• Google ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยในปี 2024 ผู้เสียหายจากการหลอกลวงในภูมิภาคนี้สูญเสียเงินรวมกว่า 688 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการสูญเสียทั่วโลก

    Google ได้จัดงาน Online Safety Dialogue ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อพัฒนาการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการหลอกลวง การประสานงานระหว่างประเทศ การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับขั้นสูง และการลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง

    นอกจากนี้ Google.org ยังได้จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในไต้หวัน

    Google ยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เพื่อแบ่งปันสัญญาณและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบเรียลไทม์ โดยมีพันธมิตร 20 รายที่ร่วมแบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ

    สุดท้าย Google เตรียมเปิดตัวเกม ShieldUp! ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 ซึ่งเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้วิธีป้องกันการหลอกลวงผ่านการจำลองสถานการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค
    - Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ
    - การลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง

    ✅ การจัดสรรเงินทุน
    - Google.org จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในปี 2025
    - เงินทุนก่อนหน้านี้รวมถึง 2 ล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ในไต้หวัน

    ✅ การขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE)
    - แพลตฟอร์ม GSE มีพันธมิตร 20 รายที่แบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ
    - การขยายแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์

    ✅ การเปิดตัวเกม ShieldUp!
    - เกม ShieldUp! จะเปิดตัวในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025

    https://www.neowin.net/news/google-bolsters-its-anti-scam-efforts-across-asia-pacific/
    Google ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยในปี 2024 ผู้เสียหายจากการหลอกลวงในภูมิภาคนี้สูญเสียเงินรวมกว่า 688 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการสูญเสียทั่วโลก Google ได้จัดงาน Online Safety Dialogue ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อพัฒนาการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการหลอกลวง การประสานงานระหว่างประเทศ การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับขั้นสูง และการลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง นอกจากนี้ Google.org ยังได้จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในไต้หวัน Google ยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เพื่อแบ่งปันสัญญาณและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบเรียลไทม์ โดยมีพันธมิตร 20 รายที่ร่วมแบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ สุดท้าย Google เตรียมเปิดตัวเกม ShieldUp! ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 ซึ่งเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้วิธีป้องกันการหลอกลวงผ่านการจำลองสถานการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค - Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ - การลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง ✅ การจัดสรรเงินทุน - Google.org จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในปี 2025 - เงินทุนก่อนหน้านี้รวมถึง 2 ล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ในไต้หวัน ✅ การขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) - แพลตฟอร์ม GSE มีพันธมิตร 20 รายที่แบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ - การขยายแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์ ✅ การเปิดตัวเกม ShieldUp! - เกม ShieldUp! จะเปิดตัวในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 https://www.neowin.net/news/google-bolsters-its-anti-scam-efforts-across-asia-pacific/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google bolsters its anti-scam efforts across Asia-Pacific
    In 2024, customers across Asia-Pacific lost 688 billion USD to scams. At Taiwan's Online Safety Dialogue, Google unveiled new partnerships, grants, and real-time tools to fight back.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • บรรยากาศบนเรือ Star Voyager 🚢💦
    เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬 22 เม.ย. 68 ⚓

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก
    #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    บรรยากาศบนเรือ Star Voyager 🚢💦 เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬 22 เม.ย. 68 ⚓ LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • บรรยากาศบนเรือ Star Voyager 🚢💦
    เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬 22 เม.ย. 68 ⚓

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก
    #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    บรรยากาศบนเรือ Star Voyager 🚢💦 เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬 22 เม.ย. 68 ⚓ รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • มาแล้ว!! บรรยากาศบนเรือ Star Voyager 🚢💦
    เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก
    #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    มาแล้ว!! บรรยากาศบนเรือ Star Voyager 🚢💦 เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • มาแล้ว!! บรรยากาศบนเรือ Star Voyager 🚢💦
    เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก
    #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    มาแล้ว!! บรรยากาศบนเรือ Star Voyager 🚢💦 เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬 รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • ด่วน 🔥
    เรือ Star Voyager เทียบท่าแหลมฉบังแล้ว🔥
    เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก
    #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ด่วน 🔥 เรือ Star Voyager เทียบท่าแหลมฉบังแล้ว🔥 เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬 รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • ร้านเจินห่าวชือ #ข้าวมันไก่สิงคโปร์ #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #อาหาร #กิน #หิว #eating #foodie #food #streetfood #thaifood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ร้านเจินห่าวชือ #ข้าวมันไก่สิงคโปร์ #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #อาหาร #กิน #หิว #eating #foodie #food #streetfood #thaifood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • มาดูดัชนีไอคิวเฉลี่ยประเทศที่เป็นศัตรูของสหรัฐฯ อย่างจีน อิหร่าน รัสเซีย เปรียบเทียบกับพันธมิตรสหรัฐอย่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา… และสหราชอาณาจักร หรือแม้แต่สหรัฐเอง
    มาดูดัชนีไอคิวเฉลี่ยประเทศที่เป็นศัตรูของสหรัฐฯ อย่างจีน อิหร่าน รัสเซีย เปรียบเทียบกับพันธมิตรสหรัฐอย่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา… และสหราชอาณาจักร หรือแม้แต่สหรัฐเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเลย์ถกไทย ทำรถไฟแพนเอเชีย

    หลังจากการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อการเจรจาทำงาน (Working Visit) และหารือติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือไทย-มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 17-18 เม.ย. ล่าสุด นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย มีกำหนดพบกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ในวันที่ 2 พ.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับการสร้างโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย (PARN) และเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีในภาคการขนส่ง

    โดยโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการหารือ ได้แก่ การก่อสร้างสะพานสุไหงโก-ลกแห่งที่ 2 ระหว่างด่าน ICQS รันเตาปันยัง รัฐกลันตัน กับด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส การก่อสร้างถนนเชื่อมต่อระหว่างด่าน ICQS บูกิตกายูฮีตัม รัฐเคดะห์ กับด่านพรมแดนสะเดาแห่งใหม่ จ.สงขลา ถนนเชื่อมต่อระหว่างด่านปะลิสกับจังหวัดสตูล ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นในการพัฒนาทางรถไฟทั่วโลก โดยตระหนักถึงโอกาสสำคัญของทางรถไฟในแต่ละประเทศ และบทบาทในการเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาค

    การประชุมครั้งถัดไปจะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความร่วมมือในภาคส่วนรถไฟระหว่างสองประเทศ ซึ่งขณะนี้จำกัดอยู่เพียงการใช้งานภายในประเทศเท่านั้น แม้จะมีความร่วมมือระหว่างการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) กับการรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว แต่การยกระดับความร่วมมือนี้จะนำไปสู่ระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล เพื่อให้การพัฒนาระบบรถไฟเชิงยุทธศาสตร์เกิดขึ้นได้ การเชื่อมโยงเครือข่ายรถไฟระหว่างมาเลเซียและไทย จะสามารถเปิดเส้นทางข้ามอาเซียนและจีนได้ นำมาซึ่งประโยชน์มหาศาลให้กับภูมิภาคอาเซียน

    มีรายงานว่า มาเลเซียกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการค้าฮาลาลระหว่างมาเลเซียและจีน ระหว่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้ ยังสนับสนุนโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพในการเปิดตลาดในจีนตะวันตก โดยเฉพาะในภูมิภาคมองโกเลียใน ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว มาเลเซียร่วมกับไทยและพันธมิตรจากจีน เปิดตัวโครงการ Asean Express นำร่องขนส่งสินค้าทางรถไฟไปยังเมืองฉงชิ่ง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ผ่านประเทศไทยและลาว โดยใช้เวลาเพียง 9 วัน

    สำหรับโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย มีจุดเริ่มต้นจากนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน แบ่งเป็น 3 สาย ได้แก่ 1. คุนหมิง–ต้าหลี่-รุ่ยลี่-ย่างกุ้ง-กรุงเทพฯ 2. คุนหมิง–ยวี่ซี-โม่หาน-เวียงจันทน์–กรุงเทพฯ 3. คุนหมิง–ยวี่ซี–เหอโขว่-ฮานอย-โฮจิมินห์-พนมเปญ-กรุงเทพฯ จากนั้นลงสู่ทางใต้ ผ่านประเทศมาเลเซีย ปลายทางประเทศสิงคโปร์

    #Newskit
    มาเลย์ถกไทย ทำรถไฟแพนเอเชีย หลังจากการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อการเจรจาทำงาน (Working Visit) และหารือติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือไทย-มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 17-18 เม.ย. ล่าสุด นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย มีกำหนดพบกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ในวันที่ 2 พ.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับการสร้างโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย (PARN) และเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีในภาคการขนส่ง โดยโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการหารือ ได้แก่ การก่อสร้างสะพานสุไหงโก-ลกแห่งที่ 2 ระหว่างด่าน ICQS รันเตาปันยัง รัฐกลันตัน กับด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส การก่อสร้างถนนเชื่อมต่อระหว่างด่าน ICQS บูกิตกายูฮีตัม รัฐเคดะห์ กับด่านพรมแดนสะเดาแห่งใหม่ จ.สงขลา ถนนเชื่อมต่อระหว่างด่านปะลิสกับจังหวัดสตูล ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นในการพัฒนาทางรถไฟทั่วโลก โดยตระหนักถึงโอกาสสำคัญของทางรถไฟในแต่ละประเทศ และบทบาทในการเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาค การประชุมครั้งถัดไปจะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความร่วมมือในภาคส่วนรถไฟระหว่างสองประเทศ ซึ่งขณะนี้จำกัดอยู่เพียงการใช้งานภายในประเทศเท่านั้น แม้จะมีความร่วมมือระหว่างการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) กับการรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว แต่การยกระดับความร่วมมือนี้จะนำไปสู่ระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล เพื่อให้การพัฒนาระบบรถไฟเชิงยุทธศาสตร์เกิดขึ้นได้ การเชื่อมโยงเครือข่ายรถไฟระหว่างมาเลเซียและไทย จะสามารถเปิดเส้นทางข้ามอาเซียนและจีนได้ นำมาซึ่งประโยชน์มหาศาลให้กับภูมิภาคอาเซียน มีรายงานว่า มาเลเซียกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการค้าฮาลาลระหว่างมาเลเซียและจีน ระหว่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้ ยังสนับสนุนโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพในการเปิดตลาดในจีนตะวันตก โดยเฉพาะในภูมิภาคมองโกเลียใน ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว มาเลเซียร่วมกับไทยและพันธมิตรจากจีน เปิดตัวโครงการ Asean Express นำร่องขนส่งสินค้าทางรถไฟไปยังเมืองฉงชิ่ง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ผ่านประเทศไทยและลาว โดยใช้เวลาเพียง 9 วัน สำหรับโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย มีจุดเริ่มต้นจากนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน แบ่งเป็น 3 สาย ได้แก่ 1. คุนหมิง–ต้าหลี่-รุ่ยลี่-ย่างกุ้ง-กรุงเทพฯ 2. คุนหมิง–ยวี่ซี-โม่หาน-เวียงจันทน์–กรุงเทพฯ 3. คุนหมิง–ยวี่ซี–เหอโขว่-ฮานอย-โฮจิมินห์-พนมเปญ-กรุงเทพฯ จากนั้นลงสู่ทางใต้ ผ่านประเทศมาเลเซีย ปลายทางประเทศสิงคโปร์ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน 🔥
    เรือ Star Voyager เทียบท่าแหลมฉบังแล้ว🔥
    เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก
    #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ด่วน 🔥 เรือ Star Voyager เทียบท่าแหลมฉบังแล้ว🔥 เส้นทางสิงคโปร์ 🇸🇬 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • บทวิเคราะห์ของ สมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีคลัง “นโยบายปรับภาษี (Tariff) ของ Trump จะทำให้โลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วพัฒนาการของการค้าโลกในช่วงประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา มีการตั้งองค์การด้านการค้าโลกขึ้น เริ่มด้วยการตั้ง GATTS แล้วต่อมาปรับเป็น WTO (World Trade Organization) เพื่อสร้างกฎเกณฑ์การค้าขายระหว่างประเทศและกำกับให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแนวทางการค้าเสรี ช่วงนี้จะมีประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ประเทศใหญ่ๆในยุโรป และประเทศญี่ปุ่นได้ปรับตัวให้ตนเองมั่งคั่งและสะสมความร่ำรวย เข้าไปควบคุมตลาดเงินและสกุลเงินตราสำคัญ รวมทั้งควบคุมตลาดการค้าหลักๆให้เป็นระเบียบและเอื้อต่อการขยายตัวของการค้าขายของแต่ละประเทศเพื่อประโยชน์ต่อตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ .แต่แล้วในช่วงดังกล่าวนี้ประเทศจีนเสือหลับแห่งเอเชีย ที่ได้ผู้นำประเทศที่ขึ้นมาพลิกผันประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ชื่อ เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้งได้ทำการปฏิวัติและปฏิรูปประเทศในทุกด้านโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมตั้งแต่แบบเก่าจนแบบที่ต้องใช้เทคนิคล้ำหน้า จนขณะนี้จีนภายใต้ผู้นำชื่อ สี จิ้น ผิง ที่เข้มแข็ง มือสะอาด มีฝีมือ มีคุณธรรม มีความตั้งใจจริง เข้ามาบริหารประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดให้ใหญ่โตจนทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกด้าน จนผู้นำของสหรัฐอย่าง Trump รู้สึกเสียหน้ามาก. ที่มาของการใช้มาตรการทำสงครามการค้าของ Trump ความแข็งแกร่งของจีนในขณะนี้ Trump ได้เฝ้าดูแลมาร่วม 8 ปี เมื่อเขาสามารถเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอีกครั้งก็ไม่รีรอที่จะลงมือนำนโยบายปรับภาษีสินค้านำเข้าและส่งออก (Tariff) ชนิดสุดโต่งและจำเพาะเจาะจงมาใช้กับประเทศจีนโดยทันที ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศใช้กับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทั่วโลกด้วย แต่มาตรการจะเบากว่าที่ใช้กับจีน. สิ่งที่เห็นตามที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ก็คือ การเกิดแรงกระแทกอย่างมากต่อวิถีการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอยู่ทั่วโลก ไม่ต้องถามว่าทำไม Trump ต้องทำแบบนี้ เพราะเขาเองเห็นชัดว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาของเขากำลังตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดดุลการค้าอย่างมากที่เกิดต่อเนื่องมานานและมีหนี้สาธารณะสูงมาก .Trump ยังได้เห็นชัดว่า ฝ่ายของจีนมีพวกพ้องมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดตั้งกลุ่ม BRICS ประกอบด้วย Brazil, Russia, India, China และ South Africa รวมหัวกันทำการค้าต่อกันอย่างใกล้ชิด คิดใช้สกุลเงินตราของตนเอง โดยหันหน้าหนีการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ.เท่านั้นยังไม่พอ กลุ่ม BRICS ยังค่อยๆลดการลงทุนในพันธบัตรของสหรัฐที่แต่ละประเทศถือไว้มากมายลงไปโดยการขายออก และหันไปซื้อทองคำหรือกระจายการลงทุนเป็นอย่างอื่น ขณะเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ ในตลาดเงินก็ทำการทิ้งพันธบัตรสหรัฐตามกันไปด้วย มีผลทำให้พันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ในอนาคตจำนวนมากของสหรัฐด้อยค่าลงมากอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน.สรุปได้ว่า Trump ได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาตอนนี้ได้ต่ำต้อยลงอย่างรวดเร็วมาก ตัวเองจึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามากู้ประเทศให้พลิกผันให้สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งอย่างเต็มตัวต่อไป ที่ Trump ตั้งใจจะทำก่อนและให้แรงมากคือเล่นงานด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าของสินค้าจีนอย่างบ้าระห่ำ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกัน แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่เป็นแค่ยกแรกแค่นั้น.ประเทศน้อยใหญ่ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทั้งหลายต่างก็มองการกระทำของ Trump ในแง่ลบ แม้แต่ประธาน Federal Reserve ของสหรัฐเองอย่าง Jerome Powell เองก็มีอาการกึ่งช็อคกึ่งหัวหมุนกับนโยบายประเภทบ้าบิ่นที่ประธานาธิบดีของเขาจัดมาเป็นชุดๆ Powell ถึงกับกล่าวว่านโยบายของ Trump ที่นำออกมาใช้นี้จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจจะตกต่ำและการว่างงานจะมีมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดหุ้นก็จะปั่นป่วนมาก ความตั้งใจที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลงจึงทำได้ยากขึ้นซึ่งความเห็นของประธาน Fed ดังกล่าว Trump ไม่พอใจมากเพราะเขาอยากให้มีการลดดอกเบี้ยถึงกับเอ่ยออกมาว่าคงต้องคิดเรื่องการเด้งประธาน Fed ซะแล้ว ฟังคล้ายกำลังจะเอาอย่างประเทศไทย.แนวทางของไทยที่จะรับมือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประเทศทุกประเทศที่โดนผลกระทบในเรื่องการขึ้น Tariff ของ Trump ต่างก็กำลังระดมความคิดและเตรียมตัวที่จะส่งผู้แทนไปเจรจา ยกเว้นจีนประเทศเดียวที่ขึ้นป้ายจะสู้กับสหรัฐอย่างแน่วแน่.สำหรับประเทศไทย ยังฟังไม่ได้ศัพท์จากฝ่ายรัฐบาลว่าจะมีกลยุทธ์ในการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ชี้ให้เห็นชัดว่าศักยภาพของรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาใหญ่ต่ำมาก ฟังความได้อย่างเดียวจากท่านนายกรัฐมนตรีว่าจะใช้นโยบายและแนวทางเหมือนกับประเทศอาเซียนอื่นๆเท่านั้นตอนนี้ก็เห็นภาพชัดขึ้นอีกจากคณะผู้แทนที่เตรียมการจะไปเจรจา โดยจะไปบอกทางสหรัฐว่าไทยเราจะซื้อสินค้าจากเขามากขึ้น เช่น LNG ข้าวโพด ถั่วเหลือง เป็นต้น ถ้าจะเดาก็จะขอให้ทางสหรัฐบันยะบันยังกับการเพิ่มภาษีสินค้าที่นำเข้าจากไทยที่มีมูลค่าถึง 18 % ของมูลค่าการส่งออกของไทยทั้งหมด.ส่วนผลกระทบต่อไทย เท่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามจะบอกพอสังเขป สรุปได้ว่าการส่งออกของไทยจะโดนกระทบมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารแปรรูป และจะทำให้การเติบโตของ GDP ในปีนี้ลดต่ำกว่าเป้าเหลือโตไม่ถึง 2.5 % และอัตราเงินเฟ้อของไทยก็จะชะลอลงด้วย นี่ยังไม่พูดถึงผลกระทบในปีหน้าและต่อๆไป ว่าจะรุนแรงสักแค่ไหน เชื่อได้เถอะครับมันแรงเกินคาด.ความเห็นผมนั้น เห็นว่าไทยเราจะโดนหนักกว่าที่รัฐบาลและหน่วยราชการไทยประเมินไว้มาก เกินศักยภาพของรัฐบาลไทยชุดนี้จะรับมือได้ วิกฤตที่จะเกิดขึ้นจากเรื่อง Tariff หนนี้ ไม่ใช่ Covid 19 นะครับ มันเป็นเรื่องประเทศใครประเทศมัน ใครมีผู้นำเก่งก็ทำให้เบาได้ สามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้.แนวทางในการคิดแก้วิกฤตของประเทศขนาดเล็กผมอยากนำท่านผู้อ่านไปดูว่าผู้นำของสิงคโปร์อย่างอดีตนายกลี เซียนลุง ได้พูดเมื่อไม่กี่วันมานี้ซึ่งดีมาก เขาเริ่มบอกประชาชนรวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่บริหารประเทศและนักธุรกิจ นักลงทุนของเขาว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนในช่วง 90 วันที่ Trump จะให้ประเทศอื่นๆ นอกจากจีนไปคิดกันให้ดี แต่ก็ต้องมองให้ออกว่าทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ดังนั้น เราต้องกังวลและคิดให้ตกว่ามันจะส่งผลกับเรามากแค่ไหน ต้องตระหนักให้ได้ว่าวิกฤตที่จะเกิดทั่วโลกนี้ บางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมันแตกต่างไปจากเดิมมาก .ลี เซียนลุง ชี้ให้เห็นชัดว่า การขึ้นภาษีหรือ Tariff ไปทั่วโลกครั้งนี้มันจะก่อกวนต่อการผลิตมากกว่าที่คิด เพราะ Supply Chain หรือ ห่วงโซ่การผลิตทุกอย่างจะหยุดชะงัก แผนการผลิตเดิมทุกอย่างจะหายไป และจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Recession) อย่างรวดเร็ว และขอให้คาดหวังไว้ได้เลยว่า ปัญหานี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน.หลังจากลี เซียนลุง พูดเรื่องนี้ได้ไม่กี่วัน นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ที่มีเสียงสนับสนุนหนาแน่นอยู่ได้ประเทศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน นี้เอง เหตุผลเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเลือกผู้นำใหม่ขึ้นมา นี่คือสิงคโปร์ นี่คือสิ่งที่เขาเป็นชาติที่เจริญได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงจนเราไม่สามารถแหงนหน้าขึ้นไปมองเขาได้แล้ว.ทางรอดของไทยจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดนี้ เรามาดูว่าประเทศไทยเราจะมีทางรอดแค่ไหนก่อนเราต้องส่องกระจกดูตัวเอง และต้องฟังดูว่ามีใครมองเราอย่างไรบ้างให้ชัดก่อน เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เองได้มีการชี้แนะจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศแห่งหนึ่งว่า “ประเทศไทยนั้นมีเรื่องคอร์รัปชั่นเป็นตัวหลักที่ทำให้การบริหารประเทศในทุกด้านเดินหน้าไม่ได้” และเมื่อมีนาคม 2568 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าห่วงเทียบได้เป็น “คนป่วยแห่งเอเชีย”เป็นคนป่วยยังไงหรือ ทางด้านเศรษฐกิจก็เห็นกันชัดอยู่แล้วว่าไทยเรา กำลังเผชิญกับหนี้สาธารณะสูงมาก ภาษีเก็บได้น้อย ช่องทางในการหาเงินมาบริหารประเทศยังชักหน้าไม่ถึงหลัง อนาคตด้านการคลังริบหรี่ ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจเรื่องหนี้ครัวเรือนก็ไม่มีทางจะแก้ให้เบาบางลงได้ แม้ไม่มีเรื่องการปรับ Tariff ของ Trump ประเทศไทยเราก็มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากเกินอยู่แล้ว นี่คืออาการของคนป่วยเรื้อรังแห่งเอเชีย.ไม่ต้องสาธยายกันมาก อีกเรื่องทุกคนก็รู้ดีอยู่ว่า การเมืองของไทยยักแย่ยักยันอยู่ในปลักโคลนตมเดิมจนโงหัวไม่ขึ้นมานานแล้ว การเล่นการเมืองของนักการเมืองไทยเด็กๆก็รู้ว่าเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ใครจะเห็นต่างกี่คนก็บอกมา.เมื่อองคาพยพของการเมืองไทยซึ่งมีการแต่งตั้งคณะรัฐบาลมาบริหารประเทศจากรากเหง้าเก่าๆที่รู้กันอยู่ เมื่อเจอกับปัญหาใหญ่ระดับโลกชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็มากระทบเราทั้งนั้น ท่านผู้ที่ได้ใช้สิทธิใช้เสียงเลือกพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ เชื่อและมั่นใจหรือไม่ว่าเขาจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมากระทบประเทศเราได้ .หันไปดูนโยบายของพรรคการเมืองผู้กุมอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ก็จะเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้นโยบายของพวกเขาเหล่านั้น มันเน่าบูดกันแทบหมดแล้วครับ ถ้าจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมีแรงกระแทกก่อให้เกิดวิกฤตที่ใหญ่เกินคาด ด้วยการปรับ ครม. แต่ยังดันทุรังคงสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ไว้ น่าจะไม่เป็นการกระทำของผู้นำที่รักชาติจริง”
    บทวิเคราะห์ของ สมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีคลัง “นโยบายปรับภาษี (Tariff) ของ Trump จะทำให้โลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วพัฒนาการของการค้าโลกในช่วงประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา มีการตั้งองค์การด้านการค้าโลกขึ้น เริ่มด้วยการตั้ง GATTS แล้วต่อมาปรับเป็น WTO (World Trade Organization) เพื่อสร้างกฎเกณฑ์การค้าขายระหว่างประเทศและกำกับให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแนวทางการค้าเสรี ช่วงนี้จะมีประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ประเทศใหญ่ๆในยุโรป และประเทศญี่ปุ่นได้ปรับตัวให้ตนเองมั่งคั่งและสะสมความร่ำรวย เข้าไปควบคุมตลาดเงินและสกุลเงินตราสำคัญ รวมทั้งควบคุมตลาดการค้าหลักๆให้เป็นระเบียบและเอื้อต่อการขยายตัวของการค้าขายของแต่ละประเทศเพื่อประโยชน์ต่อตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ .แต่แล้วในช่วงดังกล่าวนี้ประเทศจีนเสือหลับแห่งเอเชีย ที่ได้ผู้นำประเทศที่ขึ้นมาพลิกผันประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ชื่อ เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้งได้ทำการปฏิวัติและปฏิรูปประเทศในทุกด้านโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมตั้งแต่แบบเก่าจนแบบที่ต้องใช้เทคนิคล้ำหน้า จนขณะนี้จีนภายใต้ผู้นำชื่อ สี จิ้น ผิง ที่เข้มแข็ง มือสะอาด มีฝีมือ มีคุณธรรม มีความตั้งใจจริง เข้ามาบริหารประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดให้ใหญ่โตจนทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกด้าน จนผู้นำของสหรัฐอย่าง Trump รู้สึกเสียหน้ามาก. ที่มาของการใช้มาตรการทำสงครามการค้าของ Trump ความแข็งแกร่งของจีนในขณะนี้ Trump ได้เฝ้าดูแลมาร่วม 8 ปี เมื่อเขาสามารถเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอีกครั้งก็ไม่รีรอที่จะลงมือนำนโยบายปรับภาษีสินค้านำเข้าและส่งออก (Tariff) ชนิดสุดโต่งและจำเพาะเจาะจงมาใช้กับประเทศจีนโดยทันที ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศใช้กับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทั่วโลกด้วย แต่มาตรการจะเบากว่าที่ใช้กับจีน. สิ่งที่เห็นตามที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ก็คือ การเกิดแรงกระแทกอย่างมากต่อวิถีการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอยู่ทั่วโลก ไม่ต้องถามว่าทำไม Trump ต้องทำแบบนี้ เพราะเขาเองเห็นชัดว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาของเขากำลังตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดดุลการค้าอย่างมากที่เกิดต่อเนื่องมานานและมีหนี้สาธารณะสูงมาก .Trump ยังได้เห็นชัดว่า ฝ่ายของจีนมีพวกพ้องมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดตั้งกลุ่ม BRICS ประกอบด้วย Brazil, Russia, India, China และ South Africa รวมหัวกันทำการค้าต่อกันอย่างใกล้ชิด คิดใช้สกุลเงินตราของตนเอง โดยหันหน้าหนีการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ.เท่านั้นยังไม่พอ กลุ่ม BRICS ยังค่อยๆลดการลงทุนในพันธบัตรของสหรัฐที่แต่ละประเทศถือไว้มากมายลงไปโดยการขายออก และหันไปซื้อทองคำหรือกระจายการลงทุนเป็นอย่างอื่น ขณะเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ ในตลาดเงินก็ทำการทิ้งพันธบัตรสหรัฐตามกันไปด้วย มีผลทำให้พันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ในอนาคตจำนวนมากของสหรัฐด้อยค่าลงมากอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน.สรุปได้ว่า Trump ได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาตอนนี้ได้ต่ำต้อยลงอย่างรวดเร็วมาก ตัวเองจึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามากู้ประเทศให้พลิกผันให้สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งอย่างเต็มตัวต่อไป ที่ Trump ตั้งใจจะทำก่อนและให้แรงมากคือเล่นงานด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าของสินค้าจีนอย่างบ้าระห่ำ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกัน แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่เป็นแค่ยกแรกแค่นั้น.ประเทศน้อยใหญ่ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทั้งหลายต่างก็มองการกระทำของ Trump ในแง่ลบ แม้แต่ประธาน Federal Reserve ของสหรัฐเองอย่าง Jerome Powell เองก็มีอาการกึ่งช็อคกึ่งหัวหมุนกับนโยบายประเภทบ้าบิ่นที่ประธานาธิบดีของเขาจัดมาเป็นชุดๆ Powell ถึงกับกล่าวว่านโยบายของ Trump ที่นำออกมาใช้นี้จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจจะตกต่ำและการว่างงานจะมีมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดหุ้นก็จะปั่นป่วนมาก ความตั้งใจที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลงจึงทำได้ยากขึ้นซึ่งความเห็นของประธาน Fed ดังกล่าว Trump ไม่พอใจมากเพราะเขาอยากให้มีการลดดอกเบี้ยถึงกับเอ่ยออกมาว่าคงต้องคิดเรื่องการเด้งประธาน Fed ซะแล้ว ฟังคล้ายกำลังจะเอาอย่างประเทศไทย.แนวทางของไทยที่จะรับมือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประเทศทุกประเทศที่โดนผลกระทบในเรื่องการขึ้น Tariff ของ Trump ต่างก็กำลังระดมความคิดและเตรียมตัวที่จะส่งผู้แทนไปเจรจา ยกเว้นจีนประเทศเดียวที่ขึ้นป้ายจะสู้กับสหรัฐอย่างแน่วแน่.สำหรับประเทศไทย ยังฟังไม่ได้ศัพท์จากฝ่ายรัฐบาลว่าจะมีกลยุทธ์ในการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ชี้ให้เห็นชัดว่าศักยภาพของรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาใหญ่ต่ำมาก ฟังความได้อย่างเดียวจากท่านนายกรัฐมนตรีว่าจะใช้นโยบายและแนวทางเหมือนกับประเทศอาเซียนอื่นๆเท่านั้นตอนนี้ก็เห็นภาพชัดขึ้นอีกจากคณะผู้แทนที่เตรียมการจะไปเจรจา โดยจะไปบอกทางสหรัฐว่าไทยเราจะซื้อสินค้าจากเขามากขึ้น เช่น LNG ข้าวโพด ถั่วเหลือง เป็นต้น ถ้าจะเดาก็จะขอให้ทางสหรัฐบันยะบันยังกับการเพิ่มภาษีสินค้าที่นำเข้าจากไทยที่มีมูลค่าถึง 18 % ของมูลค่าการส่งออกของไทยทั้งหมด.ส่วนผลกระทบต่อไทย เท่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามจะบอกพอสังเขป สรุปได้ว่าการส่งออกของไทยจะโดนกระทบมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารแปรรูป และจะทำให้การเติบโตของ GDP ในปีนี้ลดต่ำกว่าเป้าเหลือโตไม่ถึง 2.5 % และอัตราเงินเฟ้อของไทยก็จะชะลอลงด้วย นี่ยังไม่พูดถึงผลกระทบในปีหน้าและต่อๆไป ว่าจะรุนแรงสักแค่ไหน เชื่อได้เถอะครับมันแรงเกินคาด.ความเห็นผมนั้น เห็นว่าไทยเราจะโดนหนักกว่าที่รัฐบาลและหน่วยราชการไทยประเมินไว้มาก เกินศักยภาพของรัฐบาลไทยชุดนี้จะรับมือได้ วิกฤตที่จะเกิดขึ้นจากเรื่อง Tariff หนนี้ ไม่ใช่ Covid 19 นะครับ มันเป็นเรื่องประเทศใครประเทศมัน ใครมีผู้นำเก่งก็ทำให้เบาได้ สามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้.แนวทางในการคิดแก้วิกฤตของประเทศขนาดเล็กผมอยากนำท่านผู้อ่านไปดูว่าผู้นำของสิงคโปร์อย่างอดีตนายกลี เซียนลุง ได้พูดเมื่อไม่กี่วันมานี้ซึ่งดีมาก เขาเริ่มบอกประชาชนรวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่บริหารประเทศและนักธุรกิจ นักลงทุนของเขาว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนในช่วง 90 วันที่ Trump จะให้ประเทศอื่นๆ นอกจากจีนไปคิดกันให้ดี แต่ก็ต้องมองให้ออกว่าทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ดังนั้น เราต้องกังวลและคิดให้ตกว่ามันจะส่งผลกับเรามากแค่ไหน ต้องตระหนักให้ได้ว่าวิกฤตที่จะเกิดทั่วโลกนี้ บางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมันแตกต่างไปจากเดิมมาก .ลี เซียนลุง ชี้ให้เห็นชัดว่า การขึ้นภาษีหรือ Tariff ไปทั่วโลกครั้งนี้มันจะก่อกวนต่อการผลิตมากกว่าที่คิด เพราะ Supply Chain หรือ ห่วงโซ่การผลิตทุกอย่างจะหยุดชะงัก แผนการผลิตเดิมทุกอย่างจะหายไป และจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Recession) อย่างรวดเร็ว และขอให้คาดหวังไว้ได้เลยว่า ปัญหานี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน.หลังจากลี เซียนลุง พูดเรื่องนี้ได้ไม่กี่วัน นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ที่มีเสียงสนับสนุนหนาแน่นอยู่ได้ประเทศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน นี้เอง เหตุผลเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเลือกผู้นำใหม่ขึ้นมา นี่คือสิงคโปร์ นี่คือสิ่งที่เขาเป็นชาติที่เจริญได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงจนเราไม่สามารถแหงนหน้าขึ้นไปมองเขาได้แล้ว.ทางรอดของไทยจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดนี้ เรามาดูว่าประเทศไทยเราจะมีทางรอดแค่ไหนก่อนเราต้องส่องกระจกดูตัวเอง และต้องฟังดูว่ามีใครมองเราอย่างไรบ้างให้ชัดก่อน เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เองได้มีการชี้แนะจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศแห่งหนึ่งว่า “ประเทศไทยนั้นมีเรื่องคอร์รัปชั่นเป็นตัวหลักที่ทำให้การบริหารประเทศในทุกด้านเดินหน้าไม่ได้” และเมื่อมีนาคม 2568 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าห่วงเทียบได้เป็น “คนป่วยแห่งเอเชีย”เป็นคนป่วยยังไงหรือ ทางด้านเศรษฐกิจก็เห็นกันชัดอยู่แล้วว่าไทยเรา กำลังเผชิญกับหนี้สาธารณะสูงมาก ภาษีเก็บได้น้อย ช่องทางในการหาเงินมาบริหารประเทศยังชักหน้าไม่ถึงหลัง อนาคตด้านการคลังริบหรี่ ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจเรื่องหนี้ครัวเรือนก็ไม่มีทางจะแก้ให้เบาบางลงได้ แม้ไม่มีเรื่องการปรับ Tariff ของ Trump ประเทศไทยเราก็มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากเกินอยู่แล้ว นี่คืออาการของคนป่วยเรื้อรังแห่งเอเชีย.ไม่ต้องสาธยายกันมาก อีกเรื่องทุกคนก็รู้ดีอยู่ว่า การเมืองของไทยยักแย่ยักยันอยู่ในปลักโคลนตมเดิมจนโงหัวไม่ขึ้นมานานแล้ว การเล่นการเมืองของนักการเมืองไทยเด็กๆก็รู้ว่าเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ใครจะเห็นต่างกี่คนก็บอกมา.เมื่อองคาพยพของการเมืองไทยซึ่งมีการแต่งตั้งคณะรัฐบาลมาบริหารประเทศจากรากเหง้าเก่าๆที่รู้กันอยู่ เมื่อเจอกับปัญหาใหญ่ระดับโลกชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็มากระทบเราทั้งนั้น ท่านผู้ที่ได้ใช้สิทธิใช้เสียงเลือกพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ เชื่อและมั่นใจหรือไม่ว่าเขาจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมากระทบประเทศเราได้ .หันไปดูนโยบายของพรรคการเมืองผู้กุมอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ก็จะเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้นโยบายของพวกเขาเหล่านั้น มันเน่าบูดกันแทบหมดแล้วครับ ถ้าจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมีแรงกระแทกก่อให้เกิดวิกฤตที่ใหญ่เกินคาด ด้วยการปรับ ครม. แต่ยังดันทุรังคงสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ไว้ น่าจะไม่เป็นการกระทำของผู้นำที่รักชาติจริง”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • Keppel บริษัทด้านการจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนสถาบันทั่วโลกสำหรับกองทุนหลักของบริษัท ซึ่งรวมถึง Keppel Data Centre Fund III, Keppel Education Asset Fund II และกลยุทธ์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

    Christina Tan ซึ่งเป็น CEO ของฝ่ายบริหารกองทุนและ CIO ของ Keppel ระบุว่าการได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน, การขยายตัวของเมือง และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

    ✅ Keppel ได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    - เงินลงทุนนี้มาจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
    - เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล, การศึกษา และการพัฒนาเมือง

    ✅ Keppel มุ่งเป้าไปที่การบริหารสินทรัพย์มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2026
    - บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้ถึง 200 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2030

    ✅ การลงทุนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับมหภาคที่สำคัญ
    - นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI, พลังงานสะอาด และ การพัฒนาเมือง

    ✅ Keppel ไม่เปิดเผยรายชื่อนักลงทุนที่เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้
    - แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/singapore039s-keppel-gets-15-billion-in-capital-commitments-for-its-funds
    Keppel บริษัทด้านการจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนสถาบันทั่วโลกสำหรับกองทุนหลักของบริษัท ซึ่งรวมถึง Keppel Data Centre Fund III, Keppel Education Asset Fund II และกลยุทธ์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน Christina Tan ซึ่งเป็น CEO ของฝ่ายบริหารกองทุนและ CIO ของ Keppel ระบุว่าการได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน, การขยายตัวของเมือง และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ✅ Keppel ได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - เงินลงทุนนี้มาจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ - เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล, การศึกษา และการพัฒนาเมือง ✅ Keppel มุ่งเป้าไปที่การบริหารสินทรัพย์มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2026 - บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้ถึง 200 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2030 ✅ การลงทุนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับมหภาคที่สำคัญ - นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI, พลังงานสะอาด และ การพัฒนาเมือง ✅ Keppel ไม่เปิดเผยรายชื่อนักลงทุนที่เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้ - แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/singapore039s-keppel-gets-15-billion-in-capital-commitments-for-its-funds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Singapore's Keppel gets $1.5 billion in capital commitments for its funds
    SINGAPORE (Reuters) - Keppel, a Singapore-based manager and operator of assets such as data centres, said on Monday that it has secured close to S$2.0 billion ($1.53 billion) of capital commitments from global institutional investors for its flagship funds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงปู่สุระ วัดธารโต จ.ยะลา ปี2538
    เหรียญหลวงปู่สุระ วัดธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา ปี2538 // พระดีพิธีใหญ่ อนุสรณ์ครบรอบ ๗๙ ปี //พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ////>> รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** ใครที่ต้องการความสำเร็จในหน้าทีการงาน ข้าราชการที่เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแบบง่ายๆ การค้าการขายแบบขายดีไม่ติดขัด มีโชค มีลาภ แบบมีเข้ามาตลอด "ผมแนะนำครับ มั้นใจในพุทธคุณได้ครับของหลวงปู่ดีจริงๆ ""

    ** พุทธคุณ โชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    ** หลวงปู่สุระ พระเกจิชื่อดังจังหวัดยะลา หลังการมรณภาพ สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย พระเกจิผู้ปฎิบัติดี “#. หลวงปู่สุระเป็นนักปฎิบัติที่มีจริยวัตรแห่งความสงฆ์ที่เคร่งครัด และส่งเสริมด้านวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งมีลูกศิษย์ ลูกหาในสามจังหวัดใต้ มาเลเชีย สิงคโปร์ มากมาย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่สุระ วัดธารโต จ.ยะลา ปี2538 เหรียญหลวงปู่สุระ วัดธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา ปี2538 // พระดีพิธีใหญ่ อนุสรณ์ครบรอบ ๗๙ ปี //พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ////>> รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** ใครที่ต้องการความสำเร็จในหน้าทีการงาน ข้าราชการที่เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแบบง่ายๆ การค้าการขายแบบขายดีไม่ติดขัด มีโชค มีลาภ แบบมีเข้ามาตลอด "ผมแนะนำครับ มั้นใจในพุทธคุณได้ครับของหลวงปู่ดีจริงๆ "" ** พุทธคุณ โชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> ** หลวงปู่สุระ พระเกจิชื่อดังจังหวัดยะลา หลังการมรณภาพ สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย พระเกจิผู้ปฎิบัติดี “#. หลวงปู่สุระเป็นนักปฎิบัติที่มีจริยวัตรแห่งความสงฆ์ที่เคร่งครัด และส่งเสริมด้านวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งมีลูกศิษย์ ลูกหาในสามจังหวัดใต้ มาเลเชีย สิงคโปร์ มากมาย >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิงคโปร์โตก เปลี่ยนรัฐบาลก็รับใช้ยิวไซออนิสต์เหมือนเดิม
    สิงคโปร์โตก เปลี่ยนรัฐบาลก็รับใช้ยิวไซออนิสต์เหมือนเดิม
    สิงคโปร์ประกาศยุบสภาในวันนี้ (15 เม.ย.) เพื่อเปิดทางไปสู่ศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ค. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งจะถือว่าเป็นบททดสอบใหญ่ครั้งแรกสำหรับนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง ที่เข้ารับไม้ต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ที่สละตำแหน่งหัวหน้าพรรคกิจประชาชน (People’s Action Party - PAP) เมื่อเดือน พ.ค. ปี 2024

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035711
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญเสมาหน้าเลื่อนหลวงพ่อทวด พ่อแก่เจ้าแสง รุ่นแรก วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี
    เหรียญเสมาหน้าเลื่อนหลวงพ่อทวด เนื้อตะกั่ว แจกกรรมการ สร้าง200ชุด (ตอกโค๊ด หมายเลข ๑๒๒ ) พ่อแก่เจ้าแสง รุ่นแรก วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ ฉลองอายุครบ 8 รอบ 96 ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง กำบังกาย แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันการกระทำคุณไสย์ เป็นเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เสน่ห์แด่คนทั้งหลาย เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก.เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ คนในพื้นที่หวงมาก ส่วนใหญ่จะไปอยู่ต่างประเทศ มาเลย์ กับ สิงคโปร์ >>

    ** พ่อแก่เจ้าแสง วัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง) พระบริสุทธิ์สงฆ์ผู้อาวุโสที่สุดแห่งสามจังหวัดชายแดนใต้ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ท่านแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควา ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม ยอดพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณอีกรูปหนึ่งของเมืองปัตตานี พ่อแก่เจ้าแสง ท่านยังสืบทอดสายวิชา อาคมขลังมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆมากมายหลายองค์ท่านสืบทอดวิชา”นะปถมัง”และ”นะปัดตลอด”มาจากสุดยอดพระเถราจารย์แห่งเมืองปัตตานีนามพ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง เทพเจ้าแห่งยะหริ่ง ท่านศึกษาเล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง องค์อุปัชฌาย์ ของท่านมาอย่างเจนจบครบถ้วน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเสมาหน้าเลื่อนหลวงพ่อทวด พ่อแก่เจ้าแสง รุ่นแรก วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี เหรียญเสมาหน้าเลื่อนหลวงพ่อทวด เนื้อตะกั่ว แจกกรรมการ สร้าง200ชุด (ตอกโค๊ด หมายเลข ๑๒๒ ) พ่อแก่เจ้าแสง รุ่นแรก วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ ฉลองอายุครบ 8 รอบ 96 ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง กำบังกาย แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันการกระทำคุณไสย์ เป็นเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เสน่ห์แด่คนทั้งหลาย เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก.เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ คนในพื้นที่หวงมาก ส่วนใหญ่จะไปอยู่ต่างประเทศ มาเลย์ กับ สิงคโปร์ >> ** พ่อแก่เจ้าแสง วัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง) พระบริสุทธิ์สงฆ์ผู้อาวุโสที่สุดแห่งสามจังหวัดชายแดนใต้ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ท่านแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควา ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม ยอดพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณอีกรูปหนึ่งของเมืองปัตตานี พ่อแก่เจ้าแสง ท่านยังสืบทอดสายวิชา อาคมขลังมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆมากมายหลายองค์ท่านสืบทอดวิชา”นะปถมัง”และ”นะปัดตลอด”มาจากสุดยอดพระเถราจารย์แห่งเมืองปัตตานีนามพ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง เทพเจ้าแห่งยะหริ่ง ท่านศึกษาเล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง องค์อุปัชฌาย์ ของท่านมาอย่างเจนจบครบถ้วน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ได้ออกข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิป AI ไปยังจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อ AMD และ Nvidia โดย AMD คาดว่าจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ จากสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อที่ได้รับผลกระทบ

    ✅ สหรัฐฯ ออกข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิป AI ไปยังจีน
    - ข้อจำกัดนี้มีผลกับ AMD MI308 และ Nvidia H20 ซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตก่อนส่งออก
    - รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อ รักษาความเป็นผู้นำด้าน AI และป้องกันจีนจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหนือกว่า

    ✅ AMD คาดว่าจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์
    - ค่าใช้จ่ายนี้รวมถึง สินค้าคงคลัง, คำสั่งซื้อที่ได้รับผลกระทบ และการตั้งสำรองทางบัญชี
    - Nvidia ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยคาดว่าจะต้อง ตัดจำหน่ายสินค้าคงคลังมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์

    ✅ ข้อจำกัดนี้ทำให้บริษัทจีนหาทางนำเข้าชิปผ่านประเทศที่สาม
    - มีรายงานว่าธุรกิจจีนใช้ ตัวกลางในมาเลเซีย, เวียดนาม และไต้หวัน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัด
    - สิงคโปร์และมาเลเซียกำลังพยายาม ลดการรั่วไหลของชิป AI ไปยังจีน แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามาตรการเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพเพียงใด

    ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ
    - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่ามาตรการนี้เป็นไปตาม คำสั่งของประธานาธิบดี เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-takes-usd800m-haircut-as-us-govt-cuts-off-chinas-ai-gpu-supply
    สหรัฐฯ ได้ออกข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิป AI ไปยังจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อ AMD และ Nvidia โดย AMD คาดว่าจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ จากสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อที่ได้รับผลกระทบ ✅ สหรัฐฯ ออกข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิป AI ไปยังจีน - ข้อจำกัดนี้มีผลกับ AMD MI308 และ Nvidia H20 ซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตก่อนส่งออก - รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อ รักษาความเป็นผู้นำด้าน AI และป้องกันจีนจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหนือกว่า ✅ AMD คาดว่าจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ - ค่าใช้จ่ายนี้รวมถึง สินค้าคงคลัง, คำสั่งซื้อที่ได้รับผลกระทบ และการตั้งสำรองทางบัญชี - Nvidia ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยคาดว่าจะต้อง ตัดจำหน่ายสินค้าคงคลังมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ ✅ ข้อจำกัดนี้ทำให้บริษัทจีนหาทางนำเข้าชิปผ่านประเทศที่สาม - มีรายงานว่าธุรกิจจีนใช้ ตัวกลางในมาเลเซีย, เวียดนาม และไต้หวัน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัด - สิงคโปร์และมาเลเซียกำลังพยายาม ลดการรั่วไหลของชิป AI ไปยังจีน แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามาตรการเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพเพียงใด ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่ามาตรการนี้เป็นไปตาม คำสั่งของประธานาธิบดี เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-takes-usd800m-haircut-as-us-govt-cuts-off-chinas-ai-gpu-supply
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • Anker ได้เปิดตัว UV Printer E1 ภายใต้แบรนด์ eufyMake ซึ่งเป็น เครื่องพิมพ์ UV แบบ 3D สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวหลากหลายประเภท เช่น ไม้, โลหะ, อะคริลิก, หนัง, แก้ว, หิน และเซรามิก

    ✅ UV Printer E1 สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวที่หลากหลาย
    - ใช้ UV light เพื่อทำให้หมึกแห้งอย่างรวดเร็ว
    - สามารถพิมพ์ลงบน ถ้วย, กระเบื้อง, กระดาษ, ผ้าใบ และวัสดุอื่นๆ

    ✅ รองรับการพิมพ์แบบ 3D และเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI
    - สามารถสร้าง พื้นผิวแบบ 3D และใช้ AI ในการแก้ไขภาพ
    - รองรับการพิมพ์แบบ Direct-to-Film (DTF) ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายโอนภาพไปยังพื้นผิวที่หลากหลาย

    ✅ ขนาดกะทัดรัดและเหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - เครื่องพิมพ์นี้มีขนาดเล็กกว่ารุ่นอุตสาหกรรมถึง 90%
    - เหมาะสำหรับ ธุรกิจขนาดเล็ก, นักออกแบบ และผู้ใช้ทั่วไป

    ✅ การเปิดตัวและราคา
    - เปิดตัวผ่าน Kickstarter ในเดือนเมษายน 2025
    - ราคาเริ่มต้นที่ $1,499 พร้อมเงินมัดจำ $50
    - การจัดส่งเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2025 ไปยัง สหรัฐฯ, แคนาดา, ยุโรป, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์

    https://www.techspot.com/news/107560-world-first-personal-3d-texturing-uv-printer-paints.html
    Anker ได้เปิดตัว UV Printer E1 ภายใต้แบรนด์ eufyMake ซึ่งเป็น เครื่องพิมพ์ UV แบบ 3D สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวหลากหลายประเภท เช่น ไม้, โลหะ, อะคริลิก, หนัง, แก้ว, หิน และเซรามิก ✅ UV Printer E1 สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวที่หลากหลาย - ใช้ UV light เพื่อทำให้หมึกแห้งอย่างรวดเร็ว - สามารถพิมพ์ลงบน ถ้วย, กระเบื้อง, กระดาษ, ผ้าใบ และวัสดุอื่นๆ ✅ รองรับการพิมพ์แบบ 3D และเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI - สามารถสร้าง พื้นผิวแบบ 3D และใช้ AI ในการแก้ไขภาพ - รองรับการพิมพ์แบบ Direct-to-Film (DTF) ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายโอนภาพไปยังพื้นผิวที่หลากหลาย ✅ ขนาดกะทัดรัดและเหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - เครื่องพิมพ์นี้มีขนาดเล็กกว่ารุ่นอุตสาหกรรมถึง 90% - เหมาะสำหรับ ธุรกิจขนาดเล็ก, นักออกแบบ และผู้ใช้ทั่วไป ✅ การเปิดตัวและราคา - เปิดตัวผ่าน Kickstarter ในเดือนเมษายน 2025 - ราคาเริ่มต้นที่ $1,499 พร้อมเงินมัดจำ $50 - การจัดส่งเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2025 ไปยัง สหรัฐฯ, แคนาดา, ยุโรป, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์ https://www.techspot.com/news/107560-world-first-personal-3d-texturing-uv-printer-paints.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The world's first personal 3D texturing UV printer paints on almost any surface
    The UV Printer E1 from Anker's eufyMake brand allows non-business customers to print detailed color designs onto cups, tiles, paper, canvas, and numerous other materials. It supports...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิงคโปร์ประกาศยุบสภาในวันนี้ (15 เม.ย.) เพื่อเปิดทางไปสู่ศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ค. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งจะถือว่าเป็นบททดสอบใหญ่ครั้งแรกสำหรับนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง ที่เข้ารับไม้ต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ที่สละตำแหน่งหัวหน้าพรรคกิจประชาชน (People’s Action Party - PAP) เมื่อเดือน พ.ค. ปี 2024

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035711
    สิงคโปร์ประกาศยุบสภาในวันนี้ (15 เม.ย.) เพื่อเปิดทางไปสู่ศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ค. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งจะถือว่าเป็นบททดสอบใหญ่ครั้งแรกสำหรับนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง ที่เข้ารับไม้ต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ที่สละตำแหน่งหัวหน้าพรรคกิจประชาชน (People’s Action Party - PAP) เมื่อเดือน พ.ค. ปี 2024 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035711
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 772 มุมมอง 0 รีวิว
  • Blood Gold เจาะขุมทรัพย์ใต้ภิภพเมียนมาร์ความมั่งคั่งที่มืดมนอนธการ
    .
    ใต้ภิภพเมียนมาร์ นับเป็นรัฐที่มีทรัพยากรมูลค่าสูงฝังอยู่มหาศาล ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ในการพัฒนาประเทศได้อันดับต้น ๆ ของอาเซียน
    ทว่า รัฐสภาพแห่งนี้เหมือนถูกครอบงำ และตกอยู่ภายใต้ความลำบาก ความขัดแย้งไม่ลงรอย ในประวัติศาสตร์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยตรง
    รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) “ยักษ์หลับแห่งเมียนมา” ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตื่นขึ้น 28 มีนาคม 2568 ที่ ขนาด 8.2 แมกนิจูด ได้ส่งพลังพาดผ่านเมืองหลวงสำคัญของพม่า ตั้งแต่มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ดูเหมือนว่าเมืองแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางอำนาจ ตั้งอยู่บนหลังมังกรที่หลับ ขยับทีก็ทำให้เมืองศูนย์กลางสำคัญได้ได้ผลกระทบสูงการฟื้นตัวครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสถานการณ์เริ่มต้นใหม่หลายรอบ หมุนวน
    โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมียนมาร์ค่อนข้างซับซ้อน ภูมิสัณฐานและธรณีโครงสร้างได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือพื้นที่ราบสูงตะวันออก (Sino Burman Ranges) พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง (Inner Burman Tertiary Zone) ดินแดนเทือกเขาตะวันตก (Indo Burman Ranges) และ ที่ราบฝั่งยะไข่ - คะฉิ่น Rakhine (Arakan) Coastal Plain
    ชั้นหินที่มีอายุอ่อนที่สุดจะอยู่ใน พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง ไล่ถัดไปทางด้านตะวันตกของประเทศ จะเป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ราบแถบยะไข่ ด้านตะวันออกของประเทศ ส่วนของ Sino Burman เป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ที่สุด มีรอยเลื่อนรัฐฉาน แนวรอยต่อเชื่อมรอยเลื่อนสะกาย
    อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารปี 2021 ซึ่งมีการขยายตัวของการทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023
    นับว่าแร่หายากกลุ่มหนัก heavy rare earth elements: HREE คิดเป็นสัดส่วนหลักของมูลค่าการส่งออกของเมียนมาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนเพื่อผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับรถไฟฟ้าและกังหันลมการส่งออก อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2021 จาก 19,500 ตัน เป็น 41,700 ตัน
    แน่นอนแร่หายากกลุ่ม China Rare Earths Group (REGCC) เป็นผู้ลงทุนหลัก ควบคุมทั้งเทคโนโลยี การประมวลผล และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้การดูแลพื้นที่ของกองทัพเมียนมาร์ (SAC) และมิลิเชียพันธมิตรควบคุมพื้นที่พิเศษ Kachin 1 และกองกำลัง Kachin Independence Army (KIA) ควบคุมพื้นที่ Momauk และแนวชายแดน
    แร่หายากเป็นแหล่งเงินสำคัญสำหรับทั้งรัฐบาลทหารและกลุ่มกบฎ แต่ 70% ของประชากรในพื้นที่ยังพึ่งพาการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ค่าแรงงานในเหมืองสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (สูงกว่าเฉลี่ยประเทศ 2 เท่า) แต่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โรคปอด ปัญหาหายใจลำบาก โรคผิวหนัง และไตวายจากสารเคมี เช่น แอมโมเนียมซัลเฟตและออกซาลิกแอซิด
    ไม่รวมถึงมลพิษน้ำ 96% ของครัวเรือนในเขต Chipwi ไม่มีน้ำดื่มสะอาดเนื่องจากสารเคมีปนเปื้อน ดวงตาสวรรค์ได้ส่องพื้นที่การขยายตัวของเหมืองกว่า 40% ใน Kachin Special Region 1 และ Momauk ระหว่างปี 2021-2023 ที่สลายระบบนิเวศในพื้นที่ยากจะทวงคืนสภาพเดิมกลับมาในอนาคต
    อีกแร่ธาตุหนึ่งคือเหล็กที่เมียนมาร์ เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ที่แหล่ง Pong Pet ซึ่งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ปรากฏเป็นแหล่งเฮมาไทต์ (Hematite) และยังพบแหล่งแร่เหล็ก 393 แหล่ง ปริมาณสารองทรัพยากรแร่ประมาณ 495 ล้านตัน และพบแหล่งแร่เหล็กที่มีศักยภาพ 14 แหล่ง ในรัฐ Kachin, Mandalay, Bago, Tanintharyi และรัฐShan ได้แก่ แหล่งแร่เหล็กสำคัญพบที่รัฐ Tanintharyi บริเวณตอนเหนือของรัฐ Shan
    โดยในรัฐคะฉิ่น คือศูนย์รวมแร่ธาตุความมั่งคั่งสมบูรณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ นอกจากหยกแล้วยังมีแหล่งแร่เหล็กในรัฐ Kachin มีปริมาณสารองประมาณ 223 ล้านตันที่ 50.56%Fe องค์ประกอบหลักของแร่ คือ Goethite/Limonite 75%, Hematite 15% และ Magnetite 2%
    แน่นอนเมียนมาร์เป็นผู้ผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเดียวที่ผลิตหยกเจไดต์คุณภาพสูง อุตสาหกรรมหยกมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศ โดยเมืองผะกัน (Hpakan) เป็นที่ตั้งของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองที่มีข่าวของเหมืองถล่ม ดินโคลนโถมทับหมู่บ้านถี่มากและต้นปี 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่ซ้ำซาก สูญเสียชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก
    Global Witness ประเมินไว้ว่ารายได้จากหยกได้เข้าพกเข้าห่อของผู้นำของเมียนมาไปแล้วราว 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา
    หากประมวลประเทศที่มีบริษัทลงทุนในเหมืองแร่ในภาพรวมในเมียนมาร์ ได้แก่
    1.) จีน: เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เมียนมาร์ โดยเฉพาะในเหมืองทองแดง (เช่น โครงการ Letpadaung, S&K, Tagaung Taung) และแร่หายาก มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น China Nonferrous Metal Mining (CNMC), Wanbao Mining Co., Ltd. รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจากมณฑลยูนนานและเสฉวน
    2.) ไทย: มีบริษัท Myanmar-Pongpipat Co., Ltd. ร่วมลงทุนในเหมืองดีบุกและโลหะอื่น
    3.) เวียดนาม: บริษัท Simco Songda มีการลงทุนในเหมืองแร่ร่วมกับเมียนมาร์
    4.) ออสเตรเลีย: บริษัท PanAust ได้รับอนุญาตให้ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่เหมือง Wuntho
    5.) ญี่ปุ่น: มีบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งยื่นขออนุญาตลงทุนในเหมืองแร่เมียนมาร์
    6.) สิงคโปร์: แม้จะเน้นลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน แต่ก็มีการลงทุนในเหมืองแร่บางส่วน
    7.) มาเลเซีย, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร: มีการลงทุนในเมียนมาร์ในหลายภาคส่วน รวมถึงเหมืองแร่ในบางโครงการ
    ในส่วนแร่ทองคำ Blood Gold บริบทไม่แตกต่างจากพื้นที่คะฉิ่น แต่รายงานจาก EarthRights International (2567) ระบุว่าในรัฐกะฉิ่นมีการขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจุดขุดนับร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการขุดขนาดเล็กและใช้เครื่องจักรหนัก
    ผู้สัมปทาน ก่อนการรัฐประหาร (2564): เหมืองทองคำขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ในเขตเบ็งเมาก์ (Bemauk), กานิ (Kani), และเคาก์ปาดอง (Kyaukpadaung) ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างกองทัพเมียนมาร์และบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทจากจีนและไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันหายาก
    พื้นที่การขุดทองคำในรัฐกะฉิ่นส่วนใหญ่ควบคุมโดย Kachin Independence Army (KIA) และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทหรือนักขุดท้องถิ่น บริษัทจีน มีรายงานว่าได้รับสัมปทานในพื้นที่ เช่น บริเวณแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก โดยได้รับการอนุมัติจาก United Wa State Army (UWSA) บริษัทท้องถิ่นและกองทัพเมียนมาร์: Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ยังคงมีส่วนในเหมืองบางแห่ง
    ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ไม่มีการออกใบอนุญาตขุดอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่ เช่น Hpakant แต่การขุดยังดำเนินต่อไปโดยผิดกฎหมาย
    ปัจจุบันหลังจาก การรัฐประหารในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและกฎหมาย ส่งผลให้การขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุม โดยเฉพาะในรัฐกะฉิ่นและสะกาย เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังการรัฐประหาร ซึ่งเป็นแหล่งทองคำสำคัญ เรียกว่าเกิดการขุดแบบทำลายล้าง ใช้เครื่องจักรกลหนักและการขุดในแม่น้ำในพื้นที่ และลุกลามขยายยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก และแม่น้ำสายใกล้ชายแดนไทย
    แน่นอนความระส่ำระสายในพื้นที่คือการกอบโกยความมั่งคั่งในพื้นที่ที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคตว่าผลกระทบของผู้คน ประชาชนจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาการฟื้นตัวความอ่อนเปียกของรัฐชาติที่ถูกสูบทรัพยากรที่มีความมั่งคั่งออกไปอย่างไร้ข้อจำกัด โดยมีอำนาจภายในควบคุม กองทัพเมียนมาร์ ควบคุมเหมืองขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อหารายได้ กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น KIA เก็บส่วนแบ่งจากเหมืองในพื้นที่ของตน บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทในพื้นที่รัฐที่อุดมด้วยแร่ธาตุโดยเฉพาะฉาน และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงที่สัญญาณได้ส่งผลแล้วกรณีที่แม่สาย ลุ่มแม่น้ำกก เชียงราย ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด


    อ้างอิง :
    • โครงการ การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบและการลงทุนด้านเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    https://www.bbc.com/thai/international-53264790
    • EarthRights International, Global Witness
    Blood Gold เจาะขุมทรัพย์ใต้ภิภพเมียนมาร์ความมั่งคั่งที่มืดมนอนธการ . ใต้ภิภพเมียนมาร์ นับเป็นรัฐที่มีทรัพยากรมูลค่าสูงฝังอยู่มหาศาล ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ในการพัฒนาประเทศได้อันดับต้น ๆ ของอาเซียน ทว่า รัฐสภาพแห่งนี้เหมือนถูกครอบงำ และตกอยู่ภายใต้ความลำบาก ความขัดแย้งไม่ลงรอย ในประวัติศาสตร์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยตรง รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) “ยักษ์หลับแห่งเมียนมา” ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตื่นขึ้น 28 มีนาคม 2568 ที่ ขนาด 8.2 แมกนิจูด ได้ส่งพลังพาดผ่านเมืองหลวงสำคัญของพม่า ตั้งแต่มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ดูเหมือนว่าเมืองแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางอำนาจ ตั้งอยู่บนหลังมังกรที่หลับ ขยับทีก็ทำให้เมืองศูนย์กลางสำคัญได้ได้ผลกระทบสูงการฟื้นตัวครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสถานการณ์เริ่มต้นใหม่หลายรอบ หมุนวน โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมียนมาร์ค่อนข้างซับซ้อน ภูมิสัณฐานและธรณีโครงสร้างได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือพื้นที่ราบสูงตะวันออก (Sino Burman Ranges) พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง (Inner Burman Tertiary Zone) ดินแดนเทือกเขาตะวันตก (Indo Burman Ranges) และ ที่ราบฝั่งยะไข่ - คะฉิ่น Rakhine (Arakan) Coastal Plain ชั้นหินที่มีอายุอ่อนที่สุดจะอยู่ใน พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง ไล่ถัดไปทางด้านตะวันตกของประเทศ จะเป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ราบแถบยะไข่ ด้านตะวันออกของประเทศ ส่วนของ Sino Burman เป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ที่สุด มีรอยเลื่อนรัฐฉาน แนวรอยต่อเชื่อมรอยเลื่อนสะกาย อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารปี 2021 ซึ่งมีการขยายตัวของการทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 นับว่าแร่หายากกลุ่มหนัก heavy rare earth elements: HREE คิดเป็นสัดส่วนหลักของมูลค่าการส่งออกของเมียนมาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนเพื่อผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับรถไฟฟ้าและกังหันลมการส่งออก อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2021 จาก 19,500 ตัน เป็น 41,700 ตัน แน่นอนแร่หายากกลุ่ม China Rare Earths Group (REGCC) เป็นผู้ลงทุนหลัก ควบคุมทั้งเทคโนโลยี การประมวลผล และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้การดูแลพื้นที่ของกองทัพเมียนมาร์ (SAC) และมิลิเชียพันธมิตรควบคุมพื้นที่พิเศษ Kachin 1 และกองกำลัง Kachin Independence Army (KIA) ควบคุมพื้นที่ Momauk และแนวชายแดน แร่หายากเป็นแหล่งเงินสำคัญสำหรับทั้งรัฐบาลทหารและกลุ่มกบฎ แต่ 70% ของประชากรในพื้นที่ยังพึ่งพาการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ค่าแรงงานในเหมืองสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (สูงกว่าเฉลี่ยประเทศ 2 เท่า) แต่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โรคปอด ปัญหาหายใจลำบาก โรคผิวหนัง และไตวายจากสารเคมี เช่น แอมโมเนียมซัลเฟตและออกซาลิกแอซิด ไม่รวมถึงมลพิษน้ำ 96% ของครัวเรือนในเขต Chipwi ไม่มีน้ำดื่มสะอาดเนื่องจากสารเคมีปนเปื้อน ดวงตาสวรรค์ได้ส่องพื้นที่การขยายตัวของเหมืองกว่า 40% ใน Kachin Special Region 1 และ Momauk ระหว่างปี 2021-2023 ที่สลายระบบนิเวศในพื้นที่ยากจะทวงคืนสภาพเดิมกลับมาในอนาคต อีกแร่ธาตุหนึ่งคือเหล็กที่เมียนมาร์ เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ที่แหล่ง Pong Pet ซึ่งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ปรากฏเป็นแหล่งเฮมาไทต์ (Hematite) และยังพบแหล่งแร่เหล็ก 393 แหล่ง ปริมาณสารองทรัพยากรแร่ประมาณ 495 ล้านตัน และพบแหล่งแร่เหล็กที่มีศักยภาพ 14 แหล่ง ในรัฐ Kachin, Mandalay, Bago, Tanintharyi และรัฐShan ได้แก่ แหล่งแร่เหล็กสำคัญพบที่รัฐ Tanintharyi บริเวณตอนเหนือของรัฐ Shan โดยในรัฐคะฉิ่น คือศูนย์รวมแร่ธาตุความมั่งคั่งสมบูรณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ นอกจากหยกแล้วยังมีแหล่งแร่เหล็กในรัฐ Kachin มีปริมาณสารองประมาณ 223 ล้านตันที่ 50.56%Fe องค์ประกอบหลักของแร่ คือ Goethite/Limonite 75%, Hematite 15% และ Magnetite 2% แน่นอนเมียนมาร์เป็นผู้ผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเดียวที่ผลิตหยกเจไดต์คุณภาพสูง อุตสาหกรรมหยกมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศ โดยเมืองผะกัน (Hpakan) เป็นที่ตั้งของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองที่มีข่าวของเหมืองถล่ม ดินโคลนโถมทับหมู่บ้านถี่มากและต้นปี 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่ซ้ำซาก สูญเสียชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก Global Witness ประเมินไว้ว่ารายได้จากหยกได้เข้าพกเข้าห่อของผู้นำของเมียนมาไปแล้วราว 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา หากประมวลประเทศที่มีบริษัทลงทุนในเหมืองแร่ในภาพรวมในเมียนมาร์ ได้แก่ 1.) จีน: เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เมียนมาร์ โดยเฉพาะในเหมืองทองแดง (เช่น โครงการ Letpadaung, S&K, Tagaung Taung) และแร่หายาก มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น China Nonferrous Metal Mining (CNMC), Wanbao Mining Co., Ltd. รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจากมณฑลยูนนานและเสฉวน 2.) ไทย: มีบริษัท Myanmar-Pongpipat Co., Ltd. ร่วมลงทุนในเหมืองดีบุกและโลหะอื่น 3.) เวียดนาม: บริษัท Simco Songda มีการลงทุนในเหมืองแร่ร่วมกับเมียนมาร์ 4.) ออสเตรเลีย: บริษัท PanAust ได้รับอนุญาตให้ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่เหมือง Wuntho 5.) ญี่ปุ่น: มีบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งยื่นขออนุญาตลงทุนในเหมืองแร่เมียนมาร์ 6.) สิงคโปร์: แม้จะเน้นลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน แต่ก็มีการลงทุนในเหมืองแร่บางส่วน 7.) มาเลเซีย, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร: มีการลงทุนในเมียนมาร์ในหลายภาคส่วน รวมถึงเหมืองแร่ในบางโครงการ ในส่วนแร่ทองคำ Blood Gold บริบทไม่แตกต่างจากพื้นที่คะฉิ่น แต่รายงานจาก EarthRights International (2567) ระบุว่าในรัฐกะฉิ่นมีการขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจุดขุดนับร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการขุดขนาดเล็กและใช้เครื่องจักรหนัก ผู้สัมปทาน ก่อนการรัฐประหาร (2564): เหมืองทองคำขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ในเขตเบ็งเมาก์ (Bemauk), กานิ (Kani), และเคาก์ปาดอง (Kyaukpadaung) ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างกองทัพเมียนมาร์และบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทจากจีนและไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันหายาก พื้นที่การขุดทองคำในรัฐกะฉิ่นส่วนใหญ่ควบคุมโดย Kachin Independence Army (KIA) และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทหรือนักขุดท้องถิ่น บริษัทจีน มีรายงานว่าได้รับสัมปทานในพื้นที่ เช่น บริเวณแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก โดยได้รับการอนุมัติจาก United Wa State Army (UWSA) บริษัทท้องถิ่นและกองทัพเมียนมาร์: Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ยังคงมีส่วนในเหมืองบางแห่ง ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ไม่มีการออกใบอนุญาตขุดอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่ เช่น Hpakant แต่การขุดยังดำเนินต่อไปโดยผิดกฎหมาย ปัจจุบันหลังจาก การรัฐประหารในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและกฎหมาย ส่งผลให้การขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุม โดยเฉพาะในรัฐกะฉิ่นและสะกาย เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังการรัฐประหาร ซึ่งเป็นแหล่งทองคำสำคัญ เรียกว่าเกิดการขุดแบบทำลายล้าง ใช้เครื่องจักรกลหนักและการขุดในแม่น้ำในพื้นที่ และลุกลามขยายยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก และแม่น้ำสายใกล้ชายแดนไทย แน่นอนความระส่ำระสายในพื้นที่คือการกอบโกยความมั่งคั่งในพื้นที่ที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคตว่าผลกระทบของผู้คน ประชาชนจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาการฟื้นตัวความอ่อนเปียกของรัฐชาติที่ถูกสูบทรัพยากรที่มีความมั่งคั่งออกไปอย่างไร้ข้อจำกัด โดยมีอำนาจภายในควบคุม กองทัพเมียนมาร์ ควบคุมเหมืองขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อหารายได้ กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น KIA เก็บส่วนแบ่งจากเหมืองในพื้นที่ของตน บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทในพื้นที่รัฐที่อุดมด้วยแร่ธาตุโดยเฉพาะฉาน และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงที่สัญญาณได้ส่งผลแล้วกรณีที่แม่สาย ลุ่มแม่น้ำกก เชียงราย ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด อ้างอิง : • โครงการ การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบและการลงทุนด้านเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ • https://www.bbc.com/thai/international-53264790 • EarthRights International, Global Witness
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 731 มุมมอง 0 รีวิว
  • เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) 2025 แก้ไขข้อจำกัดการต่อสู้่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบเดิมๆ และเพิ่มแนวทางให้ผู้ให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมรับผิดชอบค่าเสียหาย หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้ทำตามมาตรฐานต่างๆ ครบถ้วนแล้ว
    ความเปลี่ยนแปลงสำคัญ ของกฎหมายนี้คือการก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) เป็นศูนย์กลางรับแจ้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีอำนาจในการต่อสู้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบต่างๆ เช่น
    ระงับบัญชีเงินฝาก รวบรวมจำนวนบัญชีเงินฝากที่บุคคลถือไว้ (ไม่รวมจำนวนเงิน), ขอข้อมูลบัญชีต้องสงสัย
    เปิดเผยข้อมูลบัญชีไปยังหน่วยงานเอกชนหรือรัฐที่เกี่ยวข้อง แก้ไขข้อจำกัดที่เดิมธนาคารแห่งประเทศไทยไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฝั่งผู้ให้บริการคริปโต
    แจ้งข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ หรือชื่อ SMS ให้กสทช. สั่งบล็อค
    รวบรวมรายชื่อบุคคลหรือหมายเลขบัญชีคริปโต และสั่งให้ระงับการให้บริการได้
    ศปอท. จะใช้คนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิย, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ก.ล.ต., กสทช., และหน่วยงานอื่นที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
    ประเด็นหนึ่งที่กฎหมายนี้ได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้างนอกจากการตั้ง ศปอท. ก็คือการให้ธนาคารและค่ายโทรศัพท์มือถือร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายเหมือนมาตรการของสิงคโปร์ แต่พ.ร.ก. ฉบับนี้เขียนในมาตรา 8/10 ให้ครอบคลุมขึ้น ด้วยการรวมทั้งสถาบันการเงิน, ผู้ให้บริการโทรคมนาคม, ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์, และผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ยกเว้นว่าจะพิสูจน์ได้ว่าได้ปฎิบัติตามมาตรฐานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไว้ครบแล้ว
    กฎหมายมีผลแล้ววันนี้ แต่ประกาศหลักเกณฑ์จำนวนมากยังต้องรอการประกาศต่อไป
    ที่มา - ราชกิจจานุเบกษา
    เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) 2025 แก้ไขข้อจำกัดการต่อสู้่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบเดิมๆ และเพิ่มแนวทางให้ผู้ให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมรับผิดชอบค่าเสียหาย หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้ทำตามมาตรฐานต่างๆ ครบถ้วนแล้ว ความเปลี่ยนแปลงสำคัญ ของกฎหมายนี้คือการก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) เป็นศูนย์กลางรับแจ้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีอำนาจในการต่อสู้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบต่างๆ เช่น ระงับบัญชีเงินฝาก รวบรวมจำนวนบัญชีเงินฝากที่บุคคลถือไว้ (ไม่รวมจำนวนเงิน), ขอข้อมูลบัญชีต้องสงสัย เปิดเผยข้อมูลบัญชีไปยังหน่วยงานเอกชนหรือรัฐที่เกี่ยวข้อง แก้ไขข้อจำกัดที่เดิมธนาคารแห่งประเทศไทยไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฝั่งผู้ให้บริการคริปโต แจ้งข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ หรือชื่อ SMS ให้กสทช. สั่งบล็อค รวบรวมรายชื่อบุคคลหรือหมายเลขบัญชีคริปโต และสั่งให้ระงับการให้บริการได้ ศปอท. จะใช้คนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิย, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ก.ล.ต., กสทช., และหน่วยงานอื่นที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ประเด็นหนึ่งที่กฎหมายนี้ได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้างนอกจากการตั้ง ศปอท. ก็คือการให้ธนาคารและค่ายโทรศัพท์มือถือร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายเหมือนมาตรการของสิงคโปร์ แต่พ.ร.ก. ฉบับนี้เขียนในมาตรา 8/10 ให้ครอบคลุมขึ้น ด้วยการรวมทั้งสถาบันการเงิน, ผู้ให้บริการโทรคมนาคม, ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์, และผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ยกเว้นว่าจะพิสูจน์ได้ว่าได้ปฎิบัติตามมาตรฐานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไว้ครบแล้ว กฎหมายมีผลแล้ววันนี้ แต่ประกาศหลักเกณฑ์จำนวนมากยังต้องรอการประกาศต่อไป ที่มา - ราชกิจจานุเบกษา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำสมาร์ทซิตี้ (Smart City Leader) หมายถึง บุคคลหรือทีมที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง และสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

    ### คุณลักษณะสำคัญของผู้นำสมาร์ทซิตี้:
    1. **วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์**
    - กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด หรือพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ
    - สร้างแผนงานที่สอดคล้องกับบริบทของเมือง เช่น การแก้ปัญหาจราจร หรือการจัดการขยะ

    2. **การใช้เทคโนโลยีและข้อมูล**
    - นำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things), Big Data, AI, และระบบคลาวด์มาใช้ในการเก็บ-วิเคราะห์ข้อมูลเมือง
    - ตัวอย่าง: ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระบบจราจรอัจฉริยะ

    3. **การมีส่วนร่วมของประชาชน**
    - สร้างแพลตฟอร์มให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (เช่น แอปพลิเคชันรายงานปัญหาสาธารณะ)
    - ส่งเสริมการรับรู้ข้อมูลแบบเปิด (Open Data)

    4. **ความร่วมมือระหว่างภาคส่วน**
    - ร่วมมือกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และชุมชน ในการพัฒนาโซลูชัน เช่น การสร้างเครือข่าย Wi-Fi ฟรี หรือโครงการพลังงานทดแทน

    5. **ความยั่งยืน**
    - มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองด้วยหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการออกแบบพื้นที่สีเขียว

    ### ตัวอย่างเมืองอัจฉริยะระดับโลก:
    - **สิงคโปร์**: ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรและระบบสุขภาพดิจิทัล
    - **บาร์เซโลนา**: นำ IoT มาใช้ในการจัดการน้ำและพลังงาน
    - **โตเกียว**: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับสังคมสูงวัยด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

    ### ความท้าทายของผู้นำสมาร์ทซิตี้:
    - **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล**: การจัดการข้อมูลประชาชนต้องมีความปลอดภัย
    - **ความเหลื่อมล้ำดิจิทัล**: ต้องให้ทุกกลุ่มเข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียม
    - **การลงทุน**: ต้องสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ระยะยาว

    ผู้นำสมาร์ทซิตี้จึงไม่เพียงต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยี แต่ต้องมีทักษะการสื่อสาร การบริหารโครงการขนาดใหญ่ และความเข้าใจในความต้องการของประชาชนอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างเมืองที่ "อัจฉริยะ" อย่างแท้จริง
    ผู้นำสมาร์ทซิตี้ (Smart City Leader) หมายถึง บุคคลหรือทีมที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง และสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ### คุณลักษณะสำคัญของผู้นำสมาร์ทซิตี้: 1. **วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์** - กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด หรือพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ - สร้างแผนงานที่สอดคล้องกับบริบทของเมือง เช่น การแก้ปัญหาจราจร หรือการจัดการขยะ 2. **การใช้เทคโนโลยีและข้อมูล** - นำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things), Big Data, AI, และระบบคลาวด์มาใช้ในการเก็บ-วิเคราะห์ข้อมูลเมือง - ตัวอย่าง: ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระบบจราจรอัจฉริยะ 3. **การมีส่วนร่วมของประชาชน** - สร้างแพลตฟอร์มให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (เช่น แอปพลิเคชันรายงานปัญหาสาธารณะ) - ส่งเสริมการรับรู้ข้อมูลแบบเปิด (Open Data) 4. **ความร่วมมือระหว่างภาคส่วน** - ร่วมมือกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และชุมชน ในการพัฒนาโซลูชัน เช่น การสร้างเครือข่าย Wi-Fi ฟรี หรือโครงการพลังงานทดแทน 5. **ความยั่งยืน** - มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองด้วยหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการออกแบบพื้นที่สีเขียว ### ตัวอย่างเมืองอัจฉริยะระดับโลก: - **สิงคโปร์**: ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรและระบบสุขภาพดิจิทัล - **บาร์เซโลนา**: นำ IoT มาใช้ในการจัดการน้ำและพลังงาน - **โตเกียว**: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับสังคมสูงวัยด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ### ความท้าทายของผู้นำสมาร์ทซิตี้: - **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล**: การจัดการข้อมูลประชาชนต้องมีความปลอดภัย - **ความเหลื่อมล้ำดิจิทัล**: ต้องให้ทุกกลุ่มเข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียม - **การลงทุน**: ต้องสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ระยะยาว ผู้นำสมาร์ทซิตี้จึงไม่เพียงต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยี แต่ต้องมีทักษะการสื่อสาร การบริหารโครงการขนาดใหญ่ และความเข้าใจในความต้องการของประชาชนอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างเมืองที่ "อัจฉริยะ" อย่างแท้จริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แบนแบนแบนคาสิโน👎

    #แบนคาสิโนและกฎหมายคาสิโน
    #หายนะแห่งแผ่นดินคือฮับพนันครบวงจร

    ..ข้าราชการไทยทุกๆคนถึงเวลาแสดงความรักชาติไทยรักลูกหลานคนไทยตนที่มาเป็นราชการแผ่นดินไทยได้แล้ว,ทั้งพวกอบต.อบจ.ด้วย.สำนึกแต่ตั้งมาเพื่อค้านกระจายอำนาจจากส่วนกลางเพื่ออะไร หากทั้งหมดเพื่อประชาชนคนไทยตน นี้เกี่ยวข้องระยะยาวนะ เสือกนิ่งทำเฉยอยู่,คนไทยมั้ย.ข้าราชการไทยทั้งด้วยพวกส่วนท้องถิ่นทั้งหมด มโนสิ้นคิดดูง่ายๆไม่ออกอีกเหรอว่า,ฉิบหายมาเยือนทั้งแผ่นดินไทยแน่นอน,ควรร่วมกันตัดตอนปัญหาเยาวชนและประชาชนคนไทยทันทีร่วมกัน.
    ..ไม่มีในนโยบายหลักของพรรค ไม่ซื่อสัตย์ในการปกครอง สามารถยุบทุกๆพรรคร่วมรัฐบาลได้มััยนะ,มันคือภัยร้ายความมั่นคงของชาติไทยชัดเจน,จริงๆเราควรแสดงออกด้วยว่า "จะแบนสินค้าบริการทั้งหมดที่ประเทศนั้นๆมีบ่อนคาสิโนไปด้วยเลย,แม้อเมริกาหรือใกล้ๆเราคือสิงคโปร์น่าจะแบนการค้าขายธุรกรรมทางธุรกิจด้วยทั้งหมด,นำพาอวดอ้างทางไม่ดีต่อชาวโลก สร้างตัวอย่างไม่ดี ขับออกจากอาเชียนก็ด้วย."

    ..https://m.youtube.com/watch?v=3nlo8iWu0Hk
    #แบนแบนแบนคาสิโน👎 #แบนคาสิโนและกฎหมายคาสิโน #หายนะแห่งแผ่นดินคือฮับพนันครบวงจร ..ข้าราชการไทยทุกๆคนถึงเวลาแสดงความรักชาติไทยรักลูกหลานคนไทยตนที่มาเป็นราชการแผ่นดินไทยได้แล้ว,ทั้งพวกอบต.อบจ.ด้วย.สำนึกแต่ตั้งมาเพื่อค้านกระจายอำนาจจากส่วนกลางเพื่ออะไร หากทั้งหมดเพื่อประชาชนคนไทยตน นี้เกี่ยวข้องระยะยาวนะ เสือกนิ่งทำเฉยอยู่,คนไทยมั้ย.ข้าราชการไทยทั้งด้วยพวกส่วนท้องถิ่นทั้งหมด มโนสิ้นคิดดูง่ายๆไม่ออกอีกเหรอว่า,ฉิบหายมาเยือนทั้งแผ่นดินไทยแน่นอน,ควรร่วมกันตัดตอนปัญหาเยาวชนและประชาชนคนไทยทันทีร่วมกัน. ..ไม่มีในนโยบายหลักของพรรค ไม่ซื่อสัตย์ในการปกครอง สามารถยุบทุกๆพรรคร่วมรัฐบาลได้มััยนะ,มันคือภัยร้ายความมั่นคงของชาติไทยชัดเจน,จริงๆเราควรแสดงออกด้วยว่า "จะแบนสินค้าบริการทั้งหมดที่ประเทศนั้นๆมีบ่อนคาสิโนไปด้วยเลย,แม้อเมริกาหรือใกล้ๆเราคือสิงคโปร์น่าจะแบนการค้าขายธุรกรรมทางธุรกิจด้วยทั้งหมด,นำพาอวดอ้างทางไม่ดีต่อชาวโลก สร้างตัวอย่างไม่ดี ขับออกจากอาเชียนก็ด้วย." ..https://m.youtube.com/watch?v=3nlo8iWu0Hk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาตรการภาษีตอบโต้ที่ทรัมป์ประกาศ เป็นเพียงหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก ไทยและอาเซียนกำลังเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ต่อจากมิติการค้าการลงทุนซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน (แต่ผู้นำไทยก็ยังล่าช้า ไม่เท่าทัน) ในระยะกลาง มิติความมั่นคงจะกลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น และไทยต้องชิงเล่นบทบาทนำ เพื่อชดเชยกับความล่าช้าล้าหลังที่เราเสียตำแหน่งผู้นำอาเซียนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
    .
    ASEAN ZOPFAN และ Bangkok Treaty of 1995 ที่ประกาศให้อาเซียนเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ต้องได้รับการ upgrade
    .
    “ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปรากฎการณ์ ‘กฎแห่งป่า’ (Law of the Jungle) อำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา (Might is Right) รัฐที่มีพลังอำนาจเหนือกว่าสามารถเข้ายึดครอง ครอบครอง และกำหนดชะตากรรมของรัฐที่มีพลังอำนาจอ่อนด้อยกว่า และเมื่อกลไกสถาบันระหว่างประเทศไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ประชาคมอาเซียนที่รัฐสมาชิกส่วนใหญ่เป็นประเทศขนาดเล็กและขนาดกลางมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพากฎกติกาแบบเสรีนิยม”
    .
    ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่ ปิติ ศรีแสงนาม ชวนหาที่ทางของประชาคมอาเซียนในมิติความเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงในภูมิภาค
    .
    อ่านได้ที่: https://www.the101.world/amidst-the-two-oceans-3/
    .
    “แน่นอนว่า เมื่อกฎแห่งป่าและพลังอำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา ฉากทัศน์ที่น่าห่วงกังวลมากที่สุดคือ แต่ละประเทศมุ่งหน้าพัฒนา ผลิต และสะสมเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีศักยภาพทางการทหาร เพราะนี่คือแนวทางที่พิสูจน์มาแล้วในทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่าเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจในการต่อรองสูงสุด โดยเฉพาะเมื่อต้องต่อรองกับมหาอำนาจ”
    .
    “อาเซียนเองมีการลงนามและบังคับใช้ปฏิญญาว่าด้วยเขตสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง (Declaration on the Zone of Peace, Freedom, and Neutrality: ZOPFAN) มาตั้งแต่ปี 1971 เมื่อไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ (สมาชิกอาเซียน ณ ขณะนั้น) เห็นการแทรกแซงกิจการภายในของ เวียดนาม ลาว และกัมพูชา โดยมหาอำนาจภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน และหลายประเทศในยุโรป จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นสงครามที่ล้างผลาญชีวิตคนจำนวนมาก และเมื่อการสะสมอาวุธนิวเคลียร์กลายเป็นปรากฏการณ์ที่นำความสุ่มเสี่ยงไปทั่วโลก อาเซียนโดยการผลักดันของประเทศไทยก็สามารถลงนามในสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Southeast Asia Nuclear Weapon-Free Zone: SEANWFZ) ได้สำเร็จในปี 1995”
    .
    “ข้อตกลงที่เอ่ยถึงนี้ถือเป็นความสำเร็จในอดีตที่อาเซียนต้องทบทวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยกำลังเดินหน้าเพื่อครอบครองเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เมียนมาและเวียดนามกำลังเดินหน้าเพื่อการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 แห่งแรกในภูมิภาค แน่นอนว่าด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสันติ เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน และคาดว่าทั้ง 2 ประเทศจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรัสเซีย”
    .
    “แน่นอนว่าเมื่อพิจารณามิติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติร่วมกับการสร้างและใช้งานโครงข่ายพลังงานอาเซียน (ASEAN Power Grid) อาเซียนจะมีความมั่นคงทางพลังงานสูงขึ้น แต่การมีเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เตาปฏิกรณ์ และการเสริมสร้างสารตั้งต้นของปฏิกิริยานิวเคลียร์ ล้วนแล้วแต่ทำให้ศักย์สงคราม (War Capability) ของประเทศนั้นๆ สูงขึ้น”
    .
    “ลองนึกถึงข้อจำกัดทางทรัพยากรมนุษย์ที่อาจต้องทำให้โรงงานเหล่านี้ดำเนินการโดยวิศวกรและทีมเทคนิคต่างชาติ ลงทุนโดยต่างชาติ และควบคุมตรวจสอบโดยต่างชาติ ร่วมกับเงินทุนที่มีจำกัด เช่น อาจสร้างเตาปฏิกรณ์ในประเทศ และระบบกำจัดกากของเสียจากเตาปฏิกรณ์ต้องส่งออกไปทำลายในต่างประเทศ เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความไม่สบายใจได้ว่า ประเทศอาเซียนจะกลายเป็นแหล่งส่งออกวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับการประกอบอาวุธนิวเคลียร์ได้หรือไม่”
    .
    “ในวันที่ระเบียบโลกกำลังมีความซัดส่ายอย่างยิ่ง สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยเคยทำสำเร็จมาแล้วและต้องเร่งผลักดัน คือการคำนึงถึงว่าจะเป็นการดีหรือไม่ หากต้องมีการปรับปรุงแก้ไขสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) ให้ประเทศคู่เจรจาที่ต้องการเป็นมิตรและแสวงหาประโยชร์ร่วมกันอย่างยั่งยืนกับอาเซียนต้องยอมรับเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ของอาเซียนด้วย”
    .
    ภาพประกอบ: พิรุฬพร นามมูลน้อย
    มาตรการภาษีตอบโต้ที่ทรัมป์ประกาศ เป็นเพียงหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก ไทยและอาเซียนกำลังเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ต่อจากมิติการค้าการลงทุนซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน (แต่ผู้นำไทยก็ยังล่าช้า ไม่เท่าทัน) ในระยะกลาง มิติความมั่นคงจะกลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น และไทยต้องชิงเล่นบทบาทนำ เพื่อชดเชยกับความล่าช้าล้าหลังที่เราเสียตำแหน่งผู้นำอาเซียนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา . ASEAN ZOPFAN และ Bangkok Treaty of 1995 ที่ประกาศให้อาเซียนเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ต้องได้รับการ upgrade . “ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปรากฎการณ์ ‘กฎแห่งป่า’ (Law of the Jungle) อำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา (Might is Right) รัฐที่มีพลังอำนาจเหนือกว่าสามารถเข้ายึดครอง ครอบครอง และกำหนดชะตากรรมของรัฐที่มีพลังอำนาจอ่อนด้อยกว่า และเมื่อกลไกสถาบันระหว่างประเทศไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ประชาคมอาเซียนที่รัฐสมาชิกส่วนใหญ่เป็นประเทศขนาดเล็กและขนาดกลางมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพากฎกติกาแบบเสรีนิยม” . ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่ ปิติ ศรีแสงนาม ชวนหาที่ทางของประชาคมอาเซียนในมิติความเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงในภูมิภาค . อ่านได้ที่: https://www.the101.world/amidst-the-two-oceans-3/ . “แน่นอนว่า เมื่อกฎแห่งป่าและพลังอำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา ฉากทัศน์ที่น่าห่วงกังวลมากที่สุดคือ แต่ละประเทศมุ่งหน้าพัฒนา ผลิต และสะสมเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีศักยภาพทางการทหาร เพราะนี่คือแนวทางที่พิสูจน์มาแล้วในทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่าเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจในการต่อรองสูงสุด โดยเฉพาะเมื่อต้องต่อรองกับมหาอำนาจ” . “อาเซียนเองมีการลงนามและบังคับใช้ปฏิญญาว่าด้วยเขตสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง (Declaration on the Zone of Peace, Freedom, and Neutrality: ZOPFAN) มาตั้งแต่ปี 1971 เมื่อไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ (สมาชิกอาเซียน ณ ขณะนั้น) เห็นการแทรกแซงกิจการภายในของ เวียดนาม ลาว และกัมพูชา โดยมหาอำนาจภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน และหลายประเทศในยุโรป จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นสงครามที่ล้างผลาญชีวิตคนจำนวนมาก และเมื่อการสะสมอาวุธนิวเคลียร์กลายเป็นปรากฏการณ์ที่นำความสุ่มเสี่ยงไปทั่วโลก อาเซียนโดยการผลักดันของประเทศไทยก็สามารถลงนามในสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Southeast Asia Nuclear Weapon-Free Zone: SEANWFZ) ได้สำเร็จในปี 1995” . “ข้อตกลงที่เอ่ยถึงนี้ถือเป็นความสำเร็จในอดีตที่อาเซียนต้องทบทวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยกำลังเดินหน้าเพื่อครอบครองเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เมียนมาและเวียดนามกำลังเดินหน้าเพื่อการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 แห่งแรกในภูมิภาค แน่นอนว่าด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสันติ เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน และคาดว่าทั้ง 2 ประเทศจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรัสเซีย” . “แน่นอนว่าเมื่อพิจารณามิติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติร่วมกับการสร้างและใช้งานโครงข่ายพลังงานอาเซียน (ASEAN Power Grid) อาเซียนจะมีความมั่นคงทางพลังงานสูงขึ้น แต่การมีเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เตาปฏิกรณ์ และการเสริมสร้างสารตั้งต้นของปฏิกิริยานิวเคลียร์ ล้วนแล้วแต่ทำให้ศักย์สงคราม (War Capability) ของประเทศนั้นๆ สูงขึ้น” . “ลองนึกถึงข้อจำกัดทางทรัพยากรมนุษย์ที่อาจต้องทำให้โรงงานเหล่านี้ดำเนินการโดยวิศวกรและทีมเทคนิคต่างชาติ ลงทุนโดยต่างชาติ และควบคุมตรวจสอบโดยต่างชาติ ร่วมกับเงินทุนที่มีจำกัด เช่น อาจสร้างเตาปฏิกรณ์ในประเทศ และระบบกำจัดกากของเสียจากเตาปฏิกรณ์ต้องส่งออกไปทำลายในต่างประเทศ เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความไม่สบายใจได้ว่า ประเทศอาเซียนจะกลายเป็นแหล่งส่งออกวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับการประกอบอาวุธนิวเคลียร์ได้หรือไม่” . “ในวันที่ระเบียบโลกกำลังมีความซัดส่ายอย่างยิ่ง สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยเคยทำสำเร็จมาแล้วและต้องเร่งผลักดัน คือการคำนึงถึงว่าจะเป็นการดีหรือไม่ หากต้องมีการปรับปรุงแก้ไขสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) ให้ประเทศคู่เจรจาที่ต้องการเป็นมิตรและแสวงหาประโยชร์ร่วมกันอย่างยั่งยืนกับอาเซียนต้องยอมรับเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ของอาเซียนด้วย” . ภาพประกอบ: พิรุฬพร นามมูลน้อย
    WWW.THE101.WORLD
    Amidst the Two Oceans ตอนที่ 3: ประชาคมอาเซียนในระเบียบโลกใหม่
    ปิติ ศรีแสงนาม ชวนหาที่ทางของประชาคมอาเซียนในมิติความเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงในภูมิภาค ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 493 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..คาสิโนคือแหล่งฟอกตังฟอกเงินอย่างดี,&อนาคตฟอกคริปโตฯฟอกตังดิจิดัลโทเคนใดๆได้อย่าง และมากมายมหาศาลอาจกว่า100ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปีได้สบาย,เพราะเป็นฮับทุกๆเทามาเยือนไทยจากทั่วโลกแน่นอน,เดอะแก๊งdeep stateใช้&สั่งคนของมันมารับตังที่ฟอกถูกกฎหมายแล้วไปทำภาระกิจยึดประเทศใดๆก็ได้ผ่านการผูกขาดกิจการต่างๆที่เปิดช่องออกกฎหมายให้ยึดได้ ใช้ตัวแทนไปถือครองแทนในนามตัวตนมันเองแบบจ้างใครไปเป็นceoปกครองดูแลแทนมันนั้นล่ะ,จะแบบceoบริษัทหรือceoพรรคการเมืองหรือceoสมุนคนของมันปกครองทั้งประเทศสายปกครองและสายทำตังครอบงำเศรษฐกิจมันทำได้หมดล่ะ, ให้นายเอ เข้าบ่อนไปเอามาสัก10ล้านล้านบาทไปเทคโอเวอร์กิจการบริษัททั้งหมดในตลาดหุ้นและนอกตลาดก็สบายมาก,ใครติดหนี้อะไรโดยเฉพาะคนไทยรับซื้อหนี้หมดจากนั้นตามยึดที่ดินยึดแผ่นดินไทยได้สบาย,ใครมีหนี้กับบ่อน มุกเจรจานอกบ่อนรับซื้อที่ดินจากไร่ละ10ล้านมันซื้อไร่ละ100ล้านบาทสบายมาก,จากนั้นนายทุนจะยึดที่ดินสบายๆ ใครจะเสนอซื้อคืนต้องมีตังกว่า100ล้านบาทล่ะ คนไทยไม่มีปัญญาไปเอาคืนหรอก,นายทุนพวกเดอะแก๊งนี้ลำบากตังที่ไหน,มิติยึดประเทศสบายๆจริงๆในอนาคต,กฎหมายจะจัดการมันได้ฝันไปเถอะหากมันตั้งบ่อนสำเร็จ.เสมือนตั้งฐานทัพพร้อมรบกับประเทศไทยในตัวล่ะก่อกบฎได้สบายๆ.
    ..เปิดบ่อนเมื่อไรชาติไทยพังพินาศเมื่อนั้น,ปัญหาเก่าๆยังไร้ปัญญาฝีมือความสามารถจัดการเลย อาทิยาบ้าก็เอาคนขายคนผลิตมาขึ้นทะเบียนลงทะเบียนคนขายคนผลิตไม่ได้,เสือกยังเสรีถึง5-10เม็ด,หรือ1เม็ดก็เถอะ,มุกอ้างข่วยคนถูกใส่ร้ายหรือตัดอนาคตคนเสพมีครอบครองเล็กน้อยพะนะ,หวยขายเกิน80บาทกับคนเดินขายหวยรัฐที่ลงทะเบียนชัดเจนยังขายเกินราคาใบละ100ใบละ110-120&200ตามมันอยากขายความดังของเลขล่ะ,ตำรวจหมู่บ้านมีตรึมรู้หมด,ไม่รวมตำรวจจริงของแต่ละอำเภอสน.นะ ใช้สายไปล่อซื้อ จับลงโทษได้หมดล่ะ แต่วงการไทยทุจริตตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ คนพวกนี้ไม่เคยถูกกำจัดชีวิตจริงจังลดประชากรมัน มันจึงทำซ้ำๆเติมๆทั้งเพิ่มขึ้นดีสามัคคีกันได้ดีในทางชั่วเลวด้วยล่ะ,เอาแค่ยาบ้ากับหวยเกินราคามันก็บอกว่าระบบข้าราชการเรามันกาก เทียบสิงคโปร์ใกล้ยังไม่ขี้เล็บมันจริงๆ,เสือกแสดงอยากเปิดบ่อนคาสิโน.
    ..จริงๆไม่มีในนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งด้วยและนี้คือเรื่องใหญ่เป็นนโยบายกว่าแจกตังดิจิดัลอีก,เข้าข่ายยุบพรรคด้านหลอกลวงโกหกในความไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนเลย ขาดคุณสมบัติทุกๆมิติในการขึ้นเป็นคณะจัดตั้งรัฐบาล อดีตนายกฯเศรษฐายังสิ้นสถานะเลย,พรรคร่วมยอมรับสุมหัวร่วมก่อคาสิโนอีก ยุบพรรคในข้อหาทำลายชาติก่อหายนะแก่ชาติไทยและสังคมชุมชนไทยทำลายประชาชนไทยภายในประเทศตนมากมายหลายมิติมุมมองอย่างอภัยไม่ได้เลย, เคสกรณีศึกษา&แค่นี้และนั้นตามคลิปในรายการนี้ก็เกินพอในภัยๆต่างๆที่ประเทศนั้นๆเปิดบ่อนโดนแก่คนชาติตนไปแล้ว
    ..ไม่มีในนโยบายหลักถือว่าขาดคุณสมบัติ&ไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์ต่อประชาชนด้วย.สามารถเข้าข่ายยุบพรรคและพรรคร่วมรัฐบาลได้มั้ยนะ.มันคือภัยร้ายชัดๆ คนไทยประเทศไทยยังไม่พร้อมด้วยประชาชนยังไกลคุณภาพรอบรู้ทันอะไร,ทั้งยังยากจนเต็มประเทศ จนทั่งตังจนทั้งความรู้องค์รอบรู้ใดๆพึ่งพาตนเองยังไม่ได้ ภาระตนเองและดัชนีต้นทุนชีวิตแพง.
    ..อยากได้ตังมาพัฒนาชาติ ไปโมฆะฉีกกฎหมายสัญญาสัมปทานบ่อน้ำมันโน้นยึดบ่อน้ำมันคืนมาทั้งหมด ขายน้ำมันแบบอิหร่านลิตรละ1-2บาทภายในประเทศ ขายส่งออกในราคาตลาดโลก,ยึดบ่อทองคำขุดเข้าทุนสำรองประเทศ ไทยยึดคืนทรัพยากรวัตถุดิบสร้างชาติคืนมาทั้งหมด เรามีวัตถุดิบแล้วทั้งหมดจะกลัวใครกลัวอะไร,.
    ..จริงๆอีกข้อยุคนี้สมัยนี้ไม่ใช่ยุคฝรั่งล่าอาณานิคมแล้ว โลกรับรู้เปิดเผยทั่วโลกแล้ว อะไรเอาเปรียบปล้นชิงทางสัญญาผูกทาสใดๆของฝรั่งต่างชาติสมควรโมฆะฉีกทิ้งทั้งหมด,ผลักดันต่างชาติต่างด้าวออกจากประเทศไทยชั่วคราวไปทั้งหมดทุกๆกรณีเคลียร์คน,คนภายนอกนี้ล่ะอันตรายมากเสือกให้มาอยู่ร่วมกันกับคนภายในบ้านตนเอง,แทรกแซงปั่นแตกแยกเป็นมือที่สามสี่ห้าได้หมด,ก่อโกลาหลวุ่นวายใดๆก็สามารถทำง่ายๆ.ผลักดันออกไปมิติปัญหาต่างๆในประเทศไทยจะตัดตอนไปมหาศาลทันที,เหลือคนไทยคนสัญชาติไทยล้วนๆจากนั้นค่อยคัดกรองตรวจสืบสอบสวนคนปลอมคนเทาๆคนสวมสัญชาติไทยเพื่อกำจัดกวาดล้างไล่ล่าต่อไป,ความสงบสุขจะมาอัตโนมัติทันทีโดยส่วนมากของภาพรวมทั้งหมดของประเทศ..
    ..ประเทศไทยต้องพลิกแบบนี้.เช่นนั้นก้าวต่อไปไม่ได้หรอก,ชาติบ้าอะไรวัตถุดิบปรุงอาหารเลี้ยงคนในครัวเรือนครอบครัวตนเองก็ไม่มี เนื้อปิโตรเลียมแท้ๆยังครอบครองเป็นเจ้าของ100%อะไรห่าจริงก็ไม่ได้,เปิดสัมปทานหรือต่ออายุสัมปทานมันทำไม ยุคยึดอำนาจยังเสือกต่อสัมปทานให้ต่างชาติเลย,แค่นี้ยังไร้ปัญญาบริหารประชาชนพ้นยากจนจริง,ยังเสือกเพิ่มภัยอันตรายรอบด้านปล้นฆ่าชิงทรัพย์ขายตัวขายบ้าสาระพัดเสพติดค้ามนุษย์ค้าอวัยวะคนไทยคนเป็นๆใดๆจะเหลือเหรอ,ขายที่ดินขายบ้านใช้หนี้พนันมีตรึมแน่นอน,หรือตังมหาศาลจากเดอะแก๊งเทาๆนักธุรกิจเทาๆที่บินมาฟอกตังมหาศาลเอาออกจากบ่อนมาใช้ก่อการยึดแผ่นดินไทยที่ดินไทยกลืนกินเนียนๆก็สามารถทำได้สบายอีก,ซื้อคนข้าราชการซื้อตำแหน่ง จ้างตัวแทนตนไปนั่งควบคุมปกครองเปิดช่องทำชั่วสาระพัดออกกฎหมายสาระพัดเลวชั่วเนียนๆได้หมด,การตัดตอนทำให้สมุนขี้ข้าคนของเดอะแก๊งนี้ไม่ให้มีชีวิตลดประชากรมันทั้งหมดเรื่อยๆจึงสำคัญ ,จะมาก่อการทวนกระแสเลวชั่วได้อีกมีแต่พระเจ้ามันนั่นล่ะจะปล่อยมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีก.
    https://m.youtube.com/watch?v=BPJH2RYgq-I
    ..คาสิโนคือแหล่งฟอกตังฟอกเงินอย่างดี,&อนาคตฟอกคริปโตฯฟอกตังดิจิดัลโทเคนใดๆได้อย่าง และมากมายมหาศาลอาจกว่า100ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปีได้สบาย,เพราะเป็นฮับทุกๆเทามาเยือนไทยจากทั่วโลกแน่นอน,เดอะแก๊งdeep stateใช้&สั่งคนของมันมารับตังที่ฟอกถูกกฎหมายแล้วไปทำภาระกิจยึดประเทศใดๆก็ได้ผ่านการผูกขาดกิจการต่างๆที่เปิดช่องออกกฎหมายให้ยึดได้ ใช้ตัวแทนไปถือครองแทนในนามตัวตนมันเองแบบจ้างใครไปเป็นceoปกครองดูแลแทนมันนั้นล่ะ,จะแบบceoบริษัทหรือceoพรรคการเมืองหรือceoสมุนคนของมันปกครองทั้งประเทศสายปกครองและสายทำตังครอบงำเศรษฐกิจมันทำได้หมดล่ะ, ให้นายเอ เข้าบ่อนไปเอามาสัก10ล้านล้านบาทไปเทคโอเวอร์กิจการบริษัททั้งหมดในตลาดหุ้นและนอกตลาดก็สบายมาก,ใครติดหนี้อะไรโดยเฉพาะคนไทยรับซื้อหนี้หมดจากนั้นตามยึดที่ดินยึดแผ่นดินไทยได้สบาย,ใครมีหนี้กับบ่อน มุกเจรจานอกบ่อนรับซื้อที่ดินจากไร่ละ10ล้านมันซื้อไร่ละ100ล้านบาทสบายมาก,จากนั้นนายทุนจะยึดที่ดินสบายๆ ใครจะเสนอซื้อคืนต้องมีตังกว่า100ล้านบาทล่ะ คนไทยไม่มีปัญญาไปเอาคืนหรอก,นายทุนพวกเดอะแก๊งนี้ลำบากตังที่ไหน,มิติยึดประเทศสบายๆจริงๆในอนาคต,กฎหมายจะจัดการมันได้ฝันไปเถอะหากมันตั้งบ่อนสำเร็จ.เสมือนตั้งฐานทัพพร้อมรบกับประเทศไทยในตัวล่ะก่อกบฎได้สบายๆ. ..เปิดบ่อนเมื่อไรชาติไทยพังพินาศเมื่อนั้น,ปัญหาเก่าๆยังไร้ปัญญาฝีมือความสามารถจัดการเลย อาทิยาบ้าก็เอาคนขายคนผลิตมาขึ้นทะเบียนลงทะเบียนคนขายคนผลิตไม่ได้,เสือกยังเสรีถึง5-10เม็ด,หรือ1เม็ดก็เถอะ,มุกอ้างข่วยคนถูกใส่ร้ายหรือตัดอนาคตคนเสพมีครอบครองเล็กน้อยพะนะ,หวยขายเกิน80บาทกับคนเดินขายหวยรัฐที่ลงทะเบียนชัดเจนยังขายเกินราคาใบละ100ใบละ110-120&200ตามมันอยากขายความดังของเลขล่ะ,ตำรวจหมู่บ้านมีตรึมรู้หมด,ไม่รวมตำรวจจริงของแต่ละอำเภอสน.นะ ใช้สายไปล่อซื้อ จับลงโทษได้หมดล่ะ แต่วงการไทยทุจริตตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ คนพวกนี้ไม่เคยถูกกำจัดชีวิตจริงจังลดประชากรมัน มันจึงทำซ้ำๆเติมๆทั้งเพิ่มขึ้นดีสามัคคีกันได้ดีในทางชั่วเลวด้วยล่ะ,เอาแค่ยาบ้ากับหวยเกินราคามันก็บอกว่าระบบข้าราชการเรามันกาก เทียบสิงคโปร์ใกล้ยังไม่ขี้เล็บมันจริงๆ,เสือกแสดงอยากเปิดบ่อนคาสิโน. ..จริงๆไม่มีในนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งด้วยและนี้คือเรื่องใหญ่เป็นนโยบายกว่าแจกตังดิจิดัลอีก,เข้าข่ายยุบพรรคด้านหลอกลวงโกหกในความไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนเลย ขาดคุณสมบัติทุกๆมิติในการขึ้นเป็นคณะจัดตั้งรัฐบาล อดีตนายกฯเศรษฐายังสิ้นสถานะเลย,พรรคร่วมยอมรับสุมหัวร่วมก่อคาสิโนอีก ยุบพรรคในข้อหาทำลายชาติก่อหายนะแก่ชาติไทยและสังคมชุมชนไทยทำลายประชาชนไทยภายในประเทศตนมากมายหลายมิติมุมมองอย่างอภัยไม่ได้เลย, เคสกรณีศึกษา&แค่นี้และนั้นตามคลิปในรายการนี้ก็เกินพอในภัยๆต่างๆที่ประเทศนั้นๆเปิดบ่อนโดนแก่คนชาติตนไปแล้ว ..ไม่มีในนโยบายหลักถือว่าขาดคุณสมบัติ&ไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์ต่อประชาชนด้วย.สามารถเข้าข่ายยุบพรรคและพรรคร่วมรัฐบาลได้มั้ยนะ.มันคือภัยร้ายชัดๆ คนไทยประเทศไทยยังไม่พร้อมด้วยประชาชนยังไกลคุณภาพรอบรู้ทันอะไร,ทั้งยังยากจนเต็มประเทศ จนทั่งตังจนทั้งความรู้องค์รอบรู้ใดๆพึ่งพาตนเองยังไม่ได้ ภาระตนเองและดัชนีต้นทุนชีวิตแพง. ..อยากได้ตังมาพัฒนาชาติ ไปโมฆะฉีกกฎหมายสัญญาสัมปทานบ่อน้ำมันโน้นยึดบ่อน้ำมันคืนมาทั้งหมด ขายน้ำมันแบบอิหร่านลิตรละ1-2บาทภายในประเทศ ขายส่งออกในราคาตลาดโลก,ยึดบ่อทองคำขุดเข้าทุนสำรองประเทศ ไทยยึดคืนทรัพยากรวัตถุดิบสร้างชาติคืนมาทั้งหมด เรามีวัตถุดิบแล้วทั้งหมดจะกลัวใครกลัวอะไร,. ..จริงๆอีกข้อยุคนี้สมัยนี้ไม่ใช่ยุคฝรั่งล่าอาณานิคมแล้ว โลกรับรู้เปิดเผยทั่วโลกแล้ว อะไรเอาเปรียบปล้นชิงทางสัญญาผูกทาสใดๆของฝรั่งต่างชาติสมควรโมฆะฉีกทิ้งทั้งหมด,ผลักดันต่างชาติต่างด้าวออกจากประเทศไทยชั่วคราวไปทั้งหมดทุกๆกรณีเคลียร์คน,คนภายนอกนี้ล่ะอันตรายมากเสือกให้มาอยู่ร่วมกันกับคนภายในบ้านตนเอง,แทรกแซงปั่นแตกแยกเป็นมือที่สามสี่ห้าได้หมด,ก่อโกลาหลวุ่นวายใดๆก็สามารถทำง่ายๆ.ผลักดันออกไปมิติปัญหาต่างๆในประเทศไทยจะตัดตอนไปมหาศาลทันที,เหลือคนไทยคนสัญชาติไทยล้วนๆจากนั้นค่อยคัดกรองตรวจสืบสอบสวนคนปลอมคนเทาๆคนสวมสัญชาติไทยเพื่อกำจัดกวาดล้างไล่ล่าต่อไป,ความสงบสุขจะมาอัตโนมัติทันทีโดยส่วนมากของภาพรวมทั้งหมดของประเทศ.. ..ประเทศไทยต้องพลิกแบบนี้.เช่นนั้นก้าวต่อไปไม่ได้หรอก,ชาติบ้าอะไรวัตถุดิบปรุงอาหารเลี้ยงคนในครัวเรือนครอบครัวตนเองก็ไม่มี เนื้อปิโตรเลียมแท้ๆยังครอบครองเป็นเจ้าของ100%อะไรห่าจริงก็ไม่ได้,เปิดสัมปทานหรือต่ออายุสัมปทานมันทำไม ยุคยึดอำนาจยังเสือกต่อสัมปทานให้ต่างชาติเลย,แค่นี้ยังไร้ปัญญาบริหารประชาชนพ้นยากจนจริง,ยังเสือกเพิ่มภัยอันตรายรอบด้านปล้นฆ่าชิงทรัพย์ขายตัวขายบ้าสาระพัดเสพติดค้ามนุษย์ค้าอวัยวะคนไทยคนเป็นๆใดๆจะเหลือเหรอ,ขายที่ดินขายบ้านใช้หนี้พนันมีตรึมแน่นอน,หรือตังมหาศาลจากเดอะแก๊งเทาๆนักธุรกิจเทาๆที่บินมาฟอกตังมหาศาลเอาออกจากบ่อนมาใช้ก่อการยึดแผ่นดินไทยที่ดินไทยกลืนกินเนียนๆก็สามารถทำได้สบายอีก,ซื้อคนข้าราชการซื้อตำแหน่ง จ้างตัวแทนตนไปนั่งควบคุมปกครองเปิดช่องทำชั่วสาระพัดออกกฎหมายสาระพัดเลวชั่วเนียนๆได้หมด,การตัดตอนทำให้สมุนขี้ข้าคนของเดอะแก๊งนี้ไม่ให้มีชีวิตลดประชากรมันทั้งหมดเรื่อยๆจึงสำคัญ ,จะมาก่อการทวนกระแสเลวชั่วได้อีกมีแต่พระเจ้ามันนั่นล่ะจะปล่อยมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีก. https://m.youtube.com/watch?v=BPJH2RYgq-I
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ สิงคโปร์เตือน โลกเข้าสู่ยุค “ไร้เสถียรภาพ” ชี้ยุคการค้าเสรีสิ้นสุดแล้ว หลังสหรัฐทำลายระบบที่ตัวเองสร้าง  แนะประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ .นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ส่งสัญญาณเตือนถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวทีโลก โดยระบุว่า ความสงบและเสถียรภาพที่โลกเคยรู้จักนั้น "จะไม่กลับมาในเร็ววันนี้" และสิงคโปร์ในฐานะประเทศขนาดเล็กจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทั้งทางเศรษฐกิจและจิตใจ เพื่อเผชิญกับยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน.ลอเรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ โพสต์คลิปวีดีโอกล่าวถึงมาตรการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐว่า“พี่น้องชาวสิงคโปร์ทั้งหลาย ฉันเคยพูดไว้แล้วว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจเปิดขนาดเล็กอย่างสิงคโปร์ ก่อนหน้านี้บางคนเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับการคาดการณ์นี้ แต่การประกาศวันปลดปล่อยของสหรัฐฯ เมื่อไม่นานนี้ทำให้ไม่ต้องสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระเบียบโลก ยุคของโลกาภิวัตน์ที่ยึดตามกฎเกณฑ์และการค้าเสรีได้สิ้นสุดลงแล้ว เรากำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการกระทำตามอำเภอใจ กีดกันทางการค้า และเป็นอันตรายมากขึ้น สหรัฐฯ เป็นรากฐานของเศรษฐกิจตลาดเสรีของโลกมานานหลายทศวรรษ สหรัฐฯ เป็นผู้นำการค้าเสรีและผลักดันความพยายามในการสร้างระบบการค้าพหุภาคีที่ยึดโยงกับกฎเกณฑ์และบรรทัดฐานที่ชัดเจน ซึ่งประเทศต่างๆ จะได้รับผลประโยชน์ร่วมกันผ่านการค้า ระบบ WTO นี้ทำให้โลกและสหรัฐฯ เองมีเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พูดให้ชัดเจนก็คือ ระบบนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบ สิงคโปร์และอีกหลายประเทศเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงกฎเกณฑ์และปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น แต่สิ่งที่สหรัฐฯ กำลังทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่การปฏิรูป แต่เป็นการละทิ้งระบบทั้งหมดที่ตนสร้างขึ้น แนวทางใหม่ในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรแบบตอบแทนประเทศต่อประเทศถือเป็นการปฏิเสธกรอบการทำงานขององค์การการค้าโลกอย่างสมบูรณ์ สหรัฐฯ ได้จัดให้สิงคโปร์อยู่ในฐานที่ต่ำที่สุด ด้วยอัตราภาษี 10%ดังนั้นผลกระทบโดยตรงต่อเราอาจจะจำกัดอยู่เพียงเท่านี้ในตอนนี้ แต่จะมีผลกระทบในวงกว้างและลึกซึ้งกว่านั้นหากประเทศอื่นๆ ใช้แนวทางเดียวกันกับสหรัฐอเมริกา นั่นก็คือ ละทิ้ง WTO และทำการค้าเฉพาะในประเทศที่มีเงื่อนไขที่ต้องการเท่านั้นจะนำมาซึ่งปัญหาแก่ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศเล็กๆ เช่น สิงคโปร์ เราเสี่ยงต่อการถูกบีบให้ออก ถูกละเลย และถูกทิ้งไว้ข้างหลัง นอกจากนี้ เรายังคาดหวังการตอบโต้จากทั่วโลกอย่างรุนแรงต่อภาษีของอเมริกา สิงคโปร์ได้ตัดสินใจที่จะไม่เรียกเก็บภาษีตอบโต้แต่ประเทศอื่นอาจไม่ใช้มาตรการควบคุมเช่นเดียวกัน ความเป็นไปได้ของสงครามการค้าโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผลกระทบจากภาษีที่สูงขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนว่าประเทศอื่นจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบอย่างหนักการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศจะได้รับผลกระทบและการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว สิงคโปร์จะได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากประเทศนี้พึ่งพาการค้าเป็นอย่างมากครั้งสุดท้ายที่โลกประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้คือในช่วงทศวรรษที่ 1930 สงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นความขัดแย้งด้วยอาวุธ และในที่สุดก็กลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะเป็นอย่างไรในอีกไม่กี่เดือนหรือไม่กี่ปีข้างหน้าแต่เราต้องตระหนักถึงอันตรายที่กำลังก่อตัวขึ้นในโลกนี้ สถาบันระดับโลกกำลังอ่อนแอลง บรรทัดฐานระหว่างประเทศกำลังเสื่อมถอย ประเทศต่างๆ จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จะกระทำการโดยยึดถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก และใช้กำลังหรือความสุขเพื่อแสวงหาสิ่งที่ตนต้องการนี่คือความจริงอันโหดร้ายของโลกเราในปัจจุบัน เราจะเฝ้าระวัง เราจะสร้างศักยภาพของเรา เราจะเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศที่มีแนวคิดเดียวกัน เรามีความพร้อมมากกว่าประเทศอื่นๆ มากมาย ทั้งในด้านเงินทุนสำรอง ความสามัคคี และความมุ่งมั่น แต่เราต้องเตรียมรับมือกับความตกตะลึงที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตความสงบและเสถียรภาพของโลกที่เราเคยรู้จักในอดีตจะไม่กลับมาอีกในเร็วๆ นี้ เราไม่สามารถคาดหวังว่ากฎเกณฑ์ที่ปกป้องรัฐเล็กๆ จะยังคงอยู่ต่อไปได้ ฉันแบ่งปันสิ่งนี้กับคุณเพื่อให้เราทุกคนเตรียมใจไว้เพื่อที่เราจะไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัว อย่าปล่อยให้ตัวเองหลงระเริง ความเสี่ยงเป็นเรื่องจริงและเดิมพันก็สูง เส้นทางข้างหน้าจะยากขึ้น แต่หากเรายังคงแน่วแน่และเป็นหนึ่งเดียว สิงคโปร์จะยังคงยืนหยัดได้ในโลกที่วุ่นวายแห่งนี้”https://youtu.be/xOUbUxa3PVk?si=A1KGjvpj008UtF_b
    นายกฯ สิงคโปร์เตือน โลกเข้าสู่ยุค “ไร้เสถียรภาพ” ชี้ยุคการค้าเสรีสิ้นสุดแล้ว หลังสหรัฐทำลายระบบที่ตัวเองสร้าง  แนะประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ .นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ส่งสัญญาณเตือนถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวทีโลก โดยระบุว่า ความสงบและเสถียรภาพที่โลกเคยรู้จักนั้น "จะไม่กลับมาในเร็ววันนี้" และสิงคโปร์ในฐานะประเทศขนาดเล็กจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทั้งทางเศรษฐกิจและจิตใจ เพื่อเผชิญกับยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน.ลอเรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ โพสต์คลิปวีดีโอกล่าวถึงมาตรการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐว่า“พี่น้องชาวสิงคโปร์ทั้งหลาย ฉันเคยพูดไว้แล้วว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจเปิดขนาดเล็กอย่างสิงคโปร์ ก่อนหน้านี้บางคนเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับการคาดการณ์นี้ แต่การประกาศวันปลดปล่อยของสหรัฐฯ เมื่อไม่นานนี้ทำให้ไม่ต้องสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระเบียบโลก ยุคของโลกาภิวัตน์ที่ยึดตามกฎเกณฑ์และการค้าเสรีได้สิ้นสุดลงแล้ว เรากำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการกระทำตามอำเภอใจ กีดกันทางการค้า และเป็นอันตรายมากขึ้น สหรัฐฯ เป็นรากฐานของเศรษฐกิจตลาดเสรีของโลกมานานหลายทศวรรษ สหรัฐฯ เป็นผู้นำการค้าเสรีและผลักดันความพยายามในการสร้างระบบการค้าพหุภาคีที่ยึดโยงกับกฎเกณฑ์และบรรทัดฐานที่ชัดเจน ซึ่งประเทศต่างๆ จะได้รับผลประโยชน์ร่วมกันผ่านการค้า ระบบ WTO นี้ทำให้โลกและสหรัฐฯ เองมีเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พูดให้ชัดเจนก็คือ ระบบนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบ สิงคโปร์และอีกหลายประเทศเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงกฎเกณฑ์และปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น แต่สิ่งที่สหรัฐฯ กำลังทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่การปฏิรูป แต่เป็นการละทิ้งระบบทั้งหมดที่ตนสร้างขึ้น แนวทางใหม่ในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรแบบตอบแทนประเทศต่อประเทศถือเป็นการปฏิเสธกรอบการทำงานขององค์การการค้าโลกอย่างสมบูรณ์ สหรัฐฯ ได้จัดให้สิงคโปร์อยู่ในฐานที่ต่ำที่สุด ด้วยอัตราภาษี 10%ดังนั้นผลกระทบโดยตรงต่อเราอาจจะจำกัดอยู่เพียงเท่านี้ในตอนนี้ แต่จะมีผลกระทบในวงกว้างและลึกซึ้งกว่านั้นหากประเทศอื่นๆ ใช้แนวทางเดียวกันกับสหรัฐอเมริกา นั่นก็คือ ละทิ้ง WTO และทำการค้าเฉพาะในประเทศที่มีเงื่อนไขที่ต้องการเท่านั้นจะนำมาซึ่งปัญหาแก่ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศเล็กๆ เช่น สิงคโปร์ เราเสี่ยงต่อการถูกบีบให้ออก ถูกละเลย และถูกทิ้งไว้ข้างหลัง นอกจากนี้ เรายังคาดหวังการตอบโต้จากทั่วโลกอย่างรุนแรงต่อภาษีของอเมริกา สิงคโปร์ได้ตัดสินใจที่จะไม่เรียกเก็บภาษีตอบโต้แต่ประเทศอื่นอาจไม่ใช้มาตรการควบคุมเช่นเดียวกัน ความเป็นไปได้ของสงครามการค้าโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผลกระทบจากภาษีที่สูงขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนว่าประเทศอื่นจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบอย่างหนักการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศจะได้รับผลกระทบและการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว สิงคโปร์จะได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากประเทศนี้พึ่งพาการค้าเป็นอย่างมากครั้งสุดท้ายที่โลกประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้คือในช่วงทศวรรษที่ 1930 สงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นความขัดแย้งด้วยอาวุธ และในที่สุดก็กลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะเป็นอย่างไรในอีกไม่กี่เดือนหรือไม่กี่ปีข้างหน้าแต่เราต้องตระหนักถึงอันตรายที่กำลังก่อตัวขึ้นในโลกนี้ สถาบันระดับโลกกำลังอ่อนแอลง บรรทัดฐานระหว่างประเทศกำลังเสื่อมถอย ประเทศต่างๆ จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จะกระทำการโดยยึดถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก และใช้กำลังหรือความสุขเพื่อแสวงหาสิ่งที่ตนต้องการนี่คือความจริงอันโหดร้ายของโลกเราในปัจจุบัน เราจะเฝ้าระวัง เราจะสร้างศักยภาพของเรา เราจะเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศที่มีแนวคิดเดียวกัน เรามีความพร้อมมากกว่าประเทศอื่นๆ มากมาย ทั้งในด้านเงินทุนสำรอง ความสามัคคี และความมุ่งมั่น แต่เราต้องเตรียมรับมือกับความตกตะลึงที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตความสงบและเสถียรภาพของโลกที่เราเคยรู้จักในอดีตจะไม่กลับมาอีกในเร็วๆ นี้ เราไม่สามารถคาดหวังว่ากฎเกณฑ์ที่ปกป้องรัฐเล็กๆ จะยังคงอยู่ต่อไปได้ ฉันแบ่งปันสิ่งนี้กับคุณเพื่อให้เราทุกคนเตรียมใจไว้เพื่อที่เราจะไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัว อย่าปล่อยให้ตัวเองหลงระเริง ความเสี่ยงเป็นเรื่องจริงและเดิมพันก็สูง เส้นทางข้างหน้าจะยากขึ้น แต่หากเรายังคงแน่วแน่และเป็นหนึ่งเดียว สิงคโปร์จะยังคงยืนหยัดได้ในโลกที่วุ่นวายแห่งนี้”https://youtu.be/xOUbUxa3PVk?si=A1KGjvpj008UtF_b
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts