุ้มต่ำอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าหุ่นยนต์ที่มีเสียงหวานใสในการขายสินค้า ✅ ผู้บริโภคที่มี "sense of power" ต่ำมีแนวโน้มที่จะเชื่อคำแนะนำของหุ่นยนต์มากขึ้น - โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจต่ำมักจะเชื่อคำแนะนำของหุ่นยนต์ที่มีลักษณะเป็นชายมากกว่า ✅ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์สามารถมีบทบาทสำคัญในการตลาดและการให้บริการ - เช่น การแนะนำเมนูอาหารในร้านอาหาร หรือการโปรโมตสินค้าใหม่ ✅ ผลการศึกษาถูกตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Hospitality and Tourism Management - แสดงให้เห็นว่า การออกแบบหุ่นยนต์สามารถส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคได้จริง ‼️ การออกแบบหุ่นยนต์ให้มีลักษณะน่ารักอาจถูกนำไปใช้เพื่อโน้มน้าวใจในทางที่ผิด - เช่น การชักจูงให้ซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น หรือการใช้ในโฆษณาที่มีเจตนาแอบแฝง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/robots-that-look-039cute039-can-influence-human-decisions-study-finds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Robots that look 'cute' can influence human decisions, study finds
    The most susceptible group of people turned out to be "powerless female consumers," which the team found to be more likely than others to go with menu suggestions made by male-like robots.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่แล้วคุยเรื่องการลอยสุรามาตามน้ำหรือ ‘ชวีสุ่ยหลิวช่าง’ วันนี้มาคุยต่อว่าด้วยเรื่องการลอยอาหารมาตามน้ำ เชื่อว่าเพื่อนเพจที่ได้ดูละคร <ตำนานหมิงหลัน> หรือ <ตำนานลั่วหยาง> ต้องเคยผ่านตาฉากงานเลี้ยงที่มีการวางจานอาหารให้ลอยมาตามน้ำผ่านหน้าแขกผู้มาร่วมงาน (ดูรูปประกอบ1)

    การจัดให้จานอาหารลอยมาตามน้ำในงานเลี้ยงนั้น ในประวัติศาสตร์มีอยู่จริง เรียกว่า ‘หลิวสุ่ยสี’ (流水席) เป็นลักษณะการจัดวางอาหารให้ลอยไปตามสายธารจำลองบนโต๊ะ นิยมใช้ในงานเลี้ยงมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุย-ถัง

    แต่รู้หรือไม่... ‘หลิวสุ่ยสี’ เกิดจากงานวัด?

    วัดดังกล่าวคือวัดจิ้งเจวี๋ย (ต่อมาในสมัยชิง เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงพระราชทานนามใหม่ว่าวัดไท่หนิง) ตั้งอยู่มณฑลเหอเป่ย มีทิวทัศน์งดงาม ว่ากันว่าในวันสำคัญจะมีผู้คนมาไหว้พระรับประทานอาหารเจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในวันที่สามเดือนสามของปฏิทินจันทรคติ (หรือก็คือวันซ่างซึ 上巳节 ที่ Storyฯ เคยกล่าวถึงสัปดาห์ที่แล้ว) จะมีคนจำนวนมาก แออัดชุลมุนจนดูแลไม่ไหว ทางวัดเลยคิดสร้างเป็นคลอง/ลำธารจำลองทะลุออกไปยังด้านนอกวัด คดเคี้ยวไปตามเนินหิน จัดวางโต๊ะหินตามรายทาง แล้วส่งอาหารด้วยการลอยถาดไปตามน้ำโดยอาศัยแรงดันของน้ำพุและลำธารธรรมชาติ ชาวบ้านที่มาไหว้พระเสร็จแล้วก็สามารถเรียงคิวนั่งหยิบอาหารเจทานได้จากด้านนอก ไม่ต้องเข้ามาแออัดกันอยู่ในวัด เกิดเป็นการเรียกกันอย่างง่ายว่า ‘อาหารที่ลอยมาตามน้ำ’ หรือ ‘หลิวสุ่ยสี’ นั่นเอง

    ต่อมาได้รับความนิยมแพร่หลาย และรูปแบบ ‘หลิวสุ่ยสี’ ถูกนำมาใช้กันในงานเลี้ยงของคนที่มีฐานะหรือมียศศักดิ์อย่างที่เห็นในตัวอย่างละครที่กล่าวมา

    รูปแบบ ‘หลิวสุ่ยสี’ แปรเปลี่ยนไปเมื่อใดไม่ชัดเจน แต่ปัจจุบัน ‘หลิวสุ่ยสี’ เป็นการเสิร์ฟอาหารแบบโต๊ะจีนที่เราคุ้นเคย โดยมีสองคำอธิบาย

    คำอธิบายแรกก็คือ ‘หลิวสุ่ยสี’ นั้นหมายถึง ‘ลั่วหยางหลิวสุ่ยสี’ (หมายเหตุ เมืองลั่วหยางในสมัยราชวงศ์ถังมีศักดิ์เป็นเมืองหลวงรองทางทิศบูรพา หรือ Eastern Capital) เพราะเผยแพร่มาจากลั่วหยางและมีตำนานเกี่ยวโยงถึงจักรพรรดินีบูเช็กเทียน เพราะว่าโหรหลวงทำนายได้ว่าอีก 24 ปี นางอู่เม่ยเหนียง (ชื่อเดิมขององค์บูเช็กเทียน) จะได้ขึ้นครองราชย์ ในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นจึงมีอาหาร 24 อย่าง และเอกลักษณ์ของ ‘ลั่วหยางหลิวสุ่ยสี’ ก็คือเมนูอาหารจะประกอบด้วยอาหารจานเย็น 8 อย่าง ตามด้วยจานร้อนอีก 16 อย่าง รวมเป็น 24 อย่าง โดยทุกจานต้องเป็นอาหารที่มีน้ำแกง/น้ำซุป ตามวัฒนธรรมอาหารพื้นบ้านของลั่วหยาง (ดูรูปประกอบ2)

    ส่วนอีกคำอธิบายนั้นก็คือว่า ‘หลิวสุ่ยสี’ เป็นการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนโดยจัดเสิร์ฟอาหารทีละจาน รับประทานจานหนึ่งเสร็จแล้วค่อยเสิร์ฟจานใหม่ ทำอย่างนี้ต่อเนื่องดุจสายน้ำที่ไหลไม่หยุด เป็นสัญลักษณ์ของความราบรื่น ดังนั้น หากเพื่อนเพจได้ยินคำเรียกว่า ‘หลิวสุ่ยสี’ แต่หน้าตาอาหารไม่เน้นน้ำแกงและไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากโต๊ะจีนที่พวกเราคุ้นเคยก็อย่าได้แปลกใจนะคะ เขาเรียกชื่อเอาเคล็ดว่าอาหารการกินไม่ขาดสาย สมบูรณ์และราบรื่นค่ะ

    (ป.ล. อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.sohu.com/a/292070252_100132268
    https://www.jiuzyoung.com/entertain/watch/fengqiluoyang/
    https://inf.news/zh-hans/travel/1bb8077672e35d14d648ed2a929afc92.html
    https://kknews.cc/food/pnborxz.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/流水席/1930803
    https://baike.baidu.com/item/洛阳水席 /81269
    https://k.sina.cn/article_6270609874_175c1e9d200101ikw3.html
    https://kknews.cc/food/pnborxz.html
    https://kknews.cc/culture/xmnqp89.html
    https://inf.news/zh-hans/travel/1bb8077672e35d14d648ed2a929afc92.html
    #หลิวสุ่ยสี #ลั่วหยางหลิวสุ่ยสี #โต๊ะจีน
    สัปดาห์ที่แล้วคุยเรื่องการลอยสุรามาตามน้ำหรือ ‘ชวีสุ่ยหลิวช่าง’ วันนี้มาคุยต่อว่าด้วยเรื่องการลอยอาหารมาตามน้ำ เชื่อว่าเพื่อนเพจที่ได้ดูละคร <ตำนานหมิงหลัน> หรือ <ตำนานลั่วหยาง> ต้องเคยผ่านตาฉากงานเลี้ยงที่มีการวางจานอาหารให้ลอยมาตามน้ำผ่านหน้าแขกผู้มาร่วมงาน (ดูรูปประกอบ1) การจัดให้จานอาหารลอยมาตามน้ำในงานเลี้ยงนั้น ในประวัติศาสตร์มีอยู่จริง เรียกว่า ‘หลิวสุ่ยสี’ (流水席) เป็นลักษณะการจัดวางอาหารให้ลอยไปตามสายธารจำลองบนโต๊ะ นิยมใช้ในงานเลี้ยงมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุย-ถัง แต่รู้หรือไม่... ‘หลิวสุ่ยสี’ เกิดจากงานวัด? วัดดังกล่าวคือวัดจิ้งเจวี๋ย (ต่อมาในสมัยชิง เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงพระราชทานนามใหม่ว่าวัดไท่หนิง) ตั้งอยู่มณฑลเหอเป่ย มีทิวทัศน์งดงาม ว่ากันว่าในวันสำคัญจะมีผู้คนมาไหว้พระรับประทานอาหารเจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในวันที่สามเดือนสามของปฏิทินจันทรคติ (หรือก็คือวันซ่างซึ 上巳节 ที่ Storyฯ เคยกล่าวถึงสัปดาห์ที่แล้ว) จะมีคนจำนวนมาก แออัดชุลมุนจนดูแลไม่ไหว ทางวัดเลยคิดสร้างเป็นคลอง/ลำธารจำลองทะลุออกไปยังด้านนอกวัด คดเคี้ยวไปตามเนินหิน จัดวางโต๊ะหินตามรายทาง แล้วส่งอาหารด้วยการลอยถาดไปตามน้ำโดยอาศัยแรงดันของน้ำพุและลำธารธรรมชาติ ชาวบ้านที่มาไหว้พระเสร็จแล้วก็สามารถเรียงคิวนั่งหยิบอาหารเจทานได้จากด้านนอก ไม่ต้องเข้ามาแออัดกันอยู่ในวัด เกิดเป็นการเรียกกันอย่างง่ายว่า ‘อาหารที่ลอยมาตามน้ำ’ หรือ ‘หลิวสุ่ยสี’ นั่นเอง ต่อมาได้รับความนิยมแพร่หลาย และรูปแบบ ‘หลิวสุ่ยสี’ ถูกนำมาใช้กันในงานเลี้ยงของคนที่มีฐานะหรือมียศศักดิ์อย่างที่เห็นในตัวอย่างละครที่กล่าวมา รูปแบบ ‘หลิวสุ่ยสี’ แปรเปลี่ยนไปเมื่อใดไม่ชัดเจน แต่ปัจจุบัน ‘หลิวสุ่ยสี’ เป็นการเสิร์ฟอาหารแบบโต๊ะจีนที่เราคุ้นเคย โดยมีสองคำอธิบาย คำอธิบายแรกก็คือ ‘หลิวสุ่ยสี’ นั้นหมายถึง ‘ลั่วหยางหลิวสุ่ยสี’ (หมายเหตุ เมืองลั่วหยางในสมัยราชวงศ์ถังมีศักดิ์เป็นเมืองหลวงรองทางทิศบูรพา หรือ Eastern Capital) เพราะเผยแพร่มาจากลั่วหยางและมีตำนานเกี่ยวโยงถึงจักรพรรดินีบูเช็กเทียน เพราะว่าโหรหลวงทำนายได้ว่าอีก 24 ปี นางอู่เม่ยเหนียง (ชื่อเดิมขององค์บูเช็กเทียน) จะได้ขึ้นครองราชย์ ในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นจึงมีอาหาร 24 อย่าง และเอกลักษณ์ของ ‘ลั่วหยางหลิวสุ่ยสี’ ก็คือเมนูอาหารจะประกอบด้วยอาหารจานเย็น 8 อย่าง ตามด้วยจานร้อนอีก 16 อย่าง รวมเป็น 24 อย่าง โดยทุกจานต้องเป็นอาหารที่มีน้ำแกง/น้ำซุป ตามวัฒนธรรมอาหารพื้นบ้านของลั่วหยาง (ดูรูปประกอบ2) ส่วนอีกคำอธิบายนั้นก็คือว่า ‘หลิวสุ่ยสี’ เป็นการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนโดยจัดเสิร์ฟอาหารทีละจาน รับประทานจานหนึ่งเสร็จแล้วค่อยเสิร์ฟจานใหม่ ทำอย่างนี้ต่อเนื่องดุจสายน้ำที่ไหลไม่หยุด เป็นสัญลักษณ์ของความราบรื่น ดังนั้น หากเพื่อนเพจได้ยินคำเรียกว่า ‘หลิวสุ่ยสี’ แต่หน้าตาอาหารไม่เน้นน้ำแกงและไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากโต๊ะจีนที่พวกเราคุ้นเคยก็อย่าได้แปลกใจนะคะ เขาเรียกชื่อเอาเคล็ดว่าอาหารการกินไม่ขาดสาย สมบูรณ์และราบรื่นค่ะ (ป.ล. อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/292070252_100132268 https://www.jiuzyoung.com/entertain/watch/fengqiluoyang/ https://inf.news/zh-hans/travel/1bb8077672e35d14d648ed2a929afc92.html https://kknews.cc/food/pnborxz.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/流水席/1930803 https://baike.baidu.com/item/洛阳水席 /81269 https://k.sina.cn/article_6270609874_175c1e9d200101ikw3.html https://kknews.cc/food/pnborxz.html https://kknews.cc/culture/xmnqp89.html https://inf.news/zh-hans/travel/1bb8077672e35d14d648ed2a929afc92.html #หลิวสุ่ยสี #ลั่วหยางหลิวสุ่ยสี #โต๊ะจีน
    明兰、二郎、小公爷,《知否》三大主角艰难原生家庭描绘三种人生_顾廷烨
    而元若哥哥呢,在母亲掌控一切的情况中顺从听话,老妈说要读书,那就读书;老妈说要事业,那就考公民,如果说这辈子唯一有点主见的,那就是遇到明兰,争取扑腾起的小浪花。 于是,借着嘉成县主逼迫齐衡也就从了家…
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 722 มุมมอง 0 รีวิว
  • Generative AI ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทต่าง ๆ ได้เสนอเครื่องมือที่นำไปสู่การสร้างเนื้อหาใหม่ วัสดุ และความก้าวหน้าทางการแพทย์ แต่สำหรับคนทั่วไป ความสามารถของ AI ส่วนใหญ่จำกัดอยู่แค่การใช้แชทบ็อตอย่าง ChatGPT หรือ Gemini ซึ่งสามารถช่วยได้ในหลายด้านแต่ยังไม่เชี่ยวชาญในการทำงานเฉพาะทาง

    อย่างไรก็ตาม AI Apps หรือ Bots ซึ่งเป็นแอปที่ปรับแต่งตามคำสั่งเฉพาะกำลังเปลี่ยนแปลงวงการ โดยช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างเครื่องมืออันทรงพลังขึ้นด้วยการใช้ คำสั่งภาษา ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งผู้ใช้สามารถออกแบบคำสั่งให้บ็อตทำงานเฉพาะทาง เช่น การสร้างเมนูอาหารส่วนตัว การให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพ หรือแม้แต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

    == จุดเด่นของ AI Apps: ==
    เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำ: บ็อตที่ปรับแต่งสามารถทำงานเฉพาะด้านได้ เช่น บ็อตที่สร้างเมนูอาหารจะคำนึงถึงเดือน อุปกรณ์ทำอาหาร และข้อจำกัดด้านสุขภาพเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

    ประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ: การปรับแต่งคำตอบ เช่น ใช้หัวข้อย่อย อีโมจิ หรือจัดลำดับข้อความ ช่วยให้บ็อตมีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย

    ช่วยประหยัดเวลาในงานเฉพาะทาง: บ็อตสามารถลดเวลาที่ใช้ในการเขียนคำสั่งยาว ๆ ด้วยการให้คำตอบที่รวดเร็วผ่านการออกแบบคำสั่งไว้ล่วงหน้า

    AI Apps ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัว แต่ยังช่วยองค์กรธุรกิจในการปรับปรุงคุณภาพเอกสารหรือการวางแผนงาน โดยในด้านการศึกษา Apps เหล่านี้สามารถช่วยสอนหรือสร้างแผนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การสร้าง AI Apps ไม่จำเป็นต้องมีทักษะเขียนโปรแกรม เพียงแค่มีไอเดียและการทดลองคำสั่ง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งแอปให้เหมาะสมกับความต้องการ การพัฒนานี้สะท้อนถึง ความเป็นประชาธิปไตยของเทคโนโลยี AI ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสร้างเครื่องมือที่ทรงพลังได้เอง

    https://www.neowin.net/editorials/custom-ai-apps-are-the-best-thing-about-ai-this-is-how-to-make-them/
    Generative AI ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทต่าง ๆ ได้เสนอเครื่องมือที่นำไปสู่การสร้างเนื้อหาใหม่ วัสดุ และความก้าวหน้าทางการแพทย์ แต่สำหรับคนทั่วไป ความสามารถของ AI ส่วนใหญ่จำกัดอยู่แค่การใช้แชทบ็อตอย่าง ChatGPT หรือ Gemini ซึ่งสามารถช่วยได้ในหลายด้านแต่ยังไม่เชี่ยวชาญในการทำงานเฉพาะทาง อย่างไรก็ตาม AI Apps หรือ Bots ซึ่งเป็นแอปที่ปรับแต่งตามคำสั่งเฉพาะกำลังเปลี่ยนแปลงวงการ โดยช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างเครื่องมืออันทรงพลังขึ้นด้วยการใช้ คำสั่งภาษา ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งผู้ใช้สามารถออกแบบคำสั่งให้บ็อตทำงานเฉพาะทาง เช่น การสร้างเมนูอาหารส่วนตัว การให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพ หรือแม้แต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก == จุดเด่นของ AI Apps: == ✅ เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำ: บ็อตที่ปรับแต่งสามารถทำงานเฉพาะด้านได้ เช่น บ็อตที่สร้างเมนูอาหารจะคำนึงถึงเดือน อุปกรณ์ทำอาหาร และข้อจำกัดด้านสุขภาพเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ✅ ประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ: การปรับแต่งคำตอบ เช่น ใช้หัวข้อย่อย อีโมจิ หรือจัดลำดับข้อความ ช่วยให้บ็อตมีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย ✅ ช่วยประหยัดเวลาในงานเฉพาะทาง: บ็อตสามารถลดเวลาที่ใช้ในการเขียนคำสั่งยาว ๆ ด้วยการให้คำตอบที่รวดเร็วผ่านการออกแบบคำสั่งไว้ล่วงหน้า AI Apps ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัว แต่ยังช่วยองค์กรธุรกิจในการปรับปรุงคุณภาพเอกสารหรือการวางแผนงาน โดยในด้านการศึกษา Apps เหล่านี้สามารถช่วยสอนหรือสร้างแผนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้าง AI Apps ไม่จำเป็นต้องมีทักษะเขียนโปรแกรม เพียงแค่มีไอเดียและการทดลองคำสั่ง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งแอปให้เหมาะสมกับความต้องการ การพัฒนานี้สะท้อนถึง ความเป็นประชาธิปไตยของเทคโนโลยี AI ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสร้างเครื่องมือที่ทรงพลังได้เอง https://www.neowin.net/editorials/custom-ai-apps-are-the-best-thing-about-ai-this-is-how-to-make-them/
    WWW.NEOWIN.NET
    Custom AI apps are the best thing about AI, this is how to make them
    If you are tired of generic AI chatbots like ChatGPT, read on to learn how to create personalized custom apps which are more efficient and convenient at helping you.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • กุ้งกระเทียมพริกไทย เป็นเมนูอาหารที่ทำง่ายและอร่อย ใช้วัตถุดิบไม่มากแต่รสชาติเข้มข้นด้วยกลิ่นหอมของกระเทียมและพริกไทย เหมาะสำหรับทำทานเองที่บ้าน มาดูสูตรการทำกัน
    ส่วนผสม
    กุ้งสดขนาดกลาง - 300-400 กรัม (ล้างทำความสะอาด ปอกเปลือกไว้)
    กระเทียม - 5-6 กลีบ (สับละเอียด)
    พริกไทยเม็ด - 1 ช้อนชา (ตำหยาบๆ) หรือพริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
    ซอสปรุงรส - 1-2 ช้อนโต๊ะ
    ซีอิ๊วขาว - 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำตาลทราย - 1/2 ช้อนชา (เพื่อตัดความเค็ม)
    น้ำมันพืช - 2 ช้อนโต๊ะ
    น้ำมันหอย - 1 ช้อนโต๊ะ (ใส่เพิ่มตามชอบ)
    ใบ parsley หรือใบผักชี (สำหรับตกแต่ง)
    วิธีทำ
    เตรียมกุ้ง :
    ล้างกุ้งให้สะอาด ปอกเปลือกและดึงเส้นดำออก หากต้องการให้เนื้อกุ้งกรอบ สามารถหมักกุ้งกับเกลือเล็กน้อยและแป้งมันประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกอีกครั้ง
    เตรียมเครื่องปรุง :
    สับกระเทียมให้ละเอียด และตำพริกไทยเม็ดพอหยาบ
    ผัดกระเทียม :
    ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปพอร้อน
    ใส่กระเทียมลงผัดจนเหลืองหอม (ระวังอย่าให้กระเทียมไหม้ เพราะจะขม)
    ผัดกุ้ง :
    ใส่กุ้งลงในกระทะ ผัดเร็วๆ จนกุ้งเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีชมพู
    จากนั้นปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย
    ใส่พริกไทย :
    ใส่พริกไทยที่ตำไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ผัดต่ออีกประมาณ 1-2 นาทีจนกุ้งสุกเต็มที่
    จัดจาน :
    ตักกุ้งกระเทียมพริกไทยใส่จาน โรยพริกไทยเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และตกแต่งด้วยใบ parsley หรือผักชี
    กุ้งกระเทียมพริกไทย เป็นเมนูอาหารที่ทำง่ายและอร่อย ใช้วัตถุดิบไม่มากแต่รสชาติเข้มข้นด้วยกลิ่นหอมของกระเทียมและพริกไทย เหมาะสำหรับทำทานเองที่บ้าน มาดูสูตรการทำกัน ส่วนผสม กุ้งสดขนาดกลาง - 300-400 กรัม (ล้างทำความสะอาด ปอกเปลือกไว้) กระเทียม - 5-6 กลีบ (สับละเอียด) พริกไทยเม็ด - 1 ช้อนชา (ตำหยาบๆ) หรือพริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา ซอสปรุงรส - 1-2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว - 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย - 1/2 ช้อนชา (เพื่อตัดความเค็ม) น้ำมันพืช - 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย - 1 ช้อนโต๊ะ (ใส่เพิ่มตามชอบ) ใบ parsley หรือใบผักชี (สำหรับตกแต่ง) วิธีทำ เตรียมกุ้ง : ล้างกุ้งให้สะอาด ปอกเปลือกและดึงเส้นดำออก หากต้องการให้เนื้อกุ้งกรอบ สามารถหมักกุ้งกับเกลือเล็กน้อยและแป้งมันประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกอีกครั้ง เตรียมเครื่องปรุง : สับกระเทียมให้ละเอียด และตำพริกไทยเม็ดพอหยาบ ผัดกระเทียม : ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปพอร้อน ใส่กระเทียมลงผัดจนเหลืองหอม (ระวังอย่าให้กระเทียมไหม้ เพราะจะขม) ผัดกุ้ง : ใส่กุ้งลงในกระทะ ผัดเร็วๆ จนกุ้งเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีชมพู จากนั้นปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ใส่พริกไทย : ใส่พริกไทยที่ตำไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ผัดต่ออีกประมาณ 1-2 นาทีจนกุ้งสุกเต็มที่ จัดจาน : ตักกุ้งกระเทียมพริกไทยใส่จาน โรยพริกไทยเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และตกแต่งด้วยใบ parsley หรือผักชี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 695 มุมมอง 0 รีวิว
  • # "รองโฆษกกรมราชทัณฑ์" เผย "เอ็ม เอกชาติ" ถูกคุมขังเรือนจำจังหวัดจันทบุรี ตรวจประวัติ-สุขภาพตามขั้นตอน อยู่แดนกักโรค กินข้าวได้ปกติ

    วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวกรณี เรือนจำจังหวัดจันทบุรี รับตัว นายเอ็ม เอกชาติ ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของนายธนาคาร คันธี อายุ 27 ปี หรือ "แบงค์ เลสเตอร์" จากการทำคอนเทนต์ มาฝากขังวานนี้ (28 ธ.ค.) ว่า เบื้องต้นมีการตรวจร่างกาย ตรวจประวัติอาชญากรรม ซึ่งนายเอ็ม สุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด และอยู่แดนกักโรค 5 วัน ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ไม่ได้คุยกับใคร มีสีหน้าปกติ ไม่ได้แสดงอาการวิตกกังวล จากนั้นจะมีการจำแนกแยกลักษณะผู้ต้องขังให้ไปคุมขังแดนระหว่างพิจารณาคดี หรือแดน 4 แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางเรือนจำฯ

    นางกนกวรรณ เผยว่า นายเอ็ม ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ถึงเรื่องการเยี่ยมญาติ ซึ่งเรือนจำฯ ก็ได้อธิบายให้ฟังว่าระหว่างกักโรค 5 วัน มีสิทธิ์ที่จะพบทนายความตลอด แต่เป็นการพบกันผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ก่อน ส่วนหลังจากกักตัวครบ 5 วันแล้ว หากไม่มีโรคประจำตัว หรือโรคใดๆ ทนายความก็มาเยี่ยมแบบ Onside รวมถึงการเยี่ยมญาติด้วย ทั้งนี้ นายเอ็มยังไม่ได้มีการร้องขอสิ่งใดเป็นพิเศษ ส่วนเมนูอาหารทั้งสามมื้อในวันนี้ ประกอบด้วย มื้อเช้า เมนูต้มจืดไก่ผักกาดดองเค็ม , มื้อกลางวัน ข้าวต้มหมู และ มื้อเย็น ปลาทอดน้ำพริกกะปิ ซึ่งทราบว่านายเอ็ม รับประทานอาหารเช้าได้ปกติ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000124861

    #MGROnline #รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ #เอ็มเอกชาติ #แบงค์เลสเตอร์
    # "รองโฆษกกรมราชทัณฑ์" เผย "เอ็ม เอกชาติ" ถูกคุมขังเรือนจำจังหวัดจันทบุรี ตรวจประวัติ-สุขภาพตามขั้นตอน อยู่แดนกักโรค กินข้าวได้ปกติ • วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวกรณี เรือนจำจังหวัดจันทบุรี รับตัว นายเอ็ม เอกชาติ ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของนายธนาคาร คันธี อายุ 27 ปี หรือ "แบงค์ เลสเตอร์" จากการทำคอนเทนต์ มาฝากขังวานนี้ (28 ธ.ค.) ว่า เบื้องต้นมีการตรวจร่างกาย ตรวจประวัติอาชญากรรม ซึ่งนายเอ็ม สุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด และอยู่แดนกักโรค 5 วัน ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ไม่ได้คุยกับใคร มีสีหน้าปกติ ไม่ได้แสดงอาการวิตกกังวล จากนั้นจะมีการจำแนกแยกลักษณะผู้ต้องขังให้ไปคุมขังแดนระหว่างพิจารณาคดี หรือแดน 4 แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางเรือนจำฯ • นางกนกวรรณ เผยว่า นายเอ็ม ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ถึงเรื่องการเยี่ยมญาติ ซึ่งเรือนจำฯ ก็ได้อธิบายให้ฟังว่าระหว่างกักโรค 5 วัน มีสิทธิ์ที่จะพบทนายความตลอด แต่เป็นการพบกันผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ก่อน ส่วนหลังจากกักตัวครบ 5 วันแล้ว หากไม่มีโรคประจำตัว หรือโรคใดๆ ทนายความก็มาเยี่ยมแบบ Onside รวมถึงการเยี่ยมญาติด้วย ทั้งนี้ นายเอ็มยังไม่ได้มีการร้องขอสิ่งใดเป็นพิเศษ ส่วนเมนูอาหารทั้งสามมื้อในวันนี้ ประกอบด้วย มื้อเช้า เมนูต้มจืดไก่ผักกาดดองเค็ม , มื้อกลางวัน ข้าวต้มหมู และ มื้อเย็น ปลาทอดน้ำพริกกะปิ ซึ่งทราบว่านายเอ็ม รับประทานอาหารเช้าได้ปกติ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000124861 • #MGROnline #รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ #เอ็มเอกชาติ #แบงค์เลสเตอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1092 มุมมอง 0 รีวิว
  • Maji Maji มาจิ มาจิ ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ผสมผสานความเป็นตะวันออก ตะวันตก และความเป็นไทยอีสานที่มีเสน่ห์ไว้อย่างลงตัว ทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี ใช้ปลาดิบคุณภาพนำเข้าเกรดพรีเมี่ยมที่สดใหม่ พร้อมกับการตกแต่งจานได้อย่างสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

    บรรยากาศของร้านสบายๆ ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น มีที่นั่ง 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นครัวเปิด สามารถมองเห็นเชฟกำลังปรุงอาหารได้ และชั้น 2 จะตกแต่งด้วยหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น และมีลวดลายของคลื่นยักษ์ญี่ปุ่นบนกำแพง สายถ่ายรูปต้องถูกใจแชะภาพลงโซเชียล

    เมนูอาหารมีให้เลือกหลากหลาย ประกอบไปด้วย มากิ แปลว่า โรล (Roll) หรือ ข้าวปั้น ซึ่งเป็นรูปแบบอาหารญี่ปุ่น
    อิซากาย่าแนวอีสาน ที่ผสมวัตถุดิบต่างๆ ของอาหารญี่ปุ่น Sushi & Sashimi & Don ข้าวหน้าต่างๆ
    Entrée อาหารจานหลัก ทั้งเป็นเซต และ a la carte อาทิ ปลาแซลมอนย่าง ปลาซาบะย่าง ปลาหมึกย่าง
    Appetizer ต่างๆ ทั้งสลัด และอาหารทานเล่นมากมาย

    ที่อยู่ : 982/22 อาคารศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ห้องเลขที่ เอ็ม 103 ชั้นที่ เอ็ม ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
    ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 23.00 น.
    #กินสาระนัวร์ #Thaitimes #ข่าว
    Maji Maji มาจิ มาจิ ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ผสมผสานความเป็นตะวันออก ตะวันตก และความเป็นไทยอีสานที่มีเสน่ห์ไว้อย่างลงตัว ทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี ใช้ปลาดิบคุณภาพนำเข้าเกรดพรีเมี่ยมที่สดใหม่ พร้อมกับการตกแต่งจานได้อย่างสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บรรยากาศของร้านสบายๆ ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น มีที่นั่ง 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นครัวเปิด สามารถมองเห็นเชฟกำลังปรุงอาหารได้ และชั้น 2 จะตกแต่งด้วยหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น และมีลวดลายของคลื่นยักษ์ญี่ปุ่นบนกำแพง สายถ่ายรูปต้องถูกใจแชะภาพลงโซเชียล เมนูอาหารมีให้เลือกหลากหลาย ประกอบไปด้วย มากิ แปลว่า โรล (Roll) หรือ ข้าวปั้น ซึ่งเป็นรูปแบบอาหารญี่ปุ่น อิซากาย่าแนวอีสาน ที่ผสมวัตถุดิบต่างๆ ของอาหารญี่ปุ่น Sushi & Sashimi & Don ข้าวหน้าต่างๆ Entrée อาหารจานหลัก ทั้งเป็นเซต และ a la carte อาทิ ปลาแซลมอนย่าง ปลาซาบะย่าง ปลาหมึกย่าง Appetizer ต่างๆ ทั้งสลัด และอาหารทานเล่นมากมาย ที่อยู่ : 982/22 อาคารศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ห้องเลขที่ เอ็ม 103 ชั้นที่ เอ็ม ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 23.00 น. #กินสาระนัวร์ #Thaitimes #ข่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1120 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พาณิชย์”สบช่อง ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเมนู “ต้มยำกุ้ง” ของไทย เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ชวนผู้ประกอบการร้านอาหาร ใช้วัตถุดิบ GI รังสรรค์เมนูอาหาร สร้างมูลค่าเพิ่ม เผยอย่างเมนูต้มยำกุ้ง สามารถใช้กุ้งก้ามกรามบางแพ และวัตถุดิบ GI อื่น ๆ มาทำ และเสิร์ฟในรูปแบบไฟด์ไดนิ่งได้ รวมถึงเมนูอาหารอื่น ๆ ที่สามารถใช้วัตถุดิบ GI สร้างมูลค่าเพิ่มได้เช่นเดียวกัน

    นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนเมนู “ต้มยำกุ้ง” ของไทย เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ว่า เป็นการตอกย้ำความชื่นชอบและชื่นชมเมนูต้มยำกุ้งของไทยของคนทั่วโลก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะใช้โอกาสนี้ ผลักดันให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ใช้วัตถุดิบที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) มาใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาหาร โดยเฉพาะอาหารไฟน์ไดนิ่ง ที่เน้นความวิจิตร ความพิถีพิถันในการปรุง การจัดจาน และการบริการ เพื่อมอบประสบการณ์การกินอาหารที่แตกต่างในระดับพรีเมียม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9670000117485

    #MGROnline #ต้มยำกุ้ง #วัตถุดิบ #GI
    “พาณิชย์”สบช่อง ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเมนู “ต้มยำกุ้ง” ของไทย เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ชวนผู้ประกอบการร้านอาหาร ใช้วัตถุดิบ GI รังสรรค์เมนูอาหาร สร้างมูลค่าเพิ่ม เผยอย่างเมนูต้มยำกุ้ง สามารถใช้กุ้งก้ามกรามบางแพ และวัตถุดิบ GI อื่น ๆ มาทำ และเสิร์ฟในรูปแบบไฟด์ไดนิ่งได้ รวมถึงเมนูอาหารอื่น ๆ ที่สามารถใช้วัตถุดิบ GI สร้างมูลค่าเพิ่มได้เช่นเดียวกัน • นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนเมนู “ต้มยำกุ้ง” ของไทย เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ว่า เป็นการตอกย้ำความชื่นชอบและชื่นชมเมนูต้มยำกุ้งของไทยของคนทั่วโลก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะใช้โอกาสนี้ ผลักดันให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ใช้วัตถุดิบที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) มาใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาหาร โดยเฉพาะอาหารไฟน์ไดนิ่ง ที่เน้นความวิจิตร ความพิถีพิถันในการปรุง การจัดจาน และการบริการ เพื่อมอบประสบการณ์การกินอาหารที่แตกต่างในระดับพรีเมียม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9670000117485 • #MGROnline #ต้มยำกุ้ง #วัตถุดิบ #GI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 626 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียน "ต้มยำกุ้ง" เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

    วันนี้ (4 ธ.ค.2567) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า เมื่อคืนเวลา 02.00 น เวลาในประเทศไทยที่ กรุงอะซุนซิออง สาธารณรัฐปารากวัย ได้มีการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนการรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 (The 19th Session of the Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) โดยที่ประชุมได้ประกาศขึ้นทะเบียน "ต้มยำกุ้ง" เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (The Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) ในการประชุมฯ

    ทั้งนี้การขึ้นทะเบียน "ต้มยำกุ้ง" ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 ในการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ โดยต้มยำกุ้งของไทย เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ มีต้นกำเนิดจากภูมิปัญญาและวิถีปฏิบัติอันประณีตของชุมชนริมน้ำในภาคกลางของไทย สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในทุกระดับของสังคม ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัว ชุมชน โรงเรียน และร้านอาหาร จนกลายมาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ต้มยำกุ้งจึงเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีถึงมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ไทย
    ยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียน "ต้มยำกุ้ง" เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567 วันนี้ (4 ธ.ค.2567) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า เมื่อคืนเวลา 02.00 น เวลาในประเทศไทยที่ กรุงอะซุนซิออง สาธารณรัฐปารากวัย ได้มีการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนการรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 (The 19th Session of the Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) โดยที่ประชุมได้ประกาศขึ้นทะเบียน "ต้มยำกุ้ง" เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (The Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) ในการประชุมฯ ทั้งนี้การขึ้นทะเบียน "ต้มยำกุ้ง" ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 ในการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ โดยต้มยำกุ้งของไทย เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ มีต้นกำเนิดจากภูมิปัญญาและวิถีปฏิบัติอันประณีตของชุมชนริมน้ำในภาคกลางของไทย สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในทุกระดับของสังคม ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัว ชุมชน โรงเรียน และร้านอาหาร จนกลายมาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ต้มยำกุ้งจึงเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีถึงมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 901 มุมมอง 0 รีวิว
  • BIANCA ร้านอาหารอิตาเลียนสุดปัง ที่บอกเลยว่าอาหารของเค้าเด็ดจริงอะไรจริง โดยเฉพาะใครที่เป็นสายชีส สายทรัฟเฟิล เมนูอาหารของเค้ามีครบครัน ทั้งพิซซ่า พาสต้า สเต๊ก สลัด รวมไปถึงของหวานที่พลาดไม่ได้อย่าทีรามิสุ เด็ดจริง!

    #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    BIANCA ร้านอาหารอิตาเลียนสุดปัง ที่บอกเลยว่าอาหารของเค้าเด็ดจริงอะไรจริง โดยเฉพาะใครที่เป็นสายชีส สายทรัฟเฟิล เมนูอาหารของเค้ามีครบครัน ทั้งพิซซ่า พาสต้า สเต๊ก สลัด รวมไปถึงของหวานที่พลาดไม่ได้อย่าทีรามิสุ เด็ดจริง! #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 777 มุมมอง 0 รีวิว
  • โอ้กะจู๋ ร้านอาหารที่เหมาะสำหรับสายกินทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะมาเป็นคู่ มากับครอบครัว หรือนักแฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ ที่ร้านมีเมนูอาหารหลากหลาย ที่สำคุญคืออร่อยทุกเมนู โดยเฉพาะใครที่เป็นสายสุขภาพ คนชอบทานผัก บอกเลยว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวัง

    #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    โอ้กะจู๋ ร้านอาหารที่เหมาะสำหรับสายกินทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะมาเป็นคู่ มากับครอบครัว หรือนักแฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ ที่ร้านมีเมนูอาหารหลากหลาย ที่สำคุญคืออร่อยทุกเมนู โดยเฉพาะใครที่เป็นสายสุขภาพ คนชอบทานผัก บอกเลยว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวัง #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 894 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านหลุยส์วาณิชย์ บรรทัดทอง ร้านอาหารคิวแน่น ที่หลายๆ คนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย เมนูอาหารของร้านนี้จะค่อยข้างเข้าใจง่าย มีให้เลือกทั้งข้าวราด และกับข้าว วัตถุดิบของที่ร้านสดสะอาด ชิ้นใหญ่ รสชาติทำออกมาได้กำลังดี คนไทยทานได้ ต่างชาติทานดี

    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/F5XP5qsB2LKdTLcd9
    ที่อยู่ : 1642 ถนน บรรทัดทอง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
    ร้านเปิดบริการ : 12.00 - 22.30 น.

    #บรรทัดทอง #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ร้านหลุยส์วาณิชย์ บรรทัดทอง ร้านอาหารคิวแน่น ที่หลายๆ คนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย เมนูอาหารของร้านนี้จะค่อยข้างเข้าใจง่าย มีให้เลือกทั้งข้าวราด และกับข้าว วัตถุดิบของที่ร้านสดสะอาด ชิ้นใหญ่ รสชาติทำออกมาได้กำลังดี คนไทยทานได้ ต่างชาติทานดี พิกัด : https://maps.app.goo.gl/F5XP5qsB2LKdTLcd9 ที่อยู่ : 1642 ถนน บรรทัดทอง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ร้านเปิดบริการ : 12.00 - 22.30 น. #บรรทัดทอง #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 772 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาหารไทยเฉิดฉาย มิชลินไกด์มาเลย์ฯ

    การประกาศรางวัลร้านอาหารมิชลินไกด์ กัวลาลัมเปอร์และปีนัง ปี 2025 (MICHELIN Guide Kuala Lumpur & Penang 2025) ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 มีร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรัฐปีนังได้รับการคัดเลือก 143 แห่ง โดยมี 25 แห่ง ได้รับการคัดเลือกเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวร้านที่ได้รับรางวัล Green Star หรือรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย คือ ร้านเดวากาน (Dewakan) ที่นอกจากจะรักษารางวัลมิชลิน 2 ดาวด้วยเมนูอาหารที่โดดเด่นแล้ว ยังพยายามจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและใช้เป็นส่วนผสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมรสชาติแบบดั้งเดิมของมาเลเซีย วัตถุดิบส่วนเกินยังนำไปหมักเป็นซอสโฮมเมดเพื่อลดขยะ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ร้านอาหารอื่นนำแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้

    ร้านใหม่ 2 แห่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ได้แก่ ชิมบายเชฟหนุ่ม (Chim By Chef Noom) ร้านอาหารไทยร่วมสมัย สืบทอดอาหารไทยดั้งเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนเมนูที่สร้างสรรค์และการจัดจานอย่างมีสไตล์ อีกทั้งเชฟอัซมี อาหมัด กามาล ยังได้รับรางวัล Service Award อีกรางวัลหนึ่ง ส่วนอีกร้านหนึ่งคือ โมลินา (Molina) ที่มีเมนูสร้างสรรค์ที่ผสมผสานเทคนิคแบบฝรั่งเศส กลิ่นอายแบบนอร์ดิก และกลิ่นอายแบบเอเชียอย่างลงตัว โดยเชฟกีโยม เดอปูร์แตร์ ได้รับรางวัล Opening of the Year Award

    รางวัลบิบกรูมองด์ (Bib Gourmand) ร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล มีร้านใหม่ 12 แห่ง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ 5 แห่ง และปีนัง 7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือร้าน BM Yam Rice ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม ที่เลื่อนระดับขึ้นจาก MICHELIN Selected เมนูเด่นคือซุปหมูและเครื่องในหมูรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมข้าวแยมไรซ์ (Yam Rice) เป็นหนึ่งในร้านอาหารราคาจับต้องได้ที่โดดเด่นที่สุดในมาเลเซีย ส่วนร้านอาหารหมวดหมู่ MICHELIN Selected มีร้านใหม่เพิ่มเติม 10 ร้าน รวมเป็น 80 ร้าน

    สำหรับร้านชิมบายเชฟหนุ่ม ตั้งอยู่ในอาคาร TSLAW Tower ย่านตุน ราซัก เอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) เจ้าของร้านคือเชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ แห่งร้านชิมบายสยามวิสดอม (Chim by Siam Wisdom) ย่านสามเสน กรุงเทพฯ โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น ร่วมกับเครื่องเทศ ผลไม้ และผักในท้องถิ่น เมนูเด่นของร้านคือ The Lost Recipe ต้มยำสูตรโบราณกว่า 200 ปี ที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว

    อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมีการจัดทำคู่มือมิชลินไกด์แล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์เริ่มจากฉบับปี 2016 ประเทศไทยเริ่มจากฉบับปี 2018 มาเลเซียและและเวียดนาม เริ่มจากฉบับปี 2023

    #Newskit #MICHELINGuideMY #ChimbyChefNoom
    อาหารไทยเฉิดฉาย มิชลินไกด์มาเลย์ฯ การประกาศรางวัลร้านอาหารมิชลินไกด์ กัวลาลัมเปอร์และปีนัง ปี 2025 (MICHELIN Guide Kuala Lumpur & Penang 2025) ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 มีร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรัฐปีนังได้รับการคัดเลือก 143 แห่ง โดยมี 25 แห่ง ได้รับการคัดเลือกเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวร้านที่ได้รับรางวัล Green Star หรือรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย คือ ร้านเดวากาน (Dewakan) ที่นอกจากจะรักษารางวัลมิชลิน 2 ดาวด้วยเมนูอาหารที่โดดเด่นแล้ว ยังพยายามจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและใช้เป็นส่วนผสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมรสชาติแบบดั้งเดิมของมาเลเซีย วัตถุดิบส่วนเกินยังนำไปหมักเป็นซอสโฮมเมดเพื่อลดขยะ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ร้านอาหารอื่นนำแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ ร้านใหม่ 2 แห่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ได้แก่ ชิมบายเชฟหนุ่ม (Chim By Chef Noom) ร้านอาหารไทยร่วมสมัย สืบทอดอาหารไทยดั้งเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนเมนูที่สร้างสรรค์และการจัดจานอย่างมีสไตล์ อีกทั้งเชฟอัซมี อาหมัด กามาล ยังได้รับรางวัล Service Award อีกรางวัลหนึ่ง ส่วนอีกร้านหนึ่งคือ โมลินา (Molina) ที่มีเมนูสร้างสรรค์ที่ผสมผสานเทคนิคแบบฝรั่งเศส กลิ่นอายแบบนอร์ดิก และกลิ่นอายแบบเอเชียอย่างลงตัว โดยเชฟกีโยม เดอปูร์แตร์ ได้รับรางวัล Opening of the Year Award รางวัลบิบกรูมองด์ (Bib Gourmand) ร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล มีร้านใหม่ 12 แห่ง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ 5 แห่ง และปีนัง 7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือร้าน BM Yam Rice ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม ที่เลื่อนระดับขึ้นจาก MICHELIN Selected เมนูเด่นคือซุปหมูและเครื่องในหมูรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมข้าวแยมไรซ์ (Yam Rice) เป็นหนึ่งในร้านอาหารราคาจับต้องได้ที่โดดเด่นที่สุดในมาเลเซีย ส่วนร้านอาหารหมวดหมู่ MICHELIN Selected มีร้านใหม่เพิ่มเติม 10 ร้าน รวมเป็น 80 ร้าน สำหรับร้านชิมบายเชฟหนุ่ม ตั้งอยู่ในอาคาร TSLAW Tower ย่านตุน ราซัก เอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) เจ้าของร้านคือเชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ แห่งร้านชิมบายสยามวิสดอม (Chim by Siam Wisdom) ย่านสามเสน กรุงเทพฯ โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น ร่วมกับเครื่องเทศ ผลไม้ และผักในท้องถิ่น เมนูเด่นของร้านคือ The Lost Recipe ต้มยำสูตรโบราณกว่า 200 ปี ที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมีการจัดทำคู่มือมิชลินไกด์แล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์เริ่มจากฉบับปี 2016 ประเทศไทยเริ่มจากฉบับปี 2018 มาเลเซียและและเวียดนาม เริ่มจากฉบับปี 2023 #Newskit #MICHELINGuideMY #ChimbyChefNoom
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1787 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“
    .
    จากกรณีศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีฉ้อโกงเงินของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง
    .
    วันนี้ (8 พ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และ นางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำ
    .
    นางกนกวรรณ เผยอีกว่า ส่วนเรื่องความกังวล นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม หากครบกำหนดอยู่แดนกักโรคแล้วจะต้องย้ายส่งต่อแดนใดนั้น เพราะอาจเจอคู่กรณีเป็นกลุ่ม 18 บอสดิไอคอน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พิจารณาตามความเหมาะสม และขณะนี้กลุ่มบอสชาย 11 คน ได้แยกแดนเป็นที่เรียบร้อย อยู่แดนละ 2-3 คนกระจายกันไป แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบคู่กรณีของ นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ในคดีอื่นๆ ด้วยเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เมนูอาหารมื้อเย็นในวันนี้ (8 พ.ย.) เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นข้าวสวย ไก่ต้มขมิ้น และไข่ต้ม ส่วนทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นข้าวสวย หลนปลาร้า/ผักสด และ ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น
    ..............
    Sondhi X
    รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“ . จากกรณีศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีฉ้อโกงเงินของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง . วันนี้ (8 พ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และ นางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำ . นางกนกวรรณ เผยอีกว่า ส่วนเรื่องความกังวล นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม หากครบกำหนดอยู่แดนกักโรคแล้วจะต้องย้ายส่งต่อแดนใดนั้น เพราะอาจเจอคู่กรณีเป็นกลุ่ม 18 บอสดิไอคอน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พิจารณาตามความเหมาะสม และขณะนี้กลุ่มบอสชาย 11 คน ได้แยกแดนเป็นที่เรียบร้อย อยู่แดนละ 2-3 คนกระจายกันไป แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบคู่กรณีของ นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ในคดีอื่นๆ ด้วยเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เมนูอาหารมื้อเย็นในวันนี้ (8 พ.ย.) เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นข้าวสวย ไก่ต้มขมิ้น และไข่ต้ม ส่วนทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นข้าวสวย หลนปลาร้า/ผักสด และ ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Angry
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2007 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอี่ยวไถ่ ร้านสุกี้โบราณและอาหารจีนอันดับหนึ่งในใจของใครหลายคน การันตีสุดยอดความอร่อยระดับตำนาน ที่เปิดให้บริการมากว่า 60 ปี เมนูขึ้นหิ้งที่ใครๆ ก็ต้องสั่งก็คือ สุกี้โบราณสูตรแต้จิ๋ว ที่โดดเด่นด้วยหมูและเนื้อที่หมักจากเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะ น้ำซุปที่หอมเข้มข้น จิ้มกับน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้สูตรเอี่ยวไถ่ ..หอเจี๊ยะสุดๆ นอกจากนั้นยังมี เมนูอาหารจีนโบราณสูตรดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นเมนูหมูหัน เป็ดปักกิ่ง จัดใหญ่ไซส์ XXL ที่อบจนหนังกรอบ ห่อด้วยแป้งนึ่งร้อนๆ พร้อมเครื่องเคียง เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ด และ Recommend menu ที่พลาดไม่ได้กับสุดยอดเมนูปูที่ส่งตรงมาจากสุราษฏร์ธานี ทั้งก๋วยเตี๋ยวหลอดปู ที่เน้นเนื้อปูแน่นๆ ขนาดจัมโบ้เกรดส่งออก และหอยจ้อปู ที่คัดเฉพาะเนื้อปูก้อนขนาดจัมโบ้ อร่อยด้วยเนื้อปูล้นเต็มคำ รวมไปถึงอาหารทะเลที่คัดวัตถุดิบสดๆ ปรุงเป็นเมนูสุดพิเศษตามแบบฉบับของเอี่ยวไถ่ ฟินอร่อยกันได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว

    พิกัด : มี 13 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
    เปิดบริการ : 10.30 - 21.00 น.


    #อาหารอร่อย #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    เอี่ยวไถ่ ร้านสุกี้โบราณและอาหารจีนอันดับหนึ่งในใจของใครหลายคน การันตีสุดยอดความอร่อยระดับตำนาน ที่เปิดให้บริการมากว่า 60 ปี เมนูขึ้นหิ้งที่ใครๆ ก็ต้องสั่งก็คือ สุกี้โบราณสูตรแต้จิ๋ว ที่โดดเด่นด้วยหมูและเนื้อที่หมักจากเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะ น้ำซุปที่หอมเข้มข้น จิ้มกับน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้สูตรเอี่ยวไถ่ ..หอเจี๊ยะสุดๆ นอกจากนั้นยังมี เมนูอาหารจีนโบราณสูตรดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นเมนูหมูหัน เป็ดปักกิ่ง จัดใหญ่ไซส์ XXL ที่อบจนหนังกรอบ ห่อด้วยแป้งนึ่งร้อนๆ พร้อมเครื่องเคียง เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ด และ Recommend menu ที่พลาดไม่ได้กับสุดยอดเมนูปูที่ส่งตรงมาจากสุราษฏร์ธานี ทั้งก๋วยเตี๋ยวหลอดปู ที่เน้นเนื้อปูแน่นๆ ขนาดจัมโบ้เกรดส่งออก และหอยจ้อปู ที่คัดเฉพาะเนื้อปูก้อนขนาดจัมโบ้ อร่อยด้วยเนื้อปูล้นเต็มคำ รวมไปถึงอาหารทะเลที่คัดวัตถุดิบสดๆ ปรุงเป็นเมนูสุดพิเศษตามแบบฉบับของเอี่ยวไถ่ ฟินอร่อยกันได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว พิกัด : มี 13 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เปิดบริการ : 10.30 - 21.00 น. #อาหารอร่อย #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1029 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านนี้ถูกใจแน่นอน ! สำหรับร้าน ลูกไก่ทอง ร้านอาหารไทย จีน บรรยากาศสุดพรีเมี่ยม ใครกำลังมองหาร้านอาหารสำหรับครอบครัว เราขอบอกเลยว่าร้านนี้เหมาะมาก เพราะเมนูอาหารมีหลาหลายสไตล์ เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมนูเด็ดของที่ร้านคือเคาหยก หมูสามชั้นตุ๋นจนเปื่อย ทานคู่ผักดองและหมั่นโถวคือเด็ดดวงมาก

    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/aFQ6WqiubiZSNH16A
    ที่อยู่ : ICANSIAM ชั้น 6 โซนอลังการ ถนน เจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
    ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 22.00 น.
    #อาหารไทยฟิวชั่น #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ร้านนี้ถูกใจแน่นอน ! สำหรับร้าน ลูกไก่ทอง ร้านอาหารไทย จีน บรรยากาศสุดพรีเมี่ยม ใครกำลังมองหาร้านอาหารสำหรับครอบครัว เราขอบอกเลยว่าร้านนี้เหมาะมาก เพราะเมนูอาหารมีหลาหลายสไตล์ เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมนูเด็ดของที่ร้านคือเคาหยก หมูสามชั้นตุ๋นจนเปื่อย ทานคู่ผักดองและหมั่นโถวคือเด็ดดวงมาก พิกัด : https://maps.app.goo.gl/aFQ6WqiubiZSNH16A ที่อยู่ : ICANSIAM ชั้น 6 โซนอลังการ ถนน เจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 22.00 น. #อาหารไทยฟิวชั่น #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 679 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มต้นกันที่ร้านแรก กับร้าน ทวีชัยโภชนา ร้านอาหารจีนสุดคลาสสิคที่เสิร์ฟความอร่อยมายาวนานกว่า 40 ปี ซึ่งสาขาแรกที่คนรักอาหารจีนแทบทุกคนต้องรู้จักก็คือ สาขาสวนมะลินั่นเองค่ะ ส่วนเรื่องเมนูอาหารของที่นี่ก็มีให้เลือกสั่งมากมาย ทั้งอาหารไทย-จีน และซีฟู้ดสดๆ ราคาก็สมเหตุสมผลกับคุณภาพและรสชาติ

    พิกัด : https://goo.gl/maps/ThaveechaiPochana
    ที่อยู่ : ซอยเฉลิมเขตร์ 1 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ (มีหลายสาขา)
    ร้านเปิดบริการ : 11.00 - 20.00 น.
    โทร : 0-2224-7575

    #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    เริ่มต้นกันที่ร้านแรก กับร้าน ทวีชัยโภชนา ร้านอาหารจีนสุดคลาสสิคที่เสิร์ฟความอร่อยมายาวนานกว่า 40 ปี ซึ่งสาขาแรกที่คนรักอาหารจีนแทบทุกคนต้องรู้จักก็คือ สาขาสวนมะลินั่นเองค่ะ ส่วนเรื่องเมนูอาหารของที่นี่ก็มีให้เลือกสั่งมากมาย ทั้งอาหารไทย-จีน และซีฟู้ดสดๆ ราคาก็สมเหตุสมผลกับคุณภาพและรสชาติ พิกัด : https://goo.gl/maps/ThaveechaiPochana ที่อยู่ : ซอยเฉลิมเขตร์ 1 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ (มีหลายสาขา) ร้านเปิดบริการ : 11.00 - 20.00 น. โทร : 0-2224-7575 #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 790 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=XmGbrDa1VeI
    บทสนทนาที่ร้านอาหาร
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาที่ร้านอาหาร
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #listeningtest #listening #conversations

    The conversations from the clip :
    Waiter: Good evening! Welcome to our restaurant. How many people are in your party?
    Customer: Good evening! It’s just two of us.
    Waiter: Great! Please follow me to your table. Here are your menus.
    Customer: Thank you! Can we start with some water, please?
    Waiter: Of course. Would you like sparkling or still water?
    Customer: Still water, please.
    Waiter: Sure. I’ll be right back with that. Have you decided on your order, or would you like a few more minutes?
    Customer: We’re ready to order. I’ll have the grilled salmon, and my friend will have the pasta primavera.
    Waiter: Excellent choice! Would you like any appetizers to start with?
    Customer: No, we’ll just have the main course, thank you.
    Waiter: No problem. And would you like anything to drink besides water?
    Customer: Yes, I’ll have a glass of white wine, and my friend will have a soda.
    Waiter: Perfect. I’ll bring your drinks and the food will be ready shortly.
    Customer: Thank you very much!
    Waiter: You’re welcome! If you need anything else, just let me know.

    พนักงานเสิร์ฟ: สวัสดีตอนเย็น! ยินดีต้อนรับสู่ร้านอาหารของเรา จำนวนคนในกลุ่มของคุณคือเท่าไหร่ครับ?
    ลูกค้า: สวัสดีตอนเย็น! มีแค่สองคนค่ะ
    พนักงานเสิร์ฟ: ดีมาก! กรุณาตามผมมาที่โต๊ะของคุณครับ นี่คือเมนูของคุณ
    ลูกค้า: ขอบคุณ! เราขอเริ่มด้วยน้ำสักหน่อยได้ไหมค่ะ?
    พนักงานเสิร์ฟ: แน่นอนครับ คุณต้องการน้ำแบบไหนครับ? น้ำเปล่าหรือว่าน้ำโซดา?
    ลูกค้า: น้ำเปล่าค่ะ
    พนักงานเสิร์ฟ: ได้เลยครับ ผมจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ คุณได้ตัดสินใจสั่งอาหารหรือยังครับ หรืออยากได้เวลาสักหน่อย?
    ลูกค้า: เราพร้อมที่จะสั่งแล้วค่ะ ฉันจะขอแซลมอนย่าง ส่วนเพื่อนของฉันจะขอพาสต้า primavera
    พนักงานเสิร์ฟ: ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม! คุณต้องการอาหารเรียกน้ำย่อยไหมครับ?
    ลูกค้า: ไม่ค่ะ เราจะสั่งแค่จานหลัก ขอบคุณค่ะ
    พนักงานเสิร์ฟ: ไม่มีปัญหาครับ แล้วคุณต้องการเครื่องดื่มอะไรเพิ่มเติมนอกจากน้ำไหมครับ?
    ลูกค้า: ใช่ค่ะ ฉันจะขอไวน์ขาวหนึ่งแก้ว ส่วนเพื่อนของฉันจะขอน้ำโซดา
    พนักงานเสิร์ฟ: เยี่ยมมากครับ ผมจะนำเครื่องดื่มมาให้ และอาหารจะพร้อมในไม่ช้า
    ลูกค้า: ขอบคุณมากค่ะ!
    พนักงานเสิร์ฟ: ยินดีครับ! ถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติม แจ้งได้เลยนะครับ

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Restaurant (เรส-เทอ-รองต์) n. แปลว่า ร้านอาหาร
    Party (พาร์-ที) n. แปลว่า กลุ่มคน, ผู้มารับประทานอาหาร
    Menu (เมนู) n. แปลว่า เมนูอาหาร
    Water (วอเตอร์) n. แปลว่า น้ำ
    Sparkling (สปาร์ค-คลิง) adj. แปลว่า น้ำอัดลม, น้ำมีฟอง
    Still (สติล) adj. แปลว่า น้ำไม่มีฟอง
    Order (ออร์เดอร์) n. แปลว่า การสั่งอาหาร
    Grilled (กริลด์) adj. แปลว่า ย่าง
    Salmon (แซล-มอน) n. แปลว่า ปลาแซลมอน
    Pasta (พาสต้า) n. แปลว่า พาสต้า
    Appetizers (แอพ-พิ-ไท-เซอร์ส) n. แปลว่า อาหารเรียกน้ำย่อย
    Main course (เมน คอร์ส) n. แปลว่า อาหารจานหลัก
    Drink (ดริงค์) n. แปลว่า เครื่องดื่ม
    Glass (กลาส) n. แปลว่า แก้ว
    Wine (ไวน์) n. แปลว่า ไวน์
    https://www.youtube.com/watch?v=XmGbrDa1VeI บทสนทนาที่ร้านอาหาร (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาที่ร้านอาหาร มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #listeningtest #listening #conversations The conversations from the clip : Waiter: Good evening! Welcome to our restaurant. How many people are in your party? Customer: Good evening! It’s just two of us. Waiter: Great! Please follow me to your table. Here are your menus. Customer: Thank you! Can we start with some water, please? Waiter: Of course. Would you like sparkling or still water? Customer: Still water, please. Waiter: Sure. I’ll be right back with that. Have you decided on your order, or would you like a few more minutes? Customer: We’re ready to order. I’ll have the grilled salmon, and my friend will have the pasta primavera. Waiter: Excellent choice! Would you like any appetizers to start with? Customer: No, we’ll just have the main course, thank you. Waiter: No problem. And would you like anything to drink besides water? Customer: Yes, I’ll have a glass of white wine, and my friend will have a soda. Waiter: Perfect. I’ll bring your drinks and the food will be ready shortly. Customer: Thank you very much! Waiter: You’re welcome! If you need anything else, just let me know. พนักงานเสิร์ฟ: สวัสดีตอนเย็น! ยินดีต้อนรับสู่ร้านอาหารของเรา จำนวนคนในกลุ่มของคุณคือเท่าไหร่ครับ? ลูกค้า: สวัสดีตอนเย็น! มีแค่สองคนค่ะ พนักงานเสิร์ฟ: ดีมาก! กรุณาตามผมมาที่โต๊ะของคุณครับ นี่คือเมนูของคุณ ลูกค้า: ขอบคุณ! เราขอเริ่มด้วยน้ำสักหน่อยได้ไหมค่ะ? พนักงานเสิร์ฟ: แน่นอนครับ คุณต้องการน้ำแบบไหนครับ? น้ำเปล่าหรือว่าน้ำโซดา? ลูกค้า: น้ำเปล่าค่ะ พนักงานเสิร์ฟ: ได้เลยครับ ผมจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ คุณได้ตัดสินใจสั่งอาหารหรือยังครับ หรืออยากได้เวลาสักหน่อย? ลูกค้า: เราพร้อมที่จะสั่งแล้วค่ะ ฉันจะขอแซลมอนย่าง ส่วนเพื่อนของฉันจะขอพาสต้า primavera พนักงานเสิร์ฟ: ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม! คุณต้องการอาหารเรียกน้ำย่อยไหมครับ? ลูกค้า: ไม่ค่ะ เราจะสั่งแค่จานหลัก ขอบคุณค่ะ พนักงานเสิร์ฟ: ไม่มีปัญหาครับ แล้วคุณต้องการเครื่องดื่มอะไรเพิ่มเติมนอกจากน้ำไหมครับ? ลูกค้า: ใช่ค่ะ ฉันจะขอไวน์ขาวหนึ่งแก้ว ส่วนเพื่อนของฉันจะขอน้ำโซดา พนักงานเสิร์ฟ: เยี่ยมมากครับ ผมจะนำเครื่องดื่มมาให้ และอาหารจะพร้อมในไม่ช้า ลูกค้า: ขอบคุณมากค่ะ! พนักงานเสิร์ฟ: ยินดีครับ! ถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติม แจ้งได้เลยนะครับ Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Restaurant (เรส-เทอ-รองต์) n. แปลว่า ร้านอาหาร Party (พาร์-ที) n. แปลว่า กลุ่มคน, ผู้มารับประทานอาหาร Menu (เมนู) n. แปลว่า เมนูอาหาร Water (วอเตอร์) n. แปลว่า น้ำ Sparkling (สปาร์ค-คลิง) adj. แปลว่า น้ำอัดลม, น้ำมีฟอง Still (สติล) adj. แปลว่า น้ำไม่มีฟอง Order (ออร์เดอร์) n. แปลว่า การสั่งอาหาร Grilled (กริลด์) adj. แปลว่า ย่าง Salmon (แซล-มอน) n. แปลว่า ปลาแซลมอน Pasta (พาสต้า) n. แปลว่า พาสต้า Appetizers (แอพ-พิ-ไท-เซอร์ส) n. แปลว่า อาหารเรียกน้ำย่อย Main course (เมน คอร์ส) n. แปลว่า อาหารจานหลัก Drink (ดริงค์) n. แปลว่า เครื่องดื่ม Glass (กลาส) n. แปลว่า แก้ว Wine (ไวน์) n. แปลว่า ไวน์
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 712 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌤 เรือสำราญที่ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและความบันเทิงระดับโลก สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน บนเรือสำราญ Genting Dreams รวมถึงร้านอาหารที่มีเมนูอาหารหลากหลายจากนานาชาติ ไปจนถึงห้องพักสุดทันสมัยที่สามารถชมวิวทะเลได้อย่างเต็มอิ่ม

    ดูเรือ Resort World Cruises ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/fefa27

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือResortWorldCruises #เรือGentingDreams #GentingDreams #ล่องเรือสำราญ #แพ็คเกจเรือสำราญ #สิงคโปร์ #มาเลเซีย #Singapore #Malaysia #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🌤 เรือสำราญที่ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและความบันเทิงระดับโลก สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน บนเรือสำราญ Genting Dreams รวมถึงร้านอาหารที่มีเมนูอาหารหลากหลายจากนานาชาติ ไปจนถึงห้องพักสุดทันสมัยที่สามารถชมวิวทะเลได้อย่างเต็มอิ่ม 🎪💨 ดูเรือ Resort World Cruises ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/fefa27 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือResortWorldCruises #เรือGentingDreams #GentingDreams #ล่องเรือสำราญ #แพ็คเกจเรือสำราญ #สิงคโปร์ #มาเลเซีย #Singapore #Malaysia #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า (Riverside Grilled Fish & Mala) ร้านอาหารจีน เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์ ปลาย่างกระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่ง มีจุดเด่นอยู่ที่ซอสสูตรลับเฉพาะของร้านที่ทุกคนต้องลอง รวมถึงเมนูเด็ด หม่าล่าผัด ที่ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบได้ตามสไตล์ที่อยากทาน ตลอดจนเมนูอาหารจีนรสชาติตำรับแท้สไตล์ฉงชิ่ง-เสฉวนอีกมากมาย ให้สายอาหารจีนได้มาลิ้มลองซ้ำๆ ได้แบบไม่มีเบื่อ

    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FJouypVMvvpLFToo7
    ที่อยู่ : ชั้น 6 centralwOrld โซน beacOn
    ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 21.00 น.

    #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า (Riverside Grilled Fish & Mala) ร้านอาหารจีน เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์ ปลาย่างกระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่ง มีจุดเด่นอยู่ที่ซอสสูตรลับเฉพาะของร้านที่ทุกคนต้องลอง รวมถึงเมนูเด็ด หม่าล่าผัด ที่ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบได้ตามสไตล์ที่อยากทาน ตลอดจนเมนูอาหารจีนรสชาติตำรับแท้สไตล์ฉงชิ่ง-เสฉวนอีกมากมาย ให้สายอาหารจีนได้มาลิ้มลองซ้ำๆ ได้แบบไม่มีเบื่อ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FJouypVMvvpLFToo7 ที่อยู่ : ชั้น 6 centralwOrld โซน beacOn ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 21.00 น. #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1306 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts