• ๒เกี​ยว​โด​นิวส์​ (27​ มิ.ย.)​ รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ญี่ปุ่นประหารชีวิตชายคนหนึ่งที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมต่อเนื่อง 9 ศพ เมื่อปี 2560 ใกล้กับกรุงโตเกียว ซึ่งถือเป็นการแขวนคอครั้งแรกของประเทศนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565

    โทษประหารชีวิตของทาคาฮิโระ ชิราอิชิ อายุ 34 ปี ผู้ได้รับฉายาว่า "ฆาตกรทวิตเตอร์" ของญี่ปุ่น ได้รับคำพิพาก​ษาสิ้นสุดในปี 2564 หลังจากที่เขาถอนคำอุทธรณ์ เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรม ชำแหละ และเก็บศพเหยื่อทั้ง 9 รายไว้ในอพาร์ตเมนต์ของเขาในเมืองซามะ จังหวัดคานากาวะ

    "ผมสั่งประหารชีวิตหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบและรอบคอบ" เคอิสุเกะ ซูซูกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นเพื่อประกาศการแขวนคอ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

    การประหารชีวิตดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางคำถามเกี่ยวกับระบบยุติธรรม​โทษประหารชีวิตของประเทศ หลังจากที่อิวาโอะ ฮากามาตะ วัย 89 ปี ซึ่งต้องโทษประหารชีวิตมานานกว่า 4 ทศวรรษ ได้รับการพิพากษาให้พ้นผิด

    อิวาโอะ ฮากามาตะ ​พ้นผิดจากคดีฆาตกรรม 4 ศพเมื่อปี 2509 และการรื้อการพิจารณาคดีใหม่เสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม 2567

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/japan/detail/9680000060591

    #Thaitimes #MGROnline #รัฐบาลญี่ปุ่น #ประหารชีวิต
    ๒เกี​ยว​โด​นิวส์​ (27​ มิ.ย.)​ รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ญี่ปุ่นประหารชีวิตชายคนหนึ่งที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมต่อเนื่อง 9 ศพ เมื่อปี 2560 ใกล้กับกรุงโตเกียว ซึ่งถือเป็นการแขวนคอครั้งแรกของประเทศนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 • โทษประหารชีวิตของทาคาฮิโระ ชิราอิชิ อายุ 34 ปี ผู้ได้รับฉายาว่า "ฆาตกรทวิตเตอร์" ของญี่ปุ่น ได้รับคำพิพาก​ษาสิ้นสุดในปี 2564 หลังจากที่เขาถอนคำอุทธรณ์ เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรม ชำแหละ และเก็บศพเหยื่อทั้ง 9 รายไว้ในอพาร์ตเมนต์ของเขาในเมืองซามะ จังหวัดคานากาวะ • "ผมสั่งประหารชีวิตหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบและรอบคอบ" เคอิสุเกะ ซูซูกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นเพื่อประกาศการแขวนคอ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว • การประหารชีวิตดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางคำถามเกี่ยวกับระบบยุติธรรม​โทษประหารชีวิตของประเทศ หลังจากที่อิวาโอะ ฮากามาตะ วัย 89 ปี ซึ่งต้องโทษประหารชีวิตมานานกว่า 4 ทศวรรษ ได้รับการพิพากษาให้พ้นผิด • อิวาโอะ ฮากามาตะ ​พ้นผิดจากคดีฆาตกรรม 4 ศพเมื่อปี 2509 และการรื้อการพิจารณาคดีใหม่เสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม 2567 • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/japan/detail/9680000060591 • #Thaitimes #MGROnline #รัฐบาลญี่ปุ่น #ประหารชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินเทาทองคำเทาบ้านเทารถเทาที่ดินเทา เจ้าของเหล่านี้ประหารชีวิตไม่ลดไม่จำ
    เงินเทาทองคำเทาบ้านเทารถเทาที่ดินเทา เจ้าของเหล่านี้ประหารชีวิตไม่ลดไม่จำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • เขาชื่อโมฮัมหมัด อามิน มะห์ดาวี ชัยเสห์ เขาเป็นผู้นำกลุ่มไซเบอร์ของมอสสาดในอิหร่าน เขาถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอเช้าวันนี้
    เขาชื่อโมฮัมหมัด อามิน มะห์ดาวี ชัยเสห์ เขาเป็นผู้นำกลุ่มไซเบอร์ของมอสสาดในอิหร่าน เขาถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอเช้าวันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ครั้งหนึ่งและช่วงหนึ่งระหว่างโควิดมาใหม่,จะมีภาพข่าวเหล่านี้เป็นอันมากในอเมริกาโดยเฉพาะพวกฮอลลีวูดที่แดกอะดริโนโครมเด็กๆเลือดเด็กๆการทารุนเด็กๆเพื่อเอาเลือด,เด็กบางคนตายจากขณะทารุน,บวกพวกมันแดกเนื้อเด็กๆด้วย,คนเหล่านี้น่าจะตายไปหมดแล้วทั้งฮอลลีวูด,และถูกไล่ล่าเด็ดหัวเป็นอันมากชนิดไร้การอภัยโทษใดๆเลย,ยืนยันโดยพวกใส่รองเท้าแบบนี้ล่ะ กำไลนักโทษนั้นเอง มีทั้งโทษเบาจนถึงหนักสาหัสรอการประหารชีวิตได้ตลอดเวลา,คนทั่วไปเห็นมันจะอ้างปัดไปว่า ประสบอุบัติเหตุข้อเท้าอักเสบเจ็บมีปัญหา,ปัญหามันจริงๆเตรียมตัวลงโทษถึงขั้นสูงสุดประหารชีวิตระหว่างทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงกันและมีในมือเต็มที่แล้ว.
    ..ในไทยเราดารานักร้องลูกหลานเจ้าสัวคนร่ำรวยที่เข้ารีตลัทธิซาตานนี้มีไม่น้อย,เดินโชว์ออกสื่อออกข่าวตรึมก็มี,ชนชั้นสูงหลายคนก็ไม่รอดคือตายสถานเดียว,เข้าไล่ล่าเด็ดหัวเด็ดชีวิตจริง,แล้วเอาตัวปลอมตัวโคลนแทนที่หากเกี่ยวข้องกับสถานะทางสังคมมากเกินไป,เช่นผู้นำระดับประเทศต่างๆตลอดคนวงการต่างๆเช่นไอ้มาร์คfb,ไอ้เก็ตๆไมโครซอฟ,หรืออีลอนมาร์คก็ด้วย,ตัวจริงตายหมดแล้วและGitmoหลายสาขาสร้างรองรับตรึมทั่วโลกตลอดเรือสำราญเรเวลคุกบันเทิงทั่วโลกก็ว่า.
    ..พวกนี้ปะปนในโลกเราตรึมอาจมนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นแต่ใส่ชุดชาวโลกเรา,ต่างดาวสายพันธุ์อื่นก็ว่าที่มองชาวโลกมนุษย์ปัจจุบันคือแหล่งอาหารทำแดกของมัน.,ไฮบริดจ์รุ่นผสมระหว่างแรปทีเลี่ยนกับเผ่าพื้นเมืองต่างๆก็ว่าสาระพัดต่างดาวเลวชั่วหมายฆ่าพวกเราปกครองเราให้เป็นทาสอาหารมันนั่นเอง.
    ..ครั้งหนึ่งและช่วงหนึ่งระหว่างโควิดมาใหม่,จะมีภาพข่าวเหล่านี้เป็นอันมากในอเมริกาโดยเฉพาะพวกฮอลลีวูดที่แดกอะดริโนโครมเด็กๆเลือดเด็กๆการทารุนเด็กๆเพื่อเอาเลือด,เด็กบางคนตายจากขณะทารุน,บวกพวกมันแดกเนื้อเด็กๆด้วย,คนเหล่านี้น่าจะตายไปหมดแล้วทั้งฮอลลีวูด,และถูกไล่ล่าเด็ดหัวเป็นอันมากชนิดไร้การอภัยโทษใดๆเลย,ยืนยันโดยพวกใส่รองเท้าแบบนี้ล่ะ กำไลนักโทษนั้นเอง มีทั้งโทษเบาจนถึงหนักสาหัสรอการประหารชีวิตได้ตลอดเวลา,คนทั่วไปเห็นมันจะอ้างปัดไปว่า ประสบอุบัติเหตุข้อเท้าอักเสบเจ็บมีปัญหา,ปัญหามันจริงๆเตรียมตัวลงโทษถึงขั้นสูงสุดประหารชีวิตระหว่างทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงกันและมีในมือเต็มที่แล้ว. ..ในไทยเราดารานักร้องลูกหลานเจ้าสัวคนร่ำรวยที่เข้ารีตลัทธิซาตานนี้มีไม่น้อย,เดินโชว์ออกสื่อออกข่าวตรึมก็มี,ชนชั้นสูงหลายคนก็ไม่รอดคือตายสถานเดียว,เข้าไล่ล่าเด็ดหัวเด็ดชีวิตจริง,แล้วเอาตัวปลอมตัวโคลนแทนที่หากเกี่ยวข้องกับสถานะทางสังคมมากเกินไป,เช่นผู้นำระดับประเทศต่างๆตลอดคนวงการต่างๆเช่นไอ้มาร์คfb,ไอ้เก็ตๆไมโครซอฟ,หรืออีลอนมาร์คก็ด้วย,ตัวจริงตายหมดแล้วและGitmoหลายสาขาสร้างรองรับตรึมทั่วโลกตลอดเรือสำราญเรเวลคุกบันเทิงทั่วโลกก็ว่า. ..พวกนี้ปะปนในโลกเราตรึมอาจมนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นแต่ใส่ชุดชาวโลกเรา,ต่างดาวสายพันธุ์อื่นก็ว่าที่มองชาวโลกมนุษย์ปัจจุบันคือแหล่งอาหารทำแดกของมัน.,ไฮบริดจ์รุ่นผสมระหว่างแรปทีเลี่ยนกับเผ่าพื้นเมืองต่างๆก็ว่าสาระพัดต่างดาวเลวชั่วหมายฆ่าพวกเราปกครองเราให้เป็นทาสอาหารมันนั่นเอง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ตอนนี้ทนายที่รักชาติไทยเราทั้งหลายทั่วประเทศที่ร่ำรวยมีทุนทรัพย์หน่อย สามารถลงมือหน้างานจริงพิสูจน์ตัวเอง ฟ้องศาลทุกๆจังหวัดทั่วประเทศไทยเลย,ให้พวกขายชาติสะสมคดีเดินขึ้นศาลแต่ละจังหวัดทุกๆวันเลย,แยกมุกฟ้องทีละส่วนละอย่างกันส่วนกลางเอาไปรวมที่เดียวให้สะดวกสบายมันเกินไป,พรรคไหนจึงอยู่ร่วมรัฐบาลในเวลาอยู่มันครบชัดเจนถึงเจตนาตนแล้ว สส.พรรคนั้นๆทุกๆคนก็ด้วยสำเร็จในความผิดด้านอธิปไตยชาติไทยแล้วโทษมหาหนักสาหัสทุกๆสส.ทุกๆพรรคร่วมด้วยเช่นกันแน่นอนจะอ้างสิ่งใดๆนั้นฟังไม่ขึ้นแล้วเพราะถ้าเจตนาบริสุทธิ์จริงชาติไทยอธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อน,ความปลอดภัยประชาชนคนในชาติถูกคุกคามถูกปรองร้ายสั่งสังหารคนไทยคนเห็นต่างศัตรูเขมรแบบมุกอ้างคนเขมรที่ขัดแย้งกับรัฐบาลเขมรหนีมาไทยแล้วไล่ล่าสังหารนั้น,ใช้ไม่ได้ วาทะและวลีบริบทมันคือชี้เป้าสังหารคนไทยนี้ล่ะคือภัยคุกคามทางร่างกายของประชาชนคนไทยชัดเจนตลอดอาสนธิยังถึงลอบสังหารปักหมุดไว้ในงานสังหารเลย,อาสนธิคือคนไทยนะ,คุณวีระถูกคุกคามทางอธิปไตยบนแผ่นดินไทยชัดเจน,รัฐบาลสมัยนั้นต้องมีความผิดฐานละเมิดคุณวีระด้วย ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย,รัฐบาลนั้นต้องยอมรับความจริงว่ากากมาก,เสมือนคนทรยศต่ออธิปไตยชาติตนเองอีกรัฐบาล,หลักฐานข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ชัดเจนมากมาย,แต่ทำตัวกากกระจอกไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ในการปกป้องคนไทยตนเองที่ไม่มีความผิดใดๆ,ทหารเขมรต่างหากบุกมาจับรุกล้ำดินแดนไทยชัดเจนแถมมาจับคนไทยบนแผ่นดินไทยด้วย,สามารถสั่งสอนเขมรคว่ำบาตรก็ยังได้หรือสารพัดวีธีช่วยคณะคนไทยที่ถูกเขมรจับไปบนแผ่นดินไทยได้มากมาย.แต่ก็ไม่ตั้งใจและจริงใจเข้าช่วยเหลือคณะคุณวีระเลย.,นี้คือขาดคุณสมบัติของนายกฯในสมัยนั้นชัดเจน,ไร้ภาวะผู้นำ.มีความผิดด้วยมากมาย.เพราะถ้าทหารพม่าทหารมาเลย์ทหารลาวมาทำแบบนี้นอกจากทหารเขมรจับคนไทยในแผ่นดินไทยไปเรียกร้องนั้นนี้โน้นจะเหี้ยขนาดไหน.
    ..สรุปรัฐบาลชุดนี้ทั้งพรรคร่วมทั้งสส.รัฐบาลทั้งหมด หมดเวลาได้การอภัยโทษแล้วตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันศุกร์,พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐทำไมทำได้,แม้สภาวะการเมืองภาคเล่นการเมืองภายในประเทศจะเหี้ยจะอุบาทก์ขนาดไหน,แต่เมื่อเรื่องอธิปไตยชาติไทยตนถูกรุกรานคุกคามความมั่นคงความไม่ปลอดภัยแก่ประชาชนภายในประเทศและต่ออธิปไตยไทยตน,ต้องทิ้งผลประโยชน์ตนทั้งสถานะภาคการเมืองเล่นการเมืองทั้งหมดแบบเดิมนั้นทิ้งไปในทันที,เช่นนั้นสามารถเข้าใจทางเดียวกันว่าสส.ทั้งหมด คณะกรรมการพรรครัฐบาลและพรรคร่วมทั้งหมดตลอดคนงานในพรรคที่เป็นรัฐบาลชุดนี้มีความผิดร้ายแรงต่อภัยความมั่นคงทางอธิปไตยชาติเอาประเทศชาติผลประโยชน์ขาติพร้อมจะยกให้ศัตรูภัยคุกคามชาติตนตลอดวลีเด็ด"ทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามกับเรา"พะนะ.,พวกทรยศเนรคุณสมยอมยินยอมต่อชาติที่มันรุกรานประเทศไทยทั้งหมดต้องถูกลงโทษอย่างร้ายแรง,อดีตคือประหารชีวิตทันที.

    https://youtu.be/0oCbq6mVjCo?si=Yw7s3JoYy89L3_8I
    ..ตอนนี้ทนายที่รักชาติไทยเราทั้งหลายทั่วประเทศที่ร่ำรวยมีทุนทรัพย์หน่อย สามารถลงมือหน้างานจริงพิสูจน์ตัวเอง ฟ้องศาลทุกๆจังหวัดทั่วประเทศไทยเลย,ให้พวกขายชาติสะสมคดีเดินขึ้นศาลแต่ละจังหวัดทุกๆวันเลย,แยกมุกฟ้องทีละส่วนละอย่างกันส่วนกลางเอาไปรวมที่เดียวให้สะดวกสบายมันเกินไป,พรรคไหนจึงอยู่ร่วมรัฐบาลในเวลาอยู่มันครบชัดเจนถึงเจตนาตนแล้ว สส.พรรคนั้นๆทุกๆคนก็ด้วยสำเร็จในความผิดด้านอธิปไตยชาติไทยแล้วโทษมหาหนักสาหัสทุกๆสส.ทุกๆพรรคร่วมด้วยเช่นกันแน่นอนจะอ้างสิ่งใดๆนั้นฟังไม่ขึ้นแล้วเพราะถ้าเจตนาบริสุทธิ์จริงชาติไทยอธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อน,ความปลอดภัยประชาชนคนในชาติถูกคุกคามถูกปรองร้ายสั่งสังหารคนไทยคนเห็นต่างศัตรูเขมรแบบมุกอ้างคนเขมรที่ขัดแย้งกับรัฐบาลเขมรหนีมาไทยแล้วไล่ล่าสังหารนั้น,ใช้ไม่ได้ วาทะและวลีบริบทมันคือชี้เป้าสังหารคนไทยนี้ล่ะคือภัยคุกคามทางร่างกายของประชาชนคนไทยชัดเจนตลอดอาสนธิยังถึงลอบสังหารปักหมุดไว้ในงานสังหารเลย,อาสนธิคือคนไทยนะ,คุณวีระถูกคุกคามทางอธิปไตยบนแผ่นดินไทยชัดเจน,รัฐบาลสมัยนั้นต้องมีความผิดฐานละเมิดคุณวีระด้วย ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย,รัฐบาลนั้นต้องยอมรับความจริงว่ากากมาก,เสมือนคนทรยศต่ออธิปไตยชาติตนเองอีกรัฐบาล,หลักฐานข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ชัดเจนมากมาย,แต่ทำตัวกากกระจอกไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ในการปกป้องคนไทยตนเองที่ไม่มีความผิดใดๆ,ทหารเขมรต่างหากบุกมาจับรุกล้ำดินแดนไทยชัดเจนแถมมาจับคนไทยบนแผ่นดินไทยด้วย,สามารถสั่งสอนเขมรคว่ำบาตรก็ยังได้หรือสารพัดวีธีช่วยคณะคนไทยที่ถูกเขมรจับไปบนแผ่นดินไทยได้มากมาย.แต่ก็ไม่ตั้งใจและจริงใจเข้าช่วยเหลือคณะคุณวีระเลย.,นี้คือขาดคุณสมบัติของนายกฯในสมัยนั้นชัดเจน,ไร้ภาวะผู้นำ.มีความผิดด้วยมากมาย.เพราะถ้าทหารพม่าทหารมาเลย์ทหารลาวมาทำแบบนี้นอกจากทหารเขมรจับคนไทยในแผ่นดินไทยไปเรียกร้องนั้นนี้โน้นจะเหี้ยขนาดไหน. ..สรุปรัฐบาลชุดนี้ทั้งพรรคร่วมทั้งสส.รัฐบาลทั้งหมด หมดเวลาได้การอภัยโทษแล้วตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันศุกร์,พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐทำไมทำได้,แม้สภาวะการเมืองภาคเล่นการเมืองภายในประเทศจะเหี้ยจะอุบาทก์ขนาดไหน,แต่เมื่อเรื่องอธิปไตยชาติไทยตนถูกรุกรานคุกคามความมั่นคงความไม่ปลอดภัยแก่ประชาชนภายในประเทศและต่ออธิปไตยไทยตน,ต้องทิ้งผลประโยชน์ตนทั้งสถานะภาคการเมืองเล่นการเมืองทั้งหมดแบบเดิมนั้นทิ้งไปในทันที,เช่นนั้นสามารถเข้าใจทางเดียวกันว่าสส.ทั้งหมด คณะกรรมการพรรครัฐบาลและพรรคร่วมทั้งหมดตลอดคนงานในพรรคที่เป็นรัฐบาลชุดนี้มีความผิดร้ายแรงต่อภัยความมั่นคงทางอธิปไตยชาติเอาประเทศชาติผลประโยชน์ขาติพร้อมจะยกให้ศัตรูภัยคุกคามชาติตนตลอดวลีเด็ด"ทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามกับเรา"พะนะ.,พวกทรยศเนรคุณสมยอมยินยอมต่อชาติที่มันรุกรานประเทศไทยทั้งหมดต้องถูกลงโทษอย่างร้ายแรง,อดีตคือประหารชีวิตทันที. https://youtu.be/0oCbq6mVjCo?si=Yw7s3JoYy89L3_8I
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,ส่วนตัว มองดีๆมโนเล่นๆนะ,เหี้ยปาหี่แหกตาหมดทั้งระบบ,คือเขมรก็ปาหี่แหกตารับมุกคนจ้างเจ้านาย,ภายในคือชุดรัฐบาลที่แพ้การเลือกตั้งแล้วส้มหล่นได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลถึงปัจจุบันด้วยการเขียนกฎกติกาการเลือกตั้งที่นายกฯไม่ต้องมาจากการกาเลือกตรงของประชาชนทั้งประเทศและตอนนี้ก็ไม่แก้ไขกฎกติกาเงื่อนไขนี้ด้วยแสดงว่าถ้าพรรคไหนได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลจะเอาใครเสนอชื่อเป็นนายกฯตามรายชื่อตนคัดกรองคัดสรรไว้แล้วในอนาคตอาจกว่า10คนแล้วในตอนนั้นเพราะได้ชิมได้เห็นปัญหาที่เสนอชื่อคนน้อยไป,ตั้งชื่อคนน้อยไปอาจมีปัญหาก็ว่าในการสรรหานายกฯแบบไม่ซื่อสัตย์ผิดพลาด,พวกนีัต่างได้ประโยชน์จากกติกาการเลือกตั้งนี้,เสมือนสถาบันนักการเมืองเขาสมยอมกันนั้นเอง,ตลอดปัจจุบันนี้มโนได้ว่าแหกตาปาหี่สถานะการณ์หลอกลวงคนทั้งสองชาติเอามาสนับสนุนละครตนเล่นให้ได้เป็นตัวสำคัญฮีโร่เพื่อสืบทอดอำนาจตนได้มั่นคงขึ้น,ในไทยก็แสดงบทแตกคอกันสุดท้ายวางคนวางหมากให้พร้อมรับผลเร็จชัดอยู่แล้ว,ไม่น่าเกียจเกินไปถ้าจะออกผลด้านใดและตนเองครอบงำครอบคลุมทั้ง2-3ฝ่ายปกติถ้าออกด้าน,แต่สามารถตัดตอนได้หากทหารพระราชาไม่เอาด้วย,มองประชาชนคนไทยต้องมาก่อน,มองอธิปไตยชาติต้องมาก่อน,มองสถาบันกษัตริย์ไทยต้องมาก่อน,มองบริบทละครพวกนี้คือภัยคุกคามร้ายแรงต้องทำลายสถาบันนักการเมืองนอมินีอ้างเอาประชาชนบังหน้านี้ต้องกวาดล้างกำจัดสิ้นซากทันที,ไม่ดีต่อประเทศชาติอะไรเลยมีแต่ปกครองเป็นไปด้วยการสร้างความแตกแยกวุ่นวายเพื่อทำประโยชน์ในผลของความโกลาหลวุ่นวายนั้นซึ่งต่างวางผลไว้ล่วงหน้าชัดเจนแล้ว.
    ..ทหารพระราชาต้องเด็ดขาดตัดตอนยึดอำนาจรัฐบาลทันที อย่าเกรงใจการปกครองระบบประชาธิปไตยของฝรั่ง ผีบ้าอะไรต้องทนดูประชาชนลำบากเดือดร้อนสุดๆในวงจรอุบาทก์นี้เรื่อยไปโดยบอกว่าวิถีนี้ดีแล้ว,ซึ่งดีจริงสถานะประชาชนจะไม่เป็นแบบนี้,เพราะระบบนี้ไม่ได้ลงโทษนักการเมืองจริงจังอะไรเลยในไทย มันรอดตายหมดแม้ทำชั่วเลวขนาดไหนก็ไม่มีโทษประหารชีวิต อาจติดคุกนอนเล่นในบ้านตนเอง ออกไปเดินร่วมประชุมนั้นนี้แค่ใส่กำไลคุกสมมุติพอเป็นพิธีแค่นั้น,คือระบบวิถีปกครองนีัล้มเหลวทั้งระบบ,ฝ่ายบริหารฝ่ายตุลาการฝ่ายนิติบัญญัติล้วนล้มเหลวหมด.หากมองแบบมโนๆในยุคปัจจุบัน ล้วนเหี้ยตลอดเวลาทุกๆยุคที่ผ่านมาถึงปัจจุบันแบบละครเสียอธิปไตยดินแดนภาค2นี้จากทำยอดขายถล่มทลายสำเร็จไปแล้วในภาค1ตอนกบฎทรยศเนรคุณด้วยเหยื่อเขาพระวิหาร ทำได้จนสำเร็จ.,ทหารพระราชาทหารไทยที่มิใช่ทหารยุคกปปส.สมัยนั้นเท่านั้นที่เป็นหนทางเดียวในเวลาจะพลิกสถานการณ์ชาติไทยให้กลับมาดีได้อีกครั้งและทุบทั้งกระดานฝ่ายไม่ดีที่วางแผนทั้งหมดในอดีตถึงปัจจุบันได้.,ควบคุมประชาชนที่หลงผิดในอวิชาคนไม่ดีที่ได้โอกาสดีไปทำไม่ดีให้เป็นดีคืนมาแก่ประชาชนได้ที่หลงผิดหลงชั่วในทางไม่ดีนั้นจากการปกครองจากการบริหารของคณะบริหารประเทศที่เป็นคณะไม่ดีในช่วงเวลาที่ผ่านๆมานั้นได้,
    ..ทหารประชาชนเท่านัันจะช่วยประชาชนได้,มิใช่ทหารอีลิททหารฝ่ายมืดซาตานที่ยึดอำนาจล่าสุดและออกพรบ.มากมายไปเชิงไม่ซื่อสัตย์สุจริตจนลุแก่อำนาจกล้ามากเก่งมากสร้างกฎหมายขายที่ดินแก่ต่างชาติไร่ละ40ล้านบาทได้ก็ว่า,เช่าที่ดิน99ปีอีก,นี้คือผลงานอันโดดเด่นที่รัฐบาลโทนี่ก่อนพันธมิตรไล่ออกนอกประเทศทำได้ไม่สำเร็จอะไรเลยแต่สำเร็จยุคกปปส.ที่ถวายพานให้ใครไม่รู้ยึดอำนาจแบบทำทีบอกเบาๆทุบโต๊ะเนียนๆเบาๆว่าผมยึดอำนาจนะจ๊ะพะนะ,บ่อน้ำมันทั่วประเทศก็ไม่ยึดทวงคืนมาทั้งหมดที่สัมปทานไป ก่อนไปก็แจกอีกสองแปลงคุณภาพที่อ่าวไทย,ต่อเหมืองทองคำให้ขุดต่อได้อีกทั้งที่มีคดีที่ต้องสงสัยอยู่กว่าสิบคดี,พรบ500อีกที่น่าสงสัยหมดไม่รวมพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ให้เอกชนผูกขาดอย่างบ้าคลั่งจนชาวเกษตรสามารถติดคุกกันง่ายๆที่ให้สิทธิเอกชนจนล้นมือแค่ชาวเกษตรฉีกซองเมล็ดปลูกของเอกชนหากชาวบ้านปลูกต่อจะติดคุกแน่นอนแบบที่เกิดขึ้นจริงแล้วในต่างประเทศเกษรละอองเรณูผสมกันก็ผิดพวกมันเสี่ยงถูกจัดการทางคดีให้ชาวเกษตรเสียเปรียบฝ่ายเดียวคือเสีย99%,1%อาจรอดสำหรับชาวเกษตร,
    ..ทหารต้องเด็ดขาดจริงๆอย่าผีบ้าตามโหรตามพวกหมอดูต่างๆ,ทำดีเวลาไหน มันฤกษ์ดีทันทีเวลานั้น.,ทำไมเราต้องให้คนไม่ดีมีที่ยืนด้วย.,เมื่อรู้ว่ามันไม่ดีชัดเจนแก่ใจของคนดี.

    https://youtu.be/zcAl04ObpkQ?si=WwX7nN-oM2g6Nk7H
    ..555,ส่วนตัว มองดีๆมโนเล่นๆนะ,เหี้ยปาหี่แหกตาหมดทั้งระบบ,คือเขมรก็ปาหี่แหกตารับมุกคนจ้างเจ้านาย,ภายในคือชุดรัฐบาลที่แพ้การเลือกตั้งแล้วส้มหล่นได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลถึงปัจจุบันด้วยการเขียนกฎกติกาการเลือกตั้งที่นายกฯไม่ต้องมาจากการกาเลือกตรงของประชาชนทั้งประเทศและตอนนี้ก็ไม่แก้ไขกฎกติกาเงื่อนไขนี้ด้วยแสดงว่าถ้าพรรคไหนได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลจะเอาใครเสนอชื่อเป็นนายกฯตามรายชื่อตนคัดกรองคัดสรรไว้แล้วในอนาคตอาจกว่า10คนแล้วในตอนนั้นเพราะได้ชิมได้เห็นปัญหาที่เสนอชื่อคนน้อยไป,ตั้งชื่อคนน้อยไปอาจมีปัญหาก็ว่าในการสรรหานายกฯแบบไม่ซื่อสัตย์ผิดพลาด,พวกนีัต่างได้ประโยชน์จากกติกาการเลือกตั้งนี้,เสมือนสถาบันนักการเมืองเขาสมยอมกันนั้นเอง,ตลอดปัจจุบันนี้มโนได้ว่าแหกตาปาหี่สถานะการณ์หลอกลวงคนทั้งสองชาติเอามาสนับสนุนละครตนเล่นให้ได้เป็นตัวสำคัญฮีโร่เพื่อสืบทอดอำนาจตนได้มั่นคงขึ้น,ในไทยก็แสดงบทแตกคอกันสุดท้ายวางคนวางหมากให้พร้อมรับผลเร็จชัดอยู่แล้ว,ไม่น่าเกียจเกินไปถ้าจะออกผลด้านใดและตนเองครอบงำครอบคลุมทั้ง2-3ฝ่ายปกติถ้าออกด้าน,แต่สามารถตัดตอนได้หากทหารพระราชาไม่เอาด้วย,มองประชาชนคนไทยต้องมาก่อน,มองอธิปไตยชาติต้องมาก่อน,มองสถาบันกษัตริย์ไทยต้องมาก่อน,มองบริบทละครพวกนี้คือภัยคุกคามร้ายแรงต้องทำลายสถาบันนักการเมืองนอมินีอ้างเอาประชาชนบังหน้านี้ต้องกวาดล้างกำจัดสิ้นซากทันที,ไม่ดีต่อประเทศชาติอะไรเลยมีแต่ปกครองเป็นไปด้วยการสร้างความแตกแยกวุ่นวายเพื่อทำประโยชน์ในผลของความโกลาหลวุ่นวายนั้นซึ่งต่างวางผลไว้ล่วงหน้าชัดเจนแล้ว. ..ทหารพระราชาต้องเด็ดขาดตัดตอนยึดอำนาจรัฐบาลทันที อย่าเกรงใจการปกครองระบบประชาธิปไตยของฝรั่ง ผีบ้าอะไรต้องทนดูประชาชนลำบากเดือดร้อนสุดๆในวงจรอุบาทก์นี้เรื่อยไปโดยบอกว่าวิถีนี้ดีแล้ว,ซึ่งดีจริงสถานะประชาชนจะไม่เป็นแบบนี้,เพราะระบบนี้ไม่ได้ลงโทษนักการเมืองจริงจังอะไรเลยในไทย มันรอดตายหมดแม้ทำชั่วเลวขนาดไหนก็ไม่มีโทษประหารชีวิต อาจติดคุกนอนเล่นในบ้านตนเอง ออกไปเดินร่วมประชุมนั้นนี้แค่ใส่กำไลคุกสมมุติพอเป็นพิธีแค่นั้น,คือระบบวิถีปกครองนีัล้มเหลวทั้งระบบ,ฝ่ายบริหารฝ่ายตุลาการฝ่ายนิติบัญญัติล้วนล้มเหลวหมด.หากมองแบบมโนๆในยุคปัจจุบัน ล้วนเหี้ยตลอดเวลาทุกๆยุคที่ผ่านมาถึงปัจจุบันแบบละครเสียอธิปไตยดินแดนภาค2นี้จากทำยอดขายถล่มทลายสำเร็จไปแล้วในภาค1ตอนกบฎทรยศเนรคุณด้วยเหยื่อเขาพระวิหาร ทำได้จนสำเร็จ.,ทหารพระราชาทหารไทยที่มิใช่ทหารยุคกปปส.สมัยนั้นเท่านั้นที่เป็นหนทางเดียวในเวลาจะพลิกสถานการณ์ชาติไทยให้กลับมาดีได้อีกครั้งและทุบทั้งกระดานฝ่ายไม่ดีที่วางแผนทั้งหมดในอดีตถึงปัจจุบันได้.,ควบคุมประชาชนที่หลงผิดในอวิชาคนไม่ดีที่ได้โอกาสดีไปทำไม่ดีให้เป็นดีคืนมาแก่ประชาชนได้ที่หลงผิดหลงชั่วในทางไม่ดีนั้นจากการปกครองจากการบริหารของคณะบริหารประเทศที่เป็นคณะไม่ดีในช่วงเวลาที่ผ่านๆมานั้นได้, ..ทหารประชาชนเท่านัันจะช่วยประชาชนได้,มิใช่ทหารอีลิททหารฝ่ายมืดซาตานที่ยึดอำนาจล่าสุดและออกพรบ.มากมายไปเชิงไม่ซื่อสัตย์สุจริตจนลุแก่อำนาจกล้ามากเก่งมากสร้างกฎหมายขายที่ดินแก่ต่างชาติไร่ละ40ล้านบาทได้ก็ว่า,เช่าที่ดิน99ปีอีก,นี้คือผลงานอันโดดเด่นที่รัฐบาลโทนี่ก่อนพันธมิตรไล่ออกนอกประเทศทำได้ไม่สำเร็จอะไรเลยแต่สำเร็จยุคกปปส.ที่ถวายพานให้ใครไม่รู้ยึดอำนาจแบบทำทีบอกเบาๆทุบโต๊ะเนียนๆเบาๆว่าผมยึดอำนาจนะจ๊ะพะนะ,บ่อน้ำมันทั่วประเทศก็ไม่ยึดทวงคืนมาทั้งหมดที่สัมปทานไป ก่อนไปก็แจกอีกสองแปลงคุณภาพที่อ่าวไทย,ต่อเหมืองทองคำให้ขุดต่อได้อีกทั้งที่มีคดีที่ต้องสงสัยอยู่กว่าสิบคดี,พรบ500อีกที่น่าสงสัยหมดไม่รวมพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ให้เอกชนผูกขาดอย่างบ้าคลั่งจนชาวเกษตรสามารถติดคุกกันง่ายๆที่ให้สิทธิเอกชนจนล้นมือแค่ชาวเกษตรฉีกซองเมล็ดปลูกของเอกชนหากชาวบ้านปลูกต่อจะติดคุกแน่นอนแบบที่เกิดขึ้นจริงแล้วในต่างประเทศเกษรละอองเรณูผสมกันก็ผิดพวกมันเสี่ยงถูกจัดการทางคดีให้ชาวเกษตรเสียเปรียบฝ่ายเดียวคือเสีย99%,1%อาจรอดสำหรับชาวเกษตร, ..ทหารต้องเด็ดขาดจริงๆอย่าผีบ้าตามโหรตามพวกหมอดูต่างๆ,ทำดีเวลาไหน มันฤกษ์ดีทันทีเวลานั้น.,ทำไมเราต้องให้คนไม่ดีมีที่ยืนด้วย.,เมื่อรู้ว่ามันไม่ดีชัดเจนแก่ใจของคนดี. https://youtu.be/zcAl04ObpkQ?si=WwX7nN-oM2g6Nk7H
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ถ้าจริงในกรณีไปตกลงmouกัน,เป็นข้อหาร้ายแรงระดับชาติทันทีเลย,นั้นคือไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่ออธิปไตยดินแดนและความมั่นคงของประเทศชาติไทยขัดเจน,เป็นบริบทขององค์พระมหากษัตริย์ไทยเราเท่านั้นแต่องค์เดียวที่จะว่าด้วยแผ่นดินไทยนี้,รัฐบาลไทยไม่สิทธิขาดจะตกลงสมยอมยินยอมเจรจาแบ่งปันดินแดนไทยต่อกันและกันได้,ทหารไทยมีสิทธิขาดเต็มที่ในการทำลายร้ายผู้ทำลายอธิปไตยในภัยคุกคามร้ายแรงนี้ทั้งรัฐบาลไทยสามารถยึดอำนาจประกาศกฎอัยการศึกได้ทันทีเพื่อยุติอำนาจรัฐบาลและโมฆะข้อตกลงที่เป็นภัยร้ายแรงต่ออธิปไตยของแผ่นดินไทยและขับไล่ศัตรูผู้รุกรานแผ่นดินไทยในทันทีได้,ไม่น่าเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะอาการหนักและพฤติกรรมหนาสาหัสสาการขนาดนี้,วงศ์ตระกูลนี้ทั้งหมดตลอดถึงเครือญาติไม่ออกมาประนามประฌามใดๆเลยไม่ออกมาต่อว่า ว่ากล่าวตักเตือนใดๆด้วย,เสมือนลุแก่อำนาจอย่างแสนสาหัสลบหลู่บุรพระมหากษัตริย์ไทยที่ต่อสู้ร่วมกับคนไทยสละเนื้อและเนื้อตลอดถึงพลีชีพเป็นอันมากเพื่อปกป้องแม้ตารางนิ้วเดียวที่เป็นราชอาณาจักรผืนแผ่นดินประเทศไทยเราและของตนแห่งเราชาวไทยจนถึงที่สุด,โคตรเหง้าตระกูลนี้ตลอดจนพรรคร่วมรัฐบาลและสส.ทั้งหมดที่เป็นฝ่ายรัฐบาลชุดปัจจุบันต้องถูกลงโทษทั้งระดับเบื้องต้นคือยึดทรัพย์ทั้งหมดของวงศ์ตระกูลทุกๆคน,ไม่ยอมลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลที่กระทำผิด,รู้ว่ากระทำผิดก็สมยอมร่วมคณะร่วมพรรครัฐบาลถึงที่สุดจนเป็นการกระทำการสมยอมเพื่อเสียไปซึ่งอธิปไตยแดนดินประเทศไทยตนจึงมีลักษณะความผิดเบื้องต้นชัดเจน,ตลอดขนาดใหญ่คือลงโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือตัวคณะแกนนำส่วนหัวทั้งหมดต้องประหารชีวิตทันทีให้เป็นแบบอย่างในประวัติศาสตร์ของคนยุคปัจจุบันที่เลอะเทอะต่อการอ้างตนเป็นตัวแทนเพื่อบริหารดูแลประเทศไทยและปกป้องประเทศไทยด้วยมานานแล้ว,เล่นการเมืองแบบเล่นๆมากเกินไป,ขาดจิตสำนึกดีงามขั้นพื้นฐานเป็นปัจจัยเบื้องต้นโดยมาก นำพาสังคมไทยชุมชนไทยผิดลู่ผิดทางจนทำลายชาติตนทั้งภายในและภายนอกจากการได้อำนาจมาเพื่อปกครองบริหารแทนประชาชนส่วนใหญ่ทั่วประเทศทั้งหมด.ผิดนีัยิ่งใหญ่นักและจากกรณีเสียเขาพระวิหารยังไม่สะท้อนว่ารัฐบาลผิด,ย่ามใจในตนว่าข้าคือรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลชุดใดๆแต่ไม่สำเนียกใจเป็นบทอุทาหรณ์ตนจะต้องรักษาอธิปไตยไทยให้คงมั่นเมื่อเข้ามามีโอกาสได้เป็นรัฐบาลในภายภาคหน้าและอาจดูรายละเอียดพร้อมยกเลิกทันทีได้เป็นให้ได้คืนมาซึ่งอธิปไตยตนที่สูญเสียไปอย่างถูกปล้นชิงแย่งชิงไปอย่างอยุติธรรมบนเวทีโลกที่ไม่ซื่อสัตย์ในการกระทำกิจกรรมตนบนหน้าที่เป็นกลางอย่างชัดเจนจนเรา..ประเทศไทยต้องเสียดินแดนไทยไปอย่างอยุติธรรมและพร้อมดำเนินลงโทษเอาผิดคนไทยตนที่กระทำการลุแก่อำนาจหน้าที่ตนไปสมยอมยิยยอมสมประโยชน์ตนโดยไม่เอาชาติไทยและประเทศชาติไทยตนเป็นเอกเป็นที่ตั้งหลักชัดเจนไว้ก่อน.,นี้รัฐบาลใหม่ถึงปัจจุบันที่เข้ามาบริหารประเทศต้องสำเนียกท่าทีที่ชัดเจนพร้อมบริบทที่มีหลักมีฐานมั่นคงชัดต่ออธิปไตยแผ่นดินไทยตน.,ความผิดนี้โดยเพียงใช้จิตสำนึกเด็กๆพื้นฐานมันชัดเจนอยู่แล้วว่ามีความผิดร้ายแรงมีโทษมหันต์หนักชัดเจน,ที่ดินที่บ้านหากมีคนรุกล้ำเข้ามาแล้วไปบอกไปตกลงเขาสมยอมให้เขารุกล้ำมาได้เลยนะมันใช่เหรอ,นี้ไม่ร่วมว่าปู่ย่าตายายถูกมือที่สามปล้นไปอีกเมื่อโจรจะคืนต้องคืนให้เจ้าของเดิมมิใช่ไปคืนให้อีกคนคือคนที่ปัจจุบันมารุกล้ำบ้านเรานั้นล่ะ,จริงๆเราสามารถอ้างเอารุ่นปู่ย่าตายายทวงคืนที่มือที่สามคืนที่ดินนั้นที่ปล้นเราไปคืนมาให้ถูกคนถูกเจ้าของเดิมด้วยและคนที่ว่านั้นไม่มีสิทธิจะเอาไปเป็นของตนและอ้างเอาเป็นของตนจนถึงปัจจุบันด้วย.
    ..ทหารไทยเราไปคุยกันให้ชัดเจนได้แล้ว,เข้ามาในจังหวะเวลานี้สมควรแล้ว,จะรอให้มีการตายการฆ่าฟันกันก่อนเหรอ,จะอำมะหิตเพื่อต้องการเห็นเลือดเห็นคนตายบูชาอสูรซาตานก่อนเหรอ.

    https://youtube.com/shorts/d5jlPcPDHLM?si=iE35SP0NhRwQM9vD
    ..ถ้าจริงในกรณีไปตกลงmouกัน,เป็นข้อหาร้ายแรงระดับชาติทันทีเลย,นั้นคือไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่ออธิปไตยดินแดนและความมั่นคงของประเทศชาติไทยขัดเจน,เป็นบริบทขององค์พระมหากษัตริย์ไทยเราเท่านั้นแต่องค์เดียวที่จะว่าด้วยแผ่นดินไทยนี้,รัฐบาลไทยไม่สิทธิขาดจะตกลงสมยอมยินยอมเจรจาแบ่งปันดินแดนไทยต่อกันและกันได้,ทหารไทยมีสิทธิขาดเต็มที่ในการทำลายร้ายผู้ทำลายอธิปไตยในภัยคุกคามร้ายแรงนี้ทั้งรัฐบาลไทยสามารถยึดอำนาจประกาศกฎอัยการศึกได้ทันทีเพื่อยุติอำนาจรัฐบาลและโมฆะข้อตกลงที่เป็นภัยร้ายแรงต่ออธิปไตยของแผ่นดินไทยและขับไล่ศัตรูผู้รุกรานแผ่นดินไทยในทันทีได้,ไม่น่าเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะอาการหนักและพฤติกรรมหนาสาหัสสาการขนาดนี้,วงศ์ตระกูลนี้ทั้งหมดตลอดถึงเครือญาติไม่ออกมาประนามประฌามใดๆเลยไม่ออกมาต่อว่า ว่ากล่าวตักเตือนใดๆด้วย,เสมือนลุแก่อำนาจอย่างแสนสาหัสลบหลู่บุรพระมหากษัตริย์ไทยที่ต่อสู้ร่วมกับคนไทยสละเนื้อและเนื้อตลอดถึงพลีชีพเป็นอันมากเพื่อปกป้องแม้ตารางนิ้วเดียวที่เป็นราชอาณาจักรผืนแผ่นดินประเทศไทยเราและของตนแห่งเราชาวไทยจนถึงที่สุด,โคตรเหง้าตระกูลนี้ตลอดจนพรรคร่วมรัฐบาลและสส.ทั้งหมดที่เป็นฝ่ายรัฐบาลชุดปัจจุบันต้องถูกลงโทษทั้งระดับเบื้องต้นคือยึดทรัพย์ทั้งหมดของวงศ์ตระกูลทุกๆคน,ไม่ยอมลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลที่กระทำผิด,รู้ว่ากระทำผิดก็สมยอมร่วมคณะร่วมพรรครัฐบาลถึงที่สุดจนเป็นการกระทำการสมยอมเพื่อเสียไปซึ่งอธิปไตยแดนดินประเทศไทยตนจึงมีลักษณะความผิดเบื้องต้นชัดเจน,ตลอดขนาดใหญ่คือลงโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือตัวคณะแกนนำส่วนหัวทั้งหมดต้องประหารชีวิตทันทีให้เป็นแบบอย่างในประวัติศาสตร์ของคนยุคปัจจุบันที่เลอะเทอะต่อการอ้างตนเป็นตัวแทนเพื่อบริหารดูแลประเทศไทยและปกป้องประเทศไทยด้วยมานานแล้ว,เล่นการเมืองแบบเล่นๆมากเกินไป,ขาดจิตสำนึกดีงามขั้นพื้นฐานเป็นปัจจัยเบื้องต้นโดยมาก นำพาสังคมไทยชุมชนไทยผิดลู่ผิดทางจนทำลายชาติตนทั้งภายในและภายนอกจากการได้อำนาจมาเพื่อปกครองบริหารแทนประชาชนส่วนใหญ่ทั่วประเทศทั้งหมด.ผิดนีัยิ่งใหญ่นักและจากกรณีเสียเขาพระวิหารยังไม่สะท้อนว่ารัฐบาลผิด,ย่ามใจในตนว่าข้าคือรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลชุดใดๆแต่ไม่สำเนียกใจเป็นบทอุทาหรณ์ตนจะต้องรักษาอธิปไตยไทยให้คงมั่นเมื่อเข้ามามีโอกาสได้เป็นรัฐบาลในภายภาคหน้าและอาจดูรายละเอียดพร้อมยกเลิกทันทีได้เป็นให้ได้คืนมาซึ่งอธิปไตยตนที่สูญเสียไปอย่างถูกปล้นชิงแย่งชิงไปอย่างอยุติธรรมบนเวทีโลกที่ไม่ซื่อสัตย์ในการกระทำกิจกรรมตนบนหน้าที่เป็นกลางอย่างชัดเจนจนเรา..ประเทศไทยต้องเสียดินแดนไทยไปอย่างอยุติธรรมและพร้อมดำเนินลงโทษเอาผิดคนไทยตนที่กระทำการลุแก่อำนาจหน้าที่ตนไปสมยอมยิยยอมสมประโยชน์ตนโดยไม่เอาชาติไทยและประเทศชาติไทยตนเป็นเอกเป็นที่ตั้งหลักชัดเจนไว้ก่อน.,นี้รัฐบาลใหม่ถึงปัจจุบันที่เข้ามาบริหารประเทศต้องสำเนียกท่าทีที่ชัดเจนพร้อมบริบทที่มีหลักมีฐานมั่นคงชัดต่ออธิปไตยแผ่นดินไทยตน.,ความผิดนี้โดยเพียงใช้จิตสำนึกเด็กๆพื้นฐานมันชัดเจนอยู่แล้วว่ามีความผิดร้ายแรงมีโทษมหันต์หนักชัดเจน,ที่ดินที่บ้านหากมีคนรุกล้ำเข้ามาแล้วไปบอกไปตกลงเขาสมยอมให้เขารุกล้ำมาได้เลยนะมันใช่เหรอ,นี้ไม่ร่วมว่าปู่ย่าตายายถูกมือที่สามปล้นไปอีกเมื่อโจรจะคืนต้องคืนให้เจ้าของเดิมมิใช่ไปคืนให้อีกคนคือคนที่ปัจจุบันมารุกล้ำบ้านเรานั้นล่ะ,จริงๆเราสามารถอ้างเอารุ่นปู่ย่าตายายทวงคืนที่มือที่สามคืนที่ดินนั้นที่ปล้นเราไปคืนมาให้ถูกคนถูกเจ้าของเดิมด้วยและคนที่ว่านั้นไม่มีสิทธิจะเอาไปเป็นของตนและอ้างเอาเป็นของตนจนถึงปัจจุบันด้วย. ..ทหารไทยเราไปคุยกันให้ชัดเจนได้แล้ว,เข้ามาในจังหวะเวลานี้สมควรแล้ว,จะรอให้มีการตายการฆ่าฟันกันก่อนเหรอ,จะอำมะหิตเพื่อต้องการเห็นเลือดเห็นคนตายบูชาอสูรซาตานก่อนเหรอ. https://youtube.com/shorts/d5jlPcPDHLM?si=iE35SP0NhRwQM9vD
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## สมเด็จจากนรก ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่...!!! ##
    ..
    ..
    เอาจริงๆนะ...
    .
    พฤติกรรม เกเร ระราน เจ้าเล่ห์เพทุบาย...
    .
    ระดมใช้วิชามารต่างๆนานาเพื่อยึดครองแผ่นดินไทย...
    .
    ถ้าใคร ศึกษา หรือ ตามข่าวตลอด ก็จะพอเข้าใจ ทำไม "ไอ้สมเด็จจากนรก" มันเกาะยึด MOU43 และ แผนที่ 1:200,000 ไม่ปล่อย...
    .
    และ ท่าทีของรัฐบาลไทย และ กระทรวงการต่างประเทศของไทย ที่ อ่อนยวบ ไร้น้ำหนักราวกับล่องลอยอยู่ในอวกาศก็มิปาน...
    .
    ไม่หือ ไม่อือ ไม่โต้แย้ง ในทุกประเด็น ที่ เขมร มันประกาศวางเกม...
    .
    เพื่อที่ในอนาคต อาจจะได้มีโอกาส ใช้กฎหมายปิดปากจาก ชาติมหาอำนาจเจ้าจักรวรรดินิยมอีกครั้ง...
    ....
    ....
    ที่น่าแปลก คือ "ไอ้สมเด็จจากนรก" เล่นเกมดุ ส่วน รัฐบาลไทย สวมวิญญาณ เดอะนุ่น...!!!
    .
    ทำทีราวกับตามเกมอะไร เขมรสองพ่อลูก ไม่ทันเลย...
    ..
    ..
    ทั้งๆที่ "ไอ้สมเด็จจากนรก" เล่นเกมเดือด ประกาศกร้าวว่า ตรงนั้นแผ่นดินเขมร ประเทศไทยเป็นโจรขโมยแผ่นดิน...
    .
    แต่ "ไอ้สมเด็จจากนรก" ไม่เคยด่าคนใน รัฐบาลไทย จริงๆจังๆ
    .
    หนำซ้ำยังเย้ยว่า คุมกองทัพไม่ได้ 100%
    .
    บวกกับ เป็นเดือดเป็นแค้น สนธิ ลิ้มทองกุล และ ทวงบุญจาก ตู่ จตุพร...
    .
    ด่าว่า ลุงสนธิ ลิ้มทองกุล มองเขมรเป็นศัตรู ดูถูกเขมร คลั่งชาติ และ ปั่นหัวคนไทยหัวรุนแรงให้คลั่งชาติ
    .
    เพราะ ชาวคณะบ้านพระอาทิตย์ และ นักวิชาการ รวมทั้งประชาชน รวมพลังกันไปยื่นเรื่องให้รัฐบาล ยกเลิก MOU43 ยึดหลักสากล คือ สันปันน้ำ และ เปลี่ยนตัว ประธานคณะเจรจา JBC ที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ว่าอาจจะยึดถือแผนที่ 1:200,000 ของ เขมร
    .
    ประกอบกับรอบก่อน สำนักบ้านพระอาทิตย์ โดย ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ ก็ไปยื่นเรื่องให้ รัฐบาล ยกเลิก MOU44 กับ JC44 และ ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนไทย...
    .
    จนรัฐบาลเงียบไปเรื่องเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลอ่าวไทยด้านตะวันออก ตาม MOU44 และ JC44
    ....
    ....
    โอ้โห พฤติกรรมของ สมเด็จจากนรก นี่เขาเรียก "ตีปลาหน้าไซ" ใช่หรือไม่...???
    .
    ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เข้าทางรัฐบาลไทยทั้งหมดเลยไม่ใช่เหรอเนี่ย...!!!
    ...
    ...
    ตอนนี้คนไทย ไม่พอใจในท่าทีของ รัฐบาล อย่างมาก เพราะ แลดูอ่อนแอ ไม่ทันเกมเขมร อีกทั้งยังแลดูเหมือนไม่ได้มีท่าทีจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศอย่างเข้มแข็งอีกด้วย...!!!
    ..
    ..
    นี่มัน ชงหวาน ให้รัฐบาลไทยชัดๆ...!!!
    ไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่...!!!
    .
    แสดงว่าที่ ลุงสนธิ และ คณะบ้านพระอาทิตย์ ไปแตะ MOU43 + MOU44 + JC44 คือ ไปแตะโดนกล่องดวงใจ ของ สมเด็จจากนรก ใช่หรือไม่...???
    .
    ถ้าไม่มี MOU43 + MOU44 + JC44 แผนร้ายจะมีอันเป็นไป ใช่หรือไม่...???
    .
    "ไอ้สมเด็จจากนรก" หารู้ไม่...!!!
    .
    คนไทย เขาไม่ไม่กินหญ้า เหมือน สมเด็จเตโชจากนรก นะโว่ย..!!!
    .
    แบบนี้หลอกได้แต่ ชาวเหมนตาใสๆ เท่านั้นแหล่ะ...!!!
    .
    ขนาด ปราสาทตาเมือนธม ได้ขึ้นบัญชี โบราณสถานของไทยตั้งแต่ 2478 ก่อนที่เขมร จะได้รับเอกราช ในปี 2496 เป็นระยะเวลาถึง 18 ปี...
    .
    วันนี้ผ่านมาแล้ว 90 ปี แล้ว คุณเอาอะไรมาเคลม ว่าประเทศไทย ขโมยของคุณไป...???
    .
    พฤติกรรมของคุณมันส่อว่า วอนหา สหบาทาส้งตรีง จาก ชาวสยามเมืองยิ้ม ครับ ไอ้สมเด็จเตโชจากนรก...!!!
    .
    อ่อ แล้วไอ้พวกคนไทยใจเขมร ที่สมรู้ร่วมคิด ก็ระวัง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 ไว้ให้ดีหล่ะ ประหารชีวิต นะมุง...!!!
    ..
    ..
    คนไทยรู้ทันพวกคุณนะครับ...
    ## สมเด็จจากนรก ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่...!!! ## .. .. เอาจริงๆนะ... . พฤติกรรม เกเร ระราน เจ้าเล่ห์เพทุบาย... . ระดมใช้วิชามารต่างๆนานาเพื่อยึดครองแผ่นดินไทย... . ถ้าใคร ศึกษา หรือ ตามข่าวตลอด ก็จะพอเข้าใจ ทำไม "ไอ้สมเด็จจากนรก" มันเกาะยึด MOU43 และ แผนที่ 1:200,000 ไม่ปล่อย... . และ ท่าทีของรัฐบาลไทย และ กระทรวงการต่างประเทศของไทย ที่ อ่อนยวบ ไร้น้ำหนักราวกับล่องลอยอยู่ในอวกาศก็มิปาน... . ไม่หือ ไม่อือ ไม่โต้แย้ง ในทุกประเด็น ที่ เขมร มันประกาศวางเกม... . เพื่อที่ในอนาคต อาจจะได้มีโอกาส ใช้กฎหมายปิดปากจาก ชาติมหาอำนาจเจ้าจักรวรรดินิยมอีกครั้ง... .... .... ที่น่าแปลก คือ "ไอ้สมเด็จจากนรก" เล่นเกมดุ ส่วน รัฐบาลไทย สวมวิญญาณ เดอะนุ่น...!!! . ทำทีราวกับตามเกมอะไร เขมรสองพ่อลูก ไม่ทันเลย... .. .. ทั้งๆที่ "ไอ้สมเด็จจากนรก" เล่นเกมเดือด ประกาศกร้าวว่า ตรงนั้นแผ่นดินเขมร ประเทศไทยเป็นโจรขโมยแผ่นดิน... . แต่ "ไอ้สมเด็จจากนรก" ไม่เคยด่าคนใน รัฐบาลไทย จริงๆจังๆ . หนำซ้ำยังเย้ยว่า คุมกองทัพไม่ได้ 100% . บวกกับ เป็นเดือดเป็นแค้น สนธิ ลิ้มทองกุล และ ทวงบุญจาก ตู่ จตุพร... . ด่าว่า ลุงสนธิ ลิ้มทองกุล มองเขมรเป็นศัตรู ดูถูกเขมร คลั่งชาติ และ ปั่นหัวคนไทยหัวรุนแรงให้คลั่งชาติ . เพราะ ชาวคณะบ้านพระอาทิตย์ และ นักวิชาการ รวมทั้งประชาชน รวมพลังกันไปยื่นเรื่องให้รัฐบาล ยกเลิก MOU43 ยึดหลักสากล คือ สันปันน้ำ และ เปลี่ยนตัว ประธานคณะเจรจา JBC ที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ว่าอาจจะยึดถือแผนที่ 1:200,000 ของ เขมร . ประกอบกับรอบก่อน สำนักบ้านพระอาทิตย์ โดย ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ ก็ไปยื่นเรื่องให้ รัฐบาล ยกเลิก MOU44 กับ JC44 และ ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนไทย... . จนรัฐบาลเงียบไปเรื่องเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลอ่าวไทยด้านตะวันออก ตาม MOU44 และ JC44 .... .... โอ้โห พฤติกรรมของ สมเด็จจากนรก นี่เขาเรียก "ตีปลาหน้าไซ" ใช่หรือไม่...??? . ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เข้าทางรัฐบาลไทยทั้งหมดเลยไม่ใช่เหรอเนี่ย...!!! ... ... ตอนนี้คนไทย ไม่พอใจในท่าทีของ รัฐบาล อย่างมาก เพราะ แลดูอ่อนแอ ไม่ทันเกมเขมร อีกทั้งยังแลดูเหมือนไม่ได้มีท่าทีจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศอย่างเข้มแข็งอีกด้วย...!!! .. .. นี่มัน ชงหวาน ให้รัฐบาลไทยชัดๆ...!!! ไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่...!!! . แสดงว่าที่ ลุงสนธิ และ คณะบ้านพระอาทิตย์ ไปแตะ MOU43 + MOU44 + JC44 คือ ไปแตะโดนกล่องดวงใจ ของ สมเด็จจากนรก ใช่หรือไม่...??? . ถ้าไม่มี MOU43 + MOU44 + JC44 แผนร้ายจะมีอันเป็นไป ใช่หรือไม่...??? . "ไอ้สมเด็จจากนรก" หารู้ไม่...!!! . คนไทย เขาไม่ไม่กินหญ้า เหมือน สมเด็จเตโชจากนรก นะโว่ย..!!! . แบบนี้หลอกได้แต่ ชาวเหมนตาใสๆ เท่านั้นแหล่ะ...!!! . ขนาด ปราสาทตาเมือนธม ได้ขึ้นบัญชี โบราณสถานของไทยตั้งแต่ 2478 ก่อนที่เขมร จะได้รับเอกราช ในปี 2496 เป็นระยะเวลาถึง 18 ปี... . วันนี้ผ่านมาแล้ว 90 ปี แล้ว คุณเอาอะไรมาเคลม ว่าประเทศไทย ขโมยของคุณไป...??? . พฤติกรรมของคุณมันส่อว่า วอนหา สหบาทาส้งตรีง จาก ชาวสยามเมืองยิ้ม ครับ ไอ้สมเด็จเตโชจากนรก...!!! . อ่อ แล้วไอ้พวกคนไทยใจเขมร ที่สมรู้ร่วมคิด ก็ระวัง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 ไว้ให้ดีหล่ะ ประหารชีวิต นะมุง...!!! .. .. คนไทยรู้ทันพวกคุณนะครับ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เขมรเดินเกมยึดแผ่นดินไทย ขณะที่ ในประเทศไทยอาจมีไส้ศึก...!!! ##
    ..
    ..
    จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ดังนี้...
    .
    ประเทศไทยยึดถือแค่ แผ่นที่ 1:50,000 ซึ่งละเอียดและแม่นยำกว่ามาก...
    .
    ประเทศไทย ไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่ง หยาบ มีความคาดเคลื่อนอย่างน้อย 200 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ เขมร ลุกล้ำดนแดนไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา
    .
    เมื่อครั้งที่เสียตัวปราสาทพระวิหารด้วยกฎหมายปิดปาก บนศาลโล และ ครั้งที่เสียพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็เพราะแผนที่ 1:200,000 ที่ฝรั่งเศส จัดทำไว้แต่ฝ่ายเดียว และ วางยาประเทศไทยไว้...!!!
    .
    MOU43-MOU44 ระบุว่าจะปักปันเขตแดนตามแผนที่ 1:200,000 ทั้งๆที่ การปักปันจริงๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชการลที่ 5 ด้วยสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1904-1907 คือแผนที่ 1:500,000 นั่นเอง (บางส่วนไม่ต้องปักหมุด เพราะสภาพพื้นที่สันปันน้ำมันชัด เป็นขอบหน้าผาชัดเจน)
    .
    เพียงแต่ บางส่วนปัจจุบัน หลักหมุดมันหายไป ให้ทำให้สมบูรณ์เท่านั้น และ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดาวเทียมมันละเอียดมาก ทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว
    ....
    ....
    ในรายการ News Hour มี การแฉ แชทกลุ่ม ของ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า...
    .
    นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พิมพ์ในไลน์กลุ่มประมาณว่า จะยึดถือแผนที่ 1:200,000 เพราะประเทศไทยจะได้เปรียบ และ ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผูกพันธ์ทางกฎหมาย
    .
    คำว่า "ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย" คำๆนี้ ผิดเต็มๆครับ
    .
    ต้องบอกก่อนเลยว่า ประเทศไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลก โดยประเทศไทย ได้เคยสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนตัวปราสาทพระวิหารในอนาคตไว้แล้วด้วย
    .
    และ ที่สำคัญ ศาลโลกไม่ได้ ตัดสินในเรื่องของแผนที่และเขตแดน (เขมร ขอ แต่ศาลไม่ได้ตัดสิน บอกให้พวกคุณไปคุยกันเอาเอง)
    .
    แต่ ศาลตัดสินเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร และ ตีความเพิ่มเรื่อง พื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศรายนึง ไปยอมให้ เขมร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว
    .
    ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ไม่ว่าศาลโลก จะพูด จะพ่น จะถ่มถุยอะไร ออกมา สิ่งนั้น ไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายต่อประเทศไทย
    .
    และ ในรายการ News Hour มีกาาแฉต่อว่า นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ คนนี้...!!!
    .
    คือคนที่ ไปชี้หน้าด่า นาย วีระ สมความคิด ว่าเป็นตวปัญหา และ บีบให้คนไทย 7 คน รวมทั้ง นาย วีระ สมความคิด ให้ยอมรับ และ เซ็นในเอกสาร ว่า นาย วีระ สมความคิด และ พวก รุกล้ำพื้นที่ แผ่นดินเขมร ทั้งๆที่ นาย วีระ สมความคิด และ พวก ถูกจับในผืนแผ่นดินไทย...!!!
    .
    ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นพฤติการณ์ที่ นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย มีแนวควมคิดที่ ยอมรับพื้นที่เขมร แต่ไม่ยอมรับพื้นที่ประเทศไทย และ มีแนวคิด ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ด้วย...!!!
    .
    ดังนั้น...
    .
    ถ้า Chat นี้เป็นของจริง นี่เท่ากับว่า เราเจอ ขบวนการขายชาติของแท้ แล้วใช่หรือไม่...???
    ...
    ...
    เท่าที่ทั้งฟังทั้งอ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นผู้รู้ท่านไหนเคยพูดซักครั้งเดียวว่า แผนที่ 1:200,000 ทำให้ประเทสไทยได้เปรียบ
    ....
    ....
    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 โทษประหารชีวิต เพราะทำใหสูญเสียดินแดน สมควรนำออกมาใช้แล้วหรือไม่ ในยามนี้...???
    .
    https://youtu.be/cSyAF_g4BiQ?si=ppZ15Ve6ZYuigbAC
    ## เขมรเดินเกมยึดแผ่นดินไทย ขณะที่ ในประเทศไทยอาจมีไส้ศึก...!!! ## .. .. จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ดังนี้... . ประเทศไทยยึดถือแค่ แผ่นที่ 1:50,000 ซึ่งละเอียดและแม่นยำกว่ามาก... . ประเทศไทย ไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่ง หยาบ มีความคาดเคลื่อนอย่างน้อย 200 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ เขมร ลุกล้ำดนแดนไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา . เมื่อครั้งที่เสียตัวปราสาทพระวิหารด้วยกฎหมายปิดปาก บนศาลโล และ ครั้งที่เสียพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็เพราะแผนที่ 1:200,000 ที่ฝรั่งเศส จัดทำไว้แต่ฝ่ายเดียว และ วางยาประเทศไทยไว้...!!! . MOU43-MOU44 ระบุว่าจะปักปันเขตแดนตามแผนที่ 1:200,000 ทั้งๆที่ การปักปันจริงๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชการลที่ 5 ด้วยสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1904-1907 คือแผนที่ 1:500,000 นั่นเอง (บางส่วนไม่ต้องปักหมุด เพราะสภาพพื้นที่สันปันน้ำมันชัด เป็นขอบหน้าผาชัดเจน) . เพียงแต่ บางส่วนปัจจุบัน หลักหมุดมันหายไป ให้ทำให้สมบูรณ์เท่านั้น และ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดาวเทียมมันละเอียดมาก ทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว .... .... ในรายการ News Hour มี การแฉ แชทกลุ่ม ของ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า... . นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พิมพ์ในไลน์กลุ่มประมาณว่า จะยึดถือแผนที่ 1:200,000 เพราะประเทศไทยจะได้เปรียบ และ ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผูกพันธ์ทางกฎหมาย . คำว่า "ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย" คำๆนี้ ผิดเต็มๆครับ . ต้องบอกก่อนเลยว่า ประเทศไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลก โดยประเทศไทย ได้เคยสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนตัวปราสาทพระวิหารในอนาคตไว้แล้วด้วย . และ ที่สำคัญ ศาลโลกไม่ได้ ตัดสินในเรื่องของแผนที่และเขตแดน (เขมร ขอ แต่ศาลไม่ได้ตัดสิน บอกให้พวกคุณไปคุยกันเอาเอง) . แต่ ศาลตัดสินเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร และ ตีความเพิ่มเรื่อง พื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศรายนึง ไปยอมให้ เขมร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว . ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ไม่ว่าศาลโลก จะพูด จะพ่น จะถ่มถุยอะไร ออกมา สิ่งนั้น ไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายต่อประเทศไทย . และ ในรายการ News Hour มีกาาแฉต่อว่า นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ คนนี้...!!! . คือคนที่ ไปชี้หน้าด่า นาย วีระ สมความคิด ว่าเป็นตวปัญหา และ บีบให้คนไทย 7 คน รวมทั้ง นาย วีระ สมความคิด ให้ยอมรับ และ เซ็นในเอกสาร ว่า นาย วีระ สมความคิด และ พวก รุกล้ำพื้นที่ แผ่นดินเขมร ทั้งๆที่ นาย วีระ สมความคิด และ พวก ถูกจับในผืนแผ่นดินไทย...!!! . ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นพฤติการณ์ที่ นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย มีแนวควมคิดที่ ยอมรับพื้นที่เขมร แต่ไม่ยอมรับพื้นที่ประเทศไทย และ มีแนวคิด ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ด้วย...!!! . ดังนั้น... . ถ้า Chat นี้เป็นของจริง นี่เท่ากับว่า เราเจอ ขบวนการขายชาติของแท้ แล้วใช่หรือไม่...??? ... ... เท่าที่ทั้งฟังทั้งอ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นผู้รู้ท่านไหนเคยพูดซักครั้งเดียวว่า แผนที่ 1:200,000 ทำให้ประเทสไทยได้เปรียบ .... .... ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 โทษประหารชีวิต เพราะทำใหสูญเสียดินแดน สมควรนำออกมาใช้แล้วหรือไม่ ในยามนี้...??? . https://youtu.be/cSyAF_g4BiQ?si=ppZ15Ve6ZYuigbAC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • Big Story ตอน ข่มขืนฆ่าแล้วประหารครั้งสุดท้าย?

    สุดสะเทือนใจคดีเด็กอนุบาล 5 ขวบถูกข่มขืนฆ่าในห้องน้ำโรงเรียน เมื่อ 26 ปีก่อนคนร้ายคือ พัน สายทอง เพิ่งพ้นโทษคดี ยาเสพติดได้เพียง 7 วัน ถูกตัดสินประหารชีวิต วันที่ 21 มิ.ย.42 ด้วยการยิงเป้าจบชีวิตท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่เฝ้าติดตามคดี

    #BigStory #ข่มขืนฆ่า #คดีสะเทือนใจ #ประหารชีวิต #พันสายทอง #ยิงเป้า #ThaiTimes
    Big Story ตอน ข่มขืนฆ่าแล้วประหารครั้งสุดท้าย? สุดสะเทือนใจคดีเด็กอนุบาล 5 ขวบถูกข่มขืนฆ่าในห้องน้ำโรงเรียน เมื่อ 26 ปีก่อนคนร้ายคือ พัน สายทอง เพิ่งพ้นโทษคดี ยาเสพติดได้เพียง 7 วัน ถูกตัดสินประหารชีวิต วันที่ 21 มิ.ย.42 ด้วยการยิงเป้าจบชีวิตท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่เฝ้าติดตามคดี #BigStory #ข่มขืนฆ่า #คดีสะเทือนใจ #ประหารชีวิต #พันสายทอง #ยิงเป้า #ThaiTimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 783 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • ภาพสุดตะลึง!! ทหารยูเครนประหารชีวิตทหารหนีทัพของตนเองในทิศทางโปครอฟสค์ (Pokrovsk)

    ภาพวิดีโอจากกองกำลังป้องกันทางอากาศของรัสเซีย ขณะใช้โดรนทำการลาดตระเวนทางอากาศตามแนวเชฟเชนโก-โปครอฟสค์ (Shevchenko-Pokrovsk) สามารถบันทึกเหตุการณ์ขณะทหารยูเครน 2 นาย บังคับทหารยูเครน 3 นายคุกเข่าลงแล้วลงมือสังหารพวกเขา

    จากวิดีโอจะเห็นทหารยูเครนรายที่สามพยายามวิ่งหนี แต่ไม่สามารถหลุดพ้นความตายไปได้

    จากข้อมูลแนวหน้า บริเวณทิศทางนี้เป็นแนวตั้งรับของกองพลเยเกอร์ที่ 68 (the 68th Jaeger Brigade) ของกองทัพยูเครน
    ภาพสุดตะลึง!! ทหารยูเครนประหารชีวิตทหารหนีทัพของตนเองในทิศทางโปครอฟสค์ (Pokrovsk) ภาพวิดีโอจากกองกำลังป้องกันทางอากาศของรัสเซีย ขณะใช้โดรนทำการลาดตระเวนทางอากาศตามแนวเชฟเชนโก-โปครอฟสค์ (Shevchenko-Pokrovsk) สามารถบันทึกเหตุการณ์ขณะทหารยูเครน 2 นาย บังคับทหารยูเครน 3 นายคุกเข่าลงแล้วลงมือสังหารพวกเขา จากวิดีโอจะเห็นทหารยูเครนรายที่สามพยายามวิ่งหนี แต่ไม่สามารถหลุดพ้นความตายไปได้ จากข้อมูลแนวหน้า บริเวณทิศทางนี้เป็นแนวตั้งรับของกองพลเยเกอร์ที่ 68 (the 68th Jaeger Brigade) ของกองทัพยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIA ใช้เว็บไซต์แฟนคลับ Star Wars เป็นช่องทางสื่อสารลับกับสายลับ

    เว็บไซต์ StarWarsWeb.net ซึ่งดูเหมือนเป็นเพียงเว็บแฟนคลับธรรมดาในยุค 2010 แท้จริงแล้วเป็นช่องทางสื่อสารลับของ CIA ที่ใช้ในการติดต่อกับสายลับในต่างประเทศ โดยมีระบบ ล็อกอินลับที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านรหัสผ่านที่พิมพ์ลงในช่องค้นหา

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเว็บไซต์ลับของ CIA
    StarWarsWeb.net ดูเหมือนเว็บแฟนคลับทั่วไป มีโฆษณา LEGO และเนื้อหาเกี่ยวกับเกม Star Wars
    - แต่ มีระบบล็อกอินลับที่ใช้รหัสผ่านเพื่อเข้าถึงช่องทางสื่อสารกับ CIA

    นักวิจัย Ciro Santilli พบว่าเว็บไซต์นี้เป็นหนึ่งในหลายร้อยเว็บที่ CIA ใช้เป็นช่องทางสื่อสาร
    - รวมถึง เว็บตลก, เว็บกีฬาเอ็กซ์ตรีม และเว็บเพลงบราซิล

    บางเว็บไซต์ถูกใช้ในประเทศที่มีการควบคุมเข้มงวด เช่น อิหร่านและจีน
    - การค้นพบเว็บไซต์เหล่านี้ นำไปสู่การจับกุมและประหารชีวิตสายลับของ CIA ในช่วงปี 2011-2012

    ข้อผิดพลาดสำคัญคือเว็บไซต์เหล่านี้มีโค้ดที่ไม่ปลอดภัยและใช้ IP ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย
    - ทำให้ หน่วยข่าวกรองของอิหร่านและจีนสามารถระบุเว็บไซต์อื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

    แม้ว่าเว็บไซต์เหล่านี้จะถูกปิดไปแล้ว แต่สามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้ผ่าน Wayback Machine
    - Santilli เปรียบเทียบเรื่องนี้กับพิพิธภัณฑ์ดิจิทัลที่แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดของหน่วยข่าวกรอง

    https://www.techspot.com/news/108062-cia-used-star-wars-fan-site-secretly-communicate.html
    CIA ใช้เว็บไซต์แฟนคลับ Star Wars เป็นช่องทางสื่อสารลับกับสายลับ เว็บไซต์ StarWarsWeb.net ซึ่งดูเหมือนเป็นเพียงเว็บแฟนคลับธรรมดาในยุค 2010 แท้จริงแล้วเป็นช่องทางสื่อสารลับของ CIA ที่ใช้ในการติดต่อกับสายลับในต่างประเทศ โดยมีระบบ ล็อกอินลับที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านรหัสผ่านที่พิมพ์ลงในช่องค้นหา 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเว็บไซต์ลับของ CIA ✅ StarWarsWeb.net ดูเหมือนเว็บแฟนคลับทั่วไป มีโฆษณา LEGO และเนื้อหาเกี่ยวกับเกม Star Wars - แต่ มีระบบล็อกอินลับที่ใช้รหัสผ่านเพื่อเข้าถึงช่องทางสื่อสารกับ CIA ✅ นักวิจัย Ciro Santilli พบว่าเว็บไซต์นี้เป็นหนึ่งในหลายร้อยเว็บที่ CIA ใช้เป็นช่องทางสื่อสาร - รวมถึง เว็บตลก, เว็บกีฬาเอ็กซ์ตรีม และเว็บเพลงบราซิล ✅ บางเว็บไซต์ถูกใช้ในประเทศที่มีการควบคุมเข้มงวด เช่น อิหร่านและจีน - การค้นพบเว็บไซต์เหล่านี้ นำไปสู่การจับกุมและประหารชีวิตสายลับของ CIA ในช่วงปี 2011-2012 ✅ ข้อผิดพลาดสำคัญคือเว็บไซต์เหล่านี้มีโค้ดที่ไม่ปลอดภัยและใช้ IP ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย - ทำให้ หน่วยข่าวกรองของอิหร่านและจีนสามารถระบุเว็บไซต์อื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ✅ แม้ว่าเว็บไซต์เหล่านี้จะถูกปิดไปแล้ว แต่สามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้ผ่าน Wayback Machine - Santilli เปรียบเทียบเรื่องนี้กับพิพิธภัณฑ์ดิจิทัลที่แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดของหน่วยข่าวกรอง https://www.techspot.com/news/108062-cia-used-star-wars-fan-site-secretly-communicate.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The CIA used a Star Wars fan site to secretly communicate with spies
    This bizarre piece of intel comes courtesy of Ciro Santilli, an independent researcher with a knack for rooting around the dusty corners of the web, who spoke...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ โดยกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิประกาศ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ไม่สามารถรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนได้ และนักศึกษาที่มีอยู่แล้วจะต้องโอนย้ายไปเรียนที่อื่น

    จดหมายจาก คริสตี โนม (Kristi Noem) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ (US Secretary of the Department of Homeland Security - DHS) ถึงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ไม่เพียงแต่จะห้ามไม่ให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนในอนาคตเท่านั้น

    แต่ชาวต่างชาติที่ลงทะเบียนเรียนอยู่จะต้องโอนไปยังมหาวิทยาลัยอื่นเพื่อรักษาสถานะของตนไว้ด้วย

    "การเพิกถอนการรับรองนี้ยังหมายถึงคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่อพยพระดับ F หรือ J จะต้องโอนไปยังมหาวิทยาลัยอื่นเพื่อรักษาสถานะไม่อพยพของตนไว้"

    จดหมายของ Noem อ้างว่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำขอข้อมูลจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิหลายครั้งเกี่ยวกับการคุกคามนักศึกษาชาวยิวของนักศึกษาต่างชาติ รวมถึงโครงการ DEI ด้วย

    มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีเวลา 72 ชั่วโมงในการปฏิบัติตาม มิฉะนั้นการห้ามดังกล่าวจะคงอยู่ต่อไป

    โดยพื้นฐานแล้ว นี่จะเท่ากับโทษประหารชีวิตสำหรับนักศึกษา รวมทั้งตัวมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลก
    รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ โดยกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิประกาศ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ไม่สามารถรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนได้ และนักศึกษาที่มีอยู่แล้วจะต้องโอนย้ายไปเรียนที่อื่น จดหมายจาก คริสตี โนม (Kristi Noem) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ (US Secretary of the Department of Homeland Security - DHS) ถึงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ไม่เพียงแต่จะห้ามไม่ให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนในอนาคตเท่านั้น แต่ชาวต่างชาติที่ลงทะเบียนเรียนอยู่จะต้องโอนไปยังมหาวิทยาลัยอื่นเพื่อรักษาสถานะของตนไว้ด้วย "การเพิกถอนการรับรองนี้ยังหมายถึงคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่อพยพระดับ F หรือ J จะต้องโอนไปยังมหาวิทยาลัยอื่นเพื่อรักษาสถานะไม่อพยพของตนไว้" จดหมายของ Noem อ้างว่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำขอข้อมูลจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิหลายครั้งเกี่ยวกับการคุกคามนักศึกษาชาวยิวของนักศึกษาต่างชาติ รวมถึงโครงการ DEI ด้วย มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีเวลา 72 ชั่วโมงในการปฏิบัติตาม มิฉะนั้นการห้ามดังกล่าวจะคงอยู่ต่อไป โดยพื้นฐานแล้ว นี่จะเท่ากับโทษประหารชีวิตสำหรับนักศึกษา รวมทั้งตัวมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • Thaipublica’s Pick: กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือติดธงชาติไทยลักลอบขนยาบ้าและโคเคน มูลค่า 426 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือลักลอบขนยาบ้าและโคเคนเกือบ 2 ตันมูลค่า 425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราในสัปดาห์นี้ พร้อมจับกุมชาวไทย 1 รายและชาวเมียนมา 4 รายที่พบอยู่บนเรือ กองทัพเรือระบุเมื่อวันศุกร์ (16 พฤษภาคม 2568).เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเรือลำดังกล่าวหลังจากปิดไฟและเร่งความเร็วเพื่อพยายามหลบหนีออกจากน่านน้ำอินโดนีเซียในภูมิภาคตันจุง บาไล การิมัน (Tanjung Balai Karimun) ของ หมู่เกาะรีเยา (Riau Island) กองทัพเรือระบุ.เจ้าหน้าที่ยึดกระสอบสีเหลืองและสีขาวได้เกือบ 100 กระสอบ ภายในบรรจุโคเคนประมาณ 1.2 ตัน และยาบ้า 705 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านล้านรูเปียะฮ์ (425.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โฆษกกองทัพเรือ ไอ มาดิ วิระ ฮาดี อาร์ซันตา วาร์ธานา(I Made Wira Hady Arsanta Wardhana) กล่าวในแถลงการณ์.อินโดนีเซียมีกฎหมายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และการค้ายาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต.กองทัพเรือระบุว่า เรือลำดังกล่าวซึ่งติดธงชาติไทย ถูกนำไปยังฐานทัพเรือในตันจุง บาไล การิมุน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของลูกเรือ นอกจากสัญชาติของพวกเขา.เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนต่อไปว่ายาเสพติดเหล่านี้มาจากไหน และเรือกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งใช้ชื่อเพียงว่านายฟาวซี กล่าวในการแถลงข่าว.การจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศ.สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) ระบุในรายงานปี 2567 ว่า เมื่อปี 2566 มีการจับกุมยาบ้าได้มากถึง 190 ตัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มอาชญากรใช้ประโยชน์จากการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอในการลักลอบขนยาเสพติด โดยส่วนใหญ่ผ่านอ่าวไทย.สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาที่ติดกับบางส่วนของไทยและลาว มีประวัติศาสตร์ในด้านการผลิตยาเสพติดมายาวนาน โดยส่วนใหญ่ใช้โดยกลุ่มอาชญากรในเอเชียที่จำหน่ายยาเสพติดไปไกลถึงญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์.ในปี 2565 พบโคเคน 179 กิโลกรัม (395 ปอนด์) ในน่านน้ำใกล้ท่าเรือเมอระก์บนเกาะชวา ซึ่งถือเป็นการยึดโคเคนครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศในเวลานั้น UNODC ระบุในรายงานโคเคนระดับโลกประจำปี 2566.(1 เหรียญสหรัฐ = 16,435.0000 รูเปียะฮ์).เรื่อง : https://www.yahoo.com/news/indonesia-seizes-ship-carrying-methamphetamine-094840017.html.#เรือติดธงชาติไทยขนยาเสพติด #อินโดนีเซีย ที่มา : Thaipublicahttps://www.facebook.com/share/p/1C6nV7Umiv/?mibextid=wwXIfr
    Thaipublica’s Pick: กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือติดธงชาติไทยลักลอบขนยาบ้าและโคเคน มูลค่า 426 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือลักลอบขนยาบ้าและโคเคนเกือบ 2 ตันมูลค่า 425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราในสัปดาห์นี้ พร้อมจับกุมชาวไทย 1 รายและชาวเมียนมา 4 รายที่พบอยู่บนเรือ กองทัพเรือระบุเมื่อวันศุกร์ (16 พฤษภาคม 2568).เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเรือลำดังกล่าวหลังจากปิดไฟและเร่งความเร็วเพื่อพยายามหลบหนีออกจากน่านน้ำอินโดนีเซียในภูมิภาคตันจุง บาไล การิมัน (Tanjung Balai Karimun) ของ หมู่เกาะรีเยา (Riau Island) กองทัพเรือระบุ.เจ้าหน้าที่ยึดกระสอบสีเหลืองและสีขาวได้เกือบ 100 กระสอบ ภายในบรรจุโคเคนประมาณ 1.2 ตัน และยาบ้า 705 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านล้านรูเปียะฮ์ (425.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โฆษกกองทัพเรือ ไอ มาดิ วิระ ฮาดี อาร์ซันตา วาร์ธานา(I Made Wira Hady Arsanta Wardhana) กล่าวในแถลงการณ์.อินโดนีเซียมีกฎหมายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และการค้ายาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต.กองทัพเรือระบุว่า เรือลำดังกล่าวซึ่งติดธงชาติไทย ถูกนำไปยังฐานทัพเรือในตันจุง บาไล การิมุน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของลูกเรือ นอกจากสัญชาติของพวกเขา.เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนต่อไปว่ายาเสพติดเหล่านี้มาจากไหน และเรือกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งใช้ชื่อเพียงว่านายฟาวซี กล่าวในการแถลงข่าว.การจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศ.สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) ระบุในรายงานปี 2567 ว่า เมื่อปี 2566 มีการจับกุมยาบ้าได้มากถึง 190 ตัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มอาชญากรใช้ประโยชน์จากการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอในการลักลอบขนยาเสพติด โดยส่วนใหญ่ผ่านอ่าวไทย.สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาที่ติดกับบางส่วนของไทยและลาว มีประวัติศาสตร์ในด้านการผลิตยาเสพติดมายาวนาน โดยส่วนใหญ่ใช้โดยกลุ่มอาชญากรในเอเชียที่จำหน่ายยาเสพติดไปไกลถึงญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์.ในปี 2565 พบโคเคน 179 กิโลกรัม (395 ปอนด์) ในน่านน้ำใกล้ท่าเรือเมอระก์บนเกาะชวา ซึ่งถือเป็นการยึดโคเคนครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศในเวลานั้น UNODC ระบุในรายงานโคเคนระดับโลกประจำปี 2566.(1 เหรียญสหรัฐ = 16,435.0000 รูเปียะฮ์).เรื่อง : https://www.yahoo.com/news/indonesia-seizes-ship-carrying-methamphetamine-094840017.html.#เรือติดธงชาติไทยขนยาเสพติด #อินโดนีเซีย ที่มา : Thaipublicahttps://www.facebook.com/share/p/1C6nV7Umiv/?mibextid=wwXIfr
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 546 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตประธาน Tsinghua Unigroup ถูกตัดสินโทษประหารแบบแขวน หลังพบการทุจริตครั้งใหญ่

    Zhao Weiguo อดีตประธานบริษัท Tsinghua Unigroup ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของจีน ถูกตัดสินโทษ ประหารชีวิตแบบแขวนคอ หลังพบว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับ การทุจริตและยักยอกทรัพย์สินของรัฐ

    Zhao Weiguo ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตแบบแขวนเป็นเวลา 2 ปี
    - หากไม่มีการกระทำผิดเพิ่มเติม โทษจะถูกลดลงเป็นจำคุกตลอดชีวิต

    Tsinghua Unigroup เคยเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
    - เป็นเจ้าของ YMTC และ Unisoc ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านชิป

    Zhao ถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์สินของรัฐและให้ผลประโยชน์แก่ญาติและเพื่อน
    - รวมถึง ซื้อสินค้าจากบริษัทที่เกี่ยวข้องในราคาสูงเกินจริง

    การทุจริตของ Zhao ส่งผลให้รัฐเสียหายกว่า 189 ล้านดอลลาร์
    - รวมถึง ทรัพย์สินของรัฐมูลค่า 65 ล้านดอลลาร์ และความเสียหายของบริษัท 124 ล้านดอลลาร์

    Tsinghua Unigroup เคยเป็นส่วนหนึ่งของแผน "Made in China 2025"
    - แต่บริษัท เผชิญปัญหาหนี้สินกว่า 31 พันล้านดอลลาร์ และล้มละลายในปี 2021

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/former-chairman-of-chinas-chipmaking-champion-gets-suspended-death-sentence-in-corruption-and-embezzlement-case
    อดีตประธาน Tsinghua Unigroup ถูกตัดสินโทษประหารแบบแขวน หลังพบการทุจริตครั้งใหญ่ Zhao Weiguo อดีตประธานบริษัท Tsinghua Unigroup ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของจีน ถูกตัดสินโทษ ประหารชีวิตแบบแขวนคอ หลังพบว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับ การทุจริตและยักยอกทรัพย์สินของรัฐ ✅ Zhao Weiguo ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตแบบแขวนเป็นเวลา 2 ปี - หากไม่มีการกระทำผิดเพิ่มเติม โทษจะถูกลดลงเป็นจำคุกตลอดชีวิต ✅ Tsinghua Unigroup เคยเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน - เป็นเจ้าของ YMTC และ Unisoc ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านชิป ✅ Zhao ถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์สินของรัฐและให้ผลประโยชน์แก่ญาติและเพื่อน - รวมถึง ซื้อสินค้าจากบริษัทที่เกี่ยวข้องในราคาสูงเกินจริง ✅ การทุจริตของ Zhao ส่งผลให้รัฐเสียหายกว่า 189 ล้านดอลลาร์ - รวมถึง ทรัพย์สินของรัฐมูลค่า 65 ล้านดอลลาร์ และความเสียหายของบริษัท 124 ล้านดอลลาร์ ✅ Tsinghua Unigroup เคยเป็นส่วนหนึ่งของแผน "Made in China 2025" - แต่บริษัท เผชิญปัญหาหนี้สินกว่า 31 พันล้านดอลลาร์ และล้มละลายในปี 2021 https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/former-chairman-of-chinas-chipmaking-champion-gets-suspended-death-sentence-in-corruption-and-embezzlement-case
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความผิดสำเร็จแล้ว ไอ้กบฏตัวนี้ต้อง ประหารชีวิต..
    ความผิดสำเร็จแล้ว ไอ้กบฏตัวนี้ต้อง ประหารชีวิต..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข่าวเมื่อ2021นะ
    ..ผลงานอาจเริ่มจริงๆช่วงนี้,ดูดีๆนะ ว่ากันจริง พวกdeep stateโลกและสมุนขี้ข้าเครือข่ายมันล่ะ ดิ้นรนตายโดยมาก ซวยๆคือประชาชนธรรมดาแบบเราๆที่เป็นทาสในระบบทาสตังทาสแรงงานในกิจการบริษัทมันเสียนานจนพึ่งพาตนเองไม่ได้เพราะมันล่อลวงเราไปเป็นทาสในกิจการโรงงานต่างๆบริษัททั้งแม่มั้งในเครือข่ายลูกมันสาขามันสารพัดตรึม,กิจการเครือข่ายมันล้ม ปิดโลกงาน ถูกทุบ เป็นธรรมดาคนต้องตกงานออกจากกิจการเครือข่ายของพวกบริษัทซาตานมัน รวมถึงที่ไทยเรา
    ..ถ้าเดอะทีมทรัมป์คือฝ่ายแสงจริง มุกกวาดล้างฝ่ายมืดจริง ละครฉากใหญ่(ถ้าจริง) ก็ถือว่าคนทั้งโลกกำลังจะเป็นอิสระภาพ,โดยมีผู้เสียสละรับบทเจ็บจริงตายจริงปรากฎเช่นกัน,ละครระหว่างพระเจ้าฝ่ายแสงกับฝ่ายมืด มันเกินสถานะเราจะควบคุมก็ว่า,ใครติดตามพวกนี้มานานอาจรู้แล้ว เราๆตามมาทีหลัง งูปูๆตาๆก็ว่า มโนสารพัดทางนั้นล่ะ จริงเท็จไม่รู้กับเขาหรอก ชั่วชนะโลกก็ชั่วปกติ ดีชนะก็พลิกดีทั้งโลกจากเคยถูกชั่วปกครองมานานก็ต้องลุยกัน ว่าจะจริงดีจริงหรือชั่วหมด.
    ..
    ..ดูตามคลิปเก่าๆนี้ พวกเขาจับมือกันเพื่อทำลายความชั่วเลวที่ครองโลกก็ได้อีก ธรรมดาคนพวกนี้ไม่แสดงความเป็นมิตรลงตัวเนียนแบบนี้ได้ ดูคิมกับทรัมป์สิ หรือทรัมป์กับสี ทรัมป์กับปูติน พวกนี้เขาสนิทกันแน่นอน,และที่เราเห็นปัจจุบันคือละครแน่นอน ซวยๆจริงๆคือพวกdeep stateและขี้ข้าสมุนรับใช้&เครือข่ายทั่วโลกล่ะ รวมสมุนในไทยด้วย,ในไทยหากใครไม่กลับใจ ตายสถานเดียวแน่นอน.
    ..
    ..ทวนแนวทางความเชื่อเห็นของเก่าในอดีต คนหลับก็ตาย ซวยแบบโดยฉีดวัคซีนนั้นล่ะ ฝ่ายมืดมันแจ้งเตือนบอกขออนุญาตเอาชีวิตคนล่วงหน้าแล้วก็ว่า เพราะเวลาพระเจ้าฝ่ายตรงข้ามที่เล่นหมากกันถามมัน มันจะได้ไม่น่าเกียจตอบหรือโดนพระเจ้าฝ่ายดีทุบหัวเอาข้อหาไม่บอกแจ้งนัยๆนัยยะอะไรว่าจะจัดการมนุษย์บนโลกก็ว่า ไม่ขออนุญาตพระเจ้าบอกผ่านสายมนุษย์ขอเขาอนุญาตเขามนุษย์ในการเอาชีวิตคนบนโลกก็ว่า,
    ..ยุคสมัยหน้าจะเปลี่ยนไปทางดีหรือเลวชั่วแบบใด ต้องรอดชีวิตก่อนนะในบทพิสูจน์บททดสอบการรอดชีวิตในหัวข้อนี้เพื่อเลื่อนชั้นเรียนก็ได้ หรือสู่ยุคสัมมาชีวิตอีกยุคสมัยต่อไป,ไม่มีใครบังเอิญเช่นกัน ที่ได้มาอ่าน เดินมาผ่านในข้อความนี้.

    ..BQQQQQQQMข่าวกรองใหม่ - FOXWOLF17

    จะมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ตามพระคัมภีร์เกิดขึ้น โดยพวกเขาอ้างว่าเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่จริงๆ แล้วพวกเขากำลังเปิดใช้งานกองทหาร จากนั้นก็ทิ้งระเบิดสถานที่สำคัญของกลุ่มลูเซอริเฟเรียนที่เป็นซาตานทั้งหมด ออกเงินกองทุน GESARA และพวกเราประชาชนก็สร้างขึ้นใหม่
    เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องราวตามพระคัมภีร์
    สถานที่สำคัญของกลุ่มอิลลูมินาติที่เป็นซาตานที่ใหญ่โตมโหฬารในโลกมีที่ไหนบ้าง? คำถามคือ วาติกัน พระราชวังบักกิงฮัน ทำเนียบขาว 2 แห่ง (สหรัฐอเมริกา เยอรมนี) 3GD ในจีน อาจมีกลุ่มเซิร์นที่ชายแดนสวิส/ฝรั่งเศสก็ได้

    บริษัทยาขนาดใหญ่ในอู่ฮั่น = อิสราเอล
    อิสราเอล/คาซาเรียนควบคุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน
    สื่อ ฯลฯ
    อาคารและเขื่อนของซาตาน 34 แห่งจะพังทลาย Rods of God/DEW
    ทั่วโลก

    เครื่องบินและรถไฟลงดิน
    ไฟ/ไฟฟ้าถูกปิด
    เปลี่ยนเป็นพลังงานฟรีของ Tesla
    เซิร์ฟเวอร์/ศูนย์ข้อมูล Bitcoin ถูกโจมตีและถูกปิดไปตลอดกาล
    99.5% ของ Crypto หายไปจากเหรียญจีน เข้าสู่เหรียญ ISO20022 ที่ได้รับการสนับสนุนจากโลหะมีค่า
    เหตุการณ์สะเทือนขวัญสงครามโลกครั้งที่ 3 ไซเรนนิวเคลียร์
    เหตุการณ์น้ำ
    ตลาดหุ้นตกต่ำ
    กฎอัยการศึกโลก
    CASTLE ROCK - สถานการณ์จูเลียน แอสซานจ์
    ระบบควอนตัม เปิดใช้งานโปรเจกต์โอดิน
    Nesara/Gesara/RV
    การพลิกผลการเลือกตั้งผ่านศาลทหาร - FISA
    ศาลทหาร/คำสารภาพ/ภาพยนตร์ 10 วัน - เซสชั่น 3 × 8 ชั่วโมง
    10 ประเทศจะใช้ EBS เพื่อครอบคลุมทั่วโลก
    เปิดเผย
    พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
    MOSSAD ของอิสราเอลควบคุมสื่อของโลกนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา แนบ Q1871 ที่สรุปเรื่องนี้
    Project Odin ตามที่ Ron CodeMonkeyz กล่าวไว้เป็นเครื่องมือต่อต้านการล้มแพลตฟอร์มอันทรงพลัง
    Project Odin เป็นส่วนหนึ่งของ Quantum Starlink ระบบควอนตัมใหม่ของเราจะได้รับการคุ้มครองโดยโปรแกรมอวกาศลับนอกเหนือขอบเขตของกลุ่มลับ
    Q2337 บอกคุณว่าทรัพยากรสื่อของ Mossad จะถูกลบออก ลองนึกถึงคนอย่าง Alex Jones, Anderson Cooper เป็นต้น รวมถึงดาวเทียมของ Mossad
    หน่วยข่าวกรองของอิสราเอล - ถอนตัว
    [TERM_3720x380-293476669283001]
    ทรัพยากรสื่อจะถูกลบออก
    ส่วนนี้ของ 2527 บอกคุณว่ามีบางสิ่งที่ทรงพลังกำลังจะล้มดาวเทียมสื่อของ Mossad สิ่งนี้จะทำให้สื่อทั่วโลกไม่สามารถรับชมได้ โปรดเปลี่ยนเราเป็นระบบควอนตัม นี่คือโครงการ ODIN ทั้งหมดนี้ให้เหตุผลในการเปิดใช้งานระบบ EBS ของกองทัพ หากคุณลองค้นหาจรวด TURKSAT ที่ปล่อยจากสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม คุณจะเห็นว่าจรวดนี้ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารทางทหารโดยเฉพาะกับโทรทัศน์และวิทยุในแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชียกลาง

    งานนี้ยังมีอีกหลายแง่มุม
    การดับทั่วโลกจะเปลี่ยนเป็นพลังงาน TESLA ทำลายดาวเทียมสื่อ QFS แท่งพระเจ้าบนเขื่อนและอาคาร 34 หลัง และอื่นๆ อีกมากมาย
    อาคาร 34 หลังจะอยู่ในงานนี้
    อาคารเหล่านี้มีความสำคัญมาก
    เช่น ทำเนียบขาว ปราสาทหลวง พระราชวังบักกิงแฮม วาติกัน พิพิธภัณฑ์เก็ตตี้ คฤหาสน์เพลย์บอย และอื่นๆ
    เหตุการณ์นี้จะทำให้ตลาดหุ้นพังทลายอย่างแน่นอน รวมถึง Precision Cyber ​​ที่เชื่อมโยงกับคำสั่งผู้บริหาร 13818 และ 13848 ทั้งหมดนี้เป็นการแสดง การเปลี่ยนจากธนบัตรธนาคารกลางของ Rothschild เป็นธนบัตรกระทรวงการคลังสายรุ้งซึ่งปัจจุบันได้รับการหนุนหลังด้วยโลหะมีค่า (ไม่ใช่น้ำมัน/สงคราม)
    เรายังคงสบายใจอยู่หรือไม่?
    หรือเราหวาดกลัว?
    การมีทั้งสองอย่างเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ
    ทรัมป์รักษาสัญญาของเขา
    จงศรัทธาในพระเจ้าของเรา
    พระองค์จะทรงปลอบโยนคุณผ่านพายุ

    ใครเห็นในเดือนมกราคม ประเทศต่างๆ มากถึง 10 ประเทศถูกตัดกระแสไฟฟ้าพร้อมกันโดยกองกำลังอวกาศ?
    ก่อนหน้านั้น อิสราเอลก็เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเป็นเวลา 30 นาทีเช่นกัน
    หากพวกเขาสามารถปิดเครื่อง 10 ประเทศพร้อมกันได้ พวกเขาก็สามารถทำได้ทั้งหมด ยินดีต้อนรับสู่ Tesla
    จำเป็นต้องปิดเครื่อง
    ลองดู "การฝึกซ้อม" ทางทหารทั่วโลกที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้
    ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าคุณ
    เป็นปฏิบัติการทางทหารระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก
    การเปลี่ยนผ่านสู่ Gesara/ความยิ่งใหญ่ ตอนนี้พวกเขาเพียงแค่ต้องเล่นบทสงครามโลกครั้งที่ 3 ปลอมๆ เพื่อส่งเสียงไซเรนในศูนย์บัญชาการทหารแห่งชาติทุกแห่ง
    นี่เป็นการพิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่าหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นแล้วนั้นถูกต้องแล้ว ความจริงที่ว่ากฎหมายทหาร Gesara มีผลบังคับใช้แล้ว ศาลทหารลับ คำสารภาพ ฯลฯ การประหารชีวิตทั้งหมด และเช่นเดียวกับกองทัพอื่นๆ พวกเขาจะช่วยสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา พระเจ้าชนะผู้รักชาติ ยึดแนวไว้ รัดเข็มขัดนิรภัย และเชื่อใจในแผน! ขอให้พระเจ้าอวยพร FOXWOLF17

    ที่มา
    @QNewsOfficialTV
    สนับสนุนโดย
    @DUMBSandUNDERGROUND
    @SpaceForceGalacticFederation
    ..ข่าวเมื่อ2021นะ ..ผลงานอาจเริ่มจริงๆช่วงนี้,ดูดีๆนะ ว่ากันจริง พวกdeep stateโลกและสมุนขี้ข้าเครือข่ายมันล่ะ ดิ้นรนตายโดยมาก ซวยๆคือประชาชนธรรมดาแบบเราๆที่เป็นทาสในระบบทาสตังทาสแรงงานในกิจการบริษัทมันเสียนานจนพึ่งพาตนเองไม่ได้เพราะมันล่อลวงเราไปเป็นทาสในกิจการโรงงานต่างๆบริษัททั้งแม่มั้งในเครือข่ายลูกมันสาขามันสารพัดตรึม,กิจการเครือข่ายมันล้ม ปิดโลกงาน ถูกทุบ เป็นธรรมดาคนต้องตกงานออกจากกิจการเครือข่ายของพวกบริษัทซาตานมัน รวมถึงที่ไทยเรา ..ถ้าเดอะทีมทรัมป์คือฝ่ายแสงจริง มุกกวาดล้างฝ่ายมืดจริง ละครฉากใหญ่(ถ้าจริง) ก็ถือว่าคนทั้งโลกกำลังจะเป็นอิสระภาพ,โดยมีผู้เสียสละรับบทเจ็บจริงตายจริงปรากฎเช่นกัน,ละครระหว่างพระเจ้าฝ่ายแสงกับฝ่ายมืด มันเกินสถานะเราจะควบคุมก็ว่า,ใครติดตามพวกนี้มานานอาจรู้แล้ว เราๆตามมาทีหลัง งูปูๆตาๆก็ว่า มโนสารพัดทางนั้นล่ะ จริงเท็จไม่รู้กับเขาหรอก ชั่วชนะโลกก็ชั่วปกติ ดีชนะก็พลิกดีทั้งโลกจากเคยถูกชั่วปกครองมานานก็ต้องลุยกัน ว่าจะจริงดีจริงหรือชั่วหมด. .. ..ดูตามคลิปเก่าๆนี้ พวกเขาจับมือกันเพื่อทำลายความชั่วเลวที่ครองโลกก็ได้อีก ธรรมดาคนพวกนี้ไม่แสดงความเป็นมิตรลงตัวเนียนแบบนี้ได้ ดูคิมกับทรัมป์สิ หรือทรัมป์กับสี ทรัมป์กับปูติน พวกนี้เขาสนิทกันแน่นอน,และที่เราเห็นปัจจุบันคือละครแน่นอน ซวยๆจริงๆคือพวกdeep stateและขี้ข้าสมุนรับใช้&เครือข่ายทั่วโลกล่ะ รวมสมุนในไทยด้วย,ในไทยหากใครไม่กลับใจ ตายสถานเดียวแน่นอน. .. ..ทวนแนวทางความเชื่อเห็นของเก่าในอดีต คนหลับก็ตาย ซวยแบบโดยฉีดวัคซีนนั้นล่ะ ฝ่ายมืดมันแจ้งเตือนบอกขออนุญาตเอาชีวิตคนล่วงหน้าแล้วก็ว่า เพราะเวลาพระเจ้าฝ่ายตรงข้ามที่เล่นหมากกันถามมัน มันจะได้ไม่น่าเกียจตอบหรือโดนพระเจ้าฝ่ายดีทุบหัวเอาข้อหาไม่บอกแจ้งนัยๆนัยยะอะไรว่าจะจัดการมนุษย์บนโลกก็ว่า ไม่ขออนุญาตพระเจ้าบอกผ่านสายมนุษย์ขอเขาอนุญาตเขามนุษย์ในการเอาชีวิตคนบนโลกก็ว่า, ..ยุคสมัยหน้าจะเปลี่ยนไปทางดีหรือเลวชั่วแบบใด ต้องรอดชีวิตก่อนนะในบทพิสูจน์บททดสอบการรอดชีวิตในหัวข้อนี้เพื่อเลื่อนชั้นเรียนก็ได้ หรือสู่ยุคสัมมาชีวิตอีกยุคสมัยต่อไป,ไม่มีใครบังเอิญเช่นกัน ที่ได้มาอ่าน เดินมาผ่านในข้อความนี้. ..💥BQQQQQQQM💥ข่าวกรองใหม่ - FOXWOLF17 จะมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ตามพระคัมภีร์เกิดขึ้น โดยพวกเขาอ้างว่าเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่จริงๆ แล้วพวกเขากำลังเปิดใช้งานกองทหาร จากนั้นก็ทิ้งระเบิดสถานที่สำคัญของกลุ่มลูเซอริเฟเรียนที่เป็นซาตานทั้งหมด ออกเงินกองทุน GESARA และพวกเราประชาชนก็สร้างขึ้นใหม่ เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องราวตามพระคัมภีร์ สถานที่สำคัญของกลุ่มอิลลูมินาติที่เป็นซาตานที่ใหญ่โตมโหฬารในโลกมีที่ไหนบ้าง? คำถามคือ วาติกัน พระราชวังบักกิงฮัน ทำเนียบขาว 2 แห่ง (สหรัฐอเมริกา เยอรมนี) 3GD ในจีน อาจมีกลุ่มเซิร์นที่ชายแดนสวิส/ฝรั่งเศสก็ได้ บริษัทยาขนาดใหญ่ในอู่ฮั่น = อิสราเอล อิสราเอล/คาซาเรียนควบคุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน สื่อ ฯลฯ อาคารและเขื่อนของซาตาน 34 แห่งจะพังทลาย Rods of God/DEW ทั่วโลก เครื่องบินและรถไฟลงดิน ไฟ/ไฟฟ้าถูกปิด เปลี่ยนเป็นพลังงานฟรีของ Tesla เซิร์ฟเวอร์/ศูนย์ข้อมูล Bitcoin ถูกโจมตีและถูกปิดไปตลอดกาล 99.5% ของ Crypto หายไปจากเหรียญจีน เข้าสู่เหรียญ ISO20022 ที่ได้รับการสนับสนุนจากโลหะมีค่า เหตุการณ์สะเทือนขวัญสงครามโลกครั้งที่ 3 ไซเรนนิวเคลียร์ เหตุการณ์น้ำ ตลาดหุ้นตกต่ำ กฎอัยการศึกโลก CASTLE ROCK - สถานการณ์จูเลียน แอสซานจ์ ระบบควอนตัม เปิดใช้งานโปรเจกต์โอดิน Nesara/Gesara/RV การพลิกผลการเลือกตั้งผ่านศาลทหาร - FISA ศาลทหาร/คำสารภาพ/ภาพยนตร์ 10 วัน - เซสชั่น 3 × 8 ชั่วโมง 10 ประเทศจะใช้ EBS เพื่อครอบคลุมทั่วโลก เปิดเผย พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง MOSSAD ของอิสราเอลควบคุมสื่อของโลกนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา แนบ Q1871 ที่สรุปเรื่องนี้ Project Odin ตามที่ Ron CodeMonkeyz กล่าวไว้เป็นเครื่องมือต่อต้านการล้มแพลตฟอร์มอันทรงพลัง Project Odin เป็นส่วนหนึ่งของ Quantum Starlink ระบบควอนตัมใหม่ของเราจะได้รับการคุ้มครองโดยโปรแกรมอวกาศลับนอกเหนือขอบเขตของกลุ่มลับ Q2337 บอกคุณว่าทรัพยากรสื่อของ Mossad จะถูกลบออก ลองนึกถึงคนอย่าง Alex Jones, Anderson Cooper เป็นต้น รวมถึงดาวเทียมของ Mossad หน่วยข่าวกรองของอิสราเอล - ถอนตัว [TERM_3720x380-293476669283001] ทรัพยากรสื่อจะถูกลบออก ส่วนนี้ของ 2527 บอกคุณว่ามีบางสิ่งที่ทรงพลังกำลังจะล้มดาวเทียมสื่อของ Mossad สิ่งนี้จะทำให้สื่อทั่วโลกไม่สามารถรับชมได้ โปรดเปลี่ยนเราเป็นระบบควอนตัม นี่คือโครงการ ODIN ทั้งหมดนี้ให้เหตุผลในการเปิดใช้งานระบบ EBS ของกองทัพ หากคุณลองค้นหาจรวด TURKSAT ที่ปล่อยจากสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม คุณจะเห็นว่าจรวดนี้ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารทางทหารโดยเฉพาะกับโทรทัศน์และวิทยุในแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชียกลาง งานนี้ยังมีอีกหลายแง่มุม การดับทั่วโลกจะเปลี่ยนเป็นพลังงาน TESLA ทำลายดาวเทียมสื่อ QFS แท่งพระเจ้าบนเขื่อนและอาคาร 34 หลัง และอื่นๆ อีกมากมาย อาคาร 34 หลังจะอยู่ในงานนี้ อาคารเหล่านี้มีความสำคัญมาก เช่น ทำเนียบขาว ปราสาทหลวง พระราชวังบักกิงแฮม วาติกัน พิพิธภัณฑ์เก็ตตี้ คฤหาสน์เพลย์บอย และอื่นๆ เหตุการณ์นี้จะทำให้ตลาดหุ้นพังทลายอย่างแน่นอน รวมถึง Precision Cyber ​​ที่เชื่อมโยงกับคำสั่งผู้บริหาร 13818 และ 13848 ทั้งหมดนี้เป็นการแสดง การเปลี่ยนจากธนบัตรธนาคารกลางของ Rothschild เป็นธนบัตรกระทรวงการคลังสายรุ้งซึ่งปัจจุบันได้รับการหนุนหลังด้วยโลหะมีค่า (ไม่ใช่น้ำมัน/สงคราม) เรายังคงสบายใจอยู่หรือไม่? หรือเราหวาดกลัว? การมีทั้งสองอย่างเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ ทรัมป์รักษาสัญญาของเขา จงศรัทธาในพระเจ้าของเรา พระองค์จะทรงปลอบโยนคุณผ่านพายุ ใครเห็นในเดือนมกราคม ประเทศต่างๆ มากถึง 10 ประเทศถูกตัดกระแสไฟฟ้าพร้อมกันโดยกองกำลังอวกาศ? ก่อนหน้านั้น อิสราเอลก็เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเป็นเวลา 30 นาทีเช่นกัน หากพวกเขาสามารถปิดเครื่อง 10 ประเทศพร้อมกันได้ พวกเขาก็สามารถทำได้ทั้งหมด ยินดีต้อนรับสู่ Tesla จำเป็นต้องปิดเครื่อง ลองดู "การฝึกซ้อม" ทางทหารทั่วโลกที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าคุณ เป็นปฏิบัติการทางทหารระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก การเปลี่ยนผ่านสู่ Gesara/ความยิ่งใหญ่ ตอนนี้พวกเขาเพียงแค่ต้องเล่นบทสงครามโลกครั้งที่ 3 ปลอมๆ เพื่อส่งเสียงไซเรนในศูนย์บัญชาการทหารแห่งชาติทุกแห่ง นี่เป็นการพิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่าหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นแล้วนั้นถูกต้องแล้ว ความจริงที่ว่ากฎหมายทหาร Gesara มีผลบังคับใช้แล้ว ศาลทหารลับ คำสารภาพ ฯลฯ การประหารชีวิตทั้งหมด และเช่นเดียวกับกองทัพอื่นๆ พวกเขาจะช่วยสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา พระเจ้าชนะผู้รักชาติ ยึดแนวไว้ รัดเข็มขัดนิรภัย และเชื่อใจในแผน! ขอให้พระเจ้าอวยพร FOXWOLF17 ที่มา @QNewsOfficialTV สนับสนุนโดย @DUMBSandUNDERGROUND @SpaceForceGalacticFederation
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 811 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 05-05-68/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP14

    กูสังเกตุมาหลายเดือนแล้ว อีช่องสูงสุด หลังตั้งแต่รับอีเนรคุณแผ่นดินคิดล้มเจ้าเข้ามาออกรายการ พฤติกรรมมันส่อ หลายครั้งที่เอาข่าวโฆษณาชวนเชื่อเหี้ยมาตี อี REUTER ตีข่าวยังไง มรึงดร๊าฟเค้ามาหมดเกลี้ยง รับงานใครมารึจ๊ะ? ไม่ตรวจสอบไม่แหกตาดูก่อนเหรอ ว่ามันจริงๆ เท็จๆ งับอย่างเดียว เหมือนตั้งใจจะเป็นโทรโข่งให้เหี้ยงั้นเหรอ? ช่วงหลังเสี้ยมพรมแดนอาเซียน พม่าบุก ตีลาว อีขะแมร์ยึด มรึงต้องการจะสื่ออะไร? อย่าคิดว่าคนเค้าดูมรึงไม่ออก เหี้ยจัดฉากยังกล้าเอามาลง ของจริง ของปลอมดูไม่ยากดอกน่ะ เจตนามันฟ้อง การกระทำมันชัด? กูลดเกรดมรึงลงไปเยอะ เพราะสำหรับกูแล้ว สื่อหลักไทยแท้จริง มีเพียงช่องเดียว ที่กล้าชน กล้าเสนอความจริง มีเพียง 1 เดียว ASTV หรือ NEWS1 เท่านั้น ส่วนสื่อโซเชี่ยลก็พอมีบ้าง ที่ปกป้องสถาบันไทย นอกนั้นของปลอมหมด 99.99%

    ในที่สุด อีปินส์ชะตาขาด! เตรียมสิ้นชาติพันธุ์ได้เลยมรึง ถูกอัปเปหิออกจากอาเซียนแน่ เสือกไปร่วมเซ็นต์สัญญารบร่วมกับไต้หวัน กองทัพ ฝ่ายการเมืองอีปินส์ ขี้ข้าผู้ซื่อสัตย์วอชิงตัน อีปินส์กระจายอยู่ทั่วโลก สิ้นชาติก็คงไม่แตกต่าง ดีเลย ภูฎานรอเสียบเข้าอาเซียนชัวร์ ไทยเป็นเจ้าภาพเชิญจ๊ะ ชักศึกเข้าบ้าน แหกกฎมติอาเซียน จีนคือเจ้าภาพ เจ้ามือหลายชาติในอาเซียน มรึงคิดว่าเค้าจะปล่อยมรึงมั้ยล่ะ? ขนาดพ่อเหี้ยมรึงเอง อย่างอีวอชิงตัน ยังต้องมากราบตรีนสีจิ้นผิง จะเล่นละคร ก็ให้มันสมจริงหน่อย อย่าแผ่วน่ะมรึง แต่เกาะสแปรดลีย์ เค้าเตรียมสั่งสอนมรึงแล้ว บอกเลย อีดูเตอร์เต้ ได้กลับมาแน่ มินดาเนา จะประกาศรัฐอิสรภาพเร็วๆ นี้ แยกน้ำ แยกปลากันเรียบร้อยแล้ว มันส์แน่ โปรดติดตาม?

    เศรษฐกิจไทยเข้าขั้นวิกฤต! ตลาดดังกลางกรุงเจ๊ง ประกาศฟ้าผ่าปิดกิจการ ปชช แห่จี้ปิดสวิทช์รัฐบาลอิ๊งค์ พาดหัวตบหน้าปชต.ตอแหล 14 ล้านเสียงควาย น้ำตาตกใน ไม่มีงาน เจ๊งถ้วนหน้า 10000 นึง ช่วยมรึงได้มั้ยล่ะ? โง่ต่อไป เพราะปชต. มันมีไว้ให้เฉพาะควายเลือกเท่านั้น ส่วนพ่อปกครองลูก ส่งเฉพาะผู้มีปัญญา และซื่อสัตย์ เข้ามาดูแลประชาชน ตรรกะมันต่างกัน มรึงจ่ายเพื่อซื้อตำแหน่งเข้ามา กับรับใช้พระมหากษัตริย์ ความจริงใจ ซื่อตรง มันเทียบกันไม่ได้ เข้าพฤษภาแล้ว มรึงเตรียมตัวได้เลย อีร่านลูกสาวหน้าเหลี่ยม เก้าอี้ร้อนลุกเป็นไฟแล้ว อีพ่อเหลี่ยม กำลังจะโดนคุกของจริง หนีสิจ๊ะ มรึงหนีไปให้สุดขอบโลก ก็หนีไม่พ้นกรรมหนักที่มรึงก่อไว้ทั้งวงศ์ตระกูลดอกน่ะ ตายอนาถยกโคตรเหี้ยก็งานนี้ เจ้ากรรม นายเวรมรึง ตามมาทันแล้ว

    อะไรน่ะ BIG FAT ฉุน "กูไม่ได้ขายแผ่นดิน" แต่กูทำตาม MOU43 ขายชาติต่างหากล่ะ สั่งถอนทหาร แต่ทหารเค้านิ่งจ๊ะ มรึงเป็นใคร? รู้สึกว่า อีขะแมร์อยากจะรวมชาติกับเรามากสิน่ะ อยากยกพนมเปญให้ดูแล ก็ไม่บอก กระจอกอย่างงี้ ยังกล้าเสนอหน้าอีก 1 ต่อ 10 สบายตรีน ทหารไทยไม่ได้กล่าว เจอลูกแม่ไม้มวยไทย นายขนมต้ม มรึงรอดู เหี้ยแค่ไหน สุดท้ายก็จมกองตรีน อีฮุนเซน เริ่มสั่นคลอนแล้ว บังลังก์เลือดที่มรึงก่อไว้ ตายห่านับล้าน กำลังจะมาเผามรึงทั้งเป็น ราชวงศ์จะกลับมาใหม่ แล้วสวามิภักดิ์ต่ออโยธยาศรีรามเทพนครในที่สุด ที่มาว่า เราเคยยิ่งใหญ่แค่ไหนมาก่อน? ละครลิง โปรดอย่าให้ราคา เพราะมันปั่นกระแสได้แค่นี้แหละ ความจริง ทหารนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว อะไรทั้งนั้น มรึงจะสั่งเหี้ยอะไรได้อีก ไม่กี่เดือน ก็ยุบสภาแล้ว ใครจะโง่?

    ทหารพรานนาวิกโยธินฮึ่ม ทหารไทยพร้อมรบ ลั่น ไม่มีทหารชาติไหนในโลก จะเอาชนะไทยในแผ่นดินไทยได้ คำพูดนี้ มันส่งสัญญานชัด ฝ่ายการเมืองสั่งกองทัพไม่ได้อีกแล้ว ฝ่ายการเมืองคือศัตรูของวังไทย ฝ่ายการเมืองคือ "ขายชาติแดร๊ก" หลักฐานมันฟ้อง ด้วยลายเซ็นต์ทั้งหมดที่มรึงสั่ง บิลใบเสร็จจะไปขึ้นตรงที่ศาล วันที่เค้าจะเชือดมรึงนั่นแหละ พ่อเหี้ยมรึงจะตายห่าก่อน แล้วขี้ข้าล่ะ ใครมันจะอยู่ เผ่นออกนอกกันหมด งานนี้ อาจมีถึงประหารชีวิต อย่าคิดว่า "เป็นเรื่องตลก" บทศาลไคฟงจะเล่นแรง เพื่อให้เกิดภาพสะท้อน มันย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ อาญาสิทธิ์แผ่นดิน ต้องเด็ดขาด ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไฟเขียวจากวัง อะไรก็เกิดขึ้นได้หมด?

    อียิวดิ้นพล่าน! บอก "หยุดได้แล้ว" ไอ้สัส! พวกมรึงไล่ถล่มเยเมน แต่ถูกเค้าสวนกลับ หนีหางจุกตูดอย่างหมา หมดสภาพ ไม่พอ มันหันมาถล่มยับเยรูซาเล็ม กูตายคาที่ ยิ่งมรึงบุกเยเมนมากเท่าไหร่ กูโดนหนักมากเท่านั้น ดังนั้น "พอก่อน" ให้กูได้หายใจบ้าง โดนถล่มยับ 3 วันติด แบบลืมหายใจ เทลอาวีฟ เยรูซาเล็ม เละเป็นโจ๊ก ฐานทัพ คลังแสง กองบิน ท่าเรือ ไปหมด ย่อยยับ ลูกยาวพาเหรดกันดาหน้าถล่ม โดยไม่ได้นัดหมาย มาจากเลบานอน จากเยเมน จากซีเรีย จากฮามาส จากอิรัก รุมกินโต๊ะอียิวเหี้ยแบบไร้ความปราณี ฉนวนกาซ่ากลายเป็นเรื่องเล็กในบันดล

    สุดยอดคือ "จีน" หลัง CATL ผงาด! ประเดิมรายแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐานแบตเตอรี่ “ไม่ติดไฟ ไม่ระเบิด” ใหม่ของจีน เพราะหลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้โจทย์ใหม่มาว่า "ต้องไม่มีแบตเตอรี่ MADE IN CHINA ใดใด ระเบิด หรือติดไฟ ได้อีกต่อไป" ทำสำเร็จอีกแล้วครับท่าน อียุ่นปี่ ไบ้แดร๊ก เพราะไม่มีใครกล้าการันตี ว่าเคยมีใครทำได้มาก่อน แต่จีนคือ "เหนือมนุษย์ควายไงล่ะ" ส่งผลคือ EV จีนต่อไป การันตี แบตไม่ระเบิด ติดไฟ ปลอดภัย 100% รถ EV ยี่ห้อไหนในโลก ก็ไม่กล้าวัดจ๊ะ? เร็ว แรง ทะลุนรก ไม่มีอะไรที่จีนทำไม่ได้ นวตกรรม AI QUANTUM ไปไกลนอกโลกแล้ว เหี้ยยังงมเข็มในมหาสมุทรอยู่เลย กระจอกจริงอีตะวันตก?

    ปล.มรึงจะคุยกันเพื่อ? รู้อยู่แล้ว ว่าอีเสี้ยนยา ยอมเมื่อไหร่ หัวขาดทันที ยุติยิง คือยอมแพ้ สู้ยังไงก็ตาย แต่ยังมีอี NATO และอี EU หน้าโง่ยังคอยอุ้ม ปูตินก็รู้ มันไม่ยอมจบดอก ต้องฆ่าให้สิ้นแผ่นดินก่อนสิน่ะ อีชาวยูเครนหากมรึงโง่โดยสายพันธุ์ซะขนาดนี้ อยู่ไปก็หนักแผ่นดินโลกเค้า ตายๆ ห่า ไปเหอะ เกะกะ ขวางความสงบสุขชาวโลก สรุปคือ ไม่ฆ่าให้หมดแผ่นดิน กูไม่ยอมแพ้ ปูตินบอก ง่ายกว่านี้อีก แค่ฆ่ามรึงตัวเดียว ยูเครนก็ตกเป็นของกูทันที ระวัง คนข้างกายมรึงให้ดีดี คนรอบตัวมรึงน่ะ น่ากลัวกว่าลูกปืนซะอีก จุดอ่อนเหี้ยมีเพียงเรื่องเดียว จ่ายครบ จ่ายหนัก จ่ายจริง ฆ่าใคร ทรยศใครก็ได้ เพราะเหี้ยมันก็คือเหี้ย ไม่มีสัจจะในหมู่เหี้ยไงล่ะ? ฟังให้ดีดี ไทยไม่ต้องทำอะไรมาก แค่รักษาสมดุล และเตรียมปกป้องตัวเองพอ ที่เหลือให้ขาใหญ่โลกเค้าฟัดกันเต็มที่ก่อน เราจะยืนอยู่ข้างผู้ชนะเสมอ เมื่อเหี้ยแพ้ราบคาบหมดจรดแล้ว การล้างแผ่นดินจะง่ายดาย สบานตรีน เพราะเจ้ามือเก่าได้ตายห่าไปเรียบร้อยแล้ว ใครมันจะจ่ายต่อไหว กลับบ้านเก่ากันหมด? ไม่มีใครอยู่ได้ หากไม่มีแบ็คอัพ? ไอ้ที่กังวลอยู่ตอนนี้ จะหายวับทันตาเห็น แค่เหี้ยตายตัวเดียว รอไม่ได้ ก็ไม่ต้องรอ นิ่งไม่เป็น ก็ยิ่งเครียดหนัก ไม่มีใครรักแผ่นดินนี้ไปมากกว่ากษัตริย์ดอกน่ะ ฉะนั้น ความกังวลใจที่มี มันเทียบไม่ได้เลยในใจพ่อ พ่อดูแลหมดทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องห่วง?

    หมี CNN(วงในชี้เป้า หากมรึงยังไม่เลิก โดนทั้งตระกูล เผ่นออกหมดเกลี้ยง เหลือแต่บ้านร้าง ก็ไม่เว้นถูกยึดหมด ชี้เป้าชัด มอ 112 ทูลเท็จ กระทำการแทรกแซงการปกครอง ชี้นำพรรคการเมือง ซุกหุ้นลูก มรึงจะเอากี่คดี ว่ามา? เบื้องบนเค้าอ่านเกมส์ขาด ล่อลูกมรึง เดี๋ยวมรึงก็เผ่นเอง ไปหมดทั้งวงศ์ตระกูลเสนียดจัญไร แม้แต่แม่บ้านก็ไปด้วย เพราะอาจถูกจับมารีดความลับภายใน หมา แมวก็ไม่เหลือ ถูกจับเป็นตัวประกันอ่ะน่ะ เจ้ากรรม นายเวร เค้าแรงจริง อะไรจริง บทจะโหด สวรรค์ยังไม่เมตตา คดีเก่ารื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ หลังทูลเท็จ จะตามมาอีกระลอก วิบากกรรมหนักเกิน เผ่นเท่านั้น ถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้ แล้วค่อยไปถูกตามสอยทีหลัง ระวังหลังให้ดีดีน่ะมรึง)
    05 พฤษภาคม 68
    12.40 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    05-05-68/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP14 กูสังเกตุมาหลายเดือนแล้ว อีช่องสูงสุด หลังตั้งแต่รับอีเนรคุณแผ่นดินคิดล้มเจ้าเข้ามาออกรายการ พฤติกรรมมันส่อ หลายครั้งที่เอาข่าวโฆษณาชวนเชื่อเหี้ยมาตี อี REUTER ตีข่าวยังไง มรึงดร๊าฟเค้ามาหมดเกลี้ยง รับงานใครมารึจ๊ะ? ไม่ตรวจสอบไม่แหกตาดูก่อนเหรอ ว่ามันจริงๆ เท็จๆ งับอย่างเดียว เหมือนตั้งใจจะเป็นโทรโข่งให้เหี้ยงั้นเหรอ? ช่วงหลังเสี้ยมพรมแดนอาเซียน พม่าบุก ตีลาว อีขะแมร์ยึด มรึงต้องการจะสื่ออะไร? อย่าคิดว่าคนเค้าดูมรึงไม่ออก เหี้ยจัดฉากยังกล้าเอามาลง ของจริง ของปลอมดูไม่ยากดอกน่ะ เจตนามันฟ้อง การกระทำมันชัด? กูลดเกรดมรึงลงไปเยอะ เพราะสำหรับกูแล้ว สื่อหลักไทยแท้จริง มีเพียงช่องเดียว ที่กล้าชน กล้าเสนอความจริง มีเพียง 1 เดียว ASTV หรือ NEWS1 เท่านั้น ส่วนสื่อโซเชี่ยลก็พอมีบ้าง ที่ปกป้องสถาบันไทย นอกนั้นของปลอมหมด 99.99% ในที่สุด อีปินส์ชะตาขาด! เตรียมสิ้นชาติพันธุ์ได้เลยมรึง ถูกอัปเปหิออกจากอาเซียนแน่ เสือกไปร่วมเซ็นต์สัญญารบร่วมกับไต้หวัน กองทัพ ฝ่ายการเมืองอีปินส์ ขี้ข้าผู้ซื่อสัตย์วอชิงตัน อีปินส์กระจายอยู่ทั่วโลก สิ้นชาติก็คงไม่แตกต่าง ดีเลย ภูฎานรอเสียบเข้าอาเซียนชัวร์ ไทยเป็นเจ้าภาพเชิญจ๊ะ ชักศึกเข้าบ้าน แหกกฎมติอาเซียน จีนคือเจ้าภาพ เจ้ามือหลายชาติในอาเซียน มรึงคิดว่าเค้าจะปล่อยมรึงมั้ยล่ะ? ขนาดพ่อเหี้ยมรึงเอง อย่างอีวอชิงตัน ยังต้องมากราบตรีนสีจิ้นผิง จะเล่นละคร ก็ให้มันสมจริงหน่อย อย่าแผ่วน่ะมรึง แต่เกาะสแปรดลีย์ เค้าเตรียมสั่งสอนมรึงแล้ว บอกเลย อีดูเตอร์เต้ ได้กลับมาแน่ มินดาเนา จะประกาศรัฐอิสรภาพเร็วๆ นี้ แยกน้ำ แยกปลากันเรียบร้อยแล้ว มันส์แน่ โปรดติดตาม? เศรษฐกิจไทยเข้าขั้นวิกฤต! ตลาดดังกลางกรุงเจ๊ง ประกาศฟ้าผ่าปิดกิจการ ปชช แห่จี้ปิดสวิทช์รัฐบาลอิ๊งค์ พาดหัวตบหน้าปชต.ตอแหล 14 ล้านเสียงควาย น้ำตาตกใน ไม่มีงาน เจ๊งถ้วนหน้า 10000 นึง ช่วยมรึงได้มั้ยล่ะ? โง่ต่อไป เพราะปชต. มันมีไว้ให้เฉพาะควายเลือกเท่านั้น ส่วนพ่อปกครองลูก ส่งเฉพาะผู้มีปัญญา และซื่อสัตย์ เข้ามาดูแลประชาชน ตรรกะมันต่างกัน มรึงจ่ายเพื่อซื้อตำแหน่งเข้ามา กับรับใช้พระมหากษัตริย์ ความจริงใจ ซื่อตรง มันเทียบกันไม่ได้ เข้าพฤษภาแล้ว มรึงเตรียมตัวได้เลย อีร่านลูกสาวหน้าเหลี่ยม เก้าอี้ร้อนลุกเป็นไฟแล้ว อีพ่อเหลี่ยม กำลังจะโดนคุกของจริง หนีสิจ๊ะ มรึงหนีไปให้สุดขอบโลก ก็หนีไม่พ้นกรรมหนักที่มรึงก่อไว้ทั้งวงศ์ตระกูลดอกน่ะ ตายอนาถยกโคตรเหี้ยก็งานนี้ เจ้ากรรม นายเวรมรึง ตามมาทันแล้ว อะไรน่ะ BIG FAT ฉุน "กูไม่ได้ขายแผ่นดิน" แต่กูทำตาม MOU43 ขายชาติต่างหากล่ะ สั่งถอนทหาร แต่ทหารเค้านิ่งจ๊ะ มรึงเป็นใคร? รู้สึกว่า อีขะแมร์อยากจะรวมชาติกับเรามากสิน่ะ อยากยกพนมเปญให้ดูแล ก็ไม่บอก กระจอกอย่างงี้ ยังกล้าเสนอหน้าอีก 1 ต่อ 10 สบายตรีน ทหารไทยไม่ได้กล่าว เจอลูกแม่ไม้มวยไทย นายขนมต้ม มรึงรอดู เหี้ยแค่ไหน สุดท้ายก็จมกองตรีน อีฮุนเซน เริ่มสั่นคลอนแล้ว บังลังก์เลือดที่มรึงก่อไว้ ตายห่านับล้าน กำลังจะมาเผามรึงทั้งเป็น ราชวงศ์จะกลับมาใหม่ แล้วสวามิภักดิ์ต่ออโยธยาศรีรามเทพนครในที่สุด ที่มาว่า เราเคยยิ่งใหญ่แค่ไหนมาก่อน? ละครลิง โปรดอย่าให้ราคา เพราะมันปั่นกระแสได้แค่นี้แหละ ความจริง ทหารนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว อะไรทั้งนั้น มรึงจะสั่งเหี้ยอะไรได้อีก ไม่กี่เดือน ก็ยุบสภาแล้ว ใครจะโง่? ทหารพรานนาวิกโยธินฮึ่ม ทหารไทยพร้อมรบ ลั่น ไม่มีทหารชาติไหนในโลก จะเอาชนะไทยในแผ่นดินไทยได้ คำพูดนี้ มันส่งสัญญานชัด ฝ่ายการเมืองสั่งกองทัพไม่ได้อีกแล้ว ฝ่ายการเมืองคือศัตรูของวังไทย ฝ่ายการเมืองคือ "ขายชาติแดร๊ก" หลักฐานมันฟ้อง ด้วยลายเซ็นต์ทั้งหมดที่มรึงสั่ง บิลใบเสร็จจะไปขึ้นตรงที่ศาล วันที่เค้าจะเชือดมรึงนั่นแหละ พ่อเหี้ยมรึงจะตายห่าก่อน แล้วขี้ข้าล่ะ ใครมันจะอยู่ เผ่นออกนอกกันหมด งานนี้ อาจมีถึงประหารชีวิต อย่าคิดว่า "เป็นเรื่องตลก" บทศาลไคฟงจะเล่นแรง เพื่อให้เกิดภาพสะท้อน มันย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ อาญาสิทธิ์แผ่นดิน ต้องเด็ดขาด ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไฟเขียวจากวัง อะไรก็เกิดขึ้นได้หมด? อียิวดิ้นพล่าน! บอก "หยุดได้แล้ว" ไอ้สัส! พวกมรึงไล่ถล่มเยเมน แต่ถูกเค้าสวนกลับ หนีหางจุกตูดอย่างหมา หมดสภาพ ไม่พอ มันหันมาถล่มยับเยรูซาเล็ม กูตายคาที่ ยิ่งมรึงบุกเยเมนมากเท่าไหร่ กูโดนหนักมากเท่านั้น ดังนั้น "พอก่อน" ให้กูได้หายใจบ้าง โดนถล่มยับ 3 วันติด แบบลืมหายใจ เทลอาวีฟ เยรูซาเล็ม เละเป็นโจ๊ก ฐานทัพ คลังแสง กองบิน ท่าเรือ ไปหมด ย่อยยับ ลูกยาวพาเหรดกันดาหน้าถล่ม โดยไม่ได้นัดหมาย มาจากเลบานอน จากเยเมน จากซีเรีย จากฮามาส จากอิรัก รุมกินโต๊ะอียิวเหี้ยแบบไร้ความปราณี ฉนวนกาซ่ากลายเป็นเรื่องเล็กในบันดล สุดยอดคือ "จีน" หลัง CATL ผงาด! ประเดิมรายแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐานแบตเตอรี่ “ไม่ติดไฟ ไม่ระเบิด” ใหม่ของจีน เพราะหลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้โจทย์ใหม่มาว่า "ต้องไม่มีแบตเตอรี่ MADE IN CHINA ใดใด ระเบิด หรือติดไฟ ได้อีกต่อไป" ทำสำเร็จอีกแล้วครับท่าน อียุ่นปี่ ไบ้แดร๊ก เพราะไม่มีใครกล้าการันตี ว่าเคยมีใครทำได้มาก่อน แต่จีนคือ "เหนือมนุษย์ควายไงล่ะ" ส่งผลคือ EV จีนต่อไป การันตี แบตไม่ระเบิด ติดไฟ ปลอดภัย 100% รถ EV ยี่ห้อไหนในโลก ก็ไม่กล้าวัดจ๊ะ? เร็ว แรง ทะลุนรก ไม่มีอะไรที่จีนทำไม่ได้ นวตกรรม AI QUANTUM ไปไกลนอกโลกแล้ว เหี้ยยังงมเข็มในมหาสมุทรอยู่เลย กระจอกจริงอีตะวันตก? ปล.มรึงจะคุยกันเพื่อ? รู้อยู่แล้ว ว่าอีเสี้ยนยา ยอมเมื่อไหร่ หัวขาดทันที ยุติยิง คือยอมแพ้ สู้ยังไงก็ตาย แต่ยังมีอี NATO และอี EU หน้าโง่ยังคอยอุ้ม ปูตินก็รู้ มันไม่ยอมจบดอก ต้องฆ่าให้สิ้นแผ่นดินก่อนสิน่ะ อีชาวยูเครนหากมรึงโง่โดยสายพันธุ์ซะขนาดนี้ อยู่ไปก็หนักแผ่นดินโลกเค้า ตายๆ ห่า ไปเหอะ เกะกะ ขวางความสงบสุขชาวโลก สรุปคือ ไม่ฆ่าให้หมดแผ่นดิน กูไม่ยอมแพ้ ปูตินบอก ง่ายกว่านี้อีก แค่ฆ่ามรึงตัวเดียว ยูเครนก็ตกเป็นของกูทันที ระวัง คนข้างกายมรึงให้ดีดี คนรอบตัวมรึงน่ะ น่ากลัวกว่าลูกปืนซะอีก จุดอ่อนเหี้ยมีเพียงเรื่องเดียว จ่ายครบ จ่ายหนัก จ่ายจริง ฆ่าใคร ทรยศใครก็ได้ เพราะเหี้ยมันก็คือเหี้ย ไม่มีสัจจะในหมู่เหี้ยไงล่ะ? ฟังให้ดีดี ไทยไม่ต้องทำอะไรมาก แค่รักษาสมดุล และเตรียมปกป้องตัวเองพอ ที่เหลือให้ขาใหญ่โลกเค้าฟัดกันเต็มที่ก่อน เราจะยืนอยู่ข้างผู้ชนะเสมอ เมื่อเหี้ยแพ้ราบคาบหมดจรดแล้ว การล้างแผ่นดินจะง่ายดาย สบานตรีน เพราะเจ้ามือเก่าได้ตายห่าไปเรียบร้อยแล้ว ใครมันจะจ่ายต่อไหว กลับบ้านเก่ากันหมด? ไม่มีใครอยู่ได้ หากไม่มีแบ็คอัพ? ไอ้ที่กังวลอยู่ตอนนี้ จะหายวับทันตาเห็น แค่เหี้ยตายตัวเดียว รอไม่ได้ ก็ไม่ต้องรอ นิ่งไม่เป็น ก็ยิ่งเครียดหนัก ไม่มีใครรักแผ่นดินนี้ไปมากกว่ากษัตริย์ดอกน่ะ ฉะนั้น ความกังวลใจที่มี มันเทียบไม่ได้เลยในใจพ่อ พ่อดูแลหมดทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องห่วง? หมี CNN(วงในชี้เป้า หากมรึงยังไม่เลิก โดนทั้งตระกูล เผ่นออกหมดเกลี้ยง เหลือแต่บ้านร้าง ก็ไม่เว้นถูกยึดหมด ชี้เป้าชัด มอ 112 ทูลเท็จ กระทำการแทรกแซงการปกครอง ชี้นำพรรคการเมือง ซุกหุ้นลูก มรึงจะเอากี่คดี ว่ามา? เบื้องบนเค้าอ่านเกมส์ขาด ล่อลูกมรึง เดี๋ยวมรึงก็เผ่นเอง ไปหมดทั้งวงศ์ตระกูลเสนียดจัญไร แม้แต่แม่บ้านก็ไปด้วย เพราะอาจถูกจับมารีดความลับภายใน หมา แมวก็ไม่เหลือ ถูกจับเป็นตัวประกันอ่ะน่ะ เจ้ากรรม นายเวร เค้าแรงจริง อะไรจริง บทจะโหด สวรรค์ยังไม่เมตตา คดีเก่ารื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ หลังทูลเท็จ จะตามมาอีกระลอก วิบากกรรมหนักเกิน เผ่นเท่านั้น ถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้ แล้วค่อยไปถูกตามสอยทีหลัง ระวังหลังให้ดีดีน่ะมรึง) 05 พฤษภาคม 68 12.40 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 926 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มฮามาสลงโทษ "ประหารชีวิต" ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุปล้นสะดมหลายราย หลังพบว่ามีกลุ่มชายฉรรจ์นำอาวุธบุกปล้นร้านขายอาหารและครัวประจำชุมชนหลายแห่งในกาซาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000041862

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กลุ่มฮามาสลงโทษ "ประหารชีวิต" ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุปล้นสะดมหลายราย หลังพบว่ามีกลุ่มชายฉรรจ์นำอาวุธบุกปล้นร้านขายอาหารและครัวประจำชุมชนหลายแห่งในกาซาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000041862 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 996 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ไทยภักดี" ประชุมใหญ่ “หมอวรงค์” ประกาศลั่น "ปราบโกง" ประหารชีวิตนักโทษทุจริต
    https://www.thai-tai.tv/news/18361/
    "ไทยภักดี" ประชุมใหญ่ “หมอวรงค์” ประกาศลั่น "ปราบโกง" ประหารชีวิตนักโทษทุจริต https://www.thai-tai.tv/news/18361/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • 28 ปี คดีโหด “ศักดิ์ ปากรอ” ฆ่ายกครัว 5 ศพ ตระกูลบุญทวี นายหน้าค้าที่ดินแห่งสิงหนคร

    เรื่องจริงสุดสยอง คดีฆ่ายกครัว 5 ศพ ตระกูลบุญทวี สะเทือนขวัญสังคมไทยไม่เสื่อมคลาย แม้ผ่านมา 28 ปี!

    ย้อนกลับไปในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2540 ณ บ้านเลขที่ 162 หมู่ที่ 8 บ้านบ่อสระ ตำบลชิงโค อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เกิดเหตุสะเทือนขวัญ ที่ทำให้ทั้งประเทศต้องตกตะลึง เมื่อครอบครัวบุญทวี ถูกฆ่ายกครัวถึง 5 ศพ เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่เพียงแต่โหดเหี้ยม แต่ยังเต็มไปด้วยเงื่อนงำ ที่ทำให้ผู้คนขวัญผวานานนับสิบปี...

    เหตุการณ์สลดที่ไม่มีใครคาดคิด นางกิ้มอิ้น บุญทวี อายุ 71 ปี ตื่นขึ้นมาในเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ พร้อมกับความหวังว่าจะได้พบหลานๆ ทั้ง 3 คนตามปกติ แต่เช้าวันนั้นกลับผิดสังเกต ไม่มีหลานคนไหนโผล่มาเลย...

    เมื่อเดินไปที่บ้านของนายประภาส บุญทวี ลูกชาย ซึ่งอยู่ห่าง 150 เมตร เธอก็พบว่าประตูบ้านไม่ได้ล็อก และเมื่อเปิดเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้เธอแทบเป็นลม...

    ภายในบ้าน มีศพแขวนเรียงรายอยู่ที่ราวบันได นายประภาส บุญทวี อายุ 42 ปี, ด.ช.กัมปนาท บุญทวี อายุ 13 ปี, ด.ช.ปราบ บุญทวี อายุ 12 ปี และ ด.ช.ชัชวาลย์ บุญทวี อายุ 10 ปี

    ในห้องนอนชั้นสอง ยังพบศพของ นางเจียมจิต บุญทวี ภรรยาของประภาส ถูกมัดมือเท้า ปิดปาก และรัดคอด้วยเนกไท

    เจ้าหน้าที่ชันสูตรพบว่า เหยื่อทั้ง 5 ราย ถูกทำร้ายร่างกายก่อนเสียชีวิต และ ไม่พบสารพิษหรือยานอนหลับ ในกระเพาะอาหารเลย...

    จุดเริ่มต้นการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเดินทางมายังที่เกิดเหตุ และพบว่าภายในบ้านมีร่องรอยการรื้อค้น และทรัพย์สินหลายอย่างหายไป เช่น พระเครื่องจำนวนมาก ทรัพย์สินมีค่า ทองคำ

    จากการสอบปากคำญาติและเพื่อนบ้าน พบว่า นายประภาสเป็นคนมีฐานะดี จากการเป็นนายหน้าค้าที่ดิน มีทรัพย์สินจำนวนมาก สมมติฐานแรก คือ คดีนี้น่าจะเป็นฆ่าชิงทรัพย์ แต่ทำไมต้องโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้?

    หลังจากการสืบสวนกว่า 23 วัน ตำรวจพบเบาะแสสำคัญ จากการขายพระเครื่อง ที่หายไปจากบ้านเหยื่อ ผู้ขายพระเครื่องให้ข้อมูลว่า ได้รับมาจาก "เรืองศักดิ์ ทองกุล" หรือ "ศักดิ์ ปากรอ" ชายวัย 22 ปี ชาวปากรอ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา

    ต่อมา วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว "ศักดิ์ ปากรอ" ได้ที่จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมของกลาง ได้แก่ พลอยแดง 9 เม็ด นิล 5 เม็ด เข็มกลัดสัญลักษณ์กระทรวงสาธารณสุข

    การสารภาพอันเลือดเย็น ศักดิ์ให้การรับสารภาพ อย่างไม่สะทกสะท้าน พร้อมกับยิ้มบางๆ ว่าวางแผนฆ่าครั้งนี้มาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยมีผู้สมรู้ร่วมคิดคือ "สงกรานต์ แก้วอุบล" หรือ "จ้อง" เพื่อนซึ่งทำหน้าที่ดูต้นทาง

    วิธีการก่อเหตุ เย็นวันศุกร์ ศักดิ์ขับรถจักรยานยนต์มาซุ่ม เมื่อเห็นในบ้านมีเฉพาะเด็ก ๆ แค่ 3 คน จึงทำทีขอน้ำดื่ม แล้วใช้ปืนขู่ลูกๆ ของประภาส จับมัดมือ มัดเท้า ขังไว้ในห้อง รอจนพ่อแม่เด็กกลับมา แล้วจับตัวทั้งหมด

    ศักดิ์พยายามใช้ไฟฟ้าช็อตเหยื่อ แต่ไม่สำเร็จเพราะบ้านมีอุปกรณ์ตัดไฟเซฟทีคัท จึงเปลี่ยนแผนมาใช้ เชือกแขวนคอทีละคน บริเวณราวบันได นางเจียมจิตถูกฆ่าอย่างทารุณ หลังจากขัดขืนการล่วงละเมิดทางเพศ สาเหตุที่ต้องฆ่าเหยื่อทั้งหมด เพราะ “จำหน้าได้”

    คดีความ โทษที่ได้รับ ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิตศักดิ์ และจำคุกตลอดชีวิตจ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน แต่ศาลฎีกาลดโทษศักดิ์ เหลือจำคุกตลอดชีวิต เพราะให้การเป็นประโยชน์

    ศักดิ์ติดคุก 13 ปี ก่อนพ้นโทษในปี พ.ศ. 2553 หลังออกจากคุก ศักดิ์ชุบตัวใหม่ เปลี่ยนชื่อและนามสกุลเป็น "เนติราษฎร์ นพวงศ์" และเข้าไปพัวพันกับซุ้มมือปืนรับจ้าง

    จุดจบของ "ศักดิ์ ปากรอ" วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เนติราษฎร์ถูกลอบยิงเสียชีวิต ที่หน้าบ้านพักในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ขณะกำลังจะขึ้นรถจักรยานยนต์ คนร้ายใช้รถเก๋งสีขาวเข้ามาจอด และยิงใส่หลัง 2 นัด ก่อนหลบหนีไป

    แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่ แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้

    อาวุธลับที่เชื่อมโยงศักดิ์กับคดีใหญ่ หลังการเสียชีวิตของศักดิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตามสืบคดีต่างๆ ที่เชื่อมโยงถึง

    วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของ "พิมล ทองกุล" พี่ชายของศักดิ์ ที่ตำบลปากรอ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา และพบอาวุธสงครามจำนวนมาก เช่น ปืนอาก้า 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 5.56 มม. และ 7.62 มม. ปืนยาวติดกล้อง .22 แม็กกาซีน และซองกระสุน

    "เพิ่มศีล" ผู้เป็นพี่ชายให้การว่า อาวุธทั้งหมดเป็นของศักดิ์ ไม่ใช่ของตนเอง

    อาวุธปืนที่เกี่ยวข้องกับอีกหนึ่งคดีฆ่า การตรวจสอบพบว่า อาวุธปืนอาก้าที่ยึดมาได้ ตรงกับปืนที่ใช้ยิง "พงศกร หวานแก้ว" รองนายกเทศมนตรีตำบลนาสีทอง เสียชีวิตบนรถจี๊ปเชอโรกี ในปี พ.ศ. 2555

    ทำให้ตำรวจเริ่มสงสัยว่า ศักดิ์อาจมีเอี่ยวกับคดีฆาตกรรมรายนี้ด้วย แต่จนถึงวันนี้... ตัวคนร้ายในคดียิงพงศกร ก็ยังคงลอยนวล

    หากพูดถึงคดีฆ่ายกครัวที่โหดเหี้ยมที่สุดในไทย คงไม่มีใครลืม "ศักดิ์ ปากรอ" ได้ ฆ่าเด็ก 3 คน ด้วยการแขวนคอ ฆ่าพ่อแม่ของเด็กอย่างทารุณ จิตใจแข็งกระด้าง ไม่สะทกสะท้านแม้ในวันทำแผน

    แม้จะผ่านไปเกือบ 3 ทศวรรษ ความโหดร้ายในวันนั้น ยังคงเป็นฝันร้ายของผู้ที่ได้ยินข่าวนี้อยู่เสมอ...

    สังคมไทยกับคดี "ฆ่ายกครัว" สะเทือนขวัญ นอกจากคดี "ศักดิ์ ปากรอ" ไทยเรายังเคยมีคดีฆ่ายกครัว สะเทือนใจอื่นๆ เช่น

    คดีฆ่ายกครัวอ่าวลึก จ.กระบี่ ปี 2560 ตายหมู่ 8 ศพ

    คดีฆ่าโหด 5 ศพ ร้านอาหารไวท์เฮาส์ จ.สระบุรี ปี 2552

    คดีฆ่ายกครัว "หอมชง" ย่านบางแค กทม. ปี 2557

    แต่คดีของศักดิ์ โหดเหี้ยมแบบที่ใช้ "การแขวนคอ" เป็นวิธีฆ่าอย่างช้าๆ และทรมานที่สุด ซึ่งนับว่าเป็น 1 ในคดีสะเทือนขวัญที่สุดของประเทศไทย

    เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่า... ความโลภ ความโกรธ ความหลง สามารถผลักดันคนธรรมดา ให้กลายเป็นปีศาจ ในคราบมนุษย์ได้จริงๆ

    แม้ศักดิ์จะจบชีวิตไปแล้ว แต่บาดแผลในใจของผู้ที่สูญเสีย ยังคงอยู่ และเป็นบทเรียนราคาแพง ที่สังคมไทยไม่มีวันลืม...

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 260900 เม.ย. 2568

    #ศักดิ์ปากรอ #ฆ่ายกครัว #ตระกูลบุญทวี #คดีฆ่ายกครัว #ฆ่าหมู่5ศพ #สิงหนคร #สงขลา #คดีโหด #ฆ่าแขวนคอ #เรื่องจริงไม่อิงนิยาย
    28 ปี คดีโหด “ศักดิ์ ปากรอ” ฆ่ายกครัว 5 ศพ ตระกูลบุญทวี นายหน้าค้าที่ดินแห่งสิงหนคร เรื่องจริงสุดสยอง คดีฆ่ายกครัว 5 ศพ ตระกูลบุญทวี สะเทือนขวัญสังคมไทยไม่เสื่อมคลาย แม้ผ่านมา 28 ปี! 🔥 ✨ ย้อนกลับไปในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2540 ณ บ้านเลขที่ 162 หมู่ที่ 8 บ้านบ่อสระ ตำบลชิงโค อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เกิดเหตุสะเทือนขวัญ ที่ทำให้ทั้งประเทศต้องตกตะลึง เมื่อครอบครัวบุญทวี ถูกฆ่ายกครัวถึง 5 ศพ ❗ เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่เพียงแต่โหดเหี้ยม แต่ยังเต็มไปด้วยเงื่อนงำ ที่ทำให้ผู้คนขวัญผวานานนับสิบปี... เหตุการณ์สลดที่ไม่มีใครคาดคิด 🧓 นางกิ้มอิ้น บุญทวี อายุ 71 ปี ตื่นขึ้นมาในเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ พร้อมกับความหวังว่าจะได้พบหลานๆ ทั้ง 3 คนตามปกติ แต่เช้าวันนั้นกลับผิดสังเกต ไม่มีหลานคนไหนโผล่มาเลย... เมื่อเดินไปที่บ้านของนายประภาส บุญทวี ลูกชาย ซึ่งอยู่ห่าง 150 เมตร เธอก็พบว่าประตูบ้านไม่ได้ล็อก ❗ และเมื่อเปิดเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้เธอแทบเป็นลม... ภายในบ้าน มีศพแขวนเรียงรายอยู่ที่ราวบันได นายประภาส บุญทวี อายุ 42 ปี, ด.ช.กัมปนาท บุญทวี อายุ 13 ปี, ด.ช.ปราบ บุญทวี อายุ 12 ปี และ ด.ช.ชัชวาลย์ บุญทวี อายุ 10 ปี ในห้องนอนชั้นสอง ยังพบศพของ นางเจียมจิต บุญทวี ภรรยาของประภาส ถูกมัดมือเท้า ปิดปาก และรัดคอด้วยเนกไท 🧣 เจ้าหน้าที่ชันสูตรพบว่า เหยื่อทั้ง 5 ราย ถูกทำร้ายร่างกายก่อนเสียชีวิต และ ไม่พบสารพิษหรือยานอนหลับ ในกระเพาะอาหารเลย... จุดเริ่มต้นการสืบสวน 🔎 เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเดินทางมายังที่เกิดเหตุ และพบว่าภายในบ้านมีร่องรอยการรื้อค้น 📦 และทรัพย์สินหลายอย่างหายไป เช่น พระเครื่องจำนวนมาก ทรัพย์สินมีค่า ทองคำ จากการสอบปากคำญาติและเพื่อนบ้าน พบว่า นายประภาสเป็นคนมีฐานะดี จากการเป็นนายหน้าค้าที่ดิน มีทรัพย์สินจำนวนมาก 🏡💵 สมมติฐานแรก คือ คดีนี้น่าจะเป็นฆ่าชิงทรัพย์ แต่ทำไมต้องโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้? 🕵️ หลังจากการสืบสวนกว่า 23 วัน ตำรวจพบเบาะแสสำคัญ จากการขายพระเครื่อง ที่หายไปจากบ้านเหยื่อ ❗ ผู้ขายพระเครื่องให้ข้อมูลว่า ได้รับมาจาก "เรืองศักดิ์ ทองกุล" หรือ "ศักดิ์ ปากรอ" ชายวัย 22 ปี ชาวปากรอ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา 🧢 ต่อมา วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว "ศักดิ์ ปากรอ" ได้ที่จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมของกลาง ได้แก่ พลอยแดง 9 เม็ด นิล 5 เม็ด เข็มกลัดสัญลักษณ์กระทรวงสาธารณสุข การสารภาพอันเลือดเย็น 😈 ศักดิ์ให้การรับสารภาพ อย่างไม่สะทกสะท้าน พร้อมกับยิ้มบางๆ 😐 ว่าวางแผนฆ่าครั้งนี้มาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยมีผู้สมรู้ร่วมคิดคือ "สงกรานต์ แก้วอุบล" หรือ "จ้อง" เพื่อนซึ่งทำหน้าที่ดูต้นทาง วิธีการก่อเหตุ เย็นวันศุกร์ ศักดิ์ขับรถจักรยานยนต์มาซุ่ม เมื่อเห็นในบ้านมีเฉพาะเด็ก ๆ แค่ 3 คน จึงทำทีขอน้ำดื่ม แล้วใช้ปืนขู่ลูกๆ ของประภาส จับมัดมือ มัดเท้า ขังไว้ในห้อง รอจนพ่อแม่เด็กกลับมา แล้วจับตัวทั้งหมด ศักดิ์พยายามใช้ไฟฟ้าช็อตเหยื่อ แต่ไม่สำเร็จเพราะบ้านมีอุปกรณ์ตัดไฟเซฟทีคัท จึงเปลี่ยนแผนมาใช้ เชือกแขวนคอทีละคน บริเวณราวบันได นางเจียมจิตถูกฆ่าอย่างทารุณ หลังจากขัดขืนการล่วงละเมิดทางเพศ สาเหตุที่ต้องฆ่าเหยื่อทั้งหมด เพราะ “จำหน้าได้” ‼️ คดีความ โทษที่ได้รับ ⚖️ ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิตศักดิ์ และจำคุกตลอดชีวิตจ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน แต่ศาลฎีกาลดโทษศักดิ์ เหลือจำคุกตลอดชีวิต เพราะให้การเป็นประโยชน์ ศักดิ์ติดคุก 13 ปี ก่อนพ้นโทษในปี พ.ศ. 2553 หลังออกจากคุก ศักดิ์ชุบตัวใหม่ เปลี่ยนชื่อและนามสกุลเป็น "เนติราษฎร์ นพวงศ์" และเข้าไปพัวพันกับซุ้มมือปืนรับจ้าง 🏴‍☠️ จุดจบของ "ศักดิ์ ปากรอ" 🚫 วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เนติราษฎร์ถูกลอบยิงเสียชีวิต ที่หน้าบ้านพักในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ขณะกำลังจะขึ้นรถจักรยานยนต์ 🏍️ คนร้ายใช้รถเก๋งสีขาวเข้ามาจอด และยิงใส่หลัง 2 นัด ก่อนหลบหนีไป ❗ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่ แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ อาวุธลับที่เชื่อมโยงศักดิ์กับคดีใหญ่ 🌪️ หลังการเสียชีวิตของศักดิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตามสืบคดีต่างๆ ที่เชื่อมโยงถึง 🚨 วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของ "พิมล ทองกุล" พี่ชายของศักดิ์ ที่ตำบลปากรอ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา และพบอาวุธสงครามจำนวนมาก เช่น ปืนอาก้า 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 5.56 มม. และ 7.62 มม. ปืนยาวติดกล้อง .22 แม็กกาซีน และซองกระสุน 🛡️ "เพิ่มศีล" ผู้เป็นพี่ชายให้การว่า อาวุธทั้งหมดเป็นของศักดิ์ ไม่ใช่ของตนเอง อาวุธปืนที่เกี่ยวข้องกับอีกหนึ่งคดีฆ่า 🔥 การตรวจสอบพบว่า อาวุธปืนอาก้าที่ยึดมาได้ ตรงกับปืนที่ใช้ยิง "พงศกร หวานแก้ว" รองนายกเทศมนตรีตำบลนาสีทอง เสียชีวิตบนรถจี๊ปเชอโรกี ในปี พ.ศ. 2555 ❗ ทำให้ตำรวจเริ่มสงสัยว่า ศักดิ์อาจมีเอี่ยวกับคดีฆาตกรรมรายนี้ด้วย แต่จนถึงวันนี้... 🕵️‍♂️ ตัวคนร้ายในคดียิงพงศกร ก็ยังคงลอยนวล 🧠 หากพูดถึงคดีฆ่ายกครัวที่โหดเหี้ยมที่สุดในไทย คงไม่มีใครลืม "ศักดิ์ ปากรอ" ได้ ❗ ฆ่าเด็ก 3 คน ด้วยการแขวนคอ ฆ่าพ่อแม่ของเด็กอย่างทารุณ จิตใจแข็งกระด้าง ไม่สะทกสะท้านแม้ในวันทำแผน แม้จะผ่านไปเกือบ 3 ทศวรรษ ความโหดร้ายในวันนั้น ยังคงเป็นฝันร้ายของผู้ที่ได้ยินข่าวนี้อยู่เสมอ... สังคมไทยกับคดี "ฆ่ายกครัว" สะเทือนขวัญ 🩸 นอกจากคดี "ศักดิ์ ปากรอ" ไทยเรายังเคยมีคดีฆ่ายกครัว สะเทือนใจอื่นๆ เช่น คดีฆ่ายกครัวอ่าวลึก จ.กระบี่ ปี 2560 ตายหมู่ 8 ศพ คดีฆ่าโหด 5 ศพ ร้านอาหารไวท์เฮาส์ จ.สระบุรี ปี 2552 คดีฆ่ายกครัว "หอมชง" ย่านบางแค กทม. ปี 2557 แต่คดีของศักดิ์ โหดเหี้ยมแบบที่ใช้ "การแขวนคอ" เป็นวิธีฆ่าอย่างช้าๆ และทรมานที่สุด ซึ่งนับว่าเป็น 1 ในคดีสะเทือนขวัญที่สุดของประเทศไทย 🇹🇭 🛑 เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่า... ความโลภ ความโกรธ ความหลง สามารถผลักดันคนธรรมดา ให้กลายเป็นปีศาจ ในคราบมนุษย์ได้จริงๆ 🩸😈 แม้ศักดิ์จะจบชีวิตไปแล้ว แต่บาดแผลในใจของผู้ที่สูญเสีย ยังคงอยู่ และเป็นบทเรียนราคาแพง ที่สังคมไทยไม่มีวันลืม... ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 260900 เม.ย. 2568 📢 #ศักดิ์ปากรอ #ฆ่ายกครัว #ตระกูลบุญทวี #คดีฆ่ายกครัว #ฆ่าหมู่5ศพ #สิงหนคร #สงขลา #คดีโหด #ฆ่าแขวนคอ #เรื่องจริงไม่อิงนิยาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1060 มุมมอง 0 รีวิว
  • 63 ปี "ครูรวม วงศ์พันธ์" จากลูกชาวนา สู่เป้าประหารชีวิต “คอมมิวนิสต์” คนแรกของไทย

    ย้อนไปสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ยังคงสะเทือนใจคนรุ่นหลัง “ครูรวม วงศ์พันธ์” ครูผู้ใฝ่รู้ ผู้กลายเป็นนักโทษคอมมิวนิสต์คนแรกที่ถูกยิงเป้า ประหารชีวิตตามคำสั่งมาตรา 17 ของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

    จากลูกชาวนาแห่งสุพรรณบุรี สู่ผู้ต้องหาคดีคอมมิวนิสต์คนแรกของไทย ที่ถูกประหารชีวิต เรื่องราวสะท้อนยุคสมัย ที่อุดมการณ์นำมาสู่ชะตากรรม อันน่าเศร้า

    ช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย ในยุคสงครามเย็น มีบุคคลหนึ่งที่ชื่อ “รวม วงศ์พันธ์” ถูกจารึกไว้ว่าเป็น “ผู้กระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์” คนแรกที่ถูกประหารชีวิต ตามกฎหมายมาตรา 17 ของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรปี พ.ศ. 2502

    จะพาย้อนกลับไป 63 ปี ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาทั้งชีวิตของครูรวม เบื้องหลังคำสั่งประหาร และบริบทของการเมืองไทยยุคนั้น

    จากลูกชาวนา...สู่ครูใหญ่โรงเรียนจีน “รวม วงศ์พันธ์” เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2465 ที่บ้านมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรชายของนายอยู่ และนางไร มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เติบโตในครอบครัวชาวนาธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความใฝ่เรียน

    เรียนหนังสือจากโรงเรียนวัดเล็กๆ ใกล้บ้าน ต่อมาได้เข้าเรียนโรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่างสวนกุหลาบวิทยาลัย และพาณิชยการพระนคร ก่อนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในยุคนั้น ถือเป็นแหล่งเพาะบ่มความคิดเสรี ของนักศึกษาไทย

    ความรักในการเรียน รักในการสอน ครูรวมเริ่มต้นอาชีพครูในโรงเรียนจีน “กวงกงสวย” ก่อนก้าวขึ้นเป็นครูใหญ่ฝ่ายไทย เป็นที่เคารพรักของนักเรียน และครูร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้แต่งงานกับ "ครูประดิษฐ์ สุทธิจิตร์" คู่ชีวิตผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ในชีวิตอุดมการณ์

    สถานการณ์โลกกับภัยคอมมิวนิสต์ ช่วงปี 2460–2500 โลกกำลังเผชิญกับ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อรัสเซียกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ จีนถูกยึดครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ นำโดย "เหมา เจ๋อตง" และในหลายประเทศอุดมการณ์นี้แผ่ขยายเข้าสู่ สังคมชนบทและแรงงาน

    ความกลัวในสายตารัฐ ประเทศไทยในยุคนั้น อยู่ภายใต้ความตื่นกลัวต่อภัย “แดง” หรือภัยคอมมิวนิสต์จากต่างประเทศ รัฐบาลในหลายยุค รวมถึงยุคของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" จึงเลือกใช้มาตรการเด็ดขาด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม

    แม้รัฐจะมีกฎหมายควบคุมแนวคิดคอมมิวนิสต์ มาตั้งแต่ปี 2476 แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการแพร่กระจายได้ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวนา และครู ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยตรง

    ครูรวมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เชื่อ ในอุดมการณ์ความเท่าเทียม และใช้วิธีการพูดคุย แบ่งปันความรู้กับชาวบ้านในชนบท รวมถึงสร้าง “ไร่รวม” ที่กาญจนบุรี เพื่อเป็นโรงเรียนการเมืองอย่างลับๆ

    การจับกุม คำพิพากษา และคำสั่งประหาร ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลจับกุมครูรวม จากการสืบสวน และคำให้การของพยานร่วมกลุ่ม กล่าวหาว่า เป็นผู้นำเครือข่ายคอมมิวนิสต์ ลอบรับคำสั่งจากต่างชาติ และพยายามล้มล้างสถาบันชาติ

    จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจตาม “มาตรา 17” สั่งให้ประหารชีวิตทันที โดยไม่ต้องขึ้นศาล

    ค่ำวันอังคารที่ 24 เมษายน 2505 เวลา 18.00 น. ที่เรือนจำกลางบางขวาง ครูรวมถูกยิงเป้าจนเสียชีวิต นับเป็นครั้งแรก ที่มีการประหารผู้ต้องหาคอมมิวนิสต์ ในประวัติศาสตร์ไทย

    วิเคราะห์คดีครูรวม ในบริบทสังคมไทย “ฮีโร่” หรือ “กบฏ”? กรณีของครูรวม สะท้อนถึงยุคสมัยที่ “ความเชื่อ” อาจถูกตีความว่าเป็น “ภัย” การกระทำของครูรวมในสายตารัฐ เป็นอันตรายต่อความมั่นคง แต่ในสายตาของชาวบ้าน และนักศึกษาในยุคต่อมา คือผู้จุดประกายความคิด เพื่อเสรีภาพ

    มรดกแห่งความทรงจำ กว่า 33 ปีหลังการประหาร ศพของครูรวมเพิ่งถูกพบ ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม โดยไร้ป้ายบอกชื่อ เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายคำถาม ที่สะท้อนว่า... เรื่องราวนี้ อาจไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร

    แม้จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ชื่อของ “ครูรวม วงศ์พันธ์” ยังคงเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อในอุดมการณ์ เสรีภาพ และความเสมอภาค

    ครูรวมไม่ใช่แค่ครูธรรมดา แต่เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างแน่วแน่ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต

    แม้ถูกประหารในฐานะ “คอมมิวนิสต์” แต่ยังคงเป็น “ครูของประชาชน” ในความทรงจำของผู้คนมากมาย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241115 เม.ย. 2568

    #ครูรวมวงศ์พันธ์ #คอมมิวนิสต์ไทย #คดีประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์การเมืองไทย #มาตรา17 #ยุคสงครามเย็น #การศึกษากับอุดมการณ์ #ครูไทยในอดีต #ประหารชีวิต #วีรบุรุษประชาชน
    63 ปี "ครูรวม วงศ์พันธ์" จากลูกชาวนา สู่เป้าประหารชีวิต “คอมมิวนิสต์” คนแรกของไทย 🔥 ย้อนไปสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ยังคงสะเทือนใจคนรุ่นหลัง “ครูรวม วงศ์พันธ์” ครูผู้ใฝ่รู้ ผู้กลายเป็นนักโทษคอมมิวนิสต์คนแรกที่ถูกยิงเป้า ประหารชีวิตตามคำสั่งมาตรา 17 ของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ 🟦 จากลูกชาวนาแห่งสุพรรณบุรี สู่ผู้ต้องหาคดีคอมมิวนิสต์คนแรกของไทย ที่ถูกประหารชีวิต เรื่องราวสะท้อนยุคสมัย ที่อุดมการณ์นำมาสู่ชะตากรรม อันน่าเศร้า 🔶 ช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย ในยุคสงครามเย็น มีบุคคลหนึ่งที่ชื่อ “รวม วงศ์พันธ์” ถูกจารึกไว้ว่าเป็น “ผู้กระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์” คนแรกที่ถูกประหารชีวิต ตามกฎหมายมาตรา 17 ของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรปี พ.ศ. 2502 ✍️ จะพาย้อนกลับไป 63 ปี ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาทั้งชีวิตของครูรวม เบื้องหลังคำสั่งประหาร และบริบทของการเมืองไทยยุคนั้น 🕯️ 🟤 จากลูกชาวนา...สู่ครูใหญ่โรงเรียนจีน 👨‍🏫 “รวม วงศ์พันธ์” เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2465 ที่บ้านมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรชายของนายอยู่ และนางไร มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เติบโตในครอบครัวชาวนาธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความใฝ่เรียน 📚 เรียนหนังสือจากโรงเรียนวัดเล็กๆ ใกล้บ้าน ต่อมาได้เข้าเรียนโรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่างสวนกุหลาบวิทยาลัย และพาณิชยการพระนคร ก่อนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในยุคนั้น ถือเป็นแหล่งเพาะบ่มความคิดเสรี ของนักศึกษาไทย 🇹🇭 ความรักในการเรียน รักในการสอน ครูรวมเริ่มต้นอาชีพครูในโรงเรียนจีน “กวงกงสวย” ก่อนก้าวขึ้นเป็นครูใหญ่ฝ่ายไทย เป็นที่เคารพรักของนักเรียน และครูร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้แต่งงานกับ "ครูประดิษฐ์ สุทธิจิตร์" คู่ชีวิตผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ในชีวิตอุดมการณ์ 💞 🟥 สถานการณ์โลกกับภัยคอมมิวนิสต์ 🌍 ช่วงปี 2460–2500 โลกกำลังเผชิญกับ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อรัสเซียกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ จีนถูกยึดครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ นำโดย "เหมา เจ๋อตง" และในหลายประเทศอุดมการณ์นี้แผ่ขยายเข้าสู่ สังคมชนบทและแรงงาน 🛠️ ความกลัวในสายตารัฐ ประเทศไทยในยุคนั้น อยู่ภายใต้ความตื่นกลัวต่อภัย “แดง” หรือภัยคอมมิวนิสต์จากต่างประเทศ รัฐบาลในหลายยุค รวมถึงยุคของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" จึงเลือกใช้มาตรการเด็ดขาด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ⛔ 🟩 แม้รัฐจะมีกฎหมายควบคุมแนวคิดคอมมิวนิสต์ มาตั้งแต่ปี 2476 แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการแพร่กระจายได้ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวนา และครู ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยตรง 👩‍🌾 ครูรวมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เชื่อ ในอุดมการณ์ความเท่าเทียม และใช้วิธีการพูดคุย แบ่งปันความรู้กับชาวบ้านในชนบท รวมถึงสร้าง “ไร่รวม” ที่กาญจนบุรี เพื่อเป็นโรงเรียนการเมืองอย่างลับๆ 🏕️ 🟦 การจับกุม คำพิพากษา และคำสั่งประหาร ⚖️ ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลจับกุมครูรวม จากการสืบสวน และคำให้การของพยานร่วมกลุ่ม กล่าวหาว่า เป็นผู้นำเครือข่ายคอมมิวนิสต์ ลอบรับคำสั่งจากต่างชาติ และพยายามล้มล้างสถาบันชาติ จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจตาม “มาตรา 17” สั่งให้ประหารชีวิตทันที โดยไม่ต้องขึ้นศาล ⛓️ 🕕 ค่ำวันอังคารที่ 24 เมษายน 2505 เวลา 18.00 น. ที่เรือนจำกลางบางขวาง ครูรวมถูกยิงเป้าจนเสียชีวิต นับเป็นครั้งแรก ที่มีการประหารผู้ต้องหาคอมมิวนิสต์ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭⚰️ 🟨 วิเคราะห์คดีครูรวม ในบริบทสังคมไทย “ฮีโร่” หรือ “กบฏ”? กรณีของครูรวม สะท้อนถึงยุคสมัยที่ “ความเชื่อ” อาจถูกตีความว่าเป็น “ภัย” การกระทำของครูรวมในสายตารัฐ เป็นอันตรายต่อความมั่นคง แต่ในสายตาของชาวบ้าน และนักศึกษาในยุคต่อมา คือผู้จุดประกายความคิด เพื่อเสรีภาพ 🕊️ 🟪 มรดกแห่งความทรงจำ กว่า 33 ปีหลังการประหาร ศพของครูรวมเพิ่งถูกพบ ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม โดยไร้ป้ายบอกชื่อ เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายคำถาม ที่สะท้อนว่า... เรื่องราวนี้ อาจไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร ❗ แม้จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ชื่อของ “ครูรวม วงศ์พันธ์” ยังคงเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อในอุดมการณ์ เสรีภาพ และความเสมอภาค 🧭 ครูรวมไม่ใช่แค่ครูธรรมดา แต่เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างแน่วแน่ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ✊ แม้ถูกประหารในฐานะ “คอมมิวนิสต์” แต่ยังคงเป็น “ครูของประชาชน” ในความทรงจำของผู้คนมากมาย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241115 เม.ย. 2568 🔖 #ครูรวมวงศ์พันธ์ #คอมมิวนิสต์ไทย #คดีประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์การเมืองไทย #มาตรา17 #ยุคสงครามเย็น #การศึกษากับอุดมการณ์ #ครูไทยในอดีต #ประหารชีวิต #วีรบุรุษประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1015 มุมมอง 0 รีวิว
  • 48 ปี ประหาร “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ นักโทษกบฏคนสุดท้าย ที่ตายด้วยการยิงเป้า เสียงปืนสุดท้าย ของการปฏิวัติ ที่ไม่สำเร็จ

    ย้อนรอยคดีประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ที่สะท้อนทั้งความหวัง ความกล้า และการถูกลืม

    บทเรียนจากอดีต ที่ไม่อาจมองข้าม บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2520 เวลา 15.24 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง เสียงปืนชุดหนึ่ง ดังก้องสะท้อนในความเงียบสงบ เป็นการสิ้นสุดชีวิตของ “เสธ. หลาด” หรือ "พลเอกฉลาด หิรัญศิริ" นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต ในข้อหากบฏ

    เสธ.หลาดเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารด้วยการยิงเป้า โดยคำสั่งตามมาตรา 21 แห่งรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งเปิดช่องให้รัฐบาลในเวลานั้น สามารถออกคำสั่งให้ประหารชีวิตได้ โดยไม่ต้องผ่านศาล 👁️‍🗨️

    จะพาเจาะลึกตั้งแต่ชีวประวัติของ "พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ" เหตุการณ์รัฐประหารที่ล้มเหลว การตัดสินโทษ และคำถามที่ยังไร้คำตอบว่า... “ทำไมเสธ.หลาดต้องถูกประหาร?”

    จากทหารกล้า สู่ผู้นำกบฏ "พล.อ. ฉลาด หิรัญศิริ" ถือกำเนิดในยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง เริ่มรับราชการในปี พ.ศ. 2483 ที่อุดรธานี มีชีวิตในวงการทหารมายาวนาน ผ่านสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ทหารนักรบของจริง”

    เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองร้อย เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารบก ผู้บัญชาการกองกำลังทหารไทย ในเวียดนามใต้ (ผลัด 2) และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

    ชื่อเสียงของเสธ.หลาดในสนามรบ เป็นที่เลื่องลือ ถึงขนาดได้รับประกาศเกียรติคุณ จากประธานาธิบดีเวียดนามใต้

    อย่างไรก็ตาม เส้นทางในกองทัพ กลับไม่เป็นไปตามฝัน เมื่อการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้ความทะเยอทะยานของเสธ.หลาด ในการก้าวสู่ตำแหน่ง "ผู้บัญชาการทหารบก" ต้องพังทลายลง

    ปฏิบัติการยึดอำนาจ 26 มีนาคม 2520 ความพยายามที่สิ้นสุดด้วยการล้อม เมื่อการเมืองไม่เอื้อ เสธ.หลาดเลือกเส้นทาง ของการก่อรัฐประหาร โดยในวันที่ 26 มีนาคม 2520 พล.อ. ฉลาด พร้อมพวก เข้ายึดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก “สวนรื่นฤดี” โดยมีลูกชายของเขา "พ.ต. อัศวิน หิรัญศิริ" เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง

    แผนการดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่กลับถูกฝ่ายรัฐบาล ควบคุมสถานการณ์ได้ ในเวลาไม่นาน โดยมี "พ.ต. สุรยุทธ์ จุลานนท์" เป็นตัวกลางในการเจรจาให้ยอมแพ้ และเสนอให้ลี้ภัยไปไต้หวัน

    แต่ข้อตกลงนี้ กลับไม่สำเร็จ เมื่อการเดินทางไปไต้หวันล้มเหลว และผู้นำรัฐประหารทั้งหมด ถูกจับกุมทันที

    ทำไมต้องประหาร? คำถามที่ยังไร้คำตอบ การใช้ มาตรา 21 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2519 คือประเด็นที่ถกเถียงมากที่สุดในกรณีนี้ เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการศาลปกติ แต่เป็นอำนาจตรงจากรัฐบาลในเวลานั้น

    นายกรัฐมนตรี "ธานินทร์ กรัยวิเชียร" กล่าวภายหลังว่า “ไม่เห็นควรใช้มาตรา 21 อย่างพร่ำเพรื่อ”

    แต่เสียงของนายกฯ แพ้เสียงทหาร ในที่ประชุมร่วมรัฐบาล-คณะปฏิรูป เพราะคะแนนเสียงห่างกัน 16 ต่อ 26 ทำให้คดีนี้ถูกนำไปสู่การตัดสินโทษประหารทันที

    ข้อสังเกตจาก "สุธรรม แสงประทุม" นักโทษการเมือง ฝ่ายทหารหวาดกลัวว่า เสธ.หลาด จะหลบหนี ดพราะเชื่อว่ายังมีอิทธิพลภายใน รวมถึงกังวลว่า จะถูกเปิดโปงภายในกองทัพ

    นี่คือการ "กำจัด" มากกว่าการ "ยุติธรรม"?

    ช่วงสุดท้ายของชีวิต “เสธ. หลาด”
    เวลา 14.00 น. เสธ.หลาดถูกเบิกตัวจากแดนพิเศษ ไปยังห้องควบคุม เขาถามเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงว่า “ญาติมาเยี่ยมหรือ เขาอนุญาตให้เยี่ยมแล้วใช่ไหม?”

    ไม่มีคำตอบ เขารู้ในใจว่าชะตากำลังจะมาถึง

    เวลา 14.20 น. เสธ.หลาดฟังคำสั่งประหารอย่างสงบ พร้อมเซ็นชื่อรับทราบ แล้วเขียนพินัยกรรม 4 แผ่น ปฏิเสธอาหารมื้อสุดท้าย และขอดื่มเพียง น้ำส้ม 1 ขวด

    เวลา 14.50 น. พระมหาเจียมเทศนาเรื่องกรรม เสธ.หลาดกล่าว "สาธุ" และก้มกราบ 3 ครั้ง พร้อมประเคนเงินจำนวน 100 บาท และนาฬิกาโอเมกา

    เวลา 15.24 น. เสียงปืนจบชีวิต "เสธ.หลาด" ตรงศาลาแปดเหลี่ยม ในเรือนจำบางขวาง

    คำพูดสุดท้าย "ถ้าพร้อมแล้ว จะบอกนะ"

    จากนั้น...มือของเสธ.หลาดสั่นเบา ๆ เพื่อ "เขย่าดอกไม้ในมือ" เป็นสัญญาณให้เพชฌฆาตเหนี่ยวไก

    เสธ. หลาดในความทรงจำ ของนักโทษการเมือง "สุธรรม แสงประทุม" เล่าว่า เสธ.หลาด หรือ “ลุงหลาด” อยู่ตึกเดียวกันในบางขวาง โดย “ลุงหลาด” มักชอบพูดเสมอว่า

    “ลุงถูกหักหลัง” ใครคือผู้หักหลัง? ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด... หรืออาจรู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด

    เสธ.หลาดยังถามสุธรรมซ้ำ ๆ ว่า "การต่อสู้ของลุง สมควรแก่เหตุหรือเปล่า?"

    สุธรรมตอบว่า "ก็พอสมควรแก่เหตุครับ"

    เสธ. หลาดในหน้าประวัติศาสตร์: วีรบุรุษ? กบฏ? หรือเหยื่อการเมือง? สิ่งที่ควรถามในวันนี้ไม่ใช่แค่ว่า “เขาผิดหรือไม่?”

    แต่คือ “เขาได้รับความยุติธรรมหรือเปล่า?”

    การประหารชีวิต ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการศาล

    การเจรจาที่หลอกให้เขายอมแพ้

    การกล่าวหาว่า เขามีอิทธิพลเกินไป

    ทั้งหมดนี้คือคำถาม ที่ยังไม่มีคำตอบ และอาจไม่เคยมีวันหนึ่ง ที่คำตอบเหล่านั้นจะถูกเปิดเผย...

    เสียงสะท้อนจากกระสุนในวันนั้น เรื่องราวของ “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของคน คนหนึ่ง แต่มันสะท้อนถึง โครงสร้างอำนาจของไทยในอดีต สะท้อนถึงความเปราะบางของ “ความยุติธรรม” เมื่อ “อำนาจ” มาแทนที่

    48 ปี ผ่านไป คำถามยังคงอยู่...

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221706 เม.ย. 2568

    #เสธหลาด #ฉลาดหิรัญศิริ #กบฏ2520 #ประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์ไทย #คดีดังไทย #รัฐประหาร #การเมืองไทย #บางขวาง #มาตรา21
    48 ปี ประหาร “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ นักโทษกบฏคนสุดท้าย ที่ตายด้วยการยิงเป้า 🇹🇭⚖️ เสียงปืนสุดท้าย ของการปฏิวัติ ที่ไม่สำเร็จ ย้อนรอยคดีประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ที่สะท้อนทั้งความหวัง ความกล้า และการถูกลืม 🧭 บทเรียนจากอดีต ที่ไม่อาจมองข้าม บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2520 เวลา 15.24 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง เสียงปืนชุดหนึ่ง ดังก้องสะท้อนในความเงียบสงบ เป็นการสิ้นสุดชีวิตของ “เสธ. หลาด” หรือ "พลเอกฉลาด หิรัญศิริ" นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต ในข้อหากบฏ เสธ.หลาดเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารด้วยการยิงเป้า โดยคำสั่งตามมาตรา 21 แห่งรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งเปิดช่องให้รัฐบาลในเวลานั้น สามารถออกคำสั่งให้ประหารชีวิตได้ โดยไม่ต้องผ่านศาล 👁️‍🗨️ จะพาเจาะลึกตั้งแต่ชีวประวัติของ "พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ" เหตุการณ์รัฐประหารที่ล้มเหลว การตัดสินโทษ และคำถามที่ยังไร้คำตอบว่า... “ทำไมเสธ.หลาดต้องถูกประหาร?” 🤔 👤 จากทหารกล้า สู่ผู้นำกบฏ "พล.อ. ฉลาด หิรัญศิริ" ถือกำเนิดในยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง เริ่มรับราชการในปี พ.ศ. 2483 ที่อุดรธานี มีชีวิตในวงการทหารมายาวนาน ผ่านสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ทหารนักรบของจริง” 🪖 เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองร้อย เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารบก ผู้บัญชาการกองกำลังทหารไทย ในเวียดนามใต้ (ผลัด 2) และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ชื่อเสียงของเสธ.หลาดในสนามรบ เป็นที่เลื่องลือ ถึงขนาดได้รับประกาศเกียรติคุณ จากประธานาธิบดีเวียดนามใต้ 🎖️ อย่างไรก็ตาม เส้นทางในกองทัพ กลับไม่เป็นไปตามฝัน เมื่อการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้ความทะเยอทะยานของเสธ.หลาด ในการก้าวสู่ตำแหน่ง "ผู้บัญชาการทหารบก" ต้องพังทลายลง ⚔️ ปฏิบัติการยึดอำนาจ 26 มีนาคม 2520 ความพยายามที่สิ้นสุดด้วยการล้อม เมื่อการเมืองไม่เอื้อ เสธ.หลาดเลือกเส้นทาง ของการก่อรัฐประหาร โดยในวันที่ 26 มีนาคม 2520 พล.อ. ฉลาด พร้อมพวก เข้ายึดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก “สวนรื่นฤดี” โดยมีลูกชายของเขา "พ.ต. อัศวิน หิรัญศิริ" เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง แผนการดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่กลับถูกฝ่ายรัฐบาล ควบคุมสถานการณ์ได้ ในเวลาไม่นาน โดยมี "พ.ต. สุรยุทธ์ จุลานนท์" เป็นตัวกลางในการเจรจาให้ยอมแพ้ และเสนอให้ลี้ภัยไปไต้หวัน แต่ข้อตกลงนี้ กลับไม่สำเร็จ เมื่อการเดินทางไปไต้หวันล้มเหลว และผู้นำรัฐประหารทั้งหมด ถูกจับกุมทันที 🔥 ทำไมต้องประหาร? คำถามที่ยังไร้คำตอบ การใช้ มาตรา 21 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2519 คือประเด็นที่ถกเถียงมากที่สุดในกรณีนี้ เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการศาลปกติ แต่เป็นอำนาจตรงจากรัฐบาลในเวลานั้น นายกรัฐมนตรี "ธานินทร์ กรัยวิเชียร" กล่าวภายหลังว่า “ไม่เห็นควรใช้มาตรา 21 อย่างพร่ำเพรื่อ” แต่เสียงของนายกฯ แพ้เสียงทหาร ในที่ประชุมร่วมรัฐบาล-คณะปฏิรูป เพราะคะแนนเสียงห่างกัน 16 ต่อ 26 ทำให้คดีนี้ถูกนำไปสู่การตัดสินโทษประหารทันที ✨ ข้อสังเกตจาก "สุธรรม แสงประทุม" นักโทษการเมือง ฝ่ายทหารหวาดกลัวว่า เสธ.หลาด จะหลบหนี ดพราะเชื่อว่ายังมีอิทธิพลภายใน รวมถึงกังวลว่า จะถูกเปิดโปงภายในกองทัพ นี่คือการ "กำจัด" มากกว่าการ "ยุติธรรม"? 🕊️ ช่วงสุดท้ายของชีวิต “เสธ. หลาด” เวลา 14.00 น. เสธ.หลาดถูกเบิกตัวจากแดนพิเศษ ไปยังห้องควบคุม เขาถามเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงว่า “ญาติมาเยี่ยมหรือ เขาอนุญาตให้เยี่ยมแล้วใช่ไหม?” ไม่มีคำตอบ เขารู้ในใจว่าชะตากำลังจะมาถึง เวลา 14.20 น. เสธ.หลาดฟังคำสั่งประหารอย่างสงบ พร้อมเซ็นชื่อรับทราบ แล้วเขียนพินัยกรรม 4 แผ่น ✍️ ปฏิเสธอาหารมื้อสุดท้าย และขอดื่มเพียง น้ำส้ม 1 ขวด เวลา 14.50 น. พระมหาเจียมเทศนาเรื่องกรรม เสธ.หลาดกล่าว "สาธุ" และก้มกราบ 3 ครั้ง พร้อมประเคนเงินจำนวน 100 บาท และนาฬิกาโอเมกา🙏 เวลา 15.24 น. เสียงปืนจบชีวิต "เสธ.หลาด" ตรงศาลาแปดเหลี่ยม ในเรือนจำบางขวาง คำพูดสุดท้าย "ถ้าพร้อมแล้ว จะบอกนะ" จากนั้น...มือของเสธ.หลาดสั่นเบา ๆ เพื่อ "เขย่าดอกไม้ในมือ" เป็นสัญญาณให้เพชฌฆาตเหนี่ยวไก 🪦 เสธ. หลาดในความทรงจำ ของนักโทษการเมือง "สุธรรม แสงประทุม" เล่าว่า เสธ.หลาด หรือ “ลุงหลาด” อยู่ตึกเดียวกันในบางขวาง โดย “ลุงหลาด” มักชอบพูดเสมอว่า “ลุงถูกหักหลัง” ใครคือผู้หักหลัง? ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด... หรืออาจรู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด เสธ.หลาดยังถามสุธรรมซ้ำ ๆ ว่า "การต่อสู้ของลุง สมควรแก่เหตุหรือเปล่า?" สุธรรมตอบว่า "ก็พอสมควรแก่เหตุครับ" 🧩 เสธ. หลาดในหน้าประวัติศาสตร์: วีรบุรุษ? กบฏ? หรือเหยื่อการเมือง? สิ่งที่ควรถามในวันนี้ไม่ใช่แค่ว่า “เขาผิดหรือไม่?” แต่คือ “เขาได้รับความยุติธรรมหรือเปล่า?” การประหารชีวิต ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการศาล การเจรจาที่หลอกให้เขายอมแพ้ การกล่าวหาว่า เขามีอิทธิพลเกินไป ทั้งหมดนี้คือคำถาม ที่ยังไม่มีคำตอบ และอาจไม่เคยมีวันหนึ่ง ที่คำตอบเหล่านั้นจะถูกเปิดเผย... 🔚 เสียงสะท้อนจากกระสุนในวันนั้น เรื่องราวของ “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของคน คนหนึ่ง แต่มันสะท้อนถึง โครงสร้างอำนาจของไทยในอดีต สะท้อนถึงความเปราะบางของ “ความยุติธรรม” เมื่อ “อำนาจ” มาแทนที่ 📜⚖️ 48 ปี ผ่านไป คำถามยังคงอยู่... ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221706 เม.ย. 2568 📱 #เสธหลาด #ฉลาดหิรัญศิริ #กบฏ2520 #ประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์ไทย #คดีดังไทย #รัฐประหาร #การเมืองไทย #บางขวาง #มาตรา21
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 865 มุมมอง 0 รีวิว
  • 82 ปี ยิงเป้าประหาร! "ตุง แซ่หว่อง" คดีขวานจามคาบ้านสุดอุกอาจ ตำนานแรงอาฆาตฆ่าญาติกลางเมืองเลย

    คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญกลางเมืองเลย “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้ผู้กลายเป็นนักโทษประหาร จากแรงอาฆาตเรื่องการงาน สู่การฆ่าญาติข้างห้องอย่างอุกอาจ อ่านเรื่องจริง ที่ลงเอยด้วยการยิงเป้าอย่างเย็นชา

    คดีที่โลกไม่ลืม 82 ปีผ่านไป ยังสะเทือนใจ ถ้าพูดถึงคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม และกลายเป็นข่าวใหญ่ ในประวัติศาสตร์ไทย หนึ่งในนั้นคือคดีของ “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้หนุ่มเชื้อสายจีน ที่ก่อเหตุฆ่าญาติเชื้อสายจีน อย่างโหดเหี้ยมกลางเมืองเลย

    คดีนี้ไม่ใช่เพียงแค่การฆ่าคน แต่คือเรื่องของความอาฆาต ริษยา การวางแผนอย่างแยบยล การฝังศพในบ้าน และการเบี่ยงเบนความผิดด้วยคำโกหก… จนต้องจบชีวิตลงด้วยโทษประหาร ด้วยการยิงเป้า

    จากช่างไม้สู่ฆาตกร “ตุง แซ่หว่อง” เป็นชายหนุ่มเชื้อสายจีนอายุเพียง 25 ปี ณ เวลาที่ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับญาติ “ยิด แซ่อึ๊ง” ซึ่งก็เป็นช่างไม้เช่นกัน ทั้งสองมาเช่าบ้านอยู่ที่หน้าเรือนจำจังหวัดเลย ชีวิตประจำวันของทั้งคู่ดูเรียบง่าย ทำงาน หาเงิน แล้วกลับบ้าน

    แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ความเรียบง่ายนั้นคือ ความอิจฉาริษยา และความเครียดจากการเป็น “คู่แข่งกันเอง” ทางอาชีพ ยิ่งเมื่อยิดมีงานเยอะกว่า มีคนจ้างมากกว่า ก็ยิ่งทำให้ตุง สะสมความไม่พอใจไว้ในใจ

    จดหมายปลอม จุดเริ่มต้นของความตาย ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2483 เมื่อยิดได้รับจดหมาย 2 ฉบับจากญาติในกรุงเทพฯ ชวนให้ไปทำงาน แต่เนื้อหาจดหมาย กลับมีความผิดปกติหลายจุด จนเจ้าตัวเริ่มสงสัยว่า เป็นของปลอม

    ภายหลังเมื่อตรวจสอบ ตุงยอมรับว่าเป็นคนเขียนขึ้นเอง “เพื่อแกล้งเล่น” แต่ในความจริงแล้ว เจตนาอาจลึกซึ้งกว่านั้น เพื่อ “ลวง” ให้ยิดออกจากพื้นที่ หรือสร้างเหตุให้ทะเลาะ แล้วใช้เป็นข้ออ้างสังหาร

    การทะเลาะรุนแรงจึงเกิดขึ้น จนมีเสียงดังไปถึงป้อมตำรวจหน้าคุก และเป็นเหตุการณ์นำไปสู่เรื่องสยอง ที่ไม่มีใครคาดคิด…

    จากการหายตัว…สู่การพบศพในสวนหลังบ้าน วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2483 นายยิดหายตัวไป ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ตุงอ้างว่า “ไปบ้านก้างปลา” แต่พยานหลายปากเห็นว่า เขาอยู่คนเดียว เด็กหญิงกุ๊ก ลูกสาวยิด ปีนเข้าไปนอนรอพ่อ แต่พ่อก็ไม่กลับมา...

    15 ตุลาคม ตำรวจพบกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งจากหลังบ้าน ขุดดินดูจึงพบว่า... ศพของยิดถูกฝังไว้ในหลุมตื้น ๆ มีรอยของมีคมฟันท้ายทอย 2 แผล พบขวานเปื้อนเลือดในกล่องเครื่องมือตุง และผ้าขาวม้าตุงเปื้อนเลือด ไม้พื้นห้องนอนยิด มีรอยกบไสใหม่ ทุกอย่างบ่งบอกถึง การพยายามกลบเกลื่อนหลักฐาน อย่างมีแบบแผน

    หลักฐาน พยานเด็ด มัดตัวแน่น! ขวานที่พบในบ้าน มีเลือดของยิด ไม้พื้นและผนัง มีรอยเลือดกระเซ็น ลูกกุญแจห้องยิดอยู่กับตุง แต่อ้างว่า ยืมจากเด็กหญิงกุ๊ก ซึ่งเด็กหญิงปฏิเสธว่าไม่เคยให้

    พยานตำรวจ ได้ยินเสียงร้อง “โอ้ย ๆ” กลางดึก รถจักรยานและรองเท้ายยิด ถูกซ่อนไว้ห่างบ้านประมาณ 800 เมตร

    หลักฐานทั้งหมดนี้ ทำให้ตำรวจเชื่อมั่นว่า ตุงคือฆาตกรแน่นอน

    เส้นทางสู่ศาล คำพิพากษาประหารชีวิต ศาลชั้นต้น พิจารณาหลักฐาน พยานแวดล้อม และพบว่า การฆ่ามีแรงจูงใจชัดเจน คือ “ความอาฆาตส่วนตัว” และความพยายาม “ซ่อนเร้นศพ”

    คำพิพากษา “จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความพยาบาทมาดหมาย ให้ประหารชีวิตโดยไม่ลดหย่อนโทษ”

    แม้ตุงจะยื่นอุทธรณ์และฎีกา แต่ศาลทุกชั้นยืนตามคำพิพากษาเดิม ไม่มีการลดโทษใด ๆ ทั้งสิ้น

    วันสุดท้ายของ “ตุง แซ่หว่อง” กับการประหารโดยยิงเป้า เช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2486 เวลา 04.30 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง นายตุงถูกเบิกตัวออกจากแดนควบคุม เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ห้องประหาร

    รับฟังคำสั่งปฏิเสธฎีกา

    เขียนพินัยกรรม

    ทานอาหารมื้อสุดท้าย

    ฟังธรรมเทศนา

    เวลา 6.07 น. ธงแดงสะบัดลง… เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ชีวิตของ “ตุง แซ่หว่อง” จบสิ้น ณ จุดนั้น

    ฆาตกรรมที่ไม่ใช่แค่ “อารมณ์ชั่ววูบ” เรื่องราวของตุง คือเครื่องเตือนใจ ถึงอันตรายของอารมณ์ริษยา ความอาฆาต และความไม่ยอมรับความจริง ความขัดแย้งที่เริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยอย่าง “จำนวนงานที่ได้รับ” กลับจบลงด้วย การฆ่าญาติ และสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย

    หากเราปล่อยให้ความอิจฉาเข้าครอบงำ อาจกลายเป็นไฟที่เผาผลาญทุกสิ่ง

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161444 เม.ย. 2568

    #ตุงแซ่หว่อง #คดีฆ่าญาติ #ยิงเป้าประหาร #คดีสะเทือนขวัญ #ฆาตกรรมไทย #ประหารชีวิต #เรื่องจริงจากคุก #ขวานฆ่าคน #คดีอาฆาต #ย้อนคดีดัง
    82 ปี ยิงเป้าประหาร! "ตุง แซ่หว่อง" คดีขวานจามคาบ้านสุดอุกอาจ ตำนานแรงอาฆาตฆ่าญาติกลางเมืองเลย 🔥 📌 คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญกลางเมืองเลย “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้ผู้กลายเป็นนักโทษประหาร จากแรงอาฆาตเรื่องการงาน สู่การฆ่าญาติข้างห้องอย่างอุกอาจ อ่านเรื่องจริง ที่ลงเอยด้วยการยิงเป้าอย่างเย็นชา 🕵️‍♂️ 📚 คดีที่โลกไม่ลืม 82 ปีผ่านไป ยังสะเทือนใจ 💔 ถ้าพูดถึงคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม และกลายเป็นข่าวใหญ่ ในประวัติศาสตร์ไทย หนึ่งในนั้นคือคดีของ “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้หนุ่มเชื้อสายจีน ที่ก่อเหตุฆ่าญาติเชื้อสายจีน อย่างโหดเหี้ยมกลางเมืองเลย 🪓 คดีนี้ไม่ใช่เพียงแค่การฆ่าคน แต่คือเรื่องของความอาฆาต ริษยา การวางแผนอย่างแยบยล การฝังศพในบ้าน และการเบี่ยงเบนความผิดด้วยคำโกหก… จนต้องจบชีวิตลงด้วยโทษประหาร ด้วยการยิงเป้า 😨 👤 จากช่างไม้สู่ฆาตกร 🧰 “ตุง แซ่หว่อง” เป็นชายหนุ่มเชื้อสายจีนอายุเพียง 25 ปี ณ เวลาที่ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับญาติ “ยิด แซ่อึ๊ง” ซึ่งก็เป็นช่างไม้เช่นกัน ทั้งสองมาเช่าบ้านอยู่ที่หน้าเรือนจำจังหวัดเลย ชีวิตประจำวันของทั้งคู่ดูเรียบง่าย ทำงาน หาเงิน แล้วกลับบ้าน แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ความเรียบง่ายนั้นคือ ความอิจฉาริษยา และความเครียดจากการเป็น “คู่แข่งกันเอง” ทางอาชีพ ยิ่งเมื่อยิดมีงานเยอะกว่า มีคนจ้างมากกว่า ก็ยิ่งทำให้ตุง สะสมความไม่พอใจไว้ในใจ 😤 📩 จดหมายปลอม จุดเริ่มต้นของความตาย 🧨 ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2483 เมื่อยิดได้รับจดหมาย 2 ฉบับจากญาติในกรุงเทพฯ ชวนให้ไปทำงาน แต่เนื้อหาจดหมาย กลับมีความผิดปกติหลายจุด จนเจ้าตัวเริ่มสงสัยว่า เป็นของปลอม ❗ ภายหลังเมื่อตรวจสอบ ตุงยอมรับว่าเป็นคนเขียนขึ้นเอง “เพื่อแกล้งเล่น” แต่ในความจริงแล้ว เจตนาอาจลึกซึ้งกว่านั้น เพื่อ “ลวง” ให้ยิดออกจากพื้นที่ หรือสร้างเหตุให้ทะเลาะ แล้วใช้เป็นข้ออ้างสังหาร ❓ การทะเลาะรุนแรงจึงเกิดขึ้น จนมีเสียงดังไปถึงป้อมตำรวจหน้าคุก และเป็นเหตุการณ์นำไปสู่เรื่องสยอง ที่ไม่มีใครคาดคิด… 🕵️‍♂️ จากการหายตัว…สู่การพบศพในสวนหลังบ้าน 🪦 วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2483 นายยิดหายตัวไป ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ตุงอ้างว่า “ไปบ้านก้างปลา” แต่พยานหลายปากเห็นว่า เขาอยู่คนเดียว เด็กหญิงกุ๊ก ลูกสาวยิด ปีนเข้าไปนอนรอพ่อ แต่พ่อก็ไม่กลับมา... 15 ตุลาคม ตำรวจพบกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งจากหลังบ้าน ขุดดินดูจึงพบว่า... ศพของยิดถูกฝังไว้ในหลุมตื้น ๆ มีรอยของมีคมฟันท้ายทอย 2 แผล 🪓 พบขวานเปื้อนเลือดในกล่องเครื่องมือตุง และผ้าขาวม้าตุงเปื้อนเลือด ไม้พื้นห้องนอนยิด มีรอยกบไสใหม่ ทุกอย่างบ่งบอกถึง การพยายามกลบเกลื่อนหลักฐาน อย่างมีแบบแผน 🔬 หลักฐาน พยานเด็ด มัดตัวแน่น! 🧾 🔪 ขวานที่พบในบ้าน มีเลือดของยิด 🩸 ไม้พื้นและผนัง มีรอยเลือดกระเซ็น 🔑 ลูกกุญแจห้องยิดอยู่กับตุง แต่อ้างว่า ยืมจากเด็กหญิงกุ๊ก ซึ่งเด็กหญิงปฏิเสธว่าไม่เคยให้ 🕯️ พยานตำรวจ ได้ยินเสียงร้อง “โอ้ย ๆ” กลางดึก 🚲 รถจักรยานและรองเท้ายยิด ถูกซ่อนไว้ห่างบ้านประมาณ 800 เมตร หลักฐานทั้งหมดนี้ ทำให้ตำรวจเชื่อมั่นว่า ตุงคือฆาตกรแน่นอน 💯 ⚖️ เส้นทางสู่ศาล คำพิพากษาประหารชีวิต 🧑‍⚖️ ศาลชั้นต้น พิจารณาหลักฐาน พยานแวดล้อม และพบว่า การฆ่ามีแรงจูงใจชัดเจน คือ “ความอาฆาตส่วนตัว” และความพยายาม “ซ่อนเร้นศพ” ✒️ คำพิพากษา “จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความพยาบาทมาดหมาย ให้ประหารชีวิตโดยไม่ลดหย่อนโทษ” แม้ตุงจะยื่นอุทธรณ์และฎีกา แต่ศาลทุกชั้นยืนตามคำพิพากษาเดิม ไม่มีการลดโทษใด ๆ ทั้งสิ้น ❌ 🔫 วันสุดท้ายของ “ตุง แซ่หว่อง” กับการประหารโดยยิงเป้า ⛓️ เช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2486 เวลา 04.30 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง นายตุงถูกเบิกตัวออกจากแดนควบคุม เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ห้องประหาร 😔 ✅ รับฟังคำสั่งปฏิเสธฎีกา ✍️ เขียนพินัยกรรม 🍱 ทานอาหารมื้อสุดท้าย 🛐 ฟังธรรมเทศนา เวลา 6.07 น. ธงแดงสะบัดลง… เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ❗ ชีวิตของ “ตุง แซ่หว่อง” จบสิ้น ณ จุดนั้น 🧠 ฆาตกรรมที่ไม่ใช่แค่ “อารมณ์ชั่ววูบ” 😢 เรื่องราวของตุง คือเครื่องเตือนใจ ถึงอันตรายของอารมณ์ริษยา ความอาฆาต และความไม่ยอมรับความจริง ความขัดแย้งที่เริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยอย่าง “จำนวนงานที่ได้รับ” กลับจบลงด้วย การฆ่าญาติ และสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย หากเราปล่อยให้ความอิจฉาเข้าครอบงำ อาจกลายเป็นไฟที่เผาผลาญทุกสิ่ง 🧨🔥 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161444 เม.ย. 2568 📲 #ตุงแซ่หว่อง #คดีฆ่าญาติ #ยิงเป้าประหาร #คดีสะเทือนขวัญ #ฆาตกรรมไทย #ประหารชีวิต #เรื่องจริงจากคุก #ขวานฆ่าคน #คดีอาฆาต #ย้อนคดีดัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 991 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต

    “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด

    ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้

    ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง

    ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป

    นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม

    ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด

    ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น

    ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง

    เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103

    เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น

    ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย

    หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น

    นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต

    หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543

    นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้

    ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม

    ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง

    วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น

    ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง

    นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต

    ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม

    ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์

    ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร

    ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป

    คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต

    แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย

    นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว

    หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา

    เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้

    ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด

    นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม

    การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด

    ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?”

    สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น

    เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ

    ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม

    “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก

    การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย

    อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น

    หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ

    ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต

    เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม

    แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา

    การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก

    สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม

    ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง

    เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด

    นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง

    เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน

    ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า

    เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ

    สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568

    #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢 ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️ ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔 หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543 นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้ ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔 ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์ ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์ คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้ ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?” สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔 สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์ จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568 #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1511 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts