• "ครูหยุย" แฉเงื่อนงำทำพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ผ่านมติ ครม.โดยนายกฯ ไม่แถลง แต่กลับออกมาจากปากพ่อนายกฯ แทน และเอาเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็๋กซ์มากลบ ฟาดรัฐบาลหิวเงิน ทำลายแนวทางพอเพียงที่ในหลวง ร.9 พระราชทาน ระวังใช้นโยบายโจรจับโจรจะเพิ่มโจร เตือนนายกฯ อิ๊งค์ จะส่งต่อมรดกบาปให้ลูก

    จากการที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ม.ค.เห็นชอบข้อเสนอแนะแก้ปัญหาพนันออนไลน์ ด้วยการนำขึ้นบนดินให้ถูกต้อง โดยจะแก้กฎหมายลำดับรอง เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน สอดคล้องกับที่นายทักษิณ ชินวัตร ไปพูดในงานดินดนแร์ทอล์กในคืนวันเดียวกันนั้น นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือ “ครูหยุย” อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า น่าสังเกตว่า เรื่องนี้ไม่อยู่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่นายกรัฐมนตรีแถลงผลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่กลับออกมาจากปากของพ่อนายกฯ ที่ไปพูดเมื่อคืนก่อน แล้วต่อมา ถึงออกมาให้ข่าวว่าคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในเรื่องนี้แล้ว ทำให้ดูเหมือนมีเงื่อนงำแอบแฝงอะไรบางอย่าง ดูเป็นการลักหลับและซ่อนแอบเอากาสิโนมาหลอกให้คนสนใจ แต่แอบเอาเรื่องพนันออนไลน์แทรกเข้ามาแบบด่วนๆ ดูเป็นความเร่งรีบร้อนรนอย่างน่าสงสัย และจะมาแรงแซงทางโค้งเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่แอบซุกกาสิโนไว้ข้างใต้ กลายเป็นหายนะเรื่องใหม่ของสังคมไทยเลยทีเดียว เพราะจะพลิกโฉมสังคมไทยให้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมิอาจเรียกกลับมาได้ เพราะจะมีผลกระทบต่อวิธีคิดของเด็กเยาวชน และคนรุ่นใหม่อย่างมาก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000004353

    #MGROnline #ครูหยุย #พนันออนไลน์ #ถูกกฎหมาย
    "ครูหยุย" แฉเงื่อนงำทำพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ผ่านมติ ครม.โดยนายกฯ ไม่แถลง แต่กลับออกมาจากปากพ่อนายกฯ แทน และเอาเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็๋กซ์มากลบ ฟาดรัฐบาลหิวเงิน ทำลายแนวทางพอเพียงที่ในหลวง ร.9 พระราชทาน ระวังใช้นโยบายโจรจับโจรจะเพิ่มโจร เตือนนายกฯ อิ๊งค์ จะส่งต่อมรดกบาปให้ลูก • จากการที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ม.ค.เห็นชอบข้อเสนอแนะแก้ปัญหาพนันออนไลน์ ด้วยการนำขึ้นบนดินให้ถูกต้อง โดยจะแก้กฎหมายลำดับรอง เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน สอดคล้องกับที่นายทักษิณ ชินวัตร ไปพูดในงานดินดนแร์ทอล์กในคืนวันเดียวกันนั้น นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือ “ครูหยุย” อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า น่าสังเกตว่า เรื่องนี้ไม่อยู่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่นายกรัฐมนตรีแถลงผลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่กลับออกมาจากปากของพ่อนายกฯ ที่ไปพูดเมื่อคืนก่อน แล้วต่อมา ถึงออกมาให้ข่าวว่าคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในเรื่องนี้แล้ว ทำให้ดูเหมือนมีเงื่อนงำแอบแฝงอะไรบางอย่าง ดูเป็นการลักหลับและซ่อนแอบเอากาสิโนมาหลอกให้คนสนใจ แต่แอบเอาเรื่องพนันออนไลน์แทรกเข้ามาแบบด่วนๆ ดูเป็นความเร่งรีบร้อนรนอย่างน่าสงสัย และจะมาแรงแซงทางโค้งเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่แอบซุกกาสิโนไว้ข้างใต้ กลายเป็นหายนะเรื่องใหม่ของสังคมไทยเลยทีเดียว เพราะจะพลิกโฉมสังคมไทยให้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมิอาจเรียกกลับมาได้ เพราะจะมีผลกระทบต่อวิธีคิดของเด็กเยาวชน และคนรุ่นใหม่อย่างมาก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000004353 • #MGROnline #ครูหยุย #พนันออนไลน์ #ถูกกฎหมาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อึ้งบนสังคมไทยที่บิดเบี้ยวsus sus
    ได้ทราบข้อมูลจากสถานีข่าวช่องดังสดๆร้อนๆ
    ว่าด้วยบ.ดังเจ้าของทีวีช่องเบอร์ต้นของประเทศไทย
    ได้ตั้งบริษัทลูก ทำธุรกิจร้านอาหาร มีกรรมการ
    และบริษัทลูก อยู่บนตึก ม ล น
    โGง ซัพพลายเออร์ โลจิสติก แทบทั้งกระบวนการห่วงโซ่อุปทาน
    เจ็บกันระนาว เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการฟ๊อง
    บ.ลูกช่องดัง ก็ได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์
    คือการข๋ายบริษัทลูก ที่มีมูลหนี๊หลักร้อยล้าน
    ให้ยาย ส. อายุ 78 ปี โดยยาย ส. ซื้อบริษัทลูกช่องดัง
    ในราคา หมื่นนิดๆ ไม่ใช่หมื่นล้าน หมื่นกว่าบาท
    ยังไม่พอ ยาย ส. รับโอนบริษัท ภายใต้เงื่อนไข
    รับทุกหนี๊สินร้อยกว่าล้าน โดย ผสห ไม่สามารถเอาผิด
    กับกรรมการผู้ก่อการได้ ยายรับจบ
    ผสห ก็ถึงกับอึ้ง ไปปรึกษา กลต. กลต.ก็ตอบว่า
    ก็เค้าประกาศแล้ว กลต.ก็ทำอะไรไม่ได้
    อ้าว บังลัยไส้แล้วสิ แบบนี้ ตลาดหลักทรัยพ์ไม่ได้เป็นสถานที่ปลอดภัย
    ของปชช อีกต่อไป ถ้าบ.ใด มีพฤติกรรมโgง ปชช
    ก็แค่โยนให้ยายที่อายุใกล้ตุยตูนีเย่ สมอ้างรับไปคนเดียว
    กรรมการก็ไม่ต้องรับผิดชอบ
    พอฟ๊อง สืบทรั๊พย์ยาย ไม่มีอะไรให้สิ ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
    ผสห มีอย่างน้อย แปดราย ก็ต้องดิ้นรถ ไปแจ้งที่ สน.
    ปรากฏ แจ้งที่ สน. ห. ม. ร้อยเวลาดองไว้เป็นปี และมีหนังสืออ้างว่า
    อ ย ก สั่งไม่ฟ๊อง ผสห ก็ไม่จบ ตามไปถึง อ ย ก ปรากฏ อ ย ก
    บอกว่า ทางร้อยเวร ไม่เคยส่งเรื่องมาถึง อ ย ก โอ้
    เพราะอะไรกัน ทำไมถึงมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับ KADEE นี้ขนาดนี้
    เรื่องนี้ ผสห กำลังสู้กับกลุ่ม ผู้ทรงอิทธิพล คงยาก ที่พี่หนุ่ม
    จะสามารถรับเคสนี้เข้ารายการ เพราะพี่หนุ่ม กรรไกร
    ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ช่องดังเบอร์ต้นนั้นด้วยเช่นกัน
    เรื่องนี้ เปิดเผยได้เร็ว ก็ดี ทำให้รู้ว่า วิธีการแบบนี้
    ก็มีด้วย โGงได้แบบ ลอยตัว โยนให้นอมีนีซักคน ให้รับผิดชอบแทน
    ก็รอดจาก KADEE ฉ้อโGง ได้ แบบนี้ ก็ได้หรา
    ไว้พี่คิงส์มีความคืบหน้า จะมาอัพเดทอีกที
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อึ้งบนสังคมไทยที่บิดเบี้ยวsus sus ได้ทราบข้อมูลจากสถานีข่าวช่องดังสดๆร้อนๆ ว่าด้วยบ.ดังเจ้าของทีวีช่องเบอร์ต้นของประเทศไทย ได้ตั้งบริษัทลูก ทำธุรกิจร้านอาหาร มีกรรมการ และบริษัทลูก อยู่บนตึก ม ล น โGง ซัพพลายเออร์ โลจิสติก แทบทั้งกระบวนการห่วงโซ่อุปทาน เจ็บกันระนาว เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการฟ๊อง บ.ลูกช่องดัง ก็ได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ คือการข๋ายบริษัทลูก ที่มีมูลหนี๊หลักร้อยล้าน ให้ยาย ส. อายุ 78 ปี โดยยาย ส. ซื้อบริษัทลูกช่องดัง ในราคา หมื่นนิดๆ ไม่ใช่หมื่นล้าน หมื่นกว่าบาท ยังไม่พอ ยาย ส. รับโอนบริษัท ภายใต้เงื่อนไข รับทุกหนี๊สินร้อยกว่าล้าน โดย ผสห ไม่สามารถเอาผิด กับกรรมการผู้ก่อการได้ ยายรับจบ ผสห ก็ถึงกับอึ้ง ไปปรึกษา กลต. กลต.ก็ตอบว่า ก็เค้าประกาศแล้ว กลต.ก็ทำอะไรไม่ได้ อ้าว บังลัยไส้แล้วสิ แบบนี้ ตลาดหลักทรัยพ์ไม่ได้เป็นสถานที่ปลอดภัย ของปชช อีกต่อไป ถ้าบ.ใด มีพฤติกรรมโgง ปชช ก็แค่โยนให้ยายที่อายุใกล้ตุยตูนีเย่ สมอ้างรับไปคนเดียว กรรมการก็ไม่ต้องรับผิดชอบ พอฟ๊อง สืบทรั๊พย์ยาย ไม่มีอะไรให้สิ ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ผสห มีอย่างน้อย แปดราย ก็ต้องดิ้นรถ ไปแจ้งที่ สน. ปรากฏ แจ้งที่ สน. ห. ม. ร้อยเวลาดองไว้เป็นปี และมีหนังสืออ้างว่า อ ย ก สั่งไม่ฟ๊อง ผสห ก็ไม่จบ ตามไปถึง อ ย ก ปรากฏ อ ย ก บอกว่า ทางร้อยเวร ไม่เคยส่งเรื่องมาถึง อ ย ก โอ้ เพราะอะไรกัน ทำไมถึงมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับ KADEE นี้ขนาดนี้ เรื่องนี้ ผสห กำลังสู้กับกลุ่ม ผู้ทรงอิทธิพล คงยาก ที่พี่หนุ่ม จะสามารถรับเคสนี้เข้ารายการ เพราะพี่หนุ่ม กรรไกร ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ช่องดังเบอร์ต้นนั้นด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ เปิดเผยได้เร็ว ก็ดี ทำให้รู้ว่า วิธีการแบบนี้ ก็มีด้วย โGงได้แบบ ลอยตัว โยนให้นอมีนีซักคน ให้รับผิดชอบแทน ก็รอดจาก KADEE ฉ้อโGง ได้ แบบนี้ ก็ได้หรา ไว้พี่คิงส์มีความคืบหน้า จะมาอัพเดทอีกที #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ร่างกฎหมายกาสิโน เป็นเพียงอาหารรองท้อง ที่ช่วยให้ทักษิณได้เงินกินเปล่ากับส่วนแบ่งจากบ่อนระดับโลกที่เข้ามาลงทุน แต่อาหารจานหลักของทักษิณคือ รายได้จากเว็บพนันออนไลน์ ที่อยู่ระหว่างกระบวนการนำขึ้นมาบนดิน มาทำภายใต้กฎหมายและการกำกับดูแลของนักเดิมพันการเมือง ท้ายที่สุด ประชาชนคนไทย และสังคมไทยจะบอบช้ำแสนสาหัส
    #7ดอกจิก
    ♣ ร่างกฎหมายกาสิโน เป็นเพียงอาหารรองท้อง ที่ช่วยให้ทักษิณได้เงินกินเปล่ากับส่วนแบ่งจากบ่อนระดับโลกที่เข้ามาลงทุน แต่อาหารจานหลักของทักษิณคือ รายได้จากเว็บพนันออนไลน์ ที่อยู่ระหว่างกระบวนการนำขึ้นมาบนดิน มาทำภายใต้กฎหมายและการกำกับดูแลของนักเดิมพันการเมือง ท้ายที่สุด ประชาชนคนไทย และสังคมไทยจะบอบช้ำแสนสาหัส #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'กาสิโน' ถูกกฎหมาย ครม.อนุมัติหลักการ 'กฤษฎีกา' ไม่ค้านแต่ต้องให้ชัด
    .
    ในที่สุดโครงการก่อสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ได้มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ตามขั้นตอนได้มอบหมายสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบและปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย และคำแถลงนโยบายของรัฐสภา และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
    .
    นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หากเกิดขึ้นได้เร็วก็จะดี เพราะอย่างสิงคโปร์ มีการทำโครงการนี้ และมีกาสิโนเพียง 10% ก็ทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นมาก และระดับเศรษฐกิจ จีดีพีก็เติบโตขึ้นได้อย่างมาก หวังว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่าประเทศไทย จะมีธุรกิจสีเทา นอกกฎหมายมากขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่าหากสามารถทำทุกเรื่องให้โปร่งใส ก็จะเป็นเรื่องบวกกับประเทศ และมีภาษีที่ได้มากขึ้นก็ถือเป็นรายได้ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นของประเทศ
    .
    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยในเชิงของหลักการ เกือบจะ 90% ที่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ทุกคนมีข้อสังเกตที่ตรงกับลักษณะงานที่ตัวเองดูแลอยู่ อย่างเรื่องกาสิโน ที่กลัวคนไทย และเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องรับไว้ ว่าจะต้องกำกับอย่างไร ซึ่งรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนเพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ อยากให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า ส่วนสาเหตุที่ไม่ไปแก้ไขกฎหมายการพนันโดยตรง ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า แต่หลายๆ อย่างเป็นเรื่องของการเอนเทอร์เทนเมนต์ และรายได้ที่มาจากกาสิโนเป็นส่วนน้อย
    .
    นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอย่างมั่นใจว่า เบื้องต้นคาดว่ามีรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 1.2-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสามารถนำมาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในส่วนอื่นๆ ได้ รวมทั้งป้องกันปัญหาอาชญากรรม และการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ที่มีอยู่ในสังคมไทยอีกด้วย
    .
    สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. คือ การกำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตามที่กำหนด โดยจะต้องประกอบธุรกิจไปด้วยสถาบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน และผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในไทยที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้รับสิทธิ์การทำสัญญาเช่าระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี และกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน 30 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต และมีการประเมินการทำงานทุก 5 ปี และได้กำหนดอัตราค่าใบอนุญาต โดยเริ่มต้นในการขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท ใบอนุญาตครั้งแรกฉบับละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท ใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 100,000 บาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยครั้งละ 5,000 บาท
    .
    ขณะที่ นายปกรณ์​ นิลประพันธ์​ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่า กฤษฎีกาไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่หลักในการทำกฎหมายของรัฐบาล จะต้องยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งจะต้องไปดูคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะไปดู Man​-​Made​ Destination หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่น ๆ และเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ เข้าไปอยู่ในนั้น แต่กฎหมายที่กระทรวงการคลังร่างขึ้นใช้ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งพูดถึงเฉพาะเรื่องของเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ และการแก้ไขปัญหาการพนัน ซึ่งแคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ
    .
    นายปกรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงมีความเห็นว่า นโยบายของรัฐบาลกว้างกว่า ถ้าจะเป็น​ Man​-Made​ Destination ควรจะเขียนให้กว้างขึ้น เพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนฯ​ ที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน แต่กฤษฎีกามองว่าการสร้างเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ถ้าอยากแก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ต้องไปแก้ไขที่อื่น เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมของคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว จึงต้องเอาให้ชัดว่าร่างกฎหมายนี้ต้องการบรรลุวัตถุประสงค์อะไร ค่อยเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา ว่าจะเน้น Man​-​Made​ Destination หรือจะเน้นเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ไม่อย่างนั้นก็ร่างไม่ถูก เพราะกระบวนการกลไกต่างกัน
    .
    "ถ้าเป็นเน้น Man​-​Made​ Destination จะเป็นเหมือนรีสอร์ตขนาดใหญ่ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานบันเทิง เหมือนที่เจอในต่างประเทศ มีที่พักสำหรับครอบครัว และมีกิจกรรมของแต่ละคน มีสวนสนุกและสวนน้ำสำหรับเด็ก สุภาพสตรี มีศูนย์การค้า ขณะที่ผู้ชายจะมีกีฬา ในส่วนของการพนันมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าต้องการเช่นนี้จริง ๆ ต้องขยายขอบของกฎหมายให้ครอบคลุม จึงเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีขอให้เอาให้ชัดก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้กระโดดขวางเหมือนที่สื่อบางสำนักพาดหัวไว้ จะย้ายผมหรือครับ" เลขาฯกฤษฎีกา ระบุ
    ..............
    Sondhi X
    'กาสิโน' ถูกกฎหมาย ครม.อนุมัติหลักการ 'กฤษฎีกา' ไม่ค้านแต่ต้องให้ชัด . ในที่สุดโครงการก่อสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ได้มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ตามขั้นตอนได้มอบหมายสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบและปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย และคำแถลงนโยบายของรัฐสภา และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป . นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หากเกิดขึ้นได้เร็วก็จะดี เพราะอย่างสิงคโปร์ มีการทำโครงการนี้ และมีกาสิโนเพียง 10% ก็ทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นมาก และระดับเศรษฐกิจ จีดีพีก็เติบโตขึ้นได้อย่างมาก หวังว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่าประเทศไทย จะมีธุรกิจสีเทา นอกกฎหมายมากขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่าหากสามารถทำทุกเรื่องให้โปร่งใส ก็จะเป็นเรื่องบวกกับประเทศ และมีภาษีที่ได้มากขึ้นก็ถือเป็นรายได้ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นของประเทศ . นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยในเชิงของหลักการ เกือบจะ 90% ที่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ทุกคนมีข้อสังเกตที่ตรงกับลักษณะงานที่ตัวเองดูแลอยู่ อย่างเรื่องกาสิโน ที่กลัวคนไทย และเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องรับไว้ ว่าจะต้องกำกับอย่างไร ซึ่งรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนเพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ อยากให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า ส่วนสาเหตุที่ไม่ไปแก้ไขกฎหมายการพนันโดยตรง ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า แต่หลายๆ อย่างเป็นเรื่องของการเอนเทอร์เทนเมนต์ และรายได้ที่มาจากกาสิโนเป็นส่วนน้อย . นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอย่างมั่นใจว่า เบื้องต้นคาดว่ามีรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 1.2-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสามารถนำมาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในส่วนอื่นๆ ได้ รวมทั้งป้องกันปัญหาอาชญากรรม และการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ที่มีอยู่ในสังคมไทยอีกด้วย . สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. คือ การกำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตามที่กำหนด โดยจะต้องประกอบธุรกิจไปด้วยสถาบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน และผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในไทยที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้รับสิทธิ์การทำสัญญาเช่าระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี และกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน 30 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต และมีการประเมินการทำงานทุก 5 ปี และได้กำหนดอัตราค่าใบอนุญาต โดยเริ่มต้นในการขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท ใบอนุญาตครั้งแรกฉบับละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท ใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 100,000 บาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยครั้งละ 5,000 บาท . ขณะที่ นายปกรณ์​ นิลประพันธ์​ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่า กฤษฎีกาไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่หลักในการทำกฎหมายของรัฐบาล จะต้องยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งจะต้องไปดูคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะไปดู Man​-​Made​ Destination หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่น ๆ และเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ เข้าไปอยู่ในนั้น แต่กฎหมายที่กระทรวงการคลังร่างขึ้นใช้ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งพูดถึงเฉพาะเรื่องของเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ และการแก้ไขปัญหาการพนัน ซึ่งแคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ . นายปกรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงมีความเห็นว่า นโยบายของรัฐบาลกว้างกว่า ถ้าจะเป็น​ Man​-Made​ Destination ควรจะเขียนให้กว้างขึ้น เพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนฯ​ ที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน แต่กฤษฎีกามองว่าการสร้างเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ถ้าอยากแก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ต้องไปแก้ไขที่อื่น เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมของคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว จึงต้องเอาให้ชัดว่าร่างกฎหมายนี้ต้องการบรรลุวัตถุประสงค์อะไร ค่อยเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา ว่าจะเน้น Man​-​Made​ Destination หรือจะเน้นเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ไม่อย่างนั้นก็ร่างไม่ถูก เพราะกระบวนการกลไกต่างกัน . "ถ้าเป็นเน้น Man​-​Made​ Destination จะเป็นเหมือนรีสอร์ตขนาดใหญ่ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานบันเทิง เหมือนที่เจอในต่างประเทศ มีที่พักสำหรับครอบครัว และมีกิจกรรมของแต่ละคน มีสวนสนุกและสวนน้ำสำหรับเด็ก สุภาพสตรี มีศูนย์การค้า ขณะที่ผู้ชายจะมีกีฬา ในส่วนของการพนันมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าต้องการเช่นนี้จริง ๆ ต้องขยายขอบของกฎหมายให้ครอบคลุม จึงเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีขอให้เอาให้ชัดก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้กระโดดขวางเหมือนที่สื่อบางสำนักพาดหัวไว้ จะย้ายผมหรือครับ" เลขาฯกฤษฎีกา ระบุ .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1095 มุมมอง 1 รีวิว
  • #ป่าใครหนา

    ทุกวันนี้ ป่าดงพงไพรในประเทศไทยทยอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้คนยังคงตัดไม้และทำลายป่าอย่างไม่หยุดหย่อน บางคราวภูเขาอันร่มรื่นน่าชื่นชมก็กลายเป็นสวนลิ้นจี่ ไร่ข้าวโพด หรือสวนลำไยในเวลาอันรวดเร็ว หรือว่าพวกเราจะยกย่องเรื่องนี้เป็นซอฟเพาเวอร์หรือนี่

    จากปี 2566 ถึงปี 2567 พบว่า ผืนป่าของไทยลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี มีการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ถึง 317,819.20 ไร่ ซึ่งปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ 101,818,155.76 ไร่ หรือคิดเป็น 31.47% ของพื้นที่ประเทศ โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้พื้นที่ป่าลดลง คือ การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน จะขอยกตัวอย่างเช่น การตัดไม้เพื่อปลูกแปลงพืชพลทางการเกษตร ตัดไม้เพื่อปลูกบ้านเรือนของตน

    แต่สิ่งที่รับไม่ได้ที่สุดเลยคือการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งจะขอยกตัวอย่างเคสที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาโปลกหล่น โดยมีนายทุนทำถนนคอนกรีตขึ้นไปบนภูเขาและสร้างที่พักรีสอร์ต หรือ ดราม่าการเฉือนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน 2.6 แสนไร่ โดยหากเกิดการให้เพิกถอนพื้นที่มันจะเป็นการเอื้อให้นายทุนทั้งหลายเข้ามาซื้อขายที่ดินเพื่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ และจะกระทบต่อแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ และกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรืออีกเคสหนึ่งที่มีสส.หญิงรุกป่าทำฟาร์มไก่ โดยการกระทำในรูปแบบนี้เข้าข่ายการทำประโยชน์ส่วนตน

    การลดลงของผืนป่าไม่ใช่แค่เรื่องของการตัดไม้เพียงเท่านั้น แต่เป็นการสูญเสียมรดกธรรมชาติที่สะท้อนถึง "นิเวศสำนึก" ของสังคม การที่พื้นที่ป่าถูกเปลี่ยนสภาพเพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แม้จะตอบโจทย์ด้านรายได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาว สิ่งเหล่านี้กลับส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพอย่างแน่นอน

    ที่จริงอยากจะประท้วงรัฐบาลให้ออกนโยบายเกี่ยวกับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติในประเทศอย่างเคร่งครัด หรือ รณรงค์ให้ทุกคนหันมาสนใจธรรมชาติอย่างจริงจัง อยากยกตัวอย่างเคสของอาสืบ นาคะเสถียร ที่เสียสละชีวิตของตัวเอง เรียกผู้คนในสังคมไทยให้หันกลับมารับรู้ปัญหาการคุกคามผืนป่าและสัตว์ป่าที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเวลานั้น

    แต่โปรดเชื่อเถอะใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก ถ้าเราไม่ดูแลรักษาระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติ มิเช่นนั้นเราคงจะได้สูดอากาศอันบริสุทธิ์จากกระป๋องแล้วกระมัง
    .
    #ป่าใครหนา ทุกวันนี้ ป่าดงพงไพรในประเทศไทยทยอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้คนยังคงตัดไม้และทำลายป่าอย่างไม่หยุดหย่อน บางคราวภูเขาอันร่มรื่นน่าชื่นชมก็กลายเป็นสวนลิ้นจี่ ไร่ข้าวโพด หรือสวนลำไยในเวลาอันรวดเร็ว หรือว่าพวกเราจะยกย่องเรื่องนี้เป็นซอฟเพาเวอร์หรือนี่ จากปี 2566 ถึงปี 2567 พบว่า ผืนป่าของไทยลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี มีการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ถึง 317,819.20 ไร่ ซึ่งปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ 101,818,155.76 ไร่ หรือคิดเป็น 31.47% ของพื้นที่ประเทศ โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้พื้นที่ป่าลดลง คือ การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน จะขอยกตัวอย่างเช่น การตัดไม้เพื่อปลูกแปลงพืชพลทางการเกษตร ตัดไม้เพื่อปลูกบ้านเรือนของตน แต่สิ่งที่รับไม่ได้ที่สุดเลยคือการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งจะขอยกตัวอย่างเคสที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาโปลกหล่น โดยมีนายทุนทำถนนคอนกรีตขึ้นไปบนภูเขาและสร้างที่พักรีสอร์ต หรือ ดราม่าการเฉือนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน 2.6 แสนไร่ โดยหากเกิดการให้เพิกถอนพื้นที่มันจะเป็นการเอื้อให้นายทุนทั้งหลายเข้ามาซื้อขายที่ดินเพื่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ และจะกระทบต่อแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ และกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรืออีกเคสหนึ่งที่มีสส.หญิงรุกป่าทำฟาร์มไก่ โดยการกระทำในรูปแบบนี้เข้าข่ายการทำประโยชน์ส่วนตน การลดลงของผืนป่าไม่ใช่แค่เรื่องของการตัดไม้เพียงเท่านั้น แต่เป็นการสูญเสียมรดกธรรมชาติที่สะท้อนถึง "นิเวศสำนึก" ของสังคม การที่พื้นที่ป่าถูกเปลี่ยนสภาพเพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แม้จะตอบโจทย์ด้านรายได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาว สิ่งเหล่านี้กลับส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพอย่างแน่นอน ที่จริงอยากจะประท้วงรัฐบาลให้ออกนโยบายเกี่ยวกับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติในประเทศอย่างเคร่งครัด หรือ รณรงค์ให้ทุกคนหันมาสนใจธรรมชาติอย่างจริงจัง อยากยกตัวอย่างเคสของอาสืบ นาคะเสถียร ที่เสียสละชีวิตของตัวเอง เรียกผู้คนในสังคมไทยให้หันกลับมารับรู้ปัญหาการคุกคามผืนป่าและสัตว์ป่าที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเวลานั้น แต่โปรดเชื่อเถอะใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก ถ้าเราไม่ดูแลรักษาระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติ มิเช่นนั้นเราคงจะได้สูดอากาศอันบริสุทธิ์จากกระป๋องแล้วกระมัง .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๘ ความว่า

    “เด็กๆ คงเคยได้ยินคำว่า “อิทธิฤทธิ์” และใฝ่ฝันจะมีอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลสรรพสิ่งให้สำเร็จได้ดังใจปรารถนากันมาแล้วทุกคน อันที่จริงแล้วคำว่า “อิทธิ” กับ “ฤทธิ” นั้นเป็นคำที่มีความหมายอย่างเดียวกัน แปลว่า ความสำเร็จ ถ้าจะกล่าวในทางพระพุทธศาสนา ผู้ประสงค์จะประสบความสำเร็จในกิจใด ตั้งแต่ในชั้นต้นทางโลก เช่น เรียนเก่ง ร่ำรวย เฉลียวฉลาด มีตำแหน่งหน้าที่การงานตามที่ปรารถนา กระทั่งถึงชั้นที่ยากยิ่งขึ้นไปในทางธรรมะ เช่น การมีปัญญารู้แจ้งเห็นจริง ได้มรรคผลเป็นพระอริยบุคคลไปตามลำดับ จำเป็นต้องอบรมเจริญคุณธรรมที่เรียกว่า “อิทธิบาท ๔” ด้วยกันทั้งสิ้น อิทธิบาททั้ง ๔ ข้อนั้นประกอบด้วย ฉันทะ คือความพอใจรักที่จะทำสิ่งนั้น, วิริยะ คือความขยันหมั่นเพียร อดทน ไม่ท้อถอย, จิตตะ คือการตั้งจิตจดจ่อในสิ่งที่ทำ และ วิมังสา คือปัญญาพิจารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล รู้เท่าทัน เห็นข้อยิ่งข้อหย่อนในสิ่งที่ทำนั้น รู้จักวางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุงเสมอ

    ขอจงสังเกตให้เห็นชัดว่าในอิทธิบาท ๔ นั้น ไม่มีคำว่าร้องขอ อ้อนวอน เบื่อหน่าย เกียจคร้าน ท้อถอย เลื่อนลอย ไม่มีสมาธิ สะเพร่า และไม่รอบคอบ เพราะฉะนั้น ขอให้เด็ก ๆ จงพัฒนาตนให้เป็นผู้ประกอบฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อย่างสมดุลในทุกการคิด การพูด และการกระทำ อย่าเป็นคนมักง่าย ใจเร็ว ด่วนได้ อย่ามุ่งคว้าเอาแต่ผลได้ โดยไม่คำนึงถึงการสร้างเหตุดีที่ชอบธรรม ขอให้มั่นในอิทธิบาท อันมีพลังอานุภาพวิเศษ ช่วยให้ทุกคนประสบความสำเร็จในสิ่งดีงามได้สมดังใจปรารถนา

    ขออำนวยพรให้เด็กและเยาวชนทุกคน เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ในสุจริตธรรม เพราะการครองอิทธิบาท ๔ โดยครบถ้วนสมบูรณ์ ขอจงรักษาเพิ่มพูนคุณลักษณะความเป็นผู้มีความรู้คู่คุณธรรม เพื่ออนาคตของตน และของสังคมไทยที่รักของเราทุกคน.”
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๘ ความว่า “เด็กๆ คงเคยได้ยินคำว่า “อิทธิฤทธิ์” และใฝ่ฝันจะมีอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลสรรพสิ่งให้สำเร็จได้ดังใจปรารถนากันมาแล้วทุกคน อันที่จริงแล้วคำว่า “อิทธิ” กับ “ฤทธิ” นั้นเป็นคำที่มีความหมายอย่างเดียวกัน แปลว่า ความสำเร็จ ถ้าจะกล่าวในทางพระพุทธศาสนา ผู้ประสงค์จะประสบความสำเร็จในกิจใด ตั้งแต่ในชั้นต้นทางโลก เช่น เรียนเก่ง ร่ำรวย เฉลียวฉลาด มีตำแหน่งหน้าที่การงานตามที่ปรารถนา กระทั่งถึงชั้นที่ยากยิ่งขึ้นไปในทางธรรมะ เช่น การมีปัญญารู้แจ้งเห็นจริง ได้มรรคผลเป็นพระอริยบุคคลไปตามลำดับ จำเป็นต้องอบรมเจริญคุณธรรมที่เรียกว่า “อิทธิบาท ๔” ด้วยกันทั้งสิ้น อิทธิบาททั้ง ๔ ข้อนั้นประกอบด้วย ฉันทะ คือความพอใจรักที่จะทำสิ่งนั้น, วิริยะ คือความขยันหมั่นเพียร อดทน ไม่ท้อถอย, จิตตะ คือการตั้งจิตจดจ่อในสิ่งที่ทำ และ วิมังสา คือปัญญาพิจารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล รู้เท่าทัน เห็นข้อยิ่งข้อหย่อนในสิ่งที่ทำนั้น รู้จักวางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุงเสมอ ขอจงสังเกตให้เห็นชัดว่าในอิทธิบาท ๔ นั้น ไม่มีคำว่าร้องขอ อ้อนวอน เบื่อหน่าย เกียจคร้าน ท้อถอย เลื่อนลอย ไม่มีสมาธิ สะเพร่า และไม่รอบคอบ เพราะฉะนั้น ขอให้เด็ก ๆ จงพัฒนาตนให้เป็นผู้ประกอบฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อย่างสมดุลในทุกการคิด การพูด และการกระทำ อย่าเป็นคนมักง่าย ใจเร็ว ด่วนได้ อย่ามุ่งคว้าเอาแต่ผลได้ โดยไม่คำนึงถึงการสร้างเหตุดีที่ชอบธรรม ขอให้มั่นในอิทธิบาท อันมีพลังอานุภาพวิเศษ ช่วยให้ทุกคนประสบความสำเร็จในสิ่งดีงามได้สมดังใจปรารถนา ขออำนวยพรให้เด็กและเยาวชนทุกคน เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ในสุจริตธรรม เพราะการครองอิทธิบาท ๔ โดยครบถ้วนสมบูรณ์ ขอจงรักษาเพิ่มพูนคุณลักษณะความเป็นผู้มีความรู้คู่คุณธรรม เพื่ออนาคตของตน และของสังคมไทยที่รักของเราทุกคน.”
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : ย้อนคำพูด "เศรษฐา" สะท้อนมุมมอง ความคิด และความจริงในสังคมไทย
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #เศรษฐา
    Newsstory : ย้อนคำพูด "เศรษฐา" สะท้อนมุมมอง ความคิด และความจริงในสังคมไทย #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #เศรษฐา
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 719 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • ในสังคมไทยสมัยนี้ ยังมีคนดีเหลืออยู่ ถึงแม้ว่าจะมีเหลืออยู่เพียงแค่หยิบมือเดียวก็ตามที แต่เพราะการทำความดีของเค้าเหล่านั้น มันก็ทำให้โลกนี้โดยเฉพาะสังคมไทยมันยังน่าอยู่มากขึ้น และยังมีความหวังและความสุขอยู่บ้าง สาธุ กับคนดีที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนในสังคมไทย ความดีไม่เคยไปไหน ความดีจะคอยคุ้มครองคนดีอยู่เสมอๆ ขอขอบคุณคุณที่เป็นคนดี ขอบคุณครับ ที่ช่วยเหลือผู้พิการนะครับ ใช่ว่าเค้าอยากจะเกิดมาพิการ ผู้พิการน่าสงสาร พวกเค้าก็มีหัวใจเหมือนกัน แถมยังเป็นคนดีกว่าคนปกติทั่วไปเยอะมาก ไม่เหมือนกันกับคนปกติ ที่ทำตัวพิการดวงใจมืดบอด เห็นแล้วก็สาธุ ขอขอบคุณคุณที่ช่วยเหลือผู้พิการดวงตาบอด แต่ใจไม่บอดนะครับผม ผมขอให้คุณโชคดีและมีความสุขนะครับ
    ในสังคมไทยสมัยนี้ ยังมีคนดีเหลืออยู่ ถึงแม้ว่าจะมีเหลืออยู่เพียงแค่หยิบมือเดียวก็ตามที แต่เพราะการทำความดีของเค้าเหล่านั้น มันก็ทำให้โลกนี้โดยเฉพาะสังคมไทยมันยังน่าอยู่มากขึ้น และยังมีความหวังและความสุขอยู่บ้าง สาธุ กับคนดีที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนในสังคมไทย ความดีไม่เคยไปไหน ความดีจะคอยคุ้มครองคนดีอยู่เสมอๆ ขอขอบคุณคุณที่เป็นคนดี ขอบคุณครับ ที่ช่วยเหลือผู้พิการนะครับ ใช่ว่าเค้าอยากจะเกิดมาพิการ ผู้พิการน่าสงสาร พวกเค้าก็มีหัวใจเหมือนกัน แถมยังเป็นคนดีกว่าคนปกติทั่วไปเยอะมาก ไม่เหมือนกันกับคนปกติ ที่ทำตัวพิการดวงใจมืดบอด เห็นแล้วก็สาธุ ขอขอบคุณคุณที่ช่วยเหลือผู้พิการดวงตาบอด แต่ใจไม่บอดนะครับผม ผมขอให้คุณโชคดีและมีความสุขนะครับ
    พนักงานร้านสุกี้ตี๋น้อย ดูแลลูกค้าตาบอด เห็นแล้วใจฟู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 84 0 รีวิว
  • ความพิกลของสังคมตลาดล่าง กับสวนสัตว์มนุษย์
    การตุยของแบงก์เลสเตอร์ สะท้อนความพิกลพิการของสังคมไทยในหลายมิติเช่นเรื่องของคอนเทนต์ขยะ เอาใจตลาดล่างที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย มีดัชนีชี้วัดความสําเร็จเป็นยอดวิวยอดไลก์ที่คอนเทนต์กากกาก พวกนี้โกยรัวรัว
    คนสมัยนี้คิดแกล้งกันแรงแรง เหยียบย่ําความเป็นมนุษย์แทบไม่เหลือศักดิ์ศรีของคนโดนใจคนไทยเรียกเสียงฮาเป็นคลิปที่ได้ยอดวิวยอดไลก์สูง นี่แหละที่เป็นความประหลาดผิดเพี้ยนของสังคม เวลาแบงค์เลสเตอร์โดนแกล้งเพื่อทําเป็นคอนเทนต์ขยะ จะเห็นเลยว่าคนแกล้งจะหัวเราะสนุกสนานกันจริงจัง
    ส่งต่อความสนุกเกรดต่ําพวกนี้ไปสู่ผู้ชมในโลกโซเชียลเมื่อมีการขุดคลิปย้อนหลังมาดูกันจะเห็นเลยว่าคอนเทนต์ขยะแนวที่เรียกว่า ฮิวแมนซู อย่างที่แบงก์เลสเตอร์เป็นพระเอกนั้นมันดูน่าอนาถน่าสงสารจับใจ
    ความยากจนของแบงก์เลสเตอร์ทําให้เขาต้องตกเป็นเบี้ยล่างของคนมีเงิน ที่ไร้รสนิยมทั้งโขยง เอาเงินมาเป็นตัวล่อให้เขาต้องยอมทําเรื่องบ้าบ้าบอบอเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน
    จากเด็กกตัญญูขายพวงมาลัยเลี้ยงยาย แบงก์เลสเตอร์ประสบความสําเร็จในการสร้างตัวตนให้กลายเป็นแร็ปเปอร์ขายพวงมาลัยตั้งแต่ประมาณสี่ปีก่อน ทั้งที่มีความเอ๋อๆ อยู่บ้างแต่เขาก็มีความสามารถในการร้องเพลงแร็ปจนลูกค้ายอมควักเงินอุดหนุนพวงมาลัยเพราะประทับใจในความสามารถส่วนนี้
    แต่อาชีพขายพวงมาลัยก็คือขายพวงมาลัย แบงค์เลสเตอร์พยายามผลักดันตัวเองไปสู่ชีวิตอีกระดับที่ดีกว่าถึงขั้นได้ออกรายการตี 10 ให้พิธีกร ซักถามพูดคุยอย่างออกรสมาแล้วแต่เทปนั้นของตีสิบมีปัญหาอย่างแรงจนวิทวัสต้องสั่งลบทิ้งในเวลาต่อมา
    เหตุจากแบงก์เลสเตอร์โม้ออกทีวีเพลินเกินจริงไปเยอะ เช่นอ้างว่าได้เล่นหนังของพจน์อานนท์ รู้จักกับซุปตาร์ อย่างณเดชน์และญาญ่า อ้างว่าพี่เบิร์ดธงชัยชวนขึ้นเวทีคอนเสิร์ตตลอดจนจะได้ไปแสดงคอนเสิร์ตกับมิลลิแร็ปเปอร์หญิงดังถึงต่างประเทศ
    แบงก์เลสเตอร์ต้องร่วงลงมาที่เดิมเพราะมีปัญหาแยกไม่ออกระหว่างโลกความจริงกับจินตนาการส่วนตัว ก็มีผลให้แบงก์เลสเตอร์ต้องกลับมาหากินแถวตลาดล่างเหมือนเดิม จนมาถึงการจ้างซดเหล้าสามแบรนด์แบรนด์ละหนึ่งหมื่นบาท แล้วฤทธิ์เล่าปริมาณมากที่เข้าสู่ร่างกายในเวลาอันสั้นก็คร่าชีวิตเขาไปจบสิ้นชีวิตอินฟลูผู้น่าสงสารในวัยแค่ยี่สิบเอ็ดปี
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ความพิกลของสังคมตลาดล่าง กับสวนสัตว์มนุษย์ การตุยของแบงก์เลสเตอร์ สะท้อนความพิกลพิการของสังคมไทยในหลายมิติเช่นเรื่องของคอนเทนต์ขยะ เอาใจตลาดล่างที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย มีดัชนีชี้วัดความสําเร็จเป็นยอดวิวยอดไลก์ที่คอนเทนต์กากกาก พวกนี้โกยรัวรัว คนสมัยนี้คิดแกล้งกันแรงแรง เหยียบย่ําความเป็นมนุษย์แทบไม่เหลือศักดิ์ศรีของคนโดนใจคนไทยเรียกเสียงฮาเป็นคลิปที่ได้ยอดวิวยอดไลก์สูง นี่แหละที่เป็นความประหลาดผิดเพี้ยนของสังคม เวลาแบงค์เลสเตอร์โดนแกล้งเพื่อทําเป็นคอนเทนต์ขยะ จะเห็นเลยว่าคนแกล้งจะหัวเราะสนุกสนานกันจริงจัง ส่งต่อความสนุกเกรดต่ําพวกนี้ไปสู่ผู้ชมในโลกโซเชียลเมื่อมีการขุดคลิปย้อนหลังมาดูกันจะเห็นเลยว่าคอนเทนต์ขยะแนวที่เรียกว่า ฮิวแมนซู อย่างที่แบงก์เลสเตอร์เป็นพระเอกนั้นมันดูน่าอนาถน่าสงสารจับใจ ความยากจนของแบงก์เลสเตอร์ทําให้เขาต้องตกเป็นเบี้ยล่างของคนมีเงิน ที่ไร้รสนิยมทั้งโขยง เอาเงินมาเป็นตัวล่อให้เขาต้องยอมทําเรื่องบ้าบ้าบอบอเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน จากเด็กกตัญญูขายพวงมาลัยเลี้ยงยาย แบงก์เลสเตอร์ประสบความสําเร็จในการสร้างตัวตนให้กลายเป็นแร็ปเปอร์ขายพวงมาลัยตั้งแต่ประมาณสี่ปีก่อน ทั้งที่มีความเอ๋อๆ อยู่บ้างแต่เขาก็มีความสามารถในการร้องเพลงแร็ปจนลูกค้ายอมควักเงินอุดหนุนพวงมาลัยเพราะประทับใจในความสามารถส่วนนี้ แต่อาชีพขายพวงมาลัยก็คือขายพวงมาลัย แบงค์เลสเตอร์พยายามผลักดันตัวเองไปสู่ชีวิตอีกระดับที่ดีกว่าถึงขั้นได้ออกรายการตี 10 ให้พิธีกร ซักถามพูดคุยอย่างออกรสมาแล้วแต่เทปนั้นของตีสิบมีปัญหาอย่างแรงจนวิทวัสต้องสั่งลบทิ้งในเวลาต่อมา เหตุจากแบงก์เลสเตอร์โม้ออกทีวีเพลินเกินจริงไปเยอะ เช่นอ้างว่าได้เล่นหนังของพจน์อานนท์ รู้จักกับซุปตาร์ อย่างณเดชน์และญาญ่า อ้างว่าพี่เบิร์ดธงชัยชวนขึ้นเวทีคอนเสิร์ตตลอดจนจะได้ไปแสดงคอนเสิร์ตกับมิลลิแร็ปเปอร์หญิงดังถึงต่างประเทศ แบงก์เลสเตอร์ต้องร่วงลงมาที่เดิมเพราะมีปัญหาแยกไม่ออกระหว่างโลกความจริงกับจินตนาการส่วนตัว ก็มีผลให้แบงก์เลสเตอร์ต้องกลับมาหากินแถวตลาดล่างเหมือนเดิม จนมาถึงการจ้างซดเหล้าสามแบรนด์แบรนด์ละหนึ่งหมื่นบาท แล้วฤทธิ์เล่าปริมาณมากที่เข้าสู่ร่างกายในเวลาอันสั้นก็คร่าชีวิตเขาไปจบสิ้นชีวิตอินฟลูผู้น่าสงสารในวัยแค่ยี่สิบเอ็ดปี ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ชีวิตดี๊ดีตั้งแต่ปี64-67
    กับความมั่นใจ ว่ารอดได้เสมอ
    ศึกษาเส้นทาง เรียนรู้การเป็นมิ๊จมาอย่างดี
    ตุ๋นแบบไหน เจรจายังไงให้รอด R YA
    ดึงเกมส์ยังไง กล่อมแบบไหน
    สุดท้าย ผสห เพียบ วันนี้มารวมตัวกันแล้ว
    แม้กระทั่ง ทะนายเจมส์ก็ยังมาร่วมวงทำ KaDEE
    ทุกวันนี้ ขนาด รง ถูกข๋ายทอดตลาด โดยกรมบังคับ KADEE
    บช ถูก R ยัติ และหนี๋หม๋ายเรียก แบบชัดเจน
    แต่ก็ยังมีกลุ่มทุย คงเชื่อ และเชียร์ อย่างไม่ลืมหูลืมตา
    ไม่ยอมอยู่บนโลกแห่งควาเป็นจริง
    เข้าใจความรู้สึก ของ ผสห จริงๆ
    ตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา กับพฤติกรรมของแฝด
    ที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหม๋าย ตุ๋นแล้ว ตุ๋นอีก ตุ๋นใหม่
    เปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆ ยังลอยหน้าลอยตาในสังคมไทย
    ชีวิตดี๊ดี กำลังจะจบละ
    อี SUS
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ชีวิตดี๊ดีตั้งแต่ปี64-67 กับความมั่นใจ ว่ารอดได้เสมอ ศึกษาเส้นทาง เรียนรู้การเป็นมิ๊จมาอย่างดี ตุ๋นแบบไหน เจรจายังไงให้รอด R YA ดึงเกมส์ยังไง กล่อมแบบไหน สุดท้าย ผสห เพียบ วันนี้มารวมตัวกันแล้ว แม้กระทั่ง ทะนายเจมส์ก็ยังมาร่วมวงทำ KaDEE ทุกวันนี้ ขนาด รง ถูกข๋ายทอดตลาด โดยกรมบังคับ KADEE บช ถูก R ยัติ และหนี๋หม๋ายเรียก แบบชัดเจน แต่ก็ยังมีกลุ่มทุย คงเชื่อ และเชียร์ อย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่ยอมอยู่บนโลกแห่งควาเป็นจริง เข้าใจความรู้สึก ของ ผสห จริงๆ ตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา กับพฤติกรรมของแฝด ที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหม๋าย ตุ๋นแล้ว ตุ๋นอีก ตุ๋นใหม่ เปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆ ยังลอยหน้าลอยตาในสังคมไทย ชีวิตดี๊ดี กำลังจะจบละ อี SUS #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไตรรงค์ นำตร.ไซเบอร์ ปราบคอนเทนต์ขยะ ดับซ่า แอล โอรส
    .
    การตายสุดดราม่าของ “แบงค์ เลสเตอร์” ที่ตกเป็นเหยื่อของ “คอนเทนต์ขยะ” จนต้องสังเวยชีวิต
    ไปๆ มาๆ บานปลาย มีคนที่ต้องโดนคดีต่อเนื่องเป็นลูกโซ่
    .
    ไม่ใช่แค่แก๊งอินฟลูฯ เจ้าของคอนเทนต์ขยะเท่านั้น แต่ลามไปถึงคนที่เข้ามาล้างแค้นให้ แบงค์ เลสเตอร์ ด้วย
    .
    คนๆ นั้น ก็คือ นักเลงดังนาม “แอล โอรส” เจ้าของฉายา “รถถังฝั่งธน” ซึ่งปรากฏตัวที่วัดออเงิน ในงานศพวันแรกของแบงค์ เลสเตอร์ พร้อมกับชาวแก๊งตัวลายพร้อย
    แอล โอรส ประกาศจองกฐิน “เบิร์ด วันว่างๆ” กลางวัด โทษฐานที่เบิร์ดเป็นตัวพ่อของคอนเทนต์ขยะ ชอบเอาแบงค์ เลสเตอร์ เป็นตัวชูโรง
    .
    แม้ “เบิร์ด วันว่างๆ” จะนกรู้ไม่ยอมย่างกรายไปวัด แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รอดอยู่ดี โดนชาวแก๊ง ตามไปยำตีน ถ่ายคลิปเอามาแพร่
    .
    พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ เลยต้องออกโรง ใช้กฎหมายดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
    ไล่ตั้งแต่พวกทำคอนเทนต์ขยะ อย่าง “เบิร์ด วันว่างๆ” หรือนายธีระวัฒน์ ศรีรอง โดนข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีลักษณะอันลามก
    .
    เพราะตำรวจเจอหลักฐาน เบิร์ดโพสต์ภาพแบงค์ เลสเตอร์ โดนกลั่นแกล้งให้เปลือยกายล่อนจ้อน
    และ บก.ปคม. ก็จะจัดการ “เบิร์ด วันว่างๆ” ข้อหาค้ามนุษย์ด้วย เนื่องจากเห็นว่าได้รับประโยชน์โดยมิชอบ จากการแพร่ภาพเปลือยของแบงค์ เลสเตอร์
    .
    ส่วน “เอ็ม เอกชาติ” หรือนายเอกชาติ มีพร้อม ที่จ้างแบงค์ เลสเตอร์ กินเหล้า จนเสียชีวิต โดนข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
    พ่วงด้วยข้อหาโฆษณาเว็บพนัน เพราะมีพฤติกรรมแปะลิงค์เชิญชวนเล่นพนัน บนคอนเทนต์ขยะของตัว
    .
    ทั้งนี้ ประวัติของเอ็ม เอกชาติ เป็นคนสีเทาชัดเจน เคยถูก ป.ป.ง. ยึดทรัพย์รถซุเปอร์คาร์และอื่นๆ รวม 45 ล้านบาท
    จากพฤติกรรมเป็นเครือข่ายให้เว็บพนันของ “อั้ม” นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ สามีของนางเอก “แยม” ธมลพรรณ ซึ่งตอนนี้ สองผัวเมียก็ยังติดคุกคดีเว็บพนันอยู่
    .
    ตำรวจไซเบอร์ ยังตามไปจัดการนักเลงอย่างแอล โอรส หรือนายศราวุธ ศรีกำเนิด เอาผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการปล่อยคลิปยำตีนเบิร์ด วันว่างๆ
    .
    ส่วนตำรวจนครบาลก็มุ่งขยายผล เอาผิดข้อหาทำร้ายร่างกายเบิร์ด วันว่างๆ เบื้องต้น เหยื่อตีนอ้างว่า จำได้ มีใครบ้างที่ทำร้ายเขา
    .
    นี่คือบทบาทที่น่าชื่นชมของ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ผู้มาใหม่ อย่าง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ที่รีบใช้กฎหมายออกมาปรามอย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เหล่าคนสีเทา แสดงตัวครองเมือง จัดการกันเอง
    จนเป็น “คอนเทนต์ขยะ” ซ้อน “คอนเทนต์ขยะ” แบบว่า มึงรังแกคนอ่อนแอก่อนเหรอ กูก็จะมารังแกมึงมั่ง ถ่ายคลิปมั่ง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
    .
    ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ถือเป็นหน้าตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กล้าในการนำทีมบุกค้นบ้านของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ซึ่งชื่อชั้นใหญ่กว่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ อย่างเทียบกันไม่ได้
    .
    งานแบบนี้ ไม่กล้าหาญจริง ทำไม่ได้ และหากพยานหลักฐานไม่แน่นหนาเพียงพอจะมัดบิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ก็มีสิทธิ์ถูกเอาคืนถึงหมดอนาคต
    .
    แต่รู้ทั้งรู้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ก็กล้าเดินเข้าบ้านบิ๊กโจ๊ก และเก็บหลักฐานสำคัญในคดีฟอกเงินและรับส่วยเว็บพนัน กลับออกมาเพียบ
    .
    ทั้งนี้ การตายของแบงค์ เลสเตอร์ อย่างน้อยก็มีคุณูปการต่อสังคมไทย ไม่ใช่การตายที่สูญเปล่า
    เพราะช่วยเปิดโปงให้เห็นถึงเครือข่ายคนสีเทา ที่มีวิธีการปั่นกระแสด้วยชีวิตคน เพื่อโกยเงินจากการพนันออนไลน์
    .
    เปิดโอกาสให้ตำรวจไซเบอร์เข้าไปกวาดล้างคนสีเทาพวกนี้ ไม่ให้ลอยหน้าลอยตา เป็นคนเด่นดัง ทั้งที่ก่อกรรมทำเข็ญกับชีวิตคน และหากินกับความฉิบหายของลูกหลานไทย
    ..............
    Sondhi X
    ไตรรงค์ นำตร.ไซเบอร์ ปราบคอนเทนต์ขยะ ดับซ่า แอล โอรส . การตายสุดดราม่าของ “แบงค์ เลสเตอร์” ที่ตกเป็นเหยื่อของ “คอนเทนต์ขยะ” จนต้องสังเวยชีวิต ไปๆ มาๆ บานปลาย มีคนที่ต้องโดนคดีต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ . ไม่ใช่แค่แก๊งอินฟลูฯ เจ้าของคอนเทนต์ขยะเท่านั้น แต่ลามไปถึงคนที่เข้ามาล้างแค้นให้ แบงค์ เลสเตอร์ ด้วย . คนๆ นั้น ก็คือ นักเลงดังนาม “แอล โอรส” เจ้าของฉายา “รถถังฝั่งธน” ซึ่งปรากฏตัวที่วัดออเงิน ในงานศพวันแรกของแบงค์ เลสเตอร์ พร้อมกับชาวแก๊งตัวลายพร้อย แอล โอรส ประกาศจองกฐิน “เบิร์ด วันว่างๆ” กลางวัด โทษฐานที่เบิร์ดเป็นตัวพ่อของคอนเทนต์ขยะ ชอบเอาแบงค์ เลสเตอร์ เป็นตัวชูโรง . แม้ “เบิร์ด วันว่างๆ” จะนกรู้ไม่ยอมย่างกรายไปวัด แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รอดอยู่ดี โดนชาวแก๊ง ตามไปยำตีน ถ่ายคลิปเอามาแพร่ . พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ เลยต้องออกโรง ใช้กฎหมายดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไล่ตั้งแต่พวกทำคอนเทนต์ขยะ อย่าง “เบิร์ด วันว่างๆ” หรือนายธีระวัฒน์ ศรีรอง โดนข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีลักษณะอันลามก . เพราะตำรวจเจอหลักฐาน เบิร์ดโพสต์ภาพแบงค์ เลสเตอร์ โดนกลั่นแกล้งให้เปลือยกายล่อนจ้อน และ บก.ปคม. ก็จะจัดการ “เบิร์ด วันว่างๆ” ข้อหาค้ามนุษย์ด้วย เนื่องจากเห็นว่าได้รับประโยชน์โดยมิชอบ จากการแพร่ภาพเปลือยของแบงค์ เลสเตอร์ . ส่วน “เอ็ม เอกชาติ” หรือนายเอกชาติ มีพร้อม ที่จ้างแบงค์ เลสเตอร์ กินเหล้า จนเสียชีวิต โดนข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พ่วงด้วยข้อหาโฆษณาเว็บพนัน เพราะมีพฤติกรรมแปะลิงค์เชิญชวนเล่นพนัน บนคอนเทนต์ขยะของตัว . ทั้งนี้ ประวัติของเอ็ม เอกชาติ เป็นคนสีเทาชัดเจน เคยถูก ป.ป.ง. ยึดทรัพย์รถซุเปอร์คาร์และอื่นๆ รวม 45 ล้านบาท จากพฤติกรรมเป็นเครือข่ายให้เว็บพนันของ “อั้ม” นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ สามีของนางเอก “แยม” ธมลพรรณ ซึ่งตอนนี้ สองผัวเมียก็ยังติดคุกคดีเว็บพนันอยู่ . ตำรวจไซเบอร์ ยังตามไปจัดการนักเลงอย่างแอล โอรส หรือนายศราวุธ ศรีกำเนิด เอาผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการปล่อยคลิปยำตีนเบิร์ด วันว่างๆ . ส่วนตำรวจนครบาลก็มุ่งขยายผล เอาผิดข้อหาทำร้ายร่างกายเบิร์ด วันว่างๆ เบื้องต้น เหยื่อตีนอ้างว่า จำได้ มีใครบ้างที่ทำร้ายเขา . นี่คือบทบาทที่น่าชื่นชมของ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ผู้มาใหม่ อย่าง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ที่รีบใช้กฎหมายออกมาปรามอย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เหล่าคนสีเทา แสดงตัวครองเมือง จัดการกันเอง จนเป็น “คอนเทนต์ขยะ” ซ้อน “คอนเทนต์ขยะ” แบบว่า มึงรังแกคนอ่อนแอก่อนเหรอ กูก็จะมารังแกมึงมั่ง ถ่ายคลิปมั่ง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง . ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ถือเป็นหน้าตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กล้าในการนำทีมบุกค้นบ้านของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ซึ่งชื่อชั้นใหญ่กว่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ อย่างเทียบกันไม่ได้ . งานแบบนี้ ไม่กล้าหาญจริง ทำไม่ได้ และหากพยานหลักฐานไม่แน่นหนาเพียงพอจะมัดบิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ก็มีสิทธิ์ถูกเอาคืนถึงหมดอนาคต . แต่รู้ทั้งรู้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ก็กล้าเดินเข้าบ้านบิ๊กโจ๊ก และเก็บหลักฐานสำคัญในคดีฟอกเงินและรับส่วยเว็บพนัน กลับออกมาเพียบ . ทั้งนี้ การตายของแบงค์ เลสเตอร์ อย่างน้อยก็มีคุณูปการต่อสังคมไทย ไม่ใช่การตายที่สูญเปล่า เพราะช่วยเปิดโปงให้เห็นถึงเครือข่ายคนสีเทา ที่มีวิธีการปั่นกระแสด้วยชีวิตคน เพื่อโกยเงินจากการพนันออนไลน์ . เปิดโอกาสให้ตำรวจไซเบอร์เข้าไปกวาดล้างคนสีเทาพวกนี้ ไม่ให้ลอยหน้าลอยตา เป็นคนเด่นดัง ทั้งที่ก่อกรรมทำเข็ญกับชีวิตคน และหากินกับความฉิบหายของลูกหลานไทย .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1287 มุมมอง 0 รีวิว
  • บุคคลเปราะบาง เหยื่อคอนเทนต์

    การเสียชีวิตของนายธนาคาร คันธี หรือแบงค์ เลสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์วัย 27 ปี เมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 26 ธ.ค. 2567 หลังรับคำท้าดื่มสุรา 350 มิลลิลิตรแบบรวดเดียวหมดแบน เพื่อแลกกับเงิน 30,000 บาท แล้วเกิดพิษแอลกอฮอล์เฉียบพลัน ภายในงานเลี้ยงร้านออมสินการเกษตร ของนายเอกชาติ มีพร้อม หรือเอ็ม เอกชาติ ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งวันเกิดเหตุ แบงค์ เลสเตอร์ มากับนายธีระวัฒน์ ศรีรอด หรือเบิร์ด วันว่างๆ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง

    ที่น่าเศร้าก็คือ ครั้งหนึ่งแบงค์ เลสเตอร์ เคยโพสต์ข้อความว่า "ชีวิตคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ ผมยอมโดนแกล้ง ยอมโดนดูถูก เพื่อแลกกับเงินมาจุนเจือครอบครัว" พร้อมกับคลิปที่ตัวเองโดนแกล้งเอาแตงโมมาลูบหน้าบนช่องติ๊กต็อกเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 สังคมไทยเริ่มตื่นรู้กับพฤติกรรมที่เรียกว่าสวนสัตว์มนุษย์ (Human Zoo) ยุคนี้หมายถึงการนำบุคคลเปราะบางมากลั่นแกล้งแล้วผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง แลกกับชื่อเสียงในวงการและรายได้ที่ตามมา

    ที่ผ่านมามีวีดีโอคลิปที่แบงค์ เลสเตอร์ ถูกอินฟลูเอนเซอร์บางคนกลั่นแกล้งเพื่อความสนุกในรูปแบบต่างๆ ทั้งการทำร้ายร่างกายหรือปะทะด้วยสิ่งของ การบังคับให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินเจลหล่อลื่นที่ใช้ในการเพศสัมพันธ์ การนำปัสสาวะผสมเบียร์แล้วหลอกให้ดื่ม ต่างกรรมต่างวาระ แม้จะอ้างได้ว่าแบงค์ เลสเตอร์ ยินยอม แต่เป็นการยินยอมในลักษณะทำเพื่อเงิน ถูกบังคับทางอ้อมเพราะเป็นบุคคลเปราะบาง

    ที่น่าเศร้าก็คือ ยังมีคนที่เสพคอนเทนต์แบบนี้ เคยเหยียดบุคคลเปราะบาง เคยกดถูกใจ กดไลค์กดแชร์เพราะตลกขบขัน สะใจ ให้ความบันเทิงสนุกสนาน ไร้การกลั่นกรอง ปราศจากความรับผิดชอบ หนำซ้ำอัลกอริทึม (Algorithm) ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้อินฟลูเอนเซอร์ผู้กระทำมีชื่อเสียงขึ้นมา โซเชียลมีเดียตะวันตกแทบทุกค่าย ล้วนคัดเลือกคอนเทนต์เฉพาะสิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจ หรืออยากรู้อยากเห็น แล้วระบบจะปรับจูนให้ ในขณะที่คอนเทนต์ดีๆ ถ้าไม่ใช้เงินซื้อจำนวนมากก็แทบถูกปิดกั้น

    เมื่อยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดวิว ทำให้อินฟลูเอนเซอร์บางคนหิวกระหาย ทำอะไรก็ได้เพื่อให้มีคนดู แต่ลืมความเป็นมนุษย์ จึงเกิดเหตุสลดขึ้นถึงขั้นพรากชีวิตไป แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้เลิกสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อเยาวชนและสังคม หันมาสนับสนุนคนทำคอนเทนต์ดีๆ แต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่ดันให้ หนำซ้ำสังคมไทยเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล ปากบอกว่าไม่แต่ใจถลำลึก วันเวลาผ่านไปเมื่อมีเหตุการณ์ใหม่เข้ามา สุดท้ายเรื่องนี้ก็ถูกลืมจากสังคม จางหายไปกับสายลมเช่นเคย

    #Newskit
    บุคคลเปราะบาง เหยื่อคอนเทนต์ การเสียชีวิตของนายธนาคาร คันธี หรือแบงค์ เลสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์วัย 27 ปี เมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 26 ธ.ค. 2567 หลังรับคำท้าดื่มสุรา 350 มิลลิลิตรแบบรวดเดียวหมดแบน เพื่อแลกกับเงิน 30,000 บาท แล้วเกิดพิษแอลกอฮอล์เฉียบพลัน ภายในงานเลี้ยงร้านออมสินการเกษตร ของนายเอกชาติ มีพร้อม หรือเอ็ม เอกชาติ ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งวันเกิดเหตุ แบงค์ เลสเตอร์ มากับนายธีระวัฒน์ ศรีรอด หรือเบิร์ด วันว่างๆ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่น่าเศร้าก็คือ ครั้งหนึ่งแบงค์ เลสเตอร์ เคยโพสต์ข้อความว่า "ชีวิตคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ ผมยอมโดนแกล้ง ยอมโดนดูถูก เพื่อแลกกับเงินมาจุนเจือครอบครัว" พร้อมกับคลิปที่ตัวเองโดนแกล้งเอาแตงโมมาลูบหน้าบนช่องติ๊กต็อกเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 สังคมไทยเริ่มตื่นรู้กับพฤติกรรมที่เรียกว่าสวนสัตว์มนุษย์ (Human Zoo) ยุคนี้หมายถึงการนำบุคคลเปราะบางมากลั่นแกล้งแล้วผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง แลกกับชื่อเสียงในวงการและรายได้ที่ตามมา ที่ผ่านมามีวีดีโอคลิปที่แบงค์ เลสเตอร์ ถูกอินฟลูเอนเซอร์บางคนกลั่นแกล้งเพื่อความสนุกในรูปแบบต่างๆ ทั้งการทำร้ายร่างกายหรือปะทะด้วยสิ่งของ การบังคับให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินเจลหล่อลื่นที่ใช้ในการเพศสัมพันธ์ การนำปัสสาวะผสมเบียร์แล้วหลอกให้ดื่ม ต่างกรรมต่างวาระ แม้จะอ้างได้ว่าแบงค์ เลสเตอร์ ยินยอม แต่เป็นการยินยอมในลักษณะทำเพื่อเงิน ถูกบังคับทางอ้อมเพราะเป็นบุคคลเปราะบาง ที่น่าเศร้าก็คือ ยังมีคนที่เสพคอนเทนต์แบบนี้ เคยเหยียดบุคคลเปราะบาง เคยกดถูกใจ กดไลค์กดแชร์เพราะตลกขบขัน สะใจ ให้ความบันเทิงสนุกสนาน ไร้การกลั่นกรอง ปราศจากความรับผิดชอบ หนำซ้ำอัลกอริทึม (Algorithm) ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้อินฟลูเอนเซอร์ผู้กระทำมีชื่อเสียงขึ้นมา โซเชียลมีเดียตะวันตกแทบทุกค่าย ล้วนคัดเลือกคอนเทนต์เฉพาะสิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจ หรืออยากรู้อยากเห็น แล้วระบบจะปรับจูนให้ ในขณะที่คอนเทนต์ดีๆ ถ้าไม่ใช้เงินซื้อจำนวนมากก็แทบถูกปิดกั้น เมื่อยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดวิว ทำให้อินฟลูเอนเซอร์บางคนหิวกระหาย ทำอะไรก็ได้เพื่อให้มีคนดู แต่ลืมความเป็นมนุษย์ จึงเกิดเหตุสลดขึ้นถึงขั้นพรากชีวิตไป แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้เลิกสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อเยาวชนและสังคม หันมาสนับสนุนคนทำคอนเทนต์ดีๆ แต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่ดันให้ หนำซ้ำสังคมไทยเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล ปากบอกว่าไม่แต่ใจถลำลึก วันเวลาผ่านไปเมื่อมีเหตุการณ์ใหม่เข้ามา สุดท้ายเรื่องนี้ก็ถูกลืมจากสังคม จางหายไปกับสายลมเช่นเคย #Newskit
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใคร...คนใดยังเชื่อคำพูดของทักษิณอยู่ เขามิใช่ควาย มิใช่วรนุช แค่เป็นคนมีมิจฉาทิฏฐิหรือเป็นคนเห็นผิด เพราะมีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก จึงมืดบอด มองไม่เห็นความจริงเช่นเดียวกับทักษิณ นั้นเอง

    คนมืดบอดพวกนี้ ไม่เชื่อกฏแห่งกรรม ไม่เชื่อว่าโลกนี้โลกหน้ามี รวมทั้งเชื่อว่า เงินสามารถซื้อได้ทุกอย่าง รวมทั้งซื้อความไม่ตายของตนได้ จึงออวดุตริแข่งบารมีกับพระเจ้าแผ่นดิน

    ผู้หลงงมงายเพราะโง่(ไม่รู้:มีอวิชชา)แบบทักษิณ อุบัติขึ้นในสังคมไทย เพราะกรรมเก่า เปิดโอกาสให้เขาได้สร้างกรรมดีเพื่อให้ได้ผลและอนิสงค์ใหญ่ แต่เขามองไม่เห็นธรรม มองไม่เห็นความจริงของธรรมชาติ ไม่เห็นอริยสัจ ๔ จึงเป็นได้แค่ตัวเทียบเปรียบคนเลวกับคนดีในสังคม ให้เห็นชัดขึ้นเท่านั้น

    ทักษิณจะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างในแผ่นดินไทยได้จริงหรือ ?...คนไทยอย่าได้กังวล มันเป็นไปได้แค่ความเพ้อฝันของคนโง่เท่านั้น ตราบใดที่เราเชื่อว่า แผ่นดินไทย เป็นแผ่นดินทอง ที่บรรพบุรุษปกป้องรักษาไว้ให้ลูกหลาน ทักษิณก็จะไม่มีวันเป็นเจ้าของได้เพียงลำพังเด็ดขาด แม้แต่เหรียญบาท เขาก็เอาไปไม่ได้....วันนี้ ทักษิณกำลังแสดงบทบาทฉากสุดท้าย ก่อนปิดจบชีวิต ให้คนไทยเห็นและตระหนัด ว่า หากเราอยากมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกิน มีใช้ และอยากมีความสุขสงบเย็น อย่าเลือกคนทุจริตทางกาย วาจา ใจ แบยทักษิณให้มีอำนาจบริหารบ้านเมือง !
    ใคร...คนใดยังเชื่อคำพูดของทักษิณอยู่ เขามิใช่ควาย มิใช่วรนุช แค่เป็นคนมีมิจฉาทิฏฐิหรือเป็นคนเห็นผิด เพราะมีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก จึงมืดบอด มองไม่เห็นความจริงเช่นเดียวกับทักษิณ นั้นเอง คนมืดบอดพวกนี้ ไม่เชื่อกฏแห่งกรรม ไม่เชื่อว่าโลกนี้โลกหน้ามี รวมทั้งเชื่อว่า เงินสามารถซื้อได้ทุกอย่าง รวมทั้งซื้อความไม่ตายของตนได้ จึงออวดุตริแข่งบารมีกับพระเจ้าแผ่นดิน ผู้หลงงมงายเพราะโง่(ไม่รู้:มีอวิชชา)แบบทักษิณ อุบัติขึ้นในสังคมไทย เพราะกรรมเก่า เปิดโอกาสให้เขาได้สร้างกรรมดีเพื่อให้ได้ผลและอนิสงค์ใหญ่ แต่เขามองไม่เห็นธรรม มองไม่เห็นความจริงของธรรมชาติ ไม่เห็นอริยสัจ ๔ จึงเป็นได้แค่ตัวเทียบเปรียบคนเลวกับคนดีในสังคม ให้เห็นชัดขึ้นเท่านั้น ทักษิณจะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างในแผ่นดินไทยได้จริงหรือ ?...คนไทยอย่าได้กังวล มันเป็นไปได้แค่ความเพ้อฝันของคนโง่เท่านั้น ตราบใดที่เราเชื่อว่า แผ่นดินไทย เป็นแผ่นดินทอง ที่บรรพบุรุษปกป้องรักษาไว้ให้ลูกหลาน ทักษิณก็จะไม่มีวันเป็นเจ้าของได้เพียงลำพังเด็ดขาด แม้แต่เหรียญบาท เขาก็เอาไปไม่ได้....วันนี้ ทักษิณกำลังแสดงบทบาทฉากสุดท้าย ก่อนปิดจบชีวิต ให้คนไทยเห็นและตระหนัด ว่า หากเราอยากมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกิน มีใช้ และอยากมีความสุขสงบเย็น อย่าเลือกคนทุจริตทางกาย วาจา ใจ แบยทักษิณให้มีอำนาจบริหารบ้านเมือง !
    สุดยอดอดีตนายกฯ ปล้..นชาติ ป้องกัมพูชาทวงเกาะกูด ด้วยการบอกว่า คนไทยโดนหล.อกด้วยการใช้ AI ทำเฟ..กนิวส์ ว่า เกาะกูดยังไม่ใช่ของไทย มีใครเชื่อมันบ้าง AI เฟ.กนิวส์ หรือจะมาหล.อกสู้ไอ่แม้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำเนิดเราลืมตาขึ้นมา ไม่เคยลืมค่าความเป็นไทย ขอเป็นส่วนประกอบสังคมไทย ใส่ใจสร้างความดีงาม
    กำเนิดเราลืมตาขึ้นมา ไม่เคยลืมค่าความเป็นไทย ขอเป็นส่วนประกอบสังคมไทย ใส่ใจสร้างความดีงาม
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 30 1 รีวิว
  • กรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ยื่นหนังสือกล่าวหารัฐบาลเกี่ยวกับประเด็น MOU44 มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อทำความเข้าใจในเชิงลึก ดังนี้:1. บริบททางการเมืองMOU44 คืออะไร: เป็นข้อตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่มักเกี่ยวข้องกับประเด็นเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง ซึ่งยังต้องการข้อมูลที่ชัดเจนว่าข้อกล่าวหาของนายสนธิพุ่งเป้าไปที่ประเด็นใดเจตนาของนายสนธิ: การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นไปเพื่อเรียกร้องความโปร่งใส หรือสร้างแรงกดดันทางการเมืองต่อรัฐบาลปัจจุบันปัจจัยความขัดแย้งเดิม: นายสนธิเคยเป็นบุคคลสำคัญที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในหลายประเด็น อาจมีประวัติความขัดแย้งกับกลุ่มการเมืองหรือรัฐบาลในอดีต2. ผลกระทบของ MOU44หาก MOU44 มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติ เช่น การให้สิทธิ์หรือทรัพยากรแก่ต่างชาติ อาจถูกตั้งคำถามเรื่องผลกระทบต่อประชาชนการเปิดเผยหรือการปกปิดเนื้อหาในข้อตกลงอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ความโปร่งใสของรัฐบาล3. ความสำคัญของการตรวจสอบบทบาทของประชาชนและสื่อมวลชน: การยื่นหนังสือดังกล่าวอาจเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นให้สังคมรับรู้และตรวจสอบนโยบายของรัฐบาลกระบวนการยุติธรรม: หากมีข้อกล่าวหาว่ามีการกระทำผิดหรือทุจริต จะต้องผ่านการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความเป็นธรรม4. กลยุทธ์และผลลัพธ์ทางการเมืองนายสนธิอาจใช้การยื่นหนังสือครั้งนี้เพื่อส่งสัญญาณทางการเมืองหรือรวบรวมกลุ่มผู้สนับสนุนผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับการตอบสนองของรัฐบาล และการขยายตัวของประเด็นในสื่อและสังคม5. ข้อสังเกตเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือการยื่นหนังสือดังกล่าวมาพร้อมกับความคาดหวังให้สังคมตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่าย: ฝ่ายกล่าวหาและฝ่ายรัฐบาลคำกล่าวหาอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล หากข้อกล่าวหามีน้ำหนักโดยสรุป การยื่นหนังสือของนายสนธิในกรณีนี้สะท้อนถึงบทบาทของการตรวจสอบและความตื่นตัวทางการเมืองในสังคมไทย แต่การวิเคราะห์ประเด็นอย่างรอบด้านต้องพิจารณาเอกสารหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MOU44 และข้อกล่าวหาที่ชัดเจน.
    กรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ยื่นหนังสือกล่าวหารัฐบาลเกี่ยวกับประเด็น MOU44 มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อทำความเข้าใจในเชิงลึก ดังนี้:1. บริบททางการเมืองMOU44 คืออะไร: เป็นข้อตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่มักเกี่ยวข้องกับประเด็นเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง ซึ่งยังต้องการข้อมูลที่ชัดเจนว่าข้อกล่าวหาของนายสนธิพุ่งเป้าไปที่ประเด็นใดเจตนาของนายสนธิ: การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นไปเพื่อเรียกร้องความโปร่งใส หรือสร้างแรงกดดันทางการเมืองต่อรัฐบาลปัจจุบันปัจจัยความขัดแย้งเดิม: นายสนธิเคยเป็นบุคคลสำคัญที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในหลายประเด็น อาจมีประวัติความขัดแย้งกับกลุ่มการเมืองหรือรัฐบาลในอดีต2. ผลกระทบของ MOU44หาก MOU44 มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติ เช่น การให้สิทธิ์หรือทรัพยากรแก่ต่างชาติ อาจถูกตั้งคำถามเรื่องผลกระทบต่อประชาชนการเปิดเผยหรือการปกปิดเนื้อหาในข้อตกลงอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ความโปร่งใสของรัฐบาล3. ความสำคัญของการตรวจสอบบทบาทของประชาชนและสื่อมวลชน: การยื่นหนังสือดังกล่าวอาจเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นให้สังคมรับรู้และตรวจสอบนโยบายของรัฐบาลกระบวนการยุติธรรม: หากมีข้อกล่าวหาว่ามีการกระทำผิดหรือทุจริต จะต้องผ่านการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความเป็นธรรม4. กลยุทธ์และผลลัพธ์ทางการเมืองนายสนธิอาจใช้การยื่นหนังสือครั้งนี้เพื่อส่งสัญญาณทางการเมืองหรือรวบรวมกลุ่มผู้สนับสนุนผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับการตอบสนองของรัฐบาล และการขยายตัวของประเด็นในสื่อและสังคม5. ข้อสังเกตเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือการยื่นหนังสือดังกล่าวมาพร้อมกับความคาดหวังให้สังคมตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่าย: ฝ่ายกล่าวหาและฝ่ายรัฐบาลคำกล่าวหาอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล หากข้อกล่าวหามีน้ำหนักโดยสรุป การยื่นหนังสือของนายสนธิในกรณีนี้สะท้อนถึงบทบาทของการตรวจสอบและความตื่นตัวทางการเมืองในสังคมไทย แต่การวิเคราะห์ประเด็นอย่างรอบด้านต้องพิจารณาเอกสารหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MOU44 และข้อกล่าวหาที่ชัดเจน.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันปีใหม่สะท้อนบทบาทต่อสังคมไทยได้อย่างไรวันปีใหม่ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญอย่างมาก โดยไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของเวลา แต่ยังแสดงถึงบทบาทที่ลึกซึ้งในด้านวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจของประเทศไทย วันปีใหม่จึงเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมายและกิจกรรมที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนในสังคมไทยอย่างหลากหลายแง่มุม1. การเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชนวันปีใหม่เป็นโอกาสที่สมาชิกในครอบครัวกลับมารวมตัวกัน เพื่อเฉลิมฉลองและสร้างความอบอุ่นร่วมกัน กิจกรรมเช่นการไหว้ผู้ใหญ่ การรับพร หรือการเลี้ยงฉลองในครอบครัวสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญูและความสามัคคี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทยในระดับชุมชน การจัดงานเฉลิมฉลอง เช่น การสวดมนต์ข้ามปี การจัดงานวัด หรืองานปีใหม่ของหมู่บ้าน ช่วยสร้างความสามัคคีระหว่างเพื่อนบ้าน เสริมสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม2. การส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีไทยแม้ว่าเทศกาลปีใหม่จะมีต้นกำเนิดจากวัฒนธรรมตะวันตก แต่คนไทยได้ปรับประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น การทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า หรือการสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความศรัทธาในพุทธศาสนา3. การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวช่วงวันปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่มีการจับจ่ายใช้สอยสูงสุดแห่งปี ทั้งการซื้อของขวัญ การตกแต่งบ้าน หรือการเดินทางท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น เช่น ตลาดนัด สินค้า OTOP และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว4. การส่งเสริมความหวังและแรงบันดาลใจวันปีใหม่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ หลายคนตั้งเป้าหมายหรือปณิธานในชีวิต เช่น การทำงานให้ดีขึ้น การดูแลสุขภาพ หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ กิจกรรมเหล่านี้ส่งผลให้เกิดทัศนคติในเชิงบวกที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมโดยรวม5. การสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในประเทศไทย เราเฉลิมฉลองปีใหม่ทั้งแบบไทย (สงกรานต์) และปีใหม่สากล (1 มกราคม) สิ่งนี้สะท้อนถึงความหลากหลายและการเปิดกว้างในวัฒนธรรมไทยที่พร้อมยอมรับและเคารพความแตกต่างบทสรุปวันปีใหม่ไม่ใช่เพียงแค่วันหยุดเทศกาล แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยงและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญู ความสามัคคี และความหวัง ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมไทยในทุกมิติ
    วันปีใหม่สะท้อนบทบาทต่อสังคมไทยได้อย่างไรวันปีใหม่ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญอย่างมาก โดยไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของเวลา แต่ยังแสดงถึงบทบาทที่ลึกซึ้งในด้านวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจของประเทศไทย วันปีใหม่จึงเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมายและกิจกรรมที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนในสังคมไทยอย่างหลากหลายแง่มุม1. การเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชนวันปีใหม่เป็นโอกาสที่สมาชิกในครอบครัวกลับมารวมตัวกัน เพื่อเฉลิมฉลองและสร้างความอบอุ่นร่วมกัน กิจกรรมเช่นการไหว้ผู้ใหญ่ การรับพร หรือการเลี้ยงฉลองในครอบครัวสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญูและความสามัคคี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทยในระดับชุมชน การจัดงานเฉลิมฉลอง เช่น การสวดมนต์ข้ามปี การจัดงานวัด หรืองานปีใหม่ของหมู่บ้าน ช่วยสร้างความสามัคคีระหว่างเพื่อนบ้าน เสริมสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม2. การส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีไทยแม้ว่าเทศกาลปีใหม่จะมีต้นกำเนิดจากวัฒนธรรมตะวันตก แต่คนไทยได้ปรับประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น การทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า หรือการสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความศรัทธาในพุทธศาสนา3. การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวช่วงวันปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่มีการจับจ่ายใช้สอยสูงสุดแห่งปี ทั้งการซื้อของขวัญ การตกแต่งบ้าน หรือการเดินทางท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น เช่น ตลาดนัด สินค้า OTOP และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว4. การส่งเสริมความหวังและแรงบันดาลใจวันปีใหม่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ หลายคนตั้งเป้าหมายหรือปณิธานในชีวิต เช่น การทำงานให้ดีขึ้น การดูแลสุขภาพ หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ กิจกรรมเหล่านี้ส่งผลให้เกิดทัศนคติในเชิงบวกที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมโดยรวม5. การสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในประเทศไทย เราเฉลิมฉลองปีใหม่ทั้งแบบไทย (สงกรานต์) และปีใหม่สากล (1 มกราคม) สิ่งนี้สะท้อนถึงความหลากหลายและการเปิดกว้างในวัฒนธรรมไทยที่พร้อมยอมรับและเคารพความแตกต่างบทสรุปวันปีใหม่ไม่ใช่เพียงแค่วันหยุดเทศกาล แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยงและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญู ความสามัคคี และความหวัง ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมไทยในทุกมิติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอไว้อาลัยต่อการดำรงค์ไว้ซึ่ง ความยุติธรรม ของสังคมไทย

    “ความอัปยศปรากฏแจ้งเป็นประจักษ์
    คนใจภักดิ์รักอัปรีย์น่าอดสู
    เกียรติภูมิเกียรติยศไม่เชิดชู
    จิตใจบูชาเงิน…คนจัญไร“
    ขอไว้อาลัยต่อการดำรงค์ไว้ซึ่ง ความยุติธรรม ของสังคมไทย “ความอัปยศปรากฏแจ้งเป็นประจักษ์ คนใจภักดิ์รักอัปรีย์น่าอดสู เกียรติภูมิเกียรติยศไม่เชิดชู จิตใจบูชาเงิน…คนจัญไร“
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องเดรัจฉานวิชาต้องช่วยกันแชร์ไปค่ะ เพราะสังคมไทยเรายังเข้าใจผิดอีกมาก สร้างความเกลียดชังกันจากคำนี้มาก ทั้งๆ ที่ชาวบ้านเขาประกอบอาชีพของเขาปกติก็ไปด่าเขาหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชฺโช ท่านอธิบายง่าย เข้าใจง่ายและตรงตามพระไตรปิฎกค่ะ สาธุhttps://m.youtube.com/watch?v=BdaXklOr8gI
    ความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องเดรัจฉานวิชาต้องช่วยกันแชร์ไปค่ะ เพราะสังคมไทยเรายังเข้าใจผิดอีกมาก สร้างความเกลียดชังกันจากคำนี้มาก ทั้งๆ ที่ชาวบ้านเขาประกอบอาชีพของเขาปกติก็ไปด่าเขาหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชฺโช ท่านอธิบายง่าย เข้าใจง่ายและตรงตามพระไตรปิฎกค่ะ สาธุhttps://m.youtube.com/watch?v=BdaXklOr8gI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร เตรียมปั้น ตำรวจอินฟลู มาต่อสู้คนเลว
    บิ๊กต่าย ผบ.ตร ได้รับเสียงสรรเสริญจากตํารวจทั้งประเทศ ในการแถลง สิบห้านโยบายหลักของสํานักงานตํารวจแห่งชาติโดยให้ตํารวจทั้งหมดปฏิบัติตามนโยบายอย่างเร่งด่วนประกอบด้วย
    ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนmindsetให้ตํารวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ให้รางวัลแก่ตํารวจน้ําดี และลงโทษตํารวจเลว พัฒนางานสถานีตํารวจ แก้ไขปัญหางานสอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง สร้างเสริมวินัยจราจร ทํางานเชิงรุกด้านการข่าว ประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรเป็นต้น
    ซึ่ง ข้อหนึ่งที่สร้างความฮือฮาก็คือให้ผู้บัญชาการหรือผู้บังคับการ จะต้องเป็น influencerด้วยตนเอง เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันต้องบอกว่าถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ตํารวจจะต้องเป็น influ เองสักทีเพราะที่ผ่านมา influ สายกฎหมายสายสังคม กลับมาก่อคดีอาญาต่างๆนานาเสียเอง อย่างทนายตั้มที่กลายร่างเป็นทนายต้ม สร้างภาพหลอกลวงสังคมปกปิดความสกปรกชั่วร้ายที่ซ่อนไว้อย่างแนบเนียน เอกสายไหม ต้องรอด โดนคดีปั่นข่าวเท็จดีไอคอน ด้วยวัตถุประสงค์ลึกลับอะไรสักอย่าง ฟิล์มรัฐภูมิ จ่อถูกดําเนินคดีข้อหาพยายามตบทรัพย์ดิไอคอน แกนนําต้านโกงอย่างเจ๊พัฒน์ กิจอนงค์ สุดท้ายมาโดนคดีตบทรัพย์เสียเอง
    ตัวอย่างเหล่านี้เป็นความพิกลพิการของสังคมไทย ลงภาพลักษณ์ของคนที่ไม่สะอาดจริงปล่อยให้มายึดหัวหาดเป็นอินฟลูเอนเซอร์เพราะฉะนั้นจึงเป็นโอกาสเหมาะสมที่องค์กรตํารวจยุคบิ๊กต่าย จะผลักดันคนดีคนเก่งในสํานักงานตํารวจแห่งชาติขึ้นมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์เอง เพื่อคานอํานาจอินฟลูปลอมๆ ทั้งหลาย
    อย่างน้อยตํารวจเก่าสองคนก็ผลักดันตัวเองสําเร็จจนผงาดเป็นอินฟลูชื่อดัง เวลาพูดถึงประเด็นปัญหาใดๆจะมีน้ําหนักน่าเชื่อถือ ซึ่งก็คือ อาเรย์วัด และผู้การแต้มหรือมือปราบหูดํา 2 คนนี้ให้ความจริงทุกเรื่องอย่างไม่ไว้หน้าใคร
    ในความเป็นอินฟลู ผู้การแต้ม มีจุดยืนชัดเจนไม่หิวแสงการจะไปออกรายการแต่ละทียังเลือกคนร่วมรายการเช่นไม่ยอมไปออกทีวี กับ นายสิธาเบี้ยบังเกิด อย่างเด็ดขาดจนเป็นที่รู้กันว่ารายการใดมีพู่กันแต้มต้องไม่มีทนายตั้ม ส่วนอาเรย์วัดเป็นอินฟูในสายเฮฮาบู๊ล้างผลาญ ต้องติดตามกันต่อไปว่าตํารวจในเครื่องแบบคนใดจะประสบความสําเร็จตามนโยบายนี้ของบิ๊กต่าย ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ผบ.ตร เตรียมปั้น ตำรวจอินฟลู มาต่อสู้คนเลว บิ๊กต่าย ผบ.ตร ได้รับเสียงสรรเสริญจากตํารวจทั้งประเทศ ในการแถลง สิบห้านโยบายหลักของสํานักงานตํารวจแห่งชาติโดยให้ตํารวจทั้งหมดปฏิบัติตามนโยบายอย่างเร่งด่วนประกอบด้วย ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนmindsetให้ตํารวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ให้รางวัลแก่ตํารวจน้ําดี และลงโทษตํารวจเลว พัฒนางานสถานีตํารวจ แก้ไขปัญหางานสอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง สร้างเสริมวินัยจราจร ทํางานเชิงรุกด้านการข่าว ประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรเป็นต้น ซึ่ง ข้อหนึ่งที่สร้างความฮือฮาก็คือให้ผู้บัญชาการหรือผู้บังคับการ จะต้องเป็น influencerด้วยตนเอง เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันต้องบอกว่าถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ตํารวจจะต้องเป็น influ เองสักทีเพราะที่ผ่านมา influ สายกฎหมายสายสังคม กลับมาก่อคดีอาญาต่างๆนานาเสียเอง อย่างทนายตั้มที่กลายร่างเป็นทนายต้ม สร้างภาพหลอกลวงสังคมปกปิดความสกปรกชั่วร้ายที่ซ่อนไว้อย่างแนบเนียน เอกสายไหม ต้องรอด โดนคดีปั่นข่าวเท็จดีไอคอน ด้วยวัตถุประสงค์ลึกลับอะไรสักอย่าง ฟิล์มรัฐภูมิ จ่อถูกดําเนินคดีข้อหาพยายามตบทรัพย์ดิไอคอน แกนนําต้านโกงอย่างเจ๊พัฒน์ กิจอนงค์ สุดท้ายมาโดนคดีตบทรัพย์เสียเอง ตัวอย่างเหล่านี้เป็นความพิกลพิการของสังคมไทย ลงภาพลักษณ์ของคนที่ไม่สะอาดจริงปล่อยให้มายึดหัวหาดเป็นอินฟลูเอนเซอร์เพราะฉะนั้นจึงเป็นโอกาสเหมาะสมที่องค์กรตํารวจยุคบิ๊กต่าย จะผลักดันคนดีคนเก่งในสํานักงานตํารวจแห่งชาติขึ้นมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์เอง เพื่อคานอํานาจอินฟลูปลอมๆ ทั้งหลาย อย่างน้อยตํารวจเก่าสองคนก็ผลักดันตัวเองสําเร็จจนผงาดเป็นอินฟลูชื่อดัง เวลาพูดถึงประเด็นปัญหาใดๆจะมีน้ําหนักน่าเชื่อถือ ซึ่งก็คือ อาเรย์วัด และผู้การแต้มหรือมือปราบหูดํา 2 คนนี้ให้ความจริงทุกเรื่องอย่างไม่ไว้หน้าใคร ในความเป็นอินฟลู ผู้การแต้ม มีจุดยืนชัดเจนไม่หิวแสงการจะไปออกรายการแต่ละทียังเลือกคนร่วมรายการเช่นไม่ยอมไปออกทีวี กับ นายสิธาเบี้ยบังเกิด อย่างเด็ดขาดจนเป็นที่รู้กันว่ารายการใดมีพู่กันแต้มต้องไม่มีทนายตั้ม ส่วนอาเรย์วัดเป็นอินฟูในสายเฮฮาบู๊ล้างผลาญ ต้องติดตามกันต่อไปว่าตํารวจในเครื่องแบบคนใดจะประสบความสําเร็จตามนโยบายนี้ของบิ๊กต่าย ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 667 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อความโลภบังตา ยามชราก็ต้องนอนตาราง
    ประเทศไทยในเวลานี้มีเรื่องราวที่วุ่นวาย ชวนหนหวยกันเยอะมาก ล่าสุด เกิดคดีฉ้อโกงครั้งใหญ่ ของหมอบุญ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรีที่คาดกันว่าอาจมีมูลค่าเสียหายมากถึงระดับหมื่นล้านบาท
    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตํารวจได้สรุปข้อเท็จจริงว่า หมอบุญและพวก มีการระดมทุนชักชวน ให้นายแพทย์บุญ นําไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ 16,000 พันล้านบาท จํานวนห้าโครงการประกอบด้วย โครงการสร้างศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า4 000 ล้านบาท โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ําเจ้าพระยา 4-5 พัน ล้านบาท โครงการสร้างโรงพยาบาลในสปป ลาว 3 แห่งรวม 2,000,ล้านบาท โครงการโรงพยาบาลในเวียดนาม 4-5 พันล้านบาท และ โครงการเมดิคอลอินเทเลเจนท์ อําเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี งบลงทุนหนึ่งร้อยล้านบาท
    ซึ่งพฤติกรรมในการหาแหล่งเงินทุนนั้นมีลักษณะการไปกู้ยืมกับแหล่งเงินกู้โดยมีภรรยาและลูกสาวเป็นผู้ค้ําประกัน เซ็นสลักหลังในเช็คทุกฉบับมอบให้ผู้เสียหาย
    หลังเปิดโครงการใหญ่ล่อลวงเหยื่อกระเป๋าหนักกว่า 247 คน โดยอดีตเมียกับลูก เข้ามอบตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาด้วยการอ้างว่าถูกปลอมลายมือชื่อเซ็นค้ําประกันเงินกู้ เมื่อหมอบุญได้หลบหนีออกนอกประเทศเท่ากับว่าคนที่ต้องรับผิดชอบ คือคนในครอบครัวอย่างที่ปรากฏให้เห็น
    ความน่าเชื่อถือที่เคยมีนั้นสูญสลายไปในพริบตาโดยปริยาย สําหรับหมอบุญนั้น ครั้งหนึ่งเคยได้รับยกย่องว่าเป็นฮีโร่ของประเทศไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดสิบเก้าภายหลังประกาศเตรียมนําเข้าวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์มาให้กับประชาชน แต่กลิ่นแปลกแปลกก็เริ่มเกิดขึ้นเนื่องจากเวลาผ่านไปการนําเข้าวัคซีนของหมอบุญยังไม่เกิดขึ้นแม้แต่เข็มเดียว ทําให้ถูกมองว่าเป็นเพียงการปั่นกระแสเท่านั้น
    ไม่เชื่อก็เชื่อว่าเหตุใดที่คนรวยมหาศาลเป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่ดําเนินการภายใต้บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ถึงไม่รู้จักพอเช่นนี้ มองในแง่ทฤษฎีเกี่ยวกับมานุษยวิทยาแน่นอนว่า พื้นฐานของมนุษย์นั้นย่อมมีความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คนรวยแล้วก็อยากรวยขึ้นไปอีก ถ้ารวยตามปกติไม่ได้ ก็ต้องหาทางลัด หากินจากความไว้ใจของประชาชนที่มีเพื่อแสวงหาประโยชน์ก่อนเอาทรัพย์สินที่ได้มา ไปนอนเกาะในต่างประเทศ อันเป็นวิธีการพื้นฐานที่โจรในเสื้อสูทนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายสังคมไทยภายใต้ระบบทุนนิยมสุดโต่งเช่นนี้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    เมื่อความโลภบังตา ยามชราก็ต้องนอนตาราง ประเทศไทยในเวลานี้มีเรื่องราวที่วุ่นวาย ชวนหนหวยกันเยอะมาก ล่าสุด เกิดคดีฉ้อโกงครั้งใหญ่ ของหมอบุญ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรีที่คาดกันว่าอาจมีมูลค่าเสียหายมากถึงระดับหมื่นล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตํารวจได้สรุปข้อเท็จจริงว่า หมอบุญและพวก มีการระดมทุนชักชวน ให้นายแพทย์บุญ นําไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ 16,000 พันล้านบาท จํานวนห้าโครงการประกอบด้วย โครงการสร้างศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า4 000 ล้านบาท โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ําเจ้าพระยา 4-5 พัน ล้านบาท โครงการสร้างโรงพยาบาลในสปป ลาว 3 แห่งรวม 2,000,ล้านบาท โครงการโรงพยาบาลในเวียดนาม 4-5 พันล้านบาท และ โครงการเมดิคอลอินเทเลเจนท์ อําเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี งบลงทุนหนึ่งร้อยล้านบาท ซึ่งพฤติกรรมในการหาแหล่งเงินทุนนั้นมีลักษณะการไปกู้ยืมกับแหล่งเงินกู้โดยมีภรรยาและลูกสาวเป็นผู้ค้ําประกัน เซ็นสลักหลังในเช็คทุกฉบับมอบให้ผู้เสียหาย หลังเปิดโครงการใหญ่ล่อลวงเหยื่อกระเป๋าหนักกว่า 247 คน โดยอดีตเมียกับลูก เข้ามอบตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาด้วยการอ้างว่าถูกปลอมลายมือชื่อเซ็นค้ําประกันเงินกู้ เมื่อหมอบุญได้หลบหนีออกนอกประเทศเท่ากับว่าคนที่ต้องรับผิดชอบ คือคนในครอบครัวอย่างที่ปรากฏให้เห็น ความน่าเชื่อถือที่เคยมีนั้นสูญสลายไปในพริบตาโดยปริยาย สําหรับหมอบุญนั้น ครั้งหนึ่งเคยได้รับยกย่องว่าเป็นฮีโร่ของประเทศไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดสิบเก้าภายหลังประกาศเตรียมนําเข้าวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์มาให้กับประชาชน แต่กลิ่นแปลกแปลกก็เริ่มเกิดขึ้นเนื่องจากเวลาผ่านไปการนําเข้าวัคซีนของหมอบุญยังไม่เกิดขึ้นแม้แต่เข็มเดียว ทําให้ถูกมองว่าเป็นเพียงการปั่นกระแสเท่านั้น ไม่เชื่อก็เชื่อว่าเหตุใดที่คนรวยมหาศาลเป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่ดําเนินการภายใต้บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ถึงไม่รู้จักพอเช่นนี้ มองในแง่ทฤษฎีเกี่ยวกับมานุษยวิทยาแน่นอนว่า พื้นฐานของมนุษย์นั้นย่อมมีความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คนรวยแล้วก็อยากรวยขึ้นไปอีก ถ้ารวยตามปกติไม่ได้ ก็ต้องหาทางลัด หากินจากความไว้ใจของประชาชนที่มีเพื่อแสวงหาประโยชน์ก่อนเอาทรัพย์สินที่ได้มา ไปนอนเกาะในต่างประเทศ อันเป็นวิธีการพื้นฐานที่โจรในเสื้อสูทนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายสังคมไทยภายใต้ระบบทุนนิยมสุดโต่งเช่นนี้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 676 มุมมอง 0 รีวิว
  • สังคมไทยภายใต้ระบบทุนนิยมสุดโต่งเช่นนี้ กรณีของหมอบุญไม่ใช่กรณีศึกษาแรกและเป็นกรณีศึกษาสุดท้ายอย่างแน่นอน

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #หมอบุญ #ระบบทุนนิยม
    สังคมไทยภายใต้ระบบทุนนิยมสุดโต่งเช่นนี้ กรณีของหมอบุญไม่ใช่กรณีศึกษาแรกและเป็นกรณีศึกษาสุดท้ายอย่างแน่นอน #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #หมอบุญ #ระบบทุนนิยม
    Sad
    Angry
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1079 มุมมอง 70 0 รีวิว
  • เปิดที่มาของเหตุการณ์ แอม ไซยาไนด์...
    เบื้องหลังคําสั่งประหารชีวิตแอมไซยาไนด์ ส่วนหนึ่งขอยกความดีความชอบให้ห้องแล็บที่ มัดแอมจนดิ้นไม่หลุด คนที่ทุ่มเททํางานในห้องแล็บนั้นก็คือ อาจารย์อ๊อด รศ.ดร.วีระชัย ประธานหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาจารย์อ๊อดเล่าว่าต้องพิสูจน์หลักฐานกว่า 800ชิ้น ที่ทางตํารวจส่งมาให้ช่วยตรวจหาสารพิษไซยาไนด์ผ่านระบบเครื่องมือไฮเทค ของห้องแล็บเคมี บวกกับบุคลากรที่มีความชํานาญการซึ่งก็มี อ อ๊อด เป็นหัวหน้าทีม ผลก็คือการพบสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ ทั้งในรถในบ้านของแอมไซยาไนด์รวมถึงในยาของกลางที่แอมไซยาไนด์ แอบยัดไส้ให้เพื่อนกิน
    เป็นหลักฐานสําคัญนํามาสู่การฟ้องแอมไซยาไนด์คดีฆ่าคนตายถึง14 ศพและเกือบตายอีกหนึ่งคน ที่พีคกว่านั้นทีมอาจารย์อ๊อดยังตรวจพบยาถอนพิษไซยาไนด์ในบ้านของแอมด้วย สารตัวนี้มีชื่อว่าโซเดียมไพโอซัลเฟต พอฉีดสารนี้เข้าเส้นเลือดมันจะช่วยถอนพิษสุดโหดของไซยาไนด์ได้ทันท่วงที เรื่องนี้ทำให้รู้ว่า หมอพิษก็กลัวตายเพราะพิษ จึงต้องมียาแก้พิษติดไว้ใกล้มือเมื่อนําไปประกอบกับหลักฐานอื่นๆ ที่ตํารวจเสาะหามาได้ คดีของก้อยนางสาวศิริพร ขันธ์วงศ์ ซึ่งถือเป็นคดีนําร่องของซีรี่ย์แอมไซยาไนด์ จึงได้ผลออกมาเป็นคําสั่งประหารชีวิตสถานเดียว
    ความอันตรายอีกอย่างของ ไซยาไนด์ คือมันเป็นสารราคาถูกที่เคยซื้อได้ทั่วไปในอินเทอร์เน็ต เนื่องจากมันใช้แพร่หลายในอุตสาหกรรมอัญมณีทองรูปพรรณ แม้จะเป็นสารควบคุมแต่ดันมีข้อแม้ว่า ต้องซื้อเกิน1 ตันโน่นเลย จึงจะเข้าเกณฑ์ ต้องขออนุญาตจากทางราชการตรงนี้จึงเป็นช่องว่างให้โพแทสเซียมไซยาไนด์เป็นสารซื้อง่ายขายคล่องไปอยู่ในมืออาชญากรได้ง่าย ความที่ไม่มีสี ไม่มีรสไม่มีกลิ่นขนาดผสมลงในเครื่องดื่ม คนดื่มก็ไม่รู้ว่ามีพิษใช้ปริมาณน้อยนิดแค่100 มิลลิกรัม ก็ปลิดชีวิตคนได้แล้ว
    เหตุจูงใจก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการพนันออนไลน์ ที่แพร่หลายมากในสังคมไทย แอมไซยาไนด์เป็นทาสการพนันออนไลน์ เที่ยวหยิบยืมเงินคนรู้จักไปทั่วจนมีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเกิดไอเดียใช้ยาพิษฆ่าล้างหนี้เหยื่อของเธอล้วนแต่เป็นเจ้าหนี้เป็นเพื่อน เป็นผัว เป็นคนที่ไว้ใจกันทั้งสิ้น อุทาหรณ์จากคดีนี้บอกว่าการคบเพื่อนต้องพยายามอยู่ให้ไกลจากพวกผีพนัน หรืออย่าให้คนร้อนเงิน มาเป็นลูกหนี้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ

    เปิดที่มาของเหตุการณ์ แอม ไซยาไนด์... เบื้องหลังคําสั่งประหารชีวิตแอมไซยาไนด์ ส่วนหนึ่งขอยกความดีความชอบให้ห้องแล็บที่ มัดแอมจนดิ้นไม่หลุด คนที่ทุ่มเททํางานในห้องแล็บนั้นก็คือ อาจารย์อ๊อด รศ.ดร.วีระชัย ประธานหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาจารย์อ๊อดเล่าว่าต้องพิสูจน์หลักฐานกว่า 800ชิ้น ที่ทางตํารวจส่งมาให้ช่วยตรวจหาสารพิษไซยาไนด์ผ่านระบบเครื่องมือไฮเทค ของห้องแล็บเคมี บวกกับบุคลากรที่มีความชํานาญการซึ่งก็มี อ อ๊อด เป็นหัวหน้าทีม ผลก็คือการพบสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ ทั้งในรถในบ้านของแอมไซยาไนด์รวมถึงในยาของกลางที่แอมไซยาไนด์ แอบยัดไส้ให้เพื่อนกิน เป็นหลักฐานสําคัญนํามาสู่การฟ้องแอมไซยาไนด์คดีฆ่าคนตายถึง14 ศพและเกือบตายอีกหนึ่งคน ที่พีคกว่านั้นทีมอาจารย์อ๊อดยังตรวจพบยาถอนพิษไซยาไนด์ในบ้านของแอมด้วย สารตัวนี้มีชื่อว่าโซเดียมไพโอซัลเฟต พอฉีดสารนี้เข้าเส้นเลือดมันจะช่วยถอนพิษสุดโหดของไซยาไนด์ได้ทันท่วงที เรื่องนี้ทำให้รู้ว่า หมอพิษก็กลัวตายเพราะพิษ จึงต้องมียาแก้พิษติดไว้ใกล้มือเมื่อนําไปประกอบกับหลักฐานอื่นๆ ที่ตํารวจเสาะหามาได้ คดีของก้อยนางสาวศิริพร ขันธ์วงศ์ ซึ่งถือเป็นคดีนําร่องของซีรี่ย์แอมไซยาไนด์ จึงได้ผลออกมาเป็นคําสั่งประหารชีวิตสถานเดียว ความอันตรายอีกอย่างของ ไซยาไนด์ คือมันเป็นสารราคาถูกที่เคยซื้อได้ทั่วไปในอินเทอร์เน็ต เนื่องจากมันใช้แพร่หลายในอุตสาหกรรมอัญมณีทองรูปพรรณ แม้จะเป็นสารควบคุมแต่ดันมีข้อแม้ว่า ต้องซื้อเกิน1 ตันโน่นเลย จึงจะเข้าเกณฑ์ ต้องขออนุญาตจากทางราชการตรงนี้จึงเป็นช่องว่างให้โพแทสเซียมไซยาไนด์เป็นสารซื้อง่ายขายคล่องไปอยู่ในมืออาชญากรได้ง่าย ความที่ไม่มีสี ไม่มีรสไม่มีกลิ่นขนาดผสมลงในเครื่องดื่ม คนดื่มก็ไม่รู้ว่ามีพิษใช้ปริมาณน้อยนิดแค่100 มิลลิกรัม ก็ปลิดชีวิตคนได้แล้ว เหตุจูงใจก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการพนันออนไลน์ ที่แพร่หลายมากในสังคมไทย แอมไซยาไนด์เป็นทาสการพนันออนไลน์ เที่ยวหยิบยืมเงินคนรู้จักไปทั่วจนมีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเกิดไอเดียใช้ยาพิษฆ่าล้างหนี้เหยื่อของเธอล้วนแต่เป็นเจ้าหนี้เป็นเพื่อน เป็นผัว เป็นคนที่ไว้ใจกันทั้งสิ้น อุทาหรณ์จากคดีนี้บอกว่าการคบเพื่อนต้องพยายามอยู่ให้ไกลจากพวกผีพนัน หรืออย่าให้คนร้อนเงิน มาเป็นลูกหนี้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ สังคมไทยไร้ที่พึ่ง เมื่ออาชีพมีเกียรติปล้ นเป็นว่าเล่น
    #7ดอกจิก
    ♣ สังคมไทยไร้ที่พึ่ง เมื่ออาชีพมีเกียรติปล้ นเป็นว่าเล่น #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 537 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • ย้อนรอยหมอบุญ จ้อสื่อทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน รุกธุรกิจเฮลท์แคร์ สุดท้ายฉ้อโกง-ฟอกเงิน

    สำหรับพฤติการณ์การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ. 2566 นพ.บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นพ.บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้ นพ.บุญ และครอบครัว ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นพ.บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้าในชื่อ นพ.บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ค้ำประกันตามสัญญา
    นอกจากนี้ นางจารุวรรณ และ นางณวรา ทั้งสองคนยังเซ็นสลักหลังในเช็คทุกใบของ นพ.บุญ มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฏว่า ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบ พบว่า นพ.บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย. 67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯ ออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 66 ถึง ต.ค. 67 มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค 2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 7,564,433,637 บาท

    อนึ่ง นพ.บุญเคยถูกยกย่องจากสังคมไทยส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากนักการเมืองบางพรรค สื่อมวลชนกระแสหลักบางค่ายของประเทศไทย และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในประเทศไทย ต่างยกย่องในฐานะที่ นพ.บุญเป็นผู้ประกาศตนว่าจะจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ชนิด MRNA ที่สังคมไทยส่วนหนึ่งถูกทำให้เชื่อว่าเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด จำนวน 20 ล้านโดส แต่สุดท้ายนอกจากไม่มีการลงนามในสัญญานำเข้าวัคซีนภายในเดือนดังกล่าวจริงแล้ว ในช่วงที่เป็นข่าวเคยทำให้มีผลต่อหุ้น THG สุดท้ายเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษทางแพ่ง นพ.บุญ ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ คือ 2 ล้านบาท และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดเป็นเงิน 2,348,834 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 42 เดือน

    .
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000112606
    ย้อนรอยหมอบุญ จ้อสื่อทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน รุกธุรกิจเฮลท์แคร์ สุดท้ายฉ้อโกง-ฟอกเงิน สำหรับพฤติการณ์การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ. 2566 นพ.บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นพ.บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้ นพ.บุญ และครอบครัว ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นพ.บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้าในชื่อ นพ.บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ค้ำประกันตามสัญญา นอกจากนี้ นางจารุวรรณ และ นางณวรา ทั้งสองคนยังเซ็นสลักหลังในเช็คทุกใบของ นพ.บุญ มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฏว่า ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบ พบว่า นพ.บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย. 67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯ ออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 66 ถึง ต.ค. 67 มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค 2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 7,564,433,637 บาท อนึ่ง นพ.บุญเคยถูกยกย่องจากสังคมไทยส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากนักการเมืองบางพรรค สื่อมวลชนกระแสหลักบางค่ายของประเทศไทย และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในประเทศไทย ต่างยกย่องในฐานะที่ นพ.บุญเป็นผู้ประกาศตนว่าจะจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ชนิด MRNA ที่สังคมไทยส่วนหนึ่งถูกทำให้เชื่อว่าเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด จำนวน 20 ล้านโดส แต่สุดท้ายนอกจากไม่มีการลงนามในสัญญานำเข้าวัคซีนภายในเดือนดังกล่าวจริงแล้ว ในช่วงที่เป็นข่าวเคยทำให้มีผลต่อหุ้น THG สุดท้ายเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษทางแพ่ง นพ.บุญ ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ คือ 2 ล้านบาท และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดเป็นเงิน 2,348,834 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 42 เดือน . https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000112606
    MGRONLINE.COM
    ย้อนรอยหมอบุญ จ้อสื่อทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน รุกธุรกิจเฮลท์แคร์ สุดท้ายฉ้อโกง-ฟอกเงิน
    ถอดบทเรียนนักลงทุน หมอบุญคนดี ฮีโร่ของคนไทย อัศวินม้าขาวผู้จัดหาวัคซีนไฟเซอร์ทิพย์ เคยออกฐานเศรษฐกิจเมื่อ 2 ปีก่อน เตรียมแผนลงทุน 1.6 หมื่นล้าน สยายปีกลงทุนรับอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์โตแรง ทั้งศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า เวลเนสเซ็นเตอร์ย่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 628 มุมมอง 0 รีวิว
  • อวสานหมอบุญ ฮีโร่ของคนไทย

    การออกหมายจับ นพ.บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี พร้อมด้วยนางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยา และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค 2534 หลังร่วมกับพวกรวม 9 คน หลอกลวงผู้เสียหายระดับนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรทางการแพทย์เข้าร่วมลงทุน แล้วไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ มีผู้เสียหาย 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 7,564 ล้านบาท

    นับเป็นการปิดฉากหน้ากากคนดี ฮีโร่ของคนไทย อัศวินม้าขาวที่นักการเมืองบางพรรค สื่อกระแสหลักบางค่าย และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในไทย ต่างยกย่องในฐานะที่ประกาศตนว่าจะจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ ชนิด mRNA ที่สังคมไทยส่วนหนึ่งถูกทำให้เชื่อว่าเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด จำนวน 20 ล้านโดส และด้อยค่ารัฐบาลขณะนั้นที่กำลังจัดการปัญหาโควิด-19 แต่สุดท้ายนอกจากไม่มีการลงนามในสัญญานำเข้าวัคซีนตามที่กล่าวอ้าง การออกข่าวส่งผลต่อราคาหุ้น บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG)

    กระทั่งเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2565 สำนักงาน ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่ง นพ.บุญ ในอัตราสูงสุด คือ 2 ล้านบาท ชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด 2,348,834 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ 42 เดือน จึงได้ให้ภรรยาเป็นประธานกรรมการบริษัท

    แต่คณะกรรมการตรวจสอบภายในพบรายการธุรกรรมน่าสงสัย 3 รายการ 210 ล้านบาท ทำให้กลุ่มวนาสินยอมเปิดทางให้กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง แต่งตั้ง นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม โดยลดบทบาท นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ คนใกล้ชิด นพ.บุญ เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และประธานกลุ่มโรงพยาบาลในเครือที่ 1 ส่วน น.ส.นลิน เป็นประธานเจ้าหน้าที่ความยั่งยืน แต่นางจารุวรรณยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท

    สำหรับพฤติการณ์พบว่า นพ.บุญสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการออกสื่อ อ้างการลงทุนที่น่าสนใจ 5 โครงการ ให้ตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ระดมเงินลงทุนให้ นพ.บุญ และครอบครัว รวมทั้ง นพ.บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยและได้จ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ยล่วงหน้า เซ็นสลักหลังนางจารุวรรณ และอดีตลูกสะใภ้ในเช็คทุกใบของ นพ.บุญ มอบให้แก่ผู้ให้กู้ ช่วงแรกให้ดอกเบี้ย ช่วงหลังไม่มีการจ่าย และเมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฎว่าเช็คเด้ง

    นพ.บุญออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2567 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก เที่ยวบินที่ CX712 ไปยังฮ่องกง

    #Newskit
    อวสานหมอบุญ ฮีโร่ของคนไทย การออกหมายจับ นพ.บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี พร้อมด้วยนางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยา และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค 2534 หลังร่วมกับพวกรวม 9 คน หลอกลวงผู้เสียหายระดับนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรทางการแพทย์เข้าร่วมลงทุน แล้วไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ มีผู้เสียหาย 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 7,564 ล้านบาท นับเป็นการปิดฉากหน้ากากคนดี ฮีโร่ของคนไทย อัศวินม้าขาวที่นักการเมืองบางพรรค สื่อกระแสหลักบางค่าย และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในไทย ต่างยกย่องในฐานะที่ประกาศตนว่าจะจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ ชนิด mRNA ที่สังคมไทยส่วนหนึ่งถูกทำให้เชื่อว่าเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด จำนวน 20 ล้านโดส และด้อยค่ารัฐบาลขณะนั้นที่กำลังจัดการปัญหาโควิด-19 แต่สุดท้ายนอกจากไม่มีการลงนามในสัญญานำเข้าวัคซีนตามที่กล่าวอ้าง การออกข่าวส่งผลต่อราคาหุ้น บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) กระทั่งเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2565 สำนักงาน ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่ง นพ.บุญ ในอัตราสูงสุด คือ 2 ล้านบาท ชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด 2,348,834 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ 42 เดือน จึงได้ให้ภรรยาเป็นประธานกรรมการบริษัท แต่คณะกรรมการตรวจสอบภายในพบรายการธุรกรรมน่าสงสัย 3 รายการ 210 ล้านบาท ทำให้กลุ่มวนาสินยอมเปิดทางให้กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง แต่งตั้ง นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม โดยลดบทบาท นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ คนใกล้ชิด นพ.บุญ เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และประธานกลุ่มโรงพยาบาลในเครือที่ 1 ส่วน น.ส.นลิน เป็นประธานเจ้าหน้าที่ความยั่งยืน แต่นางจารุวรรณยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท สำหรับพฤติการณ์พบว่า นพ.บุญสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการออกสื่อ อ้างการลงทุนที่น่าสนใจ 5 โครงการ ให้ตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ระดมเงินลงทุนให้ นพ.บุญ และครอบครัว รวมทั้ง นพ.บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยและได้จ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ยล่วงหน้า เซ็นสลักหลังนางจารุวรรณ และอดีตลูกสะใภ้ในเช็คทุกใบของ นพ.บุญ มอบให้แก่ผู้ให้กู้ ช่วงแรกให้ดอกเบี้ย ช่วงหลังไม่มีการจ่าย และเมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฎว่าเช็คเด้ง นพ.บุญออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2567 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก เที่ยวบินที่ CX712 ไปยังฮ่องกง #Newskit
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1081 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts