• รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก Art of Pipop พิภพ บุษราคัมวดี

    “ไม่เหมาะ มิบังควรอย่างยิ่ง!
    เมื่อคืนนี้เราไปเจอสินค้าชิ้นหนึ่งในแอป Temu เป็นพรมที่วางอยู่บนพื้น รูปธนบัตรไทยด้านที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10

    โดยเขียนคำบรรยายผลิตภัณฑ์เป็นภาษาไทยไว้ว่า
    “พรมห้องครัวดีไซน์เหรียญบาทไทย, โพลีเอสเตอร์ 100%, ไม่ลื่น, สามารถซักเครื่อง, ผูกผ้า, ทนทาน, ใช้ได้ทั้งประตู/ห้องน้ำ”

    ส่วนคำบรรยายผลิตภัณฑ์เป็นภาษาอังกฤษคือ
    “Thai Baht Coin Design Kitchen Mat, Soft Polyester 100%, Non-Slip, Machine Washable, Knit Weave, Durab”

    * หมายเหตุ: ขอเบลอภาพบางส่วนเพื่อความเหมาะสม

    ภาพทั้งหมดนี้ไม่เหมาะสม เป็นการนำพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ในที่ต่ำ ทั้งๆ ที่ควรประดับพระบรมฉายาลักษณ์ในที่สูง

    นอกจากนี้การนำพระบรมฉายาลักษณ์ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะมาทำเป็นพรมหรือพรมเช็ดเท้า ถือเป็นการไม่เคารพและดูหมิ่น

    ใครที่ซื้อไปแล้วนำไปวางบนพื้น ก็มีโอกาสที่เท้าจะไปเหยียบย่ำ!

    ในขณะเดียวกัน พรมหรือพรมเช็ดเท้าเป็นสิ่งที่ต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรก และอาจเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา การนำพระบรมฉายาลักษณ์มาใช้ในลักษณะนี้ จึงเป็นการแสดงออกถึงความไม่เหมาะสมและไม่สมควรที่สุด

    ประชาชนชาวไทยมีความเคารพและเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ การกระทำเช่นนี้อาจสร้างความไม่พอใจและความรู้สึกที่ไม่ดีให้กับประชาชนทั่วไป

    Temu และเจ้าของผลิตภัณฑ์ควรมีวิจารณญาณในการใช้พระบรมฉายาลักษณ์ในทุกกรณี

    ขอเรียกร้องให้ Temu ระงับการจำหน่ายสินค้านี้

    ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดต่อกับ Temu โดยด่วน

    รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก Art of Pipop พิภพ บุษราคัมวดี “ไม่เหมาะ มิบังควรอย่างยิ่ง! เมื่อคืนนี้เราไปเจอสินค้าชิ้นหนึ่งในแอป Temu เป็นพรมที่วางอยู่บนพื้น รูปธนบัตรไทยด้านที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10 โดยเขียนคำบรรยายผลิตภัณฑ์เป็นภาษาไทยไว้ว่า “พรมห้องครัวดีไซน์เหรียญบาทไทย, โพลีเอสเตอร์ 100%, ไม่ลื่น, สามารถซักเครื่อง, ผูกผ้า, ทนทาน, ใช้ได้ทั้งประตู/ห้องน้ำ” ส่วนคำบรรยายผลิตภัณฑ์เป็นภาษาอังกฤษคือ “Thai Baht Coin Design Kitchen Mat, Soft Polyester 100%, Non-Slip, Machine Washable, Knit Weave, Durab” * หมายเหตุ: ขอเบลอภาพบางส่วนเพื่อความเหมาะสม ภาพทั้งหมดนี้ไม่เหมาะสม เป็นการนำพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ในที่ต่ำ ทั้งๆ ที่ควรประดับพระบรมฉายาลักษณ์ในที่สูง นอกจากนี้การนำพระบรมฉายาลักษณ์ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะมาทำเป็นพรมหรือพรมเช็ดเท้า ถือเป็นการไม่เคารพและดูหมิ่น ใครที่ซื้อไปแล้วนำไปวางบนพื้น ก็มีโอกาสที่เท้าจะไปเหยียบย่ำ! ในขณะเดียวกัน พรมหรือพรมเช็ดเท้าเป็นสิ่งที่ต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรก และอาจเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา การนำพระบรมฉายาลักษณ์มาใช้ในลักษณะนี้ จึงเป็นการแสดงออกถึงความไม่เหมาะสมและไม่สมควรที่สุด ประชาชนชาวไทยมีความเคารพและเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ การกระทำเช่นนี้อาจสร้างความไม่พอใจและความรู้สึกที่ไม่ดีให้กับประชาชนทั่วไป Temu และเจ้าของผลิตภัณฑ์ควรมีวิจารณญาณในการใช้พระบรมฉายาลักษณ์ในทุกกรณี ขอเรียกร้องให้ Temu ระงับการจำหน่ายสินค้านี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดต่อกับ Temu โดยด่วน
    Angry
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิด “สะพานทศราชัน” •เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 17.25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด “สะพานทศราชัน” ณ สะพานทศราชัน ทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร• เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงบริเวณสะพานทศมราชัน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้บริหาร และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล จบ เสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายบัตร Easy Passที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาของการก่อสร้าง “สะพานทศราชัน” โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก •จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายชื่อ “สะพานทศราชัน” พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้อง ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายรัชนัย เปรมปราคิน ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กราบบังคมทูลเบิกผู้มีอุปการคุณ เข้ารับพระราชทานของที่ระลึก เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการเกี่ยวกับความเป็นมาของการก่อสร้าง “สะพานทศนราชัน”รูปแบบและแนวคิดในการออกแบบงานสถาปัตยกรรมของสะพานทศมราชัน จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และนายชาตรี ตันศิริ รองผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (วิศวกรรมและบำรุงรักษา) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องรับรอง ทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในสมุดที่ระลึก สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ• สะพานทศมราชัน” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก เป็นสะพานคู่ขนานแม่น้ำเจ้าพระยาคู่ (Cable Stayed Bridge) แบบไม่มีเสาอยู่ในลำน้ำเจ้าพระยา ขนาด 8 ช่องจราจร ความยาวสะพาน 781.2 เมตร ซึ่งกระทรวงคมนาคม โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้มีแนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมสะพานแห่งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยองค์ประกอบต่าง ๆ ของสะพานจะสื่อถึงพระองค์ท่าน ดังนี้ • ส่วนยอดของเสาสะพาน หมายถึง ฝ่าพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงถึงความโอบอุ้มปกป้อง ให้ความรัก และความห่วงใยต่อพสกนิกร และพสกนิกรต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือเกล้า • สายเคเบิล เป็นสีเหลือง เพื่อสื่อถึงวันพระบรมราชสมภพ คือ วันจันทร์ •รูปปั้นพญานาคสีเหลืองทอง อยู่บนโคนเสาสะพานทั้ง 4 ต้น ซึ่งเป็นราศีประจำปีมะโรง ปีพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายอารักขาแด่พระองค์ • รั้วสะพานกันกระโดด ออกแบบให้เป็นลายดอกรวงผึ้ง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำพระองค์ • โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร ก่อสร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกจากการเดินทางจากภาคใต้สู่กรุงเทพมหานคร และช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดบนทางพิเศษช่วงบางโคล่ - คาวคะนอง และถนนพระรามที่ ๒ ช่วงดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร • ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อสะพานนี้ว่า “สะพานทศมราชัน” หมายถึง พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 10 และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์ เนื่องในโอกาสพระราชทานพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ไปประดิษฐานบนสะพานแห่งนี้ด้วย
    ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิด “สะพานทศราชัน” •เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 17.25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด “สะพานทศราชัน” ณ สะพานทศราชัน ทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร• เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงบริเวณสะพานทศมราชัน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้บริหาร และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล จบ เสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายบัตร Easy Passที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาของการก่อสร้าง “สะพานทศราชัน” โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก •จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายชื่อ “สะพานทศราชัน” พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้อง ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายรัชนัย เปรมปราคิน ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กราบบังคมทูลเบิกผู้มีอุปการคุณ เข้ารับพระราชทานของที่ระลึก เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการเกี่ยวกับความเป็นมาของการก่อสร้าง “สะพานทศนราชัน”รูปแบบและแนวคิดในการออกแบบงานสถาปัตยกรรมของสะพานทศมราชัน จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และนายชาตรี ตันศิริ รองผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (วิศวกรรมและบำรุงรักษา) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องรับรอง ทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในสมุดที่ระลึก สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ• สะพานทศมราชัน” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก เป็นสะพานคู่ขนานแม่น้ำเจ้าพระยาคู่ (Cable Stayed Bridge) แบบไม่มีเสาอยู่ในลำน้ำเจ้าพระยา ขนาด 8 ช่องจราจร ความยาวสะพาน 781.2 เมตร ซึ่งกระทรวงคมนาคม โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้มีแนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมสะพานแห่งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยองค์ประกอบต่าง ๆ ของสะพานจะสื่อถึงพระองค์ท่าน ดังนี้ • ส่วนยอดของเสาสะพาน หมายถึง ฝ่าพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงถึงความโอบอุ้มปกป้อง ให้ความรัก และความห่วงใยต่อพสกนิกร และพสกนิกรต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือเกล้า • สายเคเบิล เป็นสีเหลือง เพื่อสื่อถึงวันพระบรมราชสมภพ คือ วันจันทร์ •รูปปั้นพญานาคสีเหลืองทอง อยู่บนโคนเสาสะพานทั้ง 4 ต้น ซึ่งเป็นราศีประจำปีมะโรง ปีพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายอารักขาแด่พระองค์ • รั้วสะพานกันกระโดด ออกแบบให้เป็นลายดอกรวงผึ้ง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำพระองค์ • โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร ก่อสร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกจากการเดินทางจากภาคใต้สู่กรุงเทพมหานคร และช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดบนทางพิเศษช่วงบางโคล่ - คาวคะนอง และถนนพระรามที่ ๒ ช่วงดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร • ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อสะพานนี้ว่า “สะพานทศมราชัน” หมายถึง พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 10 และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์ เนื่องในโอกาสพระราชทานพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ไปประดิษฐานบนสะพานแห่งนี้ด้วย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 597 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เจ๊เพ็ญ เปลี่ยนแล้วไป จริง...??? ##
    ..
    ..
    ส่วนตัว ผมยังไม่ค่อยเชื่อครับ ว่าแนวคิดของ คุณ จักรภพ เพ็ญแข จะเปลี่ยนไปจริงๆ...
    .
    แต่ นั่นเป็นแค่สิ่งที่ผมคิด ไม่ใช่บทสรุปสุดท้าย...!!!
    .
    คุณ จักรภพ เพ็ญแข แสดงท่าที หรือ พยายามจะโพส ไปในแนวทางว่า ตนเปลี่ยนแนวคิดไปแล้ว...
    .
    สิ่งที่เราควรทำคือ เปิดใจให้กว้าง แล้ว "เฝ้าจับตาดู"
    .
    เพราะหาก คุณ จักรภพ เพ็ญแข เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ นั่นคือสิ่งที่ดีมากๆครับ...
    .
    แม้ว่า เขาจะยัง เชียร์ หรือ แบก สีแดง อยู่ก็ตามที...
    .
    อย่าลืมนะครับ เราอยู่ในระบอบ ที่เสียงข้างมากคือ The Winner...!!!
    .
    การเปลี่ยน ฝั่งตรงข้าม มาอยู่ฝ่ายเดียวกับเรา คือ หัวใจของ ชัยชนะ ใน "ระบอบเสียงข้างมาก"...
    .
    ถึงแม้จะยังไม่ได้ดังใจเต็ม 100
    .
    แต่ ถือว่ามีแนวร่วมปกป้อง สถาบันพระมหากษัตริย์เพิ่มอีก 1 คน ก็ยังดีกว่าลดไป 1 คนใช่มั๊ยครับ...???
    .
    ส่วน Top News ผมก็ยังดูตามปกติ...
    .
    ปกติผมดูและอ่าน หลายช่องทางอยู่แล้ว...
    .
    คุณกนก คุณธีระ คุณสันติสุข เขาก็ยังวิจารณ์เหมือนเดิมนั่นแหล่ะ...
    .
    แต่แน่นอนว่า ผมเข้าใจเอาเองว่าเขาพยายามปรับแนวทางให้ ดูกลางมากยิ่งขึ้น
    .
    ให้พื้นที่ หลายๆฝั่ง รวมทั้ง ฝั่งรัฐบาล ได้มาออกรายการ ได้ชี้แจง ด้วย
    .
    ปรับโทน ไม่ถึงขั้นให้ความรู้สึกเป็นศัตรูกับรัฐบาลขนาดนั้น...
    .
    อันนี้ผมว่าก็ไม่ผิดอะไรครับ...
    .
    แล้ว ก็ให้ความเป็นธรรมเขาด้วย...
    .
    เรื่อง มีการสั่ง ไม่ให้เล่นข่าว MOU44 มีจริงมั้ยผมไม่รู้
    .
    แต่ที่แน่ๆคือ เขายังมีเล่นข่าว MOU44 อยู่ครับ เท่าที่หาดูคร่าวๆประมาณ 40 กว่าคลิป นะครับ...
    .
    ความจริง Top News เราควรจะมองเขาเป็น แนวร่วม เป็น พันธมิตรกัน นะครับ...
    .
    ประเด็นอะไรที คุณลุงสนธิ เปิด Top News เขาช่วยเอาไปขยายต่อให้อยู่เนืองๆนะครับ
    .
    ลองนึกถึงสมัยก่อนดูครับ เราแทบไม่มีพื้นที่ให้พูด ไม่มีหน้าสื่อให้รับรู้ ข่าวสารของฝั่งพวกเราเลยด้วยซ้ำ
    .
    ยุคนี้ดีแค่ไหนแล้ว ที่เรายังมี ช่องข่าวที่เป็นเหมือนพันธมิตรกัน คิดเห็นในแนวทางเดียวกัน ช่วยพูด ช่วยเผยแพร่ความจริง ในแนวทางคล้ายๆกัน...
    .
    รักกันไว้เถิด ลองเฝ้าจับตาดูครับ ถ้าเขาเปลี่ยนไปจริงเราก็แค่เลิกติดตาม เท่านั้นเองครับ...
    .
    สุดท้าย ผมยังไม่เชื่อว่า คุณ จักรภพ เพ็ญแข จะเปลี่ยนไป แต่ก็หวังลึกๆในใจครับ ว่าขอให้แกเปลี่ยนไปได้จริงๆ...
    ## เจ๊เพ็ญ เปลี่ยนแล้วไป จริง...??? ## .. .. ส่วนตัว ผมยังไม่ค่อยเชื่อครับ ว่าแนวคิดของ คุณ จักรภพ เพ็ญแข จะเปลี่ยนไปจริงๆ... . แต่ นั่นเป็นแค่สิ่งที่ผมคิด ไม่ใช่บทสรุปสุดท้าย...!!! . คุณ จักรภพ เพ็ญแข แสดงท่าที หรือ พยายามจะโพส ไปในแนวทางว่า ตนเปลี่ยนแนวคิดไปแล้ว... . สิ่งที่เราควรทำคือ เปิดใจให้กว้าง แล้ว "เฝ้าจับตาดู" . เพราะหาก คุณ จักรภพ เพ็ญแข เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ นั่นคือสิ่งที่ดีมากๆครับ... . แม้ว่า เขาจะยัง เชียร์ หรือ แบก สีแดง อยู่ก็ตามที... . อย่าลืมนะครับ เราอยู่ในระบอบ ที่เสียงข้างมากคือ The Winner...!!! . การเปลี่ยน ฝั่งตรงข้าม มาอยู่ฝ่ายเดียวกับเรา คือ หัวใจของ ชัยชนะ ใน "ระบอบเสียงข้างมาก"... . ถึงแม้จะยังไม่ได้ดังใจเต็ม 100 . แต่ ถือว่ามีแนวร่วมปกป้อง สถาบันพระมหากษัตริย์เพิ่มอีก 1 คน ก็ยังดีกว่าลดไป 1 คนใช่มั๊ยครับ...??? . ส่วน Top News ผมก็ยังดูตามปกติ... . ปกติผมดูและอ่าน หลายช่องทางอยู่แล้ว... . คุณกนก คุณธีระ คุณสันติสุข เขาก็ยังวิจารณ์เหมือนเดิมนั่นแหล่ะ... . แต่แน่นอนว่า ผมเข้าใจเอาเองว่าเขาพยายามปรับแนวทางให้ ดูกลางมากยิ่งขึ้น . ให้พื้นที่ หลายๆฝั่ง รวมทั้ง ฝั่งรัฐบาล ได้มาออกรายการ ได้ชี้แจง ด้วย . ปรับโทน ไม่ถึงขั้นให้ความรู้สึกเป็นศัตรูกับรัฐบาลขนาดนั้น... . อันนี้ผมว่าก็ไม่ผิดอะไรครับ... . แล้ว ก็ให้ความเป็นธรรมเขาด้วย... . เรื่อง มีการสั่ง ไม่ให้เล่นข่าว MOU44 มีจริงมั้ยผมไม่รู้ . แต่ที่แน่ๆคือ เขายังมีเล่นข่าว MOU44 อยู่ครับ เท่าที่หาดูคร่าวๆประมาณ 40 กว่าคลิป นะครับ... . ความจริง Top News เราควรจะมองเขาเป็น แนวร่วม เป็น พันธมิตรกัน นะครับ... . ประเด็นอะไรที คุณลุงสนธิ เปิด Top News เขาช่วยเอาไปขยายต่อให้อยู่เนืองๆนะครับ . ลองนึกถึงสมัยก่อนดูครับ เราแทบไม่มีพื้นที่ให้พูด ไม่มีหน้าสื่อให้รับรู้ ข่าวสารของฝั่งพวกเราเลยด้วยซ้ำ . ยุคนี้ดีแค่ไหนแล้ว ที่เรายังมี ช่องข่าวที่เป็นเหมือนพันธมิตรกัน คิดเห็นในแนวทางเดียวกัน ช่วยพูด ช่วยเผยแพร่ความจริง ในแนวทางคล้ายๆกัน... . รักกันไว้เถิด ลองเฝ้าจับตาดูครับ ถ้าเขาเปลี่ยนไปจริงเราก็แค่เลิกติดตาม เท่านั้นเองครับ... . สุดท้าย ผมยังไม่เชื่อว่า คุณ จักรภพ เพ็ญแข จะเปลี่ยนไป แต่ก็หวังลึกๆในใจครับ ว่าขอให้แกเปลี่ยนไปได้จริงๆ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๐✨.เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและฐานปฏิบัติการกองพันทหารราบเฉพาะกิจที่ ๑๓๒ ในเขตพื้นที่อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี Cr. สำนักราชเลขาธิการ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #26พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๐✨.เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและฐานปฏิบัติการกองพันทหารราบเฉพาะกิจที่ ๑๓๒ ในเขตพื้นที่อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี Cr. สำนักราชเลขาธิการ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #26พฤศจิกายน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๕✨.เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมศูนย์ศิลปาชีพบ้านกุดสิม อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ในโอกาสนี้ ราษฎรผู้เฒ่าผู้แก่ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตผูกข้อพระกรถวายเพื่อแสดงความจงรักภักดีและถวายพระพร cr : หอสมุดแห่งชาติ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #25พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๕✨.เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมศูนย์ศิลปาชีพบ้านกุดสิม อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ในโอกาสนี้ ราษฎรผู้เฒ่าผู้แก่ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตผูกข้อพระกรถวายเพื่อแสดงความจงรักภักดีและถวายพระพร cr : หอสมุดแห่งชาติ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #25พฤศจิกายน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๑✨.นายแพทย์เซล ยาร์ทไรท์ ประธานคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์องค์กรต่อต้านวัณโรคและโรคปอดนานาชาติ (International Union Against Tuberculosis and Lung Disease – IUATLD) และคณะ เฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล "Gold Medal Award" แด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ในฐานะที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อการรณรงค์เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพปอด Cr. หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช #วันนี้ในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #save112 #24พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๑✨.นายแพทย์เซล ยาร์ทไรท์ ประธานคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์องค์กรต่อต้านวัณโรคและโรคปอดนานาชาติ (International Union Against Tuberculosis and Lung Disease – IUATLD) และคณะ เฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล "Gold Medal Award" แด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ในฐานะที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อการรณรงค์เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพปอด Cr. หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช #วันนี้ในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #save112 #24พฤศจิกายน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕✨เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านวังทองหมู่ที่ ๙ ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูดินด่าง มีสภาพพื้นที่ทุรกันดาร ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่อ้อย และรับจ้าง เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทอดพระเนตรสภาพภูมิประเทศบริเวณที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำพันชาดน้อยเพื่อช่วยเหลือราษฎรบ้านวังทองที่ขาดแคลนน้ำ ตามที่กรมชลประทานได้พิจารณาโครงการเพื่อก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำไว้ช่วยเหลือพื้นที่ทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ พร้อมระบบส่งน้ำแก่ราษฎร ในการนี้ทรง มีพระราชดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนตามความเหมาะสมทั้งเรื่องแหล่งน้ำเพื่อทำการเกษตรและน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค cr : สยามรัฐออนไลน์ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #23พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕✨เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านวังทองหมู่ที่ ๙ ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูดินด่าง มีสภาพพื้นที่ทุรกันดาร ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่อ้อย และรับจ้าง เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทอดพระเนตรสภาพภูมิประเทศบริเวณที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำพันชาดน้อยเพื่อช่วยเหลือราษฎรบ้านวังทองที่ขาดแคลนน้ำ ตามที่กรมชลประทานได้พิจารณาโครงการเพื่อก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำไว้ช่วยเหลือพื้นที่ทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ พร้อมระบบส่งน้ำแก่ราษฎร ในการนี้ทรง มีพระราชดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนตามความเหมาะสมทั้งเรื่องแหล่งน้ำเพื่อทำการเกษตรและน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค cr : สยามรัฐออนไลน์ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #23พฤศจิกายน
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๓✨เสด็จพระราชดำเนินบริเวณพื้นที่หนองหมาคาบปลา บ้านจำปา ต.หนองลาด และ อ่างเก็บน้ำหนองแบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านวาริชภูม ต.วาริชภูม อ.วาริชภูม จ.สกลนคร Cr. Pinterest #วันนี้ในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #save112 #22พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๓✨เสด็จพระราชดำเนินบริเวณพื้นที่หนองหมาคาบปลา บ้านจำปา ต.หนองลาด และ อ่างเก็บน้ำหนองแบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านวาริชภูม ต.วาริชภูม อ.วาริชภูม จ.สกลนคร Cr. Pinterest #วันนี้ในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #save112 #22พฤศจิกายน
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 617 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๓✨เสด็จฯ ไปยังบ้านโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถุงของขวัญแก่นาวิกโยธินและตำรวจตระเวนชายแดน สิ่งของเครื่องอุปโภคแก่ราษฎร และเครื่องเรียนให้แก่นักเรียน แล้วเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท cr : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #21พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๓✨เสด็จฯ ไปยังบ้านโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถุงของขวัญแก่นาวิกโยธินและตำรวจตระเวนชายแดน สิ่งของเครื่องอุปโภคแก่ราษฎร และเครื่องเรียนให้แก่นักเรียน แล้วเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท cr : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #21พฤศจิกายน
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๙✨เสด็จพระราชดำเนินจากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรและทอดพระเนตรโครงการชลประทานต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอกุดบาก อำเภอวาริชภูมิ และอำเภอพังโคน รวมถึงทรงเยี่ยมทหารและราษฎรในเขตอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #20พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๙✨เสด็จพระราชดำเนินจากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรและทอดพระเนตรโครงการชลประทานต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอกุดบาก อำเภอวาริชภูมิ และอำเภอพังโคน รวมถึงทรงเยี่ยมทหารและราษฎรในเขตอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #20พฤศจิกายน
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๑✨ขณะยังทรงผนวช ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จพระราชดำเนินมาถวายสักการะบูชาพระร่วงโรจนฤทธิ์ เวียนเทียนประทักษิณรอบองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม cr : สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๘ กรมประชาสัมพันธ์ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #19พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๑✨ขณะยังทรงผนวช ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จพระราชดำเนินมาถวายสักการะบูชาพระร่วงโรจนฤทธิ์ เวียนเทียนประทักษิณรอบองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม cr : สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๘ กรมประชาสัมพันธ์ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #19พฤศจิกายน
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔✨ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียน ตชด.บ้านตาเรือง ตำบลทรายขาว อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องเขียนและแบบเรียนแก่นักเรียนชายหญิงและทรงมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรที่ประสบอุทกภัย ซึ่งได้รับพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค Cr. กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #18พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔✨ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียน ตชด.บ้านตาเรือง ตำบลทรายขาว อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องเขียนและแบบเรียนแก่นักเรียนชายหญิงและทรงมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรที่ประสบอุทกภัย ซึ่งได้รับพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค Cr. กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #18พฤศจิกายน
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 572 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๘✨ "โถ...อุตส่าห์มาตั้งไกล คงจะเมื่อยและเหนื่อยมาก" หญิงชราผู้มาเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จกราบบังคมทูล พลางนวดถวาย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ณ จังหวัดอุบลราชธานี Cr. Queen Sirikit Museum of Textiles / หนังสือศิลปาชีพ: พระหัตถ์ที่ทรงงานเพื่อแผ่นดิน #วันนี้ในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #save112 #17พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๘✨ "โถ...อุตส่าห์มาตั้งไกล คงจะเมื่อยและเหนื่อยมาก" หญิงชราผู้มาเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จกราบบังคมทูล พลางนวดถวาย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ณ จังหวัดอุบลราชธานี Cr. Queen Sirikit Museum of Textiles / หนังสือศิลปาชีพ: พระหัตถ์ที่ทรงงานเพื่อแผ่นดิน #วันนี้ในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #save112 #17พฤศจิกายน
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 537 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณ-ธนาธร โต้เดือด อย่ารื้อโครงสร้าง ม.112 สวนกลับไม่เคยพูด-ตั้งแง่ร่วมรัฐบาล
    .
    ทักษิณให้สัมภาษณ์พาดพิงธนาธร เคยคุยเรื่องมาตรา 112 ว่าตัวเองก็โดน ขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ด้านธนาธรโต้ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับทักษิณ และไม่ใช่เงื่อนไขร่วมรัฐบาล ทักษิณก็รู้ดี เหน็บแทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา
    .
    วันนี้ (15 พ.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ว่า นายทักษิณรู้ดีที่สุด ว่าเหตุผลที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 สิ่งที่นายทักษิณกล่าว อาจทำให้คนทั่วเข้าใจไปได้ว่า ตนเคยคุยกับคุณทักษิณเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือมีความคิดรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันเรื่องนี้เลย การพูดคลุมเครือยังเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งต่อพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เพื่อพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่าเหตุที่ดีลร่วมรัฐบาลล่ม เป็นเพราะพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดราวาศอกเรื่อง 112
    .
    "มาตรา 112 ไม่ใช่เงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลเสนอให้การแก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และเมื่อถูกทักท้วงจากพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นแล้วก็ไม่ยอมถอย มาตรา 112 ไม่เคยอยู่ในเงื่อนไขตั้งแต่แรกต่างหาก ไม่มีอยู่ในเอ็มโอยูร่วมรัฐบาลที่เซ็นร่วมกันและเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะ คุณทักษิณรู้ดีที่สุด ไม่ใช่แกนนำพรรคก้าวไกลมุทะลุ ไม่มีวุฒิภาวะ แต่มีเหตุผลอื่นที่จะไม่ร่วมกัน แล้วใช้มาตรา 112 เป็นข้ออ้างต่างหาก ในทางกลับกัน คุณทักษิณเอง น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา" นายธนาธร กล่าว
    .
    นายธนาธร กล่าวว่า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ไม่เคยโฆษณาหรือใช้เรื่องมาตรา 112 เป็นประเด็นหลักในการรณรงค์เพื่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ซึ่งจะตอบหรือพูดเรื่องมาตรา 112 เมื่อถูกสื่อมวลชนหรือประชาชนถามเท่านั้น ตนทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่สั่งสมมาหลายสิบปีของประเทศไม่ใช่สิ่งที่ลัดขั้นตอนได้ แต่ต้องทำงานความคิดอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมเห็นชอบร่วมกัน และแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตนเห็นว่าถ้าไม่แก้ปัญหาโครงสร้าง ก็ปะผุประเทศไทยกันต่อไป ประเทศจะเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน มีแต่การให้คนในสังคมมีวุฒิภาวะพอ กล้ายอมรับปัญหา เผชิญหน้า และค่อยๆ พูดคุยหาทางออกร่วมกัน
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายทักษิณให้สัมภาษณ์ระหว่างช่วยหาเสียงตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ว่า คดีมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันไว้ว่า จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่แตะเรื่อง 112 แต่จริงๆ แล้วปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนก็เป็นเหยื่อรายหนึ่ง ในการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 คนที่รับคดีครั้งแรกบอกว่าเดี๋ยวจะหาว่าไม่จงรักภักดี ฟ้องไปก่อน ทั้งที่หลักฐานไม่มี คนที่สองไม่ฟ้องเดี๋ยวโดนอีก ก็ฟ้อง โดยที่ไม่ได้ดูความถูกต้องของพยานหลักฐาน จึงทำให้การจงรักภักดีและรักสถาบันฯ ไม่ถูกต้อง การจงรักภักดีที่ถูกต้อง คือการรักษากฎหมายที่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ง่ายในการแก้ซึ่งต้องใช้เวลา
    .
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ทั้งเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549, 2557 จนถึงพรรคการเมืองโดนยุบเพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเคยคุยกับนายธนาธร ว่าตนก็โดน 3 พรรค ต้องไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ดังนั้นขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ถ้าแก้ปัญหาด้วยหลักการ และเอาบ้านเมืองให้อยู่ได้จะดีที่สุด อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่คนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบันฯ เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธรหรือพรรคก้าวไกลไม่จงรักภักดี แต่ต้องยึดหลักให้ถูกต้อง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดที่โฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจที่จะทำ
    ..............
    Sondhi X
    ทักษิณ-ธนาธร โต้เดือด อย่ารื้อโครงสร้าง ม.112 สวนกลับไม่เคยพูด-ตั้งแง่ร่วมรัฐบาล . ทักษิณให้สัมภาษณ์พาดพิงธนาธร เคยคุยเรื่องมาตรา 112 ว่าตัวเองก็โดน ขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ด้านธนาธรโต้ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับทักษิณ และไม่ใช่เงื่อนไขร่วมรัฐบาล ทักษิณก็รู้ดี เหน็บแทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา . วันนี้ (15 พ.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ว่า นายทักษิณรู้ดีที่สุด ว่าเหตุผลที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 สิ่งที่นายทักษิณกล่าว อาจทำให้คนทั่วเข้าใจไปได้ว่า ตนเคยคุยกับคุณทักษิณเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือมีความคิดรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันเรื่องนี้เลย การพูดคลุมเครือยังเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งต่อพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เพื่อพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่าเหตุที่ดีลร่วมรัฐบาลล่ม เป็นเพราะพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดราวาศอกเรื่อง 112 . "มาตรา 112 ไม่ใช่เงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลเสนอให้การแก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และเมื่อถูกทักท้วงจากพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นแล้วก็ไม่ยอมถอย มาตรา 112 ไม่เคยอยู่ในเงื่อนไขตั้งแต่แรกต่างหาก ไม่มีอยู่ในเอ็มโอยูร่วมรัฐบาลที่เซ็นร่วมกันและเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะ คุณทักษิณรู้ดีที่สุด ไม่ใช่แกนนำพรรคก้าวไกลมุทะลุ ไม่มีวุฒิภาวะ แต่มีเหตุผลอื่นที่จะไม่ร่วมกัน แล้วใช้มาตรา 112 เป็นข้ออ้างต่างหาก ในทางกลับกัน คุณทักษิณเอง น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา" นายธนาธร กล่าว . นายธนาธร กล่าวว่า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ไม่เคยโฆษณาหรือใช้เรื่องมาตรา 112 เป็นประเด็นหลักในการรณรงค์เพื่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ซึ่งจะตอบหรือพูดเรื่องมาตรา 112 เมื่อถูกสื่อมวลชนหรือประชาชนถามเท่านั้น ตนทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่สั่งสมมาหลายสิบปีของประเทศไม่ใช่สิ่งที่ลัดขั้นตอนได้ แต่ต้องทำงานความคิดอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมเห็นชอบร่วมกัน และแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตนเห็นว่าถ้าไม่แก้ปัญหาโครงสร้าง ก็ปะผุประเทศไทยกันต่อไป ประเทศจะเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน มีแต่การให้คนในสังคมมีวุฒิภาวะพอ กล้ายอมรับปัญหา เผชิญหน้า และค่อยๆ พูดคุยหาทางออกร่วมกัน . ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายทักษิณให้สัมภาษณ์ระหว่างช่วยหาเสียงตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ว่า คดีมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันไว้ว่า จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่แตะเรื่อง 112 แต่จริงๆ แล้วปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนก็เป็นเหยื่อรายหนึ่ง ในการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 คนที่รับคดีครั้งแรกบอกว่าเดี๋ยวจะหาว่าไม่จงรักภักดี ฟ้องไปก่อน ทั้งที่หลักฐานไม่มี คนที่สองไม่ฟ้องเดี๋ยวโดนอีก ก็ฟ้อง โดยที่ไม่ได้ดูความถูกต้องของพยานหลักฐาน จึงทำให้การจงรักภักดีและรักสถาบันฯ ไม่ถูกต้อง การจงรักภักดีที่ถูกต้อง คือการรักษากฎหมายที่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ง่ายในการแก้ซึ่งต้องใช้เวลา . ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ทั้งเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549, 2557 จนถึงพรรคการเมืองโดนยุบเพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเคยคุยกับนายธนาธร ว่าตนก็โดน 3 พรรค ต้องไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ดังนั้นขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ถ้าแก้ปัญหาด้วยหลักการ และเอาบ้านเมืองให้อยู่ได้จะดีที่สุด อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่คนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบันฯ เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธรหรือพรรคก้าวไกลไม่จงรักภักดี แต่ต้องยึดหลักให้ถูกต้อง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดที่โฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจที่จะทำ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1475 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๖✨ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสภาพคลองเจ๊ก คลองบางจาก และคลองบางอ้อ บริเวณที่ตัดกับทางด่วนพิเศษ ซึ่งคลองสายต่างๆ ดังกล่าวเป็นคลองที่ชักน้ำจากพื้นที่บริเวณที่มีสภาพน้ำท่วมขังอยู่สองฝั่งถนนสุขุมวิทระหว่างคลองพระโขนง กับทางหลวงสายบางนา-ตราด ผ่านท่อลอดทางด่วนพิเศษ แล้วระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยการระบายน้ำทางประตูระบายน้ำที่ทำนบคลองเจ๊ก ทำนบคลองบางจาก และทำนบคลองบางอ้อ ตลอดจนการสูบน้ำด้วย Cr. สำนักราชเลขาธิการ #วันนีัในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #ข่าวในพระราชสํานัก #save112
    ✨วันนี้ในอดีต ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๖✨ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสภาพคลองเจ๊ก คลองบางจาก และคลองบางอ้อ บริเวณที่ตัดกับทางด่วนพิเศษ ซึ่งคลองสายต่างๆ ดังกล่าวเป็นคลองที่ชักน้ำจากพื้นที่บริเวณที่มีสภาพน้ำท่วมขังอยู่สองฝั่งถนนสุขุมวิทระหว่างคลองพระโขนง กับทางหลวงสายบางนา-ตราด ผ่านท่อลอดทางด่วนพิเศษ แล้วระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยการระบายน้ำทางประตูระบายน้ำที่ทำนบคลองเจ๊ก ทำนบคลองบางจาก และทำนบคลองบางอ้อ ตลอดจนการสูบน้ำด้วย Cr. สำนักราชเลขาธิการ #วันนีัในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #ข่าวในพระราชสํานัก #save112
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 561 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา"ฟ้อง"ณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง

    13 พฤศจิกายน 2567- เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ พ1135/2564 ที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท

    กรณีจำเลยเกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500), หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อและ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี

    ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด

    ศาลแพ่ง พิเคราะห์ประเด็นข้อพิพาทที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งหกร่วมกันรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่าร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ ทางทำมาหาได้ และทางเจริญของโจทก์ การกระทำจะเป็นการละเมิดและจำเลยทั้งหกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ ต่อเมื่อข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนความจริงและโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ซึ่งหมายถึงเป็นความเสียหายแก่โจทก์ผู้ฟ้องโดยเฉพาะ มิใช่ความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จำเลยทั้งหกร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์โดยนำข้อความอันเป็นเท็จจัดทำเอกสารไขข่าวแพร่หลายสู่สาธารณะเพื่อมุ่งประสงค์กล่าวหาให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทำเป็นกระบวนการเพื่อใช้ในการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เริ่มจากจำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบและร่วมมือของจำเลยที่ 2 ปั้นแต่งความเท็จขึ้นใส่ความสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการว่าทรงประพฤติตนไม่สมต่อตำแหน่งหน้าที่ ทั้งการใช้พระราชอำนาจสนับสนุนรับรองการรัฐประหารปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการปกครองในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.เพื่อปูทางการเมืองที่ราบรื่นให้แก่สถาบันกษัตริย์ โดยเจตนาเพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำวิทยานิพนธ์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุถึงข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ หน้า 63 วรรคแรก และหน้า 105 วรรคแรก และบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 นำข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ไปพูดในการเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2553 กล่าวหากรมขุนชัยนาทนเรนทรว่าก้าวก่ายรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ด้วยการเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อันเป็นความเท็จ และเมื่อปี 2556 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขอฝันใฝ่ในผันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ.2475-2500) เนื้อหาโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ต่อเนื่องจนถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ด้วยความเท็จ และโจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความอันเป็นเท็จ เนื้อหาหน้า 120 -121 และหน้า 124-125 และเมื่อปี 2563 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี กล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมีข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หลายแห่ง และโจทก์บรรยายฟ้องข้อความอันเป็นเท็จที่หน้า 60,63,66,73,77และข้อความเท็จใต้ภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้า 69 และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 แต่งความเท็จใส่ร้ายกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และสถาบันพระมหากษัตริย์ในหนังสือต่างประเทศที่จำหน่ายทั่วโลก ชื่อ “Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in Thailand” ใส่ร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่ามีส่วนร่วมในการรัฐประหาร ปี 2490 แทรกแซงการเมืองโดยการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี

    เมื่อข้อความอันเป็นเท็จตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ มิได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร ปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้ที่อ่านข้อความในวิทยานิพนธ์และในหนังสือที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเข้าใจผิดในตัวโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยที่ 1 เขียนข้อความเท็จในวิทยานิพนธ์และหนังสือดังกล่าว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นผู้ไม่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝักใฝ่อำนาจทางการเมือง สนับสนุนการรัฐประหาร กระทำการก้าวก่ายการบริหารราชการของรัฐบาล ฟ้องของโจทก์จึงมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้สิ้นพระชนม์แล้วก่อนที่จะมีการกระทำอันเป็นละเมิดตามคำฟ้อง จึงเป็นฟ้องที่กล่าวอ้างว่ามีการกระทำละเมิดต่อหรือความเสียหายของผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้ว แม้โจทก์เป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งสิ้นพระชนม์แล้วและข้อความกล่าวพาดพิงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร

    แม้หากฟังได้ว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง และทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย เพราะข้อความตามคำบรรยายฟ้องมิได้กล่าวหรือแสดงเรื่องราวที่ไม่ตรงต่อความจริงเกี่ยวกับโจทก์และครอบครัวและไม่ได้สื่อความหมายเกี่ยวกับโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ รวมถึงวิทยานิพนธ์ของจำเลยที่ 1 กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ไม่ได้กล่าวถึงโจทก์และทายาทของโจทก์ ข้อเท็จจริงตามข้อความในวิทยานิพนธ์ดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ โจทก์ไม่ทราบเนื่องจากขณะนั้นโจทก์ยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความที่จำเลยที่ 1 แสดงในวิทยานิพนธ์ ในหนังสือ และที่จำเลยที่ 1 นำไปพูดตามคำฟ้องไม่ได้สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานอันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญ

    ส่วนที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมและอาฆาดมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่ที่พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เหตุการณ์ตามภาพข่าวและสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์ ไม่ปรากฏว่าบุคคลผู้ก่อเหตุเป็นใครและการกระทำสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด และที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ถนนวิภาวดีรังสิตปลุกระดมให้มีการยกเลิกชื่อถนนซึ่งเป็นพระนามของพระเจ้าวงวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมสืบเนื่องจากข้อความในวิทยานิพนธ์หรือในหนังสือคดีนี้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์โดยตรง

    ทั้งการฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านถึงมูลเหตุที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000,000 บาท เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงทำคุณความดีและประโยชน์ให้ประเทศไทยเป็นจำนวนมากมายมหาศาล การฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์จึงมิได้มีความสัมพันธ์กับที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความของจำเลยที่ 1 ตามคำฟ้องและไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิ

    ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงตามคำฟ้องทำให้ราชสกุลรังสิต รวมถึงโจทก์ผู้สืบราชสกุลและเป็นผู้แทนราชสกุลได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้ว่าระบุว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นในราชสกุลรังสิตด้วย ทั้งราชสกุลรังสิตก็ไม่ปรากฏว่ามีสภาพบุคคลตามกฎหมายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีนี้ในฐานะส่วนตัว มิได้เป็นการฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นด้วย โจทก์จึงมิอาจกล่าวอ้างความเสียหายของราชสกุลรังสิตซึ่งไม่มีสภาพบุคคล ส่วนที่โจทก์ฟ้องและเบิกความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อมูลนิธิวิภาวดีรังสิต ที่โจทก์เป็นประธานและมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการ กระทบต่อการหารายได้โดยการรับบริจาคเงินจากสาธารณชนซึ่งรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสนั้น เมื่อมูลนิธิดังกล่าวมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างหากจากโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากมูลนิธิ

    โจทก์จึงไม่อาจอ้างว่ามูลนิธิดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ได้รับความเสียหายเพื่อให้มีการใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง

    https://mgronline.com/crime/detail/9670000109449#google_vignette

    #Thaitimes
    ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา"ฟ้อง"ณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง 13 พฤศจิกายน 2567- เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ พ1135/2564 ที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท กรณีจำเลยเกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500), หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อและ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด ศาลแพ่ง พิเคราะห์ประเด็นข้อพิพาทที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งหกร่วมกันรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่าร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ ทางทำมาหาได้ และทางเจริญของโจทก์ การกระทำจะเป็นการละเมิดและจำเลยทั้งหกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ ต่อเมื่อข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนความจริงและโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ซึ่งหมายถึงเป็นความเสียหายแก่โจทก์ผู้ฟ้องโดยเฉพาะ มิใช่ความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จำเลยทั้งหกร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์โดยนำข้อความอันเป็นเท็จจัดทำเอกสารไขข่าวแพร่หลายสู่สาธารณะเพื่อมุ่งประสงค์กล่าวหาให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทำเป็นกระบวนการเพื่อใช้ในการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เริ่มจากจำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบและร่วมมือของจำเลยที่ 2 ปั้นแต่งความเท็จขึ้นใส่ความสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการว่าทรงประพฤติตนไม่สมต่อตำแหน่งหน้าที่ ทั้งการใช้พระราชอำนาจสนับสนุนรับรองการรัฐประหารปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการปกครองในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.เพื่อปูทางการเมืองที่ราบรื่นให้แก่สถาบันกษัตริย์ โดยเจตนาเพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำวิทยานิพนธ์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุถึงข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ หน้า 63 วรรคแรก และหน้า 105 วรรคแรก และบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 นำข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ไปพูดในการเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2553 กล่าวหากรมขุนชัยนาทนเรนทรว่าก้าวก่ายรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ด้วยการเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อันเป็นความเท็จ และเมื่อปี 2556 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขอฝันใฝ่ในผันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ.2475-2500) เนื้อหาโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ต่อเนื่องจนถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ด้วยความเท็จ และโจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความอันเป็นเท็จ เนื้อหาหน้า 120 -121 และหน้า 124-125 และเมื่อปี 2563 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี กล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมีข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หลายแห่ง และโจทก์บรรยายฟ้องข้อความอันเป็นเท็จที่หน้า 60,63,66,73,77และข้อความเท็จใต้ภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้า 69 และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 แต่งความเท็จใส่ร้ายกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และสถาบันพระมหากษัตริย์ในหนังสือต่างประเทศที่จำหน่ายทั่วโลก ชื่อ “Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in Thailand” ใส่ร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่ามีส่วนร่วมในการรัฐประหาร ปี 2490 แทรกแซงการเมืองโดยการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อข้อความอันเป็นเท็จตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ มิได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร ปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้ที่อ่านข้อความในวิทยานิพนธ์และในหนังสือที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเข้าใจผิดในตัวโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยที่ 1 เขียนข้อความเท็จในวิทยานิพนธ์และหนังสือดังกล่าว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นผู้ไม่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝักใฝ่อำนาจทางการเมือง สนับสนุนการรัฐประหาร กระทำการก้าวก่ายการบริหารราชการของรัฐบาล ฟ้องของโจทก์จึงมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้สิ้นพระชนม์แล้วก่อนที่จะมีการกระทำอันเป็นละเมิดตามคำฟ้อง จึงเป็นฟ้องที่กล่าวอ้างว่ามีการกระทำละเมิดต่อหรือความเสียหายของผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้ว แม้โจทก์เป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งสิ้นพระชนม์แล้วและข้อความกล่าวพาดพิงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร แม้หากฟังได้ว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง และทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย เพราะข้อความตามคำบรรยายฟ้องมิได้กล่าวหรือแสดงเรื่องราวที่ไม่ตรงต่อความจริงเกี่ยวกับโจทก์และครอบครัวและไม่ได้สื่อความหมายเกี่ยวกับโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ รวมถึงวิทยานิพนธ์ของจำเลยที่ 1 กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ไม่ได้กล่าวถึงโจทก์และทายาทของโจทก์ ข้อเท็จจริงตามข้อความในวิทยานิพนธ์ดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ โจทก์ไม่ทราบเนื่องจากขณะนั้นโจทก์ยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความที่จำเลยที่ 1 แสดงในวิทยานิพนธ์ ในหนังสือ และที่จำเลยที่ 1 นำไปพูดตามคำฟ้องไม่ได้สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานอันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญ ส่วนที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมและอาฆาดมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่ที่พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เหตุการณ์ตามภาพข่าวและสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์ ไม่ปรากฏว่าบุคคลผู้ก่อเหตุเป็นใครและการกระทำสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด และที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ถนนวิภาวดีรังสิตปลุกระดมให้มีการยกเลิกชื่อถนนซึ่งเป็นพระนามของพระเจ้าวงวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมสืบเนื่องจากข้อความในวิทยานิพนธ์หรือในหนังสือคดีนี้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์โดยตรง ทั้งการฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านถึงมูลเหตุที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000,000 บาท เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงทำคุณความดีและประโยชน์ให้ประเทศไทยเป็นจำนวนมากมายมหาศาล การฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์จึงมิได้มีความสัมพันธ์กับที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความของจำเลยที่ 1 ตามคำฟ้องและไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิ ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงตามคำฟ้องทำให้ราชสกุลรังสิต รวมถึงโจทก์ผู้สืบราชสกุลและเป็นผู้แทนราชสกุลได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้ว่าระบุว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นในราชสกุลรังสิตด้วย ทั้งราชสกุลรังสิตก็ไม่ปรากฏว่ามีสภาพบุคคลตามกฎหมายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีนี้ในฐานะส่วนตัว มิได้เป็นการฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นด้วย โจทก์จึงมิอาจกล่าวอ้างความเสียหายของราชสกุลรังสิตซึ่งไม่มีสภาพบุคคล ส่วนที่โจทก์ฟ้องและเบิกความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อมูลนิธิวิภาวดีรังสิต ที่โจทก์เป็นประธานและมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการ กระทบต่อการหารายได้โดยการรับบริจาคเงินจากสาธารณชนซึ่งรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสนั้น เมื่อมูลนิธิดังกล่าวมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างหากจากโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากมูลนิธิ โจทก์จึงไม่อาจอ้างว่ามูลนิธิดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ได้รับความเสียหายเพื่อให้มีการใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง https://mgronline.com/crime/detail/9670000109449#google_vignette #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา" ฟ้อง"ณัฐพล-ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ ชี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
    ศาลแพ่งยกฟ้อง ม.ร.ว.ปรียนันทนาฟ้องณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1083 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๘✨แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ อายุ ๑๐๒ ปี ทูลเกล้าฯ ถวายดอกบัว ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรจังหวัดนครพนม #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #13พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๘✨แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ อายุ ๑๐๒ ปี ทูลเกล้าฯ ถวายดอกบัว ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรจังหวัดนครพนม #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #13พฤศจิกายน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๘✨

    เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร

    Cr. เฟซบุ๊ก Pattarapong Arm

    #วันนี้ในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #save112 #12พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๘✨ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร Cr. เฟซบุ๊ก Pattarapong Arm #วันนี้ในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #save112 #12พฤศจิกายน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๓✨

    เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงร่วมในพระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๑๑ ถึง ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๓

    Cr. สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

    #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #11พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๓✨ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงร่วมในพระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๑๑ ถึง ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๓ Cr. สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #11พฤศจิกายน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨💜🎨🪱 ร้านภูฟ้าได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต ให้นำภาพฝีพระหัตถ์ งูตัวเล็ก พร้อมพรพระราชทานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งพระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทยทุกคนนำมาพิมพ์ลงบนบัตร ส.ค.ส. เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตในปี “มะเส็ง งูเล็ก” ๒๕๖๘ นี้

    สำหรับภาพฝีพระหัตถ์เป็นภาพ “งูขึ้นกระได” ตัวเล็กๆ ยิ้มหวานหน้าตาน่ารัก ขณะที่พรพระราชทาน มีใจความว่า

    “ปีมะเส็ง ปีงูเล็ก ๒๕๖๘
    งูขึ้นกระได : ชีวิตก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ
    ปีมะเส็งคิดดูคืองูเล็ก
    ผู้ใหญ่เด็กยินดีกันทั่วหน้า
    เราเคยเล่นเกมส์กันแต่ก่อนมา
    เรียกกันว่าเล่นงูตกกระได
    แต่ปีนี้ชีวีจะมีสุข
    ยังมีทุกข์กันอยู่ก็สู้ไหว
    เรามีแต่ขึ้นบันไดสูงขึ้นไป
    งูช่วยเราให้กายใจสบายเอย”

    #ลมฝนบนฟ้ามาลิ่ว
    #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์
    ✨💜🎨🪱 ร้านภูฟ้าได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต ให้นำภาพฝีพระหัตถ์ งูตัวเล็ก พร้อมพรพระราชทานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งพระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทยทุกคนนำมาพิมพ์ลงบนบัตร ส.ค.ส. เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตในปี “มะเส็ง งูเล็ก” ๒๕๖๘ นี้ สำหรับภาพฝีพระหัตถ์เป็นภาพ “งูขึ้นกระได” ตัวเล็กๆ ยิ้มหวานหน้าตาน่ารัก ขณะที่พรพระราชทาน มีใจความว่า “ปีมะเส็ง ปีงูเล็ก ๒๕๖๘ งูขึ้นกระได : ชีวิตก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ปีมะเส็งคิดดูคืองูเล็ก ผู้ใหญ่เด็กยินดีกันทั่วหน้า เราเคยเล่นเกมส์กันแต่ก่อนมา เรียกกันว่าเล่นงูตกกระได แต่ปีนี้ชีวีจะมีสุข ยังมีทุกข์กันอยู่ก็สู้ไหว เรามีแต่ขึ้นบันไดสูงขึ้นไป งูช่วยเราให้กายใจสบายเอย” #ลมฝนบนฟ้ามาลิ่ว #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๓✨

    ทรงพระราชปฏิสันถารกับราษฎร ตลอดจนมีพระราชดำรัสกับพระอาจารย์แสวง เจ้าอาวาสวัดโพธิสมพร บ้านโพนงาม ตำบลนาม่อง อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการกุดบาก ซึ่งเป็นโครงการของวัดสำหรับให้การบริการแก่ราษฎรในหมู่บ้าน ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้คณะแพทย์พระราชทานที่โดยเสด็จพระราชดำเนินรักษาพยาบาลราษฎรผู้เจ็บป่วย

    Cr. สำนักราชเลขาธิการ

    #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #save112 #10พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๓✨ ทรงพระราชปฏิสันถารกับราษฎร ตลอดจนมีพระราชดำรัสกับพระอาจารย์แสวง เจ้าอาวาสวัดโพธิสมพร บ้านโพนงาม ตำบลนาม่อง อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการกุดบาก ซึ่งเป็นโครงการของวัดสำหรับให้การบริการแก่ราษฎรในหมู่บ้าน ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้คณะแพทย์พระราชทานที่โดยเสด็จพระราชดำเนินรักษาพยาบาลราษฎรผู้เจ็บป่วย Cr. สำนักราชเลขาธิการ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #save112 #10พฤศจิกายน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 526 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพหาชมยาก

    ภาพบน ภรรยาพระเจ้าแผ่นดิน ทั้ง สองรัชกาล

    ขวา : สมเด็จนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙

    กลาง : สมเด็จนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗

    ซ้าย : พระเจ้าบรมวงค์เธอ พระองค์เจ้าวาปีบุษษา พระราชธิดา ในรัชกาลที่ ๕

    ภาพล่าง

    ขวา พระเจ้าบรมวงค์เธอ พระองค์เจ้าเหมวดี พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๕

    กลาง สมเด็จพระเจ้าภคิณี เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๖

    ซ้าย สมเด็จพระศรีนครินทรา พระบรมราชชนนี ในรัชกาลที่ ๙

    ด้านหลัง สมเด็จพระศรีฯ คือ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชการที่ ๖

    จะเห็นว่า มีการยืนลำดับพระยศ ได้อย่างเกรงพระองค์กันทุกองค์ ด้วย พระราชีนีนาภ รัชกาลที่ ๙ พระชนมายุน้อยที่สุด ก็ทรงยืนเกรงพระองค์อื่นตามพระชันษา 🥰🥰🥰 พระองค์อื่น เลยทรงต้อง พยายามยืนเอียงเรียงปลายพระบาท กัน (หาภาพเต็มไม่เจอ) ถ้าใครเจอ กรุณาโพลต์ในคอมเมนต์ด้วยครับ ผมว่า เป็นการอ้อนน้อมถอมตน ที่งดงาม
    #ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
    🙏🏻🧡🙏🏻🇹🇭
    ❤️ #ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ❤️
    ╔══╗
    ╚╗╔╝
    ╔╝(¯`v´¯)
    ╚══`.¸. #สถาบันพระมหากษัตริย์
    ❤️ #รักราชวงค์จักรีวงค์ ❤️
    ภาพหาชมยาก ภาพบน ภรรยาพระเจ้าแผ่นดิน ทั้ง สองรัชกาล ขวา : สมเด็จนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ กลาง : สมเด็จนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ซ้าย : พระเจ้าบรมวงค์เธอ พระองค์เจ้าวาปีบุษษา พระราชธิดา ในรัชกาลที่ ๕ ภาพล่าง ขวา พระเจ้าบรมวงค์เธอ พระองค์เจ้าเหมวดี พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๕ กลาง สมเด็จพระเจ้าภคิณี เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๖ ซ้าย สมเด็จพระศรีนครินทรา พระบรมราชชนนี ในรัชกาลที่ ๙ ด้านหลัง สมเด็จพระศรีฯ คือ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชการที่ ๖ จะเห็นว่า มีการยืนลำดับพระยศ ได้อย่างเกรงพระองค์กันทุกองค์ ด้วย พระราชีนีนาภ รัชกาลที่ ๙ พระชนมายุน้อยที่สุด ก็ทรงยืนเกรงพระองค์อื่นตามพระชันษา 🥰🥰🥰 พระองค์อื่น เลยทรงต้อง พยายามยืนเอียงเรียงปลายพระบาท กัน (หาภาพเต็มไม่เจอ) ถ้าใครเจอ กรุณาโพลต์ในคอมเมนต์ด้วยครับ ผมว่า เป็นการอ้อนน้อมถอมตน ที่งดงาม #ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ 🙏🏻🧡🙏🏻🇹🇭 ❤️ #ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ❤️ ╔══╗ ╚╗╔╝ ╔╝(¯`v´¯) ╚══`.¸. #สถาบันพระมหากษัตริย์ ❤️ #รักราชวงค์จักรีวงค์ ❤️
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๑✨

    เสด็จลงบริเวณหน้าพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อทรงถวายภัตตาหารบิณฑบาต แก่ สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร พระภิกษุสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระสหจรและพระภิกษุอื่น ๆ

    Cr. สำนักราชเลขาธิการ
    #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #save112 #9พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๑✨ เสด็จลงบริเวณหน้าพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อทรงถวายภัตตาหารบิณฑบาต แก่ สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร พระภิกษุสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระสหจรและพระภิกษุอื่น ๆ Cr. สำนักราชเลขาธิการ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #save112 #9พฤศจิกายน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๐✨

    ทรงเยี่ยมราษฎรบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตาดไฮใหญ่ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร

    Cr. สำนักราชเลขาธิการ

    #วันนี้ในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #save112 #8พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๐✨ ทรงเยี่ยมราษฎรบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตาดไฮใหญ่ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร Cr. สำนักราชเลขาธิการ #วันนี้ในอดีต #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #save112 #8พฤศจิกายน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๖✨

    มีพระราชปฏิสันถารอย่างใกล้ชิดกับราษฎร ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในบริเวณวัดโพธิ์ศรี หมู่ ๒ ตำบลสร้างค้อ อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร

    Cr. สำนักราชเลขาธิการ

    #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #save112 #7พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๖✨ มีพระราชปฏิสันถารอย่างใกล้ชิดกับราษฎร ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในบริเวณวัดโพธิ์ศรี หมู่ ๒ ตำบลสร้างค้อ อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร Cr. สำนักราชเลขาธิการ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #save112 #7พฤศจิกายน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 483 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts