• ภาพวิดีโอความยาว 7 นาที กับเหตุการณ์ที่ปนไปด้วยหลากหลายอารมณ์ทางด้านลบ

    เจ้าหน้าที่สหประชาชาติรายงานพบหลุมศพหมู่ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในเมืองราฟาห์ หลังจากการโจมตีของอิสราเอล จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีร่องรอยของการสังหารเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่กู้ภัยชาวปาเลสไตน์รวม 15 ราย

    เจ้าหน้าที่สภากาชาดปาเลสไตน์ (Palestinian Red Crescent Society - PRCS) และหน่วยป้องกันพลเรือน รายงานว่าศพที่พบในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของกาซา ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ของ PRCS 8 ราย เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือน 6 ​​ราย และเจ้าหน้าที่ UN อีก 1 ราย

    เมื่อ 7 วันก่อนหน้านี้ ขณะที่กองกำลังอิสราเอลเปิดปฏิบัติการรุกคืบครั้งใหม่ เจ้าหน้าที่กู้ภัย PRCS จำนวน 10 ราย และหน่วยป้องกันพลเรือน 6 ​​รายถูกส่งไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ รวมทั้งรถพยาบาลอีก 5 คัน รถดับเพลิง 1 คัน และรถ UN ปิดท้ายขบวน หลังจากนั้นมีรายงานการถูกโจมตีจากกองกำลังอิสราเอลจนขาดการติดต่อไปในที่สุด

    ทางด้านเจ้าหน้าที่กาชาด หลังจากทราบเรื่องการโจมตี ได้พยายามติดต่อกับฝ่ายอิสราเอลเพื่อขอเข้าพื้นที่ เพื่อเข้าไปตรวจสอบแต่ไม่ได้รับอนุยาต จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมา 5 วัน ถึงได้รับอนุญาตจากฝ่ายอิสราเอล

    ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งบอกกับทีมเจ้าหน้าที่กาชาดว่า กองกำลังอิสราเอลสังหารเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งสองคนขณะอยู่กับรถพยาบาลของพวกเขา

    ศพที่ถูกขุดขึ้นมาจากการฝังกลบแบบลวกๆ สภาพศพยังสวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ และสวมถุงมือ และอยู่ในรถที่มีเครื่องหมายกาชาด ซึ่งอยู่ระหว่างทางเข้าไปช่วยเหลือชีวิตพลเรือน
    ภาพวิดีโอความยาว 7 นาที กับเหตุการณ์ที่ปนไปด้วยหลากหลายอารมณ์ทางด้านลบ เจ้าหน้าที่สหประชาชาติรายงานพบหลุมศพหมู่ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในเมืองราฟาห์ หลังจากการโจมตีของอิสราเอล จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีร่องรอยของการสังหารเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่กู้ภัยชาวปาเลสไตน์รวม 15 ราย เจ้าหน้าที่สภากาชาดปาเลสไตน์ (Palestinian Red Crescent Society - PRCS) และหน่วยป้องกันพลเรือน รายงานว่าศพที่พบในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของกาซา ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ของ PRCS 8 ราย เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือน 6 ​​ราย และเจ้าหน้าที่ UN อีก 1 ราย เมื่อ 7 วันก่อนหน้านี้ ขณะที่กองกำลังอิสราเอลเปิดปฏิบัติการรุกคืบครั้งใหม่ เจ้าหน้าที่กู้ภัย PRCS จำนวน 10 ราย และหน่วยป้องกันพลเรือน 6 ​​รายถูกส่งไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ รวมทั้งรถพยาบาลอีก 5 คัน รถดับเพลิง 1 คัน และรถ UN ปิดท้ายขบวน หลังจากนั้นมีรายงานการถูกโจมตีจากกองกำลังอิสราเอลจนขาดการติดต่อไปในที่สุด ทางด้านเจ้าหน้าที่กาชาด หลังจากทราบเรื่องการโจมตี ได้พยายามติดต่อกับฝ่ายอิสราเอลเพื่อขอเข้าพื้นที่ เพื่อเข้าไปตรวจสอบแต่ไม่ได้รับอนุยาต จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมา 5 วัน ถึงได้รับอนุญาตจากฝ่ายอิสราเอล ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งบอกกับทีมเจ้าหน้าที่กาชาดว่า กองกำลังอิสราเอลสังหารเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งสองคนขณะอยู่กับรถพยาบาลของพวกเขา ศพที่ถูกขุดขึ้นมาจากการฝังกลบแบบลวกๆ สภาพศพยังสวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ และสวมถุงมือ และอยู่ในรถที่มีเครื่องหมายกาชาด ซึ่งอยู่ระหว่างทางเข้าไปช่วยเหลือชีวิตพลเรือน
    0 Comments 0 Shares 204 Views 43 0 Reviews
  • 1 พ.ค.ต่างชาติต้องกรอก บัตรขาเข้าดิจิทัล TDAC

    หลังจากมาตรการยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวที่ด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มบัตรขาเข้าดิจิทัล (Thailand Digital Arrival Card) หรือ TDAC ทางออนไลน์ภายใน 3 วัน (รวมวันเดินทางมาถึง) ก่อนเข้าประเทศ แล้วนำอีเมลที่ได้รับพร้อมเอกสารการเดินทาง เช่น หนังสือเดินทาง ไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2568 เป็นต้นไป

    แบบฟอร์ม TDAC กรอกได้ที่เว็บไซต์ https://tdac.immigration.go.th เท่านั้น โปรดระวังเว็บไซต์ปลอมหรือลอกเลียนแบบจากมิจฉาชีพ

    สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้เหตุผลว่า เพื่อปรับปรุงกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกระแสโลกด้านเทคโนโลยีการเดินทางอัจฉริยะ โดยแบบฟอร์ม TDAC ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการเข้าประเทศของชาวต่างชาติ และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่เจ้าหน้าที่ ตม. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทดแทนบัตรขาเข้าแบบกระดาษ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองเร็วขึ้น ใช้เอกสารน้อยลง และความปลอดภัยตามแนวชายแดนที่ดีขึ้น

    สำหรับวิธีการกรอกแบบฟอร์ม TDAC จะต้องกรอกล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง ให้กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อและนามสกุล สัญชาติ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล และข้อมูลหนังสือเดินทาง กับข้อมูลการเดินทาง ได้แก่ รหัสเที่ยวบิน (กรณีเดินทางด้วยเครื่องบิน) วัตถุประสงค์การเดินทาง ข้อมูลที่พำนักในประเทศไทย (เช่น ที่อยู่โรงแรม ที่อยู่บ้านพักอาศัย) และข้อมูลด้านสุขภาพสำหรับบางประเทศ หลังจากกรอกแบบฟอร์มออนไลน์แล้วเสร็จ จะได้รับอีเมลตอบรับ ให้นำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ ตม. พร้อมเอกสารการเดินทาง เมื่อมาถึงประเทศไทยเพื่อยืนยันตัวตน

    ผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม TDAC ได้แก่ ชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านหรือเปลี่ยนเครื่องบินในประเทศไทย โดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง (Transfer / Transit) และชาวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยหนังสือผ่านแดน (Border Pass) อย่างไรก็ตาม บัตรขาเข้าดิจิทัลของประเทศไทยไม่ใช่วีซ่า หากนักท่องเที่ยวจากประเทศใด ไม่ได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ให้ดำเนินการขอวีซ่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยกำหนดไว้

    อนึ่ง กระบวนการดังกล่าวคล้ายกับบัตรขาเข้าดิจิทัลบางประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ประเทศสิงคโปร์ Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ประเทศมาเลเซีย

    #Newskit
    1 พ.ค.ต่างชาติต้องกรอก บัตรขาเข้าดิจิทัล TDAC หลังจากมาตรการยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวที่ด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มบัตรขาเข้าดิจิทัล (Thailand Digital Arrival Card) หรือ TDAC ทางออนไลน์ภายใน 3 วัน (รวมวันเดินทางมาถึง) ก่อนเข้าประเทศ แล้วนำอีเมลที่ได้รับพร้อมเอกสารการเดินทาง เช่น หนังสือเดินทาง ไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2568 เป็นต้นไป แบบฟอร์ม TDAC กรอกได้ที่เว็บไซต์ https://tdac.immigration.go.th เท่านั้น โปรดระวังเว็บไซต์ปลอมหรือลอกเลียนแบบจากมิจฉาชีพ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้เหตุผลว่า เพื่อปรับปรุงกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกระแสโลกด้านเทคโนโลยีการเดินทางอัจฉริยะ โดยแบบฟอร์ม TDAC ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการเข้าประเทศของชาวต่างชาติ และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่เจ้าหน้าที่ ตม. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทดแทนบัตรขาเข้าแบบกระดาษ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองเร็วขึ้น ใช้เอกสารน้อยลง และความปลอดภัยตามแนวชายแดนที่ดีขึ้น สำหรับวิธีการกรอกแบบฟอร์ม TDAC จะต้องกรอกล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง ให้กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อและนามสกุล สัญชาติ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล และข้อมูลหนังสือเดินทาง กับข้อมูลการเดินทาง ได้แก่ รหัสเที่ยวบิน (กรณีเดินทางด้วยเครื่องบิน) วัตถุประสงค์การเดินทาง ข้อมูลที่พำนักในประเทศไทย (เช่น ที่อยู่โรงแรม ที่อยู่บ้านพักอาศัย) และข้อมูลด้านสุขภาพสำหรับบางประเทศ หลังจากกรอกแบบฟอร์มออนไลน์แล้วเสร็จ จะได้รับอีเมลตอบรับ ให้นำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ ตม. พร้อมเอกสารการเดินทาง เมื่อมาถึงประเทศไทยเพื่อยืนยันตัวตน ผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม TDAC ได้แก่ ชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านหรือเปลี่ยนเครื่องบินในประเทศไทย โดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง (Transfer / Transit) และชาวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยหนังสือผ่านแดน (Border Pass) อย่างไรก็ตาม บัตรขาเข้าดิจิทัลของประเทศไทยไม่ใช่วีซ่า หากนักท่องเที่ยวจากประเทศใด ไม่ได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ให้ดำเนินการขอวีซ่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยกำหนดไว้ อนึ่ง กระบวนการดังกล่าวคล้ายกับบัตรขาเข้าดิจิทัลบางประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ประเทศสิงคโปร์ Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ประเทศมาเลเซีย #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • “อิสราเอลจะรับประกันความปลอดภัยเหนือฉนวนกาซาทั้งหมดด้วยการเข้าควบคุมแทนที่ฮามาส และแผนอพยพของทรัมป์จะต้องถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง”

     เนทันยาฮู กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันก่อน
    “อิสราเอลจะรับประกันความปลอดภัยเหนือฉนวนกาซาทั้งหมดด้วยการเข้าควบคุมแทนที่ฮามาส และแผนอพยพของทรัมป์จะต้องถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง”  เนทันยาฮู กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันก่อน
    0 Comments 0 Shares 166 Views 25 0 Reviews
  • "ไม่เป็นมันแล้วประเทศคนดีย์! รักสันติภาพ กอบกู้โลก"

    ทรัมป์ ประกาศชัด จะทิ้งระเบิดใส่อิหร่าน หากพวกเขาไม่ยอมเจรจากับวอชิงตัน เกี่ยวกับการยุติโครงการนิวเคลียร์

    ประธานาธิบดีอิหร่าน เพิ่งปฏิเสธเจรจาโดยตรงกับวอชิงตันไปเมื่อหลายวันก่อน โดยอ้างว่าสหรัฐมีแต่คำโกหก พวกเขาจะเรียกร้องไม่หยุด เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ

    ทางด้านทรัมป์เพิ่งบอกกับสำนักข่าวเอ็น NMC News ว่า หากพวกเขาไม่ทำข้อตกลงกับเรา จะมีการทิ้งระเบิดเกิดขึ้น

    "จะมีการทิ้งระเบิดในแบบที่พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน มันจะเกิดขึ้นจริงถ้าพวกเขาไม่ทำข้อตกลง หลังจากนั้นผมจะรีดภาษีเล่นงานพวกเขา แบบเดียวกับที่ผมเคยทำเมื่อ 4 ปีก่อน" ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
    "ไม่เป็นมันแล้วประเทศคนดีย์! รักสันติภาพ กอบกู้โลก" ทรัมป์ ประกาศชัด จะทิ้งระเบิดใส่อิหร่าน หากพวกเขาไม่ยอมเจรจากับวอชิงตัน เกี่ยวกับการยุติโครงการนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีอิหร่าน เพิ่งปฏิเสธเจรจาโดยตรงกับวอชิงตันไปเมื่อหลายวันก่อน โดยอ้างว่าสหรัฐมีแต่คำโกหก พวกเขาจะเรียกร้องไม่หยุด เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ทางด้านทรัมป์เพิ่งบอกกับสำนักข่าวเอ็น NMC News ว่า หากพวกเขาไม่ทำข้อตกลงกับเรา จะมีการทิ้งระเบิดเกิดขึ้น "จะมีการทิ้งระเบิดในแบบที่พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน มันจะเกิดขึ้นจริงถ้าพวกเขาไม่ทำข้อตกลง หลังจากนั้นผมจะรีดภาษีเล่นงานพวกเขา แบบเดียวกับที่ผมเคยทำเมื่อ 4 ปีก่อน" ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
    0 Comments 0 Shares 178 Views 19 0 Reviews
  • เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส คาลิล อัล-ไฮยา กล่าวว่า กลุ่มฮามาสยอมรับข้อเสนอหยุดยิงฉบับใหม่ที่ได้รับเมื่อ 2 วันก่อน และหวังว่าอิสราเอลจะไม่ขัดขวางข้อเสนอดังกล่าว
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส คาลิล อัล-ไฮยา กล่าวว่า กลุ่มฮามาสยอมรับข้อเสนอหยุดยิงฉบับใหม่ที่ได้รับเมื่อ 2 วันก่อน และหวังว่าอิสราเอลจะไม่ขัดขวางข้อเสนอดังกล่าว
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • รายละเอียดเพิ่มเติมหลังการประชุมสุดยอดที่ปารีสที่เพิ่งปิดฉากลงไปเมื่อวันก่อน:

    👉ประเทศสมาชิกยุโรปทุกประเทศสนับสนุนให้ยังคงกดดันรัสเซียต่อไป

    👉ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวว่า การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเป็น "ความผิดพลาดร้ายแรง" สำหรับพวกเรา

    👉คีร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แสดงออกอย่างแข็งกร้าวโดยการมุ่งมั่นให้โจมตีภาคพลังงานของรัสเซียให้หนักกว่านี้

    👉สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ตกลงจะส่งผู้บัญชาการและกองกำลังทหารไปที่เคียฟ (เยอรมนีจะส่งไปแต่ระดับผู้บัญชาการ) โดยที่ทั้งหมดจะช่วยยูเครนจัดตั้งโครงสร้างการบังคับบัญชาใหม่ จัดตั้งหน่วยใหม่ ที่มีขีดความสามารถในการยึดพื้นที่คืน (หากเป็นรายละเอียดตามนี้จริง บ่งบอกว่าสงครามใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ โดยใช้ข้ออ้างยึดพื้นที่คืน)

    👉อิตาลีปฏิเสธส่งกองกำลังเข้าร่วมอย่างชัดเจน

    👉สหรัฐขอคงสถานะจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
    รายละเอียดเพิ่มเติมหลังการประชุมสุดยอดที่ปารีสที่เพิ่งปิดฉากลงไปเมื่อวันก่อน: 👉ประเทศสมาชิกยุโรปทุกประเทศสนับสนุนให้ยังคงกดดันรัสเซียต่อไป 👉ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวว่า การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเป็น "ความผิดพลาดร้ายแรง" สำหรับพวกเรา 👉คีร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แสดงออกอย่างแข็งกร้าวโดยการมุ่งมั่นให้โจมตีภาคพลังงานของรัสเซียให้หนักกว่านี้ 👉สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ตกลงจะส่งผู้บัญชาการและกองกำลังทหารไปที่เคียฟ (เยอรมนีจะส่งไปแต่ระดับผู้บัญชาการ) โดยที่ทั้งหมดจะช่วยยูเครนจัดตั้งโครงสร้างการบังคับบัญชาใหม่ จัดตั้งหน่วยใหม่ ที่มีขีดความสามารถในการยึดพื้นที่คืน (หากเป็นรายละเอียดตามนี้จริง บ่งบอกว่าสงครามใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ โดยใช้ข้ออ้างยึดพื้นที่คืน) 👉อิตาลีปฏิเสธส่งกองกำลังเข้าร่วมอย่างชัดเจน 👉สหรัฐขอคงสถานะจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • จุดจบวัฒนธรรมพิการ ศาลสั่งประหาร! “อั้ม-อนาวิน แก้วเก็บ” มือยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด”

    ✍️ จากวัฒนธรรมรับน้องผิดเพี้ยน สู่บทสรุปคดีสะเทือนขวัญ วัยรุ่นไทยควรได้บทเรียนอะไร จากโศกนาฏกรรมนี้? ศาลสั่งประหาร “อั้ม-อนาวิน” คดียิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” สะเทือนใจทั้งประเทศ จุดจบวัฒนธรรมพิการต้องจบที่รุ่นเรา เหยื่อบริสุทธิ์จากวัฒนธรรมรับน้องผิดๆ จุดเริ่มต้นของการล้มล้างความรุนแรง แฝงในระบบการศึกษาไทย

    🔵 ความสูญเสียที่ต้องไม่สูญเปล่า วันที่ 28 มีนาคม 2568 กลายเป็นวันที่หลายคนจดจำ เมื่อศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาชั้นต้นให้ “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อั้ม” มือยิงผู้บริสุทธิ์สองราย ได้แก่ “ครูเจี๊ยบ” และ “น้องหยอด” จากเหตุการณ์เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2566

    เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ “คดีฆาตกรรม” แต่สะท้อนปัญหาฝังลึกในสังคม คือ “วัฒนธรรมรับน้องอันรุนแรง” ที่ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ และส่งต่อกันมาโดยไร้การตรวจสอบ ❌

    🔴 “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีวันกลับมา คดีเริ่มต้นจากความตั้งใจของกลุ่มอดีตเด็กช่าง ที่ต้องการ “สร้างผลงาน” เพื่อไปอวดในวันรับน้องของสถาบันแห่งหนึ่ง โดยนายอนาวิน วางแผนมาก่อนแล้วว่า จะก่อเหตุในวันที่ 11 พ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันก่อนวันรับน้อง 1 วัน

    📍 สถานที่เกิดเหตุ หน้าธนาคาร TTB สาขาคลองเตย ใจกลางกรุงเทพฯ

    🔫 เหยื่อ
    - นางสาวศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนเวนต์
    - นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือน้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย

    การยิงเกิดจาก “กระสุนพลาดเป้า” ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะยิงน้องหยอด แต่กลับทำให้ครูเจี๊ยบเสียชีวิตทันที 😢

    🟠 บทเรียนจากการล่า 24 ผู้ต้องหา ปฏิบัติการ “ปิดเมือง” หลังเกิดเหตุ ตำรวจเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ “ปิดเมืองล่ามือยิง” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ใช้เวลากว่า 1 เดือน กว่าจะจับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คนจาก 26 หมายจับ 💣

    🔍 ตรวจสอบกล้องวงจรกว่า 1,000 ตัว
    🚔 ปิดล้อม 14 จุดทั่วกรุงและปริมณฑล
    🔫 ตรวจสอบกลุ่มแชตลับ 103 คน มีแผนฆ่า มีระบบดูแลคนใน
    📱 ใช้ไลน์กลุ่มลับ 84 คน วางแผนคล้าย "องค์กรอาชญากรรม"

    หนึ่งในตำรวจสืบสวนเล่าว่า การไล่ล่าครั้งนี้ “ยิ่งกว่านิยายไล่ล่าตี๋ใหญ่” เพราะผู้ต้องหาหนีอย่างแนบเนียน เปลี่ยนสีรถ, เปลี่ยนทะเบียน, เปลี่ยนเสื้อผ้า, วางจุดลวงสับสนเจ้าหน้าที่

    🟡 จุดแตกหัก จับกุม “อั้ม-อนาวิน” บนดอยปุย 🎯 หลังไล่ล่าจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ตำรวจไล่ติดตามจนกระทั่งพบตัว “อนาวิน” พร้อม “กฤติ” เพื่อนร่วมขบวนการ ที่กำลังนอนอยู่ในเต็นท์บนดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของวันที่ 19 ธันวาคม 2566

    👮‍♂️ ตำรวจคุกเข่าร้องไห้ด้วยความดีใจ หลังจากตามล่ามา 1 เดือนเต็ม 🥹

    🟢 ศาลตัดสิน “ประหารชีวิต” เพื่อยุติวัฏจักร วันที่ 28 มีนาคม 2568 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” พร้อมสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 6 ล้านบาท

    👉 ความผิดตามกฎหมาย
    - ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
    - มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ยิงปืนในที่ชุมชน
    - สมคบก่ออาชญากรรม

    🔵 วัฒนธรรมรับน้อง = จุดเริ่มของโศกนาฏกรรม จากการสอบปากคำ “อั้ม-อนาวิน” ยอมรับว่า ต้องการสร้าง “ผลงาน” เพื่อเอาไปโชว์ในวันรับน้อง ซึ่งมาจากการปลูกฝังของรุ่นพี่ 💣

    พร้อมมีการพูดคุยผ่านไลน์กลุ่มลับว่า “ใครฆ่าอริได้ จะเป็นฮีโร่ของกลุ่ม”

    “ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก... ที่พาน้องไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกล” นี่คือคำพูดในแชตลับที่ชวนให้ขนลุก 😨
    มันไม่ใช่แค่ “การแกล้ง” หรือ “กิจกรรมรุ่นพี่-รุ่นน้อง” อีกต่อไป แต่เป็นการหล่อหลอมความรุนแรง

    🔴 จุดจบของ “วัฒนธรรมพิการ” ต้องจบที่รุ่นเรา คดีนี้เป็น ภาพสะท้อนของปัญหาสังคมไทย ที่สั่งสมมานาน
    วัฒนธรรมรับน้องที่ขาดจรรยาบรรณ สร้างเงื่อนไขของการยอมรับผ่านความรุนแรง อวดอำนาจเหนือผู้อื่น

    🧠 คำถามที่ต้องถามคือ...

    👉 วัฒนธรรมที่ต้องมีคนตาย ถึงจะได้รับการยอมรับ เราจะยังเรียกมันว่า “วัฒนธรรม” ได้อีกหรือ?

    🟣 บทสรุป ความยุติธรรม และภารกิจต่อไปของสังคม คดีนี้ไม่เพียงปิดฉากด้วย “คำสั่งประหารชีวิต” แต่มันคือเสียงร้องของสังคมที่ว่า…

    🔊 ถึงเวลา “ล้มล้างวัฒนธรรมพิการ”
    🔊 ถึงเวลาทบทวนระบบสถาบัน ที่หล่อหลอมความรุนแรงให้เป็นเรื่องปกติ
    🔊 ถึงเวลาสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281803 มี.ค. 2568

    📢 #จุดจบวัฒนธรรมพิการ #คดีครูเจี๊ยบ #น้องหยอดอุเทน #อนาวินแก้วเก็บ #ประหารชีวิต #อาชญากรรมไทย #ยิงกลางกรุง #รับน้องผิดๆ #ยุติธรรมไทย #ตำรวจไทยไล่ล่า
    จุดจบวัฒนธรรมพิการ ศาลสั่งประหาร! “อั้ม-อนาวิน แก้วเก็บ” มือยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ✍️ จากวัฒนธรรมรับน้องผิดเพี้ยน สู่บทสรุปคดีสะเทือนขวัญ วัยรุ่นไทยควรได้บทเรียนอะไร จากโศกนาฏกรรมนี้? ศาลสั่งประหาร “อั้ม-อนาวิน” คดียิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” สะเทือนใจทั้งประเทศ จุดจบวัฒนธรรมพิการต้องจบที่รุ่นเรา เหยื่อบริสุทธิ์จากวัฒนธรรมรับน้องผิดๆ จุดเริ่มต้นของการล้มล้างความรุนแรง แฝงในระบบการศึกษาไทย 🔵 ความสูญเสียที่ต้องไม่สูญเปล่า วันที่ 28 มีนาคม 2568 กลายเป็นวันที่หลายคนจดจำ เมื่อศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาชั้นต้นให้ “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อั้ม” มือยิงผู้บริสุทธิ์สองราย ได้แก่ “ครูเจี๊ยบ” และ “น้องหยอด” จากเหตุการณ์เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2566 เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ “คดีฆาตกรรม” แต่สะท้อนปัญหาฝังลึกในสังคม คือ “วัฒนธรรมรับน้องอันรุนแรง” ที่ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ และส่งต่อกันมาโดยไร้การตรวจสอบ ❌ 🔴 “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีวันกลับมา คดีเริ่มต้นจากความตั้งใจของกลุ่มอดีตเด็กช่าง ที่ต้องการ “สร้างผลงาน” เพื่อไปอวดในวันรับน้องของสถาบันแห่งหนึ่ง โดยนายอนาวิน วางแผนมาก่อนแล้วว่า จะก่อเหตุในวันที่ 11 พ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันก่อนวันรับน้อง 1 วัน 📍 สถานที่เกิดเหตุ หน้าธนาคาร TTB สาขาคลองเตย ใจกลางกรุงเทพฯ 🔫 เหยื่อ - นางสาวศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนเวนต์ - นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือน้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย การยิงเกิดจาก “กระสุนพลาดเป้า” ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะยิงน้องหยอด แต่กลับทำให้ครูเจี๊ยบเสียชีวิตทันที 😢 🟠 บทเรียนจากการล่า 24 ผู้ต้องหา ปฏิบัติการ “ปิดเมือง” หลังเกิดเหตุ ตำรวจเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ “ปิดเมืองล่ามือยิง” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ใช้เวลากว่า 1 เดือน กว่าจะจับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คนจาก 26 หมายจับ 💣 🔍 ตรวจสอบกล้องวงจรกว่า 1,000 ตัว 🚔 ปิดล้อม 14 จุดทั่วกรุงและปริมณฑล 🔫 ตรวจสอบกลุ่มแชตลับ 103 คน มีแผนฆ่า มีระบบดูแลคนใน 📱 ใช้ไลน์กลุ่มลับ 84 คน วางแผนคล้าย "องค์กรอาชญากรรม" หนึ่งในตำรวจสืบสวนเล่าว่า การไล่ล่าครั้งนี้ “ยิ่งกว่านิยายไล่ล่าตี๋ใหญ่” เพราะผู้ต้องหาหนีอย่างแนบเนียน เปลี่ยนสีรถ, เปลี่ยนทะเบียน, เปลี่ยนเสื้อผ้า, วางจุดลวงสับสนเจ้าหน้าที่ 🟡 จุดแตกหัก จับกุม “อั้ม-อนาวิน” บนดอยปุย 🎯 หลังไล่ล่าจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ตำรวจไล่ติดตามจนกระทั่งพบตัว “อนาวิน” พร้อม “กฤติ” เพื่อนร่วมขบวนการ ที่กำลังนอนอยู่ในเต็นท์บนดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของวันที่ 19 ธันวาคม 2566 👮‍♂️ ตำรวจคุกเข่าร้องไห้ด้วยความดีใจ หลังจากตามล่ามา 1 เดือนเต็ม 🥹 🟢 ศาลตัดสิน “ประหารชีวิต” เพื่อยุติวัฏจักร วันที่ 28 มีนาคม 2568 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” พร้อมสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 6 ล้านบาท 👉 ความผิดตามกฎหมาย - ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน - มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต - ยิงปืนในที่ชุมชน - สมคบก่ออาชญากรรม 🔵 วัฒนธรรมรับน้อง = จุดเริ่มของโศกนาฏกรรม จากการสอบปากคำ “อั้ม-อนาวิน” ยอมรับว่า ต้องการสร้าง “ผลงาน” เพื่อเอาไปโชว์ในวันรับน้อง ซึ่งมาจากการปลูกฝังของรุ่นพี่ 💣 พร้อมมีการพูดคุยผ่านไลน์กลุ่มลับว่า “ใครฆ่าอริได้ จะเป็นฮีโร่ของกลุ่ม” “ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก... ที่พาน้องไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกล” นี่คือคำพูดในแชตลับที่ชวนให้ขนลุก 😨 มันไม่ใช่แค่ “การแกล้ง” หรือ “กิจกรรมรุ่นพี่-รุ่นน้อง” อีกต่อไป แต่เป็นการหล่อหลอมความรุนแรง 🔴 จุดจบของ “วัฒนธรรมพิการ” ต้องจบที่รุ่นเรา คดีนี้เป็น ภาพสะท้อนของปัญหาสังคมไทย ที่สั่งสมมานาน วัฒนธรรมรับน้องที่ขาดจรรยาบรรณ สร้างเงื่อนไขของการยอมรับผ่านความรุนแรง อวดอำนาจเหนือผู้อื่น 🧠 คำถามที่ต้องถามคือ... 👉 วัฒนธรรมที่ต้องมีคนตาย ถึงจะได้รับการยอมรับ เราจะยังเรียกมันว่า “วัฒนธรรม” ได้อีกหรือ? 🟣 บทสรุป ความยุติธรรม และภารกิจต่อไปของสังคม คดีนี้ไม่เพียงปิดฉากด้วย “คำสั่งประหารชีวิต” แต่มันคือเสียงร้องของสังคมที่ว่า… 🔊 ถึงเวลา “ล้มล้างวัฒนธรรมพิการ” 🔊 ถึงเวลาทบทวนระบบสถาบัน ที่หล่อหลอมความรุนแรงให้เป็นเรื่องปกติ 🔊 ถึงเวลาสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281803 มี.ค. 2568 📢 #จุดจบวัฒนธรรมพิการ #คดีครูเจี๊ยบ #น้องหยอดอุเทน #อนาวินแก้วเก็บ #ประหารชีวิต #อาชญากรรมไทย #ยิงกลางกรุง #รับน้องผิดๆ #ยุติธรรมไทย #ตำรวจไทยไล่ล่า
    0 Comments 0 Shares 400 Views 0 Reviews
  • “ปูตินเดี๋ยวก็ตาย ตายแล้วทุกอย่างมันก็จบ มันคือเรื่องจริง”
    ในระหว่างการเยือนปารีสเมื่อวันก่อน เซเลนสกี กล่าวให้สัมภาณ์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย บ่งบอกถึงความในใจของเขาที่ไม่เคยต้องการสันติภาพกับรัสเซีย

    “ปูตินเดี๋ยวก็ตาย ตายแล้วทุกอย่างมันก็จบ มันคือเรื่องจริง บางทีเขาอาจจะตายก่อนที่เขาจะสร้างประวัติศาสตร์ที่ล้มเหลวในชีวิตของเขาเสร็จสิ้นซะอีก นั่นคือสิ่งที่เขากลัว ตอนนี้ผมอายุน้อยกว่าเขา คุณกล้าเดิมพันกับผมมั้ยล่ะ ว่าผมจะมีอนาคตที่ดีกว่าเขา”

    นอกจากนี้ เซเลนสกียังเพ้อต่อได้อีกว่า:
    • สหรัฐฯ ตอนนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของรัสเซียไปแล้ว
    • เขายอมรับว่าไม่รู้จักทรัมป์ดีพอที่จะประเมินความสัมพันธ์ของเขากับปูตินได้
    • เซเลนสกียังคงยืนยันอีกครั้งว่า “ยูเครนไม่เคยถูกล้อม” ในเคิร์สก์ พวกเขาเสร็จสิ้นภารกิจ และออกมาได้อย่างปลอดภัย
    • ตอนนี้ยูเครน เคลียร์ข้อตกลงความช่วยเหลือกับสหรัฐฯได้หมดแล้ว โดยใช้ประโยชน์จากข้อตกลงของแร่ธาตุหายาก
    “ปูตินเดี๋ยวก็ตาย ตายแล้วทุกอย่างมันก็จบ มันคือเรื่องจริง” ในระหว่างการเยือนปารีสเมื่อวันก่อน เซเลนสกี กล่าวให้สัมภาณ์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย บ่งบอกถึงความในใจของเขาที่ไม่เคยต้องการสันติภาพกับรัสเซีย “ปูตินเดี๋ยวก็ตาย ตายแล้วทุกอย่างมันก็จบ มันคือเรื่องจริง บางทีเขาอาจจะตายก่อนที่เขาจะสร้างประวัติศาสตร์ที่ล้มเหลวในชีวิตของเขาเสร็จสิ้นซะอีก นั่นคือสิ่งที่เขากลัว ตอนนี้ผมอายุน้อยกว่าเขา คุณกล้าเดิมพันกับผมมั้ยล่ะ ว่าผมจะมีอนาคตที่ดีกว่าเขา” นอกจากนี้ เซเลนสกียังเพ้อต่อได้อีกว่า: • สหรัฐฯ ตอนนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของรัสเซียไปแล้ว • เขายอมรับว่าไม่รู้จักทรัมป์ดีพอที่จะประเมินความสัมพันธ์ของเขากับปูตินได้ • เซเลนสกียังคงยืนยันอีกครั้งว่า “ยูเครนไม่เคยถูกล้อม” ในเคิร์สก์ พวกเขาเสร็จสิ้นภารกิจ และออกมาได้อย่างปลอดภัย • ตอนนี้ยูเครน เคลียร์ข้อตกลงความช่วยเหลือกับสหรัฐฯได้หมดแล้ว โดยใช้ประโยชน์จากข้อตกลงของแร่ธาตุหายาก
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • ไฟป่าในเกาหลีใต้ลุกลามกินพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าวันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเทียบกับหนึ่งวันก่อนหน้า ขณะที่ทางการระบุว่าภัยพิบัติไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 26 คน และมีวัดวาอารามเก่าแก่ถูกเพลิงเผาวอดไปหลายแห่ง

    ไฟป่าในเทศมณฑลอุยซอง (Uiseong) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในตอนนี้ได้ลุกลามขยายวงกว้างกินพื้นที่มากกว่า 33,000 เฮกตาร์ ซึ่งทำให้มันกลายเป็นไฟป่าจุดเดียวที่มีขนาดใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ เอาชนะสถิติไฟป่าเมื่อเดือน มี.ค. ปี 2000 ซึ่งเผาผลาญผืนป่าไป 24,000 เฮกตาร์

    “เราทั้งประเทศกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ขั้นวิกฤตและมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก สืบเนื่องจากไฟป่าที่ลุกลามรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” ฮัน ดักซู รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวในการประชุมคณะทำงานตอบสนองไฟป่าของรัฐบาล

    กองทัพเกาหลีใต้ได้เบิกน้ำมันในคลังสำรองออกมาช่วยเติมเฮลิคอปเตอร์ดับไฟป่าตามเขตภูเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ โดยขณะนี้ไฟป่าได้เผาไหม้พื้นที่มานานเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000029078

    #MGROnline #กองทัพเกาหลีใต้ ##ไฟป่า #เกาหลีใต้
    ไฟป่าในเกาหลีใต้ลุกลามกินพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าวันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเทียบกับหนึ่งวันก่อนหน้า ขณะที่ทางการระบุว่าภัยพิบัติไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 26 คน และมีวัดวาอารามเก่าแก่ถูกเพลิงเผาวอดไปหลายแห่ง • ไฟป่าในเทศมณฑลอุยซอง (Uiseong) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในตอนนี้ได้ลุกลามขยายวงกว้างกินพื้นที่มากกว่า 33,000 เฮกตาร์ ซึ่งทำให้มันกลายเป็นไฟป่าจุดเดียวที่มีขนาดใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ เอาชนะสถิติไฟป่าเมื่อเดือน มี.ค. ปี 2000 ซึ่งเผาผลาญผืนป่าไป 24,000 เฮกตาร์ • “เราทั้งประเทศกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ขั้นวิกฤตและมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก สืบเนื่องจากไฟป่าที่ลุกลามรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” ฮัน ดักซู รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวในการประชุมคณะทำงานตอบสนองไฟป่าของรัฐบาล • กองทัพเกาหลีใต้ได้เบิกน้ำมันในคลังสำรองออกมาช่วยเติมเฮลิคอปเตอร์ดับไฟป่าตามเขตภูเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ โดยขณะนี้ไฟป่าได้เผาไหม้พื้นที่มานานเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000029078 • #MGROnline #กองทัพเกาหลีใต้ ##ไฟป่า #เกาหลีใต้
    0 Comments 0 Shares 219 Views 0 Reviews
  • เป็นการพลั้งเผลอที่ร้ายแรงมาก : เมื่อสหรัฐ "เผลอ" ดึง Jeffrey Goldberg บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic เข้าไปในกลุ่มแชทสนทนาของแอปฯ Signal ก่อนที่การโจมตี 'ฮูตี' ในเยเมนจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา

    Goldberg เปิดเผยผ่านบทความของตัวเองว่า เขาถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มแชทที่ชื่อ 'Houthi PC Small Group' ตั้งแต่ 2 วันก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง:
    ในกลุ่มสนทนานี้มีทั้ง Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ, Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ, JD Vance รองประธานาธิบดีสหรัฐ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในรัฐบาลทรัมป์

    Goldberg กล่าวอีกว่าในช่วงสองวันที่เขาอยู่ในกลุ่มสนทนานี้ ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะมีการเปิดฉากโจมตีฮูตี เจ้าหน้าที่ระดับสูงในฝ่ายบริหารได้ถกเถียงกันว่าการโจมตีควรเกิดขึ้นหรือไม่ โดยรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ มีความเห็นว่า "ไม่ควรเปิดฉากโจมตีแบบรุนแรง" เนื่องจากคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจและไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีเรือในทะเลแดงของกลุ่มฮูตี

    แต่ Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แย้งว่าการโจมตีครั้งนี้มีประโยชน์ต่อสหรัฐในการป้องกันการโจมตีเรือเดินทะเลผ่านช่องแคบบาบอัลมันดาบในอนาคต

    ในตอนท้าย Goldberg ระบุว่าเขาได้รับข้อความในแชทจากพีท เฮกเซธ แต่เขาไม่สามารถกล่าวถึงข้อความดังกล่าวโดยตรงได้ เนื่องจากข้อความดังกล่าว เป็นข้อความที่ละเอียดอ่อนและมีข้อมูลลับสุดยอด ซึ่ง Goldberg เน้นว่า “หากข้อมูลดังกล่าวถูกอ่านโดยศัตรูของสหรัฐ อาจถูกนำไปใช้ทำร้ายทหารและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการกลาง (CENTCOM)”

    Goldberg กล่าวว่านี่ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่ออย่างน่าตกใจของการสนทนาครั้งนี้ที่เขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งมีรายละเอียดการปฏิบัติการของการโจมตีเยเมนที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมาย อาวุธที่สหรัฐจะนำไปใช้ และลำดับการโจมตี และแสดงความกังวลถึงความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะหากผู้ที่มีข้อมูลเผยแพร่แผนดังกล่าวก่อนปฏิบัติการจริง อาจทำให้ปฏิบัติการของสหรัฐฯ ล้มเหลวหรือสร้างความเสียหายตามมา

    โกลด์เบิร์กได้สอบถามไปยังไบรอัน ฮิวจ์ส โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเกี่ยวกับกลุ่มสนทนาดังกล่าว โดยเขายอมรับว่า นี่อาจเป็น ของจริง และขอเวลาในการตรวจสอบว่ามีการเพิ่มบุคคลเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจนี้ได้อย่างไร

    อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้นำเรื่องนี้มาเปิดเผยก่อนการโจมตีเกิดขึ้นแต่อย่างใด
    เป็นการพลั้งเผลอที่ร้ายแรงมาก : เมื่อสหรัฐ "เผลอ" ดึง Jeffrey Goldberg บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic เข้าไปในกลุ่มแชทสนทนาของแอปฯ Signal ก่อนที่การโจมตี 'ฮูตี' ในเยเมนจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา Goldberg เปิดเผยผ่านบทความของตัวเองว่า เขาถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มแชทที่ชื่อ 'Houthi PC Small Group' ตั้งแต่ 2 วันก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง: ในกลุ่มสนทนานี้มีทั้ง Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ, Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ, JD Vance รองประธานาธิบดีสหรัฐ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในรัฐบาลทรัมป์ Goldberg กล่าวอีกว่าในช่วงสองวันที่เขาอยู่ในกลุ่มสนทนานี้ ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะมีการเปิดฉากโจมตีฮูตี เจ้าหน้าที่ระดับสูงในฝ่ายบริหารได้ถกเถียงกันว่าการโจมตีควรเกิดขึ้นหรือไม่ โดยรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ มีความเห็นว่า "ไม่ควรเปิดฉากโจมตีแบบรุนแรง" เนื่องจากคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจและไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีเรือในทะเลแดงของกลุ่มฮูตี แต่ Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แย้งว่าการโจมตีครั้งนี้มีประโยชน์ต่อสหรัฐในการป้องกันการโจมตีเรือเดินทะเลผ่านช่องแคบบาบอัลมันดาบในอนาคต ในตอนท้าย Goldberg ระบุว่าเขาได้รับข้อความในแชทจากพีท เฮกเซธ แต่เขาไม่สามารถกล่าวถึงข้อความดังกล่าวโดยตรงได้ เนื่องจากข้อความดังกล่าว เป็นข้อความที่ละเอียดอ่อนและมีข้อมูลลับสุดยอด ซึ่ง Goldberg เน้นว่า “หากข้อมูลดังกล่าวถูกอ่านโดยศัตรูของสหรัฐ อาจถูกนำไปใช้ทำร้ายทหารและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการกลาง (CENTCOM)” Goldberg กล่าวว่านี่ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่ออย่างน่าตกใจของการสนทนาครั้งนี้ที่เขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งมีรายละเอียดการปฏิบัติการของการโจมตีเยเมนที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมาย อาวุธที่สหรัฐจะนำไปใช้ และลำดับการโจมตี และแสดงความกังวลถึงความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะหากผู้ที่มีข้อมูลเผยแพร่แผนดังกล่าวก่อนปฏิบัติการจริง อาจทำให้ปฏิบัติการของสหรัฐฯ ล้มเหลวหรือสร้างความเสียหายตามมา โกลด์เบิร์กได้สอบถามไปยังไบรอัน ฮิวจ์ส โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเกี่ยวกับกลุ่มสนทนาดังกล่าว โดยเขายอมรับว่า นี่อาจเป็น ของจริง และขอเวลาในการตรวจสอบว่ามีการเพิ่มบุคคลเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจนี้ได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้นำเรื่องนี้มาเปิดเผยก่อนการโจมตีเกิดขึ้นแต่อย่างใด
    0 Comments 0 Shares 381 Views 0 Reviews
  • เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียเริ่มต้นเจรจาในซาอุดีอาระเบีย เพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงที่ครอบคลุมในยูเครน โดยในเฉพาะหน้านี้ทั้งวอชิงตันและมอสโกระบุว่ามุ่งโฟกัสที่การหยุดยิงในทะเลดำ ทั้งนี้หลังจาก 1 วันก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เพิ่งเจรจากับยูเครนในสถานที่แห่งเดียวกันนี้ อย่างไรก็ดี เครมลินดักคอว่า อย่าเพิ่งคาดหวังผลสำเร็จใดๆ เนื่องจากการเจรจาอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น อีกทั้งยังมีคำถามสำคัญหลายข้อที่ยังไม่ได้รับคำตอบ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000028187
    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียเริ่มต้นเจรจาในซาอุดีอาระเบีย เพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงที่ครอบคลุมในยูเครน โดยในเฉพาะหน้านี้ทั้งวอชิงตันและมอสโกระบุว่ามุ่งโฟกัสที่การหยุดยิงในทะเลดำ ทั้งนี้หลังจาก 1 วันก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เพิ่งเจรจากับยูเครนในสถานที่แห่งเดียวกันนี้ อย่างไรก็ดี เครมลินดักคอว่า อย่าเพิ่งคาดหวังผลสำเร็จใดๆ เนื่องจากการเจรจาอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น อีกทั้งยังมีคำถามสำคัญหลายข้อที่ยังไม่ได้รับคำตอบ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000028187
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 1591 Views 0 Reviews
  • Oreshnik ในเบลารุส พร้อมแล้ว???

    มีผู้พบเห็นรถรูปร่างแปลกตาที่มีล้อมากถึง 12 ล้อ ของ Minsk Wheel Tractor Plant (MZKT) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์บรรทุกทางทหารขนาดใหญ่ของเบลารุส โดยเฉพาะรถสำหรับใช้กับระบบขีปนาวุธ

    นอกจากนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน อเล็กซานเดอร์ โวลโฟวิช เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติของเบลารุส ได้ประกาศว่ารถคันแรกสำหรับระบบ Oreshnik เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งประธานาธิบดีลูคาเชนโกก็ได้ยืนยันรายงานดังกล่าวแล้วเช่นกัน
    Oreshnik ในเบลารุส พร้อมแล้ว??? มีผู้พบเห็นรถรูปร่างแปลกตาที่มีล้อมากถึง 12 ล้อ ของ Minsk Wheel Tractor Plant (MZKT) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์บรรทุกทางทหารขนาดใหญ่ของเบลารุส โดยเฉพาะรถสำหรับใช้กับระบบขีปนาวุธ นอกจากนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน อเล็กซานเดอร์ โวลโฟวิช เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติของเบลารุส ได้ประกาศว่ารถคันแรกสำหรับระบบ Oreshnik เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งประธานาธิบดีลูคาเชนโกก็ได้ยืนยันรายงานดังกล่าวแล้วเช่นกัน
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • มีการเปิดเผยหน้าตาของ อาบู ฮัมซา โฆษกกองพลอัลกุฎส์ของฮามาส ที่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อสองวันก่อน รวมถึงครอบครัวและลูกๆของเขาด้วย

    หลายคนคงคาดหวังว่าเขาจะมีหนวดเครายาว และมีรอยสักตามตัวที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงว่า “ความตายจงมีแด่พวกนอกศาสนา”

    เปล่าเลย! เขาเป็นเพียงชาวปาเลสไตน์ธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชนของเขาจากการถูกยึดครองโดยอิสราเอล
    มีการเปิดเผยหน้าตาของ อาบู ฮัมซา โฆษกกองพลอัลกุฎส์ของฮามาส ที่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อสองวันก่อน รวมถึงครอบครัวและลูกๆของเขาด้วย หลายคนคงคาดหวังว่าเขาจะมีหนวดเครายาว และมีรอยสักตามตัวที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงว่า “ความตายจงมีแด่พวกนอกศาสนา” เปล่าเลย! เขาเป็นเพียงชาวปาเลสไตน์ธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชนของเขาจากการถูกยึดครองโดยอิสราเอล
    0 Comments 0 Shares 246 Views 0 Reviews
  • เพิ่งผ่านวันเกิดของแฟนสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ไปเมื่อวันก่อน ล่าสุดฝั่งพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ”ก็เผยถึงโมเมนต์นี้ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คอนโดฯ ออริจิ้น–บ้านบริทาเนีย ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เจ้าตัวเผยว่าปีนี้เรียบง่ายมากๆ ตอนเช้าไปทำบุญ และตอนเย็นก็ไปทานข้าวต้มกับเพื่อนๆ เท่านั้น

    “วันเกิดน้องตอนเช้าก็ไปทำบุญครับ ตกเย็นก็นัดเพื่อนๆ ไปกินข้าวกัน น้องก็ 32 แล้ว แป๊บเดียวเอง ความพิเศษผมว่าทุกปีก็พิเศษเหมือนกันนะครับ แต่ละปีอาจจะพิเศษกันคนละแบบ เพราะว่าทำงานกัน แล้วก็คงจะเหนื่อยๆ กันด้วย ก็ทำอะไรกันง่ายๆ ตอนเช้าน้องก็อยากไปทำบุญ ถวายสังฆทาน ตกเย็นมาก็ชวนเพื่อนๆ ไปกินร้านข้าวต้ม ก็สนุกดี ชิลๆ มีความสุขกันดี ก็มีแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แล้วก็อวยพรเขา ภาพก็มีถ่ายไว้ ก็เอาเก็บไว้ดูเล่น แต่พักหลังๆ มาเราก็ไม่ค่อยได้ไปถ่ายรูปที่ไหนกันหรือว่ามีงานที่เป็นคู่ ก็เลยเอาโมเมนต์ที่เราแอบถ่ายเขาบ้าง เก็บไว้บ้างมาลง เป็นอีกหนึ่งการบอกความรู้สึกในใจว่าเรามีความสุขที่ได้อยู่กับเขา มีความสุขมากๆ เป็นผู้หญิงที่ทำให้เรามีเสียงหัวเราะได้แต่ตอนลงก็ไม่ได้ขอหรอกครับ ลงเลย (หัวเราะ) แต่เราก็ดูแหละว่าอันไหนเหมาะสม ไม่เหมาะสม”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000026455

    #MGROnline #เญาญ่าอุรัสยา #ณเดชน์คูกิมิยะ
    เพิ่งผ่านวันเกิดของแฟนสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ไปเมื่อวันก่อน ล่าสุดฝั่งพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ”ก็เผยถึงโมเมนต์นี้ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คอนโดฯ ออริจิ้น–บ้านบริทาเนีย ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เจ้าตัวเผยว่าปีนี้เรียบง่ายมากๆ ตอนเช้าไปทำบุญ และตอนเย็นก็ไปทานข้าวต้มกับเพื่อนๆ เท่านั้น • “วันเกิดน้องตอนเช้าก็ไปทำบุญครับ ตกเย็นก็นัดเพื่อนๆ ไปกินข้าวกัน น้องก็ 32 แล้ว แป๊บเดียวเอง ความพิเศษผมว่าทุกปีก็พิเศษเหมือนกันนะครับ แต่ละปีอาจจะพิเศษกันคนละแบบ เพราะว่าทำงานกัน แล้วก็คงจะเหนื่อยๆ กันด้วย ก็ทำอะไรกันง่ายๆ ตอนเช้าน้องก็อยากไปทำบุญ ถวายสังฆทาน ตกเย็นมาก็ชวนเพื่อนๆ ไปกินร้านข้าวต้ม ก็สนุกดี ชิลๆ มีความสุขกันดี ก็มีแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แล้วก็อวยพรเขา ภาพก็มีถ่ายไว้ ก็เอาเก็บไว้ดูเล่น แต่พักหลังๆ มาเราก็ไม่ค่อยได้ไปถ่ายรูปที่ไหนกันหรือว่ามีงานที่เป็นคู่ ก็เลยเอาโมเมนต์ที่เราแอบถ่ายเขาบ้าง เก็บไว้บ้างมาลง เป็นอีกหนึ่งการบอกความรู้สึกในใจว่าเรามีความสุขที่ได้อยู่กับเขา มีความสุขมากๆ เป็นผู้หญิงที่ทำให้เรามีเสียงหัวเราะได้แต่ตอนลงก็ไม่ได้ขอหรอกครับ ลงเลย (หัวเราะ) แต่เราก็ดูแหละว่าอันไหนเหมาะสม ไม่เหมาะสม” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000026455 • #MGROnline #เญาญ่าอุรัสยา #ณเดชน์คูกิมิยะ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews
  • เซเลนสกี้ปฏิเสธรายงานของรัสเซียเกี่ยวกับการยิงเครื่องบินรบ F-16 ตกในทิศทางภูมิภาคซูมี (Sumy) นอกจากไม่ยอมรับแล้ว เขายังแจ้งเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ขณะนี้มีเครื่องบินรบลำใหม่มาถึงยูเครนแล้ว รวมทั้งระบบขีปนาวุธของ Patriot ของสหรัฐ ที่กำลังเดินทางมาผ่านทางเยอรมนี

    ตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ มีกระแสข่าวในโชเชียลว่าเครื่องบิน F-16 ของยูเครนถูกยิงตกในทิศทางภูมิภาคซูมี แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่จากข้อมูลต่างๆจำนวนมากที่รายงานออกมา บ่งชี้ว่ามีความน่าเชื่อถืออย่างสูง และนักบินก็เสียชีวิตด้วยเช่นกัน

    รายละเอียดที่ปรากฎตามข่าว ระบุว่าฝ่ายรัสเซียมีการวางแผนโจมตีเครื่องบินไว้เป็นอย่างดี โดยมีการเคลื่อนระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 เข้ามาใกล้ชายแดนมากขึ้น หลังจากมีการรายงานข่าวการปรากฎตัวของเครื่องบินเหนือภูมิภาคซูมีบ่อยครั้งไปเมื่อวันก่อน

    หลังจากเรดาร์ตรวจจับการขึ้นบินของเครื่องบินขับไล่ F-16 ใกล้แนวเขตชายแดน นักบิน Su-35 ของรัสเซียซึ่งเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว ใช้ระบบเรดาร์บนเครื่อง ช่วยในการระบุเป้าหมายให้กับทีมควบคุมระบบ S-400 เพื่อทำลายเป้าหมายลงได้ในที่สุด

    รายงานยังระบุอีกว่า เครื่องบิน F-16 น่าจะบินจากสนามบิน Vasylkiv ของยูเครน เนื่องจากช่วงการบุกภูมิภาค Kursk ฝ่ายรัสเซียเฝ้าติดตามจนทราบว่ามีการขึ้นบินจากที่นั่น และโดยปกติจะบินเหนือภูมิภาคซูมีเพื่อคอยคุ้มกัน MiG-29 ในระยะไกล แต่ครั้งนี้ต่างออกไป คือ F-16 ทำหน้าที่หลักในการโจมตีเอง
    เซเลนสกี้ปฏิเสธรายงานของรัสเซียเกี่ยวกับการยิงเครื่องบินรบ F-16 ตกในทิศทางภูมิภาคซูมี (Sumy) นอกจากไม่ยอมรับแล้ว เขายังแจ้งเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ขณะนี้มีเครื่องบินรบลำใหม่มาถึงยูเครนแล้ว รวมทั้งระบบขีปนาวุธของ Patriot ของสหรัฐ ที่กำลังเดินทางมาผ่านทางเยอรมนี ตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ มีกระแสข่าวในโชเชียลว่าเครื่องบิน F-16 ของยูเครนถูกยิงตกในทิศทางภูมิภาคซูมี แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่จากข้อมูลต่างๆจำนวนมากที่รายงานออกมา บ่งชี้ว่ามีความน่าเชื่อถืออย่างสูง และนักบินก็เสียชีวิตด้วยเช่นกัน รายละเอียดที่ปรากฎตามข่าว ระบุว่าฝ่ายรัสเซียมีการวางแผนโจมตีเครื่องบินไว้เป็นอย่างดี โดยมีการเคลื่อนระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 เข้ามาใกล้ชายแดนมากขึ้น หลังจากมีการรายงานข่าวการปรากฎตัวของเครื่องบินเหนือภูมิภาคซูมีบ่อยครั้งไปเมื่อวันก่อน หลังจากเรดาร์ตรวจจับการขึ้นบินของเครื่องบินขับไล่ F-16 ใกล้แนวเขตชายแดน นักบิน Su-35 ของรัสเซียซึ่งเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว ใช้ระบบเรดาร์บนเครื่อง ช่วยในการระบุเป้าหมายให้กับทีมควบคุมระบบ S-400 เพื่อทำลายเป้าหมายลงได้ในที่สุด รายงานยังระบุอีกว่า เครื่องบิน F-16 น่าจะบินจากสนามบิน Vasylkiv ของยูเครน เนื่องจากช่วงการบุกภูมิภาค Kursk ฝ่ายรัสเซียเฝ้าติดตามจนทราบว่ามีการขึ้นบินจากที่นั่น และโดยปกติจะบินเหนือภูมิภาคซูมีเพื่อคอยคุ้มกัน MiG-29 ในระยะไกล แต่ครั้งนี้ต่างออกไป คือ F-16 ทำหน้าที่หลักในการโจมตีเอง
    0 Comments 0 Shares 279 Views 0 Reviews
  • ย้อนตำนานทักษิณ ทำแคปิตอล โอเค

    นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยต่อกลุ่มคนเสื้อแดงที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ตอนหนึ่งระบุว่า วันก่อนคิดกับนายกฯ (แพทองธาร ชินวัตร) ดังๆ ทำอย่างไรจะให้หนี้สินคนไทยหมดไปได้ คิดดังๆ ว่าเราจะซื้อหนี้ทั้งหมด ซื้อหนี้ประชาชนออกจากระบบธนาคารดีหรือไม่ แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน ไม่ต้องชำระเต็มจำนวน ให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำมาหากินใหม่ ไม่ต้องใช้เงินรัฐสักบาทสามารถให้เอกชนลงทุน เรียกเสียงฮือฮาแก่ผู้สนับสนุน แม้จะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ทำให้ย้อนถึงสมัยเป็นนักธุรกิจ ตระกูลชินวัตรทำธุรกิจสินเชื่อบุคคลมาก่อน ภายใต้ชื่อ "แคปปิตอล โอเค"

    ปี 2546 กลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่น ของตระกูลชินวัตร ร่วมทุนกับดีบีเอส แบงก์ ลิมิเต็ด ประเทศสิงคโปร์ เจ้าของธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ ในขณะนั้น ก่อตั้งบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งสินเชื่อไม่มีหลักประกัน บัตรเครดิต และสินเชื่อเช่าซื้อต่างๆ โดยกลุ่มชินคอร์ปฯ ถือหุ้น 60% และดีบีเอส 40% ผ่านไป 2 ปีมีลูกค้าราว 6 แสนราย ส่วนมากเป็นสินเชื่อบุคคล 60% สินเชื่อเช่าซื้อ 30% และบัตรเครดิต 10%

    23 ม.ค. 2549 ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้แก่ เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ประเทศสิงคโปร์ จำนวน 1,487.74 ล้านหุ้น รวม 73,271.20 ล้านบาท ทำให้แคปปิตอล โอเค ไม่ได้เป็นของตระกูลชินวัตรอีกต่อไป หลังจากนั้นเมื่อรัฐบาลทักษิณถูกประชาชนชุมนุมขับไล่และเกิดรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ธุรกิจสินเชื่อของแคปิตอลโอเคเริ่มซบเซา แม้กลุ่มชินคอร์ปฯ ซื้อหุ้นที่เหลือจากดีบีเอส กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 99.99% และเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5,200 ล้านบาท แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น

    ในที่สุดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2550 กลุ่มชินคอร์ปฯ จึงได้ขายหุ้นแคปปิตอล โอเค ซึ่งขณะนั้นมีทุนจดทะเบียน 7,500 ล้านบาท ให้กับ 2 บริษัท ได้แก่ เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ (ACAP) และออริกซ์ คอร์ปอเรชั่น (บริษัทย่อยของ ORIX) เพื่อลดภาระผลขาดทุนจากการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัทฯ และลดภาระการสนับสนุนเงินทุนแก่แคปปิตอล โอเค ในอนาคต หลังจากนั้นเมื่อเศรษฐกิจซบเซา ปลายปี 2552 แคปปิตอล โอเค จึงหยุดการให้สินเชื่อลูกค้าบุคคลในที่สุด

    ปัจจุบัน แคปปิตอล โอเค เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP ซึ่งมีปัญหาการผิดนัดชําระหนี้หุ้นกู้รวม 7 รุ่น กว่า 4,000 ล้านบาท เคยถูกสำนักงาน ก.ล.ต.กล่าวโทษอดีตผู้บริหารกรณีทุจริต และผู้ถือหุ้นกู้กำลังร้องเรียนหน่วยงานทีเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบธรรมาภิบาล

    #Newskit
    ย้อนตำนานทักษิณ ทำแคปิตอล โอเค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยต่อกลุ่มคนเสื้อแดงที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ตอนหนึ่งระบุว่า วันก่อนคิดกับนายกฯ (แพทองธาร ชินวัตร) ดังๆ ทำอย่างไรจะให้หนี้สินคนไทยหมดไปได้ คิดดังๆ ว่าเราจะซื้อหนี้ทั้งหมด ซื้อหนี้ประชาชนออกจากระบบธนาคารดีหรือไม่ แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน ไม่ต้องชำระเต็มจำนวน ให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำมาหากินใหม่ ไม่ต้องใช้เงินรัฐสักบาทสามารถให้เอกชนลงทุน เรียกเสียงฮือฮาแก่ผู้สนับสนุน แม้จะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ทำให้ย้อนถึงสมัยเป็นนักธุรกิจ ตระกูลชินวัตรทำธุรกิจสินเชื่อบุคคลมาก่อน ภายใต้ชื่อ "แคปปิตอล โอเค" ปี 2546 กลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่น ของตระกูลชินวัตร ร่วมทุนกับดีบีเอส แบงก์ ลิมิเต็ด ประเทศสิงคโปร์ เจ้าของธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ ในขณะนั้น ก่อตั้งบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งสินเชื่อไม่มีหลักประกัน บัตรเครดิต และสินเชื่อเช่าซื้อต่างๆ โดยกลุ่มชินคอร์ปฯ ถือหุ้น 60% และดีบีเอส 40% ผ่านไป 2 ปีมีลูกค้าราว 6 แสนราย ส่วนมากเป็นสินเชื่อบุคคล 60% สินเชื่อเช่าซื้อ 30% และบัตรเครดิต 10% 23 ม.ค. 2549 ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้แก่ เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ประเทศสิงคโปร์ จำนวน 1,487.74 ล้านหุ้น รวม 73,271.20 ล้านบาท ทำให้แคปปิตอล โอเค ไม่ได้เป็นของตระกูลชินวัตรอีกต่อไป หลังจากนั้นเมื่อรัฐบาลทักษิณถูกประชาชนชุมนุมขับไล่และเกิดรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ธุรกิจสินเชื่อของแคปิตอลโอเคเริ่มซบเซา แม้กลุ่มชินคอร์ปฯ ซื้อหุ้นที่เหลือจากดีบีเอส กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 99.99% และเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5,200 ล้านบาท แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2550 กลุ่มชินคอร์ปฯ จึงได้ขายหุ้นแคปปิตอล โอเค ซึ่งขณะนั้นมีทุนจดทะเบียน 7,500 ล้านบาท ให้กับ 2 บริษัท ได้แก่ เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ (ACAP) และออริกซ์ คอร์ปอเรชั่น (บริษัทย่อยของ ORIX) เพื่อลดภาระผลขาดทุนจากการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัทฯ และลดภาระการสนับสนุนเงินทุนแก่แคปปิตอล โอเค ในอนาคต หลังจากนั้นเมื่อเศรษฐกิจซบเซา ปลายปี 2552 แคปปิตอล โอเค จึงหยุดการให้สินเชื่อลูกค้าบุคคลในที่สุด ปัจจุบัน แคปปิตอล โอเค เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP ซึ่งมีปัญหาการผิดนัดชําระหนี้หุ้นกู้รวม 7 รุ่น กว่า 4,000 ล้านบาท เคยถูกสำนักงาน ก.ล.ต.กล่าวโทษอดีตผู้บริหารกรณีทุจริต และผู้ถือหุ้นกู้กำลังร้องเรียนหน่วยงานทีเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบธรรมาภิบาล #Newskit
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 417 Views 0 Reviews
  • พอเห็นยอดวิวแล้วแสนโศกศัลย์
    อกเอ๋ยตัวเลขนั้นจะลดลงจนถึงไหน
    คิดถึงไม่กี่วันก่อนหลักพันยังพออุ่นใจ
    แล้วมาตอนนี้เป็นไรทำไมเหลือน้อยเสียจัง
    เมื่อก่อนเคยมีคนคอยกดไลค์
    แต่มาวันนี้เศร้าใจทำไมเหมือนไร้มนต์ขลัง
    ความฝันที่เคยวาดไว้นั้นคงเริ่มใกล้จะพัง
    นึกถึงภาพแห่งความหวังโธ่มันกำลังเลือนราง
    ยอดตกน่าตื่นตระหนกเหมือนคนบุญน้อย
    กลัวแม่เนื้อกลอยเธอจะถอยใจออกห่าง
    หากไม่มีเงินมาหมั้นมาหมายน้องนาง
    เห็นทีรักเราจะร้างแล้วฉันจะอยู่อย่างไร
    ถ้าหากยอดวิวยังจะตกหนัก
    แล้วเธอจะยังคงรักจะยังอยู่กับฉันไหม
    ถ้าหากว่าฉันไม่มีรายได้มาเยียวยาใจ
    เธอคงจะต้องจากไปมันน่าเหนื่อยใจยอดวิว
    พอเห็นยอดวิวแล้วแสนโศกศัลย์ อกเอ๋ยตัวเลขนั้นจะลดลงจนถึงไหน คิดถึงไม่กี่วันก่อนหลักพันยังพออุ่นใจ แล้วมาตอนนี้เป็นไรทำไมเหลือน้อยเสียจัง เมื่อก่อนเคยมีคนคอยกดไลค์ แต่มาวันนี้เศร้าใจทำไมเหมือนไร้มนต์ขลัง ความฝันที่เคยวาดไว้นั้นคงเริ่มใกล้จะพัง นึกถึงภาพแห่งความหวังโธ่มันกำลังเลือนราง ยอดตกน่าตื่นตระหนกเหมือนคนบุญน้อย กลัวแม่เนื้อกลอยเธอจะถอยใจออกห่าง หากไม่มีเงินมาหมั้นมาหมายน้องนาง เห็นทีรักเราจะร้างแล้วฉันจะอยู่อย่างไร ถ้าหากยอดวิวยังจะตกหนัก แล้วเธอจะยังคงรักจะยังอยู่กับฉันไหม ถ้าหากว่าฉันไม่มีรายได้มาเยียวยาใจ เธอคงจะต้องจากไปมันน่าเหนื่อยใจยอดวิว
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • นี่เป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งเกี่ยวกับความสำเร็จทางการแพทย์ครั้งสำคัญครับ นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ในออสเตรเลียได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการติดตั้ง "หัวใจเทียมไทเทเนียม" (BiVACOR Total Artificial Heart) ช่วยให้ผู้ป่วยชายวัย 40 ปีมีชีวิตอยู่ได้ถึง 100 วันก่อนจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจริงในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

    หัวใจเทียมนี้ถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ โดยใช้ การลอยด้วยแม่เหล็ก (magnetic levitation) ซึ่งเหมือนกับเทคโนโลยีของรถไฟหัวกระสุน เพื่อลดการสึกหรอและทำงานแทนหัวใจทั้งสองห้องที่ล้มเหลว มันถูกออกแบบให้ใช้ไทเทเนียมเนื่องจากเป็นวัสดุที่แข็งแรง ทนการกัดกร่อน และเข้ากันได้ดีกับร่างกายมนุษย์

    การผ่าตัดที่กินเวลา 6 ชั่วโมงนี้ดำเนินการที่โรงพยาบาล St. Vincent's ในซิดนีย์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย Artificial Heart Frontiers Program นำโดย Monash University โครงการนี้มีเป้าหมายพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวจำนวนมากทั่วโลก

    น่าสนใจที่อุปกรณ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยต่ออายุขณะรอการปลูกถ่ายหัวใจ แต่ยังอาจเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับการปลูกถ่ายได้ด้วย ในสหรัฐฯ มีการทดลองในเฟสเริ่มต้น (Early Feasibility Study) โดยติดตั้งให้กับผู้ป่วย 5 ราย ซึ่งอุปกรณ์สามารถสนับสนุนชีวิตของพวกเขาได้ในระยะเวลาหลายสัปดาห์ และการทดลองนี้กำลังขยายจำนวนผู้เข้าร่วม

    https://www.techspot.com/news/107125-man-lives-100-days-artificial-titanium-heart-world.html
    นี่เป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งเกี่ยวกับความสำเร็จทางการแพทย์ครั้งสำคัญครับ นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ในออสเตรเลียได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการติดตั้ง "หัวใจเทียมไทเทเนียม" (BiVACOR Total Artificial Heart) ช่วยให้ผู้ป่วยชายวัย 40 ปีมีชีวิตอยู่ได้ถึง 100 วันก่อนจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจริงในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หัวใจเทียมนี้ถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ โดยใช้ การลอยด้วยแม่เหล็ก (magnetic levitation) ซึ่งเหมือนกับเทคโนโลยีของรถไฟหัวกระสุน เพื่อลดการสึกหรอและทำงานแทนหัวใจทั้งสองห้องที่ล้มเหลว มันถูกออกแบบให้ใช้ไทเทเนียมเนื่องจากเป็นวัสดุที่แข็งแรง ทนการกัดกร่อน และเข้ากันได้ดีกับร่างกายมนุษย์ การผ่าตัดที่กินเวลา 6 ชั่วโมงนี้ดำเนินการที่โรงพยาบาล St. Vincent's ในซิดนีย์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย Artificial Heart Frontiers Program นำโดย Monash University โครงการนี้มีเป้าหมายพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวจำนวนมากทั่วโลก น่าสนใจที่อุปกรณ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยต่ออายุขณะรอการปลูกถ่ายหัวใจ แต่ยังอาจเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับการปลูกถ่ายได้ด้วย ในสหรัฐฯ มีการทดลองในเฟสเริ่มต้น (Early Feasibility Study) โดยติดตั้งให้กับผู้ป่วย 5 ราย ซึ่งอุปกรณ์สามารถสนับสนุนชีวิตของพวกเขาได้ในระยะเวลาหลายสัปดาห์ และการทดลองนี้กำลังขยายจำนวนผู้เข้าร่วม https://www.techspot.com/news/107125-man-lives-100-days-artificial-titanium-heart-world.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Man lives 100 days with artificial titanium heart in world-first medical success
    The patient, a man in his 40s from New South Wales, received the BiVACOR Total Artificial Heart (TAH) during a six-hour procedure at St. Vincent's Hospital in...
    0 Comments 0 Shares 260 Views 0 Reviews
  • เซเลนสกีแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน:

    - เซเลนสกียืนยันหนักแน่นไม่ยอมรับ "ดินแดนที่ถูกยึดครอง" ว่าเป็นของรัสเซีย พร้อมเน้นย้ำว่านี่คือเส้นแบ่งหลักที่สำคัญที่สุดในการเจรจา

    - การยกเลิกกฎอัยการศึกและการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหลังสงครามเท่านั้น

    - รัสเซียเป็นพวก "ไว้ใจไม่ได้"

    - หากรัสเซียไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน เซเลนสกีเชื่อว่าสหรัฐจะดำเนินการอย่างจริงจังต่อรัสเซีย และจะกลับมาเสริมความแข็งแกร่งด้านอาวุธให้กับยูเครน

    - ยูเครนได้แสดงให้เห็นในการเจรจากับสหรัฐแล้วว่า ไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องการสงครามและแสดงให้สหรัฐเห็นว่าต้องการให้สงครามยุติโดยเร็วที่สุด

    - ยูเครนกำลังรักษากองกำลังติดอาวุธยูเครนในภูมิภาคเคิร์สก์ทุกวิถีทางเพื่อรักษากำลังทหารให้ได้มากที่สุด

    - กองทัพยูเครนมีสิทธิ์ใช้อาวุธที่ผลิตในยูเครน และการโจมตีภูมิภาคมอสโกเมื่อวันก่อนก็สมเหตุสมผลในการตอบโต้สิ่งที่รัสเซียกำลังทำ
    เซเลนสกีแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน: - เซเลนสกียืนยันหนักแน่นไม่ยอมรับ "ดินแดนที่ถูกยึดครอง" ว่าเป็นของรัสเซีย พร้อมเน้นย้ำว่านี่คือเส้นแบ่งหลักที่สำคัญที่สุดในการเจรจา - การยกเลิกกฎอัยการศึกและการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหลังสงครามเท่านั้น - รัสเซียเป็นพวก "ไว้ใจไม่ได้" - หากรัสเซียไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน เซเลนสกีเชื่อว่าสหรัฐจะดำเนินการอย่างจริงจังต่อรัสเซีย และจะกลับมาเสริมความแข็งแกร่งด้านอาวุธให้กับยูเครน - ยูเครนได้แสดงให้เห็นในการเจรจากับสหรัฐแล้วว่า ไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องการสงครามและแสดงให้สหรัฐเห็นว่าต้องการให้สงครามยุติโดยเร็วที่สุด - ยูเครนกำลังรักษากองกำลังติดอาวุธยูเครนในภูมิภาคเคิร์สก์ทุกวิถีทางเพื่อรักษากำลังทหารให้ได้มากที่สุด - กองทัพยูเครนมีสิทธิ์ใช้อาวุธที่ผลิตในยูเครน และการโจมตีภูมิภาคมอสโกเมื่อวันก่อนก็สมเหตุสมผลในการตอบโต้สิ่งที่รัสเซียกำลังทำ
    0 Comments 0 Shares 386 Views 16 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน ประกาศชัดเจนว่า จะไม่มีการเจรจากับสหรัฐเกิดขึ้น ภายหลังจากที่ทรัมป์กล่าวเมื่อวันก่อนว่า อิหร่านมีเพียงสองทางเลือก ในการเจรจานิวเคลียร์คือ จะใช้วิธีการคุยกัน หรือ จะใมช้วิธีการทางทหาร

    เปเซชเคียน กล่าวว่า คำพูดของทรัมป์คือการข่มขู่อิหร่าน และเมื่อเริ่มต้นด้วยการข่มขู่ การเจรจาจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน

    เมื่อวันที่ 9 มีนาคม "คาเมเนอี" ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เพิ่งกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าใช้วิธีการข่มเหงรังแกผู้อื่น โดยใช้การเจรจาเป็นเครื่องมือบังหน้า โดยตั้งเงื่อนไขที่อิหร่านไม่สามารถทำได้ เพื่อบังคับให้อิหร่านทำตามที่ต้องการ มากกว่าจะมุ่งแสวงหาทางออกร่วมกัน และหากอิหร่านไม่ยอมทำตาม สหรัฐก็จะฉวยโอกาสนี้กล่าวหาอิหร่านว่าไม่ให้ความร่วมมือ และหาทางทำร้ายอิหร่านด้วยวิธีการต่างๆนานาๆ
    ประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน ประกาศชัดเจนว่า จะไม่มีการเจรจากับสหรัฐเกิดขึ้น ภายหลังจากที่ทรัมป์กล่าวเมื่อวันก่อนว่า อิหร่านมีเพียงสองทางเลือก ในการเจรจานิวเคลียร์คือ จะใช้วิธีการคุยกัน หรือ จะใมช้วิธีการทางทหาร เปเซชเคียน กล่าวว่า คำพูดของทรัมป์คือการข่มขู่อิหร่าน และเมื่อเริ่มต้นด้วยการข่มขู่ การเจรจาจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน เมื่อวันที่ 9 มีนาคม "คาเมเนอี" ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เพิ่งกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าใช้วิธีการข่มเหงรังแกผู้อื่น โดยใช้การเจรจาเป็นเครื่องมือบังหน้า โดยตั้งเงื่อนไขที่อิหร่านไม่สามารถทำได้ เพื่อบังคับให้อิหร่านทำตามที่ต้องการ มากกว่าจะมุ่งแสวงหาทางออกร่วมกัน และหากอิหร่านไม่ยอมทำตาม สหรัฐก็จะฉวยโอกาสนี้กล่าวหาอิหร่านว่าไม่ให้ความร่วมมือ และหาทางทำร้ายอิหร่านด้วยวิธีการต่างๆนานาๆ
    0 Comments 0 Shares 444 Views 10 0 Reviews
  • ทิศทาง Kurakhove

    ภาพการโจมตีด้วยจรวดหลายลำกล้อง TOS-1A ขนาด 220 มิลลิเมตร ติดหัวรบเทอร์โมบาริก ของกองทัพรัสเซียในทิศทาง Kostyantynopil ซึ่งต่อมาเมืองนี้ถูกปลดปล่อยได้ในที่สุดเมื่อหลายวันก่อน
    ทิศทาง Kurakhove ภาพการโจมตีด้วยจรวดหลายลำกล้อง TOS-1A ขนาด 220 มิลลิเมตร ติดหัวรบเทอร์โมบาริก ของกองทัพรัสเซียในทิศทาง Kostyantynopil ซึ่งต่อมาเมืองนี้ถูกปลดปล่อยได้ในที่สุดเมื่อหลายวันก่อน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • เมื่อสองวันก่อน อยู่ดีๆ ยูทูปก็โผล่คลิปสั้นจากเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> มาให้ดูจน Storyฯ น้ำตาร่วงเผาะ วันนี้เลยเอามาแบ่งปันเผื่อว่าเพื่อนเพจจะ ‘อิน’ ตามไปด้วย

    เป็นฉากที่หรูอี้เอ่ยกับเฉียนหลงฮ่องเต้ว่า “ทรงทราบถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ หรือไม่เพคะ? วลีนี้... ตอนหม่อมฉันเรียนเมื่อยังเด็กได้แต่รู้สึกเสียใจเสียดาย แต่วันนี้หม่อมฉันเข้าใจแล้ว... บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน...” (หมายเหตุ ถอดบทสนทนามาจากในละคร แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) เป็นประโยคที่สร้างความเจ็บปวดให้กับเฉียนหลงในภายหลังไม่น้อย

    ทั้ง ‘หลันอินซวี่กั่ว’ และ “บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน” ล้วนเป็นประโยคเด็ดที่มีมาแต่วรรณกรรมโบราณ และมีเรื่องราวให้เล่าถึง แต่อาจต้องแบ่งคุยเป็นสองตอน

    วันนี้คุยกันเรื่องวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ (兰因絮果) ซึ่งเป็นสุภาษิตจีน บางทีสลับตำแหน่งเป็น ‘ซวี่กั่วหลันอิน’ ก็ได้ ความหมายของมันเป็นดังที่ในละครมีอธิบายไว้ว่า หมายถึงชีวิตคู่ที่เริ่มต้นสวยงามแต่จบลงอย่างขมขื่น เป็นวลีที่แปลยาก เพราะ ‘หลัน’ อาจแปลว่าดอกกล้วยไม้ (หลันฮวา) หรือดอกแม็กโนเลีย (อวี้หลันหรือมู่หลัน) และ ‘ซวี่’ แปลว่าปุยฝ้ายหรือดอกของต้นหลิ่วเรียกว่า ‘หลิ่วซวี่’ ส่วน ‘อิน’ นั้นแปลว่าต้นตอหรือสาเหตุ และ ‘กั่ว’ คือผล ดังนั้น วลีนี้แปลตรงตัวไม่ได้เพราะมันเป็นวลีเชิงอุปมาอุปไมย เลยขอเล่าความเป็นมาของมันก่อน เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

    ที่มาของการเรียกชีวิตคู่ที่หวานชื่นว่า ‘หลันอิน’ นั้น เป็นเรื่องราวในยุคสมัยชุนชิวของเจิ้งเหวินกง เจ้าผู้ปกครองแคว้นเจิ้งและอนุภรรยานามว่าเยี่ยนจี๋ นางผู้นี้มาจากเมืองเล็กๆ และเป็นอนุภรรยาที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของเจิ้งเหวินกง แต่ต่อมานางฝันว่ามีเทพธิดานำดอกหลันฮวามามอบให้และบอกว่าดอกไม้นี้จะทำให้นางได้รับความรักจากเจิ้งเหวินกงและจะได้บุตรที่โดดเด่นมาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินต่อไป ครั้นวันถัดไปนางได้พบกับเจิ้งเหวินกงโดยบังเอิญก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้เจิ้งเหวินกงฟัง ก่อเกิดเป็นความสนใจในตัวนาง จนต่อมานางได้เป็นที่โปรดปรานมากมายของเจิ้งเหวินกง และภายหลังคลอดบุตรชายนามว่า ‘หลัน’ เรื่องนี้จึงเป็นการเล่าขานกันต่อในแง่ที่ว่าเป็นความรักที่งอกงามอันมีสาเหตุมาจากดอกหลันฮวาหรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘หลันอิน’ นั่นเอง และ ‘หลันอิน’ ถูกนำมาใช้ในบทประพันธ์ไม่น้อยเพื่อเรียกการครองคู่ที่เกิดขึ้นจากความรักอันสุกงอม

    มีเรื่องเล่าต่อมาว่า เจิ้งเหวินกงมีอนุภรรยามากมาย ความโปรดปรานในตัวเยี่ยนจี๋ลดเลือนไปตามกาลเวลา อีกทั้งเขาเป็นคนอำมหิต เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองถึงกับฆ่าลูกชายไปสองคน ส่วนเจิ้งหลันนั้นถูกขับออกจากแคว้น แต่ต่อมาได้กลับมาครองแคว้นเจิ้งในที่สุด เป็นที่รู้จักกันในนามเจิ้งมู่กง ภายใต้การปกครองของเจิ้งมู่กงและลูกชายของเขา แคว้นเจิ้งกลายเป็นหนึ่งในแคว้นที่เข้มแข็งที่สุดของยุคสมัยนั้น

    ส่วนคำว่า ‘ซวี่’ นั้น ว่ากันว่าแรกเริ่มมาจากบทกวีของหลานสาวของเซี่ยไท่ฟู่ (ไท่ฟู่คือตำแหน่งราชครู) ในสมัยราชวงศ์จิ้น ผู้ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นสตรีที่เชี่ยวชาญด้านอักษร นางเปรียบเปรยหิมะขาวที่โปรยปรายด้วยวลีที่ว่า ‘ดุจดอกหลิ่วเริงระบำในสายลม’ (未若柳絮因风起) (ขอเรียกว่าดอก แต่จริงๆ เป็นเมล็ดของต้นหลิ่ว)

    ต่อมา ‘ซวี่กั่ว’ และ ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ปรากฏขึ้นในบทประพันธ์ยุคสมัยชิง เป็นส่วนหนึ่งของวลีที่ว่า ‘หลันอินซวี่กั่ว เซี่ยนเยี่ยสุยเซิน’ (兰因絮果, 现业谁深) Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงประโยคนี้ว่า ‘รักแรกผลิบานงดงามดุจหลันฮวา สุดท้ายมลายหายดุจดอกหลิ่วพลิ้วสลาย ผู้ใดเล่าจะกล่าวได้ว่า สลักลึกลงบนใจผู้ใดมากกว่ากัน’

    ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ในเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> จึงเป็นการสรุปเรื่องราวความรักของเฉียนหลงและหรูอี้ได้อย่างชัดเจนด้วยอักษรเพียงสี่ตัว

    เพื่อให้อินกับประโยคนี้ ขอเชิญเพื่อนเพจหลับตาและนึกภาพดอกไม้ผลิบานพร้อมกับรอยยิ้มสุขสดชื่นให้แก่กันของหรูอี้และเฉียนหลงในละคร แล้วตัดมาเป็นภาพปุยสีขาวๆ ที่ถูกสายลมพัดแตกไปพร้อมๆ กับภาพของหรูอี้ที่สิ้นลมอย่างสงบข้างๆ กระถางต้นเหมยที่แห้งกรอบ...

    “คัท!” อาทิตย์หน้ามาคุยกันต่อกับประโยคถัดไปที่ว่า ‘บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน’ ค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://okapi.books.com.tw/article/11422
    https://ent.tom.com/201807/1011240093.html
    https://www.sohu.com/a/230867588_100149137
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.xiumu.cn/ts/2018/0824/4278239.html
    https://www.163.com/dy/article/G0GD3GUH0537ML11.html
    https://baike.baidu.com/item/未若柳絮因风起/8776864

    #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #หลันอินซวี่กั่ว #เจิ้งเหวินกง #เยี่ยนจี๋
    เมื่อสองวันก่อน อยู่ดีๆ ยูทูปก็โผล่คลิปสั้นจากเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> มาให้ดูจน Storyฯ น้ำตาร่วงเผาะ วันนี้เลยเอามาแบ่งปันเผื่อว่าเพื่อนเพจจะ ‘อิน’ ตามไปด้วย เป็นฉากที่หรูอี้เอ่ยกับเฉียนหลงฮ่องเต้ว่า “ทรงทราบถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ หรือไม่เพคะ? วลีนี้... ตอนหม่อมฉันเรียนเมื่อยังเด็กได้แต่รู้สึกเสียใจเสียดาย แต่วันนี้หม่อมฉันเข้าใจแล้ว... บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน...” (หมายเหตุ ถอดบทสนทนามาจากในละคร แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) เป็นประโยคที่สร้างความเจ็บปวดให้กับเฉียนหลงในภายหลังไม่น้อย ทั้ง ‘หลันอินซวี่กั่ว’ และ “บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน” ล้วนเป็นประโยคเด็ดที่มีมาแต่วรรณกรรมโบราณ และมีเรื่องราวให้เล่าถึง แต่อาจต้องแบ่งคุยเป็นสองตอน วันนี้คุยกันเรื่องวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ (兰因絮果) ซึ่งเป็นสุภาษิตจีน บางทีสลับตำแหน่งเป็น ‘ซวี่กั่วหลันอิน’ ก็ได้ ความหมายของมันเป็นดังที่ในละครมีอธิบายไว้ว่า หมายถึงชีวิตคู่ที่เริ่มต้นสวยงามแต่จบลงอย่างขมขื่น เป็นวลีที่แปลยาก เพราะ ‘หลัน’ อาจแปลว่าดอกกล้วยไม้ (หลันฮวา) หรือดอกแม็กโนเลีย (อวี้หลันหรือมู่หลัน) และ ‘ซวี่’ แปลว่าปุยฝ้ายหรือดอกของต้นหลิ่วเรียกว่า ‘หลิ่วซวี่’ ส่วน ‘อิน’ นั้นแปลว่าต้นตอหรือสาเหตุ และ ‘กั่ว’ คือผล ดังนั้น วลีนี้แปลตรงตัวไม่ได้เพราะมันเป็นวลีเชิงอุปมาอุปไมย เลยขอเล่าความเป็นมาของมันก่อน เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ที่มาของการเรียกชีวิตคู่ที่หวานชื่นว่า ‘หลันอิน’ นั้น เป็นเรื่องราวในยุคสมัยชุนชิวของเจิ้งเหวินกง เจ้าผู้ปกครองแคว้นเจิ้งและอนุภรรยานามว่าเยี่ยนจี๋ นางผู้นี้มาจากเมืองเล็กๆ และเป็นอนุภรรยาที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของเจิ้งเหวินกง แต่ต่อมานางฝันว่ามีเทพธิดานำดอกหลันฮวามามอบให้และบอกว่าดอกไม้นี้จะทำให้นางได้รับความรักจากเจิ้งเหวินกงและจะได้บุตรที่โดดเด่นมาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินต่อไป ครั้นวันถัดไปนางได้พบกับเจิ้งเหวินกงโดยบังเอิญก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้เจิ้งเหวินกงฟัง ก่อเกิดเป็นความสนใจในตัวนาง จนต่อมานางได้เป็นที่โปรดปรานมากมายของเจิ้งเหวินกง และภายหลังคลอดบุตรชายนามว่า ‘หลัน’ เรื่องนี้จึงเป็นการเล่าขานกันต่อในแง่ที่ว่าเป็นความรักที่งอกงามอันมีสาเหตุมาจากดอกหลันฮวาหรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘หลันอิน’ นั่นเอง และ ‘หลันอิน’ ถูกนำมาใช้ในบทประพันธ์ไม่น้อยเพื่อเรียกการครองคู่ที่เกิดขึ้นจากความรักอันสุกงอม มีเรื่องเล่าต่อมาว่า เจิ้งเหวินกงมีอนุภรรยามากมาย ความโปรดปรานในตัวเยี่ยนจี๋ลดเลือนไปตามกาลเวลา อีกทั้งเขาเป็นคนอำมหิต เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองถึงกับฆ่าลูกชายไปสองคน ส่วนเจิ้งหลันนั้นถูกขับออกจากแคว้น แต่ต่อมาได้กลับมาครองแคว้นเจิ้งในที่สุด เป็นที่รู้จักกันในนามเจิ้งมู่กง ภายใต้การปกครองของเจิ้งมู่กงและลูกชายของเขา แคว้นเจิ้งกลายเป็นหนึ่งในแคว้นที่เข้มแข็งที่สุดของยุคสมัยนั้น ส่วนคำว่า ‘ซวี่’ นั้น ว่ากันว่าแรกเริ่มมาจากบทกวีของหลานสาวของเซี่ยไท่ฟู่ (ไท่ฟู่คือตำแหน่งราชครู) ในสมัยราชวงศ์จิ้น ผู้ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นสตรีที่เชี่ยวชาญด้านอักษร นางเปรียบเปรยหิมะขาวที่โปรยปรายด้วยวลีที่ว่า ‘ดุจดอกหลิ่วเริงระบำในสายลม’ (未若柳絮因风起) (ขอเรียกว่าดอก แต่จริงๆ เป็นเมล็ดของต้นหลิ่ว) ต่อมา ‘ซวี่กั่ว’ และ ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ปรากฏขึ้นในบทประพันธ์ยุคสมัยชิง เป็นส่วนหนึ่งของวลีที่ว่า ‘หลันอินซวี่กั่ว เซี่ยนเยี่ยสุยเซิน’ (兰因絮果, 现业谁深) Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงประโยคนี้ว่า ‘รักแรกผลิบานงดงามดุจหลันฮวา สุดท้ายมลายหายดุจดอกหลิ่วพลิ้วสลาย ผู้ใดเล่าจะกล่าวได้ว่า สลักลึกลงบนใจผู้ใดมากกว่ากัน’ ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ในเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> จึงเป็นการสรุปเรื่องราวความรักของเฉียนหลงและหรูอี้ได้อย่างชัดเจนด้วยอักษรเพียงสี่ตัว เพื่อให้อินกับประโยคนี้ ขอเชิญเพื่อนเพจหลับตาและนึกภาพดอกไม้ผลิบานพร้อมกับรอยยิ้มสุขสดชื่นให้แก่กันของหรูอี้และเฉียนหลงในละคร แล้วตัดมาเป็นภาพปุยสีขาวๆ ที่ถูกสายลมพัดแตกไปพร้อมๆ กับภาพของหรูอี้ที่สิ้นลมอย่างสงบข้างๆ กระถางต้นเหมยที่แห้งกรอบ... “คัท!” อาทิตย์หน้ามาคุยกันต่อกับประโยคถัดไปที่ว่า ‘บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน’ ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://okapi.books.com.tw/article/11422 https://ent.tom.com/201807/1011240093.html https://www.sohu.com/a/230867588_100149137 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.xiumu.cn/ts/2018/0824/4278239.html https://www.163.com/dy/article/G0GD3GUH0537ML11.html https://baike.baidu.com/item/未若柳絮因风起/8776864 #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #หลันอินซวี่กั่ว #เจิ้งเหวินกง #เยี่ยนจี๋
    OKAPI.BOOKS.COM.TW
    個人意見:演出深情演得最好也最落力的,往往都是渣男──《如懿傳》教會我的事
    《如懿傳》講的就是婚姻。該宮鬥的情節雖一樣不少,但心機只是這部小說的點綴,真正著力的...
    0 Comments 0 Shares 413 Views 0 Reviews
  • น้อง Nina Raemont นักเขียนจาก ZDNET ได้ทดสอบการใช้งาน Abbott Lingo เครื่องติดตามระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง (Continuous Glucose Monitor - CGM) ที่มีราคาเพียง $49 ตลอดสองสัปดาห์ โดยแบ่งปันประสบการณ์และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการใช้งานอุปกรณ์นี้

    == ความสำคัญของ CGM และวิธีการทำงาน ==
    Abbott Lingo คือเครื่องติดตามระดับน้ำตาลในเลือดที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน แต่ต้องการติดตามสุขภาพของตนเอง มันสามารถตรวจจับการขึ้นลงของระดับน้ำตาลในเลือดตลอดทั้งวัน ซึ่งต่างจากแอปพลิเคชันติดตามอาหารเช่น MyFitnessPal หรือ LoseIt! ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับร่างกายของคุณได้โดยตรง

    == ประสบการณ์การใช้งาน Lingo ==
    ในการทดสอบของ Nina เธอใส่อุปกรณ์นี้ที่แขนหลัง ซึ่งต้องใช้เข็มเล็ก ๆ ในการเจาะเข้าที่ผิวหนัง แต่กระบวนการนี้ไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิด หลังจากติดตั้งแล้ว CGM จะคำนวณและติดตามระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างแม่นยำ

    Lingo มีฟีเจอร์ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Apple Watch ได้ ทำให้ข้อมูลการออกกำลังกายจาก Apple Health แสดงในแอป Lingo ซึ่งช่วยให้เห็นภาพรวมของการทำงานของระดับน้ำตาลในเลือดในแต่ละวันได้อย่างละเอียด

    == สิ่งที่ต้องการเห็นในการอัปเดตครั้งหน้า ==
    แม้ว่า Lingo จะใช้งานได้ดี แต่แอปยังมีปัญหาการโหลดข้อมูลย้อนหลังที่ทำให้ผู้ใช้ต้องกลับไปที่ข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังไม่มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัตถุดิบอาหารที่ผู้ใช้งานบันทึก เช่น การที่บันทึกการกินข้าวขาวและไม่สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับข้าวขาวในแอปได้

    Nina เสนอว่าฟีเจอร์เพิ่มเติมที่มีประโยชน์คือการสรุปอาหารที่ทานในวันก่อนหน้าและให้คำแนะนำว่าควรทานอะไรบ้างเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดียิ่งขึ้น

    Abbott Lingo เป็นอุปกรณ์ที่ดีสำหรับคนที่อยากรู้ว่าการทานอาหารส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่สนใจสุขภาพและการออกกำลังกาย แต่อาจไม่จำเป็นสำหรับคนที่มีสุขภาพดีและการออกกำลังกายอยู่แล้ว

    https://www.zdnet.com/article/i-wore-a-low-cost-otc-continuous-glucose-monitor-for-two-weeks-what-i-learned/
    น้อง Nina Raemont นักเขียนจาก ZDNET ได้ทดสอบการใช้งาน Abbott Lingo เครื่องติดตามระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง (Continuous Glucose Monitor - CGM) ที่มีราคาเพียง $49 ตลอดสองสัปดาห์ โดยแบ่งปันประสบการณ์และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการใช้งานอุปกรณ์นี้ == ความสำคัญของ CGM และวิธีการทำงาน == Abbott Lingo คือเครื่องติดตามระดับน้ำตาลในเลือดที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน แต่ต้องการติดตามสุขภาพของตนเอง มันสามารถตรวจจับการขึ้นลงของระดับน้ำตาลในเลือดตลอดทั้งวัน ซึ่งต่างจากแอปพลิเคชันติดตามอาหารเช่น MyFitnessPal หรือ LoseIt! ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับร่างกายของคุณได้โดยตรง == ประสบการณ์การใช้งาน Lingo == ในการทดสอบของ Nina เธอใส่อุปกรณ์นี้ที่แขนหลัง ซึ่งต้องใช้เข็มเล็ก ๆ ในการเจาะเข้าที่ผิวหนัง แต่กระบวนการนี้ไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิด หลังจากติดตั้งแล้ว CGM จะคำนวณและติดตามระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างแม่นยำ Lingo มีฟีเจอร์ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Apple Watch ได้ ทำให้ข้อมูลการออกกำลังกายจาก Apple Health แสดงในแอป Lingo ซึ่งช่วยให้เห็นภาพรวมของการทำงานของระดับน้ำตาลในเลือดในแต่ละวันได้อย่างละเอียด == สิ่งที่ต้องการเห็นในการอัปเดตครั้งหน้า == แม้ว่า Lingo จะใช้งานได้ดี แต่แอปยังมีปัญหาการโหลดข้อมูลย้อนหลังที่ทำให้ผู้ใช้ต้องกลับไปที่ข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังไม่มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัตถุดิบอาหารที่ผู้ใช้งานบันทึก เช่น การที่บันทึกการกินข้าวขาวและไม่สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับข้าวขาวในแอปได้ Nina เสนอว่าฟีเจอร์เพิ่มเติมที่มีประโยชน์คือการสรุปอาหารที่ทานในวันก่อนหน้าและให้คำแนะนำว่าควรทานอะไรบ้างเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดียิ่งขึ้น Abbott Lingo เป็นอุปกรณ์ที่ดีสำหรับคนที่อยากรู้ว่าการทานอาหารส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่สนใจสุขภาพและการออกกำลังกาย แต่อาจไม่จำเป็นสำหรับคนที่มีสุขภาพดีและการออกกำลังกายอยู่แล้ว https://www.zdnet.com/article/i-wore-a-low-cost-otc-continuous-glucose-monitor-for-two-weeks-what-i-learned/
    WWW.ZDNET.COM
    I wore a low-cost, OTC continuous glucose monitor for two weeks - what I learned
    The Abbott Lingo CGM is a different kind of meal tracker, and I recommend it to anyone who's bio-wearable-curious. Here's why.
    0 Comments 0 Shares 327 Views 0 Reviews
  • ช่วงนี้สิ่งที่ต้องทำมันล้นมือจนแทบจะไม่มีเวลามาลงบทความใน VK และอัพเดทสถานะใน Thaitimes ละ แต่ก็ดีที่ฝนตกเที่ยง บ่าย เย็น ค่ำ แต่ก็ส่งสัญญาณให้ผมสู้ต่อไปไม่ต้องคิดอะไรลบเยอะมาก ยังไงก็ต้องทำตามโรดแมปที่เขียนไว้ทุกวัน และบางทีอาจจะแก้ไขโรดแมปเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพของผมครับ วันนี้กะว่าจะสมัครสอบท้องถิ่น วันก่อนก็ลืมเตรียมรูปถ่ายเอกสารแนบสมัคร (สำเนาบัตร ปชช. สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนา สด.43) ยุ่งยากไปหมด เลยทำใจไม่สมัครไปเลย แต่โฟกัสไปที่งานที่ใช่อย่างเป็นฟรีแลนซ์เขียนโปรแกรมสร้างระบบทำแพลตฟอร์มยังจะดีกว่า พอพูดถึงฟรีแลนซ์นึกถึงคนที่จ้างผมเริ่มรู้จักผมใน Fastwork แล้วหลังจากนั้นก็ไลน์คุยแล้วบอกในไลน์ว่าจ่ายนอก Fastwork จนสุดท้ายผมต้องห่างเหินจาก Fastwork ไปสักพัก จนลืมลูกค้าใน Fastwork ทักขอบรีฟงาน สุดท้ายก็ลืมจนโดนระบบแคนเซิล ผมรู้เลยว่าทำให้เขาต่อไปเหมือนไม่เห็นอนาคต และต้องแคลเซิลไปโดยสิ้นเชิง ไม่รับเงินค่าแก้งานก้อนสุดท้าย เพราะได้มาก็ได้มาน้อยอยู่ดี เพราะติดอ่านหนังสือ สอบ ก.พ. สอบ 2 สนาม สนามกระดาษดินสอ2B กับ สนามหน้าคอม คือจะสมัครสอบอะไรนักหนา แต่บางทีผมสอบเอาผลผ่านเฉยๆ ไม่ได้ยื่นสมัครต่อที่ไหนเลยหลังจากนั้น แต่ว่าจะสอบ ก.ว. และ TOEIC ตามไปด้วย ค่อยๆเดินตามเกมส์ที่ผมกำหนดเอาไว้ ไม่ใช่เดินตามเกมส์ที่คนรอบข้างวางเอาไว้และกดดันอย่างหนักจนไม่สามารถเคลียร์เกมส์ได่ต่อไป สุดท้ายก็ต้องดิ่งลงเหวอย่างเดียว
    ช่วงนี้สิ่งที่ต้องทำมันล้นมือจนแทบจะไม่มีเวลามาลงบทความใน VK และอัพเดทสถานะใน Thaitimes ละ แต่ก็ดีที่ฝนตกเที่ยง บ่าย เย็น ค่ำ แต่ก็ส่งสัญญาณให้ผมสู้ต่อไปไม่ต้องคิดอะไรลบเยอะมาก ยังไงก็ต้องทำตามโรดแมปที่เขียนไว้ทุกวัน และบางทีอาจจะแก้ไขโรดแมปเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพของผมครับ วันนี้กะว่าจะสมัครสอบท้องถิ่น วันก่อนก็ลืมเตรียมรูปถ่ายเอกสารแนบสมัคร (สำเนาบัตร ปชช. สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนา สด.43) ยุ่งยากไปหมด เลยทำใจไม่สมัครไปเลย แต่โฟกัสไปที่งานที่ใช่อย่างเป็นฟรีแลนซ์เขียนโปรแกรมสร้างระบบทำแพลตฟอร์มยังจะดีกว่า พอพูดถึงฟรีแลนซ์นึกถึงคนที่จ้างผมเริ่มรู้จักผมใน Fastwork แล้วหลังจากนั้นก็ไลน์คุยแล้วบอกในไลน์ว่าจ่ายนอก Fastwork จนสุดท้ายผมต้องห่างเหินจาก Fastwork ไปสักพัก จนลืมลูกค้าใน Fastwork ทักขอบรีฟงาน สุดท้ายก็ลืมจนโดนระบบแคนเซิล ผมรู้เลยว่าทำให้เขาต่อไปเหมือนไม่เห็นอนาคต และต้องแคลเซิลไปโดยสิ้นเชิง ไม่รับเงินค่าแก้งานก้อนสุดท้าย เพราะได้มาก็ได้มาน้อยอยู่ดี เพราะติดอ่านหนังสือ สอบ ก.พ. สอบ 2 สนาม สนามกระดาษดินสอ2B กับ สนามหน้าคอม คือจะสมัครสอบอะไรนักหนา แต่บางทีผมสอบเอาผลผ่านเฉยๆ ไม่ได้ยื่นสมัครต่อที่ไหนเลยหลังจากนั้น แต่ว่าจะสอบ ก.ว. และ TOEIC ตามไปด้วย ค่อยๆเดินตามเกมส์ที่ผมกำหนดเอาไว้ ไม่ใช่เดินตามเกมส์ที่คนรอบข้างวางเอาไว้และกดดันอย่างหนักจนไม่สามารถเคลียร์เกมส์ได่ต่อไป สุดท้ายก็ต้องดิ่งลงเหวอย่างเดียว
    0 Comments 0 Shares 273 Views 0 Reviews
  • เหลือเชื่อ! แค่เอาเท้าไปแช่ลงในน้ำเกลือ ผลที่ได้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่สามารถอธิบายได้
    สำหรับคนรักสุขภาพ!!! เทรนด์ยอดฮิตที่กำลังมาแรงในตอนนี้นอกจากการออกกำลังกายแล้วนั้นคือ “แช่เท้าด้วยน้ำเกลือ” ที่ใครก็สามารถทำได้แบบไม่ต้องเสียเงินเข้าสปาเลย แถมได้ประโยชน์มากมายเกินคาด!!
    ประโยชน์ของการแช่เท้าด้วยน้ำเกลือ
    1. ช่วยดึงสิ่งที่ตกค้างในร่างกายออก
    2. ช่วยดึงพลังงานลบที่เกิดจากอารมณ์ที่ไม่ดีและไฟฟ้าไร้สายที่ยิงผ่านร่างกายมนุษย์ออก
    3. หลังจากที่ดึงพลังงานลบออกจากร่างกายแล้วเราก็ใช้วิธีการรักษาได้ตามปกติ ทั้งนี้วิธีการนี้จะเป็นการช่วยดึงพลังงานลบออกจากร่างกาย ก่อนการรักษา ทำให้รักษาได้ง่ายขึ้น
    4. เมื่อแช่เท้าด้วยน้ำเกลือ บ่อยๆ ร่างกายจึงไม่มีพลังงานลบที่ก่อโรคหลงเหลืออยู่อีก และนี่เองจึงทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น
    วิธีการแช่เท้าด้วยน้ำเกลือ
    1. นำกะละมังขนาดที่สามารถวางเท้าแช่ได้-ใส่เกลือทะเล(เกลือเม็ดใหญ่)ลงไป3-4ช้อนโต๊ะเติมน้ำลงไปให้ท่วมตาตุ่มควรเป็นน้ำอุ่น แล้วใส่น้ำส้มสายชู ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกจากเท้า
    2. เอาเท้าเหยียบเกลือที่ยังละลายไม่หมดได้
    3. ทำจิตใจให้สงบ หรือเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ นั่งอยู่ประมาณ 25-30 นาที
    4. หลังจากนั้นให้ล้างเท้าด้วยน้ำเปล่า
    การแช่เท้าด้วยน้ำเกลือนั้นคนปกติ สามารถทำได้ทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนคนป่วย ทำทุกวันก่อนนอน
    ทั้งนี้การแช่เท้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำเกลือหรือน้ำอุ่นหรือไม่ก็ตาม ยังมีข้อดีอีกหลายอย่างดังนี้!
    1. ลดอาการปวดบวมที่เท้า
    2. ลดอาการปวดท้อง
    3. กระตุ้นความต้านทานของร่างกาย
    4. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
    5. ป้องกันอาการมือเท้าเย็นโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว
    6. ลดอาการอักเสบของจมูกและลำคอ
    7. ช่วยให้อาการปวดหัวหรือปวดประจำเดือนลดลง
    8. ลดอาการคั่งของเลือดที่ส่วนอื่นๆ
    9. ทำให้นอนหลับง่ายตลอดคืน เป็นต้น
    ขอมอบให้ทุกท่านเพื่อดูแลสุขภาพกันด้วยความห่วงใยกันและกัน
    เหลือเชื่อ! แค่เอาเท้าไปแช่ลงในน้ำเกลือ ผลที่ได้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ สำหรับคนรักสุขภาพ!!! เทรนด์ยอดฮิตที่กำลังมาแรงในตอนนี้นอกจากการออกกำลังกายแล้วนั้นคือ “แช่เท้าด้วยน้ำเกลือ” ที่ใครก็สามารถทำได้แบบไม่ต้องเสียเงินเข้าสปาเลย แถมได้ประโยชน์มากมายเกินคาด!! ประโยชน์ของการแช่เท้าด้วยน้ำเกลือ 1. ช่วยดึงสิ่งที่ตกค้างในร่างกายออก 2. ช่วยดึงพลังงานลบที่เกิดจากอารมณ์ที่ไม่ดีและไฟฟ้าไร้สายที่ยิงผ่านร่างกายมนุษย์ออก 3. หลังจากที่ดึงพลังงานลบออกจากร่างกายแล้วเราก็ใช้วิธีการรักษาได้ตามปกติ ทั้งนี้วิธีการนี้จะเป็นการช่วยดึงพลังงานลบออกจากร่างกาย ก่อนการรักษา ทำให้รักษาได้ง่ายขึ้น 4. เมื่อแช่เท้าด้วยน้ำเกลือ บ่อยๆ ร่างกายจึงไม่มีพลังงานลบที่ก่อโรคหลงเหลืออยู่อีก และนี่เองจึงทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น วิธีการแช่เท้าด้วยน้ำเกลือ 1. นำกะละมังขนาดที่สามารถวางเท้าแช่ได้-ใส่เกลือทะเล(เกลือเม็ดใหญ่)ลงไป3-4ช้อนโต๊ะเติมน้ำลงไปให้ท่วมตาตุ่มควรเป็นน้ำอุ่น แล้วใส่น้ำส้มสายชู ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกจากเท้า 2. เอาเท้าเหยียบเกลือที่ยังละลายไม่หมดได้ 3. ทำจิตใจให้สงบ หรือเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ นั่งอยู่ประมาณ 25-30 นาที 4. หลังจากนั้นให้ล้างเท้าด้วยน้ำเปล่า การแช่เท้าด้วยน้ำเกลือนั้นคนปกติ สามารถทำได้ทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนคนป่วย ทำทุกวันก่อนนอน ทั้งนี้การแช่เท้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำเกลือหรือน้ำอุ่นหรือไม่ก็ตาม ยังมีข้อดีอีกหลายอย่างดังนี้! 1. ลดอาการปวดบวมที่เท้า 2. ลดอาการปวดท้อง 3. กระตุ้นความต้านทานของร่างกาย 4. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น 5. ป้องกันอาการมือเท้าเย็นโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว 6. ลดอาการอักเสบของจมูกและลำคอ 7. ช่วยให้อาการปวดหัวหรือปวดประจำเดือนลดลง 8. ลดอาการคั่งของเลือดที่ส่วนอื่นๆ 9. ทำให้นอนหลับง่ายตลอดคืน เป็นต้น ขอมอบให้ทุกท่านเพื่อดูแลสุขภาพกันด้วยความห่วงใยกันและกัน
    0 Comments 0 Shares 313 Views 0 Reviews
More Results