เรื่องเล่าจากเวทีการค้าระดับโลก: เมื่อสหรัฐฯ เสนอเงื่อนไขสุดโหดให้ TSMC เพื่อช่วย Intel และลดภาษีให้ไต้หวัน
ในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับหลายประเทศยังคุกรุ่น รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Donald Trump ได้ใช้ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือหลักในการลดการขาดดุลการค้า โดยเฉพาะกับไต้หวัน ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บภาษีสูงถึง 20% ขณะที่ประเทศอื่นอย่างญี่ปุ่นจ่ายเพียง 15%
เพื่อแลกกับการลดภาษีเหล่านี้ สหรัฐฯ ได้เสนอเงื่อนไขที่หนักหน่วงให้กับไต้หวันผ่านบริษัท TSMC ได้แก่:
1️⃣ให้ TSMC ซื้อหุ้น 49% ของ Intel
2️⃣ ให้ TSMC ลงทุนเพิ่มอีก $400 พันล้านในสหรัฐฯ
แม้ TSMC จะลงทุนในสหรัฐฯ ไปแล้วกว่า $165 พันล้าน ทั้งในโรงงานผลิตชิปที่ Arizona และศูนย์วิจัย แต่เงื่อนไขใหม่นี้ถือว่าเกินขีดความสามารถทางการเงินและยุทธศาสตร์ของบริษัท
เบื้องหลังของข้อเสนอนี้คือความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะช่วย Intel ซึ่งกำลังตกต่ำอย่างหนัก รายได้ลดลงจาก $79 พันล้านในปี 2021 เหลือเพียง $53 พันล้านในปี 2024 และโรงงานใหม่ในรัฐโอไฮโอก็ถูกเลื่อนเปิดจากปี 2025 ไปเป็น 2030
สหรัฐฯ เสนอให้ TSMC ซื้อหุ้น 49% ของ Intel
เป็นเงื่อนไขในการลดภาษีศุลกากรสำหรับไต้หวัน
TSMC ต้องลงทุนเพิ่มอีก $400 พันล้านในสหรัฐฯ
นอกเหนือจากการลงทุนเดิม $165 พันล้าน
Intel กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก
รายได้ลดลง 33% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
โรงงานใหม่ของ Intel ในโอไฮโอถูกเลื่อนเปิดเป็นปี 2030
สะท้อนปัญหาการจัดการเงินทุนและการสนับสนุนจากภาครัฐ
TSMC มีโรงงานและศูนย์วิจัยในสหรัฐฯ อยู่แล้ว
รวมถึงโรงงานที่เริ่มผลิตในปี 2024 และอีกสองแห่งที่กำลังก่อสร้าง
การถือหุ้น 49% ไม่ได้ให้สิทธิ์ควบคุมกิจการ
TSMC จะไม่มีอำนาจในการบริหาร Intel โดยตรง
Intel มีการขายหุ้นโรงงานให้กับบริษัทเอกชนแล้ว
เช่น Brookfield Asset Management ถือหุ้นบางส่วน
TSMC เป็นบริษัท foundry แบบ pure-play
ไม่ได้มีธุรกิจ consumer product แบบ Intel
การควบรวมอาจไม่เกิด synergy ที่แท้จริง
เพราะโมเดลธุรกิจของทั้งสองบริษัทต่างกัน
https://www.notebookcheck.net/Desperate-measures-to-save-Intel-US-reportedly-forcing-TSMC-to-buy-49-stake-in-Intel-to-secure-tariff-relief-for-Taiwan.1079424.0.html
ในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับหลายประเทศยังคุกรุ่น รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Donald Trump ได้ใช้ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือหลักในการลดการขาดดุลการค้า โดยเฉพาะกับไต้หวัน ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บภาษีสูงถึง 20% ขณะที่ประเทศอื่นอย่างญี่ปุ่นจ่ายเพียง 15%
เพื่อแลกกับการลดภาษีเหล่านี้ สหรัฐฯ ได้เสนอเงื่อนไขที่หนักหน่วงให้กับไต้หวันผ่านบริษัท TSMC ได้แก่:
1️⃣ให้ TSMC ซื้อหุ้น 49% ของ Intel
2️⃣ ให้ TSMC ลงทุนเพิ่มอีก $400 พันล้านในสหรัฐฯ
แม้ TSMC จะลงทุนในสหรัฐฯ ไปแล้วกว่า $165 พันล้าน ทั้งในโรงงานผลิตชิปที่ Arizona และศูนย์วิจัย แต่เงื่อนไขใหม่นี้ถือว่าเกินขีดความสามารถทางการเงินและยุทธศาสตร์ของบริษัท
เบื้องหลังของข้อเสนอนี้คือความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะช่วย Intel ซึ่งกำลังตกต่ำอย่างหนัก รายได้ลดลงจาก $79 พันล้านในปี 2021 เหลือเพียง $53 พันล้านในปี 2024 และโรงงานใหม่ในรัฐโอไฮโอก็ถูกเลื่อนเปิดจากปี 2025 ไปเป็น 2030
สหรัฐฯ เสนอให้ TSMC ซื้อหุ้น 49% ของ Intel
เป็นเงื่อนไขในการลดภาษีศุลกากรสำหรับไต้หวัน
TSMC ต้องลงทุนเพิ่มอีก $400 พันล้านในสหรัฐฯ
นอกเหนือจากการลงทุนเดิม $165 พันล้าน
Intel กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก
รายได้ลดลง 33% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
โรงงานใหม่ของ Intel ในโอไฮโอถูกเลื่อนเปิดเป็นปี 2030
สะท้อนปัญหาการจัดการเงินทุนและการสนับสนุนจากภาครัฐ
TSMC มีโรงงานและศูนย์วิจัยในสหรัฐฯ อยู่แล้ว
รวมถึงโรงงานที่เริ่มผลิตในปี 2024 และอีกสองแห่งที่กำลังก่อสร้าง
การถือหุ้น 49% ไม่ได้ให้สิทธิ์ควบคุมกิจการ
TSMC จะไม่มีอำนาจในการบริหาร Intel โดยตรง
Intel มีการขายหุ้นโรงงานให้กับบริษัทเอกชนแล้ว
เช่น Brookfield Asset Management ถือหุ้นบางส่วน
TSMC เป็นบริษัท foundry แบบ pure-play
ไม่ได้มีธุรกิจ consumer product แบบ Intel
การควบรวมอาจไม่เกิด synergy ที่แท้จริง
เพราะโมเดลธุรกิจของทั้งสองบริษัทต่างกัน
https://www.notebookcheck.net/Desperate-measures-to-save-Intel-US-reportedly-forcing-TSMC-to-buy-49-stake-in-Intel-to-secure-tariff-relief-for-Taiwan.1079424.0.html
🇺🇸💻 เรื่องเล่าจากเวทีการค้าระดับโลก: เมื่อสหรัฐฯ เสนอเงื่อนไขสุดโหดให้ TSMC เพื่อช่วย Intel และลดภาษีให้ไต้หวัน
ในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับหลายประเทศยังคุกรุ่น รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Donald Trump ได้ใช้ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือหลักในการลดการขาดดุลการค้า โดยเฉพาะกับไต้หวัน ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บภาษีสูงถึง 20% ขณะที่ประเทศอื่นอย่างญี่ปุ่นจ่ายเพียง 15%
เพื่อแลกกับการลดภาษีเหล่านี้ สหรัฐฯ ได้เสนอเงื่อนไขที่หนักหน่วงให้กับไต้หวันผ่านบริษัท TSMC ได้แก่:
1️⃣ให้ TSMC ซื้อหุ้น 49% ของ Intel
2️⃣ ให้ TSMC ลงทุนเพิ่มอีก $400 พันล้านในสหรัฐฯ
แม้ TSMC จะลงทุนในสหรัฐฯ ไปแล้วกว่า $165 พันล้าน ทั้งในโรงงานผลิตชิปที่ Arizona และศูนย์วิจัย แต่เงื่อนไขใหม่นี้ถือว่าเกินขีดความสามารถทางการเงินและยุทธศาสตร์ของบริษัท
เบื้องหลังของข้อเสนอนี้คือความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะช่วย Intel ซึ่งกำลังตกต่ำอย่างหนัก รายได้ลดลงจาก $79 พันล้านในปี 2021 เหลือเพียง $53 พันล้านในปี 2024 และโรงงานใหม่ในรัฐโอไฮโอก็ถูกเลื่อนเปิดจากปี 2025 ไปเป็น 2030
✅ สหรัฐฯ เสนอให้ TSMC ซื้อหุ้น 49% ของ Intel
➡️ เป็นเงื่อนไขในการลดภาษีศุลกากรสำหรับไต้หวัน
✅ TSMC ต้องลงทุนเพิ่มอีก $400 พันล้านในสหรัฐฯ
➡️ นอกเหนือจากการลงทุนเดิม $165 พันล้าน
✅ Intel กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก
➡️ รายได้ลดลง 33% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
✅ โรงงานใหม่ของ Intel ในโอไฮโอถูกเลื่อนเปิดเป็นปี 2030
➡️ สะท้อนปัญหาการจัดการเงินทุนและการสนับสนุนจากภาครัฐ
✅ TSMC มีโรงงานและศูนย์วิจัยในสหรัฐฯ อยู่แล้ว
➡️ รวมถึงโรงงานที่เริ่มผลิตในปี 2024 และอีกสองแห่งที่กำลังก่อสร้าง
✅ การถือหุ้น 49% ไม่ได้ให้สิทธิ์ควบคุมกิจการ
➡️ TSMC จะไม่มีอำนาจในการบริหาร Intel โดยตรง
✅ Intel มีการขายหุ้นโรงงานให้กับบริษัทเอกชนแล้ว
➡️ เช่น Brookfield Asset Management ถือหุ้นบางส่วน
✅ TSMC เป็นบริษัท foundry แบบ pure-play
➡️ ไม่ได้มีธุรกิจ consumer product แบบ Intel
✅ การควบรวมอาจไม่เกิด synergy ที่แท้จริง
➡️ เพราะโมเดลธุรกิจของทั้งสองบริษัทต่างกัน
https://www.notebookcheck.net/Desperate-measures-to-save-Intel-US-reportedly-forcing-TSMC-to-buy-49-stake-in-Intel-to-secure-tariff-relief-for-Taiwan.1079424.0.html
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
6 มุมมอง
0 รีวิว