เมื่อ ป.ป.ช ฟ้าเปลี่ยนสี
.
ไม่เกินธันวาคมนี้ ก็จะมีเลือกตั้ง กรรมการ ป.ป.ช. ใหม่ ขณะนี้ ป.ป.ช. มีความจำเป็นต้องการคนเข้ามาเป็นกรรมการอย่างน้อย 7 คน ใน 10 คน ทำไมต้องเยอะขนาดนั้น ? เหตุผลเพราะว่าการพิจารณาข้าราชการตำแหน่งระดับสูง ระดับพลตำรวจเอกนั้น ต้องใช้กรรมการ ป.ป.ช. ประมาณ 7 คน แล้วคนที่จะเข้ามาใหม่ก็จะได้รับการเลือกเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ในเดือนธันวาคมนี้ 2 คน มีอยู่คนหนึ่ง คือท่านประภาศ คงเอียด อดีตข้าราชการกระทรวงการคลัง และท่านประภาศนั้นกำลังรอโปรดเกล้าฯ อยู่
.
ป.ป.ช. นั้น ฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว คนที่เข้ามาใหม่ คือท่านภัทรศักดิ์ วรรณแสง อดีตรองประธานศาลฎีกา และกรรมการ ป.ป.ช. ที่เข้ามาใหม่ทุกคนรับรู้ถึงความเน่าเฟะของ ป.ป.ช. ในอดีต ยุคที่ พล.ต.อ.วัชรพล เป็นประธาน ป.ป.ช. คุณนิวัติไชย เป็นเลขาธิการ ป.ป.ช.
.
แล้วท่านผู้ชมไม่คิดหรือว่าคนที่เข้ามาใหม่ ท่านประธาน ป.ป.ช. แล้วคนที่เพิ่งได้รับเลือกแล้วเข้ามา เขาไม่ต้องการจะล้างภาพพจน์เลวๆ ของ ป.ป.ช. ออกหรือ? เขาต้องการเช็ด ทำความสะอาด ป.ป.ช.
.
และท่านเลขาฯ ป.ป.ช. คนใหม่ ท่านเป็นคนลูกหม้อของ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. คนไหนส่วนไหน ที่เป็นคณะอนุกรรมการคอยพิจารณาเรื่องของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ แล้วก็เก็บเรื่องเอาไว้ ช่วยเหลือเอาไว้ ผมถามว่าท่านเลขาฯ ป.ป.ช. คนใหม่ ท่านจะไม่รู้หรือว่าเป็นใครบ้าง ท่านรู้ ท่านรู้หมด ผมถึงกล้าพูดว่านี่คือฟ้าเปลี่ยนสี
.
เมื่อฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว ไม่เกิน 2 ปี (2568-2569) เราจะเริ่มเห็นคดีที่สุรเชชษฐ์ หักพาล จะต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่กระทำความผิดขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดก็คือการแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ จากการให้เช่าพระจากเฮียอั๊ง โดยอ้างว่าเฮียอั๊งให้สุรเชชษฐ์ ไปหาท่านผู้ว่าฯ ที่เกษียณแล้ว อายุ 90 ปี ท่านไปแจ้งความที่ สน.ตลิ่งชัน ว่าท่านไม่เคยรู้เรื่องเลย ท่านไม่เคยรู้จักสุรเชชษฐ์ หักพาล แล้วเฮียอั๊ง ก็ไม่ได้สนิท มาขอเช่าพระองค์หนึ่งมูลค่าหมื่นกว่าบาท แล้ว ป.ป.ช. ก็เข้าไปสอบท่านแล้วด้วย ท่านก็ให้การเป็นไปตามที่ผมพูด ตอนนี้รออย่างเดียว
.
คุณสุรเชชษฐ์ ครับ 2568-2569 ไม่เกินสองปีนี้ ชีวิตคุณจะเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย เพราะว่าถ้ามีการเอาเรื่องแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จขึ้นมา เพราะว่าได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ใน ป.ป.ช. ปิดบังข้อเท็จจริงและไม่ยอมพิจารณา ถ้าพิจารณาแล้วมีความผิด เขาชี้มูลความผิดเลย เมื่อเขาชี้มูลความผิดปัง เผอิญท่านไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว เพราะท่านถูกให้ออก ไม่เป็นไร แต่สมมุติมองในมุมกลับ ถ้าท่านยังเป็นรอง ผบ.ตร. อยู่ ถ้าถูกชี้มูลความผิด ต้องให้ออกจากราชการเช่นกัน แล้วกระบวนการก็คือว่า เมื่อชี้มูลความผิดแล้ว ก็ส่งไปอัยการ อัยการพิจารณาแล้ว มีข้อมูลข้อเท็จจริง หลักฐานที่ฟ้องได้ ก็จะฟ้อง ถ้าอัยการถูกวิ่งเต้น จะโดยใครก็ตาม ไม่ยอมฟ้อง เรื่องก็กลับไปที่ ป.ป.ช. ป.ป.ช. ก็จำเป็นต้องฟ้องเอง
.
นี่คือภาพรวมทั้งหมดที่ผมตีแผ่ให้ดู ว่าชีวิตคุณจากนี้ไป ไม่ใช่สนุกสนาน คุณฟ้องผม 4-5 คดี เดี๋ยววันหน้าวันหลังผมจะเอาคดีที่คุณฟ้องผมมาว่ามีอะไรบ้าง แล้วคุณจงใจไปฟ้องผมที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะคุณรู้จักกับผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่นั่นหรือเปล่า ไม่เป็นไรครับ หนังเรื่องนี้ยังต้องดูกันอีกยาวนาน แต่อันหนึ่งที่แน่นอน ผมไม่ยอมแพ้คุณหรอก
เมื่อ ป.ป.ช ฟ้าเปลี่ยนสี . ไม่เกินธันวาคมนี้ ก็จะมีเลือกตั้ง กรรมการ ป.ป.ช. ใหม่ ขณะนี้ ป.ป.ช. มีความจำเป็นต้องการคนเข้ามาเป็นกรรมการอย่างน้อย 7 คน ใน 10 คน ทำไมต้องเยอะขนาดนั้น ? เหตุผลเพราะว่าการพิจารณาข้าราชการตำแหน่งระดับสูง ระดับพลตำรวจเอกนั้น ต้องใช้กรรมการ ป.ป.ช. ประมาณ 7 คน แล้วคนที่จะเข้ามาใหม่ก็จะได้รับการเลือกเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ในเดือนธันวาคมนี้ 2 คน มีอยู่คนหนึ่ง คือท่านประภาศ คงเอียด อดีตข้าราชการกระทรวงการคลัง และท่านประภาศนั้นกำลังรอโปรดเกล้าฯ อยู่ . ป.ป.ช. นั้น ฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว คนที่เข้ามาใหม่ คือท่านภัทรศักดิ์ วรรณแสง อดีตรองประธานศาลฎีกา และกรรมการ ป.ป.ช. ที่เข้ามาใหม่ทุกคนรับรู้ถึงความเน่าเฟะของ ป.ป.ช. ในอดีต ยุคที่ พล.ต.อ.วัชรพล เป็นประธาน ป.ป.ช. คุณนิวัติไชย เป็นเลขาธิการ ป.ป.ช. . แล้วท่านผู้ชมไม่คิดหรือว่าคนที่เข้ามาใหม่ ท่านประธาน ป.ป.ช. แล้วคนที่เพิ่งได้รับเลือกแล้วเข้ามา เขาไม่ต้องการจะล้างภาพพจน์เลวๆ ของ ป.ป.ช. ออกหรือ? เขาต้องการเช็ด ทำความสะอาด ป.ป.ช. . และท่านเลขาฯ ป.ป.ช. คนใหม่ ท่านเป็นคนลูกหม้อของ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. คนไหนส่วนไหน ที่เป็นคณะอนุกรรมการคอยพิจารณาเรื่องของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ แล้วก็เก็บเรื่องเอาไว้ ช่วยเหลือเอาไว้ ผมถามว่าท่านเลขาฯ ป.ป.ช. คนใหม่ ท่านจะไม่รู้หรือว่าเป็นใครบ้าง ท่านรู้ ท่านรู้หมด ผมถึงกล้าพูดว่านี่คือฟ้าเปลี่ยนสี . เมื่อฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว ไม่เกิน 2 ปี (2568-2569) เราจะเริ่มเห็นคดีที่สุรเชชษฐ์ หักพาล จะต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่กระทำความผิดขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดก็คือการแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ จากการให้เช่าพระจากเฮียอั๊ง โดยอ้างว่าเฮียอั๊งให้สุรเชชษฐ์ ไปหาท่านผู้ว่าฯ ที่เกษียณแล้ว อายุ 90 ปี ท่านไปแจ้งความที่ สน.ตลิ่งชัน ว่าท่านไม่เคยรู้เรื่องเลย ท่านไม่เคยรู้จักสุรเชชษฐ์ หักพาล แล้วเฮียอั๊ง ก็ไม่ได้สนิท มาขอเช่าพระองค์หนึ่งมูลค่าหมื่นกว่าบาท แล้ว ป.ป.ช. ก็เข้าไปสอบท่านแล้วด้วย ท่านก็ให้การเป็นไปตามที่ผมพูด ตอนนี้รออย่างเดียว . คุณสุรเชชษฐ์ ครับ 2568-2569 ไม่เกินสองปีนี้ ชีวิตคุณจะเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย เพราะว่าถ้ามีการเอาเรื่องแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จขึ้นมา เพราะว่าได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ใน ป.ป.ช. ปิดบังข้อเท็จจริงและไม่ยอมพิจารณา ถ้าพิจารณาแล้วมีความผิด เขาชี้มูลความผิดเลย เมื่อเขาชี้มูลความผิดปัง เผอิญท่านไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว เพราะท่านถูกให้ออก ไม่เป็นไร แต่สมมุติมองในมุมกลับ ถ้าท่านยังเป็นรอง ผบ.ตร. อยู่ ถ้าถูกชี้มูลความผิด ต้องให้ออกจากราชการเช่นกัน แล้วกระบวนการก็คือว่า เมื่อชี้มูลความผิดแล้ว ก็ส่งไปอัยการ อัยการพิจารณาแล้ว มีข้อมูลข้อเท็จจริง หลักฐานที่ฟ้องได้ ก็จะฟ้อง ถ้าอัยการถูกวิ่งเต้น จะโดยใครก็ตาม ไม่ยอมฟ้อง เรื่องก็กลับไปที่ ป.ป.ช. ป.ป.ช. ก็จำเป็นต้องฟ้องเอง . นี่คือภาพรวมทั้งหมดที่ผมตีแผ่ให้ดู ว่าชีวิตคุณจากนี้ไป ไม่ใช่สนุกสนาน คุณฟ้องผม 4-5 คดี เดี๋ยววันหน้าวันหลังผมจะเอาคดีที่คุณฟ้องผมมาว่ามีอะไรบ้าง แล้วคุณจงใจไปฟ้องผมที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะคุณรู้จักกับผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่นั่นหรือเปล่า ไม่เป็นไรครับ หนังเรื่องนี้ยังต้องดูกันอีกยาวนาน แต่อันหนึ่งที่แน่นอน ผมไม่ยอมแพ้คุณหรอก
Like
2
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว