• พอดีเห็นภาพหน้า 2 ของไทยโพสต์ฉบับพิมพ์ที่จะวางแผงเช้านี้ quote คำพูดของอาจารย์ชิดตะวัน แล้วผมเห็นด้วยทุกประการ เลยขอยกมาไว้ในที่นี้ด้วยครับ

    "...จะเห็นได้ว่าสิงคโปร์ในขณะที่อนุมัติให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย มีการคอร์รัปชันต่ำเป็นลำดับต้นๆ ของโลก การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ ประชากรส่วนใหญ่มีรายได้สูง ซึ่งทั้งหมดนี้แตกต่างจากประเทศไทยในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง การที่รัฐบาลละเลยข้อมูลสำคัญนี้ จึงไม่ใช่วิสัยของผู้บริหารประเทศ เพราะการออกนโยบายสาธารณะต้องมีองค์ความรู้ มีความรอบคอบ และต้องพิจารณาในทุกองค์ประกอบอย่างถี่ถ้วน..."

    https://www.thaipost.net/one-newspaper/724690/
    พอดีเห็นภาพหน้า 2 ของไทยโพสต์ฉบับพิมพ์ที่จะวางแผงเช้านี้ quote คำพูดของอาจารย์ชิดตะวัน แล้วผมเห็นด้วยทุกประการ เลยขอยกมาไว้ในที่นี้ด้วยครับ "...จะเห็นได้ว่าสิงคโปร์ในขณะที่อนุมัติให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย มีการคอร์รัปชันต่ำเป็นลำดับต้นๆ ของโลก การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ ประชากรส่วนใหญ่มีรายได้สูง ซึ่งทั้งหมดนี้แตกต่างจากประเทศไทยในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง การที่รัฐบาลละเลยข้อมูลสำคัญนี้ จึงไม่ใช่วิสัยของผู้บริหารประเทศ เพราะการออกนโยบายสาธารณะต้องมีองค์ความรู้ มีความรอบคอบ และต้องพิจารณาในทุกองค์ประกอบอย่างถี่ถ้วน..." https://www.thaipost.net/one-newspaper/724690/
    WWW.THAIPOST.NET
    ตั้งกาสิโนโลกสวย ‘สิงคโปร์’ภาพลวง
    นักเศรษฐศาสตร์จับโกหกรัฐบาล-พท. ดันเปิดบ่อนกาสิโน หลอกลวงประชาชน ไม่เคยพูดตอนหาเสียง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • Saloma Link สะพานที่มากกว่าไฟสวย

    มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ (Recreational Attraction) จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเสริมสร้างสุขภาพ ให้ความสนุกสนาน บันเทิง และการศึกษาหาความรู้ แม้ไม่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม แต่มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ River of Life บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek และสะพาน Saloma Link บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru

    กล่าวถึงสะพาน Saloma Link (ซาโลมาลิงก์) เป็นสะพานขนาดไม่ใหญ่ ยาว 69 เมตร กว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ข้ามทางด่วนสาย E12 อัมปัง-กัวลาลัมเปอร์ (AKLEH) และแม่น้ำแคลงที่อยู่เกาะกลาง มีทางลาดลงไปยังด้านข้างสุสานอิสลามจาลันอัมปัง แล้วออกทางแยกหน้าอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ ย่าน KLCC เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 โดยมีบริษัท VERITAS Design Group ออกแบบโครงสร้าง ใช้งบก่อสร้าง 31 ล้านริงกิต (237 ล้านบาท)

    จุดเด่นของสะพานซาโลมาลิงก์ คือการออกแบบโครงสร้างเหล็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากการจัดช่อดอกไม้มงคลที่เรียกว่า ซิเระ จุนจุง (Sireh Junjung) ในพิธีแต่งงานของชาวมาเลย์ ประดับด้วยกระจกและแผงไฟ LED รูปทรงเพชร ฉายแสงในรูปแบบต่างๆ หลากสีสัน ชื่อสะพานมาจาก ซาโลมา ชื่อเรียกของ ซัลมาห์ อิสมาอิล (Salmah Ismail) นักร้อง นักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์-มาเลเซีย ฉายามาริลิน มอนโรแห่งเอเชีย ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2526 ด้วยวัย 48 ปี และถูกฝังอยู่ในสุสานอิสลามจาลันอัมปัง

    ก่อนจะมาเป็นสะพานที่สวยงามแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคลง จากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกำปุงบารู (Kampung Baru) ชุมชนที่อยู่อีกฝั่ง แต่ได้รื้อสะพานเมื่อปี 2539 เพื่อก่อสร้างทางด่วนที่ยกสูงขึ้น เสมือนเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่อยู่ตรงกลาง

    ในยามค่ำคืน สะพานแห่งนี้จะเปิดไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม ล้อไปกับตึกแฝดปิโตรนาสทาวเวอร์ ที่เปิดไฟส่องไสวไปทั่วตึกเช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปสะพานโดยเฉพาะฝั่งกำปุงบารู จะเห็นด้านหลังทั้งสะพานและตึกปิโตรนาส เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเลเซียต้องไม่พลาด ซึ่งฝั่งกำปุงบารูจะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดเล็ก มีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดจำหน่าย ขึ้นลงได้จากบันไดและลิฟต์ และมีทางเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru ซึ่งเป็นสถานีใต้ดิน

    สะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. โปรดปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายรูป ไม่ปีนป่ายราวสะพาน และระวังสิ่งของที่ติดตัวตกจากสะพาน

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Saloma Link สะพานที่มากกว่าไฟสวย มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ (Recreational Attraction) จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเสริมสร้างสุขภาพ ให้ความสนุกสนาน บันเทิง และการศึกษาหาความรู้ แม้ไม่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม แต่มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ River of Life บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek และสะพาน Saloma Link บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru กล่าวถึงสะพาน Saloma Link (ซาโลมาลิงก์) เป็นสะพานขนาดไม่ใหญ่ ยาว 69 เมตร กว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ข้ามทางด่วนสาย E12 อัมปัง-กัวลาลัมเปอร์ (AKLEH) และแม่น้ำแคลงที่อยู่เกาะกลาง มีทางลาดลงไปยังด้านข้างสุสานอิสลามจาลันอัมปัง แล้วออกทางแยกหน้าอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ ย่าน KLCC เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 โดยมีบริษัท VERITAS Design Group ออกแบบโครงสร้าง ใช้งบก่อสร้าง 31 ล้านริงกิต (237 ล้านบาท) จุดเด่นของสะพานซาโลมาลิงก์ คือการออกแบบโครงสร้างเหล็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากการจัดช่อดอกไม้มงคลที่เรียกว่า ซิเระ จุนจุง (Sireh Junjung) ในพิธีแต่งงานของชาวมาเลย์ ประดับด้วยกระจกและแผงไฟ LED รูปทรงเพชร ฉายแสงในรูปแบบต่างๆ หลากสีสัน ชื่อสะพานมาจาก ซาโลมา ชื่อเรียกของ ซัลมาห์ อิสมาอิล (Salmah Ismail) นักร้อง นักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์-มาเลเซีย ฉายามาริลิน มอนโรแห่งเอเชีย ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2526 ด้วยวัย 48 ปี และถูกฝังอยู่ในสุสานอิสลามจาลันอัมปัง ก่อนจะมาเป็นสะพานที่สวยงามแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคลง จากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกำปุงบารู (Kampung Baru) ชุมชนที่อยู่อีกฝั่ง แต่ได้รื้อสะพานเมื่อปี 2539 เพื่อก่อสร้างทางด่วนที่ยกสูงขึ้น เสมือนเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่อยู่ตรงกลาง ในยามค่ำคืน สะพานแห่งนี้จะเปิดไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม ล้อไปกับตึกแฝดปิโตรนาสทาวเวอร์ ที่เปิดไฟส่องไสวไปทั่วตึกเช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปสะพานโดยเฉพาะฝั่งกำปุงบารู จะเห็นด้านหลังทั้งสะพานและตึกปิโตรนาส เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเลเซียต้องไม่พลาด ซึ่งฝั่งกำปุงบารูจะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดเล็ก มีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดจำหน่าย ขึ้นลงได้จากบันไดและลิฟต์ และมีทางเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru ซึ่งเป็นสถานีใต้ดิน สะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. โปรดปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายรูป ไม่ปีนป่ายราวสะพาน และระวังสิ่งของที่ติดตัวตกจากสะพาน #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดเทอมนี้ เที่ยวเรือลำใหม่ 'Star Scorpio' 🚢
    ขึ้นแหลมฉบัง ประเทศไทย 5 รอบ💦 มีเส้นทางไหนบ้างมาดูกัน🎉

    🚢 รอบที่ 1
    🗓 6 วัน 4 คืน 📍 22 - 27 เม.ย. 68
    💦 แหลมฉบัง - สมุย - น่านน้ำสากล - สิงคโปร์ - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง

    🚢 รอบที่ 2
    🗓 6 วัน 4 คืน 📍 27 เม.ย. - 02 พ.ค. 68
    💦 แหลมฉบัง - สมุย - น่านน้ำสากล - สิงคโปร์ - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง

    🚢 รอบที่ 3
    🗓 6 วัน 4 คืน 📍 02 - 07 พ.ค. 68
    💦 แหลมฉบัง - สมุย - น่านน้ำสากล - สิงคโปร์ - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง

    🚢 รอบที่ 4
    🗓 6 วัน 4 คืน 📍 07 - 12 พ.ค. 68
    💦 แหลมฉบัง - สมุย - น่านน้ำสากล - สิงคโปร์ - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง

    🚢 รอบที่ 5
    🗓 4 วัน 3 คืน 📍 12 - 15 พ.ค. 68
    💦 แหลมฉบัง - สมุย - สิงคโปร์

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์เรือสำราญ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก
    #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ปิดเทอมนี้ เที่ยวเรือลำใหม่ 'Star Scorpio' 🚢 ขึ้นแหลมฉบัง ประเทศไทย 5 รอบ💦 มีเส้นทางไหนบ้างมาดูกัน🎉 🚢 รอบที่ 1 🗓 6 วัน 4 คืน 📍 22 - 27 เม.ย. 68 💦 แหลมฉบัง - สมุย - น่านน้ำสากล - สิงคโปร์ - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง 🚢 รอบที่ 2 🗓 6 วัน 4 คืน 📍 27 เม.ย. - 02 พ.ค. 68 💦 แหลมฉบัง - สมุย - น่านน้ำสากล - สิงคโปร์ - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง 🚢 รอบที่ 3 🗓 6 วัน 4 คืน 📍 02 - 07 พ.ค. 68 💦 แหลมฉบัง - สมุย - น่านน้ำสากล - สิงคโปร์ - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง 🚢 รอบที่ 4 🗓 6 วัน 4 คืน 📍 07 - 12 พ.ค. 68 💦 แหลมฉบัง - สมุย - น่านน้ำสากล - สิงคโปร์ - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง 🚢 รอบที่ 5 🗓 4 วัน 3 คืน 📍 12 - 15 พ.ค. 68 💦 แหลมฉบัง - สมุย - สิงคโปร์ รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เรือสำราญ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • 17/1/68

    https://thaipublica.org
    Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons
    กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา

    จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล

    มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค

    3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร

    และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488
    ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา

    ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า
    อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส

    10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง

    การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา
    จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น"
    โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ

    ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู"

    วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา

    เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน
    ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้"

    ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน"

    สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์
    เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน

    ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ

    * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน

    * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน

    * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง

    * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย

    * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country"

    จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน
    แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย

    สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย

    ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน
    ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ

    ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง
    ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี

    ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว

    เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น
    นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา

    กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    17/1/68 https://thaipublica.org Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค 3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488 ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส 10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น" โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู" วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้" ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน" สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์ เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country" จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.88 : Affirmative Action

    วันนี้อยากจะเล่าเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Affirmative Action ของมาเลเซียประเทศเพื่อนบ้านของเราครับ

    ในสมัยก่อนนู้น คือ ยุคก่อนปี 1950 นั้น มาเลเซีย (ตอนนั้นเรียก “มลายา”) เป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่ครับ อังกฤษเขาเห็นว่าที่มลายานี้ยังขาดแคลลนแรงงานอยู่มาก ก็เลยเปิดรับชาวจีนให้อพยพเข้ามาเป็นแรงงานอยู่ที่มลายา

    ชาวจีนที่อพยพมามลายานั้น ส่วนใหญ่จะมาจากมณฑลฟูเจี้ยนและกวางตุ้ง เหตุที่อพยพมาก็เพราะหนีความอดอยากและยากจนของประเทศจีนในเวลานั้นครับ

    คนจีนเหล่านี้ เบื้องแรกก็มาเป็นแรงงานทำโน่นทำนี่ แต่อยู่ๆไปก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษและเริ่มทำธุรกิจ ชีวิตความเป็นอยู่และรายได้เริ่มดีขึ้นด้วยความขยันตามประสาคนจีน

    นี่คือจุดเริ่มต้นของคนจีนในคาบสมุทรมลายา คิดเป็นสัดส่วนราวๆ 10% ของประชากรทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมลายู

    คนอินเดียก็มีมาอยู่ที่มลายาเหมือนกัน แต่น้อยกว่าคนจีน

    ทีนี้พอถึงปี 1957 อังกฤษคืนเอกราชให้มลายา อำนาจการปกครองรัฐบาลนั้นเป็นของชาวมลายูเกือบ 100%

    ในเวลานั้น ธุรกิจสำคัญส่วนใหญ่อยู่ในมือของชาวจีน และสำคัญคือ 99% ของนักศึกษาที่เข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ในมหาวิทยาลัยนั้น ล้วนมีแต่ชาวจีนทั้งสิ้น

    นักศึกษาชาวมลายูมีแค่ 1%

    ในคณะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ ที่เราเรียกว่า STEM นั้น ก็เป็นแบบเดียวกันคือ มีแต่นักศึกษาชาวจีน อันทำให้ชาวจีนมีความรู้สูงกว่าและเจริญงอกงามกว่าชาวมลายูทั้งๆที่ประชากรชาวจีนนั้นมีไม่ถึง 20%

    ก่อให้เกิดความเกลียดชังที่คนมลายูมีต่อคนจีน
    .
    .
    .
    ในปี 1960 รัฐบาลมาเลเซียซึ่งเป็นคนมลายูทั้งหมด จึงดำริโครงการที่ชื่อว่า Affirmative Action เพื่อช่วยชาวมลายู คือ ช่วยเหลือทุกวิถีทางที่จะเพิ่มจำนวนคนมลายูให้เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้

    นำไปสู่การตั้งโควต้านักศึกษา ว่าจะต้องมีคนมลายูเท่านี้และจำกัดจำนวนคนจีนที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ

    และที่ช้อคสุดคือ รัฐบาลสั่งเปลี่ยนภาษาที่สอนในมหาลัย จากเดิมที่สอนเป็นภาษาอังกฤษให้เปลี่ยนเป็นภาษามลายูทั้งหมด

    คือ กีดกันคนจีนกันเต็มที่

    ทำให้นักศึกษาจีนที่เก่งๆหัวดีจำนวนมากถอดใจกับการเข้ามหาวิทยาลัย และย้ายไปเรียนที่อเมริกาและยุโรปแทน คนจีนที่มีความรู้สูงจำนวนมากย้ายออกจากมาเลเซีย

    การกีดกันเชื้อชาตินี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สิงคโปร์แยกตัวออกไปตั้งประเทศเอง และภายหลังสิงคโปร์นั้นเจริญงอกงามกว่ามาเลเซียมาก

    (ถ้าจะพูดให้ถูกคือ รัฐบาลมลายูขับไล่นายลี กวน ยูและสิงคโปร์ออกไปครับ)

    แต่กระนั้นความกดดันของรัฐบาลมลายูนี้ก็ก่อให้เกิดผลดีอยู่บ้างคือ ชาวจีนรวมตัวกันสร้างมหาวิทยาลัยเอกชนขึ้นในมาเลเซียหลายแห่ง สอนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษเหมือนเคย เพื่อสอนให้กับชาวจีนและอินเดียที่ได้รับผลกระทบ

    และได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในเวลาต่อมา
    .
    .
    .
    เมื่อกาลเวลาผ่านไป 60 ปี Affirmative Action นี้ก็ยังคงอยู่ในมาเลเซียในรูปแบบของโควต้าเชื้อชาติ

    ผลของ Affirmative Action นี้ ทำให้คนมลายูมีอัตราการเรียนมหาวิทยาลัยสูงขึ้นจริง มีรายได้สูงขึ้นจริง

    แต่ว่าโครงสร้างเศรษฐกิจยังคงเหมือนเดิม

    คือ ธุรกิจและอุตสาหกรรมภาคเอกชนขนาดใหญ่ในมาเลเซียยังคงอยู่ในมือของคนจีน

    ส่วนคนมลายูนั้นส่วนใหญ่จะทำงานอยู่ในภาครัฐ ที่โดดเด่นขึ้นมาในภาคเอกชนก็มีครับ เช่น แอร์ เอเซีย ที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจมลายู 2 คนครับ

    ในประชากรมาเลเซีย 100 คน มีชาวมลายูราวๆ 70% ชาวจีน 20% ที่เหลือเป็นอินเดีย 8% ครับ

    เมื่อสำรวจรายได้ของคนมาเลเซียในปี 2022 ก็ได้พบว่า หากชาวจีนมีรายได้ 100 บาท ชาวมลายูจะมีรายได้ 70 บาท และชาวอินเดีย 87 บาท

    ชาวมลายูยังคงรายได้ต่ำที่สุดอยู่เช่นเคย แม้จะกีดกันชาวจีนแล้วก็ตาม
    .
    .
    .
    ที่ผมยกเรื่องโครงการ Affirmative Action ขึ้นมานี้ เพราะเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันทั่วโลกมากว่าเป็นนโยบายที่เลือกปฏิบัติ (Discrimination) ครับ

    คือ เลือกช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ

    จริงๆแล้วมาเลเซียลอกไอเดียนี้มาจากอเมริกาในปี 1960 ที่ปธน.จอห์น เอฟ เคนเนดี้ นำมาใช้เพื่อให้โอกาสคนดำและเชื้อชาติอื่นได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยบ้าง

    เพราะหากเอานักเรียนมาสอบแข่งขันกันจริงๆแล้ว ในเวลานั้นนักเรียนผิวขาวชนะขาดลอย เช่นเดียวกับที่นักเรียนจีนในมาเลเซียที่เก่งกว่าเด็กมลายู

    อเมริกาใช้โครงการนี้อยู่หลายรัฐบาล มีการใช้โควต้าเชื้อชาติด้วย จนกระทั่งศาลสูงของอเมริกาสั่งยกเลิกระบบนี้ในการคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัย

    และปัจจุบันอเมริกาก็เอานโยบายคล้ายๆกันนี้กลับเข้ามาใช้อีกในรูปแบบของ DEI (Diversity, Equity and Inclusion) คือ ให้เอาเชื้อชาติเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณารับคนเข้าทำงาน โดยเฉพาะในหน่วยงานรัฐบาล

    คือ ในหนึ่งองค์กรจะต้องมีคนจากทุกเชื้อชาติให้ได้มากที่สุด

    เรื่อง DEI นี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา เมื่อทรัมป์ถูกพยายามลอบสังหารและมีภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจลับหญิงอ้วนที่เงอะๆงั่นๆทำอะไรไม่ถูกยืนอยู่ข้างๆทรัมป์

    ชาวเน็ทอเมริกันจึงจัดทัวร์ไปลงว่า “DEI ทำให้เราไม่ได้จ้างคนจากฝีมือและความสามารถ”
    .
    .
    .
    ผมนั่งดูๆเรื่องนี้แล้ว ก็บังเกิดความเห็นใจทั้ง 2 ฝั่ง

    คือ ผมเห็นใจคนบางกลุ่มบางเผ่าพันธุ์ว่า ถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษแล้ว โอกาสที่จะโงหัวขึ้นมามีชีวิตที่ดีบ้างนั้นก็แทบจะไม่มีเลย

    ในขณะเดียวกันผมก็เห็นใจคนหัวดีและคนเก่งกว่าว่า เขาตั้งใจเรียนและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่กลายเป็นต้องมาแพ้ให้กับระบบโควต้าที่ช่วยคนที่ห่วยกว่าตัวเอง

    หนทางที่ดีที่สุดของเรื่องลักษณะนี้ ผมเห็นด้วย 100% กับท่านผู้พิพากษาศาลสูงของอเมริกาชื่อ “ซานดร้า เดย์ โอคอนเนอร์”

    ท่านกล่าวว่า “Race-conscious admissions policies must be limited in time. The court expects that 25 years from now, the use of racial preferences will no longer be necessary"

    "นโยบายการเลือกรับคนโดยดูจากเชื้อชาตินั้นควรกำหนดกรอบเวลาไว้ ศาลหวังว่าในอีก 25 ปีจากนี้ไปนั้น เราไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องเชื้อชาติมาร่วมพิจารณาอีกต่อไป“

    ท่านบันทึกไว้ในปี 2003 ครับ

    เพราะผมเห็นด้วยกับที่มีคนเคยพูดว่า “กลุ่มคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษหรือใช้ทางลัดมาตลอดชีวิตนั้น เมื่อถึงวันหนึ่งที่ต้องออกไปต่อสู้อย่างแฟร์ๆแล้ว คนพวกนี้ก็จะบอกว่า ”ฉันไม่ได้รับความยุติธรรม“

    …ไม่ช่วยเลยก็น่าสงสาร ช่วยมากไปก็อ่อนแอ…

    ภาพประกอบไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องครับ ผมเห็นว่าสวยดีก็เลยโพสท์ไปด้วย 😉


    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.88 : Affirmative Action วันนี้อยากจะเล่าเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Affirmative Action ของมาเลเซียประเทศเพื่อนบ้านของเราครับ ในสมัยก่อนนู้น คือ ยุคก่อนปี 1950 นั้น มาเลเซีย (ตอนนั้นเรียก “มลายา”) เป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่ครับ อังกฤษเขาเห็นว่าที่มลายานี้ยังขาดแคลลนแรงงานอยู่มาก ก็เลยเปิดรับชาวจีนให้อพยพเข้ามาเป็นแรงงานอยู่ที่มลายา ชาวจีนที่อพยพมามลายานั้น ส่วนใหญ่จะมาจากมณฑลฟูเจี้ยนและกวางตุ้ง เหตุที่อพยพมาก็เพราะหนีความอดอยากและยากจนของประเทศจีนในเวลานั้นครับ คนจีนเหล่านี้ เบื้องแรกก็มาเป็นแรงงานทำโน่นทำนี่ แต่อยู่ๆไปก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษและเริ่มทำธุรกิจ ชีวิตความเป็นอยู่และรายได้เริ่มดีขึ้นด้วยความขยันตามประสาคนจีน นี่คือจุดเริ่มต้นของคนจีนในคาบสมุทรมลายา คิดเป็นสัดส่วนราวๆ 10% ของประชากรทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมลายู คนอินเดียก็มีมาอยู่ที่มลายาเหมือนกัน แต่น้อยกว่าคนจีน ทีนี้พอถึงปี 1957 อังกฤษคืนเอกราชให้มลายา อำนาจการปกครองรัฐบาลนั้นเป็นของชาวมลายูเกือบ 100% ในเวลานั้น ธุรกิจสำคัญส่วนใหญ่อยู่ในมือของชาวจีน และสำคัญคือ 99% ของนักศึกษาที่เข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ในมหาวิทยาลัยนั้น ล้วนมีแต่ชาวจีนทั้งสิ้น นักศึกษาชาวมลายูมีแค่ 1% ในคณะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ ที่เราเรียกว่า STEM นั้น ก็เป็นแบบเดียวกันคือ มีแต่นักศึกษาชาวจีน อันทำให้ชาวจีนมีความรู้สูงกว่าและเจริญงอกงามกว่าชาวมลายูทั้งๆที่ประชากรชาวจีนนั้นมีไม่ถึง 20% ก่อให้เกิดความเกลียดชังที่คนมลายูมีต่อคนจีน . . . ในปี 1960 รัฐบาลมาเลเซียซึ่งเป็นคนมลายูทั้งหมด จึงดำริโครงการที่ชื่อว่า Affirmative Action เพื่อช่วยชาวมลายู คือ ช่วยเหลือทุกวิถีทางที่จะเพิ่มจำนวนคนมลายูให้เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ นำไปสู่การตั้งโควต้านักศึกษา ว่าจะต้องมีคนมลายูเท่านี้และจำกัดจำนวนคนจีนที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ และที่ช้อคสุดคือ รัฐบาลสั่งเปลี่ยนภาษาที่สอนในมหาลัย จากเดิมที่สอนเป็นภาษาอังกฤษให้เปลี่ยนเป็นภาษามลายูทั้งหมด คือ กีดกันคนจีนกันเต็มที่ ทำให้นักศึกษาจีนที่เก่งๆหัวดีจำนวนมากถอดใจกับการเข้ามหาวิทยาลัย และย้ายไปเรียนที่อเมริกาและยุโรปแทน คนจีนที่มีความรู้สูงจำนวนมากย้ายออกจากมาเลเซีย การกีดกันเชื้อชาตินี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สิงคโปร์แยกตัวออกไปตั้งประเทศเอง และภายหลังสิงคโปร์นั้นเจริญงอกงามกว่ามาเลเซียมาก (ถ้าจะพูดให้ถูกคือ รัฐบาลมลายูขับไล่นายลี กวน ยูและสิงคโปร์ออกไปครับ) แต่กระนั้นความกดดันของรัฐบาลมลายูนี้ก็ก่อให้เกิดผลดีอยู่บ้างคือ ชาวจีนรวมตัวกันสร้างมหาวิทยาลัยเอกชนขึ้นในมาเลเซียหลายแห่ง สอนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษเหมือนเคย เพื่อสอนให้กับชาวจีนและอินเดียที่ได้รับผลกระทบ และได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในเวลาต่อมา . . . เมื่อกาลเวลาผ่านไป 60 ปี Affirmative Action นี้ก็ยังคงอยู่ในมาเลเซียในรูปแบบของโควต้าเชื้อชาติ ผลของ Affirmative Action นี้ ทำให้คนมลายูมีอัตราการเรียนมหาวิทยาลัยสูงขึ้นจริง มีรายได้สูงขึ้นจริง แต่ว่าโครงสร้างเศรษฐกิจยังคงเหมือนเดิม คือ ธุรกิจและอุตสาหกรรมภาคเอกชนขนาดใหญ่ในมาเลเซียยังคงอยู่ในมือของคนจีน ส่วนคนมลายูนั้นส่วนใหญ่จะทำงานอยู่ในภาครัฐ ที่โดดเด่นขึ้นมาในภาคเอกชนก็มีครับ เช่น แอร์ เอเซีย ที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจมลายู 2 คนครับ ในประชากรมาเลเซีย 100 คน มีชาวมลายูราวๆ 70% ชาวจีน 20% ที่เหลือเป็นอินเดีย 8% ครับ เมื่อสำรวจรายได้ของคนมาเลเซียในปี 2022 ก็ได้พบว่า หากชาวจีนมีรายได้ 100 บาท ชาวมลายูจะมีรายได้ 70 บาท และชาวอินเดีย 87 บาท ชาวมลายูยังคงรายได้ต่ำที่สุดอยู่เช่นเคย แม้จะกีดกันชาวจีนแล้วก็ตาม . . . ที่ผมยกเรื่องโครงการ Affirmative Action ขึ้นมานี้ เพราะเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันทั่วโลกมากว่าเป็นนโยบายที่เลือกปฏิบัติ (Discrimination) ครับ คือ เลือกช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ จริงๆแล้วมาเลเซียลอกไอเดียนี้มาจากอเมริกาในปี 1960 ที่ปธน.จอห์น เอฟ เคนเนดี้ นำมาใช้เพื่อให้โอกาสคนดำและเชื้อชาติอื่นได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยบ้าง เพราะหากเอานักเรียนมาสอบแข่งขันกันจริงๆแล้ว ในเวลานั้นนักเรียนผิวขาวชนะขาดลอย เช่นเดียวกับที่นักเรียนจีนในมาเลเซียที่เก่งกว่าเด็กมลายู อเมริกาใช้โครงการนี้อยู่หลายรัฐบาล มีการใช้โควต้าเชื้อชาติด้วย จนกระทั่งศาลสูงของอเมริกาสั่งยกเลิกระบบนี้ในการคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัย และปัจจุบันอเมริกาก็เอานโยบายคล้ายๆกันนี้กลับเข้ามาใช้อีกในรูปแบบของ DEI (Diversity, Equity and Inclusion) คือ ให้เอาเชื้อชาติเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณารับคนเข้าทำงาน โดยเฉพาะในหน่วยงานรัฐบาล คือ ในหนึ่งองค์กรจะต้องมีคนจากทุกเชื้อชาติให้ได้มากที่สุด เรื่อง DEI นี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา เมื่อทรัมป์ถูกพยายามลอบสังหารและมีภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจลับหญิงอ้วนที่เงอะๆงั่นๆทำอะไรไม่ถูกยืนอยู่ข้างๆทรัมป์ ชาวเน็ทอเมริกันจึงจัดทัวร์ไปลงว่า “DEI ทำให้เราไม่ได้จ้างคนจากฝีมือและความสามารถ” . . . ผมนั่งดูๆเรื่องนี้แล้ว ก็บังเกิดความเห็นใจทั้ง 2 ฝั่ง คือ ผมเห็นใจคนบางกลุ่มบางเผ่าพันธุ์ว่า ถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษแล้ว โอกาสที่จะโงหัวขึ้นมามีชีวิตที่ดีบ้างนั้นก็แทบจะไม่มีเลย ในขณะเดียวกันผมก็เห็นใจคนหัวดีและคนเก่งกว่าว่า เขาตั้งใจเรียนและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่กลายเป็นต้องมาแพ้ให้กับระบบโควต้าที่ช่วยคนที่ห่วยกว่าตัวเอง หนทางที่ดีที่สุดของเรื่องลักษณะนี้ ผมเห็นด้วย 100% กับท่านผู้พิพากษาศาลสูงของอเมริกาชื่อ “ซานดร้า เดย์ โอคอนเนอร์” ท่านกล่าวว่า “Race-conscious admissions policies must be limited in time. The court expects that 25 years from now, the use of racial preferences will no longer be necessary" "นโยบายการเลือกรับคนโดยดูจากเชื้อชาตินั้นควรกำหนดกรอบเวลาไว้ ศาลหวังว่าในอีก 25 ปีจากนี้ไปนั้น เราไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องเชื้อชาติมาร่วมพิจารณาอีกต่อไป“ ท่านบันทึกไว้ในปี 2003 ครับ เพราะผมเห็นด้วยกับที่มีคนเคยพูดว่า “กลุ่มคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษหรือใช้ทางลัดมาตลอดชีวิตนั้น เมื่อถึงวันหนึ่งที่ต้องออกไปต่อสู้อย่างแฟร์ๆแล้ว คนพวกนี้ก็จะบอกว่า ”ฉันไม่ได้รับความยุติธรรม“ …ไม่ช่วยเลยก็น่าสงสาร ช่วยมากไปก็อ่อนแอ… ภาพประกอบไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องครับ ผมเห็นว่าสวยดีก็เลยโพสท์ไปด้วย 😉 นัทแนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวบรวม 61ความระยำของ ทักษิณ บันทึกไว้ให้ลูกหลานมันจำ" 🧐เครดิต:ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิทย์ แชร์ให้โลกรู้
    9 ธค.นี้ 10.00 น.หน้าทำเนียบรัฐบาลไทยทุกคน

    1. แก้ พรบ.สรรพสามิตโทรคมนาคม ให้เสียภาษีน้อยลง ได้ผลประโยชน์ 8,000 ล้าน
    2. ลดสัมปทาน itv ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ที่เคยมีอุดมการณ์เปลี่ยนมาทำลายวัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลีมาฉาย และปิดสื่อความไม่ดีสร้างภาพดีๆให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%)
    3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร
    4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเองคุมตำรวจ
    5. ตั้ง วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กกต.
    6. ตั้ง สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก
    7. ตั้ง คงศักดิ์ วันทนา เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สามีลูกน้ำเพื่อนรักที่ช่วยแลกเช็คให้สมัยยังจนอยู่ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ…มาคุมทุกเหล่า
    8. กล่าวคําพูดท้าทายพวกก่อการร้ายในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอก อย่าไปใส่ใจ ทําให้เกิดความรุนแรงคนตายมากมายและหลุดปากด่าทหารว่า “สมควรตาย”
    9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนดแล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย
    10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียมทางเหนือก็ตายหมด ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่อง สัญญาณดาวเทียม IP Star
    11. เจรจาเซ็น FTA กับออสเตรเลีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้าน OTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณ IP Star
    12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุนโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของ ชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆที่เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้วไม่รู้ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อีก 16,459 ล้านบาทต่อปี
    13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรกเปิดขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไปหลังจากแปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้กองทุนน้ำมันของคนไทยขาดทุนกว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไรแทนที่จะเป็นของรัฐก็กลายเป็นกำไรของตระกูลพวกถือหุ้น
    14. ซุกหุ้นภาคแรกให้เมียตัวเองขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค 2 ให้ลูกชายตัวเองขึ้นศาลรับผิดไหนบอกว่ารักครอบครัวไง
    15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย0% ไม่กำหนดเวลาชำระคืนแถมได้รับการเว้นภาษีจาก บีโอไอ อีกทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี
    16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณาที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับการเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่น
    17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลานเปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง
    18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดีกับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ
    19. ทักษิณพูดว่า”จังหวัดไหนเลือกไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อน” น้ำท่วมภาคใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ไปกินก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไปเดินตลาดหาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็มสภาแล้วแต่ที่ต้องลงใต้ไปดูน้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจากกลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
    20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งให้สามารถโกงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี
    20.1 ปั๊มตรายางอีกชุดรอเวลาเปลี่ยนกล่องบัตรได้ทุกเวลา
    20.2 หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมีสามารถทำได้)
    21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนกทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบต้องตายแล้วยังไปแสดงการกินไก่ไปหัวเราะไป เพื่อ ซีพี.นายทุนพรรคเท่านั้น
    22. ทําให้เกิดการฆ่าตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์กว่า 2000 คน จากการปราบยาบ้าสั่งฆ่าคนได้หน้าตาเฉย โหดร้ายทารุณ
    23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อนทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้องเอาเงินไปฟอกต่างประเทศเอาเปรียบใน การทําธุรกิจผูกขาด
    ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคนในวงการธุรกิจ เขารู้กันหมด ค้ากำไรเกินควร จนรํ่ารวยมหาศาล
    24. โกงที่ดินวัดของสนามกอล์ฟอัลไพน์มีคนโกงที่ดินธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้วทักษิณไปซื้อต่อทั้ง ๆ รู้ว่าที่ดินนั้นได้มา ไม่ถูกต้องเพราะไม่กลัวบาปกรรม
    25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่มแทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ชัดเจนของการปฎิรูปการศึกษาไทย ประชาชนจะถูกหลอกอีก 4 ปี เอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศไทยที่กฎหมายบอกว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมีใครบ้างที่เรียนฟรีถามผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย
    26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษ ๆ รัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลายสิบปี กลับร้อนระอุกลายเป็นแดนมิคสัญญี
    27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดินไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ตนเองน่าจะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดินไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไงใช้อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็นด้วย คิดไงท่านนายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมีเปลียนสัญญาได้ทุกๆ 5 ปี เหมือนทำธรุกิจเลยขอเชิญชาวไทยเรียกร้องอธิปไตยชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็นไทยที่มิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม 2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือสิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่นะคุณ ยุคทักษิณคือ ยุคของเงินเหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแกประชาชน ยุคทหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรงอยู่เหนือเหตุผล
    28. ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวงไปหว่านให้รากหญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้าแบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือเข้ากระเป๋ามันเอง
    29. ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจากนายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง
    30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหาภายในสภาสักหน่อย อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมีไม่พอ
    31. วันที่ประกาศยุบสภาประกาศพร้อมกันว่าให้ไปเลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง
    32. คุณหญิงพจมาน อยากมีสมเด็จพระสังฆราชประจำตระกูลตัวเอง จึงให้นายวิษณุ เครืองา ลงนามแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราชพระราชทานรางวัลให้กับเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนของมหามกุฏราชวิทยาลัยในการประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา
    33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริตของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุดตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวนการสรรหา คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) คุณหญิงปิดห้องทำงานแล้ว ยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะหาหลักฐานทุจริตที่ห้องคุณหญิง ต่อมาคนดีอย่างคุณหญิงก็ได้กลับมาทำงานเหมือนเดิม
    34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณไว้ 35,000 ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000 ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000 ล้าน เครื่องบินเป็นแบบบินระยะไกล เสียค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อทำไมไม่ให้นักบินเป็นคนเลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความดูแลของ คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อน คุณหญิงพจมาน…
    35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดินครึ่งวัน อย่างมากก็วันเดียวก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้วนี่ไปถึง 4 วันเจรจาขายหุ้น แต่โกหกประชาชนคนไทยว่าจะไปพักผ่อน บอกตรงๆก็ได้
    36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้าของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้านบาทต่อเครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาทซึ่ง “ส่วนต่าง”ราคานี้ถูกนำไปใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ1,432 ล้านบาทกะจะกิน1,432 ล้าน – 294.4 ล้าน = ?
    37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยวบินการบินไทยที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบินของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้การบินไทยซึ่ง เป็นสายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการว่านอกจากการบินไทยแล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิกค่านั่งเครื่องบิน Low Cost ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มีเที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด (แย่ง จากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์ (ขายชาติ)
    38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 “ไทยโมบาย” ของ ทีโอที มันให้ ทีโอทีตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอทีมีที่ดินอยู่มากมายในต่างจังหวัด มันสั่งให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัดใช้เสาสัญญาณของAISโดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาท ทีโอที ได้ 1 บาท ..สุดยอดไหมละ
    39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้รับสัมปทานดาวเทียมไทยคมโดยการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดยอิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับสนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดีในยุคนี้คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ ได้เป็นรมว.กลาโหม และพล.อ.เรืองโรจน์ มหาสรานนท์ ได้เป็นผบ.สูงสุด
    40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่นพระบรมฯ
    40.1. สำนัก ราชเลขาฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่.. แทนลำเก่าที่ ชำรุดมากแล้ว …..ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน..จาก ข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่เชียงใหม่……………
    40.2. ทักษิณ ชินวัตร ใช้อุโบสถวัดพระแก้วในการทำบุญประเทศ (แต่แต่งกายในชุดสบายๆ ไม่เป็นทางการ) ทั้งๆที่ประธานในการทำบุญระดับประเทศควรเป็นพระองค์ท่านมากกว่า…ที่ สำคัญอุโบสถวัดพระแก้วเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับประกอบ ศาสนพิธีของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน.. ไม่มีการขอพระบรมราชานุญาต… .พอ มีคนรู้ทัน.. รีบขอพระบรมราชานุญาตย้อนหลัง… จนพระองค์ท่านออกมาตรัสใน วันที่ 4 ธันวาคมว่า นายกฯจะให้ท่านทำอะไรก็ทำให้หมด แต่ควรพิจารณาด้วยว่าสมควรหรือไม่
    40.3. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ”ผีที่ไหนจะจงรักภักดี….”
    คนระดับทักษิณ มีการศึกษาสูงพอ ผ่านงานพระราชพิธีมามากมาย..ย่อมควรรู้ดีว่าสมควรพูดเช่นนี้ หรือไม่….ถ้ามีปัญญาก็ควรพูดว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ใครเล่าที่จะจงรักภักดี มากกว่า
    40.4. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้าในหลวงมากระซิบข้างหู…(พูดว่าข้างหู) ว่าออกเถอะจะกราบบังคมลาทันที…คำหลังยังใช้ราชาศัพท์เป็น แต่คำหน้าไหงใช้คำว่ามากระซิบข้างหู… ทักษิณ ไม่ควรทำตัวเสมอพระองค์ท่าน
    40.5. แม่ยายของทักษิณ กล่าวจาบจ้วงว่า บางทีตนอาจขอม็อบพระราชทานบ้าง คำว่า สิ่งพระราชทาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มงคล เป็นสิ่งที่ดีแต่คำว่า “ม็อบ” หมายถึง กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องบางอย่าง พระองค์ท่านจะพระราชทานได้อย่าง ไร…ไม่สมควรพูด
    40.6. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯพระราชทานอยู่แล้ว ถ้าได้กลับมาอีกครั้งพระองค์ท่านต้อง …ใช้คำว่า “ต้อง” เซ็นให้ตนเป็นนายกฯอยู่วันยังค่ำ
    40.7. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า โผทหารที่นายกฯเซ็นแล้ว ใครจะกล้าเปลี่…
    รวบรวม 61ความระยำของ ทักษิณ บันทึกไว้ให้ลูกหลานมันจำ" 🧐เครดิต:ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิทย์ แชร์ให้โลกรู้ 9 ธค.นี้ 10.00 น.หน้าทำเนียบรัฐบาลไทยทุกคน 1. แก้ พรบ.สรรพสามิตโทรคมนาคม ให้เสียภาษีน้อยลง ได้ผลประโยชน์ 8,000 ล้าน 2. ลดสัมปทาน itv ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ที่เคยมีอุดมการณ์เปลี่ยนมาทำลายวัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลีมาฉาย และปิดสื่อความไม่ดีสร้างภาพดีๆให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%) 3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร 4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเองคุมตำรวจ 5. ตั้ง วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กกต. 6. ตั้ง สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก 7. ตั้ง คงศักดิ์ วันทนา เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สามีลูกน้ำเพื่อนรักที่ช่วยแลกเช็คให้สมัยยังจนอยู่ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ…มาคุมทุกเหล่า 8. กล่าวคําพูดท้าทายพวกก่อการร้ายในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอก อย่าไปใส่ใจ ทําให้เกิดความรุนแรงคนตายมากมายและหลุดปากด่าทหารว่า “สมควรตาย” 9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนดแล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย 10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียมทางเหนือก็ตายหมด ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่อง สัญญาณดาวเทียม IP Star 11. เจรจาเซ็น FTA กับออสเตรเลีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้าน OTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณ IP Star 12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุนโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของ ชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆที่เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้วไม่รู้ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อีก 16,459 ล้านบาทต่อปี 13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรกเปิดขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไปหลังจากแปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้กองทุนน้ำมันของคนไทยขาดทุนกว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไรแทนที่จะเป็นของรัฐก็กลายเป็นกำไรของตระกูลพวกถือหุ้น 14. ซุกหุ้นภาคแรกให้เมียตัวเองขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค 2 ให้ลูกชายตัวเองขึ้นศาลรับผิดไหนบอกว่ารักครอบครัวไง 15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย0% ไม่กำหนดเวลาชำระคืนแถมได้รับการเว้นภาษีจาก บีโอไอ อีกทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี 16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณาที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับการเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่น 17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลานเปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง 18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดีกับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ 19. ทักษิณพูดว่า”จังหวัดไหนเลือกไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อน” น้ำท่วมภาคใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ไปกินก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไปเดินตลาดหาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็มสภาแล้วแต่ที่ต้องลงใต้ไปดูน้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจากกลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ 20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งให้สามารถโกงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี 20.1 ปั๊มตรายางอีกชุดรอเวลาเปลี่ยนกล่องบัตรได้ทุกเวลา 20.2 หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมีสามารถทำได้) 21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนกทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบต้องตายแล้วยังไปแสดงการกินไก่ไปหัวเราะไป เพื่อ ซีพี.นายทุนพรรคเท่านั้น 22. ทําให้เกิดการฆ่าตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์กว่า 2000 คน จากการปราบยาบ้าสั่งฆ่าคนได้หน้าตาเฉย โหดร้ายทารุณ 23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อนทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้องเอาเงินไปฟอกต่างประเทศเอาเปรียบใน การทําธุรกิจผูกขาด ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคนในวงการธุรกิจ เขารู้กันหมด ค้ากำไรเกินควร จนรํ่ารวยมหาศาล 24. โกงที่ดินวัดของสนามกอล์ฟอัลไพน์มีคนโกงที่ดินธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้วทักษิณไปซื้อต่อทั้ง ๆ รู้ว่าที่ดินนั้นได้มา ไม่ถูกต้องเพราะไม่กลัวบาปกรรม 25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่มแทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ชัดเจนของการปฎิรูปการศึกษาไทย ประชาชนจะถูกหลอกอีก 4 ปี เอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศไทยที่กฎหมายบอกว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมีใครบ้างที่เรียนฟรีถามผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย 26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษ ๆ รัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลายสิบปี กลับร้อนระอุกลายเป็นแดนมิคสัญญี 27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดินไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ตนเองน่าจะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดินไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไงใช้อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็นด้วย คิดไงท่านนายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมีเปลียนสัญญาได้ทุกๆ 5 ปี เหมือนทำธรุกิจเลยขอเชิญชาวไทยเรียกร้องอธิปไตยชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็นไทยที่มิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม 2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือสิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่นะคุณ ยุคทักษิณคือ ยุคของเงินเหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแกประชาชน ยุคทหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรงอยู่เหนือเหตุผล 28. ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวงไปหว่านให้รากหญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้าแบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือเข้ากระเป๋ามันเอง 29. ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจากนายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง 30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหาภายในสภาสักหน่อย อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมีไม่พอ 31. วันที่ประกาศยุบสภาประกาศพร้อมกันว่าให้ไปเลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง 32. คุณหญิงพจมาน อยากมีสมเด็จพระสังฆราชประจำตระกูลตัวเอง จึงให้นายวิษณุ เครืองา ลงนามแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราชพระราชทานรางวัลให้กับเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนของมหามกุฏราชวิทยาลัยในการประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา 33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริตของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุดตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวนการสรรหา คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) คุณหญิงปิดห้องทำงานแล้ว ยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะหาหลักฐานทุจริตที่ห้องคุณหญิง ต่อมาคนดีอย่างคุณหญิงก็ได้กลับมาทำงานเหมือนเดิม 34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณไว้ 35,000 ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000 ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000 ล้าน เครื่องบินเป็นแบบบินระยะไกล เสียค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อทำไมไม่ให้นักบินเป็นคนเลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความดูแลของ คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อน คุณหญิงพจมาน… 35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดินครึ่งวัน อย่างมากก็วันเดียวก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้วนี่ไปถึง 4 วันเจรจาขายหุ้น แต่โกหกประชาชนคนไทยว่าจะไปพักผ่อน บอกตรงๆก็ได้ 36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้าของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้านบาทต่อเครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาทซึ่ง “ส่วนต่าง”ราคานี้ถูกนำไปใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ1,432 ล้านบาทกะจะกิน1,432 ล้าน – 294.4 ล้าน = ? 37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยวบินการบินไทยที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบินของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้การบินไทยซึ่ง เป็นสายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการว่านอกจากการบินไทยแล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิกค่านั่งเครื่องบิน Low Cost ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มีเที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด (แย่ง จากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์ (ขายชาติ) 38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 “ไทยโมบาย” ของ ทีโอที มันให้ ทีโอทีตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอทีมีที่ดินอยู่มากมายในต่างจังหวัด มันสั่งให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัดใช้เสาสัญญาณของAISโดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาท ทีโอที ได้ 1 บาท ..สุดยอดไหมละ 39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้รับสัมปทานดาวเทียมไทยคมโดยการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดยอิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับสนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดีในยุคนี้คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ ได้เป็นรมว.กลาโหม และพล.อ.เรืองโรจน์ มหาสรานนท์ ได้เป็นผบ.สูงสุด 40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่นพระบรมฯ 40.1. สำนัก ราชเลขาฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่.. แทนลำเก่าที่ ชำรุดมากแล้ว …..ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน..จาก ข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่เชียงใหม่…………… 40.2. ทักษิณ ชินวัตร ใช้อุโบสถวัดพระแก้วในการทำบุญประเทศ (แต่แต่งกายในชุดสบายๆ ไม่เป็นทางการ) ทั้งๆที่ประธานในการทำบุญระดับประเทศควรเป็นพระองค์ท่านมากกว่า…ที่ สำคัญอุโบสถวัดพระแก้วเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับประกอบ ศาสนพิธีของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน.. ไม่มีการขอพระบรมราชานุญาต… .พอ มีคนรู้ทัน.. รีบขอพระบรมราชานุญาตย้อนหลัง… จนพระองค์ท่านออกมาตรัสใน วันที่ 4 ธันวาคมว่า นายกฯจะให้ท่านทำอะไรก็ทำให้หมด แต่ควรพิจารณาด้วยว่าสมควรหรือไม่ 40.3. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ”ผีที่ไหนจะจงรักภักดี….” คนระดับทักษิณ มีการศึกษาสูงพอ ผ่านงานพระราชพิธีมามากมาย..ย่อมควรรู้ดีว่าสมควรพูดเช่นนี้ หรือไม่….ถ้ามีปัญญาก็ควรพูดว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ใครเล่าที่จะจงรักภักดี มากกว่า 40.4. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้าในหลวงมากระซิบข้างหู…(พูดว่าข้างหู) ว่าออกเถอะจะกราบบังคมลาทันที…คำหลังยังใช้ราชาศัพท์เป็น แต่คำหน้าไหงใช้คำว่ามากระซิบข้างหู… ทักษิณ ไม่ควรทำตัวเสมอพระองค์ท่าน 40.5. แม่ยายของทักษิณ กล่าวจาบจ้วงว่า บางทีตนอาจขอม็อบพระราชทานบ้าง คำว่า สิ่งพระราชทาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มงคล เป็นสิ่งที่ดีแต่คำว่า “ม็อบ” หมายถึง กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องบางอย่าง พระองค์ท่านจะพระราชทานได้อย่าง ไร…ไม่สมควรพูด 40.6. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯพระราชทานอยู่แล้ว ถ้าได้กลับมาอีกครั้งพระองค์ท่านต้อง …ใช้คำว่า “ต้อง” เซ็นให้ตนเป็นนายกฯอยู่วันยังค่ำ 40.7. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า โผทหารที่นายกฯเซ็นแล้ว ใครจะกล้าเปลี่…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 0 รีวิว
  • Star Scorpio ลำใหม่ล่าสุดจากสายเรือ Resort World Cruise 🚨‼️
    เรือลำใหม่ เส้นทางใหม่ แหลมฉบัง - แหลมฉบัง // แหลมฉบัง - สิงคโปร์

