• งานเข้า…ผกก.เด็กโจ๊ก สน.บางซื่อพันคดี39 ล. รับแจ้งเท็จต้มเจ๊อ้อย

    คดีสแกมเมอร์ทิพย์ 39 ล้าน ส่อเค้าจะกลายเป็นคดีที่ใหญ่ เพราะนอกจากจะทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันหลอกต้มพี่อ้อย ยังโยงไปถึงตำรวจ เด็กโจ๊กอีกด้วย

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายตั้ม #สนบางซื่อ #ผกกเด็กโจ๊ก#สุรเชชษฐ์หักพาล
    งานเข้า…ผกก.เด็กโจ๊ก สน.บางซื่อพันคดี39 ล. รับแจ้งเท็จต้มเจ๊อ้อย คดีสแกมเมอร์ทิพย์ 39 ล้าน ส่อเค้าจะกลายเป็นคดีที่ใหญ่ เพราะนอกจากจะทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันหลอกต้มพี่อ้อย ยังโยงไปถึงตำรวจ เด็กโจ๊กอีกด้วย #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายตั้ม #สนบางซื่อ #ผกกเด็กโจ๊ก#สุรเชชษฐ์หักพาล
    Like
    Haha
    7
    0 Comments 0 Shares 313 Views 320 0 Reviews
  • 'กมธ.มั่นคง' กุมขมับ หน่วยงานรัฐตีกรรเชียง ไม่ให้ข้อมูลกรณีชั้น 14
    .
    การสืบสาวราวของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นที่พักพิงแทนเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร นั้น ปรากฎว่าคณะกรรมาธิการฯ ใกล้เคียงกับคำว่าคว้าน้ำเหลวเข้าไปทุกที
    .
    ทั้งนี้ เป็นเพราะไม่มีหน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล หรือแม้แต่บุคคลสำคัญอย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. รวมไปถึง พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯคาดว่าจะมาให้ข้อมูล สุดท้ายคดีพลิก เนื่องจากไม่ได้มาร่วมประชุมแต่อย่างใด
    .
    นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ยอมรับว่า ตลอดการทำหน้าที่ของประธาน กมธ. 53 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการน้อยที่สุด และหน่วยงานราชการไม่อยากจะตอบอะไร ทำให้ความสงสัยของสังคมกรณีชั้น 14 ก็คงจะต้องมีอยู่ต่อไป
    .
    "ความจำเป็นที่จะหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป ตนเชื่อว่า ศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทุกฝ่ายต้องมีส่วนช่วยให้กระบวนการยุติธรรมของเราได้รับความเชื่อมั่นอย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นายรังสิมันต์ ระบุ
    .
    ขณะที่ การประชุมคณะกรรมาธิการฯ มีเพียงการมาให้ข้อมูลของอดีตผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจอย่าง พล.ต.ต.สรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงษ์ อดีตรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แต่คณะกรรมาธิการฯก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เนื่องจากอดีตนายตำรวจรายนี้ แจ้งเพียงว่า ช่วงที่ทำหน้าที่เป็นรองนายแพทย์ใหญ่ ไม่ทราบข้อมูลผู้ป่วย เพราะกำลังทำเรื่องเออรี่รีไทร์ และพักร้อนในช่วงนั้น เมื่อมีหนังสือส่งตัวมาให้รักษา เราก็รักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะผู้ป่วยและความเห็นของแพทย์ที่ดูแลด้วย โดยส่วนตัวเชี่ยวชาญด้านผ่าตัดผ่านกล้อง ไม่ได้เป็นผู้ผ่าตัดนายทักษิณ ส่วนนายทักษิณจะผ่าตัดหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ เพราะตอนนั้นลาพักร้อน 3 สัปดาห์ ส่วนการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับภาวะของโรค ส่วนตัวไม่เคยไปรักษาชั้น 14 ไม่สามารถตอบได้ ขณะที่เรื่องการบันทึกภาพระหว่างรักษาตัว ก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่จากประสบการณ์ที่เคยรักษาผู้ต้องขังนั้น ไม่เคยเห็นต้องบันทึกภาพ
    ..............
    Sondhi X
    'กมธ.มั่นคง' กุมขมับ หน่วยงานรัฐตีกรรเชียง ไม่ให้ข้อมูลกรณีชั้น 14 . การสืบสาวราวของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นที่พักพิงแทนเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร นั้น ปรากฎว่าคณะกรรมาธิการฯ ใกล้เคียงกับคำว่าคว้าน้ำเหลวเข้าไปทุกที . ทั้งนี้ เป็นเพราะไม่มีหน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล หรือแม้แต่บุคคลสำคัญอย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. รวมไปถึง พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯคาดว่าจะมาให้ข้อมูล สุดท้ายคดีพลิก เนื่องจากไม่ได้มาร่วมประชุมแต่อย่างใด . นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ยอมรับว่า ตลอดการทำหน้าที่ของประธาน กมธ. 53 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการน้อยที่สุด และหน่วยงานราชการไม่อยากจะตอบอะไร ทำให้ความสงสัยของสังคมกรณีชั้น 14 ก็คงจะต้องมีอยู่ต่อไป . "ความจำเป็นที่จะหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป ตนเชื่อว่า ศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทุกฝ่ายต้องมีส่วนช่วยให้กระบวนการยุติธรรมของเราได้รับความเชื่อมั่นอย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นายรังสิมันต์ ระบุ . ขณะที่ การประชุมคณะกรรมาธิการฯ มีเพียงการมาให้ข้อมูลของอดีตผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจอย่าง พล.ต.ต.สรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงษ์ อดีตรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แต่คณะกรรมาธิการฯก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เนื่องจากอดีตนายตำรวจรายนี้ แจ้งเพียงว่า ช่วงที่ทำหน้าที่เป็นรองนายแพทย์ใหญ่ ไม่ทราบข้อมูลผู้ป่วย เพราะกำลังทำเรื่องเออรี่รีไทร์ และพักร้อนในช่วงนั้น เมื่อมีหนังสือส่งตัวมาให้รักษา เราก็รักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะผู้ป่วยและความเห็นของแพทย์ที่ดูแลด้วย โดยส่วนตัวเชี่ยวชาญด้านผ่าตัดผ่านกล้อง ไม่ได้เป็นผู้ผ่าตัดนายทักษิณ ส่วนนายทักษิณจะผ่าตัดหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ เพราะตอนนั้นลาพักร้อน 3 สัปดาห์ ส่วนการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับภาวะของโรค ส่วนตัวไม่เคยไปรักษาชั้น 14 ไม่สามารถตอบได้ ขณะที่เรื่องการบันทึกภาพระหว่างรักษาตัว ก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่จากประสบการณ์ที่เคยรักษาผู้ต้องขังนั้น ไม่เคยเห็นต้องบันทึกภาพ .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 339 Views 0 Reviews
  • เดชากลับลำแทบไม่ทัน ระบุคดีทนายตั้มรอดยาก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจ
    .
    ทนายเดชากลับลำไม่อุ้มษิทรา ชี้หลักฐานจากเพจ "ดาวแปดแฉก" สแกมเมอร์คือใคร อาจเป็นจุดจบทนายดัง น่าจะรอดยากปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจ ชาวเน็ตแห่แซวพลิกลิ้น 360 องศา ถามหันหัวเรือแล้วหรือ พบเมื่อคืนตำหนิน้องรักทะเลาะกับสื่อขาดสติทำให้เพิ่มศัตรู
    .
    วันนี้ (6 พ.ย.) เฟซบุ๊ก "ทนายเดชา" ของนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ และประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โพสต์ข้อความถึงคดีฉ้อโกงของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ระบุว่า "จุดจบทนายตั้มคดีฉ้อโกงลูกความ? ให้ไปดูที่ #เพจดาวแปดแฉก #อาจเป็นจุดจบทนายดัง" พร้อมระบุคอมเมนต์เพิ่มเติมว่า "พยานหลักฐานที่เพจดาวแปดแฉกนำมาเสนอ มีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจว่า สแกมเมอร์คือใคร คือผู้ต้องหาในคดีนี้หรือไม่ และที่สำคัญมีการนำแคชเชียร์เช็คไปเบิกเงิน หลังจากนั้นใครรับแคชเชียร์เช็คไป ทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำ แคชเชียร์เช็คไปเข้าบัญชีใคร ใครได้เงินจากการหลอกลวง อาจเป็นจุดจบทนายดัง พยานหลักฐานสำคัญกว่าน้ำลาย บิ๊กโจ๊ก (พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล) กล่าวไว้ว่ากรรมใครกรรมมัน" และว่า "พยานหลักฐานล่าสุดจนถึงวันนี้ทนายตั้มน่าจะรอดยากแล้วครับ"
    .
    เมื่อชาวเน็ตถามว่า "วันนี้อาจารย์เดชากินยาผิดเหรอครับ" นายเดชา กล่าวว่า "ข้อมูลเพิ่มเติม การวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องเปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ได้รับมา" เมื่อถามว่า คิดว่าทนายตั้มจะรอดไหม นายเดชา กล่าวว่า "จนถึงเวลานี้เท่าที่ได้ข้อมูลรอดยาก" นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นอื่นๆ เช่น "ถ้าหลักฐานไม่แน่นพอ คุณสนธิไม่ลงเล่นด้วยหรอก ระดับไหนแล้ว" "น่าจะมีคนพลิกลิ้น 360 องศาแล้วล่ะครับ" "โดนลุงสนธิพูดไปหน่อย หันหัวเรือเเล้วหรอครับ" "ตอนแรกเหมือนเข้าข้างทนายด้วยกันอยู่เลย" "อาจารย์จะมาทิ้งน้องรักแบบนี้ไม่ได้นะครับ" "อ้าวน้าเดย์ สละเรือแล้วเหรอครับ ไม่หนุกเลย" เป็นต้น
    .
    ต่อมานายเดชาโพสต์ภาพเซลฟี่ตัวเอง ภายในท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ พร้อมข้อความระบุว่า "รอขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองไปว่าความที่พิษณุโลกครับ คดีทนายดังปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจครับ ชีวิตมีอะไรที่น่าค้นหามากกว่านี้ เย็นนี้แเพื่อนัดเพื่อนดื่มไวน์ตามประสาคนขี้เมาครับ"
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เมื่อวานนี้ (5 พ.ย.) เวลาประมาณ 22.11 น. นายเดชาโพสต์ข้อความว่า "วันนี้ทนายตั้มพลาดเป็นอย่างมาก ทะเลาะกับสื่อขาดสติทำให้เพิ่มศัตรู" และคอมเมนต์ว่า "ศัตรูเก่าศัตรูใหม่รวมทั้งสื่อมวลชนสหบาทาเล่นงานทนายตั้มจนแทบไม่มีที่ยืนในสังคม" "ทนายตั้มเติบโตมาจากโซเชียลเติบโตมาจากการใช้ประโยชน์จากสื่อมวลชนแต่วันนี้กลับไปพูดในลักษณะดูถูกสื่อมวลชนโดยเฉพาะคุณพุทธอภิวันท์เป็นเรื่องที่ผิดพลาดเป็นอย่างมาก" และ "การไม่ควบคุมอารมณ์ขณะให้สัมภาษณ์เช่นกรณีไม่ให้ดาวแปดแฉกสัมภาษณ์ ส่วนตัวผมถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติสื่อมวลชน"
    .
    ข้อความดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่นายพุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 จัดรายการลุยชนข่าว ตอบโต้นายษิทราที่ไปกล่าวหาว่ามีนักข่าวไปคุกคามชีวิตถึงบ้าน และขอให้นายพุทธอภิวรรณเลิกคุกคามชีวิตส่วนตัวก่อน และยังกล่าวว่า ไม่ให้สัมภาษณ์กับเพจดาวแปดแฉก ระหว่างปรากฎตัวครั้งแรกหลังตกเป็นข่าวคดีฉ้อโกง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ที่กองปราบปราม โดยนายพุทธอภิวรรณยืนยันว่าตนและทีมข่าวช่อง 8 ไม่เคยคุกคาม อีกทั้งคดีหวย 30 ล้าน นายษิทราเคยแนะให้ถามคู่กรณี และฝ่ายคู่กรณีก็ไม่เคยพูดว่าสื่อคุกคาม
    ..............
    Sondhi X
    เดชากลับลำแทบไม่ทัน ระบุคดีทนายตั้มรอดยาก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจ . ทนายเดชากลับลำไม่อุ้มษิทรา ชี้หลักฐานจากเพจ "ดาวแปดแฉก" สแกมเมอร์คือใคร อาจเป็นจุดจบทนายดัง น่าจะรอดยากปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจ ชาวเน็ตแห่แซวพลิกลิ้น 360 องศา ถามหันหัวเรือแล้วหรือ พบเมื่อคืนตำหนิน้องรักทะเลาะกับสื่อขาดสติทำให้เพิ่มศัตรู . วันนี้ (6 พ.ย.) เฟซบุ๊ก "ทนายเดชา" ของนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ และประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โพสต์ข้อความถึงคดีฉ้อโกงของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ระบุว่า "จุดจบทนายตั้มคดีฉ้อโกงลูกความ? ให้ไปดูที่ #เพจดาวแปดแฉก #อาจเป็นจุดจบทนายดัง" พร้อมระบุคอมเมนต์เพิ่มเติมว่า "พยานหลักฐานที่เพจดาวแปดแฉกนำมาเสนอ มีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจว่า สแกมเมอร์คือใคร คือผู้ต้องหาในคดีนี้หรือไม่ และที่สำคัญมีการนำแคชเชียร์เช็คไปเบิกเงิน หลังจากนั้นใครรับแคชเชียร์เช็คไป ทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำ แคชเชียร์เช็คไปเข้าบัญชีใคร ใครได้เงินจากการหลอกลวง อาจเป็นจุดจบทนายดัง พยานหลักฐานสำคัญกว่าน้ำลาย บิ๊กโจ๊ก (พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล) กล่าวไว้ว่ากรรมใครกรรมมัน" และว่า "พยานหลักฐานล่าสุดจนถึงวันนี้ทนายตั้มน่าจะรอดยากแล้วครับ" . เมื่อชาวเน็ตถามว่า "วันนี้อาจารย์เดชากินยาผิดเหรอครับ" นายเดชา กล่าวว่า "ข้อมูลเพิ่มเติม การวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องเปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ได้รับมา" เมื่อถามว่า คิดว่าทนายตั้มจะรอดไหม นายเดชา กล่าวว่า "จนถึงเวลานี้เท่าที่ได้ข้อมูลรอดยาก" นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นอื่นๆ เช่น "ถ้าหลักฐานไม่แน่นพอ คุณสนธิไม่ลงเล่นด้วยหรอก ระดับไหนแล้ว" "น่าจะมีคนพลิกลิ้น 360 องศาแล้วล่ะครับ" "โดนลุงสนธิพูดไปหน่อย หันหัวเรือเเล้วหรอครับ" "ตอนแรกเหมือนเข้าข้างทนายด้วยกันอยู่เลย" "อาจารย์จะมาทิ้งน้องรักแบบนี้ไม่ได้นะครับ" "อ้าวน้าเดย์ สละเรือแล้วเหรอครับ ไม่หนุกเลย" เป็นต้น . ต่อมานายเดชาโพสต์ภาพเซลฟี่ตัวเอง ภายในท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ พร้อมข้อความระบุว่า "รอขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองไปว่าความที่พิษณุโลกครับ คดีทนายดังปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจครับ ชีวิตมีอะไรที่น่าค้นหามากกว่านี้ เย็นนี้แเพื่อนัดเพื่อนดื่มไวน์ตามประสาคนขี้เมาครับ" . รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เมื่อวานนี้ (5 พ.ย.) เวลาประมาณ 22.11 น. นายเดชาโพสต์ข้อความว่า "วันนี้ทนายตั้มพลาดเป็นอย่างมาก ทะเลาะกับสื่อขาดสติทำให้เพิ่มศัตรู" และคอมเมนต์ว่า "ศัตรูเก่าศัตรูใหม่รวมทั้งสื่อมวลชนสหบาทาเล่นงานทนายตั้มจนแทบไม่มีที่ยืนในสังคม" "ทนายตั้มเติบโตมาจากโซเชียลเติบโตมาจากการใช้ประโยชน์จากสื่อมวลชนแต่วันนี้กลับไปพูดในลักษณะดูถูกสื่อมวลชนโดยเฉพาะคุณพุทธอภิวันท์เป็นเรื่องที่ผิดพลาดเป็นอย่างมาก" และ "การไม่ควบคุมอารมณ์ขณะให้สัมภาษณ์เช่นกรณีไม่ให้ดาวแปดแฉกสัมภาษณ์ ส่วนตัวผมถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติสื่อมวลชน" . ข้อความดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่นายพุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 จัดรายการลุยชนข่าว ตอบโต้นายษิทราที่ไปกล่าวหาว่ามีนักข่าวไปคุกคามชีวิตถึงบ้าน และขอให้นายพุทธอภิวรรณเลิกคุกคามชีวิตส่วนตัวก่อน และยังกล่าวว่า ไม่ให้สัมภาษณ์กับเพจดาวแปดแฉก ระหว่างปรากฎตัวครั้งแรกหลังตกเป็นข่าวคดีฉ้อโกง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ที่กองปราบปราม โดยนายพุทธอภิวรรณยืนยันว่าตนและทีมข่าวช่อง 8 ไม่เคยคุกคาม อีกทั้งคดีหวย 30 ล้าน นายษิทราเคยแนะให้ถามคู่กรณี และฝ่ายคู่กรณีก็ไม่เคยพูดว่าสื่อคุกคาม .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Yay
    11
    1 Comments 0 Shares 751 Views 0 Reviews
  • คดีขโมยทรัพย์หักสวาทกับกลิ่นตุๆ 10 ปมพิรุธ ปกปิดทรัพย์สินเมียบิ๊กตำรวจ
    .
    22 ตุลาคมนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ คุณธนัฎฐา ยอดเยี่ยม หรือ หนิง อายุ 50 ปี อาชีพเป็นถึงอาจารย์พิเศษ อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นครปฐมไปออกรายการ ถกไม่เถียง มีคุณทิน โชคกมลกิจ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ผู้หญิงคนนี้มาแฉว่าเมียบิ๊กตำรวจมาเล่นชู้กับสามีตัวเองที่เป็นตำรวจเช่นกัน ในคอนโดฯ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ มิหนำซ้ำยังขโมยทรัพย์สินเป็นทองคำกว่า 120 บาท และเงินสดอีก 6 แสนบาท มูลค่ารวม 5 ล้านกว่าบาท
    .
    ผมอยากให้ท่านผู้ชมเห็นพิรุธของคนทั้งสามคนนี้ คือในเรื่องขโมยทรัพย์หักสวาทเรื่องนี้มันมีกลิ่นตุๆ ซุกซ่อนอยู่ในนี้หลายประเด็น
    .
    หนึ่ง เท่าที่ผมรู้ ดร.ศิรินัดดา ขจัดพาล ให้การกับตำรวจขณะมามอบตัวว่ามีการเช่าคอนโดฯ ห้องที่เกิดเหตุกับพ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามีคุณหนิงตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2567ต้นปี ตกลงเช่ากันไว้ 1 ปี ในราคาเดือนละ 10,000 บาท แต่ได้จ่ายค่าเช่าเป็นเงิน 120,000 บาท แสดงว่าการเช่าสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า (2568) เพราะฉะนั้นแล้วการเอากระสอบสีรุ้ง 5 ใบ ก็สามารถเก็บไว้ได้ตามอายุสัญญาเช่า ไม่จำเป็นต้องเอาออกไปแต่อย่างใด
    .
    สอง ตามคำให้การของคุณหนิง พบว่าคุณหนิงกับสามี พ.ต.อ.ภีมพจน์ มีการเข้าห้องที่เกิดเหตุตั้งหลายครั้ง ทำไม ดร.ศิรินัดดา ไม่มีการแจ้งความในข้อหาบุกรุกกับสองคนผัวเมีย
    .
    สาม ถ้ามีการเช่า ทำไมไม่เปลี่ยนกุญแจคีย์การ์ดล็อกได้อีกชั้น ถ้าไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายในห้องนี้
    .
    สี่ ในซอยสุขุมวิท 101 ซอยย่อย 47 ดร.ศิรินัดดา มีคอนโดฯอีก 3 ห้อง ซึ่งใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอยู่ซอย 21 ทำไมถึงไม่เอาเงินทอง 5 ถุงไปเก็บไว้ที่มีตำรวจตัวเอง
    .
    ห้า ข้อมูลเชิงลึก ดร.ศิรินัดดาหรือมาดามกุ๊กคบหารู้จักสามีคุณหนิงตั้งแต่เป็นสารวัตร รับราชการที่จังหวัดสงขลา จนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง
    .
    หก เรื่องซื้อขายทองตามปรากฏ post-it ในถุงสีรุ้ง ดันไปตรงกับข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ที่ พ.ต.ต.ชานนท์ รายงานการซื้อขายทอง ตรงกับหลักฐานที่ ปปง. มีอยู่ จึงเชื่อได้ว่าทองคำที่คุณหนิงอ้างว่าถูกมาดามกุ๊กขโมยไปนั้น ไม่น่าจะเป็นทองของคุณหนิง แต่เป็นทองของสุรเชชษฐ์ กับมาดามกุ๊กมากกว่า แต่ทำไมคุณหนิงแต่งเรื่องเพื่อแบล็กเมล ใช่หรือเปล่า
    .
    เจ็ด ตัวคุณหนิงเองก็เคยมีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดี ถูกฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์เกือบสิบคดี และเบื้องหลังคุณหนิงกับสามีก็ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จะเอาทองคำ 120 บาท กับเงิน 6 แสนบาท มาจากไหนครับและหลักฐานที่จะแสดงถึงว่าคุณซื้อทองยังไม่มีเลย
    .
    แปด ตรรกะง่ายๆ เมียที่ไหนจับได้ว่าผู้หญิงเอาผัวตัวไปทำชู้พร้อมหลักฐานชัดเจน แต่ไม่อาละวาด เคลียร์กันเงียบๆ แล้วแยกย้ายจากกัน ดูเป็นแม่พระเหลือเกิน ต่างกับตอนมาออกรายการโหนกระแส ธาตุแท้ยิ่งกว่าตลาด บุคลากรแบบนี้หรือที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจนำมาสั่งสอนนักเรียนนายร้อยตำรวจ ดีแล้วที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่ให้คุณทำการสอนต่อ
    .
    เก้า คุณหนิงกับสามีรับลูกกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยในรายการ “โหนกระแส” ทั้งๆ ที่มันเป็นความผิดร้ายแรงของระบบราชการที่มีการคบซ้อนเชิงชู้สาว ร้ายแรงถึงออกจากราชการ แต่ทั้งคู่ไม่ได้แคร์ เหมือนกับรู้ว่าจะได้ลาภก้อนใหญ่จนกระทั่งไม่สนชีวิตราชการ แม้กระทั่งเงินบำเหน็จบำนาญ
    .
    สิบ ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ มันขมวดถึงข้อพิรุธและความน่าสงสัยของการพยายามปกปิดทรัพย์สิน ร่ำรวยเกินกว่าเหตุของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และ ดร.ศิรินัดดา รวมถึงเส้นทางทางการเงินที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายมินนี่ หรือ BNK Master เรื่องคดีพวกนี้ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ผมก็ยังงงกับหน่วยงานที่ไปตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือ ปปง. ที่ยังเชื่องช้าเหมือนเด็กหัดเดิน ทำอะไร พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่ได้เต็มข้อเสียที ทั้งๆ ที่ตำรวจขนหลักฐานไปให้ไม่รู้เท่าไร พวกคุณรออะไรกันอยู่ หรือจะรอให้มันโยกเงินโยกทองหนีออกนอกประเทศไปก่อน
    .
    เรื่องคดีอาญาที่ ปปง. ดำเนินการ ไปถึงไหนแล้ว บทเรียนมีไม่ใช่หรือ ว่ามันโยกเงินแม้กระทั่งจากกรมธรรม์ประกันชีวิต มันก็ทำไปแล้ว ไม่เห็นหรือ นี่คือข้อสังเกตของผม ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่าเรื่องนี้มันทะแม่งๆ น่าสนใจมาก
    คดีขโมยทรัพย์หักสวาทกับกลิ่นตุๆ 10 ปมพิรุธ ปกปิดทรัพย์สินเมียบิ๊กตำรวจ . 22 ตุลาคมนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ คุณธนัฎฐา ยอดเยี่ยม หรือ หนิง อายุ 50 ปี อาชีพเป็นถึงอาจารย์พิเศษ อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นครปฐมไปออกรายการ ถกไม่เถียง มีคุณทิน โชคกมลกิจ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ผู้หญิงคนนี้มาแฉว่าเมียบิ๊กตำรวจมาเล่นชู้กับสามีตัวเองที่เป็นตำรวจเช่นกัน ในคอนโดฯ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ มิหนำซ้ำยังขโมยทรัพย์สินเป็นทองคำกว่า 120 บาท และเงินสดอีก 6 แสนบาท มูลค่ารวม 5 ล้านกว่าบาท . ผมอยากให้ท่านผู้ชมเห็นพิรุธของคนทั้งสามคนนี้ คือในเรื่องขโมยทรัพย์หักสวาทเรื่องนี้มันมีกลิ่นตุๆ ซุกซ่อนอยู่ในนี้หลายประเด็น . หนึ่ง เท่าที่ผมรู้ ดร.ศิรินัดดา ขจัดพาล ให้การกับตำรวจขณะมามอบตัวว่ามีการเช่าคอนโดฯ ห้องที่เกิดเหตุกับพ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามีคุณหนิงตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2567ต้นปี ตกลงเช่ากันไว้ 1 ปี ในราคาเดือนละ 10,000 บาท แต่ได้จ่ายค่าเช่าเป็นเงิน 120,000 บาท แสดงว่าการเช่าสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า (2568) เพราะฉะนั้นแล้วการเอากระสอบสีรุ้ง 5 ใบ ก็สามารถเก็บไว้ได้ตามอายุสัญญาเช่า ไม่จำเป็นต้องเอาออกไปแต่อย่างใด . สอง ตามคำให้การของคุณหนิง พบว่าคุณหนิงกับสามี พ.ต.อ.ภีมพจน์ มีการเข้าห้องที่เกิดเหตุตั้งหลายครั้ง ทำไม ดร.ศิรินัดดา ไม่มีการแจ้งความในข้อหาบุกรุกกับสองคนผัวเมีย . สาม ถ้ามีการเช่า ทำไมไม่เปลี่ยนกุญแจคีย์การ์ดล็อกได้อีกชั้น ถ้าไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายในห้องนี้ . สี่ ในซอยสุขุมวิท 101 ซอยย่อย 47 ดร.ศิรินัดดา มีคอนโดฯอีก 3 ห้อง ซึ่งใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอยู่ซอย 21 ทำไมถึงไม่เอาเงินทอง 5 ถุงไปเก็บไว้ที่มีตำรวจตัวเอง . ห้า ข้อมูลเชิงลึก ดร.ศิรินัดดาหรือมาดามกุ๊กคบหารู้จักสามีคุณหนิงตั้งแต่เป็นสารวัตร รับราชการที่จังหวัดสงขลา จนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง . หก เรื่องซื้อขายทองตามปรากฏ post-it ในถุงสีรุ้ง ดันไปตรงกับข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ที่ พ.ต.ต.ชานนท์ รายงานการซื้อขายทอง ตรงกับหลักฐานที่ ปปง. มีอยู่ จึงเชื่อได้ว่าทองคำที่คุณหนิงอ้างว่าถูกมาดามกุ๊กขโมยไปนั้น ไม่น่าจะเป็นทองของคุณหนิง แต่เป็นทองของสุรเชชษฐ์ กับมาดามกุ๊กมากกว่า แต่ทำไมคุณหนิงแต่งเรื่องเพื่อแบล็กเมล ใช่หรือเปล่า . เจ็ด ตัวคุณหนิงเองก็เคยมีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดี ถูกฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์เกือบสิบคดี และเบื้องหลังคุณหนิงกับสามีก็ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จะเอาทองคำ 120 บาท กับเงิน 6 แสนบาท มาจากไหนครับและหลักฐานที่จะแสดงถึงว่าคุณซื้อทองยังไม่มีเลย . แปด ตรรกะง่ายๆ เมียที่ไหนจับได้ว่าผู้หญิงเอาผัวตัวไปทำชู้พร้อมหลักฐานชัดเจน แต่ไม่อาละวาด เคลียร์กันเงียบๆ แล้วแยกย้ายจากกัน ดูเป็นแม่พระเหลือเกิน ต่างกับตอนมาออกรายการโหนกระแส ธาตุแท้ยิ่งกว่าตลาด บุคลากรแบบนี้หรือที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจนำมาสั่งสอนนักเรียนนายร้อยตำรวจ ดีแล้วที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่ให้คุณทำการสอนต่อ . เก้า คุณหนิงกับสามีรับลูกกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยในรายการ “โหนกระแส” ทั้งๆ ที่มันเป็นความผิดร้ายแรงของระบบราชการที่มีการคบซ้อนเชิงชู้สาว ร้ายแรงถึงออกจากราชการ แต่ทั้งคู่ไม่ได้แคร์ เหมือนกับรู้ว่าจะได้ลาภก้อนใหญ่จนกระทั่งไม่สนชีวิตราชการ แม้กระทั่งเงินบำเหน็จบำนาญ . สิบ ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ มันขมวดถึงข้อพิรุธและความน่าสงสัยของการพยายามปกปิดทรัพย์สิน ร่ำรวยเกินกว่าเหตุของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และ ดร.ศิรินัดดา รวมถึงเส้นทางทางการเงินที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายมินนี่ หรือ BNK Master เรื่องคดีพวกนี้ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ผมก็ยังงงกับหน่วยงานที่ไปตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือ ปปง. ที่ยังเชื่องช้าเหมือนเด็กหัดเดิน ทำอะไร พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่ได้เต็มข้อเสียที ทั้งๆ ที่ตำรวจขนหลักฐานไปให้ไม่รู้เท่าไร พวกคุณรออะไรกันอยู่ หรือจะรอให้มันโยกเงินโยกทองหนีออกนอกประเทศไปก่อน . เรื่องคดีอาญาที่ ปปง. ดำเนินการ ไปถึงไหนแล้ว บทเรียนมีไม่ใช่หรือ ว่ามันโยกเงินแม้กระทั่งจากกรมธรรม์ประกันชีวิต มันก็ทำไปแล้ว ไม่เห็นหรือ นี่คือข้อสังเกตของผม ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่าเรื่องนี้มันทะแม่งๆ น่าสนใจมาก
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 475 Views 0 Reviews
  • Sondhitalk EP 266 : “ษิทรา” คนอย่างคุณไม่ควรมีที่ยืนในสังคม 01-11-67 (Full)

    - “อ้อย จตุพร” นางฟ้าเดินดิน
    - ทนายตั้มอับแสง ศัตรูรอบทิศมิตรหนีหาย
    - DSI มีไว้ทำไม?
    - ขโมยทรัพย์ หักสวาท “โจ๊ก สุรเชชษฐ์”
    - “BRICS 2024”
    - เลือกตั้งสหรัฐฯ ปาหี่ประชาธิปไตย

    แจ้งเรื่องร้องเรียน “ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด”
    Inbox เพจFacebook : คุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ email : Sondhitalk@gmail.com
    Sondhitalk EP 266 : “ษิทรา” คนอย่างคุณไม่ควรมีที่ยืนในสังคม 01-11-67 (Full) - “อ้อย จตุพร” นางฟ้าเดินดิน - ทนายตั้มอับแสง ศัตรูรอบทิศมิตรหนีหาย - DSI มีไว้ทำไม? - ขโมยทรัพย์ หักสวาท “โจ๊ก สุรเชชษฐ์” - “BRICS 2024” - เลือกตั้งสหรัฐฯ ปาหี่ประชาธิปไตย แจ้งเรื่องร้องเรียน “ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด” Inbox เพจFacebook : คุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ email : Sondhitalk@gmail.com
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    104
    2 Comments 2 Shares 3354 Views 3276 11 Reviews
  • วงการกากีเม้าแซ่บ จากหักพาล เป็น หักพัง
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #สุรเชชษฐ์
    #บิ๊กโจ๊ก
    วงการกากีเม้าแซ่บ จากหักพาล เป็น หักพัง #คิงส์โพธิ์ดำ #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก
    0 Comments 0 Shares 92 Views 34 0 Reviews
  • 71 ล้านเสน่หาหรือฉ้อโกงและเสียภาษีหรือยัง?
    .
    มหาเศรษฐีคนที่คุณตั้มอ้างว่าเคยจ้างทนายตั้มเดือนละสามแสนอยู่ปีกว่า ให้เงินทนายตั้มมาโดยเสน่หา 2 ล้านยูโร ประมาณ 71 ล้านกว่าบาท ออกค่าใช้จ่ายให้ทนายตั้มและครอบครัวนั่งเครื่องบินบิซเนสคลาส เฟิร์สตคลาส ออกค่าโรงแรมให้ไปเที่ยวยุโรปทั้งครอบครัวอยู่เป็นประจำแทบจะทุกเดือน สัญญาว่าจะหาบ้านให้ พร้อมส่งเสียลูกของทนายตั้มไปเรียนต่อยุโรป หรืออื่นๆ อีกมากมายที่ทนายตั้มอ้าง
    .
    มหาเศรษฐีคนนี้ชื่อ คุณจตุพร อุบลเลิศ ทนายตั้มเรียกว่า"พี่อ้อย" เธอเป็นคนมีตัวตนจริงๆ เป็นคนที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ก่อนที่เมื่อเกือบสี่สิบปีที่แล้วจะโยกย้ายตามสามีไปอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และย้ายต่อไปอยู่เมืองสตราส์บูร์ก ประเทศฝรั่งเศส
    .
    ในบันทึกคำให้การของผู้กล่าวหา หรือใบแจ้งความ ของคุณอ้อย จตุพร ได้มอบอำนาจให้ทนายไปแจ้งความกล่าวหานายษิทรา เบี้ยบังเกิดฉ้อโกง ต่อสถานีตำรวจภูธรปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 หรือเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
    .
    จากคำให้การคุณอ้อย ได้ว่าจ้างบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม จำกัด ของทนายตั้ม เป็นที่ปรึกษากฎหมาย ดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทำสัญญาตกลงว่าจะจ่ายเงินเดือน เดือนละ 3 แสนบาท ซึ่งไม่ได้จ่ายผ่านลอว์ เฟิร์ม แต่จ่ายผ่านบุคคล ต่อมาปลายปี 2565 ต่อต้นปี 2566 นายษิทรา บอกผู้เสียหายว่าได้รับโควตาสลากกินแบ่งฯ มาจากผู้ใหญ่ที่นับถือให้มาจำหน่ายทางออนไลน์ หลังจากที่พี่อ้อย คุณจตุพร ได้ปรึกษาครอบครัว เห็นว่าโครงการดังกล่าวน่าจะไปได้ ขณะเดียวกัน ก็เป็นความตั้งใจของคุณจตุพร (พี่อ้อย) ที่จะลงทุนอะไรบางอย่างไว้ให้กับลูกชาย ที่ได้ย้ายมาอยู่ไทยแล้ว ก็เลยตกลงทำสัญญาลงนามที่จะทำแพลตฟอร์ม เขียนโปรแกรมหวยออนไลน์
    .
    วันที่16กุมภาพันธ์ 2566ทนายตั้มบอกผู้เสียหายให้โอนเงินมาที่เขาก่อน เพื่อจะนำเงินไปชำระให้คู่สัญญาด้วยตัวเอง โดยทนายตั้มได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาโลตัสปากช่องใช้ชื่อ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เพื่อรับโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย
    .
    เงิน 2 ล้านยูโรที่คุณอ้างว่า ลูกความคุณเป็นมหาเศรษฐี เขาให้คุณโดยเสน่หา ผมมีคำตอบให้คุณชัดๆมันเป็นใบโอนเงินใบนี้ ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาปากช่อง รายละเอียดจำนวนเงิน 2 ล้านยูโร เท่ากับ 71,067,764.70 (เจ็ดสิบเอ็ดล้านหกหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยหกสิบสี่บาทเจ็ดสิบสตางค์) ชัดไหมครับ
    .
    ประเด็นที่น่าสนใจคือ แล้วมหาเศรษฐีที่ทนายตั้มอ้างว่าเป็นลูกความของตัวเอง เป็นคนไทยอยู่ในต่างประเทศนั้น เขาให้เงินคุณมา 2 ล้านยูโร หรือแปลงเป็นเงินไทยก็ 71 ล้านบาท โดยเสน่หาจริงหรือไม่ ? ถามใคร ไม่มีใครเชื่อคำพูดของคุณษิทรา แม้แต่หนุ่ม กรรชัย เองก็ไม่เชื่อ
    .
    คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ถ้าคุณฟังอยู่ มีประเด็นให้คุณตอบโต้ผมได้ ถ้าผมพูดผิด เงิน 70 ล้าน ที่คุณได้มา คุณได้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ? คุณแจ้งสรรพากรไหม ? เพราะมีหลักฐานว่าคุณตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด รับเงินมาแล้ว 71 ล้าน อ้างว่าได้มาด้วยเสน่หา เพราะฉะนั้นต้องจ่ายภาษี คุณไม่ได้แจ้ง ท่านอธิบดีกรมสรรพากรไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลยหรือ รอให้ผมทำหนังสือร้องเรียนไปที่กรมสรรพากรก่อน และเอาหลักฐานที่คุณพูดมา นี่คือการทำผิดกฎหมายของคุณอีกข้อหนึ่งที่จะแขวนคอคุณต่อไป
    .
    คุณหนีภาษี แล้วยังมาลอยหน้าว่าคุณเป็นทนายเพื่อประชาชน ถ้าคุณบอกว่าคุณเสียภาษีเงิน 70 ล้าน เอาหลักฐานมาดูหน่อยซิ ผมจะกราบตีนคุณเลย คุณไม่ได้เสียภาษีหรอก นี่คือคำโกหก เพราะคุณคุยโวตลอดเวลา
    .
    ที่ผมเล่าให้ฟังมาตลอดนี่ไม่มีตรงไหนเลยที่เป็นเสน่หา เป็นเรื่องที่คุณไปเอาเงินเขามาเพื่อมาลงทุน ที่ผ่านมาเขาเมตตาคุณมากนะ ให้เงินคุณไปมากมาย ค่าทนายเดือนละสามแสนบาท เป็นปี ซึ่งคุณไม่ได้เอาเข้าบริษัท ส่งเข้าตัวบุคคล รวมกันแล้วหลายล้านบาท คุณยังมาเอาเงินเขาไป โดยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างไร
    .
    และมีอีกเรื่องหนึ่ง คุณตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และท่านผู้ชมครับ มันมีเรื่องเบนซ์ G Class รุ่น G400 ราคาคันละประมาณ 9 ล้านบาท ให้คุณหารถคันนี้ให้ คุณอ้อย จะได้ใช้งานสะดวกเอาไว้ใช้เมื่อมากรุงเทพ แต่ว่าคุณก็ไปตุกติกกับเขาสารพัด
    .
    คุณษิทรา คุณยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าบ้านที่คุณซื้อไป คุณใช้แคชเชียร์เช็คมูลค่า 46 ล้านซื้อใช่ไหม แล้วคุณใส่ชื่อเจ้าของบ้านคือภรรยาคุณ สรรพากรหรือชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายเขาสงสัยว่าภรรยาคุณทำงานอะไรถึงมีเงินเป็นสิบๆ ล้าน มาซื้อบ้านหลังนี้เป็นเงินสด
    .
    วันนี้คุณอ้างคุณอ้อย จตุพร ไม่ได้แล้ว คำถามมีอยู่ชัดเจน ภรรยาคุณเอาเงินที่ไหนมาซื้อ เพราะว่าคุณใส่ชื่อบ้านหลังนั้นเป็นชื่อภรรยาคุณ นี่คุณยังไม่รู้หรือว่าคุณกำลังเดินลงหลุมไปทีละนิดๆ เหมือนกับลูกพี่คุณ สุรเชชษฐ์ หักพาล

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/5VdnTLYvmR1Em1mH/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    71 ล้านเสน่หาหรือฉ้อโกงและเสียภาษีหรือยัง? . มหาเศรษฐีคนที่คุณตั้มอ้างว่าเคยจ้างทนายตั้มเดือนละสามแสนอยู่ปีกว่า ให้เงินทนายตั้มมาโดยเสน่หา 2 ล้านยูโร ประมาณ 71 ล้านกว่าบาท ออกค่าใช้จ่ายให้ทนายตั้มและครอบครัวนั่งเครื่องบินบิซเนสคลาส เฟิร์สตคลาส ออกค่าโรงแรมให้ไปเที่ยวยุโรปทั้งครอบครัวอยู่เป็นประจำแทบจะทุกเดือน สัญญาว่าจะหาบ้านให้ พร้อมส่งเสียลูกของทนายตั้มไปเรียนต่อยุโรป หรืออื่นๆ อีกมากมายที่ทนายตั้มอ้าง . มหาเศรษฐีคนนี้ชื่อ คุณจตุพร อุบลเลิศ ทนายตั้มเรียกว่า"พี่อ้อย" เธอเป็นคนมีตัวตนจริงๆ เป็นคนที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ก่อนที่เมื่อเกือบสี่สิบปีที่แล้วจะโยกย้ายตามสามีไปอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และย้ายต่อไปอยู่เมืองสตราส์บูร์ก ประเทศฝรั่งเศส . ในบันทึกคำให้การของผู้กล่าวหา หรือใบแจ้งความ ของคุณอ้อย จตุพร ได้มอบอำนาจให้ทนายไปแจ้งความกล่าวหานายษิทรา เบี้ยบังเกิดฉ้อโกง ต่อสถานีตำรวจภูธรปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 หรือเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา . จากคำให้การคุณอ้อย ได้ว่าจ้างบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม จำกัด ของทนายตั้ม เป็นที่ปรึกษากฎหมาย ดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทำสัญญาตกลงว่าจะจ่ายเงินเดือน เดือนละ 3 แสนบาท ซึ่งไม่ได้จ่ายผ่านลอว์ เฟิร์ม แต่จ่ายผ่านบุคคล ต่อมาปลายปี 2565 ต่อต้นปี 2566 นายษิทรา บอกผู้เสียหายว่าได้รับโควตาสลากกินแบ่งฯ มาจากผู้ใหญ่ที่นับถือให้มาจำหน่ายทางออนไลน์ หลังจากที่พี่อ้อย คุณจตุพร ได้ปรึกษาครอบครัว เห็นว่าโครงการดังกล่าวน่าจะไปได้ ขณะเดียวกัน ก็เป็นความตั้งใจของคุณจตุพร (พี่อ้อย) ที่จะลงทุนอะไรบางอย่างไว้ให้กับลูกชาย ที่ได้ย้ายมาอยู่ไทยแล้ว ก็เลยตกลงทำสัญญาลงนามที่จะทำแพลตฟอร์ม เขียนโปรแกรมหวยออนไลน์ . วันที่16กุมภาพันธ์ 2566ทนายตั้มบอกผู้เสียหายให้โอนเงินมาที่เขาก่อน เพื่อจะนำเงินไปชำระให้คู่สัญญาด้วยตัวเอง โดยทนายตั้มได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาโลตัสปากช่องใช้ชื่อ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เพื่อรับโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย . เงิน 2 ล้านยูโรที่คุณอ้างว่า ลูกความคุณเป็นมหาเศรษฐี เขาให้คุณโดยเสน่หา ผมมีคำตอบให้คุณชัดๆมันเป็นใบโอนเงินใบนี้ ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาปากช่อง รายละเอียดจำนวนเงิน 2 ล้านยูโร เท่ากับ 71,067,764.70 (เจ็ดสิบเอ็ดล้านหกหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยหกสิบสี่บาทเจ็ดสิบสตางค์) ชัดไหมครับ . ประเด็นที่น่าสนใจคือ แล้วมหาเศรษฐีที่ทนายตั้มอ้างว่าเป็นลูกความของตัวเอง เป็นคนไทยอยู่ในต่างประเทศนั้น เขาให้เงินคุณมา 2 ล้านยูโร หรือแปลงเป็นเงินไทยก็ 71 ล้านบาท โดยเสน่หาจริงหรือไม่ ? ถามใคร ไม่มีใครเชื่อคำพูดของคุณษิทรา แม้แต่หนุ่ม กรรชัย เองก็ไม่เชื่อ . คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ถ้าคุณฟังอยู่ มีประเด็นให้คุณตอบโต้ผมได้ ถ้าผมพูดผิด เงิน 70 ล้าน ที่คุณได้มา คุณได้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ? คุณแจ้งสรรพากรไหม ? เพราะมีหลักฐานว่าคุณตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด รับเงินมาแล้ว 71 ล้าน อ้างว่าได้มาด้วยเสน่หา เพราะฉะนั้นต้องจ่ายภาษี คุณไม่ได้แจ้ง ท่านอธิบดีกรมสรรพากรไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลยหรือ รอให้ผมทำหนังสือร้องเรียนไปที่กรมสรรพากรก่อน และเอาหลักฐานที่คุณพูดมา นี่คือการทำผิดกฎหมายของคุณอีกข้อหนึ่งที่จะแขวนคอคุณต่อไป . คุณหนีภาษี แล้วยังมาลอยหน้าว่าคุณเป็นทนายเพื่อประชาชน ถ้าคุณบอกว่าคุณเสียภาษีเงิน 70 ล้าน เอาหลักฐานมาดูหน่อยซิ ผมจะกราบตีนคุณเลย คุณไม่ได้เสียภาษีหรอก นี่คือคำโกหก เพราะคุณคุยโวตลอดเวลา . ที่ผมเล่าให้ฟังมาตลอดนี่ไม่มีตรงไหนเลยที่เป็นเสน่หา เป็นเรื่องที่คุณไปเอาเงินเขามาเพื่อมาลงทุน ที่ผ่านมาเขาเมตตาคุณมากนะ ให้เงินคุณไปมากมาย ค่าทนายเดือนละสามแสนบาท เป็นปี ซึ่งคุณไม่ได้เอาเข้าบริษัท ส่งเข้าตัวบุคคล รวมกันแล้วหลายล้านบาท คุณยังมาเอาเงินเขาไป โดยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างไร . และมีอีกเรื่องหนึ่ง คุณตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และท่านผู้ชมครับ มันมีเรื่องเบนซ์ G Class รุ่น G400 ราคาคันละประมาณ 9 ล้านบาท ให้คุณหารถคันนี้ให้ คุณอ้อย จะได้ใช้งานสะดวกเอาไว้ใช้เมื่อมากรุงเทพ แต่ว่าคุณก็ไปตุกติกกับเขาสารพัด . คุณษิทรา คุณยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าบ้านที่คุณซื้อไป คุณใช้แคชเชียร์เช็คมูลค่า 46 ล้านซื้อใช่ไหม แล้วคุณใส่ชื่อเจ้าของบ้านคือภรรยาคุณ สรรพากรหรือชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายเขาสงสัยว่าภรรยาคุณทำงานอะไรถึงมีเงินเป็นสิบๆ ล้าน มาซื้อบ้านหลังนี้เป็นเงินสด . วันนี้คุณอ้างคุณอ้อย จตุพร ไม่ได้แล้ว คำถามมีอยู่ชัดเจน ภรรยาคุณเอาเงินที่ไหนมาซื้อ เพราะว่าคุณใส่ชื่อบ้านหลังนั้นเป็นชื่อภรรยาคุณ นี่คุณยังไม่รู้หรือว่าคุณกำลังเดินลงหลุมไปทีละนิดๆ เหมือนกับลูกพี่คุณ สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่มา https://www.facebook.com/share/p/5VdnTLYvmR1Em1mH/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    6
    1 Comments 1 Shares 542 Views 0 Reviews
  • 71 ล้าน เสน่หาหรือฉ้อโกง และเสียภาษีหรือยัง?
    .
    มหาเศรษฐีคนที่คุณตั้มอ้างว่าเคยจ้างทนายตั้มเดือนละสามแสนอยู่ปีกว่า ให้เงินทนายตั้มมาโดยเสน่หา 2 ล้านยูโร ประมาณ 71 ล้านกว่าบาท ออกค่าใช้จ่ายให้ทนายตั้มและครอบครัวนั่งเครื่องบินบิซเนสคลาส เฟิร์สตคลาส ออกค่าโรงแรมให้ไปเที่ยวยุโรปทั้งครอบครัวอยู่เป็นประจำแทบจะทุกเดือน สัญญาว่าจะหาบ้านให้ พร้อมส่งเสียลูกของทนายตั้มไปเรียนต่อยุโรป หรืออื่นๆ อีกมากมายที่ทนายตั้มอ้าง
    .
    มหาเศรษฐีคนนี้ชื่อ คุณจตุพร อุบลเลิศ ทนายตั้มเรียกว่า"พี่อ้อย" เธอเป็นคนมีตัวตนจริงๆ เป็นคนที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ก่อนที่เมื่อเกือบสี่สิบปีที่แล้วจะโยกย้ายตามสามีไปอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และย้ายต่อไปอยู่เมืองสตราส์บูร์ก ประเทศฝรั่งเศส
    .
    ในบันทึกคำให้การของผู้กล่าวหา หรือใบแจ้งความ ของคุณอ้อย จตุพร ได้มอบอำนาจให้ทนายไปแจ้งความกล่าวหานายษิทรา เบี้ยบังเกิดฉ้อโกง ต่อสถานีตำรวจภูธรปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 หรือเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
    .
    จากคำให้การคุณอ้อย ได้ว่าจ้างบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม จำกัด ของทนายตั้ม เป็นที่ปรึกษากฎหมาย ดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทำสัญญาตกลงว่าจะจ่ายเงินเดือน เดือนละ 3 แสนบาท ซึ่งไม่ได้จ่ายผ่านลอว์ เฟิร์ม แต่จ่ายผ่านบุคคล ต่อมาปลายปี 2565 ต่อต้นปี 2566 นายษิทรา บอกผู้เสียหายว่าได้รับโควตาสลากกินแบ่งฯ มาจากผู้ใหญ่ที่นับถือให้มาจำหน่ายทางออนไลน์ หลังจากที่พี่อ้อย คุณจตุพร ได้ปรึกษาครอบครัว เห็นว่าโครงการดังกล่าวน่าจะไปได้ ขณะเดียวกัน ก็เป็นความตั้งใจของคุณจตุพร (พี่อ้อย) ที่จะลงทุนอะไรบางอย่างไว้ให้กับลูกชาย ที่ได้ย้ายมาอยู่ไทยแล้ว ก็เลยตกลงทำสัญญาลงนามที่จะทำแพลตฟอร์ม เขียนโปรแกรมหวยออนไลน์
    .
    วันที่16กุมภาพันธ์ 2566ทนายตั้มบอกผู้เสียหายให้โอนเงินมาที่เขาก่อน เพื่อจะนำเงินไปชำระให้คู่สัญญาด้วยตัวเอง โดยทนายตั้มได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาโลตัสปากช่องใช้ชื่อ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เพื่อรับโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย
    .
    เงิน 2 ล้านยูโรที่คุณอ้างว่า ลูกความคุณเป็นมหาเศรษฐี เขาให้คุณโดยเสน่หา ผมมีคำตอบให้คุณชัดๆมันเป็นใบโอนเงินใบนี้ ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาปากช่อง รายละเอียดจำนวนเงิน 2 ล้านยูโร เท่ากับ 71,067,764.70 (เจ็ดสิบเอ็ดล้านหกหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยหกสิบสี่บาทเจ็ดสิบสตางค์) ชัดไหมครับ
    .
    ประเด็นที่น่าสนใจคือ แล้วมหาเศรษฐีที่ทนายตั้มอ้างว่าเป็นลูกความของตัวเอง เป็นคนไทยอยู่ในต่างประเทศนั้น เขาให้เงินคุณมา 2 ล้านยูโร หรือแปลงเป็นเงินไทยก็ 71 ล้านบาท โดยเสน่หาจริงหรือไม่ ? ถามใคร ไม่มีใครเชื่อคำพูดของคุณษิทรา แม้แต่หนุ่ม กรรชัย เองก็ไม่เชื่อ
    .
    คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ถ้าคุณฟังอยู่ มีประเด็นให้คุณตอบโต้ผมได้ ถ้าผมพูดผิด เงิน 70 ล้าน ที่คุณได้มา คุณได้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ? คุณแจ้งสรรพากรไหม ? เพราะมีหลักฐานว่าคุณตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด รับเงินมาแล้ว 71 ล้าน อ้างว่าได้มาด้วยเสน่หา เพราะฉะนั้นต้องจ่ายภาษี คุณไม่ได้แจ้ง ท่านอธิบดีกรมสรรพากรไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลยหรือ รอให้ผมทำหนังสือร้องเรียนไปที่กรมสรรพากรก่อน และเอาหลักฐานที่คุณพูดมา นี่คือการทำผิดกฎหมายของคุณอีกข้อหนึ่งที่จะแขวนคอคุณต่อไป
    .
    คุณหนีภาษี แล้วยังมาลอยหน้าว่าคุณเป็นทนายเพื่อประชาชน ถ้าคุณบอกว่าคุณเสียภาษีเงิน 70 ล้าน เอาหลักฐานมาดูหน่อยซิ ผมจะกราบตีนคุณเลย คุณไม่ได้เสียภาษีหรอก นี่คือคำโกหก เพราะคุณคุยโวตลอดเวลา
    .
    ที่ผมเล่าให้ฟังมาตลอดนี่ไม่มีตรงไหนเลยที่เป็นเสน่หา เป็นเรื่องที่คุณไปเอาเงินเขามาเพื่อมาลงทุน ที่ผ่านมาเขาเมตตาคุณมากนะ ให้เงินคุณไปมากมาย ค่าทนายเดือนละสามแสนบาท เป็นปี ซึ่งคุณไม่ได้เอาเข้าบริษัท ส่งเข้าตัวบุคคล รวมกันแล้วหลายล้านบาท คุณยังมาเอาเงินเขาไป โดยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างไร
    .
    และมีอีกเรื่องหนึ่ง คุณตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และท่านผู้ชมครับ มันมีเรื่องเบนซ์ G Class รุ่น G400 ราคาคันละประมาณ 9 ล้านบาท ให้คุณหารถคันนี้ให้ คุณอ้อย จะได้ใช้งานสะดวกเอาไว้ใช้เมื่อมากรุงเทพ แต่ว่าคุณก็ไปตุกติกกับเขาสารพัด
    .
    คุณษิทรา คุณยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าบ้านที่คุณซื้อไป คุณใช้แคชเชียร์เช็คมูลค่า 46 ล้านซื้อใช่ไหม แล้วคุณใส่ชื่อเจ้าของบ้านคือภรรยาคุณ สรรพากรหรือชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายเขาสงสัยว่าภรรยาคุณทำงานอะไรถึงมีเงินเป็นสิบๆ ล้าน มาซื้อบ้านหลังนี้เป็นเงินสด
    .
    วันนี้คุณอ้างคุณอ้อย จตุพร ไม่ได้แล้ว คำถามมีอยู่ชัดเจน ภรรยาคุณเอาเงินที่ไหนมาซื้อ เพราะว่าคุณใส่ชื่อบ้านหลังนั้นเป็นชื่อภรรยาคุณ นี่คุณยังไม่รู้หรือว่าคุณกำลังเดินลงหลุมไปทีละนิดๆ เหมือนกับลูกพี่คุณ สุรเชชษฐ์ หักพาล
    71 ล้าน เสน่หาหรือฉ้อโกง และเสียภาษีหรือยัง? . มหาเศรษฐีคนที่คุณตั้มอ้างว่าเคยจ้างทนายตั้มเดือนละสามแสนอยู่ปีกว่า ให้เงินทนายตั้มมาโดยเสน่หา 2 ล้านยูโร ประมาณ 71 ล้านกว่าบาท ออกค่าใช้จ่ายให้ทนายตั้มและครอบครัวนั่งเครื่องบินบิซเนสคลาส เฟิร์สตคลาส ออกค่าโรงแรมให้ไปเที่ยวยุโรปทั้งครอบครัวอยู่เป็นประจำแทบจะทุกเดือน สัญญาว่าจะหาบ้านให้ พร้อมส่งเสียลูกของทนายตั้มไปเรียนต่อยุโรป หรืออื่นๆ อีกมากมายที่ทนายตั้มอ้าง . มหาเศรษฐีคนนี้ชื่อ คุณจตุพร อุบลเลิศ ทนายตั้มเรียกว่า"พี่อ้อย" เธอเป็นคนมีตัวตนจริงๆ เป็นคนที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ก่อนที่เมื่อเกือบสี่สิบปีที่แล้วจะโยกย้ายตามสามีไปอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และย้ายต่อไปอยู่เมืองสตราส์บูร์ก ประเทศฝรั่งเศส . ในบันทึกคำให้การของผู้กล่าวหา หรือใบแจ้งความ ของคุณอ้อย จตุพร ได้มอบอำนาจให้ทนายไปแจ้งความกล่าวหานายษิทรา เบี้ยบังเกิดฉ้อโกง ต่อสถานีตำรวจภูธรปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 หรือเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา . จากคำให้การคุณอ้อย ได้ว่าจ้างบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม จำกัด ของทนายตั้ม เป็นที่ปรึกษากฎหมาย ดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทำสัญญาตกลงว่าจะจ่ายเงินเดือน เดือนละ 3 แสนบาท ซึ่งไม่ได้จ่ายผ่านลอว์ เฟิร์ม แต่จ่ายผ่านบุคคล ต่อมาปลายปี 2565 ต่อต้นปี 2566 นายษิทรา บอกผู้เสียหายว่าได้รับโควตาสลากกินแบ่งฯ มาจากผู้ใหญ่ที่นับถือให้มาจำหน่ายทางออนไลน์ หลังจากที่พี่อ้อย คุณจตุพร ได้ปรึกษาครอบครัว เห็นว่าโครงการดังกล่าวน่าจะไปได้ ขณะเดียวกัน ก็เป็นความตั้งใจของคุณจตุพร (พี่อ้อย) ที่จะลงทุนอะไรบางอย่างไว้ให้กับลูกชาย ที่ได้ย้ายมาอยู่ไทยแล้ว ก็เลยตกลงทำสัญญาลงนามที่จะทำแพลตฟอร์ม เขียนโปรแกรมหวยออนไลน์ . วันที่16กุมภาพันธ์ 2566ทนายตั้มบอกผู้เสียหายให้โอนเงินมาที่เขาก่อน เพื่อจะนำเงินไปชำระให้คู่สัญญาด้วยตัวเอง โดยทนายตั้มได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาโลตัสปากช่องใช้ชื่อ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เพื่อรับโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย . เงิน 2 ล้านยูโรที่คุณอ้างว่า ลูกความคุณเป็นมหาเศรษฐี เขาให้คุณโดยเสน่หา ผมมีคำตอบให้คุณชัดๆมันเป็นใบโอนเงินใบนี้ ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาปากช่อง รายละเอียดจำนวนเงิน 2 ล้านยูโร เท่ากับ 71,067,764.70 (เจ็ดสิบเอ็ดล้านหกหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยหกสิบสี่บาทเจ็ดสิบสตางค์) ชัดไหมครับ . ประเด็นที่น่าสนใจคือ แล้วมหาเศรษฐีที่ทนายตั้มอ้างว่าเป็นลูกความของตัวเอง เป็นคนไทยอยู่ในต่างประเทศนั้น เขาให้เงินคุณมา 2 ล้านยูโร หรือแปลงเป็นเงินไทยก็ 71 ล้านบาท โดยเสน่หาจริงหรือไม่ ? ถามใคร ไม่มีใครเชื่อคำพูดของคุณษิทรา แม้แต่หนุ่ม กรรชัย เองก็ไม่เชื่อ . คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ถ้าคุณฟังอยู่ มีประเด็นให้คุณตอบโต้ผมได้ ถ้าผมพูดผิด เงิน 70 ล้าน ที่คุณได้มา คุณได้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ? คุณแจ้งสรรพากรไหม ? เพราะมีหลักฐานว่าคุณตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด รับเงินมาแล้ว 71 ล้าน อ้างว่าได้มาด้วยเสน่หา เพราะฉะนั้นต้องจ่ายภาษี คุณไม่ได้แจ้ง ท่านอธิบดีกรมสรรพากรไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลยหรือ รอให้ผมทำหนังสือร้องเรียนไปที่กรมสรรพากรก่อน และเอาหลักฐานที่คุณพูดมา นี่คือการทำผิดกฎหมายของคุณอีกข้อหนึ่งที่จะแขวนคอคุณต่อไป . คุณหนีภาษี แล้วยังมาลอยหน้าว่าคุณเป็นทนายเพื่อประชาชน ถ้าคุณบอกว่าคุณเสียภาษีเงิน 70 ล้าน เอาหลักฐานมาดูหน่อยซิ ผมจะกราบตีนคุณเลย คุณไม่ได้เสียภาษีหรอก นี่คือคำโกหก เพราะคุณคุยโวตลอดเวลา . ที่ผมเล่าให้ฟังมาตลอดนี่ไม่มีตรงไหนเลยที่เป็นเสน่หา เป็นเรื่องที่คุณไปเอาเงินเขามาเพื่อมาลงทุน ที่ผ่านมาเขาเมตตาคุณมากนะ ให้เงินคุณไปมากมาย ค่าทนายเดือนละสามแสนบาท เป็นปี ซึ่งคุณไม่ได้เอาเข้าบริษัท ส่งเข้าตัวบุคคล รวมกันแล้วหลายล้านบาท คุณยังมาเอาเงินเขาไป โดยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างไร . และมีอีกเรื่องหนึ่ง คุณตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และท่านผู้ชมครับ มันมีเรื่องเบนซ์ G Class รุ่น G400 ราคาคันละประมาณ 9 ล้านบาท ให้คุณหารถคันนี้ให้ คุณอ้อย จะได้ใช้งานสะดวกเอาไว้ใช้เมื่อมากรุงเทพ แต่ว่าคุณก็ไปตุกติกกับเขาสารพัด . คุณษิทรา คุณยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าบ้านที่คุณซื้อไป คุณใช้แคชเชียร์เช็คมูลค่า 46 ล้านซื้อใช่ไหม แล้วคุณใส่ชื่อเจ้าของบ้านคือภรรยาคุณ สรรพากรหรือชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายเขาสงสัยว่าภรรยาคุณทำงานอะไรถึงมีเงินเป็นสิบๆ ล้าน มาซื้อบ้านหลังนี้เป็นเงินสด . วันนี้คุณอ้างคุณอ้อย จตุพร ไม่ได้แล้ว คำถามมีอยู่ชัดเจน ภรรยาคุณเอาเงินที่ไหนมาซื้อ เพราะว่าคุณใส่ชื่อบ้านหลังนั้นเป็นชื่อภรรยาคุณ นี่คุณยังไม่รู้หรือว่าคุณกำลังเดินลงหลุมไปทีละนิดๆ เหมือนกับลูกพี่คุณ สุรเชชษฐ์ หักพาล
    Like
    10
    0 Comments 0 Shares 767 Views 0 Reviews
  • “เมียโจ๊ก” ชิงมอบตัว หลังศาลอนุมัติหมายจับ ร่วมกันลักทรัพย์-บุกรุกเคหะสถาน
    .
    วันนี้ (24 ต.ค.) ศาลอาญาพระโขนง อนุมัติออกหมายจับที่ จ.717/2567 ให้จับกุมนางศิรินัดดา หักพาล อายุ 50 ปี ภรรยา พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน และร่วมกันบุกรุกเคหะสถาน ตามที่ พ.ต.ท.สิทธิเดช หาญจริง พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ขออนุมัติศาลออกหมายจับ และได้ส่งหมายจับถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา จับตัวมาดำเนินคดี โดยมีอายุความ 10 ปี
    .
    ล่าสุดเมื่อเวลา 14.50 น. นางศิรินัดดาเข้ามอบตัวที่ สน.พระโขนงแล้ว หลังศาลอาญาพระโขนงอนุมัติหมายจับไม่นานนัก เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เป็นเรื่องจริง ถ้าเกิดว่าอะไรที่เสียหายขอให้เป็นเรื่องของทนายความ เมื่อนักข่าวถามเรื่องคีย์การ์ดขโมยไปจริงหรือไม่ นางศิรินัดดาไม่ตอบ เมื่อถามว่าคีย์การ์ดได้มาอย่างไร ก็ตอบว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความ เมื่อถามว่า ยืนยันว่าข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นางศิรินัดดา ตอบว่า ค่ะ เมื่อถามว่าเบื้องต้นได้มีการติดต่อหรือพูดคุยกับผู้เสียหายหรือไม่ นางศิรินัดดา ไม่ตอบ เมื่อถามย้ำว่าได้ขโมยของหรือไม่ ก็กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทนายความ ถามว่าคืนนั้นทำไมต้องเข้าไปที่คอนโดเขา ถามว่าถุงกระสอบที่เขากล่าวอ้างเป็นถุงอะไร เจ้าตัวไม่ตอบ ก่อนเข้าพบตำรวจ
    .
    สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 14.00-16.00 น. นางศิรินัดดาบุกเข้าไปในห้องพักของคอนโดมิเนียม กรีนคอนโด ในซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ก่อนที่ผู้เสียหายเป็นอาจารย์พิเศษ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2567 ว่าทรัพย์สินเป็นทองคำน้ำหนัก 120 บาท มูลค่า 5 ล้านบาทหายไป แม้ผู้เสียหายพยายามทวงถามเพื่อขอคืนทรัพย์สิน แต่นางศิรินัดดาไม่ยอมพูดคุยด้วย ตัดการติดต่อทุกช่องทาง และเมื่อสอบถามไปยัง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กลับอ้างว่าเป็นเรื่องของภรรยา ตัวเองไม่ขอรับรู้ จึงแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พระโขนงทันที
    .
    นอกจากนี้ มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายยังไปออกรายการโทรทัศน์ แฉว่ามีภรรยานายตำรวจใหญ่รายหนึ่ง แย่งสามีของตน โดยมีคลิปจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นถึงภรรยานายตำรวจใหญ่ กำลังมีเพศสัมพันธ์กับสามีของผู้เสียหาย เป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. รับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน อีกทั้งยังมีการซุกทรัพย์สินใส่ถุงกระสอบ 5 ถุง มาฝากไว้ที่ห้อง รวมทั้งฉวยโอกาสหยิบคีย์การ์ดไปด้วย สามารถเข้า-ออกคอนโดมิเนียมได้ตามอำเภอใจ และในทางสืบสวนของตำรวจพบว่าเส้นทางการเงินจากบัญชีม้า เครือข่ายการพนันของนายตำรวจใหญ่ มาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟให้ห้องพักดังกล่าวอีกด้วย
    ..............
    Sondhi X
    “เมียโจ๊ก” ชิงมอบตัว หลังศาลอนุมัติหมายจับ ร่วมกันลักทรัพย์-บุกรุกเคหะสถาน . วันนี้ (24 ต.ค.) ศาลอาญาพระโขนง อนุมัติออกหมายจับที่ จ.717/2567 ให้จับกุมนางศิรินัดดา หักพาล อายุ 50 ปี ภรรยา พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน และร่วมกันบุกรุกเคหะสถาน ตามที่ พ.ต.ท.สิทธิเดช หาญจริง พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ขออนุมัติศาลออกหมายจับ และได้ส่งหมายจับถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา จับตัวมาดำเนินคดี โดยมีอายุความ 10 ปี . ล่าสุดเมื่อเวลา 14.50 น. นางศิรินัดดาเข้ามอบตัวที่ สน.พระโขนงแล้ว หลังศาลอาญาพระโขนงอนุมัติหมายจับไม่นานนัก เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เป็นเรื่องจริง ถ้าเกิดว่าอะไรที่เสียหายขอให้เป็นเรื่องของทนายความ เมื่อนักข่าวถามเรื่องคีย์การ์ดขโมยไปจริงหรือไม่ นางศิรินัดดาไม่ตอบ เมื่อถามว่าคีย์การ์ดได้มาอย่างไร ก็ตอบว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความ เมื่อถามว่า ยืนยันว่าข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นางศิรินัดดา ตอบว่า ค่ะ เมื่อถามว่าเบื้องต้นได้มีการติดต่อหรือพูดคุยกับผู้เสียหายหรือไม่ นางศิรินัดดา ไม่ตอบ เมื่อถามย้ำว่าได้ขโมยของหรือไม่ ก็กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทนายความ ถามว่าคืนนั้นทำไมต้องเข้าไปที่คอนโดเขา ถามว่าถุงกระสอบที่เขากล่าวอ้างเป็นถุงอะไร เจ้าตัวไม่ตอบ ก่อนเข้าพบตำรวจ . สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 14.00-16.00 น. นางศิรินัดดาบุกเข้าไปในห้องพักของคอนโดมิเนียม กรีนคอนโด ในซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ก่อนที่ผู้เสียหายเป็นอาจารย์พิเศษ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2567 ว่าทรัพย์สินเป็นทองคำน้ำหนัก 120 บาท มูลค่า 5 ล้านบาทหายไป แม้ผู้เสียหายพยายามทวงถามเพื่อขอคืนทรัพย์สิน แต่นางศิรินัดดาไม่ยอมพูดคุยด้วย ตัดการติดต่อทุกช่องทาง และเมื่อสอบถามไปยัง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กลับอ้างว่าเป็นเรื่องของภรรยา ตัวเองไม่ขอรับรู้ จึงแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พระโขนงทันที . นอกจากนี้ มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายยังไปออกรายการโทรทัศน์ แฉว่ามีภรรยานายตำรวจใหญ่รายหนึ่ง แย่งสามีของตน โดยมีคลิปจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นถึงภรรยานายตำรวจใหญ่ กำลังมีเพศสัมพันธ์กับสามีของผู้เสียหาย เป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. รับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน อีกทั้งยังมีการซุกทรัพย์สินใส่ถุงกระสอบ 5 ถุง มาฝากไว้ที่ห้อง รวมทั้งฉวยโอกาสหยิบคีย์การ์ดไปด้วย สามารถเข้า-ออกคอนโดมิเนียมได้ตามอำเภอใจ และในทางสืบสวนของตำรวจพบว่าเส้นทางการเงินจากบัญชีม้า เครือข่ายการพนันของนายตำรวจใหญ่ มาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟให้ห้องพักดังกล่าวอีกด้วย .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    11
    0 Comments 0 Shares 983 Views 0 Reviews
  • โจ๊กและเมีย วิบากกรรมทำงาน
    สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่วันนี้หมดสิ้นแล้วซึ่งองครักษ์พิทักษ์นาย ไม่ว่าจะเป็น
    1. ดนัย หมาแก่ กับเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ที่เป็นรายการฟอกขาวที่มีประสิทธิภาพให้กับ สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่วันนี้อาหารหมาขาดแคลน ก็ได้ประกาศตัวดุจเป็นฝั่งตรงข้าม ถึงกับเอ่ยว่า “สุรเชชษฐ์ทำไมไม่มีใครชอบคุณ” แล้ววันนี้หมาแก่ ก็หากระแสใหม่ ฉีกแนวไปทำเรื่องดิไอคอนรัวๆ ไม่หันกลับมามองนายเก่าจากโจ๊กอีกเลย
    2. ตั้ม ทนายหิวแสง ที่เล่นใหญ่ เกินเบอร์ นัดสื่อแถลงรัวๆ รับงานจากโจ๊กมา หวังคว่ำบิ๊กต่าย และบิ๊กเต่า จนทำให้ประชาชนรู้แนว ไม่ให้ค่า และถึงแม้วันนี้จะหวังกระแสดิไอคอน ตั้มไปออกหน้าออกตาที่โหนกระแส แต่ก็มิวายที่ประชาชนไม่เอา คือไม่เอา จนสุดท้ายปล่อยไก่ อ้างว่าหาข้อมูลไม่หลับไม่นอน แต่ดันไม่รู้ว่า ชื่อที่ตนเองบอกว่าเป็นไอ้โม่งในเครือข่ายดิไอค่อนนั้น กลับเป็นแม่แท้ๆของบอสพอลแห่งดิไอค่อน จนต้องยกมือไหว้ขอขมาหน้าจอ หน้าเจื่อนจนแทบไม่พูดอะไรต่อตลอดรายการ
    3. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวสที่วางตัวคล้ายเป็นพ่อบุญธรรมของสุรเชชษฐ์ วางแนวการต่อสู้ ทั้งเกมการไม่ยอมรับหมายเรียก หวังให้คดีหมดอายุความ ตามที่ตนทำมาตลอด แต่สุรเชชษฐ์กลับไม่รอด แต่ก็ยังคงดิ้นเฮือกสุดท้าย ไปออกหน้าออกตาที่จันทร์ส่องหล้า หวังได้กลับมาคุมตร. และได้ใช้อำนาจในการช่วยเหลือสุรเชชษฐ์ แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่หวัง
    จนแถลงแบล็คเมลคนชั้น 14 ว่าจะเปิดข้อมูลเด็ด แต่เชิงหมาแก่คนชั้น 14 และลูกสาวกลับไม่ให้ราคา ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย
    และจากข้อมูลล่าสุด อัยการจะยื่นฟ้องยึดทรัพย์โจ๊ก กับ เมีย 4.8 แสนบาท
    ถึงแม้จะมีเสียงขำขัน ว่ายึดได้แค่นี้หรือมีเสียงแขวะ เสียงแซะสตช.ไม่ขาดสาย แต่หารู้ไม่ยอดจำนวนนี้ คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โจ๊กมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเงินดำจากเว็บออนไลน์จริง แม้จะมีการยักย้าย ถ่ายเทไปสู่ usdt จำนวนมหาศาลแล้วก็ตาม
    ยอด 4.8 แสนบาทนี้ ได้มาจากพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เส้นทางการเงิน ยืนยัน ชัดเจน
    ผลการสืบสวนโดย ปปง ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะ ที่ไม่มีส่วนได้เสีย กับผู้ใดใน สตช
    พิสูจน์ยืนยัน จนนำไปสู่การเสนอเรื่องไปอัยการ ฟ้องต่อศาล เพื่อยึดทรัพย์ข้างต้น
    สำนวนที่เสนอไปเฉพาะเรื่องนี้ ร่วม 1400 กว่า หน้า เลยทีเดียว
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    โจ๊กและเมีย วิบากกรรมทำงาน สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่วันนี้หมดสิ้นแล้วซึ่งองครักษ์พิทักษ์นาย ไม่ว่าจะเป็น 1. ดนัย หมาแก่ กับเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ที่เป็นรายการฟอกขาวที่มีประสิทธิภาพให้กับ สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่วันนี้อาหารหมาขาดแคลน ก็ได้ประกาศตัวดุจเป็นฝั่งตรงข้าม ถึงกับเอ่ยว่า “สุรเชชษฐ์ทำไมไม่มีใครชอบคุณ” แล้ววันนี้หมาแก่ ก็หากระแสใหม่ ฉีกแนวไปทำเรื่องดิไอคอนรัวๆ ไม่หันกลับมามองนายเก่าจากโจ๊กอีกเลย 2. ตั้ม ทนายหิวแสง ที่เล่นใหญ่ เกินเบอร์ นัดสื่อแถลงรัวๆ รับงานจากโจ๊กมา หวังคว่ำบิ๊กต่าย และบิ๊กเต่า จนทำให้ประชาชนรู้แนว ไม่ให้ค่า และถึงแม้วันนี้จะหวังกระแสดิไอคอน ตั้มไปออกหน้าออกตาที่โหนกระแส แต่ก็มิวายที่ประชาชนไม่เอา คือไม่เอา จนสุดท้ายปล่อยไก่ อ้างว่าหาข้อมูลไม่หลับไม่นอน แต่ดันไม่รู้ว่า ชื่อที่ตนเองบอกว่าเป็นไอ้โม่งในเครือข่ายดิไอค่อนนั้น กลับเป็นแม่แท้ๆของบอสพอลแห่งดิไอค่อน จนต้องยกมือไหว้ขอขมาหน้าจอ หน้าเจื่อนจนแทบไม่พูดอะไรต่อตลอดรายการ 3. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวสที่วางตัวคล้ายเป็นพ่อบุญธรรมของสุรเชชษฐ์ วางแนวการต่อสู้ ทั้งเกมการไม่ยอมรับหมายเรียก หวังให้คดีหมดอายุความ ตามที่ตนทำมาตลอด แต่สุรเชชษฐ์กลับไม่รอด แต่ก็ยังคงดิ้นเฮือกสุดท้าย ไปออกหน้าออกตาที่จันทร์ส่องหล้า หวังได้กลับมาคุมตร. และได้ใช้อำนาจในการช่วยเหลือสุรเชชษฐ์ แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่หวัง จนแถลงแบล็คเมลคนชั้น 14 ว่าจะเปิดข้อมูลเด็ด แต่เชิงหมาแก่คนชั้น 14 และลูกสาวกลับไม่ให้ราคา ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย และจากข้อมูลล่าสุด อัยการจะยื่นฟ้องยึดทรัพย์โจ๊ก กับ เมีย 4.8 แสนบาท ถึงแม้จะมีเสียงขำขัน ว่ายึดได้แค่นี้หรือมีเสียงแขวะ เสียงแซะสตช.ไม่ขาดสาย แต่หารู้ไม่ยอดจำนวนนี้ คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โจ๊กมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเงินดำจากเว็บออนไลน์จริง แม้จะมีการยักย้าย ถ่ายเทไปสู่ usdt จำนวนมหาศาลแล้วก็ตาม ยอด 4.8 แสนบาทนี้ ได้มาจากพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เส้นทางการเงิน ยืนยัน ชัดเจน ผลการสืบสวนโดย ปปง ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะ ที่ไม่มีส่วนได้เสีย กับผู้ใดใน สตช พิสูจน์ยืนยัน จนนำไปสู่การเสนอเรื่องไปอัยการ ฟ้องต่อศาล เพื่อยึดทรัพย์ข้างต้น สำนวนที่เสนอไปเฉพาะเรื่องนี้ ร่วม 1400 กว่า หน้า เลยทีเดียว #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • จุ๊กกรู!!เอาไงดีลูกเพ่

    ปาปารัชชี่ไม่ได้รับเชิญแอบเห็นอดีตตำรวจใหญ่"โจ๊กสายมู" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ก็อดใจไม่ไหวแชะรูปมาฝาก"คิงส์" กะว่าจะเซอร์ไพร้สส่งมาอวดเพราะมากินข้าวร้านเดียวกันกับคนดัง

    ชะอุ๊ย!พอจะซูมดูหน้าตาสง่าราศีตำรวจคนดีย์ ยังดีอยู่ไหมเห็นหมองๆไปตั้งแต่ต้องคดีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ถูกให้ออกจากราชการกลับไปสะดุดตากับคนข้างที่นั่งหน้าเป็นตูดพอๆกับโจ๊ก

    หน้าที่ดำคล้ำอยู่แล้วคงจะพูดคุยกันด้วยเรื่องเครียด หน้ายิ่งดำกันไปใหญ่ ดีที่คิงส์ปรับแสงจากมือถือช่วย จึงรู้ว่า คนที่ร่วมวงกินข้าว คุยกันซีเรียสหาใช่คนโนเนม

    เพราะทั่นคือ "บิ๊กเม่น" พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.

    อย่าเพิ่งเกาหัวถ้าดูจากชื่อตำแหน่งแล้วนึกไม่ออก ลองเสิร์ชชื่อคำนำหน้าเป็นราษฎรอย่างเราๆว่า "นายพันธนะ นุชนารถ"อากู๋จะบอกเลย นี่คือหุ้นส่วนใหญ่ผับหรูหราหมาเห่าชื่อดัง"คริสตัลคลับ" ทองหล่อ 25 ซึ่งเป็นจุดแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตำนาน

    พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ เป็นนายตำรวจหนุ่มที่เติบโตพรวดพราดปานจรวดในสตม.เพราะมีลูกพี่โจ๊ก สมัยยังหญ่ายคับสตช.หนุนหลัง

    ระหว่างโจ๊กกับเม่น ไปมาหาสู่ติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา เพราะใครๆก็รู้ว่าโจ๊กคุมสตม.มานานปี วางรากฐานไว้ที่สตม.ซึ่งเป็นขุมทรัพย์ใหญ่ สืบทอดอำนาจมารุ่นสู่รุ่น ไม่ยอมปล่อยมือจากสตม.สักที

    ตอนนี้ลมเปลี่ยนทิศ แว่วว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.คนใหม่ ต้องการกู้วิกฤติศรัทธาสตช. หน่วยไหนที่เคยเป็นแหล่งผลประโยชน์ที่ทำมาหากินของตำรวจคนดีย์ เป็น"มะเร็ง"ร้ายที่ทำร้ายทำลายองค์กรมานานจะขุดรากถอนโคนผ่าตัดเก็บกวาดให้หมด

    นี่อ่ะเปล่าที่ทำให้ทั้งสองต้องนัดกินข้าวกันถี่ๆคุยเรื่องซีเรียสหน้าดำแล้วดำอีก!

    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    จุ๊กกรู!!เอาไงดีลูกเพ่ ปาปารัชชี่ไม่ได้รับเชิญแอบเห็นอดีตตำรวจใหญ่"โจ๊กสายมู" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ก็อดใจไม่ไหวแชะรูปมาฝาก"คิงส์" กะว่าจะเซอร์ไพร้สส่งมาอวดเพราะมากินข้าวร้านเดียวกันกับคนดัง ชะอุ๊ย!พอจะซูมดูหน้าตาสง่าราศีตำรวจคนดีย์ ยังดีอยู่ไหมเห็นหมองๆไปตั้งแต่ต้องคดีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ถูกให้ออกจากราชการกลับไปสะดุดตากับคนข้างที่นั่งหน้าเป็นตูดพอๆกับโจ๊ก หน้าที่ดำคล้ำอยู่แล้วคงจะพูดคุยกันด้วยเรื่องเครียด หน้ายิ่งดำกันไปใหญ่ ดีที่คิงส์ปรับแสงจากมือถือช่วย จึงรู้ว่า คนที่ร่วมวงกินข้าว คุยกันซีเรียสหาใช่คนโนเนม เพราะทั่นคือ "บิ๊กเม่น" พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. อย่าเพิ่งเกาหัวถ้าดูจากชื่อตำแหน่งแล้วนึกไม่ออก ลองเสิร์ชชื่อคำนำหน้าเป็นราษฎรอย่างเราๆว่า "นายพันธนะ นุชนารถ"อากู๋จะบอกเลย นี่คือหุ้นส่วนใหญ่ผับหรูหราหมาเห่าชื่อดัง"คริสตัลคลับ" ทองหล่อ 25 ซึ่งเป็นจุดแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตำนาน พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ เป็นนายตำรวจหนุ่มที่เติบโตพรวดพราดปานจรวดในสตม.เพราะมีลูกพี่โจ๊ก สมัยยังหญ่ายคับสตช.หนุนหลัง ระหว่างโจ๊กกับเม่น ไปมาหาสู่ติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา เพราะใครๆก็รู้ว่าโจ๊กคุมสตม.มานานปี วางรากฐานไว้ที่สตม.ซึ่งเป็นขุมทรัพย์ใหญ่ สืบทอดอำนาจมารุ่นสู่รุ่น ไม่ยอมปล่อยมือจากสตม.สักที ตอนนี้ลมเปลี่ยนทิศ แว่วว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.คนใหม่ ต้องการกู้วิกฤติศรัทธาสตช. หน่วยไหนที่เคยเป็นแหล่งผลประโยชน์ที่ทำมาหากินของตำรวจคนดีย์ เป็น"มะเร็ง"ร้ายที่ทำร้ายทำลายองค์กรมานานจะขุดรากถอนโคนผ่าตัดเก็บกวาดให้หมด นี่อ่ะเปล่าที่ทำให้ทั้งสองต้องนัดกินข้าวกันถี่ๆคุยเรื่องซีเรียสหน้าดำแล้วดำอีก! #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 459 Views 0 Reviews
  • ผู้ต้องหา ในดวงใจ โจ๊กโหนคนใต้ สร้างภาพคนดี

    คนที่พร้อมจะใส่เสื้อลายเซ็นของ “บิ๊กโจ๊ก” ใจคอจะหลับหูหลับตาเชียร์ โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงอะไรเลยหรือ?

    #SondhiX #Sondhi #Sondhitalk #จับประเด็น #โจ๊กสุรเชชษฐ์หักพาล #บิ๊กโจ๊ก
    ผู้ต้องหา ในดวงใจ โจ๊กโหนคนใต้ สร้างภาพคนดี คนที่พร้อมจะใส่เสื้อลายเซ็นของ “บิ๊กโจ๊ก” ใจคอจะหลับหูหลับตาเชียร์ โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงอะไรเลยหรือ? #SondhiX #Sondhi #Sondhitalk #จับประเด็น #โจ๊กสุรเชชษฐ์หักพาล #บิ๊กโจ๊ก
    Like
    Haha
    Love
    Wow
    18
    0 Comments 1 Shares 1497 Views 746 0 Reviews

  • 23 กันยายน 2567-Exclusive”สนธิเล่าเรื่อง“เบื้องลึกเบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่าง "จักรทิพย์ ชัยจินดา-โจ๊ก สุรเชชษฐ์-ชูวิทย์-ทนายตั้ม"
    ที่มา https://m.youtube.com/watch?v=xUo8tNUV6p4&fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR1TpD8TD6ROH0dF8V0Z8GwjvNHdnPjwsf-PYfvWc-mzIMgK4LD7Ou0pAag_aem_wLPO-z47zqzUsE7vgoL5IQ&ab_channel=sondhitalk

    #Thaitimes
    23 กันยายน 2567-Exclusive”สนธิเล่าเรื่อง“เบื้องลึกเบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่าง "จักรทิพย์ ชัยจินดา-โจ๊ก สุรเชชษฐ์-ชูวิทย์-ทนายตั้ม" ที่มา https://m.youtube.com/watch?v=xUo8tNUV6p4&fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR1TpD8TD6ROH0dF8V0Z8GwjvNHdnPjwsf-PYfvWc-mzIMgK4LD7Ou0pAag_aem_wLPO-z47zqzUsE7vgoL5IQ&ab_channel=sondhitalk #Thaitimes
    Like
    Love
    13
    0 Comments 0 Shares 2613 Views 1 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 23-9-67
    .
    วันนี้คุณสนธิจะเล่าเรื่องที่ เฉลิม อยู่บำรุงฟ้องหมิ่นประมาท เรียกเงินค่าเสียหาย 30 ล้านบาท และเบื้องลึกเบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่าง "จักรทิพย์ ชัยจินดา-โจ๊ก สุรเชชษฐ์-ชูวิทย์-ทนายตั้ม" ให้ฟังแบบ Exclusive หารับฟังที่ไหนไม่ได้
    .
    คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=xUo8tNUV6p4
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    สนธิเล่าเรื่อง 23-9-67 . วันนี้คุณสนธิจะเล่าเรื่องที่ เฉลิม อยู่บำรุงฟ้องหมิ่นประมาท เรียกเงินค่าเสียหาย 30 ล้านบาท และเบื้องลึกเบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่าง "จักรทิพย์ ชัยจินดา-โจ๊ก สุรเชชษฐ์-ชูวิทย์-ทนายตั้ม" ให้ฟังแบบ Exclusive หารับฟังที่ไหนไม่ได้ . คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=xUo8tNUV6p4 . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    Like
    Love
    18
    1 Comments 0 Shares 2675 Views 0 Reviews
  • โปรดเกล้าฯ ให้ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” ออกจากราชการไว้ก่อน อยู่ในกระบวนการรอตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มารับสนองพระบรมราชโองการ

    15 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวNews1ระบุว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อน ส่งมาที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี เพื่อรอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รับสนองพระบรมราชโองการ

    สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รรท.ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 178/ 2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 2567 กรณีต้องคดีอาญา เกี่ยวเนื่องกับเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ในข้อหาฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน

    ต่อมา วันที่ 26 มิ.ย. 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติเอกฉันท์ 12 ต่อ 0 เห็นว่า คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ถูกต้องแล้ว ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยื่นอุทธรณ์ ต่อ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร.

    กระทั่ง วันที่ 5 ส.ค. 2567 ก.พ.ค.ตร. มีมติว่า คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 2567 เป็นคำสั่งที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ที่กฎหมาย และ กฎ ก.ตร. กำหนด และเป็นการใช้ดุลยพินิจที่เหมาะสม จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

    จากนั้นจึงเป็นกระบวนการนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน

    #Thaitimes
    โปรดเกล้าฯ ให้ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” ออกจากราชการไว้ก่อน อยู่ในกระบวนการรอตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มารับสนองพระบรมราชโองการ 15 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวNews1ระบุว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อน ส่งมาที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี เพื่อรอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รับสนองพระบรมราชโองการ สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รรท.ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 178/ 2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 2567 กรณีต้องคดีอาญา เกี่ยวเนื่องกับเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ในข้อหาฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ต่อมา วันที่ 26 มิ.ย. 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติเอกฉันท์ 12 ต่อ 0 เห็นว่า คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ถูกต้องแล้ว ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยื่นอุทธรณ์ ต่อ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. กระทั่ง วันที่ 5 ส.ค. 2567 ก.พ.ค.ตร. มีมติว่า คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 2567 เป็นคำสั่งที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ที่กฎหมาย และ กฎ ก.ตร. กำหนด และเป็นการใช้ดุลยพินิจที่เหมาะสม จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จากนั้นจึงเป็นกระบวนการนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน #Thaitimes
    ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โปรดเกล้าฯ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” พ้นตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ตั้งแต่ 18 เม.ย. 2567
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000075151

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 573 Views 0 Reviews
  • ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โปรดเกล้าฯ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” พ้นตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ตั้งแต่ 18 เม.ย. 2567
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000075151

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โปรดเกล้าฯ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” พ้นตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ตั้งแต่ 18 เม.ย. 2567 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000075151 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    7
    0 Comments 1 Shares 1686 Views 0 Reviews
  • โจ๊ก เจ็ดช้างสาร
    เพิ่มอีกไหม ช.ช้าง
    เพราะสุรเชชษฐ์ ช.ช้าง2ตัว
    ไม่พอจะชชชชชชขชชช
    ขดใช้กรรมมมมมมมมมม
    #คิงส์โพธิ์แดง
    โจ๊ก เจ็ดช้างสาร เพิ่มอีกไหม ช.ช้าง เพราะสุรเชชษฐ์ ช.ช้าง2ตัว ไม่พอจะชชชชชชขชชช ขดใช้กรรมมมมมมมมมม #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • Sondhitalk EP 254 : ยุบก้าวไกล แล้วยังไงต่อ? (Full)

    - นักกีฬาไทย คว้าชัยโอลิมปิก
    - ยุบพรรคก้าวไกล
    - “โจ๊ก” ถึงเวลาใช้กรรม
    - ทวงคืน “ฟ้าทะลายโจร”
    - จีนเปลี่ยนโลกด้วย “STEM”

    ช่องการการติดตาม SONDHITALK
    facebook : https://www.facebook.com/sondhitalk/
    youtube : https://www.youtube.com/@sondhitalk
    thaitimes : https://thaitimes.co/pages/sondhix
    tiktok : https://www.tiktok.com/@sondhitalk
    twitter X : https://x.com/sondhitalk
    sondhitalk : https://sondhitalk.com/

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #ก้าวไกล #ยุบพรรคก้าวไกล #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก #โอลิมปิก2024 #เทนนิสพาณิภัค #วิวกุลวุฒิ #ฟ้าทะลายโจร #STEM #จีน
    Sondhitalk EP 254 : ยุบก้าวไกล แล้วยังไงต่อ? (Full) - นักกีฬาไทย คว้าชัยโอลิมปิก - ยุบพรรคก้าวไกล - “โจ๊ก” ถึงเวลาใช้กรรม - ทวงคืน “ฟ้าทะลายโจร” - จีนเปลี่ยนโลกด้วย “STEM” ช่องการการติดตาม SONDHITALK facebook : https://www.facebook.com/sondhitalk/ youtube : https://www.youtube.com/@sondhitalk thaitimes : https://thaitimes.co/pages/sondhix tiktok : https://www.tiktok.com/@sondhitalk twitter X : https://x.com/sondhitalk sondhitalk : https://sondhitalk.com/ #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #ก้าวไกล #ยุบพรรคก้าวไกล #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก #โอลิมปิก2024 #เทนนิสพาณิภัค #วิวกุลวุฒิ #ฟ้าทะลายโจร #STEM #จีน
    Like
    Love
    22
    0 Comments 0 Shares 10755 Views 907 0 Reviews
  • Sondhitalk EP253 : มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด? - 020867 (Full)
    - ลอบสังหารแกนนำฮามาส
    - โอลิมปิก ปารีส หรือ ปฏิวัติจำอวด ?
    - แฮร์ริส vs ทรัมป์
    - นับถอยหลัง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์"
    - ชะตากรรมฟ้าทะลายโจร

    ช่องการการติดตาม SONDHITALK
    facebook : https://www.facebook.com/sondhitalk/
    youtube : https://www.youtube.com/@sondhitalk
    thaitimes : https://thaitimes.co/pages/sondhix
    tiktok : https://www.tiktok.com/@sondhitalk
    twitter X : https://x.com/sondhitalk
    sondhitalk : https://sondhitalk.com/

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #โอลิมปิก2024 #มารีอองตัวเนต #TheLastSupper #อิสราเอล #ฮามาส #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก #สุรเชชษฐ์ #ปปช #เลือกตั้งสหรัฐ #ฟ้าทะลายโจร
    Sondhitalk EP253 : มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด? - 020867 (Full) - ลอบสังหารแกนนำฮามาส - โอลิมปิก ปารีส หรือ ปฏิวัติจำอวด ? - แฮร์ริส vs ทรัมป์ - นับถอยหลัง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" - ชะตากรรมฟ้าทะลายโจร ช่องการการติดตาม SONDHITALK facebook : https://www.facebook.com/sondhitalk/ youtube : https://www.youtube.com/@sondhitalk thaitimes : https://thaitimes.co/pages/sondhix tiktok : https://www.tiktok.com/@sondhitalk twitter X : https://x.com/sondhitalk sondhitalk : https://sondhitalk.com/ #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #โอลิมปิก2024 #มารีอองตัวเนต #TheLastSupper #อิสราเอล #ฮามาส #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก #สุรเชชษฐ์ #ปปช #เลือกตั้งสหรัฐ #ฟ้าทะลายโจร
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    26
    2 Comments 1 Shares 10432 Views 930 0 Reviews
  • 2 สิงหาคม 2567-มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด? Ep253 (live)

    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep253 (live)
    -โอลิมปิก ปารีส 2024 ดรามาตั้งแต่วันเปิดการแข่งขัน ยัดความเป็นฝรั่งเศสฉีกกรอบจนเลยขอบเขต “มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด” ?

    -ประเด็นช็อกโลก ตะวันออกกลาง ลุกเป็นไฟ ! หลังอิสราเอลสังหารแกนนำฮามาสกลางกรุงเตหะราน หลังร่วมพิธีสาบาน ปธน.อิหร่านคนใหม่

    -เลือกตั้งอเมริกา แฮร์ริส vs ทรัมป์ กับโฉมหน้าจริงการเมืองอเมริกา

    -นับถอยหลัง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์"

    -ชะตากรรมฟ้าทะลายโจร

    https://www.youtube.com/live/9cURjF5t-TY?si=Xz3O6oXZjGwKzy3n

    #Thaitimes
    2 สิงหาคม 2567-มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด? Ep253 (live) SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep253 (live) -โอลิมปิก ปารีส 2024 ดรามาตั้งแต่วันเปิดการแข่งขัน ยัดความเป็นฝรั่งเศสฉีกกรอบจนเลยขอบเขต “มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด” ? -ประเด็นช็อกโลก ตะวันออกกลาง ลุกเป็นไฟ ! หลังอิสราเอลสังหารแกนนำฮามาสกลางกรุงเตหะราน หลังร่วมพิธีสาบาน ปธน.อิหร่านคนใหม่ -เลือกตั้งอเมริกา แฮร์ริส vs ทรัมป์ กับโฉมหน้าจริงการเมืองอเมริกา -นับถอยหลัง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" -ชะตากรรมฟ้าทะลายโจร https://www.youtube.com/live/9cURjF5t-TY?si=Xz3O6oXZjGwKzy3n #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 840 Views 0 Reviews
  • “โจ๊ก” จอมย้อนแย้ง ปากก็บอกไม่ใช่สายมู แค่ชอบทำบุญ แต่ล่าสุดไปเปลี่ยนชื่อเป็น “สุรเชชษฐ์” เติม ช.เข้าไปอีกตัวเพื่อเสริมดวง เพราะช้างเป็นสัตว์มงคล แถมยังแต่งองค์ทรงเครื่องนั่งหลังช้าง เข้าร่วมพิธีแห่เจ้าเข้าเวียง ในพิธีไหว้ครูโนราห์ จ.พัทลุง ท่ามกลางเสียงตำหนิติเตียนว่ากระทำมิบังควร ซ้ำรอยกรณีรับเงินบัญชีม้าบริจาคในงานกฐินพระราชทานที่อยุธยา แล้วออกใบอนุโมทนาบัตรในชื่อตัวเอง
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000061990

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “โจ๊ก” จอมย้อนแย้ง ปากก็บอกไม่ใช่สายมู แค่ชอบทำบุญ แต่ล่าสุดไปเปลี่ยนชื่อเป็น “สุรเชชษฐ์” เติม ช.เข้าไปอีกตัวเพื่อเสริมดวง เพราะช้างเป็นสัตว์มงคล แถมยังแต่งองค์ทรงเครื่องนั่งหลังช้าง เข้าร่วมพิธีแห่เจ้าเข้าเวียง ในพิธีไหว้ครูโนราห์ จ.พัทลุง ท่ามกลางเสียงตำหนิติเตียนว่ากระทำมิบังควร ซ้ำรอยกรณีรับเงินบัญชีม้าบริจาคในงานกฐินพระราชทานที่อยุธยา แล้วออกใบอนุโมทนาบัตรในชื่อตัวเอง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000061990 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    Sad
    15
    3 Comments 1 Shares 1828 Views 0 Reviews