    ➡️ เดินทาง เม.ย. - พ.ค. 68

    ✅ ขึ้นเรือที่ประเทศไทย
    ✅ ห้องพักบนเรือสําราญ 5คืน (ตามแบบห้องพักที่ท่านได้ทําการชําระเงิน)
    ✅ อาหารบนเรือสําราญ (ยกเว้นห้องอาหารพิเศษ)
    ✅ กิจกรรม และความบันเทิงบนเรือสําราญ

    ❌ ค่าภาษีท่าเรือ
    ❌ ค่าทิปพนักงานบนเรือ

    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696 (Auto)

    #StarScorpio #Resortworldcruise #แหลมฉบัง #สิงคโปร์ #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #ล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #ข่าว #News #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Star Scorpio ลำใหม่ล่าสุดจากสายเรือ Resort World Cruise 🚨‼️ เรือลำใหม่ เส้นทางใหม่ แหลมฉบัง - แหลมฉบัง // แหลมฉบัง - สิงคโปร์ ➡️ เดินทาง เม.ย. - พ.ค. 68 ✅ ขึ้นเรือที่ประเทศไทย ✅ ห้องพักบนเรือสําราญ 5คืน (ตามแบบห้องพักที่ท่านได้ทําการชําระเงิน) ✅ อาหารบนเรือสําราญ (ยกเว้นห้องอาหารพิเศษ) ✅ กิจกรรม และความบันเทิงบนเรือสําราญ ❌ ค่าภาษีท่าเรือ ❌ ค่าทิปพนักงานบนเรือ ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #StarScorpio #Resortworldcruise #แหลมฉบัง #สิงคโปร์ #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #ล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #ข่าว #News #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'กาสิโน' ถูกกฎหมาย ครม.อนุมัติหลักการ 'กฤษฎีกา' ไม่ค้านแต่ต้องให้ชัด
    .
    ในที่สุดโครงการก่อสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ได้มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ตามขั้นตอนได้มอบหมายสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบและปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย และคำแถลงนโยบายของรัฐสภา และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
    .
    นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หากเกิดขึ้นได้เร็วก็จะดี เพราะอย่างสิงคโปร์ มีการทำโครงการนี้ และมีกาสิโนเพียง 10% ก็ทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นมาก และระดับเศรษฐกิจ จีดีพีก็เติบโตขึ้นได้อย่างมาก หวังว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่าประเทศไทย จะมีธุรกิจสีเทา นอกกฎหมายมากขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่าหากสามารถทำทุกเรื่องให้โปร่งใส ก็จะเป็นเรื่องบวกกับประเทศ และมีภาษีที่ได้มากขึ้นก็ถือเป็นรายได้ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นของประเทศ
    .
    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยในเชิงของหลักการ เกือบจะ 90% ที่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ทุกคนมีข้อสังเกตที่ตรงกับลักษณะงานที่ตัวเองดูแลอยู่ อย่างเรื่องกาสิโน ที่กลัวคนไทย และเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องรับไว้ ว่าจะต้องกำกับอย่างไร ซึ่งรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนเพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ อยากให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า ส่วนสาเหตุที่ไม่ไปแก้ไขกฎหมายการพนันโดยตรง ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า แต่หลายๆ อย่างเป็นเรื่องของการเอนเทอร์เทนเมนต์ และรายได้ที่มาจากกาสิโนเป็นส่วนน้อย
    .
    นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอย่างมั่นใจว่า เบื้องต้นคาดว่ามีรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 1.2-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสามารถนำมาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในส่วนอื่นๆ ได้ รวมทั้งป้องกันปัญหาอาชญากรรม และการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ที่มีอยู่ในสังคมไทยอีกด้วย
    .
    สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. คือ การกำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตามที่กำหนด โดยจะต้องประกอบธุรกิจไปด้วยสถาบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน และผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในไทยที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้รับสิทธิ์การทำสัญญาเช่าระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี และกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน 30 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต และมีการประเมินการทำงานทุก 5 ปี และได้กำหนดอัตราค่าใบอนุญาต โดยเริ่มต้นในการขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท ใบอนุญาตครั้งแรกฉบับละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท ใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 100,000 บาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยครั้งละ 5,000 บาท
    .
    ขณะที่ นายปกรณ์​ นิลประพันธ์​ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่า กฤษฎีกาไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่หลักในการทำกฎหมายของรัฐบาล จะต้องยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งจะต้องไปดูคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะไปดู Man​-​Made​ Destination หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่น ๆ และเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ เข้าไปอยู่ในนั้น แต่กฎหมายที่กระทรวงการคลังร่างขึ้นใช้ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งพูดถึงเฉพาะเรื่องของเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ และการแก้ไขปัญหาการพนัน ซึ่งแคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ
    .
    นายปกรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงมีความเห็นว่า นโยบายของรัฐบาลกว้างกว่า ถ้าจะเป็น​ Man​-Made​ Destination ควรจะเขียนให้กว้างขึ้น เพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนฯ​ ที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน แต่กฤษฎีกามองว่าการสร้างเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ถ้าอยากแก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ต้องไปแก้ไขที่อื่น เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมของคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว จึงต้องเอาให้ชัดว่าร่างกฎหมายนี้ต้องการบรรลุวัตถุประสงค์อะไร ค่อยเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา ว่าจะเน้น Man​-​Made​ Destination หรือจะเน้นเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ไม่อย่างนั้นก็ร่างไม่ถูก เพราะกระบวนการกลไกต่างกัน
    .
    "ถ้าเป็นเน้น Man​-​Made​ Destination จะเป็นเหมือนรีสอร์ตขนาดใหญ่ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานบันเทิง เหมือนที่เจอในต่างประเทศ มีที่พักสำหรับครอบครัว และมีกิจกรรมของแต่ละคน มีสวนสนุกและสวนน้ำสำหรับเด็ก สุภาพสตรี มีศูนย์การค้า ขณะที่ผู้ชายจะมีกีฬา ในส่วนของการพนันมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าต้องการเช่นนี้จริง ๆ ต้องขยายขอบของกฎหมายให้ครอบคลุม จึงเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีขอให้เอาให้ชัดก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้กระโดดขวางเหมือนที่สื่อบางสำนักพาดหัวไว้ จะย้ายผมหรือครับ" เลขาฯกฤษฎีกา ระบุ
    ..............
    Sondhi X
    'กาสิโน' ถูกกฎหมาย ครม.อนุมัติหลักการ 'กฤษฎีกา' ไม่ค้านแต่ต้องให้ชัด . ในที่สุดโครงการก่อสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ได้มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ตามขั้นตอนได้มอบหมายสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบและปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย และคำแถลงนโยบายของรัฐสภา และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป . นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หากเกิดขึ้นได้เร็วก็จะดี เพราะอย่างสิงคโปร์ มีการทำโครงการนี้ และมีกาสิโนเพียง 10% ก็ทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นมาก และระดับเศรษฐกิจ จีดีพีก็เติบโตขึ้นได้อย่างมาก หวังว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่าประเทศไทย จะมีธุรกิจสีเทา นอกกฎหมายมากขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่าหากสามารถทำทุกเรื่องให้โปร่งใส ก็จะเป็นเรื่องบวกกับประเทศ และมีภาษีที่ได้มากขึ้นก็ถือเป็นรายได้ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นของประเทศ . นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยในเชิงของหลักการ เกือบจะ 90% ที่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ทุกคนมีข้อสังเกตที่ตรงกับลักษณะงานที่ตัวเองดูแลอยู่ อย่างเรื่องกาสิโน ที่กลัวคนไทย และเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องรับไว้ ว่าจะต้องกำกับอย่างไร ซึ่งรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนเพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ อยากให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า ส่วนสาเหตุที่ไม่ไปแก้ไขกฎหมายการพนันโดยตรง ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า แต่หลายๆ อย่างเป็นเรื่องของการเอนเทอร์เทนเมนต์ และรายได้ที่มาจากกาสิโนเป็นส่วนน้อย . นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอย่างมั่นใจว่า เบื้องต้นคาดว่ามีรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 1.2-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสามารถนำมาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในส่วนอื่นๆ ได้ รวมทั้งป้องกันปัญหาอาชญากรรม และการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ที่มีอยู่ในสังคมไทยอีกด้วย . สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. คือ การกำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตามที่กำหนด โดยจะต้องประกอบธุรกิจไปด้วยสถาบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน และผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในไทยที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้รับสิทธิ์การทำสัญญาเช่าระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี และกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน 30 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต และมีการประเมินการทำงานทุก 5 ปี และได้กำหนดอัตราค่าใบอนุญาต โดยเริ่มต้นในการขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท ใบอนุญาตครั้งแรกฉบับละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท ใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 100,000 บาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยครั้งละ 5,000 บาท . ขณะที่ นายปกรณ์​ นิลประพันธ์​ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่า กฤษฎีกาไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่หลักในการทำกฎหมายของรัฐบาล จะต้องยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งจะต้องไปดูคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะไปดู Man​-​Made​ Destination หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่น ๆ และเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ เข้าไปอยู่ในนั้น แต่กฎหมายที่กระทรวงการคลังร่างขึ้นใช้ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งพูดถึงเฉพาะเรื่องของเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ และการแก้ไขปัญหาการพนัน ซึ่งแคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ . นายปกรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงมีความเห็นว่า นโยบายของรัฐบาลกว้างกว่า ถ้าจะเป็น​ Man​-Made​ Destination ควรจะเขียนให้กว้างขึ้น เพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนฯ​ ที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน แต่กฤษฎีกามองว่าการสร้างเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ถ้าอยากแก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ต้องไปแก้ไขที่อื่น เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมของคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว จึงต้องเอาให้ชัดว่าร่างกฎหมายนี้ต้องการบรรลุวัตถุประสงค์อะไร ค่อยเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา ว่าจะเน้น Man​-​Made​ Destination หรือจะเน้นเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ไม่อย่างนั้นก็ร่างไม่ถูก เพราะกระบวนการกลไกต่างกัน . "ถ้าเป็นเน้น Man​-​Made​ Destination จะเป็นเหมือนรีสอร์ตขนาดใหญ่ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานบันเทิง เหมือนที่เจอในต่างประเทศ มีที่พักสำหรับครอบครัว และมีกิจกรรมของแต่ละคน มีสวนสนุกและสวนน้ำสำหรับเด็ก สุภาพสตรี มีศูนย์การค้า ขณะที่ผู้ชายจะมีกีฬา ในส่วนของการพนันมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าต้องการเช่นนี้จริง ๆ ต้องขยายขอบของกฎหมายให้ครอบคลุม จึงเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีขอให้เอาให้ชัดก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้กระโดดขวางเหมือนที่สื่อบางสำนักพาดหัวไว้ จะย้ายผมหรือครับ" เลขาฯกฤษฎีกา ระบุ .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1188 มุมมอง 1 รีวิว
  • https://www.blognone.com/node/

    ตามหาเจ้าของแอพ Fineasy แอพเงินกู้นอกระบบที่แถมมากับรอมของมือถือ Oppo และ Realme (ภาคสอง) ยืนยันได้แล้วว่าเจ้าของเป็นคนจีน

    หลังจากเมื่อวานนี้ Blognone ค้นหาข้อมูลว่าเจ้าของแอพ Fineasy เป็นบริษัทสิงคโปร์ชื่อ Wealth Hope Pte. วันนี้เราขุดเข้าไปดูในฐานข้อมูลบริษัทจดทะเบียน (ARCA) ของสิงคโปร์ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้

    - Wealth Hope Pte. มีผู้ถือหุ้นรายเดียว เป็นบริษัทจีนชื่อ Shenzhen Yufei Technology Corp จดทะเบียนในเซินเจิ้น ประเทศจีน
    - Wealth Hope Pte. มีกรรมการบริษัท 3 คน เป็นคนสิงคโปร์​ 1 ราย และคนจีนอีก 2 ราย

    ตัวบริษัท Shenzhen Yufei Technology Corp ไม่มีข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมากนัก ไม่มีเว็บไซต์ใดๆ ในฐานข้อมูลบริษัทจีน (https://www.qcc.com/firm/f8bcb57f26f98b5a8a8220cf34bde1c9.html) ระบุว่ามีทุนจดทะเบียน 1 ล้านหยวน และมีผู้ถือหุ้นรายเดียวชื่อ He Shanting (何山婷) ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาคือใครกันแน่

    https://www.facebook.com/share/p/18VRiWYQvT/?mibextid=wwXIfr

    144072?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR0ixyVg1-0S09-XlC8CfU64iwQGIphhIjNPD__gFAQ4JJ1WDF5KxIbK9v0_aem_A_aSHWHa57qIpHvOAlA5pw
    https://www.blognone.com/node/ ตามหาเจ้าของแอพ Fineasy แอพเงินกู้นอกระบบที่แถมมากับรอมของมือถือ Oppo และ Realme (ภาคสอง) ยืนยันได้แล้วว่าเจ้าของเป็นคนจีน หลังจากเมื่อวานนี้ Blognone ค้นหาข้อมูลว่าเจ้าของแอพ Fineasy เป็นบริษัทสิงคโปร์ชื่อ Wealth Hope Pte. วันนี้เราขุดเข้าไปดูในฐานข้อมูลบริษัทจดทะเบียน (ARCA) ของสิงคโปร์ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ - Wealth Hope Pte. มีผู้ถือหุ้นรายเดียว เป็นบริษัทจีนชื่อ Shenzhen Yufei Technology Corp จดทะเบียนในเซินเจิ้น ประเทศจีน - Wealth Hope Pte. มีกรรมการบริษัท 3 คน เป็นคนสิงคโปร์​ 1 ราย และคนจีนอีก 2 ราย ตัวบริษัท Shenzhen Yufei Technology Corp ไม่มีข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมากนัก ไม่มีเว็บไซต์ใดๆ ในฐานข้อมูลบริษัทจีน (https://www.qcc.com/firm/f8bcb57f26f98b5a8a8220cf34bde1c9.html) ระบุว่ามีทุนจดทะเบียน 1 ล้านหยวน และมีผู้ถือหุ้นรายเดียวชื่อ He Shanting (何山婷) ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาคือใครกันแน่ https://www.facebook.com/share/p/18VRiWYQvT/?mibextid=wwXIfr 144072?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR0ixyVg1-0S09-XlC8CfU64iwQGIphhIjNPD__gFAQ4JJ1WDF5KxIbK9v0_aem_A_aSHWHa57qIpHvOAlA5pw
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงราย - ญาติพี่น้องครอบครัว ยังเศร้าสลด..สาวเชียงรายวัย 33 ปักหลักมีครอบครัว-รับรำไทยในสิงคโปร์ กลับบ้านเกิดประสบเหตุรถ จยย.ล้ม-ฟันหน้าหัก เข้าทำศัลยกรรม รพ.เอกชนเชียงราย กลับเสียชีวิตปริศนา

    วันนี้ (12 ม.ค.) ญาติพี่น้องครอบครัว น.ส.เกตุสุดา บัวนาค อายุ 33 ปี หญิงสาวชาวบ้านเหล่า หมู่ 6 ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ยังคงเต็มไปด้วยเศร้าโศก หลัง น.ส.เกตุสุพาไปทำศัลยกรรมฟันที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย แต่กลับไม่หายใจอย่างกระทันหันและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว

    นางสมบัติ อายุ 59 ปีมารดาของผู้เสียชีวิต รวมถึงน้องสาว ลูกพี่ลูกน้องและหลานๆ ที่อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วยรวม 8 คน ต่างระบุว่า น.ส.เกตุสุดา ซึ่งเป็นพี่สาวคนโตคอยเลี้ยงดูคนในครอบครัว เพราะแม่มีอาชีพทำนา ส่วนคนอื่นๆ ก็มีรายได้น้อย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000003371

    #MGROnline #ศัลยกรรมฟัน #เชียงราย
    เชียงราย - ญาติพี่น้องครอบครัว ยังเศร้าสลด..สาวเชียงรายวัย 33 ปักหลักมีครอบครัว-รับรำไทยในสิงคโปร์ กลับบ้านเกิดประสบเหตุรถ จยย.ล้ม-ฟันหน้าหัก เข้าทำศัลยกรรม รพ.เอกชนเชียงราย กลับเสียชีวิตปริศนา • วันนี้ (12 ม.ค.) ญาติพี่น้องครอบครัว น.ส.เกตุสุดา บัวนาค อายุ 33 ปี หญิงสาวชาวบ้านเหล่า หมู่ 6 ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ยังคงเต็มไปด้วยเศร้าโศก หลัง น.ส.เกตุสุพาไปทำศัลยกรรมฟันที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย แต่กลับไม่หายใจอย่างกระทันหันและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว • นางสมบัติ อายุ 59 ปีมารดาของผู้เสียชีวิต รวมถึงน้องสาว ลูกพี่ลูกน้องและหลานๆ ที่อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วยรวม 8 คน ต่างระบุว่า น.ส.เกตุสุดา ซึ่งเป็นพี่สาวคนโตคอยเลี้ยงดูคนในครอบครัว เพราะแม่มีอาชีพทำนา ส่วนคนอื่นๆ ก็มีรายได้น้อย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000003371 • #MGROnline #ศัลยกรรมฟัน #เชียงราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.103 : สิงคโปร์ รับมือวิกฤตประชากรอย่างไร?
    .
    นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีระดับโลกผู้ก่อตั้ง เทสลา, Space X และเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เคยทวีตข้อความว่า “สิงคโปร์และประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศกำลังจะหายไป” เพราะว่าเมื่อเด็กเกิดใหม่น้อย ประชากรของประเทศก็จะมีแต่ผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ แรงงานจะขาดแคลน ทุกคนก็ต้องทำงานหนักขึ้น หรือทำงานจนแทบจะไม่มีวันเกษียณอายุ ประเทศก็มีภาระสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น แต่ว่าจำนวนคนที่ทำงานและเสียภาษีกลับลดน้อยลง และเมื่อไม่มีประชากรรุ่นใหม่ ประเทศอย่าง สิงคโปร์ ที่มีประชากรไม่ถึง 6 ล้านคน ก็อาจจะหายไปแบบที่ นายอีลอน มัสก์ บอกก็เป็นได้ ......
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=zZVzvRdgEUE
    บูรพาไม่แพ้ Ep.103 : สิงคโปร์ รับมือวิกฤตประชากรอย่างไร? . นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีระดับโลกผู้ก่อตั้ง เทสลา, Space X และเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เคยทวีตข้อความว่า “สิงคโปร์และประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศกำลังจะหายไป” เพราะว่าเมื่อเด็กเกิดใหม่น้อย ประชากรของประเทศก็จะมีแต่ผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ แรงงานจะขาดแคลน ทุกคนก็ต้องทำงานหนักขึ้น หรือทำงานจนแทบจะไม่มีวันเกษียณอายุ ประเทศก็มีภาระสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น แต่ว่าจำนวนคนที่ทำงานและเสียภาษีกลับลดน้อยลง และเมื่อไม่มีประชากรรุ่นใหม่ ประเทศอย่าง สิงคโปร์ ที่มีประชากรไม่ถึง 6 ล้านคน ก็อาจจะหายไปแบบที่ นายอีลอน มัสก์ บอกก็เป็นได้ ...... . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=zZVzvRdgEUE
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.103 : สิงคโปร์ รับมือวิกฤตประชากรอย่างไร?

    https://www.youtube.com/watch?v=zZVzvRdgEUE
    บูรพาไม่แพ้ Ep.103 : สิงคโปร์ รับมือวิกฤตประชากรอย่างไร? https://www.youtube.com/watch?v=zZVzvRdgEUE
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่อยู่ครับ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ได้ยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทชิปในสิงคโปร์หลังจากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวได้ส่งผลิตภัณฑ์ไปยัง Huawei บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน

    รายงานนี้มาจาก South China Morning Post ซึ่งอ้างอิงจากแหล่งข่าวสามแห่งที่ระบุว่าชิปของ TSMC ถูกพบในโปรเซสเซอร์ AI ของ Huawei ซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบและการดำเนินการของ TSMC ต่อบริษัท PowerAIR

    การคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกาต่อ Huawei ทำให้บริษัทจีนไม่สามารถจัดหาชิปขั้นสูงที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีของสหรัฐได้ เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติที่อาจถูกใช้เพื่อทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐ แม้จะมีการคว่ำบาตร แต่มีรายงานหลายฉบับที่ชี้ให้เห็นว่าชิปขั้นสูงของ TSMC ยังคงถูกส่งไปยัง Huawei

    PowerAIR ซึ่งเป็นบริษัทขนาดเล็กในสิงคโปร์ ได้รับการตรวจสอบจาก TSMC หลังจากพบว่าชิปของ TSMC ถูกใช้ในโปรเซสเซอร์ AI ของ Huawei การคว่ำบาตรของสหรัฐที่เข้มงวดขึ้นในยุคของประธานาธิบดี Biden ทำให้ Huawei ต้องพึ่งพาวิธีการหลายอย่างในการจัดหาชิปขั้นสูงและเทคโนโลยีการผลิตชิป

    Huawei ไม่สามารถเข้าถึงชิปขั้นสูงที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐได้ ทำให้บริษัทต้องพึ่งพา Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ของจีนในการจัดหาชิป SMIC เองก็ถูกคว่ำบาตรจากการจัดหาอุปกรณ์ล่าสุด ทำให้ต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนเช่นการทำหลายลวดลายเพื่อผลิตชิปขั้นสูง ซึ่งลดคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเพิ่มต้นทุนการผลิต ข้อจำกัดที่ป้องกันไม่ให้ SMIC ของจีนจัดหาเครื่องจักร EUV ทำให้ต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนในการผลิตชิปล่าสุด ซึ่งลดคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเพิ่มต้นทุนการผลิต ทำให้ SMIC อยู่ในสถานะที่เสียเปรียบเมื่อเทียบกับผู้ผลิตชิปรายอื่น

    รายงานในเดือนพฤศจิกายนจาก Financial Times ระบุว่า TSMC ชี้แจงว่าชิปที่พบในโปรเซสเซอร์ Ascend 910B ของ Huawei ถูกส่งก่อนที่การคว่ำบาตรของสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Huawei ได้เพิ่มความพยายามในการดึงดูดวิศวกรของ TSMC โดยเสนอเงินเดือนสามเท่าและสิทธิประโยชน์อื่นๆ

    https://wccf.tech/1fsp9
    ข่าวใหญ่อยู่ครับ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ได้ยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทชิปในสิงคโปร์หลังจากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวได้ส่งผลิตภัณฑ์ไปยัง Huawei บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน รายงานนี้มาจาก South China Morning Post ซึ่งอ้างอิงจากแหล่งข่าวสามแห่งที่ระบุว่าชิปของ TSMC ถูกพบในโปรเซสเซอร์ AI ของ Huawei ซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบและการดำเนินการของ TSMC ต่อบริษัท PowerAIR การคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกาต่อ Huawei ทำให้บริษัทจีนไม่สามารถจัดหาชิปขั้นสูงที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีของสหรัฐได้ เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติที่อาจถูกใช้เพื่อทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐ แม้จะมีการคว่ำบาตร แต่มีรายงานหลายฉบับที่ชี้ให้เห็นว่าชิปขั้นสูงของ TSMC ยังคงถูกส่งไปยัง Huawei PowerAIR ซึ่งเป็นบริษัทขนาดเล็กในสิงคโปร์ ได้รับการตรวจสอบจาก TSMC หลังจากพบว่าชิปของ TSMC ถูกใช้ในโปรเซสเซอร์ AI ของ Huawei การคว่ำบาตรของสหรัฐที่เข้มงวดขึ้นในยุคของประธานาธิบดี Biden ทำให้ Huawei ต้องพึ่งพาวิธีการหลายอย่างในการจัดหาชิปขั้นสูงและเทคโนโลยีการผลิตชิป Huawei ไม่สามารถเข้าถึงชิปขั้นสูงที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐได้ ทำให้บริษัทต้องพึ่งพา Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ของจีนในการจัดหาชิป SMIC เองก็ถูกคว่ำบาตรจากการจัดหาอุปกรณ์ล่าสุด ทำให้ต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนเช่นการทำหลายลวดลายเพื่อผลิตชิปขั้นสูง ซึ่งลดคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเพิ่มต้นทุนการผลิต ข้อจำกัดที่ป้องกันไม่ให้ SMIC ของจีนจัดหาเครื่องจักร EUV ทำให้ต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนในการผลิตชิปล่าสุด ซึ่งลดคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเพิ่มต้นทุนการผลิต ทำให้ SMIC อยู่ในสถานะที่เสียเปรียบเมื่อเทียบกับผู้ผลิตชิปรายอื่น รายงานในเดือนพฤศจิกายนจาก Financial Times ระบุว่า TSMC ชี้แจงว่าชิปที่พบในโปรเซสเซอร์ Ascend 910B ของ Huawei ถูกส่งก่อนที่การคว่ำบาตรของสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Huawei ได้เพิ่มความพยายามในการดึงดูดวิศวกรของ TSMC โดยเสนอเงินเดือนสามเท่าและสิทธิประโยชน์อื่นๆ https://wccf.tech/1fsp9
    WCCF.TECH
    TSMC Cuts Ties With Another Firm For Supplying Huawei With AI Chips - Report
    The Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) has cut off ties with another firm over supplying chips to Huawei.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10/1/68

    ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

    08มกราคม2568ข่าวประชาสัมพันธ์

    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์

    2025 0108 HG

    การพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์_NN_1
    ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ นายธาร์มัน ชานมูการัตนัม (ขวา) ทรงพระราชทานปริญญาอักษรศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ซ้าย) แห่งราชอาณาจักรไทย

    วันนี้ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) ทรงพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ สาขาวิชาอักษรศาสตร์ แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อเป็นการยกย่องคุณูปการอันยอดเยี่ยมของพระองค์ในประเทศไทยและในระดับนานาชาติ ซึ่งส่งผลดีต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมากและนำมาซึ่งประโยชน์อย่างสำคัญต่อประเทศไทยและชุมชนโลก

    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังความคิดริเริ่มต่างๆ มากมายในการนำพาประชาชนของสิงคโปร์และประเทศไทย โดยเฉพาะเยาวชนของเราให้มารวมกัน
    ปริญญากิตติมศักดิ์ถือเป็นเกียรติคุณสูงสุดของมหาวิทยาลัยสำหรับบุคคลที่โดดเด่นซึ่งอุทิศตนเพื่อสังคมและสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก พิธีมอบปริญญากิตติมศักดิ์จัดขึ้นที่ Istana ในช่วงบ่ายของวันนี้ โดยมีนาย Tharman Shanmugaratnam ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัย NUS เป็นประธาน

    08January2025Press Releases

    Princess Maha Chakri Sirindhorn of Thailand awarded NUS Honorary Degree

    2025 0108 HG

    Conferment_NN_1
    President of the Republic of Singapore and NUS Chancellor Mr Tharman Shanmugaratnam (right) conferring the Honorary Doctor of Letters on Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn (left) of the Kingdom of Thailand.

    The National University of Singapore (NUS) today conferred the Honorary Degree of Doctor of Letters on Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn of the Kingdom of Thailand, in recognition of her remarkable contributions within Thailand and internationally, which have positively impacted the lives of many and brought significant benefits to Thailand and the global community.

    Princess Sirindhorn was the driving force behind several initiatives to bring the people of Singapore and Thailand, in particular our youths, together.

    The Honorary Degree is the University’s highest form of recognition for outstanding individuals who have rendered distinguished service and made significant impact, both locally and globally. A conferment ceremony, presided over by Mr Tharman Shanmugaratnam, President of the Republic of Singapore and NUS Chancellor, was held at the Istana this afternoon.
    10/1/68 ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 08มกราคม2568ข่าวประชาสัมพันธ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ 2025 0108 HG การพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์_NN_1 ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ นายธาร์มัน ชานมูการัตนัม (ขวา) ทรงพระราชทานปริญญาอักษรศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ซ้าย) แห่งราชอาณาจักรไทย วันนี้ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) ทรงพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ สาขาวิชาอักษรศาสตร์ แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อเป็นการยกย่องคุณูปการอันยอดเยี่ยมของพระองค์ในประเทศไทยและในระดับนานาชาติ ซึ่งส่งผลดีต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมากและนำมาซึ่งประโยชน์อย่างสำคัญต่อประเทศไทยและชุมชนโลก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังความคิดริเริ่มต่างๆ มากมายในการนำพาประชาชนของสิงคโปร์และประเทศไทย โดยเฉพาะเยาวชนของเราให้มารวมกัน ปริญญากิตติมศักดิ์ถือเป็นเกียรติคุณสูงสุดของมหาวิทยาลัยสำหรับบุคคลที่โดดเด่นซึ่งอุทิศตนเพื่อสังคมและสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก พิธีมอบปริญญากิตติมศักดิ์จัดขึ้นที่ Istana ในช่วงบ่ายของวันนี้ โดยมีนาย Tharman Shanmugaratnam ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัย NUS เป็นประธาน 08January2025Press Releases Princess Maha Chakri Sirindhorn of Thailand awarded NUS Honorary Degree 2025 0108 HG Conferment_NN_1 President of the Republic of Singapore and NUS Chancellor Mr Tharman Shanmugaratnam (right) conferring the Honorary Doctor of Letters on Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn (left) of the Kingdom of Thailand. The National University of Singapore (NUS) today conferred the Honorary Degree of Doctor of Letters on Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn of the Kingdom of Thailand, in recognition of her remarkable contributions within Thailand and internationally, which have positively impacted the lives of many and brought significant benefits to Thailand and the global community. Princess Sirindhorn was the driving force behind several initiatives to bring the people of Singapore and Thailand, in particular our youths, together. The Honorary Degree is the University’s highest form of recognition for outstanding individuals who have rendered distinguished service and made significant impact, both locally and globally. A conferment ceremony, presided over by Mr Tharman Shanmugaratnam, President of the Republic of Singapore and NUS Chancellor, was held at the Istana this afternoon.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงนี่อิจฉาประเทศอื่นๆ มากครับ ใครๆ ก็เมินไทยไปหมด

    Micron Technology ได้เริ่มต้นการก่อสร้างโรงงานประกอบหน่วยความจำความเร็วสูง (HBM) มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ โดยบริษัทจะลงทุน 7 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานนี้ เนื่องจากคาดว่าความต้องการหน่วยความจำ HBM3E, HBM4 และ HBM4E จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคตอันใกล้ท่ามกลางการเติบโตของ AI โรงงานนี้มีกำหนดเริ่มดำเนินการในปี 2026

    โรงงานประกอบ HBM ของ Micron ตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานผลิต 3D NAND และ DRAM ที่มีอยู่ในสิงคโปร์ โรงงานใหม่จะเริ่มการผลิตในปี 2026 และมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอย่างมากในปี 2027 โรงงานนี้จะใช้ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ AI

    แม้ว่า Micron จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยหน่วยความจำ HBM3E ระดับพรีเมียม แต่เมื่อพูดถึงส่วนแบ่งตลาด HBM บริษัทก็ยังคงเป็นผู้เล่นรองเมื่อเทียบกับ Samsung และ SK hynix อย่างไรก็ตาม Micron กำลังเพิ่มการผลิต HBM3E ที่โรงงานที่มีอยู่ โดยหวังว่าจะได้ส่วนแบ่งตลาด HBM ประมาณ 20% ในกลางปี 2025. ด้วยโรงงานประกอบใหม่ในสิงคโปร์ที่เริ่มดำเนินการในปี 2026 บริษัทหวังว่าจะได้ส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ขึ้น

    การลงทุนในโรงงานประกอบ HBM นี้จะสร้างงานประมาณ 1,400 ตำแหน่งในระยะแรก และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ตำแหน่งในอนาคต งานเหล่านี้รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การประกอบ และการทดสอบการดำเนินงาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-invests-usd7-billion-in-hbm-assembly-facility-amid-ai-boom
    ลุงนี่อิจฉาประเทศอื่นๆ มากครับ ใครๆ ก็เมินไทยไปหมด Micron Technology ได้เริ่มต้นการก่อสร้างโรงงานประกอบหน่วยความจำความเร็วสูง (HBM) มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ โดยบริษัทจะลงทุน 7 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานนี้ เนื่องจากคาดว่าความต้องการหน่วยความจำ HBM3E, HBM4 และ HBM4E จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคตอันใกล้ท่ามกลางการเติบโตของ AI โรงงานนี้มีกำหนดเริ่มดำเนินการในปี 2026 โรงงานประกอบ HBM ของ Micron ตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานผลิต 3D NAND และ DRAM ที่มีอยู่ในสิงคโปร์ โรงงานใหม่จะเริ่มการผลิตในปี 2026 และมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอย่างมากในปี 2027 โรงงานนี้จะใช้ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ AI แม้ว่า Micron จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยหน่วยความจำ HBM3E ระดับพรีเมียม แต่เมื่อพูดถึงส่วนแบ่งตลาด HBM บริษัทก็ยังคงเป็นผู้เล่นรองเมื่อเทียบกับ Samsung และ SK hynix อย่างไรก็ตาม Micron กำลังเพิ่มการผลิต HBM3E ที่โรงงานที่มีอยู่ โดยหวังว่าจะได้ส่วนแบ่งตลาด HBM ประมาณ 20% ในกลางปี 2025. ด้วยโรงงานประกอบใหม่ในสิงคโปร์ที่เริ่มดำเนินการในปี 2026 บริษัทหวังว่าจะได้ส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ขึ้น การลงทุนในโรงงานประกอบ HBM นี้จะสร้างงานประมาณ 1,400 ตำแหน่งในระยะแรก และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ตำแหน่งในอนาคต งานเหล่านี้รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การประกอบ และการทดสอบการดำเนินงาน https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-invests-usd7-billion-in-hbm-assembly-facility-amid-ai-boom
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อดีตนายกฯทักษิณ”ปิดจ็อบหาเสียงช่วย “สลักจฤฎด์-ทีมเพื่อไทย” ขึ้นเวทีบ้าน “ยงยุทธ” ย้ำนโยบายปราบยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทียึดเมียวดีเป็นฐานที่มั่น ดันพนันออนไลน์ขึ้นบนดินเหมือนหวยใต้ดิน ก่อนด่านโยบายพลังงานไทยโง่ อิงราคาน้ำมันสิงคโปร์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001164

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “อดีตนายกฯทักษิณ”ปิดจ็อบหาเสียงช่วย “สลักจฤฎด์-ทีมเพื่อไทย” ขึ้นเวทีบ้าน “ยงยุทธ” ย้ำนโยบายปราบยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทียึดเมียวดีเป็นฐานที่มั่น ดันพนันออนไลน์ขึ้นบนดินเหมือนหวยใต้ดิน ก่อนด่านโยบายพลังงานไทยโง่ อิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001164 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1201 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4 ม.ค.2568 - นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ในวารดิถีขึ้นปีใหม่ 2568 นี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่พี่น้องประชาชนแต่ละท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลและอำนวยพรให้ทุกท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความสมหวัง และความสำเร็จในทุกสิ่งที่มุ่งหวัง ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เดินทางไปไหนก็ขอให้คลาดแคล้วจากอุบัติเหตุอันตราย ใครที่ประสบความสำเร็จในปี 2567 อยู่แล้ว ก็ขอให้ประสบความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไปในปี 2568 ใครที่ยังไปไม่ถึงฟากฝั่งในปี 2567 ก็ขอให้ไปให้ถึงเป้าหมายในปีใหม่ 2568 นี้ ขอให้ทุกท่านมีพลังกายและพลังใจที่เข้มแข็ง ชนะอุปสรรคได้ทั้งปวง พบแต่สิ่งดีๆ และคนดีๆ ตลอดปี 2568 และตลอดไปครับ

    สำหรับผม ปี 2567 ที่เพิ่งผ่านไป ถือเป็นปีที่เหนื่อยมาก เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลาที่หมดไปอย่างรวดเร็วในแต่ละวันโดยแทบไม่มีการหยุดพัก แต่อย่างน้อยผมก็ทำสำเร็จเกือบ 100% ตามที่บอกไว้ครับ

    1. ตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่หน่วยละ 4.18 บาท และคงค่าไฟฟ้าสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเดือนละ 300 หน่วย ไว้ที่ราคาหน่วยละ 3.99 บาท มาได้ตลอดทั้งปี 2567 สำหรับปี2568 ช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2568 ค่าไฟฟ้าก็จะอยู่ที่หน่วยละ 4.15 บาท ทั้งนี้ ด้วยการสนับสนุนของท่านนายกฯ เศรษฐาและท่านนายกฯ แพทองธาร

    2.ร่างกฎหมายกำกับการประกอบกิจการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังตรวจแก้ไขต้นร่างเกือบเสร็จแล้ว รออีกนิดนะครับ กฎหมายนี้จะมีกติกาที่ไม่ให้ปรับราคาน้ำมันขึ้นลงรายวัน มีระบบพิสูจน์ต้นทุน และยกเลิกการอ้างอิงราคาน้ำมันที่ตลาดสิงคโปร์ โดยนำระบบต้นทุนบวกค่าใช้จ่ายจริงที่เรียกว่าระบบ COST PLUS มาใช้แทน ที่สำคัญคือ จะให้มีน้ำมันเพื่อเกษตรกร และชาวประมงในราคาที่ถูกลง และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนส่งและองค์กรสาธารณกุศลสามารถนำน้ำมันเข้ามาใช้ได้เอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนลงได้มาก และยังจะเปิดโอกาสให้รัฐสามารถจัดให้มีน้ำมันเพื่อผู้มีรายได้น้อยด้วย

    3. กฎหมายฉบับที่สองที่ทำเสร็จแล้ว คือกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์รูฟ ซึ่งจะพังทลายกฎเกณฑ์กติกาเดิมๆ ที่ทำให้การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นเรื่องยุ่งยากและล่าช้า ผมยกเลิกการขออนุญาตทุกรูปแบบโดยเปลี่ยนมาเป็นการติดตั้งได้ทันทีตามกฎเกณฑ์ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน เมื่อติดตั้งแล้วก็ใช้ระบบแจ้งให้ทราบ จากนั้นแต่ละหน่วยงานก็จะไปตรวจสอบเอง หากมีสิ่งใดต้องแก้ไขก็ว่ากันไป ไม่ต้องเสียเวลารอการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน ขณะที่คนทั้งประเทศต้องรอกันทั้งชาติ กฎหมายนี้จะเสนอในนามของรัฐบาลด้วย แต่ขั้นตอนช้า ต้องดำเนินการอีกหลายอย่าง ผมเลยให้เสนอเข้าสภาฯ ในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติก่อน ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ครับ

    สำหรับปี 2568 นี้ สิ่งที่ผมวางเป้าหมายไว้เป็นเรื่องแรกเลย คือ จะร่างกฎหมายสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคง หรือStrategic Petroleum reserve (SPR) ที่จะนำมาใช้แทนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและสร้างความมั่นคงให้ประเทศ ซึ่งจะทำต่อจากกฎหมายกำกับกิจการค้าน้ำมัน ไม่น่าเชื่อว่าประเทศเราไม่เคยมีสำรองน้ำมันของประเทศเลย ที่มีอยู่ก็เป็นการสำรองของภาคเอกชนเพื่อประโยชน์ทางการค้าเป็นหลักตามกฎหมายการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น และเก็บสำรองเพียงประมาณ 20-25 วัน แต่หลักเกณฑ์ของการสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคงของประเทศต้องไม่ใช่เพื่อการค้าแต่เพื่อประโยชน์ของชาติ และต้องมีสำรองขั้นต่ำ 90 วัน โดยผมจะนำระบบนี้มาใช้แทนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะเปลี่ยนการเก็บเงินจากการซื้อขายน้ำมันที่ไล่เก็บจากประชาชนไปเข้ากองทุนน้ำมัน เป็นระบบเก็บเป็นน้ำมันจากผู้ค้าน้ำมันแทน ระบบนี้จะทำให้ราคาน้ำมันลดลงทันทีอย่างน้อย 2.50 บาท ถึง 4 บาทกว่าๆ แล้วแต่ประเภทของน้ำมันเพราะไม่มีการเก็บเงินส่วนนี้จากประชาชนอีก แล้วใช้น้ำมันในส่วนนี้ไปชดเชยราคาน้ำมันให้ผู้ค้าน้ำมันแทนเงินที่เก็บจากประชาชน

    ส่วนเรื่องค่าไฟฟ้าจะต่อยอดจากกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อช่วยประชาชนให้ลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าลงนั้น ผมกำลังดำเนินการให้กระทรวงพลังงานผลิตอุปกรณ์ที่เป็นอุปกรณ์หลักในการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เรียกว่าเครื่อง Invertor ที่มีราคาแพงประมาณเครื่องละ 30,000-40,000 บาท โดยน่าจะผลิตได้ในราคาเพียง 1 ใน 3 ของราคาในท้องตลาดเท่านั้น ตอนนี้เครื่องต้นแบบผ่านการทดสอบขั้นที่หนึ่งจากสถาบัน สวทช. แล้ว และกำลังรอทดสอบอีกสองขั้นตอน เมื่อผ่านหมดก็จะเริ่มเข้าสู่แผนการผลิตจำหน่ายให้ประชาชนในราคาถูกที่สุด และจะหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อให้ประชาชนสามารถหักค่าใช้จ่ายส่วนนี้จากภาระภาษีเงินได้ประจำปีด้วย อีกทั้งยังกำลังดำเนินการหาแนวทางให้กองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในสังกัดกระทรวงพลังงานสามารถสนับสนุนเงินทุนหรืออย่างใดอย่างหนึ่งให้ประชาชนด้วย

    ผมเชื่อว่าผลงานของรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานตั้งแต่ปลายปี 2567 ต่อยอดไปถึงปี 2568 จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้พี่น้องประชาชนได้ตามนโยบายรัฐบาลและตามที่ท่านนายกฯแพทองธารประกาศไว้ และจะช่วยทำให้ประเทศมีความมั่นคงด้านพลังงานมากขึ้นด้วย

    สุดท้าย ผมเคยพูดไว้ว่า สิ่งที่ผมทำเพื่อพี่น้องประชาชนจะมีคนที่เคยได้ประโยชน์กันมากว่า 50 ปีเป็นอย่างน้อยต้องเสียประโยชน์ ผมรู้ว่าผมจะต้องโดนวิชามารกระหน่ำแบบไหน แต่ผมไม่กลัวและผมจะทำให้ได้ ขอเพียงพี่น้องประชาชนช่วยเป็นกำแพงให้ผมพิงเท่านั้นก็พอ ความสำเร็จของการทำงานเพื่อประชาชนเริ่มทยอยปรากฏให้เห็นมาตั้งแต่ปลายปี 2567 ตามที่ผมวางเป้าหมายไว้

    และเป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงสองสามเดือนก่อนสิ้นปี 2567 ผมถูกกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าสื่อบางกลุ่มรุมกระหน่ำปั้นข่าวทุกรูปแบบ โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวเปิดตัวพรรคใหม่ทุนหนา ก็มีบัญชีอวตารเปิดใหม่พรึ่บเพื่อใช้ถล่มผมแบบไม่ยั้งมือ แต่ผมไม่เคยหวั่นไหวและจะทำในสิ่งที่ต้องทำเสมอครับ

    พอเห็นว่ากลยุทธ์แบบเดิมทำท่าจะเล่นงานไม่ไหว ก็ไปปั้นข่าวว่าผมขัดแย้งกับนายกฯบ้างขัดแย้งกับพรรคแกนนำรัฐบาลบ้าง ทั้งๆ ที่ผมและทั้งนายกฯ แพทองธารและอดีตนายกฯ เศรษฐาไม่เคยมีอะไรขัดแย้งกันเลย

    แถมทั้งสองท่านก็สนับสนุนการทำงานของผมตลอดมา เพราะเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลทั้งสิ้น ผลงานเรื่องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานก็สำเร็จด้วยดีเพราะการสนับสนุนทั้งสองท่าน ล่าสุดที่ท่านนายกฯ แพทองธารประกาศว่าจะทำลายทุนผูกขาด ท่านก็พูดจริง ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ท่านนายกฯ ติดภารกิจด่วนก็มอบให้ผมเป็นประธานการประชุมแทน และกำชับให้ผมขอมติคณะกรรมการ กพช. ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องประมูลไฟฟ้าพลังงานสะอาดด้วย โดยมีท่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นผู้ประสานงานและติดตามงานตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ใครจะปั้นข่าวอะไรผมไม่สนใจ ผมสนใจแต่การทำงานและประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเท่านั้นครับ

    อย่างไรก็ตาม ผมขอขอบคุณอีกครั้ง สำหรับทุกกำลังใจที่มีให้ผมและพรรครวมไทยสร้างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ และขอบคุณที่เป็นกำแพงเหล็กให้ผมพิงในการทำงาน และในปี 2568 นี้ ผมจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อความสำเร็จและประโยชน์ชาติบ้านเมืองครับ

    4 ม.ค.2568 - นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ในวารดิถีขึ้นปีใหม่ 2568 นี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่พี่น้องประชาชนแต่ละท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลและอำนวยพรให้ทุกท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความสมหวัง และความสำเร็จในทุกสิ่งที่มุ่งหวัง ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เดินทางไปไหนก็ขอให้คลาดแคล้วจากอุบัติเหตุอันตราย ใครที่ประสบความสำเร็จในปี 2567 อยู่แล้ว ก็ขอให้ประสบความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไปในปี 2568 ใครที่ยังไปไม่ถึงฟากฝั่งในปี 2567 ก็ขอให้ไปให้ถึงเป้าหมายในปีใหม่ 2568 นี้ ขอให้ทุกท่านมีพลังกายและพลังใจที่เข้มแข็ง ชนะอุปสรรคได้ทั้งปวง พบแต่สิ่งดีๆ และคนดีๆ ตลอดปี 2568 และตลอดไปครับ สำหรับผม ปี 2567 ที่เพิ่งผ่านไป ถือเป็นปีที่เหนื่อยมาก เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลาที่หมดไปอย่างรวดเร็วในแต่ละวันโดยแทบไม่มีการหยุดพัก แต่อย่างน้อยผมก็ทำสำเร็จเกือบ 100% ตามที่บอกไว้ครับ 1. ตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่หน่วยละ 4.18 บาท และคงค่าไฟฟ้าสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเดือนละ 300 หน่วย ไว้ที่ราคาหน่วยละ 3.99 บาท มาได้ตลอดทั้งปี 2567 สำหรับปี2568 ช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2568 ค่าไฟฟ้าก็จะอยู่ที่หน่วยละ 4.15 บาท ทั้งนี้ ด้วยการสนับสนุนของท่านนายกฯ เศรษฐาและท่านนายกฯ แพทองธาร 2.ร่างกฎหมายกำกับการประกอบกิจการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังตรวจแก้ไขต้นร่างเกือบเสร็จแล้ว รออีกนิดนะครับ กฎหมายนี้จะมีกติกาที่ไม่ให้ปรับราคาน้ำมันขึ้นลงรายวัน มีระบบพิสูจน์ต้นทุน และยกเลิกการอ้างอิงราคาน้ำมันที่ตลาดสิงคโปร์ โดยนำระบบต้นทุนบวกค่าใช้จ่ายจริงที่เรียกว่าระบบ COST PLUS มาใช้แทน ที่สำคัญคือ จะให้มีน้ำมันเพื่อเกษตรกร และชาวประมงในราคาที่ถูกลง และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนส่งและองค์กรสาธารณกุศลสามารถนำน้ำมันเข้ามาใช้ได้เอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนลงได้มาก และยังจะเปิดโอกาสให้รัฐสามารถจัดให้มีน้ำมันเพื่อผู้มีรายได้น้อยด้วย 3. กฎหมายฉบับที่สองที่ทำเสร็จแล้ว คือกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์รูฟ ซึ่งจะพังทลายกฎเกณฑ์กติกาเดิมๆ ที่ทำให้การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นเรื่องยุ่งยากและล่าช้า ผมยกเลิกการขออนุญาตทุกรูปแบบโดยเปลี่ยนมาเป็นการติดตั้งได้ทันทีตามกฎเกณฑ์ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน เมื่อติดตั้งแล้วก็ใช้ระบบแจ้งให้ทราบ จากนั้นแต่ละหน่วยงานก็จะไปตรวจสอบเอง หากมีสิ่งใดต้องแก้ไขก็ว่ากันไป ไม่ต้องเสียเวลารอการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน ขณะที่คนทั้งประเทศต้องรอกันทั้งชาติ กฎหมายนี้จะเสนอในนามของรัฐบาลด้วย แต่ขั้นตอนช้า ต้องดำเนินการอีกหลายอย่าง ผมเลยให้เสนอเข้าสภาฯ ในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติก่อน ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ครับ สำหรับปี 2568 นี้ สิ่งที่ผมวางเป้าหมายไว้เป็นเรื่องแรกเลย คือ จะร่างกฎหมายสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคง หรือStrategic Petroleum reserve (SPR) ที่จะนำมาใช้แทนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและสร้างความมั่นคงให้ประเทศ ซึ่งจะทำต่อจากกฎหมายกำกับกิจการค้าน้ำมัน ไม่น่าเชื่อว่าประเทศเราไม่เคยมีสำรองน้ำมันของประเทศเลย ที่มีอยู่ก็เป็นการสำรองของภาคเอกชนเพื่อประโยชน์ทางการค้าเป็นหลักตามกฎหมายการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น และเก็บสำรองเพียงประมาณ 20-25 วัน แต่หลักเกณฑ์ของการสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคงของประเทศต้องไม่ใช่เพื่อการค้าแต่เพื่อประโยชน์ของชาติ และต้องมีสำรองขั้นต่ำ 90 วัน โดยผมจะนำระบบนี้มาใช้แทนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะเปลี่ยนการเก็บเงินจากการซื้อขายน้ำมันที่ไล่เก็บจากประชาชนไปเข้ากองทุนน้ำมัน เป็นระบบเก็บเป็นน้ำมันจากผู้ค้าน้ำมันแทน ระบบนี้จะทำให้ราคาน้ำมันลดลงทันทีอย่างน้อย 2.50 บาท ถึง 4 บาทกว่าๆ แล้วแต่ประเภทของน้ำมันเพราะไม่มีการเก็บเงินส่วนนี้จากประชาชนอีก แล้วใช้น้ำมันในส่วนนี้ไปชดเชยราคาน้ำมันให้ผู้ค้าน้ำมันแทนเงินที่เก็บจากประชาชน ส่วนเรื่องค่าไฟฟ้าจะต่อยอดจากกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อช่วยประชาชนให้ลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าลงนั้น ผมกำลังดำเนินการให้กระทรวงพลังงานผลิตอุปกรณ์ที่เป็นอุปกรณ์หลักในการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เรียกว่าเครื่อง Invertor ที่มีราคาแพงประมาณเครื่องละ 30,000-40,000 บาท โดยน่าจะผลิตได้ในราคาเพียง 1 ใน 3 ของราคาในท้องตลาดเท่านั้น ตอนนี้เครื่องต้นแบบผ่านการทดสอบขั้นที่หนึ่งจากสถาบัน สวทช. แล้ว และกำลังรอทดสอบอีกสองขั้นตอน เมื่อผ่านหมดก็จะเริ่มเข้าสู่แผนการผลิตจำหน่ายให้ประชาชนในราคาถูกที่สุด และจะหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อให้ประชาชนสามารถหักค่าใช้จ่ายส่วนนี้จากภาระภาษีเงินได้ประจำปีด้วย อีกทั้งยังกำลังดำเนินการหาแนวทางให้กองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในสังกัดกระทรวงพลังงานสามารถสนับสนุนเงินทุนหรืออย่างใดอย่างหนึ่งให้ประชาชนด้วย ผมเชื่อว่าผลงานของรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานตั้งแต่ปลายปี 2567 ต่อยอดไปถึงปี 2568 จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้พี่น้องประชาชนได้ตามนโยบายรัฐบาลและตามที่ท่านนายกฯแพทองธารประกาศไว้ และจะช่วยทำให้ประเทศมีความมั่นคงด้านพลังงานมากขึ้นด้วย สุดท้าย ผมเคยพูดไว้ว่า สิ่งที่ผมทำเพื่อพี่น้องประชาชนจะมีคนที่เคยได้ประโยชน์กันมากว่า 50 ปีเป็นอย่างน้อยต้องเสียประโยชน์ ผมรู้ว่าผมจะต้องโดนวิชามารกระหน่ำแบบไหน แต่ผมไม่กลัวและผมจะทำให้ได้ ขอเพียงพี่น้องประชาชนช่วยเป็นกำแพงให้ผมพิงเท่านั้นก็พอ ความสำเร็จของการทำงานเพื่อประชาชนเริ่มทยอยปรากฏให้เห็นมาตั้งแต่ปลายปี 2567 ตามที่ผมวางเป้าหมายไว้ และเป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงสองสามเดือนก่อนสิ้นปี 2567 ผมถูกกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าสื่อบางกลุ่มรุมกระหน่ำปั้นข่าวทุกรูปแบบ โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวเปิดตัวพรรคใหม่ทุนหนา ก็มีบัญชีอวตารเปิดใหม่พรึ่บเพื่อใช้ถล่มผมแบบไม่ยั้งมือ แต่ผมไม่เคยหวั่นไหวและจะทำในสิ่งที่ต้องทำเสมอครับ พอเห็นว่ากลยุทธ์แบบเดิมทำท่าจะเล่นงานไม่ไหว ก็ไปปั้นข่าวว่าผมขัดแย้งกับนายกฯบ้างขัดแย้งกับพรรคแกนนำรัฐบาลบ้าง ทั้งๆ ที่ผมและทั้งนายกฯ แพทองธารและอดีตนายกฯ เศรษฐาไม่เคยมีอะไรขัดแย้งกันเลย แถมทั้งสองท่านก็สนับสนุนการทำงานของผมตลอดมา เพราะเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลทั้งสิ้น ผลงานเรื่องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานก็สำเร็จด้วยดีเพราะการสนับสนุนทั้งสองท่าน ล่าสุดที่ท่านนายกฯ แพทองธารประกาศว่าจะทำลายทุนผูกขาด ท่านก็พูดจริง ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ท่านนายกฯ ติดภารกิจด่วนก็มอบให้ผมเป็นประธานการประชุมแทน และกำชับให้ผมขอมติคณะกรรมการ กพช. ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องประมูลไฟฟ้าพลังงานสะอาดด้วย โดยมีท่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นผู้ประสานงานและติดตามงานตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ใครจะปั้นข่าวอะไรผมไม่สนใจ ผมสนใจแต่การทำงานและประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเท่านั้นครับ อย่างไรก็ตาม ผมขอขอบคุณอีกครั้ง สำหรับทุกกำลังใจที่มีให้ผมและพรรครวมไทยสร้างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ และขอบคุณที่เป็นกำแพงเหล็กให้ผมพิงในการทำงาน และในปี 2568 นี้ ผมจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อความสำเร็จและประโยชน์ชาติบ้านเมืองครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • If it's BOEING, I'm not going.

    ในอดีต..บริษัทโบอิ้ง เน้นความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรม+ความปลอดภัย
    หลังจาก ปี 1997 โบอิ้ง ได้ซื้อ บริษัท แม๊คโดเนล ดักกลาส เพื่อ ขยายความยิ่งใหญ่ กลับกลายเป็น "หายนะ" ของวงการบินทั่วโลก เนื่องจาก วัฒนธรรมองค์กรของโบอิ้ง เปลี่ยนไปเป็น "แสวงหากำไรสูงที่สุด"

    การลดต้นทุนผลิต จึงเป้นสาเหตุของเครื่องบินโบอิ้งตก ผู้โดยสาร(ตายเรียบ) ล้อหลุด ประตูฉุกเฉินหลุด ล่าสุด ล้อหน้า กางข้างเดียว บินขึ้น+ล้อไม่เก็บ และ ล่าสุด Boeing 737-800 บินลง ฐานล้อไม่กางทั้งสองข้าง ทำให้ JeJu ไม่มีเบรค แตะพื้นไถลเพียงครึ่งหนึ่งของรันเวย์ ที่สั้นเพียง 2,800 เมตร จึงไปชนแบริเออร์คอนกรีต ระเบิด ตาย 179 รอด 2คน

    ทุกคน ที่ แฉ เหตุที่เครื่องโบอิ้งมีปัญหา ตายเรียบเนื่องจากถูกฆาตกรรมปิดปาก

    ------------------------------

    อ้างอิง :
    1. วิบากกรรม Boeing l Valor Podcast
    https://www.youtube.com/watch?v=aKivL9rRwxo
    2. ระทึก! กลางเวหา ประตูเครื่องบินหลุดกลางอากาศ
    https://www.youtube.com/watch?v=nIig4y_5ZDY&t=97s
    3. เรื่องเล่า Boeing
    https://www.youtube.com/watch?v=69wciKAtzxI
    4. Boeing ฉาวไม่พัก แผงประตูหลุด ล้อระเบิด ตกวูบกลางอากาศ
    https://www.youtube.com/watch?v=WdZxnv1smd4
    5. ขาลงแบบดิ่งสุด! เรื่องอื้อฉาวของโบอิ้งยิ่งขุดยิ่งเจอเรื่องที่เลวร้ายที่สุด
    https://www.youtube.com/watch?v=xQkbXulhv5k
    6. วิกฤต “โบอิ้ง” กระทบชิ่ง “การบินไทย” : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    https://www.youtube.com/watch?v=DEnlVZdqD6Q
    7. ทำไม Boeing ฉาวซ้ำซาก ความผิดใคร | Executive Espresso
    https://www.youtube.com/watch?v=MjfU8yxjBks&t=180s
    8. โบอิ้งตกต่ำขาดทุน 18,000 ล้าน | พนักงานไม่กล้านั่ง เครื่องบินที่ตัวเองผลิต
    https://www.youtube.com/watch?v=iAZ5Y01j7c0&t=721s
    9. โบอิ้งสูญเสียตลาดจีน จีนเลือกซื้อแอร์บัส 300 ลำ
    https://www.youtube.com/watch?v=R0goHw-7LnU
    10. Boeing 787 Deramliner กาตาร์แอร์เวย์สตกหลุมอากาศ 28 พค. 67
    https://www.youtube.com/watch?v=_fZgoPcQNBM
    11. 777-300ER ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ SQ321 "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67
    https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU
    12. ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67
    https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU
    13. วิกฤตความเชื่อมั่น โหมกระหน่ำ Boeing ?
    https://www.youtube.com/watch?v=dfzeEFBHvzc
    14. ทำไมถึงมีคนตายเพราะเครื่องบิน Boeing บ่อย?! #ดาร์คไดอะรี I แค่อยากเล่า...◄1692►
    https://www.youtube.com/watch?v=e1ZXQTW7xEU
    15. ระบบฐานล้อไม่กาง ในอุบัติเหตุ JEJU AIR ไม่ใช่นก
    https://www.youtube.com/shorts/KUlogEE6q4o
    If it's BOEING, I'm not going. ในอดีต..บริษัทโบอิ้ง เน้นความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรม+ความปลอดภัย หลังจาก ปี 1997 โบอิ้ง ได้ซื้อ บริษัท แม๊คโดเนล ดักกลาส เพื่อ ขยายความยิ่งใหญ่ กลับกลายเป็น "หายนะ" ของวงการบินทั่วโลก เนื่องจาก วัฒนธรรมองค์กรของโบอิ้ง เปลี่ยนไปเป็น "แสวงหากำไรสูงที่สุด" การลดต้นทุนผลิต จึงเป้นสาเหตุของเครื่องบินโบอิ้งตก ผู้โดยสาร(ตายเรียบ) ล้อหลุด ประตูฉุกเฉินหลุด ล่าสุด ล้อหน้า กางข้างเดียว บินขึ้น+ล้อไม่เก็บ และ ล่าสุด Boeing 737-800 บินลง ฐานล้อไม่กางทั้งสองข้าง ทำให้ JeJu ไม่มีเบรค แตะพื้นไถลเพียงครึ่งหนึ่งของรันเวย์ ที่สั้นเพียง 2,800 เมตร จึงไปชนแบริเออร์คอนกรีต ระเบิด ตาย 179 รอด 2คน ทุกคน ที่ แฉ เหตุที่เครื่องโบอิ้งมีปัญหา ตายเรียบเนื่องจากถูกฆาตกรรมปิดปาก ------------------------------ อ้างอิง : 1. วิบากกรรม Boeing l Valor Podcast https://www.youtube.com/watch?v=aKivL9rRwxo 2. ระทึก! กลางเวหา ประตูเครื่องบินหลุดกลางอากาศ https://www.youtube.com/watch?v=nIig4y_5ZDY&t=97s 3. เรื่องเล่า Boeing https://www.youtube.com/watch?v=69wciKAtzxI 4. Boeing ฉาวไม่พัก แผงประตูหลุด ล้อระเบิด ตกวูบกลางอากาศ https://www.youtube.com/watch?v=WdZxnv1smd4 5. ขาลงแบบดิ่งสุด! เรื่องอื้อฉาวของโบอิ้งยิ่งขุดยิ่งเจอเรื่องที่เลวร้ายที่สุด https://www.youtube.com/watch?v=xQkbXulhv5k 6. วิกฤต “โบอิ้ง” กระทบชิ่ง “การบินไทย” : คุยทุกเรื่องกับสนธิ https://www.youtube.com/watch?v=DEnlVZdqD6Q 7. ทำไม Boeing ฉาวซ้ำซาก ความผิดใคร | Executive Espresso https://www.youtube.com/watch?v=MjfU8yxjBks&t=180s 8. โบอิ้งตกต่ำขาดทุน 18,000 ล้าน | พนักงานไม่กล้านั่ง เครื่องบินที่ตัวเองผลิต https://www.youtube.com/watch?v=iAZ5Y01j7c0&t=721s 9. โบอิ้งสูญเสียตลาดจีน จีนเลือกซื้อแอร์บัส 300 ลำ https://www.youtube.com/watch?v=R0goHw-7LnU 10. Boeing 787 Deramliner กาตาร์แอร์เวย์สตกหลุมอากาศ 28 พค. 67 https://www.youtube.com/watch?v=_fZgoPcQNBM 11. 777-300ER ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ SQ321 "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67 https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU 12. ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67 https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU 13. วิกฤตความเชื่อมั่น โหมกระหน่ำ Boeing ? https://www.youtube.com/watch?v=dfzeEFBHvzc 14. ทำไมถึงมีคนตายเพราะเครื่องบิน Boeing บ่อย?! #ดาร์คไดอะรี I แค่อยากเล่า...◄1692► https://www.youtube.com/watch?v=e1ZXQTW7xEU 15. ระบบฐานล้อไม่กาง ในอุบัติเหตุ JEJU AIR ไม่ใช่นก https://www.youtube.com/shorts/KUlogEE6q4o
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⭐️ เส้นทางใหม่ บนเรือลำใหม่ Star Scorpio จากสายเรือ Resort World Cruise เรือสำราญที่เป็นมากกว่าการเดินทาง เพลิดเพลินกับอาหาร ห้องพัก และวิวทะเล! 🍣

    🛳 แพ็คเกจล่องเรือสำราญ Star Scorpio, Cruise Only By Resorts World Cruises 6 วัน 5 คืน

    📍 เส้นทาง : แหลมฉบัง - สมุย -น่านน้ำสากล - สิงคโปร์ - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง

    💬 วันที่ 22 - 27 เม.ย. // 27 เม.ย. - 2 พ.ค. // 2 - 7 พ.ค. 68 // 7 - 12 พ.ค. 68

    💸 ราคาเริ่มต้น : 739 USD

    ⭕️ ห้องพักบนเรือสําราญ 5คืน (ตามแบบห้องพักที่ท่านได้ทําการชําระเงิน)
    ⭕️ อาหารบนเรือสําราญ (ยกเว้นห้องอาหารพิเศษ)
    ⭕️ กิจกรรม และความบันเทิงบนเรือสำราญ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : RWCP-6D5N-LCH-LCH-2505071
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e5f08c

    ดูเรือ Resort World Cruises ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/fefa27

    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696

    #เรือResortWorldCruises #เรือStarScorpio #StarScorpio #ResortWorldCruise #Samui #Singapore #Thailand #LaemChabang #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain#thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ⭐️ เส้นทางใหม่ บนเรือลำใหม่ Star Scorpio จากสายเรือ Resort World Cruise เรือสำราญที่เป็นมากกว่าการเดินทาง เพลิดเพลินกับอาหาร ห้องพัก และวิวทะเล! 🍣 🛳 แพ็คเกจล่องเรือสำราญ Star Scorpio, Cruise Only By Resorts World Cruises 6 วัน 5 คืน 📍 เส้นทาง : แหลมฉบัง - สมุย -น่านน้ำสากล - สิงคโปร์ - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง 💬 วันที่ 22 - 27 เม.ย. // 27 เม.ย. - 2 พ.ค. // 2 - 7 พ.ค. 68 // 7 - 12 พ.ค. 68 💸 ราคาเริ่มต้น : 739 USD ⭕️ ห้องพักบนเรือสําราญ 5คืน (ตามแบบห้องพักที่ท่านได้ทําการชําระเงิน) ⭕️ อาหารบนเรือสําราญ (ยกเว้นห้องอาหารพิเศษ) ⭕️ กิจกรรม และความบันเทิงบนเรือสำราญ รหัสแพคเกจทัวร์ : RWCP-6D5N-LCH-LCH-2505071 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e5f08c ดูเรือ Resort World Cruises ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/fefa27 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #เรือResortWorldCruises #เรือStarScorpio #StarScorpio #ResortWorldCruise #Samui #Singapore #Thailand #LaemChabang #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain#thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ใบเตย” โล่งศาลสั่งพิพากษายกฟ้อง ได้ถอดกำไร EM ดีใจ “ดีเจแมน” ได้กลับบ้านไปหาลูกสาวเป็นของขวัญปีใหม่ ไม่รู้จะกลับมาจดทะเบียนสมรสกันไหม โฟกัสที่ลูกเป็นหลัก ขอบคุณทุกกำลังใจและขอบคุณทนายที่ช่วยมาตลอด ด้าน “แม่ป๋อง” เตรียมน้ำมนต์ไปรับลูกแล้ว เชื่อลูกเป็นคนดีเข้มแข็ง อนาคตต่อจากนี้จะไปได้ดีแน่นอน ทนายเผยพร้อมสู้ทุกศาล หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ส่วนเรื่องสินไหมทดแทนต้องพิจารณากันอีกที

    หลังเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (26 ธ.ค. 67) ศาลอาญามีคำสั่งพิพากษายกฟ้อง “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน”และ “ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน” รวมถึง “นายแดริล ยังฮุย”สามีชาวสิงคโปร์ของสาว “ซาร่า คาซิงกินี” ในคดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D เหตุพยานหลักฐานยังมีข้อสงสัย

    ล่าสุดในช่วงบ่าย “ใบเตย” และ “แม่ป๋อง”พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อ พร้อมกับ ทนายอมร กุศลและ ทนายเฟิร์น ชลวิภา วิริยะกุลทนายความของใบเตย-ดีเจแมน โดยเผยว่ารู้สึกดีใจมาก จากนี้จะทางเดินไปรับดีแมนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร คาดว่าดีแมจจะได้รับการปล่อยตัวในช่วง 2 ทุ่มของวันนี้ และในส่วนกำไล EM ของใบเตย ก็จะได้รับการถอดออกเช่นกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000124121

    #MGROnline #ใบเตย #ใบเตยอาร์สยาม #ดีเจแมน #Forex3D #คดีForex3D #ยกฟ้อง #ศาลยกฟ้อง #ยกฟ้องคดีForex3D
    “ใบเตย” โล่งศาลสั่งพิพากษายกฟ้อง ได้ถอดกำไร EM ดีใจ “ดีเจแมน” ได้กลับบ้านไปหาลูกสาวเป็นของขวัญปีใหม่ ไม่รู้จะกลับมาจดทะเบียนสมรสกันไหม โฟกัสที่ลูกเป็นหลัก ขอบคุณทุกกำลังใจและขอบคุณทนายที่ช่วยมาตลอด ด้าน “แม่ป๋อง” เตรียมน้ำมนต์ไปรับลูกแล้ว เชื่อลูกเป็นคนดีเข้มแข็ง อนาคตต่อจากนี้จะไปได้ดีแน่นอน ทนายเผยพร้อมสู้ทุกศาล หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ส่วนเรื่องสินไหมทดแทนต้องพิจารณากันอีกที • หลังเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (26 ธ.ค. 67) ศาลอาญามีคำสั่งพิพากษายกฟ้อง “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน”และ “ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน” รวมถึง “นายแดริล ยังฮุย”สามีชาวสิงคโปร์ของสาว “ซาร่า คาซิงกินี” ในคดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D เหตุพยานหลักฐานยังมีข้อสงสัย • ล่าสุดในช่วงบ่าย “ใบเตย” และ “แม่ป๋อง”พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อ พร้อมกับ ทนายอมร กุศลและ ทนายเฟิร์น ชลวิภา วิริยะกุลทนายความของใบเตย-ดีเจแมน โดยเผยว่ารู้สึกดีใจมาก จากนี้จะทางเดินไปรับดีแมนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร คาดว่าดีแมจจะได้รับการปล่อยตัวในช่วง 2 ทุ่มของวันนี้ และในส่วนกำไล EM ของใบเตย ก็จะได้รับการถอดออกเช่นกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000124121 • #MGROnline #ใบเตย #ใบเตยอาร์สยาม #ดีเจแมน #Forex3D #คดีForex3D #ยกฟ้อง #ศาลยกฟ้อง #ยกฟ้องคดีForex3D
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 436 มุมมอง 0 รีวิว
  • MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ เผย เป็นอำนาจพนักงานอัยการอุทธรณ์คดีแชร์ Forex-3D หลังศาลอาญายกฟ้อง “ดีเจแมน-ใบเตย-แดริล” ยันทำตามหลักฐาน ไม่กระทบคดีอื่น

    วันนี้ (26 ธ.ค.) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกรณีศาลอาญา ยกฟ้อง นายแดรัล ยังฮุย ไซ หรือไซ ยังฮุย (MR. DARYL CAI YONGHUI) สัญชาติสิงคโปร์ , นายพัฒนพล กุญชร หรือ "ดีเจแมน" และ น.ส.สุธีวัน กุญชรหรือทวีสิน หรือ "ใบเตย" ในคดีแชร์ Forex-3D ว่า เบื้องต้นกรณีที่ศาลชั้นต้นได้มีการยกฟ้องจำเลยนั้น การอุทธรณ์จะเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการที่จะยื่นอุทธรณ์ แต่อัยการก็จะต้องพิจารณาประกอบกับคำพิพากษาของศาล อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคำพิพากษาของกลุ่ม "ดีเจแมน-ใบเตย" จะส่งผลต่อคดีของกลุ่มนายอภิรักษ์ โกฎธิ และนักแสดงสาว “พิงกี้ สาวิกา ไชยเดช” เพราะศาลจะต้องมีการพิจารณาเป็นรายบุคคล ตามพยานหลักฐานแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ถ้ามีเหตุสงสัย ศาลก็จะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย ซึ่งเป็นหลักการปกติ

    พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ส่วนคดี "ดิไอคอน" (คดีพิเศษที่ 119/2567) ที่ปัจจุบันผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย อยู่ระหว่างการฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง หากในอนาคตศาลชั้นต้นมีการยกฟ้องเช่นกันจะเกิดความเสียหายหรือไม่ ต้องชี้แจงว่าหลักทั่วไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แม้หากศาลมีการพิพากษาจำคุกแล้ว ก็ต้องเอาวันที่ถูกคุมขังมาหักออก พร้อมย้ำว่า ส่วนเรื่องการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาล เป็นหน้าที่ของอัยการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000124132

    #MGROnline #ดีเอสไอ
    MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ เผย เป็นอำนาจพนักงานอัยการอุทธรณ์คดีแชร์ Forex-3D หลังศาลอาญายกฟ้อง “ดีเจแมน-ใบเตย-แดริล” ยันทำตามหลักฐาน ไม่กระทบคดีอื่น • วันนี้ (26 ธ.ค.) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกรณีศาลอาญา ยกฟ้อง นายแดรัล ยังฮุย ไซ หรือไซ ยังฮุย (MR. DARYL CAI YONGHUI) สัญชาติสิงคโปร์ , นายพัฒนพล กุญชร หรือ "ดีเจแมน" และ น.ส.สุธีวัน กุญชรหรือทวีสิน หรือ "ใบเตย" ในคดีแชร์ Forex-3D ว่า เบื้องต้นกรณีที่ศาลชั้นต้นได้มีการยกฟ้องจำเลยนั้น การอุทธรณ์จะเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการที่จะยื่นอุทธรณ์ แต่อัยการก็จะต้องพิจารณาประกอบกับคำพิพากษาของศาล อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคำพิพากษาของกลุ่ม "ดีเจแมน-ใบเตย" จะส่งผลต่อคดีของกลุ่มนายอภิรักษ์ โกฎธิ และนักแสดงสาว “พิงกี้ สาวิกา ไชยเดช” เพราะศาลจะต้องมีการพิจารณาเป็นรายบุคคล ตามพยานหลักฐานแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ถ้ามีเหตุสงสัย ศาลก็จะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย ซึ่งเป็นหลักการปกติ • พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ส่วนคดี "ดิไอคอน" (คดีพิเศษที่ 119/2567) ที่ปัจจุบันผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย อยู่ระหว่างการฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง หากในอนาคตศาลชั้นต้นมีการยกฟ้องเช่นกันจะเกิดความเสียหายหรือไม่ ต้องชี้แจงว่าหลักทั่วไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แม้หากศาลมีการพิพากษาจำคุกแล้ว ก็ต้องเอาวันที่ถูกคุมขังมาหักออก พร้อมย้ำว่า ส่วนเรื่องการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาล เป็นหน้าที่ของอัยการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000124132 • #MGROnline #ดีเอสไอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌟ประกาศ ณ 24 ธันวาคม 2567
    📣 ร่วมลงชื่อ
    https://forms.gle/dM75jew76W59eDjo6
    เสนอให้มีกฎหมายพระราชบัญญัติป้องกันเชื้อชีวภาพที่ร้ายแรง

    สืบเนื่องจากโรคระบาดที่เกิดจากเชื้อไวรัสปัจจุบันไม่ใช่เชื้อตามธรรมชาติ แต่มีการตัดต่อพันธุกรรมสร้างเชื้อรุนแรงให้เกิดการระบาดได้ง่าย ดังเช่น เชื้อไวรัสโควิดจากห้องแล็บ( Lab)ที่เมือง อู่ฮั่น ในประเทศจีนและ ที่สิงคโปร์
    เชื้อโรคร้ายที่สร้างขึ้นจะเกิดขึ้นอีกได้ถ้าไม่มีการควบคุม
    เมื่อเชื้อถูกปล่อยออกมาเพื่อให้ขายวัคซีนและบังคับใช้ mRNA วัคซีนที่ไม่ใช่วัคซีน แต่เป็นยีนบำบัด(gene therapy)
    ส่งผลรุนแรงแรงต่อร่างกาย ปัจจุบันมีการลงทุนสร้างโรงงานหลายแห่งแล้ว
    ที่อเมริกาอุตสาหกรรมวัคซีนกำลังถูกเพิกถอนความคุ้มกันทางกฎหมายเพราะ RFKJr. ว่าที่รัฐมนตรีสาธารณสุข และประธานาธิบดีTrump รู้ว่าไม่ได้มีการทดลองเพื่อยืนยันความปลอดภัยและนำเชื้อโรคในธรรมชาติมาดัดแปลงเป็นอาวุธชีวภาพอันตรายอย่างใหญ่หลวง ทางไทยอาจจะโดนโรคระบาดจากไวรัสที่ถูกดัดแปลงอีกได้เช่นกัน

    ปัจจุบันมีการเก็บเชื้อโรคอันตรายจากธรรมชาติเกิดขึ้นหลายแห่งเช่นที่โรงพยาบาลจุฬา และยังคงดำเนินการอยู่
    ในประเทศไทย บุคคลากรในมหาวิทยาลัยบางแห่งยังทำวิจัย พัฒนาดัดแปลงเชื้อจากธรรมชาติเหล่านี้อย่างอิสระ ไม่มีการควบคุม
    จัดว่าเป็นการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่ร้ายแรงเช่นเดียวกับที่สิงคโปร์

    เรามีกฎหมายควบคุมอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด แต่เรายังไม่มีกฎหมายควบคุมเชื้อโรคชีวภาพเหล่านี้ mRNA วัคซีนก็ไม่ใช่วัคซีนแต่เป็นยีนบำบัด(Gene therapy) ต้องนำมาอยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติ ตามกฎหมายก่อนที่เชื้อโรคชีวภาพดัดแปลงจะส่งผลร้ายต่อประชาชนและทำลายความมั่นคงของประเทศโดยเป้าหมายทางการค้าวัคซีน

    รัฐบาลอเมริกากำลังเร่งแก้ไขแล้ว แต่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่จะควบคุมในเรื่องดังกล่าว
    ดังนั้นจึงต้องขอให้มีการลงชื่อเป็นจำนวน 50,000 คน เพื่อให้มีการพิจารณาเป็น"พระราชบัญญัติการป้องกันเชื้อชีวภาพร้ายแรงอย่างเร่งด่วนที่สุด
    🌟ประกาศ ณ 24 ธันวาคม 2567 📣 ร่วมลงชื่อ https://forms.gle/dM75jew76W59eDjo6 เสนอให้มีกฎหมายพระราชบัญญัติป้องกันเชื้อชีวภาพที่ร้ายแรง สืบเนื่องจากโรคระบาดที่เกิดจากเชื้อไวรัสปัจจุบันไม่ใช่เชื้อตามธรรมชาติ แต่มีการตัดต่อพันธุกรรมสร้างเชื้อรุนแรงให้เกิดการระบาดได้ง่าย ดังเช่น เชื้อไวรัสโควิดจากห้องแล็บ( Lab)ที่เมือง อู่ฮั่น ในประเทศจีนและ ที่สิงคโปร์ เชื้อโรคร้ายที่สร้างขึ้นจะเกิดขึ้นอีกได้ถ้าไม่มีการควบคุม เมื่อเชื้อถูกปล่อยออกมาเพื่อให้ขายวัคซีนและบังคับใช้ mRNA วัคซีนที่ไม่ใช่วัคซีน แต่เป็นยีนบำบัด(gene therapy) ส่งผลรุนแรงแรงต่อร่างกาย ปัจจุบันมีการลงทุนสร้างโรงงานหลายแห่งแล้ว ที่อเมริกาอุตสาหกรรมวัคซีนกำลังถูกเพิกถอนความคุ้มกันทางกฎหมายเพราะ RFKJr. ว่าที่รัฐมนตรีสาธารณสุข และประธานาธิบดีTrump รู้ว่าไม่ได้มีการทดลองเพื่อยืนยันความปลอดภัยและนำเชื้อโรคในธรรมชาติมาดัดแปลงเป็นอาวุธชีวภาพอันตรายอย่างใหญ่หลวง ทางไทยอาจจะโดนโรคระบาดจากไวรัสที่ถูกดัดแปลงอีกได้เช่นกัน ปัจจุบันมีการเก็บเชื้อโรคอันตรายจากธรรมชาติเกิดขึ้นหลายแห่งเช่นที่โรงพยาบาลจุฬา และยังคงดำเนินการอยู่ ในประเทศไทย บุคคลากรในมหาวิทยาลัยบางแห่งยังทำวิจัย พัฒนาดัดแปลงเชื้อจากธรรมชาติเหล่านี้อย่างอิสระ ไม่มีการควบคุม จัดว่าเป็นการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่ร้ายแรงเช่นเดียวกับที่สิงคโปร์ เรามีกฎหมายควบคุมอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด แต่เรายังไม่มีกฎหมายควบคุมเชื้อโรคชีวภาพเหล่านี้ mRNA วัคซีนก็ไม่ใช่วัคซีนแต่เป็นยีนบำบัด(Gene therapy) ต้องนำมาอยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติ ตามกฎหมายก่อนที่เชื้อโรคชีวภาพดัดแปลงจะส่งผลร้ายต่อประชาชนและทำลายความมั่นคงของประเทศโดยเป้าหมายทางการค้าวัคซีน รัฐบาลอเมริกากำลังเร่งแก้ไขแล้ว แต่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่จะควบคุมในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงต้องขอให้มีการลงชื่อเป็นจำนวน 50,000 คน เพื่อให้มีการพิจารณาเป็น"พระราชบัญญัติการป้องกันเชื้อชีวภาพร้ายแรงอย่างเร่งด่วนที่สุด
    FORMS.GLE
    ร่วมลงชื่อเพื่อขอให้มีกฎหมายพรบ.การป้องกันทางชีวภาพ
    พรบ.การป้องกันทางชีวภาพ เนื่องจากโรคระบาดที่เกิดจากเชื้อไวรัสปัจจุบัน​ไม่ใช่เชื้อตามธรรมชาติแต่ถูกนำมาดัดแปลงเพิ่มความรุนแรงให้ข้ามจากสัตว์เข้าสู่คนได้ง่าย ในห้อง Laboratory​ ในต่างประเทศเช่นที่ Wuhan ประเทศจีนและ Singapore เชื้อโรคร้ายจะเกิดขึ้นอีกถ้าไม่มีการควบคุม เมื่อไวรัสถูกปล่อยออกมาเพื่อขายวัคซีนและการบังคับใช้ mRNA​ vaccine​ ที่ไม่ใช่วัคซีน​แต่เป็น gene therapy ก็จะเกิดขึ้นอีกเพราะพบว่าได้มีการลงทุนสร้างโรงงานไปเยอะมากหลายแห่งแล้ว อเมริกา​อุตสาหกรรมวัคซีนกำลังถูกเพิกถอนความคุ้มกันทางกฎหมายเพราะ RFK​Jr. รัฐมนตรีสาธารณะสุข​และประธานาธิบดี Trump รู้ว่าไม่ได้มีการทดลองเพื่อยืนยันความปลอดภัยและการนำเชื้อโรคในธรรมชาติมาดัดแปลงเพื่อเป็นอาวุธมีอันตรายอย่างใหญ่หลวง ไทยคงจะโดนโรคระบาดจากไวรัสที่ถูกดัดแปลงอีก ปัจจุบัน​การเก็บเชื้อโรคอันตรายจากธรรมชาติ เกิดขึ้น​หลายแห่งเช่นที่จุฬา และยังคงมีการดำเนินการอยู่ในประเทศไทย พร้อมกับบุคคลากรในมหาวิทยาลัย บางแห่งก็ยังทำวิจัย การพัฒนา​ดัดแปลงเชื้อจากธรรมชาติเหล่านี้กันอย่างอิสระไม่มีการควบคุมซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาอาวุธชีวภาพที่ร้ายแรงรวมถึงเพื่อนบ้านเรา Singapore​ ด้วย เรามีกฎหมายเกี่ยวกัอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ทำไมเราไม่มีกฎหมาบควบคุมเชื้อโรคชีวภาพเหล่านี้ mRNA vaccine​ ก็ไม่ใช่วัคซีน​แต่เป็น Gene therapy ต้องเอาเข้ามาอยู่ภายใต้ พรบ.นี้ก่อนที่สิ่งเหล่านี้จะทำลายประเทศไทยและทำลายเสถียรภาพ​ของประเทศโดยเป้าหมายทางการค้า วัคซีนและบ่อนทำลายความมั่นคง รัฐบาล อเมริกา กำลังเร่งแก้ไขแล้วแต่ไทยยังไม่มีกฎหมายที่จะควบคุมกิจกรรมที่อันตรายอย่างยิ่งเหล่านี้ เพื่อการขอให้มีกฎหมาย พระราชบัญญัติ​การป้องกันทางชีวภาพนี้ ต้องขอให้มีคนลงชื่อ 50,000 คนเพื่อขอให้มีการพิจารณาเป็น พรบ.การป้องกันทางชีวภาพอย่างเร่งด่วน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • บันทึกความจำเรื่องตัว H

    15 พ.ย. 2567 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสคุยกับเด็ก ป.1 ได้ถามว่าครูสอนอะไรบ้าง หนูน้อยตอบว่าตัวอักษร ภาษาอังกฤษ ข้าพเจ้าเลยให้หนูน้อยท่องให้ฟัง นร.สามารถท่องได้ A-Z แต่ก็สะดุดที่ตัว H เพราะออกเสียงว่า เฮ็ด และ เฮ็ด ทุกครั้งที่ท่อง ทำให้นึกถึงในวัยเด็ก

    ข้าพเจ้าเคยเรียนระดับอนุบาลและประถมต้นโรงเรียนเอกชนมาสองแห่ง ครูจะสอนให้ออกเสียง เอช เมื่อต้องย้ายโรงเรียนใหม่ ตอน ป.4 ในวิชาภาษาอังกฤษ เพื่อนๆ เพิ่งจะเริ่มท่องภาษาอังกฤษ และเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน "เฮ็ด" เมื่อครูให้ท่องที่ละคน บทสนทนาของข้าพเจ้ากับครูจึงเป็นประมาณนี้

    ข้าพเจ้า: เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เอช
    ครู: ไม่ใช่!... เอช เฮ็ด! ออกเสียงว่า เฮ็ด เอาใหม่
    ข้าพเจ้า: เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เอช
    ครู: เฮ็ด! เอาใหม่
    ข้าพเจ้า: (เฮ็ด ก็ เฮ็ด) เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เฮ็ด
    ครู: อืม! ถูกต้อง ต่อไป

    และมันยิ่งสนุกมากขึ้น เมื่อเข้ามัธยม ในอีกภูมิภาคหนึ่ง เพราะ "เฮ็ด" ไม่ใช่ เฮ็ด ธรรมดาแล้ว มันเป็น "เฮ็ดชฺ" มีเสียง ชึๆ ท้ายเสียง เมื่อครูให้ข้าพเจ้าสะกดคำ เช่น Hand

    ข้าพเจ้า: เอช เอ .....
    ครู: เดี๋ยว! ตัวนี้ออกเสียง เฮ็ดชฺ
    ข้าพเจ้า: เอช เอ เอ็น ดีแฮนด์ มือ
    ครู: นั่น! ก็ออกเสียง แฮนด์ แล้วทำไมเสียงอักขระผิด ลองสะกดคำว่า House ซิ
    ข้าพเจ้า: เอช โอ ยู......
    ครู: ไม่ใช่....เฮ็ดชฺ เฮ็ดชฺ(ครูย้ำ)
    ข้าพเจ้า: (เฮ็ดชฺ ก็ เฮ็ดชฺ) เฮ็ดชฺ โอ ยู เอส อี เฮ้าสฺ บ้าน
    ครู: (พยักหน้า = ผ่าน)

    เมื่อหมดคาบ ข้าพเจ้าบอกเพื่อนว่าตัวนี้อ่านว่า เอช เพื่อนบอก เฮ็ดชฺ เพื่อนอีกคน บอกว่า เฮ็ดชุ ข้าพเจ้าเถียงว่า เอช เพื่อนบอกว่า ไปถามใครในโรงเรียนนี้ก็ได้ ว่าออกเสียงอย่างไร ข้าพเจ้ายอมแพ้ เพราะรู้ว่าอยู่ในดง เฮ็ดชฺ

    แม้ว่าเมื่อโตขึ้นจะรู้ว่า สามารถออกเสียงได้อีกแบบว่า เฮช แต่ก็ไม่ใกล้เคียง เฮ็ดหรือเฮ็ดชฺ เลย หรือว่าจริงจริง เฮ็ด หรือ เฮ็ดชุ ก็ใช้ได้ ในเมื่อมันผ่านมาสี่สิบกว่าปีแล้ว(นับจากอายุข้าพเจ้า) อักษรนี้ จะเป็นการออกเสียงเฉพาะสำเนียงไทยเท่านั้น ประมาณไทยลิช เหมือนสิงลิช ของสิงคโปร์

    ข้าพเจ้าไม่ใช่ นักภาษาศาสตร์ แต่เท่าที่ค้นคว้าดู จะออกเสียงได้ 2 แบบคือ เอช หรือ เฮชส่วนเรื่อง เฮ็ด/เฮ็ดชฺ ก็คงจะใช้ได้ เพราะคณะที่ผลิตครู และผ่านประกันคุณภาพการศึกษาอย่างเข้มข้น ผลิตครูภาษาอังกฤษ ที่ออกเสียง เฮ็ด มาสอนเด็กได้ (พวกสูซิเฮ็ดหยัง ก็เฮ็ดกันไปเด้อ) แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว เรื่องภาษา ยึดหลักว่า มันไม่ใช่ปัญหาของคนพูด มันเป็นปัญหาของคนฟัง
    บันทึกความจำเรื่องตัว H 15 พ.ย. 2567 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสคุยกับเด็ก ป.1 ได้ถามว่าครูสอนอะไรบ้าง หนูน้อยตอบว่าตัวอักษร ภาษาอังกฤษ ข้าพเจ้าเลยให้หนูน้อยท่องให้ฟัง นร.สามารถท่องได้ A-Z แต่ก็สะดุดที่ตัว H เพราะออกเสียงว่า เฮ็ด และ เฮ็ด ทุกครั้งที่ท่อง ทำให้นึกถึงในวัยเด็ก ข้าพเจ้าเคยเรียนระดับอนุบาลและประถมต้นโรงเรียนเอกชนมาสองแห่ง ครูจะสอนให้ออกเสียง เอช เมื่อต้องย้ายโรงเรียนใหม่ ตอน ป.4 ในวิชาภาษาอังกฤษ เพื่อนๆ เพิ่งจะเริ่มท่องภาษาอังกฤษ และเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน "เฮ็ด" เมื่อครูให้ท่องที่ละคน บทสนทนาของข้าพเจ้ากับครูจึงเป็นประมาณนี้ ข้าพเจ้า: เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เอช ครู: ไม่ใช่!... เอช เฮ็ด! ออกเสียงว่า เฮ็ด เอาใหม่ ข้าพเจ้า: เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เอช ครู: เฮ็ด! เอาใหม่ ข้าพเจ้า: (เฮ็ด ก็ เฮ็ด) เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เฮ็ด ครู: อืม! ถูกต้อง ต่อไป และมันยิ่งสนุกมากขึ้น เมื่อเข้ามัธยม ในอีกภูมิภาคหนึ่ง เพราะ "เฮ็ด" ไม่ใช่ เฮ็ด ธรรมดาแล้ว มันเป็น "เฮ็ดชฺ" มีเสียง ชึๆ ท้ายเสียง เมื่อครูให้ข้าพเจ้าสะกดคำ เช่น Hand ข้าพเจ้า: เอช เอ ..... ครู: เดี๋ยว! ตัวนี้ออกเสียง เฮ็ดชฺ ข้าพเจ้า: เอช เอ เอ็น ดีแฮนด์ มือ ครู: นั่น! ก็ออกเสียง แฮนด์ แล้วทำไมเสียงอักขระผิด ลองสะกดคำว่า House ซิ ข้าพเจ้า: เอช โอ ยู...... ครู: ไม่ใช่....เฮ็ดชฺ เฮ็ดชฺ(ครูย้ำ) ข้าพเจ้า: (เฮ็ดชฺ ก็ เฮ็ดชฺ) เฮ็ดชฺ โอ ยู เอส อี เฮ้าสฺ บ้าน ครู: (พยักหน้า = ผ่าน) เมื่อหมดคาบ ข้าพเจ้าบอกเพื่อนว่าตัวนี้อ่านว่า เอช เพื่อนบอก เฮ็ดชฺ เพื่อนอีกคน บอกว่า เฮ็ดชุ ข้าพเจ้าเถียงว่า เอช เพื่อนบอกว่า ไปถามใครในโรงเรียนนี้ก็ได้ ว่าออกเสียงอย่างไร ข้าพเจ้ายอมแพ้ เพราะรู้ว่าอยู่ในดง เฮ็ดชฺ แม้ว่าเมื่อโตขึ้นจะรู้ว่า สามารถออกเสียงได้อีกแบบว่า เฮช แต่ก็ไม่ใกล้เคียง เฮ็ดหรือเฮ็ดชฺ เลย หรือว่าจริงจริง เฮ็ด หรือ เฮ็ดชุ ก็ใช้ได้ ในเมื่อมันผ่านมาสี่สิบกว่าปีแล้ว(นับจากอายุข้าพเจ้า) อักษรนี้ จะเป็นการออกเสียงเฉพาะสำเนียงไทยเท่านั้น ประมาณไทยลิช เหมือนสิงลิช ของสิงคโปร์ ข้าพเจ้าไม่ใช่ นักภาษาศาสตร์ แต่เท่าที่ค้นคว้าดู จะออกเสียงได้ 2 แบบคือ เอช หรือ เฮชส่วนเรื่อง เฮ็ด/เฮ็ดชฺ ก็คงจะใช้ได้ เพราะคณะที่ผลิตครู และผ่านประกันคุณภาพการศึกษาอย่างเข้มข้น ผลิตครูภาษาอังกฤษ ที่ออกเสียง เฮ็ด มาสอนเด็กได้ (พวกสูซิเฮ็ดหยัง ก็เฮ็ดกันไปเด้อ) แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว เรื่องภาษา ยึดหลักว่า มันไม่ใช่ปัญหาของคนพูด มันเป็นปัญหาของคนฟัง
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด้วยอัตราการเกิดที่ต่ำติดอันดับที่ 3 ของโลก ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอัตราการเกิดสูงขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลต่ออนาคตของประเทศไทยอย่างไร?

    เมื่อเร็วๆ นี้ ผมดูคลิปหนึ่งเรื่องความถดถอยของเกาหลีใต้ ตอนหนึ่งเอ่ยถึงอัตราการเกิดที่ต่ำมาก ซึ่งถ้าปล่อยไปแบบนี้เกาหลีใต้จะ "สิ้นชาติ" ภายในปี 2100 เพราะประชากร 70% จะหายไป

    แม้ว่าเกาหลีใต้จะทุ่มเงิน 2.7 แสนล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นอัตราการเกิด แต่ก็ไม่ได้ผล ซึ่งดูท่าว่าการใช้เงินจะไม่ได้ผลในประเทศอื่นด้วย เช่น ในญี่ปุ่น และสิงคโปร์

    เช่น การให้เงินอุดหนุนคนมีลูก หรือเพิ่มวันลาคลอดทั้งชายทั้งหญิงไปจนถึงรัฐบาลช่วยจับคู่ให้ประชากร ทั้งหมดดูจะล้มเหลว

    มีการเทียบสถานการณ์นี้กับสหภาพโซเวียตซึ่งในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษที่ 1960 จากอัตราการเกิดสูงถึง 24.9 คน/ประชากร 1,000 คน ในปี 1966 มาอยู่ที่ 17.4/ประชากร 1,000 คน

    ปัญหาเกิดจากอะไร? เกิดจากการพัฒนามากเกินไปแบบ "กระจุกตัว"

    จากเอกสารลับของ CIA (ตอนนี้ไม่ลับแล้ว) บอกว่า การที่อัตราการเกิดในโซเวียตต่ำเป็นเพราะการขยายตัวของเมือง (Urbanization) และการเปลี่ยนจากสังคมเกษตรเป็นอุตสาหกรรม

    ช่วงหนึ่งโซเวียตทำลายภาคเกษตรอย่างย่อยยับด้วยระบบคอมมูน ซึ่งทำให้การเกษตรล้มหลว จนเกษตรกรต้องอพยพเข้ามาอยูในเมืองและเป็นแรงงานโรงงาน ชีวิตคนเมืองแบบนี้ไม่เอื้อต่อการทำลูกมากๆ ต่างจากสังคมเกษตร

    ในเวลาเดียวกัน เมื่อคนแห่เข้ามาอยู่ในเมืองมากๆ ที่อาศัยในเมืองก็ไม่พอ ทำให้ยิ่งไม่เหมาะกับการมีลูกในแฟลตเล็กๆ ที่อยู่แออัดเหมือนรังหนู

    เมื่อคนมากขึ้นในเมือง แต่ภาคเกษตรล้ม ทำให้ของยิ่งแพง เศรษฐกิจแบบนี้คนจึงไม่อยากมีลูก

    ในเวลาเดียวกัน โซเวียตปลดปล่อยสิทธิสตรี ทำให้ผู้หญิงไม่ต้องผูกมัดกับการมีลูกเพื่อมีตัวตนในสังคม อีกทั้งยังให้สิทธิในการทำแท้งเสรี เมื่อผู้หญิงทำงานเท่าผู้ชาย ก็ไม่อยากจะมีลูกอีก

    ในกรณีของโซเวียต CIA วิเคราะห์ว่าอัตราการเกิดต่ำในปี 1960 ลงมาเพราะผู้หญิงออกมาทำงานและเรียนมากขึ้นถึง 90% แต่เมื่อดูจากสังคมญี่ปุ่นที่ผู้หญิงอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนมากกว่า แต่แล้วก็ยังมีอัตราเกิดต่ำที่สุดในโลก บางทีเรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวกับผู้หญิงเลย

    และต่อมาอัตราเกิดของโซเวียตยิ่งต่ำกว่าสหรัฐฯ เสียอีก ซึ่งถือว่าเป็นปัญหามากในช่วงที่ทั้งสองประเทศทำสงครามเย็น หากแรงงานลดลง จะแข่งเรื่องการพัฒนาสร้างความก้าวหน้าไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการทำสงครามจริงๆ

    อีกปัญหาก็คือ สหภาพโซเวียตประกอบด้วยสาธารณรัฐและชนชาติต่างๆ มากมาย ในขณะที่ประชากรชาวรัสเซียลดลงฮวบฮาบ ประชากรชนชาติอื่นยิ่งเพิ่มสูงขึ้น และในที่สุดทำนายกันว่าภายในทศวรรษ 2000 ชาวรัสเซียจะไม่ใช่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ

    ถามว่ารัสเซียนจะกลืนชนชาติอื่นมาเป็นตน (Russification) ได้ไหม? ตอบว่าทำไม่สำเร็จ เพราะกลุ่มที่เกิดมากกว่าไม่ยอมถูกลืนเป็นรัสเซียนและถืออัตลักษณ์ของตนมากกว่า

    ในประเด็นนี้ ผมเคยเสนอว่าวิธีการแก้ปัญหาอัตราการเกิดต่ำของไทย อาจแก้ด้วยการเปิดรับผู้อพยพที่มีทักษะเข้ามามากๆ แล้ว ทำให้พวกเขาเป็นไทย (Thaification) ด้วยการสร้างชาตินิยมไทยให้เข้มแข็ง เพื่อให้ "คนนอก" รู้สึกสำนึกว่าเป็น "คนใน" เช่นที่ไทยเคยทำ Thaification กับประชากรเชื้อชาติจีนสำเร็จมาแล้ว

    แต่เมื่อเห็นปัญหาของโซเวียตผมชักไม่แน่ใจว่าการเอาคนนอกเข้ามาเป็น "คนไทยใหม่" แทน "คนไทยเดิม" ที่เกิดน้อยลงเป็นไอเดียที่จะเวิร์กหรือไม่? ส่วนหนึ่งการทำลาย "ความภูมิใจในความเป็นไทย" ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทยบางคนก็ไม่อยากเป็นไทย แล้วคนนอกจะยังอยากเป็นไทยหรือ?

    ตัวอย่างเช่น ที่สหรัฐฯ อัตราการเกิดนับตั้งแต่ 1970 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่มากจากแม่ที่เป็นผู้อพยพ ส่วนคนท้องถิ่นมีลูกน้อยลง แต่ปัญหาผู้อพยพในสหรัฐ ตอนนี้กำลังทำให้ประเทศแตกแยกอย่างหนัก

    บางทีการแก้ปัญหาหาอาจต้องเน้นการสร้างเด็กเกิดใหม่โดยคนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเป็นหลัก หากปัญหาของการไม่มีลูกอยู่ที่การกระจุกตัวของสังคมเมือง รัฐบาลก็ต้องกระจายโอกาสให้เมืองชนบทมากขึ้น

    คนทำเกษตรควรจะมีสวัสดิภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะพวกเขาอาจเป็นความหวังของการมีลูกมากว่าคนเมือง ดังนั้น แทนที่จะหนุนคนหนุ่มสาวในเมืองให้มีลูก รัฐควรเน้นที่นอกเมืองแทน

    กรณีของสหภาพโซเวียต CIA วิเคราะห์ว่า "เพราะปัญหาเมืองใหญ่ แต่บ้านเล็ก" นั่นคือ แม้เมืองจะโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนบ้านนอกเข้ามาเยอะ แต่การมีบ้านในเมืองเป็นเรื่องยาก ในปี 1967 อัตราพื้นที่อยู่อาศัยต่อหัวของโซเวียตอยู่ที่แค่ 7 ตร.ม. เท่านั้น ขนาดคนเดียวยังไม่รอด แล้วจะไปมีลูกได้อย่างไร และในทศวรรษที่ 1950 มีการสำรวจพบว่า 14% ที่ไม่มีลูกในเมืองแล้วเลือกทำแท้ง เพราะบ้านไม่พออยู่

    นี่ขนาดโซเวียตเป็นรัฐสังคมนิยมที่บ้านไม่ใช่ของแพง (แต่สร้างยาก) แล้วยังมีพื้นที่ประเทศใหญ่ที่สุดในโลก

    ดูเหมือนที่อยู่แพงและหายากและเล็กจิ๋ว จะเป็นปัญหาของคนจีน เกาหลี สิงคโปร์ และญี่ปุ่นด้วย เพระาคนเยอะแต่ดินแดนมีจำกัด

    แต่สหรัฐฯ ในช่วง 1970 อัตรการเกิดสูงมาก เนื่องจากเป็นยุคเศรษฐกิจบูม บ้านราคาไม่แพง และภาคเกษตรไม่ตกต่ำและยืนเคียงข้างภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ดูเหมือนการพัฒนาจะไม่กระจุกในเมือง เพราะมีเขตรอบนอกเมือง และชนบทที่เข้าถึงการปัจจัยในการดำรงชีพได้พอๆ กัน

    ในกรณีของสหรัฐฯ ปี 1970 เป็นต้นมามีปัญหาหนึ่งคล้ายกับไทย คือ "ท้องนอกสมรสกันเยอะ" แต่เพราะทำแท้งยาก ลูกก็เลยเต็มเมือง แต่เมื่อลูกแบบนี้เยอะก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเข้าถึงการศึกษาได้ถ้วนหน้า

    อัตราการเกิดของสหรัฐฯ จะคึกมาถึงทศวรรษที่ 1990 เลยด้วยซ้ำตามสภาวะเศรษฐกิจ หลังจากนั้นก็ลดลงเพราะ "จักรวรรดิเศรษฐกิจเริ่มพังทลาย" และสังคมแตกแยกสูง จนตั้งแง่กับผู้อพยพอย่างหนัก

    ดังนั้นเมื่อมองมาที่ไทย ถ้ารัฐบาลอยากให้มีลูก ไม่ควรจะแจกเงินเท่านั้นเพราจะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ควรจะไปแก้ที่ปัจจัยสี่แห่งการมีลูก คือ บ้านต้องมีกันได้ง่ายๆ (บ้านไม่แพง) สาธารณสุขต้องครบครัน (มีลูกต้องไม่แพง) คนชนทบทต้องไม่หนีเข้ามาในเมือง (มีงานและโอกาสทั่วถึง) และควรให้สวัสดิการผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย (เช่นวันหยุดเพิ่มเติมสำหรับคนที่ตั้งใจหรือกำลังมีลูก)

    ถ้าปัจจัยครบ รัฐบาลไม่ต้องเสียเวลาบังคับให้ใครมีลูก เดี๋ยวเขาจะมีกันเอง

    หรือถ้ามีกระตุ้นให้มีลูกกันเองไม่ได้ บางทีอาจจะต้องอาศัยการรับผู้อพบพเข้ามาแล้วทำให้เป็นคนไทยโดยสมบูรณ์ อย่างในกรณีของสหรัฐมีผู้อพยพจากประเทศที่มีอัตราการเจริญพันธุ์สูงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้ามาอยู่แล้วก็ถือเป็น "อเมริกัน" ไม่ใช่คนชาติเดิมอีก บางทีเราต้องดูตัวอย่างการกลืน (Assimilation) แบบสหรัฐฯ ด้วย

    ปัจจัยสี่แห่งการมีลูกนี้ผมนึกเอาเอง ผมคิดว่าหลายคนก็คงมีไอเดียอื่นๆ ด้วย และที่เล่ามานั้นไม่ใช่ถูกหรือผิด เพียงแค่อยากจะแบ่งปันวิธีแก้ปัญหาของชาติเท่านั้น ไม่ได้อยากจะอวดดีอวดเก่งอะไร



    Kornkit Disthan
    ด้วยอัตราการเกิดที่ต่ำติดอันดับที่ 3 ของโลก ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอัตราการเกิดสูงขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลต่ออนาคตของประเทศไทยอย่างไร? เมื่อเร็วๆ นี้ ผมดูคลิปหนึ่งเรื่องความถดถอยของเกาหลีใต้ ตอนหนึ่งเอ่ยถึงอัตราการเกิดที่ต่ำมาก ซึ่งถ้าปล่อยไปแบบนี้เกาหลีใต้จะ "สิ้นชาติ" ภายในปี 2100 เพราะประชากร 70% จะหายไป แม้ว่าเกาหลีใต้จะทุ่มเงิน 2.7 แสนล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นอัตราการเกิด แต่ก็ไม่ได้ผล ซึ่งดูท่าว่าการใช้เงินจะไม่ได้ผลในประเทศอื่นด้วย เช่น ในญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เช่น การให้เงินอุดหนุนคนมีลูก หรือเพิ่มวันลาคลอดทั้งชายทั้งหญิงไปจนถึงรัฐบาลช่วยจับคู่ให้ประชากร ทั้งหมดดูจะล้มเหลว มีการเทียบสถานการณ์นี้กับสหภาพโซเวียตซึ่งในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษที่ 1960 จากอัตราการเกิดสูงถึง 24.9 คน/ประชากร 1,000 คน ในปี 1966 มาอยู่ที่ 17.4/ประชากร 1,000 คน ปัญหาเกิดจากอะไร? เกิดจากการพัฒนามากเกินไปแบบ "กระจุกตัว" จากเอกสารลับของ CIA (ตอนนี้ไม่ลับแล้ว) บอกว่า การที่อัตราการเกิดในโซเวียตต่ำเป็นเพราะการขยายตัวของเมือง (Urbanization) และการเปลี่ยนจากสังคมเกษตรเป็นอุตสาหกรรม ช่วงหนึ่งโซเวียตทำลายภาคเกษตรอย่างย่อยยับด้วยระบบคอมมูน ซึ่งทำให้การเกษตรล้มหลว จนเกษตรกรต้องอพยพเข้ามาอยูในเมืองและเป็นแรงงานโรงงาน ชีวิตคนเมืองแบบนี้ไม่เอื้อต่อการทำลูกมากๆ ต่างจากสังคมเกษตร ในเวลาเดียวกัน เมื่อคนแห่เข้ามาอยู่ในเมืองมากๆ ที่อาศัยในเมืองก็ไม่พอ ทำให้ยิ่งไม่เหมาะกับการมีลูกในแฟลตเล็กๆ ที่อยู่แออัดเหมือนรังหนู เมื่อคนมากขึ้นในเมือง แต่ภาคเกษตรล้ม ทำให้ของยิ่งแพง เศรษฐกิจแบบนี้คนจึงไม่อยากมีลูก ในเวลาเดียวกัน โซเวียตปลดปล่อยสิทธิสตรี ทำให้ผู้หญิงไม่ต้องผูกมัดกับการมีลูกเพื่อมีตัวตนในสังคม อีกทั้งยังให้สิทธิในการทำแท้งเสรี เมื่อผู้หญิงทำงานเท่าผู้ชาย ก็ไม่อยากจะมีลูกอีก ในกรณีของโซเวียต CIA วิเคราะห์ว่าอัตราการเกิดต่ำในปี 1960 ลงมาเพราะผู้หญิงออกมาทำงานและเรียนมากขึ้นถึง 90% แต่เมื่อดูจากสังคมญี่ปุ่นที่ผู้หญิงอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนมากกว่า แต่แล้วก็ยังมีอัตราเกิดต่ำที่สุดในโลก บางทีเรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวกับผู้หญิงเลย และต่อมาอัตราเกิดของโซเวียตยิ่งต่ำกว่าสหรัฐฯ เสียอีก ซึ่งถือว่าเป็นปัญหามากในช่วงที่ทั้งสองประเทศทำสงครามเย็น หากแรงงานลดลง จะแข่งเรื่องการพัฒนาสร้างความก้าวหน้าไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการทำสงครามจริงๆ อีกปัญหาก็คือ สหภาพโซเวียตประกอบด้วยสาธารณรัฐและชนชาติต่างๆ มากมาย ในขณะที่ประชากรชาวรัสเซียลดลงฮวบฮาบ ประชากรชนชาติอื่นยิ่งเพิ่มสูงขึ้น และในที่สุดทำนายกันว่าภายในทศวรรษ 2000 ชาวรัสเซียจะไม่ใช่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ถามว่ารัสเซียนจะกลืนชนชาติอื่นมาเป็นตน (Russification) ได้ไหม? ตอบว่าทำไม่สำเร็จ เพราะกลุ่มที่เกิดมากกว่าไม่ยอมถูกลืนเป็นรัสเซียนและถืออัตลักษณ์ของตนมากกว่า ในประเด็นนี้ ผมเคยเสนอว่าวิธีการแก้ปัญหาอัตราการเกิดต่ำของไทย อาจแก้ด้วยการเปิดรับผู้อพยพที่มีทักษะเข้ามามากๆ แล้ว ทำให้พวกเขาเป็นไทย (Thaification) ด้วยการสร้างชาตินิยมไทยให้เข้มแข็ง เพื่อให้ "คนนอก" รู้สึกสำนึกว่าเป็น "คนใน" เช่นที่ไทยเคยทำ Thaification กับประชากรเชื้อชาติจีนสำเร็จมาแล้ว แต่เมื่อเห็นปัญหาของโซเวียตผมชักไม่แน่ใจว่าการเอาคนนอกเข้ามาเป็น "คนไทยใหม่" แทน "คนไทยเดิม" ที่เกิดน้อยลงเป็นไอเดียที่จะเวิร์กหรือไม่? ส่วนหนึ่งการทำลาย "ความภูมิใจในความเป็นไทย" ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทยบางคนก็ไม่อยากเป็นไทย แล้วคนนอกจะยังอยากเป็นไทยหรือ? ตัวอย่างเช่น ที่สหรัฐฯ อัตราการเกิดนับตั้งแต่ 1970 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่มากจากแม่ที่เป็นผู้อพยพ ส่วนคนท้องถิ่นมีลูกน้อยลง แต่ปัญหาผู้อพยพในสหรัฐ ตอนนี้กำลังทำให้ประเทศแตกแยกอย่างหนัก บางทีการแก้ปัญหาหาอาจต้องเน้นการสร้างเด็กเกิดใหม่โดยคนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเป็นหลัก หากปัญหาของการไม่มีลูกอยู่ที่การกระจุกตัวของสังคมเมือง รัฐบาลก็ต้องกระจายโอกาสให้เมืองชนบทมากขึ้น คนทำเกษตรควรจะมีสวัสดิภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะพวกเขาอาจเป็นความหวังของการมีลูกมากว่าคนเมือง ดังนั้น แทนที่จะหนุนคนหนุ่มสาวในเมืองให้มีลูก รัฐควรเน้นที่นอกเมืองแทน กรณีของสหภาพโซเวียต CIA วิเคราะห์ว่า "เพราะปัญหาเมืองใหญ่ แต่บ้านเล็ก" นั่นคือ แม้เมืองจะโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนบ้านนอกเข้ามาเยอะ แต่การมีบ้านในเมืองเป็นเรื่องยาก ในปี 1967 อัตราพื้นที่อยู่อาศัยต่อหัวของโซเวียตอยู่ที่แค่ 7 ตร.ม. เท่านั้น ขนาดคนเดียวยังไม่รอด แล้วจะไปมีลูกได้อย่างไร และในทศวรรษที่ 1950 มีการสำรวจพบว่า 14% ที่ไม่มีลูกในเมืองแล้วเลือกทำแท้ง เพราะบ้านไม่พออยู่ นี่ขนาดโซเวียตเป็นรัฐสังคมนิยมที่บ้านไม่ใช่ของแพง (แต่สร้างยาก) แล้วยังมีพื้นที่ประเทศใหญ่ที่สุดในโลก ดูเหมือนที่อยู่แพงและหายากและเล็กจิ๋ว จะเป็นปัญหาของคนจีน เกาหลี สิงคโปร์ และญี่ปุ่นด้วย เพระาคนเยอะแต่ดินแดนมีจำกัด แต่สหรัฐฯ ในช่วง 1970 อัตรการเกิดสูงมาก เนื่องจากเป็นยุคเศรษฐกิจบูม บ้านราคาไม่แพง และภาคเกษตรไม่ตกต่ำและยืนเคียงข้างภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ดูเหมือนการพัฒนาจะไม่กระจุกในเมือง เพราะมีเขตรอบนอกเมือง และชนบทที่เข้าถึงการปัจจัยในการดำรงชีพได้พอๆ กัน ในกรณีของสหรัฐฯ ปี 1970 เป็นต้นมามีปัญหาหนึ่งคล้ายกับไทย คือ "ท้องนอกสมรสกันเยอะ" แต่เพราะทำแท้งยาก ลูกก็เลยเต็มเมือง แต่เมื่อลูกแบบนี้เยอะก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเข้าถึงการศึกษาได้ถ้วนหน้า อัตราการเกิดของสหรัฐฯ จะคึกมาถึงทศวรรษที่ 1990 เลยด้วยซ้ำตามสภาวะเศรษฐกิจ หลังจากนั้นก็ลดลงเพราะ "จักรวรรดิเศรษฐกิจเริ่มพังทลาย" และสังคมแตกแยกสูง จนตั้งแง่กับผู้อพยพอย่างหนัก ดังนั้นเมื่อมองมาที่ไทย ถ้ารัฐบาลอยากให้มีลูก ไม่ควรจะแจกเงินเท่านั้นเพราจะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ควรจะไปแก้ที่ปัจจัยสี่แห่งการมีลูก คือ บ้านต้องมีกันได้ง่ายๆ (บ้านไม่แพง) สาธารณสุขต้องครบครัน (มีลูกต้องไม่แพง) คนชนทบทต้องไม่หนีเข้ามาในเมือง (มีงานและโอกาสทั่วถึง) และควรให้สวัสดิการผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย (เช่นวันหยุดเพิ่มเติมสำหรับคนที่ตั้งใจหรือกำลังมีลูก) ถ้าปัจจัยครบ รัฐบาลไม่ต้องเสียเวลาบังคับให้ใครมีลูก เดี๋ยวเขาจะมีกันเอง หรือถ้ามีกระตุ้นให้มีลูกกันเองไม่ได้ บางทีอาจจะต้องอาศัยการรับผู้อพบพเข้ามาแล้วทำให้เป็นคนไทยโดยสมบูรณ์ อย่างในกรณีของสหรัฐมีผู้อพยพจากประเทศที่มีอัตราการเจริญพันธุ์สูงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้ามาอยู่แล้วก็ถือเป็น "อเมริกัน" ไม่ใช่คนชาติเดิมอีก บางทีเราต้องดูตัวอย่างการกลืน (Assimilation) แบบสหรัฐฯ ด้วย ปัจจัยสี่แห่งการมีลูกนี้ผมนึกเอาเอง ผมคิดว่าหลายคนก็คงมีไอเดียอื่นๆ ด้วย และที่เล่ามานั้นไม่ใช่ถูกหรือผิด เพียงแค่อยากจะแบ่งปันวิธีแก้ปัญหาของชาติเท่านั้น ไม่ได้อยากจะอวดดีอวดเก่งอะไร Kornkit Disthan
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ท่าอากาศยานภูเก็ตแจงประเด็นดรามา หลังโซเชียลแชร์นำภาพ สถาปัตยกรรม ชิโน-โปรตุกีสของสิงคโปร์ มาตกแต่ง สร้างบรรยากาศภายในอาคารผู้โดยสาร บอกแค่เป็นส่วนหนึ่งจากหลายๆภาพ

    จากกรณีที่มีเพจ Facebook ชื่อผู้ใช้ชื่อ อีจี้จุ๋มภูเก็ต เผยแพร่ภาพสถาปัตยกรรมชิโน-โปรตุกีส (Sino-Portuguese) ของประเทศสิงคโปร์ ที่นำมาประดับตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) พร้อมมีการเขียนข้อความ ระบุว่า “ล่ากูขายหน้าอิ่ชัก เพื่อนมาถึงสนามบินภูเก็ต ส่งรูปนี้มาถามว่ายุแถวไน่ว่า (ตรงไหน) อิไปถ่ายรูป อ่ะโต้ย! งงไปเลย ตึกอีนี้อยู่เมืองลอดช่องม้าย แล้วอิการท่า มั่นช้อตอื้อพรืย (งงอะไรมั้ย) บ้านเรามอหลาวสวยๆ กาเอ (คฤหาสน์เพียบ) เตี้ยมฉู่หนนล่างเป็นตับ (ห้องแถวถนนถลางพรึ่บ) มึ่งไม่เอามาทำ ดันไปเอาบ้านเพื่อนมาโปรโมตภูเก็ต เวรจริ้ง!! ขายหน้าเค่าเปล่า ชาดเหลอ (ฉลาดมาก) โต่หลองต้ะ (ขอร้อง) เอาออกให้ทืย มึ่งไม่ขายหน้า จี้ขายหน้า”

    หลังโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันแสดงความคิดเห็นกันอย่างคึกคัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/south/detail/9670000120902

    #MGROnline #สถาปัตยกรรม #ชิโนโปรตุกีส #สิงคโปร์ #ท่าอากาศยานภูเก็ต
    ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ท่าอากาศยานภูเก็ตแจงประเด็นดรามา หลังโซเชียลแชร์นำภาพ สถาปัตยกรรม ชิโน-โปรตุกีสของสิงคโปร์ มาตกแต่ง สร้างบรรยากาศภายในอาคารผู้โดยสาร บอกแค่เป็นส่วนหนึ่งจากหลายๆภาพ • จากกรณีที่มีเพจ Facebook ชื่อผู้ใช้ชื่อ อีจี้จุ๋มภูเก็ต เผยแพร่ภาพสถาปัตยกรรมชิโน-โปรตุกีส (Sino-Portuguese) ของประเทศสิงคโปร์ ที่นำมาประดับตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) พร้อมมีการเขียนข้อความ ระบุว่า “ล่ากูขายหน้าอิ่ชัก เพื่อนมาถึงสนามบินภูเก็ต ส่งรูปนี้มาถามว่ายุแถวไน่ว่า (ตรงไหน) อิไปถ่ายรูป อ่ะโต้ย! งงไปเลย ตึกอีนี้อยู่เมืองลอดช่องม้าย แล้วอิการท่า มั่นช้อตอื้อพรืย (งงอะไรมั้ย) บ้านเรามอหลาวสวยๆ กาเอ (คฤหาสน์เพียบ) เตี้ยมฉู่หนนล่างเป็นตับ (ห้องแถวถนนถลางพรึ่บ) มึ่งไม่เอามาทำ ดันไปเอาบ้านเพื่อนมาโปรโมตภูเก็ต เวรจริ้ง!! ขายหน้าเค่าเปล่า ชาดเหลอ (ฉลาดมาก) โต่หลองต้ะ (ขอร้อง) เอาออกให้ทืย มึ่งไม่ขายหน้า จี้ขายหน้า” • หลังโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันแสดงความคิดเห็นกันอย่างคึกคัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9670000120902 • #MGROnline #สถาปัตยกรรม #ชิโนโปรตุกีส #สิงคโปร์ #ท่าอากาศยานภูเก็ต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